14 พฤษภาคม 2567, 05:50:40
ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน


เข้าสู่ระบบด้วยชื่อผู้ใช้ รหัสผ่าน [สมาชิกเก่าลืมรหัส โทร 081-7611760]
A A A A  ระเบียบปฎิบัติ
   
Languages    
  หน้า: 1 ... 310 311 [312] 313 314 ... 681   ลงล่าง
ผู้เขียน หัวข้อ: คุย กับ คุณมานพ กลับดี อดีตประธานชมรม ๓ สมัย  (อ่าน 3255081 ครั้ง)
0 สมาชิก และ 4 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
suriya2513
Cmadong ชั้นเซียน
*****


ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 9,457

« ตอบ #7775 เมื่อ: 14 ธันวาคม 2555, 15:28:15 »

อ้างถึง
ข้อความของ Manop  Klabdee เมื่อ 14 ธันวาคม 2555, 14:23:56
 
                       ดร.สุริยา  ช่วยตรวจสอบด้วย

                         คุณมิ้ง  บอกว่า พี่พงษ์  จิรโสโภณ   ป่วยเป็นโรคมะเร็ง 

                         อีกท่านหนึ่ง  จริงหรือไม่

                         ใจหายเหมือนกัน  เมื่อทราบข่าว

                         จะได้ไปเยี่ยมเยือน เพราะเป็นคนโสด  คงจะทำใจยาก  ไร้ญาติมิตร (เพราะไม่มีเมีย)

                         สวัสดี

 

ข่าวบอกเล่ามาโดยพี่สว.ชรินทร์ หาญสืบสาย เมื่อวันที่ไปเยี่ยมแต๋ง วัฒนา
กรรมการสมาคมซีมะโด่งกำลังหาข่าวเพิ่มเติมอยู่ ถ้าพร้อมจะจัดไปพบ เพื่อให้กำลังใจพี่เขาทันที
      บันทึกการเข้า

[โบราณคดี]จุดกำเนิดเริ่มต้นของ cmadong.com by : มานพ กลับดี  คลิ๊ก->
suriya2513
Cmadong ชั้นเซียน
*****


ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 9,457

« ตอบ #7776 เมื่อ: 14 ธันวาคม 2555, 16:46:41 »

อยากให้น้องตู่ กับ สิงห์ มานพ เอาโปรแกรมย่อภาพนี้ไปทดลองใช้กันดูหน่อยครับ

้http://www.cmadong.com/download/program_resize.exe
คลิ๊กที่ link แล้ว save เอาไว้ ได้เรียบร้อยก็ คลิ๊กขวาที่ื่ชื่อแล้วเลือก open
      บันทึกการเข้า

[โบราณคดี]จุดกำเนิดเริ่มต้นของ cmadong.com by : มานพ กลับดี  คลิ๊ก->
Manop Klabdee
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


พอเพียง มีสติ เกิดปัญญา
ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: 2513 วศ. รุ่นที่ 54
คณะ: วิศวกรรมศาสตร์ แผนกวิชาวิศวกรรมโยธา
กระทู้: 11,644

« ตอบ #7777 เมื่อ: 14 ธันวาคม 2555, 17:01:15 »

สวัสดีครับ ชาวซีมะโด่ง ที่รักทุกท่าน

                                  ได้สอบถามกับคุณสุภาณี  เป็นที่เรียบร้อยแล้ว ได้เรื่องว่า

                                   พี่พงษ์   จิระโสภณ  ป่วยเป็นโรคมะเร็งจริงที่กระดูก เชื่อได้กระจายไปถึงปอดเพราะว่า น้ำในปอดมีเชื้อมะเร็ง

                                   พักอยู่ที่ห้อง 715  โรงพยาบาลจุฬาภรณ์

                                   ใครจะไปเยี่ยมต้องรีบแล้ว  ตามสิ่งที่รู้มา ตัวอย่างพี่กุ้ง  มะเร็งถึงปอดเมื่อใด  เวลาเหลือน้อยเต็มที

                                    ผมเองกลับเย็นวันเสาร์  วันอาทิตย์จะพยายามไปเยี่ยมให้ทันการณ์ ครับ

                                    ใครระลึกถึงพี่พงษ์    จิระโสภณ     ก็ต้องไปเยี่ยมเยือนกันแล้วครับ

                                    ก็เรียนให้ทราบตามที่รู้มา  หวังว่าไม่ผิดหลักการทางการแพทย์

                                    สวัสดีครับ
      บันทึกการเข้า
Manop Klabdee
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


พอเพียง มีสติ เกิดปัญญา
ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: 2513 วศ. รุ่นที่ 54
คณะ: วิศวกรรมศาสตร์ แผนกวิชาวิศวกรรมโยธา
กระทู้: 11,644

« ตอบ #7778 เมื่อ: 14 ธันวาคม 2555, 17:28:53 »

สวัสดีครับ ชาวซีมะโด่ง และแขกผู้มาเยือน ที่รักทุกท่าน

                                  โรคมะเร็งมันเป็นโรคร้าย เป็นภัยเงียบ  ไม่รู้ว่าเราจะ เป็นหรือไม่  ตรวจพบทีไรก็เกือบสาย  หรือสายเกินไปทุกที  อย่าวันนี้เมื่อทราบเรื่องพี่พงษ์   จิระโสภณ  แล้วกลับมาโรงแรมคุณจุ๊  ฝ่ายบัญชีก็สอบถาม อาจารย์มียาแก้โรคมะเร็งไม? พี่ชายสามีเป็นโรคมะเร็ง เพิ่งเจอ ผลปรากฏคือ พี่สาว-น้องสาว ป่วยแทนคนเป็นมะเร็งเสียอีก เมื่อรู้ว่าโอกาศจากไปมีสูงมาก มันเป็นเช่นนั้นจริง ๆ

                                   ผมก็เลย copy files และสอนเล็กน้อยในการดูแลโรคมะเร็ง คืออย่าให้อาหารมัน  ให้มันอดอาหารจนตาย ให้ทราบและบอกไปว่า พระพุทธองค์สอนว่า เกิด  แก่  เจ็บ  ตายเป็นเรื่องธรรมดา เราต้องอยู่ด้วยความมีสติ  เป็นจริง  ใช้ปัญญา  อย่าตกเป็นธาตุของความคิด  ทางที่ดีที่สุดคือ เรื่องของใครก็ของมัน เราเพียงรักษากาย  วาจา   ใจ  ของเราให้เป็นปกติ ไม่ทำให้ตัวเอง ครอบครัว  ผู้อื่นเดือดร้อนเป็นใช้ได้  นี่เล่นไปทุกข์แทนคนเจ็บไม่ดีเลย  เอาไปคิดเสียใหม่

                                    เราจะป้องกันโรคมะเร็งได้อย่างไร !

