Cmadong Chula

เรือนประจำรุ่น อบอุ่นทุกสมัย => รุ่น 2513 => ข้อความที่เริ่มโดย: suriya2513 ที่ 10 กรกฎาคม 2552, 23:08:18



หัวข้อ: [2513] "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: suriya2513 ที่ 10 กรกฎาคม 2552, 23:08:18
มีเพื่อนๆ พี่ๆ น้องๆ เรียกร้องด้วยความคิดถึงพี่แอ๊ะกันเป็นอันมาก
อยากให้เปิดกระทู้ โดยใช้ชื่อในทำนอง
"พูดจาประสาพี่น้อง-กับ-คุณนายแอ๊ะ ประภาศรี สุฉันทบุตร"
ให้คุณนายแอ๊ะกำกับดูแล...คอยปัดกวาดเช็ดถูให้ดูดี
ลองดูซิว่า เรทติ้ง จะพุ่งแรงอย่างกับกระทู้ที่ชื่อ
"คุยกับพี่สิงห์ มานพ กลับดี ..." หรือไม่ อย่างไร
อนึ่ง...ชื่อกระทู้สามารถเปลี่ยนแปลงได้เสมอตามต้องการ
ส่ง signal ไปบอกป๋อง สุริยา ได้ทุกเมื่อที่ต้องการเปลี่ยนชื่อกระทู้นะครับ...


หัวข้อ: Re: "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: wannee ที่ 10 กรกฎาคม 2552, 23:20:57
เห็นกระทู้ของพี่แอ๊ะปั๊บ   รีบเข้ามาทันที  เจอะคำว่า  ดึกแล้วนะนอนได้แล้ว wannee    emo:(

ได้ๆ เดี๋ยวพรุ่งนี้ เข้ามาใหม่   emo4:))

พี่แอ๊ะจะรู้มั้ยหนอว่ามีกระทู้ของพี่ที่นี่  emo47


หัวข้อ: Re: "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: swsm ที่ 10 กรกฎาคม 2552, 23:22:15
พี่แอ๊ะคะ
ขอแสดงความยินดีในโอกาสขึ้นบ้านใหม่ค่ะ


(http://img139.imageshack.us/img139/259/j03999361.jpg)


หัวข้อ: Re: "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: ti2521 ที่ 11 กรกฎาคม 2552, 06:07:13
                                        .....พี่แอ๊ะ ครับ    ขอแสดงความยินดีกับบ้านใหม่ครับ.....       

                    (http://img256.imageshack.us/img256/9692/dsc06613resize.jpg)


หัวข้อ: Re: "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: Junphen Juntana ที่ 11 กรกฎาคม 2552, 12:40:55
ขอชะแว้บมาสวัสดีงามๆ พี่แอ๊ะคนงาม ณ ที่แห่งนี้ด้วยค่ะ :-)

(http://www.igetweb.com/www/mongkolluck/private_folder/129.jpg)



หัวข้อ: Re: "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: wannee ที่ 11 กรกฎาคม 2552, 20:35:51

มาสวัสดีพี่แอ๊ะ ตื้อเท่านั้นครองโลก  emo20:)):)
คงต้องมา up date บ่อยๆ เพื่อให้กระทู้พี่แอ๊ะเห็นชัดๆ  emo4:))



หัวข้อ: Re: "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: swsm ที่ 11 กรกฎาคม 2552, 20:40:27
แวะมาสวัสดีพี่แอ๊ะ .. อีกครั้งค่ะ
แต่พี่แอ๊ะก็ยังไม่มา

 

emo47




หัวข้อ: Re: "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: เหยง 16 ที่ 11 กรกฎาคม 2552, 21:15:16
สวัสดีครับ พี่แอ๊ะ

ยินดีสู่บ้านใหม่ครับ


หัวข้อ: Re: "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: Soponเท่านั้น ที่ 11 กรกฎาคม 2552, 21:51:52
สวัสดีครับพี่แอ๊ะ ได้เจอหรือได้คุยกับพี่แอ๊ะก็มีความสุขแล้วครับ emo6::))

อยากฟังเรื่องที่พี่แอ๊ะเล่าแบบตอนขากลับ trip เยี่ยมค่ายดงเสลาอีกครับ


หัวข้อ: Re: "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: prapasri AH ที่ 12 กรกฎาคม 2552, 08:43:06
วันนี้ได้ฤกษ์เบิกฟ้า เข้ามากระทู้ของพี่แอ๊ะ ขอบคุณ ดร.กระป๋อง ที่ช่วยเปิดประตูบ้านให้นะคะ

และขอบคุณ คุณหมอเสียด น้องรักของพี่แอ๊ะ ที่โทรมาบอกว่า มี ห้องของพี่แอ๊ะแล้ว

มีน้องๆหลายๆคนเข้ามาทักทายแล้ว

ขอบคุณทุกท่านที่เข้ามาทักทาย พี่แอ๊ะจะได้เข้ามาบ่อยๆ

ดร.กระป๋องคะ แอ๊ะขอเปลี่ยนชื่อเ กระทู้ ไม่ให้มีชื่อจริงของแอ๊ะได้ไหม

เพราะเด่วจะไปโผล่ ใน google

เอาชื่อ " คุยกับ พี่แอ๊ะ 13"   หรือ  "สบายดียโสธร"  ดีไหมคะ

เปลียนให้ด้วยนะคะ คุณกระป๋อง  สบายดี  ภาษาลาว แปลว่า  "สวัสดี "  ค่ะ


หัวข้อ: Re: "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: prapasri AH ที่ 12 กรกฎาคม 2552, 08:52:40
ดร.กระป๋อง

ช่วยสร้างบ้านให้พี่อ้อย กรองอร 13 อีกหลังนะคะ

ถ้าพี่อ้อย เข้ามา พี่แอ๊ะก็จะเข้ามา  ถ้าพี่แอ๊ะเข้ามา พี่อ้อยจะเข้ามา อุ๊ยยยยยยยยย งง...งงงงงงงงงงงงงง

คือคนแก่ จะคุย กระหนุงกระหนิง กับคนแก่ น่ะอ่ะ อิๆๆๆๆๆ


หัวข้อ: Re: "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: prapasri AH ที่ 12 กรกฎาคม 2552, 08:56:57
น้องโสภณ เท่านั้น 

เท่านั้นนี่ เท่าไหนคะ หุๆๆๆๆๆ5555555555555555

ถ้าพี่แอ๊ะไปทัวร์ด้วย รับรอง เป็นไกด์ที่ ทุกคนต้องหัวเราะ จนท้องแข็ง555555555555555555555555555

แต่เดี่ยวนี้ต้องจดเรื่อง ขำขันไว้แล้วค่ะ เพราะ บางเรื่องลืมไปบ้างแล้ว

พี่แอ๊ะจะมีเรื่องขำขันมาก เพราะ พี่แอ๊ะชอบหัวเราะ เห็นอะไรก็ขำไปหมดดดดดดดดดดดดด

ถูกพี่หาญดุ ก็ขำ ....ขำว่าเค้าดุเราทำไม 5555555555555555


หัวข้อ: Re: "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: prapasri AH ที่ 12 กรกฎาคม 2552, 09:00:19
ขอตัวไปฟังคุณอภิสิทธิ์ พูดเรื่อง เชื่อมั่นประเทศไทยกับ อภิสิทธิ์ ก่อนนะคะ


และ หมอนวดไทย มานวดให้ในบ้านด้วย

วันหลัง พี่ๆน้องๆ ต้องการนวดไทย มาที่ยโสธรนะคะ

มาสบายดียโสธรกัน ค่ะ


หัวข้อ: Re: "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: อ้อย17 ที่ 12 กรกฎาคม 2552, 10:13:20
อ้างถึง
ข้อความของ prapasri AH เมื่อ 12 กรกฎาคม 2552, 09:00:19
ขอตัวไปฟังคุณอภิสิทธิ์ พูดเรื่อง เชื่อมั่นประเทศไทยกับ อภิสิทธิ์ ก่อนนะคะ


และ หมอนวดไทย มานวดให้ในบ้านด้วย

วันหลัง พี่ๆน้องๆ ต้องการนวดไทย มาที่ยโสธรนะคะ

มาสบายดียโสธรกัน ค่ะ
กราบสวัสดีงามๆค่ะพี่แอ๊ะ..
       และแล้วคำภาวนาด้วยความคิดถึงก็สัมฤทธิ์ผล  พี่แอ๊ะกลับเข้าเว็บดังคำภาวนา  เว็บก็คึกคักขึ้นมาทันทีทันใดเลยค่า...
      ว่าแล้วก็ให้แสนคำนึงถึงความเอื้ออารีของพี่แอ๋ะและพี่หมอหาญ ที่เคยได้รับมา  โดยเฉพาะหมอนวดไทย ที่พี่แอ๊ะว่า ..
      เพราะได้เคยไปรับบริการนี้มาเมื่อปีที่แล้ว  ทุกอย่างที่โรงพยาบาลหมอหาญ ฟรีหมด จนพวกเราเกรงใจ 
      อยากเจอพี่แอ๊ะคนงามทั้งกายและใจอีกบ่อยๆ ทัวร์คราวหน้าขอไปด้วยถ้าพี่แอ๊ะไปค่ะ..
                                                        ด้วยรักและคิดถึงอย่างยิ่งค่ะ
                                                                อ้อย๑๗


หัวข้อ: Re: "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: เหยง 16 ที่ 12 กรกฎาคม 2552, 13:46:34
พี่แอ๊ะ

กลับจากดู นายกฯ อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ผ่านรายการโทรทัศน์แล้วหรือยังครับ


หัวข้อ: Re: "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: wannee ที่ 12 กรกฎาคม 2552, 16:35:40
ดีจายยยย พี่แอ๊ะ มาบ้านแล้ว  emo6::)) emo6::))

สวัสดีค่ะพี่แอ๊ะ
      พี่แอ๊ะเข้ามาคุยกับพวกเราบ่อยๆหน่อยนะคะ เท่าที่พี่เจียดเวลาได้และโอกาสอำนวยค่ะ พี่แอ๊ะอย่าเงียบหายไปนานนานนะคะ พวกเราหลายๆคนคิดถึงพี่แอ๊ะ และเฝ้ารอคอยพี่มาคุยค่ะ  พวกเราชาวหอ และชาวเว็บจะรู้ว่า ที่ผ่านมาน้ำใจของพี่แอ๊ะที่มีต่อหอและชาวหอมีมากมายเพียงใด  เว็บโฉมใหม่ที่ไฉไลนี้ส่วนหนึ่งงบที่ได้ (ก้อนใหญ่ทีเดียว) ก็ได้มาจากพี่แอ๊ะท่านนี้  ซึ้งในน้ำใจพี่มาก ๆ จะพยายามเข้ามาคุยกับพี่แอ๊ะบ่อย ๆ เสียดมันแย่พิมพ์ช้า แค่อ่านก็จะหมดเวลาแล้ว 
    ขอคารวะพี่แอ๊ะจากใจจริงค่ะ  น้องรักพี่ น้องเคารพพี่  emo4:)) emo6::)) emo9:huhu:
     พี่แอ๊ะอย่าเงียบหายไปนานนานเหมือนครั้งที่แล้วนะคะ  ใจคอไม่ดีค่ะ  emo22:(   


หัวข้อ: Re: "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: suriya2513 ที่ 12 กรกฎาคม 2552, 16:52:55
เปลี่ยนชื่อกระทู้ให้แล้วครับ
สำหรับเรื่องที่คุณนายแอ๊ะจะให้ผมตั้งกระทู้ให้คุณนายอ้อย กรองอร นั้น
ผมไม่กล้าตั้งหรอกครับ กลัวโดนคุณนายอ้อยสวนกลับมาว่า
"เชอะ ! ชั้นไม่ได้ใช้ให้ตั้ง ใครตั้ง คนนั้นก็ดูแลกันเอาเอง"
เชื่อหัวไอ้ป๋องเหอะ ต้องมาแนวนี้แหงๆ


หัวข้อ: Re: "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: Soponเท่านั้น ที่ 12 กรกฎาคม 2552, 17:51:09
คิดในทางบวกหน่อยครับพี่ พี่อ้อยอาจจะขอบคุณพี่มากๆก็ได้ emo9:huhu:
ดูผมกับตะวันเป็นตัวอย่าง emo7:(: เฉือนกันมาตลอด แต่ที่จริงแล้วแอบซูเอี๋ยกัน ไม่เอากันถึงตายร้อก


หัวข้อ: Re: "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: prapasri AH ที่ 12 กรกฎาคม 2552, 18:37:56
ดร.กระป๋อง

ช่วยเลือก เอาชื่อเดียวซิคะ

ช่วย vote กันหน่อย ว่า

1..คุยกับพี่แอ๊ะ13

 2.. สบายดียโสธร

ให้เวลา vote สัก 2วัน ดีไหมคะ

แต่พี่แอ๊ะ ว่า เอาข้อ 1 ดีกว่า

เพราะ ถ้ามี คำว่ายโสธร เดี๋ยวก็เข้าไปใน google คำว่า ยโสธร ก็ได้ออก world wide อีก 555555555555555555

ป๋อง......เอ๊ย

สรุปว่า เปลียนเป็นข้อ1     " คุยกับพี่แอ๊ะ13 " นะคะ

เดี๋ยวฉันต้องไปอ่านหัวข้อของเธอบ่อยๆ จะได้ทราบว่า เวลา มีกระทู้ของตัวเอง

แล้วต้องทำยังไงบ้าง

 ฉันไม่ค่อยได้เข้าเวบหอซะนาน ลืมหมดเเล้ว

ต้อง กลับมาฝึกหัดการเข้าเวบหอ  ใหม่  5555555555555555555

งง ไป หมดเยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยย




หัวข้อ: Re: "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: prapasri AH ที่ 12 กรกฎาคม 2552, 18:39:30
เหยง และน้องๆ จ๊ะ

พี่แอ๊ะ ไปเดินออกกำลังกายมา 5 กม. แล้วค่ะ


หัวข้อ: Re: "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: prapasri AH ที่ 12 กรกฎาคม 2552, 20:04:33
ป๋องงงงงงงงงงง

ฉันไปเข้า บ้านของเธอ มีคนอ่านตั้ง สี่หมื่นกว่าครั้ง ตายๆๆๆๆๆๆตายแย้ววววววววววววววววว

ฉันจะสู้เธอได้หรือ

หรือเธอเปิดอ่านเองทุกวัน เอ๊ยทุกเช้าสาย บ่ายเย็น ค่ำ และ ใกล้สว่าง ด้วย แหง๋แก๋


หัวข้อ: Re: "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: suriya2513 ที่ 12 กรกฎาคม 2552, 20:13:52
สี่หมื่นกว่าครั้งนั้น
ผมใช้ออธอลิตี้เข้าไปโกงตัวเลขเอาครับ
ง่ายจะตาย


หัวข้อ: Re: "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: suriya2513 ที่ 12 กรกฎาคม 2552, 20:15:57
อ้างถึง
ข้อความของ Soponเท่านั้น เมื่อ 12 กรกฎาคม 2552, 17:51:09
คิดในทางบวกหน่อยครับพี่ พี่อ้อยอาจจะขอบคุณพี่มากๆก็ได้ emo9:huhu:
ดูผมกับตะวันเป็นตัวอย่าง emo7:(: เฉือนกันมาตลอด แต่ที่จริงแล้วแอบซูเอี๋ยกัน ไม่เอากันถึงตายร้อก
ต้องรัดกุมหน่อยครับ
การทำอย่างนั้นเหมือนเปิดหน้าให้ชก
อาจไม่ถึงตายแต่เจ็บหนัก


หัวข้อ: Re: "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: prapasri AH ที่ 12 กรกฎาคม 2552, 20:19:05

น้องหมอเสียด  น้องเหยง16   น้อง หะยี คนสวย(จากรูปที่โผล่มาจากหน้าต่างนะคะ) swsm

น้อง ti2521   น้องจันทร์เพ็ญคนเก่ง   น้องอ้อย17 (คนอิสานคือกัน)

น้อง โสภณเท่านี้ เอ๊ยเท่านั้น  และ ดร.กระป๋อง

ขอบคุณที่มาเยี่ยมบ้านพี่แอ๊ะนะคะ

พี่แอ๊ะ จะเขียนเรื่องอะไรดี นะ ที่จะให้น้องๆได้แวะมาบ่อยๆ

นินทา  พี่ป๋อง  ดีก่า รับรอง กระทู้ ร้อนฉ่า แน่ๆๆๆๆๆ

คือมีคนมาช่วยกัน นินทา

ปล." นินทา" ภาษาอิสาน เขา พูดว่า  "เว่า พื่น "  (พ.พาน สระ อื ไม้เอก น.หนู ค่ะ)

ถูกไหมคะน้องอ้อย 17



หัวข้อ: Re: "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: swsm ที่ 12 กรกฎาคม 2552, 20:20:45
พี่แอ๊ะ .. อย่ากลัวค่ะ

เดี๋ยวหะยีจะชวนน้อง ๆ และสมัครพรรคพวกให้คลิกเข้า คลิกออก ..
ตั้ง KPI เอาไว้ว่า ..
ให้ดำเนินการคนละไม่น้อยกว่า 50 ครั้งต่อวัน
มีลูกน้อง 30 คน x เข้าไปแล้ว .. ได้จำนวนมหาศาลค่ะ


เราไม่มี Authority แต่เราเจ้าเล่ห์ค่ะ ..


PS. คำว่า "เรา" หมายถึง หะยีและน้อง ๆ นะคะ
มิกล้าหมายความรวมถึงพี่ ๆ ทุกท่าน


หัวข้อ: Re: "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: swsm ที่ 12 กรกฎาคม 2552, 20:22:17
อ้างถึง
ข้อความของ prapasri AH เมื่อ 12 กรกฎาคม 2552, 20:19:05

น้องหมอเสียด  น้องเหยง16   น้อง หะยี คนสวย(จากรูปที่โผล่มาจากหน้าต่างนะคะ) swsm

น้อง ti2521   น้องจันทร์เพ็ญคนเก่ง   น้องอ้อย17 (คนอิสานคือกัน)

น้อง โสภณเท่านี้ เอ๊ยเท่านั้น  และ ดร.กระป๋อง

ขอบคุณที่มาเยี่ยมบ้านพี่แอ๊ะนะคะ

พี่แอ๊ะ จะเขียนเรื่องอะไรดี นะ ที่จะให้น้องๆได้แวะมาบ่อยๆ

นินทา  พี่ป๋อง  ดีก่า รับรอง กระทู้ ร้อนฉ่า แน่ๆๆๆๆๆ

คือมีคนมาช่วยกัน นินทา

ปล." นินทา" ภาษาอิสาน เขา พูดว่า  "เว่า พื่น "  (พ.พาน สระ อื ไม้เอก น.หนู ค่ะ)

ถูกไหมคะน้องอ้อย 17



หะยีขอ vote ให้คุยเรื่องลูกชายสุดหล่อเป็นประเด็นแรกค่ะ

emo21:):):



หัวข้อ: Re: "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: ตุ๋ย 22 ที่ 12 กรกฎาคม 2552, 20:26:53
ผมอีกคนหนึ่งพี่ประภาศรี


หัวข้อ: Re: "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: prapasri AH ที่ 12 กรกฎาคม 2552, 20:43:24

เพื่อให้กระทู้  พี่แอ๊ะ  น่าสนใจ พี่แอ๊ะขอเล่าเรื่องขำขันดีกว่านะคะ


                                          เรื่องขำขันชาวเกาะ   ตอนที่1   ค่ะ


ชาวเกาะที่ว่านี้ หมายถึงชาวเกาะสมุยค่ะ  พี่แอ๊ะ คิดไว้ว่าจะเขียนเรื่องนี้นานแล้ว คิดตั้งแต่เด็กๆจนแก่ๆ ก็ยังไม่ได้เขียนสักที  ตอนแรกคิดถึงขนาด

อยากเขียนรวมเป็นเล่มขาย แต่จนแล้วจนรอด จนความจำค่อยๆหมดไปก็ยังไม่ได้เขียนสักที  ชักจะลืมๆ ไปซะมากแล้ว

        สองปีมาแล้ว  เมื่อวันที่ 25 มกราคม 2550 เพื่อนเก่าๆ ตั้งแต่ชั้นประถมชาวเกาะ ของพี่แอ๊ะ ได้เดินทางเข้ามากรุงเทพเพื่อแสดงความยินดี

กับดร.กฤษณา ไกรสินธุ์  ที่ได้รับรางวัลบุคคลยอดเยี่ยมของเอเชีย จากนิตยสาร รีดเดอร์ไดเจสต์  

 (วันนี้ ดร.กฤษณา ได้รับรางวัล แมกไซไซ ประจำปีนี้ด้วยค่ะ )

พวกเรามากันพร้อมหน้า เพื่อนเราบางคนเคยเป็นใหญ่เป็นโตเช่นเป็นอดีตนายกเทศมนตรีเกาะสมุย มาแล้ว เป็นอาจารย์สอน

หนังสือ เป็นเจ้าของกิจการส่งออกอยู่ที่กรุงเทพบ้าง เป็นพยาบาลตำแหน่งใหญ่โตบ้าง มีลูกกันหลายๆคนแล้ว แต่เมื่อเราเจอกัน

เราก็ร่าเริงกันเหมือนเด็กชั้นประถมอีกเช่นเคย  เราไม่ได้รู้สึกผิดสังเกตแต่อย่างใด

ช่วงนั่งรถกลับบ้าน ลูกชาย พี่แอ๊ะ นายกะต้า

ซึ่ง คงนั่งสังเกต พวกเราอยู่ บอกกับแม่ว่า

 “มามี้  ทำไม คนเกาะสมุยชอบหัวเราะกันจัง พูดภาษาใต้กันแล้วก็หัวเราะกัน เพื่อนๆน้า หนา (ดร.กฤษณา) ที่เป็น คนกรุงเทพ

นักเรียนเก่าราชินี เค้ามองกันแล้วเค้าก็คง งงๆ ว่า พวกมามี้คุยอะไรกันพูดภาษาใต้ เค้าฟังไม่รู้เรื่องแล้ว  เค้าคงแปลกใจ ที่พวก

มามี้ หัวเราะกันตลอดเวลา”

               พอลูกพูดอย่างนี้ พี่แอ๊ะ เลยนึกขึ้นได้ ชาวเกาะสมุยแท้ๆ จะเป็นคนมีอารมณ์ขัน มีความสุข และมีเรื่องให้ขำขันและ

หัวเราะกันได้ทุกเรื่อง อยู่ทุกเมื่อเชื่อวัน  แต่เดิมเราเป็นชาวเกาะที่ไม่มีความทุกข์กันเลยค่ะ


(เด่วอ่านตอนต่อไปนะคะ)





หัวข้อ: Re: "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: prapasri AH ที่ 12 กรกฎาคม 2552, 20:49:26

สมุยแต่เดิม  ประชาชนไม่ได้ร่ำรวยกันแบบนี้ ใครเป็นคนสุราษฎร์ไปแต่งงานกับชาวเกาะ เขาก็จะดูถูกเอาว่าแต่งกับคนจนๆ มาจากเกาะ เชยๆ ไม่เคย

พบเคยเห็นอะไรเลย  ชาวเกาะ จะนั่งเรือมาเที่ยวงานประจำปีที่  อ .เมือง ชื่อ บ้านดอนที่ สุราษฎร์

เรียกว่างานชักพระ งานแห่พระ เป็นงานเทศกาล คล้ายๆงานวัดใหญ่ๆ มาเที่ยวแต่ละครั้งก็เป็นบ้านนอกเข้ากรุงเลยทีเดียว

      คนสมุยสมัยนั้น  50-100กว่า  ปีมาแล้วจะรู้จักกันทั้งเกาะ ใครเป็นลูกเต้าเหล่าใครจะรู้จักกันหมด ปู่ย่าตายาย ทวด จะมาจากเชื้อสายเดียวกันซะ

เป็นส่วนใหญ่  เรียกว่าไม่มีใครบนเกาะนั้นที่จะไม่รู้จักกัน

     วันหนึ่ง มี นาย   “โข”  ได้มาเที่ยวงาน แห่พระ (ชักพระ) ที่บ้านดอน สุราษฎร์ นายโข  ก็ เดิน รอบงานที่ การออกร้านขายสินค้าต่างๆ

 นายโขเดินไป ก็พบ ผู้ชายคนหนึ่ง ชื่อ   “เชือบ” 

นาย โขดีใจ เดินปรี่เข้าไปทักทายทันที

“ เฮ้ยยยยยยยยย เชือบ  มึงมาเมื่อไร  มาเรือลำไหน  ทำไม กูไม่เห็นมึงล่ะ  คืนนี้จะนอนที่ไหน ” 

 นายโขถาม คำถาม  รัวเลยล่ะ ด้วยความดีใจ ที่ได้เจอชาวเกาะด้วยกัน

 (ภาษา ปักษ์ใต้ กู ..มึง.. เป็นภาษาปกติ  ไม่ได้ ไม่สุภาพ แต่ประการใด หมายถึงความสนิทสนมคุ้นเคยด้วยค่ะ )

ชายที่ชื่อนายเชือบ ชัก งง  แล้วก็ตอบด้วยความ อายๆ ว่า

“เอ๋อ.... ผมไม่ได้ชื่อ “เชือบ. .”  ครับ  สงสัย พี่ทักคนผิดซะแล้ว”


หัวข้อ: Re: "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: prapasri AH ที่ 12 กรกฎาคม 2552, 20:51:57

อ๋อ.....เหรอ....นายโขตอบ.. แล้วก็เดินดูร้าน สินค้าต่อไป.......ดูให้หนำใจ ไม่ค่อยเคยเห็น สิ่งของแปลกๆ อย่างนี้

ที่ สมุย เลย

   นายโข เดินรอบงาน ไปสักสองสามรอบ ก็มาเจอผู้ชายอีกคนหนึ่ง หน้าตาเหมือนคนเมื่อกี้  มาก นายโขดีใจ รีบไปทักอีกทันที่

    “เชือบเอ๊ย... เมื่อกี๊ กูอ๊าย... อาย... กูเห็นคนคนหนึ่ง หน้าตาเหมือนมึงมากเลย  กูไปทักเขาเลย เขาบอกว่าไม่ใช่มึง  หน้าตาเหมือนมึงมากเลย 

  กูคุยกะเขาใหญ่เลยกูอาย มากเลยว่ะ”

   ผู้ชายคนนั้นตอบว่า

   “พี่ๆๆ พี่ทักคนเดิมนั่นแหละ  ผมไม่ได้ชื่อเชือบครับ พี่ทักผิดอีกแล้ววววววววววววว”

นายโข  หน้าซีดเผือด อ๋อ เหรอ.......

 ตาแล๊น....ตาแล๊น..ตาแล๊น ตาแล๋น แต๋น แต๋นนนนนนนนนนนนนนนนนนนนน...

 
                                      จบตอนนี้ค่ะ โปรดติดตามตอนต่อไปด้วยใจระทึกโดยพลัน






หัวข้อ: Re: "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: prapasri AH ที่ 12 กรกฎาคม 2552, 20:58:52
น้อง หะยี คะ ลูกชายพี่แอ๊ะตั้งสามคน แน่ะ

หล่อคนละแบบ อิๆๆๆ

เรื่องหลงลูก ไม่มีใครเกินพี่แอ๊ะ ลูกตัวเอง ดีหมดทุกอย่าง.... พี่หาญดุพี่แอ๊ะเป็นประจำว่าไม่รู้จักสอนลูก

ตอนเด็กๆ น้องต้น ว่าพี่แอ๊ะแรงๆ พี่แอ๊ะก็ขำ "ลูกฉันฉลาดจัง  รู้จักสรรหาคำ มา ว่า แม่"

พี่แอ๊ะจะค่อยๆ ส่งรูป ลูกชายมาให้ น้องหะยีดูนะคะ

คนโตหน้าตาเป็นจีน คนที่สองหล่อมาก แต่เตี้ยไปนิด  คนเล็ก หล่อน้อย หน่อย แต่มีมนุษยสัมพันธ์เป็นเลิศ

ลูกๆคงมาแอบอ่าน กระทู้มามี้ แล้วก็ดุมามี้ แน่ๆเลย


หัวข้อ: Re: "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: prapasri AH ที่ 12 กรกฎาคม 2552, 21:01:01


น้องตุ๋ย 2522 อภิมหาอมตะนิรันดร์กาลคะ

ขอบคุณที่แวะมาบ้านพี่แอ๊ะนะคะ

อย่าลืมอ่าน เรื่องขำขันชาวเกาะ นะคะ

สงสาร นายโข  ไหมคะ 555555555555555555


หัวข้อ: Re: "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: swsm ที่ 12 กรกฎาคม 2552, 21:13:11
พี่แอ๊ะโปรยเรื่องลูกชายทั้งสาม  แล้วยิ่งอยากเห็น

ถ้าหะยีจะจีบไว้เอง .. คงไม่เหมาะ
แต่หะยีมีลูกสาว สวย น่ารัก เรียนเก่ง กิจกรรมเริ่ด (อาการหลงลูกตัวเองเหมือนกันค่ะ)
ตอนนี้อายุ 13 ปี ..
แม้จะเด็กไปหน่อย  แต่รับรองอีก 10 ปี  โตทันกันค่ะ

แหะ .. งั้นจีบไว้ให้ลูกสาวดีกว่า  .. คริคริ



โฆษณาสรรพคุณกันซึ่งหน้าเลยนิ   


emo20:)):)




หัวข้อ: Re: "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: pb13 ที่ 12 กรกฎาคม 2552, 21:55:37
 emo4:)) emo4:))  ขอร่วมโหวตด้วยคนนะครับ  ถึงมาช้าแต่ก็ชัวร์ ขอรวมสองข้อความเข้าด้วยกัน เป็น "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"  emo20:)):) emo20:)):)   ยินดีด้วยเด๊อและขอต้อนฮับการกลับมาอีกครั้ง  emo6::)) emo6::))


หัวข้อ: Re: "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: roong15 ที่ 12 กรกฎาคม 2552, 22:22:59
สวัสดีครับพี่แอ๊ะ

ยินดีสำหรับห้องนี้ครับ ตอนแรกนึกว่าจะให้โหวตเลือกชื่อ 2วัน  แต่ถ้าให้โหวตผมก็เลือกชื่อนี้ละครับ  ผมเองก็แอบไปอ่านห้องพี่ป๋องบ่อยๆก็มีคนมาช่วยสร้างสีสันเยอะครับ  แต่เวลามีคนพูดเรื่อง เ-ม-ีย ทีไร เจ้าของห้องก็มักจะ comment อะไรไม่ค่อยได้


แต่ห้องของพี่คงจะมีเกร็ดเรื่อง สามี ภรรยา ลูก ได้ครบแน่ครับ   เห็นไหมเริ่มต้นเรื่องลูกแล้ว รับรองพี่ป๋องต้องไม่รู้เรื่องแน่ๆครับ 


(http://img95.imageshack.us/img95/2711/image018.gif)

 
อ้างถึง
ข้อความของ prapasri AH เมื่อ 12 กรกฎาคม 2552, 20:04:33
ป๋องงงงงงงงงงง

ฉันไปเข้า บ้านของเธอ มีคนอ่านตั้ง สี่หมื่นกว่าครั้ง ตายๆๆๆๆๆๆตายแย้ววววววววววววววววว

ฉันจะสู้เธอได้หรือ

หรือเธอเปิดอ่านเองทุกวัน เอ๊ยทุกเช้าสาย บ่ายเย็น ค่ำ และ ใกล้สว่าง ด้วย แหง๋แก๋


หัวข้อ: Re: "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: swsm ที่ 12 กรกฎาคม 2552, 22:32:02
ก่อนที่พี่แอ๊ะจะอวดรูปลูกชาย
หะยีขออวดรูปลูกสาวก่อน .. ดีไหมคะ
ในภาพคือสาวน้อยเสื้อสีชมพู ค่ะ

ให้ 1 ใน 3 หนุ่มของพี่ .. เลือกจองน้องไว้ก่อน

อิอิอิ !!

แหะ .. ดำเนินการ "ส่งเสริมการขาย" มากไปหน่อยไหมเรา ??



emo29:P:

(http://img339.imageshack.us/img339/3467/pagejoy00021.jpg)





หัวข้อ: Re: "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: wannee ที่ 13 กรกฎาคม 2552, 00:02:33

อ้ะ..มีแข่ง.. ลูกสาวพี่เสียด ไม่ต้องรอ 10 ปี   emo20:)):)  emo20:)):)
มาปั่นกระทู้ยามดึก   emo21:):):




หัวข้อ: Re: "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: iamfrommoon ที่ 13 กรกฎาคม 2552, 10:41:54
อ้างถึง
ข้อความของ prapasri AH เมื่อ 12 กรกฎาคม 2552, 20:04:33
ป๋องงงงงงงงงงง

ฉันไปเข้า บ้านของเธอ มีคนอ่านตั้ง สี่หมื่นกว่าครั้ง ตายๆๆๆๆๆๆตายแย้ววววววววววววววววว

ฉันจะสู้เธอได้หรือ

หรือเธอเปิดอ่านเองทุกวัน เอ๊ยทุกเช้าสาย บ่ายเย็น ค่ำ และ ใกล้สว่าง ด้วย แหง๋แก๋

ที่เยอะๆ น้องว่า พี่ป๋องคลิ๊กสัก 3 หมื่นแล้วค่า ฮ่าๆๆ (ล้อเล่นค่า)

พี่แอ๊ะคะ
ต้องเข้ามาบ่อยๆ แล้วค่า...เด๋วลืมหมดเลย...ขอบคุณนะคะที่ช่วยเขียนให้น้อง


หัวข้อ: Re: "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: swsm ที่ 13 กรกฎาคม 2552, 10:44:22
อ้างถึง
ข้อความของ wannee เมื่อ 13 กรกฎาคม 2552, 00:02:33

อ้ะ..มีแข่ง.. ลูกสาวพี่เสียด ไม่ต้องรอ 10 ปี   emo20:)):)  emo20:)):)
มาปั่นกระทู้ยามดึก
   emo21:):):


โอ๊ะ โอ๊ะ .. พี่เสียดมาตัดหน้าอย่างแรง
ด้วย promotion ที่กินเวลาน้อยกว่า
สรรพคุณเหนือกว่าอีก

หะยีก็ต้องร้องไห้  .. โฮ โฮ !!!
  emo46   emo46   emo46


หัวข้อ: Re: "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: iamfrommoon ที่ 13 กรกฎาคม 2552, 10:46:02
อ้างถึง
ข้อความของ swsm เมื่อ 12 กรกฎาคม 2552, 22:32:02
ก่อนที่พี่แอ๊ะจะอวดรูปลูกชาย
หะยีขออวดรูปลูกสาวก่อน .. ดีไหมคะ
ในภาพคือสาวน้อยเสื้อสีชมพู ค่ะ

ให้ 1 ใน 3 หนุ่มของพี่ .. เลือกจองน้องไว้ก่อน

อิอิอิ !!

แหะ .. ดำเนินการ "ส่งเสริมการขาย" มากไปหน่อยไหมเรา ??



emo29:P:

(http://img339.imageshack.us/img339/3467/pagejoy00021.jpg)


พี่หยีคะ
น้องสวยเหมือนพี่หยีเลย ยิ้มนี่พิมพ์เดียวกันเลย...

พี่แอ๊ะคะ
น้องต้นกล้าทำเสื้อคำอื่นๆ อีกมั้ยคะ ยังประทับใจ...ข้อความไม่หายเลย เดี๋ยวนี้เขาฮิตกันมากเลย จริงๆ น้องต้นกล้านำสมัยกว่าตั้งนานแล้วนะคะนี่


หัวข้อ: Re: "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: KUSON ที่ 13 กรกฎาคม 2552, 14:50:17
พี่แอ๊ะครับ
น้องอุอ๋นมาแล้วววววววว
สวัสดีงามๆตามไสตร์น้องอ๊อด
กรอกตาไปมา ซ้ายที ขวาที เอ๊ะไม่มีใครขวางหูขวางตา
จึงป้องปากกระซิบว่า
ไปกระชากคนดังเช่นคุณปาทูมา1
และไปกระแซะคนดังรุ่นอื่นๆมาอีกรุ่นละ1
ขี้คร้านเว็บนี้จะดังระเบิดเถิดเทิง
กลับไปอ่านดูถี ไอ้ที่ได้มา สาม สี่หมื่นนะ เขียนเองเสียที่ใหน
พอใครเขียนถูกใจก็อุทานว่า โอ้โฮเฮะ ขี้คล้านคนอ่านกันละเบิดเถิดเทิง จริงใหมครับพี่แอ๊ะ คิกๆๆๆ


หัวข้อ: Re: "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: swsm ที่ 13 กรกฎาคม 2552, 15:10:37
อ้างถึง
ข้อความของ KUSON เมื่อ 13 กรกฎาคม 2552, 14:50:17
พี่แอ๊ะครับ
น้องอุอ๋นมาแล้วววววววว
สวัสดีงาม ๆ ตามไสตร์น้องอ๊อด
กรอกตาไปมา ซ้ายที ขวาที เอ๊ะไม่มีใครขวางหูขวางตา
จึงป้องปากกระซิบว่า
ไปกระชากคนดังเช่นคุณปาทูมา 1
และไปกระแซะคนดังรุ่นอื่น ๆ มาอีกรุ่นละ 1
ขี้คร้านเว็บนี้จะดังระเบิดเถิดเทิง
กลับไปอ่านดูถี ไอ้ที่ได้มา สาม สี่หมื่นนะ เขียนเองเสียที่ใหน
พอใครเขียนถูกใจก็อุทานว่า โอ้โฮเฮะ ขี้คล้านคนอ่านกันละเบิดเถิดเทิง จริงใหมครับพี่แอ๊ะ คิกๆๆๆ

หรือไม่ก็เข้ามาหัวเราะ "เหอ ๆ ๆ ๆ ๆ" .. เหมือนพี่ตุ๋ย 22
ก็นับได้ 1 แต้มแล้วค่ะ

ไสยศาสตร์มีจริงนะคะ พี่แอ๊ะ .. 555
 

emo20:)):)




หัวข้อ: Re: "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: swsm ที่ 13 กรกฎาคม 2552, 15:11:28
เห็นมะคะ ..
แป๊บเดียวได้มา 2 หน้า นับได้ 42 reply และค่ะ


หัวข้อ: Re: "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: wannee ที่ 13 กรกฎาคม 2552, 16:46:15
อ้างถึง
ข้อความของ swsm เมื่อ 13 กรกฎาคม 2552, 10:44:22

โอ๊ะ โอ๊ะ .. พี่เสียดมาตัดหน้าอย่างแรง
ด้วย promotion ที่กินเวลาน้อยกว่า
สรรพคุณเหนือกว่าอีก

หะยีก็ต้องร้องไห้  .. โฮ โฮ !!!
  emo46   emo46   emo46

ม่ายเป็นรายย พี่แอ๊ะมีลูกชายหลายคนนนน  emo20:)):) emo20:)):)


หัวข้อ: Re: "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: wannee ที่ 13 กรกฎาคม 2552, 16:49:41
อ้างถึง
ข้อความของ KUSON เมื่อ 13 กรกฎาคม 2552, 14:50:17
พี่แอ๊ะครับ
น้องอุอ๋นมาแล้วววววววว
สวัสดีงามๆตามไสตร์น้องอ๊อด
กรอกตาไปมา ซ้ายที ขวาที เอ๊ะไม่มีใครขวางหูขวางตา
จึงป้องปากกระซิบว่า
ไปกระชากคนดังเช่นคุณปาทูมา1
และไปกระแซะคนดังรุ่นอื่นๆมาอีกรุ่นละ1
ขี้คร้านเว็บนี้จะดังระเบิดเถิดเทิง
กลับไปอ่านดูถี ไอ้ที่ได้มา สาม สี่หมื่นนะ เขียนเองเสียที่ใหน
พอใครเขียนถูกใจก็อุทานว่า โอ้โฮเฮะ ขี้คล้านคนอ่านกันละเบิดเถิดเทิง จริงใหมครับพี่แอ๊ะ คิกๆๆๆ

งานนี้มีการแย่งซื้อตัวอุตลุด  ล๊อบบี้ยิสต์งานเข้าตรึมมม เหอๆๆๆ

ป๋าทูเร้ว  พี่ๆเรียกหาแล้ว  emo28:win:


หัวข้อ: Re: "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: swsm ที่ 13 กรกฎาคม 2552, 17:13:35
อ้างถึง
ข้อความของ wannee เมื่อ 13 กรกฎาคม 2552, 16:49:41
อ้างถึง
ข้อความของ KUSON เมื่อ 13 กรกฎาคม 2552, 14:50:17
พี่แอ๊ะครับ
น้องอุอ๋นมาแล้วววววววว
สวัสดีงาม ๆ ตามไสตร์น้องอ๊อด
กรอกตาไปมา ซ้ายที ขวาที เอ๊ะไม่มีใครขวางหูขวางตา
จึงป้องปากกระซิบว่า
ไปกระชากคนดังเช่นคุณปาทูมา 1
และไปกระแซะคนดังรุ่นอื่นๆมาอีกรุ่นละ 1
ขี้คร้านเว็บนี้จะดังระเบิดเถิดเทิง
กลับไปอ่านดูถี ไอ้ที่ได้มา สาม สี่หมื่นนะ เขียนเองเสียที่ใหน
พอใครเขียนถูกใจก็อุทานว่า โอ้โฮเฮะ ขี้คล้านคนอ่านกันละเบิดเถิดเทิง จริงใหมครับพี่แอ๊ะ คิก ๆ ๆ ๆ


งานนี้มีการแย่งซื้อตัวอุตลุด  ล๊อบบี้ยิสต์งานเข้าตรึมมม เหอ ๆ ๆ ๆ

ป๋าทูเร้ว  พี่ ๆ เรียกหาแล้ว  
  emo28:win:



เอ๊ .. หยั่งหะยีเนี้ย 
พอจะรับหน้าที่แบบป๋าทู 24 ได้ไหมคะ ??

แม้จะเก่งไม่เท่า  แต่รับรองว่า "เร้าใจ" ค่ะ
   


emo20:)):)



หัวข้อ: Re: "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: ตุ๋ย 22 ที่ 13 กรกฎาคม 2552, 19:01:11
พี่อแอ๊ะลูกสาวผมก็น่ารักนะ 3 ขวบแล้วจองด้วย


หัวข้อ: Re: "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: pb13 ที่ 13 กรกฎาคม 2552, 19:39:50
 emo2:) emo2:)      ขอเอาหลาน ๒ ขวบเศษ เข้าประกวดด้วยคนได้มั๊ยครับ  แต่ต้องรอนานหน่อย  ประเพณีจีนเค้าหมั้นตั้งแต่อยู่ในท้องก็มี 
เฉิน ฮ่าน  สู้ๆ   อังกฤษ  จีน  ไทย  จีบได้หมดฮับ emo25:((( emo25:(((


หัวข้อ: Re: "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: ตุ๋ย 22 ที่ 13 กรกฎาคม 2552, 20:05:44
มีคนเสนอตัวเยอะเลยนะ  เอ้าเลือกซะ


หัวข้อ: Re: "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: Kaimook ที่ 13 กรกฎาคม 2552, 20:09:51
อ้างถึง
ข้อความของ prapasri AH เมื่อ 12 กรกฎาคม 2552, 18:39:30
เหยง และน้องๆ จ๊ะ

พี่แอ๊ะ ไปเดินออกกำลังกายมา 5 กม. แล้วค่ะ
กราบสวัสดีพี่แอ๊ะด้วยอีกคนค่ะ พี่แอ๊ะคงไม่รู้จักอ้อยหรอกค่ะเพราะอ้อยเข้ามาเรียนรุ่น24ค่ะ
ส่นอ้อยก็ได้รู้จักพี่ในเวปนี่แหละค่ะ พี่แอีะสวยมากๆเลยนะคะและเป็นพี่ที่น่ารักของน้องๆมากๆเลยค่ะ
พี่แอ๊ะเก่งมากๆเลยค่ะเดินตั้ง5กิโลของอ้อยอย่างมากก็ได้แค่4ค่ะนี่หยุดไปนานค่ะไปเริ่มใหม่อย่างเก่ง
ก็2กิโลค่ะ


หัวข้อ: Re: "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: krongon2513 ที่ 13 กรกฎาคม 2552, 21:07:40
อ้างถึง
ข้อความของ suriya2513 เมื่อ 12 กรกฎาคม 2552, 16:52:55
เปลี่ยนชื่อกระทู้ให้แล้วครับ
สำหรับเรื่องที่คุณนายแอ๊ะจะให้ผมตั้งกระทู้ให้คุณนายอ้อย กรองอร นั้น
ผมไม่กล้าตั้งหรอกครับ กลัวโดนคุณนายอ้อยสวนกลับมาว่า
"เชอะ ! ชั้นไม่ได้ใช้ให้ตั้ง ใครตั้ง คนนั้นก็ดูแลกันเอาเอง"
เชื่อหัวไอ้ป๋องเหอะ ต้องมาแนวนี้แหงๆ


ป๋อง..ป๋อง..ป๋อง
ฉันจำต้องปกป้องภาพลักษณ์ของตนเอง ก่อนที่เธอจะป้ายสีให้มันเลอะเทอะไปกว่านี้
ฉันไม่ใช่คนกระด้าง..ไร้มธุรสวาจาเช่นนั้นเลย
แต่ก็ช่วยไม่ได้ที่ฉัน"ทัน"เธอทุกอย่าง และไม่เคยเพลี่ยงพล้ำในการต่อกรกับเธอแม้สักครั้ง

ตอนนี้ฉันไม่ค่อยมีอารมณ์อ่ะ  ลูกฉันกะลังจะไปมะริกา
อีกพักนึงค่อยมาว่ากันใหม่
คุณนายแอ๊ะคุยไปก่อนนะค้า

ทั่นรองค้า สวัสดีค่ะ
วันเดียวเที่ยวสตูลของฉันสนุกมาก พอกลับมา น้ำท่วมทางขาดพอดีเลย
ได้ไปกุ้ยหลินที่เขื่อนรัชชประภาและไปมาเลย์อีกแล้ว
สิ้นเดือนจะไปสิงคโปร์
ฉันไม่ชวนละนะ อยากไปก็วิ่งตามมาเองละกัน



































หัวข้อ: Re: "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: krongon2513 ที่ 13 กรกฎาคม 2552, 21:16:14
อ้างถึง
ข้อความของ Soponเท่านั้น เมื่อ 12 กรกฎาคม 2552, 17:51:09
คิดในทางบวกหน่อยครับพี่ พี่อ้อยอาจจะขอบคุณพี่มากๆก็ได้ emo9:huhu:
ดูผมกับตะวันเป็นตัวอย่าง emo7:(: เฉือนกันมาตลอด แต่ที่จริงแล้วแอบซูเอี๋ยกัน ไม่เอากันถึงตายร้อก

ช่ายแล้วน้องเปี๊ยก..เท่านั้น
คิดในทางบวก อารมณ์ก็จะดี สังคมก็จะเต็มไปด้วยไมตรี
นอกบ้านทะเลาะกันจนเบื่อจะตายอยู่แล้ว
เวลาที่เหลือเอาไว้สะสมมิตรและทำการงานที่เกิดประโยชน์ก็แทบไม่มีเวลาเหลือจะรบกะใคร

เปี๊ยกพาพี่ๆผู้หญิง 13 ไปร้องเพลงบ้านเปี๊ยกมั่งสิ  พี่ๆร้องเพลงเก่งกันทุกคนเลยนะ..จะบอกให้และไม่ได้โม้  โดยฉพาะอย่างยิ่งพี่แอ๊ะ  ฮิฮิ


หัวข้อ: Re: "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: swsm ที่ 13 กรกฎาคม 2552, 21:41:05
อ้างถึง
ข้อความของ krongon2513 เมื่อ 13 กรกฎาคม 2552, 21:16:14
อ้างถึง
ข้อความของ Soponเท่านั้น เมื่อ 12 กรกฎาคม 2552, 17:51:09
คิดในทางบวกหน่อยครับพี่ พี่อ้อยอาจจะขอบคุณพี่มากๆก็ได้ emo9:huhu:
ดูผมกับตะวันเป็นตัวอย่าง emo7:(: เฉือนกันมาตลอด แต่ที่จริงแล้วแอบซูเอี๋ยกัน ไม่เอากันถึงตายร้อก


ช่ายแล้วน้องเปี๊ยก..เท่านั้น
คิดในทางบวก อารมณ์ก็จะดี สังคมก็จะเต็มไปด้วยไมตรี
นอกบ้านทะเลาะกันจนเบื่อจะตายอยู่แล้ว
เวลาที่เหลือเอาไว้สะสมมิตรและทำการงานที่เกิดประโยชน์ก็แทบไม่มีเวลาเหลือจะรบกะใคร

เปี๊ยกพาพี่ๆผู้หญิง 13 ไปร้องเพลงบ้านเปี๊ยกมั่งสิ  พี่ๆร้องเพลงเก่งกันทุกคนเลยนะ..จะบอกให้และไม่ได้โม้  โดยฉพาะอย่างยิ่งพี่แอ๊ะ  ฮิฮิ


พี่เปี๊ยกตื่นเต้นตายเลยค่ะ .. ถ้าได้ยินใครบอกว่าจะไปบ้านแก
แกจะรีบตอบรับทันที ..โดยไม่คิดหน้าคิดหลัง

แบบว่า .. ชอบรับแขกมาาาาาาก

อิอิอิ
   emo9:huhu:




หัวข้อ: Re: "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: เหยง 16 ที่ 13 กรกฎาคม 2552, 23:23:32
น้องหะยี

+ พี่ได้ด้วยคนก็ได้


หัวข้อ: Re: "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: swsm ที่ 13 กรกฎาคม 2552, 23:50:07
อ้างถึง
ข้อความของ เหยง 16 เมื่อ 13 กรกฎาคม 2552, 23:23:32
น้องหะยี

+ พี่ได้ด้วยคนก็ได้


จะรีบแจ้งพี่เปี๊ยกให้ทราบในโอกาสแรกเลยค่ะ
พี่เหยง 16  พี่อ้อย 13 (ชื่ออ้อยนี่มีทุกรุ่นจริง ๆ นะคะ .. มหาอมตะนิรันดร์กาล)

พี่เปี๊ยกบอกให้หะยีรีบระดมพลไว้เลย ..
เพราะน่าจะได้ฤกษ์งามยามดีประมาณปลาย ๆ เดือนนี้ .. ค่ะ
   


emo42





หัวข้อ: Re: "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: swsm ที่ 14 กรกฎาคม 2552, 00:05:52
ยู้ฮู .. พี่แอ๊ะ ไม่อยู่  พี่แอ๊ะไม่มา
เจ้าของบ้านไปไหนคะเนี่ย ??


emo47




หัวข้อ: Re: "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: pb13 ที่ 14 กรกฎาคม 2552, 07:48:37
ทั่นรองค้า สวัสดีค่ะ
วันเดียวเที่ยวสตูลของฉันสนุกมาก พอกลับมา น้ำท่วมทางขาดพอดีเลย
ได้ไปกุ้ยหลินที่เขื่อนรัชชประภาและไปมาเลย์อีกแล้ว
สิ้นเดือนจะไปสิงคโปร์
ฉันไม่ชวนละนะ อยากไปก็วิ่งตามมาเองละกัน


           ช่วงหยุด ๕ วันพากันไปพักผ่อนที่ต่างประเทศเหมียนกันนะจะบอกให้  (ลาวครับ)   ๒๓-๒๖ ก.ค. ก็จะไปเขื่อนรัชชประภา  สตูล  เกาะลังกาวี หาดใหญ่(ไปคนเดียวขอรับ  เพื่อนคุณไม่มีเวลาให้ ไปลาวยังเอางานไปทำเลย) emo19:((: emo19:((:


หัวข้อ: Re: "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: อ้อย17 ที่ 14 กรกฎาคม 2552, 08:27:57
อ้างถึง
ข้อความของ prapasri AH เมื่อ 12 กรกฎาคม 2552, 20:19:05

น้องหมอเสียด  น้องเหยง16   น้อง หะยี คนสวย(จากรูปที่โผล่มาจากหน้าต่างนะคะ) swsm

น้อง ti2521   น้องจันทร์เพ็ญคนเก่ง   น้องอ้อย17 (คนอิสานคือกัน)

น้อง โสภณเท่านี้ เอ๊ยเท่านั้น  และ ดร.กระป๋อง

ขอบคุณที่มาเยี่ยมบ้านพี่แอ๊ะนะคะ

พี่แอ๊ะ จะเขียนเรื่องอะไรดี นะ ที่จะให้น้องๆได้แวะมาบ่อยๆ

นินทา  พี่ป๋อง  ดีก่า รับรอง กระทู้ ร้อนฉ่า แน่ๆๆๆๆๆ

คือมีคนมาช่วยกัน นินทา

ปล." นินทา" ภาษาอิสาน เขา พูดว่า  "เว่า พื่น "  (พ.พาน สระ อื ไม้เอก น.หนู ค่ะ)

ถูกไหมคะน้องอ้อย 17



 สวัสดีค่ะ พี่แอ๊ะ.
       เดี๋ยวนี้พี่แอ๊ะ เป็นผู้เชี่ยวชาญหลายภาษานะคะ..เว่าพื่น คือนินทา..ถูกต้องนะคร๊าบบบ...


หัวข้อ: Re: "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: Kaimook ที่ 14 กรกฎาคม 2552, 09:42:33
สวัสดียามสายค่ะพี่แอ๊ะ emo4:)) emo4:)) emo4:))


หัวข้อ: Re: "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: อ้อย 14 ที่ 14 กรกฎาคม 2552, 10:50:09
พี่แอ๊ะขา emo45:(   Amazing มากเลยค่ะ  ที่พี่แอ๊ะเดินได้วันละ 5 กิโล  มิน่าเล่า ถึงได้ผ่ายผอมลงไป  สงสัยเตรียมตัวเข้าประกวดในงานหอ ปีนี้แน่นอน  รับรองเสียงเชียร์ตรึมเลย  ยิ่งถ้าประกวดเป็นคู่ กะพี่ป๋องด้วย emo43 สงสัยคะแนนชนะขาดลอยแน่ๆ   คิดถึงพี่แอ๊ะนะคะ  ยิ่งไปเที่ยวกะพี่แจ๋ว  พี่เหน่ง ก็คิดถึงใหญ่  เมื่อไรจะว่างไป เที่ยวกันบ้างละคะ..... emo31:bye:


หัวข้อ: Re: "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: swsm ที่ 14 กรกฎาคม 2552, 12:16:33
เตือนภัยสำหรับผู้หญิงที่ต้องขับรถเองค่ะ


emo9:huhu:

http://www.cmadong.com/board/index.php/topic,3053.msg232522.html#msg232522


หัวข้อ: Re: "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: iamfrommoon ที่ 14 กรกฎาคม 2552, 14:40:15
อ้างถึง
ข้อความของ krongon2513 เมื่อ 13 กรกฎาคม 2552, 21:07:40
อ้างถึง
ข้อความของ suriya2513 เมื่อ 12 กรกฎาคม 2552, 16:52:55
เปลี่ยนชื่อกระทู้ให้แล้วครับ
สำหรับเรื่องที่คุณนายแอ๊ะจะให้ผมตั้งกระทู้ให้คุณนายอ้อย กรองอร นั้น
ผมไม่กล้าตั้งหรอกครับ กลัวโดนคุณนายอ้อยสวนกลับมาว่า
"เชอะ ! ชั้นไม่ได้ใช้ให้ตั้ง ใครตั้ง คนนั้นก็ดูแลกันเอาเอง"
เชื่อหัวไอ้ป๋องเหอะ ต้องมาแนวนี้แหงๆ


ป๋อง..ป๋อง..ป๋อง
ฉันจำต้องปกป้องภาพลักษณ์ของตนเอง ก่อนที่เธอจะป้ายสีให้มันเลอะเทอะไปกว่านี้
ฉันไม่ใช่คนกระด้าง..ไร้มธุรสวาจาเช่นนั้นเลย
แต่ก็ช่วยไม่ได้ที่ฉัน"ทัน"เธอทุกอย่าง และไม่เคยเพลี่ยงพล้ำในการต่อกรกับเธอแม้สักครั้ง

ตอนนี้ฉันไม่ค่อยมีอารมณ์อ่ะ  ลูกฉันกะลังจะไปมะริกา
อีกพักนึงค่อยมาว่ากันใหม่
คุณนายแอ๊ะคุยไปก่อนนะค้า

ทั่นรองค้า สวัสดีค่ะ
วันเดียวเที่ยวสตูลของฉันสนุกมาก พอกลับมา น้ำท่วมทางขาดพอดีเลย
ได้ไปกุ้ยหลินที่เขื่อนรัชชประภาและไปมาเลย์อีกแล้ว
สิ้นเดือนจะไปสิงคโปร์
ฉันไม่ชวนละนะ อยากไปก็วิ่งตามมาเองละกัน

สวัสดีค่าพี่อ้อย..
เห็นสำนวนพี่อ้อยมา ตัวจริงเสียงจริงเลยนะคะ พี่อ้อยได้ข้อมูล u น้องแล้วรึยังคะ...พี่อ้อยบินไปส่งลูกชายด้วยรึเปล่าคะเนี่ย


หัวข้อ: Re: "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: iamfrommoon ที่ 14 กรกฎาคม 2552, 14:43:37
อ้างถึง
ข้อความของ prapasri AH เมื่อ 12 กรกฎาคม 2552, 20:51:57

อ๋อ.....เหรอ....นายโขตอบ.. แล้วก็เดินดูร้าน สินค้าต่อไป.......ดูให้หนำใจ ไม่ค่อยเคยเห็น สิ่งของแปลกๆ อย่างนี้

ที่ สมุย เลย

   นายโข เดินรอบงาน ไปสักสองสามรอบ ก็มาเจอผู้ชายอีกคนหนึ่ง หน้าตาเหมือนคนเมื่อกี้  มาก นายโขดีใจ รีบไปทักอีกทันที่

    “เชือบเอ๊ย... เมื่อกี๊ กูอ๊าย... อาย... กูเห็นคนคนหนึ่ง หน้าตาเหมือนมึงมากเลย  กูไปทักเขาเลย เขาบอกว่าไม่ใช่มึง  หน้าตาเหมือนมึงมากเลย 

  กูคุยกะเขาใหญ่เลยกูอาย มากเลยว่ะ”

   ผู้ชายคนนั้นตอบว่า

   “พี่ๆๆ พี่ทักคนเดิมนั่นแหละ  ผมไม่ได้ชื่อเชือบครับ พี่ทักผิดอีกแล้ววววววววววววว”

นายโข  หน้าซีดเผือด อ๋อ เหรอ.......

 ตาแล๊น....ตาแล๊น..ตาแล๊น ตาแล๋น แต๋น แต๋นนนนนนนนนนนนนนนนนนนนน...

 
                                      จบตอนนี้ค่ะ โปรดติดตามตอนต่อไปด้วยใจระทึกโดยพลัน







ฮ่าๆๆ...นายโขต้องไปตัดแว่นสายตานะคะพี่แอ๊ะ ฮ่าๆๆ ตะแล๊นๆๆ


หัวข้อ: Re: "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: wannee ที่ 14 กรกฎาคม 2552, 19:19:40

ยู้ฮู .. พี่แอ๊ะ ไม่อยู่  พี่แอ๊ะไม่มา
เจ้าของบ้านไปไหนคะเนี่ย ??


emo47



[/quote]

เดี๋ยวพี่แอ็ะ ก็คงมา เพราะรู้ว่าน้องๆชะเง้อคอยาวอยู่  emo24:(



หัวข้อ: Re: "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: wannee ที่ 14 กรกฎาคม 2552, 19:23:55


โอะ..พี่อ้อย มาพร้อมกันเลย    สวัสดีค่ะพี่อ้อย13 พี่อ้อย 14   emo6::)) 


หัวข้อ: Re: "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: prapasri AH ที่ 14 กรกฎาคม 2552, 21:19:03
ขอบคุณน้องๆ เพื่อนๆ ที่แวะมาเยี่ยมบ้านพี่แอ๊ะนะคะ

ช่วงนี้พี่แอ๊ะไม่ค่อยได้อยู่บ้าน น้องๆคุยเล่นกัน ไปก่อนนะ

เจ้าของบ้านไม่อยู่ก็ไม่เป็นไรค่ะ อนุญาตให้คุยเล่นในบ้านพี่แอ๊ะอย่างเต็มที

คุยกันดีๆนะ อย่าทะเลาะกันนะคุณกระป๋องคนงาม และคุณอ้อย13 คนดี 555555555555555


พอดีช่วงนี้ ดร.กฤษณา ไกรสินธุ์  ผู้ได้รับรางวัลแมกไซไซ สดๆร้อนๆ

เธอมาเยี่ยมพี่แอ๊ะที่ยโสธร  พรุ่งนี้พี่แอ๊ะจะ พาไปดูงานโรงงานผลิตยา สมุนไพรที่ร.พ อำเภอกุดชุม ค่ะ

แล้วจะส่งรูปมาให้ดูนะคะ

เธอ มาช่วย สร้างโรงงานผลิตยาสมุนไพรไทย ให้คณะเภสัชมหาวิทยาลัยอุบลราชธานี

แต่ไม่ค่อยมีใครทราบ เธอทำงานปิดทองหลังพระ ตลอดมา

ดร.กฤษณาเป็นทั้งญาติ และเพื่อน จากเกาะสมุยค่ะ

ตอนเด็กๆเดินไปโรงเรียนด้วยกันทุกวันค่ะ




หัวข้อ: Re: "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: swsm ที่ 14 กรกฎาคม 2552, 21:22:37
สวัสดีค่ะ พี่แอ๊ะ

ดีใจที่พี่มาให้พวกเราจ๊ะเอ๋อีก

เรื่อง ดร.กฤษณา  หะยีตามข่าวอยู่ค่ะ
ชื่นชมที่เป็นคนเก่ง คนดี .. แต่ไม่จำเป็นต้อง (อยาก) ดัง !!

เป็นคนปิดทองหลังพระ 
และเป็นคนดีตัวจริง เสียงจริงเลยค่ะ

ชื่นชมนะคะ  และดีใจกับรางวัลนี้แทนพี่ท่านด้วยค่ะ   



หัวข้อ: Re: "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: Soponเท่านั้น ที่ 14 กรกฎาคม 2552, 21:39:01
อ้างถึง
ข้อความของ krongon2513 เมื่อ 13 กรกฎาคม 2552, 21:16:14
อ้างถึง
ข้อความของ Soponเท่านั้น เมื่อ 12 กรกฎาคม 2552, 17:51:09
คิดในทางบวกหน่อยครับพี่ พี่อ้อยอาจจะขอบคุณพี่มากๆก็ได้ emo9:huhu:
ดูผมกับตะวันเป็นตัวอย่าง emo7:(: เฉือนกันมาตลอด แต่ที่จริงแล้วแอบซูเอี๋ยกัน ไม่เอากันถึงตายร้อก

ช่ายแล้วน้องเปี๊ยก..เท่านั้น
คิดในทางบวก อารมณ์ก็จะดี สังคมก็จะเต็มไปด้วยไมตรี
นอกบ้านทะเลาะกันจนเบื่อจะตายอยู่แล้ว
เวลาที่เหลือเอาไว้สะสมมิตรและทำการงานที่เกิดประโยชน์ก็แทบไม่มีเวลาเหลือจะรบกะใคร

เปี๊ยกพาพี่ๆผู้หญิง 13 ไปร้องเพลงบ้านเปี๊ยกมั่งสิ  พี่ๆร้องเพลงเก่งกันทุกคนเลยนะ..จะบอกให้และไม่ได้โม้  โดยฉพาะอย่างยิ่งพี่แอ๊ะ  ฮิฮิ
เป็นเกียรติอย่างสูงเลยครับพี่
แต่พี่ป๋องน่ะ COO - Chief Operating Officerแห่งRS(รุ่ง-สุริยา) Entertainment ขาดไม่ได้ ต้องไปด้วยอยู่แล้วนะครับ พี่อ้อยเพลาๆมือหน่อยก็แล้วกันครับ emo30:sorry:

ตาม Seniority หยี น้องเล็กสุดต้องเป็นคนประสานงานนะจ๊ะ

อาทิตย์ 19 นี้ว่าง เสาร์ 25 ก็ว่าง อาทิตย์ 26 ต้องไปดูเพื่อนวิศวะ+เตรียมอุดม เล่นดนตรี ในฐานะผจก.วง

ว่าแต่วัดไข้กันมาก่อนก็ดีนะครับ ไข้หวัดใหญ่ 2009 น่ากลัวจัง


หัวข้อ: Re: "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: swsm ที่ 14 กรกฎาคม 2552, 21:42:55
5555 ... ความจริงพี่เปี๊ยกน่าจะจัด Mask Party ซะเลยนะคะ
เอาให้กระหึ่มเลยดีไหมคะ ??

เดี๋ยวชวนพี่เล็ก 22 ไปถ่าย snap สวย ๆ ๆ ๆ ๆ ..
หลากลีลาของแฟชั่นหน้ากาก
แล้วเอามาแปะลงเว็บ

รับรอง .. แหล่ม



emo9:huhu:




หัวข้อ: Re: "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: เสธต๊ะ ที่ 15 กรกฎาคม 2552, 10:53:36
สวัสดีครับ พี่แอ๊ะ ผมว่างเว้นจากการเข้าเว็บมานานเพราะงานยุ่งและบุพการีก็ป่วย สัปดาห์ที่แล้วก็ลงไปสุราษฎร์ และยังเลยไปอยู่หมุย 2 วัน ช่วงนั้นคิดถึงพี่แอ๊ะมาก เพราะรู้ใจว่าพี่ชอบหวลรำลึกเรื่องราวในอดีต(เหมือนผมตอนนี้) ยิ่งได้ชมรายการทีวีเสด็จประพาสต้นฯตอนเสด็จมลายู มีช่วงพาดพิงกับเกาะหมุย, พงัน, ไชยา อดใจไม่ไหวเลยไปเที่ยวหมุยซะเลย ได้มีโอกาสสนทนากับผู้สูงวัยในเกาะหมุย(อาจเป็นญาติพี่แอ๊ะก็ได้นะ) รำฤกอดีตให้ฟัง เห็นความเปลี่ยนแปลงอีกมากมายครับ ทั้งวัฒนธรรม ประเพณี สถานที่ แลเรื่องราวในอดีต น่าสนใจครับ ยังได้มีโอกาสแวะไปวัดหน้าพระลาน และสักการะหลวงพ่อแดงที่พำนักสงฆ์แหลมสออ่ะครับ (เสียดาย ไม่มีการถ่ายรูปแต่อย่างใด) ยังคิดว่า วันหน้าจะหาโอกาสไปอีกครับ ถ้าพี่แอ๊ะจะไปหมุยเมื่อไร ขอร่วมทีมไปด้วยนะครับ อย่างน้อยพี่แอ๊ะจะรู้จักสถานที่ๆสำคัญในอดีต เช่น ร.5 เสด็จประพาสที่ไหนบ้าง,โจรสลัดตั้งถิ่นฐาน/พักเรือที่ไหน,ขุนนาง/ข้าราชการรุ่นเก่าๆผู้ปกครองเกาะหมุยเป็นใครบ้าง อย่างนี้เป็นต้นครับ หวังว่าคงโดนใจพี่แอ๊ะนะครับ


หัวข้อ: Re: "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: krongon2513 ที่ 15 กรกฎาคม 2552, 20:10:51
อ้างถึง
ข้อความของ pb13 เมื่อ 14 กรกฎาคม 2552, 07:48:37
ทั่นรองค้า สวัสดีค่ะ
วันเดียวเที่ยวสตูลของฉันสนุกมาก พอกลับมา น้ำท่วมทางขาดพอดีเลย
ได้ไปกุ้ยหลินที่เขื่อนรัชชประภาและไปมาเลย์อีกแล้ว
สิ้นเดือนจะไปสิงคโปร์
ฉันไม่ชวนละนะ อยากไปก็วิ่งตามมาเองละกัน


           ช่วงหยุด ๕ วันพากันไปพักผ่อนที่ต่างประเทศเหมียนกันนะจะบอกให้  (ลาวครับ)   ๒๓-๒๖ ก.ค. ก็จะไปเขื่อนรัชชประภา  สตูล  เกาะลังกาวี หาดใหญ่(ไปคนเดียวขอรับ  เพื่อนคุณไม่มีเวลาให้ ไปลาวยังเอางานไปทำเลย) emo19:((: emo19:((:


ทั่นรองต้องคิดใหม่..คิดบวก...และคิดต่าง
ท่านรองจะกล่าวหาคุณนายเช่นนั้นมิได้



ต้องคิดว่าเธอเป็นคนเอาการเอางาน ขยันขันแข็ง ไม่ใส่สายเดี่ยวเที่ยวดึกๆให้ทั่นรองต้องเวียนหัว


อีตอนฉันอยู่ตั้งนาน  ทำไมไม่มาเล่าค้า
กลัวฉันจะเลี้ยงดูปูเสื่อรึไง
ไปตามรอยฉันเป๊ะๆๆ..เลย


หัวข้อ: Re: "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: krongon2513 ที่ 15 กรกฎาคม 2552, 20:22:36
น้องเสียด
สวัสดีค่ะ มาหาคุณนายน้องอ้อมเมื่อไร อย่าลืมนัดพี่นะ(อยู่รึเปล่าก็ไม่รู้)


น้องปุ๊กกี้
มีตัวปลอมด้วยเหรอก๊ะ
เรื่องยูในแวดวงไอทีเขาก็ว่าดีอ่ะนะ  แต่พี่อยู่นอกวง ไม่ค่อยรู้เท่าไร
ถ้าเป็นลูกสาว ตัวเล็กๆ บอบบาง คงบินไปส่ง อยู่เฝ้าเป็นแจ๋วรับใช้
แต่นี่เป็นลูกชายตัวโต แคล่วคล่องว่องไว ปรูดปราด คงได้แค่ไปเยี่ยมและไปเที่ยวอะคะ

สวัสดีค่ะน้อง
พี่ควรเรียกน้องหะยีหรือน้องลูกหยีคะ
เรื่องชื่อ ก็โหลจริงอะ  แต่ไม่คิดเปลี่ยนหรอก เพราะพ่อแม่สมัยโน้นคงคิดว่าเป็นชื่อที่ดีสำหรับลูกสาว จะได้อ่อนหวาน555
จึงมีเด็กหญิงชื่ออ้อยเยอะแยะ
สมัยนี้คงต้องชื่อ  จีจี้  นีน่า ซาช่า นิวตี้ นุกนิก กระมัง


หัวข้อ: Re: "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: krongon2513 ที่ 15 กรกฎาคม 2552, 20:32:09
อ้างถึง
ข้อความของ Soponเท่านั้น เมื่อ 14 กรกฎาคม 2552, 21:39:01
อ้างถึง
ข้อความของ krongon2513 เมื่อ 13 กรกฎาคม 2552, 21:16:14
อ้างถึง
ข้อความของ Soponเท่านั้น เมื่อ 12 กรกฎาคม 2552, 17:51:09
คิดในทางบวกหน่อยครับพี่ พี่อ้อยอาจจะขอบคุณพี่มากๆก็ได้ emo9:huhu:
ดูผมกับตะวันเป็นตัวอย่าง emo7:(: เฉือนกันมาตลอด แต่ที่จริงแล้วแอบซูเอี๋ยกัน ไม่เอากันถึงตายร้อก

ช่ายแล้วน้องเปี๊ยก..เท่านั้น
คิดในทางบวก อารมณ์ก็จะดี สังคมก็จะเต็มไปด้วยไมตรี
นอกบ้านทะเลาะกันจนเบื่อจะตายอยู่แล้ว
เวลาที่เหลือเอาไว้สะสมมิตรและทำการงานที่เกิดประโยชน์ก็แทบไม่มีเวลาเหลือจะรบกะใคร

เปี๊ยกพาพี่ๆผู้หญิง 13 ไปร้องเพลงบ้านเปี๊ยกมั่งสิ  พี่ๆร้องเพลงเก่งกันทุกคนเลยนะ..จะบอกให้และไม่ได้โม้  โดยฉพาะอย่างยิ่งพี่แอ๊ะ  ฮิฮิ
เป็นเกียรติอย่างสูงเลยครับพี่
แต่พี่ป๋องน่ะ COO - Chief Operating Officerแห่งRS(รุ่ง-สุริยา) Entertainment ขาดไม่ได้ ต้องไปด้วยอยู่แล้วนะครับ พี่อ้อยเพลาๆมือหน่อยก็แล้วกันครับ emo30:sorry:

ตาม Seniority หยี น้องเล็กสุดต้องเป็นคนประสานงานนะจ๊ะ

อาทิตย์ 19 นี้ว่าง เสาร์ 25 ก็ว่าง อาทิตย์ 26 ต้องไปดูเพื่อนวิศวะ+เตรียมอุดม เล่นดนตรี ในฐานะผจก.วง

ว่าแต่วัดไข้กันมาก่อนก็ดีนะครับ ไข้หวัดใหญ่ 2009 น่ากลัวจัง


เดี๋ยวก่อนน้องเปี๊ยก...เท่านั้น
เห็นชื่อ COO ยาดำแล้ว  พี่ต้องเรียกประชุมใหญ่วิสามัญประจำปีแก๊งค์คุณนายก่อน
ที่ประชุมว่าอย่างไรก็ตามนั้น  นั่นแหละ
คงต้องรอพี่หุยคนสวยกลับจากอังกฤษก่อนนะฮับ


จะมาบอกให้พี่เพลาๆมือได้ยังไง
ยิ่งคิดก็ยิ่งเจ็บใจ
อยากจับเจ้าแป๋งลูกแกมาต่อยกะเจ้าอัศวินน้อยแห่งปราสาทแดงลูกพี่ให้รู้ดำรู้แดงไปเลย
หนอยแน่  มาป้ายสีพี่ซะเลอะเทอะ  แล้วหายศีรษะไปไหนก้อไม่รู้

(พี่จะเติมคำว่า "ล้าน" ก็เกรงใจ แถมไม่สุภาพ..ตกลงเอาแค่นี้พอ)


หัวข้อ: Re: "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: suriya2513 ที่ 15 กรกฎาคม 2552, 21:14:35
(http://lh3.ggpht.com/_B3FWlpObXL0/SbfGNp4BeQI/AAAAAAAAAGA/nx0e_mTbMnM/s220/suriya2513a.jpg)
ไม่ได้หายหัวล้านไปไหน แอบหลบซ่อนตัวคิดค้นหาทางตอบโต้อยู่ครับ


หัวข้อ: Re: "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: swsm ที่ 15 กรกฎาคม 2552, 21:46:55
เข้ามาก็ขำเลยค่ะ  พี่อ้อย และพี่ป๋อง 13 ..

emo20:)):)


พี่อ้อยคะ
เรียกหยีเฉย ๆ ก็ได้ค่ะ .. สั้น กระชับ และดูหนิดหนมดี

เวลาที่คนเรียก "ลูกหยี" จะเขินมากค่ะ
แม้ว่าจะเป็นชื่อเรียกเล่นจริง ๆ ก็ตาม
เพราะตัวโตมาก  เกินกว่าที่จะมีใครมาเรียกว่า "ลูกหยี" ได้แล้ว .. อิอิอิ

ชื่อ "ลูกหยี" .. ณ เวลานี้มีเรียกไม่กี่คน 
ส่วนมากจะเป็นญาติผู้ใหญ่ที่เห็นมาแต่เล็กแต่น้อย
พี่น้องของเราสามคน 
แม่ตั้งชื่อว่า ลูกหยี ลูกเกด และลูกนัท

พี่กุ้ง 14 ที่สนิทกันมาก 
เรียกหนูว่า "ยัยหยี" บ้าง  หรือ "หนูหยี" บ้าง ..
แล้วแต่อารมณ์พี่ท่าน

ส่วนหยีก็ ฉะ-บาย  ฉะ-บาย ค่ะ
จะเรียกว่าอย่างไรก็ได้

ตั้งแต่เข้าเว็บมา  ก็เริ่มคุ้นกับชื่อ หะ-ยี แล้วค่ะ
ไม่แน่ใจว่าเสธต๊ะ หรือ สย. 23 เป็นคนสร้างแรงกดดันให้หยีต้องใช้ชื่อว่า หะ-ยี ค่ะ
   


emo9:huhu:




หัวข้อ: Re: "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: swsm ที่ 15 กรกฎาคม 2552, 21:51:35
อ้างถึง
ข้อความของ krongon2513 เมื่อ 15 กรกฎาคม 2552, 20:22:36
เรื่องชื่อ ก็โหลจริงอะ  แต่ไม่คิดเปลี่ยนหรอก
เพราะพ่อแม่สมัยโน้นคงคิดว่าเป็นชื่อที่ดีสำหรับลูกสาว จะได้อ่อนหวาน 555
จึงมีเด็กหญิงชื่ออ้อยเยอะแยะ

สมัยนี้คงต้องชื่อ  จีจี้  นีน่า ซาช่า นิวตี้ นุกนิก กระมัง


อีกหนึ่งประเด็นที่ต้องรีบแก้ตัว ..
มิบังอาจเลยค่ะ  ที่จะบอกว่าชื่อ "อ้อย" นั้นเป็นชื่อโหล

แต่หยีตั้งข้อสังเกตว่า
เป็นชื่ออภิมหาอมตะนิรันดร์กาล ตะหากคร่าาา ..



emo29:P:




หัวข้อ: Re: "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: yyswim ที่ 15 กรกฎาคม 2552, 22:12:07
พี่ว่า น้องหยี น่ารักมากคนหนึ่งครับ

พี่อ่านเมนต์ของน้องหยีบ่อยๆ แต่ไม่ค่อยได้ตอบอะไร

ยกเว้นว่า หากมีใครถามอะไรถึงพี่  พี่จึงจะตอบสักครั้ง..



คุณอ้อย กับ ป๋อง ก็เป็นคู่ที่สมน้ำ สมเนื้อ กันดีนะ

อ่านลีลาการเมนต์แบบโต้ทันควันของทั้งสองคน

แล้ว ขอบอกว่า 'เสมอ' กันครับ..


หัวข้อ: Re: "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: swsm ที่ 15 กรกฎาคม 2552, 22:27:55
อ้างถึง
ข้อความของ yyswim เมื่อ 15 กรกฎาคม 2552, 22:12:07
พี่ว่า น้องหยี น่ารักมากคนหนึ่งครับ

พี่อ่านเมนต์ของน้องหยีบ่อยๆ แต่ไม่ค่อยได้ตอบอะไร

ยกเว้นว่า หากมีใครถามอะไรถึงพี่  พี่จึงจะตอบสักครั้ง..



โอว พี่สินขรา .. กราบขอบคุณที่อกงาม ๆ สามครั้งคร่า

สายเลือดนิเทด เป็นที่รู้โดยทั่วกันว่า
"พูดจริง พูดตรง ไม่โกงใคร"

ดังนั้น คำที่พี่พูดถึงน้อง ..
น้องจึงเชื่อสนิทใจว่าเป็นเรื่องจริงค่ะ

กราบคารวะ ..
และขอฝากเนื้อฝากตัวด้วยนะคะ ..



emo30:sorry:





หัวข้อ: Re: "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: iamfrommoon ที่ 16 กรกฎาคม 2552, 08:40:03
อ้างถึง
ข้อความของ suriya2513 เมื่อ 15 กรกฎาคม 2552, 21:14:35
(http://lh3.ggpht.com/_B3FWlpObXL0/SbfGNp4BeQI/AAAAAAAAAGA/nx0e_mTbMnM/s220/suriya2513a.jpg)
ไม่ได้หายหัวล้านไปไหน แอบหลบซ่อนตัวคิดค้นหาทางตอบโต้อยู่ครับ

ไม่เห็นมิดเลยงะคุณพี่ป๋อง...อิอิ


หัวข้อ: Re: "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: iamfrommoon ที่ 16 กรกฎาคม 2552, 08:43:24
อ้างถึง
ข้อความของ yyswim เมื่อ 15 กรกฎาคม 2552, 22:12:07
พี่ว่า น้องหยี น่ารักมากคนหนึ่งครับ

พี่อ่านเมนต์ของน้องหยีบ่อยๆ แต่ไม่ค่อยได้ตอบอะไร

ยกเว้นว่า หากมีใครถามอะไรถึงพี่  พี่จึงจะตอบสักครั้ง..

คุณอ้อย กับ ป๋อง ก็เป็นคู่ที่สมน้ำ สมเนื้อ กันดีนะ

อ่านลีลาการเมนต์แบบโต้ทันควันของทั้งสองคน

แล้ว ขอบอกว่า 'เสมอ' กันครับ..


เห็นด้วยค่ะพี่สิน น้องว่า พี่ป๋องต้องจบเอกวิศวะ...โท...อักษรแน่ๆ อิอิ


อ้างถึง
ข้อความของ swsm เมื่อ 14 กรกฎาคม 2552, 21:22:37
สวัสดีค่ะ พี่แอ๊ะ

ดีใจที่พี่มาให้พวกเราจ๊ะเอ๋อีก

เรื่อง ดร.กฤษณา  หะยีตามข่าวอยู่ค่ะ
ชื่นชมที่เป็นคนเก่ง คนดี .. แต่ไม่จำเป็นต้อง (อยาก) ดัง !!

เป็นคนปิดทองหลังพระ 
และเป็นคนดีตัวจริง เสียงจริงเลยค่ะ

ชื่นชมนะคะ  และดีใจกับรางวัลนี้แทนพี่ท่านด้วยค่ะ   



เห็นด้วยกับพี่หยีค่า น้องรู้จักท่านตอนลงกับหนังสือ "คู่สร้างคู่สม" เมื่อหลายปีมาแล้ว ชื่นชมสุดๆ...

พี่แอ๊ะกับดร.กฤษณาคล้ายกันมาก อย่างที่เห็นชัดจากประสบการณ์ตรงคือ การทำประโยชน์เพื่อสังคมแบบปิดทองหลังพระ พี่แอ๊ะช่วยเหลือชมรมฯ เรามาตลอดเป็นเบื้องหลังเยอะมากเลยค่า ดีใจอีกอย่างที่พี่แอ๊ะพาดร.ท่านไปสร้างรง.ผลิตสมุนไพรไทย ม.อุบลฯ บ้านน้อง ทำให้คนถิ่นนั้นได้รับความรู้เพิ่มเติมเยอะ และได้ประโยชน์แก่ชาติอีกด้วย เยี่ยมยอด!


หัวข้อ: Re: "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: yyswim ที่ 16 กรกฎาคม 2552, 11:21:29
เมื่อวาน วันที่ 15 กรกฎาคม น้องแอ๊ะคงจะได้เจอกับ ดร. กฤษณา และคงจะได้มีโอกาสถ่ายรูปด้วยกันบ้าง  ผมจะรอดูรูปนะครับ ลงเยอะๆยิ่งดี อยากจะเห็นคนเก่งทั้งสองคน

สำหรับชาวหอท่านใดที่ไม่เคยอ่านประวัติของ ดร.กฤษณา

ช่วงนี้ผมคิดว่า คงจะมีประวัติลงพิมพ์ในนิตยสารและตามหน้าหนังสือพิมพ์ หลายฉบับ

แม้แต่ในบล็อกของผม ก็ยังมีเลย 

http://www.bloggang.com/mainblog.php?id=yyswim&month=16-07-2009&group=21&gblog=19

อุ อุ ขออินเทรนด์ ด้วยคน



หัวข้อ: Re: "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: suriya2513 ที่ 16 กรกฎาคม 2552, 15:57:49
อ้างถึง
ข้อความของ iamfrommoon เมื่อ 16 กรกฎาคม 2552, 08:40:03
อ้างถึง
ข้อความของ suriya2513 เมื่อ 15 กรกฎาคม 2552, 21:14:35
(http://lh3.ggpht.com/_B3FWlpObXL0/SbfGNp4BeQI/AAAAAAAAAGA/nx0e_mTbMnM/s220/suriya2513a.jpg)
ไม่ได้หายหัวล้านไปไหน แอบหลบซ่อนตัวคิดค้นหาทางตอบโต้อยู่ครับ

ไม่เห็นมิดเลยงะคุณพี่ป๋อง...อิอิ
มันสะท้อนแสงแฟลชครับคุณน้องปู๊กกี้


หัวข้อ: Re: "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: ตุ๋ย 22 ที่ 16 กรกฎาคม 2552, 19:57:33
เอาแป้งทาดิพี่ป๋องลดแสงสะท้อนจากแฟรชได้เยอะ ขอพระอภัยที่ไม่รู้จักที่ต่ำที่สูง


หัวข้อ: Re: "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: prapasri AH ที่ 16 กรกฎาคม 2552, 20:03:26
มาแล้วจ้า มาแล้วจ้า ........

เชิญเข้ามา เชิญเข้ามา....



พีแอ๊ะขออนุญาต นำรูป  เภสัชกร ดร.กฤษณา ไกรสินธุ์ เภสัชกร ยิบซี เจ้าของรางวัลแมกไซไซ ในปีนี้

มาให้ชาวซีมะโด่งได้ชื่ชมกับเพื่อนของพี่แอ๊ะ ท่านนี้

เป็นทั้งเพื่อนและญาติ โตมาด้วยกันจากสมุย เดินไปโรงเรียนด้วยกัน

แต่ตอนโต ดร. มาเรียนกรุงเทพ ที่ร.ร ราชินี

 พี่แอ๊ะ มาเรียนที่ร.ร เตรียมอุดม

ดร. ไปเรียนเภสัช ที่มหาวิทยาลัยเชียงใหม่  พี่แอ๊ะเข้าจุฬา

แต่เราติดต่อกันตลอด ตอนสมัยก่อน ไปสมุย ต้องนอนไปในเรือนอน ไปถึงสมุยเช้า

เรานอนคุยกัน ในเรื่อ แม้ดร.ไปเรียนที่อังกฤษกลับมา เราก็นอนคุย กัน เล่าสารทุกข์ สุข ให้แก่กันตลอดมา

ตอนดร.เรียนที่อังกฤษ พี่แอ๊ะจำได้ว่า ดร.ปรึกษา พี่แอ๊ะว่า ทำไงดี มีคนมาชอบ เป็นคนอัฟริกา หรืออิรัค พี่แอ๊ะไม่เเน่ใจ

  เรียน ด้วยกันที่อังกฤษ เป็นหมอ แต่คุณแม่ ดร.ไม่ยอมเพราะเขาเป็นคนต่างชาติ (ความลับ สมัยเด็กๆๆ อิๆๆ)

ตอนหลังหมอคนนี้ ถูกซัดดัม ฆ่าตาย

 เท่าที่พี่แอ๊ะจำได้นะคะ  สมัยพี่แอ๊ะเด็กๆ การเเต่งงานกับคนต่างชาติพ่อแม่จะเป็นห่วง

 ตอนนั้นเมืองไทยยังไม่ทันสมัยเหมือนเดี๋ยวนี้

ดร. เลยกลับมาเมืองไทย มาทำงาน และเบื่อระบบราชการของไทย เลย ลองไปช่วยคนอัฟริกาดีกว่า

พี่แอ๊ะก็ช่วยเชียร์ให้ไปนะคะ โดยไม่คิดเลย ว่า เพื่อนของพี่แอ๊ะจะได้ไปใช้ชีวิตโชกโชนอย่างนี้

พี่แอ๊ะแอ๊ะเรียกดร. ว่า น้องหนา เพราะเป็นญาติผู้น้อง ชาวสมุย จะนับ พี่น้องตามลำดับญาติค่ะ

คุณพ่อ ดร. เป็นนายแพทย์คนแรกๆ ของสมุย ชื่อนายแพทย์ สมคิด  ไกรสินธุ์ คุณแม่เป็นพยาบาล ชื่อน้าเฉลิมขวัญ

นามสกุลเดิม วิชัยดิษฐ์ 

น้องหนามาจากครอบครัวที่มีฐานะดีมากๆๆ  แต่อยากช่วยคนจนไม่อยากหาเงินเลย

แรกๆน้าเฉลิมขวัญ เห็นพี่แอ๊ะทำงานหาเงินเก่ง ก็กลุ้มใจ ทำไมน้องหนาไม่ขยัน หาเงินบ้าง

แต่พอได้รับรางวัลอย่างนี้ หน้าเฉลิมคงดีใจมากกว่า เงิน เป็นแน่แท้

ดร. ได้รางวัลระดับโลกทั้งนั้น  คนไทยไม่ค่อยรู้จัก เพิ่งรู้จักบ้าง ตอนนี้

ดร. เป็นตัวแทนของประเทศจีน ในการติดต่อกับอัฟริกา ด้วยนะคะ

และงานเเต่ละงานที่ไป present ในต่างประเทศ present ให้ประธานาธิบดีหลายประเทศด้วยค่ะ

พี่แอ๊ะเอา ความลับมาเล่าหมดเลย อิๆๆๆๆๆๆๆ


หัวข้อ: Re: "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: prapasri AH ที่ 16 กรกฎาคม 2552, 20:18:30

(http://img142.imageshack.us/img142/4517/69974449.jpg)

ตาย แย้วๆๆๆ ทำรูปให้เล็กๆได้ยังไงคะ


หัวข้อ: Re: "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: prapasri AH ที่ 16 กรกฎาคม 2552, 20:34:10
(http://img170.imageshack.us/img170/2132/86079427.jpg)

เจอกันต้องกอดกัน ให้หายคิดถึงทุกที


หัวข้อ: Re: "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: prapasri AH ที่ 16 กรกฎาคม 2552, 20:39:25
ขอส่งรูป พรุ่งนี้นะคะ

เพราะต้องresize ก่อน

ดร.ป๋องเอ๊ยยยยยยยยยยยย ซ่อยข่อยแน๋  ..... ข่อย ทำรูปให้เล็กไม่เป็น เด่วพรุ่งนี้ต้องตาม ไอที ของร.พ มาซ่อย แล้ว


หัวข้อ: Re: "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: เหยง 16 ที่ 16 กรกฎาคม 2552, 20:53:08
ขอแสดงความยินดีกับพี่ เภสัชกร ดร กฤษณา ด้วยครับ


หัวข้อ: Re: "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: swsm ที่ 16 กรกฎาคม 2552, 22:39:43
(http://img182.imageshack.us/img182/3665/27986765.png)


หัวข้อ: Re: "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: prapasri AH ที่ 17 กรกฎาคม 2552, 07:15:41
ขอบคุณน้อง หะยี ที่ ช่วยทำรูปให้

พี่แอ๊ะไม่มีทักษะเรื่อง คอมพิวเตอร์เลย

พิมพ์คอม ได้ก็บุญมากแล้ว 555555

อย่าเบื่อ ก่อนนะ แล้วจะส่งมาให้ดูหลายๆรูป

เพื่อให้เห็นว่าดร กฤษณา ไม่เคยเวลาให้ผ่านไปเฉยๆเลย

เธอต้องทำเวลาให้เป็นประโยชน์ ทุกอย่าง พอมาอยู่ที่อุบล จะอยู่ถึงวันที่22 กค.

เธอก็มาเยี่ยม พี่แอ๊ะ แต่ไม่ให้เสียเปล่า ก็ขอไปดูเรื่องสมุนไพรไทยให้ร.พ กุดชุม ที่ยโสธรด้วย

โปรดติดตามนะคะ พี่แอ๊ะว่างแล้วจะมาโพสต์ต่อ

เหยง ตามมาชมด้วยนะเภสัชรุ่นพี่

 ดร.เคยทำงานเรื่อง รายการสมุนไพรไทยที่นำเข้ามาในรายการยาบัญชีหลักเเห่งชาติ

กับอาจารย์ สำลี ใจดี ของเภสัช จุฬา ด้วยค่ะ

น้องไข่มุก คะพี่แอ๊ะยังไม่ได้ทักทาย น้องเลย อย่าลืมเข้ามาอีกในบ้านพี่แอ๊ะนะคะ

อาจจะคอยพี่แอ๊ะนานหน่อยค่ะ5555555555555555555


หัวข้อ: Re: "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: iamfrommoon ที่ 17 กรกฎาคม 2552, 08:45:48
รออ่านนะคะพี่แอ๊ะ ว่าแต่ว่าขอภาพพี่แอ๊ะกับดร.กฤษณาด้วยนะคะ  


หัวข้อ: Re: "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: Kaimook ที่ 17 กรกฎาคม 2552, 09:35:05
 หวัดดียามเช้าค่ะพี่แอ๊ะดูภาพพี่ๆแล้วน่าชื่นชมมากๆเลยค่ะถึงเวลาจะห่างไปยาวนานอยู่กันไกลแสนไกล
ก็ไม่เป็นอุปสรรคอะนมดเลยพี่แอ๊ะยังีักและเหมือนเดิมกับเพื่อนพี่ทุกอย่างน่ารักมากๆเลยค่ะ
 emo4:)) emo4:)) emo4:))


หัวข้อ: Re: "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: prapasri AH ที่ 17 กรกฎาคม 2552, 14:07:41
น้อง ปุ๊กกี้คะ

พี่แอ๊ะส่งเมล์ไปหาน้องปุ๊กกี้ สองครั้งแล้ว ได้รับหรือเปล่าคะ


(http://img514.imageshack.us/img514/6311/95341933.jpg)

 พี่แอ๊ะขอส่งรูป ดร กฤษณาต่อนะคะ

ดร. พา อาจารย์ เภสัช เกษียณ แล้วจาก ร.พ สรรพสิทธิประสงค์ อุบล มาด้วยค่ะ


หัวข้อ: Re: "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: prapasri AH ที่ 17 กรกฎาคม 2552, 14:26:38
(http://img140.imageshack.us/img140/7954/34869685.jpg)

แล้วก็ไปทานข้าว ชื่อร้าน "ร้อยเอ็ด"  แต่อยู่ในยโสธร

พี่แอ๊ะถาม ดร.ว่า จะทานตำไทย หรือตำลาว ( ตำไทย หมายถึงส้มตำแบบกรุงเทพ และ ตำลาว หมายถึงส้มตำใส่ปลาร้า ค่ะ) emo43

ดร. บอกว่า ตำลาว.....5555 ......เราได้พวก ส้มตำปลาร้า อีก หนึ่ง แล้ว

สมัยพี่แอ๊ะมาอยู่ยโสใหม่ๆ ไม่กล้าทาน ตำลาวเลยค่ะ แต่ปัจจุบัน ถ้าวันไหนไม่ได้ทานส้มตำปลาร้า ตำลาว ก็อาจจะลงแดงได้5555555

อาหารที่ทานวันนั้น มี ตำลาว ไก่ย่าง ข้าวเหนียว ลาบปลา แจ๋ว  หมกไข่ปลา (ห่อหมก) และต้มยำไข่มดแดง อิๆๆๆๆ ยำไข่ปลาด้วย

น้องๆชาวอิสาน หิวไหมคะ


หัวข้อ: Re: "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: อ้อย17 ที่ 17 กรกฎาคม 2552, 15:47:07
อ้างถึง
ข้อความของ prapasri AH เมื่อ 17 กรกฎาคม 2552, 14:26:38
(http://img140.imageshack.us/img140/7954/34869685.jpg)

แล้วก็ไปทานข้าว ชื่อร้าน "ร้อยเอ็ด"  แต่อยู่ในยโสธร

พี่แอ๊ะถาม ดร.ว่า จะทานตำไทย หรือตำลาว ( ตำไทย หมายถึงส้มตำแบบกรุงเทพ และ ตำลาว หมายถึงส้มตำใส่ปลาร้า ค่ะ) emo43

ดร. บอกว่า ตำลาว.....5555 ......เราได้พวก ส้มตำปลาร้า อีก หนึ่ง แล้ว

สมัยพี่แอ๊ะมาอยู่ยโสใหม่ๆ ไม่กล้าทาน ตำลาวเลยค่ะ แต่ปัจจุบัน ถ้าวันไหนไม่ได้ทานส้มตำปลาร้า ตำลาว ก็อาจจะลงแดงได้5555555

อาหารที่ทานวันนั้น มี ตำลาว ไก่ย่าง ข้าวเหนียว ลาบปลา แจ๋ว  หมกไข่ปลา (ห่อหมก) และต้มยำไข่มดแดง อิๆๆๆๆ ยำไข่ปลาด้วย

น้องๆชาวอิสาน หิวไหมคะ

อูยยย์.... น้ำลายหกเลยค่ะพี่แอ๊ะ...สมกับเป็นดร.นะท่านเลือกกินอาหารเก่งอ่ะ  ไปถึงที่แล้วจะกินตำไทยได้ไง ต้องลาวเท่านั้น...อิอิ...อ่านไปเขียนไปกลืนน้ำลายไปเอื้อกๆ...โอยยย...หิว


หัวข้อ: Re: "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: swsm ที่ 17 กรกฎาคม 2552, 17:09:42
อ้างถึง
ข้อความของ prapasri AH เมื่อ 17 กรกฎาคม 2552, 14:07:41
น้อง ปุ๊กกี้คะ

พี่แอ๊ะส่งเมล์ไปหาน้องปุ๊กกี้ สองครั้งแล้ว ได้รับหรือเปล่าคะ


(http://img514.imageshack.us/img514/6311/95341933.jpg)

 พี่แอ๊ะขอส่งรูป ดร กฤษณาต่อนะคะ

ดร. พา อาจารย์ เภสัช เกษียณ แล้วจาก ร.พ สรรพสิทธิประสงค์ อุบล มาด้วยค่ะ

พี่แอ๊ะสวยมากค่ะ ..  


หัวข้อ: Re: "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: Kaimook ที่ 18 กรกฎาคม 2552, 09:09:57
อ้างถึง
ข้อความของ prapasri AH เมื่อ 17 กรกฎาคม 2552, 14:26:38
(http://img140.imageshack.us/img140/7954/34869685.jpg)

แล้วก็ไปทานข้าว ชื่อร้าน "ร้อยเอ็ด"  แต่อยู่ในยโสธร

พี่แอ๊ะถาม ดร.ว่า จะทานตำไทย หรือตำลาว ( ตำไทย หมายถึงส้มตำแบบกรุงเทพ และ ตำลาว หมายถึงส้มตำใส่ปลาร้า ค่ะ) emo43

ดร. บอกว่า ตำลาว.....5555 ......เราได้พวก ส้มตำปลาร้า อีก หนึ่ง แล้ว

สมัยพี่แอ๊ะมาอยู่ยโสใหม่ๆ ไม่กล้าทาน ตำลาวเลยค่ะ แต่ปัจจุบัน ถ้าวันไหนไม่ได้ทานส้มตำปลาร้า ตำลาว ก็อาจจะลงแดงได้5555555

อาหารที่ทานวันนั้น มี ตำลาว ไก่ย่าง ข้าวเหนียว ลาบปลา แจ๋ว  หมกไข่ปลา (ห่อหมก) และต้มยำไข่มดแดง อิๆๆๆๆ ยำไข่ปลาด้วย

น้องๆชาวอิสาน หิวไหมคะ
อู้ยยยยยยยยอยากหม่ำด้วยคนค่ะ
พี่แอ๊ะสวยไม่สร่างเลยค่ะ


หัวข้อ: Re: "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: suriya2513 ที่ 18 กรกฎาคม 2552, 09:19:47
ไม่สวยไม่ได้หรอกครับ
ขืนไม่สวยเกิดพี่หมอหาญปันใจไปเป็นอื่นจะยุ่ง
ก้อพยาบาลที่โรงพยาบาลสวยๆทั้งนั้น



หัวข้อ: Re: "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: prapasri AH ที่ 18 กรกฎาคม 2552, 13:51:35


" คุยกับ พี่แอ๊ะ 13"   ดีค่ะ


ป๋อง
เธอมา ดีแล้วแหละ ช่วยตัด  คำว่า " ดี" ออก ให้หน่อยดิ

 หรือเอาชื่อหัวข้อกระทู้ ที่เพื่อนเขย13  ตั้งให้ ฉันก็ชอบ เหมือนกัน เธอกลับไปอ่านดูนะ



หัวข้อ: Re: "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: KUSON ที่ 18 กรกฎาคม 2552, 14:04:33
พี่แอ๊ะครับ
วันก่อนกุศลเข้ามาทักทายพี่แอ๊ะแล้วลืมกลับไปที่บ้านของตนเอง
เผลอเขียนนิยายเรื่องใหม่เพราะรับปากน้องๆเขาใว้ ไม่เขียนก็กลัวเสียคำพูด
นี่คือสาเหตุที่กุศลต้องมานั่งเสนอหน้าอยู่ช่องนี้
 หวังว่าพวกพี่ๆคงไม่ถือสาหาความนะครับ


หัวข้อ: Re: "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: prapasri AH ที่ 18 กรกฎาคม 2552, 14:05:59
(http://img136.imageshack.us/img136/5338/94202467.jpg)

ทานอาหารเสร็จ ก็เดินทางไปเยี่ยมร.พ ประจำอำเภอ กุดชุม

ร.พ กุดชุม เป็นร.พ ที่ใช้ การแพทย์แผนไทย มารักษาผู้ป่วย ผสมผสานกับการแพทย์แผนปัจจุบัน

ดร. ทำการค้นคว้า พบว่าสมุนไพรหลายตัวที่ ชาวบ้านปลูกในอำเภอกุดชุมนี้ เป็นสมุนไพรที่มีประสิทธิภาพสูง

เช่น ขมิ้นชัน และ อีกหลายชนิดที่สามารถ นำมารักษาโรคแทน ยาแผนปัจจุบันได้เป็นอย่างดี

ซึ่งถ้าได้รับการส่งเสริม ดีๆ ร.พ นี้อาจจะเป็นร.พ นำร่อง เป็นโรงพยาบาลแพทย์แผนไทยได้อย่างเต็มรูปแบบ


หัวข้อ: Re: "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: prapasri AH ที่ 18 กรกฎาคม 2552, 14:11:56
(http://img166.imageshack.us/img166/9499/49459047.jpg)

ท่านผู้อำนวยการ ร.พ กุดชุม  นายแพทย์ ศิษฎิคม  เบ็ญจขันธ์ ซึ่งปฎิบัติหน้าที่ ผู้อำนวยการ ร.พ อำเภอเลิงนกทา ด้วย

ได้ให้เกียรติมาต้อนรับ  พี่แอ๊ะลืมถามไปว่าเป็นรุ่นน้องจุฬาหรือเปล่า


หัวข้อ: Re: "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: prapasri AH ที่ 18 กรกฎาคม 2552, 14:16:15
(http://img402.imageshack.us/img402/2457/32804854.jpg)

ท่าน นายแพทย์ สาธารณสุขจังหวัด นายแพทย์ สุรพร ลอยหา

ขนาดมีงานยุ่งมาก ท่านก็มาต้อนรับด้วย และ ได้คุยอะไรๆ ที่เป็นประโยชน์มากมายค่ะ


หัวข้อ: Re: "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: prapasri AH ที่ 18 กรกฎาคม 2552, 14:23:50
นี่ค่ะ ภาพ เต็มๆ ของนายแพทย์ สสจ. ของจังหวัดพี่แอ๊ะ เป็นคนหนุ่ม ที่ มีวิสัยทัศน์ ที่กว้างไกล เป็นกันเอง

และขยันทำงานมาก อารมณ์ดีด้วย  ค่ะ

(http://img411.imageshack.us/img411/4579/14179705.jpg)


หัวข้อ: Re: "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: prapasri AH ที่ 18 กรกฎาคม 2552, 14:28:38
(http://img176.imageshack.us/img176/1513/95953742.jpg)

นี่คือสมุนไพร และยาไทย ที่ผลิตได้ที่ร.พ กุดชม


หัวข้อ: Re: "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: Soponเท่านั้น ที่ 18 กรกฎาคม 2552, 14:33:55
สวัสดีครับพี่แอ๊ะ
ตามอ่านด้วยความชื่นชมครับ emo4:))


หัวข้อ: Re: "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: prapasri AH ที่ 18 กรกฎาคม 2552, 14:39:26
คุยกันไปคุยกันมา ดร.ก็ได้งานที่ได้ช่วย ร.พ นี้อีกแล้ว

คือคุยเรื่องโรงงานผลิตยาสมุนไพร ทีมีประสิทธิภาพสูง

คือดร.สามารถติดต่อ บริษัทในประเทศจีน ซึ่งดร.ได้รับการแต่งตั้งจากรัฐบาลจีน ให้เป็นตัวแทนของประเทศจีน ในอัฟริกาด้วย

ดร.จึงมี connection กับระดับรัฐบาลจีนสูงมาก

ดร.จึง offer จะช่วยหาเครื่องมือที่ทำเป็นโรงงานผลิตยาที่ได้มาตรฐาน

ที่ซื้อจากที่อื่นราคาแพงมาก แต่ดร.จะหาให้ในราคาที่ถูกกว่าท้องตลาดถึง4-5เท่า โดยขอให้รัฐบาลจีนช่วยเหลือด้วย

(http://img401.imageshack.us/img401/3851/23538270.jpg)




หัวข้อ: Re: "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: prapasri AH ที่ 18 กรกฎาคม 2552, 14:41:41
ขอบคุณน้องโสภณ เท่านี้ เอ๊ยเท่านั้น 555555555555

เห็นน้องเข้ามาอ่าน พี่แอ๊ะ ก็มีกำลังใจ โพสต์รูปต่อค่ะ

อ่านต่อนะน้องนะ ถือว่าได้มาเที่ยวยโสธร อีกครั้ง ไม่ต้องจ่ายค่ารถทัวร์ ให้พี่สิงห์ 5555555555555


หัวข้อ: Re: "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: prapasri AH ที่ 18 กรกฎาคม 2552, 14:48:19
ทีนี่ ก็ได้เรื่องซิ 

ลงไปดู ที่ดินที่จะสร้างโรงงานผลิตยาสมุนไพรที่ทันสมัย กันได้แล้ว

ทางโรงพยาบาลมีที่ดินอยู่แล้ว มีแปลน แล้วด้วย

เลยมาดูกันค่ะ


(http://img411.imageshack.us/img411/7424/126sgu.jpg)


หัวข้อ: Re: "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: prapasri AH ที่ 18 กรกฎาคม 2552, 15:00:45
ดร.จะเป็นคนที่ถ้ารับ ทำอะไรให้แล้วจะไม่ผิดสัญาค่ะ

อย่างสัญญากับมหาวิทยาลัยอุบล ไว้ว่าจะ มาช่วยทำโรงงานผลิตยาสมุนไพรให้

เหนื่อยแค่ไหนก็ต้องมา เมื่อสามวันที่แล้ว อยู่ อัฟริกาอยู่เลย มาถึงเมืองไทยก็บินมาอุบลทันที่

เพราะ ไม่ลืมสัญญา เนื่องจากคณะเภสัชมหาวิทยาลัยอุบล เคบช่วยให้ดร. ยืมเครื่องอัดยาเม็ด ไปใช้ที่อัฟริกา



ตอนดร.ไปทำงานใหม่ๆ ยังไม่มีคนรู้จัก และยังไม่มีใครสนับสนุน แต่ม.อุบล ให้ยืมไป เลยสัญญากับตัวดร.เองว่า จะต้องมาช่วย

ม.อุบลให้ได้เพื่อตอบเเทนบุญคุณ และมาแบบเงียบๆ ไม่เป็นข่าวด้วยนะคะ (นักข่าวตามหากันจ้าละหวั่นเพราะอยากสัมภาษณ์เรื่องรางวัลแมกไซไซ)

พอมาอุบลก็เลยต้องมาหาพี่แอ๊ะ และ อยากเผื่อแม่ มาช่วยจังหวัดที่พี่แอ๊ะอยู่ด้วย

พอมาเจอบรรยากาศ ที่สวยงาม ของร.พ กุดชุม และผู้บริหารร.พ และนายแพทย์สสจ. ที่ คุยกันได้ หัวใจ ตรงกัน

เลยรับงานมาอีกงานหนึ่งโดยไม่ลังเล เลยค่ะ

(http://img219.imageshack.us/img219/3612/127ngw.jpg)



หัวข้อ: Re: "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: prapasri AH ที่ 18 กรกฎาคม 2552, 15:11:18
ร.พ มีที่ดินอยู่มากพอสมควรที่จะ ขยายร.พ ได้ และมีแนวคิดจะทำเป็น home stay ให้คน มาพัก และใช้สมุนไพร และการนวดไทย เมดิคอล สปา

 และอาหารเพื่อสุขภาพ ในการ ป้องกัน โรค และ บำบัดรักษาด้วย

(http://img176.imageshack.us/img176/7638/131n.jpg)


หัวข้อ: Re: "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: prapasri AH ที่ 18 กรกฎาคม 2552, 15:19:30

ทีนี้ก็ได้เวลาเดินเยี่ยม ชม ร.พ ค่ะ

ร.พ กุดชุม ดูข้างนอกก็ธรรมดา แต่ข้างในสะอาดสะอ้าน ได้รับรางวัลห้องน้ำสะอาดด้วยค่ะ

และผ่านการรับรองคุณภาพ HA. .ด้วย แล้วค่ะ ในจังหวัดยโสธร มี2 ร.พ เท่านั้นที่ผ่าน คือ ร.พกุดชุมกับ ร.พ เลิงนกทา

ร.พ พี่แอ๊ะยังไม่ผ่านเลยค่ะ ยากมากในการที่จะผ่านแต่ต้อง ร่วมมือร่วมใจให้ผ่านให้ได้

(http://img145.imageshack.us/img145/5065/101b.jpg)


หัวข้อ: Re: "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: prapasri AH ที่ 18 กรกฎาคม 2552, 15:26:19
ในร.พ สวยงาม เป็นระบียบเรียบร้อย

เพราะเราไปโดยไม่บอกล่วงหน้า  ทำให้เห็นว่าร.พ สะอาดเรียบร้อย และมีทุกอย่าง ตามมาตรฐานอยู่ตลอด 24ชั่วโมง


(http://img205.imageshack.us/img205/4122/45521420.jpg)


หัวข้อ: Re: "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: prapasri AH ที่ 18 กรกฎาคม 2552, 15:33:53
(http://img136.imageshack.us/img136/17/18324437.jpg)


หัวข้อ: Re: "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: prapasri AH ที่ 18 กรกฎาคม 2552, 15:36:03
สวนสวยค่ะ พืชสมุนไพรทั้งนั้นนะคะ

(http://img148.imageshack.us/img148/6637/79809308.jpg)


หัวข้อ: Re: "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: prapasri AH ที่ 18 กรกฎาคม 2552, 15:39:12
ตู้โชว์ สินค้าสมุนไพร

น้องๆผ่านไปแวะซื้อได้นะคะ ราคาถูกมากค่ะ

(http://img136.imageshack.us/img136/171/108ryg.jpg)


หัวข้อ: Re: "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: prapasri AH ที่ 18 กรกฎาคม 2552, 15:42:31
(http://img136.imageshack.us/img136/8576/107w.jpg)


หัวข้อ: Re: "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: prapasri AH ที่ 18 กรกฎาคม 2552, 15:43:44
ขอไปเดินออกกำลังกายก่อนนะ

ถ้าว่างแล้วจะมาโพสต์ต่อค่ะ


หัวข้อ: Re: "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: swsm ที่ 18 กรกฎาคม 2552, 17:10:27
ติดตามอ่านค่ะ  พี่แอ๊ะ ..
ขอบคุณที่นำเรื่องดี ๆ มาแชร์ให้ได้อ่านกันค่ะ



emo48:)




หัวข้อ: Re: "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: prapasri AH ที่ 18 กรกฎาคม 2552, 19:04:38
ขอบคุณน้องหะยี และน้องๆ พี่ๆ เพื่อนๆที่ติดตามอ่านนะคะ

ดูรูปเดี่ยว "นางรอง" หน่อยนะคะ

งานนี้ ดร.กฤษณา เป็น "นางเอก"

พี่แอ๊ะขอเป็น นางรอง ค่ะ หุๆๆๆๆๆ

(http://img81.imageshack.us/img81/162/113y.jpg)





หัวข้อ: Re: "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: prapasri AH ที่ 18 กรกฎาคม 2552, 19:08:07


แล้วก็ถึงต้องลา กันแล้ว ถ่ายรูปร่วมกันก่อน ค่ะ

(http://img166.imageshack.us/img166/9255/16992981.jpg)


หัวข้อ: Re: "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: prapasri AH ที่ 18 กรกฎาคม 2552, 19:15:37

ภรรยาท่านนายแพทย์สาธารณสุข จังหวัดยโสธร ก็มาต้อนรับด้วยค่ะ

ท่านที่ยืนซ้ายสุด ใส่เสื้อสีเขียว  เป็นน้องที่พี่แอ๊ะรักและศรัทธาใน ความขยันทำงานและความดีงามของเธอค่ะ

เธอเป็นพยาบาลวิชาชีพระดับสูงแล้ว แต่ยังทำงานให้กับราชการอย่างมุ่งมั่น ไม่ได้คิดว่าตัวเองเป็นคุณนายแต่อย่างใด

เธอนิสัยดี และน่ารักมากจริงๆ

(http://img140.imageshack.us/img140/1851/67007129.jpg)


หัวข้อ: Re: "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: prapasri AH ที่ 18 กรกฎาคม 2552, 19:35:46

ก่อนจากกัน ขอสัญญา ฝากประทับตรึงตรา จนกว่าจะพบกันใหม่........

แล้วก็ถึง รายการมอบของขวัญ ค่ะ

(http://img205.imageshack.us/img205/1228/140y.jpg)


ขอบคุณ ขอบคุณ และ ขอบคุณ ค่ะ

ทั้งท่านผู้อำนวยการร.พ ที่มอบของขวัญ ให้พวกเราทุกคน

และขอบคุณ น้องๆ ที่ มาดู กระทู้ พี่แอ๊ะนะคะ


และเมื่อวาน (เว้น 1 วัน) พี่แอ๊ะ นึกได้ว่า พี่แอ๊ะยังไม่ได้เลี้ยงแสดงความยินดี ให้ดร. ในการรับรางวัลเเมกไซไซเลย

พี่แอ๊ะเลยชวนพี่หาญว่า "เราไปเลียงฉลองให้น้องหนากันเถอะ"

 เพราะคงเป็นคนแรก ที่ได้เลี้ยงแสดงความยินดีให้

ตอนมาทานส้มตำลาว ที่ยโสธร ดร. ก็ไม่ยอมท่านขอเลี้ยงพี่แอ๊ะค่ะ

พี่แอ๊ะกับพี่หาญและ หมอต้นกล้า ลูกชาย เลยเดินทางไปอุบล ไปรับหมอกระติ๊บ (พญ.กลางดาว)ลูกสาว

ตอนนี้ทำงานอยู่ร.พ สรรพสิทธิประสงค์อุบลค่ะ

และไปหา ดร.ที่ร.พ สุนีย์แกรนด์ โฮเต็ล ที่ดร.พักอยู่ หลังจากทำงานในม.อุบลเสร็จก็เกือบทุ่ม หนึ่งแล้วค่ะ

ดร. บอกว่า ทำงานไม่ได้ หยุดเลย อยากจัดการเรื่องโรงงานผลิตยาสมุนไพร ของคณะเภสัช อุบลให้เรียบร้อย

เพราะทาง ประเทศ จีน จะมาช่วยเหลือให้ด้วย


แต่ปรากฎว่าเจ้าของโรงแรม สุนีย์แกรนด์  คุณ สุนีย์ ตริยางกูรศรี

พอท่านทราบว่าพี่แอ๊ะมาที่โรงเเรมท่านอาสาเลี้ยงอีกแล้ววววววววววววววว

ท่านรัก และสนิท กับพี่แอ๊ะมากค่ะ

โปรดติดตามตอนต่อไปด้วย ใจระทึกโดยพลันนะจ๊ะ แฟนคลับทั้งหลาย

มีมากหรือเปล่าก็บ่ฮู้......จั๊กแหล่วววววววววว .หุๆๆๆๆๆๆๆๆๆ


หัวข้อ: Re: "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: อ้อย17 ที่ 18 กรกฎาคม 2552, 19:56:41
           
   ไม่ต้องห่วง...แฟนคลับพี่แอ๊ะมีมากมายเลยค่ะ...

         ขอบคุณแทนคนอิสาน ที่มีคนใต้ที่ใจดีและน่ารัก อย่างพี่แอ๊ะและดร.กฤษณาไปช่วยสร้างคุณูปการให้ 
                         จะติดตามต่อไปด้วยใจจดจ่อค่ะ


หัวข้อ: Re: "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: prapasri AH ที่ 18 กรกฎาคม 2552, 20:41:03
ขอบคุณน้องอ้อย 17 ที่ให้กำลังใจค่ะ

พี่แอ๊ะ โพสต์ จนปวดตามากแล้ว แต่พยายามโพสต์ให้เสร็จ

คือเวลาใช้คอมนานๆจะปวดหัว

พี่แอ๊ะก็ไปทานยาหอม จันทลีลา ที่ดร. ผลิตให้กับม.อุบล

เดี๋ยวนี้พี่แอ๊ะชอบทานยาไทยแล้วค่ะ (ตามไฮโซกรุงเทพ เขาก็หันมาทานยาไทยนะคะ)

พี่แอ๊ะจะเลือกตัวยาที่เขาพิสูจน์ทางเภสัชวิทยาว่าทานมากก็ไม่อันตรายค่ะ

ว่างๆแล้วจะมาโพสต์ต่อนะคะ จะได้มีคนเข้ามาคุยแทรก บ้าง

เด่วโพสต์ อยู่คนเดียว จึง ต้องมีเทคนิค ล่อ น้องๆเข้ามาหาพี่แอ๊ะค่ะ อิๆๆๆๆๆๆ

ล่อด้วย รูปคู่บ่าวสาว พี่หาญกะพี่แอ๊ะก่อนนะคะ 5555555

ถ่าย ที่โรงแรมสุนีย์แกรนด์ อุบลค่ะ ตอนนั้น โรงแรมยังไม่เปิด

แต่คุณสุนีย์อยากให้พี่แอ๊ะไปพักก่อนค่ะ

(http://img521.imageshack.us/img521/8147/200907170031.jpg)




หัวข้อ: Re: "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: prapasri AH ที่ 18 กรกฎาคม 2552, 20:44:33
ทีนี้ โชว์รูปลูกสาวนะคะ น้อง หะยี

คุณหมอกระติ๊บค่ะ

(http://img148.imageshack.us/img148/1430/200907170034.jpg)


หัวข้อ: Re: "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: swsm ที่ 18 กรกฎาคม 2552, 20:52:19
รอยยิ้มเหมือนคุณแม่เลยค่ะ
เป็นคุณหมอด้วยหรือคะ ??
เก่งทั้งครอบครัวเลย .. ปลื้มค่ะปลื้ม !!


emo9:huhu:


หัวข้อ: Re: "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: swsm ที่ 18 กรกฎาคม 2552, 20:56:17
ส่วนรูปนี้น่ารักมั่ก ๆ ๆ ๆ
sweet เหมือนความรักเพิ่งเกิดขึ้นเมื่อวาน .. ข้าวใหม่ปลามัน ยังไงยังงั้น  ..

อิจฉาตาร้อนผ่าว !?!


(http://img231.imageshack.us/img231/8147/200907170031.jpg)




หัวข้อ: Re: "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: prapasri AH ที่ 18 กรกฎาคม 2552, 20:56:57
โชว์รูป สุนีย์แกรนด์ ทาวเวอร์ ซะหน่อย

น้องๆจากอิสานจะได้ภาคภูมิใจ ว่าตอนนี้อุบลราชธานีมีโรงแรมและศูนย์การค้า ศูนย์ความบันเทิง ศูนย์การศึกษา ศูนย์ไอที

สวนสนุก สปา และอะไรต่ออะไรอยู่ในที่เดียวกัน มีสวนน้ำ ด้วยล่ะ อลังการ มโหฬารมาก

เป็นเหมือนพารากอน ของอุบลราชธานีเลยค่ะ


พี่แอ๊ะเห็นตั้งแต่เขาเริ่มสร้างจนสร้างเสร็จ

และเปิด ดำเนินการแล้ว

ช่วงนี้มี มหกรรม สินค้า ไทย สี่ภาค ของการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย

โอยย..............คนเต็มไปหมดและมี สิ่งดีๆมากมาย

พี่แอ๊ะได้อุดหนุนสินค้าจาก สามจังหวัดภาคใต้มาเต็มรถเลยค่ะ

เพราะถือว่าได้ช่วยเหลือคนใต้ที่ประสบปัญหาอยู่

ผ้าบาติก สวยๆๆๆๆๆๆๆ ซื้อมาฝากเพื่อนชาวอิสานที่ยโสธรค่ะ

รูปที่ส่ง มาเป็บล๊อบบี้ของโรงแรมค่ะ สวยเหมอืนกรุงเทพ หรือสวยกว่ากรุงเทพอีกค่ะ

ขอไปฟังเพลง ดนตรีกวีศิลป์ ช่อง pbs ก่อนนะคะ

น้องๆคงขำนะ พี่แอ๊ะโพสต์แต่ละที ทำการตลาดให้หลายกิจการเลย  5555555555555555555

(http://img231.imageshack.us/img231/3374/200907170032.jpg)




หัวข้อ: Re: "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: prapasri AH ที่ 18 กรกฎาคม 2552, 21:07:49
น้องหะยี มาพอดี

ลูกสาว เป็นคนที่สาม ในลูกสี่คนของพี่แอ๊ะ  เป็นแพทย์หญิงแล้วค่ะ ทำงานอยู่ร.พรัฐบาล ที่อุบลค่ะ

คืนก่อนโดนคนไข้โรคจิต ต่อยหน้า ทึ้งผม คุณหมอเวรซะนี่ ฮือๆๆๆๆๆๆ

พี่แอ๊ะลูกดกค่ะ ชาย3 หญิง1

เป็นหมอ 3คน เป็นแมวเอ๊ย เรียน บริหารธุรกิจ ที่อังกฤษ1คน

 คนที่น้องหะยีบอกว่าหล่อน่ะค่ะ

อีก 2 คน คือ หมอต้นกล้า (หมอผ่าตัด)ค่ะ  และ กำลังเรียนหมออยู่อีกคน คือ นักศึกษาแพทย์ "ตะวัน" ค่ะ

พี่แอ๊ะยังหารูปไม่เจอ เจอแล้วจะส่งมาประชันโฉมกับลูกสาวของน้องหะยี นะคะ

ตอนนี้ส่งรูปล๊อบบี้ อันสวยงามและอลังการ ของ ร.ร สุนีย์แกรนด์ มาให้ดูก่อนนะคะ

ราตรีสวัสดิ์ค่ะ   (ภาษาลาว เรียกว่า บรรทมเกษม) ค่ะ







หัวข้อ: Re: "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: prapasri AH ที่ 18 กรกฎาคม 2552, 21:08:55
(http://img136.imageshack.us/img136/3253/200907170021.jpg)


หัวข้อ: Re: "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: swsm ที่ 18 กรกฎาคม 2552, 21:17:27
บรรทมเกษมเช่นกันค่ะ .. พี่แอ๊ะ
 
emo40::



หัวข้อ: Re: "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: เจตน์ ที่ 18 กรกฎาคม 2552, 21:23:54
อ้างถึง
ข้อความของ swsm เมื่อ 12 กรกฎาคม 2552, 20:20:45
พี่แอ๊ะ .. อย่ากลัวค่ะ

เดี๋ยวหะยีจะชวนน้อง ๆ และสมัครพรรคพวกให้คลิกเข้า คลิกออก ..
ตั้ง KPI เอาไว้ว่า ..
ให้ดำเนินการคนละไม่น้อยกว่า 50 ครั้งต่อวัน
มีลูกน้อง 30 คน x เข้าไปแล้ว .. ได้จำนวนมหาศาลค่ะ


เราไม่มี Authority แต่เราเจ้าเล่ห์ค่ะ ..


PS. คำว่า "เรา" หมายถึง หะยีและน้อง ๆ นะคะ
มิกล้าหมายความรวมถึงพี่ ๆ ทุกท่าน


สวัสดีครับพี่แอ๊ะ.... นับผมอีกหนึ่งได้เลยครับ
emo29:P:


หัวข้อ: Re: "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: suriya2513 ที่ 19 กรกฎาคม 2552, 00:38:08
เปลี่ยนชื่อให้แล้วครับ
เปลี่ยนไป...เปลี่ยนไป
กลัวคุณนายแอ๊ะเข้าบ้านไม่ถูกจังเลย
(แล้วบรรดาแฟนคลับจะจำทางได้ไหมเนี่ย)


หัวข้อ: Re: "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: swsm ที่ 19 กรกฎาคม 2552, 07:30:28
อ้างถึง
ข้อความของ suriya2513 เมื่อ 19 กรกฎาคม 2552, 00:38:08
เปลี่ยนชื่อให้แล้วครับ
เปลี่ยนไป...เปลี่ยนไป
กลัวคุณนายแอ๊ะเข้าบ้านไม่ถูกจังเลย
(แล้วบรรดาแฟนคลับจะจำทางได้ไหมเนี่ย)


ชื่อ "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓" โดนเต็ม ๆ เลยค่ะ 
ชอบ .. ชอบมาก

พี่ป๋องคะ  ไม่ต้องกลัวสมาชิกจะเข้าไม่ถูกห้อง
เพราะตราบใดที่มีชื่อ "พี่แอ๊ะ ๑๓" เป็นเครื่องหมายการค้า ปรากฏให้เห็นอย่างเด่นชัด
รับรอง .. ไม่มีหลง

ชื่อนี้ชอบค่ะ ..
   emo9:huhu:


หัวข้อ: Re: "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: ตุ๋ย 22 ที่ 19 กรกฎาคม 2552, 21:35:33
ซำบายดีพี่แอ๊  เหอๆๆๆๆๆ  ได้หนึงทู้


หัวข้อ: Re: "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: Leam ที่ 19 กรกฎาคม 2552, 21:50:16
อ้างถึง
ข้อความของ swsm เมื่อ 19 กรกฎาคม 2552, 07:30:28
อ้างถึง
ข้อความของ suriya2513 เมื่อ 19 กรกฎาคม 2552, 00:38:08
เปลี่ยนชื่อให้แล้วครับ
เปลี่ยนไป...เปลี่ยนไป
กลัวคุณนายแอ๊ะเข้าบ้านไม่ถูกจังเลย
(แล้วบรรดาแฟนคลับจะจำทางได้ไหมเนี่ย)


ชื่อ "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓" โดนเต็ม ๆ เลยค่ะ 
ชอบ .. ชอบมาก

พี่ป๋องคะ  ไม่ต้องกลัวสมาชิกจะเข้าไม่ถูกห้อง
เพราะตราบใดที่มีชื่อ "พี่แอ๊ะ ๑๓" เป็นเครื่องหมายการค้า ปรากฏให้เห็นอย่างเด่นชัด
รับรอง .. ไม่มีหลง

ชื่อนี้ชอบค่ะ ..
   emo9:huhu:

เปลี่ยนชื่อครบ 3 ครั้งแล้ว........
ถือเป็นฤกษ์งามยามดี......จะได้เข้ามาสวัสดีพี่แอ๊ะเสียที

" สวัสดีครับ...พี่แอ๊ะ "  


หัวข้อ: Re: "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: iamfrommoon ที่ 20 กรกฎาคม 2552, 09:45:24
อ้างถึง
ข้อความของ prapasri AH เมื่อ 18 กรกฎาคม 2552, 19:35:46

ก่อนจากกัน ขอสัญญา ฝากประทับตรึงตรา จนกว่าจะพบกันใหม่........

แล้วก็ถึง รายการมอบของขวัญ ค่ะ

(http://img205.imageshack.us/img205/1228/140y.jpg)


ขอบคุณ ขอบคุณ และ ขอบคุณ ค่ะ

ทั้งท่านผู้อำนวยการร.พ ที่มอบของขวัญ ให้พวกเราทุกคน

และขอบคุณ น้องๆ ที่ มาดู กระทู้ พี่แอ๊ะนะคะ


และเมื่อวาน (เว้น 1 วัน) พี่แอ๊ะ นึกได้ว่า พี่แอ๊ะยังไม่ได้เลี้ยงแสดงความยินดี ให้ดร. ในการรับรางวัลเเมกไซไซเลย

พี่แอ๊ะเลยชวนพี่หาญว่า "เราไปเลียงฉลองให้น้องหนากันเถอะ"

 เพราะคงเป็นคนแรก ที่ได้เลี้ยงแสดงความยินดีให้

ตอนมาทานส้มตำลาว ที่ยโสธร ดร. ก็ไม่ยอมท่านขอเลี้ยงพี่แอ๊ะค่ะ

พี่แอ๊ะกับพี่หาญและ หมอต้นกล้า ลูกชาย เลยเดินทางไปอุบล ไปรับหมอกระติ๊บ (พญ.กลางดาว)ลูกสาว

ตอนนี้ทำงานอยู่ร.พ สรรพสิทธิประสงค์อุบลค่ะ

และไปหา ดร.ที่ร.พ สุนีย์แกรนด์ โฮเต็ล ที่ดร.พักอยู่ หลังจากทำงานในม.อุบลเสร็จก็เกือบทุ่ม หนึ่งแล้วค่ะ

ดร. บอกว่า ทำงานไม่ได้ หยุดเลย อยากจัดการเรื่องโรงงานผลิตยาสมุนไพร ของคณะเภสัช อุบลให้เรียบร้อย

เพราะทาง ประเทศ จีน จะมาช่วยเหลือให้ด้วย


แต่ปรากฎว่าเจ้าของโรงแรม สุนีย์แกรนด์  คุณ สุนีย์ ตริยางกูรศรี

พอท่านทราบว่าพี่แอ๊ะมาที่โรงเเรมท่านอาสาเลี้ยงอีกแล้ววววววววววววววว

ท่านรัก และสนิท กับพี่แอ๊ะมากค่ะ

โปรดติดตามตอนต่อไปด้วย ใจระทึกโดยพลันนะจ๊ะ แฟนคลับทั้งหลาย

มีมากหรือเปล่าก็บ่ฮู้......จั๊กแหล่วววววววววว .หุๆๆๆๆๆๆๆๆๆ


Oh... โลกกลมจริงๆ น้องรู้จักร.ร.สุนีย์จากเว็บ guideubon ค่า ที่นี่มีสวนน้ำด้วย กะว่ากลับบ้านจะลองแวะไปบ้าง...บรรยากาศที่ไกด์อุบลเอามาให้ได้ยลนี่น่าไปพักมากเลยค่า...

เห็นภาพพี่แอ๊ะกับดร.กฤษณาก็รู้เลยว่า สนิทกันสุดๆ...

วันพฤฯที่แล้วน้องอ่าน "จุดประกาย" ของนสพ.กรุงเทพธุรกิจ ลง "ชีวิตจริงยิ่งกว่าละคร ของ เภสัชกรยิปซี" ซึ่งท่านได้ให้สัมภาษณ์ได้เจ๋งมาก เมื่อนักข่าวถามว่า

นักข่าว: "รู้สึกอย่างไรบ้างคะ กับรางวัลล่าสุด"

ดร.กฤษณา: "ปีนี้ได้ 6 รางวัลแล้วค่ะ เวียนหัวไปหมด ไม่อยากไปรับที่ไหนแล้ว ไปรับบ่อยมากเลย ไหนจะต้องเดินทางไป-กลัลอีก เสียเวลาไปไม่รู้ตั้งกี่วัน".... ท่านตอบด้วยสีหน้าเรียบเฉย


น้องอ่านไปอมยิ้มไป บอร์ดเวย์ได้นำชีวิตจริงๆ ท่านไปเล่นละครด้วยซึ่งอีกไม่กี่เดือนข้างหน้าคณะอักษรฯ จุฬาฯ นำโดยอ.ดังกมล ณ ป้อมเพชรจะนำ "นางฟ้านิรนาม" คือ บทละครชีวิตและงานของ "เภสัชกรยิปซี" ซึ่งแปลมาจากเรื่อง Cocktail ละครบอร์ดเวย์จากฝั่งอเมริการเมื่อ 2 ปีก่อนซึ่งสร้างจากชีวิตจิงท่านมาจัดแสดง

น้องตั้งตาคอย จะไปดูแน่นอนค่า


หัวข้อ: Re: "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: เหยง 16 ที่ 20 กรกฎาคม 2552, 16:00:47
มาสวัสดีพี่แอ๊ะ และพี่หมอหาญ ครับ


หัวข้อ: Re: "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: KUSON ที่ 20 กรกฎาคม 2552, 16:23:24
กุศลหวัดดีอีกคนครับพี่แอ๊ะ
เมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมาผมมีโอกาสไปงานค่ายชาวหอที่ในหอจุฬาเพราะพี่โอภาสชวนไป
ผมได้นั่งโต๊ะเดียวกับพี่โอภาส พี่จุก พี่อ่อง(กรรณิการ์) และพี่ๆอีกหลายท่านที่เคยไปงานค่ายหอครั้งที่1
โดยเฉพาะพี่อ่องถามถึงพี่แอ๊ะไม่หยุดปาก ผมก็ได้แต่ตอบครับๆไปเรื่อย
ที่สำคัญตอนชาวค่ายหอรุ่นที่1ออกไปร้องเพลงกลางดงให้น้องๆฟัง
พอเพลงจบโดนน้องๆหอมแก้มกันเขลอะไปหมด(งานนี้ใครทำดีโดนจูบครับพี่แอ๊ะ)
ป่านนี้ผมเดาว่า พี่โอภาส พี่จุก พี่อ่องและใครต่อใครที่ไปงานคงแพร่เชื้อหวัดธรรมดากันถ้วนหน้าแล้วครับ คิกๆๆๆ


หัวข้อ: Re: "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: wannee ที่ 20 กรกฎาคม 2552, 19:58:17
สวัสดีค่ะพี่อ้อย13  เสียดไม่ลืมที่จะเรียนพี่แน่นอนค่ะ  emo4:))
เสียดหวัดดีอีกคนค่ะพี่แอ๊ะ  (ถ้าอยู่ใกล้พี่กุศล  คงเห็นพี่เค้าตาเขียว)  emo4:))
เสียดมาตามอ่าน-ชมภาพเช่นเคย  เห็นรูปล่าสุดของพี่แล้ว พี่แอ๊ะสวยไม่สร่างเลยค่ะ  emo6::))


หัวข้อ: Re: "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: wannee ที่ 20 กรกฎาคม 2552, 20:04:12
อ้างถึง
ข้อความของ swsm เมื่อ 18 กรกฎาคม 2552, 20:56:17
ส่วนรูปนี้น่ารักมั่ก ๆ ๆ ๆ
sweet เหมือนความรักเพิ่งเกิดขึ้นเมื่อวาน .. ข้าวใหม่ปลามัน ยังไงยังงั้น  ..

อิจฉาตาร้อนผ่าว !?!


(http://img231.imageshack.us/img231/8147/200907170031.jpg)




(http://img231.imageshack.us/img231/8147/200907170031.jpg)

วันหลัง เวลาเราถ่ายรูปกับซะมี  จะเกาะแบบพี่แอ๊ะม้าง  นะน้องหยี ( เปลี่ยนคำเรียกใหม่เพราะ่ตอนนี้เป็นสาวแล้ว)  emo48:)


หัวข้อ: Re: "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: swsm ที่ 20 กรกฎาคม 2552, 20:07:02
อ้างถึง
ข้อความของ wannee เมื่อ 20 กรกฎาคม 2552, 20:04:12
อ้างถึง
ข้อความของ swsm เมื่อ 18 กรกฎาคม 2552, 20:56:17
ส่วนรูปนี้น่ารักมั่ก ๆ ๆ ๆ
sweet เหมือนความรักเพิ่งเกิดขึ้นเมื่อวาน .. ข้าวใหม่ปลามัน ยังไงยังงั้น  ..

อิจฉาตาร้อนผ่าว !?!


(http://img231.imageshack.us/img231/8147/200907170031.jpg)




วันหลัง เวลาเราถ่ายรูปกับซะมี  จะเกาะแบบพี่แอ๊ะม้าง  นะน้องหยี ( เปลี่ยนคำเรียกใหมเพราะ่ตอนนี้เป็นสาวแล้ว)  emo48:)

แหม.. พี่เสียดรับมุกพี่เปี๊ยกทันทีเลยนะคะ ..
หุหุหุ

หวัดดีค่ะพี่ทุกท่าน 


หัวข้อ: Re: "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: wannee ที่ 20 กรกฎาคม 2552, 20:15:16
อ้างถึง
ข้อความของ swsm เมื่อ 20 กรกฎาคม 2552, 20:07:02
อ้างถึง
ข้อความของ wannee เมื่อ 20 กรกฎาคม 2552, 20:04:12
อ้างถึง
ข้อความของ swsm เมื่อ 18 กรกฎาคม 2552, 20:56:17
ส่วนรูปนี้น่ารักมั่ก ๆ ๆ ๆ
sweet เหมือนความรักเพิ่งเกิดขึ้นเมื่อวาน .. ข้าวใหม่ปลามัน ยังไงยังงั้น  ..

อิจฉาตาร้อนผ่าว !?!


(http://img231.imageshack.us/img231/8147/200907170031.jpg)




วันหลัง เวลาเราถ่ายรูปกับซะมี  จะเกาะแบบพี่แอ๊ะม้าง  นะน้องหยี ( เปลี่ยนคำเรียกใหมเพราะ่ตอนนี้เป็นสาวแล้ว)  emo48:)

แหม.. พี่เสียดรับมุกพี่เปี๊ยกทันทีเลยนะคะ ..
หุหุหุ

หวัดดีค่ะพี่ทุกท่าน 


กลัวมุกหล่นอ่ะ ต้องรับไว้บ้าง  ช่วยกันทำมาหากินบ้าง  emo20:)):) emo20:)):)


หัวข้อ: Re: "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: swsm ที่ 20 กรกฎาคม 2552, 20:16:29
ดีค่ะ .. ช่วยกันทำมาหากิน
พี่มั่ง น้องมั่ง .. ช่วย ๆ กันไปค่ะ

อิอิอิ ..
   emo20:)):)   emo20:)):)


หัวข้อ: Re: "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: Kaimook ที่ 20 กรกฎาคม 2552, 21:43:36
มาสวัสดียามดึกพี่ๆด้วยคนค่ะ emo4:)) emo4:)) emo4:))


หัวข้อ: Re: "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: prapasri AH ที่ 20 กรกฎาคม 2552, 22:22:33

น้องๆคุยกันไปก่อนนะ บ้านพี่แอ๊ะต้อนรับเสมอ แต่เจ้าของบ้านหายบ่อย ช่วงนี้5555555555555555

 น้อง ดร.อุอ๋น เข้ามาช่วย ยียวน เอ๊ยยั่วยวนก่อนนะ

พี่แอ๊ะยังส่งรูปเลี้ยงฉลอง ให้ ดร.กฤษณา มาไม่ได้เลยค่ะ เพราะถ่ายมาไม่สวย กำลังลองให้ IT  เขารีทัช ก่อน

พี่แอ๊ะ ต้องไปธุระ สุราษฎร์และกรุงเทพ 2-3-4--5 วันค่ะ

พี่แอ๊ะต้องไปประชุมกรรมการสภามหาวิทยาลัยราชภัฎ สุราษฎร์ค่ะ

เพื่อนพี่แอ๊ะ เขาเป็นอธิการบดี เลยเชิญพี่แอ๊ะ เป็นกรรมการด้วย

พี่แอ๊ะเลยต้องรับ เพราะจะได้ไปนอน กับคุณแม่ด้วย  เดือนละหนึ่งครั้งค่ะ

วันหลัง น้องๆอยากไปเที่ยวสุราษฎร์ ตามพี่แอ๊ะไปได้นะคะ ม.ราชภัฎเขาดูแลดีมากค่ะ

เจ้าหน้าที่การบินไทย ยังไปเรียน ที่วิทยาลัยการท่องเที่ยวนานาชาติ สาขาสมุย กันเยอะมาก




หัวข้อ: Re: "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: Kaimook ที่ 20 กรกฎาคม 2552, 22:37:57
เดินทางปลอดภัยนะคะพี่แอ๊ะ emo4:)) emo4:)) emo4:))


หัวข้อ: Re: "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: pb13 ที่ 21 กรกฎาคม 2552, 17:07:44
ทั่นรองต้องคิดใหม่..คิดบวก...และคิดต่าง
ท่านรองจะกล่าวหาคุณนายเช่นนั้นมิได้



ต้องคิดว่าเธอเป็นคนเอาการเอางาน ขยันขันแข็ง ไม่ใส่สายเดี่ยวเที่ยวดึกๆให้ทั่นรองต้องเวียนหัว


อีตอนฉันอยู่ตั้งนาน  ทำไมไม่มาเล่าค้า
กลัวฉันจะเลี้ยงดูปูเสื่อรึไง
ไปตามรอยฉันเป๊ะๆๆ..เลย


             เวลาว่างไม่ค่อยตรงกัน  อาทิตย์ที่ผ่านมาคนหนึ่งไปลาว  อีกคนหนึ่งไปชะอำ  สงสัยคงต้องรอเที่ยวหลังเกษียณ    รออีกจักหน่อยนะครับ  ส่วนปูเสื่อขอยกให้ดร.นอนแทนก็แล้วกัน emo20:)):) emo20:)):)


หัวข้อ: Re: "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: Kaimook ที่ 21 กรกฎาคม 2552, 22:54:34
สวัสดียามดึกค่ะพี่แอ๊ะและพี่ๆทุกท่านค่ะ
 emo4:)) emo4:)) emo4:))


หัวข้อ: Re: "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: Leam ที่ 21 กรกฎาคม 2552, 23:35:29
อ้างถึง
ข้อความของ Kaimook เมื่อ 21 กรกฎาคม 2552, 22:54:34
สวัสดียามดึกค่ะพี่แอ๊ะและพี่ๆทุกท่านค่ะ
 emo4:)) emo4:)) emo4:))


น้องอ้อย........นอนดึกเหมือนกันนะ


หัวข้อ: Re: "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: KUSON ที่ 23 กรกฎาคม 2552, 14:45:37
อ้างถึง
ข้อความของ prapasri AH เมื่อ 20 กรกฎาคม 2552, 22:22:33

น้องๆคุยกันไปก่อนนะ บ้านพี่แอ๊ะต้อนรับเสมอ แต่เจ้าของบ้านหายบ่อย ช่วง

 น้อง ดร.อุอ๋น เข้ามาช่วย ยียวน เอ๊ยยั่วยวนก่อนนะ[/colo
อ้างถึง
ข้อความของ prapasri AH เมื่อ 20 กรกฎาคม 2552, 22:22:33

น้องๆคุยกันไปก่อนนะ บ้านพี่แอ๊ะต้อนรับเสมอ แต่เจ้าของบ้านหายบ่อย ช่วงนี้5555555555555555

 น้อง ดร.อุอ๋น เข้ามาช่วย ยียวน เอ๊ยยั่วยวนก่อนนะ


หวัดดีเคอะน้องเหยง น้องเสียด น้องหะยี น้องใข่มุข และคุณพี่Pb...เป็นต้น
พี่แอ๊ะไม่อยู่หลายวัน มอบให้กุศลตอบจดหมายแทน อู๊ย กุศลช๊อบ ชอบ
ว่าแต่ใครมีข้อข้องใจอันใดถามมา กุศลรู้ไปหมด คิกๆๆ ตามประสาคนสอดรู้สอดเห็น
เดี๋ยวพอพี่แอ๊ะกลับมาท่านช่วยเสริมเองแหละ
ขณะนี้ได้ข่าวไพ่แอ๊ะไปอยู่ ปู้น สุราษฎร์ทำงานทำการอยู่ จึงมอบหมายกุศลช่วยเคลียทางนี้แทน
ขนาดพี่ป๋อง พี่แอ๊ะยังไม่ค่อยไว้วางใจเลย งานสำคัญๆ พี่แอ๊ะใว้ใจกุศลคนเดียวเท่านั้นจริงๆ
วันนี้ตอบแค่นี้ก่อน ว่างๆจะมาตอบปัญหาคาใจให้ ใครรักใคร ชอบใคร รีบปรึกษามานะ วันนี้บ๊ายบาย จุ๊บๆ


หัวข้อ: Re: "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: suriya2513 ที่ 23 กรกฎาคม 2552, 15:16:33
อ้างถึง
ข้อความของ pb13 เมื่อ 21 กรกฎาคม 2552, 17:07:44
ทั่นรองต้องคิดใหม่..คิดบวก...และคิดต่าง
ท่านรองจะกล่าวหาคุณนายเช่นนั้นมิได้



ต้องคิดว่าเธอเป็นคนเอาการเอางาน ขยันขันแข็ง ไม่ใส่สายเดี่ยวเที่ยวดึกๆให้ทั่นรองต้องเวียนหัว


อีตอนฉันอยู่ตั้งนาน  ทำไมไม่มาเล่าค้า
กลัวฉันจะเลี้ยงดูปูเสื่อรึไง
ไปตามรอยฉันเป๊ะๆๆ..เลย


             เวลาว่างไม่ค่อยตรงกัน  อาทิตย์ที่ผ่านมาคนหนึ่งไปลาว  อีกคนหนึ่งไปชะอำ  สงสัยคงต้องรอเที่ยวหลังเกษียณ    รออีกจักหน่อยนะครับ  ส่วนปูเสื่อขอยกให้ดร.นอนแทนก็แล้วกัน emo20:)):) emo20:)):)
เชื่อผมเหอะ หลังเกษียณอาจารย์หม่งก็ต้องหาที่สอนหนังสือต่อไปอีกจนหมดแรงสอนแหละครับ


หัวข้อ: Re: "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: ตุ๋ย 22 ที่ 23 กรกฎาคม 2552, 19:11:56
ผมทำไมเริ่มขี้เกียจสอนหนังสือแล้ว


หัวข้อ: Re: "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: Kaimook ที่ 23 กรกฎาคม 2552, 22:16:47
อ้างถึง
ข้อความของ Leam เมื่อ 21 กรกฎาคม 2552, 23:35:29
อ้างถึง
ข้อความของ Kaimook เมื่อ 21 กรกฎาคม 2552, 22:54:34
สวัสดียามดึกค่ะพี่แอ๊ะและพี่ๆทุกท่านค่ะ
 emo4:)) emo4:)) emo4:))


น้องอ้อย........นอนดึกเหมือนกันนะ
ใช่ค่ะพี่  ประมาณ5ทุ่มนี่แหละค่ะเป็นเรื่องปกติแล้วค่ะ
(เอหรือน้ำอ้อยผิดปกติคะพี่)


หัวข้อ: Re: "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: suriya2513 ที่ 23 กรกฎาคม 2552, 22:37:55
อ้างถึง
ข้อความของ ตุ๋ย 22 เมื่อ 23 กรกฎาคม 2552, 19:11:56
ผมทำไมเริ่มขี้เกียจสอนหนังสือแล้ว
ขี้เกียจสอนหนังสือ ก็เปลี่ยนไปสอนนักเรียนบ้างก็ได้นี่ครับ


หัวข้อ: Re: "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: swsm ที่ 23 กรกฎาคม 2552, 22:47:15
อ้างถึง
ข้อความของ suriya2513 เมื่อ 23 กรกฎาคม 2552, 22:37:55
อ้างถึง
ข้อความของ ตุ๋ย 22 เมื่อ 23 กรกฎาคม 2552, 19:11:56
ผมทำไมเริ่มขี้เกียจสอนหนังสือแล้ว
ขี้เกียจสอนหนังสือ ก็เปลี่ยนไปสอนนักเรียนบ้างก็ได้นี่ครับ

โอว .. มุกนี้สุดยอดค่ะ  พี่ป๋อง
ขอยืมเอาไปใช้มั่งนะคะ ..

อิอิอิ


หัวข้อ: Re: "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: Kaimook ที่ 23 กรกฎาคม 2552, 22:51:04
อ้างถึง
ข้อความของ suriya2513 เมื่อ 23 กรกฎาคม 2552, 22:37:55
อ้างถึง
ข้อความของ ตุ๋ย 22 เมื่อ 23 กรกฎาคม 2552, 19:11:56
ผมทำไมเริ่มขี้เกียจสอนหนังสือแล้ว
ขี้เกียจสอนหนังสือ ก็เปลี่ยนไปสอนนักเรียนบ้างก็ได้นี่ครับ
คราวนี้แหละค่ะพี่ป๋อง พี่ตุ๋ยขยันสอนแน่ๆเลยค่ะ5555555


หัวข้อ: Re: "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: suriya2513 ที่ 24 กรกฎาคม 2552, 11:41:23
มุกนี้ พี่ป๋องไม่ได้เป็นต้นกำเหนิดหรอกครับ
เป็นตลกร้ายเก่าแก่ ของพวกเราชาวกระทรวงศึกษาธิการ
ว่าด้วยเรื่องความล้มเหลวในระบบการศึกษาของชาติไทยโดยองค์รวม (บูรณาการ)
สรุปได้ง่ายๆว่า "ก็ครูมัวแต่ไปสอนหนังสือ ไม่ยอมสอนเด็กนักเรียน"


หัวข้อ: Re: "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: KUSON ที่ 24 กรกฎาคม 2552, 14:37:52
อ้างถึง
ข้อความของ ตุ๋ย 22 เมื่อ 23 กรกฎาคม 2552, 19:11:56
ผมทำไมเริ่มขี้เกียจสอนหนังสือแล้ว
ถามใหม่ก็ได้
ผมของครูตุ๋ยทำไมยาวจัง(อยากรู้)


หัวข้อ: Re: "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: swsm ที่ 24 กรกฎาคม 2552, 17:28:45
เนื้อหาเริ่มหลุดจากพี่แอ๊ะ 13 เป็นพี่ตุ๋ย 22 แล้วล่ะค่ะ .. พี่น้อง    emo4:))


หัวข้อ: Re: "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: pb13 ที่ 24 กรกฎาคม 2552, 18:59:08
โอว .. มุกนี้สุดยอดค่ะ  พี่ป๋อง
ขอยืมเอาไปใช้มั่งนะคะ ..  

             
                  ดร.ต้องขยันหามุกหน่อย  ไม่งั้นต่อกรกับคู่ปรับแถวๆเมืองชลไม่ได้  ถ้าหาไม่ได้จริงๆก็ไปแถวเกาะปันหยี จว.พังงา มุกเยอะจริงๆ  emo20:)):) emo20:)):)


หัวข้อ: Re: "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: pb13 ที่ 24 กรกฎาคม 2552, 19:08:28
เชื่อผมเหอะ หลังเกษียณอาจารย์หม่งก็ต้องหาที่สอนหนังสือต่อไปอีกจนหมดแรงสอนแหละครับ


           ให้สอน(หนังสือ)นักศีกษาน่ะดีแล้ว  ไม่งั้นหันมาสอนสามีจะเป็นเรื่องใหญ่  emo19:((: emo19:((:


หัวข้อ: Re: "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: ตุ๋ย 22 ที่ 24 กรกฎาคม 2552, 19:25:55
อ้างถึง
ข้อความของ suriya2513 เมื่อ 23 กรกฎาคม 2552, 22:37:55
อ้างถึง
ข้อความของ ตุ๋ย 22 เมื่อ 23 กรกฎาคม 2552, 19:11:56
ผมทำไมเริ่มขี้เกียจสอนหนังสือแล้ว
ขี้เกียจสอนหนังสือ ก็เปลี่ยนไปสอนนักเรียนบ้างก็ได้นี่ครับ
เข้า่ท่าเหมือนกันนะ


หัวข้อ: Re: "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: ตุ๋ย 22 ที่ 24 กรกฎาคม 2552, 19:27:47
อ้างถึง
ข้อความของ KUSON เมื่อ 24 กรกฎาคม 2552, 14:37:52
อ้างถึง
ข้อความของ ตุ๋ย 22 เมื่อ 23 กรกฎาคม 2552, 19:11:56
ผมทำไมเริ่มขี้เกียจสอนหนังสือแล้ว
ถามใหม่ก็ได้
ผมของครูตุ๋ยทำไมยาวจัง(อยากรู้)
มันยาวด้วยโปรแกรมของ www.photofunia.com ครับพี่จะลองไปทำให้ผมยาวบ้างก้ได้นะ


หัวข้อ: Re: "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: swsm ที่ 26 กรกฎาคม 2552, 02:28:40
 emo9:huhu:


หัวข้อ: Re: "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: Kaimook ที่ 26 กรกฎาคม 2552, 11:55:51
สวัสดีค่ะพี่แอ๊ะและพี่ๆทุกท่านเที่ยงแล้วหม่ำยังคะ
 emo4:)) emo4:)) emo4:))


หัวข้อ: Re: "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: swsm ที่ 26 กรกฎาคม 2552, 14:35:28
พี่แอ๊ะ  หายไปนานแล้วนาาาาา ??
พี่กุศล ผู้ได้รับมอบหมายให้ดูแลห้อง .. แวะมาครั้งสุดท้ายเมื่อวันที่ 23 ก.ค.

พี่ขรา .. น้อง ๆ ๆ ๆ ๆ เหงา คร่ะ



emo19:((: 


หัวข้อ: Re: "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: ตุ๋ย 22 ที่ 26 กรกฎาคม 2552, 21:39:46
ช่ายเจ้าของห้องหาย


หัวข้อ: Re: "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: Soponเท่านั้น ที่ 27 กรกฎาคม 2552, 17:43:11
อ้างถึง
ข้อความของ swsm เมื่อ 26 กรกฎาคม 2552, 14:35:28
พี่แอ๊ะ  หายไปนานแล้วนาาาาา ??
พี่กุศล ผู้ได้รับมอบหมายให้ดูแลห้อง .. แวะมาครั้งสุดท้ายเมื่อวันที่ 23 ก.ค.

พี่ขรา .. น้อง ๆ ๆ ๆ ๆ เหงา คร่ะ


emo19:((: 

เห็นน้องๆเข้ามาเยอะ emo43 พี่แอ๊ะเลยตกใจมั้ง emo20:)):)


หัวข้อ: Re: "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: swsm ที่ 27 กรกฎาคม 2552, 19:02:59
ก๊าก .. อาจจะจริงนะ  พี่เปี๊ยก
โดยเฉพาะน้องตุ๋ย น้องหะยี

พี่แอ๊ะบอก .. เผ่นดีกว่า !!  คริคริ


หัวข้อ: Re: "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: ตุ๋ย 22 ที่ 27 กรกฎาคม 2552, 19:42:56
กลัวอารายเราไม่ใช่ยักษ์ช่ายมาร  เหอๆๆๆๆๆๆๆ


หัวข้อ: Re: "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: Soponเท่านั้น ที่ 27 กรกฎาคม 2552, 20:20:21
หุ หุ หุ

 emo20:)):) emo20:)):) emo20:)):)


หัวข้อ: Re: "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: swsm ที่ 27 กรกฎาคม 2552, 21:42:41
เหอ ๆ ๆ ๆ


หัวข้อ: Re: "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: Kaimook ที่ 27 กรกฎาคม 2552, 22:18:05
เหอเหอเหอฮิฮิฮิคิคิคิ555555555(ครบวงจรแล้วค่ะพี่แอีะขราาาาาาาาาา)


หัวข้อ: Re: "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: swsm ที่ 28 กรกฎาคม 2552, 08:57:43
Good morning ค่ะพี่น้อง

ทานอาหารเช้ากันหรือยัง ??
หะยีมีแพนเค้ก (ที่ไม่ใช่ดารา) และกาแฟสดมาฝากค่ะ


(http://img187.imageshack.us/img187/9652/brunchandbreakfasttips7.jpg)  (http://img291.imageshack.us/img291/4712/coffee0022.jpg)


หัวข้อ: Re: "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: ตุ๋ย 22 ที่ 28 กรกฎาคม 2552, 20:00:16
อ้างถึง
ข้อความของ swsm เมื่อ 28 กรกฎาคม 2552, 08:57:43
Good morning ค่ะพี่น้อง

ทานอาหารเช้ากันหรือยัง ??
หะยีมีแพนเค้ก (ที่ไม่ใช่ดารา) และกาแฟสดมาฝากค่ะ


(http://img187.imageshack.us/img187/9652/brunchandbreakfasttips7.jpg)  (http://img291.imageshack.us/img291/4712/coffee0022.jpg)
ขีเกียจพิมพ์เหมือนเห็นข้อความนี่แว้บๆ กระทู้ไหนหนอ


หัวข้อ: Re: "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: Soponเท่านั้น ที่ 28 กรกฎาคม 2552, 22:13:06
โพสต์ทีเดียว แปะทุกกระทู้อีกสิบ เข้าใจเล่น
เอาไปเลยสิบแต้ม emo20:)):)


หัวข้อ: Re: "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: swsm ที่ 29 กรกฎาคม 2552, 11:58:00
อ้างถึง
ข้อความของ Soponเท่านั้น เมื่อ 28 กรกฎาคม 2552, 22:13:06
โพสต์ทีเดียว แปะทุกกระทู้อีกสิบ เข้าใจเล่น
เอาไปเลยสิบแต้ม emo20:)):)

แหม .. พี่ ๆ คิดมากจัง

หะยีเกรงว่า .. หากทักทายห้องนั้น นำเสนออาหารให้ห้องนี้ .. แล้วไม่ทั่วถึง
เพื่อน-พี่-น้อง เดินเข้าเดินออก ..
ก็จะตำหนิว่า "เลือกที่รัก มักที่ชัง"
แหะ .. หะยีเลยลุยซะทุกห้อง (ที่เข้าประจำ) ซะเลย ..

คริคริ
 


emo21:):):  she เจ้าเล่ห์มาก


หัวข้อ: Re: "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: Kaimook ที่ 29 กรกฎาคม 2552, 22:08:35
สวัสดีค่ะพี่แอ๊ะยังไม่กลับเหรอค่ะ emo7:(:


หัวข้อ: Re: "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: เหยง 16 ที่ 03 สิงหาคม 2552, 18:19:19
ไทยไม่แพ้ชาติใด “ดร.กฤษณา” ได้รับรางวัลแมกไซไซประจำปี 2009
3 สิงหาคม 2552 16:29 น.

                                 (http://img233.imageshack.us/img233/9338/drkrisana1.jpg)                             
 
       เอเจนซี - คณะกรรมการรางวัลแมกไซไซ ซึ่งได้รับการยกย่องว่าเป็นรางวัลโนเบลแห่งเอเชีย ประกาศมอบรางวัลประจำปีนี้
แก่ชาวเอเชีย 6 คน หนึ่งในจำนวนนี้ ประกอบด้วย “เภสัชกรยิปซี” ดร.กฤษณา ไกรสินธุ์ ซึ่งอุทิศตนผลิตยาราคาถูก ช่วยเหลือผู้
ป่วยติดเชื้อเอชไอวีเอดส์ในไทย และในทวีปแอฟริกา ขณะที่นักเคลื่อนไหวด้านสิทธิมนุษยชนชาวพม่าก็ได้รับรางวัลจากการทำ
งานโดยไม่หวังเกรงกับอิทธิพลใดๆ
       
       คณะกรรมการรางวัล รามอน แมกไซไซ ประกาศมอบรางวัลประจำปีในวันนี้ (3) ประกอบด้วยชาวจีน 2 คน อินเดีย ฟิลิปปินส์
พม่า และไทยชาติละ 1 คน ได้แก่
       
       ดร.กฤษณา ไกรสินธุ์ เภสัชกรชาวจังหวัดสุราษฎร์ธานี วัย 57 ปี ได้รับรางวัลจากอุทิศตนผลิตยาราคาถูกช่วยเหลือ
ผู้ป่วยติดเชื้อเอชไอวีเอดส์ ทั้งในประเทศไทย และในทวีปแอฟริกา
       
       ชาวพม่า คือ คา ซอว์ วา นักเคลื่อนไหวด้านสิทธิมนุษยชน ซึ่งในระหว่างที่เป็นนักศึกษา เขาเคยถูกทหารพม่าจับ
ทรมาน แต่ในปัจจุบันเป็นผู้ร่วมก่อตั้งองค์กร เอิร์ธไรท์ส อินเตอร์เนชั่นแนล ซึ่งรณรงค์ไม่ใช้ความรุนแรงในการแสดงออก ได้รับรางวัล
จากการช่วยแก้ไขปรับปรุงและให้การศึกษาเพื่อป้องกันการละเมิดสิทธิมนุษยชน สิ่งแวดล้อม และประชาธิปไตยในพม่าอย่าง
ไม่เกรงกลัวสิ่งใด
       
       ชาวจีน 2 คนที่ได้รับรางวัลนี้ คือ อี๋ว์ เสี่ยวกัง ในฐานะเป็นผู้รณรงค์ให้ประชาชนตระหนักเกี่ยวกับเขื่อนที่สร้างขึ้นในจีน และ
ได้อุทิศตนเพื่อศึกษาและประเมินผลกระทบทางสังคมที่เกิดจากการก่อสร้างอภิมหาโครงการทุกแห่ง ขณะที่ หม่า จวิน อดีตนักหนัง
สือพิมพ์ชาวจีนอีกคน
ได้รับรางวัลอันทรงเกียรตินี้ จากการเสนอรายงานเกี่ยวกับสิ่งแวดล้อมในจีน โดยเฉพาะการระบุชื่อบริษัท
กว่า 10,000 แห่ง ที่ละเมิดมาตรฐานการปล่อยมลพิษสู่สิ่งแวดล้อม
       
       ทีป โจชี ชาวอินเดีย ผู้จบปริญญาจากมหาวิทยาลัยแมสชาชูเซตส์ อินสติติวออฟเทคโนโลยี(MIT) ได้รับรางวัลจากผลงาน
อุทิศตนเพื่อการพัฒนาชนบทของอินเดียมานานหลายทศวรรษ อีกทั้งเป็นผู้ก่อตั้งองค์กรที่ไม่หวังผลกำไร ซึ่งได้ระดมและเตรียม
พร้อมให้นักศึกษาจบจากมหาวิทยาลัยเข้าสู่โครงการระดับรากหญ้าในชุมชนที่ยากจนของอินเดีย
       
       อันโตนิโอ โอโปซา จูเนียร์ ทนายความและนักรณรงค์เพื่อสิ่งแวดล้อมชาวฟิลิปปินส์ คว้ารางวัลในฐานะผู้รณรงค์ต่อต้านการ
ทำลายระบบนิเวศวิทยาทางทะเล รวมทั้งอำนวยการลาดตระเวนทางทะเลเพื่อป้องกันเรือที่จะระเบิดปลาโดยผิดกฎหมายด้วย
       
       ทั้งนี้ ดร.กฤษณา กล่าวว่า รู้สึกเฉยๆ กับรางวัล เพราะไม่ว่าจะได้รับหรือไม่ได้รับเกียรตินี้ เธอก็จะต้องทำงานต่อไป และไม่
เคยคาดหวังว่าจะต้องได้รับรางวัลใดๆ อย่างไรก็ตาม รู้สึกดีใจที่มีคนเห็นสิ่งที่เธอทำ โดยโครงการต่อไปคือการช่วยเภสัชกรท้อง
ถิ่นผลิตยารักษามาลาเรียในบุรุนดี

       
       ดร.กฤษณา ได้รับรางวัลนักวิทยาศาสตร์โลก จากมูลนิธิเลตเทนของนอร์เวย์มาแล้วในปี 2004 และเป็นบุคคลแห่งปีของ
นิตยสารรีดเดอร์สไดเจสต์ ประจำปี 2008 จากการทำงานบริการสาธารณะมาตลอด หลังจากจบการศึกษาที่มหาวิทยาลัยเชียงใหม่
และจบปริญญาเอกในสาขาเภสัชเคมีจากประเทศอังกฤษ
       
       อนึ่ง รางวัลรามอน แมกไซไซ ก่อตั้งขึ้นเมื่อปี 1957 เพื่อเป็นเกียรติแด่อดีตประธานาธิบดี รามอน แมกไซไซ แห่งฟิลิปินส์
ซึ่งเสียชีวิตจากเหตุเครื่องบินตกในปี 1956
       
http://www.manager.co.th/asp-bin/mgrView.asp?NewsID=9520000087778
 
 


หัวข้อ: Re: "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: swsm ที่ 03 สิงหาคม 2552, 19:21:42
ภูมิใจจัง


หัวข้อ: Re: "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: ตุ๋ย 22 ที่ 03 สิงหาคม 2552, 19:41:06
ผู้ที่ทำงานอุทิศตนเพื่อสังคมควรได้รับการยกย่อง


หัวข้อ: Re: "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: Kaimook ที่ 03 สิงหาคม 2552, 22:09:37
เพื่อนพี่แอ๊ะเก่งจังค่ะ emo4:)) emo4:)) emo4:))


หัวข้อ: Re: "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: prapasri AH ที่ 04 สิงหาคม 2552, 21:15:57
น้องๆ ที่รักทุก ท่าน  รวมทั้งเพื่อนๆ พี่ ๆ

ที่เข้ามาคุยในบ้านพี่แอ๊ะ พี่แอ๊ะแอบมาอ่าน เมื่อมีเวลาเพียงจิ๊ดเดียว

พักนี้ยุ่งมากค่ะ ต้องขอโทษด้วยค่ะ 

ขอบคุณๆๆๆๆๆๆ ที่ไม่ลืมพี่แอ๊ะและเเวะเข้ามา

เจ้าของบ้าน แย่จัง ไม่ค่อยบ้านเลยค่ะ

ถ้าว่างจะเข้ามาคุยด้วยทันทีค่ะ


หัวข้อ: Re: "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: prapasri AH ที่ 04 สิงหาคม 2552, 21:22:01
(http://img229.imageshack.us/img229/4787/200907170069.jpg)


in trend ซะหน่อย รูปนี้พี่แอ๊ะไปเลี้ยงให้ดร.กฤษณา ที่ สุนีย์แกรนด์ทาวเวอร์ ที่อุบลค่ะ

เจ้าของสุนีย์ แกรนด์ทาวเวอร์ไม่ยอมให้พี่แอ๊ะจ่ายตังค์ ท่านเลยมาเลี้ยงเอง ทั้งครอบครัวเลยค่ะ


หัวข้อ: Re: "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: prapasri AH ที่ 04 สิงหาคม 2552, 21:25:39
(http://img229.imageshack.us/img229/2571/200907170073.jpg)[img]http:


พรุ่งนี้ ถ้าว่าง จะส่งใหม่นะ รูปไม่ค่อยชัด กล้องพี่แอ๊ะ แย่จังอายพี่นภจริงๆๆ


ขอไปนอนก่อนนะ พี่หาญ ขึ้นไปนอนแล้ว พี่แอ๊ะไม่กล้าอยู่คนเดียว กลัวผีอ่ะ


หัวข้อ: Re: "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: swsm ที่ 04 สิงหาคม 2552, 21:27:39
เย้ ๆ ๆ ๆ .. พี่แอ๊ะมาแล้ว
คิดถึงค่ะ



emo9:huhu:


หัวข้อ: Re: "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: prapasri AH ที่ 04 สิงหาคม 2552, 21:30:24
ขอส่งอีกรูปค่ะ

ทำไมพี่แอ๊ะโทรมอย่างนี้ก็ไม่ทราบ

ลิปกะติ๊ก ก็ทาแล้วนีนา แต่สุดโทรมเลยอิๆๆๆๆ


กล้องไม่ดีต่างหาก หุๆๆๆ

(http://img156.imageshack.us/img156/3210/200907170079.jpg)

สวยสู้ ดร ป๋องไม่ได้เลย5555555555555555555555555


หัวข้อ: Re: "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: prapasri AH ที่ 04 สิงหาคม 2552, 21:34:10
หวัดดีตอนดึก ค่ะน้องหะยี
เห็นไวๆๆๆ ตัวหนังสือสีฟ้า น้องหะยีแน่นอน

พี่แอ๊ะขอกระโดดขึ้นบนบ้านก่อน 

กลัวผี ไม่กล้าอยู่ข้างล่างคนเดียวค่ะอิๆๆๆ

 (แก่จะ แย่อยู่แล้วยังกลัวผีอีก เพื่อนป๋อง

บ้าเหมือนป๋องเลย ว๊าๆๆๆๆๆๆ)


หัวข้อ: Re: "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: swsm ที่ 04 สิงหาคม 2552, 21:49:57
อ้างถึง
ข้อความของ prapasri AH เมื่อ 04 สิงหาคม 2552, 21:34:10
หวัดดีตอนดึก ค่ะน้องหะยี
เห็นไวๆๆๆ ตัวหนังสือสีฟ้า น้องหะยีแน่นอน

พี่แอ๊ะขอกระโดดขึ้นบนบ้านก่อน 

กลัวผี ไม่กล้าอยู่ข้างล่างคนเดียวค่ะอิๆๆๆ

 (แก่จะ แย่อยู่แล้วยังกลัวผีอีก เพื่อนป๋อง

บ้าเหมือนป๋องเลย ว๊าๆๆๆๆๆๆ)

วิ่งไปวิ่งมาค่ะ  พี่แอ๊ะ
แวะมาอีกที .. อะ อ้าว
พี่แอ๊ะหนีไปนอนซะแว่ววววว

Goodnite ค่า
 


emo40::


หัวข้อ: Re: "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: prapasri AH ที่ 05 สิงหาคม 2552, 21:17:47
ไม่ได้ขอบคุณน้องหลายๆท่านที่มาเที่ยวบ้านพี่แอ๊ะ

น้องเหยง น้องไข่มุก  น้องตุ๋ย22  น้องหะยี  น้องโสภณ เท่านี้  น้อง leam  น้องดร. อุอ๊น คนสวยยยยยยยยย และ คุณเขย 13

น้องเจตน์  น้องสุริยา ป๋อง  น้องหมอเสียด  น้องปุ๊กกี้ และน้องๆอีกสองสามท่านที่ช่วยมาเฝ้าบ้านให้พี่แอ๊ะตอนพี่แอ๊ะไม่อยู่อิๆๆๆๆๆ

พี่แอ๊ะจะส่งรูปดร.กฤษณา ให้ดูอีกสัก สองรูปนะคะ พี่แอ๊ะ ไม่สวยเพราะกล้องไม่ดี 55555555555


แล้วหลังจากนี้พี่แอ๊ะจะส่งรูปชาวหอ ที่น้องๆต้องภาคภูมิใจ ท่านได้รับ รางวัล "คนดีศรีอิสาน" ค่ะ เป็นชาวหอรุ่น 2514

ท่านใดทายถูกพี่แอ๊ะจะให้ รางวัลจ้า


หัวข้อ: Re: "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: prapasri AH ที่ 05 สิงหาคม 2552, 21:35:35
(http://img156.imageshack.us/img156/6615/200907170085.jpg)

รูปนี้ มีรูปหมอกระติ๊บ และรูปหมอ กะต้น ด้วยค่ะ

อวด ลูกสาวซะหน่อย ตอนนี้น้องติ๊บมาเป็นแพทย์ประจำ ร.พ สรรพสิทธิประสงค์อุบลราชธานีค่ะ

ลูกสาวได้ รับฉายา ว่า เป็น" intern ในตำนาน"  คือ ติ๊บกลายเป็น แพทย์ intern

ที่ใส่ท่อช่วยหายใจ ให้คนไข้ที่ห้องฉุกเฉิน ได้รวดเร็ว

และใส่ได้อย่างชำนาญ มากใส่ท่อช่วยหายใจให้คนไข้หลายร้อยคนแล้วค่ะ

ได้ทำผ่าตัดไส้ติ่ง ให้คนไข้ ที่อุบลได้หลายรายแล้วค่ะ



และ ตอนนี้ที่พี่แอ๊ะกำลังโพสต์ สนุกอยู่นี่ ลูกกะต้น อยู่เวร ที่ร.พ พี่แอ๊ะ

บอกว่ามีคนไข้มาสามคนติดๆกันเป็นไส้ติ่งทั้งสามคน

หมอกะต้น กำลังผ่าให้คนไข้ อยู่ ทั้งสามคนเลยค่ะ

หลงลูก ตัวเอง อีกแล้วพี่แอ๊ะนี่ ขออนุญาตเล่าเรื่อง ของลูกตัวเองนะคะ


อย่าให้ลูกมาอ่านเจอเชียว ถูกลูกดุ เปิงเลยอิๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ


หัวข้อ: Re: "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: prapasri AH ที่ 05 สิงหาคม 2552, 21:42:50
(http://img526.imageshack.us/img526/9601/50375898.jpg)

ขออวดรูปลูกสาวหน่อยนะคะ น้อง หะยี


พี่หาญตามให้ไปนอนแล้ว

พรุ่งนี้ถ้ามีเวลาพี่แอ๊ะจะส่งรูปชาวหอ 2514 ที่ได้รับรางวัล "คนดี ศรีอิสาน"

มาให้พวกเราได้ชื่นใจ

ช่วยทายกันมาก่อนก็ได้นะคะ จะให้รางวัลค่ะ


หัวข้อ: Re: "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: เหยง 16 ที่ 05 สิงหาคม 2552, 21:47:49
พี่แอ๊ะครับ

ผมตามเข้ามาดูภาพที่พี่โพสต์ พร้อมข้อความ ทันทีเลยครับ


หัวข้อ: Re: "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: swsm ที่ 05 สิงหาคม 2552, 22:02:04
อ้างถึง
ข้อความของ prapasri AH เมื่อ 05 สิงหาคม 2552, 21:42:50
(http://img526.imageshack.us/img526/9601/50375898.jpg)

ขออวดรูปลูกสาวหน่อยนะคะ น้อง หะยี


น้องกระติ๊บน่ารักมากค่ะ 
หากหะยีมีลูกสาวน่ารัก สวย เก่งอย่างนี้
อาการเห่อลูก .. รับรองไม่แพ้พี่แอ๊ะค่ะ 


คริคริคริ
  emo9:huhu:


หัวข้อ: Re: "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: ตุ๋ย 22 ที่ 05 สิงหาคม 2552, 22:08:04
อยากเห่อบ้างจัง มีลูกสาวตั้ง 2 คน


หัวข้อ: Re: "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: swsm ที่ 05 สิงหาคม 2552, 22:10:32
อ้างถึง
ข้อความของ ตุ๋ย 22 เมื่อ 05 สิงหาคม 2552, 22:08:04
อยากเห่อบ้างจัง มีลูกสาวตั้ง 2 คน

กรณีพี่ตุ๋ย .. เขารู้กันทั้งเว็บแล้วว่า "เห่อลูกสาวมั่ก ๆ ๆ ๆ"  


หัวข้อ: Re: "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: ตุ๋ย 22 ที่ 05 สิงหาคม 2552, 22:13:09
เหอๆๆๆๆๆๆๆๆ   อุตส่าห์ปั้นจนหยดสุดท้ายเหอๆๆๆๆๆๆๆๆๆ


หัวข้อ: Re: "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: swsm ที่ 05 สิงหาคม 2552, 22:40:39
อ้างถึง
ข้อความของ ตุ๋ย 22 เมื่อ 05 สิงหาคม 2552, 22:13:09
เหอๆๆๆๆๆๆๆๆ   อุตส่าห์ปั้นจนหยดสุดท้ายเหอๆๆๆๆๆๆๆๆๆ

งั้นก็แสดงว่า  หมดจากน้อง "วาวา" แล้ว 
พี่ตุ๋ยก็หมดน้ำยา .. ใช่ไหมคะ ??



emo20:)):)


หัวข้อ: Re: "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: Soponเท่านั้น ที่ 05 สิงหาคม 2552, 22:43:37
อ้างถึง
ข้อความของ prapasri AH เมื่อ 05 สิงหาคม 2552, 21:42:50
(http://img526.imageshack.us/img526/9601/50375898.jpg)

ขออวดรูปลูกสาวหน่อยนะคะ น้อง หะยี


พี่หาญตามให้ไปนอนแล้ว

พรุ่งนี้ถ้ามีเวลาพี่แอ๊ะจะส่งรูปชาวหอ 2514 ที่ได้รับรางวัล "คนดี ศรีอิสาน"

มาให้พวกเราได้ชื่นใจ

ช่วยทายกันมาก่อนก็ได้นะคะ จะให้รางวัลค่ะ

(http://img219.imageshack.us/img219/3866/resizeofdscn4832.jpg)

ขอทายว่า ท่านผู้ว่าชวน ศิรินันทพร รุ่น14ตามที่พี่แอ๊ะบอกใบ้ไว้ครับ


หัวข้อ: Re: "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: swsm ที่ 05 สิงหาคม 2552, 22:45:52
อ้าว .. ท่านผู้ว่าชวน รุ่น 14 RCU รึคะ ??
หะยีเจอท่านบ๊อย บ่อย ..
ตั้งแต่อยู่อุดร ตอนนี้อยู่โคราชแล้วใช่ไหมเนี่ย

ป้าดโธ่ .. ไม่รู้ว่าเป็นพี่ RCU
ไม่งั้นจะเข่าไปทักและขอข้าวกินฟรี !!



emo6::))


หัวข้อ: Re: "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: Soponเท่านั้น ที่ 05 สิงหาคม 2552, 22:46:59
อ้างถึง
ข้อความของ swsm เมื่อ 05 สิงหาคม 2552, 22:40:39
อ้างถึง
ข้อความของ ตุ๋ย 22 เมื่อ 05 สิงหาคม 2552, 22:13:09
เหอๆๆๆๆๆๆๆๆ   อุตส่าห์ปั้นจนหยดสุดท้ายเหอๆๆๆๆๆๆๆๆๆ

งั้นก็แสดงว่า  หมดจากน้อง "วาวา" แล้ว 
พี่ตุ๋ยก็หมดน้ำยา .. ใช่ไหมคะ ??



emo20:)):)

ใจตรงกะพี่เลย กะลังจะพูดอยู่เหมือนกัน emo20:)):)

พอกันทั้งพี่ทั้งน้อง (พี่เปี๊ยก & หยี)


หัวข้อ: Re: "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: prapasri AH ที่ 06 สิงหาคม 2552, 13:17:01
น้องตุ๋ยคะ

ลูกสาวพี่แอ๊ะ ก็เรียกว่า "บรรจงสร้าง" เลยค่ะ

เพราะมีลูกสาวยากมาก  มีแต่ลูกชาย

พอต้องการลูกสาว ต้องใช้สูตรเลย ทีเดียววววววววววววว5555555555555555555

คุณกระป๋องต้องอิจฉาเเน่ๆ เพราะเธอสร้างไม่เป็นสักลูกเดียว

ทะลึ่ง หรือเปล่านะ  พูดตรงๆ น่ะค่ะ 55555555555555


หัวข้อ: Re: "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: prapasri AH ที่ 06 สิงหาคม 2552, 13:27:52
พี่แอ๊ะ ต้องรีบไปมุกดาหาร

เพื่อนพี่แอ๊ะ เป็นรองปลัดกระทรวงการคลัง  ชื่อ ดร.เชิดชัย ขันธ์นภา  เคยสอบได้ที่หนึ่งประเทศไทย ด้วยนะคะ

ไม่ทราบน้องท่านใดเคยทำงานกะท่านบ้าง

อย่าหาว่าพี่แอ๊ะโม้ ว่ามีเพื่อนใหญ่ๆโตๆ นะคะ

เพียงแต่เล่าให้ฟังเผื่อน้องๆเป็นลูกน้องท่านพี่แอ๊ะจะได้ฝากฝังให้ช่วยดูแลให้ค่ะ

ท่านมาตรวจงานที่มุกดาหาร ต้องไปรับเลี้ยงซะหน่อยข้าราชการมาเลี้ยงท่านท่านเลยตามพี่แอ๊ะไปทานข้าวด้วย



และน้องต้น จะไปไดรฟ์กอล์ฟ ด้วย หมอสมัยใหม่เขาไม่เหมือนเรา

เขาต้องเล่น กอล์ฟ และเล่นไฮโล เอ๊ยม่ายช่าย เล่นไฮโซต่างๆ555555555555

พี่แอ๊ะเล่นไฮโซไม่เป็นเลยค่ะ เล่นได้แต่หมากเก็บ กะวิ่งเปี้ยว อิๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ


ขอส่งรูป คนดีศรีอิสาน คนล่าสุดมาให้พวกเราได้ชื่นใจ นะคะ

เป็นชาวซีมะโด่ง 2514 ค่ะ กลัวน้องทายถูก

แล้วจะมาบรรยายต่อค่ะ  


หัวข้อ: Re: "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: prapasri AH ที่ 06 สิงหาคม 2552, 13:36:33
อยากให้ชาวหอส่ง card ไปแสดงความยินดีกับท่าน เพราะท่านต้อนรับชาวหออย่างดีมาก ทั้งทีมหาสารคาม และที่อุบล

ท่านใดมีหน้าที่จัดการรีบจัดการด้วยนะจ๊ะ สงสัยน้องปุ๊กกี้สาวอุบล ต้องจัดการแล้วล่ะ หรือเพื่อนๆ 14 ตู่ อ้อย14 และ....2514 ทั้งหลาย

(http://img233.imageshack.us/img233/6171/dsc00203kcg.jpg)

 รีบ จัดการ ส่งดอกไม้ หรือการ์ดอวยพรนะจ๊ะ


หัวข้อ: Re: "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: Kaimook ที่ 06 สิงหาคม 2552, 14:35:51
อ้างถึง
ข้อความของ prapasri AH เมื่อ 06 สิงหาคม 2552, 13:36:33
อยากให้ชาวหอส่ง card ไปแสดงความยินดีกับท่าน เพราะท่านต้อนรับชาวหออย่างดีมาก ทั้งทีมหาสารคาม และที่อุบล

ท่านใดมีหน้าที่จัดการรีบจัดการด้วยนะจ๊ะ สงสัยน้องปุ๊กกี้สาวอุบล ต้องจัดการแล้วล่ะ หรือเพื่อนๆ 14 ตู่ อ้อย14 และ....2514 ทั้งหลาย

(http://img233.imageshack.us/img233/6171/dsc00203kcg.jpg)

 รีบ จัดการ ส่งดอกไม้ หรือการ์ดอวยพรนะจ๊ะ
สวัสดีค่ะพี่แอ๊ะๆสวยมากๆเลยค่ะ ขอสูตรพี่แอ๊ะเลี้ยงลูกอย่างไรจึง
เก่งทุกคนเลยค่ะ


หัวข้อ: Re: "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: suriya2513 ที่ 06 สิงหาคม 2552, 17:17:56
ลูกสาวพยุห์ สีฆสมิทธิ์ เพื่อนพ้ม เรียนอักษรฯ จุฬาฯ ปี 2 วิชาเอกสเปน
จะหาว่าไม่คุย...เป็นชาวค่ายหอฯด้วยยยยย...


หัวข้อ: Re: "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: Soponเท่านั้น ที่ 06 สิงหาคม 2552, 21:28:36
อ้างถึง
ข้อความของ prapasri AH เมื่อ 06 สิงหาคม 2552, 13:27:52






ขอส่งรูป คนดีศรีอิสาน คนล่าสุดมาให้พวกเราได้ชื่นใจ นะคะ

เป็นชาวซีมะโด่ง 2514 ค่ะ กลัวน้องทายถูก

แล้วจะมาบรรยายต่อค่ะ  


emo47สงสัยพี่แอ๊ะไม่ได้อ่านคำตอบและรูปท่านผู้ว่าชวนที่ผมโพสต์ไว้ในกระทู้200แน่ๆ พี่แอ๊ะเลยคิดว่ายังไม่มีใครทายถูก emo19:((:
พี่ป๋องเป็นพยานด้วยนะครับว่าผมตอบถูกก่อนพี่แอ๊ะเฉลย emo20:)):)


หัวข้อ: Re: "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: iamfrommoon ที่ 06 สิงหาคม 2552, 21:51:59
น้องกระติ๊บ สดใส น่ารัก กิริยางดงามมากเลยค่ะ ยิ้มหวานสุดๆ จะได้ที่กระติ๊บกับกระต๊อบไปงานแต่งงานน้องแทนคุณแม่...น่ารักสุดๆ  


หัวข้อ: Re: "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: iamfrommoon ที่ 06 สิงหาคม 2552, 21:56:11
อ้างถึง
ข้อความของ prapasri AH เมื่อ 06 สิงหาคม 2552, 13:36:33
อยากให้ชาวหอส่ง card ไปแสดงความยินดีกับท่าน เพราะท่านต้อนรับชาวหออย่างดีมาก ทั้งทีมหาสารคาม และที่อุบล

ท่านใดมีหน้าที่จัดการรีบจัดการด้วยนะจ๊ะ สงสัยน้องปุ๊กกี้สาวอุบล ต้องจัดการแล้วล่ะ หรือเพื่อนๆ 14 ตู่ อ้อย14 และ....2514 ทั้งหลาย

(http://img233.imageshack.us/img233/6171/dsc00203kcg.jpg)

 รีบ จัดการ ส่งดอกไม้ หรือการ์ดอวยพรนะจ๊ะ


ว้าวๆ สุดยอดเลยค่ะพี่ น้องว่า เด๋ซพี่แอ๊ะต้องได้เหมือนกันนะคะ... เด๋วน้องจะโทร.คุยกับพี่เมาว่า จะแสดงความยินดีผ่านทางไหนดี


หัวข้อ: Re: "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: suriya2513 ที่ 06 สิงหาคม 2552, 23:30:35
อ้างถึง
ข้อความของ Soponเท่านั้น เมื่อ 06 สิงหาคม 2552, 21:28:36
อ้างถึง
ข้อความของ prapasri AH เมื่อ 06 สิงหาคม 2552, 13:27:52
ขอส่งรูป คนดีศรีอิสาน คนล่าสุดมาให้พวกเราได้ชื่นใจ นะคะ

เป็นชาวซีมะโด่ง 2514 ค่ะ กลัวน้องทายถูก

แล้วจะมาบรรยายต่อค่ะ  


emo47สงสัยพี่แอ๊ะไม่ได้อ่านคำตอบและรูปท่านผู้ว่าชวนที่ผมโพสต์ไว้ในกระทู้200แน่ๆ พี่แอ๊ะเลยคิดว่ายังไม่มีใครทายถูก emo19:((:
พี่ป๋องเป็นพยานด้วยนะครับว่าผมตอบถูกก่อนพี่แอ๊ะเฉลย emo20:)):)

...
หลักฐานมีประจักษ์กะตา ว่า เปี๊ยก โสภณ ตอบถูกก่อนคุณนายแอ๊ะเฉลย
ยอมแพ้ซะดีๆ


หัวข้อ: Re: "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: prapasri AH ที่ 07 สิงหาคม 2552, 07:23:39
น้องป๋องคะ

กระทู้ 200 อยู่ตรงไหนคะ

พี่แอ๊ะ หาไม่เจอค่ะ  พี่แอ๊ะ ทำคอมไม่เป็นค่ะ เเค่เข้าเวบซีมะโด่งได้ ก็บุญพาวาสนาส่งแล้ว

น้องป๋อง ช่วยบอกพี่แอ๊ะหน่อยนะคะ




หัวข้อ: Re: "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: prapasri AH ที่ 07 สิงหาคม 2552, 07:33:41
น้องไข่มุก คะ

พี่แอ๊ะเลี้ยงลูกแบบไม่เป็นเลยค่ะ สอนลูกก็ไม่เป็น

ลูกจะสอนพี่แอ๊ะด้วยซ้ำค่ะ

น้องติ๊บจะ เป็นเด็กดี ตั้งแต่เล็ก ปฏิบัติธรรมตั้งแต่ชั้นประถม และมีสมาธิ

จะสอนแม่ 

"แม่ค่อยๆคิด  เเม่ค่อยๆทำ แม่ใจเย็นๆ

แม่อย่าว่า(นินทา)  ใครนะ แม่ จะบาป

แม่อย่าชมลูกตัวเองมาก ติ๊บอายเขา" 555555555555555555

น้องตาต้า อีกคน

พี่แอ๊ะยังไม่ได้นำรูปเขามาลงเลย คนนี้หล่อที่สุดค่ะพี่นภ แต่ตัวเตี้ยไปหน่อย

ตอนเขาเรียนทีสาธิตปทุมวัน พีแอ๊ะจะชมเขากับคนอื่น

"ลูกแอ๊ะดีอย่างโน้นอย่างนี้"

เมื่อกลับมาถึงบ้าน ตาต้า เข้ามาบอกแม่ว่า


 "แม่อย่าชมต้ามากนะ ต้าอายเขา ต้าไม่ได้ดี อย่างที่แม่ชมเลย"

พี่แอ๊ะช๊อคเลยค่ะ5555555555555555555555555555555555

ฉันบ้า ไปแน่ๆเลย ชมแต่ลูกตัวเอง

คนคงหมั้นไส้ แน่ๆ

"ลูกนี้เป็นครูให้เราได้ค่ะ"

ลูกท่านอื่นๆในเวบนี้ก็เก่งและดีมากๆนะคะ

แต่ ท่านทั้งหลายไม่โม้กันค่ะ

อย่างลูกพี่ปรีชา2510 เป็นต้น พี่ปรีชา ถ่อมตัว ไม่ยอมอวดลูกเลย

ลูกน้องแววตา14 น้องอ้อย14 น้องเป้า 14 น้อง อิ๊ด14 และ ลูกของ น้องๆ ท่านอื่นๆ ก็น่ารักหมด

เเต่เขาไม่กล้าอวดลูกแบบ wordwide  เหมือนพี่แอ๊ะ 55555555555555555555555

คงกลัวลูกดุ อิๆๆๆๆๆๆ


หัวข้อ: Re: "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: Kaimook ที่ 07 สิงหาคม 2552, 22:40:35
 ขอบพระคุณพี่แอ๊ะมากๆค่ะที่ช่วยแนะนำข้อกังขาของน้ำอ้อยจริงๆเลยค่ะพี่แอ๊ะ
ลูกเป็นครูของเราได้เหมียนกันค่ะอย่างเช่นการใช้คอมนี่น้ำอ้อยก็ได้ลูกๆช่วยแนะนำให้ค่ะ
รวมทั้งคุณพ่อของลูกด้วยค่ะ(ฮาฮาฮาคิคิคิ)ทำไงได้ล่ะคะก็สมัยหนูไม่ได้เรียนนี่คะจำได้ว่ารุ่น
น้องต่อจากรุ่นน้ำอ้อยเนี่ยคอมพิวเตอร์เบื้องต้นเป็นวิชาบังคับที่ทุกคนต้องเรียนตอนปี1ค่ะ
จริงๆก็ดีเหมือนกันนะคะถ้ารุ่นน้ำอ้อยบังคับเหมือนกันป่านนี้คงเก่งแย้วค่ะ


หัวข้อ: Re: "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: prapasri AH ที่ 08 สิงหาคม 2552, 08:38:39
ส่งรูปคนดีศรีอิสาน อีกสัก2-3รูปนะคะ

งานคนดีศรีอิสาน จัดโดยสมาคมผู้สื่อข่าว ในอิสานค่ะ

ไปสมัตรเอง ให้ได้รางวัลไม่ได้นะคะ เขาจะใช้วิธี สืบเสาะหาข้อมูล หาความดี ของท่านเหล่านั้น

ปี้นี้รางวัลจะขอมาจาก ท่านนายกรัฐมนตรี อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ค่ะ

งานจัดขึ้นที่จ.ยโสธร มีผู้สื่อข่าวและประช่าชนในจังหวัดภาคอิสาน มาเป็นสักขีพยาน และร่วมแสดงความยินดี


(http://img168.imageshack.us/img168/8505/dsc00136b.jpg)


ท่านที่นั่งกับพี่แอ๊ะท่านนี้มาจากขอนแก่น มาร่วมแสดงความยินดีในงานนี้ด้วย

ท่านเป็นภรรยาของ  คุณหมอ จรัล ตฤณวุฒิพงษ์ อดีตปลัดกระทรวงสาธารณสุข

 และอดีตผู้ช่วยรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์


หัวข้อ: Re: "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: prapasri AH ที่ 08 สิงหาคม 2552, 09:03:21
(http://img217.imageshack.us/img217/1412/dsc00160vsu.jpg)

ท่านนี้ เป็นผู้อำนวยการโรงพยาบาลยโสธร รับรางวัลในฐานะองค์กรดีเด่นระดับโลก

คือโรงพยาบาล ประจำจังหวัด ยโสธร ได้รับรางวัล จาก UN ในฐานะหน่วยงาน ที่ให้บริการประชาชนได้ดีเลิศ

มีประเทศต่างๆเข้าร่วม แข่งขันถึง90 กว่าประเทศ ตอนเข้ารับรางวัล จากยูเอ็น ต้องไปรับถึงอเมริกาเลยนะคะ

ถ่าท่านใดอยู่ในกระทรวงสาธารณสุข จะทราบว่าจังหวัดยโสธร จะเป็นที่ ที่ท่านผู้บริหารกระทรวงสาธารณสุข

 ที่ได้ตำแหน่งสูงๆในกระทรวง  ส่วนใหญ่จะผ่านจ.ยโสธรมาก่อนเกือบทั้งนั้น

เหมือนจ.ยโสธรเป็นห้องแลบของนักบริหารกระทรวงสาธารณสุขเลยทีเดียว(พี่แอ๊ะสังเกตเอาเองนะคะ)

เช่น น.พ ปราชญ์ บุญยวงศ์วิโรจน์ ปลัดกระทรวงท่านปัจจุบัน ที่สู้อยู่กับไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์2009 ในขณะนี้

นายแพทย์จรัล ตฤณวุฒิพงษ์ อดีตปลัดกระทรวงสาธารณสุข

นายแพทย์ศุภชัย คุณารัตนพฤกษ์ อดีตอธิบดีในหลายกรมของกระทรวงสาธารณสุข

นายแพทย์อำพล จินดาวัฒนะ เลขาธิการคณะกรรมการสุขภาพแห่งชาติ

นายแพทย์วินัย สวัสดิวร เลขาธิการสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.)

นายแพทย์กวี ไชยศิริ ผู้อำนวยการโรงพยาบาลมหาราชนครราชสีมา

และนายแพทย์ อีกหลายๆ ท่านที่ เป็นนักบริหารกระทรวงสาธารณสุข

ส่วนใหญ่จะผ่านจ.ยโสธรไปก่อน เกือบทั้งนั้นค่ะ


หัวข้อ: Re: "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: prapasri AH ที่ 08 สิงหาคม 2552, 09:11:31
(http://img245.imageshack.us/img245/1739/dsc00165cjf.jpg)

นายแพทย์สุรพร ลอยหา นายแพทย์สาธารณสุข จังหวัดยโสธรก็ได้รับรางวัลเกียรติยศ นี้ด้วยค่ะ


หัวข้อ: Re: "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: prapasri AH ที่ 08 สิงหาคม 2552, 09:18:12
ท่านที่ได้รับรางวัลทั้งหมดมาจากหลายๆจังหวัดในภาคอิสานค่ะ

(http://img87.imageshack.us/img87/5913/dsc00158h.jpg)


หัวข้อ: Re: "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: prapasri AH ที่ 08 สิงหาคม 2552, 09:22:20
(http://img87.imageshack.us/img87/3565/dsc00119wum.jpg)

ลูกกะต้น ลูกกระต๊อบ มาเป็นกองเชียร์ ด้วยค่ะ


หัวข้อ: Re: "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: prapasri AH ที่ 08 สิงหาคม 2552, 09:26:15
ถ่ายรูปกะท่านชวน 2514 ของเราค่ะ

อ๊าววววววววว รูปนี้พี่แอ๊ะหลับซะแล้ววววววววววววววอิๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ

(http://img522.imageshack.us/img522/197/dsc00224jat.jpg)


หัวข้อ: Re: "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: prapasri AH ที่ 08 สิงหาคม 2552, 09:42:49

ท่านนี้ ก็เป็นภรรยาชาวหอจุฬา ได้รับรางวัลนี้ด้วย

ชาวหอชายจุฬา ชื่อ สุรชัย ขันชัยภูมิ รุ่น น้องพี่แอ๊ะ เป็น สิบๆรุ่นมังคะ

.(http://img145.imageshack.us/img145/3513/dsc00163v.jpg)(http://img142.imageshack.us/img142/3838/dsc00216rts.jpg)

มาจาก อำเภอ พังโคน  จ. สกลนคร ค่ะ


หัวข้อ: Re: "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: suriya2513 ที่ 08 สิงหาคม 2552, 10:13:51
(http://img81.imageshack.us/img81/9288/prapasris.jpg)


หัวข้อ: Re: "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: prapasri AH ที่ 08 สิงหาคม 2552, 11:25:51
น้องป๋องเอ๊ย

จุดเล็กๆ เธอยังไปหามาได้ จุดใหญ่ๆเช่นหาภรรยา กลับหาไม่ได้

น่าฉงฉานนนนนนนนนนนนนนนน


หัวข้อ: Re: "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: suriya2513 ที่ 08 สิงหาคม 2552, 15:00:05
"หาไม่ได้" กับ "ไม่ได้หา"
ความหมายไม่เหมือนกันนะครับ คุณนายแอ๊ะ



หัวข้อ: Re: "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: jamsai ที่ 09 สิงหาคม 2552, 14:22:12
บ้านพี่แอ๊ะ ไม่เข้าได้ไง....
เพราะมันคือสัญญลักษณ์ ของความมีน้ำใจ ความสุข แและความมีชีวิตชีวา เริงร่าสดใส
สวัสดีค่ะ่พี่แอ๊ะ....
จะขอแอบมาดูทุกครั้งเท่าที่มีโอกาสเข้าเวป นะคะ..
อาจไม่ได้ส่งเสียงแต่ก็เป็นแฟนคลับพี่แอ๊ะแน่ๆ..
ว่างๆ ขยับเขียนกลอนเหมือนสมัยเวปเก่าบ้างนะคะ ชอบมากค่ะ
คิดถึงค่ะ
น้องป้าแจ่มค่ะ


หัวข้อ: Re: "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: อ้อย17 ที่ 09 สิงหาคม 2552, 16:37:23
อ้างถึง
ข้อความของ jamsai เมื่อ 09 สิงหาคม 2552, 14:22:12
บ้านพี่แอ๊ะ ไม่เข้าได้ไง....
เพราะมันคือสัญญลักษณ์ ของความมีน้ำใจ ความสุข แและความมีชีวิตชีวา เริงร่าสดใส
สวัสดีค่ะ่พี่แอ๊ะ....
จะขอแอบมาดูทุกครั้งเท่าที่มีโอกาสเข้าเวป นะคะ..
อาจไม่ได้ส่งเสียงแต่ก็เป็นแฟนคลับพี่แอ๊ะแน่ๆ..
ว่างๆ ขยับเขียนกลอนเหมือนสมัยเวปเก่าบ้างนะคะ ชอบมากค่ะ
คิดถึงค่ะ
น้องป้าแจ่มค่ะ
  ป้าแจ่มก็อย่าหายไปบ่อยๆนะคะ..น้องๆลูกๆหลานๆคิดฮอดหลายคือกันค่ะ..


หัวข้อ: Re: "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: Soponเท่านั้น ที่ 09 สิงหาคม 2552, 17:13:04
อ้างถึง
ข้อความของ prapasri AH เมื่อ 08 สิงหาคม 2552, 09:03:21
(http://img217.imageshack.us/img217/1412/dsc00160vsu.jpg)

ท่านนี้ เป็นผู้อำนวยการโรงพยาบาลยโสธร รับรางวัลในฐานะองค์กรดีเด่นระดับโลก

คือโรงพยาบาล ประจำจังหวัด ยโสธร ได้รับรางวัล จาก UN ในฐานะหน่วยงาน ที่ให้บริการประชาชนได้ดีเลิศ

มีประเทศต่างๆเข้าร่วม แข่งขันถึง90 กว่าประเทศ ตอนเข้ารับรางวัล จากยูเอ็น ต้องไปรับถึงอเมริกาเลยนะคะ

ถ่าท่านใดอยู่ในกระทรวงสาธารณสุข จะทราบว่าจังหวัดยโสธร จะเป็นที่ ที่ท่านผู้บริหารกระทรวงสาธารณสุข

 ที่ได้ตำแหน่งสูงๆในกระทรวง  ส่วนใหญ่จะผ่านจ.ยโสธรมาก่อนเกือบทั้งนั้น

เหมือนจ.ยโสธรเป็นห้องแลบของนักบริหารกระทรวงสาธารณสุขเลยทีเดียว(พี่แอ๊ะสังเกตเอาเองนะคะ)

เช่น น.พ ปราชญ์ บุญยวงศ์วิโรจน์ ปลัดกระทรวงท่านปัจจุบัน ที่สู้อยู่กับไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์2009 ในขณะนี้

นายแพทย์จรัล ตฤณวุฒิพงษ์ อดีตปลัดกระทรวงสาธารณสุข

นายแพทย์ศุภชัย คุณารัตนพฤกษ์ อดีตอธิบดีในหลายกรมของกระทรวงสาธารณสุข

นายแพทย์อำพล จินดาวัฒนะ เลขาธิการคณะกรรมการสุขภาพแห่งชาติ

นายแพทย์วินัย สวัสดิวร เลขาธิการสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.)

นายแพทย์กวี ไชยศิริ ผู้อำนวยการโรงพยาบาลมหาราชนครราชสีมา

และนายแพทย์ อีกหลายๆ ท่านที่ เป็นนักบริหารกระทรวงสาธารณสุข

ส่วนใหญ่จะผ่านจ.ยโสธรไปก่อน เกือบทั้งนั้นค่ะ
พี่แอ๊ะครับ
ยังงี้เพื่อนผม นพ.มนัส กนกศิลป์ RCU15 ก็มีโอกาสเป็นใหญ่เป็นโตในกระทรวงสาธารณสุขน่ะซิครับ emo28:win:เย้ เย้


หัวข้อ: Re: "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: prapasri AH ที่ 10 สิงหาคม 2552, 09:15:47


ขอบคุณน้องอ้อย17 และอาจารย์แจ่ม ที่เข้ามาเยียมพี่แอ๊ะ

พี่แอ๊ะกลับไปหาเรื่องที่อ.เเจ่มเขียนเรื่องoil pulling ไม่เจอว่าอยู่กระทู้ไหนแล้ว ช่วยบอกด้วยนะคะ


จะไปอ่านอีกรอบให้ได้ความรู้ อีกค่ะ


หัวข้อ: Re: "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: prapasri AH ที่ 10 สิงหาคม 2552, 09:22:06


น้องโสภณ เท่านี้คะ

หมอมนัส กนกศิลป์ จะต้องได้เป็นใหญ่เป็นโต ระดับอธิบดี หรือ ปลัดกระทรวง แน่น่อนค่ะ

ถ้าคุณหมอ ต้องการนะคะ  หมอส่วนใหญ่อาจจะไม่ต้องการเป้นฝ่ายบริหาร ระดับนโยบาย

หมอบางท่านสนใจเฉพาะด้านวิชาการอย่างเดียว ซึ่งในราชการของกระทรวงสาธารณสุข

เขาให้ความก้าวหน้าทางวิชาการ  พอๆกับทางบริหารค่ะ

แต่คุณหมอมนัส โตมา ทั้ง วิชาการ และ ทางบริหาร จึง มีโอกาส โตมากๆ ในกระทรวง ค่ะ

เตรียมแสดง ความยินดีล่วงหน้าได้เลยค่ะ  พี่แอ๊ะก็คอยลุ้นอยู่ตลอด

คุณหมอน่ารักและมีน้ำใจกับพี่แอ๊ะและพี่หาญมากค่ะ


หัวข้อ: Re: "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: ตุ๋ย 22 ที่ 10 สิงหาคม 2552, 14:11:20
ผมอยากได้รางวัลโนเบล  เหอๆๆๆๆๆๆ


หัวข้อ: Re: "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: swsm ที่ 10 สิงหาคม 2552, 21:40:41
สวัสดีพี่แอ๊ะ และสมาชิกชมรมคนรักแอ๊ะทุกท่านค่ะ


emo9:huhu:


หัวข้อ: Re: "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: Soponเท่านั้น ที่ 12 สิงหาคม 2552, 14:04:54
ผมด้วย
แฟนคลับพี่แอ๊ะครับ emo28:win:


หัวข้อ: Re: "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: ตุ๋ย 22 ที่ 13 สิงหาคม 2552, 22:18:12
ผมอีกคนครับ


หัวข้อ: Re: "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: swsm ที่ 14 สิงหาคม 2552, 11:12:37
มี 2 คน ??

อะอะ .. ล้อเล่นคร่าาาาาา
 


emo21:):):


หัวข้อ: Re: "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: ตุ๋ย 22 ที่ 14 สิงหาคม 2552, 19:42:12
สองคนคุยกันไปกันมา  เหอๆๆๆๆๆ


หัวข้อ: Re: "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: prapasri AH ที่ 16 สิงหาคม 2552, 06:18:27


น้องๆคะ

ขอโทษทีเจ้าของบ้านไม่ค่อยอยู่บ้าน

เมื่อวานซืนตอนเช้า พี่แอ๊ะเข้ากรุงเทพ โดยรถยนตร์

ประชุมกรรมการสมาคมโรงพยาบาลเอกชน ตอนบ่าย

แล้ว นอนค้างที่กรุงเทพ 1 คืน

กลับเมื่อวานเช้า เดินทางกลับ ถึงยโสธร สามโมงเย็น รวดเร็วมาก

คราวนี้ลองนั่งรถยนตร์ ดูบ้าง เพราะฝนตกพายุเข้าอิสานเลยกลัวเครื่องบินอ่ะ

แต่นั่งรถ แล้วเหนื่อยค่ะ  มาถึงยโสธร ก็ได้ไปเดินออกกำลังกาย อีก 5 กม.

ขอบคุณแฟนคลับพี่แอ๊ะนะคะ  

สงสัย ต้องบันทึกชื่อไว้ทุกท่าน แล้ว ปลายปี จะจับสลากชิงรางวัล กระเป๋าสวยๆ จี๋จมพู

ดีไหมคะ

 ล่อใจให้คนมาเที่ยวบ้านพี่แอ๊ะเยอะๆ5555555555555


หัวข้อ: Re: "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: suriya2513 ที่ 16 สิงหาคม 2552, 11:21:01
คุณยายหอมจุล น้าสาวผม ขอเปลี่ยนเป็น ร่มกันแดดกันฝน บ้างจะได้ไหมครับ
ส่วนน้ำมนต์ หลานสาวผม ขอเปลี่ยนเป็น backpack



หัวข้อ: Re: "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: swsm ที่ 16 สิงหาคม 2552, 12:41:43
อ้างถึง
ข้อความของ suriya2513 เมื่อ 16 สิงหาคม 2552, 11:21:01
คุณยายหอมจุล น้าสาวผม ขอเปลี่ยนเป็น ร่มกันแดดกันฝน บ้างจะได้ไหมครับ
ส่วนน้ำมนต์ หลานสาวผม ขอเปลี่ยนเป็น backpack


สำหรับหะยี .. อารายก็ได้
เพราะยังไม่เคยมีเลยสักชิ้น .. อิอิอิ


หัวข้อ: Re: "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: Kaimook ที่ 16 สิงหาคม 2552, 18:21:20
สวัสดียามเย็นค่ะพี่แอ๊ะน้ำอ้อยก็มาแอบอ่านประจำค่ะชอบมากค่ะพี่จะมีอะไรดีๆมาบอกเสมอค่ะ
เช่นการแปรงฟันแต่พี่แอ๊ะแปรงบ่อยจริงๆนะคะเห็นคุณหมอบอกแปรงมากๆเกินไปจะทำให้ฟันสึกค่ะ


หัวข้อ: Re: "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: prapasri AH ที่ 16 สิงหาคม 2552, 21:15:04
น้องไข่มุกคะ พี่แอ๊ะลืมบอกไปว่าเวลาแปรงฟัน ต้องแปรงลิ้นด้วยนะคะ จะสบายใจว่าสะอาดเเท้แน่นอน

น้องหะยี น้องไข่มุก หรือน้องที่ เข้ามาบ้านพี่แอ๊ะบางท่าน ยังไม่ได้ กระเป๋าจี๋จมพู ใช่ไหมคะ

พี่แอ๊ะจะส่ง ไปรษณีย์ มาให้ค่ะ  พี่แอ๊ะจะไปดูที่อยู่น้อง ในประวัติสมาชิกเวบ นะคะ

พี่แอ๊ะบ้ายอ ใครยอ พี่แอ๊ะ พี่แอ๊ะให้หมกเยยยยยยยยยยยยยยย

กระเป๋าพี่แอ๊ะมักจะออกแบบ เป็นจี๋จม พู  เสมอๆ

บางคนที่ไม่ใช่ชาวจุฬาเขาบอกว่าสีชมพูเป็นของอาหม่วย เชยๆๆ

แต่ชาวจุฬาจะรู้สึกว่า สีชมพูสวยที่สุดเลยนะคะ

"สีชมพูอยู่ที่ไหนไม่จางสี  "ค่ะ

พรุ่งนี้ถ้ามีเวลาจะถ่ายรูปกระเป๋า collection ใหม่มาให้เลือกนะคะ


ดร. น้องกระป๋อง เอ๊ยยย.....ร่ม จี๋จมพู  ฉันก็เคยทำเป็นของขวัญให้ชาวหอนะ

เธอลอง ถ่ายรูปเธอ กางร่มจี๋มจมพู อ้อนแอ้น หน่อยดิ

น้องๆคงอยากเห็นท่า ทาง เธอตอนอ้อนแอ้นนะ    หุหุๆๆๆๆๆ


หัวข้อ: Re: "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: พธู ๒๕๒๔ ที่ 17 สิงหาคม 2552, 20:07:45
มีพระอยู่ 1 รูป เดินผ่านเข้าไปในเขตที่กำลังเกิดสงครามอยู่

จึงถูกทหารนายหนึ่งจับเป็น เชลย

แต่ว่าระหว่างทางที่ทหารจะพาพระกลับไปในเมือง

ก็ได้เดินผ่านร้านเหล้า จึงเกิดอยากเหล้าขึ้นมา

จึงได้แวะดื่มก่อน ทหารก็ได้คิดอย่างรอบคอบ

ก่อนที่จะเมาหลับไปจึงนำกุญแจมือล็อกพระติดกับตนเองไว้

หลังจากนั้นก็ได้เมาหลับไป.....

พระจึงแอบหยิบกุญแจมาไขแล้ว

จัดการสลับเสื้อผ้าของทหารกับพระ

จากนั้น...พระก็จัดการโกนผม ให้ทหารคนนั้น

เวลาผ่านไป จนกระทั่ง ทหารเริ่ม สร่าง (รึป่าวหว่า)

จึงตื่นขึ้นมาแล้วหันมองทางซ้ายทีทางขวาที

ก็ไม่เจอพระ จึง ส่องกระจก และมองชุดที่สวมใส่

จึงอุทานขึ้นว่า "พระยังอยู่ แล้วกูไปไหนว่ะ!!!"


หัวข้อ: Re: "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: Kaimook ที่ 17 สิงหาคม 2552, 20:34:47
อ้างถึง
ข้อความของ prapasri AH เมื่อ 16 สิงหาคม 2552, 21:15:04
น้องไข่มุกคะ พี่แอ๊ะลืมบอกไปว่าเวลาแปรงฟัน ต้องแปรงลิ้นด้วยนะคะ จะสบายใจว่าสะอาดเเท้แน่นอน

น้องหะยี น้องไข่มุก หรือน้องที่ เข้ามาบ้านพี่แอ๊ะบางท่าน ยังไม่ได้ กระเป๋าจี๋จมพู ใช่ไหมคะ

พี่แอ๊ะจะส่ง ไปรษณีย์ มาให้ค่ะ  พี่แอ๊ะจะไปดูที่อยู่น้อง ในประวัติสมาชิกเวบ นะคะ

พี่แอ๊ะบ้ายอ ใครยอ พี่แอ๊ะ พี่แอ๊ะให้หมกเยยยยยยยยยยยยยยย

กระเป๋าพี่แอ๊ะมักจะออกแบบ เป็นจี๋จม พู  เสมอๆ

บางคนที่ไม่ใช่ชาวจุฬาเขาบอกว่าสีชมพูเป็นของอาหม่วย เชยๆๆ

แต่ชาวจุฬาจะรู้สึกว่า สีชมพูสวยที่สุดเลยนะคะ

"สีชมพูอยู่ที่ไหนไม่จางสี  "ค่ะ

พรุ่งนี้ถ้ามีเวลาจะถ่ายรูปกระเป๋า collection ใหม่มาให้เลือกนะคะ


ดร. น้องกระป๋อง เอ๊ยยย.....ร่ม จี๋จมพู  ฉันก็เคยทำเป็นของขวัญให้ชาวหอนะ

เธอลอง ถ่ายรูปเธอ กางร่มจี๋มจมพู อ้อนแอ้น หน่อยดิ

น้องๆคงอยากเห็นท่า ทาง เธอตอนอ้อนแอ้นนะ    หุหุๆๆๆๆๆ
ขอบคุณพี่แอ๊ะมากๆค่ะสำหรับคำแนะนำแปรงลิ้นด้วยเนี่ยค่ะจริงๆค่ะรู้สึกสะอาด
จริงๆนะคะและขอบพระคุณล่วงหน้าสำหรับกระเป๋าจี๋จมพูค่ะน้องจะตั้งตาคอยค่ะ


หัวข้อ: Re: "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: ตุ๋ย 22 ที่ 17 สิงหาคม 2552, 21:51:18
ไม่มีฟันให้แปรงแปรงแต่ฟันปลอม พลิกด้านโน้นด้านนี้สบาย


หัวข้อ: Re: "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: swsm ที่ 18 สิงหาคม 2552, 07:50:18
อ้างถึง
ข้อความของ prapasri AH เมื่อ 16 สิงหาคม 2552, 21:15:04
น้องไข่มุกคะ พี่แอ๊ะลืมบอกไปว่าเวลาแปรงฟัน ต้องแปรงลิ้นด้วยนะคะ จะสบายใจว่าสะอาดเเท้แน่นอน

น้องหะยี น้องไข่มุก หรือน้องที่ เข้ามาบ้านพี่แอ๊ะบางท่าน ยังไม่ได้ กระเป๋าจี๋จมพู ใช่ไหมคะ

พี่แอ๊ะจะส่ง ไปรษณีย์ มาให้ค่ะ  พี่แอ๊ะจะไปดูที่อยู่น้อง ในประวัติสมาชิกเวบ นะคะ

พี่แอ๊ะบ้ายอ ใครยอ พี่แอ๊ะ พี่แอ๊ะให้หมกเยยยยยยยยยยยยยยย

กระเป๋าพี่แอ๊ะมักจะออกแบบ เป็นจี๋จม พู  เสมอๆ

บางคนที่ไม่ใช่ชาวจุฬาเขาบอกว่าสีชมพูเป็นของอาหม่วย เชยๆๆ

แต่ชาวจุฬาจะรู้สึกว่า สีชมพูสวยที่สุดเลยนะคะ

"สีชมพูอยู่ที่ไหนไม่จางสี  "ค่ะ

พรุ่งนี้ถ้ามีเวลาจะถ่ายรูปกระเป๋า collection ใหม่มาให้เลือกนะคะ


ดร. น้องกระป๋อง เอ๊ยยย.....ร่ม จี๋จมพู  ฉันก็เคยทำเป็นของขวัญให้ชาวหอนะ

เธอลอง ถ่ายรูปเธอ กางร่มจี๋มจมพู อ้อนแอ้น หน่อยดิ

น้องๆคงอยากเห็นท่า ทาง เธอตอนอ้อนแอ้นนะ    หุหุๆๆๆๆๆ

กราบขอบคุณล่วงหน้าค่ะ  พี่แอ๊ะ
ไม่แน่ใจว่าที่อยู่ของหะยีจะมีในทำเนียบหรือไม่ ??
แต่หากพี่ไม่ขัดข้อง  น้องจะส่งที่อยู่ไปให้ทาง PM ณ บัดเดี๋ยวนี้คร่ะ

เกรงจายยย !?!
   


emo21:):):


หัวข้อ: Re: "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: prapasri AH ที่ 18 สิงหาคม 2552, 08:20:51
น้องไข่มุก  น้องหะยี และน้องตุ๋ย22

กรุณาส่งที่อยู่มาให้ แอ๊ะ  ในส่งmessage หลัง ไมค์ ในเวบนี้นะคะ พี่แอ๊ะจะได้เจ้าหน้าที่จัดส่งไปให้

หรือส่งมาที่     prapasrisu@hotmail.com นะคะ

แต่อาจจะได้รับกระเป๋าช้าหน่อยนะคะ

เพราะวันนี้พี่แอ๊ะต้องรีบ ขึ้นเครื่อง เดินทาง ไปกรุงเทพ และต่อไป สุราษฏร์ ค่ะ

ว่าจะไปหลายวัน ไปนอนหนุนตักแม่ ในวันแม่เดือนแม่ค่ะ

คิดถึงคุณแม่(คุณยาย)เต็มทีแล้วค่ะ

กว่าจะกลับน่าจะเป็นปลายเดือนค่ะ จะไปนอนเล่นให้สบายใจ ทั้งวันทั้งคืนเลยค่ะ



ช่วยเฝ้าบ้านให้พี่แอ๊ะกันก่อนนะคะ


หัวข้อ: Re: "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: Kaimook ที่ 18 สิงหาคม 2552, 08:56:36
พี่แอ๊ะขราาาาาน้ำอ้อยส่งที่อยู่ให้พี่แล้วนะคะน้องจะตั้งตาคอยค่ะ(ทั้งกระเป๋าสีจุมพูและการกลับจากสุราษฎร์ค่ะ)
ขอให้พี่เดินทางปลอดภัยนะคะคิดถึ๊งคิดถึงพี่แอ๊ะค่ะ
 emo4:)) emo4:)) emo4:))


หัวข้อ: Re: "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: เหยง 16 ที่ 19 สิงหาคม 2552, 12:08:53
อ้างถึง
ข้อความของ prapasri AH เมื่อ 16 สิงหาคม 2552, 06:18:27
สงสัย ต้องบันทึกชื่อไว้ทุกท่าน แล้ว ปลายปี จะจับสลากชิงรางวัล กระเป๋าสวยๆ จี๋จมพู

ดีไหมคะ

 ล่อใจให้คนมาเที่ยวบ้านพี่แอ๊ะเยอะๆ5555555555555

พี่แอ๊ะครับ

ไปจับฉลากแจกในงานหอ วันที่ 21 พฤศจิกายน หรือประกาศรายชื่อก่อนแล้วไปแจกในงานหอก็ได้ครับ

อย่างไรก็ตาม ในฐานะหนึ่งในคณะซีมะโด่งทัวร์ ต้องขอขอบพระคุณพี่แอ๊ะ-พี่หมอหาญ และบุคลากร
ทั้งที่ได้มอบของชำร่วยและให้สถานที่ใช้อาบน้ำเปลี่ยนชุด พร้อมอาหารว่าง ในช่วงการเดินทางไป-กลับ
ลาว/เวียตนาม ครั้งที่ผ่านมาด้วยครับ


หัวข้อ: Re: "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: wannee ที่ 21 สิงหาคม 2552, 11:37:26

สวัสดีค่ะพี่แอ๊ะ     ขอเป็นแฟนคลับคนหนึ่งของพี่แอ๊ะค่ะ    emo4:)) emo6::)) emo9:huhu:


หัวข้อ: Re: "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: Kaimook ที่ 21 สิงหาคม 2552, 23:16:28
สวัสดีค่ะพี่แอ๊ะ น้ำอ้อยได้รับกระเป๋าจี๋จุมพูแล้วค่ะปรากฎว่าน้องอ๋อ(ลูกสาวค่ะ)เห็นกล่องพัสดุ
คุณเธอตื่นเต้นดีใจเกินหน้าเกินตาน้ำอ้อยเลยค่ะเพราะนานทีปีหนน้ำอ้อยจะมีพัสดุมาสักทีค่ะ(ชังน่าอายจัง)
ขอขอบพระคุณพี่แอ๊ะมากๆค่ะกระเป๋าสีสวยน่ารักสดใดดีค่ะสงสัยจะเสร็จน้องอ๋อแล้วค่ะ


หัวข้อ: Re: "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: wannee ที่ 22 สิงหาคม 2552, 21:28:17

3 -4 วันเอง  น้องอ้อยได้รับของแล้ว   เนี่ยขนาดพี่แอ๊ะบอกว่าอาจได้รับช้าจั๊กหน่อย  emo9:huhu:


หัวข้อ: Re: "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: suriya2513 ที่ 23 สิงหาคม 2552, 01:21:03
คุณน้องน้ำอ้อยจะถือไปไหน ต้องคิดให้รอบคอบซะก่อนนะครับ
เดี๋ยวผู้คนเขาจะหาว่าเป็นพวกคนชนบท
(จะใช้คำว่า "บ้านนอก" ก็กลัวคุณนายแอ๊ะเธอกริ้ว)


หัวข้อ: Re: "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: พธู ๒๕๒๔ ที่ 23 สิงหาคม 2552, 19:45:39
เพื่อนๆเตือนฉันเสมอ
ว่าอย่ารักเธอมากกว่านี้
เขาว่าเธอไม่ใช่คนดี
ทำเเต่สิ่งที่เกินอภัย
ฉันรู้ว่าเธอถูกใส่ความ
พวกเขาห้ามฉันได้ไฉน
เพราะทุกอย่างที่เธอทำไป
ล้วนเเต่ได้รับคำสั่งจากฉันเอง

เอากลอนขำ ๆ มาแลกกระเป๋าบ้าง


หัวข้อ: Re: "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: wannee ที่ 23 สิงหาคม 2552, 20:08:12
อ้างถึง
ข้อความของ patooman24 เมื่อ 23 สิงหาคม 2552, 19:45:39


เอากลอนขำ ๆ มาแลกกระเป๋าบ้าง

พี่ช่วยทำให้มันชัดขึ้น  emo20:)):)


หัวข้อ: Re: "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: Kaimook ที่ 23 สิงหาคม 2552, 21:37:51
อ้างถึง
ข้อความของ wannee เมื่อ 22 สิงหาคม 2552, 21:28:17

3 -4 วันเอง  น้องอ้อยได้รับของแล้ว   เนี่ยขนาดพี่แอ๊ะบอกว่าอาจได้รับช้าจั๊กหน่อย  emo9:huhu:
55555555สวัสดีค่ะพี่Wanneeได้รับแล้วจริงๆค่ะ


หัวข้อ: Re: "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: Kaimook ที่ 23 สิงหาคม 2552, 21:39:14
อ้างถึง
ข้อความของ suriya2513 เมื่อ 23 สิงหาคม 2552, 01:21:03
คุณน้องน้ำอ้อยจะถือไปไหน ต้องคิดให้รอบคอบซะก่อนนะครับ
เดี๋ยวผู้คนเขาจะหาว่าเป็นพวกคนชนบท
(จะใช้คำว่า "บ้านนอก" ก็กลัวคุณนายแอ๊ะเธอกริ้ว)

5555555ปกติหนุก็บ้านนอกอยู่แล้นนนนนนนนนค่ะพี่ป๋องขราาาาาาาาา


หัวข้อ: Re: "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: Kaimook ที่ 23 สิงหาคม 2552, 21:40:54
อ้างถึง
ข้อความของ patooman24 เมื่อ 23 สิงหาคม 2552, 19:45:39
เพื่อนๆเตือนฉันเสมอ
ว่าอย่ารักเธอมากกว่านี้
เขาว่าเธอไม่ใช่คนดี
ทำเเต่สิ่งที่เกินอภัย
ฉันรู้ว่าเธอถูกใส่ความ
พวกเขาห้ามฉันได้ไฉน
เพราะทุกอย่างที่เธอทำไป
ล้วนเเต่ได้รับคำสั่งจากฉันเอง

เอากลอนขำ ๆ มาแลกกระเป๋าบ้าง
เย้ยยยยยยยยต้องส่งมาบ่อยนะคะป๋าทู


หัวข้อ: Re: "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: suriya2513 ที่ 23 สิงหาคม 2552, 23:39:58
อ้างถึง
ข้อความของ Kaimook เมื่อ 23 สิงหาคม 2552, 21:39:14
อ้างถึง
ข้อความของ suriya2513 เมื่อ 23 สิงหาคม 2552, 01:21:03
คุณน้องน้ำอ้อยจะถือไปไหน ต้องคิดให้รอบคอบซะก่อนนะครับ
เดี๋ยวผู้คนเขาจะหาว่าเป็นพวกคนชนบท
(จะใช้คำว่า "บ้านนอก" ก็กลัวคุณนายแอ๊ะเธอกริ้ว)

5555555ปกติหนุก็บ้านนอกอยู่แล้นนนนนนนนนค่ะพี่ป๋องขราาาาาาาาา

ไม่ได้หมายถึงน้อง แต่หมายถึงกระเป๋าของพี่แอ๊ะ (ที่ว่าบ้านนอกน่ะ)


หัวข้อ: Re: "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: swsm ที่ 24 สิงหาคม 2552, 00:34:13
โอย .. อยากเป็นคนบ้านนอก ใช้สินค้าบ้านนอกบ้างจังคร่ะ


หัวข้อ: Re: "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: Kaimook ที่ 24 สิงหาคม 2552, 15:06:52
สวัสดียามบ่ายๆค่ะพี่แอ๊ะ emo4:)) emo4:)) emo4:))


หัวข้อ: Re: "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: ตุ๋ย 22 ที่ 24 สิงหาคม 2552, 21:30:47
ผมไม่ใช่คนบ้านนอกนะผมอยู่อำเภอเมือง


หัวข้อ: Re: "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: suriya2513 ที่ 25 สิงหาคม 2552, 01:14:46
ถ้าตรงที่ครูตุ๋ยอยู่ไม่ใช่บ้านนอกละก้อ
ชาวกรุงกันทั้งประเทศเลย


หัวข้อ: Re: "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: พธู ๒๕๒๔ ที่ 25 สิงหาคม 2552, 14:47:28
ผมสงสัยจัง ทำไมมีแต่แอดมิน ทั้งแดงและน้ำเงิน


หัวข้อ: Re: "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: เหยง 16 ที่ 25 สิงหาคม 2552, 14:59:34
อ้างถึง
ข้อความของ patooman24 เมื่อ 25 สิงหาคม 2552, 14:47:28
ผมสงสัยจัง ทำไมมีแต่แอดมิน ทั้งแดงและน้ำเงิน

ป๋าทู
อย่าไปสงสัยเขาเลย เป็นได้แค่สีแดงกับสีน้ำเงินเท่านั้น สีชมพูเป็นไม่ได้หรอก


หัวข้อ: Re: "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: พธู ๒๕๒๔ ที่ 25 สิงหาคม 2552, 17:22:44
สวัสดีครับพี่ เหยง


หัวข้อ: Re: "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: swsm ที่ 25 สิงหาคม 2552, 17:34:56
สวัสดีค่ะพี่แอ๊ะ พี่เหยง พี่ป๋อง และแฟนคลับพี่แอ๊ะทุกท่าน


หัวข้อ: Re: "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: พธู ๒๕๒๔ ที่ 25 สิงหาคม 2552, 17:39:09
ตัวสีน้ำเงินมาอีกแระ


หัวข้อ: Re: "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: swsm ที่ 25 สิงหาคม 2552, 17:42:17
ดีที่เป็นตัวสีน้ำเงิน
หากเป็นตัวเงิน ตัวทอง .. คงเครียด !!



emo20:)):)


หัวข้อ: Re: "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: ตุ๋ย 22 ที่ 25 สิงหาคม 2552, 20:48:30
อ้างถึง
ข้อความของ suriya2513 เมื่อ 25 สิงหาคม 2552, 01:14:46
ถ้าตรงที่ครูตุ๋ยอยู่ไม่ใช่บ้านนอกละก้อ
ชาวกรุงกันทั้งประเทศเลย

เหอๆๆๆ  มุกนี้ผมยอมรับ นับถือ  ผมไปไม่เป็นเลย  เหอๆๆๆๆๆๆ


หัวข้อ: Re: "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: Soponเท่านั้น ที่ 25 สิงหาคม 2552, 22:17:32
อ้างถึง
ข้อความของ ตุ๋ย 22 เมื่อ 25 สิงหาคม 2552, 20:48:30
อ้างถึง
ข้อความของ suriya2513 เมื่อ 25 สิงหาคม 2552, 01:14:46
ถ้าตรงที่ครูตุ๋ยอยู่ไม่ใช่บ้านนอกละก้อ
ชาวกรุงกันทั้งประเทศเลย

เหอๆๆๆ  มุกนี้ผมยอมรับ นับถือ  ผมไปไม่เป็นเลย  เหอๆๆๆๆๆๆ
ไปไม่เป็นก็อยู่นิ่งๆก็ได้ จะได้รอดตัว


หัวข้อ: Re: "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: เหยง 16 ที่ 25 สิงหาคม 2552, 22:24:26
วันที่ 25 สิงหาคม พ.ศ. 2552 ปีที่ 32 ฉบับที่ 11490 มติชนรายวัน หน้า 10 

ดร.กฤษณา ไกรสินธุ์ ปลุกจิต"หมอไทยอย่ายึดวัตถุนิยม"

                                                (http://img139.imageshack.us/img139/6022/krisana1.jpg)
 
สมาคมนักศึกษาเก่ามหาวิทยาลัยเชียงใหม่ (กรุงเทพฯ) และสมาคมคุ้มครองผู้บริโภคไทย จัดงานยกย่องและ
เชิดชูเกียรติและการเสวนาเกียรติยศ "ดร.กฤษณา ไกรสินธุ์ หมอยาไร้พรมแดน" ในโอกาสได้รับรางวัลรามอน
แม็กไซไซ ปี 2552 เมื่อค่ำวันที่ 24 สิงหาคม ที่สโมสรทหารบก จากผลงานที่ให้ความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรม
ในการก่อสร้างโรงงานผลิตยาต้านโรคเอดส์และยารักษาโรคมาลาเรีย ซึ่งเป็นโรคที่คร่าชีวิตผู้คนมากที่สุดใน
ทวีปแอฟริกา พร้อมถ่ายทอดความรู้และฝึกสอนบุคลากรของโรงงานผลิตยา โรงพยาบาล และสถาบันวิจัยและ
ควบคุมคุณภาพยาแห่งชาติในประเทศแอฟริกาอีก 15 ประเทศให้สามารถผลิตยาต้านเอดส์และยารักษาโรคมา
ลาเรีย ซึ่งสามารถช่วยชีวิตผู้ป่วยแอฟริกาได้หลายล้านคน โดยภายในงานยังมอบโล่เชิดชูเกียรติให้แก่
ดร.กฤษณา ด้วย

"รู้สึกภูมิใจกับรางวัลรามอนแม็กไซไซซึ่งจะรับรางวัลในวันที่ 31 สิงหาคมนี้ ที่กรุงมะนิลา ประเทศฟิลิปปินส์
โดยรางวัลดังกล่าวเป็นรางวัลที่ 8 ในรอบปี แต่แม้จะภูมิใจอย่างไรก็ไม่ได้ทำให้ชีวิตเปลี่ยนไป เพราะยังคงมี
ความสุขกับการทำงานเพื่อผู้ป่วย โดยเฉพาะผู้ป่วยในกลุ่มประเทศด้อยพัฒนา ซึ่งประเทศที่พัฒนาหรือกำลัง
พัฒนาคงไม่ต้องการความช่วยเหลือจากตน อย่างไรก็ตาม อยากฝากถึงแพทย์ เภสัชกรทุกคนให้ทำงานโดย
ยึดผู้ป่วยเป็นสำคัญ โดยต้องให้ผู้ป่วยเข้าถึงยาได้ทุกคน เพราะไม่ว่าจะจนหรือรวย พวกเขามีสิทธิที่จะมีชีวิต
เป็นสิทธิมนุษยชนขั้นพื้นฐานที่ต้องได้รับ อยากให้นึกว่าผู้ป่วยเปรียบเสมือนญาติพี่น้อง อย่ามัวคิดแต่การค้า
อย่าเห็นวัตถุมากกว่าชีวิตของคน แพทย์เป็นผู้กำหนดนโยบายด้านสาธารณสุข โดยเฉพาะการกำหนดนโยบาย
เข้าถึงยาของคนไทยก็ต้องรู้เท่าทันพวกบริษัทยา" ดร.กฤษณากล่าว และว่า

"เราชื่นชมคนมีเงิน มีตำแหน่งมาโดยตลอด คิดแต่วัตถุนิยม ขอให้ลดกิเลสลงบ้างจะได้มีความสุขเพิ่ม จากที่ทำ
งานในประเทศยากจนทำให้รู้ว่าคนไทยมีดัชนีความสุขน้อยมาก เมื่อเทียบกับประเทศกลุ่มแอฟริกา โดยเฉพาะ
ประเทศบุรุนดี ถือเป็นประเทศเล็กๆ ในแถบแอฟริกาที่มีดัชนีความสุขมากที่สุด ทั้งๆ ที่ยากจนที่สุด เพราะพวกเขา
รู้จักใช้ชีวิตอย่างเรียบง่าย"

http://www.matichon.co.th/matichon/view_news.php?newsid=01lif07250852&sectionid=0132&day=2009-08-25


หัวข้อ: Re: "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: พธู ๒๕๒๔ ที่ 26 สิงหาคม 2552, 00:23:28
พ่อ ถามจริงๆ พ่อผ่านผู้หญิงมากี่คนละ..ก่อนจะมามีแม่เนี่ย?
สมมุติเป็นครอบครัวผม...

ถามตอนไหนครับ...

ถ้าถาม "ก่อนแต่ง"... แล้วพ่อผมพูดความจริง....

ผม "ไม่ได้เกิด" หรอกครับ...

รู้นิสัย "แม่" ดี...

คิกคิก...


หัวข้อ: Re: "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: swsm ที่ 26 สิงหาคม 2552, 08:28:41
อ้างถึง
ข้อความของ patooman24 เมื่อ 26 สิงหาคม 2552, 00:23:28
พ่อ ถามจริงๆ พ่อผ่านผู้หญิงมากี่คนละ..ก่อนจะมามีแม่เนี่ย?
สมมุติเป็นครอบครัวผม...

ถามตอนไหนครับ...

ถ้าถาม "ก่อนแต่ง"... แล้วพ่อผมพูดความจริง....

ผม "ไม่ได้เกิด" หรอกครับ...

รู้นิสัย "แม่" ดี...

คิกคิก...


โอว.. อันนี้แรง


หัวข้อ: Re: "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: swsm ที่ 26 สิงหาคม 2552, 08:30:28
อ้างถึง
ข้อความของ Soponเท่านั้น เมื่อ 25 สิงหาคม 2552, 22:17:32
อ้างถึง
ข้อความของ ตุ๋ย 22 เมื่อ 25 สิงหาคม 2552, 20:48:30
อ้างถึง
ข้อความของ suriya2513 เมื่อ 25 สิงหาคม 2552, 01:14:46
ถ้าตรงที่ครูตุ๋ยอยู่ไม่ใช่บ้านนอกละก้อ
ชาวกรุงกันทั้งประเทศเลย

เหอๆๆๆ  มุกนี้ผมยอมรับ นับถือ  ผมไปไม่เป็นเลย  เหอๆๆๆๆๆๆ
ไปไม่เป็นก็อยู่นิ่งๆก็ได้ จะได้รอดตัว

ถ้านิ่ง ก็ไม่ใช่พี่ตุ๋ยอีกนั่นแหละค่ะ
ตัวจริง เสียงจริง ต้องมีเปิดช่องให้ตบ หยอด หรือต่อมุกกันไปได้อีกหลาย ๆ กระทู้

อยู่ในกลุ่มชอบทำคะแนนอ่ะค่ะ



emo29:P:


หัวข้อ: Re: "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: prapasri AH ที่ 26 สิงหาคม 2552, 09:05:25
ดีใจจัง ที น้องกระป๋อง และน้องๆ มาเที่ยวบ้านพี่แอ๊ะกันเยอะเลย

น้องป๋าทู ( ปลาทูแมน555555)

 หมอเสียด  หมอเหยง และน้องๆท่านอื่นที่เป็นขาประจำ

น้องไข่มุก ได้รับกระเป๋าเร็ว

เพราะพี่แอ๊ะเป็นนักจัดการ ชอบใช้คนอื่นให้ทำงานแทน อิๆๆ ไม่เหมือนน้องกระป๋องที่ชอบทำเองหมดทุกอย่าง อิๆๆๆๆๆๆๆ

สำหรับน้องหะยี อาจจะได้รับวันสองสามวันนี้ แต่ยังเป็นคอลเลคชั่น เก่า นะคะ

อีก เดือนหน้า จะมีคอลเลกชั่นใหม่อีก  หมอเสียดต้องสะสมไว้เยอะ นะคะ

พี่แอ๊ะเป้นโรคบ้ากระเป๋า

ของเรามันเป็นคนบ้านนอก ไม่ใช่    หลุยส์วิตติงต๊อง เหมือน น้องกระป๋อง55555555555555555555555555





(http://img526.imageshack.us/img526/9266/62457852.png)


หัวข้อ: Re: "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: prapasri AH ที่ 26 สิงหาคม 2552, 09:13:35
เปลียนเรื่องนะคะ แต่กระเป๋ายังส่งมาให้ดูเหมียนนนนนนนนนนนนเดิม

หมอเหยงคะ  ดร.กฤษณา เดินทาง ไปฟิลิบปินส์เมื่อวาน ไปเตรียมตัวรับรางวัลค่ะ

ผู้ขอรางวัลให้ ไม่ใช่เมืองไทยนะคะ คนไทยไม่ค่อยรู้จักดร.กฤษณาค่ะ

แต่ มูลนิธิร๊อกกี้เฟลเลอร์ เป็นผู้เสนอชื่อไปค่ะ

เชื่อไหมขณะที่ มีการเลี้ยงแสดงความยินดีกันมากมาย

 ดร.ยังแวบ มาดูห้องเเลบผลิตยา ที่ ม.อุบลราชธานี

มาเช้าเย็นกลับเลยค่ะ ขยั๊น ขยัน ต่างกับพี่แอ๊ะอย่างสิ้นเชิง

เกิดมาเป็นคุณนาย ให้น้อง ดร.ป๋องอิจฉา หุๆๆๆๆ


(http://img141.imageshack.us/img141/3739/51610364.png)


หัวข้อ: Re: "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: prapasri AH ที่ 26 สิงหาคม 2552, 09:17:59


อีกรูปนะคะ เป็นสีฟ้า

แต่ตัวหนังสือเป็นสีนำเงินค่ะ น้องหะยี และป๋าทู คะ

ตอนนี้ บ้านอยู่ใกล้ คุณเนวิน

ยโส...... และบุรีรัมย์ 5555555555555555555555555

(http://img156.imageshack.us/img156/4010/85906534.png)


หัวข้อ: Re: "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: พธู ๒๕๒๔ ที่ 26 สิงหาคม 2552, 15:16:55
สวัสดีครับ...
สวัสดีค่ะ...
นี่คือคำทักทายของพนักงานที่ยืนอยู่เคาเตอร์แคชเชียร์
"150 บาท ค่ะ"
"นี่ตังทอนค่ะ 50 บาท"
"ขอบใจจ่ะ" ลูกค้าตอบ...พร้อมกับลูกค้าคนต่อไปเดินเข้ามายิ้มแย้มแจ่มใส
"หนู ยายอยากดูคลิป หนูมีคลิปให้ยายดูไหม" คุณยายถาม
พนักงานมองหน้ากันแล้วหันมายิ้มให้คุณยาย
"สักครู่นะครับ" แล้วพนักงานก็หันไปปรึกษากัน
"นี่ คุณยายเขารู้ได้ไงว่าเรามีคลิปอยู่ในมือถือ"
"นั่นสิ แต่จะเอาให้ดูเลยไหม"
"จะบ้าหรอเผื่อคุณยายเป็นสายของตำรวจจะว่าไง"
"นั่นสิ"
คุณยายรอนานชักจะทนไม่ไหว
"ว่าไงตกลงมีหรอไม่มี" พนักงานเริ่มหวั่นพร้อมกับหันมายิ้ม
"จะดีหรอครับคุณยาย" คุณยายมีน้ำโห
"เอะ..มันจะไม่ดีได้ไงก็ฉันเป็นลูกค้ามาซื้อคลิปหนีบกระดาษ หรือว่าร้านเธอไม่มีก็บอกมาสิ นี่มันเสียเวลาฉัน"
"คลิปหนีบกระดาษ" พนักงานพูดประสานเสียง
"ใช่คลิปหนีบกระดาษ...หรือว่าเธอนึกว่าอะไร"
"หนูก็นึกว่าคลิปหนีปกระดาษนั่นล่ะค่ะ"


หัวข้อ: Re: "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: prapasri AH ที่ 26 สิงหาคม 2552, 15:25:54
น้องป(ล)ทูแมนคะ

"สวัสดีครับ...
สวัสดีค่ะ...
นี่คือคำทักทายของพนักงานที่ยืนอยู่เคาเตอร์แคชเชียร์
"150 บาท ค่ะ"
"นี่ตังทอนค่ะ 50 บาท"
"ขอบใจจ่ะ" ลูกค้าตอบ...พร้อมกับลูกค้าคนต่อไปเดินเข้ามายิ้มแย้มแจ่มใส
"หนู ยายอยากดูคลิป หนูมีคลิปให้ยายดูไหม" คุณยายถาม
พนักงานมองหน้ากันแล้วหันมายิ้มให้คุณยาย
"สักครู่นะครับ" แล้วพนักงานก็หันไปปรึกษากัน
"นี่ คุณยายเขารู้ได้ไงว่าเรามีคลิปอยู่ในมือถือ"
"นั่นสิ แต่จะเอาให้ดูเลยไหม"
"จะบ้าหรอเผื่อคุณยายเป็นสายของตำรวจจะว่าไง"
"นั่นสิ"
คุณยายรอนานชักจะทนไม่ไหว
"ว่าไงตกลงมีหรอไม่มี" พนักงานเริ่มหวั่นพร้อมกับหันมายิ้ม
"จะดีหรอครับคุณยาย" คุณยายมีน้ำโห
"เอะ..มันจะไม่ดีได้ไงก็ฉันเป็นลูกค้ามาซื้อคลิปหนีบกระดาษ หรือว่าร้านเธอไม่มีก็บอกมาสิ นี่มันเสียเวลาฉัน"
"คลิปหนีบกระดาษ" พนักงานพูดประสานเสียง
"ใช่คลิปหนีบกระดาษ...หรือว่าเธอนึกว่าอะไร"
"หนูก็นึกว่าคลิปหนีปกระดาษนั่นล่ะค่ะ"

เรื่องนี้ขำดี แต่บางเรื่องของน้องเป็นปรัชญา พี่แอ๊ะอ่านแล้ว ตีความไม่ค่อยเป็นค่ะ

"อ้างถึง" พี่แอ๊ะ ก็ทำไม่เป็น เลย copy แล้วมา paste อย่างนี้ค่ะ


หัวข้อ: Re: "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: prapasri AH ที่ 26 สิงหาคม 2552, 15:34:44
วันนี้พี่แอ๊ะ อาบน้ำ แล้วก็คิดได้ขณะอยู่ในห้องน้ำ

ว่าจะเล่าเรื่อง ขำขัน ให้น้องๆ ฟัง จั๊กกะหน่อยยยยยยยยยย

คืนนี้จะมาเล่าให้ฟังค่ะ ขอไปอ่านหนังสือพิมพ์ก่อนนะคะ

แต๋น เเต้นนนนนนนนนนนนนนน

ตะแล๊น ตะแล๊น ตะแล๊นนนนนนนนนนนนนนนนน


หัวข้อ: Re: "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: suriya2513 ที่ 26 สิงหาคม 2552, 15:49:18
สงสัยน้องหะยี คงกำลังจะอยากจัด meeting "ขนกระเป๋าเก่า เราไม่ใช้ ไปให้น้อง"
อย่างที่เคยจัด ตอนที่สะสมกระเป๋าที่ได้จากงานเซมีน่า (สัมมนา) สารพัดงานที่ผ่านมา
พอที่บ้านหาที่เก็บไม่ได้ ก็ชวนเพื่อนจัดงานร่วมบริจาคกระเป๋า ไปมอบเด็กๆตามชนบทซะทีนึง


หัวข้อ: Re: "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: หนุน'21 ที่ 26 สิงหาคม 2552, 16:25:04
emo28:win:

สวัสดีครับพี่แอ๊ะ ยโสธร
ผม หนุน เข้าหอปี 2521 ครับ
เข้ามาสวัสดีพี่ช้าไปอย่างมาก แต่ก็เข้ามาแล้วครับ
ตามอ่านตั้งแต่หน้าแรก ใช้เวลานานพอสมควร
ได้ความรู้หลายๆเรื่อง ได้เห็นพี่ๆ น้องๆที่แสดงความชื่นชมพี่แอ๊ะแล้ว
ภูมิใจแทนพี่หมอหาญ และลูกๆของพี่จังเลยครับ ที่มีแม่บ้านและคุณแม่ที่เพรียบพร้อมเช่นนี้
ผมเคยได้รับน้ำใจและการต้อนรับจากพี่และครอบครัวเมื่อหลาย 10 ปีก่อน
เมื่อครั้งที่ ชาวซีมะโด่ง สมัยพี่เปรมประจักษ์ เป็นประธานชมรม และผมเป็นเลขาฯ
ไปตระเวนเยี่ยมชาวหอทางภาคอิสาน (โอ้...นานมากเกินไปรึปล่าวครับเนี่ย...)

มาถึงวันนี้พี่แอ๊ะก็ไม่เปลี่ยนแปลง ยังสนุกสนานเฮฮา กับน้องๆชาวซีมะโด่งเหมือนเดิม
วันไหนที่ผมไปบ้าน อ.พินิจ อาจารย์กับพี่ติ๋วก็ยังคุยถึง พี่แอ๊ะกับพี่หมอหาญ อยู่บ่อยๆ

วันนี้ถือโอกาสเข้ามาสวัสดี
และฝากตัวเป็นสมาชิกบ้านพี่แอ๊ะด้วยคนนะครับ
อิ อิ แล้วจะปูเสื่อรอฟังเรื่องเล่าจากพี่คืนนี้ด้วยนะครับ
กราบ



(http://img98.imageshack.us/img98/6403/25444889.jpg)


 emo4:))


หัวข้อ: Re: "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: prapasri AH ที่ 26 สิงหาคม 2552, 21:44:34
ว่าจะไปนอนแล้ว เห็นน้องหนุน 21 เข้ามา บ้านพี่แอ๊ะ  ก็ต้องต้อนรับตามธรรมเนียม

ทานข้าว ทานน้ำตาม อัธยาศัยนะคะ

พี่แอ๊ะจะขอเล่าเรื่องขำขัน คืนนี้เลย

แต่พี่แอ๊ะพิมพ์ได้ช้า สงสัยพี่หาญต้องรอนานแน่ๆ อาจจะได้เล่าพรุ่งนี้นะคะ

ถ้าพี่แอ๊ะ ไม่ไปนอน พี่แกก็ไม่นอนเช่นกันค่ะ

พี่แอ๊ะส่งรูปพี่แอ๊ะมาให้ดูก่อนนะคะ อิๆๆๆๆๆ ถ่ายกะ คุณหมอกระติ๊บ ลูกสาว คนเดียวค่ะ

ตอนนี้รับราชการ อยู่ร.พ สรรพสิทธิประสงค์จ. อุบลราชธานี


(http://img175.imageshack.us/img175/9125/22006601.jpg)

น้องหนุนจะได้เห็นว่าเวลา ผ่านไปเร็วจริงๆๆๆ ตอนน้องหนุนมายโสธร น้องกระติ๊บยังเด็กๆ อยู่เลยค่ะ


พีแอ๊ะขอไปนอนก่อนะ ยุงกัด ด้วย ค่ะพี่หาญขี้เหนียว รีบปิดเเอร์ แกล้งพี่แอ๊ะค่ะ55555555555555555555555555555555






หัวข้อ: Re: "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: เหยง 16 ที่ 26 สิงหาคม 2552, 22:09:03
อ้างถึง
ข้อความของ prapasri AH เมื่อ 26 สิงหาคม 2552, 15:25:54
น้องป(ล)ทูแมนคะ

"สวัสดีครับ...
สวัสดีค่ะ...
นี่คือคำทักทายของพนักงานที่ยืนอยู่เคาเตอร์แคชเชียร์
"150 บาท ค่ะ"
"นี่ตังทอนค่ะ 50 บาท"
"ขอบใจจ่ะ" ลูกค้าตอบ...พร้อมกับลูกค้าคนต่อไปเดินเข้ามายิ้มแย้มแจ่มใส
"หนู ยายอยากดูคลิป หนูมีคลิปให้ยายดูไหม" คุณยายถาม
พนักงานมองหน้ากันแล้วหันมายิ้มให้คุณยาย
"สักครู่นะครับ" แล้วพนักงานก็หันไปปรึกษากัน
"นี่ คุณยายเขารู้ได้ไงว่าเรามีคลิปอยู่ในมือถือ"
"นั่นสิ แต่จะเอาให้ดูเลยไหม"
"จะบ้าหรอเผื่อคุณยายเป็นสายของตำรวจจะว่าไง"
"นั่นสิ"
คุณยายรอนานชักจะทนไม่ไหว
"ว่าไงตกลงมีหรอไม่มี" พนักงานเริ่มหวั่นพร้อมกับหันมายิ้ม
"จะดีหรอครับคุณยาย" คุณยายมีน้ำโห
"เอะ..มันจะไม่ดีได้ไงก็ฉันเป็นลูกค้ามาซื้อคลิปหนีบกระดาษ หรือว่าร้านเธอไม่มีก็บอกมาสิ นี่มันเสียเวลาฉัน"
"คลิปหนีบกระดาษ" พนักงานพูดประสานเสียง
"ใช่คลิปหนีบกระดาษ...หรือว่าเธอนึกว่าอะไร"
"หนูก็นึกว่าคลิปหนีปกระดาษนั่นล่ะค่ะ"

เรื่องนี้ขำดี แต่บางเรื่องของน้องเป็นปรัชญา พี่แอ๊ะอ่านแล้ว ตีความไม่ค่อยเป็นค่ะ

"อ้างถึง" พี่แอ๊ะ ก็ทำไม่เป็น เลย copy แล้วมา paste อย่างนี้ค่ะ

สวัสดีครับพี่แอ๊ะ

ถ้าพี่เข้าเว็ปแล้ว ด้านขวามือ มีคำว่า "อ้างถึง" พี่กดตัวนั้นแหละครับ ข้อความนั้นจะมาปรากฏที่ตรงให้ตั้งกระทูครับ
แต่พี่ต้องเลื่อน Cursor ลงมาจนถึงคำว่า (/quote) แล้วกด Enter ให้ตัว Cursor อยู่ใต้คำว่า (/quote) จากนั้นก็พิมพ์
ข้อความตามปกติครับ แล้วกด "แสดงตัวอย่าง" ดูก่อนก็ได้ หากพอใจก็กดปุ่ม "ตั้งกระทู้" เป็นเสร็จทุกขั้นตอนครับ





หัวข้อ: Re: "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: หนุน'21 ที่ 26 สิงหาคม 2552, 23:13:25
อ้างถึง
ข้อความของ prapasri AH เมื่อ 26 สิงหาคม 2552, 21:44:34
ว่าจะไปนอนแล้ว เห็นน้องหนุน 21 เข้ามา บ้านพี่แอ๊ะ  ก็ต้องต้อนรับตามธรรมเนียม

ทานข้าว ทานน้ำตาม อัธยาศัยนะคะ

พี่แอ๊ะจะขอเล่าเรื่องขำขัน คืนนี้เลย

แต่พี่แอ๊ะพิมพ์ได้ช้า สงสัยพี่หาญต้องรอนานแน่ๆ อาจจะได้เล่าพรุ่งนี้นะคะ

ถ้าพี่แอ๊ะ ไม่ไปนอน พี่แกก็ไม่นอนเช่นกันค่ะ

พี่แอ๊ะส่งรูปพี่แอ๊ะมาให้ดูก่อนนะคะ อิๆๆๆๆๆ ถ่ายกะ คุณหมอกระติ๊บ ลูกสาว คนเดียวค่ะ

ตอนนี้รับราชการ อยู่ร.พ สรรพสิทธิประสงค์จ. อุบลราชธานี



(http://img175.imageshack.us/img175/9125/22006601.jpg)


น้องหนุนจะได้เห็นว่าเวลา ผ่านไปเร็วจริงๆๆๆ ตอนน้องหนุนมายโสธร น้องกระติ๊บยังเด็กๆ อยู่เลยค่ะ

พีแอ๊ะขอไปนอนก่อนะ ยุงกัด ด้วย ค่ะพี่หาญขี้เหนียว รีบปิดเเอร์

แกล้งพี่แอ๊ะค่ะ55555555555555555555555555555555




 emo4:))

ขอบคุณครับพี่แอ๊ะที่ออกมาต้อนรับอย่างอบอุ่น
นึกว่าจะได้ฟังเรื่องเล่าหนุก หนุก
ต้องรอพรุ่งนี้ใช่มั๊ยครับ

อิ อิ แต่โชคดีกว่าได้ดูรูปพี่แอ๊ะ กับ น้องหมอกระติ๊บก่อนใคร
นึกว่าพี่สาวถ่ายกระน้องสาว อะไรจะใสปิ๊งทั้งคู่ขนาดนั้นครับพี่
มีใครเคยบอกพี่แอ๊ะป่าวครับว่าเหมือนนางเอกหนังไทยคนหนึ่งอ่ะ
พี่จำนางเอกที่ชื่อทัศวรรณ เสนีย์วงศ์ฯ ได้มั๊ยครับ
ผมว่าพี่หมอหาญ สมควรเป็นกรรมการประกวดนางงามได้เลยนะเนี่ย

(http://img263.imageshack.us/img263/2559/jpgjpg3.jpg)(http://img98.imageshack.us/img98/3729/97136424.jpg)
พี่แอ๊ะว่าดูดีเหมือนกันมั๊ยครับ
แต่ว่าภาพคุณผู้หญิงนักบริหารของพี่ชัดเจนมาก
พี่หมอหาญไปเป็นกรรมการประกวดนางงามด่วน
ตาถึงขนาดนี้
เอิ๊ก  เอิ๊ก


 emo6::)) emo6::))



หัวข้อ: Re: "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: prapasri AH ที่ 27 สิงหาคม 2552, 07:06:48
เหยง

พี่แอ๊ะจะทำเป็นหรือ คนแก่ๆ จิ้ม เนต ได้ ก็บุญมหาศาล เเย้ววววววววววววววววววววววว
น้องหนุน พี่แอ๊ะเหมือนทัศวรรณ เลย หรือ  งั่นก็ไม่ค่อยสวย เท่าไร 5555555555555555

 เรื่องขำขันคงต้องผลัดไปอีกแล้วเพราะ ต้องจิ้ม....เนตนานมาก

ปล. เรียกคีย์บอร์ด ยังต้องนึกตั้งนาน เลยถามแม่บ้านว่า แผ่นที่พี่พิมพ์อยู่เขาเรียกอะไรนะ

แม่บ้านบอกหนูไม่ทราบเหมือนกัน

พอดี หมอต้นกับน้องกระต๊อบ และพี่หาญไปออกกำลังกายเลยไม่ทราบจะถามใครค่ะ

ว่าจะโทรไปถามน้องกระป๋อง ก็กลัวเธอยังไม่ตื่น อิๆๆๆๆๆๆๆๆ

วันนี้พี่แอ๊ะมีงานมากค่ะ ต้องไปเป็นประธานเปิดงาน ของร.ร กีฬา ของจังหวัดนี้ค่ะ

เวลาออกงานพี่แอ๊ะ วางมาดนะ อิๆๆๆ ทะลึ่งแบบนี้กับชาวหอจุฬา เท่านั้นค่ะเพราะทะลึ่งจนเคยชิน

และวันนี้ต้องไปตรวจงานร.พ ด้วย เพราะช่วงนี้ พี่แอ๊ะมีโปรแกรมคัดกรองโรค นิ่ว

เชื่อ ไหม 50 เปอร์เซ้นต์ ของคนอิสาน เป็นนิ่ว กัน หมดเลยค่ะ





หัวข้อ: Re: "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: suriya2513 ที่ 27 สิงหาคม 2552, 12:59:23
ทำถูกต้องแล้วครับคุณนายแอ๊ะ ยังไม่สองโมงเช้า (8.00) ใครโทร.ไปถือว่าแกล้งกันอย่างจงใจ


หัวข้อ: Re: "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: prapasri AH ที่ 27 สิงหาคม 2552, 20:54:55
น้องหนุน 21 คะ

พี่หาญบอกว่าตอนน้องหนุนกับคณะมายโสธร

ลูกหมอกระติ๊บ ยังไม่คลอดเลย น้องติ๊บเกิด ปี 2527 ค่ะ

ไม่น่าเชื่อก็ต้องเชื่อ

เราแก่เร็วกันจริงๆ

ยกเว้น ด.ช กระป๋องงงงงงงงงง ยังเป็นเด็กชายอยู่เลย555555555555555555555555


หัวข้อ: Re: "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: prapasri AH ที่ 27 สิงหาคม 2552, 21:27:53


เล่าเรื่องขำขันนะคะ

เรื่อง   "ผมบอกตรงๆกางเกงผมขาด" 


สมัยเมื่อปี2517 พี่แอ๊ะออกจากหอจุฬา และ คุณเเม่ พี่แอ๊ะ ซื้อบ้านที่หมู่บ้านเสรีให้พี่แอ๊ะอยู่

(ปัจจุบัน ถนนพระรามเก้าตัดผ่าน กลายเป็นในเมืองไปแล้วค่ะ)

และพี่แอ๊ะต้องดูแลน้องๆ ตั้ง5คน

และญาติพี่น้องที่มาเรียนหนังสือที่กรุงเทพอีกหลายคน

พี่แอ๊ะเป็นพี่ใหญ่ ของบ้านค่ะ  

มีอยู่วันหนึ่งพี่แอ๊ะปรึกษา กับพรเทพ น้องชายซึ่งเป็นชาวซีมะโด่ง16 ค่ะ

ว่าเราซื้อ จักรเย็บผ้า กันดีกว่า จะได้ ปะชุน และเย็บผ้ากันได้

(คิดยังไงไทราบค่ะ แทนที่จะคิดซื้อของอย่างอื่น ทำไมไปซื้อจักรเย็บผ้า คิดกันได้ยัง ตอนนี้ยังงงๆเลยค่ะ)

ก็เลย สั่งซื้อจักรเย็บผ้า มาหนึ่งคัน

เป็นจักรซิงเกอร์ (ทันสมัยด้วยแน่ะ)

ทีนี้เขาก็ให้ พนักงานของเขา มาสาธิต วิธีใช้ จักร

เราตั้งใจ ดูงาน เอ๊ย คอยดูให้เขาเเนะนำ วิธีใช้จักรให้

พอเราเริ่มห้อมล้อมเขา เพื่อดูการสาธิต

ปรากฎว่าเขา  หน้าซีดลง  ซีดลงๆๆๆๆ และ นั่งแบบไ ม่เป็นสุข

และหันไปหันมา ไม่ค่อยเต็มใจแนะนำวิธีใช้ให้เราเลยค่ะ

พวกเราก็เริ่ม รำคาญเขา และพูดเป็นภาษาปักษ์ใต้ คิดว่า เขาคงฟังไม่รู้เรื่อง

บ่นเขา บ่นบริษัทเขา บ่นๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ

ทำไมส่งคนนี้มาก็ไม่รู้ ไม่เห็นจะบริการดีๆเลย

นั่งตัวเเข็ง ทื่อเลย  

ไม่เต็มใจบริการด้วยไอ้บ้านี้

(คำว่าไอ้บ้านี้คิดในใจนะคะ แต่เขาอาจจะได้ยิน 55555555555555))

ปรากฎว่า เขาคงฟังภาษาใต้ ที่เรา นินทา ได้บ้าง

เขาก็ค่อยๆ เงยหน้า ที่ซีดๆๆ  อย่างอายๆ แล้วพูด ขึ้นว่า

" ผมบอกตรงๆ กางเกงผมขาด"


ตะเเล๊น ตะเเล๊น ตะเเล๊น  ตะเล๊นนน  แต๊นเเต่น เเต่นเเต๊นนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนน

(คือกางเกงเขาขาด เเล้วเขาก็อาย ไม่กล้าขยับตัว ทำอะไรน่ะค่ะ

น้องๆ ขำไหมคะ  ถ้าไม่ขำก็ขออำไพ นะคะ 5555555 หุๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ อิๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ)


หัวข้อ: Re: "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: prapasri AH ที่ 27 สิงหาคม 2552, 21:38:31

น้องหนุนและเเฟนคลับพี่แอ๊ะ คะ

ได้เล่าเรื่องขำๆแล้วนะคะ

พี่แอ๊ะต้องไปธุระ อีกหลายวัน จะกลับมาวันที่ 3 กันยายนค่ะ

ช่วยมาหัวเราะกันในบ้านพี่แอ๊ะ นะคะ

เขาบอกว่าหัวเราะหนึ่งครั้ง อายุยืนไป 1 ปี 5555555555555555555

คุยดังๆ ในบ้านพี่แอ๊ะได้ไม่ต้องเกรงใจเจ้าของบ้านนะคะ


หัวข้อ: Re: "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: swsm ที่ 27 สิงหาคม 2552, 21:45:33
เรียนพี่แอ๊ะ
หะยีได้รับกระเป๋า "จี๋จมปู" แล้วคร่ะ  น่ารักและถูกใจสุด ๆ ๆ
พรุ่งนี้จะไปพัทยา .. จะสะพายไปเดินเล่นชายหาดให้ฝรั่งน้ำลายไหลเล่น

กราบขอบคุณค่ะ   
 


emo9:huhu:


หัวข้อ: Re: "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: หนุน'21 ที่ 27 สิงหาคม 2552, 22:09:45
อ้างถึง
ข้อความของ prapasri AH เมื่อ 27 สิงหาคม 2552, 20:54:55
น้องหนุน 21 คะ

พี่หาญบอกว่าตอนน้องหนุนกับคณะมายโสธร

ลูกหมอกระติ๊บ ยังไม่คลอดเลย น้องติ๊บเกิด ปี 2527 ค่ะ

ไม่น่าเชื่อก็ต้องเชื่อ

เราแก่เร็วกันจริงๆ

ยกเว้น ด.ช กระป๋องงงงงงงงงง ยังเป็นเด็กชายอยู่เลย555555555555555555555555


สวัสดีครับพี่แอ๊ะ
ตอนนี้ผมยังคิดว่าผมออกจากหอมาไม่นานเท่าไรเอง
แต่ก็ 27 ปีเข้าไปแล้วอ่ะครับ ผมจบปี 2525 ครับ
ผมว่าผมกับพี่เปรมและคณะ น่าจะไปยโส หลังปี 2530นะครับ
ตอนจบใหม่ๆ ผมเป็นเลขาพี่ทองอู่  จักรสิงห์ 1 สมัย 2 ปี
เป็นเลขาพี่สมบุญ ศีลสร ประธานคนต่อมาอีก 2 ปี
หลังจากนั้นพี่เปรม มารับช่วงต่อ ไม่รู้อิท่าไหน
อยู่ยาวซะ 3 สมัย 6 ปี ... นานเกินเกือบจะเป็นพ่อลูกกันแล้วอ่ะครับ
ไล่ตามปีน่าจะเป็นสมัยที่ 2 ที่เริ่มเดินสายไปเยี่ยมเยียนพี่น้อง "ซีมะโด่ง" ตามภาคต่างๆครับ

แต่ยังจำน้ำใจของครอบครัว "สุฉันทบุตร" มาถึงทุกวันนี้ครับ


 emo6::))


หัวข้อ: Re: "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: หนุน'21 ที่ 27 สิงหาคม 2552, 22:25:10
อ้างถึง
ข้อความของ prapasri AH เมื่อ 27 สิงหาคม 2552, 21:38:31

น้องหนุนและเเฟนคลับพี่แอ๊ะ คะ

ได้เล่าเรื่องขำๆแล้วนะคะ

พี่แอ๊ะต้องไปธุระ อีกหลายวัน จะกลับมาวันที่ 3 กันยายนค่ะ

ช่วยมาหัวเราะกันในบ้านพี่แอ๊ะ นะคะ

เขาบอกว่าหัวเราะหนึ่งครั้ง อายุยืนไป 1 ปี 5555555555555555555

คุยดังๆ ในบ้านพี่แอ๊ะได้ไม่ต้องเกรงใจเจ้าของบ้านนะคะ


ผมอ่านแล้วครับ
อ่านตอนท้ายๆตรงนี้อ่ะครับพี่แอ๊ะ


 
อ้างถึง   
ตะเเล๊น ตะเเล๊น ตะเเล๊น  ตะเล๊นนน  แต๊นเเต่น เเต่นเเต๊นนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนน

(คือกางเกงเขาขาด เเล้วเขาก็อาย ไม่กล้าขยับตัว ทำอะไรน่ะค่ะ)

น้องๆ ขำไหมคะ  ถ้าไม่ขำก็ขออำไพ นะคะ 5555555 หุๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ อิๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ

อ่าน วนตั้งหลายครั้งจะให้ขำอ่ะครับ
แต่ก็ไม่ขำ...เลยนึกถึงเหตุการณ์จริงๆที่เกิดขึ้น
แล้วข้อความที่ผมยก ที่พี่เล่ามานี่แหละครับ
เท่านั้นแหละ นั่ง กั่ก กั่ก กั่ก คนเดียว
ลูกชายผมถามว่าพ่อเป็นไรอ่ะ
เลยบอกเขาว่า
พ่อขำ ทีพยายามจะขำมันไม่ขำ
แต่พอนึกว่าทำไมมันไม่ขำ กลับขำ
พี่ งงป่าวครับ
สรุป ผมได้หัวเราะแล้วครับ
กร๊ากกก  กร๊ากกก


 emo20:)):) emo20:)):)
 emo43


หัวข้อ: Re: "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: Soponเท่านั้น ที่ 29 สิงหาคม 2552, 15:10:49
อ้างถึง
ข้อความของ swsm เมื่อ 27 สิงหาคม 2552, 21:45:33
เรียนพี่แอ๊ะ
หะยีได้รับกระเป๋า "จี๋จมปู" แล้วคร่ะ  น่ารักและถูกใจสุด ๆ ๆ
พรุ่งนี้จะไปพัทยา .. จะสะพายไปเดินเล่นชายหาดให้ฝรั่งน้ำลายไหลเล่น

กราบขอบคุณค่ะ   
 


emo9:huhu:
น้ำลายไหลอะไรมิทราบ emo47 ขยายความด้วยนะน้อง
อาไร้ ความรู้สึกจะไวปานนั้น แค่เห็นกระเป๋าสีชมพูเนี่ยนะ emo20:)):)


หัวข้อ: Re: "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: Kaimook ที่ 29 สิงหาคม 2552, 23:35:40
สวัสดีค่ะพี่แอ๊ะกลับมาไม่นานก็ไปอีกแล้วดีจังเลยค่ะน้ำอ้อยอ่านเรื่องขำของพี่แล้วสนุกจังเลยค่ะ
ขอให้พี่แอ๊ะเดินทางปลอดภัยนะคะ
 emo40:: emo40:: emo40::


หัวข้อ: Re: "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: swsm ที่ 30 สิงหาคม 2552, 08:56:08
อ้างถึง
ข้อความของ Soponเท่านั้น เมื่อ 29 สิงหาคม 2552, 15:10:49
อ้างถึง
ข้อความของ swsm เมื่อ 27 สิงหาคม 2552, 21:45:33
เรียนพี่แอ๊ะ
หะยีได้รับกระเป๋า "จี๋จมปู" แล้วคร่ะ  น่ารักและถูกใจสุด ๆ ๆ
พรุ่งนี้จะไปพัทยา .. จะสะพายไปเดินเล่นชายหาดให้ฝรั่งน้ำลายไหลเล่น

กราบขอบคุณค่ะ   
 


emo9:huhu:
น้ำลายไหลอะไรมิทราบ emo47 ขยายความด้วยนะน้อง
อาไร้ ความรู้สึกจะไวปานนั้น แค่เห็นกระเป๋าสีชมพูเนี่ยนะ emo20:)):)



หะยีคิดเอาเองว่า .. เมื่อฝรั่งเห็นภาพหะยีสะพายกระเป๋าสีชมพูเดินเล่น ณ ชายหาด 
เขาคงจะมีอาการน้ำลายไหล

อันเนื่องมาจาก ..
อันเนื่องมาจาก ..
อันเนื่องมาจาก .. ในมือหะยีมักจะมีไก่ย่าง ข้าวเหนียว อยู่ในมือเสมอ ..  


หัวข้อ: Re: "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: Soponเท่านั้น ที่ 30 สิงหาคม 2552, 09:03:36
เอาตัวรอดจนได้
เก่งจริงๆหะยี emo9:huhu: emo9:huhu:


หัวข้อ: Re: "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: เหยง 16 ที่ 30 สิงหาคม 2552, 09:15:29
สวัสดีคุณโสภณ

ปลายปี พี่แอ๊ะ มีจัดรายการแจก เผื่อคุณจะเป็นหนึ่งในผู้โชคดี


หัวข้อ: Re: "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: Soponเท่านั้น ที่ 30 สิงหาคม 2552, 09:21:33
อ้างถึง
ข้อความของ เหยง 16 เมื่อ 30 สิงหาคม 2552, 09:15:29
สวัสดีคุณโสภณ

ปลายปี พี่แอ๊ะ มีจัดรายการแจก เผื่อคุณจะเป็นหนึ่งในผู้โชคดี

น้องที่น่ารักอย่างผม ไม่ต้องรอโชคดีหรอก emo43
พี่แอ๊ะครับ emo30:sorry: อย่าลืมน้องโสภณเท่านั้นนะครับ


หัวข้อ: Re: "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: เหยง 16 ที่ 30 สิงหาคม 2552, 09:33:46
อ้างถึง
ข้อความของ Soponเท่านั้น เมื่อ 30 สิงหาคม 2552, 09:21:33
อ้างถึง
ข้อความของ เหยง 16 เมื่อ 30 สิงหาคม 2552, 09:15:29
สวัสดีคุณโสภณ

ปลายปี พี่แอ๊ะ มีจัดรายการแจก เผื่อคุณจะเป็นหนึ่งในผู้โชคดี

น้องที่น่ารักอย่างผม ไม่ต้องรอโชคดีหรอก emo43
พี่แอ๊ะครับ emo30:sorry: อย่าลืมน้องโสภณเท่านั้นนะครับ


พี่แอ๊ะครับ

ต้องไม่ลืม น้องโสภณและน้องนก ด้วยครับ


หัวข้อ: Re: "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: หนุน'21 ที่ 30 สิงหาคม 2552, 20:11:04
 emo4:))

สวัสดีครับ
พี่เหยง พี่เปี๊ยก น้องหะยี น้องอ้อย
เข้ามานั่งรอคุยกับพี่แอ๊ะกัน
พี่แอ๊ะยังไม่กลับมา
เราก็คุยกันเอง
เอิ๊ก  เอิ๊ก


 emo20:)):)


หัวข้อ: Re: "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: swsm ที่ 30 สิงหาคม 2552, 21:02:33
จะคุยอะไรดีล่ะคะ พี่หนุน ??
 


หัวข้อ: Re: "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: เหยง 16 ที่ 30 สิงหาคม 2552, 21:03:40
สวัสดีครับ น้องหนุน

ก็คงเป็นไปตามข้อเสนอนั้นแหละครับ แขกคุยกันไปก่อน รอเจ้าบ้านออกมารับแขก


หัวข้อ: Re: "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: Kaimook ที่ 30 สิงหาคม 2552, 21:46:07
สวัสดีค่ะพี่แอ๊ะ พี่แหยง พี่หนุน แม่ยอดยาหยี มานั่งคอยพี่แอ๊ะแล้ว
แต่พี่แอีะก้ยังไม่มาค่ะคิดถึงจริงๆค่ะอยากอ่านเรื่องดีๆค่ะ emo4:)) emo4:)) emo4:))


หัวข้อ: Re: "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: ตุ๋ย 22 ที่ 31 สิงหาคม 2552, 14:20:30
สวัสดีทุกๆ คนเลยครับผม


หัวข้อ: Re: "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: Kaimook ที่ 01 กันยายน 2552, 22:38:47
สวัสดีค่ะพี่แอ๊ะและสมาชิกทุกๆท่านค่ะ emo4:)) emo4:)) emo4:))


หัวข้อ: Re: "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: หนุน'21 ที่ 02 กันยายน 2552, 07:55:06
อ้างถึง
ข้อความของ swsm เมื่อ 30 สิงหาคม 2552, 21:02:33
จะคุยอะไรดีล่ะคะ พี่หนุน ??
 


ยังไม่รู้จะคุยอะไรดีเลยครับ น้องหะยี
ไว้รอพี่แอ๊ะ มาเปิดประเด็นดีมั๊ยครับ

สวัสดีพี่เหยง พี่เปี๊ยก น้องอ้อย น้องตุ๋ยด้วยเน้อ

 emo6::))


หัวข้อ: Re: "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: Kaimook ที่ 02 กันยายน 2552, 08:37:49
สวัสดีค่ะพี่แอ๊ะอ พี่หนุนและทุกๆท่านค่ะ
 emo4:))


หัวข้อ: Re: "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: พธู ๒๕๒๔ ที่ 02 กันยายน 2552, 18:19:36
มาตรวัดความรักไม่ได้วัดกันตรงที่...
ใครรักก่อน หรือ รักทีหลัง"
คนที่รักมานาน . . . อาจไม่ได้รักมากกว่า
และ . . . คนที่รักทีหลัง . . . อาจไม่ได้รักน้อยกว่า
เพราะความรักไม่ได้ขึ้นอยู่กับระยะเวลาเพียงอย่างเดียว
คนที่มาก่อน" รั ก ก่ อ น "

วันคืนที่ผ่านมามากมายอาจไม่มีค่าไม่มีความหมายเลย
ถ้าหากเพียงแค่ต้องรักไปวัน ๆ . . .
หรือรักไปเหมือนกับทุก ๆ วันที่เคยรัก
รักอย่างเป็นหน้าที่ . . . หรือรักเพราะเคยรัก . . .
ในขณะเดียวกัน . . .
กับวันคืนเพียงไม่กี่วันของคนที่มาทีหลัง . . .
ก็อาจมีค่ามากเหลือเกิน

ความรัก จึงไม่ได้สำคัญที่ว่ารักกันมานานแล้ว
หากแต่ความรักสำคัญตรงที่ เราใช้ทุกวันให้มีค่า
ให้เต็มไปด้วยความหมายแห่งรัก

รักแล้ว . . . ทำสิ่งดีๆ ให้กันด้วยความเต็มใจ และกระตือรือร้น
นั่นแหละจึงจะเรียกว่าความสำคัญของ “ รั ก ”

ใครรักมาก หรือ รักน้อยจึงไม่ได้วัดกันที่ระยะเวลา
และไม่อาจเชื่อมั่นในคนที่มาก่อน . . .
หรือ ไม่อาจดูถูกคนที่มาทีหลังว่าเขาไม่มีความสำคัญ
ความจริงแล้วคนที่มาที่หลังอาจสำคัญมากกว่าคนมาก่อนก็ได้
คุณว่าจริงมั๊ย . . .?


หัวข้อ: Re: "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: wannee ที่ 02 กันยายน 2552, 18:30:29

เข้ามาบ้านพี่แอ๊ะเท่าที่เวลาอำนวย อย่างน้อยก็ได้คุย กันคนละที กับพี่แอ๊ะก็ยังดี  emo48:) ก็พี่แอ๊ะเป็นที่รักของน้องๆนิ  emo9:huhu: emo9:huhu:


หัวข้อ: Re: "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: Soponเท่านั้น ที่ 03 กันยายน 2552, 20:53:59
อ้างถึง
ข้อความของ patooman24 เมื่อ 02 กันยายน 2552, 18:19:36
มาตรวัดความรักไม่ได้วัดกันตรงที่...
ใครรักก่อน หรือ รักทีหลัง"
คนที่รักมานาน . . . อาจไม่ได้รักมากกว่า
และ . . . คนที่รักทีหลัง . . . อาจไม่ได้รักน้อยกว่า
เพราะความรักไม่ได้ขึ้นอยู่กับระยะเวลาเพียงอย่างเดียว
คนที่มาก่อน" รั ก ก่ อ น "

วันคืนที่ผ่านมามากมายอาจไม่มีค่าไม่มีความหมายเลย
ถ้าหากเพียงแค่ต้องรักไปวัน ๆ . . .
หรือรักไปเหมือนกับทุก ๆ วันที่เคยรัก
รักอย่างเป็นหน้าที่ . . . หรือรักเพราะเคยรัก . . .
ในขณะเดียวกัน . . .
กับวันคืนเพียงไม่กี่วันของคนที่มาทีหลัง . . .
ก็อาจมีค่ามากเหลือเกิน

ความรัก จึงไม่ได้สำคัญที่ว่ารักกันมานานแล้ว
หากแต่ความรักสำคัญตรงที่ เราใช้ทุกวันให้มีค่า
ให้เต็มไปด้วยความหมายแห่งรัก

รักแล้ว . . . ทำสิ่งดีๆ ให้กันด้วยความเต็มใจ และกระตือรือร้น
นั่นแหละจึงจะเรียกว่าความสำคัญของ “ รั ก ”

ใครรักมาก หรือ รักน้อยจึงไม่ได้วัดกันที่ระยะเวลา
และไม่อาจเชื่อมั่นในคนที่มาก่อน . . .
หรือ ไม่อาจดูถูกคนที่มาทีหลังว่าเขาไม่มีความสำคัญ
ความจริงแล้วคนที่มาที่หลังอาจสำคัญมากกว่าคนมาก่อนก็ได้
คุณว่าจริงมั๊ย . . .?
น้องป๋าทูไปชอบใครที่เค้ามีแฟนอยู่ก่อนแล้วรึปล่าว
 emo9:huhu:


หัวข้อ: Re: "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: swsm ที่ 04 กันยายน 2552, 17:42:41
มาแนะนำวิธีการใส่บาตรที่ถูกต้องคร่ะ ..

โอว มายก็อด ..หะยีพูดเรื่องการใส่บาตร
ไม่ไปดู ไม่ได้แล้ว



emo20:)):)

http://www.cmadong.com/board/index.php/topic,3053.msg252941.html#msg252941


หัวข้อ: Re: "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: ตุ๋ย 22 ที่ 04 กันยายน 2552, 20:47:28
ยังไม่เคยใส่บาตรนานและ


หัวข้อ: Re: "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: prapasri AH ที่ 04 กันยายน 2552, 20:59:10
น้องๆขา

พี่แอ๊ะมาแล้วค่ะ  ไปที่ไหนมาพี่แอ๊ะ  "ไม่บอก หลอก ให้งง" ค่ะ  สำนวนลูกชายตอนเล็กๆ ค่ะ

น้องๆทาย มานะ น้องท่านใดทายถูกพี่แอ๊ะจะให้รางวัล

เป็นกระเป๋า collection ใหม่

ไม่ต้องเกรงใจพี่แอ๊ะเรื่องกระเป๋านะคะ เพราะสั่งทำแต่ครั้งเป็น1,000 ใบค่ะ

เสียแต่ว่า น้องกระป๋อง ว่า กระเป๋า เราเชย บ้านนอก เท่านั้นแหละ หุๆๆๆๆๆ

พรุ่งนี้พี่แอ๊ะจะ มา  "บรรยายความ  ตามไท้  ยุรยาตร" ค่ะ

อยากให้น้อง ช่วยทาย กันมานะ รับรองไม่มีท่านใดทายถูก 5555555555555


วันนี้ขอไปนอน ก่อนนะ เหนื่อยจากการเดินทางมากค่ะ

แต่ต้องแวะ เข้าเวบหอ ก่อนนนนนนนนนนนนนนน

คิดถึงทุกๆท่านค่ะ อยากให้ได้ไปเที่ยวกับพี่แอ๊ะ ด้วยยยยยยยยยยยยยยยยย

แต่เกรงใจไม่กล้าชวน

หากชวนต้องมีคนสมัครใจ เป็นคันรถทัวร์แน่นอนชัวร์ อิๆๆๆๆๆ


หัวข้อ: Re: "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: Soponเท่านั้น ที่ 04 กันยายน 2552, 21:05:50
สวัสดีครับพี่แอ๊ะ emo4:))
ขอทายว่าพี่ต้องไปเที่ยวแถวสปป.ลาวกับพี่หมอหาญมาแน่ๆเลย ถึงได้มีความสุข สวีต หวาน แหวว emo21:):): มากเลยครับ


หัวข้อ: Re: "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: wannee ที่ 04 กันยายน 2552, 21:13:44

สวัสดีค่ะพี่แอ๊ะ  emo6::))  ขอทายว่าพี่ไปภาคใต้ และไปนอนกับคุณแม่ที่สุราษฏร์  emo47


หัวข้อ: Re: "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: pusadee sitthiphong ที่ 04 กันยายน 2552, 21:24:10
ไปเยี่ยมคุณลูกสุดที่รักมาค่ะ


หัวข้อ: Re: "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: ตุ๋ย 22 ที่ 04 กันยายน 2552, 22:43:54
สวัสดีครับพี่แอ๊ะ   


หัวข้อ: Re: "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: prapasri AH ที่ 05 กันยายน 2552, 09:51:17
มาแล้วจ้า มาแล้วจ้า เชิญเข้า เชิญเข้ามา

อยากให้น้องๆทายถูกน่ะ พี่แอ๊ะจะได้ส่งกระเป๋าใหม่มาไปให้

แต่สงสัยกระเป๋าไม่ได้ส่งแหง๋แก๋ 555555555555555


หัวข้อ: Re: "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: prapasri AH ที่ 05 กันยายน 2552, 09:53:54
(http://img248.imageshack.us/img248/7690/200909030232.jpg)

เริ่มเฉลยแล้วค่ะ


หัวข้อ: Re: "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: prapasri AH ที่ 05 กันยายน 2552, 09:55:22
(http://img215.imageshack.us/img215/1620/200909030198.jpg)


หัวข้อ: Re: "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: prapasri AH ที่ 05 กันยายน 2552, 09:59:12
(http://img406.imageshack.us/img406/2262/200909030233.jpg)

โปรดติดตามตอนต่อไป ด้วยใจ ระทึกโ ดยพลันนนนนนนนนนนนนนนนน


หัวข้อ: Re: "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: swsm ที่ 05 กันยายน 2552, 10:06:14
พี่แอ๊ะไปฟิลิปปินส์มา .. หะยีขอทาย


หัวข้อ: Re: "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: prapasri AH ที่ 05 กันยายน 2552, 10:07:55
แล้วจะมาบรรยายต่อนะคะ

(http://img216.imageshack.us/img216/4540/200909030216.jpg)

ทายถูกแล้วหรือยังคะ


หัวข้อ: Re: "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: prapasri AH ที่ 05 กันยายน 2552, 10:15:12
ถูกต้อง..แล้วคร๊าบบบบบบบบบบบบบบบบบบ

น้องหะยีได้ กระเป๋า คอลเล็กชั่นใหม่ อีกแล้ววววววววววววววววว


(http://img186.imageshack.us/img186/7267/200909030220.jpg)

แล้วพี่แอ๊ะจะมาบรรยายต่อนะคะ ขอทาน ข้าว  กะพี่หาญก่อนค่ะ


หัวข้อ: Re: "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: swsm ที่ 05 กันยายน 2552, 10:29:30
อ้างถึง
ข้อความของ prapasri AH เมื่อ 05 กันยายน 2552, 10:15:12
ถูกต้อง..แล้วคร๊าบบบบบบบบบบบบบบบบบบ

น้องหะยีได้ กระเป๋า คอลเล็กชั่นใหม่ อีกแล้ววววววววววววววววว


(http://img186.imageshack.us/img186/7267/200909030220.jpg)

แล้วพี่แอ๊ะจะมาบรรยายต่อนะคะ ขอทาน ข้าว  กะพี่หาญก่อนค่ะ

ไชโย้ ..


หัวข้อ: Re: "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: หนุน'21 ที่ 05 กันยายน 2552, 11:14:23
 emo28:win:

สวัสดีครับพี่แอ๊ะ
ดีจังเลยครับ ได้ไปร่วมพิธีอันมีเกียรติเช่นนี้
ขอนั่งหน้าจอรอดูเรื่องเล่าจากพี่นะครับ



 emo42


หัวข้อ: Re: "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: prapasri AH ที่ 05 กันยายน 2552, 20:24:00
น้องหนุนคะ

การมีบ้านมีห้อง ของพี่แอ๊ะนี่ ทำให้เกิดความรับผิดชอบ ต้องเเวะเข้ามาบ้าน

ต้องมาดูว่าใครมาเยี่ยมบ้าง

เมื่อกี้ไปเปิดดูหน้าต้นๆ น้องกระป๋อง บอกว่า น่าจะย้ายบ้านไปอยู่ที่สนทนาประสาพี่น้อง

จะได้เเข่ง  rating กะคุณ สิงหะ-มานพ13

น้องว่าไงคะ


หัวข้อ: Re: "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: prapasri AH ที่ 05 กันยายน 2552, 21:09:47
ส่งรูปมาให้ดูก่อน เพื่อให้ สนใจเข้ามาบ้านพี่แอ๊ะกันเยอะๆ ค่ะ

ขออารัมภบทเลยนะคะ


เมื่อพูดถึงฟิลิปินส์ และการไปงานให้กำลังใจ ดร.กฤษณา พี่แอ๊ะก็ตื่นเต้น แต่คนที่ตื่นเต้นกว่าคนรับรางวัลคือพี่หาญ

พี่หาญไม่ค่อยจากบ้านไปไหน เป็นห่วงคนไข้ค่ะ

แต่ตอนนี้ ลูกกะต้น (หมอต้นกล้า) มาช่วยแล้ว ทำให้ทิ้งร.พ ไว้กับลูกกะต้นได้

พี่แอ๊ะเคยมาฟิลิปปินส์ครั้งหนึ่ง ตอนเรียน ว.ปรอ

การเรียน  วปอ. ต้องศึกษาสภาพแวดล้อมของทุกจังหวัดในประเทศไทย

ปีไหนรัฐบาลมีงบประมาณ มากก็ให้ไปศึกษาสภาพแวดล้อมต่างประเทศด้วย

พี่แอ๊ะมาฟิบลิปินส์เมื่อปี2545 บอกตรงๆ ไม่ชอบประเทศนี้เลย

สงสารเขามาก  เขาเคยรุ่งเรืองกว่าไทยมากเมื่อ20ปีที่แล้ว

คนไทยก็นิยมไปเรียนต่อที่ฟิลิปปินส์

แต่ตอนพี่แอ๊ะไปกับ  วปอ. ขนาดรัฐบาลเขาเป็นเจ้าภาพต้อนรับ

เราไปไหนมาไหน ยังต้องระวัง กระเป๋า เพราะขโมยมากเหลือเกิน

ไปคราวนี้ก็สงสารเขา  ขอทานเต็มบ้านเต็มเมือง

ประเทศเขาถอยหลังมากกว่าเรา20 ปีได้มังคะ

 เพราะเต็มไปด้วยการคอรับชั่นของรัฐบาล และมี conflict of interest สูง


คนยากจนมีมาก สลัมเต็มเมือง เราพักอยู่ในตึกสวยๆ แต่เเวดล้อมด้วยสลัม

เมืองไทย ถ้าหาทางออกทางการเมืองไม่ได้ และ นักการเมืองคอรับชั่น

 กันอย่าง มโหฬาร อลังการอย่างที่เป็นอยู่

พี่แอ๊ะเป็นห่วงว่าประเทศ เราจะกำลังใกล้ฟิลิปปินส์เข้าไปทุกที


แหม๋ ......พี่แอ๊ะพูดเรื่อง ซีเรียสก็ได้เนาะ....... ว่า เอง เออ เอง5555555555555555



อ๊าวววววววววววววพี่แอ๊ะส่งรูปไม่ได้ซะแล้ว  คงต้องให้  I T ของร.พ มาดูให้พรุ่งนี้

ฟังพี่แอ๊ะคุยไปก่อนนะคะ



หัวข้อ: Re: "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: Soponเท่านั้น ที่ 05 กันยายน 2552, 21:20:40
อ้างถึง
ข้อความของ prapasri AH เมื่อ 05 กันยายน 2552, 10:15:12
ถูกต้อง..แล้วคร๊าบบบบบบบบบบบบบบบบบบ

น้องหะยีได้ กระเป๋า คอลเล็กชั่นใหม่ อีกแล้ววววววววววววววววว



(http://img186.imageshack.us/img186/7267/200909030220.jpg)

แล้วพี่แอ๊ะจะมาบรรยายต่อนะคะ ขอทาน ข้าว  กะพี่หาญก่อนค่ะ

ที่จริงผมจะทายว่าพี่ไปงานนี้ที่ฟิลิปปินส์อยู่แล้ว แต่ติดตรงที่พีแอ๊ะบอกว่า emo47 ถ้าพี่แอ๊ะชวน คงมีคนไปร่วมเป็นคันรถทัวร์ ซึ่งรถทัวร์คงไปฟิลิปปินส์ไม่ได้ ก็เลยทายเล่นๆเป็นสปป.ลาว
แต่ยังงัยผมก็เป็นผู้ทายคนแรกสุด ผิดถูกไม่เป็นไรครับ ทายในฐานะแฟนพันธุ์แท้ emo28:win:


หัวข้อ: Re: "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: prapasri AH ที่ 05 กันยายน 2552, 21:31:41

ขอบคุณน้องโสภณ เท่านี้ พี่แอ๊ะแกล้งตั้งคำถามให้เป็น เต็มคันรถทัวร์

เรียกว่า ไม่บอกหลอกให้งงอิๆๆๆๆๆ

แต่จะส่งกระเป๋าไปให้ค่ะ  

มีภรรยากี่คนคะ

เอ๊ยยยยยยย ไม่ใช่

คงมีคนเดียว จะได้ส่งไปให้ใบเดียว

ถ้ามีภรรยาหลายคน จะส่งไปให้หลายๆใบ555555555555

แต่พี่แอ๊ะว่ามีคนเดียวก็พอนะ ยังไงก็ชนะน้องกระป๋อง เพราะเขาหาภรรยาไม่ได้เลยยยยยยยยยยยยยยยย

หาไม่ได้ หรือไม่ได้ หาก็บ่ฮู้ จั๊กแหล่วววววววววววววววววว


หัวข้อ: Re: "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: หนุน'21 ที่ 05 กันยายน 2552, 21:56:21
อ้างถึง
ข้อความของ prapasri AH เมื่อ 05 กันยายน 2552, 20:24:00
น้องหนุนคะ

การมีบ้านมีห้อง ของพี่แอ๊ะนี่ ทำให้เกิดความรับผิดชอบ

ต้องเเวะเข้ามาบ้านต้องมาดูว่าใครมาเยี่ยมบ้าง

เมื่อกี้ไปเปิดดูหน้าต้นๆ น้องกระป๋อง บอกว่า

น่าจะย้ายบ้านไปอยู่ที่สนทนาประสาพี่น้อง

จะได้เเข่ง  rating กะคุณ สิงหะ-มานพ13

น้องว่าไงคะ

 emo4:))

ผมว่าแล้วแต่พี่แอ๊ะครับ
ย้ายไปไหนผมตามไปด้วย
ห้องสนทนาประสาพี่น้องก็ดีเหมือนกันนะครับ
คนเข้ามาก็เห็นเลย จะได้เข้ามาคุยกับพี่มากขึ้นอ่ะครับ
ทั้งพี่แอ๊ะ ทั้งพี่สิงห์ ต่างก็เป็นที่เคารพรักของน้องๆอยู่แล้วอ่ะครับ
ผมคอยชมรูปและฟังเรื่องเล่าจากฟิลิปปินส์
ของพี่แอ๊ะกับพี่หมอหาญต่อไป
ชอบชุดสีฟ้าที่พี่ทั้งสอง
ใส่ในวันงานพิธี
เด่น สง่า
มาก ๆ
ครับ


 emo4:))


หัวข้อ: Re: "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: Soponเท่านั้น ที่ 05 กันยายน 2552, 22:07:11
อ้างถึง
ข้อความของ prapasri AH เมื่อ 05 กันยายน 2552, 21:31:41

ขอบคุณน้องโสภณ เท่านี้ พี่แอ๊ะแกล้งตั้งคำถามให้เป็น เต็มคันรถทัวร์

เรียกว่า ไม่บอกหลอกให้งงอิๆๆๆๆๆ

แต่จะส่งกระเป๋าไปให้ค่ะ  

มีภรรยากี่คนคะ

เอ๊ยยยยยยย ไม่ใช่

คงมีคนเดียว จะได้ส่งไปให้ใบเดียว

ถ้ามีภรรยาหลายคน จะส่งไปให้หลายๆใบ555555555555

แต่พี่แอ๊ะว่ามีคนเดียวก็พอนะ ยังไงก็ชนะน้องกระป๋อง เพราะเขาหาภรรยาไม่ได้เลยยยยยยยยยยยยยยยย

หาไม่ได้ หรือไม่ได้ หาก็บ่ฮู้ จั๊กแหล่วววววววววววววววววว

ขอบพระคุณครับพี่แอ๊ะ

ผมใช้กระเป๋าของพี่ตลอด ได้กันมาหลายใบจากหลายงาน สวย และเท่ เวลาใช้ภูมิใจมากครับ
ส่วนภรรยามีคนเดียว ถือคู่หวานRCUอย่าง emo4:))พี่แอ๊ะ-พี่หมอหาญ อ.เผ่า-อ.แจ่มใส พี่ติ๋ว-อ.พินิจ เป็นต้นแบบ

ผมรักและเกรงใจภรรยา emo30:sorry:สม่ำเสมอเหมือนตะวันroommateของผมนั่นเลยครับ


หัวข้อ: Re: "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: swsm ที่ 05 กันยายน 2552, 22:49:54
อิอิอิ .. มุกพี่เปี๊ยก  มีเหน็บ roommate ด้วย .. คริคริ


หัวข้อ: Re: "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: prapasri AH ที่ 06 กันยายน 2552, 06:46:16
พี่แอ๊ะยังส่งรูปไม่ได้ จนกว่า I T พี่แอ๊ะ จะมาทำงาน

พี่แอ๊ะขอเล่าเรือง ฟิลิปปินส์ เท่าที่พี่แอ๊ะพอมีความรู้อยู่บ้าง ก่อนได้ดูรูปก่อนนะคะ

เดี๋ยวชาวเวบต้องมากันตรึมมมมมมมมมมมมมม

เพราะพี่แอ๊ะได้กระทบไหล่ท่านอดีตประธานาธิบดีรามอส ด้วยยยยยยยยย

งานนี้ มูลนิธิรางวัลแมกไซไซ เขาไม่ยอมให้ ประธานาธิบดี อาโรโย มามอบให้ ด้วย

นายแน่มาก......แมกไซไซ....จ๋า color]


หัวข้อ: Re: "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: prapasri AH ที่ 06 กันยายน 2552, 06:58:51

ฟิลิปปินส์มีส่วนคล้ายคลึง กับไทยเรามาก..แต่ฟิลิปปินส์ยากจนมากที่สุด เมื่อเปรียบเทียบกับเพื่อนบ้าน

 โดยเฉพาะในสายตา ฝรั่ง  ค่าใช้จ่าย ค่าทีพักอาหาร ไม่แพงอยู่ได้เป็นเดือนๆเลย

แต่โรงเเรมที่พี่แอ๊ะพักแพงค่ะ ราคาคืนละ 9,000 บาท เอ.... หรือ 3คืน 9,000

พี่แอ๊ะไม่ได้จ่ายเอง บัตรเครดิตจ่ายให้ค่ะ ต้องไปดูตอนเขาเรียกเก็บอีกที5555555555555555555555555

ถ้าพี่หาญทราบ พี่แอ๊ะ ตายแน่... พี่หาญ คงนอนไม่หลับถ้าค่าโรงแรมแพง แกขี้เหนียวค่ะ555555555

เวลาพี่แอ๊ะซื้อของพี่แอ๊ะ เวลาพีหาญ ถามราคา พี่แอ๊ะต้อง ต้องหาร2 หรือหาร3 หรือ4-5-6 ไปเลย

 ว๊ายยยยยยย ตายเเย้ว ไม่น่าบอกฟามมมมมมมม ลับ

เดี๋ยว น้องๆไม่กล้ามาหาพี่แอ๊ะ ด้วยเหตุว่าพี่หาญแกขี้เหนียววววววววววววววววว

กับชาวหอจุฬา..แกไม่ขี้เหนียวนะคะ  


หัวข้อ: Re: "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: prapasri AH ที่ 06 กันยายน 2552, 08:29:15
เล่าเรื่องฟิลิปปินส์ต่อนะคะ

คนไทยและคนฟิลิปปินส์ คล้ายๆกัน คือ มีความเอื้ออารี กับคนต่างชาติ

จุดนี้เป็น จุดดีที่ทำให้นักท่องเที่ยวมาแล้วอยาก กลับมาอีก

เสน่ห์ สาวฟิลิปปินส์ และสาวไทย มีชื่อเสียงก้องโลก

แบบว่า ถ้า ฝรั่งที่เป็นผู้ชาย ที่มีภรรยาแล้ว  ภรรยาที่เป็นฝรั่ง จะกลัวมาก

ถ้าต้องมาทำงานที่ไทยและฟิลิปปินส์ เพราะกลัวว่า ตอนกลับภรรยาที่เป็นฝรั่งจะต้องกลับไปคนเดียว........

(เพราะถูกสามีทิ้ง )

สำหรับคนไทยส่วนใหญ่ เเละฟิลิปปินส์ การพนัน เป็นอะไรที่ขาดไม่ได้ในชีวิต

คนฟิลิปปินส์ ชอบการ"ชนไก่"  มากที่สุด

 เหมือนคนสมุย เลย แต่คนสมุย ชอบการ"ชนไก่"และ"ชนควาย" ด้วยค่ะ

ที่ฟิลิปปินส์ การ"ชนไก่ " มีรายการถ่ายทอดทางทีวีด้วย

คนฟิลิปปินส์ และคนไทย มีทัศนคติ "ไม่เป็นไร" เหมือนกันเลย


(ยังมีต่อนะคะน้องหนุน และน้องๆท่านอื่นๆ ที่ ผ่านมาอ่าน)

พี่แอ๊ะขอไปเซ็นแฟ้ม เป็บสิบกว่าแฟ้ม ตังแต่กลับมา ยังได้เซ็นเลย

และขอฟัง "นายกอภิสิทธ์คุยกับประชาชน" ด้วย


หัวข้อ: Re: "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: prapasri AH ที่ 06 กันยายน 2552, 09:04:17
ว๊ายยยยยยยยย ตายแย้ว

จำชื่อ รายการผิดค่ะ

เป็น "รายการเชื่อมั่นประเทศไทย กับนายกอภิสิทธิ์" ค่ะ

คุณทักษิณ ทำการตลาดเก่ง เลยจำได้แต่ "นายกทักษิณคุยกับประชาชน"


หัวข้อ: Re: "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: Soponเท่านั้น ที่ 06 กันยายน 2552, 09:43:32
อ้างถึง
ข้อความของ prapasri AH เมื่อ 06 กันยายน 2552, 06:58:51




พี่แอ๊ะไม่ได้จ่ายเอง บัตรเครดิตจ่ายให้ค่ะ ต้องไปดูตอนเขาเรียกเก็บอีกที5555555555555555555555555

ถ้าพี่หาญทราบ พี่แอ๊ะ ตายแน่... พี่หาญ คงนอนไม่หลับถ้าค่าโรงแรมแพง แกขี้เหนียวค่ะ555555555

เวลาพี่แอ๊ะซื้อของพี่แอ๊ะ เวลาพีหาญ ถามราคา พี่แอ๊ะต้อง ต้องหาร2 หรือหาร3 หรือ4-5-6 ไปเลย

 ว๊ายยยยยยย ตายเเย้ว ไม่น่าบอกฟามมมมมมมม ลับ

เดี๋ยว น้องๆไม่กล้ามาหาพี่แอ๊ะ ด้วยเหตุว่าพี่หาญแกขี้เหนียววววววววววววววววว

กับชาวหอจุฬา..แกไม่ขี้เหนียวนะคะ  

เหมือนภรรยาผมเลยครับ เวลาซื้อของมาจะบอกราคาต่ำไว้ก่อน เพื่อความสบายใจของสามี บางทีลูกสาว(คู่ช็อป)ก็จะช่วยบอกว่าราคาไม่แพง แต่ป๊าอย่ารู้เลย
เข้าใจว่าผมคงคล้ายๆพี่หมอหาญ เพราะพ่อแม่ยากจน จึงต้องประหยัดและรู้ค่าของเงิน


หัวข้อ: Re: "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: swsm ที่ 06 กันยายน 2552, 10:59:46
สวัสดีค่ะพี่แอ๊ะ ..
ชอบเรื่องเล่าเกี่ยวกับฟิลิปปินส์มากค่ะ
หะยีเคยไป 2-3 ครั้ง .. ไม่มีความรู้สึกว่าอยู่ต่างชาติเลย
เพราะวิถีชีวิตและสภาพบ้านเมืองเขาคล้ายเรามาก

ได้อ่านเรื่องที่พี่แอ๊ะเล่า  ภาพความหลังครั้งกระโน้นก็กลับมาให้ได้เห็นอีกครั้งค่ะ



หัวข้อ: Re: "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: prapasri AH ที่ 06 กันยายน 2552, 11:07:01
(http://img215.imageshack.us/img215/6432/200909030131.jpg)

น่านั่งไหมคะ สามล้อนี้

อยู่ในเมืองหลวง มนิลา เลยทีเดียวค่ะ


หัวข้อ: Re: "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: prapasri AH ที่ 06 กันยายน 2552, 11:16:46
ขอบคุณน้องหะยี และน้องโสภณเท่านี้

 รวมทั้ง ท่านอื่นๆ

 ประสงค์จะออกนามและไม่ประสงค์จะออกนามที่กรุณาเข้ามาอ่าน กระทู้พี่แอ๊ะ และน้องแอ๊ะ

อุตส่าห์ อดหลับ  อดนอนมานั่ง "จิ้มดีด" เเบบคนแก่ทั้งหลาย

 


 (http://img186.imageshack.us/img186/4550/200909030119.jpg)

ในท่ามกลาง สามล้อ ยังมีตึกสวยๆและวิว สวยๆค่ะ



หัวข้อ: Re: "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: prapasri AH ที่ 06 กันยายน 2552, 14:18:05


ก่อนจะถึงช่วงงานรับรางวัล พี่แอ๊ะขอเล่าเรื่องเกียวกับฟิลิปปินส์ เพื่อเป็น ออเดิร์ฟ ตามที่เรียนรู้และสังเกตมานะคะ

คนแก่ชอบเล่าเรื่องยาวๆค่ะ

ผิดพลาดพลั้งไป ขออำไพ (ชื่ออาจารย์แม่บ้านหอหญิงค่ะ) ด้วย

เพี้ยงขอ อย่าให้อาจาย์มาเป็นสมาชิก ห้องคนแก่ 2507 เป็นอันขาด หุๆๆๆๆๆ


หัวข้อ: Re: "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: prapasri AH ที่ 06 กันยายน 2552, 14:46:36
 ทุกวันนี้คนปินส์ เรียกสั้นดีกว่านะ เพราะชาวปินส์เขาชอบพูดสั้นๆค่ะ

เหมือนคนไทยโดยเฉพาะคนไทยภาคใต้ที่เป็นชาวเกาะ จะตัดคำพูดยาวๆออกไป

เช่น ดาร์ลิ๋ง ก็เรียก ลิ๋ง

เชอรี่ ก็เรียก รี่

ประภาศรี คงเรียก ศรี..... หุๆๆๆ ....เชยจังเลย น้องๆอย่าเรียก"พี่ศรี" เชียวนา

   ณ.วันนี้คนปินส์ จะจนกว่าคนไทย คนปินส์ต้องดิ้นรนทำมาหากินมากกว่า

ที่เขาจน เพราะ brain drain ส่วนหนึ่ง คนเก่งๆ เรียนจบแล้วจะไปอยู่ประเทศอื่นกันหมด

เช่นแพทย์ เขา เรียนแล้วจะได้ licence ที่ทำงานในอเมริกา ได้

สอบ usmile ได้ง่ายๆ เพราะหลักสูตรเขาเป็นแบบเดียวกับอเมริกา

 แพทย์ไทย นิยม อ่านว่า "ยูสะมาย"

แพทย์ไทยจะสอบได้ยากมาก พี่แอ๊ะยังเคยหัดทำข้อสอบ usmile.ในหนังสือของลูกเลยค่ะ

เรียกว่าไม่เจียมตัว ไม่เก่งแล้วยังทะลึ่งไปทำข้อสอบแพทย์อีก

แต่ก็ทำได้หลายข้อนะคะ หุๆๆๆๆๆ

วิศวกร พยาบาล และคนเก่งๆทั้งหลาย ออกนอกประเทศกันหมด

และที่สำคํญไม่เหมือนคนไทยนะคะ เมื่อไปอยู่ที่ไหนแล้วอยากกลับมาแก่และตายที่เมืองไทย

คนปินส์เขาจะไม่อยากกลับมาเจอความลำบากเเร้นแค้นอีกเลย


คนปินส์ นับถือศาสนา คริสต์นิกายนิกายคาทอลิก

ทำให้เป็นอุปสรรคอย่างใหญ่หลวงของรัฐบาล ในการควบคุมประชากร

เขาจะไม่คุมกำเนิดกัน เพราะกลัวบาป

ผลที่ตามมา ก็คือประชากรเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว ตอนนี้ปินส์มีประชากร 92 ล้านคน

เพิ่มในอัตราสูงกว่า 2% ต่อปี

ถ้าเขารณรงค์ให้มี ลูกสองคน เหมือนประเทศไทย ประชากร จะไม่ขึ้นมามากอย่างนี้

คนปินส์บ้าอเมริกาเหมือนคนไทย หรือมากกว่า เพราะเขาตกเป็นเมืองขึ้นของฝรั่ง (สเปน และอเมริกา)

คนปินส์จะโกรธ และเกลียดญี่ปุ่นมาก

เพราะเขาเจ็บปวดจาก สงครามโลกคัรั้งที่สอง

ที่ญี่ปุนบอมบ์เขา และทรมานพวกเขา

ปัจจุบันเขาชอบจับคนญี่ปุนที่ไปท่องเที่ยว

จับไปเรียกค่าไถ่ แต่เขาไม่ฆ่า แต่เรียกเอาเงิน และสั่งไม่ให้บอกตำรวจ

ใครที่หน้าตาเหมือนญี่ปุ่น เช่นพี่สว.ชรินทร์ อย่าไปเชียวนา....



(http://img248.imageshack.us/img248/6448/200909030153.jpg)

ภาพนี้เป็นภาพวันอาทิตย์ ที่เขาไปโบสถ์ แน่นโบสถ์เลยค่ะ โบสถ์เล็กมาก

ไม่เหมือนคนไทย มีวัดกว้างขวางมาก แต่ไม่ค่อยไปวัด กันเลยยยยยยยยยยยยย

พี่แอ๊ะ ยังไม่ชอบไปวัดเลย กลัวผีอ่ะ




หัวข้อ: Re: "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: prapasri AH ที่ 06 กันยายน 2552, 15:08:32
น้องๆคงอยากดู รูปตอนดร.กฤษณา ในพิธีรับรางวัล เต็มทีแล้ว

แต่วันอาทิตย์ นี้พี่แอ๊ะว่างเลยอยากเล่า ตามที่ได้เห็น และฟังจากไกด์ และศึกษาประเทศนี้มาบ้าง

อย่าเบื่อซะก่อนนะ


อ้อยจารุวรรณ2514 มาอ่านซะดีๆ เมื่อเช้าคุยโทรศัพท์กัน พี่แอ๊ะยังไม่ได้บอกว่า หนีไปเที่ยวมา หุๆๆๆๆ

(http://img137.imageshack.us/img137/5705/200909030125.jpg)

ตึกนี้ ชื่อ ตึกรามอน แมกไซไซค่ะ


หัวข้อ: Re: "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: prapasri AH ที่ 06 กันยายน 2552, 15:16:00
(http://img215.imageshack.us/img215/4522/200909030128.jpg)

 น้อง ๆดูให้เต็มตา นะคะ ตึกที่เป็นอนุสรณ์แห่งความ ดีงาม ของท่านประธาธิบดี รามอน แมกไซไซ

มูลนิธิรอกกี้เฟลเลอร์ ของอเมริกา เป็นเจ้าของตึกนี้

และใช้ตึกนี้หารายได้ โดยการให้เอกชนเช่าเป็นสำนักงานต่างๆ

เพื่อมาช่วย ให้รางวัล ท่านที่ได้รับรางวัลแต่ละปี รวมทั้งงานการกุศลอื่นๆด้วย

พี่แอ๊ะคิดว่าอเมริกา คงยังมีทรัพย์สินอยู่มากในปินส์

เพราะครอบครองปินส์ อยู่นาน


หัวข้อ: Re: "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: prapasri AH ที่ 06 กันยายน 2552, 15:44:14
ไทยและปินส์ มีชื่อเสียงสูสีกันมากในเรื่องการโกงกินในหมู่นักการเมือง

กว่าจะเป็นนักการเมืองได้ก็ต้องซื้อเสียง buying vote ทั้งทางตรงและทางอ้อม

และมีการพัฒนาการทางความคิด ทางการเมือง เทียบเคียงกันได้

คนปินส์ทำให้ ประธานาธิบดี มาร์กอส ต้องหลุดจากเก้าอี้ เร่ร่อนและไปตายในต่างประเทศ

เมื่อไม่นานนี้พลังของประชาชนเลือกเอสตราดา ขึ้นมาเป็นประธานาธิบดี

แต่พอทำงานไม่ดี โกงกินมากนัก ก็พลังประชาชน อีกนั่นแหละ ที่ทำให้เอสตราด้า ต้องติดคุก

ไทยเราก็ไม่น้อยหน้า คุณทักษิณ ต้องออกไป ตั้งหลัก อยู่แถวดูไบและเร่ร่อนไปทั่ว

ส่วนผู้หญิงเขาก้าวหน้ากว่าไทย เขาได้เป็นผู้นำประเทศถึง 2 คน คืออาคิโน และ อาโรโย

ไทยยังไม่มีผู้หญิงเป็นผู้นำประเทศเลย

แต่พี่แอ๊ะอ่านหนังสือพิมพ์ไทยเมื่อเดือนที่แล้ว หมอดูบอกว่า สมัยหน้า นายกของไทยจะเป็นผู้หญิง

น้องๆคิดเอานะว่าจะเป็นใคร (หมอดูก็คือหมอเดา)



(http://img98.imageshack.us/img98/843/200909030185.jpg)



การเกษตร ก็เหมือนทางใต้ของไทย

จากรูปจะเห็นต้นมะพร้าวเต็มไปหมดเลย

ปินส์ มีการปลูกและมีผลผลิตจากมะพร้าวมากที่สุดในโลกค่ะ


หัวข้อ: Re: "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: prapasri AH ที่ 06 กันยายน 2552, 15:54:44

ขอไปออกกำลังกายก่อนนะคะ

วันนี้วันอาทิตย์ไม่มีใคร มา interaction กับพี่แอ๊ะเลย

เขียนไปก็ชักเเหงาแล้วซิ

พูดมากแบบคนแก่ซะด้วย.....

น้องกระป๋องคงรำคาญแย่แล้วววววววววววววววววววววววว


หัวข้อ: Re: "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: Soponเท่านั้น ที่ 06 กันยายน 2552, 16:32:53
อ้างถึง
ข้อความของ Soponเท่านั้น เมื่อ 06 กันยายน 2552, 10:42:14
ขออนุญาตแจ้งข่าวด่วน

http://www.cmadong.com/board/index.php/topic,3672.msg253472.html#msg253472


หัวข้อ: Re: "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: ตุ๋ย 22 ที่ 06 กันยายน 2552, 19:06:16
ได้ความรู้เรื่องฟิลิปปินส์มากมายเลยพี่แอ๊ะ  อ่านเพลินเลย  พี่แอ๊ะเป้นนักเขียนได้เลยนะ


หัวข้อ: Re: "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: มีนา ที่ 06 กันยายน 2552, 21:02:41
...สวัสดีค่ะพี่แอ๊ะ  อ่านเรื่องที่พี่เขียนแล้วได้ความรู้ทั้งด้านเศรษฐกิจ สังคมและการเมืองค่ะ


หัวข้อ: Re: "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: Kaimook ที่ 06 กันยายน 2552, 21:37:55
 สวัสดีค่ะพี่แอ๊ะ อ่านเพลินเลยค่ะได้รับความรู้ในทุกๆด้านเลยค่ะ
 emo40::


หัวข้อ: Re: "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: หนุน'21 ที่ 06 กันยายน 2552, 22:29:11
 emo28:win:

สวัสดีครับพี่แอ๊ะ เพิ่งกลับจากไปทำธุระที่ปากช่องมาครับ
ต้องเข้ามาตามอ่านตามดูเรื่องจากปินส์ของพี่ครับ
ผมว่ามันน่าสนใจมากพี่เล่าได้อย่างน่าติดตาม
เหมือนที่น้องๆ ว่าแหละครับ

ภาพวิวที่ถ่ายจากห้องพัก(รึปล่าว)
สวยมาก....ไม่เห็นมีอะไรที่วางระเกะระกะ
เหมือนที่บางแสนหรือพัทยาบ้านเราเลย

เมื่อเช้าขณะที่ขับรถ...ก็ได้ฟังรายการเชื่อมั่นประเทศไทย...เหมือนกันครับ
ฟังพี่แอ๊ะเล่าเรื่องปินส์แล้วเห็นใจเข้าใจคนที่นั่นเลยนะครับ
กลัวว่าวันหนึงพี่ไทยเราจะเป็นแบบนั้น
แต่ก็เชื่อว่าเรา..ประเทศไทยของเราคงไม่โชคร้ายมากไปกว่านี้แล้ว(มั๊ง)

รอฟังเรื่องและรูปของพี่แอ๊ะต่อไปนะครับ


 emo4:))


หัวข้อ: Re: "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: พธู ๒๕๒๔ ที่ 06 กันยายน 2552, 23:58:09
A: แม่ค้าแตงโมนี่หวานมั๊ยคะ?
แม่ค้า: หวาน แดง สด อร่อยมากๆเลยจ้า...
A: งั้นซื้อ 1ลูกค่ะ
แล้วAก็หิ้งถุงแตงโม ขี่จักรยานกลับบ้าน ระหว่างทาง ถุงพลาสติกขาด แตงโมตกแตก สีขาวซีดแทบจะไม่เห็นความแดงอร่อยเลย A จึงรีบปั่นจักรยานกลับไปที่ร้านขายแงโมร้านเดิมด้วยความโมโห
A: แม่ค้า! ไหนบอกว่าแตงโมแดงหวานอร่อย พอตกแตกแล้วทำไมมันเป็นอย่างนี้ล่ะ
แม่ค้า: อ๋อ...ก็แตงโมมันตกใจนะซิ มันถึงได้ซีดเป็นไก่ต้มอย่างนี้
A: ???


หัวข้อ: Re: "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: อ้อย 14 ที่ 07 กันยายน 2552, 07:08:25
พี่แอ๊ะที่รัก

                  อ่านหัวข้อนี้เสมอแหล่ะค่ะ  คิดถึงพี่แอ๊ะเมื่อไร ก็แวบมาอ่าน  ดีใจที่พี่หาญ Go Inter แล้ว  เริ่มจากฟิลิปปินส์ และต่อด้วยญี่ปุ่น  และคงมีรายการไปเรื่อยๆ  ดีจริง พี่หาญจะได้พักผ่อนเสียที ทำงานมามากแล้ว   และหวังว่า พี่หาญจะไม่ไปทำตามที่เขาสาธิตในเครื่องบินอีกนะคะ  emo20:)):) และอนาคตพี่แอ๊ะคงสามารถจัดทัวร์ได้เลย  อ้อยสมัครเป็นคนแรกเลย....จริงๆ นะคะ emo4:))


หัวข้อ: Re: "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: prapasri AH ที่ 07 กันยายน 2552, 07:21:24
  
  ขอบคุณที่น้องๆชมพี่แอ๊ะ พี่แอ๊ะเป็นคนบ้ายอ มีกำลังใจอย่างนี้

   พี่แอ๊ะเข้าเวบ ทุกวันแน่ พี่แอ๊ะอยากเป็นนักเขียน

เขียนหลายเรืองเเล้วค่ะ แต่เขียนไม่จบ สักเรื่องเดียว สงสัยเขียนไปเรื่อยๆ

หาทางลงไม่ได้ 5555555555555

น้องๆเคยเห็นผู้ใหญ่ที่ขึ้นไปพูดบนเวทีเวลามีงานแต่งงานแล้วต้องอวยพรคู่บ่าว

หรือขึ้นไปพูดเรื่องอะไรก็ตาม เขาพูดนานมาก คือ "หาทางลงไม่ได้"

เคยมีผู้ใหญ่ท่านหนึ่ง ขึ้นไปกล่าวอวยพรคู่บ่าวสาว

เเล้วท่านก็พูดยาวมาก และก็หาทางจบไม่ได้ คือ" หาทางลงไม่ได้"

คือเราสนิทและคุ้นเคยกันมาก และท่านเริ่มหัดพูดในที่สาธารณะ

โดยมีพี่แอ๊ะคอย แนะนำ ทุกๆงานพอท่านพูดเสร็จ ท่านก็จะมาถามพี่แอ๊ะ ว่า "เป็นยังไงวันนี้พูดได้ดีไหม"

ทีนี้พองานนี้ท่านพูดเเล้วหาทางลงไม่ได้ คือพูดยาวมากแล้วจบไม่ได้

พี่แอ๊ะนั่งอยู่ใกล้ๆเวทีแล้ว ซิกแนลให้ท่านเห็น แล้วบอกว่า "สวัสดีครับ"

ท่านก็พูดว่า "สวัสดีครับ"  เป็นอันว่า จบลงด้วยดี555555555555555



พี่หาญตามไปทานข้าวแล้วค่ะ

เช้านี้ "หาทางลงได้"   เพราะพี่หาญนี่แหละค่ะ 5555555555555555555

ขอไปทานข้างก่อนนะคะ


หัวข้อ: Re: "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: swsm ที่ 07 กันยายน 2552, 08:35:22
มาบูไฮ .. สวัสดีตอนเช้าค่ะ  พี่แอ๊ะ


หัวข้อ: Re: "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: เหยง 16 ที่ 07 กันยายน 2552, 09:43:19
สวัสดีครับ พี่แอ๊ะ

ผมเพิ่งกลับจากปักกิ่งเมื่อคืนนี้ครับ ดีใจด้วยครับที่ น้องหะยี ได้รางวัลจากพี่แอ๊ะไป
แต่ ผมก็เสียดายนะครับ ถ้าอยู่ก็จะตอบเช่นกัน พราะช่วงวันที่ 31 สิงหาคม เป็นช่วงมอบรางวัลแม๊กไซไซ
ซึ่งผมได้โพสต์ไปก่อนหน้านี้บ้างแล้ว เช่นกัน

แต่เพื่อเป็นกำลังใจกับรุ่นพี่เภสัชกรคนเก่งของชาวไทย การเดินทางไปร่วมงานนี้ ดี มากๆเลยครับ


หัวข้อ: Re: "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: wannee ที่ 07 กันยายน 2552, 10:01:43


พี่แอ๊ะ เล่าเรื่องไปเรื่อยๆชวนติดตามค่ะ  พี่แวะมาคุยกับน้องๆ  พวกเราดีใจมากค่ะ  emo4:)) emo6::)) emo9:huhu:


หัวข้อ: Re: "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: swsm ที่ 07 กันยายน 2552, 11:50:34
Attention Please !!



กราบเรียนท่านผู้มีจิตเป็นกุศลทุกท่าน

หะยีดำเนินการเปิดบัญชีเพื่อรับบริจาคทุนทรัพย์ในการจัดหาเครื่องคอมพิวเตอร์ให้น้อง ๆ โรงเรียนบ้านโนนทันได้แล้วค่ะ
รายละเอียดอยู่ที่นี่

http://www.cmadong.com/board/index.php/topic,3668.msg253829.html#msg253829

ขอเชิญทุกท่านร่วมสมทบทุน
สร้างปัญญา เสริมการศึกษาให้เด็กน้อยผู้ด้อยโอกาส
กุศลแรงครับพี่น้อง

ชาติหน้าฉันท์ใดจะได้เกิดมาพบกันอีก ..  ซีมะโด่งจงเจริญ


หัวข้อ: Re: "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: prapasri AH ที่ 07 กันยายน 2552, 15:42:56
พี่แอ๊ะ จะต้องเข้ากรุงเทพ อีกแล้ว มีงานประชุม และต้องไปส่ง น้อง กระต๊อบ กลับ อังกฤษ

ต้องขอลาน้องๆ สองวันค่ะ  

 แต่วันนี้ จะให้ได้เรื่อง ที่ต้องไปปินส์ เพื่อ เข้างานรับรางวัลแมกไซไซเสียที่

 ขอส่ง รูป ลูกคนสุดท้อง  ที่พี่ นภ (พีสิน) ถ่ายให้

กระต๊อบ เป็นลูกคนที่ 4   พี่แอ๊ะไม่ทำตามการรณรงค์ ของรัฐบาลข่วงนั้น

 ที่เขาบอกว่าควรมีลูกแค่ สองคน แต่พี่แอ๊ะมีลูกตั้ง 4คน

เพราะ น้องๆของพี่แอ๊ะ ส่วนใหญ่เขาไม่ค่อยมีลูกกัน

พี่แอ๊ะจึงมีลูก ไว้หลายๆคน เขาจะได้ดูแลน้าๆ ตอน น้าๆแก่

พี่แอ๊ะว่ามีลูกหลายคนก็ดีนะ ลูก  "สี่คน"  ก็  "สี่แบบ"

ลูกคนนี้ น้าอู้ด ( หอ ชาย16) น้องชาย ของพี่แอ๊ะ

ตอนพี่แอ๊ะพาลูกชายไปเยี่ยมคุณยายที่สุราษฏร์

น้าอู้ดสังเกตหลาน บอกว่า

 "สงสัยกระต๊อบ มีแฟนเเล้ว เพราะ ชอบส่องกระจก"

 คือ กระต๊อบ ดูกระจกบ่อยมาก

พี่แอ๊ะเลย ข๊ำ ขำ

 แสดงว่า การส่องกระจก บ่อยๆแปลว่า มีแฟนแล้ว

(http://img233.imageshack.us/img233/3722/kratob.jpg)

พี่แอ๊ะอยาก ทักทายน้องๆ  ท่านใหม่ ๆทุกท่านที่เข้ามาอ่านและคุยกับพี่แอ๊ะ

น้องมีนา น้องเหยง16 น้องตุ๋ย22 น้องหมอเสียด น้องปลาทูแมน(ป๋าทู)

น้องอ้อย14 พอเรียกก็มาทันทีทันใด เหมือนตอนอยู่หอเจ้าจอมเปี๊ยบเลย พี่แอ๊ะเป็น หัวโจกของน้องซนๆทั้งหลาย

และน้องขาประจำ ทุกท่าน ค่ะ หากทักทายไม่หมดก็ขอ อำไพ  นะคะ






หัวข้อ: Re: "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: prapasri AH ที่ 07 กันยายน 2552, 16:18:36
(http://img403.imageshack.us/img403/8526/scan0030d.jpg)




รางวัลแมกไซไซ ถ้าเปรียบแล้วคือ รางวัล  "โนเบลของเอเซีย"  นั่นเอง

"ประธานาธิบดี แมกไซไซ  แม้จะล่วงลับไปแล้ว

แต่ วีระกรรมและภาวะผู้นำของท่านยังดำรงอยู่เป็นต้นแบบให้ชาวโลกตราบเท่าทุกวันนี้"


ครอบครัว แมกไซไซ แม้จะ ยากจนมาก เเต่ พ่อของ ท่านแมกไซไซ พร่ำสอนลูกเสมอว่า


                  "ความซื่อตรงต้องเหนือสิ่งอื่นใด"




หัวข้อ: Re: "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: prapasri AH ที่ 07 กันยายน 2552, 16:52:17
ท่านที่ได้รับรางวัลปีนี้มี 6 ท่าน

คือจากไทย 1ท่าน


(http://img179.imageshack.us/img179/2262/200909030233.jpg)



                                                  KRIANA KRAISINTU

                                                 Making life saving

                                            Drugs Affordable For ALL  


หัวข้อ: Re: "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: prapasri AH ที่ 07 กันยายน 2552, 16:55:30

พี่แอ๊ะขอไปออกกำลังกายก่อนนะ

เดี๋ยวจะถูกพี่หาญดุ

ว่าไม่ออกกำลังกาย

พี่หาญบอกว่า   " กีฬา กีฬา เป็น ยาวิเศษ"


หัวข้อ: Re: "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: prapasri AH ที่ 07 กันยายน 2552, 19:09:10
ท่านที่ สองค่ะ เป็นชาวอินเดีย

เดี๋ยวน้องๆจะคิดว่าพี่แอ๊ะเชียร์แต่คนไทย เลยรีบส่งมาให้อีกท่านหนึ่ง

ก่อนที่จะไปจัดกระเป๋า เพราะต้องเดินทางไปอุบลเพื่อขึ้นเครืองไปกรุงเทพ

เครืองออก 7 โมงต้องออกจากยโสธร ตั้งแต่ตี5 เลยค่ะ

พี่แอ๊ะ ชักจะเป็นโรคจิต เล่าเรื่องทุกอย่างว่าตัวเองต้องทำอะไรบ้างเเต่ละวัน

คือพี่แอ๊ะอยากให้น้องๆจินตนาการออก ว่าวันๆ พี่แอ๊ะต้องทำอะไรบ้าง

คนบ้านนอก กับคนกรุงเทพ มีวิถีชีวิตแต่ละวันแตกต่างกันมากเหลือเกิน


หัวข้อ: Re: "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: prapasri AH ที่ 07 กันยายน 2552, 19:23:22
(http://img403.imageshack.us/img403/5958/200909030236.jpg)

                                                            ท่านที่สองจากอินเดียค่ะ

                                                   

                                                                   DEEP  JOSHI



                   
                                 For his vision and  leadership in  bringing professionalism to the NGO movement

                                                 
                                           in India by effectively combinng " head" and " heart"   in the transformative

                                               
                                                            work of rural development


หัวข้อ: Re: "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: prapasri AH ที่ 07 กันยายน 2552, 19:28:19
          (http://img233.imageshack.us/img233/7057/200909030307.jpg)



                                          ได้ถ่ายรูปกับภรรยาท่านด้วยค่ะ



หัวข้อ: Re: "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: prapasri AH ที่ 07 กันยายน 2552, 21:24:14
น้องๆคะ

เฝ้าบ้านพี่แอ๊ะเเล้วมานั่งทาน ฮาโลฮาโล ที่บ้านพี่แอ๊ะก่อนนะคะ

พี่แอ๊ะไม่อยู่บ้านสองสามวันค่ะ

ฮาโลฮาโล คืออะไร

น้องหะยี ช่วยเฉลยด้วยนะคะ


หัวข้อ: Re: "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: prapasri AH ที่ 07 กันยายน 2552, 21:30:27
    ขอฝากรูปที่ถ่ายกับท่านอดีต ประธานาธิบดีรามอส  นะคะ

   กลับมาแล้วจะโชว์ภาพสวยๆ กว่านี้ อีกค่ะ

    ตอนนี้รีบไปดูเสด็จประพาสต้นก่อน


    (http://img76.imageshack.us/img76/2715/200909030291.jpg)


หัวข้อ: Re: "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: swsm ที่ 07 กันยายน 2552, 21:47:10
อ้างถึง
ข้อความของ prapasri AH เมื่อ 07 กันยายน 2552, 21:24:14
น้องๆคะ

เฝ้าบ้านพี่แอ๊ะเเล้วมานั่งทาน ฮาโลฮาโล ที่บ้านพี่แอ๊ะก่อนนะคะ

พี่แอ๊ะไม่อยู่บ้านสองสามวันค่ะ

ฮาโลฮาโล คืออะไร

น้องหะยี ช่วยเฉลยด้วยนะคะ

เซียนระดับพี่แอ๊ะแล้ว ..
เชื่อว่าคงไม่มีอะไรที่สามารถคิดได้ด้วยตรรกะชั้นเดียว

หะยีจึงขอเวลา ตีลังกา 3 รอบ ..
เกี่ยวกับคำเฉลยของ ฮาโล ฮาโล ..

ไม่แน่ใจเหมือนกันว่า จะคิดออกหรืเปล่าค่ะ .. คริคริ
 


emo20:)):)


หัวข้อ: Re: "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: พธู ๒๕๒๔ ที่ 07 กันยายน 2552, 22:05:25
ขอบคุณพระเจ้า

บิ๊กประกาศตัวเองว่าเป็นคนที่ไม่เชื่อในพระเจ้า เขา
ไม่นับถือศาสนาอะไร แม้แต่ศาสนาที่ไม่ถือพระเจ้า
เองเขาก็ไม่นับถือ อันที่จริงเขาเชื่อถือแต่ตัวเอง
วันหนึ่งบิ๊กไปเที่ยวป่าเที่ยวชมธรรมชาติ ท้องฟ้า
น้ำตก ลำธาร ภูเขา ผีเสื้อ นก ..เขาหลับตาเพื่อจะ
ฟังเสียงแห่งป่าเขา แต่..ทันใดนั้นเขาได้ยินเสียงร้อง
ก้องคำรามอยู่ไม่ไกลจากตัวเองนัก บิ๊กลืมตาก็เห็นเสือ
โคร่งตัวหนึ่งอยู่ตรงหน้าแลบลิ้นเลียไปมา น้ำลายสอ


และกำลังเดินเข้ามาหาบิ๊กอย่างช้า ๆ บิ๊กรีบวิ่งหนี และ
เสือโคร่งก็วิ่งตาม จนถึงหน้าผาแห่งหนึ่งไม่มีทางหนีไป
ต่อได้ บิ๊กทรุดตัวลง จิตใจสับสนเป็นที่สุดเมื่อไม่รู้จะหา
ทางออกได้อย่างไรจึงร้องตะโกนว่า"พระเป็นเจ้าช่วย
ข้าด้วย" สิ้นเสียงร้อง..ดูเหมือนทุกอย่างหยุดนิ่ง ลม
หยุดพัด น้ำในลำธารหยุดไหล นกหยุดบินลอยตัวค้าง
อยู่ในท้องฟ้า รวมถึงเจ้าเสือโคร่งนั้นด้วย บิ๊กมองขึ้น
ไปบนท้องฟ้าก็เห็นแสงเรืองรองมองไม่ชัดว่าเป็นอะไร


แต่มีเสียงดังออกมาจากแสงนั้นว่า"ข้าคือพระเจ้า แม้เจ้า
จะไม่เชื่อถือในพระเจ้าแต่ข้าก็เฝ้าดูเจ้าตลอดมา เห็นเจ้า
เรียกร้องให้ข้าช่วยข้าจึงปรากฏให้เห็น" บิ๊กรู้สึกผ่อนคลายขึ้น
ตอบพระเจ้าไปว่า"ขอบคุณพระเจ้า ขอให้ท่านช่วยให้ข้าพ
เจ้าให้ไปจากที่นี่ด้วยเถิดแต่ข้าพเจ้าไม่อยากเปลี่ยนศาสนา
ข้าพเจ้ายังนับถือตัวเองเป็นที่สุดอยู่" พระเจ้าคิดเล็กน้อย
แล้วตอบไปว่า"ถ้าเช่นนั้น ข้าจะให้พรเจ้า 1 ข้อเท่านั้นขอ
ให้อธิษฐานอย่างชัดเจน แล้วคำขอที่เจ้าว่ามาจะเป็นจริงตามนั้น"


บิ๊กคิดในใจ'ศาสนาสอนให้คนเป็นคนดี มีเมตตา แต่เราไม่ต้อง
การเปลี่ยนศาสนาแล้วก็ไม่อยากขอพรให้เป็นบุญคุณกันด้วย
เอาแบบนี้ละกัน win-win.... 'แล้วอธิษฐานว่า"ขอให้เจ้าเสือ
โคร่งตัวนี้นับถือศาสนาและเชื่อในพระเจ้าด้วย" สิ้นคำอธิษฐาน
เวลาที่หยุดนิ่งก็กลับเดินใหม่ลมเริ่มพัด น้ำในลำธารไหล นกบิน
ในท้องฟ้า และเสือโคร่งก็เริ่มขยับ เจ้าเสือโคร่งหมอบลงกับพื้น
ก้มหัวลงแล้วคิดในใจว่า"ขอบคุณพระเจ้าสำหรับอาหารมื้อนี้"


หัวข้อ: Re: "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: ตุ๋ย 22 ที่ 08 กันยายน 2552, 20:14:07
ภูมิใจนะพี่แอ๊ะ บ้านเราไม่ค่อยประกาศชื่นชมกับแม็กไซไซ นี้เลยนะ


หัวข้อ: Re: "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: หนุน'21 ที่ 08 กันยายน 2552, 20:47:09
 emo24:(

เข้ามานั่งรอพี่แอ๊ะกลับมาเล่าเรื่องปินส์ต่อครับ



หัวข้อ: Re: "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: ตุ๋ย 22 ที่ 09 กันยายน 2552, 14:46:22
พี่แอ๊ะ  เล่าได้น่าติดตาม


หัวข้อ: Re: "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: prapasri AH ที่ 10 กันยายน 2552, 21:25:09
พี่แอ๊ะกลับมาแล้วค่ะ

น้องตุ๋ย ติดตามไปเรื่อยๆนะคะ

พี่แอ๊ะจะเล่าเป็นหนังเรื่องยาว หลายเรื่องๆค่ะ อิๆๆๆๆๆ

น้องหนุน คะ  พี่แอ๊ะต้องรีบเล่าเรื่องปินส์ให้จบเร็วๆค่ะ

เดือนหน้า จะเล่าเรื่องญี่ปุ่นค่ะ จะไปญี่ปุ่น 7วัน คราวนี้ไม่หลอกให้งงแล้วค่ะ

แต่เรื่องปินส์มีอีกเยอะมาก กำลังหาทางลงไม่ได้ อิๆๆๆๆ

น้องหะยีคะ

พี่แอ๊ะขำน้องหะยี ที่คิดว่าพี่แอ๊ะมี ตรรกะ หลายชั้น

พี่แอ๊ะเพิ่งมีตอนหลอกน้องๆไม่  บอกว่าจะไปไหน นี่ค่ะ

พี่แอ๊ะ คิดอะไร  ตามไม่ทันคนอื่นเลย  ขอตรรกะชั้นเดียวพอค่ะ

พี่แอ๊ะจะ รับมุก ไ ม่เป็น

อย่างที่น้องปลาทูแมน  เล่าเรื่องขำขัน

พี่แอ๊ะไม่ทราบว่า  ตอนจบ ปิ๊ก ถูกเสือโคร่ง กินหรือเปล่าคะ

ถามจริงๆ นะคะ


หัวข้อ: Re: "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: Soponเท่านั้น ที่ 10 กันยายน 2552, 21:46:13
อ้างถึง
ข้อความของ prapasri AH เมื่อ 07 กันยายน 2552, 19:09:10
ท่านที่ สองค่ะ เป็นชาวอินเดีย

เดี๋ยวน้องๆจะคิดว่าพี่แอ๊ะเชียร์แต่คนไทย เลยรีบส่งมาให้อีกท่านหนึ่ง

ก่อนที่จะไปจัดกระเป๋า เพราะต้องเดินทางไปอุบลเพื่อขึ้นเครืองไปกรุงเทพ

เครืองออก 7 โมงต้องออกจากยโสธร ตั้งแต่ตี5 เลยค่ะ

พี่แอ๊ะ ชักจะเป็นโรคจิต เล่าเรื่องทุกอย่างว่าตัวเองต้องทำอะไรบ้างเเต่ละวัน

คือพี่แอ๊ะอยากให้น้องๆจินตนาการออก ว่าวันๆ พี่แอ๊ะต้องทำอะไรบ้าง

คนบ้านนอก กับคนกรุงเทพ มีวิถีชีวิตแต่ละวันแตกต่างกันมากเหลือเกิน
สวัสดีครับพี่แอ๊ะ
พี่สิงห์ก็บรรยายชีวิตประจำวันละเอียด อาจจะมากกว่าพี่แอ๊ะด้วยซ้ำ อ่านเพลินดีทั้งสองแบบ emo4:))
ส่วนพี่ป๋องบรรยายยาวๆในเว็บไม่เป็นเลยครับ สงสัยออมกำลังและคำพูดไว้คุยกะสาว emo20:)):)


หัวข้อ: Re: "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: swsm ที่ 10 กันยายน 2552, 21:50:03
ไม่ค่ะ .. พี่ป๋องไม่ค่อยคุยกับสาว ๆ
แกจ้องสาวแก่แม่ม่ายตาเป็นมันส์เลยคร่ะ


หัวข้อ: Re: "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: prapasri AH ที่ 10 กันยายน 2552, 22:00:20
ขอเฉลยเรื่อง ฮาโล  ฮาโล ก่อนนะ

สมัย ตอนอยู่จุฬา พี่แอ๊ะเคย ได้ รับเลือกเป็นนิสิตแลกเปลี่ยน ของชมรมวิเทศสัมพันธ์จุฬา

ตอนปิดเทอม  ไปอยู่ ที มหาวิทยาลัย มลายา มาเลเซีย ที่มาเลย์ อยู่ในหอพัก เหมือนหอหญิง ปัจจุบันค่ะ

และที่สิงคโปร์ เทคนิลคอล คอลเลจ  ที่นี่ พักกับครอบครัวชาว สิงคโปร์

ที่มาเลย์ พี่แอ๊ะชอบของหวาน ชนิดหนึ่ง  ชื่อ ไอซ์คาจั้ง

พี่แอ๊ะทาน ไอซ์คาจั๊ง   ทุกวัน วันละหลายๆถ้วย จนอ้วนตุ๊ต๊ะกลับมา เพราะของเขา อร่อยกว่าของไทยมาก

ก็คือ ฮาโล ฮาโล  นั่นเอง เเต่ของมาเลย์ เขาผสมเรียบร้อยมาให้เรา เหมือน ของไทยค่ะ

จะเฉลย เลยนะคะ

ที่ปินส์ ไม่เหมือน มาเลย์และไทย ตรงที่เขาให้เรา ผสมเองเวลาทาน

ใช้ผลไม้แห้ง ๆ  หลายชนิด เเบบลูกชิดของเรา และผลไม้แห้ง อีกหลายอย่าง และ ให้ใส่ นม หรือกะทิ หรือน้ำเต้าหู้

ให้เราเลือกผสมเอาเอง แบบทานบุฟเฟ่ เลยค่ะ แล้ว ตักน้ำเเข็งไส ใส่ แล้วใส่นมสด ตามลงไปอีก


เริ่ม นึกออกแล้ว ใช้มะคะ

ของไทยเราเรียก   น้ำเเข็งไส       ค่ะ

(ตรรกะหลายชั้น เลยใช่ไหมคะ น้องหะยี   555555555555555555555 )


ที่สมุย ชาวสมุย จะเรียกว่า น้ำแข็ง ซิด " ซิด" แปลว่า "ไส" ค่ะ

ไม่ทราบน้องที่เป็นชาวใต้   รู้จัก น้ำเเข็งซิด ไหมคะ


หัวข้อ: Re: "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: Soponเท่านั้น ที่ 10 กันยายน 2552, 22:03:40
อ้างถึง
ข้อความของ prapasri AH เมื่อ 10 กันยายน 2552, 21:25:09
พี่แอ๊ะกลับมาแล้วค่ะ

น้องตุ๋ย ติดตามไปเรื่อยๆนะคะ

พี่แอ๊ะจะเล่าเป็นหนังเรื่องยาว หลายเรื่องๆค่ะ อิๆๆๆๆๆ

น้องหนุน คะ  พี่แอ๊ะต้องรีบเล่าเรื่องปินส์ให้จบเร็วๆค่ะ

เดือนหน้า จะเล่าเรื่องญี่ปุ่นค่ะ จะไปญี่ปุ่น 7วัน คราวนี้ไม่หลอกให้งงแล้วค่ะ

แต่เรื่องปินส์มีอีกเยอะมาก กำลังหาทางลงไม่ได้ อิๆๆๆๆ

น้องหะยีคะ

พี่แอ๊ะขำน้องหะยี ที่คิดว่าพี่แอ๊ะมี ตรรกะ หลายชั้น

พี่แอ๊ะเพิ่งมีตอนหลอกน้องๆไม่  บอกว่าจะไปไหน นี่ค่ะ

พี่แอ๊ะ คิดอะไร  ตามไม่ทันคนอื่นเลย  ขอตรรกะชั้นเดียวพอค่ะ

พี่แอ๊ะจะ รับมุก ไ ม่เป็น

อย่างที่น้องปลาทูแมน  เล่าเรื่องขำขัน

พี่แอ๊ะไม่ทราบว่า  ตอนจบ ปิ๊ก ถูกเสือโคร่ง กินหรือเปล่าคะ

ถามจริงๆ นะคะ

ป๋าทูเขาหาเรื่องมาได้หลายแนวนะครับ กระทู้เมียงูก็แบบหนึ่ง กระทู้อื่นๆก็ไปคนละแบบ แต่ส่วนใหญ่จะมีจิตแจ่มใสตลอด(สัปดนวันละนิด)
เพิ่งเห็นในกระทู้พี่แอ๊ะนี่แหละที่เรียบร้อยหน่อย แถมออกแนวเดียวกับเรื่องของพี่แอ๊ะ คือ หลอกให้งง ว่าเสือได้กินคนหรือปล่าว ผมเองก็เดาไม่ถูกเหมือนกัน  emo20:)):)


หัวข้อ: Re: "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: หนุน'21 ที่ 10 กันยายน 2552, 22:37:00
อ้างถึง
ข้อความของ prapasri AH เมื่อ 10 กันยายน 2552, 22:00:20
ขอเฉลยเรื่อง ฮาโล  ฮาโล ก่อนนะ

สมัย ตอนอยู่จุฬา พี่แอ๊ะเคย ได้ รับเลือกเป็นนิสิตแลกเปลี่ยน ของชมรมวิเทศสัมพันธ์จุฬา

ตอนปิดเทอม  ไปอยู่ ที มหาวิทยาลัย มลายา มาเลเซีย ที่มาเลย์ อยู่ในหอพัก เหมือนหอหญิง ปัจจุบันค่ะ

และที่สิงคโปร์ เทคนิลคอล คอลเลจ  ที่นี่ พักกับครอบครัวชาว สิงคโปร์

ที่มาเลย์ พี่แอ๊ะชอบของหวาน ชนิดหนึ่ง  ชื่อ ไอซ์คาจั้ง

พี่แอ๊ะทาน ไอซ์คาจั๊ง   ทุกวัน วันละหลายๆถ้วย จนอ้วนตุ๊ต๊ะกลับมา เพราะของเขา อร่อยกว่าของไทยมาก

ก็คือ ฮาโล ฮาโล  นั่นเอง เเต่ของมาเลย์ เขาผสมเรียบร้อยมาให้เรา เหมือน ของไทยค่ะ

จะเฉลย เลยนะคะ

ที่ปินส์ ไม่เหมือน มาเลย์และไทย ตรงที่เขาให้เรา ผสมเองเวลาทาน

ใช้ผลไม้แห้ง ๆ  หลายชนิด เเบบลูกชิดของเรา และผลไม้แห้ง อีกหลายอย่าง และ ให้ใส่ นม หรือกะทิ หรือน้ำเต้าหู้

ให้เราเลือกผสมเอาเอง แบบทานบุฟเฟ่ เลยค่ะ แล้ว ตักน้ำเเข็งไส ใส่ แล้วใส่นมสด ตามลงไปอีก


เริ่ม นึกออกแล้ว ใช้มะคะ

ของไทยเราเรียก   น้ำเเข็งไส       ค่ะ

(ตรรกะหลายชั้น เลยใช่ไหมคะ น้องหะยี   555555555555555555555 )


ที่สมุย ชาวสมุย จะเรียกว่า น้ำแข็ง ซิด " ซิด" แปลว่า "ไส" ค่ะ

ไม่ทราบน้องที่เป็นชาวใต้   รู้จัก น้ำเเข็งซิด ไหมคะ


 emo4:))

สวัสดีครับพี่แอ๊ะ
ฟังพี่แอ๊ะเล่าแล้วอยากทานขึ้นมาเลยอ่ะครับ
แต่ตอนนี้ดึกแล้วครับ
ไม่แน่พรุ่งนี้อาจจะได้...สักถ้วย


พยายามจะโพสรูป Ice Kachang แต่ upload ไม่ได้ครับ



 emo19:((:


หัวข้อ: Re: "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: Kaimook ที่ 10 กันยายน 2552, 23:07:30
วัสดีค่ะพี่แอ๊ะไม่ได้มาหลายวันพี่แอ๊ะเล่าได้เยอะมากเลยค่ะอ่านทีเดี๋ยวจุใจดีค่ะ
 emo4:)) emo4:)) emo4:))


หัวข้อ: Re: "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: prapasri AH ที่ 11 กันยายน 2552, 09:14:34
น้องโสภณ  เท่านี้ น้องหะยี น้องปลาทูแมน น้องหนุน น้องตุ๋ย และน้องท่านอื่นๆ

น้องกระป๋อง อีกคน  ฉันถามหาเธอ นานแล้วนะน้องกระป๋อง

แอบอยู่หลังบ้าน หรือเฝ้าแต่บ้าน ตัวเอง ไม่มาคุยกับน้องๆในบ้านฉันซะที มี ฮาโล ฮาโล ให้รับประทานด้วยนะ


น้องๆค่ะ พี่แอ๊ะต้องรีบไปประชุม แล้วค่ะ


 


หัวข้อ: Re: "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: Kaimook ที่ 11 กันยายน 2552, 09:22:14
สวัสดีค่ะพี่แอ๊ะ emo4:)) emo4:)) emo4:))


หัวข้อ: Re: "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: prapasri AH ที่ 11 กันยายน 2552, 14:03:26
น้องไข่มุก คะ

พี่แอ๊ะจะเล่าเร็วๆ แล้วนะคะ

ตั้งแต่ที่เล่ามา ยังไม่ถึงตอนเเรกที่พี่แอ๊ะเดินทางมาถึงปินส์ เลยค่ะ

และทำไมจึงต้องมางานนี้ มากับใครบ้าง


มัว แต่ออกนอกเรื่อง ไปเรื่อยยยยยยยยยยยยยยยยย



หัวข้อ: Re: "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: prapasri AH ที่ 11 กันยายน 2552, 14:20:48
โหลดรูป ไม่ได้อีกแล้ว

I T  บอกว่า บางทีก็ต้องรอ ก่อน

งั้นพี่แอ๊ะไป nap สัก แป๊บ นะคะ


หัวข้อ: Re: "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: jamsai ที่ 11 กันยายน 2552, 16:23:52
สวัสดีค่ะ พี่แอ๊ะ
สวัสดีค่า แฟนคลับพี่แอ๊ะทุกท่าน ทั้งที่เคยพบ และยังไม่มีโอกาสพบ

แอบมาห้องนี้ทุกครั้งที่้มีโอกาสเข้าเวป และตอนนี้รอฟังเรื่องปินส์กับ ดร. กฤษณาอยู่ค่ะ

และมา ถามทีี่คุณเปี๊ยก เขียนว่า ....จิตแจ่มใสตลอด(สัปดนวันละนิด)....
มันแปลเป็นลาวว่าอิหยังเก๊าะ ...คุณเปี๊ยก..


หัวข้อ: Re: "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: prapasri AH ที่ 11 กันยายน 2552, 16:34:49
     

     อาจารย์แจ่มใสคะ

          ดีใจจัง มาบ้านพี่แอ๊ะ ทานฮาโล ฮาโล ได้เลยนะคะ...... หวาน อร่อย จับใจ ค่ะ

      พี่แอ๊ะได้ ยิน ท่านหนึ่ง เขาพูดถึง ปินส์ ว่า

         "คนไทยไม่ดีเลย พอปินส์ แย่  ก็ไม่มาเที่ยวปินส์ กันและรังเกียจปินส์ด้วย"

พี่แอ๊ะ ตอบในใจ

  "เราก็ต้องการมาเที่ยว ปินส์ ไม่ได้รังเกียจ ประเทศ เขาเลย เรา สงสาร ประชาชน ชาวปินส์....

แต่เรารังเกียจ ผู้บริหารประเทศของเขาต่างหาก"


จริงไหมคะอาจารย์ แจ่ม สุดที่รัก


หัวข้อ: Re: "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: ตุ๋ย 22 ที่ 11 กันยายน 2552, 19:19:56
หวัดดีพี่แอ๊ะ  ผมเป็นเบาหวานแต่เห็นของหวานไม่ได้


หัวข้อ: Re: "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: prapasri AH ที่ 11 กันยายน 2552, 20:26:41
 
 ที่น้องๆ รวมทั้งน้องหะยี  ที่ทายไม่ถูก คงเพราะ พี่แอ๊ะออกเสียงผิดก็ได้

อ่านว่า    ฮาโล ฮาโล่    [/b]   มี ไม้เอก ค่ะ


หัวข้อ: Re: "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: prapasri AH ที่ 11 กันยายน 2552, 20:38:20
อาจารย์ แจ่มใสคะ

พี่ แอ๊ะคิดว่าจะเล่าแบบรีบๆ เว้น ไม่นำรายละเอียด ของท่านอื่นๆ

จากจีน2 ท่าน และจากปินส์ 1 ท่าน จาก พม่าอีก1 ท่าน

แต่พอทราบว่า อาจารย์แจ่ม เข้ามาบ้านพี่แอ๊ะด้วย พี่แอ๊ะต้องเล่าให้หมด

เดี๋ยวอาจารย์ เอาไม้เรียว ตี พี่แอ๊ะแหงๆ ถ้าเล่าไม่หมดทุกท่านที่ได้ แมกไซไซ

แต่ยังส่งรูปไม่ได้ คุยเรื่องอื่นๆ ไปก่อนก็แล้วกันนะน้องๆ ขา


หัวข้อ: Re: "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: prapasri AH ที่ 11 กันยายน 2552, 21:25:49
 
   ส่งรูปไม่ได้อีกแล้วค่ะ รอพรุ่งนี้ ค่อยดูรูปพร้อมคำบรรยาย นะคะ

   เห็นน้องๆ บอกว่าพี่แอ๊ะเป็นนักเขียนได้ พี่แอ๊ะเลยคิดว่าจะเขียนหนังสือ ขึ้นมาสักเล่ม

    พิมพ์ เองขายเอง ถ้าได้กำไร เอามาเข้าชมรมชาวเวบหอ ดีไหมคะ

    พี่แอ๊ะกำลังจะเขียนเรื่องขำขันแข่งกับน้องปลาทูแมน

  ชื่อเรื่อง "ขำขันชาวเกาะ" พี่แอ๊ะเป็นเด็กบ้านนอกมาจาก สมุย

   มีเรื่องเชยๆมากมายเลยจะรวมเรื่องขำขันไว้ในเล่มนี้

  คิดว่าก่อนจะพิมพ์ต้องให้น้องๆ ช่วย proof ด้วย การ ส่งมาให้น้องๆอ่านก่อน

    จะหัวเราะกันจนท้องเเข็งแน่นอน...................

   วันนี้พี่แอ๊ะ เลยไปรื้อเอกสาร เก่าๆ พี่แอ๊ะเคยเขียนได้ลงมติชน ด้วยค่ะ

    แต่ยังหา ต้นฉบับ ที่ได้ลงไม่เจอ กำลังให้ มติชน ค้นให้ค่ะ เขียนเมื่อ 4 มิย.2541

   ถ้า พี่แอ๊ะบอกว่าเขียนเรื่องอะไร น้องๆคงจะงง แบบนึกไม่ถึง (ยอตัวเองอีกแล้ว)

   พี่แอ๊ะ ประทับใจ"การสอบเอ็นสะท้าน" ของไทยเรามาก

   พี่แอ๊ะได้เขียนเรื่อง

          " การสอบเอ็นทร้านซ์ ความยุติธรรม ในสังคมไทย ทียังเหลืออยู่ "   

 
   และอีกเรื่องหนึ่งที่ได้รับการพิมพ์ลงหนังสือแพทย์จุฬารุ่น24 ของพี่หาญ

  และหนังสือ ในหลักสูตร mini MBA in health  ของคณะแพทยศาสตร์ จุฬาด้วยค่ะ

     ทีนี้ถ้าพี่แอ๊ะต้องการนำเรื่องที่พี่แอ๊ะเคยเขียนมาลง ในเวบนี้ให้น้องๆอ่าน

  พี่แอ๊ะต้องทำอย่างไรคะ

   หรือ copy มา paste  ในกระทู้นี้ เป็น ตอนๆ ได้ไหมคะ

  ท่านใดที่ รับผิดชอบเรื่องเวบนี้ กรุณา บอกพี่แอ๊ะด้วยค่ะ

  พี่แอ๊ะ จะได้ให้น้องๆอ่าน และพี่แอ๊ะ จะได้มีกำลังใจเป็นนักเขียน ซะที

  ขอบคุณ ขอบคุณ และขอบคุณ


หัวข้อ: Re: "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: หนุน'21 ที่ 11 กันยายน 2552, 21:43:16
อ้างถึง
ข้อความของ prapasri AH เมื่อ 11 กันยายน 2552, 21:25:49
 
.........

   วันนี้พี่แอ๊ะ เลยไปรื้อเอกสาร เก่าๆ พี่แอ๊ะเคยเขียนได้ลงมติชน ด้วยค่ะ

    แต่ยังหา ต้นฉบับ ที่ได้ลงไม่เจอ กำลังให้ มติชน ค้นให้ค่ะ เขียนเมื่อ 4 มิย.2541

   ถ้า พี่แอ๊ะบอกว่าเขียนเรื่องอะไร น้องๆคงจะงง แบบนึกไม่ถึง (ยอตัวเองอีกแล้ว)

   พี่แอ๊ะ ประทับใจ"การสอบเอ็นสะท้าน" ของไทยเรามาก

   พี่แอ๊ะได้เขียนเรื่อง

          " การสอบเอ็นทร้านซ์ ความยุติธรรม ในสังคมไทย ทียังเหลืออยู่ "   

 
   และอีกเรื่องหนึ่งที่ได้รับการพิมพ์ลงหนังสือแพทย์จุฬารุ่น24 ของพี่หาญ

  และหนังสือ ในหลักสูตร mini MBA in health  ของคณะแพทยศาสตร์ จุฬาด้วยค่ะ

     ทีนี้ถ้าพี่แอ๊ะต้องการนำเรื่องที่พี่แอ๊ะเคยเขียนมาลง ในเวบนี้ให้น้องๆอ่าน

  พี่แอ๊ะต้องทำอย่างไรคะ

   หรือ copy มา paste  ในกระทู้นี้ เป็น ตอนๆ ได้ไหมคะ

  ท่านใดที่ รับผิดชอบเรื่องเวบนี้ กรุณา บอกพี่แอ๊ะด้วยค่ะ

  พี่แอ๊ะ จะได้ให้น้องๆอ่าน และพี่แอ๊ะ จะได้มีกำลังใจเป็นนักเขียน ซะที

  ขอบคุณ ขอบคุณ และขอบคุณ

สวัสดีครับพี่แอ๊ะ
จะคอยอ่าน บทความ หรือข้อเขียนของพี่นะครับ
ความจริง copy มา paste  ในกระทู้นี้เป็น ตอนๆ ก็ได้นะครับ
ถ้าไม่ทำให้พี่ลำบากมากเกินไป
พี่ๆ น้องๆท่านอื่นอาจจะมีคำแนะนำที่ดีให้พี่แอ๊ะได้นะครับ
ผมเองก็โลว์เทค เลยไม่ได้ช่วยอะไรพี่เลยครับ...อายจัง
แต่อยากอ่านครับ


 emo2:)


หัวข้อ: Re: "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: ตุ๋ย 22 ที่ 11 กันยายน 2552, 22:00:59
นายทูนี่เค้ามีกรุเยอะ  ไม่รู้หาที่ไหนมามีได้ทุกวี่ทุกวันนะพี่แอ๊ะ


หัวข้อ: Re: "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: Soponเท่านั้น ที่ 12 กันยายน 2552, 16:24:34
อ้างถึง
ข้อความของ jamsai เมื่อ 11 กันยายน 2552, 16:23:52
สวัสดีค่ะ พี่แอ๊ะ
สวัสดีค่า แฟนคลับพี่แอ๊ะทุกท่าน ทั้งที่เคยพบ และยังไม่มีโอกาสพบ

แอบมาห้องนี้ทุกครั้งที่้มีโอกาสเข้าเวป และตอนนี้รอฟังเรื่องปินส์กับ ดร. กฤษณาอยู่ค่ะ

และมา ถามทีี่คุณเปี๊ยก เขียนว่า ....จิตแจ่มใสตลอด(สัปดนวันละนิด)....
มันแปลเป็นลาวว่าอิหยังเก๊าะ ...คุณเปี๊ยก..
ขออภัยครับ emo30:sorry: พาดพิงแบบตั้งใจ emo20:)):) เอ๊ย ไม่ตั้งใจครับ


หัวข้อ: Re: "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: Kaimook ที่ 12 กันยายน 2552, 18:08:45
อ้างถึง
ข้อความของ prapasri AH เมื่อ 11 กันยายน 2552, 21:25:49
 
   ส่งรูปไม่ได้อีกแล้วค่ะ รอพรุ่งนี้ ค่อยดูรูปพร้อมคำบรรยาย นะคะ

   เห็นน้องๆ บอกว่าพี่แอ๊ะเป็นนักเขียนได้ พี่แอ๊ะเลยคิดว่าจะเขียนหนังสือ ขึ้นมาสักเล่ม

    พิมพ์ เองขายเอง ถ้าได้กำไร เอามาเข้าชมรมชาวเวบหอ ดีไหมคะ

    พี่แอ๊ะกำลังจะเขียนเรื่องขำขันแข่งกับน้องปลาทูแมน

  ชื่อเรื่อง "ขำขันชาวเกาะ" พี่แอ๊ะเป็นเด็กบ้านนอกมาจาก สมุย

   มีเรื่องเชยๆมากมายเลยจะรวมเรื่องขำขันไว้ในเล่มนี้

  คิดว่าก่อนจะพิมพ์ต้องให้น้องๆ ช่วย proof ด้วย การ ส่งมาให้น้องๆอ่านก่อน

    จะหัวเราะกันจนท้องเเข็งแน่นอน...................

   วันนี้พี่แอ๊ะ เลยไปรื้อเอกสาร เก่าๆ พี่แอ๊ะเคยเขียนได้ลงมติชน ด้วยค่ะ

    แต่ยังหา ต้นฉบับ ที่ได้ลงไม่เจอ กำลังให้ มติชน ค้นให้ค่ะ เขียนเมื่อ 4 มิย.2541

   ถ้า พี่แอ๊ะบอกว่าเขียนเรื่องอะไร น้องๆคงจะงง แบบนึกไม่ถึง (ยอตัวเองอีกแล้ว)

   พี่แอ๊ะ ประทับใจ"การสอบเอ็นสะท้าน" ของไทยเรามาก

   พี่แอ๊ะได้เขียนเรื่อง

          " การสอบเอ็นทร้านซ์ ความยุติธรรม ในสังคมไทย ทียังเหลืออยู่ "   

 
   และอีกเรื่องหนึ่งที่ได้รับการพิมพ์ลงหนังสือแพทย์จุฬารุ่น24 ของพี่หาญ

  และหนังสือ ในหลักสูตร mini MBA in health  ของคณะแพทยศาสตร์ จุฬาด้วยค่ะ

     ทีนี้ถ้าพี่แอ๊ะต้องการนำเรื่องที่พี่แอ๊ะเคยเขียนมาลง ในเวบนี้ให้น้องๆอ่าน

  พี่แอ๊ะต้องทำอย่างไรคะ

   หรือ copy มา paste  ในกระทู้นี้ เป็น ตอนๆ ได้ไหมคะ

  ท่านใดที่ รับผิดชอบเรื่องเวบนี้ กรุณา บอกพี่แอ๊ะด้วยค่ะ

  พี่แอ๊ะ จะได้ให้น้องๆอ่าน และพี่แอ๊ะ จะได้มีกำลังใจเป็นนักเขียน ซะที

  ขอบคุณ ขอบคุณ และขอบคุณ
พี่แอ๊ะขราาาาาาน้ำอ้อยเข้าคิวรออ่่านแล้วค่ะ


หัวข้อ: Re: "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: prapasri AH ที่ 12 กันยายน 2552, 18:45:14
ทำไงดีค่ะ น้องไข่มุกขา

พี่แอ๊ะ load รูปไม่ได้ เลยยังเล่าต่อไม่ได้

แล้วอาทิตย์หน้า พี่แอ๊ะต้องไปชุมแพ และ ปลายอาทิตย์พี่แอ๊ะจะไปปากเซ แขวง จำปาสัก

กำลังซ้อมร้องเพลง สองฝั่งโขง , เดือนเพ็ญ และ ดวงจำปา เพื่อกล่อมพี่น้องซาวสปป.ลาว

และจะมาเล่าแต่เรื่องปินส์ยังไม่ถึงไหน หาทางลงไม่ได้........เลยยยยยยยยยยยยย

พี่แอ๊ะไปกระทู้ไหนไม่เป็นแล้วค่ะ  เฝ้าแต่บ้านตัวเอง  ตามน้องๆมาทาน ฮาโล ฮาโล่ อยู่นี่ค่ะ






หัวข้อ: Re: "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: Soponเท่านั้น ที่ 12 กันยายน 2552, 19:41:00
อ้างถึง
ข้อความของ prapasri AH เมื่อ 12 กันยายน 2552, 18:45:14
ทำไงดีค่ะ น้องไข่มุกขา

พี่แอ๊ะ load รูปไม่ได้ เลยยังเล่าต่อไม่ได้

แล้วอาทิตย์หน้า พี่แอ๊ะต้องไปชุมแพ และ ปลายอาทิตย์พี่แอ๊ะจะไปปากเซ แขวง จำปาสัก

กำลังซ้อมร้องเพลง สองฝั่งโขง , เดือนเพ็ญ และ ดวงจำปา เพื่อกล่อมพี่น้องซาวสปป.ลาว

และจะมาเล่าแต่เรื่องปินส์ยังไม่ถึงไหน หาทางลงไม่ได้........เลยยยยยยยยยยยยย

พี่แอ๊ะไปกระทู้ไหนไม่เป็นแล้วค่ะ  เฝ้าแต่บ้านตัวเอง  ตามน้องๆมาทาน ฮาโล ฮาโล่ อยู่นี่ค่ะ


สวัสดีครับพี่แอ๊ะ
พี่คงต้องเร่งมือเขียนแล้วครับ ม่ายงั้นกลับมาจากสปป.ลาวก็จะถูกน้อง(แควนๆ)เรียกร้องจะฟังเพลงสองฝั่งโขง เดือนเพ็ญ และ ดวงจำปาอีกด้วย emo43
อย่ากระนั้นเลย emo4:)) พี่แอ๊ะชวนพี่หมอหาญเข้ามาช่วยเขียนซิครับ แป๊บเดียวก็จบแล้ว พี่ท่านคงเริ่มพอมีเวลาเพราะลูกมาช่วยงานแล้ว เดี๋ยวพี่หาญจะได้ติดเว็บอีกคนหนึ่งไงครับ emo20:)):)


หัวข้อ: Re: "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: prapasri AH ที่ 12 กันยายน 2552, 20:17:30
น้อง อาจารย์แจ่มคะ

พี่แอ๊ะขออนญาต นำเรื่องของ ท่านผู้ได้รับรางวัลแมกไซไซ

จากที่ หมอเหยง 16 เล่าให้ฟัง พี่แอ๊ะจะได้ไม่ต้องเหนื่อยแปลภาษาปะกิด ค่ะ

กล้านำ ที่เหยง 16 เขียน เพราะ เหยง กับแต๋ง 16 ท่านผู้ยิ่งใหญ่แห่งไทยออยล์

เป็นน้องที่พี่แอ๊ะรักและสนิทกันมาก

พี่แอ๊ะเลยกล้านำมาอ้างอิง  โดยขออนุญาตตรงนี้เลยนะคะ หมอเหยง จ๋า



คณะกรรมการรางวัล รามอน แมกไซไซ ประกาศมอบรางวัลประจำปีในวันนี้ (3) ประกอบด้วยชาวจีน 2 คน อินเดีย ฟิลิปปินส์
พม่า และไทยชาติละ 1 คน
ได้แก่

       
   1......    ดร.กฤษณา ไกรสินธุ์ เภสัชกรชาวจังหวัดสุราษฎร์ธานี วัย 57 ปี ได้รับรางวัลจากอุทิศตนผลิตยาราคาถูกช่วยเหลือ

ผู้ป่วยติดเชื้อเอชไอวีเอดส์ ทั้งในประเทศไทย และในทวีปแอฟริกา


   2....  ทีป โจชี ชาวอินเดีย ผู้จบปริญญาจากมหาวิทยาลัยแมสชาชูเซตส์ อินสติติวออฟเทคโนโลยี(MIT) ได้รับรางวัลจากผลงาน

อุทิศตนเพื่อการพัฒนาชนบทของอินเดียมานานหลายทศวรรษ อีกทั้งเป็นผู้ก่อตั้งองค์กรที่ไม่หวังผลกำไร ซึ่งได้ระดมและเตรียม


พร้อมให้นักศึกษาจบจากมหาวิทยาลัยเข้าสู่โครงการระดับรากหญ้าในชุมชนที่ยากจนของอินเดีย



3.... อี๋ว์ เสี่ยวกัง    ในฐานะเป็นผู้รณรงค์ให้ประชาชนตระหนักเกี่ยวกับเขื่อนที่สร้างขึ้นในจีน และ

             ได้อุทิศตนเพื่อศึกษาและประเมินผลกระทบทางสังคมที่เกิดจากการก่อสร้างอภิมหาโครงการทุกแห่ง


4....... อันโตนิโอ โอโปซา จูเนียร์ ทนายความและนักรณรงค์เพื่อสิ่งแวดล้อมชาวฟิลิปปินส์

       คว้ารางวัลในฐานะผู้รณรงค์ต่อต้านการทำลายระบบนิเวศวิทยาทางทะเล รวมทั้งอำนวยการลาดตระเวนทางทะเล

         เพื่อป้องกันเรือที่จะระเบิดปลาโดยผิดกฎหมายด้วย

                 


 5...... หม่า จวิน อดีตนักหนังสือพิมพ์ชาวจีนอีก ท่านหนึ่งที่ได้รับรางวัลอันทรงเกียรตินี้

   จากการเสนอรายงานเกี่ยวกับสิ่งแวดล้อมในจีน โดยเฉพาะการระบุชื่อบริษัท
 
   กว่า 10,000 แห่ง ที่ละเมิดมาตรฐานการปล่อยมลพิษสู่สิ่งแวดล้อม
       
                 
     6..... ชาวพม่า คือ คา ซอว์ วา นักเคลื่อนไหวด้านสิทธิมนุษยชน

   ซึ่งในระหว่างที่เป็นนักศึกษา เขาเคยถูกทหารพม่าจับทรมาน

    แต่ในปัจจุบันเป็นผู้ร่วมก่อตั้งองค์กร เอิร์ธไรท์ส อินเตอร์เนชั่นแนล ซึ่งรณรงค์ไม่ใช้ความรุนแรงในการแสดงออก ได้รับรางวัล

   จากการช่วยแก้ไขปรับปรุงและให้การศึกษาเพื่อป้องกันการละเมิดสิทธิมนุษยชน สิ่งแวดล้อม และประชาธิปไตยในพม่าอย่าง

     ไม่เกรงกลัวสิ่งใด
       
     




หัวข้อ: Re: "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: prapasri AH ที่ 12 กันยายน 2552, 20:31:34

น้อง โสภณ เท่านี้คะ

หากโหลด รูปได้เมื่อไร รีบบอกพี่แอ๊ะด่วนเลยนะคะ เรื่องที่พี่แอ๊ะเล่าจะได้ไม่แห้งงงงงงงงงงงงง ค่ะ

หมายถึงไม่สด ซะแล้ว  คืออยากให้ ใหม่..สด   ซิงๆ

พี่หาญ ทราบเรื่องที่เรา คุยกันทุกเรื่องเพราะ พี่แอ๊ะ กรอกหู พี่หาญ ...เอ๊ยม่ายช่ายยยยยยยยยยย..

พีเเอ๊ะกล่อมพี่หาญ ถึงเรื่องที่เราคุยในเวบ ทุกเวลา หลังอาหาร เช้า เที่ยง เย็น และก่อนนอน 555555555555555

พี่แอ๊ะยังบอกพี่หาญว่า พี่ปรีขา 10 เพื่อนรักพี่หาญ ยังทันสมัย เข้าเวบ เลยค่ะ พี่ปรีชา ขา


หัวข้อ: Re: "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: หนุน'21 ที่ 12 กันยายน 2552, 20:49:39
 emo28:win:

วิ่งเข้ามาสวัสดีพี่แอ๊ะ กับพี่หมอหาญนะครับ
จะคอยชมรูปและเรื่องจากพี่ต่อไปครับ
จะสดหรือแห้งก็ได้ทั้งนั้นแหละครับ



หัวข้อ: Re: "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: prapasri AH ที่ 12 กันยายน 2552, 21:10:38
   
       เอาเรื่อง ขำขัน ก่อนดีกว่านะคะ เพราะไม่ต้องส่งรูป เพราะส่งเท่าไร ก็ส่งไม่ได้ หุๆๆๆๆ

เป็นเรื่อง  ขำขัน ของ "ลูกเขยชาวเกาะ "  ค่ะ

พี่แอ๊ะไม่เคยเห็นพีหาญหัวเราะเอิ๊กอ๊ากแบบ หยุดไม่ได้ ..... พี่หาญหัวเราะตอนเที่ยงวันนี้

ขณะกำลังทานข้าวอยู่    พี่หาญ หัวเราะจน สำลักน้ำเลยค่ะ....... พี่หาญไม่ได้หัวเราะแบบนี้มาหลายสิบปีแล้ว

เล่าเลยนะ

สดๆร้อนๆ จากห้องตรวจของคุณหมอ ที่โอพีดีค่ะ

ไม่ทราบว่า จะสับปะดน เอ๊ยย .... ไม่สุภาพ หรือเปล่า นะคะ แต่เป็นเรื่องที่เกิดขึ้นจริงๆค่ะ


พี่หาญ กำลังจะตรวจคนไข้ผู้หญิงคนหนึ่ง

คนไข้ก็เริ่มเล่าหมอด้วยการบอกอาการ ต่างๆที่คนไข้ คนนี้ ต้องมาหาหมอ

คนไข้บอกตอนหนึ่งว่าเพิ่งคลอดลูกมา

 พี่หาญถามคนไข้ว่า  "คลอดลูกที่ไหนครับ?"

 คนไข้ก็อายยยยยยยยยย ก้มหน้า  

แบบอายๆๆๆๆๆๆ เขินๆๆๆ ไม่อยากบอกหมอน่ะค่ะ

พี่หาญถามอีกว่า คลอดที่อำนาจ หรือ?  

(อำนาจ หมายถึงจํ.อำนาจเริญ แต่เราเรียกคนไข้ที่มาจากจังหวัดนี้ ว่ามาจาก อำนาจ)

 พี่หาญก็สงสัย  และนึกในใจว่า ...เอ.... ทำไมถามว่าคลอดลูกที่ไหน แล้ว คนไข้ อายอย่างนี้

ในที่สุด คนไข้ ก็ยอม ตัดสินใจ ไม่อายแล้วล่ะ เพราะคุณหมอถาม ก็ต้องตอบ ไม่งั้นรักษาโรคไม่หาย

คนไข้ตัดสินใจ บอกพี่หาญเสียงอ่อยๆ ว่า

[color=#0044ff]"คลอดทีนี่" แล้วคนไข้ก็ชี้ ไปที่ตรงนั้นน่ะค่ะคือขยับขานิดหน่อย ...แล้วชี้ไปที่ตรงนั้นค่ะ......(ฮา)


น้องหนุน 21...อ่านแล้วต้องคิด ไม่ออก  กลับมาอ่านใหม่ แล้ว ต้อง ชวนภรรยามาหัวเราะอีกแน่ๆค่ะ

 คงไม่กล้าชวนลูกๆมาหัวเราะนะคะ เพราะลูกจะหาว่าพ่อนี้ ทะลึ่งจังงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงง


นี่คือเรื่องจริง ที่เกิดขึ้นวันนี้ ที่โรงพยาบาลพี่แอ๊ะวันนี้ค่ะ[/color]


หัวข้อ: Re: "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: หนุน'21 ที่ 12 กันยายน 2552, 21:56:58
อ้างถึง
ข้อความของ prapasri AH เมื่อ 12 กันยายน 2552, 21:10:38
   
       เอาเรื่อง ขำขัน ก่อนดีกว่านะคะ เพราะไม่ต้องส่งรูป เพราะส่งเท่าไร ก็ส่งไม่ได้ หุๆๆๆๆ

เป็นเรื่อง  ขำขัน ของ "ลูกเขยชาวเกาะ "  ค่ะ

พี่แอ๊ะไม่เคยเห็นพีหาญหัวเราะเอิ๊กอ๊ากแบบ หยุดไม่ได้ ..... พี่หาญหัวเราะตอนเที่ยงวันนี้

ขณะกำลังทานข้าวอยู่    พี่หาญ หัวเราะจน สำลักน้ำเลยค่ะ....... พี่หาญไม่ได้หัวเราะแบบนี้มาหลายสิบปีแล้ว

เล่าเลยนะ

สดๆร้อนๆ จากห้องตรวจของคุณหมอ ที่โอพีดีค่ะ

ไม่ทราบว่า จะสับปะดน เอ๊ยย .... ไม่สุภาพ หรือเปล่า นะคะ แต่เป็นเรื่องที่เกิดขึ้นจริงๆค่ะ


พี่หาญ กำลังจะตรวจคนไข้ผู้หญิงคนหนึ่ง

คนไข้ก็เริ่มเล่าหมอด้วยการบอกอาการ ต่างๆที่คนไข้ คนนี้ ต้องมาหาหมอ

คนไข้บอกตอนหนึ่งว่าเพิ่งคลอดลูกมา

 พี่หาญถามคนไข้ว่า  "คลอดลูกที่ไหนครับ?"

 คนไข้ก็อายยยยยยยยยย ก้มหน้า  

แบบอายๆๆๆๆๆๆ เขินๆๆๆ ไม่อยากบอกหมอน่ะค่ะ

พี่หาญถามอีกว่า คลอดที่อำนาจ หรือ?  

(อำนาจ หมายถึงจํ.อำนาจเริญ แต่เราเรียกคนไข้ที่มาจากจังหวัดนี้ ว่ามาจาก อำนาจ)

 พี่หาญก็สงสัย  และนึกในใจว่า ...เอ.... ทำไมถามว่าคลอดลูกที่ไหน แล้ว คนไข้ อายอย่างนี้

ในที่สุด คนไข้ ก็ยอม ตัดสินใจ ไม่อายแล้วล่ะ เพราะคุณหมอถาม ก็ต้องตอบ ไม่งั้นรักษาโรคไม่หาย

คนไข้ตัดสินใจ บอกพี่หาญเสียงอ่อยๆ ว่า

[color=#0044ff]"คลอดทีนี่" แล้วคนไข้ก็ชี้ ไปที่ตรงนั้นน่ะค่ะคือขยับขานิดหน่อย ...แล้วชี้ไปที่ตรงนั้นค่ะ......(ฮา)


น้องหนุน 21...อ่านแล้วต้องคิด ไม่ออก  กลับมาอ่านใหม่ แล้ว ต้อง ชวนภรรยามาหัวเราะอีกแน่ๆค่ะ

 คงไม่กล้าชวนลูกๆมาหัวเราะนะคะ เพราะลูกจะหาว่าพ่อนี้ ทะลึ่งจังงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงง


นี่คือเรื่องจริง ที่เกิดขึ้นวันนี้ ที่โรงพยาบาลพี่แอ๊ะวันนี้ค่ะ[/color]

 emo4:))

ฮาครับพี่แอ๊ะ
กร๊ากกก  กร๊ากกก   คนต่างจังหวัดเขาขี้อายนะพี่
เหอ เหอ คงงง พี่หมอหาญเหมือนกันนะครับ
เอ๊ะทำไม่คุณหมอไม่รู้ว่าคลอดตรงใหน
ทั้งที่รอยผ่าก็ไม่มีอ่ะ

ท่าชี้ที่เกิดเหตุ ของคนไข้คงเขินน่าดูนะครับพี่
ดลอดที่นี่ คลอดตรงนี้
อ่านไปก็นึกภาพตามไปอ่ะครับ
เอาเรื่องอย่างนี้แหละครับ แถวๆนี้แหละน้องๆชอบ
รอฟังเรื่องต่อไป
ขอบคุณครับ
กั่ก กั่ก กั่ก

 emo20:)):) emo20:)):)


หัวข้อ: Re: "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: ตุ๋ย 22 ที่ 14 กันยายน 2552, 09:45:06
พี่แอ๊ะมันก็คลอดที่นั่นจริงๆๆๆ  เหอๆๆๆๆๆๆ


หัวข้อ: Re: "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: prapasri AH ที่ 14 กันยายน 2552, 12:10:28

  น้องหนุน21 และน้องตุ๋ย22 คะ

   เวบ ขัดข้อง พี่แอ๊ะแทบจะขาดใจตาย เพราะคิดถึงเวบ คิดฮอดน้องๆค่ะ

  ดีใจจังเราคุยกันต่อได้แล้ว....

   แต่พี่แอ๊ะต้องรีบไปอ.ชุมแพ จ.ขอนแก่น เพื่อนพี่หาญ นายแพทย์อุทัย อุโฆษณาการ( เสียดายท่านไม่ได้เป็นชาวหอ)

  ท่านเกษียณ ค่ะ พี่แอ๊ะจะไปเลี้ยงส่งเพราะท่านจะกลับไปอยู่ชลบุรี

   พี่แอ๊ะจะมอบโล่รางวัลให้พี่บุคคลดีเด่นให้พี่เขา. ดีไหม

 ที่ พี่เขาเสียสละ ให้ชาวอิสาน คืออยู่ที่ชุมแพ นานถึง 34 ปี 5เดือน ค่ะ

บาย บาย ก่อนนะ ต้องไปค้างคืน ที่ชุมแพค่ะ

อีกนิดหนึงค่ะน้องหนุนและน้องตุ๋ยคะ

พี่แอ๊ะอาจจะเขียน "เรื่องสั้นในโรงหมอ"  อีกเล่มหนึ่งดีไหม

เรื่องจริงๆ ที่เกิดขึ้นที่โรงพยาบาลพี่แอ๊ะ มีเรื่องสนุก ๆทุกวันเลยค่ะ

(http://img190.imageshack.us/img190/843/200909030167.jpg)


 ทดสอบการส่งรูปค่ะ ไว้ส่งได้อะป่าวววววววววววววว

ส่งรูปหวานแหวว มาให้น้องๆตาร้อนนนนนนนนนนนน อิๆๆๆๆ







หัวข้อ: Re: "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: เหยง 16 ที่ 14 กันยายน 2552, 12:53:21
อ้างถึง
ข้อความของ prapasri AH เมื่อ 12 กันยายน 2552, 20:17:30
น้อง อาจารย์แจ่มคะ

พี่แอ๊ะขออนญาต นำเรื่องของ ท่านผู้ได้รับรางวัลแมกไซไซ

จากที่ หมอเหยง 16 เล่าให้ฟัง พี่แอ๊ะจะได้ไม่ต้องเหนื่อยแปลภาษาปะกิด ค่ะ

กล้านำ ที่เหยง 16 เขียน เพราะ เหยง กับแต๋ง 16 ท่านผู้ยิ่งใหญ่แห่งไทยออยล์

เป็นน้องที่พี่แอ๊ะรักและสนิทกันมาก

พี่แอ๊ะเลยกล้านำมาอ้างอิง  โดยขออนุญาตตรงนี้เลยนะคะ หมอเหยง จ๋า



คณะกรรมการรางวัล รามอน แมกไซไซ ประกาศมอบรางวัลประจำปีในวันนี้ (3) ประกอบด้วยชาวจีน 2 คน อินเดีย ฟิลิปปินส์
พม่า และไทยชาติละ 1 คน
ได้แก่

      
   1......    ดร.กฤษณา ไกรสินธุ์ เภสัชกรชาวจังหวัดสุราษฎร์ธานี วัย 57 ปี ได้รับรางวัลจากอุทิศตนผลิตยาราคาถูกช่วยเหลือ

ผู้ป่วยติดเชื้อเอชไอวีเอดส์ ทั้งในประเทศไทย และในทวีปแอฟริกา


   2....  ทีป โจชี ชาวอินเดีย ผู้จบปริญญาจากมหาวิทยาลัยแมสชาชูเซตส์ อินสติติวออฟเทคโนโลยี(MIT) ได้รับรางวัลจากผลงาน

อุทิศตนเพื่อการพัฒนาชนบทของอินเดียมานานหลายทศวรรษ อีกทั้งเป็นผู้ก่อตั้งองค์กรที่ไม่หวังผลกำไร ซึ่งได้ระดมและเตรียม


พร้อมให้นักศึกษาจบจากมหาวิทยาลัยเข้าสู่โครงการระดับรากหญ้าในชุมชนที่ยากจนของอินเดีย


   3.... อี๋ว์ เสี่ยวกัง    ในฐานะเป็นผู้รณรงค์ให้ประชาชนตระหนักเกี่ยวกับเขื่อนที่สร้างขึ้นในจีน และ

             ได้อุทิศตนเพื่อศึกษาและประเมินผลกระทบทางสังคมที่เกิดจากการก่อสร้างอภิมหาโครงการทุกแห่ง


   4....... อันโตนิโอ โอโปซา จูเนียร์ ทนายความและนักรณรงค์เพื่อสิ่งแวดล้อมชาวฟิลิปปินส์

       คว้ารางวัลในฐานะผู้รณรงค์ต่อต้านการทำลายระบบนิเวศวิทยาทางทะเล รวมทั้งอำนวยการลาดตระเวนทางทะเล

         เพื่อป้องกันเรือที่จะระเบิดปลาโดยผิดกฎหมายด้วย
                

    5...... หม่า จวิน อดีตนักหนังสือพิมพ์ชาวจีนอีก ท่านหนึ่งที่ได้รับรางวัลอันทรงเกียรตินี้

   จากการเสนอรายงานเกี่ยวกับสิ่งแวดล้อมในจีน โดยเฉพาะการระบุชื่อบริษัท
 
   กว่า 10,000 แห่ง ที่ละเมิดมาตรฐานการปล่อยมลพิษสู่สิ่งแวดล้อม
      
                 
     6..... ชาวพม่า คือ คา ซอว์ วา นักเคลื่อนไหวด้านสิทธิมนุษยชน

   ซึ่งในระหว่างที่เป็นนักศึกษา เขาเคยถูกทหารพม่าจับทรมาน

    แต่ในปัจจุบันเป็นผู้ร่วมก่อตั้งองค์กร เอิร์ธไรท์ส อินเตอร์เนชั่นแนล ซึ่งรณรงค์ไม่ใช้ความรุนแรงในการแสดงออก ได้รับรางวัล

   จากการช่วยแก้ไขปรับปรุงและให้การศึกษาเพื่อป้องกันการละเมิดสิทธิมนุษยชน สิ่งแวดล้อม และประชาธิปไตยในพม่าอย่าง

   ไม่เกรงกลัวสิ่งใด
      
     


ขอบคุณครับ


หัวข้อ: Re: "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: เหยง 16 ที่ 14 กันยายน 2552, 12:56:36
สวัสดีครับ พี่แอ๊ะ

ตามมาชมภาพและเรื่องเล่าด้วยแล้ว ลองเขียนซิครับ


หัวข้อ: Re: "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: Kaimook ที่ 14 กันยายน 2552, 14:34:38
อ้างถึง
ข้อความของ prapasri AH เมื่อ 12 กันยายน 2552, 21:10:38
  
       เอาเรื่อง ขำขัน ก่อนดีกว่านะคะ เพราะไม่ต้องส่งรูป เพราะส่งเท่าไร ก็ส่งไม่ได้ หุๆๆๆๆ

เป็นเรื่อง  ขำขัน ของ "ลูกเขยชาวเกาะ "  ค่ะ

พี่แอ๊ะไม่เคยเห็นพีหาญหัวเราะเอิ๊กอ๊ากแบบ หยุดไม่ได้ ..... พี่หาญหัวเราะตอนเที่ยงวันนี้

ขณะกำลังทานข้าวอยู่    พี่หาญ หัวเราะจน สำลักน้ำเลยค่ะ....... พี่หาญไม่ได้หัวเราะแบบนี้มาหลายสิบปีแล้ว

เล่าเลยนะ

สดๆร้อนๆ จากห้องตรวจของคุณหมอ ที่โอพีดีค่ะ

ไม่ทราบว่า จะสับปะดน เอ๊ยย .... ไม่สุภาพ หรือเปล่า นะคะ แต่เป็นเรื่องที่เกิดขึ้นจริงๆค่ะ


พี่หาญ กำลังจะตรวจคนไข้ผู้หญิงคนหนึ่ง

คนไข้ก็เริ่มเล่าหมอด้วยการบอกอาการ ต่างๆที่คนไข้ คนนี้ ต้องมาหาหมอ

คนไข้บอกตอนหนึ่งว่าเพิ่งคลอดลูกมา

 พี่หาญถามคนไข้ว่า  "คลอดลูกที่ไหนครับ?"

 คนไข้ก็อายยยยยยยยยย ก้มหน้า  

แบบอายๆๆๆๆๆๆ เขินๆๆๆ ไม่อยากบอกหมอน่ะค่ะ

พี่หาญถามอีกว่า คลอดที่อำนาจ หรือ?  

(อำนาจ หมายถึงจํ.อำนาจเริญ แต่เราเรียกคนไข้ที่มาจากจังหวัดนี้ ว่ามาจาก อำนาจ)

 พี่หาญก็สงสัย  และนึกในใจว่า ...เอ.... ทำไมถามว่าคลอดลูกที่ไหน แล้ว คนไข้ อายอย่างนี้

ในที่สุด คนไข้ ก็ยอม ตัดสินใจ ไม่อายแล้วล่ะ เพราะคุณหมอถาม ก็ต้องตอบ ไม่งั้นรักษาโรคไม่หาย

คนไข้ตัดสินใจ บอกพี่หาญเสียงอ่อยๆ ว่า

[color=#0044ff]"คลอดทีนี่" แล้วคนไข้ก็ชี้ ไปที่ตรงนั้นน่ะค่ะคือขยับขานิดหน่อย ...แล้วชี้ไปที่ตรงนั้นค่ะ......(ฮา)


น้องหนุน 21...อ่านแล้วต้องคิด ไม่ออก  กลับมาอ่านใหม่ แล้ว ต้อง ชวนภรรยามาหัวเราะอีกแน่ๆค่ะ

 คงไม่กล้าชวนลูกๆมาหัวเราะนะคะ เพราะลูกจะหาว่าพ่อนี้ ทะลึ่งจังงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงง


นี่คือเรื่องจริง ที่เกิดขึ้นวันนี้ ที่โรงพยาบาลพี่แอ๊ะวันนี้ค่ะ[/color]
  5555555555ก๊ากกกกกกกกกก
พี่แอ๊ะขราาาาาาน้ำอ้อยขำกลิ้งอยู่คนเดียวเนี่ยค่ะสนุกมากๆเลยค่ะ
พี่แอ๊ะเล่าอีกนะคะมันส์ดีค่ะเรื่องเล่าของพี่เนี่ยน้ำอ้อยว่าพอพี่หาญถาม
คนไข้คงจะเขินมากๆเลยนะคะเพราะน้ำอ้อยเข้าใจเลยค่ะเวลาไปพบคุณหมอ
ยิ่งเป็นคุณหมอทางสูติ ด้วยแล้วเนี่ยเขินชมัดเลยค่ะพี่


หัวข้อ: Re: "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: ตุ๋ย 22 ที่ 14 กันยายน 2552, 19:18:34
น้องอ้อยผมว่าหมอเค้าชินแล้วหล่ะ  เหอๆๆๆๆๆๆๆๆ  ผมไม่กล้าไปให้หมอดุเหมือนกัน


หัวข้อ: Re: "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: swsm ที่ 14 กันยายน 2552, 19:30:33
ยืนยันว่าเห็นภาพนี้แล้วขอบตาร้อนผ่าวจริง ๆ ค่ะ
ความรักของพี่ทั้งสองดูเหมือนจะหวานขึ้นทุกวัน ทุกวัน ทุกวัน ..

น่าอิจฉาเจง ๆๆๆๆ



emo9:huhu:

(http://img225.imageshack.us/img225/843/200909030167.jpg)


หัวข้อ: Re: "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: Soponเท่านั้น ที่ 14 กันยายน 2552, 20:00:26
emo19:((:อาแปะที่บ้านไม่เคยทำยังงี้บ้างเลยรึ น้องหะยี


หัวข้อ: Re: "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: หนุน'21 ที่ 15 กันยายน 2552, 07:42:51
emo28:win:

 
อ้างถึง   
อีกนิดหนึงค่ะน้องหนุนและน้องตุ๋ยคะ

พี่แอ๊ะอาจจะเขียน "เรื่องสั้นในโรงหมอ"  อีกเล่มหนึ่งดีไหม

เรื่องจริงๆ ที่เกิดขึ้นที่โรงพยาบาลพี่แอ๊ะ มีเรื่องสนุก ๆทุกวันเลยค่ะ

 emo4:))

นอกจากวิวสวยแล้วยังมีคู่หวานแหววให้ชื่นชมป็นแบบอย่างอีก
อายุมากขึ้นขอให้ได้แบบที่พี่แอ๊ะกับพี่หมอหาญสักครึ่งนึงก็ยังดี


"เรื่องสั้นในโรงหมอ"


เป็นหนังสือที่ผมจองก่อน 2 เล่มครับพี่
เอาไว้ที่ทำงานเล่มนึง ที่บ้านเล่มนึง
เขียนเลย เขียนเลย ครับพี่


 emo43


หัวข้อ: Re: "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: wannee ที่ 15 กันยายน 2552, 10:21:35


พี่แอ๊ะ นำเกร็ดเล็กเกร็ดน้อยที่ขำๆในวงการแพทย์และเป็นประสบการณ์ตรงทั้งพบเห็น ได้ยิน มาเขียน  แฟนๆคงตรึม  emo6::))


หัวข้อ: Re: "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: swsm ที่ 15 กันยายน 2552, 10:55:35
อ้างถึง
ข้อความของ Soponเท่านั้น เมื่อ 14 กันยายน 2552, 20:00:26
emo19:((:อาแปะที่บ้านไม่เคยทำยังงี้บ้างเลยรึ น้องหะยี

จุ๊ จุ๊ .. เสียงดังมากเลยค่ะพี่เปี๊ยก
หะยีอายไปทั่วปฐพี

ความจริง อาแปะแกก็ "เคย" ทำแบบนี้นะคะ ..
เมื่อประมาณ 15 ปีก่อนนู้นนนนนนนน

อิอิอิ
 


emo29:P:


หัวข้อ: Re: "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: พธู ๒๕๒๔ ที่ 15 กันยายน 2552, 14:47:26
ไม่อยากมาบ้านนี้เลย มีภาพบาดตาบาดใจ


หัวข้อ: Re: "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: พธู ๒๕๒๔ ที่ 15 กันยายน 2552, 14:47:49
มีคู่บ่าวสาวคู่หนึ่ง จะมาแต่งงาน
ที่โบสถ์แห่งหนึ่ง โดยมีบาทหลวงเป็นผู้ทำพีธี
เมื่อทำพีธีเสร็จแล้วเจ้าบ่าวก็ได้ถาม
กับบาทหลวงว่าค่าใช้จ่ายในงานนี้ทั้งหมดเท่าไร
ส่วนบาทหลวงก็ตอบกลับมาว่า
"แล้วแต่ความงามของเจ้าสาว""

 ถ้าสวยมากก็ให้มาก ถ้าสวยน้อยก็ให้น้อย
เจ้าบ่าวก็ได้ยืนล้วงกระเป๋าอยู่พักหนึ่ง
แล้วหยิบเหรียญ 5 ขึ้นมาให้กับบาทหลวง
บาทหลวงจึงได้ถามว่า

 "ทำไมคุณถึงได้ดูถูกความงามของเจ้าสาวคุณอย่างนี้


 แล้วบาทหลวงก็ได้เปิดผ้าคลุมหน้าเจ้าสาวดู แล้วบาทหลวง
ก็ทอนเงินให้กับเจ้าบ่าว 3 บาท


หัวข้อ: Re: "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: prapasri AH ที่ 15 กันยายน 2552, 16:35:29

   น้องๆขา....วันนี้  พี่แอ๊ะได้แวะไปหา พี่อ้อย จารุวรรณ14 ที่ขอนแก่น

ขอโทษ หมออิ๊ด และคุณนาย และเขย13 และคุณนาย ด้วยนะคะที่ไม่ได้เเวะหา

เพราะรีบมากแวะทานข้าวเที่ยงแป๊บเดียวค่ะ

ได้ไปทาน ยำ ปูนิ่ม  และยำปลาทูแมนนนนนนนนน เอ๊ยไม่ช่ายยยยยย  ยำปลาทูน่า ค่ะ อร่อยมั๊กๆๆ

  เรากำลัง เอร็ดอร่อย มาก ไม่อร่อยตอนที่พี่หาญนั่ง บรรยาย เรื่องการออกกำลังกาย

พี่แอ๊ะ รำค๊าญ รำคาญ พี่แก จะบอกให้พี่แอ๊ะออกกำลัง ให้วิ่ง

และให้เดินเเบบเร็วๆ เหงื่อออก  การเดินช้าๆ แบบช๊อบปิ้งในห้าง ไม่ใช่การออกกำลังกาย

พี่แอ๊ะเลยอารมณ์เสีย เลยรวมหัวกะพีอ้อย14  ทานเต็มที่เลย ทั้งยำปูนิ่ม ยำปลาทูแมน[/b]

 ซู๊ป ครีม เห็ด   กาแฟ ขนมเค๊ก และอะไรต่อมิอะไร....

   พี่หาญนั่งทานก็ดุไปด้วยยยยยยยยยยย หอชาย นี่ เห็นหอหญิงอ้วน ก็ดุด้วยยยยยยยยยยยย

 เด่วจะเอาเรื่องของ ขำๆ ของ หอชายมานินทา world wide ซะเลย ไม่งั้นเด่วจะแพ้น้องปลาทูแมน อิๆๆๆๆ

หอชาย (พี่หาญ)อยาก ดุ ดีนัก เลยขอเอาเรื่อง พี่หอชายเพื่อนพี่หาญ มา ให้น้องๆอ่านให้ท้องเเข็ง อีกดีก่า หุๆๆๆๆๆ


เลย ไม่ได้ไปถึง โรงแรม diamond.... ที่ มนิลาซะที อิๆๆๆ


(http://img225.imageshack.us/img225/95/dscf1316.jpg)


ว๊ายยยยยยยยยย พี่อ้อย14 สวยกว่าพี่แอ๊ะไปซะแย้ววววววววววววววว


หัวข้อ: Re: "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: swsm ที่ 15 กันยายน 2552, 16:40:18
"ยำปลาทูแมน"  .. อร่อยไหมคะ พี่แอ๊ะขราาา ??


หัวข้อ: Re: "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: ตุ๋ย 22 ที่ 15 กันยายน 2552, 20:02:24
สวัสดีพี่แอ๊ะ ครับ


หัวข้อ: Re: "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: Kaimook ที่ 15 กันยายน 2552, 23:01:14
 สวัสดีพี่แอ๊ะค่ะ emo4:)) emo4:)) emo4:))


หัวข้อ: Re: "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: prapasri AH ที่ 16 กันยายน 2552, 05:47:35
น้องหะยีคะ

ปลาทูแมน ยำอร่อยมาก ทั้งเปรี้ยวหวานมันเค็ม ยำซะเละเลยค่ะ 555555555555555555

น้องตุ๋ยและน้องไข่มุกคะ ขอบคุณที่มาเยี่ยมค่ะ


พี่แอ๊ะ กลับมาเหนื่อยยยยยยยยยยมาก ไม่ค่อยได้นั่งรถไกลๆ อย่างนี้มานานแล้วค่ะ

พี่แอ๊ะคงไม่ไ ป ปากเซแล้วล่ะ วันนี้ จะนอน ให้ทั้งวันเลยค่ะ

 แต่ จะ เล่าเรื่องขำขัน หอชายต่ออีกหน่อย เพื่อให้น้องครึกครื้น

แก้แค้นพี่หาญที่ บังคับพี่แอ๊ะให้วิ่งออกกำลังกายค่ะ


หัวข้อ: Re: "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: prapasri AH ที่ 16 กันยายน 2552, 06:02:30
                             

                                                            เรื่อง โซเมติเมส       


เพื่อนหอชายคนหนึ่งตอนอยู่หอนะคะ

ถามพี่หาญว่า "เฮ๊ย หาญ กูแปล คำนี้ไม่ได้ว่ะ แปลว่าอะไร ช่วยบอกหน่อย"

 พี่หาญ ......."คำอะไรหรือ?   (เป็นที่ทราบกันว่า พี่หาญขยันมากขนาด ท่อง ดิกชะนารี เลยทีเดียว)


หอชาย ท่านนั้น บอกว่า  โซเมติเมส   

พี่หาญถามว่า เขียนให้อั๊วดูหน่อย

ว่าแล้ว หอชายท่านนั้น ก็เขียน ให้พี่หาญ ช่วยแปลให้  นี่ไง   SOMETI MES  " โซเมติเมส" กูแปลไม่ได้เลยคำนี้


                                            " SOMETIMES "  


น้องๆ ขำไหมคะ อิๆๆๆๆๆๆๆๆๆ หุๆๆๆๆๆ 555555555555555555555555555555



หัวข้อ: Re: "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: หนุน'21 ที่ 16 กันยายน 2552, 07:55:57
อ้างถึง
ข้อความของ prapasri AH เมื่อ 16 กันยายน 2552, 06:02:30
                             

                                                            เรื่อง โซเมติเมส       


เพื่อนหอชายคนหนึ่งตอนอยู่หอนะคะ

ถามพี่หาญว่า "เฮ๊ย หาญ กูแปล คำนี้ไม่ได้ว่ะ แปลว่าอะไร ช่วยบอกหน่อย"

 พี่หาญ ......."คำอะไรหรือ?   (เป็นที่ทราบกันว่า พี่หาญขยันมากขนาด ท่อง ดิกชะนารี เลยทีเดียว)


หอชาย ท่านนั้น บอกว่า  โซเมติเมส   

พี่หาญถามว่า เขียนให้อั๊วดูหน่อย

ว่าแล้ว หอชายท่านนั้น ก็เขียน ให้พี่หาญ ช่วยแปลให้  นี่ไง   SO  ME  MES  " โซเมติเมส" กูแปลไม่ได้เลยคำนี้


                                            " SOMETIMES "  


น้องๆ ขำไหมคะ อิๆๆๆๆๆๆๆๆๆ หุๆๆๆๆๆ 555555555555555555555555555555



กร๊ากกก   กร๊ากกก
ขำตั้งแต่เช้าเลยครับพี่

 SOMETIMES ช่างอ่านไปได้เนาะ รุ่นพี่เรา   SO-ME-TI-MES  
ดีนะได้ดิกเคลื่อนที่แบบพี่หมอหาญของพี่แอ๊ะอ่ะ

อย่างว่าแหละครับพวกเรามาจาก ตจว. ภาษาอังกฤษ ไม่ค่อยแข็งแรงนัก
เพราะ ดิส อิส อะ บุค . มาตลอด สมัยผมเรียนภาษาอังกฤษ ตอนอยู่ ป. 5
จนเข้าเรียนที่จุฬาฯ ...อ่อนเป็นกล้วยปิ้ง
เหอ เหอ เหอ
ขอบคุณเรื่องขำๆครับพี่


 emo43


หัวข้อ: Re: "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: swsm ที่ 16 กันยายน 2552, 08:33:24
พี่หนุนคะ ..
เวลาอ่อน (หมายถึงภาษาอังกฤษอ่อน) ทำไมต้องเปรียบเป็นกล้วยปิ้งด้วยล่ะคะ ??

หะยีชอบทานกล้วยปิ้งนะคะ 
เคยเจอบางลูกที่แข็งโป๊ก .. ก็มี ??

สงสัยค่ะ


หัวข้อ: Re: "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: Kaimook ที่ 16 กันยายน 2552, 21:29:27
อ้างถึง
ข้อความของ prapasri AH เมื่อ 16 กันยายน 2552, 06:02:30
                             

                                                            เรื่อง โซเมติเมส       


เพื่อนหอชายคนหนึ่งตอนอยู่หอนะคะ

ถามพี่หาญว่า "เฮ๊ย หาญ กูแปล คำนี้ไม่ได้ว่ะ แปลว่าอะไร ช่วยบอกหน่อย"

 พี่หาญ ......."คำอะไรหรือ?   (เป็นที่ทราบกันว่า พี่หาญขยันมากขนาด ท่อง ดิกชะนารี เลยทีเดียว)


หอชาย ท่านนั้น บอกว่า  โซเมติเมส   

พี่หาญถามว่า เขียนให้อั๊วดูหน่อย

ว่าแล้ว หอชายท่านนั้น ก็เขียน ให้พี่หาญ ช่วยแปลให้  นี่ไง   SOMETI MES  " โซเมติเมส" กูแปลไม่ได้เลยคำนี้


                                            " SOMETIMES "  


น้องๆ ขำไหมคะ อิๆๆๆๆๆๆๆๆๆ หุๆๆๆๆๆ 555555555555555555555555555555


  55555555
 สวัสดีค่ะพี่แอ๊ะน้ำอ้อยขำก๊ากกกกกสนุกจังค่ะพี่เอาอีกๆนะคะ


หัวข้อ: Re: "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: พธู ๒๕๒๔ ที่ 17 กันยายน 2552, 20:31:11
ชาวนา(อีกแระ) เดินเข้าไปในบาร์แห่งหนึ่ง ที่แถวชานเมืองรัฐเวอร์จิเนีย แล้วแกก็เดินไปนั่งตรงบาร์..ข้าง ๆ หญิงสาวคนหนึ่งซึ่งเพิ่งเข้ามาเหมือนกัน...
ชาวนา.....ขอไวน์เชอรี่แก้วนึงนะ...ใส่น้ำแข็งสามก้อน
หญิงสาว....บังเอิญจริง ๆ ฉันก็สั่งไวน์เชอรี่กะน้ำแข็งสามก้อนเหมือนกัน
ชาวนา...จริงเหรอ?...ฉันนี่นะ..มากินไวน์วันนี้ก็เพื่อฉลองความสำเร็จนะนี่
หญิงสาว....บังเอิญจริง ๆ ..ฉันก็มาดื่มฉลองความสำเร็จเหมือนกัน..
ชาวนา...แปลกจัง..ว่าแต่คุณฉลองความสำเร็จเรื่องอะไรล่ะ?
หญิงสาว...ก็ฉันอยู่กับสามีมาตั้งสองปียังไม่มีท้องสักที...แต่วันนี้หมอบอกว่าฉันกำลังจะมีลูกน่ะ..
ชาวนา...บังเอิญจริง ๆ ฉันก็มาฉลองเพราะวัวในฟาร์มน่ะมันเพิ่งจะมีท้องเหมือนกัน..เลี้ยงมาตั้งสองปีแล้ว
หญิงสาว...นั่นสิ..แปลกจริง ๆ แต่ว่าคุณทำยังไงล่ะ วัวมันถึงมีท้องได้น่ะ...
ชาวนา....ก็ไม่มีอะไรมากนะ..ฉันแค่เปลี่ยนอ้ายวัวตัวผู้น่ะ....
หญิงสาว....บังเอิญจริง ๆ ...ของฉันก็เหมือนกัน...
 


หัวข้อ: Re: "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: หนุน'21 ที่ 17 กันยายน 2552, 22:08:11
อ้างถึง
ข้อความของ swsm เมื่อ 16 กันยายน 2552, 08:33:24
พี่หนุนคะ ..
เวลาอ่อน (หมายถึงภาษาอังกฤษอ่อน) ทำไมต้องเปรียบเป็นกล้วยปิ้งด้วยล่ะคะ ??

หะยีชอบทานกล้วยปิ้งนะคะ 
เคยเจอบางลูกที่แข็งโป๊ก .. ก็มี ??

สงสัยค่ะ


 emo20:)):)

เหอ เหอ
น้องหะยีครับ
เปรียบไปเรื่อย นึกไปเรื่อย
เด็ก ตจว. อาหารว่าง ใกล้ชิดกะกล้วยมากที่สุดแล้ว

แล้วกล้วยอะไรของน้องหะยี...ที่แข็งโป๊กอ่ะ... มันต้องมีนิ่มบ้างอะไรบ้าง
จริงมั๊ยครับพี่แอ๊ะครับ


 emo47


หัวข้อ: Re: "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: jamsai ที่ 18 กันยายน 2552, 12:30:08

1.โอย...ห้องนี้ เข้ามาแล้วกลับออกไปด้วยรอยยิ้มเปื้อนหน้าทุกที
2.จองหนังสือพี่แอ๊ะล่วงหน้าบ้าง 2 เล่มค่ะ
3.เข้าแถวรอฟังเรื่องปินส์ด้วยค่ะ
4. เห็นด้วยแล้วล่ะค่ะคุณเปี๊ยก ไปพบวลีเด็ด ในหนังสือเก่าๆมาแล้ว
...สัปดนวันละนิด จิตแจ่มใส หัวใจกระชุ่มกระชวย...
5. สวัสดี่ค่ะ พี่แอ๊ะ และแฟนคลับกระทู้ทุกท่าน


หัวข้อ: Re: "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: พธู ๒๕๒๔ ที่ 18 กันยายน 2552, 13:19:38
เศรษฐีคนหนึ่งมีลูกชายหัวแก้วหัวแหวนเพียงคนเดียว
ครั้นถึงวัยสมควรแต่งงานแกเป็นห่วงกลัวว่าจะได้เมียไม่ดีมาผลาญสมบัติของตระกูล
จึงประกาศหาคู่ให้ลูกชายผ่านทางคอลัมน์มาลัยไทยรัฐ
ปรากฎว่ามีหญิงสาวจากทั่วทุกสารทิศสนใจมาสมัครมากมาย
แต่ละคนแจ่มแจ่มทั้งนั้นทำเอาลูกชายตัดสินใจไม่ถูกว่าจะเลือกใครท่านเศรษฐีนำเอาสร้อยแหวนเพชรนิลจินดาราคาแพง และหัวมันหนึ่งหัวมากองไว้ต่อหน้าบรรดาสาวสาวทั้งหลาย
แล้วสั่งให้เลือกหยิบคนละหนึ่งชิ้น


ปรากฏว่าทุกคนล้วนคว้าเอาแต่ข้าวของมีค่ามีเพียงสาวน้อยคนหนึ่งที่หยิบเอาหัวมัน
เศรษฐีเห็นดังนั้นก็พูดกับลูกชายว่า "ลูกเอ๋ยจงเลือกหญิงคนนั้นมาเป็นเมียของเจ้า"
ลูกชายรู้สึกแปลกใจถามพ่อเพราะเหตุใด
เศรษฐีจึงสอนลูกชายว่า

" ผู้หญิงที่เลือกเอาแก้วแหวนแสดงว่าหลงใหลในทรัพย์สินไม่รู้จักทำมาหากิน"
" ส่วนผู้หญิงที่เลือกเอามันนั้นคือคนที่ขยันทำงานไม่เกี่ยง"

ลูกชายได้ฟังก็ไม่เถียงพ่อว่าไงก็ว่าตามนั้น

ผมฟังนิทานเรื่องนี้แล้วรู้สึกซาบซึ้งในคำสอนของท่านเศรษฐี
ทุกวันนี้ผมจึงจำใส่ใจไว้ตลอดว่าถ้าจะมีเมียต้องเลือกผู้หญิงที่

" เอามัน "


หัวข้อ: Re: "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: ตุ๋ย 22 ที่ 19 กันยายน 2552, 20:28:43
เหอๆๆๆๆๆ  เอามัน  (เทศ)


หัวข้อ: Re: "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: swsm ที่ 19 กันยายน 2552, 21:41:29
เหอ ๆ ๆ ๆ ๆ .. ปาทู


หัวข้อ: Re: "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: prapasri AH ที่ 20 กันยายน 2552, 06:53:34
น้องๆคะ และอ.เเจ่มคะ

เรื่องปินส์ยังไม่เริ่มตอนมาถึงปินส์ที่โรงเเรมไดมอนส์แกรนด์ฟิลิบปินส์เลย

ที่เล่ามานั้นเป็นตอนเรียกน้ำย่อย ออเดิร์พ ค่ะ หรือ  presentation  งานแต่งงานน่ะค่ะ

ยังไม่ถึงตอนที่ ประธานขึ่นมาอวยพรคู่บ่าวสาว เลย

พี่แอ๊ะ มัวแต่โอ้เอ้ วิหารรายอยู่

ยังมีเรื่อง ชุมแพ และ ปากเซ สปป. ลาว   

และญี่ปุ่น เมือง โยชิดะ จังหวะไซตามะ  รออยู่ค่ะ  

[/b]  เพิ่งกลับจำปาสัก มาเมื่อวาน 

มีกล้วยปิ้ง เเข็ง ด้วยค่ะ น้องหอชาย ที่รัก คือ เขาเอากล้วย ดิบ มาปิ้ง อร่อยมั๊กๆ

มีค่าเงินไทยที่ชอบอ่อนค่า ตอนกลางคืน 555555555555

ทีกลางวันละก้อ เเข็งดีนัก แต่พอเอาจริงอ่อนค่าทุกที555555

น้องปลาทูแมน ว่าไงคะ  ทำธุรกิจ  ส่งออก  หรือเปล่าคะ

ค่าของเงิน ชอบให้ ให้แข็งค่า หรือ อ่อนค่าคะ ?อิอิๆๆๆๆ


กลางวัน ค่าของเงิน บาทละ 250 กีบ

กลางคืน เงินบาท ไม่แน่จริง อ่อนตัวบาทละ 2 กีบ เท่านั้นเอง อิๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ


น้องหนุน น้องตุ๋ย22... น้องๆ ทั้ง หอชาย หอหญิงว่าไงคะ


อ.เผ่า ด้วยคะ ว๊ายตายแย้วววววววว ล้อใครไม่ล้อ ล้อแม้กระทั่งอาจารย์ซะแย้ววววววววว

คืออยากให้อาจารย์หายเครียดจากเขาพระวิหารน่ะค่ะ


หัวข้อ: Re: "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: ตุ๋ย 22 ที่ 20 กันยายน 2552, 19:54:53
สวัสดีพี่แอ๊ะ  รอฟังเรื่องที่พี่แอ๊ะเล่าอยู่นะครับ


หัวข้อ: Re: "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: prapasri AH ที่ 21 กันยายน 2552, 03:57:10


แสดงว่าน้องตุ๋ย22 รับมุก ไม่ทัน ไม่ขำ  

หรือพี่แอ๊ะเล่าหยาบคายไป หรือเปล่าคะ

อายจัง น้องขาดความเคารพ หมดเยยยยยยยยยย

พี่แอ๊ะฟังทัวร์เล่ามาในรถให้หนุกหนานนะค่ะ


ข่อยแก้ตัว ข่อย บ่ได้ คิดเองนะเรื่องนี้อ่ะ[/b]

พี่แอ๊ะแยกไม่ออกว่าเป็นโป๊ เปล่าปลือยยยยย หรือเปล่า หุๆๆๆๆๆๆๆ

น้อง หะยี ช่วยให้ RATINGให้ หน่อยค่ะ

ต่อไปพี่แอ๊ะจะเล่นวิชาการตามที่พี่แอ๊ะถนัด เอ๊ย.... ถนัดทุกอย่างงงงงงงงงงงงงงงงงง (ฮา)เหอ เหอ


หัวข้อ: Re: "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: prapasri AH ที่ 21 กันยายน 2552, 04:09:26

น้องๆคะพี่แอ๊ะตื่นตั้งแต่ตีสาม นอนไม่หลับถ้าต้องเดินทางแต่เช้า


 พี่แอ๊ะต้องเดินทางจากยโส ตี 5 คนเมืองหยิ่ง..... เอ๊ยไม่ช่าย คนเมืองยศ ค่ะ

ไปขึ้นเครื่องที่อุบล เครื่องออก 7 โมงเช้า

พี่แอ๊ะต้องไปสมุย กลับมาปลายเดือนโน่นแน่... ญาติผู้ใหญ่พี่แอ๊ะลาโลกไปค่ะ

น้องๆอย่าลืมเข้ามาคุยกันในบ้านพี่แอ๊ะนะคะ

มาเล่าเรื่องหนุกหนานก็ได้...มาทะเลาะกันก็ได้.... มาหัวเราะกันก็ได้

 แล้วทานส้มตำปลาร้า ต้มแซบ ไข่มดแดง ให้แซบคัก อีหลีนะคะ


บายๆ .....ค่ะ     กลางคืน ก็ บรรทมเกษมนะคะ



ฮักคักๆๆ.... ชักแฮกๆๆๆ ค่ะ


หัวข้อ: Re: "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: หนุน'21 ที่ 21 กันยายน 2552, 07:20:47
อ้างถึง
ข้อความของ prapasri AH เมื่อ 20 กันยายน 2552, 06:53:34
น้องๆคะ และอ.เเจ่มคะ


มีค่าเงินไทยที่ชอบอ่อนค่า ตอนกลางคืน 555555555555

ทีกลางวันละก้อ เเข็งดีนัก แต่พอเอาจริงอ่อนค่าทุกที555555

น้องปลาทูแมน ว่าไงคะ  ทำธุรกิจ  ส่งออก  หรือเปล่าคะ

ค่าของเงิน ชอบให้ ให้แข็งค่า หรือ อ่อนค่าคะ ?อิอิๆๆๆๆ


กลางวัน ค่าของเงิน บาทละ 250 กีบ

กลางคืน เงินบาท ไม่แน่จริง อ่อนตัวบาทละ 2 กีบ เท่านั้นเอง อิๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ


น้องหนุน น้องตุ๋ย22... น้องๆ ทั้ง หอชาย หอหญิงว่าไงคะ
[/size]  

[/color]

 emo20:)):) emo20:)):)

สวัสดีครับพี่แอ๊ะ
เข้ามาแล้วสบายใจครับ
ชอบมากๆเลยเรื่องที่เล่าโดยเฉพาะ
ค่าเงินบาท ที่กลางวันบาทละ 250 กีบ
แต่กลางคืนเหลือ 2 กีบ

ก๊ากกก ก๊ากกก

โดนครับโดน


 emo20:)):) emo20:)):)


หัวข้อ: Re: "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: KUSON ที่ 21 กันยายน 2552, 17:05:29
พี่แอ๊ะครับ
วันที่พวกเราไปเที่ยวทอดกฐินด้วยกันที่วัดจันดี จ.นครศรีธรรมราชพี่แอ๊ะจำได้ไหมครับว่า
พี่แอ๊ะมอบต่างหูนิล ประดับเพชรให้ผมมา 1คู่โดยประกาศมอบอย่างเป็นทางการขณะนั่งอยู่ในรถ
ณ. เวลานั้นเป็นตอนกลางคืน พอได้รับกุศลก็สนุกสนานเที่ยวอวดใครต่อใครไปทั่วว่าพี่แอ๊ะให้
ขณะนั้นคิดเพียงว่าพี่แอ๊ะบอกว่ามีนิลเป็นกระสอบๆ แค่นิล เม็ด สองเม็ดเป็นไรไป
บางคนเขาก็พูดประชดว่ากุศลกล้าขอ พี่แอ๊ะกล้าให้
ต่อมาพอเอาต่างหูไปล้าง และขัดเงาด้วยน้ำยา โอ้โฮ แสงเพชรวูบวาบบาดตา
ผมไปค้นของเก่าทั้งแหวนหัวนิลและเม็ดนิลล้วนๆผมก็มีแล้ว
แต่พอประกบต่างหูของพี่แอ๊ะก็สู้ไม่ได้(ในความแวววาว)
พี่แอ๊ะครับ ทุกวันนี้ผมนอนไม่ค่อยหลับมาหลายราตรีแล้ว
เพราะกลัวโจรจะมาปล้นจี้ตุ้มหูสองเม็ดนั้น
ดังนั้น คืนงานชาวหอเดือนพ.ย.นี้ผมขออนุญาตินำไปคืนพี่แอ๊ะนะครับ
และขอให้รับปากว่าจะไม่ส่งต่อให้ใครเด็ดขาดพี่แอ๊ะจะเก็บใว้เองคนเดียวจริงๆ
เพราะตั้งแต่ได้ต่างหูคู่นั้นมา ผมก็มีแต่โชคดี เฮ็งๆๆมาตลอดจนสำลักความเฮ็ง
บัดนี้ได้มาครบปีแล้วผมคิดว่าควรนำไปคืนเจ้าของเดิมดีไหมครับพี่แอ๊ะ



หัวข้อ: Re: "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: พธู ๒๕๒๔ ที่ 22 กันยายน 2552, 21:50:14
มีชายหนุ่มที่แต่งงานแล้วคนหนึ่ง  เค้าเป็นนักธุรกิจ..
วันหนึ่งความใกล้ชิดเป็นเหตุ  เค้ากับเลขาเกิด
อารมณ์เสน่หาขึ้นมา
ทั้งคู่จึงไปลงเอยกันที่บ้านของเลขาสาวสวย
และใช้เวลาร่วมรักกันตลอดบ่าย
และเผลอผล่อยหลับด้วยความอ่อนเพลีย

จนกระทั่งสองทุ่ม  ชายหนุ่มสะดุ้งสุดตัว .. ตายละวา
ป่านนี้ยังไม่กลับบ้านเดี๋ยวภรรยาจะต้องสงสัยแน่ๆ
จึงรีบให้เลขาเอารองเท้าทั้งสองข้างไปถูกับพื้นหญ้า
และพื้นขี้โคลนให้เปื้อนเลอะเทอะ
แล้วรีบคว้าเสื้อและรองเท้ามาใส่  ตรงกลับบ้านทันที

เมื่อถึงบ้าน  คุณภรรยาก็ยืนท้าวเอวรออยู่แล้ว
“  คุณไปไหนมา? “  สามีค่อยๆเดินเข้าบ้านและพูดว่า
“  ที่รักจ๊ะ..ผมไม่สามารถจะโกหกคุณได้
ผมได้ออกไปธุระกับเลขาผม  และ
เราได้มีอะไรกันตลอด ช่วงบ่าย
ผมเผลอหลับไป  เพิ่งจะตื่นเมื่อตอนสองทุ่มนี่เอง ”
แล้วตีหน้าเศร้า

ส่วนคุณภรรยา ก็เหลือบไปเห็นรองเท้าที่วางไว้
“  แกอย่ามาโกหกชั้นน่ะ  ชั้นรู้น่ะ แกแอบไปเล่นกอล์ฟมาใช่มั้ย
คิดว่าชั้นโง่งั้นเหรอ ..ฮึ ”



////////////////////////////////////////


หัวข้อ: Re: "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: suriya2513 ที่ 22 กันยายน 2552, 23:35:57
พี่แอ๊ะไปสมุยหลายวัน
ใครมาโพสท์อะไรไว้ แล้วพี่แอ๊ะไม่มาเมนท์
ห้ามบ่นนะครับ


หัวข้อ: Re: "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: Kaimook ที่ 24 กันยายน 2552, 22:40:51
  สวัสดีค่ะพี่แอ๊ะอ่านเรื่องพี่แอ๊ะแล้วน้ำอ้อยขำกลิ้งเลยค่ะ
กลับมาไวๆนะคะ(ไม่ได้กลับมาม่า)อิอิอิคิคิคิ


หัวข้อ: Re: "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: ตุ๋ย 22 ที่ 25 กันยายน 2552, 19:37:49
พี่แอ๊ะไม่มาก็เม้าท์กันเอง  เหอๆๆๆๆๆ


หัวข้อ: Re: "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: swsm ที่ 25 กันยายน 2552, 20:40:25
งานนี้หะยีได้แต่นั่งฟังอย่างตั้งใจ
โดยเฉพาะเรื่องเล่าจากพี่กุศล เรื่องของต่างหู .. ที่แสงเพชรวูบวาบ วูบวาบ คู่นั้น ..


หัวข้อ: Re: "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: ตุ๋ย 22 ที่ 25 กันยายน 2552, 21:09:08
แหม   ต่างหูสวย  ก็ทำให้หน้าคนสวยได้เหมือนกัน  จะหาฝากเมียสักคู่


หัวข้อ: Re: "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: jamsai ที่ 26 กันยายน 2552, 18:29:06
พี่แอ๊ะคะ
ก๊ากก...เรื่องเงินบาทอ่อนค่า....ด้วยคน 
อาจารย์เผ่า คงชอบมากว่า...คนเรายิ่งอายุเพิ่ม สะสมนิทานทำนองนี้ไปเรื่อยๆเนาะ
วันก่อนแกยังมาเล่าเรื่อง การจะเป็นผู้บริหารที่ดีนั้นจะต้องมีดีด้านใดบ้างให้ฟัง

โอ้..พระเจ้าจอร์จ...ต้องหยอดน้ำล้างหู แน่ๆๆๆๆ

เข้าแถวรอฟังทุกเรื่องค่ะ



หัวข้อ: Re: "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: jamsai ที่ 26 กันยายน 2552, 18:35:46

มันเครียดที่ได้ทราบข่าวเสรีการเกษตรของชาติไทย
นัยยะ...ว่า อภินันทนาการจากพรรคประชาธิปัตย์..อีกแล้ว
ดูเหมือนพวกเราคนไทยสมัยนี้ช่วยกันเจาะ ช่วยกันไช
ช่วยกันดูด เอาเลือด เอาเนื้อของชาติไทยกันคนละไม้คนละมือ
เสียจริงๆ....
ดังนั้นฟังเรื่องพรรค์อย่างนี้ ให้มันจิตแจ่มใสไปโลด ก็ดีเหมือนกันนะคะ

 


หัวข้อ: Re: "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: พธู ๒๕๒๔ ที่ 26 กันยายน 2552, 21:32:13
 “หมอครับ แฟนผมปวดท้องอย่างหนัก มีไข้ด้วย

 “ผมว่า ไส้ติ่งอักเสบแน่เลยครับ”

สมชายบอกหมอทางโทรศัพท์

“เป็นไปไม่ได้หรอก” หมอไม่เห็นด้วย “ผมผ่าไส้ติ่งให้ ภรรยาคุณไปเมื่อสองปีที่แล้ว

คนเราจะมีไส้ติ่งสองอันได้ยังไง”

 “ผมก็รู้อยู่ครับหมอว่าคนเรามี ไส้ติ่งได้แค่อันเดียว”

สมชายรับ

 “แต่คุณหมอครับ คนเราไม่จำเป็นต้องมีเมียคนเดียวเสมอไป หรอกนะครับ!!”


หัวข้อ: Re: "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: ตุ๋ย 22 ที่ 27 กันยายน 2552, 20:07:20
เหอๆๆๆๆๆๆๆๆ   หมอก็ไม่ฉลาดเหมือนกันนะเนี่ย


หัวข้อ: Re: "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: Preecha2510 ที่ 29 กันยายน 2552, 07:00:27


        สวัสดีครับแอ๊ะ        ขณะนี้web cmaong มีห้องผู้สูงวัย(สว.)รุ่น 10  แล้ว  ฝากแอ๊ะช่วยตามหมอหาญเพื่อนผมมาเข้าweb

                                     ด้วยครับ   


หัวข้อ: Re: "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: KUSON ที่ 29 กันยายน 2552, 14:05:49
อ้างถึง
ข้อความของ swsm เมื่อ 25 กันยายน 2552, 20:40:25
งานนี้หะยีได้แต่นั่งฟังอย่างตั้งใจ
โดยเฉพาะเรื่องเล่าจากพี่กุศล เรื่องของต่างหู .. ที่แสงเพชรวูบวาบ วูบวาบ คู่นั้น ..

น้องหะยีครับ
ทราบมาว่าเมื่อยีสิบปีก่อน
พี่แอ๊ะท่านไปอบรมชาวบ้านให้ขุด"นิล" เอามาทำเครื่องประดับ
สมัยก่อนนิลยังราคาไม่มาก พี่แอ๊ะท่านมีเป็นกระสอบ
แล้วเที่ยวแจกจ่ายชาวบ้านเขาไปทั่วจนตัวเองเขาไม่เหลือ
พี่กุศลก็แซวขอไปเล่นๆ
แต่พี่แอ๊ะเขาก็ไปค้นเอามาให้จริงๆ
ต่างหูนิลสองเม็ดราคาก็คงพอประมาณ(สำหรับยุคนี้)
แต่ตัวเรือนหุ้มทองและเพชรล้อมข้างละสิบกว่าเม็ดนี่สิ
ตอนพี่แอ๊ะมอบให้เป็นตอนกลางคืน
พี่กุศลไม่รู้ค่ายังเอามาโยนเล่นเป็นหมากเก็บอวดชาวหอในรถ
วันดีคืนดีเอามาล้างน้ำขัดเงา แม่เจ้าโว้ย
ของแพงๆทั้งนั้น มิน่าชาวหอหลายคนมองตาละห้อย
ขณะนี้พี่กุศลต้องเช่าตู้เชพเก็บใว้ในธนาคารกันโขมยครับคุณน้อง


หัวข้อ: Re: "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: prapasri AH ที่ 29 กันยายน 2552, 15:33:35



พี่แก้ว และน้องๆค่ะ ช่วงนี้แอ๊ะวุ่นมาก เลยไม่ค่อยได้เข้าบ้าน

ดีใจมากที่มีผู้อาวุโส กว่าแอ๊ะ เข้ามาในเวบ หอ จะตาม (เอ๊ยบังคับ) พี่หาญให้เข้ามาคุยให้ได้  

พี่หาญแกแอบค้อนแอ๊ะทุกวัน  ว่าแอ๊ะเล่นเนตอยู่ได้

แต่ตอนนี้ลูก กระติ๊บ ซื้อ  PDA ให้พี่หาญ

พี่หาญเลยฝึกจิ้มๆ ดร.อุอ๋น เอ๊ยยยยยยย ม่าช่ายยยยยยยย จิ้ม PDA ค่ะ หุๆๆๆๆๆ


น้อง กุศล สุดที่รัก ไม่ต้องคืนพี่แอ๊ะนะคะ พี่แอ๊ะให้แล้วให้เลยค่ะ

ไม่ต้องเกรงใจนะคะ สมบัติผลัดกันชม
จะให้พี่หาญ มาผลัดกันชม น้อง อุอ๋น  ดีไหมคะ 55555555555555555555


น้องๆสุดที่รักทุกท่าน ว่างๆแล้วพี่แอ๊ะจะมาคุยกับน้องๆค่ะ พี่แอ๊ะต้องไปออกกำลังกาย ก่อนพายุกฤษณา จะเข้ามา

เริ่มตั้งเค้ามาที่ยโสแล้วค่ะ

ถ้าไม่ไปออกกำลังกายก่อนนะ กลัว พี่หาญจะดุ กลัว กลั๊ว  พรรคพวกหอชายนี่ น่ากลัวจริงๆ


(ไม่ทราบใครกลัวใคร อิๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ) [/color]


หัวข้อ: Re: "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: เหยง 16 ที่ 29 กันยายน 2552, 16:32:14
สวัสดีครับ พี่แอ๊ะ

พรุ่งนี้ ไต้ฝุ่น"กฤษณา" ผ่านดานัง เข้าไทยทาง มุกดาหาร นะครับ ฝนคงตกหนักพอสมควรครับ
เพราะพายุลูกนี้ตอนผ่าน ฟิลิปปินส์ เป็นแค่ พายุโซนร้อน ผ่าน"มะนิลา"คนตายไปร้อยเศษแล้วครับ   


หัวข้อ: Re: "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: suriya2513 ที่ 29 กันยายน 2552, 19:49:37
แอ๊ะ
ผมโพสท์ข่าวคุณแม่ของโหม้ยไว้แล้วครับ
อยู่ในห้อง รุ่น2513 นี่แหละ


หัวข้อ: Re: "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: Kaimook ที่ 29 กันยายน 2552, 21:28:48
 สวัสดีค่ะพี่แอ๊ะวันนี้เดินได้กี่กิโลแล้วคะ


หัวข้อ: Re: "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: Kaimook ที่ 29 กันยายน 2552, 21:31:20
อ้างถึง
ข้อความของ เหยง 16 เมื่อ 29 กันยายน 2552, 16:32:14
สวัสดีครับ พี่แอ๊ะ

พรุ่งนี้ ไต้ฝุ่น"กฤษณา" ผ่านดานัง เข้าไทยทาง มุกดาหาร นะครับ ฝนคงตกหนักพอสมควรครับ
เพราะพายุลูกนี้ตอนผ่าน ฟิลิปปินส์ เป็นแค่ พายุโซนร้อน ผ่าน"มะนิลา"คนตายไปร้อยเศษแล้วครับ   
พี่เหยงคะ นี่ขนาดยังไม่เข้าไทยนะคะวันนี้ที่บ้านน้ำอ้อยลมแรงมากๆเลยค่ะ ขณะนี้ก็ยังแรง
อยู่เลยค่ะน่ากลัวมากๆเลยค่ะไม่รู้พรุ่งนี้จะเป็นเช่นไรนะคะ


หัวข้อ: Re: "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: prapasri AH ที่ 30 กันยายน 2552, 05:19:27


ขอบคุณมากกระป๋อง

ที่ไม่ลืม กิ๊กเก่า สามย่านของเธอ  

ดร.กระ.กระป๋องเขามี "ไส้ตัน หลาย ไส้ตัน จ้า........"


ขอบใจหลายยยยยยยยยยยยยยยยยย


หัวข้อ: Re: "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: เหยง 16 ที่ 30 กันยายน 2552, 09:20:12
อ้างถึง
ข้อความของ Kaimook เมื่อ 29 กันยายน 2552, 21:31:20
อ้างถึง
ข้อความของ เหยง 16 เมื่อ 29 กันยายน 2552, 16:32:14
สวัสดีครับ พี่แอ๊ะ

พรุ่งนี้ ไต้ฝุ่น"กฤษณา" ผ่านดานัง เข้าไทยทาง มุกดาหาร นะครับ ฝนคงตกหนักพอสมควรครับ
เพราะพายุลูกนี้ตอนผ่าน ฟิลิปปินส์ เป็นแค่ พายุโซนร้อน ผ่าน"มะนิลา"คนตายไปร้อยเศษแล้วครับ   
พี่เหยงคะ นี่ขนาดยังไม่เข้าไทยนะคะวันนี้ที่บ้านน้ำอ้อยลมแรงมากๆเลยค่ะ ขณะนี้ก็ยังแรง
อยู่เลยค่ะน่ากลัวมากๆเลยค่ะไม่รู้พรุ่งนี้จะเป็นเช่นไรนะคะ[
/size]

เมื่อคืน 00.48 น. เวลาประเทศไทย (เข้าวันพุธ 30 ก.ย. 52) เกิดคลื่นสึนามิขึ้นครับ

                                             (http://img23.imageshack.us/img23/3933/tsunami30909.jpg)

อ่านข่าว:
สึนามิ!!ถล่มซามัวและอเมริกันซามัว คาดมีผู้เสียชีวิตจำนวนมาก
http://www.manager.co.th/Around/ViewNews.aspx?NewsID=9520000114635



หัวข้อ: Re: "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: เหยง 16 ที่ 30 กันยายน 2552, 14:38:56
ความคืบหน้าของสึนามิครับ

                                      (http://img24.imageshack.us/img24/3592/tsunami230909.jpg)                            

คาดยอดตายสึนามิในซามัว อาจทะลุหลักร้อย!
http://www.manager.co.th/Around/ViewNews.aspx?NewsID=9520000114660


หัวข้อ: Re: "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: ตุ๋ย 22 ที่ 30 กันยายน 2552, 18:45:17
วันนี้ 19..00 มีข่าวด่วน จาก ไทยพีบีเอส แผ่นดินไหวที่เกาะสุมาตรา วัดแรงได้ 7.9 ริกเตอร์ตึกแถวสีลมรับแรงสั่นสะเทือนได้ ยังไม่มีการเตือนภัยซึนามิ


หัวข้อ: Re: "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: เหยง 16 ที่ 30 กันยายน 2552, 21:31:38
(ต่อ) ความเสียหายจากสึนามิครับ


                                       (http://img180.imageshack.us/img180/9325/tsunami330909.jpg)

ภาพ "สึนามิ" ล้างผลาญแปซิฟิก ยอดตายแตะ 113 แล้ว
http://www.manager.co.th/Around/ViewNews.aspx?NewsID=9520000114992




หัวข้อ: Re: "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: เหยง 16 ที่ 30 กันยายน 2552, 21:34:55
(ต่อ) ความเสียหายจากสึนามิครับ

“โอบามา” ประกาศ “ภัยพิบัติใหญ่” ในอเมริกันซามัว  

เอเอฟพี - ประธานาธิบดีบารัค โอบามา ผู้นำสหรัฐฯ ออกประกาศวานนี้ (29) ตามเวลาท้องถิ่นว่า “เกิดภัยพิบัติรุนแรง”
ในอเมริกันซามัว ซึ่งเป็นดินแดนของสหรัฐฯ หลังเกิดสึนามิซัดถล่มประเทศหมู่เกาะแถบแปซิฟิก ซึ่งทำให้มีผู้เสียชีวิต
แล้วอย่างน้อย 14 รายที่นี่

http://www.manager.co.th/Around/ViewNews.aspx?NewsID=9520000114703



หัวข้อ: Re: "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: KUSON ที่ 01 ตุลาคม 2552, 15:36:16
มหาภัยพิบัติในอเมริกา ซามัว 150ศพ
ธรณีพิโรธ อิเหนา 464 ศพ
ฤทธิ"กิสนา"ในเอเชียตอ/ใต้(เวียตนาม กัมพูชา ลาว) 331ศพ
กุศลไม่ได้ใบ้หวย
แต่ขอแสดงความเสียใจกับญาติพี่น้องของผู้ที่ต้องสูญเสียบุคคลอันเป็นที่รักยิ่งจากไป


หัวข้อ: Re: "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: Kaimook ที่ 02 ตุลาคม 2552, 19:53:24
 พี่เหยง พี่กุศลขราาาน่ากลัวมากๆเลยนะคะโชคดีที่ประเทศไทยไม่โดนหนัก
เหมือนเพื่อนบ้านนะคะ
 emo4:)) emo4:)) emo4:))


หัวข้อ: Re: "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: swsm ที่ 02 ตุลาคม 2552, 20:15:57
ถึงเวลาที่ธรรมชาติเอาคืนหรือเปล่าคะเนี่ย ??


หัวข้อ: Re: "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: wannee ที่ 03 ตุลาคม 2552, 16:06:25
อ้างถึง
ข้อความของ prapasri AH เมื่อ 29 กันยายน 2552, 15:33:35

พี่แก้ว และน้องๆค่ะ ช่วงนี้แอ๊ะวุ่นมาก เลยไม่ค่อยได้เข้าบ้าน.......

......ถ้าไม่ไปออกกำลังกายก่อนนะ กลัว พี่หาญจะดุ กลัว กลั๊ว  พรรคพวกหอชายนี่ น่ากลัวจริงๆ


(ไม่ทราบใครกลัวใคร อิๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ)[/color] [/color]

สวัสดีค่ะพี่แอ๊ะ  emo6::))  ชะแว๊บคุยนิดๆหน่อย  น้องๆก็หายคิดถึงแล้วค่ะ
เสียดก็กลัวหมอบุญเลิศค่ะ  emo9:huhu:  ฉนั้นต้องกันไว้ก่อน ไม่ให้มีโอกาสได้ดุ    emo22:(
วันก่อนเล่าเรืองที่พี่หมอหาญขำ (เรื่องคลอดที่ไหน)ให้หมอบุญเลิศฟัง  หมอบุญเลิศก็หัวเราะค่ะ เสียดเลยได้ขำอีกครั้งตอนเล่า   emo20:)):) emo20:)):)

 


หัวข้อ: Re: "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: เหยง 16 ที่ 03 ตุลาคม 2552, 22:03:32
อ้างถึง
ข้อความของ Kaimook เมื่อ 02 ตุลาคม 2552, 19:53:24
พี่เหยง พี่กุศลขราาาน่ากลัวมากๆเลยนะคะโชคดีที่ประเทศไทยไม่โดนหนัก
เหมือนเพื่อนบ้านนะคะ
emo4:)) emo4:)) emo4:))

อ้างถึง
ข้อความของ swsm เมื่อ 02 ตุลาคม 2552, 20:15:57
ถึงเวลาที่ธรรมชาติเอาคืนหรือเปล่าคะเนี่ย ??

แปลกครับ เพราะติดตามพายุ "กฤษณา" มาตลอดเพราะจะต้องออกสำรวจปริมาณผลผลิตข้าวโพดในประเทศไทย
"กฤษณา" พัฒนาเป็นไต้ฝุ่น ความเร็วศูนย์กลางมากกว่า 114 กม./ชม พัดกระหน่ำเวียตนาม, ลาว
แต่พอเข้าประเทศไทย ที่มุกดาหาร, อุบลราชธานีลดระดับความเร็วลงเป็น Depression ความเร็วศูนย์กลาง 65 กม./ชม
และลดลงเป็นหย่อมความกดอากาศ เมื่อผ่านกาญจนบุรี เมื่อ 08.00 น.วานเช้านี้
ประเทศไทย ผมไม่อยากใช้คำว่า "คนดีพระคุ้มครอง" แต่อยากใช้ "มีคนดี ผีจึงคุ้มครับ"
แต่ปลายๆของพายุ ก็เล่นเอาหลายๆจังหวัดน้ำท่วม ดินถล่ม กันในขณะนี้ เช่น เพชรบูรณ์, โคราช ฯลฯ


หัวข้อ: Re: "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: Kaimook ที่ 03 ตุลาคม 2552, 22:42:27
 สงสัยถ้าใครคลอดลูกตอนนี้มีหวังตั้งชื่อ  กฤษณาแหงๆนะคะพี่เหยง


หัวข้อ: Re: "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: เหยง 16 ที่ 04 ตุลาคม 2552, 10:05:49
อ้างถึง
ข้อความของ Kaimook เมื่อ 03 ตุลาคม 2552, 22:42:27
สงสัยถ้าใครคลอดลูกตอนนี้มีหวังตั้งชื่อ  กฤษณาแหงๆนะคะพี่เหยง

พี่ไม่แน่ให้ตั้งชื่อตามครับ
หากมีใครถามถึงสาเหตุ เราก็จะยกเรื่องพายุไต้ฝุ่น "กฤษณา" ขึ้นมาบอกกล่าว ซึ่งอาจกระทบจิตใจผู้ประสบภัย
ช่วงดีๆ เช่น ปุ๋ย-ภรณ์ทิพย์ นาคหิรัญกนก ได้เป็นนางงามจักรวาลคนที่ 2 ชองไทย เด็กๆที่คลอดในปีนี้ ชื่อ "ปุ๋ย"
กันทั่วเมืองเลย!!!
ถามน้ำอ้อย จำได้ไหม ชื่อ "กวาง" ที่ตั้งกันแพร่หลายเมื่อ 25-26 ปีก่อน มาจากเหตุการณ์อะไร ?? ?!!


หัวข้อ: Re: "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: swsm ที่ 04 ตุลาคม 2552, 10:14:12
อังสุมาลิน .. หรือเปล่าคะ ??
ดาราที่รับบทอังสุมาลินชื่อเล่นว่า "กวาง" ..

อิอิอิ  เดาล้วน ๆ คร่ะ เพราะจำไม่ได้เลย


หัวข้อ: Re: "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: เหยง 16 ที่ 04 ตุลาคม 2552, 11:09:09
2 ปรากฏการณ์ครับ
ที่หะยีบอกมา คือ หนึ่งในสองของปรากฎการณ์นั้น
ส่วนปรากฏการณ์ที่สองคือ ชื่อน้อง"กวาง" น้องสาวของ น.อ. วีระยุทธ ดิษยศรินทร์ ในขณะนั้น


หัวข้อ: Re: "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: Kaimook ที่ 04 ตุลาคม 2552, 18:11:27
 น้ำอ้อยมาตอบไม่ทันค่ะ แต่ถ้าตอบก้ตอบเหมือนแม่ยอดยาหยีแหละค่ะ
เพราะพูดถึงกวางก็จะนึกถึงน้องกวางนั่นแหละค่ะตอนมีลูกสาวทีแรกยังอยากให้ชื่ออังศุมาลินเลยค่ะ
(เห็นเพราะดี)แต่คิดไปคิดมาไม่เอาดีกว่าเพราะพระเอกตายตอนจบอีกอย่างกลัวเพื่อนๆล้อด้วยค่ะว่า
สงสัยแม่เธอคงบ้าหนังมากๆเลยให้ชื่อว่า สุทธิภัทร ค่ะคล้องกับคุณพ่อเขาชื่อ สุทธิชล555555555
ส่วนลูกชายก็ชื่อ สุทธิเกียรติ ค่ะจะได้รวยเหมือนเจ้าสัวสุทธิเกียรติ  55555555 แต่เอลูกแต่ละคน
ไม่มีใครชื่อเหมือนน้ำอ้อยเลยนะนี่จะมีอีกคนจะได้ตั้งชื่อให้คล้องกับน้ำอ้อยก็สายเกินกาลแล้วค่ะพี่เหยงขราาาาาา55555555


หัวข้อ: Re: "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: เหยง 16 ที่ 04 ตุลาคม 2552, 18:18:15
อ้างถึง
ข้อความของ Kaimook เมื่อ 04 ตุลาคม 2552, 18:11:27
น้ำอ้อยมาตอบไม่ทันค่ะ แต่ถ้าตอบก็ตอบเหมือนแม่ยอดยาหยีแหละค่ะ
เพราะพูดถึงกวางก็จะนึกถึงน้องกวางนั่นแหละค่ะตอนมีลูกสาวทีแรกยังอยากให้ชื่ออังศุมาลินเลยค่ะ
(เห็นเพราะดี)แต่คิดไปคิดมาไม่เอาดีกว่าเพราะพระเอกตายตอนจบอีกอย่างกลัวเพื่อนๆล้อด้วยค่ะว่า
สงสัยแม่เธอคงบ้าหนังมากๆเลยให้ชื่อว่า สุทธิภัทร ค่ะคล้องกับคุณพ่อเขาชื่อ สุทธิชล555555555
ส่วนลูกชายก็ชื่อ สุทธิเกียรติ ค่ะจะได้รวยเหมือนเจ้าสัวสุทธิเกียรติ  55555555 แต่เอลูกแต่ละคน
ไม่มีใครชื่อเหมือนน้ำอ้อยเลยนะนี่จะมีอีกคนจะได้ตั้งชื่อให้คล้องกับน้ำอ้อยก็สายเกินกาลแล้วค่ะพี่เหยงขราาาาาา55555555


หลังจากนั้นมา คือไม่นานมานี้ ป๊อป นางสาวไทย, ไทเกอร์ วูดส์ ก็ไม่ค่อยมีคนไทยเอามาตั้งชื่อเล่นของลูกๆกันเลย
ช่วงนี้จึงไม่ค่อยมีเด็กเกิดใหม่และมีชื่อเล่นเหมือนกันมากๆ และแปลก ชื่อ ทักษิณ นี่น่าจะป๊อปปูล่าน่ะ แต่กลับไม่มีคนตั้ง
รวมทั้งชื่อ สนธิ ด้วย แต่พี่กำลังดูคำว่า มาร์ค อยู่ครับ


หัวข้อ: Re: "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: เหยง 16 ที่ 04 ตุลาคม 2552, 18:21:31
นี่แสดงว่า พวกเรากำลังสนทนา รอเจ้าของห้องใช่ไหม??
และถ้าเจ้าของห้องกลับจากใต้มา มีอะไรติดมือมาฝากมั้ยนี่..ถามพี่แอ๊ะครับ


หัวข้อ: Re: "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: ตุ๋ย 22 ที่ 04 ตุลาคม 2552, 20:24:30
พี่แอ๊ะเป็นคนเขียนเรื่องได้น่าสนใจ


หัวข้อ: Re: "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: prapasri AH ที่ 05 ตุลาคม 2552, 05:06:04


น้องตุ๋ยคะ  พี่แอ๊ะนอนไม่หลับคืนนี้ ตื่นตั้งแต่ตี สาม แล้วหลับต่อไม่ลง

เลยมาทำงานดีกว่า จะได้มีเวลาทำงานวันนี้มากถึง 15 ชั่วโมง

ขอบคุณที่ชมว่าพี่แอ๊ะเขียนเรื่องได้น่าสนใจ

และขอบคุณน้องๆทุกท่านที่กรุณาเข้ามาคุยในบ้านพี่แอ๊ะ ไม่ให้บ้านพี่แอ๊ะร้าง[/color
]



กำลัง สงสารชาวปินส์อยู่พอดี เรียกว่า เจอโรคซ้ำกรรมซัด

ถ้าพี่แอ๊ะอยู่ช่วงที่ กิสนา อาละวาดแล้วพี่แอ๊ะ จะทำอย่างไรหนอ

ตอนนี้ได้ข่าวว่า พายุชื่อ.ป้า...... อะไรนะ กำลังจะมาอาละวาด ชาวปิน์ส์ ที่พี่แอ๊ะ ประทับใจ อีกแล้ว

ทีประทับใจเพราะแม้ปินส์จะเป็นเผด็จการ คนในรัฐบาล และสามีของผู้นำประเทศกุมเศรษฐกิจทุกอย่าง

มี conflict of interest ในทุกเรื่อง คอรับชั่นทุกหย่อมหญ้า

ทหารพร้อมทุกเวลาที่จะออกมาเข่นฆ่าประชาชนที่เรียกร้องความเป็นธรรมในสังคม

แต่ มูลนิธิแมกไซไซ  ที่เชิดชูอุดมการณ์ ของท่าน รามอนแมกไซไซ ก็ยังดำรงอยู่ได้

รัฐบาลเผด็จการทำอะไรมูลนิธินี้ไม่ได้เลย

แล้วเขาก็กล้าหาญชาญชัยขนาดไม่ยอมเชิญประธานาธิบดีที่แปดเปื้อน มาร่วมงานระดับโลกนี้ด้วย

ดร.กฤษณากำลังชวนพี่แอ๊ะให้ไปช่วยผลิตยาให้ชาวปินส์ที่ยากจนอยู่ค่ะ

โดยมีเอกอัครราชฑูตไทยที่นั่นเป็นผู้ประสานงานให้

(หมอเหยง และอาจารย์แจ่มใส น่าไปช่วยด้วยนะคะ)

คือช่วงที่ไปนั้น พี่หาญซึ่งเป็นคนที่เเข็งแรงมาก เกิดอาการอาหารเป็นพิษ

ถ่ายท้องจนหน้าซีดเลยค่ะ

ที่นั่น อาหารไม่ค่อยสะอาดค่ะ

ที่นั้นเราไม่เห็นร.พ ไม่ว่าเอกชน หรือของรัฐ หรือคลินิก ก็ไม่มี

ต่าง กับประเทศไทยลิบลับ การแพทย์เสรี คลินิกเต็มไปหมด บางถนนเป็นถนนคลินิกให้รู้เเล้วรู้รอดไปเลย

พี่แอ๊ะถามว่าถ้าชาวปินส์ ที่เข้าแถว รอซื้อยาอย่างยาวเหยียด ว่าถ้าป่วยมากแล้วจะไปที่ไหน เขาบอกว่า มี pcu ( primary care unit)

คงสภาพคล้ายสุขศาลา ของเราในอดีต เขาจะไปที่นั่น ถ้าอาการหนักก็จะถูกส่งไปร.พของรัฐ

พี่แอ๊ะไปซื้อยาให้พี่หาญ เชื่อไหมราคาแพงกว่าเมืองไทยเป็นร้อยเท่า หรือ 50 เท่า

พี่แอ๊ะซื้อ lomotil ต้นทุนเมืองไทย local made ราคาน่าจะอยู่ที70 สต -1บาทกว่า

แต่ที่นั่นขาย เม็ดละ 35 บาท คุณภาพ คงไม่ต้องพูดถึง ทานก็ไม่หาย

พี่หาญเขาประหยัด(ขี้เหนียว) เห็นราคา แล้วตกใจ ซื้อไม่ลง เลยขอซื้อ 4 เม็ด แบ่งให้พี่แอ๊ะ 2เม็ด

ซึ่งพี่แอ๊ะเริ่มท้องเสียด้วย แล้วก็ไม่หาย ยังจู๊ดๆทั้งสองคน

[/color



พี่แอ๊ะเลยกลับไปซื้อยาปฎิชีวนะ ราคา ราคาไม่ต้องพูดถึง แทบสลบ แต่เราต้องทานยา

ไม่งั้นอาจ ตายที่นั่นได้ จะไปให้น้ำเกลือทีไหน หนอ.......................

พี่แอ๊ะถามคนขายยา ว่า แล้วคนจนๆ จะซื้อยา หรือเข้าถึงยาได้อย่างไร

คนขายตอบว่า they can afford โอยยยยยยยยยยยยย


ยาทุกร้านเป็นชื่อร้าน อะไรจำไม่ได้แล้ว เป็นเฟรนไชน์ไปทั้งหมด

ที่สำคัญ น่าจะเป็นธุรกิจ ของสามีผู้นำ ประทศค่ะ ซึ่งผูกขาดธุรกิจทุกอย่าง


พี่แอ๊ะเล่าให้ ดร.กฤษณาฟัง   ดร.เลยให้สัมภาษณ์ทางทีวี ถึงเรื่องยาแพงนี้

และเป็นแรงบันดาลใจ ให้ดร.อยากไปผลิตยาให้คนจนที่นั่น

คิดว่าโครงการนี้เกิดเเน่นอน ดร.บอกว่าพอมีตำแหน่งใหญ่โต พอคิดโครงการอะไร

หรือแค่ย่างเท้าออกจากที่พักก็จะมีองค์ต่างๆเข้ามาเสนอช่วย

ไม่เหมือนตอนไปบุกเบิกที่อัฟริกา โดดเดี๋ยวเดียวดายยยยยยยยยยยยย

โดนตามฆ่าด้วยเพราะไปขัดผลประโยชน์ของบริษัทยาข้ามชาติ

 


หัวข้อ: Re: "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: swsm ที่ 05 ตุลาคม 2552, 08:25:16
ขอแสดงความเสียใจกับพี่แอ๊ะ น้องหมอกระติ๊บ และครอบครัวของหมอนนท์ด้วยค่ะ


หัวข้อ: Re: "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: หนุน'21 ที่ 05 ตุลาคม 2552, 09:21:58
สวัสดีครับพี่แอ๊ะ

ขอแสดงความเสียใจ กับพี่แอ๊ะ หมอกระติ๊บและหมอนนท์ด้วยนะครับ


หัวข้อ: Re: "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: อ้อย17 ที่ 05 ตุลาคม 2552, 11:51:06
อ้างถึง
ข้อความของ prapasri AH เมื่อ 05 ตุลาคม 2552, 11:39:21
ขอบคุณน้อง หะยี และน้องหนุน21ค่ะพี่แอ๊ะเห็นว่า ความเป็นกับความตายใกล้กันนิดเดียว

เห็นกันอยู่หลัดๆ แป๊บเดียวก็ตายได้แล้ว

ดังนั้นเราต้องใช้เวลาที่เหลืออยู่ในชีวิตให้มีความสุขที่สุด นะคะ

  พี่แอ๊ะขา..
            ขอแสดงความเสียใจในความสูญเสียครั้งนี้ด้วยนะคะ


หัวข้อ: Re: "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: เหยง 16 ที่ 05 ตุลาคม 2552, 15:37:09
พี่แอ๊ะครับ

ขอแสดงความเสียใจต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น และความสูญเสียในครั้งนี้ด้วยครับ


หัวข้อ: Re: "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: ตุ๋ย 22 ที่ 05 ตุลาคม 2552, 20:42:26
ขอแสดงความเสียใจด้วยครับ


หัวข้อ: Re: "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: prapasri AH ที่ 05 ตุลาคม 2552, 22:09:02
น้องๆคะ

พี่แอ๊ะวิ่งวุ่นทั้งวันจนตัวสั่นเลยค่ะ

งานมากเหลือเกิน เพราะต้องไปญี่ปุ่นหลายวัน ยังไม่ได้จัดกระเป๋าเลยค่ะ

ไปมุกดาหารเพิ่งกลับมา และต้องเตรียมงานให้ ชาวจุฬายโส  ต้อนรับคณะอาจารย์จากครุจุฬา

ท่านจะมาเยี่ยมพี่แอ๊ะและชาวจุฬายโสธร วันที่13 นี้ แต่บังเอิญพี่แอ๊ะไม่อยู่ จึงต้องฝากงานให้น้องจุฬา

บางท่านเป็นใหญ่กว่าพี่แอ๊ะ แต่เป็นน้องจึงสั่ง เอ๊ย ฝากงานไว้ได้ คือท่านปลัดจังหวัดยโส รัฐศาสตร์14ค่ะ


พี่แอ๊ะทำ การ์ดสวยมากค่ะ ถ้าfile ไม่ใหญ่เกินไปจะให้เจ้าหน้าที่เมล์มาให้ดูนะคะ  


หัวข้อ: Re: "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: Kaimook ที่ 05 ตุลาคม 2552, 22:17:35
 ขอแสดงความเสียใจด้วยคนค่ะพี่แอ๊ะ


หัวข้อ: Re: "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: suriya2513 ที่ 05 ตุลาคม 2552, 22:21:21
ขอแสดงความเสียใจด้วยครับ


หัวข้อ: Re: "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: suriya2513 ที่ 05 ตุลาคม 2552, 22:27:11
ประภาศรี (วิริยพันธ์) สุฉันทบุตร
มีเกณฑ์ทางด้านภาษาศาสตร์อย่างไร ว่าการวงเล็บไว้เช่นนี้
เป็นนามสกุลเดิม ของคุณประภาศรี
ทำอย่างไรจะไม่ให้คิดว่าเป็นชื่อเดิม ของคุณประภาศรี


หัวข้อ: Re: "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: prapasri AH ที่ 06 ตุลาคม 2552, 07:03:48
(http://img24.imageshack.us/img24/769/dscf294354.jpg)

กับน้าๆชาวหอค่ะ


หัวข้อ: Re: "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: swsm ที่ 06 ตุลาคม 2552, 08:54:38
น่ารักจัง .. น้องหมอกระติ๊บ


หัวข้อ: Re: "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: suriya2513 ที่ 06 ตุลาคม 2552, 14:41:27
อ้างถึง
ข้อความของ prapasri AH เมื่อ 06 ตุลาคม 2552, 06:56:34
รูปน้องติ๊บค่ะ
(http://img7.imageshack.us/img7/2843/19521614.jpg)
...
นึกว่านางเอกหนังจีนไต้หวันเรื่อง "รักไม่เท็จ เด็ดดวงใจ" ซะอีก
(อย่าถามชื่อหนังในภาคภาษาจีนนะครับ...ยังไม่ได้แปล)


หัวข้อ: Re: "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: Kaimook ที่ 06 ตุลาคม 2552, 17:11:39
อ้างถึง
ข้อความของ prapasri AH เมื่อ 06 ตุลาคม 2552, 05:47:27


ขอบคุณน้องป๋อง และน้องไข่มุกค่ะ

บายๆ ก่อนนะ

พี่แอ๊ะ และพี่หาญ ต้องไปกทม. งานแม่หมอนนท์ ค่ะ



หลังจากนั้น ต้องไปญี่ปุ่น เป็นงานของจังหวัดที่  plan ไว้เป็นปี ไม่ทราบว่าจะมีเรื่องร้ายเกิดขึ้น

ไปแลกเปลี่ยนวัฒนธรรม บั้งไฟ กับเมืองโยชิดะ จังหวัดไซตามะ ใกล้กรุงโตเกียว แต่เป็นเมืองเกษตรกรรม

จึงมีการจุดบั้งไฟเหมือนยโสธร

ผู้ใหญ่ของจังหวัดยโส ไปกันเกือบหมดค่ะ

ท่านผู้ว่า คุณนาย ท่านรองผู้ว่า  ท่านนายกเทศมนตรี ท่านนายกอบจ.และ ๆๆๆๆ ประมาณ 50 ท่านค่ะ

พี่แอ๊ะไปจนเบื่อแล้วค่ะ เพราะต้องผลัดกันไป

มีปัญหา ตรง ที่ พูดกับคนญี่ปุ่น กันไม่ค่อยได้

 เพราะ คนญี่ปุ่นเขาพูดภาษาอังกฤษ ได้   snake ๆ   fish ๆ  เหมือนคณะที่ไปเลยค่ะ

ต้องใช้ภาษา  มือ  กันจนเหนื่อยค่ะ

เวลาญี่ปุ่นมายโสทุกเดือนพฤษภา ของทุกปี เขาก็พูดไทยไม่ได้ค่ะ


กลับมาแล้วจะมาเล่าให้ฟังนะคะ



เดินทางปลอดภัยนะคะพี่แอ๊ะ รอชมภาพพี่แอ๊ะค่ะ


หัวข้อ: Re: "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: Kaimook ที่ 06 ตุลาคม 2552, 17:12:49
อ้างถึง
ข้อความของ prapasri AH เมื่อ 06 ตุลาคม 2552, 06:59:23
(http://img16.imageshack.us/img16/1269/83329782.jpg)


กับมามี้ค่ะ
คุณแม่ก็สวยคุณลูกก็สวยค่ะน่ารักมากๆค่ะภาพนี้


หัวข้อ: Re: "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: ตุ๋ย 22 ที่ 06 ตุลาคม 2552, 20:23:00
ลูกสาวสวยเหมือนแม่เลยครับ


หัวข้อ: Re: "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: swsm ที่ 06 ตุลาคม 2552, 20:37:49
แบบนี้เรียก .. ลูกไม้หล่นไม่ไกลต้นค่ะ  พี่ตุ๋ย


หัวข้อ: Re: "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: prapasri AH ที่ 07 ตุลาคม 2552, 07:08:06
(http://img2.imageshack.us/img2/5532/klangdao.jpg)

รูปกระติ๊บ ตอนเป็นหมอ แล้วค่ะ


หัวข้อ: Re: "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: prapasri AH ที่ 07 ตุลาคม 2552, 07:12:11
(http://img2.imageshack.us/img2/3015/cmadong05wince.jpg)

กับน้าหุยเภสัช 13


หัวข้อ: Re: "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: prapasri AH ที่ 07 ตุลาคม 2552, 07:22:49
เตรียมงาน ให้อาจารย์ ครุศาสตร์มาเยี่ยมชาวยโสธร

ช่วงนั้นพี่แอ๊ะไม่อยู่เลยเตรียมงานไว้ให้ทุกอย่าง ฝากงานไว้กับท่านปลัดจังหวัด และทีมบริหารร.พ พี่แอ๊ะ

การ์ดพี่แอ๊ะออกแบบเองค่ะ  เหนื่อย.......ชนิดที่วิ่งไปวิ่งมา สั่งงานน่ะค่ะ


(http://img17.imageshack.us/img17/5844/32820105.jpg)


หัวข้อ: Re: "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: prapasri AH ที่ 07 ตุลาคม 2552, 07:24:38
(http://img41.imageshack.us/img41/2473/75844704.jpg)


หัวข้อ: Re: "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: prapasri AH ที่ 07 ตุลาคม 2552, 09:07:52
(http://img43.imageshack.us/img43/6604/21699108.jpg)


หัวข้อ: Re: "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: prapasri AH ที่ 07 ตุลาคม 2552, 09:17:25
พีแอ๊ะวางแผนงานไว้ให้ อย่างนี้แล้ว คิดว่าชาวจุฬายโส คงต้อนรับอาจารย์ จากจุฬาได้

ท่านต้องการมาเยี่ยมพี่แอ๊ะจึงแวะยโส ไม่งั้นแวะจังหวัดอื่นที่เจริญๆ กว่านี้ดีกว่า ไม่คิดว่าพี่แอ๊ะจะไปตปท.

 อาจารย์ อาวุโสทั้งนั้นค่ะเช่น  อาจารย์ อำไพ สุจริตกุล อาจารย์สุมน อมรวิวัฒน์ อาจารย์สุจริต เพียรชอบ ยังมาเลยค่ะ

แต่ละท่านต้องการมาหาพี่แอ๊ะ เสียดายจังงงงงงงงงงงงงงง


หัวข้อ: Re: "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: ตุ๋ย 22 ที่ 07 ตุลาคม 2552, 20:27:28
ชอบอาจารย์สุจริต เพียรชอบมากตอนที่เรียนป.ตรี  ตอนป.โท ท่านก็ยังตามไปนิเทศที่สหรัฐอเมิกา


หัวข้อ: Re: "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: เหยง 16 ที่ 07 ตุลาคม 2552, 20:47:34
สวัสดีครับพี่แอ๊ะ (อีกครั้ง)

เมื่อเช้าวันนี้ใช้เบอร์ผิด จะโทรไปหาพี่ติ๋ว แต่ได้คุยกับพี่แอ๊ะแทน ดีใจเป็นอย่างยิ่งครับ


หัวข้อ: Re: "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: เหยง 16 ที่ 08 ตุลาคม 2552, 21:36:22
พี่แอ๊ะครับ
วันนี้ (8 ตุลาคม) ไปส่งเสบียงให้ อจ.พินิจ - พี่ติ๋ว(จันทร์แจ่ม) เพิ่มพงศ์พันธ์, พี่สิงห์, พี่กุศล อิศดุลย์, ถาวร-ติ๋ม โชติชื่น ขึ้นรถไฟด่วนไปเชียงใหม่ เพื่อไปเข้าโครงการซ่อมสุขภาพของโรงพยาบาลจอมทองครับ มีเพื่อนสิงหอคือ เฉื่อย-จิระ กลิ่นหอม และเพื่อนที่ทำงาน ไปช่วยต้อนรับด้วยครับ


หัวข้อ: Re: "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: Kaimook ที่ 11 ตุลาคม 2552, 22:06:07
สวัสดีค่ะพี่แอ๊ะ emo4:)) emo4:)) emo4:))


หัวข้อ: Re: "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: หนุน'21 ที่ 13 ตุลาคม 2552, 07:25:43
อ้างถึง
ข้อความของ prapasri AH เมื่อ 07 ตุลาคม 2552, 07:24:38
(http://img41.imageshack.us/img41/2473/75844704.jpg)

สวัสดีครับพี่แอ๊ะ  ซึ่งตอนนี้คงกำลังอยู่ที " ไซตามะ" ชิบะ ญี่ปุ่น
กลับมาคงมีเรื่องเล่าให้พวกเราฟังอย่างได้อรรถรสแน่นอน

การ์ดสวยมากๆเลยครับพี่


  emo48:)


หัวข้อ: Re: "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: swsm ที่ 13 ตุลาคม 2552, 11:08:03
สวัสดีจากภูเก็ต ไปยังไซตามะค่ะ ..
พี่แอ๊ะสบายดีนะคะ



หัวข้อ: Re: "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: Kaimook ที่ 14 ตุลาคม 2552, 23:05:35
 สวัสดีค่ะพี่แอ๊ะ emo4:)) emo4:)) emo4:))


หัวข้อ: Re: "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: suriya2513 ที่ 14 ตุลาคม 2552, 23:56:33
รอให้พี่แอ๊ะกลับมาถึงยะโสธรก่อนค่อยทักทายสวัสดีกันก็ได้
international ระดับพี่แอ๊ะแล้ว อย่าให้ต้องไปไกลถึง "ไซตามะ" เลยครับ
แค่ไปอยู่ที่เกาะสมุยบ้านเกิด ก็ไม่ยอมเปิด internet แล้ว...

