14 พฤษภาคม 2567, 05:58:33
ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน


เข้าสู่ระบบด้วยชื่อผู้ใช้ รหัสผ่าน [สมาชิกเก่าลืมรหัส โทร 081-7611760]
A A A A  ระเบียบปฎิบัติ
   
Languages    
  หน้า: [1]   ลงล่าง
ผู้เขียน หัวข้อ: คนไทยเป็นมะเร็งตายติดอันดับ 1  (อ่าน 3875 ครั้ง)
0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
VisitThai
Newbie
*


ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 4

เว็บไซต์
« เมื่อ: 09 ธันวาคม 2553, 07:12:21 »

มะเร็งเป็นสาเหตุการตายอันดับ 1 ในช่วงระยะเวลาหลายปีที่ผ่านมา ถือว่าเป็น 1 ใน 5 โรคที่คุกคามชีวิตคนไทยมากที่สุด 5 โรคดังกล่าว ได้แก่ เบาหวาน โรคความดันโลหิตสูง โรคหัวใจ โรคหลอดเลือดสมอง และโรคมะเร็ง ซึ่งแนวทางแก้ปัญหาที่ตรงประเด็นที่สุดกับคนไทยในภาพรวมคือ ทำอย่างไรจะป้องกันไม่ให้คนไทยเป็น 5 โรคนี้ หรือถ้าป่วย ต้องมีวิธีการรักษาที่ถูกวิธี

องค์การอนามัยโลกคาดการณ์ว่า ในอีก 10 ปีข้างหน้า จะมีผู้เสียชีวิตจากโรคมะเร็ง ประมาณ 11 ล้านคนทั่วโลก ถือว่าเป็นตัวเลขที่สูงมาก สำหรับประเทศไทย นโยบายของกระทรวงสาธารณสุข จะมุ่งเน้นการป้องกันเป็นหลัก เนื่องจากร้อยละ 40 ของผู้ป่วย สามารถรักษาให้หายได้ถ้ารับการรักษาตั้งแต่ต้นที่รู้ตัวว่าป่วย ไม่ให้มะเร็งลุกลาม วิธีดำเนินการมี 2 วิธีคือ การป้องกันไม่ให้ป่วย และมีระบบการคัดกรองผู้ป่วย เพื่อให้รู้ตั้งแต่เนิ่นๆ และนำไปสู่การรักษาอย่างทันท่วงที

โรคมะเร็งเป็นสาเหตุการเสีย ชีวิตของคนไทยติดต่อกันในรอบ 9 ปี (พ.ศ.2543-2551) โดยในปี 2551 เสียชีวิต 55,403 คน เป็นชาย 32,060 คน หญิง 23,343 คน โดยร้อยละ 53 ของผู้เสียชีวิตอายุ 60 ปีขึ้นไป โดยผู้ชายป่วยเป็นมะเร็งตับสูงเป็นอันดับ 1 รองลงมาได้แก่ มะเร็งปอด และมะเร็งลำไส้ใหญ่ ส่วนในผู้หญิงอันดับ 1 ได้แก่ มะเร็งเต้านม รองลงมาได้แก่ มะเร็งปากมดลูก และมะเร็งตับ ปอด ลำไส้ใหญ่ ซึ่งหากสามารถปรับเปลี่ยนพฤติกรรมสุขภาพตามที่กล่าวมาข้างต้น จะสามารถป้องกันมะเร็งได้ในระดับหนึ่ง แต่หากป่วยเป็นมะเร็งแล้ว ต้องรีบไปรับการรักษาทันที หากรักษาได้ทัน ก็จะมีโอกาสหายได้ สาธารณสุขเร่งรณรงค์นโยบายลดหวาน มัน เค็ม ลดอ้วน ลดโรค เพิ่มผักผลไม้ เพิ่มการออกกำลัง และลดละเลิกอบายมุข และ 5 ทำ 5 ไม่ ห่างไกลมะเร็ง โดยให้โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบล (รพ.สต.) เป็นแกนหลักดำเนินการร่วมกับอาสาสมัครสาธารณสุข (อสม.) ขณะนี้ทุกพื้นที่ได้เริ่มดำเนินการแล้ว ตั้งแต่ปีใหม่ 2554 เป็นต้นไป
      บันทึกการเข้า

