08 พฤษภาคม 2567, 05:54:37
ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน


เข้าสู่ระบบด้วยชื่อผู้ใช้ รหัสผ่าน [สมาชิกเก่าลืมรหัส โทร 081-7611760]
A A A A  ระเบียบปฎิบัติ
   
Languages    
  หน้า: 1 ... 3 4 [5] 6 7 ... 18  ทั้งหมด   ลงล่าง
ผู้เขียน หัวข้อ: ตี่-ครุ 27ก็มาแล้ว!  (อ่าน 121042 ครั้ง)
0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
sirimanee
Full Member
**


ครูอนุบาล
ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: rcu2527
คณะ: ครุศาสตร์
กระทู้: 275

« ตอบ #100 เมื่อ: 08 ธันวาคม 2552, 20:18:18 »

นี่คือรูปลูกสาวนะ น้องมน คนไหนดูเอาเอง
      บันทึกการเข้า

ตี่-ครุฯ
withayah
Full Member
**


หมอก๊วย นายแพทย์วิทยา หอมฉุน มาแล้วจ้า
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 251

« ตอบ #101 เมื่อ: 08 ธันวาคม 2552, 20:21:28 »

หวัดดี ตี่
ได้ดูรูปของท่านพี่ตุ๋ยแล้ว น่ารักมากๆๆ
แต่สงสัยนี๊ด....มีลูกตัวน้อยๆ แล้วท่านพี่แต่งงานตอนไหนคับ?
      บันทึกการเข้า
sirimanee
Full Member
**


ครูอนุบาล
ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: rcu2527
คณะ: ครุศาสตร์
กระทู้: 275

« ตอบ #102 เมื่อ: 08 ธันวาคม 2552, 20:26:58 »

พี่ตุ๋ยเหรอ...............แต่งตอนไหน ตอบง่ายๆ ก็ตอนที่หมอก๊วยเข้าเวรไง (เดาเอานะ)

ลืมไป ขอบคุณนะเป๋ ต่อไปคงได้ดูรูปบ่อยขึ้นนะ
      บันทึกการเข้า

ตี่-ครุฯ
withayah
Full Member
**


หมอก๊วย นายแพทย์วิทยา หอมฉุน มาแล้วจ้า
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 251

« ตอบ #103 เมื่อ: 08 ธันวาคม 2552, 20:29:07 »

ลูกสาวน่ารัก
เรามีตั้งสอง ง่ะ
      บันทึกการเข้า
sirimanee
Full Member
**


ครูอนุบาล
ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: rcu2527
คณะ: ครุศาสตร์
กระทู้: 275

« ตอบ #104 เมื่อ: 08 ธันวาคม 2552, 20:31:57 »

ดูใหม่นะเค้ามีทั้งลูกสาวและลูกชายในคนเดียวกันละ
      บันทึกการเข้า

ตี่-ครุฯ
withayah
Full Member
**


หมอก๊วย นายแพทย์วิทยา หอมฉุน มาแล้วจ้า
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 251

« ตอบ #105 เมื่อ: 08 ธันวาคม 2552, 20:34:21 »

ฮ่าๆๆ ถือว่า2in1 โชคดีแล้วเพื่อน
      บันทึกการเข้า
เป๋ครับ!!
Cmadong พันธุ์แท้
****


ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 4,049

« ตอบ #106 เมื่อ: 08 ธันวาคม 2552, 20:37:08 »

สวัสดีครับพี่ตุ๋ย ตี่ ก๊วย

ขอแทรกนิ้ดดดดดดด ครับ มีเรื่องดีๆ เกี่ยวกับคุณครูและนักเรียนมาฝากครับ พี่ที่นับถือคนหนึ่ง FW มาให้ครับ


นักเรียนผู้ออกข้อสอบ出考题的学生    
   (เพื่อนจาก นครชิงเต่า ออกเฉียงเหนือของจีน อีเมลบทความนี้มา   อ่านแล้วก็อดแปลเป็นไทยให้เพื่อนๆ อ่านไม่ได้    การแปลย่อมไม่มีคำว่าสมบูรณ์แบบ    จึงแนบต้นฉบับมาด้วย)  
จาก L.พสก วาคง bkkbdd@yahoo.com

