01 พฤศจิกายน 2567, 06:27:40
ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน


เข้าสู่ระบบด้วยชื่อผู้ใช้ รหัสผ่าน [สมาชิกเก่าลืมรหัส โทร 081-7611760]
A A A A  ระเบียบปฎิบัติ
   
Languages    
  หน้า: 1 ... 14 15 [16] 17 18 ... 39  ทั้งหมด   ลงล่าง
ผู้เขียน หัวข้อ: เอ้า..เรื่องของรถ  (อ่าน 387588 ครั้ง)
0 สมาชิก และ 9 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
dol (81)
Full Member
**


ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 540

« ตอบ #375 เมื่อ: 19 มิถุนายน 2551, 12:25:26 »

หลังจากใช้แก๊สมาระยะหนึ่ง ได้ระยะทาง 510 กม ใช้แก๊ส 40 ลิตร บ้านโป่งลิตรละ 11.54 บาท

อัตราสิ้นเปลือง 0.82 บาท /กม (คิดถูกเปล่า)  :oops:
บันทึกการเข้า

ความรักไม่มีวันหมดอายุ ถ้ามันจะหมดอายุแสดงว่าคุณหมดรัก
ppornson
Cmadong พันธุ์แท้
****


ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 3,724

« ตอบ #376 เมื่อ: 20 มิถุนายน 2551, 15:48:43 »

อัตราวิ่งเฉลี่ยของท่านคือ 510/40 = 12.75 กม./ลิตร

ราคาลิตรละ 11.54 บาท ดังนั้น ราคาเฉลี่ยต่อ กม. เป็น 11.54/12.75 = 0.9 บาท/กม.ครับ
บันทึกการเข้า
Mr.EggMan
Hero Cmadong Member
***


ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 1,826

« ตอบ #377 เมื่อ: 20 มิถุนายน 2551, 19:55:17 »

Cheesy  Cheesy  Cheesy

ติดตามตลอด แต่ไม่มีรถขับ
บันทึกการเข้า

jakkreepan@hotmail.com
Love is in the A...I...R......H
Apirat T.
Cmadong พันธุ์แท้
****


ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 4,357

« ตอบ #378 เมื่อ: 23 มิถุนายน 2551, 08:02:12 »

^
^
แต่มี ... ให้ขี่
เหอๆๆๆๆ
คน เอ้ย รถตุรกีขี่ดีเป่า
ซ้อน 3 ตำรวจจับเป่า

ตาแคม   :lol:
บันทึกการเข้า
ชาร์ป
Global Moderator
Hero Cmadong Member
*****


ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 2,119

« ตอบ #379 เมื่อ: 23 มิถุนายน 2551, 10:52:37 »

อืม ใช้มา 5 วันแล้ว
ในเมืองขับวนหาบ้าน กับ ขับไปกินกุ้งที่อยุธยา
เดินทางทั้งหมด 400 เกือบ 500 กิโลเมตร

อัตราการสิ้นเปลือง จำนวน กิโลเมตร/ลิตร  พอ ๆ กับใช้น้ำมัน
แต่คิดเป็นราคา หาร 3

ในเมืองก็ กิโลละ 1.4-1.5 บาท
ถ้าขับต่างจังหวัดก็น่าจะเป็น กิโลละบาท

ยังไม่เจออาการใด ๆ ....

ต้องรอวิ่งกลับบ้านนอกก่อนครับผม

...
บันทึกการเข้า
ppornson
Cmadong พันธุ์แท้
****


ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 3,724

« ตอบ #380 เมื่อ: 23 มิถุนายน 2551, 16:48:52 »

จับระยะวิ่งคนเดียวในเมืองแล้วครับ ได้ประมาณ 11.5 กม./ลิตร ถือว่าใช้ได้ดีทีเดียว

จะลอยตัวยังไงก็ช่างมันล่ะครับ..
บันทึกการเข้า
หลิม 81
Cmadong พันธุ์แท้
****


ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 2,840

« ตอบ #381 เมื่อ: 23 มิถุนายน 2551, 20:53:58 »

ของผมเวลาเจอทางไม่เรียบมันดัง "โคล้งเคล้ง" ต้องหาทางแก้...

รู้มั้ยแก๊สขื้นเมื่อวาน 30 สตางค์ต่อลิตร...ไม่เห็นมีใครรู้สึกเลย
บันทึกการเข้า

@ ปีนี้ปีของผม @
หลิม 81
Cmadong พันธุ์แท้
****


ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 2,840

« ตอบ #382 เมื่อ: 23 มิถุนายน 2551, 23:00:42 »

พอดีไปอ่านเจอมา เห็นว่าน่าสนใจดี
ไม่รู้ว่าจริง เท็จ ประการใด
แต่ถ้าทุกคนเข้าใจเหมือนๆกัน
มันจะเป็นประโยชน์มากๆเลยคับ..ผมว่านะ


เทคนิคการดูสัญญาณไฟของรถบรรทุก


1. เปิดซ้ายที ขวาที
สลับกัน หมายความว่าให้ระวัง**
เค้าอาจจะเบรกหรือข้างหน้ามีปัญหา อาจมีด่าน มีอุบัติเหตุ
หรือข้างหน้าเบรกกะทันหัน สรุปก็คือให้ระวังไว้ครับ
อย่าเพิ่งแซงขึ้นไปในตอนนี้ขับตามกันไปก่อน

2. เปิดซ้ายอย่างเดียว
ถ้ากรณีนี้รถวิ่งตามกันอยู่ในทางและเค้าไม่ได้เข้าจอด**
หมายความว่า เค้ายินดีให้เราแซงขึ้นไปได้ครับ
และถ้าหากเป็นเลนสวนแสดงว่าข้างหน้าไม่มีรถสวนให้เราแซงได้โดยปลอดภัยครับ

3. เปิดขวา อาจเปิดค้าง หรือเปิดเป็นจังหวะ *
ถ้ารถวิ่งตามกันอยู่แสดงว่าเค้าไม่ให้เราแซงหรือ
เค้าอาจกำลังจะแซงรถคันหน้าหรือกำลังจะเลี้ยวขวาหรือถ้าเป็นเลนสวน
เค้าบอกว่ากำลังมีรถสวนมาครับเพราะงั้น
หากเห็นเค้าเปิดไฟเลี้ยวขวาห้ามแซงออกไปเด็ดขาดครับ
ให้รอจนกว่าเค้าจะแซงไป หรือ จนกว่าเค้าจะเปิดไฟเลี้ยวซ้ายครับ

4. ในกรณีของการขับรถตามกัน
หากเราแซงขึ้นไปจนพ้น
จะสังเกตได้ว่าเค้าจะทำสองอย่างครับ
อย่างแรกคือในจังหวะที่รถเรากำลังตีคู่กันเค้าจะเปิดไฟสูงให้เราเห็น
ทางข้างหน้าและลดไฟลงต่ำเมื่อเราแซงพ้น
หรือบางคันอาจปิดไฟหน้า หากเป็นตอนกลางคืนนั่นหมายความว่า
เราแซงพ้นแล้ว ให้เข้ามาในเลนได้
แต่ถ้าเป็นกลางวันเค้าจะกระพริบไฟ 1 ทีครับ