Samrotri2517
Cmadong Member
Hero Cmadong Member
****


จะเป็นด้านที่1และ2ของ3เหลี่ยมฯ เพื่อให้เกิดด้านที่3
ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: รหัสเข้า 17 รุ่น 57
คณะ: แพทยศาสตร์ จุฬาฯรุ่น 30
กระทู้: 1,915

« ตอบ #1 เมื่อ: 09 ธันวาคม 2553, 08:12:04 »


         

         การสาธารณสุขมูลฐาน จะแก้ปัญหาคนไทยเป็นมะเร็งตายติดอันดับ 1 ได้ ด้วยการใช้

สาธารณสุขมูลฐาน มีตัวชี้วัด 4 ตัว เปรียบเป็นเสาค้ำจุนสุขภาพ 4 ด้าน คือ

1.การที่ทุกคนได้สิ่งจำเป็นพื้นฐาน(จปฐ.)ที่จำเป็นต่อชีวิต ตามเกณฑ์ถ้วนหน้า

2.การที่ประชาชนมีส่วนร่วมในการมีสุขภาพดี

3.การเข้าถึงสถานบริการสุขภาพได้สะดวก เข้าถึงได้ง่าย โดยถ้วนหน้า

4.การมีสถานพยาบาลที่ให้บริการสุขภาพ อย่างมีคุณภาพ ทุกแห่ง

การมีสาธารณสุขมูลฐาน ดี เป็นพื้นฐานที่จะทำให้คนไทยเป็นมะเร็งลดน้อยลงได้

นำมาจากกระทู้ http://www.cmadong.com/board/index.php/topic,3394.0.html

                   win win win
      บันทึกการเข้า

3 เหลี่ยมเขยื้้อนภูเขา เสนอโดย ศ.นพ.ประเวศ วะสี มี 3 ด้าน คือ ด้านที่ 1 ด้านให้ความรู้กับกลุ่มคน ด้านที่ 2 กลุ่มคน ที่ได้รับความรู้ เห็นด้วย สร้างวัฒนธรรมไม่มีบทลงโทษถ้าไม่ทำ ด้านที่ 3 ด้านการเมือง เป็นด้านออกกฏหมาย มีบทลงโทษถ้าไม่ปฏิบัติ ถ้ามีครบ 3 ด้านจะเกิดการเปลี่ยนแปลงได้จริง
เหยง 16
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: rcu2516
คณะ: เภสัชศาสตร์ 2516
กระทู้: 23,533

« ตอบ #2 เมื่อ: 10 ธันวาคม 2553, 11:46:27 »

มะเร็งเป็นโรคที่ไม่อาจคาดเดาได้ เป็นได้ทั้งในเด็ก วัยรุ่น และโดยเฉพาะผู้เริ่มมีอายุ จนถึงคนแก่ หลายๆปัจจัยมาจากการสะสมตัวกระตุ้นและสิ่งเร้าหรือที่เรียกว่า "สารก่อมะเร็ง" ที่ผู้ป่วยไม่ทราบมาก่อน เราคงต้องสรุปให้ได้ว่า อะไรบ้างเป็น "สารก่อมะเร็ง" เพื่อเผยแพร่และทำความเข้าใจกับคนไทยโดยทั่วไป ได้ทราบและหลบหลีกสิ่งนี้
      บันทึกการเข้า
Samrotri2517
Cmadong Member
Hero Cmadong Member
****


จะเป็นด้านที่1และ2ของ3เหลี่ยมฯ เพื่อให้เกิดด้านที่3
ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: รหัสเข้า 17 รุ่น 57
คณะ: แพทยศาสตร์ จุฬาฯรุ่น 30
กระทู้: 1,915

« ตอบ #3 เมื่อ: 11 ธันวาคม 2553, 16:34:05 »