ปีนี้งานคืนสู่เหย้าคงต้องรบกวนใช้ sms ฟรีประชาสัมพันธ์อย่างคราวที่แล้วอีกนะครับ...คุณนายแอ๊ะ
(จาบจ้วงล่วงเกินแบบนี้ จะได้รับความเมตตาอนุเคราะห์ไหมเนี่ย)


หัวข้อ: Re: "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: iamfrommoon ที่ 15 ตุลาคม 2552, 09:14:19
อ้างถึง
ข้อความของ suriya2513 เมื่อ 14 ตุลาคม 2552, 23:56:33
รอให้พี่แอ๊ะกลับมาถึงยะโสธรก่อนค่อยทักทายสวัสดีกันก็ได้
international ระดับพี่แอ๊ะแล้ว อย่าให้ต้องไปไกลถึง "ไซตามะ" เลยครับ
แค่ไปอยู่ที่เกาะสมุยบ้านเกิด ก็ไม่ยอมเปิด internet แล้ว...

ปีนี้งานคืนสู่เหย้าคงต้องรบกวนใช้ sms ฟรีประชาสัมพันธ์อย่างคราวที่แล้วอีกนะครับ...คุณนายแอ๊ะ
(จาบจ้วงล่วงเกินแบบนี้ จะได้รับความเมตตาอนุเคราะห์ไหมเนี่ย)


ใช่เลยค่าเมื่อคราวที่แล้ว พี่แอ๊ะทำ surprised ชาวซีมะโด่งได้อย่างประทับใจมากๆ เลยค่า...



หัวข้อ: Re: "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: ตุ๋ย 22 ที่ 15 ตุลาคม 2552, 19:58:59
หวัดดีครับพี่แอ๊ะ  ไม่โพสต์หลายวันคิดถึงครับ


หัวข้อ: Re: "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: wannee ที่ 16 ตุลาคม 2552, 15:44:12
สวัสดีค่ะพี่แอ๊ะ  emo4:)) emo6::))


หัวข้อ: Re: "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: Kaimook ที่ 16 ตุลาคม 2552, 18:44:35
สวัสดีค่ะพี่แอ๊ะ emo4:)) emo4:)) emo4:))


หัวข้อ: Re: "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: เหยง 16 ที่ 16 ตุลาคม 2552, 22:20:17
ตามมาสวัสดีพี่แอ๊ะอีกคนครับ

ผ่านไป 9 วันแล้ว ชาวซีมะโด่งนั่งรอพี่เข้าเว็ปมาทักทายครับ


หัวข้อ: Re: "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: suriya2513 ที่ 16 ตุลาคม 2552, 23:23:26
ไม่เมื่อยมือก็เชิญ


หัวข้อ: Re: "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: เหยง 16 ที่ 17 ตุลาคม 2552, 09:06:22
พี่ป๋อง

พี่สิงห์มีข้อความฝากไว้ที่ ห้องคุยกับคุณมานพ... หน้า 81 ครับ


หัวข้อ: Re: "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: wannee ที่ 18 ตุลาคม 2552, 09:47:13
อ้างถึง
ข้อความของ suriya2513 เมื่อ 16 ตุลาคม 2552, 23:23:26
ไม่เมื่อยมือก็เชิญ

น้องๆที่เข้ามา   มาด้วยใจค่ะ  ไม่มีการต่อว่าต่อขาน   emo4:))


หัวข้อ: Re: "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: wannee ที่ 18 ตุลาคม 2552, 09:48:09
สวัสดีค่ะพี่แอ๊ะ  emo4:)) emo6::)) emo9:huhu:


หัวข้อ: Re: "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: suriya2513 ที่ 19 ตุลาคม 2552, 12:36:35
อ้างถึง
ข้อความของ wannee เมื่อ 18 ตุลาคม 2552, 09:47:13
อ้างถึง
ข้อความของ suriya2513 เมื่อ 16 ตุลาคม 2552, 23:23:26
ไม่เมื่อยมือก็เชิญ

น้องๆที่เข้ามา   มาด้วยใจค่ะ  ไม่มีการต่อว่าต่อขาน   emo4:))
แย่แล้วสิเรา มีหวังโดนกลุ่มแม่บ้านแพทย์ซีมะโด่งรุมทุบตีแน่นอนเลย
โชคดีที่คุณนายแววตาไม่เข้าเว็บฯ มิฉะนั้นคงรับมือไม่ไหว


หัวข้อ: Re: "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: เหยง 16 ที่ 19 ตุลาคม 2552, 12:44:20
ผ่านมา 12 วันแล้ว พี่แอ๊ะยังไม่กลับเข้าบ้านมาทักทายเลยครับ


หัวข้อ: Re: "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: ตุ๋ย 22 ที่ 19 ตุลาคม 2552, 20:44:04
ผมก็รอพี่แอ๊ะมาเล่าเรื่องดีๆ ให้ฟังอยู่ครับ


หัวข้อ: Re: "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: หนุน'21 ที่ 20 ตุลาคม 2552, 13:31:34
 emo28:win:

เข้ามารอพี่แอ๊ะด้วยคนครับ
รอฟังเรื่องเล่าคราวนี้ด้วยนะครับ


 emo48:)


หัวข้อ: Re: "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: prapasri AH ที่ 21 ตุลาคม 2552, 05:36:52
พี่แอ๊ะมาถึงเมืองไทยหลายวันแล้วค่ะ

แต่ไม่สบาย ตอนแรกสงสัยว่าจะเป็นไข้หวัด2009 แล้วค่ะ

เพราะอ่อนเพลีย และเป็นหลายวันมาก แต่ตรวจหาเชื้อแล้วไม่พบหวัด2009 แหม๋..อยากเป็นโรคที่ทันสมัยซะหน่อยก็ไม่ได้

เดี๋ยวนี้หวัด2009  ไม่น่ากลัวแล้วค่ะ เพราะคนไทยมีภูมิต้านทาน 2009 แล้ว

พี่แอ๊ะคิดว่าตัวเองเป็นไข้หวัดใหญ่

วันนี้พอลุกได้เลยเปิดเวบ เห็นน้องๆถามหาพี่แอ๊ะเลยต้องนั่งพิมพ์แต่เช้าเลยค่ะ


หัวข้อ: Re: "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: prapasri AH ที่ 21 ตุลาคม 2552, 07:06:34
ขอบคุณน้องที่ช่วยทำให้บ้านนี้ไม่ร้าง นะคะ

จะเล่าเรื่องไหนก่อนดีละ เรื่องไป

สปป.ลาว เรื่องไปญี่ปุ่น เรื่องอาจาย์จุฬามาเยี่ยมยโสธร

และเรื่องปินส์ที่ยังไม่หมด แต่คิดว่าเรื่องปินส์คงไม่ update แล้ว แต่อยาก โชว์รูปพี่แอ๊ะกับชุดสวยในงานอิๆๆๆๆ


หัวข้อ: Re: "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: prapasri AH ที่ 21 ตุลาคม 2552, 07:09:42
(http://img340.imageshack.us/img340/7185/200909030206.jpg)


หัวข้อ: Re: "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: prapasri AH ที่ 21 ตุลาคม 2552, 07:14:22
นี่เป็นรูปที่ถ่ายกับ แมกไซไซจูเนียร์ค่ะ

พี่แอ๊ะ ชอบใส่ชุดที่ตัดจากผ้าปาเต๊ะ แต่ให้ดีไซน์เนอร์เขาออกแบให้ เขานำผ้าไหมมาแต่งเติม

ใส่ไปที่ไร คนต้องเหลียวมองทุกครั้ง

ชุดนี้พี่แอ๊ะใส่มา10 ปีแล้วค่ะ

(http://img148.imageshack.us/img148/1362/200909030282.jpg)


หัวข้อ: Re: "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: prapasri AH ที่ 21 ตุลาคม 2552, 07:25:14
(http://img148.imageshack.us/img148/8016/200909030318.jpg)

รูปนี้เท่มาก ถ่ายกับท่านที่ได้รับรางวัลแมกไซไซปีที่แล้ว และภรรยา

ที่เท่ เพราะภรรยาท่าน ตามมาดูสร้อยคอพี่แอ๊ะค่ะ

พี่แอ๊ะเว่อมาก งานนี้ปกติ มีแต่ NGO ซึ่งเกือบทุกคนเขาแต่งแบบเรียบมาก แต่พี่แอ๊ะเป็น NGO ไฮโซ ค่ะ555555555

เด่วพี่แอ๊ะจะเฉลยนั้นนะว่าสร้อยนี้พี่แอ๊ะได้เเต่ใดมา


หัวข้อ: Re: "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: หนุน'21 ที่ 21 ตุลาคม 2552, 07:37:07
 emo28:win:

สวัสดีตอนเช้าครับพี่แอ๊ะ
เข้ามาชมชุดสวยๆครับ
และรอเรื่องเล่าทีพี่แอ๊ะอยากเล่า
และน้องๆก็อยากฟังครับ


 emo6::))


หัวข้อ: Re: "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: prapasri AH ที่ 21 ตุลาคม 2552, 08:35:09

ภรรยาของท่าน ที่ได้รับรางวัล แมกไซไซ ปีที่แล้ว

ท่านถามพี่แอ๊ะว่าสร้อยสวยมาก ซื้อจากที่ไหน

พี่แอ๊ะเลยเเหงนคอให้ดูว่าเป็นความสามารถพิเศษของน้องสาวพี่แอ๊ะ เขาให้พี่แอ๊ะมา

เพราะพอเขาทำแล้วเขารู้สึกว่าใส่แล้วเว่อ ใหญ่มาก ตัวน้องสาวพี่แอ๊ะเล็กมากเลยไม่กล้าใส่ พี่แอ๊ะเลยโชคดีได้มาทั้งเส้นเลยค่ะ

วิธีทำสร้อยนี้ อยากให้น้องผู้หญิงที่เข้ามา ลองไปทำดูจะได้สร้อยใหญ่อลังการอย่างนี้

คือน้องเขา เอา แหวนเล็กๆ ที่เราใส่ตอนเราอายุยังน้อย พอเราแก่แล้ว เราเอามาใส่มันก็ดูเล็กกระจิ๊ดเดียว

เลยเอาหัวแหวน และเครื่องประดับที่ซุกๆ ไว้ไม่ค่อยได้ใช้ เอามาให้ช่างปะติดปะต่อกัน

เลยกลายเป็นสร้อยคออันใหญ่อลังการออกงานหรูๆ ได้ เรียกว่า recycle เพชรพลอยก็ได้นะคะ

(http://img148.imageshack.us/img148/7881/200909030315.jpg)





หัวข้อ: Re: "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: iamfrommoon ที่ 21 ตุลาคม 2552, 08:42:06

ขอให้หายเร็วๆ นะคะ...พี่แอ๊ะไปไหนมาบ้างคะ ต้องมีเรื่องมาเล่าให้น้องๆ ฟังแน่ๆ เลย

ขอปูเสื่อรอคนแรก


หัวข้อ: Re: "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: prapasri AH ที่ 21 ตุลาคม 2552, 08:43:27
น้องหนุน21คะ

 ตอนนี้จะเล่าเรืองอาจารย์ครุศาสตร์จุฬามายโสธร

โชคดีที่พี่แอ๊ะplanงานไว้เรียบร้อยเลย งานสนุกมาก

ชาวจุฬาอยู่ที่ไหนพอได้เจอกันก็ มันส์ พะยะค่ะ อยู่แล้ว

(http://img148.imageshack.us/img148/9933/dsc00369lc.jpg)

อาจารย์ ดร.สุจริตเพียรชอบ และสามี ชื่ออะไรนะ พี่แอ๊ะจำไม่ได้แล้ว

ท่านนั่งกับท่านปลัดจังหวัดยโสธร รัฐศสาตร์ 14




หัวข้อ: Re: "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: prapasri AH ที่ 21 ตุลาคม 2552, 08:50:28
น้องปุ๊กกี้ iamfrom moon ขา

พี่แอ๊ะส่งให้ดูอีกรูปก่อนที่จะไปปูเสื่อนอนเหมือนกัน พอดีพี่แอ๊ะไม่สบาย ปวดไปหมดทั้งตัว

ตามหมอแผนไทย มานวดให้ค่ะ เขารอนวดแล้ว พี่แอ๊ะบอกว่ารอก่อน ฉัยกำลังคุยสนุกกับน้องของฉัน อิๆๆๆๆ


(http://img148.imageshack.us/img148/2733/dsc00355d.jpg)

น้องครุ ดูเอานะว่าจำอาจารย์ท่านใดได้บ้าง










หัวข้อ: Re: "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: prapasri AH ที่ 21 ตุลาคม 2552, 08:54:49


พี่แอ๊ะอยากได้เสื้อแจ๊กเก็ต สีส้มแบบของอาจารย์จังเลย

ไม่ทราบที่คณะมีขายหรือเปล่า จะได้ไปซื้อมาใส่ให้โก้ไปเลย

ดร.พฤฒิ อดีตคณบดี เป็นเพื่อนรุ่นพี่แอ๊ะค่ะ

(http://img148.imageshack.us/img148/5665/dsc00376my.jpg)


หัวข้อ: Re: "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: prapasri AH ที่ 21 ตุลาคม 2552, 08:56:56
อาจารย์ไชยธวัชว์ ไทยง ถ่ายรูปกะ นิสิตเก่าจุฬายโสธรรุ่นลูกพี่แอ๊ะมั้ง

(http://img148.imageshack.us/img148/326/dsc00384i.jpg)


หัวข้อ: Re: "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: prapasri AH ที่ 21 ตุลาคม 2552, 08:59:31
(http://img148.imageshack.us/img148/5494/dsc00356h.jpg)

มายโส ก็ต้องไม่พลาดกระเป๋า จี๋จมพู จ้า


หัวข้อ: Re: "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: prapasri AH ที่ 21 ตุลาคม 2552, 09:00:43
ขอไปนอน นวดให้หายเมื่อยก่อนนะ

คืนนี้จะมาคุยต่อตะน้องๆขา


หัวข้อ: Re: "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: iamfrommoon ที่ 21 ตุลาคม 2552, 09:22:29
อ้างถึง
ข้อความของ prapasri AH เมื่อ 21 ตุลาคม 2552, 07:14:22
นี่เป็นรูปที่ถ่ายกับ แมกไซไซจูเนียร์ค่ะ

พี่แอ๊ะ ชอบใส่ชุดที่ตัดจากผ้าปาเต๊ะ แต่ให้ดีไซน์เนอร์เขาออกแบให้ เขานำผ้าไหมมาแต่งเติม

ใส่ไปที่ไร คนต้องเหลียวมองทุกครั้ง

ชุดนี้พี่แอ๊ะใส่มา10 ปีแล้วค่ะ

(http://img148.imageshack.us/img148/1362/200909030282.jpg)

พี่แอ๊ะคะ

ชุดนี้รึเปล่าคะที่ว่าจะใส่มางานแต่งงานน้องเมื่อปีที่แล้ว แต่พอดีพี่ติดภาระกิจเลยส่งลูกสาวกับลูกชายมาแทน

สวยมากเลยค่ะ สีฟ้าพี่ใส่แล้วเด่นมาก

ปล.กระเป๋าสีชมพูที่น้องได้รับตอนโน้นยังใช้ได้ดีเลยค่า...รุ่นใหม่ตามภาพนี้เก๋ไก๋มากเลยค่า


หัวข้อ: Re: "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: prapasri AH ที่ 22 ตุลาคม 2552, 07:13:09
น้องปุ๊กกีขา

อย่าชมว่ากระเป๋าสวยเชียว เดี๋ยวพี่แอ๊ะ ส่งไปให้อีกนะคะ น้องจะได้เก็บไว้เป็นคอลเลคชั่นกระเป๋า พี่แอ๊ะเลยค่ะ5555555555555

พี่แอ๊ะตื่นเช้าขึ้นมาทำการบ้านคือ โพสต์รูป จะได้เล่าให้เสร็จเป็นเรื่องๆ เด่วช้าเหมือนเรื่องปินส์อีก

และเด่วน้องเข้ามาน้อย กำลังเร่งrating ให้ทัน น้องกระป๋อง เขามีคนเข้าไป join ตั้ง หกหมื่นกว่าครั้งแล้ว

ส่งรูปนะคะ

(http://img27.imageshack.us/img27/7868/dsc00378r.jpg)


หัวข้อ: Re: "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: prapasri AH ที่ 22 ตุลาคม 2552, 07:16:54
(http://img8.imageshack.us/img8/8736/dsc00462qt.jpg)


อาจารย์ สุมน อมรวิวัฒน์ ยังสวยเหมือนเดิม และไม่แก่เลยค่ะ


หัวข้อ: Re: "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: prapasri AH ที่ 22 ตุลาคม 2552, 07:19:26
ดร.สุกรี รอดโพธิ์ทอง ใช่ไหมคะ

(http://img14.imageshack.us/img14/6033/dsc00433e.jpg)


หัวข้อ: Re: "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: prapasri AH ที่ 22 ตุลาคม 2552, 07:22:02
เริ่มสนุกแล้วค่ะ ครุศษสตร์ ซะอย่างเป็นพิธีกร กันได้ทุกคน

(http://img32.imageshack.us/img32/135/dsc00406kp.jpg)


หัวข้อ: Re: "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: prapasri AH ที่ 22 ตุลาคม 2552, 07:24:32
(http://img27.imageshack.us/img27/1412/dsc00403s.jpg)


หัวข้อ: Re: "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: Kaimook ที่ 22 ตุลาคม 2552, 07:46:27
อ้างถึง
ข้อความของ prapasri AH เมื่อ 22 ตุลาคม 2552, 07:16:54
(http://img8.imageshack.us/img8/8736/dsc00462qt.jpg)


อาจารย์ สุมน อมรวิวัฒน์ ยังสวยเหมือนเดิม และไม่แก่เลยค่ะ
สวัสดียามเช้าค่ะพี่แอ๊ะขราาาาา น้ำอ้อยจำอาจารย์สุมนได้แม่นค่ะเพราะเคยเรียนกับท่านและ
แอบรักแอบชอบท่านมากค่ะท่านเป็นตัวอย่างกับนิสิตมากๆค่ะเรียบร้อยน่ารักพูดเพราะค่ะแต่อาจารย์คงจำลูกศิษย์คนนี้
ไม่ได้แน่ค่ะเพราะเนินนานมากค่ะและน้ำอ้อยก็ธรรมดามากค่ะไม่เก่งซะทุกเรื่อง555555
ดีใจจังค่ะพี่แอ๊ะมาแย้วววววว


หัวข้อ: Re: "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: เหยง 16 ที่ 22 ตุลาคม 2552, 10:45:29
อ้างถึง
ข้อความของ iamfrommoon เมื่อ 21 ตุลาคม 2552, 09:22:29
อ้างถึง
ข้อความของ prapasri AH เมื่อ 21 ตุลาคม 2552, 07:14:22
นี่เป็นรูปที่ถ่ายกับ แมกไซไซจูเนียร์ค่ะ

พี่แอ๊ะ ชอบใส่ชุดที่ตัดจากผ้าปาเต๊ะ แต่ให้ดีไซน์เนอร์เขาออกแบให้ เขานำผ้าไหมมาแต่งเติม

ใส่ไปที่ไร คนต้องเหลียวมองทุกครั้ง

ชุดนี้พี่แอ๊ะใส่มา10 ปีแล้วค่ะ


(http://img148.imageshack.us/img148/1362/200909030282.jpg)

พี่แอ๊ะคะ

ชุดนี้รึเปล่าคะที่ว่าจะใส่มางานแต่งงานน้องเมื่อปีที่แล้ว แต่พอดีพี่ติดภาระกิจเลยส่งลูกสาวกับลูกชายมาแทน

สวยมากเลยค่ะ สีฟ้าพี่ใส่แล้วเด่นมาก

ปล.กระเป๋าสีชมพูที่น้องได้รับตอนโน้นยังใช้ได้ดีเลยค่า...รุ่นใหม่ตามภาพนี้เก๋ไก๋มากเลยค่า


พี่แอ๊ะครับ

ผมก็เห็นด้วยครับ เรื่องกระเป๋าสีชมพู..5 5 5 5
emo20:)):)  emo20:)):)  emo20:)):)  emo20:)):)


หัวข้อ: Re: "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: prapasri AH ที่ 22 ตุลาคม 2552, 15:28:40
 เหยงจ๋า

ท่านใดขอกระเป๋า หรือไม่ขอ(ก็ให้) ของร.พ หาญ พี่แอ๊ะรีบจัดให้ทันที่

นี่คือการตลาดร.พ พี่แอ๊ะค่ะ

เดียวนี้มีแบบลาก ด้วยค่ะ พอดีพี่แอ๊ะเป็นคนชอบกระเป๋าค่ะ



(http://img96.imageshack.us/img96/1128/dsc00460s.jpg)

ขึ้นไปแนะนำตัวว่าจบคณะไหนบ้าง

ท่าทางมีความสุขกันมาก





หัวข้อ: Re: "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: prapasri AH ที่ 22 ตุลาคม 2552, 15:31:24
(http://img39.imageshack.us/img39/6687/dsc00402mm.jpg)

อาจารย์ท่านนี้น้องไข่มุกทันไหมคะ ท่านมาหาพี่แอ๊ะทียโสธร และไปเที่ยวสมุยกะพี่แอ๊ะด้วยค่ะ


หัวข้อ: Re: "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: prapasri AH ที่ 22 ตุลาคม 2552, 15:34:52
น้องคนนี้สวยมาก ไม่ทราบจบคณะอะไร พี่แอ๊ะต้องไปตามหาแล้วล่ะ

เวลาชาวหอมาจะได้ตามน้องมาต้อนรับ

(http://img26.imageshack.us/img26/2634/dsc00456s.jpg)


หัวข้อ: Re: "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: prapasri AH ที่ 22 ตุลาคม 2552, 15:39:00
อาจารย์อำไพ สุจริตกุล ที่ผมขาวๆ เดี๋ยวนี้อาจารย์เข้าวัดปฎิบัติธรรมค่ะ

 โอกาส หน้า อาจารย์จะมาพักกับพี่แอ๊ะเป็นเดือนเลยค่ะ


(http://img43.imageshack.us/img43/7664/dsc00504tn.jpg)


หัวข้อ: Re: "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: prapasri AH ที่ 22 ตุลาคม 2552, 15:41:21


ทีมงานร.พ พี่แอ๊ะที่ไปช่วยจัดการงานให้สำเร็จ

(http://img34.imageshack.us/img34/4226/dsc00414ns.jpg)


หัวข้อ: Re: "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: prapasri AH ที่ 22 ตุลาคม 2552, 15:44:03

แล้วก็ร้องเพลง ลาแล้ว จามจุรี ปิดงานค่ะ

(http://img12.imageshack.us/img12/1599/dsc00491yb.jpg)


หัวข้อ: Re: "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: prapasri AH ที่ 22 ตุลาคม 2552, 15:45:40
 ต่อไปจะเล่าเรื่องญี่ปุ่นแล้วนะคะ

โปรด ติดตาม ด้วยนะเจ๊า



หัวข้อ: Re: "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: เหยง 16 ที่ 22 ตุลาคม 2552, 18:16:20
ขอบคุณพี่แอ๊ะอีกครั้งสำหรับเรื่องที่เล่าครับ
ชาวจุฬา ถ้าเพลง ลาแล้วจามจุรี   ดังขึ้นก็ถือว่างานมาถึงที่สุดแล้วทุกที่ครับ


หัวข้อ: Re: "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: มีนา ที่ 22 ตุลาคม 2552, 18:25:10
อ้างถึง
ข้อความของ prapasri AH เมื่อ 21 ตุลาคม 2552, 08:35:09

ภรรยาของท่าน ที่ได้รับรางวัล แมกไซไซ ปีที่แล้ว

ท่านถามพี่แอ๊ะว่าสร้อยสวยมาก ซื้อจากที่ไหน

พี่แอ๊ะเลยเเหงนคอให้ดูว่าเป็นความสามารถพิเศษของน้องสาวพี่แอ๊ะ เขาให้พี่แอ๊ะมา

เพราะพอเขาทำแล้วเขารู้สึกว่าใส่แล้วเว่อ ใหญ่มาก ตัวน้องสาวพี่แอ๊ะเล็กมากเลยไม่กล้าใส่ พี่แอ๊ะเลยโชคดีได้มาทั้งเส้นเลยค่ะ

วิธีทำสร้อยนี้ อยากให้น้องผู้หญิงที่เข้ามา ลองไปทำดูจะได้สร้อยใหญ่อลังการอย่างนี้

คือน้องเขา เอา แหวนเล็กๆ ที่เราใส่ตอนเราอายุยังน้อย พอเราแก่แล้ว เราเอามาใส่มันก็ดูเล็กกระจิ๊ดเดียว

เลยเอาหัวแหวน และเครื่องประดับที่ซุกๆ ไว้ไม่ค่อยได้ใช้ เอามาให้ช่างปะติดปะต่อกัน

เลยกลายเป็นสร้อยคออันใหญ่อลังการออกงานหรูๆ ได้ เรียกว่า recycle เพชรพลอยก็ได้นะคะ

(http://img148.imageshack.us/img148/7881/200909030315.jpg)





อยากเห็นสร้อยเส้นนี้ชัดๆจังค่ะ


หัวข้อ: Re: "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: มีนา ที่ 22 ตุลาคม 2552, 18:29:27
อ้างถึง
ข้อความของ prapasri AH เมื่อ 21 ตุลาคม 2552, 08:59:31
(http://img148.imageshack.us/img148/5494/dsc00356h.jpg)

มายโส ก็ต้องไม่พลาดกระเป๋า จี๋จมพู จ้า

กระเป๋าสีสวยหวานมากค่ะ


หัวข้อ: Re: "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: prapasri AH ที่ 23 ตุลาคม 2552, 07:10:15

น้องมีนา จะเจอกับพี่แอ๊ะเมื่อไรละคะ พี่แอ๊ะจะเอาไปให้ดู มีต่างหูเข้ากันด้วยค่ะ

น้องจะได้เอาเพชรพลอยเก่า มาแต่งให้เป็นเครื่องประดับชิ้นใหม่อย่างสวยงามมากๆ  

และไม่มีใครเหมือนและไม่เหมือนใครด้วย

และมีมูลค่าสูงด้วย

พี่แอ๊ะคิดว่าการสะสมเพชรพลอยคือการ ลงทุนและสะสมเงินและเป็นการออม ด้วยค่ะ และได้กำไรใส่สวยๆด้วย

พี่แอ๊ะสะสม สามอย่าง คือที่ดิน เพชรพลอย และเงิน (แต่เงินไม่ค่อยเหลือมากเพราะเอาไปสะสมที่ดิน หมด5555555555)

ถ้าไม่ทำอย่างนี้เราจะใช้เงินหมด กับเรื่องไม่เป็นเรื่อง ค่ะ

อ้อ..สะสมกระเป๋า แบรนด์เนม อีกอย่างหนึ่งค่ะ

ตอนซื้อของก็ปลอบใจตัวเองว่ามีลูกสาวไม่เป็นไร ซื้อไว้ให้ลูกสาว แต่เราได้กำไร ตอนใส่เอง

แต่พอลูกสาวเห็นที่พี่แอ๊ะซื้อเขาก็ดุ ว่าแม่บ้าแล้ว ติ๊บไม่ใส่หรอกที่แม่ซื้อ เพชร เว่อ น่าเกลียด ไม่สวย วัยรุ่นเขาไม่ใส่กันหรอก

เชิญแม่เว่อ ตามสบายยยยยยยยย55555555555

"อย่าซื้ออะไรไว้ให้ติ๊บเด็ดขาดติ๊บไม่ชอบเพชร เว่อๆๆๆๆๆๆๆ "

"ประหยัด หน่อยซิแม่ สงสารพ่อทำงานหนักกกกก" 

โชคดีลูกทุกคน นิสัยดีแบบพี่หาญกันหมดเลย

ติ๊บเขา ขี้เหนียว และสมถะแบบพี่หาญค่ะ  

แต่กระเป๋าแบรนด์ ที่อยู่ที่บ้านกรุงเทพ เขาแอบเอาไปใช้บ้างค่ะ

ไม่เป็นไร ลูกสาวไม่ชอบเพชร พี่แอ๊ะจะเอาแจกลูกสะใภ้ให้หมดเลย หุๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ


หัวข้อ: Re: "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: prapasri AH ที่ 23 ตุลาคม 2552, 07:41:14
วันนี้ขอเล่าเรื่องญี่ปุ่นหน่อยนะคะ


(http://img16.imageshack.us/img16/900/dscf1359resize.jpg)

ถึงสนามบินนาริตะแล้วค่ะ

ท่านที่ไปด้วย น้องๆครุศาสตร์จะแปลกใจ ว่าทำไมพี่แอ๊ะจึงสนิทกับอาจารย์ที่คณะอยู่มาก ก็ไม่ทราบเหมือนกันว่าทำไม

อาจจะเป็นเพราะพี่แอ๊ะเป็นครุศาสตร์คนแรกๆที่มาทำธุรกิจ แล้วประสบความสำเร็จ ที่สำคัญพี่แอ๊ะได้ร่วมมือกับคณะตลอดมา

สมัยก่อนเวลาเพื่อนเช่นดร.พฤทธิ์ เป็นอาจารย์เด็กๆอยู่ที่คณะ 30 ปีมาแล้วพอเขาขอเงินมา 500 บาท หรือ1000 บาท ไปพิมพ์หนังสือของคณะ

หรือทำกิจกรรมของคณะ พี่แอ๊ะจะส่งไปช่วยทุกที อาจารย์ต่างๆเลยจำพี่แอ๊ะได้

ทำให้ได้ข้อคิดว่า "บารมีต้องสมต้องสร้าง วันละอย่างสองอย่างไม่ไปไหน"

พี่แอ๊ะเคยขออะไรอย่างหนึ่งจากคณะ เป็นเรื่องที่ใหญ่พอสมควรอาจารย์ประชุมกัน แล้วตอบว่ายังไง ทราบไหมคะ

ทีประชุมสรุปว่า

"ถ้าประภาศรีขอมา คณะปฎิเสธไม่ได้เลย"

ท่านอาจารย์ที่เห็นอยู่ในภาพคือ ท่านศาสตรจารย์ประภาศรี สีหอำไพ  พี่แอ๊ะเรียกท่าน ว่า MOM ค่ะ


หัวข้อ: Re: "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: prapasri AH ที่ 23 ตุลาคม 2552, 07:46:31
นี่คือสนามบินนาริตะ ที่มีประวัติศาสตร์ที่น่าสนใจยิ่ง

กว่าจะเปิดใช้บริการได้ มีประชาชนต่อต้านมาก

จนบัดนี้ตรงกลางของสนามบิน รัฐบาลยังต้องเก็บบ้านไว้หลังหนึ่ง

คนอาศัยอยู่ในบ้านนั้นอยู่ กลางสนามบิน

และต้องมีน้ำ ไฟฟ้า ทางเข้าออกให้บ้านหลังนั้นด้วย รวมทั้งทำที่กั้นเสียงในบ้านไม่ให้รบกวนคนที่อยู่ในบ้านด้วย

รัฐบาล เขาเกรงใจประชาชนของเขามาก

(http://img25.imageshack.us/img25/9697/dscf1356resizex.jpg)


หัวข้อ: Re: "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: อ้อย 14 ที่ 23 ตุลาคม 2552, 08:24:45
พี่แอ๊ะที่รัก

                  ได้รับสรรพาหารข้ามจังหวัดเรียบร้อยแล้วค่า  ขอบคุณน้ำใจน้องพี่สีชมพูมากนะคะ  เที่ยงนี้จะลำเลียงไปส่งต่อยังหมออิ๊ด  และพี่หม่ง  วันนี้ทางขอนแก่นเขาจัดงานจุฬากัน  และพร้อมกันนี้ทางคณะทัวร์ซีมะโด่งกำลังจะข้ามโขงไปที่เวียงจันทร์  โดยการนำของพี่ปิ้ง   ในวันที่กลับมาที่หนองคาย คือวันอาทิตย์ ชาวซีมะโด่งอีสาน ก็จะเลี้ยงที่ร้าน  น้ำตกริมโขง  โดยมี หมออิ้ด  หนูอ๋อย  พรทิพย์ 16 อ้อย14  พี่ปิ๊ด(กนก)  พี่หม่ง 13 ร่วมเป็นเจ้าภาพ  พี่แอ๊ะไปหนองคายด้วยกันไหมคะ ......

                    อ้อ.....วันที่ 12   ตุลาคม นี้ มีงานเลี้ยง ของอาจารย์พูนทรัพย์  นพวงศ์  ที่ราชนาวีสโมสร  คนไปร่วมงานมาก  ตอนนี้คณะบดี  ของครุศาสตร์เป็นรุ่นอ้อย เอง  เสียดายพี่แอ๊ะไม่ได้ไปร่วมด้วย  อาจารย์พูนทรัพย์ท่าน อายุ 99 ปี แล้วแต่ยังแข็งแรงจริงๆๆค่ะ emo43


หัวข้อ: Re: "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: เหยง 16 ที่ 23 ตุลาคม 2552, 10:24:55
สวัสดีครับพี่แอ๊ะ พี่อ้อย เนื่องในวันปิยะมหาราชานุสรณ์ 23 ตุลาคม

นครสวรรค์ปีนี้มีการเปลี่ยนผู้ว่าฯ อย่างกระทันหัน ซึ่งเดิมไม่มีชื่อในบัญชีโยกย้าย
โดย ผวจ.กวี กิตติสถาพร (รัฐศาสตร์) จากหนองคายกลับไปนครสวรรค์
ผจว.ศุภกิจ บุญญฤทธิพงศ์ (นิติ) จากนครสวรรค์ไปลำปาง
งานจุฬาฯ ที่นครสวรรค์จึงจัดไม่ทัน ไม่เหมือนหลายๆจังหวัดที่ได้เตรียมการไว้

ขอนำภาพที่ น้องชัยหลอ30 โพสต์ในเว็ปมาโพสต์ที่ห้องนี้ครับ

(http://img42.imageshack.us/img42/9177/0541y.jpg)


หัวข้อ: Re: "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: swsm ที่ 23 ตุลาคม 2552, 11:48:46
สวัสดีค่ะ พี่แอ๊ะ


หัวข้อ: Re: "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: มีนา ที่ 23 ตุลาคม 2552, 13:26:45
สวัสดีค่ะพี่แอ๊ะ เรื่องสร้อยหากมีโอกาสไปคารวะพี่ที่ยโสต้องขออนุญาตชมค่ะ

ได้ไอเดียเก็บของเก่าๆชิ้นเล็กชิ้นน้อยไว้ที่เดียวกัน


หัวข้อ: Re: "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: prapasri AH ที่ 23 ตุลาคม 2552, 19:20:23
พี่แอ๊ะดูทีวี ประชุมเอเซียนซัมมิท พบอีตาฮุนเซนให้สัมภาษณ์ หมั่นไส้ อีตาฮุนเซน จังทำไงดี ล่ะ

ไม่มีศิลปะการฑูตเลย อีตาบ้านี่ ประเทศในอาเซียนคงดูถูกอีตาบ้านีน่าดู คนเราไม่จำเป็นต้องพูดเหมือนที่คิดเสมอไป  

โดยเฉพาะในการประชุมระดับ โลกอย่างนี้  อ้อย 14 จ๋า พาตานี่กลับ เขมรเต๊อ................



ดูรูป ญี่ปุ่นดีกว่านะ

(http://img38.imageshack.us/img38/4497/dscf1365resize.jpg)

ประภาศรีแม่  กับประภาศรี ลูกสะใภ้ค่ะ


น้องหะยี จบนิเทศใช่ไหมคะ หรือน้องๆท่านอื่นๆที่จบนิเทศ คงได้มีโอกาสทราบเกี่ยวกับศาสตราจารย์บำรุงสุข สีหอำไพ

ผู้ก่อตั้งคณะนิเทศศาสตร์จุฬา แต่เดิมเป็นแผนกอิสระสื่อสารมวลชน อ.บำรุงสุขมาจากคณะครุศาสตร์มาก่อตั้งแผนกนี้ค่ะ

พี่หาญจบมศ.3 มาจากราชบุรี เป็นหลานแท้ๆขอคุณอานิพนธ์ ศศิธร (น้องของเตี่ยพี่หาญ)

แต่ใช้นามสกุลไม่เหมือนกัน มาจากแซ่ลิ้มค่ะ

คุณอานิพนธ์ เอาพี่หาญไปฝากให้อาจารย์บำรุงสุขเลี้ยง พี่หาญเลยกลายเป็นลูกบุญธรรมของอ.บำรุงสุขณ.บัดนั้น

พี่หาญ เลือกพี่แอ๊ะเป็นแฟนเพราะพี่แอ๊ะชื่อ "ประภาศรี" ชื่อ เหมือนภรรยา อ. บำรุงสุข  แปลก ดีไหม

เเละพี่หาญมาอยู่อิสาน เพราะเห็นว่าอ.บำรุงสุข เป็นคนอิสาน

ต่อมา เมื่อ อาจารย์เสียชีวิตไป จึงทราบว่าท่านมีบรรพบุรุษเป็นเจ้าเมืองทางอิสาน หนองคาย นครพนม สกลนคร

ตระกูลนาครทรรพ ตระกูลณ หนองคาย ณ อุดร และอีกหลายตระกูลที่ดังๆทางอิสานก็เป็นพี่น้องกับอ.บำรุงสุข

คุณปู่หรือคุณทวดคือ "หลวงพนมนครานุรักษ์" เป็นชื่อถนนสายหนึ่งในจังหวัดมุกดาหารด้วยค่ะ

และเชื่อไหม อาจารย์บำรุงสุขเหลือให้ที่ดินไว้ให้พี่หาญหนึ่งแปลง ด้านหลังที่ดินมีชื่อว่า "นางพรรณานิคมเขตต์"

พี่แอ๊ะอ่านหลังโฉนดแล้วขนลุกเลยค่ะ เพราะคง หมายถึงชื่อ "เมือง พรรณานิคม จ.สกลนคร"


ก่อนมาอยู่อิสาน พี่หาญกับพี่แอ๊ะไปลาอาจารย์บำรุงสุข อาจารย์ทำอาหาร ลาบ ก้อย ซอย แซ ให้ทานเหมือนเช่นเคย

และก่อนจากกันอาจารย์บอกว่า

"หาญเอ๊ย ลื้อดูแลคนอิสานให้อั๊ว ด้วย ก็แล้วกัน"

มาถึงวันนี้พี่แอ๊ะคิดว่าชาติที่แล้วมีจริง เราต้องเคยเป็นลูกหลานกันมาแต่ชาติปางก่อน

ไม่งั้นคุณอานิพนธ์จะพาพี่หาญไปอาศัยกับอ.บำรุงสุขได้อย่างไร

และ พี่แอ๊ะกับพี่หาญทำไมต้องมาอยู่อิสาน

ทุกวันนี้พี่แอ๊ะได้ตอบแทนบุญคุณอาจารย์บำรุงสุขด้วยการดูแล MOM อู้ด (อ.ประภาศรี) เป็นอย่างดี

 MOM อู้ดก็ดูแลลูกสะใภ้เป็นอย่างดีมากๆค่ะ


หัวข้อ: Re: "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: swsm ที่ 23 ตุลาคม 2552, 19:43:35
โอว .. พี่แอ๊ะคะ 
เรื่องที่เล่ามาน่ารักมากค่ะ

หะยีนับถือในความรัก กตัญญู ที่พี่หาญและพี่แอ๊ะมีต่อ อ.บำรงสุขและภริยาท่านค่ะ

และเชื่อว่า 
จากความดีนี้เองจึงทำให้พี่แอ๊ะและพี่หาญได้ทายาทที่น่ารักทั้ง 3 คนอยู่ในอ้อมอก ..
   


emo43


หัวข้อ: Re: "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: prapasri AH ที่ 23 ตุลาคม 2552, 20:24:11
น้องหะยี สุดทีรัก

พี่แอ๊ะกะพีหาญ มีลูก สี่คน นะคะ มีลูกเยอะที่สุดในรุ่นค่ะ อิๆๆๆ

(http://img2.imageshack.us/img2/9775/jo7.jpg)


หัวข้อ: Re: "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: swsm ที่ 23 ตุลาคม 2552, 20:25:58
อ้างถึง
ข้อความของ prapasri AH เมื่อ 23 ตุลาคม 2552, 20:24:11
น้องหะยี สุดทีรัก

พี่แอ๊ะกะพีหาญ มีลูก สี่คน นะคะ มีลูกเยอะที่สุดในรุ่นค่ะ อิๆๆๆ

(http://img2.imageshack.us/img2/9775/jo7.jpg)


ว๊าย .. ตายแล้ว

หะยีขอโทษค่ะ
   emo30:sorry:


หัวข้อ: Re: "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: prapasri AH ที่ 23 ตุลาคม 2552, 20:27:53


อ๊าว... แถมรูปสวีทหวานแหวว ให้ดร.กระป๋องตาร้อนอีกหนึ่งรูปจ้า

(http://img2.imageshack.us/img2/4803/jo8s.jpg)


หัวข้อ: Re: "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: prapasri AH ที่ 23 ตุลาคม 2552, 21:23:10
(http://img259.imageshack.us/img259/7631/dscf1393resize.jpg)


ทำไมชาวยโสธร จึงต้องมาญี่ปุ่นในเดือน ต.ค ทุกปี และทำไมชาวญี่ปุ่น ต.โยชิดะ เมืองชิชะบุ จ.ไซตามะ จึงต้องมายโสธรเดือน

พ.ค ทุกปี



  เมือเรามีเวลา คงไม่มีใครไม่อยากไปญี่ปุ่น  ในขณะเดียวกัน คนญี่ปุ่นก็มาลงทุนในประเทศไทยเต็มไปหมด

หอการค้าญี่ปุ่นในประเทศไทยมีขนาดใหญ่มากกว่าหอการค้าใดๆในโลกหมายถึงมูลค่าทางการค้านะคะ  (ไม่ใช่อาคารของหอการค้า)

รองลงมาคือหอการค้าสหรัฐอเมริกา

ประเทศไทยเป็นประเทศอันดับต้นๆที่ ผู้จัดการบริษัทชาวญี่ปุ่นอยากมาอยู่ประจำมากที่สุด

เหตุผลคงเพราะญีปุ่นเขาชอบหลายๆอย่างของประเทศไทยนั่นเอง

พี่แอ๊ะได้ไปญี่ปุ่นหลายครั้งแล้ว ครั้งที่สำคัญที่สุดคือได้ไปดูงานโรงพยาบาลในประเทศญีปุ่นโดยการสนับสนุนของคุณลุงจำลอง ศรีเมือง

ได้อยู่ญี่ปุ่นเป็นเดือนเลยค่ะ คือแพทย์ท่านหนึ่งของญี่ปุ่นเป็นเจ้าของโรงพยาบาลเอกชนและคลินิกในญี่ปุ่นประมาณ200 กว่าแห่งในญี่ปุ่น

ชื่อ "นายแพทย์ โตกุดะ ทาโรเอะ" เจ้าของโรงพยาบาลในกลุ่ม"โตโกชูไก กรุ๊ป "

ตอนนั้น พี่เขย ของน้องอิ๊ด14 สุภาณี เป็นแพทย์อยู่ ร.พ สุขุมวิท ก็ไปดูงานด้วย ตอนนี้ท่าน เป็น สส. ไปแล้ว

คุณหมอ โตกุดะ ทาโรเอะ  ท่านศรัทธา ลุงจำลองมาก ท่านอยาก ให้ลุงจำลอง สร้างร.พ ในกรุงเทพ ขนาด 1000 เตียง ให้เป็นการกุศล ช่วยคนไทย

ลุงจำลองท่านทำร.พ ไม่เป็น ท่านเลยให้หมอที่ท่านรู้จักหลายๆท่าน ลองไปดูงานดู ถ้าทำได้ให้มาทำกัน

สำหรับพี่แอ๊ะกับพี่หาญไปดูงานมาแล้ว ไม่กล้าทำค่ะ 1000 เตียง ใหญ่เกินไปสำหรับพี่แอ๊ะและพี่หาญ ทำไม่ได้เเน่ๆ

และคิดว่าหลายๆท่านก็คงกลัว โครงการนี้เลยไม่ได้เกิด ไม่งั้นโรงพยาบาลดีๆ แบบญี่ปุ่นคงเกิดในเมืองไทยแล้ว


ครั้งหลังๆ ที่พี่แอ๊ะไปก็คือ โครงการเเลกเปลียนวัฒนธรรมไทย ยโสธร-ชิชิบุ(โยชิดะ) เทศกาลบั้งไฟ ริวเซอิ ค่ะ

คือเมืองยโสธร กับเมืองโยชิดะ ของญี่ปุ่นเป็นเมืองแฝด  sister city ทางด้านประเพณีบุญบั้งไฟ

เป็นกันมา20 ปีแล้ว  แต่ลงนามเป็นเมืองแฝดโดยการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทยเป็นเจ้าภาพมา15 ปี

ไปมาหาสู่กัน ชนิดที่คนในเทศบาลเมืองยโสธรเกือบทุกคนต้อง เป็นหน้าที่ ช่วย ผลัดกันไป

น้องๆอยากเป็นคนยโสธรไหมคะ คนญี่ปุ่นจะรักคนยโสธรมาก

ดูป้ายที่เขาเขียนต้อนรับซิคะ เขียนน่าเอ็นดูมากค่ะ


หัวข้อ: Re: "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: เหยง 16 ที่ 23 ตุลาคม 2552, 23:15:26
พี่แอ๊ะครับ

ขอบคุณสำหรับเรื่องเล่า ๒ เรื่องข้างบน

ผมอ่าน สลับกับไปดูรายการพิเศษ ปิยมหาราชานุสรณ์ ๒๕๕๒ ทางช่อง ๙ อสมท. ครับ


หัวข้อ: Re: "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: suriya2513 ที่ 24 ตุลาคม 2552, 00:05:49
อ้างถึง
ข้อความของ prapasri AH เมื่อ 23 ตุลาคม 2552, 20:27:53
อ๊าว... แถมรูปสวีทหวานแหวว ให้ดร.กระป๋องตาร้อนอีกหนึ่งรูปจ้า
(http://img2.imageshack.us/img2/4803/jo8s.jpg)
...
ใครว่างเรียกรถดับเพลิงให้ที อิจฉาจนไฟลุกท่วมตาแล้วจ้า


หัวข้อ: Re: "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: prapasri AH ที่ 24 ตุลาคม 2552, 07:04:46
ขอบคุณเหยง ที่มาอ่าน และเล่าอะไรเพิ่มเติมและส่งรูปดีๆมาแชร์ด้วย

ปีนี้พี่แอ๊ะรู้สึกว่างานปิยมหาราชานุสรณ์เงียบมาก งานวันจุฬาก็เงียบแต่พี่หาญได้ดูรายการที่เหยงดูเมื่อคืนเช่นกัน

แต่พีแอ๊ะหลับแล้วพี่หาญไม่กล้าปลุกเลย อดดู รายการจุฬา

(http://img16.imageshack.us/img16/6534/dscf1387resize.jpg)

รูปในงานเลี้ยงต้อนรับเมื่อเราไปถึงในคืนเเรก ชาวเมืองโยชิดะ เขาส่ง สมาชิสภาเทศบาลของเขามารับตั้งแต่ที่สนามบินค่ะ






หัวข้อ: Re: "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: prapasri AH ที่ 24 ตุลาคม 2552, 08:34:39
ข้อเสียของการไปญี่ปุ่นเเบบเป็นทางการของชาวยโสธรคือ ชาวญี่ปุ่นส่วนใหญ่พูดภาษาอังกฤษไม่ค่อยได้ นอกจากเด็กสมัยใหม่

ซึ่งอีกนานกว่าเขาจะตามเด็กไทยทันในเรื่องภาษาอังกฤษ เหตุเพราะเขาชาตินิยมมาก ใช้แต่ของตนเองรวมทั้งภาษาด้วย

เลยสื่อสารกันไม่ได้ ชาวยโสธรไปกันมา 20 ปี พี่แอ๊ะเรียกว่า "สายสัมพันธ์ 20 ปี body language"

ถ้าพี่แอ๊ะเป็นผู้บริหารของเทศบาลเมืองในสมัยตั้งแต่10-20 ปีมาแล้ว

พี่แอ๊ะจะใส่วิชาภาษาญี่ปุ่นลงในหลักสูตรของนักเรียนโรงเรียนเทศบาลด้วย

ปีที่แล้วพี่แอ๊ะให้นักเรียนโรงเรียนกีฬาของ อบจ.ยโสธร ได้เรียนภาษาญี่ปุ่น

เพื่อได้ช่วยเป็นล่ามเวลาชาวญี่ปุ่นมาเมืองไทยตอนงานบั้งไฟเดือนพค.

แต่ได้ผลไม่มาก เพราะ ได้ครูอาสามสมัครมาและเด็กก็ไม่ได้เรียนอย่างจริงจัง

ปีนี้จะพยายามใส่หลักสูตรภาษาญี่ปุ่นลงไป

และจะพยายามจัดให้ คนยโสธรที่สนใจได้เรียนภาษาญี่ปุ่นแบบจริงจัง โดยขอให้ทาง ม.ราชภัฎอุบลราชธานี

ช่วยจัดหลักสูตรให้ เพราะเราจะได้ประโยชน์มากกว่าการแลกเปลียนวัฒนธรรมบั้งไฟอย่างเดียว

เราควรได้สิ่งดีๆจากญี่ปุ่นโดยเฉพาะเศรษฐกิจ สังคม และการศึกษา

(http://img17.imageshack.us/img17/1404/dscf1383resize.jpg)

นี่คือสมาชิกสภาท้องถิ่นของจังหวัด ชิชิบุ

ที่ญี่ปุ๋นเป็นตัวอย่างของการกระจายอำนาจมาสู่ประชาชนอย่างเข้มเเข็ง

ผู้ว่าราชการจังหวัดมาจากการเลือกตั้ง

เขาไม่มีคอรับชั่น งบประมาณทุกบาททุกสตางค์เขาถึงประชาชนอย่างเต็มที่

ประชาชนยินดีร่วมจ่ายไม่ว่าจะเป็นภาษี ซึ่งจ่ายสูงมาก

และค่าใช้จ่ายอื่นแม้แต่ค่าถุงใส่ขยะเขาก็จ่ายเงินให้รัฐ




ค่ารักษาพยาบาล  ประชาชนจ่ายให้ ร.พ หรือ คลินิก 30 เปอร์เซ็นต์ อีก 70 เปอร์เซ็นต์ ร.พ หรือคลินิกเรียกเก็บจากรัฐ

รัฐยินดีให้เอกชนช่วยจัดการการสาธารณสุข ร.พ.ของรัฐ และ ร.พ.เอกชน มีศักดิ์ศรีเท่าๆกัน

แพทย์ ผู้เชี่ยวชาญใน ร.พ.เอกชน สามารถรวมตัวกันเป็นสมาคม และอบรม แพทย์ทั่วไป ให้เป็นแพทย์ผู้เชี่ยวชาญได้

โดยไม่ต้องเป็นหน้าที่ของภาครัฐแต่อย่างเดียว

เวลาไปหาหมอในเมืองใหญ่ๆ ใช้บัตรใส่เหมือนตู้ atm เเล้วมีชื่อแพทย์ขึ้นมา แล้วเลือกกดชื่อ แพทย์ลงไปว่าเลือกแพทย์คนไหน

ในตู้ก็จะบอกว่าให้ไปนั่งเคาน์เตอร์ไหน เมื่อเข้าพบหมอแล้ว กลับมานั่งรอหน้าตู้ สักพัก  ยาก็จะถูกใส่ถุงแล้วหล่นลงมาจากตู้นั้น

นี่คือเรื่องของโรงพยาบาลที่พี่แอ๊ะไปดูงานเมื่อปี 2547 นะคะ

เงินเดือนแพทย์ผู้เชียวชาญ ผ่าตัด ที่ญี่ปุ่นคิดเป็นเงินไทย เกิน1 ล้านบาท

คนญี่ปุ่นจะเป็นโรคมะเร็งกระเพาะอาหารกันมาก


หัวข้อ: Re: "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: swsm ที่ 24 ตุลาคม 2552, 10:22:54
อ้างถึง
ข้อความของ suriya2513 เมื่อ 24 ตุลาคม 2552, 00:05:49
อ้างถึง
ข้อความของ prapasri AH เมื่อ 23 ตุลาคม 2552, 20:27:53
อ๊าว... แถมรูปสวีทหวานแหวว ให้ดร.กระป๋องตาร้อนอีกหนึ่งรูปจ้า
(http://img2.imageshack.us/img2/4803/jo8s.jpg)
...
ใครว่างเรียกรถดับเพลิงให้ที อิจฉาจนไฟลุกท่วมตาแล้วจ้า


ไฟลามมาถึงบ้านหะยีด้วยจ้า ..
บอกรถดับเพลิงให้เลี้ยวมาทางเขตดุสิตด้วยอีกสามสี่คัน



หัวข้อ: Re: "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: พธู ๒๕๒๔ ที่ 24 ตุลาคม 2552, 16:53:18
อ้างถึง
ข้อความของ swsm เมื่อ 24 ตุลาคม 2552, 10:22:54
อ้างถึง
ข้อความของ suriya2513 เมื่อ 24 ตุลาคม 2552, 00:05:49
อ้างถึง
ข้อความของ prapasri AH เมื่อ 23 ตุลาคม 2552, 20:27:53
อ๊าว... แถมรูปสวีทหวานแหวว ให้ดร.กระป๋องตาร้อนอีกหนึ่งรูปจ้า
(http://img2.imageshack.us/img2/4803/jo8s.jpg)
...
ใครว่างเรียกรถดับเพลิงให้ที อิจฉาจนไฟลุกท่วมตาแล้วจ้า


ไฟลามมาถึงบ้านหะยีด้วยจ้า ..
บอกรถดับเพลิงให้เลี้ยวมาทางเขตดุสิตด้วยอีกสามสี่คัน


มีการจับมือกันด้วย


หัวข้อ: Re: "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: พธู ๒๕๒๔ ที่ 24 ตุลาคม 2552, 16:58:40
ห้องเสื้อชั้นนำของฝรั่งเศส CHANEL นำเสนอคอลเลกชั่นเครื่องประดับอัญมณีชั้นสูง ที่งดงามตระการตาที่สุดจากฝีมือช่างเก่าแก่ ...

ความ เชี่ยวชาญจากประสบการณ์ที่สั่งสมมานาน  ผสานกับทักษะความรู้ และความพิถีพิถันของช่างฝีมือชั้นสูงได้สร้างความเหนือชั้นให้แบรนด์เนม ระดับโลก  ครองบัลลังก์ความเป็นหนึ่งมาหลายทศวรรษ ยืนยันความเก๋าโดย  หลุยส์  วิตตอง

ซึ่งนำประวัติศาสตร์ของแบรนด์ และความเชี่ยว  ชาญจากประสบการณ์ในการผลิตสินค้าสั่งทำพิเศษ ที่สั่งสมกว่า 150 ปี จากช่างฝีมือ ที่โรงงานอาส์นิเยส์ เป็นแรงบันดาลใจในการสร้าง สรรค์ผลงานชั้นเยี่ยมให้ได้ฮือฮาอย่างต่อเนื่อง   ล่าสุดร่วมเฉลิมฉลองครบรอบ 150 ปี การดำเนินงานของสภากาชาดสากล ด้วยการรังสรรค์ผลงานชิ้นพิเศษ เป็นหีบบรรจุเวชภัณฑ์ และอุปกรณ์การแพทย์ ภายนอกหุ้มด้วยผ้าใบลายโมโนแกรม หูจับทำจากหนังแท้ ตัวล็อกเป็นแบบ S-Lock และเพิ่มความเด่นด้วยหมุดสีทอง เอกลักษณ์ของหลุยส์ วิตตอง ความพิเศษของ หีบสภากาชาดสากล อยู่ที่วิธีเปิดหีบต้องเปิดจากด้านหน้าและส่วนบนของหีบเผยให้เห็นด้านใน ที่บรรจุกล่องใส่อุปกรณ์

การแพทย์ ทำจากโลหะ เนื้อเบาสีแดงและเงิน เรียงรายเป็นระเบียบรูปกากบาทสีแดง นอกจากนี้ ด้านหน้าของหีบยังเพนต์ลายกากบาทสีแดงบนพื้นขาว โดยในโอกาสนี้ ทางค่ายแอลวีได้เชิญผู้เชี่ยวชาญหลายสาขาร่วมสร้าง สรรค์สินค้าสั่งทำพิเศษ เพื่อถ่ายทอดฝีมือช่างชั้นสูงของหลุยส์ วิตตองด้วย และจะนำออกประมูลพร้อมกันทั้ง 6 ผลงาน โดยสถาบันโซเทบีส์ วันที่ 17 พ.ย.นี้ เพื่อหารายได้สมทบทุนโครงการกุศลของสภากาชาดสากล

ห้อง เสื้อชั้นนำของฝรั่งเศส CHANEL นำเสนอคอลเลกชั่นเครื่องประดับอัญมณีชั้นสูง ที่งดงามตระการตาที่สุด จากฝีมือช่างเก่าแก่ เพื่อเชิดชู "มาดมัวแซล  ชาเนล" ซึ่งครีเอตสิ่งใหม่ๆให้กับโลกแฟชั่น นับไม่ถ้วน ผลงานล่าสุดเป็นการนำอัญมณีชิ้นคลาสสิกระดับตำนานในชุด "BIJOUX DE DIAMANTS" ที่ออกแบบครั้งแรกโดย "มาดมัวแซล  ชาเนล"  เมื่อปี  1932  มาออกแบบใหม่ให้ดูร่วมสมัยยิ่งขึ้น โดยได้แรงบันดาลใจจากดวงอาทิตย์ สัญลักษณ์ที่ใช้ประดับราวลูกกรงของ Place Vendome และตัวแทนจักรราศี สิงห์ เดือนเกิดของ "โคโค่ ชาเนล" กลายเป็นที่มาของคอลเลกชั่นใหม่ "SOLEIL" อันงดงามตระการตา ส่วนอีกคอลเลกชั่น "RUBAN" รังสรรค์ขึ้นจากแนวคิดของ "มาดมัวแซล ชาเนล" ซึ่งประกาศว่า ฉันต้องการให้ อัญมณีเป็นเหมือนริบบิ้น ที่อยู่บนนิ้วของผู้หญิงสวยสง่าอ่อนช้อย และอิสระ

เรื่องไอเดีย บรรเจิดล้ำจินตนาการคงไม่มีแบรนด์ไหน เทียบได้กับห้องเสื้อคริสเตียนดิออร์  ล่าสุดบรรจงรังสรรค์ชิ้นงานสลักรูปหัวกะโหลกสุดแสนวิจิตร "Reines et Rois" ให้เป็นชิ้นเด่นของคอลเลกชั่นดิออร์ ไฟน์ จิวเวลรี่ นำเสนอเรื่องราวของอาณาจักรในจินตนาการ  ด้วยแรงบันดาลใจจากยุคบาร็อค  สะท้อนรสนิยมการดำเนินชีวิต ที่เต็มไปด้วยความรื่นรมย์ ประกอบด้วยชิ้นงาน 10 คู่ อาทิ แหวนสลักรูปราชินีกับรูปกษัตริย์  พร้อมจี้ห้อย  โดยแต่ละชิ้นทำจากแพลทินั่มประดับเพชรและพลอยที่แฝงความเชื่อน่าทึ่ง  แตกต่างกันไป  เช่น  "แคท   อาย"   นิยมประดับโบสถ์ในยุคกลาง

"แจ สเปอร์" ทำเครื่องรางในยุคโบราณ และ "หยก" ช่วยรักษาโรคที่เกิดจากความผิดปกติของไตก็เพราะ FENDI คือ โรงงานแห่งความคิดสร้าง สรรค์ ที่ช่วยพัฒนาศักยภาพความสามารถอย่างไร้ขอบเขต "ซิลเวีย เฟนดิ" ทายาทรุ่นที่สามและครีเอทีฟ   ไดเรกเตอร์ด้านแอคเซสเซอรี่ จึงขอเชิดชูไอเดีย  สร้างสรรค์ในรูปแบบบริสุทธิ์  โดยหันมาใส่ใจกับวัตถุดิบท้องถิ่น และวิถีการประดิษฐ์ดั้ง เดิม  ที่พึ่งเทคโนโลยี ปรุงแต่งน้อยที่สุด  ผล ลัพธ์กลายมาเป็น จักร-ยานเซลเลเรีย งานหัตถศิลป์แฮนด์เมด ที่เฟนดิ ครีเอตขึ้นเพื่อเฉลิมฉลองความงดงามของศิลปะ

งาน ทำมือ และนำเสนอฝีมือการตัดเย็บชั้นบรมครูของอิตาเลียน จุดเด่นของผลงานชิ้นนี้คือ มีกลิ่นอายความเป็นอิตาเลียนชัดเจน โครงทำจากเหล็ก และเชื่อมด้วยทองเหลือง ตัวเบรกผลิตจากโครเมียม ส่วนอานนั่งทำจากหนังตอกด้วยมือ ไฟหน้าพร้อมพลังสำรองเกิดจากไดนาโม เพิ่มเสน่ห์ด้วยแอดเซสเซอรี่สำหรับจักรยาน ตั้งแต่ปลอกใส่เครื่อง GPS บังโคลนล้อหน้าและหลัง โซ่และแม่กุญแจนิรภัยหุ้มหนัง กระบอกน้ำหุ้มหนัง หีบมินิทรังค์แสตมป์รูปม้า สัญลักษณ์ประจำคอลเลกชั่น กระเป๋าท้ายด้านข้าง ทำจากขนละมั่ง และผ้าคลุมจักรยานตัดเย็บด้วยผ้าไนลอนลายโลโก้ดับเบิลเอฟอันลือลั่น.


หัวข้อ: Re: "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: หนุน'21 ที่ 25 ตุลาคม 2552, 12:37:04
อ้างถึง
ข้อความของ patooman24 เมื่อ 24 ตุลาคม 2552, 16:53:18
อ้างถึง
ข้อความของ swsm เมื่อ 24 ตุลาคม 2552, 10:22:54
อ้างถึง
ข้อความของ suriya2513 เมื่อ 24 ตุลาคม 2552, 00:05:49
อ้างถึง
ข้อความของ prapasri AH เมื่อ 23 ตุลาคม 2552, 20:27:53
อ๊าว... แถมรูปสวีทหวานแหวว ให้ดร.กระป๋องตาร้อนอีกหนึ่งรูปจ้า
(http://img2.imageshack.us/img2/4803/jo8s.jpg)
...
ใครว่างเรียกรถดับเพลิงให้ที อิจฉาจนไฟลุกท่วมตาแล้วจ้า


ไฟลามมาถึงบ้านหะยีด้วยจ้า ..
บอกรถดับเพลิงให้เลี้ยวมาทางเขตดุสิตด้วยอีกสามสี่คัน


มีการจับมือกันด้วย

 emo4:))

ผมนั่งจิบกาแฟตอนบ่ายๆ หลังอาหารกลางวัน
โดยไม่ต้องใสน้ำตาลเลยครับ
ใช้ดูรูปพี่แอ๊ะกับพี่หมอหาญแทน
อบอุ่น ละมุนละไมครับพี่

ชอบเรื่องเล่าของพี่แอ๊ะทั้ง 2 เรื่องเลยครับ
ทั้งเรื่อง MOM ประภาศรี และญี่ปุ๋น
อ่านแล้วรู้สึกดีมากๆ
ขอบคุณครับ


 emo6::))


หัวข้อ: Re: "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: suriya2513 ที่ 25 ตุลาคม 2552, 15:08:26
ไม่ชอบอ่าน...อิจฉาคนมีความสุข ความสำเร็จในชีวิต...มากเลยครั๊าบบบบ


หัวข้อ: Re: "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: prapasri AH ที่ 25 ตุลาคม 2552, 18:56:53

น้องหนุน น่ารักจริงๆ เชียว..เชียร์พี่แอ๊ะให้มีกำลังใจเล่าต่อ ทั้งๆที่ไม่สบายไอค๊อกๆแค๊กๆ

ไม่เหมือน ดร.กระป๋อง ณ.ฮุนเซ็น  อิจฉา อภิสิทธิ์จังงงงงง เค้า หล่อกว่าช่ายยยยย ไหมล่า.....



เล่าเรื่องญี่ปุ่นต่อนะคะ จบแล้ว จะได้ ไปลาว... ต่อค่ะ

จริงๆแล้ว น้องๆ และชาวหอส่วนใหญ่คงไปญี่ปุ่นกันมาแล้วทั้งนั้น เท่ากับเอามะพร้าวห้าวมาขายสวน

แต่ที่พี่แอ๊ะเล่าเพราะว่ามุมมองแต่ละคนอาจจะไม่เหมือนกัน

พี่แอ๊ะชอบญี่ปุ่นใน  ความ ขยัน ซื่อสัตย์ ประหยัด  อดทน  ของเขา

จากที่เขาพ่ายแพ้สงครามโลกครั้งที่2 อย่างยับเยิน แต่เขาใช้ความอดทนขยันหมั่นเพียรของเขา

จนก้าวเข้ามาเป็นหนึ่งในประเทศมหาอำนาจด้านเศรษฐกิจ

เขาสามารถ ควบคุมประชากร จำนวนมากของเขา ถึง127 ล้านคน ให้อยู่ในระเบียบวินัยได้

เมืองเขาสะอาด เป็นระเบียบ โดยเฉพาะเมืองใหญ่อย่างโตเกียว เเออัดคับแคบ แต่เขาอยู่ได้สะอาดเรียบร้อยอย่างดี

มีความปลอดภัยสูง ป้องกันความเสี่ยง ให้กับประชาชนไว้ทุกรูปแบบ

ถ้าน้องๆไปญี่ปุ่นหลายๆวันจะพบว่าคนในโตเกียว อยู่ใต้ดินมากกว่าบนดิน เวลาเราอยู่บนถนนบนดินเราจะไม่เห็นคนมากหรือรถติดเลย

จริงๆแล้วผู้คนส่วนใหญ่จะไปแน่นอยู่ใต้ดินค่ะ ร้านอาหารก็มักจะอยู่ชั้นใต้ดิน หรือถ้าบนดินก็เป็นชั้นลอยบนดิน

และ มีความปลอดภัยสูงเรื่องไฟไหม้แทบจะไม่มี

ใต้ดินมีรถใต้ดินหลายชั้นมาก มีเมือง มีร้านค้าอยู่ใต้ดินนั้น มีบันไดเลื่อน มีผู้คนเต็มไปหมด

ประชาชนนิยมเดินทางด้วยรถไฟความเร็วสูง "ซิงคังเซ็น" เป็นรถไฟระหว่างจังหวัดก็อยู่ใต้ดิน วิ่งได้เร็ว300กว่า กม.ต่อชั่วโมง

ประชาชนไม่ นิยมเดินทางด้วยเครื่องบินภายในประเทศ เขาจึงไม่ต้องการสนามบินนาริตะ มีการประท้วงกันมาก กว่าจะได้เปิดสนามบินนี้

เรื่องรถไฟว่ากันว่า เราเริ่มรถไฟก่อนเขานะคะ รัชกาลที่5 เริ่มมีรถไฟให้ประเทศเราจนป่านนี้รถไฟไทยยังถึงก็ช่างไม่ถึงก็ช่างอยู่เลย

แปลกแต่จริง คงเป็นเพราะคอรับชั่นกันอยู่นี่แหละ

(http://img230.imageshack.us/img230/22/dscf1488resize.jpg)

รูปนี้ ทั้งคณะ ที่ หน้าหน้าพระราชวังอิมพิเรียลค่ะ

ท่านผู้ว่าราชการจังหวัดเป็นหัวหน้าคณะ ท่านรองผู้ว่า ท่านนายกเทศมนตรีเมืองยโสธร ท่านนายก.อบจ. (ท่านผู้นำของเมืองยโสทั้งนั้นค่ะ)


หัวข้อ: Re: "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: prapasri AH ที่ 25 ตุลาคม 2552, 19:05:39


กลับมาที่งานเลี้ยงต้อนรับก่อนการจุดบั้งไฟอีกครั้งนะคะ

การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทยลงทุนให้กับงานนี้มากทีเดียว นำการแสดงไปสามชุดเป็น 1.การเเสดงกลองยาว 2. การเเสดงรามเกียรติ์

3 การเเสดงหุ่นโจหลุยส์ (นามสกุลยังเขียวสด) นำโดย คุณ วันเสด็จ ถาวรสุข รัฐศาสตร์จุฬา11 รองผู้ว่าการท่องเที่ยว

คนญี่ปุ่นทึ่งกับ หุ่น โจหลุยส์ของเรามาก พี่แอ๊ะยังทึ่งเลยค่ะ น่ารักมั๊กๆๆ

(http://img132.imageshack.us/img132/1835/dscf1397resize.jpg)


หัวข้อ: Re: "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: prapasri AH ที่ 25 ตุลาคม 2552, 19:08:18
จุ๊บๆๆๆๆ

(http://img218.imageshack.us/img218/9880/dscf1402resize.jpg)



หัวข้อ: Re: "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: เอมอร 2515 ที่ 25 ตุลาคม 2552, 19:13:33
สบายดีใช่ไหมคะพี่แอ๊ะ  ได้ติดตามอ่านข่าวคราวและความเห็นของพี่เป็นประจำ แม้ว่าไม่ค่อยได้เข้ามาคุย  เอมอร หอใต้บนคะ เห็นหน้าพี่คงจำได้


หัวข้อ: Re: "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: suriya2513 ที่ 25 ตุลาคม 2552, 19:18:17
ขยายหน้าใหญ่ๆมาหน่อยสิคะ พี่แอ๊ะมองไม่เห็นหรอก เพราะไม่อยากใส่แว่น กลัวเหมือนคนแก่


หัวข้อ: Re: "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: เหยง 16 ที่ 25 ตุลาคม 2552, 19:22:57
สวัสดีครับ พี่แอ๊ะ พี่ป๋อง และพี่เอมอร

นั่งพิจารณารูปและคำว่า pemorn อยู่อย่างงงๆ พี่ป๋องเลยโพสต์ตัดหน้าว่า ให้ขยายภาพอีกนิด จะได้เห็นชัดๆ 
 


หัวข้อ: Re: "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: ตุ๋ย 22 ที่ 25 ตุลาคม 2552, 19:37:03
สวัสดีครับพี่เอมอร  ยินดีต้อนรับครับผม


หัวข้อ: Re: "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: prapasri AH ที่ 25 ตุลาคม 2552, 20:10:04
น้องเอมอรคะ

พี่แอ๊ะจำน้องได้  ตอนอยู่หอน้องเรียบร้อยมาก ไม่ค่อยพูด ยิ้มๆ ดีใจจัง ค่ะ ที่ได้มาพบกันอีก

น้องตุ๋ย เปลียนรูปใหม่หรือเปล่าคะ

น้องกระป๋องเมื่อกี้พี่แอ๊ะเข้าห้องน้ำนึกได้ว่าจะคุยกับน้องกระป๋องว่ายังไง ....นึกได้ตอนเข้าห้องน้ำ (ฮา)

จะบอกน้องกระป๋องว่าอย่าอิจฉาพี่แอ๊ะเลยที่สวีทหวานแหวว

เพราะตอนนี้ชุดที่พี่แอ๊ะใส่ ตอนถ่ายรูปนี้ ตอนนี้ใส่ไม่ได้แล้วค่ะ คับแล้ว อ้วนค่ะ


หัวข้อ: Re: "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: prapasri AH ที่ 25 ตุลาคม 2552, 20:13:42
รายการของเขาแสดงให้เราดู

หลายรายการทีเดียวแต่ถ่ายรูปไม่ทันค่ะ

พี่แอ๊ะถ่ายรูปไม่เป็น ให้พี่หาญถ่ายให้เลยไม่ได้ดังใจค่ะ

(http://img218.imageshack.us/img218/3119/dscf1407resize.jpg)


หัวข้อ: Re: "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: เอมอร 2515 ที่ 25 ตุลาคม 2552, 20:24:56
ดีใจเป็นที่สุดที่พี่แอ๊ะจำได้คะ ขอบคุณนะคะ


หัวข้อ: Re: "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: prapasri AH ที่ 25 ตุลาคม 2552, 20:30:07

เขามีการเลี้ยง สาเก เราด้วย ชนิดที่รินให้เรา อย่างไม่หยุด ถ้าชาวหอชายไปด้วยคงชอบมากๆ

ผู้ชายชาวญี่ปุ่นจะมางานเลี้ยงแบบไม่เอาภรรยา(คุณนาย)มาด้วย คนที่มาช่วยงานถ้าเป็นผู้หญิงก็จะเป็นเจ้าหน้าที่ราชการของเขาเท่านั้น

สมัยพี่แอ๊ะไปปีแรกๆแทบจะไม่เห็นผู้หญิงอยู่ในงานเลย เดี๋ยวนี้พอมีผู้หญิงบ้างคนสองสามคน

และที่ มีเพิ่มคือ ผู้หญิงไทยที่เป็นภรรยาคนญี่ปุ่นที่เขาไปตามหามาให้ช่วยเป็นล่ามให้

และผู้ชายญี่ปุ่นเขาจะไม่ไป เกาะเเกะ หรือ ถเล ถไล นอกบ้านค่ะ

ปกติเขาจะประหยัดเรื่องอาหารมาก เเต่เขาเลี้ยงเราเเบบเต็มที่เลยค่ะ ถ้าคิดเป็นเงินไทย มื้อละเป็นแสนบาทค่ะ

เพราะเวลาเขามายโสธรเขาคิดว่าเราเลี้ยงเขาแบบเต็มที่  คือ ที่จริงคนไทย เราเลี้ยงกันเต็มที่ทุกงานอยู่แล้วอิๆๆๆๆๆๆๆๆๆ

(http://img229.imageshack.us/img229/2917/dscf1410resize.jpg)

นี่คือ การแสดงของเขา ค่ะ


หัวข้อ: Re: "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: เหยง 16 ที่ 25 ตุลาคม 2552, 20:36:53
พี่เอมอร ครับ นี้เป็นภาพของพี่จากหนังสืออนุสรณ์หอพักปี 2519 ครับ..ใช่ หรือ ไม่ ครับ??

(http://img218.imageshack.us/img218/9113/89281153.jpg)


(http://img218.imageshack.us/img218/962/68867675.jpg)


หัวข้อ: Re: "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: prapasri AH ที่ 25 ตุลาคม 2552, 20:39:07
มาถึงตอนเช้า เข้างานจุดบั้งไฟซะที เราเดินเข้าไปในงานพร้อมๆกับชาวบ้านของเขา

เขาจัดที่ให้เรานั่งมีที่กันแดดไม่ให้เราร้อน เลี้ยงอาหารบนนี้เลย อาหารก็มื้อละเป็นแสนบาทไทยเพราะอาหารญี่ปุ่นแพงมาก

(http://img2.imageshack.us/img2/1187/dscf1425resize.jpg)


หัวข้อ: Re: "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: prapasri AH ที่ 25 ตุลาคม 2552, 20:41:08
เหยง น่ารักมาก

พี่แอ๊ะจำ น้องเอมอรได้เเม่นเลยค่ะ

แต่คนอื่นๆจำไม่ได้เลย แปลกจัง


หัวข้อ: Re: "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: prapasri AH ที่ 25 ตุลาคม 2552, 20:48:25
นี่แน่ะ จะเห็นว่าคนญี่ปุ่น สนใจบั้งไฟแค่ไหน

(http://img2.imageshack.us/img2/8190/dscf1427resize.jpg)

เขาจะ เช่าพื้นที่นั่งกันเป็นครอบครัว เเละทาน หม้อต้มร้อนๆ  เหมือนทานข้าวป่าบ้านเรา

เป็นวันที่ครอบครัวเขาได้มาสังสรรกัน รอบๆก็มีของขายเหมือนงานวัดบ้านเรา

เมืองนี้เป็นเมืองบ้านนอกของญี่ปุ่นนะคะ ห่างจากโตเกียว 2ชั่วโมงรถยนตร์ เป็นเมืองเกษตรกรรม

บ้านเราจุดบั้งไฟเพื่อขอฝนจากเทวดา แต่เขาจุดบั้งไฟเพื่อขอบคุณเทวดาที่ทำให้เขาได้ ผลิตผลที่สมบูรณ์


หัวข้อ: Re: "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: เหยง 16 ที่ 25 ตุลาคม 2552, 20:51:00
พี่แอ๊ะครับ

ที่จำได้เพราะพี่เขาชอบเดินไปกับพี่ตุ๊กตา-รัชนี เอกบุตร, พี่เนาว-เนาวรัตน์ เภสัช รุ่นพี่ผม 1 ปี
และพี่เขาสูงกว่าคนอื่นครับ

(ไม่ทราบว่าข้อนี้ถูกหรือเปล่า??)
  emo47


หัวข้อ: Re: "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: prapasri AH ที่ 25 ตุลาคม 2552, 21:06:53

คนญี่ปุ่นนะคะ หน้าตาคล้าย คนไทย จังเลย

ที่แปลกคือมีบั้งไฟเหมือนกันนี่ซิ เเรกเริ่มเดิมที เขาทราบว่ายโสธรมีบั้งไฟเขาก็สืบเสาะหามาจนเจอจังหวัดนี้

และมาขอดูงานประเพณีของเรา ชาวยโสตื่นเต้นมากที่เห็นญี่ปุ่นมาเที่ยว และใช้ภาษาใบ้คุยกันทุกปี

จนในที่สุด เราก็ไปดูเมืองเขา ไปๆมาๆ กันทุกปี ผูกเสี่ยวกัน หลายคนทีเดียว เป็นมิตรไมตรีที่ก่อตัวขึ้นโดยธรรมชาติ

 กลายเป็นความรักข้ามขอบฟ้าจริงๆ ที่สำคัญใช้ภาษาใบ้กันตลอดมา

บางปีเขามาเขาก็ร้องไห้เพราะเสี่ยวของเขาตายจากไป (เพราะเป็นมะเร็งตับ)


(http://img98.imageshack.us/img98/9317/dscf1449resize.jpg)


เมื่อ15 ปีที่แล้ว การท่องเที่ยวเลยเข้ามาช่วย สานให้เเน่นแฟ้นและเป็นอินเตอร์มากขึ้น

แต่ยังไม่ได้ดังใจพี่แอ๊ะแต่พี่แอ๊ะไม่กล้าเข้าไปยุ่งมากเพราะไม่ได้เป็นผู้บริหารเทศบาล


หัวข้อ: Re: "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: หนุน'21 ที่ 25 ตุลาคม 2552, 21:15:18
สวัสดีครับพี่แอ๊ะ
สวัสดีพี่เหยง พี่เอมอร น้องตุ๋ยด้วยครับ
ตามดูตามอ่านด้วยความเพลิดเพลินครับ

อย่างที่พี่แอ๊ะว่าแหละครับ ส่วนใหญ่พวกเราคงเคยไปแล้ว
แต่มุมมองของคนที่เคยไป อาจไม่เหมือนกัน
ผมเคยไปอยู่เกือบเดือน ตอนที่ลูกชายไปบวชเป็นสามเณร
ที่วัดปากน้ำ เมืองชิบะ ตามโครงการของโรงเรียน จิตรลดา ครับ
นอกจากนั้นก็มีไปดูงานกับ เพื่อนร่วมงานเป็นครั้งคราวครับ

พี่เล่าต่อ และลงรูป สวีทๆ ให้ท่านพี่ป๋อง ตาร้อนผ่าวอีกนะครับ
เอิ๊ก  เอิ๊ก


 emo20:)):)


หัวข้อ: Re: "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: เอมอร 2515 ที่ 25 ตุลาคม 2552, 21:21:37
ขอบคุณคะ ที่จำได้ น้องเหยง น่ารักจริงๆ   เป็นข้อมูลที่ถูกต้องมาก พี่เป็นroommate กับเนาว์ และตอนอยู่หอหญิงเก่าตอนปีหนึ่งอยู่หอกลาง พี่อยู่ห้องใกล้กับตุ๊กตา ค่ะ และพี่เป็นคนเมื่องชลเหมือนกับจุ๋มมุกดา เลยเดินกับเหล่าสาวเภสัชทั้งหลายบ่อยๆค่ะ  ถ้าน้องเหยง จำได้ ในรูปนั้น พี่ยังมีน้องสาวอยู่อีก ๑ คนคะ สุพร อยุ่ครุฯคะ ที่อยุ่ข้างหลังหนะค่ะ  เหยงจำพี่ได้จริงๆแหละจึงรู้ว่าพี่สูงกว่าคนอื่นเขา จริงคะ ได้แต่สูงนะคะ แต่ขี้แหล่ กว่าใครเพื่อนเลย พิสูจน์ได้ในรูปคะ ทำอย่างไร หารูปได้เร็วจริง


หัวข้อ: Re: "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: prapasri AH ที่ 25 ตุลาคม 2552, 21:23:41

(http://img101.imageshack.us/img101/8863/dscf1447resize.jpg)

ท่านนายกเทศมนตรี เมืองยโสธร ผูกเอว ผู้ว่าราชการจังหวัดชิชิบุ ค่ะ



หัวข้อ: Re: "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: prapasri AH ที่ 25 ตุลาคม 2552, 21:28:38
เหยง และน้องเอมอรคะ

วันก่อนหรือปีก่อนเราเคยคุยถึง น้องรัชนี เอกบุตร ในเวบ นี้ หรือน้องเขาเข้ามา พี่แอ๊ะจำไม่ได้เเล้วค่ะ

หรือมีรูปน้องเขานี่แหละค่ะ

เหยงช่วยบอกน้องเอมอร ถึงวิธีเก็บภาพ หน่อยดิ น้องจะได้ส่งภาพที่น้องมีอยู่เข้ามาบ้าง


หัวข้อ: Re: "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: เอมอร 2515 ที่ 25 ตุลาคม 2552, 21:32:06
พี่ป๋องอย่าว่าเลย น้องแก่แล้ว ไม่ Hi tech ที่ใส่รูปมาได้นี่ก็ว่าตัวเองเก่งมากแล้ว ใช้เป็นแต่word กับpowerpoint ค่ะ ที่เข้ามาคุยได้นี่ลองถูกลองผิด ตั้งหลายครั้งถึงบอกว่าได้แต่อ่านไงคะ แต่เข้ามาคุยไม่เป็นตอนนี้เริ่มชำนาญแล้ว จะเข้ามาคุยบ่อยๆคะ และจะลองดูว่าว่าจะทำอย่างไรกับรูปได้บ้างดูรูปเก่าที่น้องเหยงpost มาให้ดูก่อนนะคะ


หัวข้อ: Re: "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: เหยง 16 ที่ 25 ตุลาคม 2552, 21:33:19
อ้างถึง
ข้อความของ pemorn เมื่อ 25 ตุลาคม 2552, 21:21:37
ขอบคุณคะ ที่จำได้ น้องเหยง น่ารักจริงๆ   เป็นข้อมูลที่ถูกต้องมาก พี่เป็นroommate กับเนาว์ และตอนอยู่หอหญิงเก่าตอนปีหนึ่งอยู่หอกลาง พี่อยู่ห้องใกล้กับตุ๊กตา ค่ะ และพี่เป็นคนเมื่องชลเหมือนกับจุ๋มมุกดา เลยเดินกับเหล่าสาวเภสัชทั้งหลายบ่อยๆค่ะ  ถ้าน้องเหยง จำได้ ในรูปนั้น พี่ยังมีน้องสาวอยู่อีก ๑ คนคะ สุพร อยุ่ครุฯคะ ที่อยู่ข้างหลังหนะค่ะ  เหยงจำพี่ได้จริงๆแหละจึงรู้ว่าพี่สูงกว่าคนอื่นเขา จริงคะ ได้แต่สูงนะคะ แต่ขี้แหล่ กว่าใครเพื่อนเลย พิสูจน์ได้ในรูปคะ ทำอย่างไร หารูปได้เร็วจริง
สวัสดีครับพี่เอมอร

พอดีผมสแกนภาพหนังสือหอพักปี 2519 ซึ่งมีอยู่ที่หมด 23 หน้า ลงในห้องซีมะโด่งสัมพันธ์/ห้องหนังสือรุ่นของหอพัก
รูปพี่อยู่ที่ page 3 รูปที่ 12 ครับ ซึ่งปี 2519 พี่ต้องอยู่ปี 4 ผมอยู่ปี 3 แต่เภสัชเรียกปี 1 ทำให้หาภาพได้ไวครับ


หัวข้อ: Re: "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: เหยง 16 ที่ 25 ตุลาคม 2552, 21:39:19
อ้างถึง
ข้อความของ prapasri AH เมื่อ 25 ตุลาคม 2552, 21:28:38
เหยง และน้องเอมอรคะ

วันก่อนหรือปีก่อนเราเคยคุยถึง น้องรัชนี เอกบุตร ในเวบ นี้ หรือน้องเขาเข้ามา พี่แอ๊ะจำไม่ได้เเล้วค่ะ

หรือมีรูปน้องเขานี่แหละค่ะ

เหยงช่วยบอกน้องเอมอร ถึงวิธีเก็บภาพ หน่อยดิ น้องจะได้ส่งภาพที่น้องมีอยู่เข้ามาบ้าง


อ้างถึง
ข้อความของ pemorn เมื่อ 25 ตุลาคม 2552, 21:32:06
พี่ป๋องอย่าว่าเลย น้องแก่แล้ว ไม่ Hi tech ที่ใส่รูปมาได้นี่ก็ว่าตัวเองเก่งมากแล้ว ใช้เป็นแต่word กับpowerpoint ค่ะ ที่เข้ามาคุยได้นี่ลองถูกลองผิด ตั้งหลายครั้งถึงบอกว่าได้แต่อ่านไงคะ แต่เข้ามาคุยไม่เป็นตอนนี้เริ่มชำนาญแล้ว จะเข้ามาคุยบ่อยๆคะ และจะลองดูว่าว่าจะทำอย่างไรกับรูปได้บ้างดูรูปเก่าที่น้องเหยงpost มาให้ดูก่อนนะคะ

พี่เอมอรครับ

เรื่องโพสต์ภาพหรือสิ่งใดลงในเว็ปนี้ พี่ป๋องคือปรมาจารย์ครับ สอบถามได้เลย


หัวข้อ: Re: "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: TU14 ที่ 25 ตุลาคม 2552, 21:47:33
พี่แอ๊ะขาเดือนหน้าไปงานหอหรือเปล่าคะ 


หัวข้อ: Re: "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: prapasri AH ที่ 25 ตุลาคม 2552, 21:49:24

อยากจะไปนอนแล้วแต่ต้องปั่นกระทู้ให้เรื่องบั้งไฟให้จบซะที

น้องๆจะได้ประทับใจกับนิยายรักบั้งไฟ ยโส-โยชิดะ

(http://img2.imageshack.us/img2/2615/dscf1429resize.jpg)

ประทับใจ หรือไม่ ก็บ่ฮู้ จั๊กแหล่วววววววววว

บ่มี คนลาว อิสานเข่ามาสักเตื๊อเด๊

พี่แอ๊ะ ประทับใจอยู่คนเดียวอิๆๆๆๆ จึงอยู่อิสานได้โดนหลายถึง27ปี



หัวข้อ: Re: "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: เหยง 16 ที่ 25 ตุลาคม 2552, 21:50:32
สวัสดีครับพี่ตุ๊

เข้าไปชมภาพที่ไปทัวร์ปักกิ่ง บ้างหรือเปล่าครับ??


หัวข้อ: Re: "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: prapasri AH ที่ 25 ตุลาคม 2552, 21:52:34

ดีใจจังน้องตุ๊14 เข้ามาแอบอ่าน ล่วยยยยยยยยยย

พี่แอ๊ะยังไม่กล้าสัญญาเลย กลัวผิดสัญญาค่ะ

งานพี่แอ๊ะเยอะจริงๆๆ

ไม่กล้านัดล่วงหน้าค่ะ


หัวข้อ: Re: "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: prapasri AH ที่ 25 ตุลาคม 2552, 22:10:01
เขาจุดแบบปลอดภัยมาก มีภุเขาอยู่ด้านหลัง และ จุดไม่กีเมืองหรือเฉพาะเมืองนี้เท่านั้น

ไม่เหมือนบ้านเราเดี่ยวนี้มีทุกเมืองในอิสาน จน กรมการบิน ประกาศเตือนเพราะอาจจะเป็นจรวดขึ้นไปโดนเครื่องบิน(น่ากลัวไหม)

แถว ตามอำเภอ ยโส ศรีสะเกษ ร้อยเอ็ด อุบล เขาจุดบั้งไฟเป็นการเล่นการพนันกัน ว่าของใครได้สูงกว่เขาเรียกบั้งไฟหมื่น บั้งไฟแสน

(http://img527.imageshack.us/img527/5858/dscf1438resize.jpg)


หัวข้อ: Re: "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: prapasri AH ที่ 25 ตุลาคม 2552, 22:18:11


เขามีพิพิธภัณฑ์ บั้งไฟไทย ด้วย เขาเก็บศิลปะไทยไว้ สิ่งของที่เคยมาแลกเปลียนกับยโสธรเกือบ20 ปีเขาเก็บไว้หมด

และมีรูปปั้นผู้ผู้หญิงชุดไทยอิสานโชว์ไว้ในพิพิธภัณฑ์ด้วย

อยากให้น้องอ้อย17 สาวอิสานมีรักมา เข้ามาดูกระทู้นี้จังค่ะ

(http://img210.imageshack.us/img210/1189/dscf1462resize.jpg)


หัวข้อ: Re: "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: เหยง 16 ที่ 26 ตุลาคม 2552, 10:20:36
พี่แอ๊ะ

ขอบคุณครับสำหรับเรื่องบ้องไฟ(อีกชื่อ บั้งไฟ)กับประเทศญี่ปุ่น เชื่อว่ายังคงมีต่อนะครับ

บ้องไฟของเราแต่เดิมใช้กระบอกไม้ไผ่ พันด้วยตอกสานกันระเบิด แต่เมื่อใช้ท่อแอฟล่อนอย่างหนา 6 นิ้วเข้ามา
ความสามารถในการบรรจุดินปืนและดินขับเพิ่มขึ้น อันตรายจะลดลงเพราะท่อแอฟล่อนเหนียวและมาตรฐานกว่า
การยิงบ้องไฟเพื่อพนันความสูงก็เพิ่มขึ้น แต่อันตรายก็มากตาม หากยิงไม่ขึ้นก็จะระเบิดหรือวิ่งไปชนบ้านคน
จนเสียหายหรือถึงขั้นมีคนเจ็บ คนตาย ดังปรากฏในข่าวเมื่อปีที่ผ่านมา ปีนี้ข่าวน้อยกว่าปีที่ผ่านมา
และจากเดิมที่แข่งขันระดับจังหวัด บัดนี้ย่อยลงมาในเขตอำเภอ เพราะมีพนันกัน เชื่อว่าต่อไปอาจจัดแข่งทุกวัด

อีกประการหนึ่ง พวกเราไม่กลัวตาย เพราะติดเดิมพัน ยิ่งใกล้ยิ่งเห็นตัวบ้องไฟ มั่นใจก็พนันกันในวงเงินสูงๆ
ถ้ามันยิงไม่ขึ้น ก็ระเบิด หรือวิ่งแฉลบไปชนคนชนบ้าน นั่นเอง ซึ่งต่างจากญี่ปุ่น คนดูคือคนดู และไม่มีพนัน

เดี่ยวนี้ ไม่ต้องไปดูที่อิสานแล้วครับ จังหวัดพิจิตรเริ่มมียิงบ้องไฟกันแล้วครับ


หัวข้อ: Re: "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: TU14 ที่ 26 ตุลาคม 2552, 11:33:48
เหยง พี่เปิดเข้าไปดูทุกวันจ๊ะ


หัวข้อ: Re: "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: พธู ๒๕๒๔ ที่ 26 ตุลาคม 2552, 15:30:21
emo9:huhu:
มีหญิงสาว กับชายหนุ่ม อยู่ในห้อง
สองต่อสอง ชายจับแท่ง แกว่งให้สั่น
ชายสั่งหญิง ให้อม ในปากพลัน
หญิงดื้อรั้น ชายเร่งเร้า ด้วยอารมณ์
 emo22:(
จับโคนไว้ เอาปลายแหย่ ให้เข้าปาก
หญิงกระดาก หุบปากนิ่ง เอาหน้าก้ม
ชายก็บ่น เหตุผลใด ถึงไม่อม
ต้องขู่ข่ม ให้หายดื้อ กันหรือไร
 emo28:win:
พูดดีดี ก็ไม่ฟัง ต้องบังคับ
เอามือจับ ปากให้อ้า คว้าแท่งใส่
ใช้ปากอม เธอไม่เคย เลยหรือไง
นี่ปรอท วัดไข้... หมอให้อม
emo29:P:


หัวข้อ: Re: "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: iamfrommoon ที่ 26 ตุลาคม 2552, 17:07:15
อ้างถึง
ข้อความของ prapasri AH เมื่อ 25 ตุลาคม 2552, 21:49:24

อยากจะไปนอนแล้วแต่ต้องปั่นกระทู้ให้เรื่องบั้งไฟให้จบซะที

น้องๆจะได้ประทับใจกับนิยายรักบั้งไฟ ยโส-โยชิดะ

(http://img2.imageshack.us/img2/2615/dscf1429resize.jpg)

ประทับใจ หรือไม่ ก็บ่ฮู้ จั๊กแหล่วววววววววว

บ่มี คนลาว อิสานเข่ามาสักเตื๊อเด๊

พี่แอ๊ะ ประทับใจอยู่คนเดียวอิๆๆๆๆ จึงอยู่อิสานได้โดนหลายถึง27ปี



มาแล๊วค่าเื้อื้อย บั่งไฟ่เฮ็ดฝ๋นต๋กหลายบ่คะ...ต๋อนนี้พ่อกั๊บแม่เพิ่นมายามปุ๊กที่กรุงเทพ แต่สิกลับมื่อนี้แล้วค่า

สังเกตุเสื้อเป็นสีม่วงเหมือนมีลายๆ อันนี้เป็นเสื้อประจำจังหวัดยโสธรรึเปล่าคะ


หัวข้อ: Re: "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: prapasri AH ที่ 26 ตุลาคม 2552, 21:04:26
น้องปุ๊กกี้จ๋า

พี่แอ๊ะนึกถึงใครคนนั้น ก็มา พี่แอ๊ะคิดถึงน้องปุ๊กกี้ มาสองสามวันแล้ว ว่าจะ คุยหลังไมค์

พี่แอ๊ะได้รับหนังสือซีมะโด่งได้อ่านข้อเขียนที่หลายๆท่านได้เขียน  ซาบซึ้งมากค่ะ

เสียดายพี่แอ๊ะไม่ได้เขียนตอนที่น้องปุ๊กกี้โทรมาอธิบายว่าให้เขียนยังไง เลือกตัวอักษรยังไง พี่แอ๊ะไม่เข้าใจเลย

นึกไม่ออก งง ว่าเขียนอะไรหนอ อักษรอะไรหนอ

 โง่จังเลยพี่แอ๊ะนี่ แต่ตอนนั้นเป็นช่วงที่ยุ่งมาก ไม่มีสมาธิเลยค่ะ

ไม่เป็นไร รออีก 10 ปีข้างก็คงได้เขียนอยู่เนอะ

เสื้อลายบั้งไฟเป็นเสื้อสัญญลักษร์ของยโสธรค่ะ ข้าราชการใส่ไปทำงานได้ มีหลายสี ให้ใส่ตามวันได้เลยค่ะ

ตัวละ 200 บาท เอาไปฝากชาวชิชิบุด้วยค่ะ

วันนี้ต้องรีบไปนอนก่อนนะ พรุ่งนี้ต้องไปทอดกฐินกับบางกอกแอร์เวย์ แต่เช้าเขามาทอดที่ยโสค่ะ

เลยไม่ได้เล่าเรื่องบั้งไฟโยชิดะต่อ


อีกอย่างหนึ่งคืนนี้คงนอนไม่หลับแน่  คง ฝันเห็นแต่ปรอทของน้อง ปาทูแมน

ต๊กกะจายหมกเยยยยยยยยยยยยยยยย55555555555555555555555555


หัวข้อ: Re: "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: พธู ๒๕๒๔ ที่ 26 ตุลาคม 2552, 21:53:25
อ้างถึง
ข้อความของ prapasri AH เมื่อ 26 ตุลาคม 2552, 21:04:26
น้องปุ๊กกี้จ๋า

พี่แอ๊ะนึกถึงใครคนนั้น ก็มา พี่แอ๊ะคิดถึงน้องปุ๊กกี้ มาสองสามวันแล้ว ว่าจะ คุยหลังไมค์

พี่แอ๊ะได้รับหนังสือซีมะโด่งได้อ่านข้อเขียนที่หลายๆท่านได้เขียน  ซาบซึ้งมากค่ะ

เสียดายพี่แอ๊ะไม่ได้เขียนตอนที่น้องปุ๊กกี้โทรมาอธิบายว่าให้เขียนยังไง เลือกตัวอักษรยังไง พี่แอ๊ะไม่เข้าใจเลย

นึกไม่ออก งง ว่าเขียนอะไรหนอ อักษรอะไรหนอ

 โง่จังเลยพี่แอ๊ะนี่ แต่ตอนนั้นเป็นช่วงที่ยุ่งมาก ไม่มีสมาธิเลยค่ะ

ไม่เป็นไร รออีก 10 ปีข้างก็คงได้เขียนอยู่เนอะ

เสื้อลายบั้งไฟเป็นเสื้อสัญญลักษร์ของยโสธรค่ะ ข้าราชการใส่ไปทำงานได้ มีหลายสี ให้ใส่ตามวันได้เลยค่ะ

ตัวละ 200 บาท เอาไปฝากชาวชิชิบุด้วยค่ะ

วันนี้ต้องรีบไปนอนก่อนนะ พรุ่งนี้ต้องไปทอดกฐินกับบางกอกแอร์เวย์ แต่เช้าเขามาทอดที่ยโสค่ะ

เลยไม่ได้เล่าเรื่องบั้งไฟโยชิดะต่อ


อีกอย่างหนึ่งคืนนี้คงนอนไม่หลับแน่  คง ฝันเห็นแต่ปรอทของน้อง ปาทูแมน

ต๊กกะจายหมกเยยยยยยยยยยยยยยยย55555555555555555555555555
ไม่เป็นไข้ก้อไม่ต้องอมหรอกครับพี่


หัวข้อ: Re: "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: iamfrommoon ที่ 26 ตุลาคม 2552, 21:57:18
อ้างถึง
ข้อความของ patooman24 เมื่อ 26 ตุลาคม 2552, 21:53:25
อ้างถึง
ข้อความของ prapasri AH เมื่อ 26 ตุลาคม 2552, 21:04:26
น้องปุ๊กกี้จ๋า

พี่แอ๊ะนึกถึงใครคนนั้น ก็มา พี่แอ๊ะคิดถึงน้องปุ๊กกี้ มาสองสามวันแล้ว ว่าจะ คุยหลังไมค์

พี่แอ๊ะได้รับหนังสือซีมะโด่งได้อ่านข้อเขียนที่หลายๆท่านได้เขียน  ซาบซึ้งมากค่ะ

เสียดายพี่แอ๊ะไม่ได้เขียนตอนที่น้องปุ๊กกี้โทรมาอธิบายว่าให้เขียนยังไง เลือกตัวอักษรยังไง พี่แอ๊ะไม่เข้าใจเลย

นึกไม่ออก งง ว่าเขียนอะไรหนอ อักษรอะไรหนอ

 โง่จังเลยพี่แอ๊ะนี่ แต่ตอนนั้นเป็นช่วงที่ยุ่งมาก ไม่มีสมาธิเลยค่ะ

ไม่เป็นไร รออีก 10 ปีข้างก็คงได้เขียนอยู่เนอะ

เสื้อลายบั้งไฟเป็นเสื้อสัญญลักษร์ของยโสธรค่ะ ข้าราชการใส่ไปทำงานได้ มีหลายสี ให้ใส่ตามวันได้เลยค่ะ

ตัวละ 200 บาท เอาไปฝากชาวชิชิบุด้วยค่ะ

วันนี้ต้องรีบไปนอนก่อนนะ พรุ่งนี้ต้องไปทอดกฐินกับบางกอกแอร์เวย์ แต่เช้าเขามาทอดที่ยโสค่ะ

เลยไม่ได้เล่าเรื่องบั้งไฟโยชิดะต่อ


อีกอย่างหนึ่งคืนนี้คงนอนไม่หลับแน่  คง ฝันเห็นแต่ปรอทของน้อง ปาทูแมน

ต๊กกะจายหมกเยยยยยยยยยยยยยยยย55555555555555555555555555
ไม่เป็นไข้ก้อไม่ต้องอมหรอกครับพี่

555 อ่านพี่แอ๊ะเขียนกับพี่ทูเขียนแล้ว อดอมยิ้มไม่ได้...

พี่แอ๊ะคะ
ไม่เป็นไรค่า หากน้องยังเป็นบรรณาธิการอยู่ รับรองได้เขียนอีกครั้งแน่ๆ ค่า มีไอเดียอีกหลายอย่างที่อยากทำอีก...เพียงแต่เวลาไม่ค่อยอำนวย ต้องดูแลคุณพ่อบ้าน 555


หัวข้อ: Re: "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: suriya2513 ที่ 26 ตุลาคม 2552, 22:11:42
ถึงเป็นไข้ก็ไม่ต้องอมหรอกครับป๋าทู ก็พี่หมอหาญสามีพี่แอ๊ะท่านเป็นหมอ
เอามือแตะหน้าผากปั๊บก็รู้ปุ๊บว่ากี่องศา จะจ่ายยาอะไร


หัวข้อ: Re: "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: พธู ๒๕๒๔ ที่ 26 ตุลาคม 2552, 22:16:20
อ้างถึง
ข้อความของ suriya2513 เมื่อ 26 ตุลาคม 2552, 22:11:42
ถึงเป็นไข้ก็ไม่ต้องอมหรอกครับป๋าทู ก็พี่หมอหาญสามีพี่แอ๊ะท่านเป็นหมอ
เอามือแตะหน้าผากปั๊บก็รู้ปุ๊บว่ากี่องศา จะจ่ายยาอะไร

อ๋อ ไม่มีไข่เอ้ยไข้ ไม่ให้อม


หัวข้อ: Re: "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: หนุน'21 ที่ 27 ตุลาคม 2552, 08:21:22
สวัสดีครับพี่แอ๊ะ
พี่ป๋อง พี่เหยง น้องทูและน้องปุ๊กกี้
ตามอ่านด้วยคนครับ


 emo6::))


หัวข้อ: Re: "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: เหยง 16 ที่ 27 ตุลาคม 2552, 12:46:03
สวัสดียามบ่ายครับ


หัวข้อ: Re: "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: prapasri AH ที่ 27 ตุลาคม 2552, 15:34:34
น้องๆคะ

พีแอ๊ะขอหยุดจุดบั้งไฟ สัก สามสี่วันนะคะ

ไปนอนกับคุณแม่ ที่ สุราษฎร์ และมาอยู่กรุงเทพ อีก2 วันค่ะ
กลับมาวันที่ 2 แน่ะ

น้องปาทูแมน อย่าทำปรอทแตกนะคะ 555555555555


หัวข้อ: Re: "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: Kaimook ที่ 27 ตุลาคม 2552, 21:19:01
สวัสดีค่ะพี่แอ๊ะกลับมาตามอ่านบั้งไฟค่ะสนุกจังเลยค่ะ
พี่แอ๊ะเดินทางปลอดภัยนะคะขำปรอทของท่านป๋าทูจังค่ะ emo4:)) emo4:)) emo4:))


หัวข้อ: Re: "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: krongon2513 ที่ 28 ตุลาคม 2552, 18:22:53
แอ๊ะที่รัก
เร็วๆไปดูละคร "นางฟ้านิรนาม" เรื่องราวชีวิตของดร.กฤษณา จัดโดยคณะอักษรเพื่อหาทุนสร้างตึกมหาจักรีสิรินธร
เห็นภาพชีวิตวัยเด็กของ ดร.คิดว่าคงคล้ายกับของแอ๊ะ
เป็นละครที่ดีมาก เสียดายที่ไม่ได้ไปดูด้วยกัน

ข่าววิทยา 10 เขาบอกว่าพี่หาญไปแข่งกิน...กับเพื่อนๆ แอ๊ะรู้เรื่องนี้หรือเปล่า
ฉันอ่านแล้วขำกลิ้ง


หัวข้อ: Re: "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: เหยง 16 ที่ 28 ตุลาคม 2552, 19:15:42
อ้างถึง
ข้อความของ TU14 เมื่อ 26 ตุลาคม 2552, 11:33:48
เหยง พี่เปิดเข้าไปดูทุกวันจ๊ะ

วันนี้ ภาพโพสต์เพิ่มหลายๆหน้าโดยพี่นภดลแล้วครับ เริ่มที่หน้านี้ครับ(หน้า 63)

http://www.cmadong.com/board/index.php/topic,3615.1550.html


หัวข้อ: Re: "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: iamfrommoon ที่ 28 ตุลาคม 2552, 21:15:51
อ้างถึง
ข้อความของ krongon2513 เมื่อ 28 ตุลาคม 2552, 18:22:53
แอ๊ะที่รัก
เร็วๆไปดูละคร "นางฟ้านิรนาม" เรื่องราวชีวิตของดร.กฤษณา จัดโดยคณะอักษรเพื่อหาทุนสร้างตึกมหาจักรีสิรินธร
เห็นภาพชีวิตวัยเด็กของ ดร.คิดว่าคงคล้ายกับของแอ๊ะ
เป็นละครที่ดีมาก เสียดายที่ไม่ได้ไปดูด้วยกัน

ข่าววิทยา 10 เขาบอกว่าพี่หาญไปแข่งกิน...กับเพื่อนๆ แอ๊ะรู้เรื่องนี้หรือเปล่า
ฉันอ่านแล้วขำกลิ้ง


พี่อ้อยขรา...
ขอมาบอกว่า "คิดถึงๆ" ค่า...เมื่อเสาร์อาทิตย์ที่ผ่านมาพาพ่อกับแม่ไปเที่ยวพัทยา ผ่านเฉียดเส้นสุขุมวิทคิดถึงร้านอาหารพี่ตาและคิดถึงพี่ที่เมืองชลฯ จังค่า

ได้รับสารซีมะโด่งหรือยังคะพี่

ปล.ตอนนี้พี่แอ๊ะอยู่มหาวิทยาลัยราชภัฏสุราษฏร์ธานีค่า เพิ่งวางสายกันไม่นานนี้ เห็นบอกว่า วันนี้ประชุมเครียดเลย


หัวข้อ: Re: "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: krongon2513 ที่ 28 ตุลาคม 2552, 21:36:10
น้องปุ๊กกี้
เสาร์ที่แล้วพี่ยังอยู่บนท้องฟ้าอยู่เลย
วันหลังแวะมานะคะ
เดือนก่อนไปสุราษฎร์จะแวะไปหาเพื่อนที่ราชภัฎ แต่ติดต่อไม่ได้ จึงไปตามโปรแกรมปกติ อาหารทะเลที่สุราษฏร์อร่อยคนละแบบกับบ้านพี่
คิดถึงเช่นกันค่ะ


หัวข้อ: Re: "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: Kaimook ที่ 29 ตุลาคม 2552, 21:01:07
อ้างถึง
ข้อความของ iamfrommoon เมื่อ 28 ตุลาคม 2552, 21:15:51
อ้างถึง
ข้อความของ krongon2513 เมื่อ 28 ตุลาคม 2552, 18:22:53
แอ๊ะที่รัก
เร็วๆไปดูละคร "นางฟ้านิรนาม" เรื่องราวชีวิตของดร.กฤษณา จัดโดยคณะอักษรเพื่อหาทุนสร้างตึกมหาจักรีสิรินธร
เห็นภาพชีวิตวัยเด็กของ ดร.คิดว่าคงคล้ายกับของแอ๊ะ
เป็นละครที่ดีมาก เสียดายที่ไม่ได้ไปดูด้วยกัน

ข่าววิทยา 10 เขาบอกว่าพี่หาญไปแข่งกิน...กับเพื่อนๆ แอ๊ะรู้เรื่องนี้หรือเปล่า
ฉันอ่านแล้วขำกลิ้ง


พี่อ้อยขรา...
ขอมาบอกว่า "คิดถึงๆ" ค่า...เมื่อเสาร์อาทิตย์ที่ผ่านมาพาพ่อกับแม่ไปเที่ยวพัทยา ผ่านเฉียดเส้นสุขุมวิทคิดถึงร้านอาหารพี่ตาและคิดถึงพี่ที่เมืองชลฯ จังค่า

ได้รับสารซีมะโด่งหรือยังคะพี่

ปล.ตอนนี้พี่แอ๊ะอยู่มหาวิทยาลัยราชภัฏสุราษฏร์ธานีค่า เพิ่งวางสายกันไม่นานนี้ เห็นบอกว่า วันนี้ประชุมเครียดเลย
น้องปุ๊กกี้ขราาาาาผ่านเมืองชลแวะมาหาพี่มั้งนะคะยินดีพาเที่ยวค่ะ
พี่ได้รับสารซีมะโด่งแล้วค่ะขอบใจมากค่ะ


หัวข้อ: Re: "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: iamfrommoon ที่ 30 ตุลาคม 2552, 09:12:20
อ้างถึง
ข้อความของ Kaimook เมื่อ 29 ตุลาคม 2552, 21:01:07
อ้างถึง
ข้อความของ iamfrommoon เมื่อ 28 ตุลาคม 2552, 21:15:51
อ้างถึง
ข้อความของ krongon2513 เมื่อ 28 ตุลาคม 2552, 18:22:53
แอ๊ะที่รัก
เร็วๆไปดูละคร "นางฟ้านิรนาม" เรื่องราวชีวิตของดร.กฤษณา จัดโดยคณะอักษรเพื่อหาทุนสร้างตึกมหาจักรีสิรินธร
เห็นภาพชีวิตวัยเด็กของ ดร.คิดว่าคงคล้ายกับของแอ๊ะ
เป็นละครที่ดีมาก เสียดายที่ไม่ได้ไปดูด้วยกัน

ข่าววิทยา 10 เขาบอกว่าพี่หาญไปแข่งกิน...กับเพื่อนๆ แอ๊ะรู้เรื่องนี้หรือเปล่า
ฉันอ่านแล้วขำกลิ้ง


พี่อ้อยขรา...
ขอมาบอกว่า "คิดถึงๆ" ค่า...เมื่อเสาร์อาทิตย์ที่ผ่านมาพาพ่อกับแม่ไปเที่ยวพัทยา ผ่านเฉียดเส้นสุขุมวิทคิดถึงร้านอาหารพี่ตาและคิดถึงพี่ที่เมืองชลฯ จังค่า

ได้รับสารซีมะโด่งหรือยังคะพี่

ปล.ตอนนี้พี่แอ๊ะอยู่มหาวิทยาลัยราชภัฏสุราษฏร์ธานีค่า เพิ่งวางสายกันไม่นานนี้ เห็นบอกว่า วันนี้ประชุมเครียดเลย
น้องปุ๊กกี้ขราาาาาผ่านเมืองชลแวะมาหาพี่มั้งนะคะยินดีพาเที่ยวค่ะ
พี่ได้รับสารซีมะโด่งแล้วค่ะขอบใจมากค่ะ


แน่นอนเลยค่าพี่ไข่มุก หวังว่าพี่จะชอบสารฯ เล่มนี้นะคะ


หัวข้อ: Re: "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: iamfrommoon ที่ 30 ตุลาคม 2552, 09:14:50
อ้างถึง
ข้อความของ krongon2513 เมื่อ 28 ตุลาคม 2552, 21:36:10
น้องปุ๊กกี้
เสาร์ที่แล้วพี่ยังอยู่บนท้องฟ้าอยู่เลย
วันหลังแวะมานะคะ
เดือนก่อนไปสุราษฎร์จะแวะไปหาเพื่อนที่ราชภัฎ แต่ติดต่อไม่ได้ จึงไปตามโปรแกรมปกติ อาหารทะเลที่สุราษฏร์อร่อยคนละแบบกับบ้านพี่
คิดถึงเช่นกันค่ะ

รับรองค่าจะแวะแล้วจะรีบบอกพี่ๆ ณ ชลบุรีแ่น่นอนค่าจะได้พาเขยหอไปแนะนำตัวให้พี่อ้อย พี่ไข่มุก ได้รู้จักด้วยค่า


หัวข้อ: Re: "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: wannee ที่ 31 ตุลาคม 2552, 10:25:46


สวัสดีค่ะพี่แอ๊ะ  ใกล้จะถึงงานคืนสู่เหย้าแล้ว  เสียดคงต้องโทรจี้พรเทพแล้วมั้ง  emo26:D


หัวข้อ: Re: "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: เหยง 16 ที่ 31 ตุลาคม 2552, 11:03:22
พี่แอ๊ะ ลงทะเบียนงานหอแล้วหรือยังครับ ที่.........

ลงทะเบียนได้แล้วนะครับที่  www.cmadong.com/rcu_form


หัวข้อ: Re: "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: iamfrommoon ที่ 31 ตุลาคม 2552, 13:06:32
ไปลงมาแล้วค่าพี่ๆ ตอนนี้น้องเริ่มส่งต่ออีเมล์ที่อยุ่ใน record ทั้งรุ่นใหญ่ รุ่นกลาง รุ่นเล็กร่วมร้อย และฝากให้ส่งต่อกันอีกค่า


หัวข้อ: Re: "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: พธู ๒๕๒๔ ที่ 31 ตุลาคม 2552, 17:06:29
อ้างถึง
ข้อความของ prapasri AH เมื่อ 27 ตุลาคม 2552, 15:34:34
น้องๆคะ

พีแอ๊ะขอหยุดจุดบั้งไฟ สัก สามสี่วันนะคะ

ไปนอนกับคุณแม่ ที่ สุราษฎร์ และมาอยู่กรุงเทพ อีก2 วันค่ะ
กลับมาวันที่ 2 แน่ะ

น้องปาทูแมน อย่าทำปรอทแตกนะคะ 555555555555
ไม่รู้แตกหรือป่าวตอนนี้มีเลือดออกด้วยครับ






เวลาแปรงฟัน


หัวข้อ: Re: "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: ตุ๋ย 22 ที่ 31 ตุลาคม 2552, 18:02:11
หวัดดีพี่แอะไม่ได้เข้าห้องพี่แอะวะหลายวันไปทำภาระกิจกับพี่น้องซีมะโด่งมีแต่ความประทับใจจริงๆ   ครับ


หัวข้อ: Re: "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: prapasri AH ที่ 01 พฤศจิกายน 2552, 21:32:51
อ้อย กรองอร13
ฉันจะไปคุยที่ห้องเธอได้ห้องไหนจ๊ะ ดีใจจังที่เธอเข้ามาคุย

ฉันเพิ่งกลับมาถึงยโสเมื่อกี้ ยังไม่ได้ หอม พี่หาญเลย
(กลัวปรอทน้องปลาทูแมนแตก5555555555555)

ฉันต้องรีบเข้าเวบเพื่อ update ข่าวคราวก่อนหอมพีหาญ...จ้า

ฉันได้ไปเจอเพื่อนเธอด้วย เป็นอดีตคณบดีคณะมนุษยศาสตร์ ม.ราชภัฎสุราษฏร์ ชื่อนงเยาว์

เธอรู้จักฉันว่าเป็นเพื่อนเธอ เพื่อนโหม้ย หม่ง เธอมาเยี่ยมฉันที่บ้านด้วย น่ารักมาก

อ้อย จ๋า งาน แม่โหม้ยวันไหนนะ ฉันต้องหาทางไปให้ได้ แต่อาจจะไปวันอังคารไหนสักวันหนึ่ง

เธอจะไปอีกเมื่อไรจ๊ะ


หัวข้อ: Re: "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: prapasri AH ที่ 01 พฤศจิกายน 2552, 21:38:34
 อ้อยจ๋า....ลืมบอกไป ฉันไปสุราษฎร์ ฉัน เป็นกรรมการสภามหาวิทยาลัยราชภัฎสุราษฎร์จ๊ะ

บอกเธอและน้องๆ แล้วต้องทำตัวให้น่าเคร่งขรึม น่าเคารพ หน่อยแล้วล่ะ อิๆๆๆๆๆๆๆ

แต่กลัวน้องปลาทูแมน ตกใจ ทำปรอทแตกอีก อิๆๆๆๆๆๆ


น้องปุ๊กกี้ขา ตอนน้องโทรไป พี่แอ๊ะกำลังประชุมเรื่องเครียดจริงๆค่ะ มึนไปหมดเลยยยยยย


หัวข้อ: Re: "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: yyswim ที่ 01 พฤศจิกายน 2552, 22:30:20
น้องแอ๊ะ คนนี้ เก่งไว้ลายเลือดสีชมพู
พี่ขอคารวะครับ

เล่าเรื่องคุณแม่ที่สุราษฎร์บ้างซิ คิดถึงคุณแม่มาก อยากทราบข่าวคราว

แล้วอู้ดเป็นไงบ้าง เล่นกีฬาอะไร ตีกอล์ฟมั๊ย?
 


หัวข้อ: Re: "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: หนุน'21 ที่ 02 พฤศจิกายน 2552, 07:23:48
(http://img217.imageshack.us/img217/7711/loykrathong.jpg)

สุขสันต์ วันลอยกระทง ครับพี่แอ๊ะ
และสมาชิกชาว ซีมะโด่งทุกท่าน


 emo4:))


หัวข้อ: Re: "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: iamfrommoon ที่ 02 พฤศจิกายน 2552, 07:38:36
พอทราบค่าพี่แ๊อ๊ะ เพราะน้ำเสียงนี่เครียดเลย...พอพี่โทร.กลับเลยเม้าท์กันยาวสมใจเลยค่า แล้วพบกันคืนสู่เหย้านะคะพี่

สุขสันต์วันลอยกระทงกับพี่ๆ ทุกท่านนะคะ


หัวข้อ: Re: "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: ตุ๋ย 22 ที่ 02 พฤศจิกายน 2552, 21:37:06
หวัดดีพี่แอ๊ะ  ไปลอยกระทงที่ไหนครับ


หัวข้อ: Re: "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: swsm ที่ 02 พฤศจิกายน 2552, 21:39:45
สวัสดีค่ะ  พี่แอ๊ะ


หัวข้อ: Re: "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: suriya2513 ที่ 02 พฤศจิกายน 2552, 23:01:48
ป๋าทู...พี่แอ๊ะบอกจะไปหอมพี่หมอหาญ วันกะคืนแล้วนะครับเนี่ย


หัวข้อ: Re: "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: พธู ๒๕๒๔ ที่ 02 พฤศจิกายน 2552, 23:13:03
อ้างถึง
ข้อความของ suriya2513 เมื่อ 02 พฤศจิกายน 2552, 23:01:48
ป๋าทู...พี่แอ๊ะบอกจะไปหอมพี่หมอหาญ วันกะคืนแล้วนะครับเนี่ย
หอมได้แต่ห้ามเคี้ยวนะพี่ แค่นี้ก้อแหลกคามือพี่เค้าแย้ว


หัวข้อ: Re: "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: krongon2513 ที่ 03 พฤศจิกายน 2552, 10:40:30
อ้างถึง
ข้อความของ prapasri AH เมื่อ 01 พฤศจิกายน 2552, 21:32:51
อ้อย กรองอร13
ฉันจะไปคุยที่ห้องเธอได้ห้องไหนจ๊ะ ดีใจจังที่เธอเข้ามาคุย

ฉันเพิ่งกลับมาถึงยโสเมื่อกี้ ยังไม่ได้ หอม พี่หาญเลย
(กลัวปรอทน้องปลาทูแมนแตก5555555555555)

ฉันต้องรีบเข้าเวบเพื่อ update ข่าวคราวก่อนหอมพีหาญ...จ้า

ฉันได้ไปเจอเพื่อนเธอด้วย เป็นอดีตคณบดีคณะมนุษยศาสตร์ ม.ราชภัฎสุราษฏร์ ชื่อนงเยาว์

เธอรู้จักฉันว่าเป็นเพื่อนเธอ เพื่อนโหม้ย หม่ง เธอมาเยี่ยมฉันที่บ้านด้วย น่ารักมาก

อ้อย จ๋า งาน แม่โหม้ยวันไหนนะ ฉันต้องหาทางไปให้ได้ แต่อาจจะไปวันอังคารไหนสักวันหนึ่ง

เธอจะไปอีกเมื่อไรจ๊ะ


คุยกะฉัน ก็คุยห้องแถวละแวกนี้แหละจ้ะ ฉันไม่ไปเพ่นพ่านที่ไหนไกลหรอก เพราะเวลาน้อย  อ่านไม่ไหว
โลกกลมไหมเล่า เพื่อนฉันเพื่อนเธอก็ครือกัน
เป็นผู้ทรงคุณวุฒิก็ดีอยู่ แต่ก็ต้องวามฟอร์มจั๊กหน่อยน้า ฉันเป็นแค่กรรมการสถานศึกษายังไม่กล้าเดินกินไอติมเล้ย

งานคุณแม่โหม้ย เดือนกุมภานะ แต่ฉัน น้อย และนิ พูดตรงกันว่า ไม่รู้จะว่างหรือเปล่า มีโอกาสตอนนั้นก็รีบไปเลย

หอมพี่หาญอะ หอมเบาๆหน่อยเด้อเพื่อนเด้อ...โปรดระมัดระวังอย่าทำให้วัตถุโบราณบุบสลาย  55555


หัวข้อ: Re: "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: prapasri AH ที่ 03 พฤศจิกายน 2552, 12:58:09
อ้อย13เอ๊ย

ฉัน ประภาศรี  นามสกุล ณ. เพื่อนกระป๋อง เลยไม่ค่อยมีฟอร์มเลย

บางที่ก็หมด ฟอร์ม  หมดรูปเหมือน นามสกุลไปเลยไปเลยยยยยยยยยยยยยยยยย55555555555555

ฉันก็วนเวียนอยู่แถวนี้แหละ ไปไหน ไกลเมื่อไร ทำงานไม่ทัน

งานเยอะมาก ปั่น จนมือหงิก ทั้งวันทั้งคืน

วันหลังไปสุราษฎร์ บอกนะฉันจะพาไปหาแม่ฉัน แก่น้อยกว่าแม่เธอหน่อยหนึ่ง

(ลามปามไปถึงแม่ แระ......)

ฉันเลยส่งรูปน้อง อิ่น น้องหมอต๋อย หมอติ๋ง ที่เธอเคยกระเตงตอนอยู่หอ มาให้เธอดูจั๊กหน่อย

รูปนี้ถ่ายมา 10 ฝ่า ปีได้แล้วที่สุราษฏร์จ๊ะ

อ๊าว..ส่งรูปไม่ได้แล้ว เวบหอของ กระป๋อง รวนได้รวนดี อิๆๆๆๆๆ


หัวข้อ: Re: "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: prapasri AH ที่ 03 พฤศจิกายน 2552, 13:05:06
เฮ๊ะ..อ้อย

ฉันจะ sign out ออกนอกระบบ แต่ทำไม่ได้เขาบอกว่าระบบยังไม่ได้เซสชั่น

ฉันจะทำยังไงดีล่ะ งานยุ่งไปหมดเลย เด่ว มีชื่อฉันค้างอยู่ทั้งวันทั้งคืนในเวบนี้

เวบ อีตากะป๋องนี่เป็นยังไงก็ไม่รู้ อิๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ   (ไม่ใช่เวบหอนะ)


หัวข้อ: Re: "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: suriya2513 ที่ 03 พฤศจิกายน 2552, 15:37:09
มีใครเขา sign out กันเล่าครับคุณนายแอ๊ะ ปล่อยมันค้างไว้งั้นแหละ
จะได้แลดูดีว่า มีคนเข้าชมเว็บฯเราเยอะไง...ช่างไม่รู้อะไรบ้างเลย


หัวข้อ: Re: "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: prapasri AH ที่ 04 พฤศจิกายน 2552, 11:12:20
น้องๆจ๋า

พี่แอ๊ะยุ่งมาก เลยไม่ได้ทักทายน้องๆที่เข้ามาsay hello และคุยกับน้องแต่ละท่านเลย

เกรงว่าน้องๆจะหนีพี่แอ๊ะไปหมด เด่วบ้านร้างงงงงงงงงงงงงง

บั้งไฟญี่ปุ่นก็ยังจุดไม่เสร็จ

จนป่านนี้ยังไม่ได้อาบน้ำเลยค่ะ

ยุ่งรับโทรศัพท์ น่ะอ่ะ หุๆๆๆๆๆๆๆ

จริงๆ ได้หนังสือก.ไก่ ภาษาลาว มาน่ารักมาก จะสั่งซื้อสัก 100 เล่ม ส่งมาให้น้องอ่าน

มี ต.ตา (ไม่ใช่ต.เต่า)
ย. ยุง
พ. พู  

แล้วจะมาสอนภาษาลาววันละ 2-3 คำนะคะ

รอให้จุดบั้งไฟเสร็จก่อนค่ะ55555555555555555


หัวข้อ: Re: "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: เหยง 16 ที่ 04 พฤศจิกายน 2552, 12:12:31
สวัสดีครับพี่แอ๊ะ

จอง ก.ไก่ ฉบับภาษาลาวด้วยครับ


หัวข้อ: Re: "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: prapasri AH ที่ 04 พฤศจิกายน 2552, 21:31:22

เหยงจ๋า พี่แอ๊ะเลยข้ามจาก ประเทศญี่ปุ่น มาลาวซะเลยยยยยยยย

ไม่งั้นคืนนี้นอนไม่หลับ ว่าจะไปฟังพี่จิ๋วแกเพ้อเรื่องนครปั๊ตตานี ซะหน่อยยยยยยยยย

เรียนภาษลาววันละ คำสองคำกันดีก่านะ น่ารักมากกว่า พี่จิ๋วเป็นไหนๆๆๆๆ

(http://img145.imageshack.us/img145/4816/002hbp.jpg)


หัวข้อ: Re: "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: prapasri AH ที่ 04 พฤศจิกายน 2552, 21:33:40
อ๊าววววววววว ดร. กระป๋องหัดอ่าน ก. ไก่ซะ

(http://img517.imageshack.us/img517/8137/45699259.jpg)


หัวข้อ: Re: "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: prapasri AH ที่ 04 พฤศจิกายน 2552, 21:35:03
(http://img265.imageshack.us/img265/5767/85212105.jpg)


หัวข้อ: Re: "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: Kaimook ที่ 04 พฤศจิกายน 2552, 21:43:48
 ตามมาอ่านภาษาลาวด้วยค่ะพี่แอ๊ะ emo4:)) emo4:)) emo4:))


หัวข้อ: Re: "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: prapasri AH ที่ 04 พฤศจิกายน 2552, 21:44:45
(http://img265.imageshack.us/img265/3644/15083278.jpg)

ไม่มีขอ ขวด นะคะ ของไทยมี "ขอขวด"แต่ ยังไม่ใช้กันเลยนะ

แต่มี  ค .ควาย เหมียนกัน


หัวข้อ: Re: "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: prapasri AH ที่ 04 พฤศจิกายน 2552, 21:47:28
น่ารักมากเลยค่ะ น้องไข่มุก ขา

เขามีพยัญชนะ แค่26 ตัว เท่านั้น

ตัวนี้ ว. วัวค่ะ

(http://img410.imageshack.us/img410/2333/21295109.jpg)


วัว ผ๊อม ผอม ค่ะ


หัวข้อ: Re: "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: เหยง 16 ที่ 04 พฤศจิกายน 2552, 21:48:07
พี่แอ๊ะ

ผมกำลังตามอ่านอยู่ครับ


หัวข้อ: Re: "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: prapasri AH ที่ 04 พฤศจิกายน 2552, 21:49:50
   จ. จาน เอ๊ย จ. จอก นะคะ

(http://img410.imageshack.us/img410/4712/19180987.jpg)


จอก หมายถึง แก้วน้ำค่ะ


หัวข้อ: Re: "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: prapasri AH ที่ 04 พฤศจิกายน 2552, 21:52:25
แหม๋  เห็น เหยงมาอ่าน ด้วย พี่แอ๊ะ มีกำลังใจ เลยต้อง ส่งให้ดูอีกหลายๆ พยัญชนะ

(http://img517.imageshack.us/img517/3407/68335968.jpg)


หัวข้อ: Re: "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: prapasri AH ที่ 04 พฤศจิกายน 2552, 21:54:58

เอา ยอ ยุง ก่อนนะ  เขามี ยอ สองตัว ยอยุง กับ ยอ ยาค่ะ

(http://img526.imageshack.us/img526/4230/53157451.jpg)


หัวข้อ: Re: "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: prapasri AH ที่ 04 พฤศจิกายน 2552, 21:57:50
 ส่ง ยอ ยา มาให้เหยงค่ะ  ยอยา จะมีหางยาวกว่ายอ ยุง ค่ะ

ไปขายยาที่ลาว ดีไหม

(http://img249.imageshack.us/img249/1027/76050337.jpg)


หัวข้อ: Re: "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: Kaimook ที่ 04 พฤศจิกายน 2552, 22:01:49
อ้างถึง
ข้อความของ prapasri AH เมื่อ 04 พฤศจิกายน 2552, 21:44:45
(http://img265.imageshack.us/img265/3644/15083278.jpg)

ไม่มีขอ ขวด นะคะ ของไทยมี "ขอขวด"แต่ ยังไม่ใช้กันเลยนะ

แต่มี  ค .ควาย เหมียนกัน
เหมือน ถอถุง เลยค่ะ
ภาษาลาวเหมือนภาษาไทยเลยนะคะ


หัวข้อ: Re: "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: prapasri AH ที่ 04 พฤศจิกายน 2552, 22:03:46
 ตอ ตา ค่ะ เขาคงไม่มีเต่า ที่ลาว

(http://img517.imageshack.us/img517/226/34613782.jpg)


ขอไปนอนก่อนนะ แม่บ้านเขาขอไปนอนแล้ว พี่แอ๊ะกลัวผี ไม่กล้าอยู่คนเดียวค่ะ

และจะไป ดูทีวี ฟังเรื่องพ่อใหญ่"ลา" เด่ว พ่อใหญ่จิ๋วแกก็ลาออกอีก แหง๋แก๋


บรรทมเกษม นะคะ (good night)


หัวข้อ: Re: "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: krongon2513 ที่ 04 พฤศจิกายน 2552, 22:50:34
นอนเร็วจังคะเพื่อนแอ๊ะ
อยู่โรงพยาบาลแล้วกลัวผีได้ไง

ฉันเคยไปลาวใต้ ไปดูไนแองการาแห่งเอเชีย เขาพาไปตลาดเครื่องเงิน
มีหนังสือ  ก.ไก่ลาวขายด้วย
แอ๊ะสอนไปเรื่อยๆก็ดีนะ จะได้อ่านภาษาลาวออกโดยไม่ต้องเดา emo48:)


หัวข้อ: Re: "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: ดร.มนตรี ที่ 04 พฤศจิกายน 2552, 23:54:57
อ้างถึง
ข้อความของ krongon2513 เมื่อ 04 พฤศจิกายน 2552, 22:50:34
นอนเร็วจังคะเพื่อนแอ๊ะ
อยู่โรงพยาบาลแล้วกลัวผีได้ไง

ฉันเคยไปลาวใต้ ไปดูไนแองการาแห่งเอเชีย เขาพาไปตลาดเครื่องเงิน
มีหนังสือ  ก.ไก่ลาวขายด้วย
แอ๊ะสอนไปเรื่อยๆก็ดีนะ จะได้อ่านภาษาลาวออกโดยไม่ต้องเดา emo48:)

สวัสดีครับ พี่กรองอร พี่แอ๊ะ และพี่น้องทุกท่าน

เอาบรรยากาศลาวเหนือ เมื่อ สัปดาห์ที่แล้วมาฝากครับ ...

ซีมะโด่ง - จุฬาบันเทิง  emo4:))

http://www.youtube.com/watch?v=WJ1AYZ3i56o



หัวข้อ: Re: "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: iamfrommoon ที่ 05 พฤศจิกายน 2552, 07:57:24
อ้างถึง
ข้อความของ prapasri AH เมื่อ 04 พฤศจิกายน 2552, 21:31:22

เหยงจ๋า พี่แอ๊ะเลยข้ามจาก ประเทศญี่ปุ่น มาลาวซะเลยยยยยยยย

ไม่งั้นคืนนี้นอนไม่หลับ ว่าจะไปฟังพี่จิ๋วแกเพ้อเรื่องนครปั๊ตตานี ซะหน่อยยยยยยยยย

เรียนภาษลาววันละ คำสองคำกันดีก่านะ น่ารักมากกว่า พี่จิ๋วเป็นไหนๆๆๆๆ

(http://img145.imageshack.us/img145/4816/002hbp.jpg)

เห็นด้วยอย่างแร๊ง....ดูข่าวแล้วได้แต่อึ้ง อึ้ง อึ้ง...

เมื่อคืนไปร้องเพลงกับพี่ๆ ร้านญวนญีมาค่าพี่แอ๊ะสนุกมาก...พี่ป๋องตามไปสมทบเมื่อรู้ว่า น้องๆ เด็กไปกัน อิอิ


หัวข้อ: Re: "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: prapasri AH ที่ 05 พฤศจิกายน 2552, 09:19:24
 น้องปุ๊กกี้ ขาอาทิตย์นี้ พี่แอ๊ะเข้ากทม.

ว่าจะไปเยี่ยมคุณหญิง พี่หลุยส์  เรื่องจิงนา หุๆๆๆๆๆ

คงไปนั่งเงียบๆเก็บข้อมูลลลลลลลลลลลลลล อิๆๆๆๆๆๆ


เอาภาษาลาวต่อ ดีก่านะ น่ารักกว่าเยอะเลย

เมื่อวาน ข้ามไปสองสามตัวอักษรที่อ่านเหมือนไทย
 เอาที่แปลกๆ ขึ้นมาก่อน

น้องไข่มุก น้องเหยง มาเรียนกันต่อนะจ๊ะ

น้องหนุน21 ล่ะมาเรียนด้วยซี  หายไปไหน หลายวันคะ

(http://img215.imageshack.us/img215/6956/47676556.jpg)



ซอ ซ้าง ค่า


หัวข้อ: Re: "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: prapasri AH ที่ 05 พฤศจิกายน 2552, 09:21:31
ด.เด็ก นี่ก็เหมียน พี่ไทย....อ่ะ

(http://img410.imageshack.us/img410/3467/32298660.jpg)


หัวข้อ: Re: "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: prapasri AH ที่ 05 พฤศจิกายน 2552, 09:27:49
ถ. ถุง แบกขน เหมือนพี่ไทยเยยยยยยยยยยยยย

รีบปั่นส่งให้เรียนกันนะ

(http://img294.imageshack.us/img294/1626/97969279.jpg)

จะได้รับปริญญา ไม่แก่เป็น "สาว ค้างคาเฮือน"  (แปลว่า ขึ้นคาน ) แสดงว่าสาวลาวขายไม่ออกก็มีเหมียนกัลลลลลลลลลลลลลล


หัวข้อ: Re: "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: prapasri AH ที่ 05 พฤศจิกายน 2552, 09:34:09
ของเรามี ทอ ทหาร อดทน (ปรัตตยุบัน ไม่ค่อยอดทนซะแล้ว และมิ ทน-อด ล่วยยยยยยยยยยยยยย)

เขามี ทอ-ธง น่ารักไม๊

(http://img175.imageshack.us/img175/1816/89797152.jpg)

พรุ่งนี้ พี่แอ๊ะ จะเจอบิ๊กบัง ทานข้าวกันค่ะ

น้องปุ๊กกี้จะฝากอะไรถึง ลุงบิ๊กบังบ้างจ๊ะ

อ๋อ.... เมื่อเสาร์ที่แล้ว เจอ บิ๊ก ตท10 หลายบิ๊กs

ลืมบอกบิ๊กจ๊อก ว่า น้องปุ๊กกี้ ฝากฟามคิดถึง (ฮา)55555555555555555

เด่ว พี่แอ๊ะโดนเขกศีรษะ ตาย พี่ป๋องช่วยได้หรือเปล่าหนอ


หัวข้อ: Re: "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: prapasri AH ที่ 05 พฤศจิกายน 2552, 09:39:37
รีบปั่นค่ะ

ต้องไปทำงาน ไม่เหมือนพี่อ้อย กรองละ ออน

เป็นคุณนาย ฝาละมีเลี้ยงดี เป็นคุณนาย อย่างเดียว หาสามีได้ดีก็ วาสนา อย่างนี้แหละ อิๆๆๆๆๆๆๆๆๆ

(http://img294.imageshack.us/img294/2997/25364138.jpg)


หัวข้อ: Re: "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: เหยง 16 ที่ 05 พฤศจิกายน 2552, 20:57:09
พี่แอ๊ะครับ

ตามมาอ่านแล้วครับ แล้วตัวสุดท้านนี่อ่านยังไงครับ นกหรือ นุก กันแน่

อ๋อ ตกลงไทยเรียกเอกอัครราชฑูตไทยประจำกัมพูชากลับประเทศในวันนี้แล้วครับ ไม่ทราบว่าเขาจะตอบโต้อะไรอีก


หัวข้อ: Re: "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: ตุ๋ย 22 ที่ 05 พฤศจิกายน 2552, 21:35:44
เหอๆๆๆๆๆ  ผมไปลาวหลายครั้ง  อ่านเบียร์ลาวเป็นเขยลาวทุกที


หัวข้อ: Re: "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: Kaimook ที่ 05 พฤศจิกายน 2552, 21:38:57
อยากรู้จังนะคะพี่เหยง emo4:)) emo4:)) emo4:))


หัวข้อ: Re: "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: prapasri AH ที่ 05 พฤศจิกายน 2552, 22:17:33
เหยงจ๋า

อ่านว่า น.นกค่ะ

น้องไข่มุกคะ  พี่แอ๊ะว่า อีตาฮุนเซ็นนี่ชักจะกำเริบใหญ่แล้ว

เขามีประเทศอื่นได้พึ่งพามาก เขามองไม่เห็นไทยเราหรอก

เงินช่วยเหลือจากต่างชาติ จาก UN จาก ประเทศที่เป็นกลางๆ เขาก็ช่วยมา ให้เขมร มาก จริงๆ

รัฐบาลเขาเฟื่องฟูมานานนักแล้ว ปล่อยให้ประชาชนยากจนมาขอทานในไทย

สังเกตอี ตาฮุนเซ็นซิ แต่ก่อนผอมแห้งแรงน้อย

ตอนนี้ ยังกะมาเฟียหญ่ายยยยยยยยยยย


ขอไปนอนแล้วล่ะ "บรรทมเกษม" นะคะน้องไข่มุก


หัวข้อ: Re: "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: iamfrommoon ที่ 05 พฤศจิกายน 2552, 22:19:48
ราตรีสวัสดิ์ค่าพี่แอ๊ะ...

เมื่อกี้ดูข่าว...รัฐบาลฯ เีรียกตัวเอกอัครฯ ณ ฮุนเซนกลับ อิอิ


หัวข้อ: Re: "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: prapasri AH ที่ 06 พฤศจิกายน 2552, 06:48:33
ทักษิณ พลาดมาก งานนี้ คะเเนนนิยมในอิสานดีๆมากอยู่เลย

แต่หากเล่นเอาประเทศชาติ ให้เขมรมาย่ำยี คนอิสานที่รักทักษิน

เขาย่อมรักประเทศชาติมากกว่าคุณทักษินคนเดียว จริงแมะ

 "ไทยนี้รักสงบ แต่ถึงรบไม่ขลาด ฮุนเซ็นเอ๋ย...."

ทำไมคุณทักษินจึงต้องเอาประเทศชาติ ทั้งประเทศ มาให้เกิดปัญหากับประเทศเพื่อนบ้าน

สร้างความแตกแยกไม่รู้จบ นครรัฐปัตตานี งี้ คิดได้ยังไง...

คนอิสานก็มีสมองเหมือนกัน คุณทักษินเอ๋ย......

พี่แอ๊ะ ว่าจะไม่ยุ่งการเมืองแล้วนา เรามีเพื่อนทุกพรรค......

แต่อดไม่ได้จริงๆ งานนี้......


หัวข้อ: Re: "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: iamfrommoon ที่ 06 พฤศจิกายน 2552, 07:43:39
เห็นด้วยอย่างยิ่งค่า คนที่ดำเนินการเรื่องนี้ไม่ว่าคนไทยหรือคนติดรั้วบ้านเราก็แปลก
ระดับนี้แล้วจะไม่รู้เลยเหรอว่า มันจะเกิดอะไรขึ้นต่อไป...
ไม่ต้องเป็นนักการเมืองชาวเราๆ ธรรมดา อ่านเกมส์ยังรู้เลย...ให้เขาจูงอยู่ได้...
หรือว่า เต็มใจเพราะ Dollar แบบว่า หนามาก 555

ยกมือเห็นด้วย คนอุบลส่วนใหญ่เห็นแล้ว โอ้...ไม่เวิร์คนะไม่เวิร์ค...ยิ่งบ้านน้อง หุหุ...คุยกันเรื่องคนนี้ทีไร ออกรสชาติทุกที

ปล.คุณพ่อเป็นทหาร คุณลุงเป็นทหาร...บ้านนี้ทหาร...อิอิ


หัวข้อ: Re: "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: prapasri AH ที่ 07 พฤศจิกายน 2552, 20:56:59
น้องๆคะ

พีเกษม จันทร์น้อย  ให้พี่แอ๊ะเขียนเรื่องราว เกี่ยวกับจุฬา เพือ่ลงหนังสือจุฬาลงกรณ์ ปีนี้ พี่แอะเลยเขียนเรื่องนี้ส่งไปค่ะ

พี่เษม บอกให้เขียนหลายเรื่องก็ได้

กำลังเขียนอีกเรื่องหนึ่งค่ะ

พีน้องท่านใดมีความประทับใจ อะไรเกี่ยวกับจุฬา ต้องการ เขียน เรื่อง ให้พี่แอ๊ะส่งไปให้อาจารย์เกษม จันทร์น้อย พี่แอ๊ะก็ยินดีค่ะ


หัวข้อ: Re: "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: prapasri AH ที่ 07 พฤศจิกายน 2552, 21:51:23
                                                                          
                                                                         





                              ชาวหอ ชาวหอ จุฬา สดใสเริงร่า  เมื่อเรา ได้มาพบกัน                               


(http://img81.imageshack.us/img81/6551/15843675.jpg)
   

                                                        โดย ประภาศรี (วิริยพันธ์) สุฉันทบุตร ครุ  13

                      
                     
                                       
                                 -ประธานกรรมการบริหารบริษัทในกลุ่มโรงพยาบาลหาญอินเตอร์เนชั่นแนล

                                - รองนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดยโสธร                                                                                                                                                           

                            



                  ดิฉันได้เข้าเป็น นิสิตน้องใหม่จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย เมื่อปี 2513   เกือบ 40 ปีมาแล้ว แต่ภาพทุกภาพในจุฬายังอยู่ในความ ทรงจำ

          ดิฉัน เป็นคนต่างจังหวัด จบชั้น ม ศ 3  จากโรงเรียนเกาะสมุย ที่ อ.เกาะสมุย  จ. สุราษฎร์ธานี มาสอบเข้าโรงเรียนเตรียมอุดมศึกษา

           สมัยนั้น นักเรียนจาก สมุย จะเรียนเก่ง คุณครูจะติวให้ได้มาสอบเข้าโรงเรียนเตรียมอุดมศึกษา 
 
                 นักเรียนผู้ชายส่วนใหญ่ ก็จะถูก ติว ให้เข้าโรงเรียนเตรียมทหาร 

           ใน ปีหนึ่งๆ นักเรียนจากโรงเรียนเกาะสมุย จะเข้าโรงเรียน เตรียมอุดมศึกษา ได้หลายคน

       

      เมื่อ เรียนที่โรงเรียนเตรียม  ได้ นั่งรถผ่านหอพักนิสิตหญิงจุฬาทุกวัน และคิดว่า ถ้าเข้าจุฬาได้ต้อง มาเข้าอยู่หอพักนี้ให้ได้  เพราะว่าถ้าได้

เรียนจุฬา ได้อยู่หอพักของมหาวิทยาลัย ก็จะเป็นนิสิตจุฬาที่สมบูรณ์แบบ

(http://img410.imageshack.us/img410/3430/10099167.png)

   
           เดิมหอพักนิสิตหญิง ชื่อหอเจ้าจอม เป็นของ เจ้าจอมใน รัชกาลที่ห้า ชื่อ "เจ้าจอม แส " ท่าน ประทานให้เป็นสมบัติ ของจุฬา   

เราจะเรียกกันว่า “ หอเจ้าจอม”  ปัจจุบัน หอพักเจ้าจอมนี้ ไม่มีแล้ว ได้ถูกรื้อ และสร้างเป็นส่วนหนึ่งของ ศูนย์การค้า มาบุญครอง

ซึ่งก็เป็นทรัพย์สินของจุฬา จุฬาเป็นมหาวิทยาลัยเเรกที่มีสำนักงานทรัพย์สิน เพื่อ นำ ทรัพย์สินต่างๆของจุฬา

โดยเฉพาะที่ดิน มาหารายได้ เช่นให้ ภาคธุรกิจมาเช่าเฉพาะ ที่ดินไป ทำประโยชน์ทางธุรกิจ  

 จุฬา จึงมี รายได้ที่หามาได้เอง มากกว่ามหาวิทยาลัยอื่นๆ ไม่ต้องรองบประมาณจากทางราชการแต่เพียงอย่างเดียว 

 จุฬา จึงเป็นสถาบันการศึกษา ที่มีงบประมาณมาก ทำให้สามารถสร้างความเป็นเลิศทางวิชาการ และมีทุกอย่างพร้อม

ในการเป็นมหาวิทยาลัย ที่พัฒนา เป็นมหาวิทยาลัย อันดับหนึ่งของประเทศตลอดมา

 
ที่ดินของจุฬา แต่เดิมเรียกว่าทุ่งพญาไท ซึ่งในหลวงรัชกาลที่ ห้า ได้ตั้งโรงเรียนมหาดเล็กหลวงรักษาพระองค์  ขึ้นมา

โดยมีพระราชดำรัสใจความว่า

                                 


หัวข้อ: Re: "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: prapasri AH ที่ 07 พฤศจิกายน 2552, 22:00:12
                                                                         

                                                                                  2


“นับแต่นี้ต่อไป ลูกฉัน ลูกชาวบ้าน ลูกชาวนาชาวไร่ ลูกไพร่ฟ้าข้าแผ่นดิน จะได้มีโอกาสเข้ามาศึกษาในสถานศึกษาแห่งนี้โดยเท่าเทียมกัน”   

  และพระองค์ท่านได้พระราชทาน ที่ดินตรงทุ่งพญาไท จำนวนเป็นพันไร่ ให้กับสถานศึกษาแห่งนี้

   ต่อมาในสมัยรัชกาลที่ หก ท่านได้ พระราชทานนามสถานศึกษาแห่งนี้ เพื่อเป็นอนุสรณ์แห่งในหลวง รัชกาลที่ห้า  ว่า

                                               
                                                                “จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย”   
   
   

 การเป็นนิสิตหญิง ของหอพักจุฬา เข้ามาอยู่ได้ยากมากเพราะสมัยนั้น หอพักนิสิตหญิง รับนิสิตได้เพียง150 คนเท่านั้น 

 การรับนิสิต เข้าพักในหอพักหญิง จะต่างกับ หอพักนิสิตชาย

    ดิฉันทราบว่า หอพักนิสิตชายจะพิจารณาจาก นิสิตที่มีความยากลำบากและขาดแคลนเป็นอันดับแรก เพราะ

      มหาวิทยาลัย ต้องการช่วยเหลือ นิสิต ที่ยากลำบาก จากต่างจังหวัด

  แต่ หอพักนิสิตหญิง อาจารย์แม่บ้าน และอาจารย์ อนุสาสก จะสัมภาษณ์ นิสิตหญิงอย่างละเอียดมาก อาจารย์ท่านต้องการนิสิต ที่ขยันเรียน

 มีกิริยามารยาทเรียบร้อย ไม่ดื้อ ไม่เกเร เพราะอาจารย์ต้องดูแล อบรมบ่มนิสัยเรา ตลอดเวลา  และที่สำคัญต้องมีเงินพอที่จ่ายค่าหอพักและค่าอาหาร

ซึ่งนิสิตหญิง ที่อยู่หอพักจะต้องรับประทานอาหารที่ทางหอพักด้วยจัดให้ด้วย วันละ 2 มื้อ คือมื้อเช้ากับมื้อเย็น  นับว่าเป็นเรื่องที่ดีมากๆ นิสิตหญิงหอ

พักจุฬาจะผูกพันกับหอพักนิสิตหญิงมาก และ อยู่ กินนอน กันเหมือนนักเรียนประจำ ตื่นนอน ลุกขึ้นมา หลังจากอาบน้ำแต่งตัวแล้ว

ต้องมาทานอาหารพร้อมๆ กันเวลา 7-8โมงเช้า  ตอนเย็นก็จะได้ทานอาหารเย็น 6โมง ถึง 2 ทุ่ม และจะไปเที่ยว เกเรไม่ได้ พอเวลา

 สองทุ่มทุกคนต้องเข้า อยู่ในหอพักแล้ว

 ถ้ามีแขกมาเยี่ยมก็จะมีโถง กลางหอพัก และมีโต๊ะ ให้นั่งคุยกับแขก ถ้าสองทุ่มแล้วแขกต้องกลับ  อาจารย์แม่บ้านจะมาเดินบอกแขกว่า “กลับได้แล้ว” 

    "หอจะปิดประตูแล้ว" 

มียาม คอยเฝ้าดูพวกเราด้วย  ถ้าวันไหนเรามีธุระ ต้องกลับหอเกิน 2ทุ่ม ต้อง เขียนใบขออนุมัติ ให้อาจารย์แม่บ้านอนุมัติ ว่าจะไป

ไหน ไปอยู่ที่ไหน และจะกลับเมื่อไร  ต้องขออนุมัติไว้ก่อนประมาณ 3 วัน จึงจะได้รับการอนุมัติ 

 ต้องมี คำตอบ  ว่า “อนุมัติ” ก่อน จึงจะไปข้างนอกแล้วกลับดึกได้
   

      ดิฉัน คิดว่าเป็นสิ่งที่ ดีมาก ทำให้เราเป็นคนดี ไม่เหลวไหล และมีระเบียบวินัย  การรับประทานอาหาร โรงครัวหอหญิงสะอาดสะอ้าน 

เวลารับประทานอาหารต้องมีผ้ารองจาน ผ้าเช็ดมือ ต้องล้างมือ ก่อนทานอาหาร ต้องใช้ช้อนกลางในการรับประทานอาหาร

ซึ่งติดเป็นนิสัย กันมาจนถึงทุกวันนี้


โดยเฉพาะเมนูอาหารของหอพัก ได้กลายเป็นเมนูอาหารประจำบ้านของดิฉันในทุกวันนี้ด้วยเช่นกัน จะมีอาหารเช้าเป็นข้าวต้มเครื่อง หรือข้าวต้ม

กับข้าว สลับกัน และต้องมี ชา หรือกาแฟ ส่วนใหญ่เราจะทานชากัน เป็นชาร้อน แบบที่ใส่นม  เป็น English tea หรือเรียกว่า thai tea ในปัจจุบัน

(http://img222.imageshack.us/img222/7708/11926298.jpg)


หัวข้อ: Re: "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: prapasri AH ที่ 07 พฤศจิกายน 2552, 22:06:18
                                               
                                                                             3.



อาหารเย็นก็ มีแกงเผ็ดเป็ดย่าง  แกงเขียวหวาน หมูผัดขิง น้ำพริก อ๋อง หรืออาหารที่อร่อยมากๆ ซึ่งเป็นอาหารที่ดิฉันรับประทานเคยชิน ติดมาจนถึง

ปัจจุบัน
 

หอพักจุฬา ให้เราหลายอย่างมาก มีกิจกรรมในหอพัก มีกรรมการหอพัก ให้เราฝึกการเป็นผู้นำ ฝึกการทำงาน ที่สำคัญที่สุด ฝึกการอยู่ร่วมกับคนอื่นๆให้

ได้  มีมนุษยสัมพันธ์ กับคนอื่น เอื้ออาทรซึ่งกันและกัน เพราะเราเป็นนิสิตต่างจังหวัดมาอยู่กรุงเทพ เป็นคนต่างจังหวัดด้วยกัน จึงรักกัน ดูแลกัน และ

ผูกพันกันมากๆ โดยเฉพาะ ความเป็น seniority  และ sotus ของจุฬา เราจึงเรียนรู้ได้สิ่งดีๆ ได้ความรักความผูกพัน ความเคารพ ความมีอาวุโส

 ความมีน้ำใจ  มีประเพณี ที่หล่อหลอมกันมา เป็นสิ่งงดงาม ของความเป็นจุฬา


        ที่สำคัญที่สุด การได้อยู่หอพักจุฬา ทำให้ มีเพื่อนๆมา จากทุกจังหวัด ของประเทศไทย และ สนิทกับเพื่อนๆทุกคณะในจุฬา เพราะถ้าเรียนอยู่ใน

คณะก็จะสนิทกันเฉพาะเพื่อนในคณะ แต่อยู่หอพักจุฬา จะมีเพื่อนอยู่ทุกคณะ และเป็นเพื่อนที่รักกันมากๆ เพราะกินนอน อยู่ด้วยกันถึงสี่ปี   

เป็นประสบการณ์ในชีวิตที่หาไม่ได้อีกแล้ว
 
จากประสบการณ์ที่ได้อยู่ในหอพัก และทำกิจกรรมต่างๆ เมื่อจบการศึกษา มาทำงานร่วมกับบุคคลอื่นๆ ก็จะ เข้าก็ผู้คนได้ง่าย  และเข้าใจ คนอื่น ๆ ได้

มาก  เพราะเรามีประสบการณ์ในการใช้ชีวิตกับคนหมู่มากมาแล้ว ทำให้เข้าใจโลก เข้าใจคนอื่น และปรับจิตใจและพฤติกรรมของตนเอง เพื่อให้เข้า

สังคมรอบข้างได้
 
เหตุการณ์ที่ประทับใจมาก จำได้ว่ามีเหตุการณ์หนึ่ง ซึ่งซีเรียสมากในสมัยนั้น ไม่ทราบจะ sensitive ไปหรือเปล่าถ้าดิฉันจะเล่าให้ฟัง  คือ มีช่วงที่

อิหร่าน มีเรื่องกับอิสราเอลในประเทศไทย แล้วมีการบุกรุก สถานทูตกันขึ้น ในตอนกลางคืน  จำได้ว่า เป็นเวลาที่เกิดขึ้นกระทันหัน ในตอนกลางคืน

อาจารย์ ต้องให้ นิสิตที่อยู่หอพัก ไปประท้วงโดยสันติวิธี ไปนั่งกัน โดยสงบ โดยสันติ  และพวกเราได้ มีโอกาส เข้าเฝ้า พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว

ที่วังสวนจิตรลดา ในตอนกลางคืน ดิฉันภาคภูมิใจมากที่ได้ร่วมกิจกรรมนี้ ได้มีโอกาส ได้ไปนั่งตรงบันได ของพระราชวัง จำได้ว่า มี ตู้ปลา ตรงทาง

พระราชดำเนินทาง เข้าไปในพระตำหนัก ซึ่ง ยังติดตา ยังอยู่ในความทรงจำมิอาจลืมเลือนได้ แม้เวลาจะล่วงเลยมาเกือบ40 ปีแล้ว
 

 สมเด็จพระนางเจ้า ได้เสด็จพระราชดำเนินมาทักทาย และจูงพระหัตถ์เจ้าฟ้าชาย คือสมเด็จพระบรมโอรสาธิราชสยามมกุฎราชกุมาร มา และ สมเด็จ

พระนางเจ้า ตรัสว่า “นี่ลูกชาย จ๊ะ”

 และ ได้รับ พระราชทาน อาหาร ให้กับพวกเรา ดิฉัน ได้รับพระราชทานอาหารกล่องจากสมเด็จเจ้าฟ้าหญิงจุฬาภรณ์วลัยลักษณ์ จำได้ว่า พระหัตถ์ท่าน

งามมาก ผิวเปล่งปลั่งเป็นสีชมพูยังจำได้ติดตา

เรา ยังเด็กๆมาก ตอนนั้น จำรายละเอียดของเหตุการณ์ได้ไม่ ละเอียดมากนัก แต่จำได้ว่าเหตุการณ์สงบลงได้ด้วยดี ในคืนนั้น


หัวข้อ: Re: "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: prapasri AH ที่ 07 พฤศจิกายน 2552, 22:10:35
                                                        4

 
       อีกเรื่องหนึ่ง ที่เป็นความภาคภูมิใจของดิฉันคือ ดิฉันได้ มีโอกาสเป็นหนึ่งในคณะผู้จัดตั้ง ค่ายอาสาสมัครของหอพักนิสิตจุฬา  ดิฉันได้เป็นชาว

ค่าย ของสโมสรนิสิตจุฬา (สจม.) เมื่อเข้าปีหนึ่ง  พอปีสอง กรรมการนิสิตหอพัก อยากให้ชาวหอจุฬาทั้งหอหญิงและหอชาย ได้ทำกิจกรรม ค่ายอาสา

พัฒนาบ้าง เราได้จัดตั้งชมรมค่ายหอพักได้สำเร็จ และไปค่ายแรกที่ บ้านเหล่า ต.ดงเสลา อ. เดิมบางนางบวช จ. สุพรรณบุรี 

(http://img410.imageshack.us/img410/2860/11460082.jpg)

   ตอนนั้น กันดารมาก ต้องทานยากัน ไข้มาเลเรียไปก่อน  นั่งรถไฟ ไปลงที่ จ.กาญจนบุรี  และนั่งรถบรรทุกเข้าไปในหมู่บ้าน 

 ไม่นานมานี้ พวกเรา ชาวนิสิตเก่าหอพักจุฬา ได้ไปเยี่ยมหมู่บ้านนี้ เจริญมากแล้ว

ไม่มีร่องรอยของความยากลำบากในอดีตเหลืออยู่ จำภาพเก่าไม่ได้เลย

แต่ชาวบ้านซึ่งอายุมากแล้ว ยังจำพวกเราได้  ดิฉันซาบซึ้งมาก

 เมื่อไปเยี่ยมแล้วพบว่า ชาวบ้านหลายท่านยังจำ ดิฉัน และชาวค่ายหอพักนิสิตจุฬาได้  และคอยตามข่าวพวกเราด้วย
 
 (http://img142.imageshack.us/img142/1465/1413c.jpg) 

 เราโชคดีที่เป็น “จุฬา”  ส่วนใหญ่เราจะมีสายสัมพันธ์ ที่ดีกับพี่ๆน้องๆ เพื่อนๆจุฬา
   
เมื่อไปที่ไหน ถ้า มีพี่จุฬาที่ไปรับราชการ แถวนั้น พี่ๆก็จะมาคอย ต้อนรับให้ความช่วยเหลือในหลายๆอย่าง

            เมื่อ ดิฉัน เรียน ปี 3 ก็ได้เป็นประธานค่าย ฝ่ายหอพักหญิง โดยมาสร้างค่าย สร้างโรงเรียน ที่

 อ.ห้วยแถลง จ. นครราชสีมา  นี่เป็นสาเหตุหนึ่งที่ทำให้ดิฉันและสามี มีความตั้งใจอยากมาช่วยเหลือพี่น้องชาวอิสานเมื่อเราจบการศึกษาจากจุฬาแล้ว
     
 สำหรับดิฉันเอง มีวันนี้ได้เพราะ  จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย  สามี ก็เป็นชาวหอจุฬา เป็นหมอจุฬา และเราเจอกันเพราะทำงานค่ายอาสาสมัคร ด้วยกัน 


  จุฬามีกิจกรรมต่างๆ  บ่มเพาะ เรามาตลอด ให้เรา ทำงานเพื่อประเทศชาติ  ให้เรารับใช้ประชาชน  และให้ออกมาพัฒนาชนบท และสอนให้เราทราบ

ว่า เงินที่เรา ได้เรียนจบจุฬานั้น นอกจากเงินที่พ่อแม่ส่งให้เราแล้ว ยังเป็นเงินภาษี ของประชาชน เพราะการลงทุนสร้างนิสิตแต่ละคนให้เรียนจบนั้น

จุฬา และ ประเทศชาติต้องลงทุนให้เรา มากทีเดียว

เราจึงต้องสำนึกอยู่ตลอดว่าเราต้องเป็นบัณฑิต จุฬาที่ดี และต้องทำตัวให้เป็นประโยชน์สำหรับประเทศชาติ และสำนึกในพระมาหากรุณาธิคุณ ของ

ในหลวง รัชกาลที่ ห้า และรัชกาลที่ หก และพระบรมราชวงศ์ทุกพระองค์
 
         “ เกียรติของจุฬาคือ เกียรติแห่งการรับใช้ประชาชน”                 
                           
                            ชาวจุฬาจะสำนึกถึงเรื่องนี้ตลอดมา






หัวข้อ: Re: "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: prapasri AH ที่ 07 พฤศจิกายน 2552, 22:14:24

                                                                               5


(http://img291.imageshack.us/img291/1909/18754341.jpg)



สำหรับชาวหอพักนิสิต จุฬา ยังติดต่อเชื่อมโยงกันเป็น พี่น้องจุฬากันอยู่ตลอด เป็นพี่น้อง ที่ผูกพันกันมาก ชาวหอพักจุฬา จะไปทำงาน

ประกอบอาชีพ ทั่วไปทั้งกรุงเทพและต่างจังหวัด และทั่วโลกด้วย  พอบอกว่าเป็นชาวหอจุฬาเราก็พูดภาษาเดียว อาจจะเป็นเพราะเรา มาจากต่าง

จังหวัดเป็นคนบ้านนอก ในสมัยนั้นมาด้วยกัน และได้มีโอกาสที่ดีมากของชีวิต คือได้เรียนในจุฬา และได้ ออกมาเป็นบัณฑิตที่เราคิดว่าเราจะทำแต่สิ่ง

ดีๆ ให้กับสังคมและประเทศชาติ

(http://img525.imageshack.us/img525/7166/58321828.jpg)


ปัจจุบัน นิสิตเก่าหอพักจุฬา  เรามีเวบไซด์ ที่ติดต่อกันได้ ทั่วโลก คือ
 
www. cmadong.com  ชาวหอจุฬา จะเรียกตัวเองว่าเป็น “ชาวซีมะโด่งจุฬา”

ซึ่งไม่ทราบแน่ชัดว่า คำว่าซีมะโด่ง แปล มาจาก อะไร

(http://img145.imageshack.us/img145/1345/67900980.jpg)

 
ชาวหอจะมีชมรมนิสิตเก่าหอพัก บางปี ประธานชมรม ทำงานอยู่ที่เวอร์จิเนีย สหรัฐอเมริกา ก็เป็นประธานชมรมได้เพราะติดต่อกับชาวหอได้กัน

ตลอด 24 ชั่วโมงทุกวัน

        ปีนี้  ชาวหอจุฬา จะนัดสังสรรค์ใหญ่กันทุก สองปี ปีนี้ ก็จะจัด ยิ่งใหญ่มาก เพราะ ครบ 92 ปีจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยด้วย

                         จะจัดที่หอพักนิสิตจุฬา
               
                                          วันที่ 21 พ.ย 2552  ชื่องานว่า

                         “ ถวิลหาเพื่อนเก่า คืนสู่ ถิ่นแผ่นดินแม่  92 ปีจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย”

                       จึงขอเรียนเชิญ นิสิตเก่าหอพักจุฬา และนิสิตเก่าจุฬา ทุกท่าน เข้าร่วมงานนี้ในบรรยากาศ

                                     “ณ.อุทยานนี้งามด้วยจามจุรี”   ด้วยนะคะ




                                                     prapasrisu@hotmail.com
                                                 
                                                      cc  :  prapasri@drhann.com
                                               
                                                   cc :  prapasri@ymail.com[/color


(http://img517.imageshack.us/img517/7996/98992551.jpg)


(http://img410.imageshack.us/img410/4778/62884851.jpg)



หัวข้อ: Re: "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: suriya2513 ที่ 07 พฤศจิกายน 2552, 23:32:50
จะได้รับรางวัล "ชาวหอฯเกียรติคุณพระเกี้ยวแก้ว" ก็เพราะบทความข้างบนนี้แหละ...


หัวข้อ: Re: "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: prapasri AH ที่ 08 พฤศจิกายน 2552, 07:41:04
ขอบคุณที่อ่าน นะจ๊ะ น้องกระป๋อง

ช่วยหารูปหอ สมัยเก่าส่งมาให้ฉันหน่อยดิ จะได้เป็นภาพประกอบ

จะอ่านได้ไม่น่าเบื่อ

ขอรูปเธอด้วยนะ รูปที่หน้าเหมือนราเกซ เอ๊ยไม่ใช่ หน้าเหมือนน้องโจร น่ะ


หัวข้อ: Re: "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: iamfrommoon ที่ 08 พฤศจิกายน 2552, 09:08:51
พี่แอ๊ะขา...

คืนสู่เหย้าปีหน้าเตรียมเขียนได้เลยนะคะ ตามที่เคยคุยไว้เกี่ยวกับหอที่เคยอยู่พอดีว่า สูจิับัตรปีนี้ตามที่เคยบอกพี่ว่า เขาว่า เนื้อที่ไม่พอแล้ว....

อ่านๆ นี่ถ้าไม่บอกว่า ลงหนังสือจุฬาฯ นึกว่าเป็นเรื่องที่เราคุยกันไว้เสียอีกนะคะ เพราะ เน้นการอยุ่หอด้วย ยอดเยี่ยมเลยค่า



หัวข้อ: Re: "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: prapasri AH ที่ 08 พฤศจิกายน 2552, 11:10:53
ขอบคุณน้องปุ๊กกี้ที่แวะมาอ่าน   บ่ายๆ หรือพรุ่งนี้ พี่แอ๊ะติดต่อเรื่อง sms ได้ แล้วจะโทร หา ปุ๊กกี้นะคะ

ตอนนี้คนส่ง sms ยังไม่รับสายค่ะ

พี่แอ๊ะปั่น กระทู้จนมือสั่นไปหมด เพราะส่ง ภาพ ประกอบเรื่องไม่เป็น ค่ะ

และต้องรีบไปทำงานด้วยค่ะ

อยากให้น้องหนุน21 น้องไข่มุก น้องหะยี เหยง และน้องๆแฟนคลับพี่แอ๊ะทุกท่าน

มาอ่านด้วย และช่วยเพิ่มเติมถ้าขาดตกบกพร่อง หรือต้อง

แก้ไขอะไรบ้าง

น้องตุ๋ย  น้องปรอทปลาทูแมน มาเยี่ยมบ้านนี้ด้วยนะคะ หายไปหลายปรอท เอ๊ยหลายวันแล้วนะคะ



หัวข้อ: Re: "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: prapasri AH ที่ 08 พฤศจิกายน 2552, 11:22:25
(http://img233.imageshack.us/img233/4376/81239859.jpg)


หัวข้อ: Re: "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: เหยง 16 ที่ 08 พฤศจิกายน 2552, 12:23:06
พี่แอ๊ะครับ

ผมเข้ามาอ่านแล้วครับ

และไม่มีข้อความใดให้แก้ไขเลยครับ?? ขออนุญาตขยับภาพที่สอง ในห้องที่ 5 เท่านั้นครับ

ส่วนตัวหนังสือและแถวบรรทัด ยังคงไว้เช่นเดิมก่อนครับ



หัวข้อ: Re: "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: prapasri AH ที่ 08 พฤศจิกายน 2552, 13:04:26
เหยงจ๋า ที่ยากมากคือพี่พยายามจะ โหลด รูปพี่กะป๋อง ศีรษะ โป๊งเหน่ง ถ่ายร่วมกับสาวหอหญิง13แต่ โหลดเท่าไร

ก็ error ทุกครั้งค่ะ สงสัยท่านดร . แกเเช่งไว้แหง๋แก๋


หัวข้อ: Re: "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: dd_2530 ที่ 08 พฤศจิกายน 2552, 13:20:40
พี่แอ๊ะเขียนได้ดีเยี่ยมค่ะ อ่านแล้วรู้สึกภูมิใจยิ่งนักที่ได้เป็นชาวหอซีมะโด่งค่ะ


น้องแอ
ศิลปกรรมศาสตร์ 2530


หัวข้อ: Re: "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: krongon2513 ที่ 08 พฤศจิกายน 2552, 13:38:15
เพื่อนแอ๊ะของฉัน
ฉันอ่านแล้วตื้นตัน น้ำตาพาลจะไหล
ฉากหนึ่งของชีวิตเธอ  คือฉากหนึ่งของชีวิตฉัน

การสอบเข้ามาเป็นนิสิตอักษรจุฬา..แสนยาก
แต่การได้อยู่หอพักนิสิตหญิง...ยากกว่าหลายเท่า

กว่าจะผ่านสัมภาษณ์ แถมวัดดวงด้วยการจับฉลาก ในขณะที่อาจารย์ก็คงประเมินเราอยู่เหมือนกันว่า เด็กคนนี้ ควรรับมาเป็น"ลูกสาว"หรือไม่
การได้มาอยู่หอ ถือเป็นโอกาสสำคัญในชีวิตที่ฉันไม่อาจลืม
ฉันได้เพื่อนที่เหมือนญาติ แถมได้พี่ๆน้องๆอีกมากมาย มีอาจารย์ที่ขัดเกลา อบรม ดูแล เหมือนพ่อแม่

ไม่ต้องสงสัยเลยที่ฉันเจ็บปวดขนาดไหนที่เห็นน้ำตาของเธอยามถูกหอชายรังแก
เราผ่านร้อนหนาว และร่วมทุกข์ร่วมสุขมาด้วยกัน ว่าไงต้องว่าตามกัน..เย้
ว่าแต่ว่า  งานหออ่ะ  จะมาไหมคะ จุนนาย




หัวข้อ: Re: "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: dd_2530 ที่ 08 พฤศจิกายน 2552, 13:48:28
สวัสดีค่ะพี่อ้อย

พี่แอ๊ะเขียนประชาสัมพันธ์งานหอฯปิดท้ายเยี่ยงนี้แล้ว คงไม่พลาดแน่นอน  ใช่มั้ยคะ  พี่แอ๊ะ




หัวข้อ: Re: "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: prapasri AH ที่ 08 พฤศจิกายน 2552, 14:01:27
คุณนาย อ้อยกรองละออน

ฉันอ่านที่เธอตอบมา ฉันน้ำตาไหล เลยล่ะ

หอชายรังแก ฉันไม่กลัวหรอก ฉันสู้ได้ แต่ซาบซึ้งตอนฉันอกหัก แล้ว พวกเธอช่วยมาปลอบน่ะอิๆๆๆ ฮือๆๆๆๆ

แต่เวลาฉันมีความรักซาบซ่า ฉันก็ไปซ่าคนเดียว พวกเธอก็แอบเมียงมอง

อกหักมาเมื่อไร....จะรุมหยิกฉันกันอีกแน่ะ

(เขียน แล้ว โพสต์ดีไหมน่ะ เด่วฟามลับแตกหมด คนไม่นับถือแหง๋แก๋)


ฉันซนจริงๆ แต่เวลา อาจารย์สัมภาษณ์ ให้อยู่หอต่อหรือไม่ ฉันได้อยู่ต่อทุกที 55555555555555555555


หัวข้อ: Re: "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: prapasri AH ที่ 08 พฤศจิกายน 2552, 14:04:52
จะฟ้องน้องๆ ให้จัดการ พี่ป๋อง

พี่ป๋องรังแก พวกพี่แอ๊ะไม่พอ ยังพา สิงหอมา หักอก เอ๊ย...มารังแกพี่แอ๊ะอีก ฮือๆๆๆๆๆๆๆ


หัวข้อ: Re: "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: prapasri AH ที่ 08 พฤศจิกายน 2552, 14:12:33
น้องแอ 2530คะ

พี่สิงหะ- มานพ อีกคนหนึ่ง

จะดุพี่แอ๊ะ ยิ่งกว่าพ่อพี่แอ๊ะอีกแน่ะ

เวลาพี่แอ๊ะแต่งตัวไม่เรียบร้อย พี่สิงห์จะโกรธ555555555555555

หาว่าพี่แอ๊ะ แต่งตัวเว่อ

 "ทำไมเธอใส่เสื้อแบบนี้" 

"แต่งตัวให้เรียบร้อยหน่อยซิ"

เรื่องนี้ เกิดขึ้นจริงๆ นะคะ พี่สิงห์จะไม่พูดกับพี่แอ๊ะเป็นปีๆเลยค่ะ

สมัยพี่แอ๊ะ หอชาย 13 กับหอหญิง13 ไม่ถูกกันค่ะ เหมือน เหลืองกะแดง ตอนนี้เลยค่ะ

ไปไหนก็ทะเลาะกันทุกที จัดทัวร์ไปเที่ยวเขมร ก็ ทำสงครามกันบนรถทัวร์

 เห็นอะไรไม่ตรงกันซักกะอย่างงงงงงง

 ทะเลาะ กันจนกลับ หอ แทบจะถีบลงจากรถทัวร์ 5555555555555555555

 น้องเชื่อไหมคะ เรื่องจริงนะคะ


หัวข้อ: Re: "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: เหยง 16 ที่ 08 พฤศจิกายน 2552, 15:18:23
พี่แอ๊ะครับ

เพราะรักดอก จึงหยอกเย้า??!!


หัวข้อ: Re: "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: prapasri AH ที่ 08 พฤศจิกายน 2552, 15:24:21
 เหยงจ๋า

พี่ป๋อง พี่สิงห์ เขาคงรักพี่แอ๊ะ และ หญิง 13เหมือนลูก นะ

ดีใจจัง

เราเด็กกว่าเขา อิๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ

เอ.... หรือว่าเค้ารักเราเหมือน แม่ เค้า อ่ะ

กลุ้มซะเเย้ววววววววววววววว


หัวข้อ: Re: "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: เหยง 16 ที่ 08 พฤศจิกายน 2552, 15:34:29
นี่แหละครับ

เฝ้าด้วยความเป็นห่วง จนไม่คิดแต่งงานทั้งคู่เลย!!!
  emo47 emo47


หัวข้อ: Re: "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: Soponเท่านั้น ที่ 08 พฤศจิกายน 2552, 15:47:36
อ้างถึง
ข้อความของ prapasri AH เมื่อ 08 พฤศจิกายน 2552, 14:04:52
จะฟ้องน้องๆ ให้จัดการ พี่ป๋อง

พี่ป๋องรังแก พวกพี่แอ๊ะไม่พอ ยังพา สิงหอมา หักอก เอ๊ย...มารังแกพี่แอ๊ะอีก ฮือๆๆๆๆๆๆๆ

สวัสดีครับพี่แอ๊ะ
มองในแง่ดีก็คือ ทำให้พี่แอ๊ะได้พบ emo4:))และพิสูจน์รักแท้ของพี่หมอหาญ emo6::))นะครับ


หัวข้อ: Re: "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: iamfrommoon ที่ 08 พฤศจิกายน 2552, 18:46:15
อ้างถึง
ข้อความของ krongon2513 เมื่อ 08 พฤศจิกายน 2552, 13:38:15
เพื่อนแอ๊ะของฉัน
ฉันอ่านแล้วตื้นตัน น้ำตาพาลจะไหล
ฉากหนึ่งของชีวิตเธอ  คือฉากหนึ่งของชีวิตฉัน

การสอบเข้ามาเป็นนิสิตอักษรจุฬา..แสนยาก
แต่การได้อยู่หอพักนิสิตหญิง...ยากกว่าหลายเท่า

กว่าจะผ่านสัมภาษณ์ แถมวัดดวงด้วยการจับฉลาก ในขณะที่อาจารย์ก็คงประเมินเราอยู่เหมือนกันว่า เด็กคนนี้ ควรรับมาเป็น"ลูกสาว"หรือไม่
การได้มาอยู่หอ ถือเป็นโอกาสสำคัญในชีวิตที่ฉันไม่อาจลืม
ฉันได้เพื่อนที่เหมือนญาติ แถมได้พี่ๆน้องๆอีกมากมาย มีอาจารย์ที่ขัดเกลา อบรม ดูแล เหมือนพ่อแม่

ไม่ต้องสงสัยเลยที่ฉันเจ็บปวดขนาดไหนที่เห็นน้ำตาของเธอยามถูกหอชายรังแก
เราผ่านร้อนหนาว และร่วมทุกข์ร่วมสุขมาด้วยกัน ว่าไงต้องว่าตามกัน..เย้
ว่าแต่ว่า  งานหออ่ะ  จะมาไหมคะ จุนนาย




สาวๆ รุ่น 13 มาเถอะนะคะ ปีนี้ไม่ตรงกับคอนเสิร์ต AF อิอิ...

อยากคุยกับพี่ๆ อยากพาเขยหอไปแนะนำให้รู้จักพี่ๆ ชาวหอที่รักยิ่งค่า...


หัวข้อ: Re: "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: iamfrommoon ที่ 08 พฤศจิกายน 2552, 18:49:50
อ้างถึง
ข้อความของ prapasri AH เมื่อ 08 พฤศจิกายน 2552, 14:12:33
น้องแอ 2530คะ

พี่สิงหะ- มานพ อีกคนหนึ่ง

จะดุพี่แอ๊ะ ยิ่งกว่าพ่อพี่แอ๊ะอีกแน่ะ

เวลาพี่แอ๊ะแต่งตัวไม่เรียบร้อย พี่สิงห์จะโกรธ555555555555555

หาว่าพี่แอ๊ะ แต่งตัวเว่อ

 "ทำไมเธอใส่เสื้อแบบนี้" 

"แต่งตัวให้เรียบร้อยหน่อยซิ"

เรื่องนี้ เกิดขึ้นจริงๆ นะคะ พี่สิงห์จะไม่พูดกับพี่แอ๊ะเป็นปีๆเลยค่ะ

สมัยพี่แอ๊ะ หอชาย 13 กับหอหญิง13 ไม่ถูกกันค่ะ เหมือน เหลืองกะแดง ตอนนี้เลยค่ะ

ไปไหนก็ทะเลาะกันทุกที จัดทัวร์ไปเที่ยวเขมร ก็ ทำสงครามกันบนรถทัวร์

 เห็นอะไรไม่ตรงกันซักกะอย่างงงงงงง

 ทะเลาะ กันจนกลับ หอ แทบจะถีบลงจากรถทัวร์ 5555555555555555555

 น้องเชื่อไหมคะ เรื่องจริงนะคะ


อ่านแล้วพอนึกออกค่ะ....เชื่อ ฟันธง!

พี่่ิสิงห์จริงๆ ไม่มีอะไร หนุ่มที่ไม่ค่อยมีมุกแบบพี่ป๋อง เลยมักออกมาโต้งๆ แต่ก็ได้สีสันเรานะคะ

บางทียังมีโทร.มาบอก ปุ๊กกี้เธออ้วนมากเลย ออกกำลังกายด้วยนะ...แบบว่า ตรงๆ...แว๊ก รักว่า รักหรอกจึงบอกจริงๆ...แต่ไม่มีอะไร...เราจะทำหรือไม่นั้นแล้วแต่...แต่เรื่องอ้วนนั้น...ฮ่าๆๆ น้องปุ๊กกี้ต้องทำตาม อย่างด่วน

พี่แอ๊ะคะ น้องชอบพี่แอ๊ะแต่งตัวแบบนี้ค่า สวย สง่า สมกับพี่แอ๊ะค่า ขาเีชียร์อยู่นี่ๆ อิอิ


หัวข้อ: Re: "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: dd_2530 ที่ 08 พฤศจิกายน 2552, 19:19:01
อ้างถึง
ข้อความของ iamfrommoon เมื่อ 08 พฤศจิกายน 2552, 18:46:15
อ้างถึง
ข้อความของ krongon2513 เมื่อ 08 พฤศจิกายน 2552, 13:38:15
เพื่อนแอ๊ะของฉัน
ฉันอ่านแล้วตื้นตัน น้ำตาพาลจะไหล
ฉากหนึ่งของชีวิตเธอ  คือฉากหนึ่งของชีวิตฉัน

การสอบเข้ามาเป็นนิสิตอักษรจุฬา..แสนยาก
แต่การได้อยู่หอพักนิสิตหญิง...ยากกว่าหลายเท่า

กว่าจะผ่านสัมภาษณ์ แถมวัดดวงด้วยการจับฉลาก ในขณะที่อาจารย์ก็คงประเมินเราอยู่เหมือนกันว่า เด็กคนนี้ ควรรับมาเป็น"ลูกสาว"หรือไม่
การได้มาอยู่หอ ถือเป็นโอกาสสำคัญในชีวิตที่ฉันไม่อาจลืม
ฉันได้เพื่อนที่เหมือนญาติ แถมได้พี่ๆน้องๆอีกมากมาย มีอาจารย์ที่ขัดเกลา อบรม ดูแล เหมือนพ่อแม่

ไม่ต้องสงสัยเลยที่ฉันเจ็บปวดขนาดไหนที่เห็นน้ำตาของเธอยามถูกหอชายรังแก
เราผ่านร้อนหนาว และร่วมทุกข์ร่วมสุขมาด้วยกัน ว่าไงต้องว่าตามกัน..เย้
ว่าแต่ว่า  งานหออ่ะ  จะมาไหมคะ จุนนาย




สาวๆ รุ่น 13 มาเถอะนะคะ ปีนี้ไม่ตรงกับคอนเสิร์ต AF อิอิ...

อยากคุยกับพี่ๆ อยากพาเขยหอไปแนะนำให้รู้จักพี่ๆ ชาวหอที่รักยิ่งค่า...


จริงด้วยค่าน้องปุ๊ก  ปีนี้ไม่ตรงกับคอนฯ AF  ต้องได้พบกับพี่อ้อย  พี่แอ๊ะ แน่นอนเลย 

พี่อ้อยได้เคยพบกันแล้วที่เชียงใหม่เมื่อปีที่แล้ว  และกำลังจะได้พบกันอีกไม่กี่วันนี้
แต่พี่แอ๊ะยังไม่เคยพบกันเลยค่ะ  พี่แอ๊ะคุยสนุก  ต้องมาให้น้องๆได้พบปะพูดคุย และถ่ายรูปด้วยนะคะ...อ้อนวอนค่ะ...


หัวข้อ: Re: "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: iamfrommoon ที่ 08 พฤศจิกายน 2552, 19:22:22
อ้างถึง
ข้อความของ dd_2530 เมื่อ 08 พฤศจิกายน 2552, 19:19:01
อ้างถึง
ข้อความของ iamfrommoon เมื่อ 08 พฤศจิกายน 2552, 18:46:15
อ้างถึง
ข้อความของ krongon2513 เมื่อ 08 พฤศจิกายน 2552, 13:38:15
เพื่อนแอ๊ะของฉัน
ฉันอ่านแล้วตื้นตัน น้ำตาพาลจะไหล
ฉากหนึ่งของชีวิตเธอ  คือฉากหนึ่งของชีวิตฉัน

การสอบเข้ามาเป็นนิสิตอักษรจุฬา..แสนยาก
แต่การได้อยู่หอพักนิสิตหญิง...ยากกว่าหลายเท่า

กว่าจะผ่านสัมภาษณ์ แถมวัดดวงด้วยการจับฉลาก ในขณะที่อาจารย์ก็คงประเมินเราอยู่เหมือนกันว่า เด็กคนนี้ ควรรับมาเป็น"ลูกสาว"หรือไม่
การได้มาอยู่หอ ถือเป็นโอกาสสำคัญในชีวิตที่ฉันไม่อาจลืม
ฉันได้เพื่อนที่เหมือนญาติ แถมได้พี่ๆน้องๆอีกมากมาย มีอาจารย์ที่ขัดเกลา อบรม ดูแล เหมือนพ่อแม่

ไม่ต้องสงสัยเลยที่ฉันเจ็บปวดขนาดไหนที่เห็นน้ำตาของเธอยามถูกหอชายรังแก
เราผ่านร้อนหนาว และร่วมทุกข์ร่วมสุขมาด้วยกัน ว่าไงต้องว่าตามกัน..เย้
ว่าแต่ว่า  งานหออ่ะ  จะมาไหมคะ จุนนาย




สาวๆ รุ่น 13 มาเถอะนะคะ ปีนี้ไม่ตรงกับคอนเสิร์ต AF อิอิ...

อยากคุยกับพี่ๆ อยากพาเขยหอไปแนะนำให้รู้จักพี่ๆ ชาวหอที่รักยิ่งค่า...


จริงด้วยค่าน้องปุ๊ก  ปีนี้ไม่ตรงกับคอนฯ AF  ต้องได้พบกับพี่อ้อย  พี่แอ๊ะ แน่นอนเลย 

พี่อ้อยได้เคยพบกันแล้วที่เชียงใหม่เมื่อปีที่แล้ว  และกำลังจะได้พบกันอีกไม่กี่วันนี้
แต่พี่แอ๊ะยังไม่เคยพบกันเลยค่ะ  พี่แอ๊ะคุยสนุก  ต้องมาให้น้องๆได้พบปะพูดคุย และถ่ายรูปด้วยนะคะ...อ้อนวอนค่ะ...

พี่แอมาด้วยใช่มั้ยคะ รุ่นน้องมีเพื่อนจากเชียงใหม่ เชียงรายลงมาด้วยเหมือนกัน...ดีใจจังๆ...

ฝากสวัสดีพี่อ้อยด้วยนะคะ...


หัวข้อ: Re: "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: dd_2530 ที่ 08 พฤศจิกายน 2552, 19:31:27
ค่ะน้องปุ๊ก

แล้วพบกันวันที่ 21 พ.ย. นะคะ
ว่าแต่น้องปุ๊กยังยืนยันจะใส่ชุดเสื้อคอกระเช้า ถือเชี่ยนหมาก อยู่มั้ยคะ  พี่จะได้มองหาค่ะ


หัวข้อ: Re: "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: iamfrommoon ที่ 08 พฤศจิกายน 2552, 19:37:08
อ้างถึง
ข้อความของ dd_2530 เมื่อ 08 พฤศจิกายน 2552, 19:31:27
ค่ะน้องปุ๊ก

แล้วพบกันวันที่ 21 พ.ย. นะคะ
ว่าแต่น้องปุ๊กยังยืนยันจะใส่ชุดเสื้อคอกระเช้า ถือเชี่ยนหมาก อยู่มั้ยคะ  พี่จะได้มองหาค่ะ

ฮ่าๆ คาดว่า ถึงวันจริง คงจะหนาวแน่ๆ...เด๋วขอปรึกษากับหนุ่มเด่นชัย แล้วสาวอุบลจะเอาตามอีกทีค่า นี่กะฝากเฮียไว้กับรุ่น 24 เลย 555


หัวข้อ: Re: "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: iamfrommoon ที่ 08 พฤศจิกายน 2552, 19:52:44
อ้างถึง
ข้อความของ prapasri AH เมื่อ 07 พฤศจิกายน 2552, 22:14:24

                                                                               5


(http://img291.imageshack.us/img291/1909/18754341.jpg)



สำหรับชาวหอพักนิสิต จุฬา ยังติดต่อเชื่อมโยงกันเป็น พี่น้องจุฬากันอยู่ตลอด เป็นพี่น้อง ที่ผูกพันกันมาก ชาวหอพักจุฬา จะไปทำงาน

ประกอบอาชีพ ทั่วไปทั้งกรุงเทพและต่างจังหวัด และทั่วโลกด้วย  พอบอกว่าเป็นชาวหอจุฬาเราก็พูดภาษาเดียว อาจจะเป็นเพราะเรา มาจากต่าง

จังหวัดเป็นคนบ้านนอก ในสมัยนั้นมาด้วยกัน และได้มีโอกาสที่ดีมากของชีวิต คือได้เรียนในจุฬา และได้ ออกมาเป็นบัณฑิตที่เราคิดว่าเราจะทำแต่สิ่ง

ดีๆ ให้กับสังคมและประเทศชาติ

(http://img525.imageshack.us/img525/7166/58321828.jpg)


ปัจจุบัน นิสิตเก่าหอพักจุฬา  เรามีเวบไซด์ ที่ติดต่อกันได้ ทั่วโลก คือ
 
www. cmadong.com  ชาวหอจุฬา จะเรียกตัวเองว่าเป็น “ชาวซีมะโด่งจุฬา”

ซึ่งไม่ทราบแน่ชัดว่า คำว่าซีมะโด่ง แปล มาจาก อะไร

(http://img145.imageshack.us/img145/1345/67900980.jpg)

 
ชาวหอจะมีชมรมนิสิตเก่าหอพัก บางปี ประธานชมรม ทำงานอยู่ที่เวอร์จิเนีย สหรัฐอเมริกา ก็เป็นประธานชมรมได้เพราะติดต่อกับชาวหอได้กัน

ตลอด 24 ชั่วโมงทุกวัน

        ปีนี้  ชาวหอจุฬา จะนัดสังสรรค์ใหญ่กันทุก สองปี ปีนี้ ก็จะจัด ยิ่งใหญ่มาก เพราะ ครบ 92 ปีจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยด้วย

                         จะจัดที่หอพักนิสิตจุฬา
               
                                          วันที่ 21 พ.ย 2552  ชื่องานว่า

                         “ ถวิลหาเพื่อนเก่า คืนสู่ ถิ่นแผ่นดินแม่  92 ปีจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย”

                       จึงขอเรียนเชิญ นิสิตเก่าหอพักจุฬา และนิสิตเก่าจุฬา ทุกท่าน เข้าร่วมงานนี้ในบรรยากาศ

                                     “ณ.อุทยานนี้งามด้วยจามจุรี”   ด้วยนะคะ




                                                     prapasrisu@hotmail.com
                                                 
                                                      cc  :  prapasri@drhann.com
                                               
                                                   cc :  prapasri@ymail.com[/color


(http://img517.imageshack.us/img517/7996/98992551.jpg)


(http://img410.imageshack.us/img410/4778/62884851.jpg)



ิึคิดถึงภาพบรรยากาศแบบนี้มาก อบอุ่น และเป็นกันเองสไตล์ซีมะโด่งเลยค่า โอ้ ภาพตอนมะดีถ่ายน้องยังผอมอยู่เลย กิ๊ดๆๆ อยากผอมๆ

พี่แอ๊ะคะ
ขออัพเดตฐานข้อมุลโทร.ก่อนนะคะ รบกวนส่ง sms วันอาทิตย์ที่ 15 พ.ย. กับ 19 พ.ย.นะคะ เด๋วน้องจะส่งรายละเอียดให้พี่ทางอีเมล์ค่า ขอบคุณล่วงหน้าอีกครั้งนะคะ


หัวข้อ: Re: "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: prapasri AH ที่ 08 พฤศจิกายน 2552, 20:29:03
น้องปุกกี้คะ

พี่แอ๊ะใส่เสื้อ ผ้าชีฟอง คอกระเช้า เหมือน ที่น้องปุ๊กกี้ใส่  พี่สิงห์เลย โกรธค่ะ555555555555555555

หาว่าโป๊.... เอ๊ยม่ายช่าย หาว่าไม่เรียบร้อยอิๆๆๆๆๆ

น้องโสภณคะ และเหยงคะ พี่หอชาย 13 เขาให้สิงหอมา

หักอกพี่แอ๊ะเพราะพี่แอ๊ะสวย...อ่า.....อิๆๆๆๆ

เพราะเค้าเล็งเห็นว่า คบไปนานนาน พี่แอ๊ะต้องทิ้งเขาแน่ เขาเลยรีบหักอกพี่แอ๊ะซะก่อน

55555555555555555555555555

ตอนนี้ คิดได้ คงเสียดายยยยยยยยยยยย

เว่อ..ไปไหมนี่ อิๆๆๆๆๆ 5555555555555 หุๆๆๆๆๆๆ

อ้อยกรองละออน อย่าดุฉันนะ เธอคนเรียบร้อยยยยยยยยยย เหมือนผ้าพับไว้ในตู้....อิๆๆๆๆ

ฉันเรียบร้อย เหมือนผ้าพับไว้ในรังหนู (เหมียน ดร.กระป๋องมั๊งงงงงงงง)


หัวข้อ: Re: "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: prapasri AH ที่ 08 พฤศจิกายน 2552, 20:55:13
น้องแอ คะ พี่แอ๊ะ ชอบคุยสนุกๆ ค่ะ กับคนที่สนิทๆๆ

แต่อยู่ยโสธร พี่แอ๊ะต้องดูแลประชาชนทั้งเมืองนี้นะคะ

เวลาออกงานต้องวางฟอร์ม ให้เป็นผู้หลักผู้ใหญ่ค่ะ

เพี้ยง.... อย่าให้ชาวยโส google เข้ามาเชียวววววววววว

น้องปุ๊กกี้ขา   พรุ่งนี้ คุณอ๊อนซ์ จะโทรหาน้องปุ๊กกี้ เพื่อขอข้อมูล สำหรับ sms

น้องปุ๊กกี้เตรียม คำส่งsms เท่ๆๆ ให้ ชาวซีมะโด่ง ได้รับแล้วต้อง วิ่งมางานนี้ให้ถล่มทลายเลยนะคะ


หัวข้อ: Re: "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: iamfrommoon ที่ 08 พฤศจิกายน 2552, 20:57:48
อ้างถึง
ข้อความของ prapasri AH เมื่อ 08 พฤศจิกายน 2552, 20:55:13
น้องแอ คะ พี่แอ๊ะ ชอบคุยสนุกๆ ค่ะ กับคนที่สนิทๆๆ

แต่อยู่ยโสธร พี่แอ๊ะต้องดูแลประชาชนทั้งเมืองนี้นะคะ

เวลาออกงานต้องวางฟอร์ม ให้เป็นผู้หลักผู้ใหญ่ค่ะ

เพี้ยง.... อย่าให้ชาวยโส google เข้ามาเชียวววววววววว

น้องปุ๊กกี้ขา   พรุ่งนี้ คุณอ๊อนซ์ จะโทรหาน้องปุ๊กกี้ เพื่อขอข้อมูล สำหรับ sms

น้องปุ๊กกี้เตรียม คำส่งsms เท่ๆๆ ให้ ชาวซีมะโด่ง ได้รับแล้วต้อง วิ่งมางานนี้ให้ถล่มทลายเลยนะคะ


ได้เลยค่าพี่แอ๊ะ 2 ปีที่แล้วได้รับ พี่แอ๊ะรู้มั้ยคะ "น้องปลื้มมาก ยังคิดอยู่ว่า ไฮโซสุดๆ มันเป็นอะไรที่พิเศษมากเลย" ใครหนอสามารถทำได้ ที่แท้ก็พี่แอ๊ะที่รักของน้องนี่เอง


หัวข้อ: Re: "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: iamfrommoon ที่ 09 พฤศจิกายน 2552, 08:38:00
พี่แอ๊ะคะ
น้องส่งเฉพาะเบอร์ไม่เอาชื่ออย่างเดียวได้มั้ยคะ และต้องมี 08 ด้วยมั้ย เพราะบางข้อมูลเป็น 01xxxx ตามด้วยเบอร์น่ะค่ะ เย็นนี้จะส่งให้พี่อีกทีนะคะ กำลังอัีพเดตอยู่ค่า


หัวข้อ: Re: "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: เหยง 16 ที่ 09 พฤศจิกายน 2552, 12:39:21
จะรอรับ sms ชวนไปงาน

ถ้าไม่ได้ ไม่ไปงานแน่ 5 5 5 5
  emo20:)):)  emo20:)):)  emo20:)):)


หัวข้อ: Re: "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: iamfrommoon ที่ 09 พฤศจิกายน 2552, 13:08:06
อ้างถึง
ข้อความของ เหยง 16 เมื่อ 09 พฤศจิกายน 2552, 12:39:21
จะรอรับ sms ชวนไปงาน

ถ้าไม่ได้ ไม่ไปงานแน่ 5 5 5 5
  emo20:)):)  emo20:)):)  emo20:)):)

พี่เหยงคะ
พี่เคยอัพเดตข้อมูลเบอร์รึเปล่าคะ หากยังรบกวนส่ง pM เบอร์มือถือให้น้องด้วย จะได้รับข้อความเท่ห์ๆ ไฮโซแน่ๆ อิอิ


พี่แอ๊ะคะ
น้องประสานงานกับผู้ที่จะทำการส่ง sms เรียบร้อยแล้วค่า รอให้น้องหญิง น้องพุฒช่วยในการแก้ไข ใส่เลข 8 และตัดเบอร์บ้านออกก่อน คาดว่าจะส่งข้อมู่ลทั้งหมด โดยไม่ต้องมีชื่อไปให้ทางคุณยุ้ยค่า ขอบคุณมากๆ เลยสำหรับความพิเศษกับชาวหอฯ ไฮโซ้ ไฮโซ...เริ่ดค่า


หัวข้อ: Re: "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: suriya2513 ที่ 09 พฤศจิกายน 2552, 14:38:10
ทีแรกสงสัยว่าทำไมปู๊กกี้ขยันมาคุยห้องพี่แอ๊ะจังเลย
ที่แท้ก็มาตีสติ๊คพี่แอ๊ะขอส่ง sms (ฟรี !) เชิญชาวหอฯมางานคืนสู่เหย้า
โดยไม่ต้องเสียเงินชมรมฯซีมะโด่งนี่เอง


หัวข้อ: Re: "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: พธู ๒๕๒๔ ที่ 09 พฤศจิกายน 2552, 14:43:58
กราบเท้าคุณพ่อคุณแม่ที่เคารพ

คุณพ่อคะ คุณแม่คะ เป็นอย่างไรบ้างสบายดีหรือเปล่าคะ
ผ่านมาเกือบครึ่งปีตั้งแต่หนูเข้ามาเรียนในกรุงเทพฯ หนูไม่ได้ติดต่อคุณพ่อคุณแม่เลย 

       หนูอยู่ที่นี่สบายดีค่ะ พี่มากเค้ารักหนู และดูแลหนูเป็นอย่างดี สงสัยหรือคะว่าพี่มากคือใครจำ ได้มั้ยคะวันที่หนูจากคุณพ่อคุณแม่ที่สถานีรถทัวร์เข้ามาเรียนที่กรุงเทพฯ รถทัวร์ที่หนูนั่งมาเกิดอุบัติเหตุใกล้ปั๊มน้ำมันแห่งหนึ่งในกรุงเทพฯ

หลังเกิดอุบัติเหตุ มีคนมาล้อมหน้าล้อมหลังหนูเต็มไปหมดเลยค่ะ และมีคนขโมยกระเป๋าเดินทางและกระเป๋าตังค์ไป
   
        พี่มากเค้าเป็นเด็กปั๊มที่นั่นค่ะ พอรถชนกันเค้าก็เข้าไปช่วยปฐมพยาบาล เราเจอกันที่นั่นค่ะคุณพ่อ พี่เค้าเป็นคนดีมาก เราพูดคุยกันซักครู่ใหญ่ รู้สึกถูกคอกันมาก คุณแม่ขา   นี่แหละมั้งคะ ที่เรียกว่า รักแรกพบ
 
        พอ เค้ารู้ว่าหนูยังไม่มีที่พัก ไม่มีญาติในกรุงเทพฯ และยังไม่รู้จะไปพักที่ไหน แถมยังบาดเจ็บจากอุบัติเหตุ พี่มากเลยชวนหนูไปอยู่ด้วยกันที่หอพักใกล้ ๆ ปั๊มน้ำมันนั้น
 
ด้วยความตกใจและไม่มีที่พึ่งทำให้หนูรับปากพี่เค้าไปโดยไม่รู้ตัว แต่ว่าคุณพ่อคะ พี่มากเป็นคนดีมากค่ะ
 
         เค้าไม่เคยแตะต้องตัวหนูเลย เราอยู่ด้วยกันประมาณ 2   เดือน พี่มากจึงขอหนูแต่งงานค่ะ หนูขอโทษที่ไม่ได้บอกคุณพ่อคุณแม่ก่อน
แต่ ด้วยความใกล้ชิดทำให้หนูไม่สามารถยั้งใจไว้ได้ จึงได้บอกตกลงพี่มากเค้าไป อภัยให้เรานะคะ นึกว่าเห็นแก่เด็กตาดำๆ ที่จะเกิดมาดูโลกนี้อีกไม่นานเท่าไร
 
         หนูกำลังมีหลานให้คุณแม่ค่ะ คาดว่าการเรียนเทอมแรกนี้คงต้องพักไว้ก่อน หรือไม่ก็ต้องเลิกเรียนไปเลย เพราะว่าหนูคงต้องช่วยพี่มากหาเงินก่อนที่ท้องจะใหญ่ไปกว่านี้ พอลูกคลอดแล้วก็คงต้องอยู่เลี้ยงลูกอีก คงไปเรียนไม่ได้  เงินทองก็หมดไปทุกวันๆ  แต่หนูก็ยังสุขใจดีค่ะ ไม่ต้องห่วง
 
         คุณพ่อคุณแม่อย่าโกรธหนูนะคะ มันเป็นเรื่องสุดวิสัยจริงๆ แต่หนูคิดว่าคุณพ่อคุณแม่คงจะให้อภัย เมื่อคลอดลูกแล้ว
หนูจะพาพี่มากและลูกไปกราบเท้าคุณพ่อคุณแม่ที่บ้านนะคะ

ที่หนูเขียนจดหมายมาหาคุณพ่อคุณแม่วันนี้ มีข่าวดีและข่าวร้ายมาบอกค่ะ

ข่าวดีก็คือ ที่หนูเล่ามาทั้งหมดนั่น เป็นเรื่องไม่จริงค่ะ หนูล้อเล่นค่ะ!!
ส่วนข่าวร้ายก็คือ เทอมแรกหนูสอบได้ F 3 วิชา D 2
วิชา และ C- อีก 1 วิชา

เห็นมั้ยคะ ที่หนูสอบตก มันไม่ได้ร้ายแรงไปกว่าที่หนูเล่ามาตั้งแต่ต้นหรอก ดีกว่าซะอีกจริงมั้ยคะ
ฉะนั้นอย่าโกรธหนูนะคะ

ด้วยรักและเคารพอย่างสูง
หนูดา ที่รักของคุณพ่อคุณแม่

ป.ล. เงินที่คุณพ่อให้มาหมดแล้วล่ะค่ะถ้าคุณพ่อจะเห็นใจช่วยโอนเงินเข้าให้หนูด้วยนะคะ 

*****************************************************
 
จดหมายพ่อตอบกลับมา

สวัสดีจ้ะ   
ลูกรักของพ่อ

       ที่ ลูกเล่ามาทั้งหมดตั้งแต่แรกนั่นน่ะ ทำเอาพ่อใจไม่ดีไปเลยเชียว พ่ออ่านจดหมายลูกได้แค่ครึ่งเดียวก็โกรธจัดจนไม่ได้อ่านต่อ เพราะว่าบันดาลโทสะ ทำให้พ่อกับแม่ทะเลาะกันยกใหญ่
 
       แม่เค้าไม่เชื่อว่าเป็นเรื่องจริงเพราะเค้ารักลูกมาก คิดว่าลูกคงจะไม่ทำให้เค้าผิดหวัง แต่พ่อก็โมโหซะจนลืมตัวทะเลาะกับแม่อย่างแรง ลูกก็รู้ว่าแม่ป่วยเป็นโรคหัวใจอยู่

        พ่อผิดเองที่ไม่รู้จักคิด รู้จักยั้งความโกรธ เราทะเลาะกันแรงมาก จนแม่เค้า......ล้มลง หัวใจวาย
ยา ที่เคยมีอยู่ในบ้านก็หาไม่เจอ พ่อพาแม่แกส่งโรงพยาบาลก็สายไปซะแล้ว พ่อกำลังเศร้ามากคิดถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น มันเกิดจากพ่อไม่อ่านจดหมายของแกให้จบซะก่อน แม่ก็เลยมีอันเป็นไป
 
อ้อ พ่อมีข่าวดีและข่าวร้ายสำหรับลูก
   ข่าวดีคือแม่แกยังอยู่สบายดีไม่มีอะไร พ่อล้อเล่น
   ข่าวร้ายคือแม่เค้าเสียไพ่ เลยไม่มีเงินส่งไปให้ลูก
   แต่มันก็ยังดีกว่าที่แม่เค้าจะเป็นอะไ รไปใช่ไหมล่ะ

ปล. หวังว่าลูกคงอ่านจดหมายจนจบนะ ไม่ใช่ตกใจตะลีตะเหลือกไปฆ่าตัวตายซะก่อน
 
รักลูกมากจ้ะ

พ่อ 


หัวข้อ: Re: "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: iamfrommoon ที่ 09 พฤศจิกายน 2552, 16:26:56
อ้างถึง
ข้อความของ suriya2513 เมื่อ 09 พฤศจิกายน 2552, 14:38:10
ทีแรกสงสัยว่าทำไมปู๊กกี้ขยันมาคุยห้องพี่แอ๊ะจังเลย
ที่แท้ก็มาตีสติ๊คพี่แอ๊ะขอส่ง sms (ฟรี !) เชิญชาวหอฯมางานคืนสู่เหย้า
โดยไม่ต้องเสียเงินชมรมฯซีมะโด่งนี่เอง


ฮ่าๆ คุณพี่ป๋องก็...จริงๆ น้องเม้าท์กันนอกรอบทางโ่ทร.ด้วยค่า...

อันนี้เป็นอภินันทนาการที่ตามมาจากพี่แอ๊ะ แต่ต้องบอกว่า คนจุดประกายให้นึิกถึงเรื่องนี้คือ "พี่ป๋อง" เลยหล่ะ...

น้องมัวแต่ทำเรื่องอื่น ตุ๊มๆ ต่อมๆ งานปีนี้ เลยไม่ได้นึก sms ที่ได้รับอุปการะคุณจากพี่แอ๊ะ ต้องขอบคุณทั้งพี่ป๋องและพี่แอ๊ะนะคะ


หัวข้อ: Re: "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: suriya2513 ที่ 09 พฤศจิกายน 2552, 18:38:57
จัดงานที ดาวไถโคจรว่อนไปทั่วเลยหละครับ


หัวข้อ: Re: "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: iamfrommoon ที่ 09 พฤศจิกายน 2552, 20:04:51
อ้างถึง
ข้อความของ suriya2513 เมื่อ 09 พฤศจิกายน 2552, 18:38:57
จัดงานที ดาวไถโคจรว่อนไปทั่วเลยหละครับ

ล้อมรอบ "ดาวสุข" จะสุขพร้อมกันในวันเสาร์ที่ 21 พ.ย.ชะเอิง เอิงเอย...ใช่มั้ยคะพี่ป๋อง

สวัสดีตอนดึกๆ ณ รายการ VIP ค่าพี่แอ๊ะ พี่อ้อย พี่สิงห์ พี่เหยง พี่แอ และพี่ๆ


หัวข้อ: Re: "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: เหยง 16 ที่ 09 พฤศจิกายน 2552, 20:41:48
น้องปุ๊กกี้

พี่เหยง ส่งเบอร์ให้แล้วครับ บอกตอนนี้เลยก็ได้ครับ 081 533 1951


3000 emo28:win:


หัวข้อ: Re: "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: swsm ที่ 10 พฤศจิกายน 2552, 13:16:31
มาแว้วววววว ค่า   

สวัสดีค่ะ  พี่แอ๊ะ 
หะยีมารายงานตัวค่ะ
ความจริงแอบเข้ามาอ่านบ่อย ๆ ๆ ๆ นะคะ
แต่ไม่ค่อยได้ post ค่า

 

emo6::))



หัวข้อ: Re: "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: iamfrommoon ที่ 10 พฤศจิกายน 2552, 14:00:13
สวัสดีค่าพี่แอ๊ะ
น้องจัดการส่งข้อความ พร้อมเบอร์โทร.ไปให้ทางผู้จัดส่งเรียบร้อยแล้วค่า ขออุบไว้ก่อนว่า จะได้รับข้อความแบบไหน (แต่จริงๆ น้องส่ง attachment ให้พี่ทราบทาง Hotmail แล้ว ฮ่าๆๆ)...

พี่เหยงคะ
ใส่เบอร์พี่ลงเรียบร้อยแล้ว งานนี้ได้น้องหญิง 45 กับดร.พุฒ (แอบใช้งานดร. 555) ช่วยแก้ไข...อันนี้ส่งให้เขาแต่เบอร์นะคะ ไม่ต้องห่วงว่า ความลับเบอร์ใครจะเปิดเผย เพราะไม่มีทางรู้ได้ปาไป 3500 เบอร์ รวมรุ่น 47 กับ 48 ที่ยังไม่เคยมางานคืนสู่เหย้าด้วยค่า


หัวข้อ: Re: "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: ตุ๋ย 22 ที่ 10 พฤศจิกายน 2552, 20:07:48
นั่งอ่านตั้งนานไม่รู้จะโพสต์อาราย เหอๆๆๆๆๆ


หัวข้อ: Re: "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: prapasri AH ที่ 10 พฤศจิกายน 2552, 21:09:23
ทำไมไม่ทราบจะโพสต์อะไรละคะ น้องตุ์ย

เด่วน้อง ปลาทูแมน ปรอทเเตกแน่

ถ้าน้องตุ๊ยไม่ช่วยคอมเม้นท์ นิยายรัก พ่อ แม่ลูก น่ะค่ะ

พี่แอ๊ะต้องรีบโพสต์ตอบน้องตุ๋ย กลัวกระทู้พี่แอ๊ะตกอันดับน่ะค่ะ555555555555 (rating ตก)

ขอไปดูข่าว อั๊กอิ๋น ณ.ฮุนแซ ก่อนนะคะ


หัวข้อ: Re: "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: iamfrommoon ที่ 10 พฤศจิกายน 2552, 21:12:30
อ้างถึง
ข้อความของ ตุ๋ย 22 เมื่อ 10 พฤศจิกายน 2552, 20:07:48
นั่งอ่านตั้งนานไม่รู้จะโพสต์อาราย เหอๆๆๆๆๆ


โพสต์แล้วนี่คะพี่ตุ๋ย

่สวัสดีตอนดึกๆ ค่าพี่แอ๊ะ วันนี้น้องอ่าน timesonline 12 หน้าแต่ไม่จบ ไฟทะลุหัวเลย


หัวข้อ: Re: "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: swsm ที่ 10 พฤศจิกายน 2552, 21:28:08
อ้างถึง
ข้อความของ ตุ๋ย 22 เมื่อ 10 พฤศจิกายน 2552, 20:07:48
นั่งอ่านตั้งนานไม่รู้จะโพสต์อาราย เหอๆๆๆๆๆ

post แบบนี้ก็ได้ค่า .. "หวัดดีจ้าพี่แอ๊ะคนสวย" ..    emo6::))


หัวข้อ: Re: "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: หนุน'21 ที่ 10 พฤศจิกายน 2552, 22:45:33
 emo4:))

สวัสดีครับพี่แอ๊ะ
หายไปนานกลับเข้ามาตามอ่านนานมากๆ
มีแต่เรื่องที่น่าสนใจทั้งน้านนน...
ได้เรียนภาษาลาว
ได้อ่านเรื่องดีๆที่พี่แอ๊ะเขียนลงหนังสือของจุฬาฯ.....เยี่ยมจริงๆครับ
ได้อ่านความเห็นที่พี่แอ๊ะเขียนเกี่ยวกับ อั๊กอิ๋น อิ๊กอิ๋ว และ อุนเอ็น
มันน่าจับตอนนะครับ  พวกนี้ เหลือไว้อาจเป็นอันตรายใหญ่หลวงภายหน้า

มีเรื่องของนายทู มาแถมให้นั่งอมยิ้มอีก
เข้ามาห้องนี้แล้วยิ้มออกไปครับพี่


 emo43


หัวข้อ: Re: "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: พธู ๒๕๒๔ ที่ 11 พฤศจิกายน 2552, 14:46:54
บุญจรัญหนุ่มนักสังคมสงเคราะห์เกิดอาการปวดฟันมาเป็นเวลาหลายวั นแล้ว เขาตัดสินใจไปหาหมอฟันในเช้า
วันหนึ่ง หลังจากการเอ็กซ์เรย์และตรวจอย่างละเอียดแล้ว

หมอ : รากฟันของคุณเสียหมดแล้ว หมอแนะนำให้ถอนทิ้งดีกว่า

บุญจรัญ : แล้วมันจะเจ็บมากไหมครับหมอ ?

หมอ : ปกติก็จะเจ็บมาก แต่หมอจะฉีดยาให้ ฤทธิ์ของยาจะทำให้ไม่เจ็บเลย

บุญจรัญ : ฉีดยาหรือครับ ? ไม่เอาดีกว่า ผมกลัวเข็มฉีดยาครับ หมอไม่มีวิธีอื่นหรือครับ ?

หมอ : ถ้าอย่างนั้นคุณก็ต้องกินยา

บุญจรัญ : กินยาหรือครับ ? ไม่มีปัญหาครับ หมอจะให้ผมกินพาราเซทตามอลใช่ไหมครับ ?

หมอ : เปล่า ยาพาราฯมันออกฤทธิ์ช้า หมอไม่มีเวลาคอยนานขนาดนั้นหรอกเพราะคนไข้ยังรออยู่ข้างนอก
อีกตั้งหลายคน หมอจะให้คุณกินไวอากร้า 1 เม็ด

บุญจรัญ : ผมไม่ยักรู้ว่าไวอากร้าใช้เป็นยาแก้ปวดได้

หมอ : เปล่า มันไม่ได้ใช้เป็นยาแก้ปวดหรอก

บุญจรัญ : อ้าว แล้วให้ผมกินไวอากร้าทำไมล่ะครับ ?

หมอ : อ๋อ คุณจะได้มีที่จับตอนที่หมอถอนฟันยังไงล่ะ


หัวข้อ: Re: "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: prapasri AH ที่ 12 พฤศจิกายน 2552, 07:03:55
จับอะไรคะน้องปลาทูแมน

พี่แอ๊ะไม้เข้าใจ ค่ะ


หัวข้อ: Re: "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: prapasri AH ที่ 12 พฤศจิกายน 2552, 07:12:56
น้องปลาทูแมนขา นึกออกแล้วว่าจับอะไร 55555555555555555


ไม่น่าโง่ เลยนะเรา เรื่องเล็กๆ แค่นี้ แค่ปรอท กระจิ๊ววววว เดียวของน้องปลาทูแมน555555555555555  

หุๆๆๆๆ อิๆๆๆๆ555555555555555555


หัวข้อ: Re: "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: iamfrommoon ที่ 12 พฤศจิกายน 2552, 07:55:03
สะหวัดดีต๋อนเซ่าๆ ค่าพี่แอ๊ะ

ต๋อนนี่ถึ่งยโสฯ แล๊วบ๊อคะ


หัวข้อ: Re: "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: swsm ที่ 12 พฤศจิกายน 2552, 08:55:11
ต๊าาาาาาาาาาาย .. พี่แอ๊ะขรา

ปรอทของนายทู "จิ๋ว" เดียวหรือคะ ?? 
เพิ่งรู้นะเนี่ย

อิอิอิ



หัวข้อ: Re: "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: พธู ๒๕๒๔ ที่ 12 พฤศจิกายน 2552, 17:52:02
อ้างถึง
ข้อความของ swsm เมื่อ 12 พฤศจิกายน 2552, 08:55:11
ต๊าาาาาาาาาาาย .. พี่แอ๊ะขรา

ปรอทของนายทู "จิ๋ว" เดียวหรือคะ ?? 
เพิ่งรู้นะเนี่ย

อิอิอิ


อันจิ่วเป็นของหลาน ส่วนของลูงพอพึ่งได้


หัวข้อ: Re: "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: หนุน'21 ที่ 12 พฤศจิกายน 2552, 21:09:55
สวัสดีครับพี่แอ๊ะ
เข้ามาฟังสาวๆคุยกันเรื่องปรอทอันจิ๋วของป๋าทู

หึ หึ ของลุงทูพอพึ่งได้เนี่ย
มีใครมาพึ่ง พึ่งใคร หรือพึ่งตัวเอง
กร๊ากกกก   กร๊ากกกก
ทาลึ่งไปป่าวคับ


 emo20:)):)


หัวข้อ: Re: "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: ตุ๋ย 22 ที่ 12 พฤศจิกายน 2552, 21:14:01
อารายจนป่านนี้ยังต้องพึ่งตัวเองอีกหรอพี่หนุน  เหอๆๆๆๆๆๆๆๆๆ


หัวข้อ: Re: "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: iamfrommoon ที่ 13 พฤศจิกายน 2552, 21:29:30
สวัสดีค่าพี่แีอ๊ะ และพี่ๆ ทุกท่าน...

พักนี้นอนกันดึำกๆ นะคะ...หุหุ...

พี่แอ๊ะคะ
ลุ้นๆ อาทิตย์นี้ค่า


หัวข้อ: Re: "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: KUSON ที่ 14 พฤศจิกายน 2552, 16:08:55
เอ่อ  คุณปาทูย้ายวิกแล้วเหรอ
ดีๆ  อยู่ตรงนี้ก็ขำเหมือนเดิม คิกๆๆๆ


หัวข้อ: Re: "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: ตุ๋ย 22 ที่ 14 พฤศจิกายน 2552, 21:06:05
หวัดดีพี่กุศลครับ


หัวข้อ: Re: "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: swsm ที่ 15 พฤศจิกายน 2552, 10:21:31
(http://img404.imageshack.us/img404/8776/beautifulsunday.jpg)


หัวข้อ: Re: "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: wannee ที่ 16 พฤศจิกายน 2552, 10:03:04

สวัสดีค่ะพี่แอ๊ะ   วันงานจะเดินตามหาพี่ค่ะ  emo4:)) emo6::)) emo9:huhu:


หัวข้อ: Re: "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: iamfrommoon ที่ 16 พฤศจิกายน 2552, 11:07:52
พี่แอ๊ะคะ

ต้องขอบคุณอย่างมากเลยค่า เรือง sms เพิ่งทราบว่า มีค่าใช้จ่ายด้วย ขอบคุณในการอุปการะคุณการประชาสัมพันธ์งานในครั้งนี้ด้วยนะคะ

แ้ล้วพบกันคืนสู่เหย้าค่า วันข้างหน้าจะไปเที่ยว อันดามันบุรีย์ กับ สมุยไดมอนด์ไอร์แลนด์ ของพี่แอ๊ะนะคะ


หัวข้อ: Re: "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: wannee ที่ 16 พฤศจิกายน 2552, 15:40:51


พี่แอ๊ะ  พรเทพ email มาบอกว่าอยู่ไกล และติดขัด มาไม่ได้ค่ะ    emo:( 
ทำอย่างไรดีคะ  emo47


หัวข้อ: Re: "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: prapasri AH ที่ 16 พฤศจิกายน 2552, 16:57:27
เสียดจ๋า

พี่แอ๊ะมางานหอแล้วจะเลยไปสุราษฎร์ ตามวัฎปฎิบัติ ค่ะ จะต่อว่าพรเทพให้นะคะ

น้อง i am from moon คะ  ไม่ต้องกังวลเรื่อง sms นะคะ

และวันหลัง จะพาน้องปุ๊กกี้สุดที่รัก ไปอาบแดด ตาก ลม ทั้งที่สมุยและอันดามัน ค่ะ

พี่แอ๊ะไม่ค่อยชอบไปเกาะพี่แอ๊ะเท่าไร เพราะกลับมาแล้วตัวดำปี๋

น้องๆ มิตรรักแฟนเพลง ทุกท่าน มาเยี่ยม กระทู้พี่แอ๊ะบ่อยๆนะคะ

พี่แอ๊ะว่าจะหายไปสักพัก แต่น้องๆต้องสัญญาว่า จะเข้ามานั่งเล่นบ้านพี่แอ๊ะ คุยให้หนุกหนานนะคะ

ไม่งั้นไม่มีคนเฝ้าบ้าน  ลมบ้าหมูพัดมา บ้านพี่แอ๊ะ ถูกลมบ้าหมู หอบไปไกล เลยค่ะ


หัวข้อ: Re: "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: Pantakant Vorakritpongsa ที่ 16 พฤศจิกายน 2552, 17:16:58
อ้างถึง
ข้อความของ prapasri AH เมื่อ 16 พฤศจิกายน 2552, 16:57:27
เสียดจ๋า

พี่แอ๊ะมางานหอแล้วจะเลยไปสุราษฎร์ ตามวัฎปฎิบัติ ค่ะ จะต่อว่าพรเทพให้นะคะ

น้อง i am from moon คะ  ไม่ต้องกังวลเรื่อง sms นะคะ

และวันหลัง จะพาน้องปุ๊กกี้สุดที่รัก ไปอาบแดด ตาก ลม ทั้งที่สมุยและอันดามัน ค่ะ

พี่แอ๊ะไม่ค่อยชอบไปเกาะพี่แอ๊ะเท่าไร เพราะกลับมาแล้วตัวดำปี๋

น้องๆ มิตรรักแฟนเพลง ทุกท่าน มาเยี่ยม กระทู้พี่แอ๊ะบ่อยๆนะคะ

พี่แอ๊ะว่าจะหายไปสักพัก แต่น้องๆต้องสัญญาว่า จะเข้ามานั่งเล่นบ้านพี่แอ๊ะ คุยให้หนุกหนานนะคะ

ไม่งั้นไม่มีคนเฝ้าบ้าน  ลมบ้าหมูพัดมา บ้านพี่แอ๊ะ ถูกลมบ้าหมู หอบไปไกล เลยค่ะ

สวัสดีครับท่านพี่แอ๊ะ

ผมน้องรุ่ง ทันตะ รหัส33 ครับท่านพี่

แวะมาทักทายท่านพี่แอะครับผม emo48:)


หัวข้อ: Re: "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: prapasri AH ที่ 16 พฤศจิกายน 2552, 17:18:50
น้องปลาทูแมนและน้องๆ ผู้ชายทุกท่านค่ะ

วันนี้พี่แอ๊ะทำกิจกรรม 5 ส. ในบ้านพี่แอ๊ะ สะสางเอกสารซะ เหนื่อยไปเลย

เลยไปเจอกลอนบทหนึ่ง น่ารักซะไม่มี

เริ่มต้นเลยนะคะ

                
   ชื่อว่า  "รักเมีย"


  รักเมียต้องอดทน    ต้องเป็นคนเคารพเมีย

รักเมียต้องส่งเสีย     อย่าให้เมียต้องสงสัย

รักเมียต้องรักเดียว     อย่าได้เที่ยวไปรักใคร

รักเมียต้องทำใจ      ถึงอย่างไรเธอคือเมีย

รักเมียอย่าขี้เหล้า   เมียจะเหงาเราจะเสีย

รักเมียอย่าอ่อนเพลีย    คนรักเมียต้องเเข็งแรง

รักเมียอย่าเที่ยวดึก  จะเกิดศึกผิดสำแดง

รักเมียอย่ารุนเเรง ค่อยค่อยแซง อย่าขับไว

รักเมียต้องยอมเมีย   เพราะว่าเมียไม่ยอมใคร

 รักเมียต้องเข้าใจ ไม่มีใครใหญ่กว่าเมีย


จริงไหมคะ น้องปลาทูแมน น้องหนุน น้องตุ๋ย  น้องอุอ๋น

น้อง โสภณเท่านี้  และน้องๆ ผู้ชายทั้งหลาย



หัวข้อ: Re: "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: prapasri AH ที่ 16 พฤศจิกายน 2552, 17:21:30
หวัดดี น้องทันตะ

ขอบคุณที่มาเยี่ยมบ้านพี่แอ๊ะค่ะ

เมื่อวันก่อน พี่แอ๊ะได้ไป meeting กับอาจารย์ ขวัญตา คงเป็นอาจารย์น้อง นะคะ

เป็นภรรยาเพื่อนพี่หาญ แพทย์จุฬารุ่น23 ค่ะ


หัวข้อ: Re: "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: Pantakant Vorakritpongsa ที่ 16 พฤศจิกายน 2552, 17:30:18


ท่าน รองศาสตราจารย์ ทันตแพทย์หญิง ขวัญตา  จารุอำพรพรรณ

เป็นท่านอาจารย์ผมเองครับท่านพี่แอ๊ะครับ emo43


หัวข้อ: Re: "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: prapasri AH ที่ 16 พฤศจิกายน 2552, 17:39:01
อาจารย์ สวยและน่ารักมาก  พี่แอ๊ะร้องเพลงในงานมีทติ้งแพทย์จุฬานุ่น 23 รุ่นเดียวกับท่านอธิการบดีจุฬาท่านปัจจุบัน

(คุณหมอภิรมย์)

อาจารย์พาคุณแม่ไปงานมีทติ้งรุ่นด้วย จัดที่เขาใหญ่ค่ะ

ทีนี้พี่แอ๊ะขึ้นร้องเพลง อาจารย์ และคุณแม่อาจารย์ ติดใจเสียงพี่แอ๊ะ เลยเดินมาหาพี่แอ๊ะ พี่ชม ว่าร้องเพราะมาก

พี่แอ๊ะ  อายอ๊าย อายค่ะ เพราะร้องไม่ค่อยถูกกับจังหวะเท่าไร

คุยไปคุยมา อาจารย์เป็นอาจารย์น้องสาวพี่แอ๊ะด้วย  และอาจารย์รักน้องสาวพี่แอ๊ะมาก

ไม่ทราบ น้องพันธกาน เรียนทันกับน้องสาวพี่แอ๊ะไหมคะ

น้องพี่แอ๊ะชื่อคุณหมอติ่ง ทญ.กัญญารัตน์ ค่ะ


และอาจารย์ รู้จัก เพื่อนพี่แอ๊ะ หญิง13 หลายคนเลยคุย รำลึกความหลังกันสนุกมากค่ะ


หัวข้อ: Re: "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: Pantakant Vorakritpongsa ที่ 16 พฤศจิกายน 2552, 17:42:58

สงสัยผมไม่ทันรุ่นคุณหมอกัญญารัตน์อ่ะครับผม

ผมเข้าไปเรียนรุ่นปี 2533 ครับท่านพี่แอ๊ะครับ


หัวข้อ: Re: "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: prapasri AH ที่ 16 พฤศจิกายน 2552, 17:49:18
น้องหมอพันธกานคะ

น้องพี่แอ๊ะคนนี้เป็นน้องคนสุดท้อง ห่างพี่แอ๊ะ 10 ปีค่ะ

ดังนั้นน่าจะเข้าจุฬา ปี 2523 คงเป็นพี่ของน้องพันธกาน ค่ะ


หัวข้อ: Re: "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: prapasri AH ที่ 16 พฤศจิกายน 2552, 17:51:23
น้องพันธกาน เรียกพี่แอ๊ะท่านพี่เลยหรือคะ

น่ารักมากค่ะ เรียกพี่แอ๊ะ ก็ได้ค่ะ



หัวข้อ: Re: "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: Pantakant Vorakritpongsa ที่ 16 พฤศจิกายน 2552, 17:53:25


ได้ครับท่านพี่แอ๊ะ....เอ้ย พี่แอ๊ะ

ผมเรียกท่านพี่ทุกคนว่าท่านพี่....จนติดปากและติดพิมพ์แล้วอ่ะครับผม emo43


หัวข้อ: Re: "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: อ้อย 14 ที่ 16 พฤศจิกายน 2552, 18:46:39
พี่แอ๊ะขา

               เตรียมตัว แล เครื่องเพชร มางานหอ หรือยังคะ  จะได้เตรียม รปภ. คอยคุ้มกันให้  เราเดินชมงานด้วยกันนะพี่  แล้วพี่ๆ 13 มากันเยอะใหมคะ


หัวข้อ: Re: "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: Soponเท่านั้น ที่ 16 พฤศจิกายน 2552, 19:47:53
อ้างถึง
ข้อความของ prapasri AH เมื่อ 16 พฤศจิกายน 2552, 17:18:50
น้องปลาทูแมนและน้องๆ ผู้ชายทุกท่านค่ะ

วันนี้พี่แอ๊ะทำกิจกรรม 5 ส. ในบ้านพี่แอ๊ะ สะสางเอกสารซะ เหนื่อยไปเลย

เลยไปเจอกลอนบทหนึ่ง น่ารักซะไม่มี

เริ่มต้นเลยนะคะ

                
   ชื่อว่า  "รักเมีย"


  รักเมียต้องอดทน    ต้องเป็นคนเคารพเมีย

รักเมียต้องส่งเสีย     อย่าให้เมียต้องสงสัย

รักเมียต้องรักเดียว     อย่าได้เที่ยวไปรักใคร

รักเมียต้องทำใจ      ถึงอย่างไรเธอคือเมีย

รักเมียอย่าขี้เหล้า   เมียจะเหงาเราจะเสีย

รักเมียอย่าอ่อนเพลีย    คนรักเมียต้องเเข็งแรง

รักเมียอย่าเที่ยวดึก  จะเกิดศึกผิดสำแดง

รักเมียอย่ารุนเเรง ค่อยค่อยแซง อย่าขับไว

รักเมียต้องยอมเมีย   เพราะว่าเมียไม่ยอมใคร

 รักเมียต้องเข้าใจ ไม่มีใครใหญ่กว่าเมีย


จริงไหมคะ น้องปลาทูแมน น้องหนุน น้องตุ๋ย  น้องอุอ๋น

น้อง โสภณเท่านี้  และน้องๆ ผู้ชายทั้งหลาย



สวัสดีครับพี่แอ๊ะ  emo30:sorry:
กลอนบทนี้ผู้ชายปฏิบัติตามแล้วเจริญก้าวหน้าทุกคน ขอยืนยันครับ emo4:))
แต่ผมข้องใจนิดเดียวว่าทำไมมีดร.อุอ๋นรวมอยู่ในรายชื่อด้วย ถ้างั้นพี่ดร.ป๋องกะพี่สิงห์ของผมล่ะครับ


หัวข้อ: Re: "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: swsm ที่ 16 พฤศจิกายน 2552, 19:50:28
อ้างถึง
ข้อความของ อ้อย 14 เมื่อ 16 พฤศจิกายน 2552, 18:46:39
พี่แอ๊ะขา

               เตรียมตัว แล เครื่องเพชร มางานหอ หรือยังคะ  จะได้เตรียม รปภ. คอยคุ้มกันให้  เราเดินชมงานด้วยกันนะพี่  แล้วพี่ๆ 13 มากันเยอะใหมคะ


ส่วนหะยีคงต้องเตรียมแว่นกันแดด ชนิดกัน UV 100%
แม้งานจะจัดในช่วงกลางคืนก็ตาม .. อิอิอิ

สวัสดีค่ะ พี่แอ๊ะ



หัวข้อ: Re: "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: Soponเท่านั้น ที่ 16 พฤศจิกายน 2552, 20:03:23
สวัสดีครับน้องหะยี
ไม่ค่อยได้คุยกันนะครับพักนี้ เห็นวิ่งรอกตามห้องต่างๆก็เหนื่อยแทนแล้วล่ะครับ

อ้อ แล้วที่ต้องเตรียมแว่นแบบกัน UV 100%เนี่ย เพราะจะรับบทคนถือไมค์ ไฟส่องหน้าใช่มะ พี่จะได้คอยซื้อลูกโป่งเชียร์ระวังค่ายเพลงจะรุมทึ้งตัวละกัน emo9:huhu:


หัวข้อ: Re: "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: swsm ที่ 16 พฤศจิกายน 2552, 20:07:41
อ้างถึง
ข้อความของ Soponเท่านั้น เมื่อ 16 พฤศจิกายน 2552, 20:03:23
สวัสดีครับน้องหะยี
ไม่ค่อยได้คุยกันนะครับพักนี้ เห็นวิ่งรอกตามห้องต่างๆก็เหนื่อยแทนแล้วล่ะครับ

อ้อ แล้วที่ต้องเตรียมแว่นแบบกัน UV 100%เนี่ย เพราะจะรับบทคนถือไมค์ ไฟส่องหน้าใช่มะ พี่จะได้คอยซื้อลูกโป่งเชียร์ระวังค่ายเพลงจะรุมทึ้งตัวละกัน emo9:huhu:

เปล่าค่า .. ที่ต้องใส่แว่นเพราะกลัวรังสีเพชรของพี่แอ๊ะตะหากค่าาาา


หัวข้อ: Re: "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: prapasri AH ที่ 16 พฤศจิกายน 2552, 20:22:55
น้องอ้อย 14 และน้องๆคะ

พี่แอ๊ะเตรียมชุด ใส่สบายๆเป็น เสื้อลินิน จี๋จมพู  และเผื่อเลือก เป็นชุดราตรีสโมสร.เอ๊ย....ม่ายข่าย.

ชุดกระโปรง หวานๆ หรือเปรี้ยวๆ

เอ.....จะใส่ชุดไหนดีหนอ... เครียดแล้วซิ...

สำหรับเพชร ก็คงต้องใส่เพชร จี่จมพู

พูดเล่นๆนะคะ promotion ไว้ก่อนค่ะ จะได้มีคนมาถ่ายรูปกะพี่แอ๊ะเยอะๆ

รูปจะได้ออกไป world wide  .อิๆๆๆๆๆๆ


หัวข้อ: Re: "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: iamfrommoon ที่ 16 พฤศจิกายน 2552, 20:23:06
อ้างถึง
ข้อความของ อ้อย 14 เมื่อ 16 พฤศจิกายน 2552, 18:46:39
พี่แอ๊ะขา

               เตรียมตัว แล เครื่องเพชร มางานหอ หรือยังคะ  จะได้เตรียม รปภ. คอยคุ้มกันให้  เราเดินชมงานด้วยกันนะพี่  แล้วพี่ๆ 13 มากันเยอะใหมคะ

พี่แอ๊ะคะ
สมัครทส.มั้ยคะ จะสมัครคนแรก (ทหารคนสนิท) 555


หัวข้อ: Re: "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: หนุน'21 ที่ 16 พฤศจิกายน 2552, 20:27:04
อ้างถึง
ข้อความของ prapasri AH เมื่อ 16 พฤศจิกายน 2552, 17:18:50
น้องปลาทูแมนและน้องๆ ผู้ชายทุกท่านค่ะ

วันนี้พี่แอ๊ะทำกิจกรรม 5 ส. ในบ้านพี่แอ๊ะ สะสางเอกสารซะ เหนื่อยไปเลย

เลยไปเจอกลอนบทหนึ่ง น่ารักซะไม่มี

เริ่มต้นเลยนะคะ

                
   ชื่อว่า  "รักเมีย"


  รักเมียต้องอดทน    ต้องเป็นคนเคารพเมีย

รักเมียต้องส่งเสีย     อย่าให้เมียต้องสงสัย

รักเมียต้องรักเดียว     อย่าได้เที่ยวไปรักใคร

รักเมียต้องทำใจ      ถึงอย่างไรเธอคือเมีย

รักเมียอย่าขี้เหล้า   เมียจะเหงาเราจะเสีย

รักเมียอย่าอ่อนเพลีย    คนรักเมียต้องเเข็งแรง

รักเมียอย่าเที่ยวดึก  จะเกิดศึกผิดสำแดง

รักเมียอย่ารุนเเรง ค่อยค่อยแซง อย่าขับไว

รักเมียต้องยอมเมีย   เพราะว่าเมียไม่ยอมใคร

 รักเมียต้องเข้าใจ ไม่มีใครใหญ่กว่าเมีย


จริงไหมคะ น้องปลาทูแมน น้องหนุน น้องตุ๋ย  น้องอุอ๋น

น้อง โสภณเท่านี้  และน้องๆ ผู้ชายทั้งหลาย



 emo4:))

พี่แอ๊ะครับ เรื่องจริงก็คือ ผู้ชายทุกคนแหละครับจะเกรงใจเมีย
ก็ตัดสินใจเลือกเขาแล้วนี่ครับ ไม่ได้จับฉลากได้จากงานกาชาด

แต่ที่บ้านผมเราแบ่งกันทำหน้าที่ครับ
ที่บ้านผมใหญ่แต่ผู้เดียว ใครจะมาแย่งผมทำหน้าที่พ่อบ้านไม่ได้
แล้วก็จะต้องเป็นผู้ตัดสินใจแต่เรื่องใหญ่ๆครับ เรื่องเล็กๆเท่านั้น
ที่แฟนผมเป็นคนตัดสินใจ

แต่บอกก่อนนะครับแต่งงานกันมา 16 ปีครอบครัวผมยังไม่เคยมีเรื่องใหญ่เลย
ทั้งซื้อบ้าน ซื้อรถ เลือกโปรแกรมท่องเที่ยว เขาเลือกกะลูกชายเค้า
แล้วก็แจ้ง พ่อเพื่อดำเนินการต่อไป

เป็นการยืนยันว่าที่พี่แอ๊ะนำมาเล่าเนี่ย....เรื่องจริง
อิ อิ อิ


 emo20:)):)


หัวข้อ: Re: "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: prapasri AH ที่ 16 พฤศจิกายน 2552, 20:29:27
ขอบคุณมากค่ะ น้องปุ๊กกี้

ช่วยเป็น ทส. พี่แอ๊ะหน่อยนะคะ

แม่ใหญ่แอ๊ะ... ย่านหลาย อีหล่าเอ๊ยยยยยยยยยยยยย

อีหล่า คำแพงงงงงงงงงงงงง

หมายเหตุ "ย่าน" ภาษอิสานแปลว่า "กลัว" ค่ะ  


หัวข้อ: Re: "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: พธู ๒๕๒๔ ที่ 16 พฤศจิกายน 2552, 21:36:43
(http://img262.imageshack.us/img262/9446/m2180311.jpg)


หัวข้อ: Re: "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: พธู ๒๕๒๔ ที่ 16 พฤศจิกายน 2552, 23:08:22
วันหนึ่ง สาริยุชายวัยฉกรรถ์ เกิดปวดท้องขนาดหนัก

จึงรีบวิ่งตรงเข้า ห้องน้ำสาธารณะ แต่..
โชคไม่เข้าข้าง เพราะทุกห้องเต็มเหยียด
แถมไม่มีทีท่าว่าใครจะออกมา

หลังจากที่เขาเดินกระวนกระวายอยู่หลายนาที
เผอิญมีหญิงสาวคนหนึ่งสังเกตเห็นเข้า
และเดาได้ว่าสาริยุ กำลังกลัดกลุ้มทุกข์หนัก เช่นใด
หญิงสาวจึงตรงเข้ามาหาและพูดด้วยความเห็นใจว่า
 
“คุณ คะ ๆ ห้องน้ำหญิงว่างอยู่ค่ะ”
“แต่ว่า…อ่า…” สาริยุ ยังมีอาการ ลังเล
“เถอะค่ะ.. ฉันเห็นใจ ฉันยินดีจะเฝ้าหน้าห้องน้ำให้
ถ้าคุณยอมสัญญากับฉัน 3 ข้อ”

หญิงสาวยื่นเงื่อนไข
“ครับ ๆ ๆ ๆ…ผมตกลง สัญญาอะไร บ้างครับ”

สาริยุรับปากด้วยความเต็มใจยิ่ง
เนื่องจากอะไรต่อมิอะไรในลำไส้
ใกล้ระเบิดออกมาให้ขายขี้หน้าอยู่รอมร่อ

“ข้อแรก คุณต้องรีบใช้ห้องน้ำให้เร็วที่สุด
เพราะฉันอยู่เฝ้าได้ไม่นาน
เดี๋ยวอาจจะมีสุภาพสตรีที่ต้องการใช้ห้องน้ำมาที่นี่
แล้วเธออาจจะตกใจได้ถ้าเจอคุณอยู่ในนั้น”
หญิงสาวเอ่ยขอคำสัญญาข้อแรก

“อูยยย…เร็ว ๆ ครับ รีบบอกข้อ 2 ข้อ 3 มาด่วนเลย”
 
“ข้อ 2 คุณต้องรักษาความสะอาด ห้ามทำให้เลอะเทอะสกปรก
เด็ดขาด พวกผู้ชายน่ะ ชอบทำห้องน้ำสกปรก”
 
“ข้อ 3 ต่อเลยครับ เร็ว ๆ ๆ ๆ”
 
“ข้อสุดท้ายสำคัญที่สุด.. คุณต้องสัญญาว่า
ห้ามกดปุ่มใด ๆ ทั้งสิ้นในห้องน้ำหญิง นอกเหนือจากปุ่มชักโครก”
คำสัญญาข้อสุดท้าย.. แม้จะทำสาริยุค่อนข้างงง
ไม่เข้าใจว่าจะมีปุ่มอะไรในห้องน้ำหญิงนักหนา

แต่เขาก็รับคำเนื่องจากปวดท้องจนทนไม่ไหว
ว่าแล้วสาริยุก็วิ่งพรวดเข้าไปในห้องน้ำ
หลังปลดทุกข์ อันหนักหน่วง เฮ้อ สบายตัวแล้ว

เขาจึงมีโอกาสได้พิจารณาห้องเล็ก ๆ โดยรอบ
ซึ่งพบว่าไม่มีอะไรต่างจากห้องน้ำชายสักเท่าไร
เว้นแต่.. ปุ่มแปลกประหลาดจำนวน 3 ปุ่ม
สีเขียว สีฟ้า และ สีแดงอยู่ที่ผนังห้องน้ำ!

แถมปรากฏอักษรย่อ
“น.อ.” ที่ปุ่มสีเขียว
“พ.ล.” ที่ปุ่มสีฟ้า และ
“ด.ผ.อ.น.ม.” ที่ปุ่มสีแดง

สาริยุเริ่มเกิดความอยากรู้ อยากเห็นสมกับที่มีการศึกษาดี
เพราะห้องน้ำชายไม่ยักมีปุ่มพวกนี้

เขาจึงอดไม่ได้ที่จะละเมิดคำสัญญา
ลองกดปุ่มแรกที่เขียน ว่า “น.อ.”
ทันใด.. สิ่งน่าประ หลาดใจก็เกิดขึ้น เมื่อปรากฏมี
สายน้ำอุ่นพุ่งขึ้นฉีดล้างทำความสะอาดบั้นท้ายของเขา
อย่างนุ่มนวล แผ่วเบา และอุ่นสบาย
สาริยุจึงรู้ว่า ที่แท้ “น.อ.” ย่อมา จากน้ำอุ่น!

ขณะนึกอิจฉาอุปกรณ์อำนวยความสะดวกในห้องน้ำหญิง
เขาก็อดใจไม่ไหว ต้องลองกดปุ่มที่สองที่เขียนว่า
“พ.ล.” ทันใดนั้น..ก็มีสายลมพัดพุ่งตรงใส่บั้นท้ายเขา
เป่าให้แห้งอย่างนุ่มนวล แผ่วเบาและอุ่นสบายเช่นเคย
ทีนี้ สาริยุ จึงเข้าใจกระจ่างว่า “พ.ล.” แปลว่าพัดลม!

เมื่อสาริยุ เห็นความอัศจรรย์สุดยอดของบริการทันสมัย
ไปสองปุ่มแล้วเขาอดไม่ได้ที่ จะลองกดปุ่มสุดท้ายที่กำกับ
ด้วยอักษรย่อยาวที่สุดว่า “ด.ผ.อ.น.ม.”
พลางนึกว่าปุ่มนี้น่าจะเป็นทีเด็ดสุดยอด
เหตุการณ์ทุกอย่างเกิดขึ้นอย่างรวดเร็วราวสายฟ้าแลบ

กว่าสาริยุ จะรู้ตัวอีกที ก็ตอนได้สติที่โรงพยาบาล
ทันทีที่ลืมตาขึ้น เขารีบถามพยาบาลที่อยู่ตรงหน้าทันทีว่า…
“นี่มันที่ไหนกัน ผมอยู่ที่ไหนเนี่ย  เกิดอะไรขึ้น
ผมจำได้ว่าผมใช้บริการห้องน้ำหญิง แล้วผมมาอยู่นี่ได้ไง”
 
“ตอนนี้คุณอยู่ที่โรงพยาบาลค่ะ
ที่คุณต้องมาอยู่นี่ก็เพราะคุณไปกดปุ่มสีแดงเข้าน่ะนะคะ”
 
เมื่อเห็นสาริยุทำหน้างง พยาบาลสาวนางนั้นจึงเฉลยว่า
“ปุ่มสีแดงที่มีอักษรย่อว่า ‘ด.ผ.อ.น.ม.’
หมายถึง ‘ดึงผ้า อนามัย’ ไงคะ…

ฉันต้องแสดงความเสียใจด้วย
เพราะคุณหมอต่อให้คุณไม่สำเร็จค่ะ  เครื่องมันดึงของคุณ
แล้วยัดลงท่อชักโครกไปแล้วล่ะ ทำใจนะคะ


หัวข้อ: Re: "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: wannee ที่ 17 พฤศจิกายน 2552, 00:26:47


มาขำๆกันดีฝ่านะก๊ะพี่แอ๊ะ   emo20:)):) emo20:)):)


หัวข้อ: Re: "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: อ้อย 14 ที่ 17 พฤศจิกายน 2552, 11:23:58
อ้างถึง
ข้อความของ prapasri AH เมื่อ 16 พฤศจิกายน 2552, 20:22:55
น้องอ้อย 14 และน้องๆคะ

พี่แอ๊ะเตรียมชุด ใส่สบายๆเป็น เสื้อลินิน จี๋จมพู  และเผื่อเลือก เป็นชุดราตรีสโมสร.เอ๊ย....ม่ายข่าย.

ชุดกระโปรง หวานๆ หรือเปรี้ยวๆ

เอ.....จะใส่ชุดไหนดีหนอ... เครียดแล้วซิ...

สำหรับเพชร ก็คงต้องใส่เพชร จี่จมพู

พูดเล่นๆนะคะ promotion ไว้ก่อนค่ะ จะได้มีคนมาถ่ายรูปกะพี่แอ๊ะเยอะๆ

รูปจะได้ออกไป world wide  .อิๆๆๆๆๆๆ

มีแต่คนสมัครเป็น รปภ.พี่แอ๊ะ  ใครๆก็รักพี่คนนี้  วันงานเอาให้วูบวาบสุดๆเลยเพ่!!!  ให้ดังไปทั่วโลก เลย โดยเฉพาะทวีปยุโรปเนอะ  พี่เนอะ..!!! emo43 emo43


หัวข้อ: Re: "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: prapasri AH ที่ 17 พฤศจิกายน 2552, 13:32:53
น่ารักจริงๆ น้องอ้อย14 คนดีของพี่แอ๊ะ

รักกันมาเกือบ40 ปี ปกป้องพี่แอ๊ะทุกอย่าง ขอบคุณ ขอบคุณ

เรียกว่า ดูแลหัวหน้าแก๊งค์ อย่างดี

เวรย่อมระงับด้วยการไม่จองเวรนะอ้อยนะ

ทำดีได้ดีทำชั่วได้ชั่ว

พระพุทธเจ้าตรัสไว้ค่ะ
พี่แอ๊ะไปค้นหารูป ตอนนี้ ทำ 5ส. ในบ้านค่ะ

พี่แอ๊ะไปเจอรูปที่พี่แอ๊ะใส่ แล้วที่พี่สิงห์ หาว่าไม่สุภาพ

กำลังส่งไปให้ สะแกน แล้วมาให้คะแนน ความโป๊...เอ๊ยม่ายช่าย ความสุภาพไม่สุภาพกันนะคะ

รับรองน้องหะยีต้องบอกว่าเรียบร้อยมากกกกกกกกกกกกกกกกกกกกก

โปรดติดตามด้วยใจระทึกโดยพลัน

น้องหะยีคะ พี่แอ๊ะอยากได้รูปพี่แอ๊ะเเต่งตัวเเบบเพชรา เชาวราษฎร์

เหมือนน้องหะยี ในกระทู้พี่สินน่ะค่ะ จังเลยค่ะ


หัวข้อ: Re: "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: prapasri AH ที่ 17 พฤศจิกายน 2552, 15:51:15
น้องปลาทูแมน เขียนเรื่องนี้เองหรือเปล่าคะ

พี่แอ๊ะตามไม่ค่อยทันค่ะ


หัวข้อ: Re: "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: พธู ๒๕๒๔ ที่ 17 พฤศจิกายน 2552, 16:03:06
อ้างถึง
ข้อความของ prapasri AH เมื่อ 17 พฤศจิกายน 2552, 15:51:15
น้องปลาทูแมน เขียนเรื่องนี้เองหรือเปล่าคะ

พี่แอ๊ะตามไม่ค่อยทันค่ะ
ขำขันไปลอกไอเดียมาดัดแปลง แต่กลอนแต่งเองครับ
พี่ลองอ่านอีกสักเที่ยวแล้วนึกตาม ลองคิดว่ามีมีอวัยวะเเบบคุณหมอซิครับ


หัวข้อ: Re: "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: KUSON ที่ 17 พฤศจิกายน 2552, 16:59:56
คิกๆๆ ขำครับคุณปาทู
เพิ่งรู้ ทำไมคุณสาริยุจึงไม่ยอมแต่งงาน
เพราะไปเข้าห้องน้ำหญิง
แล้วซุกซนกดปุ่มโน่นปุ่มนี่
พอกดปุ่มดึงผ้าอนามัยเข้า
จึงถูกดึงจนไม่เหลือซาก  คิกๆๆ
ช่วยแต่งนิยายภาคสองต่อนะ
ประเภทเจอนางฟ้าใจดีเข้า
จึงเสกให้ส่วนที่หายไปกลับคืนมาเหมือนเดิม
แต่สาริยุกลับไม่พอใจอยากได้ใหญ่ๆอเมสซิ่ง
เสกไปเสกมา นางฟ้ารำคาญ
........ถึงตรงนี้พี่แต่งไม่ออก คิกๆๆๆ






หัวข้อ: Re: "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: Kaimook ที่ 17 พฤศจิกายน 2552, 17:30:05
สวัสดีค่ะพี่ๆ emo4:)) emo4:)) emo4:))


หัวข้อ: Re: "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: prapasri AH ที่ 17 พฤศจิกายน 2552, 20:15:59
น้องไข่มุกขา

น้องไข่มุก อายุยืนจัง วันนี้พี่แอ๊ะไปเดินออกกำลังกาย ยังคิดถึงน้องไข่มุกอยู่เลย

คิดถึงก็มาแสดงว่าอายุยืน

น้อง ผู้หญิง ที่น่ารัก และมีมารยาทงาม อย่างน้องไข่มุก และ หะยี เข้ามาบ้านหลังใหญ่ 2513 บ่อยๆนะคะ

และอย่าลืมเเวะห้องพี่แอ๊ะด้วยค่ะ (น้องผู้ชายทุกท่านก็น่ารัก เด่วจะหาว่ารักแต่น้องผู้หญิง)

จริงๆ พี่แอ๊ะเป็นแม่ของน้องๆ แล้วนะคะ เพราะอายุเกือบทุกคนน่าจะเท่าลูกชายคนโตพี่แอ๊ะเลยค่ะ

คือบ้าน2513 หลังใหญ่ แต่มีห้องหลายห้องค่ะ

ถ้าเเวะทุกห้องน้องคงเหนื่อยแย่  



หัวข้อ: Re: "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: prapasri AH ที่ 17 พฤศจิกายน 2552, 20:39:14
อ้อย14 หายไปไหนจ๊ะ ว่าจะมาคุยกะพี่แอ๊ะตอนค่ำๆ

ยังไม่เห็นมา พี่แอ๊ะยอมแพ้ แล้วค่ะ ขอไปนอนดีก่า

แรงไม่ค่อยมี ไปหลายห้องไม่ได้ค่ะ เลยรออ้อยอยู่ที่นี่แหละ555555555555555555555555

ตลกไหมคะ

อ๋อ เสียงพี่หาญร้องเพลงมาดัง อย่างอารมณ์ดี ขอไปอยู่กับสามีก่อนนะ


หัวข้อ: Re: "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: ตุ๋ย 22 ที่ 17 พฤศจิกายน 2552, 20:51:52
หวัดดีครับพี่แอ๊ะ


หัวข้อ: Re: "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: iamfrommoon ที่ 17 พฤศจิกายน 2552, 20:53:17
สวัสดีตอนดึกๆ ค่าพี่แอ๊ะ และพี่ๆ ทุกคน

รอวันเจอกัน ณ คืนสู่เหย้าชะเอิงเอย...


หัวข้อ: Re: "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: หนุน'21 ที่ 17 พฤศจิกายน 2552, 21:31:11
 emo4:))

สวัสดีครับพี่แอ๊ะ
เข้ามาติดตามเรื่องที่พี่แอ๊ะจะเล่าต่อ
แต่สงสัยไม่ค่อย มีเวลาว่างที่จะเล่าให้น้องๆ ฟังนะครับ

เอาไว้เล่าต่อ หลังคืนสู่เหย้านะครับพี่
ตอนนี้อ่านของป๋าทูไปพลางก่อน


 emo40::


หัวข้อ: Re: "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: อ้อย 14 ที่ 18 พฤศจิกายน 2552, 07:12:05
สวัสดีค่ะ พี่แอ๊ะ

                         เมื่อวาน ไปตลาด เห็นเขาเอาเสื้อคอกระเช้ามาขาย เลยปิ๊งไอเดียว่า  เดี๋ยวจะเอาไปใส่ในงานหอหน่อย  เอ!! แล้วมันต้องมี สร้อยคอทองเส้นโตๆๆ   อ้าว  emo42 แล้วจะหามาจากไหน  ตอนนี้ทองก็แพงสุดชีวิต  เดี๋ยวจะไปหาทองเก๊ตามตลาดนัดมาใส่หน่อย  จะได้เดินตามพี่แอ๊ะเป็นแม่นมไปเลย   

                       แล้วพี่แอ๊ะ น่าจะแต่งแบบสาวใต้นะคะ  คงสวยแปลกตา ดี แล้วอากาศตอนนี้เริ่มเย็นลง  เดินเที่ยวงานวัดวันที่ 21 คงสนุกแน่.. emo48:)


หัวข้อ: Re: "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: iamfrommoon ที่ 18 พฤศจิกายน 2552, 07:38:14
อ้างถึง
ข้อความของ อ้อย 14 เมื่อ 18 พฤศจิกายน 2552, 07:12:05
สวัสดีค่ะ พี่แอ๊ะ

                         เมื่อวาน ไปตลาด เห็นเขาเอาเสื้อคอกระเช้ามาขาย เลยปิ๊งไอเดียว่า  เดี๋ยวจะเอาไปใส่ในงานหอหน่อย  เอ!! แล้วมันต้องมี สร้อยคอทองเส้นโตๆๆ   อ้าว  emo42 แล้วจะหามาจากไหน  ตอนนี้ทองก็แพงสุดชีวิต  เดี๋ยวจะไปหาทองเก๊ตามตลาดนัดมาใส่หน่อย  จะได้เดินตามพี่แอ๊ะเป็นแม่นมไปเลย  

                       แล้วพี่แอ๊ะ น่าจะแต่งแบบสาวใต้นะคะ  คงสวยแปลกตา ดี แล้วอากาศตอนนี้เริ่มเย็นลง  เดินเที่ยวงานวัดวันที่ 21 คงสนุกแน่.. emo48:)

พี่อ้อยคะ
เริ่ดเลยค่า แต่ต้องใส่ตอนในงานนะคะ ใส่ข้างนอกงาน อาจไม่ปลอดภัยหากโดนกระชากแถมกลับมาโวยอีกรอบว่า ของปลอม 555


หัวข้อ: Re: "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: prapasri AH ที่ 18 พฤศจิกายน 2552, 08:03:24
อ้อย14 มีไอเดียดีจัง

พี่แอ๊ะเพิ่งไปซื้อ ผ้าถุงภูเก็ตมา พี่แอ๊ะให้ เขาตัดให้ใส่เป็นชาวใต้ดีกว่า ชะเอิงเอยยยยยยยยยยย

แต่พี่หาญอยากให้พี่แอ๊ะแต่งเป็น สาวลาว ค่ะ

จะเอายังไงดีหนออออออออออออออ


หัวข้อ: Re: "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: krongon2513 ที่ 18 พฤศจิกายน 2552, 12:55:35
ครึ่งบนเป็นลาว  ครึ่งล่างเป็น เล (ชาวเลมอแกน)ดีมั๊ย  เอิ๊กๆๆ

ฉันสงสัย  ตามประสาคนช่างสงสัย

ทำไมน้องปลาทู น้องปลาทอง น้องผู้ชาย ไม่เข้ากระทู้ฉันอ่ะ
ฉันอ่านแล้ว Get นะ ไอ้มุก หรือมุข ต่างๆเหล่านี้เนี่ย
แต่ฉันก็ไม่น้อยใจ ไม่งอน ไม่งอแง และผมก็ไม่ได้น้อยด้วย55555


หัวข้อ: Re: "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: KUSON ที่ 18 พฤศจิกายน 2552, 15:26:09
พี่อ้อย13ที่เคารพรัก
อย่าได้น้อยใจในวาสนา(กระทู้)ไปเลย
ผมเห็นพี่บางคนพอครบ100หน้าก็เต้นแร้งเต้นกาไปสามวัน เจ็ดวัน
แต่ความจริงเป็นเทคนิคของท่าน
ยอมให้น้องๆแขวะนิดแขวะหน่อย
ทำเป็นคร่ำครวญ โอ๊ยๆๆ
(แต่ความจริงดีใจขอรับ)
แค่นี้น้องๆก็เฮโลเข้ามาไม่หยุดหย่อน
พี่อ้อยยอมเจ็บตัวบ้างสิครับ
รับรองดังละเบิดเถิดเทิง คิกๆๆๆ


หัวข้อ: Re: "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: suriya2513 ที่ 18 พฤศจิกายน 2552, 16:51:50
เพิ่งจะเห็นอาจารย์กุศลเขียนเป็นประเด็น ได้เรื่องได้ราวก็คราวนี้แหละ


หัวข้อ: Re: "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: พธู ๒๕๒๔ ที่ 18 พฤศจิกายน 2552, 17:14:01
อ้างถึง
ข้อความของ krongon2513 เมื่อ 18 พฤศจิกายน 2552, 12:55:35
ครึ่งบนเป็นลาว  ครึ่งล่างเป็น เล (ชาวเลมอแกน)ดีมั๊ย  เอิ๊กๆๆ

ฉันสงสัย  ตามประสาคนช่างสงสัย

ทำไมน้องปลาทู น้องปลาทอง น้องผู้ชาย ไม่เข้ากระทู้ฉันอ่ะ
ฉันอ่านแล้ว Get นะ ไอ้มุก หรือมุข ต่างๆเหล่านี้เนี่ย
แต่ฉันก็ไม่น้อยใจ ไม่งอน ไม่งอแง และผมก็ไม่ได้น้อยด้วย55555
กลายเป็นปลาทอง ปลาเทวดาซะแล้วเรา
พี่อ้อย ไอ้เรื่องขบขันที่มาเล่า ไปบางบ้านเจ้าของอาจถีบออกมาได้ง่าย
เลยต้องเลือกห้องหน่อยครับ ไม่งั้นอาจถูก.......อย่างงี้ได้

(http://img149.imageshack.us/img149/7982/image104445410044451bc0.gif)


หัวข้อ: Re: "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: prapasri AH ที่ 18 พฤศจิกายน 2552, 20:01:15

น้องปลาทูแมนขา

ยินดีต้อนรับค่ะ ไม่โดนถีบแน่นอน

พี่แอ๊ะเพิ่งกลับจากงานประกวด ตำส้มตำ ของเทศบาลเมืองยโสธร ค่ะ ชื่อโครงการอาหารสะอาด รสชาติอร่อย

ทานส้มตำปลาร้า ซะ 22 ร้านค้า ค่ะ

ผู้ติดตาม พี่แอ๊ะ  ถ่ายรูป ให้ ว่าจะโพสต์ให้ดู แต่ยัง ทำรูปโพสต์ไม่เป็น

พรุ่งนี้จะเขาจะ ทำรูปให้ พี่แอ๊ะจะส่งมาให้ดูนะคะ  และพรุ่งนี้มีประกวดสาวประเภทสองค่ะ

มะรืนนี้ ประกวด  ลาบ ยโสธร  

ทางอบจ.ของพี่แอ๊ะให้งบประมาณ ไปเป็นแสน บาท เพื่อสร้างความสุขให้คนยโสธรค่ะ

ยโสธรได้ชื่อว่า เป็นเมืองสาวประเภทสอง ที่ อาจจะให้เป็นโอทอบ ของจังหวัดได้เลยค่ะ

สนใจชวน ดร.อุอ๋น มาดูได้นะคะ เผื่อน้องปลาทูแมนอาจจะได้รางวัลที่ 1 5555555555555555555


หัวข้อ: Re: "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: ตุ๋ย 22 ที่ 18 พฤศจิกายน 2552, 20:49:40
เหอๆๆๆๆ  เมืองสาวประเภทสองเลยหรอพี่แอ๊ะ


หัวข้อ: Re: "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: swsm ที่ 18 พฤศจิกายน 2552, 22:21:08
สาวประเภทสองหลายคนสวยเนียนจนนึกว่าเป็นสาวแท้

ส่วนสาวแท้บางคนหน้าตาดูเหมือนสาวประเภทสอง .. โอ้ โลกหนอโลก !?!


สวัสดีค่ะ  พี่แอ๊ะ
   emo9:huhu:


หัวข้อ: Re: "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: krongon2513 ที่ 18 พฤศจิกายน 2552, 22:24:45
อ้างถึง
ข้อความของ KUSON เมื่อ 18 พฤศจิกายน 2552, 15:26:09
พี่อ้อย13ที่เคารพรัก
อย่าได้น้อยใจในวาสนา(กระทู้)ไปเลย
ผมเห็นพี่บางคนพอครบ100หน้าก็เต้นแร้งเต้นกาไปสามวัน เจ็ดวัน
แต่ความจริงเป็นเทคนิคของท่าน
ยอมให้น้องๆแขวะนิดแขวะหน่อย
ทำเป็นคร่ำครวญ โอ๊ยๆๆ
(แต่ความจริงดีใจขอรับ)
แค่นี้น้องๆก็เฮโลเข้ามาไม่หยุดหย่อน
พี่อ้อยยอมเจ็บตัวบ้างสิครับ
รับรองดังละเบิดเถิดเทิง คิกๆๆๆ



น้องอุอ๋น คนโปรดของพี่
ใครอ่ะ..ที่เต้นแร้งเต้นกา??? ปูนนี้แล้ว  เต้นไหวเรอะ

พี่พร้อมจะเจ็บตัวเสมอ ผู้ใดจะกัด  พี่ก็ไม่เกี่ยง
แต่โอ้อนิจจา หนังมันเหนียว เพราะเกิดมานาน
กัดเท่าใดก็ไม่เข้า ทำไงดีล่ะ


หัวข้อ: Re: "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: krongon2513 ที่ 18 พฤศจิกายน 2552, 22:32:16
อ้างถึง
ข้อความของ patooman24 เมื่อ 18 พฤศจิกายน 2552, 17:14:01
อ้างถึง
ข้อความของ krongon2513 เมื่อ 18 พฤศจิกายน 2552, 12:55:35
ครึ่งบนเป็นลาว  ครึ่งล่างเป็น เล (ชาวเลมอแกน)ดีมั๊ย  เอิ๊กๆๆ

ฉันสงสัย  ตามประสาคนช่างสงสัย

ทำไมน้องปลาทู น้องปลาทอง น้องผู้ชาย ไม่เข้ากระทู้ฉันอ่ะ
ฉันอ่านแล้ว Get นะ ไอ้มุก หรือมุข ต่างๆเหล่านี้เนี่ย
แต่ฉันก็ไม่น้อยใจ ไม่งอน ไม่งอแง และผมก็ไม่ได้น้อยด้วย55555
กลายเป็นปลาทอง ปลาเทวดาซะแล้วเรา
พี่อ้อย ไอ้เรื่องขบขันที่มาเล่า ไปบางบ้านเจ้าของอาจถีบออกมาได้ง่าย
เลยต้องเลือกห้องหน่อยครับ ไม่งั้นอาจถูก.......อย่างงี้ได้

(http://img149.imageshack.us/img149/7982/image104445410044451bc0.gif)


555ตกลงจะให้เรียกน้องปลาการ์ตูน หรือน้องปลาทูล่ะจ๊ะ
พี่แอ๊ะเค้ารับรองว่าไม่ถีบก็ไม่ถีบซี ว่าไงว่าตามกัน

น้องเอ๊ย..พี่ไปนวดไทยมา รู้รสชาติของการถูกถีบเลยว่ามันรวดร้าวขนาดไหน
พี่ไม่ถีบใครแน่นอน

แอ๊ะ ฉันอยากกินส้มตำอะ  ตอนเธอโทร.มาฉันกะลังพูดกับเพื่อนที่เชียงใหม่อยู่ ขอโต้ด..นะจ๊ะ


หัวข้อ: Re: "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: พธู ๒๕๒๔ ที่ 18 พฤศจิกายน 2552, 23:16:32
หนุ่มสมชาย คนหนึ่งอายมากที่สัญลักษณ์แห่งความเป็นชายของตนเล็กผิดปกติ    เล็กจนอายที่จะให้แฟนสาวเห็นเพราะกลัวเธอจะทิ้งเขาไป    เมื่อเห็นขนาดของมัน   คืนหนึ่งขณะที่เขากับเธอพลอดรักกันอย่างมีอารมณ์ในมุมมืดสนิทแห่งหนึ่ง   เขาจึงตัดสินใจอาศัยความมืดช่วย ให้เธอรู้ความจริงเสียที    เขารูดซิปกางเกง เอาเจ้าตัวน้อยวางบนฝ่ามือของเธอ   แล้วคอยอย่างกระวนกระวายว่าเธอจะมีปฏิกิริยาอย่างไรแฟนสาวหันมากระซิบอย่าง อ่อนหวานว่า

'ขอบคุณที่เอื้อเฟื้อ     แต่ฉันไม่สูบบุหรี่ค่ะ'

(http://img101.imageshack.us/img101/7499/image1044445dc044443880.gif)


หัวข้อ: Re: "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: prapasri AH ที่ 19 พฤศจิกายน 2552, 06:06:26
น้องตุ๋ย น้อง หะยี น้องปลาทูเเมน และน้องกุศล  น้องหนุน21 น้องเจตต์ pe น้องโสภณเท่านี้ และน้องๆที่น่ารักทุกท่าน

ที่ยโสธร สาวประเภทสองเขาเปิดเผยตัว มาตั้งแต่ สมัยนู้นนนนนนนนนนนนน ตั้งแต่พี่แอ๊ะมาอยู่ใหม่ๆ

จนทำให้รู้สึกว่าเมืองนี้เป็นเมืองสาวประเภทสองจริงๆ เขามีอาชีพดีๆ กันนะ คะ แต่ส่วนใหญ่จะเปิดร้านเสริมสวย รับแต่งหน้า

เวลาไฮโซ ไฮซ้อ ที่นี่ออกงาน เขาต้องให้ สาวประเภทสองแต่งหน้าให้ค่ะ แต่งไปแต่งมาหน้าเหมือนกันกันหมดทั้งงาน55555555555555555555

แต่พี่แอ๊ะเเต่งหน้าเองค่ะ

น้องปลาทูแมน กระจิ๋วเดียวอีกแล้วววววววววววววววววว

พี่แอ๊ะถึงอยากให้มาประกวดสาวประเภทสองที่ยโสไงคะ

อ้อย13 หนังเหนียวเอ๊ยยยยยยยยยยยย

หนังฉันไม่เหนียวเหมือนเธอ และก็ไม่หนาด้วยจ้า

อ้อย14 ว่าไงจ๊ะ


หัวข้อ: Re: "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: หนุน'21 ที่ 19 พฤศจิกายน 2552, 07:06:29
(http://img412.imageshack.us/img412/5379/dhamma10.jpg)


สวัสดีครับพี่แอ๊ะ และพี่ๆ น้องๆทุกคน
วันพฤหัสแล้ว มะรืนนี้ซิครับ
ที่พวกเราชาวหอ จะได้มาร่วมงาน คืนสู่ถิ่นแผ่นดินแม่  กันอย่างพร้อมเพรียง


 emo6::))   emo6::))


หัวข้อ: Re: "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: swsm ที่ 19 พฤศจิกายน 2552, 08:41:11
สวัสดีค่ะ  พี่แอ๊ะ ..   emo9:huhu:


เห็นด้วยค่ะที่สาวประเภทสองมีความสามารถทางการแต่งหน้า ทำผม
เพราะทุกวันนี้เวลาออกงานใหญ่ ๆ .. หะยีก็ยังต้องพึ่งน้องนางเหล่านี้ช่วยหลือ
ฝีมือเธอเนี๊ยบมากจริง


แต่งหน้าตั้งแต่ 10 โมงเช้า .. เข้าบ้านเวลาสี่ทุ่ม ยังเริ่ดเหมือนเดิม
เพียงแต่สีปากลบเลือนไปบ้าง  ตามประสาคนกินเก่งค่ะ ..


ยอมรับค่ะว่าผู้ชายที่มีลักษณะเช่นนี้  เป็นอัฉริยะในหลาย ๆ ด้านตามที่ตนเองถนัด .. เก่งมั่ก ๆ ๆ


หัวข้อ: Re: "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: iamfrommoon ที่ 19 พฤศจิกายน 2552, 09:57:46
อ้างถึง
ข้อความของ prapasri AH เมื่อ 19 พฤศจิกายน 2552, 06:06:26
น้องตุ๋ย น้อง หะยี น้องปลาทูเเมน และน้องกุศล  น้องหนุน21 น้องเจตต์ pe น้องโสภณเท่านี้ และน้องๆที่น่ารักทุกท่าน

ที่ยโสธร สาวประเภทสองเขาเปิดเผยตัว มาตั้งแต่ สมัยนู้นนนนนนนนนนนนน ตั้งแต่พี่แอ๊ะมาอยู่ใหม่ๆ

จนทำให้รู้สึกว่าเมืองนี้เป็นเมืองสาวประเภทสองจริงๆ เขามีอาชีพดีๆ กันนะ คะ แต่ส่วนใหญ่จะเปิดร้านเสริมสวย รับแต่งหน้า

เวลาไฮโซ ไฮซ้อ ที่นี่ออกงาน เขาต้องให้ สาวประเภทสองแต่งหน้าให้ค่ะ แต่งไปแต่งมาหน้าเหมือนกันกันหมดทั้งงาน55555555555555555555

แต่พี่แอ๊ะเเต่งหน้าเองค่ะ

น้องปลาทูแมน กระจิ๋วเดียวอีกแล้วววววววววววววววววว

พี่แอ๊ะถึงอยากให้มาประกวดสาวประเภทสองที่ยโสไงคะ

อ้อย13 หนังเหนียวเอ๊ยยยยยยยยยยยย

หนังฉันไม่เหนียวเหมือนเธอ และก็ไม่หนาด้วยจ้า

อ้อย14 ว่าไงจ๊ะ

พี่แอ๊ะคะ
ภาพ prewedding และงานแต่งงานอุบล ฉลองแต่งงานกทม. น้องยังให้สาวประเภท 2 แต่งให้เลยค่า ต้องยกนิ้วให้เขาค่า เขามีพรสวรรค์กันสุดๆ...

เอามาฝาก 3 คนๆ ละแนว...คืนสู่เหย้าคราวนี้ยังไม่รู้จะแนวไหน  emo43
(http://img141.imageshack.us/img141/5738/pookcmadong.jpg)


พี่หยีคะ
ใช่เลย เรารู้สึกไว้วางใจเขาเนอะ บางคนเม้าท์แตกอีกแน่ะ 555


หัวข้อ: Re: "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: swsm ที่ 19 พฤศจิกายน 2552, 10:35:33
จริงค่ะ .. โดยเฉพาะวงการบันเทิง he-she เม้าท์กันระเบิดเถิดเทิง .. คริคริ    emo20:)):)


หัวข้อ: Re: "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: swsm ที่ 19 พฤศจิกายน 2552, 10:43:41
สองภาพนี้ก็ฝีมือของ he-she เจ้าประจำของหะยีค่าา ..
ช่างแต่งหน้าคนเดียวกัน  แต่สามารถทำให้เราดูแตกต่างได้ตามบทบาท  เก่งมากจริง ๆ

ปุ๊กกี้สนใจไหมคะ ??  พี่ว่าจะใช้บริการเขาในวันที่ 21 พ.ย. นี้ด้วยอ่ะ
   emo43


(http://img30.imageshack.us/img30/6311/49610633.jpg)


หัวข้อ: Re: "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: พธู ๒๕๒๔ ที่ 19 พฤศจิกายน 2552, 11:32:06
อ้างถึง
ข้อความของ iamfrommoon เมื่อ 19 พฤศจิกายน 2552, 09:57:46
อ้างถึง
ข้อความของ prapasri AH เมื่อ 19 พฤศจิกายน 2552, 06:06:26
น้องตุ๋ย น้อง หะยี น้องปลาทูเเมน และน้องกุศล  น้องหนุน21 น้องเจตต์ pe น้องโสภณเท่านี้ และน้องๆที่น่ารักทุกท่าน

ที่ยโสธร สาวประเภทสองเขาเปิดเผยตัว มาตั้งแต่ สมัยนู้นนนนนนนนนนนนน ตั้งแต่พี่แอ๊ะมาอยู่ใหม่ๆ

จนทำให้รู้สึกว่าเมืองนี้เป็นเมืองสาวประเภทสองจริงๆ เขามีอาชีพดีๆ กันนะ คะ แต่ส่วนใหญ่จะเปิดร้านเสริมสวย รับแต่งหน้า

เวลาไฮโซ ไฮซ้อ ที่นี่ออกงาน เขาต้องให้ สาวประเภทสองแต่งหน้าให้ค่ะ แต่งไปแต่งมาหน้าเหมือนกันกันหมดทั้งงาน55555555555555555555

แต่พี่แอ๊ะเเต่งหน้าเองค่ะ

น้องปลาทูแมน กระจิ๋วเดียวอีกแล้วววววววววววววววววว

พี่แอ๊ะถึงอยากให้มาประกวดสาวประเภทสองที่ยโสไงคะ

อ้อย13 หนังเหนียวเอ๊ยยยยยยยยยยยย

หนังฉันไม่เหนียวเหมือนเธอ และก็ไม่หนาด้วยจ้า

อ้อย14 ว่าไงจ๊ะ

พี่แอ๊ะคะ
ภาพ prewedding และงานแต่งงานอุบล ฉลองแต่งงานกทม. น้องยังให้สาวประเภท 2 แต่งให้เลยค่า ต้องยกนิ้วให้เขาค่า เขามีพรสวรรค์กันสุดๆ...

เอามาฝาก 3 คนๆ ละแนว...คืนสู่เหย้าคราวนี้ยังไม่รู้จะแนวไหน  emo43
(http://img141.imageshack.us/img141/5738/pookcmadong.jpg)


พี่หยีคะ
ใช่เลย เรารู้สึกไว้วางใจเขาเนอะ บางคนเม้าท์แตกอีกแน่ะ 555
ตายแล้ว น้อยต้องผ่านมือชายมาแล้วหรือ


หัวข้อ: Re: "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: swsm ที่ 19 พฤศจิกายน 2552, 12:58:08
นายทู .. เสียใจ 
ที่ไม่ใช่คนแรกของน้อย ??


หัวข้อ: Re: "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: iamfrommoon ที่ 19 พฤศจิกายน 2552, 13:45:10
อ้างถึง
ข้อความของ swsm เมื่อ 19 พฤศจิกายน 2552, 12:58:08
นายทู .. เสียใจ  
ที่ไม่ใช่คนแรกของน้อย ??


555 เฮียผ่านมาแค่ครั้งแรกและครั้งสุดท้ายพอแล้ว

พี่แอ๊ะคะ
เสาร์นี้พบกันค่า เดินทางปลอดภัยนะคะ อย่านอนดึกนัก เด๋ววันเสาร์ไม่สวย   emo43


หัวข้อ: Re: "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: prapasri AH ที่ 19 พฤศจิกายน 2552, 14:43:41
น้องหนุนคะ

ยังไม่ได้ good morning น้องหนุนเลย จะ good evening ซะแล้ว

น้องหนุนเชียร์ให้พี่แอ๊ะเป็นนักเขียน จึงอยากให้น้องหนุนไปช่วยอ่าน เรื่องสะใภ้บรส.

ในห้องพี่นภ นะคะ ว่าพี่แอ๊ะจะพอเป็นนักเรียน เอ๊ย..นักเขียนได้ไหม


น้องปุ๊กกีคนงาม (สำนวนพี่สิงห์)

พี่แอ๊ะจะพยายามถนอมเนื้อถนอมตัว เพื่อให้สวยที่สุดในงาน คืนสู่เหย้าค่ะ

วันนี้ ช่างเขาส่งเสื้อ ชีฟองสีชมพูมาให้ ใส่ชมพูดีไหมคะ แต่เกรงว่า คนจะใส่สีชมพูกันเยอะ

ต้องให้สวย เพราะต้องไปประกวดกับ ดร.อุอ๋น งี๊  ด.ญ. ปลาทูแมน งี๊ (คือ ตัวน้องปลาทูแมน เค้า จิ๋ว ดี พี่อ้อย13 บอกนะคะ)

สรุปว่า น้องปุ๊ก จะให้พี่แอ๊ะแต่งสี อะไรดีคะ มีหมดทุกสีค่า

น้องหะยี คะ ช่วยไปอ่านเรื่องสะใภ้ บรส. ที่น้องพี่นภ ด้วยนะคะ

น้อง ไข่มุก ไม่ค่อยมา คิดถึงจัง เวลาเจอวันงาน จะ ทายถูกไหมคะ

เอ..หรือจะให้ ฝ่ายกรรมการ เขาทำสายสะพาย ให้เราเป็นป้ายชื่อให้เราดีไหม 5555555555555


หัวข้อ: Re: "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: swsm ที่ 19 พฤศจิกายน 2552, 15:10:32
"เอ..หรือจะให้ ฝ่ายกรรมการ เขาทำสายสะพาย ให้เราเป็นป้ายชื่อให้เราดีไหม 5555555555555"


หนูชอบประโยคนี้ค่ะ  พี่แอ๊ะ .. อิอิอิ .. ถูกจายยย
   emo2:)



หัวข้อ: Re: "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: หนุน'21 ที่ 19 พฤศจิกายน 2552, 15:17:54
อ้างถึง
ข้อความของ prapasri AH เมื่อ 19 พฤศจิกายน 2552, 14:43:41
น้องหนุนคะ

ยังไม่ได้ good morning น้องหนุนเลย จะ good evening ซะแล้ว

น้องหนุนเชียร์ให้พี่แอ๊ะเป็นนักเขียน จึงอยากให้น้องหนุนไปช่วยอ่าน เรื่องสะใภ้บรส.

ในห้องพี่นภ นะคะ ว่าพี่แอ๊ะจะพอเป็นนักเรียน เอ๊ย..นักเขียนได้ไหม


น้องหะยี คะ ช่วยไปอ่านเรื่องสะใภ้ บรส. ที่น้องพี่นภ ด้วยนะคะ

น้อง ไข่มุก ไม่ค่อยมา คิดถึงจัง เวลาเจอวันงาน จะ ทายถูกไหมคะ

เอ..หรือจะให้ ฝ่ายกรรมการ เขาทำสายสะพาย ให้เราเป็นป้ายชื่อให้เราดีไหม 5555555555555

 emo4:))

พี่แอ๊ะครับ ผมจะไปอ่านแล้วมาเรียนให้พี่ทราบนะครับ
ขอเป็นหลังงานคืนสู่เหย้านะพี่
แต่มือชั้นพี่แอ๊ะแล้ว
ยังต้องรอคำวิจรารณ์ จากไผ อีกล่ะครับ


 emo6::))


หัวข้อ: Re: "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: ตุ๋ย 22 ที่ 19 พฤศจิกายน 2552, 20:22:00
หวัดดีพี่แอ้ะครับ  ชอบดุกระเทยแสดงความสามารถเหมือนกันนะ


หัวข้อ: Re: "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: Kaimook ที่ 19 พฤศจิกายน 2552, 22:02:12
อ้างถึง
ข้อความของ prapasri AH เมื่อ 19 พฤศจิกายน 2552, 14:43:41
น้องหนุนคะ

ยังไม่ได้ good morning น้องหนุนเลย จะ good evening ซะแล้ว

น้องหนุนเชียร์ให้พี่แอ๊ะเป็นนักเขียน จึงอยากให้น้องหนุนไปช่วยอ่าน เรื่องสะใภ้บรส.

ในห้องพี่นภ นะคะ ว่าพี่แอ๊ะจะพอเป็นนักเรียน เอ๊ย..นักเขียนได้ไหม


น้องปุ๊กกีคนงาม (สำนวนพี่สิงห์)

พี่แอ๊ะจะพยายามถนอมเนื้อถนอมตัว เพื่อให้สวยที่สุดในงาน คืนสู่เหย้าค่ะ

วันนี้ ช่างเขาส่งเสื้อ ชีฟองสีชมพูมาให้ ใส่ชมพูดีไหมคะ แต่เกรงว่า คนจะใส่สีชมพูกันเยอะ

ต้องให้สวย เพราะต้องไปประกวดกับ ดร.อุอ๋น งี๊  ด.ญ. ปลาทูแมน งี๊ (คือ ตัวน้องปลาทูแมน เค้า จิ๋ว ดี พี่อ้อย13 บอกนะคะ)

สรุปว่า น้องปุ๊ก จะให้พี่แอ๊ะแต่งสี อะไรดีคะ มีหมดทุกสีค่า

น้องหะยี คะ ช่วยไปอ่านเรื่องสะใภ้ บรส. ที่น้องพี่นภ ด้วยนะคะ

น้อง ไข่มุก ไม่ค่อยมา คิดถึงจัง เวลาเจอวันงาน จะ ทายถูกไหมคะ

เอ..หรือจะให้ ฝ่ายกรรมการ เขาทำสายสะพาย ให้เราเป็นป้ายชื่อให้เราดีไหม 5555555555555
สวัสดีค่ะพี่แอ๊ะ และพี่ๆทุกท่านค่ะรวมทั้งท่านป๋าทูด้วยค่ะ
พี่แอ๊ะคะช่วงนี้น้ำอ้อยไม่ค่อยได้เข้าซะหลายวันค่ะเพราะเดินทางไปเมืองแพร่ไปส่งคุณป้าค่ะ
กลับมาน้องอ๋อไม่สบายอีกค่ะ พอลูกสาวดีขึ้น น้ำอ้อยเดินล้มอีกค่ะ พี่แอ๊ะคะแปลกมากๆค่ะเดือนนี้
น้ำอ้อยเดินล้ม 3 ครั้งแล้วค่ะไม่เคยเป็นแบบนี้เลยนะคะไม่รู้เป็นอะไรค่ะวันนี้ล้มหัวเข่ากระแทกพื้นอย่างแรงๆ
พอตกค่ำรู้สึกระบมมากยังคิดดีนะนี่ถ้ามากกว่านี้กลัวอดไปงานหอค่ะ   คิดถึงพี่ๆทุกท่านค่ะ


หัวข้อ: Re: "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: พธู ๒๕๒๔ ที่ 19 พฤศจิกายน 2552, 22:14:07
อ้างถึง
ข้อความของ Kaimook เมื่อ 19 พฤศจิกายน 2552, 22:02:12
อ้างถึง
ข้อความของ prapasri AH เมื่อ 19 พฤศจิกายน 2552, 14:43:41
น้องหนุนคะ

ยังไม่ได้ good morning น้องหนุนเลย จะ good evening ซะแล้ว

น้องหนุนเชียร์ให้พี่แอ๊ะเป็นนักเขียน จึงอยากให้น้องหนุนไปช่วยอ่าน เรื่องสะใภ้บรส.

ในห้องพี่นภ นะคะ ว่าพี่แอ๊ะจะพอเป็นนักเรียน เอ๊ย..นักเขียนได้ไหม


น้องปุ๊กกีคนงาม (สำนวนพี่สิงห์)

พี่แอ๊ะจะพยายามถนอมเนื้อถนอมตัว เพื่อให้สวยที่สุดในงาน คืนสู่เหย้าค่ะ

วันนี้ ช่างเขาส่งเสื้อ ชีฟองสีชมพูมาให้ ใส่ชมพูดีไหมคะ แต่เกรงว่า คนจะใส่สีชมพูกันเยอะ

ต้องให้สวย เพราะต้องไปประกวดกับ ดร.อุอ๋น งี๊  ด.ญ. ปลาทูแมน งี๊ (คือ ตัวน้องปลาทูแมน เค้า จิ๋ว ดี พี่อ้อย13 บอกนะคะ)

สรุปว่า น้องปุ๊ก จะให้พี่แอ๊ะแต่งสี อะไรดีคะ มีหมดทุกสีค่า

น้องหะยี คะ ช่วยไปอ่านเรื่องสะใภ้ บรส. ที่น้องพี่นภ ด้วยนะคะ

น้อง ไข่มุก ไม่ค่อยมา คิดถึงจัง เวลาเจอวันงาน จะ ทายถูกไหมคะ

เอ..หรือจะให้ ฝ่ายกรรมการ เขาทำสายสะพาย ให้เราเป็นป้ายชื่อให้เราดีไหม 5555555555555
สวัสดีค่ะพี่แอ๊ะ และพี่ๆทุกท่านค่ะรวมทั้งท่านป๋าทูด้วยค่ะ
พี่แอ๊ะคะช่วงนี้น้ำอ้อยไม่ค่อยได้เข้าซะหลายวันค่ะเพราะเดินทางไปเมืองแพร่ไปส่งคุณป้าค่ะ
กลับมาน้องอ๋อไม่สบายอีกค่ะ พอลูกสาวดีขึ้น น้ำอ้อยเดินล้มอีกค่ะ พี่แอ๊ะคะแปลกมากๆค่ะเดือนนี้
น้ำอ้อยเดินล้ม 3 ครั้งแล้วค่ะไม่เคยเป็นแบบนี้เลยนะคะไม่รู้เป็นอะไรค่ะวันนี้ล้มหัวเข่ากระแทกพื้นอย่างแรงๆ
พอตกค่ำรู้สึกระบมมากยังคิดดีนะนี่ถ้ามากกว่านี้กลัวอดไปงานหอค่ะ   คิดถึงพี่ๆทุกท่านค่ะ

ลดน้ำหนักช่วยได้ครูอ้อย


หัวข้อ: Re: "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: prapasri AH ที่ 19 พฤศจิกายน 2552, 22:22:02
น้องตุ๋ย และน้องๆ คะ

 พี่แอ๊ะส่งรูปไปชิม ส้มตำมาให้ดูนะคะ น้องๆ จะได้น้ำลายสอ

ส้มตำเป็นส้มตำลาว นะคะ (ส้มตำปลาร้า) ถ้าทานส้มตำปลาร้า ได้แล้ว จะไม่อยากทานส้มตำไทย อีกเลย

เพราะส้มตำปลาร้าจะนัว (อร่อย)

เนื่องจากทางเทศบาล เขาสร้างตลาดโต้รุ่งแห่งที่2 ขึ้น

การจะดึงแม่ค้าให้มาติดตลาดใหม่เป็นเรื่องยากอย่างยิ่ง

เขาบอกว่า รบกะใครรบได้แต่อย่ารบกับแม่ค้าเป็นอันขาด

คือหมายถึงย้ายที่ทำกินเขามาที่ใหม่ และอาจจะทำให้เขาขายได้น้อยลง เขาจะก่อม๊อบได้

เพราะแม่ค้า จะไม่มีทางยอมง่ายๆ

นักการเมืองที่มีงานเกี่ยวพันกะแม่ค้า จะต้องระวังเป็นอย่างยิ่ง

เพราะพังมาเยอะเพราะแม่ค้าจนๆ หาเช้ากินค่ำนี่แหละ

ทางเทศบาลเมืองยโสจึงต้องหาทางโปรโมท ตลาดโต้รุ่งใหม่ เรียกว่า ฉลองกัน 10 วัน10คืนเลยทีเดียว

มีหมอลำซิ่งมาแสดง ทุกคืน

 ประกวด นางงามช้าง ประกวดส้มตำ ประกวดลาบยโส ประกวดสาวประเภทสอง

และรายการอื่นๆที่จะทำให้ ตลาดติดให้ได้


ให้สัมภาษณ์ออกทีวีเรื่อง การประกวดส้มตำค่ะ

(http://img301.imageshack.us/img301/994/dscf1582.jpg)



หัวข้อ: Re: "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: prapasri AH ที่ 19 พฤศจิกายน 2552, 22:24:30
นั่นแน่ะ หมอปลาทู ให้คำแนะนำแล้ว แสดงว่า น้องน้ำอ้อย อ้วนซิคะ

น้องอ้อยหายเร็วๆ นะคะ จะให้ พี่แอ๊ะ(พี่สาวหมอปลาทู) ช่วยรักษาดีไหมคะ55555555


หัวข้อ: Re: "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: prapasri AH ที่ 19 พฤศจิกายน 2552, 22:28:09
น้ำลายสอแล้วววววววววววววว

หิวๆ อยู่ด้วย

(http://img148.imageshack.us/img148/2608/dscf1589z.jpg)


หัวข้อ: Re: "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: พธู ๒๕๒๔ ที่ 19 พฤศจิกายน 2552, 22:29:16
อ้างถึง
ข้อความของ prapasri AH เมื่อ 19 พฤศจิกายน 2552, 22:22:02
น้องตุ๋ย และน้องๆ คะ

 พี่แอ๊ะส่งรูปไปชิม ส้มตำมาให้ดูนะคะ น้องๆ จะได้น้ำลายสอ

ส้มตำเป็นส้มตำลาว นะคะ (ส้มตำปลาร้า) ถ้าทานส้มตำปลาร้า ได้แล้ว จะไม่อยากทานส้มตำไทย อีกเลย

เพราะส้มตำปลาร้าจะนัว (อร่อย)

เนื่องจากทางเทศบาล เขาสร้างตลาดโต้รุ่งแห่งที่2 ขึ้น

การจะดึงแม่ค้าให้มาติดตลาดใหม่เป็นเรื่องยากอย่างยิ่ง

เขาบอกว่า รบกะใครรบได้แต่อย่ารบกับแม่ค้าเป็นอันขาด

คือหมายถึงย้ายที่ทำกินเขามาที่ใหม่ และอาจจะทำให้เขาขายได้น้อยลง เขาจะก่อม๊อบได้

เพราะแม่ค้า จะไม่มีทางยอมง่ายๆ

นักการเมืองที่มีงานเกี่ยวพันกะแม่ค้า จะต้องระวังเป็นอย่างยิ่ง

เพราะพังมาเยอะเพราะแม่ค้าจนๆ หาเช้ากินค่ำนี่แหละ

ทางเทศบาลเมืองยโสจึงต้องหาทางโปรโมท ตลาดโต้รุ่งใหม่ เรียกว่า ฉลองกัน 10 วัน10คืนเลยทีเดียว

มีหมอลำซิ่งมาแสดง ทุกคืน

 ประกวด นางงามช้าง ประกวดส้มตำ ประกวดลาบยโส ประกวดสาวประเภทสอง

และรายการอื่นๆที่จะทำให้ ตลาดติดให้ได้


ให้สัมภาษณ์ออกทีวีเรื่อง การประกวดส้มตำค่ะ

(http://img301.imageshack.us/img301/994/dscf1582.jpg)


รบกับแม่ค้าพอไหว เว้นแม่ค้าส้มตำ เพราะมีครก สากและมีด พร้อม  


หัวข้อ: Re: "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: prapasri AH ที่ 19 พฤศจิกายน 2552, 22:32:16
อีกเจ้าหนึ่งค่ะ

คนอิสานเขาทานส้มตำกับขนมจีน นะคะ

(http://img80.imageshack.us/img80/2226/dscf1591o.jpg)


หัวข้อ: Re: "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: prapasri AH ที่ 19 พฤศจิกายน 2552, 22:39:48
ใช่ค่ะ แม่ค้า ส้มตำ อารมณ์ เสียเมื่อไร ทั้งครกทั้งสาก เผ็ดๆ ทั้งน้านนนนนนนนนนนนนนนน

โดนทีเดียว เหม็นปลาร้าอีกต่างหากกกกกกกกกกกกกกก

อย่าเชียวนะ น้องปลาทู

ขึ้นเวทีเปิดงาน แนะนำตัว แล้วค่ะดูคล้ายๆ นางรำวงงงงงงงงงงงงงงงงงง

(http://img263.imageshack.us/img263/1417/dscf1611x.jpg)


หัวข้อ: Re: "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: prapasri AH ที่ 19 พฤศจิกายน 2552, 22:44:03
ข่าวดีประเทศไทย

เด็กยโสธรคนนี้ เธอชนะเลิศนักมวยหญิง ระดับประเทศ และ นักมาวยหญิงเยาวชนนานาชาติ

(http://img263.imageshack.us/img263/528/dscf1613h.jpg)

อนาคต จะดังมากทีเดียว

ยโสธรมีคนดังมากในกทม.มากน่ะค่ะ เช่น หม่ำจ๊กม๊ก เป็นต้น


หัวข้อ: Re: "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: Kaimook ที่ 19 พฤศจิกายน 2552, 22:44:18
อ้างถึง
ข้อความของ prapasri AH เมื่อ 19 พฤศจิกายน 2552, 22:24:30
นั่นแน่ะ หมอปลาทู ให้คำแนะนำแล้ว แสดงว่า น้องน้ำอ้อย อ้วนซิคะ

น้องอ้อยหายเร็วๆ นะคะ จะให้ พี่แอ๊ะ(พี่สาวหมอปลาทู) ช่วยรักษาดีไหมคะ55555555
ขอบคุณมากๆเลยค่ะพี่แอ๊ะ ท่านป๋าทู เข้ามาชิมส้มตำกะพี่แอ๊ะก็พอคลาย
ความเจ็บปวดลงได้ค่ะ5555555
 พี่แอ๊ะขนาดทานส้มตำยังสวยมากๆเลยนะคะ คืนนี้ขอไปนอนก่อนนะคะพรุงนี้ต้องไปส่ง
น้องอ๋อ ตี5.45น.ค่ะเพราะไปทัศนะศึกษาที่จ.สุพรรณค่ะ
สวัสดีค่ะพี่น้องผองเพื่อน


หัวข้อ: Re: "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: prapasri AH ที่ 19 พฤศจิกายน 2552, 22:51:00
พรุ่งนี้ มีการประกวด ลาบยโส แต่พี่แอ๊ะต้องเตรียมเดินทางไปงานหอซะแหล่ววววววววววววววววว

ระหว่างทานลาบ กับไป หอซีมะโด่ง ต้องเลือก หอซีมะโด่งซินะ

เลยอดทานลาบเป็ดยโส ที่ลือลั่น ในกรุงเทพด้วยนะคะ


หัวข้อ: Re: "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: iamfrommoon ที่ 20 พฤศจิกายน 2552, 08:58:17
เสียดายเมนูคืนพรุ่งนี้ไม่มีตำบักหุ่ง ไม่งั้นจกข้าวเหนียวกันพรึ่บแน่ๆ 555


หัวข้อ: Re: "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: swsm ที่ 20 พฤศจิกายน 2552, 09:00:20
สวัสดีค่ะ  พี่แอ๊ะ ..

พี่แอ๊ะในเสื้อสีเขียวสวยมากค่ะ  ดูผ่องไปทั้งตัวเลย
สวยมาก  ชอบ ชอบ


หัวข้อ: Re: "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: หนุน'21 ที่ 20 พฤศจิกายน 2552, 12:27:20


สวัสดีครับพี่แอ๊ะ
น่าไปเที่ยวยโสนะครับหนาวๆแบบนี้
งานที่พี่แอ๊ะจัดนี่ครบรสจริงๆ

เจอกันที่หอนะครับพี่


หัวข้อ: Re: "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: swsm ที่ 20 พฤศจิกายน 2552, 12:29:03
พี่แอ๊ะยังไม่มา .. เพราะอยู่ระหว่างการเดินทาง
ขอให้เดินทางโดยปลอดภัยนะค้า ..


หนูเป็นห่วงเครื่องเพชรของพี่ค่าา
   emo42


หัวข้อ: Re: "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: KUSON ที่ 20 พฤศจิกายน 2552, 16:01:44
อ้างถึง
ข้อความของ krongon2513 เมื่อ 18 พฤศจิกายน 2552, 22:24:45
อ้างถึง
ข้อความของ KUSON เมื่อ 18 พฤศจิกายน 2552, 15:26:09
พี่อ้อย13ที่เคารพรัก
อย่าได้น้อยใจในวาสนา(กระทู้)ไปเลย
ผมเห็นพี่บางคนพอครบ100หน้าก็เต้นแร้งเต้นกาไปสามวัน เจ็ดวัน
แต่ความจริงเป็นเทคนิคของท่าน
ยอมให้น้องๆแขวะนิดแขวะหน่อย
ทำเป็นคร่ำครวญ โอ๊ยๆๆ
(แต่ความจริงดีใจขอรับ)
แค่นี้น้องๆก็เฮโลเข้ามาไม่หยุดหย่อน
พี่อ้อยยอมเจ็บตัวบ้างสิครับ
รับรองดังละเบิดเถิดเทิง คิกๆๆๆ



น้องอุอ๋น คนโปรดของพี่
ใครอ่ะ..ที่เต้นแร้งเต้นกา??? ปูนนี้แล้ว  เต้นไหวเรอะ
ไหวขอรับ ขอเพียงแต่มีคนสนใจสักนิด
ก่อนเต้น ท่านจะสอดส่ายสายตาว่ามีใครเหลียวแลมาบ้าง
ดื่มน้ำย้อมใจไปกรึ๊บ สองกรึ๊บพอหน้าตึงๆ
ได้ที่ดีแล้วก็ออกไปโยกสะเอวส่ายซ้ายที ขวาที
เสียดายยุคนั้นมือถือยังถ่ายวีดิโอไม่ได้
ไม่งั้นมีช๊อตเด็ดได้ดูกัน คิกๆๆๆ


หัวข้อ: Re: "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: phraisohn ที่ 20 พฤศจิกายน 2552, 16:06:34
สวัสดีครับพี่ๆรุ่น 2513 ทุกท่าน และพี่ๆท่านอื่นด้วยคับ
เพิ่งจะมีโอกาสได้แวะมา เห็นส้มตำแล้ว จังซี่มันต้องถอน (ห้าๆๆ)


หัวข้อ: Re: "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: ตุ๋ย 22 ที่ 20 พฤศจิกายน 2552, 19:41:00
อยากินสม้ตำจังเลยครับน่าอร่อยจังพี่แอ๊ะ


หัวข้อ: Re: "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: prapasri AH ที่ 20 พฤศจิกายน 2552, 22:27:41
อร่อยมากค่ะน้องตุ๋ย  ยิ่งซดน้ำส้มตำ ที่ใส่ปลาร้า อร่อยมั๊ก (น้ำลายสอ อีกแล้วววววววววว)


หัวข้อ: Re: "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: prapasri AH ที่ 20 พฤศจิกายน 2552, 22:37:43

วันนี้พี่แอ๊ะยังไม่ได้จัดกระเป๋าเดินทางเลยค่ะ  จะบินพรุ่งนี้ตอนบ่าย ไปถึงก็เข้างานเลยค่ะ

วันนี้พี่หาญกับหมอต้นว่าง เราเลยไปเยี่ยม กระติ๊บกันที่ โรงพยบาลศรีรัตนะ จ.ศรสะเกษ อยู่ห่างเขาพระวิหาร 30 กม.เท่านั้น

น้องติ๊บต้องturn จากร.พ อุบลไปอยู่ที่นั่น3เดือน เพราะที่นั่นขาดหมอค่ะ

คนไข้ที่นั่น จะพูดภาษาเขมร เขาฟังภาษาลาว (อิสาน) ไม่ออกค่ะ

(http://img297.imageshack.us/img297/6265/26832991.jpg)


หัวข้อ: Re: "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: prapasri AH ที่ 20 พฤศจิกายน 2552, 22:39:51
 
หน้าบ้านพักแพทย์

(http://img204.imageshack.us/img204/2439/15663501.jpg)


หัวข้อ: Re: "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: prapasri AH ที่ 20 พฤศจิกายน 2552, 22:50:11
ตอนแรก ติ๊บจะได้อยู่ร.พ ใกล้ๆ ห่างอุบลแค่ 30 กม.

แต่เพื่อนขอไปอยู่ก่อน

เลยเหลือร.พ นี้ ไม่มีหมอมีหมอเพียง3คน รวมน้องกระติ๊บแล้วนะคะ

ตอนแรกติ๊บขอพี่แอ๊ะว่า แม่พอรู้จักน.พ สสจ. ไหมช่วยขอให้ติ๊บได้อยู่ร.พ ที่ไม่กันดารได้ไหม

พี่แอ๊ะรีบดุลูกทันที่

"ทำไมติ๊บคิดอย่างนั้น ติ๊บเป็นลูกหมอหาญ เขาส่งไปอยู่ที่ไหน กันดารยัง ก็ต้องไปที่นั่น

ห้ามบ่นเด็ดขาด ห้ามใช้เส้นเด็ดขาด ลูกหมอหาญต้องเข้มแข็งและทนได้ทุกสภาวะ"

แม่อายเขานะ ถ้าต้องไปขอสิทธิพิเศษ เมื่อลูกเลือกจะเป็นหมอ กันดารยังไงลูกต้องไปให้ได้


(http://img509.imageshack.us/img509/4242/99744508.jpg)


หัวข้อ: Re: "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: prapasri AH ที่ 20 พฤศจิกายน 2552, 22:53:29
เห็น หน้าลูกครั้งเเรกต๊กกะใจ  ผอม แห้งเลย ไม่เหลือความเป็นดาวคณะแพทย์รังสิต เลยค่ะ

หน้าตาออกไปทางเขมร ไปเลยค่ะ



(http://img213.imageshack.us/img213/7041/55958909.jpg)


หัวข้อ: Re: "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: prapasri AH ที่ 20 พฤศจิกายน 2552, 23:00:23


ลูกต้องอยู่เวรกลางคืน คืนเว้นคืน (หมอมีน้อย) เดือนละ15 เวรค่ะ

กลางวันตรวจคนไข้ วันละเป็น200-300 คน และต้องออกไปตามสถานีอนามัยด้วย

ลูกบอกว่าเวลาตรวจคนไข้ ต้องใช้ภาษาใบ้ เพราะเขาฟังภาษาไทยไม่ออก

ภาษา ลาว (อิสาน) เขาก็ฟังไม่ออก

ลูกบอกว่า ถามคนไข้ว่า ซ่าว แหล่ว บ่ ภาษอิสานแปลว่าหายแล้วยัง

คนไข้ฟังไม่ออกเลยค่ะ  ปวดศีระษะ เขาเรียกว่า "ชือกะบาล" ค่ะ

(http://img337.imageshack.us/img337/2928/50464316.jpg)


หัวข้อ: Re: "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: prapasri AH ที่ 20 พฤศจิกายน 2552, 23:03:48
ลูก พา ปาป๊า มามี้ และพี่ต้น มาทานข้าว ร้านหน้าร.พ ค่ะ

(http://img101.imageshack.us/img101/9606/95714158.jpg)


หัวข้อ: Re: "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: prapasri AH ที่ 20 พฤศจิกายน 2552, 23:09:55
ลูกขอเลี้ยงข้าว มามี้นะ  ทีนี่เขาให้เบี้ยกันดารด้วย (เพราะไม่มีร้าน seven-eleven)

ค่าเบี้ยกันดารเดือนละสองหมื่นแน่ะ ค่าไม่ทำคลินิก เอกชน อีก หนึ่งหมื่น รวมค่าอื่นๆ ได้มากอยู่ค่ะ

ติ๊บบอกว่า เงินเดือนทั้งหมดจะให้แม่หมดเลย

(http://img294.imageshack.us/img294/6/96773157.jpg)


หัวข้อ: Re: "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: prapasri AH ที่ 20 พฤศจิกายน 2552, 23:11:52
วันนี้ติ๊บเลี้ยงข้าว แม่นะ

(http://img294.imageshack.us/img294/8701/78052003.jpg)

ติ๊บจะเป็นเด็กที่มีนำใจกับพ่อแม่ กับทุกคนเสมอค่ะ


หัวข้อ: Re: "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: prapasri AH ที่ 20 พฤศจิกายน 2552, 23:18:36
อาหาร ก็อร่อยอยู่นะคะ มีร้านเดียว หน้า ร.พ

ติ๊บ บอกว่า เวลาไปตรวจคนไข้ข้างนอก ติ๊บเห็นชาวนาเกี่ยวข้าวด้วยนะแม่

ชาวนากว่าจะเกี่ยวข้าวได้ ช้ามาก กว่าจะได้ข้าวแต่ละเม็ด

(http://img412.imageshack.us/img412/5348/13782746.jpg)

พี่แอ๊ะเลยบอกลูกว่า




" เปิบข้าวทุกคราวคำ   จงสูจำเป็นอาจินต์

   เหงื่อกูที่สูกิน         จึงก่อเกิดมาเป็นคน

   ข้าวนี้นะมีรส         ให้ชนชิมทุกชั้นชน

   เบื้องหลัง สิ ทุกข์ทน    และขมขื่นจนเขียวคาว
  
   จากนามาเป็นรวง     ระยะทางนั้นเหยียดยาว

  จากรวงเป็นเม็ดพราว ล้วนทุกข์ยากลำบากเข็ญ"



ดังนั้นลูกต้องสงสาร ชาวนา ให้มากๆ โดยการตั้งใจดูแลคนไข้ให้ดีนะลูกนะ


ต้นกล้า รีบ ขัดจังหวะ เเม่ท่องกลอน แบบ น้าอ้อย13 อีกแล้วววววววววววววว5555555555555555


หัวข้อ: Re: "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: prapasri AH ที่ 20 พฤศจิกายน 2552, 23:23:14
ในท่าม กลางความกันดาร ก็ยังมีข้าวหอมมะลิ จากทุ่งกุลา ที่ชาวกรุงเทพ ไม่ค่อยได้ทาน

เรายังได้ทานอย่างอร่อยเลยค่ะ

เกลี้ยงจานเลยค่ะ

(http://img204.imageshack.us/img204/2839/30912317.jpg)


หัวข้อ: Re: "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: prapasri AH ที่ 20 พฤศจิกายน 2552, 23:25:53
ต้นกล้า ผู้อารมณ์ดี

ลำบากอย่างนี้ ต้นผ่านมาเยอะแล้ว บางรพ. ที่นอนไม่มีด้วยซ้ำ เสื่อผืนหมอนใบ สมัยต้นก็เคยนอนมาแล้วววววววววววว

 (http://img177.imageshack.us/img177/9943/70165896.jpg)


หัวข้อ: Re: "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: prapasri AH ที่ 20 พฤศจิกายน 2552, 23:28:58
นี่แน่ะ สุขจริงๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ

(http://img136.imageshack.us/img136/8513/77953666.jpg)


ต้นกล้า ต้องอยู่กะท้องนาอยู่แล้ววววววววววววววววว


หัวข้อ: Re: "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: prapasri AH ที่ 20 พฤศจิกายน 2552, 23:32:09
แก้วตา และดวงใจของพ่อ

เป็นประสบการณ์ของชีวิต

ที่หาได้ยากนะลูก

ลูกต้องจดจำและบันทึกเวลาช่วงนี้ไว้นะลูกนะ สมัยนี้ ไม่ใช่ใครจะมีโอกาสได้มาอย่างนี้ทุกคน

(http://img257.imageshack.us/img257/5803/76798853.jpg)


หัวข้อ: Re: "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: prapasri AH ที่ 20 พฤศจิกายน 2552, 23:35:47

ลูกคือ ผู้เดินทางแทนเรา


พ่อจะเดินนำ ให้ลูกมั่นใจ และเข้มแข็ง ที่จะอยู่ในโลกนี้ได้

(http://img230.imageshack.us/img230/316/47803427.jpg)

สมัยพ่อลำบากมามากกว่านี้นัก


หัวข้อ: Re: "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: prapasri AH ที่ 20 พฤศจิกายน 2552, 23:40:07
 ขอไปนอนก่อนนะน้องๆ ขา

กลับมา จากกรุงเทพ ค่อยมาคุยกันในบอร์ดต่อนะคะ

พี่แอ๊ะต้องต่อไปสุราษฎร์ กว่า จะมาถึงยโส คง วันที่26 แน่ะค่ะ

เจอกัน พรุ่งนี้นะคะ บรรทมเกษมค่า


หัวข้อ: Re: "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: Kaimook ที่ 20 พฤศจิกายน 2552, 23:57:34
ว้ามาไม่ทันพี่แอ๊ะค่ะ ขอให้พี่แอ๊ะบรรทมเกษมให้สบายค่ะ
เห็นภาพความสุขของพี่แอ๊ะทำให้มีความสุขไปด้ยค่ะราตรีสวัสดิ์ค่ะพี่แอ๊ะ emo40::


หัวข้อ: Re: "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: swsm ที่ 21 พฤศจิกายน 2552, 08:45:31
อ้างถึง
ข้อความของ prapasri AH เมื่อ 20 พฤศจิกายน 2552, 23:35:47

ลูกคือ ผู้เดินทางแทนเรา


พ่อจะเดินนำ ให้ลูกมั่นใจ และเข้มแข็ง ที่จะอยู่ในโลกนี้ได้

(http://img230.imageshack.us/img230/316/47803427.jpg)

สมัยพ่อลำบากมามากกว่านี้นัก


พี่แอ๊ะคะ ..


ซึ้งมากในคำสอนที่พี่สอนน้องหมอกระติ๊บ
พี่แอ๊ะสอนลูกให้เป็นคนดีของสังคมอย่างแท้จริงเลยค่ะ
อ่านคำที่พี่สอนลูกไป ก็น้ำตาซึมไป ..


เออหนอ .. การสร้างคนให้เป็นคนดีจากแก่นลึกของจิตใจ
ต้องใช้ความแน่วแน่และมั่นคงของผู้เป็นพ่อเป็นแม่มากมาย


อ่านจบก็ย้อนกลับมามองตัวเองค่ะ 
หะยีขอนำคำสอนของพี่แอ๊ะไปสอนลูกด้วยนะคะ
หากหะยีสอนลูกได้สักครึ่งของพี่แอ๊ะ  ก็ชื่นใจแล้วค่ะ ..



หัวข้อ: Re: "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: iamfrommoon ที่ 21 พฤศจิกายน 2552, 09:35:59
อ้างถึง
ข้อความของ prapasri AH เมื่อ 20 พฤศจิกายน 2552, 22:50:11


ตอนแรกติ๊บขอพี่แอ๊ะว่า แม่พอรู้จักน.พ สสจ. ไหมช่วยขอให้ติ๊บได้อยู่ร.พ ที่ไม่กันดารได้ไหม

พี่แอ๊ะรีบดุลูกทันที่

"ทำไมติ๊บคิดอย่างนั้น ติ๊บเป็นลูกหมอหาญ เขาส่งไปอยู่ที่ไหน กันดารยัง ก็ต้องไปที่นั่น

ห้ามบ่นเด็ดขาด ห้ามใช้เส้นเด็ดขาด ลูกหมอหาญต้องเข้มแข็งและทนได้ทุกสภาวะ"

แม่อายเขานะ ถ้าต้องไปขอสิทธิพิเศษ เมื่อลูกเลือกจะเป็นหมอ กันดารยังไงลูกต้องไปให้ได้


มุมมองของพีแอ๊ะยอดเยี่ยมและดีมากเลย ขอเก็บนำไปไว้ใ้ช้กับลูกในอนาคต (หากมี อิอิ)

..และภาพต่างๆ และคำพูดประกอบเห็นถึงความรักแลความอบอุ่นของบ้านนี้เลย เสียดายจังปีนี้น้องกระติ๊บไม่ได้มางานด้วย

ปล.น้ำตาซึมเลยค่า


หัวข้อ: Re: "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: prapasri AH ที่ 21 พฤศจิกายน 2552, 11:10:40
พี่หาญเห็นน้องหะยี และน้องปุ๊กกี้ เข้ามาดู

พี่หาญเลย เข้ามาช่วยพากย์ อีกหน่อย

บอกน้องๆด้วย ว่าปาป๊า ได้บอกลูกว่า

"อยู่ที่นี่แล้ว ลูกต้องให้คนไข้ ชาวบ้าน และผู้ร่วมงานทุกคนรัก

เมือลูกจากไป ต้องให้เขาคิดถึง"

(http://img134.imageshack.us/img134/8882/66975629.jpg)


หัวข้อ: Re: "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: prapasri AH ที่ 21 พฤศจิกายน 2552, 11:13:35
พี่หาญ ขอดูรูปน้องหะยี กับน้องปุ๊กกี้

พี่หาญถามว่าทั้งสองคน สวยขนาดนี้ เลยหรือออออออออออออออออออออ

พี่แอ๊ะบอกว่าตัวจริงสวยกว่านี้อีกกกกกกกกกกกกกก


รีบไปขึ้นเครื่องก่อนนะ ค่ำนี้เจอกันค่ะ


หัวข้อ: Re: "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: iamfrommoon ที่ 22 พฤศจิกายน 2552, 00:46:09
สวัสดีค่าพี่แอ๊ะ และพี่หมอหาญ
ขอบคุณมากเลยนะคะ ตัวลอยแย้วๆ....

พี่ทั้งสองน่ารักมาก วันนี้พี่แอ๊ะแต่งตัวสวยสุดๆ ประกายมาแต่ไกลเลยค่า น้องพกกล้องไปแต่ไม่ได้เอาติดตัว เสียดายมาก...
บรรยากาศวันนี้ดีสุดๆ เลยนะคะ พี่น้อง ผองเพื่อน เม้าท์กันกระจายแทบไม่ได้ดูเวทีเลย เดินกว่าจะรอบงาน ปาไปเกือบ 4 ทุ่มแน่ะค่ะ
น้องไม่ค่อยได้คุยกับพี่สักเท่าไหร่เลย ไว้นอกรอบกันได้ทางโทร.นะคะ อิอิ ขอบคุณอีกครั้งสำหรับสมุด schedule พกนะคะ ชอบเลยค่า


หัวข้อ: Re: "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: Uncle Na ที่ 22 พฤศจิกายน 2552, 07:03:01
อ้างถึง
ข้อความของ prapasri AH เมื่อ 20 พฤศจิกายน 2552, 22:50:11
ตอนแรก ติ๊บจะได้อยู่ร.พ ใกล้ๆ ห่างอุบลแค่ 30 กม.

แต่เพื่อนขอไปอยู่ก่อน

เลยเหลือร.พ นี้ ไม่มีหมอมีหมอเพียง3คน รวมน้องกระติ๊บแล้วนะคะ

ตอนแรกติ๊บขอพี่แอ๊ะว่า แม่พอรู้จักน.พ สสจ. ไหมช่วยขอให้ติ๊บได้อยู่ร.พ ที่ไม่กันดารได้ไหม

พี่แอ๊ะรีบดุลูกทันที่

"ทำไมติ๊บคิดอย่างนั้น ติ๊บเป็นลูกหมอหาญ เขาส่งไปอยู่ที่ไหน กันดารยัง ก็ต้องไปที่นั่น

ห้ามบ่นเด็ดขาด ห้ามใช้เส้นเด็ดขาด ลูกหมอหาญต้องเข้มแข็งและทนได้ทุกสภาวะ"

แม่อายเขานะ ถ้าต้องไปขอสิทธิพิเศษ เมื่อลูกเลือกจะเป็นหมอ กันดารยังไงลูกต้องไปให้ได้


(http://img509.imageshack.us/img509/4242/99744508.jpg)


- พี่แอ๊ะ ขอแนะนำตัวครับ ผมลุงณะ นิเทศ 24..

- ขอคารวะ 10 จอก ครับ


หัวข้อ: Re: "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: swsm ที่ 22 พฤศจิกายน 2552, 08:04:52
อ้างถึง
ข้อความของ prapasri AH เมื่อ 21 พฤศจิกายน 2552, 11:13:35
พี่หาญ ขอดูรูปน้องหะยี กับน้องปุ๊กกี้

พี่หาญถามว่าทั้งสองคน สวยขนาดนี้ เลยหรือออออออออออออออออออออ

พี่แอ๊ะบอกว่าตัวจริงสวยกว่านี้อีกกกกกกกกกกกกกก


รีบไปขึ้นเครื่องก่อนนะ ค่ำนี้เจอกันค่ะ


ฮ่า ฮ่า .. เมื่อพี่หาญเห็นตัวจริงของเราทั้งสอง

พี่ท่านจะต้องบอกว่า .. "ขอกลับไปดูรูปแบบเดิมดีกว่า" ..
  emo20:)):)


หัวข้อ: Re: "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: iamfrommoon ที่ 22 พฤศจิกายน 2552, 10:15:11
ขอเอาภาพจากกล้องพี่เสียด 16 มาให้ชมก่อนนะคะ

(http://img134.imageshack.us/img134/7452/dsc02461rm.jpg)

(http://img248.imageshack.us/img248/6922/dsc02463j.jpg)


หัวข้อ: Re: "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: iamfrommoon ที่ 22 พฤศจิกายน 2552, 12:01:40
(http://img34.imageshack.us/img34/9104/cmd21nov09b60.jpg)

(http://img687.imageshack.us/img687/3690/cmd21nov09b75.jpg)


หัวข้อ: Re: "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: krongon2513 ที่ 22 พฤศจิกายน 2552, 12:20:44
ขอให้กำลังใจหลานหมอติ๊บ ทุกข์สุขก็เหมือนแขกผู้มาเยือน เดี๋ยวเดียวก็ผ่านไป

แอ๊ะสอนลูกถูกแล้ว


ตอนนี้เพื่อนฉัน "ได้เรื่องได้ราว"และเป็นผู้ใหญ่ที่น่านับถือมากๆเยย  อิอิ


หัวข้อ: Re: "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: suriya2513 ที่ 22 พฤศจิกายน 2552, 14:30:10
สำคัญว่า  ที่บ้านของหัวใจของผมนั้น แขกสายทุกข์มันมากันถี่จังเลย
มันจะกลายสภาพเป็นทุกข์ถาวรได้ไหมครับเนี่ย

นมัสการ


หัวข้อ: Re: "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: swsm ที่ 22 พฤศจิกายน 2552, 14:34:32
อาจเป็นเช่นนั้นได้ค่ะ  พี่ป๋อง

สาธุ


หัวข้อ: Re: "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: suriya2513 ที่ 22 พฤศจิกายน 2552, 14:36:57
ที่หะยีโพสท์มานั่นหนะ แช่งกันชัดๆเลยนะครับ
(ก็เล่นมี สาธุ กำกับมาซะด้วย)


หัวข้อ: Re: "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: swsm ที่ 22 พฤศจิกายน 2552, 14:38:05
หนูเป็นเด็กดี  ผู้ใหญ่ว่าไง ก็ว่าตามนั้น .. ไม่ค่อยกล้าหือค่ะ   emo21:):):


(ก็พี่ป๋องมีนมัสการกำกับมาก่อนนี่  จะได้ดูเนียนกลมกลืนกันไงล่ะคะ)


หัวข้อ: Re: "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: krongon2513 ที่ 22 พฤศจิกายน 2552, 20:23:24
เจริญพร
คุณโยมจงใคร่ครวญดูให้ดี
การที่คุณโยมเข้าเวปก็เป็นความสุขหรือมิใช่
การที่คุณโยมแหย่อาตมีให้โทสะบังเกิดก็เป็นความสุข  หรือมิใช่

คุณโยมจะว่าตนเองมีแต่ความทุกข์กระไรได้
เอวัง


ยายแอ๊ะ  กลับมาไวๆ ก่อนกระทู้จะถูกตาป๋อง ยำเละ


หัวข้อ: Re: "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: swsm ที่ 22 พฤศจิกายน 2552, 20:26:53
พอเรียกหา .. พี่ป๋องก็มาทันที .. ฮ่า ฮ่า   emo20:)):)


หัวข้อ: Re: "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: suriya2513 ที่ 22 พฤศจิกายน 2552, 20:27:48
อาจ-มา


หัวข้อ: Re: "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: opas ที่ 22 พฤศจิกายน 2552, 20:36:02
คาระวะ emo30:sorry:


หัวข้อ: Re: "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: หนุน'21 ที่ 22 พฤศจิกายน 2552, 22:01:38


สวัสดีครับพี่แอ๊ะ
ที่งานหอไม่ได้เข้าไปคารวะพี่เลยครับ

ชอบวิธีที่พี่บอกกับ คุณหมอน้องกระติ๊บจังเลยครับ
สุดยอดคุณพ่อคุณแม่จริงๆ


 emo4:))


หัวข้อ: Re: "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: หนุน'21 ที่ 23 พฤศจิกายน 2552, 08:43:02

สวัสดีตอนเช้าครับพี่แอ๊ะ
ผมเข้าไปอ่าน สะใภ้ บรส. ที่พี่เขียนไว้ในห้อง 11 แล้วครับ

พี่แอ๊ะเขียน สะใภ้ บรส. ได้อย่างน่าอ่านมาก
อ่านแล้วได้รับรู้ถึงความผูกพันของพี่แอ๊ะพี่หมอหาญ
กับท่านอาจารย์ บรส. และท่านอาจารย์ประภาศรีที่เคารพรักของชาวจุฬาฯ
โดยเฉพาะ ชาวนิเทศ และชาวครุที่เขาเรียกกันว่า
ฝั่งบ้านนอก สมัยก่อนอ่ะครับ

พี่แอ๊ะ ทำให้คนอ่านได้ประทับใจในความผูกพัน
ของท่าน อาจารย์ บำรุงสุขกับพี่หมอหาญ
และได้เห็นการสานต่อปณิธานของท่านอาจาย์ด้วย
อ่านแล้วรู้สึกดีครับ
แบบนี้ต้องเขียนเล่าบ่อยๆ


 emo6::))


หัวข้อ: Re: "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: swsm ที่ 23 พฤศจิกายน 2552, 12:11:18
สวัสดีค่ะ  พี่แอ๊ะและพี่หมอหาญ

เดินทางถึงบ้านหรือยังคะ ?? 
เครื่องเพชรของพี่แอ๊ะทำให้หนูแสบตามากเลยค่ะ ... สวยมากค่ะ  ชอบ ชอบ


หัวข้อ: Re: "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: pb13 ที่ 23 พฤศจิกายน 2552, 13:19:52
 เปิบข้าวทุกคราวคำ   จงสูจำเป็นอาจินต์

   เหงื่อกูที่สูกิน         จึงก่อเกิดมาเป็นคน

   ข้าวนี้นะมีรส         ให้ชนชิมทุกชั้นชน

   เบื้องหลัง สิ ทุกข์ทน    และขมขื่นจนเขียวคาว
 
   จากนามาเป็นรวง     ระยะทางนั้นเหยียดยาว

  จากรวงเป็นเม็ดพราว ล้วนทุกข์ยากลำบากเข็ญ"


           "  วังเอ๋ยวังเวง                  หงั่งเหง่งย่ำค่ำระฆังขาน

      ฝูงวัวควายพ่ายลาทิวากาล    ค่อยๆผ่านท้องทุ่งมุ่งถิ่นตน

      ชาวนาเหนื่อยอ่อนต่างจรกลับ ตะวันลับอับแสงทุกแห่งหน

      ทิ้งท้องทุ่งมืดมัวทั่วมณฑล     และทิ้งตนตูเปลี่ยวอยู่เดียวเอย "

    นี่ก็อีกบรรยากาศหนึ่งของชาวนาครับ



หัวข้อ: Re: "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: สมชาย17 ที่ 23 พฤศจิกายน 2552, 20:23:08
 
อ้างถึง   
อ้างถึง
ข้อความของ swsm เมื่อ 23 พฤศจิกายน 2552, 12:11:18
สวัสดีค่ะ  พี่แอ๊ะและพี่หมอหาญ

เดินทางถึงบ้านหรือยังคะ ?? 
เครื่องเพชรของพี่แอ๊ะทำให้หนูแสบตามากเลยค่ะ ... สวยมากค่ะ  ชอบ ชอบ


ถึงว่า ทำไม ผมเห็นหน้าพี่แอ๊ะ ไม่ค่อยชัด คิดว่าสายตาผมเริ่มฝ้าฟาง
ที่ไหนได้ น้องหะยี มาเฉลยแล้ว ว่าแสบตา555  emo6::)) emo6::))



หัวข้อ: Re: "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: พธู ๒๕๒๔ ที่ 23 พฤศจิกายน 2552, 21:01:58
เพิ่งได้เจอพี่แิ๊อ๊ะตัวเป็นเป็น
ดูโดดเด่นกว่าที่เล่าเข้าใจไหม
ยามแย้มยิ้มมีเสน่ห์รันจวนใจ
คงมีไว้มัดพี่หาญแทบราญรอน
แอบมาว่าเราเล็กจิ๋วกระจิ่วริด
แอบมาคิดว่าเราเล็กเด็กไม่สอน
เลยมาบอกความนัยเป็นบทกลอน
มาขอพรพี่สักนิดจิตสุขใจ


หัวข้อ: Re: "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: iamfrommoon ที่ 23 พฤศจิกายน 2552, 22:01:24
พี่ทูคะ..
ใหญ่จริงๆ...เต็มๆ 555


หัวข้อ: Re: "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: Soponเท่านั้น ที่ 23 พฤศจิกายน 2552, 22:04:20
อ้างถึง
ข้อความของ swsm เมื่อ 23 พฤศจิกายน 2552, 12:11:18
สวัสดีค่ะ  พี่แอ๊ะและพี่หมอหาญ

เดินทางถึงบ้านหรือยังคะ ??  
เครื่องเพชรของพี่แอ๊ะทำให้หนูแสบตามากเลยค่ะ ... สวยมากค่ะ  ชอบ ชอบ


สวัสดีครับพี่แอ๊ะ พี่หาญ น้องหะยี และขาประจำห้องซำบายดีฯ emo30:sorry:
พี่แอ๊ะระวังตัวหน่อยนะครับ น้องหะยีเค้าแอบไปรู้เคล็ดลับจากดอกเตอร์อุอ๋นมาว่า ถ้าใครชมของๆพี่แอ๊ะว่าสวย และชอบมากแล้ว พี่แอ๊ะมักจะยกให้เลยจริงๆ emo20:)):) ตัวอย่างเช่น ศิลามณีหรือเพชรนิลจินดาต่างๆที่ดอกเตอร์อุอ๋นได้ไปแล้ว emo43


หัวข้อ: Re: "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: iamfrommoon ที่ 23 พฤศจิกายน 2552, 22:07:09
อ้างถึง
ข้อความของ Soponเท่านั้น เมื่อ 23 พฤศจิกายน 2552, 22:04:20
อ้างถึง
ข้อความของ swsm เมื่อ 23 พฤศจิกายน 2552, 12:11:18
สวัสดีค่ะ  พี่แอ๊ะและพี่หมอหาญ

เดินทางถึงบ้านหรือยังคะ ?? 
เครื่องเพชรของพี่แอ๊ะทำให้หนูแสบตามากเลยค่ะ ... สวยมากค่ะ  ชอบ ชอบ


สวัสดีครับพี่แอ๊ะ พี่หาญ น้องหะยี และขาประจำห้องซำบายดีฯ emo30:sorry:
พี่แอ๊ะระวังตัวหน่อยนะครับ น้องหะยีเค้าแอบไปรู้เคล็ดลับจากดอกเตอร์อุอ๋นมาว่า ถ้าใครชมของๆพี่แอ๊ะว่าสวย และชอบมากแล้ว พี่แอ๊ะมักจะยกให้เลยจริงๆ emo20:)):) ตัวอย่างเช่น ศิลามณีหรือเพชรนิลจินดาต่างๆที่ดอกเตอร์อุอ๋นได้ไปแล้ว emo43

คุณพี่คะไม่ทันแล้วค่า 555


หัวข้อ: Re: "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: ตุ๋ย 22 ที่ 23 พฤศจิกายน 2552, 22:10:26
สวัสดีครับพี่แอ๊ะ  ผมไม่ได้ไปคารวะที่แอ๊ะเลยครับ


หัวข้อ: Re: "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: Kaimook ที่ 23 พฤศจิกายน 2552, 22:43:25
สวัสดีค่ะพี่แอ๊ะขราาาาาา น้ำอ้อยดีใจจังค่ะได้ไปพบพี่แอ๊ะ พี่แอ๊ะสวยมากๆๆๆๆๆๆๆๆๆเลยค่ะ
แล้วก็เหมือนที่แม่ยอดยาหยีบอกเลยค่ะเครื่องเพชรพี่แอ๊ะสวยมั๊กมากค่ะ น้ำอ้อยก็แสบๆตาเช่นกันเลยค่ะ55555 emo4:)) emo4:)) emo4:))


หัวข้อ: Re: "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: Kaimook ที่ 23 พฤศจิกายน 2552, 22:44:39
 พี่โสภณเท่านั้นคะ น้ำอ้อยดีใจจังที่ได้พบพี่ด้วยค่ะ
 emo4:)) emo4:)) emo4:))


หัวข้อ: Re: "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: swsm ที่ 23 พฤศจิกายน 2552, 23:21:25
อ้างถึง
ข้อความของ Kaimook เมื่อ 23 พฤศจิกายน 2552, 22:43:25
สวัสดีค่ะพี่แอ๊ะขราาาาาา น้ำอ้อยดีใจจังค่ะได้ไปพบพี่แอ๊ะ พี่แอ๊ะสวยมากๆๆๆๆๆๆๆๆๆเลยค่ะ
แล้วก็เหมือนที่แม่ยอดยาหยีบอกเลยค่ะเครื่องเพชรพี่แอ๊ะสวยมั๊กมากค่ะ น้ำอ้อยก็แสบๆตาเช่นกันเลยค่ะ55555 emo4:)) emo4:)) emo4:))


อ้าว .. หยั่งนี้ก็ต้องหารสองสิคะ  น้ำอ้อย ?? .. คริคริ ..


หัวข้อ: Re: "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: nitty20 ที่ 24 พฤศจิกายน 2552, 19:38:45
 emo2:)พี่แอ๊ะขา....เสียดายจัง ที่หนูไม่ได้ไปกราบสวัสดีพี่ๆ13ที่งานเลย...มัวยุ่งเก็บตังค์เพื่อนๆอยู่ค่ะ
แต่หนูมีรูปมาฝากพี่แอ๊ะค่ะ...รูปตุ้มนิเทด20กับพี่หาญพี่แอ๊ะค่ะ...ฝีมือตูมมี่...อยู่ในกล้องนิตตี้ค่ะ  emo9:huhu:

(http://img230.imageshack.us/img230/5368/img0370webcm.jpg)


หัวข้อ: Re: "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: Soponเท่านั้น ที่ 24 พฤศจิกายน 2552, 21:34:03
อ้างถึง
ข้อความของ Kaimook เมื่อ 23 พฤศจิกายน 2552, 22:44:39
พี่โสภณเท่านั้นคะ น้ำอ้อยดีใจจังที่ได้พบพี่ด้วยค่ะ
 emo4:)) emo4:)) emo4:))

สวัสดีครับ emo4:))
ยินดีที่เจอน้องอ้อยด้วยเช่นกัน เสียดายไม่ได้เดินตระเวณทุกโต๊ะ มัวตื่นเต้น เมาท์กับเพื่อน15อยู่นั่นแล้ว


หัวข้อ: Re: "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: ตุ๋ย 22 ที่ 24 พฤศจิกายน 2552, 21:42:07
นั่นดิมัวแต่คุยๆๆๆๆๆ   จนลืมถ่ายรูปเลย


หัวข้อ: Re: "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: iamfrommoon ที่ 25 พฤศจิกายน 2552, 12:47:57
สวัสดีค่ะพี่แอ๊ะ
วันนี้อยู่จังหวัดไหนคะ ช่วงนี้พี่แอ๊ะต้องรองเท้าสึกแน่ๆ อิอิ


หัวข้อ: Re: "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: swsm ที่ 25 พฤศจิกายน 2552, 16:10:08
สวัสดีค่ะ  พี่แอ๊ะที่น่ารักของน้อง ๆ ๆ ๆ ๆ     emo6::))


หัวข้อ: Re: "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: จุ๊บจุ๊บ ณ ภูเก็ต ที่ 25 พฤศจิกายน 2552, 16:18:58
สวัสดีค่ะ พี่แอ๊ะ หนูเข้าอ่านกะทู้พี่หลายแล้ว..แอบปลื้มว่าทำไมพี่จำเรื่องราวได้เก่งจัง..รุ่นหนูยังสู้ไม่ได้เลย....อ่านไปอ่านมาเห็น signature samui ประกอบกับน้องปุ๊กกี้บอกว่าพี่แอ๊ะป็นเจ้าของเกาะ...เลยต้องออกตามหาว่าเกาะไหนค่ะ จุ๊บอยู่เกาะภูเก็ตค่ะ ครุ รุ่น 33 กะว่าปลายๆ ปีนี้จะไปสมุย อยู่ไกล้กันนิดเดียวแต่หาโอกาสไปยากมาก...


หัวข้อ: Re: "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: อ้อย 14 ที่ 25 พฤศจิกายน 2552, 17:40:39
แฮ่ม emo35:()....พราวไปทั้งคอทั้งหูเลยนะเพ่!! สงสัยว่า  นี่เป็นของตัวอย่าง  ของจริงเอาไว้เดือนกุมภานู้น..... emo48:)


หัวข้อ: Re: "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: เหยง 16 ที่ 25 พฤศจิกายน 2552, 18:05:27
สวัสดีครับ พี่แอ๊ะ

ปีนี้ไม่ได้ไปงานหอพบพี่แอ๊ะ-พี่หมอหาญ เป็นไข้หวัดช่วงมีงานพอดี ครับ


หัวข้อ: Re: "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: Kaimook ที่ 25 พฤศจิกายน 2552, 22:00:26
อ้างถึง
ข้อความของ เหยง 16 เมื่อ 25 พฤศจิกายน 2552, 18:05:27
สวัสดีครับ พี่แอ๊ะ

ปีนี้ไม่ได้ไปงานหอพบพี่แอ๊ะ-พี่หมอหาญ เป็นไข้หวัดช่วงมีงานพอดี ครับ

พักผ่อนมากๆค่ะพี่เหยง หายไวๆนะคะ


หัวข้อ: Re: "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: iamfrommoon ที่ 27 พฤศจิกายน 2552, 11:17:18
สวัสดีค่ะพี่แอ๊ะ พี่เหยง พี่ไข่มุก
ที่คุยกับพี่แอ๊ะล่าสุดบอกว่า คอมฯ เสีย แง่มๆ เลยเล่นเน็ตยังไม่ได้ แถมชีพจรลงเท้าเยอะมั่กมาก


หัวข้อ: Re: "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: KUSON ที่ 27 พฤศจิกายน 2552, 13:21:25
อ้างถึง
ข้อความของ patooman24 เมื่อ 23 พฤศจิกายน 2552, 21:01:58
เพิ่งได้เจอพี่แอ๊ะตัวเป็นเป็น
ดูโดดเด่นกว่าที่เล่าเข้าใจไหม
ยามแย้มยิ้มมีเสน่ห์รันจวนใจ
คงมีไว้มัดพี่หาญแทบราญรอน
แอบมาว่าเราเล็กจิ๋วกระจิ่วริด
แอบมาคิดว่าเราเล็กเด็กไม่สอน
เลยมาบอกความนัยเป็นบทกลอน
มาขอพรพี่สักนิดจิตสุขใจ

คุณปาทู
พี่กุศลเดินจนทั่วงาน
ก็ไม่เห็นหน้าคุณปาทูกับชาวเว็บอีกหลายคน
สงสัยคุณปาทูจะตัวเล็กจริงๆ
แต่แปลกพี่แอ๊ะกับหมอหาญ พี่กุศลเห็นชัดเจนตั้งแต่ตอนเดินผ่านปักกะตูเข้ามาคิกๆๆๆ


หัวข้อ: Re: "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: wannee ที่ 27 พฤศจิกายน 2552, 14:02:23
สวัสดีค่ะพี่แอ๊ะ   emo4:))

รูปพี่แอ๊ะ กับ รุ่น 16 :  แต๋ง ประธานฯคนใหม่  และ ทพ.ไพศาล เลขาฯทันตแพทยสมาคม

(http://img215.imageshack.us/img215/6922/dsc02463j.jpg)

ดูเพชรจมพูกัน

(http://img215.imageshack.us/img215/7452/dsc02461rm.jpg)




หัวข้อ: Re: "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: พธู ๒๕๒๔ ที่ 27 พฤศจิกายน 2552, 14:04:21
อ้างถึง
ข้อความของ KUSON เมื่อ 27 พฤศจิกายน 2552, 13:21:25
อ้างถึง
ข้อความของ patooman24 เมื่อ 23 พฤศจิกายน 2552, 21:01:58
เพิ่งได้เจอพี่แอ๊ะตัวเป็นเป็น
ดูโดดเด่นกว่าที่เล่าเข้าใจไหม
ยามแย้มยิ้มมีเสน่ห์รันจวนใจ
คงมีไว้มัดพี่หาญแทบราญรอน
แอบมาว่าเราเล็กจิ๋วกระจิ่วริด
แอบมาคิดว่าเราเล็กเด็กไม่สอน
เลยมาบอกความนัยเป็นบทกลอน
มาขอพรพี่สักนิดจิตสุขใจ

คุณปาทู
พี่กุศลเดินจนทั่วงาน
ก็ไม่เห็นหน้าคุณปาทูกับชาวเว็บอีกหลายคน
สงสัยคุณปาทูจะตัวเล็กจริงๆ
แต่แปลกพี่แอ๊ะกับหมอหาญ พี่กุศลเห็นชัดเจนตั้งแต่ตอนเดินผ่านปักกะตูเข้ามาคิกๆๆๆ

ผมเจอพี่ด้วยครับแต่สาว ๆ รุมล้อมผมเลยเข้าไม่ถึง


หัวข้อ: Re: "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: prapasri AH ที่ 27 พฤศจิกายน 2552, 23:26:25
มาแล้วจ้า มาแล้วจ๊า

พี่แอ๊ะไปสุราษฎร์หลายวัน มีเรื่องตื่นเต้ลลลลลลลมั๊กมาย

คณะที่ที่ไปกับพี่แอ๊ะ กรรมสภามหาลัยราชภัฎสุราษฏร์ เกิดอาการเส้นเลือดในสมองแตก ตอนนี้อยู่ icu ที่ร.พสุราษฏร์

ท่านเป็นอดีตรองผู้อำนวยการสำนักงบประมาณค่ะ

เป็นสาวโสด ปกติเวลาไปประชุม ต่างจังหวัด พี่แอ๊ะไม่กล้านอนคนเดียว พี่แอ๊ะไปขอนอน กับท่านเป็นประจำ

คราวนี้ประชุมสุราษฏร์พี่แอ๊ะ เลยชวนท่านมานอนบ้านพี่แอ๊ะ พี่แอ๊ะเผลอบอกไปว่าจะพาท่านไปร้องเพลง

ท่านกลัวพี่แอ๊ะจะพาไปร้องเพลงจริงๆ คือท่านคงเหนื่อยแล้วอยากพัก

ท่านเลยบอกว่าขอนอนโรงแรม ดีกว่า

ปรากฎว่ารุ่งเช้า ก็ ยังไม่มาทานข้าวเช้า เห็นผิดสังเกต เลยต้องงัดห้องของโรงแรม พบท่านนอน เป็นลมในห้องน้ำ หายใจรวยรินต้องผ่าตัดสมองด้วยค่ะ ตอนนี้ใจหายใจคว่ำกันอยู่เลยค่ะ

เพิ่งมาถึงยโสเมื่อวาน ทานข้าวกะรัฐมนตรี จนเที่ยงคืน และวันนี้ต้องไปกับรัฐมนตรี จุรินทร์ ลักษณวิศิษฐ์ ในฐานะประธานชมรมชาววปักษ์ใต้ค่ะ

สีแดงก็เตรียมมาเเย้วๆๆๆๆ ต้องวิ่งเอาเถิด กันน่าดู

รมว.มาเปิดโครงการ ติวเตอร์ channel  ให้เด็กยโส ร้อยเอ็ด ศรีสะเกษ

เตรียมดูทางทีวีช่อง11 วันเสาร์ 10โมง-12.00 ได้ค่ะ
พี่แอ๊ะอยู่ยโส คนคิดว่าเป็นเหลืองงงงง

แต่พี่แอ๊ะทำงาน ที่อบจ. แวดล้อม ด้วยสีแดงทั้งนั้น

สส.แดงเเจ๋ ที่อยู่พนมไพร ร้อยเอ็ด ก็ให้ความเคารพพี่แอ๊ะมาก
ส่งคนไข้มาให้พี่แอ๊ะ ตลอด

แสดงว่า สีชมพูอยู่ ตรงไหน ก็อยู่กับเหลืองและเเดงได้  
น่ารักจังชาวสีชมพูนี่


หัวข้อ: Re: "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: prapasri AH ที่ 27 พฤศจิกายน 2552, 23:35:56
ขอทักน้องหะยีก่อนนะ
 
เพราะพี่หาญบอกว่า น้องหะยี สวยเหมือนกะ อาภากร นครสวรรค์

พี่แอ๊ะไม่รู้จักดาราคนนี้ไม่ทราบว่า เป็นนักร้องลูกทุ่งหรือลูกกรุง อิๆๆๆ

น้องหะยีบอกให้พี่แอ๊ะใส่เพชรชมพูไป พี่แอ๊ะเชื่อเลยโปะไปเต็มตัวเลยค่ะ

อายๆๆๆ เหมือนกันนะคะ ไม่ทราบว่าต้องโชว์ตัวรับรางวัล ไม่งั้นจะแต่งชุด working woman ไปให้น่านับถือหน่อย

อีกสองปี ค่อยแต่งให้สมกะเป็นคนแก่ ดีก่า นะ

น้องท่านอื่นๆ พี่แอ๊ะจะมาคุยด้วยพรุ่งนี้นะคะ

ขอไปนอนก่อน พรุ่งนี้ต้องไปงาน ของ ศิษย์เก่ารามคำแหงยโสธร เด่ว ไม่สวย

สาวจุฬา ต้องสวย ตลอดศกดิลกเทอญ จริงแมะ น้อง อ้อย13- 14 -17 และดร.อุอ๋นนนนนนนนนน


หัวข้อ: Re: "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: Kaimook ที่ 28 พฤศจิกายน 2552, 21:40:25
ดีใจจังพี่แอ๊ะกลับมาแล้วค่ะ emo4:)) emo4:)) emo4:))


หัวข้อ: Re: "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: prapasri AH ที่ 29 พฤศจิกายน 2552, 04:59:18
good morning น้องไข่มุก วันนี้พี่แอ๊ะตื่นเช้า เลยมาเข้าเวบก่อนดีกว่า

กลางวันจะได้ทำงานได้ เอาเวลาส่วนเกินมาเข้าเวบซะก่อน

การเข้าเวบหอ ถื่อว่าเป็นหน้าที่เป็นงานหลัก5555555555


หัวข้อ: Re: "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: wannee ที่ 29 พฤศจิกายน 2552, 08:49:02
อ้างถึง
ข้อความของ prapasri AH เมื่อ 29 พฤศจิกายน 2552, 04:59:18

.....การเข้าเวบหอ ถื่อว่าเป็นหน้าที่เป็นงานหลัก5555555555

ขอบคุณพี่ค่ะ ...แค่เจียดเวลาก็พอค่ะ เกรงใจพี่อ่ะค่ะ  emo4:))


หัวข้อ: Re: "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: swsm ที่ 29 พฤศจิกายน 2552, 09:25:52
อ้างถึง
ข้อความของ prapasri AH เมื่อ 27 พฤศจิกายน 2552, 23:35:56

ขอทักน้องหะยีก่อนนะ
 
เพราะพี่หาญบอกว่า น้องหะยี สวยเหมือนกะ อาภากร นครสวรรค์

พี่แอ๊ะไม่รู้จักดาราคนนี้ไม่ทราบว่า เป็นนักร้องลูกทุ่งหรือลูกกรุง อิๆๆๆ


สวัสดีค่ะ  พี่แอ๊ะ

พี่หมอหาญไม่ใช่คนแรกค่ะ  ที่ทักว่าหยีเหมือน อาภาพร นครสวรรค์ ..  
ถูกทักบ่อยม๊าาาาาาก ค่ะ
โดยเฉพาะตอนที่แต่งตัวขึ้นเวทีการแสดง ในโอกาสต่าง ๆ  

แหะ .. พี่ป๋องก็เคยทักเหมือนกัน

อาภาพร ชื่อเล่นว่า "ฮาย"
เป็นนักร้องลูกทุ่ง และระยะหลังนี้ก็มีผลงานแสดงหนัง ละคร ด้วยค่ะ
ลักษณะเป็นคนสนุกสนาน  พูดจาตรง ๆ  โผงผาง  ไม่ใช่หญิงหวาน  ไม่จ๊ะจ๋า

ซึ่งหยีว่า .. ลักษณะของฮายกับหยี ค่อนข้างคล้ายกันค่ะ

อาภาพร  เป็นศิลปินที่หยีชื่นชอบอีกหนึ่งคนค่ะ

หยีทำรูปเปรียบเทียบมาให้พี่แอ๊ะชมด้วย ..
เห็นหน้าแล้วอาจจะร้อง "อ๋อ"


(http://img21.imageshack.us/img21/9398/yeeu.jpg)

รูปนี้ ซ้าย-ขวาคืออาภาพรนะคะ   ตรงกลางคือหยีเอง



(http://img4.imageshack.us/img4/5400/yee2.jpg)

ส่วนรูปนี้  หยีอยู่ในชุดสีเขียวค่ะ


หัวข้อ: Re: "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: swsm ที่ 29 พฤศจิกายน 2552, 09:27:39

วันงานคืนสู่เหย้า  พี่แอ๊ะก็แต่งตัวเหมาะสมนะคะ
เพราะเป็นบรรยากาศสบาย ๆ ..
หากแต่ง working woman ก็อาจจะดูไม่กลืนกับบรรยากาศนะคะ (หยีคิดเอาเองค่ะ)

พี่แอ๊ะเป็นคนยิ้มเก่งค่ะ 
หยีแอบมองพี่ในเวลาไหน  ไม่เคยเห็นพี่แอ๊ะไม่ยิ้มเลย

หยีว่า เสน่ห์ที่เหนือกว่าเครื่องแต่งกายและเครื่องประดับ
อยู่ที่ "รอยยิ้ม" ของพี่นั่นล่ะค่ะ

ขอชมด้วยใจจริงค่ะ
   emo6::))


หัวข้อ: Re: "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: prapasri AH ที่ 29 พฤศจิกายน 2552, 14:16:58
เรื่อง เสื้อที่ใส่ไป เล่าแล้วอยากอายค่ะน้องๆขา (ภาษาอิสาน อยากอาย ก็คืออาย นั่นเอง)

พี่แอ๊ะให้ designer ที่กรุงเทพ เตรียมเสื้อไว้ให้หลายตัว ราคาแพงๆทั้งนั้น

เขาเอาตัดเรียบร้อยนำมาฝากแม่บ้านไว้

พอพี่แอ๊ะไปถึงโอ้ว่าอนิจจา ชุด เสื้อ ที่เขาตัดเตรียมไว้ให้อย่างสวยงาม พี่แอ๊ะใส่แล้ว คับบบบบบบ หมดเลย

(รูดซิป ไม่ได้5555555555)

เลยเอาตัวนี้แหละ ติดมาจากยโส วันก่อนไปซื้อของเขามาขายตอน ประชุมกาชาดเขตอิสานใต้

ตัวละ ห้าร้อยบาท เห็นสวยดี  เอามาสำรองไว้ ในที่สุดได้ใส่ ห้าร้อยนี่แหละ

สามสีพี่พัน ถึง หมื่นกว่าบาท กองทิ้งเลย

แล้วต้องส่งไปให้เขาขยายไซซ์555555555555555555555555

เลยใส่เสื้อตัวนี้แล้วขาดความมั่นใจ คุณลุงสิงห์คงหาว่าไม่เรียบร้อย อีกแหงแก๋

แต่ทำไงได้ ดีกว่าไม่ใส่อะไร มา นะ สิงห์นะ 555555555555555

พี่หาญบ่นซะน่าดู ฉงน้ำหน้า ไม่ออกกำลังกายซะดีนัก อ้วนเอาอ้วนเอา

แถมก่อนจะกลับไปลาพี่ท่านหนึ่ง ที่นั่งคู่กะพี่สัมพันธ์ ภู่ไพบูลย์

พี่ท่านนี้ บอกพี่แอ๊ะ ว่าอ้วนไปแล้วนะเรา อย่าให้อ้วนกว่านี้อีก

ท่านพี่พูดแล้วพูดอีกอยู่นั่นแหละ พี่แก่นี่ เอ๊ย พี่อาวุโส นี่ ฮือๆๆๆๆๆ......



ว่าแต่ว่าตอนนี้กลิ่นส้มตำลาว โชยมาจาก โต๊ะอาหาร แม่บ้านไปซื้อมาให้พี่แอ๊ะ

ขอไปทานส้มตำปลาร้า จิ้มข้าวเหนียว ก่อนนะคะ  

หิวไหม น้องๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ จ๋า
[/b]


หัวข้อ: Re: "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: prapasri AH ที่ 29 พฤศจิกายน 2552, 14:23:22
อ้างถึง
ข้อความของ swsm เมื่อ 29 พฤศจิกายน 2552, 09:25:52
อ้างถึง
ข้อความของ prapasri AH เมื่อ 27 พฤศจิกายน 2552, 23:35:56

ขอทักน้องหะยีก่อนนะ
 
เพราะพี่หาญบอกว่า น้องหะยี สวยเหมือนกะ อาภากร นครสวรรค์

พี่แอ๊ะไม่รู้จักดาราคนนี้ไม่ทราบว่า เป็นนักร้องลูกทุ่งหรือลูกกรุง อิๆๆๆ


สวัสดีค่ะ  พี่แอ๊ะ

พี่หมอหาญไม่ใช่คนแรกค่ะ  ที่ทักว่าหยีเหมือน อาภาพร นครสวรรค์ .. 
ถูกทักบ่อยม๊าาาาาาก ค่ะ
โดยเฉพาะตอนที่แต่งตัวขึ้นเวทีการแสดง ในโอกาสต่าง ๆ 

แหะ .. พี่ป๋องก็เคยทักเหมือนกัน

อาภาพร ชื่อเล่นว่า "ฮาย"
เป็นนักร้องลูกทุ่ง และระยะหลังนี้ก็มีผลงานแสดงหนัง ละคร ด้วยค่ะ
ลักษณะเป็นคนสนุกสนาน  พูดจาตรง ๆ  โผงผาง  ไม่ใช่หญิงหวาน  ไม่จ๊ะจ๋า

ซึ่งหยีว่า .. ลักษณะของฮายกับหยี ค่อนข้างคล้ายกันค่ะ

อาภาพร  เป็นศิลปินที่หยีชื่นชอบอีกหนึ่งคนค่ะ

หยีทำรูปเปรียบเทียบมาให้พี่แอ๊ะชมด้วย ..
เห็นหน้าแล้วอาจจะร้อง "อ๋อ"


(http://img21.imageshack.us/img21/9398/yeeu.jpg)

รูปนี้ ซ้าย-ขวาคืออาภาพรนะคะ   ตรงกลางคือหยีเอง



(http://img4.imageshack.us/img4/5400/yee2.jpg)

ส่วนรูปนี้  หยีอยู่ในชุดสีเขียวค่ะ



ต่ออีก หน่อยค่ะ

น้องหะยีคะ พี่แอ๊ะจะกดดูรูป น้องหะยี ที่show picture ก็ไม่โชว์ค่ะ

จะเฮ็ดจั๋งได๋ คะ


หัวข้อ: Re: "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: swsm ที่ 29 พฤศจิกายน 2552, 19:16:43
ลงรูปอีกครั้งค่ะ  พี่แอ๊ะ    emo6::))   ..  มองเห็นไหมคะ ??


(http://i978.photobucket.com/albums/ae267/swsm_bucket/Yee_.jpg)

รูปนี้ ซ้าย-ขวาคืออาภาพรนะคะ   ตรงกลางคือหยีเอง



(http://i978.photobucket.com/albums/ae267/swsm_bucket/Yee__2.jpg)

ส่วนรูปนี้  หยีอยู่ในชุดสีเขียวค่ะ


หัวข้อ: Re: "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: prapasri AH ที่ 29 พฤศจิกายน 2552, 21:16:15
น้องปาทูแมนคะ

พี่หาญมาอ่านกลอนน้องแล้วพี่หาญให้พรว่า ขอให้ พ้นจากวัย กะจ๊ดริ๊ดเล้กกระจิ๋วเดียว ให้เป็นหาญ มะ เอ๊ยยยยยยยยยยย

ไม่กล้าเขียนต่อ เด่ว ถูกปิดเวบ ฐานใช้ถ้อยคำเป้นอันตราย แก่เด็กๆ555555555555555


น้องหะยีขา พี่หาญและพี่แอ๊ะลงความเห็น ว่า น้องหะยี สวยกว่าอาภากร นครสวรรค์ มาก

ถ้าไปตั้งวงดนตรี รับรอง รุ่งแน่ๆๆ

ต้องการหางเครื่องไหมคะ พี่แอ๊ะจะยอมเป็นหางเครื่องให้ค่ะ ชวนพี่อ้อย13 อีกคน พี่อ้อย14 , 17

เอาเป็นว่า กลุ่มนางอ. ทั้งหมด เปลียนอาชีพ เป็นหางเครื่องดีก่า  รวมทั้งนาง อ. อุอ๋น ด้วยค่ะ


หัวข้อ: Re: "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: swsm ที่ 29 พฤศจิกายน 2552, 21:19:32
หากเป็นวงตัว อ. อย่างที่พี่แอ๊ะว่า .. ชื่อ "หยี" ต้องเปลี่ยนชื่อเป็น "อี๋" ด้วยใช่ไหมคะ ??   emo7:(:


หัวข้อ: Re: "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: prapasri AH ที่ 29 พฤศจิกายน 2552, 21:27:18
ช่ายยยยยยยยยย แย้วค่ะ


หัวข้อ: Re: "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: iamfrommoon ที่ 29 พฤศจิกายน 2552, 21:29:05
อ้างถึง
ข้อความของ swsm เมื่อ 29 พฤศจิกายน 2552, 19:16:43
ลงรูปอีกครั้งค่ะ  พี่แอ๊ะ    emo6::))   ..  มองเห็นไหมคะ ??


(http://i978.photobucket.com/albums/ae267/swsm_bucket/Yee_.jpg)

รูปนี้ ซ้าย-ขวาคืออาภาพรนะคะ   ตรงกลางคือหยีเอง



(http://i978.photobucket.com/albums/ae267/swsm_bucket/Yee__2.jpg)

ส่วนรูปนี้  หยีอยู่ในชุดสีเขียวค่ะ


พี่หยีคะ
พี่สวยกว่าอาภาพร ฟันธง!

พี่แอ๊ะคะ

น้องเหมือนกันค่ะ เสื้อผ้ามีเต็มตู้แต่ใส่ไม่ได้เลยสักชุด จาก 52 กก.ปาไป 58 กก. ต้องหาซื้อชุดใหม่ค่ะ น้องว่า ผ้าแต่ละตัวไม่ดีนะคะ มันหดลงหมดเลย 555


หัวข้อ: Re: "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: Kaimook ที่ 29 พฤศจิกายน 2552, 22:58:39
อ้างถึง
ข้อความของ iamfrommoon เมื่อ 29 พฤศจิกายน 2552, 21:29:05
อ้างถึง
ข้อความของ swsm เมื่อ 29 พฤศจิกายน 2552, 19:16:43
ลงรูปอีกครั้งค่ะ  พี่แอ๊ะ    emo6::))   ..  มองเห็นไหมคะ ??


(http://i978.photobucket.com/albums/ae267/swsm_bucket/Yee_.jpg)

รูปนี้ ซ้าย-ขวาคืออาภาพรนะคะ   ตรงกลางคือหยีเอง



(http://i978.photobucket.com/albums/ae267/swsm_bucket/Yee__2.jpg)

ส่วนรูปนี้  หยีอยู่ในชุดสีเขียวค่ะ


พี่หยีคะ
พี่สวยกว่าอาภาพร ฟันธง!

พี่แอ๊ะคะ

น้องเหมือนกันค่ะ เสื้อผ้ามีเต็มตู้แต่ใส่ไม่ได้เลยสักชุด จาก 52 กก.ปาไป 58 กก. ต้องหาซื้อชุดใหม่ค่ะ น้องว่า ผ้าแต่ละตัวไม่ดีนะคะ มันหดลงหมดเลย 555
555555555พีแอ๊ะขราาาาาไม่เพียงแต่พี่คนเดียวค่ะที่ใส่เสื้อไม่ได้พี่ยังมีน้ำอ้อยเป็นสมาชิกอีกคนค่ะ55555
น้องป๊กกี้ขราาาาาระวังนะคะตอนพี่อยู่ที่หอพี่น้ำหนักเท่าน้องค่ะวันเวลาผ่านไปหลายสิบปีตอนนี้พี่เป็นอย่างที่น้องเห็นค่ะค่ะ
55555555พี่แอ๊ขราาาาาช่วยน้องทีคะ


หัวข้อ: Re: "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: iamfrommoon ที่ 29 พฤศจิกายน 2552, 23:01:13
พี่ไข่มุกขรา...
น้องกำลังจะตามไปติดๆ เฮียยิ่งบอกว่า ถ้ามีน้องนะ ปุ๊กกลมไม่ลงแน่ๆ เห็นจากกิน 555


หัวข้อ: Re: "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: prapasri AH ที่ 01 ธันวาคม 2552, 21:05:33
น้องปุ๊กกีขา

พออายุเท่าพี่แอ๊ะแล้วไม่กินก็อ้วนค่ะ



วันนี้ห้องพี่แอ๊ะเหงาจัง น้องๆไปเที่ยวไหนกันหมด

พี่แอ๊ะมีเรื่องขำขัน วันนี้ ของพี่แอ๊ะเล่าเลยนะ

"คนเราชอบคิดว่าคนอื่นดูแก่กว่าตัวเองเสมอ"

 เมื่อเย็นนี้ พี่แอ๊ะไปร้านสระผม มีผู้หญิงแก่นั่งอยู่คนหนึ่ง  พี่แอ๊ะต้องรอคิวเขา แต่ผู้ชายอีกคนหนึ่งนั่งอยู่ด้วย

พี่แอ๊ะนึกในใจ ว่าจะถามยายแก่คนนี้ ว่า "ยายจะสระผมด้วยใช่ไหมคะ"

แต่นึกในใจ อย่าคุยอย่าถามเธอดีกว่า

ว่าแล้วพี่แอ๊ะก็นั่งรอคิวทำผม นั่งเงียบๆ อ่านหนังสือไป ดีกว่า

พอถึงคิวชายหนุ่มคนนั้น

ยายแก่ก็ยิ้มกับพี่แอ๊ะแล้วพูดว่า

" หนูไม่สระ ค่ะ หนูมากับลูก ให้ลูกตัดผมค่ะ"5555555555555555555

พี่แอ๊ะแทบช๊อค ตายแล้วววววววววววว ถ้าฉันไปถามเขาว่า "ยายจะสระผมด้วยไหมคะ"

พี่แอ๊ะคงตายแน่ๆๆๆๆๆๆๆๆๆ

เเล้วพอเธอ บอกพี่แอ๊ะว่า "หนูไม่สระค่ะ....."

แสดงว่า เขาคิดว่าพี่แอ๊ะเป็นยาย แก่ เหมือนที่พี่แอ๊ะ รู้สึกว่าเธอเป็นยายยยยยยยยย นั่นเองงงงงงง



น้องๆอ่านแล้วงง ไหมคะ

พี่แอ๊ะไม่ทราบจะอธิบายอย่างไรให้น้องเข้าใจน่ะค่ะ

ถ้าอ่านแล้วไม่เข้าใจโทรมาถามได้นะคะ55555555555555555555555555


กลับมาถึงบ้าน แต่งหน้าจะออกไปงาน เครียดมากเลยค่ะ แสดงว่าเราแก่มากกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกก


หัวข้อ: Re: "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: Soponเท่านั้น ที่ 01 ธันวาคม 2552, 21:43:44
สวัสดีครับพี่แอ๊ะ
มาให้กำลังใจพี่ครับ พี่แอ๊ะยังคง Young  for Harn เอ๊ย Young at heart น่ะครับ emo43


หัวข้อ: Re: "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: Kaimook ที่ 02 ธันวาคม 2552, 00:18:29
อ้างถึง
ข้อความของ prapasri AH เมื่อ 01 ธันวาคม 2552, 21:05:33
น้องปุ๊กกีขา

พออายุเท่าพี่แอ๊ะแล้วไม่กินก็อ้วนค่ะ



วันนี้ห้องพี่แอ๊ะเหงาจัง น้องๆไปเที่ยวไหนกันหมด

พี่แอ๊ะมีเรื่องขำขัน วันนี้ ของพี่แอ๊ะเล่าเลยนะ

"คนเราชอบคิดว่าคนอื่นดูแก่กว่าตัวเองเสมอ"

 เมื่อเย็นนี้ พี่แอ๊ะไปร้านสระผม มีผู้หญิงแก่นั่งอยู่คนหนึ่ง  พี่แอ๊ะต้องรอคิวเขา แต่ผู้ชายอีกคนหนึ่งนั่งอยู่ด้วย

พี่แอ๊ะนึกในใจ ว่าจะถามยายแก่คนนี้ ว่า "ยายจะสระผมด้วยใช่ไหมคะ"

แต่นึกในใจ อย่าคุยอย่าถามเธอดีกว่า

ว่าแล้วพี่แอ๊ะก็นั่งรอคิวทำผม นั่งเงียบๆ อ่านหนังสือไป ดีกว่า

พอถึงคิวชายหนุ่มคนนั้น

ยายแก่ก็ยิ้มกับพี่แอ๊ะแล้วพูดว่า

" หนูไม่สระ ค่ะ หนูมากับลูก ให้ลูกตัดผมค่ะ"5555555555555555555

พี่แอ๊ะแทบช๊อค ตายแล้วววววววววววว ถ้าฉันไปถามเขาว่า "ยายจะสระผมด้วยไหมคะ"

พี่แอ๊ะคงตายแน่ๆๆๆๆๆๆๆๆๆ

เเล้วพอเธอ บอกพี่แอ๊ะว่า "หนูไม่สระค่ะ....."

แสดงว่า เขาคิดว่าพี่แอ๊ะเป็นยาย แก่ เหมือนที่พี่แอ๊ะ รู้สึกว่าเธอเป็นยายยยยยยยยย นั่นเองงงงงงง



น้องๆอ่านแล้วงง ไหมคะ

พี่แอ๊ะไม่ทราบจะอธิบายอย่างไรให้น้องเข้าใจน่ะค่ะ

ถ้าอ่านแล้วไม่เข้าใจโทรมาถามได้นะคะ55555555555555555555555555


กลับมาถึงบ้าน แต่งหน้าจะออกไปงาน เครียดมากเลยค่ะ แสดงว่าเราแก่มากกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกก
พี่แอ๊ะขราาาาาาอ่านเรื่องเล่าของพี่น้ำอ้อยได้แต่555555555555
และมีความเห็นเช่นเดียวกับพี่โสภณเท่านั้นเลยค่ะ


หัวข้อ: Re: "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: prapasri AH ที่ 02 ธันวาคม 2552, 15:58:11
น้องโสภณคะ

สงสัยจะเป็น yarn for harn  เอ๊ย  เหี่ยว ก็พอนะ yarn กลัวไม่สุภาพคะ

ว่าแต่ว่า เด่วน้องปลาทูแมนจะไม่กล้า เข้าเวบนี้ หาก ห้องพี่แอ๊ะ สุภาพจนเกินไป

รอน้องปลาทูเเมนมาบรรเลง เพลงสนุกๆๆๆ อยู่นะคะ


หัวข้อ: Re: "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: ตุ๋ย 22 ที่ 02 ธันวาคม 2552, 20:03:45
สวัสดีพี่แอ๊ะ  วันคืนสู่เหย้าไม่ได้ไปกราบสวัสดีพี่แอ๊ะเลยครับ


หัวข้อ: Re: "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: พธู ๒๕๒๔ ที่ 02 ธันวาคม 2552, 21:18:47
ผมมีรุ่นพี่เป็นหนุ่มใหญ่ร่างท้วม(มาก) พยายามที่จะลดน้ำหนักมานาน เขาใช้สารพัดวิธีการ แต่ไม่เคยได้ผล เป็นที่พอใจซะที

วันหนึ่งพี่เค้าเห็นโฆษณาบริการลดน้ำหนักในหนังสือพิมพ์
 
"ลดน้ำหนักทันใจ กิโลกรัมละ 500 บาท ไม่ได้ผลยินดีคืนเงิน"
 
รุ่นพี่คนนี้จึงลองโทรศัพท์ไปตามหมายเลขที่จดไว้

"ต้องการลดกี่กิโลคะ"

เสียงจากศูนย์ลดน้ำหนักถามอย่างไม่มีอ้อมค้อม

"เอ่อ...”    พี่หุ่นตุ้ยนุ้ยอึ้งเมื่อเจอคำถามโดนใจ

“สัก 2 กิโลแล้วกันครับ"

“ขอชื่อที่อยู่และเบอร์ติดต่อกลับด้วยค่ะ พนักงานของเราจะไปถึงพบคุณพรุ่งนี้ที่บ้าน เวลา 10 นาฬิกานะคะ”
 
เช้าวันถัดมามีสาวสวยหุ่นเพรียวแต่งตัวด้วยชุดแนบเนื้อสุดเซ็กซี่มาปรากฏตัวหน้าบ้าน
 
“ดิฉันเป็นพนักงานจากศูนย์ลดน้ำหนักค่ะ ถ้าคุณจับดิฉันได้ จะทำอะไรก็ยอมทั้งนั้นค่ะ”
 
แม่ สาวบอกอย่างหน้าตาย  เห็นพี่หนุ่มของเราทำเฉย เลยถอดเสื้อชั้นในออกเป็นโนบราให้เซ็กซี่เข้าไปอีก  พี่หนุ่มเริ่มเข้าใจ แปลงร่างเป็นตัวหื่นทันที ไล่ล่าสาวน้อยอย่างเอาจริงเอาจัง
แต่ ไม่ว่าพยายามสักเท่าใด แม่สาวน้อยก็ใช้ความคล่องตัวหลบหลีกไปได้ทุกที จนเวลาผ่านไปร่วมสามชั่วโมง เจ้าหนุ่มลิ้นห้อย แทบไม่มีแรงจะยืน แม่สาวก็ประกาศ
 
“จบแล้วค่ะ ทีนี้คุณลองชั่งน้ำหนักดูสิคะ”

หนุ่ม ร่างใหญ่ลองชั่งน้ำหนักดู ไม่น่าเชื่อ น้ำหนักของเขาลดลงไป 2 กิโลพอดีคุณพี่ยังคาใจ  หลังจากพักเรียกความฟิตอยู่หลายวัน เขาโทรไปนัดแนะกับทางศูนย์ใหม่ คราวนี้เป้าหมายของเขา ไม่ได้อยู่ที่การลดน้ำหนักเพียงอย่างเดียวแล้ว กะว่าคราวนี้แม่สาวไม่พ้นมือแน่

“ผมต้องการลด 10 กิโลครับ”

เจ้าหนุ่มบอกกับพนักงาน กะว่างานนี้เขาจะมีเวลาเหลือเฟือให้ไล่ล่าแม่สาวน้อยจนมุมได้แน่ๆ
 
“นั่นมันมากไปนะคะ”    พนักงานที่ศูนย์แย้ง

“ผมว่าได้ก็ต้องได้สิน่า”      เจ้าหนุ่มยังคงยืนยัน

พนักงานเห็นว่าคงจะขัดเจ้าหนุ่มไม่ได้ จึงต้องยอมตามนั้น
จน เมื่อถึงเวลานัด พี่หนุ่มของเราไปนั่งรออย่างใจจดใจจ่ออยู่หลังประตู  จนเมื่อเสียงกริ่งดังขึ้น พี่เรารีบเปิดประตูออกไปอย่างตื่นเต้น  แต่กลับต้องรู้สึกประหลาดใจเพราะที่หน้าประตู  คงเป็นคนในชุดรัดรูปเช่นเดิม เพียงแต่..คราวนี้เป็นชายล่ำร่างใหญ่มาก  ท่าทางเป็นแต๋วชัดเจน ที่หน้าอกมีตัวหนังสือตัวโตเท่าหม้อแกงเขียนไว้ว่า

"ถ้าผมจับคุณได้  คุณเสร็จผมแน่!!!!"


หัวข้อ: Re: "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: เหยง 16 ที่ 02 ธันวาคม 2552, 21:32:49
ป๋าทู

ไม่แน่นะ รุ่นพี่เขาอาจยอมให้ถูกจับก็ได้
emo20:)):)


หัวข้อ: Re: "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: prapasri AH ที่ 03 ธันวาคม 2552, 06:24:31
แปลว่า อะไรคะ น้องปลาทูแมน

ตรรกะ หลายชั้น พี่แอ๊ะอ่านแล้วไม่เข้าใจอีกแย้วววววววววววว


หัวข้อ: Re: "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: krongon2513 ที่ 03 ธันวาคม 2552, 06:50:59
ยายแอ๊ะ
เธอไปทำอะไรไว้ที่กระทู้  ซื้อขายคอนโด
ฉันโทรไปเล่าให้ยายหุยฟัง หัวเราะซะน้ำตาไหล

รูปดีดี ไม่เอาลง หยั่งงี้เสียหายหลายแสนนะจ๊ะ



รูปที่มีฉัน..เราถ่ายที่ศศนิเวศ  ฉันไปเข้าห้องน้ำ
รูปที่ไม่มีฉัน..เป็นคอนโดยายหุย  ฉันกลับก่อนเหมือนกัน ง่วงตาแทบปิด
ม่ายงั้น  ฉันต้องมีรูปยกไม้ยกมือ  ทำตัวไม่สมวัย ถูกลงประจานในเวปเหมือนกัน

เฮ้อ....ทำไปได้ (ทั้งคนทำ..คนถ่าย..และคนโพสต์)



ขอให้น้องปลาทู ลดน้ำหนัก 10 กก. ได้ดังประสงค์นะคะ


หัวข้อ: Re: "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: prapasri AH ที่ 03 ธันวาคม 2552, 07:12:42
อ้อยจ๋า ฉัน ไปโพสต์รูปสวยๆ ไว้แล้ว แต่กลัว หุย ดุฉัน

ที่ไม่ขออนุญาต ก่อน เพราะถ้าขออนุญาต หญิง13 เจ้าแม่ ทั้งหลายคงไม่ให้ฉันโพสต์อิๆๆๆๆ

หุยโทรมาหาฉัน ฉันยังไม่กล้ารับสายเลยยยยยยยยย

เวลาผ่านมา40 ปีฉันก็ยังกลัว เพื่อนดุ อีกเช่นเคยยยยยยยยยยยยยยยยย

และให้เพื่อนปลอบอีกเหมียนเดิมเลยยยยยยยยยยยยยย


หัวข้อ: Re: "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: prapasri AH ที่ 03 ธันวาคม 2552, 18:58:37
ไม่มีใครมาคุยกะพี่แอ๊ะเลย แวะวนมาสองเที่ยวแล้ว วันนี้

เลยขอโพสต์รูปนี้ ล่อใจจั๊กหน่อย 39 ปีผ่านไป ไวเหมือนโกหก

พี่แอ๊ะ บริจาคโลหิต แล้วหนังสือพิมพ์ ภาษา ฝรั่ง มาถ่ายรูปไปลงค่ะ

(http://img442.imageshack.us/img442/5556/996808621.jpg)


หัวข้อ: Re: "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: prapasri AH ที่ 03 ธันวาคม 2552, 19:00:42
ตายแล้ว รูปรีไซซ์ไม่ได้ค่ะ ทำยังไงดีคะ


หัวข้อ: Re: "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: prapasri AH ที่ 03 ธันวาคม 2552, 19:02:35
เหยง16 online อยู่ช่วยทำรูปพี่แอ๊ะให้เล็กลง ได้ไหมคะ


หัวข้อ: Re: "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: เหยง 16 ที่ 03 ธันวาคม 2552, 19:50:51
พี่แอ๊ะครับ

ผม resize ให้แล้วครับ, พี่เล่าเรื่องต่อน่ะครับ เพราะผมเข้ามาอ่านทุกวันครับ


หัวข้อ: Re: "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: prapasri AH ที่ 03 ธันวาคม 2552, 21:38:27
เหยงจ่า

อ่านแล้วคุยกะพี่แอ๊ะด้วยนะคะ

พี่แอ๊ะจะได้มีกำลังใจเข้ามาเล่าค่ะ


หัวข้อ: Re: "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: เหยง 16 ที่ 03 ธันวาคม 2552, 21:50:42
พี่แอ๊ะ

รับทราบครับ, แต่บางวันเข้ามาอ่านแล้ว ยังไม่ get ก็เลยไม่ได้โพสต์ครับ


หัวข้อ: Re: "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: krongon2513 ที่ 03 ธันวาคม 2552, 23:03:25
เด็กสาวชาวครุที่นอนยิ้มแฉ่งนี่น่ารักจังฮิ


(http://img215.imageshack.us/img215/569/a07a.jpg)


น่ารักเหมือนคนที่นั่งยิ้มแป้นคนนี้เลย


(http://img222.imageshack.us/img222/9871/scan0007i.jpg)


แล้วคนซ้ายสุดเนี่ย เขาคิดอะไรอยู่เหรอ
สงสัยจะหาภาพเด็ดๆ มาโพสต์อีกแน่ๆ


หัวข้อ: Re: "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: dd_2530 ที่ 04 ธันวาคม 2552, 09:27:21
ชอบดูภาพเก่า  นำมาเล่าใหม่  โดยพี่อ้อย  พี่แอ๊ะ ฯลฯ  ได้ทั้งสาระและบันเทิง
อยากบอกว่าแฟนคลับยังติดตามการเล่าของพี่ๆอยู่เสมอค่ะ emo43


หัวข้อ: Re: "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: swsm ที่ 05 ธันวาคม 2552, 01:56:57
สุขสันต์วันพ่อค่ะ  พี่น้อง ..
ขอให้ "คุณพ่อ" ทุกท่านในห้องนี้มีความสุขมาก ๆ

วันนี้ใส่เสื้อสีชมพูกันด้วยนะคะ
   emo6::))


หัวข้อ: Re: "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: prapasri AH ที่ 06 ธันวาคม 2552, 08:47:31
วันพ่อ มอบให้ปาป๊า วัน วัยงาม ยามหนุ่มสาว

(http://img134.imageshack.us/img134/7703/74760208.jpg)


หัวข้อ: Re: "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: prapasri AH ที่ 06 ธันวาคม 2552, 08:50:38
 
แล้ว หาก เมื่อ ก้าว ไปได้ถึง 80 นั้น

(http://img137.imageshack.us/img137/5428/70967761.jpg)


หัวข้อ: Re: "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: prapasri AH ที่ 06 ธันวาคม 2552, 08:54:57
(http://img267.imageshack.us/img267/7200/39407157.jpg)



วันที่ ฝัน จะ อยู่ด้วย กัน สองตายาย


หัวข้อ: Re: "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: swsm ที่ 06 ธันวาคม 2552, 12:08:21
น่ารักจังค่ะ  พี่แอ๊ะ ..  emo6::)) ..   ยายแคะหูให้ตาด้วยล่ะ .. คริคริ


หัวข้อ: Re: "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: พธู ๒๕๒๔ ที่ 06 ธันวาคม 2552, 16:09:35
(http://img229.imageshack.us/img229/1554/saferedirect1.jpg)
(http://img267.imageshack.us/img267/7056/saferedirecth.jpg)


หัวข้อ: Re: "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: เหยง 16 ที่ 06 ธันวาคม 2552, 16:26:04
ป๋าทู

งานของเรา คือทำงานที่ไม่มีสาระมั้งครับ
แบบ ดุๆ ด่าๆ ห้าหมื่น, หลับๆ ตื่นๆ หมื่นห้า, เดินไป เดินมา ห้าพัน, ทำงานทั้งวัน พันห้า, ยุ่งตายห่า ห้าร้อย


หัวข้อ: Re: "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: ตุ๋ย 22 ที่ 06 ธันวาคม 2552, 18:55:44
อ้างถึง
ข้อความของ เหยง 16 เมื่อ 06 ธันวาคม 2552, 16:26:04
ป๋าทู

งานของเรา คือทำงานที่ไม่มีสาระมั้งครับ
แบบ ดุๆ ด่าๆ ห้าหมื่น, หลับๆ ตื่นๆ หมื่นห้า, เดินไป เดินมา ห้าพัน, ทำงานทั้งวัน พันห้า, ยุ่งตายห่า ห้าร้อย
อย่าเอาเรื่องจริงมาพุดครับพี่เหยง


หัวข้อ: Re: "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: หนุน'21 ที่ 08 ธันวาคม 2552, 13:30:55
สวัสดีครับพี่แอ๊ะและแฟนคลับทุกท่าน
ได้แต่เข้ามาอ่านไม่ค่อยได้โพส

พี่แอ๊ะกับพี่อ้อย เล่าเรื่องด้วยรูปเก่าๆ น่าติดตามครับ

เรื่องที่พี่แอ๊ะเล่าเกี่ยวกับการมองคนอื่นว่า
มีอายุมากกว่าเรานี่เป็นตัวอย่างที่ดีเลยนะครับ
อ่านแล้วขำไปด้วย...ได้ข้อคิดไปด้วย
ขอบคุณครับ


หัวข้อ: Re: "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: เหยง 16 ที่ 08 ธันวาคม 2552, 14:31:59
พี่แอ๊ะ

ไปทำธุระอะไรที่ไหนครับ 3 วันแล้ว น้องๆคอยอยู่ครับ


หัวข้อ: Re: "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: swsm ที่ 08 ธันวาคม 2552, 17:09:58
น่านจิคะ ..      emo47


หัวข้อ: Re: "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: พธู ๒๕๒๔ ที่ 09 ธันวาคม 2552, 00:52:33
ภาษาไทย วันละคำ

สวรรค์
-มีวิธีจะไปถึงได้สองวิธีคือ ทำความดี กับมีเซ็กซ์

เสียบอล
-ผู้เล่นโดนแย่งลูกไปได้
-ถ้าเป็นคนดู หมายถึงแพ้พนัน

บอลแพ้
-ภารดรไม่ชนะ
-คนไม่แพ้

เกย์
-เพศที่ควบคุมการเพิ่มประชากรโลกได้ดีที่สุด ปัจจุบันเรียกเพศทางเลือก

วันแดงเดือด
-วันที่แมนยูฯ เจอลิเวอร์พูล ถ้าเป็นผู้หญิงหมายความว่าเมนส์มา

หงส์
-ที่อังกฤษเป็นทีมฟุตบอล ที่เมืองไทยกลับเป็นยี่ห้อเหล้า

นมบูด
-จะเกิดขึ้นกับบุคคลที่มีภรรยาอายุ 60 ปีขึ้นไป

หัวช้าง
-บางครั้งก็เล็กกว่าหัวคน ถ้าเป็นชื่อของสิว ไม่ใช่ชื่อถนนเเต่เป็นสะพาน

วัว
-สัตว์ที่มีความจำสั้นที่สุด ตีนของตัวเองยังจำไม่ได้

บีบสิว
-เปรียบเหมือนพ่อแม่ทำร้ายลูก แล้วตัวเองเจ็บยิ่งกว่า

ทอง
-ของมีค่าที่คนอยากได้ แต่จะไร้ค่าเมื่อเป็นวัยของผู้หญิง

ผายปอด
-ต่างจากผายลมคือ ผายปอดให้ผู้อื่นช่วย ส่วนผายลมทำเองล้วนๆ

รักแร้
-สิ่งที่เด็กสมัยใหม่เห็นเป็นเครื่องเชิดหน้าชูตา

สิทธิสตรี
-เครื่องมือทลายกำแพงทุกอย่าง แม้กระทั่งคำสอนในศาสนา

ลิขสิทธิ์
-สิ่งที่บ่งบอกให้รู้ว่า ‘ตูนี่แหละ เป็นเจ้าของ’

เหินฟ้า
-การทะยานไปในอากาศ สำหรับแบคแฮมคือการยิงลูกโทษ

ชัยชนะ
-เกิดขึ้นได้จากการพ่ายแพ้ของฝ่ายตรงข้าม

โล่งอก
-สำหรับผู้หญิง คือการเอาซิลิโคนออกจากนม
-อาการของผัวที่โกหกเมียสำเร็จ

ไข่ดาว
-หาได้จากหน้าอกของผู้หญิงบางคน หือจากร้านข้าวแกง

หนู
-สัตว์ชนิดหนึ่งที่ผู้หญิงเกลียด แต่เมื่อเอามาเรียกตัวเองกลับชอบ
-ส่วนใหญ่เป็นตัวผู้หรือไอ้หนู เพราะหากเป็นอีหนูที่ไรเป็นเรื่องทุกที

ฟุตบอล
-กีฬาที่คน ๒๒ คนใส่ไอ้ลูกกลม ๆ หนึ่งลูก เมื่อแย่งได้จะเตะมันไปที่เขตฝ่ายตรงกันข้าม
-คล้ายกับเมีย คือหลังจากแย่งคนอื่นจนได้ครอบครองแล้วก็ต้องเขี่ยมันออกไป

ชิป
-วัตถุอิเล็กทรอนิกส์ชนิดหนึ่ง ถ้าหาไม่เจอเรียกว่า ชิปหาย

ฉลาม
-สัตว์ที่ไม่อยากเกิดมามีหู
-สัตว์น้ำลึกที่มักเป้นอาหารของคน

ปอด
-อวัยวะที่มีความสัมพันธ์ลึกซึ้งกับบุหรี่
-อาการไม่กล้าหรือไม่สู้ มักใช้กับคำว่าแหก ปอดแหกก็ใช้

งานศพ
-งานที่เจ้าตัวไม่เคยออกมาต้อนรับแขกเลย  นอนนิ่งอย่างไม่สนใจแขกที่มางานเลย
 
 


หัวข้อ: Re: "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: wannee ที่ 09 ธันวาคม 2552, 14:42:20


สวัสดีค่ะพี่แอ๊ะ  emo4:)) เสียดมี pm ถึงพี่ค่ะ  emo4:))



หัวข้อ: Re: "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: เหยง 16 ที่ 09 ธันวาคม 2552, 19:19:38
สวัสดีเป็นวันที่สี่ครับ พี่แอ๊ะ

พร้อมๆ กับการศึกษา"ภาษาไทยวันละคำ"ของป๋าทู แต่วันนี้มีถึง 25 คำทีเดียว


หัวข้อ: Re: "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: krongon2513 ที่ 10 ธันวาคม 2552, 13:08:33
ถ้าน้องๆชอบรูปเก่าๆ ให้ขออนุญาตพี่แอ๊ะดูนะคะ
พี่มีรูปพี่แอ๊ะตอนเด็กๆมากมาย
เธอเป็นผู้หญิงแถวหน้าและแต่งตัวโดดเด่นมาตั้งแต่เล็ก

พี่ยังไม่อยากโพสต์เยอะ เกรงเธอจะเขินน้องๆ emo42


แอ๊ะ..หายไปไหน...ส่งข่าวล่วย


หัวข้อ: Re: "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: pusadee sitthiphong ที่ 10 ธันวาคม 2552, 13:16:07
พี่แอ๊ะขา ขออนุญาตให้พี่อ้อยโพสท์รูปด้วยค่ะ น้องๆอยากดู


หัวข้อ: Re: "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: prapasri AH ที่ 10 ธันวาคม 2552, 20:42:25
เห็นเสียดมี pm ช่วงนี้ยุ่งมากกกก ค่ะ

ขอส่งรูปที่พี่สิงห์ว่าโป๊ มาให้ดูก่อนนะ น้องๆช่วยให้คะเเนน ความโป๊ ด้วยค่ะ

ดูว่า พี่สิงห์ สมควร ถูกหาว่าเชย เป็นพ่อใหญ่สิงห์ ไม่ 555555555555555

และช่วยตามพี่สิงห์มาดูด้วยนะคะ


อ้อย13จ๋า รูป รำออกแขก แอ๊ะจำได้แต่เราร้องว่า โอสะวามา ล๊า..........

แอ๊ะเห็นรูปอ้อย เป็นยายแก่ กับเหน่งสิริพร เป็นตาแก่ แล้วหัวเราะจนสำลัก เลยค่ะ

(http://img410.imageshack.us/img410/3872/65516254x.jpg)


หัวข้อ: Re: "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: prapasri AH ที่ 10 ธันวาคม 2552, 20:43:32
เหยง ช่วย resize ให้ด้วยนะ พี่แอ๊ะ resize ไมเป็นค่ะ


หัวข้อ: Re: "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: dd_2530 ที่ 10 ธันวาคม 2552, 20:46:31
สวัสดีค่ะพี่แอ๊ะ


กำลังมองหาว่าโป๊ตรงไหนน่า... emo47


หัวข้อ: Re: "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: หนุน'21 ที่ 10 ธันวาคม 2552, 21:01:51


สวัสดีครับพี่แอ๊ะ
ขออนุญาต  resize รูปที่พี่สิงห์บอกว่าโป๋นะครับ
อิ อิ ทำไปแล้วเพิ่งขอ..
ซึ่งก็ยังงง...ไม่รู้ว่าโป๊ยังไง


 emo4:))


หัวข้อ: Re: "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: prapasri AH ที่ 10 ธันวาคม 2552, 21:03:15
น้องๆ ขา และเพื่อน อ้อย จ๋า

พี่แอ๊ะขออนุญาต ลา อีก4-5 วัน เข้ากรุงเทพ บ้างมายโสบ้าง จนเวียนหัวเลยค่ะ

ช่วยเฝ้าบ้านพี่แอ๊ะนะ  อนุญาต ให้ น้องปลาทูแมน ได้มาเล่าเรื่องจั๊กกะจี๋ ได้ทุกวันค่ะ55555555555555

(http://img410.imageshack.us/img410/4428/91572068r.jpg)

ถ่ายรูปนี้ กับดร.วินาโน สุระกะหมัด ผู้เชียวชาญด้านการศึกษา ของเอเชีย จาก SEMEO

เคยเป็น อธิการบดี มหาลัยในบรูไน

และไปพัฒนาการการศึกษา ในบรูไน ค่ะ

ท่านมา จุฬา ท่าน สนิทกะพี่แอ๊ะ พี่แอ๊ะเรียกท่านเป็น daddy

ตอนนี้ไม่ทราบว่าจะยังอยู่ หรือเปล่า พี่แอ๊ะเคยไปเจอท่านครั้งสุดท้ายที่อินโดเนเซียเมื่อปี2545


หัวข้อ: Re: "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: prapasri AH ที่ 10 ธันวาคม 2552, 21:10:36
ตาย......เเย้ว
ดีใจจังน้องๆ response มาเยอะเลย

สงสัยพี่แอ๊ะคงตอบต่อแบบ ไม่ได้นอน แน่คืนนี้

พี่แอ๊ะเพิ่งลงเครื่องแล้วเดินทางมาจากสนามบินอุบลค่ะ

พี่แอ๊ะไปงานที่จคณะแพทย์จุฬา" คืนแห่งรัก"

พระนางเจ้าเสด็จด้วย ค่ะ

พี่แอ๊ะไปในนาม แพทย์จุฬารุ่นพี่หาญ

มีพี่หาญ คนเดียวที่ให้ภรรยาไปแทน 5555555555555555

ว่างแล้วจะส่งรูปมาให้ดู นะคะไม่ทราบว่ารูปอยู่กล้องไหน ช่วงนี้เดินทางหลายงานมาก จนงง ไปหมด

พี่แอ๊ะบอกเพื่อนๆ พี่หาญว่า พี่แอ๊ะ จบ"ครุศาสตร์การแพทย์"ค่ะ

เขา ต๊กกะใจกันใหญ่ แล้วอุทานว่า

ดีจังเลย ครุศาสตร์มีแผนกนี้แล้วหรือ55555555555555555555555


หัวข้อ: Re: "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: เหยง 16 ที่ 10 ธันวาคม 2552, 21:40:02
พี่แอ๊ะครับ

ภาพคู่กับ พ.พรเทพ ขนาดพอดีเลยครับ 700 x 485 พิกเซล ไม่ต้อง resize ครับ

วันนี้ชมข่าวในพระราชสำนัก ช่วง 2 ทุ่มอยู่ครับ สมเด็จพระราชินีนาถ เสด็จ งานของคณะแพทยศาสตร์จุฬาฯ ก็ได้ชมครับ
ท่านไม่ได้เสด็จออกงานนานแล้ว


หัวข้อ: Re: "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: swsm ที่ 10 ธันวาคม 2552, 22:22:22
พี่แอ๊ะยิ้มเก่งตั้งแต่ไหนแต่ไรแล้วนะคะ ??  รอยยิ้มคงเดิมทุกประการ    emo6::))


หัวข้อ: Re: "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: prapasri AH ที่ 12 ธันวาคม 2552, 06:41:10
เหยงคะ
จริงๆด้วยค่ะ ท่านไม่ได้เสด็จออกงานนานแล้ว

และชาวแพทย์จุฬาพยายามมากันมากๆ เพราะคิดว่า อาจจะเป็นงานสุดท้ายที่ท่านจะเสด็จมางานแพทย์จุฬา

เพราะท่านก็ทรงพระชนมายุมาแล้ว

พี่แอ๊ะได้ชื่นชมพระบารมีอย่างใกล้ชิดค่ะ

มีความสุขที่สุดดดดดดดดดดดดดดด


หัวข้อ: Re: "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: prapasri AH ที่ 12 ธันวาคม 2552, 06:44:55
น้องหะยี
พี่แอ๊ะชอบย้ม ถ้าไม่ยิ้ม จะหน้าบึ้งทันที

เอ....จะเอายังไงดี จะบึ้งหรือจะยิ้มมมมมมมมมมมมมมมมมมม

ยิ้มคงดีกว่าอยู่แล้วนะ

คิดถึงหะยีจัง

เวลานึกถึงหะยี ไม่ทราบว่าทำไม จะนึกถึง ผีเสื้อบินโฉบไปโฉบมา ไปบินมา ค่ะ

น่ารักจังงงงงงงงงงงงง


หัวข้อ: Re: "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: prapasri AH ที่ 12 ธันวาคม 2552, 06:46:55
พี่แอ๊ะรีบมาเข้า เวบ เพราะเด่วต้องไปกรุงเทพอีกแล้วค่ะ

คงเว้น อีก 2-3วันนะเหยงนะ แล้วจะมีข่าวดีมาโพสต์ค่ะ

โปรดอดใจรอด้วยใจระทึกโดยพลันนนนนนนนนนนนนนนน


หัวข้อ: Re: "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: Soponเท่านั้น ที่ 12 ธันวาคม 2552, 12:23:36
สวัสดีครับพี่แอ๊ะ
พี่มีงานและกิจกรรมเยอะแยะน่าสนใจดีจัง ช่วยแนะนำน้องอย่างผมด้วยว่าทำไงจะยังคงมีพลัง และยิ้มได้ตลอด เวลาผมไม่ยิ้มหน้าจะบึ้ง แต่เวลายิ้ม(กับคนที่ไม่คุ้นเคย)ก็ดูเรี่ยราดเล็กน้อย เลยไม่รู้จะเอาอย่างไรดี


หัวข้อ: Re: "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: ตุ๋ย 22 ที่ 12 ธันวาคม 2552, 20:05:03
พี่แอ๊ะครับ สวัสดีครับ  ชอบอ่านข้อความที่พี่แอีะเขียนจังครับ


หัวข้อ: Re: "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: suriya2513 ที่ 12 ธันวาคม 2552, 21:21:23
อ้างถึง
ข้อความของ prapasri AH เมื่อ 12 ธันวาคม 2552, 06:46:55
พี่แอ๊ะรีบมาเข้า เวบ เพราะเด่วต้องไปกรุงเทพอีกแล้วค่ะ

คงเว้น อีก 2-3วันนะเหยงนะ แล้วจะมีข่าวดีมาโพสต์ค่ะ

โปรดอดใจรอด้วยใจระทึกโดยพลันนนนนนนนนนนนนนนน
เดาผิดให้เหยียบเลยครับ

ลูกคนใดคนหนึ่ง จะทำพิธีหมั้น


หัวข้อ: Re: "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: swsm ที่ 12 ธันวาคม 2552, 21:28:41
อ้างถึง
ข้อความของ suriya2513 เมื่อ 12 ธันวาคม 2552, 21:21:23
อ้างถึง
ข้อความของ prapasri AH เมื่อ 12 ธันวาคม 2552, 06:46:55
พี่แอ๊ะรีบมาเข้า เวบ เพราะเด่วต้องไปกรุงเทพอีกแล้วค่ะ

คงเว้น อีก 2-3วันนะเหยงนะ แล้วจะมีข่าวดีมาโพสต์ค่ะ

โปรดอดใจรอด้วยใจระทึกโดยพลันนนนนนนนนนนนนนนน
เดาผิดให้เหยียบเลยครับ

ลูกคนใดคนหนึ่ง จะทำพิธีหมั้น


จริงอะคะ ?? .. เย้ ๆ ๆ ๆ ๆ ๆ ๆ ๆ ๆ ๆ ๆ ๆ ๆ ๆ ๆ ๆ ๆ ๆ 

ดีใจด้วยค่ะ  พี่แอ๊ะ
    emo9:huhu:


หัวข้อ: Re: "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: swsm ที่ 12 ธันวาคม 2552, 21:29:49
อ้างถึง
ข้อความของ suriya2513 เมื่อ 12 ธันวาคม 2552, 21:21:23
เดาผิดให้เหยียบเลยครับ

ลูกคนใดคนหนึ่ง จะทำพิธีหมั้น



แต่ถ้าผิด .. หะยีก็คงไม่กล้าเหยียบพี่ป๋องนะคะ
ขอออกตัวไว้ก่อน
 


emo29:P:


หัวข้อ: Re: "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: swsm ที่ 12 ธันวาคม 2552, 21:33:02
อ้างถึง
ข้อความของ prapasri AH เมื่อ 12 ธันวาคม 2552, 06:44:55
คิดถึงหะยีจัง

เวลานึกถึงหะยี ไม่ทราบว่าทำไม จะนึกถึง ผีเสื้อบินโฉบไปโฉบมา ไปบินมา ค่ะ

น่ารักจังงงงงงงงงงงงง



พี่แอ๊ะมองโลกสวยงามมากค่ะ  
เพราะเมื่อนึกถึงอะไรที่ "โฉบไป โฉบมา"
พี่แอ๊ะมองว่าเป็น .. ผีเสื้อ ..


ที่ห้องเมียงู
เรากำลังพูดถึงอะไรที่ "โฉบไป โฉบมา" เหมือนกัน
แต่ไม่รู้ทำไม ไปสรุปลงท้ายที่ .. ผีกระหัง.. ค่ะ


โดยมีพี่ป๋องเป็นผู้จุดประเด็น
จริง จริง นะคะ ..
 


emo20:)):)


หัวข้อ: Re: "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: swsm ที่ 12 ธันวาคม 2552, 21:34:36
อ้างถึง
ข้อความของ prapasri AH เมื่อ 12 ธันวาคม 2552, 06:44:55
คิดถึงหะยีจัง

เวลานึกถึงหะยี ไม่ทราบว่าทำไม จะนึกถึง ผีเสื้อบินโฉบไปโฉบมา ไปบินมา ค่ะ

น่ารักจังงงงงงงงงงงงง



แหะ แหะ .. ขอบคุณมากค่ะ    emo30:sorry:


หัวข้อ: Re: "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: พธู ๒๕๒๔ ที่ 13 ธันวาคม 2552, 03:33:59
อ้างถึง
ข้อความของ swsm เมื่อ 12 ธันวาคม 2552, 21:33:02
อ้างถึง
ข้อความของ prapasri AH เมื่อ 12 ธันวาคม 2552, 06:44:55
คิดถึงหะยีจัง

เวลานึกถึงหะยี ไม่ทราบว่าทำไม จะนึกถึง ผีเสื้อบินโฉบไปโฉบมา ไปบินมา ค่ะ

น่ารักจังงงงงงงงงงงงง



พี่แอ๊ะมองโลกสวยงามมากค่ะ  
เพราะเมื่อนึกถึงอะไรที่ "โฉบไป โฉบมา"
พี่แอ๊ะมองว่าเป็น .. ผีเสื้อ ..


ที่ห้องเมียงู
เรากำลังพูดถึงอะไรที่ "โฉบไป โฉบมา" เหมือนกัน
แต่ไม่รู้ทำไม ไปสรุปลงท้ายที่ .. ผีกระหัง.. ค่ะ


โดยมีพี่ป๋องเป็นผู้จุดประเด็น
จริง จริง นะคะ ..
 


emo20:)):)
อย่าไปคิดมาก มันก็ ผี เหมือนกันแหละ


หัวข้อ: Re: "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: swsm ที่ 13 ธันวาคม 2552, 09:48:10
พี่แอ๊ะยังไม่มา ..

น้องแวะมา update ข้อมูลด้วยใจระทึก (กลัวตัดชุดไม่ทัน) .. อิอิอิ
   emo2:)




หัวข้อ: Re: "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: krongon2513 ที่ 13 ธันวาคม 2552, 23:09:03
อ้างถึง
ข้อความของ prapasri AH เมื่อ 10 ธันวาคม 2552, 20:42:25
เห็นเสียดมี pm ช่วงนี้ยุ่งมากกกก ค่ะ

ขอส่งรูปที่พี่สิงห์ว่าโป๊ มาให้ดูก่อนนะ น้องๆช่วยให้คะเเนน ความโป๊ ด้วยค่ะ

ดูว่า พี่สิงห์ สมควร ถูกหาว่าเชย เป็นพ่อใหญ่สิงห์ ไม่ 555555555555555

และช่วยตามพี่สิงห์มาดูด้วยนะคะ


อ้อย13จ๋า รูป รำออกแขก แอ๊ะจำได้แต่เราร้องว่า โอสะวามา ล๊า..........

แอ๊ะเห็นรูปอ้อย เป็นยายแก่ กับเหน่งสิริพร เป็นตาแก่ แล้วหัวเราะจนสำลัก เลยค่ะ

(http://img410.imageshack.us/img410/3872/65516254x.jpg)


อ้าว..อ้าว..อ้าว
ยายแก่ที่ไหนกั๊น...ถึงฉันจะไม่ใช่ดาราดัง..แต่ฉันก็เลือกบทนะจ๊ะ

เหน่งเขาเป็นพระราชา  ฉันเป็นพระมเหสีจ้า
สมัยนั้นยังเด็ก  เพื่อนให้ทำอะไรก็ตามใจเพื่อน
รับซะหลายบทบาทเลย
(งานปีใหม่หอหญิง..พวกหอชายไม่ได้ดูหรอก)


หัวข้อ: Re: "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: krongon2513 ที่ 13 ธันวาคม 2552, 23:15:36
(http://img229.imageshack.us/img229/2614/scan0001f.jpg)


ผู้หญิงแถวหน้า..นั่งข้างหลังเป็นซะที่ไหน


(http://img442.imageshack.us/img442/8598/scan0009e.jpg)


หัวข้อ: Re: "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: suriya2513 ที่ 13 ธันวาคม 2552, 23:29:31
"ผู้หญิงแถวหน้า..นั่งข้างหลังเป็นซะที่ไหน"

ปัจจุบันก็ยังเป็นเช่นนั้นอยู่ ไม่เคยเปลี่ยนแปลงเลยนะครับพี่น้อง
รุ่น 2513 ของเรา นอกจากสิงห์ มานพ มีใครได้รับพระเกี้ยวแก้วในงานคืนสู่เหย้าบ้างล่ะ


หัวข้อ: Re: "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: swsm ที่ 13 ธันวาคม 2552, 23:32:22
พี่แอ๊ะหน้าไม่เปลี่ยนเลยค่ะ .. เห็นภาพไหน ในวัยไหน ก็ชี้ถูก ..   emo48:)


หัวข้อ: Re: "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: พธู ๒๕๒๔ ที่ 14 ธันวาคม 2552, 01:11:36
\"หมอจะให้ยาสลบคุณแล้วนะครับ\" หมอบอก
\"เดี๋ยวนะครับ\" คนไข้ล้วงกระเป๋านับเงิน
\"ไม่ต้องจ่ายตอนนี้หรอกครับ\" หมอว่า
\"รอให้ทำเสร็จก่อนก็ได้\"
\"ผมไม่ได้จะจ่ายเงินหรอกครับ\" คนไข้บอก
\"ผมจะนับไว้เทียบกับตอนฟื้นขึ้นมาน่ะ\"


หัวข้อ: Re: "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: krongon2513 ที่ 14 ธันวาคม 2552, 06:38:11
เพื่อนๆหญิง 13ลงมติกันว่า
แอ๊ะเป็นคนดีศรีพระเกี้ยวแก้ว


แต่
พี่หาญเป็นคนดี....กว่า


หัวข้อ: Re: "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: อ้อย 14 ที่ 14 ธันวาคม 2552, 08:13:49
พี่ป๋องงงงงงง......อ้อยไม่เห็นใครชายใดใน รุ่น 13 ที่จะเพียบพร้อมสมบูรณ์แบบ พี่สิงหไตรภพเล๊ยยยยย!  ดังนั้น ที่เหลือก็ต้องรับแต่แก้วเหล้า หรือแก้วไวน์ไปก่อน!!!
อ้างถึง
ข้อความของ suriya2513 เมื่อ 13 ธันวาคม 2552, 23:29:31
"ผู้หญิงแถวหน้า..นั่งข้างหลังเป็นซะที่ไหน"

ปัจจุบันก็ยังเป็นเช่นนั้นอยู่ ไม่เคยเปลี่ยนแปลงเลยนะครับพี่น้อง
รุ่น 2513 ของเรา นอกจากสิงห์ มานพ มีใครได้รับพระเกี้ยวแก้วในงานคืนสู่เหย้าบ้างล่ะ



หัวข้อ: Re: "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: swsm ที่ 14 ธันวาคม 2552, 08:37:37
พี่อ้อย 14 คะ

พี่ป๋องเลิกก้มหน้ามองแก้วเหล้า แก้วเบียร์แล้วค่ะ
หะยีขอยืนยัน
เพราะทานข้าวด้วยกันในช่วงหลังจากออกพรรษาที่ผ่านมา .. หลาย ๆ ครั้ง
พี่ป๋องไม่แตะเลยค่ะ

เหตุผลคือ ..
"ไหน ๆ ก็อดมาแล้วจนครบพรรษา  ร่างกายก็สบายดี
ขอถือโอกาสนี้เลิกซะเลย"

น้องเข้ามายืนยันค่ะว่าพี่ป๋องเป็นคนดีแล้ว


หัวข้อ: Re: "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: พธู ๒๕๒๔ ที่ 14 ธันวาคม 2552, 10:29:36
พี่แอ๊ะครับ ท่านจาดุร   ได้รับสมุดโทรศัพท์ วปรอ.แล้วครับ
(http://img522.imageshack.us/img522/6594/patoopc148730.jpg)


หัวข้อ: Re: "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: suriya2513 ที่ 14 ธันวาคม 2552, 19:13:12
อ้างถึง
ข้อความของ อ้อย 14 เมื่อ 14 ธันวาคม 2552, 08:13:49
อ้างถึง
ข้อความของ suriya2513 เมื่อ 13 ธันวาคม 2552, 23:29:31
"ผู้หญิงแถวหน้า..นั่งข้างหลังเป็นซะที่ไหน"

ปัจจุบันก็ยังเป็นเช่นนั้นอยู่ ไม่เคยเปลี่ยนแปลงเลยนะครับพี่น้อง
รุ่น 2513 ของเรา นอกจากสิงห์ มานพ มีใครได้รับพระเกี้ยวแก้วในงานคืนสู่เหย้าบ้างล่ะ

พี่ป๋องงงงงงง......อ้อยไม่เห็นใครชายใดใน รุ่น 13 ที่จะเพียบพร้อมสมบูรณ์แบบ พี่สิงหไตรภพเล๊ยยยยย!  ดังนั้น ที่เหลือก็ต้องรับแต่แก้วเหล้า หรือแก้วไวน์ไปก่อน!!!
อ้างถึง
ข้อความของ swsm เมื่อ 14 ธันวาคม 2552, 08:37:37
พี่อ้อย 14 คะ

พี่ป๋องเลิกก้มหน้ามองแก้วเหล้า แก้วเบียร์แล้วค่ะ
หะยีขอยืนยัน
เพราะทานข้าวด้วยกันในช่วงหลังจากออกพรรษาที่ผ่านมา .. หลาย ๆ ครั้ง
พี่ป๋องไม่แตะเลยค่ะ

เหตุผลคือ ..
"ไหน ๆ ก็อดมาแล้วจนครบพรรษา  ร่างกายก็สบายดี
ขอถือโอกาสนี้เลิกซะเลย"

น้องเข้ามายืนยันค่ะว่าพี่ป๋องเป็นคนดีแล้ว

เอาไว้ให้ผู้หญิงไว้ใช้เป็นข้ออ้าง เวลาจะทอดทิ้งพี่ป๋อง ด้วยประโยคทองที่ว่า
"พี่ป๋องเป็นคนดีเกินไป"

ล้อเล่นหนะครับ ส่วนใหญ่พวกหอชาย 13 สังขารรับสุราเข้าไปแทบไม่ไหวแล้วครับอ้อย 14


หัวข้อ: Re: "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: suriya2513 ที่ 14 ธันวาคม 2552, 19:15:32
อ้างถึง
ข้อความของ patooman24 เมื่อ 14 ธันวาคม 2552, 10:29:36
พี่แอ๊ะครับ ท่านจาดุร   ได้รับสมุดโทรศัพท์ วปรอ.แล้วครับ
(http://img522.imageshack.us/img522/6594/patoopc148730.jpg)

เพิ่งรู้ว่าพี่หมอหาญมาเข้าเรียนวปรอ.ด้วย


หัวข้อ: Re: "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: ตุ๋ย 22 ที่ 14 ธันวาคม 2552, 20:27:18
อ้างถึง
ข้อความของ patooman24 เมื่อ 14 ธันวาคม 2552, 01:11:36
\"หมอจะให้ยาสลบคุณแล้วนะครับ\" หมอบอก
\"เดี๋ยวนะครับ\" คนไข้ล้วงกระเป๋านับเงิน
\"ไม่ต้องจ่ายตอนนี้หรอกครับ\" หมอว่า
\"รอให้ทำเสร็จก่อนก็ได้\"
\"ผมไม่ได้จะจ่ายเงินหรอกครับ\" คนไข้บอก
\"ผมจะนับไว้เทียบกับตอนฟื้นขึ้นมาน่ะ\"

เหตุเกิดที่คลีนิคหมอหาญหรือป่าวครับ


หัวข้อ: Re: "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: swsm ที่ 14 ธันวาคม 2552, 20:28:42
จุ๊ จุ๊ .. เงียบไว้ค่ะ  พี่ตุ๋ย
เดี๋ยวคนไข้คนอื่น ๆ จะได้ยิน
   


emo20:)):)


หัวข้อ: Re: "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: ตุ๋ย 22 ที่ 14 ธันวาคม 2552, 20:29:59
เหอๆๆๆๆๆๆๆๆ   คราวหลังต้องทำตามบ้างกลัวหมอล้วงกระเป๋าแล้วเอาเงินใส่ให้  เพราะไม่ค่อยจะมีตัง


หัวข้อ: Re: "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: suriya2513 ที่ 14 ธันวาคม 2552, 23:53:18
อ้างถึง
ข้อความของ ตุ๋ย 22 เมื่อ 14 ธันวาคม 2552, 20:27:18
อ้างถึง
ข้อความของ patooman24 เมื่อ 14 ธันวาคม 2552, 01:11:36
\"หมอจะให้ยาสลบคุณแล้วนะครับ\" หมอบอก
\"เดี๋ยวนะครับ\" คนไข้ล้วงกระเป๋านับเงิน
\"ไม่ต้องจ่ายตอนนี้หรอกครับ\" หมอว่า
\"รอให้ทำเสร็จก่อนก็ได้\"
\"ผมไม่ได้จะจ่ายเงินหรอกครับ\" คนไข้บอก
\"ผมจะนับไว้เทียบกับตอนฟื้นขึ้นมาน่ะ\"

เหตุเกิดที่คลีนิคหมอหาญหรือป่าวครับ
โรงพยาบาลเอกชนที่ทันสมัยที่สุดในภาคอีสาน
ครูตุ๋ยไปเรียกเป็นคลีนิค อย่างงี้พี่แอ๊ะก็โกรธแย่สิครับ


หัวข้อ: Re: "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: หนุน'21 ที่ 15 ธันวาคม 2552, 08:20:14


เข้ามาตามอัพเดทข่าวสาร
พี่แอ๊ะ พี่หมอหาญ สบายดีนะครับ
ตอนนี้คงยังไม่กลับจาก กทม.
แว่วๆว่า กำลังจะมีข่าวดีใช่ป่าวครับ




หัวข้อ: Re: "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: prapasri AH ที่ 15 ธันวาคม 2552, 18:48:32
น้องหนุน คะ ช่วงนี้พี่แอ๊ะไม่ว่างเลยค่ะ เป็นโรค december effect คือ มีเหตุให้ยุ่งไปซะทุกอย่าง

รีบว่าวิ่ง เดิน มือ ระวิงเลยค่ะ

แต่ต้องเเวะมาเข้าเวบในวันนี้ ทิ้งเเฟ้มบนโต๊ะไว้ก่อน

น้องปลาทูแมน ทำงานกะพี่จาดูร หรือ

พี่แอ๊ะไม่คิดว่าน้องปลาทูแมน จะเป็นข้าราชการ ดูคล้ายๆอาเสี่ย ซะมากกว่า

ฝากความคิดถึงพี่จาดูร คนดี ด้วยนะคะ

พี่แอ๊ะอยากให้น้องหนุนน้องหะยี น้องๆทุกท่านที่เข้าบ้านพี่แอ๊ะบ่อยๆ

ช่วยบอกที่อยู่ใน ประวัติสมาชิกเวบด้วยได้ไหมคะ พี่แอ๊ะจะส่งของขวัญปีใหม่มาให้ค่ะ

พี่แอ๊ะมีไดอารี่ และ หนังสือ ก.ไก่ภาษาลาวซื้อไว้เป็นของฝากปีใหม่ให้น้องๆ ซื้อไว้ตั้ง100 เล่มแน่ะ

อยากส่งมาให้ค่ะ

หรือจะ ส่งที่อยู่มาที่ prapasrisu@hotmail.com ก็ได้ค่ะ

ปีหน้าถ้าพี่แอ๊ะมีฐานข้อมูลชาวหอ พี่แอ๊ะจะส่งไดอารี่ให้ตั้งแต่วันที่1เดือนธค. เลยค่ะ


ของวปอ. พี่แอ๊ะทำให้เพื่อนๆ ร่วม10 ปีแล้วค่ะ มีเบอร์มือถือของทุกท่านไว้ใน ไดอารี่ ใครอยากติดต่อใคร ก็โทรได้ทันที


ทุกท่านจะรอ ไดอารี่ พี่แอ๊ะกันค่ะ รวมแล้วหลายร้อยท่าน


ปล. ดร.ป๋อง จ๋า พี่หาญไม่ได้เรียน วปอ.ค่ะ พี่หาญจะอยู่ในหมู่คู่สมรส วปอ. เขาก็มีกิจกรรมคู่สมรสกัน แต่พี่หาญเป้นผู้ชาย

ส่วนใหญ่คู่สมรสจะเป้นผู้หญิงค่ะ


หัวข้อ: Re: "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: swsm ที่ 15 ธันวาคม 2552, 18:55:20
สวัสดีค่ะ  พี่แอ๊ะ

พี่ป๋องคะ .. พี่หาญเป็นคู่สมรสของนักศึกษา วปอ.
ดังนั้น  จึงยืนยันได้อีกหนึ่งวาระว่า  พี่แอ๊ะเป็นผู้หญิงแถวหน้าตัวจริง
เป็น working woman ที่น้อง ๆ ภูมิใจค่ะ
   



emo6::))


หัวข้อ: Re: "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: prapasri AH ที่ 15 ธันวาคม 2552, 19:05:57
ส่งรูปมาให้ดูเล่นๆ ค่ะ

(http://img706.imageshack.us/img706/3836/68337907.jpg)


หัวข้อ: Re: "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: swsm ที่ 15 ธันวาคม 2552, 19:08:35
อ้างถึง
ข้อความของ prapasri AH เมื่อ 15 ธันวาคม 2552, 19:05:57
ส่งรูปมาให้ดูเล่นๆ ค่ะ

(http://img706.imageshack.us/img706/3836/68337907.jpg)


เศร้า หดหู่ เซ็ง .. ขึ้นมาเฉย ๆ ไม่รู้เป็นไรค่ะ
     emo24:(


หัวข้อ: Re: "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: prapasri AH ที่ 15 ธันวาคม 2552, 19:10:41
รูปที่2 ดูเล่นๆนะคะ

แม่ของงคุณศิวรักษ์ สวยและทันสมัยมาก พูดเก่งด้วย คนที่ออกทีวี แล้วสวยอย่างนี้ แสดงว่าตัวจริงต้องสวยมาก

แต่งตัว สวยทุกครั้งที่ออกทีวีเลยค่ะ บางรูปใส่ขนตาปลอมด้วยค่ะ ถ้าเราลูกติดคุก คง กระเซอะกระเซิงน่าดู อิๆๆๆๆ(http://img32.imageshack.us/img32/2743/61530964.jpg)


หัวข้อ: Re: "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: prapasri AH ที่ 15 ธันวาคม 2552, 19:13:28
ถ้าเศร้าต้องดูอีกรูปนะคะน้องหะยี

แต่ก็ดีใจที่ คุณศิวรักษ์ได้กลับเมืองไทย

จะจัดฉากหรือไม่จัดก็ตาม

(http://img138.imageshack.us/img138/8393/59521369.jpg)


หัวข้อ: Re: "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: prapasri AH ที่ 15 ธันวาคม 2552, 19:16:15
ดูรูปนี้ แล้วจะเศร้าหนักไปอีกค่ะ

เค้ามาได้อย่างไรหนออออออออออออ

เก่งจริงๆ น่ารักจัง

(http://img697.imageshack.us/img697/8518/91609595.jpg)


เราคงต้องร้องเพลง เขมรโยกต้นไทร อิๆๆๆๆๆ


หัวข้อ: Re: "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: swsm ที่ 15 ธันวาคม 2552, 19:17:37
พี่แอ๊ะคะ

เป็นที่มุมกล้องหรือเปล่าคะ จึงทำให้เห็นเหมือนใส่ขนตาปลอม

ลูกชายติดคุกอยู่ทั้งคนนะคะ
คนเป็นแม่จะมีกะจิตกะใจ  แต่งหน้านวลสวย  ใส่ขนตาปลอมด้วยหรือ ??
มุมกล้องแน่ ๆ ค่ะ


เจ้าตัวก็ออกมายืนยันแล้ว ยืนยันอีก .. ว่าเศร้ามาก    emo25:(((




หัวข้อ: Re: "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: swsm ที่ 15 ธันวาคม 2552, 19:20:35
อ้างถึง
ข้อความของ prapasri AH เมื่อ 15 ธันวาคม 2552, 19:16:15
ดูรูปนี้ แล้วจะเศร้าหนักไปอีกค่ะ

เค้ามาได้อย่างไรหนออออออออออออ

เก่งจริงๆ น่ารักจัง

(http://img697.imageshack.us/img697/8518/91609595.jpg)


เราคงต้องร้องเพลง เขมรโยกต้นไทร อิๆๆๆๆๆ


ตอบคำถามพี่แอ๊ะ ..    emo4:))

โดยอ้างข้อมูลที่ติดตามจากข่าว
เห็นว่าพะนะท่านต้องเดินทาง "อ้อมช่องแคบมะละกา" มาค่ะ ..

ลำบากเป็นยิ่งนัก 

แต่เพื่อหน้าที่อันสูงส่ง
ต้องทนลำบากเดินทางต่อให้ได้ .. ฮ่า ฮ่า


หัวข้อ: Re: "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: suriya2513 ที่ 15 ธันวาคม 2552, 19:21:25
เรียนเชิญน้องเจี๊ยบ กับน้องหมอรุ่ง เข้ามาเม๊นต์หน่อยครับ
เจ้าของห้อง กลัวห้องเงียบเหงาครับ


หัวข้อ: Re: "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: swsm ที่ 15 ธันวาคม 2552, 19:22:32
กะลังจะพูดพอดีเลยว่า .. พี่แอ๊ะเปลี่ยนแนวสนทนา .. ฮ่า ฮ่า    emo9:huhu:


หัวข้อ: Re: "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: prapasri AH ที่ 15 ธันวาคม 2552, 19:24:19
ต้องจ้างช่างแต่งหน้า ชัวร์

ทุกชอต เรียกว่า เตรียมออกงานเลยทีเดียว 555555555555555555555ใส่ขนตาปลอมแน่นอน ค่ะ

ช่วงนี้พี่แอ๊ะให้ช่างแต่งหน้าให้เพราะต้องออกงาน หลายงาน เลยลองใส่ขนตาปลอม เหมียนคุณแม่.. ณ นครพนม เปี๊ยบเลยอิๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ

กลุ้มใจประเทศไทย........................


หัวข้อ: Re: "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: prapasri AH ที่ 15 ธันวาคม 2552, 19:30:15
พี่แอ๊ะ ว่า จะไม่สนทนาเรื่องการเมืองแล้วซี

แต่รับข่าวเรื่องนี้ด้วยความเป็นธรรมและเป็นกลางอย่างที่สุด

แต่ ทนไม่ได้ค่ะ คือ ไม่ชอบบักฮุนเซ็น น่ะค่ะ

บักอื่นบางเรื่องก็พอชอบ บางเรื่องก็ พอ ไม่ชอบ

เอ..... เราเป็นอะไรหนอ คนเป็นกลาง เอ๊  กลางแบบเอียงๆๆๆๆๆๆๆนะอ่ะ

แต่ สรุป ว่า เพราะรักประเทศไทยค่ะ


หัวข้อ: Re: "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: prapasri AH ที่ 15 ธันวาคม 2552, 19:35:08
ดูรูปเมือง ลาวดีกว่านะ น่ารักกว่าเยอะ

งาน เฉลิม ที่กงสุล ไทย ประจำสะหวันนะเขต ค่ะ

(http://img130.imageshack.us/img130/4247/77929392.jpg)

ท้าวบุญรับ เป็น น้องรักพี่แอ๊ะต้อนรับ เอื้อยแอ๊ะกะอ้ายหาญ อย่างดียิ่ง


ที่สำคัญที่สุดรักในหลวง ของเรามาก

ชาวลาว เรียกในหลวงของเราว่า "เจ้ามหาชีวิต"


หัวข้อ: Re: "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: swsm ที่ 15 ธันวาคม 2552, 19:35:34
พรุ่งนี้ไปทำงาน .. จะใส่ขนตาปลอมมั่งค่ะ      emo48:)


หัวข้อ: Re: "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: swsm ที่ 15 ธันวาคม 2552, 19:36:22
อ้างถึง
ข้อความของ prapasri AH เมื่อ 15 ธันวาคม 2552, 19:35:08
ดูรูปเมือง ลาวดีกว่านะ น่ารักกว่าเยอะ

งาน เฉลิม ที่กงสุล ไทย ประจำสะหวันนะเขต ค่ะ

(http://img130.imageshack.us/img130/4247/77929392.jpg)

ท้าวบุญรับ เป็น น้องรักพี่แอ๊ะต้อนรับ เอื้อยแอ๊ะกะอ้ายหาญ อย่างดียิ่ง


ที่สำคัญที่สุดรักในหลวง ของเรามาก

ชาวลาว เรียกในหลวงของเราว่า "เจ้ามหาชีวิต"

ดูรูปนี้แล้วสบายใจกว่ากันเยอะเลยค่ะ    emo9:huhu:


หัวข้อ: Re: "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: prapasri AH ที่ 15 ธันวาคม 2552, 19:42:21
น้องหะยีคะ

ต้องให้ช่างแต่งหน้า แล้ว นุ่งสะเกิ๊ตสั้น เหมือนไปงานแต่งงานในประเทศไทย

ไม่มีวี่เเววว่าเพิ่งลงจากเครื่อง ที่สนามบินอันขรุของเขมรเลยนะ

ผ่าด่านเขมรแต่งตัวอย่างนี้  แปลกๆๆจริงๆ

วันก่อนโน้น ขนาดคุณเยาวภา ไปเขมรแบบ มหาเศรษฐี ที่ยังไม่ได้จัดฉาก

 ยังแต่งตัวออกมาเป็นอาซิ้มเลย55555555555555555

หารูปไม่เจอ ไม่งั้น จะโพสต์ให้ดูเพื่อ เห็นว่าเรื่องจริงไม่ได้แต่งเอง อิๆๆๆๆๆ


หัวข้อ: Re: "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: prapasri AH ที่ 15 ธันวาคม 2552, 19:45:00
ดูรุป สบายใจอีกรูปนะคะ

(http://img694.imageshack.us/img694/662/7jpg8jpg10.jpg)


อ้ายหาญตามไปทานข้าวแล้วค่ะ

เด่วดึกๆจะหนี อ้ายหาญ มาคุยกะน้องหะยีต่อนะคะ


หัวข้อ: Re: "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: swsm ที่ 15 ธันวาคม 2552, 19:45:06
อูย .. พี่แอ๊ะขรา

คุณ "เยา วะ พา" .. น่ะ  อาซิ้มโดยกำเนิดค่ะ
แต่งอย่างไรก็เป็นอย่างอื่นไปไม่ได้




เอ .. ขณะนี้เรากำลังเข้าข่ายซุบซิบนินทาอยู่ใช่ไหมคะ .. อะอะ




หัวข้อ: Re: "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: swsm ที่ 15 ธันวาคม 2552, 19:46:12
ทานให้อร่อยนะคะ  พี่แอ๊ะ

ฝากกราบสวัสดีไปถึงพี่หมอหาญด้วยค่ะ


หัวข้อ: Re: "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: prapasri AH ที่ 15 ธันวาคม 2552, 20:10:39
วันนั้นคุณเยาว รีบไปรับพี่ชายแบบลุกลี้ลุกลน

พี่แอ๊ะเห็นเสื้อทีเธอใส่แล้วงงงงงงงงงงงงงงงงงมาก

ว่าที่ตัดสวยๆ ร้านเดียวกับพี่แอ๊ะทำไมเธอไม่ เอามาใส่อิๆๆๆๆๆ


หัวข้อ: Re: "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: prapasri AH ที่ 15 ธันวาคม 2552, 20:13:46
น้องหะยีคะ

ทานเสร็จแล้วค่ะ พี่แอ๊ะทานอาหารเย็นน้อยๆ ทานแต่ผลไม้ค่ะ

พี่หาญบังคับให้ พี่แอ๊ะ ทาน ทับทิม พี่หาญบอกว่า ป้องกันมะเร็งต่อมลูกหมาก5555555555555

พี่แอ๊ะเลยบอกว่าต้อง ไปบังคับให้พี่ป๋องทาน แล้วบอกว่า ป้องกันท้องนอกมดลูก 5555555555555555555555


หัวข้อ: Re: "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: swsm ที่ 15 ธันวาคม 2552, 20:15:02
อ้างถึง
ข้อความของ prapasri AH เมื่อ 15 ธันวาคม 2552, 20:13:46
น้องหะยีคะ

ทานเสร็จแล้วค่ะ พี่แอ๊ะทานอาหารเย็นน้อยๆ ทานแต่ผลไม้ค่ะ

พี่หาญบังคับให้ พี่แอ๊ะ ทาน ทับทิม พี่หาญบอกว่า ป้องกันมะเร็งต่อมลูกหมาก5555555555555

พี่แอ๊ะเลยบอกว่าต้อง ไปบังคับให้พี่ป๋องทาน แล้วบอกว่า ป้องกันท้องนอกมดลูก 5555555555555555555555

หะยีหัวเราะจนแทบสำลักเงาะค่ะ  พี่แอ๊ะขรา   emo20:)):)


หัวข้อ: Re: "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: rs_oman ที่ 15 ธันวาคม 2552, 20:18:36
สวัสดีครับพี่แอ๊ะ ผมตามพี่หนุนมาอ่านครับ
ไม่ได้ตามพี่หยีนะครับ
ขออภัยครับที่มาสวัสดีช้าไปครับ
เข้าเวปมาได้ 2-3 สัปดาห์แล้วครับ


หัวข้อ: Re: "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: swsm ที่ 15 ธันวาคม 2552, 20:22:03
อ้างถึง
ข้อความของ rs_oman เมื่อ 15 ธันวาคม 2552, 20:18:36
สวัสดีครับพี่แอ๊ะ ผมตามพี่หนุนมาอ่านครับ
ไม่ได้ตามพี่หยีนะครับ
ขออภัยครับที่มาสวัสดีช้าไปครับ
เข้าเวปมาได้ 2-3 สัปดาห์แล้วครับ


ทำไมเหรอคะ ?? .. ตามพี่หะยีมาแล้วมันจะเป็นอย่างไรหรือคะ ?? ..     emo45:(


หัวข้อ: Re: "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: prapasri AH ที่ 15 ธันวาคม 2552, 20:24:46
น้องๆขรา

พี่แอ๊ะหายไปหลายมื่อ (หลายวัน) ไปงานน้องติ๊บรับปริญญา แต่รอรูปยังไม่ได้มาค่ะ

พี่แอ๊ะจะถ่ายรูปเองไม่เป็น  ต้องให้ช่างถ่าย ก็เลยต้องรอ

แล้วจะส่งมาให้ดูนะคะ


หัวข้อ: Re: "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: suriya2513 ที่ 15 ธันวาคม 2552, 20:27:20
อ้างถึง
ข้อความของ rs_oman เมื่อ 15 ธันวาคม 2552, 20:18:36
สวัสดีครับพี่แอ๊ะ ผมตามพี่หนุนมาอ่านครับ
ไม่ได้ตามพี่หยีนะครับ
ขออภัยครับที่มาสวัสดีช้าไปครับ
เข้าเวปมาได้ 2-3 สัปดาห์แล้วครับ

แล้ว worakan กับ Pantakant ทำไมยังช้าอยู่ครับ


หัวข้อ: Re: "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: พธู ๒๕๒๔ ที่ 15 ธันวาคม 2552, 20:29:43
อ้างถึง
ข้อความของ prapasri AH เมื่อ 15 ธันวาคม 2552, 18:48:32


น้องปลาทูแมน ทำงานกะพี่จาดูร หรือ

พี่แอ๊ะไม่คิดว่าน้องปลาทูแมน จะเป็นข้าราชการ ดูคล้ายๆอาเสี่ย ซะมากกว่า

ฝากความคิดถึงพี่จาดูร คนดี ด้วยนะคะ

 

ช่วยบอกที่อยู่ใน ประวัติสมาชิกเวบด้วยได้ไหมคะ พี่แอ๊ะจะส่งของขวัญปีใหม่มาให้ค่ะ

พี่แอ๊ะมีไดอารี่ และ หนังสือ ก.ไก่ภาษาลาวซื้อไว้เป็นของฝากปีใหม่ให้น้องๆ ซื้อไว้ตั้ง100 เล่มแน่ะ

อยากส่งมาให้ค่ะ

หรือจะ ส่งที่อยู่มาที่ prapasrisu@hotmail.com ก็ได้ค่ะ

ปีหน้าถ้าพี่แอ๊ะมีฐานข้อมูลชาวหอ พี่แอ๊ะจะส่งไดอารี่ให้ตั้งแต่วันที่1เดือนธค. เลยค่ะ


 
ผมที่อยู่ตามนามบัตรที่เคยมอบให้พี่ ที่อยู่เดียวกับท่านจาดุรครับ


หัวข้อ: Re: "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: หนุน'21 ที่ 15 ธันวาคม 2552, 20:31:29
 emo28:win:

สวัสดีครับพี่แอ๊ะ น้องหะยี
เมื่อตะกี๊เข้ามาตามอ่านที่พี่แอ๊ะโพสเล่าเรื่อง
นายหุ้นเซ็งกับปาหี่ ละครน้ำเน่า ด้วยความถูกใจ
แต่ถูกเรียกให้ไปเปลี่ยน สตาร์ทเตอร์ หลอดไฟที่ห้องครัวซะก่อน
เลยเพิ่งจะเข้ามาตอบนี่แหละครับ

พี่คงทานอาหารเย็นกับพี่หาญ อย่างอบอุ่นไปแล้ว

พูดเรื่องนี้แล้วขัดความรู้สึกมากๆเลยครับ
ตัวละคร ตัวเดินเรื่องทุกตัว เล่นได้สมบทบาทมาก ไม่มีใครจับได้เลย
แม่ก็รักลูกซะมากมาย แต่งตัวออกทีวีได้เด่นมาก
แล้วก็ไม่ได้สนิทกับ สส.ของพรรคการเมืองใหญ่ที่นครพนมเลย
ลูกก็ไม่เคยรู้จักทักกี้ ที่เคยทำธุรกิจหนังกับพ่อต้วเองมาก่อน
อภัยโทษก่อนขออีกมั๊ง
ต้องไปปล่อยกันที่ วิมานของหุ้นเซ็งทีเดียว ดูจับมือกันซะหนิดหนม
นักโทษที่เป็นภัยร้ายแรงต่อประเทศ ได้รับเกียรติมากเทียบเท่าบุคคลสำคัญ
แล้ว แล้ว เด็จพี่ไปทำไมล่ะนั่น...เฮ้อออออ...

อุ๊ยขอโทษครับพี่ พล่ามไปหน่อย
พอแระ  ไปตามอ่าน ดูรูปสวยๆงามๆดีกว่าครับ
ขอบคุณมากนะครับพี่แอ๊ะ
ผมอ่านที่พี่โพสช่วงนี้แล้วชอบใจที่สุดครับ
ความจริงก็ชอบมาตลอดทุกเรื่องที่พี่เล่า
แต่ตอนนี้ชอบเรื่องนี้มากๆ เจ็บๆ คันๆดีครับ


 emo4:)) emo4:))


หัวข้อ: Re: "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: เจตน์ ที่ 15 ธันวาคม 2552, 20:39:17
อ้างถึง
ข้อความของ suriya2513 เมื่อ 15 ธันวาคม 2552, 20:27:20
อ้างถึง
ข้อความของ rs_oman เมื่อ 15 ธันวาคม 2552, 20:18:36
สวัสดีครับพี่แอ๊ะ ผมตามพี่หนุนมาอ่านครับ
ไม่ได้ตามพี่หยีนะครับ
ขออภัยครับที่มาสวัสดีช้าไปครับ
เข้าเวปมาได้ 2-3 สัปดาห์แล้วครับ

แล้ว worakan กับ Pantakant ทำไมยังช้าอยู่ครับ

มาเป็นมวยแทนได้มั้ยครับ พี่ป๋อง


สวัสดีครับพี่แอ๊ะ
emo48:)


หัวข้อ: Re: "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: หนุน'21 ที่ 15 ธันวาคม 2552, 20:42:35
อ้างถึง
ข้อความของ swsm เมื่อ 15 ธันวาคม 2552, 20:15:02
อ้างถึง
ข้อความของ prapasri AH เมื่อ 15 ธันวาคม 2552, 20:13:46
น้องหะยีคะ

ทานเสร็จแล้วค่ะ พี่แอ๊ะทานอาหารเย็นน้อยๆ ทานแต่ผลไม้ค่ะ

พี่หาญบังคับให้ พี่แอ๊ะ ทาน ทับทิม พี่หาญบอกว่า ป้องกันมะเร็งต่อมลูกหมาก5555555555555

พี่แอ๊ะเลยบอกว่าต้อง ไปบังคับให้พี่ป๋องทาน แล้วบอกว่า ป้องกันท้องนอกมดลูก 5555555555555555555555

หะยีหัวเราะจนแทบสำลักเงาะค่ะ  พี่แอ๊ะขรา   emo20:)):)

 emo20:)):)
กร๊ากกกก   กร๊ากกกก
ถ้าพี่ป๋องท้องนอกมดลูกเนี่ย คงฮาข้ามประเทศอีกครั้งละครับ
เดี๋ยวผมจะส่งต้นเรื่องให้รัฐ แข-มร์ สร้างเป็นละครคงขายดี

ฮาจริงๆครับพี่


 emo20:)):) emo20:)):)


หัวข้อ: Re: "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: suriya2513 ที่ 15 ธันวาคม 2552, 20:49:18
ใช้แทนกันได้ครับ...
ตอนที่หมอวินิจฉัยว่าต่อมลูกหมากโต มีคนซื้อว่านชักมดลูกให้พี่ป๋องกิน


หัวข้อ: Re: "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: suriya2513 ที่ 15 ธันวาคม 2552, 20:51:27
อ้างถึง
ข้อความของ เจตน์ เมื่อ 15 ธันวาคม 2552, 20:39:17
อ้างถึง
ข้อความของ suriya2513 เมื่อ 15 ธันวาคม 2552, 20:27:20
อ้างถึง
ข้อความของ rs_oman เมื่อ 15 ธันวาคม 2552, 20:18:36
สวัสดีครับพี่แอ๊ะ ผมตามพี่หนุนมาอ่านครับ
ไม่ได้ตามพี่หยีนะครับ
ขออภัยครับที่มาสวัสดีช้าไปครับ
เข้าเวปมาได้ 2-3 สัปดาห์แล้วครับ

แล้ว worakan กับ Pantakant ทำไมยังช้าอยู่ครับ

มาเป็นมวยแทนได้มั้ยครับ พี่ป๋อง


สวัสดีครับพี่แอ๊ะ
emo48:)
พี่ป๋องกำลังจะประกาศห้ามเจตน์อยู่เชียว
สีเดียวกัน อวยกันไปอวยกันมาจะสนุกตรงไหนครับ


หัวข้อ: Re: "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: หนุน'21 ที่ 15 ธันวาคม 2552, 20:57:07
อ้างถึง
ข้อความของ suriya2513 เมื่อ 15 ธันวาคม 2552, 20:49:18
ใช้แทนกันได้ครับ...
ตอนที่หมอวินิจฉัยว่าต่อมลูกหมากโต มีคนซื้อว่านชักมดลูกให้พี่ป๋องกิน


ฮาอีกแล้วครับพีป๋อง
แล้วพี่ป๋องทานหรือป่าวครับ

 emo20:)):) emo20:)):)


หัวข้อ: Re: "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: dd_2530 ที่ 15 ธันวาคม 2552, 20:57:21
อ้างถึง
ข้อความของ prapasri AH เมื่อ 15 ธันวาคม 2552, 20:13:46
น้องหะยีคะ

ทานเสร็จแล้วค่ะ พี่แอ๊ะทานอาหารเย็นน้อยๆ ทานแต่ผลไม้ค่ะ

พี่หาญบังคับให้ พี่แอ๊ะ ทาน ทับทิม พี่หาญบอกว่า ป้องกันมะเร็งต่อมลูกหมาก5555555555555

พี่แอ๊ะเลยบอกว่าต้อง ไปบังคับให้พี่ป๋องทาน แล้วบอกว่า ป้องกันท้องนอกมดลูก 5555555555555555555555

 emo20:)):) emo20:)):) emo20:)):)
เข้าอ่านก่อนเข้านอน  สงสัยคืนนี้ต้องนอนละเมอหัวเราะแน่เลยค่ะ
 emo20:)):) emo20:)):) emo20:)):)  


หัวข้อ: Re: "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: dd_2530 ที่ 15 ธันวาคม 2552, 20:59:41
อ้างถึง
ข้อความของ prapasri AH เมื่อ 15 ธันวาคม 2552, 19:16:15
ดูรูปนี้ แล้วจะเศร้าหนักไปอีกค่ะ

เค้ามาได้อย่างไรหนออออออออออออ

เก่งจริงๆ น่ารักจัง

(http://img697.imageshack.us/img697/8518/91609595.jpg)


เราคงต้องร้องเพลง เขมรโยกต้นไทร อิๆๆๆๆๆ

นี่ก็ด้วยค่ะ...ขำกลิ้ง  emo20:)):) emo20:)):) emo20:)):)  


หัวข้อ: Re: "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: suriya2513 ที่ 15 ธันวาคม 2552, 21:00:34
อ้างถึง
ข้อความของ หนุน'21 เมื่อ 15 ธันวาคม 2552, 20:57:07
อ้างถึง
ข้อความของ suriya2513 เมื่อ 15 ธันวาคม 2552, 20:49:18
ใช้แทนกันได้ครับ...
ตอนที่หมอวินิจฉัยว่าต่อมลูกหมากโต มีคนซื้อว่านชักมดลูกให้พี่ป๋องกิน


ฮาอีกแล้วครับพีป๋อง
แล้วพี่ป๋องทานหรือป่าวครับ

 emo20:)):) emo20:)):)
หมดขวดแล้วยังต้องไปซื้อมากินเองอีกสองขวดแน่ะครับ
...
เอ...แต่จำไม่ได้แน่ชัดว่าแก้ต่อมลูกหมากโต หรือแก้ผมร่วงหว่า


หัวข้อ: Re: "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: dd_2530 ที่ 15 ธันวาคม 2552, 21:02:14
อ้างถึง
ข้อความของ suriya2513 เมื่อ 15 ธันวาคม 2552, 20:49:18
ใช้แทนกันได้ครับ...
ตอนที่หมอวินิจฉัยว่าต่อมลูกหมากโต มีคนซื้อว่านชักมดลูกให้พี่ป๋องกิน

emo20:)):) emo20:)):) emo20:)):)


หัวข้อ: Re: "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: prapasri AH ที่ 15 ธันวาคม 2552, 21:06:23
น้องโอมาชารีฟสุดที่รักคะ

พี่แอ๊ะกำลัง นึกถึงน้องมาสี่ห้าวันแล้วค่ะ คือพี่แอ๊ะเข้าไปในรายชื่อสมาชิกชาวเวบ นั่งอ่านชื่อเล่นๆ

พอไปถึงชื่อ rs oman ก็คิดถึงนะคะว่าน้องหายไปนานจังทำไมไม่เข้าเวบเลย ป่านนี้ไปขุดเจาะนำมันอยู่ทีไหนหนอ

คิดถึงมากค่ะ

ดีใจทีกลับมาคุยกันอีกในเวบ นะคะ

พี่แอ๊ะจะมีเเก้วสาระพัดนึก นึกอะไรก็ได้สิ่งนั้น จริงๆนะ (โม้ อีกแย้ววววววววววว)

ตอนเด็กๆพอพี่แอ๊ะไหว้พระก่อนนอนพี่แอ๊ะขออย่างเดียวขอให้พี่แอ๊ะได้มีแก้วสาระพัดนึก

(คิดได้ยังไงก็ไม่ทราบ จึงอธิษฐานอย่างนั้น)

 แล้วพี่แอ๊ะจะเป็นอะไรที่พอนึกถึงใครคนนั้นก็จะมา

พอนึกถึงน้องโอมา ชารีฟ น้อง ก็มาจริงๆ

พี่หาญบอกว่า อย่านึกถึงเจ้าหนี้ (บริษัทขายยา) เด่วเจ้าหนี้ก็มา อิๆๆๆ

สมัยเปิดคลินิกพอนึกถึงบริษัทยา บริษัทไหนเด่วก็มี detail บริษัทนั้น มาวางบิลค่ายาอิๆๆๆๆ
[/color]


หัวข้อ: Re: "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: ตุ๋ย 22 ที่ 15 ธันวาคม 2552, 21:06:57
เหอๆๆๆๆๆ   วัยขนาดต่อมลูกหมากโตแล้วหรือครับพี่ป๋องครับ


หัวข้อ: Re: "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: prapasri AH ที่ 15 ธันวาคม 2552, 21:19:58
  น้องหะยีจ๋า ดีใจจัง เรามีพรรคพวก น้องหนุน 21 อีกคน  น้อง ดีดี 2530 มาเป็นสมัครพรรคพวก รบกับ ฮุนเซ็น

น้องเจตน์  น้องพันธกานต์ น้องวรกานต์ ขา อย่าหลงลมพี่ป่อง ณ.ฮุนเซ็น ยุให้เราทะเลาะกันนะ

คนไทย จะทะเลาะกันเพราะอีตาฮวยเซ็ง นี่ทำไมกั๊นนนนนนนนนนนนน

เราไม่ใช่เหลือง และเเดง เราเป็น"จี๋จมพู" จ้า

ต้องเอาใจน้องพันธกานต์ น้องวรกานต์ น้องเจตน์หน่อย

พี่แอ๊ะกลัวววววววววววววว

 อย่าทะเลาะกับพี่แอ๊ะนะคะ

พี่แอ๊ะ ทะเลาะกับใครไม่เป็น  ชอบยอมแพ้ ค่ะ สู้ไม่ได้แน่นอน

แต่กว่าจะยอมแพ้ได้ รับรองฝุ่นตะหลบ 55555555555555555555555


หัวข้อ: Re: "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: swsm ที่ 15 ธันวาคม 2552, 21:27:15
นายเจตน์ .. พี่หนุน หะยี (พี่แอ๊ะ ด้วย)
คนละฝั่งกะสีแดงค่ะ

แต่ไม่ได้บอกว่าตัวเองเหลืองนะคะ ..  emo21:):):   อิอิอิ  มีแทงกั๊กด้วย หน่อยนึง


หัวข้อ: Re: "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: prapasri AH ที่ 15 ธันวาคม 2552, 21:28:55
ดูรูปอาซิ้มแอ๊ะ ใส่ขนตาปลอม ยี่ห้อ ณนครพนม  ก่อนนะ

พี่แอ๊ะกลับจากงาน จุดเทียนเฉลิม ห้าธันวา ที่ยโสธร ค่ะ

มีอาแป๊ะหาญกับอาตี๋ รออยู่ ค่ะ



(http://img81.imageshack.us/img81/5396/63018612.jpg)


หัวข้อ: Re: "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: prapasri AH ที่ 15 ธันวาคม 2552, 21:32:01
ดูขนตาปลอมให้คักๆๆ

ว่าจะเหมือนขนตา ณ นครพนมไหม อิๆๆๆๆ

(http://img215.imageshack.us/img215/941/50484980.jpg)


หัวข้อ: Re: "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: prapasri AH ที่ 15 ธันวาคม 2552, 21:39:37
อ็อ..ขอโทษ น้องเจตน์เป็นสีกลางๆ ใช่ไหม คะ

ถ้าเป็นพวกเดียวกัน

พี่แอ๊ะขอมอบรูป ใส่ขนตาปลอมมมมมมมม นี้ไว้เป็นที่ระลึก

อิๆๆๆๆ ยามรักรูปนี้จะมีค่า ยามชัง น้องเจตน์จ๋า อย่าทำลาย


ภาษาวัยรุ่น เมื่อ 40 ปีที่แล้วค่า

เค้าจะเขียนสลักไว้หลังรูปค่ะ

(http://img515.imageshack.us/img515/9531/38267211.jpg)


หัวข้อ: Re: "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: swsm ที่ 15 ธันวาคม 2552, 21:41:48
ขนตา ไม่จริง .. ด้วยคนค่ะ   emo6::))


(http://img101.imageshack.us/img101/4504/23yee2.jpg)


หัวข้อ: Re: "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: prapasri AH ที่ 15 ธันวาคม 2552, 22:01:02
น้องหะยี สวยจริงๆ ยอกันไปยอกันมา นะคะ

เด่วนี้เวลาพี่แอ๊ะแต่งตัวออกงาน  ไม่ทราบเป็นไร นึกถึงน้องหะยีทุกที

ว่าเอ... แต่งหน้าทำผมเสร็จแล้วเราขอสวย สักครึ่งของน้องหะยี ก็พอ

แต่บางวันเกิด ใจขึ้น

น้องหะยีก็น้องหะยีเถอะ วันนี้พี่แอ๊ะขอสวยพอๆ กับน้องสักวัน อิๆๆๆๆ

พี่ป๋อง น้องหนุน น้องตุ๋ย น้องปลาทู จะเข้าใจเรื่องที่เราคุย กันหรือเปล่านะ

แต่พี่ป๋องแกมีมดลูก เพราะทาน ว่านชัก มดลูก คงเข้าใจที่เราคุยเรื่องความสวยนะ 555555555555555


หัวข้อ: Re: "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: swsm ที่ 15 ธันวาคม 2552, 22:05:30
เชื่อว่าหนุ่ม ๆ ก็เข้าใจค่ะ  เพราะ ผบ.ทบ. ย่อมมีอาการเหมือนเรา
ยกเว้นคนเดียว .. ครือ .. ครือ ..


ท่านพี่ป๋องค่ะ .. ที่อาจต้องนึกตามนานหน่อย
   emo21:):):


หัวข้อ: Re: "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: swsm ที่ 15 ธันวาคม 2552, 22:07:12
อ้างถึง
ข้อความของ prapasri AH เมื่อ 15 ธันวาคม 2552, 22:01:02
น้องหะยี สวยจริงๆ ยอกันไปยอกันมา นะคะ

เด่วนี้เวลาพี่แอ๊ะแต่งตัวออกงาน  ไม่ทราบเป็นไร นึกถึงน้องหะยีทุกที

ว่าเอ... แต่งหน้าทำผมเสร็จแล้วเราขอสวย สักครึ่งของน้องหะยี ก็พอ


อูย .. พี่แอ๊ะก็ 
น้องลอยไปชนเพดานห้องแล้วค่ะ

ขอบคุณค่ะ


หัวข้อ: Re: "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: หนุน'21 ที่ 15 ธันวาคม 2552, 22:14:10


ผมมะค่อยเข้าใจเรื่องที่พี่แอ๊ะกับน้องหะยีคุยกันเท่าไรครับ
รู้แต่ว่าทั้งสองคนสวยพอๆกัน และดูอ่อนกว่าวัยทั้งคู่
เอ้า...แฮ้วววว

จริงๆ เรื่องนี้เขาพูดกันทั้ง ซีมะโด่ง ที่รู้จักทั้ง 2 คนนี้
(วันนี้ผมถือศีล ๕ ครับ)

 emo4:))


หัวข้อ: Re: "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: prapasri AH ที่ 15 ธันวาคม 2552, 22:17:28
เห็น น้องไข่มุก ไวๆ อยู่ตรงไหนนี่แหละ

หรือไปนอนแล้ว

และเมื่อกี้ เห้นน้องพันธกานต์ไวๆด้วย

พี่แอ๊ะ กล้วน้องพันธกานต์ค่ะ555555

ขอหนีไปนอนก่อนนะ

เห็นพี่ป๋อง อยาก ให้เราชนกัน   กลัวกลั๊วกลัว

ลาก่อน ล่ะ สวัสดี555555555555555555

ปล. แต่ว่า พรุ่งนี้เจอกันก็ล่ายค่ะ แฮะๆๆๆๆๆๆๆ


หัวข้อ: Re: "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: prapasri AH ที่ 15 ธันวาคม 2552, 22:20:10
แหม๋...น้องหนุนชมว่าสวย แบบว่าถือศีล5 ด้วย

พี่แอ๊ะเลยไปนอนไม่ลง อิๆๆๆ คือนนอนก็คงนอนไม่หลับ

คิดถึงแต่ ขนตา นครพนม ค่ะ (ฮา)

เค้าจะมา ตีกะบาลเรา ไม๊ วันนี้ชักหาเรื่องคนข้ามประเทศซะแล้ววววววววววววววววว


หัวข้อ: Re: "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: Kaimook ที่ 15 ธันวาคม 2552, 22:20:26
สวัสดีค่ะพี่แอ๊ะขราาาาาาคิดถึงน้ำอ้อยหรือเปล่าคะ(น้ำอ้อยเข้ามาสงสัยพี่แอ๊ะจะคิดถึง) emo4:)) emo4:)) emo4:))


หัวข้อ: Re: "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: swsm ที่ 15 ธันวาคม 2552, 22:25:10
อ้างถึง
ข้อความของ prapasri AH เมื่อ 15 ธันวาคม 2552, 22:20:10
พี่แอ๊ะเลยไปนอนไม่ลง อิๆๆๆ คือนนอนก็คงนอนไม่หลับ

คิดถึงแต่ ขนตา นครพนม ค่ะ (ฮา)

เค้าจะมา ตีกะบาลเรา ไม๊ วันนี้ชักหาเรื่องคนข้ามประเทศซะแล้ววววววววววววววววว



ฮาค่ะ     emo20:)):)


หัวข้อ: Re: "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: prapasri AH ที่ 15 ธันวาคม 2552, 22:27:39
สวัสดีตอนเช้า เอ๊ยตอนดึกค่ะน้องไข่มุกขา

มาซอยกัน แน๋ พี่ปป๋องอยากให้สีกลางๆ กับสีแดงตีกันค่ะ 5555555555


หัวข้อ: Re: "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: พธู ๒๕๒๔ ที่ 15 ธันวาคม 2552, 22:30:13
อ้างถึง
ข้อความของ หนุน'21 เมื่อ 15 ธันวาคม 2552, 22:14:10


ผมมะค่อยเข้าใจเรื่องที่พี่แอ๊ะกับน้องหะยีคุยกันเท่าไรครับ
รู้แต่ว่าทั้งสองคนสวยพอๆกัน และดูอ่อนกว่าวัยทั้งคู่
เอ้า...แฮ้วววว

จริงๆ เรื่องนี้เขาพูดกันทั้ง ซีมะโด่ง ที่รู้จักทั้ง 2 คนนี้
(วันนี้ผมถือศีล ๕ ครับ)

 emo4:))
แสดงว่า
        1.อยู่บ้าน(ไม่มีวีซ่า)
        2.น้องเมียและคนข้างบ้านไม่อยู่
        3.เพื่อนเริ่มเบื่อเลยไม่มีใครชวนหรือไม่ก้อชวนใครก้อไม่มีใครไป
        4.หรืออาจเริ่มมีความเหนือเพศ


หัวข้อ: Re: "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: หนุน'21 ที่ 15 ธันวาคม 2552, 22:32:27
อ้างถึง
ข้อความของ prapasri AH เมื่อ 15 ธันวาคม 2552, 22:20:10
แหม๋...น้องหนุนชมว่าสวย แบบว่าถือศีล5 ด้วย

พี่แอ๊ะเลยไปนอนไม่ลง อิๆๆๆ คือนนอนก็คงนอนไม่หลับ

คิดถึงแต่ ขนตา นครพนม ค่ะ (ฮา)

เค้าจะมา ตีกะบาลเรา ไม๊ วันนี้ชักหาเรื่องคนข้ามประเทศซะแล้ววววววววววววววววว

ฮาอีกแล้วครับพี่
หาเรื่องคนข้ามประเทศนี่อ่ะนะ
ทำได้อยู่แล้วพี่ ที่เขายังหาเรื่องเราข้ามมาเลย

ประเทศข้างๆเรานี่สนใจมากไม่ได้หร็อก
เดี๋ยว...กะบาลระทม
เดือดร้อนพี่หมอหาญหายาอีก


 emo20:)):) emo20:)):)


หัวข้อ: Re: "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: หนุน'21 ที่ 15 ธันวาคม 2552, 22:38:47
อ้างถึง
ข้อความของ patooman24 เมื่อ 15 ธันวาคม 2552, 22:30:13
อ้างถึง
ข้อความของ หนุน'21 เมื่อ 15 ธันวาคม 2552, 22:14:10


ผมมะค่อยเข้าใจเรื่องที่พี่แอ๊ะกับน้องหะยีคุยกันเท่าไรครับ
รู้แต่ว่าทั้งสองคนสวยพอๆกัน และดูอ่อนกว่าวัยทั้งคู่
เอ้า...แฮ้วววว

จริงๆ เรื่องนี้เขาพูดกันทั้ง ซีมะโด่ง ที่รู้จักทั้ง 2 คนนี้
(วันนี้ผมถือศีล ๕ ครับ)

 emo4:))
แสดงว่า
        1.อยู่บ้าน(ไม่มีวีซ่า)
        2.น้องเมียและคนข้างบ้านไม่อยู่
        3.เพื่อนเริ่มเบื่อเลยไม่มีใครชวนหรือไม่ก้อชวนใครก้อไม่มีใครไป
        4.หรืออาจเริ่มมีความเหนือเพศ

น้องป๋าทูก็ว่าไปเรื่อย
ทำไม่มี 4 ข้อเองอ่ะ
น่ากลัวว่าศีล๕ พี่หนุนกำลังจะหลุดไปข้อนึงอ่ะ
ข้อไหนน้องป๋าทูน่าจะเดาออกนะครับ
ฮ่า ฮ่า ฮ่า

 emo19:((:


หัวข้อ: Re: "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: suriya2513 ที่ 15 ธันวาคม 2552, 22:41:42
ข้อ 5 นั่นแหละครับ พระพุทธเจ้าท่านจะไม่ใส่ไว้อยู่แล้ว
เลยหลุดไปอยู่หลังสุด ทำได้แค่สี่ข้อแรกก็ได้ 80 % แล้ว


หัวข้อ: Re: "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: prapasri AH ที่ 15 ธันวาคม 2552, 22:45:29
ก่อนไปนอน พี่แอ๊ะขอทำประโยชน์ ให้ความรู้หน่อยนะคะ หลังจากทะลึ่ง มาครึ่งคืนแล้ว ขอให้วิชาการหน่อยค่ะ จะได้ดูสมภาคภูมิอิๆๆๆ

คือ วันนี้ ร.พ ในเครือแห่งหนึ่ง ของพี่แอ๊ะเขา ขออนุมัติ การจัดซื้อมา โดยเขากล่าวถึงคำว่า december effect

ซึ่งพี่แอ๊ะถูกใจมาก เพราะตัวเองเจอดีเซมเบอร์effect ในชีวิตประจำวัน มาก ในเดือนนี้

พี่แอ๊ะเลยลองภูมิเขา ถาม ว่าdecember effect คืออย่างไร

เขาอธิบายตอบมาได้ดีมาก เด็กสมัยนี้เขาเก่งนะคะ

พี่แอ๊ะเลยอยากขยายผล ให้น้องในทุกสาขาอาชีพ ต้องเจอ ปัญหาเดือนธันวา ปลายปีแน่นอน   แล้ว จะมีผลต่อการวางแผนงาน

อาจจะเป็นการนำมะพร้าวห้าวมาขายสวนก็ได้ ทนอ่านไปก็แล้วกันนะคะ

เผื่อจะได้ประโยชน์บ้าง


ในการวางแผนงาน ทั้งงานส่วนตัว และงานในหน้าที่


หัวข้อ: Re: "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: prapasri AH ที่ 15 ธันวาคม 2552, 22:50:28
เรียน ท่านประธานที่เคารพ
 

ในเดือนธันวาคมของทุกปีเป็นอีกเดือนหนึ่งที่ผู้ดูแลคลังสินค้าจะต้องระมัดระวังการสั่งซื้อสินค้าเป็นพิเศษ
 
เนื่องจากมีปัจจัยที่เรียกว่า December effect ซึ่งจะเกิดขึ้นในเดือนนี้ ซึ่งจะทำให้ Inventory day เพิ่มขึ้นได้
 
และอาจพบปัญหาสินค้าขาดในบางรายการได้
 
สาเหตุคือ

1.วันหยุดทำการเยอะ บริษัทยาปิดทำการเยอะสั่งสินค้าไม่ได้ตาม Master file

2.หลาย supplier ลดการใช้จ่ายเพราะจะปิดงบประจำปี  

3.ปริมาณคนไข้ที่มาใช้บริการมากขึ้นเนื่องจากเป็นช่วงเทศกาล

4.ช่วงเทศกาลอาจมีการใช้ยาหรือเวชภัณฑ์ที่คาดการณ์ไม่ได้ เช่น กรณีอุบัติเหตุต่างๆ

 
แนวทางป้องกัน December effect

กรณีป้องกัน Inventory day เพิ่ม

1. ช่วงต้นเดือน 1-15 ให้สั่งซื้อสินค้า class A ที่เตือนให้สั่งซื้อ มาใช้แค่ถึงสิ้นเดือนธันวาคมเท่านั้น  ส่วน Class
อื่นๆ สั่งตาม Master file ได้

2. หลังวันที่ 15 ให้สั่งซื้อสินค้า class A ที่เตือนให้สั่งซื้อ ให้สามารถใช้ได้ถึงประมาณวันที่ 10 ของเดือนมกราคม ปีหน้า

ส่วน Class อื่นๆ สั่งตาม Master file ได้

3. เจ้าหน้าที่จัดซื้อต้องติดตามกำหนดการปิดทำการบริษัทยา และการจัดทำใบสั่งซื้อให้ทันท่วงที
 
กรณีป้องกันสินค้าขาด


1. หลังวันที่ 15 ให้สั่งซื้อสินค้า อาจต้อง


ดูด้วยว่าสินค้าทุกรายที่เหลืออยู่ในคลังทุก class เพียงพอที่จะใช้

ถึงประมาณวันที่ 10 ของเดือนมกราคม ปีหน้าหรือไม่หากไม่พอต้องสั่งมาเพิ่ม เพื่อป้องกันสินค้าขาด


2. แผนกเภสัชกรรม ประสานงานแพทย์และบุคลากรทางการแพทย์ที่เตรียมความพร้อมเรื่องยาหรือเวชภัณฑ์

ที่ต้องการให้สำรองไว้พิเศษกรณีอุบัติเหตุช่วงเทศกาลปีใหม่
 
หากเตรียมการตั้งแต่ตอนนี้จะทำให้เกิดประสิทธิภาพในการทำงานและลดค่าใช้จ่ายในเดือนนี้ได้ครับ

 


                                                                    ด้วยความเคารพอย่างสูง

 

                                                                   เภสัชกรณรงค์ศักดิ์ รัตนวิลัย

                                                                             แผนกจัดซื้อ

 

ที่ปรึกษาโดย เภสัชกร ภานุมาส ธงยศ


หัวข้อ: Re: "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: prapasri AH ที่ 15 ธันวาคม 2552, 22:58:02
พี่แอ๊ะเปลียนเรื่องจากต่างประเทศมาในประเทศ  ฮวยเซ็ง คงงง

เพราะ ฮวยเซ็ง กับเพื่อนรัก คงเจอ december effect เหมือนกัน เลยทำอะไรในเดือนนี้ ไม่สมหวังซะเลยยยยยยยยยยย

ขอไปหนี นอนแล้วนะคะ กลัวน้อง สีแดง จะตื่นมาคุยด้วยยยยยยยอ่ะ 555555555555555555555


หัวข้อ: Re: "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: Kaimook ที่ 15 ธันวาคม 2552, 23:07:18
หลับฝันดีค่ะพี่แอ๊ะขราาาาา emo40::


หัวข้อ: Re: "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: Preecha2510 ที่ 15 ธันวาคม 2552, 23:19:03
อ้างถึง
ข้อความของ prapasri AH เมื่อ 15 ธันวาคม 2552, 19:05:57
ส่งรูปมาให้ดูเล่นๆ ค่ะ

(http://img706.imageshack.us/img706/3836/68337907.jpg)

      สวัสดีครับแอ๊ะ  ไม่ได้ทักทายกับแอ๊ะนานแล้ว เห็นแอ๊ะแวะเข้าไปทักทายกับน้องหะยีที่ห้อง 10 ก็เลย

      ติดตามเข้ามาทักทายที่ห้องแอ๊ะบ้าง  ช่วงนี้คิดว่าหลายๆคนคงจะรู้สึกหดหู่และเซ็งกับข่าวเรื่องการจับ

      คนไทยในข้อหาที่ร้ายแรงเป็นจารชน  แล้วมีการอภัยโทษมีพิธีการปล่อยตัวกันแบบแปลกๆราวกับต้อน

      รับแขกบ้านแขกเมือง(ตามที่เห็นในข่าวโทรทัศน์และรูปใน นสพ.)  ดูๆแล้วก็เลยเกิดอาการปลงๆแบบดู

      ดูละครนํ้าเน่าก็เลยไม่อยากคิดอะไรมาก  คิดเสียว่าเป็นเรื่องฝนตกขี้หมูไหลคนจั.....มาพบกันก็แล้วกัน


หัวข้อ: Re: "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: เจตน์ ที่ 16 ธันวาคม 2552, 08:34:54
สวัสดีครับพี่แอ๊ะ.....

เช้านี้มีคำถามวัดไอคิวมาให้คิดเล่นๆครับ
  emo48:)


คำถามวัดไอคิว

1. ถ้าคุณเป็นพ่อ-แม่ แล้วลูกถูกจับในเขมร หัวอกพ่อ-แม่อย่างคุณจะรีบประกันตัวหรือไม่?
ก. ประกัน
ข.ไม่ประกัน

2. ถ้าลูกคุณเป็นผู้ต้องหา คดีเป็นสายลับทำลายความมั่นคงประเทศอะไรสักประเทศหนึ่ง คุณว่า รัฐมนตรีของประเทศนั้น จำเป็นต้องมาต้อนรับดูแลคุณ พาคุณไปเยี่ยมลูกในเรือนจำหรือไม่?
ก. ไม่มาต้อนรับ
ข. มาต้อนรับ

3. ถ้าคุณเป็นผู้นำประเทศแห่งหนึ่ง และคุณจับได้ว่ามีสายลับที่เป็นภัยต่อความมั่นคงประเทศของคุณ คุณจะทำอย่างไร?
ก. ลงโทษอย่างถึงที่สุด และเนรเทศออกนอกประเทศคุณโดยเร็ว
ข. จัดงานต้อนรับอดีตผู้นำประเทศของสายลับ และจัดพิธิธีส่งตัวกลับให้ยิ่งใหญ่อย่างสมเกียรติ

4. ถ้าคุณเป็นนายใหญ่ของพรรคการเมืองหนึ่ง แล้วมีคนคิดทำร้ายคุณ โดยการแจ้งตารางการบินของคุณให้กับฝ่ายตรงข้าม ลูกพรรคของคุณควรมีท่าทีเช่นไรกับคนที่คิดทำร้ายคุณ?
ก. รุมประนามและดำเนินคดีถึงที่สุด
ข. ยินดีและเต็มใจช่วยเหลือให้พ้นคดีอย่างเต็มที่


 emo48:)


หัวข้อ: Re: "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: อ้อย17 ที่ 16 ธันวาคม 2552, 08:38:18
อ้างถึง
ข้อความของ suriya2513 เมื่อ 15 ธันวาคม 2552, 20:49:18
ใช้แทนกันได้ครับ...
ตอนที่หมอวินิจฉัยว่าต่อมลูกหมากโต มีคนซื้อว่านชักมดลูกให้พี่ป๋องกิน

hahaha""'....
     ขำอ่ะ...


หัวข้อ: Re: "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: prapasri AH ที่ 16 ธันวาคม 2552, 09:33:09
แจ๋วๆๆๆ แจ๋วจริงๆ

พี่แก้วขรา....

