15 พฤษภาคม 2567, 13:17:51
ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน


เข้าสู่ระบบด้วยชื่อผู้ใช้ รหัสผ่าน [สมาชิกเก่าลืมรหัส โทร 081-7611760]
A A A A  ระเบียบปฎิบัติ
   
Languages    
  หน้า: 1 ... 523 524 [525] 526 527 ... 681   ลงล่าง
ผู้เขียน หัวข้อ: คุย กับ คุณมานพ กลับดี อดีตประธานชมรม ๓ สมัย  (อ่าน 3258374 ครั้ง)
0 สมาชิก และ 3 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
Manop Klabdee
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


พอเพียง มีสติ เกิดปัญญา
ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: 2513 วศ. รุ่นที่ 54
คณะ: วิศวกรรมศาสตร์ แผนกวิชาวิศวกรรมโยธา
กระทู้: 11,644

« ตอบ #13100 เมื่อ: 06 ตุลาคม 2557, 07:42:56 »



สวัสดีครับ ชาวซีมะโด่ง ที่รักทุกท่าน

เมื่อวานนี้ได้มีโอกาสคุยทางโทรศัพท์ กับคุณทรงเกียรติ และ ดร.สุริยา
คุณทรงเกียรติ ได้ปรารภ ขอรับบริจาคเงินซุ้มอาหาร งานคืนสู่เหย้า ให้ทราบ

จึงบอกให้ปรึกษากับ ดร.สุริยา  ถ้า ดร.สุริยา เห็นสมควรประการใด ก็ยินดีเสมอ

ในสมัยผมเป็นประธานชมรมฯ

เวลาจัดงานคืนสู่เหย้า สมัยนั้น ผมจะไม่รบกวน รุ่นน้องที่ทำงานยังไม่ถึง ๑๐ ปี ในการขอรับบริจาคเงิน เพราะเขายังต้องใช้เงินในปัจจัย ๔ จำนวนมาก ขอเพียงแรงกายก็พอแล้ว

ในทำนองเดียวกัน รุ่นพี่ที่เกษียรอายุแล้ว ก็ไม่ขอรับการบริจาค(จะไม่ขอ) เพราะเข้าใจดีว่า พี่ ๆ ท่านไม่มีรายได้แล้ว  มีแต่รายจ่าย ยกเว้นรุ่นพี่บางคน ที่มีฐานะดี ซึ่งท่านก็จะให้เอง ตามกำลังของท่าน ผมขอเพียงให้รุ่นพี่เหล่านั้น มาร่วมงานก็บุญของเราแล้ว

ส่วนกำลังหลักในการขอรับบริจาคทั้งแรงกาย-เงิน คือ กลุ่มคนที่ทำงานมามากกว่า ๒๐ ปี มีฐานะมั่นคง ทั้งเงินเดือน ครอบครัว ตำแหน่ง คนกลุ่มนี้ ต้องเสียสละเพื่อส่วนรวม เพราะท่านมีกำลังมาก จะต้องช่วยเหลือเป็นพิเศษ สังคม ชมรม สมาคม ประเทศชาติ  จึงจะอยู่ได้

เช่น ประธานสมาคม คนปัจจุบัน  คุณราเมศวร์ คุณหนุ๋น  คุณสมชาย คุณนก  และคุณเมียงู เป็นต้น (และมีอีกจำนวนมาก)

รุ่นพี่ ที่เกษียร อายุแล้ว  ขอบิณฑบาตร แล้วแต่ท่านจะกรุณาพวกเราเองเถิด

สวัสดี

      บันทึกการเข้า
Manop Klabdee
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


พอเพียง มีสติ เกิดปัญญา
ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: 2513 วศ. รุ่นที่ 54
คณะ: วิศวกรรมศาสตร์ แผนกวิชาวิศวกรรมโยธา
กระทู้: 11,644

« ตอบ #13101 เมื่อ: 06 ตุลาคม 2557, 07:56:22 »



คนเรามื้อหนึ่งกินเพียงเท่านี้เอง ก็อยู่ได้

วันนี้อยู่บ้าน เลยได้หุงข้าวใส่บาตรพระที่หน้าบ้าน โดยมีว่าที่เจ้าอาวาสวัดลาดพร้าว มาบิณฑบาตร(ท่านยังไม่ยอมรับตำแหน่ง เพราะท่านกลัวถูกทำำร้าย โดยมาเฟียประจำวัดทั้งพระ-ฆารวาส ที่คุมผลประโยชน์วัดลาดพร้าวไว้)

การลดความตระหนี่-ริษยา ลงได้นั้น ก็ต้องใส่บาตรพระ อย่างนี้แหละเพื่อสอนจิตตนเอง ให้เป็นผู้ให้ และผู้รับก็สมควรได้รับ เช่นพระภิกษุ-สามเณร เป็นต้น