                                    เราคงต้องกลับมาสู่พื้นฐานการดูแลร่างกาย คือ รับประทานอาหารตรงเวลา  มีประโยชน์  ไม่มากเกินไป  งดโปรตีนที่มาจากเนื้อสัตว์ หรือกินให้น้อยลง  ออกกำลังกาย  นอนหัวค่ำ  และเจริญสติอยู่เป็นนิจ

                                    ขอเน้นกินเนื้อสัตว์ให้น้อยลง หรือไม่กินเลย  กินโปรตีนจากถั่ว  โดยเฉพาะถั่วแระ ครับ

                                    กรณีเจ็บป่วยเราอย่าประมาท ว่าเราแข็งแรง  ตรวจร่างกายทุกปี  พี่พงษ์  คุณวัฒนา  ก็ตรวจร่างกายทุกปี  ยังไม่เจอเลย  มารู้ตัวก็เกือบสาย  หรือสายไปเสียแล้ว มันเป็นเช่นนี้จริงๆ 

                                    ดังนั้นเวลา ร่างกายผิดปกติ  อย่าดื้อแพ่ง  รีบไปโรงพยาบาลดีกว่า  หาสาเหตุแท้จริง  อาจพบระยะแรก  เราก็รอดจากมะเร็งได้ ครับ

                                    ว่าแต่เขา  ผมต้องไปเช็คร่างกายประจำปีเสียแล้ว  ให้รางวัลกับตัวเอง  ครบกำหนดพอดี  ก่อนสิ้นปีนี้

                                     มะเร็งไม่เข้าใครออกใครครับ  ได้ทราบจากพวกพยาบาลว่า หลวงพ่อคำเขียน  ท่านก็เป็นมะเร็ง  จริงเท็จไม่ทราบเหมือนกัน  ทั้งๆที่ท่านมีสติดี  แต่คงมาจากอาหารที่ท่านต้องรับประทานจากชาวบ้านที่มาใส่บาตร  ซึ่งเป็นอาหารชั้นเลิศประกอบไปด้วยโปรตีนจากเนื้อสัตว์ มานาน  จึงสะสม  ทำให้เกิดมะเร็งได้

                                     ข้อสังเกตุ   ผู้ใดที่ซูบผอม  หน้าดำ  ใบหน้าไม่มีราศรี  ร้อยทั้งร้อยเป็นมะเร็ง  แต่มันเลยระยะแรกไปแล้ว มันจะแสดงออกที่ใบหน้า และร่างกาย   ขอให้สังเกตุตัวเองเอาไว้ด้วย

                                      รวมทั้งท่านที่ไม่กินข้าว  ปวดท้อง  ไม่ถ่าย  ตัวดีละมะเร็งกระเพาะอาหาร มะเร็งลำใส้ยอดฮิตเลย

                                      ก็เรียนให้ทราบ  จะได้ดูแลตัวเองกัน  ด้วยความเป็นห่วงครับ

                                      สวัสดี
      บันทึกการเข้า
Manop Klabdee
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


พอเพียง มีสติ เกิดปัญญา
ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: 2513 วศ. รุ่นที่ 54
คณะ: วิศวกรรมศาสตร์ แผนกวิชาวิศวกรรมโยธา
กระทู้: 11,644

« ตอบ #7779 เมื่อ: 14 ธันวาคม 2555, 17:30:36 »

คีโม กับ มะเร็ง เรื่องจริงที่ หมอ ไม่ได้บอก

คีโมกับมะเร็งและการดำรงชีวิต ( ดีมาก ๆ)

              หลังจากหลายปี ที่พูดกันว่า การทำคีโมเป็นทางเลือกเดียวที่จะลอง และใช้ในการกำจัดโรคมะเร็ง ในที่สุดโรงพยาบาลจอห์นฮอพกินส์ ก็เริ่มแนะนำถึงทางเลือกอื่นๆอีก

ข้อมูลล่าสุดเกี่ยวกับโรคมะเร็งจาก รพ.จอห์น ฮอพกินส์

                         1. ทุกๆคนมีเซลมะเร็งอยู่ในร่างกาย เซลมะเร็งเหล่านี้จะไม่ปรากฎด้วยวิธีการตรวจสอบตามมาตรฐาน จนกระทั่งมันขยายตัวเพิ่มขึ้นในระดับพันล้านเซล(1,000,000,000 เซล) เมื่อแพทย์บอกว่าไม่มีเซลมะเร็งในร่างกายผู้ป่วยโรคมะเร็งที่ได้รับการรักษาแล้ว มันหมายถึงว่า ระบบไม่สามารถตรวจสอบเซลมะเร็งได้ เพราะว่า จำนวนของมันยังไม่มากพอจนถึงระดับที่สามารถตรวจจับได้เท่านั้น

                         2. เซลมะเร็งเกิดขึ้นระหว่าง 6 ถึงมากกว่า 10 ครั้งในช่วงอายุของคนๆหนึ่ง

                         3. เมื่อระบบภูมิคุ้มกันของร่างกายแข็งแรงเพียงพอ เซลมะเร็งจะถูกทำลายและป้องกันไม่ให้เกิดการขยายตัวและกลายเป็นเนื้องอก

                         4. เมื่อใครก็ตามเป็นมะเร็ง มันกำลังบอกว่า คนๆนั้นมีความบกพร่องหลายประการ เกี่ยวกับโภชนาการ ซึ่งอาจเกิดจากยีนสิ่งแวดล้อม อาหาร และปัจจัยอื่นๆ ในการดำรงชีวิต

                         5. เพื่อเอาชนะภาวะบกพร่อง หลายประการ เกี่ยวกับโภชนาการ การเปลี่ยนแปลงประเภทของอาหาร รวมทั้งสารอาหารบางอย่างจะช่วยให้ภูมิคุ้มกันแข็งแรงขึ้น
 
                         6. การทำคีโม คือการให้สารเคมีที่มีความเป็นพิษกับเซลมะเร็งที่กำลังเติบโตอย่างรวดเร็ว แต่ขณะเดียวกัน มันก็จะทำลายเซลที่ดีที่กำลังเติบโตอย่างรวดเร็วในไขกระดูก ทำลายระบบทางเดินอาหาร ฯลฯ และเป็นสาเหตุทำให้อวัยวะบางส่วนถูกทำลาย เช่น ตับ ไต หัวใจ ปอด ฯลฯ

                         8. การบำบัดโดยคีโม และการฉายรังสีมักจะช่วยลดขนาดของเนื้องอกได้ในช่วงแรกๆ อย่างไรก็ตามถ้าทำไปนานๆ พบว่า มักไม่ส่งผลต่อการทำลายเซลเนื้องอก

                         9. เมื่อร่างกายได้รับสารพิษจากการทำคีโม หรือการฉายรังสีมากเกินไป ระบบภูมิคุ้มกันอาจปรับตัวเข้ากันได้ หรือไม่ก็อาจถูกทำลายลง ดังนั้น คนๆนั้น จึงอาจตกอยู่ในอันตรายจากการติดเชื้อหลายชนิดและทำให้โรคมีความซับซ้อนยิ่งขึ้น

                        10. การทำคีโม และการฉายรังสี อาจเป็นสาเหตุ ทำให้เซลมะเร็งกลาย พันธุ์ ดื้อยา และยากต่อการทำลาย การผ่าตัดก็อาจเป็นสาเหตุทำให้เซลมะเร็งกระจายไปทั่วร่างกาย

                        11. วิธีที่ดีที่สุดในการทำสงครามกับมะเร็ง คือการไม่ให้เซลมะเร็งได้รับอาหารเพื่อนำไปใช้ในการขยายตัว



