Cmadong Chula

เรือนรับแขก เมาท์แหลกไม่เลือกรุ่น => ห้องสุขภาพและความงาม => ข้อความที่เริ่มโดย: Samrotri2517 ที่ 19 พฤศจิกายน 2552, 19:22:57



หัวข้อ: สธ.เปิดใช้ยุทธการ“4×4×4×4” รับการระบาดของโรคไข้หวัดใหญ่ระลอกใหม่
เริ่มหัวข้อโดย: Samrotri2517 ที่ 19 พฤศจิกายน 2552, 19:22:57

สธ.เปิดใช้ยุทธการ“4×4×4×4”

วันพฤหัสบดี ที่ 19 พฤศจิกายน 2552 เวลา 13:01 น  

(http://img406.imageshack.us/img406/8153/89363111.jpg)

วันนี้ (19 พ.ย.) ที่กรมประชาสัมพันธ์ นายวิทยา แก้วภราดัย รมว.สาธารณสุข พร้อมด้วย นพ.ไพจิตร์ วราชิต ปลัดกระทรวงสาธารณสุข นพ.มานิต ธีระตันติกานนท์ อธิบดีกรมควบคุมโรค และคณะ ประชุมทางไกลผ่านระบบวิดีโอคอนเฟอร์เร้นซ์ ชี้แจง

นโยบายการเฝ้าระวังป้องกันโรคไข้หวัดใหญ่ 2009 ระลอกใหม่ แก่สื่อมวลชนสังกัดกรมประชาสัมพันธ์ทั่วประเทศ และสื่อมวลชนส่วนภูมิภาค ว่า กระทรวงสาธารณสุขได้เตรียมพร้อมรับการระบาดของโรคไข้หวัดใหญ่ระลอกใหม่ ในช่วงฤดูหนาว และต่อเนื่องไปหลังเทศกาลปีใหม่ โดยได้กำหนด

ยุทธการ 4×4×4×4 เพื่อให้ระบบการป้องกันควบคุมโรคมีประสิทธิภาพ และครอบคลุมมากที่สุด

นายวิทยา กล่าวว่า ยุทธการ 4×4×4×4 ประกอบด้วย

ยุทธการแรก ได้แก่ การให้ทุกจังหวัดดำเนินงานเข้มข้นเป็นเวลา 4 เดือน ตั้งแต่ พ.ย.52 ถึง ก.พ.53

ยุทธการที่ 2 คือ การสร้างความปลอดภัยจากโรคให้ 4 กลุ่มคน ได้แก่ กลุ่มวัยเรียน กลุ่มวัยทำงาน กลุ่มที่เป็นวัยอยู่บ้าน คือ เด็กเล็ก ผู้สูงอายุ และกลุ่มผู้ป่วยโรคเรื้อรัง รวมทั้งกลุ่มเสี่ยงป่วยรุนแรง เช่น หญิงตั้งครรภ์ ผู้ที่เป็นโรคอ้วน

ยุทธการที่ 3 ได้แก่ การใช้ 4 มาตรการในการบริหารจัดการ ได้แก่ การประชาสัมพันธ์ให้ความรู้สถานการณ์โรค และความเสี่ยงของตนเอง เร่งบูระณาการความร่วมมือในการป้องกันควบคุมโรค สนับสนุนการดำเนินงานของทุกภาคส่วนเพื่อลดการป่วย และการป้องกันในกลุ่มเสี่ยงป่วยรุนแรง ให้ผู้ป่วยได้รับการรักษาเร็ว ได้ยาเร็ว เพื่อลดการเสียชีวิต รวมทั้งลดการระบาดเป็นกลุ่มก้อนขนาดใหญ่

ยุทธการสุดท้าย ได้แก่ การเสริม 4 พฤติกรรมการป้องกันโรคไข้หวัดใหญ่แก่ประชาชน ได้แก่