นานๆ ทีพี่แก้วจะออกอาการ อ่านความเห็นของพี่แก้ว แล้วมันพะย่ะค่ะ

เหมียนของพี่หาญเป๊ยบเลย พี่หาญ แกโมโหในใจ ชก ลม ทั้งวันนนนนนนน


หัวข้อ: Re: "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: iamfrommoon ที่ 16 ธันวาคม 2552, 11:20:21
สวัสดีค่ะพี่แอ๊ะ และพี่ๆ ทุกท่านค่ะ


หัวข้อ: Re: "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: swsm ที่ 16 ธันวาคม 2552, 11:55:41
เข้ามา update ข้อมูลค่ะ  พี่น้อง

สวัสดีพี่แก้วด้วยค่ะ
    emo6::))


หัวข้อ: Re: "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: swsm ที่ 16 ธันวาคม 2552, 12:19:44
อ้างถึง
ข้อความของ เจตน์ เมื่อ 16 ธันวาคม 2552, 08:34:54

1. ถ้าคุณเป็นพ่อ-แม่ แล้วลูกถูกจับในเขมร หัวอกพ่อ-แม่อย่างคุณจะรีบประกันตัวหรือไม่?

ก. ประกัน
ข.ไม่ประกัน


 emo48:)

ตอบ "ข"  ไม่ประกันค่ะ    emo38


ให้มันอยู่ในคุกน่ะดีแล้ว  ไม่เปลืองข้าวสุกแม่
แถมมีประวัติดีเด่น  และยังเป็นหน้าเป็นตา เป็นเกียรติศักดิ์ศรีของวงศ์ตระกูลอีกต่างหาก
เมื่อใครถามแม่ว่าลูกอยู่ไหน ??
แม่จะได้จีบปากจีบคอ ตอบอย่างภาคภูมิใจว่า .. "อยู่เมืองนอกค่า"


ที่สำคัญ  แม่จะได้มีโอกาสออกหน้า TV บ่อย ๆ
เพราะละครยังไม่จบ .. ก็ต้องตื๊อขยายเวลา  เรียก rating ต่อไป


อ้อ .. อีกประการหนึ่งค่ะ  
แม่หวังว่า ..
ความเป็นแม่ม่ายของแม่อาจจะหายไปด้วยก็ได้
เพราะอาจมีผู้ชาย (ไม่ค่อยฉลาด) มองเห็นแม่ทาง TV แล้วเกิดการปิ๊งปั๊งมั่ง


แม่จึง (จำเป็นต้อง) แต่งหน้า ตาทา ใส่ขนตาปลอม .. สวยเช้งเด้งดึ๋ง  ทู้กวัน ..  
   emo20:)):)


หัวข้อ: Re: "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: เจตน์ ที่ 16 ธันวาคม 2552, 12:44:27
 emo20:)):)


หัวข้อ: Re: "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: หนุน'21 ที่ 16 ธันวาคม 2552, 12:56:06
อ้างถึง
ข้อความของ เจตน์ เมื่อ 16 ธันวาคม 2552, 08:34:54
สวัสดีครับพี่แอ๊ะ.....

เช้านี้มีคำถามวัดไอคิวมาให้คิดเล่นๆครับ
  emo48:)


คำถามวัดไอคิว


3. ถ้าคุณเป็นผู้นำประเทศแห่งหนึ่ง และคุณจับได้ว่ามีสายลับที่เป็นภัยต่อความมั่นคงประเทศของคุณ คุณจะทำอย่างไร?
ก. ลงโทษอย่างถึงที่สุด และเนรเทศออกนอกประเทศคุณโดยเร็ว
ข. จัดงานต้อนรับอดีตผู้นำประเทศของสายลับ และจัดพิธิธีส่งตัวกลับให้ยิ่งใหญ่อย่างสมเกียรติ


 emo48:)

 emo4:))

หะยีตอบข้อ 1 แล้ว
ผมตอบ ข้อ  3 ก็แล้วกัน

ข้อ 3 ตอบ ข. จัดงานต้อนรับอดีตผู้นำประเทศของสายลับ และจัดพิธิธีส่งตัวกลับให้ยิ่งใหญ่อย่างสมเกียรติ

อดีตผู้นำประเทศของสายรับเป็นคนดีคนเก่งมาก ไม่เคยโกงบ้านโกงเมืองให้ใครรู้
ก็ต้องจัดการต้อนรับกันให้ยิ่งใหญ่มโหฬารน่ะ เหมาะสมที่สุดแล้ว
อีกอย่างเพราะความเป็นเพื่อน ที่มีผลประโยชน์เกื้อกูลกัน ถือเป็นสิ่งที่สำคัญที่สุดในชีวิตผมด้วย
อนาคตถ้าหากเพื่อนผมคนนี้มีโอกาสกลับมายิ่งใหญ่ได้อีกธุรกิจมูลค่าหลายหมื่น หรืออาจจะเป๊นแสนล้าน
ที่เคยได้พูดคุย เจรจาต๊ะอ้วยกันสมัยที่เขาเรืองอำนาจ ก็จะได้รับการสานต่อ
ชิวิตผมและครอบครัวก็จะสบายไปตลอดหลายชาติ

ผมไมสนใจว่าคนในประเทศผมหรือเพื่อนบ้านจะคิดยังไง
ให้เพื่อนผมพอใจเป็นพอ ยิ่งผู้นำเพื่อนบ้านผมยังอยู่ต่อไปได้นานเท่าไร
ผมยิ่งทำงานลำบาก สัญยงสัญญา ที่ทำไว้ถูกเปลี่ยนแปลง
เพื่อประโยชน์ของประเทศเขามากที่สุด...แล้วผมจะเหลืออะไรล่ะ

การจัดพิธีส่งตัวกลับอย่างยิ่งใหญ่ แสดงให้เห็นว่า ประเทศนี้ของผมจะทำยังไงก็ได้
ได้พื้นที่ข่าวให้เพื่อนรักผมด้วย  เห็นไหม ผมทำเรื่องอภัยโทษไว้ก่อนที่เขาจะขอมาเสียอีก
รู้ใจขนาดไหน  ความจริงมีเหตุผลอีกมากมาย
แต่แค่นี้ก็เพียงพอที่จะเป็นคำตอบการเลือกแล้วใช่ไหมครับ


 emo5:( emo5:(



หัวข้อ: Re: "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: swsm ที่ 16 ธันวาคม 2552, 13:17:03
อ้างถึง
ข้อความของ เจตน์ เมื่อ 16 ธันวาคม 2552, 08:34:54

2. ถ้าลูกคุณเป็นผู้ต้องหา คดีเป็นสายลับทำลายความมั่นคงประเทศอะไรสักประเทศหนึ่ง คุณว่า รัฐมนตรีของประเทศนั้น จำเป็นต้องมาต้อนรับดูแลคุณ พาคุณไปเยี่ยมลูกในเรือนจำหรือไม่?

ก. ไม่มาต้อนรับ
ข. มาต้อนรับ


 emo48:)


ข้อ 2 ตอบ “ข”  .. มาฮ่ะ  แน่นอน


เพราะ .. แหม .. ข้อกล่าวหา “สายลับ” หรือ “จารกรรม” เนี่ย  
สะท้อนให้เห็นว่าประเทศชาติของ potato  เป็นชาติยิ่งใหญ่นะฮ้า


เคยดูหนัง Hollywood ใช่ไหมฮ้า  ??
เหตุการณ์ขโมยข้อมูล หรือสายลับ หรือจารกรรม จะเกิดขึ้นในประเทศอเมริกาเป็นส่วนใหญ่
และคนที่จารกรรมก็มักจะมาจากรัสเซียหรือจีน  
ซึ่งเป็นชาติมหาอำนาจ และเป็นคู่แข่งอภิมหาอมตะนิรันดร์กาล


ดังนั้น  
การที่ลูกเราไปกระทำการ “จารกรรม” ประเทศชาติของ potato
ก็เท่ากับว่า  ..
ประเทศนั้นได้รับการยกระดับให้เทียบเท่า .. ชาติหมา  อำนาจ  เอ๊ย มหาอำนาจ  ..  แล้วนะฮ้า


หากนายกรัฐมนตรีของประเทศนั้นไม่มาแสดงความขอบคุณด้วยตนเอง  
หรือไม่ต้อนรับขับสู้ให้สมเกียรติ สมศักดิ์ศรีของแม่และลูก
แม่จะถกโจงกระเบนด่า potato ให้เสียงดังลั่นเลยว่า  



“ไอ้เนรคุณ .. ไอ้อกตัญญู”     emo5:(  



แม่ทำจริงนะฮ้า .. ไม่ได้พูดเล่น  !?!   emo30:sorry:


หัวข้อ: Re: "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: เจตน์ ที่ 16 ธันวาคม 2552, 13:22:23
หึ หึ  


หัวข้อ: Re: "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: หนุน'21 ที่ 16 ธันวาคม 2552, 13:25:29



หะยี ตอบได้เจ๋งอ่ะ
พีแอ๊ะ จะว่าอะไรเราหรือปล่าวเนี่ย
มาอาศัยบ้านพี่เขา ระบาย ความรักถึงคนข้างบ้าน
อันเป็นที่รักชิบ... ของ ใครๆอีกหลายคน
กั่ก กั่ก กั่ก


 emo20:)):) emo20:)):)


หัวข้อ: Re: "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: swsm ที่ 16 ธันวาคม 2552, 13:25:42
พี่น้องคะ  เมื่อกี้หะยีคงโดนผีสิงค่ะ  
ปกติหะยีจะไม่รุนแรงเช่นนี้
เห็นหลังไว ๆ ๆ ..  
ผีตนนั้นมีชื่อว่า “ผีรักชาติ”ค่ะ  พี่น้อง
 


emo6::))


หัวข้อ: Re: "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: swsm ที่ 16 ธันวาคม 2552, 13:26:40
พี่หนุนคะ ..
เอ่อ .. เรื่องนี้  พี่แอ๊ะเป็นคนจุดประเด็นค่ะ .. คริคริ
   



emo2:)


หัวข้อ: Re: "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: เจตน์ ที่ 16 ธันวาคม 2552, 13:36:06
อันนี้ผมไม่เกี่ยวนะครับ....

แค่เอาคำถามมาถามเล่นๆเท่านั้นแหละครับ

 emo5:(เจ๊หะยีครับ เจ๊หะยีเป็นคนโหมไฟครับพี่เเอ๊ะ
  emo43


หัวข้อ: Re: "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: jamsai ที่ 16 ธันวาคม 2552, 14:22:52
สวัสดีค่ะ พี่แอ๊ะ ที่สุดน่ารัก
สวัสดีค่ะ พี่แอ๊ะ Fan Club

 ดูข่าวแล้วป้าก็ป่วยเป็นโรคเดียวกับ พี่แก้ว พี่หาญ ทันที อาการเหมือนกันเด้ะ
พออ่าน มุขคุณเจตน์ น้องหะยี แล้ว รู้สึกอาการดีขึ้นมาก ขอขอบคุณนะคะ

พอดีได้ บทความของ เอกอัครราชทูตฮูลิโอ เอ. เฮลเดรส
นักวิชาการประจำสถาบันเอเชีย มหาวิทยาลัยโมแนช เมลเบิร์น ออสเตรเลีย
เป็นข้อมูล เกี่ยวกับเขมร ฮุนเซ็น ทักกี้ 
และได้ไปลงไว้ในกระทู้ ของคุณ YC ในหัวข้อ กรณีกัมพูชาแต่งตั้งทักษิณฯ
ตามไปอ่านดูบ้างนะคะ
 emo29:P: emo7:(: emo5:( emo5:(



หัวข้อ: Re: "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: เจตน์ ที่ 16 ธันวาคม 2552, 14:32:08
หวัดดีครับป้าแจ่มใส (ใช่มั้ยครับ)...

ผมตามไปอ่านมาเรียบร้อยแล้วครับ

แต่ไม่ได้แสดงความคิดเห็นอะไรครับ

เพราะผีที่สิงผมอยู่ ปากมันแรงกว่าของเจ๊หะยีหลายสิบเท่าครับ..
emo48:)


หัวข้อ: Re: "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: swsm ที่ 16 ธันวาคม 2552, 17:05:35
พี่แอ๊ะไม่อยู่บ้านเพียงไม่กี่ชั่วโมง .. เละเป็นโจ้กเลยครับ  พี่น้อง   emo29:P:


หัวข้อ: Re: "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: swsm ที่ 16 ธันวาคม 2552, 17:10:59
สวัสดีพี่แจ่มใสค่ะ

เคยเห็นภาพพี่ในงานเลี้ยงเกษียณพี่นภดลค่ะ
แต่หะยีไม่เคยคุยกับพี่เลย (ไม่กล้าทักค่ะ) .. ดีใจที่พี่ทักทายน้อง

ขอบคุณมากค่ะ


หัวข้อ: Re: "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: suriya2513 ที่ 16 ธันวาคม 2552, 17:39:15
เอ ! พวกเสื้อสีไม่เหลืองไปไหนกันหมดนะ ?
ปล่อยให้พวกเขาเสนอข้อมูลข้างเดียวอยู่ได้


หัวข้อ: Re: "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: ตุ๋ย 22 ที่ 16 ธันวาคม 2552, 19:40:57
วันนี้ผมใส่เสื้อสีชมพูครับพี่ป๋อง


หัวข้อ: Re: "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: พธู ๒๕๒๔ ที่ 16 ธันวาคม 2552, 20:11:13
อ้างถึง
ข้อความของ suriya2513 เมื่อ 16 ธันวาคม 2552, 17:39:15
เอ ! พวกเสื้อสีไม่เหลืองไปไหนกันหมดนะ ?
ปล่อยให้พวกเขาเสนอข้อมูลข้างเดียวอยู่ได้

มีหลายเหตุ เช่น
1.กำลังรอรับรายงาน
2.กำลังสอบสวนหาข้อมูล
3.ไม่อยากยุ่งกับพวกไม่รู้ข้อมูลจริง(น้องคำรบ เมื่อไรจะออกมาซะที)
4.เหลืองใหม่ ทำอย่างไรก้อไม่ผิด(เราไม่ได้ปิดสนามบิน แต่สนามบินปิดกันเอง)
5.กำลังพักสมอง
เป็นต้น


หัวข้อ: Re: "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: เหยง 16 ที่ 16 ธันวาคม 2552, 20:43:46
อ้างถึง
ข้อความของ prapasri AH เมื่อ 15 ธันวาคม 2552, 20:24:46
น้องๆขรา

พี่แอ๊ะหายไปหลายมื่อ (หลายวัน) ไปงานน้องติ๊บรับปริญญา แต่รอรูปยังไม่ได้มาค่ะ

พี่แอ๊ะจะถ่ายรูปเองไม่เป็น  ต้องให้ช่างถ่าย ก็เลยต้องรอ

แล้วจะส่งมาให้ดูนะคะ

พีแอ๊ะครับ

ผมเล็งๆ อยู่แล้วครับ ว่าน่าจะเป็น มศว. รับปริญญา เพราะมีข่าวดาราหญิงทำผมทรงโมฮ๊อคเข้ารับปริญญาด้วย


หัวข้อ: Re: "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: Soponเท่านั้น ที่ 16 ธันวาคม 2552, 20:50:39
อ้างถึง
ข้อความของ prapasri AH เมื่อ 15 ธันวาคม 2552, 21:28:55
ดูรูปอาซิ้มแอ๊ะ ใส่ขนตาปลอม ยี่ห้อ ณนครพนม  ก่อนนะ

พี่แอ๊ะกลับจากงาน จุดเทียนเฉลิม ห้าธันวา ที่ยโสธร ค่ะ

มีอาแป๊ะหาญกับอาตี๋ รออยู่ ค่ะ



(http://img81.imageshack.us/img81/5396/63018612.jpg)

hand in hand ตลอดเวลาเลยนะครับพี่แอ๊ะ emo6::))
เดี๋ยวจะหารูปหวานๆมาโชว์มั่ง emo21:):):


หัวข้อ: Re: "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: suriya2513 ที่ 16 ธันวาคม 2552, 20:54:55
พี่ป๋องเจอแต่ with pen in hand


หัวข้อ: Re: "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: swsm ที่ 16 ธันวาคม 2552, 20:56:11
อ้างถึง
ข้อความของ suriya2513 เมื่อ 16 ธันวาคม 2552, 20:54:55
พี่ป๋องเจอแต่ with pen in hand

เศร้านะคะ  เพลงเนี้ย !!


หัวข้อ: Re: "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: iamfrommoon ที่ 16 ธันวาคม 2552, 20:59:14
อ้างถึง
ข้อความของ swsm เมื่อ 16 ธันวาคม 2552, 13:17:03
อ้างถึง
ข้อความของ เจตน์ เมื่อ 16 ธันวาคม 2552, 08:34:54

2. ถ้าลูกคุณเป็นผู้ต้องหา คดีเป็นสายลับทำลายความมั่นคงประเทศอะไรสักประเทศหนึ่ง คุณว่า รัฐมนตรีของประเทศนั้น จำเป็นต้องมาต้อนรับดูแลคุณ พาคุณไปเยี่ยมลูกในเรือนจำหรือไม่?

ก. ไม่มาต้อนรับ
ข. มาต้อนรับ


 emo48:)


ข้อ 2 ตอบ “ข”  .. มาฮ่ะ  แน่นอน


เพราะ .. แหม .. ข้อกล่าวหา “สายลับ” หรือ “จารกรรม” เนี่ย 
สะท้อนให้เห็นว่าประเทศชาติของ potato  เป็นชาติยิ่งใหญ่นะฮ้า


เคยดูหนัง Hollywood ใช่ไหมฮ้า  ??
เหตุการณ์ขโมยข้อมูล หรือสายลับ หรือจารกรรม จะเกิดขึ้นในประเทศอเมริกาเป็นส่วนใหญ่
และคนที่จารกรรมก็มักจะมาจากรัสเซียหรือจีน 
ซึ่งเป็นชาติมหาอำนาจ และเป็นคู่แข่งอภิมหาอมตะนิรันดร์กาล


ดังนั้น 
การที่ลูกเราไปกระทำการ “จารกรรม” ประเทศชาติของ potato
ก็เท่ากับว่า  ..
ประเทศนั้นได้รับการยกระดับให้เทียบเท่า .. ชาติหมา  อำนาจ  เอ๊ย มหาอำนาจ  ..  แล้วนะฮ้า


หากนายกรัฐมนตรีของประเทศนั้นไม่มาแสดงความขอบคุณด้วยตนเอง 
หรือไม่ต้อนรับขับสู้ให้สมเกียรติ สมศักดิ์ศรีของแม่และลูก
แม่จะถกโจงกระเบนด่า potato ให้เสียงดังลั่นเลยว่า 



“ไอ้เนรคุณ .. ไอ้อกตัญญู”     emo5:( 



แม่ทำจริงนะฮ้า .. ไม่ได้พูดเล่น  !?!   emo30:sorry:

พี่หยีที่รัก...
100 คะแนนเต็ม  อิอิ ชอบ Potato มาก ขอยืมไปใช้นะคะ


หัวข้อ: Re: "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: swsm ที่ 16 ธันวาคม 2552, 21:01:48
ยินดีจ้า     emo6::))


หัวข้อ: Re: "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: Soponเท่านั้น ที่ 16 ธันวาคม 2552, 21:08:42
อ้างถึง
ข้อความของ swsm เมื่อ 16 ธันวาคม 2552, 20:56:11
อ้างถึง
ข้อความของ suriya2513 เมื่อ 16 ธันวาคม 2552, 20:54:55
พี่ป๋องเจอแต่ with pen in hand

เศร้านะคะ  เพลงเนี้ย !!
ผมว่าพี่ป๋องง่ะ don't even have any chances to sign เลยมากกว่า emo19:((:
ถือปากกาค้างมาหลายปีแล้ว เอาแค่ทะเบียนสมรสก็พอ ไม่ต้องถึงทะเบียนหย่าหรอก
ขอโต้ดคร้าบ เพราะรักดอก หุ หุ
 emo30:sorry:


หัวข้อ: Re: "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: swsm ที่ 16 ธันวาคม 2552, 21:17:28
ถ้าเช่นนั้น  ขอแปลงความหมาย  เป็นว่า
 
เงื้อปากกาไว้รอท่า  หากเผลอมาเมื่อไร .. จับจดทะเบียน (สมรส) .. ทันที


หัวข้อ: Re: "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: Soponเท่านั้น ที่ 16 ธันวาคม 2552, 21:52:49
ดีมากจ้ะ หะยี
พี่ชง น้องตบ emo20:)):)


หัวข้อ: Re: "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: swsm ที่ 16 ธันวาคม 2552, 21:54:48
ตึ่งโป๊ะ !! .. (ตบมุกค่ะ)


หัวข้อ: Re: "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: prapasri AH ที่ 16 ธันวาคม 2552, 22:09:41
 พี่ๆน้องขรา

พี่แอ๊ะมาแล้วจ้า เพิ่งกลับจากมุกดาหารมา พรุ่งนี้ต้องตื่นเช้าไปออกหน่วยแพทย์เคลื่อนที่ พอสว.

แต่อดจะเข้ามา update ข่าว เหมือนน้องปุ๊กกีค่ะ

ให้คุยกันในห้องพี่แอ๊ะได้เลยค่ะเรื่องนี้ ตอนนี้ในสมองพี่แอ๊ะมีแต่อีตาฮวยเซ็ง ค่ะ

กับกำลังคิดเหมือน น้องหะยีเลยว่า คุณ หญิงนคร-นม น่าจะได้สามีใหม่เร็วกว่าที่คิด เพราะสวยหยาด

เยิ้มเลย

เพื่อลูกจริงจริ๊งงงงงงงงง


น้องเจตน์ขา พี่แอ๊ะไม่กล้า ตอบคำถามน้องเจตน์ เพราะไม่ทราบว่าน้องสี....อะรายยยยยยยยยยยย

อ. แจ่มใส คะ ดีใจที่มาคุยกับพี่แอ๊ะ เราคิดอะไรมักจะเหมียนกัน ทุกครั้งเลย ดีใจจัง มีเพื่อนสู้ตายแล้วววววววว

น้องปลาทูแมนคะ พวกสีไม่เหลืองกำลังแอบฟังเราอยู่ พี่แอ๊ะกลัวจัง .......พี่แอ๊ะสีกลางๆ จ้า

เหยงคะ ลูกสาวพี่แอ๊ะจบ ม.รังสิต ค่ะ  มีหมอต้น จบมศว. เมือ 6 ปีที่แล้วค่ะ

พี่แอ๊ะรักจุฬามาก แต่ลูกเข้าจุฬาไม่ได้สักคน คงรอหลาน โน่นแหละค่ะ จะติว ให้ตั้งแต่อนุบาลเลยที่เดียววววววว


หัวข้อ: Re: "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: iamfrommoon ที่ 16 ธันวาคม 2552, 22:12:18
พี่แอ๊ะคะ
ภาพงานรับปริญญามีมารึยังคะ รอชมค่ะ


หัวข้อ: Re: "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: prapasri AH ที่ 16 ธันวาคม 2552, 22:23:33
 
น้องปุ๊กกี้  ขา เค้าทำเป็น ซีดี มาให้แล้ว พี่แอ๊ะ อาจจะส่งให้ดูได้พรุ่งนี้ตอนค่ำๆ นะคะ

อยากส่งให้ดูใจจะขาดอยู่แล้ว ค่ะ อยากอวดลูก น่ะค่ะ แต่คืนนี้คงรีบไปนอนก่อนเด่วพรุ่งนี้ไม่สวย

เด่วจะสู้หญิง นคร-นม ไม่ได้

เอ....พี่แอ๊ะจะเสียคน คราวนี้แหละ หยาบคายซะะเเย้ววววววววววววววว

ฮวยเซ้ง ไม่น่าเฮ็ดให้ข่อย เสีย ตะบะเล๊ยยยยยยยยยยยยย[/color][/color]


หัวข้อ: Re: "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: swsm ที่ 16 ธันวาคม 2552, 22:26:59
Goodnite ค่ะ  พี่แอ๊ะ    emo31:bye:


หัวข้อ: Re: "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: prapasri AH ที่ 16 ธันวาคม 2552, 22:30:47
น้อง เจตน์คะ

ขอโทษทีค่ะ  ที่พี่แอ๊ะเผลอคิดว่าน้อง เป้น อริราชศัตรู ขอโทษนะคะ

พอดีพี่แอ๊ะอยู่ในดงสีแดงค่ะน้องหะยี

วันนี้ ตลกมาก ที่ยโส มีรถ มาประกาศข่าว รวมพลสมาพันธ์สีแดงภาคอิสาน ให้ไปช่วย

หาเสียงให้ ที่ มหาสารคามค่ะ

ไปเทียวลาว มา (สปป.ลาว) ยังมีความสุข คนลาวส่วนใหญ่ สีเหลืองค่ะ แปลกแต่จริง


หัวข้อ: Re: "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: prapasri AH ที่ 16 ธันวาคม 2552, 22:31:56

กู้ดไนท์ เหมียนกัน พรุ่งนี้ ใส่ขนตาปลอมกันนะคะน้องหะยี 555555555555


หัวข้อ: Re: "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: swsm ที่ 16 ธันวาคม 2552, 22:34:00
อ้างถึง
ข้อความของ prapasri AH เมื่อ 16 ธันวาคม 2552, 22:31:56

กู้ดไนท์ เหมียนกัน พรุ่งนี้ ใส่ขนตาปลอมกันนะคะน้องหะยี 555555555555

ค่าาาาาาาาาาาาา


หัวข้อ: Re: "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: prapasri AH ที่ 16 ธันวาคม 2552, 22:35:05
อ๊าววววววว

ต้องทักทายน้องไข่มุก ซะหน่อย พอคิดถึงน้องไข่มุก น้องไข่มุกก็มา พี่แอ๊ะขอไปนอนก่อนนะคะ


หัวข้อ: Re: "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: swsm ที่ 17 ธันวาคม 2552, 08:33:41
เช้านี้ .. หะยีมาเปิดบ้านให้พี่แอ๊ะค่ะ   emo42


หัวข้อ: Re: "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: เจตน์ ที่ 17 ธันวาคม 2552, 09:10:01
ผมแวะมาส่งหนังสือพิมพ์ครับ พี่แอ๊ะ    emo48:)


หัวข้อ: Re: "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: iamfrommoon ที่ 17 ธันวาคม 2552, 10:54:51
อ้างถึง
ข้อความของ prapasri AH เมื่อ 16 ธันวาคม 2552, 22:35:05
อ๊าววววววว

ต้องทักทายน้องไข่มุก ซะหน่อย พอคิดถึงน้องไข่มุก น้องไข่มุกก็มา พี่แอ๊ะขอไปนอนก่อนนะคะ

สวัสดีค่าพี่แอ๊ะและพี่ๆ ทุกท่าน...
เห็นแว๊บๆ ใส่ขนตาปลอม...อยากบอกว่า ล่าสุดซื้อขนตาปลอมของกาละแมร์เป็น presenter ที่ลงท้าย buffet น่ะค่ะ เหมือนจริงมาก สามารถติดเองได้ด้วย เสาร์นี้จะใส่ขนตาปลอมมั่งค่ะ 555

เสียดายพี่แอ๊ะมาร่วมร้องเพลงกับเราไม่ได้


หัวข้อ: Re: "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: อ้อย 14 ที่ 17 ธันวาคม 2552, 16:51:31
เอ emo7:(:.....ใส่ขนตาปลอมเนี้ย  จำกัด อายุ วัย  ส่วนสูงหรือเปล่าน้อ...น้องหะยี..น้องปุ๊กกี้    emo45:( (พี่ป๋องห้ามตอบเชียวนา...)


หัวข้อ: Re: "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: wannee ที่ 17 ธันวาคม 2552, 20:03:55

สวัสดีค่ะ พี่แอ๊ะ  emo4:))

หอมีทัวร์  วันที่ 16-17 ม.ค. ตาม link นี้นะคะ  http://www.cmadong.com/board/index.php/topic,4496.0.html


หัวข้อ: Re: "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: swsm ที่ 17 ธันวาคม 2552, 22:18:56
อ้างถึง
ข้อความของ อ้อย 14 เมื่อ 17 ธันวาคม 2552, 16:51:31
เอ emo7:(:.....ใส่ขนตาปลอมเนี้ย  จำกัด อายุ วัย  ส่วนสูงหรือเปล่าน้อ...น้องหะยี..น้องปุ๊กกี้    emo45:( (พี่ป๋องห้ามตอบเชียวนา...)


สวัสดีค่ะ  พี่อ้อย 14


เมื่อก่อนก็เคยคิดเหมือนกันว่า  
จะต้องมีวาระพิเศษนะ  จึงจะใส่ขนตาปลอมได้
อาทิ  ขึ้นเวที  แสดงละคร  เป็นดารา  
เป็นเชียร์ลีดเดอร์  ประกวดนางงาม ..  เป็นต้น


แต่เมื่อ 2 สัปดาห์ที่ผ่านมา
จากกรณีของคุณ นะ นะคอนพะโนม
ทำให้ตระหนักด้วยตัวเองว่า .. ใส่ไปเหอะค่า ..
ไม่ต้องสนใจอายุ ส่วนสูง น้ำหนัก หน้าตา
หรือแม้แต่ความสุข ความทุกข์ในหัวใจ


น่าจะเป็นอวัยวะชิ้นที่ 33 ของสตรีไปแล้วมั้งคะ ..
ดังนั้น  จึงขอเรียนเชิญพี่อ้อย 14 มาใส่ด้วย ช่วยกันค่ะ


อิอิอิ
   emo48:)     ดีใจที่ได้คุยกับพี่ค่ะ  


หัวข้อ: Re: "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: swsm ที่ 17 ธันวาคม 2552, 22:20:07
อ้างถึง
ข้อความของ iamfrommoon เมื่อ 17 ธันวาคม 2552, 10:54:51
สวัสดีค่าพี่แอ๊ะและพี่ๆ ทุกท่าน...
เห็นแว๊บๆ ใส่ขนตาปลอม...อยากบอกว่า ล่าสุดซื้อขนตาปลอมของกาละแมร์เป็น presenter ที่ลงท้าย buffet น่ะค่ะ เหมือนจริงมาก สามารถติดเองได้ด้วย เสาร์นี้จะใส่ขนตาปลอมมั่งค่ะ 555

เสียดายพี่แอ๊ะมาร่วมร้องเพลงกับเราไม่ได้

หาซื้อได้ที่ไหนคะ  ปุ๊กกี้ .. โปรดบอก
พี่หะยีจะได้ไปคว้ามาใช้บ้าง ..

ขอบคุณค่ะ


หัวข้อ: Re: "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: เจตน์ ที่ 18 ธันวาคม 2552, 08:10:10
สวัสดีครับ ....

แวะมาหาขนตาปลอมให้ภรรยาครับพี่ๆ 
 emo48:)


หัวข้อ: Re: "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: swsm ที่ 18 ธันวาคม 2552, 08:15:50
สวัสดีค่ะ พี่น้อง ..
หะยียังไม่ได้ขนตาปลอมเลยค่ะ
เมื่อวานกลับดึก


เย็นนี้ก็คงหาซื้อไม่ได้อีก
เพราะมีคิวงานไปชมแสงเสียงที่อยุธยากับท่านอดีต ผวจ. และเพื่อนอีกกลุ่มใหญ่


อย่างไรก็ตาม  ก่อนงานเลี้ยงฉลองเว็บ
she จะต้องมีขนตาปลอมให้ได้ค่ะ .. ยืนยัน



หัวข้อ: Re: "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: iamfrommoon ที่ 18 ธันวาคม 2552, 10:30:57
อ้างถึง
ข้อความของ อ้อย 14 เมื่อ 17 ธันวาคม 2552, 16:51:31
เอ emo7:(:.....ใส่ขนตาปลอมเนี้ย  จำกัด อายุ วัย  ส่วนสูงหรือเปล่าน้อ...น้องหะยี..น้องปุ๊กกี้    emo45:( (พี่ป๋องห้ามตอบเชียวนา...)

555 ไม่จำกัดค่ะ เนื่องจากความงามไม่มีจำกัดอายุ พี่อ้อยลองหามาติดสิคะ อิอิ

พี่หยีคะ
ร้าน Beauty Buffet นอกจากกาละแมร์เป้น presenter จังเป็นภาพ Chef BB OK หน้าร้านด้วยค่ะ มีบูทตามห้างทั่วไปค่ะ แต่อย่างไรเสาร์นี้พี่จะมีให้ไปลองใช้ 1 คู่ค่า...น้องจะซื้อไปฝาก อิอิ


หัวข้อ: Re: "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: เหยง 16 ที่ 19 ธันวาคม 2552, 15:55:28
อ้างถึง
ข้อความของ swsm เมื่อ 18 ธันวาคม 2552, 08:15:50
สวัสดีค่ะ พี่น้อง ..
หะยียังไม่ได้ขนตาปลอมเลยค่ะ
เมื่อวานกลับดึก


เย็นนี้ก็คงหาซื้อไม่ได้อีก
เพราะมีคิวงานไปชมแสงเสียงที่อยุธยากับท่านอดีต ผวจ. และเพื่อนอีกกลุ่มใหญ่


อย่างไรก็ตาม  ก่อนงานเลี้ยงฉลองเว็บ
she จะต้องมีขนตาปลอมให้ได้ค่ะ .. ยืนยัน



ท่าน ผวจ. คนปัจจุบัน ผวจ.วิทยา ผิวผ่อง เป็น CU รวมทั้งภรรยาของท่านด้วย และท่านเป็นชาวจังหวัดนครสวรรค์
แต่ขณะนี้เป็นช่วงคุณพ่อของท่านถึงแก่กรรม และจัดงานอยู่ที่เมรุของวัดนครสวรรค์ครับ


หัวข้อ: Re: "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: prapasri AH ที่ 19 ธันวาคม 2552, 17:59:59
(http://img141.imageshack.us/img141/2069/99084714.jpg)

พี่แอ๊ะส่งรูป น้องประติ๊บรับปริญญา แพทย์ ม.รังสิต น้องกระติ๊บสอบได้เกียรตินิยมนะคะ

รูปเล็กมากเลย

ดูเด็กสมัยนี้เขาเล่น อย่างนี้กัน ตอน  ถ่ายรูปค่ะ

(http://img10.imageshack.us/img10/9941/43788996.jpg)


หัวข้อ: Re: "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: prapasri AH ที่ 19 ธันวาคม 2552, 18:39:17
พี่แอ๊ะทำรูปให้ใหญ่ไม่เป็นค่ะ

ไปcopy มาจาก hi-5 ของลูก


หัวข้อ: Re: "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: prapasri AH ที่ 19 ธันวาคม 2552, 18:40:57
เหยงจ๋า ถ้าขยายให้ได้ช่วยขยาย รูปให้หน่อยนะ

(http://img403.imageshack.us/img403/9994/24331859.jpg)

(http://img15.imageshack.us/img15/7955/53915438.jpg)


หัวข้อ: Re: "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: ตุ๋ย 22 ที่ 19 ธันวาคม 2552, 19:35:51
หวัดดีครับพี่แอ๊ะ


หัวข้อ: Re: "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: Kaimook ที่ 19 ธันวาคม 2552, 22:44:06
พี่แอ๊ะขราาาามาแสดงความยินดีกะน้องคุณหมอกะติ๊บด้วยคนค่ะ emo4:)) emo4:)) emo4:))
น้องเก่งมากๆเลยนะคะได้เกียรตินิยมอันดับ 1 ด้วยค่ะลูกสาวของน้ำอ้อยอยากเป็นคุณหมอเหมือนกันค่ะรอลุ้นอยู่ค่ะไม่รู้เขาจะสอบได้หรือเปล่า


หัวข้อ: Re: "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: swsm ที่ 20 ธันวาคม 2552, 10:04:00
อ้างถึง
ข้อความของ เหยง 16 เมื่อ 19 ธันวาคม 2552, 15:55:28

ท่าน ผวจ. คนปัจจุบัน ผวจ.วิทยา ผิวผ่อง เป็น CU รวมทั้งภรรยาของท่านด้วย และท่านเป็นชาวจังหวัดนครสวรรค์
แต่ขณะนี้เป็นช่วงคุณพ่อของท่านถึงแก่กรรม และจัดงานอยู่ที่เมรุของวัดนครสวรรค์ครับ



สวัสดีค่ะ  พี่น้อง



สวัสดีค่ะ พี่เหยง

ท่าน ผวจ. ที่หยีกล่าวถึง ท่านเป็น "อดีต" ค่ะ  และเป็น cu รัฐศาสตร์ เช่นกัน
ท่านเกษียณไปแล้วประมาณ 2 ปี
ดร.สุรพล กาญจนะจิตรา

ท่านน่ารักมาก ๆ ๆ ค่ะ


(http://img138.imageshack.us/img138/5644/ayy0032.jpg)


หัวข้อ: Re: "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: swsm ที่ 20 ธันวาคม 2552, 10:05:41
พี่แอ๊ะคะ ..    emo9:huhu:

ขอแสดงความยินดีกับน้องหมอติ๊บ และครอบครัวของพี่แอ๊ะด้วยนะคะ
 


หัวข้อ: Re: "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: swsm ที่ 20 ธันวาคม 2552, 10:06:28
พี่ป๋องคะ   

ข่าวดีของพี่แอ๊ะคืองานรับปริญญาของน้องหมอติ๊บค่ะ .. อิอิอิ




emo29:P:


หัวข้อ: Re: "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: เหยง 16 ที่ 20 ธันวาคม 2552, 11:26:58
พี่แอ๊ะครับ

ผมลองปรับภาพแล้วครับ ภาพในวันงาน ปรับจะเบลอมากขึ้นไปอีก จึงพอเท่านี้

(http://img51.imageshack.us/img51/6546/19385457.jpg)

เช่นกันภาพล่าง ขนาดนี้ยังคงมีความชัดเจนครับ

(http://img269.imageshack.us/img269/4153/77591283.jpg)

ผมได้ใส่ภาพใหม่เทียบกับภาพเดิมครับ

และขอแสดงความยินดีต่อความสำเร็จของหมอกระติ๊บด้วยครับ


หัวข้อ: Re: "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: prapasri AH ที่ 20 ธันวาคม 2552, 13:54:46
โปรดอดใจรอรูปนะคะ

เพราะลูกบอกว่า อีกสองวันจะส่งมาให้ น้องติ๊บ คงยุ่งกับคนไข้อยู่ค่ะ

ต้องอยู่เวรติดกันทุกวันและคืน ต้องมาใช้เวรคืน ที่ต้องลาไปรับปริญญา

แพทย์ที่ ศรีรัตนะ  มีแค่ 3คน คนไข้โอพีดี วันละ300 คนค่ะ

น้องไข่มุกด์ ขา น้องติ๊บจบเกียรตินิยม ธรรมดาค่ะ ไม่ได้อันดับหนึ่งค่ะ

คะเเนน ขาดไปไม่ถึงอันดับหนึ่ง

จบรังสิต กว่าจะจบได้ และสอบใบประกอบวิชาชีพ ได้ยากแสนยาก ได้เกียรตินิยม นี้ลูกบอกว่า ฟลุ๊ก ค่ะ


หัวข้อ: Re: "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: prapasri AH ที่ 20 ธันวาคม 2552, 14:46:36
ลูกตอบ ใน hi-5 มาว่า



"วู้วว มามี๊ ยังไม่ว่างส่งรูปให้มี๊เรย เวรหนักหน่วงมากกกค่ะ  "



555555 งานหนักหน่วงแต่มีเวลาส่ง hi-5 ลูกข่อยยยยยยยยยยยยยย


หัวข้อ: Re: "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: prapasri AH ที่ 20 ธันวาคม 2552, 15:22:04
ได้รูปมาบ้างแล้วค่ะ จากกล้อง พ่อใหญ่หาญ เพิ่งนึกได้ว่าพ่อใหญ่หาญ เอากล้องไปด้วยยยยยยยยยย

อ๊าววววววววว ดูรูปนี้ก่อนนะ ช่วงก่อนวันรับปริญญาลูก พี่แอ๊ะไปงานแต่งงาน ลูกชายคนสุดท้อง ของ เพื่อรักพี่แอ๊ะ คุณปรีชาส่งวัฒนา

 เจ้าของ ฟลายนาว ค่ะ

อยากโชว์ ชุด กะขนตาปลอมใส่ไปจากยโสธรเลยนะคะ น้องหะยี

(http://img410.imageshack.us/img410/5630/dscf1796a.jpg)


หัวข้อ: Re: "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: swsm ที่ 20 ธันวาคม 2552, 15:27:14
โอว .. พี่แอ๊ะขรา

ตาของน้องไม่สามารถขยับออกจากชุดเครื่องประดับไข่มุกได้เลยค่ะ
design ของสร้อยคอ ถูกใจน้องมั่ก ๆ ๆ ๆ ๆ ๆ ..


โอว .. มุก  ชอบ ชอบ ชอบ
    emo45:(


หัวข้อ: Re: "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: prapasri AH ที่ 20 ธันวาคม 2552, 15:30:07
http://
http://img13.imageshack.us/img13/6849/part01.swf


หัวข้อ: Re: "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: swsm ที่ 20 ธันวาคม 2552, 15:31:41
สองสาว "ขนตาปลอม" ..   emo2:) ..  จากงานเลี้ยงฉลองเว็บซีมะโด่ง


เมื่อคืนเราสนุกจนลืมเติมปาก เติมแป้งค่ะ พี่แอ๊ะ
หน้าจึงมันไปเล็กน้อย ถึงปานกลาง .. โปรดอภัย


(http://img200.imageshack.us/img200/4683/cmd7thann0052.jpg)


หัวข้อ: Re: "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: เจตน์ ที่ 20 ธันวาคม 2552, 18:33:05
 emo46


หัวข้อ: Re: "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: prapasri AH ที่ 20 ธันวาคม 2552, 19:28:31
น้องเชื่อไหมพี่แอ๊ะทำ dvd นี้เอง ทำเสร็จใน24 ชั่วโมง โดยให้เจ้าหน้าที่ร.พเป็น ลูกมือ สองสามคนค่ะ

ตอนเย็นพี่แอ๊ะเลี้ยงญาติพี่น้องเพื่อฉลอง ให้ลูก ที่ รร อิมพีเรียลควีนส์พาร์ค ตรงสุขุมวิท22

แล้วฉายดีวีดีให้ญาติๆดูกันค่ะ

ตอนสองค่ะ

ช่วยดูและช่วยชมด้วยนะคะ5555555555555555555555555555

ฝีมือ มามี้ ล้วนๆเลยค่ะ ทำเพื่อ surprise ลูกค่ะ

หาเพลงไม่ทัน นึกได้ เพลงอะไรได้ก็ทำเลยค่ะ





เมื่อกีไปดู ดีวีดี ของานหอ ยังคิดว่า ถ้าได้ดูดีวีดี ก่อน ให้ละเอียด คงทำได้ดีกว่านี้

 คงได้ใส่เพลงมากกว่านี้

 ว๊า   แล้วกันนนนนนนนนนนนนนนนนน

พี่แอ๊ะ load ตอนสอง ไม่ได้ทำงาย.... ดี

เจ๊า พระคุณขอให้ส่งได้ เถอะ ไม่งั้นต้องรอพรุ่งนี้ ให้ไอที มาส่งให้ค่ะ


หัวข้อ: Re: "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: prapasri AH ที่ 20 ธันวาคม 2552, 19:44:34

C:\Documents and Settings\Administrator\Desktop\fash1\part2
 emo:(

ส่งไม่ได้ ค่ะ โทรไปหาไอที เค้ากลับบ้านไปแล้ว ที่ อ.ป่าติ้ว โน่นนนนนนนนนนนนนน

เธอบอกว่าพรุ่งนี้ จะมาส่งให้ ดูรูปไปก่อนนะคะ เค้าบอกว่าคงเป็นที่เวบบบบ emo:(

เหยงจ๋า ถ้าผ่านมาช่วยย่อให้ทุกรูปเลยนะคะ

(http://img410.imageshack.us/img410/9025/dscf1810.jpg)


หัวข้อ: Re: "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: prapasri AH ที่ 20 ธันวาคม 2552, 19:46:57
มีขนตาปลอม ด้วย อ่ะ น้องหะยี และน้องปุกกี้



หัวข้อ: Re: "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: prapasri AH ที่ 20 ธันวาคม 2552, 20:08:17

โอยยยยยยยยยยยยยย load เท่าไร ก็ error ค่ะ

ลูกกะต้น ก็ไป ไดรฟ์ กอล์ฟ

ไม่มาช่วย มามี้เลยยยยยยยยยยยยยยย

คงต้องยอมแพ้ ก่อนนะคืนนี้ อิๆๆๆๆๆๆ


หัวข้อ: Re: "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: prapasri AH ที่ 20 ธันวาคม 2552, 21:15:08

ส่งไม่ได้ ขอไปนอน ก่อนนะคะ ยอมแพ้ยอมแพ้ๆๆๆๆ emo45:(

แหม๋..... พี่แอ๊ะคุยอยู่คนเดียวววววววววววววววววววววว

หวังว่าน้องไข่มุก จะมาตอนดึกๆ

พี่แอ๊ะจะกลับมา วันที่26 เเน่ะ อิๆๆๆๆ (ไปที่อื่น ทำคอมไม่เป็นค่ะ)

น้องขนตาปลอมมาแล้วทั้งสองคน ปุกกี้ แอนด์ แอสโซวิเอท หะยี555555


ปล. สำหรับท่านที่ไม่ได้ตามติด กระทู้นี้ ขนตาปลอม แปลว่า จัดฉาก ณ ฮุนเซ็น จ้า



หัวข้อ: Re: "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: prapasri AH ที่ 20 ธันวาคม 2552, 21:32:55
อ้างถึง
ข้อความของ ตุ๋ย 22 เมื่อ 19 ธันวาคม 2552, 19:35:51
หวัดดีครับพี่แอ๊ะ


น้องตุ๋ยยยยยยยยย รูปนี้ (โลโก้) หล่อจัง


หัวข้อ: Re: "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: prapasri AH ที่ 20 ธันวาคม 2552, 21:38:50



หมอต้น มาช่วยแล้วก็ยังส่งมิได้

ราตรีสวัสดิ์นะจ๊ะ


หัวข้อ: Re: "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: Kaimook ที่ 20 ธันวาคม 2552, 23:28:23
อ้างถึง
ข้อความของ prapasri AH เมื่อ 20 ธันวาคม 2552, 13:54:46
โปรดอดใจรอรูปนะคะ

เพราะลูกบอกว่า อีกสองวันจะส่งมาให้ น้องติ๊บ คงยุ่งกับคนไข้อยู่ค่ะ

ต้องอยู่เวรติดกันทุกวันและคืน ต้องมาใช้เวรคืน ที่ต้องลาไปรับปริญญา

แพทย์ที่ ศรีรัตนะ  มีแค่ 3คน คนไข้โอพีดี วันละ300 คนค่ะ

น้องไข่มุกด์ ขา น้องติ๊บจบเกียรตินิยม ธรรมดาค่ะ ไม่ได้อันดับหนึ่งค่ะ

คะเเนน ขาดไปไม่ถึงอันดับหนึ่ง

จบรังสิต กว่าจะจบได้ และสอบใบประกอบวิชาชีพ ได้ยากแสนยาก ได้เกียรตินิยม นี้ลูกบอกว่า ฟลุ๊ก ค่ะ
พี่แอ๊ะขราาาาอย่างไรก็ตามขอชมว่าน้องคุณหมอกระติ๊บเก่งมากๆเหมือนคุณพ่อคุณแม่เลยนะคะ
การเรียนแพทย์นั้นยากอยู่แล้วค่ะแถมยังได้เกียรตินิยมอีกน่าปลื้มใจจริงๆค่ะ
พรุ่งนี้จะรอชมภาพนะคะ หลับฝันดีค่ะพี่แอ๊ะ
  พรุ่งนี้จะลองใส่ขนตาปลอมดูบ้างค่ะอิอิอิ


หัวข้อ: Re: "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: หนุน'21 ที่ 21 ธันวาคม 2552, 08:59:24


สวัสดีครับพี่แอ๊ะ
ขอแสดงความยินดีกับกับพี่แอ๊ะในความสำเร็จของ
ลูกสาวคนดีคนเก่ง ของพี่กับพีหมอหาญด้วยนะครับ
เก่งจัง น้องหมอกระติ๊บ
 

 emo4:))


หัวข้อ: Re: "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: Kaimook ที่ 21 ธันวาคม 2552, 21:33:02
สวัสดีค่ะพี่แอ๊ะขราาาา emo4:)) emo4:)) emo4:))


หัวข้อ: Re: "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: phraisohn ที่ 22 ธันวาคม 2552, 09:02:41
ตั้งให้พีแอ๊ะนะครับ

แต่ไฟล์ใหญ่และเยอะมากคับ

กำลังทยอยอัพโหลดให้นะคับพี่แอ๊ะ



หัวข้อ: Re: "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: phraisohn ที่ 22 ธันวาคม 2552, 09:18:43

พาร์ต 2


หัวข้อ: Re: "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: phraisohn ที่ 22 ธันวาคม 2552, 09:22:51
part 3



หัวข้อ: Re: "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: phraisohn ที่ 22 ธันวาคม 2552, 11:20:44
part 4



part5


หัวข้อ: Re: "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: phraisohn ที่ 22 ธันวาคม 2552, 11:21:23
part6


หัวข้อ: Re: "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: iamfrommoon ที่ 22 ธันวาคม 2552, 12:23:57
ว้าวๆ ความเป็นมาทำได้น่ารักมากๆ เลยค่ะ


หัวข้อ: Re: "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: wannee ที่ 23 ธันวาคม 2552, 13:38:42

ขอแสดงความยินดีกับน้องกระติ๊บ และดีใจกับพี่แอ๊ะด้วยค่ะ   emo6::))


หัวข้อ: Re: "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: prapasri AH ที่ 24 ธันวาคม 2552, 20:57:53
พี่แอ๊ะกลับมาจากสมุยและสุราษฎร์แล้วค่ะ

 เหมือนพี่สิงห์เลยไปไหนมาไหนต้องรายงานตัวกะน้องๆด้วยแฮะๆๆๆๆ

เหมือนที่พี่ป๋องบอกถ้าพี่แอ๊ะไปไหนจะใช้คอมที่นั่นไม่ได้เลยค่ะ

คือยุ่งซะจนไม่มีเวลาเข้าค่ะเลยสุทธิ



หัวข้อ: Re: "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: prapasri AH ที่ 24 ธันวาคม 2552, 21:01:30
น้อง บักสนคะ
ขอบคุณมากค่ะ

ความพยายามอยู่ที่ไหน ความสำเร็จ อยู่ที่น้องบักสน นี่แหละ

ไอทีพี่แอ๊ะเขาก็ทำไม่ได้ เขาบอกว่าต้องไปส่งที่อีกเวบ หนึ่ง

พี่แอ๊ะบอกเธอว่า คงไม่มีคนตามไปดูแน่ๆ อิๆๆๆ

เลยรบกวนน้องบักสน  ค่ะ ขอบคุณหลายยยยยยยยยเด้อ...


หัวข้อ: Re: "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: Kaimook ที่ 24 ธันวาคม 2552, 21:15:16
พี่แอ๊ะขราาาากลับมาแล้ว ดีใจจังค่ะ พี่แอ๊ะขราาาาขอบคุณมากๆค่ะสำหรับของที่ส่งมาให้น้องๆค่ะน้ำอ้อยได้รับแล้วค่ะ
พี่แอ๊ะขราาาาะพลงเพราะมากๆๆๆเลยค่ะชอบมากค่ะพี่เบิร์ดเนี่ยค่ะ(แต่เอไม่รู้พี่เบิร์ดจะรู้ไหมหนอมีคนสาวน้อยๆแอบชอบพี่เบิร์ดเนี่ย)
พี่แอ๊ะขราาาาาMerry christmas and a happy new year นะคะพี่ ขอให้พี่แอ๊ะและพี่หาญมีความสุขมากๆเลยค่ะพี่ emo4:)) emo4:)) emo4:))


หัวข้อ: Re: "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: prapasri AH ที่ 24 ธันวาคม 2552, 21:20:50
น้องปุกกี้ขา ขอบคุณที่มาดูแล้วให้กำลังใจนะคะ

พี่แอ๊ะ วิ่งขึ้นลงกรุงเทพ-ยโสเป็นว่าเล่นเลยช่วงนั้น

มีอยู่ช่วงหนึ่งพี่แอ๊ะยอมบินกลับยโสเพียง วันเดียว

เลยนึกได้ว่าน่าจะทำดีวีดี น้องติ๊บ

พี่แอ๊ะเลยรีบทำเองเลยค่ะให้เจ้าหน้าที่ร.พ ช่วย ใส่เพลงเเ ต่งภาพ

และก็ทำเสร็จใด้ ใน เวลา 24 ชั่วโมง

เพื่อ surprise ลูกค่ะ

แม่ เป็นปลื้มมมมมมมมมมมมมมม

และได้ฉายให้ ญาติๆดูตอนเย็นวันที่ลูกรับปริญญาเรียบร้อย

แล้วมีการฉลองกันในหมู่ญาติๆ เเนะนำให้ลูกได้รู้จักญาติๆ

ทั้งทางพี่หาญและ ทางพี่แอ๊ะ ค่ะ

เรามาอยู่ทางอิสาน ลูกไม่ค่อยรู้จักญาติพี่น้องเลยค่ะ น่าสงสารนะ

  พี่แอ๊ะทำให้ลูก มีสอง version ค่ะ

คือ จ้างช่างไปทำเป็นหนัง ตอนเขา ถ่ายรูปในตอนวันรับปริญญาค่ะ

โดยใช้ข้อมูล จาก ดีวีดีของพี่แอ๊ะใส่เล็กน้อย


แต่ เวอร์ชั่น ที่เป็นหนังคงส่งไม่ได้แค่ดีวีดี ก็ยากเต็มที

ที่สำคัญ จะมี น้องๆมาดูแล้วให้กำลังใจบ้างหรือเปล่าหนอ

ปลื้มอยู่คนเดียว 555555555555555

น้องปุ๊กกี้ เมื่อมีลูก เก็บทุกอย่าง ที่ดีๆ ของลูกไว้นะคะ

เวลาต้องการใช้ จะได้นำมาใช้ได้ทันที

เช่นใน น.ส.พ ไทยรัฐที่เขาทาย ดวงเด็กเกิดวันนี้ พี่แอ๊ะตัดของลูกเก็บไว้ทั้ง 4คน

30 ปียัง คง มีอยู่ ใน อาลาบั้ม อย่างเรียบร้อยค่ะ


พี่ๆ น้องๆท่านอื่นดูแล้ว ส่งเสียง ให้กำลังใจพี่แอ๊ะด้วยนะคะ[/b]ขอบคุณน้องบักสนอีกหลายๆครั้ง  คือยังมีอีกหลายตอนค่ะ

น้องหะยี น้องหนุน น้องปลาทูแมน น้องไข่มุกและ น้องแฟนคลับทุกท่าน ช่วยวิจารณ์งานพี่แอ๊ะ ที่ทำ

ด้วยหัวใจด้วยค่ะ


หัวข้อ: Re: "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: prapasri AH ที่ 24 ธันวาคม 2552, 21:26:27
ก๊ะ หมอต้นกล้าค่ะ

(http://img134.imageshack.us/img134/3827/dscf1811.jpg)


หัวข้อ: Re: "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: prapasri AH ที่ 24 ธันวาคม 2552, 21:32:20
เด่วนี้เวลา รับปริญญาเค้าให้เล่น กันอย่างนี้ด้วยค่ะ

(http://img407.imageshack.us/img407/6427/dscf1926j.jpg)


หัวข้อ: Re: "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: Kaimook ที่ 24 ธันวาคม 2552, 21:39:33
ตามมาชมแล้วค่ะพี่แอ๊ะขราาาาาน้องบักสนเก่งมากๆค่ะ
พี่แอ๊ะขราาาพี่เป็นคุณแม่ที่น่ารักมากๆเลยค่ะพี่เก็บทุกอย่างของลูกๆตอนเด็กไว้แม้แต่ฟันน้ำนมพี่สุดยอดจริงๆค่ะ
เสียดายจังค่ะถ้าน้ำอ้อยได้พบพี่เร็วๆกว่านี้น้ำอ้อยคงเก็บไว้ให้ลูกดูบ้างค่ะจำได้ว่าพอฟันลูกหลุดเมื่อไรเป็นต้องบอกลูกว่า
ซี่ไหนคะลูกถ้าฟันบนโยนลงล่าง ถ้าฟันล่างโยนขึ้นข้างบนค่ะลูกขราาาา
พี่แอ๊ะขราาาาาเป็นไอเดียดีมากๆเลยค่ะน้ำอ้อยรอคอยวันที่ลูกๆจะได้รับพระราชทานปริญญาบัตรเหมียนกันค่ะจะทำบ้างเลยค่ะพี่ไม่ว่าอะไร
นะคะ emo4:)) emo4:)) emo4:))


หัวข้อ: Re: "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: Kaimook ที่ 24 ธันวาคม 2552, 21:42:00
ตามมาชมภาพสวยๆค่ะพี่


หัวข้อ: Re: "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: prapasri AH ที่ 24 ธันวาคม 2552, 21:44:20

 รอดูรูปสวยๆ พรุ่งนี้นะคะน้องไข่มุกขา รูปใน กล้องพี่หาญไม่ค่อยสวยค่ะ



อีกรูปก็ละกันนนนนนนนนนน

(http://img406.imageshack.us/img406/4349/dscf1885y.jpg)


คนดีของมามี้ หนึ่งเดียวเท่านั้น


หัวข้อ: Re: "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: prapasri AH ที่ 24 ธันวาคม 2552, 21:47:42

ปาป๊าหาญ เบิกบานใจ.......

(http://img693.imageshack.us/img693/2892/dscf1869.jpg)


หัวข้อ: Re: "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: prapasri AH ที่ 24 ธันวาคม 2552, 21:51:31
ขอบคุณน้องไข่มุกที่มาให้กำลังใจ

ช่วยมาดูตอนต่อๆไปด้วยนะคะ

น้องบักสน คงรีบทำให้ทุกวัน นะจ๊ะ คนดี



หัวข้อ: Re: "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: prapasri AH ที่ 24 ธันวาคม 2552, 21:53:21


เบื้องหลังนางงามค่ะ อิๆๆๆๆ


(http://img707.imageshack.us/img707/4438/dscf1665.jpg)


หัวข้อ: Re: "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: หนุน'21 ที่ 24 ธันวาคม 2552, 22:39:58
อ้างถึง
ข้อความของ prapasri AH เมื่อ 24 ธันวาคม 2552, 21:47:42

ปาป๊าหาญ เบิกบานใจ.......

(http://img693.imageshack.us/img693/2892/dscf1869.jpg)


 emo4:))

เป็นเรื่องที่น่าเบิกบานใจอย่างยิ่งครับ
น้องหมอกระติ๊บเก่งได้ดั่งใจ พี่หมอหาญกับพี่แอ๊ะ
อย่างนี้นี่ครับ   อบอุ่นจัง

ยินดีด้วยอีกครั้งนะครับ
ครอบครัว "สุฉันทบุตร"



หัวข้อ: Re: "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: พธู ๒๕๒๔ ที่ 24 ธันวาคม 2552, 23:54:39
(http://img407.imageshack.us/img407/6427/dscf1926j.jpg)
ขออวยพรบัณฑิตใหม่ผ่องใสยิ่ง
เริ่มทำจริงหลังภาคเพียรเรียนศึกษา
สมสำเร็จดั่งจิตบิดรมารดา
พวกลูงป้าน้าอาว์มาชื่นชม


หัวข้อ: Re: "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: jamsai ที่ 25 ธันวาคม 2552, 12:09:17
ชอบรูปพี่แอ๊ะ สิงห์แมงกะไซ คุณหมอติ้บ ทำท่าจะขอไปด้วย

น่ารักมากกกกกกกกกกกกกก ชอบค่ะ ไฮโซ ท่านนี้ เล่นดีทุกเรื่อง เนาะ

แวะมา มา ชื่นชมคุณหมอกระติ้บ และยินดีกับครอบครัวสุฉันทบุตร ค่ะ

ปลื้มใจตามพี่แอ๊ะและพี่หมอหาญ จริงๆ
..ทำบุญอะไรกันมาหนอ ครอบครัวนี้...

Merry Christmas+ Happy New Year 
นะคะ



หัวข้อ: Re: "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: wannee ที่ 25 ธันวาคม 2552, 14:43:00
อ้างถึง
ข้อความของ prapasri AH เมื่อ 24 ธันวาคม 2552, 21:44:20

 รอดูรูปสวยๆ พรุ่งนี้นะคะน้องไข่มุกขา รูปใน กล้องพี่หาญไม่ค่อยสวยค่ะ



อีกรูปก็ละกันนนนนนนนนนน

(http://img406.imageshack.us/img406/4349/dscf1885y.jpg)


คนดีของมามี้ หนึ่งเดียวเท่านั้น

ความรักของแม่แอ๊ะ ที่มีต่อลูกสาวกระติ๊บ   ซึ้งจริงๆ emo6::)) emo6::)) emo6::))



หัวข้อ: Re: "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: ตุ๋ย 22 ที่ 25 ธันวาคม 2552, 21:04:34
ขออำนาจคุณพระศรีรัตนตรัย  จงดลบันดาลให้พี่แอ๊ะและครอบครับสุขสมหวังทุกประการด้วยเทอญ


หัวข้อ: Re: "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: Soponเท่านั้น ที่ 26 ธันวาคม 2552, 06:31:46
ขอแสดงความยินดีด้วยคนครับ พี่แอ๊ะคนงามทั้งกายและใจ  emo4:))

ขอคุณพระศรีรัตนตรัยโปรดดลบันดาลให้พี่แอ๊ะ พี่หมอหาญ และครอบครัวมีความสุข สุขภาพแข็งแรง เป็นที่พึ่งของพี่-น้องชาวหอฯ และร่วมกิจกรรมกันตลอดไปครับ
emo30:sorry:


หัวข้อ: Re: "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: พธู ๒๕๒๔ ที่ 27 ธันวาคม 2552, 11:42:11
(http://img140.imageshack.us/img140/6739/patoop6065841.jpg)


หัวข้อ: Re: "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: อ้อย 14 ที่ 28 ธันวาคม 2552, 10:47:53
พี่แอ๊ะขา

              ครอบครัว อ้อย ขอแสดงความยินดีกับพี่แอ๊ะกะพี่หาญ มากมายเลยนะคะ  พี่แอ๊ะคงมีความสุขมาก และขอให้มีความสุขตลอดไปค่ะ emo4:)) emo4:)) emo4:))


หัวข้อ: Re: "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: swsm ที่ 28 ธันวาคม 2552, 12:51:25
อ้างถึง
ข้อความของ prapasri AH เมื่อ 24 ธันวาคม 2552, 21:32:20
เด่วนี้เวลา รับปริญญาเค้าให้เล่น กันอย่างนี้ด้วยค่ะ

(http://img407.imageshack.us/img407/6427/dscf1926j.jpg)

รูปนี้  น่ารักมากมายค่ะ  พี่แอ๊ะ   emo20:)):)


หัวข้อ: Re: "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: phraisohn ที่ 28 ธันวาคม 2552, 21:22:49
มาแล้วครับพี่
เน็ตหอบรมโคตรอืดครับ
กว่าจะเปิดได้หนึ่งหน้า อาบน้ำเสร็จไปสองรอบ (ไม่เวอร์คับ
ช่วงนี้เน็ตหอมีแต่คนโหลดบิต มันดึงเน็ตทั้งหอเลย)


หัวข้อ: Re: "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: phraisohn ที่ 28 ธันวาคม 2552, 21:24:44
Part 7 ครับ



Part8


หัวข้อ: Re: "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: phraisohn ที่ 28 ธันวาคม 2552, 21:25:29
Part9


Part10


หัวข้อ: Re: "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: phraisohn ที่ 28 ธันวาคม 2552, 21:29:24
Part11


หัวข้อ: Re: "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: prapasri AH ที่ 28 ธันวาคม 2552, 21:30:37
ขอบคุณมากค่ะ น้องลูก บักกะสน

พี่แอ๊ะคอยดู ผลงานพี่แอ๊ะอยู่คนเดียว นี่แหละค่ะ ดูเองเออเองค่ะ

ขอบคุณ ขอบคุณ ค่ะ

น้องหะยี ช่วยมา ment ด้วยนะคะ คนมีลูกทั้งหลายยยยยยยยยยยย


หัวข้อ: Re: "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: phraisohn ที่ 28 ธันวาคม 2552, 21:32:51
Part12


Part 13


หัวข้อ: Re: "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: phraisohn ที่ 28 ธันวาคม 2552, 21:39:07
Part 14



หัวข้อ: Re: "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: phraisohn ที่ 28 ธันวาคม 2552, 21:40:01
อ้าก อีก 10 พาร์ตมันอัพยังไม่เสร็จคับพี่แอ๊ะ
พรุ่งนี้จะเอาลงให้ที่เหลือนะครับผม
วันนี้เน็ตไม่เต็มใจสำหรับการอัพโหลดเลยครับพี่
น้องต้องกราบขออภัยอย่างสูงครับผม


หัวข้อ: Re: "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: prapasri AH ที่ 28 ธันวาคม 2552, 21:43:28
(http://img215.imageshack.us/img215/5584/dscf1805g.jpg)



เบิ้องหลังนางงามค่ะ



น้องกระติ๊บจะดูจมูกโด่งเหมือน ทำจมูกเลยค่ะ แต่ไม่ได้ทำนะคะ

ลูกเค้ามีความพยามสูงมากตั้งแต่เล็กๆ เค้าจะดึงจมูก ตัวเองทุกวัน ทุกวัน

จริงๆแล้ว กระดูกนี้เราจัดได้ค่ะ เหมือนหลักการจัดฟัน หรือการจัดกระดูก อื่นๆนั่นเอง

คือดีงไว้ ดึงบ่อยๆ แล้วจมูกจะโด่งได้เอง น้องท่านใดมีลูกเล็กๆ ฝึกให้ลูกดึงจมูกนะคะ ได้ผลจริงๆค่ะ


อาดร.ป๋องง ทำจมูกให้โด่งได้นะคะ

แต่เสียจายยยยยยยยย ด้วยนะคะ เค้าให้ดึงตั้งแต่อายุน้อยๆๆๆ ค่ะ

ดึงตอนแก่ คงไม่โด่งแล้วเพราะกระดูกมันแก่ และกระดูกแข็งแล้วจ้า


หัวข้อ: Re: "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: prapasri AH ที่ 28 ธันวาคม 2552, 21:52:36

กะ พี่ตาต้า (ตะวัน) หมอเพลย์บอยค่ะ

คนนี้นิสัยเหมือน อาป๋องค่ะ คือไม่ค่อยหลับไม่ค่อยนอนนนนนนนนนนนน

หายตัวบ่อยมั๊กๆๆ  แม่ต้อง ไหว้ บนพระ เขาจึงจะกลับบ้าน 55555555555555555

(http://img81.imageshack.us/img81/4300/dscf1877q.jpg)


หัวข้อ: Re: "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: iamfrommoon ที่ 28 ธันวาคม 2552, 21:53:54
พี่แอ๊ะคะ
งานนี้มีแมวมองน้องกระติ๊บไปเป็นดาราบ้างมั้ยคะ สวย และสดใสมากเลยค่ะ


หัวข้อ: Re: "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: prapasri AH ที่ 28 ธันวาคม 2552, 21:56:32
สาม หมอ สาม แบบ ค่ะ

(http://img215.imageshack.us/img215/1254/dscf1937.jpg)


หัวข้อ: Re: "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: prapasri AH ที่ 28 ธันวาคม 2552, 22:00:44
น้องปุ๊กกี้ขา

มีแต่ มามี้ มองงงงงงงงงงงงงง

เวลา มามี้ หลง ใหล เค้ามากๆ เค้ายัง หาว่ามา เว่ออออออออออออออ  เลยค่ะ

น้องปุกกี้ มาเที่ยวบ้านตอนปีใหม่ไหมคะ

เมื่อวานน้อง วีระพงศ์ ประสงค์จีน ณ.ลอนดอน มาเยี่ยมพี่แอ๊ะค่ะ


หัวข้อ: Re: "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: prapasri AH ที่ 28 ธันวาคม 2552, 22:04:29

นี่แน่ะ จืดดดดดดด จ๊าดดดดดดดดดทั้งครอบครัวเลย ไม่เว้นแม้เเต่คุณยาย อ่ะ

(http://img215.imageshack.us/img215/6615/27464642.png)


หัวข้อ: Re: "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: prapasri AH ที่ 28 ธันวาคม 2552, 22:07:28
(http://img101.imageshack.us/img101/7356/99065461.png)


หัวข้อ: Re: "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: prapasri AH ที่ 28 ธันวาคม 2552, 22:09:43
(http://img171.imageshack.us/img171/9650/57209166.png)

รูปนี้ มีแม่บ้าน และพี่เลียงน้องติ๊บตั้งแต่เล็กๆ มาถ่ายรูปด้วย

พี่เลี้ยง ดีใจสุดดดดดดดดดดดด

ลูกเรียกพี่เลี้ยงว่า น้ายอด

น้ายอดบอกว่าต่อไปนี้ น้ายอด ป่วยเป็นอะไร ก็ไม่กลัวแล้ว มีน้องติ๊บ รักษาให้แล้ววววววววววว แน่นอน

บ้านพี่แอ๊ะ ลูกๆจะนับถือพี่เลี้ยงและแม่บ้านเหมือนญาติผู้ใหญ่ เลยทีเดียว


หัวข้อ: Re: "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: Kaimook ที่ 28 ธันวาคม 2552, 22:19:49
สวัสดีค่ะพี่แอ๊ะ  มาชมแล้วช่างมีความสุขกะพี่และพี่หมอหาญด้วยค่ะน่าปลื้ทใจจริงๆค่ะ


หัวข้อ: Re: "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: prapasri AH ที่ 28 ธันวาคม 2552, 22:23:32
(http://img215.imageshack.us/img215/4914/10510647.png)

งานเลี้ยงฉลองตอนเย็น ค่ะน้องไข่มุก

พี่แอ๊ะจัดเลียงให้ลูก ที่ร.ร อิมพีเรียลควีนส์พาร์ค

เชิญเฉพาะญาติพี่น้องใกล้ชิดทั้งทางพี่หาญและพี่แอ๊ะ เกือบร้อยคนแน่ะ

ลูกจะได้รู้จักญาติผู้ใหญ่ ญาติๆๆๆๆๆๆๆๆ เป็นปลื้มมมมมมมมมมมมม


หัวข้อ: Re: "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: prapasri AH ที่ 28 ธันวาคม 2552, 22:40:58
 น้องปุ๊กกี้ขา แมว จะมอง คนไหนหนอออออออออออออออ

(http://img98.imageshack.us/img98/5618/59492090.png)


หัวข้อ: Re: "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: Kaimook ที่ 28 ธันวาคม 2552, 22:42:27
อ้างถึง
ข้อความของ prapasri AH เมื่อ 28 ธันวาคม 2552, 22:23:32
(http://img215.imageshack.us/img215/4914/10510647.png)

งานเลี้ยงฉลองตอนเย็น ค่ะน้องไข่มุก

พี่แอ๊ะจัดเลียงให้ลูก ที่ร.ร อิมพีเรียลควีนส์พาร์ค

เชิญเฉพาะญาติพี่น้องใกล้ชิดทั้งทางพี่หาญและพี่แอ๊ะ เกือบร้อยคนแน่ะ

ลูกจะได้รู้จักญาติผู้ใหญ่ ญาติๆๆๆๆๆๆๆๆ เป็นปลื้มมมมมมมมมมมมม
น่าปลื้มสุดๆค่ะพี่เฉพาะญาติๆร่วม 100


หัวข้อ: Re: "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: prapasri AH ที่ 28 ธันวาคม 2552, 22:45:29
ดูรูปซึ้งๆ ก่อนนะ พ่อกะแม่ แอ๊บซึ้งงงงงงงงงงงง อิๆๆๆ



(http://img262.imageshack.us/img262/5770/97718718.png)


ขอไปนอนก่อนค่ะ พี่หาญหนีไปนอนแล้วววววววววววววววว



หัวข้อ: Re: "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: prapasri AH ที่ 28 ธันวาคม 2552, 23:00:00
รูปซึ้งอีกรูปค่ะ

ร้อยมะลิ มาลัย มาให้พ่อและเเม่

กราบขอบคุณในรักแท้ พ่อแม่ให้

(http://img339.imageshack.us/img339/629/2resizei.jpg)


หัวข้อ: Re: "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: prapasri AH ที่ 28 ธันวาคม 2552, 23:08:16
โอ พระเจ้า

พี่แอ๊ะรีไซซื รูปเองได้แล้วววววววววววววว

ขอโชว์  ไฮโซ อีกรูปนะคะ น้องหะยี ชาวสี ...ไฮโซ อิๆๆๆ

(http://img99.imageshack.us/img99/6199/resizey.jpg)


หัวข้อ: Re: "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: swsm ที่ 28 ธันวาคม 2552, 23:41:49
พี่แอ๊ะน่ารักทุกรูปเลยค่ะ

แนวสง่า .. ก็สง่างาม จริง
แนวฮา .. ก็ฮาได้ดังใจสั่ง

ครอบครัวนี้น่ารักสุด ๆ เลยค่ะ 


หัวข้อ: Re: "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: swsm ที่ 28 ธันวาคม 2552, 23:42:50
อ้างถึง
ข้อความของ prapasri AH เมื่อ 28 ธันวาคม 2552, 23:00:00
รูปซึ้งอีกรูปค่ะ

ร้อยมะลิ มาลัย มาให้พ่อและเเม่

กราบขอบคุณในรักแท้ พ่อแม่ให้

(http://img339.imageshack.us/img339/629/2resizei.jpg)

เห็นรูปนี้แล้ว  ถึงกับน้ำตารื้นขึ้นมาเลยค่ะ


หัวข้อ: Re: "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: prapasri AH ที่ 29 ธันวาคม 2552, 07:14:23
น้องหะยีจ๋า รูปนี้ก็ซึงค่ะ

(http://img137.imageshack.us/img137/1603/resizeb.jpg)


หัวข้อ: Re: "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: swsm ที่ 29 ธันวาคม 2552, 07:44:29
น่ารักจริง ๆ ค่ะ ..

เดี๋ยวจะให้ลูกสาว ลูกชาย แวะเข้ามาดูด้วย
เผื่อวันข้างหน้าเขาจะนึกได้ว่า ..

แบบนี้แม่ช๊อบ ชอบ .. อะคริ อะคริ
    emo2:)


หัวข้อ: Re: "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: prapasri AH ที่ 29 ธันวาคม 2552, 08:22:16
ซ้อมก่อนค่ะ น้องหะยี

ลูกแอบซ้อมเอง แม่มาเห็นในรูป ทีหลังค่ะ

(http://img230.imageshack.us/img230/8797/12resizes.jpg)


หัวข้อ: Re: "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: prapasri AH ที่ 29 ธันวาคม 2552, 08:25:48
น้องหะยีคะ

อย่าลืมให้ลูก ดึงจมูก เอง ทุกวัน วันละหลายๆครั้ง

ได้ผลจริงๆค่ะ ของพี่ต้าก็ให้ดึงตั้งแต่เล็กๆ แต่เขาไม่พยายาม ดึงเท่ากระติ๊บเลยโด่งน้อยไปหน่อย

อยู่อิสานนานๆ พี่แอ๊ะกลัวลูกจมูกแบนค่ะ น้องปุกกี้ (โรคติดต่อทางสภาพเเวดล้อม อิๆๆๆๆๆ)


หัวข้อ: Re: "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: swsm ที่ 29 ธันวาคม 2552, 08:28:53
อ้างถึง
ข้อความของ prapasri AH เมื่อ 29 ธันวาคม 2552, 08:22:16
ซ้อมก่อนค่ะ น้องหะยี

ลูกแอบซ้อมเอง แม่มาเห็นในรูป ทีหลังค่ะ

(http://img230.imageshack.us/img230/8797/12resizes.jpg)

โอว .. น้ำตามาอีกแล้ว

อย่าหาว่าเว่อร์เลยนะคะ
หะยีเป็นคนต่อมน้ำตาตื้นมาาาาากค่ะ ..  ทั้งเรื่องเศร้า โศก สลด และเรื่องตื้นตันใจ ในทางดี
น้ำตาหยีมาก่อนอาการอื่นเลยค่ะ
เพื่อนฝูงทุกคนรู้ดี

บางทีไปงานศพพ่อเพื่อน
เพื่อนต้องบอกเลยว่า .. งานพ่อฉันแกห้ามร้องไห้นะ ..

มีใครเป็นแบบหยีบ้างไหมคะ .. ??
    emo29:P:


หัวข้อ: Re: "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: prapasri AH ที่ 29 ธันวาคม 2552, 08:38:33
กราบคุณยาย

แม่สอนให้ลูกได้เป็นลูก

รู้ผิด รู้ถูก รู้ดีชั่ว

กับพ่อแม่ ตายาย ลูกต้องเกรงและกลัว

ลูกต้องรู้ว่าเกิดมาได้จากผู้ใด


(http://img137.imageshack.us/img137/6318/resizeh.jpg)


น้องหะยี คะ พี่แอ๊ะ ส่งรูปมา ก็น้ำตาซึมค่ะ

ไม่ทราบว่าต่อไป ข้างหน้าลูกจะเป็นอย่างไร แต่วันนี้ลูกทำให้แม่ดีเหลือเกิน

แค่วันนี้ก็ชื่นใจแล้วค่ะ


หัวข้อ: Re: "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: prapasri AH ที่ 29 ธันวาคม 2552, 08:47:17
ทำดี คุณยายก็ให้ของขวัญค่ะ

ตั้งตัวได้เลยล่ะ

(http://img340.imageshack.us/img340/5995/79897759.png)


หัวข้อ: Re: "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: prapasri AH ที่ 29 ธันวาคม 2552, 09:15:46


กับ แม่บ้านตอนลูกอยู่กรุงเทพค่ะ


ลูกจะมีทั้งเพื่อนที่เดินถนน

และเพื่อนที่เป็นชนชั้นสูง

วาวแววแพรวหางอย่างนกยูง

อันฝูงนกแกกาแหงนหน้ามอง

กับคนที่ ด้อยกว่า ลูกอย่าเกลียด

อย่าหยามเหยียดเชิดหน้าท่าผยอง

หากเอื้อได้ ช่วยรับ ประคับประคอง

เพื่อนผองยากจนล้นแผ่นดิน

(http://img136.imageshack.us/img136/9100/tib046resize.jpg)


หัวข้อ: Re: "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: prapasri AH ที่ 29 ธันวาคม 2552, 09:21:59
ศาสตราจารย์เกียรติคุณ ดร.นายแพทย์ มีชัย ศรีใส จากคณะแพทย์จุฬา กล่าวอวยพร

อาจารย์ เป็นปรมาจารย์ทางด้าน กายวิภาคศาตร์ ที่นักศึกษาเเพทย์ทั่วประเทศ ต้องอ่านหนังสือของอาจารย์ค่ะ

อาจารย์เป็นคนยโสธร ที่พวกเรารักเเละเคารพมากค่ะ


(http://img340.imageshack.us/img340/3886/69932491.png)


หัวข้อ: Re: "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: prapasri AH ที่ 29 ธันวาคม 2552, 09:26:04


คูณย่า อู้ด ศาสตราจารย์ ประภาศรี สีหอำไพ ภรรยาศาสตราจารย์ บำรุงสุข สีหอำไพ

ก็มาชื่นชมหลานค่ะ น้องหะยี



(http://img412.imageshack.us/img412/1240/19854958.png)


หัวข้อ: Re: "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: prapasri AH ที่ 29 ธันวาคม 2552, 09:38:50
รูปนี้ ก็สนุกดีนะน้องๆ ขา

(http://img136.imageshack.us/img136/2805/75929751.png)


หัวข้อ: Re: "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: prapasri AH ที่ 29 ธันวาคม 2552, 09:48:06

สมัยเรา เวลาถ่ายรูปรับปริญาเรายืนถ่ายรูปกันอย่างร้อยเรียบ

สมัยนี้ พอช่างภาพบอกให้ทำท่าโน้นท่านี้ ตอนแรกพี่แอ๊ะไม่กล้าทำ อ่ะ

แต่ลูกบอกว่า เขาเล่นกันอย่านี้ค่ะแม่ขา

(http://img340.imageshack.us/img340/4359/73439845.png)


หัวข้อ: Re: "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: iamfrommoon ที่ 29 ธันวาคม 2552, 10:45:37
อ้างถึง
ข้อความของ prapasri AH เมื่อ 28 ธันวาคม 2552, 23:08:16
โอ พระเจ้า

พี่แอ๊ะรีไซซื รูปเองได้แล้วววววววววววววว

ขอโชว์  ไฮโซ อีกรูปนะคะ น้องหะยี ชาวสี ...ไฮโซ อิๆๆๆ

(http://img99.imageshack.us/img99/6199/resizey.jpg)

ภาพนี้ต้อง "กราบสวัสดีท่่านผู้หญิงพี่แอ๊ะเลยนะคะเนี่ย"...

เห็นภาพแล้วอบอุ่น ปลาบปลื้มไปด้วยเลยค่ะ...เคยเจอแม่บ้านพี่แอ๊ะตอนไปสัมภาษณ์พี่ที่บ้าน พี่แอ๊ะมีความกรุณา เมตตากับพี่เขามากเลย อยู่ด้วยมานานมากเลย


หัวข้อ: Re: "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: prapasri AH ที่ 29 ธันวาคม 2552, 10:52:12
อ้างถึง
ข้อความของ iamfrommoon เมื่อ 29 ธันวาคม 2552, 10:45:37
อ้างถึง
ข้อความของ prapasri AH เมื่อ 28 ธันวาคม 2552, 23:08:16
โอ พระเจ้า

พี่แอ๊ะรีไซซื รูปเองได้แล้วววววววววววววว

ขอโชว์  ไฮโซ อีกรูปนะคะ น้องหะยี ชาวสี ...ไฮโซ อิๆๆๆ

(http://img99.imageshack.us/img99/6199/resizey.jpg)

ภาพนี้ต้อง "กราบสวัสดีท่่านผู้หญิงพี่แอ๊ะเลยนะคะเนี่ย"...

เห็นภาพแล้วอบอุ่น ปลาบปลื้มไปด้วยเลยค่ะ...เคยเจอแม่บ้านพี่แอ๊ะตอนไปสัมภาษณ์พี่ที่บ้าน พี่แอ๊ะมีความกรุณา เมตตากับพี่เขามากเลย อยู่ด้วยมานานมากเลย



น้องปุกกี้ ว่าจะไปทำงานแล้ว

แต่เห็นน้องเข้ามาเม้น

แต่งไฮโซอย่างนี้เกรงใจสีแดงจัง แต่ใส่สีส้มค่ะ คือเหลืองกะแดง ผสม กันเป้นสีส้ม (ฮาตึงงงงงงงงง)


หัวข้อ: Re: "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: iamfrommoon ที่ 29 ธันวาคม 2552, 10:59:46
555...ดีเลยค่ะพี่...สมานฉันท์...555

ปีใหม่นี้พี่กลับกทม. หรือ สุราษฯ หรืออยู่ยโสฯ คะพี่ ส่วนน้องอยู่กทม.ค่า


หัวข้อ: Re: "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: พธู ๒๕๒๔ ที่ 29 ธันวาคม 2552, 23:12:24
ได้รับหนังสือ ก.กา และไดอารี่แล้วเอาไว้ใช้ติดตัวเลยขอรับ ด้วยความขอพระคุณยิ่ง


หัวข้อ: Re: "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: prapasri AH ที่ 30 ธันวาคม 2552, 06:00:41
น้องปลาทูแมนคะ

เด่วนี้ คนไทยชายแดน ต้องเรียนหนังสือ ก.ไก่ลาวค่ะ

เพราะต้องทำธุรกรรมกับทางสปป.ลาว ถ้าเราไม่รู้ภาษาของเขาแบบขียนอ่านได้ เราจะติดต่อกะเขาไม่สะดวก

เหมือนเราเขียน หรือ พูดภาษาอังกฤษไม่ได้นั่นแหละค่ะ

ร.พ พี่แอ๊ะที่มุกดาหาร พี่แอ๊ะให้พนักงานเรียนทั้งภาษาอังกฤษและภาษาลาวค่ะ

 แต่ไม่ให้เรียนภาษาฮุนเซนค่ะ55555555555555

รวมทั้งต้องร้องเพลงสองฝั่งโขงให้ได้  

"สายนทีรินหลั่งจากฟ้า  แบ่งพสุธาเป็นซ้ายและขวาสองฝั่ง

หากนำกั้นกลางนันบ่ สำคัญ แต่ความสำพันธ์ของเรามั่นคงเรื่อยมา"


และต้องเต้น บาสะลอฟ ให้ได้ เพราะเป็นวัฒนธรรมของเขา  เหมือนเรา รำวง ของไทย

แต่เขาเต้นจริงจัง เป็นการเต้นที่สวยงามมาก เขายังเต้นกันทุกงานที่เป็นงานมงคลค่ะ

(http://img412.imageshack.us/img412/1411/93742812.jpg)







หัวข้อ: Re: "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: prapasri AH ที่ 30 ธันวาคม 2552, 06:05:46
น้องปุกกี้ขา

พี่แอ๊ะไปไหนไม่ได้ทุกเทศกาลเลยค่ะ เพราะคนไข้มาเยอะมาก

เรียกว่า ปีใหม่ effect  สงกรานต์ effect บั้งไฟ effect ต้องเตรียมความพร้อมทุกเทศกาลค่ะ


หัวข้อ: Re: "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: ทราย 16 ที่ 30 ธันวาคม 2552, 10:30:14
พี่แอ๊ะคะ
โรงหมอ (โรงพยาบาล) ของหมอหาญนี่ดังมากน่ะคะ
คนลาวกล่าวขานถึงมาก โดยเฉพาะที่จำปาสักค่ะ
ฟังแล้วดีใจแทนด้วยค่ะ
ทราย 16
(จากกำแพงนะคอนค่ะ)


หัวข้อ: Re: "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: prapasri AH ที่ 30 ธันวาคม 2552, 14:49:55

แหม๋...น้องทรายหายไปไหนนานจัง

ขอบคุณค่ะ ทางจำปาสัก จะมาหาหมอหาญที่ยโสธร

แต่ทางสะหวันนะเขต จะมาหาร.พ พี่แอ๊ะที่มุกดาหาร

ร.พ พี่แอ๊ะที่ยโสธร เล็กนิดเดียวค่ะ

แต่คนไข้จะมาหา โดยเฉพาะคนจน

เป็นร.พเอกชน ที่รักษาคนจน

แต่ก็ราคายังสูงสำหรับคนจน ในความรู้สึกของคนจน นะคะ

พี่หาญเเกไม่ชอบรักษาคนรวย พี่หาญบอกว่าคนรวยเรื่องมาก และเขามีโอกาสไปหาหมอที่อื่นได้

ตอนนี้ค่อยยังชั่วหน่อย คิดว่ารักษาฟรีเลยทีเดียวเพราะร.พ พี่แอ๊ะเข้าโครงการ30 บาท

และจังหวัดยโสธรเป็นจังหวัดนำร่อง ให้ประชาชนเลือกใช้ร.พ ได้

คนไข้เลยมาหาแบบมืดฟ้ามัวดินเลยทีเดียว

บางทีคนไข้มาเข้าคิว ตั้งแต่ตีสาม


วันก่อนดร.สุรพจน์ วงษใหญ่ คณะแพทย์แผนตะวันออกม.รังสิต ท่านมาเยี่ยม

ท่านบอกว่าร.พนี้แปลกดี คนไข้ที่ไม่เสียเงินได้รับการดูแลดีกว่า คนไข้ที่ต้องเสียเงิน


คือคนไข้จนๆ จะเป็นโรคยากๆ ที่ต้องดูแลกันเป็นอย่างดีค่ะ

แต่สงสารพี่หาญ ต้องผ่าตัด แทบไม่ได้ทานข้าว

วันก่อนพี่หาญกะ ลูก หมอต้นกล้า ผ่า ตัด คนไข้ กันสองคนพ่อลูก 12 cases

จนพี่แอ๊ะบอกพี่หาญว่า ถ้าพี่หาญทำงานหนักอย่างนี้พี่แอ๊ะจะออกจากโครงการ 30บาทแล้วล่ะ

เพราะเด่วหมอตายก่อนคนไข้


คือทีนี่หาหมอยากมาก หมอเขาไม่ชอบมาอยู่กับพี่หาญ

พี่หาญแกมาตรฐานสูงค่ะ


หัวข้อ: Re: "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: ทราย 16 ที่ 30 ธันวาคม 2552, 17:20:00
พี่แอ๊ะ
ตอนนี้มาทำงานให้กับองค์การ FAO (อาหารและเกษตรแห่งสหประชาชาติ)
อยู่ที่ลาวค่ะ มีพื้นที่โครงการนำร่องอยู่ที่ หลวงน้ำทา (เหนือสุด)
บอลิคำไซ (ภาคกลาง) และ เซกอง (ภาคใต้)

เลยมีโอกาสขึ้นๆล่องๆ ตอนเดินสายลงใต้ (เซกอง)
ไปเช่ารถเพื่อลงพื้นที่ทำงาน จึงได้ทราบข้อมูล
ความโด่งดังของโรงหมอ ท่านหมอหาญ
คนลาวเค้าซาบซึ้งประทับใจในบริการที่พูดดีกะเค้า
ถึงแม้ว่าเค้าจะทุกข์หย๊าก (แหล่งข่าวว่าเช่นนั้น)
ผู้ให้ข้อมูลเล่าได้อย่างประทับใจค่ะ
เลยแอบปลื้มแทนพี่แอ๊ะและครอบครัวค่ะ

ปีหม่นี้ ขอให้พี่แอ๊ะและครอบครัวมีความสุข
ความเจริญยิ่งๆขึ้นไปน่ะคะ
ทราย 16


หัวข้อ: Re: "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: swsm ที่ 30 ธันวาคม 2552, 22:20:08
(http://img24.imageshack.us/img24/5125/41118372901da37ddf17.jpg)


สวัสดีวันปีใหม่พา  ให้บรรดาเราท่านรื่นรมย์
ฤกษ์ยามดีเปรมปรีดิ์ชื่นชม  ต่างสุขสมนิยมยินดี

ข้าฯ วิงวอนขอพรจากฟ้า  ให้บรรดาปวงท่านสุขศรี
โปรดประทานพรโดยปรานี  ให้ชาวไทยล้วนมีโชคชัย

ให้บรรดาปวงท่านสุขสันต์  ทุกวันทุกคืนชื่นชมให้สมฤทัย
ให้รุ่งเรืองในวันปีใหม่  ผองชาวไทยจงสวัสดี

ตลอดปีจงมีสุขใจ  ตลอดไปนับแต่บัดนี้
ให้สิ้นทุกข์สุขเกษมเปรมปรีดิ์  สวัสดีวันปีใหม่เทอญ
   



emo6::))

“พรปีใหม่”  เพลงพระราชนิพนธ์
โดยพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ ๙


หัวข้อ: Re: "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: Pantakant Vorakritpongsa ที่ 31 ธันวาคม 2552, 12:32:32


ผมขออำนาจของคุณพระศรีรัตนตรัย และสิ่งศักดิ์สิทธิ์ทั้งหลาย

จงดลบันดาลให้...ท่านพี่แอ๊ะและครอบครัว...และพี่ๆน้องๆ ในเว็ปซีมะโด่งและในทุกๆห้อง ทุกๆรุ่น

จงประสบแต่ความโชคดีวันในปีใหม่ที่จะถึงนี้ครับ emo6::))


หัวข้อ: Re: "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: ตุ๋ย 22 ที่ 31 ธันวาคม 2552, 19:55:56
สวัสดีปีใหม่ครับผม


หัวข้อ: Re: "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: dd_2530 ที่ 01 มกราคม 2553, 20:09:17
กราบสวัสดีปีใหม่ค่ะพี่แอ๊ะ emo43

(http://lh4.ggpht.com/_RKGNMg1jgc0/SzoVYWFw9VI/AAAAAAAAQAk/JoOM_I1zq4Y/s800/ChiangRai%202009-268.JPG])


หัวข้อ: Re: "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: พธู ๒๕๒๔ ที่ 02 มกราคม 2553, 19:52:26

พระราชดำรัส พระราชทานแก่ปวงชนชาวไทย 

ในโอกาสวันขึ้นปีใหม่  ประจำปีพุทธศักราช ๒๕๕๓ 

 
(http://img80.imageshack.us/img80/544/18991230194142.jpg)
ประชาชน ชาวไทยทั้งหลาย  วันนี้จะขึ้นวาระจะขึ้นปีใหม่  ข้าพจ้าขอส่งความปรารถนาดีมาอวยพรแก่ท่านทุก ๆ  คน  ทั้งขอขอบใจท่านเป็นอย่างมาก  ที่วิตก ห่วงใย  แก่การเจ็บป่วยของข้าพเจ้า และแสดงออกโดยประการต่าง ๆ  จากใจจริง  ที่จะให้ข้าพเจ้าหายเจ็บป่วยและมีความสุขสวัสดี

ความ สุขสวัสดีนี้เป็นสิ่งที่พึงปรารถนาอย่างยิ่งของคนเรา แต่จะสำเร็จผลเป็นจริงได้มากน้อยเพียงใด  ต้องขึ้นอยู่กับความสามารถและสติปัญญา  และการประพฤติตัว  ปฏิบัติงานของแต่ละบุคคล   

ในปีใหม่นี้จึงขอให้ชาวไทย ทุกคน  ได้ตั้งจิต ตั้งใจให้เที่ยงตรง  แน่วแน่  ที่จะประพฤติตัว ปฏิบัติงานให้เต็มกำลังความสามารถ โดยมีสติรู้ตัว  และปัญญารู้คิด  กำกับอยู่ตลอดเวลา กล่าวคือ จะคิดจะทำสิ่งใดต้องคิดหน้าคิดหลังให้ดี ให้รอบคอบ ทำให้ดีให้ถูกต้อง ข้อสำคัญจะต้องระลึกรู้โดยตระหนักว่าประโยชน์ส่วนรวมนั้นเป็นประโยชน์ที่แต่ ละคนพึงยึดถือ  เป็นเป้าหมายหลักในการประพฤติตัวและปฏิบัติงาน  เพราะเป็นประโยชน์ที่ยั่งยืนแท้จริง  ซึ่งทุกคนมีส่วนได้รับทั่วถึงกัน   ความสุขความสวัสดีจักได้เกิดมีขึ้นทั้งแก่บุคคล ทั้งแก่ชาติบ้านเมืองไทย ดังที่ทุกคนทุกฝ่ายตั้งใจปรารถนา   

ขออานุภาพแห่งคุณพระศรีรัตนตรัยและสิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่ชาวไทยเคารพบูชา จงอภิบาลรักษาท่านทุกคนให้ปราศจากทุกข์ ปราศจากโรคภัย  ให้มีความสุขกาย สุขใจ  และความสำเร็จสมประสงค์ตลอดศกหน้านี้ โดยทั่วกัน

 -------------------------------------


หัวข้อ: Re: "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: หนุน'21 ที่ 02 มกราคม 2553, 20:33:36

(http://img218.imageshack.us/img218/784/e0b88ae0b988e0b8ade0b88.jpg)


กราบสวัสดีปีใหม่พี่แอ๊ะ พี่หมอหาญครับ



หัวข้อ: Re: "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: Kaimook ที่ 03 มกราคม 2553, 07:42:29
 กราบสวัสดีปีใหม่พี่แอ๊ะและครอบครัวค่ะ ขออำนาจคุณพระศรีรัตนตรัยจงดลบันดาลให้พี่แอ๊ะและครอบครัวจงมี
แต่ความสุขความเจริญด้วยค่ะ emo4:)) emo4:)) emo4:))


หัวข้อ: Re: "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: เหยง 16 ที่ 03 มกราคม 2553, 20:38:53
สวัสดีครับพี่แอ๊ะ

สวัสดีปีใหม่ ทั้งพี่หาญ พี่แอ๊ะ ครอบครัว ตลอดจนบุคคลากรด้วยครับ

ดีใจที่พี่แอ๊ะรีไซซ์ภาพได้แล้ว แถมมีลูกเล่นในภาพที่โพสต์เพิ่มขึ้นด้วย

ผมได้รับของขวัญจากพี่ ซึ่งเป็นหนังสือเรียนภาษาแล้วครับ สนุกมากครับ


หัวข้อ: Re: "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: เหยง 16 ที่ 03 มกราคม 2553, 21:16:26
เพิ่งอ่าน "ไทยโพสต์" มาครับ เห็นว่า สนุก และมีสาระ แถมมุข อีกต่างหากครับ
จนต้องกลับมาเข้าเว็ปเพื่อ copy จาก ไทยโพสต์ออนไลน์ให้อ่านกันเล่นครับ
ข้อความของ ปเลว สีเงิน ครับ

กลเม็ดเผด็จ"เสือ"ในปีเสือ ๒๕๕๓  

                                                   ฯลฯ 
ปีนี้ ปี ๒๕๕๓ เป็นปีขาล เห็นใครต่อใครเขาอธิบายสรรพคุณเสือตัวนี้ไว้น่ากลัว....จนตัวสั่น!

แต่ผมอยากเจอ ถ้าเจอที่ไหน เมื่อไหร่ละก็ จะจับเสือแหกปาก แล้วขูดขี้ฟันโคนเขี้ยวซ้ายมาตำผสมกับไพล เกลือตัวผู้ สารส้มสะตุ
แล้วก็ยาดำ มหาหิงคุ์ด้วยหรือเปล่าก็จำไม่ได้แล้ว ใส่ครกหินโขลกละเอียดได้ที่แล้วตักใส่โถไว้ เอาน้ำผึ้งคั้นจากรวง จากตาเพชราไม่เอานะ
เทใส่ลงไป

ปั้นลูกกลอนเท่าหัว (นิ้วโป้ง) คนกิน ก่อนนอนก็หย่อนกร๊อกไปเม็ดนึง ตื่นเช้าเป็นต้องสะดุ้งผึง ขืนนอนบิดตะกูด ปรู๊ดดดด...ราดคาที่นอนแน่

ตามสิทธิการิยะที่ผีดึกดำบรรพ์มาเข้าฝันบอกไว้ ขี้ฟันเสือจะเป็นชัน ช่วยสมานแผลในกระเพาะ-ลำไส้ เปลี่ยนไขกระดูก และเสริมพละกำลังกินแล้ว
ฟิตปึ๋งปั๋ง พวกที่กินได้ ถ่ายไม่ (ค่อย) ออก เป็นตัวการร่วมทำให้โลกร้อน เนื่องจากปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ปู๊ดป๊าด..ป้าดป้าด..เป็นประจำนั้น

"ขี้ฟันเสือ" ประสิทธิเมนักแล!

แต่ถ้าไม่หาย ถึงเวลา มันก็ตายแล!?

เสือนี่ ผมมีเรื่องจะเล่าให้ฟัง จำเขามาน่ะ จำได้มั่ง-ไม่ได้มั่ง ฟังแล้วทนอ่านอีกก็ได้ ไม่เสียเงิน-เสียทองซักกะหน่อย

ณ ป่าแห่งหนึ่ง ซึ่งไม่รู้ว่าที่ไหน แต่ตามท้องเรื่องบอกไว้ว่า มี ๒ คนตา-ยายอาศัยอยู่ในป่าแห่งนั้น แล้ววันหนึ่ง ตาก็ชวนยายโอบไหล่กันไปเก็บ
เผือก-เก็บมันมาทำเฟรนช์ฟรายด์ไว้เป็นเบรกฟัสต์

ขณะตากะหนุงกะหนิงกะยายเดินกันไปในป่า พลันก็มีเสียงโฮกกกก..ปี๊บบบบ...โฮกกก...โฮกกก...ดังมาจากตำแหน่งใดตำแหน่งหนึ่งจากป่านั้น
ไม่ทันได้รู้ว่าเสียงมาจากตรงไหน แต่สัญชาตญาณบอก ขืนช้า...ไม่ตาก็ยาย หรือไม่ก็ทั้งตา-ทั้งยาย ต้องกลายเป็นอาหารเสือแน่ๆ

ด้วยความกลัว ตัวใคร-ตัวมัน ต่างคนต่างเปลี่ยนจากเกียร์ชรา เป็นเกียร์สุนัขโกย วิ่งกันป่าราบ ไปเจอโพรงไม้ขนาดใหญ่อยู่ริมทาง ตาแสดงบท
สุภาพบุรุษให้ยายประทับใจด้วยการตะโกนบอกว่า

"ยาย..ยาย..รีบมุดเข้าไปก่อน แล้วข้าจะมุดตามเข้าไป"!

เสียงโฮก..โฮก..ไล่กระชั้นเข้ามา ยายได้ยินอย่างนั้น ก็พลันเอาหัวมุดเข้าไปในโพรงไม้ใหญ่ แล้วกระดุ๊บๆๆๆๆ ดันตัวเข้าไป ข้างฝ่ายตารอช้าไม่ได้แน่
ก็รีบดันยายแล้วมุดตามโดยพลัน ยายเข้าไปหลบในโพรงได้ แต่ฝ่ายตามุดและดันตัวเข้าไปได้แค่สะเอวก็ติดแหงก ดิ้นกระด๊อกกระแด๊กก้นโด่งอยู่นอกโพรงไม้

ตายละวา...เสือขยับหนวดยุกยิก ย่างสามขุมเข้ามาแล้ว โอยยยย...เจ้าทุ่ง เจ้าท่า เจ้าป่า เจ้าเขา เจ้าข้าเอ๊ยยย ถ้าไม่ช่วยคราวนี้ลูกช้างมีหวังถูกเสือ
คาบไปทำเนื้อย่างน้ำตก ซกเล็ก ฉลองปีขาลแน่ๆ ฝ่ายตาคงไม่ได้ว่า แต่ผมว่าให้แทนน่ะ

เสือก็ย่อง...ย่อง..เข้ามา ชักสงสัย เอ๊ะ...นี่มันตัวอะไรหว่า ไม่น่าจะใช่ตัวที่เราไล่กวดมานี่นา เพราะที่มันดุ๊กดิ๊กๆ อยู่ปากโพรง ไม่เห็นมีหัว มีตัว มีแต่
ส่วนสะโพกโผล่ออกมาเท่านั้น?

หม่ำได้รึป่าวหว่า....เสือนึกในใจ นึกแล้วก็เก็บเล็บเข้าอุ้งเท้า ค่อยๆ ย่องเข้าไปดม...ดม..ดม...ตามสะโพก ตามแก้มก้น (เหี่ยวๆ) ของตา ดมไปดมมา
ก็ยังไม่รู้ว่ามันคืออะไร ฝ่ายตาซึ่งส่วนหัวผลุบอยู่ข้างในโพรงนั้น เมื่อถูกจมูกและหนวดเสือจิ้มนั่น ดมนี่ ก็ทั้งจั๊กจี้ ทั้งกลัวแทบฉี่พุ่ง จึงขยับก้นหนีเป็น
การใหญ่

เสือชะงัก หอยถ่างออกมา ตั้งท่าคุมเชิงใหม่ ก็พลันเห็นพวงอัณฑะของตาห้อยต่องแต่งอยู่ เอ๊ะ...นี่มันอะไร คลับคล้ายคลับคลา...ว่าแล้วพญาเสือก็
สวมหัวใจพยัคฆ์ ย่างสามขุมเข้าหาพวงปริศนาที่แกว่งท้าทายอำนาจคาตาอยู่

ยื่นจมูกเข้าไปดม...ดม..ดมทางซ้าย แล้วย้ายมาดมทางขวา ดมไป-ดมมาอยู่สามสี่ตลบ พญาเสือก็พลันฮัดดดดเช้ยยยย...ชิชะๆ นึกว่าอะไร ลูกเงาะป่า
นั่นเอง แต่แหม...น่าเสียดาย ยังดิบกินไม่ได้ ฝากเอาไว้ก่อน...ว่าแล้วเสือก็หลบไป

ฝ่ายตารับคลื่นสัญญาณว่าเสือไปแล้วจากส่วนบั้นท้ายที่ไม่มีอะไรสัมผัส ก็ค่อยกระดึ๊บถอยหลังออกจากโพรง จากนั้นก็ช่วยจับขายายลากออกมา
เป็นอันว่าเพราะ "เงาะดิบ" แท้ๆ เชียว ที่ช่วยสองคนตายายรอดจากการตกเป็นอาหารฉลองปีใหม่ของเสือได้หวุดหวิด

ต่อมา หลังจากขวัญตา-ขวัญยายกลับมาอยู่กับเนื้อกับตัวดีแล้ว วันหนึ่ง ตานึกครึ้มชวนยายออกท่องไพร หาเผือก หามัน อาหารป่ามาดินเนอร์ใต้
แสงจันทร์กันอีก ขณะเกี่ยวก้อยแหวกเถาวัลย์ ครวญเพลง "หนุ่มนาข้าว-สาวนาเกลือ" อยู่เพลินๆ ก็พลันสะดุ้งแว็บ

โฮกกกกกก.....ดังมาแต่ราวป่า พญาเสือเจ้าเก่ามาอีกแล้ว (ครับท่าน)!

เสือมันจำได้ว่าเสียงนี้-กลิ่นนี้ ที่หนีรอดไปได้คราวที่แล้ว...คราวนี้ละมึ้งงงง จะไม่ยอมให้เสียชาติเสือปล่อยให้รอดไปได้อีกเป็นอันขาด

ว่าแล้วเสือก็ใส่เกียร์ห้า ฝ่ายตากะยาย อุ๊ย...โว้ย ว้าย ตายกรี๊ด ใส่เกียร์หลวงพ่อโกยวัดหน้าตั้ง เห็นจวนตัว-จวนท่า ไม่รู้จะหนีไปทางไหนรอด
ตาก็คว้าแขนยายวิ่งกันไปทางโพรงไม้เจ้าเก่า แต่ตาเข็ดจนขี้หดตดหาย พวงไข่ก็ยังหด พอถึงโพรงไม้ก็เป็นฝ่ายวิ่งพรวดเข้าไปก่อน

ฝ่ายยายเป็นคนรั้งท้าย เมื่อตาผลุบเข้าไปในโพรงได้ ก็มุดตามเข้าไปติดๆ แต่เข้าไปได้แค่ลำตัว แล้วก็ติดแหงกตรงส่วนสะเอว ดิ้นกระแด่ว..กระแด่ว
ปล่อยส่วนบั้นท้ายไว้ข้างนอก เหมือนอย่างที่ฝ่ายตาเคยอยู่ในท่านี้มาแล้ว

พญาเสือมาถึงพอดี เห็นท่านี้ก็ร้อง...เอ๊ะ..ในใจ นี่มันตัวคล้ายๆ คราวที่แล้วนี่หว่า นึกพลางก็เอาเท้าป่ายหนวดไปมาเป็นการเรียกไฟล์ข้อมูลเก่า
ซักพักก็นึกได้

"อ๋ออออ....ลูกเงาะป่าน่ะเอง!"

ว่าแล้ว พญาเสือก็ไม่รอช้า ไม่ดมก้น ดมสะโพกให้เสียเวลาไปอีก พรวดเข้าไปหมายตรงจุด "พวงเงาะป่า" หวังเต็มปรี่ คราวนี้จะง่ำเสียให้หนำใจ

แต่แล้ว พญาเสือก็ต้องผงะหงาย ตวัดลิ้นปัดป่ายปลายจมูกเป็นการใหญ่ ครางเสียงละห้อยว่า

"ว้าาาา...เงาะแตกซะแล้ว"!?!

แต๊ม..ตะแล้มแต่มแต๊ม...จบครับ...สำหรับนิทานประจำปีขาล เรื่อง "เงาะแตกซะแล้ว" เห็นมั้ยล่ะ ปีนี้-ปีขาล ใครบอกว่าเป็นปีเสือดุ ถึงดุก็ไม่ต้อง
กลัว จะทำอะไรในปี ๒๕๕๓ หรือไปไหน-มาไหน พยายามอิงผู้หญิงเข้าไว้ ถ้าจวนตัวก็ ท่านชายพยายามมุดเข้าไปให้ได้ก่อนแล้วกัน ปล่อยให้
ผู้หญิงเขาแก้ปัญหา เพราะเสือปีนี้ ถึงไม่ใช่เสือผู้หญิง

แต่เป็นเสือ "แพ้ทางผู้หญิง"!?

                                                      ฯลฯ

ฉบับเต็มมีมากกว่านี้ สนุกมากครับ อ่านได้จาก ไทยโพสต์ หรือออนไลน์ที่ http://www.thaipost.net/news/010110/15779


หัวข้อ: Re: "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: ตุ๋ย 22 ที่ 04 มกราคม 2553, 20:07:49
หวัดดีพี่เหยงแวะไปห้อง 16 บ้างดิครับ  คิดถึงจังครับ  หายไปหลายวัน


หัวข้อ: Re: "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: เหยง 16 ที่ 04 มกราคม 2553, 20:20:15
รับทราบครับ ครูตุ๋ย อีกสักพักจะเข้าไปครับ ขอทักทายพี่แอ๊ะ ก่อนครับ


หัวข้อ: Re: "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: prapasri AH ที่ 04 มกราคม 2553, 21:13:57
เหยงเอ๊ยยยยยยยยย

พี่แอ๊ะมัวไปติดเเหงกอยู่ในห้องการเมือง

แถมsign in ไว้ทั้งวันด้วย

ช่วงนี้พี่แอ๊ะมีความสุขกับการresize รูป และฝึกสะเเกน ด้วยค่ะ

พอทำเป็นแล้ว โถของง่ายๆ เราน่าจะทำเป็นตั้งนานแล้ววววววววววววววว

ขอบคุณน้องๆทุกท่านที่ส่งสคส.มาให้พี่แอ๊ะนะคะ

ขอให้ น้องๆมีความสุขมากเช่นกันค่ะ


หัวข้อ: Re: "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: เหยง 16 ที่ 04 มกราคม 2553, 22:23:31
พี่แอ๊ะครับ

ระหว่างฝึก สแกน & รีไซซ์ ภาพ ฟังเพลงไปด้วย เพิ่มบรรยากาศครับ

http://www.youtube.com/watch?v=dDkONIc_uDw


หัวข้อ: Re: "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: เหยง 16 ที่ 04 มกราคม 2553, 22:25:24
แถมอีก 2 เพลงครับ

http://www.youtube.com/watch?v=ykS4TpAuVpI

http://www.youtube.com/watch?v=akOYJsJaNzg


หัวข้อ: Re: "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: ตุ๋ย 22 ที่ 05 มกราคม 2553, 19:44:39
หวัดดีพี่แอ๊ะ  หมดภาระกิจปีใหม่หรือยังครับ


หัวข้อ: Re: "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: พธู ๒๕๒๔ ที่ 07 มกราคม 2553, 22:26:00


ขอนัดคุณหมอหน่อยครับ หมู่นี้ผมหน้ามืดบ่อยๆ
 ไม่รู้มีปัญหาเรื่อง "ความดันหรือเปล่า"

"วันศุกร์หน้าบ่ายสองนะคะ"

"นานยังงั้นเชียวหรือ ขอเป็นวันสองวันนี้ไม่ได้หรือ"

" ไม่ได้จริงๆค่ะ คิวแน่นมากเลยค่ะ ต่อให้มีคนยกเลิกนัด
อย่างมากก็เร็วขึ้นวันสองวันเองค่ะ"

"งั้นนเลยเรอะ... เออ... แล้วนี้ถ้าเกิดผมตายก่อนจะถึงวันนัดจะทำไงดีฮึ"

"กรุณาโทรมาแจ้งด้วยนะคะ จะได้เลื่อนคิวคนข้างหลังมาแทนคุณได้ค่ะ!!!"

จาก teenee.com


หัวข้อ: Re: "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: prapasri AH ที่ 08 มกราคม 2553, 16:14:17
ขอบคุณค่ะน้องครูตุ๋ย

และน้องปลาทูแมน

เราน่าจะขึ้น กระทู้เรื่องสั้นในโรงหมอ สักกระทู้หนึ่งนะ

รับรองท่านผู้ชมตามติดไม่หยุดเเน่ เอิ๊กๆๆๆๆๆ


หัวข้อ: Re: "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: phraisohn ที่ 08 มกราคม 2553, 16:33:09
พี่แอ๊ะครับ ตกลงวีดีโอมันจบลงที่

"จะอยู่ในใจพ่อกับแม่ตลอดไป" หรือเปล่าคับ?
เช็คดูแล้วผมมี 14 พาร์ตครับ (ถ้างั้นก็อัพลงครบแล้วสิ) แหะๆ


หัวข้อ: Re: "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: phraisohn ที่ 08 มกราคม 2553, 16:36:29
วีดีโอพี่กระติ๊บ เริ่มตั้งแต่รีนี้นะครับพี่

http://www.cmadong.com/board/index.php/topic,3396.msg315116.html#msg315116


หัวข้อ: Re: "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: phraisohn ที่ 08 มกราคม 2553, 16:37:36
สวัสดีปีใหม่พี่แอ๊ะ ย้อนหลังด้วยนะครับ
ขออาราธนาสิ่งศักดิ์สิทธิ์ ได้โปรดคุ้มครอง
พี่แอ๊ะและครอบครัวให้อยู่ดี มีแฮง ตลอดปีครับ


หัวข้อ: Re: "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: Kaimook ที่ 08 มกราคม 2553, 23:27:47
อ้างถึง
ข้อความของ เหยง 16 เมื่อ 04 มกราคม 2553, 22:23:31
พี่แอ๊ะครับ

ระหว่างฝึก สแกน & รีไซซ์ ภาพ ฟังเพลงไปด้วย เพิ่มบรรยากาศครับ

http://www.youtube.com/watch?v=dDkONIc_uDw
ฟังเพลงพี่เหยงเพราะมากๆค่ะ


หัวข้อ: Re: "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: ภาณุ ปาตานี ที่ 09 มกราคม 2553, 10:29:33
สวัสดีครับพี่แอ๊ะครับ

ขออนุญาตเข้ามาติดตามเรื่องราวด้วยนะครับ




หัวข้อ: Re: "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: swsm ที่ 09 มกราคม 2553, 10:46:51
VDO น่ารักมากค่ะ  พี่แอ๊ะ


หัวข้อ: Re: "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: prapasri AH ที่ 09 มกราคม 2553, 14:40:18
ขอบคุณมากค่ะน้องหะยีที่กรุณาเข้าไปดู และช่วยเม้น

พี่แอ๊ะเกรงว่าท่านอื่นที่เข้าไปดู เขาจะหาว่าเว่อไป กลัวคนเขาอ๊วก กันน่ะ

แต่ อยากทำให้ลูกค่ะ


หัวข้อ: Re: "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: prapasri AH ที่ 09 มกราคม 2553, 14:57:09
น้องya panuwat
 ดีใจมากค่ะที่น้องเข้ามาคุย

ตอนแรกดูโลโก้น้อง คิดว่า เป็นโจร เอ๊ย เป็น ชาวซาอุดิอารเบีย

แต่เห็นน้องตั้งชื่อ จอมโจร จอมใจ

โอ๊ะ โอ๋... เป็นจอมโจร จอมใจจริ๊ง จริงงงงงงงงงงงงงงงง


หัวข้อ: Re: "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: iamfrommoon ที่ 09 มกราคม 2553, 15:59:54
สวัสดีค่ะพี่แอ๊ะ
วันนี้วันเด็ก ที่รพ.มีจัดวันเด็กมั้ยคะ...วันนี้เฮียเพิ่งพาเด็กปุ๊กกี้ไปกินข้าวและจิบกาแฟอร่อยมาค่ะ


หัวข้อ: Re: "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: ตุ๋ย 22 ที่ 09 มกราคม 2553, 19:37:25
หวัดดีครับพี่แอ๊ะ 


หัวข้อ: Re: "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: prapasri AH ที่ 09 มกราคม 2553, 20:40:36
หวัดดีครูตุ๋ย สุดที่รัก และน้องปุ๊กกี้สุดที่รักด้วยค่ะ

รวมทั้งน้องๆสุดที่รักท่านอื่นๆ ที่พี่แอ๊ะไม่ได้เอ่ย เนม(นาม)หุๆๆๆ

วันนี้ ที่จังหวัดเขาให้พี่แอ๊ะไปร่วมเปิดงานวันเด็กด้วย

แต่พี่แอ๊ะตื่นสาย เลยไม่ได้ปายยยยยยยยยยยยย (เบี้ยว)

ไปร่วมงาน ไม่ได้ไปเป้นประธาน เลยเบี้ยวได้ค่ะ อิๆๆๆๆ


หัวข้อ: Re: "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: prapasri AH ที่ 09 มกราคม 2553, 20:51:00
เหยง
พี่แอ๊ะเคยได้ เห็นอรวี สัจจนนท์ ตัวจริง ด้วยสวยมั๊กๆๆๆเคยไปบ้านพี่แอ๊ะที่สุราษฏร์

เค้ายังโสดนะ สน... มะ 555555555555


หัวข้อ: Re: "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: ภาณุ ปาตานี ที่ 09 มกราคม 2553, 20:59:11
อ้างถึง
ข้อความของ prapasri AH เมื่อ 09 มกราคม 2553, 14:40:18
ขอบคุณมากค่ะน้องหะยีที่กรุณาเข้าไปดู และช่วยเม้น

พี่แอ๊ะเกรงว่าท่านอื่นที่เข้าไปดู เขาจะหาว่าเว่อไป กลัวคนเขาอ๊วก กันน่ะ

แต่ อยากทำให้ลูกค่ะ

ถ้า คนเขาอ๊วก ไม่เมาก็ท้องครับพี่แอ๊ะ

แม่ที่ทำให้ลูก ย่อมประเสริฐเสมอครับ


หัวข้อ: Re: "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: prapasri AH ที่ 09 มกราคม 2553, 21:38:25
ขอบคุณค่ะ น้อง จอมโจร จอมใจ เอ๊ย น้องยา เรียกน้องยา ดีก่านะคะ

ถ้าเรียกจอมโจร จอมใจ พี่แอ๊ะกลัวค่ะ

เมื่อกี้ ดูข่าวชาวมอเเกน เค้าชอบมีนามสกุลเกียวกับทะเล

มีคนหนึ่งนามสกุล น่ารักมาก "หาญทะเล"

พี่แอ๊ะเลยเรียกพี่หาญ ว่า หมอหาญ หาญทะเล

พี่หาญเลยเรียกพี่แอ๊ะว่า คุณประภาศรี หาญทะเล55555555555555555

ดีนะ พี่หาญ เค้ายอมให้ใช้นามสกุลด้วย  555555555555555


เข้ามาบ้านพี่แอ๊ะบ่อยๆนะคะ พี่แอ๊ะจะมีเรื่องสนุกเล่าให้ฟังบ่อยๆค่ะ

นี่เป็นเทคติกให้น้องๆ เข้ามาคุยค่ะ อิๆๆๆๆๆๆ

เด่วพี่ป๋องก็จะริษยา เป็นแน่แท้ (เรา13 ชอบนินทาพี่ป๋องกันค่ะ จึงจะสนุกกกกกกกกกกกกกกก)


หัวข้อ: Re: "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: ภาณุ ปาตานี ที่ 09 มกราคม 2553, 21:49:18
อ้างถึง
ข้อความของ prapasri AH เมื่อ 09 มกราคม 2553, 21:38:25
ขอบคุณค่ะ น้อง จอมโจร จอมใจ เอ๊ย น้องยา เรียกน้องยา ดีก่านะคะ

ถ้าเรียกจอมโจร จอมใจ พี่แอ๊ะกลัวค่ะ

เมื่อกี้ ดูข่าวชาวมอเเกน เค้าชอบมีนามสกุลเกียวกับทะเล

มีคนหนึ่งนามสกุล น่ารักมาก "หาญทะเล"

พี่แอ๊ะเลยเรียกพี่หาญ ว่า หมอหาญ หาญทะเล

พี่หาญเลยเรียกพี่แอ๊ะว่า คุณประภาศรี หาญทะเล55555555555555555

ดีนะ พี่หาญ เค้ายอมให้ใช้นามสกุลด้วย  555555555555555


เข้ามาบ้านพี่แอ๊ะบ่อยๆนะคะ พี่แอ๊ะจะมีเรื่องสนุกเล่าให้ฟังบ่อยๆค่ะ

นี่เป็นเทคติกให้น้องๆ เข้ามาคุยค่ะ อิๆๆๆๆๆๆ

เด่วพี่ป๋องก็จะริษยา เป็นแน่แท้ (เรา13 ชอบนินทาพี่ป๋องกันค่ะ จึงจะสนุกกกกกกกกกกกกกกก)

ห้องนี้มีเสน่ห์ครับ
ผมอ่านจนเหนื่อยเลยครับ เลยข้ามๆ ไปบ้าง
กว่าจะเข้ามา


หัวข้อ: Re: "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: prapasri AH ที่ 09 มกราคม 2553, 22:19:18
พี่แอ๊ะ sign out ออกไปแล้ว มาอ่านน้อง ยาใจ

ชมว่าห้องนี้มี เสน่ห์ เลยต้อง sigh in เข้ามาใหม่

พี่แอ๊ะบ้ายอค่ะ ขอบคุณ ขอบคุณณณณณณณณณณณ

มาเทียวบ้านพี่แอ๊ะบ่อยๆนะคะ จะคอย จะคอย ค่ะ


หัวข้อ: Re: "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: ตุ๋ย 22 ที่ 10 มกราคม 2553, 13:46:36
อ้างถึง
ข้อความของ Ya Panuwat เมื่อ 09 มกราคม 2553, 21:49:18
อ้างถึง
ข้อความของ prapasri AH เมื่อ 09 มกราคม 2553, 21:38:25
ขอบคุณค่ะ น้อง จอมโจร จอมใจ เอ๊ย น้องยา เรียกน้องยา ดีก่านะคะ

ถ้าเรียกจอมโจร จอมใจ พี่แอ๊ะกลัวค่ะ

เมื่อกี้ ดูข่าวชาวมอเเกน เค้าชอบมีนามสกุลเกียวกับทะเล

มีคนหนึ่งนามสกุล น่ารักมาก "หาญทะเล"

พี่แอ๊ะเลยเรียกพี่หาญ ว่า หมอหาญ หาญทะเล

พี่หาญเลยเรียกพี่แอ๊ะว่า คุณประภาศรี หาญทะเล55555555555555555

ดีนะ พี่หาญ เค้ายอมให้ใช้นามสกุลด้วย  555555555555555


เข้ามาบ้านพี่แอ๊ะบ่อยๆนะคะ พี่แอ๊ะจะมีเรื่องสนุกเล่าให้ฟังบ่อยๆค่ะ

นี่เป็นเทคติกให้น้องๆ เข้ามาคุยค่ะ อิๆๆๆๆๆๆ

เด่วพี่ป๋องก็จะริษยา เป็นแน่แท้ (เรา13 ชอบนินทาพี่ป๋องกันค่ะ จึงจะสนุกกกกกกกกกกกกกกก)

ห้องนี้มีเสน่ห์ครับ
ผมอ่านจนเหนื่อยเลยครับ เลยข้ามๆ ไปบ้าง
กว่าจะเข้ามา
จริงพี่อแ๊ะผมยืนยันว่ามีเสน่หื  แต่ผมโพสต์ไปไม่เป็นเลยครับ  เพราะพี่แอ๊ะช่างทักทาย  และอธิบายความได้ยอดเยี่ยม


หัวข้อ: Re: "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: prapasri AH ที่ 10 มกราคม 2553, 20:08:45
หวัดดี ครูตุ๋ย ขา

วันก่อนโน้นพี่แอ๊ะไปนั่งรับฟัง คำเเนะนำของ สมศ. ที่มาประเมินร.ร กีฬาของอบจ.ยโส

ยังคิดถึงน้องครูตุ๋ยเลยค่ะว่า ร.ร ของน้องต้องเข้ารับการประเมินหรือเปล่าคะ





หัวข้อ: Re: "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: jamsai ที่ 11 มกราคม 2553, 16:13:59
เพิ่งไปดู VTR ที่พี่แอ๊ะทำให้หมอกระติ๊บ
หลายภาพและเสียง ทำให้ตารื้นๆ ตันๆ ในอก
พี่แอ๊ะสร้างนิยามความรักของแม่ได้ประทับใจมากกกกกกก
จนต้องกลับมาถามตัวเอง... เอ๊ะ...เราัรักลูกได้เ่ท่านี้หรือเปล่า

พี่แอ๊ะขา ต้องขอยินดีและชื่นชมกับครอบครัวของพี่จริงๆ
พลอยปลื้มและมีความสุขไปด้วย
ครอบครัวนี้ทำบุญอะไรกันมาหนอ

สวัสดีปีใหม่ค่ะ



หัวข้อ: Re: "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: ตุ๋ย 22 ที่ 11 มกราคม 2553, 19:48:42
อ้างถึง
ข้อความของ prapasri AH เมื่อ 10 มกราคม 2553, 20:08:45
หวัดดี ครูตุ๋ย ขา

วันก่อนโน้นพี่แอ๊ะไปนั่งรับฟัง คำเเนะนำของ สมศ. ที่มาประเมินร.ร กีฬาของอบจ.ยโส

ยังคิดถึงน้องครูตุ๋ยเลยค่ะว่า ร.ร ของน้องต้องเข้ารับการประเมินหรือเปล่าคะ




โรงเรียนผมเข้ารับการประเมินจากสมศ.  สองรอบแล้วครับ  ผ่านฉลุยทั้งสองรอบเลยครับ


หัวข้อ: Re: "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: prapasri AH ที่ 11 มกราคม 2553, 20:20:01
ดีใจด้วยกะน้องตุ๋ย นะคะ การเข้ารับการประเมินจะทำให้เรา ผู้บริหารทำงานได้ง่ายขึ้น

เหมือนกับการ ทำพัฒนาคุณภาพของโรงพยาบาล นั่นแหละค่ะ

อ.แจ่มคะ วันนี้คิดถึงอาจารย์มากๆ ที่จริงคิดถึงมาหลายวันแล้ว ช่วยบอก email อาจารย์มาทางpm ให้พี่แอ๊ะด้วยนะคะ

อยากคุยด้วยมากๆคืนนี้ถ้ามีเวลา จะพยามอีเมล์ หาถ้าไม่ได้เมล์ ก็คงต้องเป็นพรุ่งนี้ กลางคืนค่ะ

กลางวัน พรุ่งนี้จะมีงานยุ่งทั้งวันค่ะ


หัวข้อ: Re: "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: ภาณุ ปาตานี ที่ 11 มกราคม 2553, 20:47:23
พี่แอ๊ะครับ

ผมไม่เคยได้ยินวิธีการพูดของพี่แอ๊ะนะครับ
แต่เวลาอ่านจะมีความรู้สึกเหมือนกับพูดไปเรื่อยๆ
แต่กระชับและชัดเจน และเห็นภาพนะครับ







หัวข้อ: Re: "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: swsm ที่ 11 มกราคม 2553, 20:56:30
สวัสดีค่า  พี่แอ๊ะ Hi-So คนสวย     emo9:huhu:


หัวข้อ: Re: "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: พธู ๒๕๒๔ ที่ 11 มกราคม 2553, 23:50:07
(http://img509.imageshack.us/img509/3113/82760headline.jpg)

บุญจวน กับ สายรุจี แต่งงานกันมายี่สิบปีแล้ว คนทั้งสองต่างทำงานมีตำแหน่งสูงและมีรายได้ดี บุญจวนเป็นคนนุ่มนวลพูดจามีเหตุมีผลและเอาอกเอาใจเก่ง ยิ่งเขาดีกับภรรยาของเขามากเท่าใดสายรุจีก็ยิ่งรู้สึกหึงหวงเขามากเท่านั้น คืนหนึ่งก่อนนอน

สายรุจี : ถ้าสมมติฉันเกิดตายกระทันหันขึ้นมา คุณจะแต่งงานกับผู้หญิงคนใหม่หรือเปล่า ?

บุญจวน : โอ๊ย ถามอะไรอย่างนี้มันเป็นไปไม่ได้หรอก คุณก็รู้ว่าผมรักคุณ อย่ามาแกล้งหลอกถามผมเลย

สายรุจี : ไม่ได้แกล้งหลอกถาม แต่อยากรู้จริงๆ

บุญจวน : อืม์.. ถ้าเป็นอย่างนั้นผมคงจะต้องแต่ง เพราะตามเหตุและผลแล้วผมเพิ่งจะมีอายุ 45 เท่านั้นเอง

สายรุจี : แล้วคุณจะให้หล่อนอยู่บ้านของเราหลังนี้หรือเปล่า ?

บุญจวน : ก็คงจะต้องอยู่เพราะบ้านหลังนี้เราผ่อนจนจะหมดอยู่แล้ว คุณคงไม่คิดให้ผมไปสร้างภาระใหม่
ไม่ใช่หรอ ?

สายรุจี : แล้วคุณจะให้หล่อนใส่แหวนเพชรสีชมพูจากเดอเบียร์วงนั้นของฉันหรือเปล่า ?

บุญจวน : ก็คงต้องใส่ เพราะคุณคงไม่ให้ผมขายมันทิ้งด้วยราคาที่ขาดทุนใช่ไหม ?

สายรุจี : แล้วคุณจะให้หล่อนใช้รถเมอร์ซีเดสเบนซ์สปอร์ตคันนั้นของฉันด้วย หรือเปล่า ?

บุญจวน : โอ้ ไม่แน่นอน เพราะหล่อนไม่ชอบขับรถเกียร์กระปุกน่ะ

 

จาก teenee


หัวข้อ: Re: "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: หนุน'21 ที่ 12 มกราคม 2553, 07:33:48
เข้ามาสวัสดีพี่แอ๊ะครับ
น้องๆมาชมแบบอย่างของความรักความอบอุ่น
เชื่อว่ากลับออกไปด้วยความสุขทุกคนครับพี่

 emo6::))


หัวข้อ: Re: "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: พธู ๒๕๒๔ ที่ 12 มกราคม 2553, 16:22:19
พีแอ๊ะครับ
มีคนทาบทามผมไปเป็นที่ปรึกษาการพัฒนาโรงพยาบาล อบจ.ภูเก็ต ด้านประสานงานราชการและมวลชน ความจริงผมไม่ค่อยรู้เรื่องโรงพยาบาลเท่าไร รู้แต่เรื่อง พยาบาลเป็นหลัก ถ้าจะไปแอบดูงานหรือคำปรึกษาการบริหารงานของพี่บ้างจะได้ไหมครับ เพราะโรงพยาบาลแห่งนี้ตั้งใจบริหารงานแบบเอกชนโดยรัฐเป็นเจ้าของครับ ต้องการให้ได้มาตรฐาน HA ด้วยครับ


หัวข้อ: Re: "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: ดร.มนตรี ที่ 12 มกราคม 2553, 17:07:42
อ้างถึง
ข้อความของ prapasri AH เมื่อ 04 มกราคม 2553, 21:13:57
เหยงเอ๊ยยยยยยยยย

พี่แอ๊ะมัวไปติดเเหงกอยู่ในห้องการเมือง

แถมsign in ไว้ทั้งวันด้วย

ช่วงนี้พี่แอ๊ะมีความสุขกับการresize รูป และฝึกสะเเกน ด้วยค่ะ

พอทำเป็นแล้ว โถของง่ายๆ เราน่าจะทำเป็นตั้งนานแล้ววววววววววววววว

ขอบคุณน้องๆทุกท่านที่ส่งสคส.มาให้พี่แอ๊ะนะคะ

ขอให้ น้องๆมีความสุขมากเช่นกันค่ะ

มาสวัสดีปีใหม่พี่แอ๊ะ ด้วยคนครับ


ปล.


ผมก็หลงเสน่ห์ห้องการเมืองเหมือนกันครับ ... ^_^


แต่พอมาอ่านห้องพี่แอ๊ะ ... ก็เริ่มหลงเสน่ห์ห้องนี้อีกแล้ว   emo4:))


หัวข้อ: Re: "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: prapasri AH ที่ 12 มกราคม 2553, 19:44:44
ขอบคุณน้องดร.มนตรีค่ะ

ที่มาเเวะเยี่ยมพี่แอ๊ะ

 ยังจำภาพตัวโตๆของน้องดร.มนตรีได้ ตอนเจอกัน

แต่ดูจากรูป  logo ตัวเล็กนิดเดียวววววววววววว


หัวข้อ: Re: "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: prapasri AH ที่ 12 มกราคม 2553, 19:49:45
อ้างถึง
ข้อความของ patooman24 เมื่อ 12 มกราคม 2553, 16:22:19
พีแอ๊ะครับ
มีคนทาบทามผมไปเป็นที่ปรึกษาการพัฒนาโรงพยาบาล อบจ.ภูเก็ต ด้านประสานงานราชการและมวลชน ความจริงผมไม่ค่อยรู้เรื่องโรงพยาบาลเท่าไร รู้แต่เรื่อง พยาบาลเป็นหลัก ถ้าจะไปแอบดูงานหรือคำปรึกษาการบริหารงานของพี่บ้างจะได้ไหมครับ เพราะโรงพยาบาลแห่งนี้ตั้งใจบริหารงานแบบเอกชนโดยรัฐเป็นเจ้าของครับ ต้องการให้ได้มาตรฐาน HA ด้วยครับ

น้องปลาทูแมนคะ โรงพยาบาลแห่งนี้แต่เดิมน่าจะเป็นโรงพยาบาลพญาไท ภูเก็ต ตอนหลังไม่work
อบจ.ภูเก็ตเลยไปซื้อมาทำเป็นร.พ ของอบจ.ค่ะ


ยินดีเป็นอย่างยิ่ง ที่จะเป็นที่ปรึกษา ของที่ปรึกษา ปลามทูแมนค่ะ สงสัยอะรายยยยยยย

ปรึกษามาได้เลย แฮะๆๆๆ ไม่ค่อยรู้เรื่องอะไรมากหรอกค่ะ ทำไปวันๆแบบสนุกๆค่ะ อยู่กับเวบหอมากกว่าอยู่กับร.พ 555555555555


หัวข้อ: Re: "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: prapasri AH ที่ 12 มกราคม 2553, 19:50:56
ข่าวดีค่ะ น้องปลาทูแมน

พี่อ้อย14 โทรมาชมว่าน้องปลาทูแมน น่ารั๊ก น่ารั๊กกกกกกกกกกกกกกก


หัวข้อ: Re: "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: prapasri AH ที่ 12 มกราคม 2553, 19:58:30

พี่แอ๊ะเป็นปลื้มค่ะ หนุ่มแก่แม่หม้าย เอ๊ย สาวแก่แม่หม้าย ติดใจหลงเสน่ห๋ พี่แอ๊ะทั้งนั้นเลยค่ะ  

emo43
อ้างถึง
ข้อความของ หนุน'21 เมื่อ 12 มกราคม 2553, 07:33:48
เข้ามาสวัสดีพี่แอ๊ะครับ
น้องๆมาชมแบบอย่างของความรักความอบอุ่น
เชื่อว่ากลับออกไปด้วยความสุขทุกคนครับพี่

 emo6::))
อ้างถึง
ข้อความของ Ya เมื่อ 11 มกราคม 2553, 20:47:23
พี่แอ๊ะครับ

ผมไม่เคยได้ยินวิธีการพูดของพี่แอ๊ะนะครับ
แต่เวลาอ่านจะมีความรู้สึกเหมือนกับพูดไปเรื่อยๆ
แต่กระชับและชัดเจน และเห็นภาพนะครับ







 มาเจอตัวจิงแล้วจะติ๊ดจายยยยยยยยยยยยยย


หัวข้อ: Re: "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: prapasri AH ที่ 12 มกราคม 2553, 20:11:13
อ้างถึง
ข้อความของ swsm เมื่อ 11 มกราคม 2553, 20:56:30
สวัสดีค่า  พี่แอ๊ะ Hi-So คนสวย     emo9:huhu:

ขอบคุณค่ะ น้องไฮโซ สี..... คนสวยกว่าพี่แอ๊ะ อิๆๆๆ


หัวข้อ: Re: "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: ดร.มนตรี ที่ 12 มกราคม 2553, 20:18:07
อ้างถึง
ข้อความของ prapasri AH เมื่อ 12 มกราคม 2553, 19:44:44
ขอบคุณน้องดร.มนตรีค่ะ

ที่มาเเวะเยี่ยมพี่แอ๊ะ

 ยังจำภาพตัวโตๆของน้องดร.มนตรีได้ ตอนเจอกัน

แต่ดูจากรูป  logo ตัวเล็กนิดเดียวววววววววววว

มารายงานตัว ... พร้อมกับพี่หนุน พี่ชายสุดที่รัก ครับ  สูงกันคนละกว่า 176 cm ^_^

(http://img13.imageshack.us/img13/2630/dsc08363resizeresizeres.jpg)

http://img13.imageshack.us/img13/2630/dsc08363resizeresizeres.jpg

http://img13.imageshack.us/img13/2630/dsc08363resizeresizeres.jpg


หัวข้อ: Re: "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: ดร.มนตรี ที่ 12 มกราคม 2553, 20:21:43
คืนนั้น เจอพี่ยา  จอมโจรปล้นใจ ... (ปล้นหัวใจผม ที่ห้องการเมือง ^_^ )


ท่านทักประมาณ... เมื่อก่อนตัวนิดเดียว เดี๋ยวนี้ทำไม ตัวใหญ่ขึ้นเยอะ
   emo20:)):)


หัวข้อ: Re: "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: ดร.มนตรี ที่ 12 มกราคม 2553, 20:24:35
แต่ตัวจริง ของพี่แอ๊ะ ที่ผมเคยเจอ ... ในกระทู้ว่าใจดีแล้ว แต่ตัวจริงดูใจดี เหมือนคุณครูอนุบาลเลยนะครับ


ชอบตอนพี่แอ๊ะ เจออดีต เด็กนร.สมัยออกค่าย จัง  ครับ ^_^


หัวข้อ: Re: "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: prapasri AH ที่ 12 มกราคม 2553, 20:57:37
อ้างถึง
ข้อความของ ดร.มนตรี เมื่อ 12 มกราคม 2553, 20:18:07
อ้างถึง
ข้อความของ prapasri AH เมื่อ 12 มกราคม 2553, 19:44:44
ขอบคุณน้องดร.มนตรีค่ะ

ที่มาเเวะเยี่ยมพี่แอ๊ะ

 ยังจำภาพตัวโตๆของน้องดร.มนตรีได้ ตอนเจอกัน

แต่ดูจากรูป  logo ตัวเล็กนิดเดียวววววววววววว

มารายงานตัว ... พร้อมกับพี่หนุน พี่ชายสุดที่รัก ครับ  สูงกันคนละกว่า 176 cm ^_^

(http://img13.imageshack.us/img13/2630/dsc08363resizeresizeres.jpg)

http://img13.imageshack.us/img13/2630/dsc08363resizeresizeres.jpg

http://img13.imageshack.us/img13/2630/dsc08363resizeresizeres.jpg
ตายยยยยยยยยจริงน้องหนุน 21 ไม่เหมือน ตอนใส่สูทเลยนะ ใส่สูท สุดดดดดดดดหล่อเลยค่ะ
โชว์รูปใส่สูทหน่อยนะคะ
น้องมนตรีหน้าตาคล้ายๆน้องวีรพงส์ ประสงค์จีน ที่อยู่อังกฤษเลยค่ะ


หัวข้อ: Re: "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: yyswim ที่ 13 มกราคม 2553, 00:32:07
(http://img515.imageshack.us/img515/9913/img1497resize.jpg)

(http://img519.imageshack.us/img519/337/img8336resize.jpg)


ถึง น้องแอ๊ะ..

น้องแอ๊ะไปฝากรูปไว้บ้านพี่ปิ้ง พี่ปิ้งใจดี พี่ปิ้งไม่โกรธ มังครับ

พี่นภชอบมาก ถึงชอบมากที่สุดเลย เจอรูปรับปริญญามา ครั้งนี้ ดูรูปแล้ว โอ๊ย ซึ้ง โอ๊ย น่าร้ากกก มากมาย

บรรยากาศแบบที่กำลังถ่าย  อุ อุ อยากเห็น

คุณแม่ของน้องแอ๊ะคงจะยิ้ม อารมณ์ดี สบายใจ


แล้วไปเลี้ยงฉลองที่บ้านใครล่ะเนี่ย หรือแวะไปภัตตาคารกัน

เห็นรูปคุณแม่แล้ว คิดถึงมาก


รูปหมอหาญ ดี ..รูปน้องแอ๊ะงาม สวย ท่าทางก็ดูเหมาะกับบรรยากาศ

กรอบรูปทำจากลูกโป่ง สวยนะ ใครหน๊อ ช่างทำให้รุ่นพี่ได้ถ่ายรูป

น้องแอ๊ะไม่ถ่ายเดี่ยวเอาไว้บ้างเหรอ?  สีสันลูกโป่งแจ่มดี



หากจะนำรูปของน้องแอ๊ะ ไปหย่อนไว้ในกระทู้ รุ่น11 บ้าง ผมก็จะขออ้าแขนรับนะน้องแอ๊ะ

อยากให้กระทู้ รุ่น 11 มีคนสวยประดับบ้าง เริ่มจะแห้ง เริ่มจะขาดความชุ่มชื้น อิ อิ



หัวข้อ: Re: "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: iamfrommoon ที่ 13 มกราคม 2553, 08:21:49
สวัสดีค่ะพี่แอ๊ะ พี่ยา พี่มนตรี พี่หยี พี่ตุ๋ย และพี่ๆ ทุกคน...

เช้านี้หมอกลงแต่เช้าเลย ยโสเป็นจังได๋คะเอื้อย...เสาร์น้องจะใส่ขนตาปลอมไปเชียร์บอลกับกลุ่มพี่หยีค่ะ อิอิ


หัวข้อ: Re: "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: prapasri AH ที่ 13 มกราคม 2553, 18:59:21
หนาวนิดหน่อยค่ะน้องปุ๊กกี้ คนสวยพี่แอ๊ะต้องใส่เสื้อหนาวตอนเช้า

แต่วันนี้เย็นทั้งวัน ไม่ต้องเปิดเเอร์ตอนบ่าย

รายงานจากรมอุตุนิยมวิทยา ยโส ค่า


หัวข้อ: Re: "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: ตุ๋ย 22 ที่ 13 มกราคม 2553, 19:11:54
หนองบัวลำภูก้หนาวครับพี่แอ๊ะ  ต้องเอาเสื้อกันหนาวมาใส่


หัวข้อ: Re: "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: Soponเท่านั้น ที่ 13 มกราคม 2553, 21:29:35
สวัสดีครับพี่แอ๊ะ และพี่น้องท่านอื่น

จะขอเชิญชวนพี่น้องชาวเตรียมอุดมไปร่วมงาน

คืนสู่เหย้า ชาว ต.อ. ครั้งที่ ๒๘
"รัก ต.อ. ขอจงอยู่ยืนนาน"
วันศุกร์ที่ ๕ กุมภาพันธ์ ๒๕๕๓
เวลา ๑๗.๐๐ - ๒๒.๐๐ น.
ณ สนามฟุตบอล โรงเรียนเตรียมอุดมศึกษา

เพื่อความรวดเร็วในการเข้าสู่งาน ท่านที่มีบัตรแล้ว หรือจะซื้อบัตรหน้างาน สามารถลงทะเบียนได้ที่นี่ http://www.triamudom-alumni.com/main/ (http://www.triamudom-alumni.com/main/)
สำหรับนักเรียนปัจจุบัน
ม.4=รุ่น 72 | ม.5=รุ่น 71 | ม.6=รุ่น 70

 emo28:win:สำหรับพี่แอ๊ะ ปีนี้รุ่น31ของพี่แอ๊ะเป็นเจ้าภาพ และเป็นรุ่นที่รับผิดชอบกิจกรรมของสมาคมนักเรียนเก่าเตรียมอุดมฯทั้งหมด เป็นเวลา1ป๊
นายกสมาคมคือ พี่ชัยวัฒน์ อุทัยวรรณ์ MD ธ.นครหลวงไทย
อุปนายกฯก็เช่น ดร.สิริกร มณีรินทร์ ฯลฯ ส่วนประธานจัดงานคือ ศ.วุฒิชัย กบิลกาญจน์ อธิการฯม.เกษตร
 emo30:sorry:เรียนเชิญพี่แอ๊ะและพี่น้องท่านอื่น เช่น พี่หลิว พี่ตา-พนัส พี่หมอโอภาส พี่ชรินทร์-สว. กวางดำ ฯลฯมาร่วมงานกันเยอะๆนะครับ




หัวข้อ: Re: "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: ภาณุ ปาตานี ที่ 14 มกราคม 2553, 17:34:33
อ้างถึง
ข้อความของ prapasri AH เมื่อ 13 มกราคม 2553, 18:59:21
หนาวนิดหน่อยค่ะน้องปุ๊กกี้ คนสวยพี่แอ๊ะต้องใส่เสื้อหนาวตอนเช้า

 

หมายถึงใครคือคนสวยครับ



หัวข้อ: Re: "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: เหยง 16 ที่ 16 มกราคม 2553, 08:28:09
สวัสดีตอนเช้าของวันเสาร์ที่ 16 มกราคม 2553 ซึ่งเป็นวันแข่งบอลประเพณี จุฬา-ธรรมศาสตร์ ครั้งที่ 66

อย่าลืมไปร่วมเชียร์บอลทั้งที่สนามศุภฯ โรงไฟฟ้าบางปะกง และเชียร์หน้าจอ ที วี ที่บ้านตัวเองครับ


หัวข้อ: Re: "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: prapasri AH ที่ 16 มกราคม 2553, 08:35:46
Nong ya and nong yang

p.ah is on the way to surat and will come back this evening ans will go to bangpakong ka, now p'ah is in tg lounge ka. bye


หัวข้อ: Re: "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: swsm ที่ 16 มกราคม 2553, 11:38:52
พัทยา สัตหีบ ร้อนจนผิวแทบไหม้ค่ะ .. พี่น้อง

สวัสดีค่ะพี่แอ๊ะ  คนสวยตัวจริง เสียงจริง ของน้อง ๆ ๆ 


หัวข้อ: Re: "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: พธู ๒๕๒๔ ที่ 16 มกราคม 2553, 16:44:18


สุนีย์ : ฉันล่ะเบื่อผัวของฉันจริง ๆ เลยยัยแป๋ว

แป๋ว : ผัวเธอไปทำอะไรอีกเหรอยัยสุ

สุนีย์ : ไม่รู้ว่าไปทำทุเรศอะไรที่ไหน ตกกลางคืนเก็บมาละเมอด้วย

แป๋ว : ละเมอถึงผู้หญิงคนนั้นเหรอ

สุนีย์ : ไม่รู้..แต่ฉันได้ยินเต็มสองรูหูว่า..อย่าสิ สุ..อย่าโอว..ซี้ดส์

แป๋ว : โถคิดมากไปได้ เขาคงฝันถึงเรื่องอย่างว่ากับเธอนั่นแหละยัยสุ

สุนีย์ : แต่ไอ้คนที่เขาละเมอพูดออกมามันไม่ใช่ชื่อสุนีย์นี่ย่ะ

แป๋ว : งั้นคงชื่อสุมาลี หรือว่าสุวิมลล่ะสิ

สุนีย์ : แต่มันตะโกนสุดเสียงอีตอนไคลแมกซ์ว่า “โอว..สุริยันต์” นี่ยะ มันเจ็บใจจริงๆ

 

จาก teenee


หัวข้อ: Re: "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: พธู ๒๕๒๔ ที่ 16 มกราคม 2553, 16:46:34


นาย แพทย์ไพจิตร์ วราชิต ปลัดกระทรวงสาธารณสุข เปิดเผยว่า ปัจจุบันกระแสแฟชั่นใส่ขนตาปลอมกำลังเป็นที่นิยม โดยการสิ่งนำแปลกปลอมวัสดุต่าง ๆ มาติดที่ขนตา นับว่าเสี่ยงอันตรายต่อนัยน์ตา เป็นตัวทำลายดวงตาทางอ้อม เนื่องจาก อาจทำให้เกิดสิ่งสกปรกมาสะสมบริเวณหนังตา และหากเก็บรักษาขนตาปลอมไม่ ถูกวิธี ไม่สะอาด เมื่อนำมาติดที่ขอบตาซึ่งติดกับขนตา จึงมีโอกาสที่เชื้อโรคจะเข้าสู่ดวงตา อาจก่อเกิดอาการแพ้ระคายเคือง อักเสบ มีโอกาสเสี่ยงถึงขั้นตาบอดได้

  "อยาก เตือนให้ผู้ที่ติดขนตาปลอมอยู่ ให้ระมัดระวัง เนื่องจากขนตาของคนเรา มีความสำคัญอย่างมากต่อดวงตา มีหน้าที่ป้องกันอันตรายที่จะเกิดกับดวงตา เช่น ป้องกันฝุ่นผง ฝุ่นละออง และเหงื่อไม่ให้ไหลเข้าสู่ดวงตา" นายแพทย์ไพจิตร์ กล่าว   

  ขณะ ที่ นายแพทย์ฐาปนวงศ์ ตั้งอุไรวรรณ จักษุแพทย์ประจำโรงพยาบาลพระนั่งเกล้า ระบุว่า โดยทั่วไป คนเราจะมีขนตาบนมากกว่าขนตาล่าง โดยขนตาบนมีประมาณ 120 เส้น ขนตาข้างล่างมีประมาณ 80 เส้น ที่โคนขนตาแต่ละเส้น จะมีต่อมไขมันและต่อมเหงื่อช่วยผลิตไขมันและน้ำไปหล่อเลี้ยงดวงตา เพื่อเคลือบกระจกตาให้ชุ่มชื้น ทำให้ดวงตาไม่แห้ง หากไม่ทะนุถนอมดวงตา โดยเฉพาะเวลาที่ต้องติดขนตาปลอมและ ขณะดึงออก กาวที่ติดขนตาอาจจะทำให้ขนตาจริงหลุดติดมาด้วย ยิ่งทำบ่อยครั้งจะยิ่งสร้างความกระทบกระเทือนต่อขนตา ขนตาก็จะหลุดร่วง หรือเปราะบาง หักง่ายและไม่แข็งแรง ส่งผลถึงการทำลายดวงตาของตัวเองได้

  นายแพทย์ฐาปนวงศ์ กล่าวต่ออีกว่า ขนตาปลอมที่ไม่สะอาดหรือเก็บรักษาไม่ดี หรือเป็นขนตาปลอมที่ ผลิตจากบริษัทที่ไม่ได้มาตรฐาน หากนำมาใช้แล้วหลุดเข้าไปทิ่มตาดำ อาจทำให้ตาดำเกิดการติดเชื้อและอักเสบตามมา  มีโอกาสเสี่ยงตาบอดได้ และหากกาวติดขนตาปลอมที่ไม่มีคุณภาพเข้าตา ก็จะมีปฏิกิริยาต่อดวงตา ทำให้เกิดอาการแพ้ ระคายเคือง ตาอักเสบได้เช่นกัน       

  "สำหรับผู้ที่ชอบติดขนตาปลอม ต้องระวังอย่างมากเรื่องความสะอาด ไม่ควรใช้ขนตาปลอมร่วมกับคนอื่น หรือไม่ควรติดขนตาปลอมติดต่อกันนาน ๆ ควรหยุดพักบ้าง ประการสำคัญหากมีอาการแพ้หรืออักเสบหลังติดขนตาปลอม เช่น เกิดผื่นแดง มีตุ่มหนองใส อักเสบ บวม แสบหรือระคายเคือง ต้องรีบปรึกษาจักษุแพทย์ทันที ส่วนการถนอมขนตาให้แข็งแรง ไม่หลุดร่วง มีหลายวิธี เช่น กินอาหารที่มีกรดโฟลิค ซึ่งมีในตับ ผักใบเขียว ยีสต์ซึ่งมีในขนมปังและนมเปรี้ยว  และธาตุสังกะสีซึ่งมีในหอยนางรม ตับ เนื้อ ถั่ว ธัญพืช อาหารทะเล และไข่ เป็นต้น" นายแพทย์ฐาปนวงศ์ กล่าว

 

ข้อมูลจาก เดลินิวส์


หัวข้อ: Re: "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: เหยง 16 ที่ 16 มกราคม 2553, 20:34:22
ชมภาพบรรยากาศในงานและภาพล้อการเมือง วีดีโอ และบทความ หลังเสมอกัน 0 : 0

ฟุตบอลประเพณีจุฬา-ธรรมศาสตร์ ฮือฮา!!พาเหรดล้อการเมือง

(http://img205.imageshack.us/img205/5401/cuball.jpg)

                    (http://img218.imageshack.us/img218/4835/tuball.jpg)

http://www.manager.co.th/Home/ViewNews.aspx?NewsID=9530000006588



หัวข้อ: Re: "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: Kaimook ที่ 16 มกราคม 2553, 22:15:58
อ้างถึง
ข้อความของ prapasri AH เมื่อ 16 มกราคม 2553, 08:35:46
Nong ya and nong yang

p.ah is on the way to surat and will come back this evening ans will go to bangpakong ka, now p'ah is in tg lounge ka. bye
พี่แอ๊ะขราาา...สุดยอดจริงๆค่ะไป surat วันเดียวกลับ


หัวข้อ: Re: "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: ตุ๋ย 22 ที่ 16 มกราคม 2553, 22:52:44
สวัสดีครับพี่แอ๊ะ


หัวข้อ: Re: "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: เหยง 16 ที่ 17 มกราคม 2553, 07:50:32
เพิ่มเติมกับสีสันในงานบอลประเพณีครับ

ละลานตา 'เชียร์ลีดเดอร์' จุฬาฯ-ธรรมศาสตร์  

           (http://img211.imageshack.us/img211/1751/cheer1.jpg)

           (http://img211.imageshack.us/img211/5278/cheer2m.jpg)

อ่านและชม 12 ภาพใน   http://www.manager.co.th/Sport/ViewNews.aspx?NewsID=9530000006614



หัวข้อ: Re: "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: เหยง 16 ที่ 17 มกราคม 2553, 12:11:04
งานฟุตบอลประเพณีจุฬา-ธรรมศาสตร์ มีไฮไลท์อยู่ที่ขบวนพาเหรดล้อการเมือง  ที่ทำมาจนเป็นธรรมเนียมปฏิบัติ
งานฟุตบอลประเพณีจุฬา-ธรรมศาสตร์ ครั้งที่ 66 ก็เช่นกันไม่เปลี่ยแปลง
จะล้อโดนใครบ้าง ?? !! ชมภาพและอ่านได้ใน

ประมวลภาพขบวนพาเหรดล้อการเมืองฟุตบอลประเพณีจุฬา-ธรรมศาสตร์ ครั้งที่ 66  

http://www.matichon.co.th/news_detail.php?newsid=1263644243&grpid=01&catid=


หัวข้อ: Re: "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: เหยง 16 ที่ 17 มกราคม 2553, 13:09:56
ก่อนจะซื้อ "สังฆทานสำเร็จรูป" ทำบุญครั้งต่อไป ...ลองแวะอ่านก่อน มีไอเดียดีๆ มาแนะนำ !!!


"การทำบุญ คือ การสละอย่างฉลาด ไม่ใช่การซื้ออย่างตะบี้ตะบัน"

เมื่อเราจะทำบุญกันทั้งที อยากให้มีสติกันสักนิด หากจะเลือกการทำทานที่เรียกว่า "สังฆทาน" ขอให้ช่วยพิจารณาชุดสังฆทานและชุดไทยธรรม
ที่เราไปลองหาซื้อกันมาจำนวน 15 ชุดเสียก่อน แล้วค่อยลองดูว่า ถ้าจะถวายสังฆทานครั้งต่อไป จะยังเลือกซื้อสังฆทานสำเร็จรูปกันอีกหรือไม่
 
จากการสำรวจชุดสังฆทานสำเร็จรูป ที่ซื้อมาพบว่า สิ่งของส่วนใหญ่ประกอบด้วย 5 หมวดหลัก ได้แก่

1.ภาชนะบรรจุ ส่วนใหญ่มักเป็นถังพลาสติดสีเหลือง กล่อง ตะกร้าพลาสติก กล่องกระดาษ แต่ที่แนวที่สุดในการสำรวจคือ ย่ามพระ
2. ผลิตภัณฑ์อาหาร ได้แก่ ใบชา เครื่องดื่มขิง เครื่องสมุนไพร น้ำดื่ม น้ำรสผลไม้ เครื่องดื่มมอลต์ นมพร้อมดื่ม นมถั่วเหลือง นมข้นหวาน บะหมี่กึ่งสำเร็จรูป ปลากระป๋อง ข้าวสาร ขนมอบ กาแฟและครีมเทียม
3. ผลิตภัณฑ์เครื่องใช้ ได้แก่ สบู่ กล่องสบู่ ขัน แก้วน้ำ ถาด ตะกร้า ไม้ขีดไฟ แปรงสีฟัน ไม้จิ้มฟัน ผ้าขนหนู มีโกน เข็มด้าย ธูปเทียน กระดาษทิชชู กรรไกรตัดเล็บ แหนบ ผงซักฟอก ก้านสำลี สมุด ปากกา ยากันยุง น้ำยาล้างจาน ฟองน้ำล้างจาน ร่ม ผ้าขนหนูขนาดเล็ก
4. ยารักษาโรค ได้แก่ ยาหอม ยาอม ยาหม่อง ยาลดกรดในกระเพาะ ยาธาตุน้ำแดง ยาแก้ปวดลดไข้
5. เครื่องไช้สำหรับพระ ได้แก่ ผ้าอาบน้ำ ผ้าอังสะ ผ้ากราบ

ข้าวของเครื่องใช้ข้างต้น ซึ่งสำรวจเมื่อปลายปี 2552 พบว่าแทบไม่แตกต่างจากการสำรวจเมื่อปี 2546 จึงขอเสนอทางเลือกให้จัดสังฆทาน
กันเอง เพราะข้าวของส่วนใหญ่ในสังฆทานสำเร็จรูป พระไม่ค่อยได้ใช้หรือมักเป็นของไม่มีคุณภาพ รวมไปถึงพวกถังเหลือง กล่องสบู่และขันน้ำ
ที่ถูกนำไปกองทับถมอยู่ล้นวัด

เพราะจากการลองนำรายการสินค้าข้างต้นไปสำรวจสอบถามความเห็นจากพระสงฆ์ พบว่า  
มีแต่ของที่ไม่จำเป็นและมีประโยชน์น้อย โดย 10 อันดับรายการสินค้าที่ไม่จำเป็นที่สุด คือ


1. ใบชา   เพราะพระไม่ค่อยฉันท์แล้ว ควรเปลี่ยนเป็นน้ำผลไม้แท้ (ไม่ใช่น้ำรสผลไม้) เนื่องจากมีประโยชน์ต่อสุขภาพและไม่หวานเกินไป
2. ขิงผงสำเร็จรูป  เป็นเครื่องดื่มที่ไม่ค่อยนิยม แค่คนกลับชอบถวาย
3. ยาจุดกันยุง  สำหรับพระเมืองสินค้านี้ไม่ใช่สิ่งจำเป็น ขณะที่อาจจำเป็นสำหรับพระป่า
4. นมข้นหวาน  เพราะพระไม่ทราบว่าจะได้ใช้ตอนไหน เนื่องจากถือว่าเป็นอาหาร ไม่สามารถฉันท์ได้หลังเวลาเพล
5. กาแฟ  เพราะพระไม่ทราบว่าจะได้ฉันท์ตอนไหนเช่นกัน

6. ถัง กล่องสบู่ ขวดน้ำ ขัน  เพราะมีล้นวัด
7. บะหมี่กึ่งสำเร็จรูป  ถือเป็นของไม่มีประโยชน์ นอกจากนี้ พระฉันท์เพียง 2 มื้อเท่านั้น และมักหมดสภาพตั้งแต่อยู่ในถังสังฆทานแล้ว
8. น้ำดื่มบรรจุขวด  เพราะมีสภาพไม่น่าดื่ม และแต่ละวัดมีระบะน้ำดื่มที่ดีกว่า
9. ขนมอบ  เพราะไม่ดีต่อสุขภาพ
10. ธูปเทียน ไม้ขีดไฟ  เพราะมีจำนวนมากเกินไปและอยู่ในสภาพไม่เหมาะกับการใช้งาน

ขณะที่สิ่งของ 10 อันดับที่ควรถวายในชุดสังฆทาน แต่เรานึกไม่ถึง ได้แก่

1. ยาสระผม  แค่คงไม่ถึงขั้นต้องถวายครีมนวดด้วย เพราะพระใช้เพียงเพื่อให้โกนศรีษะได้ง่ายขึ้น และยังใช้ดูแลหนังศรีษะบ้างเท่านั้น
2. มีดโกน เพราะเป็นของจำเป็น พระต้องใช้บ่อยแต่ไม่ค่อยมีคนถวาย
3. เครื่องครัว  เช่น จาน กระทะ หม้อ ช้อน แก้วน้ำที่คุณภาพดี เพราะแม้พระไม่ได้ใช่เอง แต่ชาวบ้านที่มาจัดงานบุญจะได้ใช้เสมอ
4. อุปกรณ์งานช่าง เช่น ค้อน ตะปู ไขควง สว่าน  เพราะพระ โดยเฉพาะพระนอกเมืองคิดว่าเป็นสิ่งจำเป็น เพราะสามารถนำไปดูแลศาสนสถานภายในวัดได้
5. อุปกรณ์ทำความสะอาด  เช่น ไม้กวาด ไม้ถูพื้น ไม้กวาดทางมะพร้าว ที่โกยขยะ เพราะจำเป็นต่อการรักษาความสะอาดภายในวัด
6. ข้าวสารและอาหารแห้ง  แต่สินค้าที่ถูกบรรจุในสังฆทานมักไม่ได้คุณภาพ แต่หากเราเลือกของคุณภาพดี พระสามารถรวมไปบริจาคหรือดูแลคนด้อยโอกาสที่วัดอุปการะอยู่ได้
7. เครื่องเขียน  เช่น สมุด ปากกา ดินสอ เพราะพระสามารถทำไปใช้ประโยชน์ในกิจการงานบุญได้
8. หนังสือธรรมะ  หนังสือดูแลสุขภาพกายและใจ หนังสือที่น่าสนใจต่างๆ
9. สบง จีวร ผ้าอาบน้ำ แต่ควรเลือกที่มีคุณภาพดี แม้ราคาจะแพง  เพราะสามารถใช้ประโยชน์ได้หลายปี อนึ่งการเลือกสี ขนาดและเนื้อผ้าควรศึกษาก่อนซื้อ เพราะแต่ละวัดมีระเบียบในการครองผ้าแตกต่างกัน
10. ยารักษาโรค ควรเลือกแบบที่คุณภาพดี พร้อมกับคู่มือการใช้งาน

**********************
 
ที่มา นิตยสาร "ฉลาดซื้อ" ฉบับที่ 105 เขียนโดย กองบรรณาธิการ
(ติดต่อ "ฉลาดซื้อ" ได้ที่ มูลนิธิเพื่อผู้บริโภค 4/2 ซ.วัฒนโยธิน แขวงถนนพญาไท เขตราชเทวี กรุงเทพมหานคร 10400 โทรศัพท์ 0-2248-3734-7 โทรสาร 0-2248-3733 อีเมล webmaster@consumerthai.org)


http://www.matichon.co.th/news_detail.php?newsid=1263629480&grpid=01&catid=


หัวข้อ: Re: "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: swsm ที่ 17 มกราคม 2553, 13:52:55
สวัสดีค่ะ ..      emo48:)


หัวข้อ: Re: "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: เหยง 16 ที่ 17 มกราคม 2553, 15:00:23
สวัสดีตอนบ่าย หะยี

ไม่ทราบว่าพี่แอ๊ะไปร่วมเชียร์บอลที่โรงไฟฟ้าบางปะกง และไปสวนสัตว์เขาเขียวในวันนี้หรือเปล่า??


หัวข้อ: Re: "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: เหยง 16 ที่ 17 มกราคม 2553, 21:49:41
ชุดสุดท้ายครับ สำหรับงานบอลล์ประเพณีปีนี้

                          สีสันสุดจี๊ดแบบเต็มๆ กลางสนามงานบอล '66

                (http://img297.imageshack.us/img297/5015/cusheer2.jpg)   

http://www.manager.co.th/Campus/ViewNews.aspx?NewsID=9530000006800


หัวข้อ: Re: "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: หนุน'21 ที่ 18 มกราคม 2553, 15:08:48
เข้ามาสวัสดีครับพี่แอ๊ะ
ช่วงนี้ไม่ค่อยได้เข้ามาติดตามข่าวสารเลยครับ
แต่เข้ามาที...ก็อบอุ่นครับห้องนี้

(http://img215.imageshack.us/img215/9923/imgp2065.jpg)

พี่แอ๊ะครับผมไปทำงานที่หาดใหญ่
น้องเจตน์ RCU'34 พาหลานมาเยี่ยมลุงหนุนที่โรงแรม
เลยเอารูปมาฝากท่านป้าแอ๊ะด้วยครับ


 emo42


หัวข้อ: Re: "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: ดร.มนตรี ที่ 18 มกราคม 2553, 16:00:16
อ้างถึง
ข้อความของ หนุน'21 เมื่อ 18 มกราคม 2553, 15:08:48
เข้ามาสวัสดีครับพี่แอ๊ะ
ช่วงนี้ไม่ค่อยได้เข้ามาติดตามข่าวสารเลยครับ
แต่เข้ามาที...ก็อบอุ่นครับห้องนี้

(http://img215.imageshack.us/img215/9923/imgp2065.jpg)

พี่แอ๊ะครับผมไปทำงานที่หาดใหญ่
น้องเจตน์ RCU'34 พาหลานมาเยี่ยมลุงหนุนที่โรงแรม
เลยเอารูปมาฝากท่านป้าแอ๊ะด้วยครับ


 emo42


หลานพรู ... โหงวเฮ้ง ดีเยี่ยม  ^_^


หัวข้อ: Re: "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: เหยง 16 ที่ 18 มกราคม 2553, 21:14:53
ชุดสุดท้ายจริงๆ 18 ภาพที่มีสีสันแปลกตาและสนุกสนานของงานบอลล์ประเพณี ครั้งที่ 66

เก็บตกงานบอล 66 : สวย เริ่ด เชิด แปลก!!  

                 (http://img403.imageshack.us/img403/6228/cusheer3.jpg)

http://www.manager.co.th/Campus/ViewNews.aspx?NewsID=9530000007142



หัวข้อ: Re: "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: Kaimook ที่ 18 มกราคม 2553, 23:39:13
อ้างถึง
ข้อความของ หนุน'21 เมื่อ 18 มกราคม 2553, 15:08:48
เข้ามาสวัสดีครับพี่แอ๊ะ
ช่วงนี้ไม่ค่อยได้เข้ามาติดตามข่าวสารเลยครับ
แต่เข้ามาที...ก็อบอุ่นครับห้องนี้

(http://img215.imageshack.us/img215/9923/imgp2065.jpg)

พี่แอ๊ะครับผมไปทำงานที่หาดใหญ่
น้องเจตน์ RCU'34 พาหลานมาเยี่ยมลุงหนุนที่โรงแรม
เลยเอารูปมาฝากท่านป้าแอ๊ะด้วยครับ


 emo42
น้องพรู น่ารักจังค่ะโตเร็วนะคะ หล่อเหมือนคุณพ่อไหมคะน้องเจตน์


หัวข้อ: Re: "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: Kaimook ที่ 18 มกราคม 2553, 23:41:25
อ้างถึง
ข้อความของ เหยง 16 เมื่อ 17 มกราคม 2553, 13:09:56
ก่อนจะซื้อ "สังฆทานสำเร็จรูป" ทำบุญครั้งต่อไป ...ลองแวะอ่านก่อน มีไอเดียดีๆ มาแนะนำ !!!


"การทำบุญ คือ การสละอย่างฉลาด ไม่ใช่การซื้ออย่างตะบี้ตะบัน"

เมื่อเราจะทำบุญกันทั้งที อยากให้มีสติกันสักนิด หากจะเลือกการทำทานที่เรียกว่า "สังฆทาน" ขอให้ช่วยพิจารณาชุดสังฆทานและชุดไทยธรรม
ที่เราไปลองหาซื้อกันมาจำนวน 15 ชุดเสียก่อน แล้วค่อยลองดูว่า ถ้าจะถวายสังฆทานครั้งต่อไป จะยังเลือกซื้อสังฆทานสำเร็จรูปกันอีกหรือไม่
 
จากการสำรวจชุดสังฆทานสำเร็จรูป ที่ซื้อมาพบว่า สิ่งของส่วนใหญ่ประกอบด้วย 5 หมวดหลัก ได้แก่

1.ภาชนะบรรจุ ส่วนใหญ่มักเป็นถังพลาสติดสีเหลือง กล่อง ตะกร้าพลาสติก กล่องกระดาษ แต่ที่แนวที่สุดในการสำรวจคือ ย่ามพระ
2. ผลิตภัณฑ์อาหาร ได้แก่ ใบชา เครื่องดื่มขิง เครื่องสมุนไพร น้ำดื่ม น้ำรสผลไม้ เครื่องดื่มมอลต์ นมพร้อมดื่ม นมถั่วเหลือง นมข้นหวาน บะหมี่กึ่งสำเร็จรูป ปลากระป๋อง ข้าวสาร ขนมอบ กาแฟและครีมเทียม
3. ผลิตภัณฑ์เครื่องใช้ ได้แก่ สบู่ กล่องสบู่ ขัน แก้วน้ำ ถาด ตะกร้า ไม้ขีดไฟ แปรงสีฟัน ไม้จิ้มฟัน ผ้าขนหนู มีโกน เข็มด้าย ธูปเทียน กระดาษทิชชู กรรไกรตัดเล็บ แหนบ ผงซักฟอก ก้านสำลี สมุด ปากกา ยากันยุง น้ำยาล้างจาน ฟองน้ำล้างจาน ร่ม ผ้าขนหนูขนาดเล็ก
4. ยารักษาโรค ได้แก่ ยาหอม ยาอม ยาหม่อง ยาลดกรดในกระเพาะ ยาธาตุน้ำแดง ยาแก้ปวดลดไข้
5. เครื่องไช้สำหรับพระ ได้แก่ ผ้าอาบน้ำ ผ้าอังสะ ผ้ากราบ

ข้าวของเครื่องใช้ข้างต้น ซึ่งสำรวจเมื่อปลายปี 2552 พบว่าแทบไม่แตกต่างจากการสำรวจเมื่อปี 2546 จึงขอเสนอทางเลือกให้จัดสังฆทาน
กันเอง เพราะข้าวของส่วนใหญ่ในสังฆทานสำเร็จรูป พระไม่ค่อยได้ใช้หรือมักเป็นของไม่มีคุณภาพ รวมไปถึงพวกถังเหลือง กล่องสบู่และขันน้ำ
ที่ถูกนำไปกองทับถมอยู่ล้นวัด

เพราะจากการลองนำรายการสินค้าข้างต้นไปสำรวจสอบถามความเห็นจากพระสงฆ์ พบว่า  
มีแต่ของที่ไม่จำเป็นและมีประโยชน์น้อย โดย 10 อันดับรายการสินค้าที่ไม่จำเป็นที่สุด คือ


1. ใบชา   เพราะพระไม่ค่อยฉันท์แล้ว ควรเปลี่ยนเป็นน้ำผลไม้แท้ (ไม่ใช่น้ำรสผลไม้) เนื่องจากมีประโยชน์ต่อสุขภาพและไม่หวานเกินไป
2. ขิงผงสำเร็จรูป  เป็นเครื่องดื่มที่ไม่ค่อยนิยม แค่คนกลับชอบถวาย
3. ยาจุดกันยุง  สำหรับพระเมืองสินค้านี้ไม่ใช่สิ่งจำเป็น ขณะที่อาจจำเป็นสำหรับพระป่า
4. นมข้นหวาน  เพราะพระไม่ทราบว่าจะได้ใช้ตอนไหน เนื่องจากถือว่าเป็นอาหาร ไม่สามารถฉันท์ได้หลังเวลาเพล
5. กาแฟ  เพราะพระไม่ทราบว่าจะได้ฉันท์ตอนไหนเช่นกัน

6. ถัง กล่องสบู่ ขวดน้ำ ขัน  เพราะมีล้นวัด
7. บะหมี่กึ่งสำเร็จรูป  ถือเป็นของไม่มีประโยชน์ นอกจากนี้ พระฉันท์เพียง 2 มื้อเท่านั้น และมักหมดสภาพตั้งแต่อยู่ในถังสังฆทานแล้ว
8. น้ำดื่มบรรจุขวด  เพราะมีสภาพไม่น่าดื่ม และแต่ละวัดมีระบะน้ำดื่มที่ดีกว่า
9. ขนมอบ  เพราะไม่ดีต่อสุขภาพ
10. ธูปเทียน ไม้ขีดไฟ  เพราะมีจำนวนมากเกินไปและอยู่ในสภาพไม่เหมาะกับการใช้งาน

ขณะที่สิ่งของ 10 อันดับที่ควรถวายในชุดสังฆทาน แต่เรานึกไม่ถึง ได้แก่

1. ยาสระผม  แค่คงไม่ถึงขั้นต้องถวายครีมนวดด้วย เพราะพระใช้เพียงเพื่อให้โกนศรีษะได้ง่ายขึ้น และยังใช้ดูแลหนังศรีษะบ้างเท่านั้น
2. มีดโกน เพราะเป็นของจำเป็น พระต้องใช้บ่อยแต่ไม่ค่อยมีคนถวาย
3. เครื่องครัว  เช่น จาน กระทะ หม้อ ช้อน แก้วน้ำที่คุณภาพดี เพราะแม้พระไม่ได้ใช่เอง แต่ชาวบ้านที่มาจัดงานบุญจะได้ใช้เสมอ
4. อุปกรณ์งานช่าง เช่น ค้อน ตะปู ไขควง สว่าน  เพราะพระ โดยเฉพาะพระนอกเมืองคิดว่าเป็นสิ่งจำเป็น เพราะสามารถนำไปดูแลศาสนสถานภายในวัดได้
5. อุปกรณ์ทำความสะอาด  เช่น ไม้กวาด ไม้ถูพื้น ไม้กวาดทางมะพร้าว ที่โกยขยะ เพราะจำเป็นต่อการรักษาความสะอาดภายในวัด
6. ข้าวสารและอาหารแห้ง  แต่สินค้าที่ถูกบรรจุในสังฆทานมักไม่ได้คุณภาพ แต่หากเราเลือกของคุณภาพดี พระสามารถรวมไปบริจาคหรือดูแลคนด้อยโอกาสที่วัดอุปการะอยู่ได้
7. เครื่องเขียน  เช่น สมุด ปากกา ดินสอ เพราะพระสามารถทำไปใช้ประโยชน์ในกิจการงานบุญได้
8. หนังสือธรรมะ  หนังสือดูแลสุขภาพกายและใจ หนังสือที่น่าสนใจต่างๆ
9. สบง จีวร ผ้าอาบน้ำ แต่ควรเลือกที่มีคุณภาพดี แม้ราคาจะแพง  เพราะสามารถใช้ประโยชน์ได้หลายปี อนึ่งการเลือกสี ขนาดและเนื้อผ้าควรศึกษาก่อนซื้อ เพราะแต่ละวัดมีระเบียบในการครองผ้าแตกต่างกัน
10. ยารักษาโรค ควรเลือกแบบที่คุณภาพดี พร้อมกับคู่มือการใช้งาน

**********************
 
ที่มา นิตยสาร "ฉลาดซื้อ" ฉบับที่ 105 เขียนโดย กองบรรณาธิการ
(ติดต่อ "ฉลาดซื้อ" ได้ที่ มูลนิธิเพื่อผู้บริโภค 4/2 ซ.วัฒนโยธิน แขวงถนนพญาไท เขตราชเทวี กรุงเทพมหานคร 10400 โทรศัพท์ 0-2248-3734-7 โทรสาร 0-2248-3733 อีเมล webmaster@consumerthai.org)


http://www.matichon.co.th/news_detail.php?newsid=1263629480&grpid=01&catid=
ขอบคุณค่ะพี่เหยง คราวต่อไปจะถวายสังฆทานต้องดูดีดีค่ะ


หัวข้อ: Re: "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: เหยง 16 ที่ 20 มกราคม 2553, 17:41:01
นำภาพที่พี่แอ๊ะร่วมกิจกรรมเชียร์ที่โรงไฟฟ้าบางปะกง ชุดแรก มาโพสต์ให้ชมครับ

(http://img233.imageshack.us/img233/7750/3015aq.jpg)


(http://img233.imageshack.us/img233/886/g016a.jpg)


(http://img233.imageshack.us/img233/8959/img4340t.jpg)


(http://img233.imageshack.us/img233/8752/img4388y.jpg)


(http://img199.imageshack.us/img199/3038/img4399x.jpg)


(http://img130.imageshack.us/img130/5624/img4427h.jpg)



หัวข้อ: Re: "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: prapasri AH ที่ 20 มกราคม 2553, 21:40:41
น้องหนุนคะ

หลานน้องเจตน์ หน้าตาคล้ายๆคุณทักษิน ตอนเด็กๆ เลยค่ะ ดร.มนตรี ถึงบอกว่า โหงวเฮ้งดี555555
(คงเข้าห้องการเมืองบ่อยๆ เห็นเด็กๆก็นึกถึงพระเอกยอดนิยมเลยทีเดียว อิๆๆๆๆๆ)

น้องไข่มุกคะ คืนนี้ พี่แอ๊ะต้องนอนคิดว่าเวลาทำสังฆทานจะให้อะไรพระจึงจะดี

พี่แอ๊ะว่า ถวายพระเป็นเงินน่าจะดีที่สุด พระท่านจะได้ให้ลูกศิษย์ไปช่วยจัดการให้ได้

ว่าแต่ พระบางรูปท่านไม่รับเงิน ใช่ไหมคะ

พี่แอ๊ะไม่ค่อยชำนาญเรื่องพระเลย อ่ะ (ชำนาญแต่เรื่องแม่ชี อิๆๆๆ)


หัวข้อ: Re: "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: prapasri AH ที่ 20 มกราคม 2553, 21:46:37
ดูรูปจากกล้องพี่แอ๊ะมั่งนะคะ เด่วนี้พี่แอ๊ะฝึก มีกล้องของตัวเองแล้ว

คยมีแต่ไม่สนใจเลยหายหมดค่ะต่อไปนี้จะกอดให้เเข็งเลย จะได้ถ่ายรูปทุกเวลามาอวดน้องๆ อิๆๆๆ555555)

อ้อย14 พาไปซื้อก่อนเดินทางไปบางปะกง1วัน ซื้อ spect เหมียนกันเป๊ะ เพราะถ้าใช้ไม่เป็นจะได้โทรถามอ้อยยยยยยยยยยยยยยยยย14ค่า

เอารูปตัวเอง ก่อนนะ ใครก็ไม่ทราบ

ถ่ายให้แต่ไม่ชัดค่ะ

(http://img233.imageshack.us/img233/3572/dsc00022kw.jpg)


หัวข้อ: Re: "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: prapasri AH ที่ 20 มกราคม 2553, 21:47:47
 สาวๆ แก่ๆ เชียร์ ดารา

(http://img228.imageshack.us/img228/5330/dsc00014cx.jpg)


หัวข้อ: Re: "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: prapasri AH ที่ 20 มกราคม 2553, 21:51:31
เหยงจ๋า แต่ละรูปสวย สู้ รูปที่เหยงส่งมาไม่ได้เลย

แม้ว่าเหยงเล่นทางลัด ไม่ไปแต่มีรูปสวยๆๆๆๆๆๆๆๆ มาโพสต์ ทั้งน้านนนนนนนนนนนน

พี่แจ๋ว พิมลรัตน์ เอนกพงษ์ นามสกุลสามีเค้าพี่แอ๊ะไม่ได้จำค่ะ

เจอกะน้องรูมเมท คุณนายท่านผู้ว่าประชา พี่แจ๋วเป็นปลื้มมมมมมมมมมมมม

(http://img532.imageshack.us/img532/9189/dsc00027a.jpg)


หัวข้อ: Re: "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: prapasri AH ที่ 20 มกราคม 2553, 21:56:14
สาวๆ ชาวเขา เก่งจริ๊ง จริงๆๆๆ

อายุลดไปเหลือ 20 ปี หรือดูแล้วก็ 15 หยกๆ 16 หย่อนๆ

(http://img233.imageshack.us/img233/2920/dsc00038no.jpg)


หัวข้อ: Re: "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: prapasri AH ที่ 20 มกราคม 2553, 21:58:44
น้องน้อยหน่า พรรณปรียา 14 ถ้า พบ ที่อื่นไม่มีทางจำได้เลยยยยยยยยยยยยยค่ะ

น้องเขาจบอักษร

(http://img503.imageshack.us/img503/5792/dsc00048e.jpg)


หัวข้อ: Re: "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: prapasri AH ที่ 20 มกราคม 2553, 22:01:28
คนงามประจำรุ่น 20


คนอะไร สสวยตลอดปี ถึงมีลูก 4 (หรือ2)
เธอก็ยังสวยยยย

(http://img503.imageshack.us/img503/3131/dsc00051e.jpg)

รูปไม่ซัด ขออภัยมือใหม่หัดขับค่ะ


หัวข้อ: Re: "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: หนุน'21 ที่ 20 มกราคม 2553, 22:10:47
สวัสดีพี่แอ๊ะตอนดึกๆครับ
เข้ามาชมรายงานเชียร์บอลมหาสนุก
ได้บรรยากาศจริงๆครับ

แต่รูปข้างบนนี้บิ๊กบึ้ม มากครับ
ล้นจออย่างมาก
สงสัยต้องลดขนาดแล้วมั๊งครับพี่


 emo6::))


หัวข้อ: Re: "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: prapasri AH ที่ 20 มกราคม 2553, 22:14:21
ส่งรูปลูกชาย หมอเพลย์บอย มาอวดฟามหล่อ ให้พี่ นภ พะ-สิน ดีใจ กับหลาน คนนี้นะคะ

พี่นภ จะมากระทู้นี้หรือเปล่าหนออออออออ

ขอไปนอนก่อนนะคะ พี่หาญแกหนีไปนอนอีกแล้วววววววววววว

(http://img233.imageshack.us/img233/6847/dsc00060resize.jpg)


หัวข้อ: Re: "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: prapasri AH ที่ 20 มกราคม 2553, 22:21:21
สงสัยแผ่นดินไหว ค่ะน้องหนุน รูปเลยออกมา แตกกระจาย เลย เอาออกไปก่อน พรุ่งนี้จะมารีไซซ์ใหม่ค่ะ

ลูกชาย พี่แอ๊ะน่ารักไหมคะ  พี่แอ๊ะหลงลูกตัวเองค่ะ

เป็นหมอเพลย์บอย ตอนนี้ค่อยดีขึ้นหน่อย มามี้โทรไปทีไร " ต้าอยู่บนวอร์ดครับแม่"


เสียดายจังน้องหนุนไม่ได้ไปเลยไม่ได้เจอกัน

พี่แอ๊ะมีเรื่องให้หัวเราะในความเปิ่นของพี่แอ๊ะอย่างมหาศาล

คือขึ้นเครื่องผิดวัน นั่งไปกลับสุราษฎร์  กลับมาทันงานในบัดดล

แล้วติดตามฟังพี่แอ๊ะเล่าด้วยใจระทึกโดยพลัน นะคะ

คืนนี้ขอ good nite ก่อนค่ะ ฝันดีนะคะน้องหนุน


หัวข้อ: Re: "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: เหยง 16 ที่ 21 มกราคม 2553, 11:55:04
สวัสดีวันใหม่ครับ พี่แอ๊ะ

ภาพมาจาก ห้อง ซีมะโด่งสัญจรเชียร์บอลที่โรงไฟฟ้าบางปะกง  เริ่มหน้าที่ 7 ครับ ภาพมากมาย


โดยคลิ๊กไปที่นี้เลย  http://www.cmadong.com/board/index.php/topic,4496.150.html



หัวข้อ: Re: "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: wannee ที่ 22 มกราคม 2553, 07:56:46


สวัสดีค่ะพี่แอ๊ะ 13   emo6::))


หัวข้อ: Re: "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: หนุน'21 ที่ 22 มกราคม 2553, 08:05:39
อ้างถึง
ข้อความของ prapasri AH เมื่อ 20 มกราคม 2553, 22:21:21
สงสัยแผ่นดินไหว ค่ะน้องหนุน รูปเลยออกมา แตกกระจาย เลย เอาออกไปก่อน พรุ่งนี้จะมารีไซซ์ใหม่ค่ะ

ลูกชาย พี่แอ๊ะน่ารักไหมคะ  พี่แอ๊ะหลงลูกตัวเองค่ะ

เป็นหมอเพลย์บอย ตอนนี้ค่อยดีขึ้นหน่อย มามี้โทรไปทีไร " ต้าอยู่บนวอร์ดครับแม่"


เสียดายจังน้องหนุนไม่ได้ไปเลยไม่ได้เจอกัน

พี่แอ๊ะมีเรื่องให้หัวเราะในความเปิ่นของพี่แอ๊ะอย่างมหาศาล

คือขึ้นเครื่องผิดวัน นั่งไปกลับสุราษฎร์  กลับมาทันงานในบัดดล

แล้วติดตามฟังพี่แอ๊ะเล่าด้วยใจระทึกโดยพลัน นะคะ

คืนนี้ขอ good nite ก่อนค่ะ ฝันดีนะคะน้องหนุน


สวัสดีตอนสายๆครับพี่แอ๊ะ พี่เหยง และพี่หมอเสียด

ผมว่าน้องหมอต้า ต้องเป็นที่กรื๊ดกร๊าดด ของพยาบาลและคนไข้สาวๆอย่างมากแน่เลยครับ
อย่างนี้พี่แอ๊ะไม่ห่วงน้องหมอแย่รึครับ

มารอฟังเรื่องเล่าจากพี่แอ๊ะครับ





หัวข้อ: Re: "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: Soponเท่านั้น ที่ 22 มกราคม 2553, 21:26:36
อ้างถึง
ข้อความของ prapasri AH เมื่อ 20 มกราคม 2553, 22:01:28
คนงามประจำรุ่น 20


คนอะไร สสวยตลอดปี ถึงมีลูก 4 (หรือ2)
เธอก็ยังสวยยยย

(http://img503.imageshack.us/img503/3131/dsc00051e.jpg)

รูปไม่ซัด ขออภัยมือใหม่หัดขับค่ะ

สวัสดีครับพี่แอ๊ะ ดีใจที่พี่ไปบางปะกงด้วยครับ
ฟังเรื่องที่พี่แอ๊ะจำวันประชุมผิดแล้วขำจัง พี่มีเรื่องสนุกน่ารักๆมาแซวตัวเองกะพี่หมอหาญให้พี่ๆน้องๆหัวเราะตลอดทุกทริปเลยครับ emo20:)):)

อ้อ ขออนุญาตแก้ข้อมูลครับ ภาพนี้น้องTooky22 น้องเขากำลังหาคนตัดหญ้าที่บ้าน(ตามโจ๊กพี่หลิว)อยู่ ก็เลยยังไม่มีลูกซะที emo21:):):


หัวข้อ: Re: "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: ตุ๋ย 22 ที่ 23 มกราคม 2553, 15:52:31
อ้างถึง
ข้อความของ Soponเท่านั้น เมื่อ 22 มกราคม 2553, 21:26:36
อ้างถึง
ข้อความของ prapasri AH เมื่อ 20 มกราคม 2553, 22:01:28
คนงามประจำรุ่น 20


คนอะไร สสวยตลอดปี ถึงมีลูก 4 (หรือ2)
เธอก็ยังสวยยยย

(http://img503.imageshack.us/img503/3131/dsc00051e.jpg)

รูปไม่ซัด ขออภัยมือใหม่หัดขับค่ะ

สวัสดีครับพี่แอ๊ะ ดีใจที่พี่ไปบางปะกงด้วยครับ
ฟังเรื่องที่พี่แอ๊ะจำวันประชุมผิดแล้วขำจัง พี่มีเรื่องสนุกน่ารักๆมาแซวตัวเองกะพี่หมอหาญให้พี่ๆน้องๆหัวเราะตลอดทุกทริปเลยครับ emo20:)):)

อ้อ ขออนุญาตแก้ข้อมูลครับ ภาพนี้น้องTooky22 น้องเขากำลังหาคนตัดหญ้าที่บ้าน(ตามโจ๊กพี่หลิว)อยู่ ก็เลยยังไม่มีลูกซะที emo21:):):
ตุ๊ก  22  เค้าน่ารักเสมอครับ  เพื่อนผ้ม


หัวข้อ: Re: "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: prapasri AH ที่ 23 มกราคม 2553, 20:25:03
น้องหนุน น้องหมอเสียด น้องเหยง น้องหมอเอ๊ยครูตุ๋ย

พี่แอ๊ะกลับจากสุราษฏร์มาแล้ว ประชุมเสร็จเรียบร้อยยยยยยยยยย

หลังจากคราวที่แล้วไปผิดวัน คือพี่แอ๊ะลงไดอารี่ไว้ว่าประขุมวันเสาร์

วันศุกร์พี่แอ๊ะมีประชุมกรรมการสมาคมโรงพยาบาลเอกชนค่ะ

เจ้าอ้อย14 ก็บังคับพี่แอ๊ะว่าต้องมางานบางปะกงให้ได้ พี่แอ๊ะก็ตั้งใจว่าประชุม ที่สุราษฏร์เสร็จตอนเย็นมาถึง3ทุ่ม

 จะให้คนรถบึ่งไปบางปะกงทันที่ดึกแค่ไหนก็จะไป

พอ16 เช้าพี่แอ๊ะก็ ตื่นแต่เช้าแต่งตัวอย่างสวย ไปขึ้นเครื่องที่สุวรรณภูมิ ไปสุราษฏร์

พอขึ้นบนเครื่อง บังเอิญที่นั่งพี่แอ๊ะติดกับที่นั่งท่านรมว.กระทรวงพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์

ท่านอิสระ สมชัย สส.อุบล

พี่แอ๊ะก็ รู้สึกว่าคนนี้คุ้นๆหน้านีนา  พอดีท่านก็ทักพี่แอ๊ะทันที

"ไปไหนครับพี่"

ไปสุราษฏร์ค่ะ พี่แอ๊ะตอบ

(ต่อ)


หัวข้อ: Re: "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: prapasri AH ที่ 23 มกราคม 2553, 20:37:45
แล้วก็นั่งคุยต่อกับท่านไปเรื่อยๆ

 จนกระทั่งพี่แอ๊ะนึกขึ้นได้ว่า กรรมการสภาผู้ทรงคุณวุฒิ กลุ่มพี่แอ๊ะที่ต้องเดินทางพร้อมกันทุกครั้ง เขามากันแล้วหรือยัง

พี่แอ๊ะก็หันไปดูข้างหลัง ในเคบินนี้ก็มีอยู่แค่12 ที่นั่ง ที่นั่งเต็มหมดเเล้ว


พี่แอ๊ะมองไม่เห็นท่านในคณะพี่แอ๊ะแม้แต่ท่านเดียวววววววววววว

พี่แอ๊ะก็ชักเอะใจ เอ..ทำไมวันนี้ไม่มีท่านใดมาเลย (หืออออออออออ)

พี่แอ๊ะก็เฉลียวใจ เลยรีบกดโทรศัพท์ตอนนั้นเขาแจ้งห้ามใช้โทรบนเครื่องแล้ว ไปหาฝ่ายเลขานุการจัดประชุมว่า

น้องเราประชุมกกรรมการสภากันวันไหนคะ

น้องคนนั้นก็ตอบ "ประชุมวันศุกร์หน้าค่ะท่าน"

พี่แอ๊ะนึกในใจ ตายยยยยยยยยละตู ทำไงดีล่ะ

ประตู เครื่อง ก็กำลังจะปิด

dicisionmaking ของความเป็นผู้นำก็เกิดขึ้นทันที่

ขอเขาลงดีไหมว่ะ
 (พี่แอ๊ะคิดในใจ)
 (ต่อ)




หัวข้อ: Re: "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: swsm ที่ 23 มกราคม 2553, 20:44:42
ตื่นเต้ล ๆ ๆ ๆ ค่ะ พี่แอ๊ะ .. รอฟัง   emo45:(


หัวข้อ: Re: "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: prapasri AH ที่ 23 มกราคม 2553, 20:51:02
เอ... ถ้าลง แล้วจะบอกกับรัฐมตรี ข้างๆ ว่างยังไง

 (เอ...หน้าใหญ่ซะด้วยซิเรา อยากอายน่ะ ไฮซ้อเอ๊ยยยยยยย  ท่าทางไฮโซ และมีฟามรู้ด้วย มาดดีว่างั้นเถอะ)

จะบอกว่าจำวันประชุมผิด ซึ่งเป็นเรื่องจริงๆ ก็อายยยยยยยยยยยย

เขาต้องไปเว่าพื่น (เว่าพื่นภาษอิสานแปลว่านินทาค่ะ) ว่าเมียหมอหาญเซ่อชะมัด

เอ.... ถ้าขอออก จะบอกแอร์ว่าไง ดีหนอออออออออออออออ

ในที่สุดก็ตั้งสติ ไปก็ไปว่ะ ไปสุราษฏร์ แล้วนั่งเครื่องกลับอีกรอบ ให้มันรู้ไปว่า ท้องฟ้าประเทศไทยมันก็ประเทศของฉัน

ฉันจะนั่งกีรอบก็ได้ ใครจะทำไม

หมอหาญก็ไม่ถูกนินทาว่ามีเมีย ซื่อบื้อ ขึ้นเครื่องผิดล่วยยยยยยยยยยยยยยยย

แล้วประตูเครื่องก็ปิดลงงงงงงงงงงงงงง เอวังก็มี....ไม่ต้องคิดมากตัดสินใจมากแล้ว ประภาศรีเอ๋ยยยยยยยยยย

นั่งไปสุราษฏร์เถอะคนดีเอ๊ยคนเข่อ คนโง่เอ่ยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยย

ที่สำคัญที่สุด ประกอบการตัดสินใจ วินาทีสุดท้าย

(ต่อ)


หัวข้อ: Re: "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: prapasri AH ที่ 23 มกราคม 2553, 20:57:41
ถ้าวิ่งออก ก็คงเซ่อซ่า บ้ามหากาฬ ไม่รู้จะบอกเขาว่ายังไง

แต่ decision making สุดท้าย

วิ่งออกไปก้หาได้ค่าตั๋วคืนไม่เพราะเราเข็คอิน เช็คที่นั่งเรียบร้อยแล้ว แฮ่ะๆๆๆๆ

(ปกติ ถ้าเดินทางไปประชุมไม่ผิดวัน มหาลัยเค้าจ่ายให้ทุกอย่างค่ะ555555555555555)

สู้นั่งเครื่องเล่น ชมวิว กินกาแฟดีก่า

ได้นั่งคุยกะรัฐมนตรีได้อย่าง อิสระ (สมชัย) ล่วยยยยยยยยคุ้มจะตายอิๆๆๆๆ จะได้ไปเล่าให้น้องห้องการเมืองฟังว่าคุย ลึกลับ

เรื่องอะไรบ้างงงงงงงงงงงงงง อิๆๆๆ


หัวข้อ: Re: "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: prapasri AH ที่ 23 มกราคม 2553, 20:58:35
น้อง หะยี มาอ่านต่อด้วยใจระทึกโดยพลันนะคะ

มีพี่สาวสุดเปิ่นนนนนนนนนน


หัวข้อ: Re: "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: prapasri AH ที่ 23 มกราคม 2553, 21:05:09
เมื่อถึงสถานีสุราษฏร์ คณะข้าราชการก็มารับรัฐมนตรีไป

นางป๊ะพาสี (ภาษาลาวเค้าเขียนอย่างนี้ค่ะ) ก็เดินทอดน่องเอื่อยๆแต่เดียวดาย

ปลงอนิจจัง สังขารตัวเอง โถอุตส่าห์ตื่นเเต่เซ่า นั่งกำปั่นเหาะ มาถึงปั๊กไต๋ มีนางบำเรอบนเรือเหาะ เอาใจ สาระพัดดดดดดดดดดดด

เฮ้ดอาหารให้กินบ่ อด..บ่.ยาก แม่น๊าง..ไม่น่าเล๊ยยยยยยยยยยยย อีแม่เอ๊ยยยยยยยยยยยยยยยยย แม่ ป๊ะพาสี





หัวข้อ: Re: "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: swsm ที่ 23 มกราคม 2553, 21:08:30
พี่แอ๊ะเล่าตลกจัง .. positive thinking สุด ๆ   emo20:)):)

หากเป็นคนอื่น (และหะยี) คงมีอาการตีโพยตีพายก็มั่งล่ะ ..  
ก็มันเสียดาาาาาาาาาาาาาาาย เงิน  นี่คะ ..

อ่ะ ฮ่ะ
 


หัวข้อ: Re: "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: เหยง 16 ที่ 23 มกราคม 2553, 21:11:05
สวัสดีครับพี่แอ๊ะ

มาติดตามเหตุการณ์อย่างใกล้ชิดแล้วครับ





4200  emo28:win:


หัวข้อ: Re: "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: prapasri AH ที่ 23 มกราคม 2553, 21:13:51
ว่าแล้วพี่แอ๊ะก็ลงมา ขอที่นั่งขากลับทันที

ไม่เห็นจะต้องเสียดายตังค์ ขาไปและขากลับ แปดพันเล๊ยยยยยยยยยยยย ซั่งมันเต๊อ

ได้รีบไปงาน เชียร์บอลล์ ที่บางปะกง แต่หัววัน คุ้มสุดคุ้มมมมมมมมมมมมมมมม

และพี่แอ๊ะก็เลยซื้อไข่เค็ม เมืองหอยใหญ่ไข่เเดงแหล่งธรรมะ

"เอา หลายๆกล่อง ใส่ลังที่ใหญ่ที่สุดที่มีให้ ฉันนะบัดนี้" จะหิ้วไข่กลับกรุงเทพเที่ยวบินนี้เลยยยยยยยยยยยยยยย

ฉันจะเอาไปฝากน้องๆฉันที่บางปะกงเขากำลังเชียร์บอลล์อดๆอยากๆอยู่5555555555555555555555


เขาก็เลยจัดให้  หนึ่งกล่องใหญ่ราคาแค่ 450 บาทเอง

สรุปว่า ไข่เค็ม ทีเเสนแพง กล่องนั้น ราคารวมตั๋วเครื่องบิน 8450 บาท อ่านว่าแปดพันสี่ร้อยห้าสิบบาทค่า

ตาเเล๊นๆตาเเล๊ยตาเล่นนนนนนนนนนนน ตาเเล่นเเต่นเเต๊นนนนนนนนนนนนนนนนนน555555555555555555



หัวข้อ: Re: "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: swsm ที่ 23 มกราคม 2553, 21:17:08
โอย .. พี่แอ๊ะขรา  หนูยกนิ้วให้สองนิ้วโป้งเลยค่ะ
สีสัน ลีลา ในการเขียน การเล่า


ยอดเยี่ยมกระเทียมดอง ..   emo4:))





มีใครเคยสงสัยไหมคะว่าทำไมต้องกระเทียมดอง
ทำไมไม่ท้อดอง หัวหอมดอง หรือมะม่วงดอง ..
   


emo47


หัวข้อ: Re: "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: prapasri AH ที่ 23 มกราคม 2553, 21:17:56
น้องหะยี น้องเหยงเอ๊ย เสียดายค่ารองพื่นแต่งหน้าทา ลิปสติกกกกกกกก ด้วยล่ะ อิๆๆๆๆ


หัวข้อ: Re: "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: swsm ที่ 23 มกราคม 2553, 21:21:07
อ้างถึง
ข้อความของ prapasri AH เมื่อ 23 มกราคม 2553, 21:17:56
น้องหะยี น้องเหยงเอ๊ย เสียดายค่ารองพื่นแต่งหน้าทา ลิปสติกกกกกกกก ด้วยล่ะ อิๆๆๆๆ

อย่าเสียดายค่ะ  พี่แอ๊ะ ..
เพราะแม้จะอยู่บ้านเฉย ๆ ก็ต้องแต่งค่ะ
จะปล่อยหน้าโล้น ๆ ได้งาย  ..
ไม่ได้คร่ะ  ไม่ได้เด็ดขาด


อ้อ  อย่าลืมขนตาปลอมด้วยนะคะ ..



หัวข้อ: Re: "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: prapasri AH ที่ 23 มกราคม 2553, 21:24:39
ช่ายยยย...น้องหะยี สุดที่รัก เสียดายขนตาปลอมค่าอ่ะๆๆๆๆๆๆๆ

ว่าแต่ว่ายายขนตาปลอมแกเงีบยไปเลยนะหลังลูกไปบวชแล้วววววววววววว


น้องหะยี จ๋า ดูรูปไฮโซ ชุดเเดง ที่ อีแม่ เปิ่นได้เปิ่นดี วันนี้จี๋แดงงงงงงงงงงงงงงจ้า

พี่แอ๊ะจะชอบเปิ่นเอ่อออออ เซ่อซ่า...เป็นประจำค่ะ

(http://img215.imageshack.us/img215/863/29480033.jpg)

ไม่เหมือนท่าทางยายไฮ ของพี่แอ๊ะหรอกค่ะ อย่างว่านะเรามันคนบ.น บ้านนอก

ยายไฮจริงงงงงงงงงงงงง


หัวข้อ: Re: "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: swsm ที่ 23 มกราคม 2553, 21:26:04
เริ่ดค่ะ  ..  คุณพี่  ..  แดงดี สีไม่ตก     emo2:)


หัวข้อ: Re: "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: swsm ที่ 23 มกราคม 2553, 21:27:37
ยังไม่เคยเห็นพี่แอ๊ะใส่เสื้อผ้าซ้ำกันเลยนะคะ .. วันหลังเบื่อ ๆ ก็โยนทิ้งมาทางน้องบ้างนะคะ  อิอิ    emo20:)):)


หัวข้อ: Re: "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: prapasri AH ที่ 23 มกราคม 2553, 21:30:40
ดูรูปคนนี้ดีก่า

the young one เธอจะได้มา comment ใน้องนี้ซะดีๆ

(http://img215.imageshack.us/img215/8434/dsc00050k.jpg)


หัวข้อ: Re: "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: prapasri AH ที่ 23 มกราคม 2553, 21:32:18
น้องหะยีคะ พี่แอ๊ะชอบสะสม เสื้อผ้า กะรองเท้า

อย่าพูดไปเชียวเด่ว ต้องรายงาน ปปช.ค่า  หุๆๆๆๆๆ


หัวข้อ: Re: "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: swsm ที่ 23 มกราคม 2553, 21:34:48
อ้างถึง
ข้อความของ prapasri AH เมื่อ 23 มกราคม 2553, 21:30:40
ดูรูปคนนี้ดีก่า

the young one เธอจะได้มา comment ใน้องนี้ซะดีๆ

(http://img215.imageshack.us/img215/8434/dsc00050k.jpg)


คือพี่อ้อย 14 หรือเปล่าคะ ??

พี่อ้อยไม่ได้ลงรูปจริงใน Avatar หะยีจึงเดาไม่ถูก



หัวข้อ: Re: "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: prapasri AH ที่ 23 มกราคม 2553, 21:38:45
ใช่ค่ะ น้องหะยี คนนี้เหลืองอ๋อยยยยยยยยยยยยยยยยย พี่อ้อย 14

ในหมู่เเดงเดือด อิสานเช่นกัลลลลลลลลลลลลลล์ค่ะ

ขอไปนอนก่อนนะน้องรัก ธรรมเนียมการฑูต ต้องไปลามาไหว้ ให้ถูกธรรมเนียมใช่ไหมน้องรัก

bye นะคะ


หัวข้อ: Re: "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: swsm ที่ 23 มกราคม 2553, 21:40:32
Goodnight ค่า   พี่สาวคนสวย     emo31:bye:


หัวข้อ: Re: "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: prapasri AH ที่ 23 มกราคม 2553, 21:41:42
แต่พี่อ้อย 14 บอกว่าพี่อ้อยไม่เป็นประชาธิปไตย dead lock

ไม่ทราบหมายฟามว่าอะรายยยยยยยยยยยยย

คุณนายอ้อย14 มาเฉลยจั๊กน่ออยยยยยยยยยยยยยยยยยยยย

 อีนางเอ๊ยยยยยยยยยยยยยยย อีนางหล่าคำแพงงงงงงงงงงงงง

ปล.พี่อ้อย อยู่กลุ่ม ขนตาปลอมกับพวกเราค่ะ


หัวข้อ: Re: "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: wannee ที่ 24 มกราคม 2553, 08:44:47


พี่แอ๊ะ พิมพ์เล่าสนุกม๊าก มาก  emo6::))
พี่อ้อย 14 บอกเหมือนกันว่า เดี๋ยวพี่แอ๊ะมาถึงงาน จะแชว (เผา) เรี่องนี้ซะหน่อย  emo20:)):)  emo20:)):)


หัวข้อ: Re: "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: เหยง 16 ที่ 24 มกราคม 2553, 09:08:07
พี่แอ๊ะ

ผมมาตามเรื่องต่อ....แล้วพี่ไปเจอกับคณะซีมะโด่งได้ยังไงครับ??


หัวข้อ: Re: "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: อ้อย 14 ที่ 24 มกราคม 2553, 14:11:05
(http://img714.imageshack.us/img714/1345/dsc00003medium.jpg)

 คุณนายประภาศรี  ณ ยโสธร  กับ กระเป๋าแซมโซไนท์ รุ่นเบาหวิว ณ ห้างเซนทรัลชิดลม


หัวข้อ: Re: "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: อ้อย 14 ที่ 24 มกราคม 2553, 14:13:44
เมื่อเศรษฐีนี ยโสธร  มา พบกะ เศรษฐีนี ภูเก็ต  อะไรจะเกิดมันก็ต้องเกิด

(http://img198.imageshack.us/img198/1574/dsc00005medium.jpg)


หัวข้อ: Re: "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: Soponเท่านั้น ที่ 24 มกราคม 2553, 14:34:10
หวัดดีครับพี่อ้อย พี่แอ๊ะ และพี่น้องท่านอื่น
แวะมาทักทายครับ


หัวข้อ: Re: "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: swsm ที่ 24 มกราคม 2553, 14:35:48
อ้างถึง
ข้อความของ อ้อย 14 เมื่อ 24 มกราคม 2553, 14:13:44
เมื่อเศรษฐีนี ยโสธร  มา พบกะ เศรษฐีนี ภูเก็ต  อะไรจะเกิดมันก็ต้องเกิด

(http://img198.imageshack.us/img198/1574/dsc00005medium.jpg)

ห้างเซ็นทัรลตีปีก ดีใจ .. วันนี้ยอดขายถล่มทลายแน่

ว่าแล้ว  เย็นวันนั้น  .. ห้างก็ปิดร้านฉลองตั้งแต่หัวค่ำ ..  

คริคริ
   emo20:)):)


หัวข้อ: Re: "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: wannee ที่ 24 มกราคม 2553, 14:54:27

ข้าวของที่อยู่ในภาพ ย้ายไปอยู่บ้านพี่ๆทั้งสอง emo20:)):) emo20:)):)



หัวข้อ: Re: "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: prapasri AH ที่ 24 มกราคม 2553, 16:29:54
ขอบคุณ อ้อย14 country road ค่ะที่แอบถ่ายรูปสาวงอมมาโชว์

วันนั้นพี่แอ๊ะนัดพี่อ้อย14 ไปทานอาหารร้านประจำของพี่แอ๊ะ เกรย์ ฮาวน์ ชั้น4 เซ็นทรัลชิดลม

พี่แอ๊ะเดินชิดลมตั้งแต่อยู่จุฬา เซ็นทรัลน่าจะให้รางวัลพี่แอ๊ะนะน้องหะยี ช่วยไปบอกเจ้าสัวเซ็นทรัล ทีเถิดค่ะ

อุดหนุนตั้งแต่เขายังไม่รวยเท่าไร จนเขารวยล้นฟ้ามหาสมุทร อิๆๆๆๆๆๆๆ

ตอนน้องต้นอยู่ในท้อง พี่แอ๊ะท้องแก่ แล้วไปเดิน จนปวดท้อง รีบกลับบ้าน พอไปถึงบ้านต้องรีบออกมาร.พจุฬา

แล้วคลอด ลูก ทันทีเลยค่ะ ตามหมอสูติเเทบไม่ทัน 555555

เสียดายลืมตั้งชื่อลูกว่า "ชิดลม"    นายแพทย์ชิดลม อิๆๆๆๆๆๆๆๆ


หัวข้อ: Re: "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: iamfrommoon ที่ 24 มกราคม 2553, 16:34:29
สวัสดีค่ะพี่แอ๊ะ
น้องเพิ่งกลับมาจากอุบลเองค่ะ พอดีน้าชายที่รักเสียกระทันหันมาก ไปตั้งแต่พุธงานเสร็จศุกร์เย็นๆ และก็กลับกทม.ถึงเมื่อเช้ามืดนี่เอง...

เห็นภาพงานบางปะกงแล้ว สวยมากเลย


หัวข้อ: Re: "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: iamfrommoon ที่ 24 มกราคม 2553, 16:37:51
อ้างถึง
ข้อความของ prapasri AH เมื่อ 23 มกราคม 2553, 21:32:18
น้องหะยีคะ พี่แอ๊ะชอบสะสม เสื้อผ้า กะรองเท้า

อย่าพูดไปเชียวเด่ว ต้องรายงาน ปปช.ค่า  หุๆๆๆๆๆ

คุ้นๆ เหมือนที่ฟิลิปปินส์ ฮ่าๆ ผุ้หญิงส่วนใหญ่แบบนี้เลยค่ะ นี่ขนาดน้องกลับอุบลแป๊บเดียวยังได้กระเป๋ากลับมาด้วย พี่แอ๊ะขาดกระเป๋าอีกหนึ่งอย่างนะคะ...อิอิ...พี่แอ๊ะคะกลับบ้านได้ใช้ยาสีฟันของค่าย AS...ด้วยค่ะ ใช้ดีจัง เลยซื้อกลับกทม.ด้วย

ชิดลมนี่ของเยอะเริ่ดมากน้องชอบเดินเลยค่ะ เซ็นทรัลยิ้มแปร้ ไม่ก็พี่ไปเม้าท์กันต่อที่ The Terrace รึเปล่าคะ


หัวข้อ: Re: "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: swsm ที่ 24 มกราคม 2553, 16:38:29
ดีแล้วค่ะ  ที่คุณหมอลูกพี่แอ๊ะไม่ได้ชื่อ "ชิดลม" ..


เพราะในโอกาสที่ต้องไปเรียน ไปประชุม หรือทำงานร่วมกับต่างชาติ
เขาจะได้ไม่ต้องออกเสียงชื่อคุณหมอแบบกระมิดกระเมี้ยน คร่ะ




emo24:(


หัวข้อ: Re: "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: prapasri AH ที่ 24 มกราคม 2553, 16:43:51
หลังจาก ทานอาหารที่เกรย์ฮาวน์เราก้เดินย่อยอาหาร หมด ไป สี่หมื่น กับค่ากระเป๋า samsonite

รุ่นใหม่ เบามากๆ คุณนายอ้อย14 ก็ยุ เอา ยุเอา

ซื้อเถอะน่าเจ๊ ยังไงเจ๊ก็ต้องใช้ อยู่แล้ว

คนขายก็บอกว่า รุ่นนี้ ไม่มีอีกแล้ว เขาผลิตเท่านี้55555555555555

แต่มันก็เบามากจริงๆ ค่ะไม่เคยเจอกระเป๋าเดินทางที่ เบาอย่างนี้มาก่อน

เค้าบอกว่าไม่ขูดขีดด้วย

จะขูดขีดได้ไง พี่แอ๊ะซื้อมาแล้วรีบทำถุงหนาๆ ติดซิป ใส่ให้เลยค่ะ กลัวมันขูดขีด เสียดายยยยยยยยยยยยยยเพราะมันแพงงงงง

งงงงง ต้องถนอม หน่อย ดิ

ว่าแล้วพี่แอ๊ะก็ฟาดเอาซะ สามใบเลย

เขาว่าคนชอบช๊อบปิ้ง..นั้นเป็นโรคจิตชนิดหนึ่ง พี่แอ๊ะเป็น โรคจิตจริงๆค่ะ

คนขาย ก็บ้า อธิบายซะ น่าซื้อจริงจริ๊ง  

พี่แอ๊ะถามว่านี่เธอเป็นคนขายหรือเป้นพิธีกรจ๊ะ ทำท่าทางยังกะ สรยุทธ ช่อง3 ตอนเช้าๆเเน่ะ

ในที่สุดก็ซื้อมา  แล้วมานั่งสงสารพี่หาญอยู่นี่ค่ะ

แกผ่าตัดตั้งหลายรายกว่าจะได้เงินให้ภรรเมีย ซื้อกระเป๋า (ฮือๆๆๆๆ)

น้องๆอย่าบอกพี่หาญนะ พี่แอ๊ะหลอกพี่หาญว่าเค้าลดราคาลดเเลกเเจกเเถม

สามใบ เจ็ดพัน555555555555555555555555555


หัวข้อ: Re: "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: iamfrommoon ที่ 24 มกราคม 2553, 16:47:45
พี่แอ๊ะคะ...
จาก สี่หมืี่น เหลือ เจ็ดพันนั้น...ฮ่าๆ ท่าทางจะมุขเดียวกันโดยไม่ต้องสอนกันเลยนะคะ 555

เวลาน้องเครียดแค่ได้เดินดูของก็หายแล้วค่ะ


หัวข้อ: Re: "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: prapasri AH ที่ 24 มกราคม 2553, 16:50:45
หวัดดีค่ะ หนูปุกกี้ น้าชายเป็นอะไรคะ มะเร็งตับ ?

คนแถวนี้ น่าสงสาร ตายง่ายมากค่ะ พี่หาญเลย  ต้องสู้กะยมพะบาล

กลับกรุงเทพไม่ได้ซะที

น้องหะยีคะ

ชิดลม อ่านเป็นภาษาอังกฤษแล้วเป็นคำผวน หรือเปล่าคะ

พี่แอ๊ะพยาม ออกเสียง ชิดลมให้น่าเกลียด

ออกเสียงได้แต่เป้นภาษาจีน ชิดลวม ชิดลวม55555555555555555555555


หัวข้อ: Re: "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: prapasri AH ที่ 24 มกราคม 2553, 16:52:27
น้องปุ๊กกี้คะ เวลาบอกราคา พี่หาญต้อง เอา ห้า ไปหาร

แต่ ยังไม่ถึงกับเอาล้านไปลบ 555555555555555555555555555


หัวข้อ: Re: "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: iamfrommoon ที่ 24 มกราคม 2553, 16:59:50
น้าชายเขากินเหล้าเยอะมาก ติดเหล้าค่ะ แล้วไม่ยอมกินยาตามหมอสั่ง ทำให้สติไม่ค่อยดี แล้วเส้นเลือดในสมองแตก หมอช่วยชีวิตไม่ได้ค่ะ แล้วก็เสียวันนั้นเลย

น้าเป็นชาวไร่ที่กันทรลักษณ์ค่ะ น้องเป็นหลานคนโปรด สมัยก่อนเวลาไปตอนปิดเทอมจะได้ตังค์เยอะกว่าคนอื่น น้าชองพูดไทยกับน้องเพราะน้องพูดไทยตั้งแต่เด็กพ่อเป็นคนราชบุรีค่ะเลยไปที่นั่นทีไร โดนเพื่อนรุ่นเดียวกันที่นั่นล้อว่า "ไทยตาเหลื่อม" ฮ่าๆๆ แล้วก็โกรธไล่ตีเขากัน  emo20:)):)

ดีใจมากเลยที่ได้ทำอะไรอย่างเต็มที่น้าชายก่อนที่จะเหลือเพียงเถ้าธุลี แม่น้องเป็นแม่งานและน้องก็ช่วยเต็มที่เลย


หัวข้อ: Re: "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: prapasri AH ที่ 24 มกราคม 2553, 17:17:22
เล่าเรื่อง ชิดลวม ต่อ นะคะ น้องๆ

เรา พี่อ้อย 14 กะพี่แอ๊ะ ก็เดิน จ่ายเงินเพลินอยู่เเถวนั้น

พลันก็เห้นผู้หญิงคนหนึ่งอย่างสวย เดินรีบๆมา

เราก็เรียกทันที่  

พี่บี้ พี่บี้ ๆ พี่บี้ๆๆๆๆๆๆๆๆ

พี่บี้เป็น ชาวหอ12 ค่ะ

อยู่หอใต้ เราสะดุดตรง แหวนที่นิ้วพี่บี้  โอโฮ....เม็ดเท่าลูกอะไรนะ ใหญ่ๆๆๆ น่ะค่ะ

คงหลายกะรัต แน่นอน ชัวร์.... พี่แอ๊ะเป็นผู้ชำนาญเพชร คงหลายล้านพี่แอ๊ะคิดในใจ (สร้างบ้านได้เป้นหลังอ่ะ)

ว่าเเล้วเราก็ผลัดกันชมไปชมมา

พี่ไม่แก่เลยนะ น้องก็ไม่แก่ (นี่คือคำพูดที่เราชาวหอหญิงต้องทักทายเพื่อปลอบใจกันทุกครั้งที่เจอกันค่ะ)

 พี่แอ๊ะเอามือไปจับผิวหน้าพี่บี้ ทำไมผิวสวยอย่างนี้ พี่บี้ใช้ครีมอะรายยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยย

นี่ถ้าไม่ใช่ชาวหอจุฬาคงไม่กล้า ละลาบละล้วงถาม

พี่บี้ สุดที่รัก ก็ละลาบละล้วง ตอบหมด...ฮ่าพี่ใช้ ลาแมร์ ........


[color=#ff3100] อ้าววววววววววบริษัท ลาแมร์ มาให้ค่าสปอนเซอร์ซะดีๆๆ


แอ๊ะใช้ลาแพรี ยังไม่สวยเท่าพี่บี้เลยยยยยยยยยยยย

นี่คือ สิ่งที่ชาวหอหญิงเค้าคุยกันค่ะ[/color

เพราะเราสนิทและรักกันมากจึงพูดกันได้ทุกเรื่อง



หัวข้อ: Re: "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: prapasri AH ที่ 24 มกราคม 2553, 17:20:35
และที่ขาดไม่ได้ เรื่องสำมะคัญ คือ เว่าพื้น (นินทา) ชาวหอชายยยยยยยยยยยยย

ไม่น่าเลยนะ ตอนนั้น อีตาหอชาย คนนั้น  คนนี้.......  มาจีบ หอหญิง...........คนนั้น..คนนี้

หอหญิงก็หยิ่งไม่เอ๊า ไม่เอา..



จะเอาได้ยังไงตอนนั้นน่ะ อีตานี่..อีตานั่น...... อูย.......ทนไม่ด๊ายยยยยยยยยยยยยย

 โอยยยยยย ตอนนี้สุดแสนจะเสียดาย5555555555555555555

เด่วนี้ เค้าเป็นอธิบดี... เป็นผู้ว่า เป็น.....เป้น......

(ที่ใหญ่โตทั้งหลายน่ะค่ะน้องๆขา)

โอยเสียดายยยยยยยยยยยยยจังงงงงงงงงงงงงงง

ตอนนั้นเราเป็นนางฟ้าเนอะ

นี่คือการสนทนาของชาวหอหญิง ผู้ทรนง สูงศักดิ์ สูงส่ง อย่างไม่เปลียนเเปลง

20-30-40 ปี ยังไงก็ยังงั้นนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนน

อย่าหมั่นไส้ นะน้อง ๆพี่ชาวหอชาย คนดี ที่โลก  (หอหญิง)  ลืม55555555555555555

(เอ่อๆๆๆๆๆ ฟามลับๆๆๆๆ โพสต์ดี ไม่โพสต์ดีหว่า เด่ว ชาวหอหญิง เอา พี่แอ๊ะตายเลยยยยยยยยยยยยยยยยยย)  
 
 
 


หัวข้อ: Re: "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: prapasri AH ที่ 24 มกราคม 2553, 17:37:27
น้องปุกกี้ มีเชื้อสายราชบุรี เหรอคะ

พี่หาญก็เป็นคนราชบุรีค่ะ

เป็นคน บ้านเดียวกะเสธแดงงงงงงงงงง
55555555555555

เสธแดงเค้า เอ๊ยท่าน เอ๊ย อี..เป็นคนโพธาราม

บ้านเขาอยู่ในตลาดโพธาราม

น้องปุ๊กกี้ กะพี่หาญได้เป็นคนบ้านเดียวกะคนหญ่ายยยยยยยยยยยยยโต ด้วย ฮึๆๆๆ

พี่แอ๊ะต้องฝากเนื้อฝากตัวด้วยยยยยยยยยยยยยย

วันก่อนพี่หาญไปโพธาราม มาค่ะ

คือมีงานพระราชทานเพลิง พระครูเจ้าอาวาสวัดโพธาราม ในอดีต ท่านละสังขารไปนานแล้วแต่เพิ่งมีงานพระราชทานเพลิง

เขาให้พี่หาญไปทอดผ้าบังสุกุล ในนามตัวแทนเด็กวัด  ค่ะ

โก้มาก คนใหญ่คนโตบางท่านยังไม่ได้ขึ้นทอดเลยค่ะ เขาให้เกียรติ "ตัวแทนเด็กวัด"  มาก ค่ะ


หัวข้อ: Re: "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: swsm ที่ 24 มกราคม 2553, 18:07:23
โอว .. พี่แอ๊ะขรา 


น้องบวก ลบ คุณ หาร ไม่เก่งค่ะ
อยากทราบเป็นคำตอบสุดท้ายว่า
วันนั้น ณ ชิดลม  พี่แอ๊ะใช้เงินไปเท่ารายยยยยยยยยยยยยยยยยยยย ...


เฉพาะค่าประเป๋าก็ 120,000 บาท ไปแว้ววววววววววววววววววว ...
     emo7:(:


หัวข้อ: Re: "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: prapasri AH ที่ 24 มกราคม 2553, 19:42:34
ไม่ถึง แสนสอง ค่ะน้องรัก จุ๊ๆๆๆ อย่าเอ็ดไป เด่วพี่หาญได้ยินนนนนนนน

 กระเป๋า 3ใบ สี่ หมื่นกว่า และค่ากล้องถ่ายรูปอีก และค่า... ต้องถามอ้อย14 พี่แอ๊ะขี้ลืม

พี่แอ๊ะจะฝึกลืมสิ่งที่ ควรลืม ไม่งั้นคิดตัวเลขแล้วพี่แอ๊ะเครียดตายในความใจง่าย ชอบซื้อของของพี่แอ๊ะค่ะ


หัวข้อ: Re: "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: ตุ๋ย 22 ที่ 24 มกราคม 2553, 19:45:31
สวัสดีพี่แอ๊ะ    โหพี่แอ๊ะ  เงินที่พี่แอ๊ะเก็บไว้ใช้ไม่หมดหรอกครับ


หัวข้อ: Re: "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: อ้อย 14 ที่ 24 มกราคม 2553, 21:09:21
(http://img210.imageshack.us/img210/2176/dsc00007small4.jpg)

เมื่อเศรษฐีนียโสธร  เจอ กับเศรษฐีนีภูเก็ต  สิ่งที่เกิดขึ้น คือ การโชว์แหวนเพชร กะ ตุ้มหูไข่มุก นะสิคะ น้องๆ
[/color]
(http://img215.imageshack.us/img215/7483/dsc00006small.jpg)


หัวข้อ: Re: "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: swsm ที่ 24 มกราคม 2553, 21:13:57
แว๊กกกกกก .. ตาเกือบบอดค่ะ  พี่อ้อยขรา     emo:(

คว้าแว่นตาดำมาใส่แทบไม่ทัน .. โฮะ โฮะ



(http://img210.imageshack.us/img210/2176/dsc00007small4.jpg)


หัวข้อ: Re: "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: prapasri AH ที่ 25 มกราคม 2553, 07:14:46
ยายอ้อย...........14 เมืองหมอเเคนแดนอิสาน

 เธอแอบถ่ายตั้งแต่เมื่อไร สงสัยอ้อย เมาด้วยนะ วันนั้นเรา สั่งไวน์ กะเหล้า เอ๊ย..เหล้าไฮโซ

พี่แอ๊ะเชยไม่ค่อนยรู้จักชื่อ ของพวกนี้ สุรา นารี กีฬาบัตร อิๆๆๆๆๆ


เด่ว พี่บี้ ตีเธอตายยยยยยยยยยยยยย ตอนอยู่หอเจ้าจอมอยู่ห้องติดกัน เป็นน้องรักพี่เค้าใช่มะ ชาวหอใต้ นี่

น้องหะยี ขา มุก ที่หู พี่เค้า ไม่น่าจะใช่ของภูเก็ต คงเป็นของsouth sea เพราะ luster ดี มั๊กๆๆๆๆ

แหวนอื้อๆๆๆๆๆๆๆฮือ เบ้อ เริ่ม เทิ่มมมมมมมมมม

พี่แอ๊ะยังต้องหดนิ้วของพี่แอ๊ะเลย วันนั้นใส่เล็กๆกะจิ๋วเดียวเลยไม่กล้า โผล่นิ้วออกมาเทียบอ่ะ

ถ้าพี่บี้มาเข้าเวบ อ้อยเตรียมตัว โนเขก กะบาล เเน่เเท้เชียวววววววววว

พี่บี้บอกว่า พี่ๆ กลุ่มพี่บี้ มีพี่ติ๋ม พี่แอ๋ว พี่ดาราวรรณ  จะไปรับอาจารย์สุพัดดาไปทานข้าวด้วยค่ะ


หัวข้อ: Re: "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: prapasri AH ที่ 25 มกราคม 2553, 07:20:12
น้องตุ๊ย 22 ครูตุ๋ยขา

อ้างถึง
ข้อความของ ตุ๋ย 22 เมื่อ 24 มกราคม 2553, 19:45:31
สวัสดีพี่แอ๊ะ    โหพี่แอ๊ะ  เงินที่พี่แอ๊ะเก็บไว้ใช้ไม่หมดหรอกครับ

แหม๋ พูดให้พี่แอ๊ะสบายใจไปทั้งคืนเลย เมื่อคืนเลยนอนหลับได้ดี ไม่รู้สึกผิด ว่าเราเป็นคนฟุ่มเฟือย

ยังไงพี่แอ๊ะก็สงสารคนเฮติ นะคะ

แต่จะส่งกระเป๋าsamsonite ไปให้ก็กระไรอยู่ค่ะ หุๆๆๆๆๆๆๆ



หัวข้อ: Re: "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: หนุน'21 ที่ 25 มกราคม 2553, 07:30:39
สวัสดีตอนเช้าครับพี่แอ๊ะ และสมาชิก

เข้ามาอ่านเรื่องเล่าของพี่แอ๊ะ
อย่างตื่นเต้น...ตามลุ้นทุกช็อต
พี่แอ๊ะเล่าได้สนุกครับ
เอาอีก เอาอีก ...(ตะโกนอยู่ข้างล่างหน้าเวที...อิ อิ)

บนเครื่องนี่ตัดสินใจแน่วแน่มากครับพี่
ได้ของ(ไข่เค็ม)มาฝากน้องๆด้วย




 emo6::))


หัวข้อ: Re: "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: iamfrommoon ที่ 25 มกราคม 2553, 07:47:34
ใช่แล้วค่ะพี่ จริงๆ น้องต้องขอฝากเนื้อฝากตัวกับพี่สะใภ้โพธารามนะคะ อิอิ พี่ขราแดงๆ นั้นเขาตามเจอยังคะ มัวแต่ยุ่งช่วงมีข่าว กลับมาอุบลอีกที เจ้ย เขาตามกลิ่นให้วุ่น อิิอิ

พี่อ้อยคะ
เปิดมากระทู้นี้ขอไปหายาหยอดตามาหยอดก่อนนะคะ มันแสบตาเหลือเกิ๊น


หัวข้อ: Re: "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: อ้อย 14 ที่ 25 มกราคม 2553, 14:46:22
น้องๆหะยี  น้องปุ๊กกี้ 

                      พี่น่ะ เป็น ทส.ให้พี่แอ๊ะ หลายครั้งที่เข้ากรุงเทพ และแสงเพชร ของคุณนาย มันวูบวาบ อยู่สม่ำเสมอ  นี่ยังๆ...ของพี่แอ๊ะยังไม่เผยโฉมออกมา มีอีกหลายเซ๊ท   ยังจำวันที่พี่แอ๊ะ ไปออกรายการทีวี ของไอทีวี  เมื่อหลายปีที่แล้ว  พี่อ้อย 14 กะพี่แอ 14 ตามไปเป็น ทส. เพราะคุณพี่เราขนเพชรไปเต็มตัวเลย  จนคนที่ชมรายการทางบ้าน   บอกว่า   มัวแต่ดูเครื่องเพชรของพี่แอ๊ะ จนไม่ได้ฟังการให้สัมภาษณ์...นี่เรื่องจริงนะเนี้ย....ส่วนตัวพี่เอง  ขอเป็นฝ่ายดูดีกว่า ถ้ามีแล้วคงจะบ้าตาย   ภาษาอีสานว่า  มันบ่คือ น่ะน้อง....

ส่วนภาพข่างล่างนี้ คือ พี่แอ๊ะ กะ พี่แจ๋ว ในกองแซมโซไนท์   พี่แจ๋วน่ารักมาก  เป็นรุ่นพี่แอ๊ะ  ทำงานที่แบ๊งกรุงเทพ  รู้ว่า พี่อ้อย กะพี่แอ๊ะ มาที่เซนทรัล  เลยรีบตามมาที่ สีลม   แต่ พี่อ้อย กะพี่แอ๊ะ อยู่ที่ชิดลม อ่ะ..ค่ะ...ตะแล้น..ตะแล้น..ตะแล้น

(http://img204.imageshack.us/img204/6452/dsc00009medium.jpg)


หัวข้อ: Re: "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: เหยง 16 ที่ 25 มกราคม 2553, 16:34:32
สวัสดีครับ พี่แอ๊ะ พี่แจ๋ว และพี่อ้อย

Shopping ก่อนไปเชียร์บอลล์ นี่แพงระเบิดเลย


หัวข้อ: Re: "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: yyswim ที่ 25 มกราคม 2553, 18:40:04
น้องแอ๊ะ... เห็นไปเปรยๆไว้ที่กระทู้ห้อง11 เรื่องเพลง

อยากจะให้รื่นเริง เริงร่า ด้วยเสียงเพลง

พี่นภร้องเพลงไม่เป็น

พี่ขอให้คนนี้ ร้องเพลงแทนพี่นภละกัน ...

เพลง เติมใจให้กัน
 


http://www.youtube.com/watch?v=w6SjpkI67BQ


หัวข้อ: Re: "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: yyswim ที่ 25 มกราคม 2553, 18:43:05
เพลง รักเธอสุดหัวใจ


http://www.youtube.com/watch?v=oC6b7u2aNLg


หัวข้อ: Re: "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: yyswim ที่ 25 มกราคม 2553, 18:49:59
เพลงที่จะมอบให้ น้องแอ๊ะ อีกเพลง

เป็นเพลงที่ พี่นภชอบมากเป็นพิเศษ

ลองฟัง ซิ

อาจจะขอให้ คนข้างกายของน้องแอ๊ะ ฝึกร้อง

แล้วใช้เป็นเพลงประจำตัวของหมอ ก็ได้


เพลง คนไม่สำคัญ



http://www.youtube.com/watch?v=rvixB5WFhtM


หัวข้อ: Re: "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: ตุ๋ย 22 ที่ 25 มกราคม 2553, 19:34:16
อ้างถึง
ข้อความของ prapasri AH เมื่อ 25 มกราคม 2553, 07:20:12
น้องตุ๊ย 22 ครูตุ๋ยขา

อ้างถึง
ข้อความของ ตุ๋ย 22 เมื่อ 24 มกราคม 2553, 19:45:31
สวัสดีพี่แอ๊ะ    โหพี่แอ๊ะ  เงินที่พี่แอ๊ะเก็บไว้ใช้ไม่หมดหรอกครับ

แหม๋ พูดให้พี่แอ๊ะสบายใจไปทั้งคืนเลย เมื่อคืนเลยนอนหลับได้ดี ไม่รู้สึกผิด ว่าเราเป็นคนฟุ่มเฟือย

ยังไงพี่แอ๊ะก็สงสารคนเฮติ นะคะ

แต่จะส่งกระเป๋าsamsonite ไปให้ก็กระไรอยู่ค่ะ หุๆๆๆๆๆๆๆ


โห   ผมขอโทษพี่แอ๊ะครับ  ผมไม่ได้ตั้งใจให้เป็นเช่นนั้นครับ


หัวข้อ: Re: "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: เหยง 16 ที่ 25 มกราคม 2553, 21:03:32
ผมฝาก เพลงสาวฝั่งโขง ของต้อม เรนโบว์  ให้พี่แอ๊ะไว้ฟังครับ

http://www.youtube.com/watch?v=IX1XjH3s1RA


หัวข้อ: Re: "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: เหยง 16 ที่ 25 มกราคม 2553, 21:21:15
ตามด้วยเพลงที่มีความหมายที่สุดเพลงหนึ่ง ที่คุณชรินทรื นันทนาคร มอบให้คุณเพชรา เชาวราษฎร์

เพลงหยาดเพชร โดย บี้ เดอะสตาร์

http://www.youtube.com/watch?v=t4yFvM3xgM4



หัวข้อ: Re: "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: เหยง 16 ที่ 26 มกราคม 2553, 15:39:50
                                                     ธ.โลกชี้ไทยต้องปรับปรุงคุณภาพศึกษา

                                     (http://img687.imageshack.us/img687/4264/worldbankb.jpg)

ตีแสกหน้า อุดมฯเปิดกว้างรับคนรวยมากกว่าจน  ผลิต ป.โท-เอกได้จิ๊บจ๊อย  ขณะที่ สถาบันอุดมศึกษาเกือบร้อยละ  50 
ตั้งอยู่ในกทม.ที่มีประชากรอยู่เพียงร้อยละ 10 ของทั้งประเทศ ..

เมื่อวันที่ 22 ม.ค. สำนักงานคณะกรรมการการอุดมศึกษา (สกอ.) และธนาคารโลก ร่วมกันนำเสนอผลการศึกษาเรื่องการ
สร้างศักยภาพการแข่งขันของระบบอุดมศึกษาไทยในเศรษฐกิจโลก โดย ดร.ลูอิส เบนเวนิสเต ผู้เชี่ยวชาญด้านการศึกษา
ธนาคารโลก ระบุตอนหนึ่งในรายงานว่า แม้ว่าประเทศไทยจะประสบความสำเร็จอย่างน่าพอใจในการขยายโอกาสทางการ
ศึกษาให้แก่ ประชากร แต่คุณภาพการศึกษาในประเทศไทยยังเป็นเรื่องที่ต้องแก้ไข ไม่เช่นนั้นจะเป็นอุปสรรคต่อการพัฒนา
ประเทศในอนาคต  โดยจำนวนผู้เรียนที่เข้าสู่ระดับอุดมศึกษาและจำนวนสถาบันอุดมศึกษาเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว แต่ก็พบว่า
เกิดช่องว่างระหว่างคุณภาพกับปริมาณของบัณฑิต เป็นประเด็นที่ท้าทายความสามารถของผู้รับผิดชอบนโยบายการศึกษา
ของไทยเป็นอย่างมาก

ดร.ลูอิสกล่าวอีกว่า  โอกาสการเข้าถึงการศึกษาในสถาบันอุดมศึกษาของไทยยังไม่มีความเท่าเทียมกัน นักศึกษาที่เข้าสู่
สถาบันอุดมศึกษากว่าร้อยละ 50 เป็นกลุ่มผู้มีรายได้สูง  ส่วนผู้มีรายได้ต่ำสามารถเข้าถึงการศึกษาได้เพียงร้อยละ 5 แสดง
ให้เห็นถึงความไม่เสมอ ภาคในการเข้าถึงโอกาสทางการศึกษา  ส่วนรัฐบาลให้เงินอุดหนุนเพื่องานวิจัยและพัฒนาเพียง
ร้อยละ  15  ของผลิตภัณฑ์มวลรวมในประเทศ (GDP)  ถือว่าน้อยมาก ทั้งสถาบันอุดมศึกษาเกือบร้อยละ  50  ตั้งอยู่
ในกรุงเทพมหานคร ที่มีประชากรอยู่เพียงร้อยละ 10 ของทั้งประเทศ

ผู้เชี่ยวชาญด้านการศึกษาธนาคารโลก  กล่าวอีกว่า ประเทศไทยขาดแคลนแรงงาน โดยร้อยละ 80 ของผู้ประกอบการบาง
ประเภท ไม่สามารถหาบุคลากรเข้าทำงานได้ โดยเฉพาะในสาขาวิทยาศาสตร์เทคโนโลยี และวิทยาศาสตร์การแพทย์
นอกจากนี้ ประเทศไทยกำลังกำลังประสบปัญหาความไม่สมดุลระหว่างนักศึกษาปริญญาตรีกับปริญญาโทและเอกอย่างรุนแรง
โดยปริญญาตรีมีร้อยละ 86 ส่วนปริญญาโทและเอกมีอยู่ เพียงร้อยละ 10 ของจำนวนนักศึกษาทั้งระบบอุดมศึกษา และจาก
การสำรวจยังพบว่าผู้ที่จบปริญญาตรีมีอัตราว่างงานสูงสุด ปริญญาเอกว่างงานร้อยละ 2.6

"โครงการเงินให้กู้และเงินทุนการศึกษาพบว่ามีอยู่มากมาย แต่ขาดประสิทธิภาพเรื่องการบริหารจัดการ โดยเฉพาะเรื่องการใ
ช้หนี้คืนของนักศึกษาที่จบแล้ว สำหรับ สกอ. ควรสร้างแรงจูงใจเพื่อให้มหาวิทยาลัยสร้างรายได้เพิ่มเติม เช่น รับบริจาคจาก
ผู้มีจิตศรัทธา ให้ภาคเอกชนเข้ามามีส่วนร่วมในการจัดการศึกษามากขึ้น ส่วนรัฐบาลต้องลดบทบาทการกำกับดูแลอุดมศึกษาลง
และให้มหาวิทยาลัยมีความเป็นอิสระในการบริหารจัดการมากขึ้น" ดร.ลูอิสกล่าว.

http://www.thairath.co.th/content/edu/60555


หัวข้อ: Re: "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: prapasri AH ที่ 27 มกราคม 2553, 13:04:19
พี่นภขา คืนนี้ว่างๆแล้วจะมาฟังเพลง ค่ะ

อยากได้เพลง "เพชรชมพู" อีกเพลงหนึ่งค่ะ ขอด้วยนะคะ

แล้วเวลา ไปเอาเพลง มาแปะ ต้องทำไงคะ (แอ๊ะบ้องตื้นจังเลยนะพี่นภ อย่างว่าแหละชาว หลิ่มพัง เช๊ยยยยยยยยยยยเชย...)

เมื่อวานท่านผู้ตรวจประชา เตรัตน์มาตรวจงานที่ยโส มาเยี่ยมพี่แอ๊ะค่ะ

[color=#ff1dff ดีใจ มั๊กๆๆๆค่ะ[/color]

พี่แอ๊ะใช้กล้องใหม่ ที่อ้อย14 ซื้อให้ หน้าพี่หาญขาววอกเลยค่ะ

(http://img137.imageshack.us/img137/4352/dsc00114v.jpg)


หัวข้อ: Re: "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: prapasri AH ที่ 27 มกราคม 2553, 13:27:41
ท่านประชา หล่อจัง ท่านหาญก็หล่อ แต่แม่นางป๊ะพาสี อ้วนไปหน่อยอ่ะ

(http://img704.imageshack.us/img704/2839/dsc001152.jpg)


หัวข้อ: Re: "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: prapasri AH ที่ 27 มกราคม 2553, 13:31:11
พี่แอ๊ะ ไปส่งท่านประชาหน้าร.พ เจอคุณหมอ ของร.พ พี่แอ๊ะ ท่านหนึ่ง

หน้าเหมือนใคร ช่วยทายหน่อยนะคะมีรางวัลลลลลลลลลลลลลลล อย่างใหญ่หลวง

(http://img194.imageshack.us/img194/1496/dsc00116on.jpg)


หัวข้อ: Re: "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: prapasri AH ที่ 27 มกราคม 2553, 13:36:21
คุณหมอท่านบอกว่าท่าน ต้องเอาmask ปิดปากไว้ตลอดเวลา

ไม่งั้นชาวบ้านจะมาแย่งกันกอดคุณหมอค่ะ

 เด่วจะส่งไปให้น้องห้องการเมืองดู น้องอินทาเนียร์ 16 และน้องเสรี ตะวัน น้องโอ

คงมีรางวัลนำจับเป็นแน่แท้55555555555555

(http://img136.imageshack.us/img136/3761/dsc00117thaksin.jpg)

เหมียน ไหมคะ อิๆๆๆๆ

น้องถาวร16 ต้องมาเชิยคุณหมอไปออกรายการ สภาโจ๊ก แล้วล่ะค่ะ555555555555555555


หัวข้อ: Re: "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: manopkd ที่ 27 มกราคม 2553, 15:01:52
สวัสดีค่ะ คุณประภาศรี  ผู้มีน้ำใจงาม
                           กำลังคิดถึงอยู่พอดี   ลูกน้องเธอที่โรงพยาบาลมุดาหาร  โทรศัพท์มาถามที่อยู่ของผม บอกว่าจะส่งการ์ดแต่งงาน คุณหมอต้นมาให้ ขอแสดงความยินดีกับเธอและพี่หมอหาญ   ที่จะได้ลูกสะไภ้และมีหลานไว้อุ้มเมื่อยามแก่เฒ่า
                           ขอแสดงความยินดี และสวัสดีครับ


หัวข้อ: Re: "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: iamfrommoon ที่ 27 มกราคม 2553, 15:36:11
สวัสดีค่ะพี่แอ๊ะ
ขอแสดงความยินดีล่วงหน้ากับน้องหมอต้นกล้าคนเก่ง งานนี้ต้องลดน้ำหนักใ้ห้ทัน เพราะเริ่มกลมกันทั้งคู่ น้องเริ่มกินโยเกิร์ตฟรุตสลัดตั้งแต่มื้อเย็นวานนี้แล้ว พอรู้ข่าวมงคลนี้ ต้องตั้งใจให้สุดๆ จะได้ใส่ชุดราตรียาวไปงานได้ค่ะ อิอิ

ปล.ต้องเตรียมแว่นตาดำไปไว้มั้ยคะงานนี้ 555

สวัสดีค่ะพี่สิงห์
ชอบตรงโลโก้ "เป็นนักกอล์ฟอาชีพผู้อาวุโสไทย เก่งคอนกรีตอัดแรง"....อ่านตรงนี้แล้วรู้สึก ผิดจังที่พี่สิงห์สอนการไดร์ฟกอล์ฟได้สักพักแล้วนร.คนนี้ไม่ได้เรียนอีก ตั้งแต่ยังไม่มีชุดกอล์ฟ จนซื้อชุด Wilson แล้วชุดกอล์ฟน้องยังอยู่ในห้องเลยค่ะ



หัวข้อ: Re: "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: prapasri AH ที่ 27 มกราคม 2553, 16:21:38

น้องๆมิตรรักแฟนเพลงของพี่แอ๊ะ พี่ๆ น้องๆทุกท่าน

ท่านใดจะกรุณาไปเป็นเกียรติงานแต่งงานลูกชายพี่แอ๊ะ คุณหมอต้นกล้า แต่งกะสาวนิเทศจุฬา

(น้องหะยี คงได้เป็น ญาติฝ่ายเจ้าสาวแน่ งานนี้)

กรณา pm แจ้งที่อยู่มาให้พี่แอ๊ะ นะคะ หรือที่-e-mail : prapasrisu@hotmail.com ค่ะ

พี่แอ๊ะจะส่ง card มาให้ค่ะ

อย่างไรก็ตาม จะส่งe-card ใน กระทู้นี้อีกครั้งค่ะ

แต่งวันเสาร์ที่ 27 กุมภาพันธ์ 2553 เลี้ยงโต๊ะจีน ที่โรงเเรมคอนราด ถนนวิทยุ กทม.

เชิญทุกท่านนะคะ

น้องปุกกี้  น้องหะยี เตรียม ตัดชุดราตรี วับๆแวมๆ ด้วยนะคะ

พี่แอ๊ะเตรียมไว้ 5-6 ชุดเเล้วกำลังเลือกว่าจะใส่ชุดไหนดีค่ะ

ท่านอานันท์ ปันยารชุน เป็นประธานให้ค่ะ

ท่าน ชวน หลีกภัย แจ้งมาแล้วว่าติดเป็นประธาน  ทอดผ้าป่าที่ตรัง

ท่านจำลอง ศรีเมือง ยังไม่ตอบมาค่ะ

แต่พี่แอ๊ะจะเชิญ ด้วยตนเองต้นเดือนค่ะ

งานนี้คงมีทั้งเหลือง ทั้งแดง และชมพู วู้วู๊ๆๆๆๆๆๆๆๆ

ท่านที่มาแน่ๆ คุณชำนิ ศักดิเศรษฐ์

คุณ สุธรรม  แสงปทุม  (น้องแดง ของคุณวณิชย์16 555555น้องวณิชย์น่าจะมางานนี้นะจะได้รวมพลคนเหลืองแดง อิๆๆๆๆ)

พี่ไชยวัฒน์ สินธุสุวงศ์ ก็คงมาค่ะ

คุณสุธรรม เป็นเขย หอนะคะ แต่ภรรยาเสียไปเเล้วค่ะ

ภรรยาเป็นชาวค่ายหอ ด้วย



หัวข้อ: Re: "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: iamfrommoon ที่ 27 มกราคม 2553, 16:26:18
พี่แอ๊ะคะ...
น้องแฟนคลับคุณอานันต์ ปันยารชุน....แว๊ก งานนี้ต้องสวย ไว้ถ่ายภาพคู่ด้วย

้น้องเคยถ่ายภาพคู่คุณชวนหลายปีมาแล้ว ตอนงานศิลปะอลังการด้วยค่ะ ยังติดไว้ที่บ้านเลย


หัวข้อ: Re: "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: krongon2513 ที่ 27 มกราคม 2553, 19:29:28
แอ๊ะ ฉันไม่รู้จักโรงแรมคอนราด กทม. แต่ฉันรู้จักโรงแรมคอนราดสิงคโปร์อ่ะ

วันแต่งหมอต้น ฉันควรใส่สีแดงรึว่าสีเหลือง

ฉันจะได้ทำตัวให้เหมาะสม 555


หัวข้อ: Re: "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: yyswim ที่ 27 มกราคม 2553, 19:41:32
เข้ามาปุ๊บ เจอข่าวดี แทบทำอะไรไม่ถูก

ใครจะเป็นโฆษกละเนี่ย?

ชาวหอเก่งๆมีอยู่หลายคน แทบจะเลือกไม่ถูก นะน้องแอ๊ะ

น้องอ้อย14เอย น้องหยี23เอย คุณหลิว14เอย คุณถาวร16เอย


หัวข้อ: Re: "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: yyswim ที่ 27 มกราคม 2553, 19:42:30
อ้างถึง
ข้อความของ prapasri AH เมื่อ 27 มกราคม 2553, 12:41:30
อยากเห็นรูปน้อง อ้อม ช่อผกา หน้าจอเต็มๆน่ะค่ะ พี่นภขา น้องบัญญัติ ไตรยางค์ ก็ได้ ช่วยหน่อยนะคะ

จำได้แต่ตอน อยู่หอ ตอนเป็นคุณนาย ดูเท่าไรก็ยังงงๆ  วันก่อนพี่แอ๊ะผ่านไปศรีสะเกษ ตอนท่านเสณีย์ อยู่ศรีสะเกษ

เห็นรูปน้องอ้อมขึ้นบอร์ดใหญ่ ทุกมุมเมือง ก็จำไม่ได้ค่ะ ไม่เหมือนตอนเป้นน้องใหม่ค่ะ

เอ....วันหลังน้องปุกกี้ ลองสัมภาษณ์ ชาวหอหญิงที่เป็นคุณนายผู้ว่าทั้งหลาย ซักทีนะคะ

ว่ารู้สึกอย่างไรบ้าง กับการได้เป็นคุณนายผู้ว่าและ
 
เเละเวลาทำหน้าที่นายกเหล่ากาชาด รู้สึกอย่างไร อยากให้น้องคุณนายช่วยเล่าให้พวกเราฟังหน่อยค่ะ

พี่แอ๊ะอยู่ต่างจังหวัด คุณนายผู้ว่า นี้ยิ่งใหญ่จริงๆค่ะ

ที่สำคัญใหญ่กว่าผู้ว่าอีกแน่ะ

ดังนั้นจึงใหญ่ที่สุดในจังหวัดนั้นเลยนะคะ

ปลื้มใจในผลิตผลของหอหญิงจริงๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ

ถึง น้องแอ๊ะ

รูปใหญ่ น้องอ้อม นิเทศ RCU 16 ตามคำขอ จำนวน 2 รูป

และน้องบัญญัติ คงจะมีบ้าง? 
(น้องบัญญัติคร้าบ ขอรูปใหญ่สักรูป ซิ  แต่งสวยด้วยนะ ถ้าว่าง)


(http://image.ohozaa.com/ir/q176a.jpg)

รูปใหญ่ (หากรูปหดตัว คลิกซ้ายบนรูป)
http://image.ohozaa.com/iv/d2176.jpg



หัวข้อ: Re: "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: yyswim ที่ 27 มกราคม 2553, 19:43:15

(http://image.ohozaa.com/ie/5177a.jpg)

รูปใหญ่
http://image.ohozaa.com/i5/s186a.jpg



หัวข้อ: Re: "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: yyswim ที่ 27 มกราคม 2553, 19:44:05
รูปแถมครับ....

บังเอิญได้ถ่าย นิเทศซีมะโด่ง งวดนี้พร้อมหน้ากัน 4 คน

เข้าปี11,14, 16, 17
 

(http://image.ohozaa.com/iv/u178a.jpg)

รูปใหญ่
http://image.ohozaa.com/iw/q6178.jpg




หัวข้อ: Re: "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: yyswim ที่ 27 มกราคม 2553, 19:45:44
อ้างถึง
ข้อความของ prapasri AH เมื่อ 27 มกราคม 2553, 12:48:16
อ้างถึง
ข้อความของ suriya2513 เมื่อ 27 มกราคม 2553, 00:42:31
ผมสงสัยมากเลยครับว่า ทำไมผู้ดูแลซีมะโด่งดอทคอมของเรา
ไม่ขอร้องแกมบังคับ ให้สมาชิกเก็บรูปไว้ที่เซิร์ฟเวอร์ของเราเอง
ไม่ใช่ให้ต้องร่อนเร่เป็นสัมพะเวสี เที่ยวไปหาแหล่งฝากรูปเอาเองอย่างที่เป็นอยู่ทุกวันนี้
เพราะวันข้างหน้าถ้าแหล่งรับฝากรูปเหล่านั้นปิดตัวไป คนโพสท์ก็เหนื่อยเปล่า
แล้วก็พากันมาเจ็บใจเสียดายรูปอันทรงคุณค่า (เหลือแต่คำบรรยาย)
...
ไปกินอะไรมาไม่รุ๊ วันนี้ผมดุจัง


ป๋อง

ฉันโง่จัง เก็บรูปยังไงนะ
ฉันทำไม่เป็นอ่ะ แต่เก็บไว้ในคอมตัวเองแล้วก้ส่งๆ

แค่นี้ทำได้ก็บุญ เด็ก ครุ อักษร รุ่นคุณยาย แล้วล่ะ



พี่นภ ช่วยตอบแทนป๋อง เอามั๊ย?

รูป ถ้าเก็บในคอมพ์ของเรา เราหรือเพื่อน ก็ดูในคอมพ์ของเราได้เลย

ทีนี้ หากจะให้ครูตุ๋ยที่หนองบัวลำพู ดูได้พร้อมๆกับ น้องว่านที่เชียงใหม่ น้องแอ๊ะที่ยโสธร ดร.พิกุลที่หาดใหญ่ น้องหนุงหนิงที่เยอรมัน เอ่อ แล้วอีกหนุ่มหล่อที่อังกฤษ

ก็จะต้องนำรูป ไปลงในเว็บซีมะโด่ง หรือฝากรูปไว้ที่เว็บหอ

แล้วนำโค๊ตที่ได้มาแปะบนกระทู้  …รูปก็จะโชว์ตัว

ซึ่งตอนนี้น้องแอ๊ะคงจะเข้าใจ เพราะน้องแอ๊ะทำอยู่


ปัญหาของบางคนที่ไปฝากรูปไว้ที่เว็บอื่น (ไม่ได้ฝากรูปไว้ในเว็บซีมะโด่ง)

แล้วนำโค๊ตรูป มาแปะบนกระทู้ซีมะโด่ง


เพราะต้องการจะฝากรูปครั้งละ 10 รูป แล้วนำโค๊ตรูป 10 โค๊ตมาได้เลย ..รวดเร็วดี

เว็บซีมะโด่ง  ให้ฝากรูป ได้ทีละรูป

อีกทั้งเว็บซีมะโด่ง จะบังคับให้รูป ไซส์เล็ก ความละเอียดไม่สูงนัก


โค๊ตรูปคืออะไร?  โค๊ตรูปก็คือโค๊ต ใต้ ‘รูปใหญ่’ ของเมนต์ข้างบน

ซึ่งพี่นภ ไปใช้บริการฝากรูปไว้ที่เว็บอื่น ไม่ใช่เว็บซีมะโด่ง


น้องแอ๊ะได้ลองคลิก แล้วออกมาเป็นรูปใช่มั๊ย? นั่นละ โค๊ต

ก็แปลว่า พวกเราฝากรูปไว้ที่เว็บอื่น ก็ได้  แม้ไม่ใช่ใช้เว็บหอ



หัวข้อ: Re: "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: yyswim ที่ 27 มกราคม 2553, 19:49:53
ฝากอีกเรื่อง...

พี่นภ เพิ่งได้รับแมสเสจ เมื่อครู่นี้ ว่า

ขอเชิญร่วมงานวันรำลึกถึงศาสตราจารย์ บำรุงสุข สีหอำไพ
วันที่ 1 ก.พ.53 เวลา 10.00 น. ตึก 1 ชั้น 4
ผู้ส่ง 085-488-4745 เวลา 17.55.17  วันที่ 27/01/2010



หัวข้อ: Re: "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: prapasri AH ที่ 27 มกราคม 2553, 20:06:38
อ๋อ.... งั้นแอ๊ะก็ทำเป็นแล้วซิ พี่นภ แอ๊ะก้เก่ง เหมียนกัลลลลลลลลล

พี่นภขา ที่คณะนิเทศจะมี วัน บำรุงสุข ทุกปีค่ะ

เขาจะมีการจัดประชุมวิชาการและทำอะไรที่เป็นประโยชน์มากมายค่ะ

พี่นภขาแอ๊ะไม่มีเบอร์พี่นภ จะได้โทรหา ขอที่อยู่น่ะค่ะ

พีนภ ช่วย pm ทีอยู่พี่นภให้แอ๊ะด้วยนะคะ

พี่นภจะได้พบ mom ประภาศรี สีหอำไพ และลูกๆ และหลานอาจารย์บำรุงสุข ชื่อน้องออตโต้ ฉลาดมากค่ะ
และพี่เกษม จันทร์น้อย ในงานแต่งงานลูกแอ๊ะเเน่นอนค่ะ

มอม จะโทรมาคอยเช็คงานให้ตลอดว่าทำไปถึงไหนแล้ว

วันก่อนมีแขก ของมอม มาจากต่างประเทสแอ๊ะก็ให้คนรถที่กรุงเทพ ไปดุแล พามอม พาเขาไปทำธุระค่ะ

อ๋อ...จะเจอชาวเกาะสมุยด้วยค่ะ เพื่อนรุ่นแอ๊ะคงมากันหลายคน เช่นไชโย เชวงศักดิ์ เจ๊สี่ สารา น้องเหนียว และ....

น่าสนุกไหมล่ะ

คงกลายเป็นงานเลี้ยง หลายรุ่น หลายสถาบันไปเลยนะ 55555555555555

พอแอ๊ะยุ่งมากๆ ลูกบอกว่า "เอ...เป้นงานแต่งงานต้น หรืองานแต่งงานแม่ " อิๆๆๆๆ

แม่เลย หน้าม้านไปเยยยยยยยยยยยยยยยยยย


หัวข้อ: Re: "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: prapasri AH ที่ 27 มกราคม 2553, 20:15:31
น้องอ้อม สวยจนจำไม่ได้จริงๆ มิน่า ถึงได้เป้นคุณนายผู้ว่า

แล้วน้องอ้อมไปรู้จักกับท่านเสนีย์ได้ยังไงคะ

(ต้องไปถามคอลัมน์ซุบซิบในไทยรัฐ่อะป่าววววววววววววว)

คิดว่า มีหรือจะไม่ผ่านการสัมภาษณ์จากชาวหอในวันนั้นนนนนนนนนนนน

ดีใจจังได้เห็นรูปชัดๆ ขอบคุณพีนภมากๆค่ะ

อ้อย13 กองละออน เธอใส่สีส้ม ดีไหมเหลือก๊ะแดงรวมกันเป็นส้มมมมมมมมมมมมมม


หัวข้อ: Re: "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: iamfrommoon ที่ 27 มกราคม 2553, 21:10:30
อ้างถึง
ข้อความของ krongon2513 เมื่อ 27 มกราคม 2553, 19:29:28
แอ๊ะ ฉันไม่รู้จักโรงแรมคอนราด กทม. แต่ฉันรู้จักโรงแรมคอนราดสิงคโปร์อ่ะ

วันแต่งหมอต้น ฉันควรใส่สีแดงรึว่าสีเหลือง

ฉันจะได้ทำตัวให้เหมาะสม 555

พี่อ้อยคะ
ขอแนะนำ "สีส้ม" เพราะเกิดจาก 2 สีนี้เลย ส่วนน้องหากลดน้ำหนักได้ทัน จะใส่สีบานเย็นค่ะ อิอิ


หัวข้อ: Re: "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: หนุน'21 ที่ 27 มกราคม 2553, 21:25:55
สวัสดีครับพี่แอ๊ะ
เข้ามาพร้อมกับรับทราบข่าวดี ของน้องหมอต้นกล้า
ดีจังเลยครับ

สายพันธุ์ดีๆแบบนี้ต้อง ขอให้มีทายาทให้คุณปู่คุณย่า เร็วๆครับ


 emo6::))


หัวข้อ: Re: "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: iamfrommoon ที่ 28 มกราคม 2553, 09:45:37
พี่แอ๊ะคะ
เอามาฝากจากน้องก้องรุ่น 40 ที่เอามาโพสต์ไว้ ดู 2 รอบละ ฮาดีค่ะ

http://www.youtube.com/watch?v=qGpRWuUdrzg


หัวข้อ: Re: "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: prapasri AH ที่ 28 มกราคม 2553, 10:33:11
น้องหนุนคะ น้องตุ๋ย น้อง จอมโจรยาใจ  ของพี่แอ๊ะ

และน้องมิตรรักแฟนเพลงห้องนี้
ช่วย pmบอกที่อยู่มาด้วยนะคะ

บางท่านพี่แอ๊ะมีที่อยู่แล้ว

พี่แอ๊ะไม่มีเบอร์โทรน้องหลายท่านค่ะ

แต่ถ้าน้องๆไม่ว่างก็ไม่เป็นไร



อย่าได้เกรงใจพี่แอ๊ะเป็นอันขาด พี่แอ๊ะมีลูกอีกตั้ง 3คนที่ยังไม่ได้แต่ง รับรองได้ไปงานสักคนแหละน่า


น้องปุกกี้ เมือวานน้องปุ๊กโทรมาพี่แอ๊ะกำลังทำสปาหน้าอยู่ค่ะ

แม่เจ้าบ่าว กลัวไม่สวย รีบเข้าคอร์สเป็นเดือนเลย ชะเอิงเอยยยยยยยยยย



หัวข้อ: Re: "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: prapasri AH ที่ 28 มกราคม 2553, 10:50:41
(http://img402.imageshack.us/img402/1392/dsc00119resize.jpg)

ดูรูปเจ้าบ่าวค่ะ
 
น้องปุกกี้เอ๊ยยยยยยย

เจ้าบ่าวนี้ ไผได้ไปเป็น ผ.เอ๊ย สามี สิเม่นโซ๊คดีหลายยยยยยยย


 อีทำงานบ้านก็ล่าย ล้างรถก็ทำเอง

ทำกุ้ง เผาให้แม่ทาน ชอบทานข้าวบ้าน ทานอาหารที่ไหนไม่อร่อยเท่าทานที่บ้าน

ถ้าว่างๆจึงออกไปออกรอบกอล์ฟบ้าง ไปซิ่งมอเตอร์ไซค์ ในเมืองบ้าง

แม่บ้านบอกว่า ลูกคุณนี่ เอาตัวรอดได้ทุกคน ไปไหนก็คงไม่อดหยากเพราะทำ อะไรเป็นเองหมด

(ไม่เหมือนแม่  ทำอะไรไม่เป็น ทำ เป็นแต่คุณนายอิๆๆๆๆ)



พี่นภขา บ้านแอ๊ะทียโสธร ไม่สวยนะคะ เป้นสมาร์ทโฮม คืออยู่ไปด้วย ทำงานไปด้วย พักผ่อนไปด้วย

แอ๊ะกับพี่หาญ ขำตัวเอง ว่าเราทำบ้านสวยๆไว้เต็มไปหมด เเต่เราสองคนอยู่กันในรู

คือบ้านเป็นบ้านเล็กๆ หลังร.พ เดินไปไม่กี่ก้าวก็ถึงร.พแล้ว สะดวกและเราติดทีอยู่เดิมค่ะ


หัวข้อ: Re: "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: หนุน'21 ที่ 28 มกราคม 2553, 13:03:34

(http://img402.imageshack.us/img402/1392/dsc00119resize.jpg)


อ้างถึง
ข้อความของ prapasri AH เมื่อ 28 มกราคม 2553, 10:50:41
ดูรูปเจ้าบ่าวค่ะ
 
น้องปุกกี้เอ๊ยยยยยยย

เจ้าบ่าวนี้ ไผได้ไปเป็น ผ.เอ๊ย สามี สิเม่นโซ๊คดีหลายยยยยยยย


อีทำงานบ้านก็ล่าย ล้างรถก็ทำเอง

ทำกุ้ง เผาให้แม่ทาน ชอบทานข้าวบ้าน ทานอาหารที่ไหนไม่อร่อยเท่าทานที่บ้าน

ถ้าว่างๆจึงออกไปออกรอบกอล์ฟบ้าง ไปซิ่งมอเตอร์ไซค์ ในเมืองบ้าง

แม่บ้านบอกว่า ลูกคุณนี่ เอาตัวรอดได้ทุกคน ไปไหนก็คงไม่อดหยากเพราะทำ อะไรเป็นเองหมด

(ไม่เหมือนแม่  ทำอะไรไม่เป็น ทำ เป็นแต่คุณนายอิๆๆๆๆ)




 emo4:))

โอ้...คุณน้องหมอต้นกล้า ของพี่แอ๊ะ
เอาทุกอย่างจริงๆครับ
เจ้าสาวต้องโชคดีแน่นอน


 emo6::))


หัวข้อ: Re: "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: prapasri AH ที่ 28 มกราคม 2553, 16:40:28
อ้างถึง
ข้อความของ iamfrommoon เมื่อ 28 มกราคม 2553, 09:45:37
พี่แอ๊ะคะ
เอามาฝากจากน้องก้องรุ่น 40 ที่เอามาโพสต์ไว้ ดู 2 รอบละ ฮาดีค่ะ

http://www.youtube.com/watch?v=qGpRWuUdrzg

น้องปุกกีขา
เอาไปแปะในห้องการเมืองหน่อยดิ
พี่แอ๊ะหัวเราะจนปวดท้องแล้วค่า


หัวข้อ: Re: "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: prapasri AH ที่ 28 มกราคม 2553, 16:42:54
อ้างถึง
ข้อความของ หนุน'21 เมื่อ 28 มกราคม 2553, 13:03:34

(http://img402.imageshack.us/img402/1392/dsc00119resize.jpg)


อ้างถึง
ข้อความของ prapasri AH เมื่อ 28 มกราคม 2553, 10:50:41




 emo4:))

โอ้...คุณน้องหมอต้นกล้า ของพี่แอ๊ะ
เอาทุกอย่างจริงๆครับ
เจ้าสาวต้องโชคดีแน่นอน


 emo6::))
นั่นซิคะ น้องหนุน พี่แอ๊ะอิจฉาเจ้าสาวจะเเย่อยู่แล้ววววววววววววว


หัวข้อ: Re: "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: prapasri AH ที่ 28 มกราคม 2553, 16:47:10
น้องหะยี ไปไหนหลายวันแล้ว

ไม่มาดูเสื้อพี่แอ๊ะ มีตัวใหม่ทุกวัน

 คือไปตัดเสื้องานแต่งงานลูก เลยมีเสื้องอกออกมาเป็นตู้ๆ เลยค่ะ

พีนภคะ น้องอ้อมสวยจัง แอ๊ะคงต้องไปเปลียนทรงผมให้เหมือนน้องเค้าเเล้วล่ะ

จะได้สวยอย่างน้องเค้าบ้าง


หัวข้อ: Re: "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: iamfrommoon ที่ 28 มกราคม 2553, 16:57:24
คุณพี่แอ๊ะคะ...
โพสต์แล้ว ฮาเกิน 2 ละค่ะ ตลกมากเลยอ่ะ คนทำก็ช่างทำจริงๆ...น้องเอาไปแปะที่กระทู้รัฐบาลพลัดถิ่น จะได้อมยิ้มกันทั้งกระทู้ อิอิ

งานนี้ท่าทางแม่เจ้าบ่าวจะสวยเกินเจ้าสาวแน่น๊อน...เห็นภาพน้องต้นกล้าแล้ว เป็นตาเป็นพ่อบ้านที่ดีคื่อพ่อเนอะเือื้อย ฮ่าๆๆ


หัวข้อ: Re: "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: prapasri AH ที่ 28 มกราคม 2553, 17:05:29
เหยงจ๋า
แล้วพี่จะเอาเพลงที่เหยงส่งให้พี่แอ๊ะไปใส่ใน desktop ของพี่แอ๊ะได้ยังไงคะ

พี่แอ๊ะชอบทุกเพลงเลยค่ะ และอยากได้เพลง "เพชรชมพู" จะฝึกร้อง เพราะสมัยเราเพลงนี้ไม่มี

จะร้องสะกดจิตคนแก่ๆค่ะ


หัวข้อ: Re: "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: jamsai ที่ 28 มกราคม 2553, 17:22:00
ดีใจกับพี่แอ๊ะด้วยค่ะ จะได้ลูกสาว อีกคนแล้ว
พี่คงสนุกกับการเตรียมงาน
พี่แอ๊ะจะมีคนมาช่วย รักและดูแลคุณหมอต้นกล้า แล้ว
ดีใจด้วยจริงๆ ค่ะ

แอบอิจฉาเล็กๆ คงไม่มีโอกาสแต่งสวยเป็นแม่เจ้าสาวแน่ๆ


หัวข้อ: Re: "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: prapasri AH ที่ 28 มกราคม 2553, 17:35:48
อ้างถึง
ข้อความของ yyswim เมื่อ 25 มกราคม 2553, 18:43:05
เพลง รักเธอสุดหัวใจ


http://www.youtube.com/watch?v=oC6b7u2aNLg


พีนภ ฟังเพลงวัยรุ่น ล่ายล่วย ทันสมัยจังงงงงงงงง


หัวข้อ: Re: "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: prapasri AH ที่ 28 มกราคม 2553, 17:39:26
อาจารย์แจ่มใสขา

พี่pmมาหารอาจารย์ได้รับไหมคะ ,อยากจะคุยกับอาจารย์ใจจะขาด มาสองสามเดือนแล้ว

บอก e-mail อาจารย์ให้พี่แอ๊ะหน่อยนะคะ

พี่อยากคุยเป็นตัวหนังสือจะได้บรรยายความในใจกับอาจารย์สุดที่รัก ค่ะ

วันนี้ยังคุย กะพี่หาญถึงความดี ของอาจารย์แจ่ม และอาจารย์เผ่า อยู่เลย

วันก่อนพี่ลืมโทรกลับค่ะ ตอนนั้นกำลังประชุมกรรมการสมาคมร.พเอกชน

ขอโทษด้วยค่ะ

ช่วยบอกเมล์ e-mail ของอาจารย์มานะคะ คืนนี้ถ้าทำงานเสร็จจะเมล์มาหา นะคะ


หัวข้อ: Re: "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: prapasri AH ที่ 28 มกราคม 2553, 22:15:37
เจ้าบ่าว นักซ่อมรถ

(http://img145.imageshack.us/img145/2650/dsc00128v.jpg)


หัวข้อ: Re: "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: prapasri AH ที่ 28 มกราคม 2553, 22:19:49
พี่นภขา
ดูเครื่องมือที่เขาซื้อมาซิ แอ๊ะถามว่าลูกจะไปเปิดอู่รถหรือ

เขาผ่ารถออกมายังกะทำผ่าตัดเเน่ะ

ตอนเด็กๆแอ๊ะซื้อเครื่องบินบังคับให้เขา เขารื้อมา ต่อใหม่หมดเลยค่ะ

(http://img403.imageshack.us/img403/2111/dsc00127c.jpg)


หัวข้อ: Re: "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: prapasri AH ที่ 28 มกราคม 2553, 22:23:02
เจ้าบ่าว เป็นหยั่งซี๊ แล้วแม่ย่าจะเฮ็ดจั๋งได๋ 5555555555555

(http://img407.imageshack.us/img407/2218/dsc00122r.jpg)


หัวข้อ: Re: "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: prapasri AH ที่ 29 มกราคม 2553, 09:15:28
พีนภ น้องเหยง หายไปไหน ไม่ได้มาดูหลานนนนนนนนนน บ่องแบ๊ววววววววว

เค้าเป็นคนตลกเหมือนพี่หาญ เอ๊ย เหมือนแอ๊ะ เอ๊ย...เหมือนแอ๊ะกะพี่หาญรวมกันนนนนนนนนนนน

แอ๊ะไปกรุงเทพ 2-3 วัน นะคะ แล้วจะกลับมาบรรเลงต่อค่ะ

เฝ้าบ้านให้ด้วย นะเหยง น้องหะยีด้วย น้องหนุน น้องไข่มุก น้องตุ๋ย เอ๊ยยยยยยยยสาระพัดน้องเลยแหละ

พี่แอ๊ะจะซื้อ "หัวเราะ" มาฝาก 5555555555555555


หัวข้อ: Re: "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: หนุน'21 ที่ 29 มกราคม 2553, 09:58:17
อ้างถึง
ข้อความของ prapasri AH เมื่อ 28 มกราคม 2553, 22:23:02
เจ้าบ่าว เป็นหยั่งซี๊ แล้วแม่ย่าจะเฮ็ดจั๋งได๋ 5555555555555

(http://img407.imageshack.us/img407/2218/dsc00122r.jpg)

ฮ่า ฮ่า น้องหมอต้นกล้า
เล่นเปิดกระโปรง(รถ)...ตรวจภายในกันเลยหรือครับนั่น
รถคันนี้ต้อง แจ่ม ทั้งนอกทั้งใน
ใสปิ๊ง

โอ้...บุญของรถอีกแล้ว


 emo6::))


หัวข้อ: Re: "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: jamsai ที่ 29 มกราคม 2553, 11:48:18
ถ้าเข้าเวปซีมะโด่ง ต้องมาห้องพี่แอ๊ะเสมอ
ห้องนี้ มันมีความสนุก สุขสันต์ น่ารัก น่าภูมิใจ น่าดีใจ ให้พลอยสุขไปด้วยเสมอๆ

อีแมว นะคะ
jsfaiin@yahoo.com
sjamsai.s@chula.ac.th

ยินดีอย่างยิ่งค่ะ ที่จะได้รับข่าวจากพี่

 


หัวข้อ: Re: "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: เหยง 16 ที่ 29 มกราคม 2553, 12:11:46
อ้างถึง
ข้อความของ prapasri AH เมื่อ 29 มกราคม 2553, 09:15:28

พีนภ น้องเหยง หายไปไหน ไม่ได้มาดูหลานนนนนนนนนน บ่องแบ๊ววววววววว

เค้าเป็นคนตลกเหมือนพี่หาญ เอ๊ย เหมือนแอ๊ะ เอ๊ย...เหมือนแอ๊ะกะพี่หาญรวมกันนนนนนนนนนนน

แอ๊ะไปกรุงเทพ 2-3 วัน นะคะ แล้วจะกลับมาบรรเลงต่อค่ะ

เฝ้าบ้านให้ด้วย นะเหยง น้องหะยีด้วย น้องหนุน น้องไข่มุก น้องตุ๋ย เอ๊ยยยยยยยยสาระพัดน้องเลยแหละ

พี่แอ๊ะจะซื้อ "หัวเราะ" มาฝาก 5555555555555555


พี่แอ๊ะครับ

ผมเข้ามาในช่วงพี่กำลังโพสต์ข้อความพอดีครับ จึงติดตามอ่าน และจะไม่โพสต์ข้อความเข้ามาตัดหน้า เพราะกลัวเสียความต่อเนื่องครับ

แม้พี่จะหยุดโพสต์ ผมก็ยังเกรงว่าพี่อาจจะกำลังตัดต่อภาพหรืออย่างอื่นอยู่เพื่อจะโพสต์ต่อ จึงคงนิ่งดูอยู่ เท่านั้นเอง



ยกเว้น กรณีโพสต์ข้อความทักทายครับ โดยไม่มีเรื่องอื่นประกอบ จึงจะโพสต์เข้ามาทักทายด้วยทันที

เสมือนเป็นการดวลกันแบบกระทู้ต่อกระทู้เลย



หลายๆ คน จะมีความสามารถเฉพาะติดตัวมาครับ หมอต้นมีความเก่งด้านเครื่องยนต์กลไก เป็นเรื่องที่ดีครับ

ผมเคยเห็นเหมือนกัน ที่สาวๆบางคนเก่งเรื่องเดินสาย ซ่อม/ติดตั้งเครื่องไฟฟ้าได้ ซึ่งค่อนข้างหายาก


หัวข้อ: Re: "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: yyswim ที่ 30 มกราคม 2553, 18:15:00
น้องแอ๊ะ…

Wow  น้องหมอต้นกล้า ไง นอนเล่นกับพื้น

ไปนอนเล่นบนตักแม่แอ๊ะ ซิ  …อุ่นดี อ้อนดี

อาจจะได้แบ๊งค์ร้อยด้วย


เห็นท่าทางของหลานคนนี้  แววดี  ก้าวหน้าแน่นอนเลยน้องแอ๊ะ หมอหาญ

ขยัน แบบลูกไม้ไม่ไกลต้น เลยครับ


แบบนี้ น้องแอ๊ะนอกจากจะรักแล้ว

คาดว่าน้องแอ๊ะ จะพึ่งได้

ขอปรบมือให้น้องหมอต้นกล้า


น้องหมอ โชว์รูป Pre Wedding ให้ลุง ป้า น้า อา และพี่ๆ  ได้ชมจะได้ไหม?

ไปถ่ายกันที่ไหนครับ อยากเห็นครับ


แต่หากยังไม่ได้ ก็เอารูปที่ถ่ายกันเล่นๆ มาโชว์ก่อน ก็ได้นะครับ


น้องแอ๊ะ …. เก่งมากนะ …. ลงคลิป ยูทูบ ในกระทู้เป็นแล้ว

ตอนแรก พี่นภก็คิดว่าจะพิมพ์ลงในกระทู้ บอกน้องแอ๊ะให้

ตอนนี้ งั้น ก็ไม่ต้องแล้ว ซินะ


เพลง เพชรชมพู …ที่อยากได้ น้องแอ๊ะ คลิกข้างล่างนะ

http://www.chula.ac.th/about/thai/symbol_songs.htm#pinkdiamond

จากนั้น ก็หาไปจนถึง เพลง เพชรชมพู / Pink Diamond 

ผู้ประพันธ์เนื้อร้อง  จักราวุธ แสวงผล

ดาวน์โหลด เพชรชมพู



น้องแอ๊ะก็ คลิกซ้าย ที่เพชรชมพู  ..ก็จะมีคำถามว่า จะ Open หรือ Save

หากจะ Save ก็เก็บไว้ที่ My Music แล้วก็กด Save

แล้วน้องแอ๊ะ ก็เปิดฟังเพลง 04 เพชรชมพู ที่ My Music ได้บ่อยๆครับ


เพลง เพชรชมพู ยังไม่มีใน ยูทูป นะครับ

จะมีก็เพลง มหาจุฬาลงกรณ์  อุทยานจามจุรี  และ จามจุรีศรีจุฬา เท่านั้น

ลองเปิดฟังดู ก็ได้

http://www.youtube.com/watch?v=RBbjjCEDX9w

วันงานแต่ง
น้องกฤษณา จะทราบมั๊ย? ครูสามารถ จะทราบมั๊ย?
พี่ถามเฉยๆนะ ไม่ได้ไกด์อะไร

จาก
yyswim@hotmail.com
นภดล ลิ้มสุรัตน์
2508/97 ถ.ดินแดง
แขวง-เขตดินแดง
กรุงเทพ 10400
เบอร์โทร.ของพี่ 089-926-2004


หัวข้อ: Re: "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: Preecha2510 ที่ 31 มกราคม 2553, 00:00:53


       สวัสดีครับแอ๊ะ     

                    ขอแสดงความยินดีกับหมอหาญและแอ๊ะที่จะแต่งงานลูกชายในเดือนหน้าด้วยครับ


หัวข้อ: Re: "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: yyswim ที่ 31 มกราคม 2553, 00:56:07
น้องแอ๊ะครับ...

รายชื่อชาวซีมะโด่ง น้องขอให้นายทะเบียนชมรมซีมะโด่ง ส่งไปให้น้องทางอีเมล์นะ

ตอนนี้ พี่นภเองไม่ทราบว่าใครเป็นนายทะเบียน อาจจะถามหมอเสียด น้องปุ๊กกี้ น้องสน หรือ ดร.ป๋อง ฯลฯ

ขอรายชื่อล่าสุดที่ได้จากงานคืนสู่ถิ่นแผ่นดินแม่ นะ

คิดว่าแต่ละคน จะมอบแอดเดรส  อีเมล์ และโทรศัพท์ ตอนลงทะเบียน

แล้วน้องแอ๊ะ ค่อยมาคัดเลือกเอาเฉพาะคนที่น้องแอ๊ะ และหมอหาญรู้จัก

แล้วจึงลองติดต่อทาบทาม อาจทางโทร. หรือทางอีเมล์ จากนั้นจึงค่อยส่งการ์ด

(เพื่อเป็นการคอนเฟิร์มแอดเดรสของแต่ละคนด้วยครับ)


หัวข้อ: Re: "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: เหยง 16 ที่ 01 กุมภาพันธ์ 2553, 08:45:28
นายทะเบียนคือ คุณครูเจี๊ยบ 16-นันทิกา ครับ


หัวข้อ: Re: "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: prapasri AH ที่ 01 กุมภาพันธ์ 2553, 12:16:31
ขอบคุณพี่ปรีชา มากๆค่ะ แล้วแอ๊ะจะส่งการ์ดไปให้เพื่อนพี่หาญที่ชลบุรี

ที่ตั้งใจว่าตอนแก่จะไปอยู่ด้วย แต่ตอนนี้

คงเหลือ50....50 ..แล้วค่ะ

ทิ้งทางนี้ยากจริงๆ ยกเว้นขายยกกิจการไปเลยยยยยยยยย

เราส่งลูกถึงฝั่งแล้ว ลูกก็อาจจะไม่ใช่ของเราเเล้ว เด็กสมัยนี้ เขาต้องเป็นส่วนตัวของเขา

ในหลักธรรม เขาสอนไว้ว่าหน้าที่ของพ่อแม่คือต้องแต่งงานให้ลูก

เป็นพ่อแม่นี่ยุ่งยังเลย5555555555555

 เลี้ยงดูก็แล้ว ส่งให้เรียนก็แล้ว

ยังต้องแต่งงานให้อีก จริงไหมพี่ปรีชา  


พี่นภไม่เคยมีลูก

แอ๊ะกับพี่หาญเตรียมกลอนไว้แล้วค่ะ

วันนี้ตากับยายหงอยเหงา  

บ้านกว้างเหลือเพียงสองเรา

ลูกเต้าออกไปสร้างรวงรัง

เสร็จภาระทั้งผองของมนุษย์

ก้าวมาถึงจุดที่วาดหวัง

เงียบสงบทุกยามตามลำพัง

ทบทวนความหลังสองเราเอย


หัวข้อ: Re: "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: prapasri AH ที่ 01 กุมภาพันธ์ 2553, 12:30:55
พี่นภขา

 แอ๊ะเกรงใจชาวหอมากๆ คงไม่เชิญหมดค่ะ

เชิญเฉพาะ เพื่อน พี่หาญ เพื่อนแอ๊ะ น้องๆรุ่นใกล้ชิด  และสนิทมาก

(สนิททุกคนเยยยยยยยยยยยยย อิๆๆๆๆๆ)

สำหรับคุณครูสามารถเรียนเชิญแน่นอนถ้าท่านอยู่กรุงเทพ และดร.กฤษณา คง ทำ e-card ส่งทางเมล์ไปค่ะ
และเเฟนคลับห้องนี้

และเพือนพรเทพ

ท่านที่อยู่ต่างจังหวัดก็เกรงใจค่ะ

วันแต่งงานไม่ทราบเหตุการณ์จะเป็นอย่างไร เขาตัดสินคดี 76000 ล้านด้วย

ไม่ทราบม๊อบจะเต็มเมืองไหม จะมีปฎิวัติไหม  ท่านอานันท์จะยุ่งหรือเปล่า



ท่านบอกแอ๊ะมาสองเดือนแล้ว

"งานคุณประภาศรีผมต้องมาแน่นอน ยกเว้นมีเหตุการณ์อะไรที่ผมมาไม่ได้จริงๆ

และแอ๊ะจัดอีกครั้งที่ยโสธร สำหรับแขกยโสธรเพราะไม่กล้าเชิญเขามาที่กรุงเทพค่ะ

 14 มีนา ถ้าชาวหอท่านใดมา ที่นี่ไม่เกรงใจแขกเลย ยินดีต้อนรับ มีที่พักพร้อม

มีวงดนตรีกรมประชาสัมพันธ์วงเล็กมีโฉมฉาย   อรุณฉาย และทิพวรรณ  ปิ่นภิบาล มาด้วยค่ะ


หัวข้อ: Re: "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: ภาณุ ปาตานี ที่ 01 กุมภาพันธ์ 2553, 20:13:02
สวัสดีครับ พี่แอ๊ะ

มาติดตามเรื่องราวของ "แม่"กับ "ลูก"นะครับ

อบอุ่นดีครับ



หัวข้อ: Re: "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: swsm ที่ 02 กุมภาพันธ์ 2553, 18:10:56
มาด้วยเช่นกันค่ะ ..     emo48:)


หัวข้อ: Re: "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: ตุ๋ย 22 ที่ 02 กุมภาพันธ์ 2553, 20:55:58
สวัสดีครับพี่แอ๊ะ


หัวข้อ: Re: "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: Kaimook ที่ 02 กุมภาพันธ์ 2553, 22:01:14
สวัสดีค่ะพี่แอ๊ะ...ดีใจกับพี่แอ๊ะมากๆเลยค่ะน้ำอ้อยไม่อยู่หลายวันค่ะพึ่งเข้ามา(สงสัยพี่แอ๊ะไม่คิดถึงอิอิอิ)ยินว่าพี่แอ๊ะจะมีข่าวดี
ดีใจ๊ดีใจค่ะพี่แอ๊ะ...คุณหมอต้นกล้าทั้งหล่อ  ทั้งเก่งใครหนอเป็นสาวผู้โชคดี...


หัวข้อ: Re: "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: iamfrommoon ที่ 03 กุมภาพันธ์ 2553, 08:26:56
สวัสดีค่ะพี่แอ๊ะ และพี่ๆ ทุกคนค่ะ
เมื่อวานนี้เริ่มลดน้ำหนักจริงๆ จังแล้วค่ะ มื้อเย็นกินผลไม้กับโยเกิร์ต เพราะกก.แรกๆ 500 บาท, กก.กลาง 1000 บาท หากใกล้ 10 กก.จะได้ 1500 บาทค่ะพี่ ฮึบๆ ฮ่าๆๆ หากทำได้ งานแต่งงานน้องต้นกล้าจะพริ้งได้แน่นอนค่ะ อิอิ

เอาภาพตอนไปสัมภาษณ์พี่แอ๊ะในคอลัมภ์ "ดาวเด่นซีมะโด่ง" เมืือ 3 ปีที่แล้วมาฝากค่ะ

(http://img62.imageshack.us/img62/7839/dscf2943a.jpg)


หัวข้อ: Re: "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: Kaimook ที่ 03 กุมภาพันธ์ 2553, 10:04:26
อ้างถึง
ข้อความของ iamfrommoon เมื่อ 03 กุมภาพันธ์ 2553, 08:26:56
สวัสดีค่ะพี่แอ๊ะ และพี่ๆ ทุกคนค่ะ
เมื่อวานนี้เริ่มลดน้ำหนักจริงๆ จังแล้วค่ะ มื้อเย็นกินผลไม้กับโยเกิร์ต เพราะกก.แรกๆ 500 บาท, กก.กลาง 1000 บาท หากใกล้ 10 กก.จะได้ 1500 บาทค่ะพี่ ฮึบๆ ฮ่าๆๆ หากทำได้ งานแต่งงานน้องต้นกล้าจะพริ้งได้แน่นอนค่ะ อิอิ

เอาภาพตอนไปสัมภาษณ์พี่แอ๊ะในคอลัมภ์ "ดาวเด่นซีมะโด่ง" เมืือ 3 ปีที่แล้วมาฝากค่ะ

(http://img62.imageshack.us/img62/7839/dscf2943a.jpg)
น้องปุ๊กกี้ขราาา...วันงานซีมะโด่งพี่เห็นน้องครั้งแรกพี่ว่าน้องกำลังดีนะคะน่ารักมากๆๆค่ะแต่ลดนิดส์นึงพอค่ะ
มีแรงบันดาลใจทำให้มีกำลังใจในการลดนะคะ...
 3 ปีที่แล้วพี่แอ๊ะไม่เปลี่ยนเลยนะคะดูจะสวยขึ้นด้วยนะคะไม่รู้พี่หาญมียาดีอะไรค่ะเอิ๊กกกกกก
(รู้แล้วพี่หาญให้วิ่งทุกวัน)


หัวข้อ: Re: "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: iamfrommoon ที่ 03 กุมภาพันธ์ 2553, 12:58:50
อ้างถึง
ข้อความของ Kaimook เมื่อ 03 กุมภาพันธ์ 2553, 10:04:26
อ้างถึง
ข้อความของ iamfrommoon เมื่อ 03 กุมภาพันธ์ 2553, 08:26:56
สวัสดีค่ะพี่แอ๊ะ และพี่ๆ ทุกคนค่ะ
เมื่อวานนี้เริ่มลดน้ำหนักจริงๆ จังแล้วค่ะ มื้อเย็นกินผลไม้กับโยเกิร์ต เพราะกก.แรกๆ 500 บาท, กก.กลาง 1000 บาท หากใกล้ 10 กก.จะได้ 1500 บาทค่ะพี่ ฮึบๆ ฮ่าๆๆ หากทำได้ งานแต่งงานน้องต้นกล้าจะพริ้งได้แน่นอนค่ะ อิอิ

เอาภาพตอนไปสัมภาษณ์พี่แอ๊ะในคอลัมภ์ "ดาวเด่นซีมะโด่ง" เมืือ 3 ปีที่แล้วมาฝากค่ะ

(http://img62.imageshack.us/img62/7839/dscf2943a.jpg)
น้องปุ๊กกี้ขราาา...วันงานซีมะโด่งพี่เห็นน้องครั้งแรกพี่ว่าน้องกำลังดีนะคะน่ารักมากๆๆค่ะแต่ลดนิดส์นึงพอค่ะ
มีแรงบันดาลใจทำให้มีกำลังใจในการลดนะคะ...

 3 ปีที่แล้วพี่แอ๊ะไม่เปลี่ยนเลยนะคะดูจะสวยขึ้นด้วยนะคะไม่รู้พี่หาญมียาดีอะไรค่ะเอิ๊กกกกกก
(รู้แล้วพี่หาญให้วิ่งทุกวัน)


ขอบคุณค่ะพี่ไข่มุก...น้องอยากลดลงสัก 5 กก.ค่ะ  แต่ถ้ากก.ที่ 8 นั้นจะได้โลละ 1,500 บาทนี่สิคะ...น่าสนสุดๆ ฮ่าๆๆ

เห็นด้วยอย่างยิ่งขนาดผ่านมา 3 ปียังพริ้งเลยค่ะ


หัวข้อ: "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: พธู ๒๕๒๔ ที่ 04 กุมภาพันธ์ 2553, 00:15:30
(http://img41.imageshack.us/img41/6033/p1310984.jpg)


หัวข้อ: Re: "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: หนุน'21 ที่ 04 กุมภาพันธ์ 2553, 08:42:41

เข้ามาสวัสดีพี่แอ๊ะ และติดตามอ่านเรื่องราวต่างๆ
ของพี่น้องชาวหอด้วยครับ




หัวข้อ: Re: "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: iamfrommoon ที่ 05 กุมภาพันธ์ 2553, 13:21:29
อ้างถึง
ข้อความของ prapasri AH เมื่อ 27 มกราคม 2553, 16:21:38

น้องๆมิตรรักแฟนเพลงของพี่แอ๊ะ พี่ๆ น้องๆทุกท่าน

ท่านใดจะกรุณาไปเป็นเกียรติงานแต่งงานลูกชายพี่แอ๊ะ คุณหมอต้นกล้า แต่งกะสาวนิเทศจุฬา

(น้องหะยี คงได้เป็น ญาติฝ่ายเจ้าสาวแน่ งานนี้)

กรณา pm แจ้งที่อยู่มาให้พี่แอ๊ะ นะคะ หรือที่-e-mail : prapasrisu@hotmail.com ค่ะ

พี่แอ๊ะจะส่ง card มาให้ค่ะ

อย่างไรก็ตาม จะส่งe-card ใน กระทู้นี้อีกครั้งค่ะ

แต่งวันเสาร์ที่ 27 กุมภาพันธ์ 2553 เลี้ยงโต๊ะจีน ที่โรงเเรมคอนราด ถนนวิทยุ กทม.

เชิญทุกท่านนะคะ

น้องปุกกี้  น้องหะยี เตรียม ตัดชุดราตรี วับๆแวมๆ ด้วยนะคะ

พี่แอ๊ะเตรียมไว้ 5-6 ชุดเเล้วกำลังเลือกว่าจะใส่ชุดไหนดีค่ะ

ท่านอานันท์ ปันยารชุน เป็นประธานให้ค่ะ

ท่าน ชวน หลีกภัย แจ้งมาแล้วว่าติดเป็นประธาน  ทอดผ้าป่าที่ตรัง

ท่านจำลอง ศรีเมือง ยังไม่ตอบมาค่ะ

แต่พี่แอ๊ะจะเชิญ ด้วยตนเองต้นเดือนค่ะ

งานนี้คงมีทั้งเหลือง ทั้งแดง และชมพู วู้วู๊ๆๆๆๆๆๆๆๆ

ท่านที่มาแน่ๆ คุณชำนิ ศักดิเศรษฐ์

คุณ สุธรรม  แสงปทุม  (น้องแดง ของคุณวณิชย์16 555555น้องวณิชย์น่าจะมางานนี้นะจะได้รวมพลคนเหลืองแดง อิๆๆๆๆ)

พี่ไชยวัฒน์ สินธุสุวงศ์ ก็คงมาค่ะ

คุณสุธรรม เป็นเขย หอนะคะ แต่ภรรยาเสียไปเเล้วค่ะ

ภรรยาเป็นชาวค่ายหอ ด้วย



พี่แอ๊ะคะ

วันนี้ได้รับการ์ดเชิญเก๋ไก๋ ไฮโซมากจากซอง กลุ่มโรงพยาบาลนายแพทย์หาญ ด้วยความที่วันนั้นรีบบอกชื่อตัวเอง ลืมไปนึกว่า น้องยังโสด ยังไม่ชินกับการมีคนดูแล ฮ่าๆๆ เลยบอกแต่ชื่อตัวเอง แว๊ก................วันนั้นจะพาเฮียน้อยกลอยใจไปด้วยนะคะ แล้วจะเติมชื่อเอา ฮ่าๆๆ....

ขอนำภาพสุดแสนประทับใจตอนวันส่งมอบตำแหน่งประธานจากพี่สิงห์ 13 ----> พี่อ๋า 14 มาให้ได้คิดถึง ซึ่งคาดว่า เป็นการรวมตัวครั้งใหญ่ของชาวหออีกครั้ง เพราะน้องต้นกล้าจะไปร่วมงานซีมะโด่งบ่อยๆ คอยเป็นพลขับให้คุณแม่ คุณพ่่อเสมอ อ่อนน้อม ถ่อมตน เฮฮา ร่าเริง แบบหมอยุคใหม่ ไม่ใส่แว่นหนาๆ อิอิ และเป็นที่รักยิ่งของชาวซีมะโด่ง

(http://img504.imageshack.us/img504/5355/tonswedding.jpg)

ปล. ตอนนี้กินผลไม้แทนข้าวเย็นมาได้ 3 วันแล้ว คาดว่า จะลงให้ได้ พร้อมใส่ชุดไปงานน้องต้นกล้าค่ะ อิอิ


หัวข้อ: Re: "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: prapasri AH ที่ 09 กุมภาพันธ์ 2553, 10:44:14
สวัสดีค่ะ คุณป้า คุณน้า Cmadong ที่รักยิ่งของคุณแม่แอ้ะ นะคะ คุณแม่ฝากให้แอ้มเอา ecard มาปะใน webboard ไว้ให้เพราะว่าคุณแม่อยู่ที่สุราษฎร์ ค่ะ ยังไม่มีโอกาสได้เข้า internet ค่ะ

คุณป้า คุณน้า สามารถ คลิ้กที่ link ด้านล่างได้เลยนะคะ

ขอบคุณค่ะ
น้องแอ้ม

http://ammandton.homeip.net/ecard/ (http://ammandton.homeip.net/ecard/)

(http://img52.imageshack.us/img52/520/bannerbr.jpg)


หัวข้อ: Re: "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: yyswim ที่ 10 กุมภาพันธ์ 2553, 00:15:22
น้องแอ๊ะ...

พี่เปิดอีการ์ดอ่านดูแล้ว

หรูเลิศมาก อีการ์ดสวยๆแบบนี้ ไม่เคยเห็นครับ

เสียดาย หลานแอ้ม น่าจะแปะรูป Pre Wedding ให้ดูสักรูป

น้องหมอต้น ได้ถ่ายรูปที่สตูดิโอแล้ว ใช่มั๊ย?




หัวข้อ: Re: "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: yyswim ที่ 10 กุมภาพันธ์ 2553, 00:19:54
นำคอนเสิร์ตมาฝากน้องแอ๊ะ


เพลงในคอนเสิร์ต จะไม่สัมพันธ์กับ งานแต่งงานนะครับ


เพลงหวานๆแบบงานแต่งงาน พี่นภยังไม่เคยมี




เป็นคอนเสิร์ตที่พี่นภไปชม และนับว่าเป็นการจัดครั้งแรก ในสนามราชมังคลากีฬาสถาน

จอฉายภาพคอนเสิร์ต สูงขนาดห้องแถว 2 ชั้น มี 7 จอ

คนร่วมชมคอนเสิร์ต นับสามหมื่นคน



ตอนวันจอง พี่รีบจองตั้งแต่วันแรกๆ

แต่เหลือที่นั่งบนอัฒจันทร์เท่านั้นแล้ว ตั๋วยืนที่จะให้ยืนเต้นระหว่างชมคอนเสิร์ตกันกลางสนาม วันจองวันแรกๆขายหมดแล้ว

วันที่จองตั๋ววันนั้น จึงเสียดายมาก เพราะคอนเสิร์ต อัสนี-วสันต์ ก่อนหน้าครั้งนี้ ที่จัดที่อิมแพค อารีนา พี่นภได้ไปยืนข้างหน้า ยืนเต้นชิดกับเวทีคอนเสิร์ต ยืนอยู่หน้าพวกเก้าอี้วีไอพีด้วยซ้ำ

แต่วันจองครั้งนี้ ไม่มีโอกาส แต่ ก็ต้องยอมจอง

มิ งั้น จะอดดูคอนเสิร์ต ที่เฝ้ารอคอย ครบรอบอัสนี – วสันต์ 20 ปี



แต่ พอถึงวันแสดงจริงๆ รู้สึกดีใจสุขใจกับที่นั่งบนอัฒจรรย์มาก

เพราะ ได้อากาศที่มีลมโชย จะลุกไปห้องน้ำ จะลุกไปซื้อน้ำดื่ม ก็ทำได้ง่าย

แต่พวกที่ยืนเต้นกันกลางสนาม และนั่งเก้าอี้วีไอพี นับพันเก้าอี้ เห็นบอกกันว่า

อากาศร้อน ไปห้องน้ำลำบากมาก เพราะต้องเดินจากกลางสนาม ไปที่ห้องน้ำบนอัฒจรรย์

แถมต้องเบียดเสียดกันมาก เพราะพวกที่ยืนข้างหลังเมื่อมองไม่ค่อยเห็น ก็อยากจะแทรกไปยืนรวมกับพวกยืนข้างหน้า



สรุปว่า ไปชมคอนเสิร์ตครั้งนี้ ด้วยความสุขใจ เพลิดเพลินใจ ประทับใจ

พี่นภ จึงขอนำความสุขมาแบ่งปันให้ชมในบางส่วน


หากน้องแอ๊ะชอบฟังคอนเสิร์ต พี่จะนำคอนเสิร์ตดีๆ วงอื่นๆ มาให้ชมอีก



ศิลปิน อัสนี – วสันต์

บังเอิญติดดิน / ลูกผู้ชาย / บางอ้อ / กุ้มใจ / ยินดีไม่มีปัญหา



http://www.youtube.com/watch?v=Yq_TKkdsq2M



ป๋อ ล๋อ....  คอนเสิร์ตครั้งต่อไป ที่พี่จองจะไปชม นับเป็นคอนเสิร์ตที่ยิ่งใหญ่อีกคอนเสิร์ต จะรวมนักร้อง 20 คน เช่น ใหม่ ตี๊นา ฯลฯ  ร้องเพลงของ ไมเคิล แจ๊คสันเท่านั้น



หัวข้อ: Re: "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: iamfrommoon ที่ 10 กุมภาพันธ์ 2553, 08:31:22
พี่สินคะ
งานแต่งน้องต้นกล้าพี่ไปมั้ยคะ งานนี้ทั้งน้องและเฮียเตรียมตัวผอมเต็มที่ ช่วงนี้เขาวิ่งทุกเย็นเลยค่ะ

พี่แอ๊ะ พี่ไข่มุกคะ
คาดว่า น้ำหนักจะลดไม่ทันกับขนาดชุดที่เตรียมเลยต้องเปลี่ยนชุดแถมต้องเอาำกลับไปให้แม่แก้ออกที่ตจว.ค่ะ ฮ่าๆๆ

 emo20:)):) emo20:)):) emo20:)):)


หัวข้อ: Re: "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: yyswim ที่ 10 กุมภาพันธ์ 2553, 11:28:46
จาก Forward maill 

ก่อนตาย... อย่าลืมยกเลิกบัตรเครดิต     

โคตร โดน ครับ พี่น้อง



นางแจ่ม เสียชีวิตไปเมื่อเดือน มิถุนายน ธนาคาร สี่ตี้แบงค์ ได้ส่งใบเรียกเงินมาเก็บ ค่าธรรมเนียมประจำปี ของบัตรเครดิต มาถึงเธอในเดือนกุมภาพันธ์ และมีนาคม พร้อมทั้งเรียกเก็บ ค่าปรับ ที่เธอชำระล่าช้า พร้อมดอกเบี้ยของยอดที่เรียกเก็บ


ซึ่งในความเป็นจริง เธอไม่ได้ใช้บัตรนั้น มาตั้งแต่วันตาย แต่บัดนี้ยอดทั้งหมดที่เรียกเก็บกลายเป็น จำนวนสองพันกว่าบาท


ญาติของเธอ จึงโทรศัพท์ไปยังธนาคาร

ญาติผู้ตาย : ดิฉันโทรมาแจ้งว่า คุณแจ่ม เสียชีวิตแล้วนะคะ ตั้งแต่เดือนมิถุนายนปีกลาย

เจ้าหน้าที่ธนาคาร : ยังไม่มีการแจ้งปิดบัญชีนะคะ ดังนั้น ค่าปรับ การชำระช้า จึงต้องเรียกเก็บคะ

ญาติผู้ตาย : งั้น... ช่วยยกเลิกบัตรให้ ได้ไหมคะ

เจ้าหน้าที่ธนาคาร : แต่มันช้ามาหลายเดือนแล้วนะคะ ที่เรียกเก็บไม่ได้ และธนาคารได้ออกใบเรียกเก็บไปแล้วคะ

ญาติผู้ตาย : ตามปกติ ถ้าลูกค้าตายไป ทางธนาคารจะจัดการอย่างไรคะ

เจ้าหน้าที่ธนาคาร : เราอาจต้องแจ้งหน่วยคดีฉ้อโกง หรือไม่ก็แจ้งไปยังเครดิตบูโร ส่วนงานที่จะคอยเก็บประวัติการมีเครดิตของคนประเทศไทย ก็มีคะ หรือไม่ก็แจ้งไปทั้งสองที่เลย

ญาติผู้ตาย : แล้วยมบาลจะโกรธเธอไหมคะ? (ฉันชอบคำถามนี้ของตัวเองจริงๆ)

เจ้าหน้าที่ธนาคาร : อะไรนะคะ?

ญาติผู้ตาย : คุณได้ยินหรือเปล่าคะ ที่ดิฉันบอกว่า เธอตายไปแล้วนะค่ะ

เจ้าหน้าที่ธนาคาร : รอสักครู่ค่ะ คุยกับหัวหน้าดีกว่าค่ะ

สักครู่... หัวหน้ารับโทรศัพท์ไปพูด...

ญาติผู้ตาย : ดิฉันโทรมาแจ้งให้ทราบว่า เจ้าของบัตร เสียชีวิตไป ตั้งแต่เดือน มิถุนายนแล้วค่ะ

หัวหน้าธนาคาร : ยังไม่มีการแจ้งปิดบัญชีนะครับ ดังนั้น ค่าปรับ การชำระช้า จึงต้องเรียกเก็บครับ (สงสัย เป็นประโยคที่ทางธนาคาร มีไว้ใช้ ตอบกับลูกค้า)

ญาติผู้ตาย : หมายความว่า จะต้องเรียกเก็บจากที่ดินของเธอหรือคะ

หัวหน้าธนาคาร : (ชักเริ่มติดอ่าง) คุณเป็นทนายความของเธอหรือครับ?

ญาติผู้ตาย : เปล่าคะ ดิฉันเป็นเหลนของเธอนะค่ะ (ทนายสอนให้บอกเช่นนี้)

หัวหน้าธนาคาร : กรุณาช่วยแฟกซ์ ใบมรณบัตรของเธอ มาได้ไหมครับ

ญาติผู้ตาย : ยินดีคะ (ทางธนาคารแจ้งเบอร์แฟกซ์)

หลังจากได้รับแฟกซ์เรียบร้อย...

หัวหน้าธนาคาร : ทางระบบของเรา ไม่ได้บอกว่า จะให้จัดการอย่างไร ในกรณีที่ลูกค้าเสียชีวิต ผมก็ไม่ทราบว่า จะช่วยเหลือคุณ ได้อย่างไร

ญาติผู้ตาย : อ๋อคะ คิดต่อไปนะคะ ถ้ายังคิดไม่ออก ก็เรียกเก็บเงินเธอไปเรื่อยๆ ก็แล้วกัน เธอคงไม่ว่าอะไรหรอกคะ

หัวหน้าธนาคาร : ครับ… ค่าปรับ การชำระช้า ก็ต้องเรียกเก็บต่อไปนะครับ

ญาติผู้ตาย : ไม่ทราบต้องการที่อยู่ใหม่ของคุณยายทวดไหมคะ

หัวหน้าธนาคาร : ดีเลยครับ

ญาติผู้ตาย : บริเวณปากน้ำ แม่น้ำเจ้าพระยา สมุทรปราการคะ

หัวหน้าธนาคาร : ขอประทานโทษครับ... นั่นมันแม่น้ำนี่ครับ

ญาติผู้ตาย : อ้าว!!... แล้วเวลาญาติพวกคุณตาย  คุณเอาอังคารไปลอยแถวไหนหรือคะ


5 5 5 5 5 5 5 5 5
 


หัวข้อ: Re: "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: พธู ๒๕๒๔ ที่ 10 กุมภาพันธ์ 2553, 12:29:55
พอถึงฤดูใบไม้ผลิ พวกอินเดียนแดงในเขตสงวนแห่งหนึ่งถามหัวหน้าเผ่าคนใหม่ว่า
ฤดูหนาวปีนี้จะหนาวจัดหรือเปล่า...
หัวหน้าเป็นคนสมัยใหม่ ไม่ได้เรียนเคล็ดวิชาอ่านลมฟ้าอากาศจากบรรพบุรุษ
แต่ด้วยความกลัวเสียฟอร์มหัวหน้าเผ่า
จึงทำทีแหงนมองฟ้าแล้วบอกว่าปีนี้จะหนาวทารุณ
ขอให้คนในเผ่าเตรียมฟืนไว้ก่อไฟผิงให้มากๆ...
เมื่อตอบแล้ว หัวหน้าเผ่าก็แอบโทร.ไปถามกรมอุตุฯ
เจ้าหน้าที่พยากรณ์อากาศตอบว่า ท่าทางจะหนาวจัด
หัวหน้าเผ่าจึงย้ำให้คนในเผ่าเร่งหาฟืนเพิ่มขึ้น...
สองสามวันต่อมา หัวหน้าเผ่าโทร.ถามกรมอุตุฯให้แน่ใจอีกครั้ง
เจ้าหน้าที่ตอบว่า ปีนี้ต้องหนาวแน่นอน
หัวหน้าเผ่าจึงสั่งให้คนในเผ่าเก็บเศษไม้ทุกชิ้นที่หาได้...
พอใกล้ฤดูหนาว หัวหน้าเผ่าโทร.ไปถามที่กรมอุตุฯ อีกครั้ง
" แน่ใจ 100 เปอร์เซ็นต์นะว่าปีนี้จะหนาวจัด"
"100 เปอร์เซ็นต์" เจ้าหน้าที่ตอบหนักแน่น
หัวหน้าเผ่าถาม "ทำไมถึงมั่นใจขนาดนั้น"
กรมอุตุฯตอบ " พวกอินเดียนแดงพากันออกหาฟืนไม่หยุดเลยครับ!!!


หัวข้อ: Re: "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: iamfrommoon ที่ 11 กุมภาพันธ์ 2553, 07:59:08
แวะมาขำหัวหน้าเผ่ากับกรมอุตุฯ ฮ่าๆๆ

สวัสดีค่ะพี่แอ๊ะและแฟนคลับ
พี่อยู่กทม.หรือสุราษ หรือยโสฯ คะ กำลังเตรียมสวยอยู่แน่ๆ เลย


หัวข้อ: Re: "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: wannee ที่ 11 กุมภาพันธ์ 2553, 16:38:37


สวัสดีค่ะ พี่แอ๊ะ  emo6::))


หัวข้อ: Re: "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: Kaimook ที่ 12 กุมภาพันธ์ 2553, 10:19:11
อ้างถึง
ข้อความของ iamfrommoon เมื่อ 10 กุมภาพันธ์ 2553, 08:31:22
พี่สินคะ
งานแต่งน้องต้นกล้าพี่ไปมั้ยคะ งานนี้ทั้งน้องและเฮียเตรียมตัวผอมเต็มที่ ช่วงนี้เขาวิ่งทุกเย็นเลยค่ะ

พี่แอ๊ะ พี่ไข่มุกคะ
คาดว่า น้ำหนักจะลดไม่ทันกับขนาดชุดที่เตรียมเลยต้องเปลี่ยนชุดแถมต้องเอาำกลับไปให้แม่แก้ออกที่ตจว.ค่ะ ฮ่าๆๆ

 emo20:)):) emo20:)):) emo20:)):)
สวัสดีค่ะพี่แอ๊ะ...น้ำอ้อยขอบพระคุณพี่มากๆค่ะที่ให้เกียรติเชิญมางานน้องต้นกล้าขณะนี้น้ำอ้อยกะลังเตรียมตัวลดหุ่นเช่นเดียวกะคุณน้องปุ๊กกี้ค่ะแต่ยังเครียดค่ะเพราะติด2 งานในวันเดียวกันค่ะคือลูกน้องของพี่อ้อก็แต่งในวันนั้นค่ะ...


หัวข้อ: Re: "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: พธู ๒๕๒๔ ที่ 12 กุมภาพันธ์ 2553, 10:37:56
ม้าส่ายหน้า

มีพระราชาอยู่องค์หนึ่งมีม้าแสนรู้กับ

ธิดาแสนสวยท้าประลองทั่วแคว้นว่า

ใครทำให้ม้าส่ายหน้าได้จะยกลูกสาวให้

ซึ่งพระราชาเตี้ยมกับม้าไว้แล้วว่า

ใครทำอะไรก็ให้พยักหน้าอย่างเดียว

ห้ามทำอย่างอื่น ก็มีคนมาท้าประลอง

มากมายแต่ก็ไม่สามารถทำให้ม้าส่ายหน้าได้

จนมาถึงหน่มพเนจรอยู่คนหนึ่ง เขาสามารถ

ทำให้ม้าส่ายหน้าได้ พระราชาประหลาดใจมาก

จึงไปถามชายพเนจรผู้นั้นว่า

"ทำอย่างไรม้าของข้าจึงส่ายหน้าให้ท่าน"

หนุ่มพเนจรตอบว่า "ข้าไม่ได้ทำอะไรเลย

ข้าเพียงแต่เอาตะเกียบไปดีดไข่มัน

แล้วถามว่าเอาอีกไหม"


หัวข้อ: Re: "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: prapasri AH ที่ 14 กุมภาพันธ์ 2553, 08:09:28
น้องน้ำอ้อยไข่มุกด์ ขา
ไม่ต้องเครียดนะคะ เดี๋ยวอ้วนเพราะความเครียด ค่ะ

พี่แอ๊ะมีลูกอีก 3 คนค่ะ  พี่แอ๊ะลูกดก ค่อยมางานลูกคนหลังๆก็ได้




หัวข้อ: Re: "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: ตุ๋ย 22 ที่ 14 กุมภาพันธ์ 2553, 21:19:21
หวัดดีครับพี่แอ๊ะ


หัวข้อ: Re: "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: Kaimook ที่ 14 กุมภาพันธ์ 2553, 22:06:22
 สุขสันต์วันวาเลนไทน์ค่ะพี่แอ๊ะ emo4:)) emo4:)) emo4:))


หัวข้อ: Re: "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: iamfrommoon ที่ 14 กุมภาพันธ์ 2553, 23:08:45
พี่แอ๊ะขรา
ขอบคุณมากเลยนะคะ ไม่เป็นไรค่ะ อย่างไรเสียชุดนั้น แก้ออกแล้วค่ะ ฮ่าๆๆ ตั้งตารอใจจดจ่อแล้วค่ะ  อิอิ


หัวข้อ: Re: "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: ภาณุ ปาตานี ที่ 14 กุมภาพันธ์ 2553, 23:39:58
สวัสดีครับ พี่แอ๊ะ

คิดว่าพี่แอ๊ะคงจะยุ่งนะครับ

ช่วงนี้รักษาสุขภาพด้วยนะครับ

 


หัวข้อ: Re: "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: เหยง 16 ที่ 19 กุมภาพันธ์ 2553, 12:30:17
สวัสดีครับพี่แอะ

หน้าเว็ปเงียบไปหลายวันทีเดียว ขณะนี้ยังต้องใช้เว็ปลิงค์ถึงเข้ามาได้

ผมได้รับการ์ดแล้วครับ แต่เข้าเว็ปมาบอกไม่ได้ครับ


หัวข้อ: Re: "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: ภาณุ ปาตานี ที่ 22 กุมภาพันธ์ 2553, 10:34:49
เมื่อวานนี้ ผมได้รับอีเมล์จากพี่แอ๊ะ

ท่าทางพี่แอ๊ะจะเข้า Web ไม่ถูก

ผมได้ตอบเรื่องทางเข้า Web ทาง Email  ไปแล้ว แต่ไม่แน่ใจว่า พี่แอ๊ะได้อ่านหรือยัง

ถ้าพี่ๆ มีเบอร์ของพี่แอ๊ะ ช่วยแจ้งด้วยนะครับ


หัวข้อ: Re: "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: iamfrommoon ที่ 22 กุมภาพันธ์ 2553, 13:01:04
พี่แอ๊ะคะ..
ชุดน้องพร้อมเสาร์นี้แล้ววววววววววววววววว


หัวข้อ: Re: "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: Kaimook ที่ 22 กุมภาพันธ์ 2553, 22:21:13
สวัสดีค่ะพี่แอ๊ะ...น้องปุ๊กกี้ชุดพร้อมแล้วดีใจจังค่ะ...พี่แอ๊ะล่ะคะ...


หัวข้อ: Re: "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: iamfrommoon ที่ 23 กุมภาพันธ์ 2553, 09:11:01
พี่ไข่มุกคะ...
อยากบอกว่า...เมื่อคืนนี้ลองชุดแล้ว กี๊ดๆๆ...ตื่นเต้นแล้วค่ะ นับถอยหลังไปถ่ายภาพกับคุณพี่แอ๊ะ พี่หมอหาญ น้องต้นกล้าและเ้จ้าสาว ...อีกท่านที่น้องจะไม่ยอมพลาดท่านอานันท์ ปันยารชุน...


หัวข้อ: Re: "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: wannee ที่ 23 กุมภาพันธ์ 2553, 14:37:28

สวัสดีค่ะ พี่แอ๊ะ
   ขอขอบพระคุณพี่แอ๊ะ 13 ที่ให้การสนับสนุนกิจกรรมหอซีมะโด่งมาตลอด รวมทั้งครั้งนี้ที่จะมีการจัดกอล์ฟการกุศลของชมรมนิสิตเก่าหอพักฯ ในวันพุธที่ 31 มี.ค. 53 ที่สนาม President Country Club โดยพี่แอ๊ะ ได้จัดกระเป๋าหิ้วสำหรับบรรจุของที่ระลึกให้กับนักกอล์ฟจำนวน 200 ใบ และสมทบเงินอีกจำนวนหนึ่ง
    จึงขอเรียนให้พวกเรา พี่ๆเพื่อนๆ และน้องๆ ทราบค่ะ
 emo4:)) emo6::)) emo9:huhu:


หัวข้อ: Re: "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: เหยง 16 ที่ 23 กุมภาพันธ์ 2553, 17:14:01
จาเตรียมกล้องไปถ่ายคนสวยๆจ๊า




4900  emo28:win:


หัวข้อ: Re: "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: iamfrommoon ที่ 24 กุมภาพันธ์ 2553, 08:43:05
ขอบคุณค่ะพี่เหยง (น้องเหมาว่า คนสวยๆ คือ น้องหนึ่งในนั้น) 555


พร้อม!!!!

 emo28:win: emo28:win: emo28:win:


หัวข้อ: Re: "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: Kaimook ที่ 24 กุมภาพันธ์ 2553, 23:38:48
น้องปุ๊กกี้ขราาาา...ชุดนี้หรือเปล่าคะที่จะใส่ไปงาน...สวยมากๆค่ะ  emo4:)) emo4:)) emo4:))


หัวข้อ: Re: "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: phraisohn ที่ 25 กุมภาพันธ์ 2553, 02:41:42
อ้างถึง
ข้อความของ wannee เมื่อ 23 กุมภาพันธ์ 2553, 14:37:28

สวัสดีค่ะ พี่แอ๊ะ
   ขอขอบพระคุณพี่แอ๊ะ 13 ที่ให้การสนับสนุนกิจกรรมหอซีมะโด่งมาตลอด รวมทั้งครั้งนี้ที่จะมีการจัดกอล์ฟการกุศลของชมรมนิสิตเก่าหอพักฯ ในวันพุธที่ 31 มี.ค. 53 ที่สนาม President Country Club โดยพี่แอ๊ะ ได้จัดกระเป๋าหิ้วสำหรับบรรจุของที่ระลึกให้กับนักกอล์ฟจำนวน 200 ใบ และสมทบเงินอีกจำนวนหนึ่ง
    จึงขอเรียนให้พวกเรา พี่ๆเพื่อนๆ และน้องๆ ทราบค่ะ
 emo4:)) emo6::)) emo9:huhu:

ขอบพระคุณพี่แอ๊ะที่ให้ความอนุเคราะืห์ชมรมครับ พี่เราใจดีจัง


หัวข้อ: Re: "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: wannee ที่ 02 มีนาคม 2553, 11:43:24


สวัสดีค่ะ พี่แอ๊ะ   emo4:))


หัวข้อ: Re: "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: prapasri AH ที่ 02 มีนาคม 2553, 12:27:29
สวัสดีค่ะหมอเสียด เเละเพื่อนๆ พี่ๆน้องๆ ทั้งหลายเอ๊ยยยยยยยยยยยยยย


หัวข้อ: Re: "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: phraisohn ที่ 02 มีนาคม 2553, 12:28:18
สวัสดีพี่แอ๊ะด้วยคนครับ อย่าลืมไปดูรูปภาพแต่งงานนะครับพี่ ยังลงให้ไม่หมดเลยครับ แหะๆ


หัวข้อ: Re: "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: ทราย 16 ที่ 02 มีนาคม 2553, 18:28:33
พี่แอ๊ะคะ
ฮือ ๆๆๆ (ขี้มูกโป่งแย้ว)
ไม่ได้เข้าเวปเป็นเวลาน๊าน นาน
เลยพลาดไปงานแต่งงานหลานรักเล้ยอ่ะ
ขออภัยนะคะ
ทราย 16



หัวข้อ: Re: "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: ตุ๋ย 22 ที่ 02 มีนาคม 2553, 21:06:52
หวัดดีครับพี่แอ๊ะ  พี่แอ๊ะสวยไม่สร่างเลยนะครับ


หัวข้อ: Re: "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: iamfrommoon ที่ 03 มีนาคม 2553, 11:05:11
พี่ทรายคะ...
เสียดายจังไม่ได้พบพี่ในงาน ซีมะโด่งเพียบเลยค่ะ

พี่ตุ๋ยคะ

ยืนยัน ฟันธง! ในความ "สวยและสง่า" ของพี่แอ๊ะค่ะ


หัวข้อ: Re: "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: prapasri AH ที่ 04 มีนาคม 2553, 00:39:38
น้องทราย น้องตุ๋ย น้อง ปุ๊กกี้ คนอุบล คนสวยมากกว่าพี่แอ๊ะ  

เชิญมายโสก็ได้นะคะ พี่อ้อย 14 จะคอยต้อนรับ ค่ะ

งานที่นี่ จะมีนักร้องคุณโฉมฉาย และคุณทืพย์วรรณ มาอีกค่ะ

พี่แอ๊ะจัดให้สุภาพบุรุษ กิติมศักดิ์รักเสียงเพลง ของเมืองยศ  

มาร้องเพลงคู่กะ โฉมฉาย เค้าตื่นเต้น กันใหญ่เลยค่ะ


หัวข้อ: Re: "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: ตุ๋ย 22 ที่ 04 มีนาคม 2553, 10:18:37
พี่แอ๊ะ  ผู้อิ่มเอิบไปด้วยบุญ  จริงๆครับ


หัวข้อ: Re: "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: iamfrommoon ที่ 04 มีนาคม 2553, 11:47:59
พี่แอ๊ะคะ

น้องว่า สวยเท่ายโสฯ ค่า อิอิ วันนั้นคุณโฉมฉายสมกับเป็น Entertainer อย่างมากเลยร้องเพลงหลายชม.เลยค่ะ เหมือนไม่รู้จักเหน็ดเหนื่อย ไฮโซมากเลยร้องร่วมกับการเป่าแซ็กโซโฟน...

พี่ตุ๋ยคะ
ไม่ไปร่วมงาน ณ ยโสฯ เหรอคะ ไกลกันมากมั้ย น้องหล่ะอยากไปๆ


หัวข้อ: Re: "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: yyswim ที่ 04 มีนาคม 2553, 15:21:16
สวัสดีครับ น้องแอ๊ะ13 และหมอหาญ

พี่นภ จะต้องรีบวิ่งไปดูภาพงานแต่ง ที่กระทู้ของ น้องสน ใช่ไหมครับ?

จะรีบไป จะรีบไป๊ รีบไป

พี่นภเพิ่งลงข้อมูลของพี่นภ ในกระทู้ห้อง11 นิดหน่อยครับ

อยากให้น้องแอ๊ะ ได้อ่าน

พี่นภ ไปงานแต่งของน้องหมอต้นกล้าไม่ได้จริงๆครับ อยากจะไปมากๆๆๆๆ

รู้ว่าที่ คอนราด จะมีแต่ความสุข ความสนุกครื้นเครง แบบเพียบ รถสิบล้อแน่ๆ

หากว่าง น้องแอ๊ะกรุณาไปอ่านหน่อยนะครับ

http://www.cmadong.com/board/index.php/topic,3892.msg362037.html


หัวข้อ: Re: "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: prapasri AH ที่ 04 มีนาคม 2553, 16:12:13
พีนภขา
ดูที่ ห้อง2513 ค่ะ


หัวข้อ: Re: "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: Kaimook ที่ 08 มีนาคม 2553, 22:01:46
สวัสดีค่ะพี่แอ๊ะชมภาพงานแต่งน้องคุณหมอต้นกล้าพี่แอ๊ะสวยมากๆเลยค่ะ...


หัวข้อ: Re: "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: ตุ๋ย 22 ที่ 08 มีนาคม 2553, 22:25:14
อ้างถึง
ข้อความของ Kaimook เมื่อ 08 มีนาคม 2553, 22:01:46
สวัสดีค่ะพี่แอ๊ะชมภาพงานแต่งน้องคุณหมอต้นกล้าพี่แอ๊ะสวยมากๆเลยค่ะ...
จริงด้วยครับ


หัวข้อ: Re: "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: prapasri AH ที่ 09 มีนาคม 2553, 23:54:07
ขอบคุณ น้องตุ๊ย22

และน้องไข่มุกดิ์ ค่ะ

พี่แอ๊ะบ้ายออออออออ อิๆๆๆๆๆๆๆ

น้องไข่มุกดิ์คะ

เลขาพี่แอ๊ะ อ่านชื่อน้องว่า "คุณไข่มุกดี"

เธอบอกว่าชื่อนี้แปลกมาก ชื่อ ไข่มุก ดี

เธอคงไม่เคยเห็น ไข่มุก แล้วมี  ด.เด็ก การันต์ น่ะค่ะ


หัวข้อ: Re: "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: หนุน'21 ที่ 10 มีนาคม 2553, 08:11:20


สวัสดีครับพี่แอ๊ะ
ไปชื่นชมรูปที่ห้อง 13 มาแล้ว
ด้วยความอิ่มเอมใจ ปลื้มกับพี่แอ๊ะและครอบครัวมาก
โดยเฉพาะหมอต้นกล้าและเจ้าสาว เหมาะสมกันที่สุด
งานนี้แม่เจ้าบ่าวสวยเด่น ดูดีมาก
รูปที่ถ่ายออกมาก็สุดยอด

เสียดายไม่ได้ไปร่วมงานมงคลคราวนี้
คู่ต่อไปหวังว่าจะได้มีโอกาสไปร่วมชื่นชมยินดีด้วยนะครับ


 emo6::))


หัวข้อ: Re: "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: Kaimook ที่ 11 มีนาคม 2553, 17:27:33
อ้างถึง
ข้อความของ prapasri AH เมื่อ 09 มีนาคม 2553, 23:54:07
ขอบคุณ น้องตุ๊ย22

และน้องไข่มุกดิ์ ค่ะ

พี่แอ๊ะบ้ายออออออออ อิๆๆๆๆๆๆๆ

น้องไข่มุกดิ์คะ

เลขาพี่แอ๊ะ อ่านชื่อน้องว่า "คุณไข่มุกดี"

เธอบอกว่าชื่อนี้แปลกมาก ชื่อ ไข่มุก ดี

เธอคงไม่เคยเห็น ไข่มุก แล้วมี  ด.เด็ก การันต์ น่ะค่ะ
55555555พี่แอ๊ะขราาาาน้ำอ้อยชอบ ดอ  การันต์ค่ะอิอิอิ...คือตอนเด็กๆคุณแม่แจ้งเกิดเจ้าหน้าที่ลงให้แบบนี้ค่ะ
เลยต้องเป็นบุคคลมี  ดอ การันต์ค่ะ555555


หัวข้อ: Re: "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: yyswim ที่ 11 มีนาคม 2553, 22:51:13
ขอบคุณน้องแอ๊ะมากๆๆ ที่ไปเยี่ยมพี่นภที่ห้อง รุ่น2511

อุ อุ  กำลังใจที่มอบให้ สว.



ขอให้ จำเริญ จำเริญ...  เอ๊ะ ภาษา ใต้ มา จาก ไหน


หัวข้อ: Re: "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: Kaimook ที่ 11 มีนาคม 2553, 23:21:03
สวัสดีค่ะพี่สิน emo4:)) emo4:)) emo4:))


หัวข้อ: Re: "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: ตุ๋ย 22 ที่ 17 มีนาคม 2553, 21:47:04
หวัดดีครับพี่แอ๊ะ


หัวข้อ: Re: "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: prapasri AH ที่ 17 มีนาคม 2553, 22:54:52
ขอบคุณน้องตุ๋ย

พี่แอ๊ะเพิ่ง ฟื้นได้ วันสองวันนี้ สลบเหมือดมาหลายเพลา แล้วค่ะ

ขอบคุณที่แวะมาเยี่ยมนะคะ


หัวข้อ: Re: "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: Kaimook ที่ 17 มีนาคม 2553, 22:57:35
แวะมาเยี่ยมพี่แอ๊ะค่ะ emo4:)) emo4:)) emo4:))


หัวข้อ: Re: "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: prapasri AH ที่ 17 มีนาคม 2553, 23:16:00
ขอบคุณค่ะ
น้องไข่มุก ดี ที่น่ารักกกกกกกกกกกกกก


หัวข้อ: Re: "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: หนุน'21 ที่ 18 มีนาคม 2553, 08:53:22

สวัสดีครับพี่แอ๊ะ
อย่าไปหลงเฟสบุ๊คจนไม่มีเวลามาคุยกับน้องๆที่นี่นะครับ
ยังรอเรื่องที่พี่แอ๊ะจะเล่าอยู่นะครับ




หัวข้อ: Re: "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: ภาณุ ปาตานี ที่ 18 มีนาคม 2553, 08:55:38
สวัสดีครับพี่แอ๊ะ ยังรำลึกถึงพี่แอ๊ะเสมอครับ


หัวข้อ: Re: "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: พธู ๒๕๒๔ ที่ 18 มีนาคม 2553, 18:43:10


ชายคนหนึ่งตื่นขึ้นมาในเช้าวัน หนึ่ง พบว่ามีลิงกอริลลา ตัวใหญ่อยู่บนต้นไม้ในสวนหลังบ้านเขา

ด้วย ความกลัวเขารีบเปิดสมุดหน้าเหลืองหาบริการกำจัดกอริลลาแล้วรีบโทรหา

พนักงาน บริษัทรับเรื่องแล้วบอกเขาว่าจะรีบไปหาทันที

เจ้า หน้าที่กำจัดกอริลลามาถึงอย่างรวดเร็ว เขาโดดลงจากรถแวน

แล้ว เปิดท้ายหยิบตาข่ายอันใหญ่ ปืนลูกซอง

จากนั้น เขาปล่อยหมาท่าทางดุร้ายตัวหนึ่งลงมา

“ เอาล่ะ ” เขาพูด

“ ผมจะบอกให้ว่าจะทำอย่างไร ผมจะปีนขึ้นไปบนต้นไม้ที่มีกอริลลาอยู่แล้วเขย่าจนมันตกลงมา พอมันตกลงมาหมาจะวิ่งเข้าไปงับจุดยุทธศาสตร์ของมัน ตอนนั้นมันจะไม่มีสภาพจะป้องกันตัว คุณช่วยขว้างตาข่ายนี่ไปคลุมมันที แล้วผมจะรีบลงมาจัดการมัดมันเอง”

พูด เสร็จเจ้าหน้าที่กำจัดกอริลลาก็รีบปีนขึ้นไปบนต้นไม้ทันที

“ เดี๋ยวก่อน ”

ชายเจ้า ของบ้านขัดจังหวะ

“ แล้วปืนลูกซองนี่ใช้ทำอะไร ”

“ อ้อ ลืมไป ”

เจ้า หน้าที่ตอบ

“ บางครั้งพอผมเขย่าต้นไม้ ไอ้กอริลลาจะเขย่าตอบจนผมร่วงลงมา ถ้าคุณเห็นยังงั้น รีบยิงหมาเลยนะ ”


หัวข้อ: Re: "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: เหยง 16 ที่ 21 มีนาคม 2553, 13:43:38
พี่แอ๊ะครับ

ขอบคุณสำหรับ message ที่ส่งให้ในช่วงเย็นวันที่ 17 ครับ
แต่เนื่องจากบริษัททัวร์วางรายการเที่ยวไว้เต็มที่ รวมทั้งมีนักท่องเที่ยวเต็มเกาะสมุย เนื่องจากหนีม๊อบไปเที่ยวเกาะกัน
สภาพของคนเต็มเกาะครับ จอดรถห่างเป็นร้อย-สองร้อยเมตรเพื่อเดินเข้าซอยไปดูหินตา-หินยาย ในสภาพแดดร้อนๆ
กลับโรงแรมก็หลับทันทีเช่นกัน จนไม่มีเวลาได้โทรหา อู๊ด-พรเทพ เลยครับ
คงต้องหาโอกาสหน้าไปใหม่ครับ


หัวข้อ: Re: "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: Kaimook ที่ 21 มีนาคม 2553, 23:45:37
 สวัสดียามดึกค่ะพี่แอ๊ะ emo4:)) emo4:)) emo4:))


หัวข้อ: Re: "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: ตุ๋ย 22 ที่ 22 มีนาคม 2553, 21:22:52
สวัสดีครับพี่แอ๊ะ  เดี๋ยวนี้พี่แอ๊ะติด เฟสบุ๊คไปแล้ว


หัวข้อ: Re: "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: prapasri AH ที่ 22 มีนาคม 2553, 21:58:50
น้องยา น้องปลาทูแมนนนนนน น้องเหยง16 น้องไข่มุกดี น้องตุ๋ยยยยยยย22

คิดถึงใจจะขาดเเล้วเอยยยยยยยยยยยยยยยยยย

ช่วงนี้พี่แอ๊ะไม่สบายเป็นไข้หวัดเล็กน้อย คงไปติดมาจาก fb เอ๊ย  ทีวีช่องเสื้อเเดง... อิๆๆๆๆๆ

เลยลองทานยา ฟ้าทะลายโจร แทนยา แผนปัจจุบัน แต่ไม่ดีขึ้นเลย


ฟ้าจะทะลายโจร ได้ไหมหนอออออออออออออ


สงสัยต้องรักษาด้วยยา แบบแผนปัจจุบันแล้วค่ะ

หายแล้วจะเข้าเวบให้บ่อยขึ้น

ยังไงก็ต้องกลับบ้านเรา  รักรออยู่ นะน้อง หะยีนะ


หัวข้อ: Re: "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: ตุ๋ย 22 ที่ 24 มีนาคม 2553, 21:52:11
หายไวไว  นะพี่แ๊อ๊ะ  ครับ


หัวข้อ: Re: "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: พธู ๒๕๒๔ ที่ 25 มีนาคม 2553, 19:11:46
หายหูฉลามน้ำแดง (น่าจะดีและสมฐานะพี่มากว่า หายไวไว)


หัวข้อ: Re: "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: ดร.มนตรี ที่ 25 มีนาคม 2553, 19:15:53
สุภาษิตสมัยก่อน: ใกล้เกลือ กินด่าง

สุภาษิตสมัยนี้: ใกล้พี่หาญทานฟ้าทะลายโจร  ^_^



ปล.

รักษาสุขภาพนะครับ พี่แอ๊ะ ที่เคารพรัก ของน้่องๆ ซีมะโด่ง  ^_^


หัวข้อ: Re: "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: Kaimook ที่ 25 มีนาคม 2553, 21:31:20
พี่แอ๊ะขราาาา...หายไวไวค่ะ emo4:)) emo4:)) emo4:))


หัวข้อ: Re: "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: Kaimook ที่ 28 มีนาคม 2553, 23:03:32
สวัสดีค่ะพี่แอ๊ะ emo4:)) emo4:)) emo4:))


หัวข้อ: Re: "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: ตุ๋ย 22 ที่ 31 มีนาคม 2553, 21:54:05
สวัสดีครับพี่แอีะพี่แอีะหายไปหลายวันแล้ว  อาการไข้ยังไม่หายหรอครับ


หัวข้อ: Re: "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: พธู ๒๕๒๔ ที่ 31 มีนาคม 2553, 22:17:36
ไม่มีอะไรครับ ตามมาประกบพี่ตุ๋ยให้หมั๋นใสเล่น


หัวข้อ: Re: "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: prapasri AH ที่ 31 มีนาคม 2553, 22:37:08
ไอ้หยา น้องปลาทูแมน

พี่แอ๊ะทราบนาว่าน้อง ต้องไม่ต้องการยุบสภา ชัวร์

น้องตุ๋ยและน้องๆขา ... พี่แอ๊ะยุ่งขิงงงงงงงเลยค่ะ

ถามยศวินทร์แดงอ่อน ก็ได้ น้องเขามาเยี่ยมพี่แอ๊ะเหลืองอ่อนๆค่ะ

พี่แอ๊ะกำลังเครียดกับไอ้ตู่......พี่แอ๊ะฟังช่องแดงทุกคืน ฟังเเล้วเครียดดดดดดดดด

แต่อยากรู้ว่าได้ตู่มันโกหกหลอกลวง ชาวอิสานอย่างไรบ้างงงงง

อยากให้มันเป็นลมตาย..คาเวที จังเลย

พี่แอ๊ะเลยกลายเป็นคนเกลียดเสื้อเเดงเพราะอีตาตู่นี่แหละ


หัวข้อ: Re: "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: prapasri AH ที่ 31 มีนาคม 2553, 22:38:41
น้องตุ๋ยขา

พี่แอ๊ะหายไข้กายแล้ว แต่ ไข้ใจยังไม่หายยยยยยยยยยยยจ้า


หัวข้อ: Re: "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: swsm ที่ 31 มีนาคม 2553, 22:40:44
ไข้ใจต้องให้พี่หมอหาญดูแลคนเดียวเลยค่ะ  อย่างใกล้ชิด .. คริคริ    emo48:)


หัวข้อ: Re: "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: prapasri AH ที่ 31 มีนาคม 2553, 22:43:28
หายไข้แล้วค่ะน้องตุ๋ยยยยยยยย แต่ไข้ใจ ยังไม่หาย55555555555555555555

พอดีช่วงนี้พี่แอ๊ะยุ่งขิง กับ fb บ้าง hi-5 บ้าง เลย

ห่างบ้านโด่งไปบ้าง   แต่เด่วก็จะกลับมาบ้านเรารักรออยู่แล้วค่ะ

ช่วงนี้เครียดกะอีเสื้อเเดง เปิดช่องแดงฟัง เลยเครียดไปด้วยค่ะ

เกลียดไอ้ตู่มากกว่า ทักษิณ ซะอีก ช่วยบอกคุณทักษิน หน่อยเหอะ

เห็นหน้าไอ้ตู่ทางทีวีแล้ว อารมณ์เสีย ทุกที

เขาทำให้เราต้องเครียดได้ขนาดนี้ คือไอ้ตู่มันเอาเรื่องไม่จริงมาพูดทั้งน้าน



และมีงานยุ่ง มาก น้องยศวินทร์ แดงอ่อนๆ มาเยี่ยมพี่แอ๊ะเหลืองอ่อนๆ

ถ่ามน้องยศวินทร์ได้เลย ว่าพี่แอ๊ะยุ่ง ขิงงงงงงง เลยค่ะ

พอดีมีงานสำคัญ ญี่ปุ่น จะมาบุกไทย เอ๊ยยยยยมางาน บั้งไฟยโสธร

พี่แอ๊ะต้องรับผิดชอบจัดงานพาแลงดินเนอร์ ของจังหวัด


ตอนนี้กำลัง พาผู้หญิงไฮโซยโส รำวงมาตรฐาน ให้คนญี่ป่นได้ชม ค่ะ

และรายการต่างๆ ช่วงพาแลงพี่แอ๊ะต้องดูแล งานกลางคืนทั้งหมดเลยค่ะ


(ปล. เนื้อหานี้อาจจะซ้ำกับกระทู้ที่แล้วนะคะ เพราะพิมพ์ๆ แล้วหายไป
ทีนี้ ข้อความนี้ มาโผล่อีก เลยส่ง ทั้งสองข้อความก้แล้วกันนะคะ)


หัวข้อ: Re: "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: prapasri AH ที่ 31 มีนาคม 2553, 22:47:18
หวัดดี ค่ะน้องหะ ยี ช่วยรายการสถานการณืแดงเดือด ให้ fb cmadong ด้วยนะคะ


หัวข้อ: Re: "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: YOTSAWIN ที่ 01 เมษายน 2553, 01:08:14
อ้างถึง
ข้อความของ prapasri AH เมื่อ 31 มีนาคม 2553, 22:43:28
หายไข้แล้วค่ะน้องตุ๋ยยยยยยยย แต่ไข้ใจ ยังไม่หาย55555555555555555555

พอดีช่วงนี้พี่แอ๊ะยุ่งขิง กับ fb บ้าง hi-5 บ้าง เลย

ห่างบ้านโด่งไปบ้าง   แต่เด่วก็จะกลับมาบ้านเรารักรออยู่แล้วค่ะ

ช่วงนี้เครียดกะอีเสื้อเเดง เปิดช่องแดงฟัง เลยเครียดไปด้วยค่ะ

เกลียดไอ้ตู่มากกว่า ทักษิณ ซะอีก ช่วยบอกคุณทักษิน หน่อยเหอะ

เห็นหน้าไอ้ตู่ทางทีวีแล้ว อารมณ์เสีย ทุกที

เขาทำให้เราต้องเครียดได้ขนาดนี้ คือไอ้ตู่มันเอาเรื่องไม่จริงมาพูดทั้งน้าน



และมีงานยุ่ง มาก น้องยศวินทร์ แดงอ่อนๆ มาเยี่ยมพี่แอ๊ะเหลืองอ่อนๆ

ถ่ามน้องยศวินทร์ได้เลย ว่าพี่แอ๊ะยุ่ง ขิงงงงงงง เลยค่ะ

พอดีมีงานสำคัญ ญี่ปุ่น จะมาบุกไทย เอ๊ยยยยยมางาน บั้งไฟยโสธร

พี่แอ๊ะต้องรับผิดชอบจัดงานพาแลงดินเนอร์ ของจังหวัด


ตอนนี้กำลัง พาผู้หญิงไฮโซยโส รำวงมาตรฐาน ให้คนญี่ป่นได้ชม ค่ะ

และรายการต่างๆ ช่วงพาแลงพี่แอ๊ะต้องดูแล งานกลางคืนทั้งหมดเลยค่ะ


(ปล. เนื้อหานี้อาจจะซ้ำกับกระทู้ที่แล้วนะคะ เพราะพิมพ์ๆ แล้วหายไป
ทีนี้ ข้อความนี้ มาโผล่อีก เลยส่ง ทั้งสองข้อความก้แล้วกันนะคะ)
สวัสดีครับพี่แอ๊ะ และพี่ๆน้องๆทุกคน
ขอใช้สิทธิ์พาดพิงนะครับ
ผมน่ะ สีชมพูแต่ไหนแต่ไร ตอนนี้ก็สีม่วงตามสีของบริษัท บีเอชซี พี่แอ๊ะคงเห็นแล้วนะครับ
ผมน่ะขัดใจเสื้อเหลืองอยู่แล้ว แต่กับรัฐบาล ก็ลุ้นเอาใจช่วยให้คิดดีทำดีอยู่ (รัฐบาลคงไม่ใช่สีเหลืองนะครับ)
ถ้ามีโอกาสแล้วทำให้ได้ ผมก็รักทั้งนั้นครับพี่
เรื่องพี่แอ๊ะยุ่ง ผมก็เห็นด้วยครับ
แต่พี่ก็มีชีวิตที่น่าอิจฉาที่สุดครับ


หัวข้อ: Re: "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: ภาณุ ปาตานี ที่ 01 เมษายน 2553, 08:30:08
สวัสดีครับพี่แอ๊ะ..

เดิมผมเป็นคนไม่สังกัดสีครับ

แต่ตอนนี้..ยอมรับว่าเป็นสีเดียวกับ ท่านนายกอภิสิทธิครับ (ไม่ได้หมายถึงผิวนะครับ..อันนั้นคนละสี...เหอเหอ)


หัวข้อ: Re: "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: seree_60 ที่ 01 เมษายน 2553, 09:47:33
หวัดดีครับ พี่แอ๊ะ แวะมาเยี่ยม
อยากมาดูว่า ห้องพี่แอ๊ะ เขียวแล้วหรือยัง
ถ้าดูไอ้ตู่แล้วเครียด พี่แอ๊ะ ก็เอารูป.....ที่ส่งให้ผมมาดู
แล้วพี่แอ๊ะ ก็จะอารมณ์ดี55555555


หัวข้อ: Re: "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: prapasri AH ที่ 01 เมษายน 2553, 09:59:09
สวัสดี น้องya คะ

เมื่อคืนนอนคิดถึงน้อง ya อยู่เลย วันนี้น้อง ya มาเยี่ยม แสดงว่า น้องya อายุยืน


ว่างๆมาเที่ยว ยโส กับน้องyos นะคะ (ยศวินทร์) น้องยศ จะมายโสบ่อยขึ้น

นั่งรถกันมาก็ได้ หรือจะให้รถพี่แอ๊ะไปรับ

รถปกตินะคะ ไม่ใช่รถถังงงงงงง หรือรถ ambulance 55555555555555555555

มาเที่ยวบั้งไฟ มาดูพี่แอ๊ะรำวงมาตรฐาน ก็ได้

ตอนนี้อยู่ในบ้านก็รำวงทั้งวันค่ะ

รำมาซิมารำ มาเริงระบำกันให้สนุกกกกกกกกกกกกกกกกกก


หัวข้อ: Re: "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: prapasri AH ที่ 01 เมษายน 2553, 11:54:38
เมื่อกี้ ได้รับ อีเมล์ เรื่อง นายกอภิสิทธิ์ พบควาย  มันส์ มากๆค่ะ

อ่านนะคะ สนุกดีค่ะ ควายจิงๆ ไอ้ตู่เอ๊ย เธอทำให้ฉันเห็นหน้าเธอแล้ว ฉันทานข้าวไม่ลง น้ำหนักลดไป2 กิโลเเน่ะ

ว่างๆ มาให้ฉันเขกกะบาล ซะดีๆ เธอเป็นเด็กสุราษฎร์ เสียชื่อ เมืองคนดี หมดเลย 

 

"กรุณาอ่านให้จบด้วยนะคะ หนูอึดอัดใจมาก

เพื่อ ไม่ให้เสียเวลา หนูขอด่าเป็นรายบุคคลเลยละกันนะคะ

...............................................................

เริ่ม จากพี่จตุพร พี่จตุพรคะ พี่เป็นควายเหรอคะ
ท่านนายกพูดอะไร ทำไมพี่ไม่ฟังมั่งล่ะคะ
พี่จะแหกปากเถียงอยู่ทำไมคะ
ถ้าพี่เป็นหมา หนูจะเอารองเท้าตบปากพี่จริงๆค่ะ
และถ้าจุดประสงค์ของการเจรจาในครั้งนี้
คือ พี่แค่ต้องการแสดงความโง่
พี่ก็ไม่จำเป็นต้องมาโง่ออกทีวีก็ได้นี่ค่ะ
เหมือน มีปากไว้พูด มีตูดไว้ขี้แค่นั้นละค่ะ

ตอนนี้คนทั้งประเทศชาติไทย เค้าเลยรู้กันหมดเลยค่ะ ว่าพี่คือสิ่งมีชีวิต
ที่โง่กว่าควาย
สาบานได้ คนอย่างหนูไม่เคยรังเกียจใครที่หน้าตาเลยค่ะ
หนูรู้ค่ะ ว่าถ้าเลือกเกิดได้ พี่คงไม่อยากเกิดมาหน้าเหมือนหมา
แบบทุกวันนี้หรอกค่ะ
ถ้า พี่แค่หน้าหมานี่หนูยังพอให้อภัย
แต่พี่ดันใจหมาอีก
หนูรับไม่ได้ จริงๆในจุดนี้ค่ะ

ยังค่ะ หนูยังด่าพี่ไม่จบ แล้วพี่ไม่ทราบเหรอคะ ว่าหกโมงเย็นมันเป็นเวลาทานอาหาร
แถวบ้านหนูนะคะ พอเห็นหน้าพี่โผล่ออกทีวีเท่านั้นแหละ
ข้าวปลานี่ กินกันไม่ลงเป็นแถวเลยค่ะ
พี่จตุพรคะ พี่จะสร้างบาปสร้างกรรมไปถึงไหนคะ
หนู ขอถาม ....
ทำเอาคนแดรกข้าวกันไม่ลงครึ่งค่อนประเทศ บาปพี่นี่หนักเลยรู้มั้ย
( แต่หนูเดาว่าพี่คงไม่รู้ เพราะพี่โง่น่ะสิคะ อิๆ )

ต่อมาคุณหมอเหวง หนูกราบขออภัยนะคะ หนูไม่ทราบจะเรียกคนๆนี้ว่า '' หมอ ''
หรือ '' หมา '' ดีค่ะ
( ด้วยความเคารพ จริงๆค่ะ ตอนนี้หนูสับสนไปหมดแล้วจริงๆค่ะ)
คนแบบนี้ โบราณเขา??รียกว่า ’’ แก่แล้วไม่อยู่ส่วนแก่ ’’ ค่ะ อยู่ดีไม่ว่าดี
ไปว่าท่านายกเด็กยังโง้น ยังงี้
สุดท้ายเป็นไงหละคะ โดนเด็กถอนหงอกอวดคนไทยทั้งประเทศเข้าให้ เพลินดีมั้ยล่ะคะ
หนูว่าคนแบบตาเหวงนี่ ไม่มีราคาอะไรหรอกค่ะ
ถ้าเอา ไปทำปุ๋ย ต้นไม้ก็ตายค่ะ หาประโยชน์อันใดไม่ได้เลยจริงๆค่ะ
หนูว่า หนูเอาเวลาไปหาเห็บให้หมา
มันยังมีค่ากว่า ที่หนูจะเสียเวลายกมือไหว้คนแก่แบบนี้ค่ะ

คนสุดท้ายพี่วีระ
พี่ ทราบมั้ยคะ ว่าพวกเสื้อแดงมันเตรียมขับพี่ออกจากฝูงแล้วค่ะ
เพราะพี่ดู เป็นผู้เป็นคนขึ้นเยอะเลยค่ะ พูดจาโต้ตอบกับท่านนายกเป็นภาษาคนได้ด้วย
ซึ่ง หนูขอกราบตรีน ชื่นชมในความกล้าหาญของพี่ในจุดนี้ค่ะ
อ้อ ๆๆๆ!!ที่สองคนนั่นพูด คนเขาก็ฟังกันไม่ค่อยเข้าใจหรอกค่ะ
แต่โชคดี ที่วันนี้สถานีโทรทัศน์แห่งประเทศไท
เขามี sub แปลภาษาควาย เป็นภาษาคนให้ด้วยน่ะค่ะ คนดูเลยพอเข้าใจบ้าง

สรุป หนูขอเรียกรายการนี้ว่า
‘’ นายกอภิสิทธิ์พบควาย ’’ แล้วกันนะคะ  
 



หัวข้อ: Re: "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: เหยง 16 ที่ 01 เมษายน 2553, 12:54:24
พี่แอ๊ะครับ

เย็นนั้นทุกคนนั่งหน้าจอ ที วี ดูการเจรจา ซึ่งมีผลทำให้เกิดการเบื่ออาหารเย็นมื้อนั้นจริงๆ

ผมละกลัว หมอ"เหวง" จริงๆ ตอนแกบอกว่า เป็นตัวแทนของคน 20 ล้านคน แต่กลับปล่อยให้รัฐธรรมนูญผ่านความเห็นชอบจากคนทั้งประเทศเพียง 12 ล้านคนเศษไปได้ยังไงไม่รู้ หรือตัวหมอแกเป็นตัวแทนของเด็กและเยาวชนอายุต่ำกว่า 18 ปีก็ไม่รู้??


หัวข้อ: Re: "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: prapasri AH ที่ 01 เมษายน 2553, 14:59:33
พี่แอ๊ะเคครียดมากเลยเหยงงงงงงงงงงง

แต่ถ้าไม่ดูช่องเสื้อแดงบ้างก็ไม่ทราบจะทำยังไง

เพราะอยากรู้ว่าเขาจะทำอะไรกันบ้าง

แต่เห็นหน้า  อีตุ๊ด ตู่  แล้วกินข้าวไม่ลงจริงๆ

 หมอเหวง ก็ทำเป็นแก่พรรษาทางการเมือง

ไม่รู้จักมารักษาคนไข้ ทำหน้าที่ตัวเองดีกว่า ไป "ทำเหวง " หาเงินอยู่ได้


หัวข้อ: Re: "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: Preecha2510 ที่ 01 เมษายน 2553, 15:23:30
อ้างถึง
ข้อความของ prapasri AH เมื่อ 01 เมษายน 2553, 14:59:33
พี่แอ๊ะเคครียดมากเลยเหยงงงงงงงงงงง

แต่ถ้าไม่ดูช่องเสื้อแดงบ้างก็ไม่ทราบจะทำยังไง

เพราะอยากรู้ว่าเขาจะทำอะไรกันบ้าง

แต่เห็นหน้า  อีตุ๊ด ตู่  แล้วกินข้าวไม่ลงจริงๆ

 หมอเหวง ก็ทำเป็นแก่พรรษาทางการเมือง

ไม่รู้จักมารักษาคนไข้ ทำหน้าที่ตัวเองดีกว่า ไป "ทำเหวง " หาเงินอยู่ได้


          สวัสดีครับแอ๊ะ      น่าเห็นใจที่แอ๊ะเครียดมากในเรื่องนี้  แต่แอ๊ะไม่ต้องกังวลว่าต้องเครียดคนเดียวนะครับ

     ในวันเวลาเดียวกันที่จตุพร(ตุ๊ดตู่)และเหวงเสนอหน้าออก TV.   ก็มีอีกหลายล้านครอบครัวในประเทศไทยที่กำลัง

      นั่งทานข้าวและดู TV.ไปด้วย  ต่างก็ทานข้าวกันไม่ลงกันทั้งนั้นมีความรู้สึกผะอืดผะอมอยากจะอาเจียรตามๆกัน


หัวข้อ: Re: "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: Intania๑๖ ที่ 01 เมษายน 2553, 15:40:29
(http://img89.imageshack.us/img89/1714/22388450.jpg)
 เสื้อแดงขู่บุกNBTขู่จุฬาไม่อยากเจอหายนะ
อย่าเล่นสกปรกปลุกมวลชนต้าน



หัวข้อ: Re: "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: seree_60 ที่ 01 เมษายน 2553, 21:47:01
คนเสื้อชมพูไม่หวั่นม็อบเดินหน้าจัดกิจกรรมต่อ
01 เมษายน 2553 เวลา 21:20 น.posttoday

คนเสื้อชมพู ยืนยันเดินหน้าจัดกิจกรรมต่อต้านเสื้อแดงต่อ
 แม้จุฬาฯประกาศปิดทำการโดยยึดพื้นที่หน้ามหาวิทยาลัยก่อนเคลื่อนขบวนไป
 อนุสาวรีย์ ร.6 ในช่วงบ่าย



น.พ.ตุลย์  สิทธิสมวงศ์ อาจารย์คณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยา ในฐานะผู้ประสานงานเครือข่ายภาคประชาชน เปิดเผยถึงการแสดงพลังของคนเสื้อชมพู เพื่อต่อต้านการชุมนุมของกลุ่ม นปช.ในวันพรุ่งนี้ หลัง  น.พ. ภิรมย์ กมลรัตนกุล อธิการบดี จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย สั่งปิดมหาวิทยาตั้งแต่ 21.00 น.คืนนี้ ไปถึงวันที่ 4 เม.ย. ว่า ยังยืนยันที่จะจัดกิจกรรม โดยจะใช้พื้นที่หน้ามหาวิทยาลัย  เพื่อเป็นสถานที่ในการชุมนุม และเคลื่อนไปยัง อนุสาวรีย์ รัชกาลที่ 6 ในช่วงบ่ายของวันเดียวกัน

นอกจากนี้ น.พ.ตุลย์ ยังกล่าวเพิ่มเติมถึงการเคลื่อนขบวนว่า ต้องป้องกันและหลีกเลี่ยงการเผชิญกับกลุ่ม นปช. ในฐานะแกนนำ ต้องควบคุมไม่ให้เกิดเหตุการณ์เช่นนั้น และคาดการณ์ว่าจะมีประชาชนเข้าร่วมแสดงพลังในครั้งนี้ประมาณ พันคน

ขณะที่นายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรี ฝ่ายความมั่นคง ได้สั่งให้มีการจัดกำบัวตำรวจ 5 กองร้อยและทหารอีก 3 กองร้อย เข้าดูแลความสงบเรียบร้อยในบริเวณพื้นที่โดยรอบ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย เพื่อป้องกันเหตุรุนแรงที่อาจจะเกิดขึ้น


 
คุณ kris3888: “ ความสุข ความสวัสดี ของข้าพเจ้า จะเกิดขึ้นได้ ก็ด้วยบ้านเมืองของเรา มีความ เจริญ มั่นคง เป็นปกติสุข ความเจริญมั่นคงทั้งนั้น จะสำเร็จผลเป็นจริงไปได้ ก็ด้วยทุก คน ทุกฝ่ายในชาติ มุ่งที่จะปฏิบัติหน้าที่ ของตน ให้เต็มกำลัง ด้วยสติ รู้ตัว ด้วย ปัญญา รู้ผิด และด้วยความสุจริต จริงใจ โดยเห็นแก่ประโยชน์ส่วนรวม มากกว่าส่วน อื่น” ขอพระองค์จงทรงพระเจริญ 01 เม.ย. 2553 ,21:42 น.

คุณ rememberme: สู้ๆครับ อย่าไปกลัวมัน สร้างความเดือนร้อนไปทั่วเมืองแล้วยังไม่สำนึกอีก เลว! 01 เม.ย. 2553 ,21:41 น.

คุณ kris3888: อย่าลืมฉีดวัคซีนก่อนนะครับ เดี๋ยวโดนหมาบ้ากัดเอาครับ ผมขอให้กำลังใจการจัด กิจกรรมครั้งนี้ครับ 01 เม.ย. 2553 ,21:40 น.

คุณ n-a: สนับสนุนการแสดงพลังต่อต้านเสื้อแดงครับ เราอดทนกับพวกมันมามากเกินพอแล้ว 01 เม.ย. 2553 ,21:40 น.

คุณ kuuga: ไม่ต้องกลัวครับ แต่เสียดาย ผมดันไม่ว่างอ่ะดิน่าจะรวมกันวันเสาร์เลย 01 เม.ย. 2553 ,21:37 น.

คุณ media: Go on! Don't let the Red bullies threaten you or the majority of Thai people! 01 เม.ย. 2553 ,21:31 น.

คุณ veteran: อย่าไปกลัวกุ๊ยขอทานทักษิณ เราไปกันมาก ๆ ให้มันรู้ซะมั่ง 01 เม.ย. 2553 ,21:30 น.
BREAKING NEWS คนเสื้อชมพูไม่หวั่นม็อบเดินหน้าจัดกิจกรรมต่อ
01 เม.ย. 2553 , 21:20 น.
 
ในหลวง ทรงแนะข้าราชการพลเรือนให้หนักแน่น เที่ยงตรง
01 เม.ย. 2553 , 21:10 น.
 
จุฬาฯปิดทำการ 21.00 น.คืนนี้-4เม.ย.หนีม็อบ
01 เม.ย. 2553 , 20:36 น.
 

 




หัวข้อ: Re: "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: seree_60 ที่ 01 เมษายน 2553, 21:50:45
(http://www.cmadong.com/imageupload/2010_Cmadong-Image/data/image/l07d64-ce56c3.jpg)

  หมอตุลย์....หมอจุฬา...บุคคลที่ชาวจุฬา ภาคภูมิใจ


หัวข้อ: Re: "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: prapasri AH ที่ 02 เมษายน 2553, 14:19:04
ขอโทษ ทีนะรูปนี้ไม่สุภาพ

แต่น่าสนใจค่ะ มีคนส่งมาให้

(http://img145.imageshack.us/img145/6383/redc.png)


หัวข้อ: Re: "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: ตุ๋ย 22 ที่ 02 เมษายน 2553, 21:48:29
หวัดดีพี่แอ๊ะ  หายป่วยแล้วหรอครับ


หัวข้อ: Re: "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: prapasri AH ที่ 02 เมษายน 2553, 22:41:56
เห็นหน้า ไอ้ตู่ เลยต้องแข็งแรงค่ะ น้องตุ๋ย

ต้องลุกมาสู้ๆๆๆๆๆ อีตู่บ้า


หัวข้อ: Re: "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: prapasri AH ที่ 03 เมษายน 2553, 09:05:19
จริงๆแล้วถ้าคุณทักษิน อยู่เฉยๆๆ พี่แอ๊ะจะไม่ว่าอะไรท่านเลย

บางครั้งก็เห็นใจท่านและครอบครัวพอสมควร ที่อยู่ดีไม่ว่าดี สบายๆอยู่แล้ว มาหาเรื่องทำการเมือง

แต่พี่แอ๊ะเกลียดสมุนรับใช้ คุณทักษินทุกตน

และสงสารทักษินที่ถูกพวกนีหลอก เอาเงิน

แต่คุณทักษิน คือนักธุรกิจ นะ ต้องมีผลงานให้เห็น จึงจะได้เงิน

บางงานพวกนี้มันต้องจ่ายเงินไปก่อนแล้งเบิกเงินที่หลัง

ถ้างานไม่ดี เงินก็อาจไม่ได้

อีพวกนี้มันเลยต้อง ตะเเบงสุดชีวิตตตตตตตตตตตตตตต

ข่าวว่า ไอ้ตู่ มันยังมีอารมณ์ไปทำลูก ตอนนี้เมียมันตั้งท้องได้เจ็ดเดือน

ทั้งๆที่ลูกคนแรกอายุ ปีกว่า
เมื่อวานพี่แอ๊ะยังคิดอยู่เลยว่า มันจะมีอารมณ์หมาบ้าทางเพศกับเมียมันตอนไหน

คงกักขฬะ น่าดู


หัวข้อ: Re: "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: prapasri AH ที่ 03 เมษายน 2553, 09:08:10
วันนี้ จะขอหยุดด่าไอ้ตู่ สองสามสี่ห้าวัน

ขอลาไปกทม. ก่อนนะ ว่าจะไปดู มอเตอร์โชว์  ก่อนไปเชงเม้งที่ราชบุรี พรุ่งนี้

ข่าวว่ามันเอา รถบรรทุก ไปปิดถนนบางนา

พี่แอ๊ะดูมอเตอร์โชว์ไม่ได้ละก้อ ตู่เอ๊ยยยยยยยย จะน่าดูชม

บายๆๆๆ ก่อนนะคะ


หัวข้อ: Re: "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: Intania๑๖ ที่ 03 เมษายน 2553, 09:44:03

(http://img227.imageshack.us/img227/3002/resizeofcu06.jpg)


พี่แอ๊ะครับ ผมฟังเทปที่มันให้สัมภาษณ์ ประโยคข้างบนสีดำ เป็นของจตุพร มัน ไม่มีการต่อเติม
โอหังมากๆ เพราะจุฬาฯ ไม่ใช่แค่สถานที่ แต่เป็นสถาบัน มีนิสิตเก่า-นิสิตปัจจุบัน คณาจารย์ บุคคลากร รวมหลายแสนคน
ทำงานใหญ่โตๆ ให้กับบ้านเมืองมามาก ไอ้คางคก มันมีความรู้อะไร เรียนจบอะไรมา อาชีพมันรับจ้างโค่นรัฐบาล

นปช. = แนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ
พฤติกรรมแบบนี้ มันเผด็จการครองเมืองชัดๆ
ใครจะมาชุมนุม ต่างความเห็นไม่ได้ มันถูกต้องคนเดียว




หัวข้อ: Re: "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: Intania๑๖ ที่ 03 เมษายน 2553, 09:46:01
รายชื่อ นักวิชาเกินเอี้ยๆ 240 ตัว
ฤาจะสู้ เสียงของมหาชน และคนใส่เสื้อสีชมพู



(http://img180.imageshack.us/img180/6405/mgrpdf20100403page21.jpg)

(http://img88.imageshack.us/img88/6655/siamza.jpg)

โพลสำรวจของ SiamZa

ไม่เห็นด้วยกับการยุบสภา 32,793 คน  85.39%
เห็นด้วยกับการยุบสภา 5,412 คน  14.09%
ไม่รู้เหมือนกัน สับสน 153 คน 0.40%


(http://img100.imageshack.us/img100/1812/yoonpollq.jpg)

โพลสำรวจของคุณสุทธิชัย หยุ่น

จำนวนคนโหวต 151,446 คน
ควรยุบสภา 22,443 คน  15%
ไม่ควรยุบสภา  126,770  คน 84%
ไม่แน่ใจ  2,233  คน 1%







หัวข้อ: Re: "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: swsm ที่ 03 เมษายน 2553, 10:06:10
อ้างถึง
ข้อความของ prapasri AH เมื่อ 31 มีนาคม 2553, 22:47:18
หวัดดี ค่ะน้องหะ ยี ช่วยรายการสถานการณืแดงเดือด ให้ fb cmadong ด้วยนะคะ


ไม่รู้จะรายงานอะไรต่อแล้วค่ะ .. พี่แอ๊ะขรา

เพราะมีแต่สีชมพูในหัวใจมาตั้งแต่วันที่ 26 มีนาคม ..
วันครบรอบสถาปนา 93 ปี จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย สถาบันอันเป็นที่รักของเรา .. ทุกคน



(http://www.cmadong.com/imageupload/2010_Cmadong-Image/data/image/l0a5wa-2bc3fd.jpg)

(http://www.cmadong.com/imageupload/2010_Cmadong-Image/data/image/l0a5wz-e51202.jpg)


หัวข้อ: Re: "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: ภาณุ ปาตานี ที่ 03 เมษายน 2553, 10:56:21
(http://img88.imageshack.us/img88/7259/22557318761336143171711.jpg)

ลงรูปใหม่ให้พี่แอ๊ะแล้วครับ(แทนของพี่วณิชย์) จะได้หายเครียด กินข้าวได้ หายป่วย


หัวข้อ: Re: "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: KUSON ที่ 05 เมษายน 2553, 15:59:23
น้องยะครับ
อยากให้พี่แอ๊ะมีความสุข
ต้องส่งรูปในหลวงตอนทรงงาน
พระราชกรณียกิจของในหลวงจะเป็นแรงบรรดาลใจให้พวกเรามีความมานะและอดทนดังเช่นพระองค์ท่าน


หัวข้อ: Re: "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: prapasri AH ที่ 07 เมษายน 2553, 21:32:12
น้องอุอ๋น และพี่ๆน้องๆคะ

พี่แอ๊ะไปกรุงเทพ กลับมาถึงเมื่อกี้นี่เอง นั่งรถยนตร์มา แวะดูที่ดิน และโครงการอลังการ

บานตะไท ของเศรษฐีต่างๆที่ไปสร้างบ้านที่เขาใหญ่

อายหยา....สุดเเสนจะเสียดาย เมื่อก่อนไร่ละ พัน ไร่ละหมื่นเอง

เด่ว นี้ เหมือน ยก บ้านเศรษฐีเมืองนอกมาวางในเมืองไทย

เห็นบ้านของ คุณ ส. จึงรุ่งเรืองกิจ ราคา ร้อยกว่าล้าน

พี่แอ๊ะรีบหนีออกมาเลย ค่ะ เพราะดูไปไกลๆคล้ายบ้านตุ๊กตา....

คือพี่แอ๊ะคิดว่า ถ้าอากาศหนาว ช่วงหน้าร้อน

ก้น่าสน แต่ อากาศก็ร้อนตับแตกค่ะ ไม่เห็นจะหนาวตามคำโฆษณา ค่ะ

เลยเผ่นกลับมา เพราะไม่มีปัญญาซื้อด้วยค่ะ


ขากลับแวะ ตามปั๊ม รถเยอะมาก

อิๆๆๆสีแดง ขนกันกลับบ้าน มีหม้อหุงข้าวเครื่องใช้ในการกินอยู่

เต็มหลังรถเลยค่ะ

แต่คนตัวเเดง แต่ละคนท่าทางขี้เบ่งน่าดู

ใส่สร้อยคอทองคำ แขวนพระ เรียงรอบคอเลย
มาเฟียชัดๆ[/color]

งานนี้รับรองสีแดงปิดเกมยาว ถ้าไม่ชนะวันเสาร์ที่ผ่านมา ก็คงไม่ชนะแล้วค่ะ

วันนี้จะขอดูทีวี เรียบเรียงข่าวค่ะ

คือไปกรุงเทพ สองสามวัน ไม่ทราบข่าวสารอะไรเลย
หนังสือพิมพ์ก็ไม่ได้อ่าน  ทีวี พี่แอ๊ะก็เปิดไม่เป็น อินเตอร์เนตไร้สาย ก็เข้าไม่ได้

แต่สนุกตรงได้ทานข้าวและพี่อ้อย14 และน้องยศวินทร์ค่ะ


หัวข้อ: Re: "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: YOTSAWIN ที่ 08 เมษายน 2553, 11:58:21
อ้างถึง
ข้อความของ prapasri AH เมื่อ 07 เมษายน 2553, 21:32:12
น้องอุอ๋น และพี่ๆน้องๆคะ

พี่แอ๊ะไปกรุงเทพ กลับมาถึงเมื่อกี้นี่เอง นั่งรถยนตร์มา แวะดูที่ดิน และโครงการอลังการ

บานตะไท ของเศรษฐีต่างๆที่ไปสร้างบ้านที่เขาใหญ่

อายหยา....สุดเเสนจะเสียดาย เมื่อก่อนไร่ละ พัน ไร่ละหมื่นเอง

เด่ว นี้ เหมือน ยก บ้านเศรษฐีเมืองนอกมาวางในเมืองไทย

เห็นบ้านของ คุณ ส. จึงรุ่งเรืองกิจ ราคา ร้อยกว่าล้าน

พี่แอ๊ะรีบหนีออกมาเลย ค่ะ เพราะดูไปไกลๆคล้ายบ้านตุ๊กตา....

คือพี่แอ๊ะคิดว่า ถ้าอากาศหนาว ช่วงหน้าร้อน

ก้น่าสน แต่ อากาศก็ร้อนตับแตกค่ะ ไม่เห็นจะหนาวตามคำโฆษณา ค่ะ

เลยเผ่นกลับมา เพราะไม่มีปัญญาซื้อด้วยค่ะ


ขากลับแวะ ตามปั๊ม รถเยอะมาก

อิๆๆๆสีแดง ขนกันกลับบ้าน มีหม้อหุงข้าวเครื่องใช้ในการกินอยู่

เต็มหลังรถเลยค่ะ

แต่คนตัวเเดง แต่ละคนท่าทางขี้เบ่งน่าดู

ใส่สร้อยคอทองคำ แขวนพระ เรียงรอบคอเลย
มาเฟียชัดๆ[/color]

งานนี้รับรองสีแดงปิดเกมยาว ถ้าไม่ชนะวันเสาร์ที่ผ่านมา ก็คงไม่ชนะแล้วค่ะ

วันนี้จะขอดูทีวี เรียบเรียงข่าวค่ะ

คือไปกรุงเทพ สองสามวัน ไม่ทราบข่าวสารอะไรเลย
หนังสือพิมพ์ก็ไม่ได้อ่าน  ทีวี พี่แอ๊ะก็เปิดไม่เป็น อินเตอร์เนตไร้สาย ก็เข้าไม่ได้

แต่สนุกตรงได้ทานข้าวและพี่อ้อย14 และน้องยศวินทร์ค่ะ
หวัดดีครับ
ผมมาเยี่ยมดักรอว่าพี่แอ๊ะจะกลับถึงบ้านหรือยังครับ
ช่วงนี้คงพักผ่อนก่อนนะครับ จะได้สวยสองพันปีครับ


หัวข้อ: Re: "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: prapasri AH ที่ 08 เมษายน 2553, 21:41:05
อยู่บ้านแล้วค่ะ น้องบิ๊ก

และไปงานที่มุกดาหาร มาแล้ว

และพรุ่งนี้ต้องไปนั่งให้เขารดน้ำดำหัวค่ะ

พี่แอ๊ะไม่ชอบคำว่ารดน้ำดำหัวเลยค่ะ

น่าจะเรียกว่ารดน้ำขอพร นะคะ


หัวข้อ: Re: "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: YOTSAWIN ที่ 09 เมษายน 2553, 08:19:02
เห็นด้วยครับพี่แอ๊ะ
ผมไม่มีโอกาสไปรดน้ำขอพรพี่แอ๊ะ และพี่หมอ
อฐิษฐานในใจ ให้พี่ทั้งสอง มีสุขภาพแข็งแรง มีแก้วสารพัดนึก
ดลบันดาลให้ได้ดังหวังทุกสิ่งที่ปรารถนาครับ


หัวข้อ: Re: "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: อ้อย 14 ที่ 09 เมษายน 2553, 11:15:05
 emo4:))การรดน้ำดำหัวเป็นประเพณีในตอนสงกรานต์ของชาวเหนือ  คำว่าดำหัว แปลว่า สระผม  เพราะในเทศกาลนี้สมัยก่อนลุกหลานหรือผู้อ่อนอาวุโส จะเตรียมน้ำอบ และ ขมิ้นส้มป่อย  ใส่ในขันเงินใบโต  และใช้ขันเงินใบเล็กค่อยๆตัก รินที่ศรีษะ และมือผู้เฒ่า เพื่อขอขมาในสิ่งที่ล่วงเกินในปีที่ผ่านมา  และขอพรจากผู้เฒ่า    แต่สมัยนี้ จะลดแค่ การรดน้ำที่มือ เพราะมันคงเปียกและไม่สะดวกค่ะ

    ทางภาคอื่น  ได้นำไปใช้เลย ฟังไม่รื่นหู  จึงแจ้งมาเพื่อคนที่จะดองเป็นแม่ย่าของสาวเหนือในอนาคตทราบค่ะ.... emo48:)


หัวข้อ: Re: "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: prapasri AH ที่ 09 เมษายน 2553, 14:10:32
พี่รู้จัก ภาษาเหนือหลายคำ จากอ้อยนะ
สมัยก่อนอ้อยจำได้ไหม

ข้าวต้มมัดใต้ สะรีมัดตั้ง

คือพี่แอ๊ะอ้วนมาก ตอนอยู่หอ

ข้าวต้มมัดใต้ คือคนอ้วน  แบบข้าวต้มมัด

สะรี หมายถึง ที่นอนเอาไปมัด และตั้งไว้ จึงเรียกว่าสะรี มัดตั้ง

คนอ้วนทั้งหลาย เลือกเอา นะคะ

ว่าจะเอา

ขนาด"ข้าวต้มมัดใต้" หรือ  ขนาด "สะรีมัดตั้ง"..

เลือก เอาตามใจชอบ นะคะ คุณหมู คุณช้าง ทั้งหลายยยยยยยยยยยยย



หัวข้อ: Re: "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: เหยง 16 ที่ 09 เมษายน 2553, 20:36:50
สวัสดีครับพี่แอ๊ะ

ดูว่าจะไม่จบง่ายๆ เมื่อฝ่ายที่ต้องกำกับและดูแล ศรฉ. ทำงานเละตุ้มเปีะ บังคับใช้กฎหมายไม่เอาจิงเอาจัง
ถ้าแข็ง เขาจะกลับ แต่กลับทำงานอ่อนปวกเปียก ทำให้อีกฝ่ายอัดฉีดเม็ดเงินจ้างคนอยู่ข้ามสงกรานต์แน่นอน
มีโรงงานในนครสวรรค์และใกล้เคียง หลายโรงปล่อยคนงานไปร่วมชุมนุมตามคำร้องขอของ สส. เสื้อแดง
ตั้งแต่วันเสาร์ที่ผ่านมา จนโรงงานร้างแล้วครับ, สงกรานต์นี้ไม่สนุกเลย !! ??

อย่างไรก็ตาม ตั้งแต่ 10.00 นง วันนี้ รถผ่านนครสวรรค์ขึ้นเหนือเยอะพอสมควร เชื่อว่าคนกรุงทิ้งเมืองไปเที่ยว
เพื่อหนีความวุ่นวายในกรุงเทพที่ยังไม่มีทีท่าว่าจะยุติ


หัวข้อ: Re: "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: prapasri AH ที่ 09 เมษายน 2553, 21:48:22
  เหยง เอ๊ยยยยยยยย

คือ ทหาร เขาไม่ช่วยรัฐบาลเลย

พยายามจะบอกว่า การเมืองต้องแก้ด้วยการเมือง

การออกพรก. ฉุกเฉิน นั้น ทหารต้องเข้ามา จัดการได้ทันที

แต่ทหารวางเฉย
เขาเรียกว่าทหารแตงโม

คือเปลือกนอกเป็นสีเขียว แต่ไส้ในเป็นสีแดง

อะไรจะเกิดก็คงต้องเกิด

รัฐบาลก็เหนื่อย พี่แอ๊ะเกรงว่า ท่านนายกจะเกิดอาการ ไม่สู้แล้ว จะทำอย่างไร

ก็คงต้องให้ทักษินกลับมา

เงินๆๆๆทำได้ทุกอย่างจริงๆ
ประเทศไทยคงจะได้เป็นระบอบ ประธานาธิบดี แล้วละมั้งงงงงงงง


หัวข้อ: Re: "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: เหยง 16 ที่ 09 เมษายน 2553, 23:07:37
อาชีพใหม่ของคนไทยในขณะนี้คือ สู้แล้วรวย

ทหาร-ตำรวจเขาก็กลัว อำนาจตีกลับ ซึ่งหากเกิดขึ้น พวกเขาก็ย่ำแย่ เลยแทงกั๊กกัน โยนให้การเมืองแก้ ซึ่งเป็นไปไม่ได้เลย??

อย่างการใช้ระเบิดแก๊ซน้ำตาแบบใหม่คือ ดึงสลักแล้วขว้าง แบบเก่าใช้เครื่องยิงซึ่งมีอำนาจทำลายล้างสูง

เขาใช้แบบกว้างเลยโดนเสื้อแดงยึดและสู้กลับ ล้อมทหารที่ไทยคมได้สบาย ลองใช้แบบยิงซี ไม่แขน ขา ขาดให้มันรู้ไป

สู้อย่างนี้ หลังเทศกาลสงกรานต์ ไม่ทราบว่าจะเลิกล้อมกรุงเทพแล้วกลับบ้านหรือเปล่า ก็ไม่ทราบได้


หัวข้อ: Re: "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: prapasri AH ที่ 10 เมษายน 2553, 11:55:05
เหยง และ พี่น้องๆ คะ

น่าสงสาร คุณอภิสิทธิ์ ที่สุด ทำงานยากมาก ไม่มีใครจริงใจ

ในระบอบประชาธิปไตย ที่ถูกต้องจริงๆ

รู้ไหม ทหารที่ไป ป้องกัน  เสื้อแดง อาหารก็ไม่มีจะกิน

เสื้อแดงต้องแบ่งอาหารมาให้ทหารทาน

คือสรุปว่า อย่าหวังว่าทหารจะช่วยเพราะ

ทหารสมัยนี้ไม่ใช่ทหารของพระราชินี หรือของพระราชา

จริงๆแล้ว กระทรวง มหาดไทย จะต้องเข้ามาจัดการ

ดูแล ในหลายๆเรื่อง

แต่ทำไงได้ล่ะ

รมว.มหาดไทย เป็นอีตาเจ๊กนั่น

เขาจะทำอะไรเป็นนนนนนนนนนน

ปล่อยให้ทักษินกลับมาเต๊อะ บริหารไปสัก 10 ปี คนจึงจะเห็นความไม่ถูกต้องเอง

แต่เดิม บริหาร แค่ 5 ปี ยังอยู่ในช่วง ฮันนีมูนนนนนนนน

ชาวบ้านเลยรัก...อยู่


หัวข้อ: Re: "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: พธู ๒๕๒๔ ที่ 10 เมษายน 2553, 22:53:18
เมื่อหัวค่ำมีการล้อมปรามแถวสี่แยกคอกวัว ทหารใช้ความรุนแรงเกินสมควร น่าสงสารชาวบ้านที่ชุมนุมโดยสงบ  แต่ m79 มาจากไหนไม่รู้กระจายเป็นแถบ วันนี้น่าจะบาดจ็บสัก ๕๐๐ แต่มีชาวบ้านมาร่วมมากขึ้น ถ้าสามารถยันได้อีก ๒ วัน(ซึ่งน่าจะได้)รัฐบาลคงไม่รอด ส่วนจะถือว่าชุมนุมโดยสงบหรือไม่เท่าที่ไปสังเกตการณ์ไม่พบอาวุธ แต่ไอ้ที่ใช้ตีกันก้อไม่ใช้ของที่เตรียมการมา


หัวข้อ: Re: "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: swsm ที่ 10 เมษายน 2553, 22:58:27
อ้างถึง
ข้อความของ patooman 64 เมื่อ 10 เมษายน 2553, 22:53:18
เมื่อหัวค่ำมีการล้อมปรามแถวสี่แยกคอกวัว ทหารใช้ความรุนแรงเกินสมควร น่าสงสารชาวบ้านที่ชุมนุมโดยสงบ  แต่ m79 มาจากไหนไม่รู้กระจายเป็นแถบ วันนี้น่าจะบาดจ็บสัก ๕๐๐ แต่มีชาวบ้านมาร่วมมากขึ้น ถ้าสามารถยันได้อีก ๒ วัน(ซึ่งน่าจะได้)รัฐบาลคงไม่รอด ส่วนจะถือว่าชุมนุมโดยสงบหรือไม่เท่าที่ไปสังเกตการณ์ไม่พบอาวุธ แต่ไอ้ที่ใช้ตีกันก้อไม่ใช้ของที่เตรียมการมา

อ้าว .. ทหารใช้กำลังแรงเกินควรเหรอ ?? 
ต๊าย ตาย .. ข่าวที่เราฟัง เราอ่าน  ดันรายงานอีกอย่าง  แย่จริง


หัวข้อ: Re: "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: prapasri AH ที่ 11 เมษายน 2553, 09:01:48
อ้างถึง
ข้อความของ Preecha2510 เมื่อ 11 เมษายน 2553, 08:30:00
อ้างถึง
ข้อความของ patooman 64 เมื่อ 10 เมษายน 2553, 22:53:18
เมื่อหัวค่ำมีการล้อมปรามแถวสี่แยกคอกวัว ทหารใช้ความรุนแรงเกินสมควร น่าสงสารชาวบ้านที่ชุมนุมโดยสงบ  แต่ m79 มาจากไหนไม่รู้กระจายเป็นแถบ วันนี้น่าจะบาดจ็บสัก ๕๐๐ แต่มีชาวบ้านมาร่วมมากขึ้น ถ้าสามารถยันได้อีก ๒ วัน(ซึ่งน่าจะได้)รัฐบาลคงไม่รอด ส่วนจะถือว่าชุมนุมโดยสงบหรือไม่เท่าที่ไปสังเกตการณ์ไม่พบอาวุธ แต่ไอ้ที่ใช้ตีกันก้อไม่ใช้ของที่เตรียมการมา



                                                            Liar
เป็นข่าวจากไหนคะ[/color]
ไม่น่าจะจริง เรากำลังสู้กับอันธพาล ที่มีเงินจ้างคนให้ไปตาย[/color]


หัวข้อ: Re: "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: เหยง 16 ที่ 11 เมษายน 2553, 12:32:49
สายๆ ของวันนี้ได้เจอนายทหารคนหนึ่งเล่าให้ฟังว่า

หลายวันที่ผ่านมา จากการไม่เอาจริงจังส่งผลให้เสื้อแดงได้อาวุธที่ยึดจากทหารไปมากพอสมควร รวมทั้งเย็นวานนี้ด้วย
ที่ได้ปืนพร้อมกระสุนไปยกลังกว่า 500 กระบอกและไม่ส่งคืนเหมือนที่ผ่านมา ซึ่งฝ่ายข่าวของทหารเชื่อว่ามีทหารแตงโม
ให้ข่าวฝั่งตรงข้ามถึง จำนวนอาวุธที่นำใส่รถไป พร้อมรถคันใดที่มีอาวุธ ในขณะที่มหารถือโล่และกระบอง จึงทำให้พวกนั้น
ยึดอาวุธไปได้ตลอด
เมื่อเย็นวานนี้ต่อช่วงค่ำ ตรงถนนราชดำเนินในส่วนที่จะสลายม๊อบเพื่อขอคืนพื้นที่นั้น เป็นความรับผิดชอบของ ผบ.พล๒รอ
ซึ่งยืนอยู่กับทีมงาน ฝ่ายข่าวเชื่อว่าฝั่งตรงข้ามรู้และระบุสถานที่ที่ยืนสั่งงานได้ จึงยิง M79 เข้าตำแหน่งที่ยืนบังคับการอยู่
พร้อมยิงปืนที่ยึดไปเข้าไป ส่งผลให้เกิดระเบิดและกระสุนถูก ผบ.พล๒รอ.และนายพันเอก และทหารที่ยืน รปภ.รอบข้างเจ็บและตาย
จึงมีการยิงตอบโต้กัน เพื่อปกป้องผู้บังคับบัญชา แต่นี่จะเป็นสาเหตุที่ทำให้การควบคุมสถานการณ์เมื่อคืนไม่ดีขึ้นเพราะนายทหารผู้ใหญ่
บาดเจ็บสาหัสหลายนาย โดยเสื้อแดง(มีอาวุธปืน)ใช้เสื้อแดงเป็นโล่มนุษย์ ยิงแล้ววิ่งหนีตามที่ ที วี ถ่ายให้ดูนั้น เพื่อไม่ให้เห็น
หน้าตา คนซวยคือเสื้อแดงที่เป็นโล่มนุษย์นั่นเอง..ที่ตายฟรี กับทหารที่ยืนเป็นเป้าอยู่แล้ว แต่เสื้อแดงและ ปชช.ที่ไม่มีอาวุธ
ตายมากกว่าทหาร เพราะเสื้อแดงที่มีอาวุธยิงแบบไม่ชำนาญและไม่รักษาชีวิตของพวกเดียวกันคือ กูยิงไว้ก่อน ใครจะตายก็ได้
จึงเป็นเหตุให้มีผู้ต้องอาวุธปืนตายกันมากทั้งทหารและฝ่ายตรงข้าม แต่แกนนำและเสื้อแดงคนถืออาวุธรอดและหายหัวหมด??

คนยิง M79 และ M16 หนีได้ทั้งหมด(จับคนยิง M79 ไม่ได้ แต่ได้ตัวปืนพร้อมกระสุนที่ยังไม่ได้ยิงอีก 1 นัด-เขาบอกว่า สายบุกเข้าจับ แต่สู้กำลังกันไม่ได้ ถ้าจับตัวคนยิง ปืนจะถูกเสื้อแดงรอบด้านฉกไป เรื่องจับคนยิงได้ก็หมดความชอบธรรม จึงพยายามจับยึดปืนไว้แทนเพราะเป็นหลักฐานนั่นเอง ซึ่งน่าเสียดายเพราะไม่รู้ว่าเป็นใคร??)

นี่คือข้อมูลที่เขาเล่าให้ฟังครับ....และน่าเชื่อถือได้ด้วย

ที่ผ่านมา หากเสื้อเหลืองชุมนุมเป็นโดน M79 ยิงเข้าใส่ที่ชุมนุมทุกวัน เจ็บตายกันตลอด แต่แปลกเสื้อแดงชุมนุม มีการใช้ M79 ยิงใส่ที่ทำการราชการ ค่ายทหารหรือสถานีโทรทัศน์หรือบ้านศัตรูเสื้อแดงทั้งสิ้น หามีการยิงใส่ที่ชุมนุมเสื้อแดงสักนัดก็ไม่เจอ แสดงถึงการใช้เล่ห์เหลื่ยมของผู้นำเสื้อแดงที่ใช้ M79 กดดันรัฐบาล ถ้ามีคนไทยใจร้ายจริงๆด้วยการยิง M79 ใส่ที่ชุมนุมเสื้อแดงวันละนัด อะไรมันจะเกิดขึ้น??...นี่คือความแตกต่างทางจิตใจของสีเสื้อไง


หัวข้อ: Re: "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: swsm ที่ 11 เมษายน 2553, 13:24:25
อ้างถึง
ข้อความของ prapasri AH เมื่อ 11 เมษายน 2553, 09:01:48
อ้างถึง
ข้อความของ Preecha2510 เมื่อ 11 เมษายน 2553, 08:30:00
อ้างถึง
ข้อความของ patooman 64 เมื่อ 10 เมษายน 2553, 22:53:18
เมื่อหัวค่ำมีการล้อมปรามแถวสี่แยกคอกวัว ทหารใช้ความรุนแรงเกินสมควร น่าสงสารชาวบ้านที่ชุมนุมโดยสงบ  แต่ m79 มาจากไหนไม่รู้กระจายเป็นแถบ วันนี้น่าจะบาดจ็บสัก ๕๐๐ แต่มีชาวบ้านมาร่วมมากขึ้น ถ้าสามารถยันได้อีก ๒ วัน(ซึ่งน่าจะได้)รัฐบาลคงไม่รอด ส่วนจะถือว่าชุมนุมโดยสงบหรือไม่เท่าที่ไปสังเกตการณ์ไม่พบอาวุธ แต่ไอ้ที่ใช้ตีกันก้อไม่ใช้ของที่เตรียมการมา



                                                            Liar

เป็นข่าวจากไหนคะ
ไม่น่าจะจริง เรากำลังสู้กับอันธพาล ที่มีเงินจ้างคนให้ไปตาย



โอ๊ะ โอ๊ะ .. ข้อความสีชมพูมีการตัดต่อค่ะ  พี่น้อง  ล้านเปอร์เซ้นต์ 
ตอนที่หยีอ้างถึงครั้งแรก ..
มีข้อความก่อนหน้านี้หนึ่งประโยค (ซึ่งตอนนี้หายไปแล้ว)


OMG .. Oh My God !!  ครั้งนี้  ยืนยัน นั่งยัน  ล้านเปอร์เซ็นต์
เดี๋ยวขอหาหลักฐานหน่อยค่ะ  พี่น้อง


หัวข้อ: Re: "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: swsm ที่ 11 เมษายน 2553, 16:59:43
แวะมาสังเกตการณ์ ..  เพื่อให้อยู่ในเหตุการณ์เหมือนรายงานข่าวสด     emo20:)):)


หัวข้อ: Re: "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: swsm ที่ 11 เมษายน 2553, 21:39:17
ทำไมเหรอคะ ??  พี่น้อง

พอหยีมาแวะเยี่ยมเยียนเกาะติดสถานการณ์ .. เงียบจ้อยอีกแล้ว
เหตุการณ์เกิดซ้ำเหมือนรอยเดิม .. เมื่อ .. เมื่อ .. เมื่อไรหว่า ??  


ลืมแล้ว !!




ฮ่า ฮ่า ฮ่า .. สุขจริงว้อย  
   emo20:)):)    emo20:)):)


หัวข้อ: Re: "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: Soponเท่านั้น ที่ 11 เมษายน 2553, 21:46:44
อ้างถึง
ข้อความของ prapasri AH เมื่อ 08 เมษายน 2553, 21:41:05
อยู่บ้านแล้วค่ะ น้องบิ๊ก

และไปงานที่มุกดาหาร มาแล้ว

และพรุ่งนี้ต้องไปนั่งให้เขารดน้ำดำหัวค่ะ

พี่แอ๊ะไม่ชอบคำว่ารดน้ำดำหัวเลยค่ะ

น่าจะเรียกว่ารดน้ำขอพร นะคะ
สวัสดีครับพี่แอ๊ะ เห็นด้วยครับ
ยืนยันว่าเราชาวหอฯใช้คำว่า รดน้ำขอพรอาจารย์และพี่อาวุโสมาตลอดครับ


หัวข้อ: Re: "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: swsm ที่ 11 เมษายน 2553, 22:43:19
สวัสดีค่ะ  พี่แอ๊ะ ..  แวะมาเยี่ยมค่ะ       emo6::))


หัวข้อ: Re: "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: Davinci ที่ 11 เมษายน 2553, 22:44:14
อ้างถึง
ข้อความของ swsm เมื่อ 11 เมษายน 2553, 21:39:17
ทำไมเหรอคะ ??  พี่น้อง

พอหยีมาแวะเยี่ยมเยียนเกาะติดสถานการณ์ .. เงียบจ้อยอีกแล้ว
เหตุการณ์เกิดซ้ำเหมือนรอยเดิม .. เมื่อ .. เมื่อ .. เมื่อไรหว่า ?? 
ลืมแล้ว !!

ฮ่า ฮ่า ฮ่า .. สุขจริงว้อย 
    emo20:)):)    emo20:)):)

เรื่องอะไรรึ  เจ้าคงไม่ได้หมายถึงเรื่อง C&C ใช่ไหม


หัวข้อ: Re: "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: swsm ที่ 11 เมษายน 2553, 22:46:27
อ้างถึง
ข้อความของ Davinci เมื่อ 11 เมษายน 2553, 22:44:14
อ้างถึง
ข้อความของ swsm เมื่อ 11 เมษายน 2553, 21:39:17
ทำไมเหรอคะ ??  พี่น้อง

พอหยีมาแวะเยี่ยมเยียนเกาะติดสถานการณ์ .. เงียบจ้อยอีกแล้ว
เหตุการณ์เกิดซ้ำเหมือนรอยเดิม .. เมื่อ .. เมื่อ .. เมื่อไรหว่า ?? 
ลืมแล้ว !!

ฮ่า ฮ่า ฮ่า .. สุขจริงว้อย 
    emo20:)):)    emo20:)):)

เรื่องอะไรรึ  เจ้าคงไม่ได้หมายถึงเรื่อง C&C ใช่ไหม



ข้าอยู่แต่ในยุทธจักรของชาวยุทธ์ ..
ท่านต่อกรข้าด้วยภาษาอังกฤษ  ข้าจึงมิกล้าตอบ  เพราะข้าเขลายิ่งนัก .. โปรดอภัย
   


emo30:sorry:


หัวข้อ: Re: "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: Davinci ที่ 11 เมษายน 2553, 23:02:06
 หากอยู่ในยุทธจักรเจ้าคงรู้จักเจ้าสัวเจียรวนนท์ กับ เจ้าสัวบุลกุล ละซินะ


หัวข้อ: Re: "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: ภาณุ ปาตานี ที่ 11 เมษายน 2553, 23:05:47
สวัสดีครับพี่แอ๊ะ


หัวข้อ: Re: "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: swsm ที่ 11 เมษายน 2553, 23:08:52
อ้างถึง
ข้อความของ Davinci เมื่อ 11 เมษายน 2553, 23:02:06
หากอยู่ในยุทธจักรเจ้าคงรู้จักเจ้าสัวเจียรวนนท์ กับ เจ้าสัวบุลกุล ละซินะ

ข้าพอคุ้นกับเจ้าสัวปัญญา  แห่งสหฟาร์ม เจ้าของกิจการไก่รายหญ่าาาาาย .. แห่งผืนดินนี้
และเจ้าของราชวังสุขาวดี ณ เมืองพัทยา

ข้าเคยลงรูปให้ดูแล้ว .. แต่ท่านคงไม่เคยเห็น


แต่เอ่อ .. เจ้าสัวที่ท่านเอ่ยนามทั้งสองคน  ข้าก็อยากรู้จักและขอเป็นศิษย์เช่นกัน
จะได้รู้ลึก รู้จริง ..
ไม่ใช่รู้เพียงผิวเผินกับธุรกิจของไก่ วัว ควาย ของท่าน


หัวข้อ: Re: "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: Davinci ที่ 11 เมษายน 2553, 23:11:57
ท่านหนึ่งเป็นเจ้าของซีพี ส่วนอีกท่านเป็นเจ้าของโชคชัยฟาร์มที่สระบุรี


หัวข้อ: Re: "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: swsm ที่ 11 เมษายน 2553, 23:14:49
ข้ายังต่อเพลงกระบี่ของท่านไม่ได้ .. ขอเวลานึกสักแป๊บ    emo47

กำลังกังวลว่า ..
เรามาทำให้คฤหาสน์ของแม่นางเจ๊พี่แอ๊ะปั่นป่วนหรือเปล่า ??


หัวข้อ: Re: "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: พธู ๒๕๒๔ ที่ 12 เมษายน 2553, 06:44:48
อ้างถึง
ข้อความของ Preecha2510 เมื่อ 11 เมษายน 2553, 08:30:00
อ้างถึง
ข้อความของ patooman 64 เมื่อ 10 เมษายน 2553, 22:53:18
เมื่อหัวค่ำมีการล้อมปรามแถวสี่แยกคอกวัว ทหารใช้ความรุนแรงเกินสมควร น่าสงสารชาวบ้านที่ชุมนุมโดยสงบ  แต่ m79 มาจากไหนไม่รู้กระจายเป็นแถบ วันนี้น่าจะบาดจ็บสัก ๕๐๐ แต่มีชาวบ้านมาร่วมมากขึ้น ถ้าสามารถยันได้อีก ๒ วัน(ซึ่งน่าจะได้)รัฐบาลคงไม่รอด ส่วนจะถือว่าชุมนุมโดยสงบหรือไม่เท่าที่ไปสังเกตการณ์ไม่พบอาวุธ แต่ไอ้ที่ใช้ตีกันก้อไม่ใช้ของที่เตรียมการมา



                                                            Liar
เรียนพี่ปรีชา ผมไม่ได้คาดหวังว่าจะให้ใครเชื่อ  บังเอิญเหตุการณ์เกิดแถวบ้าน(ผมอยู่เสาชิงช้า) ก้อไปดูแล้วบอกให้ทราบ ไม่ได้จากสำนักข่าวไหน แต่ถ้าใครอยากเชื่อในสิ่งที่อยากเชื่อก็ไม่เป็นไร เพราะไม่ทำให้อะไรดีขึ้นหรือเลวลง ผมไม่อยากให้รับฟังข่าวจากสื่ออย่างเดียว ผมอยากให้พวกเราได้ข้อมูลจริง ส่วนเหตุการณ์ที่ราชดำริ หรือปทุมธานี ผมไม่ได้ไปเห็น ผมคงไม่เอามาเล่า ทั้ง ๆที่ผมต้องตามข่าวตลอดเพราะเป็นงานที่ต้องทำ ส่วนพี่ว่าผมโกหก ผมก้อคงโกหกในสายตาพี่ตลอด เพราะผมคงไม่อาจทำให้พี่รับฟังได้ ผมไม่ร้องขออะไรจากพี่ ถ้าพี่ไม่เชื่อไม่ต้องว่าผมก้อได้ มองผ่าน ๆ ไปก็ดีแล้ว แต่ถ้าข้อมูลที่ผมนำเสนอจะให้พี่ ๆ หันมามองความจริงบ้าง พี่อาจจะรู้ข้อมูลที่พี่ไม่อยากฟังบ้างก็ได้
สำหรับที่พี่หยีคิดว่ามีการตัดต่อ ผมไม่ทราบและไม่ได้ทำ เพราะหลังโพสเพิ่งเข้ามา เพราะเพิ่งกลับจากงานพระราชทานเพลิงญาติผู้ใหญ่ เรื่องพวกนี้ไม่ทำเล่น ๆ ครับ


หัวข้อ: Re: "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: prapasri AH ที่ 12 เมษายน 2553, 07:46:21
น้องหะยีคะ

ไม่เป้นไร คุยกันดังๆใน คฤหาสถ์ พี่แอ๊ะนี่แหละ พี่แอ๊ะชอบค่ะ

อยากฟังการคุยในระบบอบประชาธิปไตยค่ะ

พี่แอ๊ะฟังช่องแดง ทุกวัน

บอกตรงๆ ว่าถ่อยยยยยยยย

ไม่มีสาระอะไรมาพูดนอกจาก ถ่อย ค่ะ

แล้วถ้าเราจะยุบสภาเพราะพวกถ่อย

ต่อไป หากมีรัฐบาลไหนขึ้นมาก็ตาม

แล้วใครมีเงิน จ้างถ่อย มาให้เดินขบวน ยุบสภาอีก จะทำยังไงกัน

คิดว่ารัฐบาลอดทนที่สุดเเล้ว

อีถ่อย..มันไป หาเรื่อง ยั่ว ทหารเอง ไปล้อม กองพลทหารราบงี้

ไปหาเรื่อง ทุกเรื่อง แล้วอีตาทักษินก็วีดีโอลิ้งมาทุกวัน

คน คนเดียว อยู่ต่างประเทศ แล้ว มาปลุกระดม และส่งเงินมาให้คนไทย
ฆ่ากันนนนนนนนนนนนน

คงสะใจศีแดงซิๆๆๆ


หัวข้อ: Re: "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: เหยง 16 ที่ 12 เมษายน 2553, 08:22:07
เหตุการณ์ดูจะจบยากขึ้น เพราะตอนเริ่มต้น ไม่คิดทำการบ้านกันให้ดี แทงกั๊กกันมาโดยตลอด

ยืดเยื้อเลยเทศกาลสงกรานต์จะหาทางลงไม่ได้ทั้ง 2 ฝ่ายเอา


หัวข้อ: Re: "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: เหยง 16 ที่ 12 เมษายน 2553, 08:25:25
อ่านข่าวไทยโพสต์ดูครับ

อีก ๓ วันคือ"คำตอบของประเทศไทย?"
เปลว สีเงิน12 เมษายน 2553 - 00:00

     ความรู้สึกอัดอกพี่น้องไทยทุกคนเป็นอย่างไร  ผมเข้าใจ  เพราะผมก็เช่นนั้น  พี่น้องคลานตามจากครรภ์มารดาเดียวกัน  บางครั้งยังทะเลาะถึงฆ่ากัน  แล้วนับประสาอะไรกับ  "ผองไทยคือพี่น้องกัน"  ซึ่งต่างท้องเพียงแต่  "ร่วมประเทศ"  ฉะนั้น-ไฉน  ไทยกว่า  ๖๐  ล้านคน  จะไม่ทะเลาะถึงฆ่ากันบ้างในบางครั้ง-บางคราว   เหตุการณ์  "มิคสัญญีเมือง"  เมื่อเสาร์  ที่  ๑๐  เมษายน  ๒๕๕๓  ป่วยการรัฐบาลหรือเสื้อแดงจะมัวเถียงกันว่า  "ใครผิด-ใครถูก"?
     ณ  เวลานี้-ขณะนี้  ทั้งรัฐบาล  และเสื้อแดง  ควรตอบกับตัวเองว่า  "เราคือคนไทยใช่มั้ย?" จากนั้นก็  ตั้งสติ  ละทิ้งอัตตา  ตั้งกรอบปฏิบัติอยู่ในฐานประโยคเดียวกันว่า
     ๑.ประเทศชาติต้องมาก่อน  ต้องสละเพื่อตน  และช่วยกันรักษาเพื่อไทยไว้ก่อน  ใช่หรือไม่?
     ๒.ถ้าใช่-เลิกทิฐิ  แล้วมานั่งหาทางตกลงกัน  จะยุบสภาช่วงไหน-เดือนไหน  ได้หรือไม่?  และ
     ๓.จากนั้น  คืนประเทศไทยให้คนไทย  ต่างฝ่ายต่างไปเตรียมเข้าสู่อำนาจตามระบอบประชาธิปไตย  ได้หรือไม่?
     ทุกอย่างที่ผ่านคืออดีต  เรียกกลับคืนไม่ได้  ฉะนั้น  ใช้มันเป็นบทเรียน  อย่านำมาสร้างบทเรียนซ้ำซาก  โดยนัยนี้  เมื่อวาน-ให้เป็นเรื่องของเมื่อวาน  ส่วนปัจจุบัน-คือวันนี้  เราทั้งหลายหันหน้ามาร่วมกันหาทางสร้างสุขให้ชาติดีไหม?
     ผมรู้  และเข้าใจดีว่า  ที่พูดมาทั้งหมดนี้  "ไม่มีความหมาย"  ที่ใครจะฟัง  เพราะอะไร....เพราะเมื่อสำรวจแนวรบหลังปฏิบัติการ  "สงครามกลางเมือง"  คืนวันเสาร์  ฝ่ายเสื้อแดงเขามั่นใจว่าคุมสภาพได้เหนือฝ่ายรัฐบาล
     เมื่อ  "ถือไพ่เหนือรัฐบาล"  ฉะนั้น  การต่อรอง  และการได้คิดจิตสำนึกเพื่อสังคมชาติ  ย่อมไม่มี  นอกจากเป้าหมายเดียว  คือ
     ยึดประเทศ-เปลี่ยนระบอบ-ล้มสถาบัน!?
     ขณะนี้  เป็นที่ประจักษ์ชัดสู่สากลโลกแล้วว่า  สิ่งที่เสื้อแดงกระทำมาโดยตลอด  ไม่ใช่การชุมนุมเรียกร้องประชาธิปไตยโดยบริสุทธิ์  หากแต่สิ่งที่ขบวนเสื้อแดงกระทำไปทั้งหมด  ทั้งวาจาปลุกระดม  ทั้งการเผยแพร่ทางสื่อ  ทั้งปฏิบัติการสู่เป้าหมายสุดท้าย  ทั้งหลาย-ทั้งปวงคือ
     การ  "กบฏภายในราชอาณาจักร"  โดยมีกองกำลังติดอาวุธเป็นกองทัพอยู่เบื้องหลัง!?
     อย่าไปมองว่านี่คือความล้าหลัง-ป่าเถื่อนของสังคมไทย  ผมอยากจะบอกว่า  ไม่ว่าประเทศชาติไหน  ถ้าจะโต  ถ้าจะเติบใหญ่  สู่ความเป็นชาติแห่งชนอารยะ  ล้วนต้องเผชิญและต้องก้าวผ่านเหตุการณ์เช่นนี้ไปก่อนให้ได้ทั้งสิ้น  เราเรียกมันว่า  "การลอกคราบ"
     เมื่อ  พ.ศ.๒๔๐๔-๒๔๐๘  สหรัฐอเมริกา  ชาวอเมริกันร่วมชาติเดียวกันขัดแย้งเรื่องทาส  แล้วแยกฝ่าย-แบ่งข้างเป็นเหนือ-ใต้  ยกกำลังแต่ละฝ่ายเข้าประหัตประหารฆ่าแกงกัน  เลือดอเมริกันนองแผ่นดินอเมริกา  กว่าจะหันหน้ามาร่วมชาติสมานฉันท์  ก็ต้องใช้ชีวิตคนในชาติเดียวกันเซ่นไปกว่า  ๖  แสนศพ!
     เมื่อปี  พ.ศ.๒๔๖๑-๒๔๖๕  เลนินนำการเปลี่ยนแปลงระบบการปกครองรัสเซียไปสู่ระบบคอมมิวนิสต์  อ้างว่าทำลายระบบชนชั้นแล้วประชาชนจะมี-จะได้ทุกสิ่งทัดเทียมกัน  และจะหลุดพ้นจากความอดอยาก  ปรากฏว่าทั้งไม่เป็นความจริง  และทั้งไม่มีอะไรจริงตามนั้น  ประชาชนส่วนใหญ่ยังคงอดอยาก-ยากจนเหมือนเดิม  แถมจะยิ่งอดอยากและมีการเอารัด-เอาเปรียบหนักขึ้น
     สุดท้าย   ด้วยการหลอกทำสงครามชนชั้น  ทำให้คนรัสเซียต้องฆ่าแกงกันเองไปกว่า  ๙  ล้านศพ!
     เมื่อปี  พ.ศ.๒๔๗๙-๒๔๘๒  ที่ประเทศสเปน  ก็คล้ายประเทศไทยที่เป็นอยู่ขณะนี้  ชาวสเปนส่วนหนึ่งรักษาระบอบประชาธิปไตย   แต่อีกส่วนหนึ่งเชื่อว่า   เผด็จการประชาธิปไตยแบบ  "ระบอบทักษิณ"  ดีกว่า  แล้วทั้งสองฝ่ายแต่ชาติเดียวกันก็ยกกำลังฆ่าแกงกันเองไปกว่า  ๕  แสนศพ!
     แม้กระทั่งปัจจุบันนี้  ตัวอย่างที่คนไทยทุกคนควรนำมาสำนึกให้ดี  ก็ที่  "โซมาเลีย"  ตั้งแต่ปี  พ.ศ.๒๕๓๔-๒๕๔๗  ประเทศแตกเป็นก๊ก  เป็นฝ่าย  และต่างตั้งกองกำลัง  แล้วรบราฆ่าฟันประหัตประหารกันเองเพื่อช่วงชิงอำนาจ  จนถึงวันนี้  ประชาชนโซมาเลียต้องสังเวยความบ้าอำนาจด้วยการถูกสวมเขาให้ขวิดกันเองตายไปแล้วกว่า  ๕  แสนศพ
     และยัง  "ไม่จบ"  ยังจะฆ่ากันต่อถึง  ณ  วินาทีนี้!
     สังคมโลกเรียกโศกนาฏกรรมของสัตว์เมืองซ้ำซาก  ที่ทุกคนศึกษาแล้วไม่เคยสำนึกเช่นนี้ว่า  "สงครามกลางเมือง"  หรือในศัพท์สากลว่า  CIVIL  WAR!
     ย้อนกลับมาดูบ้านเมืองเราต่อ  ณ  เวลานี้  ไทยเราเข้าสู่กระบวนการอุบาทว์  "สงครามกลางเมือง"  หรือ  Civil  War  แล้วใช่ใหม?  ผมว่า  ก็คงไม่มีเหตุผลอื่นใดเพื่อเลี่ยงที่จะไม่ตอบว่า...ใช่
     แต่...ไทยเราเจริญพอสมควรแล้ว  อีกทั้งเป็นชาติ  "อารยะ-วัฒนธรรม"  ทางสถาบันมีรากเข้มแข็ง  ดังนั้น  การนำประเทศและสังคมชาติให้ก้าวผ่าน  "สงครามกลางเมือง"  สู่สุข-ศานติด้วยอารยะ  อย่างสหรัฐ  อย่างรัสเซีย  อย่างสเปน  และอย่างอังกฤษ
     ชาวบ้าน-ทหาร  ๒๑  ศพ  เมื่อวันเสาร์ก็  "เกินพอ"  แล้ว!?
     เอาละ...พูดกันในภาพพอเห็นภาพ  มาดูถึงสถานภาพเป็นจริงขณะนี้บ้าง  จากคืนวันเสาร์  ฝ่ายรัฐบาล  โดยปฏิบัติการทหาร-ตำรวจ  "สร้างความทุกข์ใจ"  ให้ประชาชน  ด้วยหนักใจในประสิทธิภาพและศักยภาพของรัฐบาล-ทหาร-ตำรวจมากพอสมควร  แต่ถึงอย่างไร  ประชาชนส่วนใหญ่ยังคง
     สนับสนุน  "นายกฯ  อภิสิทธิ์"  อยู่!
     ยุบสภานั้น-ยุบได้  แต่ไม่ใช่เดี๋ยวนี้  หรือ  ๑๕  วัน  ควรจะคุยกันหากรอบเวลาเหมาะสม  เช่น  ให้รัฐบาลผ่านงบประมาณแผ่นดิน  ปี  ๒๕๕๔  ไปก่อน  อันเป็นไปเพื่อประโยชน์ส่วนรวม  ไม่ใช่ของฝ่ายรัฐบาล  ฝ่ายค้าน  หรือฝ่ายไหนๆ  ทั้งสิ้น
     หลายเรื่องที่ผู้ชุมนุมสะท้อนออกมาถึง  "ปัญหาหมักหมม"  จนกลายเป็นปัญหาคนรวย-คนจน  อันเป็นปัญหาชนชั้น  นั้น  เป็นเรื่องที่ต้องรับฟังกันเพื่อนำไปสู่การปฏิวัติโครงสร้างสังคมชาติใหม่ทั้งหมด
     และทั้งหมด  ทุกฝ่ายต้องนำต้นทุน  "ความเป็นคนไทย"  ที่มีเท่าๆ  กันมากองรวม  แล้วร่วมกันสู่กระบวนการ  "ลอกคราบประเทศไทย"  โดยให้คนไทย  "ชาวบ้าน  ป.๔"  มีส่วนร่วมในฐานะผู้ถือหุ้นประเทศ  โดยไม่ต้องให้  ส.ส.หลอกเอาอำนาจไปใช้ในทุกกระบวนการดังที่เป็นอยู่  นี่คือหนทางก้าวข้าม  "สงครามกลางเมือง"  สู่ไทยไพศาลที่เป็น  "ฝันร่วมสมัย"  ของไทยยุคใหม่นี้!
     แต่...ขณะนี้  ยังมองไม่เห็นทางก้าวข้าม  เพราะฝ่ายเสื้อแดงนอกจากสู้แล้วรวย  เขายังมั่นใจ  "สู้แล้วชนะ"  และจะต้องรุกเพิ่มด้วยเหิมเกริมในศักยภาพแห่ง  "กองกำลังติดอาวุธ"  จากอดีตทหาร  และอดีตตำรวจ  อันแฝงอยู่ในรูปชาวบ้านเสื้อแดง
     และผมจะบอกให้ทราบด้วยว่า  ณ  วินาทีนี้  "ทักษิณหมดความหมายแล้ว"  ถูกลดสภาพเป็นเพียงสะพานที่ถูก  "ขบวนการล้มเจ้า-เปลี่ยนระบบ"  ยืมใช้  และอาศัยเงินทุน  เมื่อถึงจุดที่มองเห็นฝั่ง  แถม  "ทักษิณใกล้ฝัง"  เต็มที  พวกคอมมิวนิสต์หลงยุคซึ่งเป็น  "กบฏในราชอาณาจักร"  ตัวจริง
     ก็หมดความจำเป็นต้อง  "เชิดทักษิณ"  เพื่อหลอกให้คนเหนือ-คนอีสานมาเป็นไพร่ราบ-พลเลวในกองกำลังกบฏที่  "คนใต้"  เกือบทั้งหมดเป็นผู้ถือเชือกจูง!
     นั่นก็คือ  ประเด็นที่ฝ่ายรัฐบาล-ทหาร-ตำรวจ  ต้องนำไปแยกธาตุให้ชัดเจน  เพื่อปฏิบัติการให้ตรงกับสถานการณ์และปัญหา   อย่างน้อย   นายกฯ  อภิสิทธิ์-กองทัพ  ต้องหยุดขัดแย้ง  แล้วเข้าใจร่วมกันให้ได้ว่า
     ๑.นี่ไม่ใช่การชุมนุม  แต่เป็น  "กบฏภายในราชอาณาจักร"  โดยชาวบ้านถูกหลอกมาเป็นกำลังหลอน
     ๒.มีกองกำลังติดอาวุธร้ายแรงเป็นหน่วยรบและ  "ฆ่าทหาร"  ที่ทำหน้าที่โดยมีจิตเมตตาต่อชาวบ้าน
     ๓.กลุ่มกบฏในราชอาณาจักรไม่ยอมรับกฎหมายใดๆ  ทั้งสิ้น  และกำลังขยายแนว  "ยึดสถานที่ราชการ"  ทั่วประเทศ
     ๔.ฝ่ายรัฐบาล  ในหน่วยทหารมี  "ไส้ศึก"  คอยนำความลับทาง  ศอ.รส.และศูนย์  ศอฉ.ไปบอกกับฝ่ายกบฏ
     ๕.นายกฯ  อภิสิทธิ์จะถอดใจ  "ยุบสภา-ลาออก"  ตอนนี้ไม่ได้เด็ดขาด
     ๖.ขืนยุบสภา-ลาออก  เท่ากับยกประเทศให้กบฏ  ไม่ใช่รัฐบาลแพ้  แต่ประเทศพัง  สถาบันจะถูกล้ม  ระบบจะถูกเปลี่ยนทันที
     ๗.ต้องแยกชาวบ้านออกจาก  "กลุ่มกบฏ"  ไม่ปราบ-ไม่ฆ่าประชาชน  แต่ต้องปราบ-ต้องฆ่ากบฏชาติ-ประชาชน
     ๘.ถ้ายันสถานการณ์โดยยึดกฎหมาย  แต่บังคับใช้ไม่ได้อยู่ต่อไป  ประชาชนจะหันหลังให้รัฐบาลและกองทัพ
     ๙.นายกฯ  ควรเข้าใจว่าสถานการณ์ไหนรัฐบาลเป็นพระเอก  และสถานการณ์ไหนต้องให้กองทัพเป็นพระเอก
     ๑๐.เมื่อ...นี่ไม่ใช่การนุมนุมโดยสันติตามรัฐธรรมนูญ  การปราบกบฏไม่ใช่หน้าที่นายกฯ
     ๑๑.ถ้ากองทัพจะประกาศใช้  "กฎอัยการศึก"  ไม่ใช่เรื่องเกินกว่าเหตุ  และ
     ๑๒.ห้ามทหาร  "ปฏิวัติ-รัฐประหาร"  เด็ดขาด!
     ๔  วันครับ  "หยุดสงกรานต์  ๑๓-๑๔-๑๕  เมษา."เปิดมาอีกวันศุกร์ที่  ๑๖  เมษายน  พุทธศักราช  ๒๕๕๓  และวันนั้นคือ  "ผลสอบของ"  สงครามกลางเมือง  "อภิสิทธิ์-อนุพงษ์-ประยุทธ์"  ชื่อใครจะอยู่ในประวัติศาสตร์ลักษณะไหน
     ๑๕  เมษา.มาดูกัน!?

http://www.thaipost.net/news/120410/20697


หัวข้อ: Re: "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: เหยง 16 ที่ 12 เมษายน 2553, 08:31:16
ฟังความเห็นของ ศาสตราจารย์ ระพี สาคริก......

หยดน้ำตาแทนน้ำหมึก
ถูกทุกข้อ12 เมษายน 2553 - 00:00

เรียน คุณสามวา สองศอกที่เคารพ
     จากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเมื่อค่ำวันเสาร์ที่  10  เมษายน  2553  ผมคิดว่าคนไทยส่วนใหญ่คงทราบกันดีอยู่แล้ว  แม้ไม่ได้ไปอยู่ในเหตุการณ์อย่างน้อยก็ได้ชมข่าวรายงานจากวิทยุโทรทัศน์  ถ้าคนไทยที่มีเลือดไทยอยู่ในวิญญาณ  หากไม่ทราบเรื่องนี้ผมก็ไม่รู้จะพูดอะไรอีกแล้ว 
     ณ  โอกาสนี้ผมขออนุญาตใช้จิตใจตัวเองเป็นแผ่นกระดาษ  และใช้น้ำตาเป็นหมึกเพื่อเขียนส่งมาให้คุณพิจารณา
     ผมมีอายุ  88  ปีแล้ว  แต่ก่อนใครเลยจะนึกว่าคนไทยจะต้องมายกพวกฆ่าฟันกันเอง  แม้  14  ตุลาฯ  ก็ดี  6  ตุลาฯ  ก็ดี  ซึ่งเรามักนำมาอ้างอย่างโน้นอย่างนี้ด้วยความรู้สึกภูมิใจ  แต่เหตุการณ์ที่คนไทยจะต้องมายกพวกฆ่าฟันกันเองนั้น  มันมีเงื่อนปมที่ลึกซึ้งยิ่งกว่านั้น 
     หากแต่ละคนล้างเอาเงื่อนปมดังกล่าวออกจากใจตนเอง  เหตุการณ์ดังกล่าวมันก็คงไม่เกิดขึ้น  ทุกคนจึงควรอยู่โดยที่รักษารากฐานจิตใจตนเองให้อิสระอยู่เสมอ
     หากเงื่อนปมดังกล่าวที่มันฝังอยู่ในรากฐานจิตใจตนเอง  แล้วไม่สนใจที่จะชำระล้างมันออกไป  ซึ่งประเด็นนี้บางทีฝ่ายหนึ่งก็ภูมิใจ  ส่วนอีกฝ่ายหนึ่งก็เจ็บช้ำน้ำใจกันไปตามเรื่อง
     ในอดีตที่ผ่านมา  "มักมีคนบ่นว่าเรื่องที่ผมเขียนมันลึกซึ้งทำให้อ่านแล้วเข้าใจยาก"  ถ้าผมมองในมุมกลับแล้วพูดว่า  "ผมเขียนลึกหรือความคิดคุณมันตื้นเขินกันแน่"  ไม่เช่นนั้นแล้วก็คงนำมาเรียงลำดับความสำคัญอย่างรู้เหตุรู้ผล
     ผมเคยพูดอยู่เสมอว่า  "ความลึก  ความตื้น  หรือความยากความง่าย  มันไม่มีอยู่ในโลกแห่งความจริง"  ถ้ายากแสดงว่าตัวคุณเองขาดความวิริยะอุตสาหะ  ถ้าง่ายก็แสดงว่าตัวคุณเองตกอยู่ในความประมาท  ความจริงแล้วโลกแห่งความจริงนั้นมันก็อยู่ในใจของคุณเองนั่นแหละ
     ช่วงนี้กำลังสงกรานต์มักมีคนที่เคยเป็นลูกศิษย์  รวมทั้งผู้ที่ให้ความเคารพนับถือแก่ผมมารดน้ำขอพร  หลายคนคงหวังว่าผมจะให้พรใครต่อใครให้ร่ำให้รวย  แต่ผมกลับพูดว่า  "ผมไม่บังอาจให้พรใครหรอกครับ  เพราะทุกคนมีพรอยู่ในใจแล้ว  นั่นคือพรที่เรียกกันว่าพรสวรรค์  ถ้าคุณตกอยู่ในความทุกข์เมื่อไหร่ก็ให้ค้นหาความจริงจากใจตัวเอง  ผมรับรองว่าประเด็นนี้แก้ปัญหาความทุกข์ได้ทุกเรื่อง  เมื่อผมไม่บังอาจให้พรกับใครได้  ผมก็คงให้ได้แต่กำลังใจ"
     โปรดอย่าคิดว่าวิธีการให้กำลังใจของผมนั้นคือการพูดด้วยปาก  คุณลองไปถามหลายต่อหลายคนที่ผมไม่เคยพูดด้วยปาก  แต่การปฏิบัติของผมนั่นแหละคือการให้กำลังใจแก่ทุกคน
     ประเด็นนี้ได้ทั้งสองฝ่าย  ผมก็ได้รับเพราะลงมือปฏิบัติจากใจ  ทุกคนที่มีโอกาสสัมผัสก็ได้รับ  ผมเคยได้ยินหลายคนพูดว่า  "ดูแต่อาจารย์ระพีซิ  อายุ  88  ปีแล้วก็ยังทำงานให้แก่สังคมหนักมากกว่าเก่า  แล้วเราจะท้อได้ยังไง"
     ผมมีเรื่องหนึ่งที่จะขออนุญาตนำมาเล่าให้ทุกคนนำไปพิจารณา  แม้จะเป็นเรื่องเล็กน้อย  แต่เรื่องเล็กมันก็เช่นเดียวกับเรื่องใหญ่ถ้ามองที่จิตใจมนุษย์ผู้ปฏิบัติ
     สรุปได้ว่าเรื่องนี้แม้จะเป็นเรื่องเล็ก  แต่มันก็อยู่บนหลักเดียวกันกับเรื่องใหญ่  เพราะเหตุมันอยู่ในรากฐานจิตใจคน
     ช่วงที่ผมดำรงตำแหน่งอธิการบดีมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์  อยู่มาวันหนึ่งเกิดความขัดแย้งระหว่างนิสิตคณะเกษตรกับคณะวนศาสตร์ถึงขนาดยกพวกตีฟัน  ในวันนั้นมีนิสิตคนหนึ่งซึ่งเป็นประธานปกครองขององค์การนิสิตชื่อนายสวัสดิ์  เขาวิ่งมาหาผมแล้วบอกว่า  "คุณพ่อครับผมจะปล่อยให้มันต่อสู้กันให้ถึงที่สุดที่กลางสนามรักบี้  แต่จะปลดอาวุธออกให้หมด  และถอดเสื้อออกด้วยคงเหลือแต่กางเกงอย่างเดียว"
     ในวันนั้นปรากฏว่านิสิตสองคณะที่พูดถึง  วิ่งดาหน้าเข้าไปหากัน  หลังจากนั้นก็ต่อยกันเป็นคู่ๆ  ต่อยกันจนเหนื่อย  เสร็จแล้วจึงมองหน้ากันแล้วก็หัวเราะหันเข้ามากอดคอกัน  เพราะเหตุว่าเขาได้สติจึงรู้ว่า  "นิสิตมหาวิทยาลัยเดียวกันแท้ๆ  แถมยังกินข้าวหม้อเดียวกันอีกด้วย  มาทำร้ายกันทำไม"  หลังจากนั้นจึงจูงมือกันเดินกลับเข้าหอ
     นี่แหละที่เขาพูดกันว่า  "ธรรมชาติของคนเรานั้น  ต้องเรียนรู้จากความเจ็บปวดจึงจะได้สติ"
     อนึ่ง  ก่อนหน้านั้นไม่ว่าใครจะคิดอย่างไร  เพราะความเห็นแก่ตัวนี่แหละที่มันทำให้เกิดความไม่เข้าใจกัน
     มนุษย์ทุกคนมีความเห็นแก่ตัวด้วยกันทั้งนั้น  ผมเองก็มี  จึงไม่ควรคิดว่าเราดีเหนือคนอื่น
     ผมสารภาพความจริงให้ทุกคนได้รู้ว่า  ตัวเองแม้จะมีอายุมากแต่ก็ลงมาทำงานอยู่กับพื้นดิน
มากกว่าเก่ายิ่งขึ้นเรื่อยๆ  ช่วงที่ผมดำรงตำแหน่งอธิการบดี  ว่างเมื่อไหร่ยิ่งเวลาปิดภาคด้วยแล้ว  ผมจะลงไปทำงานอยู่กับชาวบ้านร่วมกับนิสิต  แม้แต่ใช้ชีวิตนอนกลางดินกินกลางทราย  ถ้าวันหยุดวันเสาร์อาทิตย์ตัวผมเองก็ไม่มีวันหยุด  เพราะรู้ว่า  "วันหยุดนั้นคือสิ่งที่มนุษย์เป็นผู้สมมติขึ้นมา  หาใช่ของจริงไหม  จึงไม่ยอมให้มันมีอิทธิพลเหนือเรา"
     ดังนั้นวันเสาร์อาทิตย์ผมจะลงไปเก็บขยะ  แม้กระทั่งโกยผักตบชวาในคูน้ำร่วมกับเด็กๆ  เป็นประจำ  ถ้าวันปิดภาคผมก็จะตามเด็กๆ  ลงไปทำงานร่วมกับชาวบ้านบนพื้นดิน  เช่น  ไปช่วยดำนา  เกี่ยวข้าว  เพาะเห็ดฟาง  ปลูกผักอยู่ในภาคอีสาน  แทบจะทุกตำบล  ทุกอำเภอ  เรื่องทุกจังหวัดนั้นคงไม่ต้องพูดถึง
     ริมฝั่งโขงผมไปมาแล้ว  แถมยังรู้ว่าที่ริมฝั่งโขงนั้นมีกลุ่มเผยแพร่คริสต์ศาสนาไปทำงานอยู่ที่นั่น   สังเกตได้จากต้นสตาร์แอปเปิ้ลซึ่งเป็นพันธุ์ไม้จากฟิลิปปินส์ใบคล้ายใบทุเรียน  ด้านบนมีสีเขียวส่วนใต้ใบมีสีน้ำตาล  ผลคล้ายลูกจันทน์  มีกลิ่นหอม  กินได้  ที่ชาวบ้านนำมาขายอยู่ในตลาดท้องถิ่น
     ผมเป็นรัฐมนตรีที่ไม่ยอมนั่งโต๊ะ  แต่สนใจลงไปทำงานร่วมกับชาวบ้านอยู่บนพื้นดิน  แม้กระทั่งไปดำนา  เกี่ยวข้าว  ไปลากลูกกลิ้งอัดพื้นนาเกลืออยู่ที่ชลบุรี  เป็นต้น 
     มันเป็นความสุขอย่างหนึ่ง  เมื่อมันเป็นความสุขก็ย่อมเกิดปัญญา  แม้กระทั่งการพัฒนาประเทศก็แทบไม่ได้ใช้เงินใช้ทอง   ทั้งนี้เป็นเพราะเงินทองมันอยู่ในใจชาวบ้านอยู่แล้ว  เมื่อเขามีกำลังใจก็เปลี่ยนจิตใจให้มาเป็นทุนในการทำงานอันมหาศาล  แถมยังเกิดความคิดในการพัฒนาตนเองอีกด้วย
     "นี่แหละที่เขาเรียกกันว่าเปลี่ยนวิกฤติให้เป็นโอกาส  ถ้าเราหยั่งรากจิตใจลงสู่พื้นดินอย่างลึกซึ้งประเทศชาติก็ย่อมมีความมั่นคง  ทำให้เจริญก้าวหน้าต่อมาอย่างเชื่อมั่นได้  เศรษฐกิจเราก็แก้ปัญหาอย่างได้ผลโดยใช้เงินใช้ทองน้อยที่สุด  เมื่อใช้เงินน้อยที่สุดเศรษฐกิจมันก็ดีขึ้นโดยมีรากฐาน"
     ที่ผมกล่าวมานี้ทุกวันนี้  ยิ่งไม่มีอำนาจไม่มีตำแหน่งผมก็ยิ่งทำมากกว่าเก่า
     แม้รัฐบาลหรือใครจะมายกย่องว่าผมเป็นผู้สูงอายุแห่งชาติ  ผมก็ไม่ตกเป็นเหยื่อคำสรรเสริญเยินยอดังกล่าว  แต่ยิ่งทำงานลงไปสู่พื้นดินอย่างมีความสุขยิ่งขึ้นไปอีก
     ที่ผมกล่าวมาแล้วทั้งหมดคงไม่ต้องอ้างหลักฐานที่ไหน  เพราะหลักธรรมก็ได้พูดเอาไว้แล้วว่า  "ความลับไม่มีในโลกแห่งความจริง  เพราะเรื่องที่พูดนี้หลายคนมองเห็นได้เอง  โดยไม่ต้องคิดว่าจะให้คนโน้นคนนี้มามองเห็น"   
     บางคนลงไปอยู่ในพื้นที่แล้วยังไม่ทำ  รอว่าเมื่อไหร่กล้องทีวีจะมาถึงแล้วจึงลงมือทำเช่นนี้
เป็นต้น 
     สิ่งที่กล่าวมาแล้วทั้งหมด  ผมไม่มีเจตนาที่จะว่าร้ายใคร  ถ้าใครคิดว่าผมว่าร้ายก็ต้องกราบขออภัยไว้  ณ  ที่นี้ด้วย
     เมื่อไม่นานมานี้  ผมได้เขียนบทความเรื่องหนึ่งโดยให้ชื่อว่า  "เรื่องเล็กที่สุดคือเรื่องใหญ่ที่สุด"  ความหมายของเรื่องนี้ก็คือ  ยิ่งเราขึ้นไปอยู่ที่สูงก็ควรทำตัวให้มันลงมาอยู่ต่ำกว่าคนอื่น  สิ่งนี้เองที่ให้ความสุข  ให้บุญกุศล  และทำให้คนอื่นเขายกมือไหว้ได้อย่างสนิทใจ  แถมยังแก้ปัญหาที่เกิดขึ้นทุกวันนี้ได้อีกด้วย
                                                   กราบมาด้วยความเคารพ
                                                            ระพี สาคริก
ตอบ อาจารย์ระพี
     ไม่รู้ว่าทั้งฝ่ายรัฐบาลและฝ่ายแกนนำ  นปช.จะมีเวลาอ่านจดหมายของอาจารย์ระพีหรือไม่  เพราะนี่คือหนทางที่จะแก้ปัญหาที่หลายคนมองว่ามาถึงทางตันแล้ว
               เราถอยไปไม่ได้อีกแล้ว


เรียน คุณสามวา สองศอก
     วันที่  3  เมษายน  2553  ที่ผ่านมานี้  เป็นวันครบรอบ  15  ปี  แห่งการจากไปของศิลปินนักแต่งเพลงที่มีชื่อว่า  พรธีรา  (จ่าสิบเอกพรเลิศ  สารานิยคุณ)
     ครูพรธีราเกิดวันอังคารที่  25  มีนาคม  2484  ถึงแก่กรรม  3  เมษายน  2538  เป็นคนยโสธร  มีพี่น้องร่วมบิดามารดาเดียวกัน  6  คน  ครูพรธีราเป็นบุตรคนที่สองของครอบครัว   สมรสกับคุณเพ็ญนี   สารานิยคุณ  (เป็นอาจารย์สอนอยู่  รร.สุรศักดิ์มนตรี)  มีบุตรธิดา  3  คน
     เข้ารับราชการสังกัดกองดุริยางค์ทหารบก  เมื่อวันที่  28  ตุลาคม  2508  ประจำวงหัสดนตรีในตำแหน่งนักร้องนักแต่งเพลง  พ.ศ.2527  ย้ายประจำแผนกวิทยาการ  ตำแหน่งนักดนตรีพิเศษ
     ผลงานการประพันธ์เพลง  ได้รับพระราชทานรางวัลแผ่นเสียงทองคำ  ประจำปี  2522  ในเพลงสุดแผ่นดิน  ขับร้องโดยคุณศิริจันทร์  อิศรางกูร  ณ  อยุธยา
     ผลงานเพลงดัง  หลานย่าโม  ร้องโดยรุ่งฤดี  แพ่งผ่องใส  เพลงนี้ได้รับพระราชทานแผ่นเสียงทองคำปี  2522  เพลงที่หนึ่ง  ขับร้องโดยสุเทพ  วงศ์กำแหง  เพลงรักเธอเหนือสิ่งใดและต้นลมหัวใจ  ขับร้องโดยทนงศักดิ์  ภักดีเทวา
     ครูพรเลิศเป็นคนมีน้ำใจ  รักพวกพ้อง  จึงเป็นที่รักและอาลัยยามจากเพื่อนๆ  ไป
               เพลงสุดแผ่นดิน
     คำร้อง/ทำนอง ส.อ.พรเลิศ  สารานิยคุณ
     เรียบเรียงเสียงประสาน พ.อ.ชูชาติ พิทักษากร
     สุดดินคือถิ่นน้ำ        เขตคามไทยสุดแนว
เราถอยไปไม่ได้อีกแล้ว      ผืนดินสิ้นแนวทะเลกว้างใหญ่
     ชาติไทยในเก่ากาล    ถูกเขาราญย่ำใจ
เคยเสียน้ำตามากเพียงไหน   เสียเนื้อเลือดเท่าไรชาวไทยจำได้ดี
     เราถอยมาอยู่แสนไกล  รวมเผ่าไทยอยู่อย่างเสรี
พระสยามทรงนำโชคดี       ผืนดินถิ่นนี้คือแผ่นดินทอง
     ไม่มีที่แห่งไหน        ให้ไทยไปจับจอง
เราถอยไปไม่ได้พี่น้อง       ใครคิดแย่งครองผองไทยจงสู้ตาย
                                        นิสา อาภรณ์     
ตอบ คุณนิสา
     เพลงสุดแผ่นดินเป็นอีกเพลงหนึ่งที่น่าจะนำมาเปิดในช่วงสงกรานต์ปีนี้.
                                                       สามวา สองศอก

http://www.thaipost.net/news/120410/20693


หัวข้อ: Re: "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: swsm ที่ 12 เมษายน 2553, 08:50:15
อ้างถึง
ข้อความของ patooman 64 เมื่อ 12 เมษายน 2553, 06:44:48
สำหรับที่พี่หยีคิดว่ามีการตัดต่อ ผมไม่ทราบและไม่ได้ทำ เพราะหลังโพสเพิ่งเข้ามา เพราะเพิ่งกลับจากงานพระราชทานเพลิงญาติผู้ใหญ่ เรื่องพวกนี้ไม่ทำเล่น ๆ ครับ

อ้างถึง
ข้อความของ swsm เมื่อ 10 เมษายน 2553, 23:00:08
อ้างถึง
ข้อความของ patooman 64 เมื่อ 10 เมษายน 2553, 22:53:18
เมื่อหัวค่ำมีการล้อมปรามแถวสี่แยกคอกวัว ทหารใช้ความรุนแรงเกินสมควร น่าสงสารชาวบ้านที่ชุมนุมโดยสงบ  แต่ m79 มาจากไหนไม่รู้กระจายเป็นแถบ วันนี้น่าจะบาดจ็บสัก ๕๐๐ แต่มีชาวบ้านมาร่วมมากขึ้น ถ้าสามารถยันได้อีก ๒ วัน(ซึ่งน่าจะได้)รัฐบาลคงไม่รอด ส่วนจะถือว่าชุมนุมโดยสงบหรือไม่เท่าที่ไปสังเกตการณ์ไม่พบอาวุธ แต่ไอ้ที่ใช้ตีกันก้อไม่ใช้ของที่เตรียมการมา


รายงานข่าวสด  จากอีกหนึ่งแหล่งเจ้าค่ะ ..  

พวกเราอย่าฟังข่าวจากแหล่งเดียว
อาจถูกล้างสมองได้ง่าย



ท่านประธานคะ .. ข้าพเจ้าขอใช้สิทธิ์พาดพิง     emo6::))



เรียน  น้องพธู

ที่พี่บอกว่า  ข้อความสีชมพูมีการตัดต่อนั้น  เป็นความสัตย์ที่พบด้วยตา  
มิได้มีเจตนาที่จะให้ร้าย
สาเหตุจากการตั้งข้อสังเกตของพี่ปรีชา  และคำถามจากที่แอ๊ะที่ว่า .. เป็นข่าวจากไหน ..
พี่จึงอยากให้ข้อมูลแก่พี่ทั้งสองว่า .. เหตุการณ์นั้นพธูไปสังเกตุการณ์ด้วยตนเอง .. จึงได้พยายามหาข้อมูลมาอ้างถึง
แต่ปรากฎว่า .. ข้อความสีชมพูเปลี่ยนไป ..


พี่จำได้แม่นว่า .. ประโยคขึ้นต้นเป็นดังนี้ ..
"เมือหัวค่ำได้ไปเดินดูการล้อมปราบผู้ชุมนุมที่สี่แยกคอกวัว  ทหารใช้ความรุนแรง ..."
ซึ่งพี่ได้นำไปเอ่ยถึงที่ห้องการเมืองห้องหนึ่ง  
พร้อมบอกว่าไห้พวกเราฟังจากการ รายงานข่าวสด อีกซะด้วย (ตามการอ้างถึงที่ 2)


แต่เมื่อประโยคนั้นหายไป  และพธูออกมาบอกว่าไม่ได้ตัดต่อแต่อย่างไร
พี่ก็เคารพในคำพูดนั้น ..
โต ๆ กันแล้ว หน้าที่การงานใหญ่โต แถมยังเป็นพี่เป็นน้องกันอีก
จะมาโกหกใส่กันทำไม  จริงไหมคะ ??


แต่ยืนยันล้านเปอร์เซ็นต์ว่า  มีข้อความดังกล่าวจริง ๆ .. แต่ตอนนี้หายไปแล้ว
หากพธูไม่ได้ทำ  ก็คงเป็นคนอื่นที่มี "อำนาจ หน้าที่ และความรับผิดชอบ" เป็นผู้ทำการแทนแหละค่ะ
จะเป็น วม. วค. วปอ. วปรอ. หรือ ว.วัว  ก็ไม่อยากล้วงลึกเข้าไปหาโรตี มะตะบะ อะไรอีก
เพราะเชื่อว่า  คงเจอแต่ความว่างเปล่า ว้าเหว่ เหมือนเดิม



ปีใหม่ค่ะ ..
ทำใจเป็นกุศล แล้วช่วยกันภาวนาให้ประเทศชาติพ้นภัย (จากฝีมือคนไทยด้วยกันเอง) โดยไวเทอญ
   



emo30:sorry:   จบข่าวค่ะ



หัวข้อ: Re: "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: เหยง 16 ที่ 12 เมษายน 2553, 08:51:04
อ่านบทบรรณาธิการของไทยรัฐ

จากผู้หวังดีต่อบ้านเมือง

สามอธิการบดีมหาวิทยาลัยเก่าแก่ที่สุด  และใหญ่ที่สุดของประเทศคือ  จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ และมหาวิทยาลัยมหิดล ได้ร่วมกันวิงวอนขอให้ นายกรัฐมนตรีและแกนนำกลุ่มคนเสื้อแดงเปิด เจรจากันโดยเร็วที่สุด เพราะสถานการณ์บ้านเมือง ได้ก้าวไปสู่จุดที่ไม่พึงปรารถนา   และไม่มีวิธีอื่นใดที่จะทำให้ประเทศหลุดพ้นจากภาวะล่อแหลม ต่อสงครามกลางเมือง นอกจากเจรจา

ความเห็นของสามอธิการบดีมหาวิทยาลัยสอดคล้องกับหลายฝ่าย รวมทั้งเครือ ข่ายสันติวิธี กลุ่มนักวิชาการ กลุ่มพลังเงียบ และสมาชิกวุฒิสภาบางส่วน   ที่เห็นว่าวิธีที่ดี ที่สุดในการยุติความขัดแย้งคือ การเจรจา และสอดคล้องกับเอแบคโพล ที่สอบถามความเห็นของกลุ่มตัวอย่างใน 17 จังหวัดทั่วประเทศ เมื่อปลายเดือนมีนาคม มีคนถึงร้อยละ 75.9 ที่สนับสนุนการเจรจาระหว่างสองฝ่าย

การชุมนุมใหญ่ของแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ ซึ่งเริ่มต้นมาตั้งแต่วันที่ 12 มีนาคม ได้พัฒนาไปสู่ความตึงเครียดและความรุนแรงตามลำดับ จนรัฐบาลต้องประกาศใช้กฎหมายสถานการณ์ฉุกเฉิน ใน กทม. และจังหวัดใกล้เคียง หลังจากที่กลุ่มคนเสื้อแดงชุมนุมปิดสี่แยกราชประสงค์ และบุกรัฐสภา แต่ ก.ม.ฉุกเฉินไม่สามารถสลายการชุมนุม ซ้ำยังปล่อยให้กลุ่มคนเสื้อแดงบุกยึดสถานีดาวเทียมไทยคม

บรรดากลุ่มและองค์กรผู้หวังดี ต่อประเทศชาติ จึงเห็นว่าถ้าปล่อยให้ฝ่ายรัฐบาลและกลุ่มคนเสื้อแดงประจันหน้ากันต่อไป อาจจะนำไปสู่จุดที่ไม่พึงปรารถนา และจะทำให้ประเทศ เสียหายร้ายแรง  จึงวิงวอนขอให้ทั้งสองฝ่ายเปิด เจรจารอบใหม่ ถึงแม้จะเคยเจรจาและล้มเหลวกันมาแล้ว แต่ก็น่าจะยังพูดจากันได้ โดยเฉพาะเงื่อนเวลาในการยุบสภา  น่าจะพบกันครึ่งทางได้

ถึงแม้แกนนำกลุ่มคนเสื้อแดงจะไม่ยอมเจรจา  แต่นายกรัฐมนตรีก็น่าจะทำตาม ข้อเสนอแนะของนายบรรหาร ศิลปอาชา อดีตหัวหน้าพรรคชาติไทย ที่ให้เดินหน้าตามแผน ที่ได้ประกาศไว้  คือแผนการยุบสภาภายใน  9  เดือน และกำหนดตารางเวลาให้แน่ชัด เพื่อการแก้ไข รัฐธรรมนูญ และการสร้างบรรยากาศความสมานฉันท์ เพื่อให้ทุกฝ่ายมั่นใจว่าพรรคประ- ชาธิปัตย์จะทำตามสัญญาไม่มีการเบี้ยว

นายกรัฐมนตรีจะต้องอิงประชาชน ประกาศเป็นสัญญาประชาคมให้ชัดเจน และชี้แจงว่าทำไมจึงต้องใช้เวลา 9 เดือน และสามารถ ลดลงได้หรือไม่? และเปิดช่องทางให้ประชาชนเข้ามามีส่วนร่วมให้มากที่สุด ไม่ว่าจะเป็นการออกเสียงประชามติ (ถ้าจำเป็น) การประชาพิจารณ์ อย่างกว้างขวาง จะต้องไม่ท้าทายว่าถ้าไม่เอา 9 เดือน  รัฐบาลก็จะอยู่ต่อไปจนครบวาระ  1  ปี  9  เดือน

สำหรับแกนนำกลุ่มคนเสื้อแดงอาจจะไม่ต้องฟังเสียงรัฐบาลหรือฝ่ายอื่นๆ ที่มีความเห็นต่าง แต่อย่างน้อยที่สุดน่าจะรับฟังความคิดเห็นของคนกรุงเทพฯ และจังหวัดปริมณฑล ผลการสำรวจของศูนย์วิจัยมหาวิทยาลัยธุรกิจ-บัณฑิตย์ ร้อยละ 49.2 เห็นว่าควรเลิกชุมนุมและกลับบ้าน ร้อยละ 22.8 ให้เลิกชุมนุมชั่วคราวแล้วกลับมาใหม่   ร้อยละ   17.7   ให้ชุมนุมต่อ  ร้อยละ 71.1 เห็นว่าการชุมนุมไม่ได้แก้ปัญหา.

http://www.thairath.co.th/column/pol/editor/76176


หัวข้อ: Re: "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: swsm ที่ 12 เมษายน 2553, 08:52:11
อ้างถึง
ข้อความของ prapasri AH เมื่อ 12 เมษายน 2553, 07:46:21
น้องหะยีคะ

ไม่เป้นไร คุยกันดังๆใน คฤหาสถ์ พี่แอ๊ะนี่แหละ พี่แอ๊ะชอบค่ะ

อยากฟังการคุยในระบบอบประชาธิปไตยค่ะ

พี่แอ๊ะฟังช่องแดง ทุกวัน

บอกตรงๆ ว่าถ่อยยยยยยยย

ไม่มีสาระอะไรมาพูดนอกจาก ถ่อย ค่ะ

แล้วถ้าเราจะยุบสภาเพราะพวกถ่อย

ต่อไป หากมีรัฐบาลไหนขึ้นมาก็ตาม

แล้วใครมีเงิน จ้างถ่อย มาให้เดินขบวน ยุบสภาอีก จะทำยังไงกัน

คิดว่ารัฐบาลอดทนที่สุดเเล้ว

อีถ่อย..มันไป หาเรื่อง ยั่ว ทหารเอง ไปล้อม กองพลทหารราบงี้

ไปหาเรื่อง ทุกเรื่อง แล้วอีตาทักษินก็วีดีโอลิ้งมาทุกวัน

คน คนเดียว อยู่ต่างประเทศ แล้ว มาปลุกระดม และส่งเงินมาให้คนไทย
ฆ่ากันนนนนนนนนนนนน

คงสะใจศีแดงซิๆๆๆ


พี่แอ๊ะคะ .. ทีวีสีแดงหยีก็ดูค่ะ
เขาพูดมันส์ดีเหลือหลาย
ไม่แปลกใจเลยว่า  คนที่ฟังข่าวจากแหล่งเดียว จึงถูกชักจูงได้ง่าย


หัวข้อ: Re: "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: swsm ที่ 12 เมษายน 2553, 09:26:28
พี่แอ๊ะคะ ..

กิจการร้านค้าในช่วงสงกรานต์จะหยุดหลายวัน
พี่แอ๊ะไปเข้าซาลอน สปา ให้ความสุขกับร่างกายและจิตใจตัวเองรอไว้ก่อนเลยนะคะ

หากไม่เตรียมไว้  จะเดินเข้าหาร้านทำผมในช่วงที่ว่า
ร้านปิดไปหมด  เดี๋ยวทรงผมจะไม่โป่ง  กระบังลมจะไม่สูง ..



หัวข้อ: Re: "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: prapasri AH ที่ 12 เมษายน 2553, 12:14:29
วันนี้พี่แอ๊ะเครียดจน คลื่นเหียน อาเจียน อ๊วก แล้วค่ะ
เลยปิดทีวีดีก่า

อยู่ดีๆ ไม่เคารพ คนตาย เอาใส่โลงไปเที่ยวแห่ประจาน

เราต้องให้เกีรยติ กับผู้ตาย และครอบครัวผู้ตาย อย่าเอาเขาไปเป็นเหยื่อ

ถ้าเป็นญาติพี่น้องพี่แอ๊ะ พี่แอ๊ะ จะไปแย่งศพกลับมา


หัวข้อ: Re: "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: swsm ที่ 12 เมษายน 2553, 12:15:00
รายงานข่าวด่วน .. โลงศพออกมาแห่แล้วค่ะ        emo24:(


หัวข้อ: Re: "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: jamsai ที่ 12 เมษายน 2553, 14:51:52
โอยยยยยยยยยยย
เครียดดดดดดดดดด
พี่แอ๊ะ คนดี ขอพึ่งหน่อยค่ะ
วันใหนคะ ที่จะรำวง น้องป้าแจ่มจะไปรำด้วยยยยยยยยยยยย
เอ้า มาแย้ง เจ้าอ้อย หน่อย
รดน้ำดำหัว คนเหนือ แปลว่ารดนำสระผม แล้วไปรดน้ำ รดหัวผู้ใหญ่หรืออ้อย 14

คนอิสาน เรียก ฮดน้ำดำหัว หรือสรงน้ำ หรือ สระสรง แต่เราคนอิสานเดิมๆ จะรดน้ำ ที่มือ
แล้วผู้ใหญ่ท่านก็จะกอบน้ำในมือขึ้นใส่หัวเอง จะไม่รดน้ำที่หัวตรงๆเป็นอันขาด
แล้วเราก็รดไหล่ ให้ตัวเปียกด้วย(สรงน้ำ) สำหรับพ่อแม่ ปู่ย่าตายาย ก็จะรดน้ำที่เท้า ขัดถูล้างเท้าให้ด้วย

คนอิสานไม่เชิงรดน้ำเพื่อขอพรตรงๆนะ หากขอคารวะขมาลาโทษที่ได้เคยล่วงเกิน และอวยพรให้ท่านอยู่เป็นขวัญ กำลังใจหรือเป็น ที่พึ่งพิงทางใจ แล้วท่านก็จะกล่าวให้อโหสิกรรม แล้วให้พรพวกเรา ต่อเอง ซึ่งนี่น่าจะแตกต่างจากภาคกลางหรือเหนือนะ

พวกเราทั้งหลายช่วยกันอธิษฐานทีเถิด ให้ความดีชนะความชั่ว
ความจริงชนะความเท็จ คนดีชนะและปลอดภัย คนชั่วพ่ายแพ้และรับผลชั่วโดยเร็วด้วยเถิด

ช่วยด้วย ช่วยเถิดโปรด




หัวข้อ: Re: "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: อ้อย 14 ที่ 12 เมษายน 2553, 19:50:39
พี่แอ๊ะ

          emo46อ้อยได้ตัดตัวเองออกจากสังคมข่าวสารเป็นที่เรียบร้อยแล้ว  เพราะรู้สึกเจ็บปวดหัวใจเหลือเกิน  ต้องมาดูมารับรู้มาฟังคนไทยแท้ๆที่รบราฆ่าฟันกันเอง   เหมือนบ้านป่าเมืองเถื่อน ด้วยฤทธิ์แห่งความอาฆาตมาดร้ายของคนที่เคยเป็นถึงผู้นำของประเทศไทย  ซึ่งน่าจะเป็นพญามารไปแล้วเรียบร้อย.........นี่มันยิ่งกว่า  ตอนเสียกรุงศรีเสียอีก  เพราะตอนนั้นพม่ามารุกราน แต่ตอนนี้คนไทยลุกขึ้นมาด้วยอำนาจของเงินอย่างเดียว.....คิดว่าคนที่รักและบูชาเขาคงภาคภูมิใจในชัยชนะ  และสักวันคมหอกนั้นคงจะย้อนทวนมาหาตัวเขาแน่....แต่เมื่อไร นะสิคะ emo30:sorry:


หัวข้อ: Re: "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: swsm ที่ 12 เมษายน 2553, 20:03:58
อย่าอ้อยขรา .. อย่าเพิ่งถอนตัวคร่ะ
เราต้องการเสียงแบบนี้มาช่วยกันสาปแช่งไอ้พวกเลวทั้งหลาย


มันเหิมเกริมเกินกว่าที่พวกเราจะอยู่เฉยได้แล้วค่ะ
    emo30:sorry:


หัวข้อ: Re: "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: Soponเท่านั้น ที่ 12 เมษายน 2553, 20:32:20
สงสัยพิมพ์ตกคำว่า พี่ ไปตัวหนึ่ง
อย่าเพิ่งมึนน่า น้องหะยี


หัวข้อ: Re: "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: swsm ที่ 12 เมษายน 2553, 20:56:38
อ้างถึง
ข้อความของ Soponเท่านั้น เมื่อ 12 เมษายน 2553, 20:32:20
สงสัยพิมพ์ตกคำว่า พี่ ไปตัวหนึ่ง
อย่าเพิ่งมึนน่า น้องหะยี



แหะ แหะ .. จริงด้วยค่ะ  พี่เปี๊ยก
ขอแก้ไขนะคะ



อ้างถึง
ข้อความของ swsm เมื่อ 12 เมษายน 2553, 20:03:58
อย่านะคะ  พี่อ้อยขรา .. อย่าเพิ่งถอนตัวคร่ะ
เราต้องการเสียงแบบนี้มาช่วยกันสาปแช่งไอ้พวกเลวทั้งหลาย


มันเหิมเกริมเกินกว่าที่พวกเราจะอยู่เฉยได้แล้วค่ะ
    emo30:sorry:


หัวข้อ: Re: "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: prapasri AH ที่ 13 เมษายน 2553, 09:05:00
color=#ff0900]มันไม่ใช่แดงแล้วค่ะ

มันคือผู้ก่อการร้ายยยยยยยยยยยย[/color]


หัวข้อ: Re: "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: อ้อย 14 ที่ 13 เมษายน 2553, 09:15:44
ขอบใจมากน้องเปี๊ยกของพี่  คิดถึงรูมเมทน่าดูล่ะซิ    ถ้าอยู่แถวนี้  น่าจะมีอาการแย่กว่าพี่เสียอีก.....ป่านฉะนี้   กลาเซียร์แถวเกาะใต้คงละลายไปมากมายแล้ว......

                       emo33:(: emo33:(: emo33:(: emo33:(: emo33:(: emo33:(: emo33:(: emo33:(: emo33:(: emo33:(: emo33:(: emo33:(:

น้องหะยีขา....ไม่เป็นไรหรอก ตอนนี้หลายๆคนทำท่าจะเสียศูนย์ไปแล้ว  มันเหลือเกินจริงๆ  อำนาจเงินนี่มันช่าง ทรงอิทธิพลเสียจริง ทำให้คนกลายพันธ์ไปแล้ว  พวกที่ไม่มีการศึกษา เราก็พอทำใจได้ว่า ถูกเขาหลอก ถูกเขาปั่น พวกที่ค้าขาย นั่นก็คงเพราะอยากให้กิจการมันดีเหมือนเมื่อก่อน  แต่พวกคนที่ร่ำเรียนมาเป็นคน เป็นครู เป็นอาจารย์เป็นข้าราชการนั่นสิ  เขาต้องการอะไร...................กันหนอ  อันที่จริงถ้าเขาต้องการเปลี่ยนจริงๆ ถ้ามองในแง่บวก  ก็น่าจะลองให้เขาได้ในสิ่งที่เขาฝัน เขาวาดหวัง..........แต่ประเทศชาติมันไม่ใช่ของทดลองสินะ

        มาดูเด็กไทยสมัยนี้  ไม่ได้สนใจอะไรมากไปกว่าความสวยงาม  การเข้าวงการบันเทิง   คุยโทรศัพท์ เปลี่ยนมือถือ     ศาสนาก็ถูกวัดจานบินครอบคลุมไปทั่วประเทศ    ทหารก็ช่างกระไร....ขอบ่นหน่อยก็แล้วกัน   และคำถามสุดท้ายคือ   แล้วเราจะทำอย่างไรกันดี  


หัวข้อ: Re: "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: เหยง 16 ที่ 13 เมษายน 2553, 09:21:54
สวัสดีวันสงกรานต์ครับ

(http://img91.imageshack.us/img91/2838/songkran1.jpg)

(http://img91.imageshack.us/img91/7403/songkran2.jpg)

   (http://img91.imageshack.us/img91/7347/songkran3.gif)

   (http://img91.imageshack.us/img91/1535/songkran4.gif)

ชุ่มฉ่ำ..ใจเย็น นะครับ

(http://www.cmadong.com/imageupload/2010_Cmadong-Image/data/image/l0smc1-a48e71.jpg)


หัวข้อ: Re: "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: Intania๑๖ ที่ 13 เมษายน 2553, 09:30:19
อ้างถึง
ข้อความของ patooman 64 เมื่อ 12 เมษายน 2553, 06:44:48
อ้างถึง
ข้อความของ Preecha2510 เมื่อ 11 เมษายน 2553, 08:30:00
อ้างถึง
ข้อความของ patooman 64 เมื่อ 10 เมษายน 2553, 22:53:18
เมื่อหัวค่ำมีการล้อมปรามแถวสี่แยกคอกวัว ทหารใช้ความรุนแรงเกินสมควร น่าสงสารชาวบ้านที่ชุมนุมโดยสงบ  แต่ m79 มาจากไหนไม่รู้กระจายเป็นแถบ วันนี้น่าจะบาดจ็บสัก ๕๐๐ แต่มีชาวบ้านมาร่วมมากขึ้น ถ้าสามารถยันได้อีก ๒ วัน(ซึ่งน่าจะได้)รัฐบาลคงไม่รอด ส่วนจะถือว่าชุมนุมโดยสงบหรือไม่เท่าที่ไปสังเกตการณ์ไม่พบอาวุธ แต่ไอ้ที่ใช้ตีกันก้อไม่ใช้ของที่เตรียมการมา


                                                            Liar
เรียนพี่ปรีชา ผมไม่ได้คาดหวังว่าจะให้ใครเชื่อ  บังเอิญเหตุการณ์เกิดแถวบ้าน(ผมอยู่เสาชิงช้า) ก้อไปดูแล้วบอกให้ทราบ ไม่ได้จากสำนักข่าวไหน แต่ถ้าใครอยากเชื่อในสิ่งที่อยากเชื่อก็ไม่เป็นไร เพราะไม่ทำให้อะไรดีขึ้นหรือเลวลง ผมไม่อยากให้รับฟังข่าวจากสื่ออย่างเดียว ผมอยากให้พวกเราได้ข้อมูลจริง ส่วนเหตุการณ์ที่ราชดำริ หรือปทุมธานี ผมไม่ได้ไปเห็น ผมคงไม่เอามาเล่า ทั้ง ๆที่ผมต้องตามข่าวตลอดเพราะเป็นงานที่ต้องทำ ส่วนพี่ว่าผมโกหก ผมก้อคงโกหกในสายตาพี่ตลอด เพราะผมคงไม่อาจทำให้พี่รับฟังได้ ผมไม่ร้องขออะไรจากพี่ ถ้าพี่ไม่เชื่อไม่ต้องว่าผมก้อได้ มองผ่าน ๆ ไปก็ดีแล้ว แต่ถ้าข้อมูลที่ผมนำเสนอจะให้พี่ ๆ หันมามองความจริงบ้าง พี่อาจจะรู้ข้อมูลที่พี่ไม่อยากฟังบ้างก็ได้
สำหรับที่พี่หยีคิดว่ามีการตัดต่อ ผมไม่ทราบและไม่ได้ทำ เพราะหลังโพสเพิ่งเข้ามา เพราะเพิ่งกลับจากงานพระราชทานเพลิงญาติผู้ใหญ่ เรื่องพวกนี้ไม่ทำเล่น ๆ ครับ



ข้อเขียนของปลาทูแมน เมื่อ 10 เมษายน 2553
"เมื่อหัวค่ำมีการล้อมปรามแถวสี่แยกคอกวัว ทหารใช้ความรุนแรงเกินสมควร น่าสงสารชาวบ้านที่ชุมนุมโดยสงบ แต่ m79 มาจากไหนไม่รู้กระจายเป็นแถบ วันนี้น่าจะบาดจ็บสัก ๕๐๐ แต่มีชาวบ้านมาร่วมมากขึ้น ถ้าสามารถยันได้อีก ๒ วัน(ซึ่งน่าจะได้)รัฐบาลคงไม่รอด ส่วนจะถือว่าชุมนุมโดยสงบหรือไม่เท่าที่ไปสังเกตการณ์ไม่พบอาวุธ แต่ไอ้ที่ใช้ตีกันก้อไม่ใช้ของที่เตรียมการมา"

"หลังพายุฝนท้องฟ้าก็แจ่มใส"  เพื่อให้เห็นภาพต่างๆชัดเจนๆขึ้น มาถึงนาทีนี้ เราก็จะพอรู้ว่าใครอยู่เบื้องหลังความรุนแรง ทหารไม่ได้ใช้อาวุธในการปราบปราม แต่มีทหารตาย และเสื้อแดงตาย รวมราวๆ 18 ศพ รวมท้ังนักข่าวชาวญี่ปุ่น

นักรบเสื้อดำใส่หน้ากากพวกนี้แหละที่พกพาอาวุธหนัก M16, Uzi เป็นใคร รัฐบาลต้องจับตัวและกระชากหน้ากากออกมา ทำไมเสธฯ แดง พูดว่า มีระเบิด M79 ลงที่ไหน ที่นั้นมีระเบิดทุกครั้งไป เสธฯ แดงเกี่ยวข้องหรือไม่


ที่มา: http://fightorwaittogetkill.wordpress.com/
(http://img215.imageshack.us/img215/5618/redshirtsniper.jpg)



(http://img72.imageshack.us/img72/5114/redshirt02.jpg)
(http://img100.imageshack.us/img100/9219/redshirtsoldier.jpg)

http://fightorwaittogetkill.wordpress.com/

พลทหาร สุขปัญญา คดชวาน้อย จากกองพันราบที่ 1 ปลอมเป็นภิกษุ เข้ามาร่วมกับเสื้อแดงได้อย่างไร?