อะไรคืออาหารที่ป้อนให้กับเซลมะเร็ง

                                   A. น้ำตาล คือ อาหารของมะเร็ง การตัดน้ำตาล คือการตัดแหล่งอาหารสำคัญที่จ่ายให้กับเซลมะเร็ง สารทดแทนน้ำตาล อย่างเช่น "นิวตร้าสวีต" "อีควล" "สปูนฟูล" ฯลฯ ล้วนทำมาจากสารให้ความหวาน ซึ่งเป็นอันตราย สารทดแทนซึ่งเป็นกลางที่ดีกว่า คือ
น้ำผึ้งมานูคา (จากนิวซีแลนด์) หรือน้ำอ้อย แต่ในปริมาณน้อยๆ เท่านั้น เกลือสำเร็จรูป ก็ใช้สารเคมีในการฟอกขาว ควรหันไปเลือกใช้ " แบรก อมิโน " หรือ เกลือทะเล แทน

                                    B. นม เป็นสาเหตุทำให้ร่างกายผลิตเมือก โดยเฉพาะในระบบทางเดินอาหาร เซลมะเร็งจะได้รับอาหารได้ดีในสภาวะที่มีเมือก การใช้นมถั่วเหลือง ชนิดไม่หวาน แทนนม จะทำให้เซลมะเร็งไม่ ได้รับอาหาร
 
                                    C. เซลมะเร็งเติบโต ได้ดี ในภาวะแวดล้อมที่เป็นกรด อาหารจำพวก เนื้อ จะสร้างสภาวะกรดขึ้น ดังนั้น จึงควรหันไปรับประทาน ปลา จะดีที่สุด รองลงไปคือรับประทาน ไก่ แทนเนื้อ และ หมู ในเนื้ออาจมียาฆ่าเชื้อ ฮอร์โมนที่สร้างการเจริญเติบโตในสัตว์ และเชื้อปรสิต บางประเภทตกค้างอยู่ ซึ่งล้วนเป็นอันตราย โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับคนที่เป็นมะเร็ง

                                    D. อาหารที่ประกอบด้วยผักสด 80% และน้ำผลไม้ พืช จำพวกหัวเมล็ดถั่วเปลือกแข็ง และผลไม้จำนวนเล็กน้อย จะช่วยทำให้ร่างกายมีสภาวะเป็นด่าง อาหารอีก20% อาจได้มาจากการทำอาหารร่วมกับพืชจำพวกถั่ว น้ำผักสดจะให้เอ็นไซม์ ซึ่งสามารถดูดซึมได้ง่ายและซึมทราบสู่ระดับเซลภายใน 1 นาที เพื่อบำรุงร่างกายและส่งเสริมการเจริญเติบโตของเซลที่ดี เพื่อให้ได้เอ็นไซม์ในการสร้างเซลที่ดี ให้พยายามดื่มน้ำผักสด ( ผักส่วนใหญ่รวมทั้งถั่วที่มีหน่อ หรือต้นอ่อน) และรับประทานผักสดดิบ 2-3 ครั้งต่อวัน เอ็นไซม์จะถูกทำลายได้ง่ายที่อุณหภูมิ 140 องศา F ( ประมาณ 4 องศา C)
 
                                    E. ให้หลีกเลี่ยง กาแฟ น้ำชา และช๊อกโกแลต ซึ่งมี คาเฟอีนสูงชาเขียว ถือเป็นทางเลือกที่ดีและมีคุณสมบัติในการต้านมะเร็ง น้ำดื่มให้เลือกดื่มน้ำบริสุทธิ์ หรือที่ผ่านการกรอง เพื่อหลีกเลี่ยงท๊อกซิน และโลหะหนักในน้ำประปา น้ำกลั่นมักมีสภาพเป็นกรด ให้หลีกเลี่ยง


                       12. โปรตีนจาก เนื้อ จะย่อยยาก และต้องการเอ็นไซม์หลายชนิดมาช่วยในการย่อย เนื้อสัตว์ที่ไม่สามารถย่อยได้ในระบบทางเดินอาหารจะเกิดการบูดเน่าและมีความเป็นพิษมากขึ้น

                       13. ผนังของเซลมะเร็งจะมีโปรตีนห่อหุ้มไว้ การงด หรือ การรับประทานเนื้อสัตว์น้อยลง จะทำให้มีเอ็นไซม์เหลือมากพอ มาใช้โจมตีกำแพงโปรตีนที่ห่อหุ้มเซลมะเร็ง และช่วยให้เซลของร่างกายสามารถกำจัดเซลมะเร็งได้ดีขึ้น

                       14. สารอาหารบางอย่างอาจช่วยเพิ่มภูมิคุ้มกัน ( สารIP6 [inositol hexaphosphate หรือ phyti acid], สาร Flor-essence, สาร Essiac, สารแอนตี้-อ๊อกซิแดนส์ , วิตามิน , เกลือแร่ , EFAs ฯลฯ) เพื่อช่วยให้เซลของร่างกายสามารถกำจัดเซลมะเร็งได้ดีขึ้น สารอาหารอื่นๆเช่น วิตามินอี เป็นที่ทราบกันดีว่าทำให้เกิดการตายลงของเซล หรือ กำหนดระยะเวลาการตายของเซล ซึ่งเป็นกลไกธรรมชาติของร่างกายในการกำจัดเซลที่ถูกทำลาย ซึ่งไม่เป็นที่ต้องการ หรือไม่มีประโยชน์ออกไป

                       15. มะเร็งเป็นโรคที่สัมพันธ์ กับ จิตใจ ร่างกาย และจิตวิญญาณการป้องกันเชิงรุก และ การคิดในเชิงบวก จะช่วยให้เราสามารถอยู่รอดจากการทำสงครามกับมะเร็ง

                        ....ความโกรธ การไม่รู้จักให้อภัย และความขมขื่นใจ จะทำให้ร่างกายเกิดความตึงเครียดและมีสภาวะเป็นกรดเพิ่มขึ้น ให้เรียนรู้ที่จะมีความรักและจิตวิญญาณแห่งการให้อภัย เรียนรู้ที่จะผ่อนคลายและมีความสุขกับชีวิต

                       16. เซลมะเร็ง ไม่สามารถเจริญเติบโตได้ ในสภาวะที่มีอ๊อกซิเจนเป็นจำนวนมาก การออกกำลังกายทุกวัน และการหายใจลึกๆจะช่วยให้ร่างกายได้รับอ๊อกซิเจนเพิ่มขึ้น ลงไปจนระดับเซล การบำบัดด้วยอ๊อกซิเจนถือเป็นวิธีการอีกอย่างที่ใช้ในการทำลาย เซลมะเร็ง


                           (กรุณาช่วย Forward ไปยังบุคคลที่คุณรักและห่วงใย)

                           นี่คือเรื่องที่ คุณควรส่งออกไปให้ คนที่มีความสำคัญกับชีวิตคุณได้รับรู้รับทราบ

[/quote]

                 เอามาให้อ่านกันอีกทีหนึ่งครับ

                 สวัสดี
      บันทึกการเข้า
nok15
Full Member
**


ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 529

« ตอบ #7780 เมื่อ: 14 ธันวาคม 2555, 20:37:35 »