1.เมื่อป่วยให้ใส่หน้ากากอนามัย หากไม่มี เวลาไอ-จามใส่กระดาษทิชชู หรือไอใส่แขนเสื้อตัวเอง
2.ล้างมือบ่อย ๆ ทุกครั้งหลังไอ-จาม และก่อนกินอาหาร
3.หลีกเลี่ยงไปในสถานที่แออัด การอยู่ใกล้ชิดกับคนป่วย หรือมีอาการไอ-จาม และ
4.หยุดเรียน หยุดงาน หยุดกิจกรรมเมื่อป่วยเป็นโรคไข้หวัดใหญ่ เพื่อให้หายป่วยเร็ว และไม่แพร่เชื้อให้ผู้อื่น

โดยดำเนินการควบคู่กับมาตรการเดิม คือ 2ลด 3 เร่ง
2 ลด ลดป่วย ลดตาย และ
3 เร่ง คือ เร่งประชาสัมพันธ์สร้างความเข้าใจแก่ประชาชนในการป้องกันตนเอง เร่งให้อาสาสมัครสาธารณสุข อสม.ค้นหา เฝ้าระวังในพื้นที่อย่างเข้มข้น และเร่งบูรณาการการบริหารจัดการให้ครอบคลุมทุกคนในพื้นที่

นำมาจาก

http://www.dailynews.co.th/newstartpage/index.cfm?page=content&categoryId=38&contentID=32999 (http://www.dailynews.co.th/newstartpage/index.cfm?page=content&categoryId=38&contentID=32999)

 emo26:D emo26:D emo26:D
.


หัวข้อ: Re: สธ.เปิดใช้ยุทธการ“4×4×4×4” รับการระบาดของโรคไข้หวัดใหญ่ระลอกใหม่
เริ่มหัวข้อโดย: Samrotri2517 ที่ 29 พฤศจิกายน 2552, 14:04:29

(http://img403.imageshack.us/img403/421/wrd000.jpg)

ยอดเสียชีวิตจากหวัด09ทั่วโลกพุ่งกว่าพันคน

โดย : กรุงเทพธุรกิจออนไลน์ วันเสาร์ ที่ 28 พฤศจิกายน 2552
 
องค์การอนามัยโลก (WHO) รายงานว่า ยอดผู้เสียชีวิตจากไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ 2009 ทั่วโลกพุ่งสูงขึ้นถึงกว่า 1,000 คน จากเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว เป็นอย่างน้อย 7,826 คน นับตั้งแต่พบการระบาดของเชื้อครั้งแรกเมื่อเดือนเมษายนปีนี้ในเม็กซิโก โดยทวีปอเมริกามียอดผู้เสียชีวิตเพิ่มขึ้นมากที่สุดถึงกว่า 500 คน เป็น 5,360 คน ส่วนยุโรปมียอดผู้เสียชีวิต 650 คนแล้ว เพิ่มขึ้นถึง 300 คนจากสัปดาห์ก่อน

การระบาดเชื้อไข้หวัดใหญ่ 2009 ขณะนี้ ดูเหมือนยังคงอยู่ในระดับสูงสุดในหลายส่วนของซีกโลกเหนือ ทั้งในทวีปอเมริกาเหนือ และหลายประเทศของยุโรป เช่น เบลเยี่ยม บัลแกเรีย เบลารุส ไอร์แลนด์ นอร์เวย์ ยูเครน และไอซ์แลนด์

ขณะที่สถาบันสาธารณสุขของฝรั่งเศสพบชาวฝรั่งเศส 2 คน จากคนละเมืองของประเทศเสียชีวิตจากเชื้อไข้หวัดใหญ่ 2009 ที่กลายพันธุ์ โดยเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา WHO ได้ตรวจตัวอย่างเชื้อไข้หวัดใหญ่ 2009 กลายพันธุ์ ที่ทำให้มีผู้เสียชีวิต 2 คนในนอร์เวย์ พร้อมระบุว่า พบการกลายพันธุ์ของเชื้อนี้มีทั้งที่ถึงแก่เสียชีวิตและเชื้อที่ไม่รุนแรง ในอีกหลายประเทศ ทั้งในบราซิล จีน ญี่ปุ่น เม็กซิโก ยูเครน และสหรัฐ