หัวข้อ: Re: "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: Intania๑๖ ที่ 13 เมษายน 2553, 09:37:10
(http://img72.imageshack.us/img72/6170/redsoldier.jpg)
(http://img156.imageshack.us/img156/3802/redsoldier00.jpg)


ไอ้โม่งชุดดำ ชื่อ "นายอร่าม แสงอรุณ" เป็นอดีตทหารพราน ค่ายปักธงไชย ทำหน้าที่เป็นนักรบรับจ้าง ถือปืน M16 สพายปืนที่บ่าอีก 2 กระบอกเข้าใจว่าเป็นมือกล Uzi  มีหน้ากากป้องกันแก๊สน้ำตา ห้อยอยู่หน้าขาขวา
โปรดสังเกตุ ติดสติกเก้อร์ "ยุบสภา"  คนหลัง ใส่เสื้อ Truth Today   และเครื่องหมาย Guard

ใครบ้างหว่า? สนับสนุนการ "ยุบสภา" สติคเก้อร์แบบเดียวกับไอ้โม่งชุดดำ อดีตทหารพรานค่ายปักธงชัย ตรงหน้าอกซ้าย
จาก http://www.oknation.net/blog/chatsha/2010/04/12/entry-2
 
 



หัวข้อ: Re: "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: อ้อย 14 ที่ 13 เมษายน 2553, 10:09:26
เหยง.... emo29:P:

                 ขอนแก่นเช้านี้เงียบมาก  ปรกติ เช้าวันสงกรานต์ผู้คนจะออกมาจับจ่าย  คนต่างถิ่นจะออกมาทาน อาหารเช้าจนล้นร้านดัง  แต่วันนี้  ทุกอย่างเหงาหงอย   แต่ยังมีการตักบาตรที่บึงแก่นนคร สวมเสื้อสีเหลืองชมพูกันมากมาย   เลยทำให้เชื่อได้ว่า เป็นวันสงกรานต์   ที่นี่ร้อนทุกวันและไม่มีวี่แววจะมีฝน    นครสวรรค์เป็นอย่างไร  รถยังติดแถวสะพานเดชาติวงศ์อยู่หรือเปล่า   ขนมโมจิคงขายดีเช่นเคยนะ emo45:(
         


หัวข้อ: Re: "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: suriya2513 ที่ 13 เมษายน 2553, 10:14:44
อ้างถึง
ข้อความของ อ้อย 14 เมื่อ 13 เมษายน 2553, 10:09:26
เหยง.... emo29:P:

                 ขอนแก่นเช้านี้เงียบมาก  ปรกติ เช้าวันสงกรานต์ผู้คนจะออกมาจับจ่าย  คนต่างถิ่นจะออกมาทาน อาหารเช้าจนล้นร้านดัง  แต่วันนี้  ทุกอย่างเหงาหงอย   แต่ยังมีการตักบาตรที่บึงแก่นนคร สวมเสื้อสีเหลืองชมพูกันมากมาย   เลยทำให้เชื่อได้ว่า เป็นวันสงกรานต์   ที่นี่ร้อนทุกวันและไม่มีวี่แววจะมีฝน    นครสวรรค์เป็นอย่างไร  รถยังติดแถวสะพานเดชาติวงศ์อยู่หรือเปล่า   ขนมโมจิคงขายดีเช่นเคยนะ emo45:(
         
อยากรู้จริงๆ จึงถาม
คนใส่เสื้อแดงมีเยอะไหมครับ


หัวข้อ: Re: "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: อ้อย 14 ที่ 13 เมษายน 2553, 10:35:36
ถามมาก็ตอบไป....

   emo35:()พี่ป๋อง  อันว่า เมืองต่างๆในมณฑลอีสานนั้น  ผู้คนส่วนใหญ่ล้วนยากจน มีรายได้น้อย  ไม่ค่อยจะมีการศึกษา  ลูกหลานที่ส่งเข้าไปเรียนหนังสือก็หมกมุ่นกับสรีระและความงาม  ไฝ่ฝันที่จะเข้าวงการบันเทิงเท่านั้น  โลกนี้ MSMและการแชท  ดังนั้นเงินคือพระเจ้า  และชื่นชมหลงไหลได้ปลื้มกับเงินตราที่รัฐบาลของท่านทักษฺณโปรยมาให้ราวกับห่าฝน  เอาเงินในอนาคตมาให้ ให้ข้าราชการเอาเงินฌาปนกิจไปใช้ล่วงหน้า   ฝ่ายสงฆ์ก็มีวัดจานบินค่อยๆแทรกเข้าไปในศาสนจักร จัดบวชทั้งพระ ชี และเณร  อบรมพระทั่วประเทศ  ใช้คอมพิวเตอร์และส่งสารทางอินเตอร์เนตแบบชนิดที่ฆราวาสอายเชียวล่ะ   พวกครูอาจารย์ก็ปลื้มกับเงินเดือนที่เพิ่มมาเป็นระลอกราวกับคลื่น   แล้ว พี่ป๋องคิดว่า  พวกแดงจะมีมากหรือเปล่า.......ใช่   ทางกลุ่มสายมหาวิทยาลัย  สายการแพทย์พวกหมอ พยาบาลที่นี่ก็เข้มแข็งในระดับหนึ่ง แต่    มันจะทานกระแสการเงิน  กระแสความอยากของผู้นำชุมชน  ผู้นำหมู่บ้าน และข่าวสารที่ป้อนมาโดยวิทยุชุมชน   ไหวหรือ....รัฐเอง  ละเลยและดูเบาเรื่องการข่าวมาโดยตลอด  ยิ่งทำให้กระแสของกลุ่มแดง ยากเกินกว่าที่จะบรรเทาแล้วจนมาจนถึง ณ วันนี้.......ตอบยาวไปหน่อยนะพี่    บอกตรงๆ  บางที่ อ้อยคิดถึงท่านจอมพลสฤษดิ์   พี่จะจำท่านได้หรือเปล่าหนอ
                               emo33:(: emo33:(: emo33:(: emo33:(: emo33:(: emo33:(: emo33:(: emo33:(: emo33:(: emo33:(:

ทั้งหมดทั้งมวลนี้  เพื่อจะบอกพี่ว่า  เขาใส่เสื้อแดงที่ใจกันน่ะพี่


หัวข้อ: Re: "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: prapasri AH ที่ 13 เมษายน 2553, 11:11:18
มหาประชาชนเท่านั้นที่ "ชาติต้องการ"
ช่วยกันเป็นกำลังใจให้นายกอภิสิทธิ์/เปลว สีเงิน


พวกเราอ่านแล้วก็ขอให้ส่งต่อๆกันไป ไม่ต้องกังวลว่าคนรับจะฝักใฝ่ฝ่ายไหน มันคงต้องปล่อยให้เป็นสำนึกของความเป็นคน

ใครอยากเห็นชาติล่มจมฉิบหาย แล้วคิดว่าตัวเองยังอยู่ได้ ก็คงต้องถือว่าเป็นกรรมของแผ่นดิน และลูกหลานตัวเอง มหา

ประชาชนเท่านั้นที่ "ชาติต้องการ".... เปลว สีเงิน

ท่านผู้อ่านที่มีความเจ็บปวดต่อสถานการณ์ "ไทยทรยศแผ่นดินไทย" กันเองทั้งหลาย เวลานี้ ไม่จำเป็นต้องถามกันแล้ว

ว่า "อะไรเกิดขึ้นต่อชาติบ้านเมืองอันเป็นที่รักของเรา" และก็ไม่ต้องถามด้วยว่า "เราควรจะทำกันอย่างไร" ณ ขณะนี้ ท่านยังจำ

ประโยคอมตะประโยคหนึ่งได้ใช่ไหมที่ว่า "พบกันใหม่เมื่อชาติต้องการ" ผมค้นพบแล้วว่า ผู้ที่ประเทศชาติต้องการแท้จริง และ

ตลอดกาล ไม่ใช่ใครที่ไหน คือประชาชนมือเปล่า เราๆ ท่านๆ ทั้งหลายนี่เอง

จงกุมสติกันให้มั่น อย่าถาม-อย่าโทษใครทั้งนั้น ทั้งหลายทั้งปวงมันพิสูจน์[/color]


หัวข้อ: Re: "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: prapasri AH ที่ 13 เมษายน 2553, 11:12:53
จงกุมสติกันให้มั่น อย่าถาม-อย่าโทษใครทั้งนั้น ทั้งหลายทั้งปวงมันพิสูจน์ด้วยตัวมันเองชัดแจ้งแล้วว่า กลียุคบ้านเมืองขณะนี้

ไม่ใช่จากน้ำมือของพี่น้องประชาชนเสื้อแดง แต่มันมาจากบุคคลคนหนึ่งที่ทรยศต่อชาติบ้านเมือง ต่อพี่น้องประชาชนทุกคน

วางแผน-สั่งการ-ซ่องสุมและจัดตั้ง "กองกำลังทรยศชาติ"

มันคนนั้นคือ "พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร"


อ้างมาทวงประชาธิปไตย หลอกใช้พี่น้องประชาชนตามจังหวัดต่างๆ สวมเสื้อแดงมารวมตัวกันชุมนุมเรียกร้อง แล้วใช้กองกำลัง

ทรยศชาติที่ผ่านการฝึกและเพาะเลี้ยงมาแล้วอย่างดี แทรกซึมปะปนเข้ามา ทำทีเป็นว่าร่วมชุมนุมกับพี่น้องเสื้อแดง สงบ-สันติ

ด้วยซื่อบริสุทธิ์


หัวข้อ: Re: "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: prapasri AH ที่ 13 เมษายน 2553, 11:13:43
แต่หาเป็นเช่นนั้นไม่ มันแฝงเข้ามาพร้อมแผนก่อการจลาจล-ยึดประเทศ และรออาณัติสัญญาณจากตัวการใหญ่ที่จะสั่งผ่านวิดีโอลิงค์ โดยอาศัยคราบพี่น้องประชาชนเสื้อแดงที่ชุมนุมกันอย่างบริสุทธิ์ใจบังหน้า ลุกขึ้นก่อการจลาจล เผาบ้านเผาเมือง

หวังยึดครองประเทศแล้วสถาปนาอำนาจเถื่อนเป็นประชาธิปไตยระบอบเจ้ามูลเมือง แล้วอัญเชิญกบฏแผ่นดิน "พ.ต.ท.

ทักษิณ ชินวัตร" ให้กลับเข้ามา สถาปนาอำนาจใหม่ตาม "ต้นแบบ" ที่มันแอบฝังใจ นั่นคือ "การปฏิวัติประชาชน ๑๔ กรกฎา"

ล้มสถาบันกษัตริย์ แล้วสถาปนาอำนาจใหม่ ดังที่รู้จักกันทั่วไปว่า "ปฏิวัติฝรั่งเศส"


หัวข้อ: Re: "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: prapasri AH ที่ 13 เมษายน 2553, 11:14:45
ทักษิณจงใจใช้วันที่ ๑๔ กรกฎาตั้งพรรคไทยรักไทย หลายคนเชื่อครึ่ง ไม่เชื่อครึ่ง เมื่อมีนักวิชาการที่ร่วมงานตั้งพรรคครั้งนั้นออกมาแฉเบื้องหลัง แต่ถึง ณ วันนี้ จาก ๘-๑๓ เมษายน ๒๕๕๒ ที่พ.ต.ท.ทักษิณ ปอกเปลือก-เปลือยตัวเองให้เห็นเนื้อใน "ไอ้
กบฏแผ่นดิน" ล่อนจ้อน ทรยศชาติ ประชาชน ออกมาบัญชาการปล้นบ้าน-ชิงเมือง อันเห็นประจักษ์ตา และเป็นที่สิ้นความเคลือบแคลงสงสัยใดๆ กันไปแล้ว

ท่านผู้อ่านและประชาชนผู้รักชาติ รักบ้านรักเมืองทั้งหลาย ผมเยิ่นเย้อเพราะต้องการย้ำให้ท่านเข้าใจว่า กลียุคบ้านเมืองครั้งนี้

อย่ามองฉาบฉวยเฉพาะหน้า จงใช้สติมองด้วยแยกแยะ

อย่าเหมาโทษพี่น้องเสื้อแดงทั้งหมด เพราะเป็นที่ประจักษ์ชัดแล้วว่า เมื่อพี่น้องเสื้อแดงที่หลงเข้าใจผิดตามคำปลุกปั่น-ยุยงทักษิณแต่แรก เห็นธาตุแท้ทักษิณ และทราบความ


หัวข้อ: Re: "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: prapasri AH ที่ 13 เมษายน 2553, 11:16:33
จริงแล้วว่า ถูกทักษิณหลอกมาเป็น "ประชาชนทักษิณ" ประกอบฉากเผาบ้าน-ชิงเมือง-ล้มสถาบันเบื้องสูง ไม่มีอะไรที่เรียกว่า "ประชาธิปไตย" ตามที่กล่าวอ้างเลย


จากหลายหมื่น-ถึงเรือนแสนของพี่น้องเสื้อแดงที่มาร่วมชุมนุมแต่แรก เมื่อเห็น "หางแดง" ทักษิณโผล่ ได้พากันทยอย ถอยตัว

ออกห่างจากวงชุมนุมไปเรื่อยๆ ถอดเสื้อแดงทิ้งแล้วกลับบ้าน ไม่ยอมถูกหลอกใช้เป็นสะพานไปล้มสถาบัน-ปล้นบ้านชิงเมือง

อีก จากเรือนหมื่น-เรือนแสนที่ว่านั้น เหลือเรือนพันหรือแค่หมื่นต้นๆ และนั่นคือ "กองกำลังทรยศชาติ" ส่วนหนึ่งที่แฝงเข้ามา

ด้วยจงใจเจตนาลงมือก่อ! จลาจล โค่นล้มสถาบันบ้านเมือง ดังจะเห็นได้จากรูปแบบการยึดสถานที่ต่างๆ ทั่วกรุงเทพฯ รูปแบบ


หัวข้อ: Re: "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: prapasri AH ที่ 13 เมษายน 2553, 11:17:32
การก่อการทั้งหมด กระทั่งอาวุธสงครามที่นำมาใช้

ไม่ใช่ความคิดความอ่าน และยิ่งไม่ใช่ระดับปฏิบัติการของชาวบ้านสวมเสื้อแดงธรรมดาซึ่งไม่มีขีดสามารถและประสบการณ์ระดับนั้น หากแต่ว่า เป็นปฏิบัติการของผู้ผ่านการฝึกด้านศึกสงครามทั้งด้านยุทธการ และด้านยุทธิวิธีอย่าง

ที่ "นักรบป่า" ฝึกอบรมกันมาชนิดช่ำชอง

จึงเป็นที่สรุปได้ว่า จลาจลยึดประเทศครั้งนี้ เกิดจากแกน "กองกำลังทักษิณ" กบฏแผ่นดินฝ่ายเดียว ประชาชนเสื้อแดงที่มา

ร่วมชุมนุมส่วนใหญ่ ไม่ร่วมมือ ไม่เป็นใจ ไม่เอาด้วย กับการกบฏแผ่นดินของทักษิณ เพื่อทักษิณ และโดยทักษิณ โดยแจ้งชัด


หัวข้อ: Re: "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: prapasri AH ที่ 13 เมษายน 2553, 11:18:57
ท่านผู้อ่านที่เคารพ ผมบอกแต่ต้นแล้วว่า ประชาชนเต็มขั้นอย่างเราๆ ท่านๆ เท่านั้นที่ "ชาติต้องการ-ตลอดกาล" อย่าปัดว่า

ธุระไม่ใช่ เอาแต่โยนใส่บ่า ตำรวจ-ทหาร-ข้าราชการงานเมืองฝ่ายเดียว

อย่าโทษใคร อย่าเกี่ยงใคร ในภาวะที่ตกอยู่ในสถานการณ์เดียวกัน จงร่วมมือกับรัฐบาล กับกองกำลังตำรวจ-ทหารที่ตั้งขึ้นตาม

พ.ร.ก.ฉุกเฉิน อันมีพลเอกทรงกิตติ จักกาบาตร ผู้บัญชาการทหารสูงสุด เป็นผู้กำกับดูแล และจงให้กำลังใจ "นายอภิสิทธิ์ เวช

ชาชีวะ" นายกรัฐมนตรี ผู้ทำหน้าที่ผู้นำด้วยกำลังใจที่พิสูจน์แล้วว่า แกร่งกล้า

อดทนและยืนหยัดอยู่ได้ในขณะที่ใครต่อใครอีกหลายคนต่างอยู่ในลักษณะ "ถอดใจ
ให้โจร


หัวข้อ: Re: "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: prapasri AH ที่ 13 เมษายน 2553, 11:22:03

แต่นายกฯ อภิสิทธิ์ ถึงจะผิด-จะถูกขนาดไหน ในภาวะชาติเผชิญภัย ยังสามารถยืนหยัดเป็นหลักใจ ไม่หันหลังหนีภัยทิ้งให้

ประเทศชาติ-ประชาชนต้องเผชิญชะตากรรมเดียวดาย เหมือนขอนไม้ในคลื่นสึนามิ

สู้เพื่อชาติ พลาดอย่างอาชาไนย ถึงตาย-เกียรติยศก็ยังดำรงไว้ จงภูมิใจเถอะ อย่าให้ความเสียใจมาดับไฟนักสู้ในหัวใจท่าน

เลย ผมขอเป็นกำลังใจ และยืนอยู่เคียงข้างการทำหน้าที่ผู้นำชาติยามวิกฤติของท่าน

และข้อสำคัญ ท่านจงฟังและปรึกษาหารือคนอื่นๆ นอกจากที่อยู่รอบตัวไม่กี่คนให้มากเข้าไว้ ไม่มีใครรู้และเจนจบได้ในทุก

เรื่อง อย่างกรณีนี้เช่นกัน งานบู๊กันเป็นของฝ่ายปฏิบัติการ ก็ควรฟังทหาร-ตำรวจเขา อะไรที่เป็นงานบุ๋น คือนโยบายบริหาร นั่น

จึงเป็นงาน "กลั่นกึ๋น" ของท่านสั่งการออกไป

เหตุการณ์ครั้งนี้ บ้านเมืองยับเยิน-ย่อยยับยิ่งนัก ไม่ต้องพูดกันแล้วเรื่องจีดีพีเรื่องเศรษฐกิจ เรื่องความเชื่อมัน ความสำคัญทั้ง

หมดสรุปรวมอยู่ตรงหน้านี้ว่า จะควบคุมสถานการณ์ และยุติกบฏเผาบ้าน-ยึดเมืองนี้ได้แบบไหน อย่างไร และ..วันไหน?

ลูกผู้ชาย-วันนี้ ไม่ต้องไปโทษใคร ความชอบถ้ามี จงแจกจ่ายและยกย่องเขา ส่วนความผิด เมื่อเสร็จภารกิจกู้สถานการณ์แผ่น

ดิน ท่านต้องเตรียมคำตอบอันเป็นการ "ตัดสินใจ" ที่สาสมกับความสูญเสียของประเทศชาติครั้งใหญ่จากการบริหารในฐานะผู้นำของท่าน เสียลาภ-ยศ-สรรเสริญ-สุข เสียไปเถอะครับ ถ้าการเสียนั้นเป็นการเสียเพื่อดำรง "ศักดิ์ศรีแห่งผู้นำ" บอกตรงๆ เห็นหน้าท่านออกทีวีตอนสองยามคืนก่อนท่ามกลาง ผบ.เหล่าทัพที่ก้มหน้า ซ่อนแววตาสงบนิ่ง


หัวข้อ: Re: "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: prapasri AH ที่ 13 เมษายน 2553, 11:23:55


ในบรรยากาศที่เหมือนแถลงอยู่บนขั้วโลกคนเดียว แต่ท่านนายกฯ ยังสามารถรักษาบุคลิกภาพผู้นำ เพื่อไม่

ให้ผู้ตามคือประชาชนอย่างพวกผมพลอยถอดใจ วูบหนึ่ง ผมสงสารท่านสุดขั้วใจจริงๆ


หัวข้อ: Re: "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: prapasri AH ที่ 13 เมษายน 2553, 11:24:48
ท่านผู้อ่าน และประชาชนผู้รักบ้านรักเมือง และรักสถาบันทั้งหลาย ณ เวลานี้เรากำลังถูกกบฏแผ่นดินคุกคามย่ำยีทุกด้าน อย่า

แตกแยก อย่าแตกใจ และอย่านิ่งดูดาย เอาแต่เรียกร้องและร้องหาแต่ความ ช่วยเหลือจากเจ้าหน้าที่ตำรวจ-ทหาร และรัฐบาล

อย่างเดียว สิ่งสำคัญเฉพาะหน้า เรา-ประชาชน ต้องผนึกแขนงไม้เป็นกอไผ่ รวมพลังต้านภัย ช่วยกันรักษาบ้าน-รักษาสถาบัน

ไว้ไห้จงได้



หัวข้อ: Re: "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: prapasri AH ที่ 13 เมษายน 2553, 11:27:16
อย่าเอาแต่นั่งพูด นั่งด่า อวดวิชาการแก่กล้า โชว์วิสัยทัศน์ด้วยการ "ด่าทุกมาตรการ" ที่ตำรวจ-ทหาร และรัฐบาลนำออกมาใช้

ผมบอกได้คำเดียวว่า

ถ้ามัวแต่แคร์กระแสโลก กระแสสื่อกลุ่มทุนอย่าง CNN ปล่อยให้โจรฆ่าประชาชน เผาเมือง ล้มสถาบัน โดยตำรวจ-ทหาร-รัฐบาลเอาแต่ "พับเพียบปราบ"

เพราะเหตุนี้ผมจึงขอย้ำ "ประชาชนคือคนที่ชาติต้องการ-ตลอดกาล" ถ้าประชาชนไม่รวมตัว-รวมใจ เห็นที ประเทศไทยจะราบ

คาบ "กบฏไทยผสมเทศ"

จะเข้ามายึดครองต้องตามคำว่า "ถิ่นกาขาว" พวกเรา..ไม่เอากันอย่างนั้นมิใช่หรือ?

รักนายกฯและจะอยู่เคียงข้างท่านตลอดไป



หัวข้อ: Re: "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: อ้อย 14 ที่ 13 เมษายน 2553, 11:57:27
พี่ป๋อง...อีกนิด

                    emo30:sorry: ความจริงพี่ป๋องถามอ้อยว่า  คนใส่เสื้อสีแดงมากไหม  อ้อยดันไปอรรถาภิบายมากมาย  เข้าเรื่องที่พี่ถามจริงๆสักที....ตามที่เห็น ตามท้องถนน  ตามตลาด  ในบ้านเมืองถิ่นขอนแก่นนี้   อ้อยไม่เคยเห็น คนใส่เสื้อแดงออกมาตามท้องถนน... เดิน... กินก๋วยเตี๋ยว..ไปตลาด  มันอาจจะมีสีที่บาดตา บาดใจ  
                   สถานที่ๆจะพบกลุ่มชนเหล่านี้ คือ เพียงที่ชุมนุมของเขา  ที่เขาจะแสดงออกถึงความฮึกเหิม  ลำพอง  ก้าวร้าวเริงร่าในกลุ่มคนประเภทเดียวกัน  เพราะมีทั้งเงิน...น้ำเมา...อำนาจ    เหมือนกองไฟที่ถูกราดลงด้วยน้ำมัน ไม่มีความถูกผิด  มีแต่พลังอำนาจ และความฝันถึงอนาคตและเงินตราที่จะหลั่งไหลมา   ความจริงเขาน่าจะภาคภูมิใจในพลังอำนาจอันมหัศจรรย์ของพวกเขา ณ วันนี้  ที่ยิ่งใหญ่ สามารถลูบคมกองทัพไทยอันยิ่งใหญ่ได้ทั้ง 4 เหล่าและรัฐบาล ให้สยบราบคาบเหมือนลูกแมวป่วย   น่าจะเดินโชว์พาวไปตามท้องตลาด ถนน..ร้านส้มตำ
                .แต่เข้าใจว่า   ในความมืดมนของหัวใจนั้น คงอาจจะมีความละอายต่อ แผ่นดินที่เขาเหยียบ  มโนธรรมในความผิด ถูก  บางส่วนคงจะวูบวาบ ...นั่น เพราะคนอีสานที่จริงนั้น เป็น คนที่รักสันติ รักพระธรรมคำสั่งสอนของศาสนา  อ่อนโยน ปราศจากความอาฆาตมาดร้าย     แต่กระแสข่าวสารต่างๆที่ถูกย้อม และทาทั้งหัวใจ และสมองทำให้ เปลี่ยนผันไป  อ้อยคิดว่า  เขาคงลังเลอยู่หรอกที่จะมาเดินในชุดสีแดง...ที่ไม่มีทีมและเพื่อนร่วมขบวนการมาเดินด้วย     บางทีอาจจะ สับสน และละอาย.... หรืออย่างไร สุดจะเดา  นั่น ก็ขึ้นอยู่กับใจและบริบทในชีวิตที่ผ่านมาของเขาเอง ......emo49:))


หัวข้อ: Re: "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: prapasri AH ที่ 13 เมษายน 2553, 13:07:53
แหม๋...อ้อย14 น้องสาว ข่อย

วันนี้ เป้นนักวิชาการจังเลยนะ

แม้ว่าจะมีอาชีพแม่บ้าน (ศรีภรรยา)

มิเสียชื่อ ครุศาสตร์ ปราชญ์ จุฬา  


หัวข้อ: Re: "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: Preecha2510 ที่ 13 เมษายน 2553, 13:25:59
   

    สวัสดีครับอ้อย   อ่านที่อ้อยเล่ามาแล้วเป็นเรื่องจริงที่เกิดขึ้นในสภาพสังคมประเทศไทย  คงไม่แต่เฉพาะภาคอีสาน

   แต่มันเกือบหมดทุกส่วนในประเทศ ดังนั้นเลือกตั้งทุกครั้งเงินจึงเป็นปัจจัยสำคัญชี้ขาดในการเข้ามาเป็นผู้แทนราษฎร

   และการจัดตั้งรัฐบาล  เสียงส่วนใหญ่ของประชาชนที่มาจากการซื้อเสียงจึงมิใช่เสียงสวรรค์อันแท้จริง ดังที่นักการเมือง

   และนักวิชาการชอบนำมาเป็นข้ออ้าง  อ้อยกล่าวถึงจอมพลสฤษดิ์ทำให้ผมรำลึกย้อนหลังกลับไปเมื่อ 50 ปีที่แล้วสมัย

   ผมกำลังเรียนอยู่ชั้นมัธยม  จำได้ว่าเป็นยุคอัศวินผยอง อันธพาลครองเมือง ใครใหญ่จะทำอะไรก็ได้ตามอำเภอใจ นึกจะ

  ฆ่าจะอุ้มใครก็ทำได้ตามอำเภอใจ  นึกจะจุดไฟเผาบ้านเผาเเมืองตรงไหนก็ทำกัน กฎหมายแทบไม่มีความหมายอะไรดัง

  เช่นในสภาพปัจจุบัน  แล้วก็มีผู้(จอมพล สฤษดิ์)ขี่ม้าขาวลงมาทำการรัฐประหารยึดอำนาจ เข้ามาจัดระเบียบของ

  บ้านเมืองโดยใช้อำนาจที่เด็ดขาดและเบ็ดเสร็จ  ใครจุดวางเพลิงเผาหรือก่อวินาศกรรมตรงใหนจับได้สอบสวนแล้วแน่

  ชัดว่าผิดก็ใช้กฏหมาย ม. 17 ทำการประหารชีวิตยิงเป้าตรงที่บริเวณก่อเหตุนั้นเลย  ใครทำผิดอาญาก็มีการขึ้นศาลและ

  ตัดสินภายใต้กฎอัยการศึกตามระดับความผิดทันที  ใครทำตัวเป็นนักเลงโตก็ถูกจับข้อหาอันธพาลเข้าคุกก่อนสอบสวน

  ไว้ก่อน  การปราบปรามและจัดระเบียบสังคมใหม่แบบเด็ดขาดนี้  ปรากฎว่าสภาพบ้านเมืองทุกอย่างกลับเข้ามาอยู่ใน

  สภาวะปกติอย่างรวดเร็ว  ถึงแม้ว่าช่วงนั้นจะดูเหมือนประชาชนขาดอิสสระเสรีที่จะแสดงออกทางด้านประชาธิปไตย

  เพราะถูกปกครองภายใต้กฎหมายรํฐประหาร(ที่ประกาศว่าเป็นการชั่วคราว)  แต่ประชาชนก็ยอมรับเพราะทำให้เกิดความ

   สงบสุขขึ้นในบ้านเมืิองทันที  ในวันนี้เหตุการณ์ในบ้านเมืองเรากำลังเกิดขึ้นเหมือน  50 ปีที่แล้ว  และอำนาจรัฐไม่

   สามารถคุ้มครองประชาชนได้  ผมก็ชักอยากจะให้เกิดมีบุคคลแบบจอมพลสฤษดิ์ลุกขึ้นมาช่วยแก้ปัญหาของชาติแบบ

   นั้นเหมือนกัน(ควรจะต้องใช้บทโหดบ้าง)  ไม่ทราบว่าอ้อยจะคิดเหมือนกันหรือเปล่า?


หัวข้อ: Re: "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: พธู ๒๕๒๔ ที่ 13 เมษายน 2553, 13:34:45
(http://www.cmadong.com/imageupload/2010_Cmadong-Image/data/image/l0swnd-8e6246.jpg)


หัวข้อ: Re: "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: เหยง 16 ที่ 13 เมษายน 2553, 15:03:24
อ้างถึง
ข้อความของ อ้อย 14 เมื่อ 13 เมษายน 2553, 10:09:26
เหยง.... emo29:P:

                 ขอนแก่นเช้านี้เงียบมาก  ปรกติ เช้าวันสงกรานต์ผู้คนจะออกมาจับจ่าย  คนต่างถิ่นจะออกมาทาน อาหารเช้าจนล้นร้านดัง  แต่วันนี้  ทุกอย่างเหงาหงอย   แต่ยังมีการตักบาตรที่บึงแก่นนคร สวมเสื้อสีเหลืองชมพูกันมากมาย   เลยทำให้เชื่อได้ว่า เป็นวันสงกรานต์   ที่นี่ร้อนทุกวันและไม่มีวี่แววจะมีฝน    นครสวรรค์เป็นอย่างไร  รถยังติดแถวสะพานเดชาติวงศ์อยู่หรือเปล่า   ขนมโมจิคงขายดีเช่นเคยนะ
emo45:(
         


สวัสดีครับพี่อ้อย พี่แอะ พี่ป๋อง พี่แก้ว คุณวณิชย์ และพธู

ไม่มีเสื้อแดงในพื้นที่ตลาดปากน้ำโพสักคน แต่ในส่วนที่ศาลากลางไม่แน่ใจ เพราะไม่ได้ข้ามไปดู
ตลาดค่อนข้างเงียบเหงา เพราะเทศบาลนครนครสวรรค์จัดตักบาตรอาหารแห้งที่บริเวณหน้าเทศบาลไปถึงศาลหลักเมือง
ซึ่งผู้คนไปอยู่ตรงนั้นมาก แต่ไม่มีใครที่ตักบาตรใส่เสื้อแดงครับ (ขอยืนยัน)

รถยนต์ผ่านขึ้นเหนือในวันนี้ลดน้อยลงจนถนนว่างทีเดียว รวมทั้งรถที่จอดหน้าร้านขายของฝากด้วย เชื่อว่า สงกรานตืปีนี้คงต้องถูกบันทึกไว้ว่าเป็นวันที่เกิดความแตกแยกทางการเมืองของคนไทยอย่างน้อย 2 กลุ่มแบบยากที่จะประสานกันได้ และมีผลกระทบต่อจิตใตคนไทยโดยรวม และต่อเศรษฐกิจด้วย


หัวข้อ: Re: "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: อ้อย 14 ที่ 13 เมษายน 2553, 15:49:21
พี่แก้วคะ emo33:(:

              เราน่าจะเป็นคนร่วมยุคสมัยที่ได้เห็นเหตุการณ์ต่างๆมามากมาย  ได้เห็นวันแห่งความร่มเย็นใต้พระบารมี  วันที่พวกเราพี่น้องจุฬาได้ชมพระบารมีในวันทรงดนตรีที่ไม่มีใครจะลืมได้เลย   และพระราชกรณียกิจมากมายหนักหน่วงของพระองค์ท่าน นั่นคงหลอมหล่อให้พวกเรา เชื่อมั่น และอบอุ่นมาแต่เยาว์วัย   ไม่ว่าเหตุการณ์บ้านเมืองจะพลิกไปมาคู่ขนานไปอย่างไร  ไม่มีใครบังอาจ หรือ แม้เพียงจะคิดระคายเคืองเบื้องพระยุคลบาท....

              จนถึงยุค ของจอมพลสฤษดิ์ ในสมัยนั้น อ้อยจำได้ว่า บ้านเมืองวุ่นวายจริงๆ  เดี๋ยวไฟไหม้ที่นั่นที่นี่  แต่พอเจอคนวางเพลิง ท่านก็ยิงเป้าบัดเดี๋ยวนั้น ที่ตรงนั้นเลย  สักสองรายทุกอย่างก็จบ บ้านเมืองสงบ ไม่มีใครหน้าใหนมาร้องแรกแหกกระเฌอ  มาจนยุคคอมมิวนิสต์เข้ามาในเอเชียอาคเนย์  เกิดความวุ่นวาย นักศึกษาเข้าป่า มีการปราบปรามกันอย่างจริงจัง  และไม่นานก็คลี่คลาย ประเทศรัสเซียต้นตำหรับของลักธิเองก็ต้องล่มสลาย แตกออกเป็นหลายประเทศ   ยุติสงครามเย็น    ประเทศจีนเองก็เริ่มปรับตัวให้เป็นเสือเศรษฐกิจ  เปิดประเทศ  รับเอาความเจริญทางตะวันตกเข้าเต็มที่   ไม่มีใครเขาพูดถึงลักธิคอมมิวนิสต์ให้เสียเวลาทำมาหากิน

           มา ณ พ.ศ 2553 ยังดินแดนสยามประเทศ มีกลุ่มชนที่เรียกตนเองว่า ไพร่  ได้ลุกขึ้นมา ต่อสู้กับอำมาตย์  ลุกขึ้นต่อสู้เพื่อชนชั้น  อันเป็นที่น่าหัวเราะว่า  พวกซ้ายอกหัก  หรือ พวกหลงยุค  หรือ  บ้าไปแล้ว  ยังละเมอเพ้อพก ถึงสงครามชนชั้นในปัจจุบัน   ทั้งๆที่โลกเขาไปถึงไหนแล้ว ได้จังหวะกับพญามารพอดี  มันก็เลยเป็นกรรมของบ้านของเมืองอย่างนี้   อ้อยยังคิดถึงจอมพลสฤษดิ์แน่นอนค่ะ เพราะอย่างน้อยท่านเป็นคนเด็ดขาด รักขาติบ้านเมือง   ท่านคงจัดการเรื่องนี้เรียบร้อยตั้งแต่  วิทยุชุมชนของกลุ่มไพร่ ลุกขึ้นมาบรรเลงเรื่องต่างๆ แต่หัววันแล้วค่ะ emo28:win:


หัวข้อ: Re: "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: prapasri AH ที่ 13 เมษายน 2553, 15:50:20
พี่แก้วขา

บางทีแอ๊ะก็คิดอยากให้นายก ยุบสภาเหมือนกัน

คือบางที่เราไปสู้กับคนบ้าและอำนาจเถื่อนอยู่อย่างนี้

ในเมื่อถึงทางตันจริงๆ ก็ให้ยุบสภา ไป ให้เขาเลือกกันใหม่

แม้ว่า การหาเสียงจะลำบาก ก็ช่างมันเถอะ  

ลองให้เขาเอารัฐบาลอย่างนั้นบ้าง ให้ลองผิดลองถูกไป

คงต้องใช้เวลา ให้ประชาชนเรียนรู้

อย่าหวังความช่วยเหลือจากทหารว่าจะปฏิวัติ หรือปฏิรูปให้

เพราะ เขาก็บอก อยู่ทุกวัน ว่าการเมืองต้องแก้ด้วยการเมือง

และไม่มีใครกล้าปฎิวัติอีกแล้วในสมัยนี้ ทั่วโลกเขาก้ไม่ยอมรับ

พอรัฐบาลจะใช้ ความเด็ดขาด ก็หาว่ารัฐบาลเป็นทรราชย์

ทหารตำรวจ ก็งอมืองอเท้า รัฐบาลก็มีแต่มือสองมือ ไม่มีปืน

เฮ็ออออออออออ คิดเเล้วกลุ้ม

หาทางออกไม่ได้จริงๆ ประเทศนี้



หัวข้อ: Re: "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: krongon2513 ที่ 13 เมษายน 2553, 17:33:06
ฉันเชื่อว่าทุกปัญหามีทางออก..ขณะนี้ดวงเมืองเป็นเช่นนี้
โปรดรอ..รอให้กรรมทำงาน..และ
แทนที่เราจะอยู่เฉย..เขียนไปรษณียบัตรไปให้กำลังใจนายกดีไหม
แล้วหากเราพูดถึงการเมืองแล้วเครียด
เราคุยเรื่องอื่นกันดีไหม

เกิดไม่ทันสมัยกรุงแตก..แต่รู้สึกคล้ายๆง่ะ


หัวข้อ: Re: "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: เหยง 16 ที่ 13 เมษายน 2553, 21:56:47
ยุบสภา ยิ่งเป็นทางตันใหญ่ครับ

ทุกคนใส่เกียร์ว่างทันที เพื่อรอนายใหม่ ซึ่งเศรษฐกิจของเรารอช่วงเกียร์ว่างไม่ได้

งานต้องเดินไป ข้าราชการต้องทำงาน การจะแก้ไขรัฐธรรมนูญก็ทำไป เสร็จเมื่อไรค่อยว่ากัน จะยุบหรือไม่ยุบเป็นอีกเรื่องหนึ่ง


หัวข้อ: Re: "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: prapasri AH ที่ 13 เมษายน 2553, 22:37:44
คือพี่แอ๊ะ เป็นคนเบื่อคนพาล

และไม่อยากยุ่งกะคนพาล

พี่อ้อยกรองอร เค้าไม่ค่อยเบื่อคนพาล อ่ะ

พี่แอ๊ะจะหลีกหนี ไปให้ไกลๆหลายลี้เลย



หัวข้อ: Re: "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: Preecha2510 ที่ 14 เมษายน 2553, 00:16:54

     สวัสดีครับแอ๊ะ,อ้อย 14,เหยง

                                      เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในช่วงนี้ทำให้เกิดความเครียดไม่แต่เฉพาะพวกเราพี่น้องชาว cmdong

    แต่ประชาชนคนไทยทั้งประเทศไม่ว่าใส่เสื้อสีอะไร  ต่างก็มีความเครียดเช่นเดียวกัน(ต่างลุ้นให้เหตุการณ์สิ้นสุดและ

    ฝ่ายที่ตนถือข้างเป็นฝ่ายชนะ)  การยุบสภาคงไม่แก้ปัญหาได้จริงดังที่หลายคนคิดกัน ขนาดที่ยังไม่เริ่มต้นดำเนืนการ

   และเมื่อสถานะของรัฐบาลเริ่มสั่นคลอน  แทนที่พรรคร่วมรัฐบาลจะออกมาจับมือยืนเคียงข้างกัน แต่กลับกลายเป็นขยับมีด

  ตั้งท่าจะแทงข้างหลังกันเสียแล้ว  เผลอๆบางทีรัฐบาลคุณอภิสิทธิ์อาจจะล่มไม่ใช่เพราะเสื้อแดง  แต่อาจล่มเพราะการหัก

  หลังของพรรคร่วมรัฐบาล โดยการหันไปจับมือกับฝ่ายค้านขอเปิดสภาวิสามัญลงมติไม่ไว้วางใจ  โดยอ้างเหตุผลการล้ม

   ละลายความเชื่อถือของประชาชนต่อรัฐที่ไม่สามารถควบคุมความสงบภายในได้  หรือสารพัดเหตุผลที่จะยกมาอ้างเพื่อ

   ความชอบธรรม(แต่ในความเป็นจริงอาจจะแอบรับเงิน และทำพันธสัญญาร่วมกันจัดตั้งรัฐบาลหลังการเลือกตั้งใหม่)  การ

   เมืองเป็นเรื่องของผลประโยชน์ไม่มีมิตรแท้และศัตรูที่ถาวร   ผมคิดเล่นๆไปเรื่อยเปื่อยแก้เครียดไปเองเท่านั้น  แต่คิดว่า

    แอ๊ะซึ่งอยู่ในวงในมีเพื่อนในวงการนักการเมือง  ทั้งระดับท้องถิ่นและระดับชาติและข้าราชการระดับสูงมากมาย แอ๊ะ

   คงมีข้อมูลลึกมากกว่าทุกคนในเว็บนี้

                                      


หัวข้อ: Re: "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: swsm ที่ 14 เมษายน 2553, 01:44:03
วันนี้หยีเพิ่งเข้าที่พัก .. อยู่พัทยา .. จึงขอตามอ่านอย่างเดียวเลยค่ะ     emo33:(:


หัวข้อ: Re: "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: Intania๑๖ ที่ 14 เมษายน 2553, 06:07:03
(http://img88.imageshack.us/img88/7772/mgrpdf20100414page02.jpg)


หัวข้อ: Re: "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: เหยง 16 ที่ 14 เมษายน 2553, 11:23:15
คู่มือศึกษา "ทหาร-การเมือง" ฉบับประชาชน
By thaipost
Created 14 Apr 2553 - 00:00


วันนี้-วันพุธที่   ๑๔   เมษายน   พุทธศักราช  ๒๕๕๓  ตรงกับวันขึ้น  ๑  ค่ำ  เดือน   ๖   ปีขาล   เป็นวันที่ดวงอาทิตย์หมุนครบ  "รอบโลก"  พอดี  เรียกว่าสิ้นสุดที่ราศีมีน-ธาตุน้ำ   เข้าสู่ราศีเมษ-ธาตุไฟ  นับเป็นวัน  "เริ่มต้นรอบใหม่"  เหมือนชิงช้าสวรรค์  เมื่อหมุนครบรอบก็จะมาถึงสถานีเปลี่ยนถ่ายคนขึ้น-ลง  ณ  พื้นดินจุดเดิม  แล้วก็หมุนขึ้นไปสู่รอบใหม่  จากจุดต่ำสุด   ค่อยๆ   ไต่ระดับสูงขึ้น..สูงขึ้นเรื่อยๆ  จนถึงจุดสูงสุด  ตรงนี้กระมังที่เรียกว่า  "ชิงช้าสวรรค์"  เพราะคนอยู่ในจุดสูงสุดจะมองเห็นในสิ่งที่คนอยู่ในจุดต่ำสุดมองไม่เห็น!?     และ  ณ  จุดสูงสุดนี้  โดยนิยาม  "โลกไม่เคยหมุนกลับ"  คนที่นั่งอยู่บนชิงช้า  ณ  จุดสูงสุดนี้  ก็จะค่อยๆ  หมุนคล้อยสู่จุดต่ำลง...ต่ำลง...จนถึงจุดต่ำสุด  ณ  พื้นดินที่สถานีเปลี่ยนถ่ายนั่นเอง
     คนที่ขึ้นไปแล้วก็ลง  คนที่รอขึ้น  ก็ขึ้นไป  จากจุดต่ำสุด  หมุนเวียนขึ้นสู่สูงสุดกันอยู่อย่างนี้   เหมือนปีตามระบบสุริยะ   อาทิตย์โคจรสิ้นสุดรอบ  ณ  ราศีมีน  ก็เริ่มเข้าสู่รอบใหม่  ณ   ราศีเมษ  ตั้งแต่เวลา  ๐๘.๒๘  น. วันนี้เป็นต้นไป
     สรุปหยาบที่สุด-ง่ายที่สุด  ตามสไตล์ผมก็คือ  เมื่อดาวเคลื่อน   วงจรชีวิตคนก็เขยื้อนขยับตามไปด้วย  เพราะมนุษย์คือหนึ่งแห่งชิ้นส่วนสัมพันธ์กับจักรวาล   และเมื่ออาทิตย์โจรเข้าราศีเมษตำแหน่งเดิมในดวงเมืองเช่นนี้แล้ว
     อาทิตย์สู่เมษ   ณ  ดวงเมือง  แต่ท่านพลเอกทรงกิตติ  จักกาบาตร์  ท่านพลเอกอนุพงษ์   เผ่าจินดา  ก็น่าเห็นใจท่านที่  "อังคาร"  ยังอยู่ในฐานะ  "แบตเสื่อม"  ชาร์จอย่างไรกระแสไฟก็เข้าบ้าง-ไม่เข้าบ้าง  เข้าก็เก็บไม่อยู่บ้าง  กระนั้นก็เถอะ  ผมเคารพในทัศนคติของท่าน
     "การเมืองต้องแก้ด้วยการเมือง"!
     และโดยเฉพาะ   "พลเอกทรงกิตติ  จักกาบาตร์"  ผลงานเยี่ยมยอดของท่านในฐานะผู้กำกับภารกิจสลายม็อบในเหตุการณ์เมษาเดือดปีที่แล้วนั้น
     คนไทยยังไม่ลืมท่าน  และไม่ลืมเด็ดขาดว่า  "ถ้าทหารเอาจริง  ต่อให้กบฏ  ต่อให้ผู้ก่อการร้ายหน้าไหนก็ต้านไม่อยู่"!?
     ณ   วันนี้  และเวลานี้  ประเด็น  "การเมืองต้องแก้ด้วยการเมือง"  นั้น  ยกให้เป็นภารกิจ   "ท่านนายกฯ  อภิสิทธิ์"  ไปทำ  เพราะตรงนั้นเป็นหน้าที่ของท่านโดยตรง  จะยุบ-ไม่ยุบ  หรือจะยุบช่วงเวลาไหน  ให้ท่านไปกลั่นและกรองด้วยสมองอีตันของท่าน
     แต่  "งานกบฏบ้าน-กบฏเมืองต้องแก้ด้วยการทหาร"  ใช่หรือไม่  ท่านช่วยตอบด้วย  เพราะประชาชนส่วนใหญ่   รวมทั้งผมด้วยในเวลานี้  เมื่อเหตุการณ์บ้านเมืองตกอยู่ในภาวะกบฏอันมีกองกำลังติดอาวุธยึดเมืองดังประจักษ์  ก็ไม่ได้มองหาใครที่ไหนเป็นที่พึ่ง
     นอกจากยึดกองทัพคือ  "ทหาร"  เท่านั้นเป็นที่พึ่ง!
     คือพวกผมอันเป็นชาวบ้านเข้าใจมาตลอดว่า  "เมื่อประเทศชาติมีภัย  ต้องใช้ทหาร"  และตอนนี้บ้านเมืองมีภัยแล้ว  ทุกใจจึงหวังพึ่งทหาร  ไม่ใช่หวังให้ท่านทำรัฐประหาร  แต่หวังให้ท่านระลึกถึงคำสัตย์ปฏิญาณ  และทำตามนั้นก็พอ
     ประชาชนเข้าใจอย่างนี้  ผิดหรือถูกครับท่านพลเอกทรงกิตติ  จักกาบาตร์  ในฐานะผู้บัญชาการทหารสูงสุด  และพลเอกอนุพงษ์  เผ่าจินดา  ในฐานะ  ผบ.ทบ. ทั้ง  ๒  ท่านเป็นเพื่อนร่วมรุ่นกับทักษิณก็จริง   แต่ผมไม่เชื่อว่าท่านจะให้คำว่า  "เพื่อเพื่อน"  เหนือกว่าคำว่า  "เพื่อชาติ"
     คนที่นินทาท่าน  ใส่ร้ายท่านในลักษณะนี้  ผมตบเลือดกบปากไปหลายคนแล้วด้วยโกรธแทน!
     สังคมทุกวันนี้มันเลวทรามต่ำช้า  ส่วนหนึ่งมาจากคนในสังคม  ตั้งแต่คนในรัฐบาล  ในรัฐสภา  ในมหาวิทยาลัย  ในสื่อ  ยันในท้องทุ่ง-ท้องทะเล  มักคิดเอา  นึกเอา  เดาเอา  ทึกทักเอา  เป็นส่วนใหญ่
     โดยไม่ใช้สติ  ไม่ใช้เหตุผลเข้าจับ!
     สรุปก็คือ  สิ่งที่ผมคาดหมายเอาจากสถาบันทหารเช่นนี้  ถ้าผิด-วานท่านช่วยเมตตาสั่งสอนและบอกผมด้วย  คือผมคาดหมายด้วยความเข้าใจว่า  "การเมืองต้องแก้ด้วยการเมือง"  ในขณะเดียวกัน  "งานกบฏบ้าน-กบฏเมืองเมืองต้องแก้ด้วยทหาร"
     และขอย้ำ  ไม่มีการตายจากบุคคลในกองทัพครั้งไหนจะสร้างความเสียใจถึงระดับ  "ตกใน"   ในหัวอก-หัวใจชาวบ้านเท่าครั้งนี้  ที่ทหารของเราพกเอาความปรารถนาดีต่อพี่น้องร่วมชาติเข้าไปหาชาวบ้านเสื้อแดง  แต่แล้วในกลุ่มคนเสื้อแดงนั้น  คณะหัวหน้าขบวนการกบฏแผ่นดิน  อันมี  วีระ-จตุพร-ณัฐวุฒิ-เหวง  และอีกหลายสิบคน  รวมแล้วประมาณ  ๒๔  คน  ภายใต้หัวหน้าขบวนการใหญ่คือทักษิณ
     ใช้กองกำลังติดอาวุธสงครามร้ายแรง   ทั้งยิง  ทั้งปาระเบิด  "ฆ่าทหาร"  อันเป็นคนไทยด้วยกัน   ไม่มีเหตุเจ็บแค้น  โกรธเคืองอะไรกัน  ให้ต้องเจ็บ-ตายต่อหน้าต่อตา  ให้เป็นเรื่องน่าละอาย-อดสูไปทั้งโลก!
     ขนาดในสงครามเรายังไม่สูญเสียระดับนายทหารเท่าครั้งนี้  แต่เพื่อคนโกงชาติ-หมายมาดล่มแผ่นดินที่ชื่อทักษิณคนเดียว  ขบวนการกบฏแผ่นดินมันถึงขั้น  "สิ้นสำนึก"  ในชาติ  ในแผ่นดิน  ในสายเลือดไทย
     มันใช้กองกำลังติดอาวุธฆ่าได้ตั้งแต่ระดับรองเสนาธิการกองพล   เช่น   "พอ.ร่มเกล้า   ธุวธรรม!
     และที่บาดเจ็บสาหัส   ระดับผู้บัญชาการ  "พล.ต.วลิต  โรจนภักดี"  ระดับผู้บังคับกองพัน  "พ.ท.เกรียงศักดิ์  นันทโพธิ์เดช"  และ  พ.ท.นพสิทธิ์  สิทธิพงศ์โสภณ  ยังไม่นับเพื่อนทหารที่เจ็บ-ตายอีกนับร้อย
     หัวใจพวกแกนนำกบฏแผ่นดินมันทำด้วยอะไร  ฆ่าแล้วพวกมันก็ไปตะโกนฉลองชัย  ณ  ใจกลางเมืองหลวง   โดย  "กำลังรัฐ"  ตาปริบๆ  ณ  วันนี้  สิ้นประสิทธิภาพที่จะทะลุ-ทะลวงเข้าไปจับใครมาได้  ปล่อยให้พวกมันตะโกน  สันติ-อหิงสา  แล้วหยามเย้ยว่า  "ทหารฆ่าทหาร...พวกมันไม่เกี่ยว"!
     ทหารของเราที่บาดเจ็บและตาย   ไม่ใช่เพราะสู้ไม่ได้  ทหารของเราต้องเจ็บ-ต้องตาย  เพราะ  "ยอมเจ็บ-ยอมตาย"  ดีกว่าต้องฆ่าพี่น้องประชาชนคนไทยด้วยกัน  นี่คือหัวใจของทหารไทยแท้
     เถอะ...ถึงคนเสื้อแดงจะหลงผิดยอมร่วมขบวนการคิดคดทรยศต่อชาติ  แต่ยังไงๆ  เขาเหล่านั้นก็พี่น้องไทย  ด้วยความใส-ซื่อ  จึงถูกหลอกใช้  ทหารของเราจึงไม่ฆ่าเด็ดขาด
     การไม่ฆ่าพี่น้องไทย  แต่มี...ไอ้สัตว์ในคราบคนบางคนมันฆ่าทหารไทย.....ผมเก็บอัดประเด็นนี้  "ไม่พูด"  มาหลายวัน  ด้วยไม่ต้องการขยายตะเข็บ  แต่ยิ่งเห็นภาพที่หลายๆ  ท่านส่งมาให้ทางอีเมล์ก็ดี  ทางหน้าจอข่าวโทรทัศน์ก็ดี  ทางสื่อต่างประเทศก็ดี  กระทั่งภาพโฉมหน้าคนที่ฆ่าทหาร  และคนฝึกกองกำลังก่อการร้ายให้มาฆ่าทหาร
     ทำนบใจมันกั้น  "ความอัดอั้น"  ไว้ไม่ไหวครับ!
     ต้องปล่อยให้มันไหลออกมาบ้าง  คับแค้นใจที่คนไทย  และไอ้ทหารไทยนอกแถวบางคนนั่นแหละส่งกำลังปฏิบัติการ  "ฆ่าทหาร"  ของเรากันเอง!!!
     มีคนทึกทักว่าผม  "เป็นคนธรรมะ-ธัมโม"  เอาละ   ผมก็อยากเอาธรรมะมาบอกกับท่านนายกฯ  อภิสิทธิ์  บอกกับท่านพลเอกทรงกิตติ  บอกกับท่านพลเอกอนุพงษ์   และบอกกับทุกคนที่คิดว่าตัวเองมี  "เลือดทหาร"  เพื่อบ้านเมืองว่า
     "เวรย่อมระงับด้วยการไม่จองเวร"  นั้น...ใช่
     แต่.....
     "หน้าที่ย่อมระงับด้วยการไม่ทำหน้าที่"
     อย่างนี้...ไม่น่าจะใช่!?
     จะยุบสภา   หรือไม่ยุบสภา  หรือจะยุบวันไหน  นั่นเป็นการบริหารบนเสถียรภาพเศรษฐกิจและการเมือง   แต่เมื่อยุบแล้ว   พลเอกทรงกิตติ  พลเอกอนุพงษ์  ท่านตอบซิว่าปฏิบัติการ  "ยึดอำนาจ-เปลี่ยนระบบ-ล้มสถาบัน"  มันจะหมดไป?
     นั่นคือ   การให้การเมืองแก้การเมืองด้วยการยุบสภาด้านเดียว  โดยไม่ใช้การทหารแก้การกบฏบ้าน-กบฏเมืองด้วยการ  "ขุดราก-ถอนโคน"  ให้จบไป  ควบคู่กันไปอีกด้าน  แล้วคำว่า  "อยู่สุขเถิดปวงประชา  ตัวข้าจะคุ้มภัย"  มันจะเกิดขึ้นได้ตามปรัชญากองทัพอย่างไร?     กองทัพคือสถาบันก่อเกิดกำเนิดร่วมมากับคำว่าชาติ  กองทัพย่อมไม่ใช่ร้านขายผ้าแถวพาหุรัด   ฉะนั้น  ภารกิจแบบ  "เอาหน้ารอด"  ไปวันๆ  ย่อมไม่ใช่ภารกิจทหารเพื่อชาติ  ศาสนา  พระมหากษัตริย์  และราชบัลลังก์
     การจะมีการเมืองให้แก้นั้น  ประเด็นสำคัญ  มันต้องมี  "บ้านเมือง"  ก่อน  นั่นคือ  สถาบันกองทัพ  ต้องไปเอาบ้านเมืองกลับมาจากพวกกบฏบ้าน-กบฏเมือง  ที่ถลกตูดอวดท่านอยู่หน้าจอโทรทัศน์ทุกเมื่อ-เชื่อวันมาให้ได้  ไม่ต้องรอให้วีระ-จตุพร-เหวง-ณัฐวุฒิ  และคณะกเฬวรากหาฤกษ์ประกาศเปลี่ยนชื่อประเทศไทยแล้วค่อยย้ายก้นคิดการ!
     ถ้าวันนี้-พรุ่งนี้  รัฐบาล-ทหาร  ยังนอนรอฝนจากฟ้าหล่นมาเข้าปาก  ยังนอนรอให้วิญญาณทักษิณมาเข้าฝันพวกเสื้อแดงกลับบ้านไปเอง  นั่นก็ไม่ต้องพูดกันแล้วถึงเรื่องระบบรัฐสภา  เรื่องประชาธิปไตย  เรื่องเลือกตั้ง  เรื่องจีดีพีบ้าๆ  บอๆ
     ต้องพูด-ต้องถามกันไปเลยว่า  "จะให้จิ๋ว  ให้อภิวันท์  ให้เหวง  หรือใคร  เป็น   "ประธานสภาเปรซิเดียม"   คนแรก   และจะให้ใคร  ไอ้ชายจืด  นางอ้อ  วีระ  กระทั่งว่า   ตู่-เต้น  ขึ้นเป็นประธานบริหารประเทศคนแรก?
     ประธานกองทัพ   และประธานกิจการตำรวจคงหาตัวไม่ยาก  เพราะจากปฏิบัติการ  ๑๐  เมษา  ชัดแล้วว่า  นั่นคือกองกำลังจาก  "ทหาร-ตำรวจนอกราชการ"  ประลองยุทธการกับ  "กองกำลังตำรวจ-ทหารในราชการ"
     ฉะนั้น  ตัวเลือกเขามีมากถึงขั้นต้อง  "จับฉลาก"  กันเป็น!
     แต่...น่าเสียดาย   "ตำแหน่งประมุขแดง"   คนลิขิตก็มิสู้ฟ้าลิขิต  โลงศพสีแดงที่แห่กันไป   จะมีครบ   ๒๔  ใบหรือไม่  ยังไม่ต้องสนใจ  อยากจะบอกไว้  อย่างไรละก็  เตรียม   "เผื่อไว้  ๑  ใบ"  สำหรับนายใหญ่  ผลุบผลับกลับมาเมื่อไหร่จะได้ใส่ตั้งเรียงฉลองชัย  ณ  ต้นสายปากทางสู่..ประตูผี.

http://www.thaipost.net/news/140410/20807


หัวข้อ: Re: "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: krongon2513 ที่ 14 เมษายน 2553, 13:03:56
อ้างถึง
ข้อความของ prapasri AH เมื่อ 13 เมษายน 2553, 22:37:44
คือพี่แอ๊ะ เป็นคนเบื่อคนพาล

และไม่อยากยุ่งกะคนพาล

พี่อ้อยกรองอร เค้าไม่ค่อยเบื่อคนพาล อ่ะ

พี่แอ๊ะจะหลีกหนี ไปให้ไกลๆหลายลี้เลย



คุณนายแอ๊ะขรา
คนพาล มันก้อคน...ใช่ป่ะล่ะ
เขาก็มีสิทธิในความเป็นคนเหมือนเรานี่แหละ
อายุเท่านี้ เจอคนมามากมาย..หนีไปไหนก็เจอ คนที่ไม่ชอบเรา คิดไม่เหมือนเรา
ต้องใช้ความต่างนั้น ฝึกตนเองให้มีขันติบารมี เมตตาบารมี

อย่าชอบเพียงคนที่เขายกยอปอปั้นเราซิจ๊ะ

นี่ฉันไม่ได้พูดเรื่องการเมืองนะเนี่ย


หัวข้อ: Re: "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: prapasri AH ที่ 14 เมษายน 2553, 13:15:20
พี่แก้วขา

สรุปว่า ณ.วันนี้ แอ๊ะคิดว่ารัฐบาล ยังไม่ถอย ค่ะ และคงต้องใช้ นิติรัฐ

มาจัดการไม่ให้ผู้ก่อการร้ายลอยนวล

คงต้องหาทางปราบ ผู้ก่อการร้ายให้ได้ก่อน

ทหารก็ช่วย อยู่พอสมควร แต่ตำรวจ ช่วยน้อยมาก

กลไก ของมหาดไทย ไม่ค่อยทำงาน (คงเพราะทำงานไม่เป็น หรือขี้เกียจทำ อยู่เฉยๆดีกว่า)

รัฐบาลผสมก็ยังคงอยุ่  ทุกพรรค

แอ๊ะว่า ถ้าคนกรุงเทพ รวมตัวกัน ขับไล่ม๊อบ ออกไป ก้ดีนะ

เหมือนที่ชาวนางเลิ้ง เคยไล่น่ะค่ะ

แอ๊ะจะสมัครไปช่วยหนึ่งคน


หัวข้อ: Re: "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: prapasri AH ที่ 14 เมษายน 2553, 13:25:14
ดูรุปวัน สงกรานต์ บ้านเฮา ดีก่านะ

เมื่อวันที่12 ที่จังหวัดก็มีการรดน้ำสงกรานต์ค่ะ
(http://img217.imageshack.us/img217/9747/48567697.jpg)





หัวข้อ: Re: "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: อ้อย 14 ที่ 14 เมษายน 2553, 14:17:45
สวัสดีค่ะพี่แก้ว  พี่แอ๊ะ  เหยง และทุกท่านที่ร่วมวง emo43

                        อยากจะให้บทความของ เปลว  สีเงิน  เป็นจริงเหลือเกินแล้วค่ะ  เพราะบางคนนั้นเกิดมาชาติหนึ่งเป็นคนมีตำแหน่งเป็นถึงผู้ปกครองประเทศ แต่กลับทำทุกอย่างเท่าที่จะทำได้เพื่อทำลายประเทศของตัวเอง........ถ้าจริง เราน่าจะ จัดเลี้ยง ร้องเพลงคาราโอเขะเสียให้สนั่นเลยนะคะ พี่แอ๊ะ.... emo6::))

                        พี่อ้อย 13  ขา  อ้อยกำลังสงกะสัยอยากจะเห็นหน้าตาของ "กรรม"  ในยุคสมัยนี้  ว่าหน้าตาจะเป็นอย่างไรน้อ.....มีจริงรื้อ....หรือถูกซื้อไปเรียบร้อยแล้วละมังคะ emo47


หัวข้อ: Re: "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: Preecha2510 ที่ 14 เมษายน 2553, 17:11:43
อ้างถึง
ข้อความของ prapasri AH เมื่อ 14 เมษายน 2553, 13:15:20
พี่แก้วขา

สรุปว่า ณ.วันนี้ แอ๊ะคิดว่ารัฐบาล ยังไม่ถอย ค่ะ และคงต้องใช้ นิติรัฐ

มาจัดการไม่ให้ผู้ก่อการร้ายลอยนวล

คงต้องหาทางปราบ ผู้ก่อการร้ายให้ได้ก่อน

ทหารก็ช่วย อยู่พอสมควร แต่ตำรวจ ช่วยน้อยมาก

กลไก ของมหาดไทย ไม่ค่อยทำงาน (คงเพราะทำงานไม่เป็น หรือขี้เกียจทำ อยู่เฉยๆดีกว่า)

รัฐบาลผสมก็ยังคงอยุ่  ทุกพรรค

แอ๊ะว่า ถ้าคนกรุงเทพ รวมตัวกัน ขับไล่ม๊อบ ออกไป ก้ดีนะ

เหมือนที่ชาวนางเลิ้ง เคยไล่น่ะค่ะ

แอ๊ะจะสมัครไปช่วยหนึ่งคน

      สวัสดีครับแอ๊ะ,อ้อย,และเหยง

                             เมื่อสักครู่ได้ดูโทรทัศน์ มีผู้ร่วมออกรายการสองท่านเป็นนายทหารที่ปลดเกษียณยศ พล.อ.และ

   เป็นอดีตนักรบ  ถ้าหากใครได้ฟังทั้งสองท่านพูดแล้วคงจะมีกำลังใจมากขึ้น โดยท่านทั้งสองบอกผ่านทางโทรทัศน์

   ให้ประชาชนคนไทยทั่วไปได้ทราบว่า ขณะนี้มีคนไทยผู้รักชาติจำนวนมากที่ไม่สามารถอดทนต่อการกระทำของกลุ่ม

    เสื้อแดงได้อีกต่อไป  ได้เริ่มรวมกลุ่มกันทั้งในกรุงเทพฯและต่างจังหวัด  พร้อมที่ลุกขึ้นมาช่วยตำรวจและทหารจัด

   การกับกลุ่มอันธพาลเสื้อแดงที่ก่อความเดือดร้อนให้กับประชาชนทุกวันนี้แล้ว  ทั้งนี้เพื่อให้บ้านเมืองกลับเข้าสู่ความ

  สงบโดยเร็ว    จึงขอแจ้งมาให้ผู้เข้ามาอ่านในห้องนี้เพื่อทราบ

    




                



หัวข้อ: Re: "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: swsm ที่ 14 เมษายน 2553, 18:24:44
สาธุ     emo30:sorry:


หัวข้อ: Re: "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: prapasri AH ที่ 14 เมษายน 2553, 18:27:18
ทียโสธร

มีรถเยอะมากติดธงแดง  และติดป้ายว่า ยุบสภา

และยิ่งหญ่ายยยยยยยยยยยมาก เบ่งยังไงก้ได้

ก็เพราะฉันเป็นแดง นี่ เดิ้นซะๆๆๆๆ

ตามอำเภอ ต่างๆ เขาก็ติด ทีวี ใหญ่ๆๆๆ และชาวบ้านมานั่งฟัง ช่องแดง กัน อย่างล้นหลาม

เฮ้อ.... สงสารพี่แอ๊ะไหมคะ


หัวข้อ: Re: "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: เหยง 16 ที่ 14 เมษายน 2553, 21:34:11
ขอแจ้งให้ทราบว่า

ตั้งแต่เช้านี้(14 เม.ย.) รถยนต์จากเหนือเริ่มกลับเข้ากรุงเทพกันแล้วครับ มีรถวิ่งตลอดเวลา ถนนไม่ว่างเลย

ผิดกับถนนขาขึ้นเหนือ แทบไม่มีรถวิ่งเลย บรรดาร้านค้า ปั๊มน้ำมัน แทบหารถเข้าไปใช้บริการไม่ได้

ตรงข้ามกับขาล่องใต้(เข้ากรุงเทพ) รถจอดเต็มหน้าร้านอาหาร ร้านขายของฝาก และในปั๊มน้ำมันก็จอดกันมาก

เมื่อคนกรุงเทพกลับเข้าบ้าน ย่อมต้องตัดสินใจแล้วว่าจะทำอย่างไรดีต่อไปกับการชุมนุมไม่เลิก,

เดิมเขากลับไปบ้านนอกเพื่อทิ้งปัญหาให้รัฐจัดการ หรือคิดว่าช่วงสงกรานต์ เสื้อแดงจะเลิกลากลับบ้านกันเอง

แต่เมื่อไม่เป็นไปตามที่คาดคิด คนกรุงต้องตัดสินใจเลือกทางเดิน เพราะเสื้อแดงย้ายไปอยู่ราชประสงค์เต็มรูปแบบแล้ว

ผมว่าคนกรุงลำบากใจมาก..กับการตัดสินใจในครั้งนี้ ?? !! ??


หัวข้อ: Re: "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: เหยง 16 ที่ 14 เมษายน 2553, 21:35:12
สวัสดีวันครอบครัว คุณโสภณ



หัวข้อ: Re: "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: Soponเท่านั้น ที่ 14 เมษายน 2553, 21:38:05
สวัสดีครับเหยง พี่แอ๊ะ และพี่ๆน้องๆขาประจำห้องซำบายดีของพี่แอ๊ะทุกท่านครับ


หัวข้อ: Re: "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: prapasri AH ที่ 14 เมษายน 2553, 21:41:50
(http://img405.imageshack.us/img405/348/90981644.jpg)


หัวข้อ: Re: "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: พธู ๒๕๒๔ ที่ 14 เมษายน 2553, 22:28:03
ดื่มน้ำเกลือ

ชายคนหนึ่งไปหาหมอด้วยอาการท้องอืดเรื้อรัง
“คุณลองดื่มน้ำ เกลือสักหนึ่งชั่วโมงก่อนอาหารเช้าทุกวันนะ ลองสักเดือนนึงแล้วกลับมาหาผมใหม่” หมอแนะนำ
หนึ่งเดือนผ่านไป ชายคนเดิมกลับมาหาหมอตามนัด
“เป็นไงครับ อาการดีขึ้นมั้ย” หมอถาม
“แย่ กว่าเดิมซะอีกครับ” เขาตอบ
“คุณได้ดื่มน้ำเกลือตามที่ผมแนะนำหรือเปล่า” หมอสงสัย
“เปล่าครับ” เขาตอบหน้าแห้ง “ไม่ไหวครับ แค่ 15 นาทีผมก็แย่แล้ว”


มันผิดจรรยาแพทย์

ผู้หญิงคนหนึ่งอยู่กับหมอสองต่อสองในห้องตรวจ
“คุณหมอขา... จูบชั้นหน่อยสิคะ” เธอร้องขอ
“ไม่ได้หรอกครับ” หมอส่ายหน้า “มันผิดจรรยาแพทย์”
หลังจากนั้นสัก 10 นาที เธอก็ร้องขออีก
“คุณหมอ คะ ได้โปรดเถอะค่ะ จูบชั้นหน่อย”
“ไม่ได้หรอก” หมอส่ายหน้าอีก “ผมเป็นหมอนะ จะให้ผมทำยังงั้นได้ยังไง”
หลังจากนั้นสักพัก เธอก็ร้องขออีกเป็นครั้งที่สาม
“คุณหมอขา ได้โปรดเถอะค่ะ จูบชั้นซักครั้ง... นะคะ...”
“นี่คุณ!” หมอดุ “ผมขอโทษนะ แต่ผมทำยังงั้นไม่ได้จริงๆ ที่ผมอึ้บคุณอยู่ยังงี้ก็ผิดมากพอแล้ว...”



หัวข้อ: Re: "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: เหยง 16 ที่ 15 เมษายน 2553, 09:11:32
บทบรรณาธิการของไทยโพสต์วันนี้(15 เมษายน 2553)
ยุบผ่านฟ้ารวมราชประสงค์ แกนนำแอบหลังไพร่
บทบรรณาธิการ15 เมษายน 2553 - 00:00

จู่ๆ  ก็มีข่าวดีสำหรับชาวชุมชนย่านถนนราชดำเนิน  สะพานผ่านฟ้าลีลาศ  เมื่อแกนนำคนเสื้อแดงประกาศยุบรวมเวทีปราศรัยสะพานผ่านฟ้าลีลาศไปรวมกับเวทีปราศรัยหลักที่สี่แยกราชประสงค์อย่างไม่คาดคิด  หลังขวัญหนีดีฝ่อกับเหตุปะทะระหว่างทหารกับผู้ก่อการร้ายเสื้อแดงเมื่อคืนวันที่  10  เมษายนที่ผ่านมา
     การได้คืนวิถีชีวิตเดิมๆ  นับเป็นของขวัญวันปีใหม่ไทยที่สุดจะบรรยาย ว่าชาวชุมชนแถวนั้นจะสุขขนาดไหน  แต่บรรดาห้างร้านและผู้พำนักย่านแยกราชประสงค์  จะต้องทุกข์ทรมานกับวิถีชีวิตที่เปลี่ยนไปกันต่อไป  และยังไม่รู้ว่าจะสิ้นสุดลงเมื่อไหร่  แต่ก็คงไม่นานนัก  เพราะเป็นไปไม่ได้ที่รัฐบาลจะปล่อยให้คนเสื้อแดงยึดแยกใจกลางธุรกิจไปเรื่อยๆ  โดยไม่ดำเนินการอะไร
     มีเหตุผลอะไรที่แกนนำคนเสื้อแดงต้องประกาศยุบเวทีผ่านฟ้าลีลาศไปรวมกับเวทีราชประสงค์  หากพิจารณาตามเนื้อผ้าแล้วจะพบว่า  ปัจจัยสำคัญที่แกนนำคนเสื้อแดงต้องทำเช่นนั้น  เพราะกลุ่มผู้ชุมนุมจำนวนมากเดินกลับบ้านภูมิลำเนาเพื่อไปเฉลิมฉลองเทศกาลสงกรานต์  บวกกับผู้ชุมนุมจำนวนหนึ่งที่ไม่มั่นใจในความปลอดภัยหลังการปะทะวันที่  10  เมษายน  ทำให้ไม่กล้าเดินทางมาชุมนุมจนเกิดช่องโหว่ในพื้นที่ชุมนุมทั้ง  2  จุด  และเสี่ยงต่อการลงมือชิงพื้นที่คืนอีกครั้ง
     อย่างไรก็ตาม   หากพิจารณาจากฝ่ายรัฐ   คงไม่สามารถใช้วิธีเดิมๆ  ชิงพื้นที่คืนได้อีก  เพราะอาจมีการปะทะที่หนักหน่วงกว่าเดิม  ความสูญเสียก็จะมากกว่าเดิม  ดังนั้นการจับแกนนำอาจเป็นทางเลือกที่ดีกว่า  ซึ่งแกนนำคนเสื้อแดงทั้งหมดก็รู้เรื่องนี้ดี  และหากไม่มีผู้ชุมนุมเต็มพื้นที่เหมือนที่เคยเป็นก่อนช่วงสงกรานต์  ก็มีความเสี่ยงสูงที่แกนนำทั้งหมดอาจถูกจับคาเวที  ด้วยวิธีจู่โจมแบบเฉียบพลันของทหาร-ตำรวจ  การยุบรวมเวทีจึงเกิดขึ้นโดยไม่มีใครคาดคิด  แม้แต่คนเสื้อแดงจำนวนมากก็งงกับคำสั่งของบรรดาแกนนำของพวกเขา
     การเหลือเวทีปราศรัยเพียงเวทีเดียว  นอกจากเป็นความเห็นแก่ตัวของบรรดาแกนนำแล้ว  ยังเป็นการทำลายความเชื่อมั่นในหมู่คนเสื้อแดงเอง  เพราะในมุมกลับถือเป็นการถอยร่นที่สร้างความเคลือบแคลงใจให้กับคนเสื้อแดงที่ปักหลักบนถนนราชดำเนินมาร่วม  1  เดือนเต็ม  เราจึงได้เห็นภาพแกนนำคนเสื้อแดงต้องใช้ความพยายามอย่างหนักในการปราศรัยชักจูงให้คนเสื้อแดงผ่านฟ้ายอมทิ้งฐานที่มั่นสำคัญ  โดยที่คนเสื้อแดงจำนวนหนึ่งต้องใช้ความพยายามอย่างหนักเพื่อที่จะเข้าใจในสิ่งที่แกนนำคนเสื้อแดงต้องการ
     ไม่มีหลักประกันอะไรเลยสำหรับแกนนำคนเสื้อแดงว่าช่วงเวลาอีก  3-4  วันที่เหลือ  จะไม่ถูกจู่โจมจับกุม  พวกเขาจึงเลือกที่จะใช้คนเสื้อแดงเป็นโล่ป้องกันตัวเอง  นี่คือปรากฏการณ์ที่เกิดขึ้น  แกนนำที่มีภาพแข็งกร้าวตอนมีมวลชนล้อมหน้าล้อมหลัง  กลับต้องหลบหลังไพร่  จากนี้ไปแกนนำคนเสื้อแดงจะถูกล้อมกรอบ  ขยับตัวไปไหนไม่ได้  หากมีแกนนำคนเสื้อแดงคนไหนออกนอกพื้นที่ชุมนุมเมื่อไหร่ก็มีโอกาศจับกุมสูง.   

http://www.thaipost.net/news/150410/20849


หัวข้อ: Re: "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: เหยง 16 ที่ 15 เมษายน 2553, 09:16:05
ตามด้วย "เปลว สีเงิน"

แนวรบด้าน "รัฐบาล-ทหาร" กำลังเปลี่ยน
เปลว สีเงิน 15 เมษายน 2553 - 00:00

ครับ...ถึงวันนี้   ไม่เพียงคนในประเทศไทยเท่านั้นที่รู้ว่า  เหตุการณ์  ๑๐  เมษา  ๕๓  ที่สี่แยกคอกวัว  ถนนราชดำเนิน  "ทหารไม่ฆ่าประชาชน  แต่ทหารในคราบประชาชนฆ่าทหาร"  ทหารนั้นคือ  ทั้งในราชการและนอกราชการบางคนที่ร่วม  "ขบวนการทักษิณ"  หวังเปลี่ยนระบบ-ล้มชาติ   ส่วนประชาชนนั้นคือ  มนุษย์เสื้อแดงที่  "วีระ-ณัฐวุฒิ-จตุพร-เหวง-อริสมันต์-สุภรณ์-พายัพ"  และคณะปลุกปั่น  ใช้เป็นโล่มนุษย์ให้  "มือสังหาร"  พรางตัว  "ล็อกเป้า"  รัวกระสุน...ฆ่าทหาร!!
     ชะตา-อนาคตประเทศไทย   เหมือนยืนอยู่ปากทาง  ๓  แพร่ง  แพร่งซ้าย-อำนาจใหม่ภายใต้ระบอบแดงทักษิณ   แพร่งขวา-รักษาระบบ-ระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นพระประมุขคงเดิมสืบต่อไป  และแพร่งตรงหน้า...
     "ปฏิวัติ"  ด้วยการ  "ลอกคราบ"  สังคมชาติครั้งใหญ่  ภายใต้โครงสร้างหลักเดิม!?
     ปฏิวัติในที่นี้   ไม่ได้หมายถึง  "รัฐประหาร"  ที่ทำกันเหมือนเอากระป๋องผูกหางหมาให้วิ่งลากไป   อาศัยเพียงเสียงหลอกคน  แต่ยังไม่ใช่วันนี้-พรุ่งนี้  นับจากมิถุนายน  ๒๕๕๓  ไป  คนไทยทุกคน  ถ้ายังรักประเทศไทย  และมั่นคงจะยึดเมืองไทยเป็นแดนสุดท้ายของชีวิตและตระกูล
     ควรต้องศึกษาให้เข้าใจในความต่างระหว่างคำว่า  "ปฏิวัติ"  กับคำว่า  "รัฐประหาร"  เพราะในความเหมือน-ความต่างนั้น   มันอาจจะมาในลีลารูปร่างเดียวกัน  "ในชั้นแรก"  ก็เป็นได้!?
     การเปลี่ยนแปลงเป็น   "กฎธรรมชาติ"   แต่จะเปลี่ยนแปลงแบบไหนเป็น  "กฎสังคม"   จากคนในชาติ   ฉะนั้น  อย่าถามผม  อย่าถามใคร  อย่าถามพ่อ  อย่าถามแม่  อย่าถามพระ  อย่าถามเพื่อน  อย่าถามครูบาอาจารย์
     แต่ให้  "ถามใจตัวเอง"  ว่าต้องการพาชาติไปทางไหน-แบบไหน?
     และจงหัดใช้สิทธิในความเป็นพลเมืองของตน  "ทำหน้าที่"  เพื่อชาติ-เพื่อส่วนรวมกันเสียบ้าง  อย่าเอาแต่เสพสุขบนกองทุกข์ชาติ  แล้วนั่งด่า-นั่งโทษ-นั่งตำหนิ  "ทุกคน"  ที่ไม่ใช่ตนเอง!
     นี่...วานนี้   (๑๔   เม.ย.๕๓)  กองกำลังกบฏแผ่นดิน  ภายใต้การบัญชาการของทักษิณ  ถอนที่ตั้งจากปากทางประตูผี  ถนนราชดำเนิน  ไปรวมอยู่เป็นจุดเดียวกัน  "หันหลังให้พระ-หันหน้าหาผี"  ที่สี่แยกราชประสงค์แล้ว  ก็นับว่าสะดวกแทบทุกด้าน  ทั้งการประสานเครือข่าย  และทั้งด้านอาหารการกิน  การเป็นอยู่ของพวกแกนนำ
     เพราะทั้งธุรกิจศูนย์การค้า  และธุรกิจโรงแรมใหญ่ๆ  ในย่านนั้น  ทุกคนก็รู้ดีอยู่แล้วมิใช่หรือว่า  "ลึกลงไปจากเบื้องหน้า"  เป็นธุรกิจ-การค้าในเครือข่ายของใคร?
     วันนี้ที่  ๑๕  เมษาแล้ว  นายกฯ  อภิสิทธิ์  รัฐบาล-ทหาร  น่าจะมีพลังแห่งสติปัญญาแจ่มใส  มองทางไปข้างหน้าได้ชัดว่า  "ควรจะปฏิบัติการ  ๑-๒-๓  แบบไหน?"  โดยไม่ต้องใช้แสงเลเซอร์ล็อกเป้าอย่างเขา!
     "ระบบข่าวสาร"  ผมก็คิดว่า  ฝ่ายรัฐบาล  โดยเฉพาะศูนย์อำนวยการแก้ไขสถานการณ์ฉุกเฉิน   (ศอฉ.)  น่าจะได้ความคิดใหม่ๆ  ในความหมาย  "รุกชิงพื้นที่"  ได้มีประสิทธิภาพมากขึ้น  ผมอยากให้ข้อสังเกตซักนิดว่า  ในโลกยุคนี้-วันนี้  เขายกระดับการสื่อและข่าวถึงขนาดใช้คำเรียกว่า
     "สงครามข่าว"  ไปขนาดนั้นแล้ว!
     ฉะนั้น  ต้องปรับยุทธการข่าว  และใช้ให้เป็นประโยชน์มากที่สุดทั้งภาษาไทยและภาษาอังกฤษ  การรบนั้น  ชนะคนเรื่องจ้อย  แต่ทำให้  "ชนะใจคน"  เรื่องใหญ่  นับจากวันนี้ไป  ทั้งกระแสไทย  และกระแสโลก  จะนำเสนอข่าวสารที่ถูกต้องตรงความเป็นจริง  "ด้วยความเข้าใจ"  ในปัญหาและสถานการณ์ของไทยมากขึ้น
     ท่านนายกฯ   อภิสิทธิ์ใจเย็นๆ  แต่อย่าเย็นใจ  ปรึกษาหารือ  และรับฟังฝ่ายกองทัพคือทหารให้มากเข้าไว้   อย่าไประแวง  อย่าไปกินแหนงแคลงใจ  และหยุมหยิมกับใคร  แม่ทัพ-นายกองทุกคนนั้น   กว่าเขาจะมาถึงระดับนั้นได้  ไม่ใช่จับฉลากมานะครับ  ฉะนั้น  ขอให้เขาเสนอแนะความเห็นมาให้ท่านฟังเถอะ
     และในส่วนตัวท่าน  น่าจะเชิญผู้หลัก-ผู้ใหญ่  ผู้มีประสบการณ์ในด้านต่างๆ  จากภายนอกให้เขามา   "ให้ความคิดเห็น"   กับท่านบ้าง  อย่างท่านอาจารย์ระพี  สาคริก  ท่านอานันท์   ปันยารชุน   พลเอกอาทิตย์  กำลังเอก  ดร.สมเกียรติ  อ่อนวิมล  พลเอกบุญสร้าง  เนียมประดิษฐ์  ท่านสุวัจน์  ลิปตพัลลภ  พลเอกสุรพล  ชินะจิตร  พลเอกสพรั่ง  กัลยาณมิตร  ท่านประสงค์  สุ่นศิริ  พลเอกสายหยุด  เกิดผล  เป็นต้น
     ที่ผมยกมานี้  ไม่ได้หมายความว่าต้องเป็นท่านเหล่านี้  เพียงแต่ยกตัวอย่างให้เห็นเป็นรูปธรรมในบุคคลและสาขาอันมีประสบการณ์หนักๆ  มาแล้วแต่ละด้านจนตกผลึกทางสถานการณ์ระดับหนึ่งเท่านั้น  ยิ่งเป็นบุคคลจากต่างพวก-ต่างฝ่ายยิ่งดีใหญ่  แนวคิดจะได้หลากหลายแง่มุม
     เพราะผมเชื่อ   ทางไปของประเทศชาติข้างหน้า  จะต้องมาจากการ  "รวบรวมสติปัญญา"  จากทรัพยากรบุคคลต่างระดับ  ต่างสาขา  จะมาจากสายเดียวไม่ได้!
     อ้อ..ไอ้คำย่อว่า  ศอฉ.นี่  เปลี่ยนใหม่ได้มั้ย  เพราะมันเรียกไม่เข้าปากจนไม่มีใครอยากเรียก  สงสัยคนย่อนี่คงเรียนตกภาษาไทย  ไม่รู้ที่ตั้งเสียงของอักษรสูง  กลาง  ต่ำ  "ศูนย์อำนวยการแก้ไขสถานการณ์ฉุกเฉิน"   เปลี่ยนอักษรย่อใหม่เป็น   ศกฉ.  หรือ  ศสฉ.  หรือ   ศฉฉ. อย่างใด-อย่างหนึ่ง  น่าจะฮิต-ติดปากกว่า  ศอฉ. นะ?
     พ.อ.สรรเสริญ  และ  ดร.ปณิธานนั้น  ทำหน้าที่ดีแล้ว  ควรหาตัวช่วยมาเพิ่มอีก  ต้องเน้นความสำคัญ  "ให้ข้อมูลก่อน"  กับสังคมโลก  เคยสังเกตมั้ย  ทุกครั้ง-ทุกเหตุการณ์ทำนองนี้ไม่ว่าที่ไหน   "ตำรวจ-ทหาร"  จะเป็นผู้ร้ายในสงครามข่าว  มีแต่ครั้งนี้แหละที่  "สื่อทั่วโลก"  สะท้อนเหตุการณ์ตรงข้อเท็จจริง  ด้วยความเข้าใจ
     ไม่ใช่การชุมนุมตามวิถีทางประชาธิปไตย   แต่พวกก่อการร้ายเสื้อแดงใช้การชุมนุมบังหน้า   แล้วฆ่าทหาร  ผมจะเอาข่าวที่นานาชาตินำเสนอที่เว็บไซต์  "มติชน"  เขาออนไลน์ไว้มาให้ท่านอ่าน  เพื่อยืนยันให้เห็นดังนี้
     สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานเมื่อวันที่  14  เม.ย.ว่า  อ้างแหล่งข่าวระบุว่า  เหตุการณ์ทหารปะทะกลุ่มคนเสื้อแดงเมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา  โดยมีกลุ่มมือปืนชุดดำยิงทหารในเหตุการณ์ดังกล่าว  สะท้อนให้เห็นว่า  ได้เกิดความแตกแยกขึ้นในกองทัพ  ระหว่างทหารกลุ่มยศระดับล่างและระดับกลาง   และเจ้าหน้าที่ทหารที่เห็นใจกลุ่มคนรากเหง้าเสื้อแดง  กับกลุ่มทหารระดับสูงที่สนับสนุนสถาบัน  กลุ่มธุรกิจ  และกลุ่มคนชั้นกลาง  โดย  "เฟเดริโก  เฟอร์รารา"  ผู้เชี่ยวชาญด้านรัฐศาสตร์แห่งมหาวิทยาลัยแห่งชาติสิงคโปร์  แสดงทัศนะว่า  เขาไม่แน่ใจว่ารัฐบาลจะ
สามารถเชื่อมั่นในความภักดีของผู้บัญชาการระดับชั้นกลาง  โดยเฉพาะทหารระดับล่าง  และถือได้ว่าสถานการณ์ของรัฐบาลมีความเปราะบางมาก
     เอเอฟพีระบุอ้างแหล่งข่าวว่า   กลุ่มคนเสื้อแดงได้รับการสนับสนุนจากกลุ่มทหารนอกแถว  ซึ่งรวมทั้งนายทหารที่ปลดเกษียณ   และนายทหารที่เป็นพันธมิตรกับ   พ.ต.ท.ทักษิณ  ชินวัตร   อดีตนายกรัฐมนตรีของไทย  ขณะที่เจ้าหน้าที่ทหารรายหนึ่งที่ไม่ประสงค์จะเปิดเผยชื่อบอกว่า  มีทหารระดับชั้นกลางจำนวนมากที่อยู่ข้าง  พ.ต.ท.ทักษิณ  ถูกกีดกันทางอำนาจ  และตอนนี้พวกเขากำลังเอาคืน  ด้วยการให้การสนับสนุนคนเสื้อแดง  เพื่อเรียกอำนาจของตัวเองกลับคืนมา
     "มีความชัดเจนอย่างยิ่งว่ามีบางคนในกองทัพสนับสนุนกลุ่มคนเสื้อแดง  และกองทัพไม่ได้มีความเป็นเอกภาพอีกต่อไป"  นายปวิน  ชัชวาลย์พงษ์พันธ์  ผู้เชี่ยวชาญประจำสถาบันศูนย์ศึกษาเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ในสิงคโปร์กล่าว
     นอกจากนี้  เอเอฟพีระบุว่า  กลุ่มคนเสื้อแดงยังได้ปฏิบัติการสองแนวรบ  ด้านหนึ่งใช้การชุมนุมอย่างสันติตามท้องถนนในกรุงเทพฯ   และอีกด้านหนึ่งใช้ปฏิบัติการของอดีตนายทหารและนายทหารปัจจุบันในกองทัพ  โดยความแตกแยกของสถาบันกองทัพดังกล่าวกำลังสร้างความไม่แน่ใจอย่างลึกซึ้งต่อภาพลักษณ์ทางเศรษฐกิจของประเทศ  ส่วนหนึ่งเนื่องจากไม่มีฝ่ายใดมีชัยในเหตุการณ์เมื่อวันเสาร์  และทำให้ทั้งสองกลุ่มนี้อยู่ในสภาพกำลังงัดข้อใช้กำลังซึ่งกันและกัน
     "ไม่มีฝ่ายใดได้ชัยชนะอย่างเด็ดขาด    และเมื่อรัฐบาลไม่ได้เป็นผู้ใช้กำลังอำนาจอีกต่อไป  จากนั้นสถานการณ์ก็จะเข้าสู่ภาวะอนาธิปไตย"  นายชาญวิทย์  เกษตรศิริ  นักประวัติศาสตร์การเมืองไทยกล่าว
     เอเอฟพีระบุด้วยว่า  แหล่งข่าวกองทัพและรัฐบาลกล่าวว่า   พลเอกชวลิต  ยงใจยุทธ   อดีตนายกรัฐมนตรีและพันธมิตรใกล้ชิดของ  พ.ต.ท.ทักษิณ  เป็นผู้นำอดีตนายทหารเกษียณราชการและนายทหารปัจจุบัน  คอยให้การสนับสนุนแก่กลุ่มคนเสื้อแดง  แม้ว่าเร็วๆ  นี้  เขาจะปฏิเสธว่า  ไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องกับเหตุการณ์มือปืนชุดดำโจมตีทหารระหว่างปะทะกับกลุ่มคนเสื้อแดงที่ถนนราชดำเนิน  โดยเห็นได้ชัดว่า  เขาเป็นคู่แข่งสำคัญในฉากการเมืองที่ปรากฏขึ้นมาในขณะนี้   โดยภายหลังเหตุการณ์เมื่อวันเสาร์  พลเอกชวลิตได้เรียกร้องให้รัฐบาลนายอภิสิทธิ์ยุบสภา  ขณะที่บทบาทของเขาก่อนหน้านั้น  เมื่อเดือน  ต.ค.ปีที่แล้ว  เขาได้กลายเป็นประธานที่ปรึกษาพรรคเพื่อไทย  ซึ่งถือเป็นกลุ่มปีกขวาของกลุ่มคนเสื้อแดง  และพลเอกชวลิตได้โน้มน้าวให้ทหารนอกราชการเข้ามาร่วมกับเขา  อันเป็นความเคลื่อนไหวที่ถูกมองว่าสร้างความแตกแยกให้สถาบันกองทัพที่ครั้งหนึ่งเป็นปึกแผ่นมั่นคง
     แหล่งข่าวรัฐบาลระบุว่า   ความแตกแยกที่หนักข้อขึ้นได้เปลี่ยนแปลงชีวิตในค่ายทหารที่นายกรัฐมนตรีอภิสิทธิ์   เวชชาชีวะ  และเจ้าหน้าที่รัฐบาลระดับสูง  ใช้ร่วมประชุมกันที่กรมทหารราบที่  11  โดยเจ้าหน้าที่รัฐบาลบอกว่า  แผนของรัฐบาลได้รั่วออกจากกองทัพ
     "เราไม่รู้ว่าจะเชื่อถือใครได้  เพราะนอกเหนือจากเราแล้ว  ก็ยังมีทหารที่อยู่ข้าง  พ.ต.ท.ทักษิณ"  เจ้าหน้าที่รัฐบาลระดับสูงบางรายที่ไม่ประสงค์จะให้เปิดเผยชื่อกล่าว
     นอกจากนี้  เอเอฟพีชี้ว่า  เมืองไทยยังคงสุ่มเสี่ยงที่อาจจะมีเหตุการณ์ปฏิวัติเกิดขึ้น  เพราะไม่เป็นที่ชัดเจนว่า  กองทัพจะปกป้องรัฐบาลไปอีกนานแค่ไหน  หรือกองทัพจะสามารถต้านทานกลุ่มทหารที่เป็นพันธมิตรกับทักษิณได้อีกนานแค่ไหน  โดยหากมีการคืนอำนาจสู่ประชาชน  ก็ถือว่าโอกาสได้เข้าทางกลุ่มพันธมิตรของ  พ.ต.ท.ทักษิณ  และแม้แต่ที่ผ่านมา  พลเอกอนุพงษ์  เผ่าจินดา   ผบ.ทบ.จะยืนยันว่า  เขาจะไม่ปฏิวัติ  แต่เรียกร้องให้รัฐบาลยุบสภา  แต่จากประวัติศาสตร์ที่ผ่านมา   จะเห็นได้ว่า  กลุ่มทหารที่สนับสนุนสถาบันไม่เคยปฏิเสธแนวทางที่จะปฏิวัติเลย  เพราะสำหรับเมืองไทยนั้น  มีการปฏิวัติ  18  ครั้ง  ในช่วง  77  ปีที่ผ่านมา
     สำนักข่าวเอเอฟพีได้เผยแพร่คลิปวิดีโอเหตุการณ์การปะทะกันระหว่างกลุ่มคนเสื้อแดงและทหาร  เมื่อวันเสาร์ที่  10  เม.ย.ที่ผ่านมา  โดยระบุว่า  คลิปดังกล่าวเป็นคลิปที่ถ่ายไว้โดยผู้ชุมนุมของกลุ่มคนเสื้อแดงเอง   สำหรับคลิปวิดีโอนี้ได้ถูกโพสต์ขึ้นบนเว็บไซต์ยูทูป  (www.youtube.com  http://www.youtube.com)  ความยาว  53  วินาที  ในช่วงระหว่างวินาทีที่  8-12  ได้จับภาพนายทหารระดับผู้บังคับบัญชาซึ่งยืนอยู่บนรถ  กำลังยิงปืนพกสั้นขึ้นฟ้า  ตามขั้นตอนการปฏิบัติการสลายการชุมนุม
     โดยระหว่างที่นายทหารคนดังกล่าวยิงปืนขึ้นฟ้า   ได้ปรากฏจุดเลเซอร์สีเขียวและสีแดงขึ้นบริเวณส่วนศีรษะของนายทหารระดับผู้บังคับบัญชา  คล้ายกับเลเซอร์ระบุเป้าในการโจมตี  ขณะที่อีกไม่กี่นาทีต่อมาก็เกิดประกายไฟและเสียงระเบิดขึ้นในหมู่เจ้าหน้าที่ทหาร  และก่อให้เกิดความโกลาหลขึ้นตามมา  จากนั้นภาพจึงมีการตัดมาที่กลุ่มคนเสื้อแดงเข้าทุบทำลายรถขยายเสียงของทางราชการ  และภาพเจ้าหน้าที่  กลุ่มผู้ชุมนุมนอนได้รับบาดเจ็บหลายราย
     ไม่มีคำต่อท้ายจากผมวันนี้   นอกจากบอกสั้นๆ   ว่า  ขอเพียงมะลิร่วง-พวงมาลัยร้อยก็พอ   ไปเถอะ...ไปลูบบาดแผลทหารแล้วความอุ่นจากมือท่านจะเป็นยาวิเศษสมานใจ  "ทหารกับประชาชน"  ต้องผูกใจไปด้วยกันตลอดกาล  ไปเถอะ...ไปที่โรงพยาบาลพระมงกุฎฯ  นั่นแหละ
     ศูนย์รวมน้ำใจ...ให้ทหาร.!

http://www.thaipost.net/news/150410/20842


หัวข้อ: Re: "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: เหยง 16 ที่ 15 เมษายน 2553, 09:22:24
ตามด้วย "ท่านขุนน้อย"

เตรียมเข้าสู่สงครามกลางเมือง
ท่านขุนน้อย 15 เมษายน 2553 - 00:00

  วันเวลาแต่ละนาที...ผ่านไปด้วยความโหวงเหวง  วังเวง  อย่างถึงที่สุด  ทั้งบู๊ลิ้ม  ตงง้วน  นับจากนี้...เห็นทีจะต้องตกอยู่ภายใต้เงื้อมมือของ  พรรคมาร  เป็นแน่แท้  ท่ามกลางบรรยากาศอันมืดมิดของคืนกาฬปักษ์  วณิพกได้แต่ทอดถอนใจ  แม้เพียงแค่ยื่นมือออกไปเบื้องหน้า ก็ยังมิอาจมองเห็นกระทั่งปลายนิ้วมือของตัวมันเองได้...ใช่แล้ว  เนื่องเพราะนิ้วมือทั้ง  5  ของมันดันกุดเพราะโรคเรื้อนนั่นเอง...
              ----------------------------------------------
     เฮ้ออ์อ์อ์อ์...แล้วคราวนี้จะเอายังไงกันดีล่ะท่าน!!!ในเมื่อบรรดาผู้ซึ่งมีหน้าที่รับผิดชอบบ้านเมืองทั้งหลาย  ต่างก็ตกอยู่ในอาการ  เงียบสนิท  ศิษย์ส่ายหน้า  ไปตามๆ  กัน  ทหารที่ทยอยถอนกลับเข้ากรมกองไปเป็นที่เรียบร้อยแล้ว  ก็ไม่ได้ทำท่าว่าจะคิดขยับออกมาอีกเลย  ขณะที่ถนนแต่ละสายในกรุงเทพมหานคร  เต็มไปด้วยธงแดงพลิ้วไสวไกวสะบัด  เสียงโห่ร้องก้องตะโกน  ด้วยความฮึกเหี้ยม  เหิมเกริม  รถกระบะ  รถมอเตอร์ไซค์  แล่นโฉบเฉี่ยว  ฉวัดเฉวียน   ป่าวประกาศความอหังการของตัวเอง   โดยที่ชาวบ้านชาวช่องได้แต่ทำตาปริบๆ  อึดอัด  ฮึดฮัด  ขึ้นมาเมื่อไหร่  มีแต่จะโดนเตะ  โดนถีบ  เพื่อบูชายัญประชาธิปไตยกันไปตามสภาพ...
          ------------------------------------------------
     พระราชกำหนดสถานการณ์ฉุกเฉิน  ได้ถูกแปรสภาพให้กลายเป็นพระราชกำหนดสถานการณ์เฉื่อยแฉะไปโดยปริยาย  และไม่เพียงแต่จะทำให้กรุงเทพมหานครอมรรัตนโกสินทร์ มหินทรายุธยามหาดิลกภพ  นพรัตนราชธานีบูรีรมย์ฯ  เท่านั้น   ที่กลายสภาพไปเป็นนรกของฝูงผีห่าซาตานไปเรียบร้อยแล้ว  เขยิบออกไปทั่วทั้งปริมณฑล  ตลอดจนถึงเขตคามนิคมจังหวัดต่างๆ  กองกำลังไม่ทราบฝ่าย  ที่ผุดขึ้นมาจากนรกก็ได้เวลาออกปฏิบัติการเพื่อสร้างความพินาศ  ฉิบหาย  ความหวาดหวั่น  ขวัญสยอง  ให้กับผู้คนพลเมืองอย่างไม่มีที่สิ้นสุด  ไม่ว่าจะในกรณีเสาจ่ายกระแสไฟฟ้าแรงสูงที่จังหวัดอยุธยาถูกลอบวางระเบิด  วิทยุชุมชนมุกดาหารที่ไม่เห็นด้วยกับความป่าเถื่อน  หยาบช้า  ถูกกลุ่มชนนับร้อยบุกเผาซะเกลี้ยง  ศาลากลางจังหวัดแต่ละแห่งถูกบุก  ถูกรบกวน  รังควาน  จนข้าราชการไม่เป็นอันกินอันนอน...ฯลฯลฯลฯ...
               ---------------------------------------------
     แต่เมื่อมาถึงขั้นนี้....ทุกสิ่งทุกอย่างก็ยังคงเป็นไปในแบบ   เงียบสนิท   ศิษย์ส่ายหน้า  อยู่เช่นเดิม  ขณะที่การเมืองถูกปล่อยเกาะให้ต้องหาวิธีแก้ปัญหาด้วยการเมือง  การทหารก็เลยได้เวลานั่งเฉยๆ  มองดูการก่อการร้ายแพร่ระบาดออกไป  จนกว่าตัวเองจะได้เวลาเกษียณอายุราชการ  ส่วนการตำรวจนั้นแทบไม่ต้องพูดถึง...ขนาดกรรมการผู้จัดการใหญ่  กสทฯถูกจับเอาไว้เป็นตัวประกัน  ขณะที่พวกม็อบจำนวนนับร้อยบุกเข้าตรวจสอบสัญญาณถ่ายทอดดาวเทียม   ตำรวจซึ่งได้รับแจ้งเหตุจากโทรศัพท์  191  ตัดสินใจยกกำลังมาระงับเหตุการณ์  นับจำนวนได้ประมาณ  4-5  คนด้วยกัน  อาจเป็นเพราะกำลังบางส่วนต้องใช้เวลาไปร่วมชุมนุมกับม็อบจนถึงกับสร้อยหาย  ต้องขอให้แกนนำประกาศหาสร้อยทางเวทีอย่างครึกครื้น...
               ---------------------------------------------
     ในเมื่อมันเป็นซะยังงี้นั่นแหละท่านสารวัตร...ประเทศไทยทั้งประเทศก็เลยเต็มไปด้วยความวังเวง  โหวงเหวง  คิดไม่ออก  บอกไม่ถูก  แต่ละคน  แต่ละราย  ได้แต่ส่ายหน้า  ตกอยู่ในอาการใบ้รับประทานไปด้วยกันทั้งสิ้น  รายที่อึดอัดทนไม่ไหวเอาจริงๆ  ถึงกับคิดจะประกาศจัดตั้งกองกำลังอาวุธของตัวเองขึ้นมาบ้างแล้ว  อย่างว่านั่นแหละ...ขึ้นชื่อว่า  มนุษย์  ต่างก็มีมือ  มีตีน  ด้วยกันทั้งนั้น  ในเมื่อผู้ซึ่งมีหน้าที่รับผิดชอบดูแล  รักษา  ความสงบเรียบร้อยของบ้านเมือง  ตัดสินใจมัดมือ  มัดตีน  ของตัวเองเอาไว้  โดยไม่คิดจะทำอะไรต่อไปอีก  ผู้คนพลเมืองที่ก็เป็นประชาชนเช่นกัน  ย่อมไม่อาจที่จะเอามือซุกหีบต่อไปได้อีกแล้ว  ในเมื่อมึงยิงได้...กูก็ยิงได้  ยิงมาก็ยิงไป!!! สุดท้ายแนวโน้มความเป็นไปของบ้านเมือง  ก็กำลังใกล้ที่จะเคลื่อนเข้าสู่ภาวะ  สงครามกลางเมือง  แบบเบ็ดเสร็จจนได้....
               --------------------------------------------
     อย่าไปคิดเลยว่า...หลังจากยอมปล่อยให้มารครองเมือง  แล้วทุกสิ่งทุกอย่างจะเข้าสู่ความสงบได้ง่ายๆ  แม้นว่ากรุงศรีอยุธยาจะสูญสิ้นคนดี  จนกรุงแตกมาแล้วถึง  2  ครั้ง  แต่สำหรับกรุงรัตนโกสินทร์  ณ  ขณะนี้  ถึงจำนวนคนดีจะลดน้อยถอยลงไปอย่างน่าใจหาย  หรือเหลืออยู่เพียงแค่หนึ่งส่วนในสี่ส่วนก็ตามที  แต่สุดท้าย...ด้วยความไม่ถูกต้อง  เป็นธรรม  ของฝ่ายมาร  ฝ่ายอธรรมนั่นเอง  ชาวยุทธที่ยังพอมีมือ  มีตีน  อยู่ในแวดวงบู๊ลิ้ม  คงไม่คิดจะปล่อยให้อะไรต่อมิอะไรมันเป็นไปความต้องการของพรรคมารได้ง่ายๆ  แม้นว่า  อนุพงษ์  จะสามารถอยู่รอด  หรือ  เอาตัวรอด  ได้ก็จริง  แต่ท่ามกลางสภาพความเป็นไปของบ้านเมืองที่ต้องตกอยู่ในความฉิบหายอย่างถึงที่สุด  ยังไงๆ  อนุพงษ์  ก็คงอยู่ไม่ได้  โอกาสที่จะนั่งตีกลอง  พาใครต่อใครไปเดินช็อปปิ้งหลังการเกษียณอายุ...รับรองว่าลำบากแน่ๆ!!!
              -----------------------------------------------
     และคงไม่ต้องรอให้เนิ่นนานเกินไป...ไม่ว่าจะยุบสภา  ภายใน  9  เดือน  6  เดือน  3  เดือน  หรือยุบแบบฉับพลันทันที  เชื่อเถอะว่า...ในทุกๆ  เขตสนามเลือกตั้ง  ย่อมต้องปรากฏร่างเงาของ  กองกำลังไม่ทราบฝ่าย  ออกปฏิบัติการให้คุณ  ให้โทษ  กับผู้สมัครอย่างไม่อาจปฏิเสธและไม่อาจหลีกเลี่ยงได้  เพราะขนาดการข่มขู่  คุกคาม  ในใจกลางกรุงเทพมหานคร  หรือกระทั่งในเขตพระราชฐานแท้ๆ  ตำรวจยังจับมือใครดมไม่ได้  กฎหมายยังมิอาจบังคับใช้  การถล่มระเบิดใส่เวทีผู้สมัครรายใดรายหนึ่ง  การส่งม็อบไปไล่ล่ากดดัน  ประกาศเขตห้ามเข้า  ย่อมกลายเป็นเรื่องปกติธรรมดา  หรือกลายเป็นเรื่องสิทธิ  เสรีภาพ  ของประชาชนที่สามารถทำอะไรก็ได้...ตราบใดที่กฎหมายยังไม่มีอำนาจบังคับใช้ได้อย่างจริงๆ  จังๆ...
              -----------------------------------------------
     ด้วยเหตุนี้....เลือกตั้งเที่ยวนี้ก็จงเตรียม  กระสุน  ให้เยอะๆ  เข้าไว้  ไม่ว่าจะเป็น  กระสุนเงิน   หรือ   กระสุนจริง  ส่วน  กระสุนยาง  นั้น...มันหมดค่า  หมดความหมาย  ไปเรียบร้อยแล้ว  ไม่ต่างไปจากกฎหมายแต่ละฉบับ  จะเป็น  พ.ร.บ.ความมั่นคง  หรือกระทั่ง  พ.ร.ก.ฉุกเฉิน  ปฏิเสธไม่ได้ว่า...มันกลายเป็น  กระดาษเช็ดก้น  ไปแล้วอย่างเบ็ดเสร็จสมบูรณ์  นักการเมืองที่แพ้ในเวทีรัฐสภา  แต่หันมาเอาชนะในเวทีข้างถนน  มันคงไม่ยอมแพ้ในเวทีเลือกตั้งอยู่แล้วแน่ๆ   แต่ละคน   แต่ละราย  ต่างผ่านการบ่มเพาะความโหดเหี้ยม  อำมหิต  มาจนได้ระดับ  พร้อมที่จะประกาศไล่ล่านักการเมืองฝ่ายตรงข้าม  ประกาศตั้งค่าหัวให้จับใครต่อใครมาแขวนคอกันกลางสนามหลวง  แล้วมันจะปล่อยให้ฝ่ายตรงข้าม  สามารถหาเสียงตามระบอบประชาธิปไตยได้อย่างปลอดโปร่งโล่งใจ  คงเป็นไปไม่ได้อยู่แล้วแน่ๆ  ขนาดคนที่ไม่ได้เป็นศัตรูโดยตรงของมัน  มันยังคิดจะจับมาแขวนคอซะดื้อๆ  เพราะฉะนั้นถ้าหากไม่คิดจะยิงกันในวันนี้  ยังไงๆ...คงหนีไม่พ้นที่จะต้องไปยิงกันในช่วงเลือกตั้งหรือหลังจากยุบสภา  ไปเรียบร้อยแล้วนั่นแล...
             ------------------------------------------------
     ปิดท้ายด้วยวาทะวันนี้จาก   ซาบริอุส   นักรบชาวกรีก....กองทัพกวางที่นำโดยราชสีห์  ย่อมน่ากลัวกว่ากองทัพราชสีห์ที่นำโดยกวาง...
                          -----------------
http://www.thaipost.net/news/150410/20843


หัวข้อ: Re: "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: เหยง 16 ที่ 15 เมษายน 2553, 09:38:35
ตามต่อด้วย "สามวา สองศอก"

เอากฎหมู่หรือกฎหมาย
ถูกทุกข้อ 15 เมษายน 2553 - 00:00

 เรียน คุณสามวา สองศอก ที่นับถือ
     ดิฉันอดรนทนไม่ไหว  ขอแสดงความคิดเห็นบ้างจากคนไทยรักแผ่นดิน  รักในหลวงอย่างสูงสุดในชีวิต
     เราจะทิ้งให้รัฐบาลรับผิดชอบต่อการกระทำของพวกเนรคุณแผ่นดินได้อย่างไร  ในเมื่อความจริงความถูกต้องเป็นอย่างไรคนไทยรู้กันอยู่แก่ใจ  เรามีส่วนเดือดร้อนกันทุกหย่อมหญ้า  ด้วยการกระทำของกลุ่มเสื้อแดงเนรคุณ  ที่มีพฤติกรรมไม่ผิดกับซ่องโจรกบฏแผ่นดิน
     เราจะยอมให้กฎหมู่ที่เลวร้ายเหล่านี้อยู่เหนือความถูกต้องและกฎหมายหรือ?
     เมื่อรัฐออมชอมขอเจรจาเพราะเห็นเป็นคนไทยด้วยกัน  แต่เสื้อแดงเนรคุณแผ่นดินเหล่านี้เห็นแก่ใครบ้าง  เห็นแก่ความเดือดร้อนของชาติบ้านเมืองไหม  นอกจากทำการเหยียบย่ำทำลายชาติ  ทำลายกฎกติกา  ทำลายกฎหมายที่ศักดิ์สิทธิ์ของบ้านเมือง  กระทำการอุกอาจมิต่างจากอันธพาลสันดานหยาบ
     เหล่านักวิชาเกิน   (นักวิชาการที่ไม่ควรจะเป็นครูบาอาจารย์สอนใครได้)  เช่น  รศ.พวงทองแห่งจุฬาลงกรณ์  (แค่ตาย  1  คน)  ดิฉันฟังเธอพูดออกทีวีแล้วรู้สึกได้เลยว่า  น่าสงสารเยาวชนของชาติที่ต้องเรียนกับคนไร้ปัญญา  ไร้สติ  ไร้สำนึกเหล่านี้  เพราะจะให้ความรู้ที่มีอคติ  คับแคบ  แย่ๆ  ให้กับเยาวชนไทยให้โง่ลงไปทุกวัน     
     รัฐบาลต้องรับผิดชอบ    ต้องยุบสภาแสดงความรับผิดชอบ   ชอบออกมาพูดประโยคซ้ำๆ   ทำตัวประชาธิปไตยจ๋าบ้าบอ  ถามหน่อยเถอะแล้วพวกเสื้อแดงกระทำการทำลายชาติ  ทำลายโอกาสของประเทศไทย  ทำลายความเจริญรุ่งเรืองที่ชาติเราคงจะก้าวหน้าไปกว่านี้  คุณจะให้พวกมันรับผิดชอบอะไรบ้าง
     นี่คือการบังคับใช้กฎหมายให้มีความศักดิ์สิทธิ์   เมื่อรัฐเขาทำถูกต้องแล้ว   เพราะพวกนี้  ถ้าสมัยรัชกาลที่   5  ถือว่าเป็นอั้งยี่  เป็นซ่องโจร  กบฏ  ทรราช  รู้หรือเปล่าอาจารย์  แล้วถ้ายุบสภาจะได้อะไร  จะให้คนชั่วครองบ้านเมืองหรือ?
     อย่าบ้าวิชาการให้มันมากนัก  เปิดตายอมรับความจริงบ้าง  ทำแบบนี้ยังน้อยไป  ควรจัดการให้เบ็ดเสร็จ  จะได้ไม่เป็นเยี่ยงอย่างที่เลว  ถ้าคุณไม่แสดงความคิดเห็นโง่ๆ  ก็จะขอบคุณมาก  ไม่ให้ท้ายคนชั่วจนไม่ลืมหูลืมตา  ยุบสภา  ยุบสภา  พูดมาได้ไม่มีสมอง 
     วิเคราะห์เหตุการณ์บ้าง   เราจะถอยให้คนชั่วได้ใจหรืออาจารย์  หรือต้องให้  M  79  ตกหลังคาบ้านอาจารย์ก่อน  แล้วเพิ่งคิดได้ว่าบ้านกูฉิบหายแล้ว  ให้ดูกว้างๆ  บ้างนี่คือการปรามมิให้คนจัญไรเหิมเกริม  เพราะให้ปล่อยไปเป็นอันตรายต่อบ้านเมือง  ต่อชาวไทยตาดำๆ  ที่นั่งดูความกร่างและอหังการของเหล่าเดนคน 
     ถ้ายุบสภาให้พรรคเพื่อไทยจัญไรได้ครองเมือง  ดิฉันคิดว่ายอมให้มีรัฐประหารดีกว่า  จะได้ประกาศกฎอัยการศึกปราบคนจัญไรให้สิ้นซาก
     พวกเนรคุณไร้จิตสำนึกในความดีของผู้มีพระคุณ  ก็ควรจะเนรเทศออกไปจากประเทศไทย
 ภาคเหนือ   ภาคอีสาน  คุณเคยสำนึกบ้างไหมว่า  เวลายากลำบากเกิดอุทกภัย  ภัยธรรมชาติ  ใครล่ะไปคอยส่งข้าวส่งน้ำให้คุณ  น้ำไม่มีรถทหารส่งน้ำไปให้ใช้ถึงหมู่บ้าน  ไฟป่ามาเอาทหารดับไฟป่า  น้ำโขงแห้งช่วยขุดลอกคูคลอง  ทำสารพัด  หลังคาเปิดเพราะพายุ  ก็สร้างบ้านซ่อมหลังคา 
     ทหารหาญรั้วของชาติทำทั้งนั้น  แต่ไม่สำนึกในคุณความดี  เนรคุณต่อพระมหากรุณาธิคุณของพระเจ้าแผ่นดิน  กว่าท่านจะรักษาแผ่นดินไทยมานานกี่ราชวงศ์แล้ว  บุรพกษัตริยาธิราชได้สู้สร้างแผ่นดินมาให้พวกเนรคุณแผ่นดินทำลายหรือลองคิดดู
     ลองตรวจดูเถอะไอ้แกนนำ  24  คน  เคยเสียสละอะไรเพื่อชาติเพื่อแผ่นดินบ้าง  เคยช่วยขนน้ำไปให้ตอนอีสานแล้งหรือเปล่า  เคยช่วยซ่อมหลังคา  เคยส่งอาหารแห้ง  ถุงยังชีพให้หรือไม่  คิดดูซิไอ้พวกเสื้อแดงเนรคุณคิดดูบ้าง
     กรรมมีจริงนะแล้วติดจรวดด้วย   เพราะดูจากภาคเหนืออีสานซึ่งขาดการเป็นแผ่นดินธรรม  ไร้คุณธรรมดวงตาบอดมืด  ยินยอมให้ล่วงเกินสิ่งศักดิ์สิทธิ์คู่บ้านคู่เมือง  ท่านเทพเทวาเหล่านั้นจะไม่แผ่เมตตาบารมีให้  เพราะการกระทำที่ลบหลู่ต่อพระเจ้ากาวิละแห่งมหานครเชียงใหม่
     ดูซิว่าจริงไหมตอนนี้มีใครไปเที่ยวเมืองเหนือและอีสานบ้าง    จะประสบภัยพิบัติร้ายแรง   แผ่นดินไหว   พายุ  และจะแล้งเพราะขาดซึ่งคุณธรรมของผู้คน  ยังไม่สำนึกว่าตอนนี้ผลกรรมมาถึงหน้าประตูบ้านแล้ว  บางคนมัวแต่มาชุมนุมบ้านพัง  ไฟไหม้บ้าน  ยังไม่รู้ว่านี่คือกรรมจากการทำลายบ้านเกิดเมืองนอน
     นักการเมืองหรือนักโกงเมืองโกงชาติบางคน  ที่มีเงินเป็นร้อยล้านพันล้านยังเงินหมด  ต้องมาขายตัวขายชาติ   เพราะประกาศขายบ้าน   ขายคอนโด  ขายทรัพย์สินส่วนตัวแบบหลบๆ   ซ่อนๆ  กลัวคนรู้  เลยมาเข้าพรรคเพื่อไทยอีกครั้งอย่างไร้ศักดิ์ศรี  เพื่อเอาตัวรอด  จนตอนนี้อายุก็ใกล้จะเข้าโลงอยู่แล้ว  ยังไม่สำนึกถึงกฎแห่งกรรม   
     ทรัพย์ที่ได้มาเป็นของร้อน   ก็จะถูกลูกหลานผลาญหมด  ยังมาลอยหน้าลอยตาพูดไม่รู้เรื่อง  นี่แหละขายชาติตัวพ่ออีกตัว  เราจะยอมให้คนแบบนี้มาลอยหน้าแสดงความคิดเห็นเรื่องบ้านเมืองอีกหรือ?   ควรไล่ให้มันออกไปจากประเทศไทย  ไร้ที่อยู่เหมือนตัวพ่อตัวใหญ่ที่ใกล้จะเหลือแต่วิญญาณ  เตรียมลงนรก  เพราะพวกนี้อยู่ไปก็รกโลกรกแผ่นดิน
     ไอ้คนจัญไร  24  คน  มีใครได้ทำประโยชน์เพื่อแผ่นดินบ้าง  นอกจากอยู่เพื่อหลอกเงินทักษิณมาเข้ากระเป๋า  หลอกคนโง่ๆ  ที่พร้อมจะขายชาติ  เนรคุณแผ่นดิน  เพื่อแลกกับความสุขสบายจากเงินของคนโกงชาติ  เลยหลั่งไหลมารวมกันเรียกว่า  ฝนตกขี้หมูไหลคนจัญไรมาพบกันรวมกันเนรคุณแผ่นดิน
     ดิฉันรังเกียจพวกมือถือสากปากถือศีล  เอาตัวรอดเห็นแก่ประโยชน์ส่วนตัวมากกว่าประเทศ
ชาติ  ขอฝากไปถึงคุณบรรหาร  คุณชวรัตน์และพรรคร่วม  อยากให้พวกคุณทำเพื่อชาติบ้าง  คุณบรรหารขอเสียทีคุณอย่ามาแทงกั๊ก  แทงอะไรต่ออะไร
     ต้องรู้ว่าถ้าคุณเป็นชาติพันธุ์มังกร  ที่มาพึ่งพระบรมโพธิสมภารจริงอย่างที่พูด  คุณต้องกล้าแสดงออกมาแถวหน้า   กล้ายืนข้างความถูกต้อง  ไม่ใช่โดนระเบิดโดนขู่หัวหด  คุณต้องเป็นคนจริงกล้าแทนคุณแผ่นดินออกมายืนอย่างผู้กล้า   อย่าถอยให้กับคนเลวคนชั่ว  คุณจะเจริญรุ่งเรือง  ประเทศไทยให้สิ่งดีๆ  แก่ตระกูลของพวกคุณอย่างมากมาย  คุณต้องเห็นแก่ความถูกต้อง  ชาติบ้านเมืองเป็นสำคัญ
     ถ้าหวังแต่ประโยชน์ส่วนตัว  คุณก็เลวไม่ต่างกัน  เราต้องการนักการเมืองที่กล้าเสียสละเพื่อชาติ  ไม่ใช่รักชาติจนน้ำลายไหล  ถ้าคุณเป็นคนจริงคุณต้องกล้าทำ  ตระกูลของคุณและพรรคของคุณจะเจริญรุ่งเรือง
     ดิฉันขอเรียกร้องให้พลังเงียบทั้งหลายต้องไม่เงียบ   ถึงเวลาที่เราต้องออกมาช่วยกันปกป้องประเทศไทย  บ้านเมืองต้องการกฎหมายที่ศักดิ์สิทธิ์  ต้องการให้ความสงบเรียบร้อยเกิดขึ้นในแผ่นดินไทย   รัฐบาลต้องไม่ยุบสภา  ทำงานต่อไปเพื่อชาติ  ทหาร  ตำรวจ  ผู้กล้าที่ปกปักพิทักษ์แผ่นดิน  ต้องร่วมใจกัน
     ดิฉันคิดว่าคนไทยรักแผ่นดินทั่วประเทศต้องออกมาต่อต้านคนชั่วอย่าปล่อยให้เหิมเกริม  ควร
ให้มีกฎอัยการศึกภาคเหนือและอีสาน  ให้ทหารตำรวจจัดการคนจัญไรเสนียดแผ่นดินได้สะดวก  จับโจรต้องจับหัวหน้าโจร  แล้วจัญไรจะหมดแผ่นดิน
     เราต้องยอมเจ็บบ้างเพื่อความสงบเรียบร้อย  และกฎหมายที่ศักดิ์สิทธิ์จะกลับคืนมา   รกคนดีกว่ารกหญ้า  แต่ถ้ารกคนจัญไรควรกวาดล้างให้สิ้น  รกหญ้าจะดีกว่ารกคนจัญไร
     ขออภัยมา  ณ  ที่นี้ด้วย  ที่บางครั้งใช้ถ้อยคำรุนแรง  แต่คุณสามวา  สองศอก  ต้องเข้าใจ   มันอัดอั้นตันใจจริงๆ  สงสารรัฐบาล  สงสารทหารของชาติ  สงสารผู้พิทักษ์สันติราษฎร์  สงสารประเทศไทย  ที่ให้คนจัญไรได้อาศัยแผ่นดิน  แต่พวกมันไม่สำนึก
                                                       ขอแสดงความนับถือ
                                                         คนไทยรักแผ่นดิน
ตอบ คนไทยรักแผ่นดิน
     ผมขออนุญาตตัดถ้อยคำที่รุนแรงออกไปบ้าง  ฟังคุณระบายความรู้สึกแล้ว  คงเหมือนกับคนไทยทั่วไปที่ต่างก็เครียดไปกับสถานการณ์บ้านเมือง
                    สะใจเสื้อแดง


เรียน คุณสามวา สองศอก
     แม้ผมจะเหวงบ้าง   แต่รับรองไม่เอ๋อ  อีกทั้งอยู่โรงพยาบาลโรคจิตตั้งสองแห่ง  สภาพจิตใจจึงเป็นปกติดีครับ
     นับแต่วันนี้ไปรัฐบาลไททานิค  ที่มีกัปตันชื่อนายอภิสิทธิ์ต้องล่มแน่ๆ  แม้เจ้าของจะเชื่อเหลือเกินว่า  รัฐนาวาลำนี้แข็งแกร่งไม่มีวันจม  และเมื่อไททานิคชนกับภูเขาน้ำแข็ง  วิศวกรผู้ออกแบบสร้างมากับมือ  ก็ต้องยอมรับทันทีว่าจมแน่  ถึงยังไงก็ต้องจมภายในสองชั่วโมงเป็นอย่างช้า
     รัฐบาลอภิสิทธิ์จะจมแน่ๆ  และคุณอภิสิทธิ์จะจมไปพร้อมกัน  ยิ่งคุณอภิสิทธิ์จะโดดลงเรือช่วยชีวิตในเวลานี้  ก็ยิ่งเสียเกียรติภูมิหมดอนาคต
     ผมบอกชัดว่าผมชื่นชมคุณอภิสิทธิ์โดยส่วนตัว  แม้ผมจะเป็นคนเสื้อแดง  และวันนี้ผมก็สงสารท่านด้วยจริงใจ  สงสารท่านเพราะท่านมีกุนซือไม่ฉลาด  ไม่ฉลาดที่มองว่าคนเสื้อแดงเป็นพวกทาสทักษิณ  เป็นพวกเห็นแก่เงิน  เป็นพวกโง่ที่ถูกล้างสมอง  เป็นม็อบรับจ้าง
     การมองแบบนี้   คือเห็นภูเขาน้ำแข็งเป็นแค่สวะลอยน้ำ  ผลที่จะเกิดจึงไม่ต้องมีข้อสงสัยในจุดจบ  เหตุการณ์มาถึงวันนี้แล้ว  ไม่ว่ารัฐบาลนี้จะทำอย่างไร  จะอ้างความชอบธรรม  อ้างกฎหมาย  ใช้กำลัง  ใช้สภา  ปลดอนุพงษ์  ประกาศกฎอัยการศึก
     ท่านมีสติปัญญาอย่างไรก็ทำไปเถิด  แต่ผลลัพธ์ก็มีเพียงประการเดียว  ก็คือมีจุดจบเหมือนเรือไททานิค  เพราะวันนี้คนเสื้อแดงคือภูเขาน้ำแข็ง  และคุณอภิสิทธิ์ก็ขับเรือชนเข้าแล้ว
                                                    ด้วยความนับถืออย่างสูง
                                                      ศรีธัญญา ณ สวนปรุง
     ป.ล.ถึงวีระ-ขอให้นำไอ้กี้และหมอเหวงส่งโรงพยาบาลศรีธัญญาด่วน!   อย่าให้มีบทบาท
อีก  ทำงานใหญ่อย่าใช้คนวู่วาม  คนต้องใช้สมอง  ถ้าใช้กำลังนอกจากควายแล้วมีอีกหลาย...
ตอบ คุณศรีธัญญา
     เห็นคุณอภิสิทธิ์เพลี่ยงพล้ำเมื่อวันเสาร์ที่   10  เมษายน  ถึงกับยกเสื้อแดงเป็นภูเขาน้ำแข็งเลยหรือครับ  ทำไมภูเขาน้ำแข็งถึงเต็มไปด้วยนักรบชุดดำ  และอาวุธสงครามมากมายอย่างนี้
                                                         สามวา สองศอก                             

http://www.thaipost.net/news/150410/20840


หัวข้อ: Re: "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: เหยง 16 ที่ 15 เมษายน 2553, 09:41:59
ตั้งแต่เช้า เส้นทางพิษณุโลก - นครสวรรค์ เพื่อเข้าตัวเมืองนครสวรรค์ไปสู่กรุงเทพ

รถยนต์กลับเข้ากรุงเทพอย่างต่อเนื่อง แต่ไม่มากเท่าเวลาเดียวกันของเมื่อวานนี้ หรือยังอาจจะเช้าอยู่ ??

ไม่ทราบว่าในรถยนต์จำนวนนั้น มีการส่งคน เสบียง ของเสื้อแดง เข้ากรุงเทพด้วยหรือไม่ !! ??





5100 emo28:win:


หัวข้อ: Re: "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: pusadee sitthiphong ที่ 15 เมษายน 2553, 11:02:41
ตวยมาอ่านเจ้า


หัวข้อ: Re: "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: Intania๑๖ ที่ 15 เมษายน 2553, 11:17:36

พลังเสื้อชมพูเยี่ยมทหารบาดเจ็บ

(http://img100.imageshack.us/img100/3826/021z.gif)
(http://img100.imageshack.us/img100/9342/023a.gif)
(http://img153.imageshack.us/img153/5658/022t.gif)
(http://img153.imageshack.us/img153/7660/012g.gif)
(http://img100.imageshack.us/img100/9550/014d.gif)
(http://img153.imageshack.us/img153/4567/016n.gif)
(http://img80.imageshack.us/img80/6560/017tw.gif)
(http://img80.imageshack.us/img80/7052/018e.gif)
(http://img80.imageshack.us/img80/3176/020b.gif)
(http://img80.imageshack.us/img80/7058/0201.gif)

ที่มา:  http://www.naewna.com/news.asp?ID=207418


หัวข้อ: Re: "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: อ้อย 14 ที่ 15 เมษายน 2553, 12:26:36
อ้างถึง
ข้อความของ prapasri AH เมื่อ 14 เมษายน 2553, 13:15:20
พี่แก้วขา

สรุปว่า ณ.วันนี้ แอ๊ะคิดว่ารัฐบาล ยังไม่ถอย ค่ะ และคงต้องใช้ นิติรัฐ

มาจัดการไม่ให้ผู้ก่อการร้ายลอยนวล

คงต้องหาทางปราบ ผู้ก่อการร้ายให้ได้ก่อน

ทหารก็ช่วย อยู่พอสมควร แต่ตำรวจ ช่วยน้อยมาก

กลไก ของมหาดไทย ไม่ค่อยทำงาน (คงเพราะทำงานไม่เป็น หรือขี้เกียจทำ อยู่เฉยๆดีกว่า)

รัฐบาลผสมก็ยังคงอยุ่  ทุกพรรค

แอ๊ะว่า ถ้าคนกรุงเทพ รวมตัวกัน ขับไล่ม๊อบ ออกไป ก้ดีนะ

เหมือนที่ชาวนางเลิ้ง เคยไล่น่ะค่ะ

แอ๊ะจะสมัครไปช่วยหนึ่งคน

เอานะพี่แอ๊ะ....เราจะไปร่วมด้วยช่วยกันแสดงเจตนารมย์อันแน่วแน่   สำคัญว่า  พี่อย่าลืม ใส่เครื่องเพชรไปด้วย เอาที่มันกะรัตน้อยหน่อยนะพี่   เอาสาวใช้หิ้วกระติกใส่ชาเย็นมะนาว  ใส่ฮีมกันแดดที่มี SPF  และ  PA++++++ นะคะ แล้วเวลาหิว เราพากันไปกินยำแซลมอนที่เกรยฮาวน์ชิดลมกันเนอะพี่เนอะ....


หัวข้อ: Re: "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: เหยง 16 ที่ 15 เมษายน 2553, 14:14:24
มีภาพจากเว็ปมาให้ชมเปรียบเทียบ

http://www.uppicf.com/images/77red_rebel.jpg

(http://img405.imageshack.us/img405/7103/red1y.jpg)


หัวข้อ: Re: "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: prapasri AH ที่ 15 เมษายน 2553, 14:25:32
เหยง
พี่แอ๊ะอยากได้ อีเเมว (ไม่ใช่อีหนู5555555555) ของ แต๋งค่ะ

ส่งให้พี่แอ๊ะด้วยนะ

อ้อย14 จ๋า

พี่แอ๊ะจะเข้ากรุงเทพ อาทิตย์หน้าเเน่นอน

ยกเว้นต้องการรวมพลก่อน จะ กระโจนไปทันที อิๆๆๆๆๆๆ


หัวข้อ: Re: "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: เหยง 16 ที่ 15 เมษายน 2553, 18:08:56
พี่แอ๊ะครับ

ส่งทาง PM ให้แล้วครับ


หัวข้อ: Re: "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: prapasri AH ที่ 16 เมษายน 2553, 08:11:53
ขอบคุณค่ะ


หัวข้อ: Re: "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: Intania๑๖ ที่ 16 เมษายน 2553, 08:26:00
http://www.facebook.com/#!/group.php?gid=108372992525155

ไปให้กำลังใจหมอตุลย์ 1 ล้านเสียง ต้านการยุบสภา ไล่ผู้ก่อการร้ายเสื้อแดง


หัวข้อ: Re: "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: เหยง 16 ที่ 16 เมษายน 2553, 09:35:34
ไทยโพสต์เช้าวันศุกร์ที่ 16 เมษายน 2553

จดหมายถึงนายกฯ (ฉบับที่ 15)
ถูกทุกข้อ 16 เมษายน 2553 - 00:00

  จดหมายถึงนายกฯ ฉบับสิบห้า
     มีคนถามความกล้าท่านอยู่ไหน
     ปล่อยเสื้อแดงเหิมเกริมทั่วถิ่นไทย
     จนทำให้แดงไปทั้งแผ่นดิน
          เขาว่าท่านมัวแต่ทำงึกงัก
          ไม่แตกหักกับลิ่วล้อของทักษิณ
          ปล่อยไพร่แดงบิดเบือนเป็นอาจิณ
          ทั้งดูหมิ่นเหยียดหยามองคมนตรี
     เสียงวิจารณ์รัฐบาลท่านหน่อมแน้ม
     เก่งการแพลมแต่ผลงานไร้ศักดิ์ศรี
     ปล่อยให้พวกกฎหมู่มาราวี
     มันย่ำยีลบหลู่กฎหมายไทย
          กล้ากล้าหน่อยได้ไหมท่านนายกฯ
          เลิกวิตกกังวลหรือหวั่นไหว
          ความเดือดร้อนเริ่มขยายกระจายไป
          ท่านต้องกล้าตัดสินใจเข้าจัดการ
     ไพร่แดงยึดผ่านฟ้า-ราชประสงค์
     คนกรุงเทพฯ เริ่มปลงน่าสงสาร
     เศรษฐกิจค้าขายแทบแหลกลาญ
     เพราะมีพวก "อันธพาล" มาย่ำยี
          จดหมายถึงนายกฯ ฉบับสิบห้า
          ท่านต้องแสดงความกล้าอย่าหน่ายหนี
          เลิกหวาดกลัวไพร่แดงคอยราวี
          ประชาชีเริ่มเบื่อ...ท่านนายกฯ
                                  สมบัติ  จันทร์จำรัส


               ยุบสภา-ยุบประชาธิปัตย์         
สวัสดีครับ คุณสามวา
     ที่คุณสามวาตอบ   จ.ม.ผมในฉบับที่แล้ว  และได้เอ่ยถึงโรงแรมรัตนโกสินทร์  ถนนราชดำเนินใกล้สนามหลวงด้วย  ทำให้ผมอดนึกถึงเรื่องราวในอดีตไม่ได้  เพราะโรงแรมแห่งนี้เป็นที่ชุมนุมเหล่ามังกรซ่อนพยัคฆ์  ของบรรดาเหล่าจอมยุทธ์ทั้งหลายเลยทีเดียว  ทั้งนักข่าว  นักเคลื่อนไหว   นักการเมือง  นักการทหาร  และที่ยังไม่รู้กันนักก็คือนักคำนวณหวย  ฮิฮิ..ที่เข้ามาใช้บริการกันทั่วหน้า  โดยใช้คอฟฟี่ช็อปของโรงแรมเป็นแหล่งรวมตัวกัน
     สมัยก่อนผมมาใช้บริการกับเพื่อนๆ  อยู่เป็นประจำ  ถ้าเป็นกลางคืนก็จะมานั่งฟังเพลงทั้งไทยและสากล  โดยเฉพาะนักท่องเที่ยวต่างชาติที่สนใจและตั้งใจฟังเพลงไทย  โดยเฉพาะเพลงลูกทุ่งที่นักร้องหญิงโชว์ลีลาการเต้นและขับร้องอย่างสนุกสนาน
     และก็มีเรื่องขันๆ  ที่ได้เจอมา  ผลจากที่ผมกับเพื่อนมานั่งกันบ่อยๆ  ทำให้รู้จักนักร้องสาวหลายคน   แฮ่แฮ่..และทำให้สนิทกัน  และถ้าคืนไหนนักร้องสาวบางคนไม่ได้พวงมาลัยจากแขกก็จะมากระซิบขอ  ให้ผมและเพื่อนติดเงินแนบพวงมาลัยไปให้  เพื่อไม่ให้นักร้องที่ได้พวงมาลัยจากแขกจริงๆ  ดูถูกว่าฉันได้  แต่เธอไม่ได้  ฮิฮิ..นี่แหละครับโลกแห่งมายา       ส่วนเหตุการณ์ที่ระทึกฝันในอดีต   จนทำให้กัปตันของคอฟฟี่ช็อปเหงื่อตก  ทั้งที่แอร์แสนจะเย็นฉ่ำ  คือการมาเยือนของผู้ยิ่งใหญ่  นักกินฟรีคุณโพธิ์เงิน  กระตุฤกษ์  ที่มานั่งสั่งอาหารและเบียร์จนเต็มโต๊ะ  และผมเสือกจำได้เลยชี้ให้กัปตันดู  จนเหงื่อแตกดังกล่าว  ฮิฮิ..
     ส่วนในช่วงกลางวัน  ก็จะมีนักการเมืองดังๆ  มารับประทานอาหารและจิบกาแฟ  เพื่อพูดคุยทางการเมืองกันอย่างออกรส   แต่คุณสามวาอาจยังไม่ทราบว่า  ที่นั่นเป็นแหล่งรวมตัวของนักคำนวณหวยระดับ  5  ดาวเลยทีเดียว  ทั้งเจ้าของหนังสือหวยดัง  นายทหาร  ข้าราชการระดับสูง  นายแพทย์และนักโหราศาสตร์  ต่างมานั่งคำนวณหวยแลกสูตรกัน  เพื่อหาเลขเด็ดในวันหยุด  หรือก่อนวันหวยออกกันเป็นประจำ  ฮิฮิ.. 
     บังเอิญผมติดตามอาจารย์โหราศาสตร์ของผมมานั่งบ่อยๆ   ก็เลยได้สัมผัสไปด้วย  พอมาเจอกันต่างคนต่างโอ้อวดในเคล็ดวิชาคำนวณหวย  เกทับใส่กันก็มี   ฮิฮิ..แต่เวลาผลออกมาถ้าหวยออกเลข  กทม. (กินทั่วเมือง)  พวกอาจารย์เหล่านี้ก็กลายเป็นอาเจียนกันเป็นแถว
     เมื่อได้สัมผัสกับจอมยุทธ์เหล่านี้   ผมก็เลยลองคำนวณกะเขาบ้าง  ตามวิชาสถิติที่ได้เรียนมา  ปรากฏว่าสมองมันเกิดโลดแล่นอย่างช่วยไม่ได้   ฮิฮิ..ก็เลยอยากประลองวิชา  ลงสนามแข่งขันการคำนวณหวยกับเขาบ้าง
     จำได้ว่าตั้งเอาไว้   4  งวด  มีอาจารย์เข้าแข่งขัน  40  อาจารย์  แต่ละอาจารย์ก็ตั้งนามปากกาของตัวเอง  อย่างเช่น  อาจารย์สามวา  ณ  ไทยโพสต์  ฮิฮิ..เป็นต้น
     ปรากฏว่าผลของการแข่งขันคราวนั้น   ผมฟลุกได้ครองแชมป์ชนะเลิศ  ได้เงินรางวัลมาก้อนหนึ่ง  (ขอโม้ซะหน่อย)  พอแข่งครั้งแรกครั้งเดียวได้แชมป์   ก็เลยเลิกแข่งเพราะกลัวเสียแชมป์   ฮิฮิ..เพราะฉะนั้นคุณสามวาอย่าแอบอิจฉาผมที่ถูกหวยบ่อยๆ
     และก็มีนายพลท่านหนึ่งมาดูดวงกับอาจารย์โหราศาสตร์ของผม  และเกิดสนใจอยากคำนวณหวยเป็นด้วยตัวของตัวเอง   ก็เลยขอร้องให้ผมช่วยสอนวิธีคิดให้  รู้สึกจะชื่อ  พล.ตรีจำลอง  แต่ไม่ใช่ศรีเมือง   เพราะพลตรีจำลอง  ศรีเมือง  แกคงไม่ชอบเล่นหวย   ชอบเล่นกะม็อบมากกว่า  ฮิฮิ..ก็จำนามสกุลไม่ได้ล่ะครับ  สอนให้ฟรีทั้งวิธีการสร้างสูตรด้วยตนเอง
     ก็เล่าสู่กันฟังให้ผู้อ่านและคุณสามวาฟังสนุกๆ   เบื่อเรื่องการเมืองตกลงกันไม่ได้ว่า  15  วัน   3  เดือน  หรือ  9  เดือน  จะยุบหรือไม่ยุบ  ไม่ยอมให้สมบัติผลัดกันชมก็เป็นอย่างงี้แหละครับ  อีกฝ่ายหนึ่งก็หนูไม่ยอมท่าเดียว  ส่วนอีกฝ่ายบอกไม่ยุบใช่ไหม  งั้นจะขอโชว์แสนยานุภาพทางถนนเพื่อยกระดับผลาญน้ำมันเล่น  ฮิฮิ..
     ถึงจะยุบวันนี้หรือพรุ่งนี้  เลือกตั้งใหม่ก็สู้ประชาธิปัตย์ไม่ได้หรอกครับ  เพราะเห็นท่านรองเทพเทือกบอก   280  ที่นั่งมาแหงๆ  แกคงรวมตัวเลขพรรคร่วมด้วยแน่เลย  ฮิฮิ..ผมก็บอกแล้วว่าม็อบเสื้อแดงสู้เขายากส์   ฝ่ายรัฐบาลมีผู้เล่นฟุตบอล  14  คน  รวมกรรมการและไลน์แมนอีก  3  ไปด้วย
     ส่วนที่น่าสนใจตรงไลน์แมน  2  ท่าน  คนหนึ่งเป็นบิ๊กป๊อก  ท่าน  ผบ.ทบ. นี่ท่านก็ดีนะครับ  (เอาใจลูกค้าไว้ก่อน)  ไม่สั่งให้ทหารปราบปรามประชาชนคนเสื้อแดง  ส่วนไลน์แมนอีกท่านคือ  ท่านเติ้งเสี่ยวหาร  อดีตนายกฯ  ก็ยังยิ้มแหยๆ  ถือธงไว้แน่น   แม้จะโดนเอ็ม  67  ปาใส่หน้าบ้านก็แล้ว  แกก็ยังเป็นผู้ใหญ่เฉย
     แถมยังบอกข้อคิดน่าสนใจว่า  ถ้าไม่แก้รัฐธรรมนูญว่าด้วยการยุบพรรค  ก็ไปร่วมกับพรรคเพื่อไทยลำบาก   เดี๋ยวโดนยุบพรรคอีกรอบ  และจะอดอยากปากแห้งไปอีกนาน  ฮิฮิ..ถ้าเป็นฝ่ายค้าน     
     ส่วนกรรมการเป่านกหวีดก็เป็นตุลาการภิวัตน์  จะไปสู้เขาได้อย่างไงล่ะครับ  ขนาดพันธมิตรฯ  ชุมนุม  193  วัน  ยังมีตัวช่วยถึงชนะได้  ส่วนพวกเสื้อแดงไม่มีตัวช่วย  จะอาศัยเอ็ม  79  เอ็ม  67  ลอยไปลอยมาก็คงไม่ไหว  ฮิฮิ..
     ผมก็เลยคิดว่าน่าจะถอยไปตั้งหลัก  แบบที่คุณสุรชัยจากแดงสยอง  เอ้ย!  แดงสยาม  กับ  พล.อ.พัลลภบอกน่าจะดีกว่า  สงสารชาวบ้านขึ้นมาชุมนุมจนเพลีย  เดี๋ยวขับรถกลับบ้านจะเกิดอุบัติเหตุเสียชีวิตไปอีก  ลองปล่อยให้เฮียเหลิมดาวเทียมออกมาวาดลวดลายในสภาบ้างน่าจะดีกว่า
     ส่วนม็อบก็ต้องพักรบไปก่อน  ลูกผู้ชาย  10  ปี  20  ปี  ล้างแค้นยังไม่สาย  แต่ยุบสภา  9  เดือน  เขาว่ามันสายไปนะ  ฮิฮิ..ม็อบเมื่อสลายกลับบ้านไปเล่นสงกรานต์  ก็หมั่นซ้อมปืนปลอมฉีดน้ำเล่นคลายร้อนไปก่อน  กลับมาใหม่ให้เอาปืนจริงมาด้วย  เอ้ย!  พูดเล่น  มือเปล่า  สงบและสันติ  อหิงสา  ฮิฮิ..อย่าใจร้อน  ต้องอดเปรี้ยวไว้กินหวาน     ขอจบเทศนาสอนจระเข้ว่ายน้ำไว้เพียงแค่นี้ก่อน  สามเกลอหัวแข็งจะด่าแม่เอา  ส่วนคนเสื้อแดงที่ยังไม่อยากกลับบ้าน   บอกจะอยู่เล่นน้ำสงกรานต์กับคนกรุงเทพฯ  ต่อก็ว่ากันไปล่ะครับ  เห็นมีข่าวว่าอดีตนายกฯ  ทักษิณจะกลับมาเล่นสงกรานต์ที่ผ่านฟ้าฯ  ด้วย  ฮิฮิ..
     ส่วนท่านนายกฯ  มาร์คพูดเรื่องลูก  5  คน  ถ้าตามใจลูก  1  คน  จะเอา  4  คนไปไว้ไหน  วันก่อนผมเอานาฬิกาไซโก้เช้าโก้เย็นแก้  ไปซ่อมแถวเยาวราช  แปลกใจที่ช่างซ่อมซึ่งเป็นคนจีนเปิดโทรทัศน์ช่องแดงอยู่  ก็เลยถามดูว่าเถ้าแก่แถวเยาวราชนี่  เขานิยมดูช่องเหลืองกันมิใช่หรือ   และเป็นฐานเสียงอันแข็งแกร่งของพรรคประชาธิปัตย์  ทำไมถึงมาดูช่องแดงล่ะ     
     แกก็เลยบอกว่าโอ้ย!   เดี๋ยวนี้เขามาดูช่องแดงกันแล้วทั้งนั้น  ฮิฮิ..เพราะฉะนั้นท่านนายกฯ  อภิสิทธิ์ช่วยดูลูกอีก  4  คนด้วยให้ดี  เดี๋ยวจะเห็นด้วยกับลูกคนเดียวไปเสียหมดเดี๋ยวจะยุ่ง
     ส่วนอาจารย์เจิมศักดิ์กับอาจารย์เสรี  ที่จับคู่กันพูดเรื่องไพร่ทางช่อง  11  ผมเองก็เป็นไพร่เหมือนกัน  แต่เป็นไพร่ฟ้าประชาชี  ที่ไม่ชอบเล่นไพ่ล่ะครับ  ก็ลาไปด้วยเพลงคู่ที่ว่า  "จริงรึ  จริงซิ  อย่ายั่วนะ  ไม่ยั่วซิ  อย่าอวดดี  จะอวดดี"  ฮิฮิ..
                                                       ขอแสดงความนับถือ
                                                         นายผีตองเหลือง
ตอบ คุณผีตองเหลือง
     จดหมายคุณส่งมาก่อนวันที่   10  เมษายน  ก็เลยวิเคราะห์ไม่ทันกับสถานการณ์บ้านเมืองที่เปลี่ยนแปลงแทบจะทุกชั่วโมง  ตอนนี้คุณอภิสิทธิ์  เวชชาชีวะ  ต้องรับศึกหนัก  ทั้งเรื่องที่ถูกพรรคร่วมรัฐบาลบีบให้ยุบสภา  และเรื่องที่  กกต.มีมติให้ยุบพรรคประชาธิปัตย์
                                                         สามวา สองศอก   

 http://www.thaipost.net/news/160410/20885


หัวข้อ: Re: "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: เหยง 16 ที่ 16 เมษายน 2553, 09:37:25
มุมจบของสถานการณ์
ท่านขุนน้อย 16 เมษายน 2553 - 00:00

   ความชุ่มฉ่ำของการสาดน้ำวันสงกรานต์...ระหว่าง  14-15  เมษายน  คงพอช่วยลดอุณหภูมิบรรยากาศอันเร่าร้อน  โหดเหี้ยม  อำมหิต  ของเหตุการณ์วันที่  10  เมษายนลงได้บ้างนิดๆ  แต่ก็อย่าถึงกับไปละเมอเพ้อพกว่าทุกสิ่งทุกอย่างจะหวนกลับไปสู่ความสงบเรียบร้อย  การยอมรับกฎ  ระเบียบ  กติกา  ในสังคมกันง่ายๆ  ท่ามกลางความเงียบสงบในช่วงระยะนี้  ก็ยังคงเป็นไปในแบบ  เงียบสนิท  ศิษย์ส่ายหน้า  อยู่เช่นเดิม...หรือเป็นความเงียบที่ปรากฏในระหว่าง  การพักรบชั่วคราว  เท่านั้นเอง...
                 ----------------------------------------
     บรรดาชาวม็อบเสื้อแดงนั้น...ก็ยังคงแสดงออกถึงความเหิมเกริม  อหังการ  อย่างเป็นปกติ  นอกจากจะประกาศปิดโต๊ะเจรจาแบบเบ็ดเสร็จเด็ดขาด  แถมยังประกาศตั้งค่าหัวใครต่อใครให้เป็นที่เอิกเกริก  ครื้นเครง  ข้อเรียกร้องให้ยุบสภาแบบฉับพลันทันที  รวมทั้งให้นายกรัฐมนตรีต้องเดินทางออกนอกประเทศ   ย่อมไม่ได้มีส่วนทำให้บรรยากาศความเป็นไปในบ้านเมือง  มีแนวโน้มไปในทางที่ดีเอาเลยแม้แต่น้อย  เพราะขนาดยังไม่ทันจะยุบสภาเลือกตั้งใหม่ให้เป็นเรื่องเป็นราวตามข้อเสนอ  รัฐมนตรีที่ไม่รู้อีโหน่อีเหน่อย่าง  ครูแก้ว-ศุภชัย โพธิ์สุ  แค่กลับไปเยี่ยมบ้านรดน้ำสงกรานต์เท่านั้น  ยังถูก  กองกำลังไม่ทราบฝ่าย  ที่จะเป็นแดงเทียม  หรือแดงแท้ก็ไม่รู้...ไล่ชก  ไล่ต่อย  จนต้องล้มคว่ำคะมำหงายต่อหน้าต่อตาชาวบ้านชาวช่องกันเห็นๆ...
                 -----------------------------------------
     การยุบสภาโดยฉับพลันทันที  หรือในช่วง  3  เดือน  6  เดือนนับจากนี้...มันจึงไม่ได้ถือเป็น  คำตอบสุดท้าย  อันจะนำมาซึ่งความสงบเรียบร้อยในบ้านเมือง  และการอาศัย  การเมือง  เข้าไปแก้ปัญหาการเมือง  ย่อมทำไม่ได้อยู่แล้วแน่ๆ  ตราบใดที่  การก่อการร้าย  หรือการปฏิเสธที่จะยอมรับตัวบทกฎหมายยังคงปรากฏให้เห็นโดยชัดเจน  ด้วยเหตุนี้...ยังไงๆ  ก็คงเลี่ยงไม่ได้ที่จะต้องอาศัย  การทหาร  และ  การตำรวจ  เข้าไปขจัดปัดเป่า  คลี่คลายปัญหาการก่อการร้าย   การเหยียบขยี้  ทำลายตัวบทกฎหมาย  ซึ่งนับวันจะยกระดับขยายวงจนชักจะกลายเป็น  การกบฏภายในราชอาณาจักร  ยิ่งขึ้นทุกที  เพื่อให้ทุกสิ่งทุกอย่างหวนกลับมาสู่สภาวะปกติซะก่อน  หลังจากนั้นใครจะจับเข่าเจรจา  กดดัน  ต่อรอง  อะไรต่อมิอะไรไปตามใจปรารถนาของตัวเอง...ก็แล้วแต่จะว่ากันไปตามสภาพ...
                -------------------------------------------
     ภายใต้สภาพเช่นนี้นี่เอง...ความจำเป็นที่จะต้องหาทาง   ฟื้นฟูกำลัง   เพื่อนำไปสู่การ  ฟื้นฟูกฎหมาย  จึงเป็นสิ่งที่มิอาจหลีกเลี่ยงได้  ท่ามกลางความเงียบซึ่งปรากฏขึ้นมาในช่วงระยะสั้นๆ  ประมาณวันสองวันที่ผ่านมานี้  จึงอาจถือได้ว่าเป็นช่วงเวลาแห่งการฟื้นฟูกำลังของทั้งสองฝ่าย  ทั้งฝ่ายที่พยายามจะบังคับใช้กฎหมาย  และฝ่ายที่พยายามดิ้นรนปฏิเสธตัวบทกฎหมาย  ที่นับวันได้เพิ่มขีดความสามารถของตัวเอง  ถึงขั้นงัด  กฎหมู่  มาบังคับใช้กับชาวบ้านชาวช่อง  สื่อมวลชน  ฯลฯ  ตลอดไปจนถึงฝ่ายตรงข้ามทุกกลุ่ม  ทุกฝ่าย  อย่างหนักหน่วง  รุนแรง  มากขึ้นทุกที...และไม่ว่าฝ่ายใดจะบรรลุเป้าหมายตามวัตถุประสงค์ของตัวเองก็แล้วแต่  สิ่งที่มิอาจปฏิเสธได้ก็คือ...การกระทบกระทั่งและความสูญเสีย  ย่อมต้องปรากฏให้เห็นในระหว่างทั้งสองฝ่ายอย่างไม่อาจฝ่าฝืนความจริงได้โดยเด็ดขาด...
               --------------------------------------------
     สำหรับฝ่ายผู้ซึ่งมี  หน้าที่รับผิดชอบ  โดยตรง...ในการฟื้นฟู  รักษา  ความศักดิ์สิทธิ์ของตัวบทกฎหมายให้ปรากฏขึ้นมารองรับ  การอยู่ร่วมกันโดยสันติ  ของสังคมส่วนรวมให้จงได้  เมื่อมาถึงขั้นนี้...น่าเชื่อว่า  นายกรัฐมนตรี  อภิสิทธิ์  เวชชาชีวะ  ในฐานะศูนย์กลางการบังคับบัญชาสูงสุด  ยังคงไม่ถึงกับ  ถอดใจ  ง่ายๆ  เพียงแต่อาจต้องใช้เวลาในการปรับกำลัง  ปรับจิตปรับใจ  ปรับความคิดความรู้สึก  ระหว่างฝ่ายนโยบายกับฝ่ายปฏิบัติการให้มันเข้าร่อง  เข้ารอย   เพื่อให้เกิดเอกภาพและเกิดศักยภาพสูงสุด  กำลังใจจากทุกฝ่ายที่หลั่งไหลมาจากทุกๆ  ภาคส่วนของสังคม  ก็คงไม่ต่างไปจาก  ต้นทุนก้อนสุดท้าย  ที่ถ้าหากไม่นำเอาสิ่งเหล่านี้ไปใช้ได้อย่างเป็นมรรคเป็นผล  ไม่ใช่แค่ตัว  อภิสิทธิ์  เท่านั้นที่จะอยู่ไม่ได้  แต่สังคมทั้งสังคม  ประเทศชาติทั้งประเทศ  ก็คงถึงกาลพินาศฉิบหายไปพร้อมๆ  กัน...
               --------------------------------------------
     อย่างที่กล่าวเอาไว้แล้วนั่นแหละว่า  ในแง่  ยุทธศาสตร์  รัฐบาลและนายกรัฐมนตรีได้เดินถูกทางมาแล้วโดยตลอด  ไม่ว่าการเปิดกว้าง  การยอมรับความแตกต่าง  การให้ความเคารพต่อสิทธิ  เสรีภาพ  ตามระบอบประชาธิปไตย  หรือกระทั่งการให้ค่ากับสันติวิธี  และเมตตาธรรม  ด้วยเหตุนี้ความผิดพลาดในแง่  ยุทธวิธี  นั้น...ย่อมสามารถปรับได้  แก้ได้  ไปตามสถานการณ์ที่เป็นจริง  ตราบใดที่ยังคงมุ่งมั่นต่อการบรรลุเป้าหมาย  อุปสรรคขัดขวางใดๆ  ก็แล้วแต่  ไม่น่าจะถึงกับสามารถ  ทัดทาน  ถ่วงรั้ง  การตัดสินใจที่อาศัยความถูกต้อง  ชอบธรรม และความบริสุทธิ์ใจเป็นที่ตั้ง  แม้ว่าการตัดสินใจนั้นๆ  อาจนำมาซึ่งความสูญเสียอันมิอาจหลีกเลี่ยงได้  แต่ด้วย  ธรรมะ  และ  ความชอบธรรม  นั่นเอง...ที่จะเป็นตัวอธิบายทุกสิ่งทุกอย่างได้อย่างครบถ้วนสมบูรณ์...
              -----------------------------------------------
     ต่างไปจากผู้ซึ่งพยายามปฏิเสธกฎหมาย  ตลอดไปจนถึงกฎระเบียบใดๆ  ทั้งสิ้น...แม้นจะสามารถงัดเอา  ยุทธวิธี  อันสลับซับซ้อน  โหดเหี้ยม  อำมหิต  ผิดมนุษย์มนา  เข้ามาตอบโต้รัฐบาลโดยไม่ได้รู้สึก  รู้สา  ถึงความสูญเสียใดๆ  เอาเลยแม้แต่น้อย  โดยเฉพาะผู้ที่ถูกถือเป็นฝ่ายตรงข้ามของตัวเอง  ทั้งๆ  ที่เจ้าหน้าที่ทหารแต่ละราย  ก็ล้วนแล้วแต่เป็น  มนุษย์  เช่นเดียวกับตัวเอง  มิหนำซ้ำอาจเคยเป็นอดีตลูกน้อง  อดีตผู้อยู่ใต้การบังคับบัญชา  เป็นสายเลือด  จปร.ด้วยกันมา  แต่การยิงระเบิด  กราดอาวุธสงครามเข้าใส่  แถมยังเล็งเป้าเด็ดหัวเจ้าหน้าที่รายหนึ่งรายใดเป็นการเฉพาะ  แม้นจะถือเป็นความสำเร็จในแง่ยุทธวิธี  แต่ในแง่ยุทธศาสตร์แล้ว  มันไม่ได้สะท้อนให้เห็นถึงธรรมะ  ความถูกต้อง  ชอบธรรม  หรือเป็นการแสดงออกในหนทางประชาธิปไตยใดๆ  ทั้งสิ้น  ด้วยเหตุนี้...ไม่ว่าจะปรับกำลัง  รวมกำลังเอาไว้ในแบบไหน?  อย่างไร?  ความพ่ายแพ้ในทางยุทธศาสตร์  ย่อมนำไปสู่ความพ่ายแพ้ทุกสิ่งทุกอย่างในช่วงเวลาอีกไม่ใกล้  ไม่ไกล  อย่างไม่พึงต้องสงสัย...
              -----------------------------------------------
     ขณะที่เหตุการณ์กำลังพัฒนาไปสู่  มุมจบ  อันไม่อาจคาดเดาได้  หรือไม่อาจเป็นไปตามความปรารถนา  ความต้องการของผู้คนทุกๆ  ฝ่ายในสังคมได้ด้วยกันทั้งหมด  เนื่องจากมันย่อมขึ้นอยู่กับ  ปฏิสัมพันธ์  ระหว่างฝ่ายทั้งสองที่จะเป็นตัวกำหนดความหนัก  ความเบา  ของสถานการณ์ไปตามเนื้อหาความเป็นจริง  สิ่งที่สังคมควรจะต้องทำความเข้าใจเอาไว้ซะก่อนก็คือ...บทสรุปของสถานการณ์ครั้งนี้  แท้ที่จริงก็คือการพิสูจน์  ตัดสิน  ระหว่างความถูกกับความผิด  ระหว่างธรรมะกับอธรรม  ระหว่างผลประโยชน์ส่วนตัวของบุคคล  หรือกลุ่มบุคคล  กับผลประโยชน์ส่วนรวม   หรือผลประโยชน์ของประเทศชาติ   ด้วยเหตุนี้ภายใต้ความหนักเบาของสถานการณ์  ซึ่งยากเหลือเกินที่จะหลีกเลี่ยงความสูญเสีย....เราทั้งหลายคงต้องเตรียมใจ  และทำใจเอาไว้ก่อนล่วงหน้า...
         ---------------------------------------------------------
     ปิดท้ายด้วยวาทะวันนี้จาก  ซิเซโร  นักปราชญ์ชาวโรมัน...จุดมุ่งหมายของสงคราม  คือ...ความสามารถที่จะดำรงชีวิตอยู่ได้โดยไม่ถูกทำร้ายในยามสงบ...

http://www.thaipost.net/news/160410/20886


หัวข้อ: Re: "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: หนุน'21 ที่ 16 เมษายน 2553, 11:35:56


สวัสดีครับพี่แอ๊ะ พี่ปรีชา พี่อ้อย  พี่วณิชย์ พี่เหยง น้องหะยี และพี่น้องทุกท่าน
เข้ามาตาม อัพเดทข้อมูลครับ
ขอบคุณพี่เหยง พี่วณิชย์และทุกท่านมาก
ที่ช่วยกันเผยแพร่ข่าวสารความจริงครับ



 emo6::))


หัวข้อ: Re: "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: เหยง 16 ที่ 16 เมษายน 2553, 19:03:18
อีกหนึ่งบรรยากาศของสารพัดสีเสื้อ(ยกเว้นสีแดง) ที่นำโดยหมอตุลย์ ที่หน้า ราบ 11 ในวันนี้

'ป๋าเทพ'โผล่แจมเสื้อชมพู อ้างรำคาญม็อบแดง

"เทพ โพธิ์งาม" โผล่แจมเสื้อชมพู โดดขึ้นเวทีปราศรัยติดตลก "ออกมาซื้อข้าวมันไก่เลยแวะมาที่นี่ เห็นข่าวแล้วรำคาญกลุ่มเสื้อแดง จึงออกมาแสดงพลัง" เรียกเสียงหัวเราะจากผู้ชุมนุม...

ผู้สื่อข่าวรายงานเมื่อวันที่ 16 เม.ย. ภายหลังจากตัวแทนกลุ่มพลเมืองอาสาปกป้องแผ่นดิน ได้ยื่นหนังสือถึงรัฐบาล และกองทัพ แนวร่วมกลุ่มพลเมืองอาสาปกป้องแผ่นดิน ที่อยู่บนเวทีปราศรัยบนรถสิบล้อ ได้นำประชาชนร้องเพลงบางระจัน และเพลงอยุธยา เพื่อแสดงถึงความรักชาติด้วย

ต่อมา นพ.ตุลย์ สิทธิสมวงษ์ ผู้ประสานงานกลุ่มพิทักษ์ชาติ กล่าวบนเวทีกับประชาชนหลังการยื่นหนังสือว่า นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ได้ตอบผ่านมายังนายปณิธาน วัฒนายากร รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรี ปฏิบัติหน้าที่โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ว่าขอขอบคุณกำลังใจจากประชาชนทุกคน ซึ่งตนเชื่อว่าเมื่อนายกรัฐมนตรีทราบว่าพวกเรามีกำลังใจให้ คงจะเดินหน้าทำงาน และทำให้ความสงบสุขกลับมาอย่างแน่นอน พร้อมกับนัดหมายประชาชนให้ไปพบกันที่อนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ ในวันที่ 17 เม.ย.นี้ เวลา 16.00 น.

จากนั้น โฆษกบนเวทีได้ประกาศบนเวทีว่าขอให้แกนนำพันธมิตรทุกจังหวัด ไปพบกันที่มหาวิทยาลัยรังสิต ในวันที่ 18 เม.ย.นี้

ต่อมาบรรยากาศการชุมนุมเป็นไปอย่างผ่อนคลาย โดยมีวงดนตรีแฮมเมอร์มาขับร้องเพลง และในเวลา 12.30 น. "เทพ โพธิ์งาม" ศิลปินตลกชื่อดัง ที่มาร่วมชุมนุมด้วย ได้ขึ้นเวทีกล่าวปราศรัยอย่างติดตลกว่า บังเอิญว่าตนออกมาซื้อข้าวมันไก่เลยแวะมาที่นี่ และประกอบกับเห็นข่าวแล้วรำคาญกลุ่มคนเสื้อแดง จึงออกมาแสดงพลังด้วย ซึ่งการปราศรัยของเทพ โพธิ์งาม ได้เรียกเสียงหัวเราะจากผู้ชุมนุมอย่างมาก.

http://www.thairath.co.th/content/ent/77147


หัวข้อ: Re: "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: swsm ที่ 16 เมษายน 2553, 19:10:51
น่ารักจัง ..    emo43


หัวข้อ: Re: "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: prapasri AH ที่ 16 เมษายน 2553, 19:13:53
"เทพ โพธิ์งาม" โผล่แจมเสื้อชมพู โดดขึ้นเวทีปราศรัยติดตลก "ออกมาซื้อข้าวมันไก่เลยแวะมาที่นี่ เห็นข่าวแล้วรำคาญกลุ่มเสื้อแดง จึงออกมาแสดงพลัง" เรียกเสียงหัวเราะจากผู้ชุมนุม...

เทพ โพธิ์งาม น่ารักจังงงงงงงงงงงงงง

ไม่เหมือน ใครหลายคน ฮึๆๆๆๆ


หัวข้อ: Re: "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: เหยง 16 ที่ 16 เมษายน 2553, 21:36:57
นายกฯอภิสิทธิ์ กำลังออกรายการที วี และแจ้งเปลี่ยนตัวหัวหน้าผู้รับผิดชอบจาก "เทพเทือก" เป็น "พลเอกอนุพงษ์"


หัวข้อ: Re: "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: swsm ที่ 16 เมษายน 2553, 21:50:51
อ้างถึง
ข้อความของ เหยง 16 เมื่อ 16 เมษายน 2553, 21:36:57
นายกฯอภิสิทธิ์ กำลังออกรายการที วี และแจ้งเปลี่ยนตัวหัวหน้าผู้รับผิดชอบจาก "เทพเทือก" เป็น "พลเอกอนุพงษ์"

แม้จะไม่ค่อยมั่นใจ .. แต่ก็ขอภาวนาให้ได้ผลทีเถอะ ..    emo30:sorry:


หัวข้อ: Re: "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: หนุน'21 ที่ 16 เมษายน 2553, 23:07:00
อ้างถึง
ข้อความของ prapasri AH เมื่อ 16 เมษายน 2553, 19:13:53
"เทพ โพธิ์งาม" โผล่แจมเสื้อชมพู โดดขึ้นเวทีปราศรัยติดตลก "ออกมาซื้อข้าวมันไก่เลยแวะมาที่นี่ เห็นข่าวแล้วรำคาญกลุ่มเสื้อแดง จึงออกมาแสดงพลัง" เรียกเสียงหัวเราะจากผู้ชุมนุม...

เทพ โพธิ์งาม น่ารักจังงงงงงงงงงงงงง

ไม่เหมือน ใครหลายคน ฮึๆๆๆๆ

พี่แอ๊ะครับ...
ป๋าเทพ โพธิ์งาม  เป็นตลก  ขายเสียงหัวเราะ...น่ารักมาก
ไอ..เจ๋ง ดอกจิก   เป็นตลก  ขายชาติ           ...น่ารังเกียจ
ไม่รู้ใครเป็นสายให้ตำรวจ..ทำให้มันหนีไปได้ ที่ SC Park อ่ะครับ





หัวข้อ: Re: "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: prapasri AH ที่ 17 เมษายน 2553, 10:12:11
ก้ sc park เป้นของตระกูลชิน สายลับ คงมีทั้งโรงเเรม พวกนี้เลยไปพักที่นั่นไม่ต้องเสียเงินด้วย

แต่เดิม sc park เป้นของพี่พีระพงศ์ ถนอมพงศ์พันธุ์ เพื่อนพี่หาญ และน่าจะเป็นเพื่อนพี่ปรีชาด้วย

ตอนหลัง ขายให้คุณทั๊ก ไป 700 กว่าล้าน พี่พีระพงศ์ เลยสบายใจเฉิบบบบบบ


หัวข้อ: Re: "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: swsm ที่ 17 เมษายน 2553, 10:14:59
จึงกลายเป็นศูนย์บัญชาการด้วยซะเลย .. ใช้ประโยชน์ให้คุ้มค่าเงินที่จ่ายไป    emo49:))


หัวข้อ: Re: "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: swsm ที่ 17 เมษายน 2553, 10:39:32
ศูนย์บัญชาการคงทำแต่ทางขึ้น ..  emo47  .. เพราะตอนลง  ต้องลงอย่างงี้



Not
the
First
Time
He
Climb ?




(http://img145.imageshack.us/img145/3658/24152413545021517637561.jpg)


หัวข้อ: Re: "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: suriya2513 ที่ 17 เมษายน 2553, 11:00:14
กลับมาจากสงกรานต์จันทบุรี
แปลกใจ กระทู้การเมืองหายไปไหนหมด
หาอยู่แทบตาย
หลบมาอยู่กันที่บ้านคุณนายแอ๊ะนี่เอง
จะให้วค.ย้ายกระทู้ไปอยู่ห้องการเมืองให้ไหมครับ
คอการเมืองจะได้ตามอ่านได้สะดวก


หัวข้อ: Re: "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: prapasri AH ที่ 17 เมษายน 2553, 11:02:43
คั่นรายการร้าย สาระ บ้างนะ[/color]


ทำไงดี 15 ปีที่แล้วพี่แอ๊ะส๊วยยยยยยยยสวย แต่ไม่ใช่ขั้นเทพ นะเด่วหาว่า หลงตัวเอง

บังเอิญไปเปิดรูปเจอ

กลุ้มใจตอนนี้ ใช้เตรื่องสำอาง เป็นแสนๆๆๆ แล้ว หนีไม่พ้น ความแก่ อนิจจังวัตตะสังขารา

(http://img88.imageshack.us/img88/6404/scan0016xl.jpg)


หัวข้อ: Re: "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: prapasri AH ที่ 17 เมษายน 2553, 11:03:49
ห้องนี้เป้น ห้องการเมืองชั่วคราว จ้า


หัวข้อ: Re: "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: swsm ที่ 17 เมษายน 2553, 11:05:59
อ้างถึง
ข้อความของ suriya2513 เมื่อ 17 เมษายน 2553, 11:00:14
กลับมาจากสงกรานต์จันทบุรี
แปลกใจ กระทู้การเมืองหายไปไหนหมด
หาอยู่แทบตาย
หลบมาอยู่กันที่บ้านคุณนายแอ๊ะนี่เอง
จะให้วค.ย้ายกระทู้ไปอยู่ห้องการเมืองให้ไหมครับ
คอการเมืองจะได้ตามอ่านได้สะดวก



ไม่รู้พี่ป่องถามใคร .. แต่อยากตอบค่ะ .. นะคะ

พี่ป๋องคะ  เมื่อเราคุยเรื่องการเมืองก็ไม่ได้หมายความว่า ต้องออกไปคุยที่สี่แยกราชประสงค์หรือราบ 11 เสมอไป
บางครั้ง เราก็นั่งคุยกันบนโต๊ะอาหาร ในบ้าน หรือในร้านอาหาร  กับคนคอเดียวกัน ก็ดีนะคะ

หยีคิดอย่างนี้นะคะ .. ด้วยความเคารพค่ะ


หัวข้อ: Re: "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: อ้อย 14 ที่ 17 เมษายน 2553, 11:06:04
 emo30:sorry:ได้อ่านข้อความที่มีคนโพสต์ลงเวบอื่น   อ่านแล้ว มีความรู้สึกเศร้าใจ ยิ่งเฉพาะเขากล่าวถึงในหลวง ....ลองอ่านกันดูนะ emo30:sorry:


                 สื่อต่างประเทศเขาลงข่าวของประเทศไทย เรื่องที่ม็อบเสิ้อแดงมาชุมนุมโดยการได้รับเงินค่าจ้างจาก พวก ทักษิณเป็นจำนวนเงินที่น้อยมากถ้าเทียบกับค่าสุราอาหารที่พวกเขาจ่าย เที่ยวและดื่มกินต่อหัวต่อวัน ในสถานเริงรมย์ของบ้านเขา ก็สามารถจ้างคนไทยให้มากดดัน ปลุกม็อบ ก่อการจราจล ข่มขู่รัฐบาลให้ยอม ลาออก ยุบสภา ยอม ยกโทษให้คน โกงบ้านเมืองของตัวเอง และยอมให้เขากลับมา เปลี่ยนแปลงระบบการปกครอง ของประเทศไทยมาดำรงตำแหน่งผู้นำ ประเทศไทย ปกครองบริหาร ประเทศไทยต่อไป

                 โดยเสมือนว่าทักษิณไม่เคยทำผิดอะไร นั่นเป็นการแสดงให้ต่างชาติเขารู้ว่า ถ้าพวกคุณมีเงินจ่ายก็สามารถ สั่งให้คนไทยทำอะไรให้ได้ทุกอย่างแม้เผาบ้านเมืองของตัวเอง เพื่อช่วยเหลือคุณไม่ให้ต้องถูกลงโทษถ้า คุณมาโกงกินในประเทศไทยผมขอถามคนไทยทุกคนว่าเราจะยอมให้เป็นแบบนี้หริอ

                 พวกคุณคิดจะนั่งดูอยู่เฉยๆโดย ไม่คิดแผนการอะไรที่จะช่วยกันปกป้องประเทศไทย ให้พ้นจากความหายนะจากการกระทำของพวก ทักษิณเลยหรือต่อไปลูกหลานของพวกคุณจะมีแผ่นดินอยู่อาศัย และมีอนาคตที่ดีหรือเปล่า

                 ผมได้ดูข่าวอเมริกาจับเด็กนักเรียนไทย21คนดำเนินคดี ข้อหาหลบหนีเข้าเมืองผิดกฏหมายทั้งที่เด็กไทยไปเพื่อเรียนหนังสือ ไม้ได้ไปปล้นหรือขโมยของลักทรัพย์แต่อย่างใด ทำไมเขาทำเหมือนไม่อยากให้คนไทยไปอยู่ประเทศเขาถ้าเป็นนักเรียนประเทศญี่ปุ่น อเมริกาเขาจะทำเหมือนกับนักเรียนไทยหรือเปล่าครับ ผมว่าไม่ เพราะว่าอเมริกาเขาดูว่าคนญี่ปุ่นมีความรู้ดูได้จากการไปลงคะแนนเลือกตั้ง ส. ส. มานั่งบริหารประเทศของเขา
มีวินัยที่ดีซื่อสัตย์ต่อประขาขน ทำให้ประเทศเขาเจริญและรุ่งเรืองเทียบกับประเทศไทยที่ แสดงถึงการใช้ปัญาความรู้ ความสามารถของประชาชนทั้งประเทศลงคะแนนเลือกตั้งนักการเมือง ให้มาบริหารประเทศและปกครองบ้านเมืองของตัวเอง

              แล้วเป็นอย่างไรจนถึงวันนี้ ได้นายกรัฐมนตรีที่มีเงินได้มา ในเวลาที่ตัวเองเป็นนายยก บริหารประเทศหลายแสนล้านบาท แต่ตอบสังคมไม่ได้ว่าไปโกงมาหรือเปล่าแล้วเที่ยวเอาไปซุกซ่อนไว้ในประเทศต่างๆ พอถูกจับได้ถูกกฏหมายตามรัฐธรรมนูญของประเทศลงโทษกลับหลบหนีคดีและใช้เงินที่โกงประเทศไทยไปมาจ้างปลุกระดมคนไทยให้เดินขบวนไล่ล้มล้าง รัฐบาลไทย เพื่อจะเปลี่ยนระบบการปกครองของประเทศไทย
จะร่างรัฐธรรมนูญใหม่แก้กฏหมาย ช่วยเหลือตัวเองให้พ้นผิด

               ผมคิดว่าต่างชาติเขาไม่โง่เขาดูเราอยู่ ว่าคนไทยทั้งประเทศจะทำอย่างไรผมเป็นห่วงและสงสารในหลวงมาก ผมได้ยินข่าวมาว่าในช่วงเวลาที่ผ่านมา ท่านเสด็จไปประทับอยู่ที่อำเภอหัวหินท่านจูงสนัขที่ชื่อทองแดงไปยืนอยู่ริมชายหาดและจ้องมองไปกลางหะเลอันเวิ้งว้าง อยู่เป็นเวลา ที่นานมาก จนทำให้ข้าราชการที่ติดตามพระองค์ถึงกับหลั่งน้ำตา ร้องไห้ ท่าน คงจะกำลังนึกถึงเรื่อง อนาคตของบ้านเมืองและห่วงใยประชาชนแน่นอน แต่ท่านก็ไม่รู้จะทำอย่างไรดี

            เราทุกคนก็เหมือนเจ้าของประเทศไทยทำไม ไม่คิดจะสู้กับพวกทักษิณอย่ามัวแต่มาลงข้อความในเวฟด่าท้กษืณอยู่อยู่เลยมันช่วยอะไรไม่ได้
เราต้องร่วมใจกันเสียสละ ลงมือแสดงพลังตัดท่อน้ำเลี้ยงของพวกทักษิณ มาช่วยกันรณรงค์ บอยคอตคว่ำบาตรเลิกอุตหนุนสินค้าของพวกทักษิณ หรือวิธีการอื่นที่พวกท่านเห็นว่าจะทำให้ทักษิณและ ไอ้ฮุนเซ็นลูกพี่มันรู้ว่า คนไทยทุกคนที่รักชาติและ ในหลวงพร้อมที่จะยอมสู้ตาย เพื่อทำลายคนชั่วและปกป้องประเทศ ไทย เพื่อให้ทั่วโลกเขายกย่องตลอดไป


หัวข้อ: Re: "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: swsm ที่ 17 เมษายน 2553, 11:07:27
อ้างถึง
ข้อความของ prapasri AH เมื่อ 17 เมษายน 2553, 11:02:43
คั่นรายการร้าย สาระ บ้างนะ


ทำไงดี 15 ปีที่แล้วพี่แอ๊ะส๊วยยยยยยยยสวย แต่ไม่ใช่ขั้นเทพ นะเด่วหาว่า หลงตัวเอง

บังเอิญไปเปิดรูปเจอ

กลุ้มใจตอนนี้ ใช้เตรื่องสำอาง เป็นแสนๆๆๆ แล้ว หนีไม่พ้น ความแก่ อนิจจังวัตตะสังขารา

(http://img88.imageshack.us/img88/6404/scan0016xl.jpg)

ตอนนี้พี่แอ๊ะก็ยังสวยมากนะคะ .. ดูดีมาก ๆ ๆ เลยค่ะ
โดยเฉพาะในงานแต่งงานน้องหมอต้นกล้า ..


สวย หรู ดูดี .. สมวัยค่ะ ..
    emo48:)


หัวข้อ: Re: "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: prapasri AH ที่ 17 เมษายน 2553, 11:08:31
รู้แล้วต้องทาปากสีแดงงงงงงงงงง

เมื่อคืนไปที่หน้าศาลากลาง ยโส ยังกะเลี้ยงโต๊ะจีน แน่ะ

สีแดงเต็ม พรื๊ดดดดดดดดดดดดดดดด

โต๊ะจีน สีแดง ล่วยยยยยยยยยยยยยย

มากันเต็มมมมมมมม สีแดง พนมไพร ก็มชุมนุมที่ยโส

แต่พี่แอ๊ะสนิท กับ คุณนิสิต สินธุไพรนะ

ตัวจริงน่ารักมากกกกกกกกก

แต่เกลียด อีกิ้งกือ กี้  อริสมันตร์

เมื่อก่อน ตอนเด้กๆๆๆ น้องกระต๊อบ หลงรัก  ร้องหาทุกวันโตขึ้นอยากเป็นอริสมันตร์

พี่แอ๊ะเลยรู้จักอีตาบ้านี้ มาตั้งแต่ตอนน้องกระต๊อบเด้กๆ


หัวข้อ: Re: "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: prapasri AH ที่ 17 เมษายน 2553, 11:10:16
เอ... ร้ายสาระ เขียนยังไง นะ น้อง หะยี


ไร้สาระ จึงจะถูกใช่ไหม


หัวข้อ: Re: "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: prapasri AH ที่ 17 เมษายน 2553, 11:13:26
 อ้อย14 น้องรัก ทีนี้ สินค้าเครือ ข่ายทักษินเต็มไปหมด

จะไปซื้อ จากจอ astv ก้ไม่ได้ น้องต้นบอกว่า มีคนไข้ไปทานชา ขาว ที่โฆษณา อยู่

น้ำตาลขึ้น จนหมอต๊กกะใจ


หัวข้อ: Re: "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: prapasri AH ที่ 17 เมษายน 2553, 11:35:10
อันนี้ ตรรกะ 4 ชั้น ค่ะน้องหะยี รู้กันสองคนนะอิๆๆๆ

อ้างถึง
ข้อความของ swsm เมื่อ 17 เมษายน 2553, 11:07:27
อ้างถึง
ข้อความของ prapasri AH เมื่อ 17 เมษายน 2553, 11:02:43
คั่นรายการร้าย สาระ บ้างนะ



ทำไงดี 15 ปีที่แล้วพี่แอ๊ะส๊วยยยยยยยยสวย แต่ไม่ใช่ขั้นเทพ นะเด่วหาว่า หลงตัวเอง

บังเอิญไปเปิดรูปเจอ

กลุ้มใจตอนนี้ ใช้เตรื่องสำอาง เป็นแสนๆๆๆ แล้ว หนีไม่พ้น ความแก่ อนิจจังวัตตะสังขารา

(http://img88.imageshack.us/img88/6404/scan0016xl.jpg)

ตอนนี้พี่แอ๊ะก็ยังสวยมากนะคะ .. ดูดีมาก ๆ ๆ เลยค่ะ
โดยเฉพาะในงานแต่งงานน้องหมอต้นกล้า ..



สวย หรู ดูดี .. สมวัยค่ะ ..
    emo48:)


หัวข้อ: Re: "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: prapasri AH ที่ 17 เมษายน 2553, 11:44:04
อนุพงษ์ เป้นเพื่อนรุ่นเดียวกะทักษิณ

ถ้าพี่ป๋องเป็นทักษิณ แล้วพี่แอ๊ะเป็นอนุพงษ์

พี่แอ๊ะจะ รักชาติมากว่าพี่ป๋อง หรือออออออออ

เอาไงดี ระหว่างชาติกะพี่ป่องงงงงงงงงงงง

อ้อย14  น้องหะยี พี่แอ๊ะขอคำปรึกษาค่ะ


หัวข้อ: Re: "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: เหยง 16 ที่ 17 เมษายน 2553, 11:59:19
มาอ่านบทบรรณาธิการของไทยโพสต์ในวันนี้กัน

ไม่มีอะไรภายใต้ดวงอาทิตย์นี้ ที่ตำรวจไทยทำไม่ได้ ยกเว้นไม่ทำ
บทบรรณาธิการ 17 เมษายน 2553 - 00:00

  เมื่อครั้ง  พล.ต.อ.เผ่า  ศรียานนท์  เป็นอธิบดีกรมตำรวจ  มีอำนาจล้นเหลือ  แถมประกาศศักดาให้เห็นถึงความเด็ดขาดในการใช้อำนาจอย่างเบ็ดเสร็จ  และดูเหมือนอำนาจนั้นมากล้นจนยากที่ใครจะตรวจสอบถ่วงดุล  ชะตาชีวิตของประชาชนพลเมืองอยู่แค่ปลายนิ้วในการชี้ถูก  ชี้ผิด  แต่เหล่านั้นก็คือหน้าประวัติศาสตร์ที่บอกได้ว่า  การปฏิบัติหน้าที่ของตำรวจมีความเข้มแข็ง  แข็งขัน  และได้รับเกียรติในการอยู่แถวหน้าของข้าราชการไทย  เพียงแต่เมื่ออำนาจนั้นไร้การตรวจสอบ  การลุแก่อำนาจของผู้ใช้อำนาจจึงเกิดขึ้น
     ประสบการณ์ของคนไทยต่อตำรวจนั้นอาจไม่ดีนัก  ภาพลักษณ์ของคนเสื้อสีกากีอยู่ในระดับติดลบ  อันเกิดจากการรีดไถ  เก็บส่วย  เล่นนอกเกม  แต่ใครจะรู้บ้างว่าตำรวจไทยโดยเฉพาะตำรวจระดับล่างก็น่าเห็นใจไม่น้อย   เพราะนอกจากได้รับสวัสดิการ  เงินเดือน  เบี้ยเลี้ยง  น้อยกว่าเนื้องานที่ต้องรับผิดชอบ  เพราะจำนวนตำรวจไม่เป็นไปตามสภาพประชากรแล้ว  แต่ยังต้องดิ้นรนกระเสือกกระสนเองทุกอย่าง  ซึ่งต่างจากข้าราชการในสีใกล้เคียงกันที่รัฐสนับสนุนงบประมาณให้ตั้งแต่ชุดที่เข้ารับราชการกันเลยซะทีเดียว
     จริงอยู่ว่า  เรื่องศักดิ์ศรีกินไม่ได้  การหารายได้เพื่อความเป็นอยู่ที่พอเพียง  และต้องหารายได้ให้ได้ดีขึ้นและมากขึ้น  น่าจะเป็นสิ่งที่ข้าราชการทุกสาขาอาชีพคำนึงถึง  การที่จะถวิลหาฝ่ายนโยบายหรือรัฐบาลที่ทำให้ปากท้องของเขาดีขึ้นเป็นเรื่องที่พอเข้าใจได้  แต่ก็ไม่ใช่เรื่องที่ตำรวจไทยจะประชดโดยการไม่ปฏิบัติหน้าที่กับรัฐบาลที่ไม่ทำนุบำรุงหรือดูแลสวัสดิการของตัวเอง  หรือไม่พอใจที่รัฐบาลนี้มาจากกลุ่มมวลชนที่เคยมีปัญหากับตำรวจเมื่อครั้งเหตุการณ์สลายม็อบหน้ารัฐสภามาก่อน
     ซึ่งใจลึกๆ  เรายังหวังว่าไม่ได้เป็นเช่นนั้น  หากแต่อาจเป็นแค่ความน้อยเนื้อต่ำใจที่เพื่อนข้าราชการในสีที่ใกล้เคียงได้รับการดูแลที่ดีกว่า   ไม่ได้เกี่ยวกับเรื่องนโยบายทางการเมืองที่ตัวเองพึงพอใจ  เพราะหากเป็นเหตุผลข้อหลัง  คนที่จะได้รับผลกระทบก็คือรัฐ  ไม่ใช่รัฐบาล  แต่เป็นรัฐไทยที่ประกอบไปด้วยประชาชนพลเมืองและองค์ประกอบต่างๆ  ที่รวมกันเรียกว่ารัฐ  ซึ่งแน่นอนว่า  การเชื่อถือศรัทธาต่อองค์กรตำรวจที่ทุกคนพึ่งพิงก็จะหมดไป
     เราจึงหวังว่า  ภาพตำรวจเกียร์ว่างระหว่างการชุมนุมของคนเสื้อแดง  การร่วมเป็นเสื้อแดงในการปฏิบัติการนอกกฎหมายเสียเอง  เลยไปถึงภาพตำรวจเสียฟอร์มระหว่างจับแกนนำเสื้อแดงที่โรงแรมแห่งหนึ่งกลางกรุง  จนกลายเป็นตลกหน้าม่านให้คนทั้งประเทศหัวเราะ  แต่อาจเป็นที่สะใจของคนเสื้อแดงที่ตำรวจร่วมปฏิบัติการตบหน้ารัฐบาลได้อย่างไม่เขินอาย
     กระนั้นเรายังหวังว่าที่ผ่านมา   เจ้าหน้าที่ตำรวจผู้พิทักษ์สันติราษฎร์ของไทยอาจจะกดดัน  และรู้สึกถึงความไม่เท่าเทียม   ไม่ได้คิดแค่ผลประโยชน์เฉพาะหน้า  หรือผลประโยชน์ส่วนตัวอันเกิดจากนโยบายของรัฐบาลที่หมุนเวียนเข้ามาบริหารประเทศ  เพราะหากเป็นเช่นนั้น  คนในชาติคือคนที่ได้รับผลกระทบมากที่สุด  และตำรวจจะกลายสภาพไม่ต่างจากยามที่ได้รับค่าจ้าง  ไร้หลักการ  และศักดิ์ศรี  ในการทำหน้าที่เพื่อประโยชน์แห่งรัฐและประชาชนโดยรวม.

http://www.thaipost.net/news/170410/20921


หัวข้อ: Re: "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: เหยง 16 ที่ 17 เมษายน 2553, 12:03:20
ตามด้วย คุณเปลว สีเงิน

สภาพแท้จริง "ประเทศไทย" วันนี้
เปลว สีเงิน 17 เมษายน 2553 - 00:00

  เมื่อวาน  (๑๖  เม.ย.๕๓)  สำหรับผมก็เหมือนกับทุกวัน  แต่เกิดอารมณ์ละเมียดอะไรก็ไม่รู้  อยากฟังเพลงขึ้นมาเฉยๆ  งั้นแหละ  เลยงัดแผ่น  Clair  de  lune  ของ  Debussy  ออกมาเปิดดับร้อน  จบแล้วก็ยังไม่หายร้อน  พาลถวิลถึง  Caterina  Valente  ในเพลงโปรด  Tonight  We  Love  แต่ทีนี้ยังกลางวันแสกๆ  ครั้นจะเอา  Sunrise  Sunset  ของพ่อ  Topol  มาฟังแทน  แต่ใจมันก็ยังไม่หายคันอยู่นั่นแหละ
     เลยหมั่นไส้ตัวเอง  งัดแผ่น  "ไม่ใช่แฟนทำแทนไม่ได้"  ของตั๊กแตน  ชลดา  ขึ้นมาเปิด  แล้วก็ไปแงะฝาโลงให้  "ทูล  ทองใจ"  ขึ้นมาครวญเพลง  "โปรดเถิดดวงใจ"  เป็นการตบท้าย  ยังไม่ทันจบเพลงดี  พระอาทิตย์ท่าจะจั๊กจี้  "หลุบแสง"  แดงจ้า  หายหน้าตอนเที่ยงไปเลย!
     ผมก็เลยหายร้อน  ยิ่งดูข่าวตำรวจบุกจับ  ๔  แกนนำเสื้อแดง  "อริสมันต์-สุภรณ์-เจ๋ง-พายัพ-วันชัย"   ที่หลอกชาวบ้านเสื้อแดงให้กินกลางถนน-นอนปนกองขยะ  แล้วพวกตัวเองย่องไปกินโรงแรม-นอนห้องแอร์  SC  ปาร์ค  ของทักษิณ  ย่านริมทางด่วนเอกมัย-รามอินทรา  ตอนเช้าวานแล้ว
     ใครๆ  เขาด่า  สมน้ำหน้า  ซ้ำนายตำรวจที่ไปล้อมจับ  แต่ลงท้าย  นอกจากจับไม่ได้แล้ว  ตัวเองยังถูกฝ่ายกบฏเสื้อแดงล้อมจับแทน!
     แต่สำหรับผม  ไม่ด่า  ไม่สมน้ำหน้า  ตรงกันข้าม  ขอยกนิ้วโป้งให้ว่าท่านเป็น  "ตำรวจในหัวใจ"  ผม
     มีใครบ้างล่ะ?
     ก็มี   พล.ต.ต.สุเมธ  เรืองสวัสดิ์  รองผู้บัญชาการตำรวจนครบาลเป็นหัวหน้าทีม  ลูกทีมก็มี  พ.ต.อ.พชร  บุญญทิพย์  รองผู้บังคับการตำรวจนครบาล  ๔  พ.ต.ท.ประพจน์  อนุศิริ  พนักงานสอบสวน  สป.๒  และระดับปฏิบัติการอีกหลายท่าน  ได้ข่าวว่ามีตำรวจ  "ชั้นประทวน"  ถูกอาวุธปืนบาดเจ็บไป  ๑  นายด้วย
     นี่ผมไม่ได้พูดประชด-ประชัน  ผมพูดจากใจจริง  ถามกันตรงๆ  ณ  วันนี้-ยุคนี้  ยุคที่ตำรวจทั้งกรมกว่า  ๗๐%  เป็นตำรวจฝักใฝ่ทักษิณ   แดงถึงได้กร่างทั่วแผ่นดิน  คุยลั่นว่า  "ตำรวจขี้ข้านายกู"
     ดังนั้น  จะมีตำรวจคนไหน  และซักกี่คนที่  "พร้อมใจ"  จะรักษากฎหมายบ้านเมืองตามหน้าที่จริงๆ  จังๆ  โดยเฉพาะหน้าที่ไปจับผู้ต้องหา  "ตามหมายจับ"
     นายตำรวจชุดนี้ไปจับ   แต่ก็อย่างว่า  ผมไม่แน่ใจว่า  ทีมล่าโจรจะเคลื่อนออกจากที่ตั้งแล้วหรือยัง  แต่ที่แน่ๆ  ผมค่อนข้างแน่ใจว่า  "ข่าวรั่ว"  ไปถึงพวกกบฏแดงล่วงหน้าเรียบร้อยแล้ว!?
     นอกจากในกองทัพของพลเอกอนุพงษ์  เผ่าจินดา  จะมี  "ทหารไส้ศึก"  แล้ว  ในกองบัญชาการตำรวจแห่งชาติ  จะมี  "ตำรวจไส้ศึก"  ด้วยหรือไม่?
     ถ้าใครสงสัย  ให้ไปถามควายกลางทุ่ง  อย่ามาถามผม!
     ไอ้พวกนอกราชการบางคน   แต่ยังยึดคราบตำรวจหาแดกเหมือนทาก-เหมือนปลิง  โดยอาศัยบารมีลูกน้องเก่าในราชการที่เกรงใจ  "นายเก่า"  เป็นมือ-เป็นเท้าให้  พวกนี้แหละตัวดีนัก  ถ้าถอดยศนำหน้าชื่อจากพวกนี้ได้  เจอสุมหัวที่ไหนเรียกได้เลยว่า
     "แก๊งเฒ่ากากีนรก"!
     ลำพังเข้าไปจับเดี่ยวๆ  เหมือนจับโจร-ผู้ร้ายทั่วไป  โธ่...ไม่มีเหลือหรอก  ไอ้ที่จะได้แสดงบทพระเอกไต่เชือกโรยตัวลงมาทางหน้าต่างหนีตำรวจน่ะ  นั่นมันในหนังการ์ตูน  แต่ในเรื่องจริง  ไม่งอก่อ-งอขิงเหมือนลิงตกต้นกล้วยกลางอากาศละก็  ผมยอมให้เหยียบ
     เพราะตำรวจเขาไม่ต้องการใช้อาวุธ   และไม่ต้องการให้เกิดอุบัติเหตุไม่พึงประสงค์กับชาวบ้านเสื้อแดงที่ไปเป็นโล่มนุษย์ให้กับพวก   ๔-๕  คนนั่นหรอก  เขาจึงทำเป็นยอมดีกว่าให้มีปัญหากับประชาชน
     ฉะนั้น   ผมว่า  พวกเรา-อย่าคิดฉาบฉวยเอาแต่สะใจ  โดยไม่ทำความเข้าใจกับสถานการณ์เป็นจริง  มันจะเสียความรู้สึก  และทำให้เจ้าหน้าที่ที่เขามีความตั้งใจอก-ตั้งใจทำงานท้อถอย
     คนที่ไม่เคยทำผิดพลาดเลย  เพราะในชีวิตมันไม่เคยทำอะไรเลย
     ส่วนคนที่ทำผิดพลาด  เพราะในชีวิตต้องทำ-ต้องเผชิญทุกเรื่อง-ทุกปัญหา!
     สังคมทุกวันนี้  มากไปด้วยคน  "เอาแต่ใจ"  กับ  "สะใจ"  กันเป็นที่ตั้ง  ทำไมไม่หัดเอาสติมาก่อนอารมณ์กันบ้าง   หัดเอาใจเขา-มาใส่ใจเราบ้าง  ให้  "ความเข้าใจ"  คนอื่นเขาบ้าง
     โลกนี้จะได้มีคนทำหน้าที่ด้วยพลังงาน  "ใจจากใจ"  กันมากขึ้น!
     ตำรวจ-ทหหาร  ต้องทำงานภายใต้กรอบความรับผิดชอบ  ทั้งกฎหมาย  และระเบียบวินัย
     แต่โจร   โดยเฉพาะโจรกบฏทักษิณ  มันทำทุกอย่างโดยไม่มีกรอบ  แม้กระทั่งฆ่าชาวบ้าน  และไม่คิดรับผิดชอบทั้งกฎหมาย  และทั้งคุณธรรม-ศีลธรรม
     ฉะนั้น  อย่าเอา  "ปฏิบัติการโจร"  ไปเทียบราคา-เทียบมาตรฐานกับ  "ปฏิบัติการทหาร-ตำรวจ"!
     สิ่งที่ผมต้องการสรุปจากที่หลายๆ  คนบอกว่า  "ปฏิบัติการล้มเหลว"  เมื่อวานนี้ก็คือ  ตำรวจทำหน้าที่ดีแล้ว  ดี-ในที่นี้หมายความว่า  ได้ลงมือทำ  ดีกว่าไม่ทำอะไรเลย  นับตั้งแต่กบฏทักษิณก่อการในแผ่นดินมา!?
     ทุกคนมีทั้งสิทธิ์และทั้งหน้าที่  เมื่อถึงคราว  อย่ายก  "ประเทศชาติ-บ้านเมือง"  ยัดใส่บ่าให้ทหาร-ตำรวจเขาแบกฝ่ายเดียว  ความจริงพวกเขาเป็นแค่  "ลูกจ้าง"  กินเงินเดือนจากพวกเรา   ฉะนั้น  ถึงเวลาแล้วที่พวกเราทุกคนต้องออกมาทำหน้าที่  "นายใหญ่"  ที่ไม่ได้ชื่อทักษิณ
     หน้าที่พิทักษ์แผ่นดินไงล่ะ!
     วัน-สองวันที่ผ่านมา  หมอตุลย์  พลเอกปฐมพงษ์  และ  "มดงาน"  อีกหลายท่าน  ได้ชักชวนหันไปทำหน้าที่  ไปแสดงเจตนารมณ์แห่งพลเมืองศิวิไลซ์  ไปมอบน้ำใจในยามที่สมควรมอบให้กับทหาร-รัฐบาล  โดยเฉพาะนายกฯ  อภิสิทธิ์
     ผมบอกไว้วานนี้   เหนือฟ้า-มีฟ้า  และจากฟ้าที่เหนือฟ้า  นั่นคือ  "คุณธรรม"   ผมพูดในสิ่งที่ท่านไม่มีความจำเป็นต้องเชื่อ  แต่จงรู้ไว้เถอะว่า...นั่นคือนิจจังแห่งสัจจะฟ้า-ดิน
     "พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว พระภูมิพลอดุลยเดชมหาราชเจ้า"
     ผมเอ่ยพระนามแห่งพระองค์ท่านไว้   "ด้วยชีวิต"   และจะไม่ขยายความอะไรตรงนี้อีก  เพราะผมทราบ  ทุกท่าน...ที่ประหนึ่งพลังเงียบของแผ่นดิน  แต่วันนี้แต่ละท่านก้าวออกมารวมกัน  "ใจท่าน"  ตอบ  "ใจท่าน"  ได้เองมิใช่หรือว่า
     ใครที่คิดร้ายต่อแผ่นดิน  ใครที่คิดหยามหมิ่นองค์แห่งพระสมมุติเทพผู้ทรงทศพิธราชธรรม  ผู้มีขันติและเมตตาบารมีเป็นตบะที่ทรงบำเพ็ญแล้วแก่กล้า   กระทั่งว่าองค์อินทร์ยังต้องเหินองค์ลงอภิวันทานั้น
     อันธพาล  คือ  ผู้มีใจมืดบอดทั้งหลาย  สุดท้าย...จุดที่หยุด  "ความเคลื่อนไหว"  ของพวกเขา  จะสยดสยองใจ  ชนิดคิดไม่ถึง!?
     การทำดี  ต้องไม่มีคำว่า  "เดี๋ยว"  ถ้าจะมีคำว่า  "เดี๋ยว"  ก็ต้องมีได้ประการเดียวคือ
     เดี๋ยวนี้!
     ท่านทั้งหลายขอตระหนักให้จงดี   วันนี้ในสถาบันตุลาการ  "ก็แตก"  ในสถาบันนิติบัญญัติ  "ก็แตก"  ในกองทัพบก-เรือ-อากาศ  "ก็แตก"  ในสถาบันตำรวจ  "ก็แตก"  ในสถาบันราชการพลเรือน   "ก็แตก"  ในหมู่ประชาชนร่วมชาติ  "ก็แตก"  ในสถาบันสื่อ  "ก็แตก"  แม้กระทั่งแหล่งหลืบนอกกฎหมาย  ไม่เว้นวายกระทั่งซ่องหญิง-ซ่องชาย  "ก็แตก"
     ไม่ต้องพูดถึงสถาบันศาสนา  "ผีป่า-โล้นลาแมร์"  นวดหน้า  ใช้เงินซื้อพระ-ซื้อวัดขึ้นเป็นเครือข่าย  ผนึกกับฝ่ายกบฏล้มบ้าน-ล้มเมือง  ถ้าสำเร็จเมื่อไหร่  แบ่งฝ่ายกันครอบครอง  เป็นเรื่องที่รู้-ที่เห็นกันตำตาคาม็อบกบฏบ้าน-กบฏเมือง
     เมื่อพระพุทธองค์เสด็จดับขันธ์ปรินิพพานแล้ว   ๗๐๐  ปี  พระพุทธศาสนา  ทั้งพระ  ทั้งวัดวาอาราม   และทั้งคัมภีร์ธรรมคำสั่งสอน   ก็ถูกฆ่า-ถูกเผา  สูญหาย-สลายจากอินเดียจากบัดนั้น  ถึง  ณ  บัดนี้!
     เพราะอะไร   ส่วนหนึ่ง  "มารนอกศาสนา"  แฝงเข้ามาด้วยแผนทำลาย  อีกส่วนแฝงเข้ามาบวชอาศัยศาสนาหากิน   และอีกส่วน   บวชแล้วเกาะกินศาสนา  ไม่ศึกษาหาแก่นธรรม  หลงแต่ลาภ  ยศ  สรรเสริญ  สุข  หมกมุ่นแต่สมณศักดิ์  พวกมารเอาเงิน  เอาอามิสมาถวาย  ก็กลายเป็นพระจีวรแดง
     ๒๕๕๓  ปี  พระพุทธศาสนาถึงคราศรัทธาพุทธศาสนิกชนจะสลายจากไทย  เพราะไอ้พวกจัญไรโกนหัว-ห่มเหลือง  "ปลอมเป็นพระ"  แล้วพล่านระเกะระกะเหมือนสุนัขหน้าติดสัตว์  ร่วมขบวนการโจรก่อการร้าย  โดยคณะสงฆ์องค์ไหนก็ไม่รู้สึกทุกร้อนอะไรทั้งสิ้น?
     นี่...ทุกส่วนอันเป็นองคาพยพไทย  แยก  และแตก  กันไปอย่างนี้แล้ว  พวกเรายังจะถือว่า  "ธุระไม่ใช่"  กับปัญหาบ้านเมืองอยู่อีกต่อไปไม่ได้แล้ว!
     ใครมีหน้าที่แล้วไม่ทำหน้าที่...ไสหัวไปไกลๆ!
     อย่าเสือกหน้า-เสือกกะโหลก  "ขวางทาง"  ทำตัวเป็นหมาในรางหญ้า  "กันท่า"  คนอื่นที่เขาจะทำหน้าที่นำชาติ-นำประชาชนคืนสู่สันติสุข-ด้วยสามัคคีตามวิถีทางที่มันเป็นอยู่เลย
     ถึงคราจำเป็น  "ต้องเป็น"  มันก็ต้อง  "ให้มันเป็น"  อย่างนั้น  จะกอดกฎหมาย  กอดทฤษฎี  กอดคำว่า  "ทหารไม่ยุ่งการเมือง"  ก็กอดไป  กอดไปนอนบ้านใหม่ที่มีใครซื้อไว้ให้ที่อังกฤษ-ก็กอดไป
     แต่พวกเรา-ประชาชนด้วยกัน   ต้องเอาใจ   "รักชาติ-รักสถาบัน"  มากอดรวมกันไว้   ถึงเวลาที่ต้องเดินทางไกล  "เอาบ้านเมืองสงบสุขคืนมา"
     วันจันทร์ที่   ๑๙   เมษายน  ๒๕๕๓  เวลา  ๑๓.๐๐  น.  ที่กองบัญชาการกองทัพบก   พลเอกอนุพงษ์   เผ่าจินดา  ผบ.ทบ. พร้อมคณะ  ๕  เสือ  (แต่เสือทำไมกลัวหมาที่ยกพวกมายึดถนนก็ไม่ทราบ)   รวมทั้งแม่ทัพภาค  ๑-๔  ผู้บัญชาการหน่วยป้องกันภัยทางอากาศ  ผู้บัญชาการหน่วยบัญชาการสงครามพิเศษ  เรียกว่าผู้บังคับหน่วยตั้งแต่ระดับพลตรีขึ้นไป
     เป็นครั้งแรกที่  "พลเอกอนุพงษ์"  เรียกประชุมสะพรึ่บ-สะพรั่ง!
     ผม-ในฐานะประชาชน   ทำอาชีพหนังสือพิมพ์จ่ายภาษีปีละเป็นล้านๆ  ขอส่งนายทหารเป็น   "ตัวแทนประชาชน"  เข้าร่วมประชุมด้วย  ๑  ท่านได้มั้ย  นั่นคือ  "พ.อ.ร่มเกล้า  ธุวธรรม"  พลเอกอนุพงษ์จะว่าอย่างไร?
     วันจันทร์ ต้องตอบให้  "ได้ใจ"  กันไปเลย!

http://www.thaipost.net/news/170410/20928


หัวข้อ: Re: "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: suriya2513 ที่ 17 เมษายน 2553, 12:29:25
อ้างถึง
ข้อความของ prapasri AH เมื่อ 17 เมษายน 2553, 11:44:04
อนุพงษ์ เป้นเพื่อนรุ่นเดียวกะทักษิณ

ถ้าพี่ป๋องเป็นทักษิณ แล้วพี่แอ๊ะเป็นอนุพงษ์

พี่แอ๊ะจะ รักชาติมากว่าพี่ป๋อง หรือออออออออ

เอาไงดี ระหว่างชาติกะพี่ป่องงงงงงงงงงงง

อ้อย14  น้องหะยี พี่แอ๊ะขอคำปรึกษาค่ะ
ตอบได้เลย
"รักตัวเอง และครอบครัว"


หัวข้อ: Re: "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: prapasri AH ที่ 17 เมษายน 2553, 12:33:05
 เหยงจ๋า  บทความนี้ สะ ใจ นู๋ แอ๊ะ เจงๆๆๆๆๆ


หัวข้อ: Re: "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: prapasri AH ที่ 17 เมษายน 2553, 12:43:32
  ไม่จริง อ่ะ  รักชาติโว้ยยยยยยยยยยยยย

ไอ้ป๋องงงงงงง มึงหลบไปเป้นประธานาธิบดี ปาตาเรโก ไป๊...

อยู่เงียบๆ ใช้เงินให้สบาย


กูจะช่วยชาติเเก้ปปัญหาประเทศชาติก่อน

กูจะฆ่าลูกน้องมึงที่หลอกเอาเงินมึงมาทำลายชาติ

5555555555555555

ถูกต้องไหมจ๊ะ คุณ ทั๊กกะป๋องงงงงงงงงงงงงงงงง


หัวข้อ: Re: "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: prapasri AH ที่ 17 เมษายน 2553, 13:31:23
น้องหะยี

พี่แอ๊ะ ไฮซ้อ รักชาติ ขอไปอาบน้ำ ทาปากสีแดง ไปไดร๊ฟ กอล์ฟ ก่อนนะคะ

สนามไดร๊ฟเป้นของสส. สีน้ำเงินค่ะ

อีกสนามหนึ่งเป้นของผู้สมัครสส.สีแดงงงงงงงงงงงงงงง

ปล. ไม่ใช่ ไดร๊ฟ อ่ะ เรียกว่า กวาด ลูกกอล์ฟ

จาก คนไร้สาระค่า[/b]


หัวข้อ: Re: "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: jamsai ที่ 17 เมษายน 2553, 14:55:17
สวัสดีค่า พี่แอ๊ะ และพี่แอ๊ะแฟนคลับ....................
อาการเ็จ็บป่วย(ที่ใจ) ดีขึ้นหน่อย...ก็เลยมีแรงส่งเสียงได้
จากที่อ้อย 14 เอาข้อความมาโพสต์....ใช่เลย เห็นด้วย...ที่ว่า

.............เราทุกคนก็เหมือนเจ้าของประเทศไทย ทำไม ไม่คิดจะสู้กับพวกทักษิณ
อย่ามัวแต่มาลงข้อความในเวฟด่าท้กษิณอยู่อยู่เลยมัน ช่วยอะไรไม่ได้
เราต้องร่วมใจกันเสียสละ ลงมือแสดงพลังตัดท่อน้ำเลี้ยงของพวกทักษิณ
มาช่วยกันรณรงค์ บอยคอตคว่ำบาตรเลิกอุตหนุนสินค้าของพวกทักษิณ
หรือวิธีการอื่นที่พวกท่านเห็นว่าจะทำให้ทักษิณและ ไอ้ฮุนเซ็นลูกพี่มันรู้ว่า
 คนไทยทุกคนที่รักชาติและ ในหลวงพร้อมที่จะยอมสู้ตาย เพื่อทำลายคนชั่ว
และปกป้องประเทศ ไทย เพื่อให้ทั่วโลกเขายกย่องตลอดไป


ดังนั้น ช่วยบอกกันหน่อยได้ใหม ว่า ธุรกิจอะไรบ้างที่ส่วนใหญ่มีหุ้นของทักษิณ
แล้วพวกเราช่วยกันกระจายข่าว และรนรงค์ให้ละ ลด หรือเลิก การซื้อหรือการใช้
เท่าที่ทำได้

อย่างเช่นมือถือ ที่มีหุุ้นทักษิณและครอบครัวมากที่สุด คือ AIS  ใช่หรือไม่
รพ. พระรามเก้า ใช่หรือไม่
มหาวิทยาลัยชิณวัตร  ใช่อยู่แล้ว
มีธุรกิจอะไรของ สาวไฮโซแดง ดารณี บุญกฤตมาลัย หรือ คุณ(หญิง) วิริยา ชวนันท์
หรืออย่างกรณ๊ บุกรุกป่าสงวน ที่ไปซื้อสิทธีจากชาวบ้านเช่นที่ นายกฯสุรยุทธ์ ท่านโดน

อะไรอีก อะไรอีก ๆๆๆๆๆ
ใครรู้อะไรช่วยบอกด้วยค่า จะได้เอาไปโพนทนาต่อไป

 emo5:( emo5:(


หัวข้อ: Re: "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: jamsai ที่ 17 เมษายน 2553, 14:58:43

ฮ้ารู้เพิ่มมา หนึ่งล่ะ
โรงแรม SC  ปาร์ค  ย่านริมทางด่วนเอกมัย-รามอินทรา ของทักษิณ 


หัวข้อ: Re: "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: เหยง 16 ที่ 17 เมษายน 2553, 16:28:29
ใครช่วยที

'เทพ โพธิ์งาม' งานเข้า อดิศรประกาศให้แดงบอยคอต

"อดิศร เพียงเกษ" ขึ้นเวทีเสื้อแดงราชประสงค์ ประกาศให้เสื้อแดงบอยคอต "เทพ โพธิ์งาม" หลังขึ้นเวทีเสื้อสีชมพูที่ราบ 11 ด่าคนเสื้อแดง..

เมื่อเวลาประมาณ 13.00 น. วันที่ 17 เม.ย. นายอดิศร เพียงเกษ อดีตกรรมการบริหารพรรคไทยรักไทย ซึ่งเป็นแกนนำแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) ได้ขึ้นเวทีปราศรัยกับกลุ่มผู้ชุมนุมเสื้อแดง ที่เวทีแยกราชประสงค์ โดยนายอดิสร กล่าวว่า วันนี้มีกลุ่มคนอีกลุ่มหนึ่งที่มาต่อต้านการชุมนุมของพวกเสื้อแดง สนับสนุนการทำหน้าที่ของรัฐบาล แต่งตัวใส่เสื้อสีชมพู และเสื้อหลายสี ไปชุมนุมกันที่กรมทหารราบที่ 11 รักษาพระองค์ (ร.11 รอ.) รู้ว่ากลุ่มนี้มาจากไหน และ มีคนที่ขึ้นเวทีคือนายสุเทพ โพธิ์งาม หรือ "เทพ โพธิ์งาม" ดารานักแสดงตลกชื่อดัง ขึ้นมาบอกว่ารำคาญคนเสื้อแดง ดังนั้นขอให้กลุ่มคนเสื้อแดงบอยคอต "เทพ โพธิ์งาม" อย่าไปสนใจ อย่าไปดู อย่าไปสนับสนุนผลงานทั้งหมด.

http://www.thairath.co.th/content/pol/77335


หัวข้อ: Re: "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: prapasri AH ที่ 17 เมษายน 2553, 17:06:06
อาจารย์แจ่มใส คะ อีสาวไฮโซบ้านี้ ดารณี กฤติ....

เธอจบ บัญชีจุฬานะคะ เป้นคนหนองคาย คงไม่ได้อยู่หอจุฬา บ้าๆอย่างนี้ อาจารย์แม่บ้านคงไม่ให้อยู่55555555555

เธอมีเชื้อสาย เวียตนามคะ

พี่แอ๊ะก้ใกล้บ้าเข้าทุกทีแล้ว เครียดเรื่องการเมือง

พิมพืไปมือก้สั่นไปด้วยค่ะ

เพราะต้องรีบไปงาน  หน้ายังไม่ได้แต่งอ่ะ เด่วสวยแพ้  อีบ้าดารณี


หัวข้อ: Re: "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: เหยง 16 ที่ 17 เมษายน 2553, 17:28:57
นำมาให้อ่านครับ

เสียงของทหาร จากสี่แยกคอกวัว

“ผมไม่โกรธ ไม่คับแค้นใจหรอกครับ เพราะมันเป็นหน้าที่ของเรา ผมอยากให้พวกเขาคุยกันมากกว่า...ถ้า ผมยิงสวนไปก็อาจถูกพลเรือน ที่มาร่วม ชุมนุมธรรมดา เราเห็นอยู่เรารู้อยู่ มันทำพวกเขาไม่ลง... ผมไม่ยิงคนไทยด้วยกันเองครับ”
(ขอประมวลถ้อยคำเหล่านี้ ที่ได้มีโอกาสได้ยินจากปากของนายทหารและพลทหารที่นอนรักษาตัวอยู่ในโรง พยาบาล อันเนื่องมาจากเหตุการณ์ปะทะ กันกับผู้ชุมนุมเสื้อแดง ในคืนวันที่ 10 เมษายน 2553)

                                                                ฯลฯ

http://www.facebook.com/topic.php?uid=104530219588509&topic=19


หัวข้อ: Re: "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: เหยง 16 ที่ 17 เมษายน 2553, 18:03:11
และแบบนี้ไม่อยากให้เกิดขึ้นจริงๆ

สยองรถชน 4 คันรวด ตาย 7 เป็นเสื้อแดง3คน

สยองรถชน 4 คัดรวดบนถนนพหลโยธิน สระบุรี ส่งผลให้มีคนตาย 7 ราย บาดเจ็บ  1 ราย

เวลา 14.25 น. วันที่ 17 เม.ย. 2552 ที่จังหวัดสระบุรี ได้มีอุบัติเหตุรถชนกัน 4 คัน เป็นกระบะ 3 คัน รถเก๋ง 1 คัน บนถนนพหลโยธิน ขาเข้า ช่วงหลัก กม.88-89 ต.หนองไข่น้ำ อ.หนองแค จ.สระบุรี  ทำให้มีผู้เสียชีวิตในที่เกิดเหตุ 7 คน และได้รับบาดเจ็บ 1 คน  ซึ่งขณะนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.หนองแค เข้าตรวจสอบที่เกิดเหตุแล้ว เบื้องต้นพบว่าผู้เสียชีวิตมีคนเสื้อแดง 3 คน

http://www.thairath.co.th/content/region/77333


หัวข้อ: Re: "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: เหยง 16 ที่ 17 เมษายน 2553, 18:42:10
ดูความบ้าของมัน

"แรมโบ้" คุย คนมามาก เล็งขอตั้งเวทีหน้าแบงก์กรุงเทพ ถ.สีลมอีกแห่ง

"สุภรณ์" ชี้ผู้ชุมนุม มามากคนล้นราชประสงค์ เตรียมเสนอที่ประชุมตั้งเวทีหน้าธนาคารกรุงเทพสำนักงานใหญ่ ถ.สีลม อีกเวที เผย เคลื่อนไหวใหญ่ 19 เม.ย.นี้...

เมื่อวันที่ 17 เม.ย. 2553 นายสุภรณ์ อัตถาวงศ์ หรือ แรมโบ้ แกนนำแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) ขึ้นเวทีกล่าวกับผู้ชุมนุมว่า เนื่องจากช่วงนี้มีจำนวนคนที่มาชุมนุมจำนวนมากทำให้พื้นที่ที่ชุมนุมกันในปัจจุบันคับแคบ ดังนั้นจะขอหารือกับที่ประชุมแกนนำ ว่าจะขยายพื้นที่เวทีโดยจะจัดตั้งอีกเวทีหนึ่งที่หน้าธนาคารกรุงเทพ สำนักงานใหญ่ที่ถนนสีลม อย่างไรก็ตาม สำหรับการเคลื่อนไหวของกลุ่มคนเสื้อแดงใน 1-2 วันนี้ ยังไม่มีการเคลื่อนไหวไปไหนเป็นเพียงการจัดทัพเพื่อเตรียมเคลื่อนไหวใหญ่อีกครั้งในวันที่ 19 เม.ย. แต่ยังไม่ทราบได้ว่าจะเคลื่อนอย่างไร ต้องมีการหารือกันในที่ประชุมนแกนนำก่อน

http://www.thairath.co.th/content/pol/77352


หัวข้อ: Re: "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: jamsai ที่ 17 เมษายน 2553, 19:47:14
เรียนพี่แอ๊ะที่รักยิ่ง

ใจเย็นให้เย็นใจกันก่อนค่อยๆช่วยกันคิดอ่าน ว่า ณ สถานะปัจจุบันของเราจะช่วยชาติและคนดีๆได้อย่างไร
น้องก็คิดไม่ออก และยิ่งโกรธก็ยิ่งทุกข์ ยิ่งตีบตัน ถึงขั้นอยากให้คุณทักษิณตาย หรือวายวอดไปซะ

คิดอย่างนี้ หลวงพ่อบอกว่าเท่ากับเราไปร่วมอนุโมทนาแบ่งเอาบาปจากการทำให้คุณทักษิณตาย ด้วย
จิตใจเราก็เศร้าหมอง ที่บอกอย่างนี้ไม่ใช่จะแค่บอกพี่แอ๊ะนะคะ แต่เป็นการบอกกับตัวเองไปด้วย
เพราะใจมันจะไปอนุโมทนาบาปแบบนี้ทุกครั้งที่เห็นหรือได้ยินพวกสีแดง

ไฮโซ ดารนี กฤต   เท่าที่ทราบเห็นเธอไปถ่ายรูปหมู่ขึ้นสแตนด์รับ ป.โท
เมื่อประมาณ2ปีที่แล้ว ดูเหมือนจะเรียนหลักสูตรอินเตอร์นอกเวลาราชการของคณะบัญชี
ส่วนจบ ป.ตรี จุฬา หรือไม่ ไม่ทราบค่ะ  อย่าไปไกลเลยค่ะ อาจารย์คณะอักษรฯ นอกจาก ดร...ชายคนนั้นแล้ว ยังมีอย่างน้อย 1 คน
ซื่อ อ.สุดา มั้ง เธอภาคภูมิใจใส่เสื้อแดงมาโชว์พาว ในจุฬาฯแถวๆตึกสถานีวิทยุจุฬาฯ เมื่อต้นเม.ย
และยังมีลูกศิษย์ร่วมอุดมการณ์ไอ้ใจ อึ้งภากรณ์ และเครือข่ายของมันในจุฬาฯ ก็ยังมีให้เห็น (ขอหยาบคายหน่อยเถอะ)

พี่แอ๊ะคิดดูซิ มันร้าวรันทดใจแค่ใหน ที่เห็นคนจุฬาฯ  ไปช่วย ไปชื่นชอบคนที่มันเหยียบย่ำชาติและคิดทำลายสถาบัน
ที่คนจุฬา พึงให้ความเคารพ และมีความกตัญญูต่อพระองค์ท่าน

ขนาดป้าแจ่มเป็นเพียงคนจุฬาผู้อาศัยไม่ใช่เลือดเนื้อแท้ๆของจุฬาฯ ยังเจ็บปวดใจแทนเลย
จึงเข้าใจว่าศิษย์เก่าของจุฬา ที่เป็นคนดี มีความกตัญญูรู้คุณ จะเจ็บใจแค้นใจกันเพียงไร

 
ที่ต้องขอบคุณอีกคน คือ  พล.ต.อ. วศิษฏ์ เดชถุญชร แต่ท่านไม่ได้ทำด้วยเจ็บแค้นอะไรนะคะ
หากแต่ท่านกล้าที่จะทำเพื่อความถูกต้อง เพื่อสถาบันหลักของชาติ และเพื่อรักษาคนดีๆ ของบ้านเมือง

และขอขอบคุณ ดร. อาทิตย์ อุไรรัตน์ ที่ท่านกล้าลุกมาประกาศตัวเป็นคนไม่เอาเสื้อแดง โดยไม่กลัวผลกระทบใดๆที่อาจมีต่อ ม.รังสิต
ถ้าเจอบัณฑิตของ ม.รังสิต ต้องขอชมและให้กำลังใจ และพวกเราถ้าใครจะจ้างงาน ก็อย่าลืมสนับสนุน บัณฑิตของ ม.รังสิตด้วยนะคะ

 emo29:P:


 


หัวข้อ: Re: "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: jamsai ที่ 17 เมษายน 2553, 19:55:07
ดูอหังการ์ของเสื้อแดง
วันนี้ มีคนมาบอกว่า มีป้ายไวนิล คัดเอาท์ขนาดใหญ่ ถนนก่อนเข้าตัวเมืองขอนแก่น

ว่า อภิสิทธิ์ สั่งฆ่าประชาชน ไอ้ทรราช และชักชวนให้ตามล่าอภิสิทธฺ์มาลงโทษให้สาสม

...อ้อย 14 จ๋าเจ้าของพื้นที่ ไปดูมาหน่อยสิ ว่าข้อความเป็นอย่างไร


หัวข้อ: Re: "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: เหยง 16 ที่ 17 เมษายน 2553, 19:56:50
ประมวลภาพ : "เสื้อหลากสี" ผนึกกำลังที่ชัยสมรภูมิ-ป้องสถาบันฯ-หนุนรัฐบาล  
โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ 17 เมษายน 2553 19:15 น.

ประมวลภาพการชุมนุมของกลุ่มเสื้อหลากสี ที่มาจากการรวมตัวกันของกลุ่มสังคมออนไลน์ต่างๆ โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อแสดงพลังปกป้องสถาบันพระมหากษัตริย์ มีป้ายข้อความเขียนไว้ว่า "เรารักในหลวง" เป็นภาษาต่างๆ ทั้งอังกฤษ เกาหลี ญี่ปุ่น รวมถึงสนับสนุนและให้กำลังใจรัฐบาลด้วย

(http://img227.imageshack.us/img227/1551/millionnames.jpg)

                     (http://img227.imageshack.us/img227/7219/millionnames1.jpg)

(http://img227.imageshack.us/img227/5440/millionnames2.jpg)

(http://img404.imageshack.us/img404/1681/millionnames3.jpg)

ดูภาพเพิ่มเติมได้ที่

http://www.manager.co.th/Politics/ViewNews.aspx?NewsID=9530000052848


หัวข้อ: Re: "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: เหยง 16 ที่ 17 เมษายน 2553, 21:10:23
อ่านบทความหนึ่งของ นสพ.แนวหน้า ออนไลน์ครับ

เลียบวิภาวดี

สามสิ่งที่สามเกลอกังวลใจ (เลียบวิภาวดี)   
 
 
   ถ้านักข่าวคนใดสามารถเจาะใจสามเกลอผู้นำม็อบเสื้อแดงได้ โดยทั้งสามเปลือยใจตอบคำถามตามความรู้สึกที่เป็นจริง ก็จะได้คำตอบว่า ณ วันนี้ ทั้งสามต่างก็ตกอยู่ในความทุกข์อย่างแสนสาหัสไม่แพ้หนุ่มมาร์ค และไม่น้อยไปกว่าเสี่ยเหลี่ยมสักกี่มากน้อย

   ที่เป็นเช่นนี้เพราะทุกคนต่างนั่งอยู่บนหลังเสือคนละตัว ลงจากหลังเสือไม่ได้ ถ้าลงเมื่อใด จะถูกเสือสมิงขบสมองจนเหลวเละแน่

   ถ้าจะให้ทำนาย สิ่งที่สามเกลอกังวลใจมากที่สุดในขณะนี้มีสามเรื่องใหญ่ ๆ ด้วยกันคือ

   เรื่องแรก รัฐบาลหนุ่มมาร์คจะสลายม็อบราชประสงค์เมื่อใดแน่? เพราะรัฐบาลคงทนไม่ได้อีกแล้วที่จะเห็นม็อบเสื้อแดงจับคนกรุงเทพฯ เป็นตัวประกันต่อไป และขยี้ขยำเศรษฐกิจไทยจนเหลวเละ

   แม้ม็อบเสื้อแดงจะมีกองกำลังไม่ทราบฝ่ายคอยปกป้อง มีผู้ก่อการร้ายคอยช่วยเหลือ แต่การสลายม็อบของรัฐบาลในครั้งหน้า รับรองได้จะไม่มีคำว่า "หน่อมแน้ม" อีกแน่ ส่วนจะเป็นการปิดประตูตีแมวอย่างถวายชีวิตหรือไม่ สามเกลอแกนนำม็อบคงตอบล่วงหน้าไม่ได้

   เรื่องที่สอง แม้สามเกลอจะประกาศบนเวทีม็อบนับครั้งไม่ถ้วนว่า ตนเองได้ก้าวข้ามความกลัวตายมาไกลแล้ว แต่ลึก ๆ แล้วแต่ละคนต่างก็ยังกลัวไข้โป้งจนอุจจาระขึ้นสมอง ดังนั้นจึงระแวงทุกวินาที ตนเองขึ้นเวทีปราศรัยอาจมีสไนเปอร์ซุ่มยิงจนสมองตนเองแตกกระจายคาเวทีได้ทุกเมื่อ

   จึงติดตั้งสปอร์ตไลท์นับไม่ถ้วนดวงส่องอาคารสูงให้สว่างโร่ในขณะที่สามเกลอขึ้นเวทีปลุกม็อบ

   เรื่องที่สาม รัฐบาลได้ขอหมายจับ 24 แกนนำจากศาลเป็นที่เรียบร้อยแล้ว และจ้องที่จะตะครุบตัวแกนนำแต่ละคนไปเก็บไว้ในที่เร้นลับ ซึ่งแกนนำทุกคนต่างปากกล้าขาสั่นว่า ไม่กลัวเจ้าหน้าที่ แต่กลับปลุกระดมโล่มนุษย์ให้โอบล้อมคุ้มครองตนเองอย่างหนาแน่น

   โดยเฉพาะสามเกลอแกนนำคนสำคัญ ยิ่งกลัวถูกฝ่ายรัฐบาลจับตัวจนอกสั่นขวัญแขวน จนกระทั่งกินนอนเข้าห้องน้ำแทบจะไม่เป็นสุข จะเดินทางไปธุระส่วนตัวที่ไหนก็ไม่กล้า จนชีวิตวันนี้ประหนึ่งถูกขังอยู่ในวงล้อมของม็อบ

   ใครที่ไม่เคยขี่หลังเสือ ก็คงจะไม่รู้ว่ามันทุกข์ทรมานเพียงใด ที่อยากจะลง แต่ลงจากหลังเสือไม่ได้

   ความรู้สึกทรมานดังกล่าว น่าเชื่อว่าเป็นความรู้สึกที่กำลังเกิดกับสามเกลอผู้เป็นขุนพลเอกของเสี่ยเหลี่ยม

   มีผู้วิเคราะห์ต่อไปว่า หากวันนี้เสี่ยเหลี่ยมกลับมามีอำนาจทันทีทันใด สามเกลอก็ยังมีสิทธิ์ตายจากการไล่ล่าของสองฝ่ายอยู่ดี คือจากฝ่ายที่เกลียดแกนนำเสื้อแดง และจากฝ่ายเสี่ยเหลี่ยมที่จ้องขจัดขุนศึกผู้รู้ความลับมากเกินมนุษย์ ตามตำราพิชัยสงคราม "เสร็จนาฆ่าโคถึก เสร็จศึกฆ่าขุนพล"


กมลศักดิ์ ตั้งธรรมนิยม
 
วันที่ 17/4/2010

http://www.naewna.com/news.asp?ID=207738
 


หัวข้อ: Re: "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: suriya2513 ที่ 17 เมษายน 2553, 21:23:59
(http://img51.imageshack.us/img51/8691/p1000748s.jpg)

สาวคนนี้สวยสู้คุณนายแอ๊ะไหวไหมครับ ?


หัวข้อ: Re: "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: Preecha2510 ที่ 17 เมษายน 2553, 21:25:38
อ้างถึง
ข้อความของ prapasri AH เมื่อ 17 เมษายน 2553, 10:12:11
ก้ sc park เป้นของตระกูลชิน สายลับ คงมีทั้งโรงเเรม พวกนี้เลยไปพักที่นั่นไม่ต้องเสียเงินด้วย

แต่เดิม sc park เป้นของพี่พีระพงศ์ ถนอมพงศ์พันธุ์ เพื่อนพี่หาญ และน่าจะเป็นเพื่อนพี่ปรีชาด้วย

ตอนหลัง ขายให้คุณทั๊ก ไป 700 กว่าล้าน พี่พีระพงศ์ เลยสบายใจเฉิบบบบบบ

      

            สวัสดีครับแอ๊ะ      คุณพีระพงศ์เป็นชาวจุฬาฯคณะวิทยาฯ  เข้าจุฬา ปี 10  เคยรู้จักและคุยกันแต่ไม่สนิท

   จำได้ว่าแต่แรกตึกนี้ เมื่อ 20 กว่าปีที่แล้วสร้างเป็นอพาร์ตเม้นต์ตั้งอยู่ในซอยลึก แต่กิจการไปไม่ค่อยดีต่อมาโชคดี

   มีถนนเส้นใหม่สร้างขึ้นมาผ่านบริเวณจุดที่ตั้งอพาร์ตเม้นต์นี้พอดี  คุณพีระพงศ์จึงมีความคิดปรับปรุงดัดแปลงตึกนี้

  เป็นโรงแรม  ช่วงนั้นผมยังทำงานอยู่ที่ ททท รับผิดชอบงานทางด้านวิชาการโรงแรมและการท่องเที่ยว  ไม่รู้ใครไปแนะ

  นำคุณพีระพงศ์ให้มาหาผมและเชิญผมไปดูสถานที่และขอคำแนะนำ พอคุยกันทราบว่าเป็นชาวจุฬาฯรุ่นเดียวกันก็เลย

  ให้คำแนะนำเท่าที่จะทำได้  ต่อมากิจการดำเนินการได้ดีพอสมควร  และโชคดีที่คุณทักษิณมาซื้อต่อได้กำไรตั้งหลายร้อย

  ล้าน ได้เป็นทุนมาเล่นการเมืองไม่รู้ตอนหลังนี้งานการเมืองกินเงินหมดไปแล้วหรือยัง

  


หัวข้อ: Re: "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: prapasri AH ที่ 17 เมษายน 2553, 22:04:20
เฮ้ออออออออ เหนื่อยยยยยยยยยยย

คืนนี้จะนนอหลับไหมหนอ

เดี๋ยวนี้ต้องให้หมอจีนฝังเข็มให้ทุกวัน ให้นอนหลับได้

ไม่อยากทานยา นอนหลับค่ะ


หัวข้อ: Re: "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: prapasri AH ที่ 17 เมษายน 2553, 22:11:53
พี่พีระพงค์ ขายโรงเเรมแล้วหยุดเล่นการเมืองเลยค่ะ

ดังนั้นเงินคงยังเหลือเยอะ เพราะพี่เขาไม่เล่นการเมืองอีกเลย

เป็นตายร้ายดี ยังไงไม่ทราบ พรุ่งนี้ต้องให้พี่หาญโทรหาซะหน่อยยยยยยยย

แอ๊ะมีส่วนช่วยเชียร์ให้ได้เป้นรัฐมนตรี จะใช้คำว่าล๊อบบี้คงดูมากไปสำหรับตัวน้อยๆแบบแอ๊ะ

พี่เขาจบวิทยา แล้วไปเป้นผู้จัดการธนาคารกรุงเทพ จึงรู้จักทักษินเป้นการส่วนตัว

แต่เวลามาอยู่พรรคพลังธรรม การเป้นรัฐมนตรี ต้องใช้มติกรรมการบริหารพรรค

จึงได้เป้นรัฐมนตรี อยู่ช่วงเวลาหนึ่งค่ะ

แอ๊ะขอกรรมการบริหารพรรค ว่า พี่เขาเป้นเพื่อนพี่หาญ

และพี่เขาก้มีความดีอยู่มาก

เห็นจากเมื่อเห็นว่าการเมืองในพรรคพลังธรรมเปลียนไปแล้ว พี่ก้ลาเลยยยยยยยยย



หัวข้อ: Re: "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: prapasri AH ที่ 17 เมษายน 2553, 22:19:03
ขอไปนอนก่อนนะ ต้องฟ้องพี่แก้ว พี่หาญแกขี้หนียว มาปิดเเอร์

ห้องที่แอ๊ะนั่งจิ้มคอม

ยุงเลยกัดดดดดด เต็มไปหมดไม่อยากขัดใจไปเปิดเเอร์

ถ้าเป้นสาวๆ จะกระทืบเท้า ว่า มาปิดเเอร์ ทำมายยยยยยยยยยยยย

ยุงกัด จะตายอยู่แล้ววววววว

แต่ตอนนี้แก่แล้ว ไม่กล้าขัดใจ กลัว พี่หาญทิ้งค่ะ55555555555555555

วันๆ ไม่ได้คุยกะพี่แกเลย เพราะมัวแต่จิ้ม เนท ด่า พวกอันธพาล อยู่นี่แหละ

หรือตอนนี้พี่แกไปมี อีหนูแล้วก้ไม่รู้  แฮๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ 5555555



หัวข้อ: Re: "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: jamsai ที่ 17 เมษายน 2553, 22:34:12
รับข้อมูลจากเพื่อนทางเนต เลยเอามาบอกต่อค่ะ
...................................................
ผมได้มีโอกาสคุยกับคนขับรถ แบบpart time ที่ทำงานผมขณะที่นั่งรถไปกับเขา..เลยอยากจะแชร์ให้ทุกคนร่วมกันรับทราบค.โหด ร้ายของการ์ดเสื้อแดงครับ...
คนขับรถอายุประมาณ27ปี เล่าให้ฟังว่า ช่วงนอกเวลางานเค้าจะไปขับรถเมล์สาย8อยู่เป็นประจำและในคืนเกิดเหตุนั้นเค้า ก็ยังทำหน้าที่อยู่ตามปกติ
โดยทั่วไปแล้วเค้าไม่สนใจการเมือง หากินเลี้ยงท้องให้พอยาไส้ไปวันๆเท่านั้น ไม่สนแม้แต่การเลือกตั้ง ม็อบสีอะไรที่ขวางทางเดินรถทำงานของเค้า ก็บ่นหมดทุกม็อบโดยไม่เคยใส่ใจไปฟังหรือเข้าร่วม(เจ้าตัวยืนยั่นว่าท่าทาง วาจา กริยาเค้าไม่ได้สำรวมนักจึงมีคนเข้าใจผิดว่าเป็นเสือ้แดงบ่อย...จุดนี้ทำให้ เค้าและผมขำออกมาพร้อมๆกัน เพราะนี่คือเรื่องจริงที่คนเสื้อแดงมักจะมีคุณสมบัติเหล่านั้น)

วันนั้นเวลาเกิดเหตุเค้าขับรถมาจากสะพานพุทธเข้าสู่พื้นที่ปะทะแนวหลัง รถไม่ติดนักแต่เมื่อมาจอดป้าย ผู้คนหลั่งไหลเข้ามาในรถเพื่อที่จะหนีเหตุการณ์ปะทะจนต้องจอดคาป้ายอยู่นาน ในที่สุดคนก็แน่นต้องปิดประตูลงพร้อมรับคำวิงวอนจากคนที่ขึ้นรถไม่ได้แล้ว ว่าให้ช่วยกลับมารับด้วย...

เค้าตัดสินใจขับมาถึงอนุสาวรีย์ชัยและไล่ผู้ โดยสารลงให้หมดเพราะเห็นว่าออกห่างจากจุดเกิดเหตุมากแล้วน่าจะกลับเองด้วย วิธีอื่นได้ รวมทั้งรู้สึกแย่ที่คนที่ได้ออกมาก่อนนั้นยังคงทำหน้าที่ด่ารัฐบาลที่ใช้ กำลัง ทั้งๆที่ถ้ามีอุดมการณ์ขนาดนั้นทำไมวิ่งแจ้นแย่งกันออกมาก่อน ปล่อยให้เด็ก ผู้หญิงเฝ้ารอทางออกอยู่ข้างใน(ผมเชื่อว่าเค้าก็อยากได้ตังค์เพิ่มด้วย)

เค้า ตีรถเปล่ากลับไปเพื่อรับคนรอบสองโดยที่ผู้คนก็ยังหลั่งไหลขึ้นมามากมาย แต่ในกลุ่มนั้นมีการ์ดเสื้อแดงปรี่พร้อมอาวุธปืนยาวสามคนเข้ามาตบหัวเค้า และกระชากคอมาถามว่าใครใช้ให้มาขนคนออกไป พร้อมทั้งจะยึดรถ มีการฉุดกระชากกันสักครู่ก่อนที่การ์ดนปช.จะยืนยันว่าถ้าไม่ให้ยึดรถก็ไม่ ยอมให้ออกไป(ถ้าให้ยึดรถแล้วจะยอมเหรอวะ)

เค้าไม่อาจจะให้พวกนี้ยึดรถของบริษัทได้จึงบอกให้นปช.ไปไล่คนลงเองแล้วกัน พวกการ์ดก็ไปไล่คนลงหมด พร้อมเสียงร้องไห้ระงมของเด็กๆที่อยากกลับบ้าน คุณป้าคนนึงมากอดแขนขอร้องให้เค้าไปบอกตำรวจให้มาช่วยป้าออกไปหน่อย เค้าบอกป้าไปว่าถ้าป้าออกไปกับผมได้ ป้าก็ออกไปด่ารัฐบาลเหมือนพวกกลุ่มเมื่อกี้อีกโดยไม่คิดว่าป้านั่นแหละเลือก ที่จะรับเงินมาเองแท้ๆ ถ้าป้าคิดว่าคนพวกนี้ดีกว่าคนนั้น(ชี้รูปในหลวงที่ติดอยู่หน้ารถ)...บางที ป้าอาจจะต้องรับกรรมในสิ่งที่ป้าเลือกครับ

ป้าแกน้ำตานองหน้าก่อนที่จะโดนการ์ดนปช.ลากออกไป ในท้ายสุดไม่มีใครได้ออกมาเลยในรอบนั้น และเค้ายังต้องเสียตังค์ค่าไฟท้ายที่การ์ดมันทุบตอนจอดรับคนอีก รวมทั้งต้องมาลอกสติ๊กเกอร์"ยุบสภา(เพราะหมาเห่า)"ออกอีก..
เรื่องจริงที่อยากแชร์


หัวข้อ: Re: "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: หนุน'21 ที่ 18 เมษายน 2553, 10:51:26

สวัสดีครับพี่แอ๊ะและพี่น้องทุกคน
เข้ามาห้องพี่แอ๊ะแล้วได้เห็นได้อ่านข้อความ ข่าวสารต่างๆแล้ว
ก็รู้สึกได้ว่า จุฬา ของเรา ยังรักและมั่นคงในสถาบันหลักของชาติอย่างยิ่ง
สักวันไอ้พวกหลงผิดคงสำนึกได้บ้าง แล้วมันจะน้ำตาตก ที่คิดผิด ทำผิด
ผมเชื่อเช่นนั้นครับ


หัวข้อ: Re: "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: เหยง 16 ที่ 18 เมษายน 2553, 12:51:44
วันอาทิตย์ ไทยโพสต์ออนไลน์จะมีข่าวลงน้อยกว่าที่ควรจะเป็น แต่ก็พอมีข่าวให้อ่านครับ

วัดใจ'ป๊อก'ปราบ ขู่เสื้อแดง!'ผบ.ทบ.'สั่งปรับกำลังใหม่/แกนนำผวาย้ายที่ซุกหัวพัลวัน
ข่าวหน้า 1 18 เมษายน 2553 - 00:00

    "อนุพงษ์"  เรียกประชุมผู้บังคับหน่วย  ย้ำให้ใช้แนวทางเดิม  ตำรวจอยู่ใกล้ม็อบ  ทหารเฝ้าระวังรอบนอก  ฟื้นฟูจัดกำลังใหม่  เช็กข่าวก่อนเคลื่อน  แต่โอกาสขอพื้นที่คืนยาก  ผู้ก่อการร้ายฝังตัว  เผยนายกฯ  กดดันให้  "ป๊อก"  ทำงาน  "สรรเสริญ"  ลั่นต้องขอพื้นที่คืน  พร้อมเมื่อไหร่ดำเนินการทันที  รัฐบาลทำซีดีก่อการร้ายฆ่าแดง-ทหารล้านแผ่นแจกเหนือ-อีสาน  ขณะที่แกนนำ  นปช.เล็งขยายพื้นที่ชุมนุมยึดสีลม  แบงก์กรุงเทพสำนักงานใหญ่เป็นเป้ารอบใหม่  24  หัวโจกแดงหัวหด  ผวาถูกจับ  วนเวียนแค่เวทีปราศรัย  ส่งทนายแจ้ง  ตร.จะมอบตัว  15  พ.ค.
 
    ที่กรมทหารราบที่  11  รักษาพระองค์  (ร. 11  รอ.)  เมื่อวันเสาร์  พ.อ.สรรเสริญ  แก้วกำเนิด  โฆษกศูนย์อำนวยการแก้ไขสถานการณ์ฉุนเฉิน  (ศอฉ.)  แถลงผลการประชุม  ศอฉ.ในรอบเช้า  ที่มีนายสุเทพ  เทือกสุบรรณ  รองนายกรัฐมนตรี  ในฐานะผู้อำนวยการ  ศอฉ. เป็นประธาน  ว่าที่ประชุมได้กำชับเรื่องการสั่งการและทำความเข้าใจกับกำลังพล  เพราะขณะนี้มีข่าวลือออกมาในทำนองว่าเจ้าหน้าที่ทหารรู้สึกเจ็บแค้นต่อผู้ชุมนุม

     "อยากชี้แจงว่าข้าราชการทุกคนทั้งตำรวจ  ทหาร  พลเรือน  มีหัวใจ  และรู้สึกเสียใจต่อกรณีที่ผู้ร่วมอาชีพต้องได้รับบาดเจ็บและเสียชีวิต  แต่ยืนยันว่าไม่ได้เจ็บแค้น  เราจะเจ็บแค้นกับประชาชนไม่ได้"

     โฆษก  ศอฉ.กล่าวว่า  ทุกคนยังรู้สึกว่ากลุ่มคนเสื้อแดงเป็นคนไทย  ไม่ใช่ศัตรูของเจ้าหน้าที่ตำรวจ  ทหาร  และข้าราชการพลเรือนทุกนาย  เรามองว่าเขาเป็นเพื่อนร่วมชาติ  เป็นคนไทย  และอยากให้เขามองเราในลักษณะเดียวกัน  แม้เราจะต้องปฏิบัติหน้าที่ในการบังคับใช้กฎหมาย   ก็เป็นเรื่องของสถานการณ์หนักเบา  แต่โดยภาพรวมเราต้องรู้สึกกันอย่างนี้  เพราะเราคือคนไทย

     พ.อ.สรรเสริญเผยว่า   จนขณะนี้ยึดอาวุธยุทโธปกรณ์ของกองทัพที่ถูกกลุ่มคนเสื้อแดงยึดไปยังไม่ได้รับคืน  เราเป็นห่วงว่าผู้ไม่หวังดี  ผู้หวังสร้างสถานการณ์ความรุนแรงจะหยิบฉวยอาวุธเหล่านี้ไปใช้สร้างสถานการณ์แล้วโยนความผิดให้เจ้าหน้าที่ส่วนหนึ่ง  และให้กลุ่มคนเสื้อแดงอีกส่วนหนึ่ง  จึงอยากวิงวอนให้นำอาวุธทั้งหมดส่งคืนเจ้าหน้าที่โดยด่วน

     เขายังกล่าวว่า  การขอคืนพื้นที่ราชประสงค์  เป็นส่วนหนึ่งของการบังคับใช้กฎหมาย  หลายคนถามว่าการขอคืนพื้นที่คือจะเข้าไปสลายการชุมนุมใช่หรือไม่  เอาเป็นว่า  ศอฉ.จำเป็นต้องบังคับใช้กฎหมาย  เพียงแต่เมื่อไรจะพร้อมเท่านั้น

     "ขณะนี้เรากำลังเตรียมทุกอย่างให้พร้อม  ไม่ว่าจะเป็นการฟื้นฟูกำลังพล  ฟื้นฟูอาวุธยุทโธปกรณ์  ไปพร้อมๆ  กับการทำความเข้าใจกับผู้ชุมนุม"

     ผู้สื่อข่าวถามว่า  วางแนวทางอย่างไรไม่ให้เกิดเหตุชุลมุนขึ้นอีก  พ.อ.สรรเสริญตอบว่า  ความชุลมุนที่เกิดขึ้นในครั้งก่อนเป็นเพราะมีกลุ่มก่อการร้ายแฝงเข้ามา  หากไม่ต้องการให้เกิดความชุลมุน  ประชาชนทั่วไปก็ต้องถอนออกมาจากการชุมนุม  ถ้าออกเร็วก็จัดการกลุ่มก่อการร้ายได้เร็ว  บ้านเมืองก็จบได้เร็ว  แต่ถ้าออกช้า  ก็ยิ่งมีความเสียหาย  ดังนั้นตัวแปรจึงอยู่ที่ประชาชนทั่วไปที่เข้าไปร่วมชุมนุม

     โฆษก   ศอฉ.ยังชี้แจงการตั้ง  พล.อ.อนุพงษ์  เผ่าจินดา  ผบ.ทบ. เป็นผู้กำกับปฏิบัติงานหัวหน้ารับผิดชอบดูแลพนักงานเจ้าหน้าที่ในการดูแลสถานการณ์ที่มีความร้ายแรงว่า  ในภาพรวมนายสุเทพในฐานะ  ผอ.ศอฉ.ยังดูแลตามเดิม  แต่ที่มอบอำนาจให้  ผบ.ทบ.คือเป็นหัวหน้าผู้รับผิดชอบในการสั่งการใช้กำลังเพื่อให้สายการบังคับบัญชาสั้นลง

     มีรายงานว่า  ในช่วงเช้า  พล.อ.อนุพงษ์ได้เรียกประชุมผู้บังคับหน่วยระดับผู้บัญชาการกองพล  เพื่อให้นโยบายเกี่ยวกับการจัดวางกำลัง  โดยได้ย้ำให้ใช้แนวทางเดิมคือ  เจ้าหน้าที่รัฐ  ตำรวจ  จะรับผิดชอบในพื้นที่ด้านในติดกับกลุ่มผู้ชุมนุม  ในขณะที่เจ้าหน้าที่ทหารเฝ้าระวังในพื้นที่รอบนอกและพื้นที่สำคัญๆ  ตามแผนปฏิบัติการเดิม  ซึ่งขณะนี้เป็นขั้นการฟื้นฟู  เตรียมกำลัง  และจัดกำลังใหม่ให้เหมาะสมกับสภาพปัญหา  พร้อมทั้งหาข่าวและสำรวจสภาพแวดล้อมอย่างรอบด้าน

     แหล่งข่าวระบุว่า  ขณะนี้ยังมีปัญหาหลายประการในการขอคืนพื้นที่ราชประสงค์จากคนเสื้อแดง   โดยเฉพาะกองกำลังติดอาวุธ  ที่พร้อมจะปฏิบัติการหากเจ้าหน้าที่รัฐเข้าทำการสลาย  อีกทั้งอารมณ์ของผู้ชุมนุมฮึกเหิมไกลไปกว่าที่จะทำความเข้าใจได้  นอกจากนั้นการดำเนินการบังคับใช้กฎหมายยังทำไม่ได้ผล  โดยเฉพาะการจับแกนนำ  ปัญหาที่สำคัญยังเกิดจากกำลังพลระดับปฏิบัติหรือพลทหารกำลังจะปลดประจำการ  ที่ขณะนี้ส่วนที่ปฏิบัติงานตามแผนปลดไปแล้ว  11  กองร้อย   การใช้กำลังจากทหารเกณฑ์ผลัดสอง  ซึ่งยังไม่ได้รับการฝึกเท่าที่ควรจะเสี่ยงต่อการปฏิบัติหน้าที่มากขึ้น  และกำลังที่ยังปฏิบัติหน้าที่ก็อ่อนล้าเต็มที

     แหล่งข่าวระบุว่า  เหตุผลสำคัญที่นายอภิสิทธิ์ได้แต่งตั้ง  พล.อ.อนุพงษ์เป็นหัวหน้าในการดูแลกำลังการปฏิบัติทั้งหมด  เพื่อต้องการกดดันให้  พล.อ.อนุพงษ์ใช้อำนาจหน้าที่ของตัวเองในการแก้ไขปัญหา  เพราะที่ผ่านเขาไม่เห็นด้วยกับการสลายม็อบ  แม้จะมีการเปลี่ยนคำเป็นการขอพื้นที่คืน  และต้องการให้ฝ่ายการเมืองไปหารือและเจรจาเพื่อหาทางออก  นอกจากนั้นยังมีปัญหาว่าฝ่ายการเมืองเองก็เป็นอุปสรรค  ที่เข้าเร่งรัดการปฏิบัติในการขอคืนพื้นที่  โดยการที่นายสุเทพได้สั่งการข้ามหัว  พล.อ.อนุพงษ์ในการใช้กำลังบางหน่วย  ส่งผลให้เกิดการสูญเสียกำลังหลักที่กองทัพบกไว้ใจ

     "น่าสนใจว่า  ผบ.ทบ.จะใช้ทหารสลายการชุมนุมหรือไม่   เพราะตอนนี้ใครๆ  ก็รู้ว่า  ในขณะนี้  จากเงื่อนไขปัจจัยของเสื้อแดง  ยากที่จะเข้าไปสลายได้สำเร็จ  ถ้าสำเร็จก็สูญเสียเป็นอย่างมาก  ทั้งหมดนี้ถือเป็นการต้อนให้  พล.อ.อนุพงษ์ต้องเลือก  ซึ่งถ้า  พล.อ.อนุพงษ์ไม่เลือก  นายกฯ  ก็มีดาบอยู่ในมือ  ซึ่งที่ผ่านมาก็ยากที่จะปลด  ผบ.ทบ.ได้  ยกเว้นจะมีการปฏิวัติก่อน  แต่ตอนนี้ก็ยังเชื่อว่าไม่มีใครกล้าปฏิวัติ  เพราะตอนนี้กำลังในกองทัพก็แตกเป็นเสี่ยง  ส่วนกำลังที่ไว้ใจก็สูญเสียไปจากปฏิบัติการเมื่อวันที่  10  เม.ย.หลายคน"  แหล่งข่าวระบุ

     ด้านนายสาทิตย์  วงศ์หนองเตย  รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี  ได้ให้เจ้าหน้าที่นำซีดีบันทึกภาพเหตุการณ์เมื่อวันที่  10  เม.ย.  จำนวน  100  แผ่น  แจกจ่ายให้กับสื่อมวลชน  โดยหน้าซีดีเขียนว่า  "ใครฆ่าแดง"  ตอนที่  1  พร้อมกับแนบเอกสารระบุว่า  รายงานสถานการณ์ความจริงเป็นที่ประจักษ์ชัดว่า  ได้มีการกลุ่มผู้ก่อการร้ายแฝงตัวในกลุ่มผู้ชุมนุมที่เรียกร้องประชาธิปไตยโดยบริสุทธิ์ใจ   ซึ่งกลุ่มผู้ก่อการร้ายกลุ่มนี้ได้มีการใช้อาวุธสงครามและระเบิด  โดยมุ่งหวังให้เกิดการสูญเสียชีวิต  ทั้งชีวิตและทรัพย์สินของเจ้าหน้าที่และประชาชนผู้บริสุทธิ์อย่างไร้มนุษยธรรม  เพื่อเป็นการยืนยันถึงการปฏิบัติการอันโหดเหี้ยมของกลุ่มผู้ก่อการร้ายที่แฝงตัวเข้าในกลุ่มผู้ชุมนุม

     สามารถดาวน์โหลดคลิปวิดีโอได้ที่   www.factreport.go.th  ขณะที่ทางเจ้าหน้าที่ได้แจ้งว่า  ได้มีการทำซีดีแจกจ่ายไปยังหน่วยงานราชการ  ประชาชนทั่วประเทศแล้ว  5  แสนแผ่น  อย่างไรก็ตาม  ก่อนหน้านี้มีรายงานข่าวว่านายสุเทพได้ประสานกับแกนนำพรรคร่วมรัฐบาลคนหนึ่ง   ในการทำแผ่นวีซีดีที่บันทึกภาพเหตุการณ์ที่ทหารและคนเสื้อแดงถูกไอ้โม่งชุดดำยิงออกเผยแพร่จำนวน   1  ล้านแผ่น  โดยมีเป้าหมายแจกจ่ายในจังหวัดภาคเหนือและภาคอีสาน  เพื่อให้ชาวบ้านในพื้นที่ได้ดูและไม่ให้การสนับสนุนการชุมนุมของกลุ่มคนเสื้อแดง

    วันเดียวกันนี้  พล.อ.ชัยสิทธิ์  ชินวัตร  อดีต  ผบ.สส. ในฐานะญาติผู้พี่ของ  พ.ต.ท.ทักษิณ   ชินวัตร  อดีตนายกรัฐมนตรี  ให้สัมภาษณ์ผ่านรายการลับ  ลวง  พราง  ทางเอฟเอ็ม  100.5  ถึงสถานการณ์ที่เกิดขึ้นเมื่อวันที่  10  เม.ย.ที่ผ่านมาว่า  ดูแล้วไม่สบายใจ  ไม่ชอบเลยที่ทหารมีการตาย  ไม่ควรจะมีการตาย  เพราะการปฏิบัติการของทหารมันไม่ถูกต้อง  มีประชาชนตาย  มันไม่ถูก  จะทำอะไรก็แล้วแต่  แต่ผลลัพธ์ออกมามีคนตาย  มันไม่ได้

     "คนสั่งต้องรับผิดชอบ  จะมาแก้ตัวอย่างไรก็ไม่ขึ้น  ไม่ใช่ถืออำนาจบาตรใหญ่"

ญาติแม้วด่ากองทัพ

     ถามว่ามองความผิดพลาดในแง่ทหารอย่างไร   ญาติผู้พี่  พ.ต.ท.ทักษิณตอบว่า  วันที่  10  เม.ย.ที่ผ่านมา  ทหารบุกเกิน  6  โมงเย็น  มันไม่ถูกหลักสากล  ดังนั้นทำไม่ได้  ใครจะรับผิดชอบ   แสดงว่าการทำตอนนั้นเพื่อปิดหูปิดตาประชาชน  มันไม่ได้หรอก  เดี๋ยวนี้มีคลิปวิดีโอ  โทรศัพท์มือถือ

     ซักว่าอาจจะอยากปิดเกม   พล.อ.ชัยสิทธิ์กล่าวว่า  "ประเมินสถานการณ์อย่างไร  ข้าศึกเวลาเข้าตี  ต้องมีกำลังพลมากกว่าคนตั้งรับ  อย่างน้อย  2  เท่า  แต่นี่อาวุธคุณมี  เขาไม่มี   แต่กำลังพลประชาชนมากกว่า  คุณประเมินผิด  ผมได้ยิน  พ.อ.สรรเสริญ  แก้วกำเนิด  โฆษก  ศอฉ. เป็นผมผมปลดแม่งไปแล้ว"

     "ไปให้ข้อมูลเจ้านายได้อย่างไรว่าม็อบมีแค่  2-3  พัน  เจ้านายก็ตัดสินใจผิด  การข่าวห่วยมากๆ    รบเมื่อไหร่ก็แพ้  ส่วนกองกำลังแทรกซ้อน  คุณเอะอะก็มาบอกว่ามีผู้ก่อการร้าย  ขายหน้าประเทศไทยหรือไม่  คุณเป็นตัวแทนประเทศ  คุณพูดได้อย่างไร  มันไม่มีหรอก  การข่าวคุณมันไม่มีดีจริง  ชุดดำที่มี  เป็นได้ทั้ง  2  ฝ่าย  ก็มีส่วนหนึ่งมาช่วยเสื้อแดง  หรือรัฐบาลเองมีแผนอะไรสักอย่าง   มันมีประวัติอยู่  จะมีมือที่  3  ก็พูดไป  แต่มาพูดเรื่องการก่อการร้าย  มันหน้าด้าน  ทุเรศ"

     พล.อ.ชัยสิทธิ์กล่าวว่า  ไม่มีการล้มการปกครองหรอก  กลุ่มคนเสื้อแดงชัดเจนที่เรียกร้องประชาธิปไตย   ต้องเห็นใจผู้ชุมนุมบ้าง  หัดไปดูผู้ชุมนุมอยู่กันอย่างไร  คุณทารุณประชาชนมากเกินไปแล้ว  ไม่ทราบรัฐบาลคิดอะไร  แต่คุณไปได้แล้ว  ทั้งนี้  เหตุการณ์  เม.ย.52  ปีที่แล้วก็จับใครไม่ได้สักคน  พูดไปก็เสียหาย  คุณสร้างขึ้นมาเองก็ได้  แต่อย่ามาพูดก่อการร้าย  อีกหน่อยนักท่องเที่ยวจะมาประเทศไทยได้อย่างไร

     ถามว่าแกนนำต้องรับผิดชอบหรือไม่   เพราะคุมประชาชนไม่ได้  พล.อ.ชัยสิทธิ์กล่าวว่า  เมื่อเป็นประชาชนตรงนั้น  ใครก็แทรกซึมเข้าไปได้  ไม่ได้มีรั้วลอบขอบชิด  และห้ามเข้า  แต่เป็นประชาชนที่มารวมกัน

     ซักว่าเป็นทหารสู้กับทหารหรือไม่   พล.อ.ชัยสิทธิ์กล่าวว่า   มีส่วน  แต่ถ้าดูง่ายๆ  ถ้า  นปช.จะสู้โดยอหิงสา  อาวุธที่เขายึดไปก็ไม่คืน  แต่นี่ไม่ใช่  กลุ่มเสื้อแดงคืนหมด  นั่นแสดงถึงความบริสุทธิ์ใจ   หมดเวลาแล้วล่ะ  ผลคือมีการตาย  ไปทบทวนใหม่กันได้  อยากเป็นฮีโร่  พล.อ.อนุพงษ์มาทำแทนนายสุเทพ  จิตใจของคงไม่เหมือนไอ้เทือกหรอก

     "อนุพงษ์มาน่าจะดีขึ้น   แต่บอกให้ไปทบทวนการข่าว  อนุพงษ์น่าจะเดินเข้าไปหาแกนนำเลย  และประชาชนที่อยู่หน้าราชประสงค์  เพราะเขาไม่เหมือนพวกพันธมิตรฯ  ที่คนของราชการเข้าไม่ได้  หากไม่เชื่อผมพาไปเองก็ได้  เข้าไปคุยได้เลย  ไม่ต้องมีข้อเสนอ  จะได้รู้ว่าเขามาทำไม  ตัวนายกฯ  จะอยู่ไม่ได้  สุเทพก็อยู่ไม่ได้  ไปที่ไหนก็โดนรังเกียจ  โฆษกรัฐบาลก็เหมือนกัน  อย่านึกว่าปิดหูปิดตาได้  ความจริงก็คือความจริง"

     เขายังบอกว่าไม่ได้ติดต่อกับ  พ.ต.ท.ทักษิณ  และดีแล้วที่เขาไม่ได้ติดต่อมา  พ.ต.ท.ทักษิณเป็นแพะอยู่แล้ว  เขาคงกำลังหาแพะอยู่  ตนพูดแบบนี้ก็อาจหาแพะมาทางตนก็ได้  เพราะไม่ใช่ลูกผู้ชาย   พ.ต.ท.ทักษิณเป็นคนดื้อที่ไหน  ถึงเวลาก็ลง  แต่เหตุการณ์ที่ผ่านมามีคนตายยังไม่ยอมยุบเลย  ดังนั้นใครดื้อกว่ากัน

     ส่วนความเคลื่อนไหวของคนเสื้อแดงที่ราชประสงค์นั้น   ในช่วงกลางวันมีผู้ชุมนุมไม่มากนัก  เพราะมีฝนตกโปรยปรายลงมา  ขณะที่บรรดาแกนนำที่มีชื่อในหมายจับต่างมีสีหน้าเคร่งเครียดและแทบไม่เดินห่างจากเวทีมากนัก

แกนนำแดงกลัวหัวหด

     ทั้งนี้เป็นที่น่าสังเกตว่าแกนนำส่วนใหญ่จะอยู่ในพื้นที่การชุมนุมเกือบตลอดเวลา  และเกาะกลุ่มรวมตัวกัน   ทั้งนายจตุพร  พรหมพันธุ์,  นายณัฐวุฒิ  ใสยเกื้อ,  นพ.เหวง  โตจิราการ,  นายสุภรณ์  อัตถาวงศ์,  นายอริสมันต์  พงศ์เรืองรอง,  นายพายัพ  ปั้นเกตุ  ยกเว้นแต่นายวีระ  มุสิกพงศ์  เท่านั้นที่จะเข้ามายังเวทีปราศรัยในช่วงค่ำ  ทั้งๆ  ที่ปกติแกนนำหลักส่วนใหญ่จะสลับกันมาที่บริเวณพื้นที่การชุมนุม   โดยจะอยู่เฉพาะช่วงเช้าและเย็นเท่านั้น  แต่ทั้งนี้หลังจากเมื่อวันที่  16  พ.ค.ที่ผ่านมา  ที่แกนนำคนเสื้อแดงถูกล้อมจับนั้น  ทำให้แกนนำส่วนใหญ่ไม่กล้าเดินทางออกไปไหน   ทั้งที่ในวันเสาร์เดิมมีกำหนดการที่จะไปร่วมงานสวดพระอภิธรรมศพของผู้ชุมนุมที่เสียชีวิต  ซึ่งตามปกติทางแกนนำจะส่งตัวแทนไปร่วมงานด้วย

     นายสุภรณ์   อัตถาวงศ์  แกนนำคนเสื้อแดง  กล่าวว่า  หลังจากที่รัฐบาลปิดสัญญาณการถ่ายทอดสถานีพีทีวี  ทำให้มีผู้ชุมนุมเดินทางมาชุมนุมที่แยกราชประสงค์จำนวนมาก  ตนจะหารือกับแกนนำให้เปิดเวทีเพิ่มที่หน้าธนาคารกรุงเทพฯ  ถนนสีลม  เพื่อกดดันรัฐบาล  เนื่องจากเป็นพื้นที่ขับเคลื่อนทางด้านเศรษฐกิจของประเทศอีกจุดหนึ่ง  อย่างไรก็ตาม  ช่วงวันที่  17-18  เมษายนนี้  จะไม่เคลื่อนขบวนไปไหน  แต่วันที่  19   เมษายนจะมีเคลื่อนไหวแน่  โดยจะเดินทางไปในจุดที่เป็นยุทธศาสตร์สำคัญของรัฐบาล  แต่ไม่สามารถเปิดเผยในตอนนี้

     นายณัฐวุฒิ  ใสยเกื้อ  แกนนำคนเสื้อแดง  แถลงว่า  สิ่งที่กลุ่มคนเสื้อแดงต้องการในวันนี้คือจิตสำนึกและความรับผิดชอบของนายอภิสิทธิ์  ในฐานะนายกรัฐมนตรี  ซึ่งหากนายอภิสิทธิ์ยอมยุบสภา  นอกจากจะทำให้สถานการณ์และบรรยากาศทางการเมืองคลี่คลายลงแล้ว  ยังเป็นการป้องกันการสูญเสียที่จะเกิดขึ้นในอนาคตด้วย  ซึ่งตนกังวลว่าความสูญเสียในครั้งต่อไปจะเป็นความสูญเสียที่ยิ่งใหญ่กว่าวันที่  10  เม.ย.ที่ผ่านมา  เพราะขณะนี้รัฐบาลได้ใช้พิมพ์เขียว  6  ต.ค. 2519  โดยสร้างภาพว่าผู้ชุมนุมเป็นผู้ก่อการร้าย  ใส่ร้ายป้ายสีประชาชนโดยใช้สื่อของรัฐให้ข้อมูลข้างเดียว  รวมทั้งมีการปลุกระดมประชาชนอีกกลุ่มด้วย

     เขายังกล่าวถึงกรณีที่รัฐบาลได้ล้อมจับแกนนำคนเสื้อแดงว่า   รัฐบาลทำตัวเหมือนกำลังจะพบกับชัยชนะครั้งแรก  ประกอบกับเมื่อดูอาการของนายสุเทพ  ที่รีบออกโทรทัศน์ตั้งแต่เช้า  แต่เมื่อปฏิบัติการไม่สำเร็จ  ทั้งนายสุเทพและนายอภิสิทธิ์ก็หลบตัวเงียบหาย  เห็นได้ชัดว่าการกระทำดังกล่าวรัฐบาลไม่ได้มีความพยายามในการรักษากฎหมาย  แต่เป็นความพยายามที่ต้องการเอาชนะทางการเมืองมากกว่าโดยไม่เลือกวิธีการ

     นายณัฐวุฒิกล่าวถึงการดำเนินการกับหมายจับของรัฐบาลว่า  กลุ่มคนเสื้อแดงได้มอบหมายให้ทนายความไปแสดงความจำนงแล้ว   โดยแกนนำทั้ง  24  คนจะเข้ามอบตัวในวันที่  15  พ.ค.นี้  ซึ่งตนมั่นใจว่าหากคนเสื้อแดงแสดงเจตนารมณ์เช่นนี้  ทางรัฐบาลก็ควรจะให้โอกาสตามกระบวนการยุติธรรมกับเราด้วย  เช่นเดียวกับกลุ่มพันธมิตรฯ  ที่เคยได้รับโอกาสจนถึงทุกวันนี้

     ส่วนกรณีที่นายอภิสิทธิ์เปลี่ยนผู้อำนวยการ   ศอฉ. จากนายสุเทพ  เป็น  พล.อ.อนุพงษ์นั้น  นายณัฐวุฒิเชื่อว่าคงไม่มีอะไร  เพราะการถอดนายสุเทพก็เพื่อให้เกิดความสะดวกที่จะเล่นเกมใต้ดินได้อย่างเต็มที่เท่านั้น  ส่วนการตั้ง  พล.อ.อนุพงษ์นั้น  ตนเห็นว่าคงเป็นเกมของรัฐบาลที่ต้องการเปลี่ยนตัว  ผบ.ทบ.มากกว่า  โดยจะใช้ข้ออ้างว่าไม่สนองตอบฝ่ายการเมือง  เนื่องจาก  พล.อ.อนุพงษ์แสดงเจตนารมณ์ชัดเจนมาตลอดว่าจะไม่ใช้ความรุนแรง

     เขายังบอกว่า   พ.ต.ท.ทักษิณจะไม่มีการโฟนอินหรือวิดีโอลิงค์  เนื่องจากคนเสื้อแดงไม่ต้องการให้รัฐบาลนำคำพูดของ    พ.ต.ท.ทักษิณมาโจมตีกลุ่มคนเสื้อแดงว่าเป็นการต่อสู้เพื่อคนคนเดียว  เพราะความจริงกลุ่มคนเสื้อแดงต่อสู้และเรียกร้องเพื่อประชาธิปไตย

ปืน  มท.ระดมปืนลูกซอง

     ในช่วงเย็น  นายจตุพร  พรหมพันธุ์  แกนนำกลุ่มคนเสื้อแดง  เปิดแถลงข่าวผ่านเวทีการปราศรัยว่า  วันนี้มีกระแสข่าวว่านายชวรัตน์  ชาญวีรกูล  รมว.มหาดไทย  ต้องตอบคำถามให้ได้   ว่าได้มีการรวบรวมปืนลูกซองในหน่วยงานที่สังกัดของกระทรวงมหาดไทย  จำนวน  3,000  กระบอก  เพื่อส่งไปยังกรมทหารราบที่  11  รักษาพระองค์  สำหรับใช้ปราบปรามกลุ่มคนเสื้อแดงจริงหรือไม่  ทั้งนี้หากเป็นจริง  ขอเตือนว่าไม่ต้องมาปกป้องชีวิตประชาชนหรอก  เพราะนายชวรัตน์เองจะไม่มีชีวิตและไม่มีแผ่นดินอยู่

     ส่วนการส่งคดีเหตุการณ์การชุมนุมของคนเสื้อแดงไปให้กรมสอบสวนคดีพิเศษหรือดีเอสไอให้รับผิดชอบนั้น  นายจตุพรกล่าวต่อว่า  ทางกรมสอบสวนคดีพิเศษทั้งตัวอธิบดีเองรวมทั้งประธานที่เป็นนายอภิสิทธิ์   หรือเป็นผู้เกี่ยวข้องกับการสั่งฆ่าประชาชนโดยตรงนั้น  วันนี้มีการเตรียมการเพื่ออุปโลกน์ผู้กล่าวหาเรื่องผู้ก่อการร้ายขึ้นมา  แต่อย่างไรก็ตามปรากฏว่าในขณะนี้มีผู้กล่าวหาซึ่งเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจกองปราบปรามที่ได้อุปโลกน์ไว้  2  คนได้ขอถอนตัว  ไม่กล้าเป็นผู้กล่าวหา   เนื่องจากหากไม่มีพยานหลักฐานข้อเท็จจริงย่อมจะถูกดำเนินคดีในข้อหาแจ้งความเท็จและถูกดำเนินคดีทางอาญากลับ

     "ดีเอสไอ  ถ้าคุณร่วมกับนายอภิสิทธิ์  ย่อมเท่ากับเป็นการสมคบกันฆ่าคนตายโดยปิดบังข้อเท็จจริงและโยนความผิดให้กับบุคคลอื่น"  นายจตุพรระบุ

     นายจตุพรกล่าวต่อว่า   ขอถามไปยังนายอภิสิทธิ์   รวมถึง  พล.อ.อนุพงษ์  และ  พ.อ.สรรเสริญ  ว่าการประกาศใช้  พ.ร.ก.ฉุกเฉินนั้น  มีกฎหมายข้อใดที่บังคับใช้เฉพาะกับกลุ่มคนเสื้อแดง  เพราะกรณีที่กลุ่มคนเสื้อหลากสี  ซึ่งจริงๆ  คือกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยและพรรคประชาธิปัตย์  ที่รวมตัวกันขึ้น  และเดินทางไปยัง  ร.11  รอ.  เมื่อวันที่  16  เม.ย.ที่ผ่านมา  และที่อนุสาวรีย์ฯ  ซึ่งถือเป็นการผิด  พ.ร.ก.ฉุกเฉิน  เรื่องการชุมนุมเกิน  5  คนนั้น  เหตุใดจึงไม่ออกหมายจับ

      ที่กองบัญชาการตำรวจนครบาล   นายคารม  พลทะกลาง  ทนายความแกนนำ  นปช.ซึ่งได้รับมอบอำนาจจากแกนนำ  นปช.ที่ถูกออกหมายจับ  จำนวน  24  คน  เดินมายื่นหนังสือกับ  พล.ต.ต.อำนวย  นิ่มมะโน  รอง  ผบช.น.

     นายคารมเผยว่า    มาแจ้งกับทางพนักงานสอบสวนที่ได้ออกหมายจับแกนนำ   นปช.ทั้ง   24  คน  ตามอำนาจของ  ศอฉ. เพื่อยืนยันว่าทั้งหมดไม่ยอมรับความผิดที่ถูกกล่าวหาว่าก่อการร้ายนั้น   และจะแสดงเจตจำนงว่าจะเข้ามอบตัวในวันที่  15  พ.ค.  เวลา  10.30  น.  เหตุผลเนื่องจากเกรงเรื่องความไม่ปลอดภัยและต้องใช้เวลาในการดำเนินการเพื่อเตรียมหลักทรัพย์ขอประกันตัว   รวมทั้งกรณีที่ตำรวจพยายามเข้าจับกุมตัวนายอริสมันต์   พงศ์เรืองรอง  แกนนำ  นปช.และพวก  ที่โรงแรมเอสซีปาร์ค  อาจเป็นเหตุที่จะนำไปสู่ความวุ่นวาย

     ดังนั้นเห็นว่าการที่แกนนำ   นปช.ทั้งหมดนัดหมายวันเวลาที่จะเข้ามอบกับพนักงานสอบสวนอย่างชัดเจน  น่าจะเป็นประโยชน์ต่อทุกฝ่าย  ซึ่งเชื่อว่าเมื่อถึงตอนนั้นปัญหาดำเนินมาทั้งหมดคงยุติแล้ว  ในส่วนข้อกล่าวหาอื่นๆ  เช่น  มั่วสุมตั้งแต่  10  คนขึ้น  หรือยุยงปลุกปั่นไปให้เกิดความวุ่นวายในบ้านเมืองนั้น  ไม่ได้กังวล  และจะต่อสู้ตามกระบวนการยุติธรรม

     ด้าน  พล.ต.ต.อำนวยกล่าวว่า  พนักงานสอบสวนออกหมายจับแกนนำตาม  พ.ร.ก.ฉุกเฉิน  โดยมีเจตนารมณ์และเกรงว่าหากไม่รีบนำตัวแกนนำ  นปช.ทั้งหมดมาควบคุมไว้  อาจจะไปก่อเหตุร้ายขึ้น  ตามอำนาจ  พ.ร.ก.ฉุกเฉิน  มีอำนาจควบคุมตัวได้ครั้งละ  7  วัน  แต่ต่อเนื่องกันไม่เกิน  30  วัน  พนักงานสอบสวนไม่ได้จับกุมตาม  พ.ร.บ.คดีอาญาทั่วไป  ดังนั้นไม่สามารถนำหลักทรัพย์มาประกันตัวได้   และการที่ทนายความมายื่นว่าจะเข้ามอบตัวในอีก  1  เดือนข้างหน้า  ก็ไม่มีผลให้เจ้าหน้าที่หยุดการจับกุมได้  และหมายจับส่วนใหญ่เป็นการออกโดยกองปราบปราม  อย่างไรก็ตาม  จะรับเรื่องไว้เพื่อเสนอผู้บังคับบัญชา

     ผู้สื่อข่าวถามถึงกรณีความผิดพลาดในการจับกุมแกนนำคนเสื้อแดงที่โรงแรมเอสซีปาร์คว่าเกิดจากอะไร    พล.ต.ต.อำนวยกล่าวว่า  การจับกุมคดีอื่นๆ  หรือการพนันไม่ประสบความสำเร็จก็หลายครั้ง  และเมื่อวานไม่มีการสูญเสียใดๆ  เจ้าหน้าที่เน้นความปลอดภัยเป็นหลัก  หากจะเกิดการสูญเสียก็ให้ถอนมาก่อน  ค่อยดำเนินการจับกุมใหม่ได้

     อย่างไรก็ตาม  จากการประเมินสถานการณ์ก็ต้องมาปรับกัน  โดยเฉพาะ  ผบ.พื้นที่  ต้องปรับกัน  เจ้าของพื้นที่จะชัดเจนขึ้น  ซึ่งการจับกุมครั้งต่อไปต้องรวดเร็ว  ชัดเจน  อย่างไรก็ตาม  ขณะนี้ฝ่ายสอบสวนกำลังดำเนินการแจ้งข้อหาเพิ่มเติมกับกลุ่มแกนนำคนเสื้อแดงที่หลบหนีการจับกุมเจ้าหน้าที่ว่าเข้าข่ายผิดกฎหมายข้อใดบ้าง

ตำรวจปรับทัพใหม่

     ขณะที่  พล.ต.ต.ปิยะ  อุทาโย  โฆษก  บช.น.แถลงข่าวว่า   พล.ต.ท.สัณฐาน  ชยนนท์  ผบช.น.  เรียกประชุมเจ้าหน้าที่เพื่อประเมินสถานการณ์การชุมนุมของกลุ่มคนเสื้อแดง  และรับทราบปัญหาการปฏิบัติหน้าที่  โดยมี  รอง  ผบช.น.ผบก.น.1-9  ผบก.ตปพ. และ  ผกก.ทุก สน. เข้าร่วมประชุม

     พล.ต.ต.ปิยะกล่าวว่า   สำนักงานตำรวจแห่งชาติแจ้งว่าตามที่มีการจัดโครงสร้างกำลังเพิ่มเติม  จากที่ขึ้นกับ  กอ.รมน.ภาค  1  ให้กำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจไปขึ้นกับสำนักงานตำรวจแห่งชาติโดยตรง  มีภารกิจหลักดูแลรักษาความสงบเรียบร้อย  หากภารกิจนอกเหนือจากนั้นต้องได้รับคำสั่งจาก    พล.ต.อ.ปทีป   ตันประเสริฐ  รักษาการ  ผบ.ตร.เท่านั้น  อย่างไรก็ดีทาง   พล.ต.ท.สัณฐานได้เน้นย้ำให้เจ้าหน้าที่ทุกนายหลีกเลี่ยงความรุนแรง   เน้นการเจรจา  และห้ามกำลังพลพกพาอาวุธปืนและระเบิดโดยเด็ดขาด  เว้นแต่ได้รับอนุญาตเท่านั้น

     พล.ต.ต.ปิยะกล่าวต่อว่า   จากนี้ไป  ผบก.น.1-9  ห้ามอ้างว่ากำลังพลดูแลพื้นที่ไม่เพียงพอ    เพราะทาง  บช.น.ส่งกำลังกองร้อยควบคุมฝูงชนของแต่ละ  บก.ให้แล้ว  1  กองร้อย  คงเหลือเพียง  บก.ละ  1   กองร้อยเท่านั้น  จากนั้นให้เน้นงานสายตรวจเดินเท้า  ปรากฏกายให้ประชาชนเห็นเพื่อความอุ่นใจ  โดยให้เน้นตรวตตราร้านค้า  ตลาด  ห้างสรรพสินค้า  สถานที่ท่องเที่ยวและสถานีขนส่ง

     "ส่วนภารกิจพิเศษเรื่องถวายอารักขาความปลอดภัยแก่ราชวงศ์จะต้องร้อยเปอร์เซ็นต์  เน้นเส้นทางเสด็จฯ  พระราชวัง  อย่างเคร่งครัด  ห้ามบกพร่องอย่างเด็ดขาด  โดยเฉพาะในส่วนของพื้นที่การชุมนุมที่อยู่ใกล้พระตำหนัก  ก็ให้สนธิกำลังกับทหารเข้าไปดูแลเป็นพิเศษ"

     ผู้สื่อข่าวถามถึงกรณีกลุ่มคนเสื้อหลากสีชุมนุมที่บริเวณหน้าราบ  11  เมื่อวันศุกร์  เข้าข่ายผิด  พ.ร.ก.ฉุกเฉินหรือไม่  พล.ต.ต.ปิยะตอบว่า  ผิดส่วนหนึ่ง  แต่ต้องดูองค์ประกอบ  หากไม่ปะทะกันหรือก่อความวุ่นวายก็อะลุ่มอล่วยกันได้

     ทั้งนี้   พล.ต.ท.สัณฐาน   ชยนนท์  ผบช.น.มีคำสั่ง  บช.น.ที่  154/2553  ลงวันที่  13  เมษายน  2553  ให้  พ.ต.ท.วีระชัย  ปฤษฎางคเดชา  พนักงานสอบสวน  (สบ 3)  สน.บางโพงพาง  ไปปฏิบัติหน้าที่ช่วยราชการที่  สน.สุวินทวงศ์  เป็นเวลา  60  วัน  มีผลตั้งแต่วันที่  15  เมษายน  2553

     ก่อนหน้านี้  พล.ต.ต.อำนวยได้รายงานต่อ  พล.ต.ท.สัณฐานว่า  หลังเกิดเหตุกลุ่ม  นปช.ชุมนุมเรียกร้องทางการเมืองและเกิดเหตุวุ่นวาย   ในวันที่  10  เม.ย.ที่ผ่านมาจนมีผู้ได้รับบาดเจ็บและเสียชีวิตจำนวนมาก  พล.ต.ต.อำนวยจึงมีคำสั่งระดมพนักงานสอบสวน  กองบัญชาการตำรวจนครบาล  เพื่อประชุมแบ่งหน้าที่การสอบสวนกรณีดังกล่าว  แต่ปรากฏว่า  พ.ต.ท.วีระชัยกลับเข้าร่วมประชุมสาย  ซึ่งถือว่าไม่เคร่งครัดต่อระเบียบแบบแผนของตำรวจ

     ด้าน   พ.ต.ท.วีระชัยยอมรับว่าสุขภาพไม่ค่อยดี  ป่วยเป็นความดันและเบาหวาน  ต้องไปหาหมอบ่อยๆ    ซึ่งในวันที่มีการเรียกประชุมพนักงานสอบสวนคดีการชุมนุมของกลุ่ม   นปช.โรคเก่ากำเริบ  จึงไปหาหมอ  ทำให้เข้าประชุมสาย  ตนก็บอกผู้บังคับบัญชาไปตามความเป็นจริง  ซึ่งท่านก็เข้าใจ  จึงให้ย้ายไป  สน.สุวินทวงศ์  ใกล้บ้านพัก  เพราะตนอยู่ย่านรามอินทรา  ก็ไม่มีอะไรมาก  แค่เรื่องสุขภาพของเท่านั้น

วันพระไม่ได้มีวันเดียว

     ขณะที่ฝ่ายการเมืองนั้น  นายเทพไท  เสนพงศ์  โฆษกประจำตัวหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์   กล่าวถึงกรณีที่เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ไปจับกุมแกนนำตามหมายจับและไม่ประสบความสำเร็จว่า   รัฐบาลก็ยังมีความตั้งใจแน่วแน่ที่จะจับกุมผู้กระทำผิดตามกฎหมายต่อไป  จะไม่ปล่อยโอกาสให้คนชั่วลอยนวลอย่างแน่นอน   และขอให้ประชาชนมั่นใจในการทำหน้าที่ของรัฐบาล  แม้ว่าวันนี้อาจจะไม่ประสบความสำเร็จ  แต่พรุ่งนี้หรือวันต่อไปเมื่อมีโอกาสก็สามารถที่จะดำเนินการจนประสบความสำเร็จได้  คิดเสียว่าวันพระไม่ได้มีหนเดียว

     นายประมวล   เอมเปีย  ส.ส.ชลบุรี  พรรคประชาธิปัตย์  เผยว่า  ล่าสุดมีการแจ้งเตือนมาให้ทราบว่าขณะนี้มีการซ่องสุมกำลังชายฉกรรจ์และอาวุธย่านหมู่บ้านเมืองทอง  3  โดยมีอดีตนายตำรวจใหญ่นอกราชการคนหนึ่งให้การสนับสนุนดึงลูกน้องเก่ามาใช้งานอย่างใดอย่างหนึ่งในช่วงเวลาหน้าสิ่วหน้าขวาน  จึงขอให้หน่วยงานด้านความมั่นคงของรัฐตรวจสอบด้วย

     นายสุริยะใส   กตะศิลา  เลขาธิการพรรคการเมืองใหม่  กล่าวว่า  แกนนำ  นปช.จะต้องกล้าตัดสินใจเพื่อรักษาชีวิตของผู้บริสุทธิ์ในที่ชุมนุม  เพราะสถานการณ์ได้พัฒนาไปไกลจนคนทั่วไปเริ่มเชื่อและเห็นข้อเท็จจริงว่ามีกลุ่มติดอาวุธฝังตัวอยู่ในที่ชุมนุม  และพร้อมเปิดศึกทำสงครามกับอำนาจรัฐเต็มรูปแบบ   ฉะนั้นวิธีกดดันอำนาจรัฐของแกนนำ  นปช.เป็นวิธีที่สุ่มเสี่ยงมากขึ้น และยังปลุกกระแสความเกลียดชังและความรุนแรงให้เกิดขึ้นในสังคม

     "ผมเป็นห่วงว่ามันจะคล้ายๆ  กับเหตุการณ์  6  ตุลาคม  2519  แต่จะเป็น  6  ตุลาคมด้านกลับ  กล่าวคือผู้ชุมนุมถูกปลุกปั่นให้เกิดความเกลียดชังฝ่ายตรงกันข้าม  ไม่ว่าจะเป็นอำนาจรัฐและประชาชนหลากสีที่เห็นต่างจากคนเสื้อแดง"

     สำหรับการเคลื่อนไหวของพันธมิตรฯ  นั้น  จะมีการประชุมเครือข่ายทั่วประเทศในวันพรุ่งนี้  ตั้งแต่เวลา  09.00-16.00  น.  ที่อาคารนันทนาการ  ม.รังสิต  (เมืองเอก)  เพื่อกำหนดท่าทีและทางออกต่อวิกฤตการณ์ของประเทศในขณะนี้

     ส่วนความเคลื่อนไหวของกลุ่มเสื้อหลากสีนั้น   เมื่อเย็นวันเสาร์  ประชาชนยังคงทยอยเข้าร่วมกับกลุ่มพลเมืองอาสาปกป้องแผ่นดินที่รณรงค์อยู่ที่อนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิอย่างต่อเนื่อง  ทำให้โดยรอบอนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิเต็มไปด้วยผู้คนใส่เสื้อหลากสี  โบกธงชาติ  ถือพระบรมฉายาลักษณ์ของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว  โดยมีธงชาติไทยผืนใหญ่หลายผืนใช้คลุมพื้นที่โดยรอบ

     พร้อมกันนั้นได้มีการโบกมือชักชวนประชาชนที่เดินอยู่โดยรอบและบนรถโดยสารให้มาร่วมชุมนุมปกป้องประเทศ  ซึ่งมีประชาชนเข้ามาร่วมโดยตลอด  

     นพ.ตุลย์   สิทธิสมวงศ์  ผู้ประสานงานกลุ่มพิทักษ์ชาติ  เผยว่า  ในวันอาทิตย์จะมาชุมนุมตรงอนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ  เวลา  16.00  น.  และในเวลา  17.00  น. จะเดินไปสวนสันติภาพ  ส่วนกำหนดการ  16.00  น.ของทุกวันในวันจันทร์  ไปชุมนุมที่สวนจตุจักร  วันอังคารไปสักการะพระปิยมหาราช  ที่ลานพระบรมรูปทรงม้า  วันพุธไปสักการะพระเจ้าตากสินฯ  ที่วงเวียนใหญ่  ส่วนวันพฤหัสฯ  วันศุกร์และวันเสาร์  จะมาชุมนุมที่อนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ  และวันอาทิตย์ไปสวนหลวง  ร.9  เวลา  09.00  น

     วันเดียวกันนี้   มีรายงานว่านายอภิสิทธิ์ได้เดินทางออกจากกรมทหารราบที่  11  รักษาพระองค์  โดยเครื่องบินแบล็กฮอว์ก  ไปยังอำเภอหัวหิน  จ.ประจวบคีรีขันธ์  เพื่อพักผ่อนกับครอบครัว  มีกำหนดกลับในวันอาทิตย์

     ในขณะที่นายวีระ  มุสิกพงศ์  แกนนำคนเสื้อแดงหมายเลข  1  นั้น   ตลอดทั้งวันไม่ได้ปรากฏตัวที่เวทีปราศรัยแยกราชประสงค์เลย  ซึ่งมีแนวโน้มว่านายวีระได้ออกจากพื้นที่ชุมนุม  แต่ไม่ทราบว่าไปสถานที่ใด.

 
http://www.thaipost.net/sunday/180410/20952


หัวข้อ: Re: [2513]"ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: Intania๑๖ ที่ 18 เมษายน 2553, 16:18:54
(http://img227.imageshack.us/img227/3593/resizeofmgrpdf20100417p.jpg)


หัวข้อ: Re: [2513]"ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: เหยง 16 ที่ 18 เมษายน 2553, 16:30:19
บ้านถูกย้าย เพิ่งตามเจอ

สถานการณ์สงบ ทุกคนก็คงกลับไปพูดจาประสาชาวหอต่อครับ


หัวข้อ: Re: [2513]"ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: suriya2513 ที่ 18 เมษายน 2553, 16:52:50
คุณนายแอ๊ะรีบตามมาโพสท์อะไรก็ได้โดยด่วนเลยนะครับ
ขืนชักช้าผมตายหยั๋งเขียดแน่ๆเลย

(ผมโทร.ไปขออนุญาตแอ๊ะแล้วครับ)


หัวข้อ: Re: [2513]"ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: prapasri AH ที่ 18 เมษายน 2553, 17:15:06
มาแล้วจ้า มาแล้วจ้า......

สรุปว่า ถ้าพูดการเมือง ให้พูดตรงนี้ใช่ไหม แม้ว

จากป๊อก อนุพงษ์ เพื่อน ตท10 ของเธอ55555555555555555


หัวข้อ: Re: [2513]"ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: prapasri AH ที่ 18 เมษายน 2553, 17:20:03
แล้ว ถ้าพูดเรื่องสนุกๆๆ ของพี่แอ๊ะก็พูดตรงนี้ใช่ไหมน้องป๋อง

พี่แอ๊ะงง ทำคอมไม่ค่อยเป็น อ่ะ น้องป๋องงงงงงงงงงงงง


หัวข้อ: Re: [2513]"ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: prapasri AH ที่ 18 เมษายน 2553, 17:21:37
ไอ้ แม้ว  เรา ป๊อก อนุพงษ์ พูดนะ  เราจะเข้ากรุงเทพ

มีธุระที่เซ็นทรัลชิดลม เราจะไปซื้อของได้ไหม

ติดใจเสื้ออยู่หลายตัว


หัวข้อ: Re: [2513]"ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: suriya2513 ที่ 18 เมษายน 2553, 17:22:29
ปนเปไว้ตรงนี้ทุกเรื่องเลยละกัน
เข้ามาได้ไม่ยากนะครับ


หัวข้อ: Re: [2513]"ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: อ้อย 14 ที่ 18 เมษายน 2553, 17:28:31
 emo25:(((ย้ายมาทำไมเนี้ย.....อยู่ที่เดิมก็ดีแล้ว   ไม่ชอบอยู่ตรงนี้...... emo25:(((


หัวข้อ: Re: [2513]"ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: prapasri AH ที่ 18 เมษายน 2553, 17:30:02
ป๊อก ขอไปฝึกไดร์ฟกอล์ฟ ก่อนนะแม้ว

เฝ้าบ้านไว้ด้วยเดี๋ยวพี่ปรีชามาหาบ้านไม่ถูกแน่ๆเลยยยยยยยยยยย


หัวข้อ: Re: [2513]"ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: suriya2513 ที่ 18 เมษายน 2553, 17:49:05
อ้างถึง
ข้อความของ อ้อย 14 เมื่อ 18 เมษายน 2553, 17:28:31
emo25:(((ย้ายมาทำไมเนี้ย.....อยู่ที่เดิมก็ดีแล้ว   ไม่ชอบอยู่ตรงนี้...... emo25:(((

จะได้อยู่เป็นกลุ่มเป็นก้อน คอการเมืองด้วยกันจะได้หาพบได้ง่าย
อยู่ไปสักพักก็ชิน ทนเอาหน่อยนะครับ


หัวข้อ: Re: [2513]"ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: เหยง 16 ที่ 18 เมษายน 2553, 18:24:33
ไม่รู้ว่า มันจะดีขึ้นคือจบเร็ว หรือหาคำตอบยากขึ้น??

พันธมิตรฯมาแล้ว ขีดเส้น 7 วัน 'จำลอง' ลั่นชนะแน่

พันธมิตรฯออกแถลงการณ์ 6 ข้อ ขีดเส้น 7 วันให้รัฐบาลจัดการม็อบเสื้อแดงเด็ดขาด พ้นกำหนด 7 วัน ออกเคลื่อนไหวทันที จี้รัฐเป็นเจ้าภาพปฏิรูปประเทศ พร้อมเปิดโอกาสให้ประชาชนร่วม "พล.ต.จำลอง" ลั่น พลังเสื้อเหลืองเตรียมระดมพล และชนะแน่ เอาเมืองไทยไม่อยู่ไม่เลิก...

เมื่อเวลา 16.00 น. 18 เม.ย. ที่อาคารนันทนาการ มหาวิทยาลัยรังสิต พล.ต.จำลอง ศรีเมือง, นายภิภพ ธงชัย นายสมศักดิ์ โกศัยสุข นายสมเกียรติ พงษ์ไพบูลย์ และนายสุริยะใส กตะศิลา แกนนำกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาชน โดยนายภิภพ ได้อ่านแถลงการณ์พันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ฉบับที่ 8/2553 ว่า  แกนนำกลุ่มพันธมิตรได้ประชุมและวิเคราะห์ประเมินสถานการณ์แล้ว จึงขอแถลงการณ์ 6 ข้อดังนี้ 1.ขอแสดงความเสียใจและไว้อาลัยเจ้าหน้าที่ทหาร และเหยื่อคนเสื้อแดงที่เสียชีวิตไปเมื่อเหตุการณ์วันที่ 10 เม.ย. และ ขอประณามกลุ่มผู้ก่อการร้ายที่ก่อเหตุถือเป็นการกระทำที่อำมหิต

2.รัฐบาลจะต้องบังคับใช้กฎหมายจัดการกับผู้ก่อการร้ายอย่างเร่งด่วนทันที หากไม่ดำเนินการภายใน 7 กลุ่มพันธมิตรฯก็จะทำหน้าที่พลเมืองในการพิทักษ์ชาติ ราชบังลังท์ทันที

3. ตามที่กลุ่มพันธมิตรฯได้เตือนแล้วว่า การเคลื่อนไหวครั้งนี้เป็นการรวมกันของกลุ่มคน 3 กลุ่ม ประกอบด้วยคนเสื้อแดง นักการเมือง และกองกำลังติดอาวุธ จะนำไปสู่ความสูญเสียและรุนแรง วันนี้ประจักษ์ข้อเท็จจริงทุกประการ และมีกลุ่มก่อการร้ายอยู่ในขบวนการระบอบทักษิณชัดเจน ดังนั้นขอเรียกร้องแกนนำคนเสื้อแดงให้เห็นแก่ชีวิตคนเสื้อแดง หยุดนำศพมาเป็นเครื่องสังเวย สร้างความโกรธแค้น หวังเพียงเพื่อเอาชนะทางการเมืองอย่างเดียว ขอให้แกนนำแสดงจิตรับผิดชอบโดยสลายการชุมนุม เพื่อรักษาชีวิตผู้ชุมนุม อย่าให้ตกเป็นเหยื่อสังหารครั้งนี้

4. ขอให้ประชาชน ผู้สนับสนุน หรือแกนนำที่หลงผิด ได้ถอนตัวออกจากการสับสนุนกลุ่มคนเสื้อแดงทันที

5. ขอให้กลุ่มคนพันธมิตรฯทุกจังหวัด ทุกพื้นที่ เข้าร่วมกิจกรรมของกลุ่มต่างๆ ที่รักษาชาติได้อย่างเต็มที่

และ 6. ปัญหาครั้งนี้มาจากโครงสร้างทางด้านเศรษฐกิจ ดังนั้นการแก้ไขปัญหาต้องให้รัฐบาลจัดการ และเปิดโอกาสให้ประชาชนเข้ามาปฏิรูป ทั้งด้านเศรษฐกิจ การเมือง สังคม อย่างเป็นรูปธรรมโดยเร่งด่วน

ทางด้าน พล.ต.จำลอง กล่าวว่า บัดนี้เป็นมติของแกนนำ เป็นหน้าที่ของประชาชนตามรัฐธรรมนูญ เมื่อกำหนดไว้ดังนี้ ต้องทำตาม 7 วัน เตรียมปักหลักกันอีกครั้ง เอาเมืองไทยไม่อยู่ไม่เลิก เราชนะแน่  เมื่อพ้น 7 วัน แกนนำจะมีการวิเคราะห์สถานการณ์และพร้อมที่จะใส่เสื้อเหลืองออกมา ใครพร้อมที่จะสู้ก็ออกมาเลย ใครอยู่บ้านก็ให้รอดูพร้อมฉลองชัยชนะพร้อมๆ กัน 

ขณะที่นายสุริยะใส กล่าวว่า การออกมาครั้งนี้ไม่ใช่เป็นการกดดันรัฐบาล หรือกดดันสังคม แต่เป็นการทำไปเพื่อประโยชน์ของชาติ ซึ่งมีมติว่าหากภายใน 7 วันไม่มีอะไรดีขึ้น แกนนำพันธมิตรฯทั้งรุ่นแรกและรุ่นสอง จะกำหนดการเคลื่อนไหวทันที จะมีการนำรูปแบบการชุมนุมที่ผ่านมาที่ประทับใจในอดีต มาพิจารณาทันที พร้อมกันนี้จะปรับเอเอสทีวีให้ทันกับสถานการณ์ต่อไป


http://www.thairath.co.th/content/pol/77541


หัวข้อ: Re: [2513]"ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: เหยง 16 ที่ 18 เมษายน 2553, 19:24:23
       แถลงการณ์ ฉบับที่ 8/2553
       พันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย
       เรื่อง เตรียมพร้อมทำหน้าที่พลเมืองพิทักษ์รักษาชาติและราชบัลลังก์
       
       จากการประชุมตัวแทนพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยทั่วประเทศไทย เมื่อวันอาทิตย์ที่ 18 เมษายน 2553 ณ อาคารนันทนาการ มหาวิทยาลัยรังสิต เรื่อง “ฝ่าวิกฤตการเมืองไทย ปฏิรูปใหญ่อย่างรอบด้าน” นั้นแกนนำพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยได้วิเคราะห์ประเมินสถานการณ์แล้ว มีมติดังต่อไปนี้
       
       1. เราขอแสดงความเสียใจและไว้อาลัยให้กับครอบครัวของทหารหาญ และเหยื่อประชาชนคนเสื้อแดงที่ต้องบาดเจ็บและเสียชีวิตจำนวนมากในเหตุการณ์คืนวันที่ 10 เมษายน 2553 และเราขอประณามกลุ่มผู้ก่อการร้ายของระบอบทักษิณที่หวังจะสร้างสถานการณ์ทำให้เกิดความรุนแรงระหว่างทหารและผู้ชุมนุมคนเสื้อแดงเพื่อใช้เป็นเครื่องมือล้มล้างรัฐบาลแต่เพียงอย่างเดียว ถือเป็นการกระทำที่อำมหิต โหดเหี้ยม เลวทราม และต่ำช้าที่สุด
       
       2. รัฐบาลจะต้องบังคับใช้กฎหมายจัดการกับขบวนการก่อการร้ายของระบอบทักษิณอย่างเคร่งครัดและเต็มประสิทธิภาพขั้นเด็ดขาดโดยทันที และภายใน 7 วัน หากรัฐบาลยังไม่ดำเนินการใดๆ จนส่งผลทำให้เกิดความสุ่มเสี่ยงและเป็นอันตรายต่อชาติและราชบัลลังก์ พันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยจะทำหน้าที่พลเมืองตามรัฐธรรมนูญในการพิทักษ์รักษาชาติและราชบัลลังก์ทันที
       
       3. ตามแถลงการณ์ของพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยฉบับที่ 7/2553 ลงวันที่ 8 เมษายน 2553 ได้ประกาศเอาไว้ล่วงหน้าแล้วว่าจะมีเหตุการณ์รุนแรงเกิดขึ้นโดยการทำงาน 3 ประสานภายใต้การนำของนักโทษชายทักษิณ ชินวัตร ซึ่งประกอบไปด้วยผู้ชุมนุมคนเสื้อแดง นักการเมืองในระบอบทักษิณ และกองกำลังติดอาวุธ เมื่อเหตุการณ์ในวันที่ 10 เมษายน 2553 ได้เกิดขึ้นตามที่ได้ประกาศเตือนเอาไว้แล้ว ย่อมเป็นการยืนยันข้อเท็จจริงอีกครั้งหนึ่งว่ากลุ่มการก่อการร้ายที่สังหารทหารและประชาชนนั้น อยู่ในขบวนการเดียวกันของระบอบทักษิณเป็นที่ประจักษ์อย่างชัดเจน
       
       ดังนั้น เราจึงขอเรียกร้องต่อแกนนำกลุ่มคนเสื้อแดงให้เห็นแก่ชีวิตและเลือดเนื้อของประชาชนคนเสื้อแดง หยุดนำศพของประชาชนคนเสื้อแดงที่ถูกสังหารโดยผู้ก่อการร้ายของระบอบทักษิณมาเป็นเครื่องสังเวยสร้างกระแสความเกลียดชัง คั่งแค้น เพียงเพื่อเอาชนะล้มล้างรัฐบาลด้วยวิธีสกปรกเพียงอย่างเดียว
       
       ขอให้ยุติโฆษณาชวนเชื่อนำชีวิตประชาชนผู้บริสุทธิ์มาเป็นเหยื่อในการเป็นโล่มนุษย์ให้กับผู้ก่อการร้ายและแกนนำคนเสื้อแดง และขอให้แกนนำคนเสื้อแดงแสดงจิตสำนึกแห่งความรับผิดชอบด้วยการประกาศสลายการชุมนุมเพื่อรักษาชีวิตและเลือดเนื้อประชาชนผู้ชุมนุมและแกนนำคนเสื้อแดงซึ่งเป็นพวกเดียวกันเองมิให้ตกเป็นเหยื่อสังหารของผู้ก่อการร้ายของระบอบทักษิณต่อไป
       
       4. เราขอให้ประชาชนผู้ชุมนุม ผู้สนับสนุน ตลอดจนแนวร่วมหรือแกนนำคนเสื้อแดงที่หลงผิด ซึ่งได้ทราบข้อเท็จจริงแล้วว่ามีขบวนการก่อการร้ายสังหารประชาชนเพื่อใช้ศพทหารและประชาชนคนเสื้อแดงเป็นเครื่องมือล้มรัฐบาล ได้ถอนตัวออกจากการสนับสนุนหรือเข้าร่วมกับขบวนการก่อการร้ายของระบอบทักษิณโดยทันที
       
       5.ในระหว่างนี้ประชาชนที่เป็นพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยทุกพื้นที่และทุกจังหวัดสามารถใช้สิทธิตามรัฐธรรมนูญและกฎหมายเข้าร่วมกิจกรรมกับพลเมืองอื่นๆเพื่อต่อต้านขบวนการก่อการร้ายของระบอบทักษิณได้อย่างเต็มที่ และขอให้พี่น้องประชาชนทุกหมู่เหล่าช่วยกันประชาสัมพันธ์ในทุกมิติเพื่อเตือนให้ประชาชนและกลุ่มคนเสื้อแดงอย่าได้เข้าร่วมกับขบวนการก่อการร้ายที่ใช้วิธีการสกปรกโดยการใช้ชีวิตประชาชนผู้ชุมนุมเป็นเครื่องสังเวยต่อไป
       
       6.ผู้ชุมนุมของกลุ่มคนเสื้อแดงบางส่วนได้หลงผิดเข้ามาในที่ชุมนุมเพราะไม่ได้รับความเป็นธรรมทาง การเมือง เศรษฐกิจ และสังคม ดังนั้นแนวทางในการแก้ไขปัญหาครั้งนี้รัฐบาลจะต้องแสดงความจริงใจเป็นเจ้าภาพเปิดโอกาสให้ประชาชนทุกภาคส่วนเข้ามามีส่วนร่วมเพื่อปฏิบัติการปฏิรูปประเทศไทยทั้งในด้านเศรษฐกิจ การเมือง และสังคม ให้สำเร็จเป็นรูปธรรมโดยทันที
       
       ด้วยจิตคารวะ
       พันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย
       วันอาทิตย์ที่ 18 เมษายน 2553

 
http://www.manager.co.th/Politics/ViewNews.aspx?NewsID=9530000053106


หัวข้อ: Re: [2513]"ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: เหยง 16 ที่ 18 เมษายน 2553, 19:30:19
อ้างถึง
ข้อความของ suriya2513 เมื่อ 18 เมษายน 2553, 17:49:05
อ้างถึง
ข้อความของ อ้อย 14 เมื่อ 18 เมษายน 2553, 17:28:31
emo25:(((ย้ายมาทำไมเนี้ย.....อยู่ที่เดิมก็ดีแล้ว   ไม่ชอบอยู่ตรงนี้...... emo25:(((

จะได้อยู่เป็นกลุ่มเป็นก้อน คอการเมืองด้วยกันจะได้หาพบได้ง่าย
อยู่ไปสักพักก็ชิน ทนเอาหน่อยนะครับ


ย้ายมาคุยกันที่ห้องนี้ กลัวควันจะออกทางหู ฐานพูดกันคนละคีย์ แยกๆกันอยู่จะดีกว่ามั้ง??
เดี๋ยวจะเกิดกรณี "รวมกัน เราตายหมู่ขึ้น!!"
emo25:(((


หัวข้อ: Re: [2513]"ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: prapasri AH ที่ 18 เมษายน 2553, 20:33:38
อ้อยย14
คือมีพี่เขยที่เป้นผู้ใหญ่เป้นห่วง ว่า เวลาเราพูดเรื่องการเมืองเวบมาสเตอร์

หลายห้องแล้ว admin ตามหาไม่ทัน เกรงว่าการพูดของเราจะรุนเเรงไป

แล้วตรวจสอบไม่ได้ เพราะอยู่หลายห้อง กลายเป้นห้องพี่แอ๊ะเป้นห้องการเมืองไปซะเเล้ว

เลย เอาห้องพี่แอ๊ะเป้นห้องการเมืองไปก่อน พอเขามาตรวจ เขาก็ตรวจ เฉพาะห้องพี่แอะ

ต้องเห้นใจ admin เขานะ ว่าหากเราวิจารณ์อะไรมาก

เรารอด เเต่ admin ขาเขาข้างหนึ่งอยู่ในตะรางงงงงงงงงงงงงงงง

โอ๊ยยยยยยยย ดีใจที่ห้องพี่แอ๊ะได้เป้นห้องการเมือง แฮๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ


หัวข้อ: Re: [2513]"ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: suriya2513 ที่ 18 เมษายน 2553, 20:40:54
ตั้งแต่รู้จักกันมา 40 ปี ประทับใจในความใจกว้างของแอ๊ะที่สุดเลยวันนี้


หัวข้อ: Re: [2513]"ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: prapasri AH ที่ 18 เมษายน 2553, 20:50:10
พี่แอ๊ะเครียด จน ไม่ได้ไปออกกำลังกาย นอนดีก่า

เพิ่งตื่นนอนค่ะ

พี่แอ๊ะกำลังสงสารนายกอภิสิทธิ์ แล้วพี่แอ๊ะคิดใคร่ดรวญดีแล้ว จริงๆ ค่ะ

อยากให้นายก อภิสิทธิ์ ยุบสภา หรือลาออก

เพราะสถานการณ์  ณ วันนี้ คนดีๆแก้ไขไม่ได้หรอก

ต้องให้เจ้าเล่ห์ คนชั่วๆ เข้ามารบกันเอง ในรัฐบาล

ถ้าลาออก....ก้ตั้งรํฐบาลใหม่ เรื่องอะไรมานั่งทำงาน ให้อีพวกรัฐมนตรีอื่นๆเสวยสุขกันอยู่

ไม่มีหน้าไหนออกมาช่วยเลย

ให้เขาตั้งกันใหม่เอง
ใครจะเป้นแกนนำก้ปล่อยให้เป้นไปโดยธรรมชาติ

2. ยุบสภา   มวลชนออกมาหลากสี นานาพรรณ

ก็ต้องให้ประชาชนตัดสินกันเอง ว่าจะเอาใครเป็นรัฐบาล ก้ให้เขาเลือกกันใหม่

เพราะถ้าออกกันมาอย่างนี้  แล้วเกิด กระทบกันความเสียหายจะใหญ่หลวง

การปฎิวัติ รัฐประหาร ณ วันนี้ ไกลเกินกว่าจะทำได้แล้ว

เพราะถึงทำปฎิวัติ ท่านแดงเขาก็ไม่สน เขาถูกปลุกระดมให้สู้อยู่ในมอบนั้น

เขาก้บอกว่าเขาตายเพื่อชาติ

ปฎิวัติก้ต้อง ปราบท่านแดงเหล่านี้ เเล้วใคร จะกล้ามือเปื้อนเลือดล่ะ


เห้นไหม ที่ผ่านมาพอรัฐบาล เอาจริงบ้าง ก็หาว่ารัฐบาลใช้ความรุนเเรง

ทั้งๆที่เราๆก็เห็นอยู่ ว่า  น่าจะจัดการให้เเรงกว่านี้ด้วยซ้ำไป

เพราะ หลักนิติรัฐ ไม่เหลืออยู่แล้ว
กฎอะไรออกมา เขาก้ไม่สนใจ เขาถือว่าประชาชนอยู่กับเขา


หัวข้อ: Re: [2513]"ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: prapasri AH ที่ 18 เมษายน 2553, 20:58:46
 พี่แอ๊ะใจกว้าง มานนาแล้ว น้องป๋องเจ้าขาก้คุณทักกะป๋อง ดีกับ ป๊อกจะตายยยยยไป

ทำไมป๊อกจะไม่ ตอบแทนบุญคุณ ทั๊กกะป๋อง ละคะ

เงินช่วย ตอนแม่ ป๊อก ตาย ยังเหลือตั้ง50ล้าน ปีอกเป้นคนไม่กินไม่ใช้ ไม่คบเพื่อน อยู่เงียบๆคนเดียวกับเมีย

และ ไปหากิ๊กเป้นครั้งคราว

ลูกของป๊อกเรียนอยู่อังกฤษก็อยู่บ้าน ทั๊กกะป๋องงงงงงงงงงงงงงงงงงง


หัวข้อ: Re: [2513]"ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: prapasri AH ที่ 18 เมษายน 2553, 21:01:23
สรุปว่า วิธีคิดของพี่แอ๊ะไมทราบจะถูกไหม อนาคต คุณอภิสิทธิ์ มีอีกยาวไกล

อย่า หลงกับดัก ของผีห่าซาตาน ในรัฐบาล และกองทัพ ซื่อบื้อเลย

บัก เน ก็หายไปไหนไม่รู้ น่าจะออกมา กวน  ช่วยหน่อยยยยยยยยยยยยย

คนชั่ว ต้องรบกับคนชั่ว

เอาคนดีไปรบกับคนชั่ว แล้วเราจะเหลือคนดีไว้ทำพันธุ์ หรือ


หัวข้อ: Re: [2513]"ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: prapasri AH ที่ 18 เมษายน 2553, 21:10:30

ที่เขียนมา พี่แอ๊ะ คิดเองเเบบ โง่ๆนะ

แต่
ถ้าพันธมิตรออกมา ลุงจำลองมาบัญชาการ

อาจจะสู้ได้นะ

ในมอบ แดงรู้ไหม นอกจากทหารนอกคอก และ ชั่วๆนอกหน้าทั้งหลาย

ยังมี ใครบัญชาการอยู่....เขาบอก...ว่า

ชื่อ มนูญกฤติ รูปขจร ค่ะ

 อดีตประธานวุฒิสภาเชียวนะ

ดูความสัมพันธ์กันก้แล้วกัน

มนูญกฤติ เป็นอะไร กะเสธ หนั่น ณ โบท๊อก

คือ หน้าเสธหนั่นแกฉีด โบท๊อกค่ะ คิ้ว ถึงโง้ง ขึ้นไปอย่างนั้น


หัวข้อ: Re: [2513]"ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: เหยง 16 ที่ 19 เมษายน 2553, 08:18:33
เปิดใจ “ป๋าเทพ” เหตุทะลักจุดแตก เพราะทนไม่ได้เสื้อแดงเอาสถาบันมาเกี่ยวข้อง  
โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์  18 เมษายน 2553 23:04 น.

“เทพ โพธิ์งาม” สุดทนเสื้อแดงดึงสถาบันมาเกี่ยวข้อง เรียกร้องพลังเงียบออกมาแสดงพลัง เผยการตัดสินอนาคตประเทศไม่ได้เป็นของคนเสื้อแดง ควรฟังความเห็นประชาชนด้วย จวกทักษิณตัวปัญหาควรเอาเงินของทักษิณมาหักค่าเสียหาย

อ่านรายละเอียดได้ใน
http://www.manager.co.th/Entertainment/ViewNews.aspx?NewsID=9530000053243


หัวข้อ: Re: [2513]"ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: สมชาย17 ที่ 19 เมษายน 2553, 11:06:51
สวัสดีครับ พี่แอ๊ะ และพี่ๆ น้องๆ ทุกคน
ห้องพี่แอ๊ะ  กลายเป็นห้องการเมืองไป ซะแล้ว emo25:(((



หัวข้อ: Re: [2513]"ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: suriya2513 ที่ 19 เมษายน 2553, 11:11:27
อ้างถึง
ข้อความของ สมชาย17 เมื่อ 19 เมษายน 2553, 11:06:51
สวัสดีครับ พี่แอ๊ะ และพี่ๆ น้องๆ ทุกคน
ห้องพี่แอ๊ะ  กลายเป็นห้องการเมืองไป ซะแล้ว emo25:(((


อุตส่าห์หลอกให้ย้ายมาได้แล้ว อย่าไปสะกิดให้เฉลียวใจสิครับ
เดี๋ยวพี่แอ๊ะแกกลับใจ


หัวข้อ: Re: [2513]"ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: เหยง 16 ที่ 19 เมษายน 2553, 11:26:56
อ้างถึง
ข้อความของ สมชาย17 เมื่อ 19 เมษายน 2553, 11:06:51
สวัสดีครับ พี่แอ๊ะ และพี่ๆ น้องๆ ทุกคน
ห้องพี่แอ๊ะ  กลายเป็นห้องการเมืองไป ซะแล้ว emo25:(((



เดือนก่อนห้องนี้เกี่ยวกับการมุ้ง(งานแต่งหมอต้นกล้า) เดือนนี้เกี่ยวกับการเมือง เดือนหน้ายังไม่แน่?? emo21:):):


หัวข้อ: Re: [2513]"ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: prapasri AH ที่ 19 เมษายน 2553, 11:30:49
ดีใจมากที่ห้องพี่แอ๊ะได้เป็นห้องการเมือง

มีสาระ ดีค่ะ

อุตสาหะ เข้ามาเวบหอ ทั้งวันทั้งคืนแล้วต้องให้ได้เรื่อง อิๆๆๆๆ

ด่าใครก้ได้ นอกมุ้ง แต่อย่าด่าคนในมุ้งเดียวกัน นะเหยงนะ

คือ อย่าด่า พวกเดียวกันน่ะ

ตรรกะ 1 ชั้น


หัวข้อ: Re: [2513]"ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: เหยง 16 ที่ 19 เมษายน 2553, 11:38:35
ไทยโพสต์ วันนี้ครับ...บทบรรณาธิการ

แม้..นิติรัฐล้มเหลว แต่คนไทยไม่มีวันล้มเหลว
บทบรรณาธิการ 19 เมษายน 2553 - 00:00

จากสถานการณ์คนเสื้อแดงยึดถนนราชประสงค์เป็นตัวประกัน  โดยอำนาจรัฐภายใต้  พ.ร.ก.สถานการณ์ฉุกเฉินไม่สามารถจัดการใดๆ  กับกลุ่มผู้ก่อความรุนแรงภายในบ้านเมืองได้  ซ้ำร้ายเจ้าหน้าที่ทหารต้องล้มตายและบาดเจ็บเป็นจำนวนมาก  อีกทั้งนายตำรวจชั้นผู้ใหญ่ก็ถูกม็อบจับตัวไปประจานบนเวที  คงปฏิเสธไม่ได้กับคำกล่าวว่า..วันนี้ประเทศไทยกลายเป็นรัฐที่ล้มเหลว  ปราศจากความน่าเชื่อถือ  อีกทั้งสุ่มเสี่ยงต่อการปฏิวัติรัฐประหารอย่างน่ากังวลเป็นที่สุด
     ความล้มเหลวครั้งแล้วครั้งเล่าของรัฐบาลนำโดยนายอภิสิทธิ์  เวชชาชีวะ  และคณะอำนวยการแก้ไขสถานการณ์ฉุกเฉิน   หรือ   ศอฉ.ภายใต้การควบคุมของนายสุเทพ  เทือกสุบรรณ  ถูกประชาชนคนไทยวิพากษ์วิจารณ์ต่างๆ  นานา  บ้างถึงกับหงุดหงิด  ด่าทอ  บ้างก็แสดงความสงสัยว่า    แม้แต่ข้าราชการในพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวยังแตกแยกไม่เป็นอันหนึ่งอันเดียว  ทหารแบ่งเป็นทหารแตงโม  ตำรวจมีตำรวจมะเขือเทศ  นักการเมืองก็นิ่งเป็นสากกระเบือ  แล้วบ้านเมืองจะรอดพ้นความฉิบหายได้หรือ  นอกจากนั้น  บางคนถึงกับถามหาอำนาจเผด็จการโดยเชื่อว่าจะสยบทุกปัญหาได้  เป็นต้น
     แต่อย่างไรก็ดี  บนความไม่พอใจไม่สบายใจต่อกฎหมายบ้านเมืองที่ไม่สามารถคลี่คลายปัญหาใดๆ  จากขบวนการเสื้อแดงได้นั้น  กลับมีปรากฏการณ์ที่น่าสนใจในสังคมไทยว่า  คนไทยส่วนใหญ่ส่งเสริมสนับสนุนอำนาจรัฐมากกว่าอำนาจบนถนนราชประสงค์อันเกิดจากพลังมวลชนคนเสื้อแดง  คนไทยส่วนมากยังคงปรารถนาเห็นการใช้อำนาจตามครรลองของกฎหมายและจัดการปัญหาอย่างละมุนละม่อม  โดยเชื่อว่า  การยุบสภาตามคำเรียกร้องของกลุ่มคนเสื้อแดงนั้นไม่ใช่ทางออกของปัญหาที่แท้จริง
     ภาพของเครือข่ายคนเสื้อหลากสี  กลุ่มองค์กรผู้รักสันติ  และต้องการเห็นบ้านเมืองเป็นประชาธิปไตยโดยบริสุทธิ์อย่างแท้จริง  ไม่ว่าจะเป็นพลเมืองพิทักษ์แผ่นดิน  กลุ่มเฟซบุ๊ค  หรือกลุ่มประชาชนพิทักษ์ชาติไม่แบ่งสี  และ  ฯลฯ  ที่ลุกขึ้นมาเรียกร้องทวงความชอบธรรมจากกรณีที่กลุ่มแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ   หรือ   นปช.ละเมิดสิทธิเสรีภาพของผู้อื่น  สร้างความเดือดร้อน  ใช้ความรุนแรงจนเหมือนเจตนาที่จะทำร้ายประเทศไทยมากกว่าแสดงบทบาทของการเรียกร้องหาประชาธิปไตยนั้น  นับเป็นข้อพิสูจน์ที่ชัดเจนและดูเหมือนว่าจะมีพลังอำนาจปลุกพลังเงียบให้ออกมาแสดงตัวเพิ่มมากๆ  ขึ้นทุกวัน
     ปรากฏการณ์บนความเคลื่อนไหว  ต่างความคิด  ต่างสีสันในสังคมไทย  ไม่ว่าจะถูกตีความในทางลบหรือทางบวกตามอิสรภาพแห่งความคิดก็ตาม  นัยสำคัญดังกล่าว  ถือเป็นแสงสว่างท่ามกลางความมืดมนในหัวใจของคนไทยได้ไม่มากก็น้อยมิใช่หรือ  เพราะอย่างน้อยที่สุดทำให้เราสามารถรู้สึกได้ว่า  ยามที่บ้านเมืองเกิดวิกฤติ  จิตสำนึกของคนไทยจะปลุกให้กลุ่มคนในถนนทุกสายลุกขึ้นมารวมตัวและแสดงพลังต่อต้าน  ป้องกันไม่ให้โจรร้ายในคราบเสื้อสูท  หรือเสื้อสีใดก็ตาม  กระทำการใดๆ  อันเป็นการรุกล้ำต่ออำนาจอธิปไตยอันเป็นของปวงชนชาวไทย             การลุกขึ้นของเครือข่ายประชาชนที่มีจิตสำนึกรักชาติ  หวงแหนในประชาธิปไตยอย่างแท้จริง  เป็นคำตอบที่เฉลยบอกได้อย่างดีว่า  ตราบเท่าที่สังคมไทยรู้รักษาหน้าที่ของตนเอง  ไม่มีวันที่ประชาชนคนไทยจะล้มเหลว  บ้านเมืองจะล่มสลายอย่างแน่นอน  ภารกิจของคนไทยในวันนี้ไม่ใช่แค่ติดตามสถานการณ์ความเป็นไปของบ้านเมืองบนหน้าจอทีวี  หรือฟังวิทยุสถานีต่างๆ  เท่านั้น  แต่เป็นการแสดงออกให้กลุ่มผู้กำลังทำร้ายประเทศไทยได้ตระหนักรับรู้ว่า  การเอาประเทศไทยเป็นตัวประกัน  เอาถนนราชประสงค์เป็นรีโมทพลีชีพนั้น  เป็นเรื่องที่ยอมรับไม่ได้  และเป็นการใช้สิทธิที่เกินเลยขอบเขต  เหนืออื่นใดไม่ถูกต้องโดยประการทั้งปวงกับการสละชาติเพื่อคนชื่อ  ทักษิณ  ชินวัตร....

http://www.thaipost.net/news/190410/20980


หัวข้อ: Re: [2513]"ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: เหยง 16 ที่ 19 เมษายน 2553, 11:41:34
ตามด้วย คุณ"เปลว สีเงิน"

"รวมสี"สู่เส้นทางมหาประชาชน
เปลว สีเงิน 19 เมษายน 2553 - 00:00

     ดูเหมือนผมเคยบอกแต่เมื่อครั้ง  "เมษาเดือด"  แล้วว่า  "มหาประชาชนเท่านั้นที่ชาติต้องการ"  และเป็นเช่นนั้นจริงๆ  ถึงวันนี้ผมขอบคุณฟ้า-ดินจริงๆ  ที่ทำให้  "ประเทศไทยมีวันนี้"  คือวันที่ภายใต้หัวกะโหลกคนไทยทุกคน  "ต่อมปัญญา"  จากรากแก้วได้แตกตัวขยายเป็นรากฝอย  "แผ่ยึดแผ่นดินไปทุกสารทิศ  นั่นคือนิมิต  "ประเทศไทยเติบใหญ่"  สู่อนาคตใหม่ภายใต้แกนรากเดิมแน่นอน!
     หลังเปลี่ยนแปลงการปกครอง  ๒๔๗๕  เรื่อยมา  เราได้ยินประโยคหนึ่งที่พูดต่อเนื่องกันมาว่า  "บริหารให้ประชาชนโง่เข้าไว้  แล้วจะง่ายต่อการปกครอง"!
     ด้วยปรัชญาประชาธิปไตยจิ้งจอกจากผู้นำทางการบริหารประเทศภายใต้ระบอบใหม่ที่ใช้กันต่อเนื่องมาตลอดนั้น  ถึง  ณ  วันนี้  "ความโง่"  ๗๘  ปี  ที่ประชาชนทุกระดับชั้น  ทุกระดับองค์กรของไทยถูกบ่มเพาะต่อเนื่องมา  ก็ถึงวันที่ความโง่พัฒนาพันธุ์เป็น  "ความรู้-ความเข้าใจ"  ถึงคำว่า  "สิทธิ์เอ็ง-สิทธิ์ข้า"
     ยังขาดเพียง  "สะพานเชื่อมต่อ"  ถึงการใช้สิทธิ์นั้นไปสู่จุดพัฒนาการบน  "ความทัดเทียมกัน"  ทางโอกาส  ผ่านคำว่า  "การใช้และการรักษาสิทธิ์-หน้าที่ของเรานั้น  ต้องเคารพสิทธิ์  และไม่ล่วงเกินสิทธิ์ของผู้อื่นด้วย"
     เราไม่ชอบให้คนอื่นมาเหยียบหัวแม่ตีนเรา  ฉันใด  คนอื่นเขาก็ไม่ชอบให้เราไปเหยียบหัวแม่ตีนเขา  ฉันนั้น!
     นี่คือ  "หัวใจประชาธิปไตย"  ที่ถูกต้อง  และเราทั้งหลายกำลังก้าวไปถึงจุดนี้  และนี่แหละคือ  "ความดีงาม"  ในความทรามของการอ้างใช้ประชาธิปไตยกลางถนนที่คนหัวโจกเสื้อแดงไปเกณฑ์  "ชาวบ้าน"  จากท้องทุ่ง-ท้องท่ามาเข้าคอร์สประชาธิปไตย  แล้วใช้ความอสัตย์ในหัวใจ  "สอนลัทธิล้มชาติ"  แทน
     ชาวบ้าน   ๘๐-๙๐%  นอกเหนือจากมือ-ตีนของพวกแกนนำขบวบนการโค่นชาติ  เขาซื่อ  แต่-แต่ละคนมีปัญหาในวงจรชีวิตจริงๆ  เมื่อถูกหลอกด้วยเรื่องอิงนิยาย  ประกอบกับเป็นมนุษย์ในสังคมที่ต้องเคลื่อนตามกันเป็นหมู่  พวกเขาจึงถูกเสี้ยมใช้โดยง่าย
     ยิ่งมาอยู่ร่วมกันมากๆ  ฟังนิทานโกหกจากพวกบนเวทีกรอกหูทั้งวัน-ทั้งคืน  ย่อมเกิดอุปาทานหมู่  เหมือนคนฟังพระสวดภาณยักษ์   พอพระสวดกระทุ้งเสียงดังว่า  ยั้กกกก...โข....เท่านั้นแหละ
     เยี่ยวราด  ดิ้นกันตูมจนศาลาแตก  พอคนแรกดิ้น  ไอ้ที่สั่นๆ  ก็พลันดิ้นตามกันไป  เลยกลายเป็นว่า  ผีห่า-ผีโหง  สิงอยู่ในร่างชาวบ้านหมดเกือบทุกคน!?
     ซึ่งในความเป็นจริง  มันไม่ใช่  และมันไม่มีอะไรเป็นจริงอย่างนั้น  แต่ก็นั่นแหละ  ด้วยศรัทธาที่ไร้รากปัญญา  เพราะไม่มีใครสอนความจริงกับเขา  ทำให้มนุษย์ไม่สนใจจะใช้เหตุผลเข้าค้นหา  และลึกเข้าไปถึงแก่นใจ  ชาวบ้านก็รู้ว่ามันไม่ใช่...ไม่จริง  แต่ทำตามๆ  กันไปแล้วมันได้พวกแถมสบายใจ
     ฉะนั้น  จะปฏิเสธมันไปเพื่ออะไรล่ะ?
     แต่วันนี้  และจากตัวอย่างของจริงในบทเรียนประชาธิปไตย  ชาวบ้านที่มาชุมนุม  "บางส่วน"  เริ่มเรียนรู้  และเข้าใจด้วยปัญญาแยกแยะได้แล้วว่าที่ทักษิณและหัวโจกสวดนั้นมันคือ  "มนต์แห่งมาร"  ไม่ใช่ภาณยักษ์  ดูได้จากจากเหตุการณ์  ๑๐  เมษา.ไม่ใช่การไล่ผีที่เข้าสิงประชาธิปไตย  หากแต่เป็นการฆ่าชาวบ้าน...ฆ่าทหาร  "คนไทยกันเอง"  ให้วายกลายเป็นผี
     แล้วใคร..ที่ไหนล่ะ  ที่ฆ่าทหาร  ฆ่าชาวบ้านเสื้อแดงกันเอง?
     ก็   "กลุ่มก่อการร้ายติดอาวุธ"   ของพวกบกฏทักษิณนั่นแหละ  มันทำเป็น  "ใครไม่รู้"  มาช่วยบ้าง  ทำให้เข้าใจว่าเป็นทหารของบ้านเมืองลอบฆ่าบ้าง  แล้วมันเองก็ฆ่าทั้งชาวบ้านเสื้อแดง  ฆ่าทั้งทหารอันเป็นลูกหลานของชาวบ้านแท้ๆ
     เหตุผลมีอย่างเดียวคือ  พวกกบฏทักษิณ  "ปั่นหัว"  ให้  "ชาวบ้าน-รัฐบาล-ทหาร"  เข้าใจผิดกัน  แล้วโกรธแค้นกัน  จากนั้นก็...ทำสงครามประชาชน!
     ถ้าเกิด  "สงครามประชาชน"  ใครพัง?
     ประเทศชาติของคนไทยทุกคน  "พัง"!
     พังแล้ว...ใครได้?
     ทักษิณน่ะ  นึกหรือว่าจะได้  ความจริงมันก็  "ควาย"  ตัวหนึ่งที่เบิ่งเห็นปล่องเมรุเป็นยอดปราสาท  พวกคณะกบฏแผ่นดินอันประกอบด้วย  "วีระ-จตุพร-ณัฐวุฒิ-เหวง  และใครต่อใครระดับแกนๆ  นั่นแหละ  ถ้าทำสำเร็จก็จะหลอกให้ทักษิณกลับเข้ามา  แล้วก็จับเชือดโดยอ้าง  "เพื่อขจัดเงื่อนไข"  ที่เป็นอุปสรรคในการสร้างชาติไทยใหม่ของเขา
     อย่านึกว่าทักษิณคนเดียวจะถูกพวกคณะกบฏเชือดนะ  พวกวงศ์วานว่านเครือทั้งหลาย  จะถึง  ๗  ชั่วโคตรหรือไม่  ผมไม่รู้  แต่ที่รู้แน่  ไม่ต่ำกว่า  ๑๐  คน  จะต้องถูกพวก  วีระ-จตุพร-ณัฐวุฒิ-เหวง  "เชือด"  เป็นการ...ขุดราก-ถอนโคน
     ล้านเปอร์เซนต์!?
     ทำไมถึงเป็นเช่นนี้  เอ้า...โคตรเหง้า  และวงศ์วานว่านเครือ  โปรดฟัง  ทุกกบฏ-ทุกสงครามชิงชาติ  เป็นอย่างนี้ทั้งนั้น  ต้องไม่ลืมว่า  "เบื้องหลังของความสำเร็จที่สวยงามมาจากการทรยศ  กบฏรัก  และหักหลังกัน"!!!
     นี่คือสัจจะในหมู่โจรชิงชาติ  แต่ละคน-แต่ละฝ่าย  ลองตอบตัวเองดูก็ได้  อย่างวีระ-จตุพร-เหวง-ณัฐวุฒิ  ลึกลงไปในใจ  เป็นใครก็ต้อง  "แอบจิต"  คิดว่า  "พวกกู  ลงทุน  ลงแรง"  ชนิด  "ชีวิตเป็นเดิมพัน"  แล้วมันเรื่องอะไร  สำเร็จแล้วให้มันมานั่งโต๊ะมุก  ส่วนพวกเราต้องคุกเข่า"?
     แค่เงินที่โปรยหว่านน่ะเรอะ....เชอะ..เงินมันที่ไหน   เงินโกงชาติ-โกงแผ่นดินมาทั้งนั้น  ถ้าให้มึงขึ้นเป็นใหญ่  "มึงและคณะญาติ"  ก็จะกวาดเรียบอีก  "แล้วพวกกูแทบเป็น-แทบตาย  แกล้งยืนกลางแดดตบตาชาวบ้านที่หลอกมารบเคียงบ่า-เคียงไหล่  (แต่นอน  SC  ปาร์คบ้าง  เอราวัณบ้าง)
     แล้วมันเรื่องอะไร...พวกกูเป็นใหญ่เสียเองไม่ดีกว่าเรอะ!?
     นี่คือ  "เรื่องจริง"  ที่ไม่อิงนิยาย  อันชาย  "ต่อมโต"  ควรสังวรไว้  พวกฝ่ายคอมมิวนิสต์หลงยุคใกล้ตัวนั่นน่ะ  เขาร่าง  "พิมพ์เขียว"  ตามแนว  "แดงทั้งแผ่นดิน"  ฉบับของพวกเขาไว้เรียบร้อยแล้ว  รู้ไว้ด้วย...โง่แล้วอวดรวย  น่าสงสารจริงๆ!
     ผมถึงบอกว่า  "ขอบคุณฟ้า-ดิน"  ที่ทำให้ประเทศไทยมีวันนี้  ถ้าคนไทยยังไม่มีความเจ็บปวดร่วมกันที่ต้องต่อสู้เพื่อเอาชนะสิ่งนั้นร่วมกัน  นั่นก็ยากที่ไทยจะฝ่าวิบากไปสู่จุดพัฒนาสูงสุดข้างหน้า
     วันนี้  "เรามีจุดเจ็บปวดที่ต้องต่อสู้"  เพื่อเอาชนะร่วมกันแล้ว!
     ไม่ใช่ชนะแบบ   "เอาสีไปฆ่าสี"  สี-มันก็แค่เปลือก  จะสีแดง  สีเหลือง  สีเขียว  สีน้ำเงิน   สีกากี  สีขาว  ก็คือเปลือก  แต่  "เนื้อใน"  ของคนไทยวันนี้  คือ  "ปัญญาไทย"  ที่แก่จัด  ได้เวลาที่ต้องขยายพันธุ์ลงแปลงเพาะ  แล้วฟูมฟัก-พัฒนาให้เผ่าพันธุ์ปัญญาไทยเป็น  "พันธุ์ใหม่"  ที่ให้ผลิตผลต่อชาติ-ต่อสังคมชนิด  ๑  ต่อ  ๑๐๐  ไม่ใช่  ๑  ต่อ  ๑๐  หรือ  ๒๐  เหมือนอดีตแล้ว
     และ  "ผู้ที่"  รู้ทันต่อพัฒนาการ  "ต้องมองความเป็นไปนี้ด้วยความเข้าใจ  นั่นคือ  "ต้องไม่ควบคุม"  แต่ต้องปกครองด้วยรูปแบบ  "บริหาร"  โดยแปลง  "การจัดการ"  เป็น  "การบริการ"  สู่เป้าหมายไทย  "ทุกสี"  ชนะร่วมกัน!
     "ทุกสี"  จะชนะร่วมกันไปสู่เป้าหมาย  "มหาประชาชน"  ที่ชาติต้องการได้อย่างไร  พูดแล้วยาว  ดูตัวอย่าง  "ไทยเสื้อหลากสี"  ดังต่อไปนี้ดีกว่า
     เรียนคุณเปลวที่เคารพ
     ดิฉันเพิ่งจะกลับมาจากอนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิแล้วก็มาส่งเมล์ให้คุณเลย  มันเป็นความรู้สึกที่บอกไม่ถูกเลยว่าจะสามารถพูดให้คุณฟังได้อย่างไร  ดิฉันไม่นึกเลยว่าจะมีประชาชนที่รัก  "ในหลวง"  จะออกมาแสดงความรู้สึก  และทุกคนพร้อมที่จะทำเพื่อท่านจะมากมายขนาดนี้  วันแรกที่ไปก็ใจไม่ดีเหมือนกันว่าจะไปรอดไหม  และก็ไม่รู้ว่าในกรุงเทพฯ  ของเราจะมีสักกี่คนที่รักพระองค์ท่าน  หลังจากนั้นไม่กี่วันต่อมาก็ได้ทราบข่าวว่ามี  "กลุ่มวัยรุ่น"  ที่เล่นโลกออนไลน์ที่บางครั้งผู้ใหญ่ชอบมองว่าไร้สาระ   แต่กลับกลายเป็นว่าวัยรุ่นพวกนี้น่ารัก  น่านับถือกว่าผู้ใหญ่บางกลุ่ม  บางคน  ที่มันทรยศ  ขายชาติ  ขายแผ่นดิน  เพียงแค่ได้เงินมาปรนเปรอให้ตัวเองมีความสุขความสบายโดยไม่นึกถึงความเลว  ความชั่ว  ผิด  ถูก
     อีกทั้งทำให้ดิฉันได้ปลดปล่อยความอัดอั้นตันใจที่  "ในหลวง"  ของเราถูกจาบจ้วงอย่างเสียหายโดยที่รัฐฯ  ไม่จัดการ  ปล่อยให้บานปลายจนเป็นไฟลามทุ่ง  แล้วยังเหตุการณ์วันสงกรานต์อีก  แล้วยังมีทหารที่จงรักภักดีถูกเก็บ  ถูกฆ่า  อีกทั้งอันธพาลครองเมืองจริงๆ  ทุกๆ  ครั้งที่เสื้อแดงมันมาที่บ้านคุณอภิสิทธิ์  มาปิดถนนสุขุมวิททีไร  ดิฉันเครียดมากๆ  อึดอัดมากพูดก็ไม่ได้บอกไม่ถูก
     วันที่ไปราบ   ๑๑  ก็เช่นเดียวกัน  ดิฉันรู้สึกว่าได้ปลดปล่อยความรู้สึกที่รักชาติบ้านเมือง  รักพ่อหลวงของเรา  หลังจากที่เครียด  และกดดันมากๆๆ  ที่ทหารและบ้านเมืองโดนไอ้พวกชั่วช้าสามานย์มันทำได้ถึงขนาดนี้  ดิฉันนั่งร้องไห้และเครียดมากๆๆ  ตอนที่ดูทีวีเห็นทหารบาดเจ็บ  คนเสื้อแดงถูกยิงตาย  จนสามีดิฉันต้องปิดทีวีแล้วบอก
     "ไม่ต้องดูแล้ว  ทำใจให้สบายๆ  เดี๋ยวพระสยามเทวาธิราชจะคุ้มครองคนดีๆ  เอง"
     คุณเปลวลองคิดดูสิคะว่าเมืองไทยเป็นได้ขนาดนี้  วันนี้ดิฉันดีใจที่ได้ส่งเมล์ให้คุณเปลว  สีเงิน  เป็นการระบายความในใจว่า  ถึงอย่างไรเงินสักเท่าไหร่ก็ซื้อความจงรักภักดี  ความรักชาติ  รักแผ่นดินของดิฉันไม่ได้  ดิฉันอาจจะเขียนยาวไปหน่อย  กลัวคุณเปลว  สีเงิน  จะไม่อ่านเมล์ชาวบ้านอย่างดิฉัน  แต่มันก็เป็นการเขียนออกมาจากหัวใจคนรักชาติ-ศาสน์-กษัตริย์  นะคะ  ดิฉันไม่เคยเขียนเมล์ยาวขนาดนี้  ถ้าส่งให้เพื่อนจะไม่เกินสามบรรทัดค่ะ
                                    ขอบพระคุณอย่างสูงนะคะที่ให้ดิฉันเขียนระบาย
                                               ชาวบ้านสุขุมวิท
     นี่คือมิติของการ  "รวมสี"  ให้เป็นมหาประชาชน  แต่อยากบอกถึงบางกลุ่มนอกจากนี้ว่า  ถ้าหวังจะชนะร่วมกันทุกคน-ทุกสี  ข้อแรก  ต้องเปลี่ยนจาก  "เคารพ-เทิดทูนในหลวง"  ด้วยปากมาเป็นการ  "ลงมือทำ"  ตามที่พระองค์สอน  ข้อสอง  การเทิดทูนในหลวง  ต้องไม่ดึงพระองค์ท่านลงมาใช้ในลักษณะอ้างอิงแบ่งข้าง-แบ่งฝ่าย  และข้อสาม  ชาวบ้านอันเป็นผู้ตามต้องอภิบาล  ส่วน  "กบฏแผ่นดิน"  อันเป็นผู้ก่อการ
     ประหารสถานเดียว!

http://www.thaipost.net/news/190410/20981


หัวข้อ: Re: [2513]"ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: เหยง 16 ที่ 19 เมษายน 2553, 11:43:28
ตามด้วย ท่านขุนน้อย

เบื้องหลังชัยชนะคืออาชญากรรม
ท่านขุนน้อย 19 เมษายน 2553 - 00:00   

 ผู้ซึ่งมีส่วนเอามากๆ...หรืออาจถือเป็นกุญแจดอกสำคัญในการทำให้มุมจบของสถานการณ์ในอีกไม่กี่วันข้างหน้าเป็นไปได้ด้วยดี  ไม่ต้องเกิดเหตุโศกนาฏกรรม  การสูญเสียชีวิตเลือดเนื้อของผู้คน  ไม่ว่าฝ่ายไหนต่อฝ่ายไหน  ก็คงหนีไม่พ้นไปจากบรรดา  แกนนำ  ม็อบเสื้อแดงในแต่ละรายนั่นเอง  ไม่ว่าระดับหัวขวด  หรือหัวครกก็ตาม...
          ------------------------------------------------
     เพราะจากเหตุการณ์นองเลือดวันที่  10  เมษายนที่ผ่านมานั้น...ไม่ว่าจะเป็นนักสังเกตการณ์การเมืองในประเทศ  หรือต่างประเทศก็แล้วแต่  ถ้าหากประเมินสถานการณ์ด้วยเหตุด้วยผล   ด้วยจิตใจที่เป็นธรรม   ยึดเอาผลประโยชน์ของคนส่วนใหญ่  หรือสังคมโดยรวมเป็นที่ตั้ง
  ย่อมสามารถสรุปได้ไม่ยากว่า...สถานการณ์การเมืองไทยในขณะนี้  มันได้เลยจุดของการยุบสภา  การลาออกของนายกรัฐมนตรี  หรือการตั้งโต๊ะเจรจาใดๆ  อีกต่อไป  เนื่องจากสภาพข้อเท็จจริงของเหตุการณ์ดังกล่าวได้สะท้อนให้เห็นอย่างชัดเจนว่ามันคือ  สถานการณ์การก่อการร้าย  หรือการก่อ  สงครามกลางเมือง  ไปแล้วโดยเบ็ดเสร็จ...
          -------------------------------------------------
     การไปตั้งโต๊ะเจรจา  หรือยอมรับข้อเรียกร้องใดๆ  ของแกนนำม็อบ  ย่อมไม่อาจถือเป็นหลักประกันใดๆ  ได้เลยว่า  จะสามารถทำให้  การก่อการร้าย  ที่แทรกตัวเข้ามาผสมผสาน ฉกฉวยผลประโยชน์จากสถานการณ์ในช่วงระยะนี้  พร้อมที่จะยุติปฏิบัติการใดๆ  ลงไปด้วย   ตราบใดที่บรรดาแกนนำแต่ละรายยังคงปฏิเสธว่าตัวเองไม่ได้เกี่ยวข้องกับบรรดาผู้ก่อการร้ายเหล่านี้  พูดง่ายๆ  ว่า...ถ้าหากจะตั้งโต๊ะเจรจาเพื่อหาทางยุติเหตุการณ์กันจริงๆ  ก็คงต้องไปหาตัวของ  หัวหน้าผู้ก่อการร้าย  ให้ได้ซะก่อนว่าจะเป็นรายที่นั่งประคองต่อมโตๆ  อยู่ที่ดูไบ  หรือรายที่แก่แรดแล้วแต่ยังไม่หมดตัณหา  ซึ่งพยายามซ่อนหน้า  ซ่อนตา  ปานประดุจมุสิกอยู่จนบัดนี้...
        -----------------------------------------------------
     แน่นอนว่า...ในเมื่อไม่สามารถหาตัว  หัวหน้าผู้ก่อการร้าย  มาตั้งโต๊ะเจรจากันได้จะจะ   การยุบสภา   การลาออกของนายกรัฐมนตรี  นอกจากจะไม่ถือเป็นการ  แก้ปัญหา  แล้ว  มิหนำซ้ำยังกลายเป็น  ส่วนหนึ่งของปัญหา  ควบคู่ไปด้วย  กลายเป็นการยอมรับสภาพความไม่ศักดิ์สิทธิ์ของตัวบทกฎหมาย  ยอมรับสภาวะที่กฎหมายไม่มีผลบังคับใช้  หรือยอมรับสถานะของระบอบ  อนาธิปไตย  แทนการปกครองในระบอบ  ประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข   โดยชัดเจน...ซึ่งแน่นอนนั่นแหละว่า  แม้นว่านายกรัฐมนตรีอยากจะ  ถอดใจ  วันละ  3  เวลาหลังอาหาร  แต่ยังไงๆ  ก็คงทำไม่ได้...ตราบใดที่ตัวเองยังเป็นนายกรัฐมนตรี  หรือยังเป็น  คนไทย  ที่ต่างต้องมีหน้าที่ต่อแผ่นดินไปตามสภาพ...
           -----------------------------------------------
     ไม่ต่างไปจากผู้ซึ่งมีหน้าที่รับผิดชอบในการคลี่คลายสถานการณ์ปัจจุบันโดยตรง  อย่างผู้บัญชาการทหารบก  พลเอก  อนุพงษ์  เผ่าจินดา  แม้นว่าจะรีไวด์เทปในหัวสมองซ้ำแล้ว  ซ้ำเล่า  ว่า  การเมืองต้องแก้ด้วยการเมือง  แต่ภายใต้สภาพที่การเมืองยกระดับกลายไปเป็น  การก่อการร้าย  อย่างเบ็ดเสร็จสมบูรณ์  กลายเป็นการก่อ  สงครามกลางเมือง  ไม่ใช่การเคลื่อนไหวมวลชนตามสิทธิ  เสรีภาพ  ในระบอบประชาธิปไตยธรรมดาๆ  ยังไงๆ  กองทัพก็คงเอามือซุกหีบอยู่ต่อไปไม่ได้อีกแน่ๆ  เพราะภายใต้สภาพที่กฎหมายไม่มีผลบังคับใช้  กระทั่งกองทัพ...ก็ยังไม่มีโอกาสที่จะดำรงสภาพให้เป็นกองทัพได้อีกต่อไป  เนื่องจากกฎ  ระเบียบ  ที่ตั้งอยู่บนความปรารถนา  ความต้องการของคนกลุ่มหนึ่ง  กลุ่มใด  ไม่ใช่เป็นความต้องการของสังคมทั้งหมด มันย่อมทำให้ผู้ที่มีอาวุธอยู่ในมือล้วนแล้วแต่มีสภาพไม่ต่างไปจาก กองโจร  ด้วยกันทั้งสิ้น...
         --------------------------------------------------
     ด้วยเหตุนี้...ไม่ว่านายกรัฐมนตรี   หรือผู้บัญชาการทหารบก   จะหน่อมแน้ม  แต๋วแตก  ขนาดไหน  แต่ก็โดยบทบาทหน้าที่นั่นแหละ  ที่มันกลายเป็นตัวบังคับให้ไม่มีทางหลีกเลี่ยงไปเป็นอื่น  นอกซะจาก...ต้องเร่งหาทางบังคับใช้กฎหมาย  หรือฟื้นฟูความศักดิ์สิทธิ์ของกฎหมายกันโดยไว  ด้วยเหตุนี้โอกาสที่จะเกิดการปะทะ  การสูญเสีย  มันจึงกลายเป็น  ข้อเท็จจริงที่ไม่อาจปฏิเสธได้  และนั่นเป็นสิ่งที่บรรดา  แกนนำ  ในแต่ละราย  ย่อมสามารถรับรู้  และประเมินสถานการณ์ความเป็นไปในลักษณะนี้ได้ไม่ยากนัก  ปัญหาก็จึงขึ้นอยู่กับว่า  แล้วบรรดากลุ่มคนเหล่านี้จะคิดตัดสินใจกันอย่างไรต่อไป  และสิ่งที่พวกเขาคิดตัดสินใจนั้น  สามารถเป็นไปด้วยความเป็นอิสระ  หรือยังต้องตกอยู่ภายใต้การควบคุม  บังคับ  ของผู้ซึ่งพยายามฉกฉวยประโยชน์จากพวกเขา  หรือมวลชนของเขามากหรือน้อยขนาดไหน???
          -------------------------------------------------
     อันที่จริงแล้ว...ถ้าหากพิจารณาถึงสถานะของแกนนำแต่ละราย  การที่พวกเขา  มาไกล ได้ถึงระดับนี้  ย่อมต้องถือว่าได้ทำให้เกิดความสมประโยชน์ทั้งในทางส่วนตัว  และส่วนที่เป็นความคิดทางอุดมคติ  อุดมการณ์อยู่แล้วไม่น้อย  จากผู้ที่แทบไม่มี  ต้นทุนทางสังคม  ใดๆ  อยู่ในมือ  เมื่อมาถึงวันนี้...แต่ละรายก็ได้กลายสภาพเป็น  ฮีโร่  พันธุ์แท้และพันธุ์เทียมไปโดยถ้วนหน้า   จากผู้ที่เคยมีเศษเงินติดก้นกระเป๋าอยู่แค่ไม่กี่บาท  ก็กลายไปเป็นเศรษฐีน้อยๆ  ได้ทั้งลาภ  ยศ  สรรเสริญ  จากผู้ที่เคยหมกมุ่นกับทฤษฏีทางการเมือง  เศรษฐกิจ  แบบโบร่ำโบราณ  หรือประเภทที่ได้ชื่อว่าเป็นคอมมิวนิสต์หลงยุคทั้งหลาย  ก็พอได้รวบรวมปริมาณสาวก  ยกระดับไปสู่การก่อตั้งพรรคคอมมิวนิสต์อย่างถูกต้องตามกฎหมายตามอุดมคติ  อุดมการณ์  ได้ไม่ยาก  ฯลฯ
         --------------------------------------------------
     แต่ภายใต้ความสมประโยชน์  หรือความสำเร็จ  ในแต่ละระดับนั่นเอง...อย่างน้อยที่สุด ถ้าหากเขาเหล่านั้นยังพอหลงเหลือ  ความเป็นมนุษย์  อยู่บ้าง  ก็น่าจะพอตระหนักและสำนึกได้ว่า...สิ่งเหล่านี้มันต้องแลกมาด้วยชีวิตและเลือดเนื้อของผู้คนจำนวนไม่น้อย  ไม่ว่าจะเป็นมวลชนฝ่ายเดียวกับตัวเอง  หรือบรรดาเจ้าหน้าที่  ตำรวจ  ทหาร  ผู้ซึ่งต้องปฏิบัติตามหน้าที่  นับไม่รู้กี่สิบ  กี่ร้อย  ที่ต้องบาดเจ็บ  ล้มตายลงไป  ในฐานะเครื่องเซ่นสังเวยให้กับ  ชัยชนะ  และ  ความสำเร็จ  เหล่านี้  ความสูญเสียของชีวิตแต่ละชีวิต  ไม่ว่าจะเป็นประชาชน  ตำรวจ ทหาร ซึ่งต่างก็เป็น  มนุษย์  ด้วยกันทั้งสิ้น  ต่างก็มีครอบครัว  พ่อ  แม่  พี่  น้อง  ด้วยกันทั้งนั้น...มันน่าจะเพียงพอแล้วหรือไม่???สำหรับการตอบสนองผลประโยชน์ต่างๆ  ที่ตัวเองได้รับ ไม่ว่าในทางส่วนตัว  หรือในทางอุดมการณ์  อุดมคติ  ก็ตาม...
      --------------------------------------------------------
     ถ้าหากตัวเองยังพอมีอิสระในการตัดสินใจใดๆ  ได้จริงๆ  ก็น่าจะเกิดข้อสรุปได้บ้างแล้วว่า...การหยุดยั้งชัยชนะและความสำเร็จเอาไว้เพียงเท่านี้  มันน่าจะคุ้มค่ามากเกินพอแล้ว  สำหรับการลงเหงื่อ   ลงแรง   เท่าที่ผ่านมา  แต่การปล่อยให้มวลชนของตัวเองถูกนำไปใช้เป็น   เครื่องมือของการก่อการร้าย   ถูกนำไปเป็นเกราะกำบังในการก่อ  สงครามกลางเมือง  เพื่อตอบสนองประโยชน์ของ   ผู้บงการ  ที่คอยชักใยกองกำลังแต่ละกลุ่มแต่ละฝ่ายอยู่เบื้องหลัง  แม้นว่าตัวเองจะไม่ได้เป็น  อาชญากร  โดยตรงก็ตาม  แต่ในแง่ความรับผิดชอบแล้ว  ตัวเองก็หนีไม่พ้นที่จะกลายเป็นส่วนหนึ่งของการสร้าง  อาชญากรรม  ต่อเพื่อนมนุษย์ทั้งหลาย  ไม่ว่าจะเป็นฝ่ายไหนก็แล้วแต่...ทั้งที่ผ่านมาแล้ว  และในอนาคตข้างหน้าอย่างไม่อาจหลีกเลี่ยงได้...
       ------------------------------------------------------
     ปิดท้ายด้วยวาทะวันนี้ จาก  โซลอน  นักปราชญ์ชาวกรีก  ผู้ซึ่งยินดีในชัยชนะ  ก็คือผู้ซึ่งยินดีในการฆาตกรรม



http://www.thaipost.net/news/190410/20975


หัวข้อ: Re: [2513]"ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: บ่าวหน่อ เมืองพลาญ ที่ 19 เมษายน 2553, 14:02:44
อ้างถึง
ข้อความของ prapasri AH เมื่อ 19 เมษายน 2553, 11:30:49
ดีใจมากที่ห้องพี่แอ๊ะได้เป็นห้องการเมือง

มีสาระ ดีค่ะ

อุตสาหะ เข้ามาเวบหอ ทั้งวันทั้งคืนแล้วต้องให้ได้เรื่อง อิๆๆๆๆ

ด่าใครก้ได้ นอกมุ้ง แต่อย่าด่าคนในมุ้งเดียวกัน นะเหยงนะ

คือ อย่าด่า พวกเดียวกันน่ะ

ตรรกะ 1 ชั้น



สวัสดีครับพี่แอ๊ะ ตอนแรกก็เป็นกระทู้ธรรมดา พักหลังมาทางการเมือง เลยโดนย้ายมาห้องการเมือง หากเปลี่ยนเรื่องอีก ก็เปลี่ยนห้องได้อีกครับ


หัวข้อ: Re: [2513]"ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: หนุน'21 ที่ 19 เมษายน 2553, 14:34:21

สวัสดีครับพี่แอ๊ะ และพี่น้องทุกท่าน
ตามมาอ่านข่าวการเมืองในห้องนี้ ได้ครบเลย
ขอบคุณพี่เหยง  และขอบคุณทุกความคิดเห็นที่ต่อต้านทรราชย์ทักกี้


(http://www.cmadong.com/imageupload/2010_Cmadong-Image/data/image/l144y9-81ce2c.jpg)


(http://www.cmadong.com/imageupload/2010_Cmadong-Image/data/image/l144z7-7d1216.jpg)


(http://www.cmadong.com/imageupload/2010_Cmadong-Image/data/image/l144qo-225117.jpg)


(http://www.cmadong.com/imageupload/2010_Cmadong-Image/data/image/l144x4-961fbb.jpg)


ผมเอารูปท่านนายกอภิสิทธิ์มาฝาก
ให้กำลังใจท่านนายกหน่อยครับ


 emo6::))


หัวข้อ: Re: [2513]"ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: prapasri AH ที่ 19 เมษายน 2553, 18:03:38
ให้กำลังใจค่ะ

และสงสารภริยาท่าน มีคนบอกว่าตอนนี้เครียดมากถึงกับต้องทานยา

เป็นเราเราก็ต้องกลัว นะ ว่า พวกทรพี จะมาฆ่าสามี เราหรือเปล่า

ภรรยาท่านน่ารักมาก ไม่เคยรู้จักนะคะ เเต่ดูไม่เว่อเลย

เป็นคนพอเพียง  และเพียงพอ


หัวข้อ: Re: [2513]"ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: เหยง 16 ที่ 19 เมษายน 2553, 19:23:02
จนถึงขณะนี้ ศาลปกครองยังไม่ออกคำสั่ง กรณีเสื้อแดงมีคำร้องขอให้คุ้มครองชั่วคราว เพื่อยกเลิก พ.ร.ก.ฉุกเฉิน

ทนายไพร่เก้อ ศาลยังไม่คุ้มครองชั่วคราว ให้ยกเลิก พ.ร.ก.ฉุกเฉิน
19 เมษายน 2553 19:00 น.

 
       ทนายนปช.รอเก้อ ศาลปกครองยังไม่ออกคำสั่งคุ้มครองชั่วคราว เพื่อยกเลิกพ.ร.ก.ฉุกเฉิน ดันทุรังเตรียมยื่นใหม่ 9.00 น. พรุ่งนี้ พูดเองเออเอง หวั่นสถานการณ์สุ่มเสี่ยงต่อการปะทะและมีการใช้กำลังเข้ามาสลายประชาชนใหม่อีกรอบ
      
       วันนี้ (19 เม.ย.) ที่ศาลปกครอง นายคารม พลทะกลาง ทนายความแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) เปิดเผยว่า วันนี้ตนได้มาติดตามเรื่องที่ศาลปกครอง เนื่องจากคิดว่าศาลปกครองจะมีการไต่สวนฉุกเฉินกรณีที่ นปช.ได้ขอให้ศาลปกครองยกเลิกคำสั่ง ประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินที่มีความร้ายแรงในเขตพื้นที่กรุงเทพฯและปริมณฑล เมื่อวันที่ 7 เม.ย.ที่ผ่านมา และขอให้ศาลมีคำสั่งคุ้มครองชั่วคราว เนื่องจากประกาศดัง กล่าวอ้างว่า เป็นการออกตามพระราชกำหนดการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ. 2548 เป็นการออกตามรัฐธรรมนูญ ปี 2540 ซึ่งรัฐธรรมนูญฉบับดังกล่าวได้ถูกยกเลิกไปแล้ว จึงเห็นว่าการออกคำสั่งเป็นไปไม่ชอบด้วยกฎหมาย โดยเราได้ยื่นไปเมื่อวันที่ 12 เม.ย.ที่ผ่านมา
      
       นายคารม กล่าวอีกว่า วันนี้ตนได้มานั่งรออยู่ที่ศาลปกครองตั้งแต่ช่วงเช้าจนกระทั้ง 16.30 น. ก็ยังไม่เห็นคำสั่งของศาลปกครองว่าจะพิจารณาให้ตามคำขอหรือไม่ อย่างไรก็ตามในวันพรุ่งนี้ตนก็จะมายื่นเรื่องขอความกรุณาเมตตาต่อศาลปกครองอีกครั้ง ซ้ำเป็นครั้งที่ 2 ขอไต่สวนฉุกเฉิน เพราะเนื่องจากว่าเวลาขณะนี้ดูจะสุ่มเสี่ยงต่อการปะทะและมีการใช้กำลังเข้ามาสลายประชาชนกันอีกรอบตามคำสั่งที่ตนกลุ่มผู้ชุมนุมเห็นว่าเป็นคำสั่งที่มิชอบ ดังนั้นจึงอยากให้ศาลเห็นใจและดำเนินการให้กับพวกเราด้วย เพราะความเป็นธรรมของสังคม อย่างไรก็ตามก็ได้มีการปรึกษาผู้ใหญ่แล้วว่าจะมายื่นเรื่องต่อศาลปกครองอีกครั้งในวันพรุ่งนี้ในช่วงเช้าประมาณ 09.00 น.


 
จาก http://www.manager.co.th/asp-bin/mgrView.asp?NewsID=9530000053786
 


หัวข้อ: Re: [2513]"ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: เหยง 16 ที่ 19 เมษายน 2553, 19:27:50
บทบรรณาธิการ นสพ.แนวหน้า

บทบรรณาธิการ 
 
รัฐต้องรีบสลายอันธพาลเสื้อแดง (บทบรรณาธิการ) 
 
 
 วิกฤตการณ์บ้านเมืองจากการชุมนุมของม็อบคนเสื้อแดงมานานกว่าหนึ่งเดือนจนนำไปสู่โศกนาฏกรรมเลือดเมื่อวันที่ 10 เมษายนที่ผ่านมาทำให้ทหารและประชาชนเสียชีวิต 24 ราย บาดเจ็บอีกกว่า 800 รายจากการก่อการร้ายของกองกำลังชุดดำที่แฝงตัวมากับมวลชนคนเสื้อแดง ไม่รวมความเสียหายต่อเศรษฐกิจของประเทศเป็นมูลค่านับหมื่นล้านบาทและนับวันเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆหากสถานการณ์ยังยืดเยื้อต่อไป

 ล่าสุดขบวนการคนเสื้อแดงแสดงความเหิมเกริมเตรียมยกระดับการเคลื่อนไหวด้วยแผนใช้กฏหมู่บุกยึดพื้นที่ย่านสีลมเป็นเวทีปักหลักชุมนุมยืดเยื้ออีกแห่งหนึ่งนอกเหนือจากเวทีที่ย่านราชประสงค์อันเป็นศูนย์กลางธุรกิจสำคัญกลางเมืองหลวงที่สร้างความเสียหายแก่ผู้ประกอบการธุรกิจในย่านดังกล่าวทั้งรายใหญ่และรายย่อยคิดเป็นมูลค่าวันละหลายร้อยล้านบาท ยังไม่รวมผลกระทบต่อบรรดาพนักงานลูกจ้างรายวันในโรงแรม ศูนย์การล้างและบริษัทต่างๆนับหมื่นคนที่ต้องตกงานเนื่องจากการปิดกิจการของสถานประกอบการธุรกิจเหล่านั้น

 นับวันขบวนการคนเสื้อแดงจะยกระดับการเคลื่อนไหวรุนแรงขึ้นเรื่อยๆอย่างไร้ขอบเขตโดยไม่คำนึงหลักนิติรัฐ ความถูกต้องชอบธรรม ตลลอดจนหายนะที่จะเกิดกับชาติบ้านเมืองใดๆทั้งสิ้นเพียงต้องการทำทุกวิถีทางให้บรรลุเป้าหมายในการโค่นล้มรัฐบาลชุดนี้เพื่อประโยชน์ของคนเพียงคนเดียวคือ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ผู้เป็นเจ้าของขบวนการเสื้อแดงที่ต้องการช่วงชิงอำนาจรัฐมาเป็นของฝ่ายตัวเองแล้วออกกฏหมายฟอกโทษความผิดทั้งหมดตลอดจนทวงทรัพย์สินของตัวเองที่ถูกยึดตกเป็นของแผ่นดินคืน รวมทั้งแผนที่จะเปลี่ยนแปลงประเทศครั้งใหญ่

 ที่สำคัญและอันตรายเป็นอย่างยิ่งต่อความมั่นคงของชาติก็คือขบวนการก่อการร้ายที่แฝงตัวอยู่ในม็อบคนเสื้อแดงซึ่งพร้อมที่จะก่อการร้ายดังโศกนาฏกรรมเลือดเมื่อวันที่10 เมษายนที่ผ่านมา รวมทั้งจ้องที่จะลอบก่อวินาศกรรมขั้นร้ายแรงคู่ขนานไปกับการเคลื่อนไหวของม็อบเสื้อแดงเพื่อให้บรรลุเป้าหมายเดียวกันนั่นคือโค่นล้มรัฐบาลชุดนี้

 จากการชุมนุมของม็อบคนเสื้อแดงอันเป็นการบ่อนทำลายความมั่นคงของประเทศ สร้างความแตกแยก และสร้างความเสียหายเดือดร้อนต่อสาธารณะรุนแรงมากขึ้นเรื่อยๆในลักษณะอันธพาลป่วนเมืองและอาจเข้าข่ายการก่อการร้ายได้สร้างความเอือมระอาต่อประชาชนอันเป็นพลังเงียบจำนวนมากที่ล่าสุดออกมาเคลื่อนไหวแสดงความไม่พอใจและเรียกร้องให้รัฐบาลดำเนินการขั้นเด็ดขาดเพื่อให้ม็อบเสื้อแดงยุติการชุมนุมโดยเร็วเพื่อให้บ้านเมืองกลับมาเป็นปกติสุขและเดินไปข้างหน้าเสียที

 ทั้งนี้การตีรวนป่วนเมืองของม็อบคนเสื้อแดงตลอดช่วงที่ผ่านมาได้สร้างความวิบัติแก่ชาติบ้านเมืองมามากเกินพอแล้ว ซึ่งภายใต้สถานการณ์ที่ประชาชนจำนวนมากเรียกร้องสนับสนุนให้รัฐบาลยุติการชุมนุมของม็อบเสื้อแดงเช่นนี้ถือเป็นความชอบธรรมและเป็นหน้าที่ของรัฐบาลที่จะต้องรักษาความศักดิ์สิทธิ์ของหลักนิติรัฐด้วยการยุติการชุมนุมของม็อบเสื้อแดงโดยเร็วที่สุดไม่ใช่แก้ปัญหาด้วยน้ำลายแถลงข่าวด่วนผ่านหน้าจอทีวีอยู่ทุกวัน แต่ไม่มีผลงานปรากฏปล่อยให้สถานยืดเยื้อลุกลามบานปลายและซับซ้อนมากขึ้นมาจนทุกวันนี้ ทั้งนี้ยิ่งวิกฤติม็อบเสื้อแดงยิ่งยืดเยื้อเท่าไหร่ก็ยิ่งสร้างความหายนะให้กับชาติบ้านเมืองรุนแรงมากขึ้นทั้งในระยะสั้นและระยะยาว 
 
วันที่ 19/4/2010
 
http://www.naewna.com/news.asp?ID=207915


หัวข้อ: Re: [2513]"ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: เหยง 16 ที่ 19 เมษายน 2553, 19:56:29
ตามด้วยข่าว

ข่าวการเมือง   
 
ศาลยกฟ้อง คดี"พร้อมพงษ์" ฟ้อง "อภิสิทธิ์" ประกาศ พรก.ฉุกเฉิน  
 
 
       เมื่อเวลา 16.00 น. ศาลแพ่งมีคำสั่งยกฟ้อง คดีที่นายพร้อมพงษ์ นพฤทธิ์ โฆษกพรรคเพื่อไทย ยื่นฟ้อง นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี กรณีประกาศ พ.ร.ก.ฉุกเฉิน โดยพิเคราะห์แล้วเห็นว่าตามพระราชกำหนดการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ. 2548 มีเจตนารมณ์ที่จะให้อำนาจนายกรัฐมนตรีโดยความเห็นชอบของคณะรัฐมนตรีในการประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินเพื่อบังคับใช้ทั่วราชอาณาจักรหรือในบางเขตท้องที่ได้ตามความจำเป็นในสถานการณ์ ซึ่งตามมาตรา 4 แห่งพระราชกำหนดดังกล่าวให้ความหมายของ “สถานการณ์ฉุกเฉิน” ว่าสถานการณ์อันกระทบหรืออาจกระทบต่อความสงบเรียบร้อยของประชาชนหรือเป็นภัยต่อความมั่นคงของรัฐหรืออาจทำให้ประเทศหรือส่วนหนึ่งส่วนใดของประเทศตกอยู่ในภาวะคับขัน หรือมีการกระทำความผิดเกี่ยวกับการก่อการร้ายตามประมวลกฎหมายอาญา การรบหรือการสงคราม ซึ่งจำเป็นต้องมีมาตรการเร่งด่วนเพื่อรักษาไว้ซึ่งการปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุขตามรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย เอกราชและบูรณภาพแห่งอาณาเขต ผลประโยชน์ของชาติ การปฏิบัติตามกฎหมาย ความปลอดภัยของประชาชน การดำรงชีวิตโดยปกติสุขของประชาชนการคุ้มครองสิทธิเสรีภาพ ความสงบเรียบร้อยและประโยชน์ส่วนรวมหรือการป้องปัดหรือแก้ไขเยียวยาความเสียหายจากภัยพิบัติสาธารณะอันมีมาอย่างฉุกเฉินและร้ายแรง ดังนั้นการที่คณะรัฐมนตรี (จำเลยที่1) ให้การเห็นชอบแก่นายกรัฐมนตรี (จำเลยที่2) ในการประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินเมื่อวันที่ 7 เมษายน พ.ศ. 2553 ย่อมเป็นการใช้อำนาจในการบริหารราชการแผ่นดินตามบทบัญญัติแห่งกฎหมาย ซึ่งอยู่ในอำนาจหน้าที่และดุลพินิจของฝ่ายบริหารโดยเฉพาะ ศาลมิอาจก้าวล่วงไปพิจารณาหรือทบทวนการใช้ดุลพินิจของฝ่ายบริหารเช่นว่านั้นได้ และการที่จำเลยที่ 2 ได้มีคำสั่งนายกรัฐมนตรีที่ พิเศษ 1/2553  ให้นายสุเทพ จำเลยที่ 3 เป็นผู้อำนวยการศูนย์ฯ โดยอาศัยอำนาจตาม ม.7 วรรคสาม วรรคห้า และวรรคหก ม.8 – 9 ,11 และ 15 แห่ง พ.ร.ก.ดังกล่าว

       นอกจากนี้จำเลยที่ 2 ยังมีคำสั่งนายกรัฐมนตรีที่ พิเศษ 2/2553 ให้จำเลยที่ 3 เป็นผู้กำกับการปฏิบัติงานในการแก้ไขสถานการณ์ฉุกเฉินฯ จำเลยที่ 2 และ 3 ย่อมมีอำนาจตามความใน ม.9 (2) และ (3) แห่ง พ.รก.ดังกล่าว ที่จะใช้มาตรการอันจำเป็นเพื่อแก้ไขสถานการณ์ฉุกเฉินได้ตามรัฐธรรมนูญ 2550 ม.45 วรรคสี่ ที่ว่าการห้ามหนังสือพิมพ์หรือสื่อมวลชนอื่นเสนอข่าวสารหรือแสดงความคิดเห็นทั้งหมดหรือบางส่วน หรือการแทรกแซงด้วยวิธีการใดๆ เพื่อลิดรอนเสรีภาพตามมาตรานี้จะกระทำมิได้ เว้นแต่โดยอาศัยอำนาจตามบทบัญญัติแห่งกฎหมายเฉพาะเพื่อรักษาความมั่นคงของรัฐ

       นอกจากนี้ ตามที่โจทก์ขอให้ศาลมีคำพิพากษาหรือคำสั่งยกเลิกคำสั่งของจำเลยที่ 2 และ 3 ที่สั่งให้ยุติการแพร่ภาพและเสียงของสถานีโทรทัศน์พีเพิลชาแนล และมีคำสั่งให้จำเลยทั้งสองสั่งห้ามหน่วยงานของรัฐเพื่อคุ้มครองผู้บริโภคที่จะได้รับข่าวสารที่ถูกต้องและเพียงพอเกี่ยวกับสินค้าหรือบริโภคตาม พ.ร.บ.คุ้มครองผู้บริโภค พ.ศ.2522 มิใช่เป็นการรับทราบข้อมูลข่าวสารทั่วๆไป โจทก์ย่อมมิใช่ผู้เสียหายหรือเป็นผู้ถูกโต้แย้งสิทธิการกระทำของจำเลยที่ 2 และ 3 โจทก์จึงไม่มีอำนาจฟ้อง

       พิพากษายกฟ้อง

 
 
http://www.naewna.com/news.asp?ID=208015


หัวข้อ: Re: [2513]"ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: เหยง 16 ที่ 19 เมษายน 2553, 20:04:29
ข่าวการเมือง   
 
“หมอตุลย์”ท้าแกนนำแดงยุติมอบตัว แกนนำหลากสีก็พร้อมยุติมอบตัวด้วย   
 
 
 
      เมื่อเวลา 16.00 น. กลุ่มประชาชนพิทักษ์ชาติ (ไม่แบ่งสี) และกลุ่มเฟซบุ๊คส์ต้านการยุบสภา ได้ร่วมตัวกันที่หอนาฬิกาไลออนท์ บริเวณสวนสาธารณสวนจตุจักร ภายใต้การอารักขาของเจ้าหน้าที่ตำรวจจากหน่วยปราบจราจล (ปจ.) หนองบัวลำภู 2 หมวด บกน.2 1หมวด รวม  150 นาย เพื่อรักษาความปลอดภัยให้กับผู้ชุมนุม

      โดยนพ.ตุลย์ สิทธิสมวงศ์ ผู้ประสานงานกลุ่มประชาชนพิทักษ์ชาติ กล่าวว่า กิจกรรมดังกล่าวเป็นการสร้างจิตสำนึกให้มวลชนออกมาแสดงพลัง เพื่อนำความสงบ สันติสุข คืนสู่กรุงเทพมหานครและประเทศไทย รวมทั้งกระตุ้นให้รัฐบาลดำเนินการนำตัวผู้ก่อความไม่สงบ จากเหตุการณ์เมื่อวันที่ 10 เม.ย. มาดำเนินคดีตามกฏหมาย และให้กำลังใจนายกรัฐมนตรี รัฐบาล และเจ้าหน้าที่ของรัฐที่ปฏิบัติหน้าที่รักษาความสงบฃ

      นพ.ตุลย์ กล่าวว่า ส่วนกรณีที่แกนนำกลุ่มคนเสื้อแดงออกมากล่าวหาว่ากลุ่มคนหลากสีได้รับเงินสนับสนุนจากรัฐบาลและบริษัทเจริญโภคภัณฑ์ ในการออกมาชุมนุมนั้น ตนขอยืนยันว่าไม่เป็นความจริง เพราะการออกมาชุมนุมในวันที่ 13 เม.ย. ที่ผ่านมา เกิดจากความเดือดร้อนที่กลุ่มคนเสื้อแดงชุมนุม ซึ่งหากกลุ่มคนเสื้อแดงยุติการชุมนุม และแกนนำไปมอบตัว ตนก็พร้อมที่จะเดินทางไปมอบตัวเช่นกัน ทั้งนี้ ยอมรับว่าประชาชนที่เข้าร่วมการชุนนุมกว่า 50 เปอร์เซ็นต์ เคยเข้าร่วมชุมนุมกับกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยมาก่อน ส่วนการที่ออกมาตำหนิตนให้ขึ้นเวทีพันธมิตรฯเพียงอย่างเดียวนั้น ตนจึงอยากถามย้อนกลับว่าทำไมแกนนำคนเสื้อแดงถึงไม่ไปถามนพ.เหวง โตจิราการ แกนนำลุ่มคนสื้มออแดง ที่ครั้งหนึ่งเคนยขึ้นเวทีพันธมิตรฯ และย้ายไปขึ้นเวทีกลุ่มคนเสื้อแดง

      นพ.ตุลย์ กล่าวต่อว่า อย่างไรก็ตาม อยากวอนสื่อให้นำเสนอข่าวของกลุ่มคนเสื้แดงโดยสรุป เพราะเนื้อหาในการชุมนุมของกลุ่มคนหลากสีมีสาระสำคัญมากกว่า เพราะเมื่อเทียบกับกลุ่มผู้ชุมนุมคนเสื้อแดงที่มาชุมนุม ยังไม่ทราบว่ามาทำอะไร แม้กระทั่งคำว่า “อำมาตย์” หมายความว่าอย่างไร ทั้งนี้ การชุมนุมของกลุ่มคนหลากสียืนยันว่าจะไม่มีการปะทะกับกลุ่มคนเสื้อแดงอย่างแน่นอน เพราะเราต้องการชุมนุมอย่างสงบและสันติ และจะไม่ทำลายอุดมการณ์ของตัวเองที่เคยให้สัญญาไว้ และก็อยากให้ย้อนกลับไปดูว่าการชุมนุมของกลุ่มคนเสื้อแดง เคยชุมนุมสงบและสันติอย่างที่เคยอ้างหรือไม่

      เมื่อถามว่า กรณีที่กลุ่มพันธมิตรฯให้เวลารัฐบาล 7 วัน ในการแก้ไขปัญหา นพ.ตุลย์ กล่าวว่า ตนยังคงให้กำลังใจและสนับสนุนรัฐบาลในการทำงานต่อไป แต่หาก 10-15 วัน รัฐบาลยังไม่ดำเนินการอะไร เสียงที่เคยสนับสนุบรัฐบาล อาจจะเปลี่ยนเป็นเสียงตำหนิได้ อย่างไรก็ตาม วันที่ 20 เม.ย. เวลา 16.49 น. กลุ่มคนหลากสีจะเดินทางไปชุมนุมเพื่อแสดงพลัง ที่ลานพระบรมรูปทรงม้า รวมทั้งจะทำพิธัสักการะพระบรมรูป

 
 
วันที่ 19/4/2010
 
http://www.naewna.com/news.asp?ID=208031


หัวข้อ: Re: [2513]"ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: wannee ที่ 20 เมษายน 2553, 06:09:47

สวัสดีค่ะพี่แอ๊ะ  emo4:))

เสียด  click ตาม link ที่พี่ป๋องทิ้งไว้มาค่ะ


หัวข้อ: Re: [2513]"ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: ภาณุ ปาตานี ที่ 20 เมษายน 2553, 06:54:57
สวัสดีครับ พี่แอ๊ะ...

"ห้องการเมืองกับพี่แอ๊ะ"


หัวข้อ: Re: [2513]"ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: เหยง 16 ที่ 20 เมษายน 2553, 08:57:39
ดูพวกมันทำ..แสดงถึงเจตนาที่แท้จริงออกมาแล้ว

                               (http://img88.imageshack.us/img88/4215/presidenttak1.png)

อ่านได้ใน
"ไพร่แดง"เหิมเกริมหนัก แปะสติกเกอร์ "ทักษิณประธานาธิบดี รัฐไทยใหม่" เย้ยคนไทย  

http://www.manager.co.th/Politics/ViewNews.aspx?NewsID=9530000053908


หัวข้อ: Re: [2513]"ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: เหยง 16 ที่ 20 เมษายน 2553, 09:01:54
บทบรรณาธิการของ นสพ.แนวหน้า ออนไลน์ วันนี้

บทบรรณาธิการ   
 
พลังมวลชนแท้เมื่อเทียบม็อบถ่อย (บทบรรณาธิการ) 
 
 
 

   การออกมาเคลื่อนไหวของพลังมวลชนกลุ่มเสื้อหลากสีถือเป็นพลังเงียบอันบริสุทธิ์และเป็นการแสดงออกตามสิทธิเสรีภาพขั้นพื้นฐานตามระบอบประชาธิปไตยภายใต้รัฐธรรมนูญซึ่งต่างจากการชุมนุมของม็อบคนเสื้อแดงที่ถูกวิพากษ์วิจารณ์อย่างหนักว่า มีพฤติกรรมถ่อย ดิบ เถื่อนดุจอันธพาลป่วนเมืองที่ไม่ใช่การชุมนุมตามหลักประชาธิปไตยอย่างสิ้นเชิง

   การชุมนุมของมวลชนกลุ่มเสื้อหลากสีแสดงออกอย่างชัดเจนว่าเคลื่อนไหวด้วยความสงบสันติอย่างแท้จริงโดยไม่ใช้ความรุนแรง หรือสร้างปัญหาความเดือดร้อนทั้งต่อประเทศชาติและต่อสาธารณชนทั่วไป ซึ่งตรงกันข้ามกับพฤติกรรมของม็อบคนเสื้อแดงอย่างสิ้นเชิงที่พยายามอำพรางอ้างและสร้างภาพว่ายึดแนวทางอหิงสาสันติวิธี ทั้งๆ ที่ความจริงม็อบเสื้อแดงมีพฤติกรรมตรงกันข้ามด้วยการเคลื่อนไหวดุจอันธพาลเผาบ้านป่วนเมืองใช้กฎหมู่อยู่เหนือกฎหมายข่มขู่ คุกคาม กดดันยั่วยุท้าทายอำนาจรัฐด้วยวิธีการอันรุงแรงหวังจุดชนวนสร้างสถานการณ์เพื่อนำไปสู่สงครามกลางเมือง อาทิ การยกกำลังบุกสำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง(กกต.) การยกกำลังบุกรัฐสภาและก่อเหตุรุนแรงทำร้ายเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัย การบุกปิดล้อมค่ายทหารสร้างสถานการณ์ยั่วยุท้าทาย

   นอกจากนี้ ยังปิดถนนและยึดย่านราชประสงค์อันเป็นศูนย์กลางธุรกิจการค้าสำคัญกลางกรุงใช้เป็นเวทีปักหลักชุมนุมยืดเยื้อซึ่งนอกจากทำให้การจราจรติดขัดอย่างหนักสร้างความเดือดร้อนต่อสาธารณะแล้ว ที่สำคัญเป็นการบ่อนทำลายสร้างความเสียหายทางเศรษฐกิจคิดเป็นมูลค่ามหาศาล ซ้ำยังเหิมเกริมวางแผนยกระดับการเคลื่อนไหวด้วยการบุกยึดย่านธุรกิจสำคัญแห่งอื่นๆ อาทิ ย่านสีลมเป็นเวทีการชุมนุมด้วยหวังใช้เป็นเครื่องมือกดดันรัฐบาล

   ที่สำคัญยังมีกลุ่มก่อการร้ายที่แฝงตัวอยู่ในม็อบคนเสื้อแดงที่อยู่เบื้องหลังการก่อโศกนาฏกรรมเลือดเมื่อวันที่ 10 เมษายน ที่ผ่านมา ด้วยการใช้อาวุธสงครามร้ายแรงนานาชนิดสังหารหมู่ทหารและประชาชน 25 ราย และบาดเจ็บอีกกว่า 800 ราย ยังไม่รวมขบวนการใต้ดินของคนเสื้อแดงที่ลอบก่อวินาศกรรมระเบิดป่วนเมืองกว่า 30 ครั้งในการชุมนุมของม็อบคนเสื้อแดงตลอด 1 เดือนที่ผ่านมา

   ขณะเดียวกัน การชุมนุมของมวลชนกลุ่มคนหลากสียังเป็นการแสดงออกด้วยอุดมการณ์อันบริสุทธิ์ปราศจากอามิสสินจ้างและทำเพื่อผลประโยชน์ของชาติบ้านเมืองอย่างแท้จริงซึ่งตรงกันข้ามกับม็อบคนเสื้อแดงที่มีการจ้างและจัดตั้งมวลชนมาร่วมชุมนุมโดยมีเป้าหมายการเคลื่อนไหวมุ่งโค่นล้มอำนาจรัฐซึ่งเข้าข่ายเป็นกบฏและก่อการร้ายที่หวังช่วงชิงอำนาจรัฐเพื่อคนเพียงคนเดียวคือ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ผู้เป็นนายใหญ่ของขบวนการเสื้อแดงโดยไม่คำนึงถึงหายนะใดๆที่จะเกิดกับชาติบ้านเมือง

   ดังนั้น ม็อบคนเสื้อแดงจึงไร้ความถูกต้องชอบธรรมในการชุมนุมอย่างสิ้นเชิงและถือเป็นหน้าที่ของรัฐที่จะต้องสลายการชุมนุมของม็อบคนเสื้อแดงโดยเร็วที่สุดก่อนที่ชาติบ้านเมืองจะหายนะยับเยินไปมากกว่านี้ 
 
วันที่ 20/4/2010
 
http://www.naewna.com/news.asp?ID=208025


หัวข้อ: Re: [2513]"ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: เหยง 16 ที่ 20 เมษายน 2553, 09:07:35
บทบรรณาธิการของ นสพ.ไทยโพสต์ ออนไลน์ วันนี้

จับตาแดงเทียมแท้ๆ เจ้าหน้าที่มีสิทธิป้องกันตัว  
บทบรรณาธิการ 20 เมษายน 2553 - 00:00


 ขณะที่คนเสื้อแดงขมีขมันตรวจสอบฝ่ายอื่นที่ไม่ได้สวมเสื้อสีแดง  เป็นต้นว่า  ทุกครั้งที่ทหารเคลื่อนกำลังเข้ารักษาความสงบบริเวณใกล้เคียงพื้นที่ชุมนุม  คนเสื้อแดงจะยกพวกพากันไปปิดล้อมเพื่อขอตรวจค้นอาวุธ  และการปิดถนนเพื่อตรวจค้นรถโดยสารที่เดินทางจากภาคอีสานเข้ากรุงเทพฯ  เพื่อดูว่ามีทหารโดยสารไปด้วยหรือไม่  ฯลฯ  แต่คนเสื้อแดงเองกลับไม่เคยแสดงความบริสุทธิ์ใจให้เจ้าหน้าที่รัฐเข้าไปตรวจค้นในพื้นที่ชุมนุมเลยแม้แต่ครั้งเดียว
     กลับมีพฤติกรรมข่มขู่คุกคามไปทั่ว  ไม่ว่ากับผู้สัญจรไปมาบนถนนอาจถูกทุบรถโดยง่าย  หากไปกระตุกต่อมอันธพาลคนเสื้อแดงเข้า   รวมไปถึงสื่อมวลชนแขนงต่างๆ  ที่เสนอข่าวไม่ถูกใจ  ก็ต่างถูกข่มขู่กันถ้วนหน้า  ล่าสุดบ้าคลั่งกันถึงขนาดจะจับครอบครัวอี้-แทนคุณ  จิตต์อิสระ  พิธีกรช่องเอ็นบีทีเป็นตัวประกัน  วิธีการเยี่ยงโจรนี้ได้รับอิทธิพลมาจากแกนนำเสื้อแดงนั่นเอง
     หลังวันที่  10  เมษายนเป็นต้นมา  ทั้งแกนนำคนเสื้อแดงและผู้ร่วมชุมนุมต่างมีความแข็งกร้าวขึ้นกว่าเดิม  คนพวกนี้ไม่สนใจกฎหมายบ้านเมือง  แต่ได้ตั้งกฎเฉพาะกลุ่มขึ้นมาพร้อมกับตรรกะที่เป็นอันตรายต่อชาตินั่นคือ  แดงคนไหนที่ทำนอกคำสั่งคือแดงเทียม  เราได้เห็นแกนนำคนเสื้อแดงประกาศบนเวทีรวมทั้งนั่งโต๊ะแถลงข่าวบ่อยครั้งว่าแดงที่ไม่เชื่อแกนนำคือแดงเทียม
     แดงที่ไม่เชื่อแกนนำไม่ได้หมายถึงแดงที่ทำผิดกฎหมายบ้านเมือง  เพราะหลายครั้งแกนนำเสื้อแดงสั่งให้คนเสื้อแดงทำผิดกฎหมาย  เช่น  การบุกสถานที่ราชการ  การปลุกระดมให้ไล่ล่าฆ่านายกรัฐมนตรี  ประธานองคมนตรี  ล้วนผิดกฎหมายบ้านเมืองทั้งสิ้น  แต่คนเสื้อแดงพวกนี้ไม่ได้ถูกเรียกเป็นแดงเทียมเนื่องจากคำสั่งแกนนำระบุให้ทำเช่นนั้น
     กรณีแดงแท้  แดงเทียม  ยังได้ปรากฏให้เห็นหลายครั้งว่าอยู่ที่ความต้องการของแกนนำเสื้อแดงในการกำกับการชุมนุมของคนเสื้อแดงให้เป็นไปในทิศทางที่ต้องการ  และคนเสื้อแดงเองก็กลัวถูกตราหน้าว่าเป็นแดงเทียม  การรอรับคำสั่งจึงเป็นสิ่งที่คนเสื้อแดงในพื้นที่ชุมนุมรอฟังและปฏิบัติตามโดยไม่มีข้อโต้แย้งใดๆ  ทั้งสิ้น
     ตัวอย่างที่เห็นได้ชัดเจนที่สุดคือการบุกรัฐสภา  ก่อนที่นายอริสมันต์  พงษ์เรืองรอง  จะพาคนเสื้อแดงพังประตูบุกเข้าไปภายใน  บรรดาแกนนำเสื้อแดงคนอื่นๆ  ประกาศอยู่ตลอดเวลาว่าใครบุกเข้าไปคือแดงเทียม  แต่เมื่อคนเสื้อแดงบุกเข้าไปภายในได้สำเร็จพร้อมปลดอาวุธเจ้าหน้าที่    แต่ไม่มีแกนนำคนเสื้อแดงคนไหนชี้หน้าว่านายอริสมันต์  พงษ์เรืองรอง  เป็นแดงเทียม  กลับมีบิดเบือนว่ามีแดงเทียมโยนแก๊สน้ำตาใส่ผู้ชุมนุม  ทั้งๆ  ที่แก๊สน้ำตาเป็นของเจ้าหน้าที่ตำรวจที่ตกบนพื้นระหว่างการกระทบกระทั่งกับคนเสื้อแดงบริเวณประตูอาคารรัฐสภา
     การดูว่าใครเป็นแดงแท้  แดงเทียม  จึงขึ้นอยู่กับความต้องการของแกนนำเสื้อแดงเป็นหลัก  กรณีผู้ก่อการร้ายในวันที่  10  เมษายนก็เช่นกัน  ชายชุดดำที่ถือปืนอาก้าทั้งหมดคือการ์ดแท้ของคนเสื้อแดง  แต่เมื่อมีหลักฐานเป็นภาพถ่ายและคลิปวิดีโอ  คนพวกนี้จึงต้องเปลี่ยนสภาพไปเป็นแดงเทียม
     ท่ามกลางความวิตกกังวลว่าอาวุธสงครามของราชการที่ถูกคนเสื้อแดงขโมยไประหว่างเหตุการณ์  10  เมษายนนั้น  อาจถูกนำมาใช้ก่อเหตุสังหารเจ้าหน้าที่หรือคนเสื้อแดงด้วยกันเองอีกครั้ง  ได้มีเสียงเรียกร้องให้คนเสื้อแดงยอมรับการตรวจสอบจากรัฐว่าพื้นที่ชุมนุมของคนเสื้อแดงปราศจากอาวุธตามที่อ้างว่าเป็นการชุมนุมอย่างสันติตามรัฐธรรมนูญหรือไม่  แต่ได้รับการปฏิเสธ  ทำให้พื้นที่ชุมนุมของคนเสื้อแดงเป็นเหมือนดินแดนต้องห้าม  คนเสื้อแดงจึงไม่สิทธิ์ที่จะปฏิเสธข้อสงสัยจากผู้อื่นได้
     หลายฝ่ายตั้งข้อสงสัยเหมือนๆ  กันว่า  พื้นที่ชุมนุมของคนเสื้อแดงอาจมีการซ่องสุมอาวุธสงครามไว้ต่อสู้กับเจ้าหน้าที่รัฐโดยเฉพาะทหาร  ดังนั้นเพื่อไม่ให้เกิดเหตุซ้ำรอยวันที่  10  เมษายน  จึงจำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องจับตากลุ่มผู้ก่อการร้ายในหมู่ผู้ชุมนุมอย่างใกล้ชิด  นั่นเป็นที่มาว่าทำไมต้องมีการส่งเจ้าหน้าที่ขึ้นไปสังเกตการณ์บนอาคารสูงรอบๆ  พื้นที่การชุมนุม  ขณะที่คนเสื้อแดงยึดหลักกูจะส่งการ์ดขึ้นไปประกบเจ้าหน้าที่  ซึ่งเรื่องแบบนี้จะปล่อยให้เกิดขึ้นไม่ได้เด็ดขาด
     คนเสื้อแดงพยายามที่จะตรวจสอบคนอื่นแต่กลับไม่ยอมให้ฝ่ายอื่นตรวจสอบตัวเอง  การเผชิญหน้าระหว่างผู้ชุมนุมกับทหารในอีกไม่กี่วันนี้เพื่อขอพื้นที่คืน  จำเป็นที่ฝ่ายทหารจะต้องมีโอกาสได้ป้องกันตัวมากกว่าเมื่อวันที่  10  เมษายนที่ผ่านมา  ทหารจึงจำต้องพกอาวุธประจำกาย
     แม้จะเป็นดาบสองคมว่าอาจจะนำไปสู่ความสูญเสียอย่างใหญ่หลวงได้  หากกลุ่มก่อการร้ายที่แฝงตัวอยู่ในม็อบต้องการให้ประวัติศาสตร์ซ้ำรอย  แต่ประเทศนี้ก็ไม่มีทางเลือกอื่น  หากคนเสื้อแดงยังมีกลุ่มติดอาวุธ  และมีพฤติกรรมเยี่ยงโจรก่อการร้าย  ไม่เช่นนั้นความเป็นรัฐจะดำรงอยู่ไม่ได้  เว้นเสียว่าต้องการให้เป็นรัฐเถื่อน.

http://www.thaipost.net/news/200410/21051


หัวข้อ: Re: [2513]"ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: เหยง 16 ที่ 20 เมษายน 2553, 09:12:55
บทความของ คุณเปลว สีเงิน

ปฏิบัติการ"จิ๋ว-จืด"เทิดทูนคือทำลาย
เปลว สีเงิน20 เมษายน 2553 - 00:00

     มนุษย์  "ยุคอินเทอร์เน็ต"  ก็อย่างนี้แหละ  รอคอยอะไรไม่ได้  ทุกอย่างต้องเร็ว...เร็ว...เร็ว  และเร็ว  และต่อให้เร็วขนาดไหนก็ยังช้า  ไม่ทันใจอยู่ดี  ฉะนั้น  นายกฯ  อภิสิทธิ์ก็ดี  พลเอกอนุพงษ์ก็ดี  ต้องเข้าใจพี่น้องสังคมร่วมชาติให้มากเข้าไว้  เพราะรักและปรารถ
นาดีต่อรัฐบาลและกองทัพหรอก  เขาจึง  "เร่ง"  คล้ายร้ายกับท่าน  เร่งบนการรอยคอยที่ทั้งทนอด  และอดทน  ซึ่งมนุษย์ยุคไอทีไม่เคยอดทนได้ขนาดนี้มาก่อน!
     ประชาชนก็เขามีเหตุผลที่เร่ง   เพราะกบฏทักษิณ  "ยึดเมือง"  มาเดือนกว่าแล้ว  ทั้งคนเสื้อแดง  และทั้งทหารอันเป็น  "ทรัพยากรชาติ"  ด้วยกัน  ต้องบาดเจ็บและตายไปแล้วหลายสิบคน  งบประมาณก็เสียไป  เบี้ยเลี้ยงก็เสียไป  เศรษฐกิจ-การค้าก็เสียไป  ชีวิตก็เสียไป
     แต่แลกอะไรกลับมาไม่ได้ซักอย่าง!?
     กบฏทักษิณก็ยังยึด  "ราชประสงค์"  สร้างอาณาจักรเหมือนรังโจร  กิน-ถ่าย-ก่าย-กอด  กันกลางถนนสุขสบายเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น  รัฐบาลก็ยังต้องไปอาศัย  "ค่ายทหาร"  ที่ราบ  ๑๑  ทำงานหลบๆ  ซ่อนๆ  ซอกซอนหนีภัยเหมือนกลัวบารมีกบฏแผ่นดิน
     ทหารแห่งกองทัพบกไทยเองก็เถอะ  ลูกน้องฮึกหาญ  พร้อมเสมอเพื่อบ้านเมือง  แต่ระดับ  "บิ๊กๆ"  แตกกันไปคนละสี-สองสี  ตัวทหารไทย  แต่ใจทหารทักษิณ  ขณะนี้  ต่อให้เดินชนไหล่   แต่ยากจะแน่ใจว่าใครอยู่หน่วยสอดแนม  หน่วยจารกรรม  หน่วยสปายไส้ศึก  หน่วยลิ่ม  หน่วยเสียม  หรือหน่วยรบของชาติ?
     ทหารลูกน้องเจอเสื้อแดงต้องจ๋องๆ  ตัวลีบ  เพราะไม่รู้ว่า  "นายใหญ่"  ใจอยู่ดูไบ  หรืออยู่ไทย  ฉะนั้น  คำสั่งแบบทหารจึงยังไม่มีออกมาจะจะ
     จะ  "ชัด-ปฏิบัติ-จบ"  กันเมื่อไหร่?!
     เมื่อ  "นายพล"  ไม่สั่ง  ระวัง  "นายพัน"  จะสั่งเอง  เพราะจะรอให้  "กบฏทักษิณ"  ออกแบบประมูลสร้างนครทักษิณ  พร้อมสร้างป้อมคูประตูรบรายรอบตรงบริเวณสี่แยกราชประสงค์ให้เสร็จเสียก่อนแล้วค่อยคิดอ่าน   เกรงว่า  "ชาวประชาเฟซบุ๊ก"  เขาอดรนทนไม่ไหว  มาทำหน้าที่แทนทหาร  แล้วท่านพลเอกอนุพงษ์ก็จะ  "ตกงาน"  ก่อนเกษียณเท่านั้นแหละ!
     ที่พูดนี่ไม่ได้ว่าท่าน  เพียงแต่จำลองทัศนคติ-ความคิดสังคมที่เขาคาดหมายจากท่าน-จากกองทัพ  ยิ่งเมื่อค่ำวาน  นายณัฐวุฒิเขาประกาศว่า  "ทหารแตงโมในกองทัพพร้อมตลบหลัง"  ยิ่งตอกย้ำเสริมภาพหลอนเหตุการณ์เมื่อ  ๑๐  เมษาว่านั่นคือ  "ขบวนการทหารแตงโมฆ่าทหารของชาติ"  กันเอง
     ก็ในเมื่อทหาร  "ตายแล้ว-ตายเลย"  ครบ  ๑๐  วันในวันนี้พอดี  ท่าทีพลเอกอนุพงษ์จึงเป็นศูนย์รวมของการจับตา!?
     วันนี้  (๒๐  เม.ย.๕๓)  ฝ่ายกบฏทักษิณอันมีกองกำลังติดอาวุธเป็นเขี้ยวเล็บ  ประกาศสู้อำนาจรัฐ  เย้ยอำนาจ  พ.ร.ก.ฉุกเฉิน  ด้วยการ  "ประกาศทับประกาศ"  ว่า  จะปฏิบัติการยึดบ้าน-ยึดเมือง  ด้วยการยกระดับ  "ความรุนแรง"  เต็มอัตรา
     ก็ต้องระวังหน่อยนะท่านขุนพลณัฐวุฒิตาเหลือก  อังคารที่  ๒๐  เม.ย.ช่วง  ๐๗.๕๐-๑๐.๕๐  น.เข้าฤกษ์เพชฌฆาต  ฤกษ์เพชฌฆาตนั้น  เป็นฤกษ์ที่ฝ่ายเจ้าหน้าที่บ้านเมืองใช้จู่โจมจับคนร้าย  ทำเป็นซ่าจะหาที่ตายหรืออย่างไร  บอกไว้ในฐานะรักๆ  ชอบๆ  ทางใจ
     ความจริงเมื่อวันศุกร์  หลังจากนายกฯ  อภิสิทธิ์ประกาศแต่งตั้งให้พลเอกอนุพงษ์  "มีอำนาจเต็ม"  ทางปฏิบัติการ  "พลเอกอนุพงษ์"  ก็เรียกหน่วยขึ้นตรงตั้งแต่ระดับพลตรีขึ้นไปประชุมตอนบ่ายโมงวานนี้   (๑๙   เม.ย.)  แต่พอถึงวันอาทิตย์ก็แจ้งเลื่อนไปประชุมวันศุกร์ที่  ๒๓  เม.ย.เรียกว่า  เลื่อนจาก  "ต้น"  ไป  "ปลาย"  เลย!
     ตรงนี้น่าคิด  ซ่อนนัยยะเหมือนเข็มกลัดซ่อนปลาย  เพราะต้องยอมรับกันว่า  การสลายม็อบ  หรือการจับกุมหัวโจก  มันบ่ายจนสายบัวใกล้เน่า  ที่นายกฯ  มอบอำนาจวันศุกร์  นัดประชุมจันทร์ก็นับว่า  "ช้า"  อยู่แล้ว  แต่นี่...กลับเลื่อนไปอีก  ๕  วันค่อยประชุม  คำถามสามัญจากชาวบ้านก็จะมีในลักษณะว่า
     ๑.หลบเลี่ยงไปวันๆ  ไม่มีอะไรสำคัญและเร่งด่วนสำหรับพลเอกอนุพงษ์
     ๒.เป็นการบอกใบ้  ถึงอาทิตย์หน้าก็ยังปล่อยให้  "กบฏทักษิณ"  ลอยหน้าอยู่
     ๓.พลเอกอนุพงษ์จะใช้  "สงบสยบความเคลื่อนไหว"  ไม่ทำอะไรจนเกษียณ
     ครับ..นี่คือการมองพลเอกอนุพงษ์ในแง่ร้าย  แต่ผมกลับมองว่า  แผน  ๒  แผน  ระหว่างแผน  "ลับ-ลวง-พราง"  กับแผน  "ชัด-ปฏิบัติ-จบ"  กำลังถูกพลเอกอนุพงษ์และสตาฟฟ์กำลังกลั่นสมองกรองออกมาเป็น  "แผนปฏิบัติการ"  อย่างใด-อย่างหนึ่งในวัน-สองวันนี้!
     น่าจะโป้ง...ปิดบัญชี  ก่อน  ๒๓  เม.ษา.ด้วยซ้ำ!?
     คนเรานั้น  ดูอะไรก็ดูได้  แต่อย่า  "ดูถูก"  คน  พลเอกอนุพงษ์นั้น  พิศหน้า-พิศตาแล้ว  การที่เขาขึ้นมาสูงสุดได้ขนาดนี้  ไม่ใช่โชคช่วย  หรือจับฉลาก  หรือตีกอล์ฟ  ตีกลองกับเพื่อนจนได้ดี
     ท่านมี  "กึ๋น"  ผู้นำอยู่  เพียงแต่ว่า  กึ๋นของท่านพิเศษอยู่หน่อยตรงที่  "อยู่ลึก"  และค่อนข้างจะอึมครึม!?
     แต่การที่  ๒  ตัวอัปมงคลชาติ  "จิ๋ว-จืด"  ในขบวนการกบฏทักษิณ  ออกแถลงการณ์ร่วมกันวานนี้ว่า
     "ปัญหาของบ้านเมืองในขณะนี้เกิดจากความไม่เป็นประชาธิปไตยและการไม่มีความยุติธรรมในสังคม  ความแตกแยกทางการเมืองมีแนวโน้มที่จะขยายลุกลามจนไม่อาจแก้ไขได้  ผมทั้งสองคนเห็นว่าในระยะยาวนั้น  เราไม่อาจก็ไขปัญหาของประเทศได้  ถ้าเราไม่สร้างประชาธิปไตยที่แท้จริงให้เกิดขึ้นในประเทศไทย  และขจัดการเลือกปฏิบัติสองมาตรฐาน  เพื่อให้ประเทศเดินหน้าต่อไป  ผมทั้งสองขอเรียกร้องดังต่อไปนี้
     ๑.ต้องหยุดความรุนแรงและการสังหารประชาชนโดยทันที
     ๒.รัฐบาลต้องประกันว่าจะต้องไม่มีคนไทยเสียชีวิตจากการชุมนุมทางการเมืองอีกแม้แต่คนเดียว
     ๓.ต้องยกเลิกสถานการณ์ฉุกเฉินโดยทันที  ทั้งนี้เพื่อให้ประชาชนมีสิทธิในการชุมนุมทางการเมืองตามปกติภายใต้ความคุ้มครองทางกฎหมาย
     ๕.ต้องยุติการบิดเบือนข้อมูลข่าวสารแต่เพียงฝ่ายเดียว  เลิกปิดกั้นสื่อสารมวลชนและเลิกละเมิดสิทธิในการรับรู้ข่าวสารของประชาชน  และ     ๕.ให้รัฐบาลคืนอำนาจให้ประชาชนเลือกรัฐบาลใหม่  โดยการยุบสภาทันที  คนไทยทุกสีทุกคนมีความห่วงใยในสถานการณ์บ้านเมืองในขณะนี้  และทุกคนทุกฝ่ายมีหน้าที่แก้ปัญหาร่วมกัน  ผมทั้งสองคนเชื่อมั่นว่าเราจะหาทางออกให้กับประเทศได้  ถ้าเราตระหนักในรากเหง้าของปัญหา  และร่วมมือกันแก้ไขปัญหาอย่างจริงใจและจริงจัง"
     ครับ..นั่นคือแถลงการณ์  "อสัตย์และบัดซบ"  จากอีกขั้วหนึ่งตามรูปแบบการจัดทัพ  "แยกกันเดิน-ร่วมกันตี"  ของกองทัพกบฏทักษิณ  อันน่าจะเป็น  "จุดตัดสินใจ"  ของ  "พลเอกอนุพงษ์"  ที่จำต้องปฏิบัติการไว้ลาย  "บูรพาพยัคฆ์"  แห่งทหารเสือพระราชินีให้ปรากฏ  เพราะไม่เช่นนั้น  ตีนกบฏจะกลบหน้า  สิ้นราคา  "บูรพาพยัคฆ์"
     เพราะนั่นคือ  "ไต๋"  ที่พลเอกชวลิตกบไว้ตั้งแต่ต้นเกม  และก็ได้  "หงาย"  ออกมาเล่นใน  "ตาเป็น-ตาตาย"  ดังเห็นได้จากจอโทรทัศน์วานนี้แล้ว  ผมจะหยิบไต๋ที่หงายออกมาให้ดูกันชัดๆ  สั้นๆ  จากปากพลเอกชวลิต  ดังนี้
     "นอกจากข้อเสนอแนะของผมและนายสมชาย  ที่มองว่าจะเป็นทางออกของปัญหาในขณะนี้  ผมยังมีความหวังที่เห็นจะเป็นทางออกเดียวของบ้านเมือง  คือ  การที่จะขอรับพระราชทานพระมหากรุณาธิคุณที่จะเข้ามาหยุดความสูญเสียและปัญหาของบ้านเมือง  ทั้งนี้  ผมได้มีความพยายามที่จะประสานไปยังท่านราชเลขาธิการเพื่อขอเข้าเฝ้าฯ"
     เห็นกันมั้ย....ที่คลุมเครือมานานก็ชัดวันนี้  ไต๋ในเกม  "ยึดประเทศ-เปลี่ยนระบบ-ล้มสถาบัน"  ก็คือการพยายามดึงเอาสถาบันพระมหากษัตริย์  โดยเฉพาะดึงเอา  "พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว"  ให้ทรงเข้ามาพัวพันกับเหตุการณ์  และผลักปัญหาที่กบฏทักษิณสร้างขึ้นทั้งหมดไปไว้ที่พระองค์
     ทั้งที่โดยเนื้อแท้แล้ว  ทั้งทางกฎหมาย  และทางปฏิบัติ  พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว  และสถาบันพระมหากษัตริย์  มิได้มีหน้าที่ต้องรับผิดชอบ  หรือทรงต้องเข้ามาเกี่ยวพันกับปัญหาเช่นนี้ด้วยประการทั้งปวง
     การที่พลเอกชวลิตและนายสมชายอ้างอิงและกล่าวอ้าง  "พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว"  เข้ามาในวังวนปัญหาที่พวกตัวเองก่อเช่นนี้  ชัดเจนว่า  นี่คือการ  "บังอาจ"  ด้วยการวางแผน  และจงใจด้วยเจตนาดึง  "พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว"  ให้ทรงลงมาเกลือกกลั้วการเมืองให้ชาวโลก  และชาวไทยทั้งมวลได้คล้อยตาม  "ข้อความ"  ที่ขบวนการบ่อนทำลายสถาบันเขียนบิดเบือน-ปล่อยข่าวไว้ตามเว็บไซต์มาล่วงหน้านานแล้ว
     มองอีกมุมหนึ่ง  ชวลิตและสมชาย  ยอมรับตัวเองเป็น  "หัวหน้ากบฏทักษิณ"  ใช่มั้ย  สามารถสั่งการให้บรรดาแกนนำที่ชุมนุมกันอยู่เลิกได้ทันทีใช่มั้ย  จึงถืออำนาจบังอาจเหิมเกริมจะขอเข้าเฝ้าฯ  ประหนึ่งคล้ายผู้กุมเงื่อนไขและหวังเข้าไปต่อรองกับพระองค์?
     ถ้าเทิดทูนและเคารพใน  "พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว"  จริงดังปาก  และต้องการหยุดความสูญเสียแก่บ้านเมืองจริงดังปาก  ไม่ต้องบังอาจไปขอเข้าเฝ้าฯ  ในลักษณะและเจตนานี้...ประกาศไปเลย
     "ผม...ชวลิต-สมชาย  ในฐานะหัวหน้ากบฏทักษิณ  ขอให้ยุติการชุมนุมทั้งหมดเดี๋ยวนี้!"
     นี่...เท่านี้คนก็แซ่ซ้องแล้ว  ไม่ต้องนำปัญหาอัปมงคลที่พวกตน  "สร้างขึ้นเอง"  ขึ้นไปกระทำการให้เป็นที่ระคายเคืองและแปดเปื้อนใต้เบื้องพระยุคลบาทหรอกจิ๋วเอ๋ย...สมชายเอ๋ย!
     และฟังนี่  จิ๋ว..จืด...ก่อนจะถูกตบกะโหลกอันไร้สำนึก  สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานวานนี้  ในเวลาใกล้ๆ  กับที่ตัวเองแถลงการณ์นี่แหละว่า  พ.ต.ท.ทักษิณให้สัมภาษณ์ขณะเปลี่ยนเครื่องที่บรูไน  โดยกล่าวยืนยันว่า  "นายอภิสิทธิ์  เวชชาชีวะ  จะต้องยุบสภา  เลือกตั้งใหม่เท่านั้น  เหตุการณ์ถึงจะสงบ"
     นี่หมายความว่าไง  แสดงว่าที่  จิ๋ว-จืด  แถลงไปคือแผน  "ดึงสถาบัน"  ลงมาบั่นทอน  "การเมือง"  ใช่มั้ย?.

http://www.thaipost.net/news/200410/21052


หัวข้อ: Re: [2513]"ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: yc ที่ 20 เมษายน 2553, 09:15:28
สวัสดีครับพี่แอ๊ะ และพี่น้องชาวซีมะโด่งทุกท่าน

ผมหลุดวง พักใจ ทบทวนตนเองนานทีเดียว(จริงๆก็แค่เดือนกว่าๆ แต่กับคนรักกันมันนานมากครับ)

เข้ามาอีกครั้งจึงขอคารวะทุกท่าน
และขออาศัยห้องพี่แอ๊ะประเดิมครับ




 emo30:sorry: emo30:sorry: emo30:sorry:


หัวข้อ: Re: [2513]"ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: เหยง 16 ที่ 20 เมษายน 2553, 09:23:16
อ่านบทความของ ศาสตราจารย์ระพี สาคริกในบทความ "ถูกทุกข้อ" ของ "สามวา สองศอก"

วันสงกรานต์
ถูกทุกข้อ 20 เมษายน 2553 - 00:00

     วันสงกรานต์ประเพณีอันดีเลิศ
     สิ่งประเสริฐของโบราณนานนักหนา
     ไปรดน้ำบรรพบุรุษสุดบูชา
     ไหว้ครูบาอาจารย์ท่านให้พร
          ประเพณีที่ดีงามตามแบบเดิม
          ชาวไทยเริ่มผิดศีลธรรมคำสั่งสอน
          เที่ยวสาดน้ำรถยนต์จนเปียกปอน
          คนเดือดร้อนทั่วกันอันธพาล
     น้ำประปาราคาแพงแกล้งสาดเล่น
     เหมือนดั่งเช่นของไร้ค่าน่าสงสาร
     สนุกสนานเกินขอบเขตเทศกาล     
     เที่ยววิ่งพล่านสาดรถเมล์ร้องเฮฮา
          น้ำประปากว่าจะได้ใช้ดื่มกิน
          เราต้องสิ้นน้ำมันกันหนักหนา
          ใช้ไฟฟ้าหาคลอรีนเมืองนอกมา
          ทำประปาให้สะอาดชาติขาดดุล
                                   ไสว สุนทร

         
              วิธีแก้ปัญหาไทยฆ่าไทย
เรียน คุณสามวา สองศอก ที่เคารพ
     หลังจากเกิดเรื่องคนไทยยกพวกฆ่ากันเองในเมืองกรุงเทพฯ  ผมได้ปรารภมานานหลายปีถึงความล้มเหลวในการพัฒนาชนบท  โดยเฉพาะอย่างยิ่งผู้ที่อยู่ห่างไกลเมืองกรุงเทพฯ  ก็ดี  ผู้ที่มีรากฐานจิตใจหย่อนยานจนกระทั่งพึ่งตนเองได้ยากก็ดี
     เราควรคิดแก้ไขที่การจัดการศึกษา  แต่เราก็ไม่ได้สนใจ  เมื่อไม่ยอมสนใจก็ย่อมไม่ยอมเข้าใจ  และไม่ยอมที่จะรู้เรื่อง
     คงคิดรวบยอดแต่เพียงว่า  เอาสิ่งยากมาเป็นสิ่งง่าย  และเอาสิ่งง่ายมาเป็นสิ่งยาก  หลังจากเกิดเรื่องอะไรขึ้นก็แล้วแต่  มักมีแนวโน้มมุ่งไปโทษผู้อื่นอย่างน่าเวทนาที่สุด
     แถมในจุดที่อยู่ห่างไกลสายตาผู้มีอำนาจในกรุงเทพฯ  ด้วยแล้ว  อย่าว่าแต่อำนาจในราชการเลย  แม้แต่อำนาจทางสังคมที่จะให้สังคมยอมรับ  ผู้มีอำนาจส่วนใหญ่ก็ยังคิดที่จะใช้อำนาจบาตรใหญ่กับผู้น้อย  แม้แต่ในกระบวนการจัดการศึกษาเรา  ก็ยิ่งเห็นได้ชัดเจน
     ขณะนี้แม้ผมจะอยู่ห่างไกล  แต่มันก็ห่างไกลแต่เพียงระยะทางซึ่งไม่ใช่ของจริง  เพราะของจริงมันอยู่ที่ใจคน  หลังจากผู้น้อยมีความทุกข์ก็มักมาระบายที่ผม  ช่วยให้ผมมีโอกาสรู้ความจริงแทบทุกเรื่องภายในแวดวงการบริหารงานของสถาบันอุดมศึกษาบางแห่ง
     ยิ่งอยู่ห่างไกลเท่าไหร่  คนที่ได้รับความทุกข์ก็มักมาระบายที่ผม  เพราะเขารู้สึกว่ามาระบายที่ผมแล้วทำให้เขามีความสุขได้ทุกเรื่อง  ยิ่งเป็นเรื่องที่เกี่ยวข้องกับการจัดการศึกษาในชนบทด้วยแล้ว  เมื่อมีคนที่ใช้อำนาจบาตรใหญ่อยู่ในสถาบันอุดมศึกษา  ก็ย่อมมีคนเกิดความทุกข์หนักเข้ามาระบายกับผม
     ในช่วงนี้มีคนจากสถาบันการศึกษาในชนบทที่เข้ามาระบายความทุกข์กับผมอย่างน้อย  3  ราย
     ในเมื่อมันเป็นเช่นนั้น  ก็ย่อมเป็นเพราะเหตุเช่นนี้
     ดังนั้นในช่วงหลังๆ  มีคนประเภท  "ล่าอำนาจเพื่อเสพอำนาจ"  เหนือการเสพอย่างอื่น  เกิดขึ้นในชนบทอย่างน้อย  3  แห่ง  คนประเภทนี้มีนิสัยล่าอำนาจมาช้านานแล้ว  เพราะโดยปกติบุคคลลักษณะนี้ชอบเป็นอธิการบดีมหาวิทยาลัย
     ก็พอดีกันนั่นแหละ  เป็นเพราะสถาบันการศึกษาส่วนใหญ่ต่างก็อยากเป็นมหาวิทยาลัย  จึงทำให้มหาวิทยาลัยเกิดขึ้นยังกะดอกเห็ด  ที่ไหนไม่ได้เป็นมหาวิทยาลัยเพราะถูกกระทรวงศึกษาธิการบังคับ  บุคลากรในสถาบันการศึกษาแห่งนั้นต่างก็เสียอกเสียใจ  เพราะไม่รู้ว่าการเป็นมหาวิทยาลัยนั้นมันก็อยู่ที่ชื่อ  แต่คุณงามความดีไม่ว่าจะชื่อเสียงเรียงนามอย่างไรก็ตาม  ต่างก็ทำได้เท่าเทียมกันหมด
     นี่แหละที่มันทำให้คนไทยอยากได้หน้า  เมื่อได้มาแล้วก็เกิดความทุกข์  เพราะการบริหารงานของผู้บริหารก็ยังไม่ได้เป็นที่ตอบสนอง
     ยิ่งไปกว่านั้นเมื่อเกิดความทุกข์  ก็ยิ่งมองข้ามความสำคัญของประชาชน  ทำให้เขาทั้งหลายต่างก็ผิดหวังไปตามๆ   กัน  ยิ่งพูดถึงมหาวิทยาลัยด้วยแล้ว  คุณลองไปถามชาวบ้านเขาดูว่า  ได้ประโยชน์อะไรจากมหาวิทยาลัยในแต่ละท้องถิ่น  บางแห่งถึงขนาดปิดประตูรั้วแล้วหันหลังให้กับชาวบ้านอย่างน่าอับอายที่สุด
     ผมขอให้หัวหน้าสายงานที่เกี่ยวข้อง  ลองละจากห้องประชุมติดแอร์และเครื่องประดับอันหรูหรา  ลงมาเดินที่พื้นดินดูบ้างเป็นยังไง  แล้วคุณจะมีโอกาสรับฟังเรื่องราวต่างๆ  จากชาวบ้านจนกระทั่งแทบจะคับหูในหลายแห่ง
     ไม่เช่นนั้นแล้วใครเลยจะอยากละถิ่นฐานบ้านช่อง  รวมทั้งเรือกสวนไร่นา  มาแห่กันเอาเรื่องอยู่ในกรุงเทพฯ
     ขณะนี้มีผู้บริหารมหาวิทยาลัยบางแห่ง  คิดไม่ซื่อกับประชาชน
     "เพราะไม่มีสิ่งนั้นจึงมีสิ่งนี้"  นี่คือหลักธรรม  ถ้าใครคิดแก้ไขปัญหาโดยใช้หลักธรรม  ผมเชื่อว่าทุกอย่างย่อมเป็นผลสำเร็จได้ทุกเรื่อง     
     คนประเภทที่มีนิสัยชอบล่าตำแหน่งและอำนาจนั้น  เมื่อไม่ได้เป็นอธิการบดีที่นี่หรือเป็นแล้วหมดเทอม  ทำให้ต้องละจากตำแหน่งและอำนาจ  เธอก็ไปดำรงตำแหน่งอธิการบดีอยู่ที่นั่นที่โน่น  บางครั้งก็หวนกลับมาเป็นที่เก่าก็ยังมี
     นี่แหละที่เขาเรียกกันว่า  "เสพตำแหน่งและอำนาจ  มันมีผลทำลายสังคมยิ่งกว่าเสพกามารมณ์และยาเสพติด"
     แต่ผู้ที่มีนิสัยเสพติดอำนาจก็มักมีนิสัยเสพติดเหล้ายาร่วมด้วย  ไม่เชื่อลองสังเกตดูให้ดีแล้ว
จะรู้ได้เอง  ซึ่งคนประเภทนี้มักไม่ยอมไว้หน้าไม่ว่าใครเป็นใคร  ถ้ามีความคิดเห็นไม่ตรงกับตัวก็เล่นงานเขาเรื่อยไป  ซึ่งมันไม่ถูกหลักกับการบริหารงานบุคคล  อันควรใช้คุณธรรมและจริยธรรมเป็นพื้นฐาน
     ฉันรู้สึกสงสารพวกเขาที่จำต้องตกเป็นเครื่องมือ  เพื่อหวังเสพอำนาจและตำแหน่งโดยไม่ได้คิดที่จะละลด  หรืออีกนัยหนึ่งอาจกล่าวว่า  "คนประเภทนี้ย่อมไม่รู้จักพอ  เมื่อไม่รู้จักพอย่อมรู้จักเสพเพิ่มมากยิ่งขึ้น  จนกว่าตนเองจะถูกทำร้ายเมื่อไหร่นั่นแหละ  จึงจะรู้สึกจากความเจ็บปวด"
     ไม่เป็นเพียงเท่านั้นแต่ชาวบ้านที่เขารู้สึกได้  ถึงความสำคัญของระบบและองค์กรชาวบ้าน คนประเภทนี้ย่อมรู้สึกรับผิดชอบต่อสังคม  ดังนั้นบุคคลประเภทนี้อีกนั่นแหละที่เขาเอาข้อมูลมาบอกผม  จนกระทั่งกลายเป็นเรื่องที่อาจทำให้สังคมต้องเดือดร้อนหนัก
     เหตุการณ์บ้านเมืองในลักษณะนี้  ถ้าไม่รีบแก้ไขตั้งแต่ต้น  หากปล่อยให้มันบานปลายออกไปเพิ่มมากยิ่งขึ้น   จนกระทั่งทำให้คนไทยด้วยกันเองต้องมาคิดทำร้ายกัน  แล้วคุณจะไปโทษใคร  ถ้าไม่อาจหวนกลับมาโทษตัวเอง  การคิดแก้ไขมันก็ย่อมมีผลผิดไปจากจุดที่เป็นปัญหา  อย่างที่เรียกว่า  "เกาไม่ถูกที่คัน"
     ผมทราบเรื่องนี้แล้วอดที่จะหวนกลับมานึกถึง  "กรรมการบริหารการอุดมศึกษาของชาติ" เรื่องนี้ถ้ารู้จักสังหรณ์ใจก็ย่อมหยั่งรู้ได้ว่า  "เหตุใดคนในระดับอุดมศึกษาแล้ว  แต่ทำไมถึงได้ไม่ไปหากรรมการอุดมศึกษาของชาติ  มันต้องมีอะไรที่เป็นเงื่อนปมอยู่ตรงนั้นอย่างแน่นอน  ไม่เชื่อก็ลองค้นหาดูก็แล้วกัน"
     ผมนึกถึงคำปรารภที่มักพูดกันว่า  "อะไรๆ  ก็ตั้งกรรมการ  อะไรๆ  ก็ต้องให้กรรมการสอบ"  แทนที่จะไว้อกไว้ใจหลังจากนั้นจึงสนใจที่จะให้ใครก็ได้ที่ได้รับการไว้วางใจจากประชาชน  เขาหวนกลับมาเห็นความสำคัญของคนที่เขาเชื่อถือ
     สิ่งนี้หรือมิใช่ที่มันเป็นปัญหาสลับซับซ้อน  โปรดอย่าคิดนะว่าเป็นเพราะปัญหาสลับซับซ้อนจึงทำให้คิดแก้ไขได้ยาก  หากขอให้คิดว่ามันจะเกิดจากอะไรก็ตาม  แม้เป็นปัญหาสลับซับซ้อนแค่ไหนก็ตาม  ฉันจะมุ่งมั่นแก้ไขให้มันเสร็จสิ้นด้วยจิตสำนึกรับผิดชอบของตัวเอง
     นี่แหละที่เป็นส่วนหนึ่ง  ซึ่งแฝงเอาเงื่อนปมเข้าไว้ในเหตุการณ์  ซึ่งทำให้คนไทยต้องมายกพวกฆ่ากันเองอยู่ในขณะนี้  ทั้งนี้เพราะประชาชนก็เช่นกัน  แทนที่จะมีจิตใต้สำนึกโดยไม่ดูถูกของเล็กน้อย  หรือสิ่งซึ่งมันตกหล่นอยู่บนพื้นดิน  แม้แต่เงาของปัญหาที่สะท้อนขึ้นมาจากด้านล่าง  มันก็เป็นปัญหาสังคมร่วมกันทั้งนั้น
     จะแก้ไขโดยใช้องค์กรนั้นองค์กรนี้เป็นที่พึ่งมันก็ไม่ได้  หลังจากหวนกลับมาคิดร้องเรียนให้ใครคนหนึ่งช่วยแก้ให้มันก็เท่านั้น  ดังนั้นสู้หันกลับมาแก้ไขด้วยตัวเอง  ผมขอบอกว่าอะไรๆ  มันก็ไม่เหมือนรากฐานที่ฝังอยู่ในแผ่นดินถิ่นนี้มาแต่อดีต
     นี่แหละผมรับรองว่าการคิดแก้ไข  ย่อมเป็นผลสำเร็จได้ทุกเรื่อง
     เมื่อพูดถึงการล่าตำแหน่ง  การล่าอำนาจ  อยู่ที่ไหนก็ต้องมีอำนาจบริหาร  คิดแก้ไขอะไรก็ต้องมีอำนาจบริหาร  ทั้งๆ  ที่การใช้อำนาจมันไม่ได้วิเศษไปกว่าการใช้คุณธรรมและบารมีซึ่งช่วยให้ตัวเองบังเกิดความสุข  แถมยังช่วยให้การนำปฏิบัติบังเกิดผลในสิ่งซึ่งทั้งดีทั้งงามอีกด้วย
     นี่แหละที่ผมคิดว่า  คนไม่มีอำนาจ  ไม่มีตำแหน่ง  คงมีแต่คุณงามความดีรวมทั้งมีบารมี  ย่อมนำไปสู่ผลสำเร็จได้ทุกเรื่อง
     ขอโทษทีนะครับ  ปัญหาที่เกิดขึ้นในขณะนี้อย่าเอาอำนาจหน้าที่ไปโยนให้รัฐบาลเลย
     นี่ผมไม่ได้พูดเข้าข้างรัฐบาล  แต่มันเป็นสัจธรรมซึ่งทุกคนมีอยู่แล้ว  ถ้าไม่รู้จักตัวเองก็ย่อมไม่รู้จักนำมาใช้ประโยชน์จากธรรมชาติที่มีอยู่แล้วภายในจิตใจตัวเอง  โดยไม่ต้องอาศัยทรัพย์สินเงินทองเพื่อมาจับจ่ายแต่อย่างใดทั้งสิ้น
                                                   ด้วยความเคารพอย่างสูง
                                                            ระพี สาคริก
ตอบ อาจารย์ระพี
     ทุกคนที่กำลังคิดหาทางแก้ไขปัญหาชาติบ้านเมือง  ถ้าพอมีเวลาช่วยหันมาฟังอาจารย์ระพีบ้าง  บางทีเรื่องยากอาจจะเป็นเรื่องง่าย
                                                       สามวา สองศอก                             

http://www.thaipost.net/news/200410/21037


หัวข้อ: Re: [2513]"ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: prapasri AH ที่ 20 เมษายน 2553, 09:30:21
พ่อใหญ่ จิ๋ววววว เซ่อซ่า อีกแล้วววววววววว

ทำไมเพราะเงินตัวเดียว ทำให้แก ขายขี้เท่ออย่างนี้ จะอาจเอื้อมไปขอเข้าเฝ้าในหลวง55555555555555

 พอเริ่มรู้สึกจะแพ้ ในที่สุด ก้ต้องขอพึ่งอำมาตย์ แล้วซี

คนละเรื่อง กะพฤษภาทมิฬ

ตอนพฤษภาทมิฬ ทหารยิงประชาชน

แต่ตอนนี้ประชาชนชั่ว ยิงทหาร จ้า

เด่วจะมาถล่ม

ใครว่างๆ ช่วยถล่มไปก่อนนะ



หัวข้อ: Re: [2513]"ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: suriya2513 ที่ 20 เมษายน 2553, 10:24:45
อ้างถึง
ข้อความของ yc เมื่อ 20 เมษายน 2553, 09:15:28
สวัสดีครับพี่แอ๊ะ และพี่น้องชาวซีมะโด่งทุกท่าน

ผมหลุดวง พักใจ ทบทวนตนเองนานทีเดียว(จริงๆก็แค่เดือนกว่าๆ แต่กับคนรักกันมันนานมากครับ)

เข้ามาอีกครั้งจึงขอคารวะทุกท่าน
และขออาศัยห้องพี่แอ๊ะประเดิมครับ




 emo30:sorry: emo30:sorry: emo30:sorry:
ดีใจมากครับที่เห็นยังชินเข้ามา
ถ้าไม่หนักหนาจริงๆ อย่าหายไปอีกนะครับ


หัวข้อ: Re: [2513]"ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: swsm ที่ 20 เมษายน 2553, 10:58:54
(http://www.cmadong.com/imageupload/2010_Cmadong-Image/data/image/l15pbr-4e6f3a.jpg)


หัวข้อ: Re: [2513]"ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: swsm ที่ 20 เมษายน 2553, 10:59:10
(http://img153.imageshack.us/img153/3060/11413555.jpg)


หัวข้อ: Re: [2513]"ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: swsm ที่ 20 เมษายน 2553, 10:59:26
(http://img153.imageshack.us/img153/6156/78709311.jpg)


หัวข้อ: Re: [2513]"ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: swsm ที่ 20 เมษายน 2553, 10:59:40
(http://img153.imageshack.us/img153/4206/29048236.jpg)


หัวข้อ: Re: [2513]"ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: swsm ที่ 20 เมษายน 2553, 11:00:02
(http://img153.imageshack.us/img153/6272/93544104.jpg)


หัวข้อ: Re: [2513]"ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: swsm ที่ 20 เมษายน 2553, 11:00:21
ด้วยความเคารพ ..     emo30:sorry:


หัวข้อ: Re: [2513]"ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: หนุน'21 ที่ 20 เมษายน 2553, 12:53:37
ขอบคุณ น้องหะยีมาก  ที่เอาเรื่องเล่าของทหารหาญ มาเผยแพร่ให้ได้อ่านกัน
เราอ่านอย่างภูมิใจในภารกิจของนายทหารแพทย์เสนารักษ์ท่านนี้
โดยเฉพาะตรงที่คร็อปมาครับ



อ้างถึง
ข้อความของ swsm เมื่อ 20 เมษายน 2553, 11:03:27
(http://img153.imageshack.us/img153/6272/93544104.jpg)



(http://www.cmadong.com/imageupload/2010_Cmadong-Image/data/image/l15tx9-ad0dc9.jpg)


ขอบคุณและขอคารวะด้วยหัวใจครับ
 



 emo30:sorry:



หัวข้อ: Re: [2513]"ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: prapasri AH ที่ 20 เมษายน 2553, 14:44:44
อ่านแล้ว น้ำตาไหล......


หัวข้อ: Re: [2513]"ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: Intania๑๖ ที่ 20 เมษายน 2553, 15:19:59
(http://img177.imageshack.us/img177/7029/resizeofbitch01.jpg)
(http://img227.imageshack.us/img227/9258/resizeofbitch02.jpg)
พวกเดนนรก ชักจะกำแหงมากไปแล้ว ระวังจะไม่มีเงาหั

ที่มา: http://www.manager.co.th/Politics/ViewNews.aspx?NewsID=9530000053908


หัวข้อ: Re: [2513]"ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: yc ที่ 20 เมษายน 2553, 16:57:29
อ้างถึง
ข้อความของ suriya2513 เมื่อ 20 เมษายน 2553, 10:24:45
อ้างถึง
ข้อความของ yc เมื่อ 20 เมษายน 2553, 09:15:28
สวัสดีครับพี่แอ๊ะ และพี่น้องชาวซีมะโด่งทุกท่าน

ผมหลุดวง พักใจ ทบทวนตนเองนานทีเดียว(จริงๆก็แค่เดือนกว่าๆ แต่กับคนรักกันมันนานมากครับ)

เข้ามาอีกครั้งจึงขอคารวะทุกท่าน
และขออาศัยห้องพี่แอ๊ะประเดิมครับ




 emo30:sorry: emo30:sorry: emo30:sorry:
ดีใจมากครับที่เห็นยังชินเข้ามา
ถ้าไม่หนักหนาจริงๆ อย่าหายไปอีกนะครับ


สวัสดีครับพี่ป๋อง

เด็กๆผมเป็นคนขี้ใจน้อย แอบร้องไห้บ่อยมาก
โตขึ้น ใจคงใหญ่ขึ้น กลายเป็นคนใจไม่น้อย แต่กลับเป็นคนใจซับซ้อน

สังคมสอนผมทั้งนั้นครับพี่ แต่สบายใจได้ครับ ซับซ้อนแต่จริงใจกับทุกคน และมักจำส่วนดีของคนมากกว่าส่วนร้าย

ความซับซ้อนของใจผม มีขึ้นเพื่อป้องกันและพัฒนาตัวเอง ไม่เป็นพิษภัยกับใครแน่ครับ โดยเฉพาะกับพี่น้องซีมะโด่ง

ขอบคุณครับสำหรับความรักความเมตตา


หัวข้อ: Re: [2513]"ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: yc ที่ 20 เมษายน 2553, 17:00:32
อ้างถึง
ข้อความของ Intania๑๖ เมื่อ 20 เมษายน 2553, 15:19:59
(http://img177.imageshack.us/img177/7029/resizeofbitch01.jpg)
(http://img227.imageshack.us/img227/9258/resizeofbitch02.jpg)
พวกเดนนรก ชักจะกำแหงมากไปแล้ว ระวังจะไม่มีเงาหั

ที่มา: http://www.manager.co.th/Politics/ViewNews.aspx?NewsID=9530000053908


ถ้าผมเป็นทักษิณ ผมคงไม่โง่ทำแบบนี้



หัวข้อ: Re: [2513]"ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: suriya2513 ที่ 20 เมษายน 2553, 17:20:39
1>แดงทำ แน่นอน แดงแท้จะชื่นชม
ในขณะเดียวกันก็โยนกลองไปว่ามือที่สามทำ ถ้ามีคนเชื่อ ก็จะได้คะแนนสงสาร

2>เหลืองทำ เพื่อให้สถานการณ์ถึงจุดวิกฤต เพราะต้องการให้ทหารปฏิิวัติ

3>ทหารทำ เพราะต้องการให้เกิดความชอบธรรมในการปฏิบัติการ

มีฝ่ายไหนน่าสงสัยอีกไหมครับ


หัวข้อ: Re: [2513]"ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: jamsai ที่ 20 เมษายน 2553, 17:39:33

สวัสดีค่ะน้องยังชิน คุณทักษิณ ไม่ทำเองอยู่แล้วค่ะ  เข้ามาไม่ได้

แต่ใครล่ะ น่าสงสัยที่สุด

เหลืองทำ เพื่อให้สถานการณ์ถึงจุดวิกฤต เพราะต้องการให้ทหารปฏิิวัติ
....เท่าที่ทราบเหลือง ไม่ได้ต้องการให้ทหารปฏิิวัตินะคะท่านพี่ปุโรหิต
แต่อาจจะต้องการเร่งให้ รัฐบาล และทหาร ดำเนินการปกป้องสถาบัน และเอาผิดกับการชุมนุม
เนื่องจากจะทนไม่ไหวกับแสดงอำนาจบาทใหญ่และการกวนเมืองของเสื้อแดง แล้ว

เพราะตามพี่แอ๊ะมาเลยเข้ามาห้องการเมืองจนได้
 emo26:D emo7:(: emo7:(:


หัวข้อ: Re: [2513]"ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: suriya2513 ที่ 20 เมษายน 2553, 17:50:12
ไหนไหนก็ไหนไหนครับอาจารย์ป้าแจ่ม รบกวนช่วยเฝ้าอยู่แถวนี้แหละครับ


หัวข้อ: Re: [2513]"ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: suriya2513 ที่ 20 เมษายน 2553, 17:58:43
from twitter (http://img227.imageshack.us/img227/7787/003qjc.jpg)
...

บุคคลที่ 4 ออกมาแล้วครับ ข่าวกรองเปิดเผยโดยณัฐวุฒิ "รัฐ" นั่นเอง


หัวข้อ: Re: [2513]"ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: suriya2513 ที่ 20 เมษายน 2553, 18:07:50
(http://img140.imageshack.us/img140/6559/004ui.jpg)
...

อ่านแล้วจี๊ดดีจัง ถูกใจใช่เลย


หัวข้อ: Re: [2513]"ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: yc ที่ 20 เมษายน 2553, 18:25:02
ในความเห็นผมเหลืองคงไม่น่าเกี่ยวข้อง

น่าจะเหลือ แดง ทหาร  รัฐ

แต่แดงทำแล้วลงชื่อ นปช. เช่นนี้ ผมว่าคนทำไม่ฉลาดเลยครับ

........................................

สวัสดีครับ อาจารย์พี่แจ่ม

ผมเพียงแต่ต้องการให้ผู้เสพข่าว ไม่ตกเป็นเหยื่อของผู้หวังร้ายต่อชาติบ้านเมืองน่ะครับ

........................................

กรณี 2 อดีตนายกข้างต้นที่พี่ป๋องยกมา ไม่รู้ท่านทั้งสองจริงใจเพียงใด  ดูแล้วแปลกๆไม่เหมือนผู้ใหญ่ของบ้านเมืองเลยครับ




หัวข้อ: Re: [2513]"ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: เหยง 16 ที่ 20 เมษายน 2553, 18:29:25
มติ ครม. วันนี้

ครม.ได้อนุมัติเพื่อรับโอน นางนิชา หิรัญบูรณะ ธุวธรรม ผู้อำนวยการสำนักบริหารกลาง(อำนวยการระดับสูง) สำนักงานปลัดกระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ภรรยาพ.อ.ร่มเกล้า ที่เสียชีวิตจากเหตุการณ์วันที่ 10 เม.ย.มาดำรงตำแหน่งที่ปรึกษานายกฯ ฝ่ายข้าราชการประจำด้านสังคม กลุ่มงานยุทธศาสตร์และการวางแผน สำนักเลขาธิการนายกฯ สำนักนายกฯ


หัวข้อ: Re: [2513]"ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: เหยง 16 ที่ 20 เมษายน 2553, 18:35:26
หนึ่งมูลเหตุที่อาจทำให้การทำงานในวันเสาร์ที่ 10 เมษายน 2553 เกิดปัญหาขึ้น

"วงศ์เทวัญ-บูรพาพยัคฆ์" ร้าวลึก!

คมชัดลึก :กลายเป็นประเด็น "ทอล์กออฟเดอะทาวน์" ขึ้นมาในแวดวงสีเขียวทันที หลังจากเกิดเหตุการณ์ "ไอ้โม่งชุดดำ" ขนอาวุธสงครามทั้งเอ็ม 16 อาก้า และเอ็ม 79 ยิงถล่ม "นักรบบูรพาพยัคฆ์" ในการสลายม็อบเสื้อแดงเมื่อวันที่ 10 เมษายน

   การสูญเสีย พ.อ.ร่มเกล้า ธุวธรรม รองเสนาธิการ พล.2 รอ. และการถูกสะเก็ดระเบิดเอ็ม 79 จนได้รับบาดเจ็บสาหัสของ พล.ต.วลิต โรจนภักดี ผู้บัญชาการกองพลทหารราบที่ 2 รักษาพระองค์ (ผบ.พล.ร.2 รอ.) จนทหารปักใจเชื่อว่างานนี้ต้องมีการ "ชี้เป้าสังหาร"

   เชื่อด้วยว่า คนที่ชี้เป้าและลงมือก็น่าจะเป็น "ทหาร" ด้วยกัน แต่เป็น "ทหารแตงโม" ทั้งใน และนอกราชการที่รับใช้ฝ่ายตรงข้าม และเฝ้ามองการเติบใหญ่ของทหารในสายบูรพาพยัคฆ์ด้วยสายตาไม่เป็นมิตร !

   ดังนั้น ศัพท์บัญญัติของ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ที่เย้ยหยันกองทัพ และให้กำลังใจคนเสื้อแดงมาตลอด จึงไม่ใช่แค่มุกตลกปลอบขวัญคนเสื้อแดงอีกต่อไป หากแต่เป็นเรื่องจริงที่แสดงให้เห็นถึงรอย "ร้าวลึก" ในกองทัพได้อย่างชัดเจนยิ่ง

   โดยเฉพาะในยุคที่ผู้บัญชาการทหารบก (ผบ.ทบ.) ถูกวางไลน์ให้อยู่ในสายบูรพาพยัคฆ์กันยาวเหยียด เริ่มตั้งแต่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา รอง ผบ.ทบ. ที่ถ้าฟ้าไม่ถล่มดินทลายเสียก่อน พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา ก็จะประเคนเก้าอี้ ผบ.ทบ. คนต่อไปให้แน่นอน

   ถัดจาก พล.อ.ประยุทธ์ ก็จะเป็นคิว พล.ท.คณิต สาพิทักษ์ แม่ทัพภาคที่ 1 ก่อนจะตบท้ายด้วย พล.ต.วลิต ซึ่งเกือบเอาชีวิตไม่รอดในการบัญชาศึกหน้าโรงเรียนสตรีวิทยา และน่าจะมีการวางคิวนายทหารระดับ เสธ.อีกยาวเหยียดในสายบูรพาพยัคฆ์ไว้สืบทอดอำนาจ

   การวางไลน์ให้ขึ้นสืบทอดอำนาจแบบ "ยกแผง" ของเหล่านักรบบูรพาพยัคฆ์ย่อมทำให้ทหารในไลน์อื่น หรือเหล่าอื่นน้อยเนื้อต่ำใจ เพราะคิดว่าต่อให้โชว์ผลงานดีแทบตาย แต่ถ้าไม่อยู่ในไลน์พี่น้องบูรพาพยัคฆ์ก็ยากที่จะก้าวไปสู่ส่วนยอดสุดของกองทัพ

   ฉะนั้นรอยร้าวในกองทัพที่นำมาสู่ความไม่เป็นเอกภาพ กระทั่งนำมาสู่ทหารแตงโม จึงไม่ใช่คำกล่าวที่เกินเลย และปรากฏรอยปริแยกเหวอะหวะในคราวที่บูรพาพยัคฆ์นำกำลังเข้าสลายม็อบเมื่อวันที่ 10 เมษายนนี่เอง

   ถ้ากวาดสายตาไปทั่วกองทัพ คนที่เสียประโยชน์จากการขึ้นแบบยกแผงของเหล่าบูรพาพยัคฆ์ย่อมมีอยู่เต็มไปหมด ทั้งเหล่าราบ-ม้า-ปืน-สื่อสาร-รบพิเศษ ตั้งแต่กองทัพภาคที่ 1-4

   แต่ที่มีคนพูดถึงมากที่สุดก็คือ ทหารในกลุ่มที่เรียกว่า "วงศ์เทวัญ" นั่นก็คือ ทหารคุมกำลังในสังกัด กองพลที่ 1 รักษาพระองค์ (พล.1 รอ.) ซึ่งมีบทบาทสำคัญในการปฏิวัติรัฐประหารมาทุกยุคทุกสมัย และถูกวางไลน์ให้เป็น ผบ.ทบ.มาโดยตลอด

   น่าสังเกตว่า ผบ.ทบ. ก่อนหน้านี้ล้วนอยู่ในไลน์วงศ์เทวัญ และจำกัดวงอยู่ในตระกูลดังไม่กี่ตระกูล เช่น "ณ อยุธยา" "กรานเลิศ" "สุวรรณทัต" "อัตตะนันทน์" "หนุนภักดี" หรือ "คงสมพงษ์" เป็นต้น

   โดยจะมีการสลับช่องให้ "รบพิเศษ" ก้าวขึ้นมาเป็นครั้งคราว เช่น พล.อ.สุรยุทธ์ จุลานนท์ หรือ พล.อ.สนธิ บุญยรัตกลิน

   จะเห็นได้ว่า แต่ละนามสกุลล้วนมีบทบาทสำคัญในกองทัพมาทุกยุคทุกสมัย เนื่องจาก พล.1 รอ. ถือเป็นกองพลที่สำคัญที่สุดของกองทัพบก จนเป็นที่รู้กันดีว่า ถ้าไม่เก่ง หรือแบ็กดีจริงๆ ก็ยากที่จะฝ่าด่านวงศ์เทวัญขึ้นไปเป็น ผบ.ทบ.ได้

   ถึงขนาดที่ว่าถ้าใครถูกจัดวางให้มาเป็น ผบ.หน่วยในไลน์ของวงศ์เทวัญ เช่น ผู้บังคับการกรมทหารราบที่ 1 มหาดเล็กรักษาพระองค์ (ร.1 รอ.) หรือผู้บังคับการกรมทหารราบที่ 11 รักษาพระองค์ (ร.11 รอ.) ก็ฝันหวานถึงเก้าอี้ ผบ.ทบ.หรืออย่างน้อยๆ ก็ห้าเสือ ทบ.ได้เลย

   แต่เมื่อโอกาสก้าวหน้าในชีวิตราชการถูกเบียดแทรกขึ้นมาอย่างน่ากลัวของบูรพาพยัคฆ์จาก พล.2 รอ. นำโดย 3 ป ป้อม+ป๊อก+ประยุทธ์ (พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รมว.กลาโหม พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา ผบ.ทบ. พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา รอง ผบ.ทบ.)

   แม้จะพอเข้าใจได้ว่านี่คือช่วงที่ไม่ปกติ จากเหตุยึดอำนาจเมื่อวันที่ 19 กันยายน 2549 แต่เมื่อเห็นคิวยาวเหยียด และสถานการณ์การเมืองที่ยากจะเปลี่ยนแปลง ประกอบกับ พ.ร.บ.กลาโหม ที่กำหนดให้คณะกรรมการที่ฝ่ายการเมืองเป็นเพียง 1 เสียง ก็ทำให้เชื่อว่า ความเป็นไปจะยังคงไม่เปลี่ยนแปลงไปจากที่เห็น

   แตงโมที่เริ่มผลิดอก ออกเป็นผลที่ค่อยๆ เปลี่ยนภายในให้เป็นสีแดงตามกาลเวลา

   ดูตามไลน์แล้วก็น่าเหนื่อยใจแทนเหล่าอื่นจริงๆ เพราะถ้า พล.อ.ประยุทธ์ ขึ้นเป็น ผบ.ทบ. กว่าจะเกษียณอายุราชการก็ตั้งปี 2557 และถ้าไม่มีอะไรผิดพลาด พล.ท.คณิต และ พล.ต.วลิต ก็น่าจะเข้ามารับไม้ต่อ

   ส่วนอนาคตของนักรบวงศ์เทวัญในช่วงหลังกลับน่าวังเวงใจยิ่ง เพราะส่วนใหญ่จะถูกเขี่ยพ้นวงโคจรไปอยู่ที่กองพลทหารราบที่ 9 (พล.ร.9) จ.กาญจนบุรี

   ดังนั้น การผงาดขึ้นมาของบูรพาพยัคฆ์อันสวนทางกับการถดถอยของวงศ์เทวัญ จึงนำมาสู่รอย "ร้าวลึก" ในกองทัพที่เริ่มเห็นรอยปริแตกชัดเจนขึ้นเรื่อยๆ ซึ่งก็ขึ้นอยู่กับว่า พล.อ.อนุพงษ์ จะใช้ "ภาวะผู้นำ" สยบศึกในกองทัพได้อย่างไรในยามที่ข้าศึกยกทัพเข้ายึดเมือง

   ถ้ากองทัพที่ได้ชื่อว่าเป็นสถาบันที่มี "ระเบียบวินัย" และ "ความจงรักภักดี" ยังไม่สามารถหลอมรวมเป็นหนึ่งได้แล้ว..เห็นทีแม้แต่ประเทศชาติก็คงไม่อาจรักษาเอาไว้ได้

ทีมข่าวความมั่นคง
http://www.komchadluek.net/detail/20100420/56016/วงศ์เทวัญบูรพาพยัคฆ์ร้าวลึก!.html


หัวข้อ: Re: [2513]"ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: suriya2513 ที่ 20 เมษายน 2553, 18:38:00
อ้างถึง
ข้อความของ yc เมื่อ 20 เมษายน 2553, 18:25:02
ในความเห็นผมเหลืองคงไม่น่าเกี่ยวข้อง

น่าจะเหลือ แดง ทหาร  รัฐ

แต่แดงทำแล้วลงชื่อ นปช. เช่นนี้ ผมว่าคนทำไม่ฉลาดเลยครับ

........................................

สวัสดีครับ อาจารย์พี่แจ่ม

ผมเพียงแต่ต้องการให้ผู้เสพข่าว ไม่ตกเป็นเหยื่อของผู้หวังร้ายต่อชาติบ้านเมืองน่ะครับ

........................................

กรณี 2 อดีตนายกข้างต้นที่พี่ป๋องยกมา ไม่รู้ท่านทั้งสองจริงใจเพียงใด  ดูแล้วแปลกๆไม่เหมือนผู้ใหญ่ของบ้านเมืองเลยครับ




พี่ป๋องลืมเน้นไปครับยังชิน
ประเด็นที่จี๊ดคือ ความเห็นของอาจารย์จาก ม.พายัพ ถิ่นคุณทักษิณ
ที่ว่า "ให้รัฐบาลยอมอ่อนข้อให้เสื้อแดงก่อน" อะครับ...ขอโทษที่ทำให้หลงประเด็น


หัวข้อ: Re: [2513]"ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: yc ที่ 20 เมษายน 2553, 19:08:00
ขอโทษพี่ป๋องด้วย ผมเข้าใจพี่ป๋องอย่างที่พี่ป๋องต้องการให้เข้าใจแต่แรกแล้ว

เพียงแต่ผมกำลังอยากวิจารณ์อดีตนายกทั้ง2ท่าน เลยสมอ้างจากบทความจากพี่ป๋องครับ

..................................

ขอบคุณพี่เหยง ที่ยกบทความ บูรพาพยัคฆ์กับวงศ์เทวัญ มาให้อ่าน

 แต่ใครจะชิงตำแหน่งชิงอำนาจกันยังไงก็อย่่าใช้ สถาบันกษัตริย์ และประชาชนเป็นเครื่องมือเลยครับ
เพราะ โลกใบนี้เปลี่ยนแปลงไปมากแล้ว  อย่าโยนภาระให้ชาติและคนไทยรุ่นต่อไปเลยครับ


หัวข้อ: Re: [2513]"ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: เหยง 16 ที่ 20 เมษายน 2553, 19:43:45
ขอคอมเมนต์สักคนครับ

                                   (http://img88.imageshack.us/img88/4215/presidenttak1.png)


อย่าคิดว่าเขาจะไม่ทำ

มีโอกาสเป็นไปได้ ตาม"ทฤษฎีสมรู้ร่วมคิด" ด้วยการแสดงออก แต่บอกว่าเปล่าทำ เพื่อเช็คกระแสและความรู้สึกของคนไทย

สังเกตุไหมว่า เรื่องป้ายของทักษิณนี้ผ่านมากว่า 12 ชั่วโมงแล้ว กลับไม่มีแรงตอบสนองจากสังคมออกมาเลย

ไม่ว่าในรูปแบบที่เห็นด้วย หรือโต้แย้ง อย่างชัดเจน

เขาบอกว่าเปล่าทำ? เท่านั้นเอง.แต่สิ่งนี้ได้ปรากฎสู่สาธารณะแล้วอย่างเป็นรูปธรรม จากอดีตที่มีเพียงแต่พูดๆ กันไปเท่านั้น

ครั้งนี้ ได้เห็นของจริง วัดและจับกระแส..ได้เลย!!


หัวข้อ: Re: [2513]"ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: swsm ที่ 20 เมษายน 2553, 21:58:19
อ้างถึง
ข้อความของ เหยง 16 เมื่อ 20 เมษายน 2553, 19:43:45


                                   (http://img88.imageshack.us/img88/4215/presidenttak1.png)


อย่าคิดว่าเขาจะไม่ทำ

มีโอกาสเป็นไปได้ ตาม"ทฤษฎีสมรู้ร่วมคิด" ด้วยการแสดงออก แต่บอกว่าเปล่าทำ เพื่อเช็คกระแสและความรู้สึกของคนไทย

สังเกตไหมว่า เรื่องป้ายของทักษิณนี้ผ่านมากว่า 12 ชั่วโมงแล้ว กลับไม่มีแรงตอบสนองจากสังคมออกมาเลย

ไม่ว่าในรูปแบบที่เห็นด้วย หรือโต้แย้ง อย่างชัดเจน

เขาบอกว่าเปล่าทำ? เท่านั้นเอง.แต่สิ่งนี้ได้ปรากฎสู่สาธารณะแล้วอย่างเป็นรูปธรรม จากอดีตที่มีเพียงแต่พูดๆ กันไปเท่านั้น

ครั้งนี้ ได้เห็นของจริง วัดและจับกระแส..ได้เลย!!



 emo49:))   หมายถึง .. เห็นทำนองเดียวกับพี่เหยงค่ะ ..

หมากนี้ย่อมไม่ธรมดา จะมาวางชั้นเดียวให้ตีความกันง่าย ๆ ทำไม ??



หัวข้อ: Re: [2513]"ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: เหยง 16 ที่ 20 เมษายน 2553, 22:05:46
สกู๊ปแนวหน้า   
 
                         รำลึกทหารกล้าของพระราชา แม่ภูมิใจที่ลูกทำหน้าที่จนวินาทีสุดท้าย (สกู๊ปแนวหน้า)  
 
 
                                     (http://img145.imageshack.us/img145/9480/1001w.png) 


เหตุการณ์ปะทะระหว่างกำลังทหารและมวลชนคนเสื้อแดง เมื่อวันที่ 10 เม.ย. 2553 คือ "บันทึกเลือด" ที่สังคมไทย ต้องจดจำไปอีกนานแสนนาน

ครานั้นมีทหารกล้าชั้นประทวนมากมายต้องจบชีวิตลง คือ ส.ท.ภูริวัฒน์ ประพันธ์ ,ส.ต.อนุพงษ์ เมืองอำพัน,ส.อ.อนุพันธ์ หอมมาลี และ พลฯสิงหา อ่อนทรง ผู้กล้าทั้ง 4 กองทัพบกได้เสนอขอเลื่อนชั้นยศให้เป็นทหารชั้นสัญญาบัตร และยื่นเรื่องไปที่กระทรวงกลาโหมแล้ว

เมื่อ"เกิดจากดินย่อมต้องคืนสู่ดิน" ศพทหารกล้า มีพิธีพระราชทานเพลิงศพอย่างสมเกียรติดวงวิญาณ พวกเขาหวลคืนสู่อ้อมกอดของ"พระแม่ธรณี"

สิ่งที่เหลือให้บุคคลอันเป็นที่รักคือ เถ้าธุลีแห่งความภาคภูมิใจในฐานะ "ทหารกล้าของพระราชา"

บอก"แม่"ว่าขอตายในหน้าที่

ศพเหล่าทหารกล้า ถูกลำเลียงไปยังบ้านเกิด โดย ส.ท.ภูริวัฒน์ ประพันธ์ จัดพิธีพระราช ทานเพลิงศพ ที่วัดอัมพวัน หมู่บ้านวังม่วง ต.วัง ม่วง อ.เปือยน้อย จ.ขอนแก่น วันที่ 16 เม.ย.มีกองทหารเกียรติยศ เพื่อนทหาร ข้าราชการ นักการเมือง ประชาชนร่วมงาน ท่ามกลางบรรยา กาศอันโศกเศร้าจำนวนมาก

ส.ท.ภูริวัฒน์ ประพันธ์ เป็นทหารสังกัด ร้อย.สห. กองพลทหารราบที่ 2 รักษาพระองค์ จ.ปราจีนบุรี (พล.ร.2 รอ.) ขณะเสียชีวิตมีอายุ 26 ปี มีบุตร 1 คน อายุ 1 ขวบ เข้ารับราชการทหาร เมื่อปี 2551 ในตำแหน่งสิบตรี เนื่องจากเป็นบุคคลที่มีความขยันตั้งใจทำงานจึงได้รับการเลื่อนขั้นอย่างรวดเร็ว แค่ปีกว่าได้เลื่อนเป็นทหารยศสิบโท และได้รับการเลื่อนยศเป็นทหารสัญญาบัตร ตามระเบียบกระทรวงกลาโหม เนื่องจากเสียชีวิตขณะปฏิบัติหน้าที่ได้รับเงินช่วยเหลือจากทางราชการ ประกันชีวิตและจากบุคคลสำคัญในรัฐบาล จำนวนกว่า 2 ล้านบาท

 นางประนอม อุดหนองเลา อายุ 51 ปี มารดาของ ส.ท.ภูริวัฒน์ เล่าว่า ลูกชายรักอาชีพทหารมาก หลังจากเรียนจบระดับ ปวส. แผนกช่างกลที่วิทยาลัยเทคโนโลยีภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ก็พยายามสอบเข้ารับราชการทหารถึงสองครั้ง จึงประสบความสำเร็จ พอเข้าทำงาน ถูกส่งไปประจำที่จังหวัดปราจีนบุรี แม่-ลูก ติดต่อกันตลอดเวลา

เมื่อสถานการณ์"ม๊อบแดง" คุกรุ่นทหารจาก พล.ร.2 รอ. รวมถึง ส.ท.ภูริวัฒน์ ได้รับคำสั่ง จากหน่วยเหนือให้ไปปฏิบัติภารกิจที่ กรมทหารราบที่ 11 รักษาพระองค์ (ร.11 รอ. ) แม้ว่าจะยุ่งแต่ ลูกชาย พยายามหาเวลาว่างโทรศัพท์ติดต่อกับมารดาของเขาตลอดเวลา

 "เขาบอกแม่ว่าเหตุการณ์น่าจะรุนแรง แม่จึงบอกลูกว่าให้ระมัดระวังตัว เพราะกลัวจะได้รับอันตราย ในวันที่ 10 เม.ย. ก็ติดต่อกับลูกแทบทุกชั่วโมง จิตใจไม่ค่อยดี กลัวว่าเขาจะได้รับอันตราย เพราะเขาบอกว่าต้องอยู่ประชิดกับกลุ่มเสื้อแดง โทรคุยกันจนกระทั่งเวลาประมาณ 6 โมงเย็น เขาบอกว่าแค่นี้ก่อนนะแม่ เพราะมีการปะทะกันและมีระเบิดด้วย" เธอเล่า

หลังจากวางสายกับลูกชายสุดที่รัก ไม่มีใครรู้ว่านั่นคิดสำเนียง เสียงสุดท้ายที่ผู้เป็นแม่จะ ได้ยิน แม่ประนอม เฝ้าติดตามสถานการณ์ ความวุ่นวาย ทางโทรทัศน์ แบบเกาะติด เธอเห็นภาพทหารได้รับบาดเจ็บคนแล้ว คนเล่า สิ่งที่ทำได้คือสวดมนต์ ภาวนา ขอสิ่งศักดิ์สิทธิ์คุ้มครองลูกชายให้แคล้วคลาด

ทว่าเหมือนฟ้าผ่ากลางใจ เมื่อทางการประกาศรายชื่อผู้เสียชีวิต และมีชื่อ ส.ท.ภูริวัฒน์ ประพันธ์ รวมอยู่ด้วย ความเสียใจครานั้น ไม่อาจอธิบายเป็นคำพูดได้ "เห็นชื่อลูก เสียใจมากและเสียดายมากเพราะเขาเป็นคนดี ขยันทำงาน เขาเป็นทหากล้า วัน นี้แม่ภาคภูมิใจที่ลูกปฏิบัติหน้าที่จนวินาทีสุดท้าย ซึ่งเป็นสิ่งที่ลูกตั้งใจและเคยบอกแม่เสมอว่าขอตายในหน้าที่"

"แม่อยากฝากถึงผู้ที่เกี่ยวข้อง ไม่ว่าจะเป็นรัฐบาล หรือกลุ่มคนเสื้อแดง ให้หยุดเสียที หันมาคุยกันด้วยสันติ จะได้ไม่ต้องมีการสูญเสียเหมือนกับที่แม่ และอีกหลายครอบครัวต้องเจอ แม่เข้าใจดีว่ารัฐบาลทำตามหน้าที่ ต้องดูแลปกป้องประเทศชาติ และคนเสื้อแดงก็เรียกร้องในสิ่งที่ต้องการ แต่ก็ขอให้อยู่ในกรอบ อย่าใช้ความรุนแรงอีกเลย" เธอว่า

 "อยากกลับมาอยู่กับแม่ที่บ้าน"

เช่นเดียวกับ จ.ส.อ.อมฤทธิ์ เมืองอำพัน ทหารสังกัด กองพันทหารปืนใหญ่ 102 รักษาพระองค์ฯ จ.ปราจีนบุรี บิดาของ ส.ต.อนุพงษ์ เมืองอำพัน ที่นำศพบุตรชายไปตั้งบำเพ็ญกุศลที่บ้านเกิดของตามที่ ส.ต.อนุพงษ์ ตั้งใจ และมีพิธีพระราชทานเพลิงศพที่วัดท่าช้าง ต.ท่าช้าง อ.เมือง จ.นครนายก ในวันที่18 เม.ย. ที่ผ่านมา

จ.ส.อ.อมฤทธิ์ บอกว่าได้รับคำสั่งให้มาปฏิบัติหน้าที่ พร้อม กับ ส.ต.อนุพงษ์ ใน กทม.ก่อนที่ลูกชายจะเสียชีวิต เขาได้โทรศัพท์มาที่บ้านและ บอกแม่ของเขาว่า...

"อยากกลับมาอยู่กับแม่ที่บ้าน"

ใครจะรู้ว่านั่นคือถ้อยสำเนียงสุดท้ายของ ส.ต.อนุพงษ์ เขาไม่มีโอกาสกลับบ้านไปหาแม่ ขณะยังมีลมหายใจ

"ลูกชายผมเพิ่งบรรจุรับราชการเป็นนายสิบได้ปีเศษ ผมไม่อยากเห็นคนไทยต้องมาฆ่ากัน เอง สิ่งที่เกิดขึ้นน่าจะพูดคุยกันได้ และไม่น่าจะเกิดความสูญเสียเกิดขึ้น ขอให้ยุติเหตุการณ์ได้แล้ว"เขาว่า

ขอคนไทยเลิกทะเลาะกัน

 ด้าน ส.อ.อนุพันธ์ หอมมาลี ทหารกล้าที่พลีชีพ มีพิธีพระราชทานเพลิงศพที่ วัดทุ่งลาดหญ้า ต.ลาดหญ้า อ.เมือง จ.กาญจนบุรี ส.อ.อนุพันธ์ อายุ 30 ปี เป็นบุตรของ จ.ส.อ.บำรุง หอมมาลี ผู้เป็นพ่อเสียชีวิตจากการปฏิบัติราชการชายแดน มีมารดาชื่อ นางสวิน หอมมาลี อายุ 57 ปี เขาสม รส กับนางขัตติยา หอมมาลี และ ในปี 2546 เข้ารับราชการทหาร สังกัดกองพันทหารม้าที่ 19 กองพลทหารราบที่ 9 (พล.ร.9)

การสูญเสียครั้งนี้ คือทุกข์ของคนในครอบครัวอย่างแสนสาหัส นางสวิน บอกว่า เสียใจ เป็นอย่างมากที่ลูกชายต้องมาเสียชีวิตในเหตุการณ์ที่คนไทยทะเลาะกันครั้งนี้

"ไม่โทษว่าใครเป็นคนทำ แต่ขอเรียกร้องให้ประชาชนทุกคนเลิกชุมนุม เพื่อเห็นแก่องค์พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ของคนไทยทั้งประเทศ" เธอบอก

นาง ขัตติยา หอมมาลี ภรรยา ส.อ.อนุพันธ์ บอกว่า แต่งงานกับสามีได้ 2 ปีกว่า แต่ยังไม่มีลูกด้วยกัน การสูญเสียครั้งนี้ เสียใจเป็นอย่างมากขอให้คนไทยเลิกทะเลาะกัน ก่อนที่จะมีคนตายและบาดเจ็บไปมากกว่านี้

เช่นเดียวกับ พลฯสิงหา อ่อนทรง ที่ญาติพี่น้องมีความโศกเศร้าแต่ภูมิใจในความกล้าหาญ ศพของเขามีพิธีพระราชทานเพลิง ที่วัดนครธรรม หมู่ 10 ต.วัฒนานคร อ.วัฒนานคร จ.สระแก้ว วันที่ 17 เม.ย. ที่ผ่านมา โดยมี พล.อ.วิโรจน์ บัวจรูญ ประธานคณะที่ปรึกษากองทัพบกเป็นประธาน

 พลฯ สิงหา อ่อนทรง ขณะเสียชีวิต อายุ 22 ปี เข้ารับบรรจุสังกัดกองพันทหารราบที่ 2 กรมทหารราบที่ 12 รักษาพระองค์ จ.สระแก้ว เมื่อปี 2551 ตำแหน่ง พลยิง เอ็ม 203 บิดาชื่อนายสุริวงศ์ อ่อนทรง อาชีพรับเหมาก่อสร้าง มารดา นางไพวัลย์ อ่อนทรง อาชีพ แม่บ้าน ได้สมรสกับ นส.บุญยานุช มูลศรี อาชีพแม่บ้าน มีบุตรด้วยกัน 1 คน คือ ดช.พงษ์พิพัฒน์ อายุเพียง 5 เดือน

ทั้งหมดคือความสูญเสียยิ่งใหญ่ ที่ไม่อาจหาสิ่งใดมาทดแทนได้...ชื่อเหล่าทหารกล้าของพระราชา ยังดังก้องอยู่ในใจคนไทยผู้รักชาติทุกคน


SCOOP@NAEWNA.COM 
 
วันที่ 20/4/2010
 
http://www.naewna.com/news.asp?ID=208023


หัวข้อ: Re: [2513]"ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: prapasri AH ที่ 20 เมษายน 2553, 23:03:45
โปรด สังเกตว่า ตอนนี้ เสธแดง ณโพธาราม  หายไป อาจจะถูกบล๊อก ตัวไว้แล้ว

จากสายข่าวพิเศษค่ะ


หัวข้อ: Re: [2513]"ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: Kaimook ที่ 21 เมษายน 2553, 00:22:41
สวัสดีค่ะพี่แอ๊ะ...แวะมาบ้านพี่แอ๊ะค่ะ... emo40::


หัวข้อ: Re: [2513]"ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: suriya2513 ที่ 21 เมษายน 2553, 00:59:22
เหตุการณ์เมื่อเสื้อแดงด่าทอกับเสื้อหลากสีที่หน้าดุสิตธานี คืนวันที่ 20 เมย. 53

นักข่าวชื่อธิดารัตน์ tweet ดังนี้ (http://img220.imageshack.us/img220/6163/000vq.jpg)

...
ป๋อง สุริยา ขัดคอว่า : น้าก็สรุปแล้วหละ ก็ผลสรุปมันออกมาให้ทำอย่างนี้นี่หว่า


หัวข้อ: Re: [2513]"ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: Intania๑๖ ที่ 21 เมษายน 2553, 08:37:57
(http://img219.imageshack.us/img219/3153/resizeofmgrpdf20100421p.jpg)


หัวข้อ: Re: [2513]"ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: prapasri AH ที่ 21 เมษายน 2553, 09:00:59
อ้างถึง
ข้อความของ prapasri AH เมื่อ 20 เมษายน 2553, 23:03:45
โปรด สังเกตว่า ตอนนี้ เสธแดง ณโพธาราม  หายไป อาจจะถูกบล๊อก ตัวไว้แล้ว

จากสายข่าวพิเศษค่ะ

ขอโทษที สายข่าวรายงานผิด

เสธ red  ณ โพธาราม ยังไม่ถูกบล๊อกตัวค่ะ

เพราะ เช้านี้มาออกตรวจแถวเสื้อเเดงแล้ว

ทราบแล้วเปลี่ยนนนนนนนนนน


หัวข้อ: Re: [2513]"ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: prapasri AH ที่ 21 เมษายน 2553, 09:01:58
หวัดดีน้องไข่มุกดีค่า


หัวข้อ: Re: [2513]"ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: prapasri AH ที่ 21 เมษายน 2553, 09:04:03
อ้างถึง
ข้อความของ suriya2513 เมื่อ 21 เมษายน 2553, 00:59:22
เหตุการณ์เมื่อเสื้อแดงด่าทอกับเสื้อหลากสีที่หน้าดุสิตธานี คืนวันที่ 20 เมย. 53

นักข่าวชื่อธิดารัตน์ tweet ดังนี้ (http://img220.imageshack.us/img220/6163/000vq.jpg)

...
ป๋อง สุริยา ขัดคอว่า : น้าก็สรุปแล้วหละ ก็ผลสรุปมันออกมาให้ทำอย่างนี้นี่หว่า



อ๊าว แก่เป็นน้าแล้วรึ ยังดูหนุ่มเเน่นเป็นพี่ป๋อง อยู่เลยยยยยยยยยย


หัวข้อ: Re: [2513]"ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: suriya2513 ที่ 21 เมษายน 2553, 09:25:04
อ้างถึง
ข้อความของ prapasri AH เมื่อ 21 เมษายน 2553, 09:04:03
อ้างถึง
ข้อความของ suriya2513 เมื่อ 21 เมษายน 2553, 00:59:22
เหตุการณ์เมื่อเสื้อแดงด่าทอกับเสื้อหลากสีที่หน้าดุสิตธานี คืนวันที่ 20 เมย. 53

นักข่าวชื่อธิดารัตน์ tweet ดังนี้ (http://img220.imageshack.us/img220/6163/000vq.jpg)

...
ป๋อง สุริยา ขัดคอว่า : น้าก็สรุปแล้วหละ ก็ผลสรุปมันออกมาให้ทำอย่างนี้นี่หว่า



อ๊าว แก่เป็นน้าแล้วรึ ยังดูหนุ่มเเน่นเป็นพี่ป๋อง อยู่เลยยยยยยยยยย
นี่เป็นวิธีวิจารณ์ข่าวสไตล์ "ขัดคอ"
น้าในที่นี้เขาให้หมายถึง รศ.(พิเศษ) ดร.อดิศร เพียงเกษ ครับ คุณนายแอ๊ะ
ไม่ใช่หมายถึงลุงป๋อง


หัวข้อ: Re: [2513]"ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: prapasri AH ที่ 21 เมษายน 2553, 14:37:12

อ๊าวววววววว ฉันก็ตามเธอไม่ทันหรอก ป๋องงงงงงงงเอ๊ยยยย

โง่อย่างฉัน จะตามทันหรือ (ปล.ไม่ได้ประชดนะจ๊ะ แต่ประชัน จ้า)



หัวข้อ: Re: [2513]"ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: เหยง 16 ที่ 21 เมษายน 2553, 16:32:57
วันนี้ที่นครสวรรค์ เน๊ตเสียมาแต่เช้า เพิ่งใช้ได้ครับ
บทบรรณาธิการ นสพ. แนวหน้า ออนไลน์

บทบรรณาธิการ 
 
อย่านำชาติไปสู่ความล่มจม (บทบรรณาธิการ)  
 
 
 

   การชุมนุมทางการเมืองของกลุ่มคนเสื้อแดงหรือแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ(นปช.) ในพื้นที่กรุงเทพมหานครที่เริ่มมาตั้งแต่วันที่ 12 มีนาคมที่ผ่านมาจนถึงปัจจุบันผ่านไปแล้วเป็นเวลา 5 สัปดาห์ซึ่งล่าสุดมาปักหลักชุมนุมกันอยู่ในพื้นที่สี่แยกราชประสงค์และบริเวณใกล้เคียง

   การกระทำของ นปช.ได้สร้างความเดือดร้อนให้แก่ประชาชนคนที่กรุงเทพมหานครที่ต้องทำงานและทำมาหากินอยู่ในบริเวณนั้นถึง 64,000 คนเพราะคนเหล่านี้ไม่สามารถเข้าไปทำงานและประกอบอาชีพได้ตามปกติจนทำให้ประชาชนเป็นจำนวนมากต้องออกมาต่อต้านการชุมนุมที่ผิดกฎหมายของ นปช.