อ้างถึง
ข้อความของ Manop  Klabdee เมื่อ 14 ธันวาคม 2555, 14:19:38
อ้างถึง
ข้อความของ nok15 เมื่อ 14 ธันวาคม 2555, 13:30:12

             กำลังตกใจอยู่พอดีค่ะ

             นึกว่าไวรัสระบาดในเครื่องซะแล้ว

สวัสดีค่ะ คุณน้อง Nok 15

                      เธอช่วยตั้งคำถามให้ที   พี่สิงห์ ไม่มีงานทำแล้ว ตอนนี้ 

                      จะ Load รูปก็ช้า

                      เหงา เหมือนกัน

                      สวัสดีค่ะ


                  สวัสดีดีค่ะพี่สิงห์

                         ต้องโค้ดข้อมูลเดิมก่อนค่ะ

                         ทำตามที่ขอค่ะ

                         ขอถามด้วยภาพถ่ายว่า

                         ภาพที่เห็นต่อไปนี้เป็นภาพอะไร

                         ให้ไปรับรางวัลที่พี่สิงห์นะคะ

                         พี่สิงห์จะได้ไม่เหงา

                         เพราะต้องคอยแจกรางวัล



                 



                           
      บันทึกการเข้า
nok15
Full Member
**


ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 529

« ตอบ #7781 เมื่อ: 14 ธันวาคม 2555, 20:53:52 »



               ข้อ1.   ภาพที่ท่านเห็นต่อไนี้เป็นภาพอะไรเอ่ย

                          ให้เวลาตอบ5นาที.

       


                 ข้อ2.   ใช้3จี. dtac. Postภาพ1ภาพ ใช้เวลา 7นาที

                            ถ้าPost. 3ภาพจะใช้เวลาเท่าไหร่


                 
      บันทึกการเข้า
swsm
Cmadong Member
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
****


@@ ยาหยี @@
ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: Rcu2523
คณะ: Comm Arts
กระทู้: 28,369

« ตอบ #7782 เมื่อ: 14 ธันวาคม 2555, 21:33:45 »

อ้างถึง
ข้อความของ nok15 เมื่อ 14 ธันวาคม 2555, 20:53:52


               ข้อ1.   ภาพที่ท่านเห็นต่อไนี้เป็นภาพอะไรเอ่ย

                          ให้เวลาตอบ5นาที.

        


                 ข้อ2.   ใช้3จี. dtac. Postภาพ1ภาพ ใช้เวลา 7นาที

                            ถ้าPost. 3ภาพจะใช้เวลาเท่าไหร่

                

หยีขอตอบ .. ภาพมันต้ม  และ  3 ชม. ค่ะ

เพราะมันจะเร็วแค่ภาพแรก
ส่วนภาพต่อไป จะเปลี่ยนเป็นใช้ speed เรือเกลือค่ะ
      บันทึกการเข้า

.. don't play with me, cos I know how to play it too .. may be better than you do ..
nok15
Full Member
**


ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 529

« ตอบ #7783 เมื่อ: 14 ธันวาคม 2555, 22:01:41 »



       ไชโย. น้องหยีเข้ามาตอบเป็นรายแรกเลยค่ะ

       คำตอบเฉียดมากเลยค่ะในคำตอบข้อที่ 2.

       แต่ข้อที่ 1 ยังไม่ถูกค่ะ

       แก้ตัวใหม่ได้ค่ะ. ติ๊ก-ต็อก. ติ๊ก-ต็อก
      บันทึกการเข้า
swsm
Cmadong Member
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
****


@@ ยาหยี @@
ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: Rcu2523
คณะ: Comm Arts
กระทู้: 28,369

« ตอบ #7784 เมื่อ: 14 ธันวาคม 2555, 22:10:47 »

มันนึ่ง ..    บ่ฮู้บ่หัน
      บันทึกการเข้า

.. don't play with me, cos I know how to play it too .. may be better than you do ..
nok15
Full Member
**


ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 529

« ตอบ #7785 เมื่อ: 14 ธันวาคม 2555, 22:45:00 »


        เดี๋ยวพี่ถามพี่สิงห์ก่อนว่ารางวัลเฉียดจะได้หรือเปล่า

        พี่บอกไบ้ภาพที่1นะคะ

        "เป็นสมุนไพรที่มีชื่อเสียงมากของจีน"

        พี่ได้ภาพนี้มาเมื่อตอนไปเทียวจางเจียเจี้ยและมาเก๊า

         กะจะนำมาupอยู่เหมือนกันแต่ไม่สบโอกาส

         พอพี่สิงห์เปิดช่องให้.  พี่ก็เลยโมเม

         เพราะไม่รู้ว่าพี่สิงห์จะให้ถามเกี่ยวกับเรื่องอะไร

              ถ้าไม่มีใครตอบเพิ่มพี่ก็จะเฉลยเร็วๆนี้
      บันทึกการเข้า
Manop Klabdee
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


พอเพียง มีสติ เกิดปัญญา
ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: 2513 วศ. รุ่นที่ 54
คณะ: วิศวกรรมศาสตร์ แผนกวิชาวิศวกรรมโยธา
กระทู้: 11,644

« ตอบ #7786 เมื่อ: 15 ธันวาคม 2555, 07:44:45 »

สวัสดียามเช้าค่ะ คุณน้อง Nok 15 และคุณน้องหะยี ที่รัก

                         ทีแรกพี่สิงห์  ก็คงจะตอบเหมือนคุณน้องหะยี คือมันต้ม  แต่เมื่อตอบแล้วไม่ใช่  มาจากจีน  อาจจะไม่มีชื่อในภาษาไทย แต่ถึงอย่างไรมันก็คือพืชในตระกูลมีหัว คือพวกเผือกและมัน ต้มแน่นอน

                         ปกติเวลาเราไปประเทศจีน หรือท้องถิ่นที่อยู่ที่ราบสูง (เคยไปชนบทของคุนหมิ๋ง  ไปถ้ำอารูกู เมื่อยี่สิบกว่าปีที่ผ่านมา) ในหน้าหนาวไปเดินตลาดในเวลากลางคืน หรือกลางวัน จะเห็นชาวท้องถิ่นเอาหัวมันชนิดต่าง ๆ ที่มีในท้องที่มาเผา ขาย เพราะกินหัวมันจะทำให้ร่างกายอบอุ่น  ดีต่อสุขภาพในหน้าหนาว ครับ

                         มันมือเสือก็ไม่ใช่  แต่ที่เวียตนามก็มีมันแบบมันมือเสือแต่ ไม่เป็นมือเสือเหมือนอย่างในประเทศไทย  แต่รสชาด  กลิ่นเหมือนมันมือเสือ และมีรูปร่างแบบที่เธอโพสต์เลย  ชาวเวียตนามเขาเรียกว่าอะไรก็ลืมไปแล้ว  ปลูกบนที่ราบสูงภูเขา บริเวณอากาศหนาวเหมือนกัน

                          เมื่อไม่รู้ก็ขอตอบว่าไม่ทราบครับ  ขอฟังคำเฉลยดีกว่า

                          ขอบคุณมาก

                          สวัสดี
      บันทึกการเข้า
Manop Klabdee
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