นำมาจาก

http://www.bangkokbiznews.com/home/detail/politics/world/20091128/88741/%E0%B8%A2%E0%B8%AD%E0%B8%94%E0%B9%80%E0%B8%AA%E0%B8%B5%E0%B8%A2%E0%B8%8A%E0%B8%B5%E0%B8%A7%E0%B8%B4%E0%B8%95%E0%B8%88%E0%B8%B2%E0%B8%81%E0%B8%AB%E0%B8%A7%E0%B8%B1%E0%B8%9409%E0%B8%97%E0%B8%B1%E0%B9%88%E0%B8%A7%E0%B9%82%E0%B8%A5%E0%B8%81%E0%B8%9E%E0%B8%B8%E0%B9%88%E0%B8%87%E0%B8%81%E0%B8%A7%E0%B9%88%E0%B8%B2%E0%B8%9E%E0%B8%B1%E0%B8%99%E0%B8%84%E0%B8%99.html (http://www.bangkokbiznews.com/home/detail/politics/world/20091128/88741/%E0%B8%A2%E0%B8%AD%E0%B8%94%E0%B9%80%E0%B8%AA%E0%B8%B5%E0%B8%A2%E0%B8%8A%E0%B8%B5%E0%B8%A7%E0%B8%B4%E0%B8%95%E0%B8%88%E0%B8%B2%E0%B8%81%E0%B8%AB%E0%B8%A7%E0%B8%B1%E0%B8%9409%E0%B8%97%E0%B8%B1%E0%B9%88%E0%B8%A7%E0%B9%82%E0%B8%A5%E0%B8%81%E0%B8%9E%E0%B8%B8%E0%B9%88%E0%B8%87%E0%B8%81%E0%B8%A7%E0%B9%88%E0%B8%B2%E0%B8%9E%E0%B8%B1%E0%B8%99%E0%B8%84%E0%B8%99.html)

 emo4:)) emo4:)) emo4:))

นำมาบอกพวกเราว่า ไข้หวัดสายพันธุ์ใหม่ 2009 กำลังจะมาระบาดระลอกที่ 2 ที่คาดว่ารุนแรงกว่าระลอกแรก

ประชาชนทุกคนจึงต้องร่วมมือกัน ทำหน้าที่  นอกจากการขอใช้ สิทธิการรักษา  อย่างเดียว โดย

ยุทธการสุดท้าย ได้แก่ การเสริม 4 พฤติกรรมการป้องกันโรคไข้หวัดใหญ่แก่ประชาชน ได้แก่

1.เมื่อป่วยให้ใส่หน้ากากอนามัย หากไม่มี เวลาไอ-จามใส่กระดาษทิชชู หรือ
ไอใส่แขนเสื้อตัวเอง
2.ล้างมือบ่อย ๆ ทุกครั้งหลังไอ-จาม และก่อนกินอาหาร
3.หลีกเลี่ยงไปในสถานที่แออัด การอยู่ใกล้ชิดกับคนป่วย หรือมีอาการไอ-จาม และ
4.หยุดเรียน หยุดงาน หยุดกิจกรรมเมื่อป่วยเป็นโรคไข้หวัดใหญ่ เพื่อให้หายป่วยเร็ว และไม่แพร่เชื้อให้ผู้อื่น

 emo26:D emo26:D emo26:D


หัวข้อ: "ประชาชนเริ่มเกิดความเคยชินกับโรคไข้หวัดใหญ่ 2009 จึงละเลยการป้องกันตนเอง"
เริ่มหัวข้อโดย: Samrotri2517 ที่ 15 มกราคม 2553, 07:23:13

                          หวัด'09ตายเพิ่ม "1สัปดาห์4ราย"
การศึกษา-สาธารณสุข น.ส.พ.ไทยโพสต์ วันพฤหัสบดีที่ 14 มกราคม 2553

