churaipatara
|
|
« ตอบ #16575 เมื่อ: 12 กุมภาพันธ์ 2559, 15:20:32 » |
|
|
|
|
|
churaipatara
|
|
« ตอบ #16576 เมื่อ: 12 กุมภาพันธ์ 2559, 15:44:55 » |
|
สำหรับเด็ก สภาพแวดล้อมที่มีสิ่งกระตุ้นมากเกินไป ได้แก่ ห้องที่มีของเล่นมากเกินไป การเปิดโทร-
ทัศน์ทั้งวัน เปิดวิทยุเสียงดัง หรือสภาพบ้านที่ยุ่งเหยิงวุ่นวายมีคนอยู่แออัด ส่งเสียงดังไม่มีเวลาสงบ
เลย ก็อ่จทำให้เด็กเกิดการตื่นตัวมากเกินไปและตั้งสมาธิไม่ได้ -สภาพอารมณ์ที่ไม่ดี เช่น โกรธ หงุด-
หงิด วิตกกังวลหรือเศร้า ก็ทำให้สมาธิไม่ดี ทั้งนี้เพราะสมองที่ควบคุมอารมณ์นั้น ทำงานเกี่ยวข้องกับ
ส่วนที่ควบคุมสมาธิ เด็กบางคนสติปัญญาดี เคยเรียนได้เกรดสี่มาตลอด แต่พอมีอารมณ์เศร้า...
|
|
|
|
churaipatara
|
|
« ตอบ #16577 เมื่อ: 12 กุมภาพันธ์ 2559, 15:49:57 » |
|
|
|
|
|
churaipatara
|
|
« ตอบ #16578 เมื่อ: 12 กุมภาพันธ์ 2559, 16:30:17 » |
|
การเรียนอาจตกลงจนเหลือเกรดหนึ่งก็ได้ เด็กบางคนมีความวิตกกังวลเกี่ยวกับพ่อแม่จนไม่เป็นอัน
เรียนหนังสือ -โรคบางชนิด เช่น โรคต่อมธัยรอยด์เป็นพิษ ทำให้ร่างกายมีการเผาผลาญพลังงาน -
มาก มีการเคลื่อนไหวมาก อยู่ไม่นิ่่งและวอกแว่กได้ -ยาหรือสารบางอย่าง เช่น ยาขยายหลอดลม
หรือยาลดน้ำมูกบางชนิด หากได้รับมากเกินขนาดอาจกระตุ้นระบบประสาทอัตโนมัติ และทำให้สมา-
ธิวอกแวก ซนอยู่ไม่นิ่งได้ ยากันชักบางชนิดอาจทำให้เด็กบางคนอยู่ไม่นิ่ง สารเสพย์ติดบางอย่าง...
|
|
|
|
churaipatara
|
|
« ตอบ #16579 เมื่อ: 12 กุมภาพันธ์ 2559, 16:34:00 » |
|
|
|
|
|
churaipatara
|
|
« ตอบ #16580 เมื่อ: 12 กุมภาพันธ์ 2559, 16:35:15 » |
|
พบกันใหม่วันจันทร์ค่ะ ขอให้ทุกคนทุกคู่ทุกครอบครัวมีความสุขสดชื่นในวันหยุดนี้นะคะ บ๊ายยย
|
|
|
|
churaipatara
|
|
« ตอบ #16581 เมื่อ: 12 กุมภาพันธ์ 2559, 16:36:27 » |
|
|
|
|
|
Pete15
|
|
« ตอบ #16582 เมื่อ: 14 กุมภาพันธ์ 2559, 20:53:16 » |
|
สวัสดี ครับ น้องเอ๋ Happy Valentine's Day เพิ่งกลับมาจาก เกาะสีชัง พี่เก่า ชาวหอ ไปเชียร์ฟุตบอล ที่เกาะ วันที่ 13-14 จัดโดย สมาคม ซีมะโด่ง........ (ผู้สูงวัย หลบ กทม. ไปหาที่ คุยกัน ซะมากกว่า ประมาณ 75 ท่าน) ....ครับ
|
|
|
|
churaipatara
|
|
« ตอบ #16583 เมื่อ: 15 กุมภาพันธ์ 2559, 12:01:33 » |
|
สวัสดีค่ะพี่ปี๊ด
ดีจังเลยค่ะพี่ๆน้องๆได้พบปะกันคุยกัน ขอให้พี่ปี๊ดมีความสุขสดชื่นเช่นกันนะคะ
|
|
|
|
churaipatara
|
|
« ตอบ #16584 เมื่อ: 15 กุมภาพันธ์ 2559, 12:05:35 » |
|
|
|
|
|
churaipatara
|
|
« ตอบ #16585 เมื่อ: 15 กุมภาพันธ์ 2559, 12:23:04 » |
|
วันหยุดผ่านไปอย่างรวดเร็ว วันเสาร์สอนหนังสือเด็กๆ มีดญ.เรียบร้อยน่ารักมาเพิ่มอีกคนนึง สอนทั้ง
วันเพลินๆแป้ปเดวหมดวัน ..วันอาทิตย์วันแห่งความรัก ไปให้กำลังใจเด็กๆที่นอนป่วยในรพ.ศรีสะเกษ
เต็มทุกเตียงทั้งชั้นบนและล่าง ญาติพี่น้องของคนป่วยอีก เด็กๆเล่นเต็มสนามเด็กเล่นข้างตึก ..ดีที่เอ๋
เตรียมแบบระบายสี กล่องสีฯ ไปเผื่ออยู่จึงให้ได้ครบทุกคนค่ะ..