อ้างถึง
ข้อความของ เหยง 16 เมื่อ 10 ธันวาคม 2553, 11:46:27
มะเร็งเป็นโรคที่ไม่อาจคาดเดาได้ เป็นได้ทั้งในเด็ก วัยรุ่น และโดยเฉพาะผู้เริ่มมีอายุ จนถึงคนแก่ หลายๆปัจจัยมาจากการสะสมตัวกระตุ้นและสิ่งเร้าหรือที่เรียกว่า "สารก่อมะเร็ง" ที่ผู้ป่วยไม่ทราบมาก่อน เราคงต้องสรุปให้ได้ว่า อะไรบ้างเป็น "สารก่อมะเร็ง" เพื่อเผยแพร่และทำความเข้าใจกับคนไทยโดยทั่วไป ได้ทราบและหลบหลีกสิ่งนี้



         ขอสนับสนุนที่ พี่เหยง เสนอมา สิ่งที่พี่เสนอ มีอยู่ใน กิจกรรมการสาธารณสุขมูลฐาน
ซึ่งจะดูคนไข้แบบองค์รวม ไม่มุ่งรักษาด้านเีดียว

         กิจกรรมสาธารณสุข มี ๔ กิจกรรม คือ

๑.กิจกรรมส่งเสริมสุขภาพ ให้ความรู้ทั้งภาคทฤษฏี และ ภาคปฏิบัติ

ตัวอย่าง ร.พ.พนมสารคาม ที่ผมทำงานอยู่ เปิดรับอบรมคนอ้วนให้ลงชื่อสมัครไว้เมื่อครบ ๓๐ คนจะเรียกมาเข้ารับการอบรม ๕ วัน มีกิจกรรมให้ความรู้ทั้งทางการสอน การปฏิบัติ แนะนำการออกกำลังกาย การประกอบอาหาร ที่คนอ้วน ควรรับประทาน และ ไปนั่งสมาธิที่วัดหนองรี วัดดีเด่นประจำอำเภอ

๒.กิจกรรมป้องกัน ทำวัคซีน และ อื่น ๆ

๓.กิจกรรมตรวจรักษา ที่ รพสต.ใกล้บ้าน กับ แพทย์ประจำครอบครัว และ พยาบาลเวชปฏิบัติ
รักษาทันที ถ้าสงสัยมะเร็ง จะรักษาให้หายขาดได้ ดีกว่ารอให้เป็นมากจึึงต้องมาหา รพสอ.

๔.กิจกรรมฟื้นฟูสภาพ กับนักหัตถบำบัด ที่ รพสต.

        ถ้าใช้สาธารณสุขมูลฐาน มะเร็งเป็นโรคที่ไม่อาจคาดเดาได้ เป็นได้ทั้งในเด็ก วัยรุ่น และโดยเฉพาะผู้เริ่มมีอายุ จนถึงคนแก่ หลายๆปัจจัยมาจากการสะสมตัวกระตุ้นและสิ่งเร้าหรือที่เรียกว่า "สารก่อมะเร็ง" ที่ผู้ป่วยไม่ทราบมาก่อน เราคงต้องสรุปให้ได้ว่า อะไรบ้างเป็น "สารก่อมะเร็ง" เพื่อเผยแพร่และทำความเข้าใจกับคนไทยโดยทั่วไป ได้ทราบและหลบหลีกสิ่งนี้

                     รักนะ รักนะ รักนะ
      บันทึกการเข้า

3 เหลี่ยมเขยื้้อนภูเขา เสนอโดย ศ.นพ.ประเวศ วะสี มี 3 ด้าน คือ ด้านที่ 1 ด้านให้ความรู้กับกลุ่มคน ด้านที่ 2 กลุ่มคน ที่ได้รับความรู้ เห็นด้วย สร้างวัฒนธรรมไม่มีบทลงโทษถ้าไม่ทำ ด้านที่ 3 ด้านการเมือง เป็นด้านออกกฏหมาย มีบทลงโทษถ้าไม่ปฏิบัติ ถ้ามีครบ 3 ด้านจะเกิดการเปลี่ยนแปลงได้จริง
เหยง 16
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: rcu2516
คณะ: เภสัชศาสตร์ 2516
กระทู้: 23,533