         "หวัด 2009" ตายเพิ่ม 4 ราย สธ.เตือนแนวโน้มระบาดหนักช่วงอากาศเปลี่ยน เตือนประชาชนอย่านิ่งนอนใจต้องดูแลตัวเองเหมือนเดิม

                          (http://img188.imageshack.us/img188/1592/images99k.jpg)

         นพ.ไพจิตร์ วราชิต ปลัดกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) กล่าวถึงความคืบหน้าสถานการณ์ไข้หวัดใหญ่ 2009 ว่า

         เมื่อวันที่ 3-9 ม.ค.ที่ผ่านมา มีผู้เสียชีวิตเพิ่ม 4 ราย เป็นชายอายุ 24 ปี ใน จ.ชัยภูมิ หญิงอายุ 30 ปี จ.ร้อยเอ็ด เด็กชายอายุ 4 ปี จ.นครราชสีมา และเด็กชาย 6 ปี จ.เชียงใหม่ ซึ่งเป็นโรคหอบหืดและอ้วน

         ซึ่งในรอบ 2 สัปดาห์ที่ผ่านมา มีผู้ป่วยยืนยันเพิ่ม 55 ราย ผู้ป่วยสะสมตั้งแต่วันที่ 28 เม.ย.2552-9 ม.ค.2553 รวม 30,805 ราย เสียชีวิต 196 ราย

         โดยจังหวัดที่มีผู้ป่วยยืนยันสะสมสูงสุด 5 อันดับแรก คือ เชียงใหม่ ตราด เชียงราย พะเยา และสงขลา นอกจากนี้

         จากการสำรวจผู้ป่วยที่มีอาการคล้ายไข้หวัดใหญ่ที่มารับการรักษาที่ รพ. พบสัปดาห์ที่ผ่านมามีแนวโน้มสูงขึ้นจาก 9% เป็น 10% และผู้ป่วยปอดอักเสบเพิ่มจาก 4% เป็น 10% และยังพบการระบาดเป็นกลุ่มๆ ในบางพื้นที่ เช่น ที่ รร.ใน จ.เชียงใหม่ เนื่องจากสภาพอากาศหนาวเย็นทำให้เกิดการระบาดได้ง่าย

         "ที่น่าเป็นห่วงคือแนวโน้มพบการระบาดขยายไปสู่พื้นที่ชนบทห่างไกลมากขึ้น โดยผู้ป่วยในชนบทมักไปซื้อยาชุดแก้ไข้หวัดมากินเอง ทำให้มารับการรักษาช้า เสี่ยงเกิดอาการรุนแรงและเสียชีวิต"

                         (http://img16.imageshack.us/img16/8852/images100a.jpg)

         ด้าน นพ.มานิต ธีระตันติกานนท์ อธิบดีกรมควบคุมโรค กล่าวว่า ขณะนี้ประชาชนเริ่มเกิดความเคยชินกับโรคไข้หวัดใหญ่ 2009 จึงละเลยการป้องกันตนเอง เห็นได้จากการใช้หน้ากากอนามัย และการล้างมือของประชาชนลดลงอย่างมาก ซึ่งเสี่ยงต่อการแพร่ระบาดสูงขึ้น ประกอบกับช่วงนี้อากาศเปลี่ยนแปลง จึงขอให้ประชาชนทุกคนหันมาป้องกันตัวเองเพื่อไม่ให้ป่วย โดยการออกกำลังกาย กินร้อน ใช้ช้อนกลาง และล้างมือบ่อยๆ ผู้เป็นไข้หวัดจะต้องใส่หน้ากากอนามัย และหยุดพักงานอยู่กับบ้าน 7 วันจนหายป่วย เพื่อป้องกันแพร่เชื้อสู่คนอื่น