สวัสดี
      บันทึกการเข้า
Manop Klabdee
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


พอเพียง มีสติ เกิดปัญญา
ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: 2513 วศ. รุ่นที่ 54
คณะ: วิศวกรรมศาสตร์ แผนกวิชาวิศวกรรมโยธา
กระทู้: 11,644

« ตอบ #13102 เมื่อ: 06 ตุลาคม 2557, 07:58:59 »



ศีล  สมาธิ  ปัญญา
 
ช่วยลดกิเลส หรือกำจัดกิเลส อย่างหยาบ  อย่างกลาง  อย่างละเอียด  ได้อย่างไร ?
      บันทึกการเข้า
Manop Klabdee
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


พอเพียง มีสติ เกิดปัญญา
ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: 2513 วศ. รุ่นที่ 54
คณะ: วิศวกรรมศาสตร์ แผนกวิชาวิศวกรรมโยธา
กระทู้: 11,644

« ตอบ #13103 เมื่อ: 06 ตุลาคม 2557, 12:01:34 »



อาหารเพล วันนี้
      บันทึกการเข้า
Manop Klabdee
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


พอเพียง มีสติ เกิดปัญญา
ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: 2513 วศ. รุ่นที่ 54
คณะ: วิศวกรรมศาสตร์ แผนกวิชาวิศวกรรมโยธา
กระทู้: 11,644

« ตอบ #13104 เมื่อ: 07 ตุลาคม 2557, 07:19:19 »



สวัสดีครับ ชาวซีมะโด่ง และแขกผู้มาเยือน ที่รักทุกท่าน

อาหารเช้าสำหรับวันนี้

พี่สิงห์  อยู่โรงงานบ้านแพ้ว สมุทรสงคราม

สวัสดี
      บันทึกการเข้า
Manop Klabdee
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


พอเพียง มีสติ เกิดปัญญา
ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: 2513 วศ. รุ่นที่ 54
คณะ: วิศวกรรมศาสตร์ แผนกวิชาวิศวกรรมโยธา
กระทู้: 11,644

« ตอบ #13105 เมื่อ: 07 ตุลาคม 2557, 18:05:23 »



สวัสดีครับ ชาวซีมะโด่ง และแขกผู้มาเยือน ที่รักทุกท่าน

พี่สิงห์  นอนอยู่สิงห์บุรี เพื่อไม่ต้องขับรถตอนเช้ามืดไปทำบุญที่วัดพระนอน เพราะรู้ว่า ตัวเองชักขับรถไม่ไหว คือขับรถติดต่อกันนาน ๆ จึงมานอนค้างคืนดีกว่า  แต่วันนี้ก็ขับรถไกลเหมือนกัน จากบ้านแพ้ว สมุทรสงคราม

วันนี้ ได้แวะวัดอัมพวัน เพื่อซื้อปลาตะเพียนต้มเค็ม ไปทำบุญและฝากพี่สาว เป็นอาหารเช้า

พรุ่งนี้ วันพุธที่ ๘ ตุลาคม เป็นวันพระขึ้น ๑๕ ค่ำ เดือน ๑๐ เป็นวันพระสุดท้าย ในพรรษาของปีนี้

มะรืนนี้ วันพฤหัสบดีที่ ๙ ตุลาคม ตรงกับ แรม ๑ ค่ำเดือน ๑๑ ก็เป็นวันออกพรรษา เป็นวันที่พระท่านจะทำปวารนาตัว คือว่ากล่าวตักเตือนกันได้โดยไม่มีโทษ และเริ่มเทศกาลทอดกฐิน ประจำปีของวัดต่าง ๆ มีระยะเวลา ๑ เดือน

วันนี้ ตอนอยู่โรงงานบ้านแพ้ว นั่งรับประทานอาหารเพล  ก็มีลมหนาวพัดมาให้ชื่นใจ  เป็นอันว่า ถึงฤดูหนาวแล้ว  ส่วนจะหนาวหรือไม่ ยังไม่ทราบ  ช่วงนี้อากาศเปลี่ยนแปลง ระวังสุขภาพกันด้วย ระวังจะเป็นไข้หวัดใหญ่ ประจำฤดูกาล

วันนี้ ได้คุยกับแม่ค้าที่วัดอัมพวัน เพื่อสั่งซื้อข้าวต้มลูกโยน ไปทำบุญในวันออกพรรษา ตักบาตรเทโว  ตามประเพณี

ทำจิตให้ผ่องใสทุกท่านครับ

สวัสดี
      บันทึกการเข้า
Manop Klabdee
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


พอเพียง มีสติ เกิดปัญญา
ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: 2513 วศ. รุ่นที่ 54
คณะ: วิศวกรรมศาสตร์ แผนกวิชาวิศวกรรมโยธา
กระทู้: 11,644

« ตอบ #13106 เมื่อ: 07 ตุลาคม 2557, 18:51:52 »



ศีล  สมาธิ  ปัญญา

กำจัดกิเลส อย่างหยาบ  อย่างกลาง  อย่างละเอียด ได้อย่างไร?

