churaipatara
|
|
« ตอบ #16550 เมื่อ: 08 กุมภาพันธ์ 2559, 15:38:40 » |
|
การเรียนรู้ของเด็กก็จะไม่ต่อเนื่อง อาจหยุดชะงักเป็นช่วงๆหรือเรียนรู้ได้เพียงเล็กน้อยเท่านั้น เช่น
ถ้าเด็กไม่มีสมาธิฟังครูสอน เด็กก็อาจจะได้ยินครูพูดเพียงห้านาทีแรกเท่านั้น ส่วนเวลาที่เหลืออีก
เกือบชั่วโมง เด็กก็จะใจลอยวอกแวกไปตามสิ่งที่อยู่รอบตัว สรุปว่าในชั่วโมงนั้น...
|
|
|
|
churaipatara
|
|
« ตอบ #16551 เมื่อ: 08 กุมภาพันธ์ 2559, 15:40:13 » |
|
รร.ดาราเทวี เชียงใหม่
|
|
|
|
churaipatara
|
|
« ตอบ #16552 เมื่อ: 08 กุมภาพันธ์ 2559, 15:54:53 » |
|
เด็กเก็บความรู้จากครูได้เพียงร้อยละ5 ในขณะที่เด็กคนอื่นเก็บได้เกือบถึงร้อยละ 80 เป็นต้น หาก-
เป็นการเล่นทั่วไป เช่น การต่อภาพจิ้กซอว์ ถ้าเด็กไม่มีสมาธิแล้วเขาจะบังคับตนเองให้นั่งต่อภาพ
นั้นไม่เสร็จ เมื่อต่อภาพได้เพียงห้านาทีเขาก็อาจลุกไปเล่นของเล่นอื่นแทน ...
|
|
|
|
churaipatara
|
|
« ตอบ #16553 เมื่อ: 08 กุมภาพันธ์ 2559, 16:03:57 » |
|
|
|
|
|
churaipatara
|
|
« ตอบ #16554 เมื่อ: 08 กุมภาพันธ์ 2559, 16:12:09 » |
|
ผลที่ตามมาก็คือ เด็กไม่มีโอกาสรู้ว่าภาพที่ต่อจนเสร็จสมบูรณ์นั้นเป็นอย่างไร เด็กจะขาดทักษะความ
ชำนาญในการต่อภาพและขาดประสบการณ์แห่งความสำเร็จ ไม่รู้ว่าตนเองก็ทำอะไรสำเร็จเป็นชิ้นเป็น
อันได้ การขาดประสบการณ์และทักษะดังกล่าว หากเกิดขึ้นซ้ำๆก็จะมีผลทำให้เด็กรู้สึกว่าตนเองไม่เก่ง
และขาดความเชื่อมั่นในตนเองได้...
ตอนลูกๆยังเล็กก้อส่งเสริมให้ต่อจิ้กซอว์นะคะ ปัจจุบันส่งเสริมลูกศิษย์น้อยๆแทน สังเกตได้เลยว่าเด็ก
คนไหนมีสมาธิรึว่ามีน้อย เห็นนิสัยว่ามีความพยายามรึไม่ด้วย...
|
|
|
|
churaipatara
|
|
« ตอบ #16555 เมื่อ: 08 กุมภาพันธ์ 2559, 16:13:36 » |
|
|
|
|
|
churaipatara
|
|
« ตอบ #16556 เมื่อ: 08 กุมภาพันธ์ 2559, 16:27:19 » |
|
สมาธิคืออะไร
คำว่าสมาธิ ตามความหมายทางการแพทย์ก็คือ ความสามารถที่จะเพ่งความสนใจไปยังสิ่งกระตุ้นบาง
สิ่ง และเลือกเฟ้นว่าสิ่งกระตุ้นใดบ้างที่ควรให้ความสนใจ (คำว่าสิ่งกระตุ้น หมายถึง อะไรก็ตามที่มา -
กระตุ้นประสาทสัมผัส เช่น ภาพ เสียง กลิ่น ฯลฯ)...
|
|
|
|
churaipatara
|
|
« ตอบ #16557 เมื่อ: 08 กุมภาพันธ์ 2559, 16:29:22 » |
|
|
|
|
|
churaipatara
|
|
« ตอบ #16558 เมื่อ: 08 กุมภาพันธ์ 2559, 16:31:11 » |
|
พบกันใหม่พรุ่งนี้ค่ะ.. ถึงเวลาพักผ่อนและไปออกกำลังกายยามเย็นที่ชมรมลีลาศจังหวัดแล้ว บ๊ายย...
|
|
|
|
churaipatara
|
|
« ตอบ #16559 เมื่อ: 08 กุมภาพันธ์ 2559, 16:32:55 » |
|
สวนสัตว์ เชียงใหม่
|
|
|
|
churaipatara
|
|
« ตอบ #16560 เมื่อ: 10 กุมภาพันธ์ 2559, 15:06:08 » |
|
สาระน่ารู้(ต่อ)
อวัยวะที่รับผิดชอบในการสร้างสมาธิคือ สมอง สมองส่วนที่มีบทบาทในการสร้างสมาธิคือ 1.ก้าน-
สมอง เป็นส่วนที่อยู่ลึกลงไปตรงกลางของสมอง ที่ส่วนนี้มีระบบที่เรียกว่า RAS (RETICULAR
ACTIVATING SYSTEM)ทำหน้าที่ควบคุมระดับการตื่นตัวของบุคคล ถ้าRASถูกทำลายไปก็จะเกิด
สภาวะไม่รู้สึกตัวที่เรียกว่าโคม่า(COMA)ในคนที่หลับRASจะทำงานลดลง ทำให้การตื่นตัวของบุค-
คลนั้นลดลงด้วย...
|
|
|
|
churaipatara
|
|
« ตอบ #16561 เมื่อ: 10 กุมภาพันธ์ 2559, 15:09:09 » |
|
|
|
|
|
churaipatara
|
|
« ตอบ #16562 เมื่อ: 10 กุมภาพันธ์ 2559, 15:20:15 » |
|
2.สมองส่วนหน้า เป็นสมองที่อยู่ด้านหลังหน้าผาก ทำหน้าที่ควบคุมและเลือกเฟ้นว่าสิ่งกระตุ้นใดมี-
ความสำคัญที่เราจะต้องสนใจหรือมีสมาธิจดจ่อ 3. ธาลามัสและลิมบิก เป็นสมองที่ทำงานเกี่ยวกับ
อารมณ์ สมองส่วนนี้จะมีเส้นใยประสาทติดต่อกับสองส่วนแรก ดังนั้นอารมณ์ของบุคคลจึงมีอิทธิพล
ต่อสมาธิ คนที่มีอารมณ์เศร้ามักจะมีสมาธิไม่ดี ใจลอย ขี้ลืม ขาดความสนใจในสิ่งรอบข้าง ส่วนคนที่-
มีความวิตกกังวลก็จะตั้งสมาธิได้ไม่นานเช่นกัน...
|
|
|
|
churaipatara
|
|
« ตอบ #16563 เมื่อ: 10 กุมภาพันธ์ 2559, 15:21:47 » |
|
|
|
|
|
churaipatara
|
|
« ตอบ #16564 เมื่อ: 11 กุมภาพันธ์ 2559, 11:51:47 » |
|
สมองทั้งสามส่วนนี้ทำงานประสานกันและมีเส้นใยติดต่อเชื่อมโยงกับสมองส่วนอื่นๆด้วย เช่น เชื่อม-
โยงกับสมองส่วนที่รับภาพและเสียง เป็นต้น สิ่งกระตุ้นหรือข้อมูลต่างๆที่เข้ามาสู่ตัวเรา ไม่ว่าจะเป็น
แสง เสียง หรือความรู้สึกร้อนหนาวจะผ่านเข้ามาทางประสาทสัมผัสและเข้าไปสู่สมอง จากนั้นสมอง
จะวิเคราะห์ข้อมูล แปลข้อมูล และสั่งการซึ่งแสดงออกมาเป็นการกระทำต่างๆ
|
|
|
|
churaipatara
|
|
« ตอบ #16565 เมื่อ: 11 กุมภาพันธ์ 2559, 11:52:52 » |
|
|
|
|
|
churaipatara
|
|
« ตอบ #16566 เมื่อ: 11 กุมภาพันธ์ 2559, 11:58:48 » |
|
สมาธิสองแบบ สมาธิสามารถแบ่งออกเป็น2ประเภทใหญ่ๆคือ
1. สมาธิแบบต่อเนื่อง หมายถึง การคงความสนใจในสิ่งใดสิ่งหนึ่งได้เป็นระยะเวลานานต่อเนื่อง เช่น
การมีสมาธิในการอ่านหนังสือจนจบบท เป็นต้น บุคคลที่มีความบกพร่องในสมาธิแบบนี้มีลักษณะไม่-
อดทนทำอะไรได้ไม่ค่อยนาน ทำงานแรกได้เพียงครู่เดียวแล้วก็ลุกไปทำสิ่งอื่น โดยที่งานแรกยังไม่
เสร็จ
|
|
|
|
churaipatara
|
|
« ตอบ #16567 เมื่อ: 11 กุมภาพันธ์ 2559, 12:00:21 » |
|
|
|
|
|
churaipatara
|
|
« ตอบ #16568 เมื่อ: 12 กุมภาพันธ์ 2559, 14:06:48 » |
|
สวัสดีค่ะ ศรีสะเกษเช้านี้อากาศเริ่มอุ่นๆแล้ว ไม่หนาวมากเหมือนอาทิตย์ที่ผ่านมา..รักษาสุขภาพ
ด้วยนะคะ
สาระน่ารู้(ต่อ)
-2.สมาธิในการคัดเลือกสิ่งกระตุ้น หมายถึง ความสามารถในการตัดสิ่งกระตุ้นที่ไม่สำคัญออกไป
เพื่อที่จะให้ความสนใจต่อสิ่งกระตุ้นที่สำคัญหรือตรงประเด็นตัวอย่างเช่น ขณะที่เด็กนั่งฟังครูสอน-
ในชั้นเรียนจะมีสิ่งกระตุ้นหลายอย่างผ่านเข้ามาสู่ประสาทสัมผัส เช่นภาพครูเข้ามาทางประสาทตา
เสียงครู เสียงรถยนต์วิ่ง และเสียงเพื่อนคุยกันเข้ามาทางประสาทหู เป็นต้น ...
|
|
|
|
churaipatara
|
|
« ตอบ #16569 เมื่อ: 12 กุมภาพันธ์ 2559, 14:09:01 » |
|
|
|
|
|
churaipatara
|
|
« ตอบ #16570 เมื่อ: 12 กุมภาพันธ์ 2559, 14:37:43 » |
|
เด็กต้องเลือกว่าตนจะสนใจสิ่งกระตุ้นใด ถ้าเด็กมีสมาธิแบบนี้ดี เด็กจะสามารถจดจ่อในสิ่งที่ครูพูด-
และตัดเสียงรถยนต์วิ่ง และเสียงเพื่อนออกไปจากความสนใจได้ ในคนที่สมาธิแบบนี้บกพร่องจะมี
อาการใจลอย วอกแว่กง่าย นอกจากนี้มักจะทำงานที่อยู่ตรงหน้าไม่เสร็จ เพราะจะไปสนใจสิ่งอื่น
เปลี่ยนไปเรื่อยๆ คล้ายกับคนที่มีปัญหาในสมาธิแบบแรกได้...
|
|
|
|
churaipatara
|
|
« ตอบ #16571 เมื่อ: 12 กุมภาพันธ์ 2559, 14:45:18 » |
|
|
|
|
|
churaipatara
|
|
« ตอบ #16572 เมื่อ: 12 กุมภาพันธ์ 2559, 14:56:22 » |
|
ในชีวิตประจำวันสมาธิทั้งสองอย่างนี้จะทำงานพร้อมกันตลอดเวลา ทำให้เราสามารถเลือกสิ่งกระตุ้น
ที่สำคัญ และให้ความสนใจต่อสิ่งนั้นได้นานพอ เช่น เลือกให้ความสนใจกับงานที่อยู่ตรงหน้า(มีสมา-
ธิในการคัดเลือกสิ่งกระตุ้น) และทำงานต่อเนื่องไปจนเสร็จ แม้จะเป็นเวลาหลายชั่วโมงก็ตาม(มีสมา-
ธิแบบต่อเนื่อง) การมีความบกพร่องในสมาธิอย่างใดอย่างหนึ่งหรือทั้งสองอย่าง จะทำให้เราไม่สา -
มารถตอบสนองต่อสิ่งกระตุ้นได้อย่างเหมาะสม และไม่สามารถทำงานเสร็จเป็นชิ้นเป็นอันได้ ...
|
|
|
|
churaipatara
|
|
« ตอบ #16573 เมื่อ: 12 กุมภาพันธ์ 2559, 14:57:34 » |
|
|
|
|
|
churaipatara
|
|
« ตอบ #16574 เมื่อ: 12 กุมภาพันธ์ 2559, 15:19:01 » |
|
ทำไมลูกจึงไม่มีสมาธิ? สาเหตุที่พบบ่อยและควรนึกถึงเป็นอันดับแรกได้แก่ -สภาพร่างกายที่ไม่สบาย
เพียงพอ เช่น กำลังเป็นไข้หรืออ่อนเพลียเนื่องจากเป็นโรคเรื้อรัง ขาดสารอาหาร หิวน้ำ รู้สึกร้อนหรือ
หนาวเกินไป -ภาวะที่มีสิ่งกระตุ้นมากเกินไป เช่น สถานที่ที่วุ่นวาย มีเสียงดังหรือผู้คนจอแจ จะทำให้-
เราไม่มีสมาธิได้ เพราะแม้จะพยายามจดจ่ออยู่กับสิ่งเดียว แต่สิ่งกระตุ้นอื่นๆก็มากเกินไปจนทำให้วอก
แวก นอกจากนี้สิ่งกระตุ้นที่มากเกินไปอาจทำให้เกิดภาวะสมองล้าและตั้งสมาธิไม่ได้นาน...
|
|
|
|
|