         สำหรับการฉีดวัคซีนไข้หวัดใหญ่ 2009 ให้ 5 กลุ่มเสี่ยง กำหนดครบ 100% ภายในวันที่ 31 มี.ค. ผลการฉีดวัคซีนใน 2 วันที่ผ่านมา ได้รับรายงานจาก 31 จังหวัด พบว่า วัคซีนมีความปลอดภัย ไม่พบผู้มีอาการแพ้รุนแรง พบเพียงอาการเล็กน้อย คือปวด บวม แดงที่รอยฉีดเท่านั้น โดยมีผู้ได้รับการฉีดแล้ว 3,769 ราย เชื่อว่าจะมีผู้มารับการฉีดมากขึ้นเพราะเกิดความมั่นใจ ส่วนกลุ่มเสี่ยงที่ตกสำรวจขอให้แจ้งลงทะเบียนฉีดวัคซีนที่ รพ.ในสังกัด สธ.ทุกแห่งใกล้บ้าน.//////////////

         emo4:)) emo4:)) emo4:))

         ส่งข่าวมาเตือนพวกเราให้ เริ่มเข้มข้นในการสร้างเสริมสุขภาพ ป้องกันตนเอง ไม่ให้รับเชื้อ และ ไม่แพร่เชื้อ ถ้าไม่สบายเอง ร่วมกับ มีอาการไข้หวัดที่รุนแรงกว่าปรกติ ได้แก่ ไข้สูงติดต่อกันเกิน 2 วัน มีไอมาก เจ็บหน้าอก เสมหะข้น อาจมีสีสนิมเหล็ก

         ต้องรีบมาพบแพทย์เพื่อรับยาต้านเชื้อไข้หวัด สายพันธุ์ใหม่ ฟรี ทันที มีทุกสถานพยาบาลทุกแ่ห่ง

นำมาจาก น.ส.พ.ไทยโพสต์ วันพฤหัสบดี ที่14 มกราคม 2553

http://www.thaipost.net/news/140110/16349 (http://www.thaipost.net/news/140110/16349)

         emo6::)) emo6::)) emo6::))



หัวข้อ: "วัคซีนเชื้อเป็น หวัด 2009 ฝีมือคนไทย ไม่ต้องฉีดใช้หยดจมูก"
เริ่มหัวข้อโดย: Samrotri2517 ที่ 29 มกราคม 2553, 16:49:23

ผลวัคซีนหวัด 2009 เชื้อเป็นในอาสาสมัครน่าพอใจกระตุ้นภูมิคุ้มกันได้

สำนักข่่าวไทย วันศุกร์ ที่ 29 ม.ค. 53 02.59 น.

         ผลวัคซีนหวัด 2009 เชื้อเป็นในอาสาสมัครน่าพอใจกระตุ้นภูมิคุ้มกันได้ ผลพบการกระตุ้นภูมิคุ้มกันในกระแสเลือด และในเนื้อเยื่อโพรงจมูก เป็นที่น่าพอใจ คาดเริ่มใช้วัคซีนในอาสาสมัคร 400 คนในเดือนเมษายนนี้

                                              (http://img156.imageshack.us/img156/3527/69744533.jpg)

                                        นายแพทย์วิชัย โชควิวัฒน
                อดีต ผู้อำนวยการคนแรก ร.พ.พยัคฆภูมิพิสัย อ.พยัคฆภูมิพิสัย จ.มหาสารคาม
                                ตั้งแต่ปี 2516 - 2519  ขนาด 10 เตียง
               ค่ายหอจุฬาฯ เคยไปที่ ร.ร.บ้านหนองจิก อ.พยัคฆภูมิพิสัย พวกเราำนึกออกไหม

                                                  emo28:win:
                     http://hospital.moph.go.th/phayakkhaphoompisai/boss.htm (http://hospital.moph.go.th/phayakkhaphoompisai/boss.htm)

         นพ.วิชัย โชควิวัฒน ประธานคณะกรรมการบริหารองค์การเภสัชกรรม (อภ.) กล่าวถึงการทดลองวัคซีนไข้หวัดใหญ่ 2009 ชนิดเชื้อเป็นของไทยในอาสาสมัครว่า