   ต้นเหตุของปัญหาทางการเมืองที่เกิดขึ้นมาจากบุคคลเพียงคนเดียวที่เป็นตัวการซึ่งคนๆนั้นก็คือพ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตรอดีตนายกรัฐมนตรีผู้ที่กำลังหลบหนีคดีอาญาจากการกระทำผิดกฎหมายของตนเองต้องเร่ร่อนโยกย้ายสถานที่พำนักอยู่ในต่างประเทศ

   พ.ต.ท.ทักษิณยังคงไม่ยอมรับว่าตัวเขาได้กระทำความผิดกฎหมายและยังคงหลอกตัวเองว่าเขาได้ถูกกลั่นแกล้งทางการเมือง นอกจากหลอกตัวเองแล้วเขายังได้ให้สมัครพรรคพวกของเขาออกไปหลอกลวงประชาชนที่เคยสนับสนุนทางการเมืองด้วยว่าเขาถูกแกล้งทั้งๆที่เขาทำตัวเอง

   เรื่องที่น่าเป็นห่วงเป็นอย่างมากก็คือขบวนการโกหกหลอกลวงประชาชนที่นำโดยแกนนำของพวกคนเสื้อแดงได้เผยแพร่ความคิดผิดๆออกไปสู่หมู่ประชาชนทั่วประเทสผ่านสื่อสารมวลชนในเครือของ นปช.มาตั้งแต่ต้นปี 2550 ไม่ว่าจะเป็นทางสื่อสิ่งพิมพ์ทั้งรายวัน รายสัปดาห์ รายปักษ์ รายเดือน หนังสือพ็อคเก็ตบุ๊คที่เขียนเรื่องโกหกออกมาเผยแพร่รวมไปถึงวิทยุกระจายเสียงชุมชนและโทรทัศน์ที่ผ่านระบบดาวเทียมฯลฯ

   ขณะนี้ประชาชนในภาคเหนือ 8 จังหวัดตอนบนและภาคตะวันออกเฉียงเหนือ 19 จังหวัดมากกว่าร้อยละ 60 ถูกมอมเมาหลอกลวงจากแกนนำของขบวนการโกหกประชาชนเพื่อตัวนายใหญ่จนหลงผิดคิดว่าอดีตนายกรัฐมนตรีถูกกลั่นแกล้งใส่ร้าย

   มีการประเมินกันว่าถ้าหากฝ่ายรัฐบาลสามารถใช้กำลังเจ้าหน้าที่ทหารและตำรวจสลายการชุมนุมของนปช.ที่สี่แยกราชประสงค์ได้สำเร็จแต่ความแตกแยกทางด้านการเมืองระหว่างคนไทยด้วยกันยังคงไม่ยุติลงง่ายๆและมีแนวโน้มที่จะนำไปสู่สงครามกลางเมืองระหว่างฝ่ายต่อต้านทักษิณและฝ่ายที่สนับสนุนทักษิณ

   บทเรียนจากประวัติศาสตร์ในอดีตนั้นเคยมีหลายๆประเทศทั้งในเอเซีย อเมริกา อาฟริกาและยุโรปเคยเกิดสงครามกลางเมืองขึ้นเพราะความแตกแตกแยกทางการเมืองในหมู่ประชาชน บางครั้งก็มีสาเหตุมาจากคนเพียงคนเดียว ขอให้แกนนำนปช.ทบทวนให้ดีอย่าให้คนรุ่นหลังตำหนิท่านได้ว่าท่านเป็นผู้ที่นำชาติไปสู่ความล่มจม 
 
วันที่ 21/4/2010
 
http://www.naewna.com/news.asp?ID=208166


หัวข้อ: Re: [2513]"ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: เหยง 16 ที่ 21 เมษายน 2553, 16:35:24
บทบรรณาธิการ นสพ.ไทยโพสต์ ออนไลน์

การเมืองแก้ด้วยการเมือง อย่าบังอาจเหิมดึงฟ้าสูง  
บทบรรณาธิการ 21 เมษายน 2553 - 00:00

   การออกมาแถลงข่าวของพลเอกชวลิต   ยงใจยุทธ  ประธานพรรคเพื่อไทย  อดีตนายกรัฐมนตรี  และนายสมชาย  วงศ์สวัสดิ์  อดีตนายกรัฐมนตรี  ขอเข้าเฝ้าฯ  พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว  เพื่อขอพระราชทานพระมหากรุณาธิคุณแก้ปัญหาชาติเมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา  ตกเป็นที่วิพากษ์วิจารณ์จากสังคมอย่างกว้างขวาง  โดยเฉพาะในประเด็นการกระทำดังกล่าวเป็นเรื่องมิบังควรหรือไม่
     เพราะหากพิจารณาจากคำแถลงหลายช่วงหลายตอน  ท่วงทำนองของเนื้อหาที่ใช้มีนัยยะเหมือนเป็นการยื่นเงื่อนไขกดดันพระราชอำนาจ  ไม่ว่าจะเป็น  "ถ้าไม่มีพระมหากรุณาธิคุณ  ไม่แน่ใจถึงความสูญเสียที่จะเกิดขึ้นในอีก  1-2  วันข้างหน้า  และจะเป็นตราบาป  เป็นสิ่งที่พวกเราพี่น้องคนไทยไม่ต้องการที่จะเห็น  หากมีสิ่งใดที่ผิดพลาด  ข้าพระพุทธเจ้าขอน้อมรับไว้แต่เพียงผู้เดียว"
     หรืออีกช่วงหนึ่งที่บอกว่า  "นึกอยู่ตลอดเวลาว่ามีหลายหนทางที่จะแก้ไขปัญหาความขัดแย้งในบ้านเมือง  หนทางหนึ่งที่อยู่ในความคิดตลอดเวลา  แม้จะเป็นหนทางที่ดูเหมือนจะเป็นไปไม่ได้  แต่ผมคิดว่าด้วยจิตใจแน่วแน่และด้วยชีวิตที่เคยถวายเบื้องพระยุคลบาท  รับใช้สนองพระเดชพระคุณในการนำความสงบสุข  หนทางที่อยู่ในหัวใจผมและพรรคเพื่อไทย  คือ  ผมหวังในพระมหากรุณาธิคุณ  ผมหวังในสิ่งนี้ว่าจะมีพระมหากรุณาธิคุณพระราชทานให้กับพวกเราเพื่อยุติความขัดแย้งที่มีมานานและสร้างความเสียหายแก่บ้านเมือง"
     คำถามที่  พล.อ.ชวลิตและนายสมชาย  ซึ่งเคยเป็นถึงอดีตนายกรัฐมนตรีและเคยเป็นอดีตข้าราชการระดับสูงในพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว  ต้องตอบให้กระจ่างก่อนจะคิดอ่านดำเนินการใดๆ  ก็ตาม  คือ  ไม่มีหนทางอื่นใดแล้วหรืออย่างไรในการแก้ปัญหาความขัดแย้งในบ้านเมือง  ถึงต้องเลือกแนวทางนี้  เพราะในเมื่อ  พล.อ.ชวลิตก็บอกเองว่านึกอยู่ตลอดเวลาว่ามีหลายหนทางที่จะแก้ไขปัญหาความขัดแย้งในบ้านเมือง  นั่นก็แสดงว่านี่ไม่ใช่หนทางสุดท้ายหรือหนทางเดียวที่จะแก้ไขสถานการณ์ได้
     ถ้าย้อนไปดูปฐมบทแห่งปัญหาความขัดแย้งในบ้านเมืองครั้งนี้  ถ้าไม่ก้มหน้าก้มตาเข้าข้างตัวเอง  ต้องยอมรับว่าการรวมกลุ่มของแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการ  (นปช.)  หรือกลุ่มคนเสื้อแดงเกิดขึ้นจากกลุ่มคนรัก  พ.ต.ท.ทักษิณ  ชินวัตร  อดีตนายกรัฐมนตรี  ที่ลุกขึ้นมาต่อต้านคณะปฏิวัติที่ยึดอำนาจจาก  พ.ต.ท.ทักษิณ  และเรียกร้องขอความเป็นธรรมคืน  ซึ่งการเข้ายึดอำนาจของคณะปฏิวัตินำโดย   พล.อ.สนธิ  บุญยรัตกลิน  อดีตผบ.ทบ.  หนึ่งในเหตุผล ก็คือการบริหารงานที่ส่อไปในทางทุจริตจนเกิดความขัดแย้งในบ้านเมือง
     ปัญหาความขัดแย้งในบ้านเมืองที่เกิดขึ้นอยู่ในขณะนี้  จึงปฏิเสธไม่ได้ว่าเป็นเรื่องความขัดแย้งทางการเมือง  ความขัดแย้งทางความคิดของกลุ่มคนการเมือง  หาใช่ความเดือดร้อนของประชาชนส่วนใหญ่ที่เกิดขึ้นจากรัฐบาลบริหารประเทศบกพร่อง  กระทำการขัดต่อระบอบประชาธิปไตย  ข่มเหงรังแก  นำประเทศไปสู่ระบอบคอมมิวนิสต์กลายๆ  จนไพร่ฟ้าข้าแผ่นดินเดือดร้อนลำเข็ญถึงขั้นที่ต้องพึ่งพระบารมี  ในเมื่อเป็นเรื่องของการเมืองก็ต้องแก้ด้วยแนวทางทางการเมือง  เพราะในหลวงทรงอยู่เหนือการเมือง
     การแก้ไขปัญหาความขัดแย้งในบ้านเมือง   ยังมีอีกหลากหลายวิธีที่สามารถดำเนินการได้  โดยเฉพาะแนวทางหนึ่งที่เริ่มดำเนินการกันมาบ้างแล้ว  คือ  การเจรจา  ซึ่งถือว่าเป็นหนทางที่ถูกต้อง  เพราะการเจรจาพูดคุยแลกเปลี่ยนแนวความคิด  แลกเปลี่ยนความต้องการ  เพื่อนำไปสู่ข้อตกลงที่ยอมรับได้ของทุกฝ่าย  ซึ่งจะช่วยแก้วิกฤตการณ์ในสังคมให้ผ่านพ้นไปได้ด้วยดี
     เพียงแต่ทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้อง  ต้องลดทิฐิ  ลดความเป็นตัวตนที่ยึดมั่นถือมั่น  คำนึงถึงตัวกูของกู  ออกไปพักไว้ก่อน  แล้วหันมาคำนึงถึงประโยชน์ของส่วนรวม  ประโยชน์ของประเทศชาติเป็นหลัก  ปัญหาทุกอย่างก็จะมีหนทางแก้ไข  ไม่เช่นนั้นเหตุการณ์นองเลือดดังเช่นวันที่  10  เมษา.  ที่มีทหารและประชาชนเสียชีวิตจากการปะทะกันถึง  22  ราย  ก็อาจจะหวนกลับมาเกิดขึ้นได้อีกตลอดเวลา  ยิ่งในสภาวะความตึงเครียดของการเผชิญหน้าระหว่างเจ้าหน้าที่รัฐกับกลุ่มผู้ชุมนุมอย่างทุกวันนี้  อ่อนไหวที่จะเกิดความรุนแรงขึ้นได้ทุกเมื่อ
     เราเชื่อว่าหากสามารถดำเนินการตั้งโต๊ะเจรจากันได้อีกครั้งแบบไม่มีเงื่อนไขส่วนตัวใดๆ
  เข้ามาเกี่ยวข้อง  และยึดมั่นในประโยชน์ของชาติอย่างแท้จริง  หนทางตีบตันที่ว่าก็จะมีทางออก  โดยไม่ต้องไปสร้างความระคายเคืองเบื้องพระยุคลบาท.

http://www.thaipost.net/news/210410/21090


หัวข้อ: Re: [2513]"ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: เหยง 16 ที่ 21 เมษายน 2553, 16:37:50
บทความของ คุณเปลว สีเงิน

หรือรอให้ประชาชนออกมา "ปราบกบฏเอง"?
เปลว สีเงิน 21 เมษายน 2553 - 00:00

   ผมสังเกตว่าพวกแกนนำม็อบกบฏทักษิณ  เช่น  "วีระ-จตุพร-ณัฐวุฒิ-เหวง-สุภรณ์-อริสมันต์-ขวัญชัย"  นอกจากผูกพันกับ  "สีแดง"  แนบแน่นแล้ว  ยังแยกไม่ออกจาก  "สีดำ"  อีกด้วย  สีแดง-สีแห่งเลือด,  สีดำ-สีแห่งความตาย,  ซึ่งก็น่าแปลก  ตั้งแต่เริ่มก่อการกบฏโดยมีกองกำลังติดอาวุธสนับสนุนเรื่อยมา  พวกแกนนำเหล่านี้ดูจะโหยหาเลือดกับความตายเหมือนกระหายโหด  ยึดชัยภูมิตั้งกองบัญชาการแรกก็ตั้งที่  "ปากทางประตูผี"  กองบัญชาการที่สองก็ตั้งตรงข้าม  "ห้องเก็บศพ"  โรงพยาบาลตำรวจ  ไม่เพียงเท่านั้น  เขายังใช้  "ดำกับแดง"  เป็นสีแห่งประกาศิตตายให้กับ  "คณะกบฏทักษิณ?"
     ด้วยคำสาปถึงมนุษย์ผู้กระทำหยาบช้าต่อบ้านเมืองอันเป็นที่สถิตธรรมแห่งพุทธะ   วิบัติจากบาปกรายมาถึงตัวและคณะทีละน้อย...ทีละน้อย...กันแล้วยังไม่สำนึก
     หัวหน้ากบฏใหญ่  "นายทักษิณ"  ณ  วันนี้  เมื่อถึงวันนั้นอันใกล้เข้ามาทุกขณะ  จะมีแผ่นดิน  "กว้างศอก-ยาววา"  ของประเทศไหนยอมให้เป็นที่  "ฝังร่าง"  นั่นก็ยังเป็นปัญหาอยู่?
     แล้วดูสิ...วีระ-จตุพร-ณัฐ-เหวง  ไปหลอกพี่น้องต่างจังหวัดให้มาพล่านจนเป็น   "เป้าสังหาร"  จากมือก่อการร้ายฝ่ายตัวเอง  ด้วยหวังป้ายสี-โยนบาปให้ฝ่ายทหารว่ารัฐบาลสั่งกระทำที่สี่แยกคอกวัว  เมื่อ  ๑๐  เมษา  แล้วทักษิณตีค่าราคาชีวิตคนที่หลอกมาใช้ต่ำกว่าราคามือถือ
รุ่นที่ลูกชายเขาสั่งมาขายซะอีก!
     พวกแกนนำแสร้งทำเสียใจที่หลอกชาวบ้านมาตาย  แต่จริงๆ  แล้วดีใจมากกว่า  เพราะว่า  "เข้าแผน"  พวกเขา  สังเกตดูได้  แทนที่จะอินังขังขอบกับคนเสื้อแดงที่ตาย  แต่กลับตะเกียกตะกายถึงขนาดไปแย่งศพมาจากโรงพยาบาล
     แย่งไปไหน?...แย่งเอาศพไปตั้งบำเพ็ญกุศลให้  หรือเอาไปเข้าสู่กระบวนการที่ทางญาติพี่น้องผู้ตายจะได้รับผลประโยชน์ตอบแทนจากสิ่งที่สูญเสีย...กลับตรงกันข้าม
     มันแย่งศพมาแห่ประจานรอบเมือง  ใช้เป็นเครื่องปลุกเร้าหวังเอาประโยชน์จากผีว่าจะมีคนหลงเชื่อ  "ทหารฆ่า"  แล้วออกมาร่วมขบวนกบฏแดงกับพวกมัน!
     แต่ปรากฏว่าการ   "หากินกับผี"   ล้มเหลว  มีแต่คนสาปแช่ง  เพราะรู้ทันสันดานกบฏ   "ฆ่าเอง"   แล้วนำศพมาตบตาว่า   "ทหารฆ่า"  จากนั้นมา   การหากินกับผีพวกเดียวกันก็   "เป็นหมัน"  และพวกมันก็ไม่เคยอินังขังขอบแม้แต่จะพูดถึง  หรือแค่จะไปหย่อนดอกไม้จันทน์ในวันเผาศพ
     ที่น่าจับตาอีกอย่างตรงนี้ก็คือว่า  พวกแกนนำมันลวงโลกตลอดเวลา  อย่างที่ว่า  "ชิงศพมาแห่รอบเมือง"  มันก็แห่เพื่อแผ่ศักดาเสื้อแดงเท่านั้น  แต่โลงศพที่ลากไป-ลากมา  มันแค่โลงเปล่าๆ  "ตบตาชาวบ้าน"  นี่คือสันดานแท้ๆ  ของพวกมัน!
     ที่ยกมานี่ก็เพื่อยืนยันในข้อสังเกตที่ผมกล่าวแต่แรกว่า  พวกขบวนการกบฏแดงมัน  "ผูกพันกับความตาย"   ชนิดนัวเนีย-แยกไม่ออกมาแต่แรกแล้ว  และจากท่าที  ณ  วันนี้  ที่สี่แยกราชประสงค์  ผมบอกตรงๆ  ว่า  การผูกพันกับความตายของบรรดาแกนนำทั้งหลาย...กลิ่นอายโชย
มาน่ากลัว!?
     ก็ดูซี...ไม่มีใครทำ   แต่พวกแกนนำทำกันเองให้เห็น  "เป็นลางร้าย"  ล่วงหน้า  ตั้งแต่วานซืนนี้  จู่ๆ  ก็เอาแสลนสีดำมาห่อหุ้ม  คลุมม็อบแดงของตัวเองทั้งหมดที่แยกราชประสงค์  พูดกันง่ายๆ  "เหมือนรู้ตัวว่าต้องตาย"  เลยเตรียมขึงผ้าดำไว้ทุกข์กับอวสาน-สุดท้ายของบรรดาแกนนำกบฏ!
     พูดถึงกบฏ   แกนนำกบฏทักษิณครั้งนี้ก็เคยร่วมกบฏมาแล้วครั้งหนึ่ง  รอดประหารเพียงติดคุก-ติดตะรางแล้วได้รับนิรโทษกรรมในเวลาต่อมา  นึกว่าจะสำนึก  แต่กระดูกในกระถางน้ำข้าวกับหมา  มันยากนัก-ยากหนาจะให้ละสันดาน
     กบฏเสธ.หลาดเมื่อ  ๒๖  มีนาคม  ๒๕๒๐  นั่นไง  ยังจำกันได้ใช่ไหม  หนึ่งในจำนวนกบฏที่ถูกจับคือ   "วีระ   มุสิกพงศ์"  แล้วอีก  ๓๓  ปีต่อมา  เมื่อถึง  ๑๒  มีนาคม  ๒๕๕๓  วีระในฐานะแกนนำ  "๓  เกลอหัวขวด"  จากร่วมกบฏเสธ.หลาด  ก็ขึ้นชั้นเป็นหัวหน้า  "กบฏทักษิณ"  นำคณะก่อการยึดแผ่นดินถึง  ณ  วันนี้
     ต่างกันที่ว่า  กบฏเสธ.หลาด  ๒๖  มีนา  เช้าถึงบ่ายก็จบม้วน!
     แต่กบฏทักษิณเดินเรื่องเรื่อยมาหลายปี  เพิ่งประกาศเป็น  "สงครามครั้งสุดท้าย"  ตอนนายใหญ่ใกล้ตาย  วีระนำคณะแกนนำลงมือปฏิบัติการยึดบ้าน-ยึดเมืองเมื่อ  ๑๒  มีนา  และเรื่อยมาถึง  ณ  วันนี้  ๒๑  เมษา  ถึงขั้นที่ใช้  "ผ้าดำ"  ห่อคลุมม็อบตัวเองแล้ว
     กบฏเสธ.หลาดจบเร็วเพราะ   พลเอกฉลาด   "สึกจากพระ"  วัดบวรฯ  ตอนเช้ามืด   แล้วพรรคพวกก็ไปรับตัวมายึดอำนาจรัฐบาล  "นายธานินทร์  กรัยวิเชียร"  ทันที  ชนิดที่เทียนน้ำมนต์ยังติดอยู่บนหัว  ผมจำได้ว่ารถโรงพิมพ์ที่ผมทำงานอยู่สมัยนั้นไปปลุกผมที่บ้านให้รีบไปโรง
พิมพ์ด่วน  เพราะเกิดการปฏิวัติ
     ผมก็รีบไป   เมื่อไปถึง  "เพื่อนรุ่นพี่"  ที่ทำงานด้วยกันคือ  "คุณสมชาย  ฤกษ์ดี"  ซึ่งร่วมงานปฏิวัติตอนต้นแล้วกลายเป็นกบฏตอนท้าย   เมื่อเจอหน้ากันบนโรงพิมพ์เขาก็โยนริบบิ้นธงชาติให้ผมม้วนหนึ่งและบอกว่า
     "ปฏิวัติสำเร็จแล้ว  พวกเราเอานี่ผูกแขนไว้"!
     ผมก็ถามว่า  "ไหน...พี่ลองเล่าให้ฟังบ้างซิ  ที่ว่าสำเร็จน่ะมันเป็นยังไง?"  คุณสมชายก็บอกว่า
     "ไม่มีอะไร  ทุกอย่างเรียบร้อย  เสธ.หลาดยิงพลตรีอรุณตายไปคนเดียว"
     เมื่อได้ยินอย่างนั้นผมก็บอกไปด้วยความตกใจว่า   "ฉิบหายแล้วพี่   ลองยิงนายทหารระดับ  ผบ.พล.๑  "พลตรีอรุณ  ทวาทศิน"  ตาย   มันไม่เรียบร้อยหรอก   พี่รีบหลบออกนอกประเทศไปก่อนเลยดีกว่า  ยังมีโอกาส"
     คุณสมชายก็ไม่เชื่อผม  เพราะตั้งแต่เช้ามืดยัน  ๔-๕  โมงเช้า  ฝ่ายปฏิบัติยังยึดกรมประชาสัมพันธ์  "ออกแถลงการณ์"  ฉบับแล้ว-ฉบับเล่าแจ้วๆ  อยู่  จะให้ผมสั่งพิมพ์หนังสือพิมพ์กรอบบ่ายเร็วๆ  ให้ได้  ผมก็ไม่ยอม  ต้องไปทะเลาะกันต่อหน้าเจ้าของหนังสือพิมพ์  ผมก็อธิบายว่า  ขืนออกไปข่าวในหนังสือก็จะมีแต่แถลงการณ์ของฝ่ายปฏิวัติด้านเดียว  ก็จะกลายเป็น  "หนังสือพิมพ์คณะปฏิวัติ"  ถึงขายได้ดี  แต่ลงท้ายจะซวยกันทั้งโรงพิมพ์
     ลงท้าย  เจ้าของเขาเห็นด้วย  สมัยนั้นจะมีหนังสือพิมพ์กรอบบ่ายวิ่งขายตั้งแต่ตอนเที่ยงๆ   แล้ว  เป็นอันว่าหนังสือพิมพ์ที่ผมเป็นหัวหน้าข่าวอยู่ยังไม่พิมพ์   แต่พอใกล้เที่ยงเท่านั้นแหละ  บิ๊กจอว์  พล.ร.อ.สงัด  ชลออยู่  รมว.กลาโหม  พล.อ.อ.กมล  เดชะตุงคะ  ผบ.สส. พลเอกเสริม  ณ  นคร  ผบ.ทบ. และอีกหลายบิ๊ก  นั่งแถวหน้ากระดานเรียงหนึ่ง  ออกโทรทัศน์ช่อง  ๕
     ยึดอำนาจกลับซะแล้ว!
     เสธ.หลาดเมื่อแพ้ก็ต้องเป็น  "หัวหน้ากบฏ"  ถูกประหารในที่สุด  พี่สมชายของผม  รวมทั้งวีระและอีกหลายคนเข้าคุก  "จุดตาย"  ของเสธ.หลาดอยู่ตรงไหนท่านทราบไหมครับ?
     ไม่ใช่เพราะปฏิวัติแล้วแพ้กลายเป็นกบฏจึงถูกประหาร  แต่ที่ต้องถูกประหารเพราะ
     ในปฏิบัติการกบฏนั้น  "ยิงนายทหาร"  เสียชีวิต!
     ย้อนมาดูกบฏทักษิณเมื่อ   ๑๐   เมษายน  ๒๕๕๓  บ้าง  ปรากฏว่า  "กองกำลังติดอาวุธ"   ของคณะกบฏแกนนำอันประกอบด้วย  วีระ-จตุพร-ณัฐวุฒิ-เหวง-สุภรณ์-อริสมันต์-ขวัญชัย  ฯลฯ  ไม่เพียง  "ฆ่าไม่เลือก"  กระทั่งชาวบ้านเสื้อแดงกันเองเท่านั้น  แต่ยัง  "ฆ่าทหาร"  ปาระเบิด  ล็อกเป้า  ซุ่มยิง
     ๑.พ.อ.ร่มเกล้า  ธุวธรรม  รองเสธ.พล  ร.๒  รอ. ถูกระเบิดที่ศีรษะ เสียชีวิต
     ๒.พล.ต.วลิต  โรจนภักดี  ผบ.พล  ร.๒  รอ. สาหัสมาก  ขาหัก  ๓  ท่อน
     ๓.พ.อ.เกรียงศักดิ์  นันทโพธิ์เดช  ร.๑๒  พัน  ๒  สะเก็ดระเบิดเจาะสมอง  สาหัสมาก
     ๔.พ.ท.นพสิทธิ์  สิทธิพงศ์โสภณ  ม.พัน  ๓  รอ. สะเก็ดระเบิดตัดขาทั้ง  ๒  ข้างเกือบขาด  สาหัสมาก
     ยังไม่นับระดับพลทหาร   และนายสิบอีกจำนวนหนึ่งที่  "เสียชีวิต"  จากน้ำมือกองกำลังติดอาวุธของฝ่ายกบฏทักษิณ   และที่ต้องบาดเจ็บทั้งสาหัส   และไม่สาหัส  นอนรับการรักษาอยู่  ณ  โรงพยาบาลพระมงกุฎฯ  อีกหลายร้อยนาย
     นี่คือสิ่งที่ประเทศชาติ-ประชาชนได้รับจากพวกกบฏทักษิณ  โดย  "ทหารของชาติ"  ผู้ออกมาทำหน้าที่ปกป้อง-รักษาประเทศชาติ  ประชาชน  และความสงบสุขของบ้านเมืองเป็นผู้  "รับความเจ็บปวด"  และความสูญเสียถึงขั้นชีวิตนั้นแทน!
     พี่น้องประชาชนร่วมสุข-ร่วมทุกข์-ร่วมชาติ  และร่วมความภักดีใน  "พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว"   พระองค์เดียวกันทั้งหลาย  วันนี้...ท่านยังทนเห็นทหารของเราบาดเจ็บและตายชนิด  "นายไม่อาทร"  กันต่อไปได้มั้ย?
     ท่านยังทนเห็นรัฐบาล  เห็นกองทัพ  "อุเบกขา-ตาปริบๆ"  กันได้อยู่มั้ย...?
     ท่านยังทนเห็นพวกกิ้งก่าผูกผ้าแดงผยองทั่วบ้าน-ทั่วเมืองกันได้อยู่มั้ย...ท่านยังทนเห็นขบวนการเสื้อแดงปิดถนน  "ค้นรถ-ค้นตัว-จับทหาร"  เป็นเชลยอยู่ได้มั้ย?
     พี่น้องทั้งหลาย...ท่านยังทน  พลเอกประวิตร  วงษ์สุวรรณ  รมว.กลาโหม  พลเอกทรงกิตติ  จักกาบาตร์  ผบ.สส.  พลเอกอนุพงษ์  เผ่าจินดา  ผบ.ทบ.  พล.อ.อ.อิทธพร  ศุภวงศ์   ผบ.ทอ. และ  พล.ร.อ.กำธร  พุ่มหิรัญ  ผบ.ทร. ที่ใช้นโยบาย  "การเมืองต้องแก้ด้วยการเมือง  (ให้ทักษิณ)"  กันต่อไปได้มั้ย?
     หรือจะต้องให้  "ประชาชน"  ออกมาปราบกบฏกันเอง?

http://www.thaipost.net/news/210410/21084


หัวข้อ: Re: [2513]"ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: เหยง 16 ที่ 21 เมษายน 2553, 16:39:27
บทความ ท่านขุนน้อย

แนวรบยังคงไม่เปลี่ยนแปลง
ท่านขุนน้อย 21 เมษายน 2553 - 00:00

 จากเหตุการณ์การก่อการร้ายในวันที่  10  เมษายน  จนถึงวันอังคารที่  20  เมษายน ซึ่งกำลังเขียนต้นฉบับชิ้นนี้  รวมเวลาได้  10 วันเต็มๆ  แต่แนวรบตะวันตกและตะวันออก  ก็ยังไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลง   ทุกสิ่งทุกอย่างยังคงตกอยู่ภายใต้บรรยากาศแห่งการสะกดกลั้นอารมณ์ ความรู้สึก  การอดทน  อดกลั้น  เพื่อรอคอยวันเวลาที่บ้านเมืองจะหวนกลับคืนมาสู่ความปกติสุข กฎ  ระเบียบ  กติกาต่างๆ  ในสังคม  เป็นสิ่งที่สามารถนำมาซึ่งความยอมรับจากกลุ่มบุคคลทุกๆ  ฝ่ายได้อีกครั้ง...
          ------------------------------------------------
     อย่างไรก็ตาม...ภายใต้สภาพบรรยากาศเช่นนี้  ถ้าหากหันไปมองพวกเสื้อแดงอันกลายเป็นส่วนหนึ่งส่วนเดียวกันกับขบวนการก่อการร้ายไปเรียบร้อยแล้ว  ก็เป็นที่แน่ชัดแล้วว่า  ยังไงๆ  ก็คงไม่ยอมสลายตัว  หันมายอมรับกฎ  กติกา  กันง่ายๆ  นอกจากจะยืนหยัดประกาศเดินหน้าสู้ต่อไป   โดยไม่คิดจะเจรจาใดๆ  อีกต่อไปแล้ว  ยังแสดงออกถึงความมั่นอกมั่นใจว่าภายใน  7  วันข้างหน้า  จะสามารถสร้างแรงกดดันให้รัฐบาลต้องหมดสภาพลงไป  ไม่ว่าจะด้วยการยุบสภา  หรือโดยอะไรต่อมิอะไรก็แล้วแต่...
           -----------------------------------------------
     แต่ภายใต้คำประกาศเช่นนี้...คงต้องยอมรับว่า  นอกเสียจากการสร้างแรงกดดันทางการเมือง  ทางเศรษฐกิจ  การหาทางทำให้อำนาจรัฐเกิดความเสื่อมโทรม  ล้มเหลว  ครั้งแล้ว ครั้งเล่า  ก็ยังมองไม่เห็นว่าจะสามารถนำเอาพลังอำนาจใดๆ  มาใช้ในการทุบทำลายพลังอำนาจของฝ่ายตรงข้ามในขั้นตอนสุดท้ายได้อย่างเป็นจริงเป็นจัง  แม้นว่าจะหันไปเปิดเกมรุกเพื่อลดแรงกดดันที่มีต่อตัวเอง  หรือเพื่อกดดันฝ่ายตรงข้ามก็แล้วแต่  ด้วยการละลาบ  ละล้วง  จ้วงจาบ  ดึงเอาสถาบันพระมหากษัตริย์  มาใช้เป็นส่วนหนึ่งในข้อต่อรองเอาดื้อๆ  แต่สิ่งเหล่านี้...ล้วนแล้วแต่ไม่ใช่อำนาจในการพิชิตฝ่ายตรงข้ามได้อย่างเบ็ดเสร็จเด็ดขาดแต่อย่างใด  การประกาศว่าจะทำให้รัฐบาลหมดสภาพลงไปภายใน  7  วัน  10  วัน  จึงออกจะหนักไปในทาง  ราคาคุย  ซะมากกว่า...
          ------------------------------------------------
     ยิ่งไปกว่านั้น...ในช่วงวันสองวันที่ผ่านมา  การที่ตัวเองไม่สามารถเคลื่อนไหวมวลชนไปโน่น  ไปนี่  เพื่อหาทางยกระดับสถานการณ์ให้เข้มข้นยิ่งขึ้น  หรือไม่สามารถฉวยโอกาสสร้างจังหวะรุกในทางกำลัง  ดังที่เคยป่าวประกาศเอาไว้ล่วงหน้าได้  แต่ตั้งบังเกอร์  สร้างป้อมค่ายกระจัดกระจายเป็นจุดๆ  แถมยังต้องเอาผ้าม่านสีดำมาคลุมหลังคา  ปานประดุจมุสิกที่สิงสถิตย์อยู่ในรู  โดยสภาพเช่นนี้...ย่อมถือเป็น  ฝ่ายตั้งรับ  มากกว่าที่จะเป็น  ฝ่ายรุก  โอกาสที่จะปิดฉาก   ปิดเกม  ตามช่วงระยะเวลาที่ตัวเองประมาณการเอาไว้  จึงออกจะลำบากเอามากๆ หนีไม่พ้นที่จะต้องเล่นเกมยืดเยื้อ  คาราคาซัง  ใช้ประชาชนและประเทศชาติ  เป็นตัวประกันต่อไปเรื่อยๆ...
         --------------------------------------------------
     อย่างไรก็ตาม...ถ้าหันมามองทางฝ่ายรัฐบาล  เมื่อมาถึงขั้นนี้...คงปฏิเสธไม่ได้ว่า  อะไรต่อมิอะไรมันก็ยังคง  ไม่ชัดเจน  อยู่เช่นเดิม  ตลอดช่วงระยะเวลาประมาณ  10  วันที่ผ่านมา  แม้นจะมีความเคลื่อนไหวในเชิงรุกอยู่บ้าง  แต่ก็ดันกลายเป็นการรุกแบบเสียม้า  เสียเรือ  เสียรังวัด  ชนิดหน้าแหกยิ่งกว่าปลาริ้วแห้ง  โดยเฉพาะอย่างยิ่ง  การบุกเข้าจับแกนนำเสื้อแดงที่โรงแรมเอสซีปาร์ค  ที่ต้องถือว่าหนักถึงขั้น  เสียหมา  หรือ  เสียสุนัข  อย่างเห็นได้โดยชัดเจน  และท่ามกลางการเสียม้า  เสียเรือ  เสียรังวัด  และเสียสุนัขเช่นนี้  ก็คงยังไม่ได้รับ  การชี้แจง  ให้เห็นถึงอุปสรรค  สิ่งกีดขวาง  ออกมาให้ชัดๆ  แต่หนักไปทาง  การปลอบประโลม  ด้วยคำพูดแบบซ้ำๆ  ซากๆ  ซะมากกว่า...
        -----------------------------------------------------
     แน่นอนว่า...การปลอบประโลมด้วยคำพูดคำจาไปตามแบบฉบับลีลาของนักการเมือง  มันย่อมไม่สามารถทำให้บรรยากาศความอึมครึมที่ครอบคลุมไปในหมู่เจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงาน  ไม่ว่าจะเป็นตำรวจ  ทหาร  ตลอดไปจนถึงรัฐบาล  อันผนึกรวมกันเป็น  อำนาจรัฐ  นั้น  สามารถนำมาซึ่งความรู้สึกมั่นอกมั่นใจ  สามารถสัมผัสถึงความเป็นเอกภาพ  หรือความต้องการในการบรรลุจุดมุ่งหมายเดียวกันได้จริงๆ  การเรียกร้องให้ผู้คนในสังคมอดทน  อดกลั้น  ต่อสภาพความเป็นไปในบ้านเมืองที่ไร้ขื่อ  ไร้แป  ยิ่งขึ้นทุกที...จึงเป็นอะไรที่ค่อนข้างลำบากเช่นเดียวกัน  ปรากฏการณ์ความเคลื่อนไหวของมวลชนกลุ่มอื่นๆ  ที่ต้องการเห็นความปกติสุขกลับคืนมาสู่สังคมโดยไว  การขีดเส้นตายให้รัฐบาลจัดการคลี่คลายปัญหาให้ได้ภายใน  7  วัน...มันจึงเป็นเรื่องปกติธรรมดา  หรือเป็นภาพสะท้อนความไม่เชื่อใจ  ไม่มั่นใจในอำนาจรัฐ  ซึ่งนับวันจะมีแนวโน้มชัดเจนมากขึ้นเรื่อยๆ...
     -----------------------------------------------------------
     อย่างไรก็แล้วแต่...ในฐานะที่รัฐบาลก็ยังคงถือครอง   อำนาจตามกฎหมาย  เอาไว้ได้  แม้นว่าอำนาจนั้นๆ  อาจจะยังไม่สามารถนำมาบังคับใช้ได้อย่างเป็นเนื้อเป็นหนังก็ตาม  แต่ตราบใดที่พวกเสื้อแดงเอง  ก็ยังไม่สามารถสถาปนาอำนาจของตัวเองขึ้นมาใหม่  และใช้อำนาจนั้นๆ  ทุบทำลายฝ่ายตรงกันข้าม  หรือนำมาบังคับผู้อื่นได้อย่างครบถ้วนสมบูรณ์...ด้วยเหตุนี้  ถ้าเปรียบเทียบสถานะรัฐบาลกับพวกเสื้อแดงในขณะนี้  รัฐบาลก็จึงยังคงเป็นต่อประมาณ  2-1  หรือประมาณ  5-4  เป็นอย่างน้อย  นอกเสียจากว่า  ภายในรัฐบาลหรือภายในหมู่ผู้ถือครองอำนาจรัฐดันไป  ล้มมวย  ซะดื้อๆ  ซึ่งถ้าหากเป็นเช่นนั้นจริงๆ  แล้วล่ะก็...อำนาจที่จะปรากฏขึ้นมาแทนที่  ก็คงหนีไม่พ้นไปจากอำนาจที่ประชาชนผู้ซึ่งต้องการความสงบสุขทั้งหลายจะต้องร่วมใจหาทางสถาปนาขึ้นมาด้วยตัวเอง...
     ----------------------------------------------------------
     ปิดท้ายด้วยวาทะวันนี้จาก  พลเรือจัตวา  โธมัส  ทรุกซ์ตัน  แห่งราชนาวีอังกฤษ...ถ้าหากใครคนใดคนหนึ่งขอความเห็นว่า  ควรที่เขาจะสู้หรือไม่  ทั้งๆ  ที่เขามีอำนาจอยู่ในกำมือเองแล้ว  ก็เป็นที่แน่ชัดว่า...โดยความเห็นของเขาเองก็คือ...เขาไม่คิดจะต่อสู้...

http://www.thaipost.net/news/210410/21085


หัวข้อ: Re: [2513]"ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: เหยง 16 ที่ 21 เมษายน 2553, 17:11:30
คอลัมม์ ถูกทุกข้อ ของ คุณสามวา สองศอก

ถูกทุกสี-ถูกทุกคน
ถูกทุกข้อ 21 เมษายน 2553 - 00:00

 เรียน คุณสามวา สองศอก และพี่น้องชาวไทยที่รักทุกท่าน
     ขอแสดงความยินดีกับคุณสามวา   สองศอก  ด้วยใจจริง  ที่ช่างมีวิสัยทัศน์มองการณ์ล่วงหน้าได้ไกลมาก   คิดได้อย่างไรว่าประเทศไทยจะมีวันนี้  คือวันที่ไม่มีใครผิด  ทำอะไรก็ไม่ผิด  หรือจะตอบว่าอย่างไรมันก็ถูกไปหมดทุกข้อ  ถูกไปหมดทุกคน
     เข้าทางคอลัมน์  "ถูกทุกข้อ"  ของคุณ  สามวา  สองศอก  ไปหมดเลย
     เพราะว่าไม่ว่าเสื้อแดงเขาอยากจะทำอะไรเขาก็ทำได้  อยากจะอยู่ราชดำเนินก็อยู่ได้ 
อยากจะบุกรัฐสภาเอารัฐธรรมนูญมาเผ่าเล่นเขาก็ทำได้  อยากไปอยู่ราชประสงค์ซึ่งเป็นย่านการค้าที่เจริญที่สุดเขาก็ไปอยู่ได้  อยากจะขู่เข็ญบังคับใครทั้งชาวบ้านและเจ้าหน้าที่ของรัฐเขาก็ทำได้  พูดอะไรก็ถูกไปหมด พวกพี่น้องเสื้อแดงก็ยกตีนตบไชโยโห่ร้องกันไปชื่นชมกันไป
     ครั้นพอฝ่ายเสื้อหลากสีออกมาพูดมาแสดงพลัง   มันก็ดูเข้าท่า  มันก็ถูกอีก  เพราะว่ามันไม่ใช่ปัญหาของเสื้อสีใดสีหนึ่ง   แต่มันเป็นปัญหาของเสื้อทุกสีและคนไทยทุกคน   ส่วนพันธมิตรฯ   เสื้อเหลืองก็บอกว่า   ถ้ารัฐบาลทำให้สงบไม่ได้  ก็จะเคลื่อนกำลังออกมาภายในเมื่อนั้นเมื่อนี้  ซึ่งมันก็ถูกอีก  เพราะไหนๆ  มันก็ไม่สงบอยู่แล้ว  ก็ให้มันวุ่นวายไปเลยจะได้รู้แล้วรู้รอดไป
     และพอพันธมิตรฯ   เคลื่อนกำลังออกมาอีก  คราวนี้มันก็ทำให้ได้กลิ่นอะไรแปลกๆ  ตามมาด้วย  ก็กลิ่นรัฐประหารนั่นไง  แม้ใครจะบอกว่ามันหมดยุคไปแล้วก็ตาม  แต่อย่าลืมนะว่าวันนี้ใครจะทำอะไรในประเทศนี้  มันก็ไม่มีอะไรผิดอีกแล้ว  ใครอยากจะทำอะไร  มันก็ถูกทุกคนถูกทุกข้อนั่นแหละ
     ในที่สุดประเทศไทยก็กำลังก้าวมาถึงจุดสำคัญที่ไม่อาจคาดการณ์ได้อีกต่อไป   และถ้าเลยจากจุดนี้ไปก็อาจจะมีแผ่นดินไหวหรือหิมะตกที่หน้าบ้านของเราบ้างก็ได้นะครับ  แต่บางทีเราก็อาจจะได้ก้าวเลยจากจุดนั้นมาไกลมากแล้วก็ได้  โดยที่เราไม่รู้สึกกันเองต่างหาก
     ผมหมายถึงจุดที่เราหวังว่าจะมีรัฐบาล  หรือใครสักคนมาช่วยแก้สถานการณ์ให้ดีขึ้นบ้าง  เพราะหากปล่อยให้เลยจากจุดนี้ไป   ประเทศของเราก็น่าจะต้องตกอยู่ในสภาพไร้การควบคุมใดๆ  อีกแล้ว
     และที่สำคัญที่สุดเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นนี้   ผมเกรงว่ามันอาจจะไม่ใช่เรื่องบังเอิญ  หรือเป็นเรื่องที่เกิดขึ้นจากความผิดพลาดของใครคนใดคนหนึ่งก็หามิได้  แต่มันอาจเป็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น  โดยการวางแผนของนักวางแผนมืออาชีพ  ซึ่งมิใช่แค่ระดับชาติ  แต่เป็นมือระดับโลกเลยทีเดียว
     มันคือสภาวะสงคราม  เพียงแต่มิใช่สงครามกลางเมืองในภาวะปกติ  แต่เป็นสงครามในยุคข่าวสาร  ซึ่งไม่มีทางที่จะมีรูปแบบเหมือนสงครามในอดีตอีกต่อไป  เมื่อมาถึงจุดนี้แล้วจึงหลีกเลี่ยงไม่ได้ที่จะต้องเผชิญกับสงครามข่าวและสงครามก่อการร้าย
     เช่นเดียวกับเหตุการณ์ที่กำลังเกิดขึ้นทั่วโลก   จากตะวันออกกลางแล้วก็แพร่ระบาดไปถึงสหรัฐอเมริกา   มาจนถึงสามจังหวัดชายแดนของไทย  แล้ววันนี้ก็มาถึงในใจกลางกรุงเทพมหานคร  และกำลังลุกลามไปทั่วทุกจังหวัดในประเทศไทย  การประเมินสถานการณ์ต่ำไป  มีแต่จะทำให้เกิดข้อผิดพลาดครั้งแล้วครั้งเล่า
     แม้เราไม่ปรารถนาที่จะให้เหตุการณ์อันเลวร้ายเช่นนี้เกิดขึ้น  แต่การพยายามมองในแง่ดี
 คำพูดปลอบใจที่ต้องการให้เป็นกำลังใจ  อาจไม่เหมาะกับสถานการณ์ที่น่าห่วงใยเช่นนี้  หรือแม้ว่าเราอยากจะย้อนกลับไปยังจุดเริ่มต้น  แต่เหตุการณ์ก็อาจได้ผ่านจุดนั้นมาไกลเกินไปแล้ว  ซึ่งหมายถึง
     "เกมที่เลิกไม่ได้...และลืมไม่ลง"
     ขอร้องเถิดนะครับคุณสามวา   สองศอก  ในความห่วงใยนี้ขอผมผิดสักข้อเถิด  ประเทศไทยของเราจะได้รอด
     ลดความโกรธ   เพิ่มความอดทน  ไม่ประมาท  เรียนผูกก็ต้องเรียนแก้  ดูแลคนใกล้ชิดนะครับ
                                                           เล็ก เมืองเก่า
ตอบ คุณเล็ก
     ผมคงไม่ต้องเปลี่ยนชื่อคอลัมน์เป็นผิดทุกข้อนะครับ


                   วันเผด็จศึก 
เรียน คุณสามวา สองศอก
     เมื่อวันที่   6  มิถุนายน  2487  กองกำลังทหารสัมพันธมิตรได้บุกยกพลขึ้นบกที่ชายหาดนอร์มังดี  เพื่อปลดปล่อยประเทศฝรั่งเศสให้เป็นอิสระ  พ้นจากการยึดครองของกองทัพเยอรมัน  โดยใช้ประเทศฝรั่งเศสเป็นฐานปฏิบัติการรุกคืบหน้า  เพื่อการปลดปล่อยประเทศต่างๆ  ในยุโรป  ที่ยังอยู่ในความยึดครองของกองทัพเยอรมันให้เป็นอิสระ
     เหตุการณ์ดังกล่าวได้ถูกนำมาสร้างเป็นภาพยนตร์สงคราม  ในเรื่อง  "วันเผด็จศึก"  หรือชื่อในภาษาอังกฤษว่า  THE  LONGEST  DAY  โดยเข้ามาฉายในเมืองไทยที่โรงภาพยนตร์ศาลาเฉลิมไทย   ครั้งแรกเมื่อประมาณปี  2509  นั่นก็คือเกือบ  45  ปีมาแล้ว  โดย  "วันเผด็จศึก"  หมายถึงวันเวลารอคอยที่ยาวนานที่สุด  ที่กำลังรบทั้งหมดที่รอคอยคำสั่ง  การตัดสินใจสั่งการลงมือปฏิบัติการจากผู้นำกองทัพสัมพันธมิตรที่ชื่อนายพลคไวท์  ดี  ไอน์เซ่นฮาวด์
     ในสภาพอากาศที่เลวร้ายและแปรปรวน  และทัศนวิสัยจำกัด  เนื่องจากสภาพภูมิอากาศอันเลวร้าย  ทำให้นายพลไอน์เซ่นฮาวด์ต้องยกเลิกปฏิบัติการหลายครั้งหลายครา  จนกระทั่งในที่สุด
วันเวลาที่ทหารทุกคนเฝ้ารอคอยด้วยใจจดใจจ่อระทึกใจอย่างยาวนานก็มาถึง   
     เมื่อนายพลไอน์เซ่นฮาวด์ตัดสินใจสั่งลงมือปฏิบัติการในวันที่   6  มิถุนายน  2487  ทั้งๆ   ที่สภาพอากาศเลวร้าย  ทัศนวิสัยจำกัดต่อการปฏิบัติการทางทหาร  เพราะนายพลไอน์เซ่นฮาวด์เกรงว่ายิ่งเป็นวันเวลาที่ยาวนาน  (THE  LONGEST  DAY)  มากไปเท่าใด  ความลับและแผนปฏิบัติการทั้งหลายย่อมล่วงรู้ไปถึงหูข้าศึก
     ทหารสัมพันธมิตรนั้นแม้จะเป็นคนหลายชาติ  แต่ก็ไม่ยักมี  "ทหารแตงโม"  เช่นเดียวกันกับทหารไทยขายชาติ   ดังนั้นความคาดไม่ถึงของกองทัพเยอรมันในเรื่องตำบลยกพลขึ้นบก  ตลอดจนความคาดไม่ถึงถึงปฏิบัติการในสภาวะอากาศอันเลวร้าย   จึงทำให้การรุกรบบุกยกพลขึ้นบกที่หาดนอร์มังดีของกองทัพสัมพันธมิตรประสบชัยชนะโดยไม่ยาก   สามารถปลดแอกประเทศฝรั่งเศสจากการครอบครองของกองทัพเยอรมันได้ในที่สุด
     เราลองหันมาดู   THE  LONGEST  DAY  หรือวันเผด็จศึกของรัฐบาลนายกฯ  อภิสิทธิ์ดูบ้าง   รัฐบาลอภิสิทธิ์ได้ใช้ทั้งการทูต  การเจรจาต่อรอง  โดยการยอมลดตัวลงไปเจรจากับบรรดาโจรปล้นแผ่นดินในคราบการเรียกร้องประชาธิปไตย  ขับไล่อำมาตย์ของคนเสื้อแดง  ซึ่งนายกฯ  มาร์คนั้นใช้เวลามากเกินไปและยาวนานเกินไป 
     ไม่ว่าจะในกระบวนการเจรจาต่อรองกับบรรดาเหวงๆ   การบังคับใช้กฎหมายโดยกลไกของรัฐ  ที่ใช้ไม่ได้ผลคนไม่กลัว  ทั้งนายกฯ  มาร์คก็ดี  แม่ทัพป๊อก  (เพลย์เซฟ)  ก็ตาม  ถึงเวลาแล้วที่ท่านจะต้องกระทำตัวให้ได้เยี่ยงนายพลไอน์เซ่นฮาวด์   เอาทหารตำรวจกลไกของรัฐบังคับใช้กฎหมายให้ได้จริง
     อย่าให้กฎหมู่ของโจรปล้นแผ่นดินมาอยู่เหนือกฎหมายของแผ่นดินอย่างที่แล้วมา  ปล่อยให้
อำนาจเถื่อนของคนเสื้อแดงข่มขู่รัฐบาลอยู่ตลอดเวลาได้  "อะไรจะเกิดมันต้องเกิด"   แบบที่
โฆษก  ศอฉ.ไก่อูแถลงไว้นั้นถูกต้องแล้วครับ
     นี่มันแผ่นดินไทยของเรา   บรรดาบริบทวัฒนธรรมทางการเมือง   และสิ่งแวดล้อมต่างๆ   ก็ไม่เหมือนกันกับฝรั่งมังค่าบ้านเมืองอื่นๆ  เขา  ดังนั้นถึงเวลาแล้วที่เราจำเป็นต้องฆ่าลูกคนที่ห้าทิ้งไป   เพื่อให้สมกับความคิดของไข่มุกดำ  วีระ  มุสิกพงศ์  ที่กล่าวไว้ตอนเจรจากับนายฯ  อภิสิทธิ์   ทำนองว่า  "การทำอะไรกับลูกคนหนึ่ง  ก็จะไม่กระทบกระเทือนกับลูกสี่คนที่เหลือ"  ซึ่งสอดคล้องกับเรื่องที่ว่า   เราจะต้องยอมสูญเสียอวัยวะส่วนน้อย  เพื่อรักษาอวัยวะส่วนใหญ่เอาไว้
     และผมจะแถมท้าให้ด้วยว่า  "สถานการณ์ย่อมสร้างวีรบุรุษ"  ในฐานะนายทหารของชาติ
ไทยอันเป็นที่รักยิ่งของเรา   ผมขอสดุดีการปฏิบัติงานก่อนวันเผด็จศึกของ  พ.อ.ร่มเกล้า  ธุวธรรม  และนายทหารทุกคนด้วยเพลงวันเผด็จศึก  (THE  LONGEST  DAY)
     เพื่อปลุกเร้าจิตใจของ  "ทหารทุเรียน"  ทุกคน  ให้ลุกขึ้นมาใช้หนามทุเรียนตีทำลายทหารแตงโม  และปราบอธรรมคืนสู่วันสันติสุขให้กับประเทศไทยโดยเร็วที่สุด  วันเวลาที่พวกเราคอยอย่างยาวนานมาถึงแล้วครับ
                เพลงวันเผด็จศึก
     ลูกผู้ชายสายเลือดมันแดงข้น         
     แต่ละคนหัวใจมันเข้ม
     เมื่อเกิดมาเติมกล้าเอาไว้ให้เต็ม     
     เกลือมันเค็มต้องเค็มเหมือนมัน
          เมื่อธงไทยพลิ้วไปใจเราเชื่อ         
          หลั่งเลือดเนื้อเพื่อเจิมธงนั้น
          บุกเข้าไปตายเถิดตายพร้อมกัน       
          รอวันนั้นด้วยใจระทึก
     ต่างรอวันนั้นวันเผด็จศึก           
     วันจารึกไม่นึกหวาดหวั่น
     วันเดียวนั้นวันเผด็จศึก             
     วันจารึกอันแสนยาวนาน
          ประตูชัยนั้นรอให้เราผ่าน           
          ชาติทหารพร้อมกันพร้อมกันวันบุก
          ปราบอธรรมคืนสู่วันสันติสุข         
          เราทุกคนรบรุกบุกไปพร้อมกัน
     "ความเป็นไทย   มิใช่ความเป็นทาส  คนไทยย่อมฆ่าคนไทยไม่ได้  นั่นก็คือความถูกต้อง  ที่คนไทยย่อมฆ่าทาสไพร่ทิ้งไป  เสียจากแผ่นดินไทยได้"
                                                            เสธ.เหลือง
                                                    ผู้ทรงคุณธรรมกองทัพบก
ตอบ เสธ.เหลือง
     เพลงวันเผด็จศึกเวอร์ชั่นภาษาไทย  ผู้เขียนคำร้องคือ  ครูชาลี  อินทรวิจิตร  ศิลปินแห่งชาติวัย  87  ปี  ถ้าครูชาลีมีเวลาช่วยเล่าเรื่องเพลงวันเผด็จศึกให้แฟนๆ  ไทยโพสต์ได้ทราบก็จะเป็นพระคุณ
                                                         สามวา สองศอก               

http://www.thaipost.net/news/210410/21082


หัวข้อ: Re: [2513]"ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: อ้อย 14 ที่ 21 เมษายน 2553, 17:57:05

ศูนย์ข่าวขอนแก่น-ฝูงแดงขอนแก่นถ่อยไม่เลิก บุกยึดขบวนรถไฟลำเลียงยุทธโทปกรณ์ ทั้งรถฮัมวี รถ GMC เพราะเข้าใจว่าจะขนส่ง เพื่อสลายการชุมนุมที่ถนนราชประสงค์ แม้รองผู้ว่าฯ-ผู้การจังหวัดจะเจรจาก็ไม่เชื่อ ยันจะกักยึดจนกว่าจะขนย้ายกลับต้นสังกัด

                 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ตั้งแต่เวลาประมาณ 14.00 น.วันนี้(21 เม.ย.)กลุ่มคนเสื้อแดงจังหวัดขอนแก่นราว 200 คนนำโดยนางซาร์บีน่า ซาร์ ได้ทะยอยไปชุมนุมที่สถานีรถไฟจังหวัดขอนแก่นเพื่อกักยึดขบวนรถไฟลำเลียงยุทธโทปกรณ์ทางทหารของค่าย ร.8 สีหราชเดโช ประกอบด้วย รถฮัมวี รถจีเอ็มซี ฯลฯ รวมประมาณ 25 คัน กลุ่มคนเสื้อแดงเหล่านี้เข้าใจว่า ยุทธโทปกรณ์ดังกล่าวจะลำเลียงไปสมทบปฏิบัติการสลายการชุมนุมที่สี่แยกราชประสงค์
       
       อย่างไรก็ตาม แม้นายพยัต ชาญประเสริฐ รองผู้ว่าราชการจังหวัด และพล.ต.ต.พัฒนี ศิริพัฒนี ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดขอนแก่น เดินทางไปเจรจาชี้แจงให้กับกลุ่มคนเสื้อแดงว่า อุกรณ์ทางทหารดังกล่าวจะลำเลียงไปสนับสนุนการปฏิบัติงาน ที่จังหวัดปัตตานี ไม่ได้นำเข้าไปเตรียมสลายการชุมนุมเสื้อแดงที่กรุงเทพฯอย่างที่เข้าใจ
       
       กลุ่มเสื้อแดงก็ไม่เชื่อ และยืนยันที่จะปิดล้อมกักยึดไม่ให้มีการเคลื่อนขบวนออกจากสถานีรถไฟอย่างเด็ดขาด
       
       ล่าสุด ณ เวลา 15.30 น.กลุ่มคนเสื้อแดงยังคงชุมนุมอยู่ที่สถานีรถไฟแ ละจำนวนผู้ชุมนุมก็เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ จากการป่าวประกาศปลุกระดมของสถานีวิทยุคนเสื้อแดง Red Radio F.M.98.75 MHz

 emo5:(แม่จ้าวโว๊ย......นี่ ตูอยู่ที่ประเทศไหนนั่น...ยังๆๆนะขอรับ พ่อแม่พี่น้อง  ทั่นเสื้อแดงยังกักตัวนายทหารไว้เป็นประกันร่วม 50 นาย emo25:(((

       


หัวข้อ: Re: [2513]"ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: jamsai ที่ 21 เมษายน 2553, 18:44:00
.....
นางซาร์บีน่า ซาร์  ??????????
ใครน่ะอ้อย


หัวข้อ: Re: [2513]"ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: เหยง 16 ที่ 21 เมษายน 2553, 20:05:14
ตอนนี้สีแดงเก่งทุกเรื่องครับ...บนถนน, โตะแถลงข่าว และในสภา เหมือนรับงานมาทำกันเป็นทีม

ผมไม่อ่านสถานการณ์รายวันเลย เพราะเชื่อว่าที่สุด ต้อง Power play แน่นอน หรือ จะรอให้ประชาชนออกมา "ปราบกบฏเอง"?


หัวข้อ: Re: [2513]"ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: เหยง 16 ที่ 21 เมษายน 2553, 20:56:49
พวกเขาเร่งเวลากันแล้วครับ !! ?? !!

แฉใช้ RPG ถล่ม คลังน้ำมัน ก่อวินาศกรรม

(http://img405.imageshack.us/img405/9510/picture1kp.jpg)

วินาศกรรมยิงระเบิดใส่คลังน้ำมันเครื่องบิน ริมถนนวงแหวนที่ปทุมธานี ไฟเผาถังน้ำมันจุ 20 ล้านลิตรนับชั่วโมง โชคดีไม่มีคนได้รับอันตราย...

21 เม.ย. พล.ต.อ.จงรัก จุฑานนท์ รอง.ผบ.ตร. พร้อมด้วย พล.ต.ท.กฤษฎา พันธุ์คงชื่น ผบช.ภ.1 และเจ้าหน้าที่ผู้เกี่ยวข้อง เข้าตรวจสอบจุดเกิดเหตุเพลิงไหม้คลังน้ำมันของบริษัท ท่อส่งปิโตรเลียมไทย จำกัด (แทปไลน์) ตั้งอยู่ ม.11 ต.ลำลูกกา อ.ลำลูกกา จ.ปทุมธานี ซึ่งเป็นคลังน้ำมันขนาดใหญ่สำหรับเครื่องบิน โดยมีพื้นที่ด้านหนึ่งติดถนนวงแหวนตะวันนออก แต่ไม่มีรายงานผู้ได้รับอันตราย

ทั้งนี้ เหตุเพลิงไหม้ดังกล่าว เกิดขึ้นกลางดึกที่ผ่านมา โดยเพลิงลุกไหม้บริเวณถังเก็บน้ำมันดีเซลขนาดความจุ 20 ล้านลิตร แต่ขณะเกิดเหตุมีน้ำมันประมาณ 9 ล้านลิตร เปลวเพลิงสูงประมาณ 10 เมตรมองเห็นได้ไกล เจ้าหน้าที่ใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมงจึงควบคุมเพลิงไว้ได้

จากการตรวจสอบเบื้องต้น เจ้าหน้าที่พบว่า จุดเกิดเพลิงไหม้อยู่สูงจากพื้นดินประมาณ 1.5 เมตร ถังน้ำมันมีรูขนาดประมาณ 2 นิ้ว สันนิษฐานว่าลักษณะคล้ายการยิงระเบิดเข้าใส่ด้วยเครื่องยิงระเบิดอาร์พีจี หรือเอ็ม 79 ไม่ใช่อุบัติเหตุ

ล่าสุด มีรายงานว่า หลังการตรวจสอบจุดเกิดเหตุและบริเวณใกล้เคียงอย่างละเอียด เจ้าหน้าที่พบชิ้นส่วนของหางระเบิดอาร์พีจีชนิดเจาะเกราะ ที่ใช้ก่อเหตุ เบื้องต้นคาดว่ามีการยิงเข้ามาจากถนนวงแหวน จึงนำชิ้นส่วนดังกล่าวให้ผู้เชี่ยวชาญตรวจสอบอย่างละเอียด พร้อมทั้งเร่งติดตามคนร้ายมาดำเนินคดีต่อไป

http://www.thairath.co.th/content/region/78122


หัวข้อ: Re: [2513]"ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: เหยง 16 ที่ 21 เมษายน 2553, 21:10:38
จริงหรือเปล่า..ไม่รู้??

ย่างปีที่ ๒๒๙ ไทย 'พ้นทางตัน??'

ณ เวลารุ่งเช้าแล้วเก้าบาท หรือ เวลา 06.54 น. ของวันอาทิตย์ ขึ้น 10 ค่ำ เดือน 6 ปีขาล จุลศักราช 1144 หรือ วันอาทิตย์ที่ 21 เมษายน พุทธศักราช 2325 ณ วัน-  เวลาดังกล่าวนี้ เป็น “ฤกษ์ฝังเสาหลักเมืองกรุงรัตนโกสินทร์” ซึ่งในทางโหราศาสตร์ถือเป็นฤกษ์ “ดวงเมืองประเทศไทย” เรื่อยมา...
   
มาถึงวันนี้ “กรุงรัตนโกสินทร์ ครบรอบ 228 ปี” แล้ว...
   
เป็นการครบรอบขณะที่ “ไฟการเมืองกำลังลุกโชน !!”
   
ย้อนไปในอดีต เมื่อ พระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลก เสด็จขึ้นครองราชสมบัติ ในวันที่ 6 เมษายน 2325 ได้ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้สถาปนาพระนครขึ้นทางตะวันออกของแม่น้ำเจ้าพระยา ตรงข้ามกับที่ตั้งของกรุงธนบุรี โดยมีการทำพิธีตั้งเสาหลักเมืองของพระนครใหม่ ตามฤกษ์ดังที่ได้กล่าวมาข้างต้น
   
พระนครอันเป็นราชธานีใหม่ของไทยนี้ พระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลก โปรดเกล้าฯ พระราชทานชื่อว่า “กรุงรัตนโกสินทร์อินท์ อโยธยา” ต่อมาในรัชสมัย พระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัว ทรงแก้นามพระนครเป็น “กรุงเทพมหานคร บวรรัตนโกสินท์ มหินทอยุธยา”
   
ครั้นถึงรัชสมัย พระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ทรงเปลี่ยนคำว่า บวร เป็น อมร เปลี่ยนคำว่า มหินทอยุธยา โดยวิธีการสนธิศัพท์เป็น มหินทรายุธยา และเติมสร้อยนามต่อ ทั้งเปลี่ยนการสะกดคำ สินท์ เป็น สินทร์ จนเป็นที่มาของชื่อเต็มของกรุงรัตนโกสินทร์ หรือกรุงเทพมหานคร ราชธานีของประเทศไทย
   
นั่นคือ... “กรุงเทพมหานคร อมรรัตนโกสินทร์ มหินทรายุธยามหาดิลก ภพนพรัตน์ราชธานีบุรีรมย์ อุดมราชนิเวศน์ มหา สถานอมรพิมาน อวตารสถิตย์ สักกะทัตติยะ วิศณุกรรมประสิทธิ์”
   
มีความหมายว่า... “พระนครอันกว้างใหญ่ ดุจเทพนคร เป็นที่สถิตของพระแก้วมรกต เป็นมหานครที่ไม่มีใครรบชนะได้ มีความงามอันมั่นคง และเจริญยิ่ง เป็นเมืองหลวงที่บริบูรณ์ด้วยแก้วเก้าประการ น่ารื่นรมย์ยิ่ง มีพระราชนิเวศน์ใหญ่โตมากมาย เป็นวิมานเทพที่ประทับของพระราชาผู้อวตารลงมา ซึ่งท้าวสักกเทวราชพระราชทานให้พระวิษณุกรรมลงมาเนรมิตไว้”
   
ทั้งนี้ กรุงรัตนโกสินทร์ถือว่ามีชัยภูมิชั้นเยี่ยมในการป้องกันศึกมาแต่อดีต แม้ในยุคล่าอาณานิคมจะเคยมีเรือรบฝรั่งเศสประชิดใกล้กรุง และแม้ในยุคสงครามโลกครั้งที่ 2 กรุงจะเคยถูกโจมตีทางอากาศจากฝ่ายสัมพันธมิตร-ถูกทิ้งระเบิด แต่ที่สุดแล้วความเสียหายใหญ่หลวงก็มิได้เกิดขึ้นกับกรุงรัตนโกสินทร์ราชธานีของประเทศไทย ซึ่งทั้งราชธานี ประเทศไทย ประชาชนคนไทย ก็มีการพัฒนาก้าวหน้ามาอย่างต่อเนื่อง
   
แต่ในบางช่วงก็เกิดเหตุร้ายฉุดรั้งการพัฒนาอยู่เนือง ๆ
   
โดยเฉพาะจากปัญหาการเมือง...เหมือนที่เกิดขึ้นตอนนี้
   
กับความขัดแย้ง-แตกแยกทางการเมืองที่เกิดขึ้นในยุคปัจจุบันนี้ ไม่ใช่แค่ปัญหาทางการเมือง แต่ส่งผลต่อทุก ๆ เรื่องของประเทศไทย ทั้งเศรษฐกิจ สังคม และอีกหลาย ๆ ภาคส่วน ต่างระส่ำระสายไปหมด ท่ามกลางความหวาดหวั่นว่า “สงครามกลางเมือง” อาจเกิดขึ้น ซึ่งจะบั่นทอนประเทศชาติ-ประชาชนอย่างร้ายแรง 
   
ความเป็นไปของประเทศไทยและประชาชนคนไทยนับจากนี้ นอกจากในทางรัฐศาสตร์ เศรษฐศาสตร์ สังคมศาสตร์ หันดูในทางโหราศาสตร์ก็มีการวิเคราะห์บ่งชี้ ซึ่งน้ำหนักมักเทไปในทางร้าย แต่ในทาง “ดี” ก็พอมี
   
กรุงรัตนโกสินทร์ครบรอบ 228 ปี...จะ “ย่างปีที่ 229”
   
วาระดังกล่าวนี้บางโหรมีการพยากรณ์ไว้ว่า “ส่งผลดี”
   
นายกสมาคมโหรแห่งประเทศไทย อ.ธนกร สินเกษม เคยทายทักไว้ตั้งแต่ช่วงใกล้มีการตัดสินคดียึดทรัพย์อดีตนายกรัฐมนตรี ทักษิณ ชินวัตร วันที่ 26 ก.พ. 2553 สรุปได้ว่า... ช่วงหลังวันที่ 26 ก.พ. ก่อนถึง 21 เม.ย. 2553 ดาวอาทิตย์-ดาวการเมือง เป็นกาลี และกุมลัคนาดวงเมือง ประเทศไทยจะวุ่นวายหนัก บ้านเมืองจะไม่สงบเพราะเกิดการทะเลาะเบาะแว้งอย่างหนัก มีการนำวิธีการสกปรกต่าง ๆ เข้ามาใช้โจมตีทำลายล้างกันอย่างไม่เคยมีมาก่อน บรรยากาศทางการเมืองจะร้อนระอุ มีโอกาสเลือดตกยางออกสูง ทำให้บ้านเมืองไม่มั่นคง
   
อย่างไรก็ตาม อ.ธนกรเคยทายทักเพิ่มเติมไว้ในตอนนั้น และล่าสุดก็ยังย้ำผ่าน “สกู๊ปหน้า 1 เดลินิวส์” อีกครั้งว่า... หลัง 21 เม.ย. หรือหลังวันเกิดดวงเมืองครบ 228 ปีแล้ว และจะย่าง 229 ปี ดาวพฤหัสฯจะเป็นศรี ประเทศไทยจะเริ่มฟื้นและดีขึ้น บรรยากาศต่าง ๆ จะเริ่มคลี่คลาย ดาวอาทิตย์ที่กุมลัคนาดวงเมืองก็จะเป็นมนตรี หมายถึงจะมีความ “อะลุ้มอล่วยทางการเมือง” นักการเมือง กลุ่มทางการเมืองต่าง ๆ จะ “ตกลงกันได้”
   
“อาจมีการแก้ไขรัฐธรรมนูญจนเป็นที่พอใจของทุกฝ่าย หรือมีการลงสัตยาบันทางการเมือง บ้านเมืองจะกลับสู่ความสงบ ถึงเวลาที่การเมืองประเทศไทยจะพ้นจากทางตันแล้ว” ...อ.ธนกร ทายทัก
   
ในทาง “ร้าย” คำทายทักของโหรรายนี้ถือว่าสอดคล้อง
   
ในทาง “ดี” หวังว่าจะแม่น-เรื่องร้ายคงจบลงเสียที ??.

http://www.dailynews.co.th/newstartpage/index.cfm?page=content&categoryId=23&contentId=60929


หัวข้อ: Re: [2513]"ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: เหยง 16 ที่ 21 เมษายน 2553, 21:17:20
มันไม่ไปฟังคำพิพากษาของศาลฎีกา แต่ก็รอดคุกเพราะศาลฎีกา กำหนดโทษแต่รอลงอาญา

ศาลจำคุก”สุพร-ธีระชัย”คดีหมิ่นนายกฯ  
วันพุธ ที่ 21 เมษายน 2553 เวลา 11:47 น

วันนี้( 21 เม.ย.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่ห้องพิจารณา 908 ศาลอาญา ถ.รัชดาภิเษก  ศาลนัดฟังคำพิพากษาศาลฎีกา คดีที่นาย อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี เป็นโจทก์ยื่นฟ้อง นายสุภรณ์ อัตถาวงศ์  หรือแรมโบ้อิสาน อดีต ส.ส.นครราชสีมา พรรคไทยรักไทย แกนนำแนวร่วมประชาชนต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ(นปช.) และนายธีระชัย แสนแก้ว อดีต ส.ส.อุดรธานี พรรคไทยรักไทย เป็นจำเลยที่ 1-2 ในความผิดฐานหมิ่นประมาทผู้อื่นโดยการโฆษณา

กรณีเมื่อเดือน พ.ค.2545 จำเลยทั้งสอง ได้แถลงข่าวที่อาคารรัฐสภา ใส่ความนายอภิสิทธิ์ โจทก์  ทำนองว่า ขณะที่นายอภิสิทธิ์ เป็นรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ได้นำทรัพย์สินของตนเองไปฝากไว้ในบัญชีของบิดา และแจ้งจำนวนทรัพย์สินอันเป็นเท็จต่อคณะกรรมการ สำนักงานป้องกันและปราบปรามการทุจริต หรือ ป.ป.ช.  ซึ่งล้วนเป็นเท็จ  ทำให้โจทก์ได้รับความเสียหาย

อย่างไรก็ตามเมื่อถึงเวลา จำเลยทั้งสองยังคงไม่ได้เดินทางมาฟังคำพิพากษาซึ่งศาลได้ออกหมายจับไว้เมื่อนัดครั้งที่แล้ว  ดังนั้นศาลจึงอ่านคำพิพากษาศาลฎีกาลับหลังจำเลย โดยศาลฎีกาพิพากษายืนตามศาลอุทธรณ์ และศาลชั้นต้นให้จำคุกนายสุภรณ์ จำเลยที่ 1 รวม 4 กระทงๆ ละ 3 เดือน รวม  12 เดือน ปรับ 4 กระทง ๆ ละ 5,000 บาท เป็นเงิน 20,000 บาท ส่วนนายธีระชัย จำเลยที่ 2 จำคุก 2 กระทงๆ ละ 3 เดือน รวมจำคุก 6 เดือน ะปรับ 2 กระทง ๆ ละ 5,000 บาท เป็นเงิน 10,000 บาท แต่จำเลยทั้งสองไม่เคยต้องโทษจำคุกมาก่อน โทษจำคุกจึงให้รอลงอาญา 2 ปีและให้จำเลย  ทั้งสองร่วมกันลงโฆษณา คำพิพากษาใน นสพ. ไทยรัฐ   และ นสพ.ไทยโพสต์ เป็นเวลา 3 วันด้วย 

http://www.dailynews.co.th/newstartpage/index.cfm?page=content&categoryID=627&contentID=61224


หัวข้อ: Re: [2513]"ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: เหยง 16 ที่ 21 เมษายน 2553, 22:34:21
ฟังอีกทัศนะหนึ่งของผู้บัญชาการทหารอากาศ

ทุกอย่างจะคลี่คลาย
21 เมษายน 2553 เวลา 17:43 น.
พล.อ.อ.อิทธิพรชี้ประชาชนส่วนใหญ่หนุนรัฐบาล ประเทศไทยเป็นของทุกสี   

พล.อ.อ.อิทธิพร ศุภวงศ์ ผู้บัญชาการทหารอากาศ ให้สัมภาษณ์เมื่อเวลา 15.30 น.ที่ผ่านมา ถึงสถานการณ์การชุมนุมกลุ่มแนวร่วมประชาธิปไตยขับไล่เผด็จการ (นปช.)หรือคนเสื้อแดงที่หลายคนกำลังห่วงสถานการณ์ในตอนนี้ว่า เขาก็เป็นห่วงกันทุกคน ฉะนั้นใครที่คิดว่าเป็นกลางก็น่าจะถอยออกมาจากความขัดแย้งต่างๆ
         
เมื่อถามว่า คิดว่าบ้านเมืองจะเดินต่อไปอย่างไร ผบ.ทอ. กล่าวว่า อดทนอีกนิดหนึ่ง ทุกอย่างกำลังจะคลี่คลายแล้ว
         
เมื่อถามว่า ทำไมคิดว่าจะคลี่คลายได้ พล.อ.อ.อิทธพร กล่าวว่า เพราะมีประชาชนส่วนใหญ่เริ่มออกมาแสดงความคิดเห็น ประเทศไทยไม่ได้เป็นคนสีใดสีหนึ่ง เป็นของทุกสี ฉะนั้นการที่ประชาชนได้ออกมาแสดงความคิดเห็น และออกมาสนับสนุนรัฐบาล น่าจะเป็นสิ่งที่บ่งชี้อะไรหลายอย่างว่าสิ่งที่คนส่วนใหญ่ของประเทศต้องการอะไร
         
"ดังนั้นคิดว่าตอนนี้เราต้องรับฟังเสียงประชาชนต้องการอะไร แต่ทุกอย่างต้องอยู่ในกรอบของกฎหมาย เรื่องไหนที่แสดงออกโดยมีเจตนาที่จะละเมิดกฎหมายก็ต้องมีการดำเนินการที่เด็ดขาด เราจะปล่อยให้กลุ่มคนทำอะไรตามใจชอบไม่ได้” พล.อ.อ.อิทธิพรกล่าว

http://www.posttoday.com/ข่าว/การเมือง/23654/ผบ-ทอ-ขอให้คนไทยอดทนอีกนิดเพราะทุกอย่างจะคลี่คลาย


หัวข้อ: Re: [2513]"ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: suriya2513 ที่ 21 เมษายน 2553, 22:55:56
ใครได้พบได้เห็นทัศนะของลูกพี่คนสำคัญของผม "อาจารย์ ธีรยุทธ บุญมี"
อยากทราบว่าพี่ยุทธในนาทีนี้ จะชี้นำสังคมอย่างไร...




หัวข้อ: Re: [2513]"ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: อ้อย 14 ที่ 22 เมษายน 2553, 08:03:18
อ้างถึง
ข้อความของ jamsai เมื่อ 21 เมษายน 2553, 18:44:00
.....
นางซาร์บีน่า ซาร์  ??????????
ใครน่ะอ้อย


emo7:(:อันนี้  อีนี้ฉานม่ายรู้จักนา...แต่  อะไรที่มันไม่คิดว่า จะได้เห็น มันก็ได้เห็นแล้วในชีวิตนี้  คิดว่า อนุสาวรีย์จอมพลสฤษดิ์ ที่หน้าสวนสาธารณะขอนแก่น  ท่านค emo29:P:ง อยากจะเป็นลมวันละห้าร้อยหน  โอ้ว่า...ทหารอันเกรียงไกรของ สยามประเทศ...ถูกยึดรถและจับเป็นตัวประกัน   ใครมีลูกหลานอยากให้เรียน โรงเรียนเตรียมทหาร  คิดให้ดีเด้อ.... emo46  


หัวข้อ: Re: [2513]"ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: เหยง 16 ที่ 22 เมษายน 2553, 10:10:10
บทบรรณาธิการ นสพ.แนวหน้า ออนไลน์ วันนี้

บทบรรณาธิการ  
 
รัฐชอบธรรมสลายม็อบเสื้อแดง (บทบรรณาธิการ)   
 
 
   การชุมนุมของม็อบคนเสื้อแดงนับตั้งแต่ช่วงสงกรานต์ปีที่แล้ว มาจนกระทั่งปัจจุบัน ไม่เป็นที่ยอมรับและนับวันจะถูกต่อต้านจากกระแสสังคมรุนแรงมากขึ้นทุกขณะ ซึ่งเหตุผลที่เป็นเช่นนี้ ก็เนื่องจากเป็นการเคลื่อนไหวที่ไร้ความถูกต้องชอบธรรม เพราะไม่ได้ยึดแนวทางสันติวิธีอย่างที่อ้าง แต่ใช้วิธีการอันรุนแรงเกินเลยสิทธิเสรีภาพขั้นพื้นฐานตามบทบัญญัติแห่งรัฐธรรมนูญและที่สำคัญคือเป็นการเคลื่อนไหวที่มีเป้าหมายแอบแฝงเพื่อคนเพียงคนเดียว คือ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี หาใช่การเรียกร้องเพื่อผลประโยชน์ของส่วนรวมแม้แต่น้อย

   ช่วงสงกรานต์ปีที่แล้ว ม็อบคนเสื้อแดงได้ปฏิบัติการในลักษณะถ่อย ดิบ เถื่อนก่อจลาจลเผาบ้านป่วนเมืองทั่วเมืองหลวง ซ้ำบุกไปก่อจลาจลล้มการประชุมสุดยอดผู้นำชาติอาเซียนและผู้นำชาติมหาอำนาจคู่เจรจาที่พัทยา ซึ่งไทยเป็นเจ้าภาพอันเป็นการทำลายภาพพจน์หน้าตาของประเทศและสร้างความหายนะต่อเศรษฐกิจของประเทศอย่างย่อยยับ

   ม็อบเสื้อแดงกลับมาชุมนุมป่วนเมืองอีกครั้งเมื่อวันที่ 14 มีนาคม ที่ผ่านมา ด้วยการประกาศทำสงครามขั้นแตกหักเพื่อโค่นล้มรัฐบาลชุดนี้ รวมทั้งล้มล้างระบอบอำมาตย์ ซึ่งการชุมนุมของม็อบเสื้อแดงมานานกว่า 1 เดือน แม้จะอำพรางอ้างว่ายึดแนวทางสันติวิธี แต่พฤติกรรมที่เป็นจริงกลับตรงกันข้ามอย่างสิ้นเชิง ซึ่งสะท้อนให้เห็นชัดเจนจาก เหตุการณ์ม็อบคนเสื้อแดงยกกำลังบุกเข้าไปภายในสำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง(กกต.) หรือเหตุการณ์ม็อบคนเสื้อแดงยกกำลังพังประตูบุกเข้าไปภายในรัฐสภาอันเป็นเขตพระราชฐานแล้วก่อความวุ่นวาย โดยมีการจับตัวทหารที่ทำหน้าที่รักษาความปลอดภัยมารุมทำร้ายพร้อมทั้งยึดอาวุธอย่างบ้างคลั่ง

   นอกจากนี้ ม็อบเสื้อแดงยังปลุกระดมโฆษณาชวนเชื่อบิดเบือนข้อเท็จริงสร้างความแตกแยกและจุดไฟแห่งความเคียดแค้นหวังให้มวลชนเสื้อแดงลุกฮือขึ้นทำสงครามประชาชนทั่วประเทศเพื่อ

   นำไปสู่การเปลี่ยนแปลงประเทศครั้งใหญ่ รวมทั้งการใช้กฎหมู่อยู่เหนือกฎหมายทำลายหลักนิติรัฐด้วยการข่มขู่ คุกคาม กดดัน ยั่วยุท้าทายอำนาจรัฐ อีกทั้งพยายามสร้างสถานการณ์บ่อนทำลายความมั่นคงของชาติทั้งด้านการเมืองและเศรษฐกิจ ตลอดจนมีพฤติกรรมเป็นกบฏก่อการร้าย และที่สำคัญคือส่อเจตนาเป็นภัยคุกคามขั้นร้ายแรงต่อสถาบันเบื้องสูง

   การที่ม็อบคนเสื้อแดงบุกปิดถนนและยึดย่านราชประสงค์อันเป็นศูนย์กลางธุรกิจการค้าสำคัญแห่งหนึ่ง กลางเมืองหลวงเป็นเวทีปักหลักชุมนุมยืดเยื้อ และขู่ที่จะยกระดับการเคลื่อนไหวบุกปิดถนนยึดย่านการค้าสำคัญแห่งอื่นๆ โดยเฉพาะย่านสีลมเป็นเวทีชุมนุมถือเป็นการใช้ความรุนแรงและย่ำยีกฏหมาย ซึ่งภาคธุรกิจเอกชนมีการประเมินว่าหากการชุมนุมของม็อบเสื้อแดงยังยืดเยื้อต่อไปอีก 3 เดือนจะสร้างความเสียหายทางเศรษฐกิจเพิ่มขึ้นเป็นมูลค่าถึง 1 แสนล้านบาท

    ณ วันนี้จึงเกิดปรากฏการณ์ที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน นั่นคือ ประชาชนจากทุกภาคส่วนได้ออกมาแสดงพลังเรียกร้องและสนับสนุนให้รัฐบาลและกองทัพยุติการสร้างปัญหาบ่อนทำลายบ้านเมืองของม็อบคนเนื้อแดงโดยเร็วก่อนที่สร้างหายนะไปมากกว่านี้ ดังนั้นรัฐบาลจึงมีความชอบธรรมและถึงเวลาแล้วที่จะสลายการชุมนุมของม็อบเสื้อแดงเพื่อขอคืนพื้นที่ย่านราชประสงค์ ให้กับชาวเมืองหลวง และคืนความสงบสุขให้กับคนทั้งประเทศหลังจากที่ถูกจับเป็นตัวประกันมานานกว่า 1 เดือน 
 
วันที่ 22/4/2010
 
http://www.naewna.com/news.asp?ID=208254


หัวข้อ: Re: [2513]"ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: เหยง 16 ที่ 22 เมษายน 2553, 10:13:06
หน้า 1 ของ นสพ.ไทยโพสต์ ออนไลน์ วันนี้

หลากสีขึงพืดแดง! นัดแสนคนชุมนุม'ศุกร์''สีลม-เยาวราช'ฮือต้าน
ข่าวหน้า 1 22 เมษายน 2553 - 00:00

 ปูทางสู่กิโลเมตรสุดท้าย  "เต้น-ตู่"  ปล่อยข่าว  ท่านผู้หญิงจรุงจิตต์  ทีขะระ นางสนองพระโอษฐ์และรองราชเลขานุการในสมเด็จพระบรมราชินีนาถ  โทร.สั่ง  "ป๊อก"  สลายม็อบแดง  อุบาทว์ท้ารัฐบาลวางเดิมพันด้วยชีวิตไพร่  "กาญจนี"  แฉคอมมิวนิสต์หลงยุค  ไส้ศึกในวังคนของ   "ทักษิณ"  ปั้นเรื่องใช้  2  เกลอเป็นเครื่องมือ  ขณะที่เสื้อหลากสีเติบใหญ่  นัดศุกร์นี้ชุมนุมแสนคนที่ลานพระรูป  เยาวราชเอาด้วย  แสดงพลังปกป้องชุมชน  สีลมเดือด  หวั่นม็อบชนม็อบ

     การชุมนุมของคนเสื้อแดงเมื่อวันพุธยังพบว่าผู้ชุมนุมส่วนใหญ่มีความเครียดสูง  ท่ามกลางกระแสข่าวอาจมีคำสั่งจากกองอำนวยการแก้ไขปัญหาในสถานการณ์ฉุกเฉิน  (ศอฉ.)  ขอพื้นที่ชุมนุมแยกราชประสงค์คืน  ตลอดทั้งวันมีการเสริมแนวป้องกันบริเวณแยกศาลาแดงให้แข็งเกร่งขึ้นโดยไม้ไผ่ปลายแหลมและยางรถยนต์

     ขณะที่ท่าทีจากแกนนำคนเสื้อแดงพบว่าไม่เป็นเอกภาพนัก  ทุกคนมีสีหน้าเคร่งเครียดและตื่นกลัวในบางครั้ง  นายณัฐวุฒิ  ใสยเกื้อ  เลขาธิการกลุ่ม  นปช. เปิดแถลงข่าวว่า  จนถึงวันนี้สถานการณ์ยังไม่น่าไว้วางใจ  แม้จะทราบมาว่าทหารและเจ้าหน้าที่ตำรวจไม่ต้องการใช้กำลังปราบปรามประชาชน  แต่ก็ได้ข่าวจากนายทหารท่านหนึ่งที่ได้เหรียญรามาธิบดีบอกว่า  มีสตรีคนหนึ่ง  เป็นท่านผู้หญิง  จ.จ.  โทรศัพท์ไปกดดัน  พล.อ.อนุพงษ์  เผ่าจินดา  ผบ.ทบ. ตลอดเวลา  เพื่อดำเนินการเด็ดขาดกับกลุ่มคนเสื้อแดง

     "อยากถามว่าจริงหรือไม่ที่มีการโทรศัพท์ไปกดดันจน  ผบ.ทบ.เครียด  อึดอัดใจ  จึงอยากถามว่าทำเพื่ออะไร  ต้องการเอาชีวิตประชาชนไปทำอะไร  ประชาชนไปทำอะไรให้"

     นายณัฐวุฒิกล่าวว่า  ตอนนี้มีเพียงทหารคนเดียวที่รับใช้รัฐบาลคือ  พ.อ.สรรเสริญ  แก้วกำเนิด  โฆษก  ศอฉ.เท่านั้น  ไก่อูตัวนี้ขันทุกเช้าว่าเด็ดขาด  จัดการ

     "ตอนนี้เหมือนกับการเล่นไพ่โปกเกอร์   ที่นายอภิสิทธิ์และนายสุเทพเป็นไพ่โบ๋  ไม่มีแต้ม  แต่ให้ไก่อูเกทับ  ดังนั้นอยากให้ว่าเดิมพันมาเลย  ประชาชนจะได้รู้ว่าในมือมีกี่แต้ม  ในเมื่อทหารและตำรวจก็ไม่ได้มีอยู่ในมือแล้ว"  แกนนำคนเสื้อแดงผู้นี้กล่าว

     สำหรับท่านผู้หญิง   จ.จ.นี้  นายจตุพร  พรหมพันธุ์  แกนนำคนเสื้อแดงนำไปปราศรัยโจมตีบนเวทีที่แยกราชประสงค์  โดยอ้างว่าเป็นท่านผู้หญิงจรุงจิตต์  ทีขะระ  นางสนองพระโอษฐ์และรองราชเลขานุการในสมเด็จพระบรมราชินีนาถ

     ด้านนางกาญจนี  วัลยะเสวี  แกนนำประชาสังคมหยุดระบอบทักษิณ  ออกมาตอบโต้ทันที  โดยกล่าวว่า  การที่แกนนำ  นปช.กล่าวหาท่านผู้หญิงจรุงจิตต์  ฝากบอกนายณัฐวุฒิและนายจตุพรว่าอย่าเอาชื่อท่านผู้หญิงที่ใกล้ชิดกับเบื้องสูงมากล่าวหา   เพราะท่านไม่มีโอกาสมาตอบโต้แก้ข้อกล่าวหา  ถือเป็นการกระทำที่ไม่เป็นลูกผู้ชาย  และเรื่องที่กล่าวกันนั้นล้วนเป็นเท็จทั้งสิ้น  ตนทราบดีว่าคนอย่างท่านผู้หญิงจรุงจิตต์  ไม่เคยสั่ง  ผบ.ทบ. แต่ที่ทหารต้องออกมารักษาความสงบก็เพราะขณะนี้อยู่ในสถานการณ์ที่บังคับใช้  พ.ร.ก.ฉุกเฉิน  กองทัพเป็นกลไกหนึ่งของรัฐบาล  ต้องปฏิบัติหน้าที่ตามคำสั่งของรัฐบาลอยู่แล้ว  ไม่เกี่ยวกับท่านผู้หญิงแต่อย่างใด

     "ท่านไม่มีวันจะทำให้สถาบันมัวหมอง   แต่ตรงกันข้าม  กลับจะต้องปกป้องรักษาสถาบันไว้ยิ่งชีวิต   อยากขอให้นายณัฐวุฒิหยุดปั้นน้ำเป็นตัวเสียที  และหยุดการโยงสถาบันเบื้องสูงที่ชาวไทยเคารพนับถือมาเกี่ยวข้องกับความขัดแย้งทางการเมืองเสียที"

คอมมิวนิสต์หลงยุค

     เธอบอกว่า   คนที่ให้ข้อมูลคือคนที่รู้ความเป็นไปของคนข้างใน  แต่นำเรื่องมาบิดเบือนเพื่อต้องการทำลายสถาบัน  อาจจะทำด้วยความรู้เท่าไม่ถึงการณ์  หรือถูกเขาหลอกใช้  หรือเห็นแก่ผลประโยชน์ที่เคยได้จาก  พ.ต.ท.ทักษิณ  ชินวัตร  ก่อนหน้านี้  จนถึงขณะนี้ก็ยังมีความสัมพันธ์กันอยู่  นายจตุพรและนายณัฐวุฒิกำลังตกเป็นเครื่องมือของคอมมิวนิสต์หลงยุคที่ต้องการล้มล้างสถาบันเบื้องสูง   ดังนั้นขอให้หยุดพฤติกรรมแบบนี้  แล้วรีบหาทางลงให้ตัวเองก่อนที่จะได้รับโทษทัณฑ์ที่หนักหนาสาหัสกว่านี้

     วันเดียวกันนี้  นายสุเทพ  เทือกสุบรรณ  รองนายกรัฐมนตรีด้านความมั่นคง และ  ผอ.ศอฉ. กล่าวว่า  รัฐบาลมีหน้าที่ที่จะทำให้บ้านเมืองมีความสงบให้ได้  แต่การขอคืนพื้นที่ราชประสงค์นั้นเป็นเรื่องที่ไม่สมควรนำมาเปิดเผยในขณะนี้

     เมื่อถามว่า   ทางกลุ่มเสื้อแดงก็ได้สกัดกั้นไม่ให้ทหารเข้ามาสลายการชุมนุมได้  รองนายกฯ  กล่าวด้วยอารมณ์ว่า  "คุณเป็นคนกรุงเทพฯ  หรือเปล่าครับ  ถ้าคุณเป็นคนกรุงเทพฯ  แล้วคุณรู้สึกมีความสุขสนุกสนานมั้ยครับกับที่มีกระบวนการหรือผู้คนมาตั้งค่ายคูประตูรบอยู่กลางกรุงเทพฯ  ถ้าประชาชนแบบคุณมีความสุข  ผมก็จะทำหน้าที่ของผมไป"

     ถามว่า   ขณะนี้มีกลุ่มคนที่อาศัยบริเวณสีลมและหลายๆ  กลุ่มออกมาแสดงความไม่เห็นด้วย   เกรงว่าจะเกิดการปะทะกันหรือไม่  นายสุเทพตอบว่า  เป็นสิทธิของประชาชนที่จะป้องกันบ้านเรือน  ถิ่นฐานของเขา  แต่ทหารก็ไปคุ้มครองอยู่แล้ว

     ที่กรมทหารราบที่   11  รักษาพระองค์  (ร.11 รอ.)  พ.อ.สรรเสริญ  แก้วกำเนิด  โฆษก   ศอฉ. แถลงผลการประชุม  ศอฉ.ว่า  ที่ประชุมได้มีการพูดใน  3  ประเด็น  คือ  ประเด็นที่  1  หมายเรียกชุดที่หนึ่งที่ออกไปให้บุคคล  52  ท่านมาพบเจ้าหน้าที่  เพื่อให้ข้อมูลข่าวสาร  โดยมีบุคลตามหมายเรียกมาพบแล้ว  21  ท่าน  ยังไม่มาพบอีก  31  ท่าน  ซึ่งในส่วนของกำลังพล   ศอฉ.จะประสานฝ่ายกฎหมายและตำรวจว่ามีการดำเนินการส่งหมายเรียกเรียบร้อยหรือยัง  หากมีการตรวจสอบเรียบร้อยแล้วคงมีการปรับเปลี่ยนเป็นหมายจับในโอกาสต่อไป

     ส่วนหมายเรียกชุดที่  2  จะเรียกมา  54  ท่าน  รวม  2  ชุดมีทั้งหมด  106  ท่าน   ซึ่งส่วนใหญ่เป็นกลุ่มวิทยุชุมชน  แท็กซี่  จักรยานยนต์  และการ์ด  นปช.ที่ชัดเจนในที่อยู่

     ประเด็นที่   2  บริเวณที่ชุมนุมแยกราชประสงค์  หลังจากที่สื่อมวลชนมีการนำเสนอให้เป็นที่ประจักษ์ว่าไม่ปลอดภัย  เพราะมีการสะสมอาวุธหลายรูปแบบ  มีการจัดทำเป็นห้องประตูหอรบนั้น  เป็นสิ่งไม่ถูกต้อง  ซึ่งทาง  ศอฉ.ได้ชี้แจงกับประชาชนไปแล้ว

     "ดังนั้นต่อไปนี้ทาง   ศอฉ.   เจ้าหน้าที่ทหาร  ตำรวจ  จะดำเนินการอย่างเฉียบขาด ไม่ปล่อยให้มีการเคลื่อนมวลชนไปในพื้นที่ต่างๆ  อีกต่อไป  และจะอยู่ได้แค่แยกราชประสงค์  แต่ไม่ใช่ว่าจะอยู่ได้ถาวรตลอดไป   แต่ขั้นต้นเราได้มีการวางกำลังเพื่อไม่ให้ผู้ชุมนุมเคลื่อนไปยังถนนสีลม  โรงพยาบาลศิริราช  และจะมีการดำเนินการป้องกันในพื้นที่อื่นๆ  ต่อไป"  พ.อ.สรรเสริญกล่าว

     พล.อ.อ.อิทธิพร  ศุภวงศ์  ผบ.ทอ.  ให้สัมภาษณ์ว่า  ใครที่ไม่คิดว่าเป็นกลางก็น่าจะถอยออกมาจากความขัดแย้งต่างๆ  ขอให้อดทนอีกนิด  ทุกอย่างจะคลี่คลายแล้ว  เพราะมีประชาชนส่วนใหญ่เริ่มออกมาแสดงความเห็นแล้ว  ประเทศไม่ใช่ของคนสีใดสีหนึ่ง  แต่เป็นของทุกสี 

     "การที่มีคนออกมาแสดงความเห็นสนับสนุนรัฐบาล   ก็น่าจะเป็นสิ่งที่บ่งชี้อะไรหลายๆ  อย่าง  ว่าอะไรคือสิ่งที่ต้องการของคนส่วนใหญ่  ตอนนี้เราต้องรับฟังประชาชนว่าเขาต้องการอะไร   แต่ทุกอย่างต้องอยู่ในกรอบกฎหมาย  เพราะฉะนั้นอะไรที่เป็นการแสดงออกโดยมีเจตนาละเมิดกฎหมาย  ก็ต้องมีการดำเนินการที่เด็ดขาด  เราจะปล่อยให้กลุ่มคนที่ทำอะไรตามใจชอบคงไม่ได้"  ผบ.ทอ.กล่าว

ให้กำลังใจ"มาร์ค"

     ที่รัฐสภา  มีความเคลื่อนไหวที่น่าสนใจ  นายอำนวย  กลิ่นอยู่  ประธานชมรมคนพิการผู้รักชาติ  พร้อมด้วยสมาชิกคนพิการประมาณ  10  คน  เดินทางมาเพื่อมอบช่อดอกไม้ให้กำลังใจนายอภิสิทธิ์  เวชชาชีวะ  นายกรัฐมนตรี  ให้ดำรงตำแหน่งเป็นนายกฯ  ต่อไป  พร้อมทั้งคัดค้านแนวทางการยุบสภา  ซึ่งนายอภิสิทธิ์ได้เดินทางมารับช่อดอกไม้ด้วยตัวเอง

     นายอภิสิทธิ์ได้กล่าวขอบคุณและบอกว่า   คงจะคิดตรงกันว่าตอนนี้หน้าที่ของรัฐบาลคือต้องรักษากฎหมาย   รักษาบ้านเมืองให้มีขื่อมีแป  รัฐบาลยืนยันว่าจะไม่ใช้ความรุนแรง  พยายามที่จะหาวิธีการที่ดีที่สุด  เพราะเราถือว่าทุกคนเป็นคนไทยด้วยกันทั้งนั้น  ขอขอบคุณและยืนยันว่าจะใช้แนวทางนี้ในการแก้ปัญหา

     นายอภิสิทธิ์กล่าวต่อว่า  สำหรับการบังคับใช้กฎหมายในเวลานี้ยากขึ้น  เพราะผู้เคลื่อนไหวส่วนหนึ่งนั้นมีอาวุธ   และถึงขั้นมีอาวุธสงคราม  ฉะนั้นการแก้ปัญหาจะต้องทำในลักษณะที่สามารถระงับเหตุได้  และจะพยายามทำให้ดีที่สุด

     พล.ต.จำลอง   ศรีเมือง  แกนนำพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย  ให้สัมภาษณ์ว่า  ถ้ารัฐบาลใช้กระบวนการยุติธรรมตั้งแต่เมื่อเมษายน  ปี  2552  ทุกอย่างก็จบไปแล้ว  ไม่มีเหตุการณ์ยืดเยื้อมาจนถึงวันนี้   แต่รัฐบาลกลับดำเนินการไม่เด็ดขาด  ตนขอยืนยันว่าวิกฤตการณ์ของบ้านเมืองไม่เคยแก้ไขได้ด้วยสภา   ตนอยากถามว่าการแก้รัฐธรรมนูญนั้น  รัฐธรรมนูญผิดตรงไหน  มันผิดเพราะมันไปขัดขวางผลประโยชน์ใช่หรือไม่

     "คุณต้องแก้ตัวคุณเองก่อน   หรือจะต้องรอให้เกิดสงครามกลางเมืองขึ้นก่อน  เพราะถ้ารัฐไม่ทำ   ประชาชนที่ทนไม่ได้ก็จะลุกฮือขึ้นมาโดยธรรมชาติ  แรกๆ  อาจมีการใช้วิธีที่นุ่มนวลก่อน   แต่หลังๆ  ก็อาจจะมีการใช้อาวุธ  ซึ่งอย่ารอให้ถึงวันนั้น  ถ้ารัฐบังคับใช้กฎหมายอย่างจริงจังผู้ชุมนุมก็กลัว  แต่ทำไมไม่เอาจริงเสียที"

     เขาระบุว่า  ไม่ได้บอกให้รัฐใช้ความรุนแรง  แต่ต้องทำให้เกิดความรุนแรงน้อยที่สุด  ปัญหาใหญ่ไม่ได้อยู่ที่การแก้รัฐธรรมนูญ  ไม่ได้อยู่ที่การยุบสภา  แต่อยู่ที่การยุติการก่อการร้าย

     "ผมขอเสนอว่า  ถ้ารัฐไม่ทำ  ก็ขอฝากไปแม่ทัพภาคที่  1  (พล.ท.คณิต  สาพิทักษ์)  ในฐานะเจ้าของพื้นที่ในกรุงเทพฯ   พิจารณาให้ดี  เรียนมาฝึกมาเพื่อทำหน้าที่อย่างเดียวเท่านั้น  ปกป้องชาติและราชบัลลังก์  ท่านประกาศกฎอัยการศึกในการจัดการ   ผมเชื่อว่าจะสามารถสลายการชุมนุมได้ภายใน   2  ชั่วโมง  และก็ไปรายงานต่อรัฐบาลว่าได้ทำงานแล้วตามหน้าที่  ถ้ารัฐบาลไม่เห็นด้วยก็แค่โดนสั่งย้าย   เพราะจะปล่อยให้บ้านเมืองเสียหายต่อไปได้อย่างไร" 

     สำหรับทางออกด้วยการเจรจานั้น  พล.ต.จำลองกล่าวว่า  จะให้เอาคนที่กระทำผิดกฎหมายหรือเป็นกบฏมาเจรจากันเป็นเรื่องที่ถูกหรือไม่  หากทำได้  อีกหน่อยคนก็ไม่กลัวกฎหมาย  พอกระทำผิด  ทำให้เกิดการสูญเสียขึ้น  ก็มาตั้งโต๊ะเจรจากัน  แต่เป็นเรื่องที่คนผิดไม่ยอมรับกระบวนการยุติธรรม  ซึ่งหากจะบอกว่าตำรวจจับโจรถือเป็นความขัดแย้ง  อย่างนี้ก็ไม่ใช่

     "ทางออกของปัญหามี   2  ทางคือ  ใช้กระบวนการยุติธรรม  กับอีกทางคือปฏิวัติ  แต่เป็นสิ่งที่คนไม่ปรารถนา   แม้จะมีโอกาสเกิดขึ้นได้เสมอ   ถ้าชาติไม่มั่นคง  ชุมชนไม่เข้มแข็ง  แต่ระยะนี้ขาดทหารกล้า   เพราะการปฏิวัตินั้นเสี่ยงต่อการถูกประหารชีวิต   หากกระทำการไม่สำเร็จ  ซึ่งผมเชื่อว่าใน  7  วันนี้ไม่มีใครจะสามารถกระทำได้  และการปฏิวัติก็เป็นสิ่งที่ไม่มีใครต้องการ"

     ขณะที่  นพ.นิรันดร์  พิทักษ์วัชระ  คณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ  กล่าวถึงแนวทางการแก้วิกฤติของประเทศในเวลานี้ว่า  การดำเนินการกับผู้ชุมนุมที่ปิดสี่แยกราชประสงค์ต้องใช้กฎหมายขั้นเด็ดขาด  เพื่อทำให้เรื่องยุติ  ส่วนในเรื่องของความเป็นธรรมทางการเมือง  ปัญหาในเชิงโครงสร้าง  กับความล้มเหลวต่างๆ  ในทางการเมือง  ความขัดแย้ง  โครงสร้างอำนาจทางการเมืองที่ต่อสู้แย่งชิงอำนาจทางการเมือง  เมื่อถึงจุดนี้ก็ใช้ความเดือดร้อนของประชาชนบังหน้า  ดังนั้นการชุมนุมของกลุ่มคนเสื้อแดง  ถ้าจะให้เกิดความชอบธรรมต้องขจัด  พ.ต.ท.ทักษิณออกไป  และรับผิดชอบความรุนแรงที่เกิดขึ้นในวันที่  10  เม.ย.  และการชุมนุมต้องกลับไปที่ผ่านฟ้าฯ  และรัฐบาลต้องไม่ใช่แค่ใช้กฎหมายปราบปรามประชาชนเท่านั้น  ปัญหาประเทศมันหมักหมมมานาน  นายอภิสิทธิ์ควรใช้โอกาสนี้เปลี่ยนแปลงปฏิรูปการเมือง  เพราะหลายฝ่ายเรียกร้องเพื่อนำไปสู่การชุมนุมแบบสันติวิธี

สั่งรถพยาบาลถอย

     ด้าน  นพ.ชาตรี  เจริญชีวะกุล  เลขาธิการสถาบันการแพทย์ฉุกเฉินแห่งชาติ  (เลขาธิการ  สพฉ.)  กล่าวว่า  ได้มอบหมายให้  นพ.ไพโรจน์  บุญศิริคำชัย  ผู้ช่วยเลขาธิการ  สพฉ.  เข้าไปเจรจาทำความเข้าใจกับ  นพ.เหวง  โตจิราการ  แกนนำกลุ่ม  นปช. ว่า  การปฏิบัติการทางการแพทย์ไม่เคยมีวัตถุประสงค์อื่นแม้แต่การขนอาวุธ   และได้สั่งให้รถพยาบาลทุกคันถอยออกห่างจากพื้นที่ชุมนุมจากจุดเดิม  เช่นเคยอยู่ตรงแยกไหน  ก็ให้ถอยออกมา  2-3  แยก  ให้พอได้รับคำสั่งแล้วเห็นจุดเข้าไปรับ-ส่งได้  พร้อมกำชับให้เจ้าหน้าที่ระมัดระวังให้มากขึ้นแล้ว

     หลังจากกลุ่มเสื้อแดงนำโดย  นางดวงแข  อรรณพพร  ส.ส.เขต  2  ขอนแก่น  พรรคเพื่อไทย   นำคนเสื้อแดงในพื้นที่กว่า  400  คน  ปิดถนนมิตรภาพบริเวณสี่แยกโรงพยาบาล  อ.พล  จ.ขอนแก่น  เมื่อวันที่  19   เม.ย.  และทำการตรวจค้นรถโดยสารและสามารถนำทหารลงจากรถได้รวม   42  นาย  และส่งกลับภูมิลำเนาโดยที่เจ้าหน้าที่ตำรวจไม่ดำเนินการตามกฎหมายกับกลุ่มเสื้อแดงนั้น

     ล่าสุด   คนเสื้อแดงกลุ่มนี้แสดงความบ้าคลั่งอีกแล้วด้วยการยกพวกไปยังสถานีรถไฟขอนแก่น   ขวางไม่ให้ขบวนรถไฟที่บรรทุกรถจีเอ็มซีและรถอื่นๆ  รวม  21  คัน  พร้อมเจ้าหน้าที่ทหารที่นั่งมาเต็มขบวนรถไฟ   ที่กำลังมุ่งหน้าไปยังสถานีกรุงเทพฯ  จนทำให้ขบวนรถไฟดังกล่าวต้องหยุด  โดยกลุ่มคนเสื้อแดงได้โห่ไล่เจ้าหน้าที่ทหารให้ลงจากขบวนรถไฟ  ซึ่งสร้างความไม่พอใจให้กับฝ่ายทหารเป็นอย่างมาก

     เมื่อเหตุการณ์ที่มีคนเสื้อแดงกรูเข้าไปยังขบวนรถไฟ   ทำให้ผู้บังคับหน่วยทหารต้องจำใจเรียกทหารลงจากขบวนรถเพื่อมาพูดคุยกันกับกลุ่มคนเสื้อแดง  โดยผู้บังคับหน่วยทหารได้กล่าวชี้แจงว่า  ทหารจะเดินทางไปโดยทางรถไฟครั้งนี้เป็นการสับเปลี่ยนกำลังพลที่จังหวัดปัตตานี  โดยมีทหารที่ต้องดูแลขบวนรถที่ต้องลำเลียงทางรถไฟไปยังจังหวัดปัตตานี  จำนวน  80  นาย  มีรถ  21  คัน  ประกอบด้วย รถจีเอ็มซี  ฮัมวี  ยูนิม็อก  และรถน้ำ

     ขณะที่นายพยัต   ชาญประเสริฐ  รอง  ผจว.ขอนแก่น  และ  พล.ต.ต.พัฒนี  ศิริวัฒนี  ผบก.ภ.จว.ขอนแก่น   นำกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจจำนวนหนึ่งมาดูแลความปลอดภัย  พร้อมกับขอเจรจากับกลุ่มคนเสื้อแดง  แต่ก็ไม่เป็นผล

     ซ้ำร้ายช่วงเย็น  กลุ่มคนเสื้อแดงประมาณ  1,000  คน  ไปชุมนุมที่บริเวณสี่แยกถนนมิตรภาพ  อ.บ้านไผ่  จ.ขอนแก่น  และตั้งด่านบุกยึดรถบัสทหารจำนวน  3  คัน  พร้อมกับควบคุมตัวทหารที่นั่งมากับรถบัส   150  นายลงจากรถ  โดยอ้างว่าเพื่อไม่ให้เดินทางเข้าไปสมทบใช้กำลังทหารสลายการชุมนุมที่กรุงเทพฯ      โดย   พ.ต.อ.ออมสิน  ตรารุ่งเรือง  ผกก.สภ.บ้านไผ่  จ.ขอนแก่น  กล่าวว่า  ทหาร  3  รถบัสที่ถูกกลุ่มคนเสื้อแดงบุกยึดและกักตัวเอาไว้เป็นทหารจากกรมทหารราบที่  13  พัน  2  ค่ายประจักษ์ศิลปาคม  จ.อุดรธานี  ซึ่งกำลังทหารชุดนี้มีภารกิจที่จะเดินทางลงไปสับเปลี่ยนกำลังพลที่   3  จังหวัดชายแดนภาคใต้  ซึ่งไม่ได้เดินทางเพื่อสมทบการสลายการชุมนุมคนเสื้อแดงแต่อย่างใด

     สำหรับบรรยากาศบริเวณแยกศาลาแดง   ที่กลุ่มคนเสื้อแดงกับกลุ่มชาวสีลมต่างชุมนุมและเผชิญหน้ากันตลอดทั้งวันยังคงตึงเครียด  ช่วงบ่ายถึงช่วงเย็นการจราจรบริเวณถนนพระราม  4  ตรงแยกศาลาแดงเข้าสีลมมีปัญหารถติดขัดอย่างหนัก   เนื่องจากกลุ่มผู้ชุมนุม  นปช.ที่ปักหลักอยู่บริเวณถนนราชดำริได้รุกล้ำทะลักเข้ามายังพื้นที่ถนนพระราม   4  จนทำให้การจราจรติดขัด เจ้าหน้าที่จึงได้เข้าไปเจรจาและเคลียร์พื้นที่    ก่อนที่กลุ่มผู้ชุมนุมจะร่นถอยไปอยู่ยังที่ตั้งตรงบริเวณถนนราชดำริก่อนที่การจราจรจะใช้ได้ตามปกติ

สีลมเดือดหวั่นม็อบชนม็อบ

     เวลา  18.00  น.  บรรยากาศได้เริ่มตึงเครียดขึ้นเรื่อยๆ  เมื่อกลุ่มคนทำงานบริเวณสีลมได้เลิกงานและรวมตัวกันหน้าโรงแรมดุสิตธานีจำนวนมาก  ขณะที่คนเสื้อแดงได้จัดชายฉกรรจ์กระจายอยู่หลังแนวยางรถยนต์เพื่อสอดส่องความเคลื่อนไหวของทหารและตำรวจ  และจัดทีมการ์ดอีกชุดหนึ่งขึ้นไปอยู่บนสะพานข้ามแยกศาลาแดงเพื่อป้องกันวัตถุระเบิด  และทุกครั้งที่ตำรวจสับเปลี่ยนกำลัง  ทางการ์ดของคนเสื้อแดงก็ต่างลุกฮือมาหมอบอยู่หลังแนวยางรถยนต์  พร้อมทั้งตะโกนเรียกกำลังมาสมทบเป็นระยะๆ   แตกต่างกับอีกฝ่ายที่ตบมือให้กำลังใจทหารทุกครั้งเมื่อมีการเดินผ่าน

     นอกจากนี้  กลุ่มเสื้อหลากสีได้จุดไฟเผาธงและผ้าโพกหัวสีแดงสัญลักษณ์ของ นปช. ทำให้คนเสื้อแดงแสดงอาการโกรธแค้น

     ต่อมาแกนนำคนเสื้อแดงหลายคนได้เดินทางมาบริเวณดังกล่าวพร้อมเปิดปราศรัย  ขณะที่คนเสื้อแดงบางส่วนได้หยิบไม้ไผ่ปลายแหลมที่อ้างว่าใช้ปักดินทำเป็นด่านขึ้นมาแกว่งไปมา  อย่างไรก็ตาม  แกนนำได้สั่งให้ผู้ชุมนุมถอยห่างจากแนวรั้วไม้  ให้เหลือไว้เพียงรถปราศรัยเพียงคันเดียวเท่านั้น

     ทั้งนี้   ทั้งสองฝ่ายต่างด่าทอกันอย่างรุนแรง  จนหวิดจะปะทะกันหลายครั้ง  แต่แกนนำได้ห้ามปรามเอาไว้   ขณะที่ประชาชนย่านสีลมมารวมตัวได้จัดปราศรัยและร่วมกันร้องเพลงปลุกใจเพื่อเรียกร้องให้กลุ่มคนเสื้อแดงยุติการชุมนุม  พร้อมทั้งขอความร่วมมือคว่ำบาตรด้วยการไม่ขายสินค้าให้  ไม่ให้ใช้ห้องน้ำ  เพื่อประท้วงและกดดัน

     แกนนำกลุ่มเสื้อหลากสีเผยว่า  จะรวมตัวชุมนุมกันในเวลา  12.00  น.ของทุกวันจนกว่ากลุ่มคนเสื้อแดงจะสลายการชุมนุมไป  พร้อมกันนี้ยังได้มีการเชิญชวนให้พวกที่ไม่เห็นด้วยกับกลุ่มเสื้อแดงไปรวมตัวกันที่บริเวณลานพระบรมรูปทรงม้าในวันศุกร์ที่จะถึงนี้ให้ได้ถึง   100,000  คน

     ยังมีรายงานว่า  วันพฤหัสบดี  กลุ่มชาวเยาวราชนัดรวมตัวกันที่วงเวียนโอเดี้ยนในช่วงเย็น  หลังแกนนำคนเสื้อแดงประกาศว่าจะไปยึดถนนย่านเยาวราชอีกด้วย

     ขณะที่บนเวทีปราศรัยของคนเสื้อแดงในช่วงค่ำเป็นไปอย่างดุเดือด   นายสุภรณ์  อัตถาวงศ์   แกนนำ  นปช. ปราศรัยว่า  ตนจะทำหน้าที่เป็นแกนนำปกป้องด่านสีลมหากมีการบุกเข้ามาสลายการชุมนุม  ยางรถยนต์ที่วางไว้ก็พร้อมจะใช้เผาเป็นเชื้อเพลิง  จะลามไปไหม้อะไรก็ไม่รับประกัน  ส่วนไม้ไผ่ที่เป็นเกราะแนวป้องกันก็จะใช้ตีทหารที่จะเข้ามาสลายในทันที

     ขณะที่นายจตุพร  พรหมพันธุ์  แกนนำ  นปช. กล่าวว่า  เราตัดสินใจแล้วว่าถ้ามีด่านสกัดประชาชนไม่ให้เข้า  เราจะไปทำลายทุกด่านให้ประชาชนได้เข้ามาชุมนุม  ถ้าบีบคั้นหัวใจมากๆ  จะบุกกองพันทหารราบที่  11.

http://www.thaipost.net/node/21143


หัวข้อ: Re: [2513]"ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: jamsai ที่ 22 เมษายน 2553, 10:15:36
อ้อย
รู้แต่ว่า มีทหาร ส่วนหนึ่งที่กำลังกัดลิ้น กลืนเลือด
และท่องคำว่า....ท ทหาร อดทน
....ท ทหาร อดทน
....ท ทหาร อดทน
....ท ทหาร อดทนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนน
เพื่อชาติและราชบัลลังก์
เมื่อถึงเวลา หากทำได้ ก็อาจเอาเลือด ไอ้จิ๋ว ล้างตีน ให้ศพ พลทหาร

ก็ไม่รู้ ไอ้จิ๋วใหน นะ ใครชื่อ "จิ๋ว" ต๊กกะใจ กันหมด




หัวข้อ: Re: [2513]"ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: เหยง 16 ที่ 22 เมษายน 2553, 10:17:01
ข้อเขียนจากห้อง"ถูกทุกข้อ" โดยสามวา สองศอก

พลังเงียบ
ถูกทุกข้อ 22 เมษายน 2553 - 00:00

           พลังเงียบ   เหมือนยักษ์หลับ     พลิกกลับฟื้น
     ลืมตาตื่น         แล้วหนา          เหมือนฟ้าสาง
     เมื่อม่านเมฆ      มิดมืด            สีจืดจาง
     ฟ้าสว่าง         โดยพลัน          ในทันใด
     มีคนดี           ที่ฟ้า             ส่งมาเกิด
     ล้วนประเสริฐ     ใจมั่น            ไม่หวั่นไหว
     เข้าป้องชาติ      ศาสน์ กษัตริย์      ขจัดภัย
     คือยักษ์ใหญ่       ของแผ่นดิน        ถิ่นศรัทธา
     เสื้อทุกสี         ใจทุกดวง         ห่วงประเทศ
     ทุกข์เทวษ        ทรมาน           นานหนักหนา
     มาวันนี้          ไม่รอนาน         กาลเวลา
     ต่างลุกมา        ต่อสู้             กู้แผ่นดิน
     คารวะ          ผู้กล้า            รักษาชาติ
     ทระนง          องอาจ           ป้องชาติสิ้น
     ขอร่วมด้วย       ช่วยกัน           พลันยลยิน
     ยอมแผ่นดิน       กลบหน้า          ถ้าจำเป็น...
                                            จำปาดะ


              จดหมายฉบับสุดท้าย?
เรียน คุณสามวา สองศอก
     จดหมายฉบับนี้ขอเป็นจดหมายฉบับสุดท้าย   เพราะผมได้มาถึงสัจธรรมที่ว่าสรรพสิ่งย่อมมีการเปลี่ยนแปลง  การเมืองไทย  ณ  วันนี้ได้มาถึงจุดเปลี่ยนที่ชัดเจนแล้ว  ผมจึงไม่สามารถที่จะเอาตัวเข้าไปขวางกระแสของการเปลี่ยนแปลงนั้น  มันเชี่ยวเกินกว่าที่ใครๆ  จะขวางได้
     แค่ธุลีดินขวางมาจนหมดแรงแล้วก็ต้องหยุด  ที่หยุดไม่ใช่ผมกลัวตาย  แต่ผมเห็นว่าไม่มีประ
โยชน์ที่จะไปเสียเวลากับมันอีกต่อไป
     1.ความขัดแย้งทางการเมือง  ระหว่างคนหลายกลุ่มที่เป็นอยู่ในขณะนี้  ก็คงยืดเยื้อต่อไปจนกว่าจะถึงจุดที่เลวร้ายที่สุด  คือชาติบ้านเมืองทรุดโทรมลงจนถึงที่สุด
     สถานการณ์การเมืองในกรุงเทพฯ  ณ  วันนี้  ไม่แตกต่างจากสถานการณ์ของกรุงไซง่อนก่อนแตก   มีทหารฝ่ายต่างๆ  สะพายอาวุธประจำตัวเดินเพ่นพ่านเต็มถนน  ใครฆ่าใครก็ทำได้ตามความชอบใจ  บ้านเมืองไม่มีขื่อมีแป  ไม่มีใครมีอำนาจหรือบารมีที่จะออกคำสั่งให้ใครปฏิบัติตามได้
     ไม่แตกต่างจากกรุงเทพฯ  วันนี้  ใครอยากยึดถนนสายไหนก็ยึดได้  ไม่มีใครห้ามได้  ไม่ว่าจะเป็นตำรวจหรือทหาร   นึกอยากจะเอาอุจจาระไปสาดบ้านใครก็ทำได้  ขึ้นเวทีกล่าวคำหยาบคายอย่างไรก็ได้   ดูหมิ่นเหยียดหยามผู้ใหญ่ในบ้านในเมืองให้เสียๆ  หายๆ  แค่ไหนก็ทำได้  เหตุการณ์เช่นนี้ไม่เคยเกิดขึ้นในประเทศไทยมาก่อน  มันเลวร้ายจริงๆ
     2.รัฐบาลนายอภิสิทธิ์  เวชชาชีวะ  ไม่มีอำนาจอยู่ในมือแม้แต่น้อย  สั่งทหารไม่ได้  เพราะรัฐบาลไปพิสูจน์ความไร้ประสิทธิภาพของเครื่องตรวจระเบิดจีที  200  ที่กองทัพซื้อมาแล้วใช้ไม่ได้  ทำให้กองทัพเสียหน้า  เพราะรัฐบาลสั่งปลดน้องชายรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมออกจาก  ผบ.ตร. เพราะรัฐบาลไม่ยอมให้งบประมาณซื้อเรือดำน้ำ
     แล้วเรื่องอะไรทหารเขาจะเชื่อฟังรัฐบาล  สั่งทหาร  2,000  นาย  ไปรักษาสถานีภาคพื้นดินของบริษัทไทยคม  ที่อำเภอลาดหลุมแก้ว  พอคนเสื้อแดง  3,000  คน  เดินทางไปล้อมขอให้ทหารยอมจำนน   ทหารฉีดน้ำใส่นิดๆ  หน่อยๆ  โยนแก๊สน้ำตาใส่นิดๆ  หน่อยๆ  แล้วก็ยอมจำนน  มีปืนเอ็ม  16  อยู่เต็มรถก็เอาไปให้คนเสื้อแดงหมด  พูดง่ายๆ  ว่ายอมวางอาวุธโดยดุษณี  ผลก็คือรักษาที่มั่นไว้ไม่ได้
     ถามว่าขีดความสามารถของทหารไทยมีแค่นี้หรือ  ไม่รู้สึกอับอายขายหน้าทหารชาติอื่น  หรือเกียรติยศศักดิ์ศรีของความเป็นรั้วของชาติเอาไปทิ้งไว้ไหนหมด  เมื่อทหารไม่รักษาบ้านรักษาเมือง  ไม่ฟังคำสั่งนายกรัฐมนตรี  (อ้างว่าไม่มีคำสั่งเป็นลายลักษณ์อักษร  ถ้าปฏิบัติลงไปอาจมีความผิด)   เมื่อเหตุการณ์มันชัดเจนอย่างนี้  ผมจะเหลือความหวังอะไรอีกกับการรักษาบ้านรักษาเมืองให้เป็นปกติสุข  ผมจึงเชื่อว่าจบแล้วประเทศไทย
     3.ทีนี้มาดูผู้มีหน้าที่รักษาความสงบเรียบร้อยของบ้านเมืองอีกหน่วยหนึ่งคือตำรวจ  ซึ่งมีกว่าล้านนายทั้งประเทศ  นายกฯ  อภิสิทธิ์ไม่มีอำนาจบังคับบัญชาได้เลย  สั่งอะไรก็ไม่ทำ  ตำรวจจะทำตามคำสั่งนายกฯ  ทำไมล่ะครับ  เพราะนายกฯ  คนนี้สั่งปลด  ผบ.ตร. และไม่ยอมแต่งตั้งคนใหม่ตามที่พวกเขาต้องการ
     เขาพูดตรงๆ   ว่าเขาไม่ปฏิบัติตามคำสั่ง  เพราะกลัวถูกฟ้องเหมือนที่เขาเคยปฏิบัติตามคำสั่งนายกรัฐมนตรีคนก่อน  ที่สั่งให้เขาปราบปรามประชาชน  (เสื้อเหลือง)  เมื่อ  7  ตุลาคม  2551
     ดังนั้นตำรวจก็ไม่ทำหน้าที่   เช่น  กรณีที่คนยิงจรวดอาร์พีจีใส่กระทรวงกลาโหม  แต่ไม่ชำนาญแรงสะท้อนทำให้คนยิงและเพื่อนได้รับบาดเจ็บ   ทิ้งรถไว้แล้วหนีเอาตัวรอด  ตำรวจไปตรวจสถานที่  ยึดรถไป  มีคนมาบอกว่าตอนนี้คนยิงได้รับบาดเจ็บ  นอนรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาล  แต่ตำรวจก็ไม่ตามไปจับ  ทำทีเอาพยานไปสอบแล้วก็วาดภาพคนร้าย  ทำประกาศจับทั่วประเทศ  แสดงชัดว่าตำรวจไม่ต้องการจับ  ถ้าต้องการจับก็จับได้ทันที 
     กรณีตำรวจไปขอหมายจับแกนนำ   นปช. 17  คน  จากศาลอาญา  บอกว่าถ้าเห็นตัวที่ไหนก็จับได้ทันที   แต่บ่ายวันเดียวกันนั้นตำรวจยศ  พล.ต.ท. ก็นั่งเข่าชนกันกับแกนนำ  นปช.  2-3   คน  ที่ออกหมายจับ  โดยเชิญเขามาพบเจรจาเพื่อขอร้องให้สลายการชุมนุมปิดล้อมยึดสถานีดาวเทียมไทยคมที่ลาดหลุมแก้ว  นั่งคุยกันเป็นชั่วโมงไม่กล้าจับเขา  หรือไม่คิดจะจับก็ไม่รู้     รัฐบาลสั่งให้ตำรวจเคลียร์พื้นที่สี่แยกราชประสงค์  ช่วงที่พวกเสื้อแดงพากันไปยึดสถานีไทยคมที่ลาดหลุมแก้ว   มีนายวีระและหมอเหวงเหลืออยู่ที่เวทีราชประสงค์  มีเสื้อแดงนั่งฟังอยู่ไม่ถึง  200  คน  ตำรวจมีกว่าพันนาย  แต่รีๆ  รอๆ  ไม่ยอมไปเคลียร์  รอจนกระทั่งเสื้อแดงกลับจากลาดหลุมแก้ว   จำนวนที่ราชประสงค์เต็มเหมือนเดิม  ตำรวจก็ทำท่าออกไปยื้อเสื้อแดงมานิดหน่อย  แล้วก็กลับเข้าสำนักงานตัวเอง  ทำอย่างนี้แปลว่าอะไร  ต้องการเคลียร์พื้นที่ตามคำสั่งของรัฐบาลจริงหรือ?  เมื่อทหารก็ไม่ทำงาน  ตำรวจก็ไม่ทำงาน  รัฐบาลก็ต้องไปจ้างโจรมาทำงานแทนแล้วซิ!
     4.มีคนมาเล่าให้ผมฟังว่า  ทหารเขาจ้องจะเล่นงานรัฐบาลอภิสิทธิ์อยู่แล้ว  อย่างดีเขาก็ให้ความคุ้มครองชีวิตของคุณอภิสิทธิ์เต็มที่  เพื่อให้เห็นบุญคุณว่าถ้าไม่ไปอาศัยนอนค่ายทหาร  คุณอภิสิทธิ์ก็ไม่ปลอดภัย  แต่เรื่องจะมาอุ้มให้คุณอภิสิทธิ์มีอำนาจเหนือทหารนั้นเขาไม่ยอมแน่   ดีไม่ดีทหารจะล้มรัฐบาลอภิสิทธิ์เสียเลยถ้าสถานการณ์อำนวย 
     ศัตรูของผู้นำทหาร   (บางคน)  เช่น  นายสนธิ  ลิ้มทองกุล  ก็ถูกยิงรอดตายหวุดหวิดมาแล้ว  คนเสื้อเหลืองก็ลดอิทธิพลลงไปมากแล้ว  ส่วนคนเสื้อแดงเขาก็ไม่กลัว  เพราะเขารู้ดีว่าถ้าไม่มี   พ.ต.ท.ทักษิณเสียคนเดียวเสื้อแดงก็หมดฤทธิ์   ก็ยังเหลือแต่พรรคการเมืองนี่แหละ  ที่เป็นศัตรูที่แท้จริงของทหาร  (ผู้คิดเป็นใหญ่ในแผ่นดิน)
     ทหารก็ต้องพยายามบั่นทอนศักยภาพของพรรคการเมืองลงไป   โดยเฉพาะอย่างยิ่งพรรคประชาธิปัตย์  โดยใช้วิธีตีสองหน้า  หน้าหนึ่งก็บอกว่าทหารต้องฟังคำสั่งของรัฐบาล  พออีกหน้าหนึ่งก็บอกว่าทหารไม่ยุ่งเกี่ยวกับการเมือง  หมายความว่าจะใช้ทหารไปรักษาอำนาจทางการเมืองไว้ให้นักการเมืองนั้น  เขาไม่ประสงค์จะทำ  ก็แปลความว่าทหารรอทำรัฐประหารล้มรัฐบาลอยู่ทุกเวลา  เขาเห็นตัวอย่างการรัฐประหารที่ล้มเหลวมาแล้วเมื่อ  19  กันยา  เขาก็ต้องหาวิธีแก้ไขได้ก่อนแล้วค่อยลงมือ
     5.ผมเชื่อด้วยความบริสุทธิ์ใจว่า  กลุ่มเสื้อแดงไม่ได้ออกมายิงจรวดใส่โน่นใส่นี่  เพราะเขาเลือกใช้วิธีปิดล้อมด้วยมวลชนเป็นหลัก  คนยิงจรวดน่าจะเป็นฝ่ายทหารมากกว่า  อาจจะเป็นทหารในสายของ  พล.อ.ชวลิต  หรือ  พล.ต.ขัตติยะก็เป็นได้
     และผมไม่เชื่อว่า  2  นายพลนี้จะทำงานให้คุณทักษิณ   เพราะเขารู้ดีว่าคุณทักษิณหมดสภาพแล้ว   สู้มาช่วยพี่น้องทหารด้วยกันมิดีกว่าหรือ  ตั้งแต่วันที่  12  มี.ค. ที่  นปช.เริ่มนัดชุมนุมถึงวันนี้ก็   1  เดือนแล้ว  ที่  พล.อ.อนุพงษ์ไม่เคยมีบทบาทออกมาแสดงจุดยืนว่าอยู่ข้างใดเลย
     แล้วทำไมจึงมีการยิงปืน   ค.79  ใส่ห้องทำงานของ  พล.อ.อนุพงษ์  ผมคิดเป็นอย่างอื่นไม่ได้นอกจากต้องการสร้างบทบาท  และความชอบธรรมให้  พล.อ.อนุพงษ์  ซึ่งมันจะเป็นจุดเริ่มต้นของการแสดงบทบาททางการเมืองของ  พล.อ.อนุพงษ์  และผมขอทำนายว่าการเลือกตั้งทั่วไป  ที่ตกลงกันไม่ได้ว่าจะอีก  15  วัน  หรือ  9  เดือนนั้นมันจะไม่มี   มันจะมีอย่างอื่นแทน
     ก็อย่างไหนที่จะเปิดทางให้  ผบ.ทบ.เป็นนายกรัฐมนตรีได้ล่ะ?
     การรัฐประหารเริ่มนับถอยหลังแล้วครับ  นี่คือจุดจบของสรรพสิ่งที่หลายคนรอคอย  ปี  2500  คนไทยเรียกหาจอมพลสฤษดิ์  ธนะรัชต์  ปี  2553  นี้คนไทยจำนวนไม่น้อยเรียกหา  พล.อ.อนุพงษ์  เผ่าจินดา  เพราะเขาคิดว่าถ้าประชาธิปไตยเป็นอย่างนี้  ก็จะเป็นประชาธิปไตยไปทำไมกัน  แค่นี้ก็จะสิ้นชาติอยู่แล้ว  ถ้าใครอาสามาแก้ปัญหาบ้านเมืองโดยใช้อำนาจเผด็จการทหาร  ก็อาจจะเป็นทางเลือกสุดท้าย  ทางอื่นมันไม่มีจริงๆ
     6.ผมต่อต้านรัฐประหารมาตลอด  แต่ถ้าให้เลือกระหว่างประชาธิปไตยแล้วชาติพัง   กับเผด็จการทำให้ชาติไม่พัง  ผมก็จำใจเลือกอย่างหลัง  ผมหมดหวังกับคนไทยโดยสิ้นเชิง  ผมนึกไม่ถึงว่าคนไทยจะดื้อดึงขนาดนี้  ขนาดกล้าออกมาทำลายชาติของตัวเอง  อย่างนี้ก็จบแล้ว 
     ผมจึงไม่จำเป็นจะต้องไปคิดค้นคว้าหาความจริงมาเสนออีกต่อไป   เพราะไม่มีคนฟังแล้ว  ผมจึงต้องขอลาพักร้อนสักระยะหนึ่ง  หายร้อนเมื่อไหร่แล้วจะเขียนมาใหม่ครับ
                                                       ขอแสดงความนับถือ
                                                            พินิจนันท์
ตอบ คุณพินิจนันท์
     อย่าเพิ่งสิ้นหวัง   เพราะอนาคตไม่มีใครรู้  บางทีเรื่องที่เราคิดว่าน่าจะเป็นกลับไม่เป็นดังที่คิด   มองโลกในแง่ดีเข้าไว้  จิตใจจะได้ไม่เครียด  เพราะถึงอย่างไรคนไทยก็ต้องอยู่คู่แผ่นดินไทย
                                                        สามวา สองศอก

http://www.thaipost.net/news/220410/21126


หัวข้อ: Re: [2513]"ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: เหยง 16 ที่ 22 เมษายน 2553, 10:22:01
โลกของ Facebook-โลกของดวงดาว
เปลว สีเงิน 22 เมษายน 2553 - 00:00

 เพื่อนเอ้ย...ข้างหน้าคือทะเลนรก  กลับใจคือฟากฝั่ง  วันนี้-ยังไม่สายเสียทีเดียว  "วีระ-จตุพร-ณัฐวุฒิ-เหวง"   ทางรอดที่ยังพอเอา  "หน้ารอด"  ได้อยู่ก็คือ  เข้าสู่กระบวนการเจรจารอบ  ๓  แก้เชือกที่สนตะพายปล่อยม็อบกลับบ้านไปซะ  "๖  เดือนยุบสภา"  ผมรับประกันรัฐบาลโอเคแน่ๆ   แต่ถ้ายังเชื่อกองกำลัง  "อีแอบแดง"  ของทักษิณที่แฝงอยู่ในกองทัพและกรมตำรวจ  "หลอกใช้"  ให้เป็นแนวหน้าขบวนการนำ  "กบฏ"  อยู่ละก็
     ระวัง...เงินเป็นสิบ-เป็นร้อยล้านที่ทักษิณจ้าง   จะได้ใช้  "คนละบาท"  คาปาก  เดี๋ยวจะว่าไม่บอก!?
     ระยะนี้ผมก็แอบปลื้มใจเงียบๆ  อยู่คนเดียว  เพราะเห็นคนไทย  โดยเฉพาะ  "หนุ่ม-สาว"   รุ่นใหม่  เขาใช้ช่องทางอินเทอร์เน็ต  "กู้ชาติ-ปราบกบฏ"  ได้อย่างมีประสิทธิภาพน่าตื่นตา-ตื่นใจ  ใครว่า  "คนรุ่นใหม่ไร้สาระ"  ต้องคิดใหม่แล้วละ  เพราะถึงคราวเป็นเรื่อง-เป็นราว  ที่ว่าเขาใช้ไอทีแบบอีเหละเขละขละ
     กลับเห็นกันจะจะ  ที่ว่าไร้สาระนั่นแหละ  กลับเป็น  "ตัวหลัก"  ผลักและดึง  "พลังเงียบ"   ให้ออกมารวมตัวกันเป็น  "มวลมหาประชาชน"  คนหลากสี  ทยอยออกมาจากตรงนั้น-ตรงนี้  แต่ละจุดในกรุงเทพฯ  และขณะนี้  "เป็นตัวอย่างที่ดี"  ดึงให้มหาประชาชนรักชาติ  รักใน  "พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว"  ในแต่ละจังหวัดทั่วประเทศ
     ออกมารวมตัว  "ปรากฏชัด"  เป็นพสกใต้เบื้องพระยุคลบาท  พิทักษ์สถาบันชาติด้วยชีวิต!
     ผมมันเป็นคน  "ตกยุค-ตกรุ่น"  ทำหน้าที่อย่างมีประสิทธิภาพด้วยเทคโนโลยีทันสมัยอย่าง  "หนุ่ม-สาวรุ่นใหม่"   เขาไม่เป็น  เอะอะก็จะลุยทุ่งรำหอก-รำดาบท่าเดียว  เรียกว่าใช้อารมณ์มากกว่าปัญญา  แต่หนุ่ม-สาวรุ่นใหม่  เขามองปัญหาด้วยการพินิจ-พิจารณา  กลั่นแล้ว-กรอง
แล้ว  จึงใช้  "ปัญญาเป็นอาวุธ"
     โดยใช้เว็บไซต์เป็นทาส  ไม่ใช่ตกเป็นทาสไอที  ดังนั้น  พอสถานการณ์ถึงที่  เขาจึงเปิดสนามรบ   แล้วรุกทางไอที  นัดกันพรึ่บเดียว  คลิกเดียว  มาพร้อมกันเป็นหมื่น-เป็นแสน  ณ  จุดนั้น-จุดนี้  แล้วเคลื่อนไปอย่างมียุทธศาสตร์-ยุทธวิธี  เรื่องนี้ก็ต้องยกเครดิตให้  "หมอตุลย์-พลเอกปฐมพงศ์"  เขาด้วย
      "คนรุ่นใหม่"  ก็ใหม่ตามวัยและยุค  แต่จิตสำนึกด้วยหัวใจ  "เลือดไทย"  ของหญิง-ชายยุคใหม่  "เลือดไทยก็คือเลือดไทย"
     ไม่ปรารถนาให้  "เลือดไพร่สถุล"  อย่างทักษิณมาแปดเปื้อน-ปะปน!
     ส่วนพี่น้องเสื้อแดงทั้งหลายไม่ว่าในกรุงเทพฯ  หรือต่างจังหวัด  ยกเว้นบรรดาแกนนำกว่า  ๒๐  คน  นั่นก็  "เลือดไทย"  เช่นเดียวกับ  "หนุ่ม-สาวรุ่นใหม่"  ที่กำลังนำชาติทั้งหลาย   เพียงแต่ความซื่อ-เชื่อง่าย  และความเป็นคนในสังคมด้อยจึงถูกครอบงำด้วย  "อิทธิพลถิ่น"  ไปขัดขืนเขาก็อยู่ไม่ได้  ฉะนั้น  เขาให้ไปไหน-มาไหน  ก็ต้องไปกับเขา
     วันนี้เรามี   ชุมชนชาวสีลม-ชุมชนชาวนางเลิ้ง-ชุมชนชาวคลองเตย-ชุมชนชาวนราธิวาสราชนครินทร์-ชุมชนชาวเยาวราช-ชุมชนชาวอนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ-ชุมชนชาววงเวียนใหญ่   และกำลังขยายตัวออกไปเรื่อยๆ  เป็นชุมชนที่ปฏิเสธและขับไล่  "เสื้อแดงทักษิณ"  ให้ออกไปจากพื้นที่!
     ผมมันเป็นคนโลว์เทค   ต้องขออภัยทุกๆ  ท่านที่รับผมเป็นเพื่อนในเฟซบุ๊ก  ก็ด้วยคนโลว์เทคอย่างที่บอก   ฉะนั้น  ที่ผมไม่ได้ติดต่อเข้าไปพบปะ-พูดคุย  อย่านึกว่าผมจองหองพองขนอะไรเลย  พูดกันชัดๆ  "ผมใช้เฟซบุ๊กไม่เป็น"  นั่นแหละครับ
     วันนี้  อาจารย์  "กรหริศ  บัวสรวง"  ท่านให้ความรู้ด้านดวงดาวมาเผยแพร่อีก  อาจเป็นประโยชน์สำหรับท่านบ้าง  อ่านดูนะครับ

                         ดวงดาวกับคุณธรรม

     ผมคงต้องพึ่งคอลัมน์ของคุณเปลว  สีเงิน  อีกสักครั้งเพื่อแสดงถึงเหตุผลทางโหราศาสตร์ต่อดวงเมืองและดวงของนายกรัฐมนตรีที่มีโหรบางคนหรือหลายคนกลับคำพยากรณ์ของตัวเองไปตามสถานการณ์  อย่างเช่น  คุณ.......ที่มีฉายาว่า.......ผมเองนั้นเบื่อหน่ายความสับปลับของคนในสังคมเป็นอย่างมาก  ความหวั่นไหวของคนไทยจึงเกิดขึ้นยิ่งกว่าคลื่นสึนามิ  ยิ่งมีคำทำนายทายทักออกมามาก  ความน่าเชื่อถือของโหราศาสตร์ก็ถูกทำลายไปด้วย
     ประเด็นที่ขอนำเสนอต่อไปนี้  คือการพิจารณาการโคจรของดาวอาทิตย์ที่เป็นดาวประจำดวงเมือง  และ  "ดาวประจำตัวผู้นำประเทศ"  ได้เข้าสู่ราศีเมษมาหลายวันแล้ว  ดาวอาทิตย์เป็นตนุเศษของดวงเมือง  มีดาวอังคารเป็นตนุลัคน์  ดาว  2  ดวงนี้คือดาวแห่งขุมพลังอำนาจ  ซึ่งมีผลต่อประเทศเป็นอย่างมาก  ส่วนดาวเทพเทวาที่คุ้มครองบ้านเมืองอยู่คือดาวพฤหัสบดี  แต่ก็มีดาวราหูคือดาวกบฏรกแผ่นดินเข้ามาแทรกแซงตั้งแต่ปีก่อนจนถึงปัจจุบันนี้  ดวงดาวได้ชี้นำให้เห็นว่า  ถึงวันเวลาที่จะจัดการให้บ้านเมืองเป็นปกติสุขได้แล้ว
     ในช่วงที่คุณอภิสิทธิ์  เวชชาชีวะ  ได้เป็นนายกรัฐมนตรีนั้น  ดาวพฤหัสบดีในดวงเดิมเป็นราชาโชคที่ราศีเมษ  เล็งลัคนาที่มีดาวอาทิตย์เป็นมหาจักรกุมลัคน์  และยังส่งกระแสไปยังภพกัมมะที่หมายถึงการได้ตำแหน่ง  และในอีกไม่กี่วันข้างหน้า  คือ  วันที่  26  เมษายนนี้  ดาวพฤหัสบดีจะย้ายเข้าสู่ราศีมีนเป็นเกษตรที่หมายถึงความมั่นคง   ทำมุมโยคหลังไปยังถึงลัคนาที่มีดาวอาทิตย์รออยู่แล้ว   เป็นการเกื้อหนุนให้ดวงชะตานายกฯ  อภิสิทธิ์ดียิ่งขึ้นไปอีก  ทำให้อยู่ในตำแหน่งหน้าที่ได้จนครบวาระ   รวมถึงจะทำให้มีการใช้กฎหมาย  ความถูกต้อง  ความเป็นธรรมได้อย่างชัดเจน  และได้รับความคุ้มครองจากความบริสุทธิ์ใจในการบริหารจัดการให้เกิดความสงบเรียบร้อย
     ในส่วนของดวงเมืองนั้นได้ก้าวเข้าสู่  ร.ศ.229  (กรุงรัตนโกสินทร์อายุย่าง  229  ปี)  ดาวพฤหัสบดีจรทับดาวราหูในภพวินาศ  แต่ดาวพฤหัสบดีได้มาตรฐานเป็นเกษตรเข้าเรือนของตนเอง  และยังเป็นศรีจรในทางทักษา  และดาวเสาร์จรที่อยู่ในภพอริจะเป็นเดชจรในทางทักษา  ตรงนี้แหละที่ทำให้ความเห็นของนักโหราศาสตร์แตกต่างกันอย่างสิ้นเชิง
     ฝ่ายหนึ่งว่าจะเกิดความวิบัติหายนะแก่ประเทศ   เพราะดาวโคจรเข้ามุมอับ  ซึ่งก็มีส่วนจริงอยู่บ้าง   เพราะจากสถิติที่ผ่านมาเมื่อวันที่  29  มิถุนายน  พ.ศ.2494  เกิดกบฏแมนฮัตตัน  เนื่องจากทหารเรือกลุ่มหนึ่งจับตัวจอมพล  ป. พิบูลสงคราม  ไปไว้ในเรือรบหลวงศรีอยุธยา   ในปีนั้นดาวเสาร์จรอยู่ในภพอริเล็งดาวพฤหัสบดีจรในภพวินาศเหมือนในปี  2553  นี้  จึงต้องมีการปราบกบฏทักษิณ  (อย่างที่คุณเปลวเขียนไว้)  และหลีกเลี่ยงไม่ได้ที่จะต้องมีการเสียเลือดเนื้อ  บาดเจ็บล้มตาย  ถ้าไม่ยอมยุติการชุมนุม  รัฐบาลและทหาร  ตำรวจมีความชอบธรรมที่จะใช้กฎหมายและอำนาจเด็ดขาดจัดการเหมือนอย่างที่  พ.อ.สรรเสริญ  แก้วกำเนิด  พูดว่า  "อะไรจะเกิดมันก็ต้องเกิด"  แต่ก็จะพยายามให้เกิดความเสียหายน้อยที่สุด  ส่วนความเห็นของผมนั้นจะอยู่ตรงกันข้ามกับการนำดวงเมืองจรในอดีตมาเปรียบเทียบกับสถานการณ์ปัจจุบัน  เพราะในทางทักษาจรที่กล่าวมาแล้วมีอำนาจหักล้างกันได้  ดวงประเทศไม่มีทางล่มจม  และดวงนายกรัฐมนตรีก็ไม่มีอะไรน่าเป็นห่วง  ขนาดดาวพฤหัสบดีจรก่อนวันที่  26  เมษายน  จะเข้าสู่ภพมรณะ  ก็มีผลเพียงให้ต้องปิดบังตัวเองให้อยู่ที่ลับและไม่อาจตัดสินใจได้อย่างเฉียบขาดเท่านั้น
     ผลจากคำพยากรณ์ของโหรบางคนที่กลับลำกลางคันและเห็นแตกต่างกันนั้น  มีข่าวว่านายกฯ  มีความอ่อนไหวอยู่บ้าง  เพราะห่วงชาติบ้านเมือง  แม้ว่าท่านจะไม่ได้เชื่อโหราศาสตร์เหมือนอดีตนายกรัฐมนตรีหลายคน  นอกเหนือจากเรื่องของดวง  ผมยังเชื่อว่าประเทศไทยมีสิ่งศักดิ์สิทธิ์  และพระบารมีของ  "พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว"  คอยปกป้องอยู่ตลอดเวลา
     ส่วนที่สี่แยกราชประสงค์นั้น  ทุกมุมมีเทพชั้นสูงประจำอยู่  ใครทำชั่วทำไม่ดี  ทำความสกปรกในบริเวณนั้น   เท่ากับเป็นการลบหลู่ดูหมิ่นและย่อมได้รับการลงโทษ  เสื้อแดงหลายคนเกิดอุบัติเหตุถึงตาย  และบาดเจ็บเมื่อเดินทางกลับไป  ไม้ไผ่  ไม้รวก  ที่เหลาให้เป็นปลายแหลมนั้นจะทิ่มแทงเข้าตัวเอง  ตาข่ายหรือแสลนสีดำนั่นก็เป็นสื่อมรณะได้เหมือนกับเป็นลางร้ายบอกเหตุ
     ในที่สุดก็คงเหมือนที่ผมเคยพยากรณ์ไว้ว่า  "ต้นร้ายปลายดี"  จึงอยากให้ประเทศได้ผ่านเหตุการณ์นี้ไปโดยเร็ว  ทุกคนจะได้สบายใจ  และอย่าได้เศร้าสลดใจกับความสูญเสีย  เพราะพวกเขาเลือกที่จะมากันเอง

                        "กรหริศ  บัวสรวง"
     ครับ...อีเมล์ถึงผมมากมาย   จะค่อยๆ   นำมาแบ่งปันกันอ่าน  "หนุ่ม-สาว"  รุ่นใหม่   เขาคิดกันอย่างไร  จะให้อ่านเป็นตัวอย่างซัก  ๑  ฉบับก่อน  ดังนี้

     เรียน คุณเปลวสีเงินที่เคารพ
     หลังจากที่หนูได้อ่านบทความล่าสุดของคุณเปลวในวันที่  21  เมษายน  2553  ก็ไม่อาจที่จะหลับตาลงได้โดยไม่ทำอะไรสักอย่าง  หนูจึงตัดสินใจเขียนจดหมายฉบับนี้มาเพื่อแสดงเจตนารมณ์ที่แท้จริงให้คุณเปลวทราบว่า  "เรารักชาติและพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวยิ่งชีวิต  จะไม่มีวันยอมให้ไอ้คนชาติชั่ว  ที่เห็นแก่ตัว  มาทำลายชาติและราชวงศ์ได้  หากนายทหารและรัฐบาลทำอะไรไม่ได้หรือไม่ทำอะไรเลย   เราจะออกมาทำหน้าที่เพื่อปกป้องประเทศชาติและราชบัลลังก์ด้วยตัวเอง"
     "จะมีประโยชน์อะไรที่จะรักษาตัวให้รอดและปลอดภัย  หากประเทศชาติต้องถูกทำลาย  และจะมีประโยชน์อะไรที่จะรักษายศและตำแหน่งไว้  หากไม่มีความดีให้จดจำ"  คำพูดหรือคำเรียกร้องของคุณจะมีความหมายอย่างแน่นอน  เพราะเมื่อถึงเวลาอันสมควร  เราจะออกมาปราบกบฏชั่วพวกนี้ด้วยมือของเราเอง  และจะตามล่าหาตัวมันจนสุดขอบฟ้า  เพื่อจบปัญหาทั้งหมดที่ต้นเหตุ"
     หนูสัญญาค่ะว่าคุณจะไม่มีวันเดียวดาย  พ.อ.ร่มเกล้า  และเหล่าทหารกล้า  จะไม่มีวันตายฟรี  ประเทศไทยและสถาบันพระมหากษัตริย์จะต้องดำรงคงอยู่ตลอดไป
                                       ด้วยความรักและเคารพอย่างสูง
                                                ภัชญาดา

     สมาชิกกลุ่ม  Facebook  มั่นใจคนไทยเกิน  1  ล้านคนต่อต้านการยุบสภา
     ป.ล. หนูเขียนจดหมายฉบับนี้ด้วยเจตนาอันบริสุทธิ์  และยินดีให้คุณเปลวเผยแพร่เพื่อเป็นประโยชน์และกำลังใจให้กับทุกคนที่รักชาติ  โดยไม่จำเป็นต้องออกนาม  และยินดีช่วยเหลือ  สนับสนุนทุกอย่างอันจะก่อให้เกิดประโยชน์แก่ประเทศชาติและส่วนรวม........
     อืมมมม...แค่นี้  "เต่าตกยุค"  อย่างผม  ถึงตายก็  "ตายตาหลับ"  แล้วครับ.

 
http://www.thaipost.net/news/220410/21128


หัวข้อ: Re: [2513]"ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: เหยง 16 ที่ 22 เมษายน 2553, 13:37:15
โพสต์กระทู้ข้างบนแล้ว เน็ต ToT ล่มครับ โทรไปสอบถาม เขาบอกว่า สาย fiber optic ขาดในหลายๆจังหวัด

ทำให้ระบบเน็ตใช้การไม่ได้ และได้นัดให้ทุกสาขาระดมตรวจ/ซ่อมให้เสร็จในบ่ายนี้ ไม่ทราบว่าจะเป็นไปได้หรือไม่ ??


หัวข้อ: Re: [2513]"ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: suriya2513 ที่ 22 เมษายน 2553, 19:07:18
(http://web18.twitpic.com/img/89847065-a74651412370d9bf20200b454b33c9a7.4bd03ad6-scaled.jpg)

...
ประมาณ หนึ่งทุ่ม 22 เมย. 2513 สีลมเข้าไปไม่ได้แล้ว
No1 can get into silom now! Completly blocked off by people and police!' http://twitpic.com/1hhqft


หัวข้อ: Re: [2513]"ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: เหยง 16 ที่ 23 เมษายน 2553, 09:15:08
บทบรรณาธิการของ นสพ แนวหน้าออนไลน์

บทบรรณาธิการ   
 
ทักษิณ = คดในข้อ งอในกระดูก (บทบรรณาธิการ) 
 
 
 
 ทักษิณ ชินวัตร คือ บุคคลที่สังคมไทยจะต้องจดจำไว้ตลอดไป สาเหตุที่ต้องจำก็เพราะ เขาคือผู้ทำให้ชาติบ้านเมืองและประชาชนต้องประสบกับเหตุมิคสัญญีกลียุค ที่ต้องตราไว้ในประวัติศาสตร์การเมืองไทยยุคปัจจุบัน

 นักธุรกิจการเมืองผู้นี้ถูกกล่าวขานในทางลบอย่างมาก ชนิดที่หาตัวจับได้ยากบนเวทีการเมืองยุคใหม่ แต่หากจะเทียบเคียงพฤติกรรมน่าขยะแขยงของเขากับนักการเมืองรายอื่นๆ ทั้งอดีตและปัจจุบัน ก็ต้องรับตามตรงว่า พฤติกรรมการเมืองของทักษิณ น่ารังเกียจยิ่งกว่าพฤติกรรมของนักการเมืองน้ำเน่ารายอื่นๆ ทั่วทั้งแผ่นดิน แต่มิได้หมายความว่า นักเลือกตั้งและนักธุรกิจการเมืองรายอื่น จะสามานย์น้อยกว่าทักษิณ เพียงแต่ความเหิมเกริมของทักษิณมีมากกว่าเท่านั้นเอง

 แฟนพันธุ์แท้การเมืองไทยทราบดีว่า ทักษิณอาศัยช่องทางการเมืองเป็นทางลัด ตะกายไปสู่ตำแหน่งนายกรัฐมนตรี พรรคการเมืองแรกที่เขาใช้เป็นบันได คือ พลังธรรมของ จำลอง ศรีเมือง จากนั้นเขาก็มีพรรคเป็นของตนเองชื่อ ไทยรักไทย

 อดีตนายกรัฐมนตรี ซึ่งล่าสุดคือ นักโทษหนีคดีอาญาแผ่นดิน ถูกขนานนามจากผู้รู้เท่าทันพฤติกรรมฉ้อฉลว่า ทุรบุรุษ เพราะสังคมจับได้หลายครั้งหลายหนว่า เขาใช้อำนาจรัฐเพื่อแสวงหาผลประโยชน์ให้ตนเองอย่างมิชอบ โดยผ่านการทุจริตเชิงนโยบาย

 คนเคยใกล้ชิดทักษิณต่างตอบเป็นเสียงเดียวกันว่า ทักษิณคือ ผู้ที่ไม่เคยมีความจริงใจให้กับผู้ใด ผู้ซึ่งสามารถตอบเรื่องสำคัญนี้ ได้ชัดเจนที่สุดก็น่าจะเป็นภรรยาของทักษิณ เพราะภรรยาคือคนที่รู้ทุกการกระทำและเห็นทุกพฤติกรรมของสามีทั้งในที่ลับและแจ้ง

 ผู้เคยศรัทธาทักษิณหลายต่อหลายคนพูดตรงกันว่า ผิดหวังมากที่สุดที่หลงเชื่อและหลงยกย่องชายผู้นี้ เหตุที่หลงเชื่อก็เพราะหลงคารมที่ว่า ผมพอแล้วครับ ประเทศชาติให้ผมมามากพอแล้ว ต่อไปนี้ ผมจะตอบแทนบุญคุณของแผ่นดิน ขอให้ทุกคนช่วยผม เพื่อให้ผมสามารถช่วยเหลือประเทศชาติได้สำเร็จ

 แต่แล้วทุกคนก็ประจักษ์ว่า คำหวานที่ถูกเสกสรรปั้นแต่งคือ คำลวงโลก และพบว่าวาทกรรมการเมืองที่ทักษิณประดิษฐ์ขึ้นนั้น แท้จริงก็เพื่อผลประโยชน์ส่วนตน ซึ่งมิได้แตกต่างไปจากพฤติกรรมของนักเลือกตั้งที่ไร้จิตสำนึกสาธารณะ ผู้ไม่คำนึงถึงผลประโยชน์ระยะยาวของประเทศชาติและประชาชน

 พฤติกรรมสามานย์อีกอย่างของทักษิณที่วิญญูชนประจักษ์คือ คดในข้อ งอในกระดูก เราพบเห็นเป็นประจำว่า ทักษิณเป็นคนพูดอย่างทำอย่างตลอดเวลา พฤติกรรมเช่นนี้แสดงให้เห็นอย่างชัดเจนว่า เขาไม่มีความจริงใจและดูถูกประชาชนว่าโง่เขลาเบาปัญญา สามารถถูกซื้อและถูกหลอกได้โดยง่าย

 หลักฐานยืนยันว่า ทักษิณไม่ซื่อสัตย์ซื่อตรงต่อประชาชนและต่ออุดมการณ์ประชาธิปไตยคือ สิ่งที่ทักษิณบอกกับคนในพรรคพลังธรรมว่า การไม่ซื้อสิทธิ์ขายเสียง การไม่จาบจ้วงกล่าวเท็จมันไม่สอดคล้องกับสังคมไทย ชาวบ้านยังไม่ฉลาดพอ...ผมจะเป็นคนจ่ายเองทั้งหมดสำหรับการเลือกตั้ง แล้วหลังจากได้เป็นรัฐบาลที่มีอำนาจได้แล้วค่อยมาใช้วิธีการแบบพลังธรรม

 นี่คือหนึ่งในร้อยพันตัวอย่างที่แสดงให้เห็นว่าธาตุแท้ของทักษิณคืออะไร ธาตุแท้ที่ว่านั้นก็คือผลประโยชน์ส่วนตัวมาก่อนผลประโยชน์แผ่นดิน ซึ่งเป็นธาตุแท้ของพวกคดในข้อ งอในกระดูก ผู้ไม่เคยมีจิตสำนึกสาธารณะแม้แต่น้อย 
 
วันที่ 23/4/201
 
http://www.naewna.com/news.asp?ID=208382


หัวข้อ: Re: [2513]"ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: เหยง 16 ที่ 23 เมษายน 2553, 09:17:01
บทบรรณาธิการของ นสพ.ไทยโพสต์ ออนไลน์

ยึดรถไฟทหารขอนแก่น สะท้อนเจ้าหน้าที่รัฐไร้ประสิทธิภาพ  
บทบรรณาธิการ 23 เมษายน 2553 - 00:00

   เหตุการณ์ที่จังหวัดขอนแก่นกับการที่กลุ่มคนเสื้อแดงขอนแก่นทำการปิดล้อมขบวนรถไฟ  20 โบกี้ที่บรรทุกกองกำลังทหารและอาวุธยุทโธปกรณ์ที่แล่นผ่านสถานีรถไฟจังหวัดขอนแก่น  โดยอ้างว่าเพื่อเป็นการป้องกันไม่ให้มีการขนทหารเข้าไปในพื้นที่กรุงเทพมหานครเพราะทหารจะเข้าไปสลายการชุมนุมที่กรุงเทพมหานคร  แม้ล่าสุดทางเสื้อแดงขอนแก่นได้มีการปล่อยขบวนรถไฟดังกล่าวไปแล้วเมื่อช่วงสายวันพฤหัสบดีที่  22  เมษายน  2553  เมื่อมีการเจรจากันระหว่างคนเสื้อแดงกับเจ้าหน้าที่รัฐในพื้นที่  แต่ปรากฏว่าไม่มีการเอาผิดกับกลุ่มคนเสื้อแดงที่กระทำการดังกล่าว
     บนการรายงานข่าวว่า  การเจรจากันดังกล่าวเกิดขึ้นโดยมีคู่เจรจา  คือ  นายพยัต  ชาญประเสริฐ  รองผู้ว่าราชการจังหวัดขอนแก่น,  พล.ต.ต.ศักดา  เตชะเกรียงไกร  รองผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค  4,  พ.อ.จตุรพงศ์  บกบน  รองผู้อำนวยการ  กอ.รมน.จังหวัดขอนแก่น  และ  พ.อ.กนก  ภู่ม่วง  ผู้บัญชาการกรมทหารราบที่  8  ค่ายสีหราชเดโชไชย
     ส่วนฝ่ายคนเสื้อแดง  มี  นางซาบีนา  ซาน์  และ  นายไชยา  สิมมา  แกนนำคนเสื้อแดงขอนแก่นเป็นตัวแทนเจรจา  โดยผลการเจรจาพบข้อเท็จจริงว่าขบวนรถลำเลียงยุทโธปกรณ์ครั้งนี้จะส่งไปยังจังหวัดปัตตานีเพื่อเข้าไปดูแลความสงบเรียบร้อยในพื้นที่  3  จังหวัดชายแดนภาคใต้  ไม่ได้จะผลัดเปลี่ยนกำลังกันเข้ามากรุงเทพมหานครเพื่อเข้ามาสลายการชุมนุมที่สี่แยกราชประสงค์ตามที่แกนนำเสื้อแดงขอนแก่นกล่าวอ้าง
     โดยปรากฏว่าแกนนำเสื้อแดงขอนแก่นไม่ได้ถูกเอาผิด  โดยตำรวจอ้างว่าที่ไม่เอาผิดเพราะเป็นความผิดลหุโทษ  เนื่องจากขบวนรถทหารยังอยู่ในรางคู่ขนาน  ยังไม่ได้เชื่อมหัวรถจักรเพื่อขับเคลื่อนเข้ารางรถไฟที่จะเป็นเหตุให้ส่งผลกระทบต่อขบวนรถไฟสายอื่นๆ  จึงถือว่าไม่มีความผิดและไม่ถือว่าเป็นการสร้างความเสียหายให้กับรัฐหรือหน่วยงานราชการใดๆ  ทั้งสิ้น
     เรื่องนี้แม้จะเป็นการแก้ปัญหาในทางรัฐศาสตร์ที่เจ้าหน้าที่รัฐต้องการให้ปัญหาถูกแก้ไขโดยเร็ว  จึงพยายามประนีประนอมกับกลุ่มคนเสื้อแดง  ทว่าก็เป็นเรื่องไม่เหมาะสมเช่นกันที่คนซึ่งมีพฤติการณ์ข่มขู่  ขัดขวางการทำงานของเจ้าหน้าที่รัฐ  ถึงขั้นใช้กฎหมู่มาทำให้กระบวนการทำงานของภาครัฐโดยเฉพาะกับทหารซึ่งต้องเป็นฝ่ายดูแลความสงบเรียบร้อยของบ้านเมืองและบังคับใช้กฎหมายอย่างเคร่งครัด  แต่ทหารก็ยังต้องถูกคนเสื้อแดงใช้อำนาจและกฎหมู่บีบบังคับถึงขั้นขวางขบวนรถไฟอันถือเป็นเรื่องใหญ่มากที่ไม่ควรยอมยุติเหตุกันง่ายๆ  เช่นนี้  เพราะหากเป็นเช่นนี้ต่อไป  อีกหน่อยหากมีใครไม่พอใจเจ้าหน้าที่รัฐและอยากใช้อำนาจบาตรใหญ่ไปกักตัวหรือขัดขวางการทำงานของเจ้าหน้าที่รัฐโดยไม่มีเหตุผลอันชอบธรรมแบบนี้  บ้านเมืองก็ไม่แตกต่างอะไรกับอนาธิปไตยที่กฎหมายไม่มีความศักดิ์สิทธิ์เท่ากฎหมู่  ประเทศชาติจะยิ่งปั่นป่วนวุ่นวายหนักมากขึ้นไปอีกไม่ใช่หรือ
     แล้วที่น่าสงสัยคือ  เจ้าหน้าที่รัฐในพื้นที่โดยเฉพาะตำรวจปล่อยให้เกิดเหตุการณ์เช่นนี้ขึ้นได้อย่างไร  ทำไมไม่เข้าไปคลี่คลายสถานการณ์  ไม่เข้าไปดำเนินคดีกับคนที่ทำผิดกฎหมาย  เกียร์ว่างและละเว้นการปฏิบัติหน้าที่หรือไม่  ขืนหากเป็นเช่นนี้กันต่อไปเรื่อยๆ  หากจะมีการยกกำลังไปปิดล้อมศาลากลางจังหวัด  บุกเข้าไปจับกุมตัวผู้ว่าราชการจังหวัดเป็นตัวประกัน  ยกพวกปิดล้อมสนามบินในจังหวัด  แล้วอ้างว่าเพื่อเป็นการป้องกันไม่ให้มีการสลายการชุมนุมในกรุงเทพมหานครอะไรจะเกิดขึ้น
     สิ่งเหล่านี้จะไม่เกิดขึ้น  หากเจ้าหน้าที่รัฐจะแสดงความเข้มแข็งในการปฏิบัติหน้าที่อย่างจริงจังทุกครั้งที่พบเห็นการกระทำผิดกฎหมาย  หรือประเมินสถานการณ์ว่า  หากปล่อยไว้จะทำให้เกิดเหตุวุ่นวายในสังคม  เพราะไม่อย่างงั้นคนที่กระทำการก็จะได้ใจและคิดว่าเจ้าหน้าที่รัฐอ่อนแอปวกเปียก  คิดจะทำอะไรก็ได้  เย้ยกฎหมาย  ฉีกทิ้งกฎระเบียบบ้านเมืองและสังคม  ถึงตอนนั้นสังคมอนาธิปไตยคงลุกลามบานปลายจนเกินกว่ารัฐจะแก้ไขสถานการณ์ให้กลับสู่สภาวะปกติได้
     ยิ่งตอนนี้สถานการณ์การเผชิญหน้าของกลุ่มบุคคลต่างๆ  กำลังเข้าสู่สภาวะหน้าสิ่วหน้าขวาน  กลุ่มประชาชนหลายกลุ่มกำลังก่อตัวขึ้นเพื่อแสดงความไม่เห็นด้วยกับการเคลื่อนไหวของคนเสื้อแดง  อันสุ่มเสี่ยงที่จะเกิดเหตุการณ์เผชิญหน้ากันขึ้นระหว่างคนไทยด้วยกันเอง  เหมือนกับที่เกิดขึ้นบ้างแล้วกับการที่กลุ่มคนสีลมปะทะกับกลุ่มคนเสื้อแดงที่บริเวณสี่แยกศาลาแดง-พระรามสี่-สีลมเมื่อกลางดึกคืนวันพุธที่  21  เมษายน  2553  ซึ่งเป็นสิ่งที่ไม่ควรเกิดขึ้นเช่นกัน  หากเจ้าหน้าที่รัฐคือทหารและตำรวจจะแสดงความเข้มแข็งในการดูแลสถานการณ์ไม่ให้มีการเผชิญหน้ากัน  เพราะแม้จะมีการแบ่งสีแบ่งขั้วการเมืองกัน  แต่ทุกคนก็คือคนไทยด้วยกันเองที่สุดท้ายก็ไม่ควรต้องมาปะทะกันเองเช่นนี้   วิกฤติการเมืองที่กำลังเกิดขึ้นตอนนี้   เจ้าหน้าที่รัฐทั้งทหาร  ตำรวจ  ฝ่ายปกครองจึงมีส่วนสำคัญไม่น้อยกับการจะช่วยคลี่คลายสถานการณ์จากร้อนให้เป็นเย็น  หรือจะกลายเป็นการยิ่งเพิ่มเชื้อไฟให้เกิดการเผชิญหน้าจนสถานการณ์แตกหักมากขึ้น  หากว่าละเว้นการปฏิบัติหน้าที่และการบังคับใช้กฎหมายอย่างจริงจัง.

http://www.thaipost.net/news/230410/21191


หัวข้อ: Re: [2513]"ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: เหยง 16 ที่ 23 เมษายน 2553, 09:18:33
บทความของ คุณเปลว สีเงิน

เมื่อถึงครา"นครา"คล้ายใกล้กรุงแตก
เปลว สีเงิน 23 เมษายน 2553 - 00:00

  อืมมมม....ผมก็คุยในมุมของผมคนเดียวมานาน  วันนี้-เหม็นควัน  M  79  ก็ให้  "หนุ่ม-สาวชาวเว็บ"  เขาคุยในมุมของเขาบ้าง  แต่อยากจะบอก  "ชนชาวสีลม"  ซักนิดว่า  อย่
าไปขว้างปา-ด่าทอกับม็อบแดงเขาเลย   หนามกุหลาบไม่เคยแทงใคร  จนกว่ามีมือไหนมาแตะ  ฉันใด  ก็ขอให้  "ทุกชาวชุมชน"  จงซ่อนความแข็งแกร่งในความงามแห่งชนชาววิไลเอาไว้  ในเมื่อยังไม่ใช่เวลา  ฉะนั้น  อย่าไปอนารยะให้เสียวรรณะ  "หนุ่ม-สาวชาวเว็บไซต์"  ผู้ต้องใช้สติ-ปัญญาให้มากกว่าแรง!
     ขณะนี้  "หน้าที่ปราบกบฏ"  ยังไม่ใช่ของประชาชน  รอดู  "พลเอกอนุพงษ์  เผ่าจินดา"  ผบ.ทบ.เขาก่อน  เช้าวันศุกร์นี้  (๒๓  เม.ย.๕๓)  เขาจะประชุมระดับใหญ่  "ของกองทัพ"  ทั้งแผง  หลังจากที่เลื่อนมาแต่วันจันทร์  แต่ผมชอบมองล่วงหน้า  จึงขอบอกว่า  เหตุการณ์เดือนเมษานี้แค่ออเดิร์ฟ
     เมนคอร์สจะหนักหนาสาหัสกว่านี้  แต่จะเสิร์ฟเดือนไหน?  อย่ารีบร้อนรู้เลย  ผบ.ทบ.ท่านยุรยาตรนัดประชุมใหญ่เช้านี้  แต่เมื่อคืน  (๒๒  เม.ย.)  กรุงเทพมหานคร  เมืองหลวงของประเทศไทยกลายเป็น  "แดนมิคสัญญี"  เป็นข่าวด่วนไปทั่วโลก  จากน้ำมือ  "กองกำลังก่อการร้าย"  ที่สนับสนุนฝ่ายกบฏทักษิณ
     ๒  ทุ่ม  ตูม...ตูม..ที่สถานีรถไฟฟ้าบีทีเอส  ศาลาแดง  ใกล้สามทุ่ม  อีกตูม...ที่ใกล้ดุสิตธานี  สามทุ่มอีกตูม..ตูม..ที่บริเวณแบงก์กรุงเทพ  สำนักงานใหญ่
     สีลมกลายเป็น  "คิลลิ่ง  โซน"  โกลาหล-อลหม่าน  เลือดนองด้วยน้ำมือ  "กองกำลังก่อการร้าย"  เหมือนจำลอง  ๓  จังหวัดใต้ไว้ที่กรุงเทพฯ!
     ไม่เป็นไร........
     อยู่ให้เป็นสุขเถิด  "นายพลตำรวจ-นายพลทหาร"  ของข้า  ปวงประชาตายแทนเอง!?
     แล้วนี่...ขณะที่เมืองระส่ำ  คำสั่งจากศาลก็แทรกเข้ามา  คือศาลแพ่งท่านมีคำสั่งเมื่อค่ำวานนี้  (๒๒  เม.ย.)  ห้ามนายกฯ  อภิสิทธิ์กับนายสุเทพใช้กำลังสลายการชุมนุม  โดยท่านบอกว่า  "หากจะดำเนินการใดๆ  ให้ปฏิบัติตามขั้นตอนตามหลักสากล  ที่เริ่มจากมาตรการจากเบาไปหาหนัก"!
     เอาละ..อ่านจดหมายจากหนุ่ม-สาวชาวเว็บดีกว่า  ผมขอเวลาไปทำใจ
     สวัสดีค่ะ  ป๋าเปลว  ขออนุญาตเรียกนะคะ  หนูและครอบครัวเป็นสมาชิกไทยโพสต์ยุคบุกเบิกแรกเริ่มประจำหมู่บ้านสหกรณ์ค่ะ  อยากจะเขียนจดหมายมาคุยกับป๋าเปลว  เพราะรู้สึกอึดอัดใจเหลือเกินกับสถานการณ์บ้านเมือง  ณ  ปัจจุบัน  ความไม่ได้ดังใจในหลายๆ  เรื่องตามประสาคนเลือดร้อน  วันนี้ได้โอกาสเลยอยากจะเล่าเรื่องให้ป๋าเปลวฟังหน่อยค่ะ
     เรื่องเล่าจากสีลม
     ปกติแล้วเป็นคนที่ต้องไปออกกำลังกายตอนเช้า  ทุกวันจะไปที่สยามพารากอน  แต่ตั้งแต่ที่พวกเสื้อแดงยึดราชประสงค์แล้วห้างแถวนั้นต้องปิดหมด  เลยต้องย้ายไปออกกำลังกายที่สีลมบ้าง  อโศกบ้าง  หนูเป็นคนนึงที่ติดตามการเมือง  (ไม่อย่างนั้นจะเป็นสมาชิกของเปลวได้ยังงัยคะ)  สิ่งที่น่าสนใจมากที่อยากจะเล่าให้ฟังคือ  สมาชิกผู้หญิงซึ่งปกติแล้วเราจะใช้ห้องแต่งตัวเป็นสถานที่คุยกัน  เท่าที่สังเกต  ทุกกลุ่มจะต้องคุยเกี่ยวกับเรื่องการเมือง  การชุมนุมของพวกเสื้อแดง  คิดว่าน่าจะเกินร้อยละ  90  เลยนะคะ  ที่อยู่ฝั่งตรงข้ามกับเสื้อแดง  สนับสนุนรัฐบาล  นายกฯ  อภิสิทธิ์  วิจารณ์การชุมนุมกันสนุกสนาน  หนูฟังไปยิ้มไป  สนุกดีค่ะ  พวกพี่ๆ  ผู้หญิงที่นี่สุดยอดจริงๆ  ค่ะ
     โดยเฉพาะตั้งแต่วันจันทร์ที่ผ่านมา  ที่ทหารต้องตรึงกำลังที่ถนนสีลมเป็นวันแรก  การพูดคุยเริ่มเข้มข้น  มีการพูดคุยเรื่องการไปให้กำลังใจทหาร  ไม่มีแม้แต่คนเดียวที่ว่าทหารว่าสร้างความเดือดร้อน  มีแต่ว่าพวกกลุ่มเสื้อแดงที่สร้างความเดือดร้อน  มีคนนึงพูดว่า  อุ่นใจที่มีทหารอยู่แถวนี้   แล้วก็มีพี่หลายๆ  คนเลยค่ะ  ที่ทำอาหารกล่องไปให้  มีคนนึงเล่าให้ฟังว่าตื่นตั้งแต่ตี  4  มาทำกระเพราไก่ไปให้ทหารกินเป็นอาหารเช้า  อีกคนนึงคิดถึงเมนูวันต่อๆ  ไป  ว่าจะทำอะไร  ส่วนตัวหนูเองก็คิดนะคะว่า  เราควรจะให้อะไรแก่พวกพี่ทหารดี  เพื่อเป็นการแสดงความขอบคุณที่พวกพี่ๆ  เขามาช่วยดูแลพวกหนู  ก็ซื้อของไปฝากพวกพี่ๆ  เขาวันละนิดวันละหน่อยตามกำลังที่ตัวเองพอจะมีค่ะ  แต่แค่นี้หนูก็ภูมิใจแล้วค่ะ
     เรื่องเล่าจากชาวต่างชาติ
     ช่วงหยุดสงกรานต์ที่ผ่านมา  ได้มีโอกาสต้อนรับลูกค้าซึ่งเป็นชาวมาเลเซีย  ขอเรียกเขาว่า  มิสเตอร์  R  นะคะ  มิสเตอร์  R  มาทำงานที่เมืองไทยหลายครั้งแล้ว  แต่มุมมองที่เขามองเมืองไทยสิคะน่าสนใจ   ทำให้นึกถึงบทคามที่ได้อ่านมานานแล้วที่พูดถึงว่า  ประเทศรอบๆ  ตัวเรา  (กลุ่มอาเซียน)  เขาติดตามข่าวสาร  ศึกษาและสนใจที่จะรู้เรื่องราวของประเทศไทยดีกว่า   ในขณะที่คนไทยเรานั้นไม่เคยสนใจติดตามข่าวสารของเราเลย  (หนูก็เป็นหนึ่งในนั้นค่ะ)  หลังจากที่ได้คุยแล้วก็คิดว่าน่าจะจริงกับคำพูดนี้นะคะ  นี่คือมุมมองของชาวมาเลเซียนะคะที่มีต่อการเมืองไทย  ถึงแม้ภาษาอังกฤษหนูจะไม่ดีเลิศ  แต่ขอรับรองว่าไม่ได้แต่งเติมเลยนะคะ  อันนี้เป็นคำพูดของเขาล้วนๆ  เลยค่ะ
     มิสเตอร์  R  พูดเกี่ยวกับเรื่องการชุมนุมของคนเสื้อแดง  เขารู้ว่าพวกนี้เป็นพวกที่ต่อสู้เพื่อทักษิณ  เขารู้ว่าทักษิณคอรัปชั่น  เป็นบุคคลที่อยู่เบื้องหลังการชุมนุมนี้  เขาบอกว่า  มันเลวร้ายมากเลยนะที่พวกเสื้อแดงทำอย่างนี้   มาชุมนุมที่ถนนราชประสงค์เศรษฐกิจเสียหายขนาดไหน  ทำไมคนแค่ไม่กี่สิบคนที่ต่อสู้เพื่อคนคนเดียวกลับทำให้คนธรรมดาเป็นล้านคนเดือดร้อน  แล้วจริงเหรอที่ตำรวจกับทหารไม่ให้ความร่วมมือกับรัฐบาล
     โห..มันจี๊ดมากเลยค่ะ  หนูก็เลยถามว่า  ทำไมคุณถึงรู้เรื่องการเมืองไทยมากขนาดนี้  เขาบอกว่า  เขาก็อ่านจาก  Bangkok  Post  บ้าง  จาก  website  บ้าง  นี่คือโลกแห่งข่าวสาร  โลกแห่ง  internet  เลยนะคะ  หนูก็เลยถามกลับเขาไปบ้างเกี่ยวกับการเมืองบ้านเขา  เขาก็เล่าให้ฟังว่า  ของเขาเนี่ยความที่รัฐบาลเป็นเสียงข้างมากกกก  แล้วอยู่ในอำนาจมานาน  ทำให้ทั้งทหารและตำรวจก็เป็นของรัฐบาลทั้งหมด  ใครที่ต่อต้านหรือทำตัวเป็นฝ่ายตรงข้ามก็จะถูกจัดการ  ถูกยัดข้อหา  สื่อที่ออกข่าวโจมตีก็จะถูกคุกคาม  ถูกปิด  เทียบกับบ้านเราแล้ว  รัฐให้อิสระเสรีมากกกก  รัฐบาลเขาจะให้ความสำคัญกับมุสลิมซึ่งเป็นคนส่วนมากของประเทศ  ต้องออกนโยบายประชานิยมที่เอาใจ  เพื่อให้ได้ฐานเสียงมากๆ  รู้สึกคุ้นๆ  มั้ยคะ
     เรื่องภาษา  หนูมีลูกค้าจากมาเลเซียหลายราย  ส่วนใหญ่จะเป็นมาเลย์-จีนค่ะ  ซึ่งถือเป็นคนส่วนน้อยของประเทศเขา  เวลาติดต่อกันก็จะใช้ภาษาอังกฤษค่ะ  บางครั้งเวลาเห็นเขาติ
ดต่อกันเอง  เขาพูด  3  ภาษา  คือ  ภาษาแขก  อังกฤษ  และจีน  หนูก็คิดว่า  โห  เจ๋งมากเลย   พูดได้ทั้ง  3  ภาษา  แล้วก็พูดดีด้วย  ด้วยความข้องใจหนูก็เลยพูดกับมิสเตอร์  R  ว่า  หนูทึ่งกับการที่พวกเขาพูดได้หลายภาษานะ  ทั้งจีน  มาเลย์  อังกฤษ  แต่เขาตอบหนูกลับมาว่า
     "นี่มันไม่ใช่เรื่องดีนะ  การพูดหลายภาษาทำให้มันไม่มีความเป็นเอกภาพของคนในประเทศ  และก็เป็นปัญหาที่ทำให้พวกเขาดูแตกแยก  ในขณะที่ประเทศไทย  คุณมีภาษาไทยเพียงภาษาเดียวนั่นคือความเป็นชาติ"
     โอ้โห  พอฟังถึงตรงนี้เลือดความเป็นไทยของหนูพลุ่งพล่านเลยค่ะ  ซาบซึ้งในพระมหากรุณาธิคุณของพระมหากษัตริย์ในราชวงศ์จักรีทุกพระองค์ที่ทรงปกป้องประเทศไทยของเราให้เป็นเอกราชจนถึงทุกวันนี้  แต่เขาก็ยังมีคำพูดที่ทิ่มแทงหนูอีกว่า  "น่าแปลกนะเพียงแค่พวกคุณใส่เสื้อพวกคุณก็กลายเป็นคนละฝั่งกันทันที"  แล้ว  มิสเตอร์  R  ก็ถามหนูว่า  "แล้วคุณล่ะเสื้อสีอะไร  สี
เหลืองหรือเปล่า"  แต่เขารู้ว่าหนูไม่ใช่แดงแน่ๆ  หนูก็เลยบอกว่า  "หนูคิดว่าหนูไม่มีสีนะ"  แต่หนูเลือกที่จะอยู่สีที่รักและจงรักภักดีต่อพระเจ้าอยู่หัวและสถาบันพระมหากษัตริย์  ไม่ใช่แค่รักแค่ปากนะคะ  แต่ต้องเป็นการกระทำด้วยค่ะ
     สุดท้าย  เขาถามหนูว่า  "แล้วในหลวงของเราจะออกมาเพื่อยุติความรุนแรงนี้มั้ย"  หนูก็บอกว่า  อันนี้หนูไม่รู้จริงๆ  แต่ถ้าเป็นไปได้  หนูไม่อยากให้พระองค์ท่านออกมาเลยค่ะ
     เรื่องเล่าจากร้านทำผม
     ที่เขาพูดกันว่า   ถ้าคุณอยากรู้เรื่องราว  หาข่าวซุบซิบไปที่ร้านทำผมเถอะ  คุณได้รู้แน่ๆ  หนูว่าท่าจะจริงค่ะ  รู้ทั้งรู้ว่าเจ้าของร้านซึ่งเป็นช่างประจำของหนูเนี่ยเขาเป็นพวกโปรแดงอย่างแรง   ถึงแม้ปากเขาจะบอกว่าเขาไม่ชอบทักษิณ  ไม่ชอบสุดารัตน์  เขาชอบนายกฯ  อภิสิทธิ์  แต่เขาก็ชอบดูทีวีเสื้อแดง  เขาบอกว่าเขาก็ดูทั้งเหลืองและแดงแหละ  แต่ดีอย่างนึงที่เขายังรักพระเจ้าอยู่หัวอยู่ค่ะ   เขาก็ชอบมาเล่าเรื่องเสื้อแดงให้ฟัง  ฟังลูกค้าคนโน้นคนนี้มาเล่าฟังบ้าง  ข้อมูลเชิงลึกเพียบ  (แต่ไม่รู้ว่าเชื่อได้หรือเปล่า)  เอามาปะติดปะต่อจากที่ดูทีวีเสื้อแดง  เลยเป็นเรื่องเป็นราว  ด่ารัฐบาล  หนูก็ฟังเขาไปเรื่อย  ในใจก็พยายามคิดว่า  ลองฟังความคิดเห็นของคนที่อยู่อีกฝั่งนึงอาจจะได้มุมมองอีกมุมนึงก็ได้  ซึ่งมันก็มีหลายจุดที่น่าสนใจค่ะ
     พี่เขาบอกว่า  การที่รัฐบาลยิ่งปิดโทรทัศน์เสื้อแดง  ก็ยิ่งทำให้คนออกไปชุมนุมเยอะ  เพราะมันเหมือนกับไปปิดหูปิดตาคน  (เหรอคะ  อันนี้หนูคิดในใจนะ....หนูเองเคยพยายามจะดูช่องเสื้อแดงนะคะ  อยากรู้ว่าพูดอะไรกันบ้าง  แต่ดูได้ไม่เกิน  2  นาทีค่ะ  ทนไม่ไหวจริงๆ  ค่ะ)  ต่อนะคะ  พี่เขาก็พูดถึงภาพข่าวที่  ศอฉ.โดย  พ.อ.สรรเสริญเอามาชี้แจงให้ดูกัน  แต่ภาพข่าวเดียวกัน  การตีความคนละเรื่องเลยค่ะ  พี่เขาบอกว่า  ภาพมันเห็นชัดๆ  ว่าทหารมันเป็นคนยิง  รัฐบาลโกหก  หนูก็ไม่รู้ว่า  ที่เขาพูดนี้เขาดูโดยใช้วิจารณญาณของเขาเอง  หรือว่าเขาดูจากทีวีเสื้อแดง  ฟังพวกแกนนำพูด  ซึ่งแน่นอนทางโน้นก็ต้องเสนอในทางขัดแย้งกับรัฐบาล  หนูเลยเข้าใจเลยนะคะว่า  ทำไมรัฐบาลถึงต้องใช้ความพยายามอย่างมากในการที่จะปิดโทรทัศน์ของพวกเสื้อแดง  เพราะมันเป็นการให้ข้อมูลที่ผิดและคนก็พร้อมที่จะเชื่อตามที่เขาพูด
     แต่ถ้าเราลองมองกลับมาที่ตัวเราเอง  การที่เราชมภาพข่าวแล้วเราก็คิดว่า  ทหารเป็นผู้ถูกกระทำเป็นฝ่ายถูก  นั่นเพราะเราตั้งธงไว้ในใจของเราแล้ว  ทำให้สมองและตาของเราเชื่อตามนั้น  แค่คิดเล่นๆ  นะคะ  เพราะทุกอย่างมันค่อนข้างชัดเจนแล้วค่ะ  ฯลฯ
     ......หนูอยากรู้ว่ารัฐบาลได้มีมาตรการที่จะจัดการกับบุคคลพวกนี้อย่างไร  รวมทั้งพวกที่ยังคงอยู่ในกลุ่มผู้ชุมนุม  การที่พวกเขาอยู่ในนั้นแสดงว่า  เขาต้องรับได้แล้วว่าเขาต้องเจออะไรบ้าง  เขาไม่ใช่ถูกหลอกแล้วล่ะค่ะ  รัฐบาลทั้งออกแถลงการณ์  ออกข่าว  สื่อต่างๆ  ก็ออกข่าวกันปาวๆ ว่าให้ออกมา  ไม่ใช่ว่าชุมนุมเสร็จ  พวกนี้ก็กลับไปมีชีวิตตามปกติ  กลับไปใช้ชีวิตตามเดิมแบบที่เคยเป็นอยู่   ชีวิตนี้เหมือนฝันไปอะไรทำนองนั้น  ไม่ใช่ว่าหนูเป็นคนใจร้ายนะคะ  หนูน่ะลูกศิษย์ป๋าเปลวเลยค่ะ  ป๋าเปลวบอกให้ช่วยสวดมนต์หนูก็สวดทั้งพาหุง  ทั้งมหาสมัยสูตร  สวดแล้วก็อธิษฐานขอให้ประเทศเราสงบสุข  แล้วก็ขอให้เทวดาที่อารักษ์ประเทศไทยกลับมาเสียที
     จากสมาชิกรุ่นบุกเบิกประจำหมู่บ้านสหกรณ์
     กว่าตำรวจ-ทหารท่านจะ  "เบาไปหาหนัก"  เสร็จ  พวกเราอาจ  "เสร็จ"  ไปก่อนแล้วก็ได้  ยังไงละก็  ลูกศิษย์ช่วยสวดพาหุง-มหาสมัย  เผื่ออาจารย์ด้วยซักจบ-สองจบละกัน.

 
http://www.thaipost.net/news/230410/21190


หัวข้อ: Re: [2513]"ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: เหยง 16 ที่ 23 เมษายน 2553, 09:19:59
บทความ ท่านขุนน้อย

ยิ่งช้า...ยิ่งอันตราย!!!
ท่านขุนน้อย 23 เมษายน 2553 - 00:00

  ท่ามกลางบรรยากาศแห่งความอดทน   อดกลั้น   อันสุดแสนจะหนืดหนาด  เหนื่อยหน่าย  น่าอเนจอนาถเวทนาเป็นอย่างยิ่ง....อย่างน้อยสิ่งที่พอช่วยสร้างความชุ่มชื่น  ฉ่ำใจ  ช่วยประคับประคองความรู้สึกใครต่อใครให้พอยืนหยัดอยู่ร่วมกันภายในสังคมได้บ้าง  เห็นทีจะไม่มีอะไรเกินไปกว่าการแสดงออกของกลุ่มชนกลุ่มต่างๆ  ที่ทยอยกันออกมาร่วมแสดงความรู้สึกรับผิดชอบต่อสังคมโดยรวม  ด้วยสีสันที่หลากหลาย  ภายใต้สัญลักษณ์เสื้อหลากสี  หรือภายใต้ความรู้สึกที่ไม่ได้คิดจะสร้างความแตกแยกให้ต้องเกิดความเป็นฝักเป็นฝ่ายอีกต่อไปนั่นเอง....
          ------------------------------------------------
     จะด้วยประสิทธิภาพของเทคโนโลยีการสื่อสาร  หรือด้วยความรู้สึกที่อยู่ลึกลงไปในหัวจิตหัวใจก็ตาม  อุบัติการณ์การพัฒนาของกลุ่มคนเหล่านี้เป็นไปอย่างรวดเร็วเอามากๆ  ชั่วเวลาเพียงแค่ไม่กี่วัน  ไม่กี่สัปดาห์เท่านั้น  จากผู้คนจำนวนนับร้อย  ก็แผ่ขยายเป็นนับพัน  นับหมื่น  และกำลังแพร่กระจายไปสู่ระดับหลักแสน  หลักล้าน  ในอีกไม่นานนับจากนี้ได้ไม่ยาก  อีกทั้งยังไม่ใช่แค่การกระจุกตัวอยู่ในโลกไซเบอร์เท่านั้นที่ออกมาปรากฏตัวให้เห็นแบบตัวเป็นๆ  ในถนนรนแคม  ทั้งในเขตกรุงเทพมหานคร  หรือกระจายออกไปตามจังหวัดต่างๆ  ไม่ว่าภาคเหนือ  ภาคใต้  ภาคอีสาน  เริ่มเต็มไปด้วยสีสันอันหลากหลายโผล่ให้เห็นเป็นจุดๆ...
           ----------------------------------------------
     จากจังหวัดเชียงใหม่  ลำปาง  พะเยา  อุบลราชธานี  อุทัยธานี  สงขลา  นครศรีธรรมราช  ฯลฯ  จนกระทั่งถึงผู้ซึ่งได้รับการเรียกขานว่า  ผู้ร่วมพัฒนาชาติไทย  นับตั้งแต่พรรคคอมมิวนิสต์ยุติบทบาทในแถบจังหวัดภาคอีสานทั้งแถบ  ก็ได้ออกมาป่าวประกาศอย่างตรงไป-ตรงมาว่า  นอกจากจะไม่เห็นด้วยกับบรรดาพวก  คอมมิวนิสต์หลงยุค  ในหมู่พวกเสื้อแดงทั้งหลายแล้ว  ยังพร้อมที่จะร่วมยืนหยัดปกป้องรักษาสังคมไทย  อันมีสถาบันพระมหากษัตริย์เป็นศูนย์รวมจิตใจให้ดำรงคงอยู่ต่อไปให้จงได้  แทนที่จะปล่อยให้เกิด  รัฐใหม่  ที่มี  พระเจ้ามูลเมือง  กลายมาเป็นประธานาธิบดี  หรือเป็นพระประมุข  ก็แล้วแต่...
           -----------------------------------------------
     ปรากฏการณ์การแพร่ระบาดของมวลชนผู้ไม่ได้คิดจะตั้งตัวเป็นฝักเป็นฝ่าย  เพียงแต่ไม่เห็นด้วยกับพวกเสื้อแดงที่กำลังสร้างรอยแตก  รอยแยก  ให้กับผู้คนในสังคมหนักยิ่งขึ้นเรื่อยๆ  อาจถือได้ว่าเป็นภาพสะท้อนถึง  ความพ่ายแพ้  ในแนวรบด้านมวลชนของพวกแกนนำหัวขวดอย่างเห็นได้ชัดเจน  หรือได้ทำให้ทฤษฎี  แก้ว  3  ประการ  ที่บรรดาพวกแกนนำม็อบเสื้อแดงพยายามนั่งเครื่องไทม์แมชชีนย้อนเวลากลับไปลอกทฤษฎีท่านประธานเหมาเอามาใช้แบบมั่วๆ  มึนๆ  กำลังกลายเป็นทฤษฎี  กะละมัง  3  ใบ  หนักเข้าไปทุกที  เนื่องจากถ้าหากแนวรบมวลชนพ่ายแพ้ซะอย่าง  ก็แทบไม่ต้องพูดถึงพรรค  หรือกองกำลังใดๆ  ต่อไปอีกแล้ว  เพราะมันย่อมนำไปสู่การพ่ายแพ้ทุกสิ่งทุกอย่างในขั้นตอนสุดท้ายอย่างมิอาจหลีกเลี่ยงได้เลย...
          ------------------------------------------------
     และโดยข้อเท็จจริง...คงต้องยอมรับว่า  แนวรบด้านมวลชนของพวกเสื้อแดงที่การเกาะกลุ่มรวมตัวเป็น  ม็อบเสื้อแดง  อยู่ในทุกวันนี้  อาจถือได้ว่าเป็นม็อบที่แปลกประหลาดที่สุดเท่าที่เคยมีมาในประวัติศาสตร์ประชาธิปไตยของประเทศไทยเอาเลยก็ว่าได้  คือเป็นม็อบที่ไม่ได้สนใจที่จะสร้างความยอมรับให้กับมวลชนกลุ่มอื่นๆ  โดยเฉพาะผู้ที่ไม่ใช่กลุ่มก้อนเดียวกันกับตัวเองมาก่อน  แต่มุ่งที่จะตอบสนองความเมามันซ์ซ์  สะใจ  ในหมู่พวกเดียวกันเองเป็นการเฉพาะ  ถ้าหากพูดกันแบบภาษาคอมฯ   แก่ๆ  ก็คือ...ไม่ได้สนใจคิดจะทำ  แนวร่วม  กับกลุ่มคนกลุ่มใดๆ เอาเลยแม้แต่น้อย  มุ่งแต่จะ  เอามันซ์ซ์  ในฝ่ายตัวเองกันลูกเดียว...
           -----------------------------------------------
     โดยลักษณะการเคลื่อนไหวมวลชน  นับตั้งแต่จุดเริ่มต้นมาจนถึง  ณ  ขณะนี้  จึงมักเป็นไปในแบบไร้เหตุไร้ผล  ไม่สนใจที่จะสร้างความชอบธรรมใดๆ  ขึ้นมารองรับการเคลื่อนไหวของตัวเองในแต่ละก้าว  แต่ละจังหวะ  จะเป็นด้วยความมั่นอกมั่นใจต่อประสิทธิภาพในการล้างสมองต่อกลไกการจัดตั้งตามระบบอุปถัมภ์  ซึ่งเคยใช้ได้ผลในหมู่  หัวคะแนน  นักการเมืองมาโดยตลอด  ด้วยอิทธิพลของเงินๆ  ทองๆ  หรือด้วยประสิทธิภาพของระบบสื่อสารตามแบบฉบับ  ทีวีป้าเช็ง  ทีวีปูแดง  อันได้แก่  การยัดเยียดข้อมูลข่าวสารผ่านทีวีดาวเทียม  วิทยุชุมชน  อย่างเป็นระบบ  ฯลฯ  ก็แล้วแต่  จึงทำให้บรรดาแกนนำม็อบเสื้อแดง  พร้อมที่จะก้าวข้ามความมีเหตุมีผล  ความถูกต้อง  ชอบธรรม  ในแต่ละกรณีมาโดยตลอด...
        ----------------------------------------------------
     แต่ที่หนักหนาสาหัสที่สุด...เห็นทีจะไม่มีอะไรเกินไปกว่าการแสดงออกถึงความรู้สึกที่ไม่ได้ยี่หระ  ไม่ได้แยแสต่อชีวิต  เลือดเนื้อ  ของมวลชนตัวเองเอาเลยแม้แต่น้อย  การแย่งยื้อศพผู้เสียชีวิตออกมาจากโรงพยาบาลเพียงเพื่อเอามาใช้เป็น  อาวุธทางการเมือง  การประกาศท้าทายของแกนนำม็อบเสื้อแดงบางรายที่มองความพยายามปราบปรามของฝ่ายรัฐบาลและการต่อต้านของฝ่ายตัวเอง  เป็นเสมือนหนึ่ง  การเกไพ่  ระหว่างกันและกัน  มันจึงทำให้การเคลื่อนไหวมวลชนของม็อบเสื้อแดงเต็มไปด้วยบรรยากาศออกไปในทางอำมหิต    เหี้ยมเกรียมเอามากๆ  แม้แต่ในหมู่พวกเสื้อแดงด้วยกันเอง  จะมีผู้ออกมาเรียกร้องให้ตระหนักถึง  คุณค่าของชีวิต  หรือ  คุณค่าของความเป็นมนุษย์  โดยเฉพาะชีวิตของราษฎรที่ถูกเรียกขานว่า  ไพร่  ไปด้วยกันทั้งสิ้น...แต่สิ่งเหล่านี้กลับไม่ได้ก่อให้เกิดปฏิกิริยาตอบรับใดๆ  จากบรรดาแกนนำที่พร้อมจะเอาชีวิต  เลือดเนื้อของมวลชนตัวเอง  ไปแลกกับข้อเรียกร้องทางการเมืองเพียงเพื่อให้เกิด  การยุบสภา  เท่านั้น...
         ---------------------------------------------------
     ภายใต้การนำมวลชนที่เป็นไปในแบบสุดขั้ว  ไร้เหตุไร้ผล  ไร้สติ  แถมยังเหี้ยมโหด  อำมหิต   ไม่ได้สนใจชีวิตเลือดเนื้อของผู้คนไม่ว่าจะเป็นฝ่ายตัวเอง   หรือฝ่ายตรงข้ามก็แล้วแต่  มันจึงทำให้การใช้เหตุใช้ผล  ใช้สันติวิธี  การเจรจา  แทบเป็นไปไม่ได้เอาเลย  แม้แต่การแยกแกนนำออกจากมวลชน...ก็ใช่ว่าจะเป็นไปได้ง่ายๆ   เนื่องจากที่มา-ที่ไปของมวลชนเหล่านี้  ก็เป็นไปในลักษณะแปลกประหลาดกว่ามวลชนโดยทั่วๆ  ไป  มานับตั้งแต่จุดเริ่มต้นดังที่ได้กล่าวไปแล้ว...แต่ก็นั่นแหละ  สิ่งเหล่านี้คงต้องถือเป็นเรื่องทาง  เทคนิค  ที่ผู้ซึ่งมีหน้าที่รับผิดชอบโดยตรงในการปกป้อง  รักษากฎหมาย  จะต้องหาทางแยกแยะกันเอาเอง  และถ้าหากผู้ที่มีหน้าที่รับผิดชอบดันขาดประสิทธิภาพ  ขาดความกล้าหาญในการตัดสินใจ  ปล่อยให้เวลาล่วงเลยต่อไปเรื่อยๆ  โดยไม่ได้ตระหนักถึงปฏิกิริยาด้านตรงกันข้าม  ที่ก่อให้เกิดการรวมตัวของผู้คนอันหลากหลายปรากฏตัวขึ้นมาในสังคมอย่างเห็นได้ชัดเจนแล้ว...มุมจบของสถานการณ์คราวนี้  มันคงหนีไม่พ้นไปจากกฎความเป็นไปของธรรมชาติ  หรือไม่ต่างไปจากแรงเหวี่ยงของลูกตุ้มนาฬิกาที่จะสวิงกลับมาสู่ด้านตรงกันข้ามในอัตราความรุนแรงพอๆ  กันนั่นเอง...
          -------------------------------------------------
     ปิดท้ายด้วยวาทะวันนี้  จาก  ไดโอนิซิอุส  แห่ง  ฮาลลิคาร์นาซซัส  นักประวัติศาสตร์ชาวกรีก  (อีกครั้ง)...ไม่มีสิ่งใดที่จะไร้ความสุขยิ่งไปกว่าสงครามกลางเมือง  ด้วยเหตุที่ผู้ต้องถูกเพื่อนทำลาย และผู้ชนะก็จะต้องทำลายเพื่อนของเขาเอง...

http://www.thaipost.net/news/230410/21174


หัวข้อ: Re: [2513]"ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: เหยง 16 ที่ 23 เมษายน 2553, 09:22:39
คอลัมม์ "ถูกทุกข้อ" ของ สามวา สองศอก

มีสิ่งนั้นจึงมีสิ่งนี้
ถูกทุกข้อ23 เมษายน 2553 - 00:00

 เรียน คุณสามวา สองศอกที่เคารพ
     ปัญหาที่เกิดขึ้นในสังคมขณะนี้  ผมคิดว่าถ้าเราใช้หลักธรรมพิจารณา  ทุกคนควรเห็นได้ทั้งสองด้าน  ขณะนี้หลายคนกำลังเป็นทุกข์หนัก  แต่หลายคนก็มองด้านเดียว  จึงทำให้เป็นทุกข์มากยิ่งขึ้น
     เมื่อเช้าวันพุธที่  21  เมษายนที่ผ่านมา  ผมไปเดินดูต้นไม้ที่สวนจตุจักรเพื่อนำมาให้นักเรียนอนุบาลปลูก  มีคนมารุมทักทายจนกระทั่งปักหลักกันอยู่กลางแดด
     ความจริงแล้วถ้ามองในด้านดี  เราก็ควรจะเห็นว่าปัญหาที่เกิดในครั้งนี้มันดีสำหรับตัวเรา
เอง  "เพราะถ้าไม่มีปัญหาเกิดขึ้น  เราก็คงตกอยู่ในความประมาท  ยิ่งทำให้ขาดสติหนักมากยิ่งขึ้น  เหตุผลก็คือเพราะมันมีเรื่องนี้เราจึงตื่นขึ้นมาคิดแก้ไข  ไม่ว่าใครจะแก้ได้มากน้อยแค่ไหน  ถ้าเราร่วมมือกันทุกสิ่งทุกอย่าง  แม้จะเกิดผลเสียหายมันก็ลดน้อยลง"
     อนึ่ง  เพราะมีเหตุการณ์เกิดขึ้น  สิ่งนี้มันเป็นเงื่อนปมแฝงอยู่ในสังคม  มันก็โผล่ขึ้นมาให้เราเห็น  ผมนึกถึงนิทานอีสปบทหนึ่งที่ชื่อว่า  "ชาวนากับงูเห่า"
     นิทานเรื่องนี้ถ้าใครไม่ทราบผมจะเล่าให้ฟัง  อยู่มาวันหนึ่งชาวนาตื่นแต่เช้าเพื่อออกไปทำ
นาหาเลี้ยงชีพตามปกติ  เขาได้พบงูเห่าตัวหนึ่งนอนหนาวอยู่บนพื้นดินที่ริมคันนา  จนกระทั่งเคลื่อนไหวไปไหนมาไหนได้ยาก
     ชาวนาผู้มีเมตตาสงสารจึงนำงูเห่าขึ้นมาอุ้มกอดไว้กับอก  ทำให้ได้รับไออบอุ่นจึงฟื้นขึ้นมา
สู่สภาพปกติ  ครั้นตื่นขึ้นมาแล้ว  แทนที่จะนึกถึงบุญคุณชาวนากลับหวนมากัดชาวนาตาย 
     นิทานเรื่องนี้สอนให้รู้ว่า  "การทำบุญคุณให้กับคน  ควรจะทำให้กับคนที่เขารำลึกถึงบุญคุณ  แต่ไม่ควรทำให้กับคนที่คิดอกตัญญู"  นี่เป็นเรื่องหนึ่งภายในนิทานอีสป
     แม้แต่อีกเรื่องหนึ่งซึ่งมีชื่อว่า  "หมาป่ากับลูกแกะ"  ใครเคยได้ยินคำปรารภว่า  "คนไทยมีของดีแล้วรักษาเอาไว้ไม่อยู่"  ตัวอย่างเช่นหนังสือนิทานอีสป  ซึ่งเด็กแต่ก่อนเคยเรียนในชั้นเรียน  แม้แต่หนังสือ  "โคลงโลกนิติ"  ก็เช่นเดียวกัน
     บางคนอาจคิดว่ามันเป็นเรื่องโบราณ  "เพราะเราดูถูกคนโบราณนี่แหละ  ที่มันทำให้สังคมไทยจำต้องเดือดร้อน"
     ผมเคยเขียนไว้ในอดีตมาแล้วว่า  "คนไทยส่วนใหญ่หลังจากขึ้นไปอยู่บนเรือนชานแล้วมีความสุข  กลับหันลงมาตัดเสาเรือนของตัวเองทิ้ง"  ซึ่งมันขัดกับหลักธรรมที่ว่า  "เพราะมันมีเหตุนั้นจึงมีเหตุนี้"  เพราะมันมีโบราณจึงมีสมัยใหม่  ถ้าไม่มีโบราณสมัยใหม่มันก็คงอยู่ไม่ได้
     ผมนึกถึงร้อยกรองบทหนึ่ง  ซึ่งตัวเองมีโอกาสสัมผัสมาตั้งแต่อายุยังไม่มากนัก  หรืออาจประมาณเมื่อผมมีอายุ  12  ปีก็ได้  เนื้อหาสาระในร้อยกรองบทนี้ก็คือ
     เลือดไทยไหลริน        ทาแผ่นดินไว้ชื่อ
     ให้โลกรู้ร่ำลือ          ว่าเลือดไทยกล้าหาญ
     เลือดไทยไหลหลั่ง       ดุจน้ำเต็มฝั่ง
     ไหลดั่งลำธาร          ทั่วแผ่นดินทอง     
     บ้านพี่เมืองน้อง         กันทุกถิ่นฐาน
     เลือดไทยเจ้าเอ๋ย       ไหลเลยมานี่
     ปรองดองน้องพี่         อย่ามีร้าวราน
     โลหิตสายเดียว         กลมเกลียวกันไว้
     อย่าแตกแยกไป         เป็นหลายลำธาร
     ร้อยกรองบทนี้เข้าใจว่า  คุณหลวงวิจิตรวาทการเป็นผู้เขียน  ในช่วงซึ่งดำรงตำแหน่งอธิบดีกรมศิลปากร
     ถ้าเรานำมาพิจารณาถึงเหตุการณ์ปัจจุบัน  มันกลับหัวกลับหางกลายเป็นเรื่องตรงข้ามได้ยังไง
     ผมขออนุญาตมนัสการดวงวิญญาณของท่านอาจารย์พุทธทาสภิกขุซึ่งล่วงลับไปแล้ว  แต่ในช่วงที่ท่านยังมีชีวิตอยู่ได้ปรารภฝากไว้ว่า  "สิ่งใดที่มันเกิดปัญหา  เอามันมากลับหัวกลับหาง  มันก็ช่วยแก้ปัญหาได้ทุกเรื่อง"
     นี่แหละคือหลักธรรมซึ่งอยู่บนพื้นฐานการปฏิบัติ  ไม่ใช่พูดแต่ปากแล้วไม่ได้ทำ  หากทำได้แล้วจึงพูดออกมาจากความจริงที่อยู่ในใจตนเอง
     แม้แต่การจัดการศึกษาในปัจจุบันซึ่งหลายคนคิดว่าช่วยพัฒนาชีวิตมนุษย์  แต่แท้จริงแล้วผมมองครั้งใดก็เห็นว่ายิ่งจัดการก็ยิ่งทำลายจิตวิญญาณอันเป็นธรรมชาติของมนุษย์  นี่แหละที่ทำให้ผมต้องหันกลับมาพิจารณานำเอา  "การศึกษาทางเลือก"  มาใช้ประโยชน์ในการสร้างความเป็นมนุษย์ให้เกิดขึ้นในสังคมทุกวันนี้
     ไม่เชื่อท่านลองดูซิ  พอพูดถึงการจัดการศึกษาหลายคนก็เหลละโลไปนั่งประชุมเรื่อง  "การจัดหลักสูตร"  ทั้งๆ  ที่การจัดการหลักสูตรนั้น  มันเป็นเพียงแผ่นกระดาษกับตัวหนังสือ  ที่ใช้เป็นเครื่องมือในส่วนปลายซึ่งมนุษย์สมมติขึ้น  หาใช่ของจริงไม่
     ช่วงที่ผมเป็นผู้บริหารมหาวิทยาลัย  ผมสนใจเรื่องการจัดหลักสูตรน้อยที่สุด  แม้แต่เกรดคะแนนของลูกศิษย์  น้อยครั้งที่ผมจะหันมาพิจารณาใช้ประโยชน์ในการรับรองคุณภาพของลูกศิษย์
     ทั้งนี้  เป็นเพราะผมให้ความสนใจลงมือปฏิบัติโดยนำชีวิตตัวเองลงไปอยู่ร่วมทุกข์ร่วมทุกข์
กับลูกศิษย์ในชนบท  ยิ่งใครว่ายากไร้แค่ไหน  ผมให้อิสระลูกศิษย์ลงไปเลือกที่ทำงานเอาเอง  ส่วนตัวผมนั้นเดินตามรอยเท้าลูกศิษย์  ลงไปทำงานร่วมกับเขาอย่างมีความสุข 
     เช่นเดียวกันหลักสูตรไม่ได้สำคัญมากไปกว่าการลงมือปฏิบัติ  จากรากฐานจิตใจเราเองที่ให้ความรักและรู้คุณค่าของแผ่นดินถิ่นเกิด
     ผมถึงกล่าวว่าการจัดการศึกษาเท่าที่เป็นมาแล้วนั้น  มีแต่เปลือกนอกส่วนด้านในเป็นโพรง
กลวง  เมื่อมันกลวงก็ย่อมมีอิทธิพลวัตถุเข้าไปแทนที่
     เพราะฉะนั้นการแก้ไขปัญหา  ถ้าเราแก้อิทธิพลแฝงที่มันเข้าไปอยู่ในจิตใจคนได้สำเร็จ  ผลจากการจัดการศึกษาก็คงมีโอกาสรับใช้สังคมอย่างได้ผล
                                                   ด้วยความเคารพอย่างยิ่ง
                                                           ระพี สาคริก                         
ตอบ อาจารย์ระพี
     หลักธรรมที่ว่าเพราะมันมีเหตุนั้นจึงมีเหตุนี้  น่าจะนำมาแก้ปัญหาบ้านเมืองที่หาทางออกไม่ได้ในขณะนี้  หรือจะใช้วิธีของท่านพุทธทาสก็ได้  ที่ว่าสิ่งใดมันเกิดปัญหา  เอามันมากลับหัวกลับหาง  มันก็จะช่วยแก้ปัญหาได้  ประเทศไทยไม่ได้มีแค่สี่แยกราชประสงค์กับราบ  11


                "ออนเหวง"มาแล้ว
เรียน คุณสามวา สองศอกที่นับถือ
     ตามที่คุณ  "เสริม"  ถามมาว่า  บริษัทออนเหวงยังอยู่หรือเปล่า  ทำธุรกิจอะไร  อ่านแล้วอมยิ้ม  เพราะคำๆ  นี้แทบจะหายไปจากความทรงจำแล้ว  แต่ก็ยังพอนึกขึ้นมาได้
     บริษัทออนเหวงเป็นบริษัทรับจ้างเก็บถังอุจจาระ  เมื่อประมาณปี  2460  และน่าจะดำเนินการอยู่ราวๆ  20  ปีก็เลิกกิจการไป  เพราะไทยได้มีวิวัฒนาการเกิดส้วมหลุมและส้วมคอห่าน  การเก็บอุจจาระไปทิ้งจึงหมดความจำเป็นสำหรับคนกรุงเทพฯ
     อนึ่ง  ขอชมคุณ  "เสริม"  ว่าแม้อายุแค่  14  ปี  แต่ก็ใช้ภาษาไทยได้สุภาพไพเราะมาก  นับว่าหายากมากทีเดียวสำหรับวัยรุ่นยุคนี้  และการอ่านหนังสือพิมพ์ให้คุณยายทวดฟังทุกวันนั้น  ก็แสดงว่าอยู่ในครอบครัวที่อบอุ่น  หวังว่าคงจะเติบโตเป็นผู้ใหญ่ที่ดีในอนาคต
                                                       ขอแสดงความนับถือ
                                                            ผู้อ่านประจำ
ตอบ คุณผู้อ่านประจำ
     ขอบคุณที่ช่วยตอบคำถามให้คุณเสริม  ที่ถูกคุณยายทวดถามว่าบริษัทออนเหวงยังอยู่หรือเปล่า  ผมก็เพิ่งรู้ว่าบริษัทออนเหวงรับจ้างเก็บถังอุจจาระในกรุงเทพฯ
     ผมเป็นคนบ้านนอกยังเกิดทันส้วมถังเท  ส่วนที่เป็นห้องส้วมอยู่หลังสุดของบ้าน  มีช่องให้พนักงานเอาถังอุจจาระในแต่ละบ้านมาเทรวมกันในถังใหญ่แล้วนำไปกำจัด  หรือนำไปทำอะไรก็สุดแล้วแต่  บางครั้งโจรก็จะเข้าไปขโมยของในบ้านทางส้วมนี่แหละ
     บ้านคุณวินทร์  เลียววาริณ  นักเขียนซีไรต์  ก็เคยถูกโจรกรรมทางส้วมถังเทนี้มาแล้ว

   
                 เมืองไทยห้ามฉีดน้ำ
เรียน คุณสามวาฯ
     กระผมเหลืออดจริงๆ  กับรัฐบาลมะเขือเผา  ปัญญานิ่ม  ถึงกับตะโกนดังๆ  ยกบ้านเมืองให้กับไอ้สามเกลอไปเลย  มีอย่างที่ไหน
     1.ร้อนๆ  ฉีดน้ำเย็นๆ  ให้พวกเสื้อแดงหายร้อน  ทำแบบฝรั่งเมืองหนาว  ใส่เสื้อผ้าหนาๆ  เปียกน้ำจะเย็นจนเป็นน้ำแข็ง  เขามีสมองมีหัวคิดเราซื่อบื้อตาม  คนออกกฎน่าจะซื่อบื้อกว่า
     2.มันโง่!  กลัวเกินเหตุให้ทหารถือแต่โล่  อยู่แนวหน้าสู้กับเสื้อแดงถือไม้แหลม  เหล็กแหลม  ใครจะมีใจสู้  ลองให้นายกฯ  ออกแนวหน้าอย่างนี้บ้าง  เอาหรือเปล่า  ทำไมไม่ให้ถือกระบองอย่างต่างประเทศเขาทำกัน  มันตีทิ่มแทงมาก็หวดด้วยกระบองสู้กัน  และพยายามจับไปใส่กรงขัง  ขังไว้ให้กลัว  แจ้งข้อหาให้ขึ้นศาลไม่ทำอะไรเลยมันก็ได้ใจ
     3.เสธ.แดงหรือเปล่า?  แนะนำให้ปราบจลาจลกลางคืน  เข้าทางเลย  กระผมเถียงกับเพื่อนก่อนแล้วว่าฉิบหายแน่ๆ  สะดวกกับมือที่  3  โจรๆ  ทั้งหลาย  ปีศาจร้ายกระหายเลือด  ที่อาศัยความมืดปฏิบัติการ  เชื่อแน่ๆ  ว่าสุเทพ  อภิสิทธิ์  ถูกหลอก  มันยิงกันเองก็ได้  ยิงนักข่าวก็ได้  ไม่มีหลักฐาน  ไม่เหมือนกลางวันที่มีทีวี  นสพ.เป็นหูเป็นตา  ทำไมไม่เข้าตีรุกไล่ตั้งแต่เช้ามืดที่เขาไม่พร้อม   จนถึงตอนเย็นอย่าให้ได้พักผ่อน  และทำไมไม่มีหน่วยเสนารักษ์ครับ  มีอีกเยอะที่น่าเบื่อ 
                                                            นายน่าเบื่อ
ตอบ คุณน่าเบื่อ
     คุณน่าจะไปช่วยเป็นที่ปรึกษาให้นายกฯ  อภิสิทธิ์  เวชชาชีวะ  กับรองนายกฯ  สุเทพ  เทือกสุบรรณ  คิดได้ไงฉีดน้ำช่วยดับร้อนให้คนเสื้อแดง
                                                         สามวา สองศอก   

http://www.thaipost.net/news/230410/21173


หัวข้อ: Re: [2513]"ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: suriya2513 ที่ 23 เมษายน 2553, 09:26:03
เห็นบทบรรณาธิการของ นสพ แนวหน้าออนไลน์

ที่คุณพิเชษฐ์ลอกมาลง แล้วจี๊ดแทนเสื้อแดงขึ้นมาทันทีเลย

อยากเปิดสนามให้ RCU เสื้อแดงบ้าง แต่คิดไปคิดมา ไม่เอาดีกว่า

เพราะกลัวว่าเถียงกันไปมา จะไปพาดพิงสถาบัน ซึ่งเป็นการผิด พรบ.


หัวข้อ: Re: [2513]"ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: prapasri AH ที่ 23 เมษายน 2553, 10:00:28
ก็ห้ามพาดพิงสถาบัน อย่างเดียว

เพราะหากเป็นจุฬา มึง หาเรื่องมาพาดพิงสถาบัน

มึงต้องออกจากเวบไป

กูไม่ยอมๆๆๆๆๆ

ขอโทษ ที่ใช้ภาษา พ่อขุน เอ๊ย ภาษา เวบประชาไท ค่ะ

ปกติพี่อแอ๊ะเป็นผู้ดี ค่ะ

แต่วันนี้ทนไม่ไหวแล้ววววววววววว (โว้ย)

กระทู้นี้ จะถูกย้ายไปอยู่ที่ไหนอีกหนอ ยังไม่รู้อนาคตของตัวเองเลยค่ะ

อาจารย์ ใหญ่ ดร.สุริยา มหาวินิจฉัย มนตรี

โพสต์ คำหยาบคายมาก่อน เด่ว นั่ง คิดอีกรอบอาจจะมาลบ นะคะ

ใครโชคดี ก้จะได้สัมผัสอารมณ์ร้ายของพี่แอ๊ะค่ะ


หัวข้อ: Re: [2513]"ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: swsm ที่ 23 เมษายน 2553, 10:05:31
...


หัวข้อ: Re: [2513]"ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: swsm ที่ 23 เมษายน 2553, 10:12:28
แวร๊งงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงง  ..      emo24:(


หัวข้อ: Re: [2513]"ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: suriya2513 ที่ 23 เมษายน 2553, 10:13:03
อ้างถึง
ข้อความของ prapasri AH เมื่อ 23 เมษายน 2553, 10:00:28
ก็ห้ามพาดพิงสถาบัน อย่างเดียว

เพราะหากเป็นจุฬา มึง หาเรื่องมาพาดพิงสถาบัน

มึงต้องออกจากเวบไป

กูไม่ยอมๆๆๆๆๆ

ขอโทษ ที่ใช้ภาษา พ่อขุน เอ๊ย ภาษา เวบประชาไท ค่ะ

ปกติพี่อแอ๊ะเป็นผู้ดี ค่ะ

แต่วันนี้ทนไม่ไหวแล้ววววววววววว (โว้ย)

กระทู้นี้ จะถูกย้ายไปอยู่ที่ไหนอีกหนอ ยังไม่รู้อนาคตของตัวเองเลยค่ะ

อาจารย์ ใหญ่ ดร.สุริยา มหาวินิจฉัย มนตรี

โพสต์ คำหยาบคายมาก่อน เด่ว นั่ง คิดอีกรอบอาจจะมาลบ นะคะ

ใครโชคดี ก้จะได้สัมผัสอารมณ์ร้ายของพี่แอ๊ะค่ะ
ขนาดนี้ ยังพอทนได้สบายครับ
วันก่อนอาจารย์ป้าแจ่ม อัดพี่จิ๋วหนักกว่านี้อีก


หัวข้อ: Re: [2513]"ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: prapasri AH ที่ 23 เมษายน 2553, 10:43:45
ไม่น่าเกลียด ใช่ไหม เพือน ป๋องงงงงงงงง

งานร.พ ฉันก็ยุ่งจะตายอยู่แล้ว

ขอไปทำมาหากิน ด้วย สมอง และสองแรง ก่อนนะเจ้าค่ะ

แต่ก่อนไปขอเล่าเรื่องนาย....

คือตอนนี้เเกยากจนลงมาก

เราอาจจะคิดว่าเขารวย แต่เรือใหญ่ก้ต้องเจอคลื่นใหญ่

5-6เดือนที่แล้ว แกประกาศขายคอนโด น่าสงสารคุณหญิงมาก มีอาซิ้มไปดู แล้วอาซิ้มก็ พูดจาไม่เกรงใจเลย

ตอนนี้ไม่รู้ขายได้แล้วหรือยัง ประกาศขาย13 ล้าน

และ เมีย คนโต ของแก ก้ประกาศขายเครื่องเพชร คนรีบไปซื้อกัน หมดเลย

ฉันไปแย่งไม่ทั้น อ๊วกๆๆๆๆๆ (ฮา)

ช่วงนี้ก็น่าจะได้เงินมาจากนายหญ่ายยยยยยยยยย

และทุกคนที่รับเงินมาต้องทำงานให้สำเร็จ

แม้แต่ 3 เกลอหัวขวด มันก็กลัวตายมากแล้ว แต่ถอยไม่ได้เพราะรับเงินมาแล้วต้องทำงานให้สำเร็จ

คือถอยก็ตาย ไม่ถอยก็ตายยยยยยยยยย

หากโพสต์ นี้ จะถุกข้อหา หมิ่น ส่วนตัวบุคคล ก้ขอให้เวบมาสเตอร์โดนนะจ๊ะ

ไปก่อนนะ ไปหาเงินมั่ง เพราะเขาไม่มาจ้างให้ทำงาน ทำร้ายประเทศชาติ อ่ะ


หัวข้อ: Re: [2513]"ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: เหยง 16 ที่ 23 เมษายน 2553, 13:06:45
"เมธี ดาราเสื้อแดง"ยอมเปิดปากร่วม10 เมษาเลือด พรรคพวกยิงถล่มทหารจริง!  
23 เมษายน 2553 11:38 น.
 
       อธิบดีดีเอสไอ ระบุชัดเจน "เมธี ดารานู๊ดเสื้อแดง"รับสารภาพแล้ว พร้อมยอมเปิดคลังที่ซุกซ่อนอาวุธของกลุ่มเสื้อแดงที่ปล้นไปจากทหารเมื่อคืนเหตุการณ์ 10 เม.ย. ระบุ ดาราเลือดร้อนอยู่ในที่ปลอดภัย และให้การเป็นประโยชน์ต่อรูปคดี
       
                                    (http://img227.imageshack.us/img227/5452/daeng1.jpg)

  (http://img227.imageshack.us/img227/6439/daeng2.jpg)      
       
       วันนี้(23 เม.ย.) ที่ศูนย์อำนวยการแก้ไขสถานการณ์ฉุกเฉิน (ศอฉ) นายธาริต เพ็งดิษฐ์ อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ หรือ ดีเอสไอ ให้สัมภาษณ์ถึงการสอบสวนคดี ที่ได้รับมอบหมายให้สางคดี การก่อเหตุความไม่สงบในบ้านเมืองที่ถูกโอนเป็นคดีพิเศษทั้งหมดว่า ขณะนี้ได้แยกออกเป็น 4 เรื่องหลักๆ คือ ก่อการร้าย การขู่เข็ญรัฐบาล การคุกคามประชนชน และทางด้านกระทำผิดต่ออาวุธยุทธภัณฑ์ทางทหาร แนวทางคดีนั้น ขณะนี้ก็ได้แบ่งชุดทำงานออกสอบสวนในหลายส่วน และในทุกคดีก็มีความคืบหน้า
       
       นายธาริตกล่าวต่อว่า ส่วนคดีไหนจะมีการสอบสวนพิเศษหรือไม่นั้น ขอยืนยันว่า ทุกคดีมีความสำคัญหมด แต่คดีที่จะต้องดูแลอย่างใกล้ชิด และพิเศษ คือ คดีการก่อการร้าย ไม่ว่าจะเป็นการก่อวินาศกรรมในรูปแบบต่างๆ เช่น วางระเบิดเสาส่งไฟฟ้าแรงสูง หลายจุด การลอบยิงถังน้ำมันใน จ.ปทุมธานี รวมไปถึงกลุ่มคนที่ยิงเจ้าหน้าที่ทหาร ในวันที่ 10 เมษายน ที่ผ่านมา และการยิงอาวุธสงคราม และปาระเบิดหลายๆ คดี รวมไปถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น เมื่อคืนที่ผ่านมา ก็ถือว่าเป็นการก่อการร้ายด้วยเช่นกัน
       
       อธิบดี ดีเอสไอ กล่าวอีกว่า สำหรับคดีของ นายเมธี อมรวุฒิกุล ดาราเสื้อแดง ที่ถูกจับกุมในข้อหามีอาวุธสงครามของทางราชการ ซึ่งขณะนี้ทางผู้ต้องหาได้สารภาพบ้างแล้ว โดยเฉพาะเรื่องอาวุธปืนของทหาร ที่หายไปในวันที่ 10 เมษายน ถือว่า เป็นประโยชน์ต่อรูปคดีอย่างมาก โดยขณะนี้ ถูกควบคุมตัวภายใต้ พ.ร.ก.ฉุกเฉิน โดยจะถูกคุมตัวในสถานที่ปลอดภัย ไม่สามารถระบุได้ มีระยะเวลาควบคุมตัวต่อครั้งคือ 7 วัน หลังจากนั้น จะขอศาลคุมตัวต่อ จนกว่าจะหมดสถานการณ์ และหลังจากนั้นก็จะถูกดำเนินคดีในสถานการณ์ปกติต่อไป
       
       ต่อมาเมื่อเวลา 11.30 น. นายธาริต ได้ออกแถลงผ่านสถานีโทรทัศน์รวมการเฉพาะกิจแห่งประเทศไทย ที่ศอฉ.ว่า นายเมธียอมรับว่าเกี่ยวข้องกับเหตุการณ์เมื่อคืนวันที่ 10 เม.ย.จริง โดยร่วมเป็นแนวหน้า มีการปะทะกับทหาร ที่บริเวณหน้าโรงเรียนสตรีวิทย์ โดยผลการปะทะมีการยึดเอาอาวุธของทหารไว้จำนวนหนึ่ง บางส่วนเก็บไว้และนำไปแจกจ่ายให้บุคคลอื่น ซึ่งจากการตรวจค้นรถยนต์ของนายเมธีก็พบอาวุธของทหารที่ถูกยึดไป
       
       "อีกส่วนหนึ่งนายเมธี ยอมรับในข้อเท็จจริงว่า ได้มีการใช้อาวุธร้ายแรงที่ยึดมาได้จากทหาร ยิงเข้าใส่ทหารที่ขอคืนพื้นที่ในคืนวันที่ 10 เม.ย.ด้วย และหลังเสร็จสิ้นการปะทะยังยอมรับว่า มีการประชุมหารือร่วมกับแกนนำในเวทีราชประสงค์ด้วย"นายธาริตกล่าว
       
       ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ก่อนหน้านี้ มีการเผยแพร่ภาพส่งต่อไปยังอีเมล์ของบุคคลต่างๆจำนวนมาก ให้ช่วยกันสังเกตว่า ชายชุดดำคลุมหมวกไหมพรม (หมวกไอ้โม่ง) ในมือถืออาวุธปืนอาก้า ที่ถูกระบุว่า บันทึกภาพได้เมื่อคืนวันที่ 10 เม.ย. ในเหตุปะทะระหว่างผู้ก่อการร้ายมราแฝงตัวเข้าไปอยู่ในม็อบเสื้อแดง กับทหาร ว่าเป็นคนเดียวกันกับนายเมธีหรือไม่ โดยให้สังเกตที่ตา และคิ้ว ของคนชุดดำสวมหมวกไอ้โม่งดังกล่าว แต่ก็ยังไม่เป็นที่ยืนยันว่า ใช่นายเมธีหรือไม่ หรืออาจจะเป็นแค่คนหน้าเหมือน เช่นเดียวกับเมื่อครั้งพล.ต.ขัตติยะ สวัสดิผล หรือเสธ.แดง ที่ถูกนำภาพเจ้าตัวไปโพสต์ตามเว็บไซต์ต่างๆว่า เดินทางไปกัมพูชาและถ่ายรูปร่วมกับพ.ต.ท.ทักษิณ แต่พล.ต.ขัตติยะออกมาแก้ต่างในภายหลังว่า แค่เป็นภาพคนหน้าเหมือนเท่านั้น
       
       คำต่อคำ นายธาริต เพ็งดิษฐ์ อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ แถลงข่าวที่ศอฉ.
       
       สวัสดีครับ ท่านผู้ชมที่เคารพ จากเหตุการณ์ความไม่สงบที่เกิดขึ้นขณะนี้ ในนามของกรมสอบสวนคดีพิเศษ กระทรวงยุติธรรม ในฐานะกระผมทำหน้าที่เป็น เลขานุการคณะกรรมการคดีพิเศษ ใคร่ขอถือโอกาสนี้ กราบเรียนข้อเท็จจริงบางประการ
       
       คณะกรรมการคดีพิเศษ มีมติให้การกระทำความผิด ซึ่งเกี่ยวข้องกับกรณี 4 กรณี ดังต่อไปนี้ เป็นคดีพิเศษที่ต้องทำการสอบสวนตามกฎหมาย ว่าด้วยการสอบสวนคดีพิเศษคือ 1 การกระทำเกี่ยวกับการก่อการร้าย 2 การกระทำที่เกี่ยวกับการขู่บังคับรัฐบาล 3 การกระทำที่เป็นการประทุษร้ายต่อประชาชนและเจ้าหน้าที่รัฐ และประการที่ 4 การกระทำต่ออาวุธยุทธภัณฑ์ของทางราชการ เมื่อคณะกรรมการคดีพิเศษมีมติให้เป็นคดีพิเศษแล้ว คดีทั้งหมดเหล่านี้ ก็โอนไปอยู่ความรับผิดชอบของการสอบสวนคดีพิเศษ ซึ่งมีกรมสอบสวนคดีพิเศษ เป็นหน่วยงานกลางที่รับผิดชอบ และมีหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ไม่ว่าจะเป็นสำนักงานตำรวจแห่งชาติ สำนักงานข่าวกรอง สำนักงานสภาความมั่นคง และหน่วยงานอื่นๆ อีก รวม 12 หน่วยงาน เข้ามาร่วมกันรับผิดชอบในคดีนี้ แม้จะได้มีมติเป็นคดีพิเศษแล้ว เหตุการณ์ความไม่สงบก็ยังมีต่อเนื่อง ทั้งๆที่ก่อนหน้านี้มีการวางระเบิดในสถานที่ต่างๆ ถึง 45 ครั้ง และยังมีเหตุการณ์ต่อเนื่องมาอีก ไม่ว่าจะเป็นการวางระเบิดเสาไฟฟ้าส่งสัญญาณแรงสูง ดังที่ทราบกันครับ และก็ต่อเนื่องมาจนการยิงจรวดอาร์พีจีเข้าใส่คลังเก็บน้ำมัน และต่อมาเมื่อคืนที่ผ่านมา มีเหตุการณ์รุนแรงด้วยการใช้ระเบิดทำลายสถานที่ และก็มีประชาชนได้รับอันตรายจำนวนมาก ในบริเวณถนนสีลมดังที่ทราบกัน
       
       เหตุการณ์ที่ต่อเนื่องมาตลอด เข้าลักษณะของการกระทำความผิดที่เป็นการก่อการร้ายในบ้านเมืองขณะนี้ ในนามของกรมสอบสวนคดีพิเศษ และหน่วยงานที่ร่วมบูรณาการทำงาน ขอประณามการกระทำของผู้ที่อยู่เบื้องหลังและมีส่วนเกี่ยวข้องการก่อการร้ายครั้งนี้ และขอเตือนว่า การกระทำดังกล่าว มีโทษตามกฎหมายอย่างรุนแรงถึงขั้นประหารชีวิต ขอให้ยุติการกระทำรุนแรงดังกล่าวต่อผู้บริสุทธิ์ และถือโอกาสนี้ขอเรียนว่า ผู้ที่ไม่เกี่ยวข้องกับบริเวณที่เกิดเหตุต่างๆ ควรจะหลีกเลี่ยงไม่เข้าไปเกี่ยวข้องโดยเฉพาะการชุมนุมขณะนี้ ซึ่งตามกฎหมายของบ้านเมืองขณะนี้ถือเป็นการชุมนุมที่ผิดกฎหมายครับ
       
       อีกส่วนหนึ่งที่กรมสอบสวนคดีพิเศษขอเรียนเพิ่มเติมคือ เมื่อวานนี้ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ ได้จับกุมผู้ที่ศาลได้ออกหมายจับไว้ เป็น 1 ใน 24 คน ของเหตุการณ์การชุมนุมครั้งนี้ คือ นายเมธีดังที่เป็นข่าว เนื่องจากความผิดของนายเมธี เกี่ยวข้องกับความผิดหลายเรื่อง และเรื่องหนึ่งเป็นเรื่องที่เกี่ยวกับการใช้อาวุธยุทธภัณฑ์ของทางราชการ ทางกรมสอบสวนคดีพิเศษมีความจำเป็นต้องเข้าทำหน้าที่ ในฐานะที่เป็นคดีพิเศษดังกล่าวมาแล้วด้วย กระผมเองได้ร่วมกับเจ้าหน้าที่ทำการซักถามปากคำของนายเมธีด้วยตนเอง นายเมธีได้ให้การในส่วนที่เป็นสาระสำคัญหลายประการ
       
       ประการแรกได้ยอมรับว่า เกี่ยวข้องกับเหตุการณ์ความไม่สงบ ในวันที่ 10 โดยร่วมเป็นแนวหน้าของการเรียกร้องประชาธิปไตยในครั้งนี้ และมีการปะทะกับเจ้าหน้าที่ฝ่ายรัฐ ที่จะขอคืนพื้นที่ บริเวณหน้าโรงเรียนสตรีวิทยานะครับ ผลจากการปะทะ ทางกลุ่มของนายเมธีได้ยึดเอาอาวุธยุทธภัณฑ์ ของทางราชการไปจำนวนหนึ่ง และตัวนายเมธีนำเอาอาวุธร้ายแรงจำนวนหนึ่งไปด้วย เป็นปืนกลมือของทางราชการ และนำไปแจกจ่ายให้กับบุคคลอื่นหลายคน ตัวเองได้เก็บไว้ด้วย ซึ่งต่อมาปฏิเสธว่า ให้คนอื่นไปหมด แต่ในความเป็นจริงจากการตรวจค้นรถยนต์ ซึ่งนายเมธีขับอยู่เมื่อวานนี้ตอนเช้า และค้นพบอาวุธปืนกลมือร้ายแรงของทางราชการดังกล่าวด้วย เป็นส่วนสำคัญที่ได้ยอมรับว่า อาวุธร้ายแรงของทางราชการนั้น มีการยึดไปจากเจ้าหน้าที่ฝ่ายทหาร และนำไปไว้เพื่อใช้ต่อสู้ในโอกาสต่อไป อีกส่วนหนึ่ง ได้ยอมรับในข้อเท็จจริงว่า ในการที่มีการปะทะกันยังที่เกิดเหตุนั้น มีการใช้อาวุธร้ายแรงจากฝ่ายนายเมธี ในการยิงเข้าใส่กลุ่มทหารที่เข้าขอคืนพื้นที่ด้วย
       
       นอกจากนั้น ยังยอมรับข้อเท็จจริงว่า เมื่อย้ายการชุมนุมมาที่สี่แยกราชประสงค์ ก็มีการประชุมปรึกษาหารือเพื่อวางแนวทางทุกวัน ณ สถานที่ซึ่งยังไม่ขอเปิดเผย อันนี้ เป็นส่วนข้อเท็จจริงที่นายเมธีให้ปากคำกับตัวกระผมเอง ซึ่งเป็นประโยชน์กับรูปคดี และทางกรมสอบสวนคดีพิเศษกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องจะได้ดำเนินการในการสืบสวนสอบสวนคดีนี้ต่อไป โดยเน้นให้ความเป็นธรรมทุกฝ่าย และดำเนินการอย่างตรงไปตรงมา
       ขอขอบคุณ ท่านผู้ชมครับ

 
 
 
จาก http://www.manager.co.th/asp-bin/mgrView.asp?NewsID=9530000055856
 


หัวข้อ: Re: [2513]"ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: เหยง 16 ที่ 23 เมษายน 2553, 13:08:01
เมื่อวานนี้ ช่วงบ่ายๆได้ไปทำธุระที่ รพ.เก้าเลี้ยว
เจอเข้ากับนักทำนายทายทัก เขาบอกว่า.......

ไทย, ประเทศอื่นรอบข้างของไทย และทั่วโลกก็ประสบปัญหาเช่นกัน เพียงแต่ประสบเภทภัยที่แตกต่างกัน
เช่น จีน..เจอพายุทรายที่ภาคเหนือ, พายุหิมะ ด้วย, ในขณะทั่วประเทศแห้งแล้งขาดน้ำอย่างหนัก แผ่นดินไหว เหมืองถล่ม
ยุโรปทั้งทวีป เจอกับภัยพายุหิมะ ตามด้วยภูเขาไฟระเบิดใต้ธารน้ำแข็ง บนฟ้ามีแต่ฝุ่น เดินทางทางอากาศไม่ได้
ลาว เขมร เวียตนาม แห้งแล้ง กันดารน้ำ แต่ข่าวไม่ดัง รวมทั้งพม่าก็เจอกับการวางระเบิดแล้ว  


เมื่อเทียบกับประเทศไทย ที่มีปัญหาภาคใต้ ภัยแล้งทั่วประเทศ แต่ก็ยังไม่สาหัส
เราปลูกข้าวได้ แต่ราคาตกต่ำ อย่างไรก็ตามเรามีข้าวกิน, คนอื่นเขาปลูกไม่ได้และไม่มีจะกิน
อีกปัญหาของเราคือ เสื้อแดง ถือเป็นภัยอย่างหนึ่ง..เขาบอกว่า..เดี๋ยวก็จบ (แต่ไม่ได้บอกว่า จบอย่างไร??)


หัวข้อ: Re: [2513]"ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: prapasri AH ที่ 23 เมษายน 2553, 15:05:26


รับอีเมล์ มา ไม่น่า ที่ท่านจะกล้า twitt แบบนี้ ไม่น่าจะจิงเนอะ


(http://img219.imageshack.us/img219/9194/lives.jpg)


หัวข้อ: Re: [2513]"ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: prapasri AH ที่ 23 เมษายน 2553, 15:09:26
เเต่ อันนี้จริงแท้แน่นอน


(http://img217.imageshack.us/img217/9352/tu2k.jpg)


หัวข้อ: Re: [2513]"ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: เหยง 16 ที่ 23 เมษายน 2553, 15:49:28
ความคืบหน้าในการจับตัว นาย เมธี อมรวุฒิกุล เชื่อว่า ความลับในวันที่ 10 เมษายน 53 ต้องถูกเปิดเผยออกมา

พบสารประกอบวัตถุระเบิด!!ในรถ"เมธี"
23 เมษายน 2553 14:45 น.
 
       แพทย์หญิงคุณหญิงหมอพรทิพย์ โรจนสุนันท์ ผู้อำนวยการสถาบันนิติวิทยาศาสตร์ ในฐานะกรรมการศูนย์อำนวยการแก้ไขสถานการณ์ฉุกเฉิน (ศอฉ.) เข้าตรวจสอบรถยนต์มิซูบิชิไทรทัน สีดำ ทะเบียน ตท 3483 กทม. ของนายเมธี อมรวุฒิกุล นักแสดงแนวร่วมกลุ่ม นปช. ซึ่งถูกตำรวจจับกุมได้พร้อมอาวุธสงครามเมื่อวานนี้(22 เม.ย.) โดยได้ใช้เครื่องไซโต ในการตรวจหา DNA คราบเขม่าดินปืน และสารประกอบวัตถุระเบิดภายในรถดังกล่าว รวมทั้งนำสิ่งของต่างๆ ที่อยู่ภายในรถมาตรวจอย่างละเอียด เบื้องต้นตรวจด้วยเครื่องไซโต แล้วพบสารระเบิด บริเวณที่วางเท้าของคนขับ และคนนั่งข้างคนขับ ทั้งนี้จะต้องนำไปตรวจด้วย เครื่องไซรอนสแกนให้เกิดความชัดเจนอีกครั้ง ซึ่งจะต้องส่งพยานหลักฐานทั้งหมดให้กับกรมสอบสวนพิเศษ (ดีเอสไอ) เนื่องจากคดีดังกล่าวเป็นคดีพิเศษแล้ว
        นอกจากนี้ ภายในรถยังตรวจพบเสื้อแดง หมวกโม่งไหมพรม รวมไปถึงผ้าพันคอสีแดง เสื้อแจ็กเก็ตเสื้อแดงปทุมธานี อย่างไรก็ตาม จะต้องตรวจสอบต่อไปด้วยว่า อุปกรณ์ทั้งหมดนั้น มีคราบเขม่าดินปืน หรือสารวัตถุระเบิดหรือไม่ เพื่อรายงานสรุปผลต่อ ศอฉ.ต่อไป

 
 
จาก http://www.manager.co.th/asp-bin/mgrView.asp?NewsID=9530000055983
 


หัวข้อ: Re: [2513]"ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: prapasri AH ที่ 23 เมษายน 2553, 15:53:54

(http://img231.imageshack.us/img231/9803/tu3.jpg)


หัวข้อ: Re: [2513]"ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: prapasri AH ที่ 23 เมษายน 2553, 15:55:04

(http://img231.imageshack.us/img231/9263/tu4.jpg)


หัวข้อ: Re: [2513]"ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: prapasri AH ที่ 23 เมษายน 2553, 15:56:16

(http://img227.imageshack.us/img227/4808/tu5.jpg)


หัวข้อ: Re: [2513]"ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: prapasri AH ที่ 23 เมษายน 2553, 15:57:47
(http://img227.imageshack.us/img227/5026/tu6.jpg)


หัวข้อ: Re: [2513]"ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: prapasri AH ที่ 23 เมษายน 2553, 16:06:39
(http://img215.imageshack.us/img215/451/tu1j.jpg)


ส่งมาให้ดู เพื่อจะได้หัวเราะออกได้บ้างในความเศร้า กับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ณ เมษา นี้

ณ เวลานี้  มันเลยความสำคัญของเจ้า ตู่ไปมากแล้ว

ตู่คือ ผู้เเสดงเล็กๆ ตัวหนึ่งเท่านั้นเอง

ที่ขณะนี้ต้องกังวล จะอยู่หรือ ไป จะตายหรือจะรอด

คนที่ต้องใช้โล่ มนุษย์ กำบังไว้ตลอดเวลา ไม่ว่าจะ อุจจาระ หรือปัสสาวะ

ภาษา ไพร่คือ จริงๆ คือจะขี้หรือจะเยี่ยว

เงินก็ได้น้อย ถ้าเทียบกับอัตตราส่วน ของคนที่อยู่เงียบๆ เบื้องหลัง

ค่าเเผดเสียงของตู่ไม่แพงเลย  เเม้จะมากสำหรับชีวิตตู่ก็จริง

แต่ไม่ได้ครึ่งหนึ่งของคนที่ ไม่ต้องแผด อะไรเลย

แต่รับคำบงการของนายอยู่โดยตรง


หัวข้อ: Re: [2513]"ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: อ้อย 14 ที่ 23 เมษายน 2553, 16:15:10
 emo18:brae:ดูแล้วตลกจริงพี่แอ๊ะ...คนอาไร๊ ...เหมือนสัตว์จริงๆ  สงสัยในสมองคงกลายเป็นสัตว์ไปแร้วส์ส์....น่าสงสาร   คงไม่น่าจะได้มีโอกาสใช้เงิน emo48:)


หัวข้อ: Re: [2513]"ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: เหยง 16 ที่ 23 เมษายน 2553, 18:00:57
ผมเห็นด้วยกับคำพูดของ ผบ.กองทัพไทย (ผมขีดเส้นใต้ไว้แล้วครับ)

วันที่ 23 เมษายน พ.ศ. 2553 เวลา 16:20:32 น.  มติชนออนไลน์

ปลัดกห.ชี้แดงปฏิเสธเอ็ม79ถล่มม็อบหลากสีไม่ได้ "ชวน"เชื่อไม่ใช่มือที่สาม เป็น"มือที่หนึ่ง"แบ่งกันทำ

ปลัด กห.ชี้แดงผิดพลาด ปฏิเสธ"เอ็ม79"ถล่ม"ม็อบหลากสี"ไม่ได้ "หมอพรทิพย์"ตรวจที่เกิดเหตุดูวิถีกระสุน ผอ.เขตบางรักเผยคนยังโกรธแค้นหวั่นปะทะเสื้อแดงรุนแรงขึ้น "ชวน"ยัน"มือที่หนึ่ง"แต่แบ่งหน้าที่กันทำงาน


ปลัด กห.ชี้แดงผิดพลาด ปฏิเสธ"เอ็ม79"ถล่ม"ม็อบหลากสี"ไม่ได้  

พล.อ.อภิชาต เพ็ญกิตติ ปลัดกระทรวงกลาโหม กล่าวถึงสถานการณ์การชุมนุมของคนเสื้อแดงว่า สถานการณ์พัฒนามาตลอด ตนมองว่าสิ่งที่แนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.)  ดำเนินการเป็นการสร้างปัญหาให้ นปช. เอง มากกว่าสร้างประโยชน์ เพราะเกิดปัญหากับประชาชนในเรื่องการยอมรับ เพราะการชุมนุมที่เกิดขึ้น ไม่ใช่การชุมนุมโดยสันติตามที่กล่าวอ้าง ขณะนี้ชัดเจนว่าสิ่งที่ทำเพื่อสร้างความปั่นป่วนในบ้านเมือง เชื่อว่าประชาชนโดยรวมไม่ยอมรับการกระทำ ซึ่งรัฐบาลพยายามแก้ไขปัญหาโดยใช้วิธีนุ่มนวลที่สุด พยายามบังคับใช้กฎหมายอย่างมีประสิทธิภาพมากที่สุด แต่การบังคับใช้กฎหมายค่อนข้างมีปัญหา แต่เชื่อว่าการอดทนของเจ้าหน้าที่จะสามารถดำเนินการไปได้ เจ้าหน้าที่ทุกคนทุ่มเททำงานตลอด ไม่มีใครใส่เกียร์ว่าง ทุกคนทำตามที่ผู้บังคับบัญชาสั่งการมาตลอด

พล.อ.อภิชาต กล่าวว่า เหตุระเบิดที่เกิดขึ้น คงทำให้การดำเนินการเป็นประโยชน์ทางลบต่อผู้กระทำมากกว่า เชื่อว่ารัฐบาลและนายกรัฐมนตรีเข้าใจ และอดทนต่อสถานการณ์ แต่ทุกคนอดทนจำกัด แต่เพื่อให้ปัญหาของชาติผ่านไปได้ ต้องอาศัยความอดทนพอสมควร ทั้งนี้ เราไม่อยากให้เกิดการเผชิญหน้าปะทะกันของประชาชน เพราะสุดท้ายผู้บาดเจ็บคือประชาชน แต่แกนนำไม่เคยมีใครบาดเจ็บหรือถูกอาวุธ เรื่องนี้ไม่อยากให้เกิดขึ้น แต่หากเกิดกับแกนนำคงไม่มีใครว่า 

"เชื่อว่าสิ่งที่เกิดขึ้นเมื่อคืนวันที่ 22 เมษายนที่ผ่านมา จะนำไปสู่การคลี่คลายสถานการณ์ที่ไปในเชิงบวก คิดว่าสิ่งที่เขาทำคือความผิดพลาด แม้ไม่ยอมรับว่าเกิดขึ้นจากคนเสื้อแดง แต่เป็นแง่คิดได้ว่า ทำไมเหตุระเบิดไม่เกิดขึ้นกับคนเสื้อแดงบ้าง ไม่เคยมีเอ็ม 79 ตกใส่กลุ่มเสื้อแดงเลย ดังนั้น ปฏิเสธไม่ได้ว่าอย่างน้อยเขาเป็นแนวร่วม นปช. ทั้งนี้ เราไม่อยากให้มีการเสียชีวิตของประชาชน แต่เราคงไปห้ามคนที่คิดร้าย คนที่ไม่มีอุดมการณ์ไม่ได้" พล.อ.อภิชาต กล่าว

                                           ฯลฯ
อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่

http://www.matichon.co.th/news_detail.php?newsid=1271954748&grpid=00&catid=no


หัวข้อ: Re: [2513]"ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: เหยง 16 ที่ 24 เมษายน 2553, 09:49:41
บทบรรณาธิการของ นสพ แนวหน้า ออนไลน์ วันนี้(24 เมษายน 2553)

บทบรรณาธิการ   
 
ปัญหาของชาติที่ยังไม่ยอมจบ (บทบรรณาธิการ)   
 
 
 
 เมื่อค่ำวันที่ 22 เมษายนที่ผ่านมาได้มีบุคคลกลุ่มหนึ่งได้ยิงลูกระเบิดเอ็ม 79 เป็นจำนวน 5 ลูกไปตกที่บริเวณสี่แยกศาลาแดงและสถานีรถไฟฟ้าบีทีเอสศาลาแดงซึ่งผลจากแรงของระเบิดทำให้มีประชาชนได้รับอันตรายถึงชีวิตไป 1 รายคือนางธัญญานัน แถบทองอายุ 56 ปีมีอาชีพเปิดร้านจำหน่ายอาหารตามสั่งให้แก่พนักงานบริษัทต่างๆที่ไปทำงานที่ศูนย์การค้าบนถนนสีลม

 นอกจากนี้ยังทำให้มีคนได้รับบาดเจ็บเป็นจำนวน 86 คนในจำนวนนี้มีชาวต่างประเทศรวมอยู่ด้วย 4 คนเป็นผู้ถือสัญชาติออสเตรเลีย สหรัฐอเมริกา ญี่ปุ่นและอินโดนีเซียชาติละ 1 คน ญาติของนางธัญญานันซึ่งทราบว่าเป็นบุตรสาวคนโตของนางธัญญานันได้ให้สัมภาษณ์กับผู้สื่อข่าวว่า มารดาของเธอไม่ได้เป็นคนกลุ่มใดก่อนได้รับบาดเจ็บจากสะเก็ดระเบิดจนถึงเสียชีวิตกำลังจะเดินทางกลับบ้านที่ตลาดบางรักแต่ก็ต้องมาถึงแก่กรรมอย่างน่าเศร้าสลดเป็นอย่างยิ่ง

 ผู้ที่ยิงระเบิดเอ็ม 79 ไปยังสี่แยกศาลาแดงนั้น จากการตรวจสอบของเจ้าหน้าที่ตำรวจและทหารคาดว่า น่าจะมาจากคนที่ชุมนุมอยู่ในกลุ่มคนเสื้อแดงหรือแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ(นปช.) เพราะ ปืนยิงระเบิดดังกล่าวมีรัศมีการยิงในระหว่าง 200 ถึง 400 เมตร

 ขณะเดียวกันทางด้านนายธาริต เพ็งดิษฐ์ อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษกระทรวงยุติธรรมได้เปิดเผยผลการสอบสวนนายเมธี อมรวุฒิกุลหนึ่งในแกนนำของ นปช.อดีตดาราที่เคยสังกัดสถานีโทรทัศน์ช่อง 7 สีได้ยอมรับสารภาพว่ากระทำความผิดเกี่ยวกับการนำเอาอาวุธยุทธภัณฑ์ทางทหารไปเป็นของตนเองโดยได้จากเหตุการณ์สลายม็อบที่สี่แยกคอกวัวถนนราชดำเนินกลางเมื่อวันที่ 10 เมษายนนี้

 ส่วนคดีการก่อการร้ายอื่นๆที่เกิดขึ้นในพื้นที่กรุงเทพมหานครในรอบ1 เดือนที่ผ่านมาเช่น การปาระเบิดตามสถานที่ต่างๆ การลอบยิงคลังน้ำมันในเขต อ.ลำลูกกา จ.ปทุมธานี และการวางระเบิดเสาส่งไฟฟ้าแรงสูงฯลฯนั้นทางเจ้าหน้าที่กำลังสอบสวนอยู่และคาดว่านายเมธีและพวกอาจจะมีส่วนรู้เห็นด้วย

 เมื่อดูพฤติกรรมของ นปช.ซึ่งมีแกนนำอยู่จำนวน 24 คนนั้นมีการเพิ่มอัตราของความรุนแรงมากขึ้นเรื่อยๆโดยเฉพาะการยึดพื้นที่สี่แยกราชประสงค์ยังผลให้ประชาชนไม่น้อยกว่า 100,000คนต้องได้รับความเดือดร้อนไม่สามารถประกอบอาชีพของเขาได้ตามปกติ

 การตั้งข้อเรียกร้องของคนเสื้อแดงหรือ นปช.นั้นเป็นที่รู้กันว่ามีต้นเหตุมาจากพ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตรอดีตนายกรัฐมนตรีผู้ที่หนีคดีอาญาอยู่ในต่างประเทศซึ่งต้องเสียสูญอำนาจไปเพราะการรัฐประหารของคมช.เมื่อวันที่ 19 กันยายน 2549 ผู้ที่จะทำให้เรื่องนี้ยุติได้ก็คือพ.ต.ท.ทักษิณเพียงคนเดียว ถ้าหาก พ.ต.ท.ทักษิณยังไม่ยอมจบปัญหาของชาติก็ยังจะคงมีอยู่ต่อไปอีกหลายปีอย่างแน่นอน 
 
วันที่ 24/4/2010
 
http://www.naewna.com/news.asp?ID=208501


หัวข้อ: Re: [2513]"ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: เหยง 16 ที่ 24 เมษายน 2553, 09:52:08
บทบรรณาธิการของ นสพ.ไทยโพสต์ ออนไลน์

อย่าเล่นเกมในการแก้ไขปัญหา "มาร์ค-ป๊อก"ต้องหาทางออกร่วมกัน
บทบรรณาธิการ 24 เมษายน 2553 - 00:00

  มีความชัดเจนแล้วว่า  หลังจาก  พล.อ.อนุพงษ์  เผ่าจินดา  ผู้บัญชาการทหารบก  ได้รับมอบหมายจากนายกรัฐมนตรีให้เป็นผู้รับผิดชอบเหตุการณ์  โดยเฉพาะการใช้กำลังในการดูแลรักษาความสงบเรียบร้อย  ยังไม่มียืนยันว่าจะมีการสลายการชุมนุมของกลุ่มเสื้อแดงที่แยกราชประสงค์  ด้วยการวิเคราะห์ว่าจะสร้างความสูญเสียต่อชีวิตและทรัพย์สินในบริเวณดังกล่าวจนยากที่สังคมจะรับได้  ดังนั้น  การปฏิบัติการทางทหารจึงเป็นเพียงแต่การเฝ้าระวังรักษาพื้นที่ไม่ให้การชุมนุมรุกคืบเข้าไปในพื้นที่ใหม่
     โดยเฉพาะพื้นที่บริเวณถนนสีลม  ซึ่งเป็นแหล่งธุรกิจ  แหล่งค้าขาย  และเป็นที่ตั้งของออฟฟิศที่ทำการเอกชนหลายแห่ง  ที่สำคัญมีมวลชนเดิมที่เคลื่อนไหวชุมนุมกับกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยหรือกลุ่มเสื้อเหลืองมาแล้ว  ซึ่งแสดงท่าทีไม่พอใจที่กลุ่มเสื้อแดงจะเข้าไปยึดพื้นที่ดังกล่าวเพื่อการชุมนุม  ซึ่งเมื่อสงกรานต์เลือดปีที่แล้วชุมนุมบริเวณใกล้เคียง  เช่น  บริเวณถนนนราธิวาสราชนครินทร์  ที่ตัดกับถนนสีลมเส้นหลัก  เคยออกมาต่อต้านโดยไม่ให้เสื้อแดงย่างกรายเข้ามาเด็ดขาด
     กระนั้น  การคาดการณ์ว่ากลุ่มคนไทยที่มีทัศนคติและความเห็นที่แตกต่างกัน  อีกทั้งมีปฏิกิริยาต่อต้านกันอาจจะออกมาชุมนุมจนส่งผลให้เกิดความรุนแรงขึ้นได้   เนื่องจากเกิดเหตุปะทะกัน  แต่กลับกลายเป็นว่าการคาดการณ์นั้นผิดไปจากการมองกันไว้  เพราะการเผชิญหน้าดังกล่าวถูกจัดการด้วยการใช้อาวุธสงครามเพื่อขับไล่ฝ่ายตรงข้าม   จนมีผู้คนบาดเจ็บล้มตายเป็นจำนวนมาก  และส่วนใหญ่เป็นมวลชนที่ไม่ได้เป็นกลุ่มฮาร์ดคอร์กลับได้รับผลกระทบจากเหตุที่เกิดขึ้นอย่างรุนแรงเกินคาด
     ภาพที่ออกมาทำให้เราเห็นแล้วว่า  อารมณ์ของผู้ชุมนุมสองฝ่ายมีความโกรธแค้นและพลุ่งพล่านยากเกินควบคุม  ไม่ว่าจะเป็นฝ่ายกลุ่มเสื้อแดงที่อยู่ฝั่งโรงพยาบาลจุฬาฯ  และกลุ่มเสื้อเหลืองที่อยู่คนละฟากถนน  ที่ต่างด่าทอและใช้ของขว้างปากันอย่างดุดัน  ราวกับว่ามีปัญหาความขัดแย้งกันมาแต่ชาติปางไหน  ยิ่งไปกว่านั้นแนวร่วมของฝ่ายเสื้อแดงพร้อมใช้อาวุธสงครามในการประหัตประหารเอาชีวิตฝ่ายตรงข้ามอย่างไม่เกรงกลัวต่อกฎหมายกบิลเมืองใดๆ  ทั้งสิ้น
     เหตุผลที่กองทัพจะไม่สลายการชุมนุมจึงมีน้ำหนักพอสมควร  เพราะผลลัพธ์ที่ออกมาเสี่ยงเกินไปที่จะเกิดความสูญเสียต่อชีวิตคน  ซึ่งขณะนี้สังคมก็ไม่พร้อมจะรับผลที่จะออกมาเช่นนั้นได้  อย่างน้อยที่สุดสังคมไทยเป็นสังคมพุทธที่ไม่พร้อมจะเลือกใช้ความรุนแรงในการจัดการปัญหา  การหันหน้าพูดจากันโดยเลือกทางออกที่ดีที่สุด  และน่าจะเป็นจุดร่วมที่ทุกฝ่ายเดินเข้ามาหากัน  คุยกันแบบเปิดอก  เพื่อหาจุดตรงกลางที่ผู้มีส่วนได้ส่วนเสียในสังคมรับได้ 
     แต่หากในแง่ประสิทธิภาพในการบริหารจัดการปัญหาของภาครัฐ  โดยเฉพาะรัฐบาลที่ต้องเจอกับปัญหาในรัฐสมัยใหม่  การที่ไม่สามารถสร้างความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สิน  และแก้ไขปัญหากลุ่มมวลชนหรือกลุ่มผลประโยชน์ที่ออกมาเรียกร้องจนสร้างความวุ่นวาย  เกิดความไม่สงบขึ้นในสังคมนั้น  ก็เป็นแรงสะท้อนกลับไปสู่การตั้งคำถามต่อรัฐบาลที่ไม่มีฝีมือพอในการประสานงานกับหน่วยงานทั้งหมดเพื่อจัดการปัญหาที่เกิดขึ้น
     ผลลัพธ์จากปัญหาที่เกิดขึ้นอย่างยืดเยื้อจึงไม่เป็นผลดีกับทุกฝ่าย  ไม่ว่าจะเป็นรัฐบาล  กองทัพ  กลุ่มผู้ชุมนุมเสื้อแดง  กลุ่มผู้ต่อต้านทั้งหมด  ผู้ประกอบการ  ลูกจ้าง  คนทำงาน  รวมถึงสภาพการณ์ของประเทศโดยภาพรวมที่ต้องได้รับผลกระทบ  อันเกิดจากภาพลักษณ์ของประเทศที่ขาดความเชื่อมั่น  ผลกระทบด้านการท่องเที่ยว  การลงทุนต่างๆ  ก็ได้รับผลกระทบไปด้วย  นอกจากนั้น  ยังทับถมทวีคูณความขัดแย้งที่สะสมระหว่างการชุมนุมจากการเสพข้อมูลจากแกนนำที่ได้กระทำการปลุกระดมอยู่ทุกเมื่อเชื่อวัน
     เราจึงมีคำถามว่า  ถึงเวลาแล้วหรือยังที่ผู้มีอำนาจของบ้านเมืองจะหันหน้ามาปรึกษาหารือเพื่อหาแนวทางในการแก้ไขปัญหาให้ดีขึ้นกว่าที่เป็นมา  หาใช่การโยนกลองหรืออำนาจความรับผิดชอบโดยใช้กฎหมายเป็นเกมหน้าฉากในการส่งถ่ายปัญหากันไปมา  โดยที่ประชาชนในชาติมองตาปริบๆ  กับการที่การเมืองโยนเผือกร้อนให้กองทัพ  ในขณะที่กองทัพก็ดื้อแพ่งไม่ยอมสลายการชุมนุมเพราะเกรงว่าการกระทำนั้นจะเสี่ยงต่อชีวิตคน    สรุปตบท้ายด้วยการโทษกันไปกันมาว่า  แต่ละคนไม่ยอมแก้ไขปัญหาในจุดรับผิดชอบของตัวเอง  เราจึงหวังว่าในระยะเวลาอันใกล้นี้  ผู้มีอำนาจของรัฐบาลและกองทัพน่าจะเปิดอกคุยกันว่าจะหาทางออกของประเทศอย่างไร  ซึ่งอาจเป็นทางที่สามในการที่ทุกฝ่ายรับได้  เพราะเราเชื่อว่าคนในประเทศไม่ต้องการให้ปัญหาจบลงที่การนองเลือด  หรือคนไทยต้องตายเป็นเบือ  เพราะน้ำมือคนไทยด้วยกันเอง.

http://www.thaipost.net/news/240410/21241


หัวข้อ: Re: [2513]"ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: เหยง 16 ที่ 24 เมษายน 2553, 09:54:21
บทความ คุณเปลว สีเงิน

บนเส้นทาง "ที่ชอบๆ" ของพลเอกอนุพงษ์
เปลว สีเงิน 24 เมษายน 2553 - 00:00

  ก็เป็นที่ชัดเจนแล้วนะครับว่า  "กองทัพ"  จะเอายังไงกับกบฏทักษิณ   หลังประชุมระดับบิ๊กกองทัพบกเสร็จวานนี้   (๒๓  เม.ย.๕๓)  ผลการประชุมก็ถูกแถลงออกมาว่า  "พลเอกอนุพงษ์   เผ่าจินดา"   มอบนโยบาย  "แหย-แอ๊บแบ๊ว-แต๋วแตก"  ให้หน่วยกำลังไปปฏิบัติ  คือ  "อย่าปฏิบัติด้วยการใช้กำลังสลายชุมนุม"  ด้วยเหตุผลว่า  "ทำอย่างนั้นปัญหาก็ไม่จบ"  แนวทางที่จะทำให้ปัญหาจบของท่านก็คือการให้ไป  "สร้างความเข้าใจ"  กับคนเสื้อแดง
     ซ้า.....ธุ  ท่านมหา!
     เดือนเมษานี้ไม่นับ  ก็นับจากเดือนพฤษภาคมไปจนถึงวันที่  ๓๐  กันยายน  ก็ตก  ๕  เดือน  ปัญหาจบแน่  และจบล้านเปอร์เซ็นต์ด้วย
     แต่เป็นล้านของท่านพลเอกอนุพงษ์คนเดียวนะครับ   เพราะถึง  ๓๐  กันยา  ท่านก็ครบวาระเกษียณ  บ๊าย..บาย..ปู๊น..ปู๊น..ในส่วนของความเป็นบ้านเมือง  คงเลี่ยนเตียนโล่ง  (แทบ)  ไม่มีอะไรเหลือให้ต้องสลายแล้ว!?
     คิดแล้วน่าขำ   หรือน่าสมเพชเวทนานายกฯ  อภิสิทธิ์ก็ไม่รู้นะ  หลัง  ๑๐  เมษา  นายกฯ  "แบ่งอำนาจ"  ตาม  พ.ร.ก.ฉุกเฉิน  จากรองฯ  สุเทพมาครึ่งหนึ่งให้กับพลเอกอนุพงษ์   "มีอำนาจเต็ม"  ในด้านปฏิบัติการสลายม็อบ  เพราะเหตุการณ์  ๑๐  เมษา  ถือว่ารองฯ  สุเทพทั้งพลาด  และทั้งบกพร่อง  คงด้วยไม่ประสากับการทหาร
     จากวันนั้น  ก็  ๗-๘  วันมาแล้ว  ที่พลเอกอนุพงษ์รับหน้าที่ปราบกบฏไปนอนก่ายหน้าผากคิดแผน   ก็คงคิดแบบสุขุมคัมภีรภาพชนิดที่มนุษย์สามัญยากหยั่งถึง  ชาวบ้านพอจะอุ่นอก-อุ่นใจว่า  "เอาละวะตานี้  ลูกพี่ใหญ่สั่งลุยแน่  จะปล่อยให้กบฏก่อการร้ายยึดบ้านเมืองไว้อย่างนี้ได้อย่างไรกัน  อีกทั้งลูกน้องของท่านทั้งนายทหารและชั้นประทวนก็ถูกฆ่า  นอนก่ายทั้งในเตียงและในหลุมศพเกลื่อนคาตาไปหมด"
     วันก็แล้ว..สองวันก็แล้ว..สามวันก็แล้ว..กบฏแดงขยายตัวยึดพื้นที่เพิ่ม  เสริมกำลังสร้างป้อมคูประตูรบ   แต่ฝ่ายกองทัพก็ยังคง  "ใช้ความสงบสยบความเคลื่อนไหว"  ไม่ปฏิบัติการอะไร  นอกจากส่งลูกน้องแต่งชุดออกศึกไปอวดสาวตามถนน
     จนเมื่อคืนวานซืน...!
     จาก   ๑๐  เมษา  ห่างมาอีก  ๑๒  วัน  ถึง  ๒๒  เมษา  กองกำลังกบฏทักษิณก็แสดงแสนยานุภาพยิงเอ็ม  ๗๙  คราวเดียว  ๔-๕  ลูก  ไปตก  ๓-๔  จุด  ย่านสีลม  ประชาชนทั้งไทย-ทั้งเทศเจ็บ-ตายได้รับทุกขเวทนากันถ้วนหน้าเป็นร้อย   ท่ามกลางการยืนดูและตบมือ  โห่ร้อง  เกรียวกราวด้วยความชอบใจของกองกำลังฝ่ายกบฏทักษิณ
     ก็เป็นที่น่าสังเกต  นับตั้งแต่กบฏบ้าน-กบฏเมืองมาเป็นเดือน  ชาวบ้าน-ทหารตายไปเป็นสิบ  แต่ปรากฏว่า  ลูกระเบิด  หรือเอ็ม  ๗๙  หรือแม้แต่ประทัดซักนัด  ไม่เคยตกลงไปในวงชุมชุมกบฏทักษิณเลย!?
     "หนุ่ม-สาวชาวเว็บไซต์"   ทั้งหลาย  เห็นทีภาระพิทักษ์ชาติครั้งนี้จะไม่พ้นบ่าพวกเราแล้ว  มีความเห็นในประเด็นเช่นนี้อย่างไร  ช่วยวิจัย-วิจารณ์ประกอบข้อมูลหน่อยก็ดี!
     ๒๒   เมษา  เป็นคืนวันพฤหัสฯ  เหมือนกับเย้ยคำนัดหมายพลเอกอนุพงษ์ที่นัดประชุมนายทหารหน่วยขึ้นตรงทั้งหมดที่กองทัพบกในวันรุ่งขึ้นคือวันศุกร์ที่  ๒๓  เมษา  ผมก็คงเหมือนชาวบ้านทั้งหลาย  นอนปวดแปลบแสบใจ  และแอบหวังในใจว่า  "ความชั่วช้า"  ที่มันทำกับชาติ  กับ
พี่น้องคนไทยร่วมชาติด้วยกันซ้ำๆ  ซ้อนๆ  อย่างนี้
     เห็นทีในการประชุมครั้งนี้   พลเอกอนุพงษ์จะต้องมีแผน  "ชัด-ปฏิบัติ-จบ"  ออกมาเช็กบิลแน่นอน!
     แล้วผลการประชุมที่ออกมา   ก็...แน่นอนจริงๆ  คือแน่นอนว่า  "แหย-แอ๊บแบ๊ว-แต๋วแตก"
     และ...ตายเปล่า!?
     ให้ไปสร้างความเข้าใจ  "สร้างกะใคร-เอาอะไรไปสร้าง?"  พวกกบฏคาเมืองอยู่ตอนนี้มันโง่ไม่เข้าใจอะไร   รอให้คนฉลาดอย่างพลเอกอนุพงษ์  "ศิษย์เอกสุนทรภู่"  รู้อะไรไม่สู้รู้วิชา  รู้รักษาตัวรอดเป็นยอดดี  ไปชี้แนะทางสว่างแห่งชีวิตให้พวกเขาอย่างนั้นหรือ?
     การสร้างความเข้าใจน่ะ...ใช่   ไม่มีใครเถียง  แต่นั่นมันนามธรรมทางจิตสำนึก  ทางจิตวิญญาณ   ต่อให้ถึงยุค  "พระศรีอริยเมตตรัย"  มาโปรด  ก็ไม่มีทางทำให้  "บัวใต้น้ำ"ชูก้าน-บานดอกได้
     แต่กับปัญหาเฉพาะหน้า   ขณะนี้-เดี๋ยวนี้  อันเหมือนไฟกำลังไหม้บ้าน  ที่พวกเสื้อแดงทักษิณอันมีตำรวจ-ทหาร-สมาชิกรัฐสภา-พ่อค้า-นายทุน  บางคน-บางกลุ่ม  ร่วมกระทำการกบฏอยู่
     ท่าน   ผบ.ทบ.เห็นว่า  ควรสอนจริยธรรมและกฎหมายให้มือเพลิงเข้าใจ  แล้วไฟที่กำลังไหม้บ้านมันจะดับไปเองงั้นหรือ   ผมว่ามันไม่น่าใช่นะครับ  เหมือนกับที่ท่านใช้วิธีให้กำลังพลแต่ละคนในกองทัพไปเคาะประตูบ้านทำความเข้าใจกับชาวบ้านเสื้อแดงนั่นแหละ?
     ท่านลาพักร้อน  "ก่อนเกษียณ"  ไปดูใจเพื่อนรัก  ที่พะงาบๆ  อยู่ที่ดูไบดีกว่ามั้ย?
     ได้ข่าวว่าอาการโคม่าหนัก   ดาวคุณธรรม  "เจ้าบ้าน"  จะมาเข้าบ้านเขาที่ราศีมีนอยู่ในวันจันทร์ที่  ๒๖  นี้แล้ว  และราหูเจ้าตัวในดวงเดิมก็ดันมาอยู่ในบ้านของดาวคุณธรรมล้ำเลิศเขาซะด้วย  เหมือนโจรป่วยนอนรอพระสวด  แถมเสาร์เล็ง  และมีมฤตยูเสริม
     ผมไม่อยากจะพูดอะไร  บอกไว้นานแล้ว  เสาร์รอบ  ๓๐  ปีนี้  เป็นเสาร์  "รอบเช็กบิล"  ใครทำดี  มีพระช่วย  ใครทำซวย  ถึงขั้นม้วยมรณา!?
     แต่อย่างที่บอก   กบฏเสื้อแดงตอนนี้เขามองข้าม  "ศพทักษิณ"  ไปนานแล้ว  อย่านึกว่าถ้าทักษิณสูญแล้ว   ขบวนการกบฏจะเสื่อมสลาย    ขบวนการของเขารุกคืบหน้าไปมากแล้วชนิด   "ฟ้าก็ห้ามบ่ได้"  ยิ่งทักษิณตายพวกเขายิ่งชอบ  ไม่เชื่อลองไปถามคนชื่อจิ๋ว..จิ๋ว..ดูก็ได้  และตอนนี้ดาวกบฏของเขาก็เข้าเขตมีฤทธิ์เสียด้วย
     ช่วงนี้-อภิสิทธิ์ไม่แพ้  ประเทศชาติไม่พัง  แต่อีก  ๒-๓  เดือนข้างหน้า  บ้านเมืองต้องฝากไว้กับคุณธรรมประจำตัว-ประจำใจแต่ละคน   ก็หมั่นสงบจิตสวดมนต์ภาวนา  แผ่เมตตาบารมีกันให้มากเข้าไว้   สิ่งนี้ก็จะช่วยบ้านเมืองได้  ผมจะบอกให้สบายใจอย่างหนึ่ง  ประเทศไทยนั้นจะยิ่งใหญ่ไพศาล  มีแต่คนไม่ว่าชาติไหน-ภาษาไหนจะแย่งกันมาอยู่  มาเที่ยว  มาลงทุน  เรียกว่ารวยกันจนหัวหมุน  แต่มีเงื่อนไขเดียวคือ
     คนดี-มีศีลธรรมเท่านั้นจะคงอยู่   ส่วนพวกมารร้าย   ลบหลู่สถาบัน  โค่นบ้าน-ล้มเมือง  จะต้องกลับไปอยู่  ณ  ที่ซึ่งพวกเขาต้องไปอยู่  นั่นคือที่  "นรกขุมที่  ๘"  อันเป็นขุมที่ลึกและร้ายแรงที่สุดอย่างที่เราเรียกกันว่า  "อเวจีนรก"  นั่นแหละ!
     พลเอกอนุพงษ์ท่าน   "ตัดช่องน้อยแต่พอตัว"  ของท่านอย่างนั้น  ถ้าผมเป็นนายกฯ  อภิสิทธิ์  ก็จะช่วยส่งเสริมท่าน  คืออนุญาตให้ท่านได้ลาพักร้อน  "ก่อนเกษียณ"  แล้วให้นายทหารที่เหมาะสม  และเขาพร้อมที่จะบัญชาการดับไฟที่กำลังไหม้บ้านอยู่ตอนนี้เข้ามาทำหน้าที่แทน
     คนเรามันก็พิสูจน์กันตอนเป็น-ตอนตายนี่แหละ  แตะมือแล้วบ๊าย..บาย..ไปได้เลย  เรื่องอย่างนี้ไม่ว่ากัน!
     ความจริงคำสั่งคุ้มครองชั่วคราวที่ศาลแพ่งท่านสั่งมาวานซืนนี้  เราสรุปกันว่า  "ศาลท่านห้ามสลายผู้ชุมนุม"  แต่ถ้าไปอ่านแล้วตีความให้แตก  จะเห็นทันทีว่า  ศาลท่านไม่ได้ห้ามสลายการชุมนุม  แต่ให้ทำตามขั้นตอนตามหลักสากล  คือจากขั้นเบาไปหาหนัก
     ก็ทำซี  เบาเป็นยังไง  จากขั้น  deter  จนถึงขั้น  killer  ทำไล่เป็นลูกระนาดขึ้นไปเรื่อยๆ  ไม่ใช่โมเมตีขลุมเอาสบายรวบรัดอ้างว่า  "ศาลห้ามใช้กำลังสลายการชุมนุม"  แล้วกูไม่ทำอะไรเลย!
     ปล่อยให้มันระเบิดบ้าน-ระเบิดเมือง   ฆ่าประชาชนเล่นสนุกมือทุกวันๆ  อยู่อย่างนี้  จนถึงวันที่กูเกษียณ!?
     พูดกันตรงๆ  ตั้งแต่วันที่  ๑๒  มีนา  เรื่อยมาจนถึงวันนี้เดือนกว่าแล้ว  ใครเคยเห็นพลเอกอนุพงษ์ออกจากห้องแอร์มาตรวจเยี่ยมลูกน้อง  ที่ตรากตรำกรำแดดจนขี้กรากขึ้นง่ามขาเพราะอยู่ในชุดเต็มอัตราศึกตามท้องถนนบ้างมั้ย  ไม่ต้องพูดถึงระดับราษฎรเต็มขั้นอย่างพวกเราหรอก
     ไม่มีวาสนาได้กราบใกล้ๆ  หว่างขาท่านอยู่แล้ว!
     มีผู้ใหญ่ท่านหนึ่ง   ท่านเมตตาโทร.มาบอกผมว่า   วันอาทิตย์ที่  ๒๕  เมษายน  ๒๕๕๓  นี้   ตั้งแต่เวลา  ๐๗.๐๐-๐๙.๐๐  น. จะมีพระอริยสงฆ์มาเจริญพระพุทธมนต์ที่  "วัดพระศรีรัตนศาสดาราม"  หรือวัดพระแก้ว  ในพระบรมมหาราชวังนั่นแหละ  เปิดโอกาสให้ประชาชนได้ร่วมในพิธีด้วย
     ท่านใดจะไปก็เตรียมธูป   ๙  ดอก  เทียนขาว  ๑  คู่  ไปด้วย  และที่สำคัญแต่งกายให้สุภาพ   ในพระบรมมหาราชวังท่านก็คงทราบ  สุภาพสตรีห้ามนุ่งกางเกง  หรือกระโปรงสั้น  พูดง่ายๆ  คือ  ห้ามแต่งตัวโป๊ไปวัด  ควรสวมกระโปรงยาว  หรือผ้าถุง  เสื้อผ้ามิดชิด   ผู้ชายก็ควรสวมเสื้อขาว  ไม่ควรใส่รองเท้าแตะไป
     ก็มีหลายท่านฟอร์เวิร์ดมาบอก  ผมก็นำมาบอกต่อ  เพื่อมงคลแก่ตัวเอง  และแก่ประเทศชาติบ้านเมือง   ตื่นกันแต่เช้า  แล้วไปที่วัดพระแก้วนะครับ  อย่าลืม  พรุ่งนี้-วันอาทิตย์ที่  ๒๕  เมษา  เป็นประเพณีดีงามสืบต่อกันมาแต่โบราณกาล
     และวันที่  ๒๕  เมษายน  ตรงกับวันสำคัญอะไรอีกอย่างท่านทราบไหมครับ  ก็คือเป็นวันคล้ายวันสวรรคตของ   "สมเด็จพระนเรศวรมหาราชเจ้า"  พระมหากษัตริย์องค์ที่  ๑๘  แห่งกรุงศรีอยุธยา   เมื่อ  ๔๐๕  ปีล่วงมาแล้ว  และทุกครั้งที่  "สมเด็จพระนเรศวรมหาราชเจ้า"  ทรงออกทำศึก  พระองค์จะสวดมนต์บท  "พาหุง-มหากา"  อย่างที่จะสวดกัน  ณ  วัดพระแก้วพรุ่งนี้แหละ.

http://www.thaipost.net/news/240410/21233


หัวข้อ: Re: [2513]"ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: เหยง 16 ที่ 24 เมษายน 2553, 10:01:45
บทความ "ถูกทุกข้อ" ของคุณสามวา สองศอก

ทำไมต้องมี "งบลับ"
ถูกทุกข้อ 24 เมษายน 2553 - 00:00

เรียน ท่านสามวา สองศอก
      เช้าตรู่ของวันที่   15  เมษายนที่ผ่านมา  ผมได้รับเชิญจากคุณกนก  รัตน์วงศ์สกุล  ให้ไปออกรายการของเขาที่ช่อง  9  โมเดิร์นไนน์  ซึ่งใช้เวลาออกอากาศแค่ยี่สิบกว่านาทีเท่านั้นเอง  รายการของเขาเป็นรายการสำหรับคนตื่นเช้าที่น่าสนใจทีเดียว  มีสาระและคุณค่าต่อผู้สนใจในเรื่องราวต่างๆ  รอบตัว  ซึ่งเป็นปัจจุบันมากมาย
     จากสถานีช่อง  9  กลับมายังสำนักงาน  ไม่ถึงสิบนาทีก็มีแฟนๆ  ของผมโทร.เข้ามือถือเกรียวกราว   ทั้งแสดงความยินดีชื่นชมรายการ  จนผมต้องขอร้องว่ากำลังขับรถอยู่  ให้ผมถึงสำนักงานแล้วค่อยโทร.ได้ไหมจึงค่อยเลิกราไป
     เรียกว่า  "แฟน"  คุณกนกแกมากจริงๆ..
     อย่างไรก็ตาม  พอมาถึงวันนี้เพียงวันเดียวเท่านั้น  จดหมายจากแฟนผมก็เข้ามายังสำนักงาน   มีหลายต่อหลายฉบับ  แต่ที่น่าสนใจที่สุดเป็นจดหมายจากผู้ไม่ประสงค์จะออกนามท่านหนึ่ง  ซึ่งอ่านแล้วน่าจะเป็นใกล้ๆ  กรุงเทพฯ  นี่แหละ  เพราะมาถึงผมรวดเร็วมาก
     เขาเขียนมาสั้นๆ  แต่ได้ใจความ
     "คุณสุเทพด่า  ส.ส.ในสภาว่ามารยาททราม  มีแต่  ส.ส.ที่ไม่มีคุณภาพ  ผมจึงอยากถามคุณสุเทพว่า   ตอนที่คุณสุเทพเป็น  ส.ส.อยู่ในสภา  คุณสุเทพเคยทำอะไรเป็นชิ้นเป็นอันให้แก่ประชาชนที่เลือกคุณสุเทพเข้าสภาบ้าง  ช่วยตอบให้ผมทราบบ้างจะเป็นพระคุณยิ่ง.."
     ท่านผู้อ่านครับ  ตั้งใจว่าจะขอความกรุณาท่านประธานท้วม  แต่พอเขียนจบแล้วมองดูความยาวของข้อเขียนตัวเอง   กลับต้องหันมาหาท่านสามวา  สองศอก  และต้องขอความกรุณามาทาง  "ถูกทุกข้อ"  คงจะดีกว่า!
     ในช่วงปี   2510   ผมเริ่มเขียนหนังสือลงใน  นสพ.ต่างๆ  เป็นคอลัมน์เรื่องเกี่ยวกับบันเทิงด้านนักร้องเสียเป็นส่วนใหญ่  จนกระทั่งคุณประพันธ์ศักดิ์  กมลเพชร  ซึ่งเป็นผู้สนใจการเมืองอย่างมากท้วงติงมาว่า   ผมไม่ควรเขียนเรื่องของตนเองให้มากนัก  ควรเขียนเรื่องการเมืองเสียบ้าง  เพราะผู้คนชาวไทยสมัยนั้นสนใจการเมืองกันทั้งนั้น
     ผมจึงเปลี่ยนมาเขียนเรื่องการเมืองบ้าง  ถูกบ้างผิดบ้าง  แต่ก็ต้องค้นคว้ามาตลอด  กว่าจะเข้าถึงและรู้ซึ้งการเมืองจริงๆ
     ต่อมาประมาณต้นปี   2516   คุณอุทัย  พิมพ์ใจชน  ส.ส.ในขณะนั้น  ได้ยื่นฟ้องรัฐบาลจอมพลถนอม   กิตติขจร  ว่าปกครองประเทศโดยไม่มีรัฐธรรมนูญ  เพราะนายกฯ  ถนอมแอบยุบสภาเงียบๆ   แต่ก็ยังเป็นรัฐบาลอยู่  จึงทำให้คุณอุทัย  พิมพ์ใจชน  ถูกสั่งจำคุกถึง  12  ปี  ร่วมกับเพื่อน  ส.ส.อีก  2  คน  คนละ  10  ปี
     ทำให้พวกเรามีคุณบุญส่ง  ชเลธร,  คุณประสาร  มฤคพิทักษ์,  คุณชัญญา  ชุนชฎาธาร,  คุณธีรยุทธ   บุญมี,  คุณชัยวัฒน์  สุทธิชัย,  คุณอรุณ  วัชรสวัสติ์  และผม  (รวมกับเพื่อนร่วม   100   คน)  ทำแถลงการณ์เรียกร้องรัฐธรรมนูญจากรัฐบาลถนอม  โดยพิมพ์เสร็จในวันที่  5  ตุลาคม  2516  แล้วไปแจกจ่ายที่สนามหลวงจึงถูกตำรวจจับ  และอีกสายหนึ่งไปแจกที่ประตูน้ำก็ถูกตำรวจจับอีก   
     ทำให้นักศึกษาและประชาชนต่างไม่พอใจ   พากันประท้วงรัฐบาลถนอมที่อนุสาวรีย์ประชาธิปไตยเป็นจำนวนมาก  ในที่สุดรัฐบาลถนอมก็ส่งทหารมาลุยประชาชน  ทำให้เกิดการต่อสู้กันระหว่างประชาชนกับรัฐบาลถนอม   ในวันที่  14  ตุลาคม  2516  จนในที่สุดรัฐบาลถนอมก็พ่ายแพ้  ต้องลี้ภัยไปอยู่ต่างประเทศ 
     ทำให้มีรัฐบาลของท่าน  "สัญญา  ธรรมศักดิ์"  ขึ้นมาแทนรัฐบาลถนอม  ที่ถูกอัปเปหิออกนอกประเทศ   แล้วมีการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรใหม่  ซึ่งผมได้เข้าไปอยู่กับ  "พรรคพลังใหม่"   ของคุณหมอกระแส  ชนะวงศ์  และได้ลงสมัครสมาชิกสภากรุงเทพฯ  เขตพญาไท  ในปี  2518
     และในปี  2519  จึงได้ไปลงสมัครสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรที่นครราชสีมาบ้านเกิด  แต่ก็ไม่ได้รับเลือก   เพราะประชาชนอาจยังไม่แน่ใจในความรู้ความสามารถทางการเมืองของผมก็เป็นได้   จนกระทั่งปี  2522  ก็ลงสมัครซ้ำอีกครั้ง  จึงได้เป็น  ส.ส. ในนามพรรคพลังใหม่สมใจ
     เมื่อผมเป็น  ส.ส.ครั้งแรกในปี  2522  นั้น  ผมได้รับเลือกให้เป็นกรรมาธิการในคณะ
พิจารณาแก้ไขพระราชบัญญัติเก่าๆ   โดยมีท่าน  ส.ส.ที่ผมเคารพท่านหนึ่งในสภา  คือพี่  "ใหญ่  ศวิตชาติ"  เป็นประธานคณะ
     เราก็เริ่มมองหาจุดที่จะแก้ไขตามหน้าที่ที่ได้รับมอบหมาย   ผมจึงขอปรึกษากับพี่ใหญ่เรื่อง "งบราชการลับ"  เป็นเรื่องแรก  เพราะผมปักใจสงสัยเรื่องนี้มาตั้งแต่สมัยจอมพลสฤษดิ์  ธนะรัชต์  เป็นนายกฯ  และเป็นที่น่าสังเกตว่าสำนักต่างๆ  ของราชการ  ต้องมีงบราชการลับมาโดยตลอด
     พี่ใหญ่คล้อยตามด้วยความเต็มใจ   และพี่ใหญ่เองก็เห็นด้วยกับการใช้จ่ายเงินงบราชการลับ  ซึ่งมากมายอยู่ในทุกกรมกอง  จึงสนับสนุนผมเต็มที่ในการจัดตั้งคณะกรรมาธิการ  เพื่อดูแลเงินภาษีของประชาชนไม่ให้ตกหล่นหายไปไหน
     สภาผู้แทนราษฎรในปี   2522  ปีนั้น  จึงมี  "คณะกรรมาธิการพิจารณาเงินงบราชการลับ"  เป็นชุดแรก  ท่ามกลางความไม่เห็นด้วยจากคณะทหารชั้นผู้ใหญ่หลายต่อหลายคน  ต่างคนต่างแสดงความไม่พอใจออกมานอกหน้า  ถึงกับอุทานว่า  "พวกที่ตั้งคณะกรรมาธิการชุดนี้ต้องเป็นพวกคอมฯ  เข้ามาแน่ๆ"
     จนกระทั่งมีนายทหารยศพลเอก  หันไปขอความช่วยเหลือจากนาย  "ญาติ  ไหวดี"  ส.ส.อีสาน   ให้ยื่นญัตติขอถอนคณะกรรมาธิการชุดนี้  โดยอ้างว่า  "คณะกรรมาธิการพิจารณางบราชการลับ"   ซ้ำซ้อนกับ   "คณะกรรมาธิการการคลัง"  ซึ่งสภาผู้แทนราษฎรมีอยู่แล้วในสภา  จึงไม่จำเป็นต้องมีคณะกรรมาธิการชุดนี้ต่อไป
     นี่เป็นการทำงานของ  ส.ส.สมัยแรกของผม  ที่จำเป็นต้องเขียนออกมาเป็นลายลักษณ์อักษร  ให้ผู้ที่จี้ให้ผมต้องเล่าให้ท่านฟังจนได้  โดยเฉพาะความหวังดีที่  ส.ส.คนหนึ่งปรารถนาจะทำเพื่อประโยชน์ของประเทศชาติ  กลับถูกกล่าวหาอย่างไร้เหตุผล
     ทั้งๆ  ที่มีข้อแม้เอาไว้ใน  พ.ร.บ.ว่า  "ผ่านไปห้าปีแล้วแต่ละกรมกองต้องเปิดเผยเหตุผลของการใช้เงินนั้น"  ก็ตาม  น่าจะใจกว้างพอต่อการยอมรับว่า  "เงินเหล่านี้เป็นภาษีของประชาชน  แล้วทำไมจึงต้องปิดหูปิดตาเจ้าของเงินเสียเองล่ะ"
                                                     อดีต ส.ส.นครราชสีมา
                                                        สุเทพ วงศ์กำแหง
ตอบ คุณสุเทพ วงศ์กำแหง
     เสียดายที่ตื่นไม่ทันได้ดูคุณสุเทพไปออกรายการเช้าข่าวข้น  คนข่าวเช้า  ที่ช่อง  9  โมเดิร์นไนน์  ซึ่งเป็นการเช็กเรตติ้งว่าแฟนเพลงคุณสุเทพยังเหนียวแน่นอยู่เหมือนเดิมหรือไม่  ทั้งโทรศัพท์และจดหมายคงจะทำให้คุณสุเทพชื่นใจ    และต้องทำการบ้านตอบจดหมายผ่านคอลัมน์นี้   ยินดีเป็นสื่อกลางให้ครับ

                "ออนเหวง" ไม่เหวง
เรียน คุณสามวา สองศอก
     คุณยายอารี   อายุ  95  ปี  รักชาติและพระเจ้าอยู่หัวเป็นสุดหัวใจของคุณยาย  ปฏิบัติธรรมนั่งสมาธิตี  5  ทุกวัน  จุดธูปบูชาพระสยามเทวาธิราช  ขอให้รักษาบ้านเมืองและพระเจ้าอยู่หัวในยามวิกฤตินี้  อ่านไทยโพสต์ประจำทุกคอลัมน์
     โดยเฉพาะถูกทุกข้อของคุณสามวา  สองศอก  วันจันทร์ที่  19  เมษายน  2553  ที่คุณเสริม  หลานคุณยายทวดอายุ  90  ปีเศษ  เขียนว่า  คุณยายทวดถามว่า  บริษัทออนเหวง  ยังอยู่หรือเปล่า  ทำธุรกิจอะไรนั้น  ท่านอยู่ในสมัยเดียวกัน  เดาว่าคำว่า  "เหวง"  คงสะดุดใจท่าน
     คุณยายอารีขอเล่าฝากมาว่า  เมื่อจำความได้อายุราว  5  ขวบ  ประมาณ  พ.ศ.2464   การใช้ส้วมมี  2  อย่าง  ถ้าอยู่รวมๆ  กันส้วมเป็นแบบยกพื้น  เพิงมีฝาเตี้ยๆ  กั้นประตูสังกะสี   ก้าวข้ามขอบประตูเข้าไป  มีกระดาน  2  แผ่นปูเป็นที่เหยียบ  มีถังรองรับอุจจาระ  ด้านหลังเปิดได้สำหรับลากถังออก  บ้านที่มีฐานะส้วมดีกว่า  แต่ก็ใช้ถังเหมือนกัน
     ทุกคืนราว   4  ทุ่ม  จะมีรถลากล้อ  2  ล้อ  ติดตะเกียง  1  ดวง  โดยใช้คนลากจาก  บริษัทออนเหวง  มาเก็บถังจาก  "เว็จขี้"  ทุกคืนเห็นรถนี้จะวิ่งหนี 
     คุณยายไม่ทราบว่าเป็นธุรกิจของใคร  เดาว่าน่าจะเป็นของคนจีน 
     จึงขอเรียนมาเพื่อทราบเป็นความรู้ย้อนอดีต  เพราะปัจจุบันโหวงเหวงจัง
                                                           ลูกสาวคุณยาย                                           
ตอบ ลูกสาวคุณยาย
     เมื่อวานก็มีแฟนคอลัมน์ถูกทุกข้อให้ข้อมูลว่าบริษัทออนเหวงทำธุรกิจรับจ้างเก็บถังอุจจาระ 
เมื่อประมาณปี  2460  โดยทำอยู่ประมาณกว่า  20  ปี  ตรงกับที่คุณยายอารีเล่าให้ฟัง
     ต่อไปนี้ถ้าเห็นหน้าคนที่มันพูดเหวงๆ   ก็ต้องเอามือปิดจมูก  เพราะปากที่พ่นบนเวทีคงจะเหม็นเหมือนขี้  ที่บริษัทออนเหวงต้องไปเก็บทุกคืนนั่นแหละ 
   
                   ถึงเวลารับใช้ชาติ
เรียน คุณสามวา สองศอก
     ผมว่าการชุมนุมของคนเสื้อแดง   คือการชุมนุมของ  คนป่าเถื่อน  ไม่ใช่  ประชาธิปไตย  อย่างสิ้นเชิง  คนไทยทั้งชาติจึงยอมรับไม่ได้  และเรียกได้เลยว่าเป็นการชุมนุมเพื่อ  ก่อการร้าย  ที่กำลังทำลายล้างประเทศชาติ
     ฉะนั้น  จึงเป็นหน้าที่ของตำรวจและทหารของชาติต้องออกมาขจัดและทำลายล้างการก่อการร้ายโดยเด็ดขาดและรวดเร็ว  ใช้วิถีทางทางการเมืองไม่ได้แล้ว
     ตำรวจ-ทหาร  ชาติต้องการท่านทั้งหลายแล้ว  อย่ารอนานให้ถึงสิ้นชาติเลยครับ
                                                              สูง สีชม
ตอบ คุณสูง
     การเมืองต้องแก้ด้วยการเมืองก็จริงอยู่   แต่การก่อการร้ายต้องเป็นหน้าที่ของพลเอกอนุพงษ์  เผ่าจินดา  ผบ.ทบ.แล้วล่ะครับ
                                                         สามวา สองศอก
   


หัวข้อ: Re: [2513]"ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: seree_60 ที่ 24 เมษายน 2553, 13:07:39
ฐปณีย์ เอียดศรีไชย อ้างทหารปืนจ่อหัวตร. สื่อเทียม หรือแดงแท้? 
 
โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ 23 เมษายน 2553 22:41 น.
 
  รายงานการเมือง/แสงตะวัน
       
       ชื่อ ฐปณีย์ เอียดศรีไชย นักข่าวสาวผิวคล้ำแห่งรายการสามมิติ ได้สร้างความฮือฮาให้กับสังคมอีกครั้ง
       
       ท่ามกลางวิกฤตของบ้านเมือง ด้วยการโพสต์ข้อความผ่านทวิตเตอร์ของตัวเอง อ้างว่า เห็นทหารเอาปืนจ่อหัวตำรวจที่วิ่งไล่จับผู้ต้องสงสัยว่าอาจจะเป็นผู้ยิงเอ็ม 79 ใส่ ประชาชนที่สีลม
       
       เรื่องที่เธอใช้ความเป็นสื่อมวลชนมาขยายผลให้ข้อเท็จจริงข้างต้น เป็นเรื่องที่ต้องพิสูจน์ความจริง ว่า ทหารทำจริงไหม และถ้าเขาทำ เขามีเหตุผลอะไร
       
       แต่สิ่งหนึ่งที่ต้องทำให้เกิดความชัดเจนในสังคมนี้ก่อนเป็นปฐมบท คือ ตัวตนของ ฐปณีย์ เอียดศรีไชย ว่าเนื้อแท้เป็นอย่างไร
       
       เป็นสื่อที่ยึดมั่นในจรรยาวิชาชีพของตัวเองอย่างเหนียวแน่น จนพร้อมที่จะสูญเสียทุกอย่าง แม้แต่หน้าที่การงานของตัวเอง เพื่อแลกมาซึ่งอิสระเสรีภาพแห่งการเป็นสื่อสารมวลชนหรือไม่
       
       พฤติกรรมในอดีตของเธอคงเป็นคำอธิบายได้ เพราะ กรรมเป็นเครื่องชี้เจตนา
       
       ฐปณีย์ เติบโตในฐานะสื่อสารมวลชนยุคใหม่ที่ได้รับโอกาสจากสื่อเสรีในยุคที่ไอทีวีฟูเฟื่อง โดยเฉพาะในช่วงที่ ทักษิณ ชินวัตร เข้าไปมีบทบาทในไอทีวี ส่วนใหญ่เธอจะรายงานหน้าจออยู่ที่ทำเนียบรัฐบาล แต่ที่ทำให้สังคมจดจำเธอได้ติดตา ไม่ใช่ฝีไม้ลายมือในการรายงานข่าว แต่เป็นภาพดราม่าวันที่ไอทีวีถึงจุดจบเพราะมีการกระทำที่ผิดกฎหมาย เธอโผเข้ากอดเพื่อนนักข่าวราวกับลูกนกตกจากรัง ร่ำไห้ปิ่มว่าจะขาดใจ กล่าวโทษรัฐบาลขิงแก่ในขณะนั้นว่าทำลายไอทีวี
       
       เช่นเดียวกับเพื่อนร่วมวิชาชีพที่ขาดสติในไอทีวีขณะนั้น ซึ่งได้ร่วมกันใช้ไอทีวีสื่อสารระบายอารมณ์ ความรู้สึก ปลุกเร้าให้คนเกลียดชังรัฐบาลว่ากลั่นแกล้งไอทีวี ผ่านการถ่ายทอดสดมหกรรมน้ำตาท่วมจอเกือบจะตลอดทั้งวัน
       
       โดยไม่มีการให้ความจริงกับประชาชนเลยว่า สาเหตุแท้จริงที่ทำให้ไอทีวีถูกยุบสถานีเป็นเพราะอะไร
       
       1 ไอทีวี ก่อตั้งหลังเหตุการณ์พฤษภาทมิฬ มีหลักการให้เป็นทีวีเสรี กำหนดว่าต้องมีสาระข่าวสารร้อยละ 70 แต่กลับมีการเปลี่ยนแปลงหลักการนี้ เพื่อมาทำในเชิงพาณิชย์มากขึ้น หลังจากที่ ชินคอร์ป บริษัทตระกูลชินวัตร เข้าไปเทคโอเวอร์ และมีการใช้อำนาจรัฐขณะนั้นเปลี่ยนแปลงหลักการของไอทีวีจากเดิมที่ต้องยึดสาระข่าวสาร 70 มาเป็นร้อยละ 50 แทน และเพิ่มเนื้อหาภาคบันเทิงมากขึ้น แถมยังมีการลดค่าสัมปทานเพื่อเอื้อประโยชน์ให้กับ ชินคอร์ปที่เข้ามาบริหารงานด้วย
       
       2 ไอทีวียุคนั้นถูกใช้เป็นเครื่องมือทางการเมืองของพรรคไทยรักไทย จนเกิดกบฏไอทีวีที่ออกมาต่อสู้เรียกร้องสิทธิเสรีภาพของสื่อ กระทั่งถูกไล่ออกจากงาน ที่สุดศาลแรงงานตัดสินให้กลุ่มกบฏไอทีวีชนะคดี
       
       3 ศาลปกครองสูงสุด มีคำวินิจฉัยให้ไอทีวีกลับสู่หลักการเดิม เพราะคลื่นความถี่โทรทัศน์เป็นของรัฐ ไม่อาจให้นักการเมืองหรือธุรกิจใดมาบิดเบือนเพื่อทำประโยชน์ให้กับตนเองหรือพวกพ้อง
       
       4 ทักษิณ ขายพ่วงธุรกิจในเครือทั้งหมด รวมถึงไอทีวี ซึ่งเป็นสัมปทานสมบัติของชาติให้กับ เทมาเส็ก ที่มีข้อครหาว่าใช้คนไทยเป็น “นอมินี” เพื่ออำพรางกรณีต่างด้าวถือหุ้นเกินที่กฎหมายกำหนด
       
       เหตุผลเหล่านี้ ฐปณีย์ ไม่เคยเอ่ยเอื้อนถึง ขณะบีบน้ำตากลางจอโทรทัศน์ แสดงออกถึงอารมณ์ นอกจากพยายามสื่อความรู้สึกที่เปราะบางราวกับแก้วเจียรไนเพื่อเรียกความสงสารจากประชาชน
       
       ทำให้มิอาจมองเป็นอย่างอื่นไปได้ นอกจากว่า เธอเป็นคนพร้อมสยบยอมใต้ปีกทักษิณ กระเสือกกระสนดิ้นรนทุกวิถีทาง เพื่อรักษาอาชีพ มากกว่าที่จะรักษาความถูกต้อง ซ้ำมิหนำยังร่วมกับพรรคพวกบิดเบือนข้อเท็จจริงหวังรักษาตัวรอด โดยใช้สื่อสารธารณะมาเป็นเครื่องมือในการสื่อสารเพื่อตัวเอง
       
       มาวันนี้บทบาทของเธอผ่านรายการสามมิติเป็นอย่างไร ในการรายงานข่าวการชุมนุมคนเสื้อแดง มิต้องไปสาธยายเพิ่มเติม เพราะผู้ที่ติดตามจะเห็นชัดเจนจากภาพที่ปรากฏว่า เธอรายงานให้ความจริงได้ชนิดที่เรียกว่า
       
       อยู่กลางใจของ ทักษิณ เพียงใด
       
       บทบาทที่เธอพยายามจะแสดงออกถึงการต่อสู้ดิ้นรนเพื่อเรียกร้องเสรีภาพ โดยอ้างว่าถูกรัฐปิดกั้นนั้น มีคำถามง่าย ๆ ว่า ในยุคทักษิณครอบงำสื่อ อะไรปิดปากไม่ให้เธอออกมาร่ำร้องเพรียกหาสิทธิเสรีภาพ หรือเป็นเพราะเสรีภาพของเธอสามารถแลกเปลี่ยนได้ด้วยผลประโยชน์ที่เธอพึงใจ
       
       การทวิตข้อความออนไลน์ผ่านโลกไซเบอร์ของ ฐปณีย์ เอียดศรีไชย ปูทางให้ ณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ แกนนำผู้ก่อการร้ายนำไปใช้อ้างอิงกล่าวหาทหารและรัฐบาลในขณะนี้
       
       เธอทำไปเพื่ออะไร แท้จริงแล้ว นักข่าวอย่าง ฐปณีย์ เอียดศรีไชย คือสื่อเทียมหรือแดงแท้ มีแต่ตัวเธอเท่านั้น ที่จะให้คำตอบได้ดีที่สุด

 
 

 
 
 
 


หัวข้อ: Re: [2513]"ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: ตุ๋ย 22 ที่ 24 เมษายน 2553, 21:21:19
ห้องพี่แอีะกลายเป็นห้องการเมืองไปแล้วหรอ


หัวข้อ: Re: [2513]"ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: swsm ที่ 24 เมษายน 2553, 21:53:58
อ้างถึง
ข้อความของ prapasri AH เมื่อ 23 เมษายน 2553, 15:57:47
(http://img227.imageshack.us/img227/5026/tu6.jpg)

ช่างทำไปได้  เอาไปเปรียบกันได้อย่างไร ..



.
.
.
.
สงสารลิงค่ะ
    emo20:)):)


หัวข้อ: Re: [2513]"ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: suriya2513 ที่ 24 เมษายน 2553, 22:23:19
อ้างถึง
ข้อความของ ตุ๋ย 22 เมื่อ 24 เมษายน 2553, 21:21:19
ห้องพี่แอีะกลายเป็นห้องการเมืองไปแล้วหรอ
เป็นมาร่วมปีแล้วมังครับครูตุ๋ย
อย่าเที่ยวมาแหย่สิครับครูตุ๋ย พี่แอ๊ะแกยิ่งงอแงร้องกลับที่เดิมอยู่



หัวข้อ: Re: [2513]"ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: prapasri AH ที่ 25 เมษายน 2553, 09:11:12
เพื่อนป๋องเอยยยยยยยย

ฉันยินดีอย่างยิ่ง ที่ ให้ย้ายห้อง

 ฉันเข้าใจ ว่า admin จะได้ตรวจ การโพสต์ได้ง่ายๆ ว่าจะผิดพรบ.หรือเปล่า

ไม่งอแงเลยค่ะ 

เวลาเข้าเวบ จะเข้าเวบได้ง่าย

ไม่งั้นฉัน ต้องเที่ยวหา วุ่นเลย ว่า เรื่องที่ฉันคุยกับพี่น้อง ไปอยู่ห้องไหน

 น้องตุ๋ยคะ มารวมห้องการเมืองไว้ห้องพี่แอ๊ะ

พี่แอ๊ะยินดีอย่างยิ่งค่ะ


หัวข้อ: Re: [2513]"ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: เหยง 16 ที่ 25 เมษายน 2553, 09:12:43
อ้างถึง
ข้อความของ ตุ๋ย 22 เมื่อ 24 เมษายน 2553, 21:21:19
ห้องพี่แอีะกลายเป็นห้องการเมืองไปแล้วหรอ

ครูตุ๋ย

ปรับเปลี่ยนตามสถานการณ์ครับ ปลายเดือนมีนาคม เป็นห้องเกี่ยวกับ "คู่สร้างคู่สม" -งานแต่งหมอต้นกล้า
ตอนนี้สถานการณ์บ้านเมืองไม่สงบ จึงเปลี่ยนบรรยากาศเป็นห้องการเมือง
จบการชุมนุมที่แยกราชประสงค์ ก็คงกลับสู่บรรยากาศปกติ และกลับห้องเดิม -2513 ครับ


หัวข้อ: Re: [2513]"ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: เหยง 16 ที่ 25 เมษายน 2553, 09:14:04
วันนี้ ๒๕ เมษายน ตรงกับวันคล้ายวันสวรรคตของ สมเด็จพระนเรศวรมหาราช ครับ

ช่วยกันสวด พาหุง ให้กับประเทศไทยของเราด้วย


หัวข้อ: Re: [2513]"ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: prapasri AH ที่ 25 เมษายน 2553, 09:14:06
ขณะโพสต์ อยู่นี้ ฟังข่าวนายกอภิสิทธิ์ คุยกับประชาชนไปด้วย

ปรากฎว่า สัญญาน ถูก ตัด

คงถูกแกล้งอีกเช่นเคย


เหมือนตอนเป็นนายกใหม่ ๆ

เจ้าหน้าที่ช่อง nbt ที่เป็นคนของอำนาจเก่า ก็ตัดสัญญาน แกล้ง หลายครั้ง


หัวข้อ: Re: [2513]"ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: prapasri AH ที่ 25 เมษายน 2553, 09:14:56
สัญญาน มาแล้ว

คงแก้ไขได้แล้วค่ะ ขอไปฟังก่อน นะคะ


หัวข้อ: Re: [2513]"ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: เหยง 16 ที่ 25 เมษายน 2553, 09:17:21
และวันนี้ค่อนข้างเงียบจัง

แต่วันนี้จะมีการลงคะแนนเลือกตั้ง นายกสภาทนายความ และคณะกรรมการ
โดยลงคะแนนที่ศาลจังหวัดทั่วประเทศ และคาดว่าคืนนี้จะทราบผลว่า ท่านใดจะได้รับเลือกให้ดำรงตำแหน่งในสภาทนายความ[/size]


หัวข้อ: Re: [2513]"ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: prapasri AH ที่ 25 เมษายน 2553, 09:17:22
อ้างถึง
ข้อความของ เหยง 16 เมื่อ 25 เมษายน 2553, 09:12:43
อ้างถึง
ข้อความของ ตุ๋ย 22 เมื่อ 24 เมษายน 2553, 21:21:19
ห้องพี่แอีะกลายเป็นห้องการเมืองไปแล้วหรอ

ครูตุ๋ย

ปรับเปลี่ยนตามสถานการณ์ครับ ปลายเดือนมีนาคม เป็นห้องเกี่ยวกับ "คู่สร้างคู่สม" -งานแต่งหมอต้นกล้า
ตอนนี้สถานการณ์บ้านเมืองไม่สงบ จึงเปลี่ยนบรรยากาศเป็นห้องการเมือง
จบการชุมนุมที่แยกราชประสงค์ ก็คงกลับสู่บรรยากาศปกติ และกลับห้องเดิม -2513 ครับ


เหยงจ๋า ใช้คำว่าคู่สร้างคู่สม เป็น การมุ้ง ก็ไม่หยาบคายแต่ประการใดค่ะ


หัวข้อ: Re: [2513]"ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: เหยง 16 ที่ 25 เมษายน 2553, 09:56:55
รับทราบและขอบคุณครับ emo24:(


หัวข้อ: Re: [2513]"ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: swsm ที่ 25 เมษายน 2553, 10:01:48
สวัสดีค่ะ ..     emo6::))


หัวข้อ: Re: [2513]"ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: ตุ๋ย 22 ที่ 25 เมษายน 2553, 13:43:13
ดีจังห้องเปลี่ยนได้ตามสถานการณ์


หัวข้อ: Re: [2513]"ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: เหยง 16 ที่ 25 เมษายน 2553, 14:13:45
ดีเอสไอตอกหน้า “เหวง” ยัน “เมธี ดารานู้ด” รับเองปล้นปืนทหารจริง
24 เมษายน 2553 22:08 น.

 
       “ดีเอสไอ” ตอกหน้า “เหวง” ยัน “เมธี ดารานู้ดแดง” รับสารภาพร่วมปล้นปืนกลทหารเอง ยังไม่ออกหมายเรียกบุคคลเกี่ยวข้องเข้าให้ปากคำเพิ่ม เผยคดีคืบหน้าไปมาก ส่วนผู้ต้องหาสบายดีแต่ขออุบสถานที่ควบคุมตัวเกรงแดงบุกกดดัน
       
       วันนี้ (24 เม.ย.) ที่กรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) ผู้สื่อข่าวรายงานความคืบหน้าการสอบสวน นายเมธี อมรวุฒิกุล นักแสดงและนายแบบ ผู้ต้องหาตามหมายจับ พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ ซึ่งเคยขึ้นเวทีกลุ่มคนเสื้อแดงและเข้าร่วมกิจกรรมกับพรรคเพื่อไทย ที่ถูกจับกุมได้พร้อมอาวุธปืนกลที่ปล้นจากทหารไปว่า นายธาริต เพ็งดิษฐ์ อธิบดีดีเอสไอ ได้เรียกประชุมเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องคดีดังกล่าวพร้อมทั้งสอบถามความคืบหน้าทางคดีจากเจ้าหน้าที่อีกด้วย
       
       นายธาริตกล่าวถึงกรณีที่ นพ.เหวง โตจิราการ แกนนำกลุ่มคนเสื้อแดง ได้กล่าวบนเวทีปราศรัยว่าอาวุธปืนที่เจ้าหน้าที่ยึดได้จากนายเมธีนั้นไม่แน่ใจว่านายเมธีเป็นผู้เอาไปเอง หรือถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจบางนายยัดให้หรือไม่ว่า ข้อมูลที่ตนชี้แจงไปเป็นข้อเท็จจริงจากการสอบปากคำผู้ต้องหาเอง เฉพาะในส่วนที่เปิดเผยได้เท่านั้น ยังมีบางส่วนที่ไม่อาจเปิดเผยได้ โดยสาเหตุที่ต้องเปิดเผยข้อมูลบางส่วนออกไปนั้นเนื่องจากเห็นว่าจะเป็นประโยชน์มากกว่าปกปิดเป็นความลับ โดยเฉพาะประเด็นการนำอาวุธสงครามร้ายแรงไปใช้ในการเคลื่อนไหว การนำมาเปิดเผยถือเป็นการส่งสัญญาณไปถึงผู้ที่ยังครอบครอบอาวุธสงครามให้ยุติการกระทำเพราะถือเป็นความผิดที่มีโทษรุนแรง
       
       นายธาริตกล่าวต่อว่า ขณะนี้ยังมีการสอบปากคำนายเมธีไปพร้อมๆ กับการรอผลการตรวจสอบทางนิติวิทยาศาสตร์ กับรถของนายเมธีที่ยึดมาได้ และมีการกระจายชุดพนักงานสอบสวนหลายสิบชุดออกสอบปากคำพยานที่เกี่ยวข้องกับหลายเหตุการณ์ ทั้งนี้ยังไม่มีการออกหมายเรียกบุคคลใดที่นายเมธีอ้างถึงเข้าให้ปากคำ เนื่องจากขั้นตอนขณะนี้ยังอยู่ระหว่างการรวบรวมข้อเท็จจริง ซึ่งในส่วนของคณะกรรมการชุดย่อยที่ตั้งขึ้นทั้ง 7 ชุด ก็กำลังเร่งทำงานตลอดทั้งสัปดาห์ที่ผ่านมาแต่ยังไม่สามารถนำข้อมูลใดๆ มาเปิดเผยได้ แต่ย้ำว่าคดีมีความคืบหน้าไปมาก
       
       “ขณะนี้นายเมธีปลอดภัยดี อยู่ในการดูแลของเจ้าหน้าที่ทหารตาม พ.ร.ก.ฉุกเฉิน โดยเจ้าตัวไม่ได้มีอาการเครียด และเจ้าหน้าที่ได้ผลัดเปลี่ยนกันเข้าไปพูดคุยอยู่ตลอด ส่วนสถานที่ควบคุมตัวขอปกปิดเป็นความลับเพื่อไม่ให้คนเสื้อแดงนำมวลชนมากดดัน” อธิบดีดีเอสไอกล่าว

 
 
 
จาก http://www.manager.co.th/asp-bin/mgrView.asp?NewsID=9530000056527
 


หัวข้อ: Re: [2513]"ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: เหยง 16 ที่ 25 เมษายน 2553, 14:30:27
ข่าวล่าสุดเมื่อชั่วโมงที่ผ่านมานี่เอง...ขอเอาข่าวของ นสพ ไทยรัฐ ออนไลน์ ลงให้ชมครับ

เผย6การ์ดแดง ติดหวัด09 หวั่นติดเชื้อเพิ่ม

ผู้อำนวยการโรงพยาบาลกลาง เผยการ์ดกลุ่มคนเสื้อแดงป่วยเป็นหวัด2009 แล้ว 6 ราย หวั่นลามคนอื่น แนะผู้ชุมนุมหากป่วยสามารถเข้าตรวจรักษาได้ พร้อมเปิดโรงพยาบาลรอ...

เมื่อวันที่ 24 เม.ย. นพ.พิชญา นาควัชระ ผู้อำนวยการโรงพยาบาลกลาง เปิดเผยว่า ขณะนี้มีประชาชนจำนวน 6 รายที่ป่วยเป็นไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ 2009 มาเข้ารับการรักษาอยู่ที่โรงพยาบาลกลาง ซึ่งจากการสอบถามข้อมูลกับประชาชนดังกล่าว พบว่า เป็นคนที่ร่วมชุมนุมกับกลุ่มแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) และ ทำหน้าที่เป็น การ์ด มาตั้งแต่การเริ่มการชุมนุมเมื่อเดือน มี.ค.ที่ผ่านมา ซึ่งตนเป็นห่วงกลุ่มคนเสื้อแดงที่อยู่ในพื้นที่ชุมนุมว่าจะติดเชื้อหวัดดัง กล่าวเพิ่มมากขึ้น ทั้งนี้หากคนเสื้อแดงมีอาการป่วย ไข้ หรือไม่สบายสามารถเข้ามารับการตรวจได้ที่โรงพยาบาลกลาง.

http://www.thairath.co.th/content/region/78977


หัวข้อ: Re: [2513]"ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: เหยง 16 ที่ 25 เมษายน 2553, 14:38:05
ข่าวด่วนแจ้งว่าจับผู้ต้องสงสัยที่เป็นมือยิง M-79 รวม 9 คนแล้ว, ไม่ทราบว่าจะได้ตัวจริงหรือเปล่า ??

ตร.จับมือบึมแล้ว คุมตัวสอบเครียด

ความคืบหน้าล่าสุดของเหตุยิงเอ็ม 79 ใส่ผู้ชุมนุมเสื้อหลากสีที่ถนนสีลม เจ้าหน้าที่ตำรวจสามารถจับกุมผู้ต้องสงสัยได้แล้ว 5 คน บริเวณแยกศาลาแดง โดยนำตัวไปสอบปากคำที่สน.ทุ่งมหาเมฆแล้ว

ล่าสุดจับกุมเพิ่มเติมอีก 4 คน รวมเป็น 9 คน เจ้าหน้าที่เตรียมส่งกองพิสูจน์หลักฐานเพื่อตรวจสอบหาเขม่าดินปืนที่มือต่อไป

http://www.thairath.co.th/content/region/78469


หัวข้อ: Re: [2513]"ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: เหยง 16 ที่ 25 เมษายน 2553, 16:49:35
เริ่มจะทำงานเป็น แก้ทางกันได้บ้างแล้ว ด้วยการใช้รถจักรยานยนต์แทนรถยีเอ๊มซี หรือรถยูนิมอคค์ที่ถูกเจาะยางมาโดยตลอด

คุม 7 “ไพร่แม้ว” ซุกหนังสติ๊ก-ลูกแก้ว ส่งสอบสถานกักกัน
25 เมษายน 2553 16:17 น.

                               (http://img231.imageshack.us/img231/2996/redslave1.jpg)
 
       ทหารชุดเคลื่อนที่เร็ว ของ ศอฉ.ตรวจค้นเสื้อแดงที่กำลังเดินทางกลับจากการไปรวมตัวเรียกร้องให้ “อภิสิทธิ์” ยุบสภา ที่บ้านพักซอยสุขุมวิท 31 เจอพกหนังสติ๊ก ลูกแก้ว ดิ้วเหล็ก ควบคุมตัว 7 ไพร่แดงส่งไปสอบสวนที่สถานกักกัน ตชด.คลองห้า ปทุมธานี
      
       วันนี้ (25 เม.ย.) เมื่อเวลา 12.00 น.ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังจากกลุ่มผู้ชุมนุม นปช.ประกอบด้วย กลุ่ม จยย.รับจ้างเสื้อแดง กทม.และ กลุ่มเสื้อแดง จ.สมุทรปราการ กว่า 1,000 คน เดินทางกลับออกจากไปชุมนุมที่บ้าน นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี มุ่งหน้าไปสมทบกับกลุ่มผู้ชุมนุมที่เวทีใหญ่แยกราชประสงค์ โดยใช้เส้นทางถนนสุขุมวิท ขาเข้า ก็ได้มีเจ้าหน้าที่ทหารชุดเคลื่อนที่เร็ว ของ ศอฉ.ประมาณ 1 กองร้อย พร้อมอาวุธครบมือยืนขวางอยู่บริเวณแยกสายน้ำผึ้ง  นอกจากนี้ พ.อ.ฐิติศักดิ์ สมทัศน์ ผบ.พัน.สห.11 ยังได้นำกำลังสารวัตรทหาร ซึ่งมีอาวุธครบมือ กว่า 500 นาย ขับรถ จยย.เป็นยานพาหนะ จำนวน 250 คัน ตามมาสมทบ
      
       ทั้งนี้ เมื่อทั้ง 2 ฝ่ายเผชิญหน้ากัน จากนั้นกำลังทหารก็เข้าตรวจค้นรถ และบุคคลต้องสงสัยอย่างละมุนละม่อม เบื้องต้นสามารถจับกุมตัวกลุ่ม นปช.ซึ่งเป็นผู้ต้องสงสัยได้ทั้งสิ้น 7 คน ประกอบด้วย 1.นายบุญส่ง บุญประคม 2.นายไพรัช เกิดจรัส 3.นายบุญธรรม ชื่นตา 4.นายวันชัย แก้วปู่ และชายต้องสงสัยไม่ทราบชื่ออีก 3 คน โดยทั้งหมดถูกจับกุมตัวได้พร้อมบัตรสมาชิก นปช.แดงทั้งแผ่นดิน ผ้าโพกศีรษะ นปช.เสื้อผ้า และสายรัดข้อมือสีแดง บางคนพกพาอาวุธเป็นหนังสติ๊ก ลูกแก้ว และดิ้วเหล็ก จึงถูกควบคุมตัวส่ง ร.ต.อ.อาทิตย์ จันทา พนักงานสอบสวน (สบ1) สน.ทองหล่อ เพื่อบันทึกภาพทำประวัติ ก่อนส่งตัวไปสอบสวนที่สถานกักกัน ตชด.คลองห้า จ.ปทุมธานี ตามคำสั่งของผู้บังคับบัญชา

 
 
 
จาก http://www.manager.co.th/asp-bin/mgrView.asp?NewsID=9530000056722
 




หัวข้อ: Re: [2513]"ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: เหยง 16 ที่ 25 เมษายน 2553, 17:30:04
“ชาวไทยพุทธ” สวดมนต์วัดพระแก้ว วอนประเทศไทยสงบสุข
25 เมษายน 2553 15:50 น.

(http://img101.imageshack.us/img101/7002/prakaew1.jpg) (http://img101.imageshack.us/img101/6232/prakaew2.jpg)
 
       ประธานจากทั่วประเทศร่วมทำบุญ สวดมนต์ขอพรให้ประเทศเกิดความสงบสุข และขอพรให้ในหลวงทรงหายจากพระอาการประชวร โดยมีประชาชนจำนวนมากร่วมกันใส่ชุดสีขาว ณ พระอุโบสถวัดพระแก้ว
      
      
       วันนี้ (25 เม.ย.) ที่วัดพระศรีรัตนศาสดาราม หรือวัดพระแก้ว เมื่อเวลา 07.00 น.ได้มีการจัดกิจกรรม “หยุดหนึ่งชั่วโมงให้กับประเทศไทย” เพื่อชาติ ศาสน์ กษัตริย์ ขจัดภัยพิบัติด้วยอำนาจธรรม โดยมีหลวงพ่อพระอาจารย์อารยะวังโส วัดป่าพุทธพจน์หริภุญไชย จังหวัดลำพูน เป็นประธานนำสวดมนต์และบรรยายธรรม และ อธิษฐานจิตเพื่อแผ่นดินไทย ร่วมด้วย ม.ล.สลาลี กิติยากร, คุณหญิง สุพัตรา มาศดิตถ์ ประธานสถาบันผู้หญิงกับการเมืองแห่งเอเชียและแปซิฟิก ทั้งนี้ มีพุทธศาสนิกชนแต่งชุดขาว กว่า 1,000 คน ร่วมกันสำรวมจิต กาย วาจา และสวดพุทธชัยมงคลคาถาหรือพาหุง (ชนะมาร) 9 จบ พร้อมกันทั่วประเทศ เพื่อให้ประเทศไทยและประชาชนได้รับความปลอดภัยและสันติสุข ปกป้องรักษาสถาบัน พระมหากษัตริย์ หลังจากที่สถานการณ์บ้านเมืองมีความไม่สงบเรียบร้อย
      
       ทั้งนี้ ภายหลังสวดมนต์เสร็จสิ้น พุทธศาสนิกชนได้หันหน้าไปทางโรงพยาบาลศิริราช และร่วมกันร้องเพลงสรรเสริญพระบารมี และเพลงสดุดีมหาราชา ถวายแด่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว จากนั้นได้แยกย้ายเดินทางกลับในเวลา 09.30 น.

 
 
ดูภาพเพิ่มเติมได้ที่ นสพ. ผู้จัดการ ออนไลน์
http://www.manager.co.th/asp-bin/mgrView.asp?NewsID=9530000056717
 


หัวข้อ: Re: [2513]"ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: เหยง 16 ที่ 25 เมษายน 2553, 17:46:04
จากวันที่ 18 เมษายน ซึ่ง พธม. ได้ออกมาให้เวลารัฐบาล 7 วัน และครบกำหนดในวันพรุ่งนี้ มีข่าวจาก พธม. ว่า....

พธม.มาตามนัด เคาะแผน เคลื่อนไหวพรุ่งนี้

(http://img232.imageshack.us/img232/8490/pantamirt1.jpg)
สมศักดิ์ โกศัยสุข

"สมศักดิ์ โกศัยสุข"เผยแกนนำพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย นัดประชุมเคาะแผนเคลื่อนไหวพรุ่งนี้(26 เม.ย.)ย้ำ ไม่ทำม็อบชนม็อบ จวกรัฐอ่อนแอ ตำหนิ"มาร์ค"พูดไปเรื่อย ไม่เป็นชิ้นเป็นอัน ลั่นรอไม่ได้แล้ว.....  

เมื่อวันที่ 25 เม.ย. นายสมศักดิ์ โกศัยสุข รองหัวหน้าพรรคการเมืองใหม่ หนึ่งในแกนนำพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย เปิดเผยกับ "ไทยรัฐออนไลน์" ถึงความคืบหน้าการเคลื่อนไหวของกลุ่มพันธมิตรฯ ว่า ในวันพรุ่งนี้ 26 เม.ย.แกนนำพันธมิตรฯจะร่วมกันประชุมถึงแนวทางการเคลื่อนไหวของกลุ่มพันธมิตรฯ เนื่องจากที่เคยมีมติให้เวลารัฐบาล 7 วันในการดำเนินการนำความสงบเรียบร้อยกลับสู่ประเทศ และมีการเรียกร้องให้กลุ่มคนเสื้อแดงสลายการชุมนุม แต่ปรากฎว่า สิ่งที่นายกรัฐมนตรีในฐานะหัวหน้ารัฐบาลนั้นออกมาพูดจานั้นเป็นเพียงการพูดจาไปเรื่อยๆ  โดยเฉพาะล่าสุดที่ออกรายการทาง สทท.11 เหลวไหลมาโดยตลอด  ฟังแล้วมีแต่เพียงอธิบายไปเรื่อยๆไม่มีผลเป็นรูปธรรม เข้าใจว่าคนหมดความเชื่อถือแล้ว หวังมากไม่ได้แล้ว ซึ่งถ้าปล่อยไปประเทศชาติเสียหายไปกว่านี้ จากกรณีประเมินผิดคือดำเนินยุทธศาสตร์ผิดทำให้มีคนเจ็บ-ตาย มาแล้วถึง 2 ครั้ง ถ้าปล่อยไปอีกก็จะมีครั้งที่ 3 อย่างแน่นอน ความเสียหายของประเทศชาติรอไม่ได้แล้ว และ เชื่อว่าสัปดาห์หน้าจะมีประชาชนลุกขึ้นมาต่อสู้ทุกจังหวัด

นายสมศักดิ์ กล่าวด้วยว่า วันนี้พอมีแนวทางการเคลื่อนไหวอยู่แล้ว แต่ยังไม่บอกไม่ยังต้องเป็นมติของแกนนำก่อน  มติหลักก็คือต้องเคลื่อนไหว เพราะเห็นว่าการชุมนุมไม่ชอบชอบ โดยเฉพาะกรณีสีลม คนที่อยู่เฉยๆ มีการยิงเจ็บ เสียชีวิต แต่ยืนยันว่าไม่ใช่เป็นการเอาม็อบมาชนม็อบ คงไม่มีใครทำแบบนนั้น เพราะไม่ใช่หน้าที่ หลักใหญ่เราเป็นประชาชนจะใช้สิทธิปกป้อง ชาติ ศาสนา และ พระมหากษัตริย์และการปกครองในระบอบประชาธิปไตย จะปล่อยให้ก่อการร้ายในเมืองเกิดไม่ได้  ในเมื่อรัฐบาลอ่อนแอ ล้มเหลว พึ่งไม่ได้ ดังนั้นประชาชนก็ลุกขึ้นมาปกป้องตัวเอง อย่างไรก็ตามสำหรับวันพรุ่งนี้ (26 เม.ย.) แกนนำจะทำการนัดหมายประชุมกำหนดการเคลื่อนไหวที่บ้านพระอาทิตย์ ในช่วงเช้า และ จะมีการแถลงแนวทางความเคลื่อนไหวในช่วง 12.00 น.

http://www.thairath.co.th/content/pol/79009


หัวข้อ: Re: [2513]"ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: prapasri AH ที่ 25 เมษายน 2553, 17:55:37
ค่อยๆ จับไปให้ได้ ที่ละตัว สอง ตัว เด่ว กฎหมายก็เป็นกฎหมายเองค่ะ

แม้มันจะชั่ว แต่ต้อง ละมุนละม่อมเอาใจมันสาระพัด

ทำไงได้ล่ะ  จัดการแรงไปก้หาว่า เป็นทรราชย์ ไม่จัดการก็หาว่า บ้านเมืองไม่มีนิติรัฐ


อ้างถึง
ข้อความของ เหยง 16 เมื่อ 25 เมษายน 2553, 16:49:35
เริ่มจะทำงานเป็น แก้ทางกันได้บ้างแล้ว ด้วยการใช้รถจักรยานยนต์แทนรถยีเอ๊มซี หรือรถยูนิมอคค์ที่ถูกเจาะยางมาโดยตลอด

คุม 7 “ไพร่แม้ว” ซุกหนังสติ๊ก-ลูกแก้ว ส่งสอบสถานกักกัน
25 เมษายน 2553 16:17 น.

                                     (http://img231.imageshack.us/img231/2996/redslave1.jpg)

       ทหารชุดเคลื่อนที่เร็ว ของ ศอฉ.ตรวจค้นเสื้อแดงที่กำลังเดินทางกลับจากการไปรวมตัวเรียกร้องให้ “อภิสิทธิ์” ยุบสภา ที่บ้านพักซอยสุขุมวิท 31 เจอพกหนังสติ๊ก ลูกแก้ว ดิ้วเหล็ก ควบคุมตัว 7 ไพร่แดงส่งไปสอบสวนที่สถานกักกัน ตชด.คลองห้า ปทุมธานี
      
       วันนี้ (25 เม.ย.) เมื่อเวลา 12.00 น.ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังจากกลุ่มผู้ชุมนุม นปช.ประกอบด้วย กลุ่ม จยย.รับจ้างเสื้อแดง กทม.และ กลุ่มเสื้อแดง จ.สมุทรปราการ กว่า 1,000 คน เดินทางกลับออกจากไปชุมนุมที่บ้าน นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี มุ่งหน้าไปสมทบกับกลุ่มผู้ชุมนุมที่เวทีใหญ่แยกราชประสงค์ โดยใช้เส้นทางถนนสุขุมวิท ขาเข้า ก็ได้มีเจ้าหน้าที่ทหารชุดเคลื่อนที่เร็ว ของ ศอฉ.ประมาณ 1 กองร้อย พร้อมอาวุธครบมือยืนขวางอยู่บริเวณแยกสายน้ำผึ้ง  นอกจากนี้ พ.อ.ฐิติศักดิ์ สมทัศน์ ผบ.พัน.สห.11 ยังได้นำกำลังสารวัตรทหาร ซึ่งมีอาวุธครบมือ กว่า 500 นาย ขับรถ จยย.เป็นยานพาหนะ จำนวน 250 คัน ตามมาสมทบ
      
       ทั้งนี้ เมื่อทั้ง 2 ฝ่ายเผชิญหน้ากัน จากนั้นกำลังทหารก็เข้าตรวจค้นรถ และบุคคลต้องสงสัยอย่างละมุนละม่อม เบื้องต้นสามารถจับกุมตัวกลุ่ม นปช.ซึ่งเป็นผู้ต้องสงสัยได้ทั้งสิ้น 7 คน ประกอบด้วย 1.นายบุญส่ง บุญประคม 2.นายไพรัช เกิดจรัส 3.นายบุญธรรม ชื่นตา 4.นายวันชัย แก้วปู่ และชายต้องสงสัยไม่ทราบชื่ออีก 3 คน โดยทั้งหมดถูกจับกุมตัวได้พร้อมบัตรสมาชิก นปช.แดงทั้งแผ่นดิน ผ้าโพกศีรษะ นปช.เสื้อผ้า และสายรัดข้อมือสีแดง บางคนพกพาอาวุธเป็นหนังสติ๊ก ลูกแก้ว และดิ้วเหล็ก จึงถูกควบคุมตัวส่ง ร.ต.อ.อาทิตย์ จันทา พนักงานสอบสวน (สบ1) สน.ทองหล่อ เพื่อบันทึกภาพทำประวัติ ก่อนส่งตัวไปสอบสวนที่สถานกักกัน ตชด.คลองห้า จ.ปทุมธานี ตามคำสั่งของผู้บังคับบัญชา

 
 
 
จาก http://www.manager.co.th/asp-bin/mgrView.asp?NewsID=9530000056722
 





หัวข้อ: Re: [2513]"ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: เหยง 16 ที่ 25 เมษายน 2553, 18:30:54
ดูข่าวจาก นสพ เดลี่นิวส์ ออนไลน์

ตั้งชุดไล่ล่าจับคนเสื้อแดง
วันอาทิตย์ ที่ 25 เมษายน 2553 เวลา 12:59 น

                                               (http://img80.imageshack.us/img80/6470/redslave2.gif)

ศอฉ.ตั้งชุดไล่ล่าคนเสื้อแดงทั่วกรุงหวังสกัดคนร่วมม็อบ

วันนี้ (25 เม.ย.) พ.ท.ฐิติศักดิ์ สมทัศน์ ผบ.พัน สห.11 นำกำลังเจ้าหน้าที่ทหารนับร้อยนายพร้อมอาวุธครบมือใช้ จยย.และรถยีเอ็มซี ออกปฏบัติหน้าที่ควบคุมตัวผู้เกี่ยวข้องกับการชุมนุมของกลุ่มคนเสื้อแดงในเขตพื้นที่กรุงเทพมหานคร โดยจะเข้าคุมตัวผู้ที่พกพาอาวุธและผู้ที่มีสัญลักษณ์ของกล่มคนเสื้อแดง อาทิ ผ้าพันคอ เสื้อและตีนตบ ส่งเจ้าหน้าที่ตำรวจท้องที่ตาม พ.ร.ก.ฉุกเฉิน ของ ศอฉ. เพื่อป้องกันการเดินทางเข้าร่วมชุมนุม ซึ่งในจุดบริเวณแยกสายน้ำผึ้ง สามารถควบคุมตัวผู้ต้องสงสัยไว้ได้ 7 ราย จากนั้นได้เดินทางไปยังจุดอื่นต่อไป.

http://www.dailynews.co.th/newstartpage/index.cfm?page=content&categoryID=627&contentID=61965


หัวข้อ: Re: [2513]"ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: seree_60 ที่ 25 เมษายน 2553, 19:43:27
ฟังดนตรีเถิดชื่นใจ(ทำนอง ข้าเจ้าเป็นสาวเจียงใหม่..ของวงโฟลคเหน่อ)

จ้าวมูลแม้ว


ตัวอ้ายเป็นจายเจียงใหม่ แหมบ่อเต้าใดก็จะเป็นเจ้ามูลแม้ว

ตึงวันพันธมิตรมาแอ่ว มาอู้มาแซว เป็นแม้วมูลวัว


ตัวอ้ายจะเลือกอยู่ไหน จะอยู่ดูไบหรือมุ้งสายบัว

ฮ่องกงไม่ไปแล้วกลัว เก็บเนื้อเก็บตัว หดหัวโฟนอิน


หัวขวดว่าจะมาไถ ขอเงินซื้อไข่ซื้อปลาร้าซื้อส้นตีน

จ้างคนมาฟังโฟนอิน แล้วชูส้นตีน ทักษิณมูลเมือง

ตัวอ้ายบ่เจื้อแดงแล้ว ไม่เป็นมูลแม้ว ไม่เป็นมูลเมือง

เป็นหมาขี้เรื้อนเชื่อง ๆ เห่าหอนเนือง ๆ ที่เมืองดูไบ


หัวข้อ: Re: [2513]"ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: seree_60 ที่ 25 เมษายน 2553, 20:22:02
เปิดบันทึก แพทย์ทหาร 10 เมษายน กลางสี่แยกคอกวัว..[/color]จาก ประชาชาติธุรกิจ
. ผมอยากให้เรื่องที่ผมจำได้มันเป็นแค่ความฝัน

บันทึกของแพทย์ทหารผู้หนึ่ง ที่เขียนบันทึกไว้เมื่อวันที่ 15 เมษายน เวลา 13.04 น.
 มีหลายประเด็นน่าสนใจ ลองใช้ดุลยพินิจของท่านพิจารณาไตร่ตรองดู..... !!


  การสลายการชุมนุม เมื่อวันที่ 10 เมษายน  ผ่านไปกว่า 1 สัปดาห์แล้ว  ซีดี.ภาพเหตุการณ์มีทั้งเวอร์ชั้น ศอฉ. และเวอร์ชั่นคนเสื้อแดง ได้ปั๊มกันออกมา เกลื่อนเมือง   แต่ท่ามกลาง การช่วงชิงมวลชน  ปรากฏมีบันทึกของแพทย์ทหารผู้หนึ่ง ที่เขียนบันทึกไว้เมื่อวันที่ 15 เมษายน เวลา 13.04  น.  มีหลายประเด็นน่าสนใจ   ลองใช้ดุลยพินิจของท่าน

 

  ผมในฐานะแพทย์ทหารคนหนึ่งที่ปฎิบัติงานในเหตุการณ์วันที่ 10 เม.ย. 53 อยากจะเขียนบันทึกความทรงจำเหตุการณ์ในวันนั้น เพื่อเก็บไว้เป็นบทเรียน เป็นอุทาหรณ์ หรือเป็นสิ่งเตือนใจให้แก่ตนเอง และประชาชนชาวไทย ไม่ให้ลืมเลือนบทเรียนจากเหตุการณ์ครั้งนี้ไปกับกาลเวลา

 

     ผมได้รับภารกิจในฐานะ ผบ.มว.สร.พัน.ร. (ผู้บังคับหมวดเสนารักษ์ กองพันทหารราบ) หรือก็คือแพทย์ทหารประจำกองพัน หน้าที่ของผมคือติดตามดูแลกำลังพลเกี่ยวกับสุขภาพอนามัย การป้องกันโรค การส่งกำลังบำรุงทางสายแพทย์ รวมถึงงานอื่นๆตามที่ผู้บังคับบัญชามอบหมาย ผมมาภารกิจในครั้งนี้ตั้งแต่วันที่ 11 มี.ค. 53 ย้ายสถานที่พักไปตามภารกิจต่างๆซึ่งส่วนใหญ่เป็นการตั้งด่านตรวจ และเฝ้าระวังเหตุร้ายตามสถานที่สำคัญ เช่น ที่ ร.1 พัน.1 รอ., ร.11 รอ., สนามบินสุวรรณภูมิ, ลาดหลุมแก้ว และที่สุดท้าย คือ สี่แยกคอกวัวบริเวณถนนตะนาวศรี (ข้างวัดบวรนิเวศฯ ย่านบางลำภู) ก่อนที่จะเกิดเหตุการณ์ในวันที่ 10 เม.ย. 53

 

    หน่วยของเราได้รับภารกิจในการขอพื้นที่คืนจากกลุ่มผู้ชุมนุมที่บริเวณสี่แยกคอกวัว ออกจากที่ตั้งปกติโดยรู้ก่อนล่วงหน้าไม่ถึง 1 ชม. หลังจากเข้าที่รวมพลซึ่งอยู่ไม่ไกลจากสี่แยกคอกวัวไม่นานก็ต้องเคลื่อนย้ายราวสักบ่ายโมง ผมขึ้นบนหลังคารถฮัมวี่คันแรกสุด (หากใครเห็นในรูปถ่าย ก็คงจะเห็นทหารคนหนึ่งบนหลังคารถฮัมวี่ที่ติดปลอกแขนกาชาด ถือโล่บังตัวเอง นั่นก็ผมล่ะครับ) จนกระทั่งถึงบริเวณถนนตะนาวศรี กำลังพลรวมทั้งผู้พันก็ลงจากรถ ไปตั้งแนวโล่หน้ากลุ่มผู้ชุมนุม ผู้พันผมบอกให้ผมรออยู่ในรถก่อน เนื่องจากกลัวว่าผมอาจโดนสิ่งของขว้างปามาจะเกิดอันตราย ซึ่งอีกไม่นานก็เกิดขึ้นจริงๆ ทหารของเราตั้งแนวโล่ มีเพียงชุดเกราะป้องกัน (ผมเรียกว่า ชุดโรโบคอป) หมวกกันน๊อค โล่ และกระบองป้องกันตัว เราถูกกลุ่มผู้ชุมนุมปาของทุกอย่างที่คิดว่าจะปาได้ ทั้งขวดเบียร์ ขวดกระทิงแดง ไม้ อิฐบล๊อค กระถางต้นไม้ บันได ขวดน้ำ ฯลฯ อีกสารพัด รถบางคนกระจกถูกปาแตก แต่อาจเป็นเพราะรถฮัมวี่ของผมคงจะแข็งมากมั้งครับ กระจกเลยไม่เป็นไร

     หลังจากนั้นไม่นาน ผมเริ่มเห็นมีคนเจ็บจากของที่ถูกขว้างปา เลยตัดสินใจบอกพลขับว่าผมจะลงจากรถไปดูคนเจ็บ ฝากตอบ ว. (วิทยุ) ให้ด้วยนะครับ หลังจากนั้นก็ลงไปดูคนเจ็บและสถานการณ์อยู่หลังแนวโล่ ซึ่งในระหว่างนั้นก็ต้องคอยหลบซ้าย หลบขวา ก้มหัว หลบบรรดาสิ่งของที่ขว้างมา แต่ผมเพิ่งมารู้ทีหลังว่าผมโชคดีมาก เพราะหลังจากผมตัดสินใจลงจะรถไม่นาน กลุ่มผู้ชุมนุมก็รุกไล่แนวโล่มาจนถึงรถฮัมวี่ที่ผมเคยนั่งอยู่ก่อนไม่ถึง 5 นาที ทุบรถ ทุบกระจก แล้วขึ้นไปบนช่องของพลสังเกตการณ์ (บนเพดานรถจะมีช่องไว้สำหรับให้ทหารนั่งคอยสังเกตการณ์ หรือติดปืนกล แต่นี่เป็นรถธุรการของผู้บังคับบัญชา ไม่ใช่ฮัมวี่รบ เลยไม่ได้ติดอาวุธ) พลขับของผมถูกผู้ชุมนุมใช้เท้ายันศีรษะกับพวงมาลัยรถ ลากลงมารุมกระ..ทืบ แล้วจ้วงแทงด้วยมีด แต่เขาก็ยังโชคดีมากที่ใส่เกราะ มีดเลยไม่เข้า ไม่อย่างนั้นก็คงไส้ทะลักแน่ๆ

     ผมทำหน้าที่ช่วยกันกับทหารและนายสิบพยาบาลลำเลียงผู้ป่วยจากด้านหน้าแนวมาไว้ที่รวบรวมผู้ป่วยเจ็บด้านหลัง ซึ่งผมกำหนดไว้ที่ริมกำแพงข้างวัดบวรนิเวศฯ ซึ่งตอนนั้นยังเป็นการปะทะกันของแนวโล่กับกลุ่มผู้ชุมนุม ผู้ป่วยเจ็บส่วนใหญ่จึงมักเกิดจากการขว้างของแข็งเข้าใส่ มีบาดแผลแตกหรือบาดแผลที่ศีรษะ รวมทั้งผู้ป่วยที่อยู่ในภาวะตื่นตระหนกทำให้เกิดอาการหายใจเร็วเกินไป (ผมขอเรียกตามศัพท์ทางแพทย์ว่า Hyperventilation syndrome) ในส่วนของผมมีผู้ป่วยอยู่ในเวลานั้นประมาณ 20-30 คน การทำงานชุลมุนมาก เพราะเรามีคนน้อยแค่ผมกับนายสิบพยาบาลรวมกันไม่ถึง 6-7 คน แต่ต้องขอขอบคุณพี่ๆน้องๆกู้ภัย เจ้าหน้าที่ EMS ของวชิรพยาบาล รวมทั้งพ่อแม่พี่น้องประชาชนละแวกนั้นที่ให้ความช่วยเหลือ คอยติดต่อเอารถกู้ภัยมารับคนป่วยไป รพ.ศิริราช และ รพ.วชิรพยาบาล คุณยายบางคนไม่รู้จะช่วยยังไงก็ควักยาดมให้ พี่ๆหลายคนก็วิ่งไปหาน้ำเย็น น้ำแข็ง ผ้าเย็น แอมโมเนีย ให้คนไข้ หรือแม้แต่น้องผู้หญิงตัวเล็กๆคนนึงที่ผมจำได้ดี น้องเค้าวิ่งหาท๊อฟฟี่คอยแจกพี่ๆทหารและคนที่มาช่วย พนักงานเดอะพิซซ่าก็คอยเอากระดาษลังมาพัดให้ผู้ป่วย

    แต่มีนายสิบกับพลทหารอีกคนหนึ่งของหน่วยผมที่ถูกยิงด้วยอาวุธปืนที่บริเวณต้นขา ถามเขาบอกว่าเขาอยู่บริเวณแถวหน้าสุดของแนวโล่ มีการ์ด นปช. คนนึงถูกยิงด้วยกระสุนยางที่ไหล่ เขาโมโห เขาพูดว่า “moong ยิง goo เหรอ” หลังจากนั้นก็ชักปืนพก 11 มม. ยิงใส่ทหาร ถูกนายสิบคนหนึ่งมีบาดแผลรูกระสุนที่ต้นขาซ้าย และถูกพลทหารอีกคนที่บริเวณขา ผมได้ทำการห้ามเลือดด้วยผ้าแต่งแผลและสายรัดห้ามเลือด (Tourniquet) แล้วส่งรถกู้ภัยต่อ

     หลังจากเหตุปะทะช่วงแรกสักราวๆ   1 ชม. ทั้ง 2 ฝ่ายก็เจรจากัน ผู้ชุมนุมขอให้ทหารถอยออกไป ส่วนทหารขอให้ผู้ชุมนุมถอยเพื่อลากเอารถที่เสียหายออกมา ก็ตกลงกันได้ ต่างฝ่ายจึงถอยออกห่างจากกันประมาณ 20 เมตร ซึ่งช่วงนั้นผมและเจ้าหน้าที่ได้ทำการลำเลียงผู้ป่วยเจ็บออกไปได้หมดแล้ว ทั้งผู้ชุมนุมและทหารก็ต่างนั่งพักตรึงกำลังอยู่ในพื้นที่ของตน

       ในระหว่างนั้นก็มีประชาชนเอาน้ำ เอาของกิน เอาผ้าเย็นมาให้ทั้งฝ่ายทหารและผู้ชุมนุม เวลาผ่านไปจนกระทั่งถึงราวๆหกโมงเย็น (หลังเคารพธงชาติ) ทางทหารจึงได้รับคำสั่งให้ทำการขอคืนพื้นที่ชุมนุมอีกครั้ง โดยตั้งขบวนแถวแรกจำนวน 1 กองร้อย ด้วยแนวโล่และกระบอง และมีกำลังด้านหลังมีปืน M16 เพื่อทำการยิงขู่ขึ้นฟ้าในกรณีที่จำเป็น กำลังของทหารสามารถผลักดันผู้ชุมนุมให้ถอยร่นจากบริเวณปากทางเข้าถนนข้าวสารจนเกือบจะถึงถนนราชดำเนินนอก ซึ่งตอนนั้นผมอยู่หลังกองร้อยที่อยู่ด้านหน้า (ชุดโรโบคอป โล่ กระบอง) โดยมีผู้บังคับกองพันและผู้บังคับการกรมคอยสั่งการอยู่ด้านหน้าของผม (หลังแถวกองร้อย)

       ลักษณะการจัดแนวจะเป็นแถวหน้ากระดานประมาณ 4-6 แถว ขณะนั้นผมอยู่ที่ริมฟุตบาทถนนข้าวสาร ในระหว่างนั้นผู้ชุมนุมเริ่มมีการใช้อาวุธที่ร้ายแรงมากขึ้น เช่น ขว้างแก๊สน้ำตาใส่ ขว้างระเบิดเพลิง (โมโรตอฟ) จนกระทั่งมีการเปิดถังแก๊สใส่ทหาร (โชคดีที่ไม่มีใครจุดไฟ มิเช่นนั้นทหารรวมทั้งผมคงถูกไฟคลอกตายแน่) จนกระทั่งเหตุการณ์สำคัญที่สุดก็เกิดขึ้น ...

 

     ผมจำได้ติดตาเลยว่า ตอนนั้นมีระเบิดควันลูกหนึ่งโยนมาตกที่บริเวณแถวทหารหน้าสุด ซึ่งตอนแรกทุกคนคิดว่าเป็นแก๊สน้ำตา จึงรีบนำผ้าพันคอปิดจมูก และเตรียมถอยกลับออก แต่ตอนนั้นทั้งทหารและผมก็โดนแก๊สน้ำตา 3-4 ครั้งแล้ว จึงรู้โดยทันทีว่านั่นไม่ใช่แก๊สน้ำตา เป็นระเบิดควันเฉยๆ ผมได้ยินเสียงผู้พันสั่งว่า .”ไม่ใช่แก๊ส ไม่ต้องถอย ตั้งแนวต่อไป” แถวทหารก็เริ่มตั้งแนวและผลักดันต่อ ผมเองก็ค่อยๆเดินตามหลังแถวทหารไป หลังจากนั้นไม่ถึง 1 นาที ก็มีเสียงระเบิดดังขึ้นบริเวณหน้าแถวทหาร (ห่างจากเท้าของทหารแถวแรกไม่กี่เมตร)

      ผมยอมรับตามตรงว่าทั้งชีวิตไม่เคยเห็นระเบิด M79 มาก่อน แต่สิ่งที่เห็นคล้ายกับประทัดยักษ์ระเบิดที่พื้นถนน แต่ปกติประทัดยักษ์ควรจะมีแต่เสียงดังกับควัน แต่สิ่งที่เห็นกลับมีประกายไฟกระจายออกมาด้วย ผมก็คิดอยู่ว่า “ทำไมประทัดมันมีประกายไฟด้วย” จุดที่ระเบิดตกห่างจากผมไปราวๆ 10 เมตร หลังจากนั้นก็มีอีกลูกหนึ่งตกหลังผมไปทางหน้าแนวทหารที่ 2 ผมได้ยินเสียงผู้การสั่งว่า “มันเล่นของจริง ทุกคนถอย” หลังจากนั้นแถวของเราก็แตกถอยมาด้านหลัง นายสิบพยาบาลของผมคนหนึ่งดึงผมให้หลบออกมาทางฟุตบาทให้หลบ ผมหันหลังกลับมาทางถนน เห็นคนเจ็บนอนเลือดอาบอยู่ราวๆ 10-20 คน ซึ่งเกือบทั้งหมดเป็นทหารเป็นลูกน้องในกองพันของผม บางคนเมื่อวานเพิ่งมาขอยา บางคนยังเคยกินข้าวด้วยกันไม่นานนี้เอง

       ตอนนั้นผมยอมรับจริงๆว่าเบลอไปหมดแล้ว ทุกสิ่งทุกอย่างที่ทำไปทำด้วยสัญชาตญาณ ภาพที่เห็นคือทหารนอนเลือดอาบ ตาลอย ตามร่างกายมีสะเก็ดระเบิด และบางคนมีรูกระสุนปืนด้วย เพื่อนทหารต่างพากันช่วยลากออกมาจากจุดที่ระเบิด ร้องเรียก “หมอ ช่วยด้วย” “หมอ ดูเพื่อนผมด้วย” “หมอ หมอ ช่วยเพื่อนผมด้วย” บรรยากาศตอนนั้นหลายท่านคงเห็นจากในคลิปวีดีโอหรือในสื่อต่างๆ แต่ ณ สถานที่เกิดเหตุจริงมันยิ่งกว่านั้น มันไม่รู้จะอธิบายยังไง ทั้งตกใจ ทั้งหดหู่ ทั้งเศร้าใจ แม้ว่าผมจะเป็นแพทย์

     แต่สิ่งที่ทำได้ผมก็ทำได้เพียงเข้าไปช่วยลากคนเจ็บ เข้าไปช่วยกันห้ามเลือดด้วยผ้าพันคอ เพราะตอนนั้นทั้งตัวไม่มีอุปกรณ์อะไรติดตัวเลย มีแต่ stethtoscope (หูฟัง) ไม่มีสายรัดห้ามเลือด ไม่มีผ้าพันแผล สมัยเป็น นพท.ปี 6 ผมเคยเรียนวิชาเวชปฎิบัติการยุทธ (ปฎิบัติการเพชราวุธ) ผมรู้ว่าสถานการณ์แบบนี้คือ Care under fire แต่ผมเพิ่งจะเข้าใจจริงๆว่า หัวใจของ care under fire คือ เอาชีวิตตัวเองให้รอด แล้วเอาคนเจ็บออกจากบริเวณสังหาร (Killing zone) ให้เร็วที่สุด ลืมเรื่องการปฐมพยาบาล ลืมเรื่อง primary survey หรือ ABCD ที่เคยเรียนไปได้เลย เพราะขณะช่วยเอาคนไข้ออก ก็มีทั้งระเบิด M79 ระเบิดขว้างลูกเกลี้ยง M26 เสียงปืน (ตอนหลังเพื่อนผู้หมวดบอกว่าเขามีทั้ง M16, AK47 และปืนพก)

      ขณะนั้นรถกู้ภัย รถพยาบาล จอดอยู่บริเวณหัวถนนตะนาว ใกล้กับวงเวียนบางลำพู รถไม่กล้าขับเข้ามาเพราะยังมีระเบิดตกอยู่เรื่อยๆและมีเสียงปืนดังอยู่ตลอดจากฝั่งผู้ชุมนุม ผมวิ่งไปเรียกตรงกลางทางให้รถพยาบาลเข้ามา (แต่ตอนนั้นก็รู้อยู่แล้วว่า ถ้าเป็นตัวเองก็คงไม่กล้าขับรถเข้ามาหรอก) ขอบคุณพี่ๆกู้ภัยหลายคนช่วงนั้นที่เสี่ยงตายวิ่งเข้ามาช่วยพวกเราลากผู้ป่วย ตอนนั้นผู้ป่วยทั้งหมดถูกลำเลียงออกมารวมกันบริเวณเกาะกลางถนนตรงแยกบางลำพู ผมช่วยกันลำเลียงผู้ป่วยออกมาได้ 2-3 คน ใส่รถกู้ภัย             หลังจากนั้นพอจะกลับเข้าไปช่วย

     สิ่งที่เห็นก็คือฝ่ายตรงข้ามก็ยิงระเบิดไล่หลังมาเรื่อยๆจนเกือบถึงหัวถนนตะนาวตรงหัวมุมวัดบวรนิเวศฯ ทหารฝ่ายเราต้องเริ่มคว้าปืนมายิงคุ้มกันให้พวกที่ลำเลียงผู้ป่วยออกมาตรงฟุตบาท 2 ข้างของถนนตะนาว ผมไม่สามารถเข้าไปในบริเวณถนนตะนาวได้อีกแล้วเพราะบริเวณนั้นกลายเป็น killing zone ผมจึงต้องหลบอยู่หลังรถกู้ภัยตรงวงเวียนบางลำพู (พร้อมๆกับบอกให้พี่ๆกู้ภัยก้มหัวหมอบ ต้องเอาชีวิตตัวเองรอดก่อนไปช่วยคนอื่น) จุดนั้นมีการปะทะอยู่นานประมาณ 15-20 นาที

      ฝ่ายอำนวยการของผมแจ้งให้ทราบในภายหลังว่านับระเบิด M79 ได้เกือบ 15 ลูก ระเบิดขว้าง M26 อีก 2 ลูก รวมทั้งมีพลทหารคนหนึ่งซึ่งผมไปรับหลังจากกลับจาก รพ. บอกผมว่า เขาเห็นแสง laser pointer สีเขียวคอยส่องอยู่แถวศีรษะของทหารแถวหน้า คาดว่าน่าจะมีคนซุ่มยิงมาจากบริเวณอาคารสูงบริเวณแยกคอกวัว แต่คงไม่พบเป้าหมายซึ่งคาดว่าจะเป็นผู้บังคับบัญชา เพราะแต่ละคนต่างกระจาย ไม่รวมกัน และมี รปภ. คุ้มกันไม่มากนัก หลังจากนั้นเราได้ลำเลียงผู้ป่วยทั้งหมดขึ้นรถพยาบาลได้หมด ฝ่ายนั้นเริ่มยิงตอบโต้มากขึ้น ผมเห็นไม่ปลอดภัยจึงขอให้รถกู้ภัย รวมทั้งรถจี๊ปพยาบาลไปหลบอยู่ในซอยบางลำภู ฝ่ายนั้นก็ยังคงพยายามยิงระเบิดใส่ท้ายขบวนรถของเราที่จอดอยู่ถนนริมวัดบวรนิเวศฯ ซึ่งคาดว่าหากไม่มีทหารของเราที่คอยยิงคุ้มกันตอนลำเลียงผู้ป่วยและถอยกลับ รถหลายคันคงถูกยิงระเบิด ทหารและประชาชนแถวนั้นคงตายอีกเป็นจำนวนมาก

      ต่อมาผู้บังคับหน่วยของเราจึงขอหน่วยเหนือในการถอนกำลัง ซึ่งกว่าจะเคลื่อนย้ายออกไปได้หมด ก็ต้องใช้เวลานานเพราะรถมีจำนวนมาก และการจราจรแถวนั้นก็ถูกปิดกั้นบางส่วน แถมตอนเราถอนตัวฝ่ายตรงข้ามก็ยังพยายามยิงระเบิดใส่พวกเราอีกด้วย ในช่วงก่อนถอนตัวผมจำได้ว่ามีเด็กวัยรุ่นใส่เสื้อแดง 2 คน ขี่มอเตอร์ไซด์มาจอดข้างๆรถจี๊ปพยาบาล แล้วพูดด้วยน้ำเสียงยั่วโมโหว่า “หน่วยพยาบาลคงไม่โดนอะไรหรอกมั้ง มีคนตายด้วย พวกพี่ยิงคนเหรอ”

     ผมยอมรับว่าแม้ว่าปกติผมจะไม่ใช่คนอารมณ์ร้อน แต่จากเหตุการณ์ที่เพิ่งผ่านมาที่ประสบ ผมเลือดขึ้นหน้า อารมณ์ตอนนั้นคุกรุ่นเต็มที่ ผมพูดจริงๆ ผมอยากลงไปต่อยเด็กคนนั้น แต่ผมก็อดทนแล้วตอบกลับไปว่า “แล้วทีพวกน้องยิงระเบิดใส่พวกพี่ล่ะ น้องยิงทั้งระเบิด น้องขว้างทั้งระเบิด แถมเอาอาวุธสงครามยิงใส่ทหาร ทหารแถวหน้าเค้ามีแต่โล่กับกระบอง ป้องกันตัวเองอะไรไม่ได้เลย เค้าก็มีครอบครัว มีลูกมีเมีย แล้วนี่ที่ทหารยิงก็เพื่อคุ้มกันคนเจ็บกับตอนถอนตัว แล้วน้องจะให้ทหารเอาโล่กับกระบองไปไล่ตีไอ้พวกที่ยิงระเบิดใส่หรือไง น้องไส..หัวไปเลย ไส..หัวไปหลบระวังลูกหลงจากระเบิดที่พวกน้องยิงมาด้วยแล้วกัน”

     เด็กคนนั้นอึ้งไปแล้วก็ขี่รถมอเตอร์ไซด์ออกไป เราถอนตัวออกจากจุดตรงแยกคอกวัวเป็นหน่วยสุดท้ายกลับที่ร่วมพลเดิม ซึ่งก็หลงทางไปทางวังสวนจิตรลดา เนื่องจากเราไม่ใช่ทหารกรุงเทพจึงไม่รู้เส้นทาง คืนนั้นพอผมกลับมาได้ พบกับผู้พัน พบกับผู้กองและเพื่อนผู้หมวด จึงได้รู้ว่าในขณะที่หน่วยของผมถอนตัวออกมาทางถนนตะนาว มีอีกกองร้อยที่ต้องถอยร่นออกมาทางถนนข้าวสาร โดยมีผู้บังคับกองพันอีก 2 คน และรองผู้บังคับกองพันอีกคน ผู้พันคนหนึ่งถูกยิงจากฝั่งตรงข้ามเข้าที่สีข้าง เนื่องจากฝ่ายตรงข้ามกราดยิงปืนซึ่งคาดว่าเป็น M16 เพื่อนผมบังผู้พันของเขาอยู่แต่กระสุนเฉี่ยวข้างตัวไปถูกผู้พัน แต่ที่น่าเศร้าคือมีนายสิบของต่างหน่วยอีกคนถูกยิงทะลุหมวกเหล็ก เสียชีวิตคาที่ นายสิบที่เป็น รปภ. หลายคนก็ถูกยิงเข้าที่ขา

     โชคดีมากๆและต้องขอขอบคุณเจ้าของผับแห่งหนึ่งที่ถนนข้าวสาร ที่เปิดร้านนำคนเจ็บเข้ามา ให้เด็กในร้านช่วยปฐมพยาบาล ทำแผล ห้ามเลือด ปิดประตูหน้าร้าน และติดต่อตำรวจและรถกู้ภัยให้มารับที่หลังร้านซึ่งทะลุออกทางถนนอีกเส้นหนึ่ง มีทหารประมาณ 1 กองร้อยที่ไม่สามารถออกมาขึ้นรถได้เพราะหลงเข้าไปในถนนข้าวสารและถูกปิดทางด้านถนนตะนาวไว้ ก็ต้องวิ่งออกมาทางถนนสามเสนไปยังที่รวมพลซึ่งอยู่ห่างเกือบ 5 กม. แต่อย่างไรก็ตามทุกคนปลอดภัยดี (ขณะนี้ผมได้ไปเยี่ยมทหารทุกคนที่ รพ.พระมงกุฎเกล้า ทุกคนปลอดภัยดี และออกจาก ICU ได้หมดแล้ว)

      ในขณะที่เกิดเหตุการณ์โทรศัพท์มือถือของผมแบตหมด พอกลับมาชาร์ทแบต ก็พบว่ามีหลายคนโทรเข้ามา หนึ่งในนั้นเป็นเพื่อนของผมที่ วพม. ผมโทรกลับไปจึงทราบว่ามีนายทหารหลายคนถูกระเบิด หนึ่งในนั้น arrest (เสียชีวิต) ก่อนมา รพ. ต่อมา CPR (ปั๊มหัวใจ) ขึ้น และต้องเข้ารับการผ่าตัดสมองด่วน ซึ่งนายทหารคนนั้นเป็นเพื่อนกับอาจารย์ที่พระมงกุฎของผม แต่อาจารย์จำผิดคนคิดว่าเป็นผู้บังคับกองพันของผมจึงรีบโทรหาผม แต่มือถือผมแบตหมด จึงให้เพื่อนติดต่อ ในภายหลังจึงทราบว่าคือ พี่เปา (พ.อ.ร่มเกล้า ธุวธรรม) ซึ่งอยู่รุ่นเดียวกับผู้พันของผม คืนนั้นผมกินข้าวไม่ลง กว่าจะนอนตาหลับได้ก็เกือบตี 3 ซึ่งภายหลังอาจารย์ก็โทรมาบอกว่า พี่เปาเสียแล้ว ให้บอกผู้พันผมด้วย ผมหลับไปกลางพื้นโรงเก็บรถที่ที่รวมพล ตื่นขึ้นมาตอน 6 โมง ผมไม่ฝันร้าย แต่ผมอยากให้เรื่องที่ผมจำได้มันเป็นแค่ความฝัน

       วันรุ่งขึ้นผมได้ไป รพ.พระมงกุฎ เพื่อติดตามผู้ป่วยและประสานงานกับอาจารย์ที่ รพ.พระมงกุฎ วันนั้นเองผมได้ทราบว่ามีทหารของผมเกือบ 10 คนที่บาดเจ็บตอนปะทะช่วงแรกและที่ถูกสะเก็ดระเบิด บาดเจ็บเล็กน้อย ที่ส่งไป รพ.วชิรพยาบาล จ่าคนหนึ่งติดต่อมาว่าเขาติดอยู่ที่วชิรพยาบาล แต่มีเสื้อแดงมาปิดล้อม ทหารบางคนที่บาดเจ็บไม่มาก ทาง ER ให้คัดแยกอยู่หน้าห้องฉุกเฉิน พอผู้ชุมนุมเสื้อแดงมาส่งคนป่วยของเขาที่เจ็บ ก็มาไล่กระ..ทืบทหารของผมที่นอนอยู่ ทหารต้องหนีตาย บางคนต้องปีนดาดฟ้าหนี แต่ขอขอบคุณพี่ๆน้องๆหมอ พยาบาล เจ้าหน้าที่ รพ.วชิรพยาบาล ที่ช่วยกันพาทหารไปหลบที่บริเวณที่ปลอดภัยหลัง รพ. หาชุดไปรเวทให้ใส่ และให้พักอยู่ในบริเวณที่ปลอดภัยไปก่อน ทหารบางคนเล็ดลอดออกมาได้ด้วยความช่วยเหลือจากหน่วยกู้ภัยที่เอาเสื้อเครื่องแบบใส่ทับให้ขึ้นรถกู้ภัย เอาวิทยุกับอุปกรณ์ออกมาใส่กระเป๋า EMS แล้วมาส่งให้ที่รวมพล

      ผมเห็นทหารหลายๆคนเจ็บ เห็นทหารที่เป็นลูกน้องเป็นผู้ใต้บังคับบัญชาเจ็บ ผมอาจจะโชคดีที่ไม่บาดเจ็บอะไร (แต่ตอนหลังมาคิดก็ยังคิดอยู่เลยว่า รอดมาได้ยังไงเนี่ย ) แต่บาดแผลในจิตใจก็มีอยู่ในหัวใจทหารทุกๆคน ผมน้ำตาซึมทุกวันที่ไปเยี่ยมลูกน้องที่เจ็บ ผมเห็นผู้การ รองผู้การ ผู้พันของผมพยายามกลั้นน้ำตาทุกครั้งที่เห็นลูกน้องตัวเองเจ็บ) เฉพาะหน่วยของผม มีคนเจ็บที่ต้องนอน รพ. เกือบ 80 คน บาดเจ็บเล็กน้อยที่ไม่ได้นอน รพ. อีก 60 กว่าคน

       ผมขอเถอะครับ ... มีประชาชนบางคนถามผมว่าผมโกรธเสื้อแดงมั้ย ผมแค้นเค้ามั้ย ผมตอบไปว่า แม้ผมจะรู้สึกโกรธ แต่ผมแยกแยะได้ ผมเคยเจอผู้ชุมนุมทั้งที่ราบ 11 ที่ลาดหลุมแก้ว คนส่วนใหญ่ไม่ใช่คนที่จะมาชักปืนยิงใส่หรือโยนระเบิดใส่ เกือบทั้งหมดเป็นคนธรรมดาที่เค้ามาเรียกร้องในสิ่งที่เค้าต้องการ แต่เราอย่าตกเป็นเครื่องมือของคนบางคน (จะเป็นใครผมก็ไม่ทราบ แต่น่าจะคิดกันได้นะครับ) อย่าให้ใครบางคนใช้ทั้งคนเสื้อแดง ใช้ทหารเป็นเพียงหมากบนกระดาน ให้เราต่างฝ่ายต่างเจ็บต่างล้มตายเพื่อผมประโยชน์ของคนบางคน ประเทศเราจะล่มสลายอยู่แล้วนะครับ เห็นแก่ส่วนรวม เห็นแก่ประเทศชาติ อย่าให้ใครแค่ไม่กี่คนมาทำลายประเทศไทยของเราเลย

 

       แต่อย่างไรก็ตาม แม้ในสถานการณ์ที่เลวร้ายที่สุดในชีวิตก็ยังมีเรื่องดีๆ ขอบคุณพี่ๆน้องๆเพื่อนๆร่วมชาติทุกคนที่ให้ความช่วยเหลือคนเจ็บโดยไม่แบ่งสีไม่แบ่งความคิด ผมซาบซึ้งในน้ำใจของทุกๆท่านมาก หากไม่มีพวกท่าน ผมคงไม่สามารถพาคนเจ็บออกมาได้ขนาดนี้ ดีไม่ดีผมอาจจะโดนไปด้วยก็ได้

 

      เหนือสิ่งอื่นใด ตลอดระยะเวลาที่เรียนในวิทยาลัยแพทยศาสตร์พระมงกุฎเกล้า ผมรับรู้รับทราบมาโดยตลอดถึงภารกิจของแพทย์ทหาร ถึงตอนนี้อารมณ์ของผมจะตกอยู่ในความเศร้า ตกอยู่ในความหดหู่ แต่ผมก็ภาคภูมิใจที่ได้ทำหน้าที่ของแพทย์ทหาร ที่ได้ทำหน้าที่เป็นวีรบุรุษในแนวหน้า (Heroes in the front line) อย่างที่ทหารขนานนามเหล่าแพทย์ของเรา ถึงแม้ว่า “การเป็นแพทย์ทหารนั้นมันเหนื่อย” แต่มันก็ภาคภูมิใจที่ได้ทำหน้าที่เป็นแพทย์ทหารของชาติ ศาสน์ กษัตริย์ และประชาชน ได้เป็นทหารของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวและสมเด็จพระนางเจ้า พระบรมราชินีนาถ ภาพที่ได้ประสบมา ผมคงจดจำไปจนวันตาย (เพราะตอนนี้มันติดตาแล้วครับ ลืมไม่ลง) ขอให้พระบารมีของพระองค์ท่านคุ้มครองเพื่อนทหารและประชาชนทุกคนให้ปลอดภัย และคุ้มครองให้ประเทศชาติของเราผ่านวิกฤตครั้งนี้ไปได้

 

ท้ายที่สุด ... ขอคารวะหัวใจของพี่น้องผองเพื่อนทหารจากใจจริง

 

แพทย์ทหาร

 






หัวข้อ: Re: [2513]"ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: ตุ๋ย 22 ที่ 25 เมษายน 2553, 20:53:01
โหพี่ๆ น้องๆๆๆ   จะโพสต์ข้อความยาวได้ไหมอ่านทีหนึ่งมึนเลย


หัวข้อ: Re: [2513]"ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: ภาณุ ปาตานี ที่ 25 เมษายน 2553, 20:58:49
อ้างถึง
ข้อความของ เหยง 16 เมื่อ 25 เมษายน 2553, 14:13:45
ดีเอสไอตอกหน้า “เหวง” ยัน “เมธี ดารานู้ด” รับเองปล้นปืนทหารจริง
24 เมษายน 2553 22:08 น.
 
จาก http://www.manager.co.th/asp-bin/mgrView.asp?NewsID=9530000056527
สวัสดีครับพี่แอ๊ะ

อืม..ว่าแล้ว ทำไมหมอเหวงถึงหน้าปรุ

เพราะโดนตอกบ่อยนี่เอง


หัวข้อ: Re: [2513]"ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: swsm ที่ 25 เมษายน 2553, 21:15:19
อ้างถึง
ข้อความของ YA เมื่อ 25 เมษายน 2553, 20:58:49
สวัสดีครับพี่แอ๊ะ

อืม..ว่าแล้ว ทำไมหมอเหวงถึงหน้าปรุ

เพราะโดนตอกบ่อยนี่เอง


คมเหลือเกิน .. น้องเอ๋ย
    emo43


หัวข้อ: Re: [2513]"ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: prapasri AH ที่ 25 เมษายน 2553, 21:24:02
น้อง ya น้องหยี พี่น้องๆทั้งหลาย  พี่แอ๊ะ ขอลางานไปเเอ่ว สุราษฎร์และกรุงเทพ 4-5 วัน


จะฝากไปกราบ แม่ ไอ้ตู่ไหม แม่เขาอยู่สุราษฎร์ค่ะ


 กลับมา กรุงเทพ จะไปชิดลม (เซ็นทรัล) ห้างในดวงใจของน้องหนู ได้ป่าวววหนอออออออ

อยู่ สุราษฏร์ หรือ กรุงเทพ จะเข้าเนตไม่เป็นค่ะ

แต่จะซื้อ bb มาสักเครื่องสองเครื่องเอามา ด่า ควายตู่   อิๆๆๆๆๆๆ


หัวข้อ: Re: [2513]"ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: ตุ๋ย 22 ที่ 25 เมษายน 2553, 21:24:41
อ้างถึง
ข้อความของ YA เมื่อ 25 เมษายน 2553, 20:58:49
อ้างถึง
ข้อความของ เหยง 16 เมื่อ 25 เมษายน 2553, 14:13:45
ดีเอสไอตอกหน้า “เหวง” ยัน “เมธี ดารานู้ด” รับเองปล้นปืนทหารจริง
24 เมษายน 2553 22:08 น.
 
จาก http://www.manager.co.th/asp-bin/mgrView.asp?NewsID=9530000056527
สวัสดีครับพี่แอ๊ะ

อืม..ว่าแล้ว ทำไมหมอเหวงถึงหน้าปรุ

เพราะโดนตอกบ่อยนี่เอง
เอ   สาวไหนหน้าปรุคงโดนตอกบ่อยๆ  นะซี


หัวข้อ: Re: [2513]"ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: prapasri AH ที่ 25 เมษายน 2553, 21:33:16
น้องตุ๋ย ขา กว่าจะเข้าห้องพี่แอ๊ะ พี่ป๋อง แก ปิดประตูหลายชั้นมาก คงหวงเพื่อนสาว



หัวข้อ: Re: [2513]"ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: เหยง 16 ที่ 26 เมษายน 2553, 08:11:47
ดูความไม่เอาไหนของตำรวจ; สำนักงานที่มีคนทั่วประเทศ มีตู้ยาม สน. สภ. สภต. สทล. อยู่ทั่วทุกหัวระแหงของประเทศ
มีระบบวิทยุสื่อสาร(ว็อกกี้-ทอคกี้) ที่เชื่อมโยงกันได้ทั่วประเทศ ทุก สน. กองกำกับการ กองบัญชาการ สตช.
โดยเฉพาะตู้ยามที่มีทุกถนน และ สทล.ของตำรวจทางหลวง, แต่ขับรถมาให้เสื้อแดงยึดถนน ยึดรถได้

                         (http://img99.imageshack.us/img99/9761/26p1b.jpg)

คนเสื้อแดงที่เปลี่ยนมาใส่เสื้อสีอื่นได้ปิดกั้นรถและเจ้าหน้าที่ตำรวจ
ที่ จ.ปทุมธานีไม่ให้เข้า กทม


http://www.thaipost.net/node/21324


หัวข้อ: Re: [2513]"ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: เหยง 16 ที่ 26 เมษายน 2553, 08:14:51
บทบรรณาธิการ ของ นสพ.แนวหน้า ออนไลน์ วันนี้ (26 เมษายน 53)

บทบรรณาธิการ   

กบฏเสื้อแดงไม่มีสิทธิ์ต่อรอง (บทบรรณาธิการ)   
 

 การที่ล่าสุดแกนนำม็อบคนเสื้อแดงยื่นเงื่อนไขต่อรองเรียกร้องให้รัฐบาลยุบสภาภายใน 30 วันเพื่อคลี่คลายวิกฤติความแตกแยกและความรุนแรงในชาติที่เกิดขึ้นถูกตั้งข้อสังเกตุว่าเป็นเพียงเล่ห์เหลี่ยมทางการเมืองเพื่อสร้างภาพซื้อเวลาหาทางลงเอาตัวรอดในสภาวะที่ตัวเองกำลังเพลี่ยงพล้ำใกล้จนตรอกจากการถูกกระแสสังคมต่อต้านอย่างหนักรวมทั้งกำลังจะถูกจัดการตามกฏหมายขั้นเด็ดขาดหลังจากที่บ่อนทำลายสร้างความเสียหายต่อประเทศอย่างยับเยินตลอดช่วงกว่า 1 เดือนที่ผ่านมา

 ก่อนหน้านี้ตัวแทนรัฐบาลนำทีมโดยนายกรัฐมนตรีอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะเคยเปิดใจกว้างเจรจากับทีมแกนนำม็อบคนเสื้อแดงโดยรัฐบาลยอมที่จะยุบสภาภายในเวลา 9 เดือนภายใต้เงื่อนไขว่า ฝ่ายม็อบคนเสื้อแดงจะยุติการชุมนุมและยุติการใช้ความรุนแรงทุกรูปแบบ แต่แล้วฝ่ายแกนนำคนเสื้อแดงซึ่งเชื่อว่าได้รับคำสั่งจาก พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตรอดีตนายกรัฐมนตรีกลับล้มโต๊ะการเจรจาโดยยืนกรานว่ารัฐบาลจะต้องยุบสภาในทันที

 การที่ม็อบคนเสื้อแดงภายใต้การสั่งการของ พ.ต.ท.ทักษิณยืนยันที่จะให้ยุบสภาอย่างทันทีทันใดก็เพราะมีเป้าหมายสำคัญเพื่อรีบช่วงชิงอำนาจรัฐมาเป็นขอฝ่ายตัวเองโดยเร็วที่สุดเพื่อเร่งแต่งตั้งโยกย้ายข้าราชการมาเป็นฝ่ายของตัวเองโดยเฉพาะในกองทัพเพื่อยึดครองอำนาจของประเทศให้ได้อย่างเบ็ดเสร็จเด็ดขาด และออกกฏหมายฟอกโทษความผิดทั้งหมดรวมทั้งทวงคืนทรัพย์สินของพ.ต.ท.ทักษิณที่ถูกยึดตกเป็นของแผ่นดิน ตลอดจนแผนที่จะเปลี่ยนแปลงประเทศครั้งใหญ่

 การเคลื่อนไหวของม็อบคนเสื้อแดงตลอดช่วงที่ผ่านมาชัดเจนว่าเป็นปฏิบัติการคู่ขนานเป็นเนื้อเดียวกับพรรคพื่อไทยตลอดจนขบวนการใต้ดินที่ใช้วิธีการก่อการร้ายลอบก่อวินาศกรรมขั้นร้ายแรงกว่า 40 ครั้งนับตั้งแต่กลุ่มคนเสื้อแดงชุมนุมเพื่อทำสงครามขั้นแตกหักเมื่อวันที่ 14 มีนาคมที่ผ่านมาโดยทุกกลุ่มล้วนอยู่ภายใต้การสั่งการของ พ.ต.ท.ทักษิณ

 ขณะที่ม็อบคนเสื้อแดงเรียกร้องให้มีการยุบสภา แต่ประชาชนจำนวนมากในนามกลุ่มเสื้อหลากสีได้ออกมาชุมนุมแสดงพลังเรียกร้องให้รัฐบาลบังคับใช้กฏหมายกับม็อบคนเสื้อแดงและไม่เห็นด้วยหากนายกฯอภิสิทธิ์จะยุบสภาหรือลาออก พร้อมทั้งสนับสนุนให้รัฐบาลชุดนี้บริหารประเทศต่อไป

 นอกจากนี้หลายฝ่ายยังชี้ว่าการยุบสภาไม่สามารถที่จะแก้ไขปัญหาวิกฤติการณ์ของชาติได้อย่างแท้จริง แต่เป็นเพียงการซื้อเวลาแก้ปัญหาเฉพาะหน้าเท่านั้น อีกทั้งยังเป็นการสร้างบรรทัดฐานอันเลวร้ายในอนาคตส่งเสริมให้มีการใช้กำลังกฏหมู่และความรุนแรงอยู่เหนือกฏหมายเพื่อช่วงชิงอำนาจรัฐอันไม่ใช่แนวทางตามระบอบประชาธิปไตยอย่างแท้จริง

 ทั้งนี้หากย้อนกลับไปทบทวนวิกฤติการณ์ทางการเมืองที่ผ่านมาจะพบว่าล้วนมีต้นเหตุสำคัญจากคนเพียงคนเดียวคือพ.ต.ท.ทักษิณที่อาศัยม็อบคนเสื้อแดง พรรคเพื่อไทยและขบวนการใต้ดินจุดไฟเผาบ้านป่วนเมืองโดยไม่คำนึงถึงหายนะที่จะเกิดกับชาติบ้านเมืองเพียงเพื่อให้บรรลุเป้าหมายที่ตัวเองต้องการ ดังนั้นการบ่อนทำลายสร้างความพินาศย่อยยับต่อชาติบ้านเมืองของม็อบคนเสื้อแดงที่ผ่านมาจึงอยู่ในฐานะกบฏก่อการร้ายที่จะต้องถูกดำเนินการตามกฏหมายจึงไม่มีสิทธิ์ที่จะมาเจรจาต่อรองใดๆ ขณะเดียวกันการบริหารของรัฐบาลชุดนี้กำลังทำให้บ้านเมืองเดินไปข้างหน้าด้วยดีจึงมีความชอบธรรมที่จะอยู่บริหารประเทศต่อไป
 
วันที่ 26/4/2010
 
http://www.naewna.com/news.asp?ID=208764


หัวข้อ: Re: [2513]"ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: เหยง 16 ที่ 26 เมษายน 2553, 08:17:11
บทบรรณาธิการ นสพ. ไทยโพสต์ ออนไลน์

"เจรจา"แก้ผ้าเอาหน้ารอด ฤาเพื่อคืนความเป็นไทย
บทบรรณาธิการ 26 เมษายน 2553 - 00:00

ประเทศไทยในสภาพบอบช้ำ  อึดอัด  คับข้องใจ  เดินไปทางไหนต้องระแวดระวัง  หวั่นอกหวั่นใจ  สงสัยว่าคนข้างๆ  เป็นคนนิยมเสื้อสีใด  บ้างหวาดกลัว  กังวลว่า  ระเบิดจะหล่นใส่หัววันไหน   สมาชิกในครอบครัวต้องพลัดพรากจากไปหรือไม่  ราวกับเกิดสงครามกลางเมืองนั้น ปฏิเสธไม่ได้ว่า  ทำให้เกิดภาวะกดดันต่อรัฐบาลนายอภิสิทธิ์  เวชชาชีวะ  อย่างแสนสาหัส  นอกจากนั้นยังส่งผลให้ทุกสถาบันซึ่งทำการสำรวจความคิดเห็นของประชาชนต่อทางออกประเทศไทย  พบคำตอบสอดคล้องกันว่า  ทุกฝ่ายปรารถนาอยากเห็นข้อยุติและไม่ต้องการเห็นความรุนแรงอีกต่อไป
       แม้จะเกิดปรากฏการณ์เสื้อหลากสีออกมารวมกลุ่มเคลื่อนไหวปกป้องต่อสถาบันชาติ  ศาสนา  พระมหากษัตริย์  และต่อต้านการกระทำอย่างล้ำเส้นเกินขอบเขตการใช้สิทธิและเสรีภาพตามครรลองของระบอบประชาธิปไตยภายใต้รัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทยของบรรดาคนเสื้อแดงโดยแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการหรือ  นปช.  อีกทั้งประกาศสนับสนุนนายกฯ  อภิสิทธิ์มิให้ยุบสภาตามข้อเรียกร้องที่มีวาระซ่อนเร้นของ  นปช.  แต่ก็มองข้ามข้อเท็จจริงมิได้ว่า  คนไทยอยากเห็นการเจรจาหาข้อยุติร่วมกัน  ไม่ใช่เพียงแค่ขอพื้นที่ถนนราชประสงค์คืนให้แก่ชุมชนที่นั่นเท่านั้น  แต่หว้งอย่างยิ่งว่าจะสามารถคืนความสงบให้กับประเทศไทยทั้งแผ่นดินด้วย
     การเจรจากับกลุ่มคนเสื้อแดงจึงถูกจุดประกายขึ้นในห้วงเวลานี้  หลังจากที่ล้มเหลวอย่างไม่เป็นท่ามาสองหนสองครั้ง   และตั้งแต่เกิดเหตุการณ์โศกนาฏกรรมเมื่อวันที่  10  และ  22 เมษายน  2553  ทำให้มีคนไทยผู้บริสุทธิ์และทหารตายและบาดเจ็บเป็นจำนวนมาก  ไม่ว่าจะยังมีเสียงแสดงความสงสัยและตั้งข้อสังเกตว่า  การเจรจาจะประสบผลตามความปรารถนาของคนไทยส่วนใหญ่ได้อย่างไร  ในเมื่อคู่เจรจาระหว่าง  นปช.และรัฐบาลมิได้มีเป้าหมายเป็นอันหนึ่งอันเดียวกันว่า  ประเทศไทยต้องเป็นหนึ่งเดียวโดยมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นพระประมุข  ทุกคนต้องเคารพในกฎหมายอย่างเท่าเทียมกันและได้รับการปฏิบัติอย่างเที่ยงธรรม 
     เงื่อนไขของ  นปช.  3  ข้อ  ที่หยิบขึ้นมานำเสนอเพื่อการเจรจารอบใหม่เมื่อวันที่  23  เม.ย.ที่ผ่านมา  อันได้แก่  1.รัฐบาลยุติการคุกคามทุกรูปแบบ  2.มีกรรมการอิสระเป็นกลางสอบสวนเหตุการณ์  10  เม.ย. และ  22  เม.ย.  โดยรัฐบาลต้องแสดงความรับผิดชอบ 3.นปช.  ยินดียืดเวลาสำหรับการยุบสภาจากเดิมไปเป็นยุบสภาภายใน  30  วัน  เพื่อรัฐบาลจะได้เตรียมการเท่าที่จำเป็น  นับเป็นภาพสะท้อนและนัยสำคัญตอกย้ำความปราศจากความจริงใจที่อยากจะเจรจาเพื่อหาข้อยุติให้กับวิกฤติประเทศไทย  ไม่แตกต่างจาก  "ปาหี่"  เปิดการเจรจาถ่ายทอดสดทางทีวีก่อนหน้านี้สองครั้งแต่อย่างใด
      เพราะเริ่มต้นกับเงื่อนจำกัดเวลา  30  วัน  แม้จะเพิ่มขึ้นจากเดิมยุบสภาภายใน  15 วันหรือทันทีทันใด  แต่เป้าประสงค์ก็เหมือนกัน  คือ  สร้างภาพคนเสื้อแดงให้ดูดีมีน้ำใจ  "โอนอ่อน"  ให้  แต่รัฐบาลต่างหากที่ปิดประตูใส่หน้าประชาชนทั้งๆ  ที่แกนนำ  นปช.ประจักษ์แจ้งแก่ใจว่า  "เป็นเงื่อนไขที่ยอมรับไม่ได้"  แต่ไหนแต่ไรมาของรัฐบาล  ฉะนั้น  ความพยายามที่จะหาข้อยุติโดยหลีกเลี่ยงความรุนแรงจึงเหมือนการพายเรือวนอยู่ในอ่างหาทางออกไม่ได้เฉกเช่นที่ผ่านมากว่า  1  เดือน  และที่น่าเสียดาย  คือ  ยิ่งเพิ่มการสุ่มเสี่ยงให้เกิดสถานการณ์คนไทยฆ่าคนไทยมากขึ้น  เพราะ  นปช.ปรับเปลี่ยนยุทธศาสตร์การต่อสู้ด้วยการเปลี่ยนเสื้อสีแดงไปใส่เสื้อหลากสีนั่นเอง
     เราจึงขอเรียกร้องว่า  ถ้าไม่อยากให้บ้านเมืองตกอยู่ในสภาพบ้านป่าเมืองเถื่อน  คนไทยเข่นฆ่าทำร้ายกันเอง  ด้วยเหตุผลที่รู้อยู่แก่ใจว่าไม่ใช่เพื่อประชาธิปไตยอันเป็นของปวงชนชาวไทยแล้ว  คู่ขัดแย้ง  ผู้มีหน้าที่ต้องแก้ปัญหาบ้านเมือง  ผู้สร้างความปั่นป่วนให้กับสังคมไทย  จะต้องรู้จักเสียสละ  ทบทวน  ประมวลผล  ประเมินสถานการณ์ให้รอบคอบอย่างมีสติว่า  กรอบการเจรจาเพื่อหาข้อยุติร่วมกันนั้นต้องอยู่บนพื้นฐานเพื่อคืนชีวิตปกติสุขให้กับคนไทยทั้งชาติ  มิใช่เพื่อการเมือง  เพื่อแก้ปัญหาเฉพาะหน้า  เพื่อเอาตัวเองรอดจากเสียงข่าวลือเล่าอ้างว่า  ท่อน้ำเลี้ยงม็อบคนเสื้อแดงเริ่มตีบตัน  และสถานการณ์ที่คนตรงข้ามเสื้อแดงลุกขึ้นออกมารักษาสิทธิของตัวเองอย่างเป็นเอกภาพมากขึ้นเรื่อยๆ
     ไม่ว่าจะสามารถเจรจาหรือหาข้อยุติด้วยวธีการใดๆ  ก็ตาม  รัฐบาลอภิสิทธิ์  เวชชาชีวะ  ต้องยอมรับด้วยว่าการใช้กำลังเพื่อแก้ปัญหามีแต่เสียกับเสีย  สุดท้ายไม่มีใครชนะ  ดังนั้น ระหว่างรอเวลาและจังหวะที่เจ้าหน้าที่รัฐแยกคนไทยที่บริสุทธิ์ออกจากผู้ก่อการร้าย  หรือเหล่ากบฏคิดร้ายต่อสถาบันชาติ  ศาสนา  พระมหากษัตริย์  นายกฯ  อภิสิทธิ์ต้องสร้างความเชื่อมั่นเรียกศรัทธาคืนจากประชาชนให้ได้ด้วยการจับผู้กระทำผิดในเหตุการณ์ไม่พึงปรารถนา   10   และ  22  เม.ย.  มาลงโทษ  ทำให้ประชาชนได้มั่นใจว่าบ้านเมืองมีขื่อแป  กฎหมายมีความศักดิ์สิทธิ์  อย่างน้อยที่สุด  ปากบอกว่ารู้ฝีมือใคร  แต่ไม่เคยจับผู้ร้ายได้สักคน  ในขณะที่ระเบิดเกิดขึ้นรายวันมากกว่า  10  หน  ก็ทำให้คนไทยรู้สึกคับข้องใจไม่น้อยไปกว่ารำคาญใจต่อความเหิมเกริมของเสื้อแดงเช่นเดียวกัน
     ขอยืนยันว่า  การคุยกันคือทางออกของคนมีเหตุผล  แต่ต้องอยู่บนหลักการเดียวกันคือ  เพื่อประโยชน์ต่อส่วนรวม   เพื่อคืนความเป็นไทยให้กับคนไทยที่กล่าวกันว่า  "คนไทยนั้นรักสงบ"  และมีความเท่าเทียมกันตามกฎหมาย   หากการหันมาคุยกันเพียงเพื่อหาสะพานลงแก่ฝ่ายหนึ่งฝ่ายใด  หรือเพื่อผลทางการเมืองโดยมีข้อตกลงว่า...เรื่องที่ผ่านมา  1  เดือนเศษแล้วกันไป...รับรองว่า  รัฐบาลอภิสิทธิ์นั่นแหละจะถูกจิกหัวด่า...ออกไปๆ.

http://www.thaipost.net/news/260410/21299


หัวข้อ: Re: [2513]"ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: เหยง 16 ที่ 26 เมษายน 2553, 08:19:29
คอลัมม์ "คนปลายซอย" ของคุณเปลว สีเงิน

บทสอบใจ"ช้าเป็นการ-นานเสียเมือง"
เปลว สีเงิน 26 เมษายน 2553 - 00:00

     ได้ดู  "คู่รัก  ๒  โลก"  นายกฯ  อภิสิทธิ์กะพลเอกอนุพงษ์ออกโทรทัศน์คู่กันในรายการ  "เชื่อมั่นประเทศไทยฯ"  เช้าวานนี้  (๒๕  เม.ย.๕๓)  ก็เห็นกระจุ๋งกระจิ๋งกันดีนี่ครับ  พูดจาประสาการเมืองผสมการทหารเข้ากันเป็นปี่-เป็นขลุ่ย  นายกฯ  น่ะ  เดี๋ยวนี้ลีลาเทียบชั้น  "ควง  อภัยวงศ์"  เข้าไปทุกที  ขาดอยู่แต่อารมณ์ขันเท่านั้น  ตอนหนึ่งนายกฯ  ท่านบอกว่า
     "การเมืองเป็นเรื่องที่ผมรับผิดชอบเอง"!
     แหม..นี่ถ้าผมเป็นพลเอกอนุพงษ์คงสะดุ้งแทบตกเตียง  การพูดแบบนี้  เหมือนโยนทั้งปี่-ทั้งกลองมาให้แบบไม่ทันตั้งตัว  ถ้าพูดกันตามวงนักเลงเขาก็ว่านี่มันเหมือน  "ค้ำคอต่อย"  เพราะฟังแล้วจะตีความเป็นอื่นไปไม่ได้  นอกจากยันมาซึ่งๆ  หน้าว่า
     "การปราบกบฏเป็นหน้าที่ของทหารใช่มั้ย.....
     แล้วเมื่อไหร่จะรับผิดชอบซะที?"
     พลเอกอนุพงษ์ท่านไม่มีบทให้ต้องแช่หน้ากลางจอโทรทัศน์มานานแล้ว  เมื่อวาน  สถานการณ์และเสียงสงสัยในบทบาทจากชาวบ้านคงบีบให้ท่านหนีไม่ออก  ทั้งนายกฯ  และทั้ง  ผบ.ทบ.เลยต้องหนีบมาออกจอด้วยกัน  ผมเห็นหน้าท่านแล้วก็สงสาร
     ช่วงนี้  ดูท่าน  "แก่เกินวัยเกษียณ"  อดหลับ-อดนอน  พอทนไหว  แต่โรคเครียดทับหัวใจนี่ซี  เป็นใครก็ต้องโทรมศรี  นี่...พอดี  "พี่สาว"  ที่นับถือกันจากดวงใจสมุทร  ที่แม่กลอง ต้มรังนกกับโสมมาให้ตั้ง  ๒  กระป๋องใหญ่  อยู่ใกล้ๆ  ก็จะแบ่งให้ซักกระป๋อง  จะได้ซดคลายเครียด 
     ทหารสู้..สู้!
     นี่ก็เป็น  "ความรู้ใหม่"  ที่ต้องขอแทรกไว้ตรงนี้  รังนกนางแอ่นน่ะ  ไม่ต้องไปหากินตามถ้ำ-ตามเกาะแก่งทางภาคใต้แล้ว  นอกจากที่  "วัดช่องลม"  มหาชัย  ตอนนี้  ที่ปากอ่าวแม่กลอง  สมุทรสงคราม  นกนางแอ่นไม่รู้ย้ายนิวาสสถานมาจากไหน  มาทำรังเต็มไปหมด  ในกรุงเทพฯ  ปลูกคอนโดฯ  ขายคน  แต่ที่แม่กลองเขาแย่งกันปลูกคอนโดฯ  ให้นกนางแอ่น  "กินฟรี-อยู่ฟรี"  มีดนตรีกล่อมอีกตะหาก
     ขนาดให้อยู่ฟรีก็ใช่ว่าคุณเธอจะใจอ่อนเข้านอนทำรังกันง่ายๆ  นะ  มันขึ้นอยู่กับบุญใคร-วาสนาใครเหมือนกัน  พี่สาวจากดวงใจสมุทรท่าจะมีบุญหนา-วาสนาส่ง  เรียกว่ากี่หลัง-ต่อกี่หลัง  ปลูกไม่ทันให้พวกคุณเธอได้บินเข้ามาจับจองทำรังกันขนาดนั้นเชียว
     ผมก็เลยได้รับประทานรังนกแท้ๆ  แทนยางไม้  อิ่มไป  รับประทานไป  ก็เกรงใจเขาไป  เพราะราคามันหลาย  (แสน)  อยู่!
     แล้วเมื่อวาน   ได้ตื่นทันไปร่วมสวดมนต์ที่วัดพระแก้วกันหรือเปล่าล่ะ   ผมน่ะทัน  คือทัน  "หน้าจอโทรทัศน์"  เห็นคนที่ไปเล่าให้ฟังว่า  โอ้โฮ...อร่ามเรือง  และน่ารักกันทุกคน  ในพระอุโบสถไม่ต้องถามว่าใครได้เข้าไปถึงไหม  เอาแต่ว่ามีโอกาสได้นั่งเรียงระเบียงรายรอบพระอุโบสถชั้นนอก  นั่นก็บุญแล้ว
     ไปกันมากมายด้วยใจมั่นจริงๆ  "ท่านอริยวังโส"  นำสวดพาหุง-มหากา  ด้วยสำเนียงที่
ทำให้สมาธิรวมตัวเป็นพลังได้อย่างประหลาด  คนที่ไปเขาเล่าว่าอย่างนั้นนะครับ  ก่อนสมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าจะดับขันธปรินิพพาน  พระองค์ตรัสไว้เป็นปัจฉิมโอวาท  คือคำสอนสุดท้าย  มีตอนหนึ่งว่า
     จิตเต  สังกิลิฏเฐ  ทุคคะติ  ปาฏิกังขา  เมื่อจิตเศร้าหมอง  ทุคติเป็นอันพึงหวัง
     จิตเต  อสังกิลิฏเฐ  สุคะติ  ปาฏิกังขา  เมื่อจิตไม่เศร้ามอง  คือจิตผ่องใส  สุคติเป็นอันพึงหวัง
     ฉะนั้น  ทุกท่าน  ทั้งที่ไป  และไม่ได้ไป  แต่ตั้งจิตดีอยู่ที่บ้าน  ล้วนอยู่ในประเภท  "จิตเต  อสังกิลิฏเฐ  สุคติ  ปาฏิกังขา"  ด้วยกันทุกคน  คือที่ไปสวดมนต์กัน  และเปล่งเสียงถวายพระพรชัยแด่  "พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว"  และ  "สมเด็จพระนางเจ้าฯ  พระบรมราชินีนาถ"  เมื่อวานนั้น  ทั้งกายกรรม  วจีกรรม  และมโนกรรม  อยู่ในประเภท  จิตที่ปลดเปลื้องแล้วจากมลทินเศร้าหมองอันเป็นเครื่องร้อยรัด  เป็นจิตบริสุทธิ์ผ่องใส  เป็นจิตเปี่ยมด้วยพลังบริสุทธิ์-สะอาด
     สุคติ  คือปลายทางที่ทุกคนปรารถนา  ด้วยจิตดีนี้  ปรารถนานั้น  "สวรรค์มรรคา"  พลันสำเร็จ  "ดังประสงค์"  แน่นอน!
     ประเทศชาติก็จะพลิกฟื้นคืนดี  พี่น้องประชาชนร่วมชาติ  ที่ทุกข์จะหายทุกข์  ที่สุขก็จะสุขยิ่งขึ้น  ที่งมอบาย-ใจขึ้งโกรธต่อกัน  ก็จะพลันเกิดสัมมาสติ  รู้ผิด-รู้ถูก  กลับมาผูกพันรักใคร่เป็น  "ผองไทยล้วนพี่น้องกัน"  ดังเดิม
     ถ้าตั้งใจดีแล้ว  บริสุทธิ์แล้ว  แน่วแน่แล้ว  ไม่ต้องห่วง  กรรมดีที่ร่วมกันทำวานนี้  และวันต่อๆ  ไป  จะเป็นดังที่พระพุทธองค์ตรัสบอกไว้  "มะโน  ปุพพังคะมา  ธัมมา  มะโนเสฏฐา  มะโนมะยา"  ธรรมทั้งหลาย  มีใจเป็นใหญ่  มีใจประเสริฐ  และ...สำเร็จได้ที่ใจ!
     วันนี้  (๒๖  เม.ย.๕๓)  ดาวประธานแห่งคุณธรรมค้ำจุนประเทศไทย  คือดาวพฤหัสบดียกเข้าราศีมีนอันเป็น  "บ้านตัวเอง"  เรียกว่าเป็นราศีเกษตร  มีคุณ  (ด้านดี)  มาก  มีฤทธิ์  (ด้านดี)  มาก  แต่ตามปฏิทินของท่านอาจารย์เทพ  สาริกบุตร  บอกว่าพฤหัสบดีจะยกเข้าราศีมีนวันอาทิตย์ที่  ๒  พ.ค.  แต่เอาละ...สรุปว่า  "ดาวประธานคุณธรรม"  เข้ามาค้ำจุนประเทศไทย  และคนไทยทุกคนก็แล้วกัน
     ใครที่รู้ว่า  "ผิดไปแล้ว"  กลับตัว-กลับใจ  ดาวคุณธรรมยังคุ้มครอง.....
     แต่ถ้าผิดแล้วก็ไม่รู้ถูก  และที่รู้ผิด-รู้ถูก  แต่จงใจจะทำผิดต่อบ้าน-ต่อเมืองอยู่ร่ำไป  นั่นก็เป็นเรื่องที่น่าเสียใจ  เพราะชีวิตต่อจากนี้จะเข้าสู่คำว่า  "จิตเต  สังกิลิฏเฐ  ทุคคติ  ปาฏิ
กังขา"  จิตเศร้าหมอง  โลภ-โกรธ-หลง  ทำลายชาติ  ทุคติ  คือ  "นรกมรรคา"  เป็นอนาคตที่ต้องไปแน่นอน!
     ผมก็ไม่สามารถแส่รู้-แส่ทำได้มากกว่านี้แล้วครับ  ในเมื่อทั้งนายกฯ  และท่าน  ผบ.ทบ.
ประสานเสียงว่าจาก  "ข้อมูลภายใน"  เต็มหน้าตักของท่าน  ท่านรู้ดีทุกอย่าง  และท่านก็ทำหน้าที่รัฐบาล  หน้าที่ทหารของท่านชนิด  "นั่งหัวชนกัน"  แทบไม่มีใครได้หลับ-ได้นอนตลอด  ๒๔  ชั่วโมง  ท่านรู้กระทั่งว่าที่บึ้ม..บึ้ม..ตายไป  ๒  รอบแล้วนั้น
     ทหารในราชการ-นอกราชการ  "หัวดำ-หัวแดง-หัวหงอก"  คนไหน  ใครบ้างร่วมแผน
"แยกกันเดิน-ร่วมกันตี"!?  รู้แล้วก็ทำตามที่รู้กันบ้างนะ  รู้แล้วเอาแต่นั่งอมภูมิ  ตูม..ตูม..ทีไร  นายกฯ  ไม่ตาย  ผบ.ทบ.ไม่ตาย  ผบ.ทร.ไม่ตาย  ผบ.สส.ไม่ตาย  ผบ.ตร.ไม่ตาย  แต่ชาวบ้านอย่างพวกผม  "ตายแหงแก๋"  กันทุกที
     พฤหัสฯ  เข้า  พระเสาร์เล็ง  เขาว่าเหมือนเพิ่มฤทธิ์ให้โจร  "มารจะชนะเทพ"  แต่ผมว่า  "เทพจะเหยียบยอดอกมาร"  ซะละมากกว่า  และจะเป็นอกจำพวก  "พญามาร"  โดยเฉพาะ  ชาวบ้านไม่เกี่ยว
     เท่าที่ผมฟังนายกฯ  กะ  ผบ.ทบ.เขาคุยทางโทรทัศน์  พอจับหางเสียงได้ว่า  เหมือนเขาจะมี  "แผนสำเร็จ"  อะไรซักอย่างอยู่มือ  เพียงแต่รอจิ๊กซอว์บางตัวมาเข้าแผนอุดรูรั่ว-รูโหว่ให้สมบูรณ์เท่านั้น!?
     อย่าแค่เอาโวหารบริหารประเทศรายวันนะ...ท่านนายกฯ  ชาวบ้านอดทนกะท่านมาร่วม  ๒  เดือนแล้ว  ขณะนี้กบฏทักษิณเขาสถาปนา  "อำนาจรัฐซ้อนรัฐ"  ขึ้นมาใช้กันเองเกือบทั่วประเทศแล้ว  โดยมีตำรวจ-ทหาร-ข้าราชการ  "บางส่วน"  เป็นไส้ศึก  ไม่ต้องดูอะไรมาก  เขาสามารถตั้งด่าน  "ตรวจค้น"  รถราตามท้องถนนได้ตามใจชอบ
     ไม่ใช่ค้นแค่รถชาวบ้านนะ  ตำรวจ-ทหารยังถูกค้นจนถึงกางเกงใน  คือตอนนี้  อยู่ที่อำนาจฝ่ายกบฏทักษิณเขาจะพอใจให้ใครเคลื่อนย้าย  หรือไม่ให้เคลื่อนย้ายไปทางไหน!
     ขืนปล่อยไปเรื่อยๆ  ก็จะเป็นตัวอย่างให้  "เหิมเกริม"  ไปทุกพื้นที่  ในทุกจังหวัด  เพราะที่เรียกกันว่า  "กองกำลังไม่ทราบฝ่าย"  นั่นน่ะ  ซุกหัวในกะลาเรียกไปงั้นแหละ  มีแต่ควายเท่านั้นที่ไม่ทราบฝ่าย  เพราะมนุษย์ที่ไม่ถูกใช้ไถนาต่างรู้กันหมดว่า  "ไม่ตำรวจก็ทหาร-ไม่ทหารก็ตำรวจ"
     หรือ  "ทั้งตำรวจและทหาร"  กลุ่มหนึ่ง  เป็นหน่วยปฏิบัติการสนับสนุนกบฏทักษิณ  "โค่นชาติ"!
     ก็จะรอดู  "ทีเด็ด"  ของอภิสิทธิ์-อนุพงษ์  "๒  จอมหลักการ"  ว่าจะมีอะไรเป็นปาฏิหาริย์ให้ชาวประชาได้ซู้ดปากฮือฮาว่า  "มาเหนือเมฆ"  ผมกลัวแต่ว่าจะต้องแบ่งประเทศเป็น  ไทยเหนือ-ไทยใต้-ไทยอีสาน  และไทยบูรพา  เท่านั้น  ก็ขนาด  ๒  บิ๊กจาก  ๒  ขั้วอำนาจออกโทรทัศน์คู่กันทั้งที  ขอโทษ...ฝ่ายกบฏมันยังสามารถทำเหมือนเอาเท้าขยี้หน้าด้วยการ
     ส่งคลื่น  "ตัดคลื่น"  กลืน  ๒  บิ๊กหายไปจากจอเฉยเลย!?
     แล้วทีไอ้บรรดาหัวโจก  มันแก้ผ้านอนรอให้กองทัพส่ง  "ตำรวจ-ทหาร"  เข้าไปจับอยู่ทุกวัน  ก็ไม่เห็นมีน้ำยา  จะรอจนกว่าบรรดาสาวกแดงกลับไปจนหมดเสียก่อนแล้วค่อยย่องตอดเข้าไป  แบบนั้นละก็  ชาติหน้าบ่ายโมงค่อยมาเจอกัน  รับไม้กวาดไปคนละอัน  ไปล้างส้วมที่พวกวีระ-ณัฐวุฒิ-จตุพร-เหวง  และใครต่อใครมันถ่ายทิ้งไว้
     จะได้เอาไม้กวาดมาชูประกาศชัยชนะกะเขามั่งไงล่ะ!
     ไม่มีใครต้องการให้ตำรวจ-ทหารไปฆ่าใคร  เหมือนกับที่  ไม่มีใครต้องการให้ตำรวจ-ทหาร  "ไม่ฆ่าใคร"  ที่มันทำลายชาติ  สังคมไทย  เป็นสังคมที่สอนให้  "คิดตาม-พูดตาม-ทำตาม"  การนอนกอดหลักการของอภิสิทธิ์-อนุพงษ์  ขณะนี้ทำให้สังคมชนบท-หัวเมือง  คิดตามกบฏ-พูดตามกบฏ   และทำตามกบฏ  ใกล้จะเป็น  "สังคมคด"  ตามกันไปทั้งประเทศอยู่รอมมะร่อ  นี่ผมก็รออยู่ว่า  ระหว่าง  "เจ๋ง  ดอกจิก"  กับ  "จิ๋ว  ห่าจิก"
     ว่า  "จิกไหน"  คือตัวการใหญ่  "ฝ่ายกบฏ?".

http://www.thaipost.net/news/260410/21300


หัวข้อ: Re: [2513]"ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: เหยง 16 ที่ 26 เมษายน 2553, 08:21:10
คอลัมม์ "ท่านขุนน้อย"

ยิ่งช้า...ยิ่งอันตราย!!!
ท่านขุนน้อย 23 เมษายน 2553 - 00:00

  ท่ามกลางบรรยากาศแห่งความอดทน   อดกลั้น   อันสุดแสนจะหนืดหนาด  เหนื่อยหน่าย  น่าอเนจอนาถเวทนาเป็นอย่างยิ่ง....อย่างน้อยสิ่งที่พอช่วยสร้างความชุ่มชื่น  ฉ่ำใจ  ช่วยประคับประคองความรู้สึกใครต่อใครให้พอยืนหยัดอยู่ร่วมกันภายในสังคมได้บ้าง  เห็นทีจะไม่มีอะไรเกินไปกว่าการแสดงออกของกลุ่มชนกลุ่มต่างๆ  ที่ทยอยกันออกมาร่วมแสดงความรู้สึกรับผิดชอบต่อสังคมโดยรวม  ด้วยสีสันที่หลากหลาย  ภายใต้สัญลักษณ์เสื้อหลากสี  หรือภายใต้ความรู้สึกที่ไม่ได้คิดจะสร้างความแตกแยกให้ต้องเกิดความเป็นฝักเป็นฝ่ายอีกต่อไปนั่นเอง....
          ------------------------------------------------
     จะด้วยประสิทธิภาพของเทคโนโลยีการสื่อสาร  หรือด้วยความรู้สึกที่อยู่ลึกลงไปในหัวจิตหัวใจก็ตาม  อุบัติการณ์การพัฒนาของกลุ่มคนเหล่านี้เป็นไปอย่างรวดเร็วเอามากๆ  ชั่วเวลาเพียงแค่ไม่กี่วัน  ไม่กี่สัปดาห์เท่านั้น  จากผู้คนจำนวนนับร้อย  ก็แผ่ขยายเป็นนับพัน  นับหมื่น  และกำลังแพร่กระจายไปสู่ระดับหลักแสน  หลักล้าน  ในอีกไม่นานนับจากนี้ได้ไม่ยาก  อีกทั้งยังไม่ใช่แค่การกระจุกตัวอยู่ในโลกไซเบอร์เท่านั้นที่ออกมาปรากฏตัวให้เห็นแบบตัวเป็นๆ  ในถนนรนแคม  ทั้งในเขตกรุงเทพมหานคร  หรือกระจายออกไปตามจังหวัดต่างๆ  ไม่ว่าภาคเหนือ  ภาคใต้  ภาคอีสาน  เริ่มเต็มไปด้วยสีสันอันหลากหลายโผล่ให้เห็นเป็นจุดๆ...
           ----------------------------------------------
     จากจังหวัดเชียงใหม่  ลำปาง  พะเยา  อุบลราชธานี  อุทัยธานี  สงขลา  นครศรีธรรมราช  ฯลฯ  จนกระทั่งถึงผู้ซึ่งได้รับการเรียกขานว่า  ผู้ร่วมพัฒนาชาติไทย  นับตั้งแต่พรรคคอมมิวนิสต์ยุติบทบาทในแถบจังหวัดภาคอีสานทั้งแถบ  ก็ได้ออกมาป่าวประกาศอย่างตรงไป-ตรงมาว่า  นอกจากจะไม่เห็นด้วยกับบรรดาพวก  คอมมิวนิสต์หลงยุค  ในหมู่พวกเสื้อแดงทั้งหลายแล้ว  ยังพร้อมที่จะร่วมยืนหยัดปกป้องรักษาสังคมไทย  อันมีสถาบันพระมหากษัตริย์เป็นศูนย์รวมจิตใจให้ดำรงคงอยู่ต่อไปให้จงได้  แทนที่จะปล่อยให้เกิด  รัฐใหม่  ที่มี  พระเจ้ามูลเมือง  กลายมาเป็นประธานาธิบดี  หรือเป็นพระประมุข  ก็แล้วแต่...
           -----------------------------------------------
     ปรากฏการณ์การแพร่ระบาดของมวลชนผู้ไม่ได้คิดจะตั้งตัวเป็นฝักเป็นฝ่าย  เพียงแต่ไม่เห็นด้วยกับพวกเสื้อแดงที่กำลังสร้างรอยแตก  รอยแยก  ให้กับผู้คนในสังคมหนักยิ่งขึ้นเรื่อยๆ  อาจถือได้ว่าเป็นภาพสะท้อนถึง  ความพ่ายแพ้  ในแนวรบด้านมวลชนของพวกแกนนำหัวขวดอย่างเห็นได้ชัดเจน  หรือได้ทำให้ทฤษฎี  แก้ว  3  ประการ  ที่บรรดาพวกแกนนำม็อบเสื้อแดงพยายามนั่งเครื่องไทม์แมชชีนย้อนเวลากลับไปลอกทฤษฎีท่านประธานเหมาเอามาใช้แบบมั่วๆ  มึนๆ  กำลังกลายเป็นทฤษฎี  กะละมัง  3  ใบ  หนักเข้าไปทุกที  เนื่องจากถ้าหากแนวรบมวลชนพ่ายแพ้ซะอย่าง  ก็แทบไม่ต้องพูดถึงพรรค  หรือกองกำลังใดๆ  ต่อไปอีกแล้ว  เพราะมันย่อมนำไปสู่การพ่ายแพ้ทุกสิ่งทุกอย่างในขั้นตอนสุดท้ายอย่างมิอาจหลีกเลี่ยงได้เลย...
          ------------------------------------------------
     และโดยข้อเท็จจริง...คงต้องยอมรับว่า  แนวรบด้านมวลชนของพวกเสื้อแดงที่การเกาะกลุ่มรวมตัวเป็น  ม็อบเสื้อแดง  อยู่ในทุกวันนี้  อาจถือได้ว่าเป็นม็อบที่แปลกประหลาดที่สุดเท่าที่เคยมีมาในประวัติศาสตร์ประชาธิปไตยของประเทศไทยเอาเลยก็ว่าได้  คือเป็นม็อบที่ไม่ได้สนใจที่จะสร้างความยอมรับให้กับมวลชนกลุ่มอื่นๆ  โดยเฉพาะผู้ที่ไม่ใช่กลุ่มก้อนเดียวกันกับตัวเองมาก่อน  แต่มุ่งที่จะตอบสนองความเมามันซ์ซ์  สะใจ  ในหมู่พวกเดียวกันเองเป็นการเฉพาะ  ถ้าหากพูดกันแบบภาษาคอมฯ   แก่ๆ  ก็คือ...ไม่ได้สนใจคิดจะทำ  แนวร่วม  กับกลุ่มคนกลุ่มใดๆ เอาเลยแม้แต่น้อย  มุ่งแต่จะ  เอามันซ์ซ์  ในฝ่ายตัวเองกันลูกเดียว...
           -----------------------------------------------
     โดยลักษณะการเคลื่อนไหวมวลชน  นับตั้งแต่จุดเริ่มต้นมาจนถึง  ณ  ขณะนี้  จึงมักเป็นไปในแบบไร้เหตุไร้ผล  ไม่สนใจที่จะสร้างความชอบธรรมใดๆ  ขึ้นมารองรับการเคลื่อนไหวของตัวเองในแต่ละก้าว  แต่ละจังหวะ  จะเป็นด้วยความมั่นอกมั่นใจต่อประสิทธิภาพในการล้างสมองต่อกลไกการจัดตั้งตามระบบอุปถัมภ์  ซึ่งเคยใช้ได้ผลในหมู่  หัวคะแนน  นักการเมืองมาโดยตลอด  ด้วยอิทธิพลของเงินๆ  ทองๆ  หรือด้วยประสิทธิภาพของระบบสื่อสารตามแบบฉบับ  ทีวีป้าเช็ง  ทีวีปูแดง  อันได้แก่  การยัดเยียดข้อมูลข่าวสารผ่านทีวีดาวเทียม  วิทยุชุมชน  อย่างเป็นระบบ  ฯลฯ  ก็แล้วแต่  จึงทำให้บรรดาแกนนำม็อบเสื้อแดง  พร้อมที่จะก้าวข้ามความมีเหตุมีผล  ความถูกต้อง  ชอบธรรม  ในแต่ละกรณีมาโดยตลอด...
        ----------------------------------------------------
     แต่ที่หนักหนาสาหัสที่สุด...เห็นทีจะไม่มีอะไรเกินไปกว่าการแสดงออกถึงความรู้สึกที่ไม่ได้ยี่หระ  ไม่ได้แยแสต่อชีวิต  เลือดเนื้อ  ของมวลชนตัวเองเอาเลยแม้แต่น้อย  การแย่งยื้อศพผู้เสียชีวิตออกมาจากโรงพยาบาลเพียงเพื่อเอามาใช้เป็น  อาวุธทางการเมือง  การประกาศท้าทายของแกนนำม็อบเสื้อแดงบางรายที่มองความพยายามปราบปรามของฝ่ายรัฐบาลและการต่อต้านของฝ่ายตัวเอง  เป็นเสมือนหนึ่ง  การเกไพ่  ระหว่างกันและกัน  มันจึงทำให้การเคลื่อนไหวมวลชนของม็อบเสื้อแดงเต็มไปด้วยบรรยากาศออกไปในทางอำมหิต    เหี้ยมเกรียมเอามากๆ  แม้แต่ในหมู่พวกเสื้อแดงด้วยกันเอง  จะมีผู้ออกมาเรียกร้องให้ตระหนักถึง  คุณค่าของชีวิต  หรือ  คุณค่าของความเป็นมนุษย์  โดยเฉพาะชีวิตของราษฎรที่ถูกเรียกขานว่า  ไพร่  ไปด้วยกันทั้งสิ้น...แต่สิ่งเหล่านี้กลับไม่ได้ก่อให้เกิดปฏิกิริยาตอบรับใดๆ  จากบรรดาแกนนำที่พร้อมจะเอาชีวิต  เลือดเนื้อของมวลชนตัวเอง  ไปแลกกับข้อเรียกร้องทางการเมืองเพียงเพื่อให้เกิด  การยุบสภา  เท่านั้น...
         ---------------------------------------------------
     ภายใต้การนำมวลชนที่เป็นไปในแบบสุดขั้ว  ไร้เหตุไร้ผล  ไร้สติ  แถมยังเหี้ยมโหด  อำมหิต   ไม่ได้สนใจชีวิตเลือดเนื้อของผู้คนไม่ว่าจะเป็นฝ่ายตัวเอง   หรือฝ่ายตรงข้ามก็แล้วแต่  มันจึงทำให้การใช้เหตุใช้ผล  ใช้สันติวิธี  การเจรจา  แทบเป็นไปไม่ได้เอาเลย  แม้แต่การแยกแกนนำออกจากมวลชน...ก็ใช่ว่าจะเป็นไปได้ง่ายๆ   เนื่องจากที่มา-ที่ไปของมวลชนเหล่านี้  ก็เป็นไปในลักษณะแปลกประหลาดกว่ามวลชนโดยทั่วๆ  ไป  มานับตั้งแต่จุดเริ่มต้นดังที่ได้กล่าวไปแล้ว...แต่ก็นั่นแหละ  สิ่งเหล่านี้คงต้องถือเป็นเรื่องทาง  เทคนิค  ที่ผู้ซึ่งมีหน้าที่รับผิดชอบโดยตรงในการปกป้อง  รักษากฎหมาย  จะต้องหาทางแยกแยะกันเอาเอง  และถ้าหากผู้ที่มีหน้าที่รับผิดชอบดันขาดประสิทธิภาพ  ขาดความกล้าหาญในการตัดสินใจ  ปล่อยให้เวลาล่วงเลยต่อไปเรื่อยๆ  โดยไม่ได้ตระหนักถึงปฏิกิริยาด้านตรงกันข้าม  ที่ก่อให้เกิดการรวมตัวของผู้คนอันหลากหลายปรากฏตัวขึ้นมาในสังคมอย่างเห็นได้ชัดเจนแล้ว...มุมจบของสถานการณ์คราวนี้  มันคงหนีไม่พ้นไปจากกฎความเป็นไปของธรรมชาติ  หรือไม่ต่างไปจากแรงเหวี่ยงของลูกตุ้มนาฬิกาที่จะสวิงกลับมาสู่ด้านตรงกันข้ามในอัตราความรุนแรงพอๆ  กันนั่นเอง...
          -------------------------------------------------
     ปิดท้ายด้วยวาทะวันนี้  จาก  ไดโอนิซิอุส  แห่ง  ฮาลลิคาร์นาซซัส  นักประวัติศาสตร์ชาวกรีก  (อีกครั้ง)...ไม่มีสิ่งใดที่จะไร้ความสุขยิ่งไปกว่าสงครามกลางเมือง  ด้วยเหตุที่ผู้ต้องถูกเพื่อนทำลาย และผู้ชนะก็จะต้องทำลายเพื่อนของเขาเอง...

http://www.thaipost.net/news/230410/21174


หัวข้อ: Re: [2513]"ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: เหยง 16 ที่ 26 เมษายน 2553, 08:23:52
คอลัมม์ "ถูกทุกข้อ" ของสามวา สองศอก

เราสู้
ถูกทุกข้อ 26 เมษายน 2553 - 00:00

          คนปักษ์ใต้     ไม่กี่คน     ฉงนแท้
     ได้เปลี่ยนแปร       ใจตน      คนอีสาน
     หลายจังหวัด        เชื่อนัก     กับพรรคมาร                             
     แม้รู้ว่า            ผู้ก่อการฯ   มุ่งผลาญไทย
          มันน่าคิด      จิตวิตก     ตลกเศร้า
     ชาติของเรา        ปี้ป่น       สุดทนไหว
     เหล่าชาวบ้าน       ต้องรวมตัว  เพราะกลัวภัย
     เสื้อหลากสี         จึงเกิดได้   ต้านไพร่กัน
          บ้านเมืองเคย  ร่มเย็น     ไม่เห็นค่า
     แต่วันนี้            ต้องมา     เสี่ยงอาสัญ
     พึ่งทหาร           ก็ป้อแป้     แย่พอกัน
     หวังรัฐนั้น          ก็ไม่รู้      จะอยู่ยาว?
          ลุกขึ้นเถิด     ไทยรวมตัว  ทั่วประเทศ
     มาขจัด            พวกผีเปรต  เหตุอื้อฉาว
     ประสานเสียง       เราสู้      ดูสักคราว
     ใจแกร่งกร้าว       ไม่ขลาด    เพื่อชาติพลี
                                        จำปาดะ

                  ท ทหารอดทน                                                             
เรียน คุณสามวา สองศอก
     เป็นไงบ้างครับ  เหตุการณ์เมื่อวันเสาร์ที่  10  เมษา  สงครามกลางเมืองเกิดขึ้นแล้ว  ด้วยความจงใจของสยามแดง  ในคราบของกลุ่มเรียกร้องประชาธิปไตย
     ผมไม่ได้อยู่ในเหตุการณ์เพราะเดินทางไปต่างจังหวัด  แต่ก็ดูจากโทรทัศน์ไทยและต่างประเทศรวมทั้งคลิปต่างๆ  บอกได้เลยว่ากลุ่มก่อการร้ายเกิดขึ้นแล้วในเมืองไทย
     เพราะเขาได้สร้างเครือข่ายขึ้นตามชนบท  ในองค์การบริหารท้องถิ่น  ในชุมชนเมือง  ในกลุ่มนักธุรกิจเครือข่ายขายชาติ  ด้วยการโฆษณาชวนเชื่อและอำนาจเงิน  เขาพร้อมจะปฏิบัติการทำร้ายประชาชน  และทำลายทรัพย์สินของชาติและประชาชนตลอดเวลา
     ในรัฐสภามีนักการเมืองขายตัวทำหน้าที่เพื่อคนคนหนึ่ง  มากกว่าเป็นตัวแทนของประชาชนส่วนรวมของประเทศ  และที่สำคัญมีข้าราชการทหาร  ตำรวจ  และข้าราชการพลเรือน  ข้าราชการตุลาการบางกลุ่ม  ที่กินเงินเดือนจากภาษีของประชาชน  คอยสนับสนุนทั้งทางตรงและทางอ้อม  ด้วยเศษเงินที่เหลือจากการถูกยึด
     ผมฟังท่านรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม  ที่บอกว่าเห็นเป็นคนไทยด้วยกันจึงไม่อยากรุนแรง  แต่ท่านลืมไปว่าคนไทยที่เป็นแกนนำก่อความไม่สงบ  เขาไม่ได้คิดว่าเขาเป็นคนไทย  เขาปลุกระดมให้เกิดการแบ่งแยก  แบ่งชนชั้น  สร้างเงื่อนไขที่ทำไม่ได้  โจมตีสถาบันหลักของชาติอย่างต่อเนื่อง  คนไทยที่เป็นคนไทยโดยสายเลือดหรือโดยสัญชาติที่รักประเทศไทย  เขาไม่ทำกันอย่างนี้
     ท่านรัฐมนตรีคงตระหนักแล้วว่า  ทหารของประชาชนถูกฆาตกรรมและถูกทำร้ายอย่างโหดเหี้ยม  ทรัพย์สินของชาติถูกทำลาย  ประชาชนถูกข่มขู่  ไม่มีเสรีภาพในการเดินทาง  ประชาชนที่ประกอบอาชีพในย่านที่ถูกยึดครองไม่สามารถเข้าทำงานได้  ต้องขาดรายได้  ชาวต่างประเทศถูกจำกัดสิทธิเสรีภาพในการเดินทางท่องเที่ยว  กลายเป็นตัวประกันให้ผู้ก่อการร้ายฮึกเหิม
     ผมหมดหวังกับรัฐบาลเพราะไม่มีอำนาจอะไรแล้ว  รัฐมนตรีที่เข้ามาควบคุมสถานการณ์ไม่มีน้ำยา  คุณสุเทพดูท่าทางเป็นนักเลงแต่ใจปลาซิว  รัฐมนตรีที่ดูแลเรื่องการสื่อสารและการประชาสัมพันธ์ห่วยแตกตั้งแต่ต้น   สื่อมวลชนเคยวิจารณ์รัฐมนตรีจากพรรคอื่นว่าโหลยโท่ย  แต่ขณะนี้รัฐมนตรีจากพรรคประชาธิปัตย์ห่วยที่สุด  เราวัดคุณค่าของคนที่ผลงานแก้ไขภาวะวิกฤติ  แต่นี่รัฐมนตรีที่คุณอภิสิทธิ์เลือกมาไม่มีผลงานเลยแม้แต่น้อย
     ดีแล้วครับรัฐบาลมอบอำนาจให้ผู้บัญชาการทหารบกมีอำนาจสิทธิ์ขาดในการแก้ไขปัญหา  ไม่ต้องกลัวว่าท่านจะปฏิวัติเพราะท่านพูดเสมอว่า  การเมืองต้องแก้ด้วยการเมือง
     ท่านเป็นคนเพชรบุรีคงกล้าที่จะใช้อำนาจที่ได้รับ  ให้เกิดสันติสุขในแผ่นดินไทยอย่างเต็มที่
เพื่อให้คุณอภิสิทธิ์ได้มีเวลาปรึกษาหารือกับคณะรัฐมนตรีจากพรรคอื่น  หันหน้าไปพบปะและขอความร่วมมือจากพรรคร่วมรัฐบาล  เพื่อให้ทุกฝ่ายมีส่วนร่วม
     พรรคประชาธิปัตย์ไม่มีความสามารถในการแก้ปัญหาในภาวะวิกฤติได้แล้ว  ขนาดเจอแกนนำเสื้อแดงที่เป็นคนใต้เพียงหยิบมือเดียวยังไม่มีปัญญาจัดการ
     ดังนั้นจึงจำเป็นต้องพึ่งและฟังพรรคร่วมรัฐบาลเพิ่มมากขึ้น  นักการเมืองที่ประสบความสำเร็จต้องมีสองหู  คือฟังคนอื่นบ้างโดยเฉพาะเพื่อนร่วมเรือเดียวกัน  ยิ่งเป็นเด็กควรจะต้องเข้าหานักการเมืองที่เป็นผู้ใหญ่ให้มาก  ในยามนี้ต้องคอยก้มพนมกร
     ขออวยพรให้ไทยโพสต์ยืนหยัดอย่างทระนง  ทำหน้าที่เพื่อชาติและประชาชน  ไม่ต้องเข้าไปกราบกรานชี้แจงผู้นำการก่อการร้าย   เหมือนนายกสมาคมนักข่าวและนักหนังสือพิมพ์แห่งชาติ  (ในความอุปถัมภ์ของนักโทษทักษิณ  ชินวัตร  และครอบครัว  รวมทั้งนักธุรกิจในเครือทักษิณและครอบครัว)  นะครับ             
                                                         เพชร เมืองราช
ตอบ คุณเพชร
     มาถึงวันนี้แล้วพลเอกอนุพงษ์  เผ่าจินดา  ผบ.ทบ.ท่านก็ยังคงเล่นบทบาทเดิมๆ  คือยังไม่ใช้กำลังสลายม็อบเสื้อแดงอีก  หลังจากที่ทหารพลาดท่าเสียทีไปเมื่อวันที่  10  เมษายน  ก็ต้องทนดูท่านต่อไปว่าจะให้พวกกบฏมันทำผิดกฎหมายอะไรอีก

                 เชื่อมั่นประเทศไทย
เรียน คุณสามวา สองศอกที่นับถือ
     หากผมเป็นนายกฯ  อภิสิทธิ์  จะเอาดอกไม้ธูปเทียนไปกราบเจ้าสามเกลอหัวขวด  เพราะถ้าไม่มีคนเหล่านี้นายกฯ  ไม่อยู่ถึงตอนนี้หรอก  การแต่งตั้ง  ผบ.ตร.เรื่องจ่าเพียร  เรื่องโกงกินในวงการรัฐบาล  จะโดนประชาชนไล่จี้อยู่ทุกวัน
     การเป็นคนดีพูดเก่งมิใช่ว่าจะทำงานเก่งนะครับ  นายกฯ  เคยเขียนหนังสือวิจารณ์  พล.อ.สุรยุทธ์  ลองเอาหนังสือที่ตัวเองเขียนมาลองอ่านดูว่า  การกระทำของนายกฯ  อภิสิทธิ์แตกต่างกับ  พล.อ.สุรยุทธ์ตรงไหน  เพราะไม่เอาไหนเหมือนๆ  กัน  เพียงแต่อภิสิทธิ์พูดจาเก่งกว่า  ด้วยฝึกฝนกับพรรค  ปชป.มานาน  และทุกคนใน  ปชป.พูดเก่งกว่าทำทั้งนั้นแหละ  หรือคุณสามวา  สองศอกว่าไม่จริง
     บอกตรงๆ  เลยว่าไม่เคยเลือก  ปชป.ด้วยไม่เคยเห็นว่า  ปชป.ทำงานอะไรเป็น  ดีแต่พูดเก่งและรู้จักหลบเก่ง  ไม่เคยยืนต่อสู้ร่วมกับประชาชนเลย  หรือว่าไม่จริง
                                                                นับถือ
                                                              ช.วานิช
ตอบ คุณ ช.วานิช
     รายการเชื่อมั่นประเทศไทยกับนายกฯ  อภิสิทธิ์  กลับมาออกอากาศอีกแล้ว  แม้จะถูกฝ่ายตรงข้ามส่งสัญญาณรบกวนก็เถอะ  คราวนี้มี  ผบ.ทบ.มานั่งด้วย  พวกเราชาวบ้านก็ต้องพยายามเชื่อสองคนนี้กันต่อไป
     เรื่องที่คุณไม่เลือกและไม่เคยเลือกพรรคประชาธิปัตย์   เป็นอีกสาเหตุหนึ่งที่ทำให้นายกฯ  อภิสิทธิ์ไม่กล้ายุบสภาตอนนี้  แต่ก็ไม่เห็นว่าจะทำอะไรให้คนเหล่านี้เปลี่ยนใจหันกลับมาเลือกพรรคประชาธิปัตย์ในอนาคต
               เด็กผู้ชายหลานยายทวด               
กราบเรียน คุณสามวาฯ ที่นับถืออย่างสูง
     ผมเสริมครับ  คนที่เขียนมาเรียนถามเกี่ยวกับ  "บริษัทออนเหวง"  ครับ  ขอกระพุ่มมือกราบคุณสามวาฯ   ด้วยความรู้สึกขอบพระคุณจากใจครับ  ขอขอบพระคุณ  "ท่านผู้อ่านประจำ"  ที่กรุณาเขียนมาให้ความกระจ่าง   และชมผมที่ใช้ภาษาไทยได้ถูกต้อง   ผมปลื้มใจมากเลยครับ  สุดปลื้มเลยจริงๆ
     ผมได้อ่านคำตอบทั้งหมดให้คุณยายทวดฟังแล้ว  ท่านตบศีรษะผมเบาๆ  แล้วยิ้มอย่างปลาบปลื้มอีกคน
     คุณสามวาฯ  ครับ  คุณยายทวดผมเคยเล่าให้ฟังว่า  เมื่อตอนเด็กๆ  เรียนอยู่ชั้นประถมนั้น  คุณครูท่านเข้มงวดกับการอ่านออกเสียงมาก  ใครออกเสียงไม่ถูกวรรณยุกต์หรือออกเสียงตัว   ร  เรือ  กับตัว  ล  ลิง  ไม่ชัดเจนแล้วละก็  เป็นโดนลงโทษโดยให้กำมือเป็นมะเหงก  แล้วเขกโต๊ะดังๆ  3  ทีทุกครั้ง  (ที่ต้องเขกดังเพราะเขกเบามันไม่เจ็บครับ)
     ขอกราบขอบพระคุณอีกครั้งครับ
                                                    ด้วยความนับถืออย่างสูง
                                                                 เสริม
ตอบ คุณเสริม
     คุณเป็นแฟนคอลัมน์ถูกทุกข้อที่อายุน้อยที่สุด  ที่เขียนจดหมายมาถามแทนคุณยายทวด  ที่อยากรู้ว่าบริษัทออนเหวงยังอยู่หรือเปล่า  และมีผู้รู้เรื่องเกี่ยวกับบริษัทออนเหวงได้กรุณาเขียนจดหมายมาบอกกล่าวให้ทราบ  เรื่องส้วมถังเทของคนไทยในสมัยก่อน  จึงกลับมาเตือนความจำคนไทยสมัยนี้ที่ต้องเสียเงินสร้างส้วมเป็นเงินแสนเงินล้าน
     เด็กไทยนอกจากต้องอ่านภาษาไทยให้แตกฉานแล้ว  การเขียนจดหมายก็มีส่วนช่วยให้เขียนหนังสือดีขึ้น  มีเวลาก็ถามคุณยายทวดว่าอยากรู้เรื่องอะไรอีก  แล้วคุณก็ช่วยเขียนจดหมายมาถามอีกนะครับ
                                                         สามวา สองศอก

http://www.thaipost.net/news/260410/21295


หัวข้อ: Re: [2513]"ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: เหยง 16 ที่ 26 เมษายน 2553, 11:47:50
คืนนี้ ข่าวสองทุ่ม "ข่าวในพระราชสำนัก" จะเป็นรายการที่คนไทยทุกคนควรเฝ้าติดตามชม เนื่องจากประธานศาลฎีกา จะนำผู้พิพากษาใหม่ จำนวน 101 ท่านเข้าถวายสัตย์ฯ ช่วงเวลาประมาณ 17.30 น.ของวันนี้ ก่อนออกปฏิบัติหน้าที่ ณ ศาลาเฉลิมพระเกียรติ รพ.ศิริราช

ประธานศาลฎีกานำผู้พิพากษาใหม่เข้าเฝ้าฯ ถวายสัตย์ฯ วันนี้  
26 เมษายน 2553 10:57 น.

 
       ประธานศาลฎีกา เตรียมนำผู้พิพากษาใหม่ 101 คน เข้าเฝ้าฯ ถวายสัตย์ พระเจ้าอยู่หัว วันนี้ (26 เม.ย.) เวลา 17.30 น. ณ อาคารเฉลิมพระเกียรติ โรงพยาบาลศิริราช
      
       วันนี้ (26 เม.ย.) ที่สำนักงานศาลยุติธรรม ถ.รัชดาภิเษก ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ตามที่นายสนอง บูรณะ รองราชเลขาธิการ ปฏิบัติราชการแทนราชเลขาธิการ ได้ทำหนังสือแจ้งมายังนายวิรัช ชินวินิจกุล เลขาธิการสำนักงานศาลยุติธรรม เรื่อง พระราชทานพระบรมราชวโรกาสให้ผู้พิพากษาเข้าเฝ้าฯ ถวายสัตย์ปฎิญาณ ความว่า
      
       ตามที่ขอให้นำความกราบบังคมทูลพระกรุณา ขอพระราชทานพระบรมราชวโรกาส ให้นายสบโชค สุขารมณ์ ประธานศาลฎีกา นำผู้พิพากษาประจำศาล สำนักงานศาลยุติธรรม จำนวน 101 คน เข้าเฝ้าฯ เพื่อถวายสัตย์ปฏิญาณก่อนเข้ารับหน้าที่ และขอพระราชทานพระบรมราชานุญาต ให้นายวิรัช ชินวินิจกุล เลขาธิการสำนักงานศาลยุติธรรม นายไพโรจน์ นวานุช ผู้พิพากษาหัวหน้าคณะในศาลอุทธรณ์ประจำสำนักประธานศาลฎีกา นายวรวุฒิ ทวาทศิน เลขาธิการประธานศาลฎีกา และนายสราวุธ เบญจกุล รองเลขาธิการสำนักงานศาลยุติธรรม เฝ้าฯ ร่วมด้วยนั้น ความทราบฝ่าละอองธุลีพระบาทแล้ว พระราชทานพระบรมราชวโรกาสให้เข้าเฝ้าฯ ถวายสัตย์ปฎิญาณ ก่อนเข้ารับหน้าที่ในวันจันทร์ที่ 26 เมษายนนี้ เวลา 17.30 น. ณ อาคารเฉลิมพระเกียรติ โรงพยาบาลศิริราช
      
       ทั้งนี้ สำนักงานศาลยุติธรรมได้ทำหนังสือถึงราชเลขาธิการ เรื่องขอพระราชทานพระบรมราชวโรกาสให้ผู้พิพากษาเข้าเฝ้าทูลละอองธุลีพระบาทเพื่อถวายสัตย์ปฎิญาณ เมื่อวันที่ 22 มี.ค. ที่ผ่านมา ความว่า ด้วยได้มีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯ แต่งตั้งผู้ช่วยผู้พิพากษาให้ดำรงตำแหน่งผู้พิพากษาประจำศาลจำนวน 101 คน ตั้งแต่วันที่ 16 ก.พ.2552 และโดยที่ผู้พิพากษาประจำศาลต้องถวายสัตย์ปฏิญาณต่อพระมหากษัตริย์ก่อนเข้ารับหน้าที่ตามรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พ.ศ.2550 ม.201 สำนักงานศาลยุติธรรมจึงมีความประสงค์ขอพระราชทานพระบรมราชวโรกาสให้ประธานศาลฎีกานำคณะผู้พิพากษาเข้าเฝ้าทูลละอองธุลีพระบาทเพื่อถวายสัตย์ปฏิญาณ

 
 
จาก http://www.manager.co.th/asp-bin/mgrView.asp?NewsID=9530000057027
 
 


หัวข้อ: Re: [2513]"ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: iamfrommoon ที่ 26 เมษายน 2553, 13:49:24
สวัสดีค่ะพี่แอ๊ะ...

คิดถึงๆๆ


หัวข้อ: Re: [2513]"ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: iamfrommoon ที่ 26 เมษายน 2553, 13:50:38
อ้างถึง
ข้อความของ prapasri AH เมื่อ 25 เมษายน 2553, 21:24:02
น้อง ya น้องหยี พี่น้องๆทั้งหลาย  พี่แอ๊ะ ขอลางานไปเเอ่ว สุราษฎร์และกรุงเทพ 4-5 วัน


จะฝากไปกราบ แม่ ไอ้ตู่ไหม แม่เขาอยู่สุราษฎร์ค่ะ


 กลับมา กรุงเทพ จะไปชิดลม (เซ็นทรัล) ห้างในดวงใจของน้องหนู ได้ป่าวววหนอออออออ

อยู่ สุราษฏร์ หรือ กรุงเทพ จะเข้าเนตไม่เป็นค่ะ

แต่จะซื้อ bb มาสักเครื่องสองเครื่องเอามา ด่า ควายตู่   อิๆๆๆๆๆๆ

มาถึง อ่านตรงสุดท้าย ถูกใจ เชิ๊บๆๆ


หัวข้อ: Re: [2513]"ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: swsm ที่ 26 เมษายน 2553, 13:50:51
เอ๊ะ .. ทำไมวันนี้ไปห้องไหน ๆ ๆ ก็เจอน้อง PK ทุกห้องเลย .. ใจตรงกัน     emo48:)


หัวข้อ: Re: [2513]"ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: swsm ที่ 26 เมษายน 2553, 13:51:26
อ้างถึง
ข้อความของ iamfrommoon เมื่อ 26 เมษายน 2553, 13:50:38
อ้างถึง
ข้อความของ prapasri AH เมื่อ 25 เมษายน 2553, 21:24:02
น้อง ya น้องหยี พี่น้องๆทั้งหลาย  พี่แอ๊ะ ขอลางานไปเเอ่ว สุราษฎร์และกรุงเทพ 4-5 วัน


จะฝากไปกราบ แม่ ไอ้ตู่ไหม แม่เขาอยู่สุราษฎร์ค่ะ


 กลับมา กรุงเทพ จะไปชิดลม (เซ็นทรัล) ห้างในดวงใจของน้องหนู ได้ป่าวววหนอออออออ

อยู่ สุราษฏร์ หรือ กรุงเทพ จะเข้าเนตไม่เป็นค่ะ

แต่จะซื้อ bb มาสักเครื่องสองเครื่องเอามา ด่า ควายตู่   อิๆๆๆๆๆๆ

มาถึง อ่านตรงสุดท้าย ถูกใจ เชิ๊บๆๆ

5555555+
    emo20:)):)    emo20:)):)


หัวข้อ: Re: [2513]"ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: iamfrommoon ที่ 26 เมษายน 2553, 14:04:05
คนสวยเหมือนกัน...รักชาติ รักในหลวงเหมือนกัน รักพี่แอ๊ะเหมือนกัน...ใจเลยตรงกันฮิ้วๆๆ.....

น้องอาจมาแว๊บๆ....เพราะเบื่อการเมืองมาก...แต่ว่าขอมาแว๊บๆ แบบถูกใจอันไหนก็ขอโพสต์ต่ออันนั้นของพี่ๆ น้องๆ นะคะ....

แต่ทุกวันก็ไปร้องเพลงชาติตรงอนุสาวรีย์ชัยฯ ไปสีลม (แอบไป) ไม่กล้าบอกใคร...เหอๆ...กลัวเฮีย พ่อกับแม่ห่วงสุดๆ แต่งงานยังไม่มีหลานให้อุ้ม...555


หัวข้อ: Re: [2513]"ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: เหยง 16 ที่ 26 เมษายน 2553, 15:21:30
และแล้ว พธม. ก็มีคำตอบแรก หลังประกาศให้เวลารัฐบาล 7 วัน ไปตั้งแต่วันที่ 18 เมษายน ที่ผ่านมา พร้อมแถลงการณ์ฉบับที่ 9

พันธมิตรฯ จี้รัฐหยุดอำนาจเถื่อนแดง นัด 29 เม.ย.ยื่นหนังสือราบ 11
26 เมษายน 2553 14:25 น.

 
       พันธมิตรฯ ออกแถลงการณ์หลังครบ 7 วัน จี้รัฐฯ หยุดยั้งอำนาจเถื่อนคนเสื้อแดง เหิมตั้งด่านขัดขวางการทำงานเจ้าหน้าที่ทั่วประเทศ เรียกร้อง ปชช.ตั้งหลุ่มปกป้องตนเอง พร้อมนัดตัวแทนทั่วประเทศ 29 เม.ย.ยื่นหนังสือหน่วยทหารทุก จว. พร้อมราบ 11 ทวงถามความชัดเจนแนวทางปฏิบัติ
       
       
       คลิกที่นี่ เพื่อฟังแถลงการณ์พันธมิตรฯ
       
       เมื่อเวลา 12.30 น.วันที่ 26 เม.ย.ที่บ้านพระอาทิตย์ ภายหลังจากการประชุมแกนนำพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยทั้งรุ่น 1 และรุ่น 2 นายสุริยะใส กตะศิลา ผู้ประสานงานพันธมิตรฯ ได้อ่านแถลงการณ์ฉบับที่ 8/2553 ดังนี้
       
       
       แถลงการณ์พันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย
       ฉบับที่ 9/2553
       รวมพลังประชาชน หยุดยั้งอำนาจรัฐเถื่อน
       
       สืบเนื่องจากมติของที่ประชุมเครือข่ายพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยทั่วประเทศเมื่อวันอาทิตย์ที่ 18 เมษายน พ.ศ. 2553 ที่ ม.รังสิต โดยมติที่ประชุมได้ให้เวลารัฐบาลดำเนินการจัดการกับการชุมนุมที่ผิดกฎหมายและดำเนินการกับกลุ่มก่อการร้ายที่แฝงตัวอยู่ในที่ชุมนุมภายใน 7 วันตามแถลงการณ์พันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยฉบับที่ 8/2553 นั้น
       
       บัดนี้ระยะเวลาดังกล่าวได้ครบกำหนดเป็นที่เรียบร้อยแล้ว แต่กลับพบว่ารัฐบาลและฝ่ายความมั่นคงยังมิได้ดำเนินการตามที่ภาคส่วนต่างๆ รวมทั้งพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยเรียกร้อง ส่งผลให้สถานการณ์เข้าสู่วิกฤติมากขึ้น ผลกระทบและความเสียหายต่อภาคเศรษฐกิจและสังคมรุนแรงและขยายตัวอย่างน่าเป็นห่วง ความรุนแรงในรูปแบบของการท้าทายกฎหมายและกติกาของบ้านเมือง ได้กลายเป็นค่านิยมที่ลุกลามไปยังต่างจังหวัดไม่ว่าจะเป็นการซ่องสุมกองกำลังติดอาวุธ ตั้งด่านยึดรถทหารและตำรวจ ตรวจค้นเอาผิดกลุ่มประชาชนที่ไม่เห็นด้วยกับการเคลื่อนไหวของกลุ่มคนเสื้อแดง เป็นต้น
       
       จึงกล่าวได้ว่าวิกฤตการณ์ประเทศไทยได้ขยายตัวรวดเร็วและรุนแรงจนเรียกได้ว่าเข้าสู่มิคสัญญี แล้ว แต่ในขณะเดียวกันรัฐบาลและฝ่ายความมั่นคงกลับยังไม่มีมาตรการที่สามารถยับยั้งและหยุดความเลวร้ายของวิกฤติการณ์ลงได้ ปล่อยให้การชุมนุมที่ผิดกฎหมาย และมีลักษณะก่อการร้าย ตลอดทั้งการก่อวินาศกรรมคุกคามสังคมและประชาชน เสมือนจับประชาชนเป็นตัวประกันซ้ำแล้วซ้ำเล่า
       
       รัฐบาลในฐานะที่ต้องทำหน้าที่เป็นผู้ปกป้องประชาชนกลับไม่ได้ทำหน้าที่อย่างเข้มแข็ง ซ้ำร้ายรัฐบาลยังแสดงความอ่อนแอไม่บังคับใช้กฎหมาย จนเจ้าหน้าที่สับสน ฉวยโอกาสเฉื่อยงานกระทั่งเป็นไส้ศึกให้กับกลุ่มก่อการร้ายจนเกิดภาวะ สุญญากาศทางอำนาจ
       
       สภาวะไร้ระเบียบทางทางการเมืองหรือ อนาธิปไตย ดังที่กล่าวมาข้างต้น พันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยจึงมีความเห็นและความจำเป็นที่จะต้องใช้สิทธิตามรัฐธรรมนูญมาตรา 70 เพื่อทำหน้าที่เป็นพลเมืองปกป้องสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ และการปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุขดังนี้
       
       1. พันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยเห็นว่าสถานการณ์ในขณะนี้กลุ่มคนเสื้อแดงได้ทำการยึดอำนาจรัฐในหลายพื้นที่ไปแล้วไม่ว่าจะเป็นการยึดรถทหารและตั้งด่านตรวจค้นที่จังหวัดขอนแก่น การบุกเผาที่ราชธานีอโศก การปิดถนนตรวจค้นประชาชนทั่วไปที่ถนนพหลโยธิน การก่อวินาศกรรมและความรุนแรงในหลายๆ พื้นที่ กลุ่มคนเสื้อแดงได้สถาปนาอำนาจรัฐเถื่อนขึ้นมาซ้อนอำนาจรัฐ แต่รัฐบาลกลับปล่อยให้ประชาชนเผชิญหน้ากับอำนาจรัฐเถื่อนตามลำพัง
       
       2.พันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยขอเรียกร้องให้รัฐบาลประกาศจุดยืน นโยบายและกรอบปฏิบัติที่ชัดเจนและเป็นรูปธรรมต่อการเอาผิดการชุมนุมที่ผิดกฎหมายและการก่อการร้าย โดยเฉพาะนายกรัฐมนตรีในฐานะผู้นำประเทศจะต้องแสดงให้เห็นถึงมาตรการและแนวทางที่ชัดเจนต่อการ กอบกู้วิกฤติการณ์ของบ้านเมืองในครั้งนี้ ทั้งนี้นายกรัฐมนตรีทราบดีว่าวิกฤติในขณะนี้เป็นวิกฤติความมั่นคงของประเทศ ซึ่งต้องใช้มาตรการทางการทหารและเป็นการยากที่จะแก้ด้วยวิถีทางการเมืองปกติ ซึ่ง ผบ.ทบ.ก็กล่าวยอมรับในรายการเชื่อมั่นประเทศไทยว่าพร้อมปฏิบัติตามนโยบายของรัฐบาลทุกประการ แต่ที่ผ่านมารัฐบาลยังไม่ได้ประกาศมาตรการที่ชัดเจนว่าจะดำเนินการกับกลุ่มกลุ่มการร้ายอย่างไร จนสร้างความสับสนให้กับประชาชน
       
       จนทำให้สถานการณ์เลวร้ายลงเรื่อยๆ แม้นายกรัฐมนตรีจะได้มอบอำนาจให้กับ พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา ผบ.ทบ. รับผิดชอบศูนย์อำนวยการแก้ไขสถานการณ์ฉุกเฉิน (ศอฉ.) และเป็นผู้มีอำนาจสูงสุดในการควบคุมสถานการณ์ก็ตาม แต่ทุกอย่างยังคลุมเคลือไม่รู้ว่าใครมีอำนาจสูงสุดเด็ดขาดในการสั่งการและจัดการกับสถานการณ์ฉุกเฉินร้ายแรงในขณะนี้
       
       3.พันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยขอเรียกร้องให้รัฐบาลพิจารณาประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินร้ายแรงในจังหวัดที่มีพื้นที่สุ่มเสี่ยงและมีการสถาปนาอำนาจรัฐเถื่อนซ้อนอำนาจรัฐ และเพื่อให้มาตรการในการกอบกู้สถานการณ์บ้านเมืองเท่าทันและมีประสิทธิภาพ รัฐบาลและกองทัพจะต้องใช้มาตรการทางทหารโดยการประกาศกฎอัยการศึกในพื้นที่ที่จำเป็นเร่งด่วนเพื่อยุติการชุมนุมที่ผิดกฎหมายและจัดการกับกลุ่มก่อการร้ายโดยเร็ว
       
       4.สำหรับแนวทางการเคลื่อนไหวของพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยภายหลังจากครบเงื่อนไข 7 วันนั้น ที่ประชุมมีมติและกำหนดมาตรการเคลื่อนไหว 5 มาตรการโดยลำดับดังนี้
       
       4.1 ขอให้พี่น้องพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยทั่วประเทศสนับสนุนและเข้าร่วมเป็นพลเมืองอาสาปกป้องแผ่นดินร่วมกับเครือข่ายภาคประชาชนกลุ่มต่างๆ และดำเนินการจัดตั้งกลุ่มทุกระดับทั้งในระดับหมู่บ้าน ระดับตำบล ระดับอำเภอ ระดับจังหวัด และระดับภูมิภาค เพื่อทำหน้าที่เฝ้าระวัง ปกป้องชุมชนของตัวเอง ต่อต้านการกระทำที่ผิดกฎหมายและเป็นภัยต่อราชบัลลังก์และความมั่นคงของประเทศ
       
       4.2 ขอให้พี่น้องพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยทุกจังหวัดจัดกลุ่มและตัวแทนไปยื่นหนังสือให้กับหน่วยงานทหารในแต่ละจังหวัดเพื่อกระตุ้นสำนึกให้กองทัพและทหารออกมาทำหน้าที่ทหารหาญของชาติเพื่อจัดการขบวนการก่อการร้ายและการชุมนุมที่ผิดกฎหมาย คืนความสันติสุขให้กลับคืนสู่สังคมไทยโดยเร็ว โดยนัดหมายยื่นหนังสือพร้อมกันทั่วประเทศหน้าหน่วยทหารในแต่ละจังหวัดเพื่อทวงถามนโยบายและแนวปฏิบัติที่ชัดเจนในการจัดการกับขบวนการก่อการร้าย ในวันพฤหัสบดีที่ 29 เมษายน พ.ศ.2553 เวลา 10.00 น โดยแกนนำส่วนกลางจะไปยื่นหนังสือที่กรมทหารราบที่ 11 รักษาพระองค์
       
       4.3 พันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยจะจัดพิมพ์เอกสาร และซีดีเปิดโปงขบวนการล้มเจ้า และแผนการยึดอำนาจรัฐเพื่อทำลายการปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข และเบื้องหลังของขบวนการก่อการร้าย เพื่อเผยแพร่ให้กับพี่น้องประชาชนทั่วประเทศได้รับรู้ข้อเท็จจริงและสาเหตุของวิกฤติการณ์ในครั้งนี้
       
       4.4 ขอให้พี่น้องพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยทั่วประเทศไม่สังฆกรรมกับกลุ่มผู้สนับสนุนการชุมนุมที่ผิดกฎหมายและการก่อการร้าย ไม่ซื้อขายสินค้าและต่อต้านธุรกิจในเครือของคนเสื้อแดง โดยให้ติดตามรายละเอียดในคำประกาศของพันธมิตรฯ อีกครั้งหนึ่ง
       
       4.5 ขอให้พันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยในแต่ละจังหวัดที่มีความพร้อมจัดชุมนุมโดยสงบ สันติ และรณรงค์ในแต่ละจังหวัดให้ข้อมูลข่าวสารที่ถูกต้องกับประชาชนทั่วไป
       
       ทั้งนี้พันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยจะมีการประเมินสถานการณ์และมาตรการการเคลื่อนไหวเป็นระยะๆ และหากสถานการณ์ไม่ดีขึ้นจะยกระดับการเคลื่อนไหวให้มีความเข้มข้นขึ้นเป็นลำดับ ซึ่งจะมีการประชุมรับฟังความคิดเห็นและมีการประเมินผลจากพี่น้องพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยทั่วประเทศอย่างต่อเนื่อง จนกว่าความสงบสุขจะกลับคืนสู่สภาวะปกติ
       
       ด้วยจิตคารวะ
       พันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย
       26 เมษายน พ.ศ. 2553
       ณ บ้านพระอาทิตย์
       
     
       
       
       
       รายงานสดจากพื้นที่ข่าว
       เดินทางไปที่นี่
       Latitude: 13.76197 Longitude: 100.49383
       
จาก http://www.manager.co.th/asp-bin/mgrView.asp?NewsID=9530000057141
 



หัวข้อ: Re: [2513]"ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: เหยง 16 ที่ 26 เมษายน 2553, 17:52:58
อ้างถึง
ข้อความของ เหยง 16 เมื่อ 25 เมษายน 2553, 09:17:21
และวันนี้ค่อนข้างเงียบจัง

แต่วันนี้จะมีการลงคะแนนเลือกตั้ง นายกสภาทนายความ และคณะกรรมการ
โดยลงคะแนนที่ศาลจังหวัดทั่วประเทศ และคาดว่าคืนนี้จะทราบผลว่า ท่านใดจะได้รับเลือกให้ดำรงตำแหน่งในสภาทนายความ[/size]

ข่าวอย่างไม่เป็นทางการ(ก่อนเที่ยวของวันนี้) ทนายทีมของทักษิณ ชินวัตร ไม่สามารถยึดครองสภาทนายความไว้ได้ โดยตำแหน่งนายกสภาทนายความตกเป็นของ "นายสัก กอแสงเรือง" อดีต คตส. และเป็นอดีตนายกสภาฯ 2 สมัย รวมทั้งกรรมการสภาฯ ทั้ง 22 ตำแหน่งด้วย

"สัก กอแสงเรือง" ซิวเก้านายกสภาทนายความ  
26 เมษา. 2553 11:25 น.

                                        ฯลฯ
สำหรับผลนับคะแนนอย่างไม่เป็นทางการ นายสัก กอแสงเรือง อดีต คตส. และอดีตนายกสภา ฯ 2 สมัย ผู้สมัครนายกสภา ฯ หมายเลข 1 ได้คะแนนรวม 5,870 คะแนน ส่วนนายเสรี สุวรรณภานนท์ อดีต ประธาน ส.ส.ร.ปี 50 และอดีตเลขาธิการสภา ฯ ผู้สมัครหมายเลข 2 ได้ 4,494 คะแนน นายถวัลย์ รุยาพร ผู้สมัครหมายเลข 5 ได้ 1,647 คะแนน นายเจษฎา จันทร์ดี ทนายความรับผิดชอบคดี นปช. หมายเลข 6 ได้ 986 คะแนน นายโลมิรันดร์ บุตรจันทร์ ผู้สมัครอิสระ หมายเลข 3 ได้ 8 คะแนน และนายแสงฟ้า นพรัตน์เรืองเด่น ผู้สมัครอิสระหมายเลข 4 ได้ 7 คะแนน

http://breakingnews.nationchannel.com/read.php?newsid=444973&lang=T&cat=

 
 
 
 


หัวข้อ: Re: [2513]"ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: suriya2513 ที่ 26 เมษายน 2553, 21:42:51
ข่าวคุณสัก กอแสงเรือง ได้เป็นนายกสภาทนายความ
เป็นข่าวดีโดยมีนัยว่า พ.ต.ท. ดร.ทักษิณ ยังไม่สามารถยึดครองประเทศไทยไปได้โดยง่ายนัก
งานนี้ถ้าคุณสักแพ้ คุณสุริยาฟังเพลงอะไรก็ไม่ไพเราะเลยละ


หัวข้อ: Re: [2513]"ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: เหยง 16 ที่ 26 เมษายน 2553, 22:03:33
ขออัญเชิญพระราชดำรัส ที่พระราชทานแด่ผู้พิพากษาใหม่ในวันนี้มาลงให้ทราบกันครับ (ข่าวจาก ผู้จัดการออนไลน์)

(http://www.cmadong.com/imageupload/2010_Cmadong-Image/data/image/l1hofl-a07ce2.jpg)

ในหลวงทรงแนะศาลทำหน้าที่สุจริตเคร่งครัด-รักษาความเรียบร้อยของประเทศ
26 เมษายน 2553 20:33 น.

       พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงมีพระราชดำรัสต่อคณะผู้พิพากษาประจำศาลยุติธรรมที่เฝ้าฯ ถวายสัตย์ปฏิญาณก่อนเข้ารับหน้าที่ ทรงให้ยึดถือความซื่อสัตย์สุจริต เพื่อรักษาเอาไว้ ซึ่งความเรียบร้อยของประเทศ พร้อมให้เป็นตัวอย่างของผู้ที่ปฏิบัติตามหน้าที่ของตนโดยสุจริตและเคร่งครัด 
     
       เวลา 17.27 น.วันนี้ (26 เม.ย.) พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เสด็จฯออก ณ ห้องประชุมชั้น 14 อาคารเฉลิมพระเกียรติโรงพยาบาลศิริราช พระราชทานพระบรมราชวโรกาสให้ นายสบโชค สุขารมณ์ ประธานศาลฎีกา นำคณะผู้พิพากษา ประจำศาล สำนักงานศาลยุติธรรม เฝ้าทูลละอองธุลีพระบาท เพื่อถวายสัตย์ปฏิญาณ ก่อนเข้ารับหน้าที่ ในโอกาสนี้ นายวิรัช ชินวินิจกุล เลขาธิการสำนักงานศาลยุติธรรม นายไพโรจน์ นวานุช ผู้พิพากษาหัวหน้าคณะในศาลอุทธรณ์ ประจำสำนักประธานศาลฎีกา นายวรวุฒิ ทวาทศิน เลขาธิการประธานศาลฎีกา และนายสราวุธ เบญจกุล รองเลขาธิการสำนักงานศาลยุติธรรม ร่วมเฝ้าทูลละอองธุลีพระบาทด้วย
       
       ในการนี้ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว มีพระราชดำรัสเพื่อเป็นแนวทางในการปฏิบัติงาน โดยให้ยึดถือความซื่อสัตย์ สุจริตโดยเคร่งครัด
       
       “ตามที่ผู้พิพากษาศาลฎีกาได้มาปฏิญาณตน ในโอกาสนี้ เป็นโอกาสที่สำคัญ เพราะเป็นการแสดงว่า จะปฏิบัติหน้าที่ มีความตั้งใจจริงๆ และการปฏิบัติหน้าที่ของผู้พิพากษา เป็นสิ่งที่สำคัญสำหรับชีวิตของประชาชน ซึ่งท่านทั้งหลายจะได้ช่วยกันพยุงความยุติธรรม ความเรียบร้อยของประเทศ อันนี้ก็เป็นสิ่งที่สำคัญมาก ถ้าท่านทำตามที่ปฏิญาณตนด้วยเคร่งครัด จะช่วยให้ประเทศชาติมีความเรียบร้อยได้อย่างแน่นอน การที่ประเทศนี้ ผู้ที่ตั้งใจทำหน้าที่อย่างเคร่งครัดเป็นสิ่งที่สำคัญมาก เพราะว่านอกจากความเรียบร้อยที่จะเกิดขึ้น เป็นการแสดงว่า มีเจ้าหน้าที่ในประเทศที่ตั้งใจอย่างแน่วแน่ว่า จะปฏิบัติหน้าที่อย่างแน่นอนอย่างชัดเจน และตั้งใจที่จะรักษาเอาไว้ซึ่งความเรียบร้อยของประเทศ ทำให้ประชาชนทั่วไปมีความตั้งใจในตัว ที่จะปฏิบัติงานของตนอย่างซื่อสัตย์สุจริตเหมือนกัน เชื่อว่าการที่ท่านแสดงเป็นตัวอย่างที่ดีของผู้พิพากษา จะทำให้เป็นความตั้งใจของประชาชนทั่วไป ที่จะตั้งใจทำงานทำการอย่างเคร่งครัด อย่างสุจริต ฉะนั้นการที่ท่านมารับหน้าที่เป็นการที่ดีที่จะช่วยประเทศชาติปฏิบัติตนคนในชาติ ปฏิบัติตนให้มีความเคร่งครัด ความสุจริต
       
       ในประเทศอาจจะมีคนที่ลืมหน้าที่ของตนได้ ท่านแสดงเป็นตัวอย่างว่ามีผู้ที่ปฏิบัติหน้าที่อย่างเคร่งครัด อย่างสุจริต ฉะนั้น ท่านมีหน้าที่ที่สำคัญมาก ยิ่งได้ปฏิญาณตนว่า จะรักษาความยุติธรรมโดยเคร่งครัดนี้ จะช่วยให้ประชาชนทั่วไปปฏิบัติงานของตนด้วยความเรียบร้อย ด้วยความซื่อสัตย์สุจริตได้อย่างมากที่สุด เป็นผู้สุจริต เป็นสิ่งที่ไม่ใช่ง่าย เพราะว่าในชีวิตมีสิ่งที่ล่อใจมาก ฉะนั้นท่านได้ปฏิญาณตนนี้เป็นสิ่งที่สำคัญ ทำให้ท่านเตือนใจอยู่ตลอดว่า ต้องปฏิบัติหน้าที่อย่างซื่อสัตย์สุจริต ซึ่งถ้าหากมีบุคคลที่ปฏิบัติดี ชอบ ด้วยความแน่วแน่น ด้วยความตั้งใจ เป็นสิ่งที่ช่วยให้คนอื่นปฏิบัติตนให้ดี
       
       ฉะนั้นสำคัญมากที่ท่านได้มาปฏิญาณตนว่าจะทำหน้าที่ด้วยความซื่อสัตย์สุจริต เข้มแข็ง ถ้ารักษาความซื่อสัตย์สุจริตนี้ไว้ตลอดเวลาที่ท่านปฏิบัติหน้าที่ ตลอดชีวิต แสดงว่ามีคนที่อุ้มชูความเรียบร้อยของประเทศจำนวนหนึ่ง ก็ขอให้ท่านได้สามารถรักษาความตั้งใจของหน้าที่ตามที่ได้มีปฏิญาณตลอดเวลา เป็นตัวอย่างสำหรับคนทั่วประเทศ ให้มีกำลังใจที่จะปฏิบัติงานอย่างซื่อสัตย์สุจริต อย่างที่ท่านได้ปฏิญาณ ขอให้ท่านรักษาความซื่อสัตย์สุจริตอย่างที่ท่านได้กล่าวมาเมื่อครู่นี้ เป็นทางที่จะช่วยให้บ้านเมืองมีความเจริญมั่นคงแน่นอน และในคราวเดียวกัน ท่านเองจะได้ถือว่าเป็นตัวอย่างสำหรับประชาชนทั่วไป ทั้งผู้ที่เป็นข้าราชการ ทั้งผู้ที่ทำหน้าที่ต่างๆ จะช่วยกันอุ้มชูประเทศชาติให้ได้อยู่เย็น มีความผาสุก มีความเข้มแข็งในการงาน และทำให้งานการนั้นมีความสำเร็จ เรียบร้อย ทำให้ทุกคนมีความสุขได้
       
       ขอให้ท่านรักษาคำปฏิญาณโดยเข้มแข็ง เชื่อว่า ท่านจะมีความสุขในการปฏิบัติหน้าที่ที่ดี ขอให้ท่านได้ปฏิบัติหน้าที่ได้ด้วยความซื่อสัตย์สุจริตอย่างที่ท่านได้กล่าว ให้เป็นสิ่งที่ท่านมีส่วนในการสร้างบ้านเมืองให้ดี และเวลาเดียวกันท่านก็สร้างตัวท่านเองให้เป็นคนที่ดี คนที่มีความสำเร็จ ขอให้ท่านปฏิบัติหน้าที่ด้วยความเรียบร้อยตลอดชีวิตของท่าน และขอให้ท่านมีความสำเร็จในงานการ ซึ่งจะเป็นสิ่งที่สูงสุด ณ ในการปฏิบัติงานของคนที่เป็นคนสำคัญในชาติ คือ ผู้พิพากษา ขอให้ท่านมีความสำเร็จในการงาน มีความ ในเวลาเดียวกัน ท่านก็จะมีความสุขที่ได้ทำงานอย่างครบถ้วน ขอให้ท่านมีสำเร็จ มีความสำเร็จในงานการดังกล่าว”

 
 
 
พิมพ์จาก http://www.manager.co.th/asp-bin/mgrView.asp?NewsID=9530000057458
 



หัวข้อ: Re: [2513]"ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: Kaimook ที่ 26 เมษายน 2553, 22:17:13
อ้างถึง
ข้อความของ suriya2513 เมื่อ 26 เมษายน 2553, 21:42:51
ข่าวคุณสัก กอแสงเรือง ได้เป็นนายกสภาทนายความ
เป็นข่าวดีโดยมีนัยว่า พ.ต.ท. ดร.ทักษิณ ยังไม่สามารถยึดครองประเทศไทยไปได้โดยง่ายนัก
งานนี้ถ้าคุณสักแพ้ คุณสุริยาฟังเพลงอะไรก็ไม่ไพเราะเลยละ

5555555555


หัวข้อ: Re: [2513]"ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: Kaimook ที่ 26 เมษายน 2553, 22:18:27
อ้างถึง
ข้อความของ เหยง 16 เมื่อ 26 เมษายน 2553, 22:03:33
ขออัญเชิญพระราชดำรัส ที่พระราชทานแด่ผู้พิพากษาใหม่ในวันนี้มาลงให้ทราบกันครับ (ข่าวจาก ผู้จัดการออนไลน์)

(http://www.cmadong.com/imageupload/2010_Cmadong-Image/data/image/l1hofl-a07ce2.jpg)

ในหลวงทรงแนะศาลทำหน้าที่สุจริตเคร่งครัด-รักษาความเรียบร้อยของประเทศ
26 เมษายน 2553 20:33 น.

       พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงมีพระราชดำรัสต่อคณะผู้พิพากษาประจำศาลยุติธรรมที่เฝ้าฯ ถวายสัตย์ปฏิญาณก่อนเข้ารับหน้าที่ ทรงให้ยึดถือความซื่อสัตย์สุจริต เพื่อรักษาเอาไว้ ซึ่งความเรียบร้อยของประเทศ พร้อมให้เป็นตัวอย่างของผู้ที่ปฏิบัติตามหน้าที่ของตนโดยสุจริตและเคร่งครัด 
     
       เวลา 17.27 น.วันนี้ (26 เม.ย.) พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เสด็จฯออก ณ ห้องประชุมชั้น 14 อาคารเฉลิมพระเกียรติโรงพยาบาลศิริราช พระราชทานพระบรมราชวโรกาสให้ นายสบโชค สุขารมณ์ ประธานศาลฎีกา นำคณะผู้พิพากษา ประจำศาล สำนักงานศาลยุติธรรม เฝ้าทูลละอองธุลีพระบาท เพื่อถวายสัตย์ปฏิญาณ ก่อนเข้ารับหน้าที่ ในโอกาสนี้ นายวิรัช ชินวินิจกุล เลขาธิการสำนักงานศาลยุติธรรม นายไพโรจน์ นวานุช ผู้พิพากษาหัวหน้าคณะในศาลอุทธรณ์ ประจำสำนักประธานศาลฎีกา นายวรวุฒิ ทวาทศิน เลขาธิการประธานศาลฎีกา และนายสราวุธ เบญจกุล รองเลขาธิการสำนักงานศาลยุติธรรม ร่วมเฝ้าทูลละอองธุลีพระบาทด้วย
       
       ในการนี้ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว มีพระราชดำรัสเพื่อเป็นแนวทางในการปฏิบัติงาน โดยให้ยึดถือความซื่อสัตย์ สุจริตโดยเคร่งครัด
       
       “ตามที่ผู้พิพากษาศาลฎีกาได้มาปฏิญาณตน ในโอกาสนี้ เป็นโอกาสที่สำคัญ เพราะเป็นการแสดงว่า จะปฏิบัติหน้าที่ มีความตั้งใจจริงๆ และการปฏิบัติหน้าที่ของผู้พิพากษา เป็นสิ่งที่สำคัญสำหรับชีวิตของประชาชน ซึ่งท่านทั้งหลายจะได้ช่วยกันพยุงความยุติธรรม ความเรียบร้อยของประเทศ อันนี้ก็เป็นสิ่งที่สำคัญมาก ถ้าท่านทำตามที่ปฏิญาณตนด้วยเคร่งครัด จะช่วยให้ประเทศชาติมีความเรียบร้อยได้อย่างแน่นอน การที่ประเทศนี้ ผู้ที่ตั้งใจทำหน้าที่อย่างเคร่งครัดเป็นสิ่งที่สำคัญมาก เพราะว่านอกจากความเรียบร้อยที่จะเกิดขึ้น เป็นการแสดงว่า มีเจ้าหน้าที่ในประเทศที่ตั้งใจอย่างแน่วแน่ว่า จะปฏิบัติหน้าที่อย่างแน่นอนอย่างชัดเจน และตั้งใจที่จะรักษาเอาไว้ซึ่งความเรียบร้อยของประเทศ ทำให้ประชาชนทั่วไปมีความตั้งใจในตัว ที่จะปฏิบัติงานของตนอย่างซื่อสัตย์สุจริตเหมือนกัน เชื่อว่าการที่ท่านแสดงเป็นตัวอย่างที่ดีของผู้พิพากษา จะทำให้เป็นความตั้งใจของประชาชนทั่วไป ที่จะตั้งใจทำงานทำการอย่างเคร่งครัด อย่างสุจริต ฉะนั้นการที่ท่านมารับหน้าที่เป็นการที่ดีที่จะช่วยประเทศชาติปฏิบัติตนคนในชาติ ปฏิบัติตนให้มีความเคร่งครัด ความสุจริต
       
       ในประเทศอาจจะมีคนที่ลืมหน้าที่ของตนได้ ท่านแสดงเป็นตัวอย่างว่ามีผู้ที่ปฏิบัติหน้าที่อย่างเคร่งครัด อย่างสุจริต ฉะนั้น ท่านมีหน้าที่ที่สำคัญมาก ยิ่งได้ปฏิญาณตนว่า จะรักษาความยุติธรรมโดยเคร่งครัดนี้ จะช่วยให้ประชาชนทั่วไปปฏิบัติงานของตนด้วยความเรียบร้อย ด้วยความซื่อสัตย์สุจริตได้อย่างมากที่สุด เป็นผู้สุจริต เป็นสิ่งที่ไม่ใช่ง่าย เพราะว่าในชีวิตมีสิ่งที่ล่อใจมาก ฉะนั้นท่านได้ปฏิญาณตนนี้เป็นสิ่งที่สำคัญ ทำให้ท่านเตือนใจอยู่ตลอดว่า ต้องปฏิบัติหน้าที่อย่างซื่อสัตย์สุจริต ซึ่งถ้าหากมีบุคคลที่ปฏิบัติดี ชอบ ด้วยความแน่วแน่น ด้วยความตั้งใจ เป็นสิ่งที่ช่วยให้คนอื่นปฏิบัติตนให้ดี
       
       ฉะนั้นสำคัญมากที่ท่านได้มาปฏิญาณตนว่าจะทำหน้าที่ด้วยความซื่อสัตย์สุจริต เข้มแข็ง ถ้ารักษาความซื่อสัตย์สุจริตนี้ไว้ตลอดเวลาที่ท่านปฏิบัติหน้าที่ ตลอดชีวิต แสดงว่ามีคนที่อุ้มชูความเรียบร้อยของประเทศจำนวนหนึ่ง ก็ขอให้ท่านได้สามารถรักษาความตั้งใจของหน้าที่ตามที่ได้มีปฏิญาณตลอดเวลา เป็นตัวอย่างสำหรับคนทั่วประเทศ ให้มีกำลังใจที่จะปฏิบัติงานอย่างซื่อสัตย์สุจริต อย่างที่ท่านได้ปฏิญาณ ขอให้ท่านรักษาความซื่อสัตย์สุจริตอย่างที่ท่านได้กล่าวมาเมื่อครู่นี้ เป็นทางที่จะช่วยให้บ้านเมืองมีความเจริญมั่นคงแน่นอน และในคราวเดียวกัน ท่านเองจะได้ถือว่าเป็นตัวอย่างสำหรับประชาชนทั่วไป ทั้งผู้ที่เป็นข้าราชการ ทั้งผู้ที่ทำหน้าที่ต่างๆ จะช่วยกันอุ้มชูประเทศชาติให้ได้อยู่เย็น มีความผาสุก มีความเข้มแข็งในการงาน และทำให้งานการนั้นมีความสำเร็จ เรียบร้อย ทำให้ทุกคนมีความสุขได้
       
       ขอให้ท่านรักษาคำปฏิญาณโดยเข้มแข็ง เชื่อว่า ท่านจะมีความสุขในการปฏิบัติหน้าที่ที่ดี ขอให้ท่านได้ปฏิบัติหน้าที่ได้ด้วยความซื่อสัตย์สุจริตอย่างที่ท่านได้กล่าว ให้เป็นสิ่งที่ท่านมีส่วนในการสร้างบ้านเมืองให้ดี และเวลาเดียวกันท่านก็สร้างตัวท่านเองให้เป็นคนที่ดี คนที่มีความสำเร็จ ขอให้ท่านปฏิบัติหน้าที่ด้วยความเรียบร้อยตลอดชีวิตของท่าน และขอให้ท่านมีความสำเร็จในงานการ ซึ่งจะเป็นสิ่งที่สูงสุด ณ ในการปฏิบัติงานของคนที่เป็นคนสำคัญในชาติ คือ ผู้พิพากษา ขอให้ท่านมีความสำเร็จในการงาน มีความ ในเวลาเดียวกัน ท่านก็จะมีความสุขที่ได้ทำงานอย่างครบถ้วน ขอให้ท่านมีสำเร็จ มีความสำเร็จในงานการดังกล่าว”

 
 
 
พิมพ์จาก http://www.manager.co.th/asp-bin/mgrView.asp?NewsID=9530000057458
 


ขอบคุณพี่เหยงค่ะ รายงานชนิดเกาะติดสถานการณ์เลยค่ะเยี่ยมที่ซู๊ดดดดดดดดดดดด


หัวข้อ: Re: [2513]"ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: เหยง 16 ที่ 27 เมษายน 2553, 08:42:23
จากกรณีเสื้อแดงปิดถนนเพื่อตรวจค้นรถตำรวจและทหารเมื่อวานนี้ แต่สร้างความเดือดในผู้ใช้ถนนโดยรวมในเกือบทุกพื้นที่

อ่านบทบรรณาธิการของ นสพ. แนวหน้าออนไลน์ ของวันนี้(27 เมษายน 2553)

บทบรรณาธิการ  
 
แดงถ่อยอันธพาลครองเมือง (บทบรรณาธิการ)  
 
 
 
 บ้านเมืองขณะนี้เหมือนบ้านป่าเมืองเถื่อนไร้ขื่อไร้แปจากปฏิบัติการของม็อบคนเสื้อแดงที่แสดงพฤติกรรมถ่อยดิบเถื่อนอันธพาลครองเมืองที่นอกจากจะย่ำยีกฎหมายท้าทายอำนาจรัฐด้วยการปิดถนนและยึดย่านราชประสงค์ อันเป็นศูนย์กลางธุรกิจการค้ากลางเมืองหลวง เป็นที่ปักหลักชุมนุมยืดเยื้อจนทำลายเศรษฐกิจของประเทศจนย่อยยับและสร้างความเดือดร้อนแก่ประชาชนไปทั่วแล้ว ม็อบคนเสื้อแดงในหลายจังหวัดทั่วประเทศ ยังตั้งตัวเป็นกองกำลังเถื่อนที่ใช้กฎหมู่ตามอำเภอใจ

 ปฏิบัติการถ่อยดิบเถื่อนอันธพาลเสื้อแดงในหลายจังหวัดทั่วประเทศเริ่มที่จังหวัดขอนแก่นก่อนหน้านี้จนกลายเป็น "ขอนแก่นโมเดล"ที่ม็อบเถื่อนคนเสื้อแดงในหลายจังหวัดปฏิบัติตามโดยได้รับคำสั่งจากแกนนำม็อบคนเสื้อแดงที่ย่านราชประสงค์ ซึ่งที่จังหวัดขอนแก่นก่อนหน้านี้ม็อบเสื้อแดงได้ปิดถนนตรวจค้นรถทุกคันที่วิ่งเข้าสู่กรุงเทพมหานครแล้ว กักตัวทหารทุกคนที่เดินทางกลับจากฉลองเทศกาลสงกรานต์เพื่อกลับเข้ากรมกองต้นสังกัด

 นอกจากนี้ ยังใช้รถขวางทางรถไฟแล้วควบคุมกำลังทหารตลอดจนยึดรถหุ้มเกราะซึ่งถูกส่งไปปฏิบัติหน้าที่ในจังหวัดชายแดนภาคใต้และล่าสุดม็อบคนเสื้อแดงได้ปิดถนนตั้งด่วนตรวจค้นควบคุมตัวทหารและตำรวจที่ได้รับคำสั่งให้ไปเสริมกำลังในกรุงเทพมหานคร ขณะที่ม็อบคนเสื้อแดงที่จังหวัดอุดรธานี หลายร้อยคน นำโดยนายวิเชียร ขาวขำ สส.พรรคเพื่อไทย ตั้งด่านสกัด

 โดยมีการยึดรถและปล่อยลมยางรถของทหาร และตำรวจทุกคันที่ผ่านเส้นทาง แพทย์หญิงในโรงพยาบาลแห่งหนึ่งในจังหวัดอุดรธานี พร้อมกับสาวใช้ได้ถูกม็อบคนเสื้อแดงหลายสิบคน ปฏิบัติการถ่อยด้วยการเข้าตรวจค้นทั้งๆ ที่เป็นเวลาค่ำคืนและเป็นบริเวณสถานที่เปลี่ยวอีกทั้งภายในรถมีทรัพย์สินมีค่าอยู่ด้วย โดยเหล่าคนเสื้อแดงนับสิบคนพูดจาข่มขู่และเข้าทุบรถทำให้แพทย์หญิงคนดังกล่าวเกิดความหวาดกลัวเป็นอย่างมากจนตัดสินใจขับรถฝ่าวงล้อมเหล่าอันธพาลเสื้อแดงหนีรอดมาได้อย่างหวุดหวิด

 ล่าสุดที่จังหวัดปทุมธานี มวลชนคนเสื้อแดง 500-600 คน ได้ใช้รถเมล์ปิดถนนพหลโยธินขาเข้า กรุงเทพมหานคร ตั้งด่านตรวจค้นและสกัดกำลังทหารและตำรวจที่มุ่งหน้าสู่กรุงเทพมหานครที่บริเวณใกล้ห้างฟิวเจอร์ปาร์ค รังสิต ทำให้การจราจรติดขัดยาวนับสิบกิโลเมตร ที่สำคัญม็อบเสื้อแดงปทุมธานี ยังทำตัวอยู่เหนือกฎหมาย ด้วยการยึดรถควบคุมผู้ต้องขังของตำรวจ 53 คัน พร้อมควบคุมตำรวจ 532 นาย ที่เดินทางมาจากภาคเหนือและอีสานเพื่อมาปฏิบัติภารกิจในกรุงเทพมหานคร

 ข้อน่าสังเกตอย่างมากก็คือ จากพฤติกรรมถ่อยดิบเถื่อนอันธพาลครองเมืองของม็อบคนเสื้อแดงดังกล่าว ฝ่ายเจ้าหน้าที่ตำรวจในพื้นที่กลับทำตัวเหมือนใส่เกียร์ว่างละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ทั้งๆ ที่เป็นความผิดชัดแจ้งซึ่งหน้าแต่กลับไม่จับกุมดำเนินคดีทำให้ม็อบอันธพาลเสื้อแดงเหิมเกริมได้ใจและลุกลามไปในหลายจังหวัด อีกทั้งพื้นที่ซึ่งม็อบเสื้อแดงปฏิบัติการเย้ยกฎหมายท้าทายอำนาจรัฐล้วนเป็นพื้นที่เดิมๆ ซ้ำซาก

 ดังนั้น รัฐบาลจะต้องคาดโทษอย่างเฉียบขาดกับผู้ว่าราชการจังหวัดและผู้บังคับบัญชาฝ่ายตำรวจในพื้นที่ซึ่งหากยังปล่อยให้ม็อบคนเสื้อแดง ทำตัวเหนือกฎหมายเป็นอันธพาลครองเมือง เกิดขึ้นอีกก็ต้องลงโทษด้วยการย้ายให้ไปปฏิบัติหน้าที่ในจังหวัดชายแดนภาคใต้หรือไม่ควรให้โอกาสได้เจริญก้าวหน้าในหน้าที่การงานอีกต่อไป 
 
วันที่ 27/4/2010
 
http://www.naewna.com/news.asp?ID=208819


หัวข้อ: Re: [2513]"ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: เหยง 16 ที่ 27 เมษายน 2553, 08:44:38
บทบรรณาธิการของ นสพ. ไทยโพสต์ออนไลน์

พักเที่ยงมาชุมนุม ให้ลูกหลานซาบซึ้งในบุญคุณ  
บทบรรณาธิการ 27 เมษายน 2553 - 00:00

  มนุษย์เป็นสัตว์สังคม  สัตว์หลายชนิดก็เป็นสัตว์สังคม  การรวมหมู่จึงถือเป็นธรรมชาติของสัตว์หลากชนิด   และสัตว์ประเสริฐอย่างมนุษย์เรา  แต่ก็มีความต่างที่ยิบย่อยออกไปตามวิถีชีวิต ตามวัตถุประสงค์  และการดำรงอยู่
     สัตว์รวมหมู่ด้วยจุดประสงค์หลัก  คือ  หาอาหารและสืบพันธุ์  แต่มนุษย์มีชั้นเชิงมากกว่านั้น  นอกจากอาหารและสืบพันธุ์แล้ว  มนุษย์ยังมีกิจกรรมอื่นอีกมากหมาย  เช่น  สืบสานวัฒนธรรม  แลกเปลี่ยนความคิดเห็น  คิดค้น  พัฒนานวัตกรรมใหม่ๆ  ไปเรื่อยๆ  ไม่มีวันจบสิ้น  สิ่งเหล่านี้ในสังคมของสัตว์ทำไม่ได้
     ขณะที่การรวมหมู่ของสัตว์เองยังต่างกัน   สัตว์นักล่าก็ออกล่าเป็นกลุ่ม   ขณะที่สัตว์กินพืช  ก็เหมือนคนธรรมะธัมโม  ไม่หวือหวา  ค่อยๆ  เคลื่อนตัวออกหากินไปเรื่อยๆ  ไม่รีบร้อน  เหมือนไม่มีกาลเวลาสำหรับสัตว์กินพืช
     สิ่งหนึ่งที่เที่ยงตรงเสมอคือ  สัตว์กินเนื้อจะมีจำนวนน้อยกว่าสัตว์กินพืชเสมอ  และสัตว์กินพืชมักตกเป็นเหยื่อของสัตว์กินเนื้อเสมอ  ดังจะเห็นได้จากสารคดีสัตว์โลกที่ถ่ายทำกันในทวีปแอฟริกา  ฝูงวิลเดอบีสต์นับแสนนับล้านตัวมักถูกต้อนโดยฝูงสิงห์โตเพียงไม่กี่ตัวเสมอ
     มักจะมีความคิดเสมอว่า    ทำไมวิลเดอบีสต์ที่มีทั้งเขาและร่างกายซึ่งไม่เล็กกว่าสิงห์โต  แถมจำนวนยังเทียบกันไม่ได้ถึงไม่ลุกขึ้นสู้  แค่วิ่งฝ่ากลุ่มสิงห์โตเข้าไป  ทุกอย่างก็ราบเป็นหน้ากลอง  แต่ความจริงไม่ได้เป็นเช่นนั้น  สัญชาติญาณของสัตว์นักล่ากับสัตว์ที่ถูกล่านั้นต่างกัน  ถ้ามีชีวิตอยู่ถึงอีกล้านปีข้างหน้า  ฝูงวิลเดอบีสต์ก็จะวิ่งหนีสิงห์โตเสมอไป
     แต่มนุษย์ต่างจากสัตว์  มนุษย์ยึดถือเอาตามเสียงข้างมากแต่เคารพเสียงข้างน้อย  มนุษย์นักล่าไม่อาจชนะมนุษย์ที่รักความสงบสันติเสมอไป  นั่นเป็นเพราะมนุษย์ฉลาดกว่าสัตว์  มีการจัดระเบียบสังคมที่ซับซ้อนกว่านั่นเอง  แต่บางครั้งก็เกิดความวิปริตผิดเพศขึ้น  มนุษย์เสียงข้างน้อยกลับมีอำนาจเหนือมนุษย์เสียงข้างมาก  และมนุษย์เสียงข้างน้อยในลักษณะนี้จะอยู่ในสภาวะบ้าคลั่งพร้อมกับมีจุดจบอย่างอนาถเสมอไป
     ขณะที่คนไทยทั้งประเทศกลัดกลุ้มกับการชุมนุมของคนเสื้อแดงตัวเลขหลักหมื่นที่แยกราชประสงค์และแยกศาลาแดง  หลายคนถึงกับต้องปรึกษาจิตแพทย์เพราะเครียดอย่างหนัก  บรรยากาศประเทศไทยในเวลานี้จึงดูคล้ายฝูงวิลเดอบีสต์วิ่งหนีสิงห์โต  คนกลุ่มน้อยกลับกุมชะตาของคนหมู่มากเอาไว้
     มนุษย์ต่างจากสัตว์ตรงที่มีความคิดแยกแยะได้ซับซ้อนกว่า  แต่เหตุไฉนถึงมาตกอยู่ในชะตากรรมเดียวกัน  เท่าที่ตรวจสอบเวลานี้  กลุ่มคนหลากสีพยายามที่จะออกมารณรงค์เรียกหาความสงบสุขคืนมา  แต่ผู้คนที่รักความสงบจำนวนมากนั้นก็ยังออกมาร่วมกิจกรรมน้อยเกินไป
     ไม่ใช่เป็นการเรียกร้องให้ม็อบออกมาชนม็อบ  แต่เป็นการเรียกร้องให้พลเมืองของประเทศนี้ได้ทำหน้าที่ตัวเอง  รัฐธรรมนูญมาตรา  70  ระบุให้บุคคลมีหน้าที่พิทักษ์รักษาไว้ซึ่งชาติ  ศาสนา  พระมหากษัตริย์  และการปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข
     ถึงเวลาแล้ว  ประชาชนต้องแสดงให้เห็นว่าต้องการให้ประเทศเดินไปทางไหน  อย่ามัวแต่ให้นักการเมืองไม่กี่คนจูงจมูก  ขอกันไม่มาก  แค่เวลาว่างช่วงพักเที่ยงของทุกวันออกมารวมตัวกันอย่างสงบให้ทั่วทั้งประเทศ  เพื่อลูกหลานจะระลึกถึงว่าคนรุ่นนี้ร่วมกันเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกัน  พาชาติไปสู่ความสงบสันติอย่างแท้จริง.

http://www.thaipost.net/news/270410/21375


หัวข้อ: Re: [2513]"ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: เหยง 16 ที่ 27 เมษายน 2553, 08:47:47
คอลัมม์ "คนปลายซอย" ของคุณเปลว สีเงิน

คราเอาบ่าแบกล้อ-แล้วเฆี่ยนควายให้เดิน
เปลว สีเงิน 27 เมษายน 2553 - 00:00

 ใคร  "นิ่ง"  ท่ามกลางความอลหม่านได้มากกว่าเท่าไหร่  จะเป็นผู้ได้เปรียบ  "มากกว่าเท่านั้น   คนจมน้ำตาย  มักเข้าใจกันว่าตายเพราะว่ายน้ำไม่เป็น  แต่สาเหตุจริงๆ  ไม่ใช่  เพราะ  "ตกใจ-ไร้สติ"  ตะหาก  ที่ผมยกประเด็นนี้ขึ้นมาพูดก็ไม่ใช่อะไร  อยากจะบอกชนชาวสาว-หนุ่มเฟซบุ๊ก  และมิตรสหายร่วมสมัยว่า  "จากนี้ไป"  ไม่ว่ามีอะไร  หรือไม่มีอะไรเกิดขึ้น  ขอให้ใช้  "สติ"  นำปัญญารับภาระสืบทอด  "มรดกชาติ"  ดำรงไว้  เพื่อส่งต่อ  "รุ่นต่อรุ่น"  สืบๆ  กันไป  ไทยต้องเป็นไทย  จะปล่อยให้เป็นอื่นไม่ได้เด็ดขาด
     การจะเป็นอย่างนั้นได้  ก็จะต้องไม่ใช้ความเบาปัญญาสนองหยาบ  ถ่อยสนองเถื่อน  ดิบสนองดิบ!
     อะไรที่เกิดโดยหักหาญ-มุ่งร้าย-ทำลาย  เราต้องสนองตอบด้วยความรับผิดชอบ  อะไรที่เกิดด้วยความโง่เขลา  เราต้องเอาปัญญาแก้โจทย์ให้กระจ่าง  อะไรที่เขาใช้ความรุนแรงเข้าใส่  เราต้องใช้  "ใจเมตตา"  เป็นตาข่ายขึงรับ  และ...จับขมวด!
     ต่ำแล้วจะไปหนุนของเตี้ยให้สูง  เช่นนั้น...มันจะสูงไม่พ้นตาตุ่ม  มีแต่ต้องใช้  "ใจที่สูงกว่า"  จึงจะสามารถ  "แก้ปัญหามนุษย์"  ได้  ชาวเว็บไซต์ทั้งหลาย  ถึงเวลาต้องใช้เทคโนโลยียุคใหม่เป็น  "ล้อเลื่อน"  ให้สังคมไทยเคลื่อนไปอย่างถูกที่-ถูกทาง  และถูกจังหวะด้วย!
     ผมคิดนะครับ  คือผมคิดว่า  เราควรอยู่กับปัจจุบันด้วยการ  "ไม่ฝืนโลก"  และพร้อมหมุนตามโลกไปสู่อนาคตร่วมกัน  แต่ขณะเดียวกัน  เราต้องต่อสู้เพื่อพิทักษ์-รักษาอดีตของเรามิให้สูญหายดำรงอยู่คู่กับปัจจุบันตลอดไปด้วย
     ท่านว่าอย่างนั้นมั้ย  หรือผมคิดของผมไปคนเดียว?!
     นี่...วันนี้ก็  อังคารที่  ๒๗  เมษายน  ๒๕๕๓  ตรงกับวันขึ้น  ๑๔  ค่ำ  เดือน  ๖  ปีขาล  ที่ต้องการบอกไม่ใช่แค่วัน-เดือน-ปี  หากแต่อยากบอกว่า  ได้เวลา  "เสาร์ที่ราศีกันย์เล็งมฤตยูที่ราศีมีน"  แล้ว
     ๕  ถึง  ๖  วัน  นับจากนี้  นี่..ไม่ใช่ผมบอกนะครับ  แต่ผมดูจากปฏิทินโหรของท่านอาจารย์เทพ  สาริกบุตร  ท่านคำนวณแล้วบอกไว้  เมื่อเสาร์เล็งมฤตยู  มักมีภัยทางธรรมชาติ  มีอัคคีภัย  มีอุบัติเหตุใหญ่ๆ  ทั้งอาจเกิดเหตุยุ่งยากจากหมู่ผู้ใช้แรงงาน  เกษตรกร  หรือคนยากคนจนผู้ยากไร้
     วันนี้ที่  ๒๗  ถ้า  ๕-๖  วัน  นับแล้วก็ตกประมาณวันที่  ๑-๒  พฤษภาคม  ช่วงนั้น  "อะไรจะเกิดมันก็ต้องเกิด"  และไม่ว่าชาวเรา  หรือชาวเขา  ไม่ต้องตกใจไป  ใช้สติทบทวนเรื่องราวที่เราคุยกันมาตลอดซักนิดแล้วก็จะเข้าใจ  และเมื่อเข้าใจแล้วบางทีจะทำให้สบายใจเสียด้วยซ้ำไปว่า
     อ้อ...ที่ว่า  "เส้นทางสายเปลี่ยน"  ของประเทศไทยนั้น  เป็นอย่างนี้เองน่ะหรือ?!
     ทั้งพระ  ทั้งหมอ  ทั้งโรงพยาบาล  ทั้งผู้คุม  คงจะงานหนักและเหนื่อยหน่อย  แต่อีกด้านหนึ่ง  ผมเคยอ่านที่  "อาจารย์สุวิทย์  ตันติสุนทรชัย"  ท่านให้สัมภาษณ์ตอนไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่  ๒๐๐๙  ระบาดปีที่แล้ว  ท่านบอกว่าดาวมฤตยูที่โคจรเข้าราศีมีน  อาณาเขตพิษนาค  นวางค์จันทร์เป็นตัวการสำคัญ
     พูดภาษาเทคนิคโหรจะไม่เข้าใจกัน  ถอดความตามที่ท่านบอกก็คือ  ดาวจันทร์หมายถึงประชาชนพลโลก  ดาวมฤตยูหมายถึงการสร้างความอาเพศ  ลึกลับ  จะไป-จะมา  ไม่รู้เนื้อรู้ตัว  และดาวเจ้าเรือน  (เจ้าของบ้าน)  ราศีมีนคือดาวพฤหัสบดี  หมายถึงโรคภัยไข้เจ็บที่เกี่ยวกับโลหิตเป็นพิษ  น้ำเหลือง  ไต  โรคตับ  ไขมัน  ส่วนนวางค์จันทร์จะเกี่ยวข้องกับของเหลวในร่างกาย  น้ำมูก  น้ำลาย  เสมหะ  เลือดดำ  กระเพาะปัสสาวะ  ลำไส้  เป็นต้น
     มิน่า...หมู่นี้  "ข่าวลือ"  ถึงใครบางคนที่เสาร์เล็งมฤตยู  เล็งราหูในดวงเดิมขณะนี้ถึงได้หนาหูเหลือเกิน  แต่ก็ช่างเถอะ  "ข่าวลือ"  ก็คือข่าวไม่จริง  (ก่อนจริงทีหลัง?!)  อย่าไปสนใจ  แต่ที่น่าห่วงคือ  ระวังระไวการกลับมาของไข้หวัดหมู-ตายหมู่กันไว้บ้างก็ดี
     การเป็น  "อัมพาตทั้งเมือง"  เท่าที่ผมฟังจากโหรโน้น-โหรนี้  เขาก็เตือนไว้เหมือนกัน
 ผมก็เลยเอามาบอกท่านในลักษณะ  "รู้อะไรก่อนเกิด"  ดีกว่าปล่อยให้  "เกิดแล้วค่อยรู้ทีหลัง"  แต่ถ้าไม่มีอะไรอย่างที่ว่านี้เกิดขึ้นเลย  นั่น...จะเป็นเรื่องน่ายินดีที่สุด!
     มฤตยูนี่  ชื่อน่ากลัวนะครับ  มันลึกลับ  โลดโผนโจนทะยาน  ยิ่งกว่าไต่ด้ายหลอดข้ามเหวเสียอีก  แต่เป็นดาวบอกอนาคตที่น่าพิศวง  ร้ายถีบลงนรก  ดีส่งขึ้นสวรรค์ทันใด?
     พูดถึงเฟซบุ๊ก  ผมถือโอกาสบอกซักหน่อย  คือมีคนมากุ๋ยๆ  ผมว่า  "แหม..เดี๋ยวนี้เดิ้ลใหญ่แล้วนะ  เปิดเฟซบุ๊กด้วย"  ผมก็งงเหมือนยืนสี่แยกราชประสงค์  ไม่รู้จะเลี้ยวไปเหวงไหนดี  เพราะเคยบอกไปแล้วว่า  "ไม่ประสา"  กับเรื่องพรรค์นี้  แต่เขาก็ยืนยันว่า
     "อ่านกะตา  จะแกล้งไก๋ทำไม?"
     เอ้า...มีก็มี  ก็ต้องแต็งค์หลาย  ไม่ทราบว่าใครทำหน้าที่  "เปลว  สีเงิน"  ให้ในเฟซบุ๊ก  เอาอย่างนี้ก็แล้วกันนะครับ  การเปิดหน้าเฟซบุ๊กคุยกันมันคงไม่ยากเหมือนสลายม็อบเสื้อแดงหรอก  อย่ากระนั้นเลย  ผมจะขอแรงฝ่ายระบบคอมฯ  ของไทยโพสต์เขามาช่วยเจ้ากี้-เจ้าการให้  เสร็จเรียบร้อยวันไหน...แล้วจะบอก
     อย่าลืมแวะเข้าไปทักทายในฐานะมิตรสหายโลกใหม่  คือโลกเว็บไซต์  facebook  ก็แล้วกันเน้อ!
     สำหรับท่านที่อีเมล์มาขอเป็นเพื่อนจนผมลบเมื่อยมือมาเป็นเดือนๆ  นั้น  โปรดเข้าใจด้วย  ที่ผมทำเฉยไม่คุยกะท่านนั้น  ไม่ได้แอ็คอาร์ตอะไรหรอก
     หากแต่  "เล่นไม่เป็น"  ไม่รู้จะติดต่อกลับไปยังท่านยังไง  ก็ได้แต่นั่งลบทิ้ง..ลบทิ้ง  อย่างว่า  เอาละ...ตานี้แหละ  ผมอัพเกรดสมองเก่าๆ  เรียบร้อยเมื่อไหร่  คงได้คุยกันเครื่องไหม้ไปข้างบ้างละ!
     ถึง  ณ  วันนี้  "อำนาจรัฐ"  ว่าด้วยการบังคับใช้กฎหมาย  "สิ้นสภาพ"  ไปเกือบครึ่งแล้ว  กฎหมาย  และอำนาจรัฐ  ยังคงใช้ได้เฉพาะสุจริตชน  คนเคารพบ้านเมืองเท่านั้น  ผมไม่แน่ใจว่านายกฯ  อภิสิทธิ์ก็ดี  กองทัพก็ดี  ตำรวจก็ดี  ข้าราชการก็ดี  ท่านรับรู้สภาพเป็นจริงหลัง  "กบฏทักษิณ"  ปฏิบัติการยึดประเทศได้มาก-น้อยขนาดไหน?
     ผมไม่ห่วงหรอกว่าประเทศไทยจะถูกพวกกบฏถ่อยยึดบ้าน-ยึดเมือง  หรือจะเปลี่ยนระบบ-ระบอบประเทศเป็นอะไรในวันนี้  พรุ่งนี้ได้  (ปะรืนไม่รู้นะ?)  เพราะจริงๆ  แล้ว  ชาวบ้านเสื้อแดงทั้งหลาย  บางคนก็  "หลงไป"  ชั่วคราว  บางส่วนก็  "หมู่มากลากกันไป"  บางส่วนก็  "รู้เห็นเป็นใจ"  เป็นไปกับตัวการใหญ่จริงๆ
     และบางส่วน  "มันแค้นจนอยากกบฏ"  จริงๆ  ซึ่งผมยอมรับว่า...มีแน่!
     อย่าไปว่าระดับชาวบ้านเลย  ผมเองก็เถอะ  ไม่เคยปฏิเสธ  ไม่เคยหลบเลี่ยงอำนาจรัฐ-กฎกติการัฐ   แต่ชัดกับตัวเองว่า  ใครทำตัวเป็น  "พลเมืองดี"  มากเท่าไหร่  เดือดร้อน  และฉิบหายมากเท่านั้น
     แม้กระทั่งวันนี้-วินาทีนี้  ความเป็นพลเมืองดีที่  "ไม่ยอมฝืนระบบ"  ของผม  ทำให้ต้องระบมทั้งนอก  ช้ำทั้งใน  ถึงตายก็ยังลืมไม่ได้ว่าระบบรัฐ-ระบบราชการ  มันบีบคั้น  รังแก  จนบางครั้งอยากเข้าป่าถือปืนประชดให้มันสิ้นเรื่อง-สิ้นราว  "เอากะมัน"  ให้บรรลัยไปข้างด้วยซ้ำ!
     ฉะนั้น   ผมจึงพอเข้าใจที่ชาวบ้านพอได้   "อำนาจ"  จากการขัดขืนระบบรัฐขึ้นมาบ้าง  มันช่างมีความสุข-สะใจ  เอ็นโดร์ฟินถะถั่งหลั่งไหลยิ่งกว่าควายได้ตีแปลงอาบแดด
     ชาวบ้านสามารถจับทหาร  ยึดรถถัง  ยึดปืน  ล้อมค่าย  ค้นอาวุธ ปิดถนน ค้น-จับตำร
วจ  ตั้งด่านตรวจสารพัดรถ  พอใจจะยึดสถานที่ราชการแห่งไหนก็ยกกันไปยึดได้ตามใจชอบ
     กระทั่งจะฆ่าทหาร  ฆ่าชาวบ้านที่เหม็นที่ขี้หน้าในฐานะ  "คนต่างสี"  เล่นซัก  ศพ-สองศพ  ก็ทำได้  ตำรวจเห็นแล้วแกล้งหลบให้ด้วยซ้ำ!
     นี่มันคืออารมณ์  "ใต้สัญชาตญาน"  ที่เก็บกดจนระเบิดเป็นปฏิบัติการ  "กบฏรัฐ"  อันมีมูลเหตุส่วนหนึ่งมาจาก  "คนรัฐ"  นั่นแหละ  ถือดีในอำนาจ  "อัดอารมณ์"  ชาวบ้านไว้จนกลายเป็นระเบิดในวันนี้
     แต่...ชนชาวสาว-หนุ่มผู้มีปัญญาทั้งหลาย  ขอให้เข้าใจ  และจงขอบใจเหตุที่เกิดวันนี้เถิดว่า  เพราะมีสิ่งนี้-ในวันนี้  จึงทำให้มีสิ่งดีใหม่ๆ  เกิดขึ้น-ในวันพรุ่งนี้  ถ้าเรารู้จักใช้สติมองสิ่งที่เกิด!
     ประชาชนนั้นมี  ๒  เอว  เอวข้างซ้ายกระเตงรัฐบาลอภิสิทธิ์  เอวข้างขวากระเตงชาติ  ชาตินั้น  "เป็นหน้าที่"  พลเมืองที่ดีพึงต้องกระเตงด้วยจิตสำนึก
     แต่จะให้กระเตงจน  ๒  เอวเป็นหนามอยู่อย่างนี้  เห็นจะไม่ไหว  ก็ควรต้องเข้าใจว่าความอดทนของคนก็  "มีขีดจำกัด"  นั่นก็คือ
     ประชาชนคงไม่ให้อภิสิทธิ์  "ขี้รดเอว"  อยู่ต่อไป  กระเตงมาร่วม  ๒  เดือน  แทบไร้ประโยชน์!
     ไปผลัดกันอุ้มเอง  ๒  คนก็แล้วกัน  อนุพงษ์จะเข้าเอวอภิสิทธิ์  หรืออภิสิทธ์จะเข้าเอวอนุพงษ์  ก็  "เตี้ยอุ้มค่อม"  กันไปตามสบายก็แล้วกัน  เพราะวันก็แล้ว..สองวันก็แล้ว  จนสี่สิบกว่าวันแล้ว  ท่าจะรอให้  "แม้วตาย"  แล้วเอาศพแม้วมาแลกม็อบกระมัง?
     การเมืองแก้ด้วยการเมือง?!
     การกบฏแก้ด้วยการเมือง?!
     สรุปแล้ว  ทั้งอภิสิทธิ์  ทั้งอนุพงษ์  ไม่ต้องแก้อะไรเลย  ทั้งการเมือง  และการกบฏ  เป็นหน้าที่ของประชาชน  "คนรักบ้าน-รักเมือง"  ต้องแก้กันเอง
     เอายังงี้ใช่มั้ย  มาร์ค...ป๊อก?
     เห็นตำรวจใหญ่ๆ  จะเป็นพวกมะเขือเทศ  หรือมะเขือโปกช้างก็ไม่ทราบแหละ  จะอ้าง  จะแก้ตัว  จะปัดความรับผิดชอบ  จะประชด  หรือจะด้วยอะไรก็ช่างเถอะ  แต่มีประโยคหนึ่งติดปากพวกเขาตลอดว่า  "จะให้สลายม็อบก็เซ็นเป็นลายลักษณ์อักษรมา  พวกผมไม่อยากซวยเหมือนตอน  ๗  ตุลา.ตกเป็นผู้ต้องหาหมด"
     เมื่ออ้างกันแดงจะจะอย่างนี้  โดยไม่มีการแยกแยะสถานการณ์  ก็หมดความจำเป็นพูดกันถึงเหตุผล  สรุปอีกที  วันนี้...ประเทศชาติก็เป็นเรื่องของ  "ประชาชน"  นั่นแหละต้องรับภาระ
     กรุงศรีอยุธยาแตกทั้ง  ๒  ครั้ง  ไม่ได้แตกเพราะชาวบ้าน  แต่แตกเพราะ  "ข้าราชการ-คนหลวง"  อย่างหนังจีน  กี่เรื่อง-ต่อกี่เรื่อง  ฮ่องเต้มีอันเป็นไปสาเหตุใหญ่ก็มาจากพวกหลี่กงกง  อันเป็นประเภท  "คนข้างใน"  กังฉิน-ใกล้ชิดนั่นแหละ  และประเทศชาติ-ราชวงศ์ที่กู้กันขึ้นมาใหม่  พวกข้าราชการที่ไหน  "สามัญชนรักชาติ"  นั่นแหละ...ไม่ใช่ใคร
     ปักดาบ...กู้ขึ้นมาให้ทุกที!.

http://www.thaipost.net/news/270410/21381


หัวข้อ: Re: [2513]"ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: เหยง 16 ที่ 27 เมษายน 2553, 09:06:11
บทวิเคราะห์ของ "ท่านขุนน้อย"

ถอดกระไดรอ!!!
ท่านขุนน้อย 27 เมษายน 2553 - 00:00

     เสียดาย...ที่ตัวเองไม่ได้มีความรู้ด้าน  หมอดู  ติดตัวมาเลยแม้แต่น้อย  แม้นว่าจะเคยมีน้องๆ  บางราย  ชักชวนให้ไปลองศึกษาท้องฟ้า  ดวงดาว  ให้เห็นกันจะจะ  แต่พอเข้าช่วงดึกๆ  ดื่นๆ  น้ำค้างร่วงผล็อยๆ  ยังไม่ทันจะได้เงยหน้าดูฟ้า  ก็ดันหลับคาเต็นท์ไปเรียบร้อยแล้ว  ด้วยเหตุนี้...ภายใต้สถานการณ์บ้านเมืองอันสุดแสนจะพิลึกกึกกือเช่นนี้  โอกาสจะงัดเอาวิชาหมอดูมาแก้ขัด   ใช้เป็นเครื่องมือแยกแยะสถานการณ์ต่างๆ   ดังที่ท่านปรมาจารย์  ป๋าเปลว  สีเงิน  ท่านแสดงให้เห็นเป็นแบบอย่าง  จึงเป็นไปไม่ได้เอาเลย...            ---------------------------------------------
     อย่างว่านั่นแหละท่าน...สถานการณ์ความเป็นไปในบ้านเมืองทุกวันนี้  มันช่างเป็นอะไรที่เหลือกำลังลาก  เกินกว่าจะเอาเหตุเอาผล  เอาทฤษฎีใดๆ  เข้าไปวิเคราะห์  แยกแยะ  หาข้อสรุปกันได้ง่ายๆ  ไม่ว่าจะเป็นนักวิเคราะห์  นักประเมินสถานการณ์  ระดับขี่กระเรียนเหยียบเมฆ  นักวางแผนยุทธศาสตร์  ยุทธวิธี  ระดับขี่เมฆมารบกันบนท้องฟ้า  แต่เจอเข้ากับสถานการณ์ที่มวลชนเสื้อแดงประมาณ   10  คน   เข้าปิดล้อมการขนส่งกำลังทหารที่จังหวัดพิษณุโลก  จนทหารนับเป็นกองร้อย  กองพัน  ไม่อาจทำอะไรได้  ต้องงัดเอกสารทางราชการมาเปิดเผย พร้อมขอร้อง  วิงวอน  ให้ช่วยเปิดทางผ่านไปสับเปลี่ยนกำลังที่ภาคใต้...เจอเข้ากับลักษณะอาการเช่นนี้  นักวิเคราะห์ทั้งหลายต่างก็ใบ้รับประทานไปตามๆ  กัน...แทบไม่เชื่อว่า  อะไรมันช่าง...ทำ...ไป...ได้  ถึงปานนั้น...
           -----------------------------------------------
     การประเมินขีดความสามารถของพวกก่อความไม่สงบวุ่นวาย  ต่ำไป  นั้น  คงไม่ถึงกับเท่าไหร่  แต่การประเมินขีดความสามารถของผู้ซึ่งมีหน้าที่รักษาความสงบเรียบร้อย  สูงไป  อันนี้...นี่แหละ  ที่ทำให้ใครต่อใครต่างต้องเกิดอาการอ้วกแตก  อ้วกแตน  ไปตามๆ  กัน  การปิดล้อม  ขัดขวาง  เจ้าหน้าที่  ฝ่าฝืนกฎหมาย  นำเอากฎหมู่มาบังคับใช้ได้อย่างเป็นเนื้อเป็นหนัง  ส่งผลให้ราษฎรนับเป็น  50-60  ล้าน  ต้องตกอยู่ภายใต้ความปรารถนา  ความต้องการของคนแค่ไม่กี่สิบ  กี่ร้อย  ไม่กี่พัน  กี่หมื่น  โดยที่เจ้าหน้าที่ผู้รักษากฎหมาย  กลับตั้งแถวเดินไปกินข้าวกล่องของผู้ก่อความไม่สงบเรียบร้อยอย่างรื่นเริงบันเทิงใจ  ทั้งๆ  ที่ยังรับประทานภาษีอากรของปวงชนทั่วประเทศอยู่ทุกปี  ทุกเดือน  อันนี้...ต้องเรียกว่า  เล่นเอาไอ้เรืองน้ำตาตกใน  คิดไม่ถึงว่าระบบราชการ  บ้านเมือง  มันจะตกต่ำไปได้ถึงเพียงนั้น...
          ------------------------------------------------
     พูดง่ายๆ  ว่า...มันเป็นฉากสถานการณ์ที่แทบจะเอาเหตุเอาผล  เอายุทธศาสตร์  ยุทธวิธี  เอากองกำลัง  ของแต่ละฝ่ายมาวิเคราะห์ประเมินบนโต๊ะทรายแทบไม่ได้เอาเลย  มีแต่จะต้องกางแผนที่ดวงดาว   ลากเส้นความเชื่อมโยงระหว่างดาวพฤหัส  ดาวอังคาร  ดาวเสาร์  ดาวเนปจูน  พลูโต  หรือแม้กระทั่งดาวไถ  กันไปตามเรื่องตามราวเท่านั้น  แต่ก็อีกนั่นแหละ...ระหว่างหมอดูของฝ่ายผู้ก่อความไม่สงบ  กับ  หมอดูของฝ่ายผู้ต้องการที่จะเห็นความสงบเรียบร้อย   ก็ดันวิเคราะห์ตีความอิทธิพลดวงดาวกันไปคนละทางสองทาง  ประเภทที่เคยฟันธงกัน  แบบหักแล้วหักอีก  ก็ยังอุตส่าห์คว้าธงผุๆ  ออกมาฟันเปรี้ยง  สรุปว่า  เสื้อแดงชนะแน่  หรือ  ทักษิณกลับประเทศไทยได้แน่    ขณะที่ฝ่ายตรงข้ามหันมาคว้ากระดานชนวนทุบเปรี้ยงลงไปว่า  เสื้อแดงเจ๊งแน่  หรือ  ทักษิณ...ตายแหน่...ตายแหน่...ตายแหน่  ก็เลยไม่รู้ว่าจะเชื่อข้างไหนดี  แม้นว่าฝ่าย  ป๋าเปลว  สีเงิน  จะเป็นต่อ  3-2  ไม่นับทดเวลาบาดเจ็บก็ตามที...
          -------------------------------------------------
     เอาเป็นว่า...ภายใต้สถานการณ์ความเป็นไป  ซึ่งกำลังอยู่ในรูปลักษณะเช่นนี้  ก็คงไม่มีอะไรดีกว่าการ...รอ...จนกว่า  ความจริง  จะปรากฏขึ้นมาเองนั่นแหละท่าน  อย่างที่นักปราชญ์ฝรั่งเค้าได้เอ่ยเป็นวาทะเอาไว้นานแล้วว่า  ความจริงนั้นรอได้...เพราะความจริงเป็นฝ่ายที่รอคอยจนชินซะแล้ว  ซึ่งความจริงในที่นี้...คงไม่ใช่แค่ข่าวสาร  ข้อมูล  ข้อเท็จจริง  เท่านั้น  แต่ยังหมายถึงความถูกต้อง  ชอบธรรม  คุณธรรม  ศีลธรรม  อันเป็นส่วนหนึ่งและส่วนสำคัญของ  ความจริงสูงสุด  หรือ  สัจจธรรม  ไม่ว่าผู้ประพฤติผิด  ไร้ความชอบธรรม  ไร้คุณธรรม  ศีลธรรม  จะออกฤทธิ์  ออกเดช  เผ่นผกหกเหินคะนอง กันยังไงก็แล้วแต่  แต่เมื่อทุกสิ่งทุกอย่างมันชักจะเลยขีดจำกัดความอดทน  อดกลั้น  ของมนุษย์มากยิ่งขึ้นทุกที...ท้ายที่สุดมันก็คงต้อง  เจ๊งแน่ๆ  และ  ตายแหน่...ตายแหน่  อย่างไม่พึงสงสัย...
          -------------------------------------------------
     เพียงแต่ในช่วงระหว่าง  รอ  นี่แหละท่าน...ก็คงต้องหาทาง  ทำใจ  หรือไม่ก็ต้องหาอะไรต่อมิอะไรมาทำแก้ขัดไปตามสภาพ  ใครที่ถนัดถักนิตติ้งก็นั่งถักนิตติ้งกันต่อไป  ใครที่ถนัดปอกกล้วยในบ้างร้างก็หยิบมาปอกเป็นหวีๆ   ซะให้เข็ดมือ   อย่าเผลอไปเปิดโทรทัศน์  เปิดวิทยุ  อ่านหนังสือพิมพ์โดยเด็ดขาด  เพราะโอกาสที่จะเกิดอาการ  ของขึ้น  เส้นประสาทในร่างกายสั่นกระตุก  ฝ่าเท้าร้อนวูบๆ  วาบๆ  เหมือนโดนมะนาวบีบใส่  อย่างที่เค้าเรียกๆ  กันว่า  เปรี้ยวตีน  นั่นแหละ...ย่อมมีความเป็นไปได้สูงเอามากๆ  ซึ่งสิ่งเหล่านี้ย่อมจะไปทำลายความอดทน  อดกลั้น  อันเป็นสิ่งที่สังคมในขณะนี้ต่างปรารถนาและต้องการเสียเหลือเกิน...
           ----------------------------------------------
     แต่ก็อย่างว่า...สำหรับผู้ซึ่งมีหน้าที่โดยตรงในการที่จะต้องติดตาม  ข่าวสาร  ความเคลื่อนไหวของบ้านเมืองในแต่ละวัน  อย่างเช่น  ท่านขุนน้อย  เป็นต้น  เดิมทีตั้งใจว่า  ภายใต้สถานการณ์แห่งการรอคอยเช่นนี้   น่าจะหาทางทะลุออกไปนอกโลก   นอกจักรวาลกันดีหรือไม่?  ถือเป็นการเปิดโอกาสให้ท่านนายกฯ  อภิสิทธิ์  และท่านผู้บัญชาการทหารบก  พลเอก  อนุพงษ์ ท่านได้มีโอกาสรำหน้าพาทย์  ตามเสียงปี่พาทย์  ระนาดไม้นวม  ต่อไปอีกซัก  3-4  จบ  เพื่อไม่ให้เสียหน้าคณะลิเกคู่แข่งอย่าง  ไชยา  มิตรชัย  แต่คิดไป-คิดมาแล้ว...เห็นทีจะไม่ไหว!!!อย่างน้อยก็คงต้องคอยกระชุ่น  คอยกระตุ้น  กันมั่ง  เพราะอย่างที่ว่าเอาไว้แล้วนั่นแหละ...เท่าที่ผ่านมาเหตุที่สถานการณ์มันลุกลามบานปลายมาถึงระดับนี้  ก็เนื่องมาจากเราทั้งหลายดันไปประเมินขีดความสามารถของผู้ซึ่งมีหน้าที่รักษาความสงบเรียบร้อย   สูงเกินไป  ทุกสิ่งทุกอย่างในบ้านเมือง  มันจึงเลยเถิดไปถึงขั้น  กินไม่ได้  นอนไม่หลับ  อยู่เช่นทุกวันนี้...
          -------------------------------------------------
     ปิดท้ายด้วยวาทะวันนี้  จาก  เอช. จี. เวลล์ส...ชีวิตจะได้รับบทเรียนที่มีค่าที่สุด  ท่ามกลางความทุกข์ยาก...

http://www.thaipost.net/news/270410/21366


หัวข้อ: Re: [2513]"ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: เหยง 16 ที่ 27 เมษายน 2553, 09:10:08
บทความ"ถูกทุกข้อ" ของ สามวา สองศอก

ยุคกบฏครองเมือง
ถูกทุกข้อ 27 เมษายน 2553 - 00:00

 เรียน คุณสามวา สองศอก
     เพราะด้วยความอ่อนแอของฝ่ายที่มีหน้าที่โดยตรงในการรับผิดชอบต่อความสงบเรียบร้อยของบ้านเมือง  ปล่อยปละละเลยต่อความรับผิดชอบ  ไม่ศึกษากฎหมายและอำนาจที่ตัวเองมีอยู่  และจะต้องปฏิบัติให้เป็นไปตามความรับผิดชอบ  บ้านเมืองในขณะนี้จึงเป็นกลียุค  และแสนวิกฤติอย่างสุดๆ
     ไม่เคยมีครั้งใดที่ผู้ก่อการร้าย  (กบฏ)  จะสามารถแสดงอิทธิฤทธิ์  กำแหงหาญ  ขนาดทำร้ายทหาร  ปลดอาวุธทหาร  ปล้นอาวุธจากผู้มีหน้าที่ที่จะใช้อาวุธภายใต้  พ.ร.ก.ฉุกเฉินร้ายแรง  แต่กลับปล่อยให้กฎหมู่อยู่เหนือกฎหมายได้อย่างไม่น่าเชื่อ
     เอาอย่างนี้ดีกว่าครับ   หากไม่มีน้ำยาก็ให้โอกาสคนที่เขามีความสามารถมาทำงานดีกว่า  ประเทศชาติฉิบหายมามากเกินพอแล้ว  ผู้ก่อการร้ายประกาศตัวอย่างโจ่งแจ้ง  ขนาดกล้าลบหลู่สถาบันฯ  กลางนครหลวงจะจะ  ทั้งรัฐบาล  ทหาร  ตำรวจ  กินภาษีราษฎรจนมีตำแหน่งเกินราษฎรสามัญหลายร้อยเท่า  จะทำหน้าด้านต่อไปอีกถึงไหนกัน
     คนบาดเจ็บจนถึงตายไปแล้วขนาดนี้  พวกเสื้อแดงยังมีราคาอยู่อีกหรือ  โทษประหารตามกฎหมายแล้วทุกคนชัดๆ  ยังปล่อยให้ลอยนวลอยู่ได้
                                                           อำมาตย์กรุง
ตอบ อำมาตย์กรุง
     เกิดมาก็เพิ่งเคยเห็นรัฐบาลและกองทัพแสดงความอ่อนแอให้ชาวบ้านได้เห็น  ปล่อยให้พวกกบฏมันอยู่เหนือกฎหมาย  นี่ขนาดมี  พ.ร.ก.ฉุกเฉินยังขนาดนี้  แสดงว่าพวกกบฏไม่ได้เห็นรัฐบาลหรือกองทัพอยู่ในสายตา  มันต้องมีคนเก่งกล้ากว่ารัฐบาลและกองทัพหนุนหลังอยู่
     ก็ได้แต่ภาวนาอย่าให้พวกกบฏมันจับตัวนายกฯ  อภิสิทธิ์กับพลเอกอนุพงษ์ได้  เดี๋ยวมันเอาไปแก้ผ้าโชว์ที่สี่แยกราชประสงค์อายเขาตายเลย
                    การตั้งรับกับการเข้าตี     
เรียน คุณสามวา สองศอก
     ขณะนี้คนเสื้อแดงได้ใช้ถนนและพื้นที่บริเวณสี่แยกราชประสงค์เป็นพื้นที่ตั้งรับ  โฆษณาปลุกระดมมวลชนของคนเสื้อแดงไปเรื่อยๆ  รอเวลาคิดที่จะเข้าตีต่อไปหรือไม่กับย่านถนนสีลม  หากระดมพลได้ไม่มากพอก็อาจไม่ขอเข้าตีต่อไปที่ย่านสีลม  แต่จะยึดพื้นที่ราชประสงค์ชุมนุมต่อไปให้เศรษฐกิจชาติมันฉิบหายไปเรื่อยๆ
     ในขณะที่กองกำลังทหารฝ่ายรัฐบาลเอง  ก็ยังคงยึดหลักการตั้งรับที่ถนนสีลมไปเรื่อยๆ  เหมือนกัน  รอเวลาให้คนเสื้อแดงเกิดฮึกเหิม  รวมกำลังกำแพงมนุษย์ได้มากพอเคลื่อนเข้าตียึดถนนสีลม  และเมื่อถึงเวลานั้นกำลังทหารของพลเอกอนุพงษ์ก็จะดำเนินการสกัดกั้นตามขั้นตอนจากเบาไปหาหนัก  7  ขั้นตอนที่วางไว้
     ขณะที่เขียนเรื่องนี้อยู่เมื่อคืนวันที่  22  เมษายน  2553  ก็ดันผ่ามีเหตุการณ์ยิงเอ็ม  79  4-5  นัด  ตกเข้าใส่ผู้ชุมนุมเสื้อหลากสีจนตาย  1  คนและบาดเจ็บนับสิบคน  มันช่างตรงกับที่นอสตราดามุส  "จิ๋ว"  ผู้พยายามดึงฟ้าสูงแผ่นดินต่ำเพิ่งพูดแหม็บๆ  เลย  ว่าจะมีคนบาดเจ็บล้มตายอีก  หากไม่ทรงมีพระมหากรุณาธิคุณโปรดเกล้าฯ...ช่างน่าแปลกดีไหมล่ะครับ!!!?
     ผมทายเอาไว้ว่าในที่สุดคนเสื้อแดงจะมองยุทธศาสตร์ตั้งรับดังกล่าวออก  และจะใช้ยุทธศาสตร์ดังกล่าวนั้นแทนที่การใช้ยุทธวิธี  นั่นก็คือใช้การชุมนุมยืดเยื้อไปเรื่อยๆ  ที่สี่แยกราชประสงค์  ในขณะเดียวกันก็ยื่นฟ้องต่อศาล  ถ่วงเวลาลดอำนาจการปฏิบัติการทางทหาร  พยายามทำลายความน่าเชื่อถือของรัฐบาลและ  ศอฉ.ลง  และการทำลายความฉิบหายวายวอดทางเศรษฐกิจ  การท่องเที่ยวต่างๆ  ต่อไป   
     เพราะอ่านทาง  อ่านพฤติกรรม  การกระทำของแม่ทัพป๊อกออกอย่างทะลุปรุโปร่งแล้วว่า  "นิ่งเฉยตำลึงทอง"  เรื่องอะไรจะแอ่นอกรับเต็มตัวประกาศใช้กฎอัยการศึก  สู้ทนใช้  พ.ร.ก.ฉุกเฉินให้ผู้นำรัฐบาลช่วยรับไปเต็มๆ  เสียดีกว่า
     ดังนั้นการประกาศใช้กฎอัยการศึกเข้าสลายผู้ชุมนุมก่อการร้ายเสื้อแดงจึงไม่มีวันเกิดขึ้นได้...ผมฟันธงกันจะจะเลยว่าน่าจะต้องเป็นเช่นนี้!!?
     ในเมื่อต่างฝ่ายต่างตั้งรับ  ไม่มีการริเริ่มการเข้าตีต่อกัน  ชัยชนะในทางยุทธวิธีย่อมไม่เกิดขึ้นกับฝ่ายหนึ่งฝ่ายใด  แต่ชัยชนะในทางยุทธศาสตร์ย่อมเกิดขึ้นกับฝ่ายเสื้อแดงอย่างแน่นอน  เพราะฝ่ายเสื้อแดงยึดปมคมนาคมสำคัญของชาติด้านเศรษฐกิจของชาติเอาไว้เป็นตัวประกันในมือ
     กองกำลังทหารฝ่ายรัฐบาลของพลเอกอนุพงษ์เองนั่นแหละ  จะต้องริเริ่มเป็นฝ่ายเข้าตีสลายกองกำลังชุมนุมก่อการร้ายก่อนที่สี่แยกราชประสงค์   แทนที่จะตั้งรับวัดใจกับสามเกลอหัวขวด  ซึ่งผมรับประกันได้ว่าสามเกลอจะใช้ความอึดอย่างหนาตราช้าง  ความหน้าด้านของพวกขี้ฉ้อ  และความตื๊อเท่านั้นที่จะครองโลกได้  โดยหลีกเลี่ยงการเข้ายึดบริเวณสีลมตามแผนการเดิมที่วางเอาไว้
     การเขียนบอกถึงแผนการเข้าตี  ผมจะไม่เขียนในที่นี้เพราะเป็นความลับ  ปล่อยให้ไอ้ทหารแตงโมกบฏมันหาข่าวเอาเอง  แต่ผมอาจจะเขียนยุทธการลับส่งถึงรัฐบาลและผู้มีหน้าที่รับผิดชอบให้ดำเนินการต่อไป
     ซึ่งผมบอกใบ้นิดเดียวก็ได้ว่า  การรบที่ไม่ต้องเสียเลือดเนื้อมากมาย  และ  "ประทับใจป๊อก"  ในครั้งนี้  ก็คือการประกาศกฎอัยการศึกในพื้นที่และใช้ยุทธศาสตร์  "การตัดกำลังบำรุง"  ในยุทธวิธีปิดล้อมต่อกบฏก่อการร้ายเสื้อแดงไม่ให้ได้กินข้าวกินน้ำ  ซึ่งคงต้องใช้เวลาสี่ห้าวัน  และกำลังพลที่ปฏิบัติจะต้องทำให้ได้จริง  หากมีการขัดขืนการกระทำก็ต้องใช้กำลังจัดการขั้นเด็ดขาด
     และจะให้สั้นเข้าก็ต้องใช้การปล่อยอาวุธชีวภาพแสวงเครื่องง่ายๆ  เช่น  ระเบิดพริกไทยป่นถุงละ  5  กิโลกรัมหลายๆ  ถุงลงไปจาก  ฮ.ทุกวันใส่พื้นที่ราชประสงค์  ถ้ายังทนดื้อด้านสู้อีกโดยไม่ยอมยกธงขาวเสือกยกธงแดงอยู่ตลอด  ก็ล้อมปราบกบฏที่กำลัวหิวโซและแสบหูแสบตา ให้เรียบร้อย  "โรงเรียนพันธะอนุพงษ์ศึกษา"  เลยทีเดียวเชียว
     ชัยชนะในทางยุทธศาสตร์นั้น  ย่อมนำมาซึ่งชัยชนะในทางยุทธวิธี  แต่ชัยชนะในทางยุทธวิธีอย่างเดียวอาจไม่ใช่ชัยชนะทางยุทธศาสตร์  พลเอกอนุพงษ์จะมียุทธศาสตร์อะไรอีกไหมในเวลานี้  ที่ท่านจะคิดวิธีการเอาชนะสามเกลอหัวขวดให้ได้
     อย่าลืมนะว่าท่านจบโรงเรียนนายร้อยพระจุลจอมเกล้า  โรงเรียนเสนาธิการทหารบก  ปริญญาโทรัฐประศาสนศาตร์และวิทยาลัยป้องกันราชอาณาจักร  มีประสบการณ์ในการทำงานราชการสูง  ตรงกันข้ามกับสามเกลอหัวขวดไม่ว่าจะเป็นชาติวุฒิ  คุณวุฒิ  วัยวุฒิ  และบุญวุฒิใดๆ  ย่อมไม่สามารถเทียบเคียงกับท่านได้ในทุกกรณี  (แต่หากถ้าจะพอเทียบได้สามชั้น  ก็เห็นจะเป็นบรรดากองเสนาธิการกบฏที่ตึกชั้น  3  อาคารชินวัตร  ส่วนปฏิบัติการร่วมกับพรรคเพื่อไทยเท่านั้นแหละกระมัง)
     ในเมื่อแม่ทัพนิ่งดูดายแบบดู่..ดู๋...ดู...ดูเธอทำ  ไม่ขยับรุกเข้าตีเพื่อให้ได้พื้นที่กลับคืนมา  ในที่สุดแล้วความรับผิดชอบย่อมตกอยู่กับรัฐบาล  ที่ในที่สุดอาจนำไปสู่เกมการยุบสภาของคนเสื้อแดง  เพราะแรงกดดันทุกๆ  ฝ่ายที่ต้องมากขึ้นเรื่อยๆ  อย่างหลีกเลียงไม่ได้นั่นเอง 
     นายกรัฐมนตรีอภิสิทธิ์จึงจะต้องตัดสินใจเข้าตีวงไพ่นกกระจอก  เกมไพ่ป๊อกที่เล่นอยู่ต้องกระเด้งถอนตัวจากการรบในความกดดันออกไป  โดยปล่อยให้ผู้นำทัพที่ชอบการเข้าตีเข้ามาทำหน้าที่เป็นเจ้ามือไพ่วงนี้ต่อแทน  หรือว่าผู้นำรัฐนาวาจะยอมทนให้เล่นเป็นไพ่ป๊อกแบบธรรมดาๆ  ต่อไปก็ลองคิดดูเอาเองเถอะครับ!!?
     และการเล่นไพ่เกมใหม่ของผู้นำกองทัพคนใหม่  ก็จะเปลี่ยนไปเล่น  "ไพ่ตีแตก"  อ่านเกมของสามเกลอหัวขวดให้เป็นผีหัวขาด  เกทับจนหมดกระเป๋าเหมาทั้งวงแดงราชประสงค์  ความสงบสุขไพบูลย์สำหรับคนดีก็จะกลับมาสู่ประเทศไทยโดยเร็วพลันในที่สุด
     ผมยังคิดถึงในสมัยก่อนๆ  เมื่อผมยังเป็นเด็กอยู่นั้น  ผู้นำไทยปกครองประเทศไทยเป็นนายทหารชายชาติทหาร  ท่านจะมักให้คำขวัญที่ผมและใครก็จำได้ขึ้นใจมาจนทุกวันนี้ว่า
     1.เชื่อผู้นำไทยชาติพ้นภัย
     2.ข้าพเจ้าขอรับผิดชอบแต่เพียงผู้เดียว
     มาสมัยนี้โดยเฉพาะเหตุการณ์ที่กำลังเกิดขึ้นนี้  ประชาชนคนไทยที่รักความสงบ  และความมีสิทธิเสรีภาพที่แท้จริง  กำลังจับตาดูพฤติกรรมการกระทำของนายกฯ  อภิสิทธิ์  และพลเอกอนุพงษ์  ผู้นำกองทัพว่า
     1.ถ้าจะเชื่อผู้นำไทยอีกต่อไป  ชาติจะบรรลัยหรือไม่!!?
     2.กูไม่อยากรับผิดชอบอะไรเลย  เพราะประเทศไทยไม่ใช่ของกูคนเดียว  พวกมึงช่วยกูรับผิดชอบหน่อยเถอะน่า...นะ
     กรุงรัตนโกสินทร์กำลังจะสิ้นคนดี  โดยมีแต่คนเลวคนเอาตัวรอดอยู่หรือไม่?  ขอให้ประชาชนทุกคนติดตามกันต่อไปตาอย่าได้กะพริบ  แต่ที่แน่นอนที่สุดในเวลานี้  กรุงรัตนโกสินทร์กำลังจะเพิ่มกลุ่มประชาชนสามัคคีหลากสีไม่สี  เข้ามามีส่วนรับผิดชอบเพื่อขับไล่อำนาจของพวกคนแดงเถื่อนออกไป  โดยไม่อาจที่จะฝากความหวังไว้กับทหารได้อีกต่อไปแล้ว!!?
     คำว่า  "ประเทศเป็นบ้าน  ทหารเป็นรั้ว"  ในอนาคตก็คงเปลี่ยนไปเป็น  "ประชาชนเป็นรั้ว  และทหารอยู่เฝ้าบ้าน"  "ชาติ  เกียรติ  วินัย  กล้าหาญ"  ของทหารก็ต้องเปลี่ยนไปเป็น  "ขายชาติ  ขาดเกียรติ  ไร้วินัย  และไม่กล้าหาญ"
     แต่กล้าถอย  กลัวๆ  กล้าๆ  เอ้อๆ  อ้าๆ  อู้ๆ  อี้ๆ  มันอย่างเดียวอยู่นั่นแหละ  กว่าถั่วจะสุกงาก็ไหม้  แผลเล็กก็จะเป็นแผลใหญ่  แผลร้าย  แผลคม  แผลชัด  แผลลึก  จนไม่มีทางใดรักษาให้หายขาดได้เลย
                                                        ด้วยความเคารพ             
                                                           เสธ.เหลือง
                                                   ผู้ทรงคุณธรรมกองทัพบก 
ตอบ เสธ.เหลือง
     จิ๋วบัญชาการรบกับลาวยังแพ้  แต่พลเอกอนุพงษ์  เผ่าจินดา  ผบ.ทบ.ยังไม่มีน้ำยาจะไปทำอะไรพลเอกชวลิตและเสธ.แดง  ทั้งๆ  ที่นายกฯ  อภิสิทธิ์ก็ได้ระบุชื่อออกมาแล้ว  ชาวบ้านก็อยู่บ้านสวดมนต์ไปพลางๆ  ก็แล้วกัน
                                                        สามวา สองศอก

http://www.thaipost.net/news/270410/21363


หัวข้อ: Re: [2513]"ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: เหยง 16 ที่ 27 เมษายน 2553, 15:54:47
ที่สุด"ภูมิใจไทย"ก็เปลี่ยนม้า แต่ นรม.อภิสิทธิ์ ไม่มีสิทธิขี่
อธิบดีกรมการปกครองคนเก่า เป็นผู้ใกล้ชิดทั้งกลุ่มเจ้แดงและกลุ่มภูมิใจไทย
แต่อธิบดีคนใหม่ เป็นสายเนวินบุรีโดยตรง รวมทั้งกรมพัฒนาชุมชน

มท.ขอไฟเขียวครม.โยกย้ายนอกฤดูกาล อธิบดี-ผู้ว่าฯ 6 ตำแหน่ง

วงศ์ศักดิ์ สวัสดิ์พาณิชย์ พ้นอธิบดีกรมการปกครอง

     เมื่อวันที่ 27 เม.ย. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่ประชุมครม. ได้มีมติเห็นชอบตามที่กระทรวงมหาดไทยเสนอบัญชีรายชื่อข้าราชการพลเรือนสามัญ กระทรวงมหาดไทย จำนวน 6 ตำแหน่ง คือ
นายพินิจ เจริญพาณิช พ้นจากตำแหน่งผู้ตรวจราชการกระทรวง สำนักปลัดกระทรวงมหาดไทย
นายวงศ์ศักดิ์ สวัสดิ์พาณิชย์ พ้นจากอธิบดีกรมการปกครอง ให้ไปดำรงตำแหน่ง ผู้ตรวจราชการกระทรวงมหาดไทย สำนักงานปลัดกระทรวงมหาดไทย
นายมงคล สุระสัจจะ พ้นจากอธิบดีกรมการพัฒนาชุมชน ให้ไปดำรงตำแหน่ง อธิบดีกรมการปกครอง 
นายวิเชียร ชวลิต พ้นจากตำแหน่งผู้ว่าราชการจังหวัดสุรินทร์ ให้ไปดำรงตำแหน่งอธิบดีกรมการพัฒนาชุมชน
นายระพี  ผ่องบุพกิจ พ้นจากผู้ว่าราชการจังหวัดศรีสะเกษ ให้ไปดำรงตำแหน่งผู้ว่าราชการจังหวัดสุรินทร์
นายกองเอกวิลาศ รุจิวัฒนพงศ์ รองอธิบกรมการปกครอง ให้ไปดำรงตำแหน่งผู้ว่าราชการจังหวัดศรีสะเกษ
นายพินิจ เจริญพาณิช ดำรงตำแหน่งรองอธิบดีกรมการปกครอง

ทั้งนี้ ตั้งแต่วันที่ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ แต่งตั้งเป็นต้นไป

     ทั้งนี้นายมงคล สุระสัจจะ เคยดำรงตำแหน่ง ผู้ว่าราชการจังหวัดบุรีรัมย์ ตั้งแต่วันที่ 20 ต.ค. 2551-30 ก.ย. 2552 และวันที่ 1 ต.ค. 2552 ดำรงตำแหน่งอธิบดีกรมการพัฒนาชุมชน


http://www.khaosod.co.th/view_newsonline.php?newsid=TVRJM01qTTBOemcyTXc9PQ==





หัวข้อ: Re: [2513]"ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: suriya2513 ที่ 28 เมษายน 2553, 00:49:16
ตอนเช้าคุณพิเชษฐ์ คงเอาบทความจากหนังสือพิมพ์มาให้อ่านกัน
วันที่ 28 เมย. นี้ คุณเปลว สีเงิน เกรี้ยวกราดได้น่ากลัวจริงๆ ลองอ่านนะครับ


หัวข้อ: Re: [2513]"ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: เหยง 16 ที่ 28 เมษายน 2553, 09:10:20
                                             (http://img217.imageshack.us/img217/4484/royalweddingjubilee.jpg)

วันนี้เมื่อ 60 ปีที่แล้วเป็นวันบรมราชาภิเษกสมรส

ขอนำเสนอเรื่องราวดีๆ เพื่อคนไทยทุกคน สำหรับเช้านี้ โดยคลิ๊กไปอ่านที่
http://www.manager.co.th/Home/ViewNews.aspx?NewsID=9530000057863

6 ทศวรรษ...พระคู่ขวัญแห่งแผ่นดิน


หัวข้อ: Re: [2513]"ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: เหยง 16 ที่ 28 เมษายน 2553, 09:19:56
ขอยกคอลัมม์ "ถูกทุกข้อ" ของสามวา สองศอก ที่เกี่ยวเนื่องกับ ราชาภิเษกสมรส ขึ้นมาก่อน พร้อมๆกับความรู้เรื่อง"เพลงมหาจุฬาลงกรณ์"

ราชาภิเษกสมรส
ถูกทุกข้อ 28 เมษายน 2553 - 00:00

 เรียน คุณสามวา สองศอก
     "ความรักในเพลงพระราชนิพนธ์"  ผมเขียนร่วมกับ  น.ท.หญิงสุมาลี  วีระวงศ์  โดยมีเจตนาจะร่วมฉลองในโอกาส  60  ปี  ราชาภิเษกสมรส  28  เมษายนนี้
     จึงเรียนมาเพื่อกรุณาพิจารณานำไปดำเนินการขยายผลตามที่เห็นสมควร
                                                       ขอแสดงความนับถือ
                                                      พ.อ.วัชระ วีระวงศ์

                   ความรักในเพลงพระราชนิพนธ์
     รักพาใจให้เป็นสุข  บทเพลงพระราชนิพนธ์ทุกบทเพลงมีความรักเป็นแก่นสาร  เผื่อแผ่ความสุข  ความปรารถนาดีให้ด้วยไมตรีจิต  มิตรภาพ  สานสายใยสู่บุคคล  สถาบัน  สังคม  ประเทศชาติ  และครอบคลุมถึงธรรมชาติ  อันเป็นพื้นฐานสำคัญของโลกและชีวิต   
     ความรักในเพลงพระราชนิพนธ์ค่อยๆ  เบ่งบานขยายจากจุดเล็กๆ  ไปสู่มุมมองที่กว้างขวาง  เช่นเดียวกับพระเมตตาที่แผ่ออกไปสุดจะประมาณได้
     เพลงพระราชนิพนธ์ระยะแรกที่ทรงพระราชนิพนธ์ทำนอง  ขณะประทับอยู่ที่ประเทศสวิตเซอร์แลนด์  ตั้งแต่  พ.ศ.2489  แล้วโปรดเกล้าฯ  ให้พระองค์เจ้าจักรพันธ์เพ็ญศิริทรงนิพนธ์คำร้อง  ได้แก่
     "ดวงใจกับความรัก"  เสนอมุมมองเกี่ยวกับความรักที่สมหวัง  สดใส  โดยสัมพันธ์กับความงาม   และคุณค่าของธรรมชาติ  อีกทั้งความตระหนักรู้ว่า  สรรพสิ่งที่ประกอบเป็นความงาม  ความดี  ล้วนมีความรักเป็นแกน     
          "...ตะวันนั้นเหมือนดังดวงใจ       
          หากสิ้นแสงไปรักคลาย
          ขาดความรักเหมือนชีวาวาย         
          จะเป็นหรือตายทั้งใจและกายไม่วายโศกโทรม"
     "เทวาพาคู่ขวัญ"  (พ.ศ.2491)  ชี้ให้เห็นแง่งามบรรเจิดของชีวิต  และคุณค่าของความรัก
          "...โลกนั้นดังเมืองสวรรค์เทวัญสร้างไว้
          พิศดูเป็นคู่ทุกสิ่งล้วนมีรักจริงยิ่งใหญ่
          อันธรรมชาติไซร้ ใช้แรงความรักความใคร่
          ย้อมชีวิตให้ยืนยง..."
     "อาทิตย์อับแสง"   (พ.ศ.2491)   แสดงความรู้สึกห่วงใย  อาลัยหาคนรักยามไกลกัน  เป็นเพลงหวานแกมเศร้า
          "...ทิวาทราม     ยามห่างดวงกมล
          สุริยาหมองหม่น     ปวงชีวิตอับจนเสื่อมทราม
          หวังคอย          คอยเฝ้าโมงยาม
          จวบจนทิวาเรืองงาม สบความรักยามคืนคง"
     น่าสังเกตว่าเพลงพระราชนิพนธ์ที่กล่าวมา  ล้วนมีสาระเกี่ยวเนื่องกับธรรมชาติทั้งสิ้น  ระยะต่อมาเพลงเกี่ยวกับความรักได้แสดงให้เห็นว่า  ความผันแปรของธรรมชาติส่งผลต่ออารมณ์คนได้มาก  เช่น  เพลงยามเย็น  (พ.ศ.2489)  ลมหนาว  (พ.ศ.2497)  เป็นต้น
     "ยามเย็น"   ให้ความรู้สึกหวานแกมเศร้า  โดยเฉพาะเมื่อตะวันโรยแสงลง  ในขณะที่จิตใจห่วงถึงคนรักและความรัก
               "แดดรอนๆ           
          เมื่อทินกรจะลาโลกไปไกล
          ยามนี้จำต้องพรากจากดวงใจ
          ไกลแสนไกลสุดห่วงยอดดวงตา..."
               "แดดรอนๆ             
          หากทินกรจะลาโลกไปไกล
          ความรักเราอยู่คู่กันไป     
          ในหัวใจคงอยู่คู่เชยชม"
     แต่  "ลมหนาว"  ตอนต้นให้ความรู้สึกเบิกบาน  โดยเฉพาะในยามที่ใจเป็นสุข  เต็มเปี่ยมด้วยรัก
          "...ยามลมหนาวพัดโบกโบยโชยชื่น
          เหล่าสกุณร้องรื่นรมย์
          หมู่ดอกไม้ชวนภมรร่อนชม
          ช่างสุขสมเพลินตาน่าดูใจ
              โอ้รักเจ้าเอ๋ยยามรักสมดังฤทัย
          พิศดูสิ่งใดก็แลวิไลแจ่มใสครัน
          อันความรักมักจะพาใจฝัน
          เมื่อรักนั้นสุขสมจิตปอง..."
     ความรู้สึกรื่นรมย์ดังกล่าว ก็แปรเปลี่ยนเป็นเศร้าหมองในท่อนหลัง
          "...ยามลมฝนพัดโบกโบยกระหน่ำ
          หยดหยาดนำน้ำหลั่งนอง
          ผึ้งคู่ทั้งวิหคเหงาเศร้าหมอง
          เกลื่อนกลาดผองมาลีร่วงโรยลงดิน
               เหมือนรักผิดหวัง
          เปรียบดังหัวใจพังภินท์
          น้ำตาหลั่งรินและลามไหลเพียงหยดฝนปราย
          อันความรักมักไม่เป็นดังหมาย ตราบวันตายขมขื่นเอย"
     ลมหนาว-ลมฝน  สองบรรยากาศที่แตกต่างในบทเพลง  ให้ข้อคิดถึงความไม่เที่ยง  ตามหลักธรรมะของพระพุทธศาสนา   รวมทั้งสอดคล้องกับความผันแปรของภูมิอากาศในประเทศไทย  ที่แตกต่างกับภูมิอากาศทางทวีปยุโรป  ด้วยเหตุนี้เพลงลมหนาวภาคภาษาอังกฤษจึงต่างจากภาคภาษาไทย  และใช้ชื่อว่า  Love  in  Spring

     เพลงพระราชนิพนธ์เกี่ยวกับชีวิตรักในวัยครองเรือน  ได้แก่  "เพลงค่ำแล้ว"  (2498)  ซึ่งโปรดเกล้าฯ   ให้พระองค์เจ้าจักรพันธ์เพ็ญศิริทรงประพันธ์คำร้องภาษาอังกฤษชื่อ  Lullaby  ร่วมกับศาสตราจารย์ท่านผู้หญิงนพคุณ  ทองใหญ่  ณ  อยุธยา  และโปรดเกล้าฯ  ให้ท่านผู้หญิงสมโรจน์  สวัสดิกุล  ณ  อยุธยา  ประพันธ์คำร้องภาษาไทย
     เพลงนี้เป็นเพลงกล่อม  สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ  สยามบรมราชกุมารี  ทรงรับสั่งว่า  "ขณะทรงพระเยาว์ทรงฟังเพลงนี้ทีไรหลับทุกครั้ง"
          "...รัตนตรัย  ปวงเทวัญ                     
          ดลบันดาล     แต่ความชื่นบาน  แสนสำราญนิรันดร์
          อยู่ด้วยกัน     เป็นมิ่งขวัญ     อย่าห่างร้างแรมไกล
          สุดรักเอย     ตื่นได้เชยชมดวงใจ"

     ความรักความผูกพันระหว่างพระมหากษัตริย์และอาณาประชาราษฎร์   ปรากฏชัดเมื่อพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวได้พระราชทาน  "เพลงพรปีใหม่"  เป็นมงคลชีวิตแก่พสกนิกรของพระองค์  ในวาระดิถีขึ้นปีใหม่  2495
     และเพลงพรปีใหม่ยังคงเป็นพรประเสริฐ  ในวาระดิถีขึ้นปีใหม่ทุกปีอย่างต่อเนื่อง  เพราะทุกคนก็ซาบซึ้งในพระมหากรุณาธิคุณ
     "สวัสดีวันปีใหม่พา      ให้บรรดาเราท่านรื่นรมย์
ฤกษ์ยามดีเปรมปรีดิ์ชื่นชม      ต่างสุขสมนิยมยินดี
     ข้าวิงวอนขอพรจากฟ้า   ให้บรรดาปวงท่านสุขศรี
โปรดประทานพรโดยปรานี     ให้ชาวไทยล้วนมีโชคชัย
     ให้บรรดาปวงท่านสุขสันต์ ทุกวันทุกคืนชื่นชมให้สมฤทัย
ให้รุ่งเรืองในวันปีใหม่        ผองชาวไทยจงสวัสดี
     ตลอดปีจงมีสุขใจ       ตลอดไปนับแต่บัดนี้
ให้สิ้นทุกข์สุขเกษมเปรมปรีดิ์    สวัสดีวันปีใหม่เทอญ"

     เพลงพระราชนิพนธ์ที่เกี่ยวกับความรักความสามัคคีในหมู่คณะ  เริ่มจากจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยได้ขอพระราชทานเพลงมหาวิทยาลัย  เมื่อ  พ.ศ.2492  จึงโปรดเกล้าฯ  พระราชทานทำนองที่ทรงคิดให้นำไปใส่คำร้อง   ท่านผู้หญิงสมโรจน์   สวัสดิกุล  ณ  อยุธยา  กับนายสุภร   ผลชีวิน  ได้ประพันธ์คำร้องขึ้นถวาย  คือเพลง  "มหาจุฬาลงกรณ์"
     น้ำใจน้องพี่สีชมพู        ทุกคนไม่รู้ลืมบูชา
พระคุณของแหล่งเรียนมา       จุฬาลงกรณ์
     ขอทูนขอเทิดพระนามไท   พระคุณแนบไว้นิรันดร
ขอองค์พระเอื้ออาทร          หลั่งพรคุ้มครอง
     นิสิตพร้อมหน้า          สัญญาประคอง
ความดีทุกอย่างต่างปอง        ผยองพระเกียรติเกริกไกร
     ขอตราพระเกี้ยวยั้งยืนยง  นิสิตประสงค์เป็นธงชัย
ถาวรยศอยู่คู่ไทย             เชิดชัยชโย
     ถึงต้นปี   2497  ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ  ให้นายเทวาประสิทธิ์  พาทยโกศล  นำทำนองเพลงมหาจุฬาลงกรณ์แนวสากลมาปรับแต่งให้เป็นแนวไทยเดิม  เพื่อใช้บรรเลงดนตรีไทย  มหาจุฬาลงกรณ์เป็นเพลงศักดิ์สิทธิ์  คู่จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยมาตราบถึงปัจจุบัน
ตอบ พ.อ.วัชระ
     "ความรักในบทเพลงพระราชนิพนธ์"  ที่คุณกับ  น.ท.หญิงสุมาลี  วีระวงศ์  ร่วมกันเขียน   มีสาระที่ควรจะนำมาเผยแพร่  แต่เนื่องจากมีความยาวมาก  ผมจึงขอตัดทอนเพียงแค่นี้ก่อน  และจะหาโอกาสนำส่วนที่เหลือมาลงอีก
                                                       สามวา สองศอก

http://www.thaipost.net/news/280410/21425


หัวข้อ: Re: [2513]"ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: เหยง 16 ที่ 28 เมษายน 2553, 09:25:29
คอลัมม์ "คนปลายซอย" ของคุณเปลว สีเงิน ในวันนี้ (28 เมษายน 2553)

"บริหารโดยไม่จัดการ" นี่คือ...รัฐบาลอภิสิทธิ์?
เปลว สีเงิน 28 เมษายน 2553 - 00:00 

     ย้ายแค่อธิบดีกรมการปกครองเท่านั้นเรอะ...แล้วเมื่อไหร่จะย้าย   ผบ.ทบ.ที่ชื่อ  "พลเอกอนุพงษ์  เผ่าจินดา"  ด้วยล่ะ  หรืออภิสิทธิ์ไม่คิดจะย้าย  เพราะตัวเองก็จะย้ายจากเก้าอี้นายกฯ  อยู่เหมือนกัน!?
     บ้านเมืองน่ะไม่อ่อนแอหรอก  แต่คนมีอำนาจปกครองบ้าน-บริหารเมืองตะหาก  มันไม่เอาไหน   ถ้าไม่ซุกหัวอยู่แต่ในก้นตัวเอง  ก็หลงอยู่ในโลกจินตนาการตามสูตรสังคมตัวเองมากไป  โดยเข้าไม่ถึง  "โลกและชีวิตจริง"  ของคนเดินดินกินข้าวแกงที่เรียกว่าคนหาเช้า-กินค่ำ
     เมื่อหัวหน้าแต่ละหน่วยไม่มีรังสีแห่งผู้นำบริหารที่เข้มแข็ง-เด็ดขาดให้   "ผู้น้อย"  ได้ใช้เป็นพลังยึดเหนี่ยวเช่นนี้ละก็  การปฏิบัติตามคำสั่งจะให้ห้าวหาญ-ฮึกเหิมมีประสิทธิภาพ-ประสิทธิผลสมใจสุจริตชน
     นั่น...อย่าหมายเลยอภิสิทธิ์-อนุพงษ์!
     นายสุเทพน่ะ   แค่ระดับท่าน  ต่อให้ทำสีหนาทขนาดไหน  ก็อย่าหมายว่าผู้ใต้บังคับบัญชา  ทั้งตำรวจ  ทั้งข้าราชการมหาดไทยจะสนใจเคร่งครัดปฏิบัติตาม  เพราะด้วยสัญชาตญาณมนุษย์และสัตว์   สิ่งแรกที่คิดและทำคือ  ถ้าผู้สั่งไม่มีบารมีให้กลัวจนหัวหดแล้วละก็...กูขอเอาตัวรอดไว้ก่อนดีกว่า
     และโปรดทราบไว้ด้วย...
     แค่วาทะแต่ไร้กะทิของอภิสิทธิ์   ของกองทัพ  ทุกวันนี้อยู่ได้เพราะประชาชนส่วนใหญ่  "รักชาติ-ห่วงสถาบัน"  จึงไม่อยากบั่นทอนอะไรในระหว่างศึก  แต่ในใจลึกๆ  ผมจะบอกให้  มีแต่คนหมั่นไส้ปนสงสัยว่าจะเกาะประเทศ   เกาะตำแหน่งอยู่ไปทำไม  ถ้ามีอำนาจ-มีหน้าที่แล้วไม่ทำอะไร  ทั้งๆ  ที่รู้และเห็นอยู่คาตาว่า
     "ไฟ-คือภัย"  ไหม้หลังคาบ้านแล้ว!?
     ทุกอย่างที่เกิด   และลุกลามไปทั่ว  ผมไม่โทษชาวบ้าน  เพราะที่เป็นเช่นนั้นจนถึงขั้นเรียกว่า   "กบฏต่อบ้านเมือง"   นั้น  ทั้งตัวการชักใย  และตัวนำปฏิบัติการแข็งบ้าน-แข็งเมือง   ร้อยละ  ๖๐-๙๐%  เป็นใครท่านก็ทราบใช่มั้ย?
     ทักษิณ-แค่ตัวตัวละครถูกเชิดหลอกใช้เอาเงิน  ถึงเวลาจะถูกเขี่ยลงเข่งไปเองโดยอัตโนมัติ   แต่ตัวการใหญ่อันเป็น  "ไอ้โม่ง"  เหนียงยาน-ตาพอง  "ตัวจริง"  ผสมด้วยข้าราชการการเมืองในระบบรัฐสภาที่เรียกว่า  "ส.ส."  ของพรรคไหนก็รู้-ก็เห็นคาตากันอยู่แล้ว
     ผสมเครือข่าย  "ไม่ตำรวจก็ทหาร-ไม่ทหารก็ตำรวจ"  หรือทั้งตำรวจ-ทหาร  ผสมด้วยข้าราชการพลเรือน   นำชาวบ้านก่อการแข็งบ้าน-แข็งเมือง  ปิดถนน  ค้นรถ  ยึดศาลากลาง  กระทั่งจับตำรวจ-ทหารไปขัง  มันก็ทำได้
     เพราะอะไร...?
     เพราะทหารแตงโม   ตำรวจมะเขือเทศ  ส.ส.บางคน  แฝงเป็นหัวหน้าขบวนการบ้าง  เป็นแนวร่วมต่างหน้าที่   "ทำไม่รู้-ไม่ชี้"  บ้าง  ระดับชาวบ้านโดดๆ  ไม่มีใครกล้าทำอย่างนั้นได้   แต่พอมีเส้น-มีสีแผ่บารมีให้ความคุ้มกัน  มันจึงกร่าง  เป็นหมาจูสะบัดหาง   ชูแผงคอให้คนเห็นว่าเป็นราชสีห์!
     และทำไมทหารแตงโม  ตำรวจมะเขือเทศ  และคนมหาดไทยในหลายพื้นที่  นับวันยิ่งกล้าเปิดเผยตัวเป็นแนวร่วมขบวนการกบฏชาติมากขึ้นอย่างนั้น?
     ซื่อสัตย์-ภักดีทักษิณงั้นรึ?
     มั่นใจว่าทักษิณจะได้กลับมาสถาปนา  "รัฐทักษิณไทยใหม่"  งั้นรึ?
     เปล่าเลย...ข้ออ้างเหล่านั้นแค่เปลือก   หวัง   "หลอกกิน-หลอกใช้"  พวกญาติทักษิณ  กับพวกนายทุนระบบทักษิณหน้าโง่ให้  "จ่ายเงิน"  ในแผนซ้อนแผนของไอ้เหนียงยาน  "ตัวการ"  ที่แอบเดินแผนใต้ดินมาหลายสิบปีแล้วนั่นตะหาก
     มันซ่องสุมผู้คนทั้งรุ่นใหม่   รุ่นกลาง  และรุ่นใหญ่  ใน  "ลัทธิล้มเจ้า"  โยงใยจากคนรุ่นใหม่ทั้งในและนอกประเทศ  โดยมีรังใหญ่พรางอยู่ในคราบธุรกิจ  "ทางกฎหมาย"  ชนิดที่ใครก็คาดไม่ถึง!?
     พวกแตงโม-มะเขือเทศ  "ระดับนาย"  รู้แผน-รู้เป้าหมายของไอ้เหนียงยาน  แต่ระดับไพร่ราบ-พลเลวที่ถูกนายใช้ให้มานำชาวบ้านก่อการแข็งเมืองพล่านตามถนน   นั่นไม่รู้อะไรมาก  นอกจากว่า  "นายสั่ง"  กับนาย  "มีเงินมาให้"  และมีความเข้าใจว่า  ช่วยให้ทักษิณได้กลับมาพวกเขาก็จะสบาย
     "ใช้อำนาจในระบบ"  หากินกับขบวนการคาบเกี่ยวกฎหมายโดย  "ระบบทักษิณ"  คุ้มหัวให้เท่านั้น!
     และแค่เดือนกว่า   จาก   ๑๒  มีนาคม  ๒๕๕๓  ถึงวันนี้  ที่  ๒๘  เมษายน  ๒๕๕๓  ด้วยเวลาเท่านี้  ทำไมขบวนการกบฏชาติจึงอุกอาจเหิมเกริมกันได้มากขนาดนี้?
     คำว่า  "ขนาดนี้"  จะพูดให้เห็นภาพว่ามันขนาดไหน  ผมก็จะเทียบให้เห็น  คือ  รัฐบาล-โดยนายอภิสิทธิ์   และกองทัพ  โดยพลเอกอนุพงษ์  เผ่าจินดา  อ่อนแอ  โลเล  ขลาดกลัว  ไร้เอกภาพขนาดไหน  ความเข้มแข็ง  ความมุ่งมั่น  ความบ้าระห่ำอำมหิต  และความเป็นเอกภาพของพวกขบวนการกบฏ  มันก็ขนาดนั้น
     ขบวนการกบฏมันโตขึ้น  เพราะรัฐบาล-กองทัพไม่เอาไหน  ประกอบกับในกองทัพ-ตำรวจและคนระบบรัฐบางส่วน   "ขายชาติ"   เป็นแนวร่วมกบฏ   นี่คือตัวอย่างเลวทั้ง  ๒  ด้าน   จึงเป็นผลที่เกิดกับประชาชน  นั่นคือ
     ระดับชาวบ้านได้รับคำหว่านล้อมชักชวน  ๑  ได้รับอามิสสินจ้าง  ๑  มีความเจ็บแค้นจากความไม่เป็นธรรม  ๑  ติดประชานิยมอยากให้ทักษิณกลับมา  ๑  และเห็น  "รัฐบาล-ทหาร"  แตกแยก  ซ้ำไม่มีน้ำยาอีก  ๑  ก็เลยเฮโลมาเป็นพวกกบฏดีกว่า
     เพราะมีแต่ได้  กับเสมอตัว!
     ได้ยังไง-เสมอตัวยังไง?
     คืออย่างนี้...กบฏมาเป็นเดือนยังปราบไม่ได้  ก็หมายความว่า  "กองกำลังกบฏ"  มีน้ำยาเหนือกว่า  "กองกำลัง"  ของบ้านเมือง  เมื่อชั่งน้ำหนักตามตาชั่งสังคมสัตว์เมืองเช่นนี้  ก็ไม่ต้องคิดอะไรมาก  อิงข้างที่เหนือไว้  ชนะก็ได้เป็นพวกเจ้าเข้าครอง
     แต่ถ้าแพ้-ต้องจำไว้เป็น   "สูตรตายตัว"  เลยว่า...ประชาชนนอกจากมีเอาไว้ตายระหว่าง  "เขาควาย"  แล้ว  "ประชาชนไม่ได้มีเอาไว้เพื่อแพ้"  ให้กับใคร-ฝ่ายไหนทั้งสิ้น!?
     สั้นๆ  ชัดๆ.....
     ประชาชนเป็นสมบัติของคน  "ครองอำนาจ"!
     เดือนกว่า  เท่าที่ผมสังเกตการบริหารปัญหา  "กบฏยึดราชประสงค์"  ของรัฐบาล  ประเทศไทยมี  ๗๖  จังหวัด  รวมทั้ง  กทม. ปรากฏว่า  "ตำรวจ-ทหาร"  ที่กระจายตามท้องถนน   และกระจุกอยู่ในบางสถานที่  นายกฯ  อภิสิทธิ์-พลเอกอนุพงษ์  เกณฑ์ทั้งคน  ทั้งอาวุธยุทโธปกรณ์จากใน  ๗๕  จังหวัด
     มาสุมไว้  "รักษากรุงเทพฯ"  ที่เดียว!
     รักษาได้ก็จะไม่ว่าอะไร  แต่  "ตายซ้ำ-ตายซาก"  ทั้งชาวบ้าน  ทั้งทหาร  โดยเฉพาะ  "ไอ้เณร"  ทหารเกณฑ์บางคนถึงพิการตลอดชีวิตที่นอนเกลื่อนกลาดอยู่โรงพยาบาลพระมงกุฎฯ  นั้น  ผมไม่อยากจะพูดว่า  "ตาย-เจ็บสูญเปล่า"  เพราะความงี่เง่าของผู้บังคับบัญชา  นอกจากไม่กล้าตัดสินใจ  แล้วยังไม่ประสากับยุทธศาสตร์-ยุทธวิธี  "สงครามมวลชน"
     "การข่าว"  ไม่ต้องพูดถึง  ของทหาร-รัฐบาลเยี่ยมอยู่แล้ว!
     "เยี่ยม"   ในที่นี้คือคำชมของฝ่ายกบฏแดง  "เที่ยงตรง-แม่นยำ  และรวดเร็ว"  ประชุมมีแผนออกมาปุ๊บ  ฝ่ายกบฏรู้ปั๊บ  แล้วอย่างนี้จะไม่เยี่ยมได้อย่างไร  จริงมั้ยอภิสิทธิ์-อนุพงษ์?
     แต่ฝ่ายกบฏเคลื่อนไหวอะไร   ตัวการ-ตัวแกนจะหลบไปนอนที่ไหน-กินที่ไหน-ประชุมลับที่ไหน   ไปเยี่ยมเมียที่คลอดลูกแฝดอยู่ห้องไหน   โรงพยาบาลไหน  ใช้ชื่อใครเป็นป้ายหน้าห้อง  "การข่าว"  ของรัฐบาล-ทหาร-ตำรวจ  รู้ชนิดชำนาญแต่ว่า  ผับ  บาร์  ซ่อง  บ่อน  อาบอบนวด  ของใคร  เปิด-ปิด  เวลาไหน  ราคาเท่าไหร่  แจกแจงได้ทั้งในพื้นที่และนอกพื้นที่
     ส่วนนอกนี้  บี้-บอด-ใบ้  บ้านเมืองของมึง  ไม่ใช่ของกู!?
     ร่วม   ๒  เดือนนี่  นายกฯ  ลองตอบซิว่า  ต้องใช้งบอันเป็นภาษีชาวบ้าน  "สูญเปล่า"  ไปกี่ร้อย-กี่พันล้านแล้ว  แทนที่จะได้เอาเงินนั้นไปสร้างประโยชน์  กลับต้องเสียไปกับค่าเบี้ยเลี้ยง  ค่าข้าวกล่องบูดๆ  ค่าน้ำมันรถขนย้ายทหาร  ค่าปะยางที่ชาวบ้านเจาะ  ค่าซ่อมรถยนต์-รถถัง  กระทั่งอาวุธทั้งที่ชำรุดและสูญหาย  ยังไม่นับค่าชีวิตที่เจ็บและตาย
     เสียน่ะไม่ว่า  แต่เสียไปเพราะ  "ไม่จัดการอะไร"  ปล่อยให้กบฏมันสร้างความฉิบหายให้   โดยที่รัฐบาลและทหาร-ตำรวจก็ไม่มีคำตอบ   หรือท่าทีทางปฏิบัติการให้เห็นเลยว่าจะแก้ปัญหานี้ให้เป็นรูปธรรมแบบไหน  นอกจากผีเจาะปากให้พูดก็พูดเรื่อยไป
     คำก็  นิติรัฐ  สองคำก็  ทุกอย่างต้องเป็นไปตามกรอบกฎหมาย  และลงท้าย...การเมืองต้องแก้ด้วยการเมือง!
     แล้วการเมืองคืออะไร...รู้มั้ยอภิสิทธิ์?
     การเมืองคือเรื่องประชาชน   ฉะนั้น  ถ้าต้องการเป็นนายกฯ  ศรีธนญชัย  ผบ.ทบ.ศรีธนญชัย  โปรดเข้าใจให้ตลอดด้วยว่า  ถ้าการเมืองต้องแก้ด้วยการเมือง
     งั้น...เชิญไปได้เลย!
     เพราะด้วยตรรกะนี้ก็เท่ากับว่าปัญหานี้   "ประชาชนต้องแก้ด้วยประชาชน"  กันเองแล้ว  ไม่ต้องพึ่งรัฐบาล  ไม่พึ่งทหาร  และไม่ต้องพึ่งตำรวจ!?
     ผมน่ะ...ไม่เครียดหรอก  แต่ทุกวันๆ  ที่ถูกกระหน่ำถามทั้งทางโทรศัพท์  ทางอีเมล์  ทางเฟซบุ๊ก   กระทั่งทางปากด้วยคำถามเดียวกัน-เรื่องเดียวกันซ้ำๆ  ซ้อนๆ  ว่า  เมื่อไหร่จะจบ...รัฐบาลไม่เห็นทำอะไร...ตำรวจ-ทหาร  ทำไมเป็นอย่างนี้...อนุพงษ์อยู่ทำไม  ลาออกไปให้คนอื่นเขามาทำหน้าที่ดีกว่ามั้ย...
     ผม-ทั้งที่ไม่เกี่ยว  แต่ถูกถามมากๆ  เข้าพลอยจะบ้าไปด้วย   มีอยู่ท่านอุตส่าห์โทร.มาจากญี่ปุ่น   เห็นผมเป็นอภิสิทธิ์หรืออนุพงษ์หรืออย่างไรไม่ทราบ   ใส่มาชนิดทำนบแตก   ผมก็เลยตบะแตก  พูดเสียงดังไปบ้าง  ท่านคงตกใจ  ขอโทษ-ขอโพย  โทร.มา  ๒  ครั้ง  จากนั้นหายเลย  ก็ต้องขออภัยด้วยนะครับที่ผมใช้  "สันดานไพร่"  หนักไปหน่อย!
     ผมว่าไม่นายกฯ   อภิสิทธิ์  ก็พลเอกอนุพงษ์  และ  พล.ต.อ.ปทีป  ต้องมีความเข้าใจคลาดเคลื่อนซักอย่างว่าการปราบกบฏคือการ  "ใช้กำลังสลายม็อบ"  จึงไม่กล้าทำอะไร   แต่ในข้อเท็จจริง  "ม็อบที่ต้องสลาย-กบฏที่ต้องปราบ"  มีอยู่เพียง  ๑๐-๒๐  คนเท่านั้น  มากที่สุดก็ไม่เกิน  ๕๐  คน
     แล้ว   "ทั้งกองทัพ-ทั้งประเทศ"  คิดแผนจับตั๊กแตนไม่ได้  ก็ปล่อยให้เขาสถาปนารัฐใหม่  แล้วไปสมัครงานกะเขาซะก็สิ้นเรื่อง!

http://www.thaipost.net/news/280410/21435


หัวข้อ: Re: [2513]"ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: เหยง 16 ที่ 28 เมษายน 2553, 09:35:33
คอลัมม์ของ "ทานขุนน้อย" ว่าด้วย "กรรมของบุคคลและกรรมของสังคม"

กรรมของบุคคลและกรรมของสังคม
ท่านขุนน้อย 28 เมษายน 2553 - 00:00

      ถ้าหากลองมองข้ามช็อตออกไป...ชีวิตทางการเมืองของท่านนายกฯ  อภิสิทธิ์  เวชชาชีวะ  น่าจะจบลงคล้ายๆ  กับชีวิตทางการเมืองของท่านอดีตนายกฯ  อาจารย์  เสนีย์  ปราโมช  หลังเหตุการณ์  6  ตุลาคม  2519  ผ่านไปแล้วนั่นแหละ  คือถึงแม้จะสามารถนำความสงบเรียบร้อยกลับคืนมาสู่บ้านเมืองได้ภายในวันสองวันนี้  แต่ความพังพินาศ  เสียหาย  ที่เกิดขึ้นกับประเทศทั้งประเทศในตลอดช่วงเดือนสองเดือนที่ผ่านมา...มันค่อนข้างยากซ์ซ์เอามากๆ  ที่จะกลับคืนมาสู่เส้นทางการเมืองได้แบบมีชีวิต  ชีวา  เหมือนก่อน...มีแต่จะต้อง...เลือนหายไปในแบบแห้งง์ง์ๆ  อย่างมิอาจปฏิเสธได้...
            ---------------------------------------------
     ซึ่งก็ถือว่าเป็นเรื่องน่าเสียดายเอามากๆ...ที่คนหนุ่มยังมีเรี่ยวแรง  กำลังวังชา  มีคุณสมบัติครบถ้วนสมบูรณ์ในการก้าวขึ้นมามีตำแหน่งเป็นผู้นำประเทศ   แถมมีจิตใจมุ่งมั่น   เสียสละ  ซื่อสัตย์  บริสุทธิ์  อีกด้วยต่างหาก  แต่จะเป็นด้วยโชคชะตา  เวรกรรมบันดาล  หรืออาจจะเป็นเพราะชาติปางก่อนเคยทำเวร  ทำกรรม  เอาไว้กับพลเอก  อนุพงษ์  เผ่าจินดา  ผู้บัญชาการทหารบกคนปัจจุบันในลักษณะไหนก็มิอาจทราบได้    ชาตินี้เลยต้องมาแบกรับหนี้กรรมร่วมกับ  นายทหารรายนี้  หรือถึงขั้นต้องชดใช้หนี้กรรมแทนนายทหารท่านนี้อย่างน่าอเนจอนาถ  น่าเวทนา  และน่าเสียดาย  แทนประเทศชาติ  และประชาชนคนไทยเป็นอย่างยิ่ง...
           -----------------------------------------------
     ส่วนตัวของพลเอก  อนุพงษ์  เผ่าจินดา  เองนั้น...คงแทบไม่ต้องพูดถึง  การ  ลืมหน้าที่  หรือ  ไม่เคร่งครัดต่อการทำหน้าที่  ตลอดช่วงระยะเวลาไม่รู้จะกี่ปีต่อกี่ปี  นับตั้งแต่ได้ขึ้นมารับตำแหน่งผู้บัญชาการทหารบก    มันพอใช้เป็นเครื่องพิสูจน์โดยไม่ต้องเสียเวลาไปแยกแยะ  พินิจพิเคราะห์  อะไรกันมากมายว่า  ถ้าหากท่านไม่โง่อย่างถึงที่สุด  ไม่หน่อมแน้มอย่างถึงที่สุดแล้ว   ท่านก็คงหนักไปในทางฉลาด   ในการเอาตัวรอดอย่างถึงที่สุด  ลื่นไถลได้อย่างถึงที่สุด  ถนัดจัดเจนในการปกป้อง  รักษา  ผลประโยชน์สถานะภาพของตัวเอง  จนทำให้บทบาท  หน้าที่   ความรับผิดชอบ   ในฐานะของคนที่มีตำแหน่งเป็น  ผบ.ทบ.เป็นอะไรที่ตกต่ำ  ทรุดโทรม  ยิ่งไปกว่าการเป็นหัวหน้ายามตามศูนย์การค้าไม่รู้กี่เท่าต่อกี่เท่า...
           -----------------------------------------------
     และการ  ลืมหน้าที่  หรือ  ไม่เคร่งครัดต่อการทำหน้าที่  ของผบ.ทบ.  ไม่เพียงแต่จะทำให้ชาติบ้านเมืองเดือดร้อนวุ่นวาย  เรื่องเล็กบานปลายกลายเป็นเรื่องใหญ่  เรื่องใหญ่กลายเป็นเรื่องอภิมหาวายร้าย  ดังที่เห็นๆ  กันอยู่ในทุกวันนี้  ด้วยเวรกรรมที่ผูกพันกันมากับนายกรัฐมนตรีตั้งแต่ชาติปางก่อน  หรือชาติไหนๆ  ก็ไม่ทราบได้  ถือได้ว่าท่านมีส่วนอยู่ไม่น้อยในการทำให้ชีวิตทางการเมืองของคนหนุ่มอนาคตไกลอย่างท่านนายกฯ  อภิสิทธิ์  พลอยตกต่ำ  เสื่อมโทรม  ต้องหมดอนาคตลงไปพร้อมๆ  กับผบ.ทบ.  อย่างแทบไม่น่าเชื่อเลยว่า  อะไรจะเลือดเย็น เหี้ยมโหด  อำมหิต  กันได้ถึงเพียงนี้...
            --------------------------------------------
     อันที่จริงก็มี  ผู้ปรารถนาดี  หลายต่อหลายราย  ที่พยายามหาทาง  สแกนกรรม  หาทางแยกบทบาทหน้าที่ของ   ผบ.ทบ.ผู้ซึ่งกำลังรอเวลาเกษียณอายุราชการในอีกไม่กี่เดือนข้างหน้า  ออกไปจากความรับผิดชอบในการแก้ปัญหาบ้านเมืองช่วงระยะนี้มาแล้วหลายครั้ง  หลายหน  ไม่ว่าจะผ่านทางตัวนายกรัฐมนตรีเอง  ในฐานะผู้บังคับบัญชาของผบ.ทบ.  หรือผ่านไปทางเบื้องล่างของผู้ใต้บังคับบัญชาของผบ.ทบ.  ในระดับแทบจะทุกทิศทุกทาง...แต่ก็อย่างว่า  กรรม  นั้นมันอาจจะเป็นเรื่องที่แก้ไม่ได้  ตัดไม่ได้  มีแต่จะต้อง  ชดใช้  ไปตามสภาพเท่านั้นเอง  อำนาจในการใช้กำลังจากทุกหน่วยที่อยู่ในมือผบ.ทบ.  โดยที่ผู้บังคับบัญชาระดับรองลงไปไม่อาจนำไปใช้ได้ง่ายๆ  แม้นว่าอยากจะใช้เพียงใดก็ตาม  กับอำนาจในการบังคับใช้ผบ.ทบ.  ที่อยู่ในมือของนายกรัฐมนตรี  ในฐานะเป็นผู้บังคับบัญชาของรัฐมนตรีกลาโหมอีกชั้นหนึ่ง  ก็จึงเกิดการผสมกลมกลืนจนกลายเป็น  กรรมของสังคม  ไปจนได้...
           -----------------------------------------------
     แม้นว่านายกรัฐมนตรีและผบ.ทบ.  จะ  เพิ่งตื่น  แล้วหันมาร่วมแรง  ร่วมใจ  ขจัดปัญหาเท่าที่เป็นอยู่ในขณะนี้ให้เสร็จสิ้นลงไปในอีกไม่กี่วันข้างหน้า  แต่ก็คงปฏิเสธไม่ได้ว่า...ทุกสิ่งทุกอย่าง มันได้เลยจุดความไว้วางใจ  ความเชื่อมั่น  ของพลเมืองที่มีต่อ  อำนาจรัฐ  ไปเรียบร้อยแล้ว  แก้วที่ร้าวแล้วย่อมยากประสานให้สนิทดังเดิมได้ฉันใด  ความเชื่อมั่นต่ออำนาจรัฐที่อยู่ในมือของผู้นำทางการเมือง  ตำรวจ  ทหาร  หรือต่อระบบราชการทั้งระบบ  ย่อมยากที่จะรื้อฟื้นให้กลับคืนมาสู่ความรู้สึกเดิมๆ  ได้ง่ายๆ...
           ----------------------------------------------
     สำหรับท่านนายกฯ  อภิสิทธิ์  นั้น  แม้ว่าชีวิตทางการเมืองนับแต่นี้ของท่านคงไม่สดใสดังเดิมอีกต่อไปแล้ว   แต่ในแง่ชีวิตความเป็นมนุษย์   ก็คงไม่ถึงกับหนักหนา  สาหัส  ซักเท่าไหร่  เพราะด้วยเจตนา  ความมุ่งมั่น  ความตั้งอกตั้งใจ  ที่จะคลี่คลายปัญหาต่างๆ  อย่างจริงๆ  จังๆ อย่างมาก...ท่านก็คงถูกมองว่า  หน่อมแน้ม  หรือไม่ได้เป็น  ผู้นำในยามศึก  ไปตลอดชั่วชีวิตเท่านั้น  แต่สำหรับพลเอก  อนุพงษ์  นั้น...รับรองได้ว่าถึงจังหวะเกษียณอายุราชการเมื่อไหร่  จังหวะนั้นนั่นแหละ...ท่านอาจถึงขึ้นต้องตกตะลึงพรึงเพริดต่อ  ผลแห่งการกระทำ  หรือ  ผลกรรม  ที่ท่านได้สร้างเอาไว้  จะโดยรู้ตัว  หรือไม่รู้ตัวก็ตาม  ชนิดยากเหลือเกินที่จะมีโอกาสพบกับความสุขในบั้นปลายชีวิตได้เหมือนกับนายทหารโดยทั่วไป...
             ------------------------------------------
     ภายใต้สภาพการณ์เช่นนี้...คงไม่มีอะไรเหมาะไปกว่า  การนำเอาพระราชดำรัสของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวครั้งล่าสุด  มาปิดท้ายเอาไว้  ณ  ที่นี้  โดยเฉพาะช่วงที่ทรงระบุเอาไว้ว่า...การที่ประเทศนี้  ผู้ที่ตั้งใจทำหน้าที่อย่างเคร่งครัดเป็นสิ่งที่สำคัญมาก  เพราะว่านอกจากความเรียบร้อยที่จะเกิดขึ้น   เป็นการแสดงว่ามีเจ้าหน้าที่ในประเทศที่ตั้งใจอย่างแน่วแน่ว่า จะปฏิบัติหน้าที่อย่างแน่นอน  อย่างชัดเจน  และตั้งใจที่จะรักษาเอาไว้ซึ่งความเรียบร้อยของประเทศ  ทำให้ประชาชนทั่วไปมีความตั้งใจในตัวที่จะปฏิบัติงานของตนอย่างซื่อสัตย์  สุจริต  เหมือนกัน...
             -------------------------------------------
     ปิดท้ายด้วยวาทะวันนี้จาก  สุภาษิตจีน...ท่านอาจป้องกันนกแห่งความทุกข์มิให้บินข้ามศีรษะของท่านไม่ได้  แต่ท่านสามารถป้องกันมิให้มันทำรังบนศีรษะของท่านได้...

http://www.thaipost.net/news/280410/21428


หัวข้อ: Re: [2513]"ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: เหยง 16 ที่ 28 เมษายน 2553, 09:38:34
ตามด้วยบทบรรณาธิการของ นสพ. แนวหน้าออนไลน์

บทบรรณาธิการ  
 
แนวร่วมของโจรทำลายชาติ (บทบรรณาธิการ)  
 
 
 
การเคลื่อนไหวเรียกร้องทางการเมืองโดยอ้างคำว่าประชาธิปไตยบังหน้าของกลุ่มประชาชนที่รวมตัวกันในชื่อ"แนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ" หรือคนเสื้อแดงมีลักษณะของความเคลื่อนไหวที่ส่อไปสู่การรวมตัวของกลุ่มกองโจรก่อการร้ายหรือแนวร่วมของโจรทำลายชาติก็คงจะไม่ผิด

 พฤติการณ์ของคนเสื้อแดงที่ใช้กำลังคนหลายหมื่นคนเข้ามายึดสถานที่สาธารณะและชุมนุมกันอยู่ใน กทม.ตั้งแต่วันที่ 12 มีนาคมจนถึงวันที่ 27 เมษายนรวมระยะเวลา 47 วันได้สร้างความเดือดร้อนแก่ประชาชนกทม.เป็นอย่างมาก จนทำให้ประชาชนทนไม่ไหวต้องออกมารวมพลังกันต่อต้านและเรียกร้องให้รัฐบาลใช้อำนาจปราบปรามกลุ่มคนเหล่านี้ตามกฎหมายที่มีอยู่ในมือ

ตัวการใหญ่ของความเคลื่อนไหวทางการเมืองครั้งนี้ก็คือนายทักษิณ ชินวัตรอดีตนายกรัฐมนตรีที่หนีคดีอาญาอยู่ในสาธารณรัฐมอนเตเนโกรในปัจจุบัน นายทักษิณได้ออกมาเผยตัวว่าเวลานี้ตัวเขาเป็นประชาชนชาวมอนเตเนโกรเต็มตัวแล้วซึ่งแสดงว่าเขาไม่ใช่คนไทยอีกต่อไป

การออกมาปรากฎตัวต่อหน้าสื่อสารมวลชนในต่างประเทศในครั้งนี้ของนายทักษิณนั้นมีเป้าหมายส่งสัญญาณไปยังประชาชนกลุ่มคนเสื้อแดงที่เป็นสาวกของตัวเขาเป็นหลักเพื่อกลบกระแสข่าวลือที่ว่าตัวเขาได้ถึงแก่กรรมไปแล้วเพราะเป็นโรคมะเร็ง

ส่วนเหตุการณ์ในประเทศที่น่าเป็นห่วงในขณะนี้ก็คือการเคลื่อนไหวของกลุ่มคนเสื้อแดงทั่วประเทศทั้งใน กทม.และต่างจังหวัดที่มีการใช้กฎหมู่ถืออำนาจเข้าไปตั้งด่านตรวจค้นสะกัดกั้นการเดินทางของประชาชนรวมไปถึงทหารและตำรวจในช่วง 1 สัปดาห์ที่ผ่านมาซึ่งมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญาอย่างชัดแจ้ง

 ล่าสุดเจ้าหน้าที่ทหารและตำรวจได้สลายการชุมนุมของ นปช.ที่อำเภอคลองหลวงปทุมธานีเมื่อวันที่ 26 เมษายนและได้จับกุมตัวการรวม 11 คนเป็นชาย 9 คนและหญิง 2 คนไปสอบสวนและวันที่ 27 เมษายนได้นำตัวไปส่งศาลจังหวัดธัญบุรีซึ่งศาลท่านได้ปราณีมีเมตตาตัดสินจำคุกบุคคลทั้งหมดเป็นเวลา 15 วันโดยไม่มีการรอลงอาญาซึ่งถือเป็นโทษสถานเบา

เกี่ยวกับกรณีนี้ทางกลุ่มนปช.ที่ยึดสี่แยกราชประสงค์คงจะไม่พอใจและคงมีการปราศรัยโจมตีอีกตามเคย เรื่องที่น่าห่วงก็คือการใช้สื่อวิทยุชุมชนและโทรทัศน์เสื้อแดงโจมตีจาบจ้วงสถาบันอยู่ตลอดเวลาเป็นการล้างสมองและมอมเมาประชาชนโดยมีเป้าหมายปลุกระดมให้ประชาชนทำสงครามกลางเมืองอย่างเต็มรูปแบบ

เมื่อวันที่ 27 เมษายนคนเสื้อแดงได้ขัดขวางการเดินรถของรถไฟฟ้าบีทีเอสทำให้ประชาชนได้รับความเดือดร้อนไม่สามารถเดินทางได้การกระทำของคนเสื้อแดงครั้งนี้ยิ่งเป็นการตอกลิ่มให้ประชาชนในกทม.โกรธคนเสื้อแดงมากขึ้นเท่ากับว่าเป็นตัวเร่งให้คนเสื้อแดงตกเป็นผู้ร้ายในสายตาของคน กทม.มากขึ้นไปอีก 
 
วันที่ 28/4/2010
 
http://www.naewna.com/news.asp?ID=208944


หัวข้อ: Re: [2513]"ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: เหยง 16 ที่ 28 เมษายน 2553, 09:44:56
ตามด้วย สถานการณ์ของเสื้อหลายสี ที่ไปชุมนุมแสดงความเห็นกันที่"เยาวราช"เมื่อเย็นวานนี้

               (http://img219.imageshack.us/img219/9707/28p1a3.jpg)

อากง ย่านเยาวราช  

ออกมารณรงค์ร่วมกับกลุ่มคนเสื้อหลากสีที่วงเวียนโอเดี้ยน เรียกร้องให้คนเสื้อแดงเลิกชุมนุม และไม่ให้รัฐบาลยุบสภา

http://www.thaipost.net/node/21434


หัวข้อ: Re: [2513]"ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: เหยง 16 ที่ 28 เมษายน 2553, 09:53:00
                       (http://img153.imageshack.us/img153/3456/28p1a31.jpg)

ตามภาพที่ปรากฏ แปลเป็นไทยได้ว่า "บ้านเมือง ต้องมีขื่อมีแป เราจะสนับสนุนรัฐบาล"


หัวข้อ: Re: [2513]"ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: เหยง 16 ที่ 28 เมษายน 2553, 09:56:03
เขียนไปมากๆ  emo29:P: ไม่ทราบว่าท่านพี่ป๋อง จะตั้งข้อกล่าวหาว่า  emo22:( ออกมายุยงหรือเปล่า??  emo47


หัวข้อ: Re: [2513]"ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: suriya2513 ที่ 28 เมษายน 2553, 10:21:00
ตัวพี่ป๋องเองก็จะเอาตัวไม่รอด จะเที่ยวไปตั้งข้อกล่าวหาใครเขาได้
พี่ป๋องนี่ชักมีสำเนียงคล้ายพี่สิงห์เข้าไปทุกวันทุกวันแล้ว


หัวข้อ: Re: [2513]"ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: เหยง 16 ที่ 28 เมษายน 2553, 10:46:22
ขอฉายหนังซ้ำครับ

                       (http://img153.imageshack.us/img153/3456/28p1a31.jpg)

ตามภาพที่ปรากฏ แปลเป็นไทยได้ว่า "บ้านเมือง ต้องมีขื่อมีแป เราจะสนับสนุนรัฐบาล"


หัวข้อ: Re: [2513]"ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: เหยง 16 ที่ 28 เมษายน 2553, 10:46:48
เพิ่มเติมจากข่าวผู้พิพากษาใหม่เข้าถวายสัตย์ฯ ก่อนออกปฏิบัติหน้าที่ ในมุมมองของไทยโพสต์ ฉบับเมื่อวานนี้

มีคนลืมทำหน้าที่ พระราชดำรัสต่อศาลฎีกาให้เป็นตัวอย่างประชาชน
ข่าวหน้า 1  27 เมษายน 2553 - 00:00

  พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงมีพระราชดำรัสต่อคณะผู้พิพากษาฎีกา  ให้ตั้งใจทำหน้าที่อย่างเคร่งครัด  เพื่อรักษาเอาไว้ซึ่งความเรียบร้อยของประเทศ  จะทำให้เป็นความตั้งใจของประชาชนทั่วไปที่จะตั้งใจทำงานอย่างเคร่งครัด  อย่างสุจริต  ในประเทศนี้อาจจะมีคนลืมหน้าที่ของตนได้  ขอให้แสดงเป็นตัวอย่างว่ามีผู้ที่ปฏิบัติหน้าที่อย่างเคร่งครัด  สุจริต
     เมื่อเวลา  17.27  น.  วันที่  26  เมษายน  พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวเสด็จออก  ณ  ห้องประชุมชั้น  14  อาคารเฉลิมพระเกียรติโรงพยาบาลศิริราช  พระราชทานพระบรมราชวโรกาสให้นายสบโชค  สุขารมณ์  ประธานศาลฎีกา   นำคณะผู้พิพากษาประจำศาล  สำนักงานศาลยุติธรรม  เฝ้าทูลละอองธุลีพระบาทเพื่อถวายสัตย์ปฏิญาณก่อนเข้ารับหน้าที่  ในโอกาสนี้  นายวิรัช  ชินวินิจกุล  เลขาธิการสำนักงานศาลยุติธรรม  นายไพโรจน์  นวานุช  ผู้พิพากษาหัวหน้าคณะในศาลอุทธรณ์  ประจำสำนักประธานศาลฎีกา  นายวรวุฒิ  ทวาทศิน  เลขาธิการประธานศาลฎีกา  และนายสราวุธ  เบญจกุล  รองเลขาธิการสำนักงานศาลยุติธรรม  ร่วมเฝ้าทูลละอองธุลีพระบาทด้วย
     ในการนี้   พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวมีพระราชดำรัสว่า  ตามที่ผู้พิพากษาศาลฎีกาได้มาปฏิญาณตน  ในโอกาสนี้เป็นโอกาสที่สำคัญ  เพราะเป็นการแสดงว่าจะปฏิบัติหน้าที่  มีความตั้งใจจริงๆ   และการปฏิบัติหน้าที่ของผู้พิพากษาเป็นสิ่งที่สำคัญสำหรับชีวิตของประชาชน  ซึ่งท่านทั้งหลายจะได้ช่วยกันพยุงความยุติธรรม  ความเรียบร้อยของประเทศ  อันนี้ก็เป็นสิ่งที่สำคัญมากถ้าท่านทำตามที่ปฏิญาณตนด้วยเคร่งครัด  จะช่วยให้ประเทศชาติมีความเรียบร้อยได้อย่างแน่นอน 
     "การที่ประเทศนี้  ผู้ที่ตั้งใจทำหน้าที่อย่างเคร่งครัดเป็นสิ่งที่สำคัญมาก  เพราะว่านอกจากความเรียบร้อยที่จะเกิดขึ้น   เป็นการแสดงว่า  มีเจ้าหน้าที่ในประเทศที่ตั้งใจอย่างแน่วแน่ว่า  จะปฏิบัติหน้าที่อย่างแน่นอน  อย่างชัดเจน  และตั้งใจที่จะรักษาเอาไว้ซึ่งความเรียบร้อยของประเทศ  ทำให้ประชาชนทั่วไปมีความตั้งใจในตัว  ที่จะปฏิบัติงานของตนอย่างซื่อสัตย์สุจริตเหมือนกัน  เชื่อว่าการที่ท่านแสดงเป็นตัวอย่างที่ดีของผู้พิพากษา   จะทำให้เป็นความตั้งใจของประชาชนทั่วไป   ที่จะตั้งใจทำงานทำการอย่างเคร่งครัด   อย่างสุจริต  ฉะนั้น  การที่ท่านมารับหน้าที่เป็นการที่ดีที่จะช่วยประเทศชาติปฏิบัติตนคนในชาติ  ปฏิบัติตนให้มีความเคร่งครัด  ความสุจริต"
     ในประเทศอาจจะมีคนที่ลืมหน้าที่ของตนได้   ท่านแสดงเป็นตัวอย่างว่ามีผู้ที่ปฏิบัติหน้าที่อย่างเคร่งครัด  อย่างสุจริต  ฉะนั้นท่านมีหน้าที่ที่สำคัญมาก  ยิ่งได้ปฏิญาณตนว่า  จะรักษาความยุติธรรมโดยเคร่งครัดนี้  จะช่วยให้ประชาชนทั่วไปปฏิบัติงานของตนด้วยความเรียบร้อย  ด้วยความซื่อสัตย์สุจริตได้อย่างมากที่สุด  เป็นผู้สุจริต  เป็นสิ่งที่ไม่ใช่ง่าย   เพราะว่าในชีวิตมีสิ่งที่ล่อใจมาก  ฉะนั้นท่านได้ปฏิญาณตนนี้เป็นสิ่งที่สำคัญ  ทำให้ท่านเตือนใจอยู่ตลอดว่า  ต้องปฏิบัติหน้าที่อย่างซื่อสัตย์สุจริต  ซึ่งถ้าหากมีบุคคลที่ปฏิบัติดี  ชอบ  ด้วยความแน่วแน่  ด้วยความตั้งใจ  เป็นสิ่งที่ช่วยให้คนอื่นปฏิบัติตนให้ดี
     ฉะนั้นสำคัญมากที่ท่านได้มาปฏิญาณตนว่าจะทำหน้าที่ด้วยความซื่อสัตย์  สุจริต  เข้มแข็ง  ถ้ารักษาความซื่อสัตย์สุจริตนี้ไว้ตลอดเวลาที่ท่านปฏิบัติหน้าที่  ตลอดชีวิต  แสดงว่ามีคนที่อุ้มชูความเรียบร้อยของประเทศจำนวนหนึ่ง   ก็ขอให้ท่านได้สามารถรักษาความตั้งใจของหน้าที่ตามที่ได้ปฏิญาณตลอดเวลา  เป็นตัวอย่างสำหรับคนทั่วประเทศ  ให้มีกำลังใจที่จะปฏิบัติงานอย่างซื่อสัตย์สุจริต   อย่างที่ท่านได้ปฏิญาณ   ขอให้ท่านรักษาความซื่อสัตย์สุจริตอย่างที่ท่านได้กล่าวมาเมื่อครู่นี้  เป็นทางที่จะช่วยให้บ้านเมืองมีความเจริญมั่นคงแน่นอน  และในคราวเดียวกัน  ท่านเองจะได้ถือว่าเป็นตัวอย่างสำหรับประชาชนทั่วไป   ทั้งผู้ที่เป็นข้าราชการ  ทั้งผู้ที่ทำหน้าที่ต่างๆ  จะช่วยกันอุ้มชูประเทศชาติให้ได้อยู่เย็น  มีความผาสุก  มีความเข้มแข็งในการงาน  และทำให้งานการนั้นมีความสำเร็จ  เรียบร้อย  ทำให้ทุกคนมีความสุขได้
     "ขอให้ท่านรักษาคำปฏิญาณโดยเข้มแข็ง    เชื่อว่าท่านจะมีความสุขในการปฏิบัติหน้าที่ที่ดี   ขอให้ท่านได้ปฏิบัติหน้าที่ได้ด้วยความซื่อสัตย์สุจริตอย่างที่ท่านได้กล่าว  ให้เป็นสิ่งที่ท่านมีส่วนในการสร้างบ้านเมืองให้ดี  และเวลาเดียวกันท่านก็สร้างตัวท่านเองให้เป็นคนที่ดี  คนที่มีความสำเร็จ  ขอให้ท่านปฏิบัติหน้าที่ด้วยความเรียบร้อยตลอดชีวิตของท่าน  และขอให้ท่านมีความสำเร็จในงานการ  ซึ่งจะเป็นสิ่งที่สูงสุด  ณ  ในการปฏิบัติงานของคนที่เป็นคนสำคัญในชาติคือ  ผู้พิพากษา   ขอให้ท่านมีความสำเร็จในการงาน   ในเวลาเดียวกัน   ท่านก็จะมีความสุขที่ได้ทำงานอย่างครบถ้วน  ขอให้ท่านมีสำเร็จ  มีความสำเร็จในงานการดังกล่าว"

http://www.thaipost.net/news/270410/21380


หัวข้อ: Re: [2513]"ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: เหยง 16 ที่ 28 เมษายน 2553, 11:31:45
เขาประกาศหาคนหายกันครับ ใครเห็นบ้าง ช่วยกันตามตัวให้หน่อย สงเคราะห์กันด้วย

ประกาศ ตร.หาย(หัว)
28 เมษายน 2553 10:40 น.
 
       0...ถือเป็นงานหนักงานแรกของของ"ธาริต เพ็งดิษฐ์" อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ ที่ต้องทำคดี"ก่อการร้าย" และเพิ่งได้ตัว"ผู้ก่อการร้าย"ตามหมายจับมาเพียงแค่คนเดียว นาม"เมธี อมรวุฒิกุล" ดารานายแบบเสื้อแดงแจ๋ ที่ไปพลาดท่าถูกตำรวจตปพ. หรือ 191 จับกุมได้แถวคลองสาน ก่อนส่งเข้าราบ 11 ให้ทหารสอบสวน แต่งานนี้ เจ้ากรมดีเอสไอ บอกไม่มีปัญหา เป็นหน้าที่ที่กรมสอบสวนคดีพิเศษทำอย่างรัดกุม รอบคอบ ก็ขอเป็นกำลังใจให้ เพราะถือเป็นการทำหน้าที่"เพื่อชาติ"ครั้งสำคัญอีกครั้ง แต่ที่หนักใจแทน ไม่ใช่ยังตามจับตามรวบบรรดาแกนนำผู้ก่อการร้ายยังไม่ได้ แต่เป็นสำนวนของตำรวจที่นำมาส่งมอบให้ โดยพล.ต.ต.อำนวย นิ่มมะโน รองผบช.น.เสียมากกว่า แต่ถ้าจะให้ดี ขอแนะนำ ดีเอสไอ ทำสำนวนเองใหม่ดีกว่า ชาวประชาจะได้เบาใจได้ ไม่ใช่ไม่ไว้ใจตำรวจ แต่กลัว"ตำรวจมะเขือเทศ"จ้า...
       
       0...ประกาศนายตำรวจหายตัวไปอย่างไร้ร่องรอย มีทั้งประดับรองผบ.ตร. ประกอบด้วย พล.ต.อ.เพรียวพันธ์ ดามาพงศ์, พล.ต.อ.วิเชียร พจน์โพธิ์ศรี, พล.ต.อ.วัชรพล ประสารราชกิจ, พล.ต.อ.วงกต มณีรินทร์, พล.ต.อ.จุมพล มั่นหมาย, พล.ต.อ.จงรัก จุฑานนท์, พล.ต.อ.ปานศิริ ประภาวัต ระดับที่ปรึกษา (สบ 10) เทียบเท่ารองผบ.ตร. ประกอบด้วย พล.ต.อ.ภาณุพงศ์ สิงหรา ณ อยุธยา พล.ต.อ.อดุลย์ แสงสิงแก้ว พล.ต.อ.วุฒิ พัวเวส พล.ต.อ.ชลอ ชูวงษ์

                   
                       (http://img227.imageshack.us/img227/5141/police1w.jpg)

       ระดับผู้ช่วยผบ.ตร. ประกอบด้วย พล.ต.ท.พงศพัศ พงษ์เจริญ, พล.ต.ท.สถาพร ดวงแก้ว, พล.ต.ท.บุญเรือง ผลพานิชย์, พล.ต.ท.สุวัฒน์ จันทร์อิทธิกุล, พล.ต.ท.จิโรจน์ ไชยชิต, พล.ต.ท.ถาวร จันทร์ยิ้ม, พล.ต.ท.เอก อังสนานนท์, พล.ต.ท.สุวัฒน์ ธำรงศรีสกุล, พล.ต.ท.สถาพร หลาวทอง, พล.ต.ท.อัศวิน ขวัญเมือง, พล.ต.ท.สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง,พล.ต.ท.ธีระเดช รอดโพธิ์ทอง, พล.ต.ท.วรพงษ์ ชิวปรีชา, พล.ต.ท.บรรจง ตันศยานนท์ ทั้งหมดหายตัวไประหว่างการชุมนุมของกลุ่มคนเสื้อแดงตั้งแต่ที่ผ่านฟ้า จนมาปักหลักที่สี่แยกราชประสงค์ ซึ่งตั้งอยู่ติดสำนักงานตำรวจแห่งชาติ แต่ไม่มีใครยืนยันว่า มีใครไปหลบอยู่หลังเวทีเสื้อแดงหรือไม่ ความคืบหน้าจะรายงานให้ทราบต่อไป ส่วนพล.ต.อ.ปทีป ตันประเสริฐ รรท.ผบ.ตร. โผล่มั่งไม่โผล่มั่ง ขึ้นอยู่กับกลุ่มเหยี่ยวข่าวตร.จะเข้าชาร์จได้สำเร็จหรือไม่....

                       (http://img227.imageshack.us/img227/4383/police2.jpg)
       
       0...เหตุคนร้ายปาระเบิดใส่เต้นท์ตำรวจหน้าบ้านพักนายบรรหาร ศิลปอาชา อดีตนายกรัฐมนตรี กลายเป็นเรื่องน่าขันในแวดวงสีกากี เพราะตำรวจที่ไปเฝ้าบ้าน เป็นตำรวจจากสน.บางพลัด ซ้ำบ้านนายบรรหาร อยู่ในท้องที่ความรับผิดชอบของสน.บางพลัดโดยตรง คดีน่าจะขึ้นอยู่กับสน.บางพลัด แต่ทว่า กลายเป็นเรื่องขบขัน เมื่อตำรวจสน.บางยี่ขันต้องไปทำคดีแทน สาเหตุก็เพราะว่า คนร้ายที่ปาระเบิดใส่ ดันไม่รอบคอบ ปาเอ็ม 67 ไปถูกขอบฟุตปาธ ทำให้ลูกระเบิดกลิ้งกลับมาตูมกลางถนน อันเป็นท้องที่ของสน.บางยี่ขัน ทำให้ พ.ต.อ.อดิศักดิ์ คุณพันธ์ ผกก.บางพลัด ไม่ต้องรับผิดชอบ ส่วนพ.ต.อ.พูนประยูร อิศรศักดิ์ ณ อยุธยา ผกก.สน.บางยี่ขัน ต้องนอนเอาเท้าก่ายหน้าผากไปพลางๆก่อน ทีพ.ต.ท.ศุภมิตร สุขเจริญ รอง ผกก.ปป.สน.บางพลัด ที่ถูกไปช่วยราชการ อก.บก.น.7 จากสาเหตุบึ้มป่วนเมืองเช่นเดียวกัน ก็ให้ถือเป็นการฟาดเคราะห์ไปก็แล้วกัน เพราะผกก.บางพลัด เขาเส้นใหญ่กว่าเรา เจริญล่ะสตช....
       
       0...พล.ต.อ.ปทีป ตันประเสริฐ รรท.ผบ.ตร. ก้มหน้าก้มตายอมรับว่า ได้เซ็นคำสั่งให้พล.ต.ท.สุชาติ เหมือนแก้ว อดีตผบช.น.และ พล.ต.ต.เพิ่มศักดิ์ ภราดรศักดิ์ อดีต ผบก.จว.อุดรธานี กลับเข้ารับราชการตามมติของก.ตร.แล้ว โดยพล.ต.ต.เพิ่มศักดิ์ ให้มาดำรงตำแหน่ง ผบช.ประจำ ส่วน พล.ต.ท.สุชาตินั้น อยู่ระหว่างการหาตำแหน่งให้ แหม...หาตำแหน่งให้"บิ๊กเบื๊อก"ยังไม่ได้หรือ งั้นมีข้อเสนอ ตั้ง"บิ๊กเบื๊อก"เป็นผู้บัญชาการสลายม็อบแดงราชประสงค์ หากทำสำเร็จ มอบตำแหน่งผบช.น.ให้คืน หรือจะให้นั่งรรท.ผบ.เลยก็ได้ รับรองไม่มีใครว่าแน่ ส่วน"บิ๊กทีป"กับ"บิ๊กฐาน" พล.ต.ท.สัณฐาน ชยนนท์ ผบช.น.คนปัจจุบันนั้น ให้"พี่เทือก" เอาไปปล่อยเกาะไหนก็ได้(ฮา)....
       
       0...ขอแสดงความยินดีอย่างยิ่งกับนายสัก กอแสงเรือง ที่ได้รับความไว้วางใจจากสมาชิกสภาทนายความเลือกตั้งให้ดำรงตำแหน่ง "นายกสภาทนายความ" ถือเป็นตำแหน่งใหม่ในหน้าที่เก่าที่ได้รับใช้สมาชิกสภาทนายและประชาชนมาแล้ว 2 สมัย สมัยนี้ถือเป็นสมัยที่ 3 ก็ขอให้ยึดมั่นใน"คุณธรรม"ที่ดำรงอยู่ต่อไป และที่ต้องบอกว่า ขอแสดงความยินดีอย่างยิ่งนั้น ก็เพราะ "นายกสัก"สามารถชนะ"ทนายไพร่" แดงแจ๋ได้ขาดลอย ไม่เห็นฝุ่น...

 
 
จาก http://www.manager.co.th/asp-bin/mgrView.asp?NewsID=9530000058199
 


หัวข้อ: Re: [2513]"ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: เหยง 16 ที่ 28 เมษายน 2553, 12:12:59
หลายๆคนกลัวมีชื่ออยู่ในคำให้การ รีบถีบ"เมธี"ทิ้ง โดยอ้างว่า เคลื่อนไหวอิสระ ไม่เกี่ยวข้องกันมานานแล้ว
เสมือน เห็บ โดดหนี ซากศพ

วันที่ 28 เมษายน พ.ศ. 2553 เวลา 08:48:07 น.  มติชนออนไลน์

ดีเอสไอเผย "เมธี" ให้ปากคำซัดทอดผู้เกี่ยวข้องหลายคน  


นายธาริต เพ็งดิษฐ์ อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ เปิดเผยเมื่อวันที่ 28 เมษายน ถึงการสอบสวนนายเมธี อมรวุฒิกุล แนวร่วม นปช. ว่า เจ้าตัวมีการซัดทอดกับผู้เกี่ยวข้องสิบคนขึ้นไปซึ่งหลายชื่อเรารู้จักกันดี ซึ่งนอกจากนายเมธีแล้วยังจะใช้คำให้การของพยานรายอื่นประกอบด้วยเพื่อขยายผลซึ่งการให้ปากคำดังกล่าวมีความสอดคล้องกัน


ทั้งนี้ นายเมธีให้ความร่วมมือให้ข้อมูลการสอบสวนซึ่งเขามีความภูมิใจที่ได้ร่วมอุดมการณ์และสิ่งที่ได้ทำและบอกว่าถูกต้องจะขอสู้จนถึงที่สุดแม้ตายก็ยอมและไม่คิดว่าตัวเองจะกระทำ นายเมธีเล่าถึงเหตุการณ์ 10 เม.ย.และการย้ายที่ชุมนุมไปราชประสงค์ต่อเนื่องจนกระทั่งถูกจับควบคุมตัวตาม พ.ร.ก.ฉุกเฉิน ไม่ใช่ตามประมวล กม.อาญาตามปกติ และผิดในข้อหาอาวุธและยุทธภัณฑ์และผิดพ.ร.ก.ฉุกเฉิน ส่วนความผิดการก่อการร้ายกำลังพิจารณา


ส่วนการออกหมายจับคนที่นายเมธีระบุชื่อถึงนั้นกำลังตรวจสอบจะดำเนินการให้เร็วที่สุด ในส่วนของคดีเกี่ยวกับสถาบันที่ผ่านมามักจะเป็นคดีพิเศษเพราะถือเป็นความมั่นคงของประเทศ

http://www.matichon.co.th/news_detail.php?newsid=1272419296&grpid=&catid=17


หัวข้อ: Re: [2513]"ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: เหยง 16 ที่ 28 เมษายน 2553, 17:43:53
ฟังคนเขาบ่นกัน ตรงกับใจของเราหรือไม่ ??

ไม่ตายแต่ไฉนไม่ยอมโชว์ตัว  
วันพุธ ที่ 28 เมษายน 2553 เวลา 0:00 น

ลือกันได้ลือกันดี เพราะไม่ว่าจะเป็นสังคมถ้าได้ชื่อว่าเป็นสังคมมนุษย์ “ข่าวลือ” นี่แหละไปไวไปไกลและไปกว้างกว่าข่าวไหนทั้งหมด
   
นายนพดล ปัทมะ ที่ปรึกษากฎ หมาย พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ชี้แจงว่า พ.ต.ท.ทักษิณ แข็งแรงดี ทุกอย่าง รับทราบข่าวที่ว่านี้และรู้สึกขำแล้ว ก็จะปล่อยให้ลือกันต่อไปตามอัธยาศัย คง ไม่ออกมาแสดงภาพเคลื่อนไหวเพื่อยืนยันเพราะประเมินแล้วว่า เป็นแผนที่ต้องการโยงกับการชุมนุมของกลุ่มคนเสื้อแดง
   
พูดง่าย ๆ คือนายนพดลจะระบุว่า พ.ต.ท.ทักษิณรู้ และไม่ยอมตกหลุมพราง
   
จริงหรือไม่จริง ยากจะรู้ แต่หาก ย้อนรอย “ข่าวลือ” จะพบว่า ไม่ใช่เรื่องใหม่และไม่ใช่เพิ่งเกิด ก่อนหน้านี้ก็ลือว่าเป็นมะเร็งตรงนั้นตรงนี้ ลือว่าไปรับการรักษาจน   “ผมร่วง”
   
ครั้งนั้น พ.ต.ท.ทักษิณโต้ข่าวลือด้วยการโชว์รูปถ่ายตอนไปตัดผม แถมยังวิดีโอลิงก์ “ดึงผมโชว์”
   
แต่สถานการณ์วันนี้ ที่ว่ากันว่าเดินมาถึงหัวเลี้ยวหัวต่อของการต่อสู้ทางการเมือง
   
พ.ต.ท.ทักษิณ กลับเลือกที่จะนิ่งเฉย ส่งแต่ข้อความกับโชว์รูปถ่ายเท่านั้น ไม่ได้วิดีโอลิงก์มาอย่างทุกครั้งที่มา
   
ทำไม หรือกลัวจะเข้าทางตามที่นายนพดล ยกมาเป็นเหตุผล ขนาดเหตุการณ์ เดือน เม.ย. ปี 2552 ที่ผ่านมา พ.ต.ท. ทักษิณ ยังวิดีโอลิงก์มาจนกระทั่งนาทีสุดท้าย
   
ป่วยการที่จะบอกว่าไม่ได้อยู่เบื้องหลัง เพราะถ้าคนไหนในสังคมไทยเชื่อเช่นนั้นก็บ้าแล้ว
   
กรณี “ข่าวลือ” ไม่ได้เกิดกับ พ.ต.ท. ทักษิณ แต่อีกฝ่ายก็เคยนำมาใช้กับ พล.อ. เปรม ติณสูลานนท์ ประธานองคมนตรีและรัฐบุรุษ เข้าโรงพยาบาลบ้าง ช็อกหมดสติบ้าง
   
แต่สุดท้าย พล.อ.เปรมก็ปรากฏตัวตามปกติ
   
มีข่าววงในระบุว่า พ.ต.ท.ทักษิณ มีปัญหาสุขภาพขนาดหนัก หนักขนาดลุกไม่ได้ อยู่ในสภาพที่ร่างกายทรุดโทรม แต่นั่นก็แค่รายงานข่าว
   
สถานการณ์การชุมนุมมาช่วงโค้งสำคัญ ช่วงวัดใจว่าใครจะชิงลงมือก่อน ช่วงชี้เป็นชี้ตาย ใครจะอยู่ใครจะไปข่าวระบุว่า ภายในไม่กี่ วันนี้แหละ
   
ระหว่างนี้แน่นอนกำลังใจย่อมเป็นเรื่องสำคัญ
   
หลักการง่าย ๆ ของการจะสยบข่าวลือ ก็ไม่มีอะไรยากแค่ออกมาโชว์ตัวว่า ทุกอย่างยังปกติดีอยู่
   
ยังไม่มีอะไร แต่แปลกไหมที่ไม่ยอมให้ใครเห็นตัว!!!!.

http://www.dailynews.co.th/newstartpage/index.cfm?page=content&categoryID=16&contentID=62294


หัวข้อ: Re: [2513]"ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: เหยง 16 ที่ 28 เมษายน 2553, 23:54:42
หาซื้อได้ที่ร้านแมงป่อง ครับ ราคา 79 บาท(ซื้อมาเมื่อเย็นของวันนี้เอง)

(http://img227.imageshack.us/img227/5084/img032i.jpg)


หัวข้อ: Re: [2513]"ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: Intania๑๖ ที่ 29 เมษายน 2553, 06:30:09
(http://img153.imageshack.us/img153/2937/01tul.jpg)

ถ้าหมอตุลย์ไม่ว่าง ติดภาระกิจเสื้อหลากสี
ขอส่งหมอสำเริง ซีมะโด่งคนเก่งไปแทนก็ได้ครับ


หัวข้อ: Re: [2513]"ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: เหยง 16 ที่ 29 เมษายน 2553, 09:21:27
บทบรรณาธิการของ นสพ. แนวหน้าออนไลน์ วันนี้ (29 เมษายน 2553)

บทบรรณาธิการ 
 
รัฐบาลต้องรีบตัดไฟแต่ต้นลม (บทบรรณาธิการ)  
 
 

    นับเป็นครั้งแรกและเป็นข้อมูลที่น่าหวั่นวิตกเป็นอย่างมากต่อความมั่นคงของชาติและราชบัลลังก์เมื่อรัฐบาลและกองทัพ โดยนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี และ พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา ผู้บัญชาการทหารบก ได้ออกมายืนยันอย่างชัดเจนว่า ขบวนการกลุ่มคนเสื้อแดงที่จุดไฟเผาบ้านป่วนเมืองอยู่ในขณะนี้ ได้เปิดเผยตัวตนและมีเครือข่ายเชื่อมโยงที่บ่งชี้ว่าเป็นขบวนการก่อการร้ายที่นอกจากมุ่งหมายโค่นล้มเพื่อช่วงชิงอำนาจรัฐแล้วยังอาจมีเป้าหมายไกลไปถึงขั้นเป็นภัยต่อสถาบันบันเบื้องสูง

    พฤติกรรมความเคลื่อนไหวของขบวนการคนเสื้อแดงในเหตุการณ์จลาจลเผาบ้านป่วนเมืองเมื่อช่วงสงกรานต์ปีที่แล้ว หากเปรียบเทียบความเคลื่อนไหวในปัจจุบันเห็นได้ชัดเจนว่ามีการยกระดับการเคลื่อนไหวที่พัฒนารุนแรงขึ้นมากโดยมีกองกำลังก่อการร้ายซึ่งปฏิบัติการใต้ดินด้วยการลอบก่อวินาศกรรมด้วยอาวุธสงครามร้ายแรงนานาชนิดคู่ขนานไปกับการเคลื่อนไหวของม็อบคนเสื้อแดงแบบแยกกันเดินแต่ร่วมกันตีโดยมีเป้าหมายและภายใต้คำสั่งจากนายใหญ่คนเดียวกันนั่นคือ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี

    ผู้นำรัฐบาลและกองทัพเองยอมรับว่า ประเมินศักยภาพของขบวนการก่อการร้ายต่ำไปซึ่งถือเป็นความผิดพลาดอย่างสำคัญที่ทำให้ขบวนการก่อการร้ายเติบโตกล้าแข็งดังเช่นทุกวันนี้ ทั้งๆที่ ความจริงแล้ว เหล่าแกนนำขบวนการคนเสื้อแดงนับตั้งแต่ พ.ต.ท.ทักษิณลงมาได้เคลื่อนไหวทั้ง ที่แจ้งและที่ลับมาตลอดโดยแสดงจุดยืนว่าต้องการที่จะช่วงชิงอำนาจรัฐและเปลี่ยนแปลงประเทศไปสู่ความเป็น"รัฐไทยใหม่"

 แต่ที่สำคัญก็คือ พฤติกรรมและเจตนาที่ส่อมุ่งบ่อนทำลายสถาบันเบื้องสูงตลอดจนสถาบันหลักของชาติทั้งหมดไม่ว่าจะเป็นสถาบันองคมนตรี รัฐบาล สถาบันศาล กองทัพ และองค์กรอิสระต่างๆเพื่อใช้เป็นข้ออ้างสร้างความชอบธรรมนำไปสู่การเปลี่ยนแปลงประเทศหลังช่วงชิงอำนาจรัฐได้แล้ว

    ก่อนหน้านี้ พ.ต.ท.ทักษิณ และเหล่าแกนนำให้สัมภาษณ์สื่อทั้งต่างประเทศและในประเทศตลอดจนการปราศรัยบนเวทีคนเสื้อแดงอย่างจงใจ ยังไม่รวมถึงบรรดาสื่อคนเสื้อแดงต่างๆ ทั้งวิทยุชุมชน ใบปลิว สถานีทีวีพีเพิลชาแนล ตลอดจนหนังสือพิมพ์ นิตยสาร และอินเตอร์เนตในเครือข่ายคนเสื้อแดงที่จาบจ้วงโจมตีสถาบันเบื้องสูงอย่างเหิมเกริมรุนแรงขึ้นเรื่อยๆ

    ขณะเดียวกัน ก็มีการซ่องสุมแอบฝึกและจัดตั้งกองกำลังติดอาวุธมานานนับปีจนกลายเป็นกองทัพคนเสื้อแดงที่พร้อมจะก่อสงครามเปลี่ยนแปลงประเทศไปสู่การปกครองระบอบใหม่ ซึ่งพัฒนาการของขบวนการเสื้อแดงที่ยกระดับแปรสภาพเป็นกองกำลังโจรก่อการร้ายในขณะนี้ถือเป็นภัยขั้นร้ายแรงต่อความมั่นคงของประเทศ

    อย่างไรก็ตาม แม้รัฐบาลจะนิ่งนอนใจเกินไปปล่อยให้ขบวนการโจรก่อการร้ายเสื้อแดงเติบโตกล้าแข็งเช่นทุกวันนี้ แต่มาช้าก็ยังดีกว่าไม่มาภายใต้สถานการณ์ก่อการร้ายที่เป็นภัยต่อความมั่นคงของชาติโดยเฉพาะภัยคุกคามต่อสถาบันอันเป็นที่เคารพศรัทธาของคนไทยทั้งประเทศมาแต่โบราณกาลเป็นสิ่งที่รัฐบาลต้องเร่งกอบกู้สถานการณ์ด้วยการตัดไฟแต่ต้นลม โดยสร้างความเข้าใจแยกมวลชนคนเสื้อแดงที่รู้เท่าไม่ถึงการณ์ออกมาร่วมพัฒนาชาติ ขณะเดียวกันต้องดำเนินการขั้นเด็ดขาดกับผู้บงการอยู่เบื้องหลังและบรรดาแกนนำของขบวนการโจรก่อการร้ายเสื้อแดงให้สิ้นซาก 
 
วันที่ 29/4/2010
 
http://www.naewna.com/news.asp?ID=209081


หัวข้อ: Re: [2513]"ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: เหยง 16 ที่ 29 เมษายน 2553, 09:22:07
บทบรรณาธิการ นสพ.ไทยโพสต์ออนไลน์ วันนี้

เพื่อประชาธิปไตยรัฐไทยใหม่ ฉิบหายเท่าไหร่ก็ไม่ว่า
บทบรรณาธิการ 29 เมษายน 2553 - 00:00

     น่าเป็นห่วงกับแนวคิดของบรรดาคนเสื้อแดงทั้งหลาย  ที่คิดว่าต้องสู้ทุกวิถีทางเพื่อให้ได้มาซึ่งการปกครองระบอบประชาธิปไตยภายใต้บรรยากาศการปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข  มีรัฐธรรมนูญที่ผ่านการทำประชาพิจารณ์ของคนทั้งประเทศ  และให้สิทธิประชาชนสามารถชุมนุมได้อย่างสงบ  สันติ  ปราศจากอาวุธ
     ได้เกิดลัทธิเอาอย่างมากมาย  ปิดถนนเพื่อตรวจค้น  และปล้นทรัพย์สินประชาชนที่ขับยวดยานผ่านไปมาบนถนนหลวงไปพร้อมๆ  กับดักรถที่ขนเจ้าหน้าที่ทหาร-ตำรวจ  แล้วควบคุมตัวส่งกลับต้นสังกัด  เพื่อไม่ให้ไปสลายการชุมนุมที่แยกราชประสงค์
     ข่มขู่คุกคามโรงพยาบาล  ขอเข้าตรวจค้นอาคาร  ขัดขวางรถพยาบาลไม่ให้นำผู้ได้รับบาดเจ็บซึ่งเป็นประชาชนย่านสีลมเข้าห้องฉุกเฉิน  นำยางรถยนต์ไปขวางรางรถไฟฟ้า  นำถังแก๊สมาเป็นอาวุธหวังย่างสดทหาร  นำไม้ไผ่เหลาปลายแหลมเพื่อใช้แทงเจ้าหน้าที่  ล้วนเป็นการละเมิดสิทธิผู้อื่น  และขัดรัฐธรรมนูญที่ให้ชุมนุมอย่างสงบ  สันติ  ปราศจากอาวุธ  ทั้งสิ้น
     การเริ่มต้นแบบนี้เพื่อให้ได้มาซึ่งการปกครองในระบอบประชาธิปไตย  ต้องถามคนเสื้อแดงว่า  ประชาธิปไตยแบบไหนกัน  ประชาธิปไตยแบบรัฐไทยใหม่  เขาเรียกร้องกันอย่างนี้หรือ
     หากขณะนี้ฝ่ายเสื้อแดงเป็นผู้กุมอำนาจรัฐ  ก็คงจะรู้ดีว่าควรจะจัดการอย่างไรกับการชุมนุมที่สี่แยกราชประสงค์  เพราะรัฐบาลสมชาย  วงศ์สวัสดิ์  เองก็เคยใช้กำลังตำรวจฆ่าประชาชนในเหตุการณ์  7  ตุลาคม  2550  มาแล้ว
     แต่มีทางเลี่ยงไม่ให้ถึงขั้นนั้น  จะสังเกตเห็นว่าประเทศพัฒนาแล้ว  หรือบางประเทศที่ด้อยพัฒนา  การสลายการชุมนุมเป็นไปอย่างละมุนละม่อม  ผู้ชุมนุมและเจ้าหน้าที่รู้ขอบเขตของตนเองดี  ผู้ชุมนุมไม่อาจใช้อาวุธได้  แต่จะยอมให้เจ้าหน้าที่จับกุมตัว  ขัดขืนบ้างไม่ขัดขืนบ้าง  ส่วนเจ้าหน้าที่ทำได้รุนแรงสุดแค่ใช้ไม้กระบองตี  ยิงแก๊สน้ำตาใส่  ไม่จำเป็นต้องขนอาวุธสงครามมาคอยรับมือกับกองกำลังไม่ทราบฝ่ายที่มีอาวุธสงครามอยู่ในมือเหมือนประเทศไทย
     การที่คนเสื้อแดงแสดงความก้าวร้าว  ต้องยึดอำนาจคืนให้ได้ทุกวิถีทางนั้น  จึงเป็นประเด็นที่ต้องค้นหาตำตอบให้ได้ว่า   จุดหมายปลายทางของคนเสื้อแดงอยู่ที่ประชาธิปไตยจริงหรือไม่  เพราะแม้แต่การต่อสู้เพื่อให้ได้อำนาจประชาชนคืนจากเผด็จการทหารในอดีต  คนไทยในยุคก่อนๆ  ไม่เคยทำกันถึงขนาดนี้  ไม่เคยคิดว่าต้องยึดอำนาจคืนให้ได้  ประเทศชาติจะฉิบหายก็ช่างมัน
     ประเด็นล้มเจ้านั้นเป็นจุดมุ่งหมายหนึ่งซึ่งต้องพูดกันในระยะยาว  เพราะเป็นไปไม่ได้ที่คนเสื้อแดงจะล้มล้างสถาบันในทันทีเมื่อได้อำนาจคืน  แต่วัตถุประสงค์หลักน่าจะใช้อำนาจที่ได้มาจัดระเบียบประเทศสร้างเครือข่ายขึ้นมาใหม่  ทั้งรัฐตำรวจ  กลุ่มทุนสามานย์  สร้างข้าราชการแบบซีอีโอ  ปูทางนำสมบัติชาติมาเป็นสมบัติตัว  กลืนกินสำนึกผู้คน ให้หลงใหลกับนโยบายประชานิยมจนโงหัวไม่ขึ้น  ซึ่งทักษิณ  ชินวัตร  เคยทำสำเร็จมาแล้ว  แล้วค่อยคิดการใหญ่ล้มล้างสถาบัน.

http://www.thaipost.net/news/290410/21480


หัวข้อ: Re: [2513]"ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: เหยง 16 ที่ 29 เมษายน 2553, 09:24:04
คอลัมม์"คนปลายซอย" ของคุณเปลว สีเงิน

ด้วยเป็นที่ประจักษ์ชัดแล้วว่า......?
เปลว สีเงิน 29 เมษายน 2553 - 00:00

  "พลทหารณรงค์ฤทธิ์   สาระ"  เป็นลูกหลานใคร  มาจากหน่วยไหน  สังกัดไหน  และจังหวัดไหน  ผมก็ยังไม่ทราบนะครับ  ทราบแต่ว่า...นี่คือ  "ทหารของชาติ"  มาปฏิบัติหน้าที่ควบคุม   "กลุ่มกบฏ"  ยึดเมืองหลวงอยู่ในกรุงเทพฯ  และเมื่อวานนี้  (๒๘  เม.ย.๕๓)  ปะทะกับกลุ่มกบฏเสื้อแดงที่อนุสรณ์สถานแห่งชาติ  ดอนเมือง  และ  "ถูกยิงตาย"  ผมก็ขอแสดงความเสียใจกับผองเพื่อนทหาร  และญาติ-พี่น้องของพลฯ  ณรงค์ฤทธิ์ด้วย
     คงไม่ต้องเล่ารายละเอียดที่คณะแกนนำกบฏมอบหมายให้  "นายขวัญชัย  ไพรพนา"  เป็นแม่ทัพแดง  ยกกำลังจากศูนย์บัญชาการใหญ่  ณ  แยกราชประสงค์ไปเป็นกำลังสนับสนุนพรรคพวกที่ปฏิบัติการอยู่ย่านตลาดไท  แถวๆ  ธรรมกาย  เพราะโทรทัศน์ทั้งใน-นอกประเทศออกข่าวตลอดตั้งแต่บ่าย  ๒  โมงกว่าอยู่แล้ว
     พวกกบฏแดงปิดถนน  ทหารเข้าสกัดกั้น  ก็เลยปะทะกัน  "นายขวัญชัย  ไพรพนา"  ทิ้งชาวบ้านเสื้อแดงให้สู้กับทหาร  ส่วนตัวเองขึ้นรถหนีเอาตัวรอดกลับไปรวมหัวที่ราชประสงค์  แล้วขึ้นเวทีอวดซะอีกว่า  "มีพระดี"  จึงรอดมาได้!
     ก็ไม่อยากแสดงความคิดเห็นอะไรอีก   มันอนาถใจจนไม่รู้จะพูดอะไรถูก   วานซืนได้ยิน   "นายสุเทพ  เทือกสุบรรณ"  รองนายกฯ  ฝ่ายความมั่นคง  และผู้กำกับดูแลกิจการตำรวจพูดกระแทกๆ  ว่า  "ใครรู้ตัวว่าไม่พร้อมก็ขอย้ายตัวเองออกไปได้"
     นี่มันคือคำสารภาพตรงๆ  ว่า  "สำนักงานตำรวจแห่งชาติ"  เต็มไปด้วย  "ตำรวจเกียร์ว่าง...ตำรวจสีแดง"  อย่างชัดเจน!
     การที่กฎหมายไร้สภาพบังคับใช้ขณะนี้   ส่วนหนึ่งก็มาจาก  "ตำรวจฝักใฝ่กบฏแดง"  ไม่ทำหน้าที่ก็ยังพอทน  แต่ที่หนักหนาน่าทุเรศกว่านั้น  ทั้งร่วม-ทั้งรู้เห็นเป็นใจ  เรียกว่าเป็นไปกับขบวนการ
     ทั้ง  ส.ส.แดง  ทั้งทหารแดง  ทั้งมหาดไทยแดง  และทั้งนายทุนอิทธิพลถิ่น  ไม่เว้นกระทั่งไอ้พวกหัวโล้นห่มเหลือง!
     ตำรวจ-ทหาร-ข้าราชการ  ใครจะแดง  ผมไม่ว่าอะไร  และไม่แปลกตรงไหน  แต่การที่ยังกินเงินเดือนชาวบ้าน  อยู่ในหน้าที่ราชการทำงานเพื่อประเทศชาติ-ประชาชน  พวกคุณต้องซื่อสัตย์-มั่นคงต่อหน้าที่นั้น  ถ้าอยากเป็นพวกกบฏแดง-กบฏทักษิณ  ก็ควรลาออกไป  ประกาศตัวให้ชัดเจนไปเลย
     แต่การทำอย่างนี้   ยังเป็นคนหลวง  กินเงินเดือนหลวง  แต่ทรยศหลวง  ทรยศประชาชน  พวกคุณเป็นคนไม่มีค่า-ไม่มีราคาความเป็นคนอะไรเลย  ฉะนั้น  การที่นายสุเทพแสดงอำนาจอวดชาวบ้านด้วยปากว่า  "ใครไม่พร้อมก็ขอย้ายตัวเองออกไปได้"  นั้น  นอกจากเป็นความเหลืออดที่สิ้นปัญญาแล้ว  ก็เหมือนตักน้ำรดหัวสาก  ซู่เดียวหายไป  ไม่มีใครรู้สึก
     ว่าแต่นายสุเทพเองก็เถอะที่ต้องสำนึก  เป็นคนคุมตำรวจ  แต่ตำรวจไม่ทำงาน  แถมยังมีบางส่วนไปร่วมพวกกบฏ  การที่เป็นเช่นนี้
     "ตัดหัวตำรวจกบฏ"  นั้น...ตัดได้
     แต่หัวนายสุเทพผู้เป็นนาย  ควรต้องตัดก่อนใช่มั้ย?!
     ณ  วันนี้  ด้วยการบริหารของนายกฯ  อภิสิทธิ์  ไม่เพียงกรุงเทพฯ  เท่านั้นที่กลายเป็นเมืองอันตราย   แต่ทั่วโลกประกาศให้รู้กันทั่วไปหมดแล้วว่า  "ทุกพื้นที่ประเทศไทย...อันตรายสูงสุด  ห้ามมา"!
     งามหน้ามั้ย...อภิสิทธิ์  "ผมจะบังคับใช้กฎหมายนำความสงบกลับคืนมาให้พี่น้องประชาชนโดยเร็ว"   พูดน่ะสวย  แต่ทำเฮงซวยตลอด  ปล่อยให้ชาวบ้าน  และทหาร  (ส่วนใหญ่ทหารเกณฑ์)  ต้องบาดเจ็บและตายไปวันละคน-สองคน  โดยไม่ได้ผลตอบแทนมาเป็นความสงบเรียบ
ร้อยอะไรเลย
     เป็นนายกฯ   น่ะ  ถ้าทำให้บ้านเมืองดีไม่ได้  ก็ไม่ควรเป็นตัวถ่วง  ถ้าบ้านเมืองมันจะต้องเป็นอะไร  ก็ปล่อยให้มันเป็นของมันไป  แต่ละคนจะได้สมน้ำหน้าตัวเองเท่าๆ  กัน   แต่อย่าให้มันเป็นด้วยการปล่อยให้คนเอาไปพูดกันว่า...เพราะบ้านเมืองมีนายกฯ-มีแม่ทัพที่...
     เหลือเดน!
     อภิสิทธิ์-อนุพงษ์   อยากมีชื่ออยู่ในบรรทัดประวัติศาสตร์ของหนังสือเรียนว่า  เราเสียเมืองให้กบฏ  สถาบันถูกย่ำยีในยุคนายกฯ  ชื่ออภิสิทธิ์  ผบ.ทบ.ชื่อ  พล.อ.อนุพงษ์อย่างนั้นหรือ?
     ไหน...เห็นเขาลือกันว่า   จะเปลี่ยนตัวว่าที่  ผบ.ตร. จาก  พล.ต.อ.ปทีป  ตันประเสริฐ   ไปเป็น  พล.ต.อ.จุมพล  มั่นหมาย  เพื่อนรักทักษิณ  (ความจริงอดีตก็คือเพื่อนรักผมด้วย)   ก็เปลี่ยนไปเลย  เพราะตั้งแต่  พล.ต.อ.ปทีปรักษาการ  ผมไม่เคยเห็น  พล.ต.อ.ปทีปแสดงภาวะผู้นำตำรวจที่ลูกน้องเคารพ-เชื่อฟังอะไรเลย
     ท่านเป็นคนดี   แต่ท่านน่าสงสารที่ตกอยู่ในฐานะ  "หนังหน้าไฟ"  ก็ลองให้  พล.ต.อ.ชุมพลเขามาทำหน้าที่บ้าง  อย่าไปมองว่า  "เพื่อนทักษิณ"  แล้วจะฉวยโอกาสยกตำรวจทั้ง  ๒-๓  แสนคน  ไปสังกัด  "สำนักงานตำรวจแดงแห่งชาติทักษิณ"  ถ้าเป็นอย่างนั้น  จะได้เชือดกันให้ถนัด
     ผมเชื่อว่า   พล.ต.อ.จุมพลแยกแยะความเป็นเพื่อน   กับความเป็นชาติในการทำหน้าที่ได้   ถ้าระแวงว่าเป็นเพื่อน  ผมก็จะบอกว่า  ผบ.สส. พล.อ.ทรงกิตติ  จักกาบาตร์  ก็เพื่อนทักษิณ   พล.อ.อนุพงษ์  เผ่าจินดา  ผบ.ทบ. ก็เพื่อนทักษิณ  กระทั่ง  พล.ร.อ.กำธร  พุ่มหิรัญ  ผบ.ทร.ก็เพื่อนทักษิณ
     แต่ไม่เห็นทักษิณมีอิทธิพลเหนือการทำหน้าที่ของแต่ละท่านนี่ครับ  แต่ละท่านปฏิบัติหน้าที่  "เพื่อชาติ"  จนตัวเป็นเกลียวกันทั้งนั้น!
     ก็ลองใช้บริการบิ๊กจุ๋มดูบ้าง  บางที  "ลางเนื้อชอบลางยา"  ในเมื่อเพ่งเล็งว่า  พล.ต.อ.จุมพลเป็นคนทักษิณ  ก็ให้มารับผิดชอบบัญชาการตำรวจซะเลย!
     เหมือนเอาคนชอบหนียาม  มาเป็นหัวหน้ายาม  แล้วดูซิต่อจากนี้  หน้าไหนมันจะหนีกันมั่ง!?
     แต่พูดกันด้วยความเป็นธรรม  "ตำรวจแดง"  ที่ยอมทรยศหน้าที่เพื่อทักษิณมีเพียงบางส่วนเท่านั้น  ส่วนใหญ่ยังคงเป็นตำรวจของประชาชน  ไม่ต้องดูไกล  ดูอย่าง  "กองปราบ"  นั่นก็พอ  ที่นั่นตำรวจแดงก็มี  แต่ในภาพรวมท่านทำหน้าที่  "พิทักษ์สันติราษฎร์"  กันน่าชื่นใจ
     อย่างท่าน  พ.ต.อ.ศานิตย์  มหถาวร  รองผู้บังคับการกองปราบนั่นปะไร  ใครก็ไม่กล้าจับเสธ.แดง  แต่ท่านจับซะเสธ.แดงซะแดงห้อไปเลย!
     ถึงตอนนี้...ใครยังบอกว่าที่พวกกบฏทักษิณทำ  เป็นการชุมนุมเรียกร้องประชาธิปไตยโดยสันติ  ปราศจากอาวุธอยู่อีก?
     ฆ่าทหารก็ฆ่าแล้ว  ยิงเอ็ม  ๗๙  ฆ่าชาวบ้านก็ฆ่าแล้ว  จลาจลเมืองก็จลาจลแล้ว  นี่...คาหนัง-คาเขา  วานนี้  ทหาร-ตำรวจไล่กวดมอเตอร์ไซค์เสื้อแดง  เห็นจวนตัวโยนถุงที่บรรทุกมาทิ้งข้างทางแถววิภาวดีรังสิต
     ปรากฏว่าเป็นลูกเอ็ม  ๗๙  ร่วมร้อยลูก!
     มันเป็นพวกก่อการกบฏ-เป็นพวกก่อการร้าย   มีอาวุธร้ายแรงต่อสู้กับเจ้าหน้าที่บ้านเมืองเห็นชัดๆ  มันทำกรุงเทพฯ  มันทำประเทศไทยให้กลายเป็นแดนมิคสัญญี  เป็นแดนก่อการร้ายเป็นที่หวาดกลัวกันไปทั้งโลก
     มีแต่นายกฯ  อภิสิทธิ์  พล.อ.ประวิตร  พล.อ.ทรงกิตติ  พล.อ.อนุพงษ์  พล.ร.อ.อิทธพร  พล.ร.อ.กำธร  และ  พล.ต.อ.ปทีป  เท่านั้นที่ยังเห็นว่า  พวกกบฏทักษิณเป็นผู้ชุมนุมโดยสันติ  ปราบปรามไม่ได้
     ขนาดจะพูดถึงยังเกรงอก-เกรงใจ   กลัวท่านวีระ  ท่านจตุพร  ท่านณัฐวุฒิ  ท่านเหวง  ท่านแรมบ้าอีสาน   ท่านอริสมันต์  จะไม่พอใจ  จะสลายม็อบแต่ละทียังต้องพูดว่า  "ขอคืนพื้นที่"!
     ดัดจริตจนอยากจะอ้วก!!
     นี่เห็นโรงพยาบาลจุฬาฯ   ปิดตึก-ปิดอาคาร  ย้ายผู้ป่วยใน  ไม่รับผู้ป่วยนอก  ชุลมุนวุ่นวายกันไปหมด  สงครามโลกครั้งที่  ๑  และครั้งที่  ๒  ยังไม่ถึงขนาดนี้เลย  จะรอให้กบฏยึดกรุงเทพฯ  เบ็ดเสร็จเสียก่อนรึไง  ค่อยไปนุ่งผ้าเตี่ยววางแผนอยู่ในป่าเขาใหญ่ปราบกบฏ?
     นี่เห็นทำท่าจะ   "ปิดประตูตีแมว"  เอาตำรวจ-ทหารตั้งด่าน  "อุดทวารกบฏ"  ที่ราชประสงค์   ทั้ง  ๖  ทิศ  ๖  ทาง  จะสลายม็อบว่างั้นเถอะ  มัวแต่ตั้งท่า  เงื้อง่าราคาแพงอยู่อย่างนี้  คงจะรอให้พวกสมุนเสื้อแดง-เสือดำตั้งพิกัดหันลำกล้องส่องเอ็ม  ๗๙  ใส่กลุ่มทหาร-ตำรวจชัดๆ  เสียก่อนแล้วค่อยเคลื่อนพลกระมัง?
     ก็หวังว่าจากวันนี้ไปจนถึงเช้าวันที่  ๒  พฤษภา  เช้าวันใด-วันหนึ่ง  ตื่นขึ้นมาคงพบข่าวดี  "ทหาร-ตำรวจ"  เข้าเคลียร์พื้นที่จับไอ้พวกหัวโจกมัดอกแอ่นได้เรียบร้อยแล้ว!
     ไม่ใช่กลายเป็นว่า  พวกกบฏบุกเข้าจับ  อภิสิทธิ์-อนุพงษ์-สุเทพ  แล้วเอาดินหม้อทาหัว-ทาหน้า  ชักรอกให้ฮากันตรึมกลางสี่แยกราชประสงค์แทนซะล่ะ
     ช่วงนี้ที่   "หมอตุลย์"  พักการแรลลี่ชาวหลากสีไว้ก่อนนั้น  ดีแล้วครับ  เพราะกรุงเทพฯ  เหมือน  ๓  จังหวัดใต้  โจรมันฆ่าได้ทั้งนั้น  ไม่เลือกชาวบ้าน  ไม่เลือกคนดี-คนร้าย  ฝังระเบิดเอาไว้   พ่อแม่มันเองก็ฆ่า  พอใครผ่านมามันก็ตูม..ตูม..ทั้งนั้น  เพื่อความไม่ประมาท  และไม่ต้องมาโทษกัน  หรือเสียใจกันภายหลัง
     เก็บพลังไว้ในใจ  ช่วงนี้อย่าเพิ่งเคลื่อนไปทางไหนเลย!
     นี่...พี่น้องหนุ่ม-สาวชาว  facebook  เขานัดหมายกันเอง  มีแผนร่วมทำกิจกรรมเพื่อชาติ  เพื่อสังคม  เพื่อในหลวง  ดูเหมือนว่าตั้งแต่บ่าย  ๒  โมงยัน  ๓  ทุ่ม  วันที่  ๒  พฤษภา   ที่เชิงสะพานพระราม  ๘  ฝั่งธนบุรี  เป็นความงดงามทางจิตใจและสายเลือด  ผมน่ะไม่ขัดหรอก  แต่ด้วยความเป็นคนแก่คิดมาก  ก็อยากจะบอกว่า...ไม่ขัดอะไร
     แต่ถ้ายังไงล่ะก็  "ระวัง-ระไว"  คิดถึงความปลอดภัยไว้ก่อนดีที่สุด!
     ตั้งแต่ตี  ๕  จากเมื่อคืนเป็นต้นไป  อย่างที่ผมบอก  "เสาร์เล็งมฤตยู"  ต้องเตรียมตัวกันเป็นพิเศษ   เปิดวิทยุช่องข่าวให้หลับคาหูไว้ก็ดี  เผื่อมีเสียงตึงตัง-ดังโครมอะไรขึ้นมา  จะได้ไม่นอนหลับทับเหตุการณ์   แล้วจะมาบ่นเจ็บใจทีหลังว่า  พลาดท่า-ไม่ได้ดูช็อตเด็ด  ๒  คู่หูต่างวัย  "มาร์ค-ป๊อก"  ปฏิบัติการไม่ได้เชียวนา
     จากนี้....ห้ามกะพริบตา  เว้นแต่ว่า...ใครตาค้าง!?

http://www.thaipost.net/news/290410/21485


หัวข้อ: Re: [2513]"ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: เหยง 16 ที่ 29 เมษายน 2553, 09:37:36
คอลัมม์ "ถูกทุกข้อ" ของ สามวา สองศอก

คนสร้างไทย
ถูกทุกข้อ 29 เมษายน 2553 - 00:00

     นักสร้างไทย...ใช่ที่ดีแต่พูด
     ต้องพิสูจน์ด้วย..ทำ..จึงสำเร็จ
     นักวิชามากล้นกลเม็ด
     สมองเพชร..กลั่นใช้ไทยจึงงาม
          นักสร้างไทย ดีกรีดีอวดอ้าง
          พูดเข้าข้างประโยชน์ตนคนรุมหยาม
          พวก "มะกอกมากตะกร้า" ไม่น่าตาม
          ไม่มีความจริงใจ..ให้ใครชม
     นักสร้างไทยต้องนำ..ทำทันที
     ทำเดี๋ยวนี้..ไม่ขลาดก่อนชาติล่ม
     ไม่เกี่ยงมึง..เกี่ยงมัน..ฝันลมลม
     ชาติอุดม..คือความหวังคนสร้างไทย
                                             สมเจตน์  สายแก้ว

                  กลับหัวกลับหาง
เรียน คุณสามวา สองศอก ที่เคารพ
     ช่วงนี้ไม่ว่าจะกระดิกตัวไปทางไหน   หูผมมักได้ยินเสียงคนปรับทุกข์กันถึงปัญหาบ้านเมืองแทบจะทั่วไปหมด   ท่านอาจารย์พุทธทาสภิกขุช่วงซึ่งท่านยังมีชีวิตอยู่  ได้ปรารภฝากไว้ว่าไม่ว่าวิถีการเปลี่ยนแปลงอะไรก็ตามที่มันสร้างปัญหาให้แก่สังคม  ถ้ากลับหัวกลับหางมันได้ย่อมเป็นทิศทางที่ช่วยแก้ปัญหาได้เองอย่างเป็นธรรมชาติ
     เรื่องนี้ฟังดูแล้วมันเหมือนกับเป็นเรื่องง่าย  แต่หลายคนหลังจากรับฟังแล้วมักจะบ่นว่า  "มันยากที่จะนำปฏิบัติ"
     ความจริงแล้วประเด็นนี้  ถ้าเรารู้ว่าสิ่งที่รู้สึกว่ามันสร้างปัญหา  ความจริงแล้วปัญหาที่เกิดขึ้นมันมีเหตุสืบเนื่องมาจากเงื่อนไขที่อยู่ในรากฐานจิตใจตนเอง
     เรื่องนี้คือหลักธรรม  หากใครนำปฏิบัติได้ก็ย่อมแก้ปัญหาได้
     ท่านถึงได้กล่าวฝากไว้ว่า  "สิ่งที่มันอยู่ในรากฐานจิตใจมนุษย์แต่ละคนนั้นคือธรรมชาติ  ส่วนสิ่งที่อยู่ข้างนอกนั้นมันคือธรรมดา"
     นี่คือหลักธรรมจากการนำปฏิบัติ  หากใครปฏิบัติได้ก็ย่อมรู้ได้เองอย่างเป็นธรรมชาติ  แม้ไม่มีใครสอน  เราผู้ปฏิบัติก็ควรสอนตัวเองได้ด้วย     
     สิ่งที่ได้กล่าวมาแล้ว  ถ้าใครยังไม่สามารถนำปฏิบัติได้ก็ย่อมรู้ได้ไม่ถึง  ผมมีบทความเรื่องหนึ่งซึ่งพึ่งจะเขียนขึ้นมาเมื่อไม่นาน  บทความเรื่องนี้ให้ชื่อว่า  "ใหญ่ที่สุดคือเล็กที่สุด"  ซึ่งหมายถึงสิ่งใดก็ตามที่ตกหล่นอยู่บนพื้นดิน  ย่อมเป็นสิ่งมีคุณค่าสูงมาก  แต่มนุษย์ส่วนใหญ่มักไม่ค่อยจะเห็นความจริงในเรื่องนี้
     ยิ่งเป็นเรื่องที่เกี่ยวข้องกับชีวิตมนุษย์ด้วยแล้ว  หลักธรรมได้กล่าวฝากไว้ว่า  "เพราะไม่มีเหตุนั้น   จึงไม่มีเหตุนี้"   ดังนั้นถ้าจะกล่าวว่า  "เพราะเราไม่เห็นคุณค่าของสิ่งซึ่งอยู่บนพื้นดิน  เราจึงมองไม่เห็นคุณค่าของชีวิตคนระดับล่าง  เช่น  ชาวไร่  ชาวนา"
     เพราะเรามองคนเหล่านี้อย่างดูถูกดูแคลน   การพัฒนาชนบทของเราจึงตกอยู่ในสภาพล้มเหลวจนแทบจะสิ้นเชิง
     ไม่ต้องดูอื่นไกล  แม้แต่ชีวิตคนที่หากินอยู่ตามข้างถนน  ซึ่งส่วนใหญ่เป็นพ่อค้าแผงลอย  คนเหล่านี้อพยพเข้าเมือง  จึงน่าสังเกตว่าเหตุใดพวกเขาจึงตกอยู่ในสภาพดังกล่าว
     แม้แต่ชีวิตภายในเมือง   ซึ่งแต่ก่อนแทบไม่มีขโมยขโจร  แต่ในปัจจุบันคนก่ออาชญากรรมเกลื่อนบ้านเกลื่อนเมืองไปหมด  เช่นนี้เป็นต้น
     อย่างที่ผมเคยเขียนเอาไว้แล้วในอดีตว่า   ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานครคนหนึ่งที่เชิญผมไปพูด  เพื่อแก้ไขปัญหาชุมชนแออัดในกรุงเทพฯ  ครั้นพูดไปพูดมามันก็มาลงตรงที่ชีวิตคนในชนบท  มักไม่อยู่กับร่องกับรอยจึงทำให้คนอพยพเข้ากรุง
     เรื่องนี้ถ้าใครไม่คิดดูถูกสิ่งที่มันอยู่ใกล้ตัวเรา  ดังเช่นตราประจำกระทรวงยุติธรรมที่เป็น
รูปตาชั่ง  อันหมายถึงหลักการที่ได้ชี้ไว้ว่า  "เมื่อด้านหนึ่งลง  อีกด้านหนึ่งก็ย่อมขึ้น"  ดังนั้นการคิดแก้ไขปัญหาคนชนบทอพยพเข้ากรุง  จนกระทั่งมาสร้างชุมชนแออัดขึ้นในเมืองหลวง   แทนที่เราจะมุ่งไปแก้ไขในเมืองกรุงก็ควรคิดแก้ไขปัญหาในชนบทให้ได้
     ผมยังจำได้ว่าครั้งนั้น   หลังจากมีการชี้ให้เห็นปัญหาชุมชนแออัดในกรุงเทพฯ  จนกระทั่งผู้ว่าราชการ  กทม.รู้ว่า  "ถ้าจะคิดแก้ไขปัญหาชุมชนแออัดในกรุงเทพฯ  ต้องไปมุ่งมั่นแก้ไขในชนบท"  ทั้งนี้  ก็เพราะถ้าเราสามารถสร้างความเข้มแข็งให้แก่รากฐานคนชนบท  คนก็ย่อมไม่อพยพเข้ากรุงเช่นนี้  เป็นต้น
     นี่แหละวิธีแก้ไขปัญหาที่ควรจะมุ่งเน้นความสำคัญไปยังด้านตรงกันข้าม  แต่เราก็คิดไม่ออก
 โดยเฉพาะปัญหาการจัดการศึกษาที่ไม่ทำให้รากฐานจิตใจคนเข้มแข็ง   ซึ่งเรื่องนี้ความจริงแล้ว
ความเข้มแข็งภายในรากฐานของมนุษย์  ทุกคนมีอยู่แล้วอย่างเป็นธรรมชาติมาตั้งแต่เกิด  เราไม่ต้องไปสร้างความเข้มแข็งให้กับรากฐานจิตใจใครอื่น   แต่โปรดอย่าทำลายความเข้มแข็งภายในรากฐานจิตใจที่มีอยู่แล้วเท่านั้นเป็นพอ
     ผมถึงได้เขียนบทความเรื่องหนึ่งโดยให้ชื่อว่า   "ยิ่งเล็กก็ยิ่งใหญ่"  สรุปแล้วโปรดอย่าดูถูกของเล็ก  แต่ควรให้ความสำคัญและรู้คุณค่าของเล็กเหนือกว่าของใหญ่
     ผมยังจำได้ดีว่าในอดีตที่ผ่านมา  คนไทยส่วนใหญ่มักถูกปรามาสว่า  "มองข้ามความสำคัญของสิ่งซึ่งตกหล่นอยู่บนพื้นดิน"  อีกทั้ง  "มองข้ามความสำคัญของสิ่งซึ่งอยู่ใกล้ตัว  แม้กระทั่งมองข้ามความสำคัญของสิ่งเล็กน้อย"
     หลักธรรมก็ได้ชี้ไว้ว่า  "เพราะเรามองข้ามความสำคัญ  สิ่งที่เรามองข้ามมันจึงพ่นพิษใส่เรา"  นอกจากนั้นยังมีคำปรามาสอีกประโยคหนึ่ง  ซึ่งกล่าวไว้ว่า  "เพราะเราดูถูกสิ่งที่ตกหล่นอยู่บนพื้นดิน  ยิ่งเป็นชีวิตมนุษย์ด้วยแล้ว  บัดนี้คนกลุ่มนี้จึงลุกขึ้นมาพ่นพิษใส่ตัวเอง"
     นอกจากนั้นยังมีเสียงปรามาสด้วยว่า   "คนไทยนิยมแก้แต่ปัญหาเฉพาะหน้า"  ส่วนปัญหาระยะยาวนั้นล้วนคิดไม่ออก
     คอยดูก็แล้วกันว่าปัญหาที่เกิดขึ้นในขณะนี้  ซึ่งเรานิยมออกกฎหมายแก้ไข  ถ้าในระยะยาวเรายังขาดจิตใต้สำนึกที่จะแก้ไข  ในที่สุดวันหนึ่งย่อมเกิดปัญหารุนแรงมากกว่านี้  ถ้าผมทายไม่ผิด
     การแก้ปัญหาระยะสั้นนั้น  ถ้าคิดแก้ไขโดยยกพวกฆ่ากันเองมันก็เท่านั้น  แต่ถ้าคิดแก้ไขในระยะยาว  เราจะต้องให้ความสำคัญในการแก้ไขปัญหาที่มันฝังอยู่ในรากฐานการจัดการศึกษาของชาติ
     ไม่ต้องดูอื่นไกล  แม้แต่ทุกวันนี้คนที่มีการศึกษาสูงๆ  ก็ยังทำให้สังคมจำต้องผิดหวัง
     ถ้าเราเป็นคนที่มีรากฐานจิตใจอิสระจริง  ก็ควรรู้สึกเฉลียวใจว่า  "เหตุใดคนที่มีการศึกษาสูงก็ยังคิดแบบหลงผิด"  เรื่องนี้เห็นจะต้องค้นหาเงื่อนปมที่มันแฝงอยู่ในระบบการจัดการศึกษาเท่าที่เป็นมาแล้ว
     ถ้าคิดจะแก้ไขปัญหากันอย่างจริงจังแล้ว  เราก็ไม่ควรที่จะมองปัญหาแต่เพียงผิวเผิน  แม้ว่าการแก้ปัญหาของชาติในครั้งนี้จะผ่านพ้นไปได้ก็ตาม   ถ้าไม่ติดตามให้ลึกซึ้ง  วันหนึ่งข้างหน้ามันก็ย่อมเกิดขึ้นอีกและรุนแรงยิ่งกว่าเก่า  ถ้าผมคาดการณ์ไม่ผิด
     ผมอายุ  88  ปีแล้ว  แต่ก็ยังลงไปใช้ชีวิตคลุกคลีอยู่กับพื้นดิน  และลงมือทำงานดำนาเกี่ยวข้าวร่วมกับชาวนาชาวไร่
     ผมถือว่าหลักธรรมได้ชี้เอาไว้อย่างชัดเจนแล้วว่า  ทุกสิ่งทุกอย่างจะต้องแก้ไขด้วยการลงมือปฏิบัติ  หาใช่เพียงแก้ไขด้วยปาก  ซึ่งมันเป็นเรื่องผิวเผิน  ทั้งนี้  เป็นเพราะการแก้ไขปัญหาด้วยวิธีการลงมือปฏิบัตินั้น   ย่อมมีผลการแก้ไขที่เกิดจากความจริง  ซึ่งอยู่ในใจตนเองของแต่ละคน
     ผมรู้สึกเสียใจที่มองครั้งใด  ก็มักจะมีแต่คนพูดว่า  "ขอให้จับเข่าคุยกัน"
     ถ้าคุณมานั่งจับเข่าคุยกัน   ต่อให้กี่สิบกี่ร้อยครั้งมันก็แก้ไม่ได้  นอกจากลงมือทำด้วยตัวเอง  ซึ่งทุกคนควรจะต้องนำปฏิบัติให้ได้
     อย่าว่าแต่ในยามที่เกิดปัญหาเลย  แม้แต่ในยามปกติผมก็ลงทำงานแบบติดดินร่วมกับชาวบ้าน
     เมื่อไม่นานมานี้   ตัวผมเองก็ยังลงไปเกี่ยวข้าว  คัดพันธุ์ข้าวในนาร่วมกับชาวบ้านในชนบท  ไม่เช่นนั้นแล้วไฉนเลยเราจะรู้ความจริงจากใจตัวเองให้ถึงแก่นแท้
     ถ้าแต่ละคนยังหลงอยู่กับความสบายทางวัตถุ  โดยไม่ยอมลงไปทำงานแบบติดดินอยู่กับชาวบ้าน  ซึ่งเขาก็เป็นคนไทยเช่นเดียวกับเรา  ไฉนเลยจะแก้ไขปัญหาได้สำเร็จ
     ช่วงที่ผมเป็นรัฐมนตรีกระทรวงเกษตรฯ  ผมเคยหาภาพที่มันเป็นความจริงมาสะท้อนให้คน
ทั่วไปได้มองเห็น  เพราะโทรทัศน์ตามไปถ่ายผมเพื่อทำข่าว  แต่ผมก็ยอมให้เขาถ่ายหากเอาตัวเองล่อกล้อง  ลงไปให้ทุกคนได้เห็นปัญหาของชาวบ้าน  ซึ่งประเด็นนี้หลายคนที่ติดตามข่าวผมคงจะจำได้ดี
     ความจริงแล้ววิธีแก้ปัญหาแบบนี้มักไม่ค่อยมีใครทำ  แต่ถ้าผู้บริหารประเทศทำได้ย่อมแก่ปัญหาได้ทุกเรื่อง  แม้ไม่จำเป็นต้องเสียเงินของชาติมากมาย
     ผมคิดว่าปัญหาที่เกิดขึ้นในครั้งนี้  เราต้องหวนกลับไปแก้ไขสิ่งที่มันเป็นมาแล้วในอดีต  แม้การแก้ไขในปัจจุบันมันก็อาจช่วยให้อนาคตเกิดปัญหาลดน้อยลงไปได้  ถ้าเราเป็นคนเอาจริงเอาจังโดยไม่ต้องคิดทำร้ายคนอื่น  ถ้าตัวเราเองไม่หลงอยู่กับอำนาจอีกทั้งโชคชะตาราศี  รวมทั้งความมีหน้ามีตาในสังคม
     ผมฝากตรงนี้ไว้ให้ทุกคนนำไปคิดพิจารณากันเอาเอง  จะว่ามันยากมันก็อาจยาก  แต่หากคิดว่ามันง่าย  โปรดอย่าดูถูกตัวเอง  แต่ขอให้ลงมือทำอย่างจริงจัง
                                                    ด้วยความเคารอย่างสูง
                                                            ระพี สาคริก
ตอบ อาจารย์ระพี
     มาถึงวันนี้คนส่วนใหญ่จะใช้อารมณ์มากกว่าเหตุผล  เพื่อมาแก้ปัญหาวิกฤติชาติที่ส่งผลถึงคน
ไทยทุกคน  อาจารย์ก็พยายามเสนอแนะมาหลายครั้ง  แต่ยังไม่มีใครนำไปปฏิบัติอย่างจริงจัง
                                                       สามวา สองศอก

http://www.thaipost.net/news/290410/21478


หัวข้อ: Re: [2513]"ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: เหยง 16 ที่ 29 เมษายน 2553, 13:57:37
อ้างถึง
ข้อความของ mek เมื่อ 28 เมษายน 2553, 22:11:35
เมื่อกี้ลองตามไปอ่าน link ที่พี่เหยงลงไว้เกี่ยวกับการยึด m79 ในเว็บผู้จัดการครับมีคนมาคอมเม้นท์เกี่ยวกับการแถลงข่าวลูกระเบิดm-79 ว่า

"ทำไมไม่เรียงเป็นคำว่า M79 ว่ะ"

 emo20:)):)
(http://pics.manager.co.th/Images/553000006230802.JPEG)
อ้างอิงภาพ : http://pics.manager.co.th/ShowImage.html?Image=%2fImages%2f553000006230802.JPEG&Width=610&Height=457 (http://pics.manager.co.th/ShowImage.html?Image=%2fImages%2f553000006230802.JPEG&Width=610&Height=457)


วันที่ 29 เมษายน พ.ศ. 2553 เวลา 12:50 น.  ข่าวสดออนไลน์


ค้นบ้านตร.คูคตพบอาวุธซุกเก๋ง-เจ้าตัวเผ่น

(http://img227.imageshack.us/img227/6063/police3.jpg)

ผบช.ภ.1ให้ออกพร้อมสั่งสอบ

     เมื่อวันที่ 29 เม.ย. ที่ สภ.คูคต อ.ลำลูกกา จ.ปทุมธานี พล.ต.ท.กฤษฎา พันธุ์คงชื่น ผบช.ภ.1 พล.ต.ต.คำรณวิทย์ ธูปกระจ่าง รอง ผบช.ภ.1 ,พล.ต.ต.เมธี กุศลสร้าง ผบก.ภ.จ.ปทุมธานี ,พ.ต.อ.นราเดช ทิพย์รักษ์ ผกก.สภ.คูคต พร้อมกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวน เร่งประชุม เพื่อสอบสวนเกี่ยวกับเจ้าหน้าที่ตำรวจของ สภ.คูคต ที่คาดว่ามีส่วนเกี่ยวข้องกับการตรวจพบบัตรประจำตัวตกอยู่ในที่เกิดเหตุที่ตรวจพบเครื่องกระสุนชนิดเอ็ม 79 ที่เหตุการณ์ย่านอนุสรณ์สถานเมื่อวานนี้ หลังจากนั้นเจ้าหน้าที่ทำการตรวจค้นบ้านพักย่านสายไหม กทม. และรถเก๋งยี่ห้อมาสด้า รุ่น 323 สีแดง หมายเลขทะเบียน กค 7163 สระบุรี สภาพเก่า ไม่สามารถใช้งานได้ จากการตรวจสอบเป็นทะเบียนรถปลอม ของ จ.ส.ต.ปริญญา  มณีโคตม์ ผบ.หมู่งานปราบปราม สภ.คูคต พบอาวุธปืน,เครื่องกระสุนและอุปกรณ์อีกหลายรายการ แต่ไม่เป็นที่เปิดเผยว่าเป็นอาวุธชนิดใด จำนวนมากน้อยเพียงใด เบื้องต้นทราบว่า จ.ส.ต.ปริญญาไม่เดินทางเข้าทำงานเมื่อเวลา 08.00 น.ของวันนี้ และได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่ตำรวจดังกล่าวออกจากราชการแล้ว พร้อมทั้งตั้งคณะกรรมสอบสวนว่าจะมีพัวพันการเหตุการณ์ดังกล่าวและคดีอื่น ๆ หรือไม่ และเตรียมออกหมายจับเพื่อติดตามตัวมาสอบสวนดำเนินคดี
     พ.ต.อ.สุรพันธ์ กอบเงินทอง ผกก.ฝ่ายสรรพาวุธ 3 หน่วยเก็บกู้ระเบิด กองสรรพาวุธตำรวจ เปิดเผยว่า หลังจากรับแจ้งตรวจพบอาวุธของจ.ส.ต.ปริญญาทั้งที่บ้านพักและรถเก๋ง จึงเข้าตรวจสอบภายในรถดังกล่าวเนื่องจากเกรงว่าจะมีการพบวัตถุระเบิดหรืออาวุธสงครามซุกซ่อนอยู่ในรถชนิดคาบอมม์ เพราะรถคันดังกล่าวถูกจอดทิ้งไว้มานานอยู่บริเวณที่จอดรถด้านข้างแฟลตตำรวจ มีสภาพเก่า หม้อแบตเตอรรี่ถูกถอดออก ตรวจไม่พบระเบิดแต่อย่างใด ส่วนอาวุธที่ตรวจพบได้ต้องนำไปตรวจสอบอีกครั้ง
     พล.ต.ต.เมธี เปิดเผยว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจคนดังกล่าวเคยเป็นทหารเกณฑ์จากทหารอากาศ แล้วสอบเข้าเตรียมพลตำรวจ รุ่นที่ 5 จ.สระบุรี จากนั้นเข้ารับราชการตำรวจฝ่ายงานจราจร สภ.คูคต มานานจนได้รับเลื่อนเป็นผบ.หมู่ปราบปราม  กระทั่งมาเกิดเรื่อง แต่โดยปกติเพื่อนตำรวจด้วยกันจะทราบว่า จ.ส.ต.ปริญญาฯ เป็นคนนิสัยไม่ค่อยสุงสิงกับใคร เดิมเป็นคนจ.เชียงราย และทำธุรกิจส่วนตัวในการซื้อขายอาวุธปืนสั้น ซ่อมและหาอะไหล่อาวุธปืน จากการสืบสวนทราบว่า จสต.ปริญญา มีส่วนเกี่ยวข้องกับการตรวจค้นพบอาวุธสงครามที่ อ.วังน้อย จ.พระนครศรีอยุธยา และที่ จ.สมุทรปราการ ขณะนี้ได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่ตำรวจคนดังกล่าวออกจากราชการแล้ว และออกหมายจับติดตามตัวต่อไป

http://www.khaosod.co.th/view_newsonline.php?newsid=TVRJM01qVXlNREk1TVE9PQ==


หัวข้อ: Re: [2513]"ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: เหยง 16 ที่ 30 เมษายน 2553, 09:02:19
บทบรรณาธิการของ นสพ.แนวหน้าออนไลน์ วันนี้(30 เมษายน 53)

บทบรรณาธิการ  
 
ผลประโยชน์แห่งรัฐมิเคยอยู่ในความคิดของทักษิณ (บทบรรณาธิการ
 
 
 
    เป็นเวลายาวนานเกือบ 3 เดือนแล้ว ที่กลุ่มผู้สนับสนุนระบอบทักษิณกลับมาชุมนุมประท้วงครั้งล่าสุด โดยยึดพื้นที่สำคัญของกรุงเทพมหานครไว้เป็นที่ชุมนุมทางการเมืองเพื่อขับไล่รัฐบาลชุดปัจจุบัน ให้พ้นจากอำนาจ เพราะต้องการให้ทักษิณ ชินวัตร กลับมามีอำนาจรัฐอีกครั้ง และยังต้องการล้างความผิดทั้งปวงที่ทักษิณและพรรคพวกได้จงใจก่อไว้

    อย่างไรก็ตาม การชุมนุมประท้วงในครั้งนี้ รวมถึงทุกๆ ครั้งที่ผ่านมา มีประจักษ์พยานหลายสิ่งหลายอย่างยืนยันให้เห็นว่า ทักษิณและพรรคพวก คือ ผู้ชักใยและบงการอยู่เบื้องหลังการก่อเหตุจลาจล หลักฐานเชิงประจักษ์ชิ้นสำคัญคือ การโฟนอินและวีดีโอลิงค์เข้ามาปลุกระดมเป็นประจำ

    นอกจากนี้ การชุมนุมของกลุ่มผู้สนับสนุนระบอบทักษิณบางพวก ยังมีเป้าหมายสำคัญอยู่ที่การพยายามก่อเหตุวินาศกรรมโดยมุ่งหมายเอาชีวิตของประชาชนผู้บริสุทธิ์เป็นเครื่องสังเวย เพราะได้มีการวางแผนไว้แล้วว่า เมื่อสามารถสังหารประชาชนได้แล้ว ก็จะนำศพประชาชนไปสร้างภาพและขยายเรื่องเพื่อนำไปสู่ความรุนแรงขั้นต่อไป โดยไม่มีทางหลีกเลี่ยง ซึ่งประเด็นดังกล่าวนี้ก็ได้ปรากฏชัดเจนแล้ว หลังเกิดเหตุวินาศกรรมวันที่ 10 เมษายน 2553 รวมถึงการจงใจก่อเหตุวินาศกรรมที่สีลม เมื่อค่ำวันที่ 22 เมษายน 2553 และการจงใจก่อเหตุจลาจลที่บริเวณอนุสรณ์สถานแห่งชาติ ถนนวิภาวดีรังสิต เมื่อบ่ายวันที่ 28 เมษายน 2553

    ขณะเดียวกันวิญญูชนก็ยังสามารถจับประเด็นที่ชัดเจนได้ว่า เป้าหมายสำคัญของกลุ่มผู้สนับสนุนระบอบทักษิณบางกลุ่ม อยู่ที่การจงใจโค้นล้มและล้มล้างสถาบันพระมหากษัตริย์ให้จงได้ หากจะมีผู้ชื่นชอบระบอบทักษิณบางกลุ่มโต้แย้งว่า เอาหลักฐานอะไรมากล่าวหาเช่นนี้ ก็ตอบได้ว่า จากคำพูดของทักษิณเอง รวมถึงจากคำพูดของเหล่าผู้สนับสนุนทักษิณ ที่กล่าววาจาจาบจ้วงล่วงละเมิดและแสดงอาการอาฆาตมาดร้ายต่อพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวและสมเด็จพระบรมราชินีนาถเป็นประจำ

    ทั้งหลายทั้งปวงที่กล่าวมา ณ ที่นี้ ล้วนเป็นเครื่องยืนยันถึงวัตถุประสงค์อันไม่บริสุทธิ์ของทักษิณ ชินวัตรและพรรคพวก ได้เป็นอย่างดี ไม่ว่าทักษิณและกลุ่มผู้สนับสนุน จะอวดอ้างว่าตนเองและพรรคพวกนิยมชมชอบและศรัทธาหลักการประชาธิปไตยอย่างมากล้นเพียงใดก็ตาม แต่การกระทำทั้งปวงที่เกิดขึ้นก็ล้วนแล้วแต่ขัดแย้งกับหลักการประชาธิปไตยอย่างสิ้นเชิง

 เราพบว่า หลายต่อหลายครั้ง ทักษิณจะแอบอ้างว่าเทิดทูนและจงรักภักดีต่อสถาบันพระมหากษัตริย์เหนือยิ่งกว่าใครๆ ทั้งประเทศ แต่เรากลับไม่เคยพบเห็นว่าทักษิณจะห้ามปรามหรือพยายามหยุดยั้งมิให้แกนนำกลุ่มผู้สนับสนุนระบอบทักษิณกระทำการหมิ่นพระบรมเดชานุภาพของสมเด็จพระมหากษัตริย์เจ้า

    เราพบด้วยว่าทั้งทักษิณและแกนนำระบอบทักษิณชอบอ้างว่า รักความสงบ รักสันติภาพ รักความเสมอภาค และรักประชาชน แต่นั่นก็เป็นแค่เพียงวาทกรรมที่ประดิษฐ์ขึ้นมาเพื่อเป้าหมายทางการเมืองเพื่อผลประโยชน์และความอยู่รอดของทักษิณและพวกพ้องเท่านั้น โดยประชาชนส่วนใหญ่และประเทศชาติหาได้ประโยชน์อันใดจากการกระทำดังกล่าว 
 
วันที่ 30/4/2010
 
http://www.naewna.com/news.asp?ID=209226


หัวข้อ: Re: [2513]"ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: เหยง 16 ที่ 30 เมษายน 2553, 09:02:50
บทบรรณาธิการ นสพ.ไทยโพสต์ ออนไลน์ วันนี้

เพื่อไทยล้มซักฟอกรัฐบาล สังคมได้หรือเสียประโยชน์  
บทบรรณาธิการ 30 เมษายน 2553 - 00:00

     มติของที่ประชุม  ส.ส.พรรคเพื่อไทยที่มีมติอย่างเป็นทางการว่า  จะไม่ยื่นญัตติเปิดอภิปรายไม่ไว้วางใจนายอภิสิทธิ์  เวชชาชีวะ  นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีอีกหลายคนตามที่ปรากฏเป็นข่าวก่อนหน้านี้   โดยมีการแถลงอย่างเป็นทางการจาก  ร.ต.อ.เฉลิม  อยู่บำรุง  ประธาน  ส.ส.พรรคเพื่อไทย  ว่าเนื่องจาก  ส.ส.พรรคเพื่อไทยเห็นว่ารัฐบาลชุดนี้เป็นรัฐบาลมือเปื้อนเลือดจากกรณีการสลายการชุมนุมเมื่อ  10  เมษายน  2553  ที่มีผู้เสียชีวิตและบาดเจ็บจำนวนมาก  รัฐบาลจึงไม่มีความชอบธรรมทางการเมืองที่ฝายค้านจะต้องเปิดอภิปรายไม่ไว้วางใจ
     ซึ่งนั่นก็เป็นเหตุผลทางการเมืองของพรรคเพื่อไทยที่จะต้องหาเหตุอันชอบธรรมมายกเหตุผลอธิบายต่อประชาชน  แต่ข้อเท็จจริงทางการเมืองก็คือ  ท่าทีของพรรคเพื่อไทยครั้งนี้แสดงให้เห็นว่า  พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร  รวมถึงแกนนำพรรคคนอื่นๆ  ได้เทน้ำหนักการล้มรัฐบาลมาไว้ที่การเมืองนอกรัฐสภาเพียงที่เดียว  และละทิ้งการทำหน้าที่ของพรรคเพื่อไทยในสภาผู้แทนราษฎรไปแล้ว
     ทั้งที่ก่อนหน้านี้พรรคเพื่อไทยโดยเฉพาะบรรดาแกนนำทั้งหลายออกมาประกาศล่วงหน้าว่า  พรรคฝ่ายค้านมีข้อมูลการทุจริตแสวงหาผลประโยชน์  การใช้อำนาจหน้าที่โดยมิชอบของรัฐมนตรีหลายคนในรัฐบาล
     จึงมีเสียงสะท้อนอีกด้านว่าในเมื่อพรรคฝ่ายค้านมีข้อมูลการทุจริตอยู่มาก  แล้วทำไมพรรคเพื่อไทยจึงไม่ทำหน้าที่ตรวจสอบรัฐบาลในรัฐสภา  ซึ่งเหตุผลง่ายๆ  กับท่าทีของเพื่อไทยครั้งนี้ก็คือ  เพื่อไทยมองว่าหากยื่นญัตติไปแล้วจะทำให้เกิดเงื่อนไขทางการเมืองหลายอย่างที่จะทำให้การเคลื่อนไหวของคนเสื้อแดงติดล็อกทางการเมืองโดยเฉพาะการยุบสภา  เพราะเมื่อฝ่ายค้านยื่นญัตติเปิดอภิปรายไม่ไว้วางใจไปแล้ว  นายกรัฐมนตรีไม่สามารถยุบสภาได้
     แม้จะมี  ส.ส.เพื่อไทยบางคนอธิบายให้ฟังว่าถึงยื่นญัตติไปแล้ว  แต่ระหว่างนั้นหากเกิดเหตุการณ์สำคัญๆ  ทางการเมืองขึ้น  ก็ให้  ส.ส.เพื่อไทยไปถอนชื่อออกจากญัตติได้อันจะทำให้ญัตติอภิปรายไม่ไว้วางใจล้มลง  อย่างไรก็ตาม  ในทางการเมืองหาก  ส.ส.เพื่อไทยชักเข้าชักออกลงชื่อไปแล้ว  จากนั้นไปถอนชื่อออกก็จะไม่เป็นผลดีทางการเมืองกับพรรคเพื่อไทย  จึงทำให้สุดท้ายเพื่อไทยก็เลยไม่ยื่นญัตติเปิดอภิปรายไม่ไว้วางใจและเลือกที่จะสนับสนุนการเคลื่อนไหวการเมืองของคนเสื้อแดงที่สี่แยกราชประสงค์อย่างเต็มที่  เพราะเห็นว่านี่คือการล้มรัฐบาลที่เร็วที่สุด  เพราะการอภิปรายไม่ไว้วางใจต่อให้มีข้อมูลดีอย่างไร  อภิปรายอย่างไร  ก็ไม่มีผลทางการเมืองมากนัก  เพราะอย่างไรรัฐบาลก็ต้องผ่านศึกอภิปรายไม่ไว้วางใจไปได้อยู่ดี
     และนี่จะเป็นอีกหนึ่งสัญญาณการเมืองที่บ่งบอกว่า  การเคลื่อนไหวของคนเสื้อแดงจะทวีความดุเดือดเข้มข้นขึ้นหลังพรรคเพื่อไทยไม่อภิปรายไม่ไว้วางใจ  เพราะทั้งหมดจะทำทุกอย่างเพื่อล้มรัฐบาลให้ได้ในเวลาเร็วที่สุด  แต่จะรุนแรงแค่ไหน  อย่างไรเสียเสื้อแดงและพรรคเพื่อไทยก็ต้องคำนึงถึงหลักกฎหมายบ้านเมือง  ความสงบสุขของประเทศด้วย  ไม่ใช่จะเอาชนะกันอย่างเดียวจนบ้านเมืองพังพินาศ.

http://www.thaipost.net/news/300410/21535



หัวข้อ: Re: [2513]"ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: เหยง 16 ที่ 30 เมษายน 2553, 09:07:12
คอลัมม์"คนปลายซอย" ของคุณเปลว สีเงิน วันนี้(30 เมษายน 53)

คิดร้ายต่อประเทศไทย "ตาย (ไม่ดี) ทุกคน!"
เปลว สีเงิน 30 เมษายน 2553 - 00:00

 สถานการณ์งวดเข้ามาทุกขณะ  "ศอฉ."  จะลุยกบฏหรือไม่ลุย  ผมตอบได้เลยว่า  "ไม่ลุย"  เมื่อไม่ลุยแล้วจะจบยังไง?"  เท่าที่ผมหยั่งใจ  ศอฉ.  "จบแบบ  (อยาก)  จับหัวโจก"  แต่จะมีแผนฝ่าการ์ดเสื้อแดงและดงเอ็ม  ๗๙  เอ็ม  ๑๖  ทั้งสารพัดระเบิดที่กั้นถึง  ๓  ชั้น  โดยใช้ชาวบ้านเป็นไข่ขาวล้อมอยู่วงนอกได้อย่างไร  ตรงนี้เป็นหน้าที่ของพวก  "หัวเสธฯ" เขาคิด  พวกหัวชันนะตุอย่างผม  ไม่อยากไปสะเออะ!
     แต่ระวัง   "จันทร์ตรีโกณอังคาร"  ตอนเช้าวันเสาร์ที่  ๑  พฤษภา.ไว้ด้วยละกัน  ทั้งจันทร์-ชาวบ้านระดับรากหญ้า  ทั้งอังคาร-ทหารตำรวจในเครื่องแบบอยู่ในจุด   "เปราะบาง"   คือเสื่อมทั้งคู่   แมวก็อย่าไปเลียหนวดเสือ  และเสือก็อย่าไปเกาคางแมว  ต่างฝ่ายต่างเกิดอารมณ์ขึ้นมาแล้วมันจะ
     โลกาวินาส!?
     ผมกะท่านก็คุยกันไปจนไม่เหลืออะไรจะคุยกันแล้ว  แต่..อ้อ..พรรคแดงทั้งแผ่นดินเขาตกลงไม่ยื่นญัตติอภิปรายล้มรัฐบาลแล้ว  เป็นอันว่าปีนี้ฝ่ายค้าน  "หมดสิทธิ์"  ได้ล้มรัฐบาลผ่านญัตติไม่ไว้วางใจ  เพราะ  ๒๑  พฤษภา  ก็จะปิดสมัยประชุมทั่วไป  เปิดอีกทีเป็นสมัยนิติบัญญัติ  ยื่นไม่ได้แล้ว
     ล้มในสภาไม่ได้  แต่นอกสภายังเป็น  "ละครหลังข่าว"  จะสั้น-จะยาวอยู่ที่เรตติ้งท่านผู้ชม  เอาเป็นว่า  ณ  นาว  อภิสิทธิ์  "ลงยันต์"  หนังเหนียว  เป็นนายกฯ  ต่อไป  เพราะฝ่ายแค้นกัดไม่เข้า!
     นี่...พูดกันตามหน้าไพ่ที่เล่นในบ่อนรัฐสภานะครับ  แต่ใครจะอยู่-ใครจะไป  ไพ่ที่เล่นในบ่อน   "นอกสภา"  กลางถนนนั่นตะหากเป็นทั้งตัวแปร-ตัวกำหนด-ตัวชี้ขาด  ซึ่งไม่เพียงชี้ขาดนายกฯ  อภิสิทธิ์  ยังเป็นการชี้ขาด
     อนาคตประเทศไทยใน  ๒  ทศวรรษต่อจากนี้ไปด้วย!?
     ๒   ทศวรรษก็คือ  ๒๐  ปี  หมายความว่าประเทศไทยในอีก  ๒๐  ปีข้างหน้า  จะไม่ใช่อย่างที่เห็นเมื่อวาน  และไม่ใช่อย่างที่เป็นวันนี้
     "ปัจจุบันคืออดีตของอนาคต"   นั่นคือ  ความสนุกสนานของการบ้าน-การเมืองตั้งแต่ช่วง  ๒๕๕๐-๒๕๕๕  นี่คือ...คำตอบของโจทย์ประเทศไทยที่จะเห็น-ที่จะเป็นชัดเจน  ณ  พ.ศ.๒๕๖๖-๒๕๗๐!
     คุยเรื่องที่พิสูจน์อีกไกล-ไม่สนุก   เอาที่พิสูจน์ใกล้ๆ  ดีกว่า  ท่านกะผมลองมาเดากันดูซิว่า  เพราะอะไรฝ่ายแค้นเขาจึงพับแผนอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาล ผมว่า
     ๑.ถ้าใช้ระบบอภิปรายในสภาก็จะสวนทางกับระบบกบฏในราชอาณาจักรนอกสภา  เพราะรัฐธรรมนนูญกำหนดเมื่อยื่นญัตติไม่ไว้วางใจห้ามรัฐบาลยุบสภา  ดังนั้น  ถ้าฝ่ายค้านยื่น  พวกกบฏที่ให้อภิสิทธิ์  "ยุบสภาทันที"  ก็ผิดแผน......เสียหมาเลย!
     ๒.เจ้ามูลแม้วตายแล้วจริงๆ  ถ้ายังไม่ตาย  ก็แสดงว่าอยู่ในสภาพ  "รอลูก-เมีย"  มาสั่งเสีย   เลยหมดกำลังใจ  เพราะลงทุน-ลงแรงแสดงไป  ก็ไม่รู้จะไปวางบิลเอากะใคร  สู้สงวนท่าทีไว้   เผื่อไปเป็นผีพึ่งป่าช้า   "ภูมิใจไทย"  ของเนวิน-นายใหญ่คนใหม่  จะได้ผสมพันธุ์กันไม่ยาก!
     ๓.นับจากนี้   ต่อให้ชนะทั้งในสภา-นอกสภา  และต่อให้ทักษิณไม่ตาย  ก็ไม่สามารถกลับมามีตำแหน่งทางการเมืองอะไรในประเทศไทยได้แล้ว เพราะทั้งเจ้าตัว และทั้งเจ้าประเทศมอนเตเนโกร  ประกาศชัดแล้วว่า  นายแม้วสละสัญชาติไทยไปถือสัญชาติมอนเตเนโกร  "เพียง
สัญชาติเดียว"  เรียบร้อยแล้ว
     ทักษิณไม่ใช่คนไทยอีกต่อไป  ต่อให้กบฏแดงยึดประเทศไทยได้สำเร็จ  แม้วก็ไม่มีทางกลับได้  เพราะเรื่องอะไรที่  "จิ๋ว"  จะยอมให้กลับมากินไข่แดง!?
     เอา   ๓  ข้อก่อน  แล้วท่านล่ะ  คิดว่าไงที่ฝ่ายแค้นพับแผนไม่ไว้วางใจ  แต่เรื่องข่าวลือ   "แม้วตาย"  นับวันจะหนาหูยิ่งกว่าข่าวแมวที่รัฐสภาตายซะอีก  ยิ่ง  "๔  แม่-ลูกตระกูลชิน"   บินด่วนไปอย่างนี้ด้วย  เท่ากับสนับสนุนข่าว  "แม้วตาย"  ที่ว่อนตามเว็บไซท์หนักขึ้นไปอีก   แถมที่ป่าช้าประจำตระกูลชินวัตร  "วัดโรงธรรมสามัคคี"  ที่เชียงใหม่  มีการเตรียมงาน  คนไปถามว่า...ศพใคร? คนงานบอกว่า
     "เตรียมงานศพให้ทักษิณ"!?
     แต่เขาว่า   "ทำแก้เคล็ด"   ก็ขอเอาใจช่วย   กลับมาเลี้ยงข้าวผมอีกซักมื้อก่อนเถอะ   อย่าเพิ่งตายเลยพ่อคุณ..พ่อทูนหัว  แต่ระหว่างลูกพี่ที่ชื่อทักษิณ  กับลูกน้องที่ชื่อวีระ  หัวหน้ากบฏใหญ่"  ใครจะไปก่อนใคร  "ผมรักทั้งคู่  เลยไม่กล้าแทงเต็งใครเป็นพิเศษ...พับผ่าเหอะ
     ก็ไม่รู้ซี....แฟนๆ   facebook  เขาบอกผมว่า  แดงตัวพ่อ  เป็นมะเร็งต่อมลูกหมาก  แต่แดงตัวลูก   เป็นมะเร็งหลอดอาหาร  อาการอยู่ในขั้นต้อง  "ถ่ายรูป"  ว่าใครจะถึงเส้นชัยก่อนใคร  นี่แหละ....เขาถึงว่า  บ้านเมืองไทยมี  "พระสยามเทวาธิราช"  คุ้มครอง  ใครคิดร้ายจะต้องมีอันเป็นไป  ชัดๆ  สั้นๆ  ง่ายๆ  แต่ขลัง คือ
     ไม่มีใครได้  "ตายดี"  ซักคน!?
     เดี๋ยวนี้พี่แกนๆ  กบฏเขาไม่ไปใช้บริการโรงแรม  SC  ปาร์ค  อยากจะบอกพี่จุ๋มกับพี่อัศวิน   ว่างๆ  แวะไปดูใน  "โรงพยาบาลตำรวจ"  หน่อย  เผื่อจะมีใครเขาเมื่อยปากจากด่าสถาบัน   และบ้านเมืองแล้วแวบเข้าไปหลบนอนก่ายหน้าผากอยู่ตามห้องติดแอร์แถวๆ   นั้นบ้าง   แต่อย่าให้ใครทำเสียงดังจนพี่กี้เล่นบทเห้..ตะกายตึก  อย่างที่  SC  ปาร์คอีกล่ะ!?
     โบราณบอกว่า   "นอนนาน-วิชาน้อย,   กินบ่อย-เงินหมด,  พูดมาก-โกหกมาก"  ฉะนั้น  เอาเท่านี้ดีกว่า  มีบัดดี้รุ่นหลานจาก  FB  ส่งนี่มาให้อ่าน  เอ้า...ช่วยกันอ่านหน่อย
     เรียนคุณ อาเปลวสีเงิน
     ส่งบทความนี้มาให้อ่านค่ะ  คัดลอกมาจาก FB มั่นใจคนไทยเกิน 1 ล้านคนต่อต้านการยุบสภา
     ด้วยความเคารพ
     ท.สิริ
     ความในใจ จากจดหมายท่านนายกฯ  อภิสิทธ์  จากราบ  11  เมื่อวานนี้  28  เมษายน  http://www.facebook.com/topic.php?uid=108372992525155&topic=4371
     ?เป็นจดหมายของท่าน  panwat  เขียนถึงนายกฯ  แล้วตอนนี้ท่านนายกฯ  ตอบกลับมาแล้ว   ลองอ่านแล้วจะรู้สึกถึงหัวจิตหัวใจท่านนายกฯ  คนนี้  รวมถึงสภาพจิตใจที่ท่านต้องเผชิญอยู่  ลองอ่านและให้กำลังใจท่านกันครับ
..............................................................
     จดหมายจากนายกรัฐมนตรี
     หลังจากที่ผมได้เขียนจดหมายถึงนายกฯ   ไป  2  ฉบับ  เหตุการณ์ต่างๆ  ในแนวที่ทำให้บ้านเมืองมีปัญหา  ก็ยังเกิดขึ้นอยู่อย่างต่อเนื่อง  ถึงแม้ว่าประชาชนส่วนใหญ่เวลานี้ล้วนหันมาให้ความรักและสงสารท่านนายกฯ   กันทั้งนั้นแล้ว   โดยมี  ”กลุ่มเสื้อหลากสี  ”เป็นตัวอย่าง   ที่แสดงตนอย่างชัดเจนว่าสนับสนุนการบริหารประเทศของนายกฯอยู่
     นอกจากนั้นแล้วยังมี  ”พรรคการเมืองใหม่”  ก็สนับสนุนนายกฯ  ถึงแม้ว่าจะมีการตำหนิวิธีการบริหารงานของนายกฯ  อยู่บ้าง  แต่ก็  ”เป็นการติเพื่อก่อ”  เพราะมีคำแนะนำไว้ด้วยเสมอ  เรียกว่า  “ติอย่างมีเหตุผล” ครับ  แต่ท่านก็ยังเงียบๆ  อยู่ดูเหมือนว่าท่านจะไม่มีที่ปรึกษาเอาเลย  ทั้งๆ  ที่พรรคประชาธิปัตย์ก็มีขุนพลฝีมือทุกๆ  ด้าน  ล้วน  ”หัวหมอ”  ทั้งนั้นในเวลาที่ท่านเป็นฝ่ายค้าน ฤว่า....ลูกพรรคของท่านไม่อยาก  ”เอามือมาซุกหีบ” ?  ในขณะที่ผมกำลังท้อ  เกือบหมดแรงจะเชียร์
     นายกฯ  ก็ตอบจดหมายผมมาแล้วครับ  ท่านนายกฯ  ว่าอย่างนี้ครับ

-------------------------------------------
     กรมทหารราบ 11 รักษาพระองค์
     28 เมษายน 2553
     เรียน คุณพันวัตต์ ที่นับถือ
     ก่อนอื่นผมและคณะรัฐบาลรวมทั้งทีมงาน  ศอฉ.ทุกท่าน  ขอขอบพระคุณที่ให้กำลังใจ  และให้ความเชื่อมั่นต่อวิธีการแก้ปัญหาของผม  ผมอยากเรียนว่า  ในระหว่างเวลาที่ผมหายเงียบไปก็เพื่อทบทวนปัญหาที่เกิดขึ้น  ว่ามันเกิดขึ้นด้วยเหตุใด  อีกทั้งเพื่อทบทวนบทบาทของผมเองว่า  ผมบริหารผิดพลาดที่ตรงไหน  ในที่สุดผมก็ได้รู้ถึงรากของปัญหาเหล่านั้นครับ  ซึ่งตรงกับบางประการที่คุณพันวัตต์พูดไว้ในจดหมายฉบับที่  1  และที่  2  ผมจะสรุปเป็นข้อๆ  นะครับ
     1.ในประเด็นเรื่องการใช้เครื่องมือ  ผมทราบดีครับว่าเครื่องมือหลายชนิดมัน...................ทำงานไม่ได้ผล......................................................ผมจึงยอมทุกข์อยู่คนเดียว  ที่ผมกล่าวว่าผมทุกข์ไม่น้อยกว่าท่าน  “ท่าน”  ก็คือ  ”พี่น้องประชาชน” นะ
     ครับ..................................................................................
     2.ถ้าผมจะยุบสภาไปตอนนี้ก็ได้ครับ  เพราะการยุบสภาเป็นอำนาจของผม  อีกอย่าง  “ผมไม่เคยวางผลประโยชน์ตนเองเหนือกว่าผลประโยชน์ของประเทศ”   แต่การยุบสภาต้องตอบคำถามให้ได้เสียก่อนว่า “สภาบกพร่องอะไรตรงไหน”  ในขณะที่บางกลุ่มบอกให้ยุบสภา  เพราะหลงรักคนคนเดียว  กับกลุ่มที่บอกว่า “ไม่ยุบสภา” หรือ “จะยุบสภาไม่ถามกูก่อนหรือ”   ขออภัยที่ใช้  “กู”  เพราะเขาแสดงออกอย่างนั้นจริงๆ  กลุ่มหลังนี้มีเหตุผล  เป็นการสนับสนุนให้ผมอยู่ต่อไปเพื่อแก้ปัญหาส่วนรวม  และเพื่อสถาบันสูงสุดที่คนไทยเคารพบูชาครับ “คุณพันวัตต์”  เห็นด้วยกับกลุ่มไหนครับ
     3.ผมเป็นสุภาพบุรุษพอครับที่จะไม่ฉวยโอกาส  หรือใช้โอกาสทำร้ายประชาชนที่ไม้รู้อิโหน่อิเหน่  เพื่อกรุยทางเดินไปสู่ความชอบธรรม  ซึ่งผมอยากจะเรียนคุณพันวัตต์ตามตรงเลยว่า  เหตุกาณ์เมื่อวันที่   10  เมษายน  2553  ถ้านายกรัฐมนตรีไม่ใช่นายอภิสิทธิ์  คนไทยที่มาร่วมกันชุมนุมจะบาดเจ็บล้มตายกันมากกว่านั้น  เพราะมันมีบุคคลที่สาม  (อาจจะสองครึ่งก็ได้)  ผมไม่อยากจะฟันธงหรอกครับว่าเป็นกลุ่มเสื้อแดง   เพราะคิดว่าพวกเขาอาจยังมีคุณธรรมปนอยู่บ้าง  เป็นกลุ่มไหนนั้นผมก็ได้แถลงข่าวไปแล้วนะครับ  “ผู้ก่อการร้าย”  ผมจึงอยากให้ประชาชนผู้บริสุทธิ์ออกมาจากคนกลุ่มนั้นซะนะครับเพราะ
     "ปัญหาของประเทศไม่ไช่เรื่องการเมืองล้วนๆ  เสียทีเดียว  แต่เกี่ยวข้องกับความมันคงและสิ่งที่เขาเรียกว่าปัญหาด้าน  “ก่อการร้าย”  ประเทศไทยต้องการมากกว่าการแก้ปัญหาในระยะสั้น  เราจำเป็นต้องจัดการแก้ปัญหาทั้งหมดในเวลาเดียวกัน  เมื่อพูดถึงเสถียรภาพที่ทุกคน
อยากให้เกิดขึ้นมันจะต้องไม่ใช่ในระยะสั้น  เพื่อรอคอยการเกิดปัญหาใหม่  ขึ้นมาแทนที่ปัญหาเดิมแบบซ้ำแล้วซ้ำอีก”
     และอีกเรื่องที่อยากจะเรียนให้เข้าใจคือ   เรื่องการประกาศกฏอัยการศึกครับ  เวลานี้ยังไม่ถึงขั้นนั้นหรอกครับ  อีกอย่าง  “กฎอัยการศึกจะต้องประกาศใช้โดยกองทัพ  ไม่ได้อยู่ภายใต้อำนาจของผม  และตอนนี้กองทัพก็ยังไม่มีความประสงค์ที่จะประกาศใช้  จากที่ผมได้หารือกับ
กลุ่มบุคคลที่มีหน้าที่รับผิดชอบและคนที่มีอำนาจในการสั่งการบริหาร   “ไม่มีใครมีความประสงค์ที่จะประกาศใช้กฎอัยการศึกในเวลานี้”
     สุดท้ายนี้   ผมอยากให้คุณพันวัตต์กับเพื่อนพ้องอดใจรอนะครับ  ผมแก้ปัญหานี้ได้แน่นอนครับ  และขอขอบคุณที่เชื่อมั่นในตัวผม  และหวังว่าคุณจะสนับสนุนและไม่ทิ้งผมนะครับ
     ด้วยความรักคุณและประชาชนชาวไทยทุกคน
     อภิสิทธิ์
     28 เมย.2553
     ****ปล.วันนี้ทหารเสียชีวิต 1 นาย ผมเสียใจมากครับ
     แต่ผมดีใจมากครับที่ท่านยังอยู่   นึกว่าจะใจน้อยลาออกให้นายสุเทพได้เป็น  "นายใหญ่"  คนใหม่แทนซะแล้ว!

http://www.thaipost.net/news/300410/21536


หัวข้อ: Re: [2513]"ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: เหยง 16 ที่ 30 เมษายน 2553, 09:20:01
คอลัมม์ "ท่านขุนน้อย"

จากกฎหมาย...ถึงกฎธรรมชาติ
ท่านขุนน้อย 30 เมษายน 2553 - 00:00

    บรรยากาศสถานการณ์บ้านเมืองในช่วงนี้...ดูๆ  แล้ว  ออกจะมีลักษณะคล้ายๆ  กับบรรยากาศช่วง  กรุงศรีอยุธยาแตกครั้งที่  2  อยู่ไม่น้อยทีเดียว  แม้นว่ารายละเอียดของฉากเหตุการณ์ต่างๆ   จะเป็นคนละเรื่อง  คนละกรณี  รวมทั้งช่วงระยะเวลาก็ห่างกันนับเป็นร้อยๆ  ปี แต่กลิ่นอายความเป็นรัตนโกสินทร์ปี  2553  กับกลิ่นอายความเป็นกรุงศรีอยุธยาปี  2112  ไปๆ  มาๆ...มันชักจะกลายเป็นกลิ่นเดียวกันยังไงก็มิทราบได้...
             -------------------------------------------
     เรื่องราวในอดีตที่เคยมีการเล่าสู่กันฟัง  ในแบบปากต่อปาก  จะจริงหรือไม่จริงขนาดไหน  ก็คงยากที่จะหาหลักฐานมาพิสูจน์  ยืนยัน  ได้ชัดเจน  แต่เป็นเรื่องที่ฝังอยู่ในความคิด  ความรู้สึกของลูกไทย  หลานไทย  ในรุ่นต่อๆ  มากันเป็นจำนวนไม่น้อย  นั่นก็คือ  กรณีความพยายามที่จะปกป้องรักษาพระนครด้วยการยิงปืนใหญ่ต่อต้านผู้บุกรุก    ไม่อาจกระทำการใดๆ   ได้   ด้วยเหตุที่อ้างๆ  กันว่า...เป็นเพราะนางสนม  กำนัล  หวาดหวั่นตกใจในเสียงปืน  ส่งผลให้บรรดาผู้ซึ่งทำหน้าที่ดูแลความมั่นคง  ปกป้องกรุงศรีอยุธยา  ต่างต้องหันไปเอามือซุกหีบกันโดยถ้วนหน้า...
         ---------------------------------------------------
     จะเป็นเพราะบรรดานางสนม  กำนัล  เหล่านั้น...กลับชาติมาเกิดเป็น  นักสันติวิธี  ในขณะนี้หรือเปล่าก็มิอาจทราบได้  หรือเป็นเพราะผู้ซึ่งมีอำนาจควบคุมดูแลพระราชฐานชั้นใน  อันเป็นผู้ถ่ายทอดคำสั่ง   ไม่ให้ยิงปืนใหญ่ในยุคนั้น  กลับมาเกิดเป็น  ผบ.ทบ.  ในยุคนี้หรือไม่?  อย่างไร?   ก็ยากที่จะสรุปได้ชัดๆ   แต่ที่แน่ๆ  ก็คือ...บรรยากาศความเป็นไปของอยุธยา  ณ  ขณะนั้น  กับรัตนโกสินทร์  ณ  ขณะนี้  ออกจะคล้ายๆ  บทพระราชนิพนธ์ของล้นเกล้ารัชกาลที่  1  ซึ่งทรงถ่ายทอดอารมณ์ความรู้สึกออกมาเป็นบทกลอนว่า...อันกำแพงค่ายคูก็ดูลึก/ไม่น่าศึกอ้ายพม่าเข้ามาได้/แต่ยังปล่อยมันข้ามเข้าเอาเวียงชัย/โอ้...กระไร  เหมือนบุรี...ไม่มีชาย...
        -----------------------------------------------------
     อีกลักษณะหนึ่งที่ก่อให้เกิดอารมณ์ความรู้สึกคล้ายๆ  กัน...ก็คือเหตุการณ์  การทรยศ  จากภายใน  อันเนื่องมาจากคนไทยด้วยกันเอง  ไม่ว่าระดับราษฎร  หรือข้าราชการในสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว  หันไปเอาใจออกห่างเข้ากับฝ่ายศัตรู  หรือหันไปรับใช้  สุกี้พระนายกอง  ส่งผลให้อำนาจรัฐของกรุงศรีอยุธยาที่เสื่อมโทรมอยู่แล้ว  ต้องล่มสลายลงไปในแบบไปไม่กลับ-หลับไม่ตื่น-ฟื้นไม่มี  ถึงจะมีราษฎรบางกลุ่ม  บางเหล่า  พยายามจับอาวุธขึ้นสู้  เพื่อปกป้องบ้านเกิดเมืองนอน  อย่างที่รู้ๆ  กันในนาม  ชาวบ้านบางระจัน  แต่ในเมื่อศูนย์กลางอำนาจรัฐ  มันได้ล่มสลายลงไปแล้ว...ทุกสิ่งทุกอย่าง  ย่อมมีแต่จะต้องแพ้พ่าย  สิ้นชาติ  สิ้นแผ่นดิน  ลงไปจนได้...
         --------------------------------------------------
     การกู้ชาติ  กู้แผ่นดิน  ที่ล่มสลายลงไปแล้ว...จึงไม่ใช่เรื่องง่ายๆ  เหตุการณ์ภายหลังกรุงศรีอยุธยาแตก  กับเหตุการณ์ในอนาคตข้างหน้า  ที่เราทั้งหลายจะต้องเผชิญกันต่อไป  ไม่ว่าพวกม็อบแดงจะถูก  กำราบ  ปราบปราม  ลงไปเมื่อไหร่ก็แล้วแต่  คงต้องยอมรับว่า...ยังไงๆ  มันก็คงไม่ออกไปในลักษณะ  แฮปปี้  เอนดิ้ง  โดยแน่นอน  แนวโน้มที่มันจะเกิดบรรยากาศคล้ายๆ  กับบรรยากาศภายหลังกรุงศรีอยุธยาแตกเป็นครั้งที่  2  มีความเป็นไปได้สูงเอามากๆ!!!  นั่นก็คือ...การเกิด  ศูนย์อำนาจ  หลายๆ  ศูนย์อำนาจ  ปรากฏตัวขึ้นมาท่ามกลางความล่มสลายของศูนย์กลางอำนาจเดิม  ไม่ว่าจะเป็น  ก๊กพระเจ้าตาก  ก๊กพระเจ้าฝาง  ก๊กพระเจ้าพิมาย  หรือ  ก๊กเจ้าพระยามหานคร  ฯลฯ  ก็ตาม...
        ----------------------------------------------------
     ส่วนใครจะเป็นพระเจ้าตาก  พระเจ้าฝาง  พระเจ้าพิมาย  ฯลฯ  ก็คงต้องไปแยกแยะ หาข้อสรุปกันเอาเองว่า  ระหว่างก๊กประชาธิปัตย์  ก๊กเนวิน  ก๊กเพื่อไทย  ก๊กการเมืองใหม่  ฯลฯ  ใครจะสามารถรวบรวมกำลังทหาร  ตำรวจ  ข้าราชการ  ตลอดไปจนถึงราษฎร  ที่ต่างก็แตกกระจัดกระจายออกไปไม่รู้ต่อกี่กลุ่มกี่เหล่า  ไม่ว่าจะเป็นทหารกลุ่มบูรพาพยัคฆ์  ทหารกลุ่มวงศ์เทวัญ  ทหารแตงโม  ทหารทุเรียน  ตำรวจมะเขือเทศ  ตำรวจมะม่วง  ราษฎรเสื้อแดง  เสื้อเหลือง  เสื้อขาว  ตลอดไปจนถึงเสื้อหลากสี  ฯลฯ  ให้เกิดความเป็นปึกแผ่น  เกิดเอกภาพพอที่จะพัฒนาตัวเองให้กลายมาเป็นศูนย์กลางอำนาจใหม่  แทนที่ศูนย์อำนาจซึ่งได้ล่มสลายลงไปแล้ว...
         ---------------------------------------------------
     พูดง่ายๆ  ก็คือว่า...ไม่ว่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นกับรัตนโกสินทร์ปี  2553  จะจบลงไปในลักษณะใดก็ตาม  แต่มันได้ก่อให้เกิดภาวะ  สุญญากาศทางอำนาจ  ปรากฏตัวขึ้นมาค่อนข้างชัดเจน  อันทำให้ประเทศไทยไม่มีวันที่จะเป็นเช่นเดิมได้ต่อไปอีกแล้ว  การหาทางรวบรวมพลังอำนาจต่างๆ   ที่ย่อยแยก  แตกกระจาย  ให้สามารถกลับเข้ามาผสมผสาน  จนเกิดความเป็นเอกภาพ  ความเป็นอันหนึ่งอันเดียวกัน  เพื่อดำรงความเป็นประเทศไทยให้คงอยู่ต่อไปให้จงได้  ถือเป็นภารกิจที่สำคัญเอามากๆ  เป็นภารกิจที่นอกจากจะต้องอาศัยกำลังอำนาจที่เด็ดขาด  อำนาจที่ตั้งมั่นอยู่บน  พื้นฐานคุณธรรม  และศีลธรรมแล้ว  ยังต้องอาศัย  การคิดแบบใหม่  ที่มีความสอดคล้อง  เหมาะสมกับความเป็นไปในสังคมไทย  และสังคมโลกควบคู่ไปด้วย...
         ---------------------------------------------------
     ส่วนจะเรียกมันว่า  การปฏิรูป  การปฏิวัติ  การปฏิสังขรณ์  ฯลฯ  หรือจะเรียกว่าอะไรก็แล้วแต่...แต่มันคงเป็นสิ่งที่มิอาจหลีกเลี่ยงได้เลยแม้แต่น้อย  เนื่องจาก...เพราะสิ่งนี้-สิ่งนี้...สิ่งนี้จึงเป็นไปนั่นเอง  ในเมื่อกฎเกณฑ์อันเคยเป็นที่ยอมรับกันโดยทั่วไปในสังคมหนึ่งๆ  อย่างที่เรียกๆ  กันว่า กฎหมาย  ได้สะท้อนให้เห็นถึงความเสื่อมโทรมระดับหมดสภาพที่จะบังคับใช้ต่อพลังอำนาจต่างๆ  ในสังคมได้อย่างเบ็ดเสร็จ  สมบูรณ์  หรืออย่างโดยถ้วนหน้า  กฎเกณฑ์ที่จะถูกนำเข้ามาแทนที่ภายใต้สภาพเช่นนี้  มันคงไม่มีอะไรมากไปกว่า  กฎแห่งธรรมชาติ  อันเป็นกฎเหล็กนับตั้งแต่กฎหมายใดๆ  ยังไม่ได้ปรากฏตัวขึ้นมานั่นแล...
        -----------------------------------------------------
     เอาเป็นว่า...เมื่อมาถึงขั้นนี้   อย่ามัวไปเสียเวลารอลุ้นว่า  อำนาจรัฐ  และกลไกรัฐ  จะเริ่มลงมือปฏิบัติการกัน  เมื่อไหร่  อย่างไร?  เพราะไม่ว่าเหตุการณ์มันจะจบลงไปในแบบไหน?  เมื่อไหร่?  แต่  ความสงบเรียบร้อย  ที่จะบังเกิดขึ้นต่อไปในภายภาคหน้านั้น  มันคงไม่ใช่ความสงบเรียบร้อยที่แท้จริงแต่อย่างใด  เป็นแต่เพียงความสงบ  ภายใต้ความพยายามที่จะช่วงชิงอำนาจกันใหม่ของกลุ่มอำนาจ  ซึ่งแตกกระจัดกระจายออกไปไม่รู้จะกี่กลุ่ม  ต่อกี่กลุ่ม  และต่างพยายาม  ฉวยโอกาส  จากสถานการณ์ที่กำลังไหลไปสู่ภาวะสุญญากาศทางอำนาจด้วยกันทั้งสิ้น  สู้หันมา  คิดแบบใหม่  หันมาค้นหาพลังทางศีลธรรม  คุณธรรม  อันสามารถปรากฏตัวขึ้นมาได้อย่างเป็นจริงเป็นจัง  ก่อนที่ทุกสิ่งทุกอย่างจะตกอยู่ในอาการ  สิ้นชาติ  สิ้นแผ่นดิน  ระดับไม่อาจกู้กลับคืนมาได้อีกเลย...
       -------------------------------------------------------
     ปิดท้ายด้วยวาทะวันนี้จาก  จี.ดับเบิลยู.เอช. เฮเกล...บทเรียนจากประวัติศาสตร์...มักสะท้อนให้เห็นว่า  เรามิได้เรียนรู้ใดๆ  จากประวัติศาสตร์เอาเลยแม้แต่น้อย...

http://www.thaipost.net/news/300410/21532


หัวข้อ: Re: [2513]"ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: เหยง 16 ที่ 30 เมษายน 2553, 09:23:14
คอลัมม์ "ถูกทุกข้อ" ของคุณสามวา สองศอก

คารวะ สดุดี..ทหารกล้า
ถูกทุกข้อ 30 เมษายน 2553 - 00:00

      ยอกรก้มกราบกรานทหารกล้า
     สิ้นชีวาโดยพวกไพร่แดงถ่อย
     ทั้งบาดเจ็บล้มตายมีไม่น้อย
     เลือดไหลย้อยรดถิ่นแผ่นดินไทย
          มีเพียงโล่-กระบอง-กระสุนยาง
          อยู่เคียงข้างที่นายมอบมาให้
          ต้องต่อกรกับพวกเวรตะไล
          ที่มันใช้อาวุธระเบิด-ปืน
     ใครกันหนอ...อยู่เบื้องหลังเหตุการณ์นี้
     ใจมันโหดสิ้นดีที่หยิบยื่น
     ทวยทหารหลายนายล้มทั้งยืน
     เป็นค่ำคืนปิศาจร้ายกระหายเลือด
          ลากคนเจ็บบนรถลงมาซ้อม
          ต่างสะบักสะบอมหน้าซีดเผือด
          ปิศาจแดงต่างกรูตามมาเชือด
          เห็นรอยเลือดทหารกล้าทาแผ่นดิน
     ประชาไทยทั่วหล้าโศกสลด
     ภาพทีวีปรากฏกระจ่างสิ้น
     มีไอ้โม่งปิดหน้าใจทมิฬ
     เป็นนักรบโรนิน...ของใครกัน
          คารวะ สดุดี ทหารกล้า...
          ดวงชีวาจงล่องลอยสู่สวรรค์
          คนข้างหลังยังพร้อมจะโรมรัน
          ปราบพวกอันธพาล...มารแผ่นดิน!
                                             สมบัติ  จันทร์จำรัส

                สถานศึกษาขนาดเล็ก       
เรียน บรรณาธิการไทยโพสต์
     นับจากที่มีการประกาศใช้พระราชบัญญัติการศึกษาแห่งชาติ   พ.ศ.2542  จนกระทั่งปัจจุบัน  เป็นเวลา  10  ปีเศษของการปฏิรูปการศึกษาที่เป็นระบบของไทย  การดำเนินงานปฏิรูปการศึกษาตามแนวทางที่กำหนดไว้ในกฎหมายการศึกษา  ประสบผลสำเร็จหลายเรื่อง  แต่บางเรื่องยังคงเป็นปัญหาให้เห็นอยู่  โดยเฉพาะอย่างยิ่งด้านคุณภาพการศึกษา  ทำให้เกิดข้อเสนอการปฏิรูปการศึกษาในทศวรรษที่สอง  (พ.ศ.2552-2561)  เพื่อเสนอคณะรัฐมนตรีพิจารณาต่อไป
     ประเด็นในการปฏิรูปการศึกษาในทศวรรษที่สอง  ที่คณะทำงานควรเน้นเป็นพิเศษ  และมุ่งให้เกิดผลสัมฤทธิ์ก็คือ  การเสริมสร้างศักยภาพและความเข้มแข็งคณะกรรมการสถานศึกษาขั้นพื้นฐาน  เพื่อให้ทำหน้าที่กำกับและส่งเสริม  สนับสนุนกิจการของสถานศึกษา
     คณะกรรมการสถานศึกษาขั้นพื้นฐานที่ระบุไว้ในมาตรา  40  แห่งพระราชบัญญัติการศึกษาแห่งชาติ  พ.ศ.2542  แก้ไขเพิ่มเติม  (ฉบับที่  2)  พ.ศ.2545  ประกอบด้วยผู้แทนผู้ปกครอง  ผู้แทนครู  ผู้แทนองค์กรชุมชน  ผู้แทนองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น  ผู้แทนศิษย์เก่าของสถานศึกษา  ผู้แทนพระภิกษุสงฆ์  และหรือผู้แทนองค์กรศาสนาอื่นในพื้นที่  และผู้ทรงคุณวุฒิ 
     กลุ่มบุคคลดังกล่าวนี้มาจากอาชีพ   ค่านิยม   ประสบการณ์ความรู้  และอื่นๆ  แตกต่างกัน  ช่วงเวลาในรอบ  10  ปีที่ผ่านมาได้รับการพัฒนาน้อยมาก  โดยเฉพาะอย่างยิ่งคณะกรรมการสถานศึกษาขั้นพื้นฐาน  ในสถานศึกษาขนาดเล็กที่มีนักเรียนต่ำกว่า  120  คน  จำนวน  12,828  โรงเรียน
     เนื่องจากโรงเรียนเหล่านี้ขาดแคลนทรัพยากรในการบริหารจัดการ  คุณภาพการศึกษาค่อนข้างต่ำ   และขาดการมีส่วนร่วมในการพัฒนาโรงเรียน  บทบาทของคณะกรรมการสถานศึกษาขั้นพื้นฐานส่วนใหญ่ไม่ได้แสดงบทบาทในการกำกับและส่งเสริมสนับสนุนกิจการของโรงเรียนที่ชัดเจน  ส่วนใหญ่ยังเคยชินกับบทบาทกรรมการศึกษาของโรงเรียน  ซึ่งเป็นบทบาทเดิม
     ในการพัฒนาคุณภาพโรงเรียนขนาดเล็ก   คณะกรรมการสถานศึกษาขั้นพื้นฐานตามมาตรา  40  ในสถานศึกษาขนาดเล็กที่มีนักเรียนต่ำกว่า  120  คน  ควรเป็นกลุ่มเป้าหมายลำดับแรกๆ  ในการเข้ารับการพัฒนา  โดยการฝึกอบรมหลักสูตรคณะกรรมการสถานศึกษาขั้นพื้นฐาน
     อาจใช้เวลา  18-24  ชั่วโมง  (3-4  วัน)  เพื่อให้มีความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับบทบาทหน้าที่ในการปฏิบัติงานของคณะกรรมการสถานศึกษาขั้นพื้นฐาน  ระบบการจัดการศึกษาขั้นพื้นฐาน  การศึกษาในสถานศึกษา  ประกอบด้วยงานบริหารการศึกษาในสถานศึกษา  หลักสูตรแกนกลางและหลักสูตรสถานศึกษา   การจัดการเรียนการสอน  การวัดผลและประเมินผลการเรียน  การประกันคุณภาพการศึกษา  การทดสอบของสถาบันทางการศึกษาแห่งชาติ  และการพัฒนาคุณภาพการศึกษาในสถานศึกษา
     รวมทั้งเทคนิควิธีการทำงานในฐานะคณะกรรมการสถานศึกษาขั้นพื้นฐาน  ได้แก่  เทคนิคการประชุม  การตัดสินใจแบบกลุ่ม  การกำกับติดตามและประเมินผล  การส่งเสริมสนับสนุนกิจการของสถานศึกษา  สาระต่างๆ  เหล่านี้จะทำให้คณะกรรมการสถานศึกษาขั้นพื้นฐานมีทั้งองค์ความรู้   เทคนิควิธีการทำงาน  และรู้บทบาทหน้าที่ความรับผิดชอบ  ซึ่งจะส่งผลต่อประสิทธิภาพในการทำงานของกรรมการสถานศึกษาขั้นพื้นฐานที่สูงขึ้น
     สำหรับผู้รับผิดชอบในการบริหาร  หลักสูตรคณะกรรมการสถานศึกษาขั้นพื้นฐานอาจมอบให้
สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษา   โดยร่วมมือกับสถาบันอุดมศึกษาทั้งของรัฐและเอกชนที่อยู่ในพื้นที่ที่เปิดสอนหลักสูตรศึกษาศาสตร์/ครุศาสตร์  เป็นหน่วยในการฝึกอบรม  และวิทยากรฝึกอบรมมาจากทั้งสถาบันอุดมศึกษา  หน่วยงานอื่นๆ  และกรรมการสถานศึกษาขั้นพื้นฐาน  ที่ปฏิบัติหน้าที่เป็นแบบอย่างที่ดีจากสถานศึกษาอื่นๆ
     รูปแบบการฝึกอบรมควรประกอบด้วย  การบรรยาย  การสัมมนา  การปฏิบัติการ  และการอภิปรายแลกเปลี่ยนเรียนรู้  กระบวนการเตรียมความพร้อมให้กรรมการดังกล่าวข้างต้น  จะส่งผลให้คณะกรรมการสถานศึกษาขั้นพื้นฐานทุกคนในโรงเรียนมีศักยภาพในการทำงานมากยิ่งขึ้น  มีความมั่นใจกล้าแสดงออก   และสามารถขับเคลื่อนสถานศึกษาให้ดำเนินงานได้ตามมาตรฐาน      รัฐบาลจะต้องให้การสนับสนุนงบประมาณในการพัฒนาคณะกรรมการสถานศึกษาขั้นพื้นฐานในโรงเรียนขนาดเล็ก  (กลุ่มที่มีนักเรียนต่ำกว่า  120  คน)  โดยใช้งบประมาณภายใต้แผนปฏิบัติการไทยเข้มแข็ง  2555  ที่รัฐบาลกำลังดำเนินงานในขณะนี้  เพื่อเสริมสร้างศักยภาพและความเข้มแข็งให้แก่กลุ่มบุคคลในสถานศึกษาขนาดเล็กเหล่านี้ให้มีความพร้อมที่จะรองรับการกระจายอำนาจทางการศึกษาไปสู่โรงเรียน
     เนื่องจากกว่า   10  ปีที่ผ่านมา  คณะกรรมการสถานศึกษาขั้นพื้นฐานในโรงเรียนขนาดเล็กยังไม่มีความพร้อมในการทำงานให้กับโรงเรียน  กรรมการสถานศึกษายังไม่มีส่วนร่วมในการ
พิจารณาเรื่องต่างๆ  ตามบทบาทหน้าที่อย่างแท้จริง  และยังไม่สามารถนำโรงเรียนไปสู่เป้าหมายของหลักสูตรและมาตรฐานการศึกษาชาติได้
     หากยังไม่มีการปรับรื้อรูปแบบการทำงานของคณะกรรมการสถานศึกษาขั้นพื้นฐาน  ในสถาน
ศึกษาขนาดเล็กที่มีนักเรียนต่ำกว่า  120  คน  โอกาสในการที่โรงเรียนจะถูกยุบมีสูงมาก  โรงเรียนขนาดเล็กในกลุ่มนี้ขาดแคลนทรัพยากรทุกเรื่อง
     ครูต้องทำงานหนักทั้งด้านการสอน   งานธุรการ  และงานนโยบายของต้นสังกัด  ทั้งระดับเขตพื้นที่การศึกษา  และสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน  หากคณะกรรมการสถานศึกษาขั้นพื้นฐานมีศักยภาพเพียงพอต่อการปฏิบัติหน้าที่ตามบทบาทที่กฎหมายกำหนด  จะเป็นปัจจัยสนับสนุนให้การจัดการศึกษาในโรงเรียนขนาดเล็กกลุ่มนี้  ขับเคลื่อนการปฏิรูปการศึกษาให้เป็นไปตามเป้าหมายของการปฏิรูปการศึกษา
     โครงการตามแผนปฏิบัติการไทยเข้มแข็ง  2555  ในส่วนของสำนักงานคณะกรรมการสถานศึกษาขั้นพื้นฐาน   ควรเป็นโครงการที่เกิดขึ้นในลักษณะบนสู่ล่าง  (top-down  approach)  กล่าวคือ  เป็นโครงการที่ทุกเขตพื้นที่การศึกษาทั่วประเทศจะต้องจัดทำโครงการฝึกอบรมคณะกรรมการสถานศึกษาขั้นพื้นฐานในสถานศึกษาขนาดเล็ก  (นักเรียนต่ำกว่า  120  คน)  เหมือนกัน  ดีกว่าส่งงบประมาณไปให้สถานศึกษาจัดทำโครงการที่ไม่ตรงกับสภาพปัญหา  และความต้องการที่แท้จริง   
     จากข้อมูลที่ได้ศึกษาโครงการต่างๆ   ภายใต้แผนปฏิบัติการไทยเข้มแข็ง  2555  ที่โรงเรียนบางแห่งปฏิบัติยังขาดน้ำหนักของเหตุผลที่ทำโครงการ   แทนที่จะนำไปพัฒนาคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐานในโรงเรียนขนาดเล็กที่มีนักเรียนต่ำกว่า  120  คนทั่วประเทศ  ซึ่งจะเป็นการวางรากฐานความพร้อมให้โรงเรียนเหล่านี้  ในช่วงเริ่มต้นรอบทศวรรษที่สองของการปฏิรูปการศึกษา
     หรือจะปล่อยให้คณะกรรมการสถานศึกษาขั้นพื้นฐานในโรงเรียนขนาดเล็กกลุ่มนี้   ไปตามรอบ  10  ปีที่แล้วที่ยังไม่เห็นความสำเร็จของมาตรา  40  แห่ง  พ.ร.บ.การศึกษาแห่งชาติ  พ.ศ.2542  แก้ไขเพิ่มเติม  (ฉบับที่  2)  พ.ศ.2545
                                                         สุรชัย เทียนขาว
                                                  มหาวิทยาลัยราชภัฏเทพสตรี
ตอบ คุณสุรชัย เทียนขาว
     ปัญหาม็อบเสื้อแดงที่กลายพันธุ์เป็นผู้ก่อการร้าย  ก็มาจากการศึกษาขั้นพื้นฐานของคนไทยที่ยังไม่ได้พัฒนาไปถึงไหน  คุณสุรชัยน่าจะนำเรื่องนี้ไปเสนอคุณชินวรณ์  บุณยเกียรติ  รมว.ศึกษาธิการ  ถ้ารัฐบาลมัวแต่มุดหัวอยู่ใน  ศอฉ.เพื่อปราบพวกเสื้อแดง  แล้วเมื่อไหร่จะชนะใจชาวบ้านได้ล่ะ
                                                        สามวา สองศอก

http://www.thaipost.net/news/300410/21533


หัวข้อ: Re: [2513]"ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: เหยง 16 ที่ 30 เมษายน 2553, 10:19:13
จะเข้ากรุงเทพครับ

หากสะดวกในการเปิดเว็ป จะเข้ามาร่วมชุมนุมในเว็ปต่อครับ


หัวข้อ: Re: [2513]"ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: yyswim ที่ 30 เมษายน 2553, 11:43:24
ถึงน้องแอ๊ะ ไม่เกี่ยวกะเรื่องการเมือง นะครับ

ได้ยินจากช่อง 3 เมื่อตะกี้ บอกว่า

วันเสาร์พรุ่งนี้ ที่ 1 พฤษภาคม 2553 เวลาประมาณ 16.45 -17.15 น.ทางช่อง 3 ก่อนรายการเรื่องเด่นเย็นนี้  น้องหนา ดร.กฤษณา ไกรสินธุ์ จะออกรายการครับ

พี่นภบอก เผื่อน้องแอ๊ะจะให้ทาง ร.พ. ช่วยอัดรายการมอบให้ น้องหนา ดร.กฤษณา ไกรสินธุ์ ครับ



หัวข้อ: Re: [2513]"ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: ดร.มนตรี ที่ 30 เมษายน 2553, 12:44:36
มาเยี่ยมพี่แอ๊ะ  ครับ  ^_^

(http://img87.imageshack.us/img87/7264/m918346513.jpg)


หัวข้อ: Re: [2513]"ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: เหยง 16 ที่ 30 เมษายน 2553, 21:57:27
ปัญหาข้อ ๓ ของคุณเปลว สีเงินที่นำเสนอในวันนี้ ตามที่คัดมานี้

๓.นับจากนี้   ต่อให้ชนะทั้งในสภา-นอกสภา  และต่อให้ทักษิณไม่ตาย  ก็ไม่สามารถกลับมามีตำแหน่งทางการเมืองอะไรในประเทศไทยได้แล้ว เพราะทั้งเจ้าตัว และทั้งเจ้าประเทศมอนเตเนโกร  ประกาศชัดแล้วว่า  นายแม้วสละสัญชาติไทยไปถือสัญชาติมอนเตเนโกร  "เพียงสัญชาติเดียว"  เรียบร้อยแล้ว ทักษิณไม่ใช่คนไทยอีกต่อไป  ต่อให้กบฏแดงยึดประเทศไทยได้สำเร็จ  แม้วก็ไม่มีทางกลับได้  เพราะเรื่องอะไรที่  "จิ๋ว"  จะยอมให้กลับมากินไข่แดง!?

อดีต พ.ต.ท.ทักษิณ ใช้กุศโลบายที่ตัวเองอยู่ต่างประเทศ ศาลไทยทำอะไรไม่ได้ เมื่อจำเลยไม่อยู่ในเขตอำนาจศาล
ศาลก็สั่งชะลอคดีไว้ แต่ตัวเองมอบอำนาจให้ทนายฟ้องคดีบุคคลทุกคนในประเทศไทยทั้งอาญาและแพ่ง
โดยมักใช้ใบมอบอำนาจ ซึ่งระบุตัวเองเป็นคนไทยและใช้ภูมิลำเนาที่อยู่ที่บ้านจันทร์ส่องฟ้า ฝั่งธนฯ นั่นเอง
โดยคดีแพ่งจะฟ้องเรียกค่าเสียหายจากคู่กรณีเป็นเงินนับล้านๆบาท สร้างภาระ สร้างความหวาดกลัวให้กับคู่คดีเป็นอย่างมาก
เว้นแต่ที่สุดศาลสั่งหรือมีคำพิพากษายกฟ้อง คู่กรณีจึงจะหายใจได้สะดวก(หลายๆคดีจะเป็นเช่นนี้)

ต่อไปนี้ อดีต พ.ต.ท.ทักษิณ ฟ้องคดีในประเทศจะต้องเปลี่ยนเป็นคดีที่ชาวต่างประเทศและไม่มีภูมิลำเนาในประเทศไทย
ฟ้องคดีในประเทศไทยแล้ว....คู่กรณีต้องหาหลักฐานการสละสัญชาติไทย, การได้สัญชาติมอนเตเนโกร
รวมทั้งเอกสารแสดงถิ่นที่อยู่ในมอนเตเนโกร มาหักล้างใบมอบอำนาจให้ฟ้องคดี
ซึ่งต้องมีคำสั่งหรือคำพิพากษาสำหรับกรณีอดีต พ.ต.ท. ทักษิณ เป็นตัวอย่างเกิดขึ้นในอนาคตนี้แน่นอน


หัวข้อ: Re: [2513]"ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: prapasri AH ที่ 01 พฤษภาคม 2553, 07:37:13
แหม๋ ...น้องดร.มนตรี หล่อจังเลยรูปนี้ 
ขอบคุณที่มาเยี่ยมค่ะ
ช่วงนี้พี่แอ๊ะยุ่งกะงานบุญบั้งไฟ ซ้อมรำวงมาตรฐาน ให้ชาวญี่ปุ่นดูค่ะ

เขายืนยัน เสี่ยงภัยมาหาชาวยโสธร 26 คนค่ะ

ทีทีแอน์ที จะร่วมเป็นสปอนเซอร์บ้างไหมคะ

อ้างถึง
ข้อความของ ดร.มนตรี เมื่อ 30 เมษายน 2553, 12:44:36
มาเยี่ยมพี่แอ๊ะ  ครับ  ^_^

(http://img87.imageshack.us/img87/7264/m918346513.jpg)


หัวข้อ: Re: [2513]"ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: prapasri AH ที่ 01 พฤษภาคม 2553, 07:46:07

พี่นภขา
ขอบคุณที่มาเยียม   แอ๊ะไปสุราษฎร์มาค่ะ

และมาพักที่บ้านกรุงเทพ 2วัน
ออกไปไหนไม่ได้เพราะกลัวมอบ ว่าจะไปชอบ ที่ชิดลม ก็อดค่ะ


ที่บ้านมี อินเตอร์เนตไร้สาย

แต่แอ๊ะ  ทำ คอมไม่เป็น เข้าเนตไม่ได้ ยกเว้นเข้าที่ยโสธรค่ะ 55555555555
แอ๊ะโง่มาก เรืองไอที

  วันนี้ จะคอยดูรายการน้องหนา และแอ๊ะจะขอเทป น้องหนา จาก ช่อง 3ให้นะคะ

เด่วโทรหา น้องหนา ถ้าน้องหนามาเมืองไทยแล้ว แอ๊ะจะตามให้มาพัก ใจ ทียโสค่ะ

อ้างถึง
ข้อความของ yyswim เมื่อ 30 เมษายน 2553, 11:43:24
ถึงน้องแอ๊ะ ไม่เกี่ยวกะเรื่องการเมือง นะครับ

ได้ยินจากช่อง 3 เมื่อตะกี้ บอกว่า

วันเสาร์พรุ่งนี้ ที่ 1 พฤษภาคม 2553 เวลาประมาณ 16.45 -17.15 น.ทางช่อง 3 ก่อนรายการเรื่องเด่นเย็นนี้  น้องหนา ดร.กฤษณา ไกรสินธุ์ จะออกรายการครับ

พี่นภบอก เผื่อน้องแอ๊ะจะให้ทาง ร.พ. ช่วยอัดรายการมอบให้ น้องหนา ดร.กฤษณา ไกรสินธุ์ ครับ




หัวข้อ: Re: [2513]"ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: ภาณุ ปาตานี ที่ 01 พฤษภาคม 2553, 07:59:08
สวัสดีครับพี่แอ๊ะ...

รูปนี้..พอจะประชันได้ไหมครับ...

(http://img219.imageshack.us/img219/6264/prapasri.jpg)



หัวข้อ: Re: [2513]"ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: prapasri AH ที่ 01 พฤษภาคม 2553, 08:57:29
ประชัน กะใครดีค่ะ น้องya

ประชันกะน้อง ดร.มนตรี หรือดร.กฤษณา คะ555555

เอารูป นี้ดีก่า สวยสู้ ดร.มนตรีได้สบายยยยยยยย

(http://img217.imageshack.us/img217/6055/13423949.jpg)


อ้างถึง
ข้อความของ YA เมื่อ 01 พฤษภาคม 2553, 07:59:08
สวัสดีครับพี่แอ๊ะ...

รูปนี้..พอจะประชันได้ไหมครับ...

(http://img219.imageshack.us/img219/6264/prapasri.jpg)




หัวข้อ: Re: [2513]"ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: เหยง 16 ที่ 01 พฤษภาคม 2553, 08:58:43
บทบรรณาธิการของ นสพ.แนวหน้า วันแรงงานแห่งชาติ 1 พฤษภาคม 2553 ครับ

บทบรรณาธิการ   
 
สงครามกลางเมืองของสเปน (บทบรรณาธิการ)   
 
 
คนเสื้อแดงที่มีชื่อเรียกว่าแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ(นปช.) ใต้การนำของนายพายัพ ปั้นเกตุ ได้นำคนหลายร้อยคนบุกเข้าไปในบริเวณโรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์เมื่อค่ำวันที่ 29 เมษายนที่ผ่านมาโดยอ้างว่าต้องการจะเข้าไปตรวจว่าในโรงพยาบาลมีทหารหรือตำรวจหลบซ่อนอยู่หรือไม่

การกระทำดังกล่าวของคนเสื้อแดงซึ่งเป็นที่ทราบกันดีว่าเป็นพวกคลั่งในตัวนายทักษิณ ชินวัตรอดีตนายกรัฐมนตรีผู้ที่กำลังหลบหนีคดีอาญาอยู่ในต่างประเทศกำลังถูกสังคมประณามอย่างหนักซึ่งผลของการกระทำดังกล่าวทำให้โรงพยาบาลจำเป็นต้องอพยพผู้ป่วยออกไปรักษาที่โรงพยาบาลอื่นแทนเป็นจำนวนมาก

นอกจากนั้นในภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนือขบวนการนปช.ยังได้ปลุกระดมเพื่อขนคนเข้ามาเพิ่มเติมในกทม.โดยมีเป้าหมายที่จะเติมเชื้อไฟก่อให้เกิดความรุนแรงเพิ่มมากขึ้นและนำไปสู่สงครามประชาชนตามเป้าหมายที่ฝ่ายแกนนำต้องการ

แนวความคิดเรื่องการเปลี่ยนแปลงระบอบการปกครองของประเทศไทยให้เป็นระบอบสาธารณรัฐโดยมีประธานาธิบดีเป็นประมุขนั้นยังคงมีอยู่แม้จะมีการปฎิเสธออกมาแล้วก็ตาม หากนำไปเทียบกับสงครามกลางเมืองสเปนในระหว่างวันที่ 17 กรกฎาคม 2479 ถึงวันที่ 1 เมษายน 2482 พบว่ามีลักษณะที่คล้ายคลึงกันอยู่ไม่น้อย

สงครามกลางเมืองสเปนนั้นแบ่งออกเป็น 2 ฝ่าย ฝ่ายแรกเรียกว่าฝ่ายนิยมสาธารณรัฐซึ่งมีหัวเอียงซ้ายมีเป้าหมายต้องการล้มระบอบการปกครองระบอบสมบูรณาญาสิทธิราชหรือระบอบราชาธิปไตยของพระราชวงศ์บูร์บงทำให้พระเจ้าอัลฟองโซที่ 13 ต้องลี้ภัยทางการเมืองออกไปประทับอยู่ในอิตาลี่ในปี 2474

หลังจากนั้นระบอบสาธารณรัฐที่เป็นฝ่ายซ้ายได้เข้ามาปกครองประเทศในระหว่างปี 2474 - 2479 มีการใช้รัฐธรรมนูญปี 2474 ที่ริดรอนสิทธิและพระราชอำนาจของกษัตริย์และอำนาจของพระศาสนาที่เรียกว่าคริสต์จักรทุกๆนิกายในสเปน มีการนำเอาทัพย์สินของพระราชวงศ์และศาสนามาเป็นของรัฐบาล

การกระทำดังกล่าวทำให้ฝ่ายนิยมกษัตริย์ที่เรียกสั้นๆว่าฝ่ายชาตินิยมได้รวมตัวกันต่อต้านฝ่ายซ้ายทั้ง 2 ฝ่ายได้ตั้งรัฐบาลและมีกองทัพ ฝ่ายสาธารณรัฐมีพลเอกมานวยส์ อาซาญ่าประธานาธิบดีเป็นแกนนำ ฝั่งชาตินิยมมีจอมพลฟรันซิสโก ฟรังโก ปาร์โดเป็นผู้บัญชาการทหารสูงสุด

สงครามกลางเมืองของสเปนทำให้ทหารทั้ง 2 ฝ่ายต้องสูญเสียชีวิตไปประมาณ 500,000 คนและยังมีพลเรือนที่ต้องเสียชีวิตจากสงครามอีกประมาณ 300,000 คน ผู้ที่ชนะสงครามคือกองทัพฝ่ายชาตินิยมที่มีจอมพลฟรังโก ปาร์โดเป็นผู้บัญชาการเขาได้เข้ามาดำรงตำแหน่งเอลโกว์ดีโย่หรือท่านผู้นำในระหว่างปี 2482 - 2518

หลังจากนั้นพระเจ้าฆวน การ์โลส์ที่ 1 จึงได้ราชาภิเษกเป็นกษัตริย์ของสเปนสืบมาจนถึงปัจจุบัน เมืองไทยจะเกิดสงครามกลางเมืองเหมือนประเทศสเปนหรือไม่นั้นนับเป็นเรื่องที่น่าเป็นห่วงเป็นอย่างมาก 
 
วันที่ 1/5/2010
 
http://www.naewna.com/news.asp?ID=209333


หัวข้อ: Re: [2513]"ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: เหยง 16 ที่ 01 พฤษภาคม 2553, 09:02:21
คอลัมม์ยอดฮิต "คนปลายซอย" ของคุณเปลวง สีเงิน

วันเบาๆ กับ "ข่าวปนนินทา" ในอากาศ
เปลว สีเงิน 1 พฤษภาคม 2553 - 00:00

     เนี่ย...ท่านเชื่อมั้ยว่า  แค่เรายกมือตะปบอากาศแล้วกำลงมา  เท่านั้นแหละ  "โลกทั้งใบตกอยู่ในกำมือท่าน"  และถ้าท่านต้องการทราบว่าพลโลกกว่า  ๖,๐๐๐  ล้านคน  เขากำลังทำอะไรกันบ้าง  กระทั่งว่าใครจะพูดอะไร  กระทั่งใครจะนินทาถึงเรา  หรือถึงใคร  เราสามารถรู้ได้หมดด้วยการใช้ระบบไอที  "แปลงรหัส"  อากาศในกำมือนั้นออกมาเป็นภาพ-เป็นเสียง  วันนี้-ผมจะทดลองให้ท่านดู!
     ทดลองยังไง...?   ก็ผมไม่ได้เหาะรอบโลกไปทางไหนเลย  นั่งอยู่หน้าคอมพิวเตอร์แท้ๆ  ด้วยวิวัฒนาการสู่ยุค  "ความลับไม่มีในโลก"  อะไรเกิดขึ้นที่ไหน  ใครทำอะไร  ไปไหน-มาไหน  หรือใครจะนินทาใคร  พูดถึงใคร  ลือถึงใคร  รู้กันโหม้ดดดดด  เอาตัวอย่างแรกเลยนะครับ  ผมเปิดเว็บไซต์ปุ๊บ  ก็มีข้อความปั๊บ
     ในจุดที่หน่วยสอดแนมของ   (ขอสงวนนาม)  ไปพบมาเมื่อวันสองวันนี้  คือ  กึ่งทางระหว่างถนนพระราม   4   ซอยสารสิน  เชื่อว่าเป็นจุดหนึ่งในหลายจุดที่มีการจัดเตรียมอาวุธไว้  อาวุธที่เห็น  ได้แก่  ปืนกล  M  60  ซึ่งเป็นปืนกลชนิดมีขาตั้ง  มีสายพานกระสุนวางเคียงอยู่  2  สาย  ยิงได้ทีเป็นพันนัดด้วยสายพานกระสุน  เครื่องยิงระเบิด  RPG  1  เครื่อง  มีลูกระเบิด  RPG  3  ลูกตั้งอยู่  ปืนกลทาโวซึ่งเป็นปืนกลรุ่นใหม่พร้อมแมกกาซีนบรรจุกระสุนเต็มพร้อมแล้ว  15  ชุด  ปืน  M  16  พร้อมกระสุนอีก  2  ชุด  ทั้งหมดนี้ตั้งอยู่นอกเต็นท์  มีการคลุมพรางตาไว้   ส่วนในเต็นท์ที่ลอบเปิดแล้วเห็น  มีปืนโคลท์จำนวนหนึ่ง  ปืนกล  M  60  พร้อมสายพานกระสุน  และเครื่องยิงระเบิด  RPG  กับจรวด  RPG
     นี่เฉพาะที่เห็นนะ   ที่ไม่เห็นอีกไม่อาจนับได้  ไอ้เสธ.เดนนรกถึงเอามาโม้ว่า  ถ้าม็อบถูกลุยหนนี้  ทหารต้องตายเป็นพันๆ  ศพ  จริงๆ  ข้อมูลด้านบนที่ได้มา  มันยาวกว่านี้  แต่ดิฉันคัดมาเฉพาะที่สำคัญเรื่องคลังแสงของพวกมันเท่านั้น  และที่  รพ.จุฬาฯ  ได้ตัดสินใจย้ายคนไข้ออกจากตึก   ภปร. และสิริกิติ์  และปิดตึกอย่างรีบด่วน  ก็เพราะหลังจากที่คณะแพทย์ได้ไปขอเจรจากับเสื้อแดงอีกครั้งให้ช่วยเปิดทางด้านประตูราชดำริ  คำตอบก็คือ  ต้องปิดตึก  สก. และ  ภปร. พวกมันนอกจากจะไม่ยอมแล้ว  หนำซ้ำยังข่มขู่กลับว่า
     "ถ้าไม่มีอะไร  เราก็คงไม่ทำอะไร  รพ.หรอกนะ  แต่ถ้าเกิดการสลายและปราบปรามผู้ชุมนุมขึ้นมา  เราก็มี  "ของ"  ของเราไว้ต้องป้องกันตัวเหมือนกัน"
     ว่าแล้วก็โชว์  "ของ"  ให้ดูเป็นขวัญตา  ด้วยการเปิดแสลนเขียวตรงด่านราชดำริ  ว่าภายใต้นั้นมีอะไรบ้าง  ก็ปรากฏอาก้าเป็นลังใหม่เอี่ยม  ระเบิด  M  67, M  79, ระเบิดเป็นลูกๆ   ระเบิดเป็นปอนด์ๆ  อยู่ใต้แสลนเขียวเป็นแนวพรึ่ด  ลังใหม่ๆ  เปิดกันใหม่ๆ  เอี่ยมๆ  แล้วมีระเบิดเต็มไปหมดอยู่ใต้แสลนเขียว   ทางจุฬาฯ  เลยถามไปว่า  "แล้วระเบิดพวกนี้ถ้าทำงานรัศมีมันจะถึงไหน"  พวกมันก็ตอบว่า
     "ก็คงถึงตึกน่ะแหละ"  แล้วอย่างงี้ทหารหาญเรา  ที่เมื่อวานยังใช้หนังสติ๊กยิงเสื้อแดงตรงวิภาวดีอยู่เลย  (ดูได้จากบางกอกโพสต์  ฉบับวันที่  29  เมษายน)
     จะเหลืออะไรกันล่ะ!!!!!
     ครับ...นี่คือข้อความที่ลอยปนอยู่ในอากาศที่เราใช้หายใจ  เท็จ-จริง  ผมไม่ได้เน้นตรงนี้   เพียงแต่ยกมาให้เห็นเป็นตัวอย่างว่า   ในอากาศนั้นมีคลื่น  และถ้าใครจับคลื่นมาถอดรหัสได้  เราก็สามารถรู้ว่าใครทำอะไร  พูดอะไร  ที่ไหน  ได้ทุกแห่ง

                 X             X                X               X
     อีกตัวอย่างในโลกยุค  "สื่อสารครองโลก"  ในอากาศนอกจากมีคลื่นแล้วยังมีขยะสารพัดชนิดลอยปะปนอยู่ด้วย   และนี่ก็ถือว่าเป็น  "ขยะอากาศ"  อีกชนิดหนึ่ง  ผมใช้เทคโนโลยีการสื่อสารสกัดเอามาจากคลื่น  เอ้า...ลองอ่าน
     น้อง   ล่าสุดมีข่าวจากวงในแจ้งมาว่า  นายกฯ  พึ่งเทพในการจัดการม็อบเสื้อแดงแล้ว  และมีประสิทธิภาพสูงซะด้วย  ไม่ใช่เทพเทือกนะพี่น้อง  แต่เป็นเทพระดับอภิมหาเทพที่ทรงดูแลปกปักรักษาบ้านเมืองเรา   "พระสยามเทวาธิราช"  กระจอกข่าวแจ้งว่า  แดงตัวพ่อ-ทักษิณ-พ่อต่อมโต  ตอนนี้อยู่ไอซียูที่มอนเตเนโกร  สมองตายไปแล้ว  อยู่ได้ด้วยเครื่องช่วยหายใจ  ลูกเมียบินไปดูใจแล้ว  (บินไปต่อเครื่องที่ฮ่องกงไง)
     รายต่อมา  ดาว  ตอร์ปิโด  ตอนนี้มะเร็งกินปาก  อาการร่อแร่  คาดว่าคงตามแดงตัวพ่อไปเร็วๆ   นี้   (สมน้ำหน้า  อยากมาด่าสถาบัน  ไม่รู้จักที่ต่ำที่สูง)  รายล่าสุด  ท่านวีระ  หัวหน้าแกนนำแดง  ข่าวแจ้งว่าพี่มะมาเยี่ยมที่หลอดอาหาร  ดูจากสภาพการณ์และวัยแล้ว  น่าจะลุกลามอย่างรวดเร็วเช่นกัน  ไชโย้!
     เห็นมะ  สุดท้ายเทพท่านก็ลงมาจัดการคนชั่ว  และมาแบบมาเร็ว  เคลมเร็วซะด้วย  โปรดติดตามตอนต่อไป  จะแจ้งหลังวันหยุดยาวเน้อ
     ขอบอกข่าวล่าสุด   จริงแท้แน่นอน   เมื่อเที่ยงนี้เองมีคนมาให้ข่าว  เห็นพจมาน  โอ๊ค   เอม  อุ๊งอิ๊ง  แต่งชุดสีดำทุกคน  ขึ้นเครื่อง  เพราะเมื่อวานเพื่อนโอ๊คโทร.มาจากเมืองนอก  ว่า  I'm  sorry  about  your  dad

                 X                X               X             
     นี่เป็นอีกตัวอย่างการสื่อสารของโลกยุคไอที   อากาศห่อหุ้มโลกใบเดียวกันแท้ๆ  พัดหมุนเวียนอยู่ในโลกใบนี้  วัน-เวลา-นาที-วินาทีเดียวกันแท้ๆ  ในคลื่นล็อตเดียวกัน  คว้าจับอากาศหย่อมเดียวกันด้วยซ้ำ  ปรากฏถอดรหัสออกมาแตกต่างกันออกไป  สุดแต่  "ต้นทาง"   ใครจะปล่อยอะไรไปในคลื่นให้คว้าจับกัน
     นี่เป็นข่าวออนไลน์จาก  "ไทยรัฐ"  บ่ายวาน  (๓๐  เม.ย.)  แค่เราตามทุกเรื่องราวในโลกได้ทันนั้นยังไม่พอ   ยังต้อง  "รู้ทัน"  ด้วย  ไม่เช่นนั้นเราจะตกเป็นเหยื่อไอที  ไทยรัฐออนไลน์รายงานข่าวชนิดมีที่มา-ที่ไปอ้างอิงได้  ดังนี้ครับ
     เมื่อวันที่   30  เม.ย. รายงานข่าวจากสำนักงานตำรวจแห่งชาติ  (สตช.)  แจ้งว่า  จากกรณีคุณหญิงพจมาน  ดามาพงศ์  อดีตภรรยา  พ.ต.ท.ทักษิณ  ชินวัตร  อดีตนายกรัฐมนตรี   พร้อมบุตร  เดินทางไปยังเกาะฮ่องกง  ด้วยสายการบินคาเธ่ย์แปซิฟิค  เที่ยวบิน  CS708  เมื่อวันที่  29  เม.ย.ที่ผ่านมา  จากการตรวจสอบพบว่ามีการแจ้งกำหนดการเดินทางกลับของคุณหญิงพจมาน  และลูกสาวทั้ง  2  คน  คือ  น.ส.พินทองทา  ชินวัตร  และ  น.ส.แพทองธาร  ชินวัตร  พร้อมด้วยเลขาฯ  คนสนิท  ถึงสนามบินสุวรรณภูมิในวันที่  3  พ.ค.นี้  เวลา  19.00  น.
     วันเดียวกัน  น.ส.พินทองทาได้โพสต์ข้อความบนเว็บไซต์ทวิตเตอร์ส่วนตัวเป็นภาษาอังกฤษ  สรุปใจความได้ว่า  พ.ต.ท.ทักษิณแข็งแรงสมบูรณ์ดี  ให้หยุดข่าวลือไร้สาระได้แล้ว  ทั้งหมดเป็นเพียงเกม  (Stop  the stupid rumours! My dad is totally  healthy!!!  It's only their game people!)
     ต่อมาเวลาประมาณ  14.00  น.  พ.ต.ท.ทักษิณ  ชินวัตร  อดีตนายกรัฐมนตรี  ก็ได้โพสต์ข้อความบนเว็บไซต์ทวิตเตอร์ส่วนตัว  ระบุว่า  "ไม่ได้ทวิตมาหลายวัน  เดินทางตลอด  มาจากมอสโกถึงอูกานดาเมื่อคืนนี้  ไม่ว่าไปไหนก็ต้องติดตามความเคลื่อนไหวของพี่น้องเสื้อแดงยอดนักสู้ตลอด  วันนี้จะไปตรวจงานที่อูกานดาแล้วจะเดินทางต่อ  เมื่อกี้ฟังน้องตึงตังบูรพาร้องหมอลำน่ารักฉลาดมาก  แถมยังบริจาคเงินให้เวทีอีกต่างหาก  และได้ร้องถึงผม  ขอเป็นกำลังใจให้พี่น้องนักต่อสู้เพื่อประชาธิปไตยและความเป็นธรรมทุกคน  ขอชื่นชมหัวใจที่เด็ดเดี่ยว  บางคนถูกยิงรักษาตัวอยู่  ยังบอกว่าหายจะไปสู้ต่อ"
     ต่อมาเมื่อเวลา  14.50  น.  พ.ต.ท.ทักษิณได้ทวิตตอบคำถามของแฟนคลับผู้ที่ใช้งานทวิตเตอร์เกี่ยวกับกระแสข่าวลือ  และกรณีที่มีคนมองว่า  "ขอบคุณครับผมสบายดี  คนเสื้อแดงหลายคนโทร.มาหาผมเป็นห่วงข่าวลือ  เลยบอกไปว่าเรื่องพิสูจน์ง่ายๆ  มันยังกล้าโกหก  นับประสาอะไรกับเรื่องอื่นๆ  ขณะที่ประเด็นเรื่องทวิตเตอร์ตัวปลอม  ระบุว่า  "ของจริงที่ผมทวิตเองมีเว็ปเดียวคือ  thaksinlive  เท่านั้น  นอกนั้นจะเป็นญาติสนธิ  กับญาติอำมาตย์ผู้ประสงค์ออกตังค์  แต่ไม่ประสงค์ออกนามครับ".
     พอเข้าใจเรื่องโลกกับไอทีกันแล้วนะครับ   ต่อไปนี้เป็นรายการ  "ย่อยอาหารไอที"  ก็ได้มาจากการคว้าอากาศมาถอดรหัสนั่นแหละ  ผมบอกแล้ว  "ตามทัน"  ไม่พอ  เราต้อง  "รู้ทัน"  ด้วยจึงจะฮา  ฮิฮิ  เอ้า...อ่าน...เร็ว!
     30 April 2010, 4:30 AM
     Thaksin Dead?
     Hot off the press
     Thaksin dies in Israel
     While visiting Israel, Thaksin suffers a heart attack and passes away.  The undertaker calls the Thai Embassy and says, 'You can have him shipped home for Bht 500,000, or you can bury him here, in the Holy Land , for just Bht100.'
     The Ambassador thinks about it for a minute and replies that they want Thaksin shipped home.
     The undertaker is puzzled and asks, 'Why would you spend Bht 500,000 to ship him home, when it would be wonderful to be buried here and you would spend only Bht100? With the money you save you could line quiet a few pockets in Thailand.
     To  this the Thai ambassador replied, 'Long ago a man died here, was  buried here, and three days later he rose from the dead. We just can't take the risk.'
     เฮ้อ...ค่อยหายบ้าถึงขนาด  "บุกโรงพยาบาล"  ไปวันนะครับ.

http://www.thaipost.net/news/010510/21572


หัวข้อ: Re: [2513]"ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: เหยง 16 ที่ 01 พฤษภาคม 2553, 09:09:21
ม็อบพลาสติกสลายยาก
ถูกทุกข้อ 1 พฤษภาคม 2553 - 00:00

 เรียน คุณสามวา สองศอก ที่นับถือ

     คุณว่าท่านอนุพงษ์ท่านสำคัญผิดในหน้าที่ของท่านหรือเปล่า   หรือท่านคิดว่าท่านเป็นเจ้าอาวาส  ไม่ได้เป็น  ผบ.ทบ.ที่มีหน้าที่รักษาความมั่นคงของประเทศ

     คนชั่วยิง  M  79  ไม่รู้เท่าไหร่แล้ว  คนต้องตายไปเจ็บไปมากมาย  ความมั่นคงของประเทศชาติต้องฉิบหายไปเท่าไหร่แล้ว  ยังยืนนิ่งให้ผู้ก่อการร้ายตบซ้ายตบขวา  นี่ถามหน่อยเถอะท่านหน้าไม่ชาบ้างหรือไร?

     นึกถึงท่านสะพรั่งเลยนะเสียดาย   เพราะถ้าท่านสะพรั่งเป็น  ผบ.ทบ. กองทัพไทยคงดูสง่างามกว่านี้  เลือกคนผิดคิดจนประเทศล่มสลาย

     จะคัดคนดีออกมาให้หมด   คอยไปเถอะชาติหน้าตอนบ่ายๆ  ด้วย  ทำไมไม่ยิง  M  79  ลงบนเวทีสัก  2-3  ลูกก็ปิดเกมแล้ว  เพราะยิงหัวหน้ามันลูกน้องก็กระเจิง  ไม่รู้จะรับเงินที่ใคร  24  คนเนรคุณนี้ไม่ควรไว้ชีวิตมัน  ติดคุกก็เปลืองข้าวหลวง

     ส่วนไอ้ชวลิตและไอ้สมชายกระโปรง  ก็ใช้สงครามกองโจรกับมันบ้าง  ไปยิงบ้านมันบ้างให้รู้ว่าความเสียหายของชาติเป็นอย่างไร  หรือไม่ก็เนรเทศ  7  ชั่วโคตร  เหมือนหนังจีนสมัยก่อนฐานดึงฟ้าต่ำบังอาจมาก   ห้ามทำธุรกิจใดๆ  ในประเทศไทย  สมัยก่อนเขาประหาร  7  ชั่วโคตรเลยนะคุณ

     ส่วนลิ่วล้อที่เหลือปล่อยไปเถอะ  เพราะไม่นานก็ตายไปเองด้วยแรงกรรม  เพราะจะประสบเภทภัยอย่างหนักในชีวิต  จากการที่ร่วมกับพวกเสื้อแดงทำลายชาติ  ดิฉันเชื่อว่ากรรมมีจริงและติดจรวดด้วย   คนเสื้อแดงเหล่านี้ถึงเวลาที่กรรมตัดรอนมาถึง  อาจตายก่อนอายุขัยและลำบากยากแค้น  ด้วยกรรมที่ทรยศแผ่นดิน

     ขอให้พระสยามเทวาธิราช  และเหล่าทวยเทพศักดิ์สิทธิ์  จงช่วยปกปักบ้านเมืองของเราให้รอดจากคนชั่ว  คนพาล  กบฏแผ่นดินด้วยเถิด

     จงลงโทษให้เกิดเคราะห์กรรมมหันต์แก่คนเนรคุณเหล่านี้อย่างหนัก  โดยอย่าได้ละเว้นเลย

สักคนเดียว  รวมถึงพรรคเพื่อไทยจัญไรแผ่นดิน  ขอให้คำอธิษฐานจงสัมฤทธิผลด้วยเถอะ  สาธุ

                                                        ขอแสดงความนับถือ

                                                          คนไทยรักแผ่นดิน

ตอบ คนไทยรักแผ่นดิน

     ม็อบไพร่แดงที่สี่แยกราชประสงค์น่าจะเป็นม็อบพลาสติก  ที่ต้องใช้เวลาย่อยสลายนานเป็นร้อยๆ  ปี  แต่พลเอกอนุพงษ์  เผ่าจินดา  อีกไม่กี่เดือนก็เกษียณอายุราชการแล้ว  ชาวบ้านก็ต้องช่วยเหลือตัวเองไปพลางๆ  ก่อน  นี่ก็บุกเข้าไปถึงโรงพยาบาลจุฬาฯ  แล้ว  พรุ่งนี้จะบุกไปไหนอีกท่านนายหัววีระ     

               รักสงบแต่รบไม่ขลาด

เรียน คุณสามวา สองศอก ที่นับถือ

     ต้องขอโทษที่ดิฉันต้องใช้วิธีเขียน  แทนส่ง  จ.ม.อิเล็กทรอนิก  เนื่องจากใช้ไม่เป็นและแก่เกินกว่าจะเรียนรู้ทำความเข้าใจ

     ดิฉันขออนุญาตเริ่มเรื่องด้วยการฝากถึงนายกฯ   รวมทั้ง  ผอ.ศอฉ. และพลเอกอนุพงษ์  ดิฉันอยากจะกราบและร้องขอให้มีการประกาศกฎอัยการศึกทั่วราชอาณาจักรได้แล้ว  เพราะขณะนี้เกือบทั่วประเทศ  (คงยังยกเว้นภาคใต้)  กำลังตกอยู่ภายใต้อำนาจมืด  ซึ่งมีอิทธิพลมากมายมหาศาล  มากกว่าผู้ว่าฯ  ทหารและกำลังสำคัญหน่วยต่างๆ  ของรัฐจะจัดการได้แล้ว   

     เนื่องจากมีการตั้งด่านเถื่อนตรวจค้น   กักกัน   ขวางกั้นการกระทำการคมนาคมได้ตามใจชอบ  ไม่เว้นแม้แต่ตำรวจหรือทหาร  เมื่อเหตุการณ์เป็นดังนี้แล้ว  จะให้ประชาชนต้องปฏิบัติตามใครดี  ตำรวจ  ทหาร  หรือกองกำลังเถื่อนที่กำลังกระทำการอยู่ทั่วประเทศในขณะนี้

     กรุณาอย่าคิดแต่เพียงว่าประชาชนต้องการให้สลายการชุมนุมแค่สี่แยกราชประสงค์เท่านั้น 

แต่ขอให้ดำเนินการโดยเร่งด่วน  เพื่อปราบปรามกลุ่มผู้ก่อการกบฏแห่งราชอาณาจักร  ที่กำลังกระจายกองกำลังอยู่ทั่วประเทศในขณะนี้โดยเร่งด่วน

     เพราะพวกเราถูกละเมิดอธิปไตยส่วนบุคคล   รวมทั้งสิทธิ+เสรีภาพอันพึงมีพึงได้รับ  จนหมดความเป็นประชาชนของประเทศไทย  เนื่องจากตกอยู่ภายใต้อำนาจและอิทธิพลของกลุ่มอำนาจมืด  เถื่อน  อันธพาล  มานานพอสมควรแล้ว

     ดังนั้น  ณ  บัดนี้ดิฉันคิดว่าทั้งอำนาจรัฐ  ไม่ว่าจะเป็นโดยฝ่ายการเมืองก็ดี  ทหาร  ตำรวจก็ดี  ขอได้โปรดจัดดำเนินการคืนความเป็นประชาธิปไตย  อธิปไตย  สิทธิและเสรีภาพ  ให้ปวงชนทั้งหลาย  ซึ่งถวายความจงรักภักดีแด่ในหลวงและราชวงศ์โดยเร็ว

     คนไทยรักสงบจริง   แต่ถ้าใครมารุกราน  ไม่ต้องถึงประเทศ  แค่สิทธิ-เสรีภาพส่วนบุคคล  ดิฉันคิดเราทุกคนก็พร้อมที่จะทำ  เพื่อเรียกร้องสิ่งที่เราพึงมีพึงได้ด้วยตนเอง  อันจะนำมาซึ่งสงครามประชาชนต่อประชาชนในที่สุด

     พวกท่านที่มีหน้าที่  ความรับผิดชอบ  จะนิ่งอยู่กับที่เฉยๆ  เพื่อรอให้พวกกบฏในราชอาณาจักร  ยกเลิก  ถอย  ถอนตัวไปเอง  ก็ขอให้พิจารณาตนเอง  และหรือขอถอนตัวพร้อมทั้งมอบหมายให้ผู้อื่นที่พร้อมจะป้องกันคุ้มครองอธิปไตย  (สิทธิ-เสรีภาพ)  ของประชาชนทั่วทั้งประเทศได้อย่างไม่รีรอ  จะเป็นพระคุณอย่างยิ่ง  ขอบคุณล่วงหน้า

                                                         ด้วยความนับถือ

                                                         สุภัทรา ฤทธิบุตร

ตอบ คุณสุภัทรา

     ทุกคนมีหน้าที่ต้องทำ  หน้าที่ใครก็หน้าที่มัน  ใครย่อหย่อนไม่ทำตามหน้าที่  สังคมส่วนรวมก็จะพลอยเดือดร้อนเหมือนทุกวันนี้แหละ

                 โศกาเสียจนน้ำตาไม่ไหล

สวัสดีครับคุณสามวา

     ก่อนอื่นก็ขอแสดงความเสียใจต่อญาติพี่น้องที่เสียชีวิตทั้งสองฝ่าย   ไม่ว่าจะเป็นทหารหรือนายทหารและคนเสื้อแดง  ในเหตุการณ์เมื่อวันที่  10  เม.ย.ที่ผ่านมา  ถือเป็นความเศร้าสลดของสังคมไทย  ที่ความขัดแย้งยิ่งร้าวลึกลงไปอีก  และเห็นมีข่าวจะมีการสลายการชุมนุมที่ราชประสงค์กันอีกรอบ  ถ้าเป็นจริงก็คงหนีไม่พ้นต้องบาดเจ็บล้มตายกันทั้งสองฝ่าย

     เพราะผมเองบังเอิญแอบไปได้ยินกลุ่มคนเสื้อแดงคุยกันแถวร้านค้าแห่งหนึ่ง  หลังจากมีการ

สลายการชุมนุมที่ผ่านฟ้าฯ   ไม่นาน  บอกคราวหน้าให้เอาอาวุธจริง  ใครมีปืนพกให้เอาติดตัวไปด้วย  และคราวนี้จะไม่ยอมปล่อยให้ยิงฝ่ายเดียวกันอีกแล้ว  นี่แหละครับผมแอบได้ยินแล้วรู้สึกตกใจ  สาเหตุก็เพราะไม่มีความอดทน  อดกลั้น  พร้อมจะห้ำจะหั่นกัน

     ใครที่บอกชักจะทนไม่ไหวแล้ว  ก็ต้องอดทนกันล่ะครับ  ถ้ายังไม่อยากเห็นคนไทยฆ่ากันเอง  มันก็เหมือนกับการยิง  M  79  เข้าไปในม็อบพันธมิตรฯ  ตอนยึดทำเนียบฯ  และสนามบินนั่นแหละครับ   เพราะมีคนชอบใช้ความรุนแรง  ขาดความอดทน  อดกลั้น  และบอกทนไม่ไหวแล้วเหมือนกัน

     บังเอิญผมเรียนจบมาทางด้านรัฐศาสตร์  ไม่ได้เรียนมาทางด้านนิติศาสตร์  ก็เลยไม่เข้าใจว่าการบังคับใช้กฎหมาย  ก็คือทำให้เลือดตกยางออกเช่นนั้นหรือเปล่า?  และบังเอิญอีกล่ะครับผมชอบเป็นนกพิราบ  ที่ไม่ชอบทำตัวเป็นเหยี่ยวหรืออีแร้ง  ที่คอยจ้องแทะกินศพที่เป็นคนไทยด้วยกันเอง

     อยากยุก็ยุกันไปเถอะครับ  และอย่ามานึกเสียใจในภายหลัง  เพราะคงไม่มีฝ่ายไหนต้องตายฝ่ายเดียวแน่

     ส่วนกลุ่มสันติวิธีไม่ว่าจะเป็น   อ.ปริญญา   อ.โคทม  หรือท่าน  ส.ว.พลเอกเลิศรัตน์  รวมทั้งกลุ่มสิทธิมนุษยชน  ก็ต้องช่วยกันออกแรงยกระดับให้มากกว่านี้  ผมสนับสนุนเต็มที่เลยครับ   

     ส่วนม็อบเสื้อแดงที่ปักหลักชุมนุมยืดเยื้อกันอยู่แถวราชประสงค์   ก็ต้องระวังล่ะครับ  อาจจะทำให้กระแสตีกลับได้   วันก่อนพี่สาวคนโตของผมโทร.มาหา   บ่นกระปอดกระแปดว่าไม่ได้ไปทำงานที่เซ็นทรัลเวิลด์หลายวันแล้ว  เนื่องจากห้างปิดเพราะกลัวคนเสื้อแดง

     นี่ก็เป็นผลกระทบของผู้ที่ทำงานในย่านนั้น  และจะต้องอดทน  อดกลั้น  อย่างที่แกนนำม็อบบอกว่า   ให้เสียสละเพื่อประชาธิปไตยที่แท้จริง  ปราศจากอำนาจนอกระบบเพื่อจะได้มาเสียที  มันก็เป็นเรื่องยากในมุมมองที่แตกต่างกันที่หากินอยู่ในย่านนั้น

     เพราะฉะนั้นต้องรีบเจรจากันให้จบๆ  ไวๆ  ไม่ใช่จะไปสีลมกันอีกแล้ว  จะเอาความมันตามแรมโบ้หรืออริสมันต์   ที่ห้อยต่องแต่งเป็นอินทรีทอง   ดีไม่ตกมาตายแบบคุณมิตร  ชัยบัญชา  ไม่ได้หรอกครับ   เพราะเสียแนวร่วมไปเยอะ  เก็บเข้าลิ้นชักได้ก็เก็บไปเลยแบบคุณศรีธัญญา  ณ  สวนปรุง  บอก

     ส่วนรัฐบาลก็ต้องลดลีลาการแสดงอำนาจลงบ้าง  ไม่ใช่ให้คุณสุเทพ  เทือกสุบรรณ  เสนาธิการทหาร  ออกมาลอยหน้าลอยตาเป็นขวานฟ้าหน้าดำ  พูดจาคำก็ก่อการร้าย  2  คำก็ก่อการร้าย  ต่างชาติได้ยินก็หนีกันหมดไม่อยากมาเที่ยว

     เมื่อ   2  วันก่อนได้มีโอกาสพบกับน้องบุญธรรมผม  ที่จบเตรียมทหารรุ่นติดกับลูกชายบิ๊กจ๊อด  ที่เป็นทหารเรือยศนาวาเอกพิเศษ  ยังพูดให้ฟังเรื่องการสลายชุมนุม  ว่าเป็นเรื่องยากที่จะสลาย  เพราะมวลชนมีจำนวนมาก  สุ่มเสี่ยงจะเกิดการสูญเสีย  อย่าคิดว่าคนเสื้อแดงจะตายฝ่ายเดียว  และคิดว่าจะสลายตอนมวลชนมีจำนวนน้อยก็ใช่ว่าจะทำได้ 

     เพราะข้อมูลข่าวสารในยุคนี้มันไวมาก  พอมีข่าวจะสลายคนนอกม็อบก็แห่มาช่วยด้วยเวลาอันรวดเร็ว  มันก็เลยเป็นเรื่องยากและควบคุมสถานการณ์ไม่อยู่  น้องบุญธรรมผมสรุปให้ฟัง

     ส่วนเด็กที่ทำงานผมที่ไปร่วมกับม็อบคนเสื้อแดง  โชคดีที่บาดเจ็บมาคนละเล็กละน้อย  ส่วนอีกคนหายสาบสูญยังไม่กลับมา   เข้าใจว่ามันยังอยู่กับสามเกลอที่ราชประสงค์  ก็ต้องปล่อยไปล่ะครับ  ความคิดมันห้ามกันไม่ได้  ขอเพียงแต่อย่าใช้ความรุนแรงต่อกัน

     ไม่งั้นคงต้องร้องเพลงนี้กันทั้งสองฝ่าย   ก็คือเพลงโศกาโศกี  โดยเริ่มที่  "โศกา  โศกา  โศกาเสียจนน้ำตาไม่ไหล  โศกาเสียจนน้ำตาตกใน  ใครเล่าใคร  เขาจะเห็นใจโศกี"

     แล้วคุณสามวาที่บอกว่าเคยผ่านเหตุการณ์   6  ต.ค.19  มาเหมือนผมจะว่าอย่างไงล่ะครับ

                                                       ขอแสดงความนับถือ

                                                         นายผีตองเหลือง

ตอบ คุณผีตองเหลือง

     กว่าจดหมายของคุณจะได้ลง   เหตุการณ์บ้านเมืองก็เปลี่ยนไปจนคิดไม่ถึง  ไม่รู้ว่าคุณยังยึดมั่นในสันติวิธีอยู่อีกหรือเปล่า  เพราะมีคนตายเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ  โดยที่แกนนำเสื้อแดงยังไม่มีใครตายสักคน  คุณคงจะเครียดมากจนลืม  ฮิฮิ...ที่เป็นเอกลักษณ์

                                                         สามวา สองศอก

http://www.thaipost.net/news/010510/21572


หัวข้อ: Re: [2513]"ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: prapasri AH ที่ 01 พฤษภาคม 2553, 09:11:59
น้อง ya และน้องดร.มนตรีคะ

ประชัน ความสวย กับ ดร.เเมกไซไซ ดร.กฤษณา ไกรสินธุ์ ค่ะ  

ดร.กฤษณาบอกว่า ที่คุณทักษิน บอกว่าไปลงทุนทำเหมืองเพชร ในอัฟริกา นั้นไม่จริ๊ง ไม่จริง

เพราะ ดร. กฤษณา วนเวียน อยู่แถวอัฟริกา ปีละเกือบ 7-8 เดือน

ก่อนจะวนเวียน ตามติด ไปยัง ประเทศที่คุณ ทั๊กกี้ไป ต่อๆๆ อีก

สรุปว่าเดินทางทั่วโลก เหมียนกันนนนนนนนน

แต่ไปทำงานคนละอย่างกัน หุๆๆๆๆๆๆๆ


หัวข้อ: Re: [2513]"ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: prapasri AH ที่ 01 พฤษภาคม 2553, 09:13:28
ส่งรูปไม่ได้อีกแล้ว

เวบ ดร.กะป๋องงงงนี่


หัวข้อ: Re: [2513]"ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: prapasri AH ที่ 01 พฤษภาคม 2553, 09:23:58
เหยง คะ

เสื้อแดง เขาสนใจ ถล่ม เฉพาะตึก ภปร. และ ตึกสก. ค่ะ


หัวข้อ: Re: [2513]"ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: เหยง 16 ที่ 01 พฤษภาคม 2553, 16:00:22
ทั้งสองตึกเป็นตึกสูงอยู่ริมถนนราชดำริห์ หากยึดยอดตึกได้ จะสามารถมองเห็นไปเกือบตลอดแนวของการชุมนุม

แต่ที่มันกลัวหนักก็คือ กลัวนักแม่นปืนขึ้นไปอยู่ข้างบนนั้น


หัวข้อ: Re: [2513]"ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: เหยง 16 ที่ 01 พฤษภาคม 2553, 17:53:55
"สมเด็จพระสังฆราช" ย้ายประทับ รพ.ศิริราช เรียบร้อยแล้ว
1 พฤษภาคม 2553 17:44 น.

 
       ความคืบหน้าล่าสุด "สมเด็จพระสังฆราช" ย้ายไปประทับรักษาที่ รพ.ศิริราช เรียบร้อยแล้ว หลัง "สมเด็จพระเทพฯ ทรงเข้าเยี่ยมและโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมเชิญไปประทับรักษาต่อ
       
       
       วันนี้ (1 พ.ค.) หลังจากที่ช่วงบ่ายที่ผ่านมา สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี เสด็จพระราชดำเนินไปยังโรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ เพื่อทรงเยี่ยม สมเด็จพระญาณสังวร สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก และทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อม ให้เชิญไปประทับรักษาพระองค์ที่โรงพยาบาลศิริราช
       
       ล่าสุด สมเด็จพระญาณสังวร สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก ย้ายไปประทับรักษาอาการที่โรงพยาบาลศิริราช เป็นที่เรียบร้อยแล้ว

 
 
 
จาก http://www.manager.co.th/asp-bin/mgrView.asp?NewsID=9530000060184
 


หัวข้อ: Re: [2513]"ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: ภาณุ ปาตานี ที่ 02 พฤษภาคม 2553, 06:50:12
อ้างถึง
ข้อความของ prapasri AH เมื่อ 01 พฤษภาคม 2553, 09:13:28
ส่งรูปไม่ได้อีกแล้ว

เวบ ดร.กะป๋องงงงนี่

พี่ป๋องคร๊าบ..ขออนุญาต..ขำ..นิดๆ..นะครับ (รับรองว่า..ไม่มากครับ)  emo30:sorry:


หัวข้อ: Re: [2513]"ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: ภาณุ ปาตานี ที่ 02 พฤษภาคม 2553, 06:52:13
อ้างถึง
ข้อความของ prapasri AH เมื่อ 01 พฤษภาคม 2553, 09:23:58
เหยง คะ

เสื้อแดง เขาสนใจ ถล่ม เฉพาะตึก ภปร. และ ตึกสก. ค่ะ

พี่ป๋องคร๊าบ
ตึกสวนกุหลาบ..ก็โดนด้วยครับ


หัวข้อ: Re: [2513]"ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: prapasri AH ที่ 02 พฤษภาคม 2553, 07:07:36
(http://img217.imageshack.us/img217/6199/resizey.jpg)

copy รูป ดร. กฤษณา มาได้แล้ว น้องya

ไม่งั้นวันนี้จะบอกว่า

เวบไม่ดี โทษ ดร. กระป๋องงงงงงงงงงงงง


หัวข้อ: Re: [2513]"ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: prapasri AH ที่ 02 พฤษภาคม 2553, 07:11:11
ในมือ ดร.คือยาหอม ค่ะน้องya

ยาหอมๆๆๆ ยาหอม สนมะสนมะ  ดีกว่า ยาพิษ5555555

วันนี้ เป็นอันเครียด ค่ะ

เพราะไม่สามารถพิสูจน์ได้ว่าน้องแม้ว อยู่หรือตาย  หรือป่วยหนัก

เป็นปริศนาที่อยู่ ในสมอง จนเกิดอาการเครียด ค่ะ


หัวข้อ: Re: [2513]"ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: เหยง 16 ที่ 02 พฤษภาคม 2553, 10:03:06
นสพ แนวหน้า วันอาทิตย์ที่ 2 พฤษภาคม 53 ครับ

เขียนให้คิด    
 
บุกรุกโรงพยาบาล : สันดานเดรัจฉานชั้นต่ำ (เขียนให้คิด)    
 
 
 

 เหตุการณ์หนึ่งที่ถือว่าต่ำช้า สุดแสนเลวทรามและสมควรจะต้องถูกประณามจากประชาคมโลกเป็นอย่างยิ่ง คือเหตุการณ์ที่เพิ่งเคยปรากฏขึ้นเป็นครั้งแรกในสังคมไทยคือ กรณีที่คนกลุ่มหนึ่งซึ่งประกาศตัวว่าเชื่อมั่น ศรัทธา และเทิดทูนระบอบทักษิณยิ่งกว่าระบบคุณธรรมและระบบกฏหมาย นำกลุ่มอันธพาลเข้าไปบุกค้นอาคารต่าง ๆ ในโรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ เมื่อคืนวันพฤหัสบดีที่ 29 เมษายน 2553 โดยมิได้คำนึงถึงว่า การกระทำดังกล่าวจะสร้างความเดือดร้อนให้กับผู้ป่วยที่กำลังพักรักษาตัวอยู่ในโรงพยาบาล คณะแพทย์ พยาบาล และเจ้าหน้าที่ผู้ให้บริการอยู่ในโรงพยาบาลอย่างไร

 ปรากฏการณ์อุบาทว์ที่ไม่เคยมีมนุษย์ปกติผู้ใดบังอาจกระทำได้ต่ำช้าเยี่ยงนี้มาก่อน คือเครื่องพิสูจน์ที่สามารถยืนยันได้ชัดเจนล้านเปอร์เซ็นต์ว่า นี่คือการกระทำของเดรัจฉาน ต้องขอย้ำและขีดเส้นใต้ว่า นี้คือเดรัจฉานวิสัย และเดรัจฉานพฤติกรรมอย่างแท้จริง

 เพื่อทักษิณ : ทำได้ทุกอย่างแม้เผาบ้านเผาเมือง  

 ที่ผ่านมานั้น ทักษิณ ชินวัตร และแกนนำกลุ่มคนผู้สนับสนุนระบอบทักษิณ จะแอบอ้างและพูดจาโกหกตลบตะแลงมาโดยตลอดว่า ชุมนุมโดยสงบ สันติ ปราศจากอาวุธ และความรุนแรงทุกรูปแบบ อีกทั้งยังพยายามสร้างภาพบิดเบือนว่า เป้าหมายของการชุมนุมคือการเรียกร้องการปกครองตามระบอบเสรีประชาธิปไตย

 แต่แล้วความจริงก็ปรากฏให้เห็นตลอดเวลาว่า การชุมนุมของผู้สนับสนุนระบอบทักษิณนั้น ล้วนเต็มไปด้วยการโกหก จงใจบิดเบือนความจริง เพื่ออำพรางความผิดและความชั่วสารพัดชนิดที่กลุ่มพวกตนได้กระทำไว้มากมายหลายกรรมหลายวาระ อาทิ อ้างว่าไม่เคยใช้กำลังบุกรุกเข้าไปในรัฐสภา ไม่เคยใช้กำลังบุกรุกเข้าไปในสำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้งที่ศูนย์ราชการ และไม่เคยใช้ความรุนแรงใดใดในการเคลื่อนไหวทางการเมือง

 ทั้ง ๆ ที่มีหลักฐานชัดเจนมัดตัวคนกลุ่มนี้อย่างแน่นหนาตลอดเวลาว่า พยายามก่อให้เกิดเหตุวินาศกรรมในเขตใจกลางพระนครและบริเวณต่าง ๆ ในเขตกรุงเทพฯรวมถึงเขตปริมณฑลและต่างจังหวัด ข้อพิสูจน์ในเรื่องนี้คือ การยกกองกำลังกลุ่มอันธพาลไปปิดถนนสายต่าง ๆ หลายครั้งหลายหน การประกาศจะเผาศาลากลางจังหวัด การประกาศเอาชีวิตนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีอีกหลายคน การประกาศให้กลุ่มผู้สนับสนุนระบอบทักษิณใช้ความรุนแรงสารพัดรูปแบบ การเตรียมอาวุธสารพัดชนิดไว้เพื่อมุ่งทำร้ายเจ้าหน้าที่ผู้รักษาความปลอดภัยและประชาชนที่ไม่เห็นกับการก่อเหตุวินาศกรรมของพวกตน การราดน้ำมันเชื้อเพลิงลงบนกองยางรถยนต์ที่ทำเป็นบังเกอร์ การนำถังก๊าซหุงต้มไปใส่ไว้ในกองยางรถยนต์ที่ราดน้ำมันไว้แล้ว การจงใจปิดเส้นทางการเดินรถไฟฟ้าบีทีเอส การจงใจทำลายทรัพย์สมบัติสาธารณะ การบุกรุกสถานที่และกระทำละเมิดสิทธิของเอกชนและประชาชนทั่วไปอีกนับครั้งไม่ถ้วน ฯลฯ

 ที่กล่าวมา ณ ข้างต้นนี้ เป็นแค่เพียงเศษเสี้ยวของความเลวร้ายที่ผู้สนับสนุนระบอบทักษิณจงใจกระทำขึ้นและสาธารณชนในสังคมไทยและประชาคมโลกได้ประจักษ์ชัดแล้ว แต่ไม่ว่าคนกลุ่มนี้จะอ้างเพื่อหลบเลี่ยงความผิดที่ได้กระทำไว้ด้วยข้อแก้ตัวใดก็ตาม ก็ไม่สามารถลบล้างความผิดมหันต์ที่ได้ก่อไว้

 ใช้ผู้เจ็บป่วยและโรงพยาบาลเป็นเครื่องเซ่นวิญญาณร้ายระบอบทักษิณ  

 พฤติกรรมชั่วช้าสามานย์ที่กลุ่มผู้สนับสนุนระบอบทักษิณกลุ่มหนึ่งได้ก่อขึ้น ณ โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ ในช่วงค่ำวันที่ 29 เมษายน โดยการบุกรุกเข้าไปในอาคารต่างๆ รวมถึงการบุกค้นหอผู้ป่วย และพยายามจะบุกค้นเข้าไปในหอพักและห้องทำงานของแพทย์ หอพักนิสิตแพทย์ และเจ้าหน้าที่ของโรงพยาบาล โดยอ้างว่าจะเข้าไปตรวจค้นว่ามีกองกำลังทหารซุกซ่อนอยู่ในโรงพยาบาลหรือไม่ เป็นข้ออ้างที่ไร้เหตุผลและไร้ศีลธรรมจรรยาเป็นเครื่องรองรับ

 พฤติกรรมโฉดชั่วและไร้สามัญสำนึกของอมนุษย์เช่นนี้ ได้สร้างความตื่นตระหนกและหวาดกลัวให้กับผู้ป่วย แพทย์ พยาบาลและเจ้าหน้าที่ของโรงพยาบาล รวมถึงญาติพี่น้องของผู้ที่อยู่ในโรงพยาบาลทุกคนเป็นอย่างมาก ต้องเน้นย้ำอีกครั้งว่าการกระทำที่เลวทรามเช่นนี้ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อนในประเทศไทยและในประเทศใดใดทั่วโลก

 หากจะมี ก็เป็นการกระทำของกลุ่ม God Army ที่ก่อเหตุ ณ โรงพยาบาลศูนย์จังหวัดราชบุรี เมื่อประมาณ 10 ปีมาแล้ว ซึ่งก็ต้องยืนยันว่ากลุ่ม God Army มิใช่กลุ่มผู้ชุมนุมประท้วงตามปกติ แต่เป็นผู้ก่อการร้าย ดังนั้นการกระทำที่เกิดขึ้น ณ โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์จึงต้องถือว่าเป็นการกระทำของกลุ่มผู้ก่อการร้ายเช่นกัน

 ดังนั้น เมื่อประจักษ์ชัดแล้วว่า การกระทำดังกล่าวเป็นพฤติกรรมของผู้ก่อการร้ายแล้ว ก็เป็นเรื่องสมควรและเหมาะสมที่รัฐบาลและเจ้าหน้าที่ผู้รักษาความมั่นคงและความสงบให้กับประเทศชาติ จะต้องบังคับใช้กฏหมายอย่างเด็ดขาดกับผู้ก่อการร้าย เพราะไม่เคยมีรัฐบาลที่ชอบธรรมคณะใดในโลกนี้ยินยอมให้ผู้ก่อการร้ายเหิมเกริมและทำร้ายประชาชนผู้บริสุทธิ์

 ตามหลักกติกาสากลที่นานาอารยประเทศยึดถือนั้น ล้วนยึดมั่นในหลักการที่ว่า ผู้เจ็บป่วยต้องได้รับการดูแลและรักษาพยาบาลโดยเจ้าหน้าที่สาธารณสุขอย่างเสมอหน้าและเท่าเทียมกัน ส่วนเจ้าหน้าที่สาธารณสุขผู้ให้การรักษาพยาบาลย่อมมีหน้าที่และความรับผิดชอบในการดูแลรักษาพยาบาลผู้เจ็บป่วยทุกรายโดยไม่เลือกปฏิบัติแต่ประการใด แม้ผู้เจ็บป่วยจะมีความแตกต่างในด้านเชื้อชาติ ภาษา ศาสนา หรือความคิดเห็นทางการเมืองก็ตาม

 หลักปฏิบัติของนานาอารยประเทศอีกประการหนึ่งคือ ผู้เจ็บป่วยและผู้ปฏิบัติหน้าที่ทางการแพทย์และสาธารณสุข ตลอดจนตัวอาคารสถานที่ของโรงพยาบาล จะต้องได้รับสิทธิยกเว้นจากการกระทำของทุกฝ่ายให้อยู่นอกเหนือความขัดแย้งทางการเมือง ต้องไม่ถูกแทรกแซงหรือการเข้าไปยุ่งเกี่ยวหรือถูกกระทำการใดใด อันจะส่งผลกระทบต่อการปฏิบัติหน้าที่ของเจ้าหน้าที่ เพราะอาจจะส่งผลกระทบต่อสุขภาพและชีวิตของผู้ป่วยได้

 ผลกระทบอย่างร้ายแรงที่ผู้สนับสนุนระบอบทักษิณจงใจกระทำต่อโรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ ต่อผู้เจ็บป่วยที่กำลังพักรักษาตัว และกระทำต่อบุคลากร รวมถึงนิสิตคณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย มีมากมายเหลือคณานับ อาทิ ที่ผ่านมาเป็นเวลานานนับเดือน คณะแพทยศาสตร์ จุฬาฯ ต้องยุติการเรียนการสอน การสอบ และการประชุมมาโดยตลอด

 ซ้ำร้ายการชุมนุมของผู้สนับสนุนระบอบทักษิณที่บริเวณหน้าสวนลุมพินี ยังส่งผลกระทบอย่างร้ายแรงต่อการเดินทางเข้าออกของผู้ปฏิบัติหน้าที่และผู้ไปรับบริการของโรงพยาบาลด้วย ข้อเท็จจริงเชิงประจักษ์คือการเข้าออกโรงพยาบาลทางฝั่งถนนราชดำรินั้นเกือบจะถูกตัดขาดไปโดยสิ้นเชิง การให้บริการห้องฉุกเฉินได้รับอุปสรรคอย่างมาก ทั้งนี้ยังมิต้องพูดถึงความปลอดภัยในชีวิตและสวัสดิภาพของผู้ป่วย ญาติผู้ป่วยและบุคลากรของโรงพยาบาล

 ผู้ที่พักรักษาตัวอยู่ในหอผู้ป่วยบริเวณถนนราชดำริ ต้องได้รับความทุกข์ทรมานแสนสาหัสจากเสียงรบกวนที่มาจากเครื่องขยายเสียงของกลุ่มผู้สนับสนุนระบอบทักษิณ ซึ่งส่งเสียงดังตลอดวันตลอดคืนเป็นเวลาเกือบ 3 สัปดาห์

 ทางโรงพยาบาลจุฬาฯ เพียรพยายามขอร้องให้ผู้ชุมนุมเปิดเส้นทางสัญจรเข้าออกห้องฉุกเฉิน ที่บริเวณหัวถนนราชดำริ แต่ผู้ที่รักและเทิดทูนระบอบทักษิณกลับมิได้นำพา นอกเหนือจากนั้นอมนุษย์ฝูงนี้ยังเดินเข้า เดินออก ในเขตโรงพยาบาลโดยไม่สนใจว่าจะสร้างความโกลาหลให้กับผู้เจ็บป่วยมากมากเพียงใด แต่โรงพยาบาลก็ยังอุตส่าห์อนุญาตให้อมนุษย์พวกนี้เข้าไปใช้ห้องน้ำ ห้องส้วม และใช้บริเวณต่างๆของโรงพยาบาลเป็นที่พักผ่อนเสมอมา ซ้ำเมื่อเวลาที่ผู้บุกรุกเหล่านี้เกิดอาการเจ็บป่วย ก็ได้รับการรักษาโดยคณะแพทย์และบุคลากรของโรงพยาบาลจุฬาฯเป็นอย่างดี แต่กลับมีหลายครั้งที่บุคลากรของโรงพยาบาลถูกกลุ่มอมนุษย์บีบบังคับและข่มขู่เพื่อให้ได้ในสิ่งที่ต้องการ

 อมนุษย์จงใจทำร้ายสมเด็จพระสังฆราชเจ้าและผู้เจ็บป่วยในโรงพยาบาลจุฬาฯ

 ต้องย้ำว่าอมุนษย์ฝูงนี้เคยบุกเข้าไปตรวจค้นโรงพยาบาลมาแล้วหลายครั้ง ตัวอย่างเช่น เมื่อคืนวันที่ 26 เมษายน อมนุษย์ก็บุกเข้าไปค้นในตึกสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ (ตึก สก.) โดยประกาศจะเข้าไปจับตัวนายแพทย์ตุลย์ สิทธิสมวงศ์ โดยอ้างว่าเป็นศัตรูของพวกเขา

 ต่อมาคืนวันที่ 27 เมษายน ก็บุกเข้าไปในห้องฉุกเฉิน โดยอ้างว่ามีตำรวจเข้าไปในห้องฉุกเฉินของโรงพยาบาล จนเป็นเหตุให้โรงพยาบาลต้องสั่งหยุดการให้บริการผู้ป่วยนอกและระงับการผ่าตัดทั้งหมด ซึ่งส่งผลกระทบอย่างหนักต่อคนไข้และเท่ากับบังคับให้โรงพยาบาลต้องปิดให้บริการไปโดยปริยาย

 เมื่อสถานการณ์ไม่น่าไว้วางใจมากขึ้นทุกขณะ ในที่สุดโรงพยาบาลต้องตัดสินใจย้ายผู้ป่วยจากตึก ภปร. และตึก สก. รวมถึงตึกวชิรญาณ ซึ่งเป็นที่ประทับรักษาอาการพระประชวรของสมเด็จพระสังฆราชเจ้าองค์ปัจจุบัน ไปอยู่ที่ตึกฝั่งถนนอังรีดูนังต์ เมื่อวันพุธที่ 28 เมษายน เพื่อช่วยมิให้ผู้ป่วยทุกรายต้องเผชิญกับเสียงดังรบกวนตลอดวันตลอดคืน

 ภาพที่ปรากฏในการเคลื่อนย้ายผู้ป่วยเป็นภาพที่สุดแสนจะรันทดและกระทบกระเทือนความรู้สึกของญาติผู้ป่วยและผู้ที่ได้พบเห็นเป็นอย่างยิ่ง ภาพผู้ป่วยที่ใส่ท่อช่วยหายใจ ผู้ป่วยจากห้องไอซียู ผู้ป่วยที่เพิ่งผ่านการผ่าตัดออกมา ทารกอายุเพียงไม่กี่ชั่วโมงที่กำลังมีอาการหายใจหอบที่อยู่ในตู้อบไฟฟ้า และภาพอุจาดอีกมากมายเกินจะบรรยาย

 และภาพอุบาทว์ล่าสุดที่เกิดขึ้นเมื่อคืนวันที่ 29 เมษายน ณ โรงพยาบาลจุฬาฯ ก็คือภาพที่ ส.ส.พรรคเพื่อไทยของทักษิณ ชินวัตร นำกลุ่มอันธพาลกลุ่มใหญ่บุกค้นตึกต่างๆของโรงพยาบาลโดยไม่ยำเกรงต่อกฏหมายและไม่แยแสต่อกฎศีลธรรม และยังบังอาจข่มขู่อีกว่า จะกลับเข้ามาค้นอีกหากต้องการ

 เหล่านี้คือเครื่องยืนยันว่าการกระทำอันอุกอาจไร้มนุษยธรรม ไม่เคารพในหลักสิทธิมนุษยชน ไร้ความสำนึกของความเป็นมนุษย์ ไร้สิ้นซึ่งความเคารพในเกียรติ ศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์ และไร้ความเคารพยำเกรงต่อกฎหมายบ้านเมือง คือการกระทำของเดรัจฉานชั้นต่ำอย่างแท้จริง


เฉลิมชัย ยอดมาลัย  
 
วันที่ 2/5/2010
 
http://www.naewna.com/news.asp?ID=209463


หัวข้อ: Re: [2513]"ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: เหยง 16 ที่ 02 พฤษภาคม 2553, 10:08:06
วันนี้ นสพ ไทยโพสต์ ออนไลน์นิ่ง ในส่วนของหนังสือพิมพ์ คุณเปลวสีเงิน เขียนใน"เปิดซองวันอาทิตย์" ไว้เล็กน้อนคือ

คำแนะนำคือ อย่าทำตัวเป็น "ประชาชนนอนก้น" ทำ-อย่างที่ทำกับหมอตุลย์-คนหลากสี

เป็นการ "เขย่าขวด" ไว้ตลอดนั่นแหละดี "จิตสำนึกในขาติ"ที่แน่วแน่แจ่ละคนคือ "แกนนะที่สั่งการ"

ไม่ต้องมองหาใคร เพราะใจเป็นประธานใหญ่........


หัวข้อ: Re: [2513]"ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: เหยง 16 ที่ 02 พฤษภาคม 2553, 10:13:46
เมื่อคืนนี้ ช่วงตั้งแตสองทุ่ม มีทหาร ใช้รถ จยย. ฮัมวี่ จีเอ็มซี จำนวนมาก ไปจอดตั้งด่านตรวจรถ-ตรวจคน ที่ถนนราชปรารถ

ทางเข้าประตูน้ำและทางเข้าซอยรางน้ำ เมื่อถามชาวบ้านที่ออกมามุงดู ก็บอกว่า เป็นการมา(ตั้งด่าน)ครั้งแรก

ทหารอีกจำนวนหนึ่ง ซึ่งมากพอสมควร เข้าซอยรางน้ำไปทาง รร.พูลแมน

ไม่ทราบเป็นการตั้งด่านเพื่อแสกนคนที่จะเข้าชุมนุม หรือเริ่มได้เวลากดดันเสื้อแดงกันแล้ว


หัวข้อ: Re: [2513]"ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: prapasri AH ที่ 02 พฤษภาคม 2553, 17:16:06
ดีใจจังงงงงงงง รัฐบาลทำอะไรให้เร็วๆ หน่อยดิ

พี่แอ๊ะใจร้อน อยากกวาดให้หมดราชประสงค์ อ่ะ

อยากไปเซ็นทรัลชิดลมใจจะขาดดดดดดดดดดดดด


อ้างถึง
ข้อความของ เหยง 16 เมื่อ 02 พฤษภาคม 2553, 10:13:46
เมื่อคืนนี้ ช่วงตั้งแตสองทุ่ม มีทหาร ใช้รถ จยย. ฮัมวี่ จีเอ็มซี จำนวนมาก ไปจอดตั้งด่านตรวจรถ-ตรวจคน ที่ถนนราชปรารถ

ทางเข้าประตูน้ำและทางเข้าซอยรางน้ำ เมื่อถามชาวบ้านที่ออกมามุงดู ก็บอกว่า เป็นการมา(ตั้งด่าน)ครั้งแรก

ทหารอีกจำนวนหนึ่ง ซึ่งมากพอสมควร เข้าซอยรางน้ำไปทาง รร.พูลแมน

ไม่ทราบเป็นการตั้งด่านเพื่อแสกนคนที่จะเข้าชุมนุม หรือเริ่มได้เวลากดดันเสื้อแดงกันแล้ว


หัวข้อ: Re: [2513]"ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: Khun28 ที่ 02 พฤษภาคม 2553, 22:24:39
อ้างถึง
ข้อความของ prapasri AH เมื่อ 02 พฤษภาคม 2553, 17:16:06
ดีใจจังงงงงงงง รัฐบาลทำอะไรให้เร็วๆ หน่อยดิ

พี่แอ๊ะใจร้อน อยากกวาดให้หมดราชประสงค์ อ่ะ

อยากไปเซ็นทรัลชิดลมใจจะขาดดดดดดดดดดดดด


อ้างถึง
ข้อความของ เหยง 16 เมื่อ 02 พฤษภาคม 2553, 10:13:46
เมื่อคืนนี้ ช่วงตั้งแตสองทุ่ม มีทหาร ใช้รถ จยย. ฮัมวี่ จีเอ็มซี จำนวนมาก ไปจอดตั้งด่านตรวจรถ-ตรวจคน ที่ถนนราชปรารถ

ทางเข้าประตูน้ำและทางเข้าซอยรางน้ำ เมื่อถามชาวบ้านที่ออกมามุงดู ก็บอกว่า เป็นการมา(ตั้งด่าน)ครั้งแรก

ทหารอีกจำนวนหนึ่ง ซึ่งมากพอสมควร เข้าซอยรางน้ำไปทาง รร.พูลแมน

ไม่ทราบเป็นการตั้งด่านเพื่อแสกนคนที่จะเข้าชุมนุม หรือเริ่มได้เวลากดดันเสื้อแดงกันแล้ว
เรียนพี่แอ๊ะ
ตอนนี้ เซ็นทรัล มาเปิดสาขาใหม่ที่หางโจว  พี่บินมาช็อบที่นี้แทนก็ได้ครับ    เพิ่งเปิดวันที่ 1 พ.ค. ที่ผ่านมานี้เองครับ
    


หัวข้อ: Re: [2513]"ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: prapasri AH ที่ 03 พฤษภาคม 2553, 08:02:08
อยากไปหางโจว อยากไปๆๆๆๆๆๆ (ทำท่าเต้นเหมือนเด็กอนุบาล นะฮ้าๆๆๆๆ) 55555555

น้องkhun 28 พาไปหน่อยค่ะ

ขอบคุณที่มาเยียมพี่แอ๊ะ ยามพี่ป๋อง หลับ เอ๊ย เหงียบเหงาและซึมเศร้านะคะ

และพี่ya กำลังคึกคักกกกกกกกกอิๆๆๆๆ

เมื่อกี้ เขาจับไวอากร้า ได้ที่ห้อง นายสุภรณ์ อัตถาวงศ์ แกนนำเสื้อแดงใหญ่

นายสุภรณ์ไม่ได้ เสียใจทีถูกจับ

แต่ถือว่าดูหมิ่นเชิงชายมาก ที่ต้องใช้ไวอากร้า55555555555555555


หัวข้อ: Re: [2513]"ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: prapasri AH ที่ 03 พฤษภาคม 2553, 08:51:20
hello test test


หัวข้อ: Re: [2513]"ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: prapasri AH ที่ 03 พฤษภาคม 2553, 09:54:54
  hello test test


หัวข้อ: Re: [2513]"ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: prapasri AH ที่ 04 พฤษภาคม 2553, 20:40:20
เวบใช้ได้เเล้ว ดีใจจัง

ไม่ทราบว่าเกิดอะไรขึ้น hello test test อยู่ตั้งนาน

เวบมาพร้อมกับการที่กลุ่มอันธพาล สลายตัวเองเลยเนาะ


หัวข้อ: Re: [2513]"ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: prapasri AH ที่ 04 พฤษภาคม 2553, 20:49:02
เล่น กับใครไม่เล่น เล่นกับ คำว่า "จุฬาลงกรณ์"

พี่แอ๊ะคิดว่า ที่เสื้อ สี อันธพาลแพ้ คราวนี้ เพราะ หาเรื่อง กับคำว่าจุฬาลงกรณ์

ของสูงมีจริงค่ะ

โรงพยาบาลจุฬา ได้ถูกสร้างขึ้น ในสมัยพระ บาทสมเด็จ พระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว

โดย พระบรมวงศานุวงศ์ ได้ช่วยกันบริจาคเงินเพื่อสร้างทีพักผู้ป่วย

และสร้างเป็นโรงพยาบาลเพื่อช่วยเหลือรักษา ประชาชน

และรัชกาลที่6 ได้พระราชทานนามให้ว่า โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์

หาเรื่องบุก โรงพยาบาลจุฬา นี่เอง

เรียกว่าอย่าเล่นของสูง

อย่าหาเรื่องกับพระนามจุฬาลงกรณ์

ก็ได้รับโทษอย่างที่เห็นนี่แหละ


หัวข้อ: Re: [2513]"ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: พธู ๒๕๒๔ ที่ 04 พฤษภาคม 2553, 21:07:08
หวัดดีครับพี่แอ๊ะ  พักนี้บ้านนี้ร้อนไปหน่อย
ผมชอบเย็น ๆ เลยไม่ค่อยได้แวะมาเยี่ยม
แค่เรื่องของคนอื่นก็แย่แล้ว
(http://www.cmadong.com/imageupload/2010_Cmadong-Image/data/image/l1wf7o-a969ce.gif)


หัวข้อ: Re: [2513]"ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: TAE2540 ที่ 04 พฤษภาคม 2553, 21:41:40
อ้างถึง
ข้อความของ prapasri AH เมื่อ 04 พฤษภาคม 2553, 20:40:20
เวบใช้ได้เเล้ว ดีใจจัง

ไม่ทราบว่าเกิดอะไรขึ้น hello test test อยู่ตั้งนาน

เวบมาพร้อมกับการที่กลุ่มอันธพาล สลายตัวเองเลยเนาะ

สวัสดีครับพี่แอ๊ะ

เว็บมีปัญหาเทคนิคนิดหน่อยครับ น้องสนจัดการจนใช้ได้เรียบร้อย ณ เวลานี้แล้วครับผม



ไม่เข้าใจท่านนายกฯ ทำไมต้องปรองดองกับผู้ก่อการร้าย คิดร้ายต่อประเทศด้วยยย

แม้นว่าจะไม่อยากให้เสียเลือดเสียเนื้อ แต่ก็ทำให้คนไม่ดียังลอยนวลอยู่ หวังเป็นอย่างยิ่งว่า คนผิดจะต้องถูกลงโทษ จริงๆ


หัวข้อ: Re: [2513]"ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: prapasri AH ที่ 04 พฤษภาคม 2553, 22:16:27
น้อง เต้ คะ

ขอบคูณที่เวบ เปิดใช้ได้แล้ว

ไม่มีเวบหอ ให้ทะเลาะกัน (คุยกัน) พี่แอ๊ะเลยเหงาค่ะ

พอมีเวบหอ เลยได้เข้ามา แต่ยังอารมณ์ค้างกะพวกอันธพาลอยู่ค่ะ

เห็นอยู่ชัดๆว่า มันทำอันธพาลจริงๆ

บางคน ยังไปเข้าข้างอีก

เสื้อแดงหลายคนเป็นเพื่อนพี่แอ๊ะ เป็นคนที่พี่แอ๊ะรู้จัก สนิทด้วย

แต่พี่แอ๊ะไม่ชอบที เขา ไปสนับสนุนการกระทำของอันธพาลค่ะ

วันนี้สส.เพื่อไทยเพื่อนพี่แอ๊ะคนหนึ่งเขาบอกว่า

ประชาชนที่เขาพาไป อ่อนล้าเต็มทีและอยากกลับบ้านแล้ว

เคยบอกว่าอ่อนล้าเมื่อเดือนก่อนโน้นอยากกลับอิสานเต็มที


พอดีเงินคงอัดมาอีก และนายหญิงสั่งสส. โดยตรง
ให้รีบเอามวลชนไปเสริม
เลยฟื้นมาอีก  

และเกิดเหตุทุเรศๆๆ
อย่างที่เห็น นั้นแหละ

พี่แอ๊ะไม่ได้เป็นเหลือง แต่พี่แอ๊ะเป็นกลาง

และไม่ชอบอันธพาลครองเมือง  ต้องการให้บ้านเมืองมีขื่อมีแป

และพอใจที่เห็นรัฐบาลยอมถอยลงมา

ถือว่า ยอมแพ้เป็น ไม่ดึงดันให้เสียเลือดเนื้อกันอีก

งานนี้ถือว่ารัฐบาลแพ้นะคะ ยอมประกาศยุบสภา เลือกตั้งใหม่

ทั้งๆที่รู้ว่าโอกาสกลับมาเป็นรัฐบาลอีกยากกกกกกกก มาก

แต่คงไม่อยากให้ประเทศพังทลาย

ไม่เหมือนหลายคน ที่จะต้องทำให้ประเทศตายยยยยยยย ไป

และมีความสุข กับการกระทำของพวกอันธพาล




หัวข้อ: Re: [2513]"ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: prapasri AH ที่ 04 พฤษภาคม 2553, 22:23:05
อ้างถึง
ข้อความของ patooman 64 เมื่อ 04 พฤษภาคม 2553, 21:07:08
หวัดดีครับพี่แอ๊ะ  พักนี้บ้านนี้ร้อนไปหน่อย
ผมชอบเย็น ๆ เลยไม่ค่อยได้แวะมาเยี่ยม
แค่เรื่องของคนอื่นก็แย่แล้ว
(http://www.cmadong.com/imageupload/2010_Cmadong-Image/data/image/l1wf7o-a969ce.gif)

น้องปลาทูแมนคะ

ตอนนี้บ้านเราเริ่มเย็นแล้วค่ะ

แต่พี่แอ๊ะอารมณื ค้างอยู่ค่ะ

อาจจะเย็นชาไปด้วยยยยยยยยยยยยยยย



หัวข้อ: Re: [2513]"ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: ดร.มนตรี ที่ 04 พฤษภาคม 2553, 22:35:06
อ้างถึง
ข้อความของ prapasri AH เมื่อ 01 พฤษภาคม 2553, 08:57:29
ประชัน กะใครดีค่ะ น้องya

ประชันกะน้อง ดร.มนตรี หรือดร.กฤษณา คะ555555

เอารูป นี้ดีก่า สวยสู้ ดร.มนตรีได้สบายยยยยยยย

(http://img217.imageshack.us/img217/6055/13423949.jpg)


อ้างถึง
ข้อความของ YA เมื่อ 01 พฤษภาคม 2553, 07:59:08
สวัสดีครับพี่แอ๊ะ...

รูปนี้..พอจะประชันได้ไหมครับ...

(http://img219.imageshack.us/img219/6264/prapasri.jpg)




ราศี คุณหญิง ... ครับ พี่แอ๊ะ ...


ปล.


ตอนนี้กำลังสบายใจมากมาย สถานการณ์ บ้านเราเริ่มคลี่คลายไปในทางที่ดี ^_^


หัวข้อ: Re: [2513]"ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: ดร.มนตรี ที่ 04 พฤษภาคม 2553, 22:38:02
ด้วยพระบารมี ... ทรงพระเจริญ


หัวข้อ: Re: [2513]"ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: เหยง 16 ที่ 04 พฤษภาคม 2553, 23:02:37
อ้างถึง
ข้อความของ เต้ ณ บ้านครู เมื่อ 04 พฤษภาคม 2553, 21:41:40
อ้างถึง
ข้อความของ prapasri AH เมื่อ 04 พฤษภาคม 2553, 20:40:20
เวบใช้ได้เเล้ว ดีใจจัง

ไม่ทราบว่าเกิดอะไรขึ้น hello test test อยู่ตั้งนาน

เวบมาพร้อมกับการที่กลุ่มอันธพาล สลายตัวเองเลยเนาะ

สวัสดีครับพี่แอ๊ะ

เว็บมีปัญหาเทคนิคนิดหน่อยครับ น้องสนจัดการจนใช้ได้เรียบร้อย ณ เวลานี้แล้วครับผม



ไม่เข้าใจท่านนายกฯ ทำไมต้องปรองดองกับผู้ก่อการร้าย คิดร้ายต่อประเทศด้วยยย

แม้นว่าจะไม่อยากให้เสียเลือดเสียเนื้อ แต่ก็ทำให้คนไม่ดียังลอยนวลอยู่ หวังเป็นอย่างยิ่งว่า คนผิดจะต้องถูกลงโทษ จริงๆ

ท. ทหาร ไม่ยอมเดินครับ...จบ


หัวข้อ: Re: [2513]"ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: prapasri AH ที่ 04 พฤษภาคม 2553, 23:16:48
ดูเรื่องเบาๆดีกว่านะ

พี่แอ๊ะ เตรียมตัว ออกหน่วยแพทย์  พอสว. เมื่อวันก่อนค่ะ



(http://img243.imageshack.us/img243/2740/dsc00781c.jpg)


หัวข้อ: Re: [2513]"ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: prapasri AH ที่ 04 พฤษภาคม 2553, 23:20:49
อ้างถึง
ข้อความของ ดร.มนตรี เมื่อ 04 พฤษภาคม 2553, 22:38:02
ด้วยพระบารมี ... ทรงพระเจริญ


ขอบคุณค่ะ น้องดร. มนตรี ยอดรัก


หัวข้อ: Re: [2513]"ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: prapasri AH ที่ 04 พฤษภาคม 2553, 23:24:56
 นั่งกับนายแพทย์สสจ.ยโสธรค่ะ

(http://img222.imageshack.us/img222/1315/dsc00785resize.jpg)


หัวข้อ: Re: [2513]"ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: prapasri AH ที่ 04 พฤษภาคม 2553, 23:26:46
กับท่านผู้ว่า คุณนาย  และนายอำเภอคำเขื่อนแก้วค่ะ

(http://img222.imageshack.us/img222/7163/dsc00794resize.jpg)


หัวข้อ: Re: [2513]"ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: prapasri AH ที่ 04 พฤษภาคม 2553, 23:28:48
มอบพันธุ์ปลา ให้ผู้ใหญ่บ้านค่ะ

(http://img222.imageshack.us/img222/7969/dsc00810resize.jpg)


หัวข้อ: Re: [2513]"ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: swsm ที่ 04 พฤษภาคม 2553, 23:36:48
ขอมาอวดรูปตัวเองในบ้านพี่แอ๊ะบ้างได้ไหมคะ ?? .. อิอิอิ .. ต้องขออนุญาตเจ้าของห้องก่อน     emo21:):):


หัวข้อ: Re: [2513]"ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: prapasri AH ที่ 04 พฤษภาคม 2553, 23:39:10
ได้เลยค่ะน้องหะยี

พี่แอ๊ะ อยากให้ห้องนี้เย็น ขึ้นค่ะ

แต่ไม่ใช่ห้องเย็น นะ ฮ้า  55555555555555


หัวข้อ: Re: [2513]"ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: prapasri AH ที่ 04 พฤษภาคม 2553, 23:43:21
ช่วงนี้พี่แอ๊ะ  ชวนกลุ่มสตรี (แก่ๆ) ยโสธรซ้อมรำวงมาตรฐาน

เตรียมโชว์ให้อาคันตุกะ จากญี่ปุ่น ขจาก สปปลาว จากเวียตนามและ จากทั่วประเทศดู

ในงานบุญบั้งไฟ วันเสาร์นี้ค่ะ

(http://img222.imageshack.us/img222/8297/dsc00743resize.jpg)


หัวข้อ: Re: [2513]"ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: swsm ที่ 04 พฤษภาคม 2553, 23:47:36
เชิ้บ ๆ ๆ ๆ      emo43


หัวข้อ: Re: [2513]"ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: prapasri AH ที่ 04 พฤษภาคม 2553, 23:48:04
งามเเสงเดือนมาเยือนส่องหล้า งามใบหน้ามาอยู่วงรำ เราเล่นกันเพื่อสนุก

เปลื้องทุกข์ ไม่วายระกำ ขอให้เล่นฟ้อนรำ เพื่อสามัคคีเอยยยยยย

(http://img228.imageshack.us/img228/1893/dsc00748resize.jpg)


หัวข้อ: Re: [2513]"ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: prapasri AH ที่ 04 พฤษภาคม 2553, 23:56:21
(http://img219.imageshack.us/img219/6269/dsc00749resize.jpg)


ขอโทษค่ะ เพลงเมือ่กี้

"ชาวไทยเจ้าเอ๋ย ขออย่าละเลยในการทำหน้าที

การที่เราได้ร่วมสนุก เปลื้องทุกข์สบายอย่างนี้ เพราะชาติเรามีเสรี มีเอกราชสมบูรณ์.......


หัวข้อ: Re: [2513]"ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: prapasri AH ที่ 04 พฤษภาคม 2553, 23:58:30
อ้างถึง
ข้อความของ prapasri AH เมื่อ 04 พฤษภาคม 2553, 23:48:04
งามเเสงเดือนมาเยือนส่องหล้า งามใบหน้ามาอยู่วงรำ เราเล่นกันเพื่อสนุก

เปลื้องทุกข์ ไม่วายระกำ ขอให้เล่นฟ้อนรำ เพื่อสามัคคีเอยยยยยย

(http://img228.imageshack.us/img228/1893/dsc00748resize.jpg)

ท่านี้ " ชาวไทยเจ้าเอ๋ย ขออย่าละเลยในการทำหน้าที่" ค่ะ


หัวข้อ: Re: [2513]"ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: prapasri AH ที่ 05 พฤษภาคม 2553, 00:00:12
อ้างถึง
ข้อความของ prapasri AH เมื่อ 04 พฤษภาคม 2553, 23:56:21
(http://img219.imageshack.us/img219/6269/dsc00749resize.jpg)


ขอโทษค่ะ เพลงเมือ่กี้

"ชาวไทยเจ้าเอ๋ย ขออย่าละเลยในการทำหน้าที

การที่เราได้ร่วมสนุก เปลื้องทุกข์สบายอย่างนี้ เพราะชาติเรามีเสรี มีเอกราชสมบูรณ์.......

ท่านี้

รำมาซิมา รำ มาเล่นระบำ กันให้สนุก


หัวข้อ: Re: [2513]"ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: prapasri AH ที่ 05 พฤษภาคม 2553, 00:01:21
ไปไงคะ
ห้องนี้เย็น ขึ้นบ้างแล้วหรือยังงงงงงงงงง

ดร.ป๋อง ช่วยตอบที


หัวข้อ: Re: [2513]"ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: prapasri AH ที่ 05 พฤษภาคม 2553, 00:08:44
ผู้ใช้งานขณะนี้: prapasri AH  



ตายแย้วววววววววว ผู้ใช้งานในขณะนี้ มี prapasri AH อยู่ตนเดียว

เผ่นดีก่า เด่ว ผีหลอก

กู้ดไนท์จ้า


หัวข้อ: Re: [2513]"ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: swsm ที่ 05 พฤษภาคม 2553, 00:15:20
ฮ่า ฮ่า .. กลับมา goodnight พี่แอ๊ะไม่ทัน .. ขออนุญาต Good morning ดักไว้ล่วงหน้าเลยนะคะ    emo9:huhu:


หัวข้อ: Re: [2513]"ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: weerapong_rx ที่ 05 พฤษภาคม 2553, 03:57:52
ติดตามอ่านอยู่นะครับ มาคอยดูซ้อมรำวงเพื่อเตรียมโชว์แขกบ้านแขกเมืองในงานบุญบั้งไฟเมืองยศ  emo43


หัวข้อ: Re: [2513]"ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: Kaimook ที่ 05 พฤษภาคม 2553, 07:33:30
Good morning ค่ะพี่แอ๊ะ...ตามอ่าน ตามชมค่ะพี่แอ๊ะ...ชอบพี่แอ๊ะใส่ชุดพอสว.จังค่ะ


หัวข้อ: Re: [2513]"ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: prapasri AH ที่ 05 พฤษภาคม 2553, 08:30:14
อ้างถึง
ข้อความของ weerapong_rx เมื่อ 05 พฤษภาคม 2553, 03:57:52
ติดตามอ่านอยู่นะครับ มาคอยดูซ้อมรำวงเพื่อเตรียมโชว์แขกบ้านแขกเมืองในงานบุญบั้งไฟเมืองยศ  emo43

น้องพงศ์กลับมาคราวนี้ มาพักที่บ้านรับรอง ของพี่แอ๊ะได้แล้ว
ไม่ต้องนอนบน เรือน สปา เหมือนคราวที่เเล้ว

พี่แอ๊ะทำบ้านรับรองไว้ ร้องรำทำเพลง 5555555
ชาวไทยเจ้าเอ๋ยยยยย ขออย่าละเลยในการทำหน้าที่......

น้องยศวินทร์ (แดง อ่อนๆ 55555)  ก้ได้มาใช้บ้านรับรองนี้แล้วค่ะ

ประชุม งานขาย สนุกกันไปเลย
กำลังจะส่งเรื่องราว เมือ่แดงกับเหลือง หอจุฬา จับมือกัน ทำมาหากิน โดยสุจริตค่ะ


หัวข้อ: Re: [2513]"ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: เหยง 16 ที่ 05 พฤษภาคม 2553, 10:05:46
นำบทความในวันที่ 3 ที่น่าจะเป็นประโยชน์มาลงย้อยหลังครับ


อนุมัติทุบแดง! อุบเงียบมติครม.ใช้กำลังทหาร/ผวาป่วน'ฉัตรมงคล'
•   ข่าวหน้า 1                                                                          3 พฤษภาคม 2553 - 00:00
 ถกลับ  ครม.เห็นชอบแผนทหารทุบแดง  มอบอำนาจ  "บิ๊กป้อม"  จัดทัพเสริมกำลังเตรียมพร้อมสลาย  ถกเครียดหลายเสียงให้เด็ดขาด  มาตรการแรกส่งเอสเอ็มเอสเตือนออกนอกพื้นที่   ผวาเพื่อไทย-นปช.ใช้วันสำคัญ  5  พ.ค.  53  เติมคนป่วนเมือง  สั่งผู้ว่าฯ ทั่วประเทศสกัด  เงื่อนไขใหม่  "มาร์ค"  เสนอแผนโรดแม็พปฏิรูปประเทศไทย  ยุบสภาเร็วขึ้น  4-6  เดือน  หมอ-พยาบาลจุฬาฯ   ฮึดสู้สถุลแดง  ยันต้องถอยร่นถึงแยกสารสิน
     การชุมนุมของกลุ่มคนเสื้อแดงที่สี่แยกราชประสงค์   ซึ่งกินพื้นที่มาจนถึงหน้าโรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์เป็นเวลาหลายสัปดาห์  ล่าสุดได้มีการเปิดพื้นที่บริเวณดังกล่าวให้มีการสัญจรตามปกติแล้ว  โดยเป็นการยอมของแกนนำเสื้อแดงหลังจากยกพวกนับร้อยคนบุกเข้าค้นโรงพยาบาลจุฬาฯ  เมื่อวันที่  29  เมษายน  2553  จนถูกประชาชนทั้งประเทศรุมประณามยับเยิน  อย่างไรก็ตาม  กลุ่มแพทย์จุฬาฯ  ยังต้องการให้มีการเปิดพื้นที่จนถึงแยกสารสิน  ซึ่งฝ่ายเสื้อแดงยังไม่ยินยอม
     แต่ที่น่าสนใจคือเมื่อวันอาทิตย์ที่   2  พ.ค.  2553  นายอภิสิทธิ์  เวชชาชีวะ  นายกรัฐมนตรี  ได้เรียกประชุม  ครม.นัดพิเศษในวันหยุดราชการ  ที่กรมทหารราบที่  11  ท่ามกลางความสนใจของประชาชนว่ารัฐบาลอาจจะหารือถึงการแก้ปัญหาคนเสื้อแดงที่ชุมนุมที่สี่แยกราชประสงค์มานานหลายสัปดาห์
     ท่ามกลางกระแสข่าวว่าการประชุมนัดพิเศษครั้งนี้   ที่ประชุมได้หารือกันเรื่องหลักๆ  คือ  1.อนุมัติงบประมาณสำหรับเจ้าหน้าที่ในการดูแลการชุมนุมคนเสื้อแดง   2.การขอมติที่ประชุมขอพื้นที่คืนบริเวณแยกราชประสงค์  จึงเป็นสาเหตุให้มีรัฐมนตรีหลายคนไม่เข้าร่วมการประชุม  เนื่องจากเกรงว่าจะต้องมีส่วนรับผิดชอบในการขอคืนพื้นที่จากคนเสื้อแดงหากเกิดข้อผิดพลาดขึ้น
     สำหรับการประชุม  ครม.นัดดังกล่าว  นายกรัฐมนตรีได้ให้ข้าราชการและเจ้าหน้าที่จากส่วนราชการที่ไม่เกี่ยวข้องออกจากห้องประชุม  หลังจากได้มีการอนุมัติงบประมาณให้กับสำนักงานตำรวจแห่งชาติ  ดีเอสไอ  และการเตรียมการจัดงานวันที่  5  พ.ค.เสร็จสิ้นลง
     โดยในที่ประชุมจะมีแค่รัฐมนตรีที่เป็นฝ่ายการเมือง   ฝ่ายความมั่นคง  ร่วมประชุมเพื่อหารือการแก้ไขปัญหาสถานการณ์การชุมนุมเสื้อแดง  ทั้งนี้  ที่ประชุมคณะรัฐมนตรีได้พูดถึงการแก้ไขปัญหา  3  แนวทาง  แนวทางแรกคือ  การแก้ไขปัญหาโดยใช้การเมือง  ซึ่งก็คือการเตรียมแถลงแผนโรดแม็พในเรื่องการปฏิรูปประเทศไทย   ตามแนวทางที่หลายฝ่ายเสนอ  ซึ่งจะใช้เวลาในการดำเนินการตามแผนประมาณ   120  วัน  หรือช้าสุดไม่เกิน  6  เดือน  ซึ่งต้องดูว่าเสื้อแดงจะยอมรับหรือไม่   แนวทางที่  2  คือการดำเนินคดีต่างๆ  ของดีเอสไอกับเครือข่ายเสื้อแดง   คือคดีก่อการร้ายและคดีความมั่นคงที่เกี่ยวข้องกับบุคคลระดับสูง  แนวทางที่  3 คือการใช้กำลังทหาร  ซึ่งเป็นอำนาจตามกฎหมายกระทรวงกลาโหม
     รายงานข่าวระบุว่า  นายสุเทพ  เทือกสุบรรณ  รองนายกรัฐมนตรี  ได้เล่าสถานการณ์การชุมนุมและมาตรการการแก้ไขปัญหาของรัฐบาลให้ที่ประชุมได้รับฟัง   โดยระบุว่า  ที่ผ่านมารัฐบาลเลือกใช้มาตรการการบังคับใช้กฎหมายเป็นลำดับแรกก่อน  ซึ่งเจ้าหน้าที่ได้ใช้ความอดทน อดกลั้น   ในการปฏิบัติภารกิจเป็นอย่างมาก  โดยสถิติการชุมนุมที่แยกราชประสงค์คงที่  และในบางวันลดน้อยลง     
     "แต่ที่เป็นห่วงคือ   ในช่วงวันที่  5  พ.ค.ที่รัฐบาลจะจัดงานใหญ่  ซึ่งในแต่ละจังหวัดจะมีกลุ่มข้าราชการ  พ่อค้า  ประชาชน  จากจังหวัดต่างๆ  เดินทางเข้ามาในกรุงเทพมหานครจำนวนมาก   จึงอยากให้กระทรวงมหาดไทยได้สั่งการไปยังผู้ว่าราชการจังหวัด  ตรวจสอบจำนวนของบุคคลที่แสดงความประสงค์จะเข้ามาร่วมงานในกรุงเทพมหานครอย่างเข้มงวด  เพราะจากการข่าวพบว่า   ส.ส.จากพรรคการเมืองบางพรรค  มีความพยายามเติมคนเข้าที่แยกราชประสงค์ให้มาก  โดยอาศัยช่วงจังหวะที่ประชาชนที่จะเดินทางมาร่วมงานแฝงตัวเข้ามา  ผมอยากให้ไปย้ำกับท่านผู้ว่าราชการจังหวัดว่า  ปัญหาที่เกิดขึ้นในขณะนี้ไม่ใช่ปัญหาของรัฐบาล  แต่เป็นเรื่องภัยความมั่นคงของชาติ  ต้องไปบอกทั้งปลัดกระทรวงและผู้ว่าราชการจังหวัดว่า  ถึงเวลาที่ทุกคนต้องพร้อมรับทุกสถานการณ์หากจะเกิดอะไรขึ้น"  แหล่งข่าวอ้างคำพูดของนายสุเทพ  เทือกสุบรรณ
     แหล่งข่าวยังระบุว่า  สำหรับมาตรการขอคืนพื้นที่ราชประสงค์  รัฐบาลจะยังคงดำเนินการอย่างเป็นขั้นเป็นตอน   โดยเริ่มต้นจากการส่งเอสเอ็มเอสเพื่อให้ผู้ชุมนุมได้รับทราบว่าเป็นการกระทำให้ผิดกฎหมาย  และขอให้ออกจากพื้นที่ดังกล่าว  ถ้าเขาไม่ออกหรือไม่ยอมรับข้อความที่ส่งไป  ก็เท่ากับยอมรับว่าเป็นผู้ก่อการร้าย  โดยรัฐจะให้เวลาหลังจากส่งเอสเอ็มเอสไป  1-2   วัน   ว่ากลุ่มผู้ชุมนุมปฏิบัติตามที่ทางการร้องขอหรือไม่  คงยังไม่มีการสลายการชุมนุมในวันนี้หรือพรุ่งนี้
     "ในที่ประชุมหลังนายสุเทพสรุปสถานการณ์และมาตรการต่างๆ  ให้ที่ประชุมฟัง  ทำให้มีรัฐมนตรีหลายคนเสนอให้มีการสลายการชุมนุมอย่างเด็ดขาด  เพราะหากปล่อยไว้แบบนี้รัฐบาลจะหมดความน่าเชื่อถือ   แต่นายสุเทพก็พยายามบอกว่าต้องใช้ตามลำดับขั้นตอนก่อนเพื่อเปิดโอกาสให้มีการออกมาจากพื้นที่  เพราะหากจะให้ทหารยิง  โดยไม่สนใจว่าจะมีคนสูญเสียชีวิตเท่าไหร่ รัฐบาลก็อยู่ไม่ได้   ถึงตอนนี้รัฐมนตรีหลายคนเงียบกันหมด  นอกจากนี้มีการรายงานตัวเลขคนเสื้อแดงว่าโดยเฉลี่ยอยู่ที่  5-6  พันคนในเวลากลางวัน  แต่ช่วงเย็นถึงค่ำก็ประมาณ  1  หมื่นคน  แต่ที่ต้องระวังคือการรวบรวมคนเสื้อแดงเมื่อเกิดเหตุการณ์ใดๆ  พบว่าจะสามารถระดมคนออกมาได้รวดเร็วผ่านเครือข่ายจัดตั้งต่างๆ   ภายในเวลาหนึ่งชั่วโมง  อีกทั้งมีข้อมูลจากฝ่ายการข่าวพบว่า  พ.ต.ท.ทักษิณ  ชินวัตร  สั่งให้  ส.ส.เพื่อไทยผลัดเปลี่ยนกันระดมคนในพื้นที่เข้ามาเติมตลอด"  รายงานข่าวจากที่ประชุม  ครม.ระบุ 
     แหล่งข่าวระบุว่า  หลังจากนั้นที่ประชุมได้เห็นชอบการใช้กำลังทหารเพื่อการปราบจลาจลตามข้อบังคับของกระทรวงกลาโหมว่าด้วยการใช้กำลังทหาร  การเคลื่อนย้ายทหาร  การเตรียมพร้อม   อันเป็นการดำเนินการตามมาตรา  35  พระราชบัญญัติจัดระเบียบกระทรวงกลาโหมที่การใช้กำลังทหารดังกล่าวต้องเป็นความเห็นชอบของคณะรัฐมนตรี  ทั้งนี้  ในกฎหมายดังกล่าวระบุว่า  ในกรณีนี้ที่  ครม.มีมติให้ใช้กำลังทหารในการปฏิบัติการ  ให้  รมว.กลาโหม  โดยความเห็นชอบของสภากลาโหม  มีอำนาจกำหนดหน่วยงานในกระทรวงกลาโหม  แต่งตั้งเจ้าหน้าที่ททหาร  รวมทั้งกำหนดหน้าที่ของหน่วยงานและเจ้าหน้าที่เพื่อปฏิบัติตามมติ  ครม.  ซึ่งกฎหมายดังกล่าวระบุว่า  ให้มีคณะผู้ดูแลสถานการณ์ภายใต้การควบคุมดูแลของผู้บัญชาการทหารสูงสุด  ผู้บัญชาการทุกเหล่าทัพ  เสนาธิการทหาร  โดยมาตรการดังกล่าวจะเป็นไปตาม  พ.ร.ก.สถานการณ์ฉุกเฉิน  ม.7  วรรค  3  ระบุว่า  การใช้กำลังทหารให้เป็นไปตามข้อบังคับและระเบียบของกระทรวงกลาโหมว่าด้วยการใช้กำลังทหารเพื่อการรบ  เพื่อการสงคราม  เพื่อปกป้องสถาบันกษัตริย์  เพื่อปราบปรามกบฏ  การจลาจล  เพื่อรักษาความมั่นคงของรัฐ  ทั้งนี้  ในข้อบังคับได้ระบุถึงนิยามเรื่องจลาจลและการก่อความไม่สงบไว้เป็นข้อๆ   พร้อมทั้งการสั่งการทางทหารในระดับต่างๆ  ด้วย
     ขณะเดียวกัน   มีกระแสข่าวอีกด้านหนึ่งอ้างว่าวงประชุมดังกล่าวได้หารือกันว่าหากจะมีการขอพื้นที่คืนจากคนเสื้อแดง  โดยทหารจำเป็นต้องออกไปปฏิบัติการเพื่อความปลอดภัย  ต้องให้ทหารมีอาวุธจริงในการคุ้มกันความปลอดภัยของตัวเอง   จะได้ไม่เกิดข้อผิดพลาดเหมือนเช่นวันที่  10  เมษายน  2553  ที่ผ่านมา  ซึ่งทำให้ทหารบาดเจ็บล้มตายจำนวนมาก
ซื้อใจตำรวจอนุมัติงบ  249 ล้าน
     นายปณิธาน  วัฒนายากร  โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี  แถลงผลการประชุมว่า  ครม.ได้ประชุมพิจารณา  4  เรื่อง  โดย  3  เรื่องเกี่ยวข้องกับการขอรับงบประมาณสนับสนุนรายจ่ายประจำปี  ซึ่งเป็นงบกลางจากกรณีเงินสำรองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉินและจำเป็น  ตามที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติเสนอให้เป็นค่าใช้จ่ายสำหรับกำลังพล  29,700  นาย  เป็นจำนวนเงิน  249,480,000  บาท  ซึ่งเป็นงบใช้จ่ายในการปฏิบัติหน้าที่ของตำรวจในการควบคุมดูแลเหตุการณ์ตั้งแต่วันที่  17  มี.ค.-6 เม.ย. 2553  พร้อมทั้งได้อนุมัติให้งบกลางให้กรมสอบสวนคดีพิเศษ  (ดีเอสไอ)  ในรายการเงินสำรองจ่ายกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็น  28  ล้านบาท  นอกจากนี้   ได้ซักซ้อมทำความเข้าใจกับหัวหน้าส่วนราชการ  ปลัดกระทรวง  ในการจัดงานบรมราชาภิเษก   60  ปี  ตั้งแต่วันที่  5-9  พ.ค. เรื่องการดูแลงาน  การจัดกิจกรรมต่างๆ  และดูแลที่จะเข้ามาชุมนุมในงาน
     นายปณิธานกล่าวด้วยว่า  นายสุเทพได้แจ้งต่อที่ประชุมว่าเร็วๆ  นี้จะได้เสนอแผนในการแก้ไขปัญหาทางการเมืองเพื่อแก้ไขปัญหาทั้งระบบ   เช่น  ปัญหาความยากจน  ระบบการเลือกตั้งทางการเมือง  เมื่อพร้อมแล้วจะให้กระทรวงต่างๆ  ดำเนินการแก้ไขทางการเมืองตามที่นายกฯ  จะได้นำเสนอในโอกาสต่อไป  แต่ให้ปลัดกระทรวงต่างๆ  เตรียมความพร้อมเพื่อใช้กลไกต่างๆ  ของรัฐในการดูแลแก้ไขปัญหา  ขณะนี้นายกรัฐมนตรีได้รวบรวมความคิดเห็นจากหน่วยงานภาครัฐ   องค์กรภาคประชาชน  ข้อเสนอแนะของหลายฝ่ายๆ  เมื่อเวลามาถึงเมื่อมีความพร้อมจะได้มีการประกาศ  เมื่อประกาศแล้วจะได้มีการดำเนินการตามกลไกต่างๆ  ต่อไป  เรื่องสุดท้ายมีการซักซ้อมแนวปฏิบัติในการดูแลพื้นที่ดูแลความมั่นคงปลอดภัยให้กับประชาชนที่มาในพื้นที่การชุมนุม   โดยจะมีการจัดระบบการสื่อสารเพื่อให้เข้าถึงผู้ชุมนุมมากขึ้นด้วย  การส่งข้อความสั้นให้กับคนที่อยู่บริเวณแยกราชประสงค์  เพื่อให้ประชาชนรู้ว่าควรจะหลีกเลี่ยงการเข้าพื้นที่อย่างไร  และจะมีการจัดระบบรองรับคนที่อาจจะเปลี่ยนใจไม่เดินทางเข้าไปในพื้นที่  โดยได้มีการประสานกับบริษัทมือถือต่างๆ  ไว้แล้ว  จะเริ่มตั้งแต่วันที่  3  พ.ค.ได้ในบางส่วนด้วยการส่งข้อความสั้นเข้าโทรศัพท์มือถือของทุกคนที่อยู่ในบริเวณนั้น   ฝ่ายกฎหมายพิจารณาแล้วเห็นว่าทำได้  จะส่งข้อความให้ประชาชนทราบเป็นระยะ
     เมื่อถามว่า   ที่นายกฯ  จะประกาศหมายถึงกลไกที่นำไปสู่การยุบสภาใช่หรือไม่  นายปณิธานกล่าวว่า   ยังไม่มีการพูดในรายละเอียด   แต่หลักคือการแก้ปัญหาที่ควบคู่ไป   3  ด้าน  คือทางด้านเมือง  การดำเนินคดีโดยเฉพาะคดีที่เกี่ยวข้องกับการก่อการร้ายและคดีอาญาที่ต้องเดินหน้าต่อ  ไม่ว่าข้อเสนอทางการเมืองจะเป็นอย่างไร  และการใช้เจ้าหน้าที่ไปดูแลในพื้นที่   นายกฯ  ยังไม่ได้ให้รายละเอียด  แต่ได้เล่าให้สื่อต่างๆ   ไปบ้าง  ในรายการเชื่อมั่นประเทศไทยกับนายกฯ  อภิสิทธิ์  ที่ระบุว่า  เมื่อพร้อมนายกฯ  จะได้เสนอเรื่องนี้ควบคู่กันไป
     ส่วนบรรยากาศการชุมนุมที่สี่แยกราชประสงค์ของคนเสื้อแดง  ตลอดทั้งคืนวันที่  1  พ.ค.จนถึงเช้าวันที่   2   พ.ค.  กลับสู่สภาวะตึงเครียดอีกครั้ง  หลังมีข่าวว่ามีการเรียกประชุม  ครม.นัดพิเศษที่ราบ   11  ในวันเดียวกันนี้ทั้งที่เป็นวันหยุดราชการ  ทำให้แกนนำหลายคนวิเคราะห์กันว่าต้องมีเรื่องด่วนพิเศษเกี่ยวกับคนเสื้อแดงแน่นอน
     ทำให้แกนนำ   นปช.  อาทิ  นายจตุพร  พรหมพันธุ์,  นายพายัพ  ปั้นเกตุ  และนายสุภรณ์  อัตถาวงศ์  ต่างปราศรัยปลุกเร้าผู้ชุมนุมให้เตรียมความพร้อมรับการสลายชุมนุมที่อาจเกิดขึ้นได้ตลอดเวลา  ซึ่งแกนนำปราศรัยไปในทิศทางเดียวกันว่า  รัฐบาลจะประกาศใช้กฎอัยการศึกในวันที่   2  พ.ค.นี้  อย่างไรก็ตาม  เป็นที่น่าสังเกตว่าแกนนำส่วนใหญ่ต่างจับกลุ่มหารือกันอย่างเคร่งเครียด   โดยเฉพาะการหารือระหว่างนายวีระ  มุสิกพงศ์,  นายจตุพร  พรหมพันธุ์  พร้อมทั้งให้ศูนย์วิทยุของหน่วยรักษาความปลอดภัย  นปช. สั่งการให้การ์ด  นปช.แต่ละจุดเพิ่มความเข้มงวดเฝ้าระวังเหตุมากขึ้น
     ต่อมาในช่วงเช้า  นายณัฐวุฒิ  ใสยเกื้อ  แกนนำ  นปช.  ได้เรียกประชุมแกนนำ  นปช.   อาทิ  นพ.เหวง  โตจิราการ,  นายอารี  ไกรนรา  หัวหน้าหน่วยรักษาความปลอดภัย,  พ.ต.ท.ไวพจน์   อาภรณ์รัตน์,  นายขวัญชัย   ไพรพนา  เพื่อหารือถึงแนวทางการเจรจากับเจ้าหน้าที่ตำรวจที่มาขอคืนพื้นที่ถนนราชดำริ   ตามคำสั่ง  ศอฉ.  ก่อนที่จะมีมติให้นายอารีเป็นตัวแทน   นปช.ไปเจรจากับ  พล.ต.ท.สัณฐาน  ชยนนท์  ผบช.น. และ  พล.ต.ต.วิชัย  สังข์ประไพ  ผบก.น.
แดงถอยร่นคืนพื้นที่ให้จุฬาฯ
     จากนั้นฝ่ายตำรวจนำโดย  พล.ต.ท.สัณฐาน  ชยานนท์  ผู้บัญชาการตำรวจนครบาล  (ผบช.น.)  และ  พล.ต.ต.วิชัย  สังข์ประไพ  ได้เริ่มเจรจา  พ.ต.ท.ไวพจน์  อาภรณ์รัตน์เพื่อขอคืนพื้นที่ฝั่งถนนราชดำริ  หน้าโรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ให้กับ  รพ.  ทั้งนี้ผลการเจรจาช่วงแรกกลุ่มคนเสื้อแดงยอมรื้อลวดหนามตรงกำแพงหน้าโรงพยาบาลจุฬาฯ  ทำให้รถพยาบาลวิ่งเข้าไปที่ตึกฉุกเฉินได้  แต่ไม่สามารถวิ่งตามถนนออกปกติได้  จึงต้องวิ่งย้อนศร  แต่ตำรวจต้องการให้กลุ่มคนเสื้อแดงเปิดทางทาง  2  ฝั่งของถนนราชดำริ  เพื่อให้รถพยาบาลเข้า-ออกได้อย่างสะดวกและเป็นปกติ
     เมื่อการเจรจายังไม่เป็นที่ยุติ  ทำให้  พล.ต.ท.สัญฐาน  และ  พล.ต.ต.วิชัย  ได้เข้าเจรจากับนายณัฐวุฒิอีกรอบเพื่อให้รื้อบังเกอร์เกาะกลางถนน   ให้รถสามารถวิ่งเข้า-ออกจาก  รพ.จุฬาฯ  โดยไม่ต้องย้อนศร  สร้างความไม่พอใจให้กับการ์ดกลุ่มคนเสื้อแดงและผู้ชุมนุมที่อยู่บริเวณหน้าโรงพยาบาลจุฬาฯ  เพราะเห็นว่ายอมเปิดถนนให้ด้านหนึ่งแล้ว  มีการโห่ร้องแสดงความไม่พอใจเป็นระยะๆ  ขณะที่บางส่วนได้จุดประทัดเพื่อยั่วยุตลอดเวลาทำให้สถานการณ์ช่วงนี้ตึงเครียดไม่น้อย
     แต่ท้ายที่สุดผลการเจรจรรอบ   2   ระหว่าง  พล.ต.ท.สัญฐานกับนายณัฐวุฒิก็บรรลุผล   โดยกลุ่มคนเสื้อแดงยอมเปิดถนนราชดำริ   หน้าโรงพยาบาลจุฬาฯ   ทั้งฝั่งโรงพยาบาลจุฬาฯ   และฝั่งสวนลุมพินี  ให้รถวิ่งกลับไป-มาได้ตามปกติโดยไม่ต้องวิ่งสวนเลน  โดยผู้ชุมนุมยอมขยับบังเกอร์และรั้วลวดหนามเพื่อเปิดการจราจรตามที่ตกลงกันไว้แล้ว
     ผู้สื่อข่าวรายงานว่า  หลังจากนายณัฐวุฒิเจรจาเสร็จได้เดินทางออกมาชี้แจงทำความเข้าใจกับผู้ชุมนุมกลุ่มคนเสื้อแดงที่ไม่เห็นด้วย  แม้ผู้ชุมนุมจะยอมแต่ก็ยังแสดงความไม่พอใจที่นายณัฐวุฒิไปยอมฝ่ายตำรวจ  เพราะกลัวจะเป็นช่องโหว่ให้เจ้าหน้าที่ตำรวจและทหารเข้าสลายการชุมนุมได้ง่าย  เรื่องนี้นายณัฐวุฒิกล่าวกับคนเสื้อแดงที่หน้า  รพ.จุฬาฯ  ว่า  ผลการเจรจาได้ข้อยุติว่าทางกลุ่มเสื้อแดงจะขอเปิดเส้นทางถนนราชดำริขาออก  ให้กลับรถหน้าตึก  สก  ให้รถวิ่งออกมุ่งหน้าศาลาแดงบางส่วนเท่านั้น  ซึ่งการดำเนินการอย่างไรต่อไปก็ต้องไปพุดคุยกับพี่น้องที่มาชุมนุมอีกครั้ง  ซึ่งเบื้องต้นจะให้มีการ์ดของ  นปช.ทำงานร่วมกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ  ในการตั้งด่านตรวจค้นอาวุธเพื่อความปลอดภัยของผู้ชุมนุม  ซึ่งการ์ด  นปช.จะเฝ้าระวังการทำงานของตำรวจอีกชั้นหนึ่ง  ส่วนแนวลวดหนามที่วางอยู่เกาะกลางถนนจะยกขึ้นไปวางไว้บนฟุตบาทริมสวนลุมพินี  และขอใช้พื้นที่สวนลุมฯ  รวมถึงพระบรมราชานุสาวรีย์รัชกาลที่  6  ซึ่งจะได้ให้เจ้าหน้าที่หาสังกะสีมากั้นเพื่อความปลอดภัยของผู้ชุมนุม
     "เราจะไม่สู้กับ   รพ.จุฬาฯ  ผู้ชุมนุมเสียใจต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นกรณีบุกรุก  รพ.จุฬาฯ  ถือว่าเป็นมรสุมอย่างหนึ่ง  ผู้ชุมนุมน้อมรับคำว่ากล่าวจากองค์กรต่างๆ  ต้องขอโทษกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น  ผมอยากให้รัฐบาลออกมารับผิดชอบกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น  เหมือนกับที่ผู้ชุมนุมรับผิดชอบเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น  รพ.จุฬาฯ  ในส่วนของเสธ.แดง  ที่ตั้งแนวบังเกอร์  อาจเป็นความรู้ด้านทหารเพราะถนนราชดำริเป็นจุดยุทธศาสตร์  ผมก็ไม่กล่าวโทษอะไรเสธ.แดง"  นายณัฐวุฒิกล่าว
     ผู้สื่อข่าวรายงานว่า  ระหว่างที่แกนนำเข้าไปเจรจากับเจ้าหน้าที่ตำรวจภายในตึก  สก ในการคืนพื้นที่บางส่วนนั้นได้ควันไฟเกิดขึ้นที่เครื่องปั่นไฟ  ทำให้ผู้ชุมนุมแตกตื่น  บรรดาการ์ดวิ่งกรูเข้าไปโอบล้อมแกนนำทันทีเพราะคิดว่าเจ้าหน้าที่ขว้างแก๊สน้ำตาเพื่อสลายการชุมนุม  สร้างความวุ่นวายไปชั่วระยะหนึ่ง  แต่ที่สุดไม่ได้มีเหตุการณ์อะไรรุนแรง  และภายหลังการคืนพื้นที่ดังกล่าว  กลุ่มคนเสื้อแดงจำนวนหนึ่งได้ขับขี่รถ  จยย.ตระเวนรอบพื้นที่ราชประสงค์  เพื่อตรวจดูพื้นที่โดยรอบ  ป้องกันกลุ่มผู้ชุมนุมไม่ให้ออกจากพื้นที่กันการเข้ามาสลายการชุมนุมของเจ้าหน้าที่
     ในช่วงบ่ายวันเดียวกัน  พล.ต.อ.ปทีป  ตันประเสริฐ  รักษาการ  ผบ.ตร.เดินทางมาที่  ตึก  สก  รพ.จุฬาฯ  เพื่อประชุมร่วมกับ  พล.ต.ท.สัณฐาน  พร้อมทั้งตรวจความเรียบร้อยบริเวณหน้าตึก  สก ไปจนถึงแยกศาลาแดง
หมอจุฬาฯ ฮึดชนแดง
     และหลังจากที่กลุ่มคนเสื้อแดงเปิดพื้นที่การปิดถนนให้เฉพาะบริเวณด้านหน้าโรงพยาบาล    แต่ไม่ถึงบริเวณแยกสารสินตามที่  รพ.จุฬาลงกรณ์ต้องการ
     ทำให้นายแพทย์อดิศร   ภัทราดูลย์  ผู้อำนวยการ  รพ.จุฬาฯ  ได้ออกแถลงการณ์ฉบับที่   4  ใจความระบุว่า  ตามที่ได้มีการชุมนุมของกลุ่ม  นปช.  บริเวณถนนราชดำริ  ทำให้เกิดผลกระทบกับโรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์  และในขณะนี้ได้มีการพยายามดึงเอาโรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์เข้าไปยุ่งเกี่ยวกับปัญหาความขัดแย้งทางการเมือง  จึงขอชี้แจงว่าโรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์สังกัดสภากาชาดไทย  มีความเป็นกลางทางการเมือง  ปฏิบัติงานเพื่อรักษาผู้ป่วยและผู้ได้รับบาดเจ็บทุกคน  ไม่ว่าในภาวะปกติ  หรือในภาวะสงคราม  การย้ายผู้ป่วยจากโรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์  ในวันศุกร์ที่  30  เมษายน  2553  เป็นไปเพื่อความปลอดภัยของผู้ป่วย  ทั้งนี้  เนื่องจากในช่วงหลายสัปดาห์ที่ผ่านมา  ทางโรงพยาบาล  เจ้าหน้าที่และผู้ป่วยได้รับผลกระทบจากการชุมนุมทางด้านถนนราชดำริมาอย่างต่อเนื่อง  ทั้งเรื่องมลภาวะทางเสียงที่รบกวนผู้ป่วยที่รักษาตัวในตึกที่อยู่ติดถนนราชดำริ  การเข้ามาใช้พื้นที่ของโรงพยาบาลทางด้านหน้าตึก  ภปร  ในยามค่ำคืนของผู้ชุมนุม  และผู้ชุมนุมบางคนที่เข้ามาเดินในโรงพยาบาลในยามวิกาล  เนื่องจากโรงพยาบาลเป็นพื้นที่เปิดให้บริการตลอด  24  ชั่วโมงไม่มีการปิด  นอกจากนี้  ได้เคยมีการขอมาตรวจค้นตึกของโรงพยาบาลและมีข่าวเรื่องพบระเบิดหน้าห้องฉุกเฉิน  ข่าวการวางแผนเพื่อวางเพลิงบริเวณแยกศาลาแดงและมีการจุดประทัดที่มีเสียงคล้ายปืนในบางวัน  เหตุการณ์ที่มีมาอย่างต่อเนื่องเหล่านี้  ทำให้เจ้าหน้าที่และผู้ป่วยที่มารับบริการมีความหวาดกลัวและมีความไม่สะดวกในการเดินทางมาใช้บริการที่โรงพยาบาล  เพื่อความปลอดภัยของผู้ป่วยที่มารับบริการทั้งผู้ป่วยนอกและผู้ป่วยในตลอดจนเจ้าหน้าที่       
     "หากเปิดเส้นทางให้ได้แค่นี้ถือว่ายังไม่ปลอดภัย  หากเกิดเหตุฉุกเฉินจนมีผู้บาดเจ็บจำนวนมากก็จะลำบาก  และเกิดความวุ่นวายในการเข้า-ออก  ทั้งนี้คณะแพทย์มีมติยืนยันจะให้กลุ่มผู้ชุมนุมถอยร่นไปถึงแยกสารสิน  เพื่อความปลอดภัยของทุกคน  และความสบายใจของแพทย์  ทั้งนี้ไม่ได้มีแค่ผู้ป่วยนอกที่เข้ามารับการรักษาเท่านั้น  ยังมีผู้ที่ต้องนอนรักษาตัว  การชุมนุมจะส่งเสียงดังรบกวนผู้ป่วย  จึงอยากให้ถอยออกไป"
     ผอ.รพ.จุฬาฯ  ย้ำว่าทาง  รพ.ปิดให้บริการนานมากไม่ได้  คงจะต้องมีการตั้งศูนย์ย่อยของ  รพ.จุฬาฯ  ตามที่ต่างๆ  เช่น  รพ.ยาสูบ  ตึกจามจุรี  9  ของจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย  และตึกในสภากาชาดไทย  หากมีเหตุฉุกเฉินจะได้ให้การรักษาได้  แต่เครื่องมือคงไม่พร้อมเพรียงมากนัก  หลังจากย้ายคนไข้ไปแล้วทางแพทย์และพยาบาลยังต้องเดินทางออกไปเยี่ยมไข้อยู่ตลอดทุกวันเพื่อติดตามอาการและตรวจเยี่ยมคนไข้  ทั้งนี้ทางแกนนำจะเปิดเส้นทางให้หมดหรือไม่นั้นจะไม่เจรจา  เพราะไม่ใช่หน้าที่  เนื่องจากเหตุการณ์เช่นนี้ไม่เคยมีมาก่อน  อย่างไรก็ตามคงปล่อยให้เป็นหน้าที่ของตำรวจ  ก่อนหน้านี้ทางรัฐบาลเคยประสานเข้ามาว่าจะให้กำลังทหารเข้ามาอยู่ภายในโรงพยาบาล  โดยมาในฐานะที่มาดูแลความปลอดภัยให้กับคนไข้และแพทย์  แต่ทาง  รพ.ประชุมกันแล้วเห็นว่าไม่สมควร  จึงปฏิเสธไป
     มีรายงานด้วยว่าในวันจันทร์ที่   3   พ.ค.นี้  เวลา  07.30  น.  แพทย์  พยาบาล   และเจ้าหน้าที่ของ  รพ.จุฬาฯ  ทั้งหมดจะรวมตัวกันที่หน้าเสาธงตึกอำนวยการและร้องเพลงชาติเวลา  8  โมงเช้า  พร้อมออกแถลงการณ์แสดงจุดยืนในการทำหน้าที่อย่างเป็นอิสระ  และร้องเพลงมาร์ชโรงพยาบาลจุฬาฯ  และเพลงมาร์ชพยาบาล
     สำหรับบรรยากาศการดูแลความปลอดภัยบน  ถ.สีลม  ยังคงมีกำลังเจ้าหน้าที่ทหารอยู่ประจำจุดบริเวณซอยย่อยต่างๆ  และมีรถตู้สีขาวของเจ้าหน้าที่ตำรวจจำนวนหนึ่งจอดอยู่ใต้สถานีรถไฟฟ้าบีทีเอส  สถานีศาลาแดง  ซึ่งคนเสื้อแดงยังนำรั้วลวดหนามมากั้นไว้เป็นระยะรวมถึงบนสถานีรถไฟฟ้าบีทีเอส  สถานีศาลาแดง  มีกำลังเจ้าหน้าที่ทหารดูแลความปลอดภัยอีกจำนวนหนึ่งด้วย  ขณะเดียวกันยังไม่พบนายตำรวจชั้นผู้ใหญ่ของ  บช.น.เดินทางมาบริเวณแยกศาลาแดงแต่อย่างใด
     นพ.เหวง  โตจิราการ  เปิดเผยว่า  ในวันที่  3  พ.ค.  จะเชิญญาติของผู้เสียชีวิตมาฟ้องร้องต่อศาลอาชญากรสงครามระหว่างประเทศ  โดยจะฟ้องนายอภิสิทธิ์  เวชชาชีวะ  นายกรัฐมนตรี  และนายสุเทพ  เทือกสุบรรณ  รองนายกรัฐมนตรี  ในข้อหาฆ่าคนตายโดยเจตนา     ด้านท่าทีฝ่ายรัฐบาลนายอภิสิทธิ์  เวชชาชีวะ  นายกรัฐมนตรี  ได้จัดรายการเชื่อมั่นประเทศไทยกับนายกฯ  อภิสิทธิ์  ซึ่งเป็นการจัดรายการสดภายในกรมทหารราบที่  11  รักษาพระองค์  รายการดังกล่าวนายอภิสิทธิ์ได้เล่าความเป็นไปเป็นมาของเหตุการณ์การชุมนุมในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา  โดยส่วนใหญ่เป็นการพูดในท่วงทำนองเดิมๆ  หาความชัดเจนอะไรไม่ค่อยได้  เช่น    การบอกว่าจะคลี่คลายสถานการณ์ให้ประสบความสำเร็จให้ได้แต่จะไม่ให้เกิดความลุกลาม   โดยเฉพาะอย่างยิ่งความสงบสุข  ปกติสุขให้สู่สังคมต้องมีความยั่งยืน
     "เราพยายามเอาพื้นที่ราชประสงค์คืนมาให้ประชาชน  ฝ่ายปกครอง  ตำรวจ  ทหารร่วมกันทำงาน  และจังหวัดไหนที่ไม่ทำงานก็มีการดำเนินการผู้ที่เกี่ยวข้องในพื้นที่ต้องรับผิดชอบ  ซึ่งจะมีการสังเกตได้ว่ามีการโยกย้าย  สลับสับเปลี่ยนบุคลากรในกรณีที่ปัญหาแก้ไขไม่ได้  รัฐบาลดำเนินการไปแล้ว  เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นที่อนุสรณ์สถานฯ  ที่บริเวณดอนเมืองทุกคนก็เสียใจ  แต่ก็ต้องยืนยันว่าแนวทางของการสกัดกั้นเช่นนี้  รัฐบาล  และ  ศอฉ.จำเป็นต้องทำและจะทำในทุกกรณี"
     นายกรัฐมนตรียังได้กล่าวถึงเหตุการณ์คนเสื้อแดงบุกค้น  รพ.จุฬาลงกรณ์ด้วยว่า  เป็นเหตุที่สะเทือนใจมากที่สุดในรอบสัปดาห์  ที่เกิดเพราะเรากระชับกำลังเข้าไปในบริเวณรอบๆ  พื้นที่ราชประสงค์  ทำให้ผู้ชุมนุมนั้นมีความวิตกกังวลต่อการถูกสลายการชุมนุม  หลายคนตำหนิรัฐบาลว่าเหตุใดไม่มีตำรวจ  ไม่มีทหารเข้าคอยคุ้มกันโรงพยาบาล  เรื่องนี้ในช่วงที่มีปัญหามีการประสานอยู่กับผู้บริหารของโรงพยาบาล   แต่ว่าผู้บริหารของโรงพยาบาลต้องยึดตามหลักสากล  คือ   ไม่ต้องการที่จะให้มีกำลังของใครก็ตามเข้าไปอยู่ในพื้นที่ของโรงพยาบาล  เพราะว่าจะสูญเสียความเป็นกลาง
     "รัฐบาลกำลังจะดำเนินการต่อไปย่อมมีความเสี่ยงต่อการปะทะหรือการสูญเสีย  ซึ่งก็ย่อมมีผลกระทบกระเทือนจิตใจของผู้คน  แต่รัฐบาลรู้หน้าที่ว่าสิ่งใดที่จำเป็นจะต้องทำก็ต้องทำ  เมื่อบ้านเมืองกลับสู่ภาวะปกติ  เรื่องคำตอบทางกติกาทางการเมือง  การยุบสภา  คิดว่าเร็วๆ  นี้จะสามารถประกาศได้ว่าเจตนารมณ์ของรัฐบาลเป็นเช่นไร  รวมไปถึงการทำความเข้าใจกับต่างประเทศ  เพื่อให้การแก้ไขปัญหารัฐบาลทั้งด้านความมั่นคงและการเมืองเป็นที่เข้าใจ  ยอมรับต่อประชาคมโลก  เพราะหากประชาคมโลกไม่เข้าใจจะเกิดปัญหาแทรกซ้อนตามมา"  นายกรัฐมนตรีกล่าว
     ในตอนท้ายเขาย้ำว่า  ประชาชนจำนวนมากสอบถามว่าพื้นที่ราชประสงค์จัดการอย่างไร  เมื่อไหร่จะตัดสินใจ  ขอย้ำว่ารัฐบาลมีแนวทางชัดเจน  การจัดการตัดสินใจมีแล้วอยู่ในขั้นตอนปฏิบัติทำแล้ว  ต้องสามารถแก้ไขปัญหาอย่างยั่งยืนเบ็ดเสร็จอย่างแท้จริง  ต้องเกิดผลข้างเคียงน้อยที่สุด  คือการลิดรอนให้เข้าปฏิบัติการต่างๆ  มีประสิทธิภาพและสำเร็จมากที่สุด
     "ปฏิบัติการทั้งหลาย  บังคับใช้กฎหมาย  คดีความทางอาญาจะยังคงดำรงอยู่  ดำเนินการต่อไปแม้เหตุการณ์จะคลี่คลายไปแล้ว    กฎอัยการศึกเป็นอำนาจของกองทัพที่จะเป็นผู้ประกาศ   ได้หารือกันก็ไม่เห็นว่าเครื่องตัวนี้จะมีความจำเป็นต่อการแก้ไขสถานการณ์  สิ่งที่รัฐบาลต้องทำคือไม่จำนนต่อข้อเรียกร้องข่มขู่คุกคามต่อการก่อการร้าย  ยึดหลักนิติรัฐ  ทราบดีว่าขีดความอดทนของเราไม่เท่ากัน  หลายคนบอกว่าไม่สามารถอดทนได้แล้ว  การตัดสินใจตัดสินใจแล้ว  เป็นเรื่องของแนวทางดำเนินการให้ปฏิบัติได้ตามเป้าหมายอย่างดีที่สุด"  นายกรัฐมนตรีกล่าว

http://www.thaipost.net/news/030510/21658

รัฐบาล(ไม่)ทำอะไร?!?
•   บทบรรณาธิการ                                                                   3 พฤษภาคม 2553 - 00:00
   ยิ่งเนิ่นนาน  สถานการณ์การชุมนุมของกลุ่มคนเสื้อแดงนำโดยแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ  หรือ  นปช.  ยิ่งส่งผลกระทบในวงกว้าง  ไม่เพียงสร้างปัญหาสวัสดิภาพความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินของประชาชนในบริเวณพื้นที่ย่านราชประสงค์  มีผลกระทบต่อเศรษฐกิจโดยรวม  ทำลายภาพลักษณ์กระบวนการรักษาความมั่นคงภายในประเทศ  บั่นทอนความเชื่อมั่นต่ออำนาจรัฐเท่านั้น  แต่ยังส่งผลกระทบต่อสุขภาวะทางด้านจิตใจของคนไทยทั้งชาติ  ด้วยทุกคนต่างใคร่รู้ใคร่สนใจว่า  เมื่อไหร่รัฐบาลนายอภิสิทธิ์  เวชชาชีวะ  จะนำความสงบคืนสู่สังคมไทย
     ภาพและข่าวที่เกิดในโรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์  นับเป็นฟางเส้นสุดท้ายที่ทำให้คนไทยส่วนใหญ่หมดความอดทน  หลังจากที่รอคอยกระบวนการแก้ไขปัญหาของนายกรัฐมนตรีอภิสิทธิ์  ด้วยความหวังและปรารถนาดีอยากให้กำลังใจมาเป็นเวลามากกว่า  1  เดือน  ฉะนั้น  จึงอาจจะเป็นไปได้อย่างสูงว่าท่ามกลางความเบื่อหน่ายต่อการไม่มีอะไรแสดงออกถึงความคืบหน้าในการบริหารจัดการภายใต้ความรับผิดชอบของศูนย์อำนวยการแก้ไขสถานการณ์ฉุกเฉิน  (ศอฉ.)  นอกจากซื้อเวลาให้  นปช.กระทำการผิดพลาดด้วยตนเอง  หรือไม่ก็ปล่อยให้พลังประชาชนจัดการแก้ไขปัญหากันเอาเองผ่านการแสดงออกของกลุ่มเสื้อหลากสีนั้น  จะมีเสียงเรียกร้องให้รัฐบาลแสดงความรับผิดชอบมากกว่าที่เป็นอยู่ในขณะนี้
     ถ้อยแถลงของ  ศอฉ.  ตลอดจนคำสัมภาษณ์รายวันของนายกฯ  อภิสิทธิ์  ดูเหมือนไม่แตกต่างจากข้ออ้างหรือคำแก้ตัว  กำลังจะกลายเป็นหอกพุ่งเข้ามาทำลายความชอบธรรมของรัฐบาลอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้  เพราะอำนาจรัฐในมือของรัฐบาลและกรอบอำนาจหน้าที่ความรับผิดชอบของผู้บริหารประเทศเป็นพันธกิจสำคัญที่ตอกย้ำว่า  การนิ่งเฉย  เรียกร้องให้ประชาชนอดทนต่อกลุ่มผู้ก่อการร้ายซึ่งระรานชาวบ้าน  ทำลายกฎ  กติกา  มารยาทสังคมนั้น  คนไทยไม่จำเป็นเลยที่ต้องเสียเงินภาษีจ้างรัฐบาลห่วยๆ  มาบริหารบ้านเมือง  หากชาวบ้านต้องพึ่งพาเอาตัวรอดจากวิกฤติการเมืองด้วยตนเองอย่างนี้
     ข้อเสนอแนะของฝ่ายต่างๆ  ต่อ  ศอฉ.  หรือเพื่อให้รัฐบาลลงมือจัดการจะมีประโยชน์อะไร  หากทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องกับการรักษาความมั่นคงภายในประเทศ  มิได้สำเหนียกสำนึกสนใจว่า  ประเทศไทยไม่ใช่ของใครคนใดคนหนึ่ง  บ้านเมืองจะอยู่รอดปลอดภัยพ้นวิกฤติได้  ทุกคนต้องทำหน้าที่ของตัวเองอย่างเต็มที่และให้มีประสิทธิภาพ   เพราะภาพที่มีรัฐมนตรีแค่  4-5  คน
 นั่งแก้ปัญหาม็อบเสื้อแดง   ในขณะที่รัฐบาลทั้งชุดมีกว่า  30  คน  ต่างเอาหูไปนา  เอาตาไปไร่  ปฏิเสธการประชุมคณะรัฐมนตรีนัดพิเศษเพื่อระดมสมองในการแก้ปัญหา  ถือเป็นข้อพิสูจน์ที่ชัดเจน
     ดังนั้น  วันนี้แทนที่จะโทษม็อบเสื้อแดงสร้างปัญหาให้กับประเทศไทย  โยนความผิดทั้งหลายให้กับกลุ่มผู้ก่อการร้ายเมื่อเกิดความรุนแรง  จนเป็นเหตุให้ประชาชนคนไทยบาดเจ็บและเสียชีวิต  ใช้ประเด็น  "ขบวนการล้มเจ้า"  เป็นข้ออ้างเรียกร้องขอความชอบธรรมในการดำรงอยู่ของรัฐบาล  ทำไม?!?  นายอภิสิทธิ์  เวชชาชีวะ  และคณะรัฐมนตรีทุกคน  ตลอดจนผู้เกี่ยวข้องกับทุกข์สุขของประชาชน  ไม่ลองช่วยทบทวนอย่างตรงไปตรงมาว่า  นอกจากมองปัญหาจากมุมที่ตนเองถูกกระทำเย้ยหยามแล้ว  ฯพณฯ  และผู้ทรงเกียรติทั้งหลาย  ได้ทำอะไรมากกว่าขอให้ประชาชนเข้าใจและอดทนกับความไม่ถูกต้องบ้าง.

http://www.thaipost.net/news/030510/21653

บทบรรณาธิการ

สันติวิธีใช้ไม่ได้กับพวกกุ๊ยก่อการร้าย (บทบรรณาธิการ)

 

เหล่าองค์กรอิสระและนักวิชการบางกลุ่มยังคงหลับหูหลับตาแบบคาบคัมภียร์เรียกร้องให้มีการใช้แนวทางสันติวิธีกับขบวนการคนเสื้อแดง ทั้งๆที่พฤติกรรมความเคลื่อนไหวของแกนนำขบวนการกลุ่มนี้ตลอดช่วงที่ผ่านมาพิสูจน์ให้เห็นแล้วว่าไม่ต่างอะไรจากกุ๊ยอันธพาลและเข้าข่ายเป็นกบฏก่อการร้าย และ ที่สำคัญก็คือมีพฤติกรรมจาบจ้วงและเป็นภัยคุกคามต่อสถาบันเบื้องสูง

 การยึดย่านราชประสงค์อันเป็นศูนย์ธุรกิจการค้าสำคัญกลางเมืองหลวงเป็นเวทีปักหลักชุมนุมยืดเยื้อ และการลอบก่อการร้ายด้วยการก่อวินาศกรรมราว 70 ครั้ง ตลอดช่วงเกือบ 2 เดือนที่ผ่านมานับตั้งแต่การเริ่มมีการชุมนุมของม็อบคนเสื้อแดงได้บ่อนทำลายสร้างความเสียหายแก่ประเทศชาติอย่างยับเยินโดยเฉพาะผลกระทบด้านเศรษฐกิจ รวมทั้งยังสร้างความเดือดร้อนและทุกข์แก่ประชาชนอย่างแสนสาหัส

 ภาพเหตุการณ์กองกำลังกุ๊ยเสื้อแดงพร้อมอวุธปฏิบัติการเถื่อนยกพวกบุกจู่โจมเข้าไปภายในโรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ซึ่งเป็นหน่วยงานในสังกัดของสภากาชาดไทยในพระบรมราชินูปภัมภ์ จนสร้างความตื่นตระหนกต่อแพทย์ พยาบาล และผู้ป่วย และต้องมีการย้ายผู้ป่วยออกจากโรงพยาบาลอย่างทุลักทุเลนับเป็นภาพที่สะเทือนใจแก่คนไทยทั้งประเทศ หรือแม้แต่องค์การกาชาดสากและองค์กรสิทธิมนุษยชนโลบต่างก็ประณามพฤติกรรมเลวทรามดังกล่าว

 การบุกจู่โจมโรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ของกุ๊ยคนเสื้อแดงยังทำให้สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา สยามบรมราชกุมารีฯต้องเสด็จไปให้กำลังใจเหล่าแพทย์ พยาบาลตลอดจนรับสั่งให้ดูแลช่วยเหลือผู้ป่วย และที่สำคัญรับสั่งให้ย้ายสมเด็จพระสังฆราชซึ่งรักษาอาการพระประชวรอยู่ที่โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ไปประทับรักษาพระองค์ยังโรงพยาบาลศิริราชแทน

 นอกจากนี้พฤติกรรมอันชั่วร้ายของขบวนการกุ๊ยเสื้อแดงที่คนไทยทั้งประเทศคาดไม่ถึงอีกอย่างหนึ่งก็คือคำสารภาพของผู้ต้องหาขบวนการเสื้อแดงที่ยิงกระสุนระเบิดอาร์พีจีใกล้กระทรวงกลาโหมก่อนหน้านี้โดยระบุว่ามีเป้าหมายที่แท้จริงคือยิงใส่วัดพระศรีรัตนศาสนารามหรือวัดพระแก้วอันเป็นวัดคู่เมืองของชาติเพื่อสร้างสถานการณ์ให้ลุกลามบานปลาย

 จากพฤติกรรมดุจกุ๊ยและเข้าข่ายเป็นกบฏก่อการ้ายดังกล่าวถึงเป็นความผิดร้ายแรงซึ่งหากเป็นนานาอารยประเทศ อย่าง สาธารณรัฐประชาชนจีน หรือสหรัฐอเมริกาจะไม่มีทางยอมเจรจา กับขบวนการนอกกฏหมายอย่งเด็ดขาด ตรงกันข้ามก็จะดำเนินการขั้นเด็ดขาดกับคนกลุ่มนี้

 นายชวน หลีกภัย อดีตนายกรัฐมนตรี ประธานสภาที่ปรึกษาพรรคประชาธิปัตยอธิบายความหมายของคำว่า"สันติวิธี"ไว้ว่า แม้สันติวิธีจะเป็นแนวหนึ่งที่ดีในการยุติข้อพิพาท แต่อย่าใช้สันติวิธีไปทำลายความถูกต้อง และต้องตระหนักว่าสันติวิธีไม่ใช่การยกเว้นการกระทำความผิด แต่หมายถึงการทำให้ข้อขัดแย้งจบลงด้วยวิธีที่ไม่รุนแรง อีกทั้งสันติวิธีไม่ใช่การทำสิ่งที่ผิดให้ไม่ผิดหรือลดโทษให้คนผิดแล้วเรื่องจบ อย่าให้มองได้ว่าสันติวิธีคือการให้อภัยคนทำผิด แต่อาจจะต้องยอมสูญเสียบางอย่างเพื่อประโยชน์ส่วนรวมของบ้านเมือง

 เพราะฉะนั้นสันติวิธีจึงไม่ใช่สูตรสำเร็จในทุกกรณีโดยเฉพาะอย่างยิ่งกับเหล่าแกนนำกุ๊ยเสื้อแดง แต่สันติวิธีต้องใช้อย่างชอบธรรมถูกต้องเหมาะกับกาลเทศะ กับบุคคลและกับสถานการณ์ที่สอดคล้องกับความเป็นจริงเพื่อรักษาหลักความเป็นนิติรัฐและความสงบสุขของสังคมส่วนรวมไม่ให้ถูกบ่อนทำลายโดยขบวนการกุ๊ยนอกกฏหมายเพียงหยิบมือเดียว

วันที่ 3/5/2010

http://www.naewna.com/news.asp?ID=209585

ก็ถึงวันที่"ประเทศไทย"แสงทองใหม่ทาบ
•   เปลว สีเงิน
3 พฤษภาคม 2553 - 00:00
  อย่าท้อแท้  อย่าหดหู่  อย่าหมดหวัง  และอย่าโทษใคร  สิ่งที่เกิดขึ้นในบ้านเมืองไทยเรา  ณ  เวลานี้  ขอให้เราเข้าใจว่า....นี่คือ  "ชีวิตชาติร่วมกัน"  สมเด็จพระญาณสังวร  สมเด็จพระสังฆราชฯ  ประมุขแห่งสงฆ์  ต้องจากตำหนักวัดบวรฯ  เสด็จประทับรักษา  ณ  รพ.ศิริราช  พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว  องค์พระประมุขสูงสุดของชาติ  ก็ทรงจากพระราชวังเสด็จฯ  มาประทับรักษาอยู่  ณ  โรงพยาบาลศิริราช  นายกรัฐมนตรี  "นายอภิสิทธิ์  เวชชาชีวะ"  ผู้นำประเทศฝ่ายบริหาร  ก็ต้องทิ้ง  "ทำเนียบรัฐบาล"  อาศัยราบ  ๑๑  รอ.แทน  ทั้งบ้าน-ทั้งทำเนียบฯ  กระทั่ง  "พลเอกอนุพงษ์  เผ่าจินดา"  ผบ.ทบ.  ยังต้องไปซุกค่ายทหารทำงานแทน  "กองบัญชาการกองทัพบกไทย" !?
     แล้ว  "เหล่ากบฏ"  อันประกอบด้วย  ตำรวจ-ทหาร-อดีตนายกฯ-ส.ส.-ข้าราชการ-แพทย์-นักวิชาการ-ประชาชน  "ผู้หลงผิดส่วนหนึ่ง"  รวมเป็นกองโจรติดอาวุธเข้ายึดครองใจกลางเมือง  เมื่อกรุงรัตนโกสินทร์จำเริญ  ณ  จำเนียรกาลครบ  ๒๒๘  ปี!?
     เพราะมีสิ่งนี้  จึงเกิดสิ่งนี้  และนี่ก็ถึงกาลที่  "ชีวิตสุดท้าย"  ของคนคิดร้ายต่อชาติ  เดินเข้าสู่วังวนที่ตนกระทำแล้ว!!!!
     นับจากวันนี้-จันทร์ที่  ๓  พฤษภาคม  พุทธศักราช  ๒๕๕๓  ตรงกับแรม  ๕  ค่ำ  เดือน  ๖  เมื่อดาวคุณธรรมยิ่งใหญ่เคลื่อนย้ายสู่เรือนแห่งตนอีกครั้งหนึ่งเช่นนี้แล้ว  สูรย์ย่อมคืนแสง  เดชานุภาพแผ่พลังแรงทรงกลด  ฟ้าสดเพราะเมฆสลาย  พสกชื่นคืนกาย  สติได้คิด-คืนธรรม
     ต่อจากนี้ไปอีก  ๒  วัน  ก็ถึงวันฉัตรมงคล  คือวันที่  "พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดชฯ"   เสด็จขึ้นเถลิงถวัลยราชสมบัติเป็นรัชกาลที่  ๙  เมื่อ  ๙  มิถุนายน  ๒๔๘๙  แต่ขณะนั้นยังไม่ทรงบรรลุนิติภาวะ   และเสด็จฯ   ไปศึกษาต่อ  ณ  สวิตเซอร์แลนด์  จนเมื่อ  ๕  พฤษภาคม  ๒๔๙๓  จึ่งได้เสด็จนิวัตประเทศไทย
     รัฐบาลไทยขณะนั้น  ได้จัดพระราชพิธี  "บรมราชาภิเษก"  ถวายในวันนี้  จึงถือเอาวันที่  ๕  พฤษภาคม  ของทุกปี  เป็น  "วันฉัตรมงคล"  ฉัตรที่ปกป้องคุ้มชาติ  ฉัตรที่คุ้มครองพระศาสนา  และฉัตรที่คุ้มเกล้ามหาประชาชาวไทยด้วย  "น้ำพระทัยเมตตา"  ดุจดั่งมหานทีมิเคยเหือด
     ประเทศชาติบ้านเมืองเปรียบก็เหมือนคนคนหนึ่ง  มีขึ้น-มีลง,  มีสุข-มีทุกข์,  มีรุ่ง-มีโรย,  สับเปลี่ยน  เวียนหมุนกันไปตามหลัก  "โลกธรรม  ๘  ประการ"  ถ้ารู้ทัน  เข้าถึง  ยามขึ้น   ยามสุข  ยามรุ่ง  เราก็ไม่หลงระเริงด้วยมัวเมา  และยามลง  ยามทุกข์  ยามโรย  เราก็ไม่ตีโพยตีพาย  ไม่ท้อแท้  ไม่โทษใคร  และไม่สิ้นหวัง
     เพราะนั่นเปรียบดังพระอาทิตย์สาดแสงอุ่นเอื้อตอนเช้า  แล้วอ่อนแรง-โรยรา  และลับจากตอนเย็น  ในยามฟ้ามืด-แผ่นดินมัวแห่งสันตติกาล  เราจงมองทุกสิ่งที่เป็นไปรอบตัวด้วย  "ใจที่เข้าใจ"  เถิด  และอีก  ๑๒  ชั่วโมงต่อมา......
     อรุณก็รุ่งอีกแล้ว!
     นี่...คือเส้นทางของสัตว์ผู้มีกรรมเป็นเชื้อเกิดยังไงล่ะท่านเอ๋ย   ใจเรายังไม่เคยเที่ยง  แล้วเราจะไปทึกทักเอาอะไรให้มันคงที่ได้ล่ะ  สรุปแล้ว  "ทั้งสุข-ทั้งทุกข์"  คือไฟเหมือนกัน  ไฟร้อน-คือทุกข์ก็เผาเรา,  ไฟเย็น-คือสุขก็เผาเรา  ด้วยเหตุนี้  "พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว"  พระผู้ถึงแล้วซึ่งวิชชาและจรณะ  ๑๕  จึงทรงชี้ทางเดินชีวิตให้เหล่าพสกนิกรผู้ดังบุตรในอุทรของพระองค์ไว้ว่า
     ให้ทุกคนไม่ต้องเอามาก  ให้รู้จัก  "พอเพียง"  ก็จะมีความสุข  คือทำให้  "เป็นกลาง"  นั่นเอง!
     ครับ...ยามนี้ทุกคนว้าวุ่น..สับสน..ผมเข้าใจ  เข้าใจทั้งนายกฯ  อภิสิทธิ์  เข้าใจทั้งพลเอกอนุพงษ์  เข้าใจทั้งเหล่ากบฏ  และเข้าใจทั้งพวกเรา  "ผองไทยร่วมชาติ"  โดยเฉพาะเหตุทรามที่เหล่ากบฏสร้าง  ณ  โรงพยาบาลจุฬาฯ  ผมได้รับข้อความเดียวกันจากหลายที่-หลายทาง  โดยเฉพาะจากชนชาว  FB  จึงขอนำ  "ความในใจจากหมอจุฬาฯ  คนหนึ่ง"  มาแผ่ให้ทราบกัน  ดังนี้

     เรียนทุกท่าน
     เหตุการณ์ที่จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย  และที่โรงพยาบาลจุฬาฯ  เป็นเรื่องที่ยาวมากๆๆๆๆๆ  ที่กระทบที่ผ่านมาเป็นเรื่องผลต่อบุคลากรและนิสิตของมหาวิทยาลัยที่ต้องยกเลิกการเรียนการ
สอน  การประชุม  การสอบ  มาตลอด  ที่  รพ.จุฬาฯ  มีผลต่อการเดินทางเข้าออกฝั่งถนนราชดำริ  รวมทั้งทางเข้าออกห้องฉุกเฉิน  และความปลอดภัยของบุคลากร  คนไข้  และญาติ  มาตลอดเช่นกัน  ผู้ป่วยและญาติที่อยู่หอผู้ป่วยบริเวณถนนราชดำริต้องได้รับการรบกวนเสียงตลอดทั้งคืน   ทาง  รพ.จุฬาฯ  ได้ขอร้องให้ทางกลุ่มผู้ชุมนุมเปิดทางเข้าห้องฉุกเฉิน  หัวมุมถนนราชดำริ  หรือถอยห่างไปเล็กน้อย  แต่กลุ่มผู้ชุมนุมก็ไม่เคยสนใจ  คิดแต่ประโยชน์ของเขาเอง  ทั้งที่ผู้ชุมนุมก็มิได้เต็มถนนราชดำริเลย  ถ้าถอยไปถึงหัวมุมสามแยกถนนสารสินก็ได้  พวกมันเข้าออก  รพ.จุฬาฯ  อย่างสะดวก  ใช้ห้องน้ำ  และบริเวณเป็นที่พักผ่อน  เวลาไม่สบายก็เข้ามารับการรักษาโดยเราไม่รังเกียจ  เดินเข้าออกอย่างสบาย  สวนลุมฯ  ก็เข้าไม่ได้  แถมบุคลากรยังโดนบังคับขอเงิน  หรือข่มขู่
     รพ.ต้องหยุดคลินิกพิเศษนอกเวลาทั้งผู้ป่วยนอกและผู้ป่วยที่นัดผ่าตัดนอกเวลา   ตั้งแต่วันที่  ๒๗  เมษายน  หลังเกิดเหตุการณ์ยิงกันวันที่  ๒๒  เมษายน  เพราะความไม่ปลอดภัยในการเดินทางของผู้ป่วยและญาติในเวลาค่ำ  ที่สำคัญบุคลากรต้องกลับบ้านหลังสองหรือสามทุ่ม  ผู้ป่วยที่นัดและที่เตรียมผ่าตัดที่เป็นมะเร็งต้องมารับยาเคมีบำบัด  ต้องเลื่อนไปทั้งหมด
     คืนวันที่  ๒๖  ก็บุกเข้าตึก  สก  เพื่อจะจับอาจารย์ตุลย์  โดยไม่เกรงกลัวใคร  คืนวันที่  ๒๗  ก็สงสัยว่ามีตำรวจ  เลยบุกเข้าที่ห้องฉุกเฉิน  น่ากลัวมากๆ  (ก็ดูหน้าตาแต่ละคนที่มาก็แล้วกัน)  รพ.ต้องสั่งหยุดบริการผู้ป่วยนอกและการผ่าตัดทั้งหมด  คราวนี้กระทบคนทั้งหมด  และ  รพ.เท่ากับหยุดการทำงานทั้งหมด  สุดท้ายต้องย้ายผู้ป่วยจากตึก  ภปร  ตึก  สก  และตึกวชิรญาน  (ที่ประทับของสมเด็จพระสังฆราชฯ)  เพื่อหลีกหนีเสียงรบกวน  โดยย้ายไปที่ตึกด้านถนนอังรีดูนังต์  เมื่อวันพุธที่  ๒๘  เมษายน
     ลองนึกภาพดูว่า  ผู้ป่วยที่ใส่ท่อหายใจ  อยู่ไอซียู  ผู้ป่วยที่เพิ่งผ่าตัด  ทารกที่หายใจหอบ
เหนื่อยและอีกมากมาย  ต้องทุลักทุเลย้าย  (ก็ไม่ใช่ญาติของพวกมัน)  แต่พวกมันคิดและระแวง
 (ก็ทำผิดกฎหมายและเกินสิทธิ์  รบกวนสิทธิ์ผู้อื่น)  ว่าทาง  รพ.จุฬาฯ  จะสนับสนุนให้ตำรวจและทหารสลายการชุมนุม
     เมื่อคืนวันที่  ๒๙  เมษายน  พายัพ  ปั้นเกตุ  (ต้องติดป้ายชื่อนามสกุลไว้หน้าโรงพยาบาล)  พาคนพร้อมผู้สื่อข่าวมาเพื่อขอตรวจค้น  โดยไม่มีอำนาจที่จะบุกรุกยามวิกาล  ผมไม่ได้อยู่
ในเหตุการณ์  แต่รับรู้ว่าพวกมันบังคับให้ผู้บริหารยอมให้ตรวจค้น  พวกมันแสดงกิริยาดุดัน  กราดเกรี้ยวแบบไม่เกรงใจใคร  และสัญญาว่าจะเข้าตรวจค้นไม่กี่คน  แต่บุกเข้าเป็นร้อย  สัญญาว่าจะตรวจแค่ตึก  สก  และตึก  ภปร  (ตึกที่มีความสำคัญอย่างยิ่งของเรา)  แต่ก็เข้าตรวจทั่ว  รพ.จุฬาฯ  เพราะตรวจสองตึกแล้วไม่พบ  ทหาร  ตำรวจ  สุดท้ายยังข่มขู่ว่าจะเข้ามาอีก
     วันนี้  รพ.จุฬาฯ  เป็นห่วงถึงความปลอดภัยต่อผู้ป่วย  ญาติ  นิสิตแพทย์  พยาบาล  แพทย์  และบุคลากร  ผู้บริหารต้องสั่งปิด  รพ.จุฬาฯ  และย้ายผู้ป่วย  (ที่เพิ่งย้ายมาจากตึกด้านหน้าเมื่อสองวันก่อน)  โดยสั่งให้กลับบ้านสำหรับผู้ป่วยที่พอกลับได้  ส่วนที่ต้องอยู่  รพ.ต่อ  ก็ติดต่อและดำเนินการย้ายไปที่  รพ.ศิริราช  รพ.ราชวิถี  และที่อื่นๆ  ที่รับได้  ยกเว้นที่ต้องอยู่ไอซียู  และย้ายไม่ได้ก็ยังให้อยู่เท่านั้น  เท่ากับสั่งปิด  รพ.จุฬาฯ  ไปเลย
     โดยสามัญสำนึก  แม้แต่ตอนสงคราม  พวกนักรบที่จะเข่นฆ่ากันให้ได้  ก็ยังยกเว้นส่วนการพยาบาลไว้  แต่นี่เป็นอะไร  ไม่ฟัง  ไม่สน  บ้านเมืองจะอยู่อย่างไร
                                   ขอให้สิ่งศักดิ์สิทธิ์คุ้มครอง รพ.จุฬาฯ ด้วยเถิด
                                             รศ.นพ.ประเสริฐ ตรีวิจิตรศิลป์
                                                   แพทย์ประจำ รพ.จุฬาฯ

     แต่ยังมีอีก  ณ  มุมหนึ่งที่โรงพยาบาลพระมงกุฎฯ  จากเหตุ  "วิบากกรรมประเทศไทย"  ผู้ใช้นามว่า  "พี่แดง"  ท่านไปเยี่ยมทหารที่บาดเจ็บมา  และเขียนเล่าว่า
     น้องๆ  ที่รัก
     พี่พึ่งไปเยี่ยมทหารที่  รพ.พระมงกุฎฯ  มา  มีทหารที่ได้รับบาดเจ็บทั้งเบาและหนัก  อยากบอกว่าสงสารทหารมาก  เขาเล่าให้ฟังว่า  ที่เราเห็นเหมือนขวดน้ำเปล่าที่เสื้อแดงปาใส่ทหาร  จริงๆ  แล้วเป็นน้ำส้มสายชูผสมพริกไทยบ้าง  พริกบ้าง  ทำให้เขาทั้งแสบทั้งคัน  เขาบอกว่าถ้าผมอยู่ชายแดนผมก็ยังรู้ว่าฝั่งตรงข้ามคือศัตรูทั้งการแต่งตัวและอาวุธ  แต่นี่ทุกคนแต่งตัวธรรมดาเหมือนพวกพี่ที่มาเยี่ยมผมอยู่รอบตัวผมไปหมด
     คนพวกนั้นบอกว่า  "ผมไม่ใช่เสื้อแดง  ผมมาดูเฉยๆ"  พอผมหันหลังเขาซัดผมเลย  เอาไม้ตีขาผมหักสองท่อน  ต้องผ่าตัดและหมอบอกว่าต้องกายภาพบำบัดอีก  เขาเล่าอีกว่า  ผมมีปืนและลูกปืนยาง  แต่สั่งห้ามยิงโดยเด็ดขาด  ตกเย็นต้องนำมาคืนให้ครบจำนวน  ถ้าหายไปแม้เพียงลูกเดียวจะถูกสอบสวนทันที  และอาจโดนจำคุกทหาร  และหักบำเหน็จบำนาญ  ข้อหาละเมิดคำสั่งที่ไม่ให้ยิง  ฟังแล้วเห็นใจทหารมากๆ  หลายคนต้องรับการรักษาแบบบำบัดจิต  เพราะขวัญเสีย  และโดนแรงกดดัน  คือมีคนเข้ามารุมทำร้ายเขา  แต่ด้วยคำสั่งทหาร  "ห้ามทำร้ายประชาชน"  เขาจึงไม่อาจตอบโต้ได้  จึงได้แต่ป้องกันตัวเท่านั้น  หลายคนจึงเห็นภาพที่ตัวเองโดนทำร้ายไม่เลิก  นอนผวาบ้าง  ละเมอบ้าง  นี่คือทหารที่ปฏิบัติการที่สี่แยกคอกวัว
     อีกส่วนนึงที่พี่ไปเยี่ยมเป็นอีกตึก  คือทหารสามจังหวัดภาคใต้  น่าส่งสารหนักเข้าไปอีก  คือไม่มีใครไปเยี่ยมเขาเลย  คงเป็นเพราะไม่มีใครรู้ว่าพวกเขาอยู่ที่นี่เพราะไม่ได้ประชาสัมพันธ์
เลยไปเยี่ยมพวกที่ปฏิบัติการที่คอกวัวเท่านั้น  ทหารหลายคนเป็นทหารเกณฑ์ยังเด็กอยู่มาก  มีคนหนึ่งร่างกายครบแต่หัวยุบไปซีกหนึ่งเลย  บางคนขาด้วนเพราะโดนระเบิด  เพิ่งเข้าประจำการได้ห้าเดือนเอง  มีอีกคนหายไปเลยครึ่งตัวยังเด็กอยู่มากๆ  นอน  รพ.มาปีกว่าแล้วเพราะต้องผ่าตัดเป็นระยะๆ  พี่ข้ามไปอีกตึก  เป็นตึกเกี่ยวกับระบบเส้นประสาท  พวกนี้อาการหนักมาก  คือขยับไม่ได้เลยจากคอลงไป  เขาหายใจทีหนึ่งยังลำบากเลย  เป็นอัมพาตกันส่วนใหญ่และไม่มีคนมาเยี่ยม
     พี่คิดว่าทหารเขาเสียสละมากจริงๆ  เราอยู่สบายได้ก็เพราะเขาลำบากเพื่อเรา  พิการแล้วก็ต้องเป็นภาระครอบครัวเขาอีก  อยากให้พวกเราแสดงความขอบคุณโดยไปเยี่ยมเขา  แค่ไปบอกเขาว่าเราขอบคุณ  พี่ได้มีโอกาสพูดกับเขา  ขอบคุณในความเสียสละ  ขอบคุณที่ช่วยรักษาชาติบ้านเมืองและปกป้อง  "ในหลวง"  พวกเราคนไทยระลึกในความดีของพวกเขา  และเห็นว่าเขาเป็นวีรบุรุษของชาติ  รู้ไหมว่าพี่เห็นน้ำตาเขาคลอเลยทีเดียว  เขาตอบกลับว่า
     "ครับ..ขอบคุณ  ก็จะปกป้องไปจนตายครับ  ออกจาก  รพ.แล้วก็จะกลับไปประจำการ
ไปลาดตระเวนอีกครับ  เพื่อในหลวง"
     ที่เล่ามายืดยาวก็เพื่อจะขอว่า  ถ้าใครว่างก็สละเวลาไปเยี่ยมเพื่อให้กำลังใจเขา  อยากเอาขนมไปเลี้ยงเขาหรือเอาเงินให้เขาก็ได้  บางคนก็เอาดอกไม้ไปให้  แต่ถ้าไปเยี่ยมเฉยๆ  พวกเขาก็  Happy  แล้วว่าเราไม่ลืมเขา  ที่เฮติเรายังร่วมกันส่งเงินไปช่วยเขาในฐานะเพื่อนมนุษย์  แต่นี่คนไทยด้วยกันเป็นทหารที่เสียสละเพื่อรักษาอธิปไตยของชาติ  เราจึงมีแผ่นดินไทยให้อาศัยอยู่  ช่วยๆ  กันนะจ๊ะ  คนไทยเราไม่แล้งน้ำใจอยู่แล้ว  พี่ตั้งใจจะไปเยี่ยมเขาอีกแน่ๆ  วันอาทิตย์  ถ้าไปอาจได้เจอกันนะ  รักชาติ  รักในหลวง  ก็ไปให้กำลังใจทหารกันเยอะๆ  นะจ๊ะ
                                                           (พี่แดงจ้า)
                                               Benjarat Phattanawiroj
     ครับ...ต่อไปนี้  เราต้องให้เกียรติและเชิดชู  "ทหารเกณฑ์"  ให้มากเข้าไว้  อย่าไปดูหมิ่น-ดูแคลนอย่างแต่ก่อน  "ทหารเกณฑ์คือชายเต็มร้อย"  และวันนี้  เขาทำหน้าที่  "ได้ใจ"
พวกเรา  เพราะพวกเขาคือ  "ทหารเกณฑ์-ไอ้เณรกู้ชาติ"  แท้จริง! ่
 
http://www.thaipost.net/news/030510/21652

สีทนได้!!!
•   ท่านขุนน้อย                                                                     3 พฤษภาคม 2553 - 00:00
 เริ่มต้นสัปดาห์นี้...คงหนีไม่พ้นที่จะต้องว่ากันถึงเรื่องม็อบเสื้อแดงต่อไปเรื่อยๆ  แม้นจะเต็มไปด้วยความรู้สึกผะอืดผะอม  คลื่นเหียน  วิงเวียน  ท้องเฟ้อ  เรอเปรี้ยว  กันซักขนาดไหนก็ตาม  ทำไงได้...ภายใต้บรรยากาศในยุค  อันธพาลครองเมือง  เช่นนี้  จะมัวแต่เอามือซุกหีบ   ตัดช่องน้อยทะลุออกไปนอกโลก   นอกจักรวาล  โดยไม่คิดจะวกกลับมาพูดถึงเรื่องบ้าน  เรื่องเมือง  เอาเลยนั้น...มันก็ออกจะดูอุเบกขาจนเกินไป...
            ---------------------------------------------
     อย่างไรก็ตาม...เท่าที่ได้รับฟังคำพูด  คำจา  ของท่านนายกรัฐมนตรี  อภิสิทธิ์  เวชชาชีวะ  ในรายการ  นายกฯ  พบประชาชน  เมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา  ก็ถือว่า...ยังพอใช้การได้!!!ไม่ว่าโดยบุคลิก  ลีลา  คำพูด  คำชี้แจง  ในแต่ละวรรค  แต่ละประโยค  ยังพอสะท้อนให้เห็นถึงความมีสติ  ความมีเหตุมีผล  และความมุ่งมั่นตั้งใจ  ที่จะแก้ปัญหา  ส่วนจะแก้ได้หรือไม่ได้  แก้แล้วถูกใจ  หรือไม่ถูกใจ  ใครต่อใครบ้างนั้น  ก็คงเป็นอีกเรื่อง  อีกกรณีที่จะต้องรอคอยติดตามกันต่อไป    หลังจากที่รอ...แล้ว...รอ...แล้ว...รอ...ไม่สิ้น   มาประมาณ  2  เดือนกว่าๆ  เข้าไปแล้ว...
            ---------------------------------------------
     อย่างว่า...ปัญหาเท่าที่มันกำลังเป็นปัญหาอยู่ในขณะนี้  คงต้องยอมรับว่า  มันคงไม่ถึงกับแก้กันได้ง่ายๆ  ซักเท่าไหร่  ยิ่งถ้าหากต้องการจะให้มุมจบของปัญหา  มันออกมาในลักษณะแบบสารคดีชีวิตจริง  ไม่ใช่จบกันแบบหนังผี  หนังสยองขวัญ  หรือหนังซาดิสต์  ชนิดเลือดกระฉูดออกมาท่วมจอเป็นลิ่มๆ   ส่วนประเภทที่อยากจะให้จบกันแบบหนังรัก   หนังโรแมนติก  กึ่งเพ้อฝัน  กึ่งแฟนตาซี  กึ่งดราม่า  อะไรประมาณนั้น  มาถึงขั้นนี้  คงต้องบอกว่า...น่าจะเลิกคิดๆ  กันไปได้แล้ว  โดยเฉพาะสำหรับท่านที่เป็นนักสันติวิธี  นักเจรจา  นักผูกริบบิ้นขาว  ฯลฯ  ทั้งหลาย...
           -----------------------------------------------
     เนื่องจากถ้าดูถึงแนวโน้มของปัญหา  หรือแนวโน้มของผู้ซึ่งกำลังสร้างปัญหาอยู่ในขณะนี้...คงปฏิเสธไม่ได้ว่า  นับวันความพยายามที่จะหันไปเอาชนะกันในด้านกองกำลัง  หรือหันไปเอาชนะทางการทหาร  มันชักจะมีบทบาทเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ  จะด้วยเหตุที่การเอาชนะทางการเมืองของคนเหล่านี้  มักจะประสพความล้มเหลว  เละเทะ  เลอะเทอะ  มาโดยตลอด  วันๆ  มีแต่วนไป  วนมา  อยู่กับมุขเก่าๆ  เดิมๆ  ประเภทแป๊กแล้ว  แป๊กอีก  นั่งกรอกหูมวลชนด้วยคำพูด(วาทกรรม)  ซ้ำๆ  ซากๆ  ไม่ว่าจะเป็นคำว่า  อำมาตย์  ชนชั้น  สองมาตรฐาน  ฯลฯ  ซึ่งไม่ได้เกี่ยวอะไรกับข้อเรียกร้องในเรื่องการยุบสภาฯ  เอาเลยแม้แต่น้อย  ความพ่ายแพ้ทางการเมืองที่เกิดขึ้นครั้งแล้วครั้งเล่า  จึงกลายเป็นตัวเปิดช่อง  เปิดบทบาท  ให้กับบรรดากองกำลังไม่ทราบฝ่าย  และทราบฝ่ายทั้งหลาย  อันได้แก่  พวกฮาร์ดคอร์  ที่ทั้งถ่อย  ทั้งหยาบ  ทั้งดิบ  ทั้งเถื่อน  เข้ามาเป็นตัว  กำหนดเกม  มากขึ้นเรื่อยๆ...
         --------------------------------------------------
     ปฏิบัติการเข็มขัดสั้น  หรือปฏิบัติการในแบบ  คาดไม่ถึง  มันจึงปรากฏให้เห็นถี่ขึ้นๆ  ชนิดไม่ว่านายกรัฐมนตรี  รองนายกรัฐมนตรี  ตลอดไปจนถึงผู้บัญชาการทหารบก  ต่างต้องออกมาขยับเข็มขัด  หรือต่างก็ต้องออกมายอมรับว่า  คาดไม่ถึง  แบบซ้ำแล้ว  ซ้ำเล่า  ไม่ว่าจะเป็นกรณีการฆ่าทหารกันสดๆ  คาสี่แยกคอกวัว  ลอบยิงวัดพระแก้ว  ระเบิดคลังน้ำมัน  บุกเข้ายึดโรงพยาบาล  ฯลฯ  พูดง่ายๆ  ว่า...ถ้าหากไม่ถ่อย  ไม่หยาบ  ไม่ดิบ  ไม่เถื่อน  หรือไม่เหี้ยมถึงขีดสุดแล้ว  มันไม่น่าที่จะทำอะไรโง่ๆ  ไปได้ถึงปานนั้น  เพราะแม้ว่าการกระทำเหล่านี้อาจถือเป็นชัยชนะทางการทหารได้อย่างสมบูรณ์เบ็ดเสร็จ  แต่สุดท้าย...มันย่อมนำไปสู่การพ่ายแพ้ทางการเมืองไปด้วยกันทั้งสิ้น...
      --------------------------------------------------------
     แต่ในเมื่อบรรดาคนเหล่านี้  มันดัน  จับชาวบ้านเอาไว้เป็นตัวประกัน  นับเป็นพันๆ  หมื่นๆ  และไม่ได้กักตัวเอาไว้แต่เฉพาะใจกลางถนนราชประสงค์เท่านั้น  ในจังหวัดแต่ละจังหวัด...บรรดาไอ้เหี้ยม  หรืออีเหี้ยม  ทั้งหลาย  ยังพลิกบทบาทกลายมาเป็นฝ่ายนำ  พร้อมที่จะบุกเผาบ้าน  เผาเมือง  ให้ฉิบหายวายวอดได้ทุกเมื่อ  และพร้อมที่จะเล่นงานตำรวจ  ทหาร  หรือแม้แต่ชาวบ้านตาดำๆ  ให้ต้องทุกข์ระทม  ตกระกำลำบาก  ตามแนวทางยุทธศาสตร์ที่ไอ้เหี้ยมตัวพ่อเคยป่าวประกาศเอาไว้ก่อนหน้านี้ว่า...ถ้าหากผมยังอยู่ไม่เป็นสุข...ก็อย่าได้คิดว่าประเทศไทยจะอยู่เย็นเป็นสุขได้ง่ายๆ  การป้องกัน  ควบคุม  หรือการรับมือกับกลุ่มคนเหล่านี้...มันจึงไม่ใช่เรื่องง่ายๆ...
      ---------------------------------------------------------
     แต่ก็นั่นแหละ...ไม่ว่ามันจะยากลำบากเพียงใดก็ตามที  ความพยายามคลี่คลายปัญหาโดย  ศูนย์ปฏิบัติการอยู่เฉยๆ  เท่าที่ผ่านมาประมาณ  2  เดือนกว่าๆ  คงปฏิเสธไม่ได้ว่า....มันออกจะเป็นอะไรที่ดูหน่อมแน้มเกินไปหน่อย  และใช้เวลายาวนานเกินไปกว่าที่จะมานั่งปลอบประโลมให้ผู้คนอดทน  รอคอย  มากไปกว่านี้ได้อีกแล้ว  การนำความสงบเรียบร้อยกลับคืนมาสู่บ้านเมืองอย่างยั่งยืน  ถาวร  ตลอดไปจนการฟื้นฟูการบังคับใช้กฎหมาย  มันคงไม่อาจสำเร็จได้ด้วยเพียงแค่คำพูด  แต่ต้องอาศัยการกระทำ  การเคลื่อนไหวปฏิบัติการ  ที่นอกจากจะแสดงออกถึงความประณีต  ละเอียดอ่อนแล้ว  ยังต้องแสดงออกถึงความเข้มแข็ง  และความมีประสิทธิภาพควบคู่ไปด้วย...
      ---------------------------------------------------------
     ไม่เช่นนั้น...ความพ่ายแพ้ทางการทหาร  มันอาจกลายเป็นตัวฉุดรั้งให้ต้องพ่ายแพ้ทางการเมืองตามไปด้วย  หรือทำให้ทั้งรัฐบาลและผู้ต่อต้านรัฐบาล  ต่างก็พ่ายแพ้ไปด้วยกันทั้งคู่  พร้อมๆ  กับประชาชน  และประเทศทั้งประเทศ  ต้องตกเป็นฝ่ายพ่ายแพ้ตามๆ  กันไป  ด้วยเหตุที่ท่ามกลางความพังพินาศฉิบหายของระบบ  ระบอบ  ของโครงสร้างสังคมทั้งโครงสร้าง  ย่อมไม่มีใครที่จะมีโอกาสเป็นฝ่ายชนะเอาเลยแม้แต่น้อย  มีแต่จะแพ้มาก  แพ้น้อย  ฉิบหายมาก  ฉิบหายน้อย  แต่เพียงเท่านั้น...
        -----------------------------------------------------
     ก็เอาเถอะ...ท่ามกลางการยืนยันด้วยคำพูดของท่านนายกรัฐมนตรี    ว่าการปฏิบัติใดๆ  ก็ตาม  จะปรากฏให้เห็นในอีกคัมมิ่ง  ซูน  หรือในอีกไม่นานนับจากนี้  เราทั้งหลายก็คงต้องอดทน   รอคอย  กันไปอีกจั๊กกู้  ไหนๆ  ก็รอมาตั้ง  2  เดือนกว่า  จนชักจะเริ่มชินๆ  กันแล้ว  ถ้าหากพิจารณาจากความมีสติ  ความมีเหตุมีผล  และความมุ่งมั่นตั้งใจของคนหนุ่มผู้มีชื่อว่า  อภิสิทธิ์  เวชชาชีวะ  ในฐานะที่  ท่านขุนน้อย  ก็ดันประพฤติตนเป็น  พ่อยก  มานานเป็นปีๆ  จู่ๆ  จะไปตัดรอนน้ำใจกันดื้อๆ  มันออกจะดูโหดร้ายจนเกินไป...เอาเป็นว่า  ถ้าหากไม่ยืดเยื้อ  คาราคาซัง  จนหมดเดือนพฤษภาไปอีกเดือนเต็มๆ...ระดับนี้...สี...ทนได้!!!
           -----------------------------------------------
     ปิดท้ายด้วยวาทะวันนี้  จาก  พิชัยสงครามซุนหวู่...ไม่เคยมีการรบยืดเยื้อครั้งใด...ที่
ประเทศจะได้รับประโยชน์จากช่วงเวลาที่ทอดยาวออกไป...

http://www.thaipost.net/news/030510/21650

คิดถึง"ศาลาริมสวน"
•   ถูกทุกข้อ                                                                           3 พฤษภาคม 2553 - 00:00
 เรียน คุณสามวา สองศอก ที่นับถือ
     เมื่อพูดถึงรายการโทรทัศน์  "ศาลาริมสวน"  ที่เผยแพร่ความรู้เกี่ยวกับคุณธรรมสู่ประชาชน  ทางสถานีโทรทัศน์ช่อง  11  กรมประชาสัมพันธ์
     แม้รายการนี้จะถูกเพิกเฉยโดยผู้รับผิดชอบไปแล้ว  จนกระทั่งทำให้ระงับไปเองอย่างเป็น
ธรรมชาติ  ทั้งนี้ถ้ามองอีกด้านหนึ่งย่อมรู้ว่า  "เพราะตัวฉันเองมีความรู้สึกที่ไม่ชอบไปขอร้องอะไรจากใคร  เพราะมันทำให้ตัวเองจำต้องสูญเสียศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์"  ซึ่งฉันรักษามันไว้อย่างสุดชีวิต
     จากเหตุการณ์ดังกล่าวทำให้เกิดความสับสน  จนกระทั่งไม่รู้ว่าต้นสายปลายเหตุมันคืออะไรและอยู่ที่ไหน  รายการนี้จึงได้ระงับไปโดยไม่มีใครสนใจรับผิดชอบนับเป็นเวลาแรมปีมาแล้ว  แต่ประชาชนคนชมรายการนี้ต่างก็เรียกร้องมาที่ฉัน  ซึ่งตัวเองก็ได้ตอบไปว่ามันไม่ใช่เรื่องของฉัน  แต่เป็นเรื่องของสถานีโทรทัศน์  ซึ่งประชาชนทุกคนควรเรียกร้องไปที่นั่นมากกว่า 
     แทบทุกครั้งที่ฉันเดินทางไปไหนๆ  เมื่อพบคนที่เป็นเพื่อนของฉันส่วนใหญ่  มักถามหารายการนี้เสมอมา
     อนึ่ง  เมื่อฉันกล่าวถึงคำว่า  "เพื่อนของฉัน"  โปรดอย่าเอาความรู้สึกส่วนตัวที่มีพรรคพวกโดยเฉพาะ  "ตัวกูของกู"  มาใช้กับฉัน  ทั้งนี้ทุกครั้งที่ฉันพูดถึงคำว่า  "เพื่อนของฉัน"  ฉันหมายถึง  "เพื่อนมนุษย์ทุกคนภายในโลกใบนี้"  เพราะตัวเองปลอดแล้วจากการยึดติดในระดับหนึ่ง  จากเงื่อนไขที่นำเอาสิ่งอื่นใดมากำหนดกรอบภายในรากฐานจิตใจตัวเอง
     ความจริงแล้ว  ถ้าเป็นคนฉลาดอีกทั้งรู้สึกเฉลียวใจสักหน่อย  ผู้บริหารงานในยุคนี้ก็ควรจะเกิดจิตใต้สำนึก  ซึ่งคนผู้ให้กำเนิดควรถามตัวเองว่า  "มันเกิดอะไรขึ้น"  ไม่เพียงเท่านั้น  การที่หลายคนเห็นว่า  "รายการนี้คือรายการกล้วยไม้"  ถ้าใครสงสัยและสะดุดคิดสักนิด  ก็น่าจะเกิดคำถามหวนกลับมาถามตัวเองว่า  "ทีคนอื่นพูดถึงเรื่องกล้วยไม้  เหตุไฉนจึงไม่มีคนสนใจติดตามถามหาอย่างกว้างขวางเช่นรายการนี้"
     นอกจากนั้น  หลังจากมีคนพูดว่า  "ฉันเป็นอาจารย์กล้วยไม้  เหตุใดฉันจึงรู้สึกหายใจไม่ทั่วท้อง  โดยที่รู้ว่าตัวเองไม่ได้นำปฏิบัติ  โดยเน้นความสำคัญเรื่องกล้วยไม้"  แต่คนทั่วไปเหตุใดสิ่งที่มันฝังอยู่ในรากฐานอันเป็นส่วนลึกภายในจิตใจของฉัน  จนกระทั่งทำให้ตัวเองต้องหันมาสนใจจับงานเกี่ยวกับการจัดการศึกษาทางเลือกโดยตรง
     อยู่มาวันหนึ่งเมื่อไม่นานมานี้  ระหว่างที่ฉันไปเดินหาซื้อต้นไม้มาปลูก  ในบริเวณสถาบันอาศรมศิลป์  ซึ่งเป็นสถาบันที่นำปฏิบัติบนพื้นฐาน  "การจัดการศึกษาทางเลือก"
     ในวันนั้น  หลังจากฉันก้าวเข้าไปเดินอยู่ในตลาดต้นไม้ที่สวนจตุจักร  หลายคนได้เข้ามารุมล้อมพูดคุยกับฉันด้วยความเคารพรัก  จนกระทั่งทำให้ตัวเองต้องยืนตากแดดท่ามกลางความร้อนอยู่ตรงนั้น  จะขยับเขยื้อนไปไหนก็รู้สึกเห็นใจพวกเขา  จึงสู้ทนยืนอยู่ตรงนั้นโดยไม่แสดงอาการเดือดร้อน
     ทั้งนี้เพราะตัวฉันเองมีธรรมชาติที่ไม่ต้องการขัดใจผู้อื่น  อยู่ที่นั้นต่อมาอีกนานพอสมควร  แต่การสู้ทนตากแดดไม่ว่ามันจะร้อนแค่ไหน  ฉันก็ไม่ต้องสู้ทนกับความรักที่มีผู้อื่นนำมามอบให้  หากมีความสุขจึงสามารถอดทนอยู่ได้
     ส่วนคนที่เดินผ่านไปมา  ต่างก็ทยอยกันมายกมือไหว้อย่างนอบน้อม  บางคนก็หยุดยืนคุยอยู่กับฉันคนแล้วคนเล่า  จนกระทั่งตัวฉันเองไม่อาจก้าวเดินต่อไปไหนได้
     แต่อีกด้านหนึ่งก็นับว่ามีโชคดีอย่างคาดไม่ถึง  "เพราะหากไม่มีตรงนั้น  ก็ย่อมไม่ได้ตรงนี้"  ซึ่งเป็นหลักธรรมจากการปฏิบัติ  "ประเดี๋ยวก็จะรู้ว่ามันเกิดอะไรขึ้นที่นั่น?" 
     เพราะหากฉันขืนฝืนเดินต่อไปโดยไม่รู้สึกเกรงใจคนอื่น  ตนก็ย่อมพลาดโอกาสที่จะพบกับคนที่รู้ความจริง  บังเอิญมีชายคนหนึ่งเดินผ่านมาตรงนั้นพอดี  จึงแวะเข้ามาคุยกับฉัน  ชายผู้นี้เขาเอ่ยปากกล่าวถึงรายการศาลาริมสวน  โดยพูดว่า  "ผมดูรายการศาลาริมสวนของท่านอาจารย์แล้ว  รู้สึกมีความสุข"
     หลังจากนั้นเขาจึงพูดต่อมาว่า  "เพราะรายการนี้ท่านอาจารย์ได้สอนธรรมะให้แก่ผู้ชมอย่างเห็นได้ชัด"  ฉันนึกชมอยู่ในใจว่าชายผู้นี้  เขามีทั้งความฉลาดและความเฉลียว  "เพราะรู้สึกเฉลียวใจนี่แหละถึงได้มองเห็นธรรมะ  ซึ่งมันแฝงอยู่ในส่วนลึกของหัวใจฉัน"  นอกจากนั้นน่าจะสรุปออกมาเป็นคำสอนได้อย่างถึงแก่นว่า  "มนุษย์ทุกรูปลักษณะ  ไม่ว่าจะพูดอะไรออกมาก็ตาม  หากมีธรรมะอยู่ในรากฐานจิตใจ  ก็ย่อมช่วยให้ผู้ฟังมีความสุขได้ทุกเรื่อง"
     สิ่งที่ได้กล่าวมาแล้วทั้งหมด  ทำให้ฉันนึกถึงช่วงหนึ่งภายในกระแสการจัดการศึกษา  ก่อนหน้านี้การจัดการศึกษาในมหาวิทยาลัยเคยอยู่ภายใต้อำนาจของทบวงมหาวิทยาลัย
     ในช่วงนั้นฉันไม่ทราบว่ามันเกิดอะไรขึ้น  หรืออาจเป็นเพราะโทรทัศน์รายการนี้ได้ส่งผลกระทบทำให้คนที่เรียกตัวเองว่า  "นักการศึกษา"  ครั้นเกิดความรู้สึกแล้วก็คงสั่งการ  โดยมีประกาศให้  "มหาวิทยาลัยทุกแห่ง  บรรดาอาจารย์ผู้สอนทุกวิชาไม่ว่าจะสอนวิชาใดก็ตาม  ก็ขอให้แทรกการสอนธรรมะเข้าไปไว้ในนั้นด้วย"
     หลังจากนั้นจึงพบว่ามีอาจารย์บางคนบ่นว่า  "จะสอนวิชาในหลักสูตรก็ยังไม่มีเวลาที่จะสอนอยู่แล้ว  จะให้มาสอนธรรมะได้ยังไงกัน"  จากคำบ่นดังกล่าวได้สะท้อนให้ฉันรู้ว่า  คนที่เป็นครูอาจารย์ส่วนใหญ่ก็ยังขาดธรรมะภายในจิตใจ  จึงคิดแบบแยกส่วน  ไม่เช่นนั้นแล้วสอนอะไรก็สามารถสอนธรรมะ  โดยใช้เหตุกับผลภายในวิชาความรู้ที่ตนสอนได้ทุกเรื่อง  แทนที่จะแยกธรรมะกับวิชาที่ตนสอนออกจากกันเป็นคนละเรื่อง
     ฉันนึกถึงช่วงหนึ่งก่อนการเดินทางไปร่วมงานพืชสวนนานาชาติที่เกาะรียูเนี่ยน  ไอส์แลนด์
ในมหาสมุทรอินเดีย  ช่วงนั้นได้มีคำสั่งให้ยกเลิกเงื่อนไขการออกโทรทัศน์  โดยผู้ดำเนินรายการไม่ได้ผ่านการฝึกอบรมจาก  "กบว."
     ทั้งนี้ประกาศดังกล่าวได้ครอบคลุมถึงตัวฉันด้วย   ในครั้งนั้นทางโทรทัศน์ได้ส่งเด็กคนหนึ่ง  ซึ่งฉันถือว่ายังเป็นเด็กเพราะมีอายุน้อยกว่าฉันมาก   เข้ามาหาเพื่อทำหน้าที่เป็นผู้เปิดรายการ  ซึ่งฉันทำมาแล้วในอดีตแทนฉัน
     บุคคลผู้นั้นได้เข้ามาขอค้นเอกสารเท่าที่ตัวฉันเองได้ทำมาแล้วในอดีตว่า  "ทำเรื่องกล้วยไม้หรือเปล่า"
     เรื่องนี้ฉันถึงกับน้ำตาร่วง  หลังจากนั้นจึงเขียนจดหมายถึงอธิบดีกรมประชาสัมพันธ์เพื่อขอาออก  หลังจากนั้นจึงเดินทางไปร่วมกิจกรรมนานาชาติดังได้กล่าวมาแล้ว
     เหตุใดฉันจึงขอลาออก  ก็เพราะว่าแม้แต่คนในกรมประชาสัมพันธ์  ซึ่งเป็นผู้รับผิดชอบก็ยังไม่สามารถที่จะหยั่งรู้ความจริงว่า  "ฉันไม่ได้ทำเรื่องกล้วยไม้  หากทำเรื่องการส่งเสริมคุณธรรมและจริยธรรมแก่ สังคมไทย"  เท่านั้นมันก็ควรจะจบไปได้แล้ว  จากความรู้สึกที่เป็นประสบการณ์ชีวิต  ช่วยให้เรียนรู้ถึงคนในสังคมอย่างถึงรากฐาน
     ยังมีอีกเหตุผลหนึ่งซึ่งมีความสำคัญไม่น้อยกว่ากัน  ถ้าผู้บริหารไม่ใช่เป็นคนลืมง่าย  ก็ควรจะรู้ว่าในอดีตเมื่อปี  พ.ศ.2498  ซึ่งเป็นปีที่ประเทศสยามเกิดรายการโทรทัศน์เป็นครั้งแรก  สถานีโทรทัศน์ช่อง  4  ซึ่งเปิดรายการโทรทัศน์ขึ้นภายในบริเวณวังบางขุนพรหม  ซึ่งเป็นสถานที่ตั้งของธนาคารแห่งประเทศไทยในปัจจุบัน
     ปกติเพราะฉันมีคุณธรรมและจริยธรรมอยู่ในจิตวิญญาณตัวเองอย่างเป็นธรรมชาติมาตั้งแต่อายุยังไม่มากนัก  จึงมีนิสัยรักการเขียนเผยแพร่แง่คิดเกี่ยวกับคุณธรรมและจริยธรรมใส่กระดาษแผ่นเล็กๆ  แทรกไว้ในที่ต่างๆ  ไม่ว่าตนจะทำงานเรื่องอะไรอยู่ที่ไหน
     โดยหลักธรรมแล้ว  "เพราะมีจึงต้องการระบายออก"  บังเอิญมีกระดาษชิ้นหนึ่งตกไปอยู่ในมือพลเอกสุรจิต   จารุเศรณี  อธิบดีกรมประชาสัมพันธ์  ท่านอธิบดีเห็นเข้าจึงรู้สึกประทับใจ  หลังจากนั้นจึงให้คนมาเชิญฉันไปพบ  เพื่อชวนให้มาออกรายการโทรทัศน์  ซึ่งขณะนั้นมีคุณประสงค์  หงส์สนันธ์  รองอธิบดีนั่งอยู่ด้วย
     นับได้ว่าฉันเป็นครูอาจารย์คนแรกของเมืองไทย  ที่จุดประกายความสนใจในการออกโทรทัศน์ให้แก่บรรดาครูอาจารย์คนอื่นๆ
     ฉันขอสรุปว่า  กรมประชาสัมพันธ์มาเชิญให้ฉันไปออกรายการเอง  ตั้งแต่  กบว.ยังไม่ได้เกิดขึ้น  หลังจากนั้นก็มาตัดฉันออกด้วยตัวเองโดยอ้างอำนาจ  กบว.ซึ่งกระทำไปเพราะขาดความรับผิดชอบ  จึงมีนิสัยลืมง่าย  "เมื่อลืมง่ายก็ย่อมขาดการละเว้นตามกรณี"  ที่ชอบด้วยเหตุและผล
     จึงสรุปได้ว่ากรมประชาสัมพันธ์ตบหน้าตัวเองอย่างเห็นได้ชัด  การตบหน้าตัวเองก็เท่ากับ การดูถูกตัวเองนั่นแหละ
     จึงสรุปได้ว่ากรมฯ  นี้ในอดีต  ไม่ได้ทำงานโดยเห็นแก่ประโยชน์สุขของราษฎรตาดำๆ  ซึ่งผลสรุปดังกล่าวฉันไม่ได้โทษใคร  แต่โทษการจัดการศึกษาของไทยในอดีตที่ไม่ละเว้น  ยิ่งขึ้นไปทำงานอยู่ด้านบนด้วยแล้วลงข้างล่างไม่ได้  นี่แหละที่มันลงรากฝังลึกมาจนกระทั่งถึงปัจจุบัน  จึงทำให้สังคมไทยจำต้องเดือดร้อนหนัก  เพราะคนไทยยกพวกฆ่ากันเองอย่างน่าเศร้าใจที่สุด
     สภาพที่ได้กล่าวมาแล้วทั้งหมด  ที่สะท้อนให้เห็นว่าภายในจิตใต้สำนึกของคนไทยส่วนใหญ่
"ขาดรากฐานจิตใจที่มีธรรมะ"  เมื่อไม่มีธรรมะไม่ว่าจะทำอะไรก็ตาม  ย่อมขาดการเห็นแก่ส่วนรวมภายในจิตใต้สำนึกจนกระทั่งเป็นธรรมชาติ
      นี่นับว่าเป็นส่วนหนึ่งที่สร้างปัญหาให้กับชาติบ้านเมืองมาแต่อดีต  แม้เป็นส่วนเดียวอีกทั้งยัง
เป็นส่วนเล็กๆ  แต่ฉันก็ได้นำมาพิจารณาเขียนฝากไว้ให้กับสังคมแล้วว่า  "เรื่องเล็กคือเรื่องใหญ่" 
     เช่นเดียวกันกับข้อความบทความหนึ่งในนิทานอีสป  ที่เขียนฝากไว้ให้เด็กไทยได้นำไปคิดว่า  "แม้น้ำผึ้งหยดเดียว"  อันหมายถึง  "อย่าดูถูกน้ำผึ้งว่าเพียงหยดเดียวเท่านั้น  เพราะน้ำผึ้งหยดเดียวนี่แหละที่มันทำให้เกิดสงครามกลางเมือง" 
     แม้แต่ปัญหาที่มันเกิดขึ้นแก่สังคมไทยในยุคนี้  มันก็เกิดเพราะ  "การที่คนในอดีตตกอยู่ในความประมาททำให้ขาดสติ  อีกทั้งคิดดูถูกของเล็กน้อยว่าไม่สำคัญ  จึงปล่อยปละละเลยสิ่งซึ่งในอดีตเคยเป็นปัญหาเล็กน้อย  คงปล่อยให้มันบานปลายออกมาจนกระทั่งกลายเป็นเรื่องใหญ่  ทำให้บ้านเมืองเกิดความระส่ำระสายถึงขนาดคนไทยยกพวกฆ่ากันเอง  ถึงกระนั้นจะสำนึกได้หรือเปล่าก็ยังไม่รู้"
     อย่างไรก็ตาม  แม้รายการศาลาริมสวนจะระงับไปแล้ว  แต่วิญญาณ  "สื่อ"  ที่เจริญงอกงามขึ้นมาภายในจิตใจฉันตั้งแต่เล็กแต่น้อย  มันก็คงยังลงรากฝังลึกอยู่ในจิตใจต่อไป  โดยไม่มีมนุษย์คนไหนจะมาถอนออกไปได้
     "อนิจจารายการศาลาริมสวนที่รักของทุกคน"
                                                           ระพี สาคริก
ตอบ อาจารย์ระพี
     ผมคงต้องถามคุณสาทิตย์  วงศ์หนองเตย  รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี  ที่กำกับดูแลสถานีโทรทัศน์ช่อง  11  กรมประชาสัมพันธ์  ว่าเอารายการศาลาริมสวนไปทิ้งไว้ที่ไหน  รีบเอากลับมาให้ชาวบ้านได้ดูอีก  เพราะศาลาริมสวนไม่ได้มีเฉพาะกล้วยไม้  เหมือนที่หลายๆ  คนคิด
                                                         สามวา สองศอก
                 
http://www.thaipost.net/news/030510/21642

สถาบันวิจัยจุฬาภรณ์ ปฏิเสธ ศ.ดร.อิงอร ญาณารณพ ไม่เคยเป็นและไม่ใช่เจ้าหน้าที่ของสถาบันวิจัยจุฬาภรณ์ ตามที่เป็นข่าว

ตามที่มีข่าวอ้างถึงบุคคลชื่อ “ศ.ดร.อิงอร ญาณารณพ” ว่าเป็น นักเคมีประจำสถาบันวิจัยจุฬาภรณ์  จากหัวข้อข่าว “จับ สาวก "ไพร่แดง" ซิ่งจยย.พกปืนติดเลเซอร์-ไอ้โม่ง ขัดขืนสู้ทหาร” โดย ทีมข่าวอาชญากรรม หนังสือพิมพ์ผู้จัดการ online ในเว็บไซต์ http://www.manager.co.th/Crime/ViewNews.aspx?NewsID=9530000060653 ลงวันที่ 3 พฤษภาคม 2553 เวลา 02:09 น. ตามภาพ นั้น
ขอประกาศชี้แจงว่า  “ศ.ดร. อิงอร ญาณารณพ” ไม่ใช่และไม่เคยเป็นเจ้าหน้าที่ของสถาบันวิจัยจุฬาภรณ์ ดังที่อ้างในข่าวแต่อย่างใด   
จึงขอประกาศชี้แจงมา ณ ที่นี้ 
ประกาศ ณ วันจันทร์ที่ 3 พฤษภาคม 2553 เวลา 10.30 น.
http://www.cri.or.th/en/20100503.php


ความเห็นหนึ่งเกี่ยวกับเรื่อง ตาย/ไม่ตาย ??