กิเลส คืออารมณ์ที่มากระทบ หรือเกาะจิต แล้วทำให้จิดเศร้าหมอง เป็นอนุสัย

กิเลส อย่างอยาบ คือ กิเลสที่เกิดจากการกระทำทางกาย  วาจา  ที่มักจะเกิดกับบุคคลโดยทั่วไปเป็นประจำวัน  สามารถที่จะกำจัดให้ออกไปได้ หรือไม่ให้เกิดขึ้น ด้วยการรักษาศีล ๕, ๘, ๑๐,๒๒๗ ข้อ หรือเพียงรัษา กายกรรม ๓ วจีกรรม ๔ ก็สามารถกำจัดกิเลสอย่างหยาบได้ คือการรักษากาย  วาจา ให้เป็นปกติเท่านั้น  ในทางปฏิบัติธรรม ขอให้ท่าน มีจิตใจ ตั้งใจเจริญสติ ท่านก็สามารถละกิเลสอย่างหยาบ ได้แล้ว

กิเลสอย่างกลาง คือ กิเลสที่เกิดจากใจ ที่ใจมันอยาก  ในอนุสัย หรือ ที่รวม ๆ กัน คือความโลภ  ความโกรธ ความหลง ที่จะสามารถบันเทา ทำให้เบาบางลงได้ระดับหนึ่งแต่ยังไม่หมดไป ท่านต้อง ไม่ละเมิด มโนกรรม ๓ หรือท่านต้องตั้งสติปัฏฐาน ๔ จนสามารถละนิวรณ์ ๕ ได้ณาน ที่ ๑ ๒ ๓ ให้เกิดขึ้น จนเห็นรูป-นาม เห็นความเป็นไตรลักษณ์ หรือเห็นความคิด เปลี่ยนจากผู้เป็น มาเป็นผู้เห็น ความโลภ  ความโกรธ  ความกลง  จึงจะบันเทาเบาบางลง  จิตของท่านจะมีอริยะทรัพย์เกิดขึ้น คือ มีศรัทธา มีศีล  มีพหุสัจจะ มีจาคะ มีหิริ มีโอตัปปะ และมีปัญญา  ความเป็นพระจะเกิดในจิตของท่าน

กิเลสอย่างละเอียด คือกิเลสทั้งหมด ท่านต้องละได้ในระดับพระอรหันต์ จิตท่านต้องดำรงค์อยู่ในณานที่ ๔ เป็นเอกคัตตาจิต เกิดปัญญา เกิดนิพพิทา เกิดวิมุตติ ทำอาสวขญญาณให้เกิดขึ้น จนจิตหลุดพ้น ก็ทราบว่าจิตหลุดพ้นแล้ว (ยังทำไม่ได้)

เขียนตามที่จิตมันบอก ขอให้ทุกท่านพิจารณาเอาเอง

สวัสดี
      บันทึกการเข้า
Manop Klabdee
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


พอเพียง มีสติ เกิดปัญญา
ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: 2513 วศ. รุ่นที่ 54
คณะ: วิศวกรรมศาสตร์ แผนกวิชาวิศวกรรมโยธา
กระทู้: 11,644

« ตอบ #13107 เมื่อ: 07 ตุลาคม 2557, 19:37:13 »



กิเลส  ตัณหา ราคะ  ความโลภ  ความโกรธ  ความหลง  ความกลัว ... ในภาษาของนักปฏิบัติธรรม พี่สิงห์ เข้าใจได้เอง ขอเรียกว่า "มาร"

"มาร" นี้จะมผจญเราทั้งยามหลับและยามตื่น

ยามหลับ  "มาร" จะมาในรูปของความฝัน

ยามตื่น "มาร" จะมาในรูปของความคิด นิวรณ์ ๕ และทางอายตนะ

ยามมืด เมื่ออยู่คนเดียว "มาร" จะมาในรูปของความกลัว  ความหว้าเหว่

พระพุทธองค์  ท่านพอรู้ว่าเป็นมาร ท่านจะทรงกล่าวคำนี้ "มารผู้มีใจบาป เรารู้จักเจ้าแล้ว ท่านจักทำอะไรเรามิได้หรอก"  มาร พญามาร ก็จักหายลับไปทันที เพราะมารกลัวคนรู้จัก

พระวังคีสะ  ตกอยู่ในความกลัว เมื่อมารมาผจญ  ท่านก็ใช้คำ คำนี้กล่าวกับ "มาร" คือ มารผู้มีใจบาป  เรารู้จักเจ้าแล้ว  เพียงแค่นี้ "มาร" ก็จะหายตัวไปทันที เพราะ "มาร" กลัวคนรู้จัก