หรืออีกอย่าง
เค้าอาจบีบแตรเบาๆเป็นสัญญาณให้ 1 ทีก็ได้ครับ แต่หลักที่นิยมทำกัน
คือเมื่อเค้าเปิดทาง และเราแซงขึ้นไป
เมื่อเราแซงไปในระดับเดียวกับรถเค้าเราจะบีบแตรสั้น 1
ครั้งเป็นการขอบคุณและคุณมักจะได้ยินเค้าบีบตอบสั้น 1 ครั้งเช่นกัน


แล้วถ้าขับสวนกันล่ะ ให้ดูหลายไฟหน่อยนะครับ จะมีไฟหน้า
ไฟเลี้ยวและไฟหัวเก๋งครับ

5. ขับสวนแล้วดับไฟหน้าแล้วเปิด
ส่วนใหญ่จะมีด่านครับหรืออีกกรณีจะมีอุบัติเหตุร้ายแรงข้างหน้า
ระวังไว้ครับ

6. กระพริบไฟหน้า
อันนี้ส่วนใหญ่เป็นด่านครับแล้วต้องมองดูดีๆที่ไฟเลี้ยวด้วยครับ
กระพริบไฟหน้าและเปิดไฟเลี้ยวข้างที่ชี้มาทางเรา
ด่านจะอยู่ฝั่งเราครับ
แต่ถ้าเปิดไฟเลี้ยวด้านฝั่งเค้า แสดงว่ามีตำรวจอยู่ฝั่งนู้นครับ
ตอนกลางคืนถ้าเป็นเลนสวนกันขับสวนมาดีๆแล้วกระพริบไฟหน้าครั้งเดียว
บางทีอาจไม่มีอะไรครับ เป็นแค่การทักทาย หรือเป็นการเช็คว่าเราหลับในรึเปล่า

หรือเป็นการถามว่าทางที่เราผ่านมามีอะไร(ตำรวจ) หรือไม่
ถ้าเราไม่หลับไม่เคลิ้ม และทางสะดวกให้กระพริบไฟตอบกลับไป 1 ทีครับ

7. เลนสวนกัน และมีขบวนรถขับสวนขึ้นมา
ให้มองรถลำดับที่ 2 ในแถวไว้ให้ดีนะครับถ้าเรามาคันเดียวโดดยิ่งต้องระวังครับ
หากรถคันที่ 2 หรือคันต่อๆไปในแถวที่สวนมากระพริบไฟหรือ
อาจจะเบ้หัวออกมานิดหนึ่งและกระพริบไฟ
นั่นแสดงว่ารถคันแรกในขบวนช้า เค้ากำลังจะแซงออกมาแล้วครับ

หากเห็นอย่างนั้น ให้มองให้ดี และเตรียมชะลอความเร็ว
ส่วนใหญ่แล้วพอเค้ากระพริบไฟ เค้าก็จะหักหัวออกมาทันทีครับ
เราทำได้อย่างเดียวนะครับ คือค่อยๆชะลอความเร็ว
และเบี่ยงออกไหล่ทาง

*** ไม่ต้องไปต่อกร หรือไปอวดดีเด็ดขาด ***
พวกนี้พอออกมาแล้วไม่กลับแน่นอนครับ

ยิ่งถ้าพอเค้าออกมาปิด-เปิดไฟหน้าตัวใครตัวมันเลยครับ
รับรองได้ว่าไม่หลบแน่นอน

ทีนี้ถ้าคุณคิดว่ารถคุณแข็งกว่าเค้าแน่ๆ ก็ตามสบายครับ

จำไว้ครับรถใหญ่บนทางหลวงเค้าไม่ลงไหล่ทางแน่นอนครับ
เพราะว่ารถมันหนัก ถ้าลงไหล่ มันจะเอาไม่อยู่และพลิกคว่ำทันทีครับ
เพราะงั้นหลบได้ก็หลบเถิด
และอีกอย่างหนึ่งรถใหญ่หนัก เค้าจะไม่ค่อยเบรกกัน
เมื่อเค้าได้รอบได้จังหวะ เค้าจะออกมาทันที เราต้องเป็นฝ่ายหลบนะครับ

จริงอยู่มันอาจดูว่าเค้าผิด แต่หากว่าเกิดอะไรขึ้นแล้วความผิดหรือถูก
มันก็ไม่สำคัญเท่าชีวิตหรอกครับ
บันทึกการเข้า

@ ปีนี้ปีของผม @
หลิม 81
Cmadong พันธุ์แท้
****


ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 2,840

« ตอบ #383 เมื่อ: 24 มิถุนายน 2551, 11:02:28 »

Image Hosted by ImageShack.us


สำหรับ พวก "ไวออส" จะหนักก็ตอน 4 หมื่นกับ 8 หมื่นนี่แหละ
บันทึกการเข้า

@ ปีนี้ปีของผม @
Apirat T.
Cmadong พันธุ์แท้
****


ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 4,357

« ตอบ #384 เมื่อ: 01 กรกฎาคม 2551, 08:25:48 »

ระบบแก๊สของผมสิ้นชีพไปแล้วครับ
เดี้ยงสนิท

ขอเอาไปซ่อมก่อน
แล้วจะเอามาแชร์ให้ฟัง ว่าเกิดอะไรขึ้น  :cry:  :cry:  :cry:

ตาแคม
บันทึกการเข้า
หลิม 81
Cmadong พันธุ์แท้
****


ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 2,840

« ตอบ #385 เมื่อ: 01 กรกฎาคม 2551, 09:52:29 »

รายงานผลการเดินทางไกล (กลับบ้านมาครับ)

ขาไป ตกแล้ว 0.89 บาท (เติมแก๊สเมืองจันท์ 211 บาท)
ขากลับ ซัดไป 0.91 บาท (เิติมแก๊สหมอชิต 275 บาท)

เบ็ดเสร็จ 540 โลคับ

สบายใจไป  :lol:  :lol:
บันทึกการเข้า

@ ปีนี้ปีของผม @
iamfrommoon
Cmadong ชั้นเซียน
*****


ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: 2535
คณะ: พาณิชยศาสตร์และการบัญชี
กระทู้: 8,396

เว็บไซต์
« ตอบ #386 เมื่อ: 01 กรกฎาคม 2551, 10:21:45 »

วันนี้เป็นไงกันบ้างคะ....ตอนนี้ใครติด LPG แย่บ้างค่ะ...เห็นข่าวหากปล่อยลอยตัว ไม่นานก็ราคาเท่าน้ำมั้น...แถมฟังเมื่อเช้าอีก ไหงบอกว่า ไม่เหมาะกับการนำมาใช้กับรถเนี่ย
บันทึกการเข้า

@@ธรรมชาติสร้างความขัดแย้ง เพื่อให้คนเรียนรู้ซึ่งกันและกันได้ดียิ่งขึ้น@@@

Apirat T.
Cmadong พันธุ์แท้
****


ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 4,357

« ตอบ #387 เมื่อ: 03 กรกฎาคม 2551, 07:33:50 »

ไปซ่อมมาแล้น

อาการที่เกิด : ขับด้วยระบบแก๊สอยู่ดีๆ แล้วเครื่องดับกลางอากาศ

สาเหตุ : ตอนแรกช่างทั้งหลาย ก็คิดว่าต้องจูนหม้อต้มใหม่ หรือ ตัวติ๊ก มีปัญหา
(วิธีการแก้ปัญหาแบบขั้นพื้นฐานของระบบแก๊สจริงๆ เหมือน Windows แฮ็งค์
ไม่รู้จะแก้อย่างไง ก็ restart แมร่งเลย)