|
|
|
|
churaipatara
|
|
« ตอบ #16586 เมื่อ: 15 กุมภาพันธ์ 2559, 12:27:27 » |
|
|
|
|
|
churaipatara
|
|
« ตอบ #16587 เมื่อ: 15 กุมภาพันธ์ 2559, 12:35:59 » |
|
ช่วงว่างจากงานติดตามดูหนังเรื่องPRIDE+PREJUDICE+ZOMBIES สนุกมากค่ะเรื่องนี้มีฉากต่อสู้
เยอะอยู่คงไม่เหมาะกับเด็กๆ DEAD POOL ก้อเช่นกัน ..เด็กๆน่าจะพอดู ไซอิ๋ว ได้ ..และ เมื่อวาน
ดูหนังรักสไตล์ลูกทุ่งๆรับวันวาเวนไทน์ คือเรื่องลูกทุ่งซิกเนเจอร์ ได้ฟังเพลงลูกทุ่งเพราะมากหลาย
เพลงเลยละค่ะ...
|
|
|
|
churaipatara
|
|
« ตอบ #16588 เมื่อ: 15 กุมภาพันธ์ 2559, 12:38:07 » |
|
|
|
|
|
churaipatara
|
|
« ตอบ #16589 เมื่อ: 15 กุมภาพันธ์ 2559, 13:33:32 » |
|
สาระน่ารู้(ต่อ)
...ก็ทำให้ใจลอยและไม่มีสมาธิได้เช่นกัน -ปัญหาทางสมอง เช่น สมองเคยได้รับความกระทบกระ-
เทือนเนื่องจากอุบัติเหตุหรือมีโรคติดเชื้อ ในระยะต่อมาเมื่อผู้ป่วยฟื้นตัวขึ้นแล้ว อาจมีอาการสมาธิ
ไม่ดี วอกแวก และซนไม่อยู่นิ่ง -การอบรมเลี้ยงดูที่ไม่มีระเบียบวินัย การเลี้ยงดูที่ปล่อยให้เด็กทำ-
อะไรก็ได้ตามใจชอบ ไม่เคยฝึกให้อดทนและนั่งทำงานจนเสร็จ ไม่เคยฝึกการรอคอยหรือฝึกระ-
เบียบวินัย ก็ทำให้เด็กควบคุมตนเองไม่ได้ มีลักษณะอยู่ไม่นิ่งและไม่มีสมาธิได้...
|
|
|
|
churaipatara
|
|
« ตอบ #16590 เมื่อ: 15 กุมภาพันธ์ 2559, 13:35:12 » |
|
อุทยานหลวงราชพฤกษ์ เชียงใหม่
|
|
|
|
churaipatara
|
|
« ตอบ #16591 เมื่อ: 15 กุมภาพันธ์ 2559, 13:58:17 » |
|
-โรคสมาธิบกพร่อง สาเหตุที่สำคัญมากที่ทำให้เด็กไม่มีสมาธิก็คือ โรคสมาธิบกพร่อง ..จะเห็นได้ว่า
มีสาเหตุหลายประการที่ทำให้เด็กไม่มีสมาธิ ในเด็กคนหนึ่งๆอาจไม่มีสมาธิเนื่องมาจากสาเหตุหลาย
อย่างร่วมกัน ดังนั้นในการช่วยเหลือให้เด็กมีสมาธิดีขึ้นนั้น เราจะต้องพิจารณาอย่างละเอียดว่ามีสา -
เหตุอะไรบ้าง และพยายามแก้ไขสาเหตุต่างๆให้ได้มากที่สุด...อาการไม่มีสมาธิในเด็กจำนวนมากแก้
ได้ไม่ยาก เช่น หากจัดสภาพแวดล้อมให้ดี ไม่ให้มีสิ่งกระตุ้นมากเกินไป ...
|
|
|
|
churaipatara
|
|
« ตอบ #16592 เมื่อ: 15 กุมภาพันธ์ 2559, 14:01:01 » |
|
|
|
|
|
churaipatara
|
|
« ตอบ #16593 เมื่อ: 16 กุมภาพันธ์ 2559, 12:45:43 » |
|
สวัสดีค่ะ วันนี้ศรีสะเกษกลับมาหนาวเย็นอีกรอบแล้ว..
