22 พฤษภาคม 2567, 11:06:13
ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน


เข้าสู่ระบบด้วยชื่อผู้ใช้ รหัสผ่าน [สมาชิกเก่าลืมรหัส โทร 081-7611760]
A A A A  ระเบียบปฎิบัติ
   
Languages    
  หน้า: 1 ... 160 161 [162] 163 164 ... 681   ลงล่าง
ผู้เขียน หัวข้อ: คุย กับ คุณมานพ กลับดี อดีตประธานชมรม ๓ สมัย  (อ่าน 3275015 ครั้ง)
0 สมาชิก และ 3 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
Manop Klabdee
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


พอเพียง มีสติ เกิดปัญญา
ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: 2513 วศ. รุ่นที่ 54
คณะ: วิศวกรรมศาสตร์ แผนกวิชาวิศวกรรมโยธา
กระทู้: 11,644

« ตอบ #4025 เมื่อ: 01 พฤศจิกายน 2554, 21:10:11 »

ผู้ว่าฯ กทม.ทุบโต๊ะยันไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้นต้องเร่งซ่อมประตูระบายน้ำคลองสามวาโดยด่วน/19.40 น.

วันอังคารที่ 01 พฤศจิกายน 2011 เวลา 20:23 น.


                ผู้ว่าฯ กทม.ใช้อำนาจตาม  พ.ร.บ.ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย 2550 ออกคำสั่งให้ ผบช.น. ส่งเจ้าหน้าที่ตำรวจคุ้มกันเจ้าหน้าที่กทม.ในการซ่อมแซมประตูระบายน้ำคลองสามวา ก่อนประตูจะพังและส่งผลกระทบต่อถ.รามอินทรา และรามคำแหง  พร้อมวอนประชาชนทุกเขตแยกขยะเพื่อลดการจัดเก็บในช่วงน้ำท่วม

                (1 พ.ย.54) ที่ศาลาว่าการกทม. เวลา 19.40 น. : ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ บริพัตร ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร  แถลงผลการประชุมติดตามสถานการณ์น้ำในพื้นที่กรุงเทพฯ ว่า  ขณะนี้สถานการณ์น้ำท่วมสูงและขยายวงกว้างเพิ่มขึ้นในหลายพื้นที่ ดังนั้น กทม. ได้ประกาศพื้นที่อพยพเพิ่มเติม ได้แก่ เขตบางเขนทั้งเขต และเฉพาะหมู่บ้านเสนานิเวศน์ โครงการ 2 แขวงจรเข้บัว เขตลาดพร้าว และเฉพาะแขวงสามวาตะวันออก เขตคลองสามวา ส่งผลให้ขณะนี้กทม.มีพื้นที่ประกาศอพยพทั้งเขตแล้ว 7 เขต ประกอบด้วย ดอนเมือง บางพลัด สายไหม ทวีวัฒนา หลักสี่ ตลิ่งชัน และบางเขน นอกจากนี้ กทม. ยังได้ออกประกาศเตือนพื้นที่เฝ้าระวังเพิ่มเติม ได้แก่ เฉพาะแขวงทรายกองดิน และแขวงทรายกองดินใต้ เขตคลองสามวา และเขตหนองจอกทั้งเขต
 
แยกขยะเปียก ขยะแห้ง ลดปริมาณการจัดเก็บ และเพื่อคุณภาพชีวิตที่ดีของประชาชนในช่วงน้ำท่วม

                ผู้ว่าฯ กทม. กล่าวด้วยว่า ขณะนี้ กทม.กำลังก้าวสู่สภาวะวิกฤต และปัญหาสำคัญประการหนึ่ง คือ ปัญหาขยะ ซึ่งกทม.ไม่สามารถให้บริการเก็บขยะได้ตามปกติ หากพื้นที่ใดน้ำท่วมสูง 70-80 ซม. ขึ้นไป รถเก็บขยะไม่สามารถเข้าไปได้ และจะต้องใช้เรือดำเนินการ แต่ก็มีข้อจำกัดในเรื่องปริมาณการจัดเก็บและจำนวนเรือ จากกรณีเขตบางพลัดซึ่งมีปริมาณขยะถึง 33 ตัน ใช้เวลาจัดเก็บมากกว่า 3 วัน ทำให้การใช้ชีวิตอยู่ท่ามกลางปัญหาขยะส่งผลคุณภาพชีวิตของประชาชน แต่กทม.จะพยายามเก็บขยะให้ดีที่สุดและมากที่สุดเท่าที่จะทำได้ อย่างไรก็ตาม กทม.ขอความร่วมมือให้ประชาชนช่วยลดภาระในการจัดเก็บขยะ ด้วยการแยกขยะในครัวเรือนก่อน ซึ่งเมื่อประชาชนเดินทางออกจากบ้านให้ทิ้งขยะเปียกหรือของเสียออกมาทิ้งในที่ที่กทม.จัดไว้ ส่วนขยะแห้งที่สามารถรอได้ให้นำมาทิ้งในภายหลัง
 
หากประตูระบายน้ำคลองสามวา พังหรือเสียหายจะส่งผลต่อ ถ.รามอินทรา และถ.รามคำแหง

               ผู้ว่าฯ กทม. กล่าวว่า ในช่วงเวลาที่ผ่านมา ได้เกิดความเสียหายต่อประตูระบายน้ำบริเวณคลองสามวา ซึ่งกทม.ได้พยายามเข้าไปซ่อมแซมแต่ไม่สามารถเข้าถึงพื้นที่ได้ เนื่องจากมีประชาชนจำนวนหนึ่งขัดขวางการปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่ ขณะเดียวกัน เจ้าหน้าที่ตำรวจพื้นที่ได้เตือนเจ้าหน้าที่ของกทม. ถึงความอันตราย แต่ทั้งนี้ประตูระบายน้ำเป็นทรัพย์สินของกทม. และหากปล่อยให้ชำรุดต่อไป ประตูระบายน้ำอาจพังลงมาได้ และในที่สุดอาจทำให้ ถ.รามอินทรา และถ.รามคำแหง น้ำท่วมหนัก และส่งผลกระทบต่อประชาชนในพื้นที่ดังกล่าวอีกด้วย
 
ผู้ว่าฯ กทม.ใช้ พ.ร.บ.ป้องกันฯ ปี 50 สั่งให้ ผบช.น.ส่งเจ้าหน้าที่ตำรวจพื้นที่คุ้มกันเจ้าหน้าที่กทม.เพื่อเร่งซ่อมประตูระบายน้ำ

               ผู้ว่าฯ กทม. กล่าวด้วยว่า กทม.จะใช้อำนาจตามกฎหมายตามความ ในมาตรา 37 วรรคสอง ประกอบมาตรา 21 วรรคสอง (1) แห่งพระราชบัญญัติป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย พ.ศ.2550 โดยผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ในฐานะผู้อำนวยการกรุงเทพมหานคร ให้ผู้บัญชาการตำรวจนครบาล สั่งการให้เจ้าหน้าที่ตำรวจเข้าไปดำเนินการรักษาความสงบเรียบร้อย และป้องกันไม่ให้ประชาชนเข้าไปทำลายประตูระบาย น้ำคลองสามวา อุปกรณ์ส่วนควบสิ่งก่อสร้าง พื้นที่ดินและแนวกระสอบทราย พร้อมทั้งจัดเจ้าหน้าที่คุ้มครอง เจ้าหน้าที่กทม.ในการเข้าไปซ่อมแซมประตูระบายน้ำ ซึ่งตั้งอยู่บริเวณ ถ.หทัยมิตร แขวงคลองสามวาตะวันตก เขตคลองสามวา โดยด่วน
                                                    ---------------

                 กทม.ประกาศพื้นที่อพยพ หมู่บ้านเสนานิเวศน์ โครง ๒ แขวงจระเข้บัว เขตลาดพร้าว,เขตคลองสามวา (เฉพาะแขวงสามวาตะวันออก) และเขตบางเขนทั้งพื้นที่

                  กทม.ประกาศพื้นที่เฝ้าระวังพิเศษเขตหนองจอก(แขวางทรายกองดินและแขวงทรายกองดินใต้) และเขตหนองจอกของทั้งพื้นที่ ประชาชนเตรียมพร้อมอพยพ

                  ปัญหาใหญ่ในพื้นที่น้ำท่วมคือขยะตกค้าง เฉพาะที่บางพลัดเก็บ ๓ วันได้  ๓๓ ตัน โดยพื้นที่น้ำท่วมขังเกิน ๖๐ ซม.รถเข้าไปเก็บชยะไม่ได้ต้องใช้เรือแทน การเก็บทำได้ยากลำบากและใช้เวลานาน วอนช่วยแยกขยะ ทิ้งของที่เสียได้หรือขยะเปียกก่อน และช่วยหิ้วขยะเปียกมาทิ้งเวลาออกจากบ้าน

                  กทม.ไม่สามารถเข้าไปซ่อมปตร.ที่คลองสามวาได้ ประชาชนไม่ยินยอม ตร.ที่ดูแลแจ้งว่า กทม.ไม่ควรเข้าไปจะเป็นอันตราย ผู้ว่าฯชี้ไม่ซ่อมท่วมทั้งกทม.แน่ ไม่มั่นใจการทำงานของตร.พื้นที่ จึงอาศัยอำนาจตามพรบ.ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยฯ ม.๓๗ สั่งให้ผบช.น.ส่งตร.คุ้มกันเจ้าหน้าที่ กทม.

                  ผู้ว่าฯกทม.ยืนยันชัดเจนไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้นต้องซ่อมประตูระบายน้ำคลองสามวาให้ได้ เพื่อไม่ให้น้ำทะลักเข้าท่วมถนนรามอินทรา และรามคำแหง

 
      บันทึกการเข้า
Manop Klabdee
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


พอเพียง มีสติ เกิดปัญญา
ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: 2513 วศ. รุ่นที่ 54
คณะ: วิศวกรรมศาสตร์ แผนกวิชาวิศวกรรมโยธา
กระทู้: 11,644

« ตอบ #4026 เมื่อ: 01 พฤศจิกายน 2554, 21:17:53 »

วันอังคาร ที่ 1 พฤศจิกายน 2554 เวลา 21.10 น.
 ข้อมูลล่าสุด


              [ 21.00 น. กทม.ไม่พบกลุ่มฝน | ระดับน้ำแม่น้ำเจ้าพระยาที่บางนา+ 1.45ต่ำกว่าคันกั้นน้ำ 1.05 ม.ปากคลองตลาด+2.21 ต่ำกว่าคันกั้นน้ำ 0.59 ม. บางเขนใหม่+2.66 ต่ำกว่าคันกั้นน้ำ 0.34 ม. I ระดับน้ำแม่น้ำเจ้าพระยาบริเวณปากคลองตลาดสูงสุด 1 พ.ย.54 เวลา 11.00 น. +2.43 ม.รทก. ต่ำกว่าคันกั้นน้ำ 0.37 ม. I ดูแผนที่แสดงค่าระดับเฉลี่ยตามแนวถนนได้ที่ http://dds.bangkok.go.th/image/Level_Raod.pdf 1 พ.ย. 2554 2 ] ...

              [ 20.30 น. กทม.ไม่พบกลุ่มฝน | ระดับน้ำแม่น้ำเจ้าพระยาที่บางนา+ 1.50ต่ำกว่าคันกั้นน้ำ 1.00 ม.ปากคลองตลาด+2.23 ต่ำกว่าคันกั้นน้ำ 0.57 ม. บางเขนใหม่+2.66 ต่ำกว่าคันกั้นน้ำ 0.34 ม. I ระดับน้ำแม่น้ำเจ้าพระยาบริเวณปากคลองตลาดสูงสุด 1 พ.ย.54 เวลา 11.00 น. +2.43 ม.รทก. ต่ำกว่าคันกั้นน้ำ 0.37 ม. I ดูแผนที่แสดงค่าระดับเฉลี่ยตามแนวถนนได้ที่ http://dds.bangkok.go.th/image/Level_Raod.pdf 1 พ.ย. 2554 2 ] ...

              [ 20.00 น. กทม.ไม่พบกลุ่มฝน | ระดับน้ำแม่น้ำเจ้าพระยาที่บางนา+ 1.55ต่ำกว่าคันกั้นน้ำ 0.95 ม.ปากคลองตลาด+2.22 ต่ำกว่าคันกั้นน้ำ 0.58 ม. บางเขนใหม่+2.66 ต่ำกว่าคันกั้นน้ำ 0.34 ม. I ระดับน้ำแม่น้ำเจ้าพระยาบริเวณปากคลองตลาดสูงสุด 1 พ.ย.54 เวลา 11.00 น. +2.43 ม.รทก. ต่ำกว่าคันกั้นน้ำ 0.37 ม. I ดูแผนที่แสดงค่าระดับเฉลี่ยตามแนวถนนได้ที่ http://dds.bangkok.go.th/image/Level_Raod.pdf 1 พ.ย. 2554 2 ] ...