ปรากฏไม่ใช่สาเหตุดังกล่าว เพราะทั้งจูนใหม่ ล้างกรองแก๊ส ล้างติ๊ก ก็ไม่หาย
ดูไปดูมา มันเกิดจาก อยู่ดีๆ ระบบจ่ายแก๊สมันตัด ไม่ยอมจ่ายแก๊สเข้าหม้อต้ม

สาเหตุที่แท้จริง : ตัวสวิชออโต้เชงจ์ ช็อตครับ
สวิชของผม จะเป็นแบบมีสองตัวเลือกครับ
หนึ่ง คือ วิ่งน้ำมันอย่างเดียว
กับสอง คือ สตาร์ทน้ำมัน แล้วสวิชเป็นแก๊สให้อัตโนมัติ เมื่อรอบรถได้
ตอนใช้ตัวเลือกสอง เมื่อเข้าแก๊สแล้วมันช็อต มันก้อเล่นตัด ไม่จ่ายแก๊สเอาซะดื้อๆ

วิธีแก้ : ง่ายดายเสียนี่กระไร เปลี่ยนสวิชใหม่ไง  :lol:

ตอนนี้สวิชมีอยู่ 3 แบบ
1) แบบ Manual Change คือ ใช้มือควบคุมในการเปลี่ยน ว่าจะเอาแก๊สหรือน้ำมัน
2) แบบ Auto Change ที่มีสองตัวเลือกแบบของผม คือ วิ่งน้ำมันอย่างเดียว
หรือ สตาร์ทด้วยน้ำมัน แล้วเปลี่ยนเป็นแก๊สให้อัตโนมัติ
3) แบบ Auto Change ที่มีสามตัวเลือก คือ วิ่งน้ำมันอย่างเดียว
หรือ สตาร์ทด้วยน้ำมัน แล้วเปลี่ยนเป็นแก๊สให้อัตโนมัติ
หรือ สตาร์ทด้วยแก๊ส แล้วก็วิ่งแก๊สไปตลอด

สรุป ผมขอคืนสู่สามัญ จากแบบที่ 2) ไปใช้แบบที่ 1) แทน
(ส่วนแบบที่ 3 แพงเกิน ตัวละ 2,000 ก่าๆ อ่ะ)
เผื่อเอาไว้ จะได้ไม่เกิดปัญหาแบบข้างต้นอีก
เพราะการตัดแบบ manual ให้ ไม่ช็อตและเปิดปัญหาในขณะขับรถแน่ๆ
มันต้องเกิดตั้งแต่ตอนแรกที่ขับแล้ว

ตาแคม  :wink:
บันทึกการเข้า
Apirat T.
Cmadong พันธุ์แท้
****


ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 4,357

« ตอบ #388 เมื่อ: 03 กรกฎาคม 2551, 08:01:12 »

อ้างจาก: "iamfrommoon"
วันนี้เป็นไงกันบ้างคะ....ตอนนี้ใครติด LPG แย่บ้างค่ะ...เห็นข่าวหากปล่อยลอยตัว ไม่นานก็ราคาเท่าน้ำมั้น...แถมฟังเมื่อเช้าอีก ไหงบอกว่า ไม่เหมาะกับการนำมาใช้กับรถเนี่ย


การจะลอยตัวแก๊สประกาศมา 10 กว่าปีแล้วครับ
แต่ยังไม่มีใครกล้าอาจหาญทำ
ส่วนหนึ่ง อาจเป็นเพราะว่า แก๊สนี้ใช้เป็นแก๊สหุงต้มในครัวเรือนด้วย
ถ้าลอยตัว ย่อมส่งผลกระทบอยู่แล้ว

ส่วนเรื่องราคานั้น ต่อให้ลอยตัว อย่างไง อย่างไง ก็ไม่เท่าน้ำมันหรอกครับ
แก๊ส LPG ในไทยมี 2 แบบ ครับ

แบบแรก เป็นแก๊ส LPG ที่ขุดขึ้นมาจากอ่าวไทย ได้มาจากโรงแยกแก๊ส
(แก๊สพวกนี้จะดีหน่อย อัตราส่วน C3 : C4 อยู่ที่ประมาณ 50 : 50)
เพราะ ฉะนั้นส่วนนี้จะทำราคาหน้าด้านเท่าน้ำมัน เป็นไปไม่ได้
ถ้าจะทำ NGV ต้องทำด้วย เพราะขุดจากอ่าวไทยเหมือนกัน (ผมคิดตื้นดีไหม๊  :lol: )

แบบที่สอง เป็นแก๊สที่ได้จากโรงกลั่นน้ำมันครับ
ซื้อน้ำมันดิบจากต่างประเทศ เอามากลั่นน้ำมัน
LPG เป็นผลิตภัณฑ์หนึ่งในหลายตัวที่ได้ออกมา จากการเอา C3 และ C4 มา mix กัน
(แก๊สพวกนี้ด้อยกว่าพวกแรกหน่อย จะมีอัตราส่วน C3 : C4 อยู่ที่ประมาณ 30 : 70)
ดังนั้น อันนี้ก็ไม่น่าจะขึ้นเท่ากับน้ำมันได้ เพราะมันเป็นผลิตภัณฑ์รองที่ได้
จากผลิตภัณฑ์หลักจากน้ำมัน (อ๊ะ ผมคิดอะไรตื้นๆ อีกรอบแล้ว  :lol: )

ส่วนเรื่องที่เชื้อเพลิง LPG เหมาะกับการใช้ในรถหรือเปล่า
ผมไม่มีข้อมูลด้านเทคนิคนะครับ

แต่ผมใช้หลักความคิดง่ายๆ คือ
เวลาเครื่องจะเอาน้ำมัน เข้าไปเผาไหม้เนื่ย ต้องฉีดให้เป็นฝอย ให้เหมาะกับการจุดระเบิด
แต่แก๊ส มีลักษณะเป็นไออยู่แล้ว ก้อหน้าจะเหมาะกับการจุดระเบิดมากกว่า
(อันนี้เป็นความคิดผมคนเดียว กรุณาอย่าเชื่อ 100%)

เอาข้อมูลรถผมมาแชร์ล่ะกันสำหรับคนที่กลัวมีปัญหาเรื่องเครื่อง

อายุของรถผม : 11 ขวบกั๊บ
เวลาติดแก๊ส : 2 ปีแย๊ว
เคยมีปัญหาเกี่ยวกับเครื่องยนต์ไหม๊ หลังจากติดแก๊ส : ไม่เคยมีแม้แต่ครั้งเดียว
เครืองยนต์รถผมไม่เคยเสียเลยอ่ะ
ที่ซ่อมก็มีแต่พวกอุปกรณ์รอบนอกทั้งนั้น

เคยมีปัญหาเกี่ยวกับระบบแก๊สไหม๊ : เคยครับ ไล่ให้ฟังเลย
ปัญหาครั้งแรกเกิดหลังจาก ติดตั้งมา 1 ปี ครึ่ง : เดินเบาดับ (แก้โดยจูนใหม่ ค่าใช้จ่าย 300)
หลังจากนั้น ทุกๆ 2 ถึง 3 เดือน ผมต้องเอาเข้าไปจูนเรื่อยๆ (ค่าใช้จ่าย ครั้งละ 300)

พอครบสองปี ก้อเปิดปัญหาสวิชเสีย (แก้โดยเปลี่ยนใหม่ ค่าใช้จ่าย 1200 อันนี้ขึ้นอยู่กับอุปกรณ์)