“นักเรียนผมได้ออกโจทย์มาข้อหนึ่ง   และก็เป็นที่ประจักษ์แล้วว่า    ผมเป็นผู้เดียวที่สอบผ่าน”
   พรุ่งนี้ผมก็จะปลดเกษียณแล้ว    หลังจากทำหน้าที่เป็นครูสอนนักเรียนมัธยมมา 35 ปีเต็มๆ    ผมสามารถพูดได้อย่างเต็มปากเต็มคำว่า    ในชาตินี้ได้ดำเนินชีวิตมาอย่างสมบูรณ์แบบ   และมีความหมายอย่างยิ่ง
   กระทั่งปัจจุบันผมก็ยังคงจำได้อย่างแม่นยำ    ถึงปีที่ผมเริ่มเป็นครูสอนชั้นมัธยม    เมื่อผมเรียนจบ    ก็ได้เข้าสู่โรงเรียนมัธยมชั้นนำสอนคณิตศาสตร์    นักเรียนที่นี่ได้รับการคัดสรรเลือกเฟ้นมาแล้ว   น้อยมากที่จะมีผลการเรียนไม่ดี    เมื่อสอนก็ย่อมมีการตอบรับที่ดีด้วยความราบรื่น    ง่ายดายและสบายจริงๆ    จะออกโจทย์ให้ยากอย่างไร    พวกเขาก็ไม่มีทางสอบตก    แต่แล้ว! อย่างฉับพลัน   ผมสังเกตพบว่ามีนักเรียนคนหนึ่ง    เวลาเข้าเรียนดูเหมือนจะมีจิตใจเหม่อลอย    มักจะนิ่งมองดูเพดาน   ผลสอบกลางเทอม    วิชาคณิตศาสตร์สอบได้แค่ 15 คะแนน    ประหลาดมากทั้งชั้นมีผู้สอบตกคนเดียว   และคะแนนก็แย่เอามากๆ
   วันหนึ่ง หลังจากเลิกเรียน    ผมขอให้เขามาสนทนากัน     ไอ้เด็กนี่ถามอะไรก็บอกแต่ไม่รู้    ผลการเรียนที่ตกต่ำอย่างหล่นฮวบ    กล่าวอ้างบอกเหตุผลไม่ได้   เพียงยืนยันว่าเวลาเรียน  ฟังไม่เข้าใจว่าผมพูดอะไร?    ผมเองกลับคิดว่าเขาไม่ตั้งใจเรียน   ดังนั้นผมจึงบอกว่าผมจะต้องพบกับผู้ปกครองของเขา    เกิดความวิตกขึ้นในบัดดล    เขาบอกว่าคุณพ่อเขาเสียเมื่อเขาอายุ 5 ขวบ   แม่แต่งงานใหม่ไปอเมริกาไม่ได้พาเขาไปด้วย    เขาอยู่กับย่าตามลำพัง   ฐานะทางเศรษฐกิจดีมาก    แต่ย่าอายุมากแล้ว   พูดจีนกลางได้น้อยมาก    และไม่รู้หนังสือ    ถ้ารู้ว่าผลการเรียนของเขาไม่ดี    ย่อมจะต้องเสียใจมาก
   เขาถูกผมกดดันมาก    และอยู่ๆก็ถามว่า  “ คุณครูครับ ครูคิดว่าผมหลอกครูหรือ?   คิดหรือครับว่าผมทำข้อสอบได้    แต่แกล้งเป็นทำไม่ได้? ”    เป็นคำถามที่รู้สึกเซ่อไปเลยไม่รู้จะตอบอย่างไร    นอกจากให้กำลังใจและให้เขาตั้งใจเรียน    ยังอาสาสอนพิเศษคณิตศาสตร์    และก็เริ่มเลยในคืนวันนั้น   เริ่มแรกนักเรียนคนนี้ไม่ค่อยจะ     ยอมรับผมเป็นครูอาสาสอนพิเศษ    แต่ด้วยผมยืนยันต้องเป็นเช่นนี้    เขาก็เลยต้องจำยอม    ทุกค่ำทำการบ้านภายใต้การดูแลของผม
   ผมพบว่าจริงๆแล้วเขาไม่โง่   เพียงแต่ว่ามีปฏิกิริยาต่อคณิตศาสตร์ช้าไปหน่อย    หลังจากสอนพิเศษสัปดาห์ละสองครั้ง    ในที่สุดเขาก็เรียนตามทัน    ผลสอบก็ดีขึ้นตลอด    หลังจากสองเดือนผ่านไป    ผมก็ไม่จำต้องเอาใจใส่อีกเลย    ผมเลิกห่วงเขาได้    และจากนั้นนักเรียนคนนี้ก็สนิทสนมกับผมมาก    ในขณะนั้นครอบครัวผมยังไม่มีลูก    หลังจากภรรยาผมทราบว่าเด็กคนนี้ไม่มีพ่อแม่   ก็เชิญชวนเขามาทานข้าว    เขามีเรื่องอะไร    ก็จะมาปรึกษาหาลือ     แม้แต่เรื่องของชีวิตประจำวัน
   ในการสอบเข้ามหาวิทยาลัยของเขานับว่าราบรื่น    ก่อนเดินทางไป “สันเขาแห่งความสำเร็จ” (ฝึกวิชาทหารก่อนเรียนมหาวิทยาลัย) ยังมากราบลาเรา    แต่ทว่า3วันต่อมา    ผมได้รับจดหมายจากเขา   เนื้อความในจดหมายทำให้ผมต้องตลึงงัน
คุณครูครับ
   ได้โปรดให้อภัยผมที่ได้หลอกคุณครูมาครั้งหนึ่ง   ตอนที่การเรียนผมตกต่ำอย่างฮวบฮาบ   มันเป็นความจงใจของผม    ตลอดเวลาผมไม่มีพ่อ    และอยากมีพ่อสักท่านหนึ่ง    ถ้าได้อย่างนั้น    เมื่อมีปัญหาอะไร   ก็สามารถเรียนปรึกษาได้    ดังนั้นจึงได้เกิดอุบายขึ้นในใจ   ผมมีครูสอนอังกฤษ ครูสอนจีน ครูสอนคณิตศาสตร์    ล้วนเป็นครูผู้ชาย    ผมตัดสินใจแกล้งทำเป็นว่าการเรียนตกต่ำ    แล้วสังเกตปฏิกิริยาตอบกลับว่าเป็นอย่างไร
   ครูสอนภาษาอังกฤษ   ไม่รู้สึกรู้สาอะไรต่อการเรียนที่ตกต่ำของผมแม้แต่น้อย   ขณะส่งข้อสอบที่ผมทำคืนมา     ไม่ได้แสดงปฏิกิริยาใดๆเลย    ครูสอนภาษาจีน   ดุด่าผมยกใหญ่   ครูบอกว่าครูรังเกียจและเครียดแค้นที่สุดคือนักเรียนที่ไม่เอาใจใส่    ครูลงโทษให้ผมยืนประจาน 1 ชั่วโมง    แม้ผมจะเป็นเด็กม.4   รูปร่างก็สูงมากแล้ว    พวกร่างสูงกลัวที่สุดคือยืนประจาน    โตขนาดนี้แล้ว    ยังต้องถูกลบหลู่   แน่นอนว่าย่อมอารมย์เสีย    วันต่อมา “อริยขัต” ไม่ท่องแม้แต่คำเดียว    ครูภาษาจีนเห็นว่าส่งข้อสอบเปล่าอีกแล้ว    ลงโทษให้ผมยืนประจานทันที    จากนั้นยังกล่าวก่อนเลิกเรียนว่า    ครูได้ตัดหางปล่อยวัดผมแล้ว