พอเพียง มีสติ เกิดปัญญา
ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: 2513 วศ. รุ่นที่ 54
คณะ: วิศวกรรมศาสตร์ แผนกวิชาวิศวกรรมโยธา
กระทู้: 11,644

« ตอบ #7787 เมื่อ: 15 ธันวาคม 2555, 08:01:33 »

สวัสดียามเช้าครับ ชาวซีมะโด่ง และแขกผู้มาเยือน ที่รักทุกท่าน

                           อากาศยามเช้าที่นครศรีธรรมราช เมื่อเย็นวาน และตลอดทั้งคืนฝนตก ครับแต่ไม่ถึงกับลืมหูลืมตาไม่ขึ้น   คือตกไม่หนัก แต่ตกอย่างต่อเนื่อง  ทำงานกลางแจ้งไม่ได้เลย  แสดงว่าอากาศที่กรุงเทพฯ เย็นสบายแน่ๆ

                           เช้านี้พี่สิงห์ เลยต้องเดินบนสายพานแทน  เพราะบริเวณเทอเรสของโรงแรม เสี่ยงต่อการลื่นล้มเวลาเดิน  ได้เดินออกกำลังกาย ๔๐ นาที  พอได้เหงื่อ แล้วจึงรำชิกง  และโยคะ หนึ่งชั่วโมงพอดี

                           ก็อาศัยตัวอย่างชีวิตของพี่พงษ์  จิระโสภณ และคุณวัฒนา  โอภานนท์อมตะ  เป็นตัวอย่างครับ

                           ทั้งสองท่านรู้เรื่องการดูแลร่างกายเป็นอย่างดี  โดยเฉพาะคุณวัฒนา  รู้ว่าควรอยู่อย่างธรรมชาติ เพราะทำงานที่บางจาก  ส่งเสริมสภาพแวดล้อมอยู่แล้ว  คุณวัฒนาศึกษาธรรมะ  ปฏิบัติธรรม  จิตใจย่อมไร้กังวล อยู่แล้ว  แต่ทำไม จึงเป็นโรคมะเร็ง

                            พี่พงษ์  ก็ไม่ใช่คนเครียดอะไรเลย  แต่ทำไมจึงเป็นโรคมะเร็ง

                            คำตอบน่าที่จะมาจาก อาหารที่รับประทาน  อยู่ในสภาพที่ไม่เหมาะสม เป็นปัจจัยแน่นอน

                           ดังนั้น เพื่อให้ห่างไกลจากโรคมะเร็ง  เราควรที่จะต้อง

                            - รับประทานผักสด-ผลไม้สดให้มากเอาไว้

                            - งดอาหารโปรตีนจากเนื้อสัตว์

                            - งดน้ำตาลเทียม  ครีมเทียม  รับประทานน้ำผึ้งแทน

                            - งดนม  รับประทานนมจากถั่วเหลืองแทน

                            - รับประทานอาหารมื้อเช้า  กลางวัน ตรงเวลา ในปริมาณที่พอดี

                            - งดอาหารเย็น หรือรับประทานอาหารเบาๆ เช่นผลไม้ไร้น้ำตาล ในปริมาณที่ไม่มาก

                            - นอนแต่หัวค่ำ

                            - ออกกำลังกายแบบชิกง  จะได้รับอ๊อกซิเจนในปริมาณมาก ๆ หรือเดิน - วิ่ง หายใจเข้า-ออก ลึก ๆ ให้มาก

                            - ทำจิตให้ขาวรอบ  ห่างไกลจากความโกรธ ความโกรธเกิดจาก ประสบในสิ่งที่ไม่รักไม่ชอบ อย่างแรง  ดังนั้นเราต้องให้จิตมันปล่อยวาง  ไม่ยึดมั่นถือมั่น โดยอัตโนมัติของมันเอง  ด้วยการเห็นความจริงในสัจจธรรมที่พระพุทธองค์ทรงสั่งสอน

                               เพียงเท่านี้  ผมว่าเราก็ห่างไกลจากการเป็นมะเร็งได้ครับ

                               ตอนนี้ Air Card หมดแล้ว  Wifi ที่โรงงานก็เสีย ใช้สายแลนด์ก็ต่อไม่ติด  พี่สิงห์  จึงไม่สามารถเข้ามาในเวบได้  ต้องรอให้กลับถึงบ้านที่ กทม. boarding 15:55 น. คือตอนค่ำจึงจะสามารถเข้าเวบได้ครับ  ต้องขออภัยด้วย

                               สวัสดีครับ

                       
      บันทึกการเข้า
pusadee sitthiphong
Cmadong พันธุ์แท้
****


ออฟไลน์ ออฟไลน์

คณะ: พาณิชยศาสตร์และการบัญชี
กระทู้: 4,689

« ตอบ #7788 เมื่อ: 15 ธันวาคม 2555, 09:48:07 »

ขอเดาว่า บัวหิมะ ค่ะ
      บันทึกการเข้า

pom shi 2516
Manop Klabdee
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


พอเพียง มีสติ เกิดปัญญา
ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: 2513 วศ. รุ่นที่ 54
คณะ: วิศวกรรมศาสตร์ แผนกวิชาวิศวกรรมโยธา
กระทู้: 11,644

« ตอบ #7789 เมื่อ: 15 ธันวาคม 2555, 13:21:41 »

อ้างถึง
ข้อความของ pusadee sitthiphong เมื่อ 15 ธันวาคม 2555, 09:48:07
ขอเดาว่า บัวหิมะ ค่ะ

                ไม่น่าใช่ครับ
      บันทึกการเข้า
pusadee sitthiphong
Cmadong พันธุ์แท้
****


ออฟไลน์ ออฟไลน์

คณะ: พาณิชยศาสตร์และการบัญชี
กระทู้: 4,689

« ตอบ #7790 เมื่อ: 15 ธันวาคม 2555, 16:39:12 »

เหมือนนะคะ
      บันทึกการเข้า

pom shi 2516
Manop Klabdee
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


พอเพียง มีสติ เกิดปัญญา
ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: 2513 วศ. รุ่นที่ 54
คณะ: วิศวกรรมศาสตร์ แผนกวิชาวิศวกรรมโยธา
กระทู้: 11,644

« ตอบ #7791 เมื่อ: 15 ธันวาคม 2555, 21:32:09 »

อ้างถึง
ข้อความของ pusadee sitthiphong เมื่อ 15 ธันวาคม 2555, 16:39:12
เหมือนนะคะ

                 พี่สิงห์  ไม่เคยเห็นค่ะ
      บันทึกการเข้า
Manop Klabdee
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


พอเพียง มีสติ เกิดปัญญา
ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: 2513 วศ. รุ่นที่ 54
คณะ: วิศวกรรมศาสตร์ แผนกวิชาวิศวกรรมโยธา
กระทู้: 11,644

« ตอบ #7792 เมื่อ: 15 ธันวาคม 2555, 21:32:35 »