ดังนั้น เมื่อท่านกลัว เมื่อท่านเกิดความโลภ  ความโกรธ  ความหลง เกิดมีราคะ หรือฝัน  ขอให้ท่านมีสติ - รู้สึกตัวโดยเร็ว และบอกกับตนเองว่านั่นละ "มาร" จงบอก "มาร" ว่า "มารเรารู้จักเจ้าแล้ว" เพียงแค่นี้ มารก็จะหายไป

หรือเมื่อท่านหลงในคิด ไหลไปกับความคิด ก็จงรู้ว่า นั่นละคือ "มาร" จงบอกกับ "มาร" ว่า "มารเรารู้จักเจ้าแล้ว" เราก็จะหนีห่างจาก"มาร" มามีสติ - รู้สึกตัว เป็นปัจจุบัน ได้

ราตรีสวัสดิ์ทุกท่านครับ
      บันทึกการเข้า
ติ๋ม จันทร์ฉาย
Hero Cmadong Member
***


เป็นญาติพี่น้องกับซีมะโด่ง
ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: 2516
กระทู้: 1,692

« ตอบ #13108 เมื่อ: 07 ตุลาคม 2557, 21:34:53 »

สวัสดีค่ะพี่สิงห์ที่เคารพรัก
ขอเอาอันนี้ไปให้เพื่อนอ่านด้วยค่ะ

คนเราทุกข์  เพราะความคิด
คนเราทุกข์  เพราะหลงเขาไปในความคิด ไหลไปในความคิด
คนเราทุกข์  เพราะไม่เห็นความคิด
คนเราทุกข์  เพราะกระทำตามความคิด
      บันทึกการเข้า

ติ๋ม จันทร์ฉาย
Manop Klabdee
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


พอเพียง มีสติ เกิดปัญญา
ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: 2513 วศ. รุ่นที่ 54
คณะ: วิศวกรรมศาสตร์ แผนกวิชาวิศวกรรมโยธา
กระทู้: 11,644

« ตอบ #13109 เมื่อ: 08 ตุลาคม 2557, 05:40:17 »



สวัสดีครับ ชาวซีมะโด่ง และแขกผู้มาเยือน ที่รักทุกท่าน

วันนี้ เป็นวันพระขึ้น ๑๕ ค่ำ เดือน ๑๐
เป็นวันพระสุดท้าย ก่อนออกพรรษา

สติ-ความระลึกได้-ความรู้สึกตัว นั้นจะระลึกได้ทางผัสสะ เมื่ออายตนะภายใน สัมผัสกับอายตนะภายนอก จบแค่นี้ รู้สึกตรง ๆ ยังไม่ประกอบด้วยผลของผัสสะ คือเวทนา เพียงแค่รับรู้ หรือรู้สึก ๆ เท่านั้น

ความคิด คือสิ่งที่ปรุงแต่ง ขขึ้นเมื่ออายตนะภายใน ผัสสะ อายตนะภายนอก เมื่อสัมผัสแล้วเกิดวิญญาณทั้ง ๖ และผลของการสัมผัสเป็นเวทนา แล้วเกิดปรุงแต่ง หรือคิดขึ้นมา

นอกจากนี้ความคิดยังเกิดจากมโนวิญญาณ และสัญญา ขึ้นมาเอง และความคิดแบบนี้ก็ชอบไหล หลงเข้าไปในความคิดนาน ๆ

อย่าลืม จิตชอบคิด ความคิดมีแต่ความทุกข์

สติ-ความระลึกได้-รู้สึกตัว มันไม่ทุกข์เพราะรู้เฉย ๆ เท่านั้น ไท่เอาอะไร ทั้งสิ้น รู้ซื่อ ๆ

ท่่านที่เจริญสติ จงแยกออกมาเป็นผู้ดูด้วยสติ-ความรู้สึกตัว เอาสติมาผูกอยู่กับ กาย เวทนา จิต ธรรม  ระยะแรกขอให้เอามาผูกอยู่ที่กาย ที่เป็นส่วนหยาบของกรรมฐาน มันจะตั้งสติ-ความรู้สึกตัวได้ง่าย อยู่นาน

ท่านจะเห็นว่า รูป-นาม ที่เราหลงว่าเป็นตัวตนเรานั้น มันประกอบด้วยรูป คือร่างกาย มันประกอบด้วยนาม หรือจิตมาอาศัยอยู่ และจิตก็บงการรูปให้กระทำทางกาย วาจา ด้วยการคิด-สั่งออกมา

กายมันก็ทำงานของมัน
จิตมันก็ทำงานของมัน
ความรู้สึกตัว-สติ เป็นผู้ดู ทั้งกาย และจิต เห็นการทำง่นของมัน