   หนึ่งเดียวที่เป็นห่วงผมก็คือคุณครู    คุณครูถามแล้วถามอีกว่ามันเกิดอะไรขึ้น    และยังได้สอนพิเศษให้ผม    อันที่จริง คุณครูแค่เพียงเป็นห่วงผมก็เพียงพอแล้ว    ผมคิดไม่ถึงเลยว่า    คุณครูอาสาสอนพิเศษให้ผมฟรี    ผมต้องแกล้งทำเป็นไม่เข้าใจ    เสแสร้งอยู่เช่นนี้เต็มๆ 2 เดือน    จึงสามารถหลุดพ้นจากท้องทะเลแห่งความทุกข์ทรมาน    ทว่าตั้งแต่นั้นผมก็รู้สึกว่า    ผมเล่นลครได้เก่งมาก
   ผู้ที่ทำให้ผมประทับใจมากที่สุด    จริงๆแล้วก็คือ “ครูแม่” (หมายถึงภรรยาคุณครู)    ความเป็นห่วงเป็นใยของท่าน    ผมไม่มีวันที่จะลืมเลือน    ครูแม่เชิญผมไปรับประทานอาหารค่ำครั้งแรก    เป็นเวลาที่กระแสลมหนาวพัดผ่านมาพอดี    ผมจงใจไม่สวมเสื้อกันหนาว     ครูแม่เห็นเสื้อผ้าผมบอบบาง    จึงควบคุมตัวผม   ไปยังแผงลอยขายเสื้อกันหนาวทันที    เลือกแจ็กเก็ตหนาๆให้ผม    ผมรู้ดีว่าเงินเดือนคุณครูไม่มาก (แม้ผมจะได้รับบทความนี้    จากเพื่อนในแผ่นดินใหญ่    แต่เนื้อความก็บ่งบอกว่า    เป็นเรื่องที่เกิดในไต้หวัน    และน่าจะเป็นเวลาใกล้เคียงกับที่ผมไปเรียนที่ไต้หวัน    ซึ่งผมได้รับค่าขนม    มากกว่าเงินเดือนครูที่ต้องเลี้ยงครอบครัว    บ่งบอกว่า ครูแม่ห่วงใยและเสียสละเพียงไร?)    ยังแบ่งปันให้ผมขนาดนี้    ผมทราบดีว่าผมพบ พ่อแม่ ที่ผมแสวงหาแล้ว
   ตั้งแต่นั้นมาผมก็ถือว่าคุณครูคือ “พ่อ” ของผม    มีปัญหาอะไรผมจะต้องเรียนถามท่าน    และทุกครั้งท่านก็จะให้คำแนะนำผม    ขณะเดียวกันผมก็แอบ    เลียนแบบวิถีปฏิบัติของท่าน    ท่านมีความจริงใจกับทุกคน    และด้วยเหตุนี้ผมก็พยายามจริงใจกับผู้คน    ทั้งหลายเหล่านี้คือสิ่งที่คุณครูไม่รู้    ผมขอความเมตตาคุณครู   ได้โปรดยกโทษให้ผมด้วย    ที่ครั้งกระนั้น “ผมได้หลอกคุณครู”    อันที่จริงแล้วผมไม่มีทางเลือก    ผมต้องการ “คุณพ่อ” จริงๆ    สุดแสนโชคดีที่ได้รับความห่วงใยจากท่าน    แต่นี้ต่อไปผมมีผู้ให้คำปรึกษา    ด้วยเหตุที่ว่า    คุณครูไม่ทอดทิ้งผม    ในขณะที่การเรียนผมตกต่ำ     ท่านคือผู้มีอิทธิพลสูงสุดในชีวิตผม
ขออวยพรให้   การถ่ายทอดวิชาราบรื่น
                                                                   นักเรียนที่หลอกคุณครู
                                                                   ซิ่ง จัง (แซ่เตียหรือแซ่เตียวในไทย)
   จดหมายฉบับนี้   ทำให้ผมสะท้านไปทั่วร่าง    พวกเราที่เป็นครูได้แต่ตรวจสอบนักเรียนตั้งแต่เช้าจดเย็น     ไม่เคยคิดเลยว่า    นักเรียนก็กำลังตรวจสอบพวกเรา    นักเรียนของผมคนนั้น    ออกโจทย์ให้ครูสอบ     ซึ่งเป็นที่ประจักษ์แล้วว่า    ข้อสอบนี้มีผมคนเดียวเท่านั้นที่สอบผ่าน
ตั้งแต่นั้นมา   ผมก็เอาใจใส่นักเรียนมากขึ้นเป็นพิเศษ   ไม่ว่าสติปัญญาของพวกเขาจะเป็นอย่างไร   ผมไม่ยอมที่จะละเลย    ใช้ทุกวิถีทางช่วยเหลือพวกเขา    ให้พวกเขาได้เรียนรู้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้    หลายปีมานี้    ไม่รู้ว่าสอนนักเรียนที่การเรียนไม่ดีไปเท่าไร     มีหลายคนที่อยู่ในประเภท “อัจฉริยะในบั้นปลาย”    ได้เป็นดุษฎีบัณฑิต    และทั้งหมดไม่ว่าจะมีผลการเรียนเช่นไร    ล้วนประกอบสัมมาชีพในสังคม    ไม่มีแม้คนเดียวที่เกิดปัญหา
ผมพบว่านักเรียนรุ่นหลังๆ   ซาบซึ้งใจต่อผมมาก   และผลสำเร็จใดๆของพวกเขา   ก็ย่อมทำให้ผมรู้สึกภาคภูมิใจ
วันพรุ่งนี้    จะมีนักเรียนที่ผมเคยสอนจำนวนมาก    มาร่วมงานเลี้ยงน้ำชา     เนื่องในโอกาสเกษียณอายุราชการของผม    เชื่อว่าส่วนใหญ่จะเป็นนักเรียนรุ่นหลังๆ    นักเรียนผู้ออกข้อสอบ คนนั้น    ย่อมต้องมาแน่     ธุระกิจของเขาประสพความสำเร็จมาก    และเราก็ติดต่อกันอย่างใกล้ชิดตลอดมา
ผมอยากบอกเขาว่า  ผมนั่นแหละที่จะต้องขอบใจเขา  เพราะเขาเป็นผู้เปลี่ยน แปลงชีวิตผม   เขาเป็นผู้มีอิทธิพลบันดาล   ให้ชีวิตผมเปลี่ยนแปลงมากที่สุด

(ชื่อเดิมของบทความนี้คือ นักเรียนที่หลอกครู骗老师的学生   เหตุที่ผมเปลี่ยนชื่อ   เพราะรู้สึก “นักเรียนผู้ออกข้อสอบ” มีความหมายตรงกับเนื้อเรื่องมากกว่า    หลอกครูไม่ใช่เจตนา    และถ้าจะพิจารณากันจริงๆ    ก็คือเพียงการออกแบบทดสอบ    เพื่อตามหา “พ่อ” ที่เหมาะสม   และยังได้คุณแม่สุดประเสริฐอีกด้วย)


出考题的学生
我的那位学生出了一个考题,显然只有我通过了这场考试。
明天,我就要退休了。做了整整三十五年的中学老师,我可以说这一辈子过得非常充实,非常有意义。

    我到现在还记得我开始做中学老师的那一年,我一毕业,就进入一所明星中学教数学,学生因为是精挑细选出来的,很少功课不好,教起来当然是得心应手,轻松得很。随便我怎么出题目,都考不倒他们。可是,我忽然注意到班上有一位同学上课似乎非常心不在焉,老是对着天花板发呆。期中考,他的数学只得了十五分,太奇怪了。全班就只有他不及格。而且分数如此之差。
    有一天,放学以后,我请他和我谈谈。这小子一问三不知,对成绩的大幅滑落,讲不出任何理由。他一再说他上课听不懂我讲什么,我却觉得他不用功,因此就说我要去找他的家长。立刻紧张了起来,他说他五岁时父亲生病去世了,母亲改嫁到美国,没有带他去。他一个人和祖母一起住,经济情形很好。可是祖母年纪大了,连国语都不大会讲。也不认识字,如果知道他功课不好,一定会非常伤心的。

    他被我逼急了。忽然问我:‘老师,难道你以为我骗你?难道我会做题目,却假装不会做?’我被他问得哑口无言,除了鼓励他以后上课要用功一点以外,还愿意替他补习数学,而且当天晚上就开始。这位学生一开始还不大愿意接受我做他的义务家教,可是由于我的坚持,他只好晚上乖乖地在我的督导下做习题。

    我发现他其实不笨,只是对数学反应慢了一点,每周替他补习两次以后,他终于赶上了进度,考得愈来愈好。两个月以后,我就不管他了。这位学生以后就和我很亲密了,当时我们夫妻两人没有小孩,我太太知道这孩子没有父母以后,就找他来吃饭,他有什么事情,一定会来找我商量。包括一些生涯规画的问题。

    他考大学也算顺利,去成功岭前还来向我们辞行,可是第三天,我收到一封他的信,信的内容令我吃了一惊。
老师:

    请原谅我骗了你一次。当年我功课忽然一落千丈,是我故意的。我一直没有爸爸,也想有个爸爸,这样,如果有什么问题,我好问问他,因此我心生一计,我发现我的英文老师、国文老师和数学老师都是男老师,我决定假装功课不好,看看他们反应如何。

    我的英文老师对我的成绩完全无动于衷,他将考卷还给我的时候,一点表情也没有;我的国文老师将我臭骂了一顿,他说他最痛恨不用功的学生,他罚我站了一个小时。我虽然只有高一,个子已经很高,高个子最怕罚站,这么大的人了,还要被羞辱,我当然心情不好。第二天‘赤壁赋’一个字也背不出来,国文老师发现我交了白卷以后,立刻又罚我站,然后,在下课的时候,他向全班宣布,他已放弃了我。

    唯一关心我的就是你,你不但一再问我怎么一回事,还替我补习。其实你只要关心就够了,我完全没有想到你免费地当我的家教老师,我必须假装不懂,如此装了整整两个月之后,才脱离苦海,但我从此发现我很会演戏。

    最使我感动的人,其实是师母。她对我的关心,令我永远也忘不了。师母第一次请我去吃晚饭,正好寒流过境,我故意没有穿夹克。师母一看到我衣服单薄,立刻押着我去附近的冬衣地摊,替我选了一件厚夹克,我知道你们做老师的薪水并不高,还对我这么好,我知道我找到爸爸妈妈了。

    我从此以后将你当做我的爸爸,有什么事,我都会问你,你也都会给我建议,我也偷偷地学你的为人处事。你对人诚恳,我也因此尽量对人诚恳,这些都是你所不知道的事。我要在此请你原谅我。我当年骗你,实在是迫不得已,我的确需要一个好爸爸,难得你对我关怀,我从此凡事都有人可以商量。由于你在我功课不好的时候没有放弃我,你是我一生中对我影响最大的人。

         祝

              教安

骗你的学生

              张某某上

    这封信令我出了一身冷汗,我们做老师的一天到晚考学生,却很少想到学生也在考我们。我的那位学生出了一个考题,显然只有我通过了这场考试。

    从此以后我就特别注意后段班的同学,无论他们的资质如何,我都不轻言放弃,总会尽量地帮助他们,使他们能学多少就学多少。这么多年来,我教了不知道多少功课不好的学生,有几位大器晚成,还得到了博士学位。不论他们的学业成就如何,他仍都在社会上有工作可做,没有一位出问题的。
我发现后段班学生都非常感激我,他们的任何成就,也都令我感到骄傲。

    明天,有很多我过去教过的学生会来参加我的退休茶会,大多数恐怕都是当年后段班的学生,那位骗我的学生当然一定会来。他的事业很成功,一直和我保持密切的联络。
我要告诉他,我才应该谢谢他,他改变了我的一生,他是我一生中对我影响最大的人。

      บันทึกการเข้า

สวัสดีครับพี่น้อง
เป๋ครับ!!
Cmadong พันธุ์แท้
****


ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 4,049

« ตอบ #107 เมื่อ: 08 ธันวาคม 2552, 20:39:13 »

ขออีกเรื่องนะครับ

รู้สึกมีสุข เธอก็ตบมือดังดัง
การแปลย่อมไม่มีคำว่าสมบูรณ์แบบ    จึงได้แนบต้นฉบับมาด้วยเช่นเคย     และถ้าพบเห็นคำผิด หรือสำนวนไม่เหมาะเจาะ    ได้โปรดชี้แนะเป็นวิทยาทาน     อนึ่ง จากเนื้อเรื่องและชื่อบุคคล    น่าจะเป็นเรื่องที่เกิดขึ้นใน ส.ร.อ.    และต้นฉบับจริงๆ    น่าจะเป็นภาษาอังกฤษ     ถ้าใครมีก็ได้โปรดเอื้อเฟื้อ    ส่งให้ผมด้วย    L.พสก วาคง bkkbdd@gmail.com

   ปีนั้น     หนุ่มเดฟฟีล สำเร็จการศึกษาจากมหาวิทยาลัยของรัฐ     เขาได้เป็นครูสอนวรรณคดี   อันที่จริง    เดฟฟีลปรารถนาอย่างยิ่ง   ที่จะเป็นนักกีฬาวิ่งทางไกลชั้นเยี่ยม   4 ปีก่อนเขาเคยคิดอยู่อย่างเดียวและหลงไหลจะเป็นนักกีฬาหนุ่ม   แต่ทว่าวิถีชีวิต   ทำให้ความใฝ่ฝันต้องกลายเป็นความเพ้อฝัน
เดฟฟีลได้เรียนรู้การสอนแบบเล่นเกมส์    จากชุดหนังสือการสอนใหม่ล่าสุด--- ถ้ารู้สึกมีสุข เธอก็ตบมือดังดัง
เดฟฟีลกล่าวด้วยเสียงอันดังว่า    “ถ้ารู้สึกมีสุข เธอก็ตบมือดังดัง”    วิธีนี้ต้องการกระตุ้นนักเรียนให้มีจินตนาการและมีความรู้สึกไว    เพื่อให้เขาได้เรียนรู้การแสดงออก    เด็กๆต่างปรบมือเป็นจังหวะตามเดฟฟีล     สีหน้าของพวกเขา     จากเบื่อหน่ายท้อแท้    เปลี่ยนเป็นมีชีวิตชีวาขึ้นในบัดดล   เดฟฟีล กระตุ้นความรู้สึกเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ     สายตาของเขาเพ่งมอง     จากคนหนึ่งกระโดดไปอีกคนหนึ่ง    ในที่สุด ก็หยุดอยู่ที่เด็กชายคนหนึ่ง    สีหน้าช่างเมินเฉยไม่แสดงออกใดๆ
   “ถ้ารู้สึกมีสุข เธอก็ตบมือดังดัง”   
   เดฟฟีลย้ำอีกครั้งหนึ่ง    เด็กคนนั้นยังคงไม่มีปฏิกิริยาใดๆ    และจู่จู่ สีหน้ากลับมีอาการโกรธขึ้นมาด้วยซ้ำ    “ถ้ารู้สึกมีสุข เธอก็ตบมือดังดัง” เดฟฟีลมุ่งที่เด็กคนนั้นแผดเสียงให้ดังขึ้น   เด็กคนนั้นยังคงไม่ปริปาก
   ทว่านักเรียนคนอื่นกลับแสดงออกอย่างแปลกๆ    หากเป็นสถานการณ์ปรกติ    ควรที่จะทำให้ทุกคนเกิดความรู้สึกอยากรู้อยากเห็น     แต่ทว่าเด็กทั้งหมดไม่ได้รู้สึกเช่นนั้น     มีเพียงนักเรียนคนหนึ่งกระซิบเบาๆ “คุณครูครับ   เขาชื่อว่า เจมส์”   เดฟฟีลหยุดและหายใจลึกๆ   ควบคุมตนเองได้ในที่สุด
   จากนั้นก็เข้าสู่บทเรียน    และสุดท้ายเดฟฟีลบรรจงตั้งหัวข้อ เรียงความว่า “ความสุข”
   หลังเลิกเรียน เดฟฟีลได้เรียกเจมส์ไปที่ห้องทำงาน   ถามว่า “ทำไมไม่ร่วมกับผู้อื่นปรบมือละ? ”   ต่อไปไม่ควรทำเช่นนั้น     เข้าใจไหม?    มือของเด็กคนนั้นยังคงล้วงกระเป๋า     พยักหน้าตอบโดยไม่ออกเสียง     ตลอดทางจนกลับถึงห้องเรียน    มือขวาเขายังคงอยู่ในกระเป๋ากางเกง
   ครู เดฟฟีล คิดในใจว่า    โอ้ ผมเจอเด็กแข็งกร้าวเข้าแล้ว
   เจมส์ก่อเรื่องขึ้นอีกแล้ว   เขาต่อสู้กับเด็กอีกคนหนึ่ง    ครู เดฟฟีล รีบรุดไปแต่เมื่อไปถึง   เรื่องก็สงบแล้ว    เจมส์มอมแมมไปทั้งตัว    สิ่งเดียวที่ไม่เปลี่ยนแปลงคือ   มือยังคงล้วงกระเป๋า    ยืนสงบนิ่ง   ใบหน้าแดงกร่ำ
   “เจมส์ อะไรกันอีกล่ะ? ”  เจมส์ไม่สนใจใดๆ    หันกลับแล้วก็วิ่งไป
   “มือขวาของเจมส์เคยโดนไฟชอร์ทและถูกตัด” นักเรียนหญิงคนหนึ่งบอก   ครูเดฟฟีล ถึงกับชงัก
ค่ำนั้น   ครูเดฟฟีลนั่งตรวจการบ้านวิชาเรียงความในห้อง    เล่มแล้วเล่มเล่า    สมุดการบ้านที่ปกระบุชื่อเจมส์    ได้ถูกดึงออกมาต่างหากอย่างเจาะจง
   รุ่งขึ้น   ครูเดฟฟีลก้าวสู่หน้าชั้นเรียนอย่างปรกติ    เหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น    และได้นำสมุดการบ้านวิชาเรียงความของวันก่อนส่งคืนให้นักเรียน   จนกระทั่งอีก 5 นาทีสุดท้าย    เขากล่าวว่า “เรามาทบทวนเกมที่เล่นกันเมื่อวานนี้อีกครั้ง    แต่สำหรับวันนี้จะขอแก้ไขเล็กน้อย     ถ้ารู้สึกเป็นสุข    เธอก็ย่ำเท้าแรงๆ    เริ่ม ครูจะย่ำนำ”
   ครูเดฟฟีล เป็นผู้ย่ำเท้านำ    ออกแรงเต็มที่    เท้าซ้ายและขวาย่ำสลับกันไปมา    ดูแล้วหน้าขัน    เพราะการย่ำเท้าของเขา    เหมือนคนขาโก่ง
   นักเรียนทั้งหมดเป็นเด็กที่เฉลียวฉลาดและละเอียดรอบครอบ   
   หนึ่งนาทีจากนั้น    เสียงย่ำเท้าก็ดังกึกก้องไปทั้งห้องเรียนราวกะฟ้าร้อง    หนึ่งในนั้น ครูเดฟฟีล ได้ยินเสียงที่พิเศษสุด    นั่นคือเสียงที่เกิดจากเจมส์    เพราะในวันนั้นเจมส์ย่ำเท้าเสียงดังที่สุด    พร้อมกับน้ำตาคลอเบ้า
   ครูเดฟฟีล ให้คะแนนเรียงความเขา 99 คะแนน    เป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์    พร้อมกับเขียนสำทับข้างท้ายว่า    ทำไมถึงไม่ให้คะแนนเต็มร้อย
   เพราะว่าเธอยึดความโชคร้ายทางร่างกาย    เป็นข้ออ้างในการปฏิเสธโอกาส    ความรู้สึกเป็นสุขที่จิตของเธอพึงได้รับ    ถ้าหากเธอจะได้สังเกตสักนิด    ครูเดฟฟีลของเธอ    แท้จริงแล้วก็คือคนที่ถูกตัดขาซ้าย    เบื้องหลังนั้น ยังมีเรื่องราวของครูที่โชคไม่ดีเช่นกัน    แต่ทว่าเขาไม่ปฏิเสธโอกาส    ดื่มด่ำกับความสุขทางจิต    ที่อยู่เหนือความโชคร้าย    ดังนั้น เขาจึงได้เลือกแล้วว่าจะ    เป็นครูธรรมดาคนหนึ่ง    สนุกสนานอย่างมุ่งมั่นในการดำเนินชีวิต   




感到幸福你就拍拍手รู้สึกมีสุข เธอก็ตบมือดังดัง
    那一年,青年德皮勒完成了全部学业从州立大学毕业,他做了一名教文学的老师。其实, 德皮勒非常想去做一名优秀的长跑运动员。四年前的他曾是那么单纯而痴迷的一名运动青年,但是,他的梦想却在生活中成了幻想。
  德皮勒从最新的教育学书籍上学到一种新的 游戏 方法—如果感到幸福你就拍拍手。
  德皮勒大声对所有人说:“如果感到幸福你就拍拍手。”这种方法是要激发学生的想像力和敏感性,让他们学会表达。孩子们纷纷举手, 跟着德皮勒拍。他们的面孔从僵硬乏味立刻变为鲜活生动。德皮勒更 加激情高涨,他的视线从一个学生跳到另一个学生,最后,定格在一个男孩脸上—--他是那样的面无表情!
  “如果感到幸福你就拍拍手。”
  德皮勒重复了一次,那个男孩还是一声不吭,一动不动,表情甚至有些愤怒。“如果感到幸福你就拍拍手。”德皮勒冲着那男孩更加大声地喊了一句,那个男孩还是不说话。
  不过其他学生的表现却很奇怪,按照一般的情况,这应该勾起大家的好奇。但是,所有的孩子都没有去关注这一事件。只有一个学生轻轻地说:“老师,他叫詹姆斯。”德皮勒深深地倒吸了一口气,终于克制住自己。
  接下来继续上课。德皮勒最后给学生布置了作文题目:《幸福》 。
  下课之后,德皮勒老师把詹姆斯叫到了办公室。他问:“为什么不和大家合拍呢?下次不可以这样, 知道吗?”男孩的手抄在口袋里,沉默地点头。一直到他回教室,他的右手始终放在口袋里没拿出来过。
  德皮勒老师心想,嘿,我遇到了一个脾气倔强的孩子 。
  詹姆斯又惹事了,他和另外一个男孩打架了。德皮勒老师赶过去的时候,争执已经结束。詹姆斯全身都是乱糟糟的,惟一不变的是,仍把手抄在口袋里,站着不动,满脸通红 。
  “你又怎么了,詹姆斯?”詹 姆斯毫不理睬,转身跑掉了。
   “詹姆斯的右手以前因触电被切断啦!”有一个女生说,德皮勒老师的心猛然一缩 。
  晚上,德皮勒老师坐在房间里一本一本地看交上来的作文,把封皮上写着詹姆斯名字的本子单独抽出来 。
  第二天,德皮勒老师仿佛什么都没有发生过,平静地走上讲台,然后把前一天的作文本子发下去。直到最后的五分钟,他说: “我们重复一下昨天的游戏。但是,我们今天稍微修改一下,如果感到幸福你就跺跺脚。来,老师先带头。”
  德皮勒带头跺起脚来,非常地用力,左右两只脚一起动着,看上去非常滑稽,因为他跺起脚来,像是罗圈腿。
  学生们都是聪明而细心的孩子。
  一分钟后,教室里响起剧烈如暴风雨的跺脚声。其中,德皮勒老师听到一个最特别的声音,那是詹姆斯发出的。因为,詹姆斯那天跺脚的声音是最大的,并且眼里含着泪水 。
  德皮勒老师在他的作文上打了有始以来第一个99分,后面还附了一段话:“为什么没有给你满分?
  是因为你为了身体的不幸福,而拒绝了让自己的心感到幸福。如果你注意到你的德皮勒老师其实是一个截去左脚的人,那背后,也有老师的不幸故事。但是,他没有拒绝让心去感受不幸之外的幸福,所以,他选择了做一名平凡的老师,认真地快乐地生活。

      บันทึกการเข้า

สวัสดีครับพี่น้อง
sirimanee
Full Member
**


ครูอนุบาล
ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: rcu2527
คณะ: ครุศาสตร์
กระทู้: 275

« ตอบ #108 เมื่อ: 08 ธันวาคม 2552, 20:48:11 »

555555 หมอก๊วยระวังนะ วันหนึ่งลูกสาวจะมาถามว่า พ่อจะเอาลูกสะใภ้หรือลูกเขย

เป๋ ซาบซึ้งมากทั้งสองเรื่องเลย รู้แล้วใช่ไหมว่าทำไมเค้าถึงเป็นครู
      บันทึกการเข้า

ตี่-ครุฯ
เป๋ครับ!!
Cmadong พันธุ์แท้
****


ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 4,049

« ตอบ #109 เมื่อ: 08 ธันวาคม 2552, 21:23:06 »

อืมมม ... พึ่งรู้ก็ได้
      บันทึกการเข้า

สวัสดีครับพี่น้อง
ตุ๋ย 22
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: RCU2522
คณะ: ครุศาสตร์
กระทู้: 20,173

« ตอบ #110 เมื่อ: 08 ธันวาคม 2552, 21:29:05 »

ยาวอ่ะ  คนแก่อ่านไม่ไหวครับ
      บันทึกการเข้า

น้ำใจน้องพี่สีชมพู ไม่เสื่อมคลายหายไปจากหัวใจ
ตุ๋ย 22
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: RCU2522
คณะ: ครุศาสตร์
กระทู้: 20,173

« ตอบ #111 เมื่อ: 08 ธันวาคม 2552, 21:31:21 »

อ้างถึง
ข้อความของ withayah เมื่อ 08 ธันวาคม 2552, 20:21:28
หวัดดี ตี่
ได้ดูรูปของท่านพี่ตุ๋ยแล้ว น่ารักมากๆๆ
แต่สงสัยนี๊ด....มีลูกตัวน้อยๆ แล้วท่านพี่แต่งงานตอนไหนคับ?
ผมอ่ะแต่งงานรอบแรกอายุ 22  ได้ลุกสาวคนแรก  ตอนอายุ 23  ลุกสาวผมอายุ 24 แล้ว
แต่งงานรอบสองอายุ 37  ได้ลูกชาย  อายุ 38  ลุกชายอายุ 10 ขวบ  แล้วได้ลูกสาวตอนอายุ 45   ลุกสาวคนเล็กอายุ 3 ขวบ
      บันทึกการเข้า

น้ำใจน้องพี่สีชมพู ไม่เสื่อมคลายหายไปจากหัวใจ
เป๋ครับ!!
Cmadong พันธุ์แท้
****


ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 4,049

« ตอบ #112 เมื่อ: 08 ธันวาคม 2552, 21:33:30 »

อ้างถึง
ข้อความของ ตุ๋ย 22 เมื่อ 08 ธันวาคม 2552, 21:31:21
อ้างถึง
ข้อความของ withayah เมื่อ 08 ธันวาคม 2552, 20:21:28
หวัดดี ตี่
ได้ดูรูปของท่านพี่ตุ๋ยแล้ว น่ารักมากๆๆ
แต่สงสัยนี๊ด....มีลูกตัวน้อยๆ แล้วท่านพี่แต่งงานตอนไหนคับ?
ผมอ่ะแต่งงานรอบแรกอายุ 22  ได้ลุกสาวคนแรก  ตอนอายุ 23
แต่งงานรอบสองอายุ 37  ได้ลูกชาย  อายุ 38  แล้วได้ลูกสาวตอนอายุ 45

งั้นผมขอมีลูกตอนอายุ 45 ก็ได้ จะได้มีลูกสาวน่ารักเหมือนลูกสาวพี่ตุ๋ย

      บันทึกการเข้า

สวัสดีครับพี่น้อง
ตุ๋ย 22
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: RCU2522
คณะ: ครุศาสตร์
กระทู้: 20,173

« ตอบ #113 เมื่อ: 08 ธันวาคม 2552, 21:36:26 »

หมดกระสุนตอนอายุ 45 พอดีนะน้องเป๋  เหอๆๆๆๆๆๆ
      บันทึกการเข้า

น้ำใจน้องพี่สีชมพู ไม่เสื่อมคลายหายไปจากหัวใจ
sirimanee
Full Member
**


ครูอนุบาล
ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: rcu2527
คณะ: ครุศาสตร์
กระทู้: 275

« ตอบ #114 เมื่อ: 09 ธันวาคม 2552, 19:52:02 »

ดีมากพี่ตุ๋ย  เป๋ว่าไง  เหอๆๆ เหอๆๆ เหอๆๆ

วันนี้ไปกินข้าวเที่ยงที่ร้านครัวอัปษร กับชุ มน เกียง มานะ เอารูปเมื่อวันคืนสู่เหย้าให้ดูด้วย  มีเสียงวิพากษ์วิจารณ์มาว่า กล้องตี่ไม่ดี ถ่ายรูปแล้วทำให้พวกเขาจำเป๋และหมอก๊วยแทบไม่ได้ ................เป๋ ก๊วย แก้ตัวด่วน
      บันทึกการเข้า

ตี่-ครุฯ
ตุ๋ย 22
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: RCU2522
คณะ: ครุศาสตร์
กระทู้: 20,173

« ตอบ #115 เมื่อ: 09 ธันวาคม 2552, 21:10:42 »

กล้องคอมแพคถ่ายกลางคืนมักไม่ค่อยชัด
      บันทึกการเข้า

น้ำใจน้องพี่สีชมพู ไม่เสื่อมคลายหายไปจากหัวใจ
khesorn mueller
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: 2527
คณะ: รัฐศาสตร์
กระทู้: 71,885

« ตอบ #116 เมื่อ: 09 ธันวาคม 2552, 23:35:39 »

ตี่,มีลูกเร็วจัง!
 2 คนไช่มั้ย?
      บันทึกการเข้า


YOTSAWIN
Hero Cmadong Member
***


หอพักรักของข้า...
ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: RCU27
คณะ: ศิลปกรรมศาสตร์
กระทู้: 1,159

เว็บไซต์
« ตอบ #117 เมื่อ: 10 ธันวาคม 2552, 07:17:39 »

เป่เราอ่านทั้งสองเรื่องแล้ว  ดีมากอยากเป็นครูว่ะ
      บันทึกการเข้า
rs_oman
Hero Cmadong Member
***


ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 1,204

« ตอบ #118 เมื่อ: 10 ธันวาคม 2552, 12:36:46 »

อ้างถึง
ข้อความของ worakarn เมื่อ 10 ธันวาคม 2552, 07:17:39
เป่เราอ่านทั้งสองเรื่องแล้ว  ดีมากอยากเป็นครูว่ะ

ต้องสอนคณิตศาสตร์ด้วยเปล่า ?
ก้อเป็นยังงี้แหละ เป็นลักษณะเฉพาะตัวของครูคณิตศาสตร์
มักจะเอาใจใส่ ติดตามความเป็นไปของนักเรียนเสมอ
จนบางที ก้อคิดว่าสามีที่บ้านเป็นนักเรียน มักจะ (โทร) ถามข่าวคราว บ่อยๆๆ และทุกครั้ง ที่กลับบ้านดึก 55555555
      บันทึกการเข้า
เป๋ครับ!!
Cmadong พันธุ์แท้
****


ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 4,049

« ตอบ #119 เมื่อ: 10 ธันวาคม 2552, 13:57:29 »

อ้างถึง
ข้อความของ worakarn เมื่อ 10 ธันวาคม 2552, 07:17:39
เป่เราอ่านทั้งสองเรื่องแล้ว  ดีมากอยากเป็นครูว่ะ

ความรัก และ การให้ คือสิ่งสวยงามและความสุขของทุกคนที่ได้ทำ หรือแม้แต่แค่เห็นคนอื่นทำก็มีความสุข
      บันทึกการเข้า

สวัสดีครับพี่น้อง
YOTSAWIN
Hero Cmadong Member
***


หอพักรักของข้า...
ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: RCU27
คณะ: ศิลปกรรมศาสตร์
กระทู้: 1,159

เว็บไซต์
« ตอบ #120 เมื่อ: 10 ธันวาคม 2552, 14:53:03 »

อ้างถึง
ข้อความของ rs_oman เมื่อ 10 ธันวาคม 2552, 12:36:46
อ้างถึง
ข้อความของ worakarn เมื่อ 10 ธันวาคม 2552, 07:17:39
เป่เราอ่านทั้งสองเรื่องแล้ว  ดีมากอยากเป็นครูว่ะ

ต้องสอนคณิตศาสตร์ด้วยเปล่า ?
ก้อเป็นยังงี้แหละ เป็นลักษณะเฉพาะตัวของครูคณิตศาสตร์
มักจะเอาใจใส่ ติดตามความเป็นไปของนักเรียนเสมอ
จนบางที ก้อคิดว่าสามีที่บ้านเป็นนักเรียน มักจะ (โทร) ถามข่าวคราว บ่อยๆๆ และทุกครั้ง ที่กลับบ้านดึก 55555555

ขอถามหน่อยดิพี่ เก็บกดสิท่า สงสัยไอ้น้องเหน่งคงสอนคณิตศาสตร์แหงๆ
พี่รังสรรค์ถึงแชร์ประสบการณ์ได้ ตรงขนาดนี้ เหอๆๆ
      บันทึกการเข้า
ตุ๋ย 22
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: RCU2522
คณะ: ครุศาสตร์
กระทู้: 20,173

« ตอบ #121 เมื่อ: 10 ธันวาคม 2552, 18:02:48 »

เป็นครูจนนะจะบอกให้
      บันทึกการเข้า

น้ำใจน้องพี่สีชมพู ไม่เสื่อมคลายหายไปจากหัวใจ
เป๋ครับ!!
Cmadong พันธุ์แท้
****


ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 4,049

« ตอบ #122 เมื่อ: 10 ธันวาคม 2552, 18:40:11 »

ที่บ้านทั้งน้องสาว น้องสะใภ้ เป็นครูกันหมดครับ เด็กๆ เลยเป็นลูกครูกันหมด

      บันทึกการเข้า

สวัสดีครับพี่น้อง
ตุ๋ย 22
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: RCU2522
คณะ: ครุศาสตร์
กระทู้: 20,173

« ตอบ #123 เมื่อ: 10 ธันวาคม 2552, 21:52:52 »

วันที่ 16 มกราคม  อย่าลืมไปเคารพครู
      บันทึกการเข้า

น้ำใจน้องพี่สีชมพู ไม่เสื่อมคลายหายไปจากหัวใจ
rs_oman
Hero Cmadong Member
***


ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 1,204

« ตอบ #124 เมื่อ: 11 ธันวาคม 2552, 07:14:42 »

อ้างถึง
ข้อความของ worakarn เมื่อ 10 ธันวาคม 2552, 14:53:03
อ้างถึง
ข้อความของ rs_oman เมื่อ 10 ธันวาคม 2552, 12:36:46
อ้างถึง
ข้อความของ worakarn เมื่อ 10 ธันวาคม 2552, 07:17:39
เป่เราอ่านทั้งสองเรื่องแล้ว  ดีมากอยากเป็นครูว่ะ

ต้องสอนคณิตศาสตร์ด้วยเปล่า ?
ก้อเป็นยังงี้แหละ เป็นลักษณะเฉพาะตัวของครูคณิตศาสตร์
มักจะเอาใจใส่ ติดตามความเป็นไปของนักเรียนเสมอ
จนบางที ก้อคิดว่าสามีที่บ้านเป็นนักเรียน มักจะ (โทร) ถามข่าวคราว บ่อยๆๆ และทุกครั้ง ที่กลับบ้านดึก 55555555

ขอถามหน่อยดิพี่ เก็บกดสิท่า สงสัยไอ้น้องเหน่งคงสอนคณิตศาสตร์แหงๆ
พี่รังสรรค์ถึงแชร์ประสบการณ์ได้ ตรงขนาดนี้ เหอๆๆ

เอ็งจะถามทำไม ไม่มีคำตอบหรอก  ฟังๆๆ เขามาน่ะ 55555
      บันทึกการเข้า
  หน้า: 1 ... 3 4 [5] 6 7 ... 18  ทั้งหมด   ขึ้นบน
  
กระโดดไป:  

     

สมาคมนิสิตเก่าหอพักนิสิต จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย มวลสมาชิกสมาคม คณาจารย์ และนิสิตเก่าทุกคน ขอน้อมเกล้าถวายความอาลัย  พระผู้เสด็จสู่สวรรคาลัย ด้วยเกล้าด้วยกระหม่อม ขอเดชะ <;))))><