สวัสดีครับ ชาวซีมะโด่ง และแขกผู้มาเยือน ที่รักทุกท่าน

                               ผมอยู่ กทม. แล้วครับ

                               ขณะนั่งรถ taxi กลับบ้าน คุณน้องอ้อมทิพย์  ได้โทรศัพท์ มาคุยด้วยเรื่องผลการปฏิบัติธรรมที่ไม่ก้าวหน้า  ผมก้ได้ตอบให้ทราบไปพอสมควร  ขอให้พยายามทำความเพียรต่อไป  อย่าไปหวัง  อย่าไปหยากสำเร็จ  มันจะไม่ได้อะไรเลย  ขอให้แยกให้ออกระหว่างการระลึกรู้ที่กายเคลื่อนไหว หรือหยุดก็รู้สึกได้  เวลาจิตมันคิดก็รู้สึกได้ว่าคิด(รู้ทีหลัง เมื่อคิดผ่านไปแล้ว) เวลามีสภาวะธรรมคืออารมณ์เปลี่ยนแปลงไปด้วยมีเหตุปัจจัย  โดยเฉพาะความประสบในสิ่งที่ไม่รักไม่ชอบ  ย่อมมีความพอใจ ไม่พอใจเกิดขึ้น ก็ขอให้รู้สึกได้  เมื่อรู้ได้อย่างนี้แล้ว เราก็จะมีความระลึกได้ และรู้ว่า ความระลึกได้ก็ดี  ความคิดก็ดี  สภาวะธรรมที่เกิดขึ้นก็ดี มันเกิดขึ้นไม่พร้อมกัน  คือจิตมันทำได้ทีละอย่าง  แล้วเราจะรู้ได้เองว่าเมื่อไรเราไม่หลงอยู่ในโมหะ คือคิด มันก็ไม่ทุกข์ เพราะตัวทุกข์คือรูปกับนาม โดยเฉพาะความคิด มันเป็นตัวทุกข์

                                ดังนั้นถ้าเราอยู่กับการระลึกได้ที่กาย เป็นส่วนใหญ่ ความทุกข์จะไม่เกิดขึ้นเลย  นั่นละพระพุทธองค์ถึงให้เราระลึกได้อยู่ที่กาย  จิต  เวทนา และธรรม เพราะทุกวินาที  จิตเราจะมีสิ่งพวกนี้เกิดขึ้น  เมื่อเรามีความระลึกได้ในสิ่งเหล่านี้  ความทุกข์มันก้ไม่เกิด เพราะมันไม่ได้คิด  เมื่อเราระลึกได้บ่อย ๆ มันจะระลึกได้เองทั้งวัน และอุเบกขามันจะตามมาเอง เพราะมันรู้ความจริงในธรรมชาติของจิต จากการศึกษาในตัวเรานี้ละ มันเป็นเช่นนั้นจริง ๆ

                                คำถามที่คุณน้องอ้อมทิพย์ถามต่อมาคือ อยากทราบเรื่องวันโลกแตก (คงคิดว่าพี่สิงห์ปฏิบัติธรรมคงมีตาทิพย์รู้อนาคตได้ ว่าโลกจะแตกหรือไม่)

                                 ก็ตอบไปว่า ผมไม่รู้อะไรเลยทั้งสิ้น  ผมอยู่กับปัจจุบัน ไม่คิดในสิ่งที่ยังมาไม่ถึง  สิ่งที่ผ่านไปแล้วก็ลืมหมดแล้ว  ถ้าโลกมันจะแตกจริง ๆ ผมก็ไม่หนีไปไหนทั้งสิ้น  จะตายก็ตาย ไม่ได้ห่วงอะไรทั้งสิ้น  และไม่มีอะไรต้องกังวลแม้ชีวิตตัวเอง  อยู่อย่างปกตินี่แหละ ผมปฏิบัติธรรมเพื่อรุ้ความจริงของรูป-นาม  และเอาสิ่งที่รู้นั้น มาใช้กับตัวเองในการที่จะต้องมีชีวิตอยู่จนกว่าจะตาย อยู่ในสังคมได้  ยังทำงานได้  โดยที่ตัวเองมีทุกข์น้อยๆ มันก็เท่านี้แหละ  ไม่มีอะไรมากเลย  มีแต่ธรรมของพระพุทธองค์มาช่วยให้เกิดการปล่อยวางโดยอัตโนมัติเท่านั้น จากการรู้ความจริงในรูป-นามของตนเอง

                                   บังเอิญผมรักษาอุโบสถศีล  จึงไม่ทราบความเป็นไปของโลกเลย  ไม่ได้ดูข่าว  ไม่ได้ดูทีวี  รู้เรื่องภายนอกจากการที่มีคนบอก หรือใครมาเขียนไว้ในกระทู้นี้เท่านั้น  เรื่องอื่นไม่รู้ทั้งสิ้น  ชีวิตพี่สิงห์ มันก็มีเพียงแค่นี้ครับ อยู่กับสติปัจจุบัน

                                   ราตรีสวัสดิ์ทุกท่านครับ
      บันทึกการเข้า
Manop Klabdee
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


พอเพียง มีสติ เกิดปัญญา
ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: 2513 วศ. รุ่นที่ 54
คณะ: วิศวกรรมศาสตร์ แผนกวิชาวิศวกรรมโยธา
กระทู้: 11,644

« ตอบ #7793 เมื่อ: 16 ธันวาคม 2555, 20:50:26 »

สวัสดีครับ ชาวซีมะโด่ง และแขกผู้มาเยือน ที่รักทุกท่าน

                              วันอาทิตย์ เป็นวันที่ผมได้มีโอกาส พบปะผู้คน คือไปเล่นกอล์ฟเช้า ที่สนาม President Country Club วันนี้ต้องเล่นกับนักกอล์ฟญี่ปุ่น  ก็ได้รับการต้อนรับอย่างดีเพราะพี่สิงห์เป็นโปร.  ปกตินักกอลืฟญี่ปุ่นจักให้เกียรติอยู่แล้ว เพราะการได้ออกรอบตีกอล์ฟกับนักกอล์ฟอาชีพนั้น มีไม่มากนัก  และผมก็สามารถเล่นได้สมกับคำว่าเป็นโปร. ทั้งๆ ที่ไม่ได้เล่นกอล์ฟมาตั้งแต่ก่อนแม่จากไปหนึ่งอาทิตย์  เวลาเดินเท้าก็ระบบ  เจ็บมือ เพราะไม่ได้เล่น มานานมือมันเลยยังไม่ด้าน  กล้ามเนื้อไม่เคย  แต่ถึงอย่างไรความรู้สึกดีๆ มันก็กลับมา

                               ตอนเย็นกลับบ้านก็เลยหุงข้าวให้หลานสาวรับประทาน โดยเดินไปซื้อกับข้าวที่ซอย 18 ส่วนผมดื่มแต่ไวตามิล แทนข้าวเย็นครับ

                               วันนี้ได้มีโอกาสเปิดทีวีดูรายการอาทิตย์สโมสร  ของดร.วิษณุ  เครืองาม  พาเดินเลาะริมแม่น้ำเจ้าพระยา บนถนนเรียบแม่น้ำ จากวัดโพธิ์ไปจนถึงบางลำพู วกกลับไปถนนพระสุเมร บรรจบถนนราชดำเนิน ได้ทราบประวัติศาสตร์  ร้านอาหารอร่อยตามรายทาง  ได้ชมบ้าน  วังเก่า ๆ ที่ยังมีอยู่  ทำให้เกิดความอยากขึ้นมาเหมือนกัน  ที่จะต้องหาเวลาไปเดินสักวันหนึ่ง  นำภาพเหล่านั้นมาฝากพวกเรา