         ผลการใช้วัคซีนในอาสาสมัครทั้ง 24 คน ครบ 2 ครั้ง และ นำเลือดและน้ำในโพรงจมูกตรวจสอบ พบเป็นที่น่าพอใจ พบการกระตุ้นภูมิคุ้มกันในกระแสเลือด และในเนื้อเยื่อในโพรงจมูก ขณะนี้กำลังอยู่ในระหว่างการประเมินและวิเคราะห์ผลการใช้วัคซีนในอาสาสมัคร และส่งให้คณะกรรมการกำกับดูแลความปลอดภัยตัดสินในการใช้วัคซีนในอาสาสมัครกลุ่มใหญ่ 400 คนต่อไป

         ซึ่งหากดำเนินการทดลองต่อ คาดจะสามารถเริ่มใช้วัคซีนในอาสมาสมัคร 400 คน ได้ในเดือนเมษายนนี้

         ส่วนสาเหตุที่ไม่เร่งรีบในการทดลองวัคซีนนั้น เนื่องจากสถานการณ์การระบาดเริ่มชะลอตัวไม่รุนแรง จึงไม่จำเป็นต้องเร่งรีบและต้องการเน้นเรื่องความปลอดภัยและความเสถียรของเชื้อให้มากที่สุด

นำมาจาก เวบสนุกดอทคอม โดย สำนักข่าวไทย อสมท.

http://news.sanook.com/%E0%B8%9C%E0%B8%A5%E0%B8%A7%E0%B8%B1%E0%B8%84%E0%B8%8B%E0%B8%B5%E0%B8%99%E0%B8%AB%E0%B8%A7%E0%B8%B1%E0%B8%94-2009-%E0%B9%80%E0%B8%8A%E0%B8%B7%E0%B9%89%E0%B8%AD%E0%B9%80%E0%B8%9B%E0%B9%87%E0%B8%99%E0%B9%83%E0%B8%99%E0%B8%AD%E0%B8%B2%E0%B8%AA%E0%B8%B2%E0%B8%AA%E0%B8%A1%E0%B8%B1%E0%B8%84%E0%B8%A3%E0%B8%99%E0%B9%88%E0%B8%B2%E0%B8%9E%E0%B8%AD%E0%B9%83%E0%B8%88%E0%B8%81%E0%B8%A3%E0%B8%B0%E0%B8%95%E0%B8%B8%E0%B9%89%E0%B8%99%E0%B8%A0%E0%B8%B9%E0%B8%A1%E0%B8%B4%E0%B8%84%E0%B8%B8%E0%B9%89%E0%B8%A1%E0%B8%81%E0%B8%B1%E0%B8%99%E0%B9%84-894207.html (http://news.sanook.com/%E0%B8%9C%E0%B8%A5%E0%B8%A7%E0%B8%B1%E0%B8%84%E0%B8%8B%E0%B8%B5%E0%B8%99%E0%B8%AB%E0%B8%A7%E0%B8%B1%E0%B8%94-2009-%E0%B9%80%E0%B8%8A%E0%B8%B7%E0%B9%89%E0%B8%AD%E0%B9%80%E0%B8%9B%E0%B9%87%E0%B8%99%E0%B9%83%E0%B8%99%E0%B8%AD%E0%B8%B2%E0%B8%AA%E0%B8%B2%E0%B8%AA%E0%B8%A1%E0%B8%B1%E0%B8%84%E0%B8%A3%E0%B8%99%E0%B9%88%E0%B8%B2%E0%B8%9E%E0%B8%AD%E0%B9%83%E0%B8%88%E0%B8%81%E0%B8%A3%E0%B8%B0%E0%B8%95%E0%B8%B8%E0%B9%89%E0%B8%99%E0%B8%A0%E0%B8%B9%E0%B8%A1%E0%B8%B4%E0%B8%84%E0%B8%B8%E0%B9%89%E0%B8%A1%E0%B8%81%E0%B8%B1%E0%B8%99%E0%B9%84-894207.html)

             การแพทย์ไทย ไม่ไร้คนมีฝีมือ

                 emo28:win: emo28:win: emo28:win: