14 พฤษภาคม 2567, 15:27:05
ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน


เข้าสู่ระบบด้วยชื่อผู้ใช้ รหัสผ่าน [สมาชิกเก่าลืมรหัส โทร 081-7611760]
A A A A  ระเบียบปฎิบัติ
   
Languages    
  หน้า: [1]   ลงล่าง
ผู้เขียน หัวข้อ: คนเก่งจริงไม่เรื่องมาก คนฉลาดจริงไม่มากเรื่อง‏  (อ่าน 3395 ครั้ง)
0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
Samrotri2517
Cmadong Member
Hero Cmadong Member
****


จะเป็นด้านที่1และ2ของ3เหลี่ยมฯ เพื่อให้เกิดด้านที่3
ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: รหัสเข้า 17 รุ่น 57
คณะ: แพทยศาสตร์ จุฬาฯรุ่น 30
กระทู้: 1,915

« เมื่อ: 25 ธันวาคม 2553, 16:58:12 »


  Fwd. mail: [narongsak.com]   Mayura Su
         ชอบมาก  ๆ เลยอ่ะ แทงใจดำดี
คนเก่งจริงไม่เรื่องมาก คนฉลาดจริงไม่มากเรื่อง                                  

                                            
                                     โดย วินทร์ เลียววาริณ.  

                              

         วันแรกที่เข้าเรียนในคณะสถาปัตยกรรมศาสตร์จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย
ผมพบเรื่องอัศจรรย์อย่างหนึ่งเมื่อรุ่นพี่บางคนบอกว่า

                       'การอดนอนเป็นสิ่งจำเป็นสำหรับการเรียนในคณะนี้'

        วันสุดท้ายในคณะนี้ ผมพบว่าตั้งแต่เรียนมาห้าปี ไม่เคยต้องอดนอนเลย
ยกเว้นเมื่อต้องทำงานกลุ่ม

        ทั้งนี้มิใช่เพราะผมทำงานเร็วกว่าคนอื่น  

 ...แต่เพราะผมไม่เชื่อในทัศนคตินั้น จึงพยายามพิสูจน์ว่ามันไม่จริง
 และพบว่าการวางแผนที่ดีแก้ปัญหาได้ทั้งหมด

        แม้แต่การสร้างสรรค์งานศิลปะ..ที่น่าขันก็คือ น้อยคนที่อดนอนได้คะแนนดี

                            ปิ๊งๆ ปิ๊งๆ ปิ๊งๆ

    ผมเป็นมนุษย์เงินเดือนมานานร่วมสามสิบปี.... ห้าปีในนั้นผมทำงานในต่างประเทศ
                  ..เมื่อกลับมาเมืองไทย ผมพบเรื่องอัศจรรย์อีกเรื่องหนึ่ง

                นั่นคือ หลายคนมองการก้าวเท้าออกจากสำนักงานตรงเวลา  
                               ' เป็นเรื่องประหลาดที่สุดในโลก '


                                    ผมรู้ความจริงภายหลังว่า ...

        คนจำนวนมากไม่ยอมออกจากสำนักงานตรงเวลา เพื่อแสดงให้เจ้านายเห็นว่า

                  ตนเองขยันขันแข็ง ยิ่งอยู่ดึก ยิ่งเป็นพนักงานตัวอย่าง
                             เสียสละเพื่อองค์กร   น่ายกย่องชมเชย


                 บ่อยครั้งมีผลถึงการได้รับโบนัสตอนท้ายปี.. เนื่องจาก

          เจ้านายมักเห็นหน้าเห็นตาใครคนนั้น หลังเวลาเลิกงานแล้วเสมอ  

                               win win win
 
        หากไม่เคยทำงานในต่างประเทศมาก่อน ผมอาจเข้าร่วมวงไพบูลย์  
 
                                   'มาสายกลับดึก '   ด้วย

   แต่หลายปีในชีวิตการทำงานในประเทศที่มีประสิทธิภาพในการจัดการที่สุด..
                         ทำให้เห็นค่าเวลาทุกนาทีในชีวิต

            ผมกลับมองว่า คนที่อยู่ดึกเป็นประจำคือพวกไร้ประสิทธิภาพ
                 ไม่สามารถทำงานให้เสร็จทันเวลา ..จึงต้องอยู่ดึก
ยิ่งทำงานมากชั่วโมงยิ่งแสดงถึงการทำงานโดยไม่มีการวางแผน ไม่มองภาพรวม

                                 ลองคิดดู ? ? ? ?