                               แต่ผมรอมาเกินสิบนาทีแล้วยังโหลดรูปไม่ได้ เลยสักรูปหนึ่ง  นี่ละเป็นสาเหตุ  ที่ผมไม่ได้ Load รูปซาปาให้ทุกท่านได้ชมกัน เพราะมันโหลดไม่ขึ้นสักที  จึงขอเสนอให้กลับไปใช้แบบเดิมโหลดที่ละรูปดีกว่า เร็วกว่ากันแยะเลย  สุดท้ายก็โหลดรูปไม่ได้ครับ

                               ดร.สุริยา  หรือคุณเหยง  ในฐานะเวบมาสเตอร์  ช่วยอนุเคราะห์ ให้ด้วยครับ

                               สวัสดี
      บันทึกการเข้า
Manop Klabdee
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


พอเพียง มีสติ เกิดปัญญา
ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: 2513 วศ. รุ่นที่ 54
คณะ: วิศวกรรมศาสตร์ แผนกวิชาวิศวกรรมโยธา
กระทู้: 11,644

« ตอบ #7794 เมื่อ: 16 ธันวาคม 2555, 21:17:19 »

มารู้จัก "สติ" กันเถอะ

                            วันนี้ขณะกำลังแปลงฟัน  อาน้ำ มีความรู้สึกที่แปรงกำลังทำความสะอากเหงือกและฟัน  ทำให้ระลึกได้ถึงการสัมผัสของเหงือกและฟันจากขนแปลง  จึงขอเขียนเรื่อง "สติ" ก็แล้วกัน  ขอให้ทุกท่านลองเข้าใจดู

                            ขณะที่ท่านกำลังแปลงฟัน ท่านสัมผัสได้จากความรู้สึกที่ขนแปลงกำลังสัมผัสเหงือก  หรือระลึกได้ถึงสิ่งที่ขนแปลงกำลังทำความสะอาดเหงือก อยู่นั้น เมื่อท่านระลึกได้ คือท่านมีสติอยู่กับอวัสวะของร่างกาย คือรูป ท่านจะพบว่าพอมีความรู้สึก มันไม่คิดนี่นา  ไม่คิดก็ไม่ทุกข์  นั่นละตัวสติที่เราต้องการละ

                            เวลาท่านกินข้าว  ท่านกำลังเคี้ยวด้วยฟัน  รับรู้รสด้วยลิ้น  กำลังกลืนอาหารลงคอ  ถ้าท่านระลึกได้  สัมผัสได้  ท่านจะพบว่า ท่านไม่คิด  เมื่อไม่คิดก็ไม่ทุกข์  สิ่งที่ระลึกได้นั้นละ ตัวสติที่ต้องการ

                            เมื่อเวลาท่านปัสสาวะ ถ้าท่านมีความรู้สึกได้ หรือระลึกได้ว่าน้ำปัสสาวะของท่านกำลังผ่านปลายอวัยวะนั้นไป  ท่านจะพบว่าท่านไม่ได้คิด  นั่นละตัวสติที่เราต้องการละ

                           เมื่อเวลาท่านถ่ายอุจจาระ  อุจจาระกำลังผ่านรูทวาร ถ้าท่านมีความระลึกได้ในสิ่งที่เกิดขึ้นนั้น ท่านจะพบว่าท่านไม่ได้คิด นั่นละตัวสติที่ต้องการละ

                           เมื่อเวลาท่านหายใจเข้า  ท่านก็ระลึกได้ว่าท่านกำลังหายใจลมหายใจผ่านช่องรูจมูก หรือหายใจออกก็ในทำนองเดียวกัน  ท่านจะพบว่าเมื่อท่านระลึกได้ถึงลมกำลังผ่านรูจมูกนั้น  ท่านไม่ได้คิด  นั่นละตัวสติที่เราต้องการละ

                           เมื่อท่านเคลื่อนไหวอวัยวะ หรือรูปของท่าน  ท่านก็ระลึกได้  หรือเมื่อไรอวัยวะของท่านหยุด ท่านก็ระลึกได้ ท่านจะพบว่าขณะที่ท่านระลึกได้นั้น ท่านไม่ได้คิด  นั่นละตัวสติที่เราต้องการละ

                           เมื่อใดที่ท่านนั่ง  ยืน  เดิน  นอน ที่ระลึกได้ในสิ่งที่รูปของท่านกำลังกระทำอยู่นั้น  ท่านจะพบว่าท่านไม่ได้คิด  นั่นละตัวสติที่เราต้องการละ

                           เมื่อใดที่ท่านมีความสุข  มีความทุกข์ ไม่สูขไม่ทุกข์เกิดขึ้นในจิต ที่ระลึกรู้ได้ในสิ่งนั้น ท่านจะพบว่าท่านไม่ได้คิด  นั่นละตัวสติที่เราต้องการละ

                           เมื่อใดที่จิตท่านคิด  ท่านสามารถระลึกได้ว่าท่านคิด เมื่อท่านรู้ว่าคิด จะพบว่า มันก็ไม่คิด  นั่นละตัวสติที่เราต้องการละ

                           เมื่อใดท่านรู้สึกว่าโกรธ  โลภ  หลง เกิดขึ้น ท่านละรึกได้ว่าท่านกำลังโกรธ  โลภ  หลง ท่านจะพบว่าความโกรธ  โลภ  หลง มันจะหายไป  ท่านไม่ได้คิด  นั่นละตัวสติที่ท่านต้องการละ

                           ทั้งวันตลอดทุกวินาที จะมีสิ่งต่าง ๆ เกิดขึ้นแบบนี้ทั้งนั้น แต่เพราะความเคยชินมาตั้งแต่เกิด  จิตท่านหลงอยู่ในความคิด  ท่านจึงแยะความระลึกได้ไม่ออกเลย  ท่านจึงไม่พบอะไร  มันเป็นเรื่องปกติ

                            แต่ถ้าท่านแยกแยะออกได้ ความคิด  ความระลึกได้  สภาวะธรรม  ออกท่านจะพบว่า ท่านสามารถที่จะมีสติได้ทั้งวัน  ระลึกรู้ได้ทั้งวัน  ท่านจะพบว่าเวลามันผ่านไปเร็ว  ท่านจะพบว่าท่านคิดน้อยลง  ท่านจะพบว่า ไม่เห็นมันทุกข์อะไรเลย  มันเป็นความจริงครับ

                            ท่านลองเอาไปพิจารณาเอาเองเถอะครับ

                            ได้เวลาสวดมนต์ทำวันเย็นก่อนนอนแล้วครับ

                             ราตรีสวัสดิ์ทุกท่านครับ
      บันทึกการเข้า
nok15
Full Member
**


ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 529

« ตอบ #7795 เมื่อ: 16 ธันวาคม 2555, 23:42:33 »

อ้างถึง
ข้อความของ pusadee sitthiphong เมื่อ 15 ธันวาคม 2555, 09:48:07
ขอเดาว่า บัวหิมะ ค่ะ