ทั้งหมดก้อมีเพียงเท่านี้ครับ

ตาแคม  :wink:
บันทึกการเข้า
Apirat T.
Cmadong พันธุ์แท้
****


ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 4,357

« ตอบ #389 เมื่อ: 03 กรกฎาคม 2551, 08:16:10 »

ไม่รู้จะชม หรือ ด่า วิธีการแก้ปัญหาของ สนพ. (สำนักงานนโยบายและแผนพลังงาน)
กับ ขาใหญ่อย่าง ปตท. ดี

อย่างที่คนใช้แก๊สรถยนต์อย่างเราๆ ทราบกันดี
ช่วงนี้ แก๊สในปั๊ม หมดกันบ่อยมาก
สาเหตุมาจาก demand ช่วงนี้ ค่อนข้างมาก
(อาจเป็นเพราะ การกักตุนเก็งราคา, หรือปริมาณใช้รถมากขึ้น)

พลอยทำให้แท็กซี่ประท้วง พวกผู้ใหญ่ก้อก้นร้อน
สนพ. ก็ต้องทำให้พวกปั๊มแก๊สมีแก๊สขาย
คนที่ขายแก๊สให้ปั๊ม ก็คือ พวกมาตรา 7
(Distributor แก๊สรายใหญ่ในไทยมีอยู่ 5 ราย :
ปตท., เวิลด์แก๊ส, ปิคนิค, สยาม, ยูนิค)
ก็ต้องหาแก๊สไปขายให้ปั๊มพวกนี้ ซึ่งส่วนใหญ่ก้อต้องไปซื้อจากขาใหญ่ คือ ปตท.

ปตท. ทำไงรู้เปล่า
ปตท. ก็ไปตัดโควต้าขายแก๊สให้พวกมาตรา 7 เหล่านี้ ที่ต่างจังหวัด
แล้วเอามาเพิ่ม โควต้าขายให้ในส่วนกรุงเทพ ที่มีปั๊มแก๊สเยอะ

ผล ปั๊มแก๊ส ในกรุงเทพ เริ่มมีแก๊สจ่ายเหมือนเดิม
ผลอีกอย่าง แก๊สใน ต่างจังหวัด เริ่มขาด (แต่ส่วนใหญ่ใช้ในครัวเรือน)

ตาแคม :arrow:
บันทึกการเข้า
Apirat T.
Cmadong พันธุ์แท้
****


ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 4,357

« ตอบ #390 เมื่อ: 03 กรกฎาคม 2551, 08:29:28 »

ไปคุยกับช่างติดแก๊สมา เลยเอาข้อมูลบางอย่างที่บางคนอาจไม่เคยได้ยินมาแชร์ให้ฟัง

เค้าบอกว่า
หม้อต้มของอิตาลี (Tomasetto) ไม่เหมาะกับรถต่ำกว่า 2,000 C.C.
จะส่งผลให้ รถกินแก๊สต่อกิโล มากกว่า การใช้หม้อต้มตัวที่เล็กกว่า อย่างเช่น ฮานะ
(เค้าเปรียบให้ฟังง่ายๆ ว่า แก้วมันเล็กอยู่เท่าเนี๊ยะ แต่ดันเทน้ำใส่มากเกินไป มันก็ล้นสิ)
แต่ถ้าเอาตัวนี้ ไปใช้รถ 2,00 C.C. ขึ้นไป ก็จะเหมาะสมมากกว่า

รถดีเซล ที่ติดตั้งแก๊ส จะต้องใช้ทั้งแก๊สและทั้งน้ำมัน
โดยการปรับรถให้จ่ายน้ำมันน้อยลง แล้วปล่อยแก๊สลงไปแทนส่วนน้ำมันที่ขาดหายไป
แต่จะทำได้แค่ประมาณ 20% อ่ะ
เลยพลอยทำให้รถดีเซลที่ติดตั้งระบบแก๊ส จะประหยัดแก๊สไปได้เพียง 20% เท่านั้นเอง

แถม ถ้าแก๊สหมด รถจะวิ่งโดยน้ำมัน ที่ถูกปรับรถการจ่ายน้ำมันลงไปแล้ว
รถก็จะอืดกลายเป็นเต่า ทำให้รถพวกนี้ ต้องมีแก๊สติดถังรถตลอดเวลา

ตาแคม  :wink:
บันทึกการเข้า
Mr.EggMan
Hero Cmadong Member
***


ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 1,826

« ตอบ #391 เมื่อ: 04 กรกฎาคม 2551, 20:11:16 »

ไม่รู้เท็จจริงประการใด แต่ถ้าใช่ก็...

Subject: ความจริงอันน่าเจ็บปวดในตอนนี้

ผมเป็นกัปตันเรือบรรทุกน้ำมัน แต่ไม่ขอบอกชื่อนะครับ ขณะนี้เรือผมได้ทอดสมออยู่ที่หาดแหลมเจริญ เพื่อรอรับน้ำมันดีเซลจากIRPCหรือTPIเก่าละครับ แต่เมื่อปตทได้ซื้อไปก็เปลี่ยนชื่อเป็นIRPC ผมรับน้ำมันเพื่อส่งไปที่เขมรและเวียดนาม
เรื่อผมบรรทุกก๊าสLPGไม่ได้เพราะไม่ใช่เรือบรรทุกก๊าซ แต่ผมมีเพื่อนที่เป็นกัปตันเรือบรรทุกแก๊สLPGอยู่หลายคนพวกจะมารับ แก๊สLPGจากIRPCเพื่อไปส่งเขมรและเวียดนาม เหมือนผม เดือนละหลายเที่ยวเรือ ขณะที่ผมกำลังโพสอยู่นี่ก็มีเรือแก๊สรอรับอยู่ 3 ลำ
ตั้งแต่ผมเดินเรือมายังไม่เคยเห็นเรือแก๊สที่นำเข้าเลยแม้แต่ลำเดียว มีแต่เรือส่งออก ปตท บอกได้นำเข้าแก๊ส มาจากต่างประเทศปีละเป็นล้านตัน แล้วเขาเอาเข้ามาทางไหนละครับ ถ้าทางเรือผมไม่เคยเห็น เคยเห็นแต่เรือส่งออก ลองมาดูที่แหลมเจริญที่ระยองซิครับมีเรือมาคอยรับทุกวันละครับ เพื่องส่งไปเขมร เวียดนาม แล้วไอ้นักวิชาการด้านน้ำมันที่มาออกรายการตาสว่างนะครับ เขาเป็นอดีตคนที่ทำงานปตท สิ่งที่เขาพูดนะ เป็นการแก้ต่างให้ปตททั้งนั้น
ปตท ได้ไปลงทุนในการวางท่อแก๊สNGV จากมาเลเซีย และพม่า ตั้งหลายแสนล้านบาท ปตทจึงต้องการให้คนไทยใช้ NGV เพราะก๊าซ
NGVเขามีกันทุกประเทศละครับ เขมรตอนนี้ก็เจอ ก๊าซ NGV อยู่หลายหลุม เวียดนามก็เจอ พม่าเขาก็มีเยอะ ทั่วโลกเขามีกันหมด ถ้าคนไทยไม่ใช่NGV แล้วปตท จะเอาไปขายใครละครับ ต้องบังคับให้คนไทยใช้ให้ได้ โอยอ้างว่าก๊าซNGVปลอดภัยกว่า จริงๆแล้วไม่ใช่หลอกครับ อันตรายพอๆกันละครับ เพราะNGVเป็นก๊าซที่มีแรงดันสูง โอกาศที่จะระเิบิดก็ยอมมีสูงตามไปด้วย ถ้ามันอยู่ในกระโปรงหลังรถ มันจะออกไปไหนละครับ มันก็จะระเบิดอยู่ที่ท้ายรถละครับ ตอนนี้ยังไม่มีเรือลำไหนสามารถบรรทุกก๊าซ NGVได้เลย เรือที่บรรทุกLPGไม่สามารถ บรรทุก NGVได้ เพราะNGV มีแรงดันสูงกว่าLPGหลายเท่า ปตท เลยไม่สามารถส่งออกได้
นอกจากมาหลอกขายคนไทย ตอนนี้โรงกลั่นเป็นของปตท เกือบหมดแล้ว ปั้มน้ำมันที่ไม่มีโรง
กลั้นก็ต้องไปซื้อน้ำมันจากปตทมาขายอีกที เลยต้องขายแพงกว่าปตท ปตทไม่ได้ช่วยอะไรคนไทยเลยนะครับ


