พิมพ์หน้านี้ - เดี่ยว 7 ‘อุดม แต้พานิช’

(http://pics.manager.co.th/Images/550000015772201.JPEG)

สิ้นเสียงหัวเราะเอื้อกสุดท้ายเมื่อปีพุทธศักราช 2546 ‘อุดม แต้พานิช’ ก็ค่อยๆ หายเข้าไปหลังม่านอย่างสงบเงียบ ทิ้งเดี่ยวไมโครโฟน 6 ที่ใช้ชื่อตอนว่า ตูดหมึก ไว้ในความทรงจำของผู้ชมทั่วประเทศ ในขณะที่เขาได้ทำสถิติใหม่ ด้วยการเปิดการแสดงพูดคนเดียวบนเวที หรือ One Stand Up Comedy ที่มากรอบที่สุดในประเทศไทยคือ 43 รอบ

แน่ล่ะ เมื่อใช้พลังงานชีวิตไปมากขนาดนั้น ความเหนื่อยล้า หมดเรี่ยวแรง และอะไรต่อมิอะไรในทางเสื่อมสุขภาพร่างกายย่อมต้องประดังประเดเข้ามาหา อุดมอาจจะลืมนึกถึงตรรกะข้อนี้ไป หรือไม่เขาก็เป็นผู้ใหญ่บ้าพลังที่ยึดหลักสุขใจเอาไว้ก่อนเหนื่อยกายเป็นแน่แท้

หลังม่านสีแดงผืนใหญ่ผืนนั้น ไกลออกไป มีน้อยคนมากที่รู้ว่าชีวิตของอุดมหลังเดี่ยวต้องการความสันโดษเพียงใด การพูดคุยกับคนเรือนหมื่นด้วยความสนุกสนาน ทั้งเล่าเรื่อง ทั้งแสดงท่าทาง เป็นศูนย์กลางหนึ่งเดียวของผู้คนมากมายที่จับจ้องเขาอยู่ด้วยตา หู และจิต กับการต้องกลับมาอยู่ลำพัง ใช้ชีวิตอย่างพอเพียง และอาจถึงเงียบเหงาในบางขณะ มันช่างแตกต่างกันจนบางครั้งอุดมก็รู้สึก ปรับตัวไม่ทัน

อุดมลี้ภัยดังกล่าวไปใช้ชีวิตอยู่ที่จังหวัดเชียงใหม่ มุทำงานศิลปะ เมื่อเริ่มปรับจิตใจให้เข้ากับสภาวะที่ผันไปได้แล้ว จึงโผล่ให้เห็นตามฉากจอภาพยนตร์ไปสองเรื่อง คือ ‘โคตรรักเอ็งเลย’ กับ ‘เมล์นรกหมวยยกล้อ’ และเดินขึ้นบันไดไปแสดงละครเวที ‘ชายกลาง’ อีกหนึ่งเรื่อง นัยหนึ่งอาจเพื่อแสดงตัวตนให้ผู้คนที่ชื่นชอบรับรู้ว่า เขายังมีชีวิตอยู่จริง

หลังจากน้ำย่อยในกระเพาะของแฟนเดี่ยวฯ เริ่มย้อยไหลจนเกิดเสียงโครกครากครืดคราด อุดมเริ่มเรียบเรียงเรื่องราวต่างๆ ที่ไหลเข้ามาหาตัวเองตลอด 4 ปีกว่าๆ ที่ผ่านมา เตรียมแปรสภาพเป็น ‘เดี่ยวไมโครโฟน’ การแสดงบนเวทีที่เขาเป็นคนแรกที่เปิดตำนานการแสดงเช่นนี้ขึ้นในประเทศไทย

‘เดี่ยว 7’ คือผลพลอยได้จากสภาวะสุญญากาศ 4 ปีกว่านั้น อุดมเก็บทุกเรื่องที่เกิดขึ้นกับตัวเองและผู้อื่น เขาจับมือกับพันธมิตรอย่าง คอนเวิร์ส ตัดสินใจเปิดการแสดงที่มีคนเรียกร้องและเฝ้ารอมากที่สุดขึ้นตลอดหนึ่งเดือนเต็ม ณ โรงภาพยนตร์สกาล่า สยามสแควร์ ตั้งแต่วันศุกร์ที่ 1 กุมภาพันธ์ - วันอาทิตย์ที่ 2 มีนาคม พ.ศ. 2551 โดยการแสดงตั้งแต่วันอังคาร – ศุกร์ จะมีในรอบ19.00 น. ส่วนวันเสาร์- อาทิตย์ จะมีในรอบ 14.00 น. และ 19.00 น. (งดการแสดงทุกวันจันทร์) รวมทั้งสิ้น 38 รอบการแสดง

บัตรราคา 500 (นั่งพื้นพรมพร้อมหมอนอิง) / 1,000 / 1,500/ 2,000/ 2,500 บาท เริ่มจำหน่ายบัตรตั้งแต่ 1 ธันวาคม พ.ศ. 2550 ที่ไทยทิคเกตเมเจอร์ทุกสาขา สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมที่ 02-262-3456 หรือเข้าไปดูรายละเอียดพร้อมรอบการแสดงที่ www.thaiticketmajor.com

งานนี้ใครมีบัตรฟรีบ้าง ขอหน่อยดิ 5555 ถามก่อนจะยอมควักตังซื้อเอง เผื่อมีคนใจบุญบริจาค

Cmadong Chula

เรือนประจำรุ่น อบอุ่นทุกสมัย => รุ่น 2540 => ข้อความที่เริ่มโดย: Jim ที่ 10 ธันวาคม 2550, 13:46:17