สาระน่ารู้(ต่อ)
-..(ไม่ให้มีของเล่นมาก ไม่เปิดทีวีอยู่ตลอดวัน หรือพาไปศูนย์การค้าบ่อยๆ)และฝึกระเบียบวินัยให้ดี
ให้รู้จักควบคุมตนเองและรู้จักอดทน เด็กก็มักจะมีสมาธิดีขึ้น แต่หากพยายามแก้ปัญหาด้วยวิธีที่กล่าว
มาแล้วไม่ได้ผล ก็ควรพาเด็กมาพบแพทย์เพื่อตรวจหาสาเหตุอื่นๆที่ต้องอาศัยการบำบัดรักษาเป็นพิ-
เศษ เช่น โรคทางกายหรือโรคสมาธิบกพร่อง เป็นต้น ...
|
|
|
|
churaipatara
|
|
« ตอบ #16594 เมื่อ: 16 กุมภาพันธ์ 2559, 12:47:48 » |
|
|
|
|
|
churaipatara
|
|
« ตอบ #16595 เมื่อ: 16 กุมภาพันธ์ 2559, 12:57:18 » |
|
โรคสมาธิบกพร่องเป็นที่รู้จักกันมานานแล้วในต่างประเทศ ในสมัยก่อนมีชื่อเรียกต่างๆกัน เช่น minimal
brain dysfunction ซึ่งหมายถึง ความผิดปกติเล็กน้อยของสมอง หรือโรค hyperactive ซึ่งหมายถึงมี-
อาการเคลื่อนไหวที่มากเกินไปหรืออยู่ไม่นิ่ง ต่อมาการวิจัยพบว่าปัญหาสำคัญของโรคนี้ คือความบก -
พร่องของสมาธิ จึงเรียกว่า Attention Deficit Disorder (ADD) หรือ Attention Deficit Hyperactivity
Disorder (ADHD) ปัจจุบันทางการแพทย์นิยมเรียกชื่อหลังมากกว่า ...
|
|
|
|
churaipatara
|
|
« ตอบ #16596 เมื่อ: 16 กุมภาพันธ์ 2559, 12:59:12 » |
|
|
|
|
|
churaipatara
|
|
« ตอบ #16597 เมื่อ: 16 กุมภาพันธ์ 2559, 13:06:41 » |
|
ADHD เป็นปัญหาที่พบบ่อยที่สุดปัญหาหนึ่งของเด็ก โรคนี้พบในอัตราร้อยละ 3-10 ในเด็กวัยเรียน
มากกว่าครึ่งหนึ่งของเด็กที่ผู้ปกครองนำมาพบจิตแพทย์จะเป็นโรคนี้ ในสหรัฐอเมริกาพบโรคนี้มาก
กว่าร้อยละ5 ในเด็กวัยเรียน และร้อยละ50 ในเด็กที่มารับการตรวจในคลีนิกจิตเวช ในประเทศเยอร-
มนี พบถึงร้อยละ9 ในเด็กทั่วไป สำหรับประเมศไทยพบร้อยละ5 ในปัจจุบันเด็กที่ถูกพ่อแม่นำมา -
ปรึกษาแพทย์ด้วยเรื่องไม่มีสมาธินั้นมีจำนวนเพิ่มขึ้นตลอดเวลา...
|
|
|
|
churaipatara
|
|
« ตอบ #16598 เมื่อ: 16 กุมภาพันธ์ 2559, 13:09:20 » |
|
|
|
|
|
churaipatara
|
|
« ตอบ #16599 เมื่อ: 16 กุมภาพันธ์ 2559, 14:00:32 » |
|
การวิจัยในปัจจุบันเชื่อว่า ADHA เกิดจากความบกพร่องในการเติบโตและพัฒนาของสมอง เด็กส่วน-
ใหญ่ที่ได้รับการวินิจฉัยว่าเป็น ADHD ไม่เคยมีอุบัติเหตุทางสมองหรือการคลอดที่ผิดปกติ ส่วนใหญ่
เป็นเด็กที่แข็งแรง แต่กระบวนการเติบโตของสมองมีความบกพร่อง สมองจึงทำงานได้ไม่ดีพอ ความ
บกพร่องของสมองที่นักวิจัยค้นพบนั้น เป็นความบกพร่องในการทำงานไม่ใช่ทางรูปร่างหรือโครงสร้าง
และเป็นความบกพร่องเพียงเล็กน้อยเท่านั้น...
|
|
|
|
|