อ้างอิงจาก กัปตันเรือเดินสมุทร บริษัทแห่งนึง โดย gasthai.com
บันทึกการเข้า

jakkreepan@hotmail.com
Love is in the A...I...R......H
khesorn mueller
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: 2527
คณะ: รัฐศาสตร์
กระทู้: 71,885

« ตอบ #392 เมื่อ: 04 กรกฎาคม 2551, 20:13:05 »

ขอรูปประกอบด้วยค่ะหนุ่มๆ
p.nn
บันทึกการเข้า


Apirat T.
Cmadong พันธุ์แท้
****


ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 4,357

« ตอบ #393 เมื่อ: 07 กรกฎาคม 2551, 08:18:27 »

ปัจจุบัน IRPC หรือ TPI เดิมนั้นเป็นไงผมไม่รู้
แต่ผมขอเล่า เรื่องจริงของ TPI เมื่อ 3-4 ปีที่แล้วให้ฟังล่ะกัน
เพื่อเป็นบรรทัดฐานในการตัดสินใจข้อมูลที่บักซ๊าป ได้ post ไว้

ถ้าเป็น 3-4 ปีที่แล้ว เป็นตามนั้นจริงครับ
โรงกลั่นน้ำมันของ TPI เน้นการส่งออกเป็นหลัก
ผู้ค้า LPG ในไทย หลายๆ ราย พยายามจะขอซื้อ LPG (C3+C4) เพิ่มอยู่เนืองๆ
แต่ TPI ไม่เคยคิดจะขายเพิ่มให้กับในประเทศเลยครับ
คงเป็นเพราะ ขายได้ราคาถูก

ส่วนใหญ่ TPI เค้าจะ ดึง C3 และ C4 ซึ่งเป็นผลิตภัณฑ์พลอยได้จากโรงกลั่น
เข้าไปเป็นวัตถุดิบเคมีภัณฑ์ซะเป็นส่วนใหญ่
พอเหลือ ก้อเอามา mix กันเป็น LPG
แล้วก้อส่งออก ส่งออก แล้วก็ส่งออก
เหลืออีกนิดหน่อย ก็ขายให้ผู้ขายในประเทศ

พอมาถึงปัจจุบัน ซึ่ง ปตท. มาซื้อ TPI และเปลี่ยนเป็น IRPC แล้วเนี่ย
มันจะเป็นอย่างไง ก้อลองจินตนาการดูล่ะกันครับ

ส่วนเรื่องที่ ปตท. นำเข้า LPG ผมคิดว่ามีนะ แต่น้อยมาก
ไม่ใช่สัดส่วนใหญ่ แล้วเป็นประเด็นต้นทุนที่ต้องแบกรับอย่างแสนสาหัส
และถ้าผมเป็น ปตท. ผมคงไม่เสียเวลาไปซื้อ LPG เข้ามาขาย
ผมสู้ไปซื้อน้ำมันดิบมากลั่น ซึ่งอย่างไง อย่างไงก็ต้องได้ LPG ออกมาด้วยไม่ดีกว่าเหรอ

แต่ ปตท. ก็ชอบพูดเหมือนนำเข้าแก๊ส LPG มาทางเรือบ่อยๆ
เช่น ออกข่าวว่า ตอนนี้เรือแก๊สจอดอยู่ที่ เขาบ่อยาเรียบร้อยแล้ว
ขอเท็จจริง "เขาบ่อยา" เป็นที่เก็บแก๊ส เฉยๆ ครับ
โดยเอามาจากโรงกลั่น หรือ โรงแยก เพื่อนำมาพักไว้ที่เขาบ่อยาอีกทีนึง

ตาแคม  :arrow:
บันทึกการเข้า
ppornson
Cmadong พันธุ์แท้
****


ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 3,724

« ตอบ #394 เมื่อ: 07 กรกฎาคม 2551, 13:10:16 »

..ตอนนี้มันมีการถึงขั้นโจมตีว่าคนติด lpg ไม่รักชาติ..

ผมถามนิดเดียวครับ..ว่าถ้าตอนนี้รถที่ติด lpg ไปติด ngv ซักครึ่งเดียว..คุณว่ามันจะโกลาหลขนาดไหนครับ..

ทุกอย่างเมื่อมีแรงดัน..มันก็จะหาที่ระบายออก..แต่ ปตท ไม่ได้เตรียมการสำหรับเรื่องนี้ไว้เลย..ราคาไม่ต้องไปบิดเบือน ngv อีก 2 ปีจะขึนอีก 50% คุณแจ้งข้อมูลตรงนี้กันรึเปล่า..

ไม่ได้หลอกลวง..แต่เหมือนพูดไม่หมด..

เค้าผิดตรงไหน..ในเมื่อคุณไม่ได้ทำตัวเองให้คนอื่นเห็นค่า..

ดีนักดีหนา..แต่ทำไมคุณเพิ่งทำ..

แค่นั้นล่ะครับ..ใครถนัด ใครสะดวกใช้อะไรก็ใช้..ไม่ต้องไปกดกันหรอกครับ..ราคาก็ลอยตัวตามจริง..เน้นว่าตามต้นทุนนะครับ..อย่าอ้างราคาตลาดโลก..มันคนละตัวกัน..(มักจะบอกราคาตลาดโลก..ไม่เคยพูดเรื่องต้นทุนจริงๆ..ถ้าคิดจะช่วยกันนะ..)

เซ็งกับนโยบายกลับไปกลับมาครับ..
บันทึกการเข้า
Mr.EggMan
Hero Cmadong Member
***


ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 1,826

« ตอบ #395 เมื่อ: 08 กรกฎาคม 2551, 13:36:20 »

จัดปาย ยาวๆ ว่างๆก็มาอ่านกันเนอะ



ปตท. มันก็เกินไป
 
#######################

 ผมได้มีการรวบรวมข้อมูลและประมวลสถานะการ์ณต่างๆที่อาจจะเกิดขึ้น ดังนี้

       เรื่องของราคาน้ำมันเชื้อเพลิงในประเทศไทย ไม่ว่าเป็น ดีเซล เบนซิน แก๊สโซฮอล NGV หรือ LPG ต่างก็ยังไม่ได้ลอยตัวครับ ถ้าให้ลอยตัวเหมือนกันหมดราคาเชื้อเพลิงที่่กล่าวถึงก็คงจะขึ้นราคา แต่คงไม่เกิน 3 บาทต่อลิตรครับ แต่ที่ ปตท. ซึ่งไม่ใช่หน่วยงานของรัฐ เป็นบริษัทเอกชน เช่น เอสโซ เชลล์ มาออกข่าวว่าต้องขึ้นราคาแก๊ส LPGอีก 11 บาทนั้น เขาอ้างอิงจากราคาตลาดโลก แต่ประเทศไทยผลิตได้เองส่วนหนึ่งจาก
แหล่งผลิตในประเทศ และจากการกลั่นน้ำมันดิบ

        ประเทศในยุโรป ไต้หวัน เกาหลี อินเดีย และอีกหลายประเทศ รัฐบาลเขามีนโยบายสนันสนุนผู้ใช้แก๊ส ทั้ง NGV และ LPG ไม่ว่าจะเป็นภาคอุตสาหกรรม ในครัวเรือน หรือในการขนส่ง ด้วยสาเหตุที่ว่า แก๊ส LPG และ NGV เป็นเชื้อเพลิงสะอาด (clean fuel) หรือพลังงานสะอาด (clean energy) ลดมลภาวะในอากาศที่เกิดจากการใช้เชื้อเพลิงประเภทเบนซินหรือดีเซล ประโยชน์ที่ได้รับจากการสนับสนุนตรงนี้คุ้มกว่าผลเสียที่ก่อให้เกิดทางสังคม เช่นโรคทางเดินหายใจ หรือโรคอื่นๆ มาก หลายประเทศรัฐบาลเขาออกมาประกันราคา NGV และ LPG ว่าจะไม่ขึ้นภายในเวลาหนึ่ง เพื่อส่งเสริมให้ประชาชนเขาลงทุนติดตั้งระบบแก๊สในรถยนต์

        ในประเทศไทย การใช้แก๊ส LPG ในรถยนต์มีมามากกว่า 20 ปีเท่าทีผมจำความได้หรือมากกว่านั้น ถ้าจำไม่ผิดรัฐบาลเองในยุคก่อนมีนโยบายส่งเสริมการใช้ LPG เหมือนกับประเทศอื่นๆ ด้วยซ้ำ แต่มาในยุค ปตท. แปรสภาพจากรัฐวิสาหกิจที่เป็นสมบัติของคนทั้งประเทศ ไปเป็นบริษัทเอกชนที่อยู่ในตลาดหลักทรัพย์ (ด้วยการขายหุ้นราคาถูกกว่าราคาจริงเบื้องต้น เปรียบเสมือนเอาสมบัติของประเทศมาขายในราคาต่ำกว่าราคาจริง ให้กับพวกพ้องคนรวยไม่กี่ตระกูล) รัฐบาลกับมีนโยบายสนับสนุนการใช้ NGV ในรถยนต์ โดยให้คำมั่นว่าจะคงราคา NGV ไว้ที่ กก. ละ 8.50 บาท ส่วน LPG ที่เคยส่งเสริมนั้นไม่พูดถึง แต่มาเร็วๆ นี้ ปตท. และ รัฐบาล ออกมาอ้างว่าต้องขึ้นราคา LPG เพราะอุ้มสุดตัว และบีบผ่านทาง ปตท. ไม่ให้เกิดปั้มแก๊ส LPG หรือด้วยวิธีการอื่นๆ และจะขึ้นราคา NGV อีก

... ทีนี้มาตอบข้อสงสัยว่าทำไม ปตท. หรือรัฐบาล ผ่านกระทรวงพลังงาน สนับสนุนการใช้ NGV สุดตัว และพยายามบีบให้เลิกใช้ LPG มีดังนี้
1. ปตท. เป็นผู้ผูกขาดธุรกิจ NGV แต่ผู้เดียวในประเทศไทย ไม่มีการแข่งขัน
2. ปตท. รับซื้อแก๊สธรรมชาติ (natural gas) จากพม่าผ่านทางท่อส่งมายังราชบุรีซึ่งการวางท่อส่งแก๊สนี้ทำให้เกิดปัญหากระทบกระเทือนสภาพแวดล้อม ซึ่งเป็นการลงทุนของคนไทยทั้งประเทศ ไม่ใช่ผู้ถือหุ้นรายใหญ่ของ ปตท. ที่เรารู้กันอยู่ ปตท. จำเป็นต้องขาย NGV ให้มากที่สุดเพื่อคุ้มกับเงินที่ต้องจ่ายให้พม่าเป็นค่าแก๊ส
3. ปตท. ต้องแสดงผลประกอบการเป็นกำไร เพื่อให้ผู้ถือหุ้น (ใหญ่) พอใจ เพื่อให้ผู้บริหาร ปตท. ได้อยู่ในตำแหน่ง ได้รับผลประโยชน์เป็นเงินเดือนค่าจ้าง สวัสดิการ ที่สูงลิ่ว
4. นักการเมืองที่ดูแลกระทรวงพลังงาน เป็นอดีตพนักงานระดับสูงของ ปตท.
5. ปตท. สนับสนุนการใช้ NGV ด้วยการโฆษณา ประชาสัมพันธ์ และการสนับสนุนราคาถังแก๊ส NGV จำนวนหนึ่ง แต่ไม่ยอมลงทุนสร้างปั้มแก๊ส NGV ให้ทั่วประเทศ และระบบ
ส่งแก๊ส NGV ไม่สามารถหาผู้ร่วมลงทุนจากเอกชนรายอื่นๆ ได้ เพราะเขารู้ว่าไม่คุ้มค่าทางเศรษฐกิจ เป็นเหตุผลทางการเมืองและผลประโยชน์ของ ปตท. เอง (ขอย้ำว่าไม่ใช่ผลประโยชน์ต่อสังคม) อีกทั้งข้อจำกัดทางเทคนิค ไม่เป็นที่นิยมของผู้ใช้รถยนต์เท่าLPG ปตท. จึงต้องหามาตรการอื่นมาบีบ การที่ ปตท. ทำอย่างนี้ เป็นเรื่องที่เข้าใจเพราะเป็นบริษัทเอกชน ย่อมหาหนทางใดๆ ก็ได้เพื่อให้ได้กำไรสูงสุดเป็นประโยชน์ต่อผู้ถือหุ้น (ขอย้ำอีกครั้งว่า ไม่ใช่ผลประโยชน์ของสังคม) แต่การที่ภาครัฐผ่านทางกระทรวงพลังงานเลือกปฏิบัติโดยสนับสนุนการใช้NGV ในรถยนต์สุดตัว โดยไม่สร้างโครงสร้างพื้นฐานให้ เช่น ระบบการส่งแก้ส NGV ปั้มแก๊ส NGV และบีบการใช้ LPG ในรถยนต์ ถือว่าไม่เหมาะสม รัฐบาลควรให้ข้อมูลกับ
ประชาชนอย่างถูกต้องถึงผลได้ผลเสียต่อสังคมของการใช้พลังงานทางเลือก และควรกำกับดูแลไม่ให้บริษัทเอกชนบริษัทใดบริษัทหนึ่งเอาเปรียบสังคม