ความคิดเห็นที่ 46
มันเองนั่นแหล่ะ ที่ปล่อยข่าวว่ามันตายแล้ว
มันเองนั่นแหล่ะ ที่วางแผนส่งรูปตัดต่อมาให้คนหลงกล โดยคิดว่า ถ้าพิสูจน์ได้ว่ารูปตัดต่อ แปลว่า มันตายแล้ว
มัน


หัวข้อ: Re: [2513]"ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: เหยง 16 ที่ 05 พฤษภาคม 2553, 10:12:15
บทความของวันที่ 4 พฤษภาคม

บทบรรณาธิการ

แก๊งอันธพาลเสื้อแดงต้องรับผิดชอบ กับความสูญเสียบุกโรงพยาบาลจุฬาฯ (บทบรรณาธิการ)

 

 สังคมไม่อาจให้อภัยกับเหตุการณ์ที่สร้างความสะเทือนใจและความชิงชังต่อผู้คนทั้งประเทศเป็นอย่างมากก็คือกรณีที่กลุ่มกุ๊ยคนเสื้อแดงนำโดยนายพายัพ ปั้นเกตุ หนึ่งในแกนนำคนเสื้อแดงยกกำลังติดอาวุธนับร้อยคนใช้อำนาจเถื่อนบุกเข้าไปภายในโรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์แล้วเข้าตรวจค้น ซึ่งสร้างความตี่นตระหนกตกใจและโกลาหลต่อบรรดาแพทย์ พยาบาล ตลอดจนเป็นอันตรายต่อชีวิตบรรดาผู้ป่วยอาการหนักจำนวนมากที่กำลังรับการรักษาเพื่อช่วยชีวิต

 ความเลวทรามต่ำช้าและเหิมเกริมของเหล่ากุ๊ยเสื้อแดงทำให้โรงพยาบาลต้องขนย้ายผู้ป่วยซี่งมีทั้งคนชราและทารกที่อยู่ในอาการโคม่าอย่างทุลักทุเล ขณะเดียวกันก็หยุดให้บริการผู้ป่วยเนื่องจากเกรงความไม่ปลอดภัย ซึ่งสร้างความเดือดร้อนแก่ประชาชนที่เจ็บไข้ได้ป่วยจำนวนมากที่รอรับการรักษาจากโรงพยาบาล

 เหตุการณ์เลวร้ายครั้งนี้นับเป็นครั้งแรกและร้ายแรงที่สุดสำหรับโรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์นับตั้งแต่ก่อตั้งมากว่า 100 ปี และที่สำคัญก็คือโรงพยาบางแห่งนี้เป็นหน่วยงานในสังกัดสภากาชาดไทยในพระบรมราชินูปถัมภ์ และที่น่าประณามเป็นอย่างยิ่งก็คือเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นทำให้สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา สยามบรมราชกุมารีต้องทรงรับสั่งให้ย้ายสมเด็จพระสังฆราชซึ่งประทับรักษาอาการพระประชวรที่โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ไปประทับรับการรักษาที่โรงพยาบาลศิริราชแทนเพื่อความปลอดภัย

 แม้ล่าสุดจากกระแสประณามกดดันของสังคมจะทำให้เหล่าแกนนำกุ๊ยเสื้อแดงยอมเปิดเส้นทางและคืนพื้นที่บางส่วนรอบโรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ แต่ก็ยังไม่สำนึกในความผิดของตัวเองโดยยังคงยึดพื้นที่บางส่วนตั้งเป็นบังเกอร์และด่านตรวจนอกกฏหมายซึ่งเป็นอุปสรรคขัดขวางและคุกคามความปลอดภัยจนทำให้ผู้บริหารโรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ตัดสินใจยังไม่เปิดบริการคนไข้จนกว่าเหล่ากุ๊ยคนเสื้อแดงจะคืนพื้นที่ไปจนถึงแยกสารสิน

 จากเหตุกาณ์บุกโรงพยาบาลจุฬาฯของเหล่ากุ๊ยเสื้อแดงล่าสุดทำให้ผู้ป่วยอาการหนักที่ถูกขนย้ายในช่วงเกิดเหตุการณ์เสียชีวิตลงแล้ว 1 รายขณะที่อีกหลายรายมีอาการอยู่ในขั้นน่าเป็นห่วง

 โดยผู้ป่วยที่เสียชีวิตคือนายเต็งเซี๊ยะ แซ่จู วัย 68 ปีที่ถูกย้ายออกจากโรงพยาบาลขณะกำลังเข้ารับการผ่าตัดรักษาโรงมะเร็งลำไส้ ขณะเดียวกันมีผู้ป่วยวัย 70 ปีอีกท่านหนึ่งซึ่งขณะย้ายจากโรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ไปยังโรงพยาบาลเกษมราษฏร์ประชาชื่นเกิดหัวใจหยุดเต้นซึ่งแพทย์โรงพยาบาลเกษมราษฏร์ได้ปั๊มหัวใจกลับมาเต้นได้อีกครั้ง แต่ล่าสุดผู้ป่วยรายนี้กลับอาการทรุดหนักลงอีก นอกจากนี้ยังมีทารกแรกเกิดอีกอย่างน้อย 2 รายที่อยู่ในอาการน่าเป็นห่วงมาก

 จากความสูญเสียที่เกิดขึ้นทำให้ขบวนการกุ๊ยเสื้อแดงทั้งหมดสมควรถูกประณามและจะต้องแสดงความรับผิดชอบ ขณะเดียวกันก็ถือเป็นความชอบธรรมที่รัฐบาลจะดำเนินการขั้นเด็ดขาดสลายการชุมนุมของแก๊งอันธพาลเสื้อแดงที่ยึดย่านราชประสงค์เป็นแหล่งซ่องโจรคอยบ่อนทำลายชาติบ้านเมืองและคุกคามเป็นภัยต่อสาธารณชนโดยเร็วที่สุด

วันที่ 4/5/2010

http://www.naewna.com/news.asp?ID=209706

ไร้สำนึก
•   บทบรรณาธิการ                                                               4 พฤษภาคม 2553 - 00:00
  การเจรจาขอพื้นที่ถนนราชดำริจากแยกศาลาแดงไปจนถึงแยกสารสินคงไม่เป็นผลสำเร็จ  เนื่องจากแกนนำคนเสื้อแดงยังมองประโยชน์ฝ่ายตนเป็นหลัก   ไม่สนใจว่าสาธารณะจะได้ประโยชน์หรือไม่  เพราะแกนนำคนเสื้อแดงไม่ได้ใส่ใจเรื่องสิทธิมนุษยชนแม้แต่น้อย
     เท่าที่ปรากฏเป็นข่าว  แกนนำคนเสื้อแดงให้เหตุผลด้านความปลอดภัยของผู้ชุมนุมมากกว่าความสะดวกในการเข้าถึงโรงพยาบาลของผู้ป่วย  และความสบายใจในการปฏิบัติหน้าที่ของบุคลากรทางการแพทย์ 
     ทำไมแกนนำคนเสื้อแดงต้องการคงไว้ซึ่งบังเกอร์ตั้งแต่ริมถนนพระราม  4  รอบพระบรมราชานุสาวรีย์  ร.6  ริมถนนราชดำริ  ไปจนถึงจุดกลับรถจุดแรกบนถนนราชดำริ  การรบกวนการรักษาพยาบาลเช่นนี้เกี่ยวข้องอะไรกับการต่อสู้ประชาธิปไตย  และทำไมคนเสื้อแดงถึงถอยบังเกอร์ไปจนถึงสามแยกสารสินไม่ได้
     คำตอบจะง่ายมาก  ถ้าการเรียกร้องของคนเสื้อแดง  คือ  การเรียกร้องให้ได้มีซึ่งประชาธิปไตยอย่างแท้จริง  แต่เพราะการเรียกร้องครั้งนี้ไม่เกี่ยวกับประชาธิปไตย  เป็นการเรียกร้องเพื่อให้มีการเปลี่ยนอำนาจ  โดยมีกองกำลังไม่ทราบฝ่ายร่วมต่อสู้เป็นคู่ขนาน  สำคัญไปกว่านั้น  แกนนำคนเสื้อแดงถือเอาว่า  ถนนราชดำริ  คือ  สนามรบ  พวกเขาจึงไม่อาจถอยมากไปกว่านี้ได้อีกแล้ว
     สภาพโดยทั่วไปของบังเกอร์ที่คนเสื้อแดงร่วมกันสร้างขึ้นมา  คือ  สิ่งที่อธิบายได้ทั้งหมดว่า  ทำไม  ศ.นพ.อดิศร  ภัทราดูลย์  ผู้อำนวยการโรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์  ต้องการให้คนเสื้อแดงถอยแนวบังเกอร์ไปจนถึงสามแยกสารสิน  ซึ่งขณะนี้แนวบังเกอร์ทั้งหมดก็ยังคงอยู่คนละฟากถนนกับโรงพยาบาล  นั่นคือ  แนวรบที่คนเสื้อแดงวางเอาไว้  เป็นแนวรบที่ยังคงอยู่คนละฟากถนนกับโรงพยาบาล  นี่คือ  ความไม่สบายใจของบุคลากรทางการแทพย์โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์
     เหมือนมีแนวรบอยู่หน้าบ้าน  หากมีการสลายการชุมนุม  หรือบางคนอาจจะบอกว่าสงครามกลางเมือง  ขี้นมาเมื่อไหร่  จุดนั้นคือแนวปะทะระหว่างทหาร-ตำรวจ  กับ  คนเสื้อแดง-กองกำลังไม่ทราบฝ่าย  สิ่งที่จะตกเป็นข่าว  คือ  โรงพยาบาลถูกลูกหลง  อาจจะเกิดความสูญเสียทั้งชีวิตและทรัพย์สินขึ้น  และไม่มีทางที่แกนนำคนเสื้อแดงจะออกมาแสดงความรับผิดชอบ  ด้วยข้ออ้างไม่ใช่มติของแกนนำ  และไม่รู้ไม่เห็นปฏิบัติการของกองกำลังไม่ทราบฝ่าย
     ในพื้นที่การชุมนุมของคนเสื้อแดง  ณ  เวลานี้  มีการใช้พื้นที่เกินความต้องการเพื่อเรียกร้องประชาธิปไตยอยู่มากพอสมควร  บริเวณโดยรอบบรมราชานุสาวรีย์  ร.6  ถือเป็นพื้นที่ส่วนเกินด้วยซ้ำ  หากแกนนำจะยุบส่วนนี้ถอยไปรวมกันหลังแนวแยกสารสิน  ก็ไม่น่าจะส่งผลต่อการชุมนุมแต่อย่างใด  เพราะพื้นที่ดังกล่าวยังอยู่ในสภาพหลวมๆ
     นั่นคือ  เหตุผลด้านสิทธิมนุษยชนที่ทางโรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ต้องการให้เป็น  เช่นเดียวกัน  แกนนำคนเสื้อแดงก็มีเหตุผลในการตั้งรับการสลายการชุมนุม  โดยไม่ให้น้ำหนักเรื่องสิทธิมนุษยชน  ซ้ำร้ายแกนนำคนเสื้อแดงยังโจมตีด่ากราดว่า  โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ร่วมมือกับรัฐบาลกดดันคนเสื้อแดงให้เลิกชุมนุม
     คนเสื้อแดงไม่พอใจอย่างมากกับภาพการขนย้ายผู้ป่วยไปยังโรงพยาบาลอื่น  รวมถึงไม่พอใจที่โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ยังไม่กลับมาให้บริการเต็มรูปแบบ  แต่คนเสื้อแดงไม่เคยใส่ใจว่าตนเองเป็นต้นเหตุของปัญหาหรือไม่  ซ้ำร้ายยังมีพฤติการณ์ไร้สำนึกอย่างต่อเนื่องตั้งแต่เริ่มแรก
     การอ้างว่ามีทหารอยู่ในโรงพยาบาลโดยยืนยันด้วยภาพถ่าย  และพรรคเพื่อไทยนำภาพถ่ายนี้ไปขยายผลทางการเมือง   ผลการพิสูจน์ก็ออกมาจากศูนย์อำนวยการแก้ไขสถานการณ์ฉุกเฉิน  (ศอฉ.)  แล้วว่า  เป็นรายการแหกตา  ทั้งคนเสื้อแดงและพรรคเพื่อไทยนำความเท็จมาใช้ประโยชน์ทางการเมือง  มีการพิสูจน์พบว่าภาพถ่ายที่คนเสื้อแดงและพรรคเพื่อไทยนำมากล่าวอ้างนั้น   เป็นภาพถ่ายของทหารบริเวณลานจอดรถอาคารชาญอิสระซึ่งอยู่คนละฟากถนนพระราม  4    กับโรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์
     ภาพถ่ายนี้ถ้าคนเสื้อแดงและพรรคเพื่อไทยได้มาอย่างสุจริตและเชื่อโดยสุจริตใจว่า  เป็นภาพที่ถ่ายได้ในโรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์จริงก็ควรตรวจสอบให้แน่ชัดว่า  สิ่งที่เชื่อนั้นคือความจริงหรือไม่ก่อนที่จะพาพวกบุกค้นโรงพยาบาล  เพราะถ้าหากรู้จักค้นหาความจริงกันเสียบ้าง  เหตุบุกค้นโรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์คงจะไม่เกิดขึ้น  และไม่ต้องมาแก้ตัวว่าไม่ใช่มติแกนนำ  แต่ก็แสดงให้เห็นว่าการต่อสู้ของคนเสื้อแดงล้วนใช้ความเท็จเป็นที่ตั้ง
     หากพวกเขารู้แต่ต้นแล้วว่า  ภาพนี้ไม่มีอะไรเกี่ยวข้องกับโรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์  แต่ต้องการนำมาเป็นข้ออ้างในการเข้ารื้อค้นจะถือเป็นพฤติกรรมเลวทรามต่ำช้า  ไร้สำนึกต่อส่วมรวมอย่างสิ้นเชิง  ยากที่จะให้อภัย 
     แกนนำคนเสื้อแดงต้องออกมาชี้แจงเรื่องภาพถ่ายนี้  ต้องให้รายละเอียดว่า  ที่แกนนำคนเสื้อแดงทำผิดซ้ำแล้วซ้ำเล่านั้น  เกิดจากอะไร  อย่าโยนความผิดที่เกิดขึ้นบ่อยครั้งเพียงว่า  ฝีมือแดงเทียม  หรือไม่ใช่มติแกนนำ  ก่อนที่จะทำผิดมากไปกว่านี้.

http://www.thaipost.net/news/040510/21716

ข้อเสนอสุดท้ายก่อน"จับตายยกแก๊ง"
•   เปลว สีเงิน                                                                         4 พฤษภาคม 2553 - 00:00
   พรุ่งนี้-๕  พฤษภาคม  เป็นวันฉัตรมงคล  วันที่  "สมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดช"
เสด็จขึ้นครองสิริราชสมบัติ  ถ้านับจากวันที่  ๙  มิถุนายน  ๒๔๘๙  อันเป็นวันที่  "นายปรีดี  พนมยงค์"  เป็นผู้ประกาศในฐานะนายกรัฐมนตรีขณะนั้น  ถึง  ณ  วันนี้ก็  ๖๐  ปีพอดี
     แต่ถ้านับจากวันประกอบพระราชพิธีบรมราชาภิเษก  เฉลิมฉลองเป็นทางการตามโบราณราชประเพณี  และทรงใช้พระนามเต็มว่า  "พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว"  เมื่อทรงเจริญพระชนมพรรษาครบ  ๒๐  พรรษาบริบูรณ์  ณ  วันที่  ๕  พฤษภาคม  ๒๔๙๓  ถึงวันนี้  ๕  พฤษภาคม  ๒๕๕๓  ก็สิริวัฒนาสถาพร  ๖๔  ปีพอดี
     ดังนั้น   ทุกวันที่  ๕  พฤษภาคม  ของทุกปี  จึงเป็นวัน  "ฉัตรมงคล"  ฉัตร  ๙  ชั้น  "นพปฏลเศวตฉัตร"  ณ  รัชกาลที่  ๙  เรื่อยมา  และตามพระราชพิธีฉัตรมงคลอันปรากฏต่อเนื่องมานั้น  จะมี  ๓  วัน  คือ  วันที่  ๓-๔-๕  ณ  พระบรมมหาราชวัง  ก็ที่  "วัดพระแก้ว"  นั่นแหละครับ
     เมื่อวานนี้  พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว  ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ  ให้  สมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ  สยามมกุฎราชกุมาร  เสด็จฯ  แทนพระองค์  ทรงประกอบพระราชกุศลทักษิณานุประทาน  ณ  พระที่นั่งอมรินทรวินิจฉัย  อุทิศถวายแด่พระบรมราชบุรพการี
     วันนี้  ที่  ๔  พฤษภาคม  จะเริ่มพระราชพิธีฉัตรมงคล  หัวหน้าพราหมณ์จะอ่านประกาศพระราชพิธี  พระสงฆ์เจริญพระพุทธมนต์เย็น
     และวันพรุ่งนี้  ที่  ๕  พฤษภาคม  เป็นวันฉัตรมงคล  มีงานเลี้ยงพระ  และสมโภชเครื่องราชกกุธภัณฑ์  ตอนเที่ยง  ทหารบก-เรือ-อากาศ  จะยิงปืนใหญ่เฉลิมพระเกียรติฝ่ายละ  ๒๑  นัด  ที่ท้องสนามหลวง
     ครับ...ก็เอามาบอกให้ทราบกันไว้เป็นประจำทุกปี  สำหรับท่านที่จะไปเฝ้าแหนถวายความจงรักภักดีต่อพระองค์  และพระบรมวงศานุวงศ์  พร้อมทั้งเปล่งเสียงถวายพระพรชัย  จะได้ไปกันถูกที่-ถูกเวลา
     บ้านเมืองไทย  เป็นเมืองมีเทพทุกเหล่าชั้นรักษาเป็นมหามงคลชัย  ดังนั้น  การสวดมนต์อันว่าด้วยการสรรเสริญพระพุทธคุณ  พระธรรมคุณ  และพระสังฆคุณ  ในพุทธศาสนา  และการตั้งจิต-สงบใจเป็น  "พลังบริสุทธิ์"  ด้วยศรัทธาถึง  "พระผู้เป็นเจ้า"  อันยิ่งใหญ่ในแต่ละศาสนานั้น
     พลังที่เกิดจากจิตเข้มแข็งมารวมกัน  นั่นเรียกว่า  "พลังมหาประชาชาติ"  ย่อมมีฤทธานุภาพ  "ปราบมาร"  แน่นอน!
     เอาในส่วนที่แนะนำได้นะครับ  ด้วยบทสวดมนต์ที่ผมแจกไปเองบ้าง  มาขอจึงแจกให้ไปบ้าง  หวังว่าแต่ละท่านคงได้ใช้บทสวด  อย่างน้อยก็บท  อิติปิโส-พาหุง-มหากา  สวดเป็นมนต์สงบจิต-รวมใจประจำวันต่อเนื่องกันดีอยู่นะครับ  "สวดมนต์เป็นยาทา  วิปัสสนาเป็นยากิน"  หลวงพ่อจรัญ  วัดอัมพวัน  สิงห์บุรี  ท่านเคยบอกกับญาติโยมอย่างนี้
     ประเทศไทย-คนไทย  ตอนนี้กำลังป่วย  ฉะนั้น  ถ้าใครยังไม่สามารถไปถึงขั้นยากิน  ก็ใช้ยาทา  คือการสวดมนต์ภาวนาไว้เป็นประจำ  นั่นก็ช่วยให้หายโรค-พ้นภัยได้อยู่  อย่างหลายวันก่อน  เจอท่าน  "บรรพต  หงษ์ทอง"  อดีตปลัดกระทรวงเกษตรฯ  ดูหน้าตาท่านผ่องใส  ผิดกับข้าราชการเกษียณใหม่ๆ  บางท่านที่เคยพบ
     ถามตามมรรยาทว่า  "สบายดีนะท่าน"  ท่านก็ตอบว่า  สบายดีมาก  โดยเฉพาะใจ  เกษียณแล้วก็ไม่ได้ไปทำอะไร   นอกจากทำงานโครงการถวาย  "สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ  สยามบรมราชกุมารี"  จากนั้น  แต่ละคืนก็สวดมนต์ก่อนนอน  จะสวดพาหุง-มหากา  แล้วต่อด้วย  "มหาสมัยสูตร"
     ผมก็ร้อง  โอ้โฮ...ท่านสวดบท  "มหาสมัยสูตร"  เลยเชียวหรือ?
     ท่านก็..."อืมมม  พี่  ผมสวดทุกคืน  ไหน.....ใครว่าเทวดาไม่มีจริง  ในบทมหาสมัยสูตร  สวดแล้วเทวดาเหาะลงมาฟังกันเยอะแยะเลย"
     แสดงว่าท่านพูดจริง-ทำจริง  และใช้บทสวดมหาสมัยสูตรที่มีคำแปลจึงทราบละเอียด  แต่ถ้าสักแต่ว่าสวดโดยไม่ศรัทธาแน่วแน่  ท่านคงไม่เล่าให้ผมฟังเป็นตุเป็นตะ  เพราะมหาสมัยสูตรนั้น  นอกจากเป็นบทสวดที่ยาวมากแล้ว  ยังยากในการอ่านด้วย  ใครไม่มุ่งมั่น  และไม่บากบั่นสวดเป็นประจำจนคล่องปากจริงๆ  ต้องทิ้งกลางคันแน่นอน
     ผมเคยแจกไปหลายรอบแล้วนะครับ   สำหรับหนังสือสวดมนต์ทั้งฉบับที่มี  "มหาสมัยสูตร"  ของท่านพระมหาเทอด  วงศ์ชะอุ่ม  วัดสระเกศ  และที่มีเฉพาะ  พาหุง-มหากา  โดยคุณแม่วาณี  ล่ำซำ  ท่านเป็นผู้จัดหามามอบให้  ฉะนั้น  คงไม่ต้องนำเรื่องราว  และอานิสงส์ของการ
สวดมนต์มาบอกอีก
     ไหนๆ  ก็คุยเรื่องนี้แล้ว  เมื่อสัปดาห์ก่อน  ท่านผู้ว่าฯ  ททท.  "คุณสุรพล  เศวตเศรณี"  และผู้หลักผู้ใหญ่อันเป็นคณะบริหารของท่านผ่านมาทางคลองเตย  ท่านก็แวะเยี่ยม  ปกติผมก็ไม่เคยพบท่าน  แต่ชอบที่ท่านมองทะลุถึง  "จุดแข็ง-จุดขาย"  ที่ไม่มีวันตายของการท่องเที่ยวไทย  คือ  "วัด"
     พอท่านขึ้นเป็นผู้ว่าฯ  ททท.ท่านก็ชักชวนทั้งคนไทยและคนเทศด้วยโครงการ  "ทัวร์ไหว้พระ  ๙  วัด"  เหมือนการตั้งนะโมก่อนจะทำงานให้เป็น  "มงคลชัย"  ของประเทศชาติ  คือการประกอบพิธีกรรมทุกอย่างนั้น  ถ้าท่านสังเกตจะเห็นว่าต้องเริ่มต้นด้วยการ  "ตั้งนะโม"  ก่อน  ถ้าสวดอะไรไม่ตั้งนะโมก็ไม่ขลัง  เขาถือกันอย่างนั้นนะครับ
     นี่ก็เหมือนกัน   ททท.เป็นหน่วยงานที่สร้างเงินเข้าประเทศโดยไม่ต้องลงทุนเป็นวัตถุคงที่  ถ้าเริ่มด้วยวัดสำคัญตามประวัติศาสตร์ชาติไทยเช่นนี้  เท่ากับผู้ว่าฯ  ททท.คนใหม่ทำงานด้วยการตั้งนะโม  "ยึดรากแก้ว"  ประเทศไทย  ย่อมมีชัย  ทุกอย่างจะสำเร็จเป็นผลแก่ชาติตามเป้าหมายแน่นอน!
     พอเห็นหน้า  และเห็นดวงตาของท่านก็เข้าใจ  ผมเลยค้น  "หนังสือบทสวดมนต์"  ฉบับที่มีคำแปลของพระมหาเทอดแจก  เพราะท่านบอกว่า  ปกติก็ชอบสวดมนต์  สวดแล้วหลับสบาย-ใจสงบ  เจอผู้นำองค์กรสังคมงานถึงเป็นคนสมัยใหม่  แต่ใจมีแกนยึดในชาติ  พระศาสนา  และพระมหากษัตริย์  เช่นนี้
     ผมไม่รู้จะแสดงออกซึ่งความถูกอก-ถูกใจแบบไหนดี  มีหนังสือสวดมนต์นี่แหละแทนใจ-ให้ท่าน!
     เอ้า...ก็คุยนอกหัวข้อสนทนาที่ท่านทั้งหลาย  "ใจจด-ใจจ่อ"  อยู่กับเรื่องกบฏบ้าน-กบฏเมืองใช่มั้ย  วัน-สองวันนี้  พยายามทำใจให้ปลอดโปร่ง-โล่งสบายไว้เถอะครับ  ปล่อยวางกันซะบ้าง  ทุกอย่างที่มันหนักบนบ่า-คาอยู่ในใจ  เพราะเราเอามาแบกไว้บนบ่าเองตะหาก  เอาวางลงซะ  มันก็หายหนักเองแหละ
     คุณอภิสิทธิ์นั้น  ด้วยความเป็นนายกฯ  ของท่าน  บนบ่านอกจากแบกศีรษะแล้ว  ท่านยังแบกประเทศ  และแบกเสียงด่าคนทั้งประเทศไว้ด้วย  ไม่ให้กำลังใจ  ก็เห็นใจคนอยู่ในฐานะนั้นบ้างเถอะครับ  คนที่อยู่ในตำแหน่งบริหารนั้น  การ  "บริหารงาน"  น่ะเรื่องขี้ผง  แต่สิ่งที่นักบริหารทั้งโลกยอมรับว่า  "ยากที่สุด"  คือ
     งาน  "บริหารใจคน"!?
     ถ้า  "ขึ้นภูดูเสือกัดกัน"  หลังจากพวกกบฏ  "บุกโรงพยาบาลจุฬาฯ"  ก็เห็นชัดว่า  แพ้ราบคาบทั้งในสนามรบ  และนอกสนามรบคือมวลชนทั่วไป  ไม่เฉพาะคนไทย  คนทั้งโลกเมื่อดูข่าว  "ไม่มีใครเอาเสื้อแดงแล้ว"
     มีทั้งอดีตนายกฯ  ตั้ง  ๒  คน  มีทั้งนักวิชาการ  มีทั้งอาจารย์มหาวิทยาลัยทั้งจุฬาฯ-ธรรมศาสตร์   มีทั้ง  ส.ส.  ทั้งอดีตรัฐมนตรี  ทั้งแพทย์  ทั้งพวกหัวโล้นห่มเหลือง  มีทั้งตำรวจ  มีทั้งทหาร  มีทั้งอดีตตุลาการใหญ่  มีทั้งข้าราชการ  "ใน-นอกราชการ"  ที่รวมกันเป็นขบวนการกบฏภายในราชอาณาจักร  "รับจ้างทักษิณ"  ล่มเมือง
     เรียกว่า  "เป็นผู้เจริญแล้ว"  ทางการศึกษา  ทางหน้าที่การงานทั้งนั้น  แต่ป่าเถื่อน  เลวทราม   "ทางด้านจิตใจ"  หมามันยังใจประเสริฐกว่า  ไม่เข้าไปกัดกันในเขตโรงพยาบาล  แต่พวกกบฏทักษิณ  "บุกโรงพยาบาล"  โกลาหลอลหม่านถึงขั้น  "ปิดโรงพยาบาล"  ย้ายคนไข้  กระทั่ง  "สมเด็จพระสังฆราช"  ก็ยังต้องทรงย้ายทั้งสายยางไปประทับรักษา  ณ  โรงพยาบาลอื่น
     ทั้งที่โรงพยาบาลจุฬาฯ  นั้นเป็นสถานแห่ง  "สภากาชาดไทย"  แต่พวกไพร่สถุลทาสทักษิณ  ถ่อย-เถื่อน  ไม่รู้ความอะไรทั้งสิ้น  ที่อ้างทวงหาประชาธิปไตย  แต่ที่ทำลงไป  มันบอกชัดว่า...นี่มันมหาโจร  ไม่ใช่มาหาประชาธิปไตยตรงไหนเลย!
     ที่นายกฯ  อภิสิทธิ์ประกาศแผนปรองดองด้วยกำหนดเลือกตั้ง  ๑๔  พฤศจิกา  คือกันยา."ยุบสภา"  ตามเค้าโครง  "๖  เดือนยุบสภา"  และจะออกกฎหมายนิรโทษกรรมเฉพาะ  "คดีการเมือง"  ให้นั้น  ถือเป็น  "รูให้ลอด"  รูสุดท้าย
     ถ้าพวกแกนนำทั้งหลายไม่ยอมคลานออกทางรูนี้ด้วยการ  "ยุติการชุมนุม"  บอกได้คำเดียว  หลังวันที่  ๕  พฤษภา  ไป
     พวก  "หัวโจก"  โทษตายสถานเดียว!?
     ส่วนชาวบ้านที่ถูกหลอกใช้  ไม่ต้องกลัวโทษภัย  ฝนฟ้ามาแล้ว  กลับบ้านไปผูกแอก-ผูกไถ  คราด  หว่าน  ดำเนินชีวิตกันไปตามปกติเถิด!
     การเมืองช่วงนี้ปล่อยเป็นเรื่องการเมืองเขา  ดีไหมครับ  ส่วนชาว  FB  ทั้งหลาย  ใน  ๒  วันนี้  ไปช่วยกันทำหน้าที่  "ลูกที่ดีของประเทศชาติ"  เนื่องในวันฉัตรมงคลกันเถอะ  หนังเรื่องนี้ยังไม่จบ  เพียง  "หยุดพักครึ่งเวลา"  ด้วยเงื่อนไขนิรโทษกรรมเฉพาะคดีการเมืองจะถูกยกมาเป็นเรื่อง  "หาเหตุ"  ประเภทม้าอารี  และนี้คือ  "ช่วงครึ่งหลัง"  ฉะนั้น  ถ้าหวังสงบ  จงเตรียมรบให้พร้อมสรรพ.

http://www.thaipost.net/news/040510/21717

พักยก...ไปตามหาเรือโนอาห์
•   ท่านขุนน้อย
4 พฤษภาคม 2553 - 00:00
  มาถึงขั้นนี้...เห็นทีคงเลี่ยงไม่พ้นที่จะต้องทะลุออกไปนอกโลก  นอกจักรวาล  กันบ้างแล้ว  เนื่องจากถ้าหากยังคงวนไป  วนมา  อยู่กับเรื่องของบ้านเมือง  ยังไงๆ  ก็คงอดไม่ไหวที่จะต้องละลาบ  ละล้วง  จ้วงจาบ  ไล่จิก  ไล่ด่า  ตั้งแต่ท่านนายกรัฐมนตรี  ลงมายันถึงมนุษย์พันธุ์พิเศษอย่างผู้บัญชาการทหารบก  ผู้ซึ่งสามารถอยู่เฉยๆ  เบิ่งตาดูฟ้าถล่ม  ดินทลายโดยไม่ได้คิดจะขยับเขยื้อนอะไรเลย  ปานประดุจอวัยวะทุกๆ  ส่วนในร่างกาย  ได้แปรสภาพเป็น  สากกะเบือ  ทั้งแท่งไปเรียบร้อยแล้ว...
               --------------------------------------
     เอาเป็นว่า...เพื่อไม่ให้ต้องเบียดเบียนเพื่อนมนุษย์ด้วยกันเอง  วันนี้ลองเตลิดเปิดเปิงหันไป  ตามหาเรือโนอาห์  กันดีกว่า  อันเนื่องมาจาก  ข่าวคราวที่รายงานโดยสำนักข่าวต่างประเทศในช่วงไม่กี่วันที่ผ่านมา   และเว็บไซต์  คมชัดลึก  ได้นำมาถ่ายทอดเอาไว้แต่เพียงสั้นๆ  โดยระบุว่าคณะสำรวจชาวฮ่องกงและชาวตุรกีกลุ่มหนึ่ง  ซึ่งก็ไม่รู้ว่าประกอบไปด้วยใครต่อใครกันบ้าง  แต่อ้างว่าสามารถค้นพบ  ซากเรือโนอาห์  ที่ถูกเล่าขานเป็นตำนานปรัมปราเอาไว้ในพระคัมภีร์ไบเบิล  ว่าด้วยเหตุการณ์น้ำท่วมโลกเมื่อยุคอดีตบริเวณพื้นที่เทือกเขา  อารารัต  อันมีที่ตั้งอยู่ระหว่างพรมแดนประเทศตุรกีและประเทศอิหร่านในทุกวันนี้...
             ------------------------------------------
     สำหรับตำนานเรื่องเรือโนอาห์ในพระคัมภีร์ไบเบิลนั้น...โดยสรุปคร่าวๆ  ก็คงประมาณว่า   ในยุคอดีตอันไกลโพ้นซึ่งจะเป็นช่วงไหนก็มิอาจสรุปได้โดยชัดเจน  พระเจ้าผู้ทรงสร้างโลก  และสร้างมนุษย์ขึ้นมา  จู่ๆ  ก็ทรงบังเกิดความเศร้าเสียใจแบบสุดๆ  เพราะรู้สึกว่ามนุษย์ที่พระองค์สร้างขึ้นมานั้น  นับวันจะเป็นอะไรที่ชั่วร้าย  เลวทราม  อาจพอๆ  กับมนุษย์ในยุคนี้หรือไม่?  เพียงใด?  ก็มิอาจทราบได้  หรือ  ทรงเห็นว่าความชั่วช้าของมนุษย์  มีมากมายบนแผ่นดิน  และทรงเห็นว่าเค้าความคิดในใจของเขา  ล้วนแล้วแต่เป็นเรื่องร้ายเสมอไป  พระองค์จึงตัดสินใจ  ที่จะกวาดล้างทุกสิ่งทุกอย่างบนโลก  ด้วยการทำให้น้ำท่วมโลก  ยกเว้นแต่ชายคนหนึ่งที่ชื่อว่า  โนอาห์  เท่านั้น  ที่พระองค์ยังเห็นว่าเป็นผู้ประพฤติดี  มีศีลธรรม  เป็นที่โปรดปรานในสายตาของพระเจ้า  จึงทรงมาบอกให้  โนอาห์  ต่อเรือขึ้นมา  เพื่อนำพาตัวเอง  และครอบครัว  ตลอดไปจนฝูงสิงสาราสัตว์เข้าไปอยู่ในเรือ  ก่อนจะดลบันดาลให้น้ำท่วมโลกทั้งโลก...
          -------------------------------------------------
     ลักษณะเรือของโนอาห์   ซึ่งสร้างขึ้นมาตามคำแนะนำของพระเจ้า  ถูกบรรยายเอาไว้ดังนี้  เจ้าจงต่อนาวาด้วยไม้สนโกเฟอร์  แล้วทำเป็นห้องๆ  และยาชันทั้งข้างใน  ข้างนอก  จงต่อนาวาตามแบบนี้คือ  ยาวสามร้อยศอก  กว้างห้าสิบศอก  สูงสามสิบศอก  จงทำช่องข้างบนนาวาให้สูงศอกหนึ่ง  จงตั้งประตูนาวาที่ด้านข้าง  และทำดาดฟ้าที่ชั้นล่าง  ชั้นที่สอง  และชั้นที่สาม  และด้วยเรือลำนี้นี่เอง  ที่นำพาโนอาห์  ครอบครัว  ตลอดไปจนถึงฝูงสัตว์ชนิดต่างๆ  ลอยเท้งเต้งไปในช่วงตลอดระยะเวลา  150  วันระหว่างที่เกิดน้ำท่วม  จนเมื่อถึง  ณ  วันที่สิบเจ็ดของเดือนที่เจ็ด  นาวาก็ค้างอยู่บนเทือกเขาอารารัต  และน้ำนั้นก็ลดลงเรื่อยไปจนถึงเดือนที่สิบ  ยอดภูเขาก็โผล่ขึ้นมา
          -------------------------------------------------
     ตำนานเรื่องนี้จะมีเค้าโครงความจริงหรือไม่?  อย่างไร?  ก็ยากที่จะพิสูจน์ได้ชัดๆ  แต่พอจะเป็นที่รับรู้กันโดยทั่วไปว่า  เรื่องราวว่าด้วยเหตุการณ์น้ำท่วมโลกในยุคอดีตนั้น  เป็นเรื่องที่มักถูกนำมาเล่าขานในทุกๆ  สังคม  หรือทุกๆ  อารยธรรม  โดยเฉพาะในอารยธรรมสุเมเรียน  อันถือเป็นอารยธรรมเริ่มแรกในประวัติศาสตร์มนุษย์  ก็มีเรื่องราวที่ถอดแบบกันมา  ในชนิดแทบจะเป็นพิมพ์เดียวกันกับเรื่องราวของเรือโนอาห์  ซึ่งได้ถูกบันทึกเอาไว้ใน  มหากาพย์กิลกาเมช  เพียงแต่ชื่อของตัวละคอน  อาจจะแตกต่างกันไปตามลักษณะภาษา...
       ------------------------------------------------------
     อย่างไรก็ตาม...ข่าวคราวการค้นพบซากเรือโนอาห์ในพื้นที่ที่เรียกกันว่าภูเขา  อารารัต นั้น  อันที่จริงก็ไม่ได้เพิ่งจะมาเกิดขึ้นในช่วงไม่กี่วันที่ผ่านมา  เพราะตั้งแต่เมื่อ  40  กว่าปีที่แล้ว  หรือเมื่อประมาณปี  ค.ศ.1959  เคยมีนายทหารชาวตุรกีรายหนึ่ง  ชื่อว่า  ลฮาน  ดูรูพินาร์  (Llhan  Durupinar)  ผู้มีหน้าที่ตรวจสอบแผนที่ภาพถ่ายทางอากาศในอาณาบริเวณต่างๆ  ของประเทศตุรกี  ได้เคยค้นพบภูมิทัศน์รูปทรงแปลกๆ  ที่มีลักษณะคล้ายๆ  ลำเรือ  มีขนาดใหญ่พอๆ  กับสนามฟุตบอล  ลาดเอียงอยู่บริเวณแนวหินขรุขระของเทือกเขาอารารัต  ในระดับความสูงประมาณ  6,300  ฟุตจากน้ำทะเล  และตัดสินใจส่งภาพถ่ายเหล่านี้ไปให้ผู้เชี่ยวชาญรายหนึ่ง  ชื่อว่า  ด.ร.  แบรนเดนเบอร์เกอร์  (Brandenburger)  แห่งมหาวิทยาลัยโอไฮโอ  ผู้มีชื่อเสียงมาจากกรณี  การค้นพบที่ตั้งขีปนาวุธนิวเคลียร์ของสหภาพโซเวียตในประเทศคิวบา  ได้จากแผนที่ภาพถ่ายทางอากาศในช่วงยุคสงครามเย็น  เพื่อให้ช่วยพิสูจน์ตรวจสอบกันอีกเที่ยวหนึ่ง...
             -------------------------------------------
     และจากข้อสรุปของ  ด.ร.  แบรนเดนเบอร์เกอร์  ก็ได้ก่อให้เกิดข่าวคราวฮือฮาระดับโลกมาแล้วครั้งหนึ่ง  ถึงขั้นที่นิตยสารซึ่งมีชื่อเสียงระดับโลกอย่าง  ไลฟ์  แมกกาซีน  นำเอาภาพเหล่านี้ไปขึ้นปก  พร้อมกับคำพาดหัวว่า  นี่คือเรือโนอาห์จริงๆ  หรือเปล่า???  เนื่องจากผู้เชี่ยวชาญรายนี้ได้  ฟันธง  ลงไปทันทีว่า  ภูมิทัศน์ดังกล่าวไม่ได้เป็นสิ่งที่เกิดขึ้นเองโดยธรรมชาติ  แต่เป็นร่องรอยของซากเรือ  อันเป็นสิ่งที่เกิดจากฝีมือมนุษย์อย่างไม่พึงต้องสงสัย  คณะสำรวจชาวอเมริกันและนายทหารตุรกีอย่าง  ดูรูพินาร์  จึงร่วมเดินทางเข้าไปสำรวจพื้นที่บริเวณดังกล่าวในช่วงปี  ค.ศ.1960  โดยพยายามค้นหาร่องรอย  หลักฐานใดๆ  ก็ตาม  ที่สามารถใช้เป็นเครื่องพิสูจน์ว่า  รูปร่างลักษณะภูมิทัศน์ดังกล่าวนั้น  เกิดขึ้นจากฝีมือมนุษย์  ไม่ใช่เป็นแค่ปรากฏการณ์ทางธรรมชาติเท่านั้น  แต่ก็ไม่ได้พบหลักฐานใดๆ  พอที่จะใช้เป็นข้อพิสูจน์  ยืนยันถึงสมมุติฐานดังกล่าวได้อย่างเป็นจริงเป็นจัง  ข่าวคราวเหล่านี้ก็เลยค่อยๆ  จางหายไปจากความสนใจของสาธารณชนมานับตั้งแต่นั้น...
          ------------------------------------------------
     จนกระทั่งเมื่อถึงปี  ค.ศ.1977  ได้มีคณะสำรวจอีกกลุ่มหนึ่ง  นำโดยนาย  รอน  ไวแอทท์  (Ron Wyatt)  ได้รับอนุญาตจากทางการตุรกี  ให้เข้ามาสำรวจหาร่องรอยเรือโนอาห์พื้นที่ในบริเวณนี้กันอีกครั้ง  ซึ่งคราวนี้คณะสำรวจชุดดังกล่าว  ได้ตระเตรียมเครื่องมือ  อุปกรณ์ต่างๆ   มาเป็นอย่างดี  ไม่ว่าจะเป็นอุปกรณ์ตรวจจับวัตถุโลหะ  เครื่องเรดาร์สแกนวัตถุใต้พื้นดิน  ที่เรียกกันว่า  GPR  (Ground  Penetrating  Radar)  รวมทั้งการตรวจวัตถุด้วยกระบวนการทางเคมี  ฯลฯ  เรียกว่า..ได้นำเอาห้องทดลองทางวิทยาศาสตร์เข้ามาใช้ในการพิสูจน์  สิ่งที่เชื่อว่า  เป็นซากเรือโนอาห์อย่างเป็นระบบ  และรายงานผลพิสูจน์  ซึ่งคณะสำรวจชุดนี้ค่อยๆ  ทยอยสรุปออกมา  ในแต่ละช่วง  แต่ละระยะ  ได้ก่อให้เกิดความตื่นตะลึงต่อสาธารณชนมาก่อนหน้าที่  คณะสำรวจชาวฮ่องกงจะประกาศว่าได้ค้นพบเรือโนอาห์  ตามข่าวซึ่งปรากฏไปเมื่อวันสองวันมานี้...ส่วนรายละเอียดดังกล่าวจะเป็นไปเช่นไร?  ชัวร์  หรือ  มั่วนิ่ม  คงต้องไปว่ากันต่อในวันพรุ่งนี้อีกที...
          -------------------------------------------------
     ปิดท้ายด้วยวาทะวันนี้  จาก  จี.เฮอร์เบิร์ต...ความเป็นคนใหญ่คนโต...กับ...ความเป็นคนดี  มักไม่เหมือนกัน...
          ------------------------------------------------

http://www.thaipost.net/news/040510/21697

แตงโม-มะเขือเทศ
•   ถูกทุกข้อ                                                                            4 พฤษภาคม 2553 - 00:00
     ทหารแตงโมตำรวจมะเขือเทศ
     มันทุเรศสิ้นดีพี่น้องเอ๋ย
     ปล่อยเกียร์ว่างการงานพาลละเลย
     เหมือนจะเย้ยท้าทายกฎหมายไทย
          ปล่อยให้รถนำไม้ไผ่เต็มคันรถ
          มาให้พวกกบฏคิดการใหญ่
          ปล่อยไพร่แดงนำยางรถมาทำไม
          เป็นเชื้อไฟอย่างดีหวังเผาเมือง
     ปล่อยไพร่แดงย่ำยีข้อกฎหมาย
     ทั้งท้าทายถากถางสร้างปมเขื่อง
     ก่อแต่เรื่องเลวร้ายอยู่เนืองเนือง
     แล้วบ้านเมืองจะอยู่ได้อย่างไรกัน 
          "เอาหูไปนา เอาตาไปไร่"
          ไม่ใส่ใจกฎหมายให้แข็งขัน
          คนทำผิดยังกล้าท้าประจัญ
          ยอมพวกมันทุกอย่างไม่ทำอะไร
     ความแตกร้าวลามไปทุกถิ่นฐาน
     ตำรวจและทหารรู้บ้างไหม?
     ขณะนี้คนไทยฆ่าคนไทย
     เป็นเพราะใครคอยให้ท้ายพวกไพร่แดง
          ทหารแตงโมตำรวจมะเขือเทศ
          เป็นแค่เศษคนกาลีที่แอบแฝง
          รัฐบาลต้องเร่งรัดเข้าจัดแจง
          อย่ามัวแต่ตะแบงกันอยู่เลย
                                   กวี สองแคว

               ฟังเด็กคุยเรื่องม็อบแดง
เรียน คุณสามวา สองศอกค่ะ
     เมื่อวันก่อนมีโอกาสขึ้นรถประจำทางปรับอากาศสาย  508  จากศูนย์การค้าเอ็มโพเรียมช่วงเวลาบ่ายสองโมง  ดีใจเป็นพิเศษที่รถว่างมากอย่างที่ไม่เคยปรากฏมาก่อน  สามารถเลือกที่นั่งได้สบายใจชอบ   (มีผู้โดยสารไม่ถึง  10  คน)  แล้วสายตาก็เห็นเด็กชายสองคนวัย  6  ขวบและ  4  ขวบหน้าตาน่าเอ็นดูนั่งแถวเดียวกัน  โดยมีแม่อุ้มลูกสาว  (วัยไม่กี่เดือนกำลังหลับปุ๋ยอย่างน่าเอ็นดู)  นั่งคุมลูกชายจอมซนสองคนอยู่ด้านหน้า
     รถวิ่งไปได้พักใหญ่ลูกชายคนโตก็บอกว่า  แม่  แม่..ปวดฉี่  ผู้โดยสารได้ยินเสียงเด็กก็ช่วยกันลุ้นว่า  แม่ลูกสามในวัยซนไล่เลี่ยกันจะแก้ไขปัญหาอย่างไร  จะลงจากรถโดยสารก็ทุลักทุเลเหลือเกิน  ปรากฏว่าแม่ส่งถุงพลาสติกให้  แล้วสั่งลูกชายให้ฉี่ใส่ถุงพลาสติก  แล้วแม่ก็ผูกปากถุงเรียบร้อยเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น  แล้วให้ลูกชายเจ้าปัญหาถือไว้
     ปรากฏว่าลูกชายวัย  4  ขวบก็แสดงความเห็นว่า  เหมือนซุปเลยนะท่าทางจะอร่อยดี  แล้วเด็กสองคนก็คุยกันกะหนุงกะหนิง  หัวเราะกันอย่างสนุกสนาน  ระหว่างนั้นแม่ซึ่งง่วงมากก็นอนหลับแบบสัปหงกคือหลับๆ  ตื่นๆ  เพราะกลัวลูกสาวคนเล็กตกหล่นจากสองมือลงมา
     รถแล่นไปได้อีกพักใหญ่และมาติดหนักในช่วงที่เข้าเส้นทางถนนเพชรบุรีตัดใหม่  เพื่อจะผ่านเส้นทางถนนราชดำริ  มองเห็นซอยเล็กๆ  ที่เชื่อมไปสู่เส้นทางถนนราชดำริ  เด็กวัย  6  ขวบผู้พี่ถือถุงพลาสติกซุปสีเหลืองของตัวเอง  ก็ชี้ชวนให้น้องชายวัย  4  ขวบ  มองออกไปนอกหน้าต่างที่มีม็อบเสื้อแดงชุมนุมกันอยู่  มีแนวยางรถยนต์กั้นเป็นบังเกอร์อยู่บนพื้นถนน
     "ดูโน่น...เสื้อแดง...รู้เปล่า..เสื้อแดงเขาจะล้มเจ้า"  คราวนี้ผู้โดยสารที่อยู่บนรถโดยสารแอบหัวเราะถึงคารมคมคายของเด็กวัย  6  ขวบบอกน้องวัย  4  ขวบ  แล้วก็แอบมองแม่ว่าจะพูดอย่างไร  ปรากฏว่าแม่นอนคอพับคออ่อนด้วยความอ่อนเพลีย
     เด็กชายวัยซนทั้งสองเริ่มเบื่อหน่ายที่รถติดนานมากๆ  คราวนี้ปลุกแม่  แม่  แม่ครับ  เมื่อไหร่จะถึงบ้านเราล่ะ  แล้วแม่จะพาไปเที่ยวไหน  แม่ก็งัวเงียตื่นบอกว่า  แม่จะต้องพาน้องกลับไปนอนที่บ้านก่อน  เราจะต้องกลับบ้านแล้ว  เด็กชายสองคนก็คะยั้นคะยอต่ออีกว่า  แล้วเมื่อไหร่จะถึงบ้าน  แม่ก็บอกว่าใกล้จะถึงแล้ว
     ด้วยความซุกซนของเด็กชายทั้งสอง  เด็กชายวัยซน  6  ขวบแขวนถุงซุปของตัวเองไว้ข้างๆ  รถ  แล้วก็รีบไปปีนเสากลางที่ใช้เป็นหลักในรถโดยสารสำหรับผู้โดยสารโหน  คราวนี้แม่ก็ชี้ให้ลูกชายคนเล็กไปโหนอีกเสาหนึ่งที่ไม่ไกลกันนัก  เด็กสองคนจึงมีที่วิ่งเล่นกันอย่างสนุกสนาน  ภายในรถโดยสารปรับอากาศสาย  508  โดยไม่มีใครว่ากล่าวแต่อย่างใด  คนขับรถและกระเป๋ารถก็หันมายิ้มให้อย่างอารมณ์ดี
     เด็กทั้งสองเล่นอยู่พอสมควรก็เริ่มเบื่อหน่ายอีก  คราวนี้ก็ตั้งคำถามกับแม่อีกว่าเมื่อไหร่จะถึงบ้านสักทีหนึ่ง  แม่ก็ตอบว่าใกล้จะถึงแล้ว  พร้อมกับพูดคำขาดว่าจะไปเที่ยวกับแม่หรือจะไปอยู่กับพ่อ  เท่านั้นเองเด็กชายทั้งสองก็เงียบฉี่ในทันที  เป็นที่คาดหมายว่าพ่อคงจะดุมาก  จนเด็กทั้งสองเปลี่ยนอิริยาบถกลายเป็นเด็กเรียบร้อยภายในเฉียบพลัน
     อีกสักพักหนึ่งก็ถึงเส้นทางไปวัดพลับพลาไชย   ทั้งแม่และลูกก็ถือสัมภาระ  โดยลูกชายวัย  6  ขวบไม่ลืมซุปของตัวเองลงจากรถโดยสาร  โดยมีผู้โดยสารด้านหน้ากุลีกุจอช่วยจูงเด็กๆ  ลงจากรถโดยสาร  และมีผู้รอรถโดยสารที่ป้ายช่วยกันจูงเด็กลงจากรถโดยสาร  แล้วแม่ก็จัดการทิ้งถุงซุปของลูกชายวัย  6  ขวบ  ลงถังขยะสีเขียวบริเวณริมป้ายรถประจำทาง
     ทั้งหมดคือบรรยากาศในช่วงม็อบแดงเข้ามาเยี่ยมกรายผู้คนที่จะต้องใช้ชีวิตอยู่บนท้องถนนในวันธรรมดาๆ  บ่ายวันพุธที่  28  เมษายน  2553  เห็นเป็นเรื่องสนุกสนานจึงส่งมาให้อ่านคลายเครียด  เพื่อจะบอกให้รู้ว่าเด็กวัย  6  ขวบยังรู้เรื่อง  ว่าเกิดอะไรขึ้นในบ้านนี้เมืองนี้...
     แล้วผู้ใหญ่ล่ะจะจัดการแก้ไขปัญหาบ้านนี้เมืองนี้อย่างไร..
                                                     ลูกแม่โดมท่าพระจันทร์
ตอบ คุณลูกแม่โดมฯ
     อ่านเรื่องคุณแม่ลูกสามโดยสารรถประจำทางปรับอากาศสาย  508  ที่คุณลูกแม่โดมท่าพระจันทร์เขียนมาเล่าสู่กันฟังแล้ว   มีความรู้สึกเหมือนได้นั่งรถเมล์แอร์สาย  508  เที่ยวนั้นด้วย  ต้องชมคุณแม่ลูกโดมฯ  ที่มีพรสวรรค์ในการเล่าเรื่อง  ขนาดเด็กแค่  6  ขวบยังให้มาช่วยระบายความรู้สึกคับแค้นใจได้
     คนที่เขียนมาด่าม็อบเสื้อแดงด้วยอารมณ์ฉุนเฉียว  เปลี่ยนมุมมองมาเขียนแบบคุณลูกแม่โดมฯ  ก็คงจะดีนะครับ

                    โม้เพื่อชาติ
เรียน คุณสามวา สองศอกที่รักและนับถือ
     ผม  "ตะรังตัง"  ตั้งใจจะหยุดไม่เขียนอะไรสักพัก  เพราะสมองมันเหนื่อยเฉื่อยช้ามีทีท่าจะเป็นอัลไซเมอร์  แต่เมื่อดูๆ  พฤติกรรมของพวกเสื้อแดง  มันยิ่งกำแหงเหิมเกริมยิ่งขึ้น  ประพฤติตนเป็นพวกโจรก่อการร้าย   ผมจึงหมดความอดทนลุกขึ้นจับปากกา   ขออนุญาต  "โม้"  ให้หนำใจสักวันเถอะครับ
     คำว่า  "โม้"  พจนานุกรมฉบับราชบัณฑิตยสถาน  ให้คำจำกัดความว่า  "พูดเกินความจริง"
     เอาละครับผมจะโม้เกินความจริงหรือไม่โปรดฟัง...ผมจะสลายม็อบเสื้อแดงที่แยกราชประสงค์โดยใช้ไม้นวม  จะไม่มีคนเจ็บคนตายแม้แต่คนเดียว  ผมจะใช้วิธีสลายม็อบด้วยน้ำ  แต่ไม่ใช่แบบเล่นสงกรานต์นะครับ
     ถ้าผมมีอำนาจ  (นี่ก็โม้แล้ว)  ผมจะสั่งรถดับเพลิงมาอย่างน้อย  6  คันก่อน  พนักงานประจำรถแต่งเครื่องแบบเหมือนออกผจญเพลิง  นำรถดับเพลิงไปจอดที่ดูว่าเหมาะ  รายล้อมม็อบเสื้อแดงโดยแบ่งหน้าที่กันทำ  3  คันฉีดน้ำลงพื้นที่ม็อบชุมนุม  กะฉีดให้น้ำท่วมพื้นที่ทั้งหมด  ระวังอย่าฉีดไปถูกคนรากหญ้า  ฉีดจนน้ำท่วมนองไปที่บริเวณชุมนุม
     อีก   3  คันฉีดขึ้นอากาศเหนือม็อบ  ความมุ่งหมายคือทำเป็นฝนตก  ถ้าเจอรถคันที่แกนนำใช้เป็นเวทีปราศรัยฉีดได้ทันทีปล่อยเต็มที่  มีรถบรรทุกน้ำสำรองมาเพิ่มเติมฉีดจนกว่าม็อบจะสลาย  พื้นล่างน้ำท่วมข้างบนฝนตก  โดนเข้าแบบนี้คงทนอยู่ไม่ได้  แล้วถ้ายังทนอยู่ได้คงไม่ใช่มนุษย์ธรรมดาแล้ว  เป็นพวกผีปิศาจ  เปรต  อสุรกาย  แต่ผมก็คงทนอยู่ไม่ได้แน่
     เป็นไงครับ  คุณสามวา  สองศอก  "ลูกโม้"  ของผม  ผมพูดเกินความจริง?  หรือลงมือปฏิบัติความจริงมันเป็นไปได้  สามแกนนำ  วีระ  จตุพร  ณัฐวุฒิ  ออนเหวง  อ่านพบข่าวนี้จะหนาวสะท้านไปตามกัน  เกรง  ผบ.ทบ.กับนายกฯ  อภิสิทธิ์นำไปใช้  และผมก็มีความเห็นว่าสมควรใช้  เพราะปลอดคนล้มป่วยล้มตายคือไม่มีใครป่วยใครตาย  เพียงเปียกปอนมะล่อกมะแล่ก
                                                              ตะรังตัง
ตอบ คุณตะรังตัง
     เรื่องเอาน้ำฉีดเพื่อสลายม็อบเสื้อแดงนั้น  เคยมีคนเขียนติงมาแล้วว่าไม่ควรทำอย่างนั้น
เพราะเดือนเมษายนบ้านเราร้อนมากๆ  เอาน้ำไปฉีดม็อบพวกนี้ก็ยิ่งชอบใจ  ที่เมืองหนาวเขาใช้น้ำฉีดม็อบเพราะน้ำที่เปียกเสื้อผ้าจะกลายเป็นน้ำแข็ง  รับรองว่าพวกม็อบต้องหนาวตายแน่
     ถ้าขืนเอาน้ำไปฉีดให้น้ำเป็นฝอยเหมือนน้ำฝน  และส่วนหนึ่งก็ไปนองอยู่ที่พื้น  พวกม็อบเสื้อแดงคงจะเล่นน้ำกันเพลินเลยล่ะ  ว่างๆ  หาเรื่องโม้มาได้อีกนะครับ
                                                       สามวา สองศอก

http://www.thaipost.net/news/040510/21695


หัวข้อ: Re: [2513]"ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: เหยง 16 ที่ 05 พฤษภาคม 2553, 10:27:33
จำรายชื่อคนพวกนี้ไว้ อย่าส่งเสริมให้ใหญ่โต เพราะกลัวต้องรับผิดชอบ โดยไม่เข้าประชุม ครม. วาระพิเศษที่ ราบ 11

9 รมต.ไม่ร่วมประชุมครม.นัดพิเศษ

รายงานข่าวแจ้งว่า มีรัฐมนตรี 9 คน ไม่ได้เข้าร่วมประชุม ครม.นัดพิเศษครั้งนี้
พรรคชาติไทยพัฒนา ประกอบด้วย พล.ต.สนั่น ขจรประศาสน์ รองนายกรัฐมนตรี นายชุมพล ศิลปอาชา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงท่องเที่ยวและกีฬา นายเกื้อกูล ด่านชัยวิจิตร รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม
พรรคภูมิใจไทย ประกอบด้วย นายบุญจง วงศ์ไตรรัตน์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย นางพรทิวา นาคาศัย รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ นายศุภชัย โพธิ์สุ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ นายสุชาติ โชคชัยวัฒนากร รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม และ
พรรคเพื่อแผ่นดิน ประกอบด้วย ร.ต.หญิงระนองรักษ์ สุวรรณฉวี รัฐมนตรีว่าการกระทรวงไอซีที นางสาวนริศรา ตันชวาลพิพัทธ์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงศึกษาธิการ

โดยรัฐมนตรีที่ขาดส่วนใหญ่ให้เหตุผลว่าไม่สะดวกในการเข้าร่วมประชุม หรือบางคนอ้างไม่สบาย อาทิ นางพรทิวาได้ยื่นใบลาแจ้งต่อนายอภิสิทธิ์ก่อนการประชุม ครม.ว่าไม่สบายต้องเข้ารับการรักษาตัวที่โรงพยาบาลกรุงเทพฯ เนื่องจากมีไข้เพราะเพิ่งกลับจากการไปปฏิบัติงานต่างจังหวัด

http://www.matichon.co.th/news_detail.php?newsid=1272803721&grpid=00&catid=




หัวข้อ: Re: [2513]"ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: เหยง 16 ที่ 05 พฤษภาคม 2553, 10:30:14
ถ้าตำรวจใช้งบขนาดนี้เพื่อกำลังพล 1,950 นาย(13 กองร้อย) ในรอบ 20 วัน, แล้วเสื้อแดงต้องใช้เงินวันละเท่าไหร่สำหรับคนเป็นหมื่น(ตามราคาคุย?) เอาน้ำเลี้ยงมาจากไหน ??

สตช.ยันงบ249ล.ใช้เป็นเบี้ยเลี้ยงตำรวจ
ประเด็น:เสื้อแดงจัดชุมนุมใหญ่ , 03 พฤษภาคม 2553 เวลา 13:43 น.

ศปก.ตร.ยันรัฐินุมัติงบ 249 ล้านบาทไม่ใช่เพื่อสลายการชุมนุมแต่เป็นเงินค้างจ่ายเบี้ยเลี้ยงตำรวจ
พล.ต.ต.ประวุฒิ ถาวรศิริ รอง ผบช.สทส.ในฐานะโฆษกศูนย์ปฏิบัติการ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ศปก.ตร.) เปิดเผยว่า ขอยืนยันว่างบประมาณ 249 ล้านที่ผ่านมติคณะรัฐมนตรี (ครม.) วาระพิเศษ เมื่อวันที่ 2 พ.ค.ที่ผ่านมา เป็นเงินทดรองจ่ายเบี้ยเลี้ยง-ค่าเดินทางของตำรวจภูธรที่เดินทางเข้ามาปฏิบัติหน้าที่ดูแลความสงบเรียบร้อยในพื้นที่ กทม. ที่ยังตกค้างในวงรอบวันที่ 17 มี.ค.-6 เม.ย.53 ไม่ใช่งบฯ เพื่อใช้ในปฏิบัติการใดๆ ทั้งสิ้น หรือการสลายการชุมนุมคนเสื้อแดงอย่างที่เป็นข่าว ขณะนี้ สตช.ใช้กำลังตำรวจ 13 กองร้อย (1,950 นาย) ดูแลรอบพื้นที่การชุมนุมแยกราชประสงค์ และยังมีการเจรจาเพื่อขอพื้นที่คืนจากแกนน นปช.อย่างต่อเนื่อง
พล.ต.ต.ประวุฒิ กล่าวว่า กรณีที่ศูนย์อำนวยการแก้ไขสถานการณ์ฉุกเฉิน (ศอฉ.) วางกำลังตำรวจภูธร 21 กองร้อย (3,150 นาย) ในที่ตั้ง ศอฉ. กรมทหารราบที่ 11 รักษาพระองค์ (ร.11 รอ.) เพื่อต้องการให้สั่งการปฏิบัติได้รวดเร็ว และเน้นเป็นหน่วยเคลื่อนที่เร็วไปยังจุดต่างๆ โดย ศอฉ.เป็นผู้รับผิดชอบสั่งการปฏิบัติทุกขั้นตอน และการที่เจ้าหน้าที่ต้องพกอาวุธก็เพื่อป้องกันตนเองจากการโจมตีของฝ่ายตรงข้าม และใช้เพื่อป้องกันผู้ชุมนุมจากการถูกลอบโจมตีด้วยเช่นกัน
 
http://www.posttoday.com/ข่าว/การเมือง/26185/สตช-ยันงบ249ล-ใช้เป็นเบี้ยเลี้ยงตำรวจ



หัวข้อ: Re: [2513]"ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: เหยง 16 ที่ 05 พฤษภาคม 2553, 10:35:04
บทบรรณาธิการ นสพ แนวหน้าออนไลน์ วันพุธที่ 5 พฤษภาคม 53

บทบรรณาธิการ  
 
การปรองดองของคนในชาติ (บทบรรณาธิการ)  
 
 
   นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรีได้เสนอแนวทางการสร้างความปรองดองของคนในชาติขึ้นเมื่อวันที่ 3 พฤษภาคมที่ผ่านมาเพื่อแก้ไขวิกฤตการของประเทศโดยแนวทางดังกล่าวประกอบด้วยข้อแรกคือการปกป้องสถาบันพระมหากษัตริย์ ข้อที่สองได้แก่การแก้ไขความเหลื่อมล้ำทางสังคมและเศรษฐกิจระหว่างประชาชนในเมืองและในชนบทซึ่งเป็นข้ออ้างของการชุมนุมของกลุ่มคนเสื้อแดงหรือ นปช.

   โดยนายกรัฐมนตรีมีแนวความคิดที่จะให้ทุกภาคส่วนมีส่วนร่วมในการแก้ไขปัญหา ข้อที่สามการทำให้สื่อสารมวลชนมีอิสระในการเสนอข่าวแต่ไม่ใช่การนำเสนอข่าวที่สร้างความแตกแยก ข้อที่สี่การตรวจสอบให้มีการดำเนินการตามกฎหมายถึงเหตุการณ์รุนแรงที่เกิดขึ้นด้วยการตั้งคณะกรรมการอิสระเพื่อหาข้อเท็จจริง

   ส่วนข้อที่ห้านั้นเกี่ยวข้องกับนักการเมืองที่มีข้อขัดแย้งในเรื่องกติกาของรัฐธรรมนูญ การตัดสิทธิทางการเมืองซึ่งอาจจะมีการแก้ไขรัฐธรรมนูญบางมาตรา นายกรัฐมนตรียังได้เสนอวันเลือกตั้งทั่วไปใหม่ในวันที่ 14 พฤศจิกายนปีนี้ด้วย

 การยื่นข้อเสนอ 5 ข้อของนายกรัฐมนตรีครั้งนี้เท่าที่ประเมินแล้วเห็นว่าฝ่ายแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติหรือฝ่ายพรรคเพื่อไทยซึ่งเป็นพรรคการเมืองของนายทักษิณ ชินวัตรอดีตนายกรัฐมนตรีได้แสดงท่าทีตอบรับและอาจจะยอมสลายการชุมนุมที่สี่แยกราชประสงค์ภายในวันที่ 5 พฤษภาคมนี้

   สำหรับข้อเสนออื่นๆเช่นไม่ให้เอาผิดทางอาญา การให้นิรโทษกรรมความผิดไม่ว่าจะเป็นเรื่องก่อการร้าย การจาบจ้วงสถาบันนั้นทางนายกรัฐมนตรีได้ย้ำว่าคงต้องดำเนินการไปตามกฎหมาย ส่วนการปฎิรูปภาคสังคมทั้งระบบนั้น รัฐบาลจะจัดการประชุมใหญ่สมัชชาประชาชนขึ้นในเดือนพฤษภาคมนี้

   ข้อเสนอของนายกรัฐมนตรีในการปรองดองของคนในชาติครั้งนี้ได้รับการตอบสนองจากกลุ่มประชาชนหลายๆฝ่าย แต่ก็มีเสียงวิตกถึงปัญหาในการเลือกตั้งทั่วไปในวันที่ 14 พฤศจิกายนนี้ว่าการเลือกตั้งจะสามารถควบคุมให้เป็นไปด้วยความบริสุทธิ์ยุติธรรมได้มากน้อยเพียงใด

   เพราะเป็นที่ทราบกันดีว่าระบบการเลือกตั้งของเรานั้นมีปัญหามาโดยตลอดถึงเรื่องของการซื้อคะแนนเสียงจากประชาชนผู้ที่มีสิทธิลงคะแนนเลือกตั้ง ไม่ว่าจะเป็นการเลือกตั้งในท้องถิ่นเช่น องค์การบริหารส่วนตำบล องค์การบริหารส่วนจังหวัด การเลือกตั้งสมาชิกสภาเทศบาลหรือการเลือกตั้ง ส.ส.

   การแก้ไขปัญหานี้จะทำอย่างไร ผลการเลือกตั้งครั้งนี้จะเชื่อได้อย่างไรว่ามีความเป็นธรรมที่แท้จริง นอกจากนั้นการแก้ไขรัฐธรรมนูญนั้น ถ้าหากแก้ไขแล้ว ผู้ที่ได้ประโยชน์ก็คือนักการเมือง ซึ่งการปรองดองของคนในชาติตามข้อเสนอนี้อาจจะถูกมองว่าทำเพื่อตัวนักการเมืองมากกว่าประชาชนก็อาจจะเป็นได้
 
http://www.naewna.com/news.asp?ID=209859


หัวข้อ: Re: [2513]"ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: prapasri AH ที่ 05 พฤษภาคม 2553, 10:37:39
อ้างถึง
ข้อความของ weerapong_rx เมื่อ 05 พฤษภาคม 2553, 03:57:52
ติดตามอ่านอยู่นะครับ มาคอยดูซ้อมรำวงเพื่อเตรียมโชว์แขกบ้านแขกเมืองในงานบุญบั้งไฟเมืองยศ  emo43
อ้างถึง
ข้อความของ Kaimook เมื่อ 05 พฤษภาคม 2553, 07:33:30
Good morning ค่ะพี่แอ๊ะ...ตามอ่าน ตามชมค่ะพี่แอ๊ะ...ชอบพี่แอ๊ะใส่ชุดพอสว.จังค่ะ


น้องไข่มุกคะ

จัดรูปใส่เสื้อพอสว. ให้ค่ะ คือพี่แอ๊ะก่อนออกจากบ้าน

ถ้าใส่ฟอร์มแปลกๆ พี่หาญ แก มักจะจับ พี่แอ๊ะ ถ่ายรูปก่อนค่ะ

พี่ แกไม่เคยเห็นตุ๊กกตา 55555555555

ข่าวดี คือวันที่ 27พ.ค นี้ พี่แอ๊ะจะเข้าเฝ้า เจ้าฟ้าจุฬาภรณื เพื่อถวายเงิน สนับสนุนโครงการพอสว.

ท่านจะเสด็จมายโสธร อำนาจเจริญ และอุบล

จะให้ลูกสะใภ้เข้าเฝ้าด้วย แล้วจะส่งรูปมาให้ดูนะคะ

ดูรูปตุ๊กตาแก่อนนะจ๊ะ

(http://www.cmadong.com/imageupload/2010_Cmadong-Image/data/image/l1xgou-2e2d50.jpg)


หัวข้อ: Re: [2513]"ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: prapasri AH ที่ 05 พฤษภาคม 2553, 10:42:44
ดูรูปเบื้องหลังนางงาม อันรกรุงรัง ค่ะน้องไข่มุกดี

ลิเก กำลังจะออกโรง

ว๊า..ส่งรูปไม่ได้เเล้วค่ะน้องไข่มุกขา เวบพี่ป๋องนี่ ส่งรูปยากมาก

ค่อยดูตอนค่ำนะ คนรถคอยพี่แอ๊ะจะไปมุกดาหารค่ะ

บายยๆๆ ก่อนนะคะ เจอกันคืนนี้ค่ะ


หัวข้อ: Re: [2513]"ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: เหยง 16 ที่ 05 พฤษภาคม 2553, 10:49:49
บทบรรณาธิการ นสพ ไทยโพสต์ออนไลน์ 5 พ.ค. 53

โรดแม็พจุดเริ่มต้นความปรองดอง รัฐ-เสื้อแดงต้องจริงใจสมานฉันท์
บทบรรณาธิการ 5 พฤษภาคม 2553 - 00:00

     สถานการณ์การชุมนุมของกลุ่มแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการ  (นปช.)  หรือกลุ่มคนเสื้อแดงที่เขม็งเกรียว   เฉี่ยวๆ   จะเกิดสงครามกลางเมือง  ประเทศใกล้เข้าขั้นกลียุค  คนไทยจะฆ่าคนไทยกันเอง  เพียงเพราะแนวความคิดที่แตกต่างกัน  แบ่งสี  เลือกข้าง  เลือกฝัก  เลือกฝ่าย  ขยายปัญหาความขัดแย้ง  สร้างความเดือดร้อนในสังคมเป็นวงกว้างขึ้นเรื่อยๆ   น่าจะเริ่มมีสัญญาณที่ดีขึ้น  หลังจากนายอภิสิทธิ์  เวชชาชีวะ  นายกรัฐมนตรี  แบไต๋โชว์หน้าไพ่เปิดแผนความปรองดองแห่งชาติ  (โรดแม็พ)  แก้วิกฤติชาติ
     เนื้อหาโรดแม็พ  5  ข้อ  โดยสรุปอย่างย่อๆ  ข้อแรกต้องช่วยกันไม่ให้ดึงสถาบันมาสู่ความขัดแย้ง  ทุกฝ่ายช่วยกันไม่ให้มีการจาบจ้วงสถาบัน  ข้อสองการปฏิรูปประเทศ  คนไทยต้องได้รับการดูแลสวัสดิการ  การศึกษา  สาธารณสุข  และการมีรายได้ที่มั่นคง  ข้อสามต้องใช้สื่ออย่างสร้างสรรค์  ไม่เสนอข้อมูลข่าวสารมุ่งให้เกิดความขัดแย้ง  เกลียดชัง  ไม่ละเมิดสิทธิ  ข้อสี่ต้องมีคณะกรรมการอิสระเข้ามาตรวจสอบข้อเท็จจริงเหตุความรุนแรงที่เกิดขึ้น  และ  ข้อห้าต้องแก้กฎกติกาให้เห็นชอบตรงกัน  ทั้งเรื่องรัฐธรรมนูญ  จนถึงความผิดการชุมนุมทางการเมือง
     ที่สำคัญนายกฯ  อภิสิทธิ์  เสนอทางออกตอบโจทย์ข้อเรียกร้องการชุมนุม  "รัฐบาลพร้อมจะให้มีการเลือกตั้งให้ประชาชนตัดสินอีกครั้ง  หากแผนการปรองดองและทำบ้านเมืองให้สงบสุข การจัดการเลือกตั้งครั้งใหม่ในวันที่  14  พฤศจิกายน  เป็นเป้าหมายที่รัฐบาลพร้อมดำเนินการ"   ซึ่งหากยึดตามกฎหมายเลือกตั้งที่ระบุว่า  เมื่อยุบสภาต้องจัดให้มีการเลือกตั้งภายใน  45 วัน  ไม่เกิน  60  วัน  นั่นแสดงว่า  รัฐบาลต้องประกาศยุบสภาภายในเดือนกันยายน
     แม้ท่าทีฝ่ายแกนนำคนเสื้อแดงจะยังข้องใจนายกรัฐมนตรีที่ประกาศวันเลือกตั้งใหม่  ไม่ยอมประกาศวันยุบสภาอย่างชัดเจน  รวมทั้งต้องการความจริงใจจากรัฐบาลในการยุติการคุกคามทุกรูปแบบกับกลุ่มคนเสื้อแดง  แต่การตอบรับเข้าสู่กระบวนการปรองดองสมานฉันท์ด้วยมติเอกฉันท์ของแกนนำ  ก็ถือเป็นนิมิตหมายอันดีเช่นกัน
     ดังนั้น  เมื่อสถานการณ์มีแนวโน้มสู่การคลี่คลายไปในแนวทางที่ดี  และถ้าทุกฝ่ายเห็นพ้องต้องกันตามสัญญาประชาคมแล้ว  สิ่งสำคัญที่ต้องแสดงออกถึงความจริงใจในการนำประเทศสู่ความปรองดองอย่างจริงจัง  ใช่เพียงแค่สร้างภาพหลอกล่อตามเกมการเมืองนั้น  ไม่ว่าสีหนึ่งสีใดจะต้องเปิดใจและให้โอกาสทุกพรรคการเมืองได้ลงพื้นที่หาเสียง  โดยไม่มีปัญหาการต่อต้าน  พรรคเพื่อไทยต้องลงไปขายนโยบายให้คนใต้ได้อย่างเต็มที่  พรรคประชาธิปัตย์  พรรคภูมิใจไทย ต้องสามารถขึ้นเหนือ   หรือไปอีสานแบบไม่มีตีนตบมากดดัน   นั่นแหละถึงจะเรียกว่าปรองดอง  ยึดหลักประชาธิปไตยอย่างแท้จริง.

http://www.thaipost.net/news/050510/21756


หัวข้อ: Re: [2513]"ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: เหยง 16 ที่ 05 พฤษภาคม 2553, 10:55:49
เมื่อ "อภิสิทธิ์-๓ เกลอ" เจอทางตัน
เปลว สีเงิน 5 พฤษภาคม 2553 - 00:00

      "คุณอภิสิทธิ์   เวชชาชีวะ"  ผมต้องการบอกว่า...ด้วยความรับผิดชอบบนตำแหน่งนายกรัฐมนตรีของท่าน  "ถูกต้องแล้ว"  ที่ตัดสินใจ  "แก้การเมืองด้วยการเมือง"  ในแนวทาง  "ยุบสภา-เลือกตั้งใหม่  ๑๔  พฤศจิกา"  ซึ่งหมายความว่า  ต่อจากนี้อีก  ๕  เดือน  ถึงกันยา  ช้าที่สุด  วันที่  ๑  ตุลา  คือวัน  "ยุบสภา"  และก็ขอบอกกับแกนนำกองกำลังกบฏด้วยว่า...ฉลาดที่  "รู้เขา-รู้เรา"  ซื้อเวลาหายใจภายใต้แผนปรองดองได้อีกระยะหนึ่ง!
     ไม่ต้องหวั่นไหว...คุณอภิสิทธิ์  ท่านเป็นนายกฯ  ทุกความรับผิดชอบเป็นของท่าน  ฉะนั้น  เมื่อท่านเป็นนายกฯ   มีอำนาจนายกฯ   อยู่ในมือ  จงตัดสินใจในสิ่งที่ท่านเห็นว่า  "ดีที่สุด"   สำหรับชาติ-ประชาชน  และเมื่อตัดสินใจลงไปแล้ว
     ไม่มีอะไรที่ไม่ใช่  และไม่ดี!
     ดูเหมือนว่าบรรดาแกนนำกองกำลังเสื้อแดงก็   "ประกาศยอมรับ"   แผนปรองดอง  ๕   ข้อของท่าน  เพียงแต่มีข้อสงสัยเป็นชั้นเชิง  ๓-๔  ข้อ  ที่ต้องการความชัดเจนจากฝ่ายรัฐบาลก่อนเข้าสู่กระบวนการปรองดองและนั่งโต๊ะเจรจากันเป็นเรื่อง-เป็นราว   และ  ๒  ใน  ๔  เงื่อนไขที่ฝ่ายแดงเสนอกลับไปยังฝ่ายรัฐบาลว่า
     -  ไม่ขอนิรโทรกรรมให้แก่  นปช.ในข้อหาโค่นล้มสถาบัน  และการก่อการร้ายอย่างเด็ดขาด  พร้อมสู้คดี  และ
     -  ต้องยุติการนำสถาบันกษัตริย์ลงสู่ความขัดแย้งในทุกมิติ นั้น
     พูดได้คำเดียวว่า   "ฉลาด"  และหยั่งรู้สถานการณ์  ไม่เสียทีทำงานใหญ่ถึงระดับนำคน  "กบฏบ้าน-กบฏเมือง"!
     ต้องยอมรับว่า   สถานการณ์มาถึงขณะนี้   ทั้งนายกฯ  อภิสิทธิ์  และทั้งฝ่ายแกนนำกบฏ  "หลังชนฝา"   ด้วยกันทั้งคู่  "คนนอก"  ทั่วไปนั้น  ไม่มีใครรู้หรอกว่า  "สถานการณ์และปัญหาภายใน"   ของแต่ละฝ่าย  มันกลายเป็น  "ศึกกระหนาบ-หนามในอก"  ของพวกเขาขนาดไหน?
     คนถือหางแต่ละฝ่ายก็เชียร์กันไป  แต่นายกฯ  อภิสิทธิ์  และวีระ-จตุพร-ณัฐวุฒิ  เมื่อต้องนำทัพเข้าสู่สมรภูมิ   "ปฏิบัติจริง"  ด้วยความรับผิดชอบสู่เป้าหมาย  แต่ละฝ่ายต่างบอกกับใจตัวเองว่า  "มันไม่ง่ายเหมือนในหนังจีน"  จนบางครั้งอยากตะโกนบอกพวกเชียร์มวยข้างสนามเสียด้วยซ้ำว่า
     "เอ้า...พวกมึงลองมาเป็นกูบ้างซิ  แล้วจะรู้"!?
     จากแค่   "รับจ้างทักษิณ"  เขย่าการเมืองประเทศผ่านรัฐบาลอภิสิทธิ์ด้วยอิจฉา  "เมื่อตัวกูหรือพวกกูไม่ได้กิน  ก็อย่าหมายว่าจะปล่อยให้พวกมึงกินกันได้สบาย"  แต่นายใหญ่ไม่ได้จ้างวงเดียวแสดง  ดันแอบไปจ้างวงโน้น-วงนี้ให้ต่างมาเป่าปี่-ตีกลองร่วมกัน  ทั้งวงเสธ.แดง  วงสยามแดง  วงแตงโม  วงมะเขือเทศ  วงนักวิชาเกิน  วงศ์ซ้ายอกหัก  วงท่านผู้ทรงเกียรติทั้งใน-นอกสภา  ไม่เว้นกระทั่งวงเสือโหย-หมาหิว  และกระสือสื่อ
     เมื่อมารวมกันเข้าจึงเหมือน  "ตะกวดสิบหาง-จงอางสิบหัว"  พอลงมือปฏิบัติการจึงพล่านและมั่ว   หลงตน-ลืมตัว  ต่างคน-ต่างทำ  ได้ทีก็รวมกันเฮ  แต่พอพลาดท่าเซ  ต่างหายหัว...มึงทำ   กูไม่ได้ทำ  สุดท้าย-หงายไพ่ท้ายสำรับ  "ก่อนสำเร็จ"  ด้วยการปลุกปั่นชาวบ้าน  "ล้มสถาบัน-เปลี่ยนระบบประเทศ"!
     เริ่มต้นก็สู้เพื่อทักษิณ   ไม่เจ้าท่า-เปลี่ยนเป็นสู้เพื่อประชาธิปไตย  ต่อๆ  มาเปลี่ยนใหม่สู้เพื่อแดงทั้งแผ่นดิน   เห็นไม่เป็นผลแผลงเป็นสู้เพื่อล้มระบบอำมาตย์   ประกาศทำสงครามชนชั้น  "ล้มล้างสถาบัน"  หนักๆ  เข้าชักเมามัน  จากชุมนุมสันติ-อหิงสา  ปราศจากอาวุธ  เพิ่มระดับขึ้นเป็นการชุมนุมที่มีกองกำลังติดอาวุธ  ฆ่าทหาร  ยึดบ้าน-ยึดประเทศ
     ใหม่ๆ   คนที่มาชุมนุม   เมื่อได้ยินแกนนำตะโกนบนเวทีให้สันติ-อหิงสา  ถามกันเองว่า  "อหิงสา"  ใช่  "มหิงสา"  ที่หน้าตาเหมือนจตุพร-สุภรณ์  หรือไม่?  เขาให้ตะโกนก็ตะโกนกันไป  ทั้งที่ไม่รู้เรื่อง  และไม่เข้าใจอะไรกันเลย!
     สรุปก็คือ   ขึ้นต้นเป็น  "๓  เกลอหัวขวด"  แต่ลงท้ายบานปลายเป็น  "๒๔  เกลอหัวครก"  ทั้งเจตนา  นโยบาย  และการเดินเกมม็อบ  ไม่รู้ใครคุมใคร-ใครได้  เพราะต่างฝ่ายต่างมีเป้าหมาย   เพียงอาศัยคราบทักษิณขับเคลื่อนขบวนมวลชน  ลงท้ายก็เหมือนรถไฟลงจากเขาแถมทางโค้ง  ใครก็คุมใครไม่ได้
     รับใช้ทักษิณ  แต่แย่งกันกิน-แย่งกันตะกายตึกเอาหน้า  แย่งกันจนเป็นกองกำลังก่อการร้าย  ทำกันจนฉิบหายทางมวลชน  กลายเป็นกลุ่มเสนียด  ขบวนการแดงน่ารังเกียจของทั้งคมไทยและสังคมโลก  ฆ่าทหาร-ปิดถนน-ปิดโรงพยาบาล-ปิดสภากาชาด  ยึดราชประสงค์  ศูนย์ธุรกิจการค้าใหญ่ใจกลางเมืองหลวง
     ลงท้าย...เมื่อประชาสังคมขยะแขยงสุดทน  รวมตัว  "ลุกขึ้นต่อต้าน"  ทั้งบ้าน-ทั้งเมือง  กบฏทักษิณเลยกลายสภาพเป็น  "โจรแผ่นดิน"  ที่โดดเดี่ยว  ใครไม่อยากให้อยู่ร่วมแผ่นดิน
     แรกๆ  เข้าใจว่ายึดราชประสงค์เท่ากับจับกรุงเทพฯ  เป็นตัวประกัน  แต่ที่ไหนได้  หลังจากประชาสังคมลง  "พรหมทัณฑ์"  พวกตัวเองกลายเป็นถูก  "ตำรวจ-ทหาร"  รวมทั้งประชาชนปิดกั้น  จะขยับขยายออกไปทางไหนก็ไม่ได้เหมือนควายติดคอก!
     ชาวบ้านให้แกนนำแต่ละหมู่บ้าน-ตำบล-อำเภอ-จังหวัด  "ยึดบัตรประชาชน"  ไว้  ก่อนมาชุมนุม  เพราะเขาหลอกว่า  "ชนะแล้ว  ทักษิณกลับมาเขาจะแจกให้คนละ  ๒  แสน"  ตอนนี้มีแต่บัตรประชาชนอยู่ในมือพวกแกนนำเป็นเข่ง  แต่ชาวบ้าน  "เจ้าของบัตร"  หนีกลับไปมากต่อมาก  จึงเป็นปัญหาหนักหน้าแกนนำ  "๓  เกลอหัวขวด"
     พวกตัวเองเหมือน  "ไข่แดง"  อยู่รอดได้ทุกวันนี้เพราะชาวบ้านที่เหลือเหมือน  "ไข่ขาว"  ห่อหุ้มไว้  เมื่อไข่ขาวค่อยๆ  หายไป  พวกไข่แดงรู้แล้วว่า...ความตายกรายมาถึงหัวแล้ว!
     ข่าวทักษิณตาย  ๑  แกนนำแตกกัน-จนตรอก  ๑  นายทุนเริ่มไม่จ่าย  ๑  ประชาสังคมต่อต้าน  ๑  เข้าขั้นกบฏ-ก่อการร้าย  ๑  แนวร่วมต่างชิ่งเอาตัวรอด  ๑  และบุกโรงพยาบาลจุฬาฯ  อีก  ๑  เหล่านี้คือ  "ปัญหาภายใน"  ผลักให้  ๓  เกลอหัวขวด  "หลังชนฝา"  ไม่สามารถ  "ปากกล้า-ขาสั่น"  อีกต่อไปได้
     ขืนดันทุรัง  จากไม่ตาย  และ  (อาจ)  ได้ประกัน  จะหนักหนาถึงขั้น  ถ้าไม่ตาย  ก็ไม่ได้ประกัน!?
     สำหรับนายกฯ   อภิสิทธิ์   การผ่าทางตายให้ประเทศไทยและสังคม  มีทั้งเสียงขานรับ   และเสียงด่ายับ   แต่ดูเหมือนว่า  "เสียงขานรับ"  จะมากกว่า  การเมืองเรื่องประเทศชาติ   นั่นพูดกันเผินๆ  แต่ลึกในเนื้อแท้  "การเมืองเรื่องของประชาชน"  ฉะนั้น  การเลือกตัดสินใจในทางที่  "ฝ่ายตรงข้ามน้อมสนอง"  ย่อมประเสริฐ
     เพราะการแก้ปัญหาโดย   "คนไม่ตายเลย"   ดีที่   ๑  "ตาย-แต่ตายน้อยที่สุด"  ดีที่   ๒  แต่สามัคคีคืนใจกลับเป็นเนื้อเดียวกันได้ดีที่สุด!
     อาจารย์การเมืองท่าน   "อดีตนายกฯ  ชวน"  ดูจะไม่พอใจถึงขนาดประกาศตัวว่า  "อยู่ฝ่ายไม่ยุบสภา"   ก็ไม่เป็นไร   ช่างท่านเถอะ  ท่านอาจพอใจอยู่ฝ่าย  "ยุบพรรค"  ก็ได้   เพราะตอนนี้  "ประชาธิปัตย์"  พระศุกร์เข้า-พระเสาร์แทรก  ถูกคดีโทษยุบพรรคนุงนังน่าว้าวุ่นใจอยู่!
     แฟนๆ   ที่ยึดภาษิต  "เลือดต้องล้างด้วยเลือด"  ดูจะผิดหวังท่านเยอะ  ท่านก็รับทราบเถอะ  แต่ไม่ต้องกังวลใจ  ปัญหาที่ต้องแก้ไขเฉพาะหน้าคือ  "ทำอย่างไรจึงจะคืนความสงบให้บ้านเมืองได้ก่อน?"   และท่านก็ทำได้แล้ว  อย่างน้อยก็  ๒  วันละที่  "ทุกอย่างสงบในที่ตั้ง"  ด้วยผลจากแผนปรองดอง
     ทั้ง   ๕  ข้อนั้น  ใน  ๔  ข้อต้องทำต่อเนื่องทั้งชาติและทั้งชีวิต  นั่นก็ยังไม่แน่ว่าจะสำเร็จระดับไหน   ฉะนั้น  ที่สนใจเป็นรูปธรรมมากที่สุดก็คือ  "กำหนดวันยุบสภา"  ดูตามตารางเวลาที่กำหนด  ผมก็ว่าโอเคนะ!
     ถึงสิ้นกันยา...แต่งตั้ง-โยกย้ายข้าราชการ-ทหาร-ตำรวจ   "ประจำปี"  เสร็จหมดแล้ว  และ  พ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปี  ๒๕๕๔  ก็เสร็จแล้ว  จะอยู่ทำไมอีกล่ะในบรรยากาศเช่นนี้?
     ตรงนี้ยังไม่ต้องคุยรายละเอียด  เพราะอีกนาน  และท่านก็อย่าเพิ่งทึกทักนะว่า  "ปัญหาจะจบ"  และจะได้เลือกตั้งกันในเดือนพฤศจิกาตามเจตนาที่วาดหวัง
     ผมจะบอกให้  เหตุการณ์ที่บานปลายจากชุมนุมการเมืองเป็น  "กบฏภายในราชอาณาจักร"   พร้อมพรักด้วยกองกำลังอาวุธร้ายแรงนั้น   จะพูดไปก็  "ทักษิณเป็นต้นเหตุปัญหา"  ก็จริง   แต่สาเหตุของปัญหาที่ขยาย-ปลายบานไปถึงขั้นนี้  ประเด็น  "จบ-ไม่จบ"  ไม่ได้อยู่ที่ทักษิณแล้ว  หากแต่พัฒนาไปอยู่ที่
     ความขัดแย้ง-แบ่งฝ่าย  และการแก่งแย่งอำนาจของ  "คนในกองทัพ"  ภายใน  สมทบด้วยตำรวจ   เรียกว่าปัญหาบ้านเมืองเวลานี้   ตำรวจ-ทหาร  ทั้งในราชการและนอกราชคือ   "ตัวฟันเฟืองใหญ่"  กระทั่งอำนาจในมือนายกรัฐมนตรี  สั่งได้...
     แต่ไม่สนใจซะอย่าง  ใครจะทำไม?
     นี่คือประเด็นที่ต้องเห็นใจ  "ด้วยเข้าใจ"  คนที่เป็นนายกรัฐมนตรี  "สั่งได้"  แต่ไม่ขับเคลื่อน   แล้วจะให้ทำอย่างไร  นอกจากเอา  "หลังพิงฝา"  แล้วใช้สติปัญญาตัดสินใจภายใต้กรอบอำนาจที่ตัวเองทำได้เท่านั้น!
     สมมุติว่า   "ม็อบจบ"  แต่การเมืองเรื่องแบ่งข้าง-แบ่งขั้ว  (ชิง)  อำนาจ  "ข้าราชการ-ทหาร-ตำรวจ"   ยังไม่จบ  "ยิ่งใกล้กรกฎา-สิงหา  เผลอๆ  หลังวันที่  ๒๘  พฤษภานี้ไป  ทหารบางพวกอาจจะมี  "ความคิดใหม่"  ให้ตื่นตา-ตื่นใจกันอีกก็ได้
     ผมเพียงให้ข้อสังเกตไว้  อย่าไปจริงจัง!
     ฉะนั้น   เรื่องเลือกตั้ง  ๑๔  พ.ย.  "ฝันชั่วคราว"  เถอะ  อย่าเพิ่ง  "ฝันข้ามคืน"  กันเลย  กบฏแดงก็เพียงสลบ  แต่ยังไม่ยอมสลาย  เงื่อนไขที่ทำให้  "เชื้อชั่วไม่ตาย"  ยังมีอยู่เยอะ  แต่จะบอกให้สบายใจ  ขณะนี้  "ประชาสังคมไทย"  ตื่นแล้ว  ต่อให้การเมือง-การบ้าน-การทหาร-การม็อบ  ใครแหลมผิดทางออกมาเมื่อไหร่
     "ประชาสังคมไทย"  เอา  (มึง)  แน่!

 
http://www.thaipost.net/news/050510/21773


หัวข้อ: Re: [2513]"ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: เหยง 16 ที่ 05 พฤษภาคม 2553, 11:05:32
พักยก...ไปตามหาเรือโนอาห์(จบ)
ท่านขุนน้อย 5 พฤษภาคม 2553 - 00:00

  ระหว่างที่รัฐบาลท่านกำลังเอากระไดมาล่อ  ให้พวกเสื้อแดงมีโอกาสได้  เดินขึ้น-เดินลง  อยู่ในขณะนี้  ไม่ว่าสุดท้ายใครจะเลือกเดินขึ้น  หรือเดินลง  เลือกที่จะใช้ไม้นวม  หรือไม้แข็ง  เหตุการณ์นับจากนี้ก็คงไม่ถึงกับต้องยืดเยื้อ  คาราคาซัง  ยาวนานออกไปเป็นเดือน  เหมือนดังเช่นที่เคยเป็นมา...ด้วยเหตุนี้เราอาจไม่ถึงกับต้องเสียเวลาไปตามหาเรือโนอาห์  ชนิดลากยาวจนเกินไปนัก...วันนี้เลยขอนุญาตสรุปแต่เพียงย่อๆ  พอให้ได้รับทราบข่าวคราว  ความเป็นมา-เป็นไปของเรื่องราวเหล่านี้ก็แล้วกัน...
           ----------------------------------------------
     ย้อนกลับไปถึงกระบวนการตรวจสอบ  สิ่งที่ถูกคาดว่าอาจเป็นซากเรือโนอาห์บนเทือกเขาอารารัต   ของคณะสำรวจ   นำโดยนาย  รอน  ไวแอทท์  เริ่มแรกก็คือร่องรอย  หลักฐานอันสามารถประจักษ์ได้ด้วยสายตา  หรือพื้นที่แนวหินที่มีรูปร่างลักษณะคล้ายลำเรือ  ซึ่งปรากฏให้เห็นโดยชัดเจนจากภาพถ่ายทางอากาศ  เมื่อทีมคณะสำรวจลองเริ่มต้นวัดระยะห่างจากจุดที่มีลักษณะคล้ายๆ  หัวเรือ  ไปจนจรดจุดที่คล้ายท้ายเรือ  พบว่ามีความยาวตกประมาณ  515  ฟุต  หรือประมาณ  300  คิวบิตส์  ตามมาตรวัดแบบอียิปต์โบราณ  ซึ่งก็เท่ากับความยาวตามที่ระบุเอาไว้ในคัมภีร์ไบเบิลแบบเป๊ะๆๆ  ส่วนจุดที่เป็นความกว้าง  เมื่อวัดระหว่างแนวที่คล้ายกราบเรือทั้งสองข้าง  ก็เท่ากับ  50  คิวบิตส์  ตรงกับข้อความคัมภีร์อย่างแทบไม่น่าเชื่อ...
           ----------------------------------------------
     สิ่งที่น่าสนใจยิ่งกว่านั้นก็คือ  บริเวณกราบเรือใกล้ๆ  กับท้ายเรือ  มีแนวหินที่พองนูนเป็นเส้น  4  เส้นโผล่ออกมาจากโคลน  มีลักษณะคล้ายๆ  กับโครงกระดูกเรือ  โผล่ให้เห็นเชื่อมโยงกันเป็นระยะๆ  ส่วนบริเวณตรงกลางรูปลำเรือที่มีรอยโป่งพองยาวไปตลอดตั้งแต่หัวจรดท้าย ได้รับการสันนิษฐานในช่วงเริ่มแรกว่า  อาจเกิดจากการพังทลายของตัวเรือที่ถูกสร้างให้เป็นชั้นต่างๆ  ตามข้อความที่ระบุเอาไว้ในพระคัมภีร์  จนกองทับถมเป็นซากหิน  ซากโคลน  โป่งนูนออกมา  และเพื่อพิสูจน์ให้ชัดเจนว่าลักษณะโครงสร้างซึ่งอยู่ลึกลงไปในชั้นหิน  ชั้นโคลน  ดังกล่าว  มีรูปร่างเช่นใดกันแน่  ทีมสำรวจจึงได้ใช้อุปกรณ์เรดาร์  GPR  สแกนลึกลงไปใต้พื้น  แล้วถอดรหัสออกมาให้เห็นเป็นภาพอิลลัสเตรท    ซึ่งก็ปรากฏว่าเห็นเป็นภาพโครงเรือโดยชัดเจน  หรือเป็นภาพโครงสร้างซึ่งไม่น่าจะเกิดขึ้นเองตามธรรมชาติ  แต่น่าจะเป็นโครงสร้างที่ถูกประดิษฐ์ขึ้นมาโดยฝีมือมนุษย์มากกว่า...
          -------------------------------------------------
     และจากการใช้เรดาร์  GPR  สแกนไปในจุดต่างๆ  ว่ากันว่า...คณะสำรวจได้พบส่วนที่มีลักษณะเป็นโพรงกระจัดกระจายอยู่หลายจุด  โดยเฉพาะบริเวณช่องกราบเรือ  จึงได้ตัดสินใจใช้สว่านเจาะเข้าไปในแผ่นหิน  จนได้พบวัสดุแปลกๆ  หลายต่อหลายชิ้น  เช่นวัตถุที่คาดกันว่าอาจเป็นมูลสัตว์  เป็นเขากวาง  เป็นร่องรอยขนสัตว์  ตลอดไปจนวัสดุที่มีลักษณะคล้ายชิ้นส่วนของไม้ที่ถูกอัดทับกันเป็นชั้นๆ  หนาถึง  3  ชั้น  แต่ละชั้นนั้นมีสารเชื่อมต่ออัดอยู่ในเนื้อไม้แต่ละชั้น และเมื่อนำเอาสารดังกล่าวไปพิสูจน์ทางเคมีในห้องแลปที่  Galbraith  Lab  ในเมืองน๊อกซ์วิลล์  รัฐเทนเนสซี  ก็พบว่าสารดังกล่าวก็คือ  Btumen  หรือ  น้ำมันดิน  ตรงกับข้อความในพระคัมภีร์ที่พระเจ้าสั่งให้โนอาห์ใช้ยาชันตัวเรือทั้งข้างนอก  ข้างใน  ซะอีกต่างหาก...
       ------------------------------------------------------
     นอกจากนั้น  ก็ยังมีการค้นพบวัสดุอะไรต่อมิอะไรอีกหลายอย่าง...ที่ทำให้ผู้ซึ่งตั้งใจที่จะเชื่ออยู่แล้วว่า  ซากหินที่มีรูปร่างล้ายๆ  เรือบนเทือกเขาอารารัตนั้น  ต้องเป็นเรือโนอาห์แหงๆ ก็ยิ่งปักใจเชื่อหนักขึ้นไปอีก  ไม่ว่าวัสดุที่มีแร่โลหะคล้ายรูปหมุดเหล็ก  หรือตะปู  แท่งหินที่ถูกเจาะเป็นรู  วางกองระเกะระกะ  อยู่ห่างจากซากตัวเรือไปประมาณ  1  ไมล์  ซึ่งถูกสันนิษฐานว่า  อาจจะเป็นอับเฉา  หรือสมอเรือ...แต่ถึงกระนั้นก็ตาม  สำหรับผู้ที่ยังไม่ปักใจเชื่อ  ก็ยังคงไม่เชื่ออยู่ดีอีกนั่นแหละ  ข่าวคราวดังกล่าวจึงค่อยๆ  เงียบหายไปนับเป็นสิบๆ  ปี  จนกระทั่ง  คณะนักสำรวจชาวคริสต์  และนักสร้างหนังสารคดีชาวฮ่องกง  ซึ่งก็ไม่รู้เหมือนกันว่าโผล่มาจากไหน  นำเอาเรื่องราวเหล่านี้มาจุดพุลขึ้นมาใหม่  ข่าวคราวว่าด้วยการค้นพบซากเรือโนอาห์  จึงกลายเป็นข่าวที่สามารถนำเอามาใช้สร้างสีสัน  สร้างความตื่นตา  ตื่นใจ  ให้กับใครต่อใคร  หรือนำเอามาใช้  แก้ขัด-แก้เซ็ง  ให้กับคอลัมน์  ท่านขุนน้อย  ด้วยประการละฉะนี้....
      ---------------------------------------------------------
     อย่างไรก็ตาม...ไม่ว่าเรือโนอาห์จะมีอยู่จริงหรือไม่?    สิ่งที่น่าสนใจยิ่งกว่านั้นก็คือว่า  ถ้าหากนำเอาพฤติกรรม  หรือลักษณะความเป็นไปของมนุษย์ในยุคนั้นกับยุคนี้  มาลองเทียบเคียงกันดู  ชักไม่แน่ใจขึ้นมาเหมือนกันว่า  ระหว่างมนุษย์ในยุคนั้นกับมนุษย์ในยุคนี้  ใครจะ  ชั่ว  กว่ากัน???  และถ้าหากความชั่วของมนุษย์ยุคนี้พอๆ  หรือมากกว่าความชั่วของมนุษย์ในยุคนั้น  พระเจ้าท่านจะทรง  เปรี้ยวพระบาทา  มากหรือน้อยขนาดไหน???  และจะทรงคิดดำเนินการเช่นไรต่อไป???  เพื่อทำให้โลกนี้มันดีขึ้น  หรือสะอาดขึ้นมามั่ง  ดังที่เคยทรงดลบันดาลให้เกิดเหตุการณ์น้ำท่วมโลก  เพื่อขจัดกวาดล้างสิ่งเลวร้าย  สิ่งไม่เป็นที่โปรดปราน  ในสายพระเนตรของพระองค์ลงไปให้เกลี้ยง...
      --------------------------------------------------------
     สำหรับคำถามนี้...คงต้องไปพลิกพระคัมภีร์ไบเบิลมาตรวจสอบกันดูอีกเที่ยวนั่นแหละ  ในบทว่าด้วย  จดหมายจากท่านเปาโลถึงทิโมธี  ฉบับที่สอง  ซึ่งได้พยากรณ์ถึงเหตุการณ์  วันสิ้นยุค  หรือเหตุการณ์ที่พระเจ้าอดไม่ได้ที่จะต้องลงโทษมวลมนุษย์  อันเนื่องมาจากความชั่วช้า  ซึ่งพอกพูนขึ้นสู่ระดับสูงสุด  ส่งผลให้พฤติกรรม  และลักษณะความเป็นไปของมนุษย์  เป็นดังนี้...แต่จงเข้าใจในข้อนี้   คือว่า  ในสมัยจะสิ้นยุคนั้น  จะเกิดเหตุการณ์กลียุค  เพราะมนุษย์จะเห็นแก่ตัว  เห็นแก่เงิน   เย่อหยิ่ง  ยโส  ชอบด่าว่า  ไม่เชื่อฟังคำบิดา  มารดา  อกตัญญู  ไร้ศีลธรรม  ไร้มนุษยธรรม  ไม่ให้อภัยกัน  ใส่ร้ายกัน  ไม่ยับยั้งชั่งใจ  ดุร้าย  เกลียดชังความดี  ทรยศ  มุทะลุ  หัวสูง  รักความสนุกยิ่งกว่ารักพระเจ้า  ถือศาสนาแต่เปลือกนอก  ส่วนแก่นแท้ของศาสนาเขาไม่ยอมรับ...ฯลฯ
       -------------------------------------------------------
     สรุปง่ายๆ  เอาเป็นว่า...ตามพฤติกรรม  ลักษณะความเป็นไป  ดังที่ได้บรรยายเอาไว้ในพระคัมภีร์  ว่าไปแล้ว...ดูๆ  จะตรงกับลักษณะของ  มนุษย์ในยุคนี้  แทบจะเป๊ะๆๆ  ด้วยเหตุนี้...บรรดาเราๆ   ทั่นๆ  ทั้งหลาย  ที่ดันต้องเกิดมามีชีวิตอยู่ในยุคนี้...ก็อย่าถึงกับไปเบื่อ  ไปเซ็ง  อะไรมากมาย  สู้เอาเวลาว่างๆ  ไปนั่งต่อเรือแบบโนอาห์ไว้พลางๆ  น่าจะดีกว่า
ปล่อยให้มุมจบของเหตุการณ์  หรือสถานการณ์ภายในอนาคตข้างหน้า  เป็นเรื่องของพระผู้เป็นเจ้าที่จะทรงบันดาลให้น้ำท่วมโลก  หรือไฟท่วมโลก  ก็แล้วแต่จะทรงพระกรุณา  คิดซะยังงี้  พอได้หายโกรธ  หายเกลียด  ใครต่อใครขึ้นไปเป็นกอง...
       -------------------------------------------------------
     ปิดท้ายด้วยวาทะวันนี้  จาก  อาร์คบิชอป  โรเบิร์ต  อเล็กซานเดอร์  เคนเนดี้...ข้าแต่พระผู้เป็นเจ้า...ขอได้โปรดเปลี่ยนแปรแก้ไขโลกนี้ให้ดีขึ้น  โดยให้เริ่มจากตัวข้าเองก่อน...

http://www.thaipost.net/news/050510/21754


หัวข้อ: Re: [2513]"ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: เหยง 16 ที่ 05 พฤษภาคม 2553, 11:09:23
17 พฤษภาคม 2532
ถูกทุกข้อ 5 พฤษภาคม 2553 - 00:00

 ท่านสามวา สองศอก ครับ
     คงต้องรบกวนท่านอีกครั้งแล้วสิครับ...
     เพราะคราวนี้ท่านผู้ขี้สงสัยถามมาตรงๆ   เลยว่า   เมื่อเป็น  ส.ส.ในกรุงเทพฯ  อีกหน  แล้วทำอะไรให้ประชาชนเห็นชัดๆ  บ้าง
     ผมก็ต้องขอนำคำอภิปรายของผมในสภา   เมื่อวันที่  17  พฤษภาคม  พ.ศ.2532  มาเปิดเผย  โดยมีท่านประธานสภาขณะนั้นคือ  ท่านปัญจะ  เกษรทอง  ครับ...
     กราบขอบคุณครับท่านประธาน
     กระผมนายสุเทพ   วงศ์กำแหง  พรรคพลังธรรม  กทม.นะครับ  กระผมรอคอยวันนี้มาหลายสิบปี  กระผมเองจำได้เมื่อเราตั้งพรรคการเมืองกันใหม่ๆ  นั้น  เราได้เอาหลักการนี้ใส่เข้าไปในนโยบายของพรรค  ซึ่งคราวนั้นผมเป็นพรรคเล็กๆ  ชื่อพรรคพลังใหม่  เราเคยมีความมุ่งมาดปรารถนาในการที่จะยกผู้ใช้แรงงานให้เป็นผู้ที่มีความสำคัญของประเทศ   เราพยายามอย่างยิ่งที่จะต่อสู้เรื่องนี้มานานแสนนานแล้ว  แล้ววันนี้ผมดีใจที่รัฐบาลก็ดี  พรรคการเมืองเพื่อนๆ   ทุกคนก็ดี  ที่ได้หยิบยกปัญหานี้ขึ้นมาในการที่จะสร้างความเป็นอยู่ที่ดีให้แก่ประชาชนผู้ใช้แรงงานของเรา
     ท่านประธานครับ   ประชาชนคนไทยของเรานั้น   ทุกวันนี้เราคิดว่าเราพูดกันยังไงครับ  เราคิดว่าการที่เราทุกข์ยากกันทุกวันนี้  ไม่ว่าจะเป็นการตกระกำลำบาก  ไม่ว่าจะถูกทำอะไรก็ตามที่เป็นเรื่องของความทุกข์ยาก  ทุกคนต่างพูดกันว่าเป็นกรรมเก่า
     ท่านประธานครับ   กรรมเก่าของใคร   ใครไปทำกรรมเก่าเอาไว้  ทุกคนนึกว่าการที่เราตกระกำลำบาก  ตกงาน  ทุกข์ยากนั่นน่ะ  เป็นเรื่องที่ตนเองเพราะว่าเมื่อชาติก่อนทำกรรมไม่ดีเอาไว้  ชาตินี้จึงต้องรับกรรมนั้น  ความจริงไม่ใช่นะครับ  ความจริงแล้วมันอยู่ที่หน้าที่ของรัฐ  ในการที่จะต่อสู้ในการที่จะทำงานเพื่อประโยชน์ของประชาชนคนไทยทั้งประเทศ  รัฐมีหน้าที่ต้องให้การศึกษาแก่ประชาชน  รัฐมีหน้าที่ต้องให้งานแก่ประชาชน  รัฐมีหน้าที่ต้องให้สวัสดิการแก่ประชาชน  เช่น  เรื่องที่อยู่อาศัยต่างๆ  สิ่งต่างๆ  เหล่านี้ถูกละเลยมาตลอด
     พูดไปทำไมมีในทุกรัฐบาลที่ผ่านมานั้น    หลายรัฐบาลได้พูดว่าจะทำอย่างนั้นจะทำอย่างนี้  เพื่อให้ประชาชนคนไทยจริงๆ  ที่เราต่อสู้กันมา  เพื่อการเป็นนักการเมืองที่ดีของประเทศชาติ  เป็นนักการเมืองที่เป็นตัวแทนของประเทศชาติจริงนั้น  เราต้องการเป็นตัวแทนที่ดีของเขา  เราต้องการสร้างข้อมูลที่ดีให้แก่รัฐบาล  เราต้องการทำทุกสิ่งทุกอย่างเพื่อประโยชน์ให้แก่ประชาชนคนไทยให้มากที่สุดเท่าที่จะมากได้
     ท่านประธานครับ   สิ่งที่เราหวังนั้นเราหวังมานาน   บางคนเล่นการเมืองมาจนชั่วชีวิต   บางคนก็ไม่สามารถเข้ามานั่งอยู่ในสภา   แต่มีสิ่งหนึ่งที่จะบอกว่า  เรามีความมุ่งหวังในการที่จะทำอย่างไร  ให้ประชาชนคนไทยนั้นทุกคนนะครับ  ควรจะมีสิทธิ์ในความเป็นอยู่ของเขา  ในการที่จะทัดเทียมกัน  ที่พูดอย่างนี้มิได้หมายความว่าเราจะบอกว่า  คนมีเงินหรือว่าคนยากจนจะต้องมาอยู่ในระดับเดียวกัน  ไม่ใช่ครับ  แต่ว่ารัฐเองต่างหากที่เป็นผู้ที่จะต้องให้เขา
     ที่ผมบอกว่าผมดีใจที่รอคอยวันนี้มานานแสนนาน   ผมบอกว่าเมื่อรัฐได้เสนอพระราชบัญญัติฉบับนี้เข้ามานั้น   เพื่อนพรรคต่างๆ  ที่ส่งเข้ามานั้น  ให้ถือว่านี่เป็นการที่จะทำให้ประชาชนคนไทยของเราได้มีความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น  เราต้องการสิ่งนี้มานานแล้ว
     เมื่อก่อนผมอยู่พรรคเก่าของผม  ผมเคยเสนอในการที่จะบอกให้รัฐรับผิดชอบคนตั้งแต่เกิด
จนถึง   5  ขวบ  และให้รัฐรับผิดชอบคนตั้งแต่อายุ  60  ปีขึ้นไปจนกระทั่งตาย  สิ่งที่เราขอร้องรัฐครั้งนั้นคือเรายอมตัวเป็นทาสของรัฐ  คือเป็นคนของรัฐอยู่ร่วมรัฐบาล  แต่ครั้งนั้นเราไม่ได้รับการตอบสนองจากรัฐบาลเลย  ผมถือว่าการที่เราตั้งใจทำงานเพื่อประโยชน์ของรัฐ  เพื่อประโยชน์ของประชาชน  แต่ว่าเราไม่ได้รับการตอบสนองอย่างแท้จริง
     ท่านประธานครับเรามุ่งหวัง  ผมรู้ว่าทุกคนที่อยู่ในที่นี้ไม่ว่าจะเป็นใครก็ตาม  ไม่ว่าจะเป็นรัฐมนตรีหรือจะเป็น  ส.ส. เราเข้ามาในสภานี้เพื่อต้องการให้ประชาชนคนไทยนั้นมีความเป็นอยู่ที่ดี  ผู้ใช้แรงงานต่างๆ  น่ะครับ
     ท่านประธานครับ   ท่านประธานได้มีโอกาสไปเที่ยวเตร่เฮฮา   หรือไปเที่ยวที่ไหนบ้างนั้น  ท่านประธานคงจะได้เห็นชีวิตของคนผู้ใช้แรงงาน  ไม่ว่าจะอยู่ในแขนงไหนก็ตาม  เขาจะถือว่าค่าของแรงงานของเขามันผูกพันกับตัวเขาอยู่ตลอดเวลาจากนายจ้าง
     ท่านประธาน   ถ้าเผื่อท่านประธานได้รับทราบความจริงแล้ว  ท่านประธานอาจจะน้ำตาไหลด้วยความนึกไม่ถึงว่าคนไทยด้วยกันจะถูกเอาเปรียบในแรงงานถึงขนาดนั้น
     ผมไม่อยากจะยกตัวอย่างที่ซ้ำแล้วซ้ำเล่า   ว่าเด็กๆ  ของเราถูกเอาเปรียบในการที่จะเอาเขาไปทำงานตั้งแต่เช้ายันค่ำจนถึงดึกแล้วก็ให้กินข้าว  แล้วก็เช้าขึ้นมาก็ถูกปลุกให้มาทำงานต่อด้วยเงินเพียงเล็กน้อย  ผมจะต้องพูดถึงว่าแม้กระทั่งบรรดาผู้ใช้แรงงานต่างๆ  ที่เราบอกว่าเราให้ค่าแรงของเขาวันละเท่าไรๆ  แต่เท็จจริงแล้วนะครับมันไม่ใช่เป็นเช่นนั้นหรอกครับ
     ท่านประธานครับ  บางครั้งนะครับท่านประธานครับ  ผมไม่อยากจะกราบเรียนว่าเราไม่เข้าข้างคนของผม   อาจจะเป็นผู้ใช้แรงงาน  ทำงานกลางคืนน่ะครับ  ไม่ว่าจะเป็นเด็กเสิร์ฟ  ผู้ใช้แรงงานในการร้องเพลง   หรือผู้ใช้แรงงานต่างๆ  เหล่านั้นถูกนายจ้างบีบบังคับมาตลอด  ให้ทำงานหนักและได้เงินน้อย  และโดยเฉพาะอย่างยิ่งสวัสดิการของเขาเหล่านั้นไม่มีเลย
     จะเห็นว่าทุกวันนี้ในการประกาศรับสมัครงานต่างๆ  ประชาชนมักจะไปสมัครงานกับหน่วยงานของรัฐ   เพราะรัฐมีสวัสดิการให้กับประชาชนอย่างคุ้มค่า  ถึงแม้ว่าเงินเดือนจะน้อยหน่อย  แต่ข้าราชการก็มีสวัสดิการ   เช่น  เรื่องที่อยู่อาศัย  สวัสดิการในส่วนของการเจ็บไข้ได้ป่วย  ที่สามารถเบิกจ่ายได้  เบิกค่าเล่าเรียนได้  รวมทั้งในที่สุดเมื่อเกษียณอายุแล้วก็ยังเบิกเงินบำเหน็จบำนาญได้อีก
     ผมอยากสรุปว่าสิ่งที่รัฐบาลได้กระทำมานี้  รัฐได้เห็นความสำคัญของแรงงานของคน  และเห็นคุณค่าของคน   เพราะฉะนั้นในสิ่งที่ผมรอคอยมานี้  ผมรู้สึกว่าผมพอใจและภาคภูมิใจอย่างมาก  ผมจึงขอสนับสนุนพระราชบัญญัติฉบับนี้ครับ  ขอบคุณครับ
              ............................
     ทั้งหมดนี้คือคำอภิปรายในสภาในขณะนั้นของผม  โดยเฉพาะอย่างยิ่ง  พ.ร.บ.กองทุนสวัสดิการแรงงานฉบับนี้  ท่านศาสตราจารย์นิคม  จันทรวิฑุร  เป็นประธานกรรมาธิการ  มีผมเป็นกรรมาธิการอยู่ด้วย  ที่ช่วยกันหาข้อมูลมาช่วยกันเติมให้มันมีคุณค่าเพิ่มเติมหลายต่อหลายครั้ง
     และเมื่อ  พ.ร.บ.ผ่านด้วยมติเสียงข้างมาก  ท่านนิคม  จันทรวิฑุร  เข้ามากอดผมแล้วยิ้มลอดแว่นหนาเตอะ  "ขอบใจมากจริงๆ  ที่ช่วยหาข้อมูลมาเพิ่มเติม  จนพี่ว่ามันหาข้อบกพร่องแทบจะไม่มีแล้วนะ  พี่มั่นใจว่าพี่คงตายตาหลับเมื่อ  พ.ร.บ.ฉบับนี้สำเร็จตามที่ตั้งใจไว้..."
     ส่วนผม...ก็เสียใจที่ท่านประธานนิคม  จันทรวิฑุร  (ผู้ซึ่งเป็นปราชญ์บัณฑิต,  พ่อพระคนจน,  พ่อพระของคนงาน)  ลาโลกไปโดยมิได้เห็นผลงาน  ที่บรรดาชาวแรงงานใช้อยู่ในปัจจุบันน่ะสิ!
                                                  อดีต ส.ส.กรุงเทพมหานคร
                                                    ร.ต.สุเทพ วงศ์กำแหง
ตอบ คุณสุเทพ วงศ์กำแหง
     อีกไม่กี่วันก็จะครบ  21  ปี  ถ้านับจากวันที่คุณสุเทพอภิปรายเรื่อง  พ.ร.บ.แรงงานในสภาผู้แทนราษฎร  ผลงานในสมาคมนักร้องแห่งประเทศไทยมีอะไรที่อยากจะบอกชาวบ้านบ้างล่ะ

                         ความรู้สึกช้า
เรียน คุณสามวา สองศอก
     ผมได้ข่าวมาหลายวันแล้วว่า   รพ.จุฬาฯ  มีกลุ่ม  นปช.เข้าไปวางมาดก่อกวนอยู่เรื่อยๆ  โดยอ้างว่าเข้าไปตรวจดูว่ารัฐบาลเอาทหารไปแอบซุกซ่อนไว้หรือไม่  จน  ผอ.ของ  รพ.จุฬาฯ   เองต้องออกมาปฏิเสธแล้วหลายครั้ง  ทั้งๆ  ที่โดยหน้าที่และความจำเป็นแล้ว  รพ.จุฬาฯ   จะต้องได้รับการเอาใจใส่  และการให้ความอารักขาอย่างดีที่สุดในยามเช่นนี้จากรัฐบาล  ผมก็รู้สึกสะดุดใจอยู่ว่า
     "เอ๊ะ!  นี่มันยังไงๆ  กันนะ"
     แต่ข่าวร้อนๆ  ในส่วนอื่นๆ  ก็ยังมีอยู่ทั่วไป  ผมจึงมัวไปวุ่นติดตามข่าวอื่นๆ  อยู่  ไม่ได้มามองความผิดปกติของข่าวการถูกคุกคามที่  รพ.จุฬาฯ  ไปช่วงหนึ่ง
     แต่แล้วเมื่อคืนวันที่  29  เม.ย.53  ก็มีข่าวด่วนรายงานเข้ามาว่า  กลุ่ม  นปช.จำนวนหนึ่งนำโดยแกนนำชื่อพายัพ  ได้บุกขึ้นไปตรวจค้นใน  รพ.จุฬาฯ  ว่ามีทหารแอบแฝงอยู่หรือไม่  แล้วก็ลากเอาชาย  2  คนลงมาด้วย  นำไปหลังเวทีของเขา  คาดว่าเพื่อรอการนำออกประจานในวันรุ่งขึ้น
     ผมรู้สึกสะเทือนใจกับข่าวนี้มากเสียยิ่งกว่าข่าวระเบิด   M   79  ไปลงที่โน่นที่นี่เสียอีก   เพราะเคยทราบมาว่ามีข้อตกลงกันไว้ในระดับสากลทั้งโลกเลยว่า  โรงพยาบาลหรือแม้แต่หน่วยพยาบาลหรือหน่วยกาชาด  จะต้องได้รับการยกเว้นจากคู่ศึกสงครามของทุกฝ่าย  ที่จะไม่ถูกทำร้าย  ถูกคุกคาม  หรือก่อกวนจากกำลังของฝ่ายใดทั้งสิ้น
     ผมถึงกับต้องหลุดเสียงตะโกนให้กับตัวเองออกมาว่า
     "เฮ้ย!  นี่มันมากเกินไปแล้วจริงๆ  นะเนี่ย...แล้ว  ศอฉ.ของรัฐบาลเขาไปทำอะไรกันอยู่ที่ไหน?  (วะ)"
     ถ้าอย่างนี้กลุ่ม  นปช.ก็ไม่มีความผิดอีกแล้ว  แต่รัฐบาลและคนของรัฐบาลนั่นแหละผิด  ผิดเพราะไม่รู้หน้าที่และไม่ได้ทำหน้าที่อะไรเลย  ไม่อยากจะใช้คำพูดรุนแรงเลยจริงๆ  ว่า
     "เอาแต่กลัวกลุ่ม  นปช.จน...ทำให้ลืมหน้าที่  อย่างนี้ประชาชนต้องตัดสินรัฐบาลเสียที"
     ครั้นพอถึงเช้าวันที่  30  เม.ย. ก็ได้ข่าวว่า  รพ.จุฬาฯ  ต้องย้ายผู้ป่วยในตึกวชิราวุธ  ตึกธนาคารกรุงเทพไป  รพ.ศิริราชชั่วคราว  โดยรอง  ผอ.จุฬาฯ  ได้ให้สัมภาษณ์ว่า  เป็นความเลวร้ายสุดๆ  ในรอบ  96  ปี  ที่  รพ.จุฬาฯ  ถูกคุกคามอย่างไร้อารยธรรม
     "ตกลงถ้าไม่ใช่ผม   ก็ต้องเป็นท่านนายกฯ  อภิสิทธิ์  หรือไม่ก็ท่านพลเอกอนุพงษ์เป็นแน่เลย  ที่ความรู้สึกช้าขนาดนี้...?"
     คุณสามวา  สองศอก  มีความเห็นอย่างไรครับ
                                                         เล็ก เมืองเก่า
ตอบ คุณเล็ก เมืองเก่า
     คืนที่  "พา (ย่อย) ยัพ"  ไปบุกตรวจค้น  รพ.จุฬาฯ  คือจุดเปลี่ยนที่ทำให้ม็อบเสื้อแดงกลายเป็นผู้ร้ายทั้งในสายตาคนไทยและชาวโลก   นายกฯ  อภิสิทธิ์ก็เลยได้ทีเอากะไดล่อให้ลงจากเวทีสี่แยกราชประสงค์  ป่านนี้คงจะแฮปปี้ไปทั้ง  2  ฝ่ายแล้ว
                                                        สามวา สองศอก

http://www.thaipost.net/news/050510/21753


หัวข้อ: Re: [2513]"ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: เหยง 16 ที่ 05 พฤษภาคม 2553, 11:29:01
วันนี้เป็นวันฉัตรมงคล และครบ ๖๐ ปี บรมราชาภิเษก และเมื่อวันที่ ๒๘ เมษายน ๕๓ ที่ผ่านมา ครบ ๖๐ ปี ราชาภิเษกสมรส เช่นกัน กระทรวงการคลัง และ ธนาคารแห่งประเทศไทย ออกธนบัตร ฉบับราคา ๑๐๐ บาท โดยด้านหลังธนบัตรเป็นภาพของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวและสมเด็จพระบรมราชินีนาถ และภาพช่วงบรมราชาภิเษก ออกให้แลกในวันที่ ๔ พฤษภาคม ที่ผ่านมา ตามธนาคารพาณิชย์ทุกแห่ง (ดังภาพตัวอย่างขาว-ดำ ที่นำมาแสดง)

ข่าวแจ้งว่า หมดก่อนเที่ยงวัน แต่บางท่านที่ติดต่อธนาคารเป็นประจำ อาจพอมีเหลือครับ

(http://www.cmadong.com/imageupload/2010_Cmadong-Image/data/image/l1xj34-72a7f8.jpg)


หัวข้อ: Re: [2513]"ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: prapasri AH ที่ 06 พฤษภาคม 2553, 07:32:08
--------------------------------------------------------------------------------
Date: Tue, 20 Apr 2010 12:20:06 +0700
ช่วยกันเผยแพร่ อย่าเพิ่งเบือ"

ข้อความข้างล่างนี้ post ได้ไหมดร.ป๋อง

ถ้าผิดพลาดพลั้งไป เธอก็มีสิทธิ์ลบได้ทันทีไม่ต้องขออนุญาตฉันก็ได้ ฉันไม่ว่า

ฉันเข้าใจกติกาของสังคมและกฎหมายบ้านเมืองจ้า



" 70 % ของคนเสื้อแดง ผมว่ารับเงินมาประท้วงและข้อมูลนี้ทำให้ผมใจหาย

รักหรือไม่รักทักษิณไม่เกี่ยวแล้วครับ ในเวลานี้ เงินเท่านั้น
เชื่อหรือไม่เชื่อแล้วแต่นะครับ ผมได้ข้อมูลนี้มาจาก insider
พรรคการเมืองพรรคหนึ่ง งบประมาณจัดสรรกลาง 500 ล้านบาท (พิเศษ)
ระหว่างวันที่ 3-6 เมษายน 2553

1. ปิดเกมส์ให้ได้ภายในสัปดาห์นี้
เลยสงกรานต์ไปไม่ได้เด็ดขาดเพราะคนจะกลับต่างจังหวัดกันหมด 2. งบในการจ้าง
ติดต่อได้ที่หัวหน้าสายงานที่เคยระบุไว้ จากปทุมธานี นนทบุรี สมุทรปราการ
เสริมเข้ามาให้ได้มากที่สุด แบ่งเป็นสองกะ กะหนึ่งให้ได้มากกว่า 10,000
คนขึ้นไป - 9.00 - 17.00 น. - วิน 500 บาท/ แท็กซี่ 1,000 บาท
- 17.00 - 24.00 น. - วิน 800 บาท/ แท็กซี่ 1,500 บาท

3. การเบิกจ่ายเงินให้ทำตามระบบที่กำหนดไว้ ห้ามกระทำการโดยพลการเด็ดขาด
มิฉะนั้นจะเปลี่ยนหัวหน้าสายงาน

ในข้อมูลที่ผมได้ มีการระบุชื่อ และรายละเอียดมากกว่านี้นะครับ
แต่ผมบอกไม่ได้ ตายแน่นอน แค่เอามาเปิดเผยแค่นี้ก็แย่แล้ว
แต่ผมทนไม่ไหวแล้วครับ

ประกอบกับรายงานจากเพื่อนผมที่ตระเวนดูบริเวณโดยรอบกรุงเทพจะสังเกตว่า
พี่ๆวิน แถว ปทุม นน และสมุทรปราการในวันนี้ หายไปกว่าครึ่งครับ มารับจ๊อบ
จึงเป็นเหตุให้ภาพถ่ายที่เราเห็นพี่น้องคนไทยที่มาประท้วงในวันนี้จึงมีหน้าตาไม่แตกต่างจากพี่ๆวินหน้าปากซอยของเราเลย
หรือไม่ก็พี่ๆแท็กซี่

วิธีการจ่ายเงินของพวกนี้ แยบยลและให้กันในที่ลับมาก
บ้างก็จ่ายครึ่งเดียวก่อน เสร็จจ๊อบมารับอีกครึ่ง ยากที่จะจับได้ไล่ทัน

ยกตัวอย่างการให้เงินชาวบ้านในต่างจังหวัด
จะนำไปไว้ที่เจ้าอาวาสวัดในหมู่บ้าน (วัดคือศูนย์รวมทุกอย่าง
ชาวบ้านเชื่อพระนะครับ) อบต. หรือหัวคะแนนของพรรคๆนั้น
ก็จะมาเบิกจ่ายตามคำสั่งที่ได้รับมอบหมายเป็นกรณีไป
เงินบางส่วนก็ยกให้วัดเพื่อการบรูณะ พระก็เชียร์สิครับ เงินทั้งนั้น
วัดต่างจังหวัดไม่ค่อยมีสตางค์หนะครับ (ฉลาดมาก นักโทษชาย) ยกตัวอย่างการ
"ยิงเงิน" ไม่ได้ยิงโดยตรงจากนักโทษชายนะครับ
แต่จะให้เครือข่ายนักธุรกิจที่ได้รับผลประโยชน์ร่วมกัน เครือญาติ
ออกไปก่อนแล้วค่อยโอนให้กันวันหลังโดยมีนิติกรรมอำพรางในการโอนต่างกันไป
จึงไม่มีทางที่จะหาหลักฐานได้

นอมินีที่ฮุบซื้อหุ้นปตทไว้ในมือ เยอะมาก นั้นคือแหล่งเงินสำคัญของนักโทษชาย
จะปั่นเท่าไรให้ออกมากี่ร้อยกี่พันล้านก็ได้ในการเคลื่อนไหว ยังไม่นับรวมกับ
หุ้นบางส่วนที่ให้นอมินีตัวเองถือไว้ในบริษัทมือถือ
ที่เราๆท่านๆคิดว่าเขาขายไปแล้ว แบบนี้ ประเทศชาติพังอย่างเดียวครับ
เงินทำได้ทุกอย่างจริงๆ

เอาเงินซื้ออำนาจทางการเมือง เพื่อคุมประเทศ
รัฐบาลไม่ควรปล่อยให้ม๊อบรับจ้างมาทำให้ประเทศล่มจม ควรเด็ดขาดมากกว่านี้
ม๊อบประเภทนี้ ได้ยินเสียงทหารรัวกระสุนขึ้นฟ้า ก็วิ่งหนีขี้จุกตูดแล้วครับ
จัดการเลย ตำรวจอย่าไปหวังครับ ระดับบิ๊กๆ ส่วนใหญ่อยู่กับนักโทษชายหมด
ไม่เกียร์ว่างก็อยู่เบื้องหลัง ระเบิดที่เกิดขึ้นทุกวันถึงจับใครไม่ได้สักราย

ส่งต่อ 2

ผมได้อ่านบทความของ ใจ (รัง) อึ๊งภากรณ์ ที่เขียนในเวป นอปอชอยูเอสเอ และ
อีกชิ้นใน facebook ชื่อว่า “แดงสยาม manifesto” ทำให้ผมตาสว่าง ผมเข้า
ใจแล้วว่า “นปช.” “แดงสยาม” “ขบวนการล้มเจ้า” และ “ผู้ก่อการร้ายคอมมิวนิสต์”
เป็นคนกลุ่มเดียวกัน และผมเข้าใจแล้วว่า
1. การยุบสภา เป็นเพียงบันไดขั้นแรก เพราะคนกลุ่มนี้ต้องการรื้อระบบ
และหวังสูงมากกว่านั้น 2. เป็นไปได้ ที่งานนี้มีการ “หลอกใช้” กัน คือ ทักษิณ
หลอกใช้ “แดงสยาม” เพื่อต้องการรื้อระบบและลบล้างความผิดของตัวเอง
รวมทั้งอาจจะได้กลับมาเป็นผู้นำภายใต้ระบบใหม่ ในขณะเดียวกัน “แดงสยาม”
ก็อาจจะหลอกใช้ “เงิน” และ “

มวลชน” ของทักษิณ เพื่อให้ได้สิ่งที่ตนต้องการ
3. “สามเกลอ” ถูกจ้างให้ทำหน้าที่เดียว คือ “ยุบสภา” หากทำสำเร็จ “แดงสยาม”
จะเข้ามาสวมรอยให้ไปสู่บันไดขั้นถัดไป 4. การที่ “แดงสยาม”
ประกาศตัดความสัมพันธ์กับ “สามเกลอ” และออกมาให้ข่าวว่า “สามเกลอ”
ควรจะยอมแพ้ได้แล้ว เพราะ “แดงสยาม” คาดหวังว่า หาก “สามเกลอ” แพ้
มวลชนเสื้อแดงจะยังคงอยู่ และต้องการแย่งมวลชนมาเป็นของตน 5.
ทักษิณรู้ดีว่าตัวเองกำลังยุ่งกับใครอยู่ ถึงกับ “ร้อนตัว”
ต้องประกาศแทบทุกครั้งในวีดิโอลิงก์ว่ายัง “จงรักภักดี” 6.
เหมือนจะเป็นเรื่องบังเอิญที่ “อุปสรรค” ของ ทักษิณ และ “แดงสยาม” เป็นคนๆ
เดียวกัน คือ “ป๋าเปรม” อย่าลืมว่า สมัยที่ป๋าเปรมเป็นนายกฯ
ท่านต้องทำงานหนักอยู่หลายปีเพื่อปราบคอมมิวนิสต์ 7. “ประชาธิปไตย”
ที่เสื้อแดงเรียกร้องกันอยู่นี้ เป็นแค่ “ฉากหน้า” เพราะถ้าไปอ่าน “แดงสยาม
manifesto” จะเห็นได้ชัด ว่าสิ่งที่เรียกร้องกัน ไม่ใช่ “ประชาธิปไตย”
แต่เป็นระบอบการปกครองแบบ “คอมมิวนิสต์”

สรุปแล้ว สิ่งที่นายกฯ อภิสิทธิ์ กำลังต่อสู้อยู่ในวันนี้ ไม่ใช่แค่
“เสื้อแดง” และ “ทักษิณ” แต่เป็นการต่อสู้กับ “ผู้ก่อการร้ายคอมมิวนิสต์”
ที่แฝงตัวมาในคราบนักต่อสู้เพื่อประชาธิปไตย

เมื่อก่อนนี้ผมเคย “เป็นกลาง” แต่ตอนนี้ผมขอ “เลือกข้าง” แล้วนะครับ
ผมขอสนับสนุนคุณ อภิสิทธิ์สุดหัวใจ
ขอคัดค้านการยุบสภา และ
ขอ “ต่อต้าน” ขบวนการล้มเจ้าทุกรูปแบบ
ตาสว่างแล้ว
ช่วยๆกันส่งต่อนะ
--
          ด้วยจิตคารวะ


หัวข้อ: Re: [2513]"ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: เหยง 16 ที่ 06 พฤษภาคม 2553, 09:10:19
บทบรรณาธิการ นสพ แนวหน้าออนไลน์ วันพฤหัสบดีที่ 6 พฤษภาคม 53

บทบรรณาธิการ   
 
ต้องรุกขจัดภัยก่อการร้าย-ล้มเจ้า (บทบรรณาธิการ)   
 
 
    แม้ว่าแนวโน้มสถานการณ์ความตึงเครียดจากการชุมนุมของม็อบคนเสื้อแดงจะเริ่มคลี่คลายลงหลังจากที่นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรีได้เสนอแผนสร้างความปรองดองในชาติ 5 ประการด้วยการเสนอวันเลือกตั้งทั่วไปในวันที่ 14 พฤศจิกายนนี้อันเป็นการทอดบันไดลงให้ม็อบเสื้อแดงสลายการชุมนุมโดยไม่ต้องมีการสูญเสียเลือดเนื้อ อย่างไรก็ตามหลายฝ่ายเรียกร้องว่ารัฐบาลเองจำเป็นที่จะต้องดำรงความศักดิ์สิทธิ์ของหลักนิติรัฐและต้องแยกแยะระหว่างปัญหาทางการเมืองกับปัญหาความมั่นคงของชาติโดยเฉพาะในปัญหาเรื่องการก่อการร้ายและขบวนการล้มเจ้า

    ทั้งนี้ไม่อาจปฏิเสธได้ว่าการเคลื่อนไหวของม็อบคนเสื้อแดงตั้งแต่เมื่อวันที่ 12 มีนาคมที่ผ่านมาได้ประกาศทำสงครามขั้นแตกหักอย่างชัดเจนโดยมีเป้าหมายสำคัญเพื่อโค่นล้มอำนาจรัฐและล้มล้างระบอบอำมาตย์ ขณะเดียวกันขณะที่ม็อบคนเสื้อแดงเคลื่อนไหวบนดิน แต่ก็มีขบวนการที่เคลื่อนไหวใต้ดินด้วยวิธีการอันรุนแรงคู่ขนานกันไปโดยมีเป้าหมายเดียวกันด้วยปฏิบัติการก่อการร้ายลอบก่อวินาศกรรมทุกรูปแบบ

    โดยช่วงเวลาเพียง 1 เดือนกว่าที่ผ่านมากลุ่มก่อการร้ายในขบวนการคนเสื้อแดงลอบก่อวินาศกรรมด้วยระเบิดและอาวุธสงครามร้ายแรงรวมทั้งสิ้นถึงราว 70 ครั้ง อาทิ การใช้อาวุธสงครามร้ายแรงยิงใส่ทหารและประชาชนในโศกนาฏกรรมเลือดเมื่อวันที่ 10 เมษายนที่ผ่านมาทำให้มีผู้เสียชีวิตและบาดเจ็บเกือบ 1,000 คน ยังไม่รวมถึงการลอบก่อวินาศกรรมวางระเบิดซีโฟร์อานุภาพร้ายแรงที่เสาไฟฟ้าแรงสูง 4 จุดที่อำเภอบางประอินจ.พระนครศรีอยุธยา หรือยิงกระสุนระเบิดจากเครื่องยิงแบบเอ็ม 79 ใส่คลังน้ำมันที่ จังหวัดปทุมธานี ขณะเดียวกันก็มีการจับกุมยึดอาวุธสงครามได้อีกเป็นจำนวนมากจากฝ่ายปฏิบัติการณ์ฮาร์ดคอร์ของคนเสื้อแดงอย่างต่อเนื่อง ซึ่งพฤติกรรมทั้งหมดเข้าข่ายเป็นกองกำลังที่ทำสงครามก่อการร้ายเต็มรูปแบบอย่างชัดเจน

    ที่สำคัญพฤติกรรมของแกนนำขบวนการคนเสื้อแดงบางกลุ่มยังปรากฏหลักฐานชัดเจนว่ามุ่งจาบจ้วงสถาบันเบื้องสูงอย่างเหิมเกริม รวมทั้งสะท้อนแนวคิดแผนการที่จะล้มสถาบันสูงสุดของชาติเพื่อเปลี่ยนแปลงระบอบการปกครองประเทศไปสู่รัฐไทยใหม่

    ดังนั้นแม้ว่าขณะนี้สถานการณ์บ้านเมืองกำลังเริ่มต้นสู่เส้นทางของการสร้างความปรองดอง อย่างไรก็ตามรัฐบาลจะต้องแยกแยะปัญหาทางการเมืองออกจากปัญหาการก่อการร้ายและความพยายามที่จะล้มล้างสถาบันเบื้องสูงซึ่งถือเป็นภัยคุกคามร้ายแรงต่อความมั่นคงของชาติโดยจะต้องยืนหยัดเดินหน้าดำเนินคดีกับขบวนการก่อการ้ายและผู้ที่เป็นภัยต่อสถาบันเบื้องสูงอย่างจริงจังและถึงที่สุด โดยจะต้องไม่มีการเจรจาต่อรองในทางลับเพื่อล้มล้างผ่อนปรนความผิดให้กับขบวนการก่อการร้ายและมีแนวคิดล้มล้างสถาบันเบื้องสูงอย่างเด็ดขาด

    ขณะเดียวกันเหล่าข้าราชการที่เกี่ยวข้องกับการจับกุมดำเนินคดีผู้ที่เกี่ยวข้องกับขบวนการที่เป็นภัยต่อความมั่นคงของชาติและสถาบันจะต้องเดินหน้าทำหน้าที่ของตัวเองอย่างจริงจังและตรงไปตรงมาเพื่อชาติบ้านเมือง ไม่ใช่ใส่เกียร์ว่างดึงเกมเปลี่ยนสีเอาตัวรอดไปตามสถานการณ์ทางการเมืองที่กำลังจะมีการเปลี่ยนแปลง 
 
วันที่ 6/5/2010
 
http://www.naewna.com/news.asp?ID=209994


หัวข้อ: Re: [2513]"ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: เหยง 16 ที่ 06 พฤษภาคม 2553, 09:12:10
บทบรรณาธิการ นสพ ไทยโพสต์ ออนไลน์

กฎหมายควบคุมการชุมนุม อย่าโดดเดี่ยวชนชั้นล่างของสังคม
บทบรรณาธิการ 6 พฤษภาคม 2553 - 00:00

    จะบอกว่าที่ประชุมคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 4 พฤษภาคมที่ผ่านมา ฉวยโอกาสอนุมัติร่างพระราชบัญญัติการชุมนุมสาธารณะก็ว่าได้ เพราะร่างกฎหมายฉบับนี้เป็นรูปเป็นร่างในห้วงเวลาที่ประชาชนเบื่อหน่ายการชุมนุมของคนเสื้อแดงถึงขีดสุด ประชาชนต้องการอะไรก็ได้ที่สามารถทำให้การชุมนุมในลักษณะนี้ต้องไม่มีอีกต่อไป
     ข้อกำหนดในร่างพระราชบัญญัติการชุมนุมสาธารณะ มองดูผิวเผินถือเป็นเรื่องดี เช่น ในการชุมนุมต้องมีหนังสือแจ้งการชุมนุมต่อผู้รับแจ้งก่อนเริ่มการชุมนุมไม่น้อยกว่า 72 ชั่วโมง กำหนดให้ผู้รับแจ้งที่เห็นว่าการชุมนุมสาธารณะที่ได้รับแจ้งนั้น มีผลกระทบต่อ ขัดขวางต่อความสะดวกของประชาชน หรือขัดขวางการบริการสาธารณะดังกล่าวข้างต้น ให้ยื่นคำร้องต่อศาลเพื่อมีคำสั่งห้ามการชุมนุมและให้ศาลพิจารณาคำขอ เพื่อมีคำสั่งห้ามการชุมนุมเป็นการด่วน คำสั่งดังกล่าวถือเป็นที่สุด
     และข้อกำหนดให้ผู้จัดชุมนุมไม่ก่อให้เกิดความไม่สะดวกของประชาชนที่จะใช้ที่สาธารณะต้องเข้าร่วมการชุมนุมโดยเปิดเผยตัว ไม่ปิดบังอำพรางตัว โดยจงใจมิให้มีการระบุตัวบุคคลได้ถูกต้อง  ต้องไม่นำอาวุธเข้าไปในที่ชุมนุม ไม่บุกรุก หรือทำให้เสียหาย หรือทำลายด้วยประการใดๆ ซึ่งทรัพย์สินผู้อื่น ไม่ใช้กำลังประทุษร้าย หรือขู่เข็ญว่าจะใช้กำลังประทุษร้ายผู้เข้าร่วมชุมนุมหรือผู้อื่น
     รวมทั้งในกรณีที่ผู้จัดชุมนุมไม่ได้แจ้งว่าจะมีการเดินขบวน หรือเคลื่อนย้ายผู้ชุมนุมจะเดินขบวน หรือเคลื่อนย้ายการชุมนุมได้ก็ต่อเมื่อได้รับความเห็นชอบจากหัวหน้าสถานีตำรวจซึ่งมีหน้าที่รับผิดชอบดูแลการชุมนุมสาธารณะนั้น และผู้ชุมนุมต้องเลิกการชุมนุมสาธารณะในระยะเวลาที่แจ้งไว้ ล้วนเป็นของดีทั้งสิ้น แต่การจัดระเบียบการชุมนุมเช่นนี้ ยืนยันกันได้จริงหรือว่าเหมาะสมกับประเทศไทย
     ประวัติศาสตร์การชุมนุมครั้งใหญ่ในประเทศไทยตั้งแต่ยุค 14 ตุลา 16, 6 ตุลา 19, พฤษภาทมิฬ, 7 ตุลา 50 และ 10 เม.ย. 53 มีผู้คนล้มตาย ล้วนเป็นการชุมนุมทางการเมือง ซึ่งการชุมนุมในลักษณะนี้บางครั้งกฎหมายไม่สามารถบังคับใช้ได้เหมือนในปัจจุบัน แม้กระทั่งพระราชกำหนดบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน ก็ยังไม่อาจจัดการกับการชุมนุมได้อย่างที่ควรจะเป็นได้
     ร่างพระราชบัญญัติฉบับนี้จึงน่าจะบังคับใช้ได้เฉพาะการชุมนุมขนาดเล็ก  บรรดาเกษตรกร ผู้ยากไร้  ที่ประสบปัญหาจากความไม่เท่าเทียมจากกลไกรัฐที่ไม่ทำงาน จะตกเป็นเหยื่อโดยตรง การเรียกร้องจากปัญหาพืชผลทางการเกษตรตกต่ำ ปัญหาไร้ที่ดินทำกิน ล้วนเป็นปัญหาคาราคาซังมานาน อาจประสบความยากลำบากในการเรียกร้องมากขึ้น
     หมดโอกาสที่ม็อบเกตรกรชาวนามาปิดกระทรวงเกตรและสหกรณ์ หมดโอกาสชุมนุมขวางทางเข้า-ออกทำเนียบรัฐบาล หมดโอกาสชุมนุมปิดทางเข้า-ออกอาคารรัฐสภา โดยสรุปรวมคือ เมื่อกลไกรัฐไม่ทำงาน ผู้ยากไร้ก็จะหมดโอกาสชุมนุมเพื่อกดดันผู้มีอำนาจรัฐอยู่ในมือ แล้วประชาชนผู้ยากไร้จะมีหนทางไหนที่ทำให้ผู้มีอำนาจรัฐหันมาแก้ปัญหาต่างๆ ที่คาราคาซังมาอย่างยาวนานได้
     คำตอบก็คงต้องหันไปถามผู้มีอำนาจรัฐในวันนี้และวันข้างหน้าว่า พวกท่านจะพัฒนาตัวเองให้ทันกับกฎหมายต่างๆ ที่พัฒนาไปอย่างรวดเร็วได้หรือไม่ อย่างไร ไม่ใช่ว่าออกกฎหมายมาเพื่อเป็นเครื่องมือควบคุมประชาชนเพียงฝ่ายเดียว โดยที่ผู้มีอำนาจรัฐไม่ได้พัฒนาฝีมือในการบริหารประเทศ ปล่อยปละละเลยให้ประชาชนดิ้นรนอยู่รอดเอาเอง
     เข้าใจว่าร่างกฎหมายฉบับนี้ลอกมาจากกฎหมายที่ประเทศพัฒนาแล้วมีใช้กัน แต่ต้องยอมรับถึงความแตกต่างระหว่างรัฐบาลไทยกับรัฐบาลในประเทศพัฒนาแล้ว  รัฐบาลแถบยุโรป อเมริกา ตะวันออกไกล มีศักยภาพในการแก้ไขปัญหาให้ประชาชน นำไปสู่การพัฒนาประเทศอย่างต่อเนื่องและยั่งยืน ประชาชนของเขาไม่ได้เดือดร้อนจนต้องออกมาชุมนุมเรียกร้องกันมากนัก และการออกมาชุมนุมเรียกร้องของประชาชนในแต่ละครั้งมักได้รับการตอบสนองจากรัฐบาลแทบทุกครั้งไป
     แต่ประเทศไทยไม่ได้เป็นเช่นนั้น กลไกรัฐอืดอาด ปัญหาราคาพืชผลทางการเกษตรตกต่ำแทบทุกปี ประชาชนเดือดร้อนแทบทุกปี ชุมนุมกันแทบทุกปี แต่ปัญหาก็ยังดำเนินมาอย่างต่อเนื่องแทบทุกปี และแทบทุกปีรัฐบาลแก้ไขปัญหาแบบขอไปที และทุกปีรัฐบาลจะแก้ปัญหาอยู่ 2 ปัญหาหลัก คือ น้ำท่วม กับฝนแล้ง ทำแบบนี้มานานหลายสิบปีแล้ว ไหนจะเรื่องที่ดินทำกินที่มีช่องว่างในการถือครองมากมาย ถ้ารัฐบาลในวันนี้และในอนาคตยังคงปฏิบัติเช่นที่ผ่านมา ร่างกฎหมายฉบับนี้ก็เป็นเพียงเครื่องมือให้รัฐบาลคอยควบคุมชนชั้นล่างในสังคมเท่านั้น.

http://www.thaipost.net/news/060510/21810


หัวข้อ: Re: [2513]"ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: เหยง 16 ที่ 06 พฤษภาคม 2553, 19:09:23
คอลัมม์ "คนปลายซอย" ของคุณเปลว สีเงิน

"ถ้าไม่ใช้อำนาจแล้วจะถูกอำนาจใช้"
เปลว สีเงิน 6 พฤษภาคม 2553 - 00:00

           "จอมพลสฤษดิ์ ธนะรัชต์" ปฏิวัติ ๒ ครั้ง ครั้งแรก-ยึดอำนาจรัฐบาล "จอมพล ป.พิบูลสงคราม" เมื่อ  ๑๖ กันยายน ๒๕๐๐ และตั้งให้ "นายพจน์ สารสิน" เป็นนายกฯ รักษาการ ๙๐ วัน เลือกตั้งใหม่ได้ "จอมพลถนอม กิตติขจร" เป็นนายกฯ ครั้งที่สอง-นายกฯ ถนอมเจอมรสุมรัฐสภา "ลาออก" ๑๙ ต.ค.๐๑ จอมพลสฤษดิ์ซึ่งพักผ่อนอยู่อังกฤษทราบข่าว บินกลับมาถึงตอน ๓ ทุ่มคืนที่ ๒๐ ต.ค. ตีนแตะสนามบินปุ๊บก็ "ยึดอำนาจ" ปั๊บ และขึ้นเป็นนายกฯ เองเมื่อ ๙ ก.พ.๐๒ จนอสัญกรรมเมื่อ ๘ ธ.ค.๐๖
            ที่ผมเล่าย่อๆ มาทั้งหมดนี้ ก็เพียงอยากบอก "นายกฯ อภิสิทธิ์" คำเดียวว่า จาก ๒๕๐๐-๒๕๐๖ รวมเวลา ๖ ปี ของจอมพลนักรัก ผู้สร้างประวัติศาสตร์ "เผด็จการสร้างชาติ" ให้เป็นตำนานเล่าขานตราบถึงทุกวันนี้ ท่านใช้คำ ๑๗ คำเท่านั้น "ปฏิวัติสังคมชาติ" สำเร็จ

          ยึดอำนาจครั้งแรก ยึดเสร็จ มอบให้ "นายพจน์ สารสิน" รับภาระนายกฯ ๙๐ วันเสร็จ ท่านพูด ๗ คำ ก่อนกลับไปทำหน้าที่ทหารดังเดิม ๗ คำนั้น มัดใจคนไทยทั้งชาติ ไม่ว่า เศรษฐี-ผู้ดี-ไพร่-ยาจก-วณิพก-ขอทาน-พระ-เถน-เณร-ชี ให้จำท่านในอารมณ์ถวิลหาด้วยวลีว่า

          "พบ-กัน-ใหม่-เมื่อ-ชาติ-ต้อง-การ"!

          เมื่อยึดอำนาจครั้งที่สอง รวบทั้งอำนาจทหารและอำนาจรัฐบาลเบ็ดเสร็จขึ้นเป็นนายกฯ เอง ท่านใช้คำพูด ๑๐ คำ ทำให้ข้าราชการ-ทหาร-ตำรวจ และทุกองคาพยพในชาติทั้งที่เป็นพวก และไม่ใช่พวก ฮึกเหิม-พร้อมใจ-ไม่พรั่น ขอเพียงสฤษดิ์สั่ง แม้ดำน้ำ-ลุยไฟ ทุกคนพร้อมยอมตาย เพื่องาน "ปฏิวัติชาติ" สู่เป้าหมายตามแผน

          ๑๐ คำนั้น มันคืออะไรกันนะถึงได้ "ขลัง" โดยไม่ต้องลงยันต์เช่นนั้น หลายท่านคงจำได้ เพียงแต่ชิน จนคร้านจะนำมาใคร่ครวญกันเท่านั้นเอง

          "ข้า-พ-เจ้า-ขอ-รับ-ผิด-ชอบ-แต่-ผู้-เดียว"!

          นี่ไง...ลองผู้นำประกาศว่า "ข้าพเจ้าขอรับผิดชอบแต่ผู้เดียว" บรรดาผู้ตาม จะมีใคร-คนไหนไม่เต็มใจรับ ปฏิบัติ-ชัด-จบ บ้างล่ะ ในเมื่อลูกพี่ใหญ่รับประกันตายแทน แล้วมันจะมีลูกน้องคนไหนไม่ "แพ้ใจ" เจ้านายก็ให้มันรู้ไป เพราะ๑๐ คำที่ว่า "ข้าพเจ้าขอรับผิดชอบแต่ผู้เดียว"

          นั่นเท่ากับ สุข-สุขด้วยกันโว้ย...

          แต่ถ้าซวย พวกมึงหลบไป กู...นายรับเอง!

          เนี่ย...เราไปศึกษา เราจะเห็นว่าจอมพลสฤษดิ์ใช้อำนาจ "เผด็จการทหาร" ทำหลายสิ่ง-หลายอย่างเป็นรากฐานให้อยู่ถึงทุกวันนี้ จุดแข็งอยู่ที่คำ ๑๐ คำนี้เท่านั้นในการ "ซื้อใจ" ลูกน้อง-บริวาร และคนที่ถูกบริหารทั้งประเทศ

          ท่านไม่มีความรู้ด้านเศรษฐกิจ อุตสาหกรรม การเงิน การคลัง การลงทุน การพัฒนาอะไร นอกจากคำว่า "เยส-ดอลลาร์" แต่ว่า "โน-เงินไทย" คือท่านชอบกินเงินอุดหนุนจากนอก แต่ไม่โกงเงินจากภาษีของชาวบ้าน ก็ดีอย่าง-เลวอย่าง

          ที่สำคัญ "ท่านฉลาด" เด็ดขาด-ไม่ยอมใคร แต่พร้อมค้อมหัวให้ "คนเก่ง-ที่ไม่โกง"!

          และคนเก่งที่ท่านต้องการนำมาใช้เพื่อการ "ปฏิวัติสังคมชาติ" คือใครท่านทราบมั้ย คือคนที่ท่านแค้นจนอยากฆ่าเพราะขวางทางการโกงแบงก์สมัยท่านเป็นนายทหารใหญ่ แต่พอคุมอำนาจบริหารประเทศ คนที่ท่านอยากฆ่า กลับเป็นคนคนแรกที่ท่าน "ตะกายหา" ให้กลับมาช่วยทำงาน...ปฏิวัติโครงสร้างสังคมชาติ

          "ดร.ป๋วย อึ๊งภากรณ์" ปรมาจารย์ทางเศรษฐกิจและการคลัง พ่อของนายจอน-นายใจ อึ๊งภากรณ์ นั่นไง!?
          พูดถึงการปฏิวัติ-การยึดอำนาจ ท่านอย่าเข้าใจไขว้เขวนะครับ ที่ทหารลากปืน-ลากรถถังมาขับไล่รัฐบาลทักษิณ อย่าง ๑๙ กันยา ๔๙ ที่พลเอกสนธิ บุญยรัตกลิน ผบ.ทบ.ทำนั้น เขาเรียกว่า "ยึดอำนาจ" ไม่ใช่ปฏิวัติ

          ส่วนการปฏิวัตินั้น จะต้องเป็นการเปลี่ยนแปลงชนิดรื้อโครงสร้างระบบ-ระบอบเดิมทิ้ง แล้วนำของใหม่มาใช้แทน เป็นการเปลี่ยนแปลงชนิดเฉียบขาด ฉับพลัน พลิกหน้ามือเป็นหลังมือ เห็นผลทันตาเห็น ถ้าเป็นทางการเมือง สมมุติเปลี่ยนจากประชาธิปไตยเป็นคอมมิวนิสต์ นี่เรียกปฏิวัติ

          เลิกระบบเกษตรแล้วเปลี่ยนเป็นระบบอุตสาหกรรมเครื่องจักรหมด นี่ก็เรียกปฏิวัติ ตั้งแต่เกิดมาโตเป็นหนุ่ม-เป็นสาวยันโทรม ไม่เคยนุ่งกางเกงในเลย จู่ๆ หันมานุ่งกางเกงในชนิดไม่ใส่แล้วออกจากบ้านไปไหนไม่ได้ นี่ก็เรียกว่าปฏิวัติตัวเอง

          แต่อย่างลากรถถังมาแล้ว "ชิ้ว...ชิ้ว...มึงออกไป กูเป็นรัฐบาลแทนเอง" แล้วทุกอย่างก็เหมือนเดิม โกงกันเหมือนเดิม พวกมึง-พวกกูเหมือนเดิม ข้าราชการก็มาสาย-บ่ายกลับเหมือนเดิม ปิดทางด่วนตะพึดตะพือเหมือนเดิม

          อย่างนี้ไม่เรียกปฏิวัติ เรียกว่า "สมบัติผลัดกันแดก" เพียงล้มรัฐบาล แต่ไม่ได้ล้างระบอบ

           พอเข้าใจกันนะครับ!?
          อย่างจอมพลสฤษดิ์นี่อาจเรียกได้ว่า "กึ่งปฏิวัติ-รัฐประหาร" คือยึดอำนาจแล้วเปลี่ยนระบบ แต่ไม่ได้เปลี่ยนระบอบ คือจากระบบรัฐสภาไปเป็น "ระบบเผด็จการ" แต่ภายใต้ระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุขเหมือนเดิม

          ที่ผมให้เครดิตว่า "กึ่งปฏิวัติ" เพราะท่านรัฐประหาร-ยึดอำนาจบริหารประเทศแล้ว ท่านปฏิวัติโครงสร้างสังคมชาติหลายอย่าง เปลี่ยนจากสังคมเกษตรพอกิน-พออยู่ภายใน ไปเป็นสังคมเกษตรอุตสาหกรรมเพื่อการส่งออก เปิดประเทศให้ทุนต่างชาติเข้ามาลงทุน ปฏิวัติ-จัดระบบสถาบันการเงิน-การธนาคารใหม่ให้เข้ามาตรฐานโลก ตั้งสำนักงบประมาณ ตั้งสภาพัฒน์ มีการใช้แผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมเป็นเข็มทิศนำประเทศ ฯลฯ

          เรียกว่า "จัดโครงสร้างสังคมชาติใหม่" เป็นรากฐานไว้จนถึงทุกวันนี้ ส่วนวันนี้ ใครจะชี้ว่าท่านพาประเทศหลงทางจนเป็นทาสระบบทุนชนิดถอนตัวไม่ขึ้น ผมก็ไม่เถียง แต่อยากจะบอกว่า ทุกสิ่งทุกอย่าง ในยุคหนึ่ง-สมัยหนึ่ง ก็ย่อมถูกต้อง-เหมาะสมกับยุคนั้น สมัยนั้น
          แต่ผ่านมา ๕๐ กว่าปี จะโทษจอมพลสฤษดิ์ไม่ได้ ต้องโทษทุกรัฐบาล และทุกคน เอาแต่กอบโกยผลิตผลจากมรดกปฏิวัติโครงสร้างสังคมของจอมพลสฤษดิ์  โดยไม่ยอมวิวัฒนาการโครงสร้างชาติตามไปกับวัน-เวลา-สถานการณ์ในแต่ละยุคสมัยด้วย เหมือนเรามีโรงงานที่พ่อสร้างไว้ ๕๐ ปี เราก็เพลินแต่กอบโกยผลได้จากผลิตผลเครื่องจักรนั้น

          ผ่านไป ๕๐ ปี ไม่ซ่อม ไม่เปลี่ยนเครื่องจักร ถึงวันนี้ จากยุคไอน้ำมาเป็นยุคไอที แล้วเราจะมาโทษว่า "ที่พ่อทำไว้ไม่ดี" โครงสร้างเกษตรของไทยป่นปี้ อุตสาหกรรมทุนทำให้ชาวไร่-ชาวนาเป็นหนี้ แต่พ่อค้า-นายทุนรวย อย่างนี้เห็นจะไม่ถูกต้องนัก

          การนำประเทศที่เคยอยู่กันแบบ "พออยู่-พอกิน" สุขสบายกันถ้วนหน้าตามอัตภาพ ไปเป็นระบบทุนข้ามชาติ ระบบอุตสาหกรรมเพื่อการส่งออกในยุคจอมพลสฤษดิ์ จนถึงวันนี้ ทั้งประเทศและคนไทยกลายเป็น "ทาสระบบทุน" กันไปหมดนั้น นั่นก็เพราะพวกเรา "เห็นแก่ตัว" ดูดทุกอย่างเอาจากประเทศ แต่ไม่เคยสนใจจะให้อะไรกับประเทศ

          เพราะทั้งนักการเมือง ทั้งพ่อค้า-นายทุน "น้อยคน" จะสำนึกด้วยเอื้อเฟื้อในคำว่า

          ได้แล้วรักษาเพื่อ "อนาคตส่วนรวม"!?

          "จอมพลสฤษดิ์+อาจารย์ป๋วย" นั่นแหละครับคือ "ต้นตำรับปฏิวัติสังคมชาติ" จะเรียกว่าเป็น "เผด็จการที่มีคุณูปการ" แก่สังคมชาตินับตั้งแต่ประเทศไทยมีการยึดอำนาจมาก็ย่อมได้ เพราะท่านไม่ได้ยึดอำนาจเพื่อกินชาติ แต่ท่าน "ปฏิวัติ" เพื่อสร้างชาติ เป็นมรดกงานฝากไว้จนถึงวันนี้

          เศรษฐกิจยุคจอมสฤษด์ จะเรียกว่ายุค "เศรษฐกิจ ๕๐ สตางค์" ก็ย่อมได้ ใครมีเงินติดกระเป๋าแค่ ๕๐ สตางค์พาสาวนั่งรถเมล์ชมกรุงได้ทุกสายรอบเมือง หิวกระหาย ร้อนนอก-ร้อนใน นั่งร้านไหนสั่งโอเลี้ยงมาบ้วนปากได้ ทุกร้าน-ทุกแก้ว-ทุกราคา ๕๐ สตางค์!

          ใครทำซ่า เจอข้อหาอันธพาล โน่น...ส่งไปซ่าอยู่ในลาดยาว ไอ้ที่จะชุมนุมสันติ-อหิงสา มาตั้งเวทีก๋าๆ แสดงบทเหี้ยตะกายตึกอย่างนั้นน่ะ สฤษดิ์เอาตายตั้งแต่ยังเป็นแค่ไข่เหี้ยนั่นแล้ว!!!

          ครับ...ก็ไม่มีอะไรมาก วันหยุดก็นั่งดูไร่แตงโม ไร่มะเขือเทศที่ปลูกไว้ ฝนตกติดต่อกัน ๒-๓ วัน เถาที่เหี่ยวเฉา บางเถาที่คอพับ-คออ่อน ค่อยกระดิกพลิกใบขึ้นมาบ้าง

          แล้วแผนปรองดองไปถึงไหนล่ะ อย่าเล่นบท "พ่อแง่-แม่งอน" กันให้นานนัก!?
          หัด "เจ้าชู้ยักษ์" ปากว่า-มือถึงบ้างเถอะครับท่านนายกฯ มัวแต่นั่งถอนหญ้า เอาผ้าเช็ดหน้ามาบิด แล้วเมื่อไหร่จะได้ขึ้นสวรรค์กันล่ะ ฝ่ายแกนนำเสื้อแดงเขาก็แค่เกี่ยงให้กำหนดวัน มันก็เหมือนมารยาหญิงเท่านั้น เพราะพวกเขาก็หลายฝ่าย มีทั้งพวกอยากให้จบ มีทั้งพวกอยากลากไว้หาแดก ลาไปไว้นาน ชาวบ้านจะเอียน

          เชิญมานั่งโต๊ะหม่ำลาบ ส้มตำ แกล้มสะตอ แล้วคุยกันประสาเพื่อนฝูง ประสาพี่ ประสาน้อง มีอะไรก็ว่ากันไปให้จบไปซะ มาถึงขั้นนี้แล้ว ใครไม่เห็นแก่ประเทศชาติ ก็ขอให้เห็นแก่ทางวัดบ้างเถอะ

          หาที่คุยลับๆ ไม่ได้ มาที่ดง "ลาบ-ส้มตำ" คลองเตยนี่ก็ได้ ผมจัดการให้ ร้านอู๋หน้า "ไทยโพสต์" นี่ ถึงริมถนนแต่อินเตอร์ ฝรั่งตกเรือมาดินเนอร์ซดช้างแกล้มสเต๊กน้ำตกกับซุปทุกคืน...ซุปหน่อไม้น่ะ!

          ตัดสินใจอะไรออกไปแล้ว "ลุยเลย" ไม่ต้องไปแคร์แดม "ข้าพเจ้าขอรับผิดชอบแต่ผู้เดียว"

        มาร์คเอ๋ย!


http://www.thaipost.net/news/060510/21826


หัวข้อ: Re: [2513]"ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: เหยง 16 ที่ 06 พฤษภาคม 2553, 19:14:37
เรื่องผี-ผี!!!
ท่านขุนน้อย 6 พฤษภาคม 2553 - 00:00


    ท่ามกลางบรรยากาศอันออกไปทางมั่วๆ มึนซ์ซ์ๆ เบลอๆ เช่นนี้...ดูๆ แล้วคงต้องหันไปพูดถึงเรื่อง ผี น่าจะดีกว่า เพราะเรื่องของ คน ในทุกๆ วันนี้ ไปๆ-มาๆ มันอาจจะหนักกว่าเรื่อง ผี หลายต่อหลายเท่า ไม่ว่าจะเป็นคนเลว คนดี คนรวย คนจน คนระดับนายกรัฐมนตรี ยันไปถึงคนระดับไพร่ ทาส ถ่อย สถุล....ล้วนแล้วแต่เชี่ยวชาญในการหลอกล่อ หลอกแดก หลอกรับประทาน ชนิดน่าพรั่นพรึง น่าสยดสยอง ยิ่งกว่าผีหลอกซะอีกต่างหาก...
         --------------------------------------------------
     ส่วนผีที่จะหยิบยกมาว่ากล่าวกัน ณ ที่นี้...ก็คงเป็น ผีเวียดนาม อันเนื่องมาจากข่าวคราวหน้าต่างประเทศ โต๊ะอินโดจีน หนังสือพิมพ์ เอเอสทีวี.ผู้จัดการ ฉบับวันวาน ได้นำเอาเรื่องราวเหล่านี้มาตีพิมพ์ไว้อย่างเป็นหลักเป็นฐาน ว่าด้วยกรณีที่ ศูนย์วิจัยศักยภาพมนุษย์ (Research Centre of Human Potentials) กรุงฮานอย ประเทศเวียดนาม ได้ออกมาเปิดเผยถึงผลงานการเก็บบันทึกรูปภาพ ผีเวียดนาม เอาไว้ได้จำนวนถึงกว่า 1,000 ภาพ จากสถานที่ต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นบริเวณสุสาน แหล่งฌาปนกิจศพ เรือนจำเก่าที่เคยเป็นแดนประหาร ถนนหนทางที่เคยมีอุบัติเหตุทางรถยนต์ จนกลายสภาพเป็นตลาดผี ไปจนถึงบริเวณสะพานข้ามแม่น้ำ ที่เป็นแหล่งฆ่าตัวตายของใครต่อใคร ฯลฯ...
        ----------------------------------------------------
     อันที่จริงก็เป็นที่ทราบๆ กันโดยทั่วไปว่า ประเทศเวียดนามนั้น พยายามหล่อหลอมสังคมตัวเองให้กลายเป็นสังคมคอมมิวนิสต์ ตามทฤษฏีมาร์กซ์-เลนินมาโดยตลอด นับตั้งแต่สงครามเย็นเริ่มต้นจนกระทั่งสงครามเย็นได้ยุติลงไป ซึ่งโดยรากฐานแนวคิดของทฤษฏีมาร์กซ์-เลนินนั้น ก็คือแนวคิดแบบที่เรียกๆ กันว่า วัตถุนิยม อันมุ่งที่จะปฏิเสธความมีอยู่ของสิ่งใดๆ ก็ตามที่ไม่ใช่วัตถุ สสาร ซึ่งสามารถสัมผัส และจับต้องได้ พูดง่ายๆ ก็คือ เป็นแนวคิดที่ไม่เชื่อเรื่องผี เรื่องวิญญาน เรื่องโลกนี้ โลกหน้า ชาตินี้ ชาติหน้า โดยเด็ดขาด ใครก็ตามที่ดันไปพูดเรื่องประเภทนี้ให้ชาวคอมมิวนิสต์ได้ยิน นอกจากอาจจะโดนตบกระโหลกได้โดยทันที ยังอาจถูกจับมาวิพากษ์ มาสัมมนา ในฐานะพวก จิตนิยม ที่ถูกถือเป็นฝ่ายตรงข้าม หรือต้องกลายเป็นพวก ซากเดนสังคมเก่า อะไรประมาณนั้น...
        -----------------------------------------------------
     ด้วยเหตุนี้...การที่ชาวคอมมิวนิสต์ หรือสังคมที่ต้องการจะพัฒนาตัวเองไปสู่ความเป็นคอมมิวนิสต์อย่างมุ่งมั่น มาเมื่อไม่กี่สิบปีมานี้เอง ดันหันกลับมาเชื่อเรื่องผีกันอย่างเป็นกิจการ หลังจากที่ได้เริ่มมีการผ่อนคลายสิทธิ เสรีภาพ ไปพร้อมๆ กับการเปลี่ยนแปลงระบบเศรษฐกิจ จากสังคมนิยมไปสู่ทุนนิยม ในแต่ละขั้นแต่ละจังหวะ จึงถือเป็นปรากฏการณ์ที่น่าสนใจเอามากๆ ไม่ต่างไปจากปรากฏการณ์ที่ชาวคอมมิวนิสต์จีนชักจะเริ่มหันกลับไปเคารพ บูชา ลัทธิขงจื๊อ หันไปเชื่อถือ ศรัทธาลัทธิฝ่าหลุนกง ฯลฯ กันเป็นจำนวนไม่น้อย หลังจากที่จีนได้แปรสภาพตัวเองมากลายเป็นทุนนิยมแบบเต็มสูบก่อนหน้าเวียดนามแค่ไม่กี่ปี...
        -----------------------------------------------------
     แม้นว่า ผีเวียดนาม ที่นาย เหวียน เกี๊ยก หาย หรือ เหวียน ซยั๊ก หาย (Nguyen Giac Hai) เจ้าหน้าที่วิจัยอาวุโสแห่งศูนย์วิจัยศักยภาพมนุษย์ฯ ได้อธิบายเอาไว้นั้น จะฟังดูก้าวหน้าทันสมัยอยู่ไม่น้อย  ดังคำให้สัมภาษณ์ที่ว่า...นายหาย กล่าวว่า ในเดือนสิงหาคม ปี ค.ศ.2550 เจ้าหน้าที่ของศูนย์ฯ  ผู้หนึ่ง ได้เดินทางไปทำธุระส่วนตัวที่เมืองดาลัท และได้ถ่ายรูปบ้านผีที่นั่น ปรากฏเป็นรูปร่างหลายชนิดที่มีแสงรอบๆ...เมื่อพบสิ่งแปลกๆ มากขึ้น เราได้เสิร์ชเข้าไปในอินเทอร์เน็ต และก็ได้พบว่า มีสิ่งที่เหมือนๆ กันนี้ในทั่วโลก ซึ่งเรียกกันว่า...ออร์บส์ (Orbs) นายหายกล่าว...แต่ ออร์บส์ ในประเทศอื่นๆ ที่มีที่มาจากคำว่า orbis ในภาษาละตินนั้น...ว่าไปแล้ว ก็เป็นเพียงแค่แสงที่มีรูปร่างคล้ายแผ่นดิสก์ หรือมีรูปร่างเป็นวงกลมซึ่งมีแสงเรืองๆ เท่านั้น  ต่างกับ ออร์บส์ ในเวียดนามที่ถึงขั้นปรากฏรูปร่างให้เห็นเป็นตัวๆ แถมเดินหิ้วหัวผ่านตลาดผี หรือผ่านฝูงชนที่กำลังนั่งแอ่นเหล้า แอ่นเบียร์ กันแบบ จะๆ แจ้งๆ...
     -----------------------------------------------------------
     แต่ไม่ว่า ออร์บส์ เวียดนาม กับ ออร์บส์ ในประเทศอื่นๆ จะแตกต่างกันไปขนาดไหน การที่สังคมเวียดนามได้หันมาให้ความสนใจในเรื่องผี หรือเรื่อง ชีวิตหลังความตาย (Life After Death) อย่างเป็นกิจจะลักษณะ ชนิดที่สถาบันระดับศูนย์วิจัยของทางการออกมาเปิดเผยถึงการทุ่มเทความพยายาม ที่จะนำเอาการวิจัยเรื่องราวเหล่านี้ มาใช้เป็นตัวกระตุ้นให้วงการวิทยาศาสตร์ของประเทศหันมาศึกษากันอย่างเป็นระบบ ก็อาจถือเป็นปรากฏการณ์ และนิมิตหมายที่น่าสนใจไม่น้อย เพราะในขณะที่แนวคิดวัตถุนิยม อุดมการณ์สังคมนิยม ในหมู่ชาวเวียดนามมันชักจะเสื่อมโทรมลงไปทุกที ความเชื่อในเรื่องผี เรื่องวิญญาน เรื่องชีวิตหลังความตาย เรื่องโลกนี้ โลกหน้า ไปจนกระทั่งเรื่องบุญ เรื่องบาป มันอาจพอมีส่วนช่วยฉุดรั้ง หรือพอช่วยถ่วงๆ ไม่ให้การทุจริต คอรัปชั่น การประพฤติผิดศีลธรรม ความไม่ละอายต่อบาป ซึ่งกำลังแผ่ขยายลุกลามไปทั่วทั้งสังคมเวียดนาม พร้อมๆ กับการขยายตัวของทุนนิยม อาจจะเบาๆ ลงไปบ้างแม้แต่เพียงนิดๆ ก็ยังดี...
    ------------------------------------------------------------
     ส่วนสังคมไทยของเรา ที่เดินหน้ามาในแนวทุนนิยมแบบเต็มสูบ ซึ่งก็คือวัตถุนิยมในอีกรูปแบบหนึ่งนั่นเอง แม้นว่าความเชื่อในเรื่องผี เรื่องสาง เรื่องโลกนี้ โลกหน้า จะดำรงคงอยู่กับสังคมไทยมาโดยตลอด แต่ในเรื่องบุญ เรื่องบาป หรือเรื่องความละอายต่อบาป เหตุใดมันถึงกลับลดน้อยถอยลงแบบฮวบๆ ฮาบๆ ยิ่งกว่าสังคมเวียดนามไม่รู้กี่เท่าต่อกี่เท่า จะเป็นเพราะว่านอกจากเราจะไม่เคยได้รับรู้สัมผัสกับอุดมการณ์อันเป็นไปเพื่อสังคม  แบบอุดมการณ์สังคมนิยมมาก่อนเลย หรือเป็นเพราะเราหันไป นิยมวัตถุ กันมานานแสนนานหรือไม่? เพียงใด? ก็มิอาจทราบได้ การทุจริต คอรัปชั่น ตลอดไปจนความเสื่อมโทรมทางศีลธรรมในสังคม นับวันมันจะปรากฏให้เห็นมา
กขึ้นเรื่อยๆ ในทุกๆ วงการ ตั้งแต่ยอดไปถึงฐาน ตั้งแต่ผู้นำทางการเมือง ข้าราชการ ตลอดไปจนราษฏรระดับรากหญ้า ชนิดที่ทำให้ไม่ว่าเราคิดจะปฏิรูปอะไรก็ตาม แต่ถ้าหากไม่คิดจะปฏิรูปศีลธรรมซะอย่าง...ยังไงๆ เราก็คงหนีไม่พ้นความฉิบหายอย่างที่เคยมา และจะต้องเป็นไปโดยมิอาจหลีกเลี่ยงได้เลย...เพราะความเสื่อมเท่าที่ดำรงอยู่ในสังคมไทยทุกวันนี้ มันได้ทำให้เรื่องของ คนหลอกคน น่ากลัวเสียยิ่งกว่าเรื่อง ผีหลอกคน ไม่รู้กี่ร้อยกี่พันเท่า...
      --------------------------------------------------------
    ปิดท้ายด้วยวาทะวันนี้จาก สุภาษิตขงจื๊อ...รู้ว่าเป็นความถูกต้อง แต่กลับละเลย...นั่นคือความขี้ขลาด...
        -----------------------------------------------------


หัวข้อ: Re: [2513]"ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: เหยง 16 ที่ 06 พฤษภาคม 2553, 19:26:10
ดอกไม้..ที่ปลายปืน
ถูกทุกข้อ6 พฤษภาคม 2553 - 00:00

     อกไม้จันท์ควันฟ่องเหนือท้องฟ้า
     เทียนน้ำตานองพื้นสะอื้นไห้
     คนในชุดขาวดำร่ำอาลัย
     เสียดายคนจากไกลไปจากกัน
          คนบนเมรุ..วันนี้ของเมื่อวาน
          ถูกสังหารชีวาลงอาสัญ
          ด้วยน้ำมือของกลุ่มเหล่ากุมภัณฑ์
          หวังแปลงปั้นเปลี่ยนธงไตรรงค์ไทย
     สงกรานต์เลือดเมษา..ปีห้าสาม
     ศึกในลาม..ความเมืองเรื่องสาวไส้
     ระเบิดปืนครื้นเครงบรรเลงภัย
     เลือดนองไหลไทยล่าฆ่ากันเอง
          ภาพนักฆ่า..ปรากฏไม่ลดภาพ
          คนใจบาปตราตรูขู่ข่มเหง
          คนนำพา..ประชาชนอลเวง
          เหล่านักเลงการเมืองก่อเรื่องราว
     เศรษฐกิจ..สังคมทุกข์ขมขื่น
     เมื่อเสียงปืนลั่นโลกตกเป็นข่าว
     ไทยฆ่าไทยกันเองดับเพลงดาว
     เหม็นกลิ่นคาวคนชั่วไปทั่วโลก
          มอญร้องไห้..ดอกไม้จันท์และพวงหรีด
          ดั่งคมมีดกรีดเสียงสำเนียงโศก
          จะต้องพลีอีกกี่ศพจึงพบโชค
          วิปโยคประเทศไทยจึงคลายมนต์
                                             สมเจตน์ สายแก้ว
     
               นายกฯ กำลังคิดอะไร
เรียน คุณสามวา สองศอก
     จากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในครั้งนี้ มีอะไรที่น่าคิดมากเหลือเกิน นายกฯ กำลังทำอะไรหลายคนตั้งข้อสงสัย และคำถามพรั่งพรูมากในทุกวงการ บ้างก็ตำหนิติเตียน บ้างก็ให้กำลังใจสนับสนุนโดยที่เชื่อแน่ว่าโพลล์สำรวจคงออกมาในไม่ช้านี้ ก็จะเห็นตัวเลขเป็นรูปธรรมคร่าวๆ
     มุมมองของผมก็คงไม่ต่างไปจากหลายๆ คนที่กำลังคิดบวกกับรัฐบาล เพราะนี่คือการแสดงความเหนือชั้นออกมา หากทฤษฎีนี้เป็นความจริง จะด้วยความตั้งใจหรือไม่ก็ตาม ผมต้องขอบอกว่าสุดยอดจริงๆ ท่านนายกฯ กำลังขีดเส้นใต้บรรทัดสุดท้ายด้วยเส้นสองเส้นคือขาวกับดำ
     แน่นอนคนมักจะเห็นเป็นสีดำ แต่ขอให้เพ่งดูดีๆ ว่าสีขาวที่ซ่อนอยู่นั้น มันกลืนไปกับพื้นกระดาษซึ่งส่วนใหญ่เป็นสีขาวอยู่แล้ว...!!!
     พวกเราประชาชนคนธรรมดา ขอให้ช่วยกันไตร่ตรองให้รอบคอบเถอะครับ จากคำแถลงของนายกฯ เมื่อวาน ผมกลับคิดว่านี่ไม่ใช่วาทะการเอาตัวรอดของนายกฯ แต่เป็นมีดที่จะกรีดลงบนเสื้อแดง เพราะถ้าแกนนำยอมรับ ศรัทธาของอีพ่ออีแม่ที่มาร่วมชุมนุมจะรู้สึกอย่างไรกับแกนนำ...ใจสลายเลย...ส่วนพวก Hardcore ไม่ต้องพูดถึงมันไม่ยอมแน่
     คิดให้ดีทำไมนายกฯ อภิสิทธิ์ถึงออกมารูปนี้ จากการจับกุมอาวุธสงครามได้มากมายขนาดนี้ รวมถึงตัวการสำคัญคือเมธีที่ให้การหมดเปลือก ก็เท่ากับว่าพวกกบฏรู้ตัวแล้วว่ารัฐบาลรู้ไส้ในหมดแล้ว และออกมาตีหน้าซื่อยื่นข้อเสนอเลือกตั้ง 14 พ.ย.ให้อีก...มันอะไรกัน
     ฟังเผินๆ เหมือนๆ กัน พวกเราหลายคนอาจคิดว่าทุเรศที่ยอมความง่ายๆ ตรงกันข้ามเปล่าเลยนะครับ ท่านบอกชัดว่าถ้าไม่เป็นไปตามนี้ ก็จะดำเนิน 5 ข้อต่อไป แต่จะไม่รับรองว่าจะมีการเลือกตั้งได้หรือเปล่าทำนองนี้ ไปฟังให้ดีๆ
     ดังนั้นก็ไม่ได้หมายความว่าท่านปิดช่องทั้งหมด เพราะรู้แล้วว่าอะไรน่าจะเกิดขึ้น...
     ถ้าพวกมันไม่ยอม...ตรงนี้ละครับ ที่เป็นอะไรที่เราจะได้เห็นการล้างแผ่นดิน แต่แน่นอนเราต้องถามตัวเองว่า เราต้องมีการสูญเสียที่อาจคาดไม่ถึง เราพร้อมที่จะรับมันได้หรือยังครับ ถ้าพร้อมก็ลุกขึ้นมาขอให้รัฐลุยเสียเลย...แล้วพวกเราก็ไม่วายโยนบาปให้รัฐบาลรับผิดชอบในที่สุด
     แต่ถ้าพวกมันยอม...พวกมันมีแต่เสียกับเสีย ทั้งมวลชนและเสียอิสรภาพ คุณคิดหรือว่าเส้นสีดำที่นายกฯ ท่านขีดไว้แล้วนี้คนจะไม่เห็น คนเห็นชัดยิ่งขึ้น มีทั้งรายชึ่อ หน้าตาทางสื่อทุกประเภท กลุ่มไหน กลุ่มใคร ความชั่วที่ปรากฏเป็นเช่นไร...
     นับจากนี้ต่อไปเมื่อไรก็ตาม ที่พวกมันใช้ชีวิตอยู่ในสังคมไทยมันอยู่ลำบากขึ้น นอกจากจะอยู่
รวมกับพวกโจรด้วยกันเท่านั้นเอง ที่มันจะสามารถอยู่อย่างปกติได้ เมื่อไรที่มันหลงถิ่น สังคมคงไม่ปล่อยไว้แน่ ปฏิกิริยาสนองตอบคงมีให้เห็นกันนับจากนี้...
     แต่หากพวกมันอยู่ในคุกในตาราง ก็คงไม่มีโอกาสได้เรียนรู้การต้อนรับจากสังคมข้างนอก...
     ผมในความเห็นส่วนตัว ขอชื่นชมและขอบคุณนายกรัฐมนตรีท่านนี้ ที่ได้แสดงออกถึงความจริงใจในการแก้ปัญหา ไม่ให้มีการสูญเสียไปมากกว่านี้...
     แต่ท่านต้องไม่ลืมว่าความฉลาดหลักแหลม+ความดีของท่าน ไม่สามารถชนะใจคนไทยทั้งชาติได้ หากท่านไม่เติมความเข้มแข็ง ที่ท่านต้องใช้กฎหมายอย่างเฉียบขาด ตามที่ท่านพูดเอาไว้เองนะครับ
                                                                ลุงโทนี่
                                                    ประชาชนคนไทยคนหนึ่ง
ตอบ ลุงโทนี่
     ไม่เฉพาะคนไทยเท่านั้นที่งง คนต่างชาติก็คงจะงงไม่แพ้กัน ที่ตอนเช้าทั้งรองนายกฯ สุเทพ กับ พ.อ.สรรเสริญ ยังประสานเสียงว่าจะสลายม็อบเสื้อแดง จะใช้รถหุ้มเกราะออกมาปฏิบัติการ พร้อมทั้งขู่ว่าคราวนี้จะเอาจริงถึงตายเลยล่ะ
     แต่พอถึงสามทุ่มเศษ นายกฯ อภิสิทธิ์ก็ออกมาประกาศวันเลือกตั้ง 14 พฤศจิกายน โดยข้ามขั้นตอนการยุบสภาที่พวกเสื้อแดงเรียกร้อง แถมยังมีแผนปรองดองออกมาอีกหลายข้อ แกนนำเสื้อแดงได้ยินก็แทบจะโห่ฮิ้ว เพราะหาทางลงได้แล้ว
     แต่ที่ยังทำเป็นเล่นตัวไม่ยอมสลายม็อบที่แยกราชประสงค์ คงจะหาทางลำเลียงอาวุธสงครามออกไปจากสถานที่ชุมนุมเสียก่อน หมดเมื่อไหร่ก็คงประกาศให้แนวร่วมที่ว่านอนสอนง่ายกลับบ้านใครบ้านมัน โดยมีรถฟรีของซาเล้งไปส่งถึงบ้าน
     ถึงแม้อดีตนายกฯ ชวนจะไม่เห็นด้วยกับการยุบสภา แต่ชาวบ้านส่วนใหญ่ก็เห็นด้วยกับแผนปรองดอง ด้วยการกำหนดให้มีการเลือกตั้งใหม่ในวันที่ 14 พฤศจิกายน         
     แต่เชื่อเถอะก่อนถึงวันที่ 14 พฤศจิกายน หรือก่อนถึงวันยุบสภา ต้องมีอะไรที่คาดไม่ถึงเกิดขึ้นอีกแน่

                         ตายก่อนตาย
เรียน คุณสามวา สองศอก
     ผมอ่านไทยโพสต์ ฉบับวันจันทร์ที่ 3 พฤษภาคม 2553 คอลัมน์พี่เปลว สีเงิน ชอบคำลงท้ายที่ว่า ทหารเกณฑ์-ไอ้เณรกู้ชาติ เพราะท่านเหล่านี้นอกจากจะต้องทำตามคำสั่งผู้บังคับบัญชา ในฐานะผู้รักษาหน้าที่วินัยทหารแล้ว ความสำนึกที่ทำเพื่อแผ่นดินเกิด ดูจะเหนือกว่านายพลที่เราเรียกว่าเสธ.เพี้ยนมากมาย แม้แต่พลทหารที่เสียชีวิตจากเหตุการณ์ที่อนุสรณ์สถาน ผมเรียกท่านว่า ตายในหน้าที่ ไม่มีวันตาย เพราะชื่อของท่านจะสถิตอยู่คู่ฟ้าเมืองไทยตราบนานเท่านาน
     เหตุการณ์ชุมนุมของมวลชนคนของ ทักษิณ ชินวัตร ได้สร้างปรากฏความเป็นจริงของทหารและตำรวจหลายราย ตั้งแต่ยศพลเอก พลตำรวจเอก จนถึงพลตำรวจ ที่มีจิตใจอันทรยศต่อข้าวแดงแกงร้อนของประชาชน ที่เสียภาษีเป็นเงินเดือนสวัสดิการให้ได้เลี้ยงครอบครัว เงินค่าเล่าเรียนเขียนอ่านของบุตรธิดา
     แต่กลับเสพเงินอัดฉีดเป็นมื้อเป็นคราวของ ทักษิณและพรรคพวกทักษิณ ทั้งที่เป็นนักธุรกิจ นักการเมืองที่ร่วมโกงชาติโกงแผ่นดิน ไปอำนวยช่วยเหลือดังที่ได้ปรากฏทั้งข่าวแจ้งและข่าวลับ ถือได้ว่าเป็นการทรยศต่อข้าวต่อแกงชาวบ้าน คนพวกนี้ไม่ได้ซื่อสัตย์ต่อวิชาชีพ ไม่รักษาหน้าที่ที่ตนเอง
     มีให้ดูเป็นตัวอย่างเช่น ทักษิณ ชินวัตร ไม่ซื่อสัตย์ต่อความเป็นคนไทย ทำอนันตริยกรรมต่อชาติต่อแผ่นดิน มีชีวิตเพียงให้คนประณามหยามเหยียด และในอนาคตก็จะจารึกในฐานะคนทรยศต่อความเป็นคนไทย ต่อหน้าที่ของตนที่เคยเป็นถึงอดีตนายกรัฐมนตรีของเมืองไทย 
     เขาเหล่านี้ได้ ตายก่อนตาย แล้ว คือตายจากการเป็นคนไทย ตายจากการเป็นทหารและ
ตำรวจ ถึงมีลมหายใจก็ปราศจากคุณค่าต่อสังคมประเทศชาติ
     ตายก่อนตายเศร้ากว่าการตายจริงซะอีก.
                                                            ดักแด้ (ชรา)
ตอบ คุณดักแด้ (ชรา)
     ฝ่ายรัฐบาลก็มีแต่ทหารเกณฑ์กับไอ้เณรที่ตาย บรรดาพลเอกทั้งหลายทุกคนยังสบายดี ก็เหมือนกับพวกเสื้อแดงนั่นแหละ ที่ตายไปก็มีแต่พวกชาวบ้านเท่านั้น เพราะทุกครั้งที่มีการปะทะกัน แกนนำเสื้อแดงทุกคนปลอดภัย
                                                         สามวา สองศอก
                 
http://www.thaipost.net/news/060510/21808


หัวข้อ: Re: [2513]"ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: เหยง 16 ที่ 07 พฤษภาคม 2553, 09:19:01
บทบรรณาธิการ นสพ. แนวหน้า ออนไลน์ วันศุกร์ที่ 7 พฤษภาคม 2553

ดูเหมือน มีคนส่วนหนึ่ง(ส่วนใหญ่ด้วยเช่นกัน) ไม่เห็นด้วยกับการปรองดองกับเสื้อแดง

บทบรรณาธิการ
รัฐบุรุษไม่สมานฉันท์กับโจร (บทบรรณาธิการ)  
 
 
    แผนการเพื่อสร้างสันติภาพ 5 ประการ ให้กับประเทศไทย หรือที่สังคมเรียกกันจนติดปากว่า Road Map 5 ข้อ ซึ่งถูกประกาศออกจากปากของนายกรัฐมนตรี นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ เมื่อคืนวันจันทร์ที่ 3 พฤษภาคม พ.ศ. 2553 ได้กลายเป็นดาบสองคมไปโดยปริยาย

    ผู้คนในสังคมฝ่ายหนึ่งแสดงความชื่นชมและยินดีกับแผนการนี้อย่างล้นเหลือ เพราะเชื่อมั่นว่าจะช่วยทำให้ประเทศไทยก้าวข้ามและผ่านพ้นวิกฤตการณ์ที่รุมเร้าและทำร้ายประเทศไทยมาอย่างยาวนานได้อย่างเป็นรูปธรรม

    แต่อีกฝ่ายหนึ่งกลับมีความเห็นตรงกันข้าม เพราะไม่ศรัทธาและไม่เชื่อมั่นว่าแผนการทั้ง 5 ประการนี้ จะทำให้ประเทศชาติสงบและกลับคืนสู่สภาวะปกติสุขได้อย่างแท้จริง นอกจากนี้ยังวิตกกังวลด้วยว่า แผนการนี้จะทำให้บ้านเมืองลุกเป็นไฟหนักยิ่งกว่าเดิมในอนาคตอันใกล้ และอาจจะมีการเข่นฆ่าล้างผลาญชีวิตของกันและกันอย่างหนักตามมาด้วย

    ไม่มีผู้ใดรู้อย่างชัดเจนและลึกซึ้งว่า เหตุใดนายกรัฐมนตรีจึงตัดสินใจประกาศแผนการทั้ง 5 ข้อ ในคืนวันจันทร์ที่ 3 พฤษภาคม ทำไมจึงไม่ประกาศก่อนหน้านี้ แล้วก็ไม่มีผู้ใดกล้ายืนยันว่า แผนการทั้ง 5 ข้อ เกิดมาจากความคิดเห็นของผู้ใดบ้าง นอกจากตัวของนายกรัฐมนตรีเพียงคนเดียวที่รับรู้เรื่องนี้เพียงลำพัง

 อย่างไรก็ตาม นายกรัฐมนตรีต้องไม่ปฏิเสธความจริงที่ว่า สังคมไทยในยุคนี้กำลังตกอยู่ในสภาพที่คนไทยส่วนหนึ่งไม่เคารพกฎกติกาสังคมและจงใจกระทำการละเมิดกฎหมายของแผ่นดิน นายกรัฐมนตรีต้องยอมรับความจริงที่ว่า คนกลุ่มหนึ่งกำลังกระทำการละเมิดสิทธิเสรีภาพของประชาชนผู้บริสุทธิ์ โดยใช้ความรุนแรงสารพัดรูปแบบ

    ที่สำคัญก็คือ รัฐบาลยังประกาศด้วยว่า มีผู้ก่อการร้ายแฝงตัวอยู่ในการชุมนุมประท้วงด้วย และยังมีการปิดถนนที่บริเวณสี่แยกราชประสงค์ และถนนใกล้เคียง การยกขบวนไปปิดเส้นทางการจราจรอื่นๆ ตามอำเภอใจหลายครั้งหลายหน การพากลุ่มอันธพาลไปบุกค้นโรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ ภายใต้การนำของนายพายัพ ปั้นเกตุ สส. จังหวัดสิงห์บุรี การส่งเสียงรบกวนผู้ป่วยในโรงพยาบาลตำรวจ การส่งเสียงรบกวนเข้าไปในเขตวังสระปทุมและวัดสระปทุม การใช้อาวุธสงครามสารพัดชนิดยิงเข้าใส่กระทรวงกลาโหม สถานที่ราชการอื่นๆ บ้านพักเอกชน และชุมชนสีลม ฯลฯ

    ยังมีความจริงอีกประการหนึ่งที่รัฐบาลภายใต้การนำของนายอภิสิทธิ์ และบรรดาเจ้าหน้าที่ในหน่วยงานของรัฐ ซึ่งมีหน้าที่ดูแลรักษาความสงบสุขให้กับบ้านเมืองโดยตรงกลับไม่สามารถทำหน้าที่ได้อย่างมีประสิทธิภาพ ก็คือ เรื่องที่รัฐบาลและเจ้าหน้าที่ของรัฐไม่สามารถจับตัวผู้ก่อการร้ายและตัวผู้ก่อเหตุไม่ปกติได้แม้แต่รายเดียว ถึงแม้รัฐบาลจะอ้างว่ามีเบาะแสมากมาย และสามารถจับกุมตัวผู้กระทำผิดบางคนได้แล้วก็ตาม แต่สุดท้ายก็ยังไม่สามารถนำตัวไปลงโทษได้อย่างเบ็ดเสร็จเด็ดขาด

    เหล่านี้คือ มูลเหตุที่ทำให้ประชาชนผู้บริสุทธิ์ไม่ไว้วางใจ Road Map 5 ข้อ ของนายกรัฐมนตรี และเรียกร้องให้นายกรัฐมนตรีต้องบริหารประเทศอย่างเข้มแข็งและเด็ดขาดบนพื้นฐานของความชอบธรรม ขอย้ำว่ารัฐบุรุษต้องไม่ยอมให้กฎหมู่อยู่เหนือกฎหมาย และต้องไม่ยอมให้โจรมีสิทธิ์เหนือผู้บริสุทธิ์ 
 
วันที่ 7/5/2010

http://www.naewna.com/news.asp?ID=210136


หัวข้อ: Re: [2513]"ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: เหยง 16 ที่ 07 พฤษภาคม 2553, 09:25:24
บทบรรณาธิการของ นสพ.ไทยโพสต์ ออนไลน์ วันนี้ กล่าวถึงบรรดาพรรคการเมืองจ้องหาผลประโยชน์จากแผน Road Map 5 ข้อ เพื่อให้สมประโยชน์ของแต่ละพรรค แทนการสนับสนุนให้เกิดการปรองดองขึ้นในชาติ

อย่าฉวยโอกาสทางการเมือง  
บทบรรณาธิการ 7 พฤษภาคม 2553 - 00:00 

     พียงแค่ยังไม่มีความชัดเจนต่อทิศทางการแก้ไขปัญหาวิกฤติการเมืองว่า สุดท้ายแผนปรองดองแห่งชาติ หรือโรดแม็พการเมืองของอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรีจากพรรคประชาธิปัตย์จะมีอะไรที่เป็นรูปธรรม และจะมีทิศทางในการทำให้สถานการณ์การเมืองคลี่คลายไปในทิศทางใด
     ก็ปรากฏว่าเริ่มมีการขยับขับเคลื่อนของฝายต่างๆ ที่ต้องการจะฉวยโอกาสแสวงหาผลประโยชน์ทางการเมืองกับปฏิทินการแก้ไขปัญหาวิกฤติการเมืองครั้งนี้กันแล้ว โดยเฉพาะจากบรรดาเหล่าแกนนำพรรคร่วมรัฐบาลที่เป็นระดับคีย์แมนหรือเจ้าของพรรคตัวจริง แต่ไม่สามารถมาเล่นการเมืองเต็มตัวได้เพราะติดโทษแบนในคดียุบพรรค
     ไม่ว่าจะเป็นบรรหาร ศิลปอาชา สมศักดิ์ ปริศนานันทกุล จากชาติไทยพัฒนา เนวิน ชิดชอบ สรอรรถ กลิ่นประทุม สมศักดิ์ เทพสุทิน สุชาติ ตันเจริญ อนุทิน ชาญวีรกูล จากภูมิใจไทย ประดิษฐ์ ภัทรประสิทธิ์ จากพรรครวมชาติพัฒนา พินิจ จารุสมบัติ จากเพื่อแผ่นดิน เป็นต้น
     ที่แสดงอาการกระเหี้ยนกระหือรือ จ้องจะฉกฉวยโอกาสเงินโอกาสทองครั้งนี้ ด้วยการกดดันให้พรรคประชาธิปัตย์ นอกจากจะทำการแก้ไขรัฐธรรมนูญด้วยการเปลี่ยนแปลงระบบการเลือกตั้งจากระบบปัจจุบันที่เป็นระบบรวมเขตหรือพวงใหญ่ ให้เป็นระบบเขตเดียวเบอร์เดียว หรือวันแมนวันโหวตแล้ว ยังมีข่าวว่าแกนนำพรรคร่วมรัฐบาลหลายคนเสนอต่อประชาธิปัตย์ว่า ในถ้อยแถลงของนายอภิสิทธิ์ผ่านโทรทัศน์รวมการเฉพาะกิจเมื่อวันจันทร์ที่ 3 พฤษภาคม 2553 มีการพูดถึงเรื่องการตัดสิทธิทางการเมืองที่แม้จะไม่มีรายละเอียด แต่ก็ตีความได้ไม่ยากว่าหมายถึงเรื่องคดียุบพรรค ดังนั้น ก็ควรใช้โอกาสนี้นิรโทษกรรมทางการเมืองกับอดีตกรรมการบริหารพรรคที่ถูกตัดสิทธิ์ทางการเมืองห้าปีในคดียุบพรรคไม่ว่าจะเป็นพรรคไทยรักไทย พลังประชาชน ชาติไทย มัชฌิมาธิปไตย ซึ่งก็คือการปล่อยผีคดียุบพรรคก่อนกำหนดนั่นเอง
     สิ่งนี้ถือว่าไม่เหมาะสมอย่างยิ่ง เพราะลำพังแค่การจะใช้จังหวะนี้ฉวยโอกาสแก้ไขรัฐธรรมนูญอย่างรีบเร่งภายใต้ระยะเวลาที่มีแค่ประมาณสี่เดือนกว่า ซึ่งก็ยังไม่รู้ว่าจะทันหรือไม่ ก็ถือว่าหนักหนาพอแล้ว และคงจะทำได้ลำบาก เพราะกระแสสังคมต้องไม่เห็นด้วยแน่นอน แต่จะถึงขั้นให้มีการนิรโทษกรรมคดียุบพรรคการเมือง ก็เท่ากับว่านักการเมือง คือ อภิสิทธิ์ชนที่ไม่จำเป็นต้องรับโทษการเมืองตามคำตัดสินของศาลรัฐธรรมนูญและตุลาการรัฐธรรมนูญ
     หากอภิสิทธิ์และประชาธิปัตย์สมยอมด้วยกับแรงบีบของแกนนำพรรคร่วมรัฐบาล สิ่งที่เกิดขึ้นจะเป็นการทำให้ระบบการเมืองและกระบวนการตัดสินคดีของศาลรัฐธรรมนูญขาดความศักดิ์สิทธิ์ เพราะมีการใช้อำนาจทางการเมืองมาล้มล้างการตัดสินของศาลรัฐธรรมนูญ เพื่อช่วยเหลือพวกพ้องนักการเมืองด้วยกันเอง ต่อไปหากนักการเมือง พรรคการเมืองคิดทุจริตการเลือกตั้ง วางแผนซื้อเสียงแล้วถูกจับได้ ศาลรัฐธรรมนูญตัดสินยุบพรรค ตัดสิทธิทางการเมือง ก็ใช้วิธีการออกกฎหมายนิรโทษกรรมแบบนี้ ระบบกฎหมายและกติกาการเมืองพังพินาศแน่นอน ซึ่งนอกจากจะไม่ได้แก้ปัญหาคนเสื้อแดงแล้ว แต่จะเป็นการสร้างปัญหาใหม่ให้กับตัวเองและสังคมการเมืองไทยด้วย และเชื่อว่าสุดท้ายแผนปรองดองดังกล่าวจะนำไปสู่ปัญหาการเมืองที่เกิดขึ้นใหม่อีกหลายระลอก จนไม่สามารถจับต้นชนปลายได้ถูกว่าอะไรคือต้นเหตุ ปลายเหตุ และทางแห่งการยุติปัญหา.

http://www.thaipost.net/news/070510/21862


หัวข้อ: Re: [2513]"ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: เหยง 16 ที่ 07 พฤษภาคม 2553, 09:33:09
คอลัมม์ "คนปลายซอย" ของคุณเปลว สีเงิน วิพากย์ Road Map ซึ่งยังไม่มีการตอบรับจากเสื้อแดง

แค่"หนังตัวอย่าง"แล้วจะตั้งแง่กันไปทำไม?
เปลว สีเงิน 7 พฤษภาคม 2553 - 00:00


                ถ้ามานับจากคืนวันที่ ๓ พ.ค.๕๓ ที่นายกฯ ประกาศแผนปรองดอง ๕ ข้อ เมื่อถึงวันอาทิตย์ที่ ๙ พ.ค.ก็เรียกว่า "ครบ ๗ วัน" ถ้าเป็นผี ไม่เผา-ก็เก็บ จะไม่เอาศพมาตั้งเอ้อเร้อเอ้อเต่อกลางบ้าน-กลางเมืองอยู่อย่างนี้หรอก ฉะนั้น ช่วงนี้ ก่อนครบ ๗ วัน ผมคิดว่า ประชาสังคมและ ศอฉ.จะยังคง "อดทน-อดกลั้น-รอคอย" ให้ผีป่าเข้าธานี โดยไม่บ่น ยอมทนสะอิดสะเอียน อีกซักพัก แต่ถ้าพ้นจากวันที่ ๙ พ.ค.ไปแล้ว ผมจะบอกให้ "วีระ-จตุพร-ณัฐวุฒิ" ถึงหลังฉาก พวกคุณจะต่อสายคุยกับรัฐบาลดีขนาดไหน.....

                แต่ถ้ากลุ่มผู้ชุมนุมยังไม่หายไปจากราชประสงค์ ยังยั้วเยี้ยเป็น "นิคมปกครองตนเอง" กันอยู่อย่างนี้ และรัฐบาล-ศอฉ.ก็ไม่เด็ดขาดให้แกนนำกบฏตัดสินใจยกพวกกลับกันไป
                ผมคิดว่า "ประชาสังคม" จะเป็นฝ่าย "เด็ดขาด" กับรัฐบาล และ ศอฉ.ให้ตัดสินใจ "ทำอย่างใด-อย่างหนึ่ง" ให้เป็นที่ "เบ็ดเสร็จ" จะปล่อยให้บริหารปัญหาแบบคนต่อมปัสสาวะอักเสบคือ "เยี่ยวไม่สุด" อยู่อย่างนี้ไมได้!

                ถึงตอนนี้ คนเริ่มมองหน้ากัน แล้วถาม...ปรองดอง..แล้วไง?

                ฝ่ายแกนนำกบฏก็โอเค ฝ่ายพรรคประชาธิปัตย์ "แกนรัฐบาล" และพรรคร่วมก็โอเค นายกฯ อภิสิทธิ์ก็โอเค ในเมื่อตัวหลักๆ ผู้มีอำนาจกินบ้าน-กินเมืองโดยตรง โอเคหมด
                แล้วทำไมยังปล่อยให้ผู้ชุมนุมเสื้อแดงยึดราชประสงค์เป็นป่าละเมาะริมทาง กิน-ขี้-ปี้-นอน โดยไม่เอื้ออาทรกับความเดือดร้อนของชาวบ้าน-ชาวเมืองเขาอยู่อีกล่ะ?

                ก็ฝากให้นายกฯ คิด บรรดาตะกวดตะกายตึกคิด และผู้ชุมนุมทั้งหลายได้คิด ผมไม่สนใจหรอกว่า "เบื้องหลัง" ของแผนปรองดอง ฝ่ายรัฐบาล-ฝ่ายกบฏจะต่อสายเจรจาซูเอี๋ยกันหรือไม่ พวกคุณจะต่อรอง-ซูเอี๋ยกันอย่างไรก็ได้ เพราะเบื้องหลังของความสำเร็จทุกเรื่องในโลก มาจาก "ความโสโครก" ภายใต้หน้ากากทั้งนั้น แต่ข้อสำคัญ
                พวกม็อบล้มบ้าน-ล้มสถาบันจะต้อง "หายไป" จากท้องถนน....เจ้าใจมั้ย?

                ทำเป็นเกี่ยง แค่ "ให้รัฐบาลระบุวันยุบสภา" ไม่งั้นไม่สลายการชุมนุม ไม่อยากพูดว่านี่คือการ "แกล้งโง่" เพราะพวกไพร่สถุลมันก็ไพร่สถุลวันยังค่ำ ทำแกล้งโง่ "ซื้อเวลา" พักฟื้น และรอเช็กข่าวจริงๆ เท่านั้นแหละว่า ที่ทักษิณทวิตเตอร์มานั้นมัน "ทักษิณตัวจริง" หรือ "ผี-นอมินีทักษิณ"?

                เพราะอะไร...เพราะจากข่าว "ตาย-ไม่ตาย" นี้ สร้างปัญหาใหญ่ให้กับ "ตัวจ่าย" ที่ชักไม่มั่นใจ เลยจ่ายมั่ง-ไม่จ่ายมั่ง และถ้าสลายม็อบกลับไป ใครจะรับเคลียร์หน้าเสื่อที่หลอกชาวบ้าน-ยึดบัตรเขาไว้ว่า "ชนะแล้วจ่ายหัวละ ๒ แสน"?

                ตอนนี้ แกนนำรับแผนปรองดอง แต่ใครก็ไม่กล้าขึ้นเวทีประกาศเอาหน้าว่า "เราชนะแล้ว" เหมือนทุกคราวที่ผ่านมา เพราะขืนบอกชนะแล้ว ให้เก็บครกกระบากสากกระเบือกลับบ้านได้ เท่ากับเข้าเงื่อนไขที่สัญญาไว้ ต้องจ่ายตามบัตรประชาชนที่ยึดไว้...รายละ ๒ แสน!

                เอ้า...พี่น้องเสื้อแดงทั้งหลาย กลับถึงบ้านเมืองไหร่ กำนัน-ผู้ใหญ่บ้าน-ส.ส.-อบต.-หัวหน้าคิว-หัวหน้าม็อบ คนไหน ที่พามาและสัญญากับเขาไว้ พวกท่านอย่าลืมไปทวง ๒ แสนเน้อ
                พวกเขา "รับล่วงหน้า" กันมาประเป๋าตุง ถ้าบ่ายเบี่ยงไม่จ่าย หมายความว่าท่าน "ถูกอม" ต้องช่วยกันระดมทวง อย่างน้อยครึ่งนึง "๑ แสน" ก็ยังดี!

                นายกฯ กับแกนนำกบฏ ควรจะรีบนัดคุย-นัดเคลียร์ในข้อปลีกย่อยเสียให้จบวันนี้-พรุ่งนี้ แล้วรีบสลายม็อบไป ไม่งั้น "สถานการณ์จะกลายเป็นอื่น"

                ไอ้ที่จะทำความเข้าใจกับทุกฝ่ายก็ทำไป แต่จะรอให้ "ตกลง-เข้าใจ" เหมือนกันทั้งหมดทุกฝ่ายก่อน ทั้งเสื้อแดง-เสื้อเหลือง-เสื้อหลากสี แบบนี้ เห็นทีฝนนี้ ต้องแปลงราชประสงค์เป็นทุ่งเลี้ยงควาย ไถ-หว่านทำนากันไปตลอดฤดูกาลแน่ๆ!

                "ยุบสภา" เป็นการตัดสินใจบนอำนาจนายกฯ เป็นการตัดสินใจตามรัฐธรรมนูญให้ดาบ ไม่ว่าเสื้อสีไหนในฐานะประชาชนมีสิทธิ์ "เห็นด้วย-ไม่เห็นด้วย" ได้ทั้งนั้น แต่ประเด็นสำคัญ "อำนาจตัดสินใจยุบสภา" ตามระบอบประชาธิปไตย อันว่าด้วยการเลือกตั้ง....

                อยู่ที่ท่าน "คนเดียว"!

                ถ้าเข้าใจคำว่า "ข้าพเจ้าขอรับผิดชอบแต่ผู้เดียว" ไม่ต้องสนใจใคร ในเมื่อสิ่งที่ตัดสินใจตรองแล้ว "ดีที่สุด" กับสังคมและอนาคตบ้านเมือง ไม่มีใครทำให้ทุกคนถูกใจได้ แต่ถ้าสิ่งที่ตัดสินใจนั้น สามารถทำให้ทุกคน "ดำรงสิทธิ" ในความเป็นประชาชนโดยไม่ถูกผู้อื่นล่วงล้ำก้ำเกินแบบนี้ได้ โอเค.แล้ว

                ฉะนั้น เมื่อท่านแน่ใจว่า "แผนปรองดอง" ทำแล้ว ม็อบสลาย-คืนความสงบให้บ้านเมืองได้

                เชิดหน้า...ลุยเลย อภิสิทธิ์ ผมจะ (ใช้มือ) ยันหลังให้!

                ที่เกี่ยงงอนกันว่า "ปรองดองกับโจรแล้วปัญหาระยะยาวมันจะไม่จบ" นั้น ผมก็อยากจะบอกว่า "ถ้าทั้งคนปกครอง คนถูกปกครอง คนถาม และคนตอบ 'สิ้นตัณหา' เมื่อไหร่ โลกนี้-สังคมนี้-บ้านเมืองนี้ ทุกปัญหาที่มี 'จบตลอดกาล' แน่นอน"

                ความคิดเห็นเรื่อง "ยุบ-ไม่ยุบสภา" จากกลุ่มคนต่างๆ ตอนนี้ สังเกตว่าไม่ได้มาจากฐานเหตุผล แต่มาจากฐาน "ทิฏฐิ" จะเอาชนะ-ชำระแค้นกันมากกว่า และพูดกันตรงๆ ผมจับมือถามทุกคน-ทุกสีเลยว่า "ไหน...บอกซิ แผนปรองดอง ๕ ข้อ สาระมีว่าอย่างไรบ้าง?"

                สะเปะสะปะกันไปหมดทันที พุ่งประเด็น และจำแม่นอยู่ประเด็นเดียว ทั้งที่ไม่ใช่ "สาระหลัก" ตามเจตนารมณ์ของแผนปรองดอง นั่นคือจำและเพ่งเล็งกันแต่ว่า
                นายกฯ จะยุบสภา...นายกฯ อ่อนข้อให้โจร...นายกฯ จะยุบสภา.!?

                แล้วก็ "พ่อแง่--แม่งอน" กันอยู่แต่ขยะตรงนี้ ไม่มีใครสนใจไปเพ่งเล็ง-พูดถึง ๕ ข้อตามแผนปรองดอง หรือจะเรียกว่าแผน "ปฏิรูปโครงสร้าง" สังคมชาติใหม่นั้นซักเท่าไหร่?

                ผมก็เข้าใจ และคิดว่าทั้งคนคลอดแผนคือทั้งนายกฯ ทั้งพวกกบฏ และทั้งคนทุกสี "รู้อยู่กับใจ" ก็แค่ร่างมาเป็น "ผ้าคลุมหน้าศพ" ที่ใครก็ไม่อยากไปคุ้ย-ไปเปิดเพื่อเผชิญ "ความจริง" ว่าปัญหาสังคมชาติทุกวันนี้แค่ "แผนปรองดอง" ยังใช้แก้อะไรไม่ได้ แต่ช่วยให้ทุกคน-ทุกฝ่าย "ทำใจ" เพื่อผ่อนคลายไประยะหนึ่งเท่านั้น
                ด่านอรหันต์น่ะ กว่าจะไปถึง ต้องผ่านด่านทดสอบไม่รู้กี่สิบด่าน จะเข้ามหาวิทยาลัย ยังต้องตะกายตั้งแต่เตรียมอนุบาล จะเป็นรัฐมนตรี-อธิบดี-ปลัด ซักที ต้องถูกบี้-ถูกไถ และต้องจ่ายค่าเก้าอี้ไม่รู้กี่ด่าน?

                เหตุนั้น ทุกคนส่วนใหญ่จึง "ละไว้" ในเรื่องรู้อยู่กับใจ ไม่ถามไถ่ประเด็นปรองดองที่ยังกินไม่ได้ นอกจากรุมประเด็นยุบสภา-เลือกตั้งใหม่ ซึ่งเป็นประชาธิปไตย (หา) กินได้ เนี่ย...หัวใจของ "ปัญหาใหม่" ขณะนี้ มันก็มีดังที่ว่านี้แหละ
                ทีนี้-กลับมาโลกแห่งความเป็นจริงปัจจุบันบ้าง ความจริงคือ กบฏแผ่นดิน อันมีกองกำลังติดอาวุธยังคงยึดบ้าน-ยึดเมืองอยู่ ชะงักชั่วคราว เพราะนายกฯ ใช้ยาปฏิชีวนะขนานใหม่ป้ายลงไป แต่ "เชื้อชั่วยังไม่ตาย" หรอกครับ!

                เมื่อไม่ตายแล้วยังไงต่อ...ก็ยังงี้ครับ คือตอนนี้ ศอฉ.ตาม พ.ร.ก.ฉุกเฉินร้ายแรงยังมีอยู่ ศาลไม่ห้ามการสลายผู้ชุมนุม แต่บอกให้ดูความจำเป็น และให้ใช้มาตการสากลจากเบาไปหาหนัก
                แล้วรัฐบาล โดย ศอฉ.ใช้ "เบาไปหนัก" กับผู้ชุมนุมแล้วหรือยัง?

                จะเห็นว่าเขาใช้มาตามลำดับ ทั้งใบปลิว ทั้งวิทยุ-โทรทัศน์ และกระสุนยาง ถึงขณะนี้ แฟนที่ผมคลั่งไคล้ "พ.อ.สรรเสริญ แก้วกำเนิด" ท่านออกจอประกาศเตือนเบาบ้าง-หนักบ้าง เป็นระยะ ล่าสุด-วานนี้ (๖ พ.ค.) ท่านประกาศว่า
                "....นปช.ไม่มีทางเลือกมากนัก ไม่มีสิทธิ์มาต่อรองใดๆ ทั้งสิ้นในแผน ๕ ประการที่ประกาศไป ไม่ได้หมายความว่าจะไม่สลายการชุมนุม เรื่องการแก้ปัญหาของรัฐบาลว่าไปตามแก้ปัญหาของรัฐบาล ส่วน ศอฉ.มีความจำเป็นที่ต้องรับผิดชอบในการแก้ไขปัญหาเรื่องการชุมนุมที่ผิดกฎหมาย ซึ่งมีการก่อการร้ายเข้าไปปะปน ดังนั้น ไม่เกี่ยวข้องกัน"

                และแฟนที่ผมคลั่งไคล้-ได้ใจผมมากอีกท่าน "นายธาริต เพ็งดิษฐ์" อธิบดี DSI ท่านก็แถลงเมื่อวานนี้เช่นกันว่า
                "ตามที่ศาลแนะนำให้ DSI ใช้หมายจับตาม พ.ร.ก.ฉุกเฉิน จับกุมกลุ่มผู้ต้องหาแกนนำ นปช.ทั้ง ๙ คน ประกอบด้วย นายวีระ มุสิกพงศ์ นายจตุพร พรหมพันธุ์ นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ นพ.เหวง โตจิราการ นายสุภรณ์ อัตถาวงศ์ พล.ต.ขัตติยะ สวัสดิผล นายขวัญชัย ไพรพนา และ พ.ต.ท.ไวพจน์ อาภรณ์รัตน์ โดยไม่ต้องออกหมายจับซ้ำ เมื่อจับกุมได้แล้วจึงแจ้งข้อกล่าวหาก่อการร้าย ซึ่งมีผลให้ทหารและตำรวจเป็นผู้มีอำนาจจับตามหมายจับ
                ......ระหว่างนี้ยังไม่สามารถจับกุมได้ ก็จะรอจนถึงวันที่ ๑๕ พฤษภาคม ที่แกนนำ นปช.ประกาศต่อสาธารณชนว่าจะเข้ามอบตัวสู้คดีพร้อมกันทั้งหมด หากเลยเวลาแล้วยังไม่มามอบตัว DSI เตรียมแนวทางดำเนินการต่อไปไว้แล้ว......"

                เห็นมั้ย...ก็อยากให้ประชาสังคม และทุกสีที่ข้องใจได้เข้าใจว่า การเมือง-ทางนายกฯ ก็แก้ทางการเมืองของท่านไป ส่วนการบ้าน-อันว่าด้วยกฎหมายและการปราบปราม ทาง ศอฉ.และทาง DSI ก็ยังเขม็งเกร็งเกลียวของเขาอยู่ต่อไป
                ยุคดาวพลูโต เป็นยุคกฎหมายชำระบาป ฉะนั้น จะทำอะไรเอาแต่ใจ-เอาแต่อำนาจไม่ได้หรอกครับ เปิดช่องนิดเดียว "ไอ้ขี้ฟ้อง" ก็จะใช้ระบบศาลเป็นเครื่องมือ เห็นมั้ย...นี่ทักษิณตัวจริง หรือผีทักษิณก็ไม่รู้ มันไปจ้างมือกฎหมายระดับโลกมาเป็นทนายแก้ต่างให้พวกกบฏของมันแล้ว
                ฉะนั้น ต้องมีสติ อดทน รักษาขั้นตอน จะเอามาตรฐานโจรปฏิบัติมาเป็นมาตรฐานราชการปฏิบัติไม่ได้ พลาดนิดเดียว มันจะไปตายเอาตาม "บรรทัดกฎหมาย" ช่วยกันเข้าใจตรงนี้ไว้ด้วย!

                เอาละ...จะยื้อกันไปนานขนาดไหนก็ตาม แต่ระวัง ๑๕ พฤษภา อาทิตย์ยกเข้าพฤษภ "โลกาวินาศ" ยากเลี่ยงการปะทะกัน และถ้ากบฏและรัฐบาลยังตกลงอะไรกันไม่ได้ หลัง ๒๗ พฤษภา ไป "ระวัง..แตงโม" จะเริ่มเปลี่ยนเป็น "แตงเทศ" ที่เรียกว่า "เมล่อนไทย" เขียวทั้งเปลือก-ทั้งเนื้อใน เผลอๆ จะถูกเช็กบิลทุกฝ่าย ก็บอกแล้ว...เมืองไทยจะเกิด-จะตาย "อยู่ที่ทหาร" และที่สำคัญ ๒๐ กรกฎา ไป

                คอยกินแชร์ "โต๊ะใหญ่"....เดี๋ยวจะว่าไม่บอก!?.


http://www.thaipost.net/news/070510/21878


หัวข้อ: Re: [2513]"ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: หนุน'21 ที่ 07 พฤษภาคม 2553, 09:50:23

สวัสดีครับพี่แอ๊ะ พี่เหยง และพี่น้องทุกท่าน
เข้ามาอัพเดทข่าว ที่ห้องพี่แอ๊ะนี่แหละครับ
ครบเครื่องที่สุด
ขอบคุณครับ


 emo6::))


หัวข้อ: Re: [2513]"ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: เหยง 16 ที่ 07 พฤษภาคม 2553, 09:54:17
วันนี้ ท่านขุนน้อย วิพากษ์ การเมืองของประเทศกรีซ ซึ่ง EU และ IMF อัดฉีดเม็ดเงินรวมกว่า 146,000 ล้านเหรียญสหรัฐ หรือ 4,700 ล้านล้านบาทไทย เข้ากอบกู้เศรษฐกิจ เป็นเวลา 3 ปี โดยรัฐบาลกรีซต้องลดรายจ่ายภาครัฐลงร้อยละ 3 ของ จีดีพี และเก็บภาษีเพิ่มจากสินค้าและบริการ ซึ่งรัฐบาลกรีซก็ปฏิบัติตามคำสั่งเช่นเดียวกับที่รัฐบาลไทยเคยรับคำสัง IMF ในปี 2540-41 ดังตัวอย่างที่รัฐบาลกรีซทำดังเช่น ยกเลิกการจ่ายเงินเดือนข้าราชการ ลูกจ้างของรัฐ รวมทั้งบำเหน็จบำนาญของข้าราชการเกษียณ ขึ้นภาษีของก๊าซหุงต้ม มีผลให้ราคาก๊าซขึ้นราคาทั่วประเทศ และมีการประท้วงกันไปทั่ว

เหตุการณ์กำลังเกิดขึ้นในขณะนี้ ส่วนจะจบแบบไหน คงต้องติดตาม

ไฟกรีก!!!
ท่านขุนน้อย 7 พฤษภาคม 2553 - 00:00

     วันนี้...ลองเตลิดเปิดเปิงไปว่ากันถึงเรื่องประเทศ กรีซ น่าจะเหมาะกว่า เนื่องจากวันวานที่ผ่านมา การประท้วงต่อต้านรัฐบาลนาย จอร์จิโอ หรือ จอร์จ ปาปันเดรอู ได้บานปลายกลายเป็นการจลาจล ปะทุลุกลามขึ้นมาในเมืองหลวง กรุงเอเธนส์ และเมืองอันดับสอง เทสซาโลนิกิ เล่นเอาคนตายไปแล้ว 3 ราย มีการปาระเบิดเพลิงเข้าใส่ร้านค้า ธนาคาร ฯลฯ เรียกว่า...ประมาณน้องๆ เสื้อแดงเอาเลยก็ว่าได้...
             ------------------------------------------
     แต่การประท้วงในกรีซนั้น...คงไม่ได้มีประเภทแดงเทียม เศษแดง หรือแดงชราตัณหากลับ ฯลฯ เข้าไปร่วมด้วยช่วยป่วนกันซักเท่าไหร่ อาจเรียกได้ว่า ส่วนใหญ่นั้นต้องถือเป็น พลังบริสุทธิ์ ล้วนๆ หรือเป็นผู้ที่ทุกข์ยากเดือดร้อนโดยตรง อันเนื่องมาจากผลกระทบจากกรณีที่รัฐบาลได้ตัดสินใจเข้ารับการอุดหนุน ช่วยเหลือทางด้านเศรษฐกิจ จากกองทุนการเงินระหว่างประเทศ (ไอเอ็มเอฟ) และสหภาพยุโรป (อียู) คิดเป็นจำนวนเงินถึง 1.1 แสนล้านยูโร โดยมีเงื่อนไขว่า จะต้องหันมาตัดค่าใช้จ่ายภาครัฐ และรีดภาษีของราษฎรเพิ่มขึ้น เพื่อหาทางเพิ่มรายได้ของรัฐปีละประมาณ 30,000 ล้านยูโรให้จงได้ ภายในช่วงระยะ 3 ปีข้างหน้า...
             -------------------------------------------
     สำหรับผู้ซึ่งเคยผ่านประสบการณ์การขอความช่วยเหลือจากไอเอ็มเอฟ อย่างเช่น คนไทยในบ้านเรา คงพอทราบๆ กันดีอยู่แล้วว่า ช่วงระยะเวลาเช่นนั้น มันเต็มไปด้วยรังสีความอำมหิต โหดเหี้ยม มากน้อยขนาดไหน ความจำเป็นในการตัดค่าใช้จ่ายต่างๆ ของรัฐบาล ซึ่งเลี่ยงไม่พ้นที่จะต้องส่งผลกระทบถึงระบบสวัสดิการ การบริการสาธารณะ นอกจากจะสร้างความทุกข์ ความเดือดร้อนให้กับประชาชนโดยถ้วนหน้า แถมยังต้องหาทางเพิ่มรายได้ ด้วยการรีดเลือดออกมาจากปูแต่ละตัว อย่างการขึ้นภาษีมูลค่าเพิ่มจาก 21 เปอร์เซ็นต์ เป็น 23 เปอร์เซ็นต์ ฯลฯ ล้วนแล้วแต่ทำให้ประชาชนชาวกรีซ ไม่ว่าจะเป็นประเภทมนุษย์เงินเดือน ข้าราชการ ตลอดไปจนสหภาพแรงงาน ฯลฯ ต่างก็รับไม่ได้ด้วยกันทั้งสิ้น...
           ----------------------------------------------
     การลุกฮือของมวลชน โดยไม่จำเป็นต้องมีนักโทษหนีคดีรายใดมาคอยยุยง ไม่ต้องมีตำรวจมะเขือเทศ หรือทหารแตงโม มาร่วมด้วยช่วยหนุน ไม่ต้องมีสามเกลอ หรือสี่เกลอหัวขวด รายใดมาสถาปนาตัวเองเป็นแกนนำ แต่เพียงแค่สหภาพแรงงานข้าราชการ ที่มีจำนวนสมาชิกประมาณ 500,000 คน จากจำนวนประชากรทั้งหมด 11 ล้านคน ประกาศพร้อมใจนัดหยุดงานทั่วประเทศเท่านั้น...ทุกสิ่งทุกอย่างก็ เดี้ยง ไปเป็นแถบๆ ไม่ว่าสถานีรถไฟใต้ดิน ท่าอากาศยานในแต่ละแห่ง โรงเรียน โรงพยาบาล สำนักงานราชการตามกระทรวง ทบวง กรม ฯลฯ ต่างตกอยู่ในอาการอัมพาต โดยไม่จำเป็นต้องคว้าเอ็ม 79 เอ็ม 60 มาไล่ถล่ม ชาวบ้าน ชาวช่อง หรือตั้งด่านปิดถนนตามใจชอบแบบบ้านเราเอาเลยแม้แต่น้อย...
             -------------------------------------------
     อย่างไรก็ตาม...แม้จะมีข่าวการปะทะ การบุกรุกเข้าไปในรัฐสภา การปาระเบิดเพลิงใส่ร้านค้า ธนาคาร ฯลฯ จนผู้คนบาดเจ็บ ล้มตาย กันไปบ้างแล้ว แต่ก็ยังไม่มีข่าวว่านายกรัฐมนตรี ปาปันเดรอู คิดจะออก โรดแม็พ ใดๆ มาช่วยหยุดยั้ง ผ่อนคลาย สถานการณ์เอาเลยแม้แต่น้อย แนวโน้มของการประท้วง การก่อจลาจลในประเทศกรีซ จึงไม่อาจคาดคะเนได้ว่า จะมีมุมจบออกมาในทางแฮปปี้เอนดิ้งแบบบ้านเราหรือไม่? แต่ที่แน่ๆ ก็คือว่า...ไม่ว่าจะจบกันแบบไหน? อย่างไร? โอกาสที่รัฐบาลกรีซจะหาทางหลีกเลี่ยงไปจากการประพฤติ ปฏิบัติ ตามเงื่อนไขของไอเอ็มเอฟและสหภาพยุโรป ที่ยอมควักเอาเงินก้อนใหญ่ จำนวนนับเป็นแสนล้านยูโร มาช่วยกอบกู้สถานะทางเศรษฐกิจของประเทศกรีซในช่วงระยะนี้นั้น...น่าจะยากซ์ซ์เต็มที!!!....
           -----------------------------------------------
     เพราะว่าไปแล้ว ปัญหาเศรษฐกิจของประเทศกรีซในทุกวันนี้...มันไม่ได้เป็นปัญหาแต่เฉพาะตัวของประเทศกรีซเพียงลำพังเท่านั้น แต่มันเป็นปัญหาที่เชื่อมโยง บูรณาการ ไปถึงประเทศต่างๆ แทบจะทั่วทั้งสหภาพยุโรปด้วยกันทั้งหมด ดังเห็นได้จากคำอธิบายของนาง แองเกลา แมร์เคิล ผู้นำเยอรมัน ซึ่งได้แถลงต่อรัฐสภาเยอรมนีไปเมื่อวานนี้ว่า...ชะตากรรมของสหภาพยุโรปกำลังตกอยู่ในความเสี่ยงสูง  จากภาวะวิกฤติทางเศรษฐกิจที่ร้ายแรงที่สุดเท่าที่เคยเป็นมาในช่วง 11 ปี ของการร่วมสถาปนาเงินยูโรขึ้นมาใช้กัน นอกจากนั้นประเทศอื่นๆ อีกหลายประเทศในกลุ่มยูโรโซน อาจได้รับความเดือดร้อนจากปัญหาวิกฤติศรัทธาที่มีต่อสถานะการคลังของรัฐบาล อย่างเช่นที่ประเทศกรีซกำลังประสบอยู่ในทุกวันนี้...
            ---------------------------------------------
     ไม่ต่างไปจากนาย โดมินิก สเตราส์ คาห์น กรรมการผู้จัดการใหญ่ไอเอ็มเอฟ ที่ได้ให้ความเห็นกับหนังสือพิมพ์ฝรั่งเศสฉบับหนึ่งเอาไว้ว่า...มีความเป็นไปได้ หรือมีความเสี่ยงสูงเอามากๆ ที่วิกฤติเศรษฐกิจในประเทศกรีซ จะลุกลามไปยังประเทศอื่นๆ ในกลุ่มยูโรโซน ยกเว้นแต่เฉพาะฝรั่งเศส  และเยอรมัน แน่นอนว่า...ภายใต้สภาพเช่นนี้การควบคุม ป้องกัน ไม่ให้ ไฟกรีก ลุกลามไปทั่วทั้งยุโรป ก็มีแต่จะต้องหันมารัดเข็มขัดรัฐบาลกรีซ ชนิดให้เอวคอด เอวกิ่ว ไปพร้อมๆ กับการกดดันให้รัฐบาลหาทางเพิ่มรายได้ให้เร็วๆ เข้าไว้ จะด้วยวิธีรีดเลือดชาวกรีซมาใช้ดับไฟแทนน้ำ หรือจะด้วยวิธีหันไปบวงสรวงเทพเจ้าชาวกรีก ก็แล้วแต่จะคิดหาทางออกกันเอาเอง...
         --------------------------------------------------
     ท่ามกลางสภาพความเป็นไปเช่นนี้...จึงพอเป็นที่เข้าใจได้ว่า เหตุใดผู้ที่แห่ออกมาประท้วง ต่อต้านรัฐบาล ถึงต้องโอดครวญเอาไว้อย่างน่าสงสาร น่าเวทนาเป็นอย่างยิ่ง ด้วยคำพูดที่ว่า  ประชาชนชาวกรีซ...กำลังถูกรัฐบาลนำไปบูชายัญ และต่างแสดงออกถึงความรู้สึกไปในทิศทางเดียวกันว่า ผู้ซึ่งจะได้รับประโยชน์จากความช่วยเหลือของสหภาพยุโรปและไอเอ็มเอฟ อย่างเป็นเนื้อเป็นหนัง อันที่จริงแล้ว...ก็คือบรรดาธนาคารพาณิชย์รายต่างๆ ในยุโรป ซึ่งกำลังเผชิญหน้ากับปัญหาหนี้เน่า รวมทั้งพวกคนรวย คนโกงภาษี ตลอดไปจนถึงนักการเมืองทุจริต ไม่ว่าจะเป็นประเภทที่หลบหนีคดีไปแล้ว หรือยังไม่ถูกดำเนินคดีก็ตาม ที่ต่างก็ไม่ต้องแบกรับผลกระทบจากมาตรการของรัฐบาล เท่ากับคนธรรมดาสามัญ ข้าราชการ และมนุษย์เงินเดือนทั้งหลาย แต่ก็ยังโชคดี...ที่ไม่มีชาวกรีซรายใดดันไปคิดว่าตัวเองเป็น ไพร่ การลุกขึ้นมาต่อต้าน อำมาตย์ แห่งประเทศกรีซคราวนี้ จึงเป็นเพียงแค่การแสดงความไม่เห็นด้วยกับรัฐบาล ไม่ได้ไปไกลถึงขั้นคิดจะ ล้มปืน-ล้มทุน-ล้มเจ้า อย่างเช่น ประเทศไทยแลนด์ แดนสยาม ของเราเอาเลยแม้แต่น้อย...
           ----------------------------------------------
ปิดท้ายด้วยวาทะวันนี้ จาก นิรนาม...สิ่งใดที่ยังแก้ไขไม่ได้....สิ่งนั้นต้องอดทน[/b][/size]

http://www.thaipost.net/news/070510/21860


หัวข้อ: Re: [2513]"ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: เหยง 16 ที่ 07 พฤษภาคม 2553, 10:04:52
เพิ่มเติมจากกระทู้ข้างบน

ยังมีประเทศใกล้เคียงกับกรีซอีก 2 ประเทศครับที่ฐานะทางเศรษฐกิจย่ำแย่พอๆ กับกรีซ และหากเป็นเช่นนั้นจริง จะเกิด "วิกฤติเศรษฐกิจของโลก" ขึ้นอย่างแน่นอน


2 ประเทศนั้นคือ โปรตุเกส และ สเปน!! ??  emo47


หัวข้อ: Re: [2513]"ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: เหยง 16 ที่ 07 พฤษภาคม 2553, 11:02:39
มีข้อเสนอจากขาประจำ ให้แกนนำเสื้อแดง ทำก่อนจะสายเกินแก้

ความคิดเห็นที่ 155

ล่มค่อนข้างแน่ครับ
หลังจากฟังนายก กับแกนนำ พธม ที่ไปคุยกันมา

เพราะนายกก็ Super Perfectionist

อีกฝั่ง ก็เป็น Sub Terrorist

พธม ก็ Supreme Patriot

ไม่มีใครยอมใครแน่ ๆ

...............

1 ในผู้ช่วยให้การเจรจาล่ม คือ ใคร?

...............................

บท ความนี้เป็นการมองทางออกของจิ๊กซอที่สำคัญอันหนึ่ง ของการเจรจาซึ่งจะ มี แนวโน้มให้การเจรจาล่ม

........................

7 ทางลง ของแพะบ้าตัวใหญ่

ที่วันนี้ 6 พค. 53 ประกาศไม่ยอมรับการเจรจาของเสื้อแดง กับรัฐบาล ไม่ยอมสลายม็อบ เพราะคงรู้ตัวแล้ว คำว่าแพะบูชายัญแปลว่าอะไร

.

ถ้าเจรจาได้ ผล คนแรกที่จะเป็นหมาหัวเน่า คือ เศษแดง เพราะแกนนำเสื้อแดง นั้นกลัวข้อหารก่อการร้ายมาก
จึง มี ความ จำ เป็น ต้อง ถีบ หัว เศษ แดง ส่ง แทบ จะ ใน ทัน ที

เพราะ เป็นแกนนำเสื้อดำ โรนิน ที่ก่อการรร้าย ใช้อาวุธ
ฆ่าทหาร ยิง พธม ก่อวินาศกรรมนับครั้งไม่ถ้วน
ซึ่ง รัฐ บาล ไม่ สา มารถ ยก เว้น การ ทำ คดี เศษ แดง นี้ ได้

ไม่ว่าการเจรจาจะ เกิดหรือไม่ สำเร็จหรือไม่
ทางลงของ คน ๆ นี้ ไม่มีทางลงแบบฟูกแล้ว
มี แต่ นรกมาก กับ นรกน้อย เท่านั้นเอง

บทความนี้ เป็นการชี้ทางสว่างให้ เศษแดง
ว่าหลังจากนี้ อย่ากระพริบตา
และ ตั้งสติมั่น ๆ คิดถึง พระรัตนตรัย ให้ดี
ตัดสินใจถูก ก็รอดนาน ครอบครัวก็ไม่เสียชื่ิอเสียง
แถมได้เป็นฝั่ง พระเอก ตอนจบเอก

ทาง ลงมี 7 ทาง

....................

1. เศษแดง หาทางหนีได้แล้ว ก่อนจะสาย

เพราะมีทางหนีทัน และไม่โดนคดีอะไรเลย
แต่อาจจะยาก แล้ว เพราะรัฐบาลประกบทุกลมหายใจ
คือถ้าหลุด ก็มีเหตุผลเดียว คือ คนประกบเป็นไส้ศึกซะเอง

ถ้าหนีทัน ม็อบแดงจะอ่อนปวดกเปียก
ต้อง ยอมแพ้โดบไม่มีเงื่อนไข

2. ในกรณี ถ้าหนีไม่ทัน โดนจับ แกนนำซวยทุกคน
เศษแดงก็แล้วแต่จะเลือก ถ้าเลือกซัดทอด
ตัวเองก็จะคดี เบาลง เพราะให้ความร่วมมือ คนอื่นคดีหนัก

ถ้าไม่ซัดทอด ก็ตัวเองหนักถึงประหารเดี่ญว คนอื่นต้องรอต่อ

3. แกนนำ สามเกลอ น่าจะทำพิธีส่งมอบเศษแดงมาเป็นแพะ

เพื่อขอเจรจาไม่ยุงเกียวด้วยกับ สิ่งที่เศษแดงทำ
ที่ว่า รัฐบาลบอกว่าเป็นการก่อการร้าย
สรุปว่าหัก หลังว่างั้นเถอะ อันนี้เศษแดงรับเละ อาจถึงประหาร
แต่แม้วก็วาง ตำแหน่งเศษแดงเอาไว้เป็นแพะบูชาตั้งแต่ต้น

จริงไหม สามเกลอ ? อันนี้เศษแดงต้องสืบเอาเอง

4. หรือไม่ก็ เศษแดงก็ป่วนให้สองฝั่งทะเลาะกันต่อ

โดยการก่อวินาศกรรมต่อเนื่อง เพื่อปั่นหัวเสื้อแดงกับรัฐบาล
ระแวงอยู่ และเจรจาล่ม
กรณีนี้ เศษแดงยังมีอำนาจครึ่งนึงในม็อบ
และ ยังมีงานเพื่อดูดเงินจากพจมานต่อได้เรื่อย ๆ
อันนี้ ถ้าเศษแดงต้องแย่งมวลชนจาก สามเกลอมา
แล้วเปลี่ยนแนวเลย ไปเล่นใต้ดินหนัก ๆ
อันนี้อาจจะยาก ได้แค่บางส่วน

5. เศษแดงขอมอบตัว ขอกันไว้เป็นพยาน

ซัดทอดให้หมด แม้ว จิ๋ว สามเกลอ 9ล9
ก่อนที่จะโดนให้เป็นแพะบูขายัญประจำสงกรานต์
คดีจะเบาสุด เพราะอ้างได้ว่า ไปเป็นสปายแต่แรก

ข้อมูลที่ได้ จะล้มทุกขบวนการหมดจด
ข้อนี้ดีที่สุดสำหรับประเทศไทย

เพราะ นายกไม่ต้องเจรจา สามารถถอนรากถอนโคน
ต่อเนื่องได้ โดยเสื้อแดงไม่สารถมาม็อบได้อีก
และ นายกอยู่ครบเทอม ไม่ต้องง้อกลุ่มเนวินด้วย

6. สุดท้าย พจมาน บิ๊กจิ๋วสั่งเก็บเลย แล้วอาจจะโบ้ยรัฐบาล
หรือ ทหาร หรือมือที่สาม ก็ว่ากันไป

เพื่อ ป้องกันการโดนจับ และคายข้อมูลแรง ๆ
ที่แม้สามเกลอ ยังไม่มีสิทธิ์รู้

อัน นี้เป็นจุดตาย ของตระกูลชินวัตร และญาติทั้งหมด
รวมทั้งทหารแตงโม ตำรวจมะเขือเผาด้วย
เพราะ ถ้าคายข้อมูลได้ มีหวังประหาร 7 ชัวโคตร
ประมาณ 100 กว่านามสกุล

7. ในกรณี ซวยหนักตัดสินใจช้ามาก คือเลือกไม่ทัน
รัฐบาล มีพยาน หลักฐานมากพอ จะเอาเรื่องแกนนำเสื้อแดง และครอบครัวแม้วแล้ว

รัฐบาล ทหารทั้ง 2 ฝั่งก็อาจจะพิจารณา
ไม่จำเป็นต้องจับเป็นแล้ว

ทหาร แตงโม ก็ไม่อยากเก็บไว้โดนซัดทอด
ทหารในราชการและยังอยู่ในต่ำแหน่งหลาย คน
ก็มีอะไรลับ ๆ ให้เศษแดงคายข้อมูลด้วย

นักธุรกิจ ทั้ง 2 ฝั่งก็อาจจะมีการลงขันซะหน่อย
ไม่กี่แสน เศษแดงอาจจะลาโลก แบบไม่รู้ตัว่า
สมองตัวเองปลิว ออกมาให้ตาเห็นได้เลย

.......................

หวัง ว่า ญาติ ๆ เศษแดง คงได้อ่าน
แล้วส่งบทความไปเตือนให้คิดบ้าง

สัจจะ ไม่มีในหมู่โจร เศษแดงจะวางใจใครได้บ้าง

ดูเมธี ดูเสื้อดำทุกคนที่โดนจับ คายข้อมูลหมดเลย

ปัญหา คือ เศษแดง

มี โอกาสได้เลือก หรือไม่

เลือกทันหรือไม่

เลือกเป็นหรือไม่

เลือก ถูกหรือไม่

แค่นั้นเอง

ชะตา นายทหาร คนนี้

ขมวดปม ยิ่ง นัก

ดูซิว่า

แพะ ตัว ใหญ่ ที่ สุด ใน ประ วัติ ศาสตร์ ไทย

จะ ไหว ตัว ทัน หรือ ไม่

ทุกคน โปรดอย่ากระพริบ ตา

................

ปล. โดยส่วนตัวหวังว่า เศษแดงนั้น จะลงเอยด้วยข้อ 5 หรือ 7

เพราะ ม็อบแดงจะแพ้ทั้ง สองข้อ

.
DrKon

http://www.manager.co.th/Crime/ViewNews.aspx?NewsID=9530000062753&#Opinion


หัวข้อ: Re: [2513]"ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: เหยง 16 ที่ 07 พฤษภาคม 2553, 11:04:53
ข่าวล่า แต่ยังไม่มีการยืนยัน

เสนอคำสั่งปลด “เสธ.แดง” พ้นราชการ!
6 พฤษภาคม 2553 23:34 น.

 
       แหล่งข่าวระดับสูงกองทัพบก เผยกองทัพเสนอคำสั่งปลด “เสธ.แดง”  พ้นราชการแล้ว  ขณะนี้กำลังอยู่ในขั้นตอนดำเนินการ รอนายกฯ เซ็นคำสั่งปลดอย่างเป็นทางการ
       
       วันนี้ (6 พ.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ได้รับการเปิดเผยจากแหล่งข่าวนายทหารระดับสูงของกองทัพบกว่า พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ได้เสนอคำสั่งปลด พล.ต.ขัตติยะ สวัสดิผล หรือเสธ.แดง ผู้ทรงคุณวุฒิกองทัพบก ออกจากราชการแล้ว โดยหนังสือดังกล่าวได้เสนอถึงนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ทั้งนี้ นายอภิสิทธิ์ได้เซ็นคำสั่งเห็นชอบกับคำสั่งปลด พล.ต.ขัตติยะแล้ว โดยคำสั่งปลดออกจากราชการได้ดำเนินการมาระหว่างสัปดาห์ที่ผ่านมา ซึ่งขณะนี้กำลังอยู่ในขั้นตอนการดำเนินการ
       
       สำหรับ พล.ต.ขัตติยะ สวัสดิผล หรือเสธ.แดง ผู้ทรงคุณวุฒิกองทัพบก ขณะนี้ยังเป็นหนึ่งในผู้ต้องหาที่ถูกกรมสอบสวนคดีพิเศษหรือดีเอสไอ ออกหมายจับตามความผิดฝ่าฝืน พ.ร.ก.การบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน และกระทำความผิดในข้อหาก่อการร้าย และจะต้องไปแสดงตัวต่อกรมสอบสวนคดีพิเศษในวันที่ 15 พ.ค.นี้ ทั้งนี้ ที่ผ่านมายังเคยถูกจับตาจากสังคมในเรื่องความไม่เหมาะสมในการร่วมขบวนทางการเมืองกับกลุ่มคนเสื้อแดง และอาจจะมีส่วนเกี่ยวข้องกับคดีการก่อการร้าย อย่างไรก็ตาม มีรายงานว่าเว็บไซต์ www.sae-dang.com ขณะนี้ได้ถูกปิดเป็นที่เรียบร้อยแล้ว
       
       ทั้งนี้ ที่ผ่านมา พล.ต.ขัตติยะ สวัสดิผล ยังเคยถูก พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา ผู้บัญชาการทหารบก ตั้งกรรมการสอบสั่งการให้ดำเนินการสอบสวนทางวินัย และทางอาญาทหาร ในกรณีที่คำสัมภาษณ์สร้างผลกระทบกับผู้ฟัง ทำให้สังคมเกิดความตกใจและวิตกกังวล เป็นสิ่งที่ไม่ควรกระทำ รวมทั้งกองทัพบกได้รับผลกระทบเรื่องภาพลักษณ์ ซึ่งอาจเข้าข่ายการกระทำผิด ตามมาตรา 41 ของประมวลกฎหมายอาญาทหาร ระบุไว้ว่า ผู้ใดเป็นทหาร และมันบังอาจแสดงความอาฆาตมาดร้าย หรือขู่เข็ญว่าจะทำร้าย มีความผิดต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินกว่า 3 ปี นอกจากนี้ยังเคยถูกตั้งคณะกรรมการขึ้นมาสอบสวนกรณีได้ฝึกนักรบพระเจ้าตาก ซึ่งต่อมายังเป็นผู้ต้องสงสัยว่ามีส่วนกับการยิงอาวุธถล่มห้องทำงานของ พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา อีกด้วย

 
 
 
จาก http://www.manager.co.th/asp-bin/mgrView.asp?NewsID=9530000062753
 


หัวข้อ: Re: [2513]"ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: เหยง 16 ที่ 07 พฤษภาคม 2553, 11:16:34
อ่านสถานการณ์ หน้า 1 ของ ไทยโพสต์

ขู่แดงไม่รับ-ไม่ยุบ ‘มาร์ค’เดินสายแจงทุกสีพท.ปูดแกนนำถูกซื้อตัว
ข่าวหน้า 17 พฤษภาคม 2553 - 00:00

     "อภิสิทธิ์" เดินสายแจงโรดแม็พ ยันไม่คิดนิรโทษกรรมความผิดอาญา-ก่อการร้าย ครวญโทร.บอกแฟนๆ "แม้ว" ล็อบบี้พรรคร่วมหวังเปลี่ยนขั้ว ขณะที่ประชาธิปัตย์คลอดมติหนุน 5 แนวทางปรองดองเต็มที่ เชิญทุกเสื้อหารือ แต่เสื้อแดงยังไม่ยอมนับสอง หลังพันธมิตรฯ เล่นแรงประณามรัฐบาลปรองดองกับขบวนการก่อการร้ายรัฐไทยใหม่ "มาร์ค" ขู่ถ้าแดงยังไม่รับเงื่อนไขจะเลิกข้อตกลงยุบสภา เพื่อไทยปล่อยข่าวแกนนำแดงถูกซื้อตัว เงินบริจาคไม่โปร่งใส บางคนกลายเป็นเสี่ยไปแล้ว

     เมื่อวันพฤหัสบดีที่ผ่านมา นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ใช้เวลาตลอดทั้งวันชี้แจงข้อเสนอโรดแม็พปรองดองกับฝ่ายต่างๆ และการประกาศให้มีการเลือกตั้งใหม่ในวันที่ 14 พฤศจิกายนปีนี้ โดยเริ่มต้นจากการเข้าหารือกับนายชัย ชิดชอบ ประธานสภาผู้แทนราษฎร ที่อาคารรัฐสภา ก่อนที่จะเข้าร่วมการประชุม ส.ส.พรรคประชาธิปัตย์ที่รัฐสภา ท่ามกลางกระแสข่าว ส.ส.ของพรรคไม่เห็นด้วยกับแผนโรดแม็พ

     ทั้งนี้ นายชวน หลีกภัย ประธานสภาที่ปรึกษาพรรคประชาธิปัตย์ ออกมายืนยันว่า ไม่มีความขัดแย้งกับนายอภิสิทธิ์ตามที่เป็นข่าว

     ส่วนนายบัญญัติ บรรทัดฐาน กรรมการสภาที่ปรึกษาพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า พรรคประชาธิปัตย์คิดว่าไม่มีปัญหา เพราะทุกคนก็อยากให้บ้านเมืองเรียบร้อย และทุกคนก็มั่นใจในตัวนายกฯ บางทีนายกฯ อาจจะมีข้อมูลบางสิ่งบางอย่างที่พรรคไม่มีโอกาสได้รับรู้ เพราะที่ผ่านมาการตัดสินใจของนายกฯ จะอยู่บนพื้นฐานของความมีเหตุมีผลและรอบคอบเสมอ ดังนั้นอะไรที่เป็นประโยชน์กับพรรคและบ้านเมือง คิดว่าคงไม่น่าจะมีปัญหา เพราะทุกคนก็เชื่อมั่นนายกฯ แม้กระทั่งนายชวนเอง เพราะเท่าที่รู้นายชวนก็ไม่ได้ขัดแย้งกับนายกฯ อะไรมากมาย เพียงแต่เป็นห่วงเรื่องนิติรัฐที่เราจะต้องช่วยกันรักษาให้ได้

     ต่อมา นพ.บุรณัชย์ สมุทรักษ์ โฆษกพรรค แถลงผลการประชุมว่า ที่ประชุมได้แสดงความเห็นอย่างกว้างขวางเกี่ยวกับแผนโรดแม็พที่นายกฯ เสนอ โดยมีความเห็นว่าสนับสนุนแนวทางของนายกฯ  ในการเดินหน้าปฏิรูปประเทศ ปฏิรูปการเมือง รักษาสถาบันสูงสุด ให้ความเป็นธรรมประชาชนและผู้สูญเสียจากเหตุการณ์ความรุนแรง รวมถึงสะสางและสร้างความมั่นคงในระบอบประชาธิปไตยที่มีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข   

     "พรรคสนับสนุนกรอบการกำหนดการเลือกตั้งอย่างเต็มที่  ซึ่งพรรคได้เชื่อมั่นในตัวนายกฯ ว่าเป็นนายกฯ ของคนไทยทั้งประเทศ ไม่ได้เป็นนายกฯ เฉพาะคนที่เห็นด้วยกับพรรคประชาธิปัตย์ โดยเสียสละในวาระของรัฐบาลเพื่อยุติความรุนแรงและการสูญเสียที่อาจจะเกิดขึ้น"

     นพ.บุรณัชย์กล่าวว่า ขณะนี้จึงต้องรอคำตอบจากกลุ่มผู้ชุมนุมเพื่อที่จะคืนพื้นที่โดยเร็วที่สุด และหลีกเลี่ยงการเผชิญหน้า เพราะหากมีการปิดถนนก็จะเป็นอุปสรรคไม่สามารถทำให้กระบวนการปรองดองเดินหน้าไปได้ ซึ่งหากเป็นเช่นนั้นก็ไม่มีประโยชน์ที่จะพูดเรื่องการยุบสภา

     โฆษก ปชป.บอกว่า ในที่ประชุมได้มีการเปิดให้สมาชิกแสดงความคิดเห็น โดยนายชวน หลีกภัย ประธานสภาที่ปรึกษาพรรคประชาธิปัตย์ ยืนยันว่าได้หารือกับนายอภิสิทธิ์มาโดยตลอด และบอกว่าที่ผ่านมาได้แสดงความเห็นชัดเจนว่าไม่เห็นด้วยกับการยุบสภาในกรอบ 9 เดือนที่เสนอในรอบแรก เพราะปัญหาวิกฤติทางการเมืองไม่ได้มาจากการทำงานของรัฐสภา แต่มาจากการเคลื่อนไหวของผู้ชุมนุม แต่ก็เห็นว่าการที่นายกฯ แสดงวุฒิภาวะในการหารือกับทุกฝ่าย หลีกเลี่ยงการสูญเสีย ยอมสละเวลาในการดำรงตำแหน่ง ก็ถือว่าเป็นการยอมสละในทางการเมือง เพื่อให้สังคมก้าวข้ามความขัดแย้ง โดยนายชวนได้ยืนยันการตัดสินใจและสนับสนุนแนวทางการสร้างกระบวนการสมานฉันท์ของนายกฯ โดยทางพรรคจะต้องมีหน้าที่ชี้แจงให้ประชาชนเข้าใจ


เชิญหลากกลุ่มชี้แจง

     ด้าน นพ.วรงค์ เดชกิจวิกรม รองโฆษกพรรคประชาธิปัตย์ แถลงว่า นายกฯ ได้ประกาศชัดว่าโรดแม็พที่มีขึ้นจะมีการเชิญชวนทุกภาคส่วนมาร่วมหารือ เพราะโรดแม็พนี้ไม่ได้เป็นการต่อรองระหว่างรัฐบาลและแกนนำ นปช. อย่างไรก็ตามเป็นเรื่องที่ทุกภาคส่วนต้องร่วมหารือ ดังนั้นถ้ากลุ่มคนเสื้อแดงไม่รับ นายกฯ ก็บอกว่าจะไม่เจรจาอีกต่อไป เพราะคำตอบเหล่านี้มีความชัดเจนอยู่ในตัว โดยใน 1-2 วันนี้ นายกฯ จะเชิญทุกภาคส่วนมาร่วมหารือ เช่น กลุ่มคนเสื้อหลากสี ภาคประชาชน เพื่อทำความเข้าใจกับข้อที่ไม่เข้าใจของประชาชน

     ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในการประชุม นายอภิสิทธิ์ได้ชี้แจงถึงความจำเป็นที่ต้องประกาศโรดแม็พเพื่อคลี่คลายสถานการณ์ต่างๆ เพราะทราบมาว่าในที่ชุมนุมมีกองกำลังผู้ติดอาวุธและว่าจ้างคนในชุมนุมบริเวณใกล้เคียง โดยเฉพาะเด็กและผู้หญิงมานั่งโดยรอบที่ประชุม ซึ่งหากมีการสลายการชุมนุมและเกิดการสูญเสีย โดยเฉพาะกับเด็กและผู้หญิง เชื่อว่าสังคมคงจะยอมรับไม่ได้ แม้แต่ตนเองก็คงจะอยู่ในสังคมไม่ได้ ทางออกทั้ง 5 ข้อนี้จึงเป็นทางออกที่ดีที่สุด และยืนยันว่าจะไม่มีการนิรโทษกรรม แม้แต่ในส่วนของกองทัพและรัฐบาลเอง เพราะมั่นใจว่ากองทัพซึ่งเป็นผู้ปฏิบัติการขอคืนพื้นที่ได้ปฏิบัติตามกฎหมายและมีหลักฐาน นับเป็นครั้งแรกที่มีการสลายการชุมนุมทางการเมืองที่มีผู้บาดเจ็บล้มตาย แต่ก็ไม่มีการออกกฎหมายนิรโทษกรรม

     "หากเสื้อแดงชุมนุมต่อโดยไม่รับข้อเสนอของผมผมก็ไม่สนใจ เมื่อได้ยื่นข้อเสนอไปแล้วและยืนยันที่จะบริหารประเทศต่อไป และปล่อยให้ผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้องดำเนินการต่อไป ขอยืนยันว่าจะไม่มีการยุบสภา" แหล่งข่าวอ้างคำพูดนายกฯ

     แหล่งข่าวยังอ้างคำพูดนายนายบัญญัติว่า ขอให้เป็นผลประโยชน์ของประชาชนและสังคมด้วย ไม่เช่นนั้นเผลอๆ รัฐบาลอาจจะอยู่ไม่ได้ ดีไม่ดีอาจอยู่ไม่ถึง 4 เดือนด้วยซ้ำ โดยเฉพาะกลุ่มที่สนับสนุนพรรคอย่างกลุ่มเสื้อหลากสีที่สนับสนุนพรรคออกมาร่วมปกป้อง ทุกวันนี้เรากลับไม่ดูแลอะไรเขาเลย

     เที่ยงวันเดียวกัน ที่ประชุมสภาผู้แทนราษฎรพิจารณากระทู้ถามสดนายกรัฐมนตรีเรื่อง การแก้ไขวิกฤติการเมืองตามข้อเสนอ 5 ข้อ โดยนายสุนัย จุลพงศธร ส.ส.สัดส่วน พรรคเพื่อไทย กล่าวว่า การเสนอโรดแม็พของนายกฯ 5 ข้อนั้นจะทำอย่างไรให้ชัดเจน

     ส.ส.ผู้นี้วิตกกังวลว่า จะมีโรดแม็พซ้อนโรดแม็พอีกฉบับของท่านที่มีการพูดว่า พล.อ. ป จะขึ้น ผบ.ทบ.คนใหม่ ก็เป็นเงื่อนปมอีกเรื่องหนึ่ง คนไม่เชื่อมั่นว่าคนที่ทำผิดจะไม่ถูกลงโทษ เพราะการจะปล่อยให้บุคคลต่างๆ ออกมาอย่างนี้ หากจะเคลียร์เรื่องแล้ว ขออย่าได้ตั้งบุคคลที่เกี่ยวกับการสังหารหมู่ประชาชนขึ้นเป็น ผบ.ทบ.

     จากนั้นนายอภิสิทธิ์ตอบกระทู้ว่า ภาพรวมแผนได้รับการตอบสนอง นปช.ก็ตอบรับ แต่ยังมีเงื่อนไขไม่ยุติการชุมนุม เรารอดูจะตอบรับหรือไม่ ส่วนเสื้อหลากสีก็ไม่ยอมรับแผน ตนก็จะเชิญตัวแทนเสื้อหลากสีมาพูดคุยในวันพรุ่งนี้ และกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยก็กำลังทำความเข้าใจว่าแผนนี้คืออะไร ไม่ใช่ปรองดองรัฐบาลกับคนกลุ่มหนึ่งกลุ่มใด แต่เป็นความปรองดองของคนทั้งประเทศ

     นายกฯ ยังกล่าวว่า ในทางปฏิบัติการเลือกตั้งใหม่ที่ประกาศว่าจะเลือกตั้งในวันที่ 14 พ.ย.นั้น การจะเลือกตั้งได้ต้องทำหลังจากมีการยุบสภาไม่น้อยกว่า 45 วัน และไม่เกิน 60 วัน ซึ่งก็จะเกิดในครึ่งเดือนหลังเดือนกันยายน

     "5  เรื่องที่เสนอผมคิดว่าครอบคลุม ถ้ามันง่ายคงไม่สะสมมา 4-5 ปี ประเด็นที่ผมเสนอเป็นเรื่องที่ต้องเกิดความสงบทางการเมืองจริงๆ  เช่น ถ้าผมไปอีสานแล้วเกิดเหตุรุนแรงขึ้นจะมาบอกว่าไม่เกี่ยวกับพรรคเพื่อไทย เป็นแดงเทียม มันไม่ได้ ถ้าต้องทำงานตามข้อเสนอของผมถือว่าเราทำงานร่วมกันแล้ว ถ้าเป็นไปตามนี้เป้าหมายก็คือเลือกตั้ง 14 พฤศจิกายน จะยุบเมื่อไหร่ก็ขึ้นอยู่กับหลายปัจจัยในช่วงเดือนกันยายนด้วย"

 
ทหารไม่คิดนิรโทษกรรมตัวเอง

     ส่วนเรื่อง ผบ.ทบ.นั้น นายอภิสิทธิ์ชี้แจงว่า สิ่งที่เราเคยเห็นในอดีตคือเมื่อเกิดเหตุการณ์สูตรสำเร็จคือการออกกฎหมายนิรโทษกรรมเจ้าหน้าที่ผู้เกี่ยวข้อง  รวมทั้งทุกเหตุการณ์ แต่วันนี้กองทัพมีจุดยืนที่ชัดเจน พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา ผบ.ทบ. ระบุว่ากองทัพมีเอกภาพและพูดชัดว่าจะปฏิบัติตามนโยบายของรัฐบาล และทุกคำสั่งที่ชอบด้วยกฎหมาย หลังวันที่ 10 เม.ย. พล.อ.อนุพงษ์พูดว่าไม่มีความจำเป็นต้องออกนิรโทษกรรม เพราะกองทัพมั่นใจว่าทำถูกกฎหมาย และไม่ต้องการนิรโทษกรรมผู้ก่อการร้ายทุกเหตุการณ์ ดังนั้นกระบวนการนี้ตนให้ความมั่นใจได้ถึงความเป็นธรรมที่จะเกิดขึ้น

     ต่อมา  15.00 น. นายอภิสิทธิ์ตอบข้อซักถามกับบรรดาอินเตอร์ชิพพรรคประชาธิปัตย์ รุ่นที่  8 ในโครงการให้ความรู้และการส่งเสริมการมีส่วนร่วมของประชาชนทางการเมือง ที่รัฐสภา  มีคำถามเรื่องการยุบสภา ซึ่งนายอภิสิทธิ์ตอบว่า "อันนี้ทราบดี เพราะมีประสบการณ์ที่บ้านอยู่บ่อยๆ  แต่เราก็ต้องเดินหน้าทำความเข้าใจ หลายคนเมื่อทำความเข้าใจแล้วก็ดีขึ้น เรียนตรงๆ ว่าผมก็เจอเฉพาะ SMS อย่างเดียวก็แย่แล้ว เขาส่งมาว่า ไอ้เฮงซวย เคยสนับสนุนมึง ตรงนี้ผมได้โทร.กลับไปพูดด้วย  2-3 คำ ทุกอย่างก็ดีขึ้น ส่วนใหญ่มีโทร.กันมาเป็นร้อยคน เท่าที่ผ่านมาดูเหมือนจะมีคนเดียวที่ไม่พอใจ ที่เหลือเข้าใจมากขึ้น"

     นายอภิสิทธิ์ยังกล่าวว่า ในแง่ของการรักษากฎหมายส่วนบางคนก็หงุดหงิดบอกว่าพวกก่อการร้าย คำถามก็คือว่าถ้าเรารักประชาธิปไตย เราบอกว่ารักษากฎหมาย เราเจอผู้ก่อการร้ายเราจะทำอะไร ผมยังไม่เห็นกฎหมายมาตราไหนอนุญาตให้ผมส่งคนเข้าไปยิงผู้ก่อการร้ายทิ้ง สุดท้ายก็ต้องจับกุมแล้วดำเนินคดีผ่านกระบวนการผ่านศาล ผมว่าข้อเสนอผมจะสามารถทำให้เราจับกุมหลายคนที่ก่อการร้ายได้ง่ายขึ้น เพราะไม่ต้องมีเด็กและผู้หญิงมาล้อมหลายคน

     ถามว่า เมื่อนายกฯ ตัดสินใจยุบสภาแล้วมีความมั่นใจแค่ไหนว่าพรรคประชาธิปัตย์จะกลับมาเป็นรัฐบาล นายอภิสิทธิ์กล่าวว่า เรื่องการจะให้ยืนยันนั้นตนตอบไม่ได้ เพราะการเลือกตั้งแต่ละครั้งไม่มีอะไรแน่นอน  รู้แต่ว่าตนไม่ได้ตั้งใจยุบสภาไปเป็นฝ่ายค้านแน่ ตรงนี้ก็ต้องสู้การเมืองในที่สุด แล้วก็ต้องไปสู้การที่เลือกตั้งไม่ปีนี้ก็ปีหน้า ดังนั้นพรรคก็จะเตรียมการให้ดีที่สุด ก็จะเป็นหน้าที่พรรคการเมืองต้องมีความพร้อมสำหรับการเลือกตั้ง

     เมื่อถามว่า การหาเสียงครั้งหน้าจะมีความปลอดภัยในการหาเสียงหรือไม่ และคิดว่าวันนี้ประสบความสำเร็จหรือไม่ นายอภิสิทธิ์กล่าวว่า สำหรับตนแล้วจะมีชีวิตยาวอีกสักระยะ และการที่ถามว่าประสบความสำเร็จในชีวิตแล้วหรือยัง ตนคิดว่าต้องอยู่อีกสัก 20-30 ปีคงจะตอบได้ ตั้งใจว่าชีวิตคงไม่สิ้นสุดลงที่การเมือง ตอนนี้อายุ 46 ปี และเมื่ออายุ 50 ปีต้นๆ จะเริ่มคิดถึงอาชีพอื่นได้ ส่วนการหาเสียงจะปลอดภัยหรือไม่ คงไม่ต้องไปถึงหาเสียง ทุกวันนี้ก็มั่นใจอยู่แล้วว่าชีวิตไม่ปลอดภัย แต่จะทำอย่างไรได้ เมื่อมันเป็นแบบนี้เราก็ต้องทำให้ดีที่สุด กลัวก็ไม่ได้ แต่ไม่ควรประมาท

     นายธนวัฒน์ วาหะรักษ์ อายุ 20 ปี นักศึกษาปี 2 คณะรัฐศาสตร์สาขาการเมืองการปกครอง มหาวิทยาลัยหาดใหญ่ เผยว่า เมื่อวันที่ 4 พ.ค.ได้ได้ส่งข้อความไปยังเบอร์โทรศัพท์มือถือของนายกรัฐมนตรีในเวลา 22.54 น. เนื่องจากผิดหวังในการแก้ปัญหาการชุมนุมของกลุ่ม นปช. โดยข้อความที่ส่งไประบุว่า "เมื่อก่อนผมเคยคิดว่าทักษิณคือทรราชขายชาติ แต่พอเห็นท่านนายกฯ  ตัดสินใจแบบนี้หมดเลย ซึ่งความศรัทธา ระวังท่านจะกลายเป็นทรราชคนต่อไปทำไมไม่จัดการให้เด็ดขาด ช่วยตอบหน่อย"

 "มาร์ค"ครวญถูกบีบ

     เขาบอกว่า จากนั้นเวลา 23.08 น. ก็ได้รับโทรศัพท์จากนายกรัฐมนตรีซึ่งโทร.กลับมา ซึ่งยืนยันว่าเป็นเสียงของนายกรัฐมนตรีจริงๆ  "ท่านย้ำว่าขณะนี้ท่านถูกกดดันจากทุกฝ่ายอย่างหนัก  โดยเฉพาะจากอดีตนายกรัฐมนตรีทักษิณ ที่พยายามล็อบบี้ ส.ส.ในพรรคร่วมรัฐบาลเพื่อที่จะให้มีการเปลี่ยนแปลงขั้วรัฐบาล  ซึ่งท่านถูกบีบคั้นมาก ท่านจึงจำเป็นต้องตัดสินใจหาทางแก้ปัญหาโดยเร็วที่สุด และเพื่อที่จะให้มีโอกาสได้ตั้งหลักและหายใจได้บ้าง"

     สำหรับบรรยากาศการชุมนุมของกลุ่มคนเสื้อแดงเป็นไปอย่างเงียบเหงาเนื่องจากมีฝกตกลงมา จึงทำให้กลุ่มผู้ชุมนุมต้องหลบอยู่ภายในเต็นท์และใต้มุมตึกอาคารห้างร้าน ขณะที่บนเวทีปราศรัยทางแกนำ นปช.ได้มีการสลับผลัดเปลี่ยนขึ้นบนเวทีเพื่อกล่าวโจมตีรัฐบาลอย่างต่อเนื่อง อีกทั้งยังเรียกร้องให้รัฐบาลประกาศความชัดเจนในประกาศวันยุบสภา
     นายณัฐวุฒิ  ใสยเกื้อ เลขาธิการ นปช. แถลงภายหลังจากที่พรรคประชาธิปัตย์มีมติเห็นด้วยกับแนวทางปรองดองตามที่นายอภิสิทธิ์เสนอว่า  เมื่อท่าทีของพรรคประชาธิปัตย์ออกเป็นเช่นนี้ นปช.พร้อมที่จะเริ่มต้นนับสองในกระบวนการหาทางออกเพื่อความปรองดอง และคิดว่าวันนี้แกนนำ นปช.จะมีการหารือกันถึงแนวทางที่จะนำไปสู่บทสรุปในการคลี่คลายสถานการณ์ แต่อาจยังไม่ข้อสรุปเบ็ดเสร็จในวันนี้ เพราะต้องใช้เวลา เช่นเดียวกับรัฐบาลที่จะมีการหารือกับพรรคร่วมรัฐบาลในวันที่ 7 พ.ค.

     เลขาธิการ  นปช.กล่าวว่า เรื่องการกำหนดวันยุบสภา แกนนำ นปช.ต้องมีการหารือกันว่าเรื่องนี้จะมีความจำเป็นที่ต้องมีการกำหนดวันที่แน่นอนหรือไม่ ถ้ารัฐบาลมีเหตุผลและอธิบายเรื่องนี้อย่างไรก็ว่ามา ทางแกนนำ นปช.จะได้มีการนำไปหารือกัน

      ขณะที่  พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ทวิตผ่าน twitter ในชื่อ @thaksinlive เมื่อเวลา 15.25 น. ที่ผ่านมาว่า "มีประเด็นว่าการปรองดองทำไม่ได้ เพราะต้องมาถามผม ก็ขอพูดชัดๆ ว่าผมเรียกร้องให้เกิดความปรองดองมานานแล้วตั้งแต่มีการปฏิวัติใหม่ๆ มาอย่างต่อเนื่อง

     จนถึงปัจจุบันก็ยืนยันอยากให้เกิด  ยิ่งเรียกร้องผมก็ยิ่งถูกรังแกมาตลอด แต่ไม่เคยเปลี่ยนใจ  แต่จะปรองดองได้อย่างไรก็ต้องคุยกับแกนนำเสื้อแดงโดยตรง ผมมีเพียงแค่ให้คำปรึกษาที่จะให้เกิดความปรองดอง  ที่มีความตั้งใจจริงและจริงใจต่ออนาคตประเทศ ไม่ใช่คอยเอารัดเอาเปรียบกัน

     ส่วนความไม่ยุติธรรมที่ผมและพี่น้องที่ถูกฆ่าถูกทำร้าย ถ้าไม่สามารถแสวงหาความเป็นธรรมในประเทศได้ เราก็จะขอใช้เวทีโลกต่อสู้จนกว่าความเป็นธรรมจะเกิด ไม่มีคำว่ายอมแพ้ครับ"
     ที่บ้านพระอาทิตย์  แกนนำพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย (พธม.) อาทิ พล.ต.จำลอง  ศรีเมือง, นายสมศักดิ์ โกศัยสุข, นายพิภพ ธงไชย, นายสำราญ รอดเพชร, นายศิริชัย ไม้งาม, นายศรัณยู วงศ์กระจ่าง, นางมาลีรัตน์ แก้วก่า, นายสุริยะใส กตะศิลา ผู้ประสานงาน และนายปานเทพ พัวพงศ์พันธ์ โฆษกฯ ร่วมกันออกแถลงการณ์ ฉบับที่ 9 ประณามนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ในการปรองดองกับขบวนการก่อการร้ายของรัฐไทยใหม่

     พล.ต.จำลองยืนยันว่า การออกมาของพันธมิตรฯ ไม่ได้ไล่นายอภิสิทธิ์ แต่เผื่อไว้ว่าถ้าไม่ฟังความเห็นกันก็ควรที่จะลาออกไป ซึ่งพันธมิตรฯ เองก็ยังไม่ได้คิดว่าจะเอาใครมาเป็นนายกฯ แทน แต่ตนเห็นว่าเมื่อดำรงตำแหน่งแล้วประเทศชาติล้มเหลวก็ต้องออกไป ยืนยันว่ารัฐจะต้องปราบปรามกลุ่มก่อการร้าย ซึ่งต้องยอมรับว่าหลังจากที่นายกฯ ประกาศแผนดังกล่าว ทำให้ทหารหมดกำลังใจลงไปมาก และไม่พร้อมที่จะออกไปจัดการ เพราะนายกฯ ทำอะไรแบบกล้าๆ กลัวๆ

     ด้านนายสมศักดิ์กล่าวว่า รัฐบาลประกาศ พ.ร.ก.ฉุกเฉิน แต่กลับปล่อยให้มีการละเมิดกฎหมายอย่างชัดเจน แล้วอยู่ๆ จะมาปรองดองเจรจาลับๆ ระหว่างตัวแทน พ.ต.ท.ทักษิณและตัวแทนของรัฐโดยจะมานิรโทษกรรมทางการเมือง เป็นการปล่อยปละละเลย จึงขอให้รัฐบาลบังคับใช้กฎหมาย


ปัดเอี่ยวการเมืองใหม่

     "ถ้านายกฯ  ยอมปรองดองกับขบวนการติดอาวุธ อีกหน่อยก็คงมีคนติดอาวุธมาชุมนุมเรียกร้องได้ทั้งนั้น  ซึ่งอะไรที่เป็นเรื่องผิดกฎหมายนี่ต้องจัดการ" นายสมศักดิ์กล่าว และว่า ข้อเสนอดังกล่าวนี้ไม่เกี่ยวกับพรรคการเมืองใหม่ ซึ่งพรรคพร้อมที่จะลงเลือกตั้งเสมอ

     ส่วนนายพิภพกล่าวว่า ขณะนี้นายกฯ กำลังทิ้งประชาชนที่สนับสนุนรัฐบาลมาตลอดเพื่อสู้กับระบอบทักษิณ อยู่ๆ นายกฯ กลับมาปรองดอง ซึ่งแผนปรองดองแห่งชาติในข้อ 1-4 นั้น เป็นสิ่งที่ควรทำมาตั้งแต่สมัยจัดตั้งรัฐบาลแล้วก็ไม่ทำ ตนเชื่อว่าตั้งแต่บัดนี้จนถึงวันที่ 14 พ.ย. ก็จะไม่สามารถทำได้ เพราะปัญหาต้องแก้ไขระยะยาว 

     "นี่เป็นเพียงแค่คำประกาศที่สวยหรู ส่วนในข้อ 5 นั้น ดูเหมือนว่ามีการตกลงระหว่างรัฐบาลและพรรคพวกของ พ.ต.ท.ทักษิณ ซึ่งเป็นใจความทั้งหมดของข้อตกลงในการนิรโทษกรรม นายกฯ  จะต้องชี้แจงและอธิบายให้ชัดเจนว่า เป็นข้อตกลงในการเจรจาลับหรือไม่" แกนนำ พธม.ผู้นี้กล่าว

     นายสุริยะใสกล่าวว่า ขณะนี้พันธมิตรฯ ยังไม่กำหนดเวลาเพื่อรอคำตอบของนายอภิสิทธิ์ ซึ่งการประณามนายกฯ ในครั้งนี้ก็ถือเป็นเรื่องรุนแรงที่สุดแล้วสำหรับรัฐบาลชุดนี้

     สำหรับแถลงการณ์  พธม.มีทั้งสิ้น 6 ข้อ มีสาระสำคัญว่า รัฐบาลจะต้องดำเนินการบังคับใช้กฎหมายอย่างเต็มที่ มิใช่ไปเจรจาปรองดองยอมจำนนกับขบวนการก่อการร้ายของรัฐไทยใหม่อยู่ในขณะนี้ การประกาศว่าจะให้ยุบสภาและเลือกตั้งใหม่ในวันที่ 14 พ.ย.นั้น ถือเป็นการทำลายกระบวนการปฏิรูปประเทศและทำลายกระบวนการยุติธรรมหลักนิติรัฐอย่างย่อยยับ   

     ทำให้นักการเมืองจะสนใจแต่การแย่งชิงอำนาจในการเลือกตั้ง ทำให้ข้าราชการจะไม่ทำหน้าที่ในการเอาคนทำความผิดที่เกี่ยวข้องกับนักการเมืองมาลงโทษ ทั้งกลุ่มอันธพาลทางการเมืองที่ติดอาวุธ ขบวนการก่อการร้าย และขบวนการล้มล้างสถาบันพระมหากษัตริย์ ขบวนการสื่อการเมืองเพื่อโค่นล้มอำนาจฝ่ายตรงกันข้าม จะทำให้บรรยากาศนับตั้งแต่วันประกาศวันยุบสภา วันเลือกตั้ง และหลังการเลือกตั้ง จะกลายเป็นบ้านป่าเมืองเถื่อน ไร้ขื่อแป

     หลังท่าทีของ พธม.ออกมาเช่นนี้ ทำให้คนเสื้อแดงต้องรอดูท่าทีนายกฯ อีกครั้ง โดยนายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ เลขาธิการ นปช.แถลงว่า แต่เดิมแกนนำ นปช.มีแผนที่ประชุมกันวันนี้ เพราะคิดว่ารัฐบาลจะนับหนึ่งเสร็จ แต่ทว่ามีการคัดค้านของกลุ่ม พธม. ถึงขั้นที่นายอภิสิทธิ์ต้องเชิญเข้าพบเช่นเดียวกับกลุ่มคนเสื้อหลากสีและพรรคร่วมรัฐบาล ทำให้การประชุมของเราต้องขยับออกไปอีกอย่างน้อย  1 วัน เพราะนายกฯ ยังนับหนึ่งไม่เสร็จ เมื่อท่าทีของรัฐบาลยังไม่ชัดเจน สิ่งที่เราทำคือรอต่อไปเพื่อให้นายกฯ ไปทำความเข้าใจกับหลายฝ่ายในส่วนของรัฐบาลก่อนที่จะมาเริ่มต้นกระบวนการของเราต่อไป

     นายจตุพร พรหมพันธุ์ แกนนำ นปช. กล่าวว่า หากต้องการให้ทุกอย่างยุติลงหลังกระบวนการของรัฐบาลกับคนเสื้อแดงเสร็จสิ้น  ก็ควรมีผู้ใหญ่สักคนเป็นคนกลาง แล้วให้พันธมิตรฯ นปช. พรรคประชาธิปัตย์ พรรคเพื่อไทย พรรคภูมิใจไทย และทุกพรรคการเมืองที่เกี่ยวข้อง รวมไปถึงกองทัพ  จะต้องมาลงสัตยาบันร่วมกันว่าจะยอมรับผลการเลือกตั้งของประชาชน หากประชาชนเลือกพรรคการเมืองไหนก็ต้องให้สิทธิพรรคการเมืองนั้นบริหารประเทศ

     นายอริสมันต์  พงศ์เรืองรอง แกนนำกลุ่มคนเสื้อแดง กล่าวว่า หลังจากยุติการชุมนุม จะขอใช้ชีวิตส่วนตัวบ้าง โดยจะพาครอบครัวไปพักผ่อน พร้อมกับตั้งใจว่าขอลาอุปสมบทเป็นเวลา 19  วัน หลังจากไปบนไว้ที่วัดป่าเรไร จ.สุพรรณบุรี ไว้แล้วว่าหากการชุมนุมได้รับประชาธิปไตยจริงก็จะลาบวช และตนคาดว่าจะลงสมัคร ส.ส. แต่ขอเป็นระบบปาร์ตี้ลิสต์

ปูดแกนนำแดงถูกซื้อตัว

     การเปลี่ยนท่าทีมารับแผนปรองดองของคนเสื้อแดงนี้  แหล่งข่าวจากพรรคเพื่อไทยระบุว่า กระแสข่าวสะพัดว่าสามเกลอได้รับน้ำเลี้ยงจำนวนมากจากการชุมนุมในช่วง  2 เดือนที่ผ่านมา โดยเฉพาะยอดเงินบริจาคที่ไม่มีการแจ้งยอดหรือวัตถุประสงค์การใช้จ่าย จนสร้างความเคลือบแคลงใจให้กับแนวร่วมบางส่วน นอกจากหลายฝ่ายเห็นว่าช่วงหลังสามเกลอมีท่าทีเปลี่ยนไป แกนนำบางคนไม่มีอะไรมาก่อน แต่วันนี้เหมือนดินสู่ดาว

     และยังมีข่าวว่า ช่วงหลังมีแกนนำ นปช.บางรายถูกซื้อตัวจากฝ่ายรัฐบาล เพียงแต่รัฐบาลไม่ได้ซื้อโดยตรง อาจประสานผ่านทางพ่อค้านักธุรกิจ กลุ่มทุนขนาดใหญ่ เห็นได้จากก่อนการชุมนุมใหญ่แกนนำบางคนที่เคยเดินสายตรวจสอบการถือครองที่ดินขององคมนตรีและเครือข่ายอำมาตย์ รวมถึงกลุ่มทุน โดยพุ่งเป้าไปที่การรุกป่าใน จ.เลย ที่เกี่ยวพันกับบริษัทน้ำเมาชื่อดังและองคมนตรีบางคน แต่สุดท้ายเรื่องก็เงียบหายไป ไม่มีการตรวจสอบเหมือนกรณีการออกมาโจมตีกรณีการรุกที่เขายายเที่ยง จ.นครราชสีมา และเขาสอยดาว จ.จันทบุรี

     นายสุรชัย  ด่านวัฒนานุสรณ์ แกนนำกลุ่มแดงสยาม กล่าวว่า ผู้ต้องหาที่ถูกจับกุมในคดียิงกลาโหมนั้นคุ้นหน้ากันมาก คนพวกนี้ได้เคยมาเสนอกับตนให้ใช้แนวการก่อวินาศกรรมหลังเวที ตนได้ตักเตือนไปว่ารับไม่ได้กับวิธีนี้  เมธีที่ถูกจับเขาก็ไม่ได้เข้าใจการต่อสู้ ทำไปโดยความรู้สึกของตัวเอง ได้มีการตักเตือนอยู่ตลอดเวลา ทำกันอย่างอิสระทั้งนั้น อย่างสุชาติ นาคบางไทร ที่โดนคดีหมิ่นตนยังเคยเตือน  ชูชีพ ตนยังเตือนแต่กลับถูกสวน มาเวลานี้อย่ามัวตั้งแง่ 3 เกลอแค่ต้องการอธิบายให้ประชาชนเพื่อหาทางลงให้ชัดๆ เท่านั้น หากยังเป็นเช่นนี้อยู่ต่อไป 3 เกลอจะนำพากันไปลงเหวเท่านั้นเอง

     เวลา  16.30 น. นายพิภพ ธงไชย แกนนำ พธม. พร้อมด้วยนายปานเทพ พัวพงษ์พันธ์ โฆษกกลุ่มพันธมิตรฯ ได้เข้าพบนายอภิสิทธิ์ที่รัฐสภา โดยมีนายกอร์ปศักดิ์ สภาวสุ เลขาธิการนายกฯ นายศิริโชค โสภา ส.ส.สงขลา คนสนิทนายกฯ และรัฐมนตรีคนอื่นเข้าร่วมหารือด้วย โดยใช้เวลาหารือกว่า 2 ชั่วโมง

     จากนั้น นายปานเทพกล่าวว่า ได้หารือถึงภาพรวมเพื่อชี้แจงในจุดยืนของกลุ่มพันธมิตรฯ ว่าไม่เห็นด้วยกับการยุบสภา โดยเฉพาะที่จะนำไปผูกกับการปฏิรูปประเทศ ซึ่งนายกฯ ได้ยืนยันแล้วว่าจะยึดถือคำพูดเดิมว่าจะไม่มีการนิรโทษกรรม หรือการจับมือเพื่อตั้งพรรคร่วมรัฐบาล จะยึดถือผลประโยชน์ของชาติเป็นหลัก

     อย่างไรก็ตาม เขาบอกว่าการเคลื่อนไหวอย่างไรต่อไปนั้นคงต้องขอมติภายในกลุ่มพันธมิตรฯ อีกครั้ง เรายังคงยืนยันขอให้นายกฯ ทบทวนกรอบเวลาและกระบวนการที่จะไปเจรจากับกลุ่มที่มีปัญหา รวมถึงเรื่องการเจรจาในผลประโยชน์ของนักการเมืองกันเอง ซึ่งนายกฯ ได้ยืนยันว่าจะไม่แก้รัฐธรรมนูญเพื่อฟอกความผิดให้ฝ่ายใดทั้งสิ้น

     ด้านนายพิภพกล่าวว่า  ที่มาวันนี้ไม่ใช่มาเจรจา แต่มาเพื่อแลกเปลี่ยนความเห็นทั้งสองฝ่าย เคารพความเห็นซึ่งกันและกัน นายกฯ ไม่ได้ก้าวก่ายความเห็นของพันธมิตรฯ เพียงแต่เรามาขยายความถึงความกังวลใจ

     ด้านนายอภิสิทธิ์ให้สัมภาษณ์ว่า  ส่วนที่มีการแลกเปลี่ยนเพิ่มเติมเพราะหลังจากที่กลุ่มพันธมิตรฯ ออกแถลงการณ์ในวันนี้นั้น ตนคิดว่าบางครั้งมันอยู่บนข้อมูลที่คลาดเคลื่อน โดยเฉพาะอย่างยิ่งว่าแผนปรองดองเขียนไว้ว่าอย่างไร และสำคัญกว่านั้นคือ ตนมีเจตนาอะไรในการเสนอแผนนี้ จึงมีการแลกเปลี่ยนกัน และคิดว่ากลุ่มพันธมิตรฯ คงเข้าใจมากขึ้น

     "ในส่วนของผู้ชุมนุมนั้น  ผมคิดว่าไม่มีประเด็นใดๆ เพิ่มเติมแล้ว เพราะผมสร้างความชัดเจนไปแล้ว และวันนี้ผมตอบกระทู้ของพรรคฝ่ายค้านที่ตอบชัดเจนแล้ว  และหวังว่าหากเข้าสู่กระบวนการปรองดองจริงต้องยุติการชุมนุมโดยเร็ว"

     เมื่อถามว่า ตอนนี้สถานการณ์ชุมนุมอาจยืดเยื้อแล้วและใกล้ถึงวันที่ 15 พ.ค.ตามที่แกนนำ นปช.ประกาศมอบตัวนั้น รัฐบาลจะบังคับใช้กฎหมายก่อนหรือไม่ นายกฯ ตอบว่า วันที่ 15 พ.ค.มันนานไปแล้ว เมื่อใดที่ชัดเจนว่าไม่มีความตั้งใจที่จะเข้าร่วมกระบวนการนั้น ตนจะถือว่าการที่ตนเสนอเรื่องยุบสภานั้นเป็นอันยกเลิกไป และตนก็ทำในส่วนอื่นๆ ของโรดแม็พ 5 ข้อ และการบังคับใช้กฎหมายก็เดินต่อไป

     ถามว่า มีการตั้งข้อสังเกตว่าที่เสื้อแดงประวิงเวลาในขณะนี้ เพราะต้องการขนอาวุธสงครามออกจากพื้นที่ชุมนุม นายอภิสิทธิ์กล่าวว่า ขณะนี้เจ้าหน้าที่ตั้งด่านตรวจอยู่ ฉะนั้นเรื่องอาวุธอย่างไรก็ต้องถูกตรวจ

     นพ.ตุลย์ สิทธิสมวงศ์ แกนนำกลุ่มเสื้อหลากสี กล่าวว่า การยุบสภาในเวลาอันรวดเร็วภายใต้แรงกดดันของกลุ่มคนเสื้อแดงนั้นเป็นเรื่องที่ไม่ถูกต้อง สิ่งที่คณะกรรมการสมานฉันท์ฯ เสนอมาทั้ง 6 ข้อนั้นล้วนแต่เป็นประโยชน์ของนักการเมืองทั้งสิ้น ส่วนคนเสื้อแดงขาดความชอบธรรมที่จะมากำหนดอะไร   เพราะคนที่ทำผิดกฎหมาย การเสนอยุบสภาเพียงต้องการได้อำนาจคืนมา เพื่อถ่ายโทษให้ทักษิณเท่านั้น ไม่อยากให้นายกฯ ทำตามความต้องการของคนที่ทำผิดกฎหมาย และไม่ทราบว่าที่นายกฯ ประกาศยุบสภาในเวลาอันรวดเร็วเป็นการฮั้วกับกลุ่มคนเสื้อแดงหรือไม่

     ที่เวทีราชประสงค์ ช่วงค่ำมีการขึ้นเวทีปราศรัยของแกนนำ นปช.ที่น่าสนใจคือนายนิสิต สินธุไพร ประธานโรงเรียน นปช. กล่าวว่า นับจากนี้เสื้อแดงได้ทำโครงการ 1 ตำบล 1 รถปิกอัพ ขึ้นเพื่อให้คนเสื้อแดงจากแต่ละหมู่บ้านตำบลมาร่วมชุมนุมที่ราชประสงค์อย่างต่อเนื่องไม่เลิกจนกว่าจะมีความชัดเจนเรื่องวันยุบสภา พร้อมกับให้ทุกหมู่บ้านคนเสื้อแดงทำผ้าป่าระดมทุนคนเสื้อแดง โดยในวันศุกร์ที่ 7 พ.ค.นี้จะเริ่มจากขอนแก่นที่จะมีรถปิกอัพ 500 คันแล่นเข้าราชประสงค์ในเวลา 11.00 น.เป็นแห่งแรก เรียกว่า "ขอนแก่นโมเดล" จากนั้นจะตามด้วยจังหวัดต่างๆ เช่น อุดรธานี ร้อยเอ็ด

     มีรายงานว่า ก่อนหน้านี้การเจรจาระหว่างแกนนำเสื้อแดงกับฝ่ายรัฐบาลมีความพยายามประสานงานกันมาตลอดหลังจากการเปิดโต๊ะเจรจารอบสองล้มไป โดยก่อนหน้าที่นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ จะแถลงโรดแม็พเมื่อกลางดึกวันที่ 3 พ.ค.53  ฝ่ายเสื้อแดงมอบหมายการเจรจาให้กับ พล.อ.ชวลิต ยงใจยุทธ และ พ.อ.อภิวันท์ วิริยะชัย รวมถึงทีมงานการเมืองของ พล.อ.ชวลิต ที่ทำการเจรจากับนายกอร์ปศักดิ์ สภาวสุ เลขาธิการนายกฯ อย่างต่อเนื่องถึงกรอบข้อตกลงต่างๆ  โดย พล.อ.ชวลิตและ พ.อ.อภิวันท์จะแจ้งความคืบหน้าให้กับนายวีระ มุสิกพงศ์ เป็นหลัก แต่ช่วงหลังการเจรจาสะดุดลงชั่วคราวหลัง ศอฉ.มีการทำเอกสารแผนผังเครือข่ายล้มเจ้าที่มี พล.อ.ชวลิตรวมอยู่ด้วย ทำให้ พล.อ.ชวลิตและแกนนำเสื้อแดงไม่พอใจมาก และการเจรจาสะดุดลงไปช่วงหนึ่ง จนกระทั่งสุดท้ายนายอภิสิทธิ์ได้ออกโรดแม็พดังกล่าวออกมา

     ทั้งนี้ มีรายงานว่าในช่วงเย็นวันที่ 6 พ.ค. พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ได้โทรศัพท์มาพูดคุยกับแกนนำ นปช.บางคนเพื่อสอบถามท่าทีของแกนนำว่าจะเอาอย่างไร หากสลายการชุมนุมแล้วมวลชนคนเสื้อแดงจะเอาด้วยหรือไม่ โดย พ.ต.ท.ทักษิณบอกว่า ทุกอย่างให้แกนนำตัดสินใจได้เลย ขอเพียงการเจรจาทุกอย่างต้องชัดและเคลียร์ อย่าให้คลุมเคลือในข้อกฎหมายและเงื่อนเวลา เช่น ช่วงเวลาการยุบสภากับคดียุบพรรค และการแก้ไขรัฐธรรมนูญ พร้อมกับสอบถามเรื่องจำนวนผู้ชุมนุมว่ามีมากน้อยแค่ไหนในแต่ละวัน จนทำให้ในช่วงค่ำมีการผุดโครงการ 1 ตำบล 1 รถปิกอัพ.

http://www.thaipost.net/node/21876


หัวข้อ: Re: [2513]"ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: prapasri AH ที่ 07 พฤษภาคม 2553, 13:41:08
ด่วน !!! นายกตอบจดหมาย panwat แล้วครับ
จดหมายจากนายกรัฐมนตรี

หลังจากที่ผมได้เขียนจดหมายถึงนายยกไป 2 ฉบับ เหตุการณ์ต่างๆในแนวที่ทำให้บ้านเมืองมีปัญหา ก็ยังเกิดขึ้นอยู่อย่างต่อเนื่อง ถึงแม้ว่าประชาชนส่วนใหญ่เวลานี้ล้วนหันมาให้ความรักและสงสารท่านนายกกันทั้งนั้นแล้ว โดยมี”กลุ่มเสื้อหลากสี”เป็นตัวอย่าง ที่แสดงตนอย่างชัดเจนว่าสนับสนุนการบริหารประเทศของนายกอยู่ นอกจากนั้นแล้วยังหมี ”พรรคการเมืองใหม่” ก็สนับสนุนนายก ถึงแม้ว่าจะมีการตำหนิวิธีการบริหารงานของนายกอยู่บ้างแต่ก็ ” เป็นการติเพื่อก่อ” เพราะมีคำแนะนำไว้ด้วยเสมอ เรียกว่า “ติอย่างมีเหตุผล” ครับแต่ท่านก็ยังเงียบๆอยู่ดูเหมือนว่าท่านจะไม่มีที่ปรึกษาเอาเลยทั้งๆที่พรรคประชาธิปัตย์ก็มีขุนพลฝีมือทุกๆด้าน ล้วน”หัวหมอ” ทั้งนั้นในเวลาที่ท่านเป็นฝ่ายค้าน ฤว่า....ลูกพรรคของท่านไม่อยาก ”เอามือมาซุกหีบ” ? ในขณะที่ผมกำลังท้อ เกือบหมดแรงจะเชียร์ นายกก็ตอบจดหมายผมมาแล้วครับ ท่านนายกว่าอย่างนี้ครับ
 

กรมทหารราบ 11 รักษาพระองค์
28 เมษายน 2553เรียน คุณพันวัตต์ ที่นับถือ

ก่อนอื่นผมและคณะรัฐบาลรวมทั้งทีมงาน ศอฉ.ทุกท่าน ขอขอบพระคุณที่ให้กำลังใจ และให้ความเชื่อมั่นต่อวิธีการแก้ปัญหาของผม ผมอยากเรียนว่า ในระหว่างเวลาที่ผมหายเงียบไปก็เพื่อ ทบทวนปัญหาที่เกิดขึ้น ว่ามันเกิดขึ้นด้วยเหตุใด อีกทั้งเพื่อทบทวนบทบาทของผมเองว่า ผมบริหารผิดพลาดที่ตรงไหน ในที่สุดผมก็ได้รู้ถึงรากของปัญหาเหล่านั้นครับ ซึ่งตรงกับบางประการที่คุณพันวัตต์พูดไว้ในจดหมายฉบับที่ 1 และที่ 2 ผมจะสรุปเป็นข้อๆนะครับ
1.ในประเด็นเรื่องการใช้เครื่องมือ ผมทราบดีครับว่าเครื่องมือหลายชนิดมัน...................ทำงานไม่ได้ผล ...................................................... ผมจึงยอมทุกข์อยู่คนเดียว ที่ผมกล่าวว่าผมทุกข์ไม่น้อยกว่าท่าน “ท่าน”ก็คือ ”พี่น้องประชาชน” นะครับ ..................................................................................
2.ถ้าผมจะยุบสภาไปตอนนี้ก็ได้ครับเพราะการยุบสภาเป็นอำนาจของผม อีกอย่าง“ผมไม่เคยวางผลประโยชน์ตนเองเหนือกว่าผลประโยชน์ของประเทศ” แต่การยุบสภาต้องตอบคำถามให้ได้เสียก่อนว่า “สภาบกพร่องอะไรตรงไหน” ในขณะที่บางกลุ่มบอกให้ยุบสภาเพราะหลงรักคนๆเดียว กับกลุ่มที่บอกว่า “ไม่ยุบสภา” หรือ “จะยุบสภาไม่ถามกูก่อนหรือ” ขออภัยที่ใช้ “กู” เพราะเขาแสดงออกอย่างนั้นจริงๆ กลุ่มหลังนี้มีเหตุผล เป็นการสนับสนุนให้ผมอยู่ต่อไปเพื่อแก้ปัญหาส่วนรวม และเพื่อสถาบันสูงสุดที่คนไทยเคารพบูชาครับ “คุณพันวัตต์” เห็นด้วยกับกลุ่มไหนครับ
 

 

3.ผมเป็นสุภาพบุรุษพอครับ ที่จะไม่ฉวยโอกาส หรือใช้โอกาสทำร้ายประชาชนที่ไม้รู้อิโหน่อิเหน่ เพื่อกรุยทางเดินไปสู่ความชอบธรรม ซึ่งผมอยากจะเรียนคุณพันวัตต์ตามตรงเลยว่า เหตุการณ์เมื่อวันที่ 10 เมษายน 2553 ถ้านายกรัฐมนตรีไม่ใช่นายอภิสิทธิ์ คนไทยที่มาร่วมกันชุมนุมจะบาดเจ็บล้มตายกันมากกว่านั้น เพราะมันมีบุคคลที่สาม (อาจจะสองครึ่งก็ได้) ผมไม่อยากจะฟันธงหรอกครับว่าเป็นกลุ่มเสื้อแดงเพราะคิดว่าพวกเขาอาจยังมีคุณธรรมปนอยู่บ้าง เป็นกลุ่มไหนนั้นผมก็ได้แถลงข่าวไปแล้วนะครับ “ผู้ก่อการร้าย” ผมจึงอยากให้ประชาชนผู้บริสุทธิ์ ออกมาจากคนกลุ่มนั้นซะนะครับเพราะ “ ปัญหาของประเทศไม่ไช่เรื่องการเมืองล้วนๆ เสียทีเดียว แต่เกี่ยวข้องกับความมั่นคงและสิ่งที่เขาเรียกว่าปัญหาด้าน “ก่อการร้าย” ประเทศไทยต้องการมากกว่าการแก้ปัญหาในระยะสั้น เราจำเป็นต้องจัดการแก้ปัญหาทั้งหมดในเวลาเดียวกัน เมื่อพูดถึงเสถียรภาพที่ทุกคนอยากให้เกิดขึ้นมันจะต้องไม่ใช่ในระยะสั้น เพื่อรอคอยการเกิดปัญหาใหม่ ขึ้นมาแทนที่ปัญหาเดิมแบบซ้ำแล้วซ้ำอีก” และอีกเรื่องที่อยากจะเรียนให้เข้าใจคือ เรื่องการประกาศกฎอัยการศึกครับ เวลานี้ยังไม่ถึงขั้นนั้นหรอกครับ อีกอย่าง “กฎอัยการศึกจะต้องประกาศใช้โดยกองทัพ ไม่ได้อยู่ภายใต้อำนาจของผม และตอนนี้กองทัพก็ยังไม่มีความประสงค์ที่จะประกาศใช้ จากที่ผมได้หารือกับกลุ่มบุคคล ที่มีหน้าที่รับผิดชอบและคนที่มีอำนาจในการสั่งการบริหาร “ไม่มีใครมีความประสงค์ที่จะประกาศใช้กฎอัยการศึกในเวลานี้”
 

สุดท้ายนี้ ผมอยากให้คุณพันวัตต์กับเพื่อนพ้องอดใจรอนะครับ ผมแก้ปัญหานี้ได้แน่นอนครับ และขอขอบคุณที่เชื่อมั่นในตัวผม และหวังว่าคุณจะสนับสนุนและไม่ทิ้งผมนะครับ

ด้วยความรักคุณและประชาชนชาวไทยทุกคน
อภิสิทธิ์
28 เมย.2553

****ปล.วันนี้ทหารเสียชีวิต 1 นาย ผมเสียใจมากครับ

 
 



หัวข้อ: Re: [2513]"ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: Kaimook ที่ 07 พฤษภาคม 2553, 15:03:29
อ้างถึง
ข้อความของ prapasri AH เมื่อ 05 พฤษภาคม 2553, 10:37:39
อ้างถึง
ข้อความของ weerapong_rx เมื่อ 05 พฤษภาคม 2553, 03:57:52
ติดตามอ่านอยู่นะครับ มาคอยดูซ้อมรำวงเพื่อเตรียมโชว์แขกบ้านแขกเมืองในงานบุญบั้งไฟเมืองยศ  emo43
อ้างถึง
ข้อความของ Kaimook เมื่อ 05 พฤษภาคม 2553, 07:33:30
Good morning ค่ะพี่แอ๊ะ...ตามอ่าน ตามชมค่ะพี่แอ๊ะ...ชอบพี่แอ๊ะใส่ชุดพอสว.จังค่ะ


น้องไข่มุกคะ

จัดรูปใส่เสื้อพอสว. ให้ค่ะ คือพี่แอ๊ะก่อนออกจากบ้าน

ถ้าใส่ฟอร์มแปลกๆ พี่หาญ แก มักจะจับ พี่แอ๊ะ ถ่ายรูปก่อนค่ะ

พี่ แกไม่เคยเห็นตุ๊กกตา 55555555555

ข่าวดี คือวันที่ 27พ.ค นี้ พี่แอ๊ะจะเข้าเฝ้า เจ้าฟ้าจุฬาภรณื เพื่อถวายเงิน สนับสนุนโครงการพอสว.

ท่านจะเสด็จมายโสธร อำนาจเจริญ และอุบล

จะให้ลูกสะใภ้เข้าเฝ้าด้วย แล้วจะส่งรูปมาให้ดูนะคะ

ดูรูปตุ๊กตาแก่อนนะจ๊ะ

(http://www.cmadong.com/imageupload/2010_Cmadong-Image/data/image/l1xgou-2e2d50.jpg)
สวัสดีค่ะพี่แอ๊ะ พี่หาญ พี่เหยง พี่หนุน พี่ป๋อง....
 ตุ๊กตาของพี่หมอหาญน่่ารักมากๆเลยค่ะ...รอชมภาพ27นี้ค่ะ...
ขอบคุณพี่เหยงค่ะรายงานข่าวเยี่ยมมากค่ะ...


หัวข้อ: Re: [2513]"ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: เหยง 16 ที่ 08 พฤษภาคม 2553, 11:50:57
คอลัมม์ "คนปลายซอย" ของคุณเปลว สีเงิน ในวัน(นี้)เสาร์ที่ 8 พฤษภาคม 2553

"เส้นทางไทย" ที่ต้องมองไกลกว่าเรื่อง "สีเสื้อ"
เปลว สีเงิน 8 พฤษภาคม 2553 - 00:00

                  อืมมมม....ผมนึกว่ามีแต่ "หนุ่ม-สาวชาว FB" เท่านั้นที่ "ขัดใจ" กับการที่นายกฯ ไม่ใช้วิธี...ส่งทหารลุย แล้ว...ฆ่ามัน ในการสลายม็อบกบฏทักษิณ แต่ที่ไหนได้ คนเฒ่าชะแร-แก่ชรา อย่างพลตรีจำลอง ศรีเมือง และอีกหลายท่านในพันธมิตรฯ ก็จัดอยู่ในประเภท "วัยรุ่นเลือดร้อน" เหมือนกัน เลิกถือศีลหันมาถือสากแทนกันเป็นแถวๆ จึงเห็นการยุติปัญหาโดยไม่ต้องฆ่ากันของ "คนรุ่นใหม่" อย่างท่านนายกฯ กลายเป็นเรื่องของคน "ขลาดกลัว-อ่อนแอ" ไปโน่น!

                ผมเข้าใจละว่า "แกนนำกบฏ" สมควรตาย แต่เมื่อมันมีอะไรเป็นทางออกโดยไม่ตาย-ไม่ฆ่ากันย่อมดีกว่ามิใช่หรือ และการที่ไม่ฆ่า ไม่ลุยจับ แต่สามารถทะลวง "ท่อระบาย" ของบ้านเมืองให้น้ำไหลได้ตามปกติ แล้วมันไม่ดีตรงไหน?

            เรื่องใช้ความรุนแรง ต้องลุย ต้องจับ ต้องตายกันไปข้างนั้น ตอนพันธมิตรฯ ชุมนุม พวกเสื้อแดงก็ยุให้ตำรวจ-ทหารทำอย่างนี้ พวกท่านก็โกรธ ไม่ชอบ

            แล้วทำไมตอนนี้จึงเอาสิ่งที่ท่านไม่ชอบไปยุยง-ส่งเสริมให้นายกฯ อภิสิทธิ์-ให้ทหารไปทำอย่างนั้นกับพวกกบฏแดงเขาล่ะ ในเมื่อวิธีการก่อนถึง "มาตรการสุดท้าย" ยังมีให้เลือกใช้อยู่?

            ฆ่ามัน..ฆ่ามัน..แต่ถึงตอนเรา อย่าฆ่าเรา...อย่าฆ่าเรา!

            ขอเสียทีเถอะครับ เรารักวัดพระแก้ว รักในหลวง และสวดมนต์ก่อนนอน แล้ว "ใจพระ" ไม่พยาบาทปองร้ายเขา หายไปทางไหน การที่เราไม่ผูกเวรเขา ใช่ว่าเขาจะหลุดกรรมจากริยำที่เขาก่อ ใครทำกรรมใดไว้ ย่อมได้รับผลแห่งกรรมนั้น ฉะนั้น เราไม่ต้องแส่ไปทำหน้าที่ "แทนกรรม" หรอก

            เพราะกรรมนั้นจะสนองเขาเองตามต้นทุนบุญ-บาปที่เขามีมา เราอย่าเอาตัวเรา "คือใจ" ไปผูกเวรมาใส่กับตัวเราไว้เป็น "มรดกบาป" เลย การทำอย่างนั้นแหละที่เรียกว่า "เนื้อไม่ได้กิน หนังก็ไม่ได้รองนั่ง  แต่เอากระดูกมาแขวนคอ"

            เชื่อผมเถอะ ที่ผมพูดนี่มันไม่สะใจโก๋ ผมรู้..แต่ว่าถ้าเข้าใจ เราจะเหมือนกระจกใสรับแสง เจิดแจรง สุขทั้งกาย-สุขทั้งใจ ใครหนาว เราอุ่น ใครร้อน เราผ่อนคลาย ใครขุ่น เราใส ไม่ใช่ชั่วคราวนะ จะตลอดไปด้วย!

            เราอยู่กับปัจจุบันด้วยสติ เพื่ออนาคตที่ดีกว่ามิใช่หรือ?

            ถ้าใช่...ปล่อยให้กฎหมาย และการกระทำของเขาเป็นตัว "กำหนดชะตาชีวิต" พวกเขาเองเถิด การทำความเข้าใจกับพวกกบฏแดงในแนวทางนี้ อย่างนี้แหละที่เรียกว่า "ใจอุเบกขา" อันถูกต้อง

            คิดพูดแล้ว บอกแล้ว เขาไม่เชื่อ บอกว่านั่น...ทางนั้นมันทางนรก แต่เขาก็ดังทุรังจะไป ก็ต้องปล่อยให้เขาลงนรก-ตกเหวไปตามเวร-ตามกรรม "ตามทาง" ของเขาเอง!

            ผมดูราศี ดูโหงวเฮ้งแต่ละคนแล้ว "ไม่ตายดี" หรอก และท่านเชื่อผมอย่าง ม็อบจะสลายเพราะแผนปรองดองของนายกฯ อภิสิทธิ์ก็ดี หรือให้ทหารลุยจับ-แกนนำใช้อาวุธต่อสู้ ถูกยิงตาย สามารถสลายม็อบได้ด้วยวิธีนี้ก็ดี

            ทั้ง ๒ วิธีนี้ "เชื้อชั่วก็ไม่หมดไป" หมดจากเจ้ามูลแม้ว เดี๋ยวมันก็มีเจ้ามูลม้ง เจ้ามูลสุนัข หมุนเวียนเปลี่ยนกันมาอีก ทุกอย่างมันเกื้อซึ่งกันและกัน เพราะมีโจรหรอกจึงมีมะเขือเทศ ฉะนั้น มะเขือเทศควรจะกราบตีนคุณโจรเขาที่ให้อาชีพ เพราะมีพวกกบฏชิงบ้าน-ชิงเมืองหรอก จึงต้องมีแตงโม ฉะนั้น แตงโมก็ควรต้องกราบตีนพวกกบฏแดงเขา-ที่ให้งาน

            ดังว่านี้ แผนปรองดองก็แค่เพื่อใช้สลายม็อบให้บ้านเมืองเดินไปได้ อย่าไปหวัง-ไปคาดคั้นเอาสันติสุขนิรันดรจากท่านนายกฯ ขนาดนั้นเลย เห็นใจท่านเถอะ นึกกันหรือว่ามีอำนาจแล้วจะสั่งอะไรได้ทุกอย่าง นั่งหัวโต๊ะ ศอฉ.บางที ขี้มูกตัวอย่างยังสั่งไม่ออกเลย นี่ถ้าเป็นคนอื่นอ้วกแตกไปนานแล้ว ไม่อึด-ไม่ทนอย่างนายกฯ คนนี้หรอก

            นี่เพราะ "อีตัน" เขาหล่อดอกมาดีน่ะ!
            ศาลท่านสั่งแล้ว ให้ทำตามความจำเป็น เมื่อจะทำต้องทำตามหลักสากล จากหนักไปหาเบา แผนปรองดองของนายกฯ ก็เป็นอีกมาตรการหนึ่งที่เรียกได้ว่า "เบาไปหาหนัก" เมื่อถึงเวลาสมควรแล้วฝ่ายกบฏยังดื้อแพ่ง ตานี้ละ...มันเป็นความชอบธรรมอันประจักษ์ชัดที่ฝ่ายรัฐบาล และฝ่าย ศอฉ.

            จะ "หนัก" โดยไม่ต้อง "เบา" ได้ทันที!

            และต้องเข้าใจกันให้ชัดทั้งหัวหงอก หัวดำ และหัวเกรียน สมมุติว่า "กบฏแดง" หายไปจากท้องถนน ไม่ว่าจะในกรุงเทพฯ หรือต่างจังหวัด อันเป็นผลมาจากแผนปรองดองนี้ นั่นก็ไม่ได้หมายความว่า "ความผิดทั้งมวล" อันเกิดขึ้นแล้วจะเจ๊ากันไป บรรดาหัวโจกทั้งหลายจะลากหางแดงขึ้นเครื่องบินไป "ดูใจ" แดงใหญ่ที่อยู่ได้ไม่เกินกรกฏานี้ โดยไม่มีคดีใดๆ ติดตัว

             เหมือนพวกท่านบรรดาแกนๆ พันธมิตรฯ ที่ไปยึดทำเนียบรัฐบาล-ยึดสนามบินนั่นแหละ ใช่ว่าเลิกชุมนุม เลิกอารยะขัดขืนอะไรแล้วคดีความจะเลิกไปด้วย แต่ละคนยังมีคดีสุมหัว-ติดตัวในวีรกรรมกู้ชาติกันอยู่มิใช่หรือ...พี่น้อง?

            ต่างกรรม-ต่างวาระ-ต่างเจตนา-ต่างพฤติกรรม นั่นก็ปล่อยให้ "กระบวนการกฎหมาย"  และ "กระบวนการยุติธรรม" ท่านวินิจฉัยกันไปตามครรลองการบริหาร-การปกครองบ้านเมืองอันมีอยู่เพื่อเป็นบรรทัดฐานต่อไป ให้ใจร้อนกับเขา-แต่ใจเย็นกับเรา ไม่ดีหรอก...น่าเกลียด

            บ้านเมืองยุค "ทาสวัตถุ" ทุกวันนี้ คนเราเอาแต่ใจ เอาแต่อารมณ์ ไม่เอาสติ ไม่เอาเหตุ มุ่งแต่ผล และไม่เอาเขา จะเอาแต่เรากันตะพึดตะพือ อย่าว่าแต่ประเภทคนกินผักเลย ขนาดคนห่มเหลืองวันนี้ ยังถือสาก-สาดเลือด แทนศีล แถมซ้อนมอเตอร์ไซค์ชูธงแดงอีกตะหาก ใครอยู่ใกล้ๆ ช่วยถีบให้เป็นบุญตีนซักพลั่ก

            ผมนี้จะปิดทอง (ส้น) ตีนให้เลย!

            เห็นมั้ย...อย่าว่าแต่ระดับพวกเราชาวบ้านเลย ทุกวันนี้มันเลวกระทั่งซ่อนคราบในผ้าเหลืองขับเน้น "ภิกษุสันดานกา" อย่างที่เขาว่าให้เป็นประจักษ์ ดังนั้น ถ้าเอะอะ..ใครเลวต่อบ้านเมืองต้องฆ่าให้หมด ผมอยากจะถามว่า เราจะไม่ต้องฆ่ากันยิ่งกว่า "ทุ่งสังหาร" นับล้านศพที่เขมรหรือ?

            และ...แน่ใจนะว่า เราสามารถฆ่าคนเลวให้หมดทั้งประเทศได้ และที่เหลือจะไม่ใช่..ไม่เป็น..ไม่มีคนเลวหลงเป็นเชื้ออยู่เลย!?

            ผมกลัวอย่างเดียว ถ้ายึดแนว "คนเลวต้องฆ่าให้หมด" เผลอๆ เรามิต้อง......

            "ฆ่าตัวเอง" ด้วยหรือ?!

            ครับ..ช่วงนี้เป็นช่วง "หัวเลี้ยว-หัวต่อ" สังคมชาติ ผมบอกแล้วว่าประเทศไทยเราเข้าสู่กระบวนการ "ลอกคราบ" บนเส้นทางสายเปลี่ยนชนิด "พลิกหน้ามือ-เป็นหลังมือ" ในช่วง ๑๖-๑๘ ปีครึ่งนับต่อจากนี้แล้ว

            ฉะนั้น การณ์ทุกอย่าง อย่าเอามัน อย่าเอาสะใจ อย่าใช้  ราคะ-โทสะ-โมหะ พยาบาท-ปองร้าย นำหน้าสติชี้ขาดปัญหาในแต่ละขั้นตอน เมืองไทยขายอะไรกับต่างชาติเพื่อการท่องเที่ยว?

            ขายวัดพระแก้ว ขายศิลปวัฒนธรรม และที่โดดเด่น ขายความเป็นคนไทยใจดีมีศีล มีธรรม มีความเมตตาโอบอ้อมอารี ต่างรักสามัคคีเป็นพี่-เป็นน้องกัน

            แล้วนี่...อะไรกัน ขณะที่คนทั้งโลก ๖,๐๐๐ ล้านคน ๑๒,๐๐๐ ล้านลูกตาจ้องดูว่าคนไทยจะ "บริหารความขัดแย้ง" กันเองให้ลงตัวด้วยวิถีแห่งพุทธะให้สมกับเมืองพุทธแบบไหน อย่างไร?

            "อายุนายกฯ" ถือว่าเด็ก แต่ความรับผิดชอบท่าน "เป็นผู้ใหญ่" ไม่ฆ่ากัน แต่บ้านเมืองสงบได้ ทั่วโลกทึ่งและพอใจ หนอย..พวกโก๋แก่-โก๋หนุ่ม กลับบอกไม่สะใจ ที่ไม่เห็นตะกวดตะกายตึกลงมาดิ้นพราดๆ หางสั่นกระตุกๆ ก่อนตาย แปลกดีนิ!

            ผมอยากจะบอกอย่างที่ผมมองเห็น แต่อย่าดีกว่า เล่นไพ่แล้วดันจั่วมาหงายดูก่อนทุกใบ แล้วมันจะไปสนุกตรงไหน เผลอๆ จะถูก "ส้นที่มองไม่เห็น" หงายท้องไปก่อนซะด้วยซ้ำ
            มีนัย "จากข่าว" เมื่อวาน (๗ พ.ค.๕๓) อยู่ชิ้น ผมอยากจะลอกมาให้อ่าน ข่าวสั้นๆ ลองอ่านกันดูนะครับ.....

            พลเอกอนุพงษ์ เผ่าจินดา ผบ.ทบ.รับมอบเงินบริจาคช่วยเหลือทหารที่ได้รับบาดเจ็บจากการประกาศ พ.ร.ก.บริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉินจาก พล.ท.วิทยา ช่อวิเชียร เจ้ากรมแพทย์ทหาร  รวมเป็นเงิน ๑๖,๕๑๔,๐๐๑.๗๖ บาท โดยจะนำเงินจำนวนดังกล่าวไปแจกจ่ายให้กับทหารที่ได้รับบาดเจ็บ และครอบครัวทหารที่เสียชีวิต ตามวัตถุประสงค์ผู้บริจาคต่อไป

                ทั้งนี้ เงินดังกล่าวเป็นเงินที่ประชาชนร่วมบริจาคให้กับ "สำนักงานมูลนิธิโรงพยาบาลพระมงกุฎเกล้าฯ" รวมทั้งสิ้น ๘,๑๗๑ คน โดยบริจาคตั้งแต่วันที่ ๑๑ เมษายน-๒ พฤษภาคม ๒๕๕๓ ที่ผ่านมา

                ส่วนยอดเจ้าหน้าที่ที่ได้รับบาดเจ็บรวมทั้งสิ้น ๕๔๖ นาย กลับบ้านแล้ว ๒๒๕ นาย และเสียชีวิต ๖  นาย นอกจากนี้ยังมีประชาชนร่วมบริจาคอาหาร ดอกไม้ และเครื่องอุปโภค-บริโภคให้กับทหารด้วย

                ครับ..นี่คือมิติหนึ่ง พลิกหน้ามือ-เป็นหลังมือจากมิติ ๑๔ ตุลา มิติ ๖ ตุลา และมิติพฤษภาทมิฬ ที่ทหารต้อง "ถอดเครื่องแบบ" ก่อนออกจากกรม-กอง ทำไม "มหาประชาสังคม" จึงเต็มใจควักเงินสดๆ คนละบาท-สองบาท รวมแล้วกว่า ๑๖ ล้านบาท ไปมอบให้ "ทหาร" โดยไม่คิดอื่นใด ทั้งที่ "ภาพใหญ่" ของสถาบันทหารขณะนี้ช่วยให้บ้านเมืองสงบอย่างที่เขาหวังไม่ได้ (มากนัก)

                 แน่นะ โดยตรงคือ ซึ้งการทำหน้าที่ "ทหารเกณฑ์" ไอ้เณร "กู้ชาติ" แต่ภาพสะท้อนในมุมกลับที่ "ระบบรัฐ" รัฐบาล-ข้าราชการ-ทหาร-ตำรวจ ต้องตระหนัก ชาวบ้านเริ่มหมดศรัทธา และเลิกฝากความหวังกับพวกท่านแล้ว และความ "รักบ้าน-รักเมือง" เป็นพลังขับเคลื่อนพวกเขาให้ออกมารวมกันเป็น "มหาประชาสังคม" แล้ว

                คนดี-แต่ไม่ทำอะไร นั่นก็ไม่มีความหมาย แต่ใคร...ทำ "เพื่อชาติ" ได้ วันนี้...มีความหมายที่ "มหาประชาสังคม" จะไม่ปล่อยให้ "วีรบุรุษไร้เหรียญ" ต้องตายอย่าง "จ่าเพียร" อีกแล้ว.    
 

http://www.thaipost.net/news/080510/21916


หัวข้อ: Re: [2513]"ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: เหยง 16 ที่ 08 พฤษภาคม 2553, 11:57:58
บทบรรณาธิการ นสพ แนวหน้า ออนไลน์ วันนี้ (8 พ.ค. 53)

บทบรรณาธิการ
 
แผนการปฏิรูปประเทศไทย (บทบรรณาธิการ) 
 
 
 
 ปัญหาความแตกแยกทางการเมืองในประเทศไทยกำลังเป็นปัญหาใหญ่ที่หลายฝ่ายกำลังวิตกว่าน่าจะนำไปสู่กระบวนการที่ซับซ้อนมากยิ่งขึ้นจนอาจจะนำไปสู่สงครามกลางเมืองเต็มรูปแบบระหว่างประชาชนทั้ง 2 ฝ่ายที่มีความคิดเห็นที่แตกต่างกันอย่างสุดขั้ว

 ฝ่ายหนึ่งก็คือกลุ่มประชาชนที่ต่อต้านระบอบทักษิณที่เกิดขึ้นมาโดยการกระทำของนายทักษิณ ชินวัตรอดีตนายกรัฐมนตรีผู้หนีคดีอาญาและสมัครพรรคพวกที่เป็นนักการเมือง อีกฝ่ายก็คือกลุ่มประชาชนที่เป็นพวกของนายทักษิณซึ่งมีศูนย์รวมอำนาจอยู่ในพรรคการเมืองและกลุ่มคนเสื้อแดงหรือ นปช.

 ขณะนี้รัฐบาลใต้การนำของนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะได้เสนอแผนโรดแม็ป5 ประการขึ้นมาให้สังคมทั้งหมดที่ประกอบด้วยประชาชนจากทุกฝ่ายทุกสาขาอาชีพได้ร่วมกันพิจารณาและเสนอความเห็นเพื่อนำไปสู่การจัดทำแผนการปฎิรูปประเทศไทยกันอย่างขนานใหญ่

 ถึงแม้ประเทศไทยจะมีระบอบการปกครองแบบประชาธิปไตยมาแล้วเป็นระยะเวลาถึง 78 ปีแต่พัฒนาการทางด้านการเมืองของประเทศไทยกลับไม่ก้าวหน้ามากนักเพราะพฤติกรรมของนักการเมืองทั้งในระดับท้องถิ่นและระดับชาติมีการทุจริตฉ้อราษฏร์โดยมุ่งถึงผลประโยชน์ของตนเองและพรรคพวกมากกว่าผลประโยชน์ของชาติ

 ด้วยเหตุผลดังกล่าวสังคมจึงได้มีการเสนอแผนการปฎิรูปประเทศไทยกันแบบยกเครื่องใหม่กันทั้งหมดโดยไม่นำเอาเฉพาะข้อเสนอเรื่องการเลือกตั้งเพียงอย่างเดียวมาพิจารณาว่าใครผิดใครถูกแบบที่คนเสื้อแดงและนายทักษิณ ชินวัตรต้องการเพราะเป้าหมายของคนกลุ่มนี้และนายทักษิณนั้นต้องการอำนาจรัฐเท่านั้น

 ดังนั้นการเลือกตั้งใหม่จึงไม่ใช่ทางออกของประเทศไทยในวันนี้แต่ทางออกของประเทศที่ถูกต้องก็คือสังคมจะต้องยกเครื่องประเทศด้วยการปฎิรูปประเทศไทยใหม่ในทุกๆด้านทั้งด้านการเมือง ด้านเศรษฐกิจและด้านการเมือง

 หลักในการปฎิรูปประเทศไทยที่สำคัญน่าจะประกอบด้วยการพัฒนาประเทศอย่างบูรณาการไปด้วยกันทั้งสังคม เศรษฐกิจและการเมืองโดยให้คนในสังคมมีจิตสำนึกใหม่ไม่ยอมรับนักการเมืองขี้ฉ้อที่กอบโกยโกงกินงอีกต่อไป

 โดยนักการเมือง ข้าราชการประจำและประชาชนจะต้องมีธรรมาภิบาลในการทำงานร่วมกันเป็นหมู่คณะในทุกภาคส่วน ซึ่งจะนำประเทศก้าวพ้นจากวงจรอุบาทว์ที่เกิดขึ้นจากนักการเมืองได้อย่างเป็นรูปธรรมได้อย่างแท้จริง 
 
วันที่ 8/5/2010
 
http://www.naewna.com/news.asp?ID=210264


หัวข้อ: Re: [2513]"ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: เหยง 16 ที่ 08 พฤษภาคม 2553, 12:12:41
คอลัมม์ "ถูกทุกข้อ" ของ สามวา สองศอก

ผิดสองข้อ
ถูกทุกข้อ 8 พฤษภาคม 2553 - 00:00

 เรียน บรรณาธิการหนังสือพิมพ์ไทยโพสต์
     ในฐานะสมาชิกไทยโพสต์ได้อ่านและตรวจพบว่า หนังสือพิมพ์ไทยโพสต์ ปีที่ 14 ฉบับที่ 4929 วันที่ 30 เมษายน 2553 มีข้อความในบทความซึ่งอาจจะบกพร่อง อาจทำให้ผู้อ่านเกิดความคลาดเคลื่อนและเข้าใจผิด จำนวน 2 บทความ
     1.บทความ หน้า 2 คอลัมน์ท่านขุนน้อย ลีลาแห่งหุบผากระบี่ ในวรรคแรกซึ่งเขียนไว้ว่า "กรุงศรีอยุธยาปี 2112" ความจริงควรจะแก้ไขเป็น "กรุงศรีอยุธยา 2310" ด้วยเหตุผลเมื่ออ่านรวมในวรรคที่ 1 ทั้งวรรคแล้ว กรุงศรีอยุธยาแตกครั้งที่ 2 ในปี 2310 (แตกครั้งแรกในปี 2112) เมื่ออ่านถึงความชัดเจนในวรรคถัดไป ถึงเนื้อความยืนยันสนับสนุนชี้ได้เลยว่า ต้องเป็นกรุงศรีอยุธยาแตกครั้งที่ 2 ในปี 2310
     2.บทความ หน้า 4 คอลัมน์บทความพิเศษของ อ.เกษม จันทร์น้อย คณบดีคณะนิเทศศาสตร์ มหาวิทยาลัยอีสเทิร์นเอเชีย วรรคที่ 5 "ตะวันตกมีประวัติการต่อสู้การปกครอง ที่ทำให้เกิดสหรัฐอเมริกาแผ่นดินใหม่...รบกันจนฝ่ายใต้ชนะ..."
     ในเรื่องความเป็นจริงในประวัติศาสตร์แล้ว ในสงครามกลางเมือง ฝ่ายเหนือรบชนะฝ่ายใต้ หรือฝ่ายใต้เป็นฝ่ายแพ้สงครามต่อฝ่ายเหนือ ข้อความต้องแก้เป็น รบกันจนฝ่ายใต้แพ้ หรือ รบกันจนฝ่ายเหนือชนะ
     นายพลแกรนท์ เป็นผู้นำกองทัพฝ่ายเหนือ ในขณะที่ นายพลลี เป็นผู้นำกองทัพฝ่ายใต้ ฝ่ายใต้นั้นยังมีสภาพ "สังคมเกษตรกรรม" อยู่ จึงอยากให้มีแรงงานทาสผิวดำทำงานไร่เกษตรกรรมต่อไป ส่วนฝ่ายเหนือนั้นมีสภาพที่พัฒนาไปเป็น "สังคมอุตสาหกรรม" ได้เร็วกว่า จึงไม่มีความจำเป็นและความต้องการกับการใช้แรงงานทาสอีกต่อไป สงครามกลางเมืองสหรัฐจึงเกิดขึ้นในสมัยของอับราฮัม ลินคอล์น ประธานาธิบดีคนที่ 16 ของสหรัฐอเมริกา
     ถ้ายังไงท่านบรรณาธิการก็ช่วยพิจารณาด้วยถึงเรื่องความถูกต้อง ความเข้าใจดังกล่าว เพื่อให้สมาชิกไทยโพสต์ และคุณค่าของไทยโพสต์ดำรงอยู่ในสโลแกน อิสรภาพทางความคิด         

                                              ขอแสดงความนับถือ
                                                   พลโทณัฐพิพัฒน์ พิทักษ์ชาติ
                                  ผอ.สำนักงานตรวจกิจการส่งกำลังบำรุงทหารบก     
ตอบ พลโทณัฐพิพัฒน์
     หนังสือพิมพ์ไทยโพสต์ฉบับที่คุณอ้างถึงนั้น เป็นไทยโพสต์ปีที่ 14 ไม่ใช่ปีที่ 4 นะครับ เพราะเริ่มมาตั้งแต่วันที่ 21 ตุลาคม 2539
     หนังสือพิมพ์รายวันกับความผิดพลาดเป็นของคู่กัน จนคุณซูมแห่งไทยรัฐบอกว่าคอลัมน์ในหนังสือพิมพ์รายวัน เป็นวรรณกรรมรีบเร่งที่ต้องแข่งกับเวลา ที่สำคัญคือบางครั้งต้องเขียนในขณะที่ในสมองว่างเปล่า

                ถ้าไร้แผ่นดินไม่สุข
เรียน คุณสามวา สองศอก
     อ่านข่าวพาดหัวใหญ่ในไทยโพสต์ ฉบับที่ 24 เมษายน 2553 "ถ้าไร้แผ่นดินไม่สุข" ฟ้าหญิงเตือนสติประชาชน เผยในหลวงทรงรู้ทุกเรื่อง แล้วได้แรงบันดาลใจเขียนบทความเรื่อง "เพราะสำนึกรักบ้านเกิด" รายละเอียดแนบมาพร้อมนี้

                     เพราะสำนึกรักบ้านเกิด
     แผ่นดินเกิดในห้วงนึกของผู้ที่ใช้ชีวิตอยู่ในบ้านเกิดเมืองนอนตามปกติ กับแผ่นดินแม่ในห้วงนึกของผู้ที่อยู่ต่างแดน อาจไม่เหมือนกันเสียทีเดียว เพราะธรรมชาติของผู้อยู่ต่างแดนมีแนวโน้มที่จะย้อนกลับไปมองมาตุภูมิ มากกว่าบางคนที่รู้สึกจำเจในบ้านเมืองของตน
     แง่ต่างนี้ดูจะเป็นธรรมชาติของคนที่เห็นค่าของสิ่งที่ห่างหาย ได้มากกว่าความดีงามที่สัมผัสได้ตลอดเวลา แต่แล้งร้อนปีนี้ 10 เมษายน ภัยก่อการร้ายที่มีกองกำลังติดอาวุธลอบสังหารทหารประชาชน บนถนนราชดำเนิน ชวนให้รู้สึกสลดหดหู่ต่อผู้ที่มีเจตนาทำลายบ้านเกิดเมืองนอน เพื่อหวังประโยชน์เฉพาะตน
     และหลังจากนั้น 22 เมษายน กองกำลังฝ่ายเสื้อแดงได้ยิงระเบิดสังหารประชาชนบนถนนสีลม เหตุการณ์ดังกล่าวเป็นปฏิบัติการจองเวรต่อมาตุภูมิ กรรมนี้ย่อมเป็นตราบาปของผู้กระทำที่ตราตรึงคนไทยตลอดไป
     ระหว่างที่ฝ่ายรัฐดำเนินการต่อต้านขบวนการก่อการร้าย/กบฏของแผ่นดิน อยากให้ผู้ที่มีใจเป็นธรรมได้มองแง่งามของบ้านเกิดเมืองนอน ผ่านบทเพลงที่มีสำนึกทางประวัติศาสตร์ส่งผลปลุกสำนึกรักชาติ นั่นคือเพลงพระราชนิพนธ์แผ่นดินของเรา
          ถึงอยู่แคว้นใดไม่สุขสำราญ
     เหมือนอยู่บ้านเราชื่นฉ่ำค่ำเช้าสุขทวี
     ทรัพย์จากผืนดินสินจากนที
     มีสิทธิ์เสรีสันติครองเมือง
          เรามีป่าไม้อยู่สมบูรณ์       
     ไร่นาสดใสใต้ฟ้าเรือง
     โบราณสถานส่งนามประเทือง   
     เกียรติเมืองไทยขจรไปทั่วแดนไกล
          รักชาติของเราไว้เถิดผองไทย
     ผืนแผ่นแหลมทองรวมพี่รวมน้องด้วยกัน
     รักเกียรติรักวงศ์เสริมส่งสัมพันธ์
     ทูนเทิดเมืองไทยนั้นให้ยืนนาน
     ผู้ที่มีใจเป็นไทยได้สัมผัสเพลงพระราชนิพนธ์นี้แล้ว อาจนึกถึงความบางตอนจากเพลงบ้านเรา "...คำว่าไทยซึ้งใจเพราะใช่ทาสเขา ด้วยพระบารมีล้นเกล้าคุ้มเราร่มเย็นสุขสันต์..." (บ้านเราของชาลี อินทรวิจิตร และประสิทธิ์ พยอมยงศ์)
     ด้วยสำนึกรักไทยไม่ว่าจะอยู่แห่งหนตำบลใด ก็ยังระลึกถึงบ้านที่ร่มเย็น     
          "วิปโยคโศกใจเหมือนเมื่อไกลบ้าน
     ไกลสถานพักพิงยิ่งใจเหงา
     ห่างไกลหัวใจจำเศร้า
     เจ้าอยู่ดีเป็นไฉน
     พลัดที่พึ่งที่พิงทิ้งที่พำนัก
     ไกลที่รักพักพาจะอาศัย..."
               (ไกลบ้านของชาลี อินทรวิจิตร สมาน กาญจนะผลิน)
     ระหว่างที่แผ่นดินไทยเดือดด้วยไฟกบฏ สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าจุฬาภรณวลัยลักษณ์ อัครราชกุมารี ได้ตรัสกับคนไทยในประเทศเยอรมนี (23 เม.ย.53) ความตอนหนึ่งว่า การปลูกฝังของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ ทรงสอนตลอดว่า
     "ถ้าไม่มีประชาชนก็ไม่มีพวกเรา เราเกิดมาเป็นเจ้าฟ้าเจ้าแผ่นดิน คนเขาเคารพกราบไหว้ ก็ควรทำประโยชน์ ทำตัวให้เหมาะสมกับที่เขาเคารพนับถือ ท่านสอนอย่างนี้เสมอ ข้าพเจ้าก็ทุ่มสุดตัวที่จะทำสำหรับประเทศไทย อะไรที่ดีกับไทยก็ทำ อยากให้ทุกท่านคิดเหมือนกันว่า อะไรที่ดีที่สุดสำหรับแผ่นดินแม่เราก็ควรทำ ถ้าไม่มีแผ่นดินไทย ไทยล่มสลายจะไม่มีใครมีความสุขได้เลย" (ไทยโพสต์ 24 เม.ย.53)
     "บรรพบุรุษของไทยแต่โบราณ
     ปกบ้านป้องเมืองคุ้มเหย้า
     เสียเลือดเสียเนื้อมิใช่เบา
     หน้าที่เรารักษาสืบไป
          ลูกหลานเหลนโหลนภายหน้า
          จะได้มีพสุธาอาศัย
          อนาคตจะต้องมีประเทศไทย
          มิยอมให้ผู้ใดมาทำลาย...."
                     (เพลงพระราชนิพนธ์เราสู้)
     เพราะสำนึกรักบ้านเกิดจึงอดสูต่อคนไทยผลาญชาติ ที่แฝงตัวมาในรูปแบบต่างๆ โดยมีเจตนาที่แท้จริงคือทำลายประเทศไทยซึ่งมีรากที่มั่นคง แล้วสถาปนารัฐไทยใหม่ เพื่อหวังครองอำนาจต่อไปตามแนวทางของฝ่ายแดง โดยไม่ไยดีต่อความรู้สึกของมวลชน ซึ่งต่างก็เป็นส่วนหนึ่งของประเทศชาติ ตามหลักการประชาธิปไตยแบบมาตรฐานสากล
     คนไทยที่รักสงบต้องร่วมกันต้านกบฏแดง เพื่อรักษาชาติที่ต้นตระกูลไทยใจท่านเหี้ยมหาญ รักษาดินแดนไทยไว้ให้ลูกหลาน
                                                       ขอแสดงความนับถือ
                                                      พ.อ.วัชระ วีระวงศ์
ตอบ พ.อ.วัชระ
     ขอชมว่าคุณมีความรู้ในเรื่องของเพลงพระราชนิพนธ์ และเข้าใจนำมาประยุกต์กับเหตุการณ์บ้านเมือง เพื่อให้กำลังใจคนไทยอีกหลายๆ คนที่กำลังรู้สึกท้อแท้ จดหมายฉบับต่อไปถ้าเขียนมาขอให้มีความยาวประมาณฉบับนี้ เพราะถ้ายาวเกินไปจะได้ลงเฉพาะบางส่วนเท่านั้น
                                                         สามวา สองศอก

http://www.thaipost.net/news/080510/21908


หัวข้อ: Re: [2513]"ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: เหยง 16 ที่ 08 พฤษภาคม 2553, 19:20:39
"หม่ำ จ๊กมก"ร่วมเปิดบุญบั้งไฟโก้ยโสธร ไทยเทศแห่เที่ยวแน่น

8 พค. 2553 18:22 น.




นายพงษ์ศักดิ์ นาคประดา ผู้ว่าราชการจังหวัดยโสธร เป็นประธานเปิดงานบูชาพญาแถน แห่แหนบั้งไฟโบราณสืบสานประเพณีชมของดีเมืองยโสธร ประจำปี 2553 บริเวณถนนแจ้งสนิท หน้าที่ว่าการอำเภอเมืองยโสธร โดยมีนายสฤษดิ์ ประดับศรี นายก อบจ.ยโสธร และนายเกรียงไกร พันธ์สายเชื้อ นายกเทศบาลเมืองยโสธรพร้อมหัวหน้าส่วนราชการ และชาวยโสธรร่วมงานกันเป็นจำนวนมากและนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและต่างประเทศ ที่มาร่วมชมงานอย่างคับคั่ง โดยจัดงานมาตั้งแต่วันที่ 3 พฤษภาคม เป็นต้นมา แต่ละวันมีการจัดมหกรรมอาหาร การแสดงของสถานศึกษาต่างๆ การประกวดกาพย์เซิ้งบั้งไฟ,การประกวดธิดาบั้งไฟโก้,การประกวดบั้งไฟสวยงามและการประกวดวงดนตรีสากล

การจัดงานประเพณีบุญบั้งไฟปี 2553 ได้รับความสนใจจากประเทศเพื่อนบ้านที่ได้มาร่วมงานประเพณีบุญบั้งไฟด้วย เช่น สาธารณรัฐสังคมนิยมเวียดนาม, สาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว และชาวเมืองชิชิบุ จังหวัดไซตามะ ประเทศญี่ปุ่น ที่ลงนามเป็นเมืองคู่แฝดประเพณีบุญบั้งไฟกับจังหวัดยโสธรตั้งแต่ปี 2540 ได้นำคณะมาร่วมงานพร้อมทั้งนำช่างทำบั้งไฟญี่ปุ่นหรือบั้งไฟริวเซ มาสาธิตการทำให้ชาวยโสธรและนักท่องเที่ยวได้ชม และในงานยังได้รับความร่วมมือจากศิลปินตลกชื่อดัง หม่ำ จ๊กมก มาร่วมงานและสร้างสีสันความสนุกสนานให้กับผู้ร่วมชมงานอีกด้วย

http://breakingnews.nationchannel.com/read.php?newsid=447003


หัวข้อ: Re: [2513]"ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: พธู ๒๕๒๔ ที่ 08 พฤษภาคม 2553, 23:30:12
 
THANK
ขอบคุณฟ้า    ซึ่งโปรยมา  เป็นสายฝน
ขอบคุณคน    ซึ่งเห็นคน   เป็นคนเหมือน
ขอบคุณท่าน  ซึ่งเห็นใจ    ผู้มาเยือน
ขอบคุณเพื่อน เลิกตั้งหน้า เข็นฆ่ากัน


หัวข้อ: Re: [2513]"ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: prapasri AH ที่ 09 พฤษภาคม 2553, 12:37:47
หม่ำเป็นศินปินคนหนึ่ง ทีไม่ลืม บ้านเกิดตัวเอง

 เเละสามารถนำความขี้เหร่ ของตัวเองไปสร้างฐานะได้

(http://www.cmadong.com/imageupload/2010_Cmadong-Image/data/image/l250v7-5d4a0f.jpg)

มีคนบอกว่าหมอต้น หล่อ แต่รูปนี้ หม่ำหลอ่ว่าตั้งเยอะ 55555555


หัวข้อ: Re: [2513]"ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: prapasri AH ที่ 09 พฤษภาคม 2553, 12:39:37
(http://www.cmadong.com/imageupload/2010_Cmadong-Image/data/image/l2510q-2288eb.jpg)

งานกลางคืนค่ะพี่แอ๊ะ แต่งตัวเว่อมากเพราะต้องไปรำวง บนเวที อ่า

ในรูปมีพี่หาญ นายกอบจ  โยธาธิการจังหวัด (เป็นผู้หญิง)

และประธานสภา

และนักการเมืองท้องถิ่น


หัวข้อ: Re: [2513]"ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: prapasri AH ที่ 09 พฤษภาคม 2553, 12:43:23
จะส่งรูปงานบั้งไฟ มาให้ดูตั้งแต่พีธีตอนเช้า

งานกลางคืนพี่แอ๊ะเป็นแม่งานจัดงานให้ชาวยโสธร

ชาวญี่ปุ่น ชาวสปป.ลาว ชาวเวียตนาม และนักท่องเที่ยวทั้งหลายค่ะ


หัวข้อ: Re: [2513]"ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: prapasri AH ที่ 09 พฤษภาคม 2553, 12:44:34
ทีนี้ทำไงดี ห้องนี้เป้นห้องการเมืองซะแหล่วววววววว

ถ้าส่งรูปบั้งไฟกลัวเสียบรรยากาศ

อาจจะไปตั้งหัวข้อใหม่นะคะ

หรือเอายังไงกันคะ น้องพี่


หัวข้อ: Re: [2513]"ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: prapasri AH ที่ 09 พฤษภาคม 2553, 12:49:28
หม่ำ จ๊กม๊ก ที่บ้านมีอาชีพ ขายไก่ในตลาดสด

(http://www.cmadong.com/imageupload/2010_Cmadong-Image/data/image/l251ea-5db8bf.jpg)

ด้วยความยากจน หม่ำเข้ามากรุงเทพเป้นลูกจ้างในกองถ่ายหนัง

มีอยู่วันหนึ่งดาราตลกคนหนึ่งไม่มาในงานถ่ายหนัง

หม่ำเลยถูกให้เข้าไปเป็นตัวประกอบเเทน

ชีวิตหม่ำเลยได้เกิดใหม่ ณ บัดนั้น


หัวข้อ: Re: [2513]"ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: prapasri AH ที่ 09 พฤษภาคม 2553, 12:58:34


พิธีเปิดโดยท่านผู้ว่าราชการจังหวัดเป็นปรธาน ปีนี้ไม่ได้เชิญรัฐมนตรีมาเพราะกลัวเสิ้แดง ปาอึ ค่ะ

(http://www.cmadong.com/imageupload/2010_Cmadong-Image/data/image/l251x4-83a8c0.jpg)


หัวข้อ: Re: [2513]"ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: prapasri AH ที่ 09 พฤษภาคม 2553, 13:04:29
รูปงานเปิดตอนเช้าค่ะ


(http://www.cmadong.com/imageupload/2010_Cmadong-Image/data/image/l25261-2145c3.jpg)


หัวข้อ: Re: [2513]"ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: ดร.มนตรี ที่ 09 พฤษภาคม 2553, 17:41:34
มาติดตามชม ครับ ...


น้องหมอต้น สมาร์ท ครับพี่แอ๊ะ ...


หัวข้อ: Re: [2513]"ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: เหยง 16 ที่ 09 พฤษภาคม 2553, 20:05:34
อ้างถึง
ข้อความของ prapasri AH เมื่อ 09 พฤษภาคม 2553, 12:44:34
ทีนี้ทำไงดี ห้องนี้เป้นห้องการเมืองซะแหล่วววววววว

ถ้าส่งรูปบั้งไฟกลัวเสียบรรยากาศ

อาจจะไปตั้งหัวข้อใหม่นะคะ

หรือเอายังไงกันคะ น้องพี่


พี่แอีะครับ

พักรบกับเสื้อแดงก็ได้ครับ ด้วยการนำความบันเทิงเข้ามากล่อมบ้าง

เดี๋ยวค่อยออกไปรบต่อ...ยังทัน


หัวข้อ: Re: [2513]"ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: เหยง 16 ที่ 09 พฤษภาคม 2553, 20:07:12
อ้างถึง
ข้อความของ prapasri AH เมื่อ 09 พฤษภาคม 2553, 12:43:23
จะส่งรูปงานบั้งไฟ มาให้ดูตั้งแต่พีธีตอนเช้า

งานกลางคืนพี่แอ๊ะเป็นแม่งานจัดงานให้ชาวยโสธร

ชาวญี่ปุ่น ชาวสปป.ลาว ชาวเวียตนาม และนักท่องเที่ยวทั้งหลายค่ะ


นายกฯ และเสื้อแดง ยังมีเวลาอีก 2 วันในการตัดสินใจ

พี่โพสต์ภาพงานบุญบั้งไฟได้ตามสะบาย ทุกคนรอชมครับ


หัวข้อ: Re: [2513]"ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: หนุน'21 ที่ 09 พฤษภาคม 2553, 21:59:40


สวัสดีครับพี่แอ๊ะ พี่เหยง และพี่น้องทุกท่าน
เข้ามาตามข่าวครับ
ช่วงนี้ พักรบ อย่างท่ี่พี่เหยงว่าจริงๆ
แต่เมื่อวันศุกร์ ผมขึ้นไปโคราช มีรถเสื้แดงสวนมาเป็นพันคันเลยครับ
ต้องมีคนไม่อยากให้เรื่องจบดีๆแน่

พักฟังเรื่องบันเทิงจากพี่แอ๊ะบ้างก็ดี
เมืองยโสฯ มีของดีเยอะครับ




หัวข้อ: Re: [2513]"ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: เหยง 16 ที่ 10 พฤษภาคม 2553, 08:41:42
บทบรรณาธิการ นสพ แนวหน้า ออนไลน์ วันจันทร์ที่ 10 พฤษภาคม 2553

บทบรรณาธิการ 
 
รัฐต้องรีบจัดการกลุ่มก่อการร้าย (บทบรรณาธิการ)
 


     เหตุการณ์ขบวนการก่อการร้ายไม่ทราบฝ่ายใช้ปืนเอ็ม 16 กราดยิงใส่ผู้ชุมนุมกลุ่มเสื้อหลากสีและเจ้าหน้าที่ตำรวจและทหารซึ่งดูแลความสงบบริเวณย่ายสีลมเมื่อค่ำวันที่ 8 เมษายนที่ผ่านมาและในเวลาไล่เลี่ยกันก็ลอบยิงกระสุนระเบิดแบบเอ็ม 79 เข้าใส่ด่านตรวจของทหารและตำรวจบริเวณสวนลุมพินีซึ่งทั้งสองเหตุการทำให้มีตำรวจเสียชีวิต 2 นายและประชาชนตลอดจนเจ้าหน้าที่ทั้งทหารและตำรวจได้รับบาดเจ็บนับสิบคนถือเป็นเหตุการณ์ที่อุกอาจท้าทายอำนาจรัฐทั้งๆที่อยู่ในภาวะการประกาศพระราชกำหนดบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน

     ข้อน่าสังเกตก็คือ คนร้ายกล้าก่อเหตุอย่างอุกอาจทั้งๆที่มีด่านตรวจค้นของทหารและตำรวจอย่างเข้มงวดถึง 6 จุดรอบพื้นที่การชุมนุมของม็อบคนเสื้อแดงที่ย่านราชประสงคษ์สะท้อนให้เห็นข้อบกพร่องของศูนย์อำนวยการแก้ไขสถานการณ์ฉุกเฉิน(ศอฉ.)ในการวางมาตรการตรวจตราอาวุธเพื่อป้องกันการก่อวินาศกรรมโดยกลุ่มก่อการร้าย

    นับตั้งแต่มีการชุมนุมของม็อบคนเสื้อแดงตั้งแต่วันที่ 12 มีนาคมที่ผ่านมาได้เกิดเหตุลอบก่อวินาศกรรมด้วยการยิงกระสุนระเบิดเอ็ม 79 การวางระเบิดแสวงเครื่องที่มีอานุภาพร้ายแรง เช่น ซีโฟร์ และการใช้อาวุธสงครามนานาชนิดจนเป็นเหตุให้มีประชาชนและเจ้าหน้าที่รัฐเสียชีวิตไปแล้วเกือบ 30 รายบาดเจ็บอีกเกือบ 1,000 ราย

     ขณะที่เป้าหมายการก่อวินาศกรรมก่อนหน้านี้ล้วนเป็นจุดยุทธศาสตร์สำคัญ อาทิ เหตุการณ์ลอบวางระเบิดซีโฟร์เสาไฟฟ้าแรงสูง 4 เสาที่อำเภอบางประอิน จังหวัดพระนครศรีอยุธยาจนเกือบทำให้กระแสไฟฟ้าดับในหลายจังหวัดภาคกลาง การลอบยิงกระสุนระเบิดเอ็ม 79 ใส่คลังน้ำมันขนาดใหญ่ที่จังหวัดปทุมธานีจนหวิดเกิดโศกนาฏกรรมครั้งร้ายแรงในประวัติศาสตร์ หรือการ ยิงกระสุนระเบิดเอ็ม 79 ยิงใส่รวมทั้งพยายามใช้ยางรถยนต์จำนวนมากขวางทางวิ่งของรถไฟฟ้าที่ย่านสีลม

    มีข้อน่าสังเกตว่าอาวุธที่ใช้ในการก่อเหตุร้ายของกลุ่มก่อการร้ายล้วนเป็นอาวุธประเภทเดียวกันที่ใช้ก่อเหตุมาแล้วหลายต่อหลายครั้งโดยเฉพาะกระสุนระเบิดเอ็ม 79 ทำให้น่าเชื่อว่ากลุ่มก่อการร้ายน่าจะเป็นขบวนการเดียวกันกับที่เคยก่อเหตุมาแล้วก่อนหน้านี้ แต่ไม่ว่ากลุ่มก่อการร้ายจะเป็นใครก็ตามถือเป็นแผนการอันชั่วร้ายที่พยายามทำทุกวิถีทางบ่อนทำลายประเทศชาติและขัดขวางแผนการสร้างความปรองดองเพียงเพื่อให้บรรลุเป้าหมายของตัวเอง

 ดังนั้นภาระหน้าที่เฉพาะหน้าที่สำคัญที่สุดขณะนี้ก็คือรัฐบาลโดยหน่วยงานที่เกี่ยวข้องโดยเฉพาะสำนักงานตำรวจแห่งชาติจะต้องติดตามจับกุมขบวนการก่อการร้ายที่ก่อเหตุครั้งล่าสุด ให้ได้โดยเร็วที่สุดเพื่อขยายผลไปสู่การขุดรากถอนโคนขบวนการก่อการร้ายทั้งระบบขั้นเด็ดขาด

    ขณะเดียวกันกลุ่มคนเสื้อแดงจะต้องแสดงความจริงใจในการสร้างบรรยากาศเพื่อนำไปสู่ความปรองดองด้วยการสลายการชุมนุมทันทีเพราะไม่อาจปฏิเสธได้ว่าในที่ชุมนุมม็อบคนเสื้อแดงมีการซุกซ่อนอาวุธร้ายแรงและมีกลุ่มก่อการร้ายอำพรางแฝงตัวอยู่ 
 
วันที่ 10/5/2010
 
http://www.naewna.com/news.asp?ID=210469


หัวข้อ: Re: [2513]"ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: เหยง 16 ที่ 10 พฤษภาคม 2553, 08:43:50
บทบรรณาธิการของ นสพ ไทยโพสต์ออนไลน์

เรียนรู้เท่าทันความขัดแย้ง ปรองดองบนความเป็นจริง
บทบรรณาธิการ 10 พฤษภาคม 2553 - 00:00

      มีทั้งเสียงสนับสนุนและคัดค้านแนวทางการคลี่คลายสถานการณ์ความขัดแย้งทางการเมืองภายใต้กระบวนการปรองดองแห่งชาติ 5 หัวข้อของนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ แต่อย่างไรก็ตาม ท่ามกลางความแตกต่างทางความคิดในกรณีดังกล่าว เชื่อได้ว่า ไม่มีใคร ไม่ว่าฝ่ายไหน ใส่เสื้อสีใดก็ตาม ปรารถนาอยากเห็นภาพความรุนแรง การเสียเลือดเสียเนื้อของคนไทยอีกต่อไป

     ภาระหนักจึงตกอยู่กับนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ในฐานะนายกรัฐมนตรี ผู้นำเสนอแนวทางการปรองดองแห่งชาติในครั้งนี้อย่างหลีกเลี่ยงความรับผิดชอบไม่ได้ โดยเฉพาะในประเด็นข้อระแวงสงสัยจากทุกฝ่ายว่า นี่เป็นหนทางการแก้ปัญหาเฉพาะหน้า หลอกให้ม็อบเสื้อแดงกลับบ้าน จากนั้นเมื่อสถานการณ์ปกติก็จะซื้อเวลา ปล่อยให้แถลงการณ์หรือประกาศสัญญิงสัญญาทั้งหลายมลายหายไปในรูปแบบที่มักเชื่อและกล่าวกันว่า "ไม่เป็นไร คนไทยลืมง่าย"

     แผนการสร้างความปรองดอง 5 ข้อ อันได้แก่ 1.เทิดทูนสถาบันกษัตริย์ ไม่ดึงมาเป็นเครื่องมือความขัดแย้งทางการเมือง 2.การปฏิรูปประเทศ เพื่อแก้ไขความขัดแย้งและสร้างความเป็นธรรม 3.สร้างสื่ออิสระ ไม่ถูกนำไปใช้เป็นเครื่องมือทางการเมือง 4.ต้องมีคณะกรรมการอิสระเข้ามาตรวจสอบข้อเท็จจริงต่างๆ และให้เกิดความเป็นจริงต่อสังคม และ 5.แก้ไขรัฐธรรมนูญให้สอดคล้องกับความเป็นจริงในทางปฏิบัตินั้น หากรัฐบาลมั่นใจว่าจะช่วยชาติได้ ก็สมควรต้องทำแผนให้เป็นรูปธรรมในการลงมือทำงาน มิเช่นนั้น ก็จะถูกตั้งข้อระแวงสงสัยตามที่มีการวิพากษ์วิจารณ์อย่างหนาหู รวมทั้งประเด็นข้อกล่าวหาว่ารัฐบาลยอมให้เสื้อแดงขี่

      ทั้งพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย  ทั้งกลุ่มแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการ หรือ นปช. รวมทั้งกลุ่มคนเสื้อหลากสีที่มองต่างมุมจากรัฐบาลในประเด็นการปรองดอง มีข้อเสนอแนะต่างๆ มากมาย ซึ่งนับเป็นหน้าที่ของรัฐบาลจะต้องพิสูจน์ให้เห็นว่า แผนการปรองดองแห่งชาติไม่ใช่แค่ทางออกแก้ผ้าเอาหน้ารอด แต่เป็นความปรารถนาอยากเห็นประเทศไทยสมานฉันท์มีสุขภาวะที่ยั่งยืนอย่างแท้จริง เพราะวันนี้มันนานเกินไปแล้วที่จะมาโทษกันและกันว่า ใครโหดเหี้ยม ใครไร้มนุษยธรรม ใครขี้ขลาด ใครเอาแต่ได้ฝ่ายเดียว

     ถึงแม้โดยข้อเท็จจริง สังคมไทยไม่ควรยินยอมกับเหตุการณ์วันที่ 10 เมษายนที่สะพานผ่านฟ้าฯ กรณีความรุนแรงที่ศาลาแดง จนถึงการล้มตายเมื่อคืนวันที่ 8 พฤษภาคมที่ผ่านมา เพราะฟ้องบอกถึงขบวนการละเมิดกฎหมาย ท้าทายความถูกต้องแห่งนิติรัฐ จนถึงกับมีการกล่าวว่าเป็นผู้ก่อการร้าย กบฏผู้ต้องการสร้างรัฐไทยใหม่ แต่ถ้าคนไทยยังคงหวาดระแวง มีอารมณ์แค้น และรู้สึกเพียงความเกลียดชัง ก็อาจทำให้พลาดพลั้งในการตัดสินใจที่เป็นอิสระและเป็นกลาง จนมองข้ามความเสียสละ ซึ่งน่าจะเป็นรากฐานสำคัญของความปรองดองสมานฉันท์ที่เราทุกคนปรารถนาอย่างยิ่งยวด

     วันนี้...แทนที่จะมัวตั้งคำถามด้วยความไม่ไว้วางใจว่า...แล้วเราจะปล่อยให้คนชั่วลอยนวลอย่างนั้นหรือ?!?...ทำไมถึงไปเจรจากับนักโทษ?!? เหตุใดทอดสะพานให้ลงแล้วยังปฏิเสธ??? ทำไมทุกฝ่ายไม่ลองแปลงความขัดแย้งทางความคิดนี้เป็นโอกาส โดยเฉพาะรัฐบาลรวมทั้งผู้มีหน้าที่ทุกฝ่าย  ต้องฉวยจังหวะความเหนื่อยหน่ายของสังคม เร่งรัดการสร้างความรู้ความเข้าใจและแก้ไขปัญหาวิกฤติบ้านเมือง ลงมือทำงานตามครรลองที่ควรจะเป็น เพราะมองข้ามความจริงไม่ได้เลยว่า ชุมชนเสื้อแดงบนถนนราชประสงค์สามารถมีอิทธิพล อำนาจ อยู่เหนือกฎหมายบ้านเมืองเป็นระยะเวลานาน 2 เดือนนั้น เป็นเพราะความล้มเหลวในการบริหารราชการแผ่นดิน ไม่มากไม่น้อยไปกว่าความรู้สึกถึงความไม่เท่าเทียมระหว่างชนท้องถิ่นและคนเมืองหลวง

     ถึงแม้อาจจะมีความเห็นที่คัดค้านว่า รัฐบาลนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ใช้เวลามากว่า 1 ปีแล้วในการบริหารประเทศหลังระบอบทักษิณถูกโค่นล้ม แต่ใยปัญหายังไม่หมดสิ้น ประเด็นปัญหาดังกล่าวก็ไม่ใช่เงื่อนไขที่รัฐบาลจะปัดความรับผิดชอบ หรือโยนไปเป็นบาปของกลุ่มบุคคลผู้ไม่หวังดีต่อชาติ ศาสน์ กษัตริย์ เพราะหากรัฐบาลนายอภิสิทธิ์มีดีจะอวดจริง และไม่มีช่องโหว่ให้ใครเข้ามาโจมตีได้ คนเรือนหมื่น เรือนแสน กลางถนนราชดำเนินจนถึงถนนราชประสงค์คงไม่เกิดขึ้น ขวางหูขวางตา เป็นหนามบ่งชี้ความไม่เอาไหนของนิติรัฐอย่างแน่นอน

     ระหว่างการขอความเข้าใจ เรียกร้องความเห็นใจ ตลอดจนขู่ทั้งทางตรงและทางอ้อมว่า หากไม่ใช้วิธีการปรองดองเช่นนี้ บ้านเมืองก็คงไปไม่รอดนั้น รัฐบาลนายอภิสิทธิ์ ก็ต้องไม่ลืมเดินหน้าเร่งเครื่องกระทำการปรองดองให้ปรากฏออกมาจากแผ่นกระดาษเป็นรูปธรรม ทั้งนี้ การเริ่มจากจัดการกับกลุ่มผู้เข่นฆ่าชีวิตประชาชน ด้วยการจับมาลงโทษตามกฎหมายนั้น น่าจะเป็นข้อพิสูจน์ให้เห็นได้ชัดเจนที่สุด เพราะคนไทยทนไม่ได้แล้วกับการตายรายวัน ในขณะที่เจ้าหน้าที่ตำรวจคุยว่ารู้ตัวผู้บงการและลงมือแล้ว แต่ไม่เคยจับมือใครดมได้สักคนเดียว.

http://www.thaipost.net/news/100510/21966


หัวข้อ: Re: [2513]"ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: เหยง 16 ที่ 10 พฤษภาคม 2553, 08:48:03
ใจเย็ลล์ล์ๆ...หายใจยาวว์ว์ๆ
ท่านขุนน้อย 10 พฤษภาคม 2553 - 00:00

     จะเอาไงอีกล่ะทีนี้...ขนาดอุตส่าห์ไปตามหาเรือโนอาห์ ไปไล่ล่าผีเวียดนาม แถมยังเตลิดเปิดเปิง เลี้ยวไปดูจลาจลประเทศกรีซมาเป็นสัปดาห์ๆ แต่สุดท้าย...ไปๆ-มาๆ สถานการณ์ในบ้านเราก็ยังคงมั่วๆ มึนซ์ซ์ๆ อยู่อีกเช่นเดิม ไม่รู้ว่าโรดแม็พ เรดแม็พ หรือโรดมาร์ค ของท่านนายกฯ อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ จะเกิดประสิทธิผล ประสิทธิภาพ มากน้อยขนาดไหน หรือจะต้องอยู่ๆ กันไปแบบมั่วๆ มึนซ์ซ์ๆ โดยตลอด...???

            --------------------------------------------

     เอาเป็นว่า...เมื่อมาถึงขั้นนี้ คงเลี่ยงไปทางอื่นไม่ได้อีกแล้ว เห็นทีจะต้องขออนุญาตแสดงความคิด ความเห็น ต่อความพยายามหาทางปรองดอง ของรัฐบาลกันไปตามสภาพ ซึ่งอาจพอสรุปได้ว่า...ไม่ว่าท่านนายกฯ อภิสิทธิ์ ท่านจะมีเหตุผลกลใดก็ตาม ในการนำเสนอแผนโรดแม็พเอาไว้ ณ ช่วงนี้ แต่เหตุผลของท่านน่าจะมี น้ำหนัก อยู่พอประมาณ ไม่เช่นนั้น...มันคงไม่อาจทำให้ผู้คนในพรรคเดียวกันเอง อย่างพรรคประชาธิปัตย์ ที่เคยออกอาการหงุดหงิด เปรี้ยวเนื้อ เปรี้ยวตัว กันไปไม่น้อย เกิดการเปลี่ยนแปลงทัศนคติ หันมายอมรับต่อการตัดสินใจของนายกรัฐมนตรี ในช่วงเวลาแค่ข้ามคืนเท่านั้นเอง...
            ---------------------------------------------

     โดยเฉพาะสมาชิกประเภทที่เป็นผู้หลัก-ผู้ใหญ่ในพรรค  อย่างเช่น ท่านอดีตนายกฯ พี่ชวน หลีกภัย ของเราก็ตาม ซึ่งย่อมเป็นที่รับรู้กันโดยทั่วไปว่า โอกาสจะไปเปลี่ยนความคิด ความอ่าน ของท่านนั้น...มันคงไม่ใช่เรื่องง่ายๆ!!! เพราะเป็นที่ทราบๆ กันมานานแล้วว่า โดย หลักการ ของ พี่ชวน นั้น ต้องเรียกว่า...ทั้งใหญ่ ทั้งยาว เอามากๆ ยิ่งกว่าข้าวหลามหนองมนไม่รู้กี่เท่าต่อกี่เท่า แถมยังแข็งโป๊กซะอีกต่างหาก ถ้าหากไม่เจอกับคำอธิบายที่ มีเหตุ มีผล มีน้ำหนักจริงๆ แล้วล่ะก็ รับรองว่าท่านคงไม่คิดจะหันรี หันขวาง หรือคิดจะกลับลำเอาง่ายๆ ไม่ต่างไปจากท่านอดีตหัวหน้าพรรค บัญญัติ บรรทัดฐาน หรือมวลสมาชิกกว่าครึ่งพรรค ที่สุดท้าย...ต่างหันมายอมรับต่อการตัดสินใจของนายกรัฐมนตรีอย่างเป็นเอกภาพ...

         ---------------------------------------------------

     แต่เหตุผลที่ว่านั้นจะเป็นอะไรกันแน่???...ในฐานะที่เราเองก็ไม่ใช่เป็นคนภายในพรรคประชาธิปัตย์ และก็ไม่ได้มีโอกาส ติดสอย ห้อยตามท่านนายกรัฐมนตรี แบบบรรดาพวกวอลเปเปอร์ทั้งหลาย โอกาสจะรับทราบความตื้นลึก หนาบาง ของรายละเอียด และความลึกซึ้งต่างๆ มันคงเป็นไปไม่ได้อยู่แล้วแน่ๆ ด้วยเหตุนี้ เราคงจะไปใช้แต่เฉพาะอารมณ์ ความรู้สึกล้วนๆ ในการกล่าวหา ด่าประณาม การตัดสินใจของนายกรัฐมนตรีในคราวนี้ มันน่าจะไม่ถึงกับถูกเรื่องกันซักเท่าไหร่นัก สู้อดทน รอคอย วันเวลา เก็บอาการหงุดหงิด อาการเปรี้ยวเท้า เอาไว้ซักพัก น่าจะเหมาะกว่าเป็นไหนๆ...

          -------------------------------------------------

     อย่างน้อยก็อุตส่าห์รอกันมาแล้วประมาณ 2 เดือนกว่าๆ...แล้วจะรอไปอีกซักอาทิตย์ สองอาทิตย์ มันคงไม่ถึงกับ หนักหนา สาหัส มากมายซักเท่าไหร่ เพราะโดยความเป็นไปของสถานการณ์ในแต่ละช่วง แต่ละระยะนั่นเอง ที่มันจะเป็นตัวแยกแยะ ความถูก ความผิด ในการตัดสินใจของนายกรัฐมนตรีได้ด้วยตัวของมันเอง ถึงจังหวะนั้น ถ้าหากมันถูกพิสูจน์ ยืนยัน ออกมาแล้วโดยชัดเจนว่า เป็นการตัดสินใจที่ผิดพลาด เป็นการยอมศิโรราบให้กับผู้ก่อการร้าย หรือ เป็นการขายผ้าเอาหน้ารอด ตัดช่องน้อยแต่พอตัวตามลำพัง ฯลฯ ก็ค่อยด่า ค่อยประณาม รุมเหยียบ รุมกระทืบกันอีกที ก็ไม่น่าจะถึงกับสายเกินไป...

         --------------------------------------------------

     เพราะยังไงๆ...ทั้งท่านนายกรัฐมนตรี ตลอดไปจนถึงทั้งพรรคประชาธิปัตย์ ย่อมต้องรอให้เราได้เหยียบ ได้กระทืบ ได้รุมทึ้ง ในช่วงที่มีการเลือกตั้งอยู่แล้วแหงๆ ผิดท่า ผิดทาง ขึ้นมาเมื่อไหร่ หรือ ถ้าทุกสิ่งทุกอย่างมันไม่ได้เป็นไปตามแนวคิดของนายกรัฐมนตรี ก็เอากันให้ถึงขั้นจมธรณี ชนิดแม่พระธรณีบีบมวยผมยังตามไปช่วยบิดไม่ได้ แต่ถ้าหากแต่ละสิ่ง แต่ละอย่าง มันพอช่วยให้สถานการณ์คลี่คลายลงไปได้บ้าง ช่วยลดความโหดเหี้ยม อำมหิต ความสยดสยอง พองขน หรือ แม้แต่ช่วยลดจำนวนผู้สูญเสียลงไปซักแค่ไม่กี่ชีวิต...ก็อาจถือเป็นบุญ เป็นกุศล คงพอได้
         ---------------------------------------------------

     อย่างไรก็ตาม...ภายใต้แผนโรดแม็พ ที่มีการกล่าวบรรยายถึง การปฏิรูป เอาไว้นานาชนิด ไม่ว่าการปฏิรูปความเหลื่อมล้ำทางสังคม ปฏิรูปสื่อ ปฏิรูปรัฐธรรมนูญ ตลอดไปจนถึงกลไกทางการเมืองในแต่ละระดับ ฯลฯ แต่ก็มีบางสิ่งบางอย่างที่ไม่ได้ถูกพูดถึง หรือ ไม่ได้มีการนำเสนอเอาไว้ชัดๆ ทั้งๆ ที่เป็นสิ่งที่น่าจะต้องถูกปฏิรูปเอามากๆ หรือกระทั่งปฏิวัติกันไปเลยก็ได้ นั่นก็คือ...การปฏิรูปกลไกของรัฐ หรือ การปฏิรูประบบราชการทั้งระบบ อันถือได้ว่าเป็นสาเหตุสำคัญที่สุด ที่ทำให้กระบวนการบังคับใช้กฎหมาย...แทบเป็นไปไม่ได้ รวมถึง การปฏิรูปศีลธรรม ในหมู่ประชาชน ที่เป็นสาเหตุทำให้ไม่ว่าจะเป็นคนจน คนรวย คนในเมือง คนในชนบท...ล้วนแล้วแต่ เห็นแก่ตัว ไปด้วยกันทั้งสิ้น...
          ------------------------------------------------

     สรุปแล้วเอาเป็นว่า...ภายใต้สถานการณ์เช่นนี้ ก็อย่าถึงกับไปสิ้นหวัง หมดหวัง ชนิดต้องตัดรอนน้ำใจ กับผู้ซึ่งยังคงพยายามแสดงออกถึงเจตนา ความมุ่งมั่น ในการแก้ปัญหาบ้านเมืองกันง่ายๆ โดยเฉพาะประเภทที่รักมาก-เกลียดมาก ว่าไปแล้ว...คงไม่น่าจะถูกเรื่องกันซักเท่าไหร่นัก เพราะไม่ถือเป็นการพิจารณาสิ่งต่างๆ อย่างมีสติ แต่เป็นการพิจารณาไปตามอารมณ์ซะมากกว่า โดยบุคลิกที่ออกไปทางเอวบาง ร่างน้อย พูดจาฉอเลาะ ระดับจับไม่ได้ไล่ไม่ติด อย่างท่านนายกรัฐมนตรีนั้น...อาจจะต้องหันมารักน้อยๆ แต่ขอให้รักนานๆ แบบเดียวกับคุณพี่ สายัณห์ สัญญา อะไรประมาณนั้น....ขอขอบคุณ คุณป้าจันทร์ ที่ได้ส่งเสื่อจันทบูรมาให้เป็นของขวัญ...สายัณห์ลองรับประทานแล้ว...หวานน์น์ม้ากก์ก์ก์...นี่...ต้องออกลูกนี้ถึงจะพออยู่ๆ กันได้...
          -------------------------------------------------

     ปิดท้ายด้วยวาทะวันนี้ จาก สุภาษิตนิรนาม...จงอย่าโหมไฟให้ร้อนเพื่อเผาผลาญศัตรู...เพราะมันจะกลับมาไหม้ตัวท่านเอง...
          -------------------------------------------------

http://www.thaipost.net/news/100510/21978


หัวข้อ: Re: [2513]"ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: เหยง 16 ที่ 10 พฤษภาคม 2553, 08:58:19
บทเรียนราคาแพง
ถูกทุกข้อ 10 พฤษภาคม 2553 - 00:00

     กลุ่มการเมืองทักษิณ...โกงกินชาติ
     กษัตริย์,ศาสน์ มันหวัง ล้างให้สิ้น
     เลือด,น้ำตาประชาราษฎร์ สาดแผ่นดิน
     กลุ่มทักษิณ เลือกตั้งใหม่ อย่าไปเลือก                   
          เจ็บนี้ ปวดนัก นะพี่น้อง
          ประเทศต้อง ยากแค้น ทั้งแก่นเปลือก
          ภาพพวกมัน ฆ่าเข่น คนเป็นเทือก
          ส.ใส่เกือก เลือกพลาด...ชาติจึงพัง
     เจ็บนี้ ปวดนัก นะพี่น้อง
     ไทยผุดผ่อง..หมองศรี ที่เลือกตั้ง
     พวกเอาเงิน เป็นเหยื่อ..อย่าเชื่อฟัง
     ไทยโด่งดัง เพราะไทยไร้สินบน.
                                 คนเมืองทอง 53

               ฝนตกคางคกร่าเริง                            
เรียน คุณสามวา สองศอก
     ฝนฟ้าก็เริ่มลงเม็ดแล้ว ช่วยบอกบรรดาเสื้อแดงให้รีบกลับไปบ้านเสียเถอะ ได้เวลาที่จะต้องไปทำนาแล้ว อย่ามามัวให้เขาหลอกอยู่ในเมืองกรุงเลย เดี๋ยวจะลงกล้าไม่ทัน เดี๋ยวจะไถกลบดินไม่ทันฝน แล้วก็จะกลับไปไม่ทันหน้านานะ รีบๆ กลับไปกันเถอะ ถ้าควายไม่มีก็ลองชวนเสื้อแดงข้างๆ นั่นแหละ ให้กลับไปด้วยกันสะดวกดีออก เพราะจะได้ไม่ต้องมามัวเสียเวลาเจาะจมูกให้ เพราะโดนสนตะพายมาเรียบร้อยแล้วไง
     เห็นคางคกแต่งตัวเต็มยศแล้วอยากทำความเคารพ โธ่..ดูท่านมีสง่าออก สมกับคนเคยเป็น ผบ.ทบ. สมกับที่ท่านเคยเป็น ผบ.สส. สมกับที่ท่านเคยเป็น ฯพณฯ นายกรัฐมนตรีแห่งประเทศไทยมาแล้ว สมกับที่ท่านเคยเป็นรองนายกฯ มาแล้ว สมกับท่านเคยเป็นหัวหน้าพรรคความหวังหมดมาแล้ว สมกับที่ท่านเคยเป็นรองหัวหน้าพรรคไทยรักไทย สมกับที่ท่านยอมเป็นประธานพรรคเพื่อไทย ยอมเป็นตัวชักศึกเข้าบ้าน เป็นตัวนำร่องให้กัมพูเจีย..
     ผมว่าคราวหน้าท่านคงเป็น อบจ.แล้วก็เป็น อบต.ที่สุดคงเป็นได้เพียงแค่ ผู้ใหญ่จิ๋ว ที่ห่าจิก เอาความจำไปจนหมดสิ้นกระมัง..

     โถจะแปดสิบอยู่แล้ว ยังมาทำเลื่อนเปื้อนอยู่ได้นะผู้ใหญ่ห่าจิก..
                                                            อำมาตย์กรุง
ตอบ คุณอำมาตย์กรุง
     ฝนตกขี้หมูไหล ช่วยกลับไปบ้านใครบ้านมันเถอะ

               อวสานประชาธิปัตย์  
เรียน คุณสามวา สองศอก
     รัฐบาลอภิสิทธิ์ในที่สุดก็แสดงถึงความไร้ประสิทธิภาพในการบริหารประเทศชาติบ้านเมือง สร้างความผิดหวังแก่ประชาชนเป็นอันมาก เพราะไม่สามารถจัดการกับบรรดาลิ่วล้อเสื้อแดง บริวารของคนชั่วทักษิณ ชินวัตร ทั้งๆ ที่บรรดากบฏเสื้อแดงทำร้ายประเทศชาติประชาชน รัฐบาลอภิสิทธิ์ยังเฉยเมยไม่ทำอะไร

     เห็นข่าวโจรค้ายาบ้าที่ฆ่าตำรวจ 2 ศพ ตำรวจยังประกาศจับตาย แต่ลิ่วล้อเสื้อแดงฆ่าคนทั้งทหารและประชาชนไม่รู้กี่ศพ รัฐบาลก็ไม่กล้าทำอะไร สมควรแล้วที่คนทั้งประเทศก่นด่า แต่รัฐบาลก็ทำเป็นไม่ได้ยิน จะจัดให้เลือกตั้ง 14 พ.ย.53 ถ้าเลือกตั้งจริงรัฐบาลคงไม่ได้กลับมา และพวกที่จะได้กลับมาเป็นใหญ่ ก็คือบรรดาสมุนลิ่วล้อของคนชั่วทักษิณ ที่จะใช้เงินซื้อเสียงกลับเข้ามา พรรคประชาธิปัตย์คงจบอนาคตทางการเมือง ต่อจากนี้ไปคงไม่ได้เกิดอีก

     พวกทางภาคใต้ก็คงไม่เลือกต่อไป เพราะรัฐบาลไม่สามารถจัดการกับกลุ่มผู้ก่อการร้ายเพียงเล็กน้อยในประเทศ ได้เหมือนกับเล่นเกมอะไรกันสักอย่าง โดยไม่แคร์ความรู้สึกประชาชน
     รัฐบาลนี้อ่อนแอคล้ายกับรัฐบาลสุรยุทธ์ ที่บันทึกไว้ว่าไม่ได้ทำอะไรเหมือนกัน เมื่ออยู่ในตำแหน่งอยู่ไปวันๆ จนเลือกตั้งแล้วพวกเลวร้ายก็กลับเข้ามาครองเมืองเหมือนเดิม 

     ความจริงเมื่อรัฐบาลอ่อนแอ คนชั่วทักษิณก็สามารถเดินทางเข้าประเทศไทยได้อย่างง่ายดาย เพราะจะไม่มีใครทำอะไรได้ เพราะกฎหมายอ่อนแอกว่ากฎหมู่ ความจริงกฎหมายก็ไม่ได้อ่อนแอ อยู่ที่ตัวบุคคลผู้ใช้มากกว่า เลยทำให้ประเทศเป็นอย่างที่เป็นอยู่ทุกวันนี้

     รัฐบาลชุดนี้เก่งอย่าง คือการใช้งบประมาณกันอย่างมากมาย ทำเหมือนประเทศไทยผลิตน้ำมันได้เองร่ำรวยเหลือเกิน แต่น่าเศร้าใจสำหรับประชาชนคนไทย ไปลงนรกกันให้หมดคนเลวทั้ง
หลาย เอวัง
                                                       หัสสนัย สิงหวิริยะ
ตอบ คุณหัสสนัย
     อนาคตทางการเมืองของพรรคประชาธิปัตย์ ไม่ได้อยู่ที่การเลือกตั้งวันที่ 14 พฤศจิกายน (ถ้ามีการเลือกตั้ง) แต่อยู่ที่ศาลรัฐธรรมนูญจะสั่งยุบพรรค เว้นวรรคกรรมการบริหารพรรคหรือเปล่า

                         ผิดทุกข้อ
เรียน คุณสามวา สองศอก
     เกรงใจว่าคุณสามวา สองศอก จะต้องเปลี่ยนชื่อคอลัมน์ ที่กำลังได้รับความนิยมให้เป็นอย่างอื่น ก็เลยตกลงใจตั้งหัวข้อเรื่องมาว่า "ผิดทุกข้อ" เสียเอง คุณสามวา สองศอก จะได้ไม่ต้องหนักใจนะครับ

     ในยามที่บ้านเมืองนี้ตกอยู่ในสภาพไร้การควบคุมใดๆ อีกแล้ว เพราะแค่เพียงกลุ่มคนจำนวนสิบจำนวนร้อย ยังกล้ายืนขวางทางรถไฟที่บรรทุกรถถังของทหารมาตั้งหนึ่งกองพัน ที่สถานีรถไฟจังหวัดขอนแก่น เอาไว้ได้ถึงสองวันสองคืน แล้วต่อมาอีกกลุ่มหนึ่งก็ไปปิดประตูกองพัน ของตำรวจตระเวนชายแดนที่จังหวัดพิษณุโลก ไม่ให้เคลื่อนกำลังพลออกมาสมทบในกรุงเทพมหานคร ตรึงกำลัง มองหน้ากันอยู่ตั้งครึ่งค่อนวัน
     แล้วอาวุธสงครามระดับ M 79 ที่แม้แต่กองทัพไทยซึ่งเป็นคนสั่งมาไว้ใช้ในกองทัพเองแท้ๆ ยังไม่เคยจะได้ยกไปยิงไปสู้กับศัตรูของประเทศที่ไหนเลย แต่กลับมีใครก็ไม่รู้เอามายิงคนเล่นทั่วกรุงเทพมหานคร ไม่ว่าจะเป็นที่คลังน้ำมัน ถนนราชดำเนิน ตลิ่งชัน และถนนสีลม
     โดยเฉพาะที่ถนนสีลม โดนเข้าไปวันเดียวแบบบึ้มๆ ถึงห้าครั้ง จนป่านนี้ไม่ทราบว่าฝ่ายพิสูจน์หลักฐานจะสเกตช์ภาพคนร้ายเสร็จหรือยัง และที่สนุกยิ่งกว่านั้นก็คือ แค่ระดับหัวหน้าวินมอเตอร์ไซค์เท่านั้นยังสามารถสั่งตรวจค้นรถของชาวบ้าน และรถเจ้าหน้าที่ตำรวจและทหารได้แล้ว
     ไม่น่าเชื่อเลยว่านี่แหละประเทศไทยของเราวันนี้ ไม่ว่าใครอยากพูดอะไรอยากทำอะไรก็ทำได้ "ถูกทุกข้อ ถูกทุกคน"

     แต่ในบ้านนี้เมืองนี้ก็ยังมีสุภาพบุรุษที่น่าเห็นอกเห็นใจอยู่อีกสองท่าน ที่ต้องตกอยู่ในสถานะตรงกันข้ามกับคนอื่นๆ เขา คือไม่ว่าทั้งสองท่านนี้จะพูดอะไรหรือทำอะไร ก็ดูเหมือนว่าใครต่อใครก็จะพูดเป็นเสียงเดียวกันว่า "ผิดทุกข้อ ผิดทุกเรื่อง"

     ท่านแรกก็คือท่านผู้บัญชาการทหารบก ซึ่งพอท่านเห็นเหตุการณ์ยิงกันเมื่อวันที่ 10 เมษายน ที่ผ่านมา ท่านก็บอกว่าไม่เอาแล้ว ท่านจะไม่ให้ทหารของท่านออกมาตายอีกแล้ว "การเมืองต้องแก้ด้วยการเมือง"

     ท่านเผลอไปได้อย่างไรว่าเสียงปืนที่ยิงกันหูดับตับไหม้อยู่นั้นมันเป็นเรื่องการเมือง คงเป็นเพราะท่านเป็นทหารอยู่ในยุคธุรกิจการเมืองเฟื่องฟูมาโดยตลอด ว่างเว้นการศึกสงครามมานาน  ท่านจึงมองไม่ออกว่านี่มันสงครามชัดๆ ปืนก็ปืนจริง ระเบิดก็ระเบิดจริงนะครับ
     ส.ส.วันนี้ไม่มีใครเขาอยากเข้าสภาแล้วละครับท่าน เพราะเขาติดภารกิจกันทุกคน ต้องพาคนไปปิดถนนมิตรภาพบ้าง ปิดถนนวิภาวดีบ้าง บ้างก็ต้องไปเป็นแกนนำอยู่บนเวทีใหญ่ที่ราชประสงค์ บ้างก็ต้องพาคนไปล้อมศาลากลางจังหวัดของตัวเอง

     การเมืองที่ต้องแก้ด้วยการเมืองของท่านนั้น มันเลยมาไกลถึงไหนๆ แล้ว นี่มันก็คือการศึกสงครามแล้วครับท่าน ขณะนี้สิ่งที่ท่านต้องทำก็คือ ถ้าไม่คิดจะปฏิวัติรัฐประหาร ก็ต้องประกาศกฎอัยการศึกได้แล้ว และสุภาพบุรุษที่น่าเห็นใจอีกท่านหนึ่ง ก็คือท่านนายกรัฐมนตรีรูปหล่อของเรานั่นเอง "เราต้องทำกฎหมายให้เป็นกฎหมายให้ได้"

     นี่คือวาทะกลางกลิ่นดินปืนและควันระเบิดของท่าน ในวันที่ผู้รักษากฎหมายเขาไม่ได้รักษากฎหมายนานแล้ว

     คุณสามวา สองศอก และเพื่อนพี่น้องชาวไทยที่รักทุกท่านครับ ยามสงบรัฐบาลท่านก็พยายามที่จะเก็บภาษีเราให้ได้เต็มที่เต็มอัตราเท่าที่จะเก็บได้ ครั้นพอถึงยามวิกฤติเภทภัยมีสงครามกลางบ้านกลางเมืองเกิดขึ้น ครั้นเราจะไปหวังพึ่งรัฐบาลท่านบ้าง ก็น่าเห็นใจยิ่งนัก เพราะรัฐบาลเองท่านก็แทบจะเอาตัวไม่รอดอยู่แล้ว

     เราก็ต้องรู้หน้าที่ของเราในฐานะประชาชนที่ดี ก็ต้องยืนเคียงข้างท่าน คอยเป็นกำลังใจให้ท่าน เพื่อให้ท่านมีกำลังใจเป็นรัฐบาลให้เราต่อไป ไม่เช่นนั้นเราก็เลยจะพาลกลายเป็นพลเมืองของประเทศที่ไม่มีรัฐบาลไป ตัวเราก็ต้องดูแลปกป้องตัวเองและครอบครัวกันเอาเองนะครับ แล้วก็ต้องไม่ลืมออกมาร่วมกันปกป้องประเทศชาติของเราเอาไว้ด้วย

                                                          เล็ก เมืองเก่า
ตอบ คุณเล็ก เมืองเก่า
   

   จะถูกทุกข้อหรือผิดทุกข้อ พวกเราคนไทยก็ต้องช่วยกันประคับประคองให้บ้านเมืองอยู่รอดตลอดไป
                                                         สามวา สองศอก

http://www.thaipost.net/news/100510/21969


หัวข้อ: Re: [2513]"ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: prapasri AH ที่ 10 พฤษภาคม 2553, 09:14:38
น้องหนุน21 คะ

สมัยก่อนยโสไม่มีอะไรเลย

มีคนอยากมาเที่ยวยโส เขาบอกว่าพาไปเที่ยวไหนได้บ้าง

พี่แอ๊ะบอกว่า พามาได้แห่งเดียว

คือมาดูหมอหาญค่ะ5555555555555


หัวข้อ: Re: [2513]"ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: prapasri AH ที่ 10 พฤษภาคม 2553, 10:04:12
ซ้อมก่อนออกงานค่ะ

(http://www.cmadong.com/imageupload/2010_Cmadong-Image/data/image/l26oi3-38f6bc.jpg)

เนื้อเพลงรำวงมาตรฐานเพราะและมีความหมายถึงการเเสดงความรักชาติค่ะ

ท่านี้

ขวัญใจดอกไม้ของชาติ งามพิลาศนวยนาดรื่นเริง
.............

ชี้ชาติไทยเนาถิ่น เจริญวัฒนธรรม.....


หัวข้อ: Re: [2513]"ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: prapasri AH ที่ 10 พฤษภาคม 2553, 10:11:11
คนนี้ ช่วยซ้อมก่อนออกงานค่ะ 555555555555555

หายเครียดเเน่นอนพี่นอ้งงงงงงงงงงง

(http://www.cmadong.com/imageupload/2010_Cmadong-Image/data/image/l26ot1-04f4e4.jpg)


หัวข้อ: Re: [2513]"ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: prapasri AH ที่ 10 พฤษภาคม 2553, 10:17:14
(http://www.cmadong.com/imageupload/2010_Cmadong-Image/data/image/l26p0k-a1aadc.jpg)


น้องรัก รักบูชาพี่ พี่มั่นคง พี่มั่นคงกล้าหาญ

เป็นนักสู้เชี่ยวชาญสมศักดิ์ชาตินักรบ

น้องรักรักบูชาพี่ พี่ขยันขยันอดทน งานเเสนหนัก พี่ผจญ เกียรติก้องขจรจบ


หัวข้อ: Re: [2513]"ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: prapasri AH ที่ 10 พฤษภาคม 2553, 10:25:10
(http://www.cmadong.com/imageupload/2010_Cmadong-Image/data/image/l26pcn-cc52de.jpg)

เดือนพราวดาวเเวววาวระยับ เเสงดาวประดับส่งให้เดือนงามเด่น
...........................

ดวงหน้าโสภาเพียงวันเพ็ญ คุณความดีที่เห็นเสริมให้เด่นเลิศงาม

------

เกียรติยศ ก้องปรากฎทั่วคาม หญิงไทยใจงามเช่นเดือนดาวพราวเเพรวววววววววววววววว


หัวข้อ: Re: [2513]"ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: prapasri AH ที่ 10 พฤษภาคม 2553, 10:33:23
เพลงนี้เพราะ มาก ใช้ในสถานการณ์การเมืองช่วงนี้ได้เลยค่ะ

(http://www.cmadong.com/imageupload/2010_Cmadong-Image/data/image/l26pob-6ade14.jpg)


ชาวไทยเจ้าเอ๋ย ขออย่าละเลย ในการทำหน้าที่

การที่เราได้ร่วมสนุก เปลื้องทุกข์ สบายอย่างนี้

เพราะชาติเรา มีเสรีมี เอกราชสมบูรณ์  (ประโยคนี้ อยากให้ คุณ สีแดง รับเงินมา ทั้งหลายมาอ่านกันบ้าง)

เราจึงควร ชวนช่วยชูชาติ ให้เก่งกาจเจิดจำรูญ

เพื่อความสุข เพิ่มพูน ของชาวไทยเราเอยยยยยยยยยยยยยยย


หัวข้อ: Re: [2513]"ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: prapasri AH ที่ 10 พฤษภาคม 2553, 10:41:42
ไปทำงานก่อนนะคะน้องหนุน พี่ปรีชา  น้อง  หะนี

และพีน้องทั้งหลาย

เกรงใจลูกสะใภ้อ่ะ

เด่วเขาหาว่าแม่ นั่งเล่นเนต อยู่ได้

งานเต็มไปหมด 5555555555555


หัวข้อ: Re: [2513]"ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: หนุน'21 ที่ 10 พฤษภาคม 2553, 11:00:40
อ้างถึง
ข้อความของ prapasri AH เมื่อ 10 พฤษภาคม 2553, 09:14:38
น้องหนุน21 คะ

สมัยก่อนยโสไม่มีอะไรเลย

มีคนอยากมาเที่ยวยโส เขาบอกว่าพาไปเที่ยวไหนได้บ้าง

พี่แอ๊ะบอกว่า พามาได้แห่งเดียว

คือมาดูหมอหาญค่ะ5555555555555


อ้างถึง
ข้อความของ prapasri AH เมื่อ 10 พฤษภาคม 2553, 10:11:11
คนนี้ ช่วยซ้อมก่อนออกงานค่ะ 555555555555555

หายเครียดเเน่นอนพี่นอ้งงงงงงงงงงง

(http://www.cmadong.com/imageupload/2010_Cmadong-Image/data/image/l26ot1-04f4e4.jpg)

มาดูพี่หาญรำ..อย่างทุ่มทุนสร้างแบบนี้หรือครับ
ฮา...กระจาย..น่ารักมากครับ
กลุ่มอำมาตย์...ก็น่ารักงี้แหละครับ ไม่มีถือเนื้อถือตัว
เป็นกันเองมากๆกับพี่ๆ น้องๆ โดยเฉพาะจาก จุฬา
ดูแล้วหายเครียดจริงๆครับ
ว่าแต่พี่หาญเหอะ..เครียดป่าวครับเนี่ย


 emo20:)):)   emo20:)):)
 emo6::))


หัวข้อ: Re: [2513]"ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: prapasri AH ที่ 10 พฤษภาคม 2553, 12:00:51
จริงๆ นะ อำมาตย์น่ารักอย่างนี้เอง ไพร่น่าจะหยุดด่าเราซะที

แต่ดูรูปอีกทีอำมาตย์หาญ ทำมือผิดข้างอ่ะ

น้องหนุนคะ สมัยอยู่จุฬา โดยเฉพาะ ที่หอจุฬา พี่หาญเป็นคน ตลกค่ะ

เป็นประธานเชียร์หอจุฬา ที่ตลกมาก

พอพี่แก เป็นเชียร์ลีดเดอร์ ท่าทางพี่แก หอหญิงหัวเราะกันนนนนน จนตกเก้าอี้เลยค่ะ

ตอนนี้พี่ อำมาตย์ หาญ แกเครียด ด่าสีแดงทั้งวัน จนพี่แอ๊ะจะให้แกไปเป็นสส. แล้วค่ะ

แต่ก็รักษา คนไข้สีเเดง  ที่ป่วยมาหา หมออำมาตย์ จนไม่ได้ทานข้าวเลยค่ะเมื่อกี้ต้องเอา โอวัลตินไปให้ค่ะ

ว่าแต่ว่าสีแดง รับเงิน พี่ทั๊กกกกก มาให้อำมาตย์ หาญค่ะ (ฮา)


หัวข้อ: Re: [2513]"ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: เหยง 16 ที่ 10 พฤษภาคม 2553, 14:37:27
ตัดเข้าสู่โหมดการเมืองสักครู่................ข่าวล่าสุดจากออนไลน์

“เปลว สีเงิน” กลับลำ ระบุหมดเวลาปรองดองกับ “แดงกบฏ-ผู้ก่อการร้าย” ชี้ ถ้านายกฯ ยังนิ่งเฉยก็ควรพิจารณาตัวเอง
10 พฤษภาคม 2553 13:13 น.

 
       ASTVผู้จัดการ - “ป๋าเปลว” กลับลำอัด “นายกฯ-กองทัพ” เละ ระบุให้เวลาแดงกบฏ-ผู้ก่อการร้าย ตามแผนปรองดองมาครบสัปดาห์แล้ว แต่ก็ยังไม่เลิกชุมนุม ชี้ “อภิสิทธิ์” หยุดแผ่นเสียงตกร่อง ถึงเวลาใช้ “มาตรการหนัก” ถาม “ประวิตร-อนุพงษ์” ปล่อย เสธ.แดง ป่วน เป็นการเล่นไพ่ 2 หน้า ประสานเกมคนมอนเตฯ หวังให้เกิดเหตุการณ์แทรกซ้อนเพื่อแบ่งสรรอำนาจใช่หรือไม่ ฟันฉับ 15 พ.ค.ถ้าไม่มีอะไรเปลี่ยน นายกฯ ก็ควรไป
      
       วันนี้ (10 พ.ค.) “เปลว สีเงิน” ผู้บริหารและคอลัมนิสต์อาวุโสของหนังสือพิมพ์ไทยโพสต์ เจ้าของคอลัมน์คนปลายซอย ได้เขียนบทความเรื่อง “แผนใหม่ Back Door ประเทศไทย?” โดยกล่าววิพากษ์วิจารณ์ถึงแผนปรองดองที่นำเสนอโดยนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐฒนตรี
      
       เปลว สีเงิน ระบุว่า หลังการประกาศแผนปรองดองในวันที่ 3 นับถึงปัจจุบันก็เป็นเวลาครบหนึ่งสัปดาห์แล้ว แต่กลับยังมีการก่อเหตุรุนแรงอย่างต่อเนื่อง โดยกรณีล่าสุด คือ การใช้อาวุธปืน เอ็ม 16 และระเบิดเอ็ม 79 ยิงเข้าใส่กลุ่มเจ้าหน้าที่จนเกิดเหตุนายตำรวจเสียชีวิตไป 2 นาย ในช่วงค่ำคืนวันที่ 7 พ.ค. ดังนั้นถึงเวลาแล้วที่นายกรัฐมนตรีจะ “หยุดพูด” และลงมือใช้ “มาตรการหนัก” ได้แล้ว
      
       “นายกฯ ประกาศแผนปรองดองตั้งแต่วันที่ 3 พ.ค.พร้อมกำหนดวันเลือกตั้งใหม่ 14 พ.ย.53 แกนนำกบฏขานรับ แต่ในขณะที่ขานรับเข้าร่วมแผนปรองดอง แทนที่จะสลายการชุมนุม ปล่อยชาวบ้านกลับไปทำไร่-ทำนา กลับเตะถ่วง-หน่วงดึงไว้เป็นโล่มนุษย์ให้ตัวเองวันแล้ว-วันเล่า
      
       “ปากบอกว่าเห็นด้วย แต่ขอเวลาหารือพรรคพวก วันก็แล้ว … สองวันก็แล้ว … สามวันก็แล้ว … บอกเห็นด้วยทุกวัน แต่ไม่สลายการชุมนุม ตรงกันข้ามกลับระดมคนทางอีสานเข้ามาเป็น “ไข่ขาว” ให้กับพวกตัวเองเพิ่มขึ้น และเนื้อในคือ “กองกำลังก่อการร้าย” ก็หาญเหิมเหยียบหัว ศอฉ.ในนาม พ.ร.ก.ฉุกเฉินร้ายแรง ยิงเอ็ม 79 และกราดเอ็ม 16 ใส่ตำรวจตามไปอีก 2 เจ็บต่างหาก เมื่อคืนวันที่ 7 พ.ค. กลางเมือง ...”
      
       “พอได้แล้ว … ท่านนายกฯ ท่านเชื่อมั่นประเทศไทยมาตลอด 2 เดือน นับจากนี้ “ไม่ต้องพูด” แล้ว! ถ้าพูดเป็น “แผ่นเสียงตกร่อง” เหมือนตัววิ่งหน้าจอช่อง 5 ซ้ำซาก แทนการ “ลงมือทำ” อยู่อีกล่ะก็ ผมจะบอกให้ “ประชาชนหมดความเชื่อมั่นประเทศไทย” เพราะท่านนั่นแหละ”
      
       นอกจากนี้ คอลัมนิสต์อาวุโสแห่ง นสพ.ไทยโพสต์ ยังกล่าววิพากษ์วิจารณ์และตั้งข้อสังเกตถึงกองทัพไทย โดยเฉพาะผู้บังคับบัญชาสูงสุด คือ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม และ พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา ผู้บัญชาการกองทัพบก ถึงกรณีปล่อยให้ พล.ต.ขัตติยะ สวัสดิผล ผู้ทรงคุณวุฒิกองทัพบก มาก่อความวุ่นวายให้กับบ้านเมืองด้วยว่า การปล่อยปละละเลยดังกล่าวใช่หรือไม่ว่าเป็นการ “เล่นไพ่ 2 หน้า” ของกองทัพ เพื่อเปิดโอกาสให้มีการจัดสรรอำนาจใหม่ ตามแผน Back Door ของ อดีตผู้นำที่ปัจจุบันถือสัญชาติมอนเตเนโกร
      
       “แต่ท่านก็เหมือนจงใจปล่อยให้ “แต่งเครื่องแบบนายพล” ไปร่วมปฏิบัติการกับกลุ่มกบฏแผ่นดิน ครั้งแล้ว-ครั้งเล่า อันมีภาพปรากฏชัดให้เป็นที่สงสัยกันทั้งคนไทย และคนทั้งโลกว่า แล้วรัฐมนตรีกลาโหม-ผบ.ทบ.เขาเอาปี๊บคลุมหัวอยู่รึยังไง? หรือว่า …. นี่คือ การ “เล่นไพ่ 2 หน้า” ของกองทัพ?! …
      
       “กองทัพไทยก็มีสภาพเป็น “กองทัพงูเห่า” บ้าง เป็น “ฟาร์มแตงโม” บ้าง สุดท้ายต้องให้ “อำนาจนอกชาติ” ส่งกองกำลังสากลเช้าครองประเทศ ก่อนจัดสรรแล้วสถาปนาอำนาจใหม่ นี่คือแผนล่าสุดที่คน “มอนเตเนโกร จ้างต่างชาติเดินเกมประสาน “ล้มชาติ-ล้มระบบ” แล้วฉวยจังหวะเข้ามาด้วยวิธี … Back Door!”
      
       เปลว สีเงิน กล่าวทิ้งท้ายด้วยว่า ที่ผ่านมา ประชาชนเสียภาษีเลี้ยงรัฐบาลและกองทัพมามากแล้ว และถึงเวลาที่กองทัพจะตอบแทนบุญคุณของชาติและประชาชนด้วยการจัดการกับกลุ่มกบฎด้วยวิธีเด็ดขาด โดยเลิกใช้มาตรการจาก “สำลีไปหานุ่น” และใช้มาตรการ “หนัก” ได้แล้ว เพราะวิธีเดิมๆ ของรัฐบาลได้ทำให้ประชาชน “ฉี่เป็นเลือด” กันทั้งประเทศอยู่ในขณะนี้ โดยตนเชื่อว่าถ้ารัฐบาลดำเนินการอย่างเด็ดขาดสังคมโลกก็จะให้การสนับสนุน
      
       “ท่านนายนายกฯ ท่านก็ทราบก่อนแล้วใช่มั้ยว่า 'ขึ้นมาเป็นนายกฯ แล้วจะเจออะไร?' อำนาจบริหารสูงสุดอยู่ในมือท่าน ท่านพร้อม 'รับผิดชอบแต่ผู้เดียว' มั้ย ... ถ้าพร้อม-ผมเชื่อ สั่งเมื่อไหร่ ศอฉ.ก็พร้อมเมื่อนั้น 'เพราะเงื่อนไขสมบูรณ์โดยชอบธรรม' แล้ว จากนี้ไปถึง 15 พฤษภา … ถ้าไม่จบ … ท่านก็ควรจบซะ”
      
       อนึ่งเมื่อวันเสาร์ที่ 8 พ.ค. ที่ผ่านมา “เปลว สีเงิน” ได้ออกมาแสดงทัศนะเกี่ยวกับสถานการณ์ทางการเมืองไทยผ่านบทความเรื่อง “เส้นทางไทย ที่ต้องมองไกลกว่าเรื่อง สีเสื้อ” โดยกล่าวสนับสนุนแผนปรองดอง 5 ข้อ ของนายอภิสิทธิ์ ซึ่งประกาศผ่านทีวีพูลเมื่อวันที่ 3 พ.ค. พร้อมทั้งกล่าวหาว่ากลุ่มพันธมิตรฯ และ พล.ต.จำลอง ศรีเมือง แกนนำพันธมิตรฯ กระตุ้นให้รัฐบาลใช้ความรุนแรงในการสลายความชุมนุมและสูญเสียแก่เจ้าหน้าที่และกลุ่มผู้ชุมนุม

 
 
 
จาก http://www.manager.co.th/asp-bin/mgrView.asp?NewsID=9530000064150
 


หัวข้อ: Re: [2513]"ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: เหยง 16 ที่ 10 พฤษภาคม 2553, 15:03:33
ปูด 'แม้ว' สั่งตั้ง แกนนำแดง 2 ไล่3เกลอเข้ากรุ

"เสธ.แดง" ปูด "ทักษิณ" โฟนสั่งตั้งแกนนำแดงชุด 2 นำโดย "กี้ร์-แรมโบ้-ขวัญชัย" ไล่ "ณัฐวุฒิ-วีระ-เหวง" กลับบ้าน ลั่นไม่เลิกชุมนุมจนกว่ารัฐบาลยุบสภา จวก "มาร์ค" เลอะเทอะ ยัดข้อหาอ้างยิงเอ็ม 79 ล้มปรองดอง...

เมื่อวันที่ 10 พ.ค. พล.ต.ขัตติยะ สวัสดิผล ผู้ทรงคุณวุฒิกองทัพบก ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ระบุว่า พล.ต.ขัตติยะ และพ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ต้องการล้มแผนปรองดองแห่งชาติว่า การที่นายกฯฟันธงว่า ตนกับ พ.ตท.ทักษิณล้มแผนปรองดองนั้น เป็นการสรุปเอง คิดเองหมด เลอะเทอะ ทำตัวเหมือนเป็นตำรวจมายัดข้อหา มาหาว่าตนเป็นคนยิงเอ็ม 79 ใครเชื่อนายกฯ ก็ออกลูกเป็นควาย ตอนนี้คนยิงเอ็ม 79 ไม่รู้เป็นใคร เพราะตอนนี้คนยิงเป็นใครก็ได้ แต่เชื่อว่า น่าจะเป็นคนนอกระบบ ที่เขาไม่พอใจที่เห็นทหารรังแกประชาชน และสาเหตุที่เอ็ม 79 ลงที่จุดตรวจร่วมทหาร ตำรวจ เพราะมีการบังคับให้ตำรวจตั้งด่านร่วมกับทหาร เพื่อปล้นคนจน หักบัตรแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) เอาปืนชี้หัว จับคนที่แต่งชุดการ์ด นปช. วันนี้ตำรวจทิ้งแนวหมด เหลือแต่ทหาร เพราะทหารชอบเอาตำรวจเป็นกันชน ทำตำรวจเหมือนเป็นทหารพราน เอามารบแทนทหารหลัก ทำให้สุดท้ายตำรวจต้องตาย ดังนั้นต้องถือว่า เป็นความผิดของทหารหมด

"เมื่อคืนเวลา 01.00 น. ของวันที่ 9 พ.ค.ที่ผ่านมานั้น พ.ต.ท.ทักษิณ ได้ตกลงใจทางโทรศัพท์กับ เสธ.แดง สั่งการให้แต่งตั้ง นปช.ชุด 2 ขึ้น มา และให้ใครที่ไม่สู้กลับบ้านไป ไม่ต้องเข้ามาขึ้นเวทีเสื้อแดงอีก ทั้งนายวีระ มุสิกพงศ์ นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ นพ.เหวง โตจิราการ นายวิสา คัญทัพ ที่ไปประนีประนอม ไปแอบเจรจารัฐบาลใน ร.11 รอ. มอบตัวฮาร์ดคอร์ให้เขาติดคุก มึงบ้าหรือเปล่า พวกมึงอยากจะเลิกก็เลิกไป แต่ประชาชนเขาไม่เลิก แกนนำตอนนี้เหลือไว้เพียงนายจตุพร พรหมพันธุ์ที่สู้ต่อ แต่หากใครเปลี่ยนใจสู้ต่อก็ไม่ต้องไป ส่วนแกนนำ นปช. ชุด 2 นั้น ประกอบด้วย นายอริสมันต์ พงษ์เรืองรอง นายสุภรณ์ อัตถาวงศ์ นายขวัญชัย ไพรพณา พ.ต.ท.ไวพจน์ อาภรณ์รัตน์ ความจริงป่านนี้แกนนำ นปช.ต้องแจ้งความฟ้องศาลดำเนินคดีข้อหาฆ่าคนตายโดย เจตนากับ นายอภิสิทธ์ นายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรี ด้านความมั่นคง พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา ผู้บัญชาการทหารบก แล้ว ประชาชนจะยึดราชประสงค์ไม่เลิกจนกว่าพวกมึงจะยุบสภา ถูกดำเนินคดี เปิดพีทีวี และยกเลิกพ.ร.ก.ฉุกเฉินเอาทหารกลับกรมกองเท่านั้น" พล.ต.ขัตติยะ กล่าว

พล.ต.ขัตติยะ กล่าวต่อว่า ตอนนี้ได้มีการนำกำลังทหารมาจากกรมทหารราบที่ 23 จ.นครราชสีมา จำนวน 12 กองร้อย รวมพันกว่าคน กำลังทหารจากกองพลทหารม้าที่ 1 จ.เพชรบูรณ์ กองพันทหารม้าที่ 7 (ม.พัน 7) ม.พัน10 และ ม.พัน 12 กำลังจากกองทัพภาคที่ 1 คือ กองพลที่ 1 รักษาพระองค์ (พล.1รอ.) กรมทหารราบที่ 1 รักษาพระองค์ (ร.1รอ.) กรมทหารราบที่ 11 รักษาพระองค์ (ร.11รอ.) กองพลทหารราบที่ 2 รักษาพระองค์(พล.ร.2 รอ.)จากจ.ปราจีนบุรี และกองพลทหารราบที่ 9 จ.กาญจนบุรี รวมกำลังทหารทั้งหมดมีแค่หกพันคน จะสู้อะไรกับคน 2 แสนคน และยังมีกองกำลังไม่ทราบฝ่ายที่มีอาวุธพื้นฐาน คือ อาวุธสงครามเหมือนทหารอีก อยากตายทั้งกองทัพก็เข้ามา เพราะเมื่อทหารยิงจนกระสุนหมด กลุ่มเสื้อแดงจะโอบล้อมตัดการส่งกำลังบำรุงหมด เมื่อถึงตอนนั้นจะฉิบหายหมด ดังนั้นพล.อ.อนุพงษ์ อย่าฟังเสียงคำสั่งนายอภิสิทธิ์ ควรปล่อยให้การเมืองแก้การเมือง เพราะถ้าเสี่ยงอาจไม่มีแผ่นดินอยู่

เมื่อถามถึงกระแสข่าวว่า จะมีการปลด พล.ต.ขัตติยะ ออกจากราชการ พล.ต.ขัตติยะ กล่าวว่า "มึงจะทำยังไงก็ได้ กูไม่เสียใจทำไปเลย หากจะเสนอปลดจริงก็ทำได้ ทำไปเลย เพราะมึงคือกองทัพโจร แต่ถ้าโดนปลดก็เกินเหตุ เพราะกูเพียงแค่เดินไปเดินมาในที่ชุมนุมเท่านั้น ทั้งนี้หากมีการปลดจริงต้องให้พระองค์ทรงลงพระปรมาภิไธย ซึ่งเสธ.แดงพร้อมจะรับสนองพระบรมราชโองการทั้งสิ้น".

http://www.thairath.co.th/content/pol/82036


หัวข้อ: Re: [2513]"ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: ดร.มนตรี ที่ 10 พฤษภาคม 2553, 17:35:54
ท่านอำมาตย์ หาญ มี ซิก แพค ด้วย  ^_^

อ้างถึง
ข้อความของ prapasri AH เมื่อ 10 พฤษภาคม 2553, 10:11:11
คนนี้ ช่วยซ้อมก่อนออกงานค่ะ 555555555555555

หายเครียดเเน่นอนพี่นอ้งงงงงงงงงงง

(http://www.cmadong.com/imageupload/2010_Cmadong-Image/data/image/l26ot1-04f4e4.jpg)




หัวข้อ: Re: [2513]"ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: prapasri AH ที่ 10 พฤษภาคม 2553, 18:32:23
ซิกแพค

แปลว่า หยังคะ หนูน้อย


หัวข้อ: Re: [2513]"ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: prapasri AH ที่ 10 พฤษภาคม 2553, 18:34:26
ดูรูป สีส้มดีก่านะ

กล่าวรายงานค่ะ

(http://www.cmadong.com/imageupload/2010_Cmadong-Image/data/image/l27c4d-98539a.jpg)


หัวข้อ: Re: [2513]"ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: prapasri AH ที่ 10 พฤษภาคม 2553, 18:43:06

(http://www.cmadong.com/imageupload/2010_Cmadong-Image/data/image/l27c81-9c4cbd.jpg)

ล่าม พิธีกร  มีทั้ง  จบ วิศวะ จากจุฬา เเละ จบ phd.จาก สหรัฐ พูพภาษา ปะกิด

และ นักเรียนแลกเปลียนจาก ญี่ปุน ค่ะ


หัวข้อ: Re: [2513]"ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: prapasri AH ที่ 10 พฤษภาคม 2553, 18:47:19
ชาวญี่ปุ่น  นั่งดูด้วยความสนใจ

เขาบอกว่า
แม้ว่าประเทศเราจะอันตรายช่วงนี้ รัฐบาลเขาไม่สนับสนุนให้มาเมืองไทย

แต่ด้วยมิตรภาพ ที่ ยั่งยืน

เขายอม ฝ่า กระสุนเเดง มาหาเราชาวยโสค่ะ

(http://www.cmadong.com/imageupload/2010_Cmadong-Image/data/image/l27cm8-169ee5.jpg)


หัวข้อ: Re: [2513]"ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: prapasri AH ที่ 10 พฤษภาคม 2553, 18:48:39
นี่ก็ญี่ปุ่น

(http://www.cmadong.com/imageupload/2010_Cmadong-Image/data/image/l27csg-006cc7.jpg)


หัวข้อ: Re: [2513]"ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: ดร.มนตรี ที่ 10 พฤษภาคม 2553, 18:50:39
อ้างถึง
ข้อความของ prapasri AH เมื่อ 10 พฤษภาคม 2553, 18:32:23
ซิกแพค

แปลว่า หยังคะ หนูน้อย


กล้ามหน้าท้องครับ พี่ มันจะมี 6 ลูก เลยเรียกว่า Six Pack


เทกแคร์ครับ พี่ ....


ผมกำลังมึนๆ กับสถานการณ์บ้านเมือง ไม่รู้ว่าจะจบอย่างไรแล้ว  กลับบ้านพักผ่อนหล่ะครับ  ^_^


หัวข้อ: Re: [2513]"ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: mek ที่ 10 พฤษภาคม 2553, 18:52:29
อ้างถึง
ข้อความของ prapasri AH เมื่อ 10 พฤษภาคม 2553, 18:32:23
ซิกแพค

แปลว่า หยังคะ หนูน้อย

พอดีผ่านมาครับ ขออนุญาตตอบแทนพี่ ดร.มนตรี นะครับ ว่า ซิกแพค ก็คือกล้ามเนื้อหน้าท้องครับคนที่รูปร่างเฟิร์มจะนับได้ 6 ลูกครับ เอ่อ ไม่รู้จะเป็นอะไรมั้ยครับถ้าผมจะบอกว่าพี่หาญยังดูรูปร่างดีอยู่มากเลยครับ ผมอายุ 30 ตอนนี้แผละไปทั้งตัวพุงกลมเชียวครับ


หัวข้อ: Re: [2513]"ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: mek ที่ 10 พฤษภาคม 2553, 18:52:59
ู^
^
^
อ้าว ไม่ทัน  emo29:P: 5555


หัวข้อ: Re: [2513]"ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: prapasri AH ที่ 10 พฤษภาคม 2553, 18:54:20
รายการโชว์ โจโจซัง อีกรายการหนึ่ง ญี่ปุ่นชอบมากกกกกกกกกกกก

(http://www.cmadong.com/imageupload/2010_Cmadong-Image/data/image/l27d1c-ea44ac.jpg)


หัวข้อ: Re: [2513]"ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: ภาณุ ปาตานี ที่ 10 พฤษภาคม 2553, 19:02:11
อ้างถึง
ข้อความของ mek เมื่อ 10 พฤษภาคม 2553, 18:52:29
อ้างถึง
ข้อความของ prapasri AH เมื่อ 10 พฤษภาคม 2553, 18:32:23
ซิกแพค

แปลว่า หยังคะ หนูน้อย

พอดีผ่านมาครับ ขออนุญาตตอบแทนพี่ ดร.มนตรี นะครับ ว่า ซิกแพค ก็คือกล้ามเนื้อหน้าท้องครับคนที่รูปร่างเฟิร์มจะนับได้ 6 ลูกครับ เอ่อ ไม่รู้จะเป็นอะไรมั้ยครับถ้าผมจะบอกว่าพี่หาญยังดูรูปร่างดีอยู่มากเลยครับ ผมอายุ 30 ตอนนี้แผละไปทั้งตัวพุงกลมเชียวครับ

ขอบคุณครับ..หมอเมฆ

นึกว่า..เต้นแถมอีก 6 ชุด (six packages) emo48:)


หัวข้อ: Re: [2513]"ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: prapasri AH ที่ 10 พฤษภาคม 2553, 19:14:37
ญีปุ่น ท่านนี้ ชอบโจโจซังมาก

ท่านชื่ออะไรแล้วไม่ทราบ  ดะๆๆๆ อะไรนี่แหละ  พี่หาญสนิท กับท่านนี้มาก

ท่านเป็นรองประธานสมาคม โยชิดะ -ยโสธร

ต้อนรับเราอย่างดีมาก ยามเราไปญี่ปุ่น

มาเมืองไทยก็เอาของมาฝากอีก คนญี่ปุ่น เขาจะมี ของขวัญมาให้และห่ออย่างสวยค่ะ

วันจุดบั้งไฟพี่หาญยอมฝ่าเเดด เอาผ้าไหมไปฝากเขา

(http://www.cmadong.com/imageupload/2010_Cmadong-Image/data/image/l27d67-5b8e88.jpg)


หัวข้อ: Re: [2513]"ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: prapasri AH ที่ 10 พฤษภาคม 2553, 19:15:35
ผู้แสดง ล้วนอายุใกล้ 60 หรือ 60กว่ากันแล้วทั้งนั้นค่ะ


หัวข้อ: Re: [2513]"ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: prapasri AH ที่ 10 พฤษภาคม 2553, 19:17:58
ถ่ายรูปร่วมกันค่ะ

(http://www.cmadong.com/imageupload/2010_Cmadong-Image/data/image/l27e59-59c0c4.jpg)


หัวข้อ: Re: [2513]"ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: prapasri AH ที่ 10 พฤษภาคม 2553, 19:19:01
ส่งไปเรื่อยๆ ให้หายเซ็ง กับ  เรด เเมป น่ะ

ออก มาได้เรื่อยๆ หาทางลง ให้สวยยยยยยยยยยยย


หัวข้อ: Re: [2513]"ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: prapasri AH ที่ 10 พฤษภาคม 2553, 19:21:01
(http://www.cmadong.com/imageupload/2010_Cmadong-Image/data/image/l27e9n-ea12f0.jpg)


ญาติ ผู๋ได๋ บ้าง เบิ่งเอาเองเด้อค่ะเด้อ


หัวข้อ: Re: [2513]"ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: prapasri AH ที่ 10 พฤษภาคม 2553, 19:23:02
ชอบรูปนี้มากค่ะ ต้องถือโอกาส อวดพี่ ๆ น้องๆค่ะ

(http://www.cmadong.com/imageupload/2010_Cmadong-Image/data/image/l27ed4-57f994.jpg)


หัวข้อ: Re: [2513]"ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: prapasri AH ที่ 10 พฤษภาคม 2553, 19:25:21
รูปนี้ ก็ไม่ธรรมดา

คนยโส หยิ่ง แต่ชอบร้องรำทำเพลงค่ะ

(http://www.cmadong.com/imageupload/2010_Cmadong-Image/data/image/l27egg-6652ee.jpg)


หัวข้อ: Re: [2513]"ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: prapasri AH ที่ 10 พฤษภาคม 2553, 19:29:13
ดู พ่อใหญ่ท่านนี้ที่ท่านรักยโส มาก ท่านชื่อ ไอ วา ตะ ค่ะ

เป้นคนรวยของญี่ปุ่นเลยค่ะ มีโรงงานอะไรเยอะเเยะไปหมด

ตอนเราไปต้อนรับเราอย่างสุดๆๆๆๆๆๆๆๆ

(http://www.cmadong.com/imageupload/2010_Cmadong-Image/data/image/l27eml-e7fb6f.jpg)


หัวข้อ: Re: [2513]"ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: prapasri AH ที่ 10 พฤษภาคม 2553, 19:30:51
การแสดงรำมวย ของโรงเรียนกีฬาของอบจ.พี่แอ๊ะ ค่ะ

(http://www.cmadong.com/imageupload/2010_Cmadong-Image/data/image/l27eqc-347f20.jpg)


หัวข้อ: Re: [2513]"ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: prapasri AH ที่ 10 พฤษภาคม 2553, 19:35:34
สส. หญิงของยโสธร

แปลกใจไหมถ้าจะบอกว่า ยโสธรมีสส.พรรคประชาธิปัตย์ค่ะ

(http://www.cmadong.com/imageupload/2010_Cmadong-Image/data/image/l27ex7-1fbb16.jpg)

คงไม่ต้องสงสัยนะ ว่าเพราะพี่แอ๊ะอยู่ยโสธร ยโสธรจึงต้องมี ปชป.

บ้านนี้อย่ามา  กวน เลือก "ชวน" กันหมดทั้งบ้าน (คือป้าย หน้าบ้านที่ ประชาชน ติดที่จังหวัดตรังค่ะ)

บ้าน นี้ แดง อย่า มาว๊าก... เพราะรัก มาร์ค สุดหัวใจ

ปล. น้องดร.มนตรี เข้าบ้านนี้ได้ค่ะ เพราะไม่ใช่แดงเต็มพิกัดดดดดดดดดดดดดดดดด
5555555555555555555555555


หัวข้อ: Re: [2513]"ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: prapasri AH ที่ 10 พฤษภาคม 2553, 19:41:32
ดูรูปนี้ให้หายเซ็งการเมือง นะเหยงนะ

(http://www.cmadong.com/imageupload/2010_Cmadong-Image/data/image/l27f88-2a0aff.jpg)


หัวข้อ: Re: [2513]"ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: prapasri AH ที่ 10 พฤษภาคม 2553, 19:42:07
สวัสดีค่ะ


หัวข้อ: Re: [2513]"ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: หนุน'21 ที่ 10 พฤษภาคม 2553, 19:48:33

ขอบคุณมากครับพี่แอ๊ะ
ที่นำเรื่องดีๆ น่ารักๆ มาเปลี่ยนบรรยากาศ
ตามอ่านตามดูเพลินไปเลยครับ


 emo43 emo43

 emo6::))


หัวข้อ: Re: [2513]"ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: prapasri AH ที่ 10 พฤษภาคม 2553, 19:53:22
อ้างถึง
ข้อความของ mek เมื่อ 10 พฤษภาคม 2553, 18:52:59
ู^
^
^
อ้าว ไม่ทัน  emo29:P: 5555

น้องหมอเมฆ


ไม่ทันใครคะ ฉีเเดงเหยอออออออออออ


หัวข้อ: Re: [2513]"ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: หนุน'21 ที่ 10 พฤษภาคม 2553, 19:55:07


จิ๊ จิ๊ แต่พอกลับไปนึกถึงข่าวที่พี่เหยง เอามาให้อ่าน
หงุดหงิดอีกแย้วววว....ครับพี่
เมื่อไรไอ่...เศษแดง เศษดำ จะทำลูกระเบิดในกระเป๋ามันหล่นใสตรีนตัวมันเองไม่รู้เน๊าะ
คนอะไร...แลวได้สมบูรณ์แบบจริงๆ


 emo5:( emo5:(


หัวข้อ: Re: [2513]"ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: prapasri AH ที่ 10 พฤษภาคม 2553, 20:00:38
อ้างถึง
ข้อความของ mek เมื่อ 10 พฤษภาคม 2553, 18:52:29
อ้างถึง
ข้อความของ prapasri AH เมื่อ 10 พฤษภาคม 2553, 18:32:23
ซิกแพค

แปลว่า หยังคะ หนูน้อย

พอดีผ่านมาครับ ขออนุญาตตอบแทนพี่ ดร.มนตรี นะครับ ว่า ซิกแพค ก็คือกล้ามเนื้อหน้าท้องครับคนที่รูปร่างเฟิร์มจะนับได้ 6 ลูกครับ เอ่อ ไม่รู้จะเป็นอะไรมั้ยครับถ้าผมจะบอกว่าพี่หาญยังดูรูปร่างดีอยู่มากเลยครับ ผมอายุ 30 ตอนนี้แผละไปทั้งตัวพุงกลมเชียวครับ

 น้องหมอเมฆคะ

ตายเเย้ววววว พี่แอ๊ะยังไม่ทราบเลย ว่าพี่หาญแกมี ซิกแพค หรือ six package ของน้องya

พี่หาญแก sit up  ทุกวัน ยกตุ้มน้ำหนัก ก่อนนอน และตื่นนอน ค่ะ

บางทีพี่แอ๊ะกลัวแกจะเอาลูกตุ้มใส่หัวพี่แอ๊ะด้วยค่ะ

คนอาราย ไม่ทันสมัยยย ไม่มีพุงน่ะ


หัวข้อ: Re: [2513]"ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: prapasri AH ที่ 10 พฤษภาคม 2553, 20:03:38
น้องหนุนคะ  ฟัง มันประกาศ เรด แมป แล้ว

อยากอ๊วกกกกกกกกกกกกกก

คน ชั่วช้า กลายเป็นวีระชน เป็นพระเอก ของ red rally ไปได้

โลกหนอโลกกกกกกกกกกกกกก

มันหาทางลง ให้สวยๆๆๆๆน่ะ

กิน ขี้ บี้ เยี่ยว โดยมีโล่มนุษย์ ห้อมล้อม อย่างขาดอิสรภาพอยู่นานๆ

มันก็อึดอัดเต็มทีแล้ว เเถมเงินก็ได้เยอะจนเป็นอาเสี่ยกันหมดเเล้ว

มันต้องยอม เพราะเด่วไม่มีเวลาใช้เงิน

สำหรับวีระ เขาคงอนุญาตให้ลี้ภัยการเมืองไปอยู่กับเมีย ดาวรามคำแหงได้

เพราะอ่อนข้อมากที่สุด เวลาเดินมาขึ้นเวที ข้ออ่อนจนต้องถ่อไม้เท้าแล้ว ไปพักผ่อนซะดีๆๆ พี่วีระเอ๋ยยยยยยยยยยยย

ว่าแต่ว่าพ่อใหญ่จิ่ว หายไปไหนน่ะ หลังจากหน้าเเตกใส่ชุดทหารสีเขียว ยามแก่

ไปพบนายกและเขาไม่ออกมาพบน่ะ

ไม่มีหน้าจะเสียแล้ว พ่อใหญ่เอ๊ยยยยยยยยยย55555555555555555555555


หัวข้อ: Re: [2513]"ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: prapasri AH ที่ 10 พฤษภาคม 2553, 20:41:51
ปล. น้องๆคะ

พี่หาญบอกให้พี่แอ๊ะรีบแก้ข่าวค่ะ

ลูกตุ้ม ที่พี่แอ๊ะบอกว่าพี่แกยก ทั้งเช้าและก่อนนอน

คือ ดรัมเบลล์ค่ะ

พีหาญบอกว่า พี่แอ๊ะ รู้เรื่องไปหมด ทุกเรื่อง แต่ไม่รู้จัก ดรัมเบลล์

เเถมไปเรียกว่า ลูกตุ้ม พี่หาญอ๊ายยยยยยอายค่ะ

ไม่โป๊ และไม่เปลือยนะคะ 5555555555555555


หัวข้อ: Re: [2513]"ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: prapasri AH ที่ 10 พฤษภาคม 2553, 21:12:59
อ๊าววววววว

น้องดร.มนตรี คิดว่ากลับบ้านแล้ว อุตส่าห์นินทา แฮ่ะๆๆๆๆๆ

รักดอกจึงหยอกเล่น

คนบ้านเดียวกันนนนนนนนนนนน


หัวข้อ: Re: [2513]"ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: ดร.มนตรี ที่ 10 พฤษภาคม 2553, 21:15:20
อ้างถึง
ข้อความของ prapasri AH เมื่อ 10 พฤษภาคม 2553, 21:12:59
อ๊าววววววว

น้องดร.มนตรี คิดว่ากลับบ้านแล้ว อุส่าห์นินทา แฮ่ะๆๆๆๆๆ

รักดอกจึงหยอกเล่น

คนบ้านเดียวกันนนนนนนนนนนน


ฮ่าๆๆ ถึงบ้านแล้วครับพี่แอ๊ะ ... นินทาไม่ว่า ด่าก็ไม่บ่น  เพราะเคารพพี่แอ๊ะมากมาย ^_^


เทกแคร์ครับ  เดี๋ยวว่างๆมาติดตามใหม่ ครับ  ^_^


หัวข้อ: Re: [2513]"ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: เหยง 16 ที่ 10 พฤษภาคม 2553, 21:38:42
นปช แถลงว่า พรุ่งนี้ 08.00 น. จะสลายการชุมนุมครับ

แต่...อย่าเพิ่งวางใจคืนนี้ จะมีอะไรเกิดขึ้นอีกหรือเปล่า ที่เป็นเหตุให้มีการชุมนุมต่อไปอีก




ยังไม่ทันข้ามชั่วโมง.....แววว่า นปช "เบี้ยวแล้ว"


หัวข้อ: Re: [2513]"ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: prapasri AH ที่ 11 พฤษภาคม 2553, 07:06:19
อ้างถึง
ข้อความของ ดร.มนตรี เมื่อ 10 พฤษภาคม 2553, 21:15:20
อ้างถึง
ข้อความของ prapasri AH เมื่อ 10 พฤษภาคม 2553, 21:12:59
อ๊าววววววว

น้องดร.มนตรี คิดว่ากลับบ้านแล้ว อุส่าห์นินทา แฮ่ะๆๆๆๆๆ

รักดอกจึงหยอกเล่น

คนบ้านเดียวกันนนนนนนนนนนน

ขอบคุณน้องดร.มนตรี ที่ยังเคารพ พี่แอ๊ะ
พี่แอ๊ะก็เคารพดร.มนตรี
เเสดงว่ามีความเป็นประชาธิปไตย
สามารถแสดงความคิดเห็นได้

เห็นใจ ที่ต้องเคารพพี่ เคารพพี่ พี่ผู้มีอาวุโสจากจุฬา

แต่ จะไม่เคารพบ้างในบางความคิดก็ได้นะคะ

พี่แอ๊ะใจกว้างค่ะ แต่แอบนินทา ดร.มนตรี จี๋แดงบ้าง ไม่ว่ากันนะ แฮะๆๆๆๆๆ


ฮ่าๆๆ ถึงบ้านแล้วครับพี่แอ๊ะ ... นินทาไม่ว่า ด่าก็ไม่บ่น  เพราะเคารพพี่แอ๊ะมากมาย ^_^


เทกแคร์ครับ  เดี๋ยวว่างๆมาติดตามใหม่ ครับ  ^_^


หัวข้อ: Re: [2513]"ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: swsm ที่ 11 พฤษภาคม 2553, 07:44:29
สวัสดีค่ะ  พี่แอ๊ะ ..


ไม่ได้เข้ามา 1-2 วันเท่านั้น .. แม่ไม้มวยไทย เอ๊ย ศิลปะวัฒนธรรมไทยออกสู่สายตาชาวโลกเพียบ
ขอบคุณที่นำภาพมาให้ได้ชมกันค่ะ

คนไทยน่ารักนะคะ ..
ไม่เหมือนใครในโลก
ยามศึกเราช่วยกันรบ  ยามสงบเรามาตีกันเอง


ฮิ้ววววววววววววววววววววววว ..     emo20:)):)





ปล. พี่แอ๊ะน่ารักมากนะคะ    emo6::))   .. ขอบอก 


หัวข้อ: Re: [2513]"ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: เหยง 16 ที่ 11 พฤษภาคม 2553, 09:08:07
บทบรรณาธิการ นสพ. แนวหน้าออนไลน์ วันอังคารที่ 11 พฤษภาคม 2553

บทบรรณาธิการ 
 
หมดเวลาเจรจาแกนนำเสื้อแดง (บทบรรณาธิการ) 
 
 
    หลังจากที่นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรีได้ประกาศแผนสร้างความปรองดองในชาติด้วยการยอมรับหลักการที่จะยุบสภาในช่วงครึ่งหลังของเดือนกันยายนและกำหนดวันเลือกตั้งคร่าวๆในวันที่ 14 พฤศจิกายนนี้ พร้อมกับมาตรการ 5 ข้อตามแผนสร้างความปรองดอง แต่บรรดาแกนนำม็อบคนเสื้อแดงกลับพยายามสร้างเงื่อนไขต่อรองดึงเกมซื้อเวลาไม่ยอมสลายการชุมนุมหลังยึดพื้นที่ย่านราชประสงค์เป็นเวทีปักหลักชุมนุมยืดเยื้อมานานเกือบ 2 เดือน

    แกนนำม็อบคนเสื้อแดงพยายามเล่นแง่ตั้งเงื่อนไขมาตลอดเพื่อใช้เป็นข้ออ้างไม่สลายการชุมนุมและสร้างข้อเรียกร้องต่อรองเพิ่มเติมอยู่ตลอดเวลาโดยล่าสุดต้องการให้มีการดำเนินคดีกับนายกฯอภิสิทธิ์และนายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรีฝ่ายความมั่นคงในกรณีสั่งสลายการชุมนุมม็อบเสื้อแดงเมื่อวันที่ 10 เมษายนที่ผ่านมาจนเป็นเหตุให้มีทหารและประชาชนเสียชีวิต 25 ราย บาดเจ็บอีกกว่า 800 รายจนทำให้แผนสู่ความปรองดองอาจล้มเหลว

    ทั้งนี้หนึ่งในเป้าหมายที่แท้จริงซึ่งบรรดาแกนนำคนเสื้อแดงเรียกร้องในก็คือต้องการให้รัฐบาลรับปากหากมีการสลายการชุมนุมก็คือ ต้องให้แกนนำคนเสื้อแดงทั้ง 25 คนที่ถูกออกหมายจับก่อนหน้านี้ซึ่งในจำนวนนี้9คนถูกตั้งข้อกล่าวหาร้ายแรงฐานร่วมในกลุ่มก่อการร้ายและคิดล้มล้างสถาบับเบื้องสูงต้องได้รับการประกันตัวในทันทีหลังถูกควบคุมตัว

    นอกจากนี้ขณะที่แกนนำม็อบคนเสื้อแดงด้านหนึ่งรับปากว่าเห็นด้วยกับกระบวนการสร้างความปรองดอง แต่อีกด้านหนึ่งกลับระดมเกณฑ์มวลชนจากต่างจังหวัดเข้ามาสมทบการชุมนุมที่ย่านราชประสงค์เพื่อสร้างอำนาจต่อรองและเตรียมไม้จำนวนมากเพื่อก่อสร้างเป็นพื้นรองนั่งสำหรับปักหลักชุมนุมยืดเยื้อไปจนถึงฤดูฝน

    ที่สำคัญบรรดาแกนนำม็อบคนเสื้อแดงยังคงรับคำสั่งจาก พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ซึ่งเป็นเจ้าของม็อบเสื้อแดงตัวจริง ซึ่งล่าสุด พ.ต.ท.ทักษิณ แสดงท่าทีไม่เห็นด้วยกับแผนสร้างความปรองดองของฝ่ายรัฐบาล โดยมองว่าเป็นเพียงเกมที่ต้องการจะสลายม็อบคนเสื้อแดงให้ได้โดยเร็วที่สุดเท่านั้น

    นอกจากนี้ พล.ต.ขัตติยะ สวัสดิผล หรือเสธ.แดง หัวหน้าหน่วยรบและหนึ่งในแกนนำคนเสื้อแดง รวมทั้งกลุ่มฮาร์ดคอร์คนเสื้อแดงต่างก็ออกมาแสดงท่าทีแข็งกร้าวต่อต้านแผนสร้างความปรองดองและไม่เห็นด้วยที่ม็อบเสื้อแดงจะสลายการชุมนุมตามแรงกดดันของฝ่ายรัฐบาล

    จากท่าทีของบรรดาแกนนำคนเสื้อแดงข้างต้นชี้ให้เห็นถึงความไม่เป็นเอกภาพและส่อเจตนาขาดความจริงใจที่จะเข้าร่วมกระบวนการปรองดองอย่างแท้จริง โดยพยายามเล่นเกมตีสองหน้าต่อรองซื้อเวลา เพื่อรอคอยโอกาสที่จะสร้างสถานการณ์รุนแรงรอบใหม่หวังให้เกิดการเปลี่ยนแปลงทางการเมืองอย่างฉับพลัน ขณะที่ชาติบ้านเมืองเสียโอกาสจากความหายนะอันเกิดจากการชุมนุมของม็อบคนเสื้อแดงมามากเกินพอแล้ว

    ดังนั้นขณะนี้น่าจะหมดเวลาแล้วสำหรับการเจรจาระหว่างรัฐบาลกับบรรดาแกนนำคนเสื้อแดง โดยรัฐบาลควรเดินหน้าบังคับใช้กฏหมายสลายการชุมนุมของม็อบเสื้อแดงเพื่อทวงคืนพื้นที่ย่านราชประสงค์และจับกุมดำเนินคดีกับกลุ่มก่อการร้ายที่คิดกบฏล้มล้างสถาบันเบื้องสูงที่แฝงตัวอยูในม็อบคนเสื้อแดงอย่างจริงจังเสียที 
 
วันที่ 11/5/2010
 
http://www.naewna.com/news.asp?ID=210591


หัวข้อ: Re: [2513]"ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: เหยง 16 ที่ 11 พฤษภาคม 2553, 09:10:28
บทบรรณาธิการ นสพ. ไทยโพสต์

ใครก็ได้ ช่วยจับ"เสธ.แดง"ที
บทบรรณาธิการ 11 พฤษภาคม 2553 - 00:00

     ได้ฟัง พล.อ.อ.อภิชาต เพ็ญกิตติ ปลัดกระทรวงกลาโหม ออกมายืนยันว่าไม่เคยปล่อยปละละเลยกับการเอาผิดกับ พล.ต.ขัตติยะ สวัสดิผล หรือ เสธ.แดง "เราดำเนินการตามขั้นตอนมาตลอด" แล้ว รู้สึกอเนจอนาถใจที่ขั้นตอนของกองทัพไทยมันช่างยาวนาน นานเสียจนลืมไปแล้วว่าจุดเริ่มต้นอยู่ตรงไหน

     เสธ.แดงยังเป็นคนของกองทัพ รับเงินเดือนจากภาษีประชาชน แต่งชุดทหารติดยศนายพล เดินเข้า-ออกพื้นที่ชุมนุมของคนเสื้อแดงแทบทุกวัน สอนให้ผู้ชุมนุมใช้อาวุธต่อต้านรัฐ ไม่ใช่เพิ่งมาทำในวันนี้ แต่ทำมานานแล้ว กองทัพก็ปล่อยปละละเลยให้เสธ.แดง กลายเป็นภัยความมั่นคงของประเทศ มีผู้ล้มตายจากการใช้อาวุธสงครามมานับไม่ถ้วนแล้ว

     ที่น่าเจ็บใจคือเสธ.แดง มีหมายจับติดตัว แต่สามารถเดินทางไปไหนก็ได้ เข้า-ออกพื้นที่ชุมนุมเป็นว่าเล่น ทั้งๆ ที่มีด่านทหาร-ตำรวจรอบๆ พื้นที่ชุมนุม แต่การบังคับใช้กฎหมายกับเสธ.แดง ไม่เคยเป็นผล ราวกับว่าเสธ.แดง สามารถหายตัวได้

     นับแต่วันอาทิตย์ที่ผ่านมา  ในรายการเชื่อมั่นประเทศไทยกับนายกฯ อภิสิทธิ์ ที่นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ตอกย้ำว่า เสธ.แดงอยู่ในขบวนการล้มโรดแม็พปรองดอง โดยรับคำสั่งมาจาก น.ช.ทักษิณ ชินวัตร ทางกองทัพก็น่าจะมีแอคชั่นออกมา แต่กลับเงียบฉี่ ซ้ำร้าย เสธ.แดงยังไปโชว์ในพื้นที่ชุมนุมอีกต่างหาก

     นอกจากคำพูดของนายกรัฐมนตรีไม่มีความหมายใดๆ แล้ว กองทัพยังทำตัวเป็นทองไม่รู้ร้อน ประชาชนเกิดความคับข้องใจว่า รัฐบาล และกองทัพ รวมทั้งตำรวจกำลังทำอะไรกันอยู่ แค่เสธ.แดงคนเดียวไม่สามารถจัดการได้ ในขณะที่บทบาทของเสธ.แดงต่อการชุมนุมของคนเสื้อแดงนั้น มีนัยสำคัญขึ้นเรื่อยๆ

     วันนี้เสธ.แดงได้กลายเป็นวีรบุรุษของมวลชนคนเสื้อแดง เขาสามารถกุมหัวใจคนเสื้อแดงได้ เพราะมีบุคลิกเป็นนักสู้ พร้อมที่จะรบกับฝ่ายตรงข้ามตลอดเวลา แม้ว่าฝ่ายตรงข้ามนั้นจะเป็นคนไทยด้วยกันก็ตาม ก่อนที่เสธ.แดงจะมีบทบาทไปมากกว่านี้ ซึ่งแน่นอนหนทางไปสู่การนองเลือดอยู่ไม่ไกลแน่ ทางกองทัพต้องแสดงความรับผิดชอบจัดการคนของตัวเองเสียให้เบ็ดเสร็จเด็ดขาด

     ที่ผ่านมาเหมือนคนในกองทัพไม่กล้าแตะเสธ.แดง แม้กระทั่งพล.อ.อนุพงศ์ เผ่าจินดา ผู้บัญชาการทหารบก ไม่ใคร่จะใส่ใจสิ่งที่เสธ.แดงได้ดำเนินการมาตลอด นับแต่การฝึกนักรบพระเจ้าตาก การวิจารณ์กองทัพและวิจารณ์รัฐบาล รวมทั้งยังพบปะติดต่อกับนักโทษอาญาแผ่นดิน น.ช.ทักษิณ ชินวัตร อยู่ตลอดเวลา กองทัพทำเหมือนเรื่องที่เกิดขึ้นเป็นเรื่องปกติธรรมดา กระทั่งวันนี้ได้พัฒนามากลายเป็นปัญหาด้านความมั่นคงของประเทศแล้ว

     กองทัพจะเอาอย่างไร จะไล่ออก ให้ออก หรือจะเชิญให้เสธ.แดงรับราชต่อไปจนเกษียณอายุราชการ ควรตอบมาให้ชัด อย่าสักแต่เลี่ยงบาลี ทำเป็นธุระไม่ใช่ ชิ่งหนีไปวันๆ อย่าให้ประชาชนต้องลงมือจับเสธ.แดง รุมกระทืบในชุดนายพลเลยมันจะเสียความรู้สึกกันเปล่าๆ.

http://www.thaipost.net/news/110510/22035


หัวข้อ: Re: [2513]"ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: prapasri AH ที่ 11 พฤษภาคม 2553, 09:10:58
น้องหะยีคะ
คิดถึงน้องหะยี ใจจะขาดเเล้วเอย

กำลังจะตามหา ว่าหายไปไหน

ยามสงบเราก็ตีกันเองงงงงงงงงง
ต้องช่วยกันมาตี นะคะ

ตีจี๋แดงงงงงงงงงง ให้วายวอด

กลัวเเต่เสธ บ้า แกเอาระเบิด ปาบ้านปาเมืองน่ะ

แกไม่น่าเกิดเป็นคนโพธราราม ราชบุรีเลย

ปกติคนราชบุรี จะใจดี

ถามพี่แก้ว ดูก็ได้

คนราชบุรี จะมีลักษณะเย็นๆ ใจดีเหมือนพี่แก้ว ปรีชา น่ะค่ะ

เพื่อรุ่นพี่หาญบอก ว่าเสธบ้านี้ มันบ้าตั้งแต่เรียน โพธาวัฒนเสนีย์แล้วค่ะ

เสียดายไม่ได้อยู่วัด ที่โพธารามกะพี่หาญ ไม่งั้นพี่หาญคงเตือนมันได้บ้างงงงงงงงงงง



หัวข้อ: Re: [2513]"ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: เหยง 16 ที่ 11 พฤษภาคม 2553, 09:15:29
คอลัมม์ "คนปลายซอย" ของคุณเปลว สีเงิน

ลีลา"เอาม็อบลง"ของคณะ ๓ เกลอ
เปลว สีเงิน 11 พฤษภาคม 2553 - 00:00

             ไม่ทราบว่าเย็นวาน (๑๐ พ.ค.๕๓) ท่านได้ดู-ได้ฟังการประกาศ "เรดแม็พ" ของคณะแกนนำกบฏ "ตอบรับ" โรดแม็พของรัฐบาลหรือเปล่า ผมไม่ได้ดู แต่ได้ฟังเสียงจากเวทีราชประสงค์ สรุปในหลักการว่า "โอเค ยุติการชุมนุม" แต่ด้วยภาวะคนกรุง "ประสาทหลอน" มาร่วม ๒ เดือน ถึงจะจูบปากกันแล้วก็เถอะ แต่ตราบใดที่ตูดผู้ชุมนุมยังไม่ขยับพ้นไปจากราชประสงค์...ใครก็ยากจะปักใจเชื่อ!

             แต่ก็มีส่วนเป็นอย่างนั้นอยู่นะ เพราะที่ว่าบรรดาแกนนำกบฏมีมติเป็นเอกฉันท์ ยอมรับเลือกตั้งใหม่ที่ ๑๔ พ.ย.๕๓ จะยุบสภาระหว่างวันที่ ๑๕-๓๐ ก.ย.เข้าสู่กระบวนการปรองดองกับรัฐบาลก็จริง แต่ "ลูกผู้ชายย่อมไม่ไร้พิษ" เรื่องจะตกลงกันง่ายๆ เห็นจะยาก

            คือ ถึงจะยอมรับเงื่อนไข แต่ก็ "ยักศอก" เป็นเงื่อนไขกลับไปให้รัฐบาลทำเป็นการบ้านเหมือนกัน แต่ก่อนจะคุยในรายละเอียด ผมว่า เรามาอ่านถ้อยแถลงที่นายณัฐวุมิ ใสยเกื้อ เป็นผู้อ่านก่อนดีกว่า เพราะมี "เงื่อนไขกลับ" อยู่ในนั้นด้วย ดังนี้

            ๑.นปช.แดงทั้งแผ่นดิน ขอประกาศตอบรับการกำหนดวันเลือกตั้ง ๑๔ พ.ย. ๒๕๕๓ ตามที่นายกรัฐมนตรีเสนอ และเมื่อประกาศตอบรับการเลือกตั้ง เราตั้งคำถามวันกำหนดวันยุบสภา แทนที่จะกำหนดวันเลือกตั้ง ปรากฏว่าเห็นตรงกันว่าวันยุบสภา ๑๕-๓๐ ก.ย. เมื่อมีคำตอบเช่นนี้ เรายินดีตอบรับวันยุบสภาโดยไม่มีเงื่อนไข นี่คือแสดงความจริงใจของนปช.แดงทั้งแผ่นดิน โดยไม่ต้องมีผู้บาดเจ็บหรือล้มตาย

                ๒.เราต่อสู้เพื่อความยุติธรรมสองมาตรฐาน เราไม่อาจรับการกระทำจากรัฐที่เป็นสองมาตรฐานทุกกรณี นั่นหมายความว่าการดำเนินคดีต่างๆ ที่เกี่ยวเนื่องเกิดขึ้น เรายืนยันไม่ประสงค์นิรโทษกรรม เรายินดีเดินหน้าเข้าสู่กระบวนการยุติตามขั้นตอนของกฎหมาย แต่รัฐบาลก็ต้องปฏิบัติตามกระบวนการยุติธรรมในมาตรฐานเดียวกัน ก็คือ ที่มาของข้อกล่าวหาก่อการร้าย นปช.แดงทั้งแผ่นดิน คืนวันที่ ๑๐ เม.ย. ทหารใช้กำลังสลายการชุมนุม

                ภายหลังเหตุการณ์เกิดขึ้น พวกเราถูกกล่าวหาเป็นผู้ก่อการร้ายและอนุมัติหมายจับจากดีเอสไอ ขณะที่นายกรัฐมนตรีและรองนายกรัฐมนตรีฝ่ายความมั่นคง ยังไม่ปรากฏมีความคืบหน้าดำเนินคดีแต่อย่างใด ทั้งที่เราได้ไปแจ้งข้อหาไว้แล้ว ข้อเรียกร้องของเรา เมื่อตอบรับแล้ว นายกฯ และรองนายกฯ ก็ต้องเดินหน้าเข้าสู่กระบวนการยุติธรรมเช่นเดียวกัน

                ๓.วันประกาศยุติการชุมนุม เพื่อเดินหน้าเข้าสู่วันปรองดอง จะเป็นวันเดียวกับที่นายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรี เดินทางไปพบเจ้าหน้าที่ตำรวจเข้าสู่กระบวนการยุติธรรม ก็จะกลับบ้าน ยุติการชุมนุมทันที แต่หากไม่ไปก็จะไม่ยอมยุติการชุมนุม

                "นายสุเทพมอบตัววันไหน กลับบ้านวันนั้น นายสุเทพปฏิเสธวันไหน ก็ปฏิเสธวันนั้น"

                ๔.ให้รัฐบาลยุติปิดพีเพิลแชนแนล ซึ่งหากมีคณะกรรมการขึ้นมาดูแล ก็ยินดีเข้าสู่คณะกรรมการ พร้อมกับสถานีเอเอสทีวี หากมีมติเช่นไร เรายินดีปฏิบัติเช่นเดียวกับเอเอสทีวี

                ๕.เมื่อคนเสื้อแดงยุติการชุมนุม รัฐบาลต้องรับผิดชอบหากยังคง พ.ร.ก.ฉุกเฉินไว้ หากรัฐบาลจะคง พ.ร.ก.ฉุกเฉินก็เป็นเรื่องของรัฐบาล ก็ขอให้เรื่องนี้เป็นความรับผิดชอบซึ่งประชาชนจะกดดันรัฐบาลมากขึ้น

                สุดท้าย กราบเรียนว่า นปช.แดงทั้งแผ่นดินมีความตั้งใจจริง ออกจากกับดักความขัดแย้งโดยสันติวิธี เราจะเข้าไปร่วมกับคณะกรรมการต่างๆ และคณะกรรมการตรวจสอบต้องยอมรับได้

            ทั้งหมดนี้ผมลอก "กรุงเทพธุรกิจออนไลน์" เงื่อนไขกลับของแกนนำกบฏก็คือ พวกเขายอมเข้าสู่กระบวนกายุติธรรม นายกฯ อภิสิทธิ์ และรองฯ สุเทพ ก็ต้องเข้าสู่กระบวนการยุติธรรมตามข้อหา "สั่งฆ่าประชาชน" ที่เขาไปแจ้งความด้วย

            เขายกเว้นให้นายกฯ ในฐานะเป็น ส.ส. ยังไม่ต้องไปมอบตัว แต่นายสุเทพลาออกจาก ส.ส.มาเป็นรองนายกฯ แล้ว ต้องไปมอบตัวกับตำรวจ และนายณัฐวุฒิก็ประกาศว่า

            "นายสุเทพมอบตัววันไหน พวกเราก็จะยุติการชุมนุมกลับบ้านวันนั้นทันที แต่ถ้านายสุเทพปฏิเสธ ก็เท่ากับ "ยกเลิก" ข้อตกลง และจะชุมนุมต่อไปทันที!"

            ก็ขอแทรกเพื่อความต่อเนื่องไว้ตรงนี้เลย เมื่อแกนนำประกาศเงื่อนไขอย่างนี้ นายสุเทพก็บอกกับนักข่าวทันทีเหมือนกันว่า "วันนี้ (๑๑ พ.ค.) หลังประชุม ครม.ที่ทำเนียบฯ เสร็จจะไปมอบตัวที่ DSI เลย"

            นักข่าวก็ไปบอกนายณัฐวุฒิ ฝ่ายนายณัฐวุฒิก็เกี่ยงว่า "ต้องไปมอบตัวกับตำรวจที่เป็นกลาง ไม่ไว้ใจ DSI อาจเป็นพวกเดียวกันกับนายสุเทพ"

            แล้วไงต่อก็ไม่ทราบนะครับ แต่ผมคาดว่า "โน พร็อมเบลม" จะให้ขึ้นสวรรค์-ลงนรก คุณสุเทพก็ไป ท่านอาจสงสัย เอ๊ะ..ทำไมเชื่องจริง กบฏแดงสั่งให้ทำอะไรก็ทำหมด?

            ก็ค่อยๆ ไล่เลียงกันไปตามลำดับแล้วกัน ประเด็นหลักที่คิดว่าทุกท่านอยากรู้-อยากเห็นเร็วๆ ก็คือ ถ้าเที่ยงนี้-บ่ายนี้ รองฯ สุเทพไปพบเจ้าพนักงานรับทราบข้อกล่าวหาแล้ว กบฏแดงจะสลายการชุมนุม "หายวับไปกับตา" จากท้องถนนกรุงเทพฯ โดยเฉพาะที่ราชประสงค์หรือไม่?

            ตรงนี้แหละ..ประเด็นของเรื่อง!!

            ถ้าจะให้ผมตอบ บอกได้เลยว่า สังเกตจาก กทม.ระดมเจ้าหน้าที่วักน้ำสาดถนน สังเกตจากร้านค้าเตรียมอ้าประตูเปิดห้าง กระทั่ง ททท.เตรียมโปรแกรม "รับขวัญราชประสงค์" พลิกฟื้นคืนชีวิตการท่องเที่ยว

            แสดงว่า รัฐบาลและแกนนำ นปช.บรรลุข้อตกลงร่วมกันล้วตั้งแต่วันอาทิตย์ ประเด็นหลักน่าจะอยู่ที่เงื่อนไขการมอบตัว และการจะให้-ไม่ให้การประกันตัว เมื่อตกลงกันแล้ว การอ่าน "สัญญาสงบศึก" จึงมีขึ้นเมื่อเย็นวาน

            แล้วทำไมมีเงื่อนไข นายกฯ อภิสิทธิ์-รองนายกฯ สุเทพ ต้องตกเป็นผู้ต้องหา และทำไมรัฐบาลจึงยอม?

            ใครที่ฟังเสียง ดูลีลาอ่านแถลงการณ์ของนายณัฐวุฒิคงใจเต้นแต๊ว..แต๊ว..แล้วร้องว่า...ตายละ แบบนี้มันตีรวน-ตั้งแง่เบี้ยวกันชัดๆ เพราะมีที่ไหน จะดึงให้นายกฯ-รองนายกฯ กลายเป็นผู้ต้องหา บ้าน่ะซี!?

            แต่...ไม่บ้าหรอกครับ จะแจ้งความ-ไม่แจ้งความ ตามระเบียบกฎหมายมีให้ปฏิบัติอยู่แล้ว ผมเป็นนักข่าวอาชญากรรมเก่า เห็นตำรวจยิงคนร้ายที่ต่อสู้ขัดขืนตายมาหลายราย เขาเรียกคดีแบบนี้ว่า "วิสามัญฆาตกรรม" แต่นั่นก็เถอะ ตำรวจที่ฆ่าผู้ร้ายในหน้าที่ ก็ต้องเข้าสู่กระบวนการกฎหมายตามระเบียบเหมือนกัน

            เพียงแต่เขาจะ "สั่งไม่ฟ้อง" เท่านั้น!

            หรือแม้แต่เราจอดรถอยู่เฉยๆ มีคนวิ่งมาชนรถเราล้มหัวฟาดถนนตาย เรา-คนขับก็ต้องเจอข้อหา "ขับรถเป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย" เป็นเบื้องต้นอยู่ดี ก่อนจะไปจบสำนวนอยู่ที่ "สั่งไม่ฟ้อง" นั่นเหมือนกัน

            อย่างนายกฯ อภิสิทธิ์ และรองฯ สุเทพ ฝ่าย นปช.เขาไปแจ้งความ (แก้เกี้ยว) ว่าเป็นผู้สั่งฆ่าประชาชนในเหตุการณ์ ๑๐ เม.ย. ความจริงไม่ต้องแจ้ง ในหลักการทำสำนวนคดี ตำรวจเขาก็ต้องทำสำนวนอยู่แล้ว ซึ่งนั่นก็ไม่มีปัญหาอะไร

            อย่างเหตุการณ์คืน ๑๐ เม.ย. การสลายชุมนุมนั่นเป็นการสั่งตามหน้าที่ในฐานะ "เจ้าพนักงาน" ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา ด้วยอำนาจตาม พ.ร.ก.ฉุกเฉิน ต่างกันกับเหตุการณ์ ๗ ตุลา ๕๒ ที่หน้ารัฐสภา นั่นเจ้าพนักงานใส่ผู้ชุมนุมกันเห็นจะจะ และทั้งอยู่ในภาวะปกติ

            แต่ในข้อเท็จจริงอันมีหลักฐานปรากฏชัด เมื่อคืนที่ ๑๐ เม.ย.ตำรวจ-ทหาร ซึ่งมีแต่กระบองไปสลายการชุมนุม ถูก "กลุ่มผู้ก่อการร้าย" ที่แฝงตัวอยู่ในกลุ่มเสื้อแดงใช้อาวุธสงครามฆ่าเจ้าพนักงาน และมีฝูงชนใช้อาวุธนานาชนิดรุมซ้ำ เจ้าหน้าที่ซึ่ง "ถูกกระทำ" จึงตอบโต้เป็นการป้องกันตัว เป็นที่รู้-ที่เห็นกันทั่ว

            และก็ยากที่กลุ่มกบฏแดงจะปฏิเสธไม่รู้เห็นกับผู้ก่อการร้าย เพราะก่อนหน้านี้แกนนำคนหนึ่ง จะเป็นนายสุภรณ์หรือนายอริสมันต์ผมจำไม่ถนัด ประกาศบนเวทีทำนองว่า "ไม่ต้องกลัว พวกเรามีกองกำลังติดอาวุธมาช่วยแล้ว"!

            ทุกคนฝ่ายแกนนำกบฏรู้ข้อกฎหมาย และความแตกต่างของเหตุการณ์เมื่อ ๗ ตุลา กับ ๑๐ เมษา ดี แต่อย่างว่า การจุดม็อบให้ติดนั้น "ไม่ยาก" เท่ากับเอาม็อบที่ติดแล้ว "ให้ลง" ตรงนี้แหละ ใครที่เคยเป็นหัวขบวนม็อบจะรู้ดีที่สุด

            นี่ก็เหมือนกัน เอาชาวบ้านมาเป็นหางเครื่องจน "เครื่องติด" ยิ่งติดต่อเนื่องเป็นเดือนมันก็พัฒนาเป็น "เสพติด" ทีนี้...จะเอาม็อบลง บอกให้กลับบ้าน ถ้าไม่มีเหตุผลให้เห็นว่าชนะ...ได้ตามที่เรียกร้อง จู่ๆ ไปบอกเลิกชุมนุม

            เผลอๆ กระแสตีกลับ จากที่จะกระทืบรัฐบาล หันไปรุมกระทืบบรรดาแกนนำม็อบเซ่นส้นไปเลย โทษฐาน "หลอกกูมา แล้วพวกมึงไปซูเอี๋ยกันเฉยเลย"!?

            ฉะนั้น จะลงทั้งที มันก็ต้องร่วมกันแสดงให้สมบทบาทหน่อย ผมจึงถามท่านแต่ต้นว่า "ได้ดู-ได้ฟัง" ลีลาการเอาม็อบลงของนายณัฐวุฒิผ่านการอ่าน "สัญญาสงบศึก" เขาหรือเปล่า?

            เงื่อนไขให้นายกฯ-รองนายกฯ ต้องไปมอบตัวด้วย "นายสุเทพมอบตัววันไหน ยุติการชุมนุม กลับบ้านทันทีวันนั้น" พอนายณัฐวุฒิย้ำเสียงกร้าว ถลึงตาเป็นลูกกอล์ฟเท่านั้นแหละ แฟนๆ หน้าเวทีเขย่าตีน เป่าปาก เป็นที่ถูกอก-ถูกใจ ถ้าผมอยู่บนเวทีด้วย คงต้องแอบแขม่วท้อง ถอนหายใจโล่งอก

            เฮ้อ...รอดตาย-รอดตีน (พวกกันเอง) ไปได้หวุดหวิด!

            สรุปก็คือ "แฮปปี้ เอนดิ้ง" นายสุเทพไปมอบตัว แกนนำที่ถูกหมายจับไปมอบตัว ได้ประกันตัวไป เพราะไม่มีเจตนาหลบหนี เนื่องจากไปมอบตัวเอง ตามบทแสดงเหล่านี้ก็หมายความว่า วันนี้-พรุ่งนี้...จบ (ชั่วคราว) กันทีกับ "นรกกลางกรุง" ๒ เดือนเต็ม!

            แต่...จบแค่ภาค ๑ "ภาคสันติ-อหิงสา" เท่านั้น ภาค ๒ อันเป็นภาคบู๊ล้างผลาญ "ภาคแดงโม่งดำ" คงจะรับไม้ต่อ สัญญาสงบศึกจะถูกฉีกด้วย "เหตุการณ์แปรผัน" จากไอ้โม่งแดง-โม่งดำหรือไม่ ต้องคอยฟังสัญญาณเสียงวี้ดดดบึ้มมมในแต่ละคืน แต่ถ้าสามารถ "แยกโจร-แยกชาวบ้าน" ออกจากกันได้อย่างนี้

            เผลอๆ มีรายการ "เด็ดหัว" !?.


http://www.thaipost.net/news/110510/22042


หัวข้อ: Re: [2513]"ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: prapasri AH ที่ 11 พฤษภาคม 2553, 09:17:46
จี๋แดงงงงงงง สลายแย้ววววววว

พี่แอ๊ะจะเข้ากรุงเทพ ไปชอ๊บปิ้งงงงงงงง ชิดลม ชะเอิงงงงเอยยยยยยยยยยยย

เข้ากรุงเทพ วันนี้ค่ะ

ท่านใดอยากมาสนทนา ประสาคอการเมืองกะ พี่แอ๊ะก็เชิญนะคะ

เข้ากรุงเทพพี่แอ๊ะจะเข้าเนตไม่เป็น ค่ะ

อยากซื้อ bb แต่ลูกสาว เขาขี้เหนียว เขาว่ามามี้เล่นไม่เป็นเด่วก็ทิ้งแบบ ซื้อ ไอโฟนอีก


หัวข้อ: Re: [2513]"ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: เหยง 16 ที่ 11 พฤษภาคม 2553, 09:24:27
ยุคพระอาทิตย์ 7 ดวง
ท่านขุนน้อย 11 พฤษภาคม 2553 - 00:00

   จะเป็นเพราะอากาศร้อนขึ้นๆ...หรือใจคนร้อนขึ้นๆ หรือเปล่าก็มิอาจสรุปได้ ถึงทำให้การแสดงความคิด ความเห็นใดๆ ในเรื่องบ้านเรื่องเมือง...มันจึงชักจะเป็นอันตรายยิ่งขึ้นทุกที เรียกว่าถ้าหากไม่ถูกหู ถูกใจ ขึ้นมาเมื่อไหร่ ต่อให้เป็นมิตร เป็นสหาย เป็นผู้หลัก-ผู้ใหญ่ เป็นกัลยาณมิตร เป็นเพื่อนที่แสนดี...ก็มีสิทธิ์ถูกถีบ ถูกสวน ถูกโต้ ชนิดดอกต่อดอก ได้ด้วยกันทั้งนั้น ด้วยเหตุนี้...ประเภทนกไร้ขน คนไร้เพื่อน แถมยังเฒ่าชะแร แก่ชรา ไร้เรี่ยวแรง ไร้กำลังวังชา อย่าง ท่านขุนน้อย เห็นทีจะต้องหาทางหลบเลี่ยงส้นมือ ส้นตีน ของใครต่อใคร...ด้วยการเบี่ยงไปพูดเรื่องอื่นน่าจะเหมาะกว่า...
               --------------------------------------

     แต่ในเมื่อทะลุออกนอกโลก นอกจักรวาล เตลิดเปิดเปิง ไปพูดเรื่องต่างประเทศกันมาหลายครั้งแล้ว ร้อนๆ อย่างนี้น่าจะลองมุดลงไปในทะเลกันดูซักเที่ยว ซึ่งก็เผอิญว่าเมื่อไม่กี่วันที่ผ่านมา ได้มีนักวิชาการประมงแห่งสถาบันวิจัยและพัฒนาทรัพยากรทางทะเลฯ ผู้มีชื่อว่าคุณ นิพนธ์ พงษ์สุวรรณ ท่านได้ออกมาเปิดเผยถึงข่าวคราวชิ้นหนึ่งที่น่าสนใจอยู่ไม่น้อย นั่นก็คือ ข่าวคราวว่าด้วยการเกิดปรากฏการณ์ ปะการังฟอกขาว ครั้งใหญ่ที่สุดเท่าที่เคยมีมาในประเทศไทย แพร่ระบาดไปทั่วทั้งสองฟากฝั่งมหาสมุทร คือไม่ว่าจะเป็นท้องทะเลทางด้านอ่าวไทย หรือด้านทะเลอันดามัน ต่างก็กำลังเผชิญหน้ากับปรากฏการณ์ที่ว่าในชนิดน่าใจหาย น่าหวั่นวิตก เป็นอย่างยิ่ง...
             -------------------------------------------

     เพื่อให้พอเป็นที่เข้าใจว่าปรากฏการณ์  ปะการังฟอกขาว ที่ว่านี้...มันคืออะไรกันแน่??? คงต้องขออนุญาตนำเอาคำอธิบายของผู้รู้ ผู้เชี่ยวชาญ มาแปลไทยเป็นไทยเอาไว้คร่าวๆ ซึ่งโดยสรุปรวมความแล้วก็คงประมาณว่า...มันคือปรากฏการณ์ที่ปะการังชนิดต่างๆ ในท้องทะเล ได้บ้วนเอาสาหร่ายเซลล์เดียว  ที่เรียกๆ กันเป็นภาษาวิชาการว่า ซูแซนแทลลี (Zooxanthelle) ซึ่งเคยพึ่งพาอาศัยอยู่ภายในเนื้อเยื่อของมัน คอยช่วยสร้างสีสันและอาหารให้กับปะการังแต่ละชนิด หรือ เคยใช้ชีวิตอยู่ร่วมกันแบบน้ำพึ่งเรือเสือพึ่งป่า จนแทบจะเป็นชีวิตเดียวกัน ออกมาจากเนื้อตัวของตัวเอง จนทำให้ตัวตนของปะการังเหล่านั้นแปรสภาพเป็นสีขาว อันเป็นสีที่แท้จริงตามลักษณะโครงสร้างที่เป็นหินปูนมาแต่แรกเริ่ม...