« ตอบ #4 เมื่อ: 11 ธันวาคม 2553, 16:55:13 »

ดีครับ ที่ได้รับทราบวิธีแก้ปัญหาเชิงรุกของ สธ. ในขณะนี้ และขอให้น้องหมอสำเริงมาให้ข้อมูลเพิ่มเติมด้วย
      บันทึกการเข้า
Samrotri2517
Cmadong Member
Hero Cmadong Member
****


จะเป็นด้านที่1และ2ของ3เหลี่ยมฯ เพื่อให้เกิดด้านที่3
ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: รหัสเข้า 17 รุ่น 57
คณะ: แพทยศาสตร์ จุฬาฯรุ่น 30
กระทู้: 1,915

« ตอบ #5 เมื่อ: 11 ธันวาคม 2553, 17:10:33 »

อ้างถึง
ข้อความของ เหยง 16 เมื่อ 11 ธันวาคม 2553, 16:55:13
ดีครับ ที่ได้รับทราบวิธีแก้ปัญหาเชิงรุกของ สธ. ในขณะนี้ และขอให้น้องหมอสำเริงมาให้ข้อมูลเพิ่มเติมด้วย
         พี่เหยงครับ ผมไปพูดที่เสวนาซีมะโด่งเมื่อครั้งประชุมกรรมการหอพักแล้ว เมื่อ ๑๗ พ.ย.พี่เหยงไม่ได้ร่วมฟังด้วย แต่ผมมีเนื้อหาสาธารณสุขมูลฐานเพื่อสุขภาพดีถ้วนหน้า พิมพ์ไว้เรียนเชิญพี่อ่านได้ที่กระทู้
           
http://www.cmadong.com/board/index.php/topic,3394.0.html
                         
                รักนะ รักนะ รักนะ
      บันทึกการเข้า

3 เหลี่ยมเขยื้้อนภูเขา เสนอโดย ศ.นพ.ประเวศ วะสี มี 3 ด้าน คือ ด้านที่ 1 ด้านให้ความรู้กับกลุ่มคน ด้านที่ 2 กลุ่มคน ที่ได้รับความรู้ เห็นด้วย สร้างวัฒนธรรมไม่มีบทลงโทษถ้าไม่ทำ ด้านที่ 3 ด้านการเมือง เป็นด้านออกกฏหมาย มีบทลงโทษถ้าไม่ปฏิบัติ ถ้ามีครบ 3 ด้านจะเกิดการเปลี่ยนแปลงได้จริง
somchai_yhai
Newbie
*


ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 3

« ตอบ #6 เมื่อ: 12 ธันวาคม 2553, 00:55:50 »

 น่ากลัวครับไม่มีทางรักษาอีก แบบนี้ควรจัดกิจกรรมแนะนำวีธีการหลีกเลี่ยงปัจจัยที่ทำให้เสี่ยงต่อการเป็นมะเร็ง (ติดอันดับแบบนี้ ไม่ค่อยชอบเลยครับ)
      บันทึกการเข้า

เหยง 16
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: rcu2516
คณะ: เภสัชศาสตร์ 2516
กระทู้: 23,533

« ตอบ #7 เมื่อ: 12 ธันวาคม 2553, 08:27:55 »

ผลวิจัยชี้ธนบัตรปนเปื้อนสารก่อมะเร็ง

จากผลวิจัยพบว่าในใบเสร็จรับเงินและธนบัตรมีสาร บิสเฟนอล เอ(BPA)สูง ซึ่งเป็นสารที่ทำให้เกิดมะเร็ง, โรคอ้วน, และเกิดความผิดปกติกับการเจริญวัย...



http://www.thairath.co.th/content/oversea/133509
      บันทึกการเข้า
  หน้า: [1]   ขึ้นบน
  
กระโดดไป:  

     

สมาคมนิสิตเก่าหอพักนิสิต จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย มวลสมาชิกสมาคม คณาจารย์ และนิสิตเก่าทุกคน ขอน้อมเกล้าถวายความอาลัย  พระผู้เสด็จสู่สวรรคาลัย ด้วยเกล้าด้วยกระหม่อม ขอเดชะ <;))))><