     เรื่อง ปตท. บีบไม่ให้ตั้งปั้มแก๊ส LPG เป็นเรื่องจริงครับ เมื่อ 26 ธ.ค. 48 ผมคุยกับเจ้าของกิจการโรงบรรจุแก๊สแห่งหนึ่งในภาคเหนือ เขาบอกว่าค่าการตลาดจากการขายแก๊ส LPG สูงคุ้มค่ากับการลงทุนเปิดปั้มแก๊สเติมรถยนต์มากกว่าการเปิดปั้มเบนซิน ดีเซล แต่ ปตท. บีบไม่ให้ตั้ง มิฉะนั้นจะไม่ส่งแก๊ส LPG ให้ และแก๊สที่มาส่งก็มาจากแหล่งผลิตในประเทศที่ลานกระบือนี่เอง ส่วนการตั้งปั้มแก๊ส NGV เขาไม่กล้าลงทุน เพราะแพงมาก มีรถยนต์ใช้น้อยไม่คุ้ม และมีอุปสรรคเรื่องระบบขนส่งแก๊ส NGV

... ทีนี้มาตอบข้อสงสัยว่าทำไม ปตท. หรือรัฐบาล ผ่านกระทรวงพลังงาน สนับสนุนการใช้ NGV สุดตัว และพยายามบีบให้เลิกใช้ LPG
      LPG สามารถกลั่นจาก น้ำมัน(ซึ่งมีต้นทุนสูงนำเข้า) และก๊าซธรรมชาติ(ซึ่งมาจากอ่าวไทยของเราเอง)
       NGV (ก๊าซมีเทน)ได้จากการแยกก๊าซธรรมชาติซึ่งมีอยู่ประมาณ 66 mol% LPG(c3+c4) 6 mol% แล้วทำไมจะไม่ควรสนับสนุนการใช้ NGV จะซื้อน้ำมันต่างชาติมากลั่นทำไม

     อ้างอิงข้อมูลของกระทรวงพลังงานที่เป็นข้อมูลราชการ ที่http://www.eppo.go.th/info/T25.html

         เรานำเข้า natural gas ปี 2005 156,733 bbl/day จากปริมาณการใช้568,742 bbl/day หรือ 27.55 % ของการใช้ในประเทศไทย ซึ่งก็คือนำเข้าจากพม่า เสียเงินตราต่างประเทศให้พม่า

       ข้อมูลการส่งออก LPG ครับ จากกระทรวงพลังงาน ตาราง 34 ที่
       http://www.eppo.go.th/info/T34.html
         
       ไทยส่งออก LPG ปี 2005 เฉลี่ยเดือนละ 150 ล้านลิตร เป็นอัตราที่เพิ่มขึ้น 8.5 %
จากปี 2004 (นั่นคือส่งออก LPG มากขึ้น) ขณะที่ปริมาณแก้ส LPG ที่ใช้ในรถยนต์ของไทยประมาณปีละ 100 ล้านลิตร หรือแค่ 10% ของแก้ส LPG ที่ส่งออกทั้งปี ยังมีเหลืออีกมากสำหรับสนองความต้องการในประเทศซึ่งส่วนใหญ่ใช้ในครัวเรือนและอุตสาหกรรม

       LPG ได้มาจากสามแหล่งครับ คือ หนึ่ง เป็นผลพลอยได้จากการกลั่นน้ำมันดิบทำเบนซิน  ดีเซล ถ้าไม่ใช้ก็ต้องเผาทิ้ง สอง ปนมากับน้ำมันดิบที่ขุดได้จากบ่อน้ำมันหรือแก้ส ถ้าไม่ใช้ก็ต้องเผาทิ้ง สาม กลั่นจากแก้สธรรมชาติ (natural gas) ส่วน NGV ได้มาจากการกลั่นจากแก้สธรรมชาติ

       NGV เหมาะสำหรับรถสาธารณะขนาดใหญ่เนื่องจากอุปกรณ์ยุ่งยากราคาสูงและต้องใช้ถัง
แก้สความดันสูงจำนวนมาก

     จากการศึกษารายงานนโยบายการใช้พลังงานของ APEC ที่ไทยเป็นสมาชิกหนึ่งในยี่สิบเอ็ดประเทศ ไทยเป็นประเทศเดียวที่จำกัดการใช้ LPG และส่งเสริม NGV ในรถยนต์ทั้งๆ ที่ผลิต LPG ได้เกินความต้องการต้องส่งออกไปขาย และยังต้องสั่งแก้สธรรมชาติจากพม่าเป็นปริมาณประมาณหนึ่งในสี่ของการใช้ในประเทศ

      ฮ่องกง เกาหลีใต้ ญี่ปุ่น ไต้หวัน ออสเตรเลีย ต่างส่งเสริมและสนับสนุนการใช้แก้สLPG ในรถยนต์ ด้วยมาตรการทางภาษีและสนับสนุนราคา LPG ให้ต่ำกว่าเบนซิน ดีเซลประมาณครึ่งหนึ่ง ประเทศที่กล่าวมายกเว้นออสเตรเลียต่างต้องนำเข้า LPG ไม่มีแหล่งเองเหมือนประเทศไทย

      ฮ่องกงเองได้เปลี่ยนให้รถแทกซี 90 เปอร์เซ็นต์มาใช้แก้ส LPG ด้วยการให้เงิน
สนับสนุน และกำลังมีโปรแกรมใหม่ที่จะเปลี่ยนรถบัสเล็ก 5,000 คันมาใช้แก้ส LPG(ย้ำ LPG) ด้วยเงินสนับสนุนและมาตรการส่งเสริมของรัฐบาล

       เราผลิต LPG ได้ปีละประมาณ 3,200 ล้านลิตรส่งออกประมาณ 800 ล้าน (25%)
ใช้กับยานยนต์ (แบบเว่อร์ๆ 2 เท่าเลย) 200 ล้านลิตร


       ที่เหลืออีก 2,200 ล้านลิตร หายไปไหนครับ???

        ไปอยู่ภาคครัวเรือน ให้ประชาชนใช้หุงต้ม 1,000 ล้านอยู่ภาคอุตสาหกรรม ทำอาหาร ทำแก้ว หลอมโลหะ ฯลฯ อีก 1,200 ล้าน

      แล้วไอ้ที่มาโกหกปาวๆๆๆ ว่า รถยนต์ใช้แกส ทำให้โครงสร้างพลังงานเสียหาย เพราะรัฐฯ ต้องชดเชยถึงกิโลละ 11 บาท .. หรือลิตรละ 6 บาท (มาได้งัยก็ไม่รู้) .. ชดเชยให้ใครกัน?

    ชดเชยให้คนใช้รถ .. 200x6 = 1,200 ล้าน
    ชดเชยให้คนทำกับข้าวกิน .. 1,000x6 = 6,000 ล้าน (สาธุ)
    ชดเชยให้พ่อค้านายทุน ผลิตสินค้า = 1,200x6 = 7,200 ล้าน (ก็ .. ยังดี .. ของ
    จะได้ไม่แพง)
    ชดเชย ((Embedded image moved to file: pic06840.gif)Huh!!!!?? ชดเชยทำไม) ให้กับการส่งออก 800x6 = 4,800 ล้าน!!!!!

    บ.น้ำมัน ไม่รวยพุงปลิ้นวันนี้ ก็ไม่รู้จะพูดงัยแล้ว...