              ระดับน้ำสูงสุดเท่าระดับที่ได้คาดการณ์ไว้ คือ 2.23 m. รทก.
              ความสูงของน้ำ 1.20 m. เท่ากับเมื่องช่วงกลางวัน ครับ
      บันทึกการเข้า
Manop Klabdee
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


พอเพียง มีสติ เกิดปัญญา
ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: 2513 วศ. รุ่นที่ 54
คณะ: วิศวกรรมศาสตร์ แผนกวิชาวิศวกรรมโยธา
กระทู้: 11,644

« ตอบ #4027 เมื่อ: 02 พฤศจิกายน 2554, 05:39:05 »

อรุณสวัสดิ์ ครับ ชาวซีมะโด่ง และแขกผู้มีเกียรติ ที่รักทุกท่าน

               ปัญาหาใหญ่ของ กทม. ณ ขณะนี้ คือ ต้องหยุดการไหลของน้ำจากด้านทิศเหนือ คือทางคลองรังสิต และคลองประปา ที่ กทม.และรัฐบาล ละเลยมาตั้งแต่ต้น ไม่ได้ทำอะไรมันเลย มัวแต่ไปช่วยประชาชน และดูแลริมฝั่งแม่น้ำเจ้าพระยาแทน ในช่วงหนึ่งอาทิตย์ครึ่งที่ผ่านมา ที่น้ำเข้ามาปะทะเขต กทม.

                จากการเมือง และการละเลย ไม่รีบแก้ปัญหานั้น ตั้งแต่เริ่มแรก ส่งผลให้น้ำได้เข้ามาทางด้านทิศเหนือและคลองประปาจำนวนมาก ผลของมันก็คือ เกิดวิกฤติ "กาลักน้ำ" ผุดขึ้นเป็นดอกเห็ดในพื้นที่ กทม. ที่จะอยากต่อการควบคุม เพราะมันจะเต็มไปหมด คือน้ำท้วมจากระดับน้ำเหนือสูง  น้ำเดินทางมาตามท่อระบายน้ำใต้ดิน แล้วผุดขึ้นตามพื้นที่ระดับต่ำกว่า ตามคลอง ตามริมถนน ท้วมเอ่อขึ้นมา ตลอดเวลา ไม่รู้จะไปอุดที่ไหน และอย่าลืมพื้นที่ใจกลาง กทม. เป็นพื้นที่ต่ำ กว่าดอนเมืองมาก นี่ละจะเป็นสาเหตุหลักที่จะทำให้น้ำท้วมพื้นที่ กทม.เกือบทั้งหมด ครับ

                จริงอยู่ กทม.มีระบบอุโมงค์ระบายน้ำ กำจัดน้ำเสีย ตั้งแต่ลาดพร้าวลงไป ถึงดินแดง และพื้นที่เขตใน แต่มันจะสู้กับน้ำจำนวนมากได้หรือ?

                ดังนั้น การวางกระสอบทรายยักษ์ ริมคลองรังสิตประยูรศักดิ์  จึงเป็นสิ่งเดียว ณ ขณะนี้ ที่จะป้องกันไม่ให้น้ำท้วม พื้นที่ กทม. ทั้งหมด จริงๆ ณ ขณะนี้ ด้านอื่นนั้น มีความสำคัญน้อยกว่าหมดแล้ว ครับ ท่านผู้ว่า กทม. และรัฐบาล

                เวลาเป็นสิ่งสำคัญมาก ท่านต้องเร่งดำเนินการทันที หยุดการไหลมาของน้ำด้านทิศเหนือทั้งหมด เพราะจะรอให้ระดับน้ำที่ เจ้าพระยา ปากเกล็ด ปทุมธานี รังสิต  ลดลงอย่างเดียวมันไม่ทันการ เพราะปริมาณน้ำเหนือยังมีอีกมากมหาศาล มันต้องใช้เวลามากในการลดระดับวัน ๑ ซ.ม. มันไม่ทันการทั้งสิ้น ต้องใช้เวลมากกว่าหนึ่งอาทิตย์ แต่น้ำมาตามท่อแบบ "กาลักน้ำ" มันรวดเร็วแบบมีปีก เอาไม่อยู่หรอก ครับ

                ขออนุญาติ ไปหุงข้าว ออกกำลังกายเดินจงกรมหน้าบ้าน ไปซื้อกับข้าว ใส่บาตรพระ ครับ

                สวัสดี ยามเช้าทุกท่านครับ
      บันทึกการเข้า
Manop Klabdee
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


พอเพียง มีสติ เกิดปัญญา
ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: 2513 วศ. รุ่นที่ 54
คณะ: วิศวกรรมศาสตร์ แผนกวิชาวิศวกรรมโยธา
กระทู้: 11,644

« ตอบ #4028 เมื่อ: 02 พฤศจิกายน 2554, 08:03:03 »


สวัสดียามเช้า ครับ

                เมื่อเช้าขณะยืนรอใส่บาตรเณร พี่โส เพื่อนบ้านถามว่า คุณสิงห์ "น้ำจะท้วมบ้านเราไหม?" ผมก็ตอบว่า พี่โส "เราต้องอยู่กับความจริง น้ำมาจากทิศเหนือ จากที่สูงมาหาที่ต่ำ น้ำเข้ามาอยู่แยะมากเวลานี้ จนอยากต่อการระบายน้ำทิ้ง ของกทม. เป็นแบบ "กาลักน้ำ" น้ำมุดมาตามท่อระบายน้ำแล้วมาโผล่ขึ้นตามพื้นที่ราบลุ่ม ตามซอย ตามบ้าน ตามขอบถนน น้ำไม่ได้มาตามผิวดิน และยังไม่มีใครอุดต้นน้ำทางด้านทิศเหนือ คือคลองรังสิต และคลองประปา ดังนั้น โอกาสที่น้ำจะท้วมบ้านเรา มีสูงมาก แต่บ้านเราท่อระบายน้ำไม่ได้เชื่อมกับถนนพหลโยธิน มันเชื่อมกับถนนวิภาวดีรังสิต และคลองหลังบ้าน ตราบใดที่น้ำในคลองหลังบ้านยังแห้ง และถนนวิภาวดีรังสิตหน้าการบินไทย น้ำยังไม่ท้วมสูงเกิน ๐.๕๐ ม. น้ำมาไม่ถึงบ้านเรา เพราะพื้นที่บ้านเราอยู่สูงกว่าถนนวิภาวดีรังสิต เพราะเราก็เคยเห็น น้ำท้วมหลังการบินไทย รถเล็กแทบจะผ่านไม่ได้ ระดับ ๐.๓๐ ม. แต่บ้านเราไม่มีน้ำ  สำหรับคลองหลังบ้านนั้มันระบายน้ำลงอุโมงค์ใต้ดิน และมาจากคลองบางซื่อ ที่ระดับน้ำยังต่ำมาก แต่ถ้ามันจะท้วมจริงๆ ยังต้องใช้เวลาอีกสาม-สี่วัน เพื่อสะสมระดับน้ำให้สูงขึ้นกว่านี้ ถึงตอนนั้น คิดในทางที่ดี กทม. ทหาร คงจะวางกระสอบทรายยักษ์ริมแนวคลองรังสิตประยูรศักดิ์เพียงพอแล้ว บ้านเราน้ำก็จะไม่ท้วม กรณีเลวร้ายสุด คือ น้ำไม่หน้าที่จะท้วมสูงเกินผิวระดับถนนแบบน้ำฝน ครับ เพราะขนาดน้ำท้วมมาหลายวัน ดร.กุศล ยังเดินเข้าบ้านได้ บ้านน้ำยังไม่ท้วม ที่หลักสี่  แสดงว่าระดับน้ำมันเท่ากันกับในคลองรังสิต คือ 3.68 m. รทก. มันมีเพียงแค่นั้น ยกเว้นที่ลุ่มกว่า อีกประการหนึ่ง พื้นที่ลาดปลาเค้า เสนา รัชฎา โชคชัย ๔ วังทองหลาง..เป็นพื้นที่ใหญ่ที่ระดับต่ำกว่าบ้านเรา น้ำหน้าที่จะไปทางนั้นก่อนมากกว่ามาหาเรา เราไม่ได้กลัวน้ำผิวดิน กรณีของน้ำใต้ดินที่จะมาหาเรานั้น อย่าลืมหน้าบ้านเรามีอุโมงค์ระบายน้ำหลักของ กทม. คือน้ำเสีย ที่จะเป็นตัวช่วยอยู่อีกทางหนึ่ง  แต่ทางที่ดีเพื่อความไม่ประมาท เก็บของที่ต้องเก็บขึ้นที่สูงมากกว่า ๐.๕๐ ม. เราก็ปลอดภัย"

             ตอนเณรให้พร ผมก็ อุทิศส่วนกุศลให้เจ้ากรรม-นายเวร บิดา-มารดา ปู่-ย่า ตา-ยาย พี่-น่อง-หลาน-เพื่อน และขอให้สิ่งศักดิ์สิทธิ์ องค์ ร ๕. จงคุ้มครองคน กทม. ให้พ้นภัยจากน้ำท้วมในครั้งนี้ครับ

             ผมไปซื้อแกงหมูกับมะเขือเปาะ และผัดมะเขือยาวใส่เต้าเจี้ยว มาสองถุง เป็นอาหารเช้าและอาหารกลางวัน สำหรับวันนี้ ส่วนของใส่บาตร ก็มี ข้าวที่หุงเอง น้ำดื่ม นมถั่วเหลือง อาหารสำเร็จcup jok พะโล้ไข่ และมันบวช ครับ

             วันนี้ตั้งใจจะเก็บเอกสาร หนังสือ สิ่งไหนไม่มีความจำเป็นจะทิ้งหมด ดีกว่าปล่อยให้เปียกน้ำ ครับ

             ผมยังดื่มน้ำประปาต้ม เป็นประจำ ในเมื่อการประปาเขารับรอง คุณภาพ อยู่ครับ

             สำหรับ พ่อ ดร.กุศล  นั้น จะเอาไปอยู่โรงพยาบาลชุมชนท่าวุ้ง ลพบุรี กับหมอพีร์ วันจันทร์หน้าครับ เพราะตอนนี้ยังไม่มีรถ และคุณหมอที่โรงพยาบาลกลางยังให้อยู่ต่ออีกห้าวัน

             สวัสดี
      บันทึกการเข้า
Manop Klabdee
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


พอเพียง มีสติ เกิดปัญญา
ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: 2513 วศ. รุ่นที่ 54
คณะ: วิศวกรรมศาสตร์ แผนกวิชาวิศวกรรมโยธา
กระทู้: 11,644

« ตอบ #4029 เมื่อ: 02 พฤศจิกายน 2554, 08:30:07 »

  สถานะการณ์เช้านี้ครับ              

                 - กรมอุทกศาสตร์ กองทัพเรือ คาดการณ์ระดับน้พสูงวันนี้ เวลา 13:22 น. ที่ระดับ 2.40 m. รทก.

                 - ระดับน้ำที่ดอนเมือง ที่มีน้ำหลากมาจากทางรังสิต ระดับน้ำเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วเฉลี่ยชั่วโมงละ ๑.๕ ซ.ม. เป็นสัญญาณที่ไม่ดีเลยเช้านี้ครับ เพราะนั่นหมายความว่า น้ำจะท้วม กทม.เติมพื้นที่ ครับ  ถ้าไม่ทำอะไรเลย เพียงรอเวลาท้วมให้เต็มพื้นที่เท่านั้น

                 - กทม. ทหาร รัฐบาล ท่านไม่เร่งเลยหรือไร? ท่านไม่มีเวลาแล้ว ต้องรีบหยุดน้ำทางรังสิตโดยทันที ก่อนที่ กทม.จะจมน้ำ (แต่ไม่สูงมาก)

วันพุธ ที่ 2 พฤศจิกายน 2554 เวลา 08.16 น.
 ข้อมูลล่าสุด


                [ 08.00 น. กทม.ไม่พบกลุ่มฝน | ระดับน้ำแม่น้ำเจ้าพระยาที่บางนา+ 0.90 ต่ำกว่าคันกั้นน้ำ 1.60 ม. ปากคลองตลาด+1.70   ต่ำกว่าคันกั้นน้ำ 1.10 ม. บางเขนใหม่+2.33 ต่ำกว่าคันกั้นน้ำ 0.67 ม. l ระดับน้ำแม่น้ำเจ้าพระยามีแนวโน้มลดลง l ระดับน้ำแม่น้ำเจ้าพระยาบริเวณปากคลองตลาดสูงสุด 1 พ.ย.54 เวลา 11.00 น. +2.43 ม.รทก. ต่ำกว่าคันกั้นน้ำ 0.37 ม 2 พ.ย. 2554 0 ] ...

                      ระดับน้ำต่ำมาก น้ำจะไหลลงทะเลได้มากวันนี้

                  - คลองบางเขน ช่วงหลักสี่ น้ำเสมอตลิ่ง

                  - คลองบางซื่อช่วงพหลโยธิน น้ำล้นตลิ่งที่ 0.68-0.44= 0.24m.

                  - คลองเปรมประชากร ช่วง สน.ดอนเมือ่ง น้ำล้นตลิ่งที่ 1.55-1.03 = 0.52 m. มาอาทิตย์ครึ่ง ทำให้น้ำท้วมดอนเมือง

                  - คลองเปรมประชากร ช่วงวัดเทวสุนทร น้ำล้นตลิ่งที่ 1.27-0.83 = 0.44m. ทำให้น้ำท้วมหลักสี่

                  - คลองลาดพร้าว ช่วงวัดลาดพร้าว น้ำล้นตลิ่งที่ 0.80-0.69 = 0.11m. น้ำท้วมถึงบริเวณวัด แต่ยังเดินได้

                  - นอกนั้น ในฝั่ง กทม. ระดับน้ำในคลองปกติ

                  - สำหรับฝั่งธนบุรีไม่ต้องพูดถึง เขตทวีวัฒนา ตลิ่งชัน คลองต่างๆ น้ำล้นตลิ่งระดับเกินหนึ่งเมตร ครับ

                  - ตอนนี้มีน้ำที่หลากมาจากบางบัวทอง ศาลายา มาสมทบอีก พุทธมณฑล  เขตทวีวัฒนาอ้วมมากครับ

                  - จุดน้ำท้วมขังยังเท่าเดิม แต่ระดับสะสมสูงขึ้น

                    ปริมาณน้ำไหลผ่านแม่น้ำเจ้าพระยา ที่สะพานพระราม 8 = 4101 ลูกบาศก์เมตร/วินาที
                    ปริมาณน้ำไหลผ่านคลองบางกอกน้อย 181.70 ลูกบาศก์เมตร/วินาที


                    สวัสดี
      บันทึกการเข้า
Manop Klabdee
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


พอเพียง มีสติ เกิดปัญญา
ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: 2513 วศ. รุ่นที่ 54
คณะ: วิศวกรรมศาสตร์ แผนกวิชาวิศวกรรมโยธา
กระทู้: 11,644

« ตอบ #4030 เมื่อ: 02 พฤศจิกายน 2554, 09:13:32 »

สรุป สถานการ์น้ำ ประจำวันที่ ๒ พฤศจิกายน ๒๕๕๔

            -   ถนนช่างอากาศอุทิศ สูง ๓๐-๕๐ ซม.
            -   ถนนประชาอุทิศ สูง ๒๐-๓๐ ซม.
            -   ถนนโกสุมรวมใจ  สูง ๒๐-๓๐ ซม.
            -   ถนนวัดเวฬุวนาราม สูง ๒๐-๓๐ ซม.
            -   ถนนนาวงประชาพัฒนา สูง ๒๐-๓๐ ซม.
            -   ถนนสรงประภา สูง ๕๐-๗๐ ซม.
            -   ถนนสรณคมน์ สูง ๕๐-๖๐ ซม.
            -   ถนนเดชะตุงคะ สูง ๖๐-๘๐ ซม.
            -   ถนนวุฒากาศ สูง ๔๐-๘๐ ซม.
            -   ถนนกำแพงเพชร ๖ สูง ๔๐-๙๐ ซม.
            -   ถนนวิภาวดีรังสิต จากคลองรังสิตถึงคลองหลักสี่ สูง ๙๐ ซม.-๑ ม. และช่วงแยกเกษตรถึงคลองลาดยาว ๒๐-๓๐ ซม.
            -   ถนนพหลโยธิน จากวิภาวดีรังสิตถึงคลองสอง สูง ๙๐-๑ ม. และจากคลองบางเขนถึงแยกเกษตรเป็นช่วงๆ ๒๐-๓๐ ซม.
            -   ถนนโรคัลโรด จากแยกถนนแจ้งวัฒนะถึง สน.ทุ่งสองห้อง ทั้ง ๒ ฝั่งสูง ๒๐-๒๕ ซม. ตลอดสาย
            -   ถนนโรคัลโรด จากแยกวัดเสมียนนารี
            -   ถนนประชานิเวศน์ ช่วงซอยประชานิเวศน์ ๑
            -   ถนนแจ้งวัฒนะ จากวงเวียนหลักสี่ถึงวิภาวดี และจากคลองเปรมประชากร ถึงคลองประปา เป็นช่วงๆ สูง ๒๐-๓๐ ซม.
            -   ถนนรามอินทรา จากวงเวียนหลักสี่ ถึงแยกลาดปลาเค้า และช่วง กม.๘
            -   ถนนงามวงศ์วาน จากแยกเกษตรถึง ถนนวิภาวดี สูง ๒๐-๓๐ ซม. และช่วงแยกพงษ์เพชร ทั้ง ๒ ฝั่งสูง ๒๐-๕๐ ซม.
            -   ถนนประชาชื่น ช่วงแยกพงษ์เพชร ถึงคลองบางเขน สูง ๕-๑๐ ซม.
            -   ถนนสายไหม ตลอดสาย สูง ๑๐-๕๐ ซม.
            -   ถนนหทัยราษฎร์ช่วงคลองพระยาสุเรนทร์ ถึงถนนวงแหวน เป็นช่วงๆ สูง ๑๐-๕๐ ซม.
            -   ถนนนิมิตรใหม่ตัดหทัยราษฎร์ ทั้งสองฝั่ง สูง ๒๐-๓๐ ซม.
            -   ถนนสุขาภิบาล ๕(วัชรพล) เต็มผิวจราจร ๓๐-๕๐ ซม.
            -   ถนนนวมินทร์ แยก กม.๘ ถึงคลองลำชะล่า เต็มผิวจราจร ๑๐-๒๐ ซม. ทั้งสองฝั่ง
            -   ถนนสุรินทวงศ์ ช่วงนิมิตรใหม่ สูง ๒๐-๓๐ ซม.
            -   ถนนประชาร่วมใจ และถนนราษฎร์อุทิศ สูง ๑๐-๒๐ ซม.
            -   ถนนอุทยาน ทั้งสองฝั่ง ๕๐ ซม. ถึง ๑ เมตร
            -   ซอยจริญฯ ๑๓ จากคลองทวีวัฒนา ถึง ถนนกาญจนาภิเษก สูง ๒๐-๓๐ ซม.
            -   ถนนเพชรเกษม ช่วงคลองทวัวัฒนา ถึง ถนนกาญจนาภิเก ๒๐-๔๐ ซม.
            -   ถนนกาญจนาภิเษก จากแยกบรมราชชนนี  ถึง ถนนเพชรเกษม เป็นช่วงๆ สูง ๓๐-๕๐ ซม.
      บันทึกการเข้า
Manop Klabdee
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


พอเพียง มีสติ เกิดปัญญา
ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: 2513 วศ. รุ่นที่ 54
คณะ: วิศวกรรมศาสตร์ แผนกวิชาวิศวกรรมโยธา
กระทู้: 11,644

« ตอบ #4031 เมื่อ: 02 พฤศจิกายน 2554, 10:38:31 »

              - ใครมีข่าวความคืบหน้าเรื่องการวางกระสอบทราบริมคลองรังสิตประยูรศักดิ์ บอกด้วยนะครับ เอาแบบลงมือทำจริง ราคาคุยไม่เอา เพราะนั่นคือ ความเป็นความตาย ของ กทม. จริงๆ ๆ รวมถึง คลองประปาด้วยครับ สองจุดนี้เท่านั้น ครับ

              - เมื่อเช้าพี่จุกโทรศัพท์มาคุยด้วย บอกว่ารัฐบาลจะเร่งระบายน้ำไปทางตะวันตกให้มาก ผมถามพี่จุ๊กว่า เอาอะไรมาเร่งมันครับ ไม่มีทั้งนั้น มันเป็นคำพูดของคนเท่านั้น เครื่องมือไม่มีทั้งสิ้น ประตูระบายน้ำก็ไม่มี  มีอยู่ก็พังหมด ทำได้เพียงเปิดประตูน้ำที่ชาวบ้านปิดอยู่เท่านั้น ความจริงก็คือน้ำไหลจากทางทิศเหนือไปทางทิศใต้สำหรับ กทม.และภาคกลาง และน้ำไหลจากทางตะวันออกไปทางตะวันตก เพราะพื้นที่ด้านตะวันออก สูงกว่าตะวันตก รัชกาลที่ ๑ ท่านจึงย้ายเมืองหลวงจากกรุงธนบุรี ไปฝั่งกรุงเทพฯ ครับ

              - ดังนั้นพอน้ำมากอย่างนี้พื้นที่นนทบุรี ปทุมธานี ธนบุรี จึงมีน้ไหลไปทางนั้นมาก เพราะเจ้าพระยามันจำกัดเพียงแค่นั้น ผมถึงบอกว่า ต้องเร่งทำเจ้าพระยาสายที่สองไงครับ ความเดือดร้อนต่างๆจะลดลง น้ำไม่ท้วม

              - ข่าววงในมาบอกผมว่า สิ่งที่ผมคิด เจ้าพระยาสายสองนั้น เป็นความจริงแล้ว ข้อมูลถึงคุณทักษิณ และท่านนายก แล้ว ประกอบกับช่วงนี้มีการพูดถึงมากทาง TV  รัฐบาลทำแน่นอน แต่ผมกลัวว่าไม่ทำตามแนวความคิดผม คือ เอาดินที่ขุดขึ้นมาพัฒนาจัดสรรค์เมือง นิคมอุตสาหกรรม ที่อยู่อาศัย  อย่าลืมมันต้องพัฒนาเป็นเมืองสองริมฝั่งเจ้าพระยา เพราะเราจะเอาดินไปทิ้งที่ไหนครับ?

              - ช่วงนี้มีแต่คนแตกแยกตามทางความคิดมาก ดังเช่นพระพุทธองค์ท่านสอนว่า "มนุษย์จะคิดเข้าข้างตนเองเสมอ โดยหาเหตุผลมาอ้างอิง ไม่รับฟังความคิดเห็นคนอื่น" พูดง่ายๆ คือ ความคิดคนเป็น มิจฉาทิฏฐิ ไม่ใช่ สัมมาทิฏฐิ ครับ

              - โดยเฉพาะผู้ที่มีประสพการณ์การทำงาน คือผู้สูงอายุ ดังนั้น เดี๋ยวนี้ผมไม่พูดกับใครดีกว่าเพราะไม่อยากเถียงทั้งสิ้น จิตคนมันเป็นเช่นนั้น ใครอยากคุยด้วย คุย ถ้าไม่ยอมรับความจริง ผมหนีดีกว่า อยู่คนเดียว สงบดีครับ

              - กรมชลประทานยังไม่ทำงาน จึงไม่มีรายงานน้ำจากกรมชลประทานครับ

                สวัสดี
      บันทึกการเข้า
สมชาย17
Hero Cmadong Member
***


ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 1,300

« ตอบ #4032 เมื่อ: 02 พฤศจิกายน 2554, 11:35:39 »

ชอบความคิด พี่สิงห์มาก เรื่องน้ำก็ดีชอบ ปิ๊งๆ
แต่ที่ดีมาก ชอบมากคือ 2บทสุดท้าย ตั้งแต่ที่ว่า ช่วงนี้มีคนแตกแยกความมคิดกันมาก. จนจบบทความ
ชอบมาก และพี่สิงห์ ก้าวไปไกลมากแล้ว รักนะ

 
อ้างถึง   
อ้างถึง
ข้อความของ Manop  Klabdee เมื่อ 02 พฤศจิกายน 2554, 10:38:31
              - ใครมีข่าวความคืบหน้าเรื่องการวางกระสอบทราบริมคลองรังสิตประยูรศักดิ์ บอกด้วยนะครับ เอาแบบลงมือทำจริง ราคาคุยไม่เอา เพราะนั่นคือ ความเป็นความตาย ของ กทม. จริงๆ ๆ รวมถึง คลองประปาด้วยครับ สองจุดนี้เท่านั้น ครับ

              - เมื่อเช้าพี่จุกโทรศัพท์มาคุยด้วย บอกว่ารัฐบาลจะเร่งระบายน้ำไปทางตะวันตกให้มาก ผมถามพี่จุ๊กว่า เอาอะไรมาเร่งมันครับ ไม่มีทั้งนั้น มันเป็นคำพูดของคนเท่านั้น เครื่องมือไม่มีทั้งสิ้น ประตูระบายน้ำก็ไม่มี  มีอยู่ก็พังหมด ทำได้เพียงเปิดประตูน้ำที่ชาวบ้านปิดอยู่เท่านั้น ความจริงก็คือน้ำไหลจากทางทิศเหนือไปทางทิศใต้สำหรับ กทม.และภาคกลาง และน้ำไหลจากทางตะวันออกไปทางตะวันตก เพราะพื้นที่ด้านตะวันออก สูงกว่าตะวันตก รัชกาลที่ ๑ ท่านจึงย้ายเมืองหลวงจากกรุงธนบุรี ไปฝั่งกรุงเทพฯ ครับ

              - ดังนั้นพอน้ำมากอย่างนี้พื้นที่นนทบุรี ปทุมธานี ธนบุรี จึงมีน้ไหลไปทางนั้นมาก เพราะเจ้าพระยามันจำกัดเพียงแค่นั้น ผมถึงบอกว่า ต้องเร่งทำเจ้าพระยาสายที่สองไงครับ ความเดือดร้อนต่างๆจะลดลง น้ำไม่ท้วม

              - ข่าววงในมาบอกผมว่า สิ่งที่ผมคิด เจ้าพระยาสายสองนั้น เป็นความจริงแล้ว ข้อมูลถึงคุณทักษิณ และท่านนายก แล้ว ประกอบกับช่วงนี้มีการพูดถึงมากทาง TV  รัฐบาลทำแน่นอน แต่ผมกลัวว่าไม่ทำตามแนวความคิดผม คือ เอาดินที่ขุดขึ้นมาพัฒนาจัดสรรค์เมือง นิคมอุตสาหกรรม ที่อยู่อาศัย  อย่าลืมมันต้องพัฒนาเป็นเมืองสองริมฝั่งเจ้าพระยา เพราะเราจะเอาดินไปทิ้งที่ไหนครับ?

              - ช่วงนี้มีแต่คนแตกแยกตามทางความคิดมาก ดังเช่นพระพุทธองค์ท่านสอนว่า "มนุษย์จะคิดเข้าข้างตนเองเสมอ โดยหาเหตุผลมาอ้างอิง ไม่รับฟังความคิดเห็นคนอื่น" พูดง่ายๆ คือ ความคิดคนเป็น มิจฉาทิฏฐิ ไม่ใช่ สัมมาทิฏฐิ ครับ

              - โดยเฉพาะผู้ที่มีประสพการณ์การทำงาน คือผู้สูงอายุ ดังนั้น เดี๋ยวนี้ผมไม่พูดกับใครดีกว่าเพราะไม่อยากเถียงทั้งสิ้น จิตคนมันเป็นเช่นนั้น ใครอยากคุยด้วย คุย ถ้าไม่ยอมรับความจริง ผมหนีดีกว่า อยู่คนเดียว สงบดีครับ

              - กรมชลประทานยังไม่ทำงาน จึงไม่มีรายงานน้ำจากกรมชลประทานครับ

                สวัสดี

      บันทึกการเข้า
Manop Klabdee
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


พอเพียง มีสติ เกิดปัญญา
ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: 2513 วศ. รุ่นที่ 54
คณะ: วิศวกรรมศาสตร์ แผนกวิชาวิศวกรรมโยธา
กระทู้: 11,644

« ตอบ #4033 เมื่อ: 02 พฤศจิกายน 2554, 12:28:03 »

            -  ขอบคุณมากครับ คุณสมชาย ที่ชม

             - ผมก็เขียนไปตามความจริง ที่ค้นพบ บางครั้งเรารู้อะไรดีๆ เราสามารถอยู่เหนือ จิตเราได้ ครับ ไม่ปรุงแต่งเสียอย่าง มันก้ไม่ทุกข์

             - วันนี้ผมตัดสินใจ ทิ้งเอกสารการเรียนทั้งหมดแบบไม่ต้องคิด และเอกสารการทำงานให้เหลือเพียงปัจจุบันเท่านั้น จำนวนประมาณห้ากล่องใหญ่ๆ ครับ อายุหกสิบปีแล้ว เก็บเอาไว้ทำไม เลยถือโอกาสสะสางหมดเลย แบบไม่ขาย ให้ฟรีเลย รวมทั้งของใช้ต่างๆด้วย

             - บ่ายนี้ต้องทำความสะอาดบ้าน ดูฝุ่น ถูบ้าน เอาไว้รอรับน้ำท้วมครับ

             - พรุ่งนี้จะสะสางเสื้อผ้าและของใช้ต่างๆ เอาทิ้งเสีย 50% ครับ และกำลังจะคิดที่จะทิ้ง VCD เทปตลับเพลงเพราะๆ  ทั้งหมดเก็บเอาไว้มีแต่ฝุ่นจับ เพราะจะมุ่งปฏิบัติธรรมให้มากเก็บเอาไว้ทำไม? รกเปล่าๆ ตัดกิเลสออกไปให้หมด ดีกว่า

             - ตอนนี้ก็มีภาระเพิ่มขึ้น และจะทำทั้งที่อยู่กรุงเทพ นครศรีธรรมราช ต่างจังหวัดให้มากเอาไว้ คือการใส่บาตรพระตอนเช้า เท่าที่จะทำได้ เพราะถ้าแก่ ช่วยตัวเองไม่ได้ จะได้หมดห่วงเราทำบุญของเราพอแล้ว เตรียมตัวรอวาระสุดท้ายของชีวิตที่ไม่มีอะไรต้องกังวลดีกว่า ครับ

                สวัสดี
             
      บันทึกการเข้า
Manop Klabdee
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


พอเพียง มีสติ เกิดปัญญา
ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: 2513 วศ. รุ่นที่ 54
คณะ: วิศวกรรมศาสตร์ แผนกวิชาวิศวกรรมโยธา
กระทู้: 11,644

« ตอบ #4034 เมื่อ: 02 พฤศจิกายน 2554, 12:34:00 »

สรุปสถานการณ์น้ำและการแก้ไขในพื้นที่กรุงเทพฯ 2 พ.ย.54

วันพุธที่ 02 พฤศจิกายน 2011 เวลา 10:52 น. กองประชาสัมพันธ์ กทม.



                10.00น. ผู้ว่าฯกทม.ตรวจการซ่อมแซมประตูระบายน้ำคลองสามวา ถนนหทัยมิตร เขตคลองสามวา โดยกองบัญชาการตำรวจนครบาลส่งกำลังตำรวจคุ้มกันประตูระบายน้ำคลองสามวาและให้เจ้าหน้าที่กทม.เร่งเข้าไปซ่อมแซมประตูที่ชำรุดเพื่อป้องกันไม่ให้น้ำบ่าเข้าท่วมนิคมอุตสาหกรรมย่านตะวันออก ถนนรามอินทรา และถนนรามคำแหง

                11.30 ผู้ว่าฯ กทม. ตรวจความเสียหายบริเวณริมคลองหนึ่งตะวันตก หมูู่บ้านราชพฤกษ์  เขตมีนบุรี จากนั้นได้ตรวจคันกั้นน้ำที่ถนนหทัยราษฎร์ ซึ่งมีน้ำล้นคันท่วมถนนประมาณ 5-10 ซม. ยาว ประมาณ 3 กม.

 ข้อมูลล่าสุด

                [ 12.30 น. กทม.ไม่พบกลุ่มฝน | ระดับน้ำแม่น้ำเจ้าพระยาที่บางนา+ 1.76 ต่ำกว่าคันกั้นน้ำ 0.74 ม.ปากคลองตลาด+2.30 ต่ำกว่าคันกั้นน้ำ 0.50ม. บางเขนใหม่+2.67ต่ำกว่าคันกั้นน้ำ 0.33 ม. l ระดับน้ำแม่น้ำเจ้าพระยามีแนวโน้มทรงตัวl ระดับน้ำแม่น้ำเจ้าพระยา บริเวณปากคลองตลาดสูงสุด 1 พ.ย.54 เวลา 11.00 น. +2.43 ม.รทก. ต่ำกว่าคันกั้นน้ำ 0.37 ม 2 พ.ย. 2554 ] ...

                [ 12.15 น. กทม.ไม่พบกลุ่มฝน | ระดับน้ำแม่น้ำเจ้าพระยาที่บางนา+ 1.76 ต่ำกว่าคันกั้นน้ำ 0.74 ม.ปากคลองตลาด+2.32 ต่ำกว่าคันกั้นน้ำ 0.48ม. บางเขนใหม่+2.67ต่ำกว่าคันกั้นน้ำ 0.33 ม. l ระดับน้ำแม่น้ำเจ้าพระยามีแนวโน้มเพิ่มขึ้น l ระดับน้ำแม่น้ำเจ้าพระยา บริเวณปากคลองตลาดสูงสุด 1 พ.ย.54 เวลา 11.00 น. +2.43 ม.รทก. ต่ำกว่าคันกั้นน้ำ 0.37 ม 2 พ.ย. 2554 ] ...

                [ 12.00 น. กทม.ไม่พบกลุ่มฝน | ระดับน้ำแม่น้ำเจ้าพระยาที่บางนา+ 1.77 ต่ำกว่าคันกั้นน้ำ 0.73 ม.ปากคลองตลาด+2.30 ต่ำกว่าคันกั้นน้ำ 0.50ม. บางเขนใหม่+2.65ต่ำกว่าคันกั้นน้ำ 0.35 ม. l ระดับน้ำแม่น้ำเจ้าพระยามีแนวโน้มเพิ่มขึ้น l ระดับน้ำแม่น้ำเจ้าพระยา บริเวณปากคลองตลาดสูงสุด 1 พ.ย.54 เวลา 11.00 น. +2.43 ม.รทก. ต่ำกว่าคันกั้นน้ำ 0.37 ม 2 พ.ย. 2554 ] ...

                 ปริมาณน้ำไหลผ่านแม่น้ำเจ้าพระยา ที่สะพานพระราม 8 = 3795 ลูกบาศก์เมตร/วินาที
                 ปริมาณน้ำไหลผ่านคลองบางกอกน้อย 69.10 ลูกบาศก์เมตร/วินาที


 

               จะเห็นว่าน้ำในแม่น้ำเจ้าพระยากำลังลดลง ตามลำดับ น้ำทะเลไม่หนุนสูงไปอีกนานทีเดียว ครับ

               อะไรๆ มันก็ดีขึ้นเสียสองอย่าง คือ
   
                  - คนแตกแยกทางความคิด สิ้นคิด เห็นแก่ตัว

                  - ยังวางกระสอบทรายยักษ์ ริมคลองรังสิตประยูรศักดิ์ ยังไม่มีความก้าวหน้า

                    สวัสดี
               
      บันทึกการเข้า
Manop Klabdee
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


พอเพียง มีสติ เกิดปัญญา
ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: 2513 วศ. รุ่นที่ 54
คณะ: วิศวกรรมศาสตร์ แผนกวิชาวิศวกรรมโยธา
กระทู้: 11,644

« ตอบ #4035 เมื่อ: 02 พฤศจิกายน 2554, 12:55:47 »


คลองบางเขน ช่วงหลักสี่ มีน้ำล้นตลิ่ง ๒ ซ.ม. ต้องเฝ้าระวัง



คลองบางซื่อมีน้ำล้บขอบตลิ่ง ๒๕ ซ.ม. ช่วงพหลโยธิน-บางซื่อ



 คลองเปรมประชากร ช่วงวัดเทวสุนทร น้ำล้นตลิ่ง =1.30-0.83 = 0.47 m.

คลองเปรมประชากร ช่วง สน.ดอนเมือง น้ำล้นตลิ่ง =1.55-1.03 = 0.52 m.



คลองลาดพร้าว น้ำล้นตลิ่ง = 0.79-0.69 = 0.10 m.
      บันทึกการเข้า
Manop Klabdee
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


พอเพียง มีสติ เกิดปัญญา
ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: 2513 วศ. รุ่นที่ 54
คณะ: วิศวกรรมศาสตร์ แผนกวิชาวิศวกรรมโยธา
กระทู้: 11,644

« ตอบ #4036 เมื่อ: 02 พฤศจิกายน 2554, 13:03:37 »



ผมกำาลังคอยให้ท่านผู้ว่าสั่งอพยพ และกำลังถูบ้านรอน้ำท้วมครับ



ฝั่งธนบุรีมีแต่พื้นที่ อพยพ

แต่สองฝั่งริมแม่น้ำเจ้าพระยาปลอดภัยแล้ว เพราะน้ำทะเลหนุนไม่สูงอีกแล้ว



มีนบุรี หนองจอก ลาดกระบัง ก็กำลังหน้ากลัว ครับ

      บันทึกการเข้า
Manop Klabdee
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


พอเพียง มีสติ เกิดปัญญา
ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: 2513 วศ. รุ่นที่ 54
คณะ: วิศวกรรมศาสตร์ แผนกวิชาวิศวกรรมโยธา
กระทู้: 11,644

« ตอบ #4037 เมื่อ: 02 พฤศจิกายน 2554, 15:21:42 »



 

               สรุป          
                 - เขื่อนเจ้าภูมิพล 100% สิริกิติ์ 100% แควน้อย 100% ป่าสัก 129%   การระบายน้ำปกติลดลงมาก ยกเว้นเขื่อนป่าสัก ยังระบายมาทางแม่น้ำลพบุรี ๖๐ ลูกบาศก์เมตรต่ิวินาที มีผลให้น้ำที่สิงห์บุรี อ่างทอง ลดลงน้อย
                 - เขื่อนเจ้าพระยาระบายลดลงทุกวัน วันนี้ลดลงมากเป็นพิเศาทางสุพรรณบุรี
                 - สิงห์บุรี ระดับน้ำลดลง
                 - อ่างทอง ระดับน้ำลดลง
                 - อยุธยา ระดับน้ำลดลง
                 - บางไทร ระดับน้ำลดลง
                 - ปทุมธานี ระดับน้ำลดลง
                 - ปากเกล็ด ระดับน้ำทรงตัว
                 - กทม. ระดับน้ำลดลง
                    
                  -  โดยภาพรวมสถานการณ์ดีขึ้นเป็นลำดับ  ช่วงนี้แม่น้ำเจาพระยาระบายน้ำได้มากขึ้น
                  -  แต่น้ำเหนือยังอยู่อีกมากมหาศาล ครับ ต้องใช้เวลา ทรงๆ แบบนี้เป็นอาทิตย์ครับ
                  -  ปากเกล็ดระดับน้ำทรงตัว เช่นเดียวกับ คลองรังสิต ครับ
                  -  พรุ่งนี้น้ำหน้าที่จะลดลงมาก จากแม่น้ำเจ้าพระยา
                  - การทรงตัวของปากเกล็ดไม่ดีเลย เพราะแสดงว่ามีปริมาณน้ำไหลมาปากเกล็ดจำนวนมาก
                  - อาจจะทำให้น้ำที่เข้ามาทางดอนเมืองมีปริมาณเพิ่มขึ้นจากเดิม จะทำให้โอกาสน้ำท้วม กทม.เต็มพื้นที่มีสูงมาก
                  - ต้องพึ่งการวางกระสอบทรายริมคลองรังสิตประยูรศักดิ์ให้แล้วเสร็จเร็วที่สุด ครับ

                     สวัสดี


                      ปทุมธานี ระดับตลิ่ง         = 2.84 m.
                                  ระดับปัจจุบัน     = 3.75 m.
                                  ต่างระดับ          = 3.75-2.84 = 0.91 m.
                                  น้ำลดลงวันละ    = 0.02 m.
                                  ระยะเวลาลดลง  = 0.91/0.02 = 45 วัน นับจากวันนี้
                           ดังนั้น อีกหนึ่งเดือน เป็นอย่างเร็ว น้ำที่ปทุมธานี คงปกติครับ

            

      บันทึกการเข้า
Manop Klabdee
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


พอเพียง มีสติ เกิดปัญญา
ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: 2513 วศ. รุ่นที่ 54
คณะ: วิศวกรรมศาสตร์ แผนกวิชาวิศวกรรมโยธา
กระทู้: 11,644

« ตอบ #4038 เมื่อ: 02 พฤศจิกายน 2554, 15:38:23 »

วันพุธ ที่ 2 พฤศจิกายน 2554 เวลา 15.31 น.
 สถานการณ์น้ำวันนี้
 สถานการณ์น้ำ ประจำวันที่ 2 พฤศจิกายน 2554 (เวลา 12.00 น.)


น้ำฝน
      - ปริมาณฝนสูงสุด 6 ชั่วโมงที่ผ่านมาที่ ไม่มีฝน
      - ปริมาณฝนรวมตั้งแต่ 1 ม.ค.- 1 พ.ย. 54 รวม 2,245.5 มม. มากกว่าค่าเฉลี่ย 39.9%
      - คาดการณ์ฝนจากกรมอุตุนิยมวิทยา วันนี้มีฝนตก 10% ของพื้นที่
 
น้ำเหนือ ( ผ่านแม่น้ำเจ้าพระยา)
      - ปริมาณน้ำท้ายเขื่อนเจ้าพระยา 3,151 ลบ.ม./วินาที (ลดลงจากเมื่อวานน้ำ 16 ลบ.ม./วินาที)
      - ระดับน้ำที่ อ.บางไทร 4.05 ม.รทก. (ลดลงจากเมื่อวาน 2 ซม.)
 
น้ำทะเลหนุนสูง
      - วันนี้ เวลา 13.22 น. ระดับ +1.17 ม.รทก. และเวลา 21.15 น. ระดับ +0.91 ม.รทก.
      - พรุ่งนี้ เวลา 14.05 น. ระดับ +1.11 ม.รทก. น้ำทะเลหนุนสูงเพียง 1 ครั้ง (น้ำตาย)

ระดับน้ำแม่น้ำเจ้าพระยาตรวจวัดที่ปากคลองตลาด
      - ระดับน้ำสูงสุดเมื่อวานนี้ เวลา 11.00 น. ระดับ +2.43 ม.รทก. (ต่ำกว่าคันกั้นน้ำ 37 ซม.)
      - ระดับน้ำที่ปากคลองตลาดวันนี้ เวลา 12.00 น. ระดับ +2.30 ม.รทก. (น้ำกำลังขึ้น)
      - คาดการณ์จากกรมอุทกศาสตร์วันนี้ เวลา 13.22 น. ระดับ +2.40 ม.รทก.
      - ระดับน้ำแม่น้ำเจ้าพระยาขึ้นสูงสุดวันที่ 30 ต.ค. 54 ระดับ +2.53 ม.รทก.

น้ำทุ่ง
      - คลองหกวาสายล่าง ระดับน้ำที่ประตูระบายน้ำคลองสอง ( 6 ชม.ที่ผ่านมา) ระดับน้ำลดลง 1 ซม.
      - ฝั่งธนบุรีระดับน้ำที่ประตูระบายน้ำคลองทวีวัฒนา (6 ชม.ที่ผ่านมา) ระดับน้ำทรงตัว
 
ระดับน้ำในคลองต่าง ๆ
      - ระดับน้ำล้นตลิ่งทางตอนเหนือของคลองเปรมประชากร, คลองบางซื่อ ตอนถ.พหลโยธิน, คลองบางเขน ตอนถ.วิภาวดี, คลองลาดพร้าว ฝั่งธนบุรี ในคลองมหาสวัสดิ์ , คลองบางเชือกหนัง , คลองบางพรม, คลองบางแวก ตอนคลอง ทวีวัฒนา และตอนถ.พุทธมณฑลสาย 1
      - ระดับน้ำเสมอขอบตลิ่งในคลองลาดพร้าว ตอนซ.เสนานิคม , คลองบางพรม ตอนคลองชักพระ
      - ส่วนคลองอื่น ๆ ยังปกติ
 
ภาพรวมสถานการณ์ใน กทม.
      - เฝ้าระวังแนวริมแม่น้ำเจ้าพระยา คลองบางกอกน้อย และคลองมหาสวัสดิ์
      - เฝ้าระวังพื้นที่ฝั่งธนบุรีเนื่องจากน้ำจาก อ.ศาลายาไหลบ่าเข้าด้านในคลองทวีวัฒนาอย่างต่อเนื่อง
      - ระดับน้ำบริเวณดอนเมืองเพิ่มขึ้นจากเมื่อเช้าอีก 3 ซม.


            ระดับน้ำบริเวณดอนเมืองเพิ่มขึ้นจากเมื่อเช้าอีก 3 ซม. เป็นสัญญาณอันตราย คือเจ้า "ซึนามิเงียบ" กำลังก่อตัวสะสมน้ำ ทำให้น้ำมีกำลังทำลายล้างเพิ่มขึ้น โอกาสที่น้ำจะท้วมเต็มพื้นที่ กทม. มีสูงมาก ถ้าไม่รีบ วางกระสอบทรายยักษ์ริมคลองรังสิต ให้เสร็จโดยเร็ว เพราะน้ำไหลมาผุดตามท่อระบายน้ำครับ
              สวัสดี
      บันทึกการเข้า
Manop Klabdee
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


พอเพียง มีสติ เกิดปัญญา
ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: 2513 วศ. รุ่นที่ 54
คณะ: วิศวกรรมศาสตร์ แผนกวิชาวิศวกรรมโยธา
กระทู้: 11,644

« ตอบ #4039 เมื่อ: 02 พฤศจิกายน 2554, 16:01:35 »


               วันนี้มีแต่ข่าวลือ ว่าน้ำมาถึงลาดพร้าวแล้วทั้งวัน

                ผมเองได้เก็บหนังสือ ทิ้งไป 70% และทำความสะอาดบ้านไว้รอน้ำท้วมครับ

                ขออนุญาติ ไปเดินจงกรมออกกำลังกาย ที่หน้าบ้าน ครับ

                สวัสดี
      บันทึกการเข้า
เหยง 16
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: rcu2516
คณะ: เภสัชศาสตร์ 2516
กระทู้: 23,533

« ตอบ #4040 เมื่อ: 02 พฤศจิกายน 2554, 16:17:07 »

เหตุการณ์ที่คลองสามวา........


ถ.หทัยราษฎร์น้ำล้นคันท่วมถนน ยาว 3 กม.
2 พฤศจิกายน 2554 12:59 น.

 
เจ้าหน้าที่ตำรวจคุ้มกันประตูระบายน้ำคลองสามวา (ภาพจากกองประชาสัมพันธ์กทม.)  

       ผู้ว่าฯ กทม.ตรวจการซ่อมแซมประตูระบายน้ำคลองสามวา เร่งป้องกันน้ำไหลบ่าท่วมนิคมอุตสาหกรรมตะวันออก ถนนรามอินทรา และถนนรามคำแหง ถ.หทัยราษฎร์ น้ำล้นคันท่วมถนนยาว 3 กม.
       
       ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อเวลา 10.00 น. ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ บริพัตร ผู้ว่าฯ กทม. ได้เดินทางไปตรวจการซ่อมแซมประตูระบายน้ำคลองสามวา ถนนหทัยมิตร เขตคลองสามวา  โดยมีกองบัญชาการตำรวจนครบาลส่งกำลังตำรวจคุ้มกันประตูระบายน้ำคลองสามวา และให้เจ้าหน้าที่ กทม.เร่งเข้าไปซ่อมแซมประตูที่ชำรุดเพื่อป้องกันไม่ให้น้ำบ่าเข้าท่วมนิคมอุตสาหกรรมย่านตะวันออก ถนนรามอินทรา และถนนรามคำแหง พร้อมตรวจคันกั้นน้ำที่ถนนหทัยราษฎร์ น้ำล้นคันแล้วท่วม 5-10 ซม. ยาว 3 กม.
       
       จากนั้นเวลา 11.30 น. ผู้ว่าฯ กทม.ตรวจความเสียหายบริเวณริมคลองหนึ่งตะวันตก หมู่บ้านราชพฤกษ์ เขตมีนบุรี รวมถึงตรวจคันกั้นน้ำที่ถนนหทัยราษฎร์ ซึ่งมีน้ำล้นคันท่วมถนนประมาณ 5-10 ซม. ยาวประมาณ 3 กม


จาก http://www.manager.co.th/asp-bin/mgrView.asp?NewsID=9540000139645
      บันทึกการเข้า
เหยง 16
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: rcu2516
คณะ: เภสัชศาสตร์ 2516
กระทู้: 23,533

« ตอบ #4041 เมื่อ: 02 พฤศจิกายน 2554, 17:33:52 »

ความคืบหน้าในการซ่อมประตูน้ำคลองสามวา

ซ่อมประตูระบายน้ำคลองสามวาฉลุย ชาวบ้านให้ความร่วมมือดี ไม่มีป่วน ตร.คุมเข้ม
วันที่ 02 พฤศจิกายน พ.ศ. 2554 เวลา 14:45:00 น.

 

ผู้สื่อข่าวรายงานความคืบหน้าการซ่อมคันกั้นน้ำบริเวณข้างประตูระบายน้ำคลองสามวา วันที่ 2 พฤศจิกายนว่า สำนักการระบายน้ำได้นำเสาเข็มปักลงไปบริเวณที่พังลง พร้อมกับเร่งขนย้ายกระสอบทรายมากองไว้ที่บริเวณเชิงสะพาน เพื่อเตรียมที่จะนำไปวางเป็นคันกั้นน้ำ ล่าสุดมีความคืบหน้าแล้วประมาณร้อยละ 60 ส่วนบริเวณถัดไปจากประตูระบายน้ำ หรืออีกฝั่งหนึ่ง ยังไม่ได้เริ่มดำเนินการแต่อย่างใด ซึ่งทั้งหมดจะเร่งดำเนินการซ่อมแซมให้แล้วเสร็จภายในวันนี้ โดยสถานการณ์เป็นไปด้วยความเรียบร้อย ไม่มีชาวบ้านมาก่อความวุ่นวายท่ามกลางการดูแลจากเจ้าหน้าที่ตำรวจ ขณะที่ระดับน้ำตรงประตูระบายน้ำถือว่ายังคงทรงตัว


http://www.matichon.co.th/news_detail.php?newsid=1320220007&grpid=00&catid=&subcatid=
      บันทึกการเข้า
เหยง 16
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: rcu2516
คณะ: เภสัชศาสตร์ 2516
กระทู้: 23,533

« ตอบ #4042 เมื่อ: 02 พฤศจิกายน 2554, 19:39:54 »

ข่าวเมื่อ 1 ทุ่มที่ผ่านมา.....

"สุกำพล"มั่นใจบิ๊กแบคจะช่วยลดน้ำทะลักวิภา-คลองประปา
2 พย. 2554 19:03 น.

ศปภ. 2 พ.ย. พล.อ.อ.สุกำพล สุวรรณทัต รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม กล่าวกรณีที่ประชาชนได้ให้ความสนใจการนำบิ๊กแบ็คหรือกระสอบทรายขนาดยักษ์มาวางเป็นแนวกั้นน้ำ ว่า ขณะนี้ได้นำบิ๊กแบ็คจำนวน 6,000 ถุง มาวางเป็นแนวแล้ว 2 กิโลเมตร ซึ่งจากเดิมต้องวางบิ๊กแบ็คเป็นระยะทางจาก 3.5 กิโลเมตรแต่ได้เพิ่มระยะทางเป็น 6 กิโลเมตร ซึ่งการขนส่งบิ๊กแบ็คได้เร็วขึ้นกว่าระยะแรก ๆ ที่มีรถไฟที่ขนส่งบิ๊กแบ็ค 1 ขบวนแต่มีขณะนี้มีถึง 3 ขบวน ซึ่งแต่ละขบวนจะบรรจุบิ๊กแบ็ค จำนวนกว่า 400 ถุงส่วนการเฝ้าดูแลความเรียบร้อยแนงบิ๊กแบ๊คก็มีเจ้าหน้าทหาร และเจ้าหน้าที่กรมอุทยาน กรมป่าไม้ กว่า1,000 คน ที่ทำงานไม่หยุดพลัดเวรกัน ขณะที่การวางแนวบิ๊กแบ็ค จะต้องใช้ถึง 6 แสนถุง ซึ่งเรื่องนี้สำคัญมากที่จะป้องกันน้ำ ไม่เช่นก็จะกระทบถนนวิภาวดี คลองประปา

" นายกฯต้องการให้วางแนวบิ๊กแบ๊คเสร็จภายในวันศุกร์นี้ แต่ผมคาดว่าการวางกระสอบบิ๊กแบ็คจะเสร็จภายในวันคืนของวันพฤหัสบดี ทั้งนี้หาวางแนวบิ๊กแบ็ค เรียบร้อยตามแผน ที่วางไว้มั่นใจว่าน้ำจะไม่เข้าหาก กทม.จะระบายน้ำลงมาคลองเปรมประชากร ก็อาจจะมีน้ำซึมเข้ามาเล็กน้อย "


http://breakingnews.nationchannel.com/read.php?newsid=537151
 
 
 
 
      บันทึกการเข้า
Manop Klabdee
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


พอเพียง มีสติ เกิดปัญญา
ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: 2513 วศ. รุ่นที่ 54
คณะ: วิศวกรรมศาสตร์ แผนกวิชาวิศวกรรมโยธา
กระทู้: 11,644

« ตอบ #4043 เมื่อ: 02 พฤศจิกายน 2554, 20:47:59 »

สวัสดีครับ คุณเหยง

               - ขอบคุณมากที่นำข่าวดีๆ มาบอก ครับ

               - ท่านใดที่น้ำยังไม่ท้วมนั้น ท่านเริ่มมีความหวังแล้วครับ

               - ถ้าสามารถ วาง ถุงทรายยักษ์ได้เสร็จทันคืนวัพฤหัสบดี จริง

               - น้ำที่เข้ามาทางคลองประปาก็ดี  ทางด้านทิศเหนือทั้งหมดก็ดี จะตัดกำลังเสริมทั้งหมดประมาณ 90%

               - จริงๆ ขอเพียงสัก 70% พื้นที่กทม.ที่ยังไม่ท้วม ก็พ้นขีดอันตรายหมดแล้วครับ เพราะน้ำที่เข้ามานั้นมันกระจายไปที่ลุ่ม

               - หลังจากตัดกำลังเสริมได้แล้ว เป็นหน้าที่ของ กทม. ต้องรีบสูบน้ำออก คงใช้เวลา หนึ่งอาทิตย์ขึ้นไปครับ

               - พรุ่งนี้ผมหวังว่าจะมีข่าวดี คือ ระดับน้ำที่ปากเกล็ดที่ทรงตัวมาสามวัน จะลดลง ครับ

               - เพราะถ้าไม่ลดลง ระยะเวลาที่เราจะต้องผจญกับน้ำมันจะยืดออกไปอีกครับ

               - ยิ่งนานยิ่งไม่ดี แสดงว่าน้ำไหลลงทะเลช้า อาจจะทำให้คันกั้นน้ำเสียหายได้ เพราะน้ำเหนือมันทะยอย มาตลอดเวลา ถ้าไม่มีที่ไปมันจะสะสมระดับเพิ่ม อันตรายครับ

                  คืนนี้นอนหลับฝันดีได้ครับ น้ำทะเลหนุนไม่สูง ท่านไม่ต้องกังวลกับคลองสามวามาก ขอให้น้ำไปถึงลาดกระบัง สุวรรณภูมิ รับรองศักยภาพของสุวรรณภูมิ มันจะได้ทำงานสักทีหนึ่ง ครับ รอท่ามานานแล้วยังไม่ได้แสดงเลยครับ

                  ราตรีสวัสดิ์ทุกท่านครับ
      บันทึกการเข้า
Manop Klabdee
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


พอเพียง มีสติ เกิดปัญญา
ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: 2513 วศ. รุ่นที่ 54
คณะ: วิศวกรรมศาสตร์ แผนกวิชาวิศวกรรมโยธา
กระทู้: 11,644

« ตอบ #4044 เมื่อ: 02 พฤศจิกายน 2554, 21:08:00 »


สรุปสถานการณ์น้ำและการแก้ไขในพื้นที่กรุงเทพฯ 2 พ.ย.54

                ผู้ว่าฯ เผย กทม.ประกาศพื้นที่อพยพเพิ่ม ที่แขวงทรายกองดินใต้ เขตคลองสามวา/ แขวงหนองค้างพลู เขตหนองแขม / หมู่บ้านเสนานิเวศน์ โครงการ 1 เขตลาดพร้าว  พร้อมทั้งแจ้งเตือนประชาชนในพื้นที่เขตภาษีเจริญตอนบนเสี่ยงสูง ให้เก็บของเตรียมพร้อมอพยพ ย้ายเด็ก คนชรา และผู้ป่วยออกนอกพื้นที่ก่อน ขอความช่วยเหลือ โทร.1555 หรือ 0 2221 1212
      บันทึกการเข้า
เหยง 16
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: rcu2516
คณะ: เภสัชศาสตร์ 2516
กระทู้: 23,533

« ตอบ #4045 เมื่อ: 02 พฤศจิกายน 2554, 22:38:11 »

ประตูน้ำคลองสามวา ทำการซ่อมเสร็จแล้ว
ส่วนการวาง Big bag วางได้ 2 ก.ม. คงเหลืออีก 2 ก.ม.เศษ คาดว่าพรุ่งนี้จะเสร็จ


ซ่อมประตูระบายน้ำคลองสามวาเสร็จแล้ว
2 พฤศจิกายน 2554 21:08 น.

 
       ประตูระบายน้ำคลองสามวาทั้งฝั่งตะวันตก - ออก ซ่อมเสร็จแล้ว กำลังเสริมแนวป้องกันการกัดเซาะ คาดเสร็จภายในคืนนี้ ซึ่งสถานการณ์ตลอดทั้งวันที่ผ่านมา เป็นไปอย่างเรียบร้อย ไม่มีความวุ่นวายใดๆ
      
       วันนี้ (2 พ.ย.) ความคืบหน้าการซ่อมแซมบริเวณหูช้างของประตูระบายน้ำคลองสามวา ทั้งด้านทิศตะวันตก และทิศตะวันออก โดยตลอดทั้งวันที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่จากสำนักการระบายน้ำ ได้เร่งนำเสาเข็มตอกลงไป และนำทรายบรรจุกระสอบวางเป็นแนวคันกั้นน้ำ รวมไปถึงได้นำแผ่นเหล็กชีทไพล์ ขนาบข้างอีกครั้ง เพื่อความแข็งแรงของแนวคันกั้นน้ำ
      
       โดยล่าสุดขณะนี้ หูช้างของประตูระบายน้ำทั้ง 2 ฝั่ง ได้ซ่อมแซมเสร็จแล้ว และได้มีการนำแผ่นเหล็กชีทไพล์ กั้นเป็นแนวยาวจนถึงบริเวณเชิงสะพาน และนำยางมะตอยมาสร้างเป็นแนวคันกั้นน้ำอีกชั้น เพื่อป้องกันการกัดเซาะของน้ำ หากมีปริมาณเพิ่มมากขึ้น ซึ่งคาดว่าการเสริมแนวคันกั้นน้ำดังกล่าว จะแล้วเสร็จภายในกลางดึกของวันนี้
      
       ทั้งนี้สำหรับสถานการณ์ทั่วไปตลอดทั้งวันที่ผ่านมา เป็นไปอย่างเรียบร้อย ไม่มีความวุ่นวายใดๆ เกิดขึ้น ส่วนระดับน้ำบริเวณประตูระบายน้ำในขณะนี้ เหนือประตูระบายน้ำวัดได้ที่ 1.90 ม. และด้านล่างประตูระบายน้ำวัดได้ที่ 1.40 ม. ซึ่งถือว่าระดับน้ำได้เพิ่มปริมาณขึ้น


จาก http://www.manager.co.th/asp-bin/mgrView.asp?NewsID=9540000139971
 
      บันทึกการเข้า
suriya2513
Cmadong ชั้นเซียน
*****


ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 9,457

« ตอบ #4046 เมื่อ: 02 พฤศจิกายน 2554, 23:21:50 »

ศูนย์อพยพที่บ้านทัพทันซิตี้ของผมมีประชากรอพยพมาอยู่ประมาณ 15 ชีวิต
(รวมเจ้าของบ้าน 4 ชีวิต ซึ่งรับตำแหน่งเจ้าหน้าที่จิตอาสาไปในตัวเข้าด้วยแล้ว)
ปัญหามีอยู่ว่า...พรุ่งนี้ ทางการประกาศงดจ่ายน้ำทั้งอำเภอ โดยไม่บอกว่าจะเริ่มจ่ายอีกเมื่อใด
ผมควรจะแก้ปัญหาอย่างไร ไม่ให้เสียชื่อผู้อำนวยการศูนย์อพยพครับ ท่านผู้รู้ทั้งหลาย
      บันทึกการเข้า

[โบราณคดี]จุดกำเนิดเริ่มต้นของ cmadong.com by : มานพ กลับดี  คลิ๊ก->
Manop Klabdee
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


พอเพียง มีสติ เกิดปัญญา
ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: 2513 วศ. รุ่นที่ 54
คณะ: วิศวกรรมศาสตร์ แผนกวิชาวิศวกรรมโยธา
กระทู้: 11,644

« ตอบ #4047 เมื่อ: 03 พฤศจิกายน 2554, 05:05:04 »

อ้างถึง
ข้อความของ suriya2513 เมื่อ 02 พฤศจิกายน 2554, 23:21:50
ศูนย์อพยพที่บ้านทัพทันซิตี้ของผมมีประชากรอพยพมาอยู่ประมาณ 15 ชีวิต
(รวมเจ้าของบ้าน 4 ชีวิต ซึ่งรับตำแหน่งเจ้าหน้าที่จิตอาสาไปในตัวเข้าด้วยแล้ว)
ปัญหามีอยู่ว่า...พรุ่งนี้ ทางการประกาศงดจ่ายน้ำทั้งอำเภอ โดยไม่บอกว่าจะเริ่มจ่ายอีกเมื่อใด
ผมควรจะแก้ปัญหาอย่างไร ไม่ให้เสียชื่อผู้อำนวยการศูนย์อพยพครับ ท่านผู้รู้ทั้งหลาย

             ในฐานะเจ้าบ้านที่ดี การประปางดจ่ายน้ำจริง ท่านก็ตองไปให้ทางเทศบาลคงมีรถบริการเอาน้ำมาใส่โองสำหรับอาบ หรือไปการประปา อ้างสิทธิ์ผมเป็นเลขาอดีตผู้ว่าการวิเศษ มันก็คงจะได้น้ำมาแน่นอน หรือเข้าเมืองตาหลิ่วหลิ่วตาตาม คืออาบน้ำคลอง สมัยเป็นนักเรียน อยู่สิงห์บุรี น้ำประปาไม่รู้จัก น้ำบาดาลไม่รู้จัก รู้จักแต่น้ำบ่อซึมที่วัดลึก ๒๐ เมตร ที่ทุกบ้านในหมู่บ้านต้องมาเข้าคิวหาบน้ำเอาไปรับประทานที่บ้าน

             กรณีน้ำท้วมแบบนี้ ผมจะพายเรืออยู่หัว แม่พายอยู่ท้ายเรือน เตรียมกระแป๋งใส่เรือ ไปตักน้ำที่กลางแม่น้ำเจ้าพระยา มาใส่โอ่ง เอาสารส้มแกว่ง จะตกตะกอน สามารถเอาน้ำมาใช้หุงข้าวได้ และดื่ม ได้ ยังไม่เห็นเป็นอะไรเลย ครับ

             สวัสดี
      บันทึกการเข้า
Manop Klabdee
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


พอเพียง มีสติ เกิดปัญญา
ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: 2513 วศ. รุ่นที่ 54
คณะ: วิศวกรรมศาสตร์ แผนกวิชาวิศวกรรมโยธา
กระทู้: 11,644

« ตอบ #4048 เมื่อ: 03 พฤศจิกายน 2554, 05:06:50 »

อรุณสวัสดิ์ครับ คุณเหยง

               ขอบคุณมากครับ สำหรับข่าว อยากได้ความคืบหน้า การวางกระสอบทรายยักษ์ ให้ทุกคนได้ชื่นใจ รวมทั้งผมด้วยครับ

               สวัสดี
      บันทึกการเข้า
Manop Klabdee
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


พอเพียง มีสติ เกิดปัญญา
ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: 2513 วศ. รุ่นที่ 54
คณะ: วิศวกรรมศาสตร์ แผนกวิชาวิศวกรรมโยธา
กระทู้: 11,644

« ตอบ #4049 เมื่อ: 03 พฤศจิกายน 2554, 05:26:39 »

สวัสดีครับ ชาวซีมะโด่ง ที่รักทุกท่าน

                ช่วงนี้เป็นช่วงที่ประชาชน คนไทยประสพกับความเดือดร้อนเป็นอย่างหนัก จำนวนมาก ผมขอน้ำ "บุญกิริยา" ที่ท่านพระพรหมคุณาภรณ์ (ประยุทธ์ ปยุตโต) ได้แสดงไว้เอามาให้ทุกท่านได้ทบทวน
                สำหรับใครที่อยู่ในฐานะที่จะแบ่งปันให้กับเพื่อนมนุษย์ได้ ก็สมควรกระทำครับ
                อรุณสวัสดิ์ ทุกท่านครบ


บุญกิริยา
บุญ เพื่อสร้างสรรค์ชีวิตและชุมชน
พระพรหมคุณาภรณ์ (ประยุทธ์ ปยุตฺโต)

หลักการให้ที่ต้องรู้ไว้เพื่อทำบุญให้ถูกต้อง

              “บุญ” เป็นคำสื่อธรรมที่สำคัญคำหนึ่งในพระพุทธศาสนา ยิ่งเมื่อพระพุทธศาสนาเข้ามารุ่งเรืองในสังคมไทย คำว่า “บุญ” ก็ยิ่งมีความสำคัญโดดเด่นเป็นพิเศษ แม้เมื่อสังคมเหินห่างออกไปจากเนื้อหาสาระของพระพุทธศาสนา คนทั่วไปไม่มีโอกาสศึกษาขาดความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับหลักธรรมโนพระพุทธศาสนา แต่คำว่า “บุญ” ก็ยังเป็นคำสามัญในสังคมไทย ที่คุ้นปากชินใจและถูกนำมาใช้นำมาอ้างกันอยู่เสมอ แม้ว่าความหมายที่เข้าใจนั้น อาจจะลางเลือนหรือคลาดเคลื่อนออกไปจากหลักการที่แท้จริง
               เมื่อมีโอกาสจึงควรทบทวนหรือชำระสะสางความรู้ความเข้าใจให้ถูกต้องตรงตามหลักจึงเป็นแหล่งที่มาตัวจริง เพื่อว่าเราจะได้ปฏิบัติให้ถูกต้องและได้รับประโยชน์จาก “บุญ” อย่างเต็มเปี่ยมสมบูรณ์ยิ่งขึ้น ซึ่งก็หมายความว่าจะเข้าถึงคุณค่าที่แท้ของพระพุทธศาสนา อย่างน้อยไม่ปฏิบัติผิดพลาดจนกลายเป็นว่าจะทำบุญแต่กลับสร้างบาป
                คนไทยที่ใกล้วัดสักหน่อยจะจำได้แม่นว่า การทำบุญ มี 3 ทาง คือทาน ศีล ภาวนา แต่ความเข้าใจเกี่ยวกับคำทั้ง 3 นั้น อาจจะไม่ชัดเจนและไม่กว้างขวางเพียงพอ
                พุทธพจน์สำคัญแห่ง ซึ่งเป็นที่มาของหลักการทำบุญ 3 อย่างนี้ มีว่า
                “ภิกษุทั้งหลาย บุญกิริยาวัตถุ(หลักแห่งบุญกิริยา คือการทำบุญ) มี3 อย่าง ดังนี้ กล่าวคือ
                1. ทานมัย บุญกิริยาวัตถุ (หลักการทำบุญ คือทาน )
                2. ศีลมัย บุญกิริยาวัตถุ (หลักการทำบุญ คือ ศีล)
                3. ภาวนามัย บุญกิริยาวัตถุ (หลักการทำบุญคือ ภาวนา)
                          (ขุ.อิติ. 25/238/270)

            1. ทาน ได้แก่ การให้ การเผื่อแผ่แบ่งปัน
            2. ศีล ได้แก่ ความประพฤติสุจริต มีกาย วาจาที่เกื้อกูล ไม่เบียดเบียนกัน
            3. ภาวนา ได้แก่ การฝึกอบรมพัฒนาจิตใจเจริญ ปัญญา
                หลักการทำบุญ 3 อย่างนี้ มีความหมายและขอบเขตที่กว้างขวางมาก เกินความหมายของคำว่า"จริยธรรม" อย่างที่เข้าใจกันในปัจจุบัน พูดสั้นๆ ว่าครอบคลุมกระบวนการพัฒนามนุษย์ทั้งหมด แต่ในขั้นต้น จะเห็นความหมายพื้นฐานได้จากพุทธพจน์ที่ตรัสเป็นคาถาสรุปหลักการทำบุญ 3 อย่างข้างต้นนั้นว่า
                 ปุญฺญเมว โส สกฺเขยฺย อายตคฺคํ สุขุทฺรยํ
                 ทานญฺจ สมจริยญฺจ เมตฺตจิตฺตญฺจ ภาวเย
                 เอเต ธมฺเม ภาวยิตฺวา ตโย สุขสมุทฺทเย
                 อพฺยาปชฺฌํ สุขํ โลกํ ปณฺฑิโต อุปปชฺชติ ฯ
                              (ขุ.อิติ. 25/238/270)
                 แปลว่า : “คนผู้ใฝ่ประโยชน์ ควรศึกษาบุญนี่แหละ ซึ่งมีผลกว้างขวางยิ่งใหญ่ อำนวยสุขให้ คือควรเจริญทาน ควรพัฒนาความประพฤติที่ชอบธรรมและควรเจริญเมตตาจิต ครั้นเจริญธรรม 3 ประการนี้อันเป็นแหล่งที่ก่อเกิดความสุขแล้ว บัณฑิตย่อมเข้าถึงโลกที่เป็นสุข ไร้การเบียดเบียน”

มีข้อควรสังเกตในคาถาพุทธพจน์นี้ อย่างน้อย 3 ประการ
                  1) ตรัสว่า “ควรศึกษาบุญ” คือ ควรฝึกควรหัด ควรหมั่นทำ แสดงว่าบุญเป็นคุณสมบัติที่ควรศึกษา คือ ควรพัฒนาก้าวหน้าสูงขึ้นไป ไม่ใช่หยุดอยู่แค่เดิมและขั้นเดิม (ใน 3 ขั้นนั้น)
                  2) การทำบุญทั้ง 3 ขั้นนั้น ว่าโดยภาพรวมจะเห็นว่าทรงเน้นการอยู่ร่วมกันด้วยดี ด้วยการเกื้อกูลกันในสังคม เป็นพื้นฐานก่อน โดยเผื่อแผ่แบ่งปันกัน(ทาน) ไม่เบียดเบียนกัน (ศีล) และในขั้นภาวนา ทรงเน้นให้เจริญเมตตา คือความรักความหวังดี อยากให้คนอื่นเป็นสุข ให้ทำประโยชน์แก่กัน (เมตตา)
                  3) ผลจากการศึกษา คือพัฒนาบุญทั้ง 3 นี้ ก็จะเข้าถึงโลกที่เป็นสุข ไร้การเบียดเบียน

ทำไมบุญจึงเน้นทาน และเริ่มด้วยทาน
            ว่าที่จริง การที่พระพุทธเจ้าตรัสยก “ทาน” ขึ้นเป็นหลักการทำบุญข้อแรก ก็แสดงอยู่ในตัวแล้วว่าทรงเน้นการเภื้อกูลกันในสังคม แต่ก็ต้องถามต่อไปอีกว่าเหตุใดการเกื้อกูลกันในสังคม จึงต้องเริ่มต้นด้วยทาน
ด้วยการยกทานขึ้นตั้งเป็นข้อแรก พระพุทธศาสนาเน้นความสำคัญของวัตถุ
แต่พร้อมกันนั้น การที่พระพุทธเจ้าตรัสทานนั้นไว้ในหลักบุญกิริยา 3 ที่รวมกันเป็นชุด โดยมีศีล และภาวนามาต่อ ก็เป็นการบอกถึงขอบเขตความสำคัญของวัตถุ พร้อมทั้งสอนให้รู้จักใช้ประโยชน์จากวัตถุให้ถูกต้องด้วย
           วัตถุหลากหลาย โดยเฉพาะปัจจัย 4 เป็นสิ่งจำเป็นสำหรับการดำรงชีวิตของมนุษย์ และเป็นพื้นฐานที่มนุษย์ต้องอาศัยเพื่อก้าวต่อไปในการสร้างสรรค์สิ่งดีงามที่สูงขึ้นไป สังคมที่ดีจึงต้องวางระบบจัดสรรเพื่อเป็นหลักประกันให้มนุษย์ทุกคนที่เป็นสมาชิกของสังคมนั้นมีวัตถุโดยเฉพาะปัจจัย 4 นั้น เพียงพอแก่ความเป็นอยู่และเป็นพื้นฐานที่จะพัฒนาชีวิตให้ก้าวสูงขึ้นไป
           ในหลักการของพระพุทธศาสนา ที่เรียกว่า“ธรรมวินัย” นั้น ส่วนที่เรียกว่า วินัย ของพระภิกษุได้ให้ความสำคัญอย่างมากแก่การจัดสรรและปฏิบัติต่อวัตถุ โดยเฉพาะปัจจัย 4 นี้
ส่วนในสังคมใหญ่ของชาวบ้าน “ทาน” ก็เข้ามา ณ จุดนี้ด้วยเหตุผล 2 ประการ
           1) ด้านบุคคล : เนื่องจากความเป็นในการที่จะอยู่รอดและหาความสุข มนุษย์ทั้งหลายต่างก็ดิ้นรนแสวงหาวัตถุเสพบริโภคให้แก่ตน เมื่อทำเช่นนั้นอยู่เสมอก็จะเกิดความเคยชินของจิตใจที่มุ่งจะหาและคิดจ้องแต่จะได้จะเอา ตอกย้ำความเห็นแก่ตัว และถ้าทุกคนเป็นอย่างนั้น ก็จะมีแต่ความขัดแย้งแย่งชิงเบียดเบียนกัน
             เพื่อสร้างดุลยภาพขึ้นในจิตใจของคน ให้มีความคิดที่จะให้ขึ้นมาคู่กับความคิดที่จะได้จะเอา จึงให้มีหลัก “ทาน” ขึ้นมา เป็นการฝึกฝนขัดเกลาพฤติกรรมและจิตใจของมนุษย์ พร้อมกันนั้นก็เป็นการสร้างดุลยภาพขึ้นในสังคมไปพร้อมกันด้วย
             2) ด้านสังคม :ในการแสวงหาวัตถุ เซ่นปัจจัย 4นั้น มนุษย์มีโอกาส มีกำลัง มีสติปัญญาความสามารถไม่เท่ากัน เมื่อต่างคนต่างมุ่งแต่จะหาจะได้จะเอา คนที่มีโอกาส-กำลัง-ความสามารถมากกว่า ก็จะได้เปรียบ กอบโกยเอามาให้แก่ตน ตลอดจนข่มเหง รังแกครอบงำผู้อื่น ส่วนคนที่ด้อยโอกาส-กำลัง-ความสามารถ ก็จะขาดแคลนอดอยากแร้นแค้น มีความทุกข์มากและก็ต้องคอยหาทางแอบแฝงแย่งชิงเอาจากคนที่มีมากกว่า และคนที่มั่งมีนั้น ก็หาเป็นสุขได้จริงไม่ เมื่อมองโดยรวม ก็คือ เป็นสังคมแห่งการเบียดเบียน
             ด้วยเหตุนี้ นอกจากจะต้องมีการจัดตั้งวางระบบระเบียบในการอยู่ร่วมและสัมพันธ์กัน ไม่ให้คนละเมิดต่อกัน ด้วยกฎหมาย ข้อบังคับ หรือกติกาต่างๆ คือวินัยในขั้นของศีลแล้ว สิ่งที่เป็นพื้นฐานยิ่งกว่านั้น ก็คือ การปฏิบัติต่อวัตถุ เซ่นปัจจัย 4 นั้นเอง ให้เป็นเครื่องเกื้อหนุนความอยู่ดีร่วมกัน แทนที่จะให้วัตถุกลายเป็นเหตุแห่งการเบียดเบียนกัน ดังนั้น “ทาน” จึงเข้ามาทำหน้าที่นี้ เพื่อให้มีการแบ่งปันวัตถุแก่กัน ช่วยให้ผู้ด้อยโอกาส-กำลัง-ความสามารถ ก็เป็นอยู่ได้ และผู้มั่งมีก็อยู่เป็นสุขไม่ต้องหวาดระแวง ทำให้สังคมร่มเย็น มีสันติสุข
ทานในระบบของการทำบุญ
             อย่างไรก็ดี ความจำเป็นและความสำคัญของวัตถุ ก็มีขอบเขตที่ต้องสำนึกตระหนักไว้ การมีวัตถุเพียงพอ หรือพรั่งพร้อมเท่านั้น ยังไม่พอที่จะให้ชีวิตและสังคมดีงาม ถ้าไม่มีระบบการพัฒนามนุษย์ที่ถูกต้องวัตถุแม้แต่ที่พรั่งพร้อมก็จะเป็นโทษแก่มนุษย์เองอย่างน้อยก็ทำให้จมอยู่กับความฟุ้งเฟ้อลุ่มหลงมัวเมาประมาท และใช้วัตถุในทางที่ก่อผลร้าย
             การปฏิบัติที่ถูกต้องต่อวัตถุ คือ ให้มันเป็นพื้นฐานที่เราจะได้อาศัยในการที่จะนำชีวิตและสังคมก้าวขึ้นสู่ความดีงามและการสร้างสรรค์ที่สูงขึ้นไป ดังที่ทางพระเรียกวัตถุทั้งหลายว่า "ปัจจัย” บ้าง “นิสสัย” บ้าง คือมิใช่ให้ความพรั่งพร้อมทางเศรษฐกิจเป็นจุดหมาย แต่ให้เป็นเครื่องอาศัยเกื้อหนุน หรือเป็นตัวเอื้อต่อการพัฒนาชีวิตที่ประเสริฐ และการสร้างสรรค์สังคมที่เป็นสุข
             ที่พูดตรงนี้สำคัญมาก จะต้องย้ำกันให้มากว่าเราจะต้องมองวัตถุหรือความเจริญพรั่งพร้อมทางเศรษฐกิจเป็นปัจจัย คือเป็นเครื่องเกื้อหนุนให้เราก้าวขึ้นสู่ประโยชน์สุขความดีงามที่สูงขึ้นไป ไม่ใช่เป็นจุดหมาย
             ถึงตอนนี้ ทาน จึงเข้ามาอยู่ในระบบการพัฒนามนุษย์ที่มีองค์ร่วม 3 ซึ่งเรียกว่า บุญกิริยาวัตถุ โดยมีบุญกิริยาข้อที่ 2 และ 3 มาประสานและรับช่วงต่อ
             ทาน เป็นบุญกิริยา คือ การทำบุญ ซึ่งแปลง่ายๆก็คือการทำความดี เพราะบุญ แปลว่า ความดี แต่โดยตัวศัพท์เอง “บุญ” แปลว่า
               1) เครื่องชำระ สิ่งที่ทำให้สะอาด หรือคุณสมบัติที่ทำให้บริสุทธิ์
               2) คุณสมบัติที่ทำให้เกิดภาวะที่น่าบูชา คือ ควรยกย่องนับถือ.
            ทาน คือ การให้ หรือแบ่งปัน เป็นเครื่องชำระจิตใจให้บริสุทธิ์ในระดับหนึ่ง คือชำระล้าง หรือกำจัดกิเลส โดยเฉพาะความโลภ ความเห็นแก่ตัว ความมีใจคับแคบ ตระหนี่ และความเป็นทาสของวัตถุ พร้อมทั้งทอนกำลังของความยึดติดถือมั่นในตัวตนให้เบาบางลดน้อยลง ทำให้ใจเปิดกว้างและเป็นอิสระมากขึ้น จึงเป็นการเตรียมจิตใจให้พร้อม ที่จะบ่มเพาะเพิ่มพูนคุณความดีและการทำบุญอื่นๆ ที่สูงขึ้นไป
             ดังนั้น ทาน นอกจากเป็นเครื่องเกื้อหนุนสังคมในทางวัตถุด้วยการกระจายฟังบริโภคให้ทั่วถึงกัน ลดความกดดันในสังคม และยึดเหนี่ยวสังคมให้มีเอกภาพให้คนเป็นอยู่โดยไม่ต้องเบียดเบียนแย่งชิงกัน เป็นเครื่องสนับสนุน "ศีล" แล้ว ก็ช่วยให้ก้าวต่อไปใน "ภาวนา" ด้วย เริ่มด้วยเป็นปัจจัยต่อกันกับเมตตา พร้อมกับพัฒนาความสุข
            เมื่อคิดจะได้จะเอา เราจะมองหรือจ้องไปที่วัตถุแล้วพร้อมกันนั้นก็จะเกิดความรู้สึกหวาดระแวงต่อคนอื่น ทำให้เกิดทัศนคติต่อเพื่อนมนุษย์แบบเป็นคู่แข่งหรือเป็นปฏิปักษ์ การคิดจะได้จะเอา จึงเป็นปัจจัยแก่โทสะ ซึ่งนำไปสู่ความขัดแย้ง แล้วทุกข์และปัญหาก็ตามมา
            แต่เมื่อคิดจะให้ เราจะมองไปที่คน จะเห็นหน้าตา เห็นสุขทุกข์ และความต้องการของเขา ความเข้าใจเห็นใจจะเกิดขึ้น แล้วก็จะเกิดเมตตา (ความต้องการให้เขาเป็นสุข) และกรุณา (ความต้องการให้เขาพ้นจาก ทุกข์ )
            เมื่อเกิดความต้องการใหม่นั้น คือ ความต้องการให้คนอื่นพ้นจากทุกข์ (กรุณา) และความต้องการให้เขาเป็นสุข (เมตตา) เราก็หาทางสนองความต้องการนั้นของเรา ด้วยการพยายามช่วยให้เขาพ้นจากทุกข์และมีความสุข และเมื่อนั้น การให้แก่เขาก็กลายเป็นการสนองความต้องการของเรา แต่เป็นความต้องการที่เป็นบุญเป็นกุศล ที่เรียกว่า เมตตากรุณา และเมื่อได้สนองความต้องการนั้นแล้ว เราก็มีความสุข ถึงตอนนี้การให้ก็กลายเป็นความสุข
            โดยนัยนี้ ทานบุญกิริยา คือ การทำบุญด้วยการให้ จึงเป็นปัจจัยแก่ภาวนา ในด้านการพัฒนาจิตใจชึ่งทำให้เกิดทั้งเมตตา กรุณา และความสุข และความสุขนั้นก็เป็นความสุขแบบประสาททั้งสองฝ่าย คือ ทั้งผู้รับก็เป็นสุข และผู้ให้ก็มีความสุข เสริมสร้างไมตรีระหว่างกัน ต่างจากความสุขจากการได้ ชึ่งเป็นความสุขแบบแบ่งแยกและแก่งแย่ง ทีฝ่ายหนึ่งได้ อีกฝ่ายหนึ่งก็เฉยหรืออด ฝ่ายหนึ่งสุข อีกฝ่ายหนึ่งทุกข์
               เมื่อทั้งสองฝ่ายเป็นสุขด้วยกัน ก็คือโลกนี้เป็นสุขบุญจึงเป็นคุณสมบัติที่นำมาซึ่งความสุข ดังพุทธพจน์ว่า
                   สุขสฺเสตํ ภิกฺขเว อธิวจนํ อิฏฺฐสฺส กนฺตสฺส
                   ปิยสฺส มนาปสฺส ยทิทํ ปุญฺญานิฯ
                   (ขุ.อิติ. 25/200/240)
            แปลว่า : “ภิกษุทั้งหลาย คำว่าบุญนั้นเป็นชื่อของความสุข ที่น่าปรารถนา น่าใคร่ น่ารัก น่าพอใจ”
พร้อมกันนั้น บุญขั้นภาวนา ซึ่งในกรณีนี้ คือเมตตากรุณาและความสุข ก็ย้อนกลับมาเป็นปัจจัยแก่ทาน ทำให้เต็มใจและมีความพร้อมที่จะให้ยิ่งขึ้น
จะเห็นว่า การทำบุญที่เรียกว่าทานนี้ ก็คือการช่วยเหลือเกื้อกูลกันด้านปัจจัยยังชีพและวัตถุเครื่องใช้สอยต่างๆ แก่เพื่อนมนุษย์ ตลอดจนสัตว์ร่วมโลกทั้งหลาย ซึ่งเป็นการยึดเหนี่ยวสังคม (=สังคหะ/ทำให้สังคมมั่นคงและมีเอกภาพ) พร้อมกันไปกับการฝึกฝนพัฒนาตนเอง (=สิกขา/ศึกษา)

บุญในข้อทานนี้โดยทั่วไป จะทำใน 2 กรณี คือ
           1. เพื่ออนุเคราะห์คือ ช่วยเกื้อหนุนคนตกทุกข์ได้ยาก อดอยาก ยากไร้ ขาดแคลน หรือประสบภัยพิบัติให้เขามีโอกาสเป็นอยู่และตั้งตัวขึ้นมา
           2. เพื่อบูชาคุณ คือ ให้เพื่อยกย่องเชิดชูผู้มีพระคุณ เริ่มแต่พ่อแม่ หรือผู้มีคุณธรรมความดี ที่จะนำคนก้าวไปในการทำความดี และเป็นแบบอย่างแก่    สังคม และสนับสนุนผู้ที่ทำคุณประโยชน์ให้มีกำลังที่จะทำความได้ยิ่งขึ้นไป
            นอกเหนือจากนี้ไปก็เป็นการให้เพื่อแสดงน้ำใจสงเคราะห์กันตามปกติ ด้วยเมตตาไมตรี เช่นชาวบ้านแต่ก่อน วันไหนทำกับแกงแปลกๆ ก็แบ่งเอาไปให้เพื่อนบ้าน ใกล้เคียง
            ในสมัยโบราณ บางท่านถึงกับถือเป็นวัตร (ข้อปฏิบัติที่ต้องทำเพื่อฝึกตนเป็นประจำ) ว่า ทุกวันตื่นนอนขึ้นมาแล้ว ถ้ายังไม่ได้ให้อะไรแก่ใคร จะยังไม่รับประทานอาหาร (ถ้าถืออย่างจริงจัง จะเป็นส่วนหนึ่งของการบำเพ็ญบารมี)
 
      บันทึกการเข้า
  หน้า: 1 ... 160 161 [162] 163 164 ... 681   ขึ้นบน
  
กระโดดไป:  

     

สมาคมนิสิตเก่าหอพักนิสิต จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย มวลสมาชิกสมาคม คณาจารย์ และนิสิตเก่าทุกคน ขอน้อมเกล้าถวายความอาลัย  พระผู้เสด็จสู่สวรรคาลัย ด้วยเกล้าด้วยกระหม่อม ขอเดชะ <;))))><