   การอยู่ดึกเพื่อทำงานพิเศษหนึ่งคืนหมายถึง ค่าไฟฟ้าที่เพิ่มขึ้น
        เครื่องปรับอากาศทำงานมากขึ้น ค่าทะนุบำรุงสูงขึ้น
       ผลกระทบต่อคนทำงานคือพักผ่อนน้อยกว่าที่ควรเป็น
      ยิ่งอยู่ดึก ประสิทธิภาพของงานในวันถัดไปยิ่งตกต่ำลง

                                  

                                  มือกระบี่ชั้นหนึ่งในแผ่นดิน

                                 มองท่วงทีของศัตรูอย่างระวัง
                  ตวัดกระบี่ในมือเพียงฉับเดียว ก็เข่นฆ่าฝ่ายตรงข้าม


               มือกระบี่ชั้นรองต้องประกระบี่ดังโคร้งเคร้งนานนับชั่วโมง
                     ราวกับอยากบอกโลกว่า ..ข้าก็ใช้กระบี่นะโว้ย

            โลกรับรู้ แต่คมกระบี่ก็บิ่น ต้องเสียเวลาลับกระบี่อีกหลายวัน


                     งานดีอย่างเดียวไม่พอ ต้องตรงเวลาด้วย

           งานดีไม่มีทางเกิดขึ้นตามยถากรรม ..หรืออารมณ์ขึ้นลง
           ไปจนถึงความหนาแน่นรัดกุมของกฎเกณฑ์ ' ตอกบัตร'
                      ปริมาณเวลาในการทำงานชิ้นหนึ่ง
            ไม่ได้เป็นสัดส่วนกับคุณภาพของผลงานเสมอไป
         บ่อยครั้งเป็นปฏิภาคกัน ..หลายครั้งงานที่ให้เวลาน้อย  
                   กลับออกมาดีกว่างานที่ให้เวลามาก

          ' คนเก่งจริงไม่เรื่องมาก คนฉลาดจริงไม่มากเรื่อง

ทำงานเสร็จแล้วก็เลิก! ไม่ต้องรอเทวดาบนสวรรค์วิมานมารับรู้ '

           เพราะถึงเวลานั้นเทวดาก็กลับบ้านไปนานแล้ว


                        win win win
      บันทึกการเข้า

3 เหลี่ยมเขยื้้อนภูเขา เสนอโดย ศ.นพ.ประเวศ วะสี มี 3 ด้าน คือ ด้านที่ 1 ด้านให้ความรู้กับกลุ่มคน ด้านที่ 2 กลุ่มคน ที่ได้รับความรู้ เห็นด้วย สร้างวัฒนธรรมไม่มีบทลงโทษถ้าไม่ทำ ด้านที่ 3 ด้านการเมือง เป็นด้านออกกฏหมาย มีบทลงโทษถ้าไม่ปฏิบัติ ถ้ามีครบ 3 ด้านจะเกิดการเปลี่ยนแปลงได้จริง
  หน้า: [1]   ขึ้นบน
  
กระโดดไป:  

     

ทำไมหอพักนิสิตจุฬาจึงเป็นดินแดนมหัศจรรย์            " ไม่ได้เป็นแค่หอให้นอนพัก  แต่เป็นบ้านอบอุ่นรักให้อาศัย  ไม่เป็นแค่ที่ซุกหัวยามหลบภัย  แต่สร้างใจให้เข้มแข็งแกร่งการงาน"  <))))><