ชีวิจตโดนธรรมชาติมันเป็นอย่างนี้ ขอเพียงอย่าหลง อย่าเข้าไปเป็น เป็นเพียงผู้ดู  อุเบกขามะนเกิดขึ้นเอง

สวัสดี
      บันทึกการเข้า
Manop Klabdee
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


พอเพียง มีสติ เกิดปัญญา
ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: 2513 วศ. รุ่นที่ 54
คณะ: วิศวกรรมศาสตร์ แผนกวิชาวิศวกรรมโยธา
กระทู้: 11,644

« ตอบ #13110 เมื่อ: 08 ตุลาคม 2557, 08:37:13 »

อ้างถึง
ข้อความของ ติ๋ม จันทร์ฉาย เมื่อ 07 ตุลาคม 2557, 21:34:53
สวัสดีค่ะพี่สิงห์ที่เคารพรัก
ขอเอาอันนี้ไปให้เพื่อนอ่านด้วยค่ะ

คนเราทุกข์  เพราะความคิด
คนเราทุกข์  เพราะหลงเขาไปในความคิด ไหลไปในความคิด
คนเราทุกข์  เพราะไม่เห็นความคิด
คนเราทุกข์  เพราะกระทำตามความคิด


ขออนุโมทนา

สาธุ
      บันทึกการเข้า
Manop Klabdee
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


พอเพียง มีสติ เกิดปัญญา
ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: 2513 วศ. รุ่นที่ 54
คณะ: วิศวกรรมศาสตร์ แผนกวิชาวิศวกรรมโยธา
กระทู้: 11,644

« ตอบ #13111 เมื่อ: 08 ตุลาคม 2557, 10:46:42 »



อริยสัจ ๔

ความจริงอันประเสริฐ ๔ ประการ

นี้คือ สิ่งที่ประสพ ที่เกิดขึ้นในธรรมทั้งหลาย(ทุกข์)
นี้คือ เหตุ-ปัจจัย ที่ธรรมทั้งหลายบังเกิดขึ้น(สมุห์ทัย)
นี้คือ เหตุ-ปัจจัย ที่จะดับเหตุธรรมทั้้งหลายที่บังเกิดขึ้นนั้น(นิโรธ)
นี้คือ วิธีปฏิบัติเพื่อจะถึงหนทางในการละธรรมทั้งหลายที่เกิดขึ้นนั้น(นิโรธคามินีปฏิปทา)

ท่านสามารถนำหลักการความจริงอันประเสริฐ ๔ ประการนี้ ไปใช้ในการทำงานแก้ปัญหาทั้งงานและชีวิต ของท่าน เพียงขอให้มีสติ-รู้สึกตัว เท่านั้น ท่านก็จะประสพความสำเร็จทั้งงาน และหมดทุกข์ที่เกิดกับท่านได้ เพราะ

กรรม ทุกข์ ธรรม ทั้งหลายเกิดจากเหตุ-ปัจจัย มันเกิดขึ้นเองไม่ได้

ต้องดับที่ต้นเหตุ-ปัจจัยนั้น เพียงแต่ท่าน ต้องมีสติหาเหตุ-ปัจจัยนั้นให้พบ และวิธีปฏิบัติคือกระทำตรงกันข้ามกับสาเหตุ-ปัจจัยนั้น

อริยสัจ ๔ นี่เป็นผลมาจาก ปฏิจจสมุปาบาท

ปฏิจจสมุปาบาท เป็นทำที่เป็นเหตุ-ปัจจัยกัน ต่องเป็นอย่างนั้น ไม่เป็นอื่นไปได้ เป็นตถตา

ปฏิจจสมุปาทนธรรม คือองค์ธรรมในปฏิจจสมุปบาท ที่ไม่เที่ยง เป็นทุกข์ เป็นอนัตตา

ทุกข์เกิดจากผัสสะของอายตนะภายใน กับอายตนะภายนอก

สวัสดี
      บันทึกการเข้า
Manop Klabdee
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


พอเพียง มีสติ เกิดปัญญา
ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: 2513 วศ. รุ่นที่ 54
คณะ: วิศวกรรมศาสตร์ แผนกวิชาวิศวกรรมโยธา
กระทู้: 11,644

« ตอบ #13112 เมื่อ: 08 ตุลาคม 2557, 11:45:56 »



วันนี้ ได้เป็นเจ้าภาพเลี้ยงก๋วยเตี๋ยว-ไอสครีมกระทิ แด่ พระ-เณร อุบาสก-อุบาสิกา และแม่ครัววัด

อุบาสิกาที่เห็นนั้น เป็นเพื่อน รับอาสาเป็นคนทำ พร้อมทั้งญาติๆ มาช่วยกันคนละไม้ละมือเลี้ยงเพลพระ-เณร อุบาสก-อุบาสิกา ผู้ถือศีลอยู่วัน วันพระสุดท้ายในพรรษาปีนี้

สวัสดี
      บันทึกการเข้า
Manop Klabdee
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


พอเพียง มีสติ เกิดปัญญา
ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: 2513 วศ. รุ่นที่ 54
คณะ: วิศวกรรมศาสตร์ แผนกวิชาวิศวกรรมโยธา
กระทู้: 11,644

« ตอบ #13113 เมื่อ: 08 ตุลาคม 2557, 13:31:11 »



วันนี้สามเณรเทศน์ เรื่องการทำปวารนาของพระภิกษุสงฆ์ ในวันนี้ ที่พระภิกษุสงฆ์จะว่ากล่าวตักเตือนกันได้โดนไม่มีโทษ

พี่สิงห์ ก็ขอปวารนากับทุกท่าน ที่พี่สิงห์ ได้เผลอล่วงเกินท่านด้วยกาย  วาจา  ใจ  ขอทุกท่านจงว่ากล่าวตักเตือน พี่สิงห์  ได้โดยไม่มีโทษ
และถ้าทุกท่านล่วงเกินพี่สิงห์  พี่สิงห์ ก็ให้อภัยทุกท่าน

สวัสดี
      บันทึกการเข้า
เหยง 16
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: rcu2516
คณะ: เภสัชศาสตร์ 2516
กระทู้: 23,533

« ตอบ #13114 เมื่อ: 08 ตุลาคม 2557, 17:04:20 »

สวัสดีครับ พี่สิงห์

วันออกพรรษา ดูเหมือนมีความสำคัญ
คนขับรถของผม ขอลาหยุดไปทำบุญในตอนเช้ากันทุกคนเลย
แล้วกลับมาตอนนี้ (บ่ายสี่กว่าๆ) เพื่อเตรียมล่องสินค้าเข้า กทม.
      บันทึกการเข้า
Manop Klabdee
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


พอเพียง มีสติ เกิดปัญญา
ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: 2513 วศ. รุ่นที่ 54
คณะ: วิศวกรรมศาสตร์ แผนกวิชาวิศวกรรมโยธา
กระทู้: 11,644

« ตอบ #13115 เมื่อ: 08 ตุลาคม 2557, 18:58:20 »

อ้างถึง
ข้อความของ เหยง 16 เมื่อ 08 ตุลาคม 2557, 17:04:20
สวัสดีครับ พี่สิงห์

วันออกพรรษา ดูเหมือนมีความสำคัญ
คนขับรถของผม ขอลาหยุดไปทำบุญในตอนเช้ากันทุกคนเลย
แล้วกลับมาตอนนี้ (บ่ายสี่กว่าๆ) เพื่อเตรียมล่องสินค้าเข้า กทม.


สาธุ 

ที่ คุณเหยง

อนุญาติให้คนขับรถไปทำบุญออกพรรษา มันเป็นประเพณีที่ดี ที่ต้องส่งเสริม

สวัสดี
      บันทึกการเข้า
Manop Klabdee
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


พอเพียง มีสติ เกิดปัญญา
ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: 2513 วศ. รุ่นที่ 54
คณะ: วิศวกรรมศาสตร์ แผนกวิชาวิศวกรรมโยธา
กระทู้: 11,644

« ตอบ #13116 เมื่อ: 08 ตุลาคม 2557, 19:03:52 »



ออกพรรษาแล้ว อย่าออกจากธรรม

ร่างกายของเราต้องการอาหารฉันใด

จิตใจของเราก็ต้องการธรรมฉันนั้น

ถ้าจิตใจขาดธรรม จะมีแต่ความทุกข์มารุมเร้า

ขอให้ทำบุญ  ถือศีล  ปฏิบัติธรรม ต่อไป จะมีแต่ความสุข สงบ ตลอดไป

สวัสดี
      บันทึกการเข้า
Manop Klabdee
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


พอเพียง มีสติ เกิดปัญญา
ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: 2513 วศ. รุ่นที่ 54
คณะ: วิศวกรรมศาสตร์ แผนกวิชาวิศวกรรมโยธา
กระทู้: 11,644

« ตอบ #13117 เมื่อ: 08 ตุลาคม 2557, 19:20:52 »



ปัจจยสูตร
บทบาทของมรรคมีองค์ ๘ ในปฏิจจสมุปบาท

พระพุทธองค์ทรงอธิบายปฏิจจสมุปบาทให้ภิกษุทั้งหลายฟังที่วัดเชตวัน  เริ่มด้วยทรงแจกแจงปฏิจจสมุปบาทสายสมุทัย คือเพราะอวิชชาเป็นปัจจัยจึงมีสังขาร  เพราะสังขารเป็นปัจจัยจึงมีวิญญาณ.....อันเป็นความเกิดขึ้นแห่งกองทุกข์ทั้งปวง

ต่อจากนั้น ทรงอธิบายว่า  ชราและมรณะคืออะไร  แล้วตรัสว่า  เพราะชาติเกิด  ชรามรณะจึงเกิด  เพราะชาติดับ  ชรามรณะจึงดับ  อริยมรรคมีองค์ ๘ (มีสัมมาทิฏฐิเป็นต้น)เท่านั้น คือข้อปฏิบัติเพื่อดับชราและมรณะ

ปฏิจจสมุปบาท ข้ออื่น ๆ ก็เหมือนกัน ทรงอธิบายความหมายของแต่ละอย่าง  พร้อมกับความเกิดขึ้นเพราะมีปัจจัยให้เกิด และความดับเพราะสิ่งที่เป็นปัจจัยดับ  การที่จะถึงความดับได้ล้วนแต่ต้องอาศัยมรรคมีองค์ ๘ เป็นข้อปฏิบัติทั้งสิ้น

พระพุทธองค์ ตรัสว่า
"ภิกษุทั้งหลาย ! เมื่อใดที่อริยสาวกรู้ทั่วถึงปัจจัยอย่างนี้  รู้ทั่วถึงเหตุแห่งปัจจัยอย่างนี้  รู้ทั่วถึงความดับแห่งปัจจัยอย่างนี้  รู้ทั่วถึงข้อปฏิบัติให้ถึงความดับแห่งปัจจัยอย่างนี้  เมื่อนั้น อริยสาวกนั้นเราเรียกว่า  ผู้ถึงพร้อมด้วยทิฏฐิบ้าง  ผู้สมบูรณ์ด้วยทัสสนะบ้าง  ผู้มาถึงสัทธรรมนี้บ้าง  ผู้ได้เห็นสัทธรรมนี้บ้าง  ผู้ประกอบด้วยเสขญาณบ้าง  ผู้ประกอบด้วยเสขวิชชาบ้าง  ผู้เข้าถึงกระแสแห่งพระธรรมบ้าง  ผู้เป็นอริยะมีปัญญาทะลวงกิเลสบ้าง  ผู้อยู่จ่อประตูนิพพานบ้าง"


หมายเหตุ
ทุกท่านต้องเห็นจริง(สัมมามิฏฐิ)ดังพระพุทธองค์ ด้วยตาภายใน  จะเข้าใจในปฏิจจสมุปบาทได้

ปฏิจจสมุปบาทนี้ ยากเข้าใจ  แต่เข้าใจได้ ผลที่ได้คือ อริยสัจ ๔ และเรื่องกรรม (ทำดีได้ดี  ทำชั่วได้ชั่ว)

ทุกข์  - .....
สมุทัย  - เหตุ-ปัจจัยเกิด
นิโรธ  - เหตุ-ปัจจัยดับ
นิโรธคามินีปฏิปทา - วิธีปฏิบัติเพื่อความ....
      บันทึกการเข้า
Manop Klabdee
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


พอเพียง มีสติ เกิดปัญญา
ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: 2513 วศ. รุ่นที่ 54
คณะ: วิศวกรรมศาสตร์ แผนกวิชาวิศวกรรมโยธา
กระทู้: 11,644

« ตอบ #13118 เมื่อ: 09 ตุลาคม 2557, 05:17:53 »



ผู้ใดเห็น ปฏิจจสมุปบาท   ผู้นั้นเห็นธรรม
ผู้ใดเห็นธรรม   ผู้นั้นเห็นตถาคต

จงพิจารณาด้วยโยนิโสมนสิการ จะพบว่า

กองทุกข์ทั้งมวล มันเกิดอย่างนี้ และดับไปอย่างนี้(ด้วยเหตุ-ปัจจัย)
ไม่มีสัตว์  บุคคล  ตัวตน  เรา  เขา
การเกิดในวัฏฏะสงสารของมนุษย์  ก็เป็นอย่างนี้
การจะพ้นจากวัฏฏะสงสารของมนุษย์  ก็เป็นอย่างนี้
สักกายทิฏฐิ ก็เกิดจาก(ปฏิจจสมุปาบาท)นี้
สีลัพพตปรามาส ก็เกิดจากนี้
วิจิกิจฉา ก็เกิดจากนี้
สมมติบัญญัติ ก็เกิดจากนี้
ปรมัตถ์บัญญัติ ก็เกิดจากนี้
รูป-นาม ก็เกิดจากนี้
อายตนะ ก็เกิดจากนี้
ความเป็นมนุษย์  ก็เกิดจากนี้
ทำไมมนุษย์ต้องเกิด เกิดมาเพื่ออะไร ก็เกิดจากนี้

พูดง่าย ๆ ทุกสิ่งของมนุษย์ ล้วนเกิดจากปฏิจจสมุปาบาท และสิ้นไปเพราะปฏิจจสมุปาบาท

ปฏิจจสมุปาบาทนี้ เป็นตถตา พระพุทธเจ้าจะเกิดหรือไม่ มันก็มีของมันอยู่แล้วในธรรมชาติ ต้องเป็นไปอย่างนี้ ไม่เปลี่ยนแปลงไปอย่างอื่นได้

แต่ธรรมในปฏิจจสมุปบาทนั้น ไม่เที่ยง เป็นอนัตตา

พุทธศาสนา อธิบายจบลงได้ในปฏิจจสมุทบาท เพราะปฏิจจสมุปบาท คือธรรมที่พระพุทธองค์ทรงตรัสรู้ นั่นเอง

วันนี้เป็นวันแรม ๑ ค่ำ เดือน ๑๑ เป็นวันออกพรรษา เริ่มต้นเทศกาลทอดกฐิน มีระยะเวลา ๑ เดือน

สวัสดียามเช้า ทุกท่านครับ
      บันทึกการเข้า
Manop Klabdee
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


พอเพียง มีสติ เกิดปัญญา
ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: 2513 วศ. รุ่นที่ 54
คณะ: วิศวกรรมศาสตร์ แผนกวิชาวิศวกรรมโยธา
กระทู้: 11,644

« ตอบ #13119 เมื่อ: 09 ตุลาคม 2557, 07:23:33 »







วันนี้ทำบุญตักบาตรเทโว เทศกาลออกพรรษา วัดพระนอน
      บันทึกการเข้า
เหยง 16
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: rcu2516
คณะ: เภสัชศาสตร์ 2516
กระทู้: 23,533

« ตอบ #13120 เมื่อ: 09 ตุลาคม 2557, 10:59:27 »

พี่สิงห์ครับ


อยู่ไกลความเจริญ แต่สามารถรักษาวัฒนธรรมและประเพณีเก่าแก่ไว้ได้
อยู่ในเมือง มีความเจริญ แต่ไม่มีอะไรยึดเหนี่ยว
ตี ชิง วิ่ง ปล้น ทำร้ายกันอย่างง่ายดาย
      บันทึกการเข้า
Manop Klabdee
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


พอเพียง มีสติ เกิดปัญญา
ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: 2513 วศ. รุ่นที่ 54
คณะ: วิศวกรรมศาสตร์ แผนกวิชาวิศวกรรมโยธา
กระทู้: 11,644

« ตอบ #13121 เมื่อ: 09 ตุลาคม 2557, 14:22:25 »







สวัสดีครับ คุณเหยง

ขอบคุณมาก

มันก็เป็นอย่างคุณเหยงว่า นั่นแหละ
ความแตกต่างระหว่างสังคมเมือง กับ สังคมบ้านนอก

สวัสดี
      บันทึกการเข้า
Manop Klabdee
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


พอเพียง มีสติ เกิดปัญญา
ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: 2513 วศ. รุ่นที่ 54
คณะ: วิศวกรรมศาสตร์ แผนกวิชาวิศวกรรมโยธา
กระทู้: 11,644

« ตอบ #13122 เมื่อ: 09 ตุลาคม 2557, 18:15:53 »



วันนี้ เป็นวันเกิด พี่ทองอู่  จักรสิงห์ อายุครบ ๘๗ ปี

อดีตประธานชมรมฯ

ภัตตาคารสวนกุหลาบ  ซอยอารีย์
      บันทึกการเข้า
Manop Klabdee
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


พอเพียง มีสติ เกิดปัญญา
ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: 2513 วศ. รุ่นที่ 54
คณะ: วิศวกรรมศาสตร์ แผนกวิชาวิศวกรรมโยธา
กระทู้: 11,644

« ตอบ #13123 เมื่อ: 09 ตุลาคม 2557, 19:26:29 »



มอบดอกไม้ให้ พี่ทองอู่  จักรสิงห์  ในนามสมาคมฯ
      บันทึกการเข้า
เหยง 16
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: rcu2516
คณะ: เภสัชศาสตร์ 2516
กระทู้: 23,533

« ตอบ #13124 เมื่อ: 09 ตุลาคม 2557, 19:35:38 »

พี่สิงห์


ในไลน์ของรุ่น 2516
บอกว่า สมเกียรติ-กวางดำ ป่วย
เข้า รพ.วิภาวดี ด้วยอาการเส้นเลือดแตกในสมอง
อยู่ ICU อาการเริ่มดีขึ้นแล้ว เพราะถึงมือหมอเร็ว
      บันทึกการเข้า
  หน้า: 1 ... 523 524 [525] 526 527 ... 681   ขึ้นบน
  
กระโดดไป:  

     

สมาคมนิสิตเก่าหอพักนิสิต จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย มวลสมาชิกสมาคม คณาจารย์ และนิสิตเก่าทุกคน ขอน้อมเกล้าถวายความอาลัย  พระผู้เสด็จสู่สวรรคาลัย ด้วยเกล้าด้วยกระหม่อม ขอเดชะ <;))))><