   เบนซิน91 หรือเบนซิน95 ต้องนำเข้าน้ำมันดิบ 100 %
   แก๊สโซฮอล นำเข้าเป็นน้ำมันดิบเพื่อกลั่นเป็นเบนซิน 90 % และยังเป็นเอธานอลส่วนหนึ่งที่เราผลิตไม่พอ ดังนั้นเท่ากับนำเข้ามากกว่า 90 % แต่รัฐบาลโปรโมตสุดลิ่มทิ่มกบาล
    LPG ไม่ต้องนำเข้าเพิ่มเติม ได้จากกระบวนการกลั่นน้ำมันดิบส่วนหนึ่ง กับแยกจากแก๊สธรรมชาติของไทยหรือพม่าอีกส่วนหนึ่ง มีเหลือขายต่างประเทศลองใช้หัวแม่เท้าคิดดูก็แล้วกันครับ
       ใช้เบนซิน 100 ล้านลิตร หรือแก๊สโซฮอล 90ล้านลิตร ก็ต้องนำเข้าน้ำมันดิบในจำนวนที่มากกว่า
       ใช้ LPG 100 ล้านลิตร ไม่ต้องนำเข้าน้ำมันดิบเพิ่มขึ้นเพราะจากกระบวนการกลั่นเหลือใช้จนต้องขายต่างประเทศ
       การนำLPG 100 ล้านลิตรมาใช้แทนน้ำมัน เมื่อเทียบกับการใช้เบนซิน 90ล้านลิตร หรือเบนซินในแก๊สโซฮอล 80กว่าลิตรแบบไหนจะเสียเงินตราของชาติมากกว่ากัน(ให้อัตราสิ้นเปลืองLPGมากกว่าประมาณ 10 %)แบบไหนประหยัดเงินตราของชาติมากกว่ากัน ต่อให้คิดโดยเสมอภาคนั่นคือหากชดเชยก็ชดเชยเท่ากัน หรือไม่ชดเชยก็ต้องไม่ชดเชยเหมือนกัน ค่าการตลาดต่อลิตรเท่ากัน
    ***จุดที่จะประหยัดเงินตราต่างประเทศมากที่สุดคือ จุดที่มีจำนวนผู้ใช้ LPG มากขึ้นจนแทบไม่มีเหลือส่งออก เพราะเราก็ไม่ต้องนำเข้าน้ำมันดิบมากกว่าเดิม
      หากจำนวนคนที่ใช้ LPG เพิ่มขึ้นจากเดิมจนถึงจุดที่เราแทบไม่เหลือ LPG ส่งออกนอกนั้น
ใช้เบนซินหรือโซล่า หรือแม้แต่แก๊สโซฮอลก็ตาม จะต้องนำเข้าน้ำมันดิบอีกเท่าไหร่

    อย่าเพิ่งไปกลัวเลยครับ ผมว่าที่ปตท ออกมาขู่เรื่องราคาแก๊ส lpg ว่าราคาจะลอยตัว
ราคาที่แท้จริงต้องบวกเพิ่มอีก 9บาท ต่อลิตร ตกลิตรละ18บาท สงสัยจะเป็นอุบายของปตท ที่จะทำให้คนที่คิดจะติดlpg ลังเลใจแล้วมาติด ngvแทน เพราะปัจจุบัน ngvขายไม่ออก ที่เขาบอกว่าlpg ราคาขึ้นเป็น600ดอลล่า/ตัน
   ถ้าวิเคราะห์ดูดีๆ ตันหนึ่งมี1000 กก 1กกมี1.8ลิตร 1ตันเท่ากับ 1800ลิตร 600ดอลล่าเท่ากับ 24000บาท คิดแล้วลิตรหนึ่งตก 13บาทกว่าเท่านั้นเอง นี่ยังไม่รวมถึงแหล่งที่มาของราคาที่เขาใช้เป็นราคากลางด้วยว่า600ดอลล่า/ตัน มาจากที่ไหน ที่อื่นที่ถูกกว่านี้ก็มี เช่นซื้อมะม่วงแถวต่างจังหวัด ราคาย่อมถูกกว่าที่ไปซื้อที่สีลมอยู่ดี อีกอย่างlpg เราก็ผลิตได้เองบางส่วน
 จะมาอ้างราคาตลาดโลกได้อย่างไร ทำไมไม่ตั้งราคาขาย มะม่วงทุเรียน และผลผลิตทางการเกษต ที่เราผลิตได้ในประเทศ ให้มีราคาสูงเหมือนที่ขายในญี่ปุน ในอเมริกาละ โดยอ้างราคาตลาดโลกบ้าง ขายทุเรียนลูกละซัก2000บาทไปเลยซิ คิดว่าประชาชนโง่เหมือนควายเหรอครับ รัฐบาลอย่ามาขูดรีดขูดเนื้อประชาชนเลยครับ

     นี้คือสิ่งที่กำลังเกิดขึ้นในปัจจุบันนี้ ขอให้ทุกท่านร่วมหาทางแก้ไขอีกทั้ง รัฐบาลเราคงหวังเพิ่งพาอาศัยไม่ได้แล้ว
 :lol:
บันทึกการเข้า

jakkreepan@hotmail.com
Love is in the A...I...R......H
ชาร์ป
Global Moderator
Hero Cmadong Member
*****


ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 2,119

« ตอบ #396 เมื่อ: 08 กรกฎาคม 2551, 14:11:56 »

ตอนนี้ ไฟ engine โผล่ขั้นมาแล้ว หลังจากวิ่งได้ เกือบ 2 อาทิตย์ 700 กิโลเมตร

เย็นนี้ จะเอาไปจูนใหม่ดู

..
บันทึกการเข้า
ชาร์ป
Global Moderator
Hero Cmadong Member
*****


ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 2,119

« ตอบ #397 เมื่อ: 19 กรกฎาคม 2551, 23:40:40 »

เอาไปจูนแล้ว ดีขึ้นครับ ไฟ engine ไม่ติดแล้ว

และ มีข่าวมาฝาก

ไปจดทะเบียนเชื้อเพลิง ได้โดยไม่ต้องใช้เล่มรถ ตัวจริงแล้วครับ ...
http://www.dlt.go.th/information/news/2551/121-2551.pdf
บันทึกการเข้า
หลิม 81
Cmadong พันธุ์แท้
****


ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 2,840

« ตอบ #398 เมื่อ: 20 กรกฎาคม 2551, 11:33:44 »

http://www.gasthai.com/lpgnetwork/html/500171.html

ไปเอาใบรับรองวิศวะ ฯ กันได้ที่นี่ครับ ไม่แพง ไม่นาน...แล้วไปแจ้งที่ขนส่ง 4 ครับ เพราะคนน้อยมาก (แต่ไกลพอสมควรเช่นกัน)
บันทึกการเข้า

@ ปีนี้ปีของผม @
ppornson
Cmadong พันธุ์แท้
****


ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 3,724

« ตอบ #399 เมื่อ: 20 กรกฎาคม 2551, 19:01:03 »

ไอ้หลิมไปทำมารึยัง..รถกรูโดน6ล้อเสยตูดมากำลังทำอยู่..เซ็งโคด
บันทึกการเข้า
  หน้า: 1 ... 14 15 [16] 17 18 ... 39  ทั้งหมด   ขึ้นบน
  
กระโดดไป:  

     

สมาคมนิสิตเก่าหอพักนิสิต จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย มวลสมาชิกสมาคม คณาจารย์ และนิสิตเก่าทุกคน ขอน้อมเกล้าถวายความอาลัย  พระผู้เสด็จสู่สวรรคาลัย ด้วยเกล้าด้วยกระหม่อม ขอเดชะ <;))))><