        เฉลยค่ะ

            ข้อ1. บัวหิมะ   เห็นพี่สิงห์พูดเรื่องโรคมะเร็ง

         ว่ากันว่า "บัวหิมะ"ช่วยได้. เป็นราก. เวลารับประทานปอกเปลือก

          รับประทานดิบ หวาน กรอบ อร่อย

                ข้อ2 เวลาunlimitedค่ะ เพราะโหลดเท่าไหร่ก็ไม่สำเร็จ
         
          เหมือนที่น้องหยีบอกเลยค่ะ

                  ตอนนี้ต้องรอดึกๆจึงจะเข้าnetได้
     
          มิฉะนั้นก็ต้องรอตอนเช้ามืด

                 กรุงเทพตอนนี้ ไปไหนบนถนนก็รถติด

          G3. ก็ load ติด เฮ้อ. เราก็ติดnet

          ฟังเพลงก็ไม่ได้. ดูรูปก็รอเป็นตื่นๆ

           ขอโทษนะคะมาเฉลยช้า เข้าnetไม่ได้

           ต้องรอไปใช้wifiที่โรงเรียน

       
      บันทึกการเข้า
nok15
Full Member
**


ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 529

« ตอบ #7796 เมื่อ: 16 ธันวาคม 2555, 23:54:48 »



         น้องป้อมรับรางวัลด้วยค่ะ

 


           น้องหยี รอรางวัลนิดนึงนะคะ คาดว่าคงต้องนอนไปก่อน

                                พี่Nok15
      บันทึกการเข้า
swsm
Cmadong Member
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
****


@@ ยาหยี @@
ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: Rcu2523
คณะ: Comm Arts
กระทู้: 28,369

« ตอบ #7797 เมื่อ: 17 ธันวาคม 2555, 02:05:05 »

หยีมาแล้วค่ะ .. รางวัลของหยีอยู่ไหนคะ พี่นก    บ่ฮู้บ่หัน
      บันทึกการเข้า

.. don't play with me, cos I know how to play it too .. may be better than you do ..
pusadee sitthiphong
Cmadong พันธุ์แท้
****


ออฟไลน์ ออฟไลน์

คณะ: พาณิชยศาสตร์และการบัญชี
กระทู้: 4,689

« ตอบ #7798 เมื่อ: 17 ธันวาคม 2555, 06:27:32 »

อ้างถึง
ข้อความของ nok15 เมื่อ 16 ธันวาคม 2555, 23:54:48


         น้องป้อมรับรางวัลด้วยค่ะ

 


           น้องหยี รอรางวัลนิดนึงนะคะ คาดว่าคงต้องนอนไปก่อน

                                พี่Nok15
ขอบคุณค๊า สีสวยสดใสต้องอร่อยแน่ๆเลยค่ะ
      บันทึกการเข้า

pom shi 2516
เหยง 16
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: rcu2516
คณะ: เภสัชศาสตร์ 2516
กระทู้: 23,533

« ตอบ #7799 เมื่อ: 17 ธันวาคม 2555, 09:05:17 »

อ้างถึง
ข้อความของ Manop  Klabdee เมื่อ 16 ธันวาคม 2555, 20:50:26
สวัสดีครับ ชาวซีมะโด่ง และแขกผู้มาเยือน ที่รักทุกท่าน

                              วันอาทิตย์ เป็นวันที่ผมได้มีโอกาส พบปะผู้คน คือไปเล่นกอล์ฟเช้า ที่สนาม President Country Club วันนี้ต้องเล่นกับนักกอล์ฟญี่ปุ่น  ก็ได้รับการต้อนรับอย่างดีเพราะพี่สิงห์เป็นโปร.  ปกตินักกอลืฟญี่ปุ่นจักให้เกียรติอยู่แล้ว เพราะการได้ออกรอบตีกอล์ฟกับนักกอล์ฟอาชีพนั้น มีไม่มากนัก  และผมก็สามารถเล่นได้สมกับคำว่าเป็นโปร. ทั้งๆ ที่ไม่ได้เล่นกอล์ฟมาตั้งแต่ก่อนแม่จากไปหนึ่งอาทิตย์  เวลาเดินเท้าก็ระบบ  เจ็บมือ เพราะไม่ได้เล่น มานานมือมันเลยยังไม่ด้าน  กล้ามเนื้อไม่เคย  แต่ถึงอย่างไรความรู้สึกดีๆ มันก็กลับมา

                               ตอนเย็นกลับบ้านก็เลยหุงข้าวให้หลานสาวรับประทาน โดยเดินไปซื้อกับข้าวที่ซอย 18 ส่วนผมดื่มแต่ไวตามิล แทนข้าวเย็นครับ

                               วันนี้ได้มีโอกาสเปิดทีวีดูรายการอาทิตย์สโมสร  ของดร.วิษณุ  เครืองาม  พาเดินเลาะริมแม่น้ำเจ้าพระยา บนถนนเรียบแม่น้ำ จากวัดโพธิ์ไปจนถึงบางลำพู วกกลับไปถนนพระสุเมร บรรจบถนนราชดำเนิน ได้ทราบประวัติศาสตร์  ร้านอาหารอร่อยตามรายทาง  ได้ชมบ้าน  วังเก่า ๆ ที่ยังมีอยู่  ทำให้เกิดความอยากขึ้นมาเหมือนกัน  ที่จะต้องหาเวลาไปเดินสักวันหนึ่ง  นำภาพเหล่านั้นมาฝากพวกเรา

                               แต่ผมรอมาเกินสิบนาทีแล้วยังโหลดรูปไม่ได้ เลยสักรูปหนึ่ง  นี่ละเป็นสาเหตุ  ที่ผมไม่ได้ Load รูปซาปาให้ทุกท่านได้ชมกัน เพราะมันโหลดไม่ขึ้นสักที  จึงขอเสนอให้กลับไปใช้แบบเดิมโหลดที่ละรูปดีกว่า เร็วกว่ากันแยะเลย  สุดท้ายก็โหลดรูปไม่ได้ครับ

                               ดร.สุริยา  หรือคุณเหยง  ในฐานะเวบมาสเตอร์  ช่วยอนุเคราะห์ ให้ด้วยครับ

                               สวัสดี


พี่สิงห์

ช่วงที่พี่โพสต์นั้น ผมทดลองโพสต์รูปตามแล้ว ระบบทำงานได้ปกติ ผมโพสต์ทีละ 3 ภาพ ความเร็วยังปกติ
เชื่อว่ามาจากระบบอินเตอร์เน๊ต รวมทั้งเครื่องมือติดต่อกับระบบ Comp. ของพี่ อาจจะรวนครับ
      บันทึกการเข้า
  หน้า: 1 ... 310 311 [312] 313 314 ... 681   ขึ้นบน
  
กระโดดไป:  

     

ทำไมหอพักนิสิตจุฬาจึงเป็นดินแดนมหัศจรรย์            " ไม่ได้เป็นแค่หอให้นอนพัก  แต่เป็นบ้านอบอุ่นรักให้อาศัย  ไม่เป็นแค่ที่ซุกหัวยามหลบภัย  แต่สร้างใจให้เข้มแข็งแกร่งการงาน"  <))))><