             -------------------------------------------

     แต่อาจมีปะการังบางชนิดที่สีสันดั้งเดิมของมัน ไม่ได้ออกไปในทางสีขาวๆ แต่อาจจะเป็นสีเหลืองอมเขียว เช่น ปะการังชนิดที่เรียกๆ กันว่า ปะการังอ่อนหนัง หรือ ปะการังทองหยิบ เป็นต้น แต่เมื่อใดก็ตามที่มันดันเกิดอาการคลื่นเหียน วิงเวียน จนต้องอาเจียนเอา ซูแซนแทลลี ออกมาจากเนื้อตัวของมัน มันก็อาจแปรสภาพกลับไปเป็นสีเหลืองคล้ายๆ กับสีทอง ก่อให้เกิดความตื่นเต้น ตื่นตา ตื่นใจ กับใครต่อใคร ถึงกับต้องยกขบวนแห่ไปดูปรากฏการณ์แปลกๆ ชนิดนี้กันแน่นขนัด คิดว่าเป็น ดอกไม้ทะเลสีทอง ที่มาบานแฉ่งอยู่แถวๆ ริมอ่าว บริเวณใกล้ๆ กับกองเรือป้องกันชายฝั่ง กองทัพเรือสัตหีบ จังหวัดชลบุรี เมื่อไม่กี่ปีที่ผ่านมานั่นเอง...
             -------------------------------------------

     อย่างไรก็ตาม...ปรากฏการณ์เหล่านี้ นอกจากมันจะไม่ใช่เรื่องแปลก ประหลาด พิสดาร หรือเป็นนิมิตหมายอันดี  จนทำให้ใครต่อใครเคยคิดที่จะแล่นเรือออกไปขอหวยกันซึ่งๆ หน้าแล้ว มันยังสะท้อนถึงความหมายในเชิงตรงกันข้าม หรือถือเป็นการส่ง สัญญานแห่งความฉิบหาย ซึ่งกำลังอุบัติขึ้นมาในท้องทะเล อันไม่เพียงแต่จะมีผลต่อสิ่งมีชีวิตต่างๆ ที่ใช้ชีวิตอยู่ภายในทะเลและมหาสมุทรแต่เพียงเท่านั้น แต่ยังมีผลกระทบต่อเนื่องมาถึงมวลมนุษย์ ผู้ต่างก็ต้องพึ่งพาอาศัยท้องทะเล สามารถยังชีวิตอยู่ด้วยการบริโภคกุ้ง หอย ปู ปลา มาโดยตลอดประวัติศาสตร์ของมวลมนุษยชาติอย่างมิอาจหลีกเลี่ยงได้...

            ---------------------------------------------

     พูดง่ายๆ ก็คือ...ปรากฏการณ์ปะการังฟอกขาว หรือฟอกออกมาเป็นสีทองก็แล้วแต่ มันก็คือปรากฏการณ์ที่แสดงให้เห็นว่า บรรดาปะการังเหล่านั้นกำลังเจ็บไข้ได้ป่วย หรือกำลังจะตายไป ในอีกไม่นานไม่ช้านั่นเอง และต้นสายปลายเหตุอันทำให้ปะการังเหล่านี้ต้องเกิดอาการเจ็บป่วย คลื่นเหียน วิงเวียน ชนิดถึงกับต้องอาเจียนเอาสาหร่ายเซลล์เดียวที่อยู่ภายในเนื้อตัวของมันออกมา ก็ไม่ได้มีอะไรมากไปกว่า ภาวะความเปลี่ยนแปลงของสภาพแวดล้อมที่มันเคยใช้ชีวิตอยู่อย่างเป็นปกติ มันเกิดความผิดปกติขึ้นมาดื้อๆ จากสภาวะที่มันเคยอยู่ดี มีสุข ภายใต้อุณหภูมิน้ำทะเลประมาณ 18-27 องศาเซลเซียส แต่เมื่ออุณหภูมิของน้ำทะเลสูงขึ้น ร้อนขึ้นๆ อย่างเช่นทุกวันนี้ ขนาดมนุษย์แท้ๆ ยังบ้าได้ ป่วยได้ พร้อมที่จะบ้วนอะไรต่อมิอะไร ออกมาใส่กันและกันชนิดไม่มีข้อยกเว้น...แล้วปะการังล้วนๆ จะไปเหลืออะไรล่ะท่าน!!!

          ------------------------------------------------

     ท่ามกลางปรากฏการณ์ เอล นิโญ่ ที่หวนคืนกลับมาในช่วงระยะนี้กันอีกครั้ง ว่ากันว่าได้ทำให้ระดับอุณหภูมิน้ำทะเลแถบฝั่งอันดามันสูงถึง 31 องศาเซลเซียส ในขณะที่ฝั่งอ่าวไทยพุ่งขึ้นไปถึง 33 องศาเซลเซียส ด้วยเหตุนี้ จึงเป็นผลให้ปรากฏการณ์ปะการังฟอกขาว แผ่ซ่านไปทั่วทั้งสองฟากฝั่งมหาสมุทรอย่างมิอาจหลีกเลี่ยงได้ บริเวณฝั่งอันดามันนั้น ว่ากันว่าปรากฏการณ์ปะการังฟอกขาวแผ่ครอบคลุมไปแทบทั้งทั่วทะเลอันดามัน พื้นที่ไม่น้อยกว่า 80 ตารางกิโลเมตร เต็มไปด้วยซากปะการังที่ตายแล้ว และกำลังจะตายไปในอีกไม่นานไม่ช้า ไม่ว่าจะไล่มาตั้งแต่ หมู่เกาะสุรินทร์ สิมิลัน หมู่เกาะตราชัย จังหวัดพังงา เกาะผ้า แหลมกลางใหญ่ กลางน้อย ลามไปถึงภูเก็ต สตูล ตรัง ฯลฯ ล้วนแล้วแต่ขาวแหงแก๋กันไปเป็นแถบๆ...

       ------------------------------------------------------

     ส่วนฝั่งอ่าวไทย...พื้นที่ปะการังฟอกขาวลุกลามไปแล้วถึง 30 เปอร์เซนต์ ไล่มาตั้งแต่ตราด ระยอง เกาะกระดาน เกาะสีชัง เกาะมัน ลึกลงไปถึงประจวบคีรีขันธ์ ชุมพร สุราษฏร์ธานี ฯลฯ ล้วนเต็มไปด้วยภาพปะการังที่กำลังอ้วกแตก อ้วกแตน จนทำให้ท้องทะเลขาวโพลนไปตามๆ กัน แม้นปรากฏการณ์ทำนองนี้จะเคยเกิดขึ้นมาก่อนในช่วงปี พ.ศ.2541-2543 แต่ว่ากันว่า...ครั้งนี้ถือเป็นครั้งที่ใหญ่โตที่สุด ร้ายแรงที่สุด อันทำให้นักวิชาการประมงได้แต่นั่งทำตาปริบๆ หรือได้แต่สวดมนต์  ภาวนา เพื่อให้บรรดาปะการังเหล่านี้มันไม่ถึงกับต้องเด๊ดสะมอเร่ อิน เดอะ เท่งทึง ลงไปทั้งหมด สามารถฟื้นตัวหายจากอาการป่วยได้บ้าง แม้นว่าอุณหภูมิของน้ำทะเลมันยังไม่มีแนวโน้มที่จะเย็นลงๆ เนื่องมาจากข้อเท็จจริงว่าด้วย ภาวะโลกร้อน ก็ตาม...

    -------------------------------------------------------------

     เพราะเป็นที่รับรู้กันโดยทั่วไปในแวดวงวิชาการ...ว่าพื้นที่ปะการังในท้องทะเลประมาณ 1 ตารางกิโลเมตร นั้น เมื่อคำนวนออกมาเป็นสูตรตัวเลขสถิติแล้ว ถือเป็นพื้นที่ซึ่งสามารถดลบันดาลให้เกิดปริมาณ กุ้ง หอย ปู ปลา อันเป็นอาหารหลักของมนุษย์ได้มากถึง 15 เมตริกตัน ใช้เลี้ยงดูผู้คนได้จำนวนไม่น้อยกว่า 2,500 คน ในแต่ละปี ด้วยเหตุนี้...ถ้าหากปะการังซึ่งแผ่ขยายไปในพื้นที่ไม่รู้ กี่พัน กี่หมื่น ตารางกิโลเมตร เกิดมาตาย ล่มสลาย พังพินาศ กันต่อหน้าต่อตา...นั่นก็หมายถึงว่า มวลมนุษย์ซึ่งเคยพึ่งพาอาศัยพื้นที่เหล่านั้น ย่อมจะต้องไปไม่กลับ-หลับไม่ตื่น-ฟื้นไม่มีตามไปด้วย ประเทศไทยแลนด์ แดนสยาม อันเคยได้ชื่อว่า...ในน้ำมีปลา ในนามีข้าว มาโดยตลอด จะต้องฉิบหายวายวอดไป เพราะน้ำมือของมนุษย์ หรือ ธรรมชาติ...ก็คงต้องคอยติดตามกันต่อไป...

    ------------------------------------------------------------

     ปิดท้ายด้วยวาทะวันนี้ จาก ท่าน พุทธทาสภิกขุ (อีกครั้ง)...ยุคพระอาทิตย์ 7 ดวง กำลังจะมาถึง คือ ความร้อนโดยวิกฤติกาล ทั้งทางวัตถุ และทางจิต มันจะเพิ่มขึ้น 7 เท่า...ดังนั้น จงเตรียมตัวป้องกันไว้เถิด อย่าทำอะไรที่เป็นการทำลายธรรมชาติแห่งความถูกต้อง ไม่ว่าในทางวัตถุ หรือในทางจิตใจ ก็ตาม...


http://www.thaipost.net/news/110510/22033


หัวข้อ: Re: [2513]"ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: เหยง 16 ที่ 11 พฤษภาคม 2553, 09:53:24
แก้ปัญหาเฉพาะหน้า
ถูกทุกข้อ 11 พฤษภาคม 2553 - 00:00


เรียน คุณสามวา สองศอกที่เคารพ
     ผมได้ทราบข่าวปัญหาในประเทศแล้ว ว่าได้คลี่คลายลงไปพอสมควร แต่เราก็ประมาทไม่ได้ ที่ผมว่าไม่ประมาทนั้นหาใช่ไปหลงโทษอีกฝ่ายหนึ่งไม่ แต่ควรหวนกลับมาโทษตัวเองว่า ในอดีตนั้นเราประมาทมานาน เมื่อประมาทมานานแล้วหยุด ผมจึงไม่ค่อยจะเชื่อว่าเราหยุดจริง ที่ว่าหยุดนั้นแท้จริงแล้วก็คือหยุดความประมาท
     มีเงื่อนไขที่น่าคิดอยู่อย่างหนึ่งว่า ในอดีตที่ผ่านมามักมีคนปรารภว่า "คนไทยนิยมแก้ปัญหาแต่เพียงเฉพาะหน้าเท่านั้น"
     ผมหวังว่าหลายคนคงเคยได้ยินคำปรารภ ที่ผมนำมากล่าวฝากไว้ในขณะนี้
     อนึ่ง การแก้ปัญหาเฉพาะหน้านั้นมันก็เป็นเรื่องผิวเผิน แต่รากเหง้าของปัญหาที่แท้จริง ยังคงฝังอยู่ใส่วนลึกของสังคมโดยไม่สูญหายไปไหน
     ดังนั้นในกรณีที่เกิดปัญหาใหญ่ขึ้นในสังคมปัจจุบัน ผมได้ให้สัมภาษณ์โทรทัศน์ไปอย่างหนึ่ง ซึ่งเชื่อว่าหลายคนคงเคยได้ยิน
     อย่างไรก็ตาม ผมขออนุญาตนำมากล่าวย้ำอีกครั้งหนึ่งว่า สิ่งที่เกิดขึ้นในครั้งนี้นั้น มีผลสืบเนื่องมาจากปัญหาที่ลงรากฝังลึกอยู่ในสังคมไทยมานานมากแล้ว แม้ตัวผมเองจะปรารภมาแต่อดีต ย้ำแล้วย้ำอีกว่า "การพัฒนาชนบทของไทยเท่าที่เป็นมาแล้ว จำต้องประสบกับความล้มเหลวอย่างสิ้นเชิง"
     ถ้าใครจะถามผมว่า "มีอะไรเป็นตัวบ่งชี้" ผมพร่ำพูดมานานแล้วว่า ตัวเองมีนิสัยสนใจสังเกตสิ่งที่มันสะท้อนออกมาจากความจริง ยิ่งกว่านั้นยังย้ำความสำคัญด้วยว่า "อย่าดูถูกของเล็ก แท้จริงแล้วของเล็กก็คือรากฐานของสิ่งใหญ่"
     ผมสังเกตมาเป็นเวลานับสิบๆ ปีแล้ว ว่าคนที่เข้ามาชุมนุมทำร้านค้าแผงลอยอยู่ตามข้างถนนนั้น แท้จริงแล้วส่วนใหญ่เป็นเกษตรกรที่เคยทำมาหากินอยู่ในชนบท แม้แต่ชุมชนแออัดก็เช่นกัน
     ยิ่งกว่านั้น เมื่อถึงช่วงสงกรานต์หรือถึงช่วงเทศกาลปีใหม่ สภาพแออัดภายในเมืองกรุงเทพฯ มันก็กลายไปเป็นชุมชนที่ไม่ค่อยจะมีคนอยู่
     ถ้าใช้โอกาสนำเอาข้อมูลในขณะนั้นมาพิจารณา นั่นคือของจริงของเมืองกรุงเทพฯ แม้แต่รถราบนถนนมันก็ไม่แออัด คงเหลือแต่ความว่างเปล่าเป็นจำนวนมาก
     นี่มันบ่งบอกอะไรแก่เรา ถ้าไม่ใช่ความล้มเหลวในการพัฒนาชนบท ยิ่งไปกว่านั้นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในครั้งนี้มันก็เป็นตัวบ่งชี้ถึงความล้มเหลวของชีวิตคนชนบทเช่นกัน ถ้าคนกรุงเทพฯ ไม่ตกอยู่ในความประมาท หากรู้จักละทิ้งความสบายได้บ้าง ทุกอย่างมันก็น่าจะดีขึ้นอย่างเป็นธรรมชาติ
     ผมได้เคยให้ข้อสังเกตมานานแล้วว่า หลักธรรมซึ่งใช้เป็นตัวบ่งชี้อย่างได้ผลนั้น หมายความว่า "เมื่อด้านหนึ่งสูงขึ้น อีกด้านหนึ่งก็ย่อมลดลง"
     ดังนั้นปัญหาที่เกิดขึ้นภายในเมืองกรุง เราก็ควรมุ่งไปแก้ไขที่ชนบท โดยลงไปคลุกคลีทำงานร่วมกับเขา เพื่อช่วยให้พลังใจเกิดขึ้นอย่างเป็นธรรมชาติ แม้แต่การแก้ไขเศรษฐกิจก็ใช้หลักนี้ได้ โดยไม่ต้องเสียเงินมากนัก
     เราควรเข้าใจถึงความจริงของชีวิตมนุษย์ทุกคน ว่าต่างก็มีพลังจิตที่จำเป็นต้องแสดงออก หากแสดงออกก็ย่อมมีความสุข ดังนั้นถ้าเราไม่ทำให้พลังจิตเกิดขึ้นบนวิถีทางที่มีเหตุผล พลังจิตก็ย่อมเกิดขึ้นบนทิศทางที่ทำลายได้เช่นกัน
     เฉพาะการคิดแก้ไขควรใช้หลักธรรม อันหมายถึงเมื่อด้านหนึ่งลำบาก หากเราอยู่ในด้านที่สบายกว่า เราก็ควรลดตัวลงมาอยู่กับสภาพแวดล้อมของชีวิตเพื่อนมนุษย์ที่ยังตกทุกข์ได้ยาก นี่คือหลักสำคัญของการแก้ไข
     ยิ่งไปกว่านั้นทุกสภาพของปัญหา ถ้าจะแก้ไขให้ได้ผลอย่างจริงจัง เราก็ควรใช้หลักธรรมเพื่อการปฏิบัติหาใช่เอาแต่พูด แม้กระทั่งอ้างว่า "ต้องจับเข่าคุยกัน" ถ้ารู้เท่าทันก็ย่อมรู้ว่า "การจับเข่าคุยกันนั้น ความจริงแล้วมันเป็นเพียงข้ออ้าง ที่มนุษย์ผู้หลงอยู่กับความสบายไม่อยากปฏิบัติ"
     มีหลักปฏิบัติอีกอย่างหนึ่ง "ถ้าเรามีจิตใจที่เป็นมนุษย์จริง ก็ควรรู้จักเห็นใจผู้อื่น" ความเห็นใจผู้อื่นนั้นขอได้โปรดเห็นอย่างแท้จริงด้วย หลังจากเห็นว่าทุกคนต่างก็มีจิตใจ เมื่อเห็นแล้วไม่ใช่เอาแต่พูด ต้องลงไปปฏิบัติร่วมกับเขา ซึ่งถือว่าเป็นเพื่อนกันกับเราให้ได้
     เรื่องนี้ผมทำมานานแล้ว และไม่จำเป็นจะต้องไปบอกใครเพื่อเอาหน้า หากทำแล้วได้บุญกุศลก็ย่อมมีความสุขเป็นธรรมดา
     หากถามนิสิตในมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ ว่ายามปกตินั้นอธิการบดีสละห้องแอร์ฯ แต่ลงไปทำงานร่วมทุกข์ร่วมสุขอยู่กับชาวบ้านในชนบทแทบทุกแห่งหน ที่ชีวิตเพื่อนมนุษย์ยังตกทุกข์ได้ยาก เมื่อจิตวิญญาณของเขารู้สึกอบอุ่น ทุกสิ่งทุกอย่างย่อมไม่ไปไหนเสีย
     การที่ผมพูดว่า "ไม่ไปไหนเสีย" หาใช่ว่าตัวผมเองต้องการรางวี่รางวัลจากใครก็ตามภายในสังคมไทย แต่ผมนำมาพูดก็เพื่อให้ทุกคนเห็นได้ว่า การกระทำที่ผมนำปฏิบัตินั้นมันเกิดจากรากฐานจิตใจตนเองที่มีความมั่นคงอยู่เสมอ
     ผมเชื่อว่าการยกพวกทำร้ายกันนั้น เราคงไม่จำเป็นที่จะต้องไปบอกใครต่อใคร ว่าเราทำอย่างนี้ที่ตรงนี้ไม่ว่าอะไรต่อมิอะไร ขอให้ทำด้วยความบริสุทธิ์ใจ แม้จะไม่จำเป็นต้องไปบอกใครก็ตาม แต่ทุกคนย่อมรู้ได้เองเช่นนี้เป็นต้น
     ผมอยากจะถามว่าเหตุการณ์ที่มันเกิดขึ้นครั้งนี้ ทุกคนได้จิตสำนึกเช่นนั้นหรือเปล่า ถ้ายังไม่ได้แม้ไม่มีเหตุการณ์เกิดขึ้นเราก็ควรทำ หากทำด้วยความรักความจริงใจแล้ว ทุกอย่างที่นำปฏิบัติย่อมมีความมั่นคงอยู่เสมอ
     ดังนั้นไม่ว่าจะมีปัญหาเกิดขึ้นหรือไม่ก็ตาม ผมเองก็ยังทำมาโดยตลอด เพราะสำนึกอยู่เสมอว่า "เราควรทำ หากทำแล้วบังเกิดความสุข พฤติกรรมที่มันสะท้อนออกมาปรากฏ ก็เป็นเครื่องยืนยันความจริงได้อย่างดีที่สุด"
     ผมถึงได้พูดว่า "คนที่ยกมือไหว้อยู่ด้านหน้านั้น อาจเป็นของจริงหรือไม่ใช่ของจริงก็ได้ แต่คนที่ยกมือไหว้อยู่ด้านหลังนั่นซิคือของจริง" ซึ่งเราควรเก็บเอาไว้เป็นเครื่องเตือนสติภายในจิตใจเราเองให้มั่นคงอยู่ได้    
     ดังนั้น ยิ่งทำนุบำรุงสิ่งมีชีวิตชีวาที่ปรากฏอยู่เบื้องหน้า ย่อมเป็นบุญกุศลที่ส่งสนองให้ตัวเรา บังเกิดความสุขสมปรารถนาได้ตลอดไป
                                                   ด้วยความเคารพอย่างสูง
                                                            ระพี สาคริก
ตอบ อาจารย์ระพี
     นายกฯ อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ สมควรอย่างยิ่งที่จะต้องรับฟังคำแนะนำของอาจารย์ระพี เพื่อนำไปแก้ปัญหาที่เกิดอยู่ในขณะนี้

                    เตือนพันธมิตรฯ
เรียน คุณสามวา สองศอกที่เคารพ
     อะไรจะเกิดมันก็ต้องเกิด จริงๆ ใครจะห้ามได้เมื่อฟ้าลิขิตแล้ว แต่ถึงอย่างไรเราก็ควรพยายามที่จะไม่ให้มันเกิด โดยเฉพาะชีวิตผู้บริสุทธิ์ไม่ว่าจะฟากไหน ฝั่งไหน หรือสีไหน บทเรียนที่ผ่านมาสะท้อนความเจ็บปวดทุกๆ ครั้งที่เห็นคนไทยฆ่ากันเอง โดยกลุ่มคนที่เรียกตัวเองว่า "นักการเมือง" นักการปกครองทั้งหลาย ซึ่งล้วนอยู่เบื้องหลังความสูญเสียทุกครั้งที่ผ่านมา

     ทำไมน่ะหรือ ก็ "ทรัพย์สมบัติและอำนาจ" ไง ที่คนชั่วและโลภต่างแสวงหาโดยแก่งแย่งช่วงชิงทุกวิถีทางเพื่อให้ได้สิ่งที่ตนเองและพวกพ้องต้องการ จนถึงเวลานี้ผมยังไม่เคยลืมเหตุการณ์ 14 ต.ค.16 เพราะเพื่อนพ้องเสียชีวิตไปหลายคน บาดเจ็บก็เยอะ และวงเวียนแห่งกรรมหรืออะไรก็แล้วแต่ สุดแต่จะคิดจะเรียกขานกัน ก็เกิดขึ้นซ้ำแล้วซ้ำเล่า โดยไม่มีผู้ที่คิดจะแก้ไขหรือเปลี่ยนแปลงวิถีนี้ให้ดีขึ้น "ปลาใหญ่กินปลาเล็ก" "คนโง่เป็นเหยื่อคนฉลาด" ประชาชนก็คือเหยื่อตกปลาใหญ่ของนักการเมืองชั่วซึ่งมีกว่า 90% ในสภาไทยอย่างรองประธานสภา ซึ่งไปขึ้นเวทีเสื้อแดงประกาศต้องขับไล่อำมาตย์ ตนเองเป็น "ไพร่" แต่ความเป็นจริงก็ยังรับเงินเดือนในฐานะอำมาตย์อยู่ (ไม่ยอมลาออก) นี่แหละ "ไพร่สถุลตัวจริง"

     ส่วน "มูเซอแดง" นายใหญ่ คงไม่มีโอกาสกลับมาอย่างเป็นๆ หรอก เพราะแผนที่วางไว้ผิดพลาด (10 เม.ย.53) หวังใช้ศพประชาชนฟ้องชาวโลก กรรมตามทันเมื่อมีคลิปต่างประเทศมากมายฟ้องประจาน คิดว่าตอนนี้คงนอนกระอักเลือดอยู่

     ขอพูดถึงทหารแตงโมซึ่งคิดว่าคนไทยโง่ทั้งประเทศ! แต่ถ้าใครอยากรู้ว่าแตงโมตัวพ่ออนาคตอยากเป็นอะไร? จับไอ้เศษแดงได้เมื่อไหร่ แล้วลองให้มันสารภาพ (แบบลดครึ่งราคา) แล้ว มันจะบอกเอง เริ่มตั้งแต่เล่นลิเกออกมากูกระทืบนั่นแหละ ส่วนสารพัดซ้ายที่คลั่งอุดมการณ์จนเลอะเทอะ ทำแม้กระทั่งนำแรงงานพม่าจากภาคเหนือ (นายตู้เย็นกำกับ) แรงงานเขมรจากอีสาน (111 กำกับ) เข้ามาที่ราชประสงค์ เพื่ออำนาจด้วยการทำร้ายประเทศตัวเอง

     อีกแนวร่วมก็ตำรวจมะเขือเทศคิดว่ามีกว่า 90% เพราะมูเซอแดงวางรากฐานรัฐตำรวจไว้จนแข็งแกร่งยากที่จะต้านทาน ก็ขนาดนายกฯ ยังตั้ง ผบ.ตร.ไม่ได้มาจนทุกวันนี้ ปทีปก็แก่เกินจะสู้รบก็เลยเกียร์ว่าง หรืออาจกลัวถูกเช็กบิลย้อนหลัง

     หลายวันก่อนได้ดูละครเรื่อง "สุเมธ เอสซีปาร์ค" ดารานำอริสมันต์ก็ได้ใจเสื้อแดงไปจนจุก สรุปตอนนี้ก็ได้แต่ห่วงพี่น้อง พธม.เพราะถ้ารวมตัวเมื่อไหร่ก็จะเข้าทางพวก "แตงโม+มะเขือเทศ" รวมถึงที่ต้องระวังที่สุดคือ "ไอ้เศษแดง" เพราะมันถล่ม พธม.แน่เชื่อเถอะ

     ไม่ได้ให้กลัวนะแต่อยากบอกแกนนำ พธม.ว่า อย่าแค่คิดนำมวลชนออกมาอย่างเดียว ต้องแก้เกม "ไอ้เศษแดง" กับพวก "แตงโม มะเขือเทศ" ไว้ด้วย หากจะระดมมวลชนไม่ควรต่ำกว่า 3 หมื่นคน และให้ไปรวมกับกลุ่มมวลชน "เสื้อหลากสี" รับรองมันคงคิดหนัก  

     อีกหนึ่งที่ต้องระวังก็คือไอ้ห้อย "จอมเสี้ยม" แกล้งไปอเมริกาเพื่อตัดประเด็นไม่รู้จะส่งมือที่ 4 ที่ 5 มาแอบบึ้มให้สมฉายาหรือไม่? ก็ขอให้ระวังกันให้มากๆ หน่อย เพราะที่ผ่านมาก็เจ็บปวดเกินรับอยู่แล้วชาว พธม.เอ๋ย เรามีน้องโบว์ 1 และโบว์ 2 รวมถึงสารวัตรจ๊าบเป็นแรงหนุนในหัวใจเรา ตอนนี้คงไม่ต้องถามแล้วว่าสู้มั้ย เพราะเราจะไม่ถอยจะไม่ท้อ แล้วพบกันเมื่อชาติต้องการ
     ท้ายนี้ขอให้ อ.เปลว คุณสามวาฯ และผู้รักชาติทั้งหลายทั้งปวง จงแคล้วคลาดจากคมกระสุน คมหอก คมดาบ รวมทั้งระเบิดทั้งหลายแหล่ด้วยเทอญ สาธุ
                                                      จากผู้เฒ่าในเงามืด
ตอบ คุณผู้เฒ่าฯ
     แกนนำพันธมิตรฯ ที่ส่วนหนึ่งได้กลายเป็นกรรมการบริหารพรรคการเมืองใหม่ไปแล้ว จะทำอะไรต้องคิดให้รอบคอบ
                                                       สามวา สองศอก


หัวข้อ: Re: [2513]"ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: เหยง 16 ที่ 11 พฤษภาคม 2553, 21:04:10
ผมก็ไม่เห็นด้วยครับ กับการที่ข้าราชการกรมสอบสวนคดีพิเศษ DSI ยืนรอต้อนรับ "เทพเทือก" นั่งรถหุ้มเกราะ Land Rover ไปมอบตัวกรณีออกคำสั่งสลายม๊อบเมื่อวันที่ 10 เมษายน 2553 เพราะใครๆก็ไม่มั่นใจว่าจะเกิดความยุติธรรมขึ้นได้

วันที่ 11 พฤษภาคม พ.ศ. 2553 เวลา 15:27:16 น.  มติชนออนไลน์


"เฉลิม"เป็นงงข้าราชการดีเอสไอ ตั้งแถวรอต้อนรับ"สุเทพ"เตือนอธิบดีระวังเจอคุก


ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง ส.ส.สัดส่วน ประธานส.ส.พรรคเพื่อไทย กล่าวถึงกรณีที่ นายสุเทพ  เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรี ฝ่ายความมั่นคงเดินทางไปยังกรมสอบสวนคดีพิเศษ(ดีเอสไอ) เพื่อรับทราบข้อกล่าวหาในคดีสลายการชุมนุมเมื่อวันที่ 10 เมษายน ว่า ตนประหลาดใจที่ข้าราชการของดีเอสไอ โดยเฉพาะอธิบดีดีเอสไอ ที่มาเข้าแถวรอต้อนรับ นายสุเทพ ไม่ทราบว่านายสุเทพ ไปดีเอสไอในฐานะอะไร ระหว่างรองนายกรัฐมนตรีฝ่ายความมั่นคง ผู้อำนวยการศอฉ. หรือในฐานะผู้ต้องหา ซึ่งหากไปในฐานะผู้ต้องการอธิบดีดีเอสไอและข้าราชการจะต้องตั้งแถวเพื่อต้อนรับผู้ต้องหาทุกคนเลยหรือไม่ อย่างไรก็ตามขอเตือนไปยังอธิบดีดีเอสไอให้ระวังดี ที่ไปนั่งแถลงสำนวน เพราะสำนวนการสอบสวนนั้นถือเป็นความลับของทางราชการ ไม่สามารถนำมาเปิดเผยได้และสำนวนที่ทำนั้นดีเอสไอไม่ได้เป็นคนทำสำนวนแต่เป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจ ดังนั้นหากมีการเปลี่ยนรัฐบาลระวังว่าอธิบดีดีเอสไอจะต้องเข้าคุกเป็นเบอร์หนึ่ง

http://www.matichon.co.th/news_detail.php?newsid=1273566619&grpid=01&catid=


หัวข้อ: Re: [2513]"ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: ตุ๋ย 22 ที่ 11 พฤษภาคม 2553, 21:54:45
ชีวิตนี้มีอารายที่มีค่าในชีวิตบ้างนะสำหรับคนขี้โกง


หัวข้อ: Re: [2513]"ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: swsm ที่ 11 พฤษภาคม 2553, 22:26:50
อ้างถึง
ข้อความของ ตุ๋ย 22 เมื่อ 11 พฤษภาคม 2553, 21:54:45
ชีวิตนี้มีอารายที่มีค่าในชีวิตบ้างนะสำหรับคนขี้โกง

.. เงิน อำนาจ ..


หัวข้อ: Re: [2513]"ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: พธู ๒๕๒๔ ที่ 12 พฤษภาคม 2553, 03:10:15
(http://www.cmadong.com/imageupload/2010_Cmadong-Image/data/image/l29uoy-24cb32.jpg)


หัวข้อ: Re: [2513]"ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: อ้อย 14 ที่ 12 พฤษภาคม 2553, 09:33:00
emo29:P:อย่าว่างั้นว่างี้เลย  เอารูปน้องปอย ดูแก้เซ็ง ไปก่อนนะ พี่น้อง... emo26:D



(http://www.cmadong.com/imageupload/2010_Cmadong-Image/data/image/l2accg-be2f0e.jpg)


หัวข้อ: Re: [2513]"ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: opas ที่ 12 พฤษภาคม 2553, 10:15:12
 emo9:huhu: emo9:huhu: emo9:huhu:


หัวข้อ: Re: [2513]"ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: เหยง 16 ที่ 12 พฤษภาคม 2553, 12:38:13
พี่อ้อยครับ

ปอย-ตรีชฎา เป็นอดีตมิสทิฟฟานี่หลายปีแล้ว ขอเป็นภาพน้องแจ๊ส มิสทิฟฟานี่ คนปัจจุบันครับ


หัวข้อ: Re: [2513]"ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: เหยง 16 ที่ 12 พฤษภาคม 2553, 12:40:28
จะปล่อยไพร่แดงกลับบ้านได้อย่างไร เพราะ ทักษิณ ยังไม่ได้อะไรเลย
12 พฤษภาคม 2553 00:28 น.

 
       อาการ ยึกๆยักๆ ชักเข้าชักออก ของบรรดาแกนนำคนไพร่แดงในขณะนี้ ต่างคนต่างพูดไปคนละทิศละทางในเรื่อง การสลายการชุมนุม ของมวลชนคนไพร่แดง ที่สี่แยกราชประสงค์ จนสร้างความสับสนไปหมดว่า พวกเขาจะเอาอย่างไรกันแน่ ด้านหนึ่งเป็นเพราะ นิสัยสัปปลับ ตลบตะแลง วันนี้พูดอย่าง พรุ่งนี้เปลี่ยนไปอีกอย่าง โกหกหน้าตาเฉย เหมือนนายใหญ่ของพวกเขาแล้ว
       
       แต่ที่ไม่อาจมองข้ามไปได้เลยคือ แท้จริงแล้ว พวกเขาไม่ได้มีเจตนาที่จะสลายการชุมนุม ปล่อยให้พวกไพร่แดงที่ถูกจับเป็นตัวประกันกลางสี่แยกราชประสงค์ ให้กลับบ้านไปทำไร่ไถนาแต่อย่างใด คำพูดที่เปลี่ยนไปทุกวัน วันละหลายเวลาว่า จะยุติการชุมนุม หากรัฐบาลทำตามเงื่อนไข จะเข้ามอบตัววันนั้นวันนี้ เป็นเพียงการตบตา สร้างภาพหลอกสังคมว่า พร้อมจะเข้าร่วมแผนการปรองดอง ที่นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ยื่นเป็นทางลงให้เท่านั้น
       
       ข่าวความแตกแยกของแกนนำ ระหว่างพวกฮาร์ดคอร์ กับสามเกลอหัวขวด เป็นเพียงเกมลวงเท่านั้น ก่อนหน้าการชุมนุมวันที่ 12 มีนาคม นายจตุพร พรหมพันธุ์ ก็เคยเปิดศึกกับเสธ แดง กับพลเอกพัลลภ ปิ่นมณี อย่างเดือดมาแล้ว เพื่อสร้างภาพว่าไม่เกี่ยวกัน แต่แท้จริงแล้ว เป็นพวกเดียวกัน เพียงแต่เป็นไพ่ต่างใบในมือของ นช. ทักษิณ ชินวัตรเท่านั้น
       
       จะเลิกการชุมนุมที่สี่แยกราชประสงค์ ตามที่รับปากกับสังคมไว้ได้อย่างไร ในเมื่อยังไม่บรรลุเป้าหมายอะไรเลยสักอย่าง
       
       ไม่ใช่เป้าหมายของแกนนำ หรือของพวกไพร่แดงที่มาชุมนุม แต่เป็นเป้าหมายของ นช. ทักษิณ ชินวัตร ที่ต้องการเปลี่ยนแปลงอำนาจทางการเมืองทันที ไม่ใช่ให้รอถึงวันที่ 14 พฤศจิกายน ที่นายอภิสิทธิ์ กำหนดเป็นวันเลือกตั้ง ตามแผนปรองดองแห่งชาติของเขา

       
       อย่าลืมว่า การชุมนุมของคนไพร่แดง ที่เริ่มต้นที่สี่แยกผ่านฟ้า ถนนราชดำเนิน และมาปักหลักที่สี่แยกราชประสงค์ หลังจากแผนการใช้ความรุนแรงเพื่อล้มรัฐบาลเมื่อคืนวันที่ 10 เมษายน ไม่เป็นผล นั้น ไม่ใช่การชุมนุมเพื่อเรียกร้องประชาธิปไตย ไม่ใช่การชุมนุมของประชาชนที่ถูกกดขี่ ได้รับความไม่เป็นธรรม ได้รับการปฏิบัติต่ออย่างสองมาตรฐาน แต่เป็นการชุมนุม เพื่อให้นช.ทักษิณ กลับมามีอำนาจอีกครั้ง ภายใต้แนวทาง โค่นอำมาตย์ พลิกฟ้า คว่ำแผ่นดิน สถาปนารัฐไทยใหม่
       
       นับจากการชุมนุมที่เริ่มต้นขึ้นเมื่อวันที่ 12 มีนาคม มาจนถึงวันนี้ ยุทธวิธีหลายรูปแบบ ถูกงัดมาใช้ แบบแยกกันเดิน รวมกันตี ทั้งบนดิน และใต้ดิน ทั้งการชุมนุม และการก่อวินาศกรรม ปาระเบิดใส่สถานที่ต่างๆ มี การเรียกร้องให้นายอภิสิทธิ์ยุบสภาทันที เมื่อไม่เป็นผลก็ใช้ความรุนแรง โดยการใช้กองกำลังผู้ก่อการร้ายแฝงตัวเข้าไปในที่ชุมนุม ยิงใส่ทหาร และไพร่แดงด้วยกัน เมื่อคืนวันที่ 10 เมษายน ด้วยความเชื่อว่า เมื่อมีคนตาย มีคนเจ็บ รัฐบาลจะอยู่ไม่ได้ ต้องลาออก พลเอกชวลิต ยงใจยุทธ ออกมาจาบจ้วงสถาบัน ดึงสถาบันให้ลงมาเกี่ยวข้องกับการเมือง โดยขู่ว่า หากพระองค์ไม่มีพระมหากรุณาธิคุณ จะมีการเข่นฆ่ากันกลางเมือง หวังจะให้พฤษภาโมเดล เกิดขึ้นอีกครั้งหนึ่ง เพื่อปูทางไปสู่การตั้งรัฐบาลแห่งชาติ
       
       พร้อมกันนั้น ก็เกลี้ยกล่อม กดดัน ให้พรรคร่วมรัฐบาลถอนตัวออกจากการร่วมรัฐบาล โดยเฉพาะพรรคชาติไทยพัฒนา เมื่อไม่ยอม ก็มีการปาระเบิดใส่บ้านนายบรรหาร ศิลปะอาชา ถึงสองรอบ
       
       ทำทุกอย่างแล้ว ก็ไม่เป็นผล ไม่สามารถเปลี่ยนอำนาจทางการเมืองได้ นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ยังเป็นนายกรัฐมนตรีต่อไป พรรคร่วมรัฐบาลยังจับมือกันเหนียวแน่น ตรงกันข้ามกับ การชุมนุมของไพร่แดง ที่จับเศรษฐกิจไทยเป็นตัวประกันที่สี่แยกราชประสงค์ ที่อ่อนล้า ขาดความชอบธรรม เป็นที่เกลียดชังของประชาชนมากขึ้นทุกวัน โดยเฉพาะอย่างยิ่ง หลังการบุกตรวจค้นโรงพยาบาลจุฬา
       
       การเสนอแผนปรองดองแห่งชาติของนายอภิสิทธิ์ เวชาชีวะ ที่ยอมยุบสภาก่อนกำหนดที่วางไว้ตอนแรก โดยกำหนดให้มีการเลือกตั้งวันที่ 14 พฤศจิกายนนั้น นับเป็นการประนีประนอม เพื่อหลีกเลี่ยงการเสียเลือดเนื้อ ซึ่งอาจลุกลามกลายเป็นสงครามกลางเมือง ซึ่งนอกจากจะทำให้ตัวเขาอยู่ไม่ได้แล้ว ยังจะถูกใช้เป็นเงื่อนไขในการเข้ามากุมอำนาจของ นช. ทักษิณด้วย
       
       แต่เงื่อนไขการเลือกตั้งวันที่ 14 พฤศจิกายน แลกกับการยุติการชุมนุม ก็ถูกปฏิเสธจากแกนนำไพร่แดง พวกเขาอาจจะกลัวว่า จะโดนดำเนินคดี หลายคนอาจจะถูกเก็บ เพราะบาปกรรมที่ทำไว้กับทหาร แต่เหตุผลสำคัญคือ นช. ทักษิณ ไม่ให้เลิก เพราะยังไม่ได้สิ่งที่ต้องการเลย คือ การเปลี่ยนอำนาจทางการเมืองในทันที นายอภิสิทธิ์ ต้องลาออกไป เพื่อให้เกมแห่งอำนาจขยับ เขาจะได้มีโอกาสสอดแทรก เดินหมากของตัวเองได้
       
       ก่อนหน้าจะเกิดการสังหารทหาร และไพร่แดง เพื่อให้เป็นชนวนในการล้มรัฐบาล ในวันที่ 10 เมษายน นช. ทักษิณ ไม่โฟนอิน วิดิโอลิงค์ เข้ามาในที่ชุมนุมเลย แม้กระทั่ง ทวิตเตอร์เข้ามา เพราะต้องการสร้างภาพว่าตัวเอง ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการใช้ความรุนแรง แต่เมื่อการชุมนุมที่สีแยกราชประสงค์ แผ่วลงเรื่อยๆ พร้อมกับ กระแสข่าว การเจรจาในทางลับระหว่างแกนนำผู้ชุมนุม กับตัวแทนรัฐบาล และบุคคลที่อาสาเป็นตัวกลาง เขาก็เริ่มโฟนอิน เริ่มทวิตเตอร์เข้ามา เป็นการส่งสัญญาณว่า เขายังอยู่ และยังเป็นผู้กำหนดเกมว่า จะให้แกนนำไพร่แดงเดินไปทางไหน
       
       ถึงนาทีนี้ เป็นที่ชัดเจนแล้วว่า ข้อเรียกร้องของ นช. ทักษิณ คืออะไร ทั้งจากการบอกเล่าของ นายอภิสิทธิ์ที่บอกกับตัวแทนพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย และจากการให้ข่าวของ พ.ต.ท. กุลธน ประจวบเหมาะ เบื้องต้น นช. ทักษิณ อยากได้เงินคืน นช. ทักษิณ ไม่ยอมติดคุก แต่เบื้องลึก เขาคงต้องการมากกว่านี้
       
       นช. ทักษิณ ไม่ได้อะไรสักอย่างเดียวจาก แผนปรองดองแห่งชาติ ของนายอภิสิทธิ์ และการกำหนดวันเลือกตั้งวันที่ 14 พฤศจิกายน ที่บอกว่า เลือกตั้งเมื่อไร พรรคเพื่อไทย ชนะถล่มทลายเมื่อนั้น กว่าจะถึงวันที่ 14 พฤศจิกายน พรรคเพื่อไทย จะเหลือ สส อยู่กี่คนก็ยังไม่รู้
       
       ดังนั้น แกนนำไพร่แดง จะปล่อยให้ไพร่แดง กลับบ้านไปทำไร่ไถนา ไม่ได้ พวกเขาจะต้องอยู่ต่อไป เพื่อเป็นตัวประกัน และเป็นเหยื่อ ที่จะล่อหรือกดดันให้รัฐบาลเข้ามาสลายการชุมนุม
       
       นช. ทักษิณ อยากเล่มเกม 10 เมษายนอีกครั้งหนึ่ง เพราะถ้าการชุมนุมที่สี่แยกราชประสงค์ยุติลง อย่างสงบ เขาจะไม่ได้อะไรเลย


 
 
 
จาก http://www.manager.co.th/asp-bin/mgrView.asp?NewsID=9530000065132
 


หัวข้อ: Re: [2513]"ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: mek ที่ 12 พฤษภาคม 2553, 12:51:19
อ้างถึง
ข้อความของ เหยง 16 เมื่อ 12 พฤษภาคม 2553, 12:38:13
พี่อ้อยครับ

ปอย-ตรีชฎา เป็นอดีตมิสทิฟฟานี่หลายปีแล้ว ขอเป็นภาพน้องแจ๊ส มิสทิฟฟานี่ คนปัจจุบันครับ

ปัจจุบันล่าสุดหมาด ๆ น่าจะเป็น น้องมิค คนนี้นะครับ ส่วนน้องแจ๊สเป็นปี 2009 เห็นสัมภาษณ์ในทีวีแล้วโหสวยสุด ๆ เสียดายเสียงแมนไปนิด
(http://men.mthai.com/uploads/manager/techmadd/miss_tiffany_2010_33.jpg)
อ้างอิงรูปภาพ : http://men.mthai.com/content/3527 (http://men.mthai.com/content/3527)


หัวข้อ: Re: [2513]"ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: เหยง 16 ที่ 12 พฤษภาคม 2553, 12:54:10
บทบรรณาธิการ นสพ แนวหน้า ออนไลน์ วันพุธที่ 12 พฤษภาคม 2553

บทบรรณาธิการ 
 
สงครามที่ไม่ได้ประกาศ (บทบรรณาธิการ) 
 
 
 
 การชุมนุมของประชาชนคนเสื้อแดงในนามของแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ หรือ นปช.ที่สี่แยกราชประสงค์ ซึ่งเป็นย่านธุรกิจสำคัญใจกลางนครหลวงกรุงเทพมหานคร ผ่านมาแล้วเป็นระยะเวลามากกว่า 6 สัปดาห์แล้วซึ่งได้สร้างความเสียหายต่อระบบเศรษฐกิจของประเทศเป็นอย่างมาก

 นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะนายกรัฐมนตรี ได้เสนอแผนโรดแมปรวม 5 ข้อเพื่อความปรองดองของคนในชาติให้คนเสื้อแดงหรือกลุ่ม นปช.ซึ่งส่วนใหญ่เป็นคนที่มาจากภาคอีสานพิจารณาตั้งแต่วันที่ 3 พฤษภาคมที่ผ่านมา เดิมมีข่าวว่าคนเสื้อแดงแสดงท่าทีว่าจะยินยอมสลายการชุมนุมที่สี่แยกราชประสงค์โดยดีและไม่มีข้อต่อรองใดๆ

 แต่ล่าสุดเมื่อวันที่10พฤษภาคมที่ผ่านมามีข่าวออกมาว่าพ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตรอดีตนายกรัฐมนตรีและพล.ต.ขัตติยะ สวัสดิผล นายทหารจากกองทัพบกผู้ถูกสั่งพักราชการได้ออกมาต่อต้านไม่ยอมให้คนเสื้อแดงสลายการชุมนุมโดยบุคคลทั้งคู่มีเป้าหมายต้องการให้เกิดการนองเลือดถ้าหากฝ่ายรัฐบาลสั่งเจ้าหน้าที่ทหารและตำรวจสลายการชุมนุม

 ซึ่งจะนำไปสู่การสงครามกลางเมืองในประเทศไทยระหว่างประชาชนที่ต่อต้านอดีตนายกรัฐมนตรีผู้หลบหนีคดีอาญากับประชาชนที่เป็นพวกที่จงรักภักดีต่ออดีตนายกรัฐมนตรีซึ่งส่วนใหญ่เป็นคนภาคอีสานและคนในพื้นที่ 8 จังหวัดภาคเหนือตอนบน

 จากข้อเท็จจริงในขณะนี้ปรากฎว่าพวกคนเสื้อแดงมีการจัดตั้ง ร.ร.การเมืองของนปช. อยู่ทั่วประเทศมากกว่า 400 แห่ง ร.ร.เหล่านี้ทราบกันดีว่าเป็นแหล่งล้างสมองประชาชนในภาคเหนือและภาคอีสานที่มีการเคลื่อนไหวเชื่อมโยงกับสถานีวิทยุโทรทัศน์ผ่านดาวเทียมพีแชนแนลและสถานีวิทยุชุมชน

 ถ้าหากมีประมวลเหตุการณ์ชุมนุมของ นปช.ที่ผ่านมาตั้งแต่วันที่ 12 มีนาคมเป็นต้นมามีเหตุการณ์ที่เกิดการรุนแรงเกิดขึ้นอย่างต่อเนื่องนับเป็นสิบๆครั้งยังผลให้มีทหาร ตำรวจและประชาชนได้รับบาดเจ็บล้มตายเป็นจำนวนมาก

 ลักษณะการชุมนุมของ นปช.มีสถานการณ์ที่ต้องการปลุกระดมมวลชนให้คนไทยออกมาฆ่าฟันกันมากกว่าเป้าหมายอื่น รูปแบบของสถานการณ์ที่กำลังเกิดขึ้นอยู่ขณะนี้อยู่ในลักษณะของสงครามที่ไม่ได้มีการประกาศระหว่างประชาชนทั้ง 2 ฝ่าย

 สำหรับรัฐบาลนั้นถ้าหากฝ่าย นปช.ยังคงดื้อดึงและดื้อแพร่งไม่ยินยอมสลายการชุมนุมที่สี่แยกราชประสงค์และบริเวณใกล้เคียงแล้ว รัฐบาลก็ต้องตัดสินใจสั่งเจ้าหน้าที่ทารและตำรวจสลายการชุมนุมซึ่งถึงแม้จะมีประชาชนต้องได้รับบาดเจ็บล้มตายบ้าง ก็จะต้องทำเพื่อให้บ้านเมืองกลับคืนสู่สภาวะที่ปกติสุขต่อไป
 
วันที่ 12/5/2010
 
http://www.naewna.com/news.asp?ID=210709


หัวข้อ: Re: [2513]"ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: เหยง 16 ที่ 12 พฤษภาคม 2553, 12:58:46
บทบรรณาธิการ นสพ ไทยโพสต์ ออนไลน์

ถึงเวลายกเลิกกฎหมายติดหนวด
บทบรรณาธิการ 12 พฤษภาคม 2553 - 00:00

     เป็นเวลากว่า 1 เดือนแล้วที่รัฐบาลของนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรีได้ประกาศใช้พระราชกำหนดการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ.2548 และก่อนหน้านั้นอีกเกือบ 1 เดือนที่ได้ประกาศใช้พระราชบัญญัติการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร พ.ศ.2551
     แต่ปัจจุบันความ "ศักดิ์สิทธิ์" ของกฎหมายทั้ง 2 ฉบับ โดยเฉพาะ พ.ร.ก.ฉุกเฉินเหลืออยู่หรือไม่ คำตอบที่ชัดแจ้งอย่างยิ่ง คือ แทบไม่มีเหลือหรอแม้ซักกะพีกเดียว
     ความล้มเหลวของการบังคับใช้กฎหมายดังกล่าว ลามไปถึงข้อสงสัยทั้งหลายของนักวิชาการและผู้คนในสังคมทั่วไปที่ตั้งคำถามมานานนม ตั้งแต่กลุ่มผู้ชุมนุมได้ยึดพื้นที่แยกผ่านฟ้าฯ ลามมาถึงสี่แยกราชประสงค์ในปัจจุบันว่า ตอนนี้ประเทศไทยกลายเป็น "รัฐล้มเหลว" แล้วหรือไม่
     คำตอบที่ไม่ใช่ก็ใกล้เคียงก็คือ ใกล้เป็นรัฐที่ล้มเหลวอยู่รอมร่อ จึงไม่แปลกที่ "คนเสื้อแดง" สามารถแสดงความโอหัง ยึดตัวเองเป็นใหญ่ในแผ่นดินได้ โดยไม่ต้องแคร์หรือสนใจใครทั้งสิ้น
ให้ความเคารพและยึดมั่นถือมั่นเฉพาะคำสั่งจาก "นายเหนือ" ที่จะสั่งและบัญชาการจากต่างประ
เทศเท่านั้น
     ก็ขนาดเจ้าหน้าที่ตำรวจเจอะเจอผู้ต้องหาตามหมายจับที่ถูกออกหมายไม่รู้เท่าไหร่ต่อเท่าใด ซึ่งๆ หน้ายังไม่สามารถจับหรือควบคุมตัวได้ และบางครั้งถึงขั้นพินอบพิเทาเสียด้วยซ้ำไป แล้วอย่างนี้จะให้เรียกว่าประเทศไทยเป็น "นิติรัฐ" ได้อย่างไรเล่า
     การไม่สามารถควบคุมตัวผู้ต้องหาได้  โดยเฉพาะแกนนำคนเสื้อแดงอาจพอเข้าใจบรรดา "ตำรวจ-ทหารผักผลไม้" เหล่านี้ได้ เพราะเขาเหล่านั้นอยู่ในแวดล้อมของผู้ชุมนุมที่ถูกใช้เป็น "โล่มนุษย์" ปกป้องไว้ แต่ก็มีบางส่วนมิใช่เหรอที่ไม่ได้อยู่ หรือใช้ชีวิต 24 ชั่วโมงในสถานที่ชุมนุม แต่ทำไมไม่สามารถจับตัวได้
     นี่ยังไม่นับกรณี พล.ต.ขัตติยะ สวัสดิผล ผู้ทรงคุณวุฒิกองทัพบก ซึ่งนายอภิสิทธิ์ประกาศอย่างชัดเจนถึงมูลฐานความผิดผ่านหน้าจอทีวีและสาธารณะหลายต่อหลายครั้ง แต่ เสธ.แดงก็ยังดูเหมือนเป็นปกติสุข ตั้งหน้าตั้งตาแสดงความกร่าง ความเหนืออำนาจรัฐ อย่างไม่ดูดำดูดีแม้แต่น้อย
     นอกเหนือจากการผรุสวาทด่ากราดผู้บังคับบัญชาตั้งแต่ พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา ผู้บัญชาการทหารบก นายกรัฐมนตรีเป็นอาจิณ แต่ก็ยังไม่เห็นมีใคร หรือการดำเนินการใดๆ เกิดขึ้นให้ระคายเคืองแม้แต่ผิวหนัง เสธ.แดงเลย
     คำพูดของชาวบ้านที่มีมานานแสนนาน เรียกได้ว่าอาจกลายเป็นอมตะวาจาไปแล้ว ก็คือ "กฎหมายมีไว้ใช้กับคนจนและชาวบ้านที่ไม่รู้อีโหน่อีเหน่" เท่านั้น ก็ยิ่งสะท้อนความเป็นจริงมากยิ่ง
ขึ้น และยิ่งทำให้คำว่า "2 มาตรฐาน" มีรูปธรรมชัดเจน แล้วก็คำ "2 มาตรฐาน" ก็เป็นข้อเรียกร้องที่บรรดาคนเสื้อแดงพยายามขจัดให้หมดไปอยู่มิใช่เหรอ
     แต่ทำไมบรรดาเหล่าท่านปฏิบัติกันอยู่โดยใช้มวลชนคนหมู่มากกดดัน ไม่ยอมรับกฎ กติกาของบ้านของเมือง ทำตัวมีอภิสิทธิ์เหนือกฎหมาย หรือถ้าหากเป็นสิ่งที่คนเสื้อแดงทำจะไม่เรียกว่า 2 มาตรฐาน แต่เรียกว่า ความชอบธรรมหรือ!
     มิพักต้องพูดถึงเรื่องความปรองดอง หรือจะเรียกว่าซูเอี๋ย หรือเกี้ยเซี้ยก็ตามที เพราะดูเหมือนว่าคนเสื้อแดงจะเล่น "ละครลิง" เอาเถิดเอาล่อไปวันๆ เพราะนับตั้งแต่นายอภิสิทธิ์ได้เสนอ "โรดแม็พ" 5 ข้อ มาตั้งแต่สัปดาห์ที่แล้ว แกนนำคนเสื้อแดงทั้งจริงทั้งหลอกก็ได้แต่เออออห่อหมกเห็นดีเห็นงาม แต่สุดท้ายก็ยื่นข้อเสนอซื้อเวลาเป็นรายวันทิ้งเช่นกัน
     วันแรกๆ ก็ไพล่ไปเล่นเรื่องสิทธิการประกาศวันที่ 14 พ.ย.เป็นวันเลือกตั้งเป็นของนายกฯ หรือ ต่อมาก็ต้องการให้ประกาศวันยุบสภาผู้แทนราษฎรอย่างแน่นอน ต่อมาก็เรียกร้องหาคนรับผิดชอบเหตุการณ์ 10 เมษายน 2553 ต่อมาก็ต้องการให้นายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกร้ฐมนตรี ต้องเข้ามอบตัวรับทราบข้อกล่าวหากับเจ้าหน้าที่ในฐานะผู้รับผิดชอบในเหตุการณ์ ต่อมาก็จะให้นายกรัฐมนตรีเข้ามอบตัวตาม ฯลฯ
     แล้วเมื่อไหร่จะสิ้นสุดข้อเรียกร้องของคนเสื้อแดงหรือ แต่ที่สำคัญทำไม "ผู้บริหารประเทศ" อย่างนายสุเทพก็ต้องเดินเกมตามข้อเรียกร้องของคนเหล่านี้ ซึ่งเจ้าตัวก็ประกาศครั้งแล้วครั้งเล่าว่าเป็น "ผู้ก่อการร้าย" หรือเพราะเป็นการหาบันไดทางลงให้คนเสื้อแดง ซึ่งหากสามารถปูพรมแดงกราบเท้าบรรดาแกนนำได้ ป่านนี้อาจมีใครบางคนทำแล้ว
     รัฐบาลและรัฐมนตรีในรัฐบาลนายอภิสิทธิ์มักพูดเสมอๆ ว่า ประเทศไทยไม่ใช่ของคนเสื้อแดงฝ่ายเดียว แต่เหตุการณ์ที่แล้วมากลับแสดงออกอย่างชัดแจ้งว่า ประเทศไทยอยู่ภายใต้อุ้งมือของคนเสื้อแดงอย่างปฏิเสธไม่พ้น เพราะจะทำอะไรต่อมิอะไรก็ต้องรอคนเสื้อแดงผงกหัวเห็นหรือเอาด้วยเท่านั้น
     ในขณะที่ศูนย์อำนวยการแก้ไขสถานการณ์ฉุกเฉิน หรือ ศอฉ. ยิ่งไม่ต้องพูดถึง ภาพสวยหรูดูดีมีราคา โดยเฉพาะการแถลงข่าวแต่ละทีของ พ.อ.สรรเสริญ แก้วกำเนิด โฆษก ศอฉ. แต่เมื่อถึงเวลาจริงกลับไม่มีอะไรงอกเงยออกมาเป็นดอกเป็นผลแม้แต่น้อย ผู้ชุมนุมนับวันไม่ได้ลดน้อยลง แต่บางครั้งกลับเพิ่มขึ้นเสียด้วยซ้ำ
     คำขู่หน้าจอรายวันของ ศอฉ.จึงเป็นเพียงละครบู๊แบบเล็กๆ อีกด้านหนึ่งของรัฐบาลที่ใช้เพื่อสร้างภาพการเอาจริงเอาจังต่อสาธารณะที่ไม่รู้เรื่องรู้ราว แต่กลับไม่มีอะไรจับต้องได้
     จึงไม่แปลกแต่อย่างใดว่า ทำไมจนถึงป่านนี้ที่การเรียกร้องจากบางส่วนบางฝ่ายต้องการให้ประกาศใช้ "กฎอัยการศึก" แต่รัฐบาลกลับเพิกเฉยไม่สนใจ ก็เพราะรัฐบาลก็สำนึกดีว่า ประกาศใช้แล้วก็ไม่มีความหมายอะไรเหมือนกับ พ.ร.ก.ฉุกเฉิน ที่ได้ประกาศใช้บังคับอยู่ในปัจจุบัน
     จะเรียกว่าเป็นกงเกวียนกำเกวียนอย่างไรก็ไม่ทราบได้ เพราะในยุคของนายสมัคร สุนทรเวช และนายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ เป็นนายกรัฐมนตรี ก็เคยประกาศใช้ พ.ร.ก.ฉุกเฉิน ดังกล่าว แต่ก็ไม่สามารถบังคับใช้กฎหมายได้เฉกเช่นเดียวกัน
     ก็ในเมื่อรัฐไม่สามารถบังคับใช้กฎหมายได้อย่างจริงๆ จังๆ คงถึงเวลาแล้วที่รัฐบาลต้องทบทวนการยกเลิกใช้ พ.ร.ก.ฉุกเฉินเสียที เพราะอย่างน้อยมันก็มีคุณูปการต่อสายตาชาวต่างประเทศที่ทำให้ใจชื้นขึ้นมาบ้าง และที่สำคัญยังตรงกับข้อเรียกร้องข้อหนึ่งของคนเสื้อแดงด้วยมิใช่หรือ
     เรียกว่ายิงปืนนัดเดียวได้นกสองตัวด้วยซ้ำไป เพราะหากยังดันทุรังประกาศใช้อยู่ แต่ไม่สามารถบังคับใช้ได้ ก็ยิ่งตอกย้ำความเป็นรัฐที่ล้มเหลวให้มากยิ่งขึ้น แล้วอย่างนั้นรัฐบาลโดยเฉพาะนายอภิสิทธิ์ จะหน้าด้าน หน้าทน อยู่บริหารประเทศภายใต้คำยืนยันว่า ประเทศไทยเป็นนิติรัฐอย่างไม่อายได้หรือ.

http://www.thaipost.net/news/120510/22086


หัวข้อ: Re: [2513]"ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: เหยง 16 ที่ 12 พฤษภาคม 2553, 13:07:20
คอลัมม์ "คนปลายซอย" ของคุึณเปลว สีเงิน วิเคราะห์ว่า ใคร?? ควรจะไปซะที !! ??

แดงไม่ไป "อภิสิทธิ์-อนุพงษ์" ใครควรไป?
เปลว สีเงิน 12 พฤษภาคม 2553 - 00:00

      ผมได้รับกล่องกระดาษที่จัดทำประณีตจาก "ชมรมคนรักวัง" กล่องหนึ่ง วังในที่นี้คือ "พระราชวังพญาไท" ภายใน "โรงพยาบาลพระมงกุฎฯ" ที่ไปเยี่ยมทหารบาดเจ็บกันมานั่นแหละ   หน้ากล่องมีข้อความว่า "ท่านเจ้าคุณนรฯ สอนอะไร?" เปิดดูก็พบ "พระผงเจ้าคุณนรรัตนฯ" พร้อมข้อความ "กตัญญูกตเวทีเป็นรากแก้วของคนดี" และกระดาษพิมพ์รูปท่านพร้อมธรรมวจนะ "ทำดี ดีกว่าขอพร ใครทำกรรมดี ผลของความดีก็คุ้มครองอยู่แล้ว สิ่งอื่นนั้นไม่ใช่เนื้อแท้ของพุทธศาสนา"...ธมฺมวิตกฺโก
      ผมห้อยเหรียญ "ท่านเจ้าคุณนรฯ" อยู่แล้ว เมื่อจู่ๆ ได้รับ "พระผงเจ้าคุณนรรัตนฯ" อีกตั้ง ๒ องค์ ก็ดีใจมาก พลิกดูเอกสารกำกับ ทราบว่า "ชมรมคนรักวัง" ได้นำมวลสารวัดเทพศิรินทราวาสที่ "สมเด็จพระญาณวโรดม" อดีตเจ้าอาวาสเก็บรวบรวมไว้กว่า ๕๐ ปีมาจัดพิมพ์ขึ้น
      มวลสารมีทั้งเกศา จีวร และผงของท่านเจ้าคุณนรฯ พร้อมด้วยเกศา จีวร ของอริยสงฆ์อีกหลายรูป เช่น "หลวงปู่อำพัน" เป็นต้น และพุทธาภิเษกตั้งแต่วันจันทร์ที่ ๒ พฤศจิกายน ๒๕๕๒ พอดีปีนี้ "พระราชวังพญาไท" อันเป็นพระราชฐานที่ประทับถาวรของ "พระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว" รัชกาลที่ ๖ ครบรอบ ๑๐๐ ปี
      ทาง "ชมรมคนรักวัง" ก็นำพระผงรูปเหมือนท่านเจ้าคุณนรฯ ออกเผยแพร่ เข้าใจว่าเจตนาเพื่อหาทุนสมทบ "มูลนิธิอนุรักษ์พระราชวังพญาไท" ที่กำลังคืนอดีตสู่ปัจจุบันด้วยการซ่อมแซมสู่ดังเดิม นอกจากเป็นการอนุรักษ์แล้ว ยังเพื่อการท่องเที่ยว และการศึกษาในรูปแบบพิพิธภัณฑ์การเรียนรู้ด้วย
      วันเสาร์ที่ ๑๕ พฤษภาคม ๒๕๕๓ นี้ จะมีการบำเพ็ญพระกุศล ณ พระที่นั่งพิมานจักรี พระราชวังพญาไท ในวาระครบ ๑๐๐ ปี แต่ผมเห็นว่าเป็นโอกาสดี เพราะปัจจุบันนี้ยากยิ่งที่จะได้ "พระผงรูปเหมือนท่านเจ้าคุณนรฯ" ไว้เป็นมงคลชีวิต เป็นเครื่องกระตุ้นเตือนจิตถึงพระพุทธคุณ พระธรรมคุณ และพระสังฆคุณ
      ไม่มีการแจ้งรายละเอียดเพื่อการนี้ แต่คาดว่าหลายท่านสนใจจึงนำมาบอก ลองสอบถามไปที่ "ชมรมคนรักวัง" ภายในโรงพยาบาลพระมงกุฎฯ นั่นแหละ หรือโทร.เบอร์ ๐-๒๓๕๔-๗๗๓๒ และเบอร์ ๐-๒๒๕๔-๗๙๘๗ สอบถามดู จะมอบให้ หรือสำหรับสมนาคุณท่านที่สมทบทุนซ่อมแซมพระราชวัง ก็จะได้ทราบกัน
      "ท่านเจ้าคุณนรฯ" คืออดีตผู้ถวายการรับใช้ใกล้ชิดเบื้องพระยุคลบาท "พระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว" รัชกาลที่ ๖ เป็นทั้งองคมนตรี และที่ปรึกษาราชการในส่วนพระองค์ หลังจากล้นเกล้าฯ รัชกาลที่ ๖ สวรรคตแล้ว ด้วยความจงรักภักดีสูงสุด ท่านเจ้าคุณนรฯ หยิบหญ้าแพรกมาเคี้ยว แล้วประกาศว่า
      "เมื่อสิ้นในหลวงแล้วจะไม่ง้อใคร กินหญ้าก็ไม่ตาย"
      จากนั้นท่านก็ไปบวชอยู่วัดเทพศิรินทราวาส คร่ำเคร่งปฏิบัติธรรมอยู่ ๔๕ พรรษา "อาจารย์ดวงใจ  ภรณวลัย" หมอดูไพ่ยิปซีที่ไม่มีใครเหมือน และไม่เหมือนใคร "๑ เดียวในประเทศไทย" เคยเล่าให้ฟังว่า  ตอนเด็กๆ แม่พาไปดักอยู่ข้างกุฏิ รอเวลาท่านออกจากกุฏิไปลงพระอุโบสถ คนเยอะแยะ รอกราบท่านอย่างเดียวเท่านั้น
      ท่านไม่ยุ่ง ไม่สุงสิง ไม่คละเคล้ากับหมู่ญาติโยมคนไหน วันๆ ปิดกุฏิบำเพ็ญสมณธรรม จะเปิดออกมาก็ตอนเดินไปลงโบสถ์ทำวัตรเช้า-เย็นเท่านั้น จนเป็นที่กล่าวขานในหมู่อริยสงฆ์ว่าท่านเป็น "พระอรหันต์ในเมืองกรุง" และมรณภาพเมื่อ ๘ ธ.ค.๑๔
      อาจารย์ดวงใจคุยอวดด้วยว่า "เป็นคนเดียวที่ท่านเจ้าคุณนรฯ กรอกน้ำมนต์ให้" จากนั้น พอโตขึ้นจะไปทำธุรกิจอาชีพอะไรก็ดูไม่ลงตัวซักอย่าง นอกจากนั่งพูด..พูด..พูด..อย่างเดียวทั้งวัน จนทุกวันนี้ งานคือ "การนั่งพูด" ทั้งวันเหมือนเดิม เพียงแต่จำกัดคน-จำกัดเวลาลงหน่อย เพราะจะ ๘๐ ปีแล้ว!  
      ก็พูดผ่านการ "เปิดไพ่" บอกลายแทงชีวิตนั่นแหละ!
      เอ้า..คุยแล้วก็ยาว เดี๋ยวจะไม่เหลือเนื้อที่ "คุยเรื่องเครียด" ประจำวัน ในที่สุดก็เป็นอย่างที่คนส่วนใหญ่คาดคือ แกนนำกบฏ "เบี้ยว" อีกตามเคย เปลี่ยนจาก "คนเลี้ยงควาย" ไปเป็น "เด็กเลี้ยงแกะ" แหม...ทำขึงขังเหมือนดาราใหญ่เข้าฉาก ประกาศเข้าสู่กระบวนการปรองดอง
      "สุเทพไปมอบตัววันไหน กลับบ้านวันนั้น"!
      สุเทพก็เชื่องและเชื่อง่ายดีเหลือเกิน อยากจะให้พวกเสื้อแดงเลิกชุมนุมกลับบ้านกันไปเสียที ขมีขมันไปรายงานตัวที่ DSI ตั้งแต่ผมยังไม่ตื่น แต่ลงท้ายพวกแกนนำกบฏแดงถลกตูดให้ ทำเฉไฉ อ้างอย่างโน้น-อย่างนี้ สรุปง่ายๆ ว่า...พวกข้าจะชุมนุม "ยึดราชประสงค์" อยู่ต่อโว้ย!
 "อย่าเอาใจวิญญูชนไปวัดใจโจร" มันเป็นอย่างนั้นจริงๆ แถลงการณ์เป็นตุ-เป็นตะ ไม่เพียงรับรู้เฉพาะในเมืองไทย คนทั้งโลกที่ติดตามสถานการณ์เขาก็รู้ว่า "กบฏทักษิณประกาศยอมปรองดอง เลิกชุมนุมแล้ว"
      แต่พอเช้าวันรุ่งขึ้น จากราชสีห์สะบัดแผงคอเย็นวาน กลายเป็นหมาขี้เรื้อนสะบัดหางไปซะงั้น!?
      ฝ่ายรัฐบาลเขาไม่เสียหรอกนะ เพราะเขาอดทน อดกลั้นอยู่ในถังเกลือ พยายามใช้การประนีประนอมแทนการปราบปรามด้วยกำลังจนถูกด่า และถูกชมขรมไปหมดแล้ว แต่ฝ่ายกบฏนั่นแหละมีแต่เสีย จนถึงขั้นบูด-เน่าเหม็น
      โจรตระบัดสัตย์นั่นไม่แปลก แต่การทำเช่นนี้ ทำให้สิ่งที่คลุมเครือเด่นชัดในความจริงขึ้นว่า ที่แท้ เจตนาชุมนุมนั้น ไม่ใช่เรียกร้องประชาธิปไตย เพราะรัฐบาลสนองตอบให้แล้ว ตัวเองกลับเตะทิ้ง
      มันก็ "หางโผล่" ในเชิงตรรกะซีว่า ชุมนุมสันติ-อหิงสา กับพวกโจรก่อการร้าย...ที่แท้...มันก็พวกเดียว-กลุ่มเดียวกัน!
 เจตนากบฏบ้าน-กบฏเมือง หวัง "ล้มสถาบัน-เปลี่ยนระบอบ" ด้วยกัน!!
      ถึงวันนี้ด้วยการกระทำตัวเอง ฉากหน้าที่ฉาบทาว่า ชุมนุมสันติ-อหิงสา มาเรียกร้องประชาธิปไตย นั้น มันหลุดลอกเห็นลายแท้และดั้งเดิมแล้ว มันเป็นความเสียหายที่จะนำมาซึ่ง "ผลร้าย" กับตัวเองโดยตรง ชาวบ้านที่มาชุมนุมด้วยบริสุทธิ์ใจ จากที่คลางแคลงใจ ตอนนี้เชื่อเลยว่า
 "ถูกหลอกมาเป็นเครื่องมือโจรล้มชาติ-ล้มสถาบันจริงๆ"!
      แรกๆ ชาวโลกรู้ฉาบฉวยด้วย "เท็จเป็นจริง" จากฝ่ายแดงที่ปั้นแต่งขึ้นบ้าง จากบริษัทสื่อในต่างประเทศที่ทักษิณจ้าง "ปั้นความจริงเทียม" ออกเผยแพร่ผ่านสื่อทุกระบบบ้าง แต่เมื่อชาวโลกเห็นชัดๆ คาตา-คาหู จากภาพ-ข่าวเหตุการณ์สดๆ โม่งดำฆ่าทหารเมื่อคืนวันที่ ๑๐ เมษาก็ดี บึ้มสีลมฆ่าประชาชนก็ดี  ซุ่มยิงทหารที่วิภาวดีรังสิตก็ดี บุกโรงพยาบาลจุฬาฯ และสภากาชาดไทย จนต้องปิดโรงพยาบาล ย้ายคนไข้ก็ดี
      นี่มันการกระทำของขบวนการ "โจรก่อการร้าย ๑๐๐%"!
      แล้วตัวเองบอก "เลิกชุมนุม" เข้าสู่กระบวนการปรองดองตอนเย็น แต่พอรุ่งขึ้นเช้าบอก...ไม่เลิก แล้ว...ชุมนุมต่อ ก็เลยชัด เป็นที่สิ้นสงสัยด้วยประการทั้งปวงว่า....อหิงสากับมือฆ่า-มือปาระเบิดคือ "โจรก่อการร้าย" กลุ่มเดียวกัน
      เมื่อเป็น "โจรก่อการร้าย" ยึดชัยภูมิกลางกรุงตั้งค่าย-ตั้งแคมป์ปฏิบัติการ จึงไม่มีปัญหาอะไรที่ "ตำรวจ-ทหาร" จะใช้กำลังและอาวุธเข้าปราบปรามให้สิ้นซาก!
      แต่ที่ไม่มีการใช้อำนาจทางกฎหมายเข้าจัดการให้เด็ดขาด เขาพูดกันว่า
๑.ตำรวจ-ทหาร "บางส่วน" เป็นใจ
๒.สั่งแล้ว แต่บิ๊กกองทัพ-บิ๊กตำรวจไม่ขยับ-เขยื้อน
๓.ทั้งรัฐบาลและสังคมโลกไม่ต้องการให้ใช้ความรุนแรง
๔.สลายการชุมนุมเกรงชาวบ้านจะล้มตาย
๕.ตำรวจ-ทหารกลัวปะทะ เพราะเชื่อว่าในวงชุมนุมซุกซ่อนอาวุธร้ายแรงไว้เยอะ และ
๖.ขณะนี้รัฐบาลเป็น "รัฐบาลที่ล้มเหลว" เนื่องจาก "สูญเสียอำนาจบริหาร-สั่งการไปแล้ว"!?

      นี่คือสิ่งที่เขานินทากันอยู่ ฉะนั้น ตอนนี้ ฝ่ายกบฏ-ถือว่าเสียความชอบธรรมในการชุมนุมทั้งปวงแล้ว และฝ่ายรัฐบาล โดย ศอฉ.มีความชอบธรรม ๑๐๐% ในการปราบปรามโจรก่อการร้ายแล้ว
      เพื่อพิสูจน์และลบคำนินทา ข้อครหาทั้งปวง รัฐบาลโดย ศอฉ.มีเวลา "ช้าที่สุด" ถึงวันเสาร์ที่ ๑๕ พฤษภานี้เท่านั้น ที่จะ...
 - พิสูจน์ให้รู้ชัดว่า "รัฐบาลไม่ล้มเหลว ยังมีอำนาจบริหาร-สั่งการอยู่ในมือ"
 - พิสูจน์ให้รู้ชัดว่า "กองโจรต้องไม่เหนือกว่ากองทัพ"
 - พิสูจน์ให้รู้ชัดว่า "ตำรวจ-ทหาร เพื่อประชาชน" ไม่ใช่ "ตำรวจ-ทหาร เพื่อกองโจร"
       ท่านนายกฯ ท่านโรดแม็พกะโจรก่อการร้ายได้ โรดแม็พกะสมาชิกรัฐสภาได้ แล้วท่านไม่คิดจะโรดแม็พกับประชาชน โดยเฉพาะคนกรุงเทพฯ ที่กำลังหายใจแขม็บๆ บ้างหรือ การปรองดองกับประชาชนคือ ท่านต้องเลิกคลานเช็ดตูดให้โจรก่อการร้ายได้แล้ว  
      กองทัพ "ไม่กลัว" กองโจร แน่ ประชาชนเชื่อ
 แต่ ผบ.กองทัพ กลัว ผบ.กองโจร หรือเปล่านั้น....ประชาชนสงสัย!?

http://www.thaipost.net/news/120510/22091


หัวข้อ: Re: [2513]"ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: เหยง 16 ที่ 12 พฤษภาคม 2553, 13:13:34
คอลัมม์ "ท่านขุนน้อย" วิจารณ์เรื่อง สภาวะอากาศ

ร้อนกาย...อย่าร้อนใจ
ท่านขุนน้อย 12 พฤษภาคม 2553 - 00:00

ร้อนระดับนี้...เรียกว่า  ไม่ว่าจะเป็นแอร์กี่หรือแม้แต่แอร์สาวๆ 

ยังไงๆ ก็ยังเอาไม่อยู่ นอกจากจะเปิดแอร์ เสริมด้วยพัดลม แถมขยับพัดในมือตามไปด้วย ดีไม่ดีอาจจะต้องแก้ผ้าอีกต่างหาก ถึงพอจะช่วยบรรเทา เบาบางความเหนียวเหนอะ หนุบหนับ ในร่างกาย ช่วยให้เส้นผมมีโอกาสไหวพะเยิบพะยาบ ไม่เกาะกลุ่ม ยุ่งเหยิง พัวพันจนกลายเป็นฝอยขัดหม้อ...

-----------------------------------



แทบไม่น่าแปลกใจอะไรเลยว่า...อุณหภูมิอากาศในช่วงนี้ จะถึงขั้นทำให้คนไทยต้อง ร้อนตาย กันไปแล้ว 15 ราย ดังเช่นที่คุณ สมิทธ ธรรมสโรช ประธานกรรมการมูลนิธิสภาเตือนภัยพิบัติแห่งชาติ ได้ออกมาเปิดเผยให้ใครต่อใคร ได้รับทราบกันไปแล้วเมื่อวานนี้ เพราะมันร้อนระดับ...ร้อนจริงๆ ให้ดิ้นตาย!!! ซึ่งก็ไม่ใช่มีแต่เฉพาะ คน หรือ มนุษย์ เท่านั้น ที่ต้องตายเพราะความร้อนไปนับเป็นสิบๆ ราย กระทั่งวัว ควาย ก็ยังต้องหงายท้องผลึ่งตาย เพราะความร้อนไปแล้วไม่รู้กี่สิบตัวต่อกี่สิบตัว ถึงขั้นผู้ว่าราชการจังหวัดแม่ฮ่องสอน ต้องออกมาแถลงข่าวว่า ระดับความร้อนที่สูงสุดในรอบ 20 ปี ส่งผลให้วัว ควาย ของราษฎรในบ้านหนองเขียว ตำบลห้วยโป่ง บ้านปางคอง ตำบลนาปู่ป้อม จังหวัดแม่ฮ่องสอน ถึงกับหงายท้องเอาขาชี้ฟ้าไปกว่า 29 ตัวเป็นอย่างน้อย...

----------------------------------------

ลักษณะความร้อนซึ่งปกคลุมอยู่ทั่วประเทศไทยในช่วงระยะนี้...ว่ากันว่า มันอาจจะทำให้เกิดปรากฏการณ์ คลื่นความร้อน (Heat wave) อุบัติขึ้นมาได้ไม่ยากนัก แม้นว่ามันจะไม่เหมือนกับปรากฏการณ์คลื่นความร้อนที่เคยบังเกิดในแถบทวีปยุโรป ซึ่งเป็นคลื่นความร้อนอันมีที่มาจากกระแสลมหอบเอาความร้อนจากทะเลทราย หรือจากอาณาบริเวณเส้นศูนย์สูตรแถบซีกโลกใต้ ทะลักเข้ามาสู่ประเทศต่างๆ ในซีกโลกเหนือ เล่นเอาพวกฝรั่งที่ไม่เคยชินกับอากาศร้อน ต้องล้มตายกันไปเป็นเบือ โดยเฉพาะช่วงปี พ.ศ.2546 ชาวฝรั่งเศสถึง 15,000 คน ชาวอิตาลีอีกกว่า 20,000 คน ต้องกลายเป็นเหยื่อเซ่นสังเวยให้กับภาวะคลื่นความร้อนครั้งร้ายแรงที่สุดในประวัติศาสตร์...

-------------------------------------------

แต่ลักษณะคลื่นความร้อน ที่อาจจะกำลังเกิดขึ้นในบ้านเราขณะนี้ หรือในอนาคตข้างหน้าก็แล้วแต่ ว่ากันว่า...มันน่าจะมาจากสภาวะสั่งสมของอุณหภูมิอากาศที่ร้อนจัด ซึ่งปกคลุมอยู่ในพื้นที่บริเวณใดบริเวณหนึ่งเป็นเวลานานๆ ภายใต้สภาพอากาศที่แห้ง ลมนิ่ง อุณหภูมิความร้อนที่มันไม่ได้เคลื่อนตัวไปไหน หรือไม่ได้จางหายไปตามช่วงระยะเวลาอย่างที่ควรจะเป็น แต่กลับถูกเสริมทับด้วยระดับความร้อนที่เพิ่มขึ้นมาใหม่ มันก็จะค่อยๆ พัฒนาตัวเองให้กลายเป็นคลื่นความร้อนขึ้นมาได้เหมือนกัน อย่างที่คุณ สมิทธ ท่านอธิบายเอาไว้นั่นแหละว่า เมื่อไหร่ก็ตามที่อุณหภูมิสูงขึ้นไปถึง 42 องศา เป็นระยะเวลาต่อเนื่องเกินกว่า 2-3 วัน ปรากฏการณ์คลื่นความร้อนย่อมมีโอกาสอุบัติขึ้นมาได้เสมอๆ...

--------------------------------------------

สำหรับบ้านเราในช่วงวันสองวันที่ผ่านมานี้...อุณหภูมิมันก็ดันสูงปรี๊ด ทะลุไปถึงกว่า 40 องศา ในหลายต่อหลายพื้นที่ แม้นว่ากรุงเทพมหานครในช่วงเมื่อวานที่ผ่านมา ระดับอุณหภูมิตามคำพยากรณ์ของกรมอุตุนิยมวิทยาจะอยู่ที่ประมาณ 37-39 องศา แต่ในแถบภาคกลาง ภาคเหนือ จัดอยู่ในระดับ 40-43 องศา ต่อเนื่องมานานพอสมควร ด้วยเหตุนี้...จึงต้องควรระมัดระวังตัวเอาไว้บ้าง เพราะปรากฏการณ์คลื่นความร้อนที่ว่านี้ มันร้ายแรงระดับถึงเป็นถึงตายเอาเลยทีเดียว โดยเฉพาะพวกผู้สูงอายุ และเด็กทารกทั้งหลาย ถ้าหากจะต้องนอนแก้ผ้ากันบ้าง ก็อย่าไปถือสา เอาชีวิตให้รอดปลอดภัยไว้ก่อน ส่วนจะอนาจารหรือไม่อนาจาร เอาไว้ค่อยไปพูดจาหารือกันอีกที...

-----------------------------------------------

โดยแนวโน้มที่อะไรต่อมิอะไรมันมีแต่จะร้อนขึ้นๆ อันเนื่องมาจากภาวะโลกร้อน ซึ่งยังดำรงคงอยู่ในขณะนี้ และในอนาคตข้างหน้า...ว่ากันว่าปรากฏการณ์คลื่นความร้อน ซึ่งจะอุบัติให้เห็นในอีกไม่นานไม่ช้า มันจะเป็นคลื่นความร้อนระดับที่ทำให้อุณหภูมิพุ่งสูงขึ้นไปได้ถึง 50 องศาเซลเซียสกันเลยทีเดียว ดังเช่นที่นักวิจัยจากสถาบัน Royal Netherlands Meteorogical Institute เคยคาดการณ์เอาไว้ในบทรายงาน ซึ่งตีพิมพ์อยู่ในวารสาร Geophysical Research Letters เมื่อไม่นานมานี้ว่า...ช่วงระยะเวลาที่ปรากฏการณ์คลื่นความร้อนสามารถพุ่งสูงไปได้ถึง 50 องศานั้น ใกล้จะมาเยือนพื้นที่ต่างๆ ในโลกเราอีกเพียงแค่ไม่กี่สิบปีเท่านั้น...

------------------------------------------------


ขนาดคลื่นความร้อนระดับอุณหภูมิสูง 41.1 องศา ก็เคยทำให้ชาวนครชิคาโก ประเทศสหรัฐอเมริกา ล้มตายกันไปถึง 6,000 รายในช่วงปี พ.ศ.2538 หรือคลื่นความร้อนระดับอุณหภูมิ 42 องศา ที่ทำให้ชาวยุโรปตายไปถึง 30,000-50,000 รายในช่วงปี พ.ศ.2546 ด้วยเหตุนี้ ถ้าหากต้องเจอกับคลื่นความร้อนระดับอุณหภูมิ 50 องศา มันจะต้องหงายท้อง เอาตีนชี้ฟ้า ล้มตายระเนระนาดไปถึงระดับไหน ก็ยังไม่อาจจินตนาการออกมาได้ง่ายๆ...แต่ที่แน่ๆ ก็คือ โลกในทุกวันนี้ และโลกในอนาคตข้างหน้า มันคงไม่ใช่โลกที่สวยสด งดงาม สบายๆ แบบบทเพลง What a Wonderful World ของ หลุยส์ อาร์มสตรอง แน่ๆ...

http://www.thaipost.net/news/120510/22083


หัวข้อ: Re: [2513]"ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: เหยง 16 ที่ 12 พฤษภาคม 2553, 13:23:59
คอลัมม์ "ถูกทุกข้อ" ตอบปัญหาโดยคุณ สามวา สองศอก

ฉีดน้ำสลายม็อบแดง
ถูกทุกข้อ 12 พฤษภาคม 2553 - 00:00


    เรียน คุณสามวา สองศอก ที่รักและนับถือ
ผมตะรังตังครับ

ก่อนอื่นขอขอบพระคุณที่คุณสามวานำวิธีสลายม็อบเสื้อแดงแบบ "โม้" ของผมลงพิมพ์ใน "ถูกทุกข้อ" ไทยโพสต์ฉบับวันอังคารที่ 4 พฤษภาคม แถมให้หัวแบบโก้เก๋อีกด้วย "โม้เพื่อชาติ"

แต่ตอนตอบขอประทานโทษ คุณสามวากลายเป็นคนสายตาสั้น ตามที่เขียนติงว่าไม่ควรทำอย่างนั้น (คือฉีดน้ำไล่ม็อบ) เพราะเดือนเมษายนบ้านเราร้อนมากๆ เอาน้ำไปฉีดม็อบพวกนี้ก็ยิ่งชอบใจ ไม่ได้มองไกลออกไปว่าการฉีดน้ำของรถดับเพลิง ไม่ได้ฉีดแบบเล่นสงกรานต์

แต่ฉีดจริงฉีดแบบฝนตกหนัก เสื้อผ้าของพวกม็อบเปียก แม้ไม่ถึงกับหนาวเหน็บแบบเมืองนอก แต่ไม่มีโอกาสจะผลัดเปลี่ยนเสื้อผ้า ฝนยิ่งตกหนักเนื้อตัวยิ่งเปียกปอน ม่อลอกม่อแลก แล้วพวกเขาจะทนอยู่ได้อย่างไร ข้างล่างน้ำท่วมพื้นที่ชุมนุม ไปมองเพียงว่าพวกเสื้อแดงคงจะเล่นน้ำกันเพลิน เหตุใดไม่มองว่าเมื่อน้ำท่วมพื้นนั่งเจิ่งนองไม่มีที่จะนั่งไม่มีที่จะนอน ไม่มีที่จะถ่ายทุกข์ ขี้เยี่ยว แล้วพวกเขาจะทนอยู่ได้อย่างไร เหตุใดคุณสามวาไม่มองในแง่นี้ นี่เป็นแค่ผม "โม้" ให้ฟัง ถ้าเอาจริงรถดับเพลิงมีกี่คันผมจะส่งให้มาหมด เอาให้เป็นสึนามิ น้ำท่วมไปเลย ขอประทานโทษที่ประท้วงมาอย่างนี้

"ตะรังตัง"
ตอบ คุณตะรังตัง


สวัสดีครับ คุณสามวา


ต้องขอขอบคุณคุณสามวา ที่ช่วยดอง จ.ม.ผมกับยาดองเหล้าเสือ 11 ตัว ฮิฮิ..ทั้งที่ผมลงทุนส่ง  E.M.S. เพื่อความรวดเร็วของสถานการณ์ แต่ก็ไม่ว่ากันหรอกครับ ส่วนที่ผมไม่อยากจะ ฮิฮิ..ใน จ.ม.ฉบับก่อน ไม่ใช่ว่าจะเครียดอะไรหรอกครับ แต่ต้องให้เกียรติผู้เสียชีวิตทั้งสองฝ่าย ของแบบนี้จะมาเขียนให้มันขำบางทีก็ขำไม่ออก พูดถึงการเกิดชุมนุมที่ร้อนแรงแบบนี้ คนที่ผมว่าน่าเป็นห่วงที่สุดก็คือนักข่าวภาคสนาม เพราะผมกลัวจะเป็นอันตรายเหมือนนักข่าวญี่ปุ่นของรอยเตอร์ ที่โดนลูกหลงจนเสียชีวิต ส่วนผมจำได้ว่าเคยเป็นนักข่าวจำเป็น ตอนพฤษภาทมิฬโดยไม่รู้อีโหน่อีเหน่ รู้สึกตอนนั้นยังไม่เกิดการปะทะกันที่นางเลิ้ง ผมยืมแมงกะไซค์ของพรรคพวกขี่รถเข้าไปตามลูกน้อง ก็ไปเจอลูกน้องกำลังถือธงยืนประชิดติดกับรั้วลวดหนาม ที่กั้นระหว่างผู้ชุมนุมกับทหารตำรวจตรงผ่านฟ้าฯ และเป็นจุดที่ยันกันอยู่ ผมก็เข้าไปเรียกบอกให้กลับ เพราะต้องรีบไปผลิตสินค้าให้ลูกค้าที่ต้องการด่วน ปรากฏว่าสาวๆ ที่ยืนอยู่ข้างๆ ตะโกนกลับมาว่า เขาไม่ไปหรอกเขากำลังต่อสู้เพื่อประชาธิปไตยอยู่ ฮิฮิ..ก็นี่ล่ะครับจุดอ่อนของพวกผู้ชายเกือบทุกคน ผมก็เลยต้องปล่อยให้หนัง "พบรักในแนวรบ" ดำเนินต่อไป พอแยกทางออกมาก็ดันมาเจอเพื่อนเก่าที่เป็นนักข่าวภาคสนามโดยบังเอิญ ซึ่งขณะนั้นยังเป็น นักข่าวโนเนมอยู่ ต่างจากปัจจุบันที่คุณใบตองแห้งเคยตั้งให้เป็นผู้สื่อข่าวร้อยล้านพันล้านไปซะแล้ว ฮิฮิ..พอเจอกันเพื่อนคนนี้ถือโอกาสซ้อนแมงกะไซค์ของผม บอกให้ช่วยพาไปดูจุดโน้นจุดนี้ให้หน่อย

ผมไม่ขัดล่ะครับยินดีบริการอยู่แล้ว ก็เลยกลายเป็นนักข่าวภาคสนามไปกับเขาด้วยโดยไม่ได้ตั้งใจ ส่วนพฤษภาทมิฬเดี๋ยวคราวหน้าจะเล่าให้คุณสามวาฟังว่าเหตุการณ์เมื่อวันที่ 10 เม.ย.ตรงจุดที่ พ.อ.ร่มเกล้าเสียชีวิต โดยกองกำลังไม่ทราบฝ่าย เป็นจุดเดียวกับที่ผมยืนอยู่ตอนพฤษภาทมิฬ หนังคล้ายกัน แต่กลับคนละเรื่องเลย ผมยังขนลุกไม่หาย วกกลับมาเรื่องนักข่าว ผมเคยเขียนบทความลงในหนังสือรายสัปดาห์ตอนเป็นนักศึกษา จำไม่ได้ว่าชื่อตะวันใหม่หรืออาทิตย์รายสัปดาห์ 

 เรื่องที่ไปแจกของให้ผู้ถูกน้ำท่วมที่ อ.โขงเจียม กับ อ.วารินชำราบ จ.อุบลราชธานี ก็ชอบล่ะครับชีวิตนักข่าวได้รสชาติชีวิตอีกแบบหนึ่ง และรู้จักรุ่นพี่คนหนึ่งที่แกทำนิตยสารรายสัปดาห์ในอดีตชื่อสู่อนาคต (ชื่อเดียวกับ บ.สารสู่อนาคต ของไทยโพสต์เลย) และแกเคยอยู่สยามรัฐมาก่อน เจอหน้ากันไม่ได้ชอบพาผมไปเมากับแกด้วย เพราะแกชอบดื่มสุราเป็นชีวิตจิตใจ จนเพื่อนนักข่าวตั้งฉายาให้แกเป็นถึงท่านขุน คือ "ท่านขุนริน สุราพ่าย" ฮิฮิ..

วันก่อนเพื่อนผมที่อยู่ กกต. ลูกน้องท่านอภิชาติโทร.มาชวนให้ไปรับประทานอาหาร และร้องเพลงคาราโอเกะหลังจากห่างเหินกันไปนาน เพราะสถานการณ์บ้านเมืองไม่เอื้ออำนวย เจ้าของร้านที่ผมไปร้องเพลงแสนที่จะดีใจ และบ่นให้ฟังบอกว่าช่วงนี้รายได้ไม่ค่อยดี แขกหายหน้าไปหมด 

ผมก็เลยขึ้นร้องเพลงของน้าสุเทพ วงศ์กำแหง ที่ผมชื่นชอบ ให้แกฟังเสียหลายเพลงหลังจากเปรี้ยวปากมานาน ฮิฮิ..โดยเฉพาะเพลง "นกขมิ้นเหลืองอ่อน" เพื่อปลอบใจแก โดยเริ่มที่ "ค่ำคืนฉันยืนเดียวดาย เหลียวมองรอบกายมิวายจะหวาดกลัว"
ก็จะไม่หวาดกลัวได้อย่างไรล่ะครับ แขกไม่ค่อยมีเลย เดี๋ยวค่าเช่าร้านก็จะมาเก็บอีกแล้ว

ฮิฮิ..เข้าใจว่าแขกคงไปชุมนุมกับคนเสื้อแดง และม็อบหลากสีกันหมด

ส่วนที่ทำงานผมที่ไปชุมนุมกับม็อบหลากสีก็มี ส่วนใหญ่เป็นคนใต้และภาคกลางก็ไม่ว่ากันล่ะครับ ก็ได้แต่บอกว่าชุมนุมขอให้อยู่ห่างจุดที่เสื้อแดงอยู่เป็นดีที่สุด ยิ่งใกล้เข้าไปอีกนิดชิดเข้าไปอีกหน่อย จากศาลาแดงก็เป็นแม่ค้าปากคลองตลาด ด่ากันไฟแลบ ปาสิ่งของใส่กัน เดี๋ยวก็มีเรื่องจนได้ นึกในใจยังไม่ทันไรเลย ยิง M 79 เข้าใส่กันอีกแล้ว ก็มันเป็นกันซะอย่างนี้ เวรกรรมประเทศไทยจริงๆ ส่วนม็อบเสื้อหลากสีไม่รู้ว่าใครไปตั้งชื่อให้ว่าเป็นม็อบซาหริ่ม ช่างสรรหากันเหลือเกิน นึกอยู่นานว่าซ่าหริ่มคืออะไร กว่าจะถึงบางอ้อโรงพยาบาลยันฮีได้ ซาหริ่มก็คือขนมหวานเป็นเส้นๆ หลากสี ใส่กะทิกับน้ำแข็งไสเข้าไปแล้วรับประทานนี่เอง ฮิฮิ..

ร้านอร่อยก็อยู่แถววงเวียนใหญ่ ข้างโรงหนังเก่าที่มีตู้ปลาเยอะๆ ส่วนที่อื่นต้องให้คุณอ้วน อรชร แนะนำแล้วล่ะครับ เพราะเก๋าในการกินเหลือเกิน ก็เลยลาไปด้วยเพลงที่พ่อใหญ่จิ๋วต้องร้องให้คุณสุเทพรองนายกฯ ฟัง ก็คือ "ทำไมถึงทำกับฉันได้" ฮิฮิ..

ขอแสดงความนับถือ

นายผีตองเหลือง


ตอบ คุณผีตองเหลือง

ยุบสภาก็สายไปแล้ว


เรียน คุณสามวา สองศอก

ต้องขอโทษด้วยเป็นแฟนไทยโพสต์มานาน ไม่เคยรบกวนและไม่เคยเขียนมายังคอลัมน์ใดๆ เพราะยังไม่ร้อนใจอะไรนัก และไม่มีความรู้ที่จะส่ง  E-mail หรือ จ.ม.อิเล็กทรอนิกส์ เพราะเป็นคนแก่ตกยุค แต่สนใจข่าวสารบ้านเมืองตลอด ดูข่าว TV อ่าน Thai Post เป็นประจำ อดรนทนไม่ได้ที่ท่านนายกฯ ประกาศผ่าน  TV  เมื่อ 3 เม.ย.53 ว่าจะยุบสภาเพื่อเอาใจ

พวก นปช. (นรกป่วนชาติ)พร้อมเหตุผลต่างๆ 5 ข้อนั้น ท่านนายกฯ ลองลงอีสานบ่อยๆ แล้วจะทราบว่าท่านยุบสภามันก็สายไปแล้ว ท่านจะต้องแก้ไขข่าวลือ-ความเชื่อของคนอีสานให้ได้ว่า

1.ท่านเป็นรัฐบาลสองมาตรฐาน

2.ท่านได้ตำแหน่งมาเพราะโกงทักษิณ

เพราะว่าวิทยุชุมชนมันเป่าหูทุกเมื่อเชื่อวัน และถ้ากรุณาโปรดช่วยเปลี่ยน รมต.สาทิตย์ วงศ์หนองเตย ด้วย เพราะทางอีสานเป่าหูประชาชนมาปีกว่าแล้ว แต่ท่าน รมต.วงศ์ขี้เตรย (หญ้าเจ้าชู้) เพิ่งตื่นจากบรรทมทำผังรายการใหม่ช่อง 11

http://www.thaipost.net/news/120510/22081



หัวข้อ: Re: [2513]"ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: เหยง 16 ที่ 12 พฤษภาคม 2553, 13:39:47
อ้างถึง
ข้อความของ prapasri AH เมื่อ 10 พฤษภาคม 2553, 10:39:09
หนูอ้อย14 ถ้าอากาศไม่ร้อน  พรุ่งนี้พี่เข้ากรุงเทพ แล้วจะพาน้องติ๊บไปสมุยนะ

สน...มะ

 รีบมากรุงเทพไปสมุยกะพี่เสียดีๆๆๆๆ

ปล.ถ้าอากาศไม่ร้อนนะคะ

กลัวหน้าเป็นฝ้า อ่ะ

เจ้าของห้องไปสมุยเป็นวันที่ 3 แล้ว


หัวข้อ: Re: [2513]"ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: เหยง 16 ที่ 12 พฤษภาคม 2553, 13:50:06
เลย 12 พ.ค.ทุบ 'มาร์ค'เลิกคุย/ กลัวคุก! แดงขี้ขลาด
ข่าวหน้า 1   12 พฤษภาคม 2553 - 00:00

      "เทือก" ยิ้มร่า นั่งหัวโต๊ะบันทึกถ้อยคำรับทราบข้อกล่าวหาสั่งฆ่าประชาชนที่กรมสอบสวนคดีพิเศษแล้ว แต่แกนนำแดงไม่ยอมรับ อ้างไม่ได้ไปในฐานะผู้ต้องหา ต่อรองยุติชุมนุมทันทีหากมอบตัวแล้วได้ประกันตัว สะพัด! เสื้อแดงแตกยับ แฉ "เสธ.แดง" ควงปืนขู่ 3 เกลอ "พวกมึงออกจากเวทีเมื่อไหร่เป็นศพแน่" ด้าน "มาร์ค" ขึงขังขีดเส้นพุธนี้ม็อบต้องเลิก ลั่นมีความชอบธรรม จะขอคืนสี่แยกราชประสงค์ เล็งมาตรการเบื้องต้นตัดน้ำ-ไฟ
     กลุ่มแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) หรือกลุ่มคนเสื้อแดง ยื่นเงื่อนไขต่อนายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรีด้านความมั่นคง ในฐานะผู้อำนวยการศูนย์อำนวยการแก้ไขสถานการณ์ฉุกเฉิน (ศอฉ.) ต้องเข้ามอบตัว โดยระบุโทษฐานเป็นผู้สั่งฆ่าประชาชนเมื่อวันที่ 10 เมษายน 2553 เพื่อแลกกับการยุติการชุมนุม
     ล่าสุดเมื่อวันอังคาร นายสุเทพเดินทางเข้ารับทราบข้อกล่าวที่กรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) แล้ว โดยมีนายธาริต เพ็งดิษฐ์ อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ, พล.ต.ท.ไถง ปราศจากศัตรู ผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง, พล.ต.ต.อำนวย นิ่มมะโน รอง ผบช.น. ในฐานะหัวหน้าพนักงานสอบสวนกลุ่มคดีพิเศษเหตุการณ์ 10 เมษายน ให้การต้อนรับ ก่อนจะเชิญนายสุเทพขึ้นไปดำเนินการรับทราบข้อกล่าวโทษร้องทุกข์และบันทึกถ้อยคำ โดยใช้เวลา 35 นาที
     นายธาริตแถลงว่า การที่นายสุเทพเดินทางมาพบพนักงานสอบสวนในครั้งนี้ เป็นการแสดงความจำนงที่จะเข้าสู่กระบวนการยุติธรรมทางอาญา ซึ่งได้มีการบันทึกถ้อยคำไว้เรียบร้อยแล้ว ทั้งนี้ คดีในเหตุการณ์วันที่ 10 เมษายนเป็นต้นมา ได้ถูกยกระดับจากคดีสามัญปกติมาเป็นคดีพิเศษหมดแล้ว อำนาจการดำเนินการจึงมาอยู่กับกรมสอบสวนคดีพิเศษ แต่ดีเอสไอไม่ได้ดำเนินการเพียงคนเดียว แต่เป็นเจ้าภาพร่วมกับ 13 หน่วยงานที่มาสนธิกำลังร่วมกัน
     ผู้สื่อข่าวถามว่า นายสุเทพรู้อยู่แล้วว่ากฎหมายให้การคุ้มครองการปฏิบัติหน้าที่ แสดงว่าจะไม่มีการแจ้งข้อกล่าวหารือดำเนินคดีตามขั้นตอนต่อ นายธาริตบอกว่า "มิได้ครับ ท่านสุเทพหมายความถึงว่าตาม พ.ร.ก.ฉุกเฉินให้การคุ้มครองเจ้าหน้าที่ ท่านได้แสดงความรับผิดชอบว่าในส่วนของการอำนวยการสั่งการฝ่ายการเมือง คือท่านรับผิดชอบ แต่ท่านได้คลายความกังวลของเจ้าหน้าที่ว่าได้รับการคุ้มครองอยู่ เป็นคนละส่วนกัน"
     พล.ต.ต.อำนวยกล่าวกรณี นพ.เหวง โตจิราการ แกนนำ นปช.ระบุว่าการที่นายสุเทพมามอบตัวที่ดีเอสไอเป็นการไม่ชอบด้วยกฎหมาย ต้องไปมอบตัวที่กองปราบปรามเท่านั้นจึงจะยุติการชุมนุมว่า เป็นการเบี่ยงเบน ขอเรียนว่าไปมอบที่กองปราบปรามไม่ได้ เพราะเมื่อเป็นคดีประทุษร้ายต่อชีวิตของประชาชน ซึ่งเป็นหนึ่งในฐานความผิดที่ได้ยกระดับเป็นคดีพิเศษแล้ว จะกลับไปเป็นคดีธรรมดาไม่ได้
     "ต้องดำเนินการสอบสวนโดยพนักงานสอบสวนคดีพิเศษ หรือผู้ที่ได้รับการแต่งตั้ง ซึ่งพนักงานสอบสวนจาก บช.น.ได้รับการแต่งตั้งมา 85 คน เพื่อมาร่วมสอบสวนกับ 13 หน่วยงาน และนายธาริตก็ไม่ใช่พนักงานสอบสวนที่จะชี้เป็นชี้ตาย เพราะการทำงานจะชี้เป็นคณะ ดังนั้นคดีนี้จึงเป็นการมอบตัวชอบด้วยกฎหมายและชอบธรรม" พล.ต.ต.อำนวยกล่าว และว่า ทางกองปราบปรามและ บช.น.ไม่มีอำนาจสอบสวน เนื่องจากถูกยกระดับเป็นคดีพิเศษ จึงนำเรียน นพ.เหวงเพื่อทราบ
     ขณะที่นายสุเทพกล่าวว่า เหตุที่เข้ารับทราบข้อกล่าวหาเป็นเพราะมีประชาชนมายื่นคำร้องต่ออธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษให้ดำเนินคดีต่อตนในกรณีเหตุการณ์วันที่ 10 เมษายน โดยกล่าวหาว่าตนเป็นผู้ออกคำสั่งให้ทหารเข้าไปขอคืนพื้นที่ และเป็นเหตุให้เกิดการสูญเสียชีวิต ร่างกาย และทรัพย์สินของประชาชน เมื่อผู้ร้องได้มายื่นคำร้องต่ออธิบดีดีเอสไอ ตนจึงเดินทางมารับทราบข้อกล่าวหาเพื่อที่จะใช้แสดงเจตจำนงว่าตนและฝ่ายรัฐพร้อมที่จะเข้าสู่กระบวนการยุติธรรม

"เทือก"ลั่นไม่ตามเงื่อนไขแดง
     ผู้สื่อข่าวถามว่า แกนนำ นปช.ยื่นเงื่อนไขให้ไปมอบตัวที่กองปราบปราม นายสุเทพบอกว่า ตนไม่ได้ปฏิบัติอะไรตามข้อเรียกร้องของผู้ชุมนุมหรือ นปช. แต่ปฏิบัติตามกฎหมาย ตามเหตุผลที่บอกไปแล้ว ไม่ได้สนใจในเรื่องเงื่อนไขนั้น ทั้งหมดตนดำเนินการตามนโยบายของนายกฯ เรื่องแผนปรองดอง เมื่อฝ่ายรัฐได้แสดงเจตนารมณ์ที่ชัดเจนว่าพร้อมเข้าสู่กระบวนการยุติธรรม ถือเป็นสาระสำคัญที่สุดแล้ว
     ผู้สื่อข่าวรายงานว่า การเข้ารับทราบข้อกล่าวหาครั้งนี้ ทุกคนเข้าห้องประชุมที่ชั้น 2 ของอาคารดีเอสไอ โดยนายสุเทพนั่งหัวโต๊ะข้างๆ นายธาริต ส่วนตำรวจและเจ้าหน้าที่อื่นๆ นั่งโต๊ะด้านข้างทั้งสองฝั่ง มีการปิดห้องไม่ให้สื่อมวลชนเข้าไป และระหว่างการรับทราบข้อกล่าวหา นายสุเทพและนายธาริตพูดคุยกันด้วยสีหน้ายิ้มแย้มแจ่มใส ไม่มีความวิตกกังวลแต่อย่างใด จากนั้น 35 นาทีต่อมาก็เปิดแถลงข่าว และให้นายสุเทพเซ็นรับทราบข้อกล่าวหาต่อหน้าสื่อมวลชนด้วย
     นายสุเทพให้สัมภาษณ์อีกครั้งหลังกลับจากรับทราบข้อกล่าวหาที่ดีเอสไอ โดยกล่าวถึงคนเสื้อแดงยื่นเงื่อนไขให้ไปรายงานตัวกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ เพราะมองว่ากรมสอบสวนคดีพิเศษถือเป็นพวกเดียวกันกับรัฐบาลว่า เขาพยายามยื้อเวลา หาเหตุไปเรื่อย แต่ต้องแยกกันคนละส่วน ส่วนคนเสื้อแดงยังมีเงื่อนไขว่า เมื่อมอบตัวกับเจ้าหน้าที่ตำรวจแล้วจะได้รับประกันตัวจากเจ้าหน้าที่ตำรวจนั้น ตนไม่ได้มีหน้าที่ใดๆ ที่จะต้องปฏิบัติตามเงื่อนไขของกลุ่ม นปช.
     ที่ศูนย์ปฏิบัติการ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ศปก.ตร.) หลังจากนายสุเทพเข้ารับทราบข้อกล่าวหาที่ดีเอสไอ ทำให้มีกระแสข่าวว่าแกนนำ นปช.ทั้งหมดจะติดต่อขอเข้ามอบตัวในเวลา 14.00 น. พล.ต.ต.ประวุฒิ ถาวรศิริ โฆษก ศปก.ตร. เผยว่า ได้รับการสั่งการจากผู้บังคับบัญชาเพื่อเตรียมความพร้อมในสถานที่และพนักงานสอบสวน หากกรณีที่แกนนำ นปช.ตามหมายจับ พ.ร.ก.ฉุกเฉิน ที่กองบัญชาการตำรวจนครบาลได้ออกหมายจับไป ขอเข้ามามอบตัวที่ สตช.
     อย่างไรก็ตาม ขณะนี้ยังไม่ได้รับการติดต่อจากแกนนำ และไม่ทราบจำนวนแกนนำว่าจะเข้ามอบตัวจำนวนเท่าใด ทั้งนี้เบื้องต้นพนักงานสอบสวนจะสอบสวนและใช้ดุลยพินิจในการขอประกันตัว  ซึ่งหากแกนนำไม่มามอบที่นี่ ก็อาจจะมามอบที่กองบังคับการกองปราบปรามก็ได้ ส่วนหากมีการมอบตัวแล้วใครจะเป็นผู้สอบสวนนั้น ต้องดูว่าเป็นคดีอะไร ถ้าเป็นคดีก่อการร้ายก็จะอยู่ที่ดีเอสไอ
     เมื่อถามว่า มีการเตรียมสถานที่ไว้ควบคุมตัวแกนนำบ้างหรือไม่  พล.ต.ต.ประวุฒิกล่าวว่า มีเตรียมไว้นานแล้ว ที่คลองหลวง จ.ปทุมธานี ในส่วนของกองบัญชาการตำรวจตระเวนชายแดนภาค 1 แต่อย่าเพิ่งมองถึงขนาดไหน
     พล.ต.ท.ไถง ปราศจากศัตรู ผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (ผบช.ก.) กล่าวถึงการเข้ามอบตัวของแกนนำกลุ่ม นปช.ว่า ขณะนี้ยังไม่ได้รับการติดต่อจากแกนนำกลุ่ม นปช.เพื่อเข้ามอบตัวกับพนักงานสอบสวนกองปราบปราม แต่ได้มีการจัดเตรียมความพร้อมในเรื่องสถานที่และพนักงานสอบสวนไว้หมดแล้ว หากมีการติดต่อเข้ามอบตัวของกลุ่มแกนนำ จะประสานให้กรมสอบสวนคดีพิเศษเข้ามารับมอบตัวที่กองปราบปราม เพื่อไม่ให้เกิดความยุ่งยาก
     ซักว่าจะให้ยื่นประกันตัวแกนนำ นปช.หรือไม่ พล.ต.ท.ไถงกล่าวว่า คงรอให้เข้ามามอบตัวก่อน ไม่อยากพูดเลยไปจากขั้นตอนนี้ การประกันตัวเป็นเรื่องดุลพินิจของพนักงานสอบสวน อาจจะมีการพิจารณาการยื่นประกันเป็นรายบุคคล

ศาลยกคำร้องถอนหมายจับ 16 แดง
     สำหรับกรณีที่นายคารม พลทะกลาง ทนายผู้รับมอบหมายอำนาจจากนายวีระ มุสิกพงศ์ ประธาน นปช. ยื่นคำร้องขอให้ศาลไต่สวนเพื่อมีคำสั่งเพิกถอนหมายจับนายวีระ กับพวก ที่เป็นแกนนำและแนวร่วม นปช.รวม 16 คน โดยศาลพิเคราะห์แล้วเห็นว่า เนื่องจากเมื่อวันที่ 7 เมษายน 2553 เหตุการณ์ปรากฏหลักฐานชัดว่ามีผู้ชุมนุม นปช.จำนวนมากบุกรุกเข้าไปภายในอาคารรัฐสภา ทำให้เจ้าหน้าที่ตำรวจ ทหาร ไม่สามารถควบคุมสถานการณ์ได้ จึงมีเหตุผลที่รัฐบาลสามารถประกาศ พ.ร.ก.บริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉินได้
     ขณะเดียวกัน ฝ่ายผู้ร้องไม่ได้นำตัวผู้ที่ถูกออกหมายจับมาเบิกความและชี้ให้เห็นว่าได้รับผลกระทบจาก พ.ร.ก.บริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉินอย่างไร การออกหมายจับแกนนำ นปช.จึงชอบด้วยกฎหมายแล้วไม่เห็นควรให้เพิกถอนหมายจับดังกล่าว จึงยกคำร้อง
     นายคารมบอกว่า เราไม่สามารถนำตัวแกนนำที่ถูกออกหมายจับมาไต่สวนได้ เพราะเกรงว่าจะถูกจับกุม ทำให้พยานหลักฐานและคำเบิกความมีน้ำหนักน้อยไปด้วย แต่ไม่เสียใจ เพราะได้พยายามช่วยเหลือแกนนำ นปช.เต็มที่แล้ว โดยจะใช้สิทธิอุทธรณ์ตามกฎหมายต่อไป
     เมื่อถามว่า ทางแกนนำ นปช.จะเข้ามอบตัวในวันที่ 15 พฤษภาคมหรือไม่นั้น นายคารมบอกว่า ยังไม่แน่ว่าแกนนำ นปช.ทั้งหมดจะติดต่อเข้ามอบตัวกับตำรวจตามกำหนดเดิมหรือไม่ แต่ส่วนตัวได้แนะนำว่าไม่ควรมอบตัว เนื่องจากตำรวจจับกุมตามอำนาจ พ.ร.ก.บริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน คาดว่าจะไม่ได้ประกันตัว และถูกนำตัวควบคุมยังสถานที่อื่นที่ไม่ใช่เรือนจำ
     ทางด้านท่าทีของแกนนำ นปช. นพ.เหวง โตจิราการ กล่าวว่า การที่นายสุเทพเดินทางไปรับทราบข้อกล่าวหาที่ดีเอสไอนั้น ไม่ได้เป็นไปตามเงื่อนไขของ นปช. เพราะนายธาริตเป็นลูกน้องนายสุเทพ และยังเป็นกรรมการ ศอฉ. ซึ่งเข้าข่ายต้องถูกตั้งข้อกล่าวหาด้วยเช่นเดียวกัน ดังนั้นจึงไม่มีความชอบธรรม ซึ่งแกนนำ นปช.นั้นเห็นตรงกันว่านายสุเทพต้องไปมอบตัวที่กองปราบปรามเท่านั้นทาง นปช.จึงจะมีการยุติการชุมนุม
     นายขวัญชัย ไพรพนา แกนนำคนรักอุดร แนวร่วมเสื้อแดง กล่าวว่า หากไม่มีปัญหาก็จะกลับได้ในวันพุธนี้ แต่ก็ต้องรอให้นายสุเทพไปมอบตัวกับกองปราบฯ ก่อน เพราะประชาชนมาแล้วก็ต้องมีอะไรติดมือกลับไปบ้าง และก่อนที่จะแยกย้ายกันกลับก็ต้องยกเลิก พ.ร.ก.ฉุกเฉิน เพราะแกนนำมีชนักปักหลังอยู่ ถ้าไม่ยกเลิก พ.ร.ก.ฉุกเฉิน เราจะไม่มีความปลอดภัยอีก
     นายอริสมันต์ พงศ์เรืองรอง แกนนำ นปช. กล่าวว่า ชัยชนะขณะนี้ได้แค่ 50 เปอร์เซ็นต์ ถือเป็นชัยชนะของประเทศ นายสุเทพต้องไปรับทราบข้อกล่าวหากับทุกโรงพักที่ญาติผู้เสียชีวิต 21 คนและอีกเกือบพันรายที่ได้รับบาดเจ็บไปแจ้งความ และต้องขึ้นศาลอาญาระหว่างประเทศด้วย ส่วนตนจะไม่ไปมอบตัวต่อตำรวจก่อน เพราะหลังการชุมนุมเสร็จสิ้นลงแล้วตนจะบวช 19 วัน
     สำหรับบรรยากาศการชุมนุมที่แยกราชประสงค์ แกนนำได้ส่งสัญญาณให้ผู้ปราศรัยบนเวทีลดความดุเดือดในการปราศรัยลง ไม่ให้มีการเรียกผู้ชุมนุมเข้ามาสมทบ เพื่อเตรียมพร้อมที่จะสลายตัวและคืนพื้นที่แยกราชประสงค์ให้กับ กทม. โดยให้เพิ่มกิจกรรมภาคบันเทิงให้มากขึ้น แกนนำ นปช.รายหนึ่งบอกว่า หลังจากนี้เวทีปราศรัยต้องปรับตัวเข้าสู่โหมดการปรองดอง จึงต้องกำชับผู้ปราศรัยไม่ให้ปราศรัยโจมตีหนักหน่วงเหมือนที่ผ่านมา เพื่อไม่ให้เป็นการปลุกเร้ามวลชนสวนทางกับแนวทางปรองดอง
     ทั้งนี้ ยอมรับว่ามวลชนจำนวนหนึ่งเดินทางกลับไปแล้ว แต่ส่วนใหญ่ก็จะแยกย้ายกลับหลังจากแกนนำประกาศยุติการชุมนุม ซึ่งคาดว่าจะมีขึ้นภายในวันที่ 12-13 พฤษภาคมนี้

"แกนนำแดง"เล่นแง่ชุมนุมต่อ
     อย่างไรก็ตาม ช่วงเย็น แกนนำ นปช.มีมติไม่ยอมรับการเข้ารับทราบข้อกล่าวหาของนายสุเทพต่อดีเอสไอ โดยนายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ เลขาธิการ นปช. แถลงว่า การที่นายสุเทพไปดีเอสไอนั้นไม่สามารถอธิบายได้ว่าเป็นการนับหนึ่งเพื่อเข้าสู่กระบวนการยุติธรรม เพราะนายสุเทพไปดีเอสไอไม่ได้ไปในฐานะผู้ต้องหา แต่ไปลงนามเพื่อรับทราบข้อกล่าวโทษร้องทุกข์ เป็นเพียงการตรวจเยี่ยมราชการของรองนายกฯ  เราต้องการรูปธรรมในการปฏิบัติเพื่อให้เป็นการเดินหน้าคดีประวัติศาสตร์คดีแรกของประเทศไทย
     นายณัฐวุฒิกล่าวว่า ด้วยเหตุผลของข้อกฎหมายเรามิอาจยอมรับได้ว่านายสุเทพเป็นผู้ต้องหาดีเอสไอ เพราะทุกคดีที่ดีเอสไอจะสามารถดำเนินการได้ในฐานะเจ้าหน้าที่เมื่อคดีดังกล่าวต้องผ่านมติคณะกรรมการคดีพิเศษ ซึ่งมีการประกาศขั้นตอนเอาไว้ในประกาศกรมสอบสวนคดีพิเศษ และมีการประกาศในราชกิจจานุเบกษา เล่มที่ 127 ตอนพิเศษ 53 ง. เมื่อวันที่ 28 เมษายน  แต่คดีที่ประชาชนเข้าไปร้องทุกข์นายสุเทพในข้อหาสั่งฆ่าประชาชนยังไม่อยู่ในคดีพิเศษ ดังนั้น ดีเอสไอไม่มีหน้าที่ในการสอบสวนคดีนี้แต่อย่างใด
     "ขอประกาศให้ประเทศไทยเป็นพยาน ว่าถ้านายสุเทพมีความตรงไปตรงมาเดินหน้าเข้าสู่กระบวนการยุติธรรม คนเสื้อแดงมีความเป็นลูกผู้ชายและมีศักดิ์ศรีที่พร้อมจะประกาศยุติการชุมนุม นายสุเทพไปวันไหน เราประกาศยุติการชุมนุมวันนั้น นายสุเทพไม่ประกาศเราก็ไม่ไปเช่นเดียวกัน ส่วนข้อเรียกร้องอื่น ถ้ารัฐบาลมีความจริงใจที่จะสร้างการปรองดอง พีเพิลแชนแนลต้องมีการออกอากาศ เรามั่นใจเช่นนั้น ขณะเดียวกันการตอบสนองต่อข้อเรียกร้องอื่นๆ เมื่อมีประชาชนเป็นสักขีพยานรัฐบาลคงไม่บิดพลิ้ว" นายณัฐวุฒิกล่าว
     นายจตุพร พรหมพันธุ์ แกนนำ นปช. กล่าวว่า ขณะนี้ดีเอสไอยังไม่มีอำนาจสอบสวนนายสุเทพและนายอภิสิทธิ์ เพราะยังไม่ใช่คดีพิเศษ ซึ่งปัจจุบันดีเอสไอรับมาพิจารณา 5 คดี คือ 1.คดีก่อการร้าย 2.คดีการครอบครองอาวุธยุทธภัณฑ์ 3.การทำร้ายประชาชนและเจ้าหน้าที่รัฐ 4.การบังคับให้รัฐบาลจำยอม  5.คดีล้มสถาบัน ซึ่งการไปดีเอสไอของนายสุเทพจึงไม่ใช่ในฐานะผู้ต้องหา
     ทั้งนี้ ดีเอสไอต้องนำคดีการสั่งทำร้ายประชาชนเสนอต่อคณะกรรมการคดีพิเศษเพื่อให้มีมติรับคดีดังกล่าวและดำเนินการสอบสวน ขณะเดียวกันพนักงานสอบสวนคดีพิเศษต้องแจ้งข้อกล่าวหากับทั้ง 2 คนเพื่อให้ตกอยู่ในฐานะผู้ต้องหาก่อน จากนั้นจึงให้ทั้ง 2 คนรับข้อกล่าวหาและต้องเข้ามามอบตัวตามที่มีการร้องทุกข์กล่าวโทษเอาไว้
     "นอกจากนี้ หากมีการให้ประกันตัวนายอภิสิทธิ์และนายสุเทพ แกนนำ นปช.ก็ต้องได้รับการประกันตัว แต่ถ้านายอภิสิทธิ์และนายสุเทพไม่ได้รับการประกันตัว พวกผมจะไม่มีการขอประกันตัว เพื่อให้เกิดความเสมอภาคกัน หากทำได้ทั้งหมดนี้ นปช.พร้อมจะสลายตัว" นายจตุพรกล่าว และว่า สำหรับนายอภิสิทธิ์ ในฐานะเป็น ส.ส. ถือว่ายังได้รับเอกสิทธิ์คุ้มครอง แต่เมื่อสิ้นสุดสมัยประชุมรัฐสภาเมื่อไหร่ ก็ต้องไปมอบตัวในคดีสั่งทำร้ายประชาชนเช่นเดียวกัน
     มีรายงานข่าวจากแกนนำ นปช.ว่า หลังจากอภิสิทธิ์เสนอแนวทางปรองดองโดยเบื้องต้นได้ยอมรับในหลักการประเด็นยุบสภา แต่ยังติดขัดประเด็นคดีความที่ยังมีการต่อรองไปมา เช่น ยื่นเงื่อนไขกลับไปยังนายกฯ และนายสุเทพ ที่คนเสื้อแดงเชื่อว่าเป็นผู้สั่งการต้องเข้ามอบตัวต่อตำรวจก่อนหากได้รับหรือไม่ได้รับการประกันตัว ก็ต้องเป็นเงื่อนไขเดียวกันเท่านั้น เลยเป็นที่มาที่ทำให้คนเสื้อแดงยังไม่มีทีท่าชัดเจนประกาศยุติการชุมนุมเมื่อใด

เสธ.แดงขู่ใครเลิกเป็น"ศพ"
     อย่างไรก็ดี แนวทางที่รัฐบาลหยิบยื่นมานั้น แกนนำคนเสื้อแดงมีทั้งเสียงตอบรับ โดยเฉพาะนายวีระ  ส่วนที่คัดค้านคือ พล.ต.ขัตติยะและแนวร่วมสายฮาร์ดคอร์บางส่วน ถึงกับมีข่าวสะพัดว่า "เมื่อไม่นานมานี้ เสธ.แดงได้พบปะ 3 เกลอ และถลกเสื้อโชว์ปืน ขู่ไม่ให้ 3 เกลอถอนตัว พร้อมกับพูดจาด้วยถ้อยคำรุนแรงถึงขั้นว่า พวกมึงออกจากเวทีเมื่อไหร่เป็นศพแน่"
     รายงานระบุว่า ที่ผ่านมานายวีระได้เจรจาทางลับกับตัวแทนรัฐบาล ทั้งนายกอร์ปศักดิ์ และ ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ บริพัตร ผู้ว่าฯ กทม. เพื่อหาข้อยุติในแนวทางปรองดอง ที่ไม่ต้องการให้มีการสูญเสียอีก โดยนายวีระได้รับปากเป็นการภายในว่าจะสลายการชุมนุมแน่นอน แต่ไม่มีท่าทีชัดเจนจากแกนนำคนอื่นๆ ทำให้นายวีระลำบากใจ เพราะตกปากรับคำกับทางฝ่ายรัฐบาลไว้มาก จึงลดบทบาทและมีกระแสข่าวว่าอาจจะขอถอนตัว
     นอกจากนี้ ยังมีประเด็นแนวร่วม 2 ขา เสื้อแดง-เพื่อไทย เพราะเป็นที่ทราบกันดีว่าการที่ พล.อ.ชวลิต ยงใจยุทธ เข้ามาร่วมงานพรรคเพื่อไทยอีกครั้งในตำแหน่งประธานพรรค นายวีระเป็นผู้ประสานงานหลัก ในเงื่อนไขช่วงนั้นมีการสัญญาใจให้ พล.อ.ชวลิตเป็นหัวหน้าพรรคสู้ศึกเลือกตั้ง หากชนะก็จะได้เป็นนายกฯ แต่ต่อมามีการเปลี่ยนแนวคิด โดยจะเสนอให้นายจาตุรนต์ ฉายแสง อดีตรักษาการหัวหน้าพรรคไทยรักไทย เป็นตัวนำหรือให้เป็นนายกฯ แทน
     "แม้ปัจจุบันนายจาตุรนต์จะยังติดโทษการเมือง 5 ปี แต่หนึ่งในเงื่อนไขที่นายอภิสิทธิ์หยิบยกมานั้น มีเรื่องการนิรโทษกรรมผู้ที่ถูกตัดสิทธิ์ทางการเมืองรวมอยู่ด้วย หากมีการผลักดันเป็นผลสำเร็จก่อนการเลือกตั้ง ก็จะทำให้อดีตกรรมการบริหารพรรคไทยรักไทยพ้นโทษแบนทันที แต่ในสายของนายวีระ ต้องการผลักดัน พล.อ.ชวลิต จึงทำให้นายวีระไม่พอใจอย่างมาก จึงถอยห่างจากคนเสื้อแดงและแนวร่วมมาได้ 2-3 วันแล้ว" แหล่งข่าวกล่าวอ้าง
     อย่างไรก็ตาม มีประเด็นที่ต้องคิดต่อกรณีของนายจาตุรนต์ หากมีการนิรโทษกรรมจริง จะทันการเลือกตั้งในวันที่ 14 พฤศจิกายนหรือไม่ เพราะตามรัฐธรรมนูญต้องเป็นสมาชิกพรรคการเมืองไม่น้อยกว่า 90 วัน
     นายจรัล ดิษฐาอภิชัย แกนนำเสื้อแดง ให้สัมภาษณ์นิวยอร์กไทม์ว่า แกนนำคนเสื้อแดงมีความคิดเห็นที่แตกแยกกันจริง บางส่วนอยากจบ บางส่วนอยากชุมนุมต่อ โดยมีนักการทูตหลายประเทศเข้ามาพบและแนะให้เลิกชุมนุมไปเสีย ซึ่งในนั้นมีทั้งจากสหรัฐ อังกฤษ ฝรั่งเศส และออสเตรเลีย
     วันเดียวกัน ที่ทำเนียบรัฐบาล มีการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) โดยมีรายงานแจ้งว่าในการประชุม ครม. นายอภิสิทธิ์ได้หยิบยกเรื่องการดำเนินการตามแผนการปรองดอง 5 ข้อ และการชุมนุมของกลุ่มคนเสื้อแดงมาหารือ โดยนายกฯ ได้สอบถาม ครม.ให้ช่วยกันแสดงความคิดเห็นว่า ถ้ากลุ่มคนเสื้อแดงไม่ยุติการชุมนุมแล้วจะทำอย่างไรต่อไป การยุบสภาจะยังคงมีต่อไปหรือไม่

ครม.ถกแผนจัดการ"แดง"
     รายงานข่าวแจ้งว่า รัฐมนตรีส่วนใหญ่ได้แสดงความเห็นไปในทิศทางเดียวกัน ว่าถ้ากลุ่มคนเสื้อแดงไม่ยอมเข้าร่วมกระบวนการปรองดอง รัฐบาลก็ไม่จำเป็นต้องทำตามข้อเสนอ การยุบสภาก็ถือว่าเลิกแล้วต่อกันไป อาทิ นายไตรรงค์ สุวรรณคีรี, นายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค, นายชุมพล ศิลปอาชา และนายสุเทพ เป็นต้น
     นายไตรรงค์ระบุว่า ถ้ากลุ่มคนเสื้อแดงไม่ยอมตอบรับทำตามข้อเสนอในโรดแม็พ ทางรัฐบาลก็ไม่จำเป็นต้องไปทำตามโรดแม็พที่เสนอเช่นกัน ไม่จำเป็นต้องไปยุบสภาและกำหนดเลือกตั้งใหม่ในวันที่ 14 พฤศจิกายน
     นายสุเทพกล่าวว่า ถ้าฝ่ายผู้ชุมนุมเขาไม่พูดให้ชัดเจนว่าจะทำอะไรอย่างไรให้ชัดเจน เราก็ไม่จำเป็นต้องไปบอกว่าจะทำอะไรที่ชัดเจนออกไป ถ้านายกฯ ไม่แสดงความชัดเจน ทางฝ่ายโน้นก็ปวดหัวกันไปเอง ขอให้ ครม.รับทราบกันไว้ เพื่อจะได้ตอบให้เป็นไปในทางทิศทางเดียวกัน
     ตอนหนึ่งนายสุเทพยังได้กล่าวติดตลกกับ ครม.ด้วยว่า "เมื่อช่วงเช้าผมเดินทางไปรับทราบข้อกล่าวหาต่ออธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษมาแล้ว แต่ผมไม่ได้ซัดทอดใครนะ" ทำให้ ครม.ต่างส่งเสียงหัวเราะไปตามๆ กัน
     แหล่งข่างอ้างคำพูดของนายกฯ  ในห้องประชุม ครม.ว่า "แผนปรองดองเราก็เดินหน้าต่อไป แต่ถ้าม็อบยังไม่ยุติการชุมนุม ก็จะต้องมีมาตรการหลายอย่างที่ต้องทำกันต่อไป โดยทำเป็นแผนระยะสั้นแบบชั่วคราว อาจจะต้องรบกวนให้รัฐมนตรีและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องรบกวนให้ช่วยกันไปชี้แจงกับประชาชนในบริเวณพื้นที่การชุมนุมและใกล้เคียง โดยขอความร่วมมือว่าอาจต้องเดือดร้อนกันมากขึ้นเป็นการชั่วคราว เพราะอาจจะต้องมีการตัดน้ำตัดไฟ หรือต้องอพยพคนในบริเวณนั้นออกมา และใกล้ที่จะเปิดเทอมแล้ว"
     นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ภายหลังการประชุมสภาถึงการดำเนินการตามแผนปรองดองว่า อยากย้ำว่าตั้งแต่ที่ตนประกาศแผนปรองดองมา ได้พูดตั้งแต่ต้นว่าไม่มีการเจรจาต่อรองอะไร หลายเรื่องซึ่งผู้ชุมนุมพูดมา มีคำตอบอยู่ในแผนอยู่แล้ว เช่น เรื่องพีทีวี ตนก็บอกตั้งแต่ต้นว่าชัดเจนอยู่แล้วว่ามีกลไกดูแลก่อนว่าเรื่องการใช้สื่อในลักษณะที่กระทบต่อความปรองดอง สร้างความเกลียดชังปลุกระดม เราต้องมีกลไกที่ชัดก่อนที่จะให้ฝ่ายต่างๆ ดำเนินการไปได้
     นายอภิสิทธิ์กล่าวว่า แล้วเรื่องที่มาพูดเรื่องเงื่อนไขที่ว่าให้รองนายกฯ สุเทพ หรือตนไปมอบตัว เพราะตนบอกแล้วว่าในเหตุการณ์ เรามีคณะกรรมการอิสระเข้ามาสอบสวนเหตุการณ์  แต่กรณีที่นายสุเทพเดินทางไปดีเอสไอเมื่อเช้าที่ผ่านมา ท่านไม่ได้ไปมอบตัว ท่านต้องการแสดงเจตนาว่าฝ่ายรัฐบาลพร้อมเข้าสู่กระบวนการยุติธรรม
     "วันนี้จะให้รองฯ สุเทพไปมอบตัวที่ไหนก็ไม่ได้ เพราะไม่มีหมายจับที่ไหน เพราะฉะนั้นเรื่องเหล่านี้ไม่ใช่ประเด็น ประเด็นอยู่ที่ว่าผู้ชุมนุมอยากจะเข้ากระบวนการปรองดอง ตอบรับเข้าสู่กระบวนการ เข้าสู่เงื่อนไขวันเลือกตั้งไม่ได้ ต้องเลิกการชุมนุม เพราะฉะนั้นเอาประเด็นเล็กประเด็นน้อยขึ้นมามันไม่จบ เพราะรัฐบาลไม่มีต่อรอง รับก็รับ ไม่รับก็ไม่รับ แล้วรับหรือไม่รับให้ตอบด้วยการกระทำ เวลานี้พี่น้องประชาชนเดือดร้อนมากพอแล้ว ความอดทนของประชาชนกลุ่มอื่นๆ ก็ลดลงมาก ความเสี่ยงต่อการสูญเสียที่จะเกิดขึ้นทั้งในพื้นที่การชุมนุมและนอกพื้นที่การชุมนุมก็มีมากทุกวัน ไม่มีประโยชน์อะไรกับใครเลยที่จะมายื้อเวลาในลักษณะอย่างนี้ ผมคิดว่าถ้าไม่ตอบรับก็บอกมาเลยว่าไม่ตอบรับ" นายอภิสิทธิ์กล่าว
     ผู้สื่อข่าวถามว่า กลุ่มผู้ชุมนุมตอบรับแผนปรองดองแต่ยื้อเวลา นายอภิสิทธิ์กล่าวว่า "ไม่มีแล้วครับ ผมถือว่าการไม่ยุติการชุมนุมคือการไม่ตอบรับ และวันนี้ ครม.มีการรับทราบสถานการณ์และรับทราบความจำเป็นของฝ่ายความมั่นคงที่ต้องดำเนินมาตรการต่อไป ซึ่งต้องกระทบต่อประชาชนที่อยู่ในพื้นที่ ไม่เฉพาะผู้ชุมนุม แต่คนที่ทำงาน ผู้อยู่อาศัย เราเตรียมแผนและต้องขอความร่วมมือพี่น้องประชาชนว่าอาจจะต้องได้รับความเดือดร้อนมากขึ้นในระยะเวลาสั้นๆ และจำเป็นต้องเตือนทุกฝ่าย
     "สิ่งที่จำเป็นต้องทำเพื่อคืนความเป็นปกติให้กับสังคมนั้นต้องทำอย่างเร่งด่วน อยากให้ผู้ชุมนุมแสดงออกเสียเลย วันพรุ่งนี้ (วันที่ 12 พฤษภาคม) ก็กลับบ้านกันเสีย ถ้ามีความจริงใจกับกระบวนการปรองดอง เพราะแผนการปรองดองผมเดินหน้าทุกเรื่อง วันนี้ ครม.อนุมัติกรอบการทำสมัชชาปฏิรูปประเทศไทย  มีการอนุมัติงบประมาณให้ทางสภาพัฒน์ ในนามมูลนิธิเข้าไปดำเนินการ แผนเรื่องสื่อก็หารือกับผู้ที่เกี่ยวข้อง แผนด้านการเมืองก็ให้สถาบันพระปกเกล้าเข้ามามีบทบาท ทุกเรื่องเดินไปข้างหน้าทั้งสิ้น เพราะฉะนั้นขอให้ยุติการชุมนุมซะ" นายอภิสิทธิ์กล่าว
     ถามว่า การตัดสินใจของภาครัฐในการเข้าไปจัดการพื้นที่ นายอภิสิทธิ์กล่าวว่า ตนถือว่าภาครัฐมีความชอบธรรมทุกประการ มีความจำเป็นในการให้เกิดความมั่นคงเป็นปกติ ถามว่าสิ่งที่นายกฯ ระบุหมายถึงการสลายการชุมนุมใช่หรือไม่ นายกฯ ตอบว่า มันคงจะเริ่มจากมาตรการจะต้องกระทบกระเทือนต่อพื้นที่
     เมื่อซักว่า อย่างไรที่บอกว่าประชาชนจะเดือดร้อนสักระยะ นายอภิสิทธิ์กล่าวว่า การใช้ชีวิตข้างในที่ชุมนุม ต้องมีการดำเนินมาตรการหลายอย่าง ทาง ศอฉ.จะเป็นผู้แถลง ทั้งนี้ฝ่ายความมั่นคงเตรียมการมาโดยตลอด แต่ฝ่ายผู้ชุมนุมได้ใช้เวลามามากกว่า 1 สัปดาห์ในการตอบรับแผนปรองดอง ตนถือว่าแผนปรองดอง 5 ข้อต้องเดินต่อ แต่เหตุการณ์บ้านเมืองไม่สงบก็กระทบต่อการเลือกตั้ง ควรจะกลับบ้านภายในวันพุธนี้
     รายงานแจ้งด้วยว่า ช่างห้าโมงเย็น ที่กรมทหารราบที่ 11 รักษาพระองค์ (ร.11 รอ.) นายสุเทพ  ในฐานะ ผอ.ศอฉ. ได้เป็นประธานประชุม ศอฉ. โดยมี พล.อ.อ.อิทธพร ศุภวงศ์ ผู้บัญชาการทหารอากาศ, พล.ต.อ.ปทีป ตันประเสริฐ รักษาราชการตำแหน่งผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ, นายถวิล เปลี่ยนศรี เลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ, นายธาริต เพ็งดิษฐ์ อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ และหน่วยงานด้านความมั่นคงที่เกี่ยวข้อง ร่วมในที่ประชุม
     แหล่งข่าวระบุว่า ศอฉ.ได้มีการสรุปสถานการณ์การชุมนุมของกลุ่มคนเสื้อแดงที่บริเวณสี่แยกราชประสงค์ โดยเฉพาะการประเมินท่าทีของกลุ่มคนเสื้อแดงหลังจากที่นายอภิสิทธิ์เสนอแนวทางปรองดองตั้งแต่วันที่ 3 พฤษภาคม ซึ่งทาง ศอฉ.จะรอดูท่าทีของกลุ่มคนเสื้อแดงในวันพุธนี้อีก 1 วันเท่านั้น
     "หากยังไม่มีการยุติการชุมนุมที่สี่แยกราชประสงค์ ทาง ศอฉ.ก็คงจะใช้มาตรการกดดันให้กลุ่มคนเสื้อแดงออกนอกพื้นที่ให้เร็วที่สุด เนื่องจากสัปดาห์หน้าโรงเรียนในพื้นที่เขต กทม. จะเปิดภาคเรียนหมดแล้ว จะยิ่งทำให้เกิดผลกระทบมากยิ่งขึ้น" แหล่งข่าวระบุ

ปูดฆ่า"ณัฐวุฒิ"ปลุกแดงรอบ 2
     ด้านท่าทีของพรรคร่วมรัฐบาลต่อแนวทางปรองดองของนายอภิสิทธิ์นั้น แกนนำพรรคร่วมรัฐบาลเผยถึงการประชุมพรรคร่วมรัฐบาลเมื่อวันจันทร์ว่า ที่ประชุมให้การสนับสนุนรัฐบาลเต็มที่ โดยเฉพาะแผนปรองดองทั้ง 5 ข้อ ส่วนเรื่องการแก้รัฐธรรมนูญเป็นเรื่องที่นายกฯ ให้คำมั่นสัญญาที่จะแก้ไขในเรื่องการแบ่งเขตเลือกตั้ง และมาตรา 190 ที่จำเป็นต้องแก้ไขเพราะประเทศเดินไม่ได้
     นอกจากนี้ แกนนำพรรคร่วมรัฐบาลได้มีการประเมินสถานการณ์การชุมนุมของคนเสื้อแดงว่าสัปดาห์นี้จะเป็นจุดล่อแหลมที่สุด เนื่องจากขณะนี้แกนนำสายอหิงสา เช่น นายวีระ, นายณัฐวุฒิ,  นพ.เหวง, นายจรัล ดิษฐาอภิชัย ต้องการจะหาทางลงแล้ว แต่ติดปัญหาที่แกนนำสายฮาร์ดคอร์ อาทิ พล.ต.ขัตติยะ นายอริสมันต์ ที่ไม่ต้องการให้จบ เพราะที่ผ่านมามีพฤติกรรมไปทำคนอื่นไว้เยอะ ทำให้ถูกจองกฐินจากหลายฝ่าย อาจเป็นการร่วมลงขันกันจัดการแกนนำกลุ่มฮาร์ดคอร์
     "ดังนั้นให้จับตาว่าภายในสัปดาห์นี้ แกนนำกลุ่มฮาร์ดคอร์อาจไปฆ่าแกนนำสายอหิงสา อาทิ นายณัฐวุฒิ  เพื่อให้การชุมนุมไม่จบ เพื่อให้เสื้อแดงกลุ่มฮาร์ดคอมีแนวทางป้องกันตัวเองต่อไป" แหล่งข่าวอ้าง
     ที่รัฐสภา มีการประชุมร่วมกันของรัฐสภา โดยมีนายชัย ชิดชอบ ประธานรัฐสภา ทำหน้าที่ประธานในที่ประชุม ก่อนเข้าระเบียบวาระการประชุมได้เปิดโอกาสให้หารือ โดยคณะกรรมการประสานงานทั้ง 3 ฝ่าย ได้แสดงความเห็นต่อสถานการณ์ความขัดแย้ง
     นายวิทยา บุรณศิริ ส.ส.พระนครศรีอยุธยา พรรคเพื่อไทย ประธานวิปฝ่ายค้าน ได้เสนอโรดแม็พฉบับพรรคเพื่อไทยต่อที่ประชุมรัฐสภานำเสนอแผน  3 ขั้นตอน 1.ขอให้รัฐสภาเป็นผู้ดำเนินการเสนอโรดแม็พแทนรัฐบาล โดยมีสาระสำคัญคือ จะต้องให้ความขัดแย้งของสังคมยุติโดยเร็วที่สุด  เพื่อนำประเทศชาติเข้าสู่ระบอบประชาธิปไตย และรัฐสภาจะต้องเป็นตัวกลางที่คุยกับทั้ง 2 ฝ่ายทั้ง นปช.และรัฐบาล เพื่อแก้ข้อวิตกกังวลที่ทั้ง 2 ฝ่ายมี
     2.ให้มีการกำหนดยุบสภาและวันเลือกตั้งให้ชัดเจนโดยเร็วที่สุด เพื่อให้บ้านเมือง ประเทศชาติ  พ้นภาวะความอึมครึมโดยเร็วที่สุด 3.ให้พัฒนาโรดแม็พให้เป็นสัญญาประชาคมโดยให้ทุกฝ่ายมีส่วนร่วม โดยจะขอให้ที่ประชุมตั้งคณะกรรมการชุดหนึ่งจะเป็นผู้รับฟังความเห็นและสรุปให้เสร็จโดยเร็วในเวลากำหนด
     นายวิทยา แก้วภราดัย ส.ส.นครศรีธรรมราช พรรคประชาธิปัตย์ ในฐานะประธานวิปรัฐบาล  กล่าวว่า เห็นด้วยกับข้อเสนอของสมาชิก ถ้าเริ่มจากการหันหน้าเข้าหากันสังคมก็เห็นด้วย แต่บรรยากาศนอกสภาต้องเย็นลงและมีท่าทีที่ปรึกษาหารือ จะทำให้ท่าทีในสภามีบรรยากาศที่ดีขึ้น ส่วนจะเป็นจริงได้หรือไม่ อยู่ที่วิถีปฏิบัติว่าพวกเราตั้งใจเดินไปสู่จุดนั้นหรือไม่.

http://www.thaipost.net/news/120510/22089


หัวข้อ: Re: [2513]"ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: เหยง 16 ที่ 12 พฤษภาคม 2553, 14:04:47
เดดไลน์ตัดน้ำ-ไฟกดดันม็อบแดงเลิกชุมนุม
วันพุธ ที่ 12 พฤษภาคม 2553 เวลา 11:30 น


ศอฉ.ขีดเส้นตาย 24.00 น. ม็อบแดงเลิกชุมนุม พร้อมกดดันเต็มรูปแบบ ตัดน้ำ-ไฟ สาธารณูปโภค

วันนี้ (12 พ.ค.) ที่กรมทหารราบที่ 11 รักษาพระองค์ (ร.11 รอ.) พ.อ.สรรเสริญ แก้วกำเนิด โฆษก ศอฉ. เปิดเผยว่า ภายหลัง นายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรี เป็นประธานการประชุม ศอฉ. มีการพูดคุยว่า ตลอดเวลาที่ผ่านมา ศอฉ.ได้ทำงานร่วมกับรัฐบาลมาด้วยดีตลอด นำความสงบมาสู่บ้านเมือง โดยเฉพาะในการขอคืนพื้นที่บางส่วน และบังคับใช้กฎหมายจากเบาไปหาหนัก พยายามประชาสัมพันธ์ให้ประชาชนรับทราบตลอดเวลาว่า การชุมนุมในพื้นที่ราชประสงค์เป็นการทำผิดกฎหมาย ขัดขวางการปฏิบัติหน้าที่ มีกลุ่มติดอาวุธ กลุ่มผู้ก่อการร้าย พยามยามให้หลีกเลี่ยงการชุมนุม หรือการเข้าร่วมชุมนุม เพราะถือว่าพื้นที่ดังกล่าวเป็นพื้นที่อันตราย

ต่อมา นายกฯ ได้แถลงแผนปรองดองแห่งชาติ ซึ่งระยะแรก ๆ มีสัญญาณที่ดีมาโดยตลอด แต่พอมาระยะหลัง ๆ ก็มีการเลื่อน และมีเงื่อนไขตามมาเป็นรายวัน จนต่อมานายสุเทพ ได้เข้ามอบตัวรับทราบข้อกล่าวหาจากดีเอสไอ แต่ทางแกนนำก็ยังไม่ได้ยุติการชุมนุม ดังนั้น ศอฉ.จะปฏิบัติการกดดันเต็มรูปแบบ โดยไม่ใช้กำลัง แต่จะมีการตัดน้ำ ตัดไฟ ตัดโทรศัพท์ ตัดสิ่งสาธารณูปโภครอบพื้นที่การชุมนุม รวมถึงสั่งปิดการส่งบำรุงทุกรูปแบบ ห้ามรถเมล์ รถไฟ เรือวิ่งผ่านพื้นที่โดยรอบพื้นที่ชุมนุมตั้งแต่เวลา 24.00 น. วันนี้ ดังนั้น ประชาชนพื้นที่โดยรอบการชุมนุมจะได้รับผลกระทบ โดยเฉพาะผู้ที่จะเข้า-ออกพื้นที่การชุมนุม ทางเจ้าหน้าที่จะให้ทำเอกสารการเข้า-ออก รายละเอียดต่าง ๆ รวมถึงสถานทูตอาจจะประสบปัญหาเหล่านี้ จึงต้องขออภัยมา ณ ที่นี้ เมื่อเหตุการณ์เข้าสู่ความสงบทุกอย่างก็จะเรียบร้อย และในเวลา 13.00 น. นายสุเทพ จะเป็นประธานประชุมผู้ว่าฯ 39 จังหวัด ที่มีผลกระทบต่อเรื่องดังกล่าว โดยจะเรียกมาทำความเข้าใจถึงผลกระทบ ชี้แจงให้ประชาชนไม่เข้าร่วมชุมนุม เลี่ยงการใช้กำลัง เบื้องต้น ศอฉ.เตรียม 6 ค่ายทหาร-ตชด.ในการควบคุม 42 แกนนำ ตาม พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ ถ้าหากมอบตัว.

http://www.dailynews.co.th/newstartpage/index.cfm?page=content&categoryId=627&contentID=65383


หัวข้อ: Re: [2513]"ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: เหยง 16 ที่ 12 พฤษภาคม 2553, 19:46:48
เป็นอย่างนี้หรือเปล่า?? มันถึงรบชนะไม่เป็น...............

เก้อจื้อเหวยเจิ้ง : ต่างคนต่างทำ
28 เมษายน 2553 08:38 น.

 
       《各自为政》
      
       各(gè) อ่านว่า เก้อ แปลว่า ต่างก็, แต่ละ
       自(zì) อ่านว่า จื้อ แปลว่า ตนเอง
       为(wéi) อ่านว่า เหวย แปลว่า เป็น, เพื่อ
       政(zhèng) อ่านว่า เจิ้ง แปลว่า งานของรัฐ แต่ในที่นี้หมายถึงกิจการงานใดๆ

                                                 (http://www.cmadong.com/imageupload/2010_Cmadong-Image/data/image/l2b4qr-cb76e6.jpg)
        
       ในสมัยชุนชิว เมื่อแคว้นซ่งจับมือเป็นพันธมิตรกับแคว้นจิ้น ส่งผลให้แคว้นฉู่ไม่พอใจเป็นอันมาก ฉู่อ๋องจึงให้แคว้นเจิ้งซึ่งเป็นแคว้นพันธมิตรของฉู่บุกโจมตีแคว้นซ่ง
      
       แม่ทัพใหญ่แคว้นซ่ง นามหัวหยวน เป็นผู้ที่จะนำทัพออกไปตั้งรับศัตรู โดยคืนก่อนที่จะมีการรบนั้น หัวหยวนจัดงานเลี้ยงปลุกปลอบขวัญเหล่าทหารและแม่ทัพนายกอง โดยมีการเชือดแพะเพื่อนำเนื้อมาทำอาหารเลี้ยงกองทัพ ตั้งแต่แม่ทัพผู้ใหญ่จนถึงนายทหารผู้น้อยทุกคนดื่มกินอย่างสำราญใจ
      
       ในตอนหนึ่งรองแม่ทัพผู้หนึ่งได้เอ่ยถามหัวหยวนว่า "ท่านจะมิเรียกหยังเจินผู้ทำหน้าที่ขับรถศึกให้ท่านมาดื่นกินด้วยหรอกหรือ?"
      
       หัวหยวนตอบว่า "ก็แค่คนขับรถม้าคนหนึ่ง การรบของข้าไม่จำเป็นต้องพึ่งเขา ไม่จำเป็นต้องให้เขามาพบข้า เพราะเรื่องการรบ ข้าเป็นผู้สั่งการ ทั้งยังวางแผนเอาไว้เป็นอย่างดีแล้ว ท่านไม่จำเป็นต้องกังวลใจ"
      
       เมื่อถึงวันสัประยุทธ์ระหว่างแคว้นซ่งและแคว้นเจิ้ง หัวหยวนนั่งอยู่บนรถศึกของหยังเจิน เพื่อออกคำสั่งในการรบทั้งหมด โดยในระหว่างการประหัตประหารของเหล่ากองทัพ พลัดกันรุกผลัดกันรับอยู่นั้น แม่ทัพหัวหยวนได้ออกคำสั่งให้หยังเจินขับรถมาศึกเข้าไปยังจุดที่ทหารเจิ้งเบาบางที่สุด แต่มิคาด หยังเจินกลับควบรถม้าศึกเข้าไปยังจุดที่มีกองทหารเจิ้งหนาแน่นที่สุด แม่ทัพหัวหยวนเห็นดังนั้นจึงเอ่ยถามอย่างตกใจว่า "เจ้าคิดไปยังที่ใด?" หยังเจิน กล่าวตอบอย่างดุดันว่า "วานนี้ยามแบ่งอาหารแบ่งสุรายกให้ท่านเป็นผู้ตัดสินใจ ทว่าเรื่องราวในวันนี้ ตอนนี้ มีเพียงข้าน้อยตัดสินใจเท่านั้น!"
      
       ผลสุดท้าย การตัดสินใจทรยศขายชาติของหยังเจิน ทำให้หัวหยวนเสียชีวิตในสนามรบ ส่วนกองทัพซ่งก็ประสบความพ่ายแพ้ครั้งยิ่งใหญ่
      
       ต่อมา ชนรุ่นหลังใช้คำพูดของหยังเจินมาแปลงเป็นสำนวนที่ว่า "เก้อจื้อเหวยเจิ้ง" หรือ "ต่างคนต่างทำ" หมายถึง ผู้ที่อยู่ในหน่วยงานหรือองค์กรเดียวกัน แต่ต่างยึดเหตุผลของตนเองเป็นใหญ่โดยไม่สนใจส่วนรวม หรือคนที่ไม่สนใจที่จะร่วมมือกับผู้อื่น
      

 
 
 
จาก http://www.manager.co.th/asp-bin/mgrView.asp?NewsID=9530000057164
 


หัวข้อ: Re: [2513]"ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: Kaimook ที่ 12 พฤษภาคม 2553, 21:42:30
อ้างถึง
ข้อความของ prapasri AH เมื่อ 10 พฤษภาคม 2553, 19:41:32
ดูรูปนี้ให้หายเซ็งการเมือง นะเหยงนะ

(http://www.cmadong.com/imageupload/2010_Cmadong-Image/data/image/l27f88-2a0aff.jpg)
  สวัสดีค่ะพี่แอ๊ะ พี่หมอหาญ รูปนี้สวยมากกกกกกค่ะ...
พี่เหยงขราาาาาตามอ่านค่ะสะใจจังค่ะ


หัวข้อ: Re: [2513]"ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: เหยง 16 ที่ 13 พฤษภาคม 2553, 10:00:48
อีกหนึ่งข้อมูล...เพื่อทราบ

แฉ“พล.เอก พ.”รับงาน“ทักษิณ”โยงเหตุฆ่าโหด “พ.อ.ร่มเกล้า”!?
12 พฤษภาคม 2553 21:40 น.

 
       "เรื่องมันฟ้อง"
       โดย....กรงเล็บ
       
       ความกังวลของคนไทยในขณะนี้ มิใช่เพียงแค่การชุมนุมที่ยืดเยื้อของ “กลุ่มไพร่เสื้อแดง”บริเวณพื้นที่ราชประสงค์เท่านั้น แต่ยังหวาดผวากับ “กองกำลังก่อการร้ายติดอาวุธ”ที่มียุทธศาสตร์และวางยุทธวิธีแบบทหารอาชีพ
       
       มิใช่มือสมัครเล่น หรือเป็นพวกทหารบ้านที่ได้รับการฝึกฝนผ่านโรงเรียน นปช.เท่านั้น
       
       เพราะการวางแผนรบ ขุดกับดักล่อ จนทำให้เกิดโศกนาฏกรรมบริเวณสี่แยกคอกวัว ล้วนเป็นแผนก่อการร้ายที่ออกแบบมาเพื่อ...
       
       ทวงคืนอำนาจรัฐ แก้แค้นการรัฐประหารวันที่ 19 กันยายน ที่ทำให้ ปีศาจทักษิณ ต้องพ้นจากอำนาจและยังไม่เห็นหนทางกลับมาเหยียบแผ่นดินไทยได้จนถึงทุกวันนี้
       
       มีใครบ้างที่หัวใจอัดแน่นไปด้วย “ความแค้น”จากการทำรัฐประหารครั้งนั้น
       
       แน่นอนว่า อันดับหนึ่งยังคงเป็น “ปีศาจทักษิณ” ที่พร้อมทุ่มทรัพยากรทั้งหมดที่มี เพื่อชำระแค้น และทวงคืนอำนาจ
       
       ความแค้นฝังหุ่นยังเกิดขึ้นกับคนอีกกลุ่มหนึ่งแบบฝังรากลึก คือ กลุ่มเตรียมทหารรุ่น 10 ที่ ปีศาจทักษิณ กำลังวางตัวให้เป็นทายาทสืบทอดอำนาจในกองทัพ แต่มีอันต้องกระเด็นออกจากอำนาจเสียก่อนทำให้ ตท.10 ตกกระป๋องหลุดวงโคจรจากการกุมอำนาจในกองทัพ ชนิดที่เรียกว่าไม่มีโอกาสเติบโตหากการเมืองไม่เปลี่ยนขั้ว
       
        การทำรัฐประหาร 19 กันยายน 2549 “กลุ่มบูรพาพยัคฆ์”เป็นกำลังหลักที่ทำให้ปฏิบัติการดังกล่าวสำเร็จลุล่วงอย่างหมดจด ปราศจากการสูญเสียเลือดเนื้อ ด้วยแผนลับลวงพรางที่แยบยล เฉียบขาด และรวดเร็ว จนนายทหาร ตท.10 ขุมข่ายกำลังหลักของ “ปีศาจทักษิณ” ไม่ทันตั้งตัว ทำให้ปราชัยไปโดยที่ไม่มีโอกาสต่อสู้
       
        ว่ากันว่า ระหว่างปฏิบัติการ พ.อ.ร่มเกล้า ธุวธรรม นายทหารที่เสียชีวิตในยุทธการขอคืนพื้นที่บริเวณสะพานผ่านฟ้าลีลาศในวันที่10เมษายน ถึงกับต้องเอาปืนจ่อหัวควบคุมตัว พล.ท.พฤณฑ์ สุวรรณทัต อดีต ผบ.พล.1 รอ. เพื่อน ตท.10 คนสนิทของปีศาจทักษิณ
       
       ซึ่ง พล.ท.พฤณฑ์ สุวรรณทัต อยู่ในฝ่ายคุมกำลัง และเตรียมออกปฏิบัติการตอบโต้ชิงอำนาจรัฐไม่ให้หลุดไปอยู่ในมือของการรัฐประหารครั้งนั้น
       
        คงไม่ใช่เรื่องบังเอิญที่ “ทหารแตงโม”ในกองทัพจะเลือกชี้เป้าไปที่หัวของ พ.อ.ร่มเกล้า จนนายทหารกล้าผู้นี้จนต้องพลีชีพสังเวยความแค้นของใครบางคน
       
        คงไม่ใช่อุบัติเหตุที่ทำให้ระเบิดเอ็ม 79 ตกบึ้มสนั่นลงกลางเต๊นท์บัญชาการของนายทหารบูรพาพยัคฆ์ระหว่างปฏิบัติการขอคืนพื้นที่ที่สี่แยกคอกวัว
       
       จากงานด้านการข่าวของรัฐตรงกันทุกหน่วยว่า “กองกำลังติดอาวุธชุดดำ”เชื่อมโยงกับ “นายทหารแตงโม”ในราชการที่ยังคงอยู่ในกองทัพ
       
       โดยมี “พล.เอก พ.พาน” ที่รู้จักและสนิทแนบแน่นกับ “ปีศาจทักษิณ” เป็นฝ่ายเปิดวาล์วท่อน้ำเลี้ยง เดินทางไปสิงคโปร์ก่อนการชุมนุมใหญ่ของก่อการร้ายแดง เพื่อนำมาใช้หล่อเลี้ยงกองกำลัง ซึ่งมีทั้งที่เป็นทหารรับจ้าง รวมไปถึงทหารจากประเทศเพื่อนบ้านด้วย
       
        ส่วนคนคุมกำลังและวางแผนการรบ คือ คนที่คับแค้นอย่างที่สุดจากการไม่มีโอกาสได้ต่อสู้ในวันที่มีการทำรัฐประหาร โดย “ทหารแตงโม”คนสำคัญคนหนึ่งเป็นศูนย์กลางการบังคับบัญชาของกองกำลังแดง ซึ่งงานด้านการข่าวของรัฐบาลพบว่า
       
       นายพลคนนี้มีการติดต่อกับแกนนำก่อการร้ายแดง ทั้ง วีระ มุสิกพงษ์ จตุพร พรหมพันธ์ อริสมันต์ พงษ์เรืองรอง ณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ และ พล.ต.ขัตติยะ สวัสดิผล หรือ เสธ.แดง รวมทั้งยังมีการประสานกับฟากฝั่งประเทศเพื่อนบ้านอย่างต่อเนื่องอีกด้วย
       
        ที่สำคัญ คือ “พ.คนใกล้ชิดปีศาจทักษิณ” ยังรับงานตรงจากดูไบเพื่อปฏิบัติการโฉดสร้างสงครามกลางเมืองบนผืนแผ่นดินไทย
       
        ส่วนมือไม้ที่ถูกนำมาใช้ปฏิบัติการครั้งนี้นั้น นอกจากจะเป็น “ทหารพรานค่ายปักธงชัย”แล้ว ยังมีมือปืนระดับพระกาฬจากค่ายนักการเมืองดังที่เคยหนีจากประเทศกัมพูชาด้วยข้อหาปฏิวัติมาแล้ว
       
       นอกจากนี้เครือข่ายดังกล่าวยังเชื่อมโยงกับ ชยุต ไหลเจริญ หัวหน้าการ์ดแดง เมธี อมรวุฒิกุล และ เคทอง ซึ่งทั้งสามคนล้วนแต่ถูกจับกุมแล้วทั้งสิ้น ดังนั้นการขยายผลต่อยอดเพื่อทลายขบวนการก่อการร้ายจึงมิใช่เรื่องที่เป็นไปไม่ได้
       
        ที่น่าสนใจคือ วันที่ 10 เมษายน ก่อนปฏิบัติการโฉดของกองกำลังชุดดำจะเริ่มต้นขึ้น ปรากฏหลักฐานยืนยันว่า นายพลคนนี้ติดต่อกับ จตุพร อริสมันต์ ณัฐวุฒิ และหัวหน้าผู้ก่อการร้ายตัวจริงที่ดูไบ
       
        หลังการติดต่อกับปีศาจไม่กี่ชั่วโมง ก็มีการยื่นเงื่อนไขผ่าน กอร์ปศักดิ์ สภาวสุ เลขาธิการนายกรัฐมนตรี ผ่านไปทาง อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ให้ลาออกจากตำแหน่ง กำหนดให้ สุเทพ เทือกสุบรรณ รักษาการตำแหน่งนายกฯ
       
       เพื่อแก้ไขรัฐธรรมนูญ เปิดทางให้คนนอกที่ไม่เป็น ส.ส.มาเป็นนายกรัฐมนตรี โดยมีการระบุชื่อ พล.อ.ชวลิต ยงใจยุทธ ให้เป็นนายกรัฐมนตรีของรัฐบาลแห่งชาติ ที่จะเข้ามาแก้ไขกติกาเพื่อให้ ปีศาจหลุดพ้นบ่วงกรรม
       
        แต่แผนการนี้ล้มเหลว เพราะ อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ไม่เล่นด้วย จากนั้นไม่นานความอำมหิตผิดมนุษย์ก็เกิดขึ้นที่สี่แยกคอกวัว จนถนนราชดำเนินแปรสภาพเป็นสมรภูมิรบ ทำให้มีผู้เสียชีวิต 26 ราย บาดเจ็บอีกเกือบพันคน
       
        เครือข่ายการก่อการร้ายที่นำมาเปิดโปงครั้งนี้ สะท้อนชัดว่า แกนนำก่อการร้ายแดงทุกคน ล้วนแต่รับทราบดีว่า ใครคือผู้บัญชาการกองกำลังติดอาวุธ มิใช่เป็นกองกำลังไม่ทราบฝ่ายตามที่มีการกล่าวอ้าง
       
        เพราะหากเป็นกองกำลังไม่ทราบฝ่ายจริง ณัฐวุฒิ คงไม่กล้าที่จะเจรจากับกอร์ปศักดิ์ในค่ำคืนวันที่ 10 เมษาทมิฬ ยุติปฏิบัติการของทั้งสองฝ่าย
       
       โดยภายหลังจากตกลงกัน “กองกำลังชุดดำ”ก็หลบเข้าสู่เงามืดใช้โล่มนุษย์ไพร่แดงเป็นที่กำบัง
       
        ถ้า ณัฐวุฒิ ไม่รู้ว่า ใครคือกองกำลังไม่ทราบฝ่ายที่ทั้งสาดกระสุน ยิงเอ็ม 79 และปาระเบิดใส่ทหาร แล้วจะหาญกล้ามาเจรจาหยุดยิงได้อย่างไร?
       
        ข้อหาก่อการร้ายยังถือว่าน้อยเกินไป เพราะพฤติกรรมของคนกลุ่มนี้คือ กบฏในราชอาณาจักร โดยมีปีศาจทักษิณ เป็นหัวหน้ากบฏตัวจริง

 
 
 
จาก http://www.manager.co.th/asp-bin/mgrView.asp?NewsID=9530000065662
 


หัวข้อ: Re: [2513]"ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: เหยง 16 ที่ 13 พฤษภาคม 2553, 10:06:19
บทบรรณาธิการ นสพ แนวหน้า ออนไลน์ วันพฤหัสบดี(วันพืชมงคล)ที่ 13 พฤษภาคม 2553

บทบรรณาธิการ  
 

ทำไมกลุ่มก่อการร้ายยังลอยนวล? (บทบรรณาธิการ)
 
 
 
      นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี กล่าวในรายการ"เชื่อมั่นประเทศไทยกับนายกฯอภิสิทธิ์"ทางสถานีโทรทัศน์ NBTเมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา ประกาศย้ำเส้นตายให้ม็อบคนเสื้อแดงสลายการชุมนุมจากการยึดพื้นที่ผ่านราชประสงค์ ภายในวันที่ 10 พฤษภาคม เนื่องจากหากยังชุมนุมต่อไปก็จะยิ่งสร้างความสูญเสียทั้งต่อชีวิตผู้คนและชาติบ้านเมืองจากการลอบก่อเหตุร้ายของกลุ่มก่อการร้ายที่แฝงตัวอยู่ในม็อบคนเสื้อแดง

      ขณะเดียวกัน เป็นครั้งแรกที่นายกรัฐมนตรีระบุชัดเจนว่า พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี และ พล.ต.ขัตติยะ สวัสดิผล หรือเสธ.แดง แกนนำกองกำลังกลุ่มฮาร์ดคอร์ ของขบวนการเสื้อแดงพยายามล้มแผนการปรองดองที่เสนอโดยรัฐบาล ซึ่งฝ่ายที่ไม่ต้องการให้เกิดการปรองดองก็คือ กลุ่มก่อการร้าย

      คำประกาศของนายกฯอภิสิทธิ์ครั้งนี้ มีขึ้นหลังจากเกิดเหตุการณ์กลุ่มก่อการร้าย ใช้ปืนเอ็ม 16 ยิงใส่ผู้ชุมนุมกลุ่มเสื้อหลากสีบริเวณย่านสีลม และยิงกระสุนระเบิดจากเครื่องยิงแบบเอ็ม 79 ใส่ด่านตรวจของทหารตำรวจที่บริเวณสวนลุมพินี เมื่อคืนวันที่ 7 พฤษภาคม ที่ผ่านมา เป็นเหตุให้ตำรวจเสียชีวิต 2 นาย ประชาชนบาดเจ็บจำนวนหนึ่ง นอกจากนี้ ยังมีการลอบยิงสำนักงานธนาคารกรุงเทพ แห่งหนึ่งกลางกรุง

      แม้หลังคำประกาศของนายกรัฐมนตรีก็ยังเกิดเหตุลอบก่อการร้ายอย่างต่อเนื่องโดยมีการลอบยิงกระสุนระเบิดเอ็ม 79 ใส่สำนักงานธนาคารกรุงเทพอีกแห่งหนึ่ง ที่ย่านรัชดาภิเษก ลาดพร้าว รวมทั้งการปาระเบิดใส่บ้านพักของประธานคณะกรรมการการเลือกตั้ง(กกต.)อย่างอุกอาจ ซึ่งจากพฤติกรรมของกลุ่มก่อการร้ายดังกล่าวแสดงให้เห็นถึงการท้าทายอำนาจรัฐและกฏหมายอย่างเหิมเกริมย่ามใจ

      ที่สำคัญการที่ผู้นำประเทศถึงกับระบุรายชื่ออย่างชัดเจนว่า พ.ต.ท.ทักษิณและพล.ต.ขัตติยะ พยายามขัดขวางแผนการปรองดองและมีส่วนโยงใยกับกลุ่มก่อการร้าย ย่อมแสดงว่าต้องมีข้อมูลหลักฐานบ่งชี้ชัดเจน ดังนั้นนายกรัฐมนตรีต้องดำเนินการตามกฏหมายขั้นเด็ดขาดกับบุคคลทั้งสองรวมทั้งผู้ร่วมขบวนการก่อการ้ายอย่างจริงจัง ทั้งนี้เนื่องจากแผนสู่ความปรองดองจะไม่มีวันเกิดขึ้นอย่างแท้จริงได้เลยตราบใดที่ชาติบ้านเมืองยังถูกคุกคามจากภัยก่อการร้ายด้วยการลอบก่อวินาศกรรมอยู่ตลอดเวลา

      ขณะเดียวกันการเลือกตั้งทั่วไป ซึ่งกำลังจะมีขึ้นตามแผนการปรองดองในวันที่ 14 พฤศจิกายนนี้ ก็จะไม่มีทางที่จะเกิดความบริสุทธิ์ยุติธรรม ราบรื่นและปลอดจากภัยคุกคามของกลุ่มก่อการร้าย

      ดังนั้น นายกรัฐมนตรีจะต้องแสดงวุฒิภาวะความเป็นผู้นำที่ต้องพูดจริงทำจริง ไม่ใช่สักแต่พูดแล้วไม่ทำด้วยการจับกุมดำเนินคดีกวาดล้างขบวนการนอกกฎหมายนี้ให้สิ้นซากโดยเร็วที่สุด ไม่ใช่ปล่อยให้ผู้ที่ต้องสงสัยว่าเป็นแกนนำกลุ่มก่อการร้ายอย่าง พล.ต.ขัตติยะ หรือแกนนำคนเสื้อแดงหลายคนยังคงลอยนวลปฏิบัติการเย้ยอำนาจรัฐท้าทายกฏหมายซ้ำซากต่อหน้าเจ้าหน้าที่รัฐอย่างอุกอาจเหิมเกริม
 
วันที่ 13/5/2010
 
http://www.naewna.com/news.asp?ID=210866


หัวข้อ: Re: [2513]"ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: เหยง 16 ที่ 13 พฤษภาคม 2553, 10:10:57
บทบรรณาธิการ นสพ ไทยโพสต์ ออนไลน์ 13 พ.ค. 2553

ข้าชั่วเอ็งต้องเลว
บทบรรณาธิการ 13 พฤษภาคม 2553 - 00:00

   เงื่อนไขต่อรองที่ออกมาเป็นมติของแกนนำคนเสื้อแดง  ขอย้ำว่ามติแกนนำให้นายสุเทพ เทือกสุบรรณ  รองนายกรัฐมนตรี ฝ่ายความมั่นคง ผู้อำนวยการแก้ไขสถานการณ์ฉุกเฉิน (ศอฉ.) ไปมอบตัวกับเจ้าหน้าที่ตำรวจกองปราบปราม แล้วแกนนำคนเสื้อแดงทั้งหมดจะไปมอบตัวด้วย และหากนายสุเทพ  เทือกสุบรรณ ได้ประกันตัว แกนนำคนเสื้อแดงทั้งหมดจะต้องได้ประกันตัวด้วย แล้วจึงจะเลิกชุมนุม

     นี่คือมติแกนนำของกลุ่มคนที่อ้างว่าออกมาเรียกร้องประชาธิปไตยแบบรัฐไทยใหม่ ต้องการให้เกิดขึ้นเป็นจริงเป็นจังอย่างยิ่ง เพื่อหนีความรับผิดชอบในความเสียหายทุกด้านที่เกิดจากการชุมนุมมาร่วม 2 เดือน เตรียมการกันอย่างลนลาน ให้ญาติผู้เสียชีวิตในเหตุการณ์ 10 เมษายน ไปร้องตำรวจกองปราบปรามให้ดำเนินคดีกับนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ และนายสุเทพ เทือกสุบรรณ เร่งให้เกิดกระบวนการเอาผิด ออกหมายเรียก หมายจับนายกรัฐมนตรีและรองนายกรัฐมนตรี

     ในใจลึกๆ  ของแกนนำคนเสื้อแดงคงลุ้นให้ตำรวจกองปราบปรามออกหมายเรียกบุคคลทั้ง 2 ภายในวันสองวันนี้ เพื่อต่อรองขอประกันตัวเป็นลำดับต่อไป ทั้งๆ ที่รู้อยู่เต็มอกว่า ศอฉ.ให้โอนคดีที่เกี่ยวข้องกับเหตุการณ์วันที่ 10 เมษายนทั้งหมดไปอยู่ในความรับผิดชอบของกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) โดยมี 9 หน่วยงานเข้าร่วมทำคดีด้วย หนึ่งในนั้นคือ กองปราบปราม

     ไม่ใช่ไม่รู้ว่ากระบวนการยุติธรรมในคดีนี้จะเดินไปอย่างไร แต่บรรดาแกนนำผู้เรียกร้องประชาธิปไตยรัฐไทยใหม่กลุ่มนี้ต้องการเข้าไปบิดเบือนกระบวนการ โดยยืมมือรัฐบาลเข้าไปแทรกแซงเพื่อให้กลุ่มของตนได้ประโยชน์ เดินออกจากพื้นที่ชุมนุมโดยไม่ต้องผิดชอบใดๆ

     ย้อนกลับไปเหตุการณ์ 7 ตุลาคม 2551 รัฐบาลสมชาย วงศ์สวัสดิ์ สลายการชุมนุมกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยหน้าอาคารรัฐสภา ทำให้ น.ส.อังขณา ระดับปัญญาวุฒิ หรือน้องโบว์เสียชีวิต และมีผู้ได้รับบาดเจ็บแขนขาขาดอีกจำนวนมาก กระบวนการพิจารณาคดีขณะนั้นต้องใช้เวลาโดยไม่มีใครเข้าไปชี้นิ้วแทรกแซง

     วันที่ 10 ตุลาคม 2551 ส.ส.พรรคประชาธิปัตย์ 20 คน ขอให้คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ไต่สวนข้อเท็จจริงกรณีนายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ นายกฯ พล.อ.ชวลิต  ยงใจยุทธ รองนายกฯ สั่งการให้เจ้าหน้าที่ตำรวจใช้อาวุธปราบปรามประชาชน ซึ่งขณะนั้นไม่มีการประกาศใช้ พ.ร.ก.ฉุกเฉิน

     ป.ป.ช.มาพิจารณาสำนวนไต่สวนและชี้มูลเอาเมื่อวันที่ 7 กันยายน 2552 ว่าทั้งนายสมชาย และพล.อ.ชวลิต ยงใจยุทธ มีความผิดทางอาญาฐานเป็นเจ้าพนักงานปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ เพื่อให้เกิดความเสียหายแก่ผู้ใดผู้หนึ่ง ตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 157 จะเห็นกระบวนการกินระยะเวลาไปปีกว่า

     ขณะที่เหตุการณ์วันที่ 10 เมษายน มีการสั่งการภายใต้พระราชกำหนดบริหารราชการในสภาวะการฉุกเฉิน และ ศอฉ.ซึ่งดำเนินภายใต้ พ.ร.ก.ฉบับนี้ ได้มีมติให้โอนคดีทั้งหมดที่เกี่ยวเนื่องจากเหตุการณ์วันที่ 10 เมษายน ไปอยู่ภายใต้การดูแลของดีเอสไอ ซึ่งยังต้องมีกระบวนการพิจารณาตามลำดับขั้น และคงเป็นไปไม่ได้ที่ ผอ.ศอฉ. จะไปมอบตัวกับกองปราบปราม อีกทั้งการปฏิบัติหน้าที่ของนายกฯ และรองนายกฯ ก็เป็นการปฏิบัติภายใต้ พ.ร.ก.ฉุกเฉิน

     เมื่อฝ่ายหนึ่งอยู่ในฐานะผู้มีอำนาจรัฐและใช้อำนาจตามกฎหมาย ขณะที่อีกฝ่ายอยู่ในฐานะผู้โค่นล้มอำนาจรัฐ และเลยไปถึงสถาบันสูงสุดของประเทศ การจะมาต่อรองโดยใช้มวลชนเป็นตัวประกันเพื่อให้ตกเป็นผู้ต้องหาเหมือนกัน และต้องได้รับการประกันตัวเหมือนกัน เพียงเพื่อไม่ให้ตัวเองถูกจองจำ เป็นการสร้างเงื่อนไขของคนจนตรอกที่ขี้ขลาดที่สุด.

 
http://www.thaipost.net/news/130510/22132


หัวข้อ: Re: [2513]"ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: prapasri AH ที่ 13 พฤษภาคม 2553, 10:23:04
อ้างถึง
ข้อความของ Kaimook เมื่อ 12 พฤษภาคม 2553, 21:42:30
อ้างถึง
ข้อความของ prapasri AH เมื่อ 10 พฤษภาคม 2553, 19:41:32
ดูรูปนี้ให้หายเซ็งการเมือง นะเหยงนะ

(http://www.cmadong.com/imageupload/2010_Cmadong-Image/data/image/l27f88-2a0aff.jpg)

ขอบคุณค่ะ น้อง ไข่มุกดี พี่แอ๊ะหน้าเหมือนคนเหนือเลยนะ

แต่ไม่ได้เป็นญาติโกโฆติกา กะ คุณทั้กกกกกกกก นะคะ
 สวัสดีค่ะพี่แอ๊ะ พี่หมอหาญ รูปนี้สวยมากกกกกกค่ะ...



พี่เหยงขราาาาาตามอ่านค่ะสะใจจังค่ะ



หัวข้อ: Re: [2513]"ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: เหยง 16 ที่ 13 พฤษภาคม 2553, 10:25:42
คอลัมม์ "คนปลายซอย" ของคุณเปลว สีเงิน

ฝรั่ง "วิสัยทัศน์ไทย" ชี้ทางพ้นทุกข์
เปลว สีเงิน 13 พฤษภาคม 2553 - 00:00

      ครับ...ทุกอย่างกำลังเดินไปตามเส้นทาง "เป็น-ที่ต้องเป็น" นายกฯ ประกาศล้มเลิกแผน "ยุบสภา-เลือกตั้ง ๑๔ พ.ย." ไปแล้ว เพราะพวกกบฏ "รับปากแล้วขากทิ้ง" ไม่ยอมสลายการชุมนุม นายกฯ ดูจะ "เครื่องติด" และฝ่าย ศอฉ.ก็ "ติดเครื่อง" เตรียมเบาไปหาหนักรับแผนกัน  แต่ผมว่า...โน่นแหละ ตีห้า สิบแปดนาที ของวันเสาร์ที่ ๑๕ พ.ค.ไปแล้วนั่นแหละ น่าจะเป็นเวลา  breakfast ของคนราชประสงค์ด้วย "ต้มเลือดหมู" ร้อนๆ! พวกแกนนำกบฏคงรู้เหมือนกันว่าเวลาของ "ลมหายใจ" กระชั้นเข้ามาทุกที ตอนนี้เลยแตกกันเละ "อหิงสา" พวกหนึ่ง อย่างนายวีระ นายก่อแก้ว ก็อยากมอบตัว พวก "มหิงสา" คือกลุ่มซาดิสม์อย่างสุภรณ์-อริสมันต์-จตุพร-เหวง อีกพวกหนึ่ง พวกนี้มอบตัวแล้วกลัวเข้าคุก ก็เลยยึดชาวบ้านที่หลอกมาชุมนุมเป็นตัวประกันความปลอดภัยให้ตัวเองไปเรื่อยๆ

      ฉะนั้น ช่วงนี้ "ดูเหตุการณ์" ไปซัก ๒-๓ วัน ไม่มีอะไรต้องคุยกัน แต่พอดีท่านอาจารย์ nongnapas  tapasanant อีเมล์เรื่องที่ "คุณสุทธิชัย หยุ่น" สัมภาษณ์ "นายสตีเฟน ยัง" นักศึกษาฮาร์วาร์ด ลูกชายอดีต  "เอกอัครราชทูตสหรัฐประจำประเทศไทย" ผู้เติบโตและเล่าเรียนต่ออยู่ในไทย ได้เห็นความเปลี่ยนแปลงทั้งด้านสังคม เศรษฐกิจ และการปกครอง ตั้งแต่ยุคล่าอาณานิคมจนถึงยุคคอมมิวนิสต์สู่เอเชียอาคเนย์ มาให้ผมอ่าน

      ความจริง บทสัมภาษณ์นี้ ตั้งแต่ ๘ ก.ย.๕๒ ในรายการชีพจรโลก ทางช่อง ๙ จำได้ว่าเมื่อออกอากาศไปมีเสียงวิพากษ์-วิจารณ์ในเชิงตอบรับกันมาก แต่เมื่อได้อ่านอีก ผมก็อดใจไม่ไหวที่จะขออนุญาตนำ "ของเก่ามาเล่าใหม่" เพราะของเก่านั้น "ค่าควรเมือง" จริงๆ ขอให้ท่านตั้งใจอ่านแล้วคิด-ใคร่ครวญตามไปด้วยนะครับ

       นายสตีเฟนกล่าวว่า บิดาของเขาใกล้ชิดพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และใกล้ชิดกับจอมพลสฤษดิ์  ธนะรัชต์ ตั้งแต่ปี ๒๕๐๔ จึงได้เห็นช่องว่างระหว่างคนชนชั้นสูงกับคนจนในชนบทอย่างชัดเจน จนมาถึงปัจจุบัน ปี ๒๕๕๒ ตนได้ยินกลุ่มคนเสื้อแดงพูดว่า ไทยมีช่องว่างระหว่างคนรวยในกรุงเทพฯ กับคนจนในชนบท ทำให้คิดว่ามันเป็นเรื่องไร้สาระ เพราะทุกวันนี้ช่องว่างมีเพียงแค่นี้ เทียบกับที่ประเทศสหรัฐก็มีช่องว่างเช่นกัน

       นายสตีเฟนกล่าวต่อว่า เข้ามาอยู่ในประเทศไทย ตั้งแต่ปี ๒๕๐๔ ซึ่งเป็นเวลากว่า ๔๘ ปีมาแล้ว  โดยมาอยู่ตั้งแต่ประเทศไทยยังไม่มีไฟฟ้า และน้ำประปาใช้ รวมทั้งถนนยังเป็นดินลูกรัง แต่เมื่อวันเวลาผ่านไป ประเทศไทยมักเจอเรื่องราวแปลกประหลาดเสมอ ทำนองว่าประเทศนี้ยังไม่มีสิ่งนั้น-สิ่งนี้ ต้องทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงโดยปัญญาชนบางคนที่ต้องการปฏิวัติอำนาจ

       เขามองว่าเรื่องนี้ไร้สาระ และสิ่งเหล่านี้ทำให้เขามองเห็นความทะเยอทะยานของผู้ชายชื่อ "พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร" ตั้งแต่เริ่มทำธุรกิจในเครือชินคอร์ปอเรชั่นฯ และสัมปทานโทรศัพท์ของรัฐบาลด้วยระบบผูกขาด

       นายสตีเฟนย้ำว่า สาเหตุที่ พ.ต.ท.ทักษิณทำเงินได้เยอะและกลายเป็นคนรวย เพราะรัฐบาลได้มอบฐานะบุคคลอภิสิทธิ์ให้เขา พร้อมทั้งให้สิทธิพิเศษในการผูกขาดด้านต่างๆ จึงทำให้การปกครองของคนชั้นสูงหรือกลุ่มคนร่ำรวยมีอภิสิทธิ์เหนือคนอื่น "นี่ไม่ใช่เรื่องของผู้ชายคนหนึ่งที่เริ่มจากความยากจนแล้วไต่เต้าขึ้นมารวย เขามีสายสัมพันธ์พิเศษ และผมเห็นเขาใช้สายสัมพันธ์พิเศษเหล่านั้น" นายสตีเฟนกล่าว

       นายสตีเฟนกล่าวอีกว่า สำหรับเขาแล้วมุมมองความคิดของ พ.ต.ท.ทักษิณเป็นแบบจักรพรรดิจีน  นั่นคือ ในสมัย "ฉิน จื่อ หวาง" ได้มีการแบ่งชนชั้น เสมือนเบื้องบนเป็นสวรรค์ ถัดลงมาเป็นคนคนนึง  ส่วนเบื้องล่างคือคนที่เหลือ แล้วเข้าควบคุมรัฐบาล ตำรวจ ผู้พิพากษา นักธุรกิจ โทรทัศน์ และนักหนังสือพิมพ์ ซึ่งสิ่งเหล่านี้ทำให้ทุกสิ่งอยู่ใต้เขา ซึ่งไม่เคยมีผู้นำไทยคนไหนในประวัติศาสตร์ชาติไทยที่พยายามทำเช่นนี้

      โดย พ.ต.ท.ทักษิณชอบทำให้คนไทยตัวเล็กๆ แหงนมองว่าเขาสำคัญ เพราะพวกเขามีความรู้สึกของระบบอุปถัมภ์อยู่ โดย พ.ต.ท.ทักษิณได้เข้าไปตัดลำดับขั้นต่างๆ เพื่อเข้าไปปกครองโดยตรง ทำให้ทุกคนที่ทำงานอยู่ต้องตกภายใต้ตัวผู้นำ ไม่ใช่ความร่วมมือแบบเก่าๆ ซึ่งคนส่วนใหญ่ทำงานให้ พ.ต.ท.ทักษิณ เชื่อว่าเงินของอดีตนายกรัฐมนตรีจะช่วยดูแลพวกเขาได้

       แต่ถ้าถามว่าลักษณะเช่นนี้เรียกว่าเป็นประชาธิปไตยหรือไม่ ต้องขอตอบว่า คำว่าประชาธิปไตยที่ปราศจากศีลธรรมที่ว่าย่ำแย่ที่สุดแล้ว ยังเทียบไม่ได้กับความยุติธรรมที่เป็นสิ่งจำเป็นกว่านั้น

       "ย้อนกลับไปที่อริสโตเติล หากคุณเป็นประชาธิปไตย แต่คุณฉ้อโกงทำร้ายผู้อื่น เราเรียกว่าทรราช  คุณไม่มีศีลธรรม ไม่ยุติธรรม นั่นเป็นระบบที่เลวร้าย อริสโตเติลกล่าวไว้ว่า ทุกๆ ระบบไม่ว่าจะเป็นระบอบกษัตริย์ ขุนนาง หรือประชาธิปไตย ต้องมีกฎหมาย มีศีลธรรม และเป็นธรรม ที่จะควบคุมอำนาจในทางมิชอบ" นายสตีเฟนกล่าว

       นายสตีเฟนกล่าวต่อว่า สิ่งที่ประเทศไทยเดินผิดทาง คือการปกครองลักษณะเดียวกับประเทศอาร์เจนตินาที่อยู่ภายใต้การนำของ "ฮวน เปรอง" ที่ไปบอกหากเลือกเขาเป็นผู้นำ จะเอาเงินจากคนรวยมาช่วยคนจน ทั้งที่เมื่อปี ๑๙๓๐ ก่อนยุค ฮวน เปรอง อาร์เจนตินาได้ชื่อว่าเป็นประเทศที่ร่ำรวย แต่เมื่อเจอผู้นำเผด็จการทำลายเศรษฐกิจ และสร้างพรรคเผด็จการ ๗๐ ปีต่อมาอาร์เจนตินากลับต้องเป็นประเทศที่เผชิญกับความยากจนและแตกแยก หากประเทศไทยยังปล่อยไว้เช่นนี้ ก็จะประสบชะตากรรมเดียวกันกับอาร์เจนตินา!

       นายสตีเฟนย้ำอีกว่า ระบบที่ดีอยู่ที่ใครจะสร้างความยุติธรรมในสังคมได้ หรือใครจะปกครองสังคมอย่างมีศีลธรรม ซึ่งต้องมีการตรวจสอบและควบคุมกันและกันได้ เหมือนเช่นรัฐธรรมนูญปี ๒๕๔๐  ที่นับว่าดี แต่มีบางคนที่มีเงินแล้วเข้ามาทำตัวเหมือนหนูที่จะเอาเนยแข็งไปทั้งก้อน ทำให้คุณความดีของรัฐธรรมนูญสูญหายไป เกิดเหตุผู้คนไม่พอใจ ทำการประท้วง หรือปฏิเสธการประนีประนอม

      โดยที่ผ่านมา ได้ยิน พ.ต.ท.ทักษิณพูดตลอดว่า เหตุการณ์รัฐประหารเมื่อวันที่ ๑๙ กันยายน ปี ๒๕๔๙ ที่ล้มล้างอำนาจเขา นับเป็นการข่มเหงเขามาตลอด ทั้งที่ก่อนหน้านี้ พ.ต.ท.ทักษิณไม่เคยพูดว่า ตนเองฝ่าฝืนเจตนารมณ์ของรัฐธรรมนูญ และทำลายกฎหมายอย่างไร ยังไม่นับกับสร้างความชอบธรรมและอะลุ้มอล่วยทางกฎหมาย คือ หากจะพูดให้ชัดเจน พ.ต.ท.ทักษิณเองที่เป็นฝ่ายทำให้กระบวนการล่มสลาย และการรัฐประหารเป็นเพียงแค่ส่วนหนึ่งของการล่มสลายเท่านั้น

       "ตอนนั้นผมรู้สึกเศร้าใจ อะไรคือทางออกของไทย ถ้าเดินหน้าต่อไป พ.ต.ท.ทักษิณอาจดำเนินเหตุการณ์ไปจบลงด้วยเผด็จการแบบจีน ซึ่งไม่ดีต่อประเทศไทยแน่ๆ แต่ถ้าเลือกรัฐประหารมันก็ขัดรัฐธรรมนูญ ซึ่งประเทศไทยไม่ควรตกอยู่ในจุดนั้น ไม่ใช่เพราะกองทัพ ไม่ใช่เพราะคุณอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ  ไม่ใช่เพราะ พล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ แต่เป็นเพราะคนคนนึงกับทีมของเขาเอง" นายสตีเฟนกล่าว

       สำหรับกรณี พ.ต.ท.ทักษิณ โทษ พล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ ประธานองคมนตรีและรัฐบุรุษ ว่าอยู่เบื้องหลังความเดือดร้อนของประเทศ นายสตีเฟนกล่าวประเด็นนี้ว่า พ.ต.ท.ทักษิณเป็นคนฉลาดในการพูด ดังนั้น เขารู้จักหัวใจคนไทยดี รู้ว่าควรจะพูดอะไรให้คนไทยคิดเหมือนเขา ซึ่งในตะวันตกเรียกว่าเป็นผู้ปลุกปั่น โดยเขาจะศึกษาตัวตนของคนฟังว่ามีอารมณ์อย่างไร  แล้วก็พูดในสิ่งที่คนอยากได้ยิน ไม่ใช่ด้วยความรู้สึกชอบหรือห่วงใย แต่เป็นเพราะต้องการอะไรบางอย่าง  นั่นคือ เสียงโหวตและความภักดี

       ท้ายสุด นายสตีเฟนกล่าวว่า ยังหวังว่าความแตกแยกทางการเมืองในประเทศไทยจะสามารถแก้ไขได้ ถ้าหากทุกฝ่ายนั่งลงแล้วคุยกันถึงวิธีแก้ปัญหาแล้วทำงานร่วมกัน โดยทุกคนควรมีจิตสำนึกในสิ่งที่ถูกต้องตามทำนองคลองธรรม จริยธรรม และความภาคภูมิใจที่เป็นคนไทย พร้อมทั้งไม่จำเป็นต้องเปลี่ยนหรือต้องฟังใคร รวมทั้งที่สำคัญกว่านั้น หากความทะเยอทะยานของ พ.ต.ท.ทักษิณถูกนำออกไปจากบริบท ปัญหานี้ก็น่าจะมีทางออกสักทาง

        "ยารสหวานๆ แบบฉบับไทยๆ กินทุกๆ วันเป็นเดือนหรือ 3 เดือนแล้วคุณจะดีขึ้นเอง ดีกว่ายาที่กินวันเดียว แต่คนอาจไม่ชอบ ยานี้คืออะไร ผมว่ามันต้องมาจากผู้นำรัฐบาล ผู้นำพรรคการเมือง พวกเขาอาจต้องกลืนยาขม จะต้องไม่มีใครรับสินบน ใช้เวลา 3 ปี ตำรวจและทุกๆ คนต้องทำหน้าที่ของตัวเอง นี่คือยาขมทำให้คนไทยได้เห็นว่านี่คือกฎเกณฑ์ใหม่" นายสตีเฟนกล่าว

       ขอให้ความสุข ความเจริญ จงมีกับประเทศไทย-คนไทย และคนที่รัก-รู้จักประเทศไทย "ด้วยเข้าถึง"  ทุกคน-ทุกท่าน เทอญ.


http://www.thaipost.net/news/130510/22134


หัวข้อ: Re: [2513]"ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: prapasri AH ที่ 13 พฤษภาคม 2553, 10:34:08
อ้างถึง
ข้อความของ เหยง 16 เมื่อ 12 พฤษภาคม 2553, 13:39:47
อ้างถึง
ข้อความของ prapasri AH เมื่อ 10 พฤษภาคม 2553, 10:39:09
หนูอ้อย14 ถ้าอากาศไม่ร้อน  พรุ่งนี้พี่เข้ากรุงเทพ แล้วจะพาน้องติ๊บไปสมุยนะ

สน...มะ

เหยง คะ พี่แอ๊ะไม่ได้ไปสมุยแล้วล่ะเพราะ ลูกต้องรีบกลับมาช่วยพี่หาญตรวจคนไข้
พี่หาญจะเหงาๆ พอพี่แอ๊ะไม่อยู่เลยต้องรีบกลับ

แต่ต้องมาเข้าเวบ ทั้งๆที่ตาจะปิดอยู่แล้ว ง่วงนอนค่ะ ตื่นตี4 มาเครื่อง6โมง

ได้ไปชิดลมแล้ว เห็นเป็นป้อมปราการ ของไอ้แดงคนชั่ว ครองเมืองจริงๆ
ทำกันยังกะเมืองไทยเป็นของ พวกมันพวกเดียว ป่าเถื่อนที่สุดดดดดดดดด
รถติดวินาศสันตะโร





หัวข้อ: Re: [2513]"ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: เหยง 16 ที่ 13 พฤษภาคม 2553, 10:38:22
คอลัมม์ "ท่านขุนน้อย" พูดเรื่องวิกฤติเศรษฐกิจของกรีซ และผลกระทบกับประเทศไทย??!!

วิกฤติหนี้สาธารณะ
ท่านขุนน้อย 13 พฤษภาคม 2553 - 00:00

      จากวิกฤตการณ์หนี้สินที่กำลังเกิดขึ้นกับประเทศกรีซอยู่ทุกวันนี้  ทำให้ผู้รู้ ผู้เชี่ยวชาญ ในบ้านเรา ผู้มักจะออกมาให้ความคิด ความเห็น วิพากษ์ วิจารณ์ สถานการณ์ความเป็นไปต่างๆ อย่างเป็นปกติ ได้นำเอาตัวเลขหนี้สาธารณะของประเทศต่างๆ ในยุโรป และอเมริกา มาเปิดเผยให้เห็นกันจะจะ ซึ่งก็พอสรุปได้ว่า...ต่างก็ล้วนแต่เป็นหนี้ เป็นสิน ชนิดอีนุงตุงนัง ไปด้วยกันทั้งนั้น...
            --------------------------------------------
     สำหรับประเทศกรีซที่กำลังแบกหนี้ จนข้อต่อกระดูกสันหลังตั้งแต่ส่วนที่เชื่อมต่อกับก้านสมอง ไปยันถึงส่วนที่เชื่อมต่อกับต่อมลูกหมาก ต่างก็ร้าวระบมไปด้วยกันทั้งสิ้น ว่ากันว่า...จำนวนหนี้สาธารณะของประเทศขณะนี้ มีปริมาณสูงยิ่งกว่าผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศตัวเอง หรือสูงกว่าจีดีพีประเทศตัวเองไปถึง 123.3 เปอร์เซ็นต์เอาเลยทีเดียว พูดง่ายๆ ก็คือ ไม่ว่าจะทำมาหารับประทานมาได้เท่าไหร่ ก็คงแทบไม่เหลืออะไร เอาไว้ให้รับประทานได้แบบเต็มปากเต็มคำ มีแต่จะต้องกินลม กินแล้ง หรือ กัดก้อนเกลือกินไปพร้อมๆ กับการชดใช้หนี้สิน จะอีกซักกี่ปีกี่ชาติก็ยังไม่รู้...
           ----------------------------------------------
     แต่ที่หนักไปกว่านั้นก็คือ ประเทศอิตาลี...แม้นว่าจะยังพอมีเครดิต มีสถานภาพทางเศรษฐกิจอันเป็นที่ยอมรับกว่าประเทศกรีซ แต่ถ้าดูจากจำนวนหนี้สาธารณะ ที่ท่วมจานมะกะโรนีอยู่ในขณะนี้ ว่ากันว่า...ปาเข้าไปถึง 127 เปอร์เซ็นต์ของจีดีพี เรียกว่า...ไม่ว่าจะทุ่มเทเรี่ยวแรง ขายน้ำมันมะกอก  ขายพิซซ่า ขายเสื้อผ้าแบรนด์เนม หรือ ขายสโมสรฟุตบอลกัลโชซีรีส์เอได้ทั้งลีก ฯลฯ แต่โอกาสที่จะล้างหนี้ ล้างสิน ได้แบบครบถ้วนสมบูรณ์นั้น...ยังไงๆ ก็คงยากซ์ซ์อยู่ดี มีแต่ต้องทำมาหารับประทานในแบบทำไป ใช้หนี้ไป จะอยู่ดีมีสุข มีเงินทอง เหลือกิน เหลือใช้ พอที่จะเอาไปใช้จ่ายแบบสุรุ่ยสุร่าย  ประเภทเอาไปดึงหน้า เอาไปเที่ยวโสเภณีแบบนาย แบร์ลุสโกนี นายกรัฐมนตรีของตัวเองนั้น...ย่อมเป็นไปไม่ได้โดยเด็ดขาด!!!
          -------------------------------------------------
     แม้แต่ฝรั่งเศส และเยอรมนี อันถือเป็น เสาหลัก ของสหภาพยุโรปก็ว่าได้ ปริมาณหนี้สาธารณะของฝรั่งเศสนั้นอยู่ที่ 92.5 เปอร์เซ็นต์ของจีดีพี ขณะที่เยอรมนีลดลงกว่ากันเล็กน้อย คืออยู่ที่ 82.0 เปอร์เซ็นต์ของจีดีพี แต่ก็ถือเป็นหนี้ระดับหัวโตอยู่พอประมาณ เพราะถ้าเป็นประเทศเล็กๆ อย่างไทยแลนด์ แดนสยาม ของเราแล้ว แค่ปริมาณหนี้สาธารณะพุ่งขึ้นไปถึง 40 กว่าๆ เกือบจะถึง 50 เปอร์เซ็นต์ของจีดีพีเท่านั้น ใครต่อใครต่างออกมาโวยวาย ด่ารัฐบาล ด่าผู้ที่ไปสร้างหนี้ ชนิดแทบไม่เป็นอันกินอันนอน แม้นว่าลักษณะพื้นฐานของโครงสร้าง และศักยภาพทางเศรษฐกิจของประเทศอย่างฝรั่งเศส หรือเยอรมนี จะแข็งแกร่งพอสำหรับการสร้างหนี้ หรือการแบกรับปริมาณหนี้ได้มากกว่าบ้านเราหลายต่อหลายเท่าก็ตาม...แต่ขึ้นชื่อว่า หนี้ แล้ว ย่อมไม่ได้เป็นอะไรที่น่าพิศมัย น่าเพลิดเพลินเจริญใจเอาเลยแม้แต่น้อย...
        -----------------------------------------------------
     ส่วนประเทศยุโรปที่ไม่ได้ร่วมอยู่ในสกุลเงินยูโร อย่างอังกฤษ...ช่วงปี พ.ศ.2551 ตัวเลขหนี้สาธารณะยังอยู่ในระดับพอ กล้อมๆ แกล้มๆ คืออยู่ที่ 47 เปอร์เซ็นต์ของจีดีพี แต่ในปีต่อมา...ตัวเลขหนี้มันดันพุ่งพรวดๆ พราดๆ ขึ้นไปถึง 94 เปอร์เซ็นต์ของจีดีพี ไม่ต่างไปจากไอร์แลนด์ ที่ยกระดับหนี้จาก 28 เปอร์เซ็นต์ของจีดีพี กลายมาเป็น 93 เปอร์เซ็นต์ของจีดีพี ภายในช่วงระยะเวลาปีเดียวเท่านั้น และแน่นอนว่า...สำหรับประเทศอภิมหาอำนาจ ผู้ได้ชื่อว่าขยันขันแข็งเอามากๆ ในการสร้างหนี้ อย่างสหรัฐอเมริกา จากตัวเลขหนี้สาธารณะระดับ 62 เปอร์เซ็นต์ของจีดีพี มาถึง ณ ขณะนี้...ก็ไปไกลถึง 100 เปอร์เซ็นต์ของจีดีพีเรียบโร้ยย์ย์แล้ว...
        -----------------------------------------------------
     พูดง่ายๆ ว่า ไม่ว่าประเทศไหนต่อประเทศไหน เอาไป-เอามา...ต่างก็เป็นหนี้หัวโตไปด้วยกันแทบทั้งโลกนั่นแหละ ความพยายามที่จะเข้าไปช่วยกอบกู้วิกฤตการณ์หนี้สินในประเทศหนึ่งประเทศใด อันที่จริง...ก็คงไม่ต่างไปจากการหาทางที่จะทำให้ประเทศนั้นๆ เกิดขีดความสามารถพอที่จะใช้หนี้ให้กับประเทศตัวเอง เพื่อที่ประเทศตัวเองจะได้มีเงินเอาไว้ใช้หนี้ต่อๆ กันไป ชนิดไล่เรียงกันเป็นลูกระนาดนั่นเอง วิกฤติหนี้สินในประเทศหนึ่งประเทศใด มันจึงไม่ได้เป็นวิกฤตการณ์แต่เพียงเฉพาะประเทศนั้นๆ เท่านั้น แต่เป็นวิกฤตที่เชื่อมโยง บูรณาการ ในระดับทั่วทั้งโลกอย่างมิอาจหลีกเลี่ยงได้...
      ---------------------------------------------------------
     ด้วยเหตุนี้...ไม่ว่าผู้รู้ ผู้เชี่ยวชาญ อย่างท่านรองผู้ว่าธนาคารแห่งประเทศไทย คุณ เกริก วณิกกุล ท่านจะออกมาปลอบประโลมใครต่อใคร เอาไว้ทำนองว่า วิกฤติหนี้สินของประเทศกรีซ จะไม่ก่อให้เกิดความกระทบกระเทือนต่อเสถียรภาพสถาบันการเงินไทยเอาเลยแม้แต่นิด เนื่องจากระบบธนาคารพาณิชย์ไทย  มีเงินลงทุน เงินฝาก เงินให้สินเชื่อ ในต่างประเทศ เพียงแค่ 2.8 เปอร์เซ็นต์ของสินทรัพย์ในระบบสถาบันการเงินพาณิชย์ทั้งหมด...แต่ก็นั่นแหละ ขึ้นชื่อว่าธนาคารแห่งประเทศไทยซะอย่าง...คงต้องฟังหู-ไว้หู เพราะในช่วงที่ไปเจ๊งค่าเงินบาท ก็ออกมาในแนวเดียวกันนี้นี่แหละ หลังจากออกมาปลอบใครต่อใครได้ซักพัก ตัวเองก็เป็นอันหงายผลึ่ง...ไปไม่กลับ-หลับไม่ตื่น-ฟื้นไม่มี ปล่อยให้ผู้รู้ ผู้เชี่ยวชาญ อย่างคุณ เริงชัย มะระกานนท์ กลายเป็นจำเลยรักไปตามลำพังคนเดียว...
     -----------------------------------------------------------
     การที่โลกทั้งโลก ต่างเต็มไปด้วยประเทศที่เป็นหนี้ เป็นสิน ระดับหนักๆ ด้วยกันทั้งนั้น...ว่าไปแล้วมันน่าจะเป็นตัวสะท้อนให้เห็นถึงความเปราะบาง ความไม่สมดุล และความวิปริต ผิดเพี้ยน หรือ ความไม่สมเหตุสมผล ของระบบเศรษฐกิจระดับโลกทั้งโลกอย่างเห็นได้ชัดเจน แม้นว่าโดยวิธีคิดตามหลักเศรษฐศาสตร์แบบทุนนิยม จะทำให้ผู้รู้ ผู้เชี่ยวชาญ ทางด้านเศรษฐกิจทั้งหลาย มักไม่ค่อยแยแส ยี่หระ กับการทวีจำนวนหนี้สิน หรือ หนี้สาธารณะ ในแต่ละประเทศกันซักเท่าไหร่นัก เพราะมัวแต่ไปทุ่มเทความสนใจให้กับการขยายตัวของจีดีพีกันเป็นหลัก การกู้หนี้ยืมสินเพื่อเอามาใช้ในการพัฒนาเศรษฐกิจ หรือเอามาใช้ขับเคลื่อนการขยายตัวของตัวเลขจีดีพี จึงเป็นไปในแบบสุกรไม่กลัวน้ำร้อนด้วยกันทั้งสิ้น...จนท้ายที่สุด แต่ละประเทศก็เลยต้องกลายสภาพ เป็นหมูพะโล้ หรือ เกาเหลาหมูตุ๋น ให้กับ ทุนเสรี ที่ไหลมา-ไหลไป โดยปราศจากความเป็นชาติใดๆ รองรับเอาไว้เลยแม้แต่น้อย...
       -------------------------------------------------------
     อย่างไรก็ตาม...ไม่ว่าวิกฤติหนี้สินในประเทศกรีซ หรือประเทศอื่นๆ ในยุโรป จะมีผลกระทบต่อประเทศไทยหรือไม่? เพียงใด? ยังไงๆ...ก็คงเทียบไม่ได้กับผลกระทบอันเนื่องมาจากวิกฤติการเมืองภายในของเราเอง ที่จนบัดนี้ก็ยังคงเป็นไปในแบบมั่วๆ มึนซ์ซ์ๆ อยู่เช่นเดิม อีกทั้งไม่ว่าผู้รู้ ผู้เชี่ยวชาญ รายใด สาขาใด ต่างก็ใบ้รับประทานไปด้วยกันทั้งสิ้น...ด้วยเหตุนี้ ระหว่างที่รอรัฐบาลและฝ่ายความมั่นคง  ท่านเพิ่งจะตื่นขึ้นมา คิดจะ ตัดน้ำ ตัดไฟ ตัดสัญญาณโทรศัพท์ หลังจากปล่อยให้ม็อบป่วนบ้าน ป่วนเมือง มานานถึง 2 เดือนกว่าๆ ก็เลยหนีไม่พ้นที่จะต้องหันไปเอาเรื่องวิกฤติหนี้สินมาคั่นเวลาไว้พลางๆ....
     ----------------------------------------------------------
     ปิดท้ายด้วยวาทะวันนี้ จาก จอห์น สจ๊วต มิลล์ (อีกครั้ง) ....ข้าพเจ้าเรียนรู้ที่จะแสวงหาความสุขด้วยการจำกัดความอยากของข้าพเจ้า  แทนที่จะพยายามสนองตอบต่อความอยากนั้นๆ....
     -----------------------------------------------------------


หัวข้อ: Re: [2513]"ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: เหยง 16 ที่ 13 พฤษภาคม 2553, 10:47:13
คอลัมม์ "ถูกทุกข้อ" ของ สามวา สองศอก

สู้แล้วรวย
ถูกทุกข้อ 13 พฤษภาคม 2553 - 00:00

     ณัฐวุฒิสุดสำราญอยู่บ้านใหญ่
     หมู่บ้านหรูอยู่ไม่ไกลเมืองนนท์นั่น
     ราคาแค่สิบกว่าล้านท่านแน่ครัน
     มาซื้อกันง่ายดายสบายดี
               บ้านหลังนี้ที่เจ้าของท่านครองอยู่
               เป็นบ้านหรูเพิ่งต่อเติมเสริมศักดิ์ศรี
               ได้เงินมาตั้งก้อนใหญ่เป็นไรมี
               ทำเต็มที่เสียโอ่อ่าน่าอยู่จัง
     มีชิงช้า สนามหญ้า ศาลาไม้
     ลูกจะได้รับลมเย็นวิ่งเล่นมั่ง
     ต้นไม้งามน้อยใหญ่ปลูกไว้บัง
     รั้วเป็นไม้ดูขรึมขลังอลังการ
               รถตู้มีสามสี่คันท่านขับเก่ง
               แต่ละคันล้วนเบ้งเบ้งหลายหลายล้าน
               ท่านก็แบ่งกันขับกับบริวาร
               จอดในบ้านและหน้าบ้านกันทั่วไป
     นี่เห็นถอยรถป้ายแดงออกแผลงฤทธิ์
     แต่ท่านจอดมิดชิดเก็บเอาไว้
     เป็น โฟล์คตู้ สวยแกร่งแพงเหลือใจ
     ท่านอยากได้เพราะมันดังดั่งคำลือ
               ทะเบียนรถของท่านนั้นเท่มาก
               ท่านคงอยากจำง่ายสบายบรื๋อ
               จึงล็อกเลขไว้ชุดหนึ่งซึ่งก็คือ
               เลขที่ถือเป็นทะเบียนทุกคันไป
     บ้านปักษ์ใต้ท่านอดทนปนลำบาก
     แต่ลูกชายสบายมากอยู่บ้านใหญ่
     เหตุที่เป็นเช่นนี้นี่อะไร
     ถ้าไม่ใช่ "สู้แล้วรวย" รวยจริงจริง
                                             คนเมืองนนท์

                จดหมายก่อนตาย                                       
เรียน คุณสามวา สองศอก
     ผมเป็นอดีตทหารผ่านศึกเวียดนาม ปัจจุบันอายุ 60 กว่า ป่วยเป็นโรคหัวใจ ไม่แน่ใจว่าจะอยู่ได้อีกนานแค่ไหน แต่ก่อนตายขอเขียน จ.ม.ถึงคุณสักครั้ง มิฉะนั้นตายนอนตาไม่หลับ
     ทำไมคนไทยจึงแตกแยกรุนแรง   ร้าวลึก   ต้องมาฆ่ากันเองอย่างนี้   เสียใจสำหรับการตายทั้ง 2 ฝ่าย ลูกคนจนทั้งนั้น
     คนไทยเครียดกันทั้งประเทศ ป่วยกันมากมาย ป่วยทางจิต ป่วยโดยไม่รู้ว่าตัวเองป่วย โดย
เฉพาะนักการเมือง เราปล่อยให้นักการเมืองที่หิวเงิน หิวอำนาจ มาปกครองพวกเรามานานเกิน
ไปแล้ว พวกเราคนไทยทั้งประเทศควรตั้งสติให้ดี แล้วร่วมกันปฏิรูปประเทศไทยครั้งใหญ่เสียที
     "ศีลธรรมไม่กลับมาโลกาจะวินาศ" คำพระท่านกล่าวไว้ สังคมไทยที่มีผู้นำหิวเงิน ก็พาให้คนไทยหิวเงินกันทั้งประเทศ หน้ามืดตามัวหาแต่เงินหาแต่อำนาจ ตั้งแต่กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน นายก อบต.เรื่อยขึ้นมา ยิ่งถ้าให้เป็นกำนันได้ตลอดชีวิต ยิ่งจะงอกรากแผ่บารมีช่วย ส.ส.ชั่วๆ หาเสียงได้มากขึ้น ขอร้องเพื่อชาติไทยอันเป็นที่รักยิ่งของเราชาวไทย หยุดเถิดเสื้อแดง หยุดเถิดทักษิณ หยุดเถิดผู้มีอำนาจใต้ดินทั้งหลาย ทหารไทยต้องมั่นคงเด็ดขาด ถ้าจะสู้เพื่อชาติต้องเด็ดขาดกว่านี้
     ตำรวจไทยต้องเรียกศักดิ์ศรีคืนมา ไปจับผู้ร้าย ไม่ใช่ไปให้ผู้ร้ายจับ ตำรวจชั่วๆ ต้องปราบให้หมด ตำรวจตั้งบ่อนเอง ตำรวจเดินตามเจ้าพ่อเจ้าแม่มีมากมาย ตำรวจเสื้อแดงที่ชอบไปเที่ยวปลุกระดมคนตามต่างจังหวัด พวกนี้ใส่ชุดดำโพกผ้าพันคอสีแดง พอเขาได้ทีตั้งวงไฮโลหลอกเงินคนข้างนอกอีก เมามากๆ เอาปืนกลยิงขึ้นฟ้าเห็นแล้วอนาจใจ ทหารไทยสู้ออกนำหน้าลูกน้อง อย่าอยู่ข้างหลังอย่างแกนนำเสื้อแดงสู้เพื่อชาติ อย่าอยู่ใต้อำนาจคนโกง
                                                          จ่าณรงค์ ชุ่มมณี
ตอบ จ่าณรงค์
     ได้เขียนจดหมายแล้วคงจะสบายใจขึ้นนะครับ อย่าไปเครียดนักเลยกับพวกเสื้อแดง แตงโม มะเขือเทศ
     
                ทุกข์ของนักเรียนชาย               
เรียน คุณสามวา สองศอก
     ผมมีข้อข้องใจทำไมนักเรียนชายตัดผมสั้นติดหนังหัว ไถจนสูงถึงกระหม่อม แต่นักเรียนหญิงถึงไว้ผมยาวได้ เพราะเหตุใดในเมื่อนักเรียนเหมือนกัน แต่ระเบียบถึงแตกต่างกันนักเรียนชายห้ามไว้ผม-นักเรีนนหญิงไว้ผมได้? หรือว่านักเรียนชายไม่ใช่คน ไม่มีความรู้สึก ไม่มีชีวิตจิตใจ ไม่รู้สึกอาย (หัว)
     ผมก็อยากรู้ รมต.ศธ.ในอดีตคนใดคิด คิดได้อย่างไร จนถึง รมต.ศธ.คนปัจจุบันไม่คิดแก้ไขบ้างหรือ ไปดูโรงเรียนในต่างประเทศด้วย นักเรียนชายของเขาตัดผมเหมือนเราหรือไม่ เช่น อังกฤษ อเมริกา สิงคโปร์ มาเลย์ จีน ญี่ปุ่น เกาหลี อีกหลายร้อยประเทศของเขา นักเรียนชายก็ยังไว้ผมได้ ผิดกับนักเรียนชายไทยตัดจนติดหนังหัวไถสูงกว่ากระหม่อม ดูแล้วมีแต่ความน่าเกลียดมากกว่า
     อยากให้คุณชินวรณ์ รมต.ศธ.มาตัดบ้างจะรู้สึกอย่างไร กฎก็ใช้มานานแล้วน่าจะปรับปรุงแก้ไขให้เหมาะสมกับสภาพสังคมยุคปัจจุบัน ให้ตัดรองทรงได้ ช่างตัดผมรู้ กฎระเบียบก็ต้องเคารพในสิทธิเสรีภาพด้วย ไม่ใช่ละเมิดสิทธิเสรีภาพ ให้นักเรียนชายตัดผมสั้นจนติดหนังหัว แต่นักเรียนหญิงไว้ผม (ยาว) ได้
     กฎแบบนี้ก็มี อยากให้ความยุติธรรมกับนักเรียนชาย อย่า 2 มาตรฐาน นักเรียนหญิงไม่เห็นเรื่องมากเหมือนนักเรียนชายเลย ปฏิรูปความคิดซะใหม่ดูประเทศอื่นด้วย
                                                       ขอแสดงความนับถือ
                                                                 สุพจน์
ตอบ คุณสุพจน์
     ปัญหาของคุณเรื่องที่โรงเรียนห้ามไว้ผมยาว ผิดกับนักเรียนหญิงที่ไว้ผมยาวได้ เป็นปัญหาที่นักเรียนชายสมัยก่อนก็เคยน้อยใจมาก่อน เพราะเด็กนักเรียนชายที่เริ่มโตเป็นหนุ่ม ก็อยากจะหล่ออวดสาวๆ บ้าง แต่เมื่อถูกบังคับให้ตัดผมสั้นติดหนังหัว ก็เลยคิดว่าตัวเองไม่หล่อ หมดความมั่นใจในตัวเอง
     เพื่อนผมก็เคยมาขอคำปรึกษา และขอร้องให้ไปช่วยพูดกับครูที่โรงเรียนของลูกชาย เพราะว่าลูกชายไม่อยากไปเรียนหนังสือ เพราะถูกบังคับให้ตัดผมสั้น
     ตัวผมเองก็เคยฝ่าฝืนกฎของโรงเรียน คือปล่อยให้ผมยาว เพราะคิดว่าหน้าตาจะดีขึ้น ถูกอาจารย์ฝ่ายปกครองเอากรรไกรมาตัดผมเป็นขั้นบันได กลับบ้านก็ต้องไปให้ช่างตัดผมช่วยลบรอยขึ้นบันได แต่เด็กสมัยนี้กลับนิยมให้ช่างทำผมให้เป็นลวดลายต่างๆ โตขึ้นมาคุณก็อาจจะเปลี่ยนใจ กลับมาไว้ผมทรงสกินเฮดเหมือนผมก็ได้             
                           
                    โง่แล้วขยัน
เรียน คุณสามวา สองศอก
     ภาษิตเยอรมันที่ติดปากคนไทยมาตั้งแต่สมัยผมเป็นเด็กๆ ก็คือ "โง่แล้วขยันเยอรมันไม่เลี้ยง" นั่นก็เพราะคนโง่มักจะทำอะไรผิดพลาด ก่อให้เกิดความเสียหายและเสียการใหญ่ได้เสมอ คนเยอรมันจึงให้คนโง่อยู่เฉยๆ (รู้ว่าโง่แล้วอยู่เฉยๆ อย่าออกมาทำอะไรทั้งสิ้น แล้วเยอรมันจึงเลี้ยง)
     หากโง่แล้วดันเสือ(ก)ขยัน เยอรมันจะฆ่าทิ้งกำจัดทิ้งทันที!!?
     ภาษิตเยอรมันดังกล่าวนี้ดูเหมือนว่าจะมีมานานแล้ว อยู่คู่ประเทศเยอรมันก่อนเผด็จการฮิตเลอร์ครองอำนาจเสียอีก คนเยอรมันขยันทำงานมีความเคร่งครัด ตรงต่อเวลาในการทำงาน ประเทศเยอรมันจึงมีความเจริญพัฒนาก้าวหน้าได้รวดเร็ว
     แม้ว่าจะแพ้สงครามโลกถึง 2 ครั้ง 2 คราว และประเทศถูกแบ่งออกเป็น 2 ส่วน ตอนสงครามโลกครั้งที่ 2 ก็ตามที แต่ในที่สุดก็สามารถรวมกลับคืนเป็นอันหนึ่งอันเดียวกันได้อย่างรวดเร็ว เพราะคนเยอรมันมีอุดมการณ์ และความรักชาติ ลัทธิชาตินิยมสูง
     ตรงกันข้ามกับประเทศไทยของเรา ลัทธิชาตินิยมต่ำ แต่ลัทธิกิเลสตัณหานิยมมีสูง ข้าราชการประเภทผลไม้เนื้อแดง กลไกของรัฐกลุ่มหนึ่งและคนไทยอีกพวกหนึ่งขายตัวขายชาติให้กับคนถ่อยสถุลสัญชาติมอนเตเนโกร ที่สมควรถูกจิ๋นซีฮ่องเต้สั่งให้ม้าแยกร่าง จึงจะสาสมกับอุบาทว์กรรมที่คนถ่อยผู้นั้นทำในเวลานี้!!?
     คนชั้นรากหญ้าของประเทศที่ฉลาดน้อย ถูกล่อหลอกด้วยคำพูด ล่อลวงด้วยเงินทอง อามิสสินจ้าง ให้คนฉลาดน้อยเหล่านี้มาชุมนุม เพื่อปลดเปลื้องความระยำตัณหาของนายใหญ่ มุ่งเอาชนะความยุติธรรมของประเทศทุกรูปแบบ คนไทยเหล่านี้ถึงวันนี้กำลังเป็น คนที่โง่แล้วขยัน (ชุมนุม)   คำถามจึงมีว่ารัฐบาลไทยควรเลี้ยงไว้ต่อไป แบบความคิดเดิมต้องค่อยๆ แยกปลาออกจากน้ำหรือไม่ ในส่วนตัวผมแล้วคิดได้เลยว่า ถึงเวลาแล้วที่จะต้องใช้คำพูดที่ว่า โง่แล้วขยันรัฐบาลไทยต้องฟันไม่เลี้ยง!!?
                                                            เสธ.เหลือง
                                                    ผู้ทรงคุณธรรมกองทัพบก
ตอบ คุณเสธ.เหลือง
     ไม่มีใครยอมรับหรอกครับว่าตัวเองโง่ ส่วนใหญ่คิดว่าตัวเองฉลาดทั้งนั้น เมื่อฉลาดแล้วก็ต้องขยันทำโน่นทำนี่จนบ้านเมืองวุ่นวายนี่แหละ ผมสมัครใจที่จะเป็นคนโง่แล้วขี้เกียจ เผื่อว่ารัฐบาล
เยอรมันจะเอาผมไปเลี้ยงบ้าง
                                                       สามวา สองศอก


หัวข้อ: Re: [2513]"ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: เหยง 16 ที่ 13 พฤษภาคม 2553, 10:59:41
อ้างถึง
ข้อความของ prapasri AH เมื่อ 13 พฤษภาคม 2553, 10:34:08
อ้างถึง
ข้อความของ เหยง 16 เมื่อ 12 พฤษภาคม 2553, 13:39:47
อ้างถึง
ข้อความของ prapasri AH เมื่อ 10 พฤษภาคม 2553, 10:39:09
หนูอ้อย14 ถ้าอากาศไม่ร้อน  พรุ่งนี้พี่เข้ากรุงเทพ แล้วจะพาน้องติ๊บไปสมุยนะ

สน...มะ


เหยง คะ พี่แอ๊ะไม่ได้ไปสมุยแล้วล่ะเพราะ ลูกต้องรีบกลับมาช่วยพี่หาญตรวจคนไข้
พี่หาญจะเหงาๆ พอพี่แอ๊ะไม่อยู่เลยต้องรีบกลับ

แต่ต้องมาเข้าเวบ ทั้งๆที่ตาจะปิดอยู่แล้ว ง่วงนอนค่ะ ตื่นตี4 มาเครื่อง6โมง

ได้ไปชิดลมแล้ว เห็นเป็นป้อมปราการ ของไอ้แดงคนชั่ว ครองเมืองจริงๆ
ทำกันยังกะเมืองไทยเป็นของ พวกมันพวกเดียว ป่าเถื่อนที่สุดดดดดดดดด
รถติดวินาศสันตะโร





สวัสดีครับพี่แอีะ

กลับจากกรุงเทพแล้วหรือครับ

พูดถึง เซ็นทรัล ชิดลม ผมยังไม่ได้เอานาฬิกา Tag ไปให้เขาซ่อมสายให้เลยครับ รอให้มันเลิกชุมนุมจะไป shop ซะที


หัวข้อ: Re: [2513]"ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: prapasri AH ที่ 13 พฤษภาคม 2553, 20:00:42
เสธแดง..ตายแล้ว

เวร กรรมเห็นทันตา 5555555555555


หัวข้อ: Re: [2513]"ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: prapasri AH ที่ 13 พฤษภาคม 2553, 20:02:17
คิดว่า ประเทศคงจะสงบลงอย่างน้อย 80 %

ดีดีใจจังงงงงงงงงงง


หัวข้อ: Re: [2513]"ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: prapasri AH ที่ 13 พฤษภาคม 2553, 20:06:30
ข่าวใหม่ว่ายังไม่ตายอีกแย้ววววววววววว

ทำงายยยยยยย ดีล่ะ


หัวข้อ: Re: [2513]"ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: mek ที่ 13 พฤษภาคม 2553, 20:14:45
ผมดีใจด้วยอีกคนครับพี่แอ๊ะ ถ้าเศษแดงตายแล้วจะอโหสิให้อีกที กลัวเป็นข่าวลวงจังครับถ้าไม่ตายก็อยากให้เดี้ยงไปซัก 1ปี จะได้สำนึกบ้าง


หัวข้อ: Re: [2513]"ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: เหยง 16 ที่ 13 พฤษภาคม 2553, 20:18:41
ประมวลจากออนไลน์ ชุดแรกครับ

วันที่ 13 พฤษภาคม พ.ศ. 2553 เวลา 19:51:56 น.  มติชนออนไลน์

ด่วน!! "เสธ.แดง" ถูกยิงจากเหตุระเบิดที่ศาลาแดง ส่งรพ.หัวเฉียวแล้ว ยังไม่ทราบอาการ

เว็บไซต์ไทยรัฐรายงานว่า เมื่อเวลา 19.20 น. วันที่ 13 พ.ค. ในช่วงเวลาโกลาหลของเหตุวุ่นวายที่บริเวณรถไฟฟ้าบีทีเอส สถานีศาลาแดง โดยมีเสียงคล้ายระเบิดดังถึง 5 ลูก นอกจากนี้  มีข่าวแจ้งว่า พล.ต.ต.ขัตติยะ สวัสดิผล ผู้ทรงคุณวุฒิกองทัพบก หรือ เสธ.แดง ถูกยิงสาหัสจากเหตุระเบิดข้างต้น คาดกระสุนถูกที่บริเวณช่วงหน้าอก หรือกกหู เจ้าหน้าที่ได้นำตัวส่งโรงพยาบาลหัวเฉียวแล้ว

http://www.matichon.co.th/news_detail.php?newsid=1273755133&grpid=00&catid=

วันที่ 13 พฤษภาคม พ.ศ. 2553 เวลา 19:24:48 น.  มติชนออนไลน์

บึ้มสนั่น4ครั้ง เสียงปืนดังหลายนัด สี่แยกศาลาแดง เสื้อแดงถอยกรูดกลับที่ตั้ง ตร.ตรึงกำลังเข้ม

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อเวลา 19.20 น. วันที่ 13 พ.ค. ที่บริเวณสี่แยกศาลาแดง เกิดเสียงดังคล้ายระเบิด 4 ครั้ง และเสียงปืนดังหลายนัด เกิดขึ้นทางฝั่งกลุ่มผู้ชุมนุมคนเสื้อแดงใกล้ๆกับโรงพยาบาลจุฬาฯ  ทำให้กลุ่มผู้ชุมนุมที่รวมตัวกันอยู่ด้านหน้าถอยหลังกลับไปที่ตั้ง ขณะที่เจ้าหน้าที่ตรึงกำลังอยู่รอบบริเวณพื้นชุมนุมห่างจากพื้นที่ชุมนุมประมาณ 100 เมตร

http://www.matichon.co.th/news_detail.php?newsid=1273753788&grpid=00&catid=no
 
สะพัด “เสธ.แดง” ถูกยิงหัว หามส่ง รพ.หัวเฉียว ด้าน “ลิ่วล้อ” โกลาหล เสียงปืน-ระเบิดดังระงม
13 พฤษภาคม 2553 19:32 น.
        สีลมป่วน เสียงระเบิดดัง 2 ครั้ง ทำผู้ชุมนุมโกลาหลวิ่งวุ่นเข้าหาเวทีราชประสงค์ ขณะที่ “เสธ.แดง” เจอดีถูกยิงได้รับบาดเจ็บ เร่งหามส่ง รพ.หัวเฉียว ขณะที่เสียงปืนดังสนั่นพื้นที่ ขณะที่ผอ.ศูนย์เอราวัณ ยืนยัน "เสธ.แดง"โดนสอยจริง อยู่ระหว่างรักษาตัว ปัดยังไม่ตาย
      
       วันนี้(13 พ.ค.) ผุ้สื่อข่าวรายงานจากบริเวณแยกสีลม มุ่งหน้าแยกราชประสงค์ หลังจากศูนย์อำนวยการแก้ไขสถานการณ์ฉุกเฉิน หรือ ศอฉ. มีมาตรการกดดันกลุ่มแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ หรือ นปช.หลังเวลา 18.00 น. ล่าสุดเมื่อเวลาประมาณ 19.25 น.เกิดเสียงคล้ายระเบิดดังขึ้นต่อเนื่อง จำนวน 4 ลูก หลังจากนั้นมีเสียงปืนดังขึ้นเป็นระยะบริเวณกลุ่มผู้ชุมนุมสี่แยกศาลาแดง ซึ่งขณะนี้ยังไม่สามารถตรวจสอบได้ว่ามีผู้ได้รับบาดเจ็บหรือผู้เสียชีวิตหรือไม่ ทั้งนี้ ก่อนหน้าเกิดเสียงดังคล้ายระเบิด 4 ครั้ง ได้มีการยิงพลุ ยิงตไลขึ้นไปบนท้องฟ้าของกลุ่ม นปช. เมื่อเวลาประมาณ 19.00 น.หลังจากนั้นเกิดเสียงดังคล้ายระเบิดใส่กลุ่มผู้ชุมนุม 1 ลูก ต่อจากนั้นเกิดอีก 2 ลูก ล่าสุดอีก 1 ลูกเมื่อเวลาประมาณ 19.23 น. ทำให้บรรยากาศบริเวณแยกศาลาแดงเกิดความโกลาหลวุ่นวายเนื่องจากกลุ่มผู้ชุมนุม ตลอดจนประชาชนวิ่งหนีออกจากบริเวณดังกล่าวโดยมุ่งหน้าไปยังเวทีใหญ่บริเวณแยกราชประสงค์
      
       ทั้งนี้ ล่าสุดผู้สื่อข่าวรายงานว่า มีรายงานในพื้นที่การชุมนุมว่า พล.ต.ขัตติยะ สวัสดิผล หรือ เสธ.แดง ได้ถูกยิงบริเวณศีรษะ ได้รับบาดเจ็บ ซึ่งเจ้าหน้าที่ได้เร่งนำตัวส่งที่โรงพยาบาลหัวเฉียวแล้ว นอกจากนี้ยังมีเสียงปืนดังระงมไปทั่วพื้นที่
      
       สำหรับความคืบหน้าล่าสุด ผู้สื่อข่าวรายงานจากโรงพยาบาลหัวเฉียว ว่า ได้รับการยืนยันจากลูกน้องของพล.ต.ขัตติยะ ว่าถูกยิงได้รับบาดเจ็บจริง แต่แค่เฉี่ยวบริเวณศรีษะ ซึ่งขณะนี้ได้นำตัวเข้าไปในห้องฉุกเฉินแล้ว
      
       ทั้งนี้ นพ. เพชรพงษ์ กิจจรกิจการ ผอ.ศูนย์เอราวัณ สำนักการแพทย์ กทม. ให้สัมภาษณ์ว่า ข้อมูลเบื้องต้นได้รับรายงานว่าเสธ.แดงถูกยิงได้รับบาดเจ็บ รักษาตัวอยู่ที่หัวเฉียวจริง ซึ่งอยู่ระหว่างการช่วยเหลืออาการอยู่ ทั้งนี้จากรายงานอาการเสธ.แดงถูกยิงที่บริเวณศรีษะ ขณะนี้ยังไม่รุ้สึกตัว โดยแพทย์พยาบาลอยู่ระหว่างให้การช่วยเหลืออยู่

 

จาก http://www.manager.co.th/asp-bin/mgrView.asp?NewsID=9530000066184



หัวข้อ: Re: [2513]"ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: เหยง 16 ที่ 13 พฤษภาคม 2553, 21:02:32
ข่าวชุดที่ 2 ครับ

เสธ.แดง ถูกยิงที่ศรีษะ ด้วยอาวุธไรเฟิล
13 พค. 2553 19:55 น.

มีรายงานว่า พล.ต.ขัตติยะ สวัสดิผล ผู้ทรงคุณวุฒิกองทัพบกถูกถูกยิงด้วยอาวุธปืนไรเฟิล จากผู้ยิงที่มีลักษณะเป็นหน่วยแม่นปืน โดยถูกยิงที่บริเวณแยกศาลาแดง เข้าที่บริเวณศรีษะ ขณะนี้อยู่โรงพยาบาลหัวเฉียว

http://breakingnews.nationchannel.com/read.php?newsid=447881


คนสนิท เผย”เสธ.แดง” ถูกยิ่งส่ง รพ.หัวเฉียว
13 พค. 2553 19:56 น.

คนใกล้ชิดเผย พล.ต.ขัตติยะ สวัสดิผล หรือ "เสธ.แดง" ถูกยิงแถวสีลม หามส่งไอซียู รพ.หัวเฉียว

http://breakingnews.nationchannel.com/read.php?newsid=447882&lang=T&cat=


เสียงคล้ายปืน-ระเบิด ดังขึ้นต่อเนื่องแยกศาลาแดง
13 พค. 2553 19:57 น.

ผู้สื่อข่าวรายงานจากบริเวณสี่แยกศาลาแดงเมื่อเวลา 19.38 น. ว่ามีเสียงคล้ายระเบิด ปืน บั้งไฟ ประทัดดังขึ้นอย่างต่อเนื่อง บรรยากาศทั่วไปเต็มไปด้วยความตึงเครียด และไฟฟ้าเริ่มดับลง ขณะที่ทหาร ตำรวจ อยู่ในสภาพเตรียมพร้อม และมีข่าวว่าเสธฯแดง ได้รับบาดเจ็บ ถูกนำตัวส่งโรงพยาบาลจุฬาฯ

http://breakingnews.nationchannel.com/read.php?newsid=447883&lang=T&cat=

"เสธ.แดง"ถูกยิงเข้าศีรษะอาการสาหัส

คมชัดลึก :เกิดเสียงคล้ายปืน-ประทัดแยกศาลาแดง แล้วมีรายงานเสธ.แดงถูกยิงหามส่งรพ.หัวเฉียวอาการสาหัส หลังจาก ศอฉ.สั่งปิดถนนรอบแยกราชประสงค์ 6 โมงเย็นวันนี้ "ไพศาล"เตือนรัฐอย่าส่งทหารไปตายซ้ำคืนนี้อาจถูกโจมตี

(13พ.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่าเมื่อเวลา 19.00 น.ผู้ชุมนุมได้จุดปะทัดขว้างบนสะพานลอยศาลาแดง และ เกิดเสียงดังคล้ายปืน ประมาณ 10 ครั้ง  ล่าสุด 19.21 เกิดเสียงดังคล้ายปืนยิงรัวประมาณ 30 นัด โดยมีเฮลิคอปเตอร์ บินวนสำรวจบริเวณพื้นที่ดังกล่าว

ขณะเดียวกันมีรายงานว่าพล.ต.ขัตติยะ สวัสดิผล ผู้ทรงคุณวุฒิกองทัพบก ถูกยิงด้วยอาวุธปืนไรเฟิล ที่บริเวณแยกศาลาแดง กระสุนเข้าที่ศีรษะได้รับบาดเจ็บสาหัส ถูกนำส่ง รพ.หัวเฉียว อยู่ในห้องไอซี สันนิษฐานว่ผู้ยิงที่มีลักษณะเป็นหน่วยแม่นปืน ต่อมาทางแพทย์นำเสธ.แดงออกจากห้องไอซียูไปเข้าเครื่องสแกนสมอง

นพ.เพชรพงษ์ กำจรกิจการ ผอ.ศูนย์เอรวัณ สำนักการแพทย์ กทม. ให้สัมภาษณ์เนชั่นทีวีว่า  พล.ต.ขัตติยะ ถูกยิงเข้าที่ศีรษะ บริเวณแยกวังแดง ตอนนี้ยังยังไม่รู้สึกตัว ทางโรงพยาบาลหัวเฉียวให้การช่วยเหลืออย่างเต็มที่

แกนนำนปช.ตรึงเครียดหลัง เสธ.แดงถูกยิง

 ส่วนความเคลื่อนไหวของแกนนำนปช. ตรึงเครียดได้หารือกันอยู่หลังเวที หลังพล.ต.ขัตติยะถูกยิง  ล่าสุด 20.18 น. ยังไม่มีแกนนำคนไหนขึ้นเวที และไม่มีการประกาศว่า เสธ.แดงถูกยิงให้ผู้ชุมนุมทราบ แต่ผู้ชุมนุมบางส่วนทราบจากการบอกเล่า และค่อนข้างตกใจ แต่ก็สร้างมีการฮึกเหิมขึ้นให้กับผู้ชุมนุม
 
ศอฉ.สั่งปิดถนนรอบแยกราชประสงค์ 6 โมงเย็นวันนี้

ที่กรมทหารราบที่ 11 รักษาพระองค์ (ร.11 รอ.) พ.อ.สรรเสริญ แก้วกำเนิด โฆษกศูนย์อำนวยการแก้ไขสถานการณ์ฉุกเฉิน (ศอฉ.) แถลงผลประชุมศอฉ.ช่วงเช้าที่มีนายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรี ด้านความมั่นคง ในฐานะผอ.ศอฉ.เป็นประธานในการประชุมว่า ในช่วง1 - 2 วันที่ผ่านมา ศอฉ.ตั้งด่านตรวจอาวุธควบคุมผ่านเข้าออกของบุคคลต้องสงสัย ขณะนี้มีแนวทางการปฏิบัติที่เปลี่ยนแปลงไปเป็นการกำหนดมาตรการในการปิดล้อมสกัดกั้นพื้นที่บริเวณแยกราชประสงค์อย่างสมบูรณ์ ซึ่งจะเริ่มตั้งแต่เวลา 18.00 น. ของวันนี้ พื้นที่ที่มีผลกระทบทางด้านเหนือเริ่มตั้งแต่ แยกราชเทวี ไปตาม ถ.เพชรบุรี จนถึงแยกขึ้นทางด่วนเพชรบุรี ทางทิศใต้ ตั้งแต่แยกทางขึ้นด่วนเพชรบุรี ตามถนนวิทยุ จนกระทั่งสี่แยกถนนวิทยุ เรื่อยมาจนถึงถนนพระรามที่ 4 จนถึงแยกสามย่าน และขึ้นเหนือไปบรรจบจุดเริ่มต้นตามถนนพญาไท จนกระทั่งถึงแยกราชเทวี ซึ่งเป็นลักษณะกรอบสี่เหลี่ยม

 “ในกรอบสี่เหลี่ยมนี้ ถนนพญาไท เพชรบุรี และ วิทยุ จะมีการปิดการจราจร ส่วนถนนพระราม 4 จะไม่ปิดการจราจร ซึ่งพื้นที่ที่อยู่ในกรอบสี่เหลี่ยมปิดจราจรทุกชนิดไม่ว่าเป็นรถโดยสาร รถไฟฟ้า รถไฟฟ้าใต้ดิน ทางเรือ เป็นการปิดจราจรร้อยเปอร์เซ็นต์ แต่ประชาชนกลุ่มผู้ชุมนุมสามารถออกนอกพื้นที่ได้ แต่ไม่สามารถผ่านเข้าไปได้ ยกเว้นผู้อาศัย และผู้ที่มีสถานที่ทำงานในบริเวณนั้นจะได้รับอนุญาตให้ผ่านเข้าได้ แต่ต้องเตรียมเอกสารหลักฐานเพียงพอที่จะยืนยันได้ว่า อาศัยอยู่ในบริเวณนั้น เช่น สำเนาทะเบียนบ้าน บัตรพนักงานที่แสดงว่า ท่านทำงานที่ไหน เพื่อนำไปแสดงตนต่อเจ้าหน้าที่ทหารประจำด่าน ซึ่งจะมีด่านอยู่ทุกเส้นทางในพื้นที่รกอบสี่เหลี่ยม โดยเจ้าหน้าที่ประจำด่านจะมีสติ๊กเกอร์มอบให้เพื่อเป็นบัตรแสดงตนในการผ่านเข้าออก”โฆษกศอฉ. กล่าว

 พ.อ.สรรเสริญ กล่าวว่า ในพื้นที่ที่มีการสกัดกั้นร้อยเปอร์เซ็นต์นั้น การบริการสาธารณทุกชนิดทั้ง ไฟฟ้า ประปา การจราจร รถประจำทาง เรือ รถไฟฟ้าบีทีเอส และรถไฟฟ้าใต้ดินจะมีการระงับเริ่มตั้งแต่ 18.00 น.เป็นต้นไป ส่วนใดดำเนินการได้ จะเริ่มดำเนินการในเวลา 18.00 น. ส่วนใดยังไม่พร้อมต้องเตรียมการให้พร้อม และดำเนินการทันทีที่สามารถดำเนินการได้ เพื่อให้มาตรการสาธารณนะทุกชนิดส่งผลกระทบ และกดดันต่อผู้ชุมนุมให้ยุติการชุมนุม และออกจากพื้นที่โดยเร็ว ไม่ได้ต้องการให้กระทบต่อประชาชนที่อาศัยหรือทำงานในบริเวณแยกราชประสงค์ ในส่วนการตัดไฟฟ้า และประปานั้นยังไม่สามารถดำเนินการได้ในเวลา 18.00 น. แต่หากพร้อมเมื่อไรจะดำเนินการทันที นอกจากนี้ในวันที่ 14 พ.ค.นี้ ทางศอฉ.จะขอความร่วมมือผู้ประกอบการ ห้างร้าน บริษัทเอกชนที่ประกอบการในพื้นที่ ขอให้ท่านหยุดดำเนินกิจการชั่วคราว และอนุญาตให้พนักงานหยุดตั้งแต่พรุ่งนี้เป็นต้นไปจนกว่าสถานการณ์จะคลี่คลาย ทั้งนี้จากการที่ศอฉ.ทำหนังสือร้องขอต่อศาลเพื่ออนุมัติให้ผู้ประกอบการธุรกิจโทรศัพท์มือถือตัดสัญญาณนั้น ทางศาลได้มีการอนุมัติโดยสามารถตัดสัญญาณโทรศัพท์ได้ครั้งละ 6 ชั่วโมงต่อเนื่องเป็นระยะเวลาหนึ่ง ไม่จำกัดจำนวน ซึ่งจะมีการดำเนินการไปสักระยะหนึ่งจนกว่าสถานการณ์จะคลี่คลาย

 “ ส่วนเรื่องการกระชับวงล้อมของเจ้าหน้าที่ทหารตำรวจมีความจำเป็นต้องกระชับวงล้อมเข้ามา โดยอาศัยรถเกราะหรือรถสายพานลำเลียงพล ซึ่งเรามีความจำเป็นในการนำมาใช้งาน เราไมต้องการนำอาวุธร้ายแรงมาใช้ต่อประชาชน แต่รถเกราะเป็นเกราะป้องกันอันตรายจากอาวุธยิงต่างๆให้กับเจ้าหน้าที่ทหาร ตำรวจที่ปฏิบัติภารกิจ และสร้างความปลอดภัยให้กับผู้ชุมนุม เพราะเรามั่นใจว่า ในกลุ่มผู้ชุมนุมมีผู้ก่อการร้าย ซึ่งมีอาวุธสงครามอยู่ เมื่อตำรวจทหารใช้รถเกราะ หากมีการยิงอาวุธสงครามเข้ามา ทำให้เราไม่จำเป็นต้องตอบโต้ด้วยอาวุธกลับไปเกินความจำเป็น ” โฆษกศอฉ. กล่าว

 พ.อ.สรรเสริญ กล่าวว่า ส่วนการกระชับวงล้อมในวันนี้อาจเป็นไปได้ว่า กลุ่มก่อการร้ายในพื้นที่จะเคลื่อนที่เข้าปะทะเจ้าหน้าที่ ดังนั้นเจ้าหน้าที่จำเป็นต้องดำเนินการตามขั้นตอนหลักสากลจากเบาไปหาหนัก 7 ขั้นตอน และมีการใช้อาวุธกระสุนจริงด้วย เมื่อท่านพยายามเคลื่อนที่เข้ามา ขอให้หยุดแล้ว แต่ยังไม่หยุด ต้องมีความจำเป็นต้องใช้กระสุนยางที่ยิงจากปืนลูกซอง หากยังเข้ามาอีก เราไม่สามารถปล่อยให้เกิดเหตุการณ์อย่างที่ผ่านมาได้ คือ มีการบุกยึดอาวุธ รถยานพาหนะของเจ้าหน้าที่ และมีโอกาสนำไปก่อเหตุร้ายได้ เจ้าหน้าที่จึงจำเป็นต้องใช้ปืนลูกซอง กระสุนจริงในการยิงสกัดไม่ให้ท่านเข้ามา แต่การยิงสามารถพิสูจน์ได้ว่า เราไม่ต้องการมุ่งทำร้ายเอาชีวิตประชาชน ท่าทางการยิง ตำบลกระสุน กรวยกระสุน จะแสดงออกชัดเจนว่า ไม่ต้องการทำร้ายถึงชีวิต แต่ต้องการหยุดยั้งการปฏิบัติที่ผิดกฎหมาย และการพยายามขึ้งตัวเจ้าหน้าที่

 “ ในส่วนปืนเล็กยาวที่มีอยู่ เช่น ปืนทราโว่ เอ็ม 16 จะใช้ใน 3 กรณี 1.การยิงข่มขวัญขึ้นฟ้า 2.ยิงเพื่อป้องกันเจ้าหน้าที่ที่ถูกทำร้ายโดยหมายเอาชีวิต ซึ่งไม่สามารถหลีกเลี่ยงได้ 3. ยิงไปยังบุคคลที่มีอาวุธอยู่ในมือไม่ว่ายจะเป็นปืน ลูกระเบิด นอกจากนี้ยังมีเจ้าหน้าที่อีกส่วนหนึ่ง คือ พลแม่นปืน ทำหน้าที่ในการระวังป้องกัน และใช้ยิงผู้ก่อการร้ายที่มีอาวุธ ทั้งนี้ทางเจ้าหน้าที่จะไม่มีอาวุธหนักอื่นนอกจานี้  โดยจะไม่มีการใช้ลูกระเบิดขว้าง ระเบิดเอ็ม 79 หรือปืนที่นอกเหนือไปจากนี้ เพื่อเป็นการแสดงความบริสุทธิ์ใจ ซึ่งการยิงของเจ้าหน้าที่เป็นการยิงทีละนัด ไม่ได้ยิงแบบอัตโนมัติ ซึ่งการดำเนินการดังกล่าวเป็นการดำเนินการในกรณีที่เจ้าหน้าที่มีการกดดันพื้นที่ และผู้ชุมนุมพยายามเข้าปะทะกับเจ้าหน้าที่ การดำเนินการนี้ไม่ได้หมายรวมถึงการขอพื้นที่คืนที่แยกราชประสงค์”พ.อ.สรรเสริญ กล่าว

สนง.รอบราชประสงค์ปิดให้พนักงานกลับบ้านแล้ว

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ตั้งแต่เวลา 15.30 น.สำนักงานต่าง ๆ รอบราชประสงค์ปิดให้พนักงานกลับบ้านได้ อย่างเช่นพนักงานกว่า 3 พันคนที่ตึกจามจุรี พนักงานของสถานีโทรทัศน์ช่อง 3 ที่ไม่เกี่ยวข้องกับการออกอากาศ ห้างสรรพสินค้าเซ็นทรัลชิดลมและบริษัทแถวราชประสงค์ก็เริ่มปล่อยพนักงานกลับบ้านพร้อมประกาศปิดทำการในวันพรุ่งนี้

ขณะที่ทาง DTAC - AIS พร้อมตัดสัญญาณมือถือแยกราชประสงค์ทันที หากได้รับคำสั่งจากรัฐบาล ซึ่ง ศาลได้อนุญาตตามคำร้องของ ศอฉ.ขอตัดสัญญาณมือถือได้ครั้งละ 6 ชม.ต่อเนื่อง

เมื่อเวลา 18.40น.นายจตุพร พรหมพันธุ์ แกนนำนปช.ได้ประกาศบนเวทีว่า ขณะนี้สัญญาณโทรศัพท์ได้ถูกตัดแล้ว

แบงก์-ห้างปิดหนีม็อบหวั่นรุนแรง

ธนาคารไทยพาณิชย์ เลื่อนเวลาปิดให้บริการ 4 สาขา วันนี้ ได้แก่ สาขาคาร์ฟูร์ พระราม 4, โลตัส พระราม 4, เซ็นทรัล พระราม 3, โลตัส พระราม 3 ปิดให้บริการ ในเวลา 16.00 น. ขณะที่ศูนย์การค้ามาบุญครองเซ็นเตอร์ แจ้งลูกค้าปิดให้บริการในเวลา 18.00 น. ส่วนในวันพรุ่งนี้เปิดบริการตามปกติ นอกจากนี้ศูนย์การค้าแพลตตินั่ม ประตูน้ำ ประกาศปิดให้บริการในเวลา 17.00 น.วันนี้ และต่อเนื่องไปจนถึงวันพรุ่งนี้

ไพศาลเตือนรัฐอย่าส่งทหารไปตายซ้ำคืนนี้อาจถูกโจมตี

นายไพศาล พืชมงคล อดีตสมาชิกสภานิติบัญญัติแห่งชาติ ได้กล่าวกับสื่อมวลชนเตือนรัฐบาลและ ศอฉ. ในกรณีส่งกำลังรถทหารกดดันปิดล้อมการชุมนุมตั้งแต่เวลา 18.00 น. วันนี้ ว่าอย่าประมาท และต้องระมัดระวังอย่าส่งทหารไปตายซ้ำอีก เพราะคืนนี้อาจถูกโจมตีก่อนและจะเสียขบวน
นายไพศาล กล่าวว่าจากเหตุการณ์เมื่อวันที่ 10 เมษายน 2553 รัฐบาลและกองทัพ ตลอดจนประชาชนสูญเสียมาก เพราะประเมินต่ำไป การมาพูดทีหลังว่านึกไม่ถึงหรือคาดไม่ถึงไม่สามารถแก้ไขความเสียหายได้ คราวนี้ก็เช่นเดียวกัน หากประมาทหรือคาดการณ์ไม่พอเพียง ก็อาจจะเสียหายซ้ำอีกครั้งหนึ่ง     

นายไพศาล กล่าวว่าจากการติดตามข่าวสารที่รายงานผ่านสื่อมวลชนในขณะนี้รัฐบาลได้ใช้กำลังทหารและเครื่องไม้เครื่องมือในลักษณะปิดล้อมกดดัน โดยยังไม่แน่ว่าจะมีการสลายหรือไม่ มีการขอความร่วมมือให้ประชาชนในพื้นที่ปิดกิจการและหยุดงานตั้งแต่บ่ายวันนี้ถึงวันพรุ่งนี้ ปิดการจราจร และจะตัดน้ำ ตัดไฟ ปิดสัญญาณโทรศัพท์ ซึ่งคล้ายกับจะเป็นสงครามเต็มรูปแบบอยู่แล้ว ในขณะเดียวกัน อีกฝ่ายหนึ่งก็มีการระดมกำลังพลและเตรียมการด้านอาวุธยุทโธปกรณ์พร้อมตั้งแต่เมื่อคืนแล้ว และเมื่อ ศอฉ. ประกาศกดดันก็มีการประกาศระดมคนให้มาปิดล้อมตลบหลังทหาร คงมุ่งหมายจะยึดรถถัง จับทหาร และยึดอาวุธเหมือนเมื่อวันที่ 10 เมษายน 2553 อีกครั้งหนึ่ง ซึ่งถ้าเกิดเหตุซ้ำ รัฐบาลและประเทศไทยก็คงไปไม่รอดแน่นอนแล้ว ดังนั้นคราวนี้รัฐบาลและ ศอฉ. จะดูเบาหรือประมาทแก่การไม่ได้เป็นอันขาด

นายไพศาล กล่าวอีกว่าการปิดล้อมกดดันคงไม่ทำให้ยุติการชุมนุมได้ ดังนั้นกรณีน่าจะเป็นการเดินจังหวะก้าว 3 จังหวะ คือปิดล้อมกดดัน แยกน้ำ จับปลา และกวาดอวน ซึ่งถ้าดูลีลารัฐบาลก็อาจจะใช้เวลาตั้งแต่คืนวันนี้ไปตลอดเสาร์หรืออาทิตย์นี้

นายไพศาล  กล่าวอีกว่ารัฐบาลอาจทำงานลุล่วงถ้าหากสามารถสกัดการระดมคนเข้ามาปิดล้อมตลบหลังทหารที่ตั้งด่านปิดล้อมอยู่ และสามารถดูแลพื้นที่ด้านนอกที่อาจมีการก่อวินาศกรรมเพื่อดึงกำลังเจ้าหน้าที่ให้ออกไประงับเหตุ แต่ในขณะเดียวกันถ้าหากพิจารณาจากกระบวนท่าและเชิงยุทธ์ของอีกฝ่ายหนึ่งแล้ว ก็มีความเป็นไปได้ว่าจะมีการเปิดฉากโจมตีเจ้าหน้าที่ของรัฐตั้งแต่คืนวันนี้ เพื่อทำให้เสียขบวน และถ้าหากประเมินจากข่าวที่ปรากฏตามสื่อมาโดยลำดับ ก็ต้องระมัดระวังอาวุธหนักไว้ด้วยว่าถ้าเกิดมีการใช้อาวุธหนักยิงเจ้าหน้าที่ จะรับมืออย่างไร จะรับหรือจะรุกอย่างไร เพราะที่ผ่านมานั้นก็ได้เห็นกระบวนท่ามาแล้ว ว่าอีกฝ่ายมีหน่วยปฏิบัติการทำลายศูนย์บัญชาการหรือเจ้าหน้าที่ระดับบัญชาการของรัฐบาล ประสานกับงานมวลชน และอาจมีการระดมมวลชนเข้ามา ซึ่งขณะนี้ก็ระดมกันอยู่ ดังนั้นถ้ามีเหตุการณ์ร้ายแรงเกิดขึ้นจะระงับเหตุให้ทันท่วงทีไม่ให้ยื้อเยื้อบานปลายได้อย่างไร

นายไพศาล  กล่าวอีกว่าเมื่อบ่ายวันนี้แกนนำเสื้อแดงได้ประกาศแผนรับมือทุกด่าน วางจุดหนักทางด่านสวนลุม สีลม ในขณะที่ด่านอื่นๆ บอกว่าแค่ดูแลสถานการณ์ป้องกันมิให้มีการรุกเข้าไปสลายการชุมนุม ก็เพราะว่าด่านด้านถนนพระราม 4 ทั้งหมดเป็นเหมือนปากขวดของยุทธภูมิราชประสงค์ หากถูกปิดหรือถูกยึดก็เหมือนถูกปิดปากขวด และตรงจุดนี้น่าจะเป็นจุดแตกหัก

นายไพศาล กล่าวอีกว่าขณะนี้มีการเตรียมระดมกำลังคนจากฐานมวลชนรอบนอกกรุงเทพฯ 3 ฐาน คือจากปากน้ำ จากคลอง 4 ลำลูกกา ปทุมธานี และจากนนทบุรี-อยุธยา ซึ่งสามารถเคลื่อนตัวได้เร็วในระยะเวลาแค่ 1 ชั่วโมงเท่านั้น แต่ ศอฉ.คงจะมีแผนสกัดกั้นไว้แล้ว
นายไพศาล กล่าวอีกว่าสถานการณ์ตอนนี้แผนปรองดองคงเป็นโรดม้วยไปเรียบร้อยแล้ว สถานการณ์ตึงเครียดที่มีลักษณะการทหารนำของทั้งสองฝ่ายกำลังเข้ามาแทนที่ ซึ่งนับว่าเป็นเหตุการณ์น่าระทึกใจ

http://www.komchadluek.net/detail/20100513/58901/เสธ.แดงถูกยิงเข้าศีรษะอาการสาหัส.html

ผอ.ศูนย์เอราวัณ ยืนยัน “เสธ.แดง” ถูกยิงจริง กำลังกู้ชีพ
13 พค. 2553 20:07 น.

นพ.เพรชพงษ์ กำจรกิจการ ผู้อำนวยการศูนย์เอราวัณ สำนักการแพทย์ กรุงเทพมหานคร เปิดเผยกับรายการเก็บตกจากเนชั่น ว่า พล.ต.ขัตติยะ สวัสดิผล หรือเสธ.แดง ผู้ทรงคุณวุฒิกองทัพบก ถูกยิงที่ศีรษะจริง ขณะนี้กำลังช่วยชีวิตอยู่ที่โรงพยาบาลหัวเฉียว ขณะนี้ไม่รู้สึกตัว โดยผู้ที่อยู่ในบริเวณชุมนุมเป็นผู้นำมาส่งโรงพยาบาล

http://breakingnews.nationchannel.com/read.php?newsid=447884
   



หัวข้อ: Re: [2513]"ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: prapasri AH ที่ 13 พฤษภาคม 2553, 21:16:13
เหยง ชิดลมปิดเมื่อวาน หลังจากทนทู่ซี้เปิด เพราะบังเกอร์ ไม่คร่อมชิดลมด้วย

แต่เขาบอกว่าเริ่มปิดเมื่อวานตอนสองทุ่ม และจะปิดจนกว่าสถานการณ์จะสงบ

 พี่แอ๊ะเลย อ๋อ... เเสดงว่าเมื่อคืนเขาเริ่มปราบเเน่นอน

เหยง พี่เเอ๊ะเสี่ยงตายไปซื้อของขวัญเป็น ที่นอน และผ้าปู ผ้าห่ม ชุดเครื่องนอน hall mark

ให้ พรเทพ

เขาขึ้นบ้านใหม่ พี่แอ๊ะอยากให้เขาใช้ ของไฮโซบ้าง เพราะเค้านอน พื้นธรรมดา ทั้งที่บ้านสวยมากกกกกกกก

โชคดี เขาลดราคาให้ช่วงนี้ 50 % ค่ะ ไม่งั้นจะแพงมากกกกกกกก


หัวข้อ: Re: [2513]"ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: เหยง 16 ที่ 13 พฤษภาคม 2553, 21:28:50
พี่แอ๊ะครับ

ให้ท่านผู้พิพากษาอยู่อย่างสมถะและเรียบง่ายเถอะครับ เพื่อให้เป็นแบบอย่างกับรุ่นหลังๆ ที่พร้อมจะไปปฏิบัติหน้าที่

ในทุกๆพื้นที่ของประเทศไทยได้เสมอและตลอดเวลา บ้านพักของผู้พิพากษามีทั้งแบบอายุ 100 ปี ที่สร้างด้วยไม้

แบบเป็นบ้านตึก 2 ชั้น และปัจจุบันจะสร้างเป็นแบบอพาร์ตเม้นท์กันแล้ว สำหรับศาลอุทธรณ์ภาค ที่ตั้งใหม่


ท่านพรเทพ ยังต้องย้ายไปอีกหลายศาล-หลายจังหวัดครับ โดยเฉพาะการขึ้นเป็นหัวหน้าศาลฯ และต่อไปยังศาลอุทธรณ์


ในส่วนของการเตรียมพร้อมด้วยการนำรถหุ้มเกราะ เข้าคุมพื้นที่ คิดว่า ศอฉ จะเริ่มงานวันพรุ่งนี้ครับ

แต่เมื่อเกิดเรื่องกับ เสธ.แดง ขึ้นเมื่อค่ำที่ผ่านมานี้ อะไร..ก็คงจะง่ายขึ้น

แต่ก็ยังไม่แน่นอน..อย่าเพิ่งวางใจครับ!! ?? โดยเแพาะในคืนนี้


หัวข้อ: Re: [2513]"ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: swsm ที่ 13 พฤษภาคม 2553, 21:53:11
แมวน้อยนักแม่นปืน .. Kitten Sniper       emo48:)


(http://www.cmadong.com/imageupload/2010_Cmadong-Image/data/image/l2d5ap-2abc4b.jpg)


หัวข้อ: Re: [2513]"ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: เหยง 16 ที่ 13 พฤษภาคม 2553, 21:54:35
ข่าวชุดที่ 3 นาทีต่อนาที

หมอมาลินี เผย”เสธ.แดง” ถูกยิง 2 นัดที่หัว
13 พค. 2553 21:23 น.

พญ.มาลินี สุขเวชชวรกิจ รองผู้ว่าฯ กทม. เปิดเผยว่า ขณะนี้แพทย์จาก กทม.ได้ประสานไปยังแพทย์ ร.พ.หัวเฉียว ทราบว่า ขณะนี้แพทย์กำลังให้การรักษา พล.ต.ขัตติยะ สวัสดิผล ผู้ทรงคุณวุฒิกองทัพบก โดยนำเข้าผ่าตัดที่ห้องไอซียู ทราบว่าขณะนี้ได้มีการใส่ท่อหายใจและไม่รู้สึกตัว โดยหัวใจยังคงเต้นอยู่ แพทย์จึงยังไม่สามารถประกาศได้ว่า พล.ต.ขัตติยะ ได้เสียชีวิตแล้ว เพราะการจะประกาศเสียชีวิตได้คนไข้จะต้องหยุดหายใจ หัวใจหยุดเต้น และสมองหยุดทำงาน ทั้งนี้จากการติดตามทราบว่า พล.ต.ขัตติยะ ถูกยิงที่ศีรษะจำนวน 2 นัด โดย 1 นัดเข้าที่บริเวณท้ายทอย อีก 1 นัด ยังไม่ชัดเจนเบื้องต้นทราบว่าเกิดจากการถูกลอบยิง เพราะ กทม.ไม่ได้รักษากับมือ จะต้องรอ ร.พ.หัวเฉียว เป็นผู้ยืนยันข่าวที่ชัดเจนอีกครั้ง ขณะที่ ร.พ.ของ กทม. ยังไม่มีรายงานว่ามีผู้บาดเจ็บเข้ารับการรักษาแต่อย่างใด

รองผู้ว่าฯ กทม. กล่าวว่า สำหรับ กทม.ได้เตรียมความพร้อมในการให้การรักษาผู้บาดเจ็บที่อาจจะเกิดจากเหตุการณ์ความไม่สงบ โดยมีการประสานระหว่าง ร.พ.ของ กทม.กับ ร.พ.ที่ตั้งอยู่บริเวณโดยรอบพื้นที่การชุมนุมทั้งหมด ซึ่งขณะนี้มีเตียงที่พร้อมรองรับผู้บาดเจ็บจำนวน 700 เตียง และห้องผ่าตัดอีกจำนวนมาก รวมทั้งมีรถพยาบาลอีก 70 คัน เตรียมพร้อมรับสถานการณ์
 
http://breakingnews.nationchannel.com/read.php?newsid=447887&lang=T&cat=


นปช. แจงรัฐบาล นปช. ยังต้องการปรองดอง
13 พค. 2553 21:27 น.

นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ เลขาธิการ นปช. แถลงว่าคนเสื้อแดงยืนยันว่าจะปักหลักสู้อยู่ที่ราชประสงค์ด้วยสันติวิธีและพร้อมจะเผชิญหน้ากับสถานการณ์ 100 เปอร์เซ็นต์ แม้ว่ารัฐบาลจะนำอาวุธหรือรถถังออกมา ซึ่ง เป็นเรื่องธรรมดาของการต่อสู้ แต่ นปช. ยืนยันว่าจนถึงขณะนี้คนเสื้อแดงยังไม่ปฏิเสธมาตรการปรองดองแห่งชาติ ส่วนรัฐบาลจะแสดงท่าทีต่อมาตรการปรองดองอย่างไรนั้น ก็เป็นเรื่องของทางรัฐบาลที่จะทำ นอกจากคนเสื้อแดงจะปักหลักในที่ตั้งแล้วจะมีการประสานไปยังองค์กรคนเสื้อแดงทั่วประเทศ เพื่อกำหนดมาตรการที่เคลื่อนไหวตอบโต้ โดยสันติวิธีทันทีหากรัฐบาลใช้กำลังสลายการชุมนุมที่เวทีราชประสงค์

นายณัฐวุฒิ กล่าวว่า ไม่เข้าใจว่าทำไมนายกฯ ตัดสินใจเลือกสงคราม แทนสันติภาพ ทั้งที่แนวทาง นปช. ยืนยันต้องการสร้างสันติภาพในประเทศไทย ดังนั้นหากนายกฯ ต้องการเพิ่มจำนวนศพประชาชน แทนระดับความสงบในบ้านเมือง เป็นเรื่องที่นายกฯ ต้องตัดสินใจ แต่คนเสื้อแดงจะไม่มีทางออกจากพื้นที่ราชประสงค์เพราะการกดดันของรัฐบาล และไม่ถอยหลังกับความรุนแรงที่จะเกิดขึ้นอย่างเด็ดขาด การ์ดและประชาชนที่ร่วมชุมนุมทั่วประเทศพร้อมที่จะต่อสู้เพื่อสิทธิและเสรีภาพของคนเสื้อแดง ส่วนสื่อมวลชนในและต่างประเทศคนเสื้อแดงพร้อมที่จะอำนวยความสะดวกให้ หากพบว่ามีการคุกคามข่มขู่จากคนเสื้อแดงขอให้แจ้งกับแกนนำเพื่อจัดการ

นอกจากนี้ เลขาธิการ นปช. กล่าวเรียกร้องด้วยว่าหากนายอภิสิทธิ์มีความจริงใจในการปรองดอง ขอให้ไปตบปากนายเทพไท เสนพงษ์ โฆษกประจำตัวหัวหน้าพรรค ที่ระบุถึงอนาคตลูกของตนว่าจะหิ้วปิ่นโตไปเยี่ยมตนในคุก หรือไม่ก็จะกำพร้าพ่อไปตลอดชีวิตเพราะจุดจบของตนไม่ติดคุกก็ตาย ซึ่งเป็นสิ่งที่ชั่ว และเลวทรามมาก เพราะลูกของตนเป็นผู้บริสุทธิ์ อย่าพาดพิงถึง แต่จะว่าตนชั่วอย่างไรก็ได้ ทั้งนี้การต่อสู้ที่ผ่านมาตนไม่เคยไปยุ่งเกี่ยวกับพ่อนายเทพไทเลย และหากนายเทพไทมีปัญหาจะเจอกับตนเมื่อไร ที่ไหนก็ได้
 
http://breakingnews.nationchannel.com/read.php?newsid=447888&lang=T&cat=

แกนนำ นปช.ตึงเครียดหลังข่าวเสธ.แดง ถูกยิง
13 พค. 2553 21:28 น.

แกนนำนปช. ตึงเครียดหารืออยู่หลังเวที หลังมีข่าว พล.ต.ขัตติยะ สวัสดิผล ผู้ทรงคุณวุฒิกองทัพบก เสธ.แดง ถูกยิง ล่าสุด 20.18 น. ยังไม่มีแกนนำคนไหนขึ้นเวที และไม่มีการประกาศว่า เสธ.แดงถูกยิงให้ผู้ชุมนุมทราบ แต่ผู้ชุมนุมบางส่วนทราบจากการบอกเล่าและค่อนข้างตกใจ แต่ก็มีการสร้างความฮึกเหิมขึ้นให้กับผู้ชุมนุม
 
http://breakingnews.nationchannel.com/read.php?newsid=447889&lang=T&cat=


หัวข้อ: Re: [2513]"ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: swsm ที่ 13 พฤษภาคม 2553, 21:57:31
(http://www.cmadong.com/imageupload/2010_Cmadong-Image/data/image/l2d5jc-5f025b.jpg)


fw เมล์ ..


หัวข้อ: Re: [2513]"ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: เหยง 16 ที่ 13 พฤษภาคม 2553, 22:09:11
ข่าวอีกแง่มุมหนึ่งของ ASTV-ผู้จัดการ ออนไลน์

เผย “เสธ.แดง” ถูกยิงข้างสวนลุมฯ แพทย์ยังยื้อชีวิต-เตรียมย้ายไป “ราชวิถี”
13 พฤษภาคม 2553 21:15 น.

                                        (http://www.cmadong.com/imageupload/2010_Cmadong-Image/data/image/l2d654-1f0556.jpg)
 
       เผยจุด “เสธ.แดง” ถูกยิง ข้างสวนลุมฯ ด้าน รพ.จุฬาฯ ขณะให้สัมภาษณ์นักข่าวญี่ปุ่น คาดยิงมาจากสะพานลอย หรือตึกสูงบนถนนพระราม 4 เป้าหมายที่ เสธ.จอมซ่าคนเดียว ล่าสุดแพทย์ยังยื้อชีวิต เตรียมย้ายไป รพ.ราชวิถี
      
       ผู้สื่อข่าวรายงานความคืบหน้าเหตุยิงระเบิดเอ็ม 79 ใกล้แยกศาลาแดง ซึ่งทำให้ พล.ต.ขัตติยะ สวัสดิผล หรือเสธ.แดง ผู้ทรงคุณวุฒิกองทัพบกที่ถูกสั่งพักราชการ ได้รับบาดเจ็บสาหัสว่า เสธ.แดงถูกยิงขณะให้สัมภาษณ์นักข่าวญี่ปุ่นที่ข้างสวนลุมพินี ด้าน รพ.จุฬาฯ ใกล้แยกศาลาแดง โดยขณะนั้นมีระเบิดและเสียงปืนดังขึ้นหลายนัด และมีผู้เห็น เสธ.แดงล้มลง มีเลือดไหลออกจากศีรษะ หลังจากนั้นก็มีเสียงปืนดังขึ้นหลายนัด
      
       ทั้งนี้ คาดว่ามือปืนน่าจะยิงออกมาจากสะพานลอย หรือตึกสูงริมถนนพระราม 4 โดยเป้าหมายน่าจะอยู่ที่ เสธ.แดงเพียงคนเดียว เพราะคนอื่นๆ ที่อยู่บริเวณนั้นไม่ได้รับบาดเจ็บรุนแรง และเชื่อว่าจุดประสงค์ของการยิง เสธ.แดงน่าจะเพื่อเป็นการปลุกเร้าให้ผู้ชุมนุมเกิดความโกรธแค้นและมาร่วมชุมนุมกันมากขึ้น เนื่องจากที่ผ่านมาหากมีเหตุการณ์รุนแรงก็จะสามารถระดมคนเข้ามาร่วมได้เป็นจำนวนมาก
      
       สำหรับอาการล่าสุดของเสธ.แดง ที่ห้องไอซียูของ รพ.หัวเฉียว แพทย์ได้ช่วยปั๊มหัวใจของเสธ.แดงเพื่อยื้อชีวิต และอยู่ระหว่างรอดูการ และคาดว่าอาจมีการย้ายไปรักษาตัวที่ รพ.ราชวิถีที่มีความพร้อมของหมอและอุปกรณ์ทางการแพทย์มากกว่า
      
       นอกจากนี้ มีรายงานว่าคนเสื้อแดงประมาณ 200 คนได้เดินทางไปที่ รพ.หัวเฉียว โดยอ้างว่าเพื่อขอเข้าไปดูอาการของเสธ.แดง แต่เมื่อถูกกันให้อยู่ข้างนอก คนเสื้อแดงเหล่านี้ได้ด่าทอเจ้าหน้าที่อยู่ตลอดเวลา

 
จาก http://www.manager.co.th/asp-bin/mgrView.asp?NewsID=9530000066225
 


หัวข้อ: Re: [2513]"ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: prapasri AH ที่ 14 พฤษภาคม 2553, 07:14:55
ตอนนี้ไป อยู่ร.พ วชิระแล้วค่ะ

เข้าใจว่าผ่าตัดเอากระสุนออกแล้ว

ความดันยังไม่ขึ้นต้องใช้ยาช่วย

คงได้เป็น "นายพลนิทรา"


หัวข้อ: Re: [2513]"ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: อ้อย 14 ที่ 14 พฤษภาคม 2553, 07:19:15
อ้างถึง
ข้อความของ swsm เมื่อ 13 พฤษภาคม 2553, 21:57:31
(http://www.cmadong.com/imageupload/2010_Cmadong-Image/data/image/l2d5jc-5f025b.jpg)


fw เมล์ ..

ชอบจริงๆน้องหะยี


หัวข้อ: Re: [2513]"ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: เหยง 16 ที่ 14 พฤษภาคม 2553, 11:38:02
ตั้งศาลจังหวัดเกาะสมุยให้ปชช.สะดวกในกระบวนการยุติธรรม
14 พฤษภาคม 2553 10:49 น.

                                  (http://www.cmadong.com/imageupload/2010_Cmadong-Image/data/image/l2e7i3-a21076.jpg)

       ในวันศุกร์ที่ 14 พฤษภาคม 2553 สมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฏราชกุมาร พร้อมด้วย พระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าศรีรัศมิ์ พระวรชายาฯ จะเสด็จพระราชดำเนินทรงประกอบพิธีวางศิลาฤกษ์และเปิดอาคารที่ทำการศาลจังหวัดเกาะสมุย จังหวัดสุราษฎร์ธานี
       
       ศาลจังหวัดเกาะสมุย จัดตั้งขึ้นตามพระราชบัญญัติจัดตั้งศาลจังหวัดที่อำเภอเกาะสมุย จังหวัดสุราษฎร์ธานี พ.ศ. 2539 โดยอาคารที่ทำการศาลจังหวัดเกาะสมุยก่อสร้างแล้วเสร็จเมื่อเดือนเมษายน 2549 เป็นอาคารสูง 4 ชั้น มีห้องพิจารณาคดี 8 ห้อง และเปิดทำการให้บริการประชาชนตั้งแต่วันที่ 7 สิงหาคม 2549 เป็นต้นมา
       
       ศาลจังหวัดเกาะสมุย มีเขตอำนาจในการพิจารณาพิพากษาอรรถคดีที่เกิดขึ้นในเขตท้องที่อำเภอเกาะสมุย และอำเภอเกาะพะงัน ซึ่งแต่เดิมเป็นท้องที่ที่อยู่ในเขตอำนาจของศาลจังหวัดสุราษฎร์ธานี นอกจากศาลจังหวัดเกาะสมุยจะมีอำนาจพิจารณาพิพากษาคดีแพ่งและคดีอาญาทั้งปวงแล้ว เพื่ออำนวยความสะดวกแก่ประชาชนผู้มีคดีเยาวชนและครอบครัว ประธานศาลฎีกาจึงได้มีคำสั่งให้ผู้พิพากษาในศาลจังหวัดเกาะสมุยช่วยทำงานในการพิจารณาพิพากษาคดีเยาวชนและครอบครัวที่เกิดขึ้นในท้องที่อำเภอเกาะสมุย และอำเภอเกาะพะงันด้วย
       
       การจัดตั้งศาลจังหวัดเกาะสมุยนั้นมีวัตถุประสงค์สำคัญเพื่ออำนวยความสะดวกแก่ประชาชนในท้องที่ดังกล่าว ให้ได้รับความยุติธรรมจากศาลโดยทั่วถึงกัน เนื่องจากสภาพทางภูมิศาสตร์ของอำเภอทั้งสองมีลักษณะเป็นเกาะที่ห่างไกลจากตัวจังหวัดสุราษฎร์ธานีค่อนข้างมาก โดยต้องอาศัยการเดินทางทางเรือเป็นหลัก และระยะทางจากท่าเรือมายังศาลจังหวัดสุราษฎร์ธานีก็เป็นระยะทางที่ค่อนข้างไกล หากเป็นช่วงเวลาที่ไม่สามารถเดินทางโดยทางเรือได้ย่อมก่อให้เกิดผลกระทบต่อคู่ความหลายประการ เช่น ต้องเสียเวลาและค่าใช้จ่ายเพิ่มขึ้น อันมีผลกระทบต่อสิทธิในการเข้าถึงกระบวนการยุติธรรมได้โดยง่าย สะดวก รวดเร็วและทั่วถึงของประชาชน ตามที่ได้รับการรับรองไว้ในรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย
       
       นอกจากการคำนึงถึงสิทธิในการเข้าถึงกระบวนการยุติธรรมของประชาชนแล้ว ก็ต้องคำนึงถึงสิทธิของผู้ต้องหาด้วย เนื่องจากการควบคุมตัวผู้ต้องหามาฝากขังต่อศาลที่ต้องอาศัยการเดินทางทางเรือเป็นหลัก และมีความจำเป็นต้องใส่กุญแจมือเพื่อป้องกันมิให้ผู้ต้องหาหลบหนี หากเกิดอุบัติเหตุทางเรืออาจก่อให้เกิดอันตรายแก่ผู้ต้องหาเพราะไม่อาจช่วยเหลือตัวเองได้ แต่ถ้าไม่ใส่กุญแจมือก็อาจเป็นช่องทางให้ผู้ต้องหาหลบหนี หรือเกิดกรณีแย่งชิงตัวผู้ต้องหาขึ้นได้ หรือหากมีภัยธรรมชาติเกิดขึ้นไม่สามารถนำตัวผู้ต้องหามาฝากขังต่อศาลจังหวัดสุราษฎร์ธานีได้ ก็อาจมีผลให้เจ้าพนักงานควบคุมตัวผู้ต้องหาเกินอำนาจที่มีอยู่ การจัดตั้งศาลจังหวัดเกาะสมุยจึงเป็นช่องทางหนึ่งเพื่อแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้น
       
       ทั้งนี้ เมื่อนำเอาข้อเท็จจริงจากสภาพความเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่สำคัญของอำเภอเกาะสมุย และอำเภอเกาะพะงันมาประกอบในการพิจารณาจัดตั้งศาลเกาะสมุย จะเห็นได้ว่าการที่มีปริมาณนักท่องเที่ยวและผู้เดินทางเข้าไปในพื้นที่เพิ่มขึ้น ปัญหาความขัดแย้ง และปริมาณอาชญากรรมก็เพิ่มขึ้นด้วย ดังปรากฏจากสถิติคดีตั้งแต่มกราคม ถึง ธันวาคม พ.ศ. 2552 ที่มีการฟ้องคดีอาญา 1,631 คดี คดีแพ่ง 296 คดี และคดีผู้บริโภค 595 คดี รวมคดีที่ยื่นฟ้องต่อศาลจังหวัดเกาะสมุยในปี พ.ศ. 2552 ทั้งสิ้น 2,522 คดี ทั้งที่อำเภอเกาะสมุย และอำเภอเกาะพะงัน มีพื้นที่โดยประมาณเพียง 252 ตารางกิโลเมตร และ 193 ตารางกิโลเมตร ตามลำดับ
       
       จากการเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่สำคัญ การจัดตั้งศาลจังหวัดเกาะสมุยขึ้น ยังมีประโยชน์ในการแก้ไขปัญหาที่นักท่องเที่ยวต่างชาติไม่ได้รับความคุ้มครองในการเข้าถึงกระบวนการยุติธรรมอย่างเต็มที่ เพราะเหตุเรื่องการคมนาคมที่จะต้องเสียเวลาและค่าใช้จ่ายในการเดินทางไปศาล หรือ กรณีที่ผู้เสียหายเป็นชาวต่างชาติและต้องเดินทางออกนอกประเทศ พนักงานอัยการต้องร้องขอต่อศาลให้มีการสืบพยานไว้ก่อนฟ้องคดี การเดินทางไปศาลในจังหวัดสุราษฎร์ธานี อาจเนิ่นช้าไม่สามารถดำเนินการได้อย่างทันท่วงที มีผลให้ผู้เสียหายไม่ได้รับความคุ้มครองตามกระบวนการยุติธรรมอย่างแท้จริง ซึ่งอาจก่อให้เกิดผลกระทบต่อธุรกิจการท่องเที่ยวและเศรษฐกิจของประเทศโดยรวมได้
       
       ดังนั้น ในการจัดตั้งศาลจังหวัดเกาะสมุยขึ้น จึงมีวัตถุประสงค์หลักเพื่ออำนวยความสะดวกแก่ประชาชนเป็นสำคัญ ไม่ว่าจะเป็นเหตุผลจาก พื้นที่ทางภูมิศาสตร์ ปริมาณคดี ระยะทางและความสะดวกเกี่ยวกับการเดินทางมาศาลของประชาชน ให้สมดังนโยบายของศาลยุติธรรมในการเพิ่มพูนประสิทธิภาพในการอำนวยความยุติธรรมแก่ประชาชนและสังคมด้วยความถูกต้อง รวดเร็ว เป็นธรรมและทั่วถึง
       
       โดยนายสราวุธ เบญจกุล
       รองเลขาธิการสำนักงานศาลยุติธรรม
       

 
 
 
พิมพ์จาก http://www.manager.co.th/asp-bin/mgrView.asp?NewsID=9530000066388
 


หัวข้อ: Re: [2513]"ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: เหยง 16 ที่ 14 พฤษภาคม 2553, 11:45:31
บทบรรณาธิการ นสพ. แนวหน้า ออนไลน์ วันศุกร์ที่ 14 พฤษภาคม 2553 ซึ่งน่าจะเขียนไว้ก่อนที่ เสธ.แดง ถูกยิง

บทบรรณาธิการ 
 
นปช. คือตะกวด แต่หลงคิดว่าตนคือสิงห์ (บทบรรณาธิการ) 
 
 
      เป็นเวลายาวนานกว่าสองเดือนแล้วที่กลุ่มแกนนำ นปช. หรือขบวนการนักพูดปดแห่งชาติ ผู้ซึ่งคลั่งไคล้ในระบอบทักษิณ ชินวัตร จงใจทำลายความสงบสุข ความน่าเชื่อถือ และเกียรติภูมิของประเทศไทยจนแหลกสลายไม่มีชิ้นดี

      เท่านั้นยังไม่พอ คนกลุ่มนี้ ยังจงใจทำให้ระบบเศรษฐกิจของประเทศพังทลายอีกด้วย เพราะหลงเชื่อว่า การบุกยึดเขตเศรษฐกิจสำคัญของประเทศ ณ บริเวณสี่แยกราชประสงค์ คือ กรรมวิธีหนึ่งที่จะทำให้วงจรเศรษฐกิจไทยหยุดชะงักและต้องเผชิญกับความหายนะในที่สุด

       แกนนำ นปช. ใช้กรรมวิธีที่ไร้อารยะและไร้ศีลธรรมทุกรูปแบบสร้างกระแสกดดันทางการเมือง เพราะต้องการโค้นล้มรัฐบาลชุดปัจจุบัน โดยไม่คิดคำนึงถึงผลกระทบอันเลวร้ายที่จะเกิดตามมากับประชาชนและประเทศชาติ

      แม้แกนนำกลุ่มผู้สนับสนุนระบอบทักษิณจะพูดปดตลอดเวลาว่า กลุ่มของตนยึดมั่นในหลักอหิงสา ประท้วงด้วยความสงบและสันติ แต่ความจริงที่ปรากฏก็คือ คนกลุ่มนี้ใช้ความรุนแรงสารพัดรูปแบบตลอดเวลา อาทิ ใช้วาจาที่รุนแรง และใช้การกระทำที่รุนแรง โดยมุ่งหวังให้บ้านเมืองเกิดเหตุมิคสัญญีกลียุคให้จงได้

      ธาตุแท้ส่วนลึกของแกนนำ นปช. คือ ความขี้ขลาด ความเห็นแก่ตัว และไม่เคยคิดคำนึงถึงผลประโยชน์แห่งชาติ และประชาชน และคงไม่ใช่เรื่องเกินเลยไป หากสังคมจะประณามว่า แกนนำ นปช. คือ ผู้ที่ก่อเหตุจลาจลป่วนบ้านป่วนเมืองเพื่อแลกกับผลประโยชน์ส่วนตัว และคงจะเป็นความจริงที่ว่า ยิ่งแกนนำ นปช. ก่อเหตุจลาจล ก็ยิ่งร่ำรวยมั่งคั่งอย่างทันตาเห็น

      และแล้ววันนี้ สังคมโลกก็ตระหนักชัดแล้วว่า แกนนำ นปช. คือพวกขี้ขลาดตาขาว ไม่มีความกล้าหาญทางจริยธรรม ไม่มีความรับผิดชอบต่อสังคม ไม่คำนึงถึงความเดือดร้อนของพี่น้องประชาชน เพราะแกนนำ นปช. อาศัยโล่มนุษย์ผู้บริสุทธิ์ เป็นเกราะกำบังให้ตนเองรอดพ้นจากภยันตรายทั้งปวง

      แกนนำ นปช. เสแสร้งโดยทำเป็นอ้างว่า ไม่ต้องการให้มีการนิรโทษกรรมให้กับพรรคพวกของตนแต่อย่างใด แถมยังยินดีจะไปต่อสู้เพื่อพิสูจน์ความบริสุทธิ์ตามกระบวนการยุติธรรมในชั้นศาล

      แต่จนแล้วจนรอด ขบวนการนักพูดปด ผู้ปราศจากศีลธรรมและจรรยาบรรณกลุ่มนี้ ก็ยังคงไม่กล้าไปต่อสู้เพื่อพิสูจน์ความบริสุทธิ์ตามกระบวนการยุติธรรม แถมยังทำอาการโยกโย้และสร้างข้อต่อรองรายวันอีกสารพัดแบบออกมาเป็นระยะ เพียงเพื่อใช้เป็นข้ออ้างให้ตนเองไม่ต้องเข้าสู่กระบวนการยุติธรรม

      ถ้าหากแกนนำ นปช. ยังคงตระหนักว่า ตนเองยังมีความเป็นมนุษย์ผู้กล้าหาญหลงเหลืออยู่บ้าง ก็จะต้องกล้าเผชิญกับผลกรรมที่พวกตนจงใจก่อไว้ และจะต้องยุติการกระทำที่สุดแสนขี้ขลาดตาขาว ซึ่งก็คือ การยึดเอาเด็กน้อยและคนแก่ไว้เป็นโล่มนุษย์เพื่อป้องกันภัยให้ตนเอง

      ขอย้ำว่า นักรบที่แท้จริง ไม่มีนิสัยลอบกัด และที่สำคัญคือ จะไม่หลบอยู่ข้างหลังเด็กและคนแก่เป็นอันขาด และที่สำคัญคือ นักรบต้องมีหัวใจสิงห์ มิใช่มีนิสัยและหัวใจเหมือนตะกวด 
 
วันที่ 14/5/2010
 
http://www.naewna.com/news.asp?ID=210983


หัวข้อ: Re: [2513]"ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: เหยง 16 ที่ 14 พฤษภาคม 2553, 11:53:04
วันนี้ นสพ.ไทยโพสต์ ในตลาดนครสวรรค์ ขายหมดเกลี้ยงเลย ยังดีที่ร้านประจำเก็บไว้ให้เช่นเดิม

อ่านบทบรรณาธิการ นสพ.ไทยโพสต์ ออนไลน์ ของวันนี้ ซึ่งยังไม่มีการพูดถึง เสธ.แดง ถูกยิงในช่วง 1 ทุ่มเศษของเมื่อคืนที่ผ่านมา

ขอให้ทุกอย่างยุติลงด้วยดี
บทบรรณาธิการ 14 พฤษภาคม 2553 - 00:00

      ยากที่จะตอบได้ว่าสุดท้ายสถานการณ์การเมืองจากนี้จะเป็นอย่างไร  หลังจากมีท่าทีของฝ่ายศูนย์อำนวยการแก้ไขสถานการณ์ฉุกเฉิน (ศอฉ.) ตลอดทั้งวันพฤหัสบดีที่ 13 พฤษภาคม 2553 ที่ประกาศว่าจะใช้มาตรการขั้นเด็ดขาดจากเบาไปหาหนักในการขอคืนพื้นที่จากคนเสื้อแดงที่สี่แยกราชประสงค์ หรือที่เรียกกันเข้าใจง่ายๆ ว่า การสลายการชุมนุม

     เช่น การส่งรถหุ้มเกราะของทหารเข้าปิดล้อมพื้นที่เข้าออกบริเวณสี่แยกราชประสงค์ ก็มีข่าวว่าเป็นรถสายพานลำเลียงพลรวมจำนวน 52 คัน แบ่งเป็นจากหน่วยกองพันทหารม้าที่ 1 (ม.พัน 1) จำนวน 20 คัน กองพันทหารม้าที่ 3 (ม.พัน 3) จำนวน 20 คัน และ กองร้อยปืน ค. กรมทหารพันทหารม้าที่ 1 อีก 12 คัน ซึ่งสาเหตุที่กองทัพใช้รถประเภทนี้ เพราะเห็นว่าสามารถป้องกันจรวดอาร์พีจี และเครื่องยิงลูกระเบิดเอ็ม 79 ได้ หากว่ามีมือที่สามหรือถูกตอบโต้จากฝ่ายคนเสื้อแดง
 
     นอกจากนี้ ยังจะมีการใช้มาตรการจำกัดการเข้าออกบริเวณพื้นที่การชุมนุมโดยมีเป้าหมายคือ ต้องการไม่ให้มีคนเข้าร่วมชุมนุมที่สี่แยกราชประสงค์ และพยายามให้คนออกจากพื้นที่การชุมนุมให้มากและเร็วที่สุด รวมถึงการประกาศว่าจะให้กองกำลังทหารสามารถใช้อาวุธจริงได้หากมีความจำเป็นเพื่อควบคุมสถานการณ์ ซึ่งหลังคำประกาศดังกล่าวของ ศอฉ. ได้ทำให้สถานการณ์การชุมนุมที่บริเวณสี่แยกราชประสงค์ตึงเครียดขึ้นอย่างมากจนเห็นได้ชัด

     อาทิ ท่าทีของแกนนำ นปช. ที่ขึ้นเวทีปราศัยปลุกเร้าและเชิญชวนให้ประชาชนคนเสื้อแดงจากทั่วประเทศรีบออกจากบ้านเพื่อมาร่วมชุมนุมกันที่สี่แยกราชประสงค์ให้เร็วที่สุด โดยมีการย้ำว่ารัฐบาลกำลังจะเข้าสลายการชุมนุมแล้ว จึงต้องการให้คนเสื้อแดงออกมารวมกันเพื่อป้องกันไม่ให้ทหารเข้าสลายการชุมนุม นอกจากนี้ บริษัทที่ทำการรถไฟลอยฟ้าก็ได้ประกาศจะไม่หยุดจอดในสี่สถานีบริเวณใกล้จุดชุมนุม เช่น สยาม ราชดำริ

     ขณะที่ฝ่ายประชาชนโดยเฉพาะที่ทำงานในบริเวณใกล้เคียงกับจุดชุมนุม เช่น ห้างสรรพสินค้า ธนาคาร โรงแรม บริษัทห้างร้าน ได้พากันรีบปิดทำการเร็วกว่าปกติหลายชั่วโมง และมีการสั่งกำชับให้รีบเดินทางกลับบ้านโดยเร็วที่สุด เพราะเกรงจะได้รับผลกระทบในการดำเนินชีวิตโดยเฉพาะความไม่ปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สิน จึงทำให้สภาพการณ์การดำเนินชีวิตของคนกรุงเทพมหานคร ทั้งการคมนาคม การใช้ชีวิต มีความสับสนวุ่นวายไม่น้อย

     ด้านท่าทีฝ่ายต่างๆ ก็มีการเตรียมการกันหลายส่วน อาทิ พล.ต.อ.ปทีป ตันประเสริฐ รักษาการ ผบ.ตร. ได้กำชับสั่งให้เจ้าหน้าที่ตำรวจตั้งด่านตรวจค้น สกัดกั้นไม่ให้กลุ่มคนเข้ามาร่วมชุมนุมบริเวณสี่แยกราชประสงค์ โดยมีคำสั่งให้เจ้าหน้าที่ตำรวจบางส่วนสามารถติดอาวุธเพื่อป้องกันกลุ่มมือที่สามเข้ามาสร้างสถานการณ์ พร้อมกันนี้ยังได้ระดมกำลังตำรวจในทุกพื้นที่ตั้งด่านตรวจค้นจับกุมอาวุธปืน อาวุธสงคราม และอุปกรณ์ไม้เหล็ก ของกลุ่มคนที่นำมาใช้ในการชุมนุมเพื่อไม่ให้เกิดความรุนแรง 

     ทั้งหมดทำให้สถานการณ์การเมืองมาถึงจุดตึงเครียดทันที บนความหวั่นใจของประชาชนคนไทยทั่วประเทศว่าขอให้ทุกอย่างดำเนินไปด้วยดี อย่าได้ให้มีการสูญเสียใดๆ ทั้งสิ้น ไม่ว่าจะเป็นฝ่ายประชาชนคนเสื้อแดง ประชาชนธรรมดาที่ไม่ได้เคลื่อนไหวในนามคนเสื้อแดง รวมถึงเจ้าหน้าที่รัฐ ทั้งทหาร ตำรวจ และสื่อมวลชน ที่เข้าทำหน้าที่ของตนเองในบริเวณดังกล่าว

     เราจึงได้แต่หวังว่า ทุกอย่างจะดำเนินไปด้วยดี อย่าได้มีความรุนแรงใดๆ เกิดขึ้น อย่าได้มีความสูญเสียไม่ว่ากับฝ่ายไหนก็ตาม เพราะไม่ว่าอย่างไรทุกคนก็เป็นคนไทยด้วยกันเอง เพียงแต่มีความความคิดเห็นทางการเมืองที่ขัดแย้งกันไม่ตรงกันเท่านั้น แม้หลายคนจะบอกว่าสถานการณ์ตอนนี้ไปไกลเกินกว่าจะยุติลงได้ง่ายๆ แต่เราก็ได้แต่หวังว่า ทุกอย่างจะยุติได้โดยปราศจากความสูญเสียใดๆ เกิดขึ้น.


http://www.thaipost.net/news/140510/22185


หัวข้อ: Re: [2513]"ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: prapasri AH ที่ 14 พฤษภาคม 2553, 11:57:08
เหยง
 บ้านพักศาลที่สมุย สวยมาก มองเห็นวิวทะเล อย่างสวย

แต่พรเทพ ย้ายไปไม่ได้เพราะเกิดที่สมุย

เลยอยู่สุราษฎร์ค่ะ



อ้างถึง
ข้อความของ เหยง 16 เมื่อ 14 พฤษภาคม 2553, 11:38:02
ตั้งศาลจังหวัดเกาะสมุยให้ปชช.สะดวกในกระบวนการยุติธรรม
14 พฤษภาคม 2553 10:49 น.

                                  (http://www.cmadong.com/imageupload/2010_Cmadong-Image/data/image/l2e7i3-a21076.jpg)

       ในวันศุกร์ที่ 14 พฤษภาคม 2553 สมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฏราชกุมาร พร้อมด้วย พระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าศรีรัศมิ์ พระวรชายาฯ จะเสด็จพระราชดำเนินทรงประกอบพิธีวางศิลาฤกษ์และเปิดอาคารที่ทำการศาลจังหวัดเกาะสมุย จังหวัดสุราษฎร์ธานี
       
       ศาลจังหวัดเกาะสมุย จัดตั้งขึ้นตามพระราชบัญญัติจัดตั้งศาลจังหวัดที่อำเภอเกาะสมุย จังหวัดสุราษฎร์ธานี พ.ศ. 2539 โดยอาคารที่ทำการศาลจังหวัดเกาะสมุยก่อสร้างแล้วเสร็จเมื่อเดือนเมษายน 2549 เป็นอาคารสูง 4 ชั้น มีห้องพิจารณาคดี 8 ห้อง และเปิดทำการให้บริการประชาชนตั้งแต่วันที่ 7 สิงหาคม 2549 เป็นต้นมา
       
       ศาลจังหวัดเกาะสมุย มีเขตอำนาจในการพิจารณาพิพากษาอรรถคดีที่เกิดขึ้นในเขตท้องที่อำเภอเกาะสมุย และอำเภอเกาะพะงัน ซึ่งแต่เดิมเป็นท้องที่ที่อยู่ในเขตอำนาจของศาลจังหวัดสุราษฎร์ธานี นอกจากศาลจังหวัดเกาะสมุยจะมีอำนาจพิจารณาพิพากษาคดีแพ่งและคดีอาญาทั้งปวงแล้ว เพื่ออำนวยความสะดวกแก่ประชาชนผู้มีคดีเยาวชนและครอบครัว ประธานศาลฎีกาจึงได้มีคำสั่งให้ผู้พิพากษาในศาลจังหวัดเกาะสมุยช่วยทำงานในการพิจารณาพิพากษาคดีเยาวชนและครอบครัวที่เกิดขึ้นในท้องที่อำเภอเกาะสมุย และอำเภอเกาะพะงันด้วย
       
       การจัดตั้งศาลจังหวัดเกาะสมุยนั้นมีวัตถุประสงค์สำคัญเพื่ออำนวยความสะดวกแก่ประชาชนในท้องที่ดังกล่าว ให้ได้รับความยุติธรรมจากศาลโดยทั่วถึงกัน เนื่องจากสภาพทางภูมิศาสตร์ของอำเภอทั้งสองมีลักษณะเป็นเกาะที่ห่างไกลจากตัวจังหวัดสุราษฎร์ธานีค่อนข้างมาก โดยต้องอาศัยการเดินทางทางเรือเป็นหลัก และระยะทางจากท่าเรือมายังศาลจังหวัดสุราษฎร์ธานีก็เป็นระยะทางที่ค่อนข้างไกล หากเป็นช่วงเวลาที่ไม่สามารถเดินทางโดยทางเรือได้ย่อมก่อให้เกิดผลกระทบต่อคู่ความหลายประการ เช่น ต้องเสียเวลาและค่าใช้จ่ายเพิ่มขึ้น อันมีผลกระทบต่อสิทธิในการเข้าถึงกระบวนการยุติธรรมได้โดยง่าย สะดวก รวดเร็วและทั่วถึงของประชาชน ตามที่ได้รับการรับรองไว้ในรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย
       
       นอกจากการคำนึงถึงสิทธิในการเข้าถึงกระบวนการยุติธรรมของประชาชนแล้ว ก็ต้องคำนึงถึงสิทธิของผู้ต้องหาด้วย เนื่องจากการควบคุมตัวผู้ต้องหามาฝากขังต่อศาลที่ต้องอาศัยการเดินทางทางเรือเป็นหลัก และมีความจำเป็นต้องใส่กุญแจมือเพื่อป้องกันมิให้ผู้ต้องหาหลบหนี หากเกิดอุบัติเหตุทางเรืออาจก่อให้เกิดอันตรายแก่ผู้ต้องหาเพราะไม่อาจช่วยเหลือตัวเองได้ แต่ถ้าไม่ใส่กุญแจมือก็อาจเป็นช่องทางให้ผู้ต้องหาหลบหนี หรือเกิดกรณีแย่งชิงตัวผู้ต้องหาขึ้นได้ หรือหากมีภัยธรรมชาติเกิดขึ้นไม่สามารถนำตัวผู้ต้องหามาฝากขังต่อศาลจังหวัดสุราษฎร์ธานีได้ ก็อาจมีผลให้เจ้าพนักงานควบคุมตัวผู้ต้องหาเกินอำนาจที่มีอยู่ การจัดตั้งศาลจังหวัดเกาะสมุยจึงเป็นช่องทางหนึ่งเพื่อแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้น
       
       ทั้งนี้ เมื่อนำเอาข้อเท็จจริงจากสภาพความเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่สำคัญของอำเภอเกาะสมุย และอำเภอเกาะพะงันมาประกอบในการพิจารณาจัดตั้งศาลเกาะสมุย จะเห็นได้ว่าการที่มีปริมาณนักท่องเที่ยวและผู้เดินทางเข้าไปในพื้นที่เพิ่มขึ้น ปัญหาความขัดแย้ง และปริมาณอาชญากรรมก็เพิ่มขึ้นด้วย ดังปรากฏจากสถิติคดีตั้งแต่มกราคม ถึง ธันวาคม พ.ศ. 2552 ที่มีการฟ้องคดีอาญา 1,631 คดี คดีแพ่ง 296 คดี และคดีผู้บริโภค 595 คดี รวมคดีที่ยื่นฟ้องต่อศาลจังหวัดเกาะสมุยในปี พ.ศ. 2552 ทั้งสิ้น 2,522 คดี ทั้งที่อำเภอเกาะสมุย และอำเภอเกาะพะงัน มีพื้นที่โดยประมาณเพียง 252 ตารางกิโลเมตร และ 193 ตารางกิโลเมตร ตามลำดับ
       
       จากการเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่สำคัญ การจัดตั้งศาลจังหวัดเกาะสมุยขึ้น ยังมีประโยชน์ในการแก้ไขปัญหาที่นักท่องเที่ยวต่างชาติไม่ได้รับความคุ้มครองในการเข้าถึงกระบวนการยุติธรรมอย่างเต็มที่ เพราะเหตุเรื่องการคมนาคมที่จะต้องเสียเวลาและค่าใช้จ่ายในการเดินทางไปศาล หรือ กรณีที่ผู้เสียหายเป็นชาวต่างชาติและต้องเดินทางออกนอกประเทศ พนักงานอัยการต้องร้องขอต่อศาลให้มีการสืบพยานไว้ก่อนฟ้องคดี การเดินทางไปศาลในจังหวัดสุราษฎร์ธานี อาจเนิ่นช้าไม่สามารถดำเนินการได้อย่างทันท่วงที มีผลให้ผู้เสียหายไม่ได้รับความคุ้มครองตามกระบวนการยุติธรรมอย่างแท้จริง ซึ่งอาจก่อให้เกิดผลกระทบต่อธุรกิจการท่องเที่ยวและเศรษฐกิจของประเทศโดยรวมได้
       
       ดังนั้น ในการจัดตั้งศาลจังหวัดเกาะสมุยขึ้น จึงมีวัตถุประสงค์หลักเพื่ออำนวยความสะดวกแก่ประชาชนเป็นสำคัญ ไม่ว่าจะเป็นเหตุผลจาก พื้นที่ทางภูมิศาสตร์ ปริมาณคดี ระยะทางและความสะดวกเกี่ยวกับการเดินทางมาศาลของประชาชน ให้สมดังนโยบายของศาลยุติธรรมในการเพิ่มพูนประสิทธิภาพในการอำนวยความยุติธรรมแก่ประชาชนและสังคมด้วยความถูกต้อง รวดเร็ว เป็นธรรมและทั่วถึง
       
       โดยนายสราวุธ เบญจกุล
       รองเลขาธิการสำนักงานศาลยุติธรรม
       

 
 
 
พิมพ์จาก http://www.manager.co.th/asp-bin/mgrView.asp?NewsID=9530000066388
 



หัวข้อ: Re: [2513]"ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: prapasri AH ที่ 14 พฤษภาคม 2553, 11:57:51
เหยง

เฉ red ตายยังงงง อยากรู้จังงงงงงง


หัวข้อ: Re: [2513]"ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: เหยง 16 ที่ 14 พฤษภาคม 2553, 12:15:13
อ่านคอลัมม์"คนปลายซอย" ของคุณเปลว สีเงิน ที่บอกว่า "สีแดง ไม่ต้องโฉลก" เสียแล้ว

บนทางที่เลือกของ "เสธ.แดง"
เปลว สีเงิน 14 พฤษภาคม 2553 - 00:00

     ขอส่งใจช่วย "เสธ.แดง" และคิดว่า "แดงมหิงสา" บรรดาฮาร์ดคอร์ทั้งหลาย ไม่ว่าจะเป็น จตุพร-ณัฐวุฒิ-อริสมันต์- เมื่อทราบข่าวเสธ.แดงมีอันเป็นไปเช่นนี้ คงเกิดอาการ "ปากกล้า-ขาสั่น-กระบาลเสียว" ไปตามๆ กัน ก็อยากให้ตั้งสติ แล้วเข้าตู้คอนเทนเนอร์ปรึกษากันเถอะ "วันนี้-๑๔ พฤษภา วันอมาวสี "จันทร์ดับ" ตอนเที่ยง จนถึงบ่าย ๓  ช่วงนี้เท่านั้นที่เป็น "นาทีทอง" ในการเจรจา จะเอายังไงรีบไปตกลงกับ ศอฉ.เขาเสีย ถ้าพ้นจากเวลานี้ไป ก็เกรงว่า...กฎหมายต้องเป็นกฎหมาย แล้วจะเสียใจกันไปเปล่าๆ!

      จาก "สนธิ ลิ้มทองกุล" แกนนำกลุ่มพันธมิตรฯ "สีเหลือง" ถูกประกบยิงหัวด้วยอาวุธสงครามสาหัส  ที่หน้าวัดเอี่ยมวรนุช บางขุนพรหม เมื่อ ๑๗ เมษายน ๒๕๕๒ มาเมื่อหัวค่ำวานนี้ ๑๓ พฤษภาคม ๒๕๕๓ "พลตรีขัตติยะ สวัสดิผล" หรือเสธ.แดง แกนนำฮาร์ดคอร์กลุ่มกบฏทักษิณ "สีแดง" ก็ถูกกระสุนลึกลับเจาะหัวที่ย่านศาลาแดง ถนนพระราม ๔ ดังที่ท่านทราบจากข่าวกันแล้ว เพราะเหตุเกิดตั้งแต่ตอนใกล้ๆ ๑ ทุ่มเมื่อคืน

      ก็ขอให้คุณงามความดี กรรมดีต่อชาติบ้านเมือง และสังคมชาติที่เสธ.แดงกระทำมาทั้งหมด จงเป็นปัจจัยบารมี คุ้มครองรักษาเสธ.แดงให้มีชีวิตรอดปลอดภัย และเกิด "สัมมาสติ" ในเส้นทางชีวิตที่เหลือต่อไปด้วยเถิด ครับ...ดาวศุกร์เคลื่อนจาก "เรือนเกษตร" ตัวเองตั้งแต่วันเสาร์ที่จะถึงนี้ เห็นที "สีแดง" ยากจะเจิดจ้าเสียแล้ว อะไรที่แดงๆ ดูจะไม่ถูกโฉลกกับพวกกบฏทักษิณ ก็ดูซี...
 - เสื้อแดง
 - ศาลาแดง
 - เสธ.แดง
      ก็จบลงที่ "เลือดสาดแดง" ไปทั้งตัว เห็นมั้ย...เป็นความลงตัวของ "แดง" ที่ไม่เป็นมงคลเลย ซึ่งก็ไม่ทราบว่ากระสุนนั้นมาจากไหน พวกไหน พวกแดงเทียม หรือพวกก่อการร้ายที่แฝงตัวเป็นมือที่สามเป็นคนยิงกันแน่ เพราะที่เกิดเหตุเป็นพื้นที่กลุ่มกบฏแดงยึดครองอยู่ โดยนักรบของเสธ.คุ้มกันแน่นหนา แล้วใครล่ะ...จะแปลกปลอมเข้าถึงตัวเสธ.แดง อันเป็น "ไข่แดง" ที่ล้อมรอบอยู่ด้วยไข่ขาวคือการ์ดของเขาขนาดนั้น?

      ฉะนั้น ใครก็อย่าเพิ่งคาดเดากันไปเปะปะเลยครับ รอการตรวจสถานที่เกิดเหตุ และการสืบสวน-สอบสวนของเจ้าหน้าที่ก่อน คิดว่าไม่น่ายาก เพราะเป็นช่วงหัวค่ำ มีคนเห็นเหตุการณ์เยอะแยะ ต้องมีซักคนหรอกน่า ที่พอจะให้เค้าเงื่อนเกี่ยวกับ "มือสังหาร" คนนั้นได้!

      เหตุเกิดทุ่มกว่า แต่จน ๓ ทุ่ม ได้ข่าวว่าบรรดาแกนนำฮาร์ดคอร์ทั้งหลายไม่มีใครขึ้นเวที หลบไปจับกลุ่มปราศรัยกันเองอยู่หลังเวทีคร่ำเครียดจนเกือบ ๔ ทุ่มถึง "แต่งหน้าข่าว" เรื่องเสธ.แดงถูกยิงไปบอกผู้ชุมนุม "กลับใจคือฝากฝั่ง" ยังทันนะ...มิตรทั้งหลาย-สหายทั้งหลาย ตั้งสติให้ดี อย่าให้ ความโกรธ-ความกลัว-ความอาฆาต และมิจฉาทิฐิ เป็นตัวนำสติเลย มนุษย์ทุกคนหลงผิด-คิดพลาดกันได้ ไม่แปลก แต่การกลับใจ-ได้สติ อย่างนี้สิประเสริฐ ถ้าเช้าวันนี้ยังอยู่-ยังยึดเวทีราชประสงค์เป็นคอกคูประตูค่ายอยู่ ด้วยความปรารถนาดีจากผม ถ้ารักพี่น้องชาวบ้านที่นอนเกลื่อนกลาดอยู่ตรงหน้าเวทีมากกว่า "รักตัวเอง" จริง ก็บอกเขาว่า "สลายการชุมนุม" แยกย้ายกลับบ้านกันไปเถอะ!

      ส่วนพวกท่าน บรรดาแกนนำทั้งหลาย ถ้ากองทัพเขาเอาจริงอย่างนี้ อย่าไปสู้เลยครับ ยังมีเวลาตามที่ผมบอก รีบไปเจรจาตกลงกับ ศอฉ.เขาเสีย พวกท่านต้องเสียสละให้บรรดาชาวบ้านที่เขาเสียสละเพื่อพวกท่านมา ๒ เดือนเต็มได้เห็นบ้าง

      คนทั่วไป รวมทั้งผู้ชุมนุมที่เป็นไข่ขาวให้พวกท่าน ส่วนใหญ่ก็เข้าใจกันง่ายๆ ว่า ถ้าตำรวจ-ทหารใช้กำลังสลายม็อบ ก็จะมีชาวบ้านบาดเจ็บล้มตาย ดังนั้น ศอฉ.ต้องไม่กล้าบุก ไม่กล้ารุนแรงแน่นอน  เพราะขืนทำ จะถูกสังคมทั้งในและนอกประเทศประณาม นั่นคือความเข้าใจตามจินตนาการระดับชาวบ้านที่ไม่รู้เรื่อง "ยุทธศาสตร์-ยุทธวิธี" ตามการทัพ ซึ่งทหารและตำรวจเขามีหลักสูตรศึกษา-ฝึกฝนด้านการสลายม็อบโดยเฉพาะอยู่แล้ว

      พูดง่ายๆ คือ ทหาร-ตำรวจ โดย ศอฉ.เขามีกลยุทธ์-กลวิธีสสลายม็อบ โดยไม่ต้องย่ำไปบนหัวผู้ร่วมชุมนุมให้บุบสลาย ขออย่างเดียว ถ้าตำรวจ-ทหารเอาจริง พวกเรา-ชาวบ้าน ทีทหารไม่ลุย ก็ด่าเขา  พอเขาจะลุย...ก็ด่าเขาอีกนั้น ตั้งสติกันเสียบ้างเถอะ ให้มั่นใจด้วยเข้าใจว่า ถ้าตำรวจ-ทหารเขาจะลุยจริงๆ นั้น เขามีวิธี "ถึงเป้าหมาย" โดยไม่ระคายเคืองชาวบ้านอยู่แล้ว ไม่ต้องห่วง!

       ตอนนี้รัฐบาลและ ศอฉ.ควรรีบประกาศให้ชาวบ้านที่มาชุมนุมได้ทราบว่าอะไร-เป็นอะไร มีโจรก่อการร้าย มีมือที่สาม เข้ามาแทรกแซงการชุมนุมด้วยบริสุทธิ์ใจของชาวบ้านแล้ว ดักยิงเสธ.แดง หวังปลุกปั่นให้เข้าใจว่า "ตำรวจ-ทหาร" ทำ ฉะนั้น ชาวบ้านอย่าหลงเป็นเครื่องมือให้ "ผู้ประสงค์ร้าย" อยู่เลย ใครจะกลับบ้าน-ก็กลับ มีรถรับส่งบริการพร้อม!

       ผมจะบอกให้ท่านสังเกต คราวนี้ทหารเอาจริง ดูจากประกาศ ศอฉ.ตอนใกล้ ๓ ทุ่มเมื่อคืน จะเห็นว่า "เป็นครั้งแรก" นับแต่มีประกาศจาก ศอฉ.ออกมา คนลงชื่อท้ายประกาศนั้นชื่อ..... "พลเอกอนุพงษ์ เผ่าจินดา" ผบ.ทบ.!

      เอาล่ะ...มีอีเมล์ถึงผมฉบับ ผมคิดว่าน่าสนใจ จะเป็นเรื่องอะไรนั้นอยากให้อ่าน โดยเฉพาะท่านนายกฯ อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ควรต้องอ่าน เพราะเขาสื่อความถึงท่านโดยตรง ดังนี้

เรียน คุณเปลว สีเงิน ที่เคารพ
      ขออนุญาตส่งบทความความเห็นทางวิชาการของจิตแพทย์ท่านหนึ่ง ซึ่งอยากจะมีส่วนช่วยให้ข้อคิดกับรัฐบาล เพื่อให้รัฐบาลได้ทำการศึกษาจิตวิทยาม็อบให้มากกว่านี้ แต่ไม่อาจจะออกนามได้ เนื่องจากเกรงว่าจะไม่มีความปลอดภัยต่อบุคลากรของโรงพยาบาล

      หากคุณเปลวเห็นว่าเป็นประโยชน์ และอยากจะพูดคุยกับจิตแพทย์ท่านนี้เพิ่มเติม ดิฉันยินดีประสานงานให้ค่ะ เพราะจิตแพทย์เล่าว่าปกติแล้วในต่างประเทศ การตัดสินใจเรื่องยากๆ เหล่านี้ นักจิตวิทยาจะเข้าไปเกี่ยวข้องเสมอ แต่ประเทศไทยเรายังไม่เห็นประโยชน์ตรงนี้
      ขอแสดงความนับถือ
      พ.ศ.[/color]

      รัฐบาลหลงทางไม่เข้าใจจิตวิทยาม็อบ จิตแพทย์ผู้ไม่ประสงค์ออกนาม ให้ความเห็นเชิงวิชาการว่า รัฐบาลจะต้องทำความเข้าใจเรื่องจิตวิทยาม็อบมากกว่านี้ เห็นชัดแล้วว่าม็อบเป็นสิ่งที่ปรองดองไม่ได้ รัฐบาลไม่ควรยอมทำตามข้อเรียกร้องของม็อบ เพราะม็อบคือกลุ่มคนที่ไม่ยอมรับกติกาสังคม หรือกฎหมาย ใช้การรังแกข่มเหง และความรุนแรงกดดันเพื่อให้ได้ผลประโยชน์ของผู้ที่อยู่เบื้องหลังม็อบ ยิ่งผู้อยู่เบื้องหลังมีอำนาจหรือเงินทองเท่าไร ม็อบก็จะยิ่งรุนแรงขึ้นตามกัน

      การพยายามแยกคนบริสุทธิ์ออกจากม็อบของรัฐบาลนั้น เป็นสิ่งที่ทำไม่ได้ เพราะตามจิตวิทยาม็อบแล้ว คนที่อยู่กับม็อบนั้นไม่มีความบริสุทธิ์เหลือแล้ว เพราะได้ละทิ้ง ยอมสละตัวตน มโนธรรม คุณธรรมทั้งหมด แล้วรับจิตวิญญาณของม็อบหรือฝูงชนแทนตัวเอง ตนเองพร้อมที่จะกระทำการใดๆ ก็ได้ตามคำสั่งจ่าฝูง จะมองตัวเองว่ามีอำนาจทำอะไรก็ได้ และรู้สึกว่าตัวเองนิรนาม ไม่รู้ใครเป็นใคร ไม่ต้องรับผิดชอบ จนเกิดอาการบ้าอำนาจ

      คนธรรมดาที่อยู่ในฝูงม็อบนั้น เมื่อไรถ้าได้สติจะตกใจในสิ่งที่ตนเองได้กระทำไป เช่น การไปปิดโรงพยาบาลที่เป็นที่พึ่งของคนเจ็บป่วย ความจริงแล้วกลุ่มม็อบกำลังเริ่มได้สติ เริ่มสำนึกผิดบ้าง ก็เกือบจะสลายตัวแล้วหลังเรื่องโรงพยาบาลจุฬาฯ และต้องเผชิญหน้ากับพลังความดีของชาวจุฬาฯ

       แต่การที่รัฐบาลกลับไปอ่อนข้อยอมปรองดองกับม็อบ เป็นการแสดงความอ่อนแอ ยิ่งไปเพิ่มพลังให้กลุ่มม็อบให้กลับฮึกเหิม กลับไปหลงตนเองอีก โดยหลอกตนเองว่าดีและถูกต้อง รัฐบาลเองยังต้องยอมรับ ม็อบจึงกลับเรียกร้องมากขึ้น เรื่องการปรองดองใดๆ จะสำเร็จก็ต่อเมื่อกลุ่มม็อบพอใจผลประโยชน์ที่ได้เท่านั้น เห็นได้ว่า เมื่อรัฐบาลยอมอ่อนข้อ ยอมปรองดอง ม็อบก็มีข้ออ้างต่างๆ นานา ว่าบรรยากาศไม่ดี ไม่เจรจาแล้ว เป็นต้น การตัดสินใจของรัฐบาลที่เกิดขึ้นนี้กลับเป็นเชื้อเพลิงเติมให้ม็อบยิ่งแข็งกร้าวขึ้นอีก เพราะฉะนั้น รัฐบาลควรศึกษาเรื่องจิตวิทยาม็อบมากกว่านี้ ก่อนที่จะพาประเทศไทยเสียหายมากกว่านี้

      ครับ...ช่วงนี้คงไม่มีอะไรจะคุยมากนัก นอกจากขอพรพระให้อภิบาล "เสธ.แดง" รอดปลอดภัย ขอพรให้บรรดาแกนนำ "กลับใจ-ได้สติ" และอยากบอกกับท่านนายกฯ อภิสิทธิ์ว่า งานปรองดองก็ดี งานแก้ปัญหา "ม็อบคาเมือง" ก็ดี ท่านพยายามถึงที่สุดแล้ว ผมให้กำลังใจ อย่าวอกแวก อย่าไขว้เขว "ผู้ตาม" ทั้งโลกมีกว่า ๖,๐๐๐ ล้านคน แต่คนก้าวสู่ระดับ "ผู้นำชาติ" ได้นั้น  มีแค่พัน-แค่หมื่นเท่านั้นเอง

      คน..มันอยู่ที่ใจ.....แต่คนที่ "ใจถึง" เท่านั้นจึงจะเป็น "นายคน"!

http://www.thaipost.net/news/140510/22188


หัวข้อ: Re: [2513]"ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: เหยง 16 ที่ 14 พฤษภาคม 2553, 12:36:44
น่าจะเป็นความผิดพลาดอย่างมหันต์ ของการ์ดเสื้อแดง คือ

1.ตั้งแต่เริ่มต้น เราไม่เคยเห็นหน่วยพยาบาลของเสื้อแดงปรากฎโฉมให้เห็นเลย มีแต่แพทย์ พยาบาลอาสา ที่ตั้งกลุ่มอยู่นอกที่ชุมนุม ดังเห็นได้จาก กลุ่มนี้เข้าช่วยเหลือผู้เคราะห์ร้ายที่ถูกยิงถล่มด้วย M-79 ในคืนวันที่ 22 เมษายน 53 และไม่วายถูกพวกเสื้อแดงทำร้ายขณะลำเลียงคนป่วยออกจากที่เกตุเหตุ จากที วี ที่ถ่ายทอดให้ชม โดยพวกเข้าอาจสำคัญว่า มีโรงพยาบาลอยู่ในบริเวณที่ชุมนุม อาทิ รพ.จุฬาฯ, รพ.ตำรวจ, รพ.เซนต์หลุยส์, รพ.บำรุงราษฎร์ฯ และ ฯลฯ

2.การนำร่าง เสธ.แดง จากจุดเกิดเหตุซึ่งใกล้กับ รพ.จุฬาฯ ไปส่ง รพ.หัวเฉียว ซึ่งน่าจะใช้เวลาเดินทางถึงครึ่งชั่วโมงขึ้นไปนั้น เป็นอันตรายต่อชีวิตของเสธ.แดง เป็นอย่างยิ่ง หรือเพราะการ์ดคิดว่า..ทำไว้กับ รพ.จุฬาฯ ไว้เยอะ เลยพาไปแอดมิดส์ที่ รพ.อื่น ดีกว่า...ซึ่งเป็นความคิดที่เลวร้ายมากๆ ครับ เลือดที่ไหลออกจากแผลที่หัวทุกหยดมีค่า เวลายิ่งเนินนานมีผลต่อการรักษาชีวิตของ เสธ.แดง เป็นอย่างยิ่ง....เหมือนเป็นกรรมสนองจริงๆ
 

                                           (http://www.cmadong.com/imageupload/2010_Cmadong-Image/data/image/l2d654-1f0556.jpg)

           ดูภาพแสดงจุดเกิดเหตุ เทียบกับระยะทางไปโรงพยาบาลต่างๆ เอาก็แล้วกัน ?? รพ.จุฬาฯ น่าจะห่างไม่เกิน 500 เมตร, รพ.ตำรวจ น่าจะห่างไม่เกิน 1 ก.ม., ในขณะที่ รพ.หัวเฉียว น่าจะอยู่ในระยะกว่า 5 ก.ม. และต้องใช้ถนนมากกว่า 3 สายในการเดินทาง

 


หัวข้อ: Re: [2513]"ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: เหยง 16 ที่ 14 พฤษภาคม 2553, 12:41:43
คอลัมม์ "ท่านขุนน้อย" เขียนขึ้นก่อนช่วง เสธ.แดง ถูกยิง

อะไรจะเกิด...ก็ต้องเกิด!!!
ท่านขุนน้อย 14 พฤษภาคม 2553 - 00:00

         ขณะที่กำลังเขียนต้นฉบับชิ้นนี้...ก็ยังไม่รู้ว่าเหตุการณ์มันจะเป็นยังไงกันต่อไป  หลังจากที่ศูนย์อำนวยการอยู่เฉยๆ ท่านได้ออกมาประกาศว่า นับตั้งแต่เวลา 18.00 น. ของวันพฤหัสบดีที่ 13 พ.ค.เป็นต้นไป ท่านจะเริ่ม ขยับแข้ง ขยับขา ขึ้นมาบ้างแล้ว การปิดล้อม กดดัน ใช้มาตรการจากเบาไปหาหนัก ตลอดไปจนการอธิบายแผนยุทธศาสตร์ ยุทธวิธี ในการจัดการกับม็อบเอาไว้ซะละเอียดยิบ ท้ายที่สุด...มันจะนำความสงบเรียบร้อยมาสู่บ้านเมืองได้จริงๆ หรือไม่? หรือจะบานปลายกลายเป็นสงครามกลางเมือง อย่างที่ใครต่อใคร เคยวิตกกันมาก่อนหน้านี้...
                ------------------------------------
     แต่ก็นั่นแหละ...เมื่อมาถึงจุดนี้ มันคงหลีกเลี่ยงลำบาก เพราะอะไรต่อมิอะไร มันเลยขีดจำกัดกันมานานแล้ว ถ้าหากศูนย์อำนวยการอยู่เฉยๆ ท่านยังพยายามเฉยๆ ต่อไป กองกำลังติดอาวุธของกลุ่มคนที่ไม่คิดจะ มีฝัก มีฝ่าย ก็อาจจะผุดขึ้นมาจัดการกำลังกองกำลังไม่ทราบฝ่าย จนต้องกลายเป็นสงครามกลางเมืองแท้ๆ  ไปจนได้ ด้วยเหตุนี้...การสร้างแรงกดดันเพื่อขอพื้นที่คืน การสลายฝูงชน หรือ จะใช้คำเรียกว่าอะไรก็แล้วแต่ มันจึงกลายเป็นสิ่งที่มิอาจหลีกเลี่ยงต่อไปได้ แม้นว่าจะมีความพยายามหลีกเลี่ยงกันในชนิด เอวบิด เอวคด เอวงอ ไปตามๆ กัน...
              ----------------------------------------
     อย่างไรก็ตาม...การจัดการกับม็อบที่ออกจะประหลาด พิกล กว่าม็อบโดยทั่วไปเท่าที่เคยมีมาในประวัติศาสตร์การเมืองไทยคราวนี้ คงต้องอาศัยความประณีต ละเอียดอ่อน เอาจริงๆ เพราะเป็นที่รับทราบกันมาโดยตลอดว่า สิ่งที่ผู้อยู่เบื้องหลังม็อบต้องการจะให้เป็นไป ก็คือสถานการณ์อย่างที่กำลังจะเกิดขึ้น ในอีกไม่นานนับจากนี้ พูดง่ายๆ ก็คือ...ม็อบคราวนี้ถูกออกแบบมาเพื่อให้เกิดการปะทะขั้นแตกหัก กับเจ้าหน้าที่บ้านเมืองโดยเฉพาะ การเคลื่อนไหวตาม ยุทธศาสตร์ยวนส้นตีน จึงได้รับการดำเนินอย่างต่อเนื่องมาตั้งแต่แรก ไม่ว่าจะพยายามหลีกเลี่ยงไม่ให้เข้าทาง เข้าแผนยุทธศาสตร์ ดังกล่าวด้วยวิธีใดๆ ก็แล้วแต่ แต่สุดท้าย...ก็คงไม่อาจหลีกเลี่ยงได้ต่อไปอีกแล้ว...
             ------------------------------------------
     ด้วยเหตุนี้...การปฏิบัติการด้วยกำลังใดๆ คงต้องวาดฉากสถานการณ์ในแต่ละขั้นเอาไว้ให้ละเอียดยิบ เพียงแต่สิ่งที่วาดๆ เอาไว้ อย่ามัวแต่เอามาแถลงซะจนฝ่ายตรงข้าม รู้ใส้ รู้พุง ว่ามีอยู่กี่ขด ต่อกี่ขด จนสามารถท่องจำคำพูด ว่าด้วยขั้นตอนปฏิบัติการ หรือแผนการปฏิบัติของโฆษก ศอฉ. ได้แทบทุกวรรค ทุกประโยค นอกจากนั้น คงต้องพึงระลึกเอาไว้ด้วยว่า...ถ้าหากถึงขั้นที่จะต้อง ปะทะ แตกหัก ขึ้นมาเมื่อไหร่ โอกาสที่มันจะกลายเป็นการรบระหว่าง จปร. กับ จปร. ไม่ใช่การเผชิญหน้ากับฝูงชน หรือ การจัดการกับมวลชนธรรมดาๆ ย่อมมีโอกาสเป็นไปได้สูงเอามากๆ...
           ----------------------------------------------
     ยิ่งไปกว่านั้น...ไม่ว่าแผนปฏิบัติการต่างๆ จะละเอียด รอบคอบ มากน้อยขนาดไหน หัวใจสำคัญที่สุดในการลดความสูญเสีย การเผชิญหน้า และการนำความสงบเรียบร้อยกลับคืนมาสู่บ้านเมืองได้จริงๆ ยังต้องขึ้นอยู่กับขีดความสามารถ ในการใช้กลไกปฏิบัติการในแต่ละกลไก ได้อย่างมีประสิทธิภาพสูงสุด เนื่องจากภายใต้สภาพความเป็นจริงเท่าที่ผ่านมา คงปฏิเสธไม่ได้ว่า...กลไกการปฏิบัติการแต่ละชนิด มันได้ถูกแปรสภาพให้กลายเป็นแตงโม และมะเขือเทศ จนทุกสิ่งทุกอย่างเละเทะกลายเป็นจานผลไม้รวม หรือไม่ได้เป็นไปตามเป้า ตามจุดมุ่งหมายที่เคยได้วางเอาไว้คราวแล้ว คราวเล่า...
            --------------------------------------------
     สรุปง่ายๆ ก็คือ...เมื่อมาถึง ณ ขณะนี้ การแก้การเมืองด้วยการเมือง ได้มาถึงจุดสิ้นสุด ที่ไม่อาจไปต่อได้อีกแล้ว มีแต่จะต้องใช้กำลัง หรือ ใช้การทหารเข้าไปสร้างข้อยุติ ไม่เช่นนั้น...อะไรต่อมิอะไร มันจะเลยจุด ลุกลาม บานปลายไปสู่เสถียรภาพ ความมั่นคงของชาติบ้านเมือง ในชนิดไม่อาจกู้กลับคืนมาได้ง่ายๆ แม้ว่าฝ่ายการเมือง หรือ รัฐบาล พยายามที่จะหลีกเลี่ยงการเดินมาถึง ณ จุดๆ นี้ จนถูก รุมเหยียบ รุมกระทืบ รุมทึ้ง ระดับไม่ว่าชีวิตทางการเมืองของนายกรัฐมนตรี ตลอดไปจนชีวิตทางการเมืองของพรรคประชาธิปัตย์ แทบจะไปไม่กลับ-หลับไม่ตื่น-ฟื้นไม่มีไปตลอดชีวิต แต่สุดท้าย...สถานการณ์มันก็ยังไหลเข้ามาสู่จุดๆ นี้จนได้...
             -------------------------------------------
     การดำเนินการใดๆ ก็แล้วแต่...นับจากนี้เป็นต้นไป จึงต้องอาศัยสติ สมาธิ ความละเอียด รอบคอบ อย่างสูงสุด รวมไปถึงความร่วมแรง ร่วมใจ และความมีประสิทธิภาพ ของกองกำลังแต่ละชนิด ในอันที่จะยุติสถานการณ์ความปั่นป่วน วุ่นวาย ที่ยืดเยื้อ คาราคาซัง มาจนประเทศทั้งประเทศตกอยู่ในความพังพินาศ ฉิบหาย และกำลังกลายเป็นผู้พ่ายแพ้รายแรก จนแม้กระทั่งรายสุดท้าย ตราบใดที่ยังไม่มีการเร่งกู้กลับคืนมาซะแต่เนิ่นๆ...
           ----------------------------------------------
     สำหรับบรรดาประชาชนทั้งหลาย...ที่จะมีส่วนในการให้ความร่วมมือ เพื่อให้สถานการณ์ต่างๆ กลับคืนมาสู่ความสงบได้อย่างถาวร ยั่งยืน อันดับแรก...คงหนีไม่พ้นที่จะต้องเลิกทำตัวเป็น นางสนม ยุคกรุงแตก ที่ดันกลับชาติมาเกิดในยุคนี้ อย่างน้อยก็ควร ทำใจ และ ทำความเข้าใจ เอาไว้ให้ชัดเจนว่า...เอาเข้าจริงๆ แล้ว เราไม่ได้กำลังเผชิญหน้ากับมวลชน หรือ ประชาชนผู้เรียกร้องประชาธิปไตยอย่างเป็นปกติ แต่เรากำลังเผชิญหน้ากับการก่อการร้าย หรือ ขบวนการก่อการร้าย  ที่พร้อมจะเปลี่ยนแปลงประเทศไม่ให้เป็นไปเช่นเดิม...อันเป็นสิ่งที่ คนไทยแท้ๆ มิอาจยอมรับได้โดยเด็ดขาด ด้วยเหตุนี้...ไม่ว่ามันจะเกิดอะไรขึ้นมาก็ตาม มันล้วนแล้วแต่เป็นไปตามเหตุปัจจัย หรือเป็นเพราะสิ่งนี้-สิ่งนี้...สิ่งนี้จึงเป็นไป...นั่นเอง...

         ---------------------------------------------------
     ปิดท้ายด้วยวาทะวันนี้ จาก เพลโต นักปราชญ์ชาวกรีก...คนตายเท่านั้น...ที่ได้เห็นอวสานแห่งสงคราม                                                          ---------------------------------------------------

http://www.thaipost.net/news/140510/22186


หัวข้อ: Re: [2513]"ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: เหยง 16 ที่ 14 พฤษภาคม 2553, 13:14:29
อ่านข่าวย้อนหลัง นสพ.ไทยโพสต์ ซึ่งวันนี้ขายดีที่สุด แผงที่จังหวัดนครสวรรค์หมดก่อนฉบับอื่น

ยิงหัว'เสธ.แดง'! สไนเปอร์ส่องมุมสูงถล่มM79กราดM16สวนจากฝั่งม็อบ
ข่าวหน้า 1  14 พฤษภาคม 2553 - 00:00

       ดับ "เสธ.แดง" คาดสไนเปอร์ยิง กระสุนเจาะด้านขวาทะลุท้ายทอยระหว่างคุยสื่อนอก อาการเป็นตายใกล้เคียงกัน "ลูกสาว" น้ำตานองหน้าบอกไม่ต้องยื้อชีวิตหากไม่ไหว เพราะ "พ่อเหนื่อยมามาก" แกนนำ นปช.ขี้ขึ้นสมอง สั่งเพิ่มการ์ดพรึ่บ งดไฮด์ปาร์ก สวมเสื้อเกราะทันที ปูดหลายคนถอดใจแต่กลัวถูกด่าทรยศ เชื่อ "กี้" ถูกหมายหัวคนต่อไป "ตู่" ป้าย  "มาร์ค-เทพ-ห้อย" สั่งยิง ลั่นพร้อมพลีชีพ

      การชุมนุมของคนเสื้อแดงท่ามกลางมาตรการปิดล้อมของศูนย์อำนวยการแก้ไขสถานการณ์ฉุกเฉิน (ศอฉ.) ในช่วงค่ำ ได้เกิดเหตุไม่คาดฝันเกิดขึ้น เมื่อเวลาประมาณ 19.20 น. ที่บริเวณแยกศาลาแดง มีรายงานในพื้นที่ว่า พล.ต.ขัตติยะ สวัสดิผล หรือ เสธ.แดง ถูกยิงได้รับบาดเจ็บ อาการสาหัส

      และทันทีที่เกิดเหตุการณ์ยิงเสธ.แดง ก็เกิดเสียงระเบิดดังต่อเนื่องถึง 4 ครั้ง โดยคาดว่าจะเป็นระเบิดเอ็ม 79 ในบริเวณดังกล่าวด้วย พร้อมทั้งมีเสียงยิงปืนหลายชนิดทั้งเอ็ม 16 และอาก้านานกว่า 10 นาที ในขณะที่ฝ่าย นปช.ก็มีการยิงพลุและตะไลขึ้นฟ้าอย่างต่อเนื่อง

โดยคาดว่ามีผู้บาดเจ็บกว่า 20 คน

      ข่าวการยิงเสธ.แดงในช่วงแรกมีความสับสนอย่างมาก โดยระบุว่าถูกยิงที่หน้าอก แต่ในเวลาต่อมาก็มีการยืนยันว่าถูกยิงที่ศีรษะ อาการสาหัส โดยถูกนำส่งตัวที่ รพ.หัวเฉียวแล้ว

      ในขณะที่ นพ.เพชรพงษ์ กำจรกิจการ ผู้อำนวยศูนย์เอราวัณ สำนักการแพทย์ฉุกเฉิน กทม.ก็ให้สัมภาษณ์เนชั่นทีวี ยอมรับ พล.ต.ขัตติยะถูกยิงที่ศีรษะ อาการสาหัส รักษาอาการที่ รพ.หัวเฉียวแล้ว

      ส่วนทีวีไทยได้รายงานถึงสถานการณ์ดังกล่าวว่า จากการสอบถามผู้อยู่ในเหตุการณ์เล่าว่า เสธ.แดงยืนให้สัมภาษณ์นักข่าวต่างประเทศอยู่ 4-5 คน บริเวณด้านนอกแนวด่าน นปช. ก็มีกระสุนไม่สามารถระบุแนวยิงได้มาถูกเสธ.แดง และหลังจากนั้นก็เห็น เสธ.แดงล้มฟุบบนถนน โดยมีแผลที่ศีรษะด้านขวา การ์ด นปช.จึงได้นำตัวไปส่ง รพ. ซึ่งตอนแรกจะนำส่ง รพ.จุฬาฯ แต่กลัวว่าจะมีปัญหาจึงนำส่ง รพ.หัวเฉียว

      โดยสภาพของเสธ.แดงที่มาถึง รพ.นั้น ต้องนอนอยู่บนเปลหาม โดยมีผ้ากอซพันอยู่รอบศีรษะเพื่อห้ามเลือด ก่อนที่จะนำตัวเข้าไปที่ศูนย์เอกซเรย์สมองทันที  และเมื่อเวลา   20.15  น.  เจ้าหน้าที่โรงพยาบาลก็ได้เข็นเตียงคนไข้ ซึ่งมี  พล.ต.ขัตติยะนอนอยู่จากศูนย์เอกซเรย์สมองเพื่อจะไปห้องไอซียู ทั้งนี้ สภาพ พล.ต.ขัตติยะถูกพันด้วยผ้ารอบศีรษะ ใส่เครื่องช่วยหายใจ  โดยระหว่างเข็นรถพยาบาลดังกล่าว  เจ้าหน้าที่พยายามเอาผ้าขนหนูมาบังหน้า พล.ต.ขัตติยะไว้  แล้วเข็นเข้าลิฟต์  และปิดประตูห้องไม่ให้สื่อและบุคคลภายนอกเข้าไป จะมีแต่เจ้าหน้าที่ตำรวจและเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องเข้าไปได้เท่านั้น

      ในขณะที่ น.ส.ขัตติยา สวัสดิผล ลูกสาวของ เสธ.แดงก็มาถึง รพ.ทันทีที่ทราบข่าว ด้วยใบหน้าที่เศร้าหมองและห่วงใยอาการบิดาอย่างเห็นได้ชัด โดยไม่มีการให้สัมภาษณ์แต่อย่างใด

       ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังจากที่กลุ่มผู้ชุมนุมทราบข่าวการยิง พล.ต.ขัตติยะ  ก็แห่กันมารวมตัวที่หน้า รพ. โดยบางคนก็ร้องไห้ ตะโกนเรียกชื่อ เสธ.แดง  พร้อมส่งเสียงโห่ร้องเมื่อเห็นเจ้าหน้าที่เข็นเตียงคนไข้เข้าไปห้องไอซียู

      ในขณะที่ เวลา 20.45 น. พล.ต.ท.สัณฐาน  ชยนนท์ ผบช.น.  และ พล.ต.ต.วิชัย  สังข์ประไพ ผก.น.1  เข้ามาดูสถานการณ์ที่ รพ.อยู่บริเวณห้องผู้ป่วย ส่วนบริเวณรอบ รพ.ก็มีทหารและตำรวจมาตั้งด่านตรวจระเบิด รวมทั้งตรวจอาวุธอย่างเข้มงวดแก่ผู้เข้า-ออก รพ. ซึ่งทำให้เกิดเหตุปะทะกันเล็กน้อยระหว่างเจ้าหน้าที่ทหารและผู้ชุมนุมที่จะบุกเข้า รพ.  แต่เจ้าหน้าที่ตำรวจเข้ามาห้ามปรามไว้  จากนั้นกลุ่มผู้ชุมนุมพยายามไล่ทหารให้ออกไปจากบริเวณดังกล่าว ท้ายสุดก็ถอยร่นออกไป และขึ้นไปอยู่ตามตึกสูงแทน ทั้งนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ตั้งด่านตรวจอาวุธบริเวณทางเข้าหน้า รพ.อย่างเข้มงวด

ไม่เข้าจุฬาฯ อ้างไม่ไว้ใจ

      นางพวงเพชร พ่วงมลคล การ์ดเคลื่อนที่ นปช.ผู้เห็นเหตุการที่เสธ.แดงถูกยิง เล่าพร้อมดมยาดมว่า ตอนเกิดเหตุเสธ.กำลังยืนให้สัมภาษณ์นักข่าวต่างประเทศ ซึ่งมีการ์ดยืนอยู่กับเสธ.แดงด้วย  บริเวณแยกศาลาแดง ตอนนั้นอยู่ห่างจากจุดเกิดเหตุ 50 เมตร พอได้ยินเสียงดังขึ้น 3 ครั้ง ก็หันไปเห็นเสธ.แดงล้มลงไป แต่ไม่เห็นแนวกระสุนจากทางไหน เพราะบริเวณนั้นมีตึกสูงหลายที่ จากนั้นก็วิ่งเข้าไปดูเห็น เสธ.แดงถูกยืงศีรษะด้านขวา เลยช่วยกันนำตัวขึ้นรถกระบะเพื่อขอทางออกมาส่ง รพ. แต่ตอนนั้นก็ตัดสินใจว่าจะไม่เข้า รพ.จุฬาฯเพราะเข้าไม่ได้ ไม่ไว้ใจ จึงจ้างรถมอเตอร์ไซค์รับจ้างให้ขับนำทางไป รพ.หัวเฉียว

      "ตอนนำตัว เสธ.แดงมา ชีพจร เสธ.แดงยังเต้น รู้สึกตัว แต่พูดคุยไม่ได้ พอเข้ามาถึงห้องฉุกเฉิน รพ.ก็รีบเข้าไปเอกซเรย์ 19.30 น." นางพวงเพชรเล่า

      ในขณะที่นายเดเนียล เชิร์ฟ ผู้สื่อข่าวสถานีวิทยุเสียงอเมริกา (วีโอเอ) ก็ระบุเหมือนกันว่า เห็น พล.ต.ขัตติยะถูกยิง โดยมีความเป็นไปได้ว่าจะเป็นฝีมือของมือปืนซุ่มยิงหรือสไนเปอร์ และหลังจาก พล.ต.ขัตติยะถูกยิง ก็มีเสียงปืนยิงต่อสู้และเสียงระเบิดเกิดขึ้นภายในพื้นที่ปิดล้อมของม็อบด้วย

      ด้านสำนักข่าวต่างประเทศ อาทิ บีบีซี รอยเตอร์ และอัลจาซีเราะห์ ต่างรายงานถึงเหตุการณ์การยิงเสธ.แดงเช่นกัน โดยระบุว่า เป็นนายพลที่สนับสนุนกลุ่มคนเสื้อแดงได้ถูกยิงจนได้รับบาดเจ็บ ก่อนที่จะถูกนำตัวไปโรงพยาบาล

      พล.อ.พัลลภ ปิ่นมณี  อดีตรอง ผอ.กอ.รมน. อดีตผู้บังคับบัญชาเสธ.แดง ระบุว่า เท่าที่ทราบตอนนี้เสธ.แดงยังไม่ตายนะครับ  และยังติดตามข่าวจากสื่ออยู่ แต่เข้าห้องไอซียู อาการสาหัส

      ผู้สื่อข่าวถามว่า ประเมินสถานการณ์ตอนนี้อย่างไรบ้าง  พล.อ.พัลลภกล่าวเสียงเศร้าว่า ขอไม่ประเมินอะไรทั้งนั้น  และไม่ขอมองภาพรวมอะไรด้วย มันยังไม่ถึงเวลา ขอมีความชัดเจนมากกว่านี้ก่อน

      นพ.สามารถ ตันอริยะกชุล รองผู้อำนวยการสำนักการแพทย์ กรุงเทพมหานคร กล่าวถึงอาการ พล.ต.ขัตติยะว่า สาหัส ขณะนี้กำลังส่งเข้าเครื่องเอกซ์เรย์คอมพิวเตอร์เพื่อดูเนื้อสมองว่าถูกทำลายมากน้อยแค่ไหน เพื่อทำการรักษาต่อไป ขณะนี้ต้องใช้เครื่องช่วยหายใจ คาดว่าแผลเกิดจากอาวุธความเร็วสูง หากสมองถูกทำลายมากคงลำบาก เพราะอาการค่อนข้างสาหัส

      ในเวลา 21.00 น. รายงานข่าวแจ้งว่า ระหว่างที่อยู่ในห้องไอซียู  ทีมแพทย์ได้พยายามปั้มหัวใจเสธ.แดง หลายครั้ง เนื่องจากหัวใจเต้นอ่อนมาก เบื้องต้นได้ทีมแพทย์คาดว่าอาจจะย้ายเสธ.แดงไปรักษาตัวที่ รพ.ราชวิถี เนื่องจากมีอุปกรณ์พร้อมกว่า

      ส่วนด้านนอก รพ. คนเสื้อแดงกว่า 200 คน ก็ยังรอเข้าไปเยี่ยมอาการเสธ.แดงอยู่ตลอดเวลา ในขณะที่เจ้าหน้าที่ก็ยังไม่ยอมให้เข้าไป ทำให้ผู้ชุมนุมด่าทออยู่ตลอดเวลา

ลูกบอกให้ปล่อยพ่อไม่ต้องยื้อ

      มีรายงานข่าว น.ส.ขัตติยาพร้อมญาติ หลังจากได้รับทราบอาการของเสธ.แดงก็ได้บอกกับคณะแพทย์ว่า ถ้าอาการไม่ไหวแล้วก็ไม่ให้ยื้อชีวิต เพราะพ่อได้เหนื่อยมามากแล้ว ซึ่งเมื่อกล่าวจบก็ได้หลั่งน้ำตานองหน้าทันที

สถาบันการแพทย์ฉุกเฉินยืนยันว่า บาดแผลของ เสธ.แดงถูกยิงทางด้านขวา ทะลุท้ายทอย

       ล่าสุด มีรายงานข่าวแจ้งว่า พล.ต.ขัตติยะได้เสียชีวิตลงแล้ว แต่ได้มีการขอร้องไม่ให้คณะแทพย์มีการแถลงข่าวแต่อย่างใด โดยรอให้ถึงวันที่ 14 พ.ค.ก่อน

      ด้านเวทีราชประสงค์นั้น หลังเหตุการณ์ยิงเสธ.แดง ในช่วงต้นยังคงมีการปราศรัยเป็นปกติ แต่หน่วยการ์ด นปช.ก็มีการตรึงกำลังโดยรอบพื้นที่ชุมนุมกันอย่างหนาตากว่าปกติ  โดยเฉพาะทางเข้า-ออกเวทีปราศรัย มีการ์ดไม่ต่ำกว่า 10 คน ดูแลความเรียบร้อย ส่วนประชาชนที่ทราบข่าวว่า พล.ต.ขัตติยะถูกยิง ก็จับกลุ่มวิพากษ์วิจารณ์ว่าเป็นข่าวความจริงหรือไม่ และมีประชาชนบางส่วนที่ตั้งเต็นท์อยู่ตรงข้ามโรงพยาบาลตำรวจ ได้นำท่อนเหล็กและท่อนไม้ปลายแหลมมาถือไว้คนละอัน

       อีกด้านหนึ่ง บริเวณด้านหลังเวทีราชประสงค์ หลังมีข่าวยิง พล.ตขัตติยะถูกลอบยิงทำให้บรรดาแกนนำเสื้อแดงได้มารวมตัวกันที่หลังเวที และมีการเช็กข่าวกันเคร่งเครียดอย่างเห็นได้ชัด พร้อมกับสั่งเพิ่มการ์ด นปช. ร่าม 100 คน เข้าแถวเรียงหน้าคอยคุ้มกันบริเวณหน้าเวทีปราศรัย และเพิ่มจำนวนการ์ดคุ้มกันแกนนำมากขึ้น โดยหลายคนได้ใส่เสื้อเกราะกันกระสุนจากที่ไม่เคยใส่มาก่อน

      และตั้งแต่ช่วงค่ำเป็นต้นมาหลัง เสธ.แดงถูกยิง แกนนำหลายคนซึ่งปกติขึ้นเวทีปราศรัยในช่วงค่ำ ก็ไม่ได้ขึ้น ซึ่งส่วนหนึ่งอาจเพราะไม่มั่นใจในความปลอดภัย ในขณะที่แกนนำเสื้อแดงคนหนึ่งวิเคราะห์ว่า การลอบยิงเสธ.แดงเป็นการเตือนแกนนำให้รีบยุติการชุมุนม โดยบุคคลที่แกนนำเป็นห่วงว่าอาจเป็นรายต่อไปคือนายอริสมันต์ พงศ์เรืองรอง จึงได้สั่งเพิ่มการ์ดคุ้มกันนายอริสมันต์เพิ่มขึ้น

      ทันทีที่มีภาพข่าวยืนยันว่าเสธ.แดงถูกลอบยิงจริง แกนนำ นปช.หลายคนอยู่ในภาวการณ์ตึงเครียดทันที โดยเฉพาะนายนิสิต สินธุไพร และนายสุภรณ์ อัตถาวงศ์ ต่างมีสีหน้าซีดเผือด ขณะที่แกนนำคนอื่นๆ อาทิ นายจตุพร พรหมพันธุ์ , นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ ต่างโทรศัพท์ตรวจสอบสถานการณ์จ้าละหวั่น ส่วนนายอริสมันต์ก็นั่งหน้าเครียดและหารือกับนายณัฐวุฒิและนายจตุพร  ท่ามกลาง การ์ด นปช.นับสิบคนกระจายกำลังคุ้มครองอย่างใกล้ชิด

      แหล่งข่าวในที่ประชุมแกนนำ นปช.กล่าวว่า หลังจากที่นายวีระ มุสิกพงศ์ ประธาน นปช., นายอดิศร เพียงเกษ,  นายวิสา คัญทัพ  และนางไพจิตร อักษรณรงค์ ทยอยถอนตัวออกจากพื้นที่ชุมนุม หลังจากไม่เห็นด้วยมติที่ประชุมแกนนำ นปช.ที่ไม่ยอมยุติชุมนุม รวมทั้งข่าวเสธ.แดงถูกยิง ทำให้แกนนำ นปช.หลายคนเริ่มถอดใจอยากให้มีการเปิดเจรจากับรัฐบาลอีกครั้ง โดย นปช.จะยอมยุติชุมนุม เพื่อให้ชาวบ้านผู้บริสุทธิ์ได้เดินทางกลับบ้านด้วยความปลอดภัยก่อน  แต่ติดที่นายจตุพรและนายอริสมันต์ ประกาศกร้าวที่จะสู้อย่างถึงที่สุด ทำให้แกนนำหลายคนต่างอึดอัดไม่กล้าแสดงความเห็นคัดค้าน เนื่องจากกลัวถูกกล่าวหาว่า เป็นผู้ทรยศคนเสื้อแดง

      ยังมีการวิเคราะห์สาเหตุการยิง เสธ.แดงอีกหลากหลายทาง โดยมีการคาดว่าคนร้ายน่าจะยิงออกมาจากสะพานลอย หรือตึกสูงริมถนนพระราม 4 โดยเป้าหมายน่าจะอยู่ที่เสธ.แดงเพียงคนเดียว เพราะคนอื่นๆ ที่อยู่บริเวณนั้นไม่ได้รับบาดเจ็บรุนแรง และเชื่อว่าจุดประสงค์ของการยิงน่าจะเพื่อปลุกเร้าให้ผู้ชุมนุมเกิดความโกรธแค้นและมาร่วมชุมนุมกันมากขึ้น  เนื่องจากที่ผ่านมาหากมีเหตุการณ์รุนแรง ก็จะสามารถระดมคนเข้ามาร่วมได้เป็นจำนวนมาก

       ในขณะที่การสัมภาษณ์ของ เสธ.แดงเมื่อวันที่ 12 พ.ค.นั้น พล.ต.ขัตติยะยอมรับว่าเกิดความขัดแย้งอย่างรุนแรงกับนายอารีย์ ไกรนรา หัวหน้าหน่วยรักษาความปลอดภัยของกลุ่มคนเสื้อแดง จากประเด็นการแบ่งเงินและอำนาจไม่ลงตัว

        พล.ต.ขัตติยะบอกว่า นายอารีย์มีนักเลงอยู่ในการควบคุมเป็นจำนวนมาก โดยนักเลงเหล่านั้นมีหน้าที่ดูแลความปลอดภัยด้านหลังเวทีเป็นส่วนใหญ่ ซึ่งเป็นคนละส่วนกับกองกำลังของเสธ.แดง ซึ่งนายอารีย์เป็นผู้หากินกับการ์ดมาโดยตลอด เมื่อได้รับเงินมาก็จะอมเอาไว้ จ่ายให้ไม่ครบ ทำให้มีการ์ดบางส่วนรู้สึกไม่พอใจจึงมาเข้าร่วมกับเสธ.แดง

       "เสธ.แดงเองก็มีกองกำลังของตัวเองอยู่ แต่เมื่อมีการ์ดที่ถูกนายอารีย์อมเงินเข้ามาเสริม ก็ทำให้เสธ.แดงแข็งแกร่งขึ้น และเป็นเหตุให้นายอารีย์ไม่พอใจอย่างยิ่ง" พล.ต.ขัตติยะระบุไว้เมื่อวันที่ 12 พ.ค.

แดงคลั่งทำลายสิ่งของ

      ด้านความรู้สึกของผู้ชุมนุม เมื่อเวลา 20.30 น. ที่บริเวณสีลม แยกศาลาแดงนั้น กลุ่มผู้ชุมนุมมีอาการคลุ้มคลั่งอย่างหนัก เนื่องจากไม่พอใจที่เสธ.แดงถูกยิง โดยได้เข้าทำลายสิ่งกีดขวาง รื้อกั้นเหล็ก และทุบทำลายกล้องซีซีทีวีบริเวณรอบศาลาแดง

      เวลา 21.05 น. นายจตุพร  พรหมพันธุ์ แกนนำ นปช. ได้ขึ้นปราศรัยกรณีที่ พล.ต.ขัตติยะถูกยิงว่า ถ้านายอภิสิทธิ์  เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี, นายสุเทพ เทือกสุบรรณ  รองนายกด้านความมั่นคง, นายเนวิน ชิดชอบ แกนนำพรรคภูมิใจไทย ถ้าอยากจะยิงก็ยิงได้เลย  ถ้าคิดว่าการที่เสธ.แดงถูกยิงแล้วจะทำให้พวกตนไม่กล้าขึ้นบนเวทีปราศรัยนั้น เข้าใจผิด สิ่งที่นายอภิสิทธิ์ประกาศออกมาว่าพูดปรองดอง แต่สิ่งที่พูดนั้นไม่เคยพูดออกมาจากหัวใจ มันเป็นเพียงมารยาเท่านั้น

      นายจตุพรกล่าวอีกว่า นายอภิสิทธิ์ต้องการฆ่า และฆ่าเท่านั้น เพื่อรักษาตำแหน่งนายกฯ ตอนนี้คนเสื้อแดงกำลังไหลเข้ามาที่นี่แล้ว และจะได้รู้ว่าใครเป็นส่วนใหญ่ของประเทศ หลายคนอาจช็อก แต่ในความโชคร้ายยังมีโชคดี เพราะ เสธ.แดงยังมีชีวิต ตอนนี้ไม่ต้องเสียดายชีวิต อะไรจะเกิดก็ต้องเกิด ถ้าจะต้องเสียเลือด เสียชีวิต และต้องตายและได้มาซึ่งประชาธิปไตยเราก็พร้อม

      "ถ้าความตายอยู่ตรงหน้าก็จะเดินเข้าหามัน อภิสิทธิ์ สุเทพ เนวิน  เราอยู่นี่มายิงได้เลย ไม่ต้องรอถึง 6 โมงเช้า มาฆ่าได้เลย  พวกเราจะออกจากที่นี่แบบราชสีห์  เราจะไม่เดินออกไปแบบผู้แพ้ แต่สำหรับผู้สั่งฆ่าประชาชนต้องตายตกตามกัน" นายจตุพรกล่าวอย่างดุดัน

      เมื่อเวลา 21.30 น. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า บริเวณหน้าประตูรถไฟใต้ดินสวนลุมพินี แยกถนนวิทยุ ได้มีประชาชนคนเสื้อแดงมารวมตัวกว่า 100 คน เพื่อมากดดันทหารที่ประจำการอยู่ในสวนลุมพินี โดยผู้ชุมนุมได้นำแผงกั้นพลาสติกสีส้มมากั้นทางเข้า-ออกเพื่อกันไม่ไม้ทหารสามารถออกมาได้ พร้อมกับตะโกนด่าทอ ขับไล่ทหารออกไปเป็นระยะ หลังจากนั้นได้มีเสียงประทัดดังขึ้นประมาณ 3-4 นัด ทำให้เจ้าหน้าที่ทหารต้องยิงกระสุนยางออกมา  ซึ่งทำให้คนเสื้อแดงได้รับบาดเจ็บเล็กน้อย และได้นำตัวส่งโรงพยาบาลใกล้เคียง อีกทั้งเหตุจากการยิงประทัดขึ้นนั้น ทำให้ประทัดได้พลัดตกลงมาตรงหน้ารถแท็กซี่ที่จอดอยู่ตรงฝั่งถนนพระราม 4  ส่งผลให้กระจกด้านหน้าร้าว อย่างไรก็ตาม การจราจรที่บริเวณดังกล่าวยังเป็นปกติ แต่น่าสังเกตว่าได้มีรถมอเตอร์ไซค์และรถแท็กซี่ได้เดินทางเข้ามาที่บริเวณสวนลุมฯ อย่างต่อเนื่อง

      ผู้สื่อข่าวรายงานว่า  เมื่อเวลา 22.30 น. ได้เกิดเหตุตึงเครียดที่บริเวณแยกสวนลุมพินีตัด ถ.สาทร  เมื่อกลุ่มคนเสื้อแดงเกือบพันคน ได้รวมตัวกันเพื่อขับไล่ทหารที่อยู่ในสวนลุมฯ ทำให้ทหารย้ายกำลังออกจากสวนลุมฯ แล้วเข้าไปอยู่ที่ตึกอื้อจื้อเหลียง ถนนพระราม 4 จากนั้นกลุ่มคนเสื้อแดงที่เห็นเหตุการณ์ก็ได้พยายามเข้าไปไล่  โดยช่วงเวลาดังกล่าวมีเสียงปืนและเสียงคล้ายระเบิดดังขึ้น 3-4 ครั้ง ส่งผลให้ผู้ชุมนุมพยายามปลุกเร้าประชาชนในพื้นที่ให้ช่วยกันให้ขับไล่ทหารออกไปให้หมด และขณะนี้บรรยากาศยิ่งเพิ่มระดับความตึงเครียดมากขึ้นเรื่อยๆ.

http://www.thaipost.net/node/22191



หัวข้อ: Re: [2513]"ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: prapasri AH ที่ 14 พฤษภาคม 2553, 13:55:11
ถ้า ฉัน เป็นเฉแดงงงงงงง

ฉัน จะบริจาค หัวใจ ตับ ลูกกะตา ให้ผู้รอปลูกถ่ายอวัยวะ

เฉ...จะได้ มีบุญ เกิดเป็นคนดีในชาติหน้าได้


เพราะตอนนี้ที่เสียไปคือสมอง ซึ่งอย่างที่บอกไม่ตายก็เลียงไม่โต

หัวใจ ตับ ลูกกะตา ยังใช้ได้อยู่



หัวข้อ: Re: [2513]"ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: prapasri AH ที่ 14 พฤษภาคม 2553, 14:01:04
บริจาคไปซะเฉ....

จะได้ได้บุญนะเฉ เพื่อลบรอยบาปที่เฉ...killed คนดีๆไปมากมายยยยยยยยย


หัวข้อ: Re: [2513]"ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: swsm ที่ 14 พฤษภาคม 2553, 19:31:16
อ้างถึง
ข้อความของ prapasri AH เมื่อ 14 พฤษภาคม 2553, 13:55:11
ถ้า ฉัน เป็นเฉแดงงงงงงง

ฉัน จะบริจาค หัวใจ ตับ ลูกกะตา ให้ผู้รอปลูกถ่ายอวัยวะ

เฉ...จะได้ มีบุญ เกิดเป็นคนดีในชาติหน้าได้


เพราะตอนนี้ที่เสียไปคือสมอง ซึ่งอย่างที่บอกไม่ตายก็เลียงไม่โต

หัวใจ ตับ ลูกกะตา ยังใช้ได้อยู่

อ้างถึง
ข้อความของ prapasri AH เมื่อ 14 พฤษภาคม 2553, 14:01:04
บริจาคไปซะเฉ....

จะได้ได้บุญนะเฉ เพื่อลบรอยบาปที่เฉ...killed คนดีๆไปมากมายยยยยยยยย

ขอขอบคุณพี่แอ๊ะแทนเฉ .. ที่ช่วยแนะนำทางสร้างบุญ ลบบาป ..      emo30:sorry:


หัวข้อ: Re: [2513]"ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: เหยง 16 ที่ 14 พฤษภาคม 2553, 21:03:44
พี่แอ๊ะครับ

คุณสนธิ ลิ้มทองกุล กำลังออกรายการ ที่ ASTV-News1 อยู่ครับ


หัวข้อ: Re: [2513]"ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: เหยง 16 ที่ 14 พฤษภาคม 2553, 21:27:17
ยกคำร้องนปช.ค้านทหารสลายการชุมนุม

ศาลแพ่งยกคำร้อง นปช. ร้องขอศาลห้ามทหารใช้กำลังสลายการชุมนุม ชี้ยังไม่มีเหตุผลอันสมควรและเพียงพอที่จะนำวิธีการคุ้มครองชั่วคราว....

วันที่ 14 มี.ค.ที่ศาลแพ่ง นายจตุพร พรหมพันธุ์ แกนนำแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) ได้มอบอำนาจให้ทนายความ ยื่นคำร้องขอคุ้มครองชั่วคราวขอให้ศาลแพ่งมีคำสั่งไม่ให้เจ้าหน้าที่รัฐเข้า สลายการชุมนุมโดยใช้อาวุธสงครามและห้ามมิให้มีการปิดกั้นหรือขัดขวาง ไม่ให้รถขนอาหารและน้ำดื่มเข้าไปบริเวณพื้นที่การชุมนุมบริเวณแยกราชประสงค์ โจทก์ฟ้องว่า

กรณีที่ นายอภิสิทธ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี และ นายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรี ด้านความมั่นคง ในฐานะผู้อำนวยการแก้ไขสถานการณ์ฉุกเฉิน (ศอฉ.) สั่งการให้ พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา ผบ.ทบ. หัวหน้าผู้รับผิดชอบในการแก้ไขสถานการณ์ฉุกเฉิน มีประกาศ ศอฉ. เรื่อง ห้ามการใช้เส้นทางคมนาคมหรือการใช้ยานพาหนะ ฉบับลงวันที่ 13 พ.ค.2553 เพื่อห้ามมิให้นำอาหาร น้ำดื่ม ยารักษาโรคส่งถึงภายในบริเวณที่ชุมนุมบริเวณแยกราชประสงค์ ถือเป็นการกระทำที่ละเมิดต่อรัฐธรรมนูญ กฎหมาย คำสั่งศาล โดยไม่สุจริต โจทก์ จึงขอให้ศาลแพ่งมีคำสั่งห้ามมิให้เจ้าหน้าที่รัฐปฏิบัติตามคำสั่งของ นายอภิสิทธิ์ กับพวก ที่สั่งปิดกั้นเส้นทางคมนาคม และขอให้ศาลมีคำสั่งห้ามมิให้เจ้าหน้าที่รัฐ ที่เข้าสลายการชุมนุมใช้อาวุธสงครามใดๆ กระทำต่อประชาชนผู้ร่วมชุมนุมโดยเด็ดขาด

ต่อมาช่วงค่ำศาลแพ่งมีคำสั่ง โดยพิเคราะห์คำร้องประกอบคำไต่สวนพยานโจทก์แล้วเห็นว่า การที่นายอภิสิทธิ์ ในฐานะนายกรัฐมนตรี และนายสุเทพ ในฐานะผอ.การแก้ไขสถานการณ์ฉุกเฉิน กำกับควบคุม สั่งการให้ พล.อ.อนุพงษ์ หัวหน้าผู้รับผิดชอบในการแก้ไขสถานการณ์ฉุกเฉิน มีประกาศ ศอฉ. ดังกล่าว ต่อมามีการปฏิบัติการตามประกาศนั้น เพื่อสกัดกั้นมิให้ประชาชนที่อยู่นอกพื้นที่การชุมนุมทั้งในกรุงเทพฯ และต่างจังหวัดเข้ามาสมทบกับกลุ่มผู้ชุมนุมเดิม บริเวณสี่แยกราชประสงค์นั้น เป็นมาตรการหนึ่งในการสลายการชุมนุมเพื่อให้เกิดความสงบสุขในบ้านเมืองไม่ กระทบต่อความมั่นคงของรัฐและไม่ส่งผลเสียหายต่อระบบเศรษฐกิจของประเทศอั เป็นอำนาจของฝ่ายบริหาร ที่จำเป็นต้องดำเนินการ แม้การปฏิบัติการดังกล่าวจะทำให้ผู้ชุมนุมได้รับความกระทบกระเทือนต่อความเป็นอยู่ ตามคำร้องอยู่ในมาตรการการรักษาความสงบเรียบร้อยประการหนึ่ง เป็นอำนาจของฝ่ายบริหาร ศาลจึงมิอาจก้าวล่วงไปพิจารณาหรือทบทวนการใช้ดุลพินิจของฝ่ายบริหารเช่นว่านั้นได้

ส่วนที่โจทก์ขอให้มีคำสั่งห้ามเจ้าหน้าที่ใช้อาวุธสงครามต่อประชาชนผู้เข้า ร่วมชุมนุมนั้น เห็นว่าข้อเท็จจริงได้ความจากนายคารม พลทะกลาง ทนายความโจทก์ว่า เหตุการณ์ใช้อาวุธต่อบุคคลที่ระบุในคำร้องไม่อาจ ยืนยันได้ว่าเป็นการกระทำของฝ่ายใด ประกอบกับการที่เจ้าหน้าที่ดำเนินการสลายการชุมนุมเพื่อให้เกิดความสงบสุขในบ้านเมือง โดยมีอาวุธติดตัว หากมีความจำเป็นสามารถนำมาใช้เพื่อระงับยับยั้งได้ไปตามสถานการณ์หรือ เหตุการณ์เฉพาะหน้า หรือป้องกันตนเองได้ อันเป็นไปตามหลักสากล กรณียังไม่มีเหตุผลอันสมควรและเพียงพอที่จะนำวิธีการคุ้มครองชั่วคราวก่อน พิพากษาตามที่โจทก์ขอมาใช้บังคับได้ จึงมีคำสั่งให้ยกคำร้อง.


http://www.thairath.co.th/content/region/82973


หัวข้อ: Re: [2513]"ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: เหยง 16 ที่ 14 พฤษภาคม 2553, 21:59:04
มอนเตเนโกรสั่งห้ามทักษิณคุยการเมืองป่วนไทย

                                    (http://www.cmadong.com/imageupload/2010_Cmadong-Image/data/image/l2f09k-31604c.jpg)

คมชัดลึก :นายมิลาน โรเซน รัฐมนตรีต่างประเทศมอนเตเนโกร แถลงเมื่อวันศุกร์ (14 พ.ค.) ว่า รัฐบาลได้สั่งห้ามพ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ใช้มอนเตเนโกรเป็นฐานเคลื่อนไหวทางการเมืองแล้ว

 "เราเตือนพ.ต.ท.ทักษิณว่า เขาไม่สามารถสร้างความเสียหายให้กับดินแดนมอนเตเนโกร ด้วยการส่งสารทางการเมืองทุกประเภท ไปยังพรรคพวกของเขา หรือลรรดาผู้ที่ทำงานให้กับทางการไทยในปัจจุบันได้ ซึ่งเป็นสถานะเดียวกับพลเมืองมอนเตเนโกรทุกคน " นายโรเซนย้ำ

  รัฐมนตรีต่างประเทศมอนเตเนโกรกล่าวด้วยว่า พ.ต.ท.ทักษิณ อยู่ระหว่างการทำโครงการที่มีความสำคัญอย่างมากให้กับมอนเตเนโกร  พร้อมยืนยันว่า อดีตนายกรัฐมนตรีได้สัญชาติมอนเตเนโกรก่อนที่จะโดนตั้งข้อหาทุจริตคอร์รัปชั่นทุกกระทง และการให้สัญชาติก็เป็นไปตามกระบวนการที่อนุมัติให้กับคนอื่นๆ ในด้านธุรกิจ และวัฒนธรรม

http://www.komchadluek.net/detail/20100514/59111/มอนเตเนโกรสั่งห้ามทักษิณคุยการเมืองป่วนไทย.html


หัวข้อ: Re: [2513]"ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: prapasri AH ที่ 15 พฤษภาคม 2553, 07:22:18
ตลกมากเลย ทักษิน บอกขอปรองดอง

ตอนแรกแกนนำยอมปรองดองแล้ว แต่ตั๊กกก ไม่ยอม

พอเฉ..ตายและทำท่าจะเเย่ กลับมาเรียกร้องปรองดอง


หัวข้อ: Re: [2513]"ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: prapasri AH ที่ 15 พฤษภาคม 2553, 07:47:05
(http://www.cmadong.com/imageupload/2010_Cmadong-Image/data/image/l2frfx-d20a94.jpg)

รูปนี้เรียกว่าหาทางลง มีเงินหลายร้อยล้าน แล้วต้องมาหาทางลงแบบนี้จะไหวรื้อ....

ลิงลง หรือคนลง  คนนี้หรือเป็นวีรชน

แน่จริงอย่าหนี

อย่าปล่อยให้ชาวบ้านตายแทนซิ


หัวข้อ: Re: [2513]"ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: Intania๑๖ ที่ 15 พฤษภาคม 2553, 08:13:57
(http://farm2.static.flickr.com/1063/4607320575_fbbb9a7020_b.jpg)


หัวข้อ: Re: [2513]"ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: เหยง 16 ที่ 15 พฤษภาคม 2553, 10:14:36
คุณวณิชย์

ขอบคุณครับที่ส่งข่าวนี้ไปให้

(http://www.cmadong.com/imageupload/2010_Cmadong-Image/data/image/l2fybp-7bc7ca.jpg)


หัวข้อ: Re: [2513]"ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: เหยง 16 ที่ 15 พฤษภาคม 2553, 10:20:15
บทบรรณาธิการ นสพ แนวหน้า ออนไลน์ วันเสาร์ที่ 15 พฤษภาคม 2553

บทบรรณาธิการ  
 
การกวาดล้างขบวนการนปช. (บทบรรณาธิการ)
 
 
 
     .ต.ท.ทักษิณ ชินวัตรอดีตนายกรัฐมนตรีคนที่ 24 และสมัครพรรคพวกซึ่งประกอบด้วยกลุ่มผลประโยชน์หลายๆ ฝ่ายภายใต้การนำของเขาได้สร้างความเสียหายแก่ประเทศชาติเหลือคณานับคิดเป็นมูลค่าหลายแสนล้านบาท

     การที่เขาและพรรคพวกต้องหมดอำนาจทางการเมืองไปเพราะการรัฐประหารของคณะทหารเมื่อวันที่ 19 กันยายน 2549 นั้นเป็นจุดเริ่มต้นการแตกแยกทางด้านการเมืองในหมู่ประชาชนคนไทยอย่างรุนแรงระหว่างฝ่ายที่ต่อต้านพ.ต.ท.ทักษิณกับฝ่ายที่สนับสนุนเขา

     การเกิดขึ้นของขบวนการ นปช.คนเสื้อแดงซึ่งมีการเรียกขานกันอย่างโก้หรูว่าแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาตินั้นมีฐานที่เชื่อมโยงกับพรรคการเมืองคือไทยรักไทย พลังประชาชนและเพื่อไทยโดยมีหัวหน้าขบวนการใหญ่คือพ.ต.ท.ทักษิณที่อ้างประชาธิปไตยบังหน้าเป็นแกนกลาง

     ขบวนการของคนเสื้อแดงมีฐานใหญ่ที่สำคัญแพร่กระจายอยู่ในพื้นที่รวม 19 จังหวัดประกอบด้วยพื้นที่ กทม.,ชลบุรีโดยเฉพาะที่เมืองพัทยา, สมุทรปราการ, นนทบุรี, ปทุมธานี, นครปฐม, พระนครศรีอยุธยา, ลพบุรี, เชียงใหม่, เชียงราย, ลำปาง, นครสวรรค์, น่าน, พะเยา, นครราชสีมา, ชัยภูมิ, ขอนแก่น, อุดรธานีและศรีสะเกษ

     กลุ่ม นปช.ได้พยายามที่จะใช้พลังมวลชนเข้ามายึดอำนาจรัฐโดยดำเนินการอย่างต่อเนื่องมาตั้งแต่ปี 2550 มีการปลุกระดมมวลชน การจัดตั้งกองกำลังติดอาวุธ การจัดตั้งโรงเรียนการเมืองฯลฯ

     การจัดตั้งองค์กรสื่อสารมวลชนที่ใช้เพื่อการล้างสมองและปลุกระดมมวลชนครอบคลุมทั้งหนังสือพิมพ์รายวันทั้งในส่วนกลางและส่วนภูมิภาค หนังสือพิมพ์รายสัปดาห์ หนังสือพิมพ์รายปักษ์และรายเดือน สถานีโทรทัศน์ดาวเทียม สถานีโทรทัศน์เคเบิ้ลทีวีท้องถิ่นและสถานีวิทยุกระจายเสียงชุมชน ฯลฯ

     นปช.ได้พยายามใช้กำลังก่อการร้ายประสานกับความเคลื่อนไหวใหญ่ของมวลชนในพื้นที่กรุงเทพมหานครขึ้นมาแล้ว 2 ครั้ง ครั้งแรกในเดือนเมษายนปี 2552 ครั้งหลังตั้งแต่วันที่ 12 มีนาคมปีนี้จนถึงปัจจุบัน

     ล่าสุดขบวนการ นปช.ได้ส่งกำลังเข้ามายึดพื้นที่สี่แยกราชประสงค์ครอบคลุมไปทั่วพื้นที่เขตปทุมวันและเขตบางรักบางส่วนยังผลทำให้เกิดความสูญเสียทางเศรษฐกิจของชาติอย่างมหาศาล รัฐบาลได้พยายามเจรจากับแกนนำ นปช.เพื่อปรองดองระหว่างประชาชนในชาติไทยด้วยกัน

      แต่การเจรจาไม่ประสบผลสำเร็จในที่สุดก็เกิดการปะทะกันระหว่างทหาร ตำรวจกับขบวนการ นปช.ที่ยังดื้อแพ่งยึดพื้นที่สี่แยกราชประสงค์อยู่ในขณะนี้ ถ้าหากดูอำนาจและเหตุผลต่างๆตามกฎหมายแล้วเห็นว่าฝ่ายรัฐบาลมีความชอบธรรมที่จำเป็นที่จะต้องกวาดล้างขบวนการนปช.ให้ปฎิบัติตามกฎหมายและนำความสงบสุขมาสู่ประเทศชาติต่อไป  
 
วันที่ 15/5/2010
 
http://www.naewna.com/news.asp?ID=211111


หัวข้อ: Re: [2513]"ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: เหยง 16 ที่ 15 พฤษภาคม 2553, 10:25:56
ล้อมกรอบ
ถูกทุกข้อ 15 พฤษภาคม 2553 - 00:00

               จ.ม.ถึงนายกฯ (ฉบับที่ 16)
               จดหมายถึงนายกฯ ฉบับสิบหก
               ปวงชนยังหวาดวิตกไปทั่วหล้า
               เมื่อไพร่แดงไม่ยึดกฎกติกา
               ไม่หวั่นเรื่องอาญาจะตามตัว
     เอาใจช่วยท่านนายกฯ มาตลอด
     ให้ท่านรอดพ้นวิบากจากคนชั่ว
     พวกคนถ่อยแดงไพร่อย่าไปกลัว
     มวลชนยังเป็นรั้วคอยป้องกัน
               ประเทศไทยวันนี้เหมือนมีกรรม
               เพราะมีคนระยำคอยปลุกปั่น
               ชาติบ้านเมืองเสียหายสะใจมัน
               หวังผลักดัน "รัฐไทยใหม่" เพื่อไทยแลนด์
     ท่านนายกฯ ออกโรดแม็พไว้ห้าข้อ
     หวังจะก่อ "ปรองดอง" ให้แนบแน่น
     ท่ามกลางเสียงวิจารณ์ทั่วดินแดน
     นี่คือแผนหาทางลงให้ไพร่แดง
               ทำไมท่านไม่ใช้ความเด็ดขาด
               ทั้งที่มีอำนาจอันแข็งแกร่ง
               แต่ยังปล่อยม็อบระยำทำรุนแรง
               เที่ยวยุแยงป้ายสีเป็นรายวัน
     ส่งสารามายังท่านนายกฯ
     อย่ามัวแต่วิตกคิดหวาดหวั่น
     เอาคนผิดมาลงโทษในเร็วพลัน
     อย่าอ้างนี่อ้างนั่นกันอยู่เลย
                                                      สมบัติ จันทร์จำรัส
                                                 กวีร่วมสมัยจังหวัดพิษณุโลก

                    ปัญหาระยะยาว                    
เรียน คุณสามวา สองศอก ที่เคารพ
     ก่อนอื่นผมต้องกราบขอโทษที่เขียนจดหมายมารบกวนคุณอีกแล้ว ในขณะที่ปัญหาบ้านเมืองมันกำลังหนักหนา แม้มองเห็นด้านนอกอาจเข้าใจว่ามันลดลง แต่คนมีปัญญาควรจะมองให้ลึกยิ่งกว่านี้
     ทั้งนี้เมื่อด้านบนลด ด้านล่างอาจมีกระแสที่รุนแรงยิ่งขึ้นกว่าเก่า ประเด็นนี้คือหลักธรรมซึ่งมันเป็นธรรมชาติของการเปลี่ยนแปลง โดยใช้หลักธรรมเป็นเครื่องมือวิเคราะห์ค้นหาความจริง
     ด้านบนแม้จะลดลง แต่ก็เป็นผลจากการแก้ปัญหาเฉพาะหน้า ซึ่งผมเห็นด้วยขอให้ทำดีที่สุด แต่โปรดอย่าให้เขาประณามว่า "คนไทยดีแต่แก้ปัญหาเฉพาะหน้าเท่านั้น" ซึ่งเรื่องนี้มันเป็นมานาน จึงน่าเป็นห่วง "ถ้าขืนแก้ปัญหาเฉพาะหน้าด้านเดียว โดยไม่สนใจที่จะแก้ระยะยาว ถ้ามันเกิดขึ้นอีกจะรุนแรงยิ่งกว่าเก่า" นี่คือธรรมชาติซึ่งหลักธรรมะก็ได้ชี้ไว้อย่างชัดเจน
     การที่ถูกสังคมประณามว่า "คนไทยส่วนใหญ่มักแก้ปัญหาระยะยาวไม่เป็น" น่าจะมีเหตุผลสืบเนื่องมาจากการที่คนไทยในยุคหลังๆ คุณธรรมและจริยธรรมภายในจิตใจของแต่ละคนมันลดลงไป ทั้งนี้ ถ้าคนส่วนใหญ่มีคุณธรรมประจำใจ ก็ย่อมมีปัญญาที่จะสามารถมองเห็นการณ์ไกลได้ไม่ยาก
     นี่แหละครับผมมีของจริงที่จะนำมาเสนอให้พิจารณา "ก่อนอื่นคงต้องกราบขออภัยที่นำเรื่องนี้มาเขียน กรุณาอย่าคิดว่าผมมุ่งร้าย ทั้งนี้เพราะติเพื่อก่อ"
     ในยามที่บ้านเมืองกำลังเกิดปัญหาหนัก ทำให้ประชาชนได้รับความเดือดร้อน เราจะต้องมีใจกว้างเข้าหากัน และพร้อมที่จะรับฟังคำวิจารณ์แม้ในทางลบ ถ้าแสดงออกด้วยความจริงใจแล้ว เห็นสมควรนำไปพิจารณาแก้ไข น่าจะเป็นผลดีแก่บ้านเมืองของเรา
     เมื่อวันที่ 12 พฤษภาคมที่ผ่านมา หลายคนคงได้ทราบข่าว การที่ฝ่ายรัฐบาลได้จัดประชุมสัมมนาเรื่อง "การสร้างความเข้มแข็งให้แก่ชุมชน" ขึ้นที่โรงแรมรามาการ์เด้นส์ โดยเหตุที่ต้องการระดมความคิดในขณะที่บ้านเมืองเกิดปัญหาหนัก
     ผมเป็นคนหนึ่งซึ่งได้รับเชิญให้ไปร่วมประชุมด้วย เช้าวันนั้นผมไปแต่เช้า เพราะตัวเองมีนิสัยที่เป็นผู้ใหญ่แล้ว ก็ไม่ต้องการให้คนรุ่นหลังต้องมารอเรา สู้ไปล่วงหน้าและเราไปรอเขาจะดีกว่า
     เช้าวันนั้นผมไปถึงที่ประชุมประมาณกว่า 08.30 น. เล็กน้อย เห็นคนนั่งอยู่ไม่กี่คน ส่วนใหญ่เป็นคนมาจากต่างจังหวัดบ้าง แต่เขาก็รู้จักผมดี ผมไม่เห็นผู้ใหญ่ที่ควรจะเป็นหลักนั่งอยู่ตรงนั้นแม้แต่ท่านเดียว
     ผมไปนั่งอยู่ครู่ใหญ่ มองเห็นเอกสารแผ่นสองแผ่นที่วางอยู่ตรงหน้า มีข้อความประโยคหนึ่ง ซึ่งสะดุดใจผมมากๆ ในนั้นได้บอกเอาไว้ว่า "ให้พูดได้คนละไม่เกิน 3 นาที"
     เรื่องนี้ผมนึกทันทีว่าคนทำขาดศิลปะ เมื่อขาดศิลปะก็ย่อมขาดประสบการณ์ ความจริงแล้วการกำหนดให้คนพูดแบบนี้ไม่ควรจะเขียนเอาไว้ "หากอยู่ที่ศิลปะของผู้คุมการพูด ซึ่งยืดหยุ่นได้มากกว่า" สิ่งที่ผมกล่าวมาแล้วทั้งหมดเมื่อนำมาสรุปกันเข้า ก็คงขออนุญาตพูดว่า "แบบผักชีโรยหน้า"
     ผมต้องกราบขออภัยที่พูดเรื่องนี้ ความจริงไม่มีเจตนาจะว่าร้ายใคร แต่ขออนุญาตสอนคนที่รับผิดชอบในการทำ ซึ่งแสดงว่าไม่ได้ทำงานลงมาสู่ด้านล่าง จากจิตวิญญาณที่ให้ความรักความเมตตาแก่ชนรุ่นหลังอย่างแท้จริง ไม่เช่นนั้นแล้วเรื่องเช่นนี้มันไม่น่าจะเกิดขึ้น โดยเฉพาะผู้ที่มีประสบการณ์ในการบริหารและจัดการย่อมอ่านเกมออก
     นี่แหละคือเหตุผลทั้งหมดที่ทำให้ผมต้องหวนกลับมาพิจารณาตัวเองว่า ผมควรจะเลือกเดินทางไหน ซึ่งมีงานที่จำเป็นมากกว่า
     ในที่สุดผมก็ตัดสินใจเลือกกลับบ้าน เพื่อมาทำงานที่สำคัญมากกว่า
     ในขณะที่บ้านเมืองกำลังเดือดร้อนหนัก ผมมีงานล้นมืออยู่แล้ว โดยเฉพาะมีหลักสำคัญอยู่บท
หนึ่งว่า "การสร้างความเข้มแข็งให้แก่ชุมชนซึ่งเป็นคนระดับล่างนั้น คนระดับบนควรมีวิญญาณในการนำตัวเองลงมาเน้นการปฏิบัติอยู่ที่พื้นดิน"
     การสร้างความเข้มแข็งให้แก่รากฐานจิตใจคน ยิ่งเป็นคนระดับล่างซึ่งเป็นพื้นฐานสำคัญด้วยแล้ว การมานั่งประชุมกันอยู่ในห้องมันไม่ได้ผลอะไรมากนัก แต่ควรจะลงมาทำงานร่วมกับคนระดับล่าง ด้วยความรักความจริงใจย่อมได้ผลมากกว่า
     อนึ่ง คงขออนุญาตนำเอาประเด็น "สร้างความเข้มแข็ง" ขึ้นมาพิจารณาอีกครั้งหนึ่ง ผมถือหลักธรรมบทหนึ่งซึ่งกล่าวไว้ว่า "ถ้าเราต้องการสร้างความเข้มแข็งที่รากฐาน โดยเฉพาะคนระดับล่างซึ่งเป็นพื้นฐานสำคัญของสังคม คนที่อยู่ด้านบนควรจะมุ่งปฏิบัติ โดยเน้นความสำคัญลงมาสู่ด้านล่างมากกว่า ไม่เช่นนั้นแล้วการแก้ไขปัญหามันก็เป็นแบบผักชีโรยหน้า หรืออีกนัยหนึ่งอาจกล่าวว่าอาจแก้ได้แต่ปัญหาเฉพาะหน้าเท่านั้น"
     ผมขออนุญาตพูดด้วยความเคารพรัก และความจริงใจที่มอบให้กับทุกคน ไม่ได้คิดประสงค์ร้ายกับท่านผู้ใดทั้งสิ้น โดยเฉพาะผู้บริหารงาน ซึ่งเรื่องนี้ไม่ใช่ความคิดของผม แต่เป็นสัจธรรมซึ่งมันไม่ใช่ของใครทั้งนั้น หากเป็นประเด็นธรรมชาติของมนุษย์และสังคม ไม่ว่าจะเป็นเรื่องอะไรและอยู่ที่ไหน ถ้าใครปฏิบัติจากใจจริงย่อมได้ผลทุกเรื่อง
     แม้แต่เรื่องนี้ที่ผมนำมาพูด เกิดจากการปฏิบัติซึ่งตัวเองได้ทำมาแล้ว และได้ผลแล้วจึงนำมา
พูด     
     เมื่อไม่นานมานี้ผมเดินทางไปร่วมชีวิตกับกลุ่มชาวนาซึ่งทำนาแบบเกษตรอินทรีย์ที่นครสวรรค์ และนำเด็กนักเรียนไปร่วมมือเกี่ยวข้าวในนาด้วยกันกับเขาทั้งหลาย ความจริงไม่ใช่เขาจะได้ประโยชน์เท่านั้น แต่ผมคิดว่าตัวเองได้ประโยชน์มากกว่า เพราะใช้ชีวิตอยู่ในเมือง แต่ลงไปทำนาร่วมกับชาวบ้านอยู่บนพื้นดิน ย่อมช่วยให้มีโอกาสเรียนรู้ความจริงจากใจตนเอง อันหมายถึงการเรียนรู้ธรรมะ
     ไม่เพียงเท่านั้นเมื่อไม่กี่วัน ผมก็เดินทางไปร่วมกับเจ้าหน้าที่เขตการศึกษา ซึ่งทำงานอยู่ในชนบทโดยเฉพาะขึ้นไปอยู่บนเขาร่วมกับชาวปกากะญอ ที่อำเภอสะเมิงใต้ บ้านสบลาน
     "เพราะมีเหตุนั้น จึงมีเหตุนี้" เพราะผมขึ้นไปที่นั่นด้วยความรักความเมตตา อีกทั้งความเห็นใจคนระดับล่าง เขาจึงมอบความรักให้กับผมอย่างเป็นธรรมชาติ สิ่งนี้คือการปฏิบัติธรรมที่เห็นผลได้อย่างชัดเจน
     ผมกลับมาแล้วยังนำมาเขียนให้หลายคนเรียนรู้ว่า ตัวเราเองอยู่ในสังคม ควรจะปฏิบัติตัวอย่างไรถึงจะได้รับความสุขอย่างแท้จริง
     ถ้าคุณไม่ลงทุน ไฉนเลยจะได้รับผล เราพูดถึง "นายทุน" ผมก็เป็นนายทุน แต่ไม่ใช่ทุนเรื่องทรัพย์สินเงินทอง หากเป็นทุนความดีความงามที่ควักเอาออกมาจากใจตัวเอง ทุนลักษณะนี้ยิ่งควักออกมาใช้ เราก็ยิ่งได้รับเพิ่มมากยิ่งขึ้นกว่าเก่า ผมรับรองว่าการลงทุนแบบนี้ไม่มีทางขาดทุน มีแต่ได้กำไร โดยเฉพาะกำไรที่หมายถึง ก็คือความสุขที่เกิดจากใจตนเอง
     ผมขออนุญาตเชิญชวนให้ทุกคนลงทุนแบบนี้ ยิ่งใครว่าคุณเป็นนายทุนก็ยิ่งควรภูมิใจมากกว่า เพราะกำไรที่ได้รับนั้นคือความยั่งยืนของวัยวุฒิ นี่คือภาษาจากใจซึ่งทุกคนมีอยู่แล้ว
     ผมรับรองว่าใครปฏิบัติได้ ย่อมควรแก่การเคารพรักจากผู้อื่นอย่างแท้จริง โดยไม่มีใครจะตำหนิคุณได้ เมื่อตำหนิไม่ได้ "ก็ย่อมมีแต่การชื่นชม" นี่ก็คือหลักธรรมอีกบทหนึ่ง
     สิ่งที่ผมกล่าวมาแล้วทั้งหมด ผมขออนุญาตฝากไว้เป็นบทสุดท้ายว่า "เพราะเราไม่อยากได้ เราจึงได้" เพราะฉะนั้นขอให้นำปฏิบัติอย่างมีความสุขก็พอแล้ว
                                        ขอกราบทุกคนมาด้วยความเคารพอย่างยิ่ง
                                                           ระพี สาคริก
ตอบ อาจารย์ระพี                   
     แก้ปัญหาเฉพาะหน้าเมื่อวันที่ 19 กันยายน 2549 ปัญหาระยะยาวมันก็ลากมาถึงวันนี้ และไม่รู้ว่ามันจะต้องแก้ปัญหาไปอีกนานแค่ไหน ประเทศไทยถึงจะกลับมาสุขสงบอีกครั้ง
                                                        สามวา สองศอก

http://www.thaipost.net/news/150510/22217


หัวข้อ: Re: [2513]"ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: prapasri AH ที่ 15 พฤษภาคม 2553, 20:02:52
จะเล่าเรื่องขำขัน คลายเครียด แต่หามีอารมณ์ไม่....

วันนี้มีเรื่องขำขัน

เรื่อง

พี่อยู่อุบล ไปรักกับคนอุดร

หนทางไม่แน่นอน คนอุดรรักคนอุบลลลลลลลลล

ไว้หายเครียด แล้ว จะเล่านะคะ  

ตอนนี้เห็นใจนายกอภิสิทธิ์ ใจจะขาดเเล้วค่ะ

 ปฎิบัติการแบบนุ่มนวล ก็หาว่าไม่ทำอะไร พอปราบอันธพาล เอาจริงเอาจังก็หาว่า

ฆ่าประชาชนนนนนนนน


หัวข้อ: Re: [2513]"ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: เหยง 16 ที่ 15 พฤษภาคม 2553, 20:37:43
พี่แอ๊ะ

บอกเขาใหม่อีกทีว่า...รัฐบาลฆ่าผู้ก่อการร้าย...ไม่ได้ฆ่าประชาชน


หัวข้อ: Re: [2513]"ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: swsm ที่ 15 พฤษภาคม 2553, 22:07:36
บิ๊กจิ๋วโบกมือลาประเทศไทยแล้วววว ..      emo43


หัวข้อ: Re: [2513]"ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: prapasri AH ที่ 15 พฤษภาคม 2553, 22:20:53
อ้างถึง
ข้อความของ เหยง 16 เมื่อ 15 พฤษภาคม 2553, 20:37:43
พี่แอ๊ะ

บอกเขาใหม่อีกทีว่า...รัฐบาลฆ่าผู้ก่อการร้าย...ไม่ได้ฆ่าประชาชน


 น้องเอ๊ยย

อยู่ยโส แล้ว จะรู้ค่ะ ว่าเขาบอกว่าเขาคือประชาชนที่บริสุทธิ์ต้องทิ้งบ้าน ไร่นาไปเพื่อประชาธิปไตย

คนที่กลับบ้านกันมาบ้าง  เก่งๆ ขึ้นทุกคน  ปราศรัยได้  

บางคนเคยปฎิบัติธรรมเป็นคนนุ่มนวล

 กลับมาคราวนี้เเข็งกร้าว ราวกับนักรบ พูดจาฉาดฉาน

เเสนจะน่ากลัว
ถูกล้างสมอง ซะเรียบหมดเลยยยยยยย

พี่แอ๊ะอยู่ทางนี้ต้องทำตัวลีบๆ
ใหญ่ได้เฉพาะในเวบหอ นี่แหละค่า[/b]


หัวข้อ: Re: [2513]"ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: prapasri AH ที่ 15 พฤษภาคม 2553, 22:23:40
เห็นน้อง ดร. มนตรี ไวๆ ไปไหนมาจ๊ะ

คิดฮอด หลาย ไม่ได้ปราศรัย กันหลายวันเเล้ว

พี่แอ๊ะ good night ก่อนนะ


หัวข้อ: Re: [2513]"ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: เหยง 16 ที่ 16 พฤษภาคม 2553, 07:58:30
คอลัมม์ "คนปลายซอย" ของคุณเปลว สีเงิน ฉบับวันที่ 15 พฤษภาคม 2553 ซึ่งไม่มีขายในจังหวัดนครสวรรค์

ข้อมูลของคุณเปลว สีเงิน ยังทันสมัย อย่างเช่น "นักวิชาการ ประเภทถังสังฆทาน" "ใครสั่งยิง ใครยิง เสธ.แดง" และ "อิทธิพลของสื่อ"

"สงครามข่าวสาร" กับ "ปฏิบัติการสลายม็อบ"
เปลว สีเงิน 15 พฤษภาคม 2553 - 00:00


     ก็เป็นกำลังใจให้ "ทหาร-ตำรวจ" ในปฏิบัติการนำกรุงเทพฯ "คืนเมืองไทย" จากพวกกบฏแดงนะครับ ๑๒ ชั่วโมง "ภาคกลางวัน" กับ ๑๒ ชั่วโมง "ภาคกลางคืน" ที่ผ่านมาเมื่อวาน (๑๔ พ.ค.๕๓) มีผลเป็นอย่างไร คืบหน้าเป็นบวก หรือถอยหลังลบ ตื่นขึ้นมาเช้าวันนี้ท่านก็คงทราบแล้ว  ส่วนปฏิบัติการนี้จะจบแบบ "งามพร้อม" เมื่อไหร่ ผมว่า-ฝ่ายผู้รับผิดชอบคือ ศอฉ. โดยนายกฯ อภิสิทธิ์-ผบ.ทบ.อนุพงษ์ และทหาร-ตำรวจทุกท่าน ท่านปรารถนายิ่งกว่าเราอีกครับ! สิ่งที่ผมอยากจะบอกยามนี้คือ ทุกคนอย่า "สติแตก" และอย่าหวั่นวิตก จนตีโพย-ตีพาย ใครพูดอะไร  ว่าอะไร ก็เป็นไม้เลื้อยตามไปหมด โดยไม่เหลือสติปัญญาเพื่อการใคร่ครวญเหตุการณ์ต่างๆ ไว้กับตัวเอง

     เพราะอะไร?
     เพราะยุคนี้เป็นยุค "สื่อสารครองโลก" ถ้าเราพิจารณาเหตุการณ์ที่เกิดด้วยสติจริงๆ จะเห็นว่าการกระทบกระทั่งระหว่างทหาร-ตำรวจ กับหน่วยกำลังของกบฏแดงไม่ได้ทำกันแบบโกรธแค้น เหมือนศัตรูในสงครามที่ต้องห้ำหั่น เข่นฆ่าอีกฝ่ายให้ตายคาไม้-คามือ อาจพูดได้ว่า
     ตีกัน "ฉันพี่น้อง" ก็ย่อมได้!
     ทหาร-ตำรวจก็ดาหน้า ดันๆ ไปเป้าหมาย "เคลียร์พื้นที่" เห็นไม่ไหวก็ใช้กระสุนยางยิงขับไล่ ฝ่ายหน่วยกำลังผู้ชุมนุมก็ทำแบบ "เอ็งมาข้ามุด-เอ็งหยุดข้าแหย่" ใช้หนังสติ๊กยิงบ้าง พลุ-ตะไลบ้าง เอายางรถมาจุดไฟเผาบ้าง ขับมอเตอร์ไซค์ฉวัดเฉวียนกวนโอ๊ยบ้าง เผลอๆ ก็ล่อ "ของจริง" ซักเปรี้ยง-สองเปรี้ยง ที่เป็นระเบิด เป็นเอ็ม ๗๙ นั้น...แดงเทียมเค้าทำน่ะ แดงฮาร์ดคอร์ "เปล่าทำ"!?
     นี่คือสิ่งที่เกิดบริเวณ แยกศาลาแดง แยกถนนวิทยุ ราชปรารภ ใต้สะพานลอยไทย-เบลเยียม หน้าสนามมวยลุมพินี บ่อนไก่ แยกสารสิน สวนลุมพินี และหน้าโรงพักลุมพินี เมื่อวานนี้ ซึ่งเป็นรอบนอกที่ "ทหาร-ตำรวจ" ค่อยๆ เคลียร์พื้นที่รุกคืบเข้าไป แต่ยังไม่ถึง และยังไม่ได้ทำอะไรกับ "ไข่แดง" คือวงชุมนุมใหญ่ที่ยึดราชประสงค์ไว้

     นั่นก็คือ "พวกฮาร์ดคอร์" อย่างจตุพร-ณัฐวุฒิ-เหวง-แรมโบ้-อริสมันต์ และอีกหลายๆ คนนั้น ยังรอดปลอดภัย นอนหายใจตุ๊มๆ ต่อมๆ ปากแข็ง-ตูดนิ่ม-ขาอ่อน โดยยึดชาวบ้านเป็น "เกราะกำบัง" ให้ตัวเองได้อยู่ แต่จะได้อยู่ และอยู่ได้ ถึงวันไหน-ชั่วโมงไหนนั้น ในสภาพการณ์เช่นนี้  คงไม่ต้องฟันธงกระมัง?!
     แต่อย่างว่าแหละ "ตีกันฉันพี่น้อง" ยังมีเวลาให้ทุกนาทีสำหรับ "การเจรจา" ในทางสันติกับฝ่ายรัฐบาล  จนกว่านาทีที่ทหาร-ตำรวจ "เขาเคลียร์ไปถึงตัว" นั่นแหละ ถ้าเขาจับกุม หรือพลิกผันเป็นอย่างอื่นไปแล้ว  สถานภาพในการเจรจามันก็เปลี่ยน
     หัวหน้าใหญ่ "วีระ มุสิกพงศ์" เขาก็ฉากหลบไปแล้ว คุณวีระเขาอายุมากแล้ว รู้เช่นเห็นชาติ "ต่างคน-ต่างหลอก" กับทักษิณมาพอแล้ว ฉะนั้น ปล่อยแกไปยามบั้นปลายเถอะ แต่น่าเสียดายอย่างจตุพร อย่างณัฐวุฒิ ยังหนุ่มยังแน่น ยังสดใหม่ในสินค้าตลาดการเมือง ที่ "ขายตัว" ให้ทักษิณได้มาขนาดนี้ก็ "ที่สุดของชีวิต" แล้ว แล้วยังจะต้อง "ขายชีวิต" ไปด้วยทำไม ผมเสียดายปาก ที่ยังสามารถตวัดวาทะหลอกชาวบ้าน หลอกพวกเศรษฐีจ้างผีโม่แป้งเข้าสภาได้อีกมากมาย  เพราะสังคมไทย ใครก็รู้ ยังโง่-ยังง่าย ให้คนมีลิ้นหลอกกินได้สบายๆ อีกนาน!
     ฉะนั้น คุยกันได้ และยังพอมีเวลา ก็คุยกับรัฐบาลเขาซะ อย่าให้ผู้ชุมนุมพลอยเดือดร้อนไปด้วยเลย  เลิก-ปล่อยเขากลับบ้านไปทำไร่-ทำนากันเถอะ วันพระไม่มีหนเดียว จำไม่ได้หรือ เลิกชุมนุมวันนี้ ก็ไปซ่องสุม รวมตัวชุมนุมกันใหม่ในเดือนหน้า เดือนโน้นก็ยังได้ เกมมันยังไม่จบหรอก แต่มันจะจบสำหรับ "คนโง่" ที่หลับหู-หลับตารบ โดยไม่รู้จักประเมินสถานการณ์! ขณะนี้สังคมไทย และสังคมโลกเข้าใจ ชุมนุมสันติบ้าอะไร บุกเข้าไปยึดโรงพยาบาล การต่อสู้ทางการเมืองนั้น ถ้า"ประชาชนไม่เอา" มันก็จบแล้ว จบ "แบบโจร" ไม่เท่าไหร่ แต่ถ้าปล่อยให้จบแบบแพ้ในสนามรบศรัทธาประชาชน นั่นเท่ากับตาย หรือจตุพร-ณัฐวุฒิจะยอม "ตายทั้งเป็น"?
     มาถึงขณะนี้ ทหาร-ตำรวจ เขาต้องลุยถึงรัง "ไข่แดง" กลางแยกราชประสงค์แน่ ก็ตะโกนฟ้องดินฟ้าอากาศไปเถอะว่ารัฐบาลใช้กำลัง ไม่มีใครเขาสนใจเชื่อ-สนใจฟังหรอก เพราะพฤติกรรมโจรก่อการร้าย  พฤติกรรมเด็กเลี้ยงแกะ เขา "รู้เช่น-เห็นชาติ" กันทั้งโลกไปแล้วว่า...แบบนี้ปล่อยเอาไว้ไม่ได้!
     ฉะนั้น ผมจึงอยากให้พวกเราชาวประชาสังคม "มีราก-มีสติ" ในการมองปัญหา และรับรู้เหตุการณ์  ควรเข้าใจ-เห็นใจ-ให้กำลังใจรัฐบาล ทหาร-ตำรวจเขา อย่าเอามัน เอาแต่ใจ ต้องอยู่กับเหตุผลที่เป็นจริงในสถานการณ์และปัญหาที่เป็นจริงให้มาก อย่าอยู่กับอารมณ์พอใจ-ไม่พอใจ หรือฟังนักวิชาการ นักนั้น-นักนี้ พูดอย่างนั้น อย่างนี้ ก็เป็น "สวะลอยน้ำ" ตามขึ้น-ตามลงไปเรื่อย

     ต้องยอมรับว่า สังคมยุ่งเหยิงทุกวันนี้ จาก ส.ส.ส่วนหนึ่งในระบบรัฐสภาแล้ว อีกส่วนก็มาจากพวก "นักวิชาการ" ประเภท "ถังสังฆทาน" ล้นเต็ม ตั้งแต่กระดาษเช็ดตูดถึงยาสระหัว เป็นสินค้าใหม่ แต่ไร้คุณภาพบ้าง หมดอายุบ้าง ครึ่งค่อนชีวิต บางคนทั้งชีวิตเรียนแต่ตำราเข้ามานั่งพ่นตามหน้าจอ แต่ไม่เคยทำอะไรที่เรียกว่า "เผชิญปัญหา" แล้วแก้สำเร็จจนสร้างเป็นตำราให้คนอื่นเขาได้เรียนตามเลย! ฉะนั้น นักวิชาการพวกนี้ พูดได้ทุกมุม-ทุกทรรศนะ รัฐบาลไม่ทำอะไร เขาก็กางตำรามาพูดได้ว่าเป็น "รัฐบาลล้มเหลว" ครั้นรัฐบาลทำอะไร เขาก็พูดได้อีกว่า "รัฐบาลทำรุนแรง" ครั้นถามว่า "แล้วมีวิธีการอะไรแนะนำเพื่อแก้ปัญหา?" ปัญญาถังสังฆทานก็กำปั้นทุบจักรวาลตรงกันว่า "ประนีประนอม" คุยกันหาทางออก! โอ้โห...เป็นเลิศอะไรปานนั้น มิน่า...เด็กจบมหาวิทยาลัยออกมาเดี๋ยวนี้ บางทีน่าส่งเรียนต่อที่ "โรงเรียนปัญญาวุฒิกร"!

     มาดูเรื่องเสธ.แดงกันบ้าง เท่าที่สดับตรับฟังวานนี้ทั้งวัน สังคมอุเบกขาคือ "วางเฉย" กับสิ่งที่พลตรีขัตติยะ หรือเสธ.แดงได้รับ แต่ถึงอย่างไร ผมก็สวดมนต์ให้ "คุณพระรักษา" อย่าถึงตายเลย คำถามคู่ประเทศตอนนี้คือ "ใครยิงเสธ.แดง?" "ใครยิง" ไม่สำคัญเท่า "ใครสั่ง"? ผมบอกแล้ว ต่อจากนี้ด้วยมุมดาว "แดงเป็นพิษ" เสื้อแดง-ศาลาแดง-เสธ.แดง เผลอๆ คนที่สั่ง หรือคนที่ลงมือ อาจนัวเนียอยู่ในวังวนของคำว่า "แดง" นี่ก็ได้ แต่จะแดงในลักษณะไหน อย่างไร ผมไม่ทราบความจริง ด้วยบทบาทเสธ.แดงที่ผ่านมา ต้องยอมรับว่า "สร้างเงื่อนไขตายรอบตัว" เมื่อมีเหตุการณ์ลอบยิงเกิดขึ้น ใครจะเพ่งเล็ง พูดถึงประเด็นไหน มันคลับคล้าย-คลับคลาไปเสียทั้งนั้น!
     คนกันเอง คนใกล้ตัว หรือคนที่สร้างแค้นกันไว้ ผมคิดว่ากระทั่งตัวเสธ.แดงเองก็ยากจะชี้ชัด ดูจากรูปการณ์ เสธ.แดงก็น่าจะรู้ว่าตัวเองไม่ปลอดภัย ฉะนั้นที่บางคนสงสัยว่าทำไมเสธ.แดงไม่ค่อยอยู่นิ่งกับที่  เพราะเห็นในโทรทัศน์ทีไร ก็ต้องเดินไป-พูดไป หรือไม่ก็ขยับไปทางซ้าย ย้ายมาทางขวาตลอด เรียกว่า "ไม่อยู่นิ่ง" นั่นคือไม่หยุดให้เป็น "เป้านิ่ง" ตะหาก!  เสธ.แดงเป็นทหาร เรียนมา ฉะนั้น เมื่อออกตามท้องถนนจะเห็นว่าไม่ยอมยืนนิ่งอยู่กับที่ แต่ที่ถูกยิงหัวเมื่อคืนวันที่ ๑๓ พฤษภา นั่นต้องบอกว่า "ถึงรู้-ก็มิสู้กรรมเวรจัดสรร" บังเอิญนักข่าวต่างชาติมาสัมภาษณ์  เสธ.แดงเลยต้องยืนให้สัมภาษณ์ และก็กรรมจัดสรรจริงๆ ช่างกล้องก็ถ่ายภาพ พอดีเป็นช่วงค่ำจึงต้องส่องสปอตไลต์ไปที่เสธ.แดง ลงตัวเหมือนจับยัด ยืนนิ่งให้สัมภาษณ์ ไฟส่องให้เห็นตัวจะจะ....เปรี้ยงเดียว ต้องยอมรับว่า มือระดับ "โคตรปรมาจารย์" จริงๆ ในผลงาน "ดับเสธ.แดง" ครั้งนี้!!!

     ทักษิณ-ศูนย์กลาง จิ๋วรับงาน วีระรับงาน ตู่รับงาน ณัฐวุฒิรับงาน เหวงรับงาน กี้รับงาน แรมโบ้รับงาน  ขวัญชัยรับงาน หัวคะแนน-แกนนำใหญ่ๆ ในแต่ละจังหวัดรับงาน โดยเฉพาะอีสาน-เหนือ และเสธ.แดงก็เป็นอีกสายหนึ่งที่รับงานจากศูนย์กลางจักรวาล คือทักษิณ แล้วมารวมปฏิบัติการ "ล้มสถาบัน-เปลี่ยนระบอบ" ประเทศ
     แต่งานยังไม่สำเร็จ เงินก็จ่ายแล้ว รับกันไปแล้ว วีระถอนตัว จิ๋วถอนตัว เสธ.แดงที่เป็นดาวโคจรวงนอกขยับเข้าวงใน ท่ามกลางดาววงในไม่มีใครยอมขยับขยายเปิดพื้นที่ให้เสธ.แดงแผ่บารมี ไม่ว่าณัฐวุฒิ จตุพร  อริสมันต์ แรมโบ้ เหวง ซึ่งล้วนมี "มือดี" เป็นการ์ดโดยไม่ต้องพึ่งบริการบริวารเสธ.แดงอยู่แล้ว ซ้ำ หนักๆ เข้า เสธ.แดงกลายเป็นคน "อยู่เหนือการควบคุม" จากใครทั้งนั้น นั่นคือ "มนุษย์อันตราย"! จึงน่าจะเป็นโจทย์ร่วมในรายการ "หักเหลี่ยมโหด-โกรธร่วมแดง" ที่ยากจะตัดประเด็นออกไปได้ ส่วนนายใหญ่จะรู้เห็นด้วยหรือไม่นั้น คงไม่มีใครตอบได้ แต่ที่ตอบได้แน่ๆ คือ รัฐบาล-ทหาร-ตำรวจ ไม่เกี่ยวในรายการนี้แน่นอน!
     ฉะนั้น ตัดประเด็นไปได้เลย อย่าไปสงสัย อย่าไปเชื่อใครที่ป้ายสีว่า ฝ่ายปฏิบัติการ "ตำรวจ-ทหาร" เก็บเสธ.แดง!!!

     ท่านที่ชอบเสพข่าวต่างประเทศ อย่าไปบ้าตามทรรศนะฝรั่งที่มองเหตุการณ์ในบ้านเราแล้วสะท้อนออกไปด้วยสายตา "ไม่เข้าใจ-เข้าไม่ถึง" ในปัญหาลักษณะสังคมไทย เขาว่าของเราแรง  แต่ของเขา อย่างที่ทุบม็อบเผาเมืองในฝรั่งเศส สไนเปอร์-ยิงหัวประธานาธิบดีในสหรัฐ กลับเป็นปฏิบัติการของชนอารยชาติ?

     โลกทุกวันนี้ เป็น "สื่อสารครองโลก" ฉะนั้น ทั้งประชาสังคมไทย ทั้งรัฐบาล และทั้งทหาร-ตำรวจต้องเข้าใจ รับอาวุธ "โลกสื่อสาร" ด้วยการให้ข้อมูลทันการณ์-ทันจริงด้วย.


http://www.thaipost.net/news/150510/22223


หัวข้อ: Re: [2513]"ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: เหยง 16 ที่ 16 พฤษภาคม 2553, 08:08:41
เขียนให้คิด 
 

แกนนำนปช. จงใจพาคนไปตาย? (เขียนให้คิด)
 
      "แกนนำ(นปช.)ยอมเจรจา(กับรัฐบาล)แล้ว แต่ม็อบม(มวลชน)ไม่ยอม เพราะม็อบ(มวลชน)ไปไกลเกินกว่าแกนนำนปช." นี่คือคำแก้ตัวที่ไร้ความรับผิดชอบต่อความเป็นความตายของประชาชนผู้บริสุทธิ์ ซึ่งแกนนำนปช.พยายามยกมาเป็นข้อแก้ตัวกับผู้คนในสังคมไทยที่รู้ไม่เท่าทันเล่ห์เหลี่ยมกลโกง เพื่อให้พรรคพวกของตนรอดพ้นจากความผิดที่ได้จงใจก่อให้เกิดขึ้นหลายครั้งหลายหน

      ต้องยอมรับว่า หลังจากเกิดเหตุโศกนาฏกรรมในเขตใจกลางพระนครของประเทศไทยครั้งล่าสุด ซึ่งเริ่มเกิดความรุนแรงขั้นสาหัสมาตั้งแต่วันที่ 10 เมษายน 2553 เรื่อยมาจนถึงปัจจุบัน สังคมไทยได้สูญเสียความน่าเชื่อถือ สูญเสียความสงบร่มเย็น สูญเสียชีวิตและทรัพย์สิน รวมถึงสูญเสียเอกลักษณ์ความเป็นไทย โดยเฉพาะในเรื่องของความมีน้ำจิตน้ำใจให้แก่กันและกันจนหมดสิ้น

      หากจะตั้งคำถามและพินิจพิเคราะห์ให้ลึกซึ้งว่า ทำไมเหตุการณ์อุบาทว์เช่นนี้ จึงอุบัติขึ้นบนแผ่นดินไทยในยามนี้ อะไรคือมูลเหตุสำคัญ ใครคือตัวการ และใครคือผู้สูญเสีย

      คำตอบประการหนึ่ง ซึ่งเราทุกคนน่าจะตอบได้ตรงกันก็คือ ผู้สูญเสียคือคนไทยทุกคนและประเทศไทยของเรา ส่วนคำถามอื่นๆ นั้น เราอาจจะให้คำตอบที่แตกต่างกันไป ตามแต่มุมมอง ข้อมูลข่าวสารและตามความเชื่อส่วนบุคคล


หากประท้วงโดยสันติ ความสูญเสียจะไม่เกิดขึ้น


      อย่างไรก็ตาม หากเราตั้งสติให้มั่น แล้วเพ่งพินิจรากเหง้าของวิกฤตการณ์ครั้งนี้อย่างลึกซึ้ง เราน่าจะได้คำตอบตรงกันประการหนึ่งคือ ความสูญเสียและความเลวร้ายใดๆ จะไม่มีวันเกิดขึ้นบนแผ่นดินของเราได้ ถ้าหากไม่มีการประท้วงโดยจงใจละเมิดหลักกฎหมาย จงใจละเมิดสิทธิเสรีภาพของประชาชนผู้บริสุทธิ์ และไม่มีการยั่วยุให้เกิดความรุนแรงด้วยกรรมวิธีใดๆ รวมถึงการที่แกนนำนปช.จะต้องไม่นำมวลชนไปก่อเหตุจลาจลตามที่ต่าง ๆ ไม่พามวลชนไปบุกทำลายสถานที่ราชการและสถานที่ทำการของภาคเอกชน

      แกนนำนปช.ต้องยอมรับความจริงในข้อที่ว่า พวกคุณคือผู้ที่นำพาให้ประชาชนผู้บริสุทธิ์ไปรวมตัวประท้วงตามสถานที่ต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นที่บริเวณสะพานผ่านฟ้าลีลาศ ถนนราชดำเนินกลาง และบริเวณสี่แยกราชประสงค์และถนนใกล้เคียง รวมถึงบริเวณหัวถนนสีลม ณ ลานพระบรมราชานุสาวรีย์ รัชกาลที่ 6 หน้าสวนลุมพินี และก็ต้องไม่ปฏิเสธว่า พวกคุณคือผู้ที่พยายามเรียกร้องและปลุกระดมให้ประชาชนไปรวมตัวกันที่หน้าเวทีสี่แยกราชประสงค์ โดยมิได้สนใจว่าประชาชนจะประสบกับเหตุการณ์เลวร้ายสักเพียงใด

      เท่านั้นยังไม่พอ ครั้นเมื่อเกิดเหตุวิกฤติที่อาจจะนำมาซึ่งความเป็นความตายของประชาชน แต่แทนที่แกนนำนปช.จะสั่งให้ประชาชนยุติการชุมนุมแล้วแยกย้ายสลายตัวกลับบ้านเพื่อความปลอดภัย แต่กลับใช้ประชาชนเป็นโล่มนุษย์เพื่อป้องกันภัยให้กับตนเอง และที่น่าสังเวชคือโล่มนุษย์ที่แกนนำนปช.ใช้เป็นเครื่องป้องกันภัยให้ตนนั้นก็คือเด็กและผู้หญิงชราที่มิใช่ญาติพี่น้องและลูกเมียของแกนนำนปช.


เมื่อเกิดวิกฤติ แกนนำนปช. หนีเอาตัวรอด ปล่อยประชาชนให้ล้มตาย


      และแล้วเมื่อประชาชนตกอยู่ในวงล้อมของอันตรายอย่างแสนสาหัส ต้องเสี่ยงกับความเป็นความตาย จนกระทั่งมีผู้เสียชีวิตหลายสิบรายและบาดเจ็บอีกกว่าพันคน สังคมไทยก็ได้ยินคำแก้ตัวที่น่ารังเกียจของแกนนำนปช.ว่า "แกนนำนปช.ยอมเจรจาแล้ว แต่ม็อบไม่ยอม"

      ต้องย้ำว่า คำแก้ตัวโดยอาศัยรูปแบบการโกหกของนปช.เช่นนี้ เป็นการแสดงให้เห็นส่วนลึกของจิตใจและวุฒิภาวะของแกนนำนปช.ได้เป็นอย่างดีว่า แท้จริงแล้วคนพวกนี้รักและหวังดีกับประชาชนมากน้อยเพียงใด

      หากนปช.มีความจริงใจและหวังดีกับประชาชนผู้บริสุทธิ์อย่างแท้จริงแล้ว สมควรหรือที่จะใช้ประชาชนเป็นโล่มนุษย์เพื่อคุ้มกันภัยให้ตนเอง แล้วเคยมีสักครั้งหรือไม่ ที่แกนนำนปช.จะเดินนำหน้าประชาชนไปประท้วงตามสถานที่ต่างๆ แต่ที่สาธารณชนรับรู้รับทราบตลอดเวลาคือนปช.จะหลบอยู่ข้างหลังประชาชนตลอดเวลา แม้กระทั่งการกินการนอนก็ยังมีความพิเศษเหนือกว่ามวลชนที่ให้การสนับสนุนพวกตน แถมยังมีบอดี้การ์ดอีกหลายสิบคนคอยล้อมหน้าล้อมหลังเพื่อให้การอารักขาอย่างหนาแน่น

      ขอถามตรงๆ ว่า นี่หรือคือพฤติกรรมของผู้ที่มีความจริงใจกับมวลชน ผู้ที่อ้างว่าจริงใจกับมวลชน เขาตีค่าชีวิตของประชาชนเป็นแค่เพียงโล่กำบังภัยให้กับแกนนำนปช.เท่านั้นเองหรือ


ทำไมแกนนำนปช. ไม่ใช้ลูกและเมียของตนเป็นโล่มนุษย์


      ขอทราบคำตอบชัดๆ จากแกนนำนปช.ด้วยว่า ทำไมพวกคุณจึงไม่พาพ่อแม่ ลูกเมีย และญาติพี่น้องของคุณไปร่วมประท้วงด้วย ทำไมจึงดีแต่เรียกร้องให้ประชาชนผู้บริสุทธิ์ที่อาจจะรู้เท่าไม่ถึงการณ์ต้องไปเผชิญหน้ากับความตายและความสูญเสียสารพัดรูปแบบ เหตุใดพวกคุณจึงไม่ยอมให้เมียของคุณพาลูกตัวน้อย ๆ ของคุณไปอยู่ที่หน้าเวทีที่สี่แยกราชประสงค์

      แกนนำนปช.อาจไม่จำเป็นจะต้องขอให้เมียพาลูกน้อยที่ยังเป็นทารกซึ่งเพิ่งคลอดได้ไม่กี่วันไปที่หน้าเวทีการชุมนุมที่สี่แยกราชประสงค์ก็ได้ เพราะดูจะโหดร้ายและไร้มนุษยธรรมจนเกินไป แต่ช่วยพาลูกคนโตที่มีอายุประมาณ 1-2 ขวบไปเป็นโล่มนุษย์ของคุณก็ได้

      แกนนำนปช.จะกล้าทำเรื่องสำคัญและละเอียดอ่อนเช่นนี้หรือไม่ ถ้าหากคุณไม่กล้าแล้วทำไมพวกคุณจึงยอมให้ประชาชนผู้บริสุทธิ์พาลูกตัวน้อย ๆ ของเขาไปเป็นโล่มนุษย์ให้พวกของคุณ หรือแกนนำนปช.คิดว่าคุณค่าและราคาชีวิตของลูกของคุณมันสูงเกินกว่าราคาชีวิตของลูกประชาชนผู้บริสุทธิ์ที่เขาถูกหลอกมาตายแทนคุณ

      พวกคุณเคยสำเหนียกบ้างหรือไม่ว่า คุณจงใจพาคนบริสุทธิ์จากต่างจังหวัดเข้ามาตกระกำลำบากและเสี่ยงเป็นเสี่ยงตายอยู่ในดินแดนที่พวกเขาไม่คุ้นเคย แน่นอนว่าอาจจะมีคนบางกลุ่มที่อ้างว่าตนเองเป็นคนกรุงเทพฯเข้าไปร่วมชุมนุมกับพวกคุณอยู่บ้าง แต่ถามว่าคุณเคยพูดความจริงอะไรกับผู้ที่ไปร่วมชุมนุมกับคุณบ้าง

      ขอถามย้ำอีกทีว่า พวกแกนนำนปช.ทั้งหลาย ช่วยตอบให้สาธารณชนได้รับทราบอย่างชัดเจนด้วยว่า ทำไมคุณไม่พาพ่อแม่ ปู่ยาตายาย พี่ป้าน้าอา ญาติพี่น้องและลูกเมียของคุณไปเป็นโล่มนุษย์ให้กับพวกคุณ หรือคุณคิดว่าคุณค่าความเป็นมนุษย์ของลูกเมียของพวกคุณมันสูงส่งและมีคุณค่าเกินกว่าความเป็นมนุษย์ของคนต่างจังหวัดที่คุณไปหลอกให้เขาเข้ามาตายแทนคุณ คุณเคยสำเหนียกไหมว่า พฤติกรรมสามานย์เช่นนี้คือการจงใจเหยียบศพของผู้บริสุทธิ์ขึ้นไปแสวงหาผลประโยชน์ส่วนตน

      แม้คนกรุงเทพฯบางกลุ่มอาจจะอ้างว่า "กูมาเอง ไม่มีใครจ้างกูมา" หรือบางคนอาจจะอ้างว่า "กูมีสติปัญญา กูไม่ได้ถูกหลอกให้มา กูมีสตางค์ กูมาเอง" แต่ก็ยังอยากจะถามพวกที่อวดอ้างว่ามีสติปัญญาและมาด้วยใจว่า แกนนำนปช.เคยบอกความจริงอะไรกับพวกคุณบ้าง และที่สำคัญคือคุณเคยรู้ความจริงอะไรจากกลุ่มนปช.บ้าง หรือว่าพวกคุณไม่ต้องการคิดอะไรมากไปกว่า อะไรก็ไม่สำคัญ แต่พวกกูขอแค่เพียงประท้วงเพื่อล้มรัฐบาลชุดนี้แล้วเอาทักษิณ ชินวัตร กลับมาเป็นรัฐบาลอีกครั้งก็พอ


แกนนำนปช. ทำกิจการอันใดฦา จึงร่ำรวยราวปาฏิหาริย์


      มีอีกคำถามหนึ่งที่วิญญูชนถามกันมากว่า เหตุใดแกนนำนปช.จึงมั่งคั่งร่ำรวยราวปาฏิหาริย์ขึ้นมาได้ภายในพริบตา สาธารณชนตั้งคำถามว่า แกนนำนปช.ทำอาชีพอะไรหรือ จึงสามารถสั่งสมโภคทรัพย์และเงินทองมากมายได้ถึงเพียงนี้

      เพราะจากข้อเท็จจริงที่ปรากฏคือ แกนนำนปช.ดำเนินชีวิตอยู่กับการจัดเวทีชุมนุมประท้วงทางการเมืองมาโดยตลอด แล้วอาชีพจัดการประท้วงนี้ มันสามารถทำให้พวกคุณมีเงินทองมากมายล้นฟ้าได้ถึงเพียงนี้เชียวหรือ

      แกนนำนปช.ตอบสังคมได้ไหมว่า พวกคุณเอาเงินจากที่ไหนไปว่าจ้างให้คนไปติดตั้งเต็นท์ผ้าใบขนาดใหญ่มหึมาหลายร้อยเต็นท์ให้กับพวกคุณใช้เป็นเวลานานกว่าสองเดือนมาแล้ว คุณจ่ายเงินค่าอุปกรณ์ไฟฟ้าและค่าติดตั้งเวทีการชุมนุมไปวันละกี่แสนกี่ล้านบาท คุณได้ค่าเหนื่อยจากทำกิจการการเมืองในครั้งนี้กี่สิบล้านหรือกี่ร้อยล้านบาท หรือคุณอาจจะตอบว่า คุณไม่เคยได้ค่าตอบแทนแม้แต่น้อย ซึ่งก็เป็นเรื่องของคุณ แต่ถึงอย่างไรคุณก็ไม่สามารถโกหกตัวเองได้

      แต่มีอีกสิ่งหนึ่งที่สังคมกำลังตั้งคำถามจากบรรดาแกนนำนปช.ก็คือ พวกคุณคิดว่าเงินทองที่คุณได้จากการก่อการประท้วงเพื่อให้เกิดความวุ่นวายทางการเมืองเป็นเงินบริสุทธิ์กระนั้นหรือ และคุณเชื่อด้วยความบริสุทธิ์ใจหรือว่า ทรัพย์ที่ได้มาด้วยกระทำที่น่ารังเกียจนี้จะทำให้ชีวิตของคุณและบุคคลในครอบครัวของคุณประสบกับความร่มเย็นเป็นสุขในอนาคตและในชาติภพหน้า

      ขอย้ำอีกครั้งว่า หากแกนนำนปช.มั่นใจและกล้ายืนยันว่ามิได้มีเจตนาใช้ประชาชนผู้บริสุทธิ์เป็นโล่มนุษย์เพื่อป้องกันภัยอันตรายให้กับตนเองแล้ว และไม่เคยหลอกหลวงให้ประชาชนผู้บริสุทธิ์ไปตายแทนตนเอง รวมถึงมิเคยต้องการเหยียบศพประชาชนผู้บริสุทธิ์ขึ้นไปแสวงหาผลประโยชน์ทางการเมืองเพื่อกลุ่มและพวกของตนเองแล้ว ก็ขอให้แกนนำนปช.ประสบแต่ความสุขความเจริญต่อไป แต่หากมิได้เป็นเช่นนั้นแล้วละก็ ในอีกไม่ช้าผลแห่งกรรมชั่วก็จะตามไปลงโทษทั้งแกนนำนปช.และโคตรเหง้าของคนพวกนี้


เฉลิมชัย ยอดมาลัย 
 
วันที่ 16/5/2010
 
http://www.naewna.com/news.asp?ID=211181


หัวข้อ: Re: [2513]"ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: เหยง 16 ที่ 16 พฤษภาคม 2553, 08:22:42
อ่านข่าวหน้า 1 จาก นสพ.ไทยโพสต์ ออนไลน์ วันอาทิตย์ที่ 16 พฤษภาคม 2553

ประเทศไทยพัง แดงปิดเมืองหลวงงัดอาวุธปะทะทหารตายเจ็บอื้อ
ข่าวหน้า 1  16 พฤษภาคม 2553 - 00:00

     สงครามยังไม่ยุติ เสื้อแดงขยายแนวรบเพิ่ม ปะทะเดือดทั้งวัน พระราม 4 ราชปรารภ เลือดท่วม ยอดตายเพิ่มเป็น 22 ศพ แกนนำแดงกลัวไข้โป้ง ไม่กล้าเดินพ้นเวที ปัดความรับผิดชอบอ้างสั่งเสื้อแดงนอกค่ายไม่ได้ ศอฉ.ขนลุก! รัฐเจออาวุธหนักมากที่สุดนับแต่หลังสงครามคอมมิวนิสต์ ขุนทหารเรียงหน้าแถลง M79 ห่าใหญ่ลงแล้วร่วม 40 ลูก แฟลตตำรวจ สน.ลุมพินีเจอเต็มๆ เจ็บยกครัว ม็อบแดงเริ่มงัดม่าม่ากินแทนข้าว
     สงครามกลางเมืองรอบใหม่ในกรุงเทพมหานคร ที่เริ่มต้นตั้งแต่วันที่ 14 พฤษภาคม จากเหตุการณ์ปะทะกันด้วยอาวุธสงครามระหว่างทหารกับกลุ่มติดอาวุธของคนเสื้อแดงต่อเนื่องตลอดทั้งคืนจนข้ามมาวันใหม่ ทำให้มีผู้เสียชีวิตและบาดเจ็บเพิ่มขึ้นอีกหลายราย
     เวลา 00.10 น. วันที่ 15 พฤษภาคม บริเวณสามเหลี่ยมดินแดง ทางลงอุโมงค์มุ่งหน้าเข้าอนุสาวรีชัยสมรภูมิ กลุ่มคนเสื้อแดงกว่า 500 คน ได้นำยางรถยนต์และขอนไม้ ที่นอน จำนวนหนึ่งมาจุดไฟบนถนนทางลงอุโมงค์จนเกิดไฟลุกท่วม มีกลุ่มควันพวยพุ่ง และเตรียมรถบรรทุกน้ำมันหลายคันที่ยึดมาไว้ก่อเหตุ
     ส่วนที่ถนนราชปรารภ ทางเข้าประตูน้ำ มีเจ้าหน้าที่ทหารตั้งด่านสกัดกลุ่มผู้ชุมนุม ซึ่งมีเสียงปืนเสียงระเบิดดังขึ้นเป็นระยะๆ ต่อมามีรถตู้ยี่ห้อโตโยต้า สีบรอนซ์เงิน ทะเบียน ฮค 8561 กทม. ขับมาบนถนนราชปรารภ มุ่งหน้าไปทางดินแดงด้วยความเร็วสูง เมื่อมาถึงบริเวณสถานีแอร์พอร์ตลิงก์มักกะสัน ก่อนข้ามทางรถไฟ ทหารส่งสัญญาณให้หยุดรถ แต่รถตู้คันดังกล่าวกลับพุ่งเข้าหาเจ้าหน้าที่ทหาร ทำให้ทหารต้องใช้อาวุธปืนยิงยางรถยนต์ แต่รถตู้ไม่มีทีท่าว่าจะหยุด กลับพุ่งชนด่าน เจ้าหน้าที่จึงตัดสินใจระดมยิงด้วยกระสุนยางและกระสุนจริงจนรถพรุนไปทั้งคัน ทำให้คนขับตู้เป็นชายวัยกลางคน สภาพมีกลิ่นเหล้าคลุ้ง ถูกยิงที่สีข้างขวาได้รับบาดเจ็บสาหัส
     จากการตรวจค้นภายในรถ พบมีดหัวตัดสัญลักษณ์ของกลุ่ม นปช.จำนวนมาก ทั้งนี้ได้มีเด็กชายอายุประมาณ 10 ขวบ ถูกกระสุนลูกหลงเข้าที่หน้าท้องอาการสาหัส นอกจากนี้ยังมีคนขับรถแท็กซี่อีก 1 คน ที่รอรถกลับบ้านบริเวณดังกล่าวถูกยิงเข้าที่ลำตัวบาดเจ็บสาหัสเช่นกัน เจ้าหน้าที่รีบนำคนเจ็บทั้ง 3 รายส่ง รพ.พญาไท 1 เพื่อช่วยชีวิตอย่างเร่งด่วน
     อย่างไรก็ตาม การปะทะยังคงมีอย่างต่อเนื่องไปถึงเช้า ทั้งที่ถนนราชปรารภ แยกสีลม รวมทั้งถนนพระราม 4 บริเวณชุมชนบ่อนไก่ โดยคนเสื้อแดงยังคงนำยางรถยนต์มาเผาในทุกจุด เกิดกลุ่มควันสีดำ เมื่อมองจากระยะไกลไม่ต่างจากการเผาเมือง
     มีท่าทีจากศูนย์อำนวยการแก้ไขสถานการณ์ฉุกเฉิน (ศอฉ.) ถึงสถานการณ์ความไม่สงบที่เกิดขึ้น นายสาทิตย์ วงศ์หนองเตย รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี แถลงว่า สถานการณ์ที่เกิดขึ้นมีความรุนแรงโดยต่อเนื่อง มีมวลชนที่ใช้อาวุธ มีกองกำลังที่ใช้อาวุธ ซึ่งแสดงให้เห็นว่ามีการฝึกมาอย่างดี เพื่อเข้ามาโจมตีเจ้าหน้าที่ ทั้งนี้ สถานการณ์ที่เกิดขึ้นนั้นได้สอดคล้องกับสิ่งที่แกนนำได้เคยประกาศว่าจะทำสงครามประชาชน หรือสงครามกลางเมือง ซึ่งจำเป็นที่รัฐบาลต้องใช้กฎหมายอย่างเข้มงวดต่อไป

กระชับวงฮาร์คคอร์

     "ทางเจ้าหน้าที่เป็นการกระชับวงล้อม เป็นการสกัดกั้นการเติมกำลังสนับสนุนกลุ่มผู้ชุมนุมที่นิยมความรุนแรง แต่กลับถูกกองกำลังของ นปช.โจมตีด้วยอาวุธหนักตลอดเวลา นี่เป็นกองกำลังที่มีอาวุธหนักมากที่สุดนับแต่หลังสงครามคอมมิวนิสต์เป็นต้นมาที่เป็นการใช้กำลังต่อทางฝ่ายเจ้าหน้าที่ของบ้านเมือง"
     นายสาทิตย์กล่าวว่า เหตุการณ์ทั้งหมดเป็นความเห็นแก่ตัวของ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีและแกนนำที่นิยมความรุนแรง ซึ่งปลุกระดมและใช้มวลชนเป็นเครื่องมือในการต่อสู้ทางการเมืองเพื่อชัยชนะส่วนตน เห็นได้ชัดว่าข้อต่อรองของแกนนำไม่ใช่ข้อต่อรองเพื่อมวลชนที่นำมาชุมนุม แต่เป็นข้อเรียกร้องส่วนตน โดยเมื่อไม่ได้รับการตอบสนองก็ล้มแผนการปรองดอง ปัญหาทั้งหมดจึงเป็นเรื่องที่ผูกพันกับการตัดสินใจของ พ.ต.ท.ทักษิณและแกนนำที่นิยมความรุนแรง
     ด้านนายปณิธาน วัฒนายากร รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรี ปฏิบัติหน้าที่โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี แถลงว่า ที่ประชุม ศอฉ.รายงานตัวเลขการชุมนุมของกลุ่ม นปช.ที่กระจายตามจุดต่างๆ ในเวลา 22.00 น.ของวันที่ 14 พ.ค. ลดลงจากที่ผ่านมาเหลือเพียง 6,000 คน โดยชุมนุมจากแยกราชประสงค์ถึงประตูน้ำ 3,000 คน แยกราชประสงค์ถึงแยกปทุมวัน 1,000 คน จากแยกราชประสงค์ถึงแยกชิดลม 1,000 แยกราชประสงค์ถึงแยกราชดำริ 500 คน และข้างสวนลุมพินี  500 คน โดยทั่วไปการเกิดระเบิดตลอดทั้งวัน มีการนำผู้ที่ได้รับบาดเจ็บส่งโรงพยาบาลตำรวจเรียบร้อยแล้ว
     สำหรับการชุมนุมของคนเสื้อแดงที่แยกราชประสงค์ ตกอยู่ในสภาพเสียขวัญและเริ่มมีปัญหาเรื่องเสบียง เนื่องจากถูกตัดเส้นทางลำเลียงเกือบทั้งหมด แม้คนเสื้อแดงจะแก้ปัญหาด้วยการใช้กองทัพมด แต่อาหารก็ยังไม่เพียงพอ
     ช่วงสาย นายจตุพร พรหมพันธุ์ แกนนำ นปช. แถลงว่า ได้รับการประสานงานจากกลุ่มประชาชนที่เรียกตัวเองว่ากลุ่มพีซ  (Peace) ว่าจะนำเสบียงอาหารและน้ำมาให้ประชาชนที่ชุมนุมกันอยู่ที่ราชประสงค์
     แกนนำ นปช.ผู้นี้บอกว่า นปช.ยังยืนในข้อเรียกร้อง 3 ข้อคือ  1.นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ และนายสุเทพ เทือกสุบรรณ  ยุบสภาและไม่ให้รักษาการอีกต่อไป  2.ให้ยกเลิก พ.ร.ก.ฉุกเฉินโดยทันที  3.ระหว่าง  นปช.และรัฐบาล ต้องเข้าสู่กระบวนการยุติธรรมอย่างเท่าเทียมกัน
     นายจตุพรกล่าวอีกว่า จากเหตุการณ์เมื่อวานได้มีกลุ่มผู้ชุมนุม 16 คนเสียชีวิตและบาดเจ็บ 159 ราย สาหัส 7-8 ราย แต่ไม่มีทหาร ชัดเจนว่าประชาชนไม่มีอาวุธเข้าไปต่อสู้กับกลุ่มทหาร
     "ที่บอกว่ามีกลุ่ม นปช.ที่ใช้ความรุนแรงอยู่ในม็อบ 500 คน เท่ากับหมายความว่าสามารถฆ่าประชาชนได้อีก 500 คนใช่หรือไม่ คิดว่าเหตุการณที่เกิดขึ้นจบลงประชาชนอีกกว่า 60 ล้านคนจะปล่อยให้อยู่ต่อไปได้อย่างไร"
     นอกจากนี้ นายจตุพรยังกล่าวอีกว่า มีกระแสข่าวมาว่าจะมีการให้จบภายในวันอาทิตย์นี้ ก็ทำได้เพียงภาวนาสิ่งศักดิ์สิทธิ์ขอให้มีการสั่งการเลิกภารกิจ ส่วนทางกลุ่มผู้ชุมนุมเลิกไม่ได้เพราะเป็นฝ่ายถูกฆ่า การขึ้นเวทีตอนนี้ของแกนนำก็เหมือนการเดิมพันชีวิตว่าจะถูกใครส่องยิงเมื่อไหร่

"จตุพร"ปากกล้าขาสั่น

     "เมื่อผู้ชุมนุมไม่กลัว  แกนนำก็ไม่กลัว ซึ่งตอนนี้คงไม่หวังหาความยุติธรรมในประเทศนี้แล้ว ตอนนี้โลกทั้งโลกกำลังจับตาเหตุการณ์นี้อยู่ ทั้งสหประชาชาติและต่างประเทศก็มีความพยายามหยุดการฆ่าในครั้งนี้"
     เมื่อผู้สื่อข่าวถามถึงเหตุระเบิดเอ็ม  79  ที่มีการยิงถล่มที่แยกศาลาแดงและตามจุดต่างๆ ว่าจะอธิบายเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นอย่างไร นายจตุพรปฏิเสธว่า ไม่ใช่ฝีมือของผู้ชุมนุม นปช. ก็ไม่ทราบว่าใครมีอะไรอย่างไร  หรือมีใครร่วมสร้างสถานการณ์ด้วยหรือไม่ เพราะเอ็ม 79 เองก็มีในรถหุ้มเกราะ คันละ 2 กระบอกเช่นกัน และที่ผ่านมาทหารยังไม่บาดเจ็บเลยสักนาย
     เวลา 10.05 น. มีการปะทะกันระหว่างผู้ชุมนุมกับและทหารโดยมีการยิงเอ็ม 79 ใส่เจ้าหน้าที่ทหาร ด้านเจ้าหน้าที่ทหารได้ยิงปืนขึ้นฟ้าเพื่อตอบโต้และข่มขวัญ นอกจากนี้กลุ่มผู้ชุมนุมยังจุดไฟเผาตู้โทรศัพท์สาธารณะจนเพลิงลุกลามไปยังอาคารใกล้เคียง แต่รถดับเพลิงดับได้ทัน อย่างไรก็ตามบริษัทห้างร้านบริเวณดังกล่าวถูกคนเสื้อแดงขว้างก้อนหินใส่จนกระจกด้านหน้าแตกละเอียดจำนวนมาก
     เวลาใกล้เคียงกัน  ที่บริเวณแยกราชปรารภมีเสียงปืนต่อเนื่อง และที่ใต้ทางด่วนพระราม 4 เกิดการปะทะกัน มีคนบาดเจ็บหลายราย ส่วนที่แยกวิทยุก็มีเสียงปืนดังเป็นระยะๆ
     ในช่วงบ่าย บรรยากาศบริเวณ ถ.พระราม 4 ตั้งแต่ช่วงสะพานไทย-เบลเยี่ยม ไปจนถึงบ่อนไก่ ยังคงมีการปิดถนนตลอดเส้นทาง ขณะเดียวกันจะมีเสียงพลุดังออกมาจากฝั่งกลุ่มเสื้อแดง ขณะที่ทางเจ้าหน้าที่ทหารที่ตรึงกำลังบริเวณดังกล่าวได้มีการยิงตอบโต้ด้วยการใช้กระสุนยาง เป็นลักษณะการยิงตอบโต้แบบนัดต่อนัด
     นอกจากนี้ยังมีการนำกระสอบทรายมาตั้งบริเวณดังกล่าวเพื่อใช้เป็นแนวบังเกอร์ และที่บริเวณด้านหน้าบ่อนไก่ กลางถนนพระราม 4 ใกล้กับลุมพินีทาวเวอร์ พบรถขยะของ กทม.ถูกเผา ควันดำคลุ้งไปทั่วบริเวณ พร้อมกับเสียงโห่ร้องของกลุ่มเสื้อแดง
     ด้านการทำงานของสื่อมวลชน ทางเจ้าหน้าที่ทหารได้ห้ามไม่ให้เดินกลางถนน เพราะเกรงจะได้รับอันตราย ทางสื่อมวลชนจึงใช้วิธีเดินลัดเลาะริมถนนตามกันไปเป็นกลุ่มๆ
     บริเวณถนนพระราม 4 ย่านบ่อนไก่ ยังคงมีการก่อเหตุเป็นระยะ เวลา 15.00 น. เกิดเพลิงลุกไหม้ขึ้นที่บริเวณหน้าธนาคารกสิกรไทย  สาขาบ่อนไก่ เพราะคนเสื้อแดงนำยางรถยนต์มาจุดไฟเผา จากนั้นไฟได้ลามไปยังเสาไฟฟ้าที่อยู่บริเวณใกล้เคียง แต่ไม่มีเหตุการณ์รุนแรงอย่างใดเนื่องจากมีผู้ที่เห็นเหตุการณ์ช่วยกันดับไฟไว้ได้
     ส่วนที่บริเวณแยกสามเหลี่ยมดินแดง กลุ่มผู้ชุมนุม นปช.ได้มีการทุบทำลายตู้โทรศัพท์สาธารณะบริเวณฝั่งตรงข้ามและหน้าธนาคารกรุงเทพ  สาขาสามเหลี่ยมดินแดง  จนได้รับความเสียหาย รวมทั้งกระจกหน้าธนาคารและตู้เอทีเอ็มที่ติดตั้งไว้หน้าธนาคารถูกทุบทำลายงัดเอาเครื่องอิเล็กทรอนิกส์ของตู้เอทีเอ็มสูญหายไป ซึ่งเบื้องต้นยังไม่ทราบว่ามีเงินสดภายในตู้เอทีเอ็มดังกล่าวสูญหายไปหรือไม่

"ณัฐวุฒิ"โหนศพตีกิน

     สำหรับความสูญเสียที่เกิดขึ้น แกนนำคนเสื้อแดงโยนให้รัฐบาลรับผิดชอบไปฝ่ายเดียว นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ แกนนำ นปช. แถลงช่วงบ่ายว่า ยอดผู้เสียชีวิตจากเหตุการณ์ตั้งแต่วันที่ 10 เม.ย.รวมแล้วจำนวน 56 ศพแล้ว นายอภิสิทธิ์ก็ไม่มีท่าทีอะไร แต่กลับเก็บตัวเงียบปัดความรับผิดชอบอย่างหน้าด้านที่สุด เพราะถ้าไม่หยุดก็ไม่แน่ใจว่าจะมีศพเพิ่มขึ้นเป็น 80 ศพหรือไม่ เวลานี้คนที่เสียชีวิตที่สามเหลี่ยมดินแดง  ทหารนำศพประชาชนไปไว้ที่วัดตะพาน โดยที่ไม่สามารถเข้าไปเอาศพออกไปได้ กลัวจะมีการทำลายศพเพื่อปกปิด ส่วนเหตุการณ์ระเบิดท้ายรถเก๋งที่รามอินทราก็เป็นอีกเหตุการณ์ที่จะทำให้กรุงเทพฯ เป็นมิคสัญญีไปแล้ว
     เมื่อถามว่า จะเจรจากับรัฐบาลได้หรือไม่ นายณัฐวุฒิตอบว่า ไม่มีเจรจาแล้วนอกจากการเจรจาเร่งด่วนโดยรัฐบาลต้องสั่งให้ทหารหยุดยิงเฉพาะหน้า ซึ่งตนได้ประสานกองทัพให้หยุดยิงก่อน  แต่ถ้าจะเจรจาเรื่องวันเลือกตั้ง วันยุบสภานั้นเลิกพูดได้แล้ว ความจริงการเมืองต้องแก้ด้วยการเมือง ไม่ใช่ให้เอาทหารมาไล่ยิงอย่างนี้
     ซักว่าเมื่อไร นปช.จะหยุดการต่อสู้ นายณัฐวุฒิอ้างว่า ตอบไม่ได้ เพราะไม่ใช่ผู้ฆ่า "จะให้ผมออกไปประสานพี่น้องข้างนอกไม่ได้ นอกจากคนยิงต้องหยุดยิงถอนทหารออกไป ผมทำได้คือให้พี่น้องเสื้อแดงรวมตัวกันอยู่ที่นี่ เพราะถ้าออกไปก็จะปะทะกับทหารอีก"
     สำหรับบรรยากาศโดยทั่วไปที่แยกราชประสงค์ในช่วงเย็น แกนนำ นปช.มีอาการเคร่งเครียดอย่างเห็นได้ชัด ทั้งนี้บริเวณดังกล่าวกลับไม่พบนายอริสมันต์ พงศ์เรืองรอง และนายสุภรณ์ อัตถาวงศ์ แกนนำหัวรุนแรง
     ขณะที่ประชาชนที่มาชุมนุมนั้นบางตากว่าทุกวันเนื่องจากมาตรการปิดล้อมของ  ศอฉ. ส่วนอาหารการกินนั้น แม้ตามเต็นท์ชุมนุมต่างก็ยังมีการทำอาหารให้แก่ผู้ชุมนุม แต่เป็นที่น่าสังเกตว่าเริ่มมีการแจกจ่ายบะหมี่กึ่งสำเร็จรูป อาหารแห้ง นมถั่วเหลืองกล่องให้แก่ผู้ชุมนุมแล้ว
     ส่วนที่พรรคเพื่อไทย กลุ่มแนวร่วม นปช.และผู้สนับสนุนได้นัดหมายรวมตัวกันเพื่อเดินเท้าไปตามถนนพระราม 4 ไปที่ตั้งจุดสกัดห้ามผ่านเข้า-ออกของทหาร บริเวณแยกสามย่าน นายปลอดประสพ สุรัสวดี รองหัวหน้าพรรค และ ส.ส. ได้พยายามย้ำกับประชาชนว่าให้รวมตัวโดยสงบและคล้องแขนกัน แต่ถึงเวลาเดินเท้านักการเมืองพวกนี้กลับให้คนเสื้อแดงเดินกันไปเอง
     ก่อนเคลื่อนขบวนไปยังจุดสกัดของทหารตรงบริเวณแยกสามย่านซึ่งห่างจากพรรคประมาณ 200 เมตร มีเจ้าหน้าที่ตำรวจจาก สน.ปทุมวันเข้ามาดูแลความสงบเรียบร้อย อย่างไรก็ตามแนวร่วมได้เคลื่อนขบวนอย่างสงบ แล้วเดินทางกลับมายังพรรคอย่างสงบ โดยไม่มีเหตุการณ์ปะทะกันแต่อย่างใด
     เวลา 15.20 น. กลุ่มผู้ชุมนุมที่บริเวณสามเหลี่ยมดินแดงเริ่มเคลื่อนโดยไปปิดถนนไม่ให้รถที่ออกจากอนุสาวรีย์ชัยฯ ไปยังถนนวิภาวดีรังสิต แต่บังคับให้เลี้ยวกลับย้อนศรไปทางถนนราชปรารภ โดยอ้างว่าให้ทหารแก้ปัญหาจราจร แต่แท้จริงแล้วเสมือนหนึ่งว่าใช้รถดังกล่าวเป็นแนวกำบังให้ จากนั้นกลุ่มผู้ชุมนุมได้นำรถน้ำของ กทม.ขนยางรถยนต์มาตั้งเป็นบังเกอร์ปิด 2 ช่องทางถนน ความสูงระดับหน้าอก โดยบังเกอร์ดังกล่าวตั้งอยู่ห่างจากแยกสามเหลี่ยมดินแดงประมาณ 200 เมตร
     ระหว่างที่เคลื่อนขบวนกลุ่มผู้ชุมนุมก็ส่งเสียงโห่ร้องด่าทอเจ้าหน้าที่ทหารและรัฐบาลที่ปฏิบัติกับกลุ่มผู้ชุมนุมแบบสองมาตรฐาน ขณะเดียวกันก็มีเสียงประทัดรวมถึงเสียงท่อไอเสียรถ จยย.ที่จอดอยู่จุดดังกล่าวแตกระเบิดขึ้นทำให้เกิดความแตกตื่นโกลาหลเล็กน้อย
     ต่อมา กลุ่มผู้ชุมนุมขยับแนวเข้าไปหาทหารอีก 100 เมตร โดยใช้รถยนต์ประชาชนและรถน้ำ กทม.เคลื่อนนำหน้า จากนั้นกลุ่มผู้ชุมนุมก็พากันหมอบคลานตามฟุตบาท เสาไฟ และต้นไม้ ทหารใช้ปืนยิงล้อยางรถน้ำ กทม. ซึ่งมีรูกระสุนที่กระจกหน้าฝั่งข้างคนขับด้วย และยังมีเสียงระเบิดดังขึ้น 3 ครั้ง สลับกับเสียงปืน ทำให้กลุ่มคนเสื้อแดงถอยร่นออกมาจากแนวบังเกอร์ที่ตั้งไว้ โดยรถประชาชนที่ถูกบีบเข้ามาก็ถูกปืนยิงที่กระจกมองข้าง 1 คัน ต่อมากลุ่มรถประชาชนที่ถูกบีบเข้ามาก็รีบกลับรถแล้วขับออกไปอย่างรวดเร็ว
     หลังจากเกิดเหตุปะทะกัน ผู้ชุมนุมได้ถอยร่นมายังอนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ ซึ่งก่อนหน้านี้ได้มีการระดมคนเข้ามายังจุดดังกล่าวประมาณ 300-400 คน ทั้งนี้ มีผู้ได้รับบาดเจ็บ 5 ราย ซึ่งในจำนวนนี้เป็นผู้สื่อข่าวช่างภาพเนชั่นคือ นายไชยวัฒน์ พุ่มพวง โดยนำตัวผู้บาดเจ็บทั้งหมดส่ง รพ.แล้ว
     มีความเห็นจากฝ่ายการเมือง พ.ต.ท.สมชาย เพศประเสริฐ ส.ส.นครราชสีมา พรรคเพื่อไทย ให้สัมภาษณ์ว่า ขอฝากเตือนไปยังรัฐบาล ถ้าหากยังไม่หยุดฆ่าประชาชน ยังปล่อยให้เหตุการณ์เป็นอยู่เช่นนี้ต่อไป คงหลีกเลี่ยงสงครามกลางเมืองไม่ได้อย่างแน่นอน แล้วทหารจะเสียชีวิตอีกเป็นจำนวนมาก เนื่องจากชาวบ้านจะติดอาวุธสู้ ถึงเวลานั้นไม่ว่าฝ่ายไหนตายศพก็ไม่สวยสักคน
     แต่ นพ.บุรณัชย์ สมุทรักษ์ โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ แถลงว่า หาก พ.ต.ท.ทักษิณสั่งให้ผู้ชุมนุมวางอาวุธ หยุดใช้อาวุธสงครามตอบโต้เจ้าหน้าที่ ความรุนแรงทุกอย่างจะยุติ เพราะประเมินแล้วว่าเหตุรุนแรงทั้งหมดเกิดขึ้นเพราะคนบางคนต้องการใช้สถานการณ์ความรุนแรงที่เกิดขึ้นเพื่อต่อรองผลประโยชน์ของตัวเอง เพราะรัฐบาลได้ยืนยันมาตลอดว่าจะไม่ใช้ความรุนแรงจนถึงที่สุด แต่เหตุการณ์วันที่ 14 พ.ค.เกิดขึ้นเพราะต้องบังคับใช้กฎหมาย
     ที่กรมทหารราบที่ 11 มีการแถลงข่าวของ ศอฉ.อีกครั้ง พล.ท.ดาว์พงษ์ รัตนสุวรรณ รองเสนาธิการทหารบก กล่าวว่า หลังจากที่มีกองกำลังติดอาวุธแฝงในที่ชุมนุม ทำให้เจ้าหน้าที่ต้องมีการสูญเสีย ดังนั้นจึงจำเป็นต้องให้เจ้าหน้าที่ใช้อาวุธปืนเพื่อป้องกันตัวเอง จึงใช้อาวุธปืนลูกซอง กระสุนจริง ซึ่งจะใช้ใน 3 กรณี คือ 1.หยุดยั้งไม่ให้ผู้ชุมนุมเข้าประชิดตัวเจ้าหน้าที่ รักษาระยะไว้  หากผู้ชุมนุมยังคิดจะเข้ามา ให้ใช้ลูกซองยิงต่ำ ยิงลงที่พื้น ยิงช่วงล่าง และไม่ให้ยิงผู้หญิงกับเด็กเป็นอันขาด 2.ใช้เพื่อป้องกันตัวเอง ถ้าจะถึงแก่ชีวิต และ 3.ใช้ตอบโต้กองกำลังติดอาวุธที่แฝงอยู่ในกลุ่มผู้ชุมนุม โดยให้ยิงไปเมื่อเห็นเป้าหมายเท่านั้น เพื่อหลีกเลี่ยงไม่ให้เกิดการสูญเสียกับประชาชนที่ไม่เกี่ยวข้อง  ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่ทุกคนจะไม่ใช้ระเบิดขว้างเอ็ม 79 หรืออาร์พีจี เพราะอาวุธดังกล่าวใช้ในสงครามเท่านั้น และจากอำนาจทำลายล้างอาจทำให้คนอยู่ใกล้เคียงได้รับบาดเจ็บด้วย จึงถูกสั่งห้ามใช้เด็ดขาด ที่เจ้าหน้าที่ใช้มีเพียงปืนพก ลูกซอง ปืนเอ็ม 16 และปืนเอชเค

แฉเอ็ม 79 แฝงในเสื้อแดง

     พล.ท.คณิต สาพิทักษ์ แม่ทัพภาคที่ 1 กล่าวว่า หลังจากวันที่ 10 เม.ย.เป็นต้นมา ทำให้เราประจักษ์ว่ามีกองกำลังติดอาวุธแฝงตัวอยู่ในที่ชุมนุมโดยสันติ ทำให้เกิดความเสียหาย มีผู้บาดเจ็บล้มตายจำนวนหนึ่ง จะเห็นได้ว่าการก่อกวนที่ผ่านมาทำให้เกิดการเสียหายทั้งจากเอ็ม 79 ระเบิดขว้าง จำนวน 30-40 ครั้ง
     พล.ต.กัมปนาท รุดดิษฐ์ ผู้บัญชาการกองพลที่ 1 รักษาพระองค์ (ผบ.พล.1 รอ.) กล่าวว่า สิ่งที่เห็นคือกองกำลังติดอาวุธจะอยู่หลังมวลชน แล้วมีการยิงใส่เจ้าหน้าที่ สิ่งที่ปฏิบัติได้คือประชาสัมพันธ์ว่ากลุ่มผู้ชุมนุมอย่าเข้ามาใกล้เจ้าหน้าที่ในระยะ  50-100 เมตร เพื่อหลีกเลี่ยงการเผชิญหน้า
     ผบ.พล.1 รอ.บอกว่า เหตุการณ์เมื่อคืนที่ 14 พ.ค.ที่ผ่านมา กลุ่มผู้ชุมนุมได้ยึดรถตำรวจและเผา นอกจากนี้ยังได้รถใช้แท็กซี่ รถบรรทุกวิ่งเข้าหาแนวทหาร เราจึงต้องสกัดกั้นด้วยปืนลูกซองยิงเพื่อให้รถหยุด ปรากฏว่ารถบรรทุกได้หยุดและเลี้ยวกลับหมด แต่สิ่งที่เกิดขึ้นหลังจากนั้นคือมีประชาชนบาดเจ็บจำนวนมาก ที่หลังแนวรถตำรวจที่ถูกเผา โดยอยู่ห่างจากแนวของเจ้าหน้าที่ถึง 300 เมตร ซึ่งจะเห็นได้ว่าไม่ว่าอย่างไรปืนลูกซองก็ยิงไม่ถึงในระยะ 300 เมตรได้
     พล.ต.สุรศักดิ์ บุญศิริ ผู้บัญชาการกองพลทหารม้าที่  2 รักษาพระองค์ (ผบ.พล.ม.2 รอ.)  กล่าวว่า ตั้งแต่ปฏิบัติการในช่วงวันที่ 13-14 พ.ค.ที่ผ่านมา ทางหน่วยถูกยิงด้วยระเบิดเอ็ม 79 จำนวน 29 นัด ซึ่งการปฏิบัติของเจ้าหน้าที่ที่ผ่านมาจะเห็นได้ว่าทางหน่วยใช้มาตรการตามขั้นตอนมาตลอด และจะยิงเมื่อเห็นกองกำลังติดอาวุธเท่านั้น
     พ.อ.สรรเสริญ แก้วกำเนิด โฆษกกองทัพบก ในฐานะโฆษก ศอฉ. ให้สัมภาษณ์ว่า สามารถจับกุมกลุ่มติดอาวุธได้กว่า 40 คน ขณะนี้ผู้กระทำความผิดเหตุซึ่งหน้าจะส่งสถานีตำรวจ แต่กรณีที่มีหมายจับจะจับไปควบคุมตัวในพื้นที่ 5 แห่งที่ไม่ใช่ทัณฑสถาน เช่น กองบังคับการตำรวจ ค่ายทหาร ซึ่งสามารถตรวจสอบได้ ซึ่งจำนวนผู้ติดอาวุธนี้ไม่มีระดับนำ ส่วนใหญ่ระดับแกนนำอยู่ที่บริเวณเวทีชุมนุมอย่างเดียวไม่เคยออกมา ส่วนกรณีที่มีการทะเลาะกันระหว่างผู้ชุมนุมนั้น จากการประเมิน ศอฉ.นั้นพบว่ามีกลุ่มหนึ่งอยากยุติ กลุ่มหนึ่งยังไม่อยากยุติ ด้วยเกรงอิทธิพลของกลุ่มที่ไม่อยากยุติ มีการ์ด นปช.ไม่ลงรอยกัน
     เมื่อถามว่า บรรดาการ์ดที่ติดอาวุธจากข้อมูลพบว่ามีอาวุธชนิดใดบ้างโฆษก ศอฉ.ตอบว่า มีปืนลูกซองทราโว่ เอ็ม 16 ที่ยึดไปจากทหาร และปืน ปตอ.12.7 ที่ติดบนรถเกราะที่ถูกยึดจากเจ้าหน้าที่ พล.ม.2 และเอ็ม 79 ระเบิดขว้างหลากหลายชนิด ระเบิดแสวงเครื่องและอาร์พีจี นอกจากนี้ การจับกุมการ์ดและกลุ่มผู้ติดอาวุธในพื้นที่เมื่อคืนที่ผ่านมา มีการรายงานข้อมูลละเอียดในพื้นที่ว่ามีเต็นท์บริเวณไหน การ์ดอยู่บริเวณไหน พบว่ามีการ์ดจำนวนทั้งหมด 500 ซึ่งทาง ศอฉ.ไม่แน่ใจว่าที่ถูกจับเป็นการ์ดหรือกลุ่มผู้ชุมนุมที่ฮึกเหิมไปตามแรงยั่วยุ
     ถามด้วยว่า มีกระแสข่าวว่ามีกลุ่มนายทหารเข้าไปช่วยเหลือกลุ่มผู้ชุมนุม พ.อ.สรรเสริญกล่าวว่า ใครที่เป็นผู้ให้ความร่วมมือสนับสนุนการก่อการร้าย ก็ต้องถูกดำเนินคดีตามกฎหมาย ส่วนที่นอกเหนือจาก พล.ต.ขัตติยะ สวัสดิผล ส่วนใหญ่เป็นอดีตทหารพรานและนายทหารหรือนายตำรวจนอกราชการ ปัจจุบันไม่ได้รับราชการอาจจะมีความถนัดในวิชาชีพ อาจมีส่วนร่วมในการงานที่กำหนดยุทธศาสตร์งานที่ถนัด ซึ่งไม่ได้พักภายในพื้นที่การชุมนุมจะเป็นการเดินทางไปๆ มาๆ

สั่งจำคุก 1 ปี 27 เสื้อแดง

     นายธาริต เพ็งดิษฐ์ อธิบดีดีเอสไอ ในฐานะโฆษกกระทรวงยุติธรรม แถลงว่า การดำเนินคดีของผู้ทำผิดกฎหมาย ศาลแขวงปทุมวันได้มีคำพิพากษาตัดสินลงโทษ 27 คน เมื่อวันที่ 14 พ.ค. จำเลยทั้ง 27 คนรับสารภาพจึงส่งฟ้องทันที ซึ่งมีฐานความผิดฐานร่วมชุมนุม โดยศาลลงโทษบทหนักที่สุดตาม พ.ร.ก.ฉุกเฉิน พ.ศ.2548 ตามมาตรา 18 ให้จำคุก 1 ปี เนื่องจากจำเลยรับสารภาพจึงลดลงกึ่งหนึ่ง เหลือจำคุก 6 เดือน เป็นไปตามการบริหาร พ.ร.ก.ฉุกเฉิน พ.ศ.2548 โดยไม่รอการลงโทษ
     สำหรับเหตุความไม่สงบในช่วงใกล้ค่ำยังคงดำเนินไปอย่างต่อเนื่อง เวลา 18.20 น. ได้มีชายแต่งกายชุดดำที่อยู่บริเวณถนนวิทยุตัดแนวสารสิน ได้ใช้อาวุธสงครามเครื่องยิงระเบิดเอ็ม 79 เข้าใส่แฟลตที่พักของตำรวจ สน.ลุมพินี โดยกระสุนตกเข้าใส่ที่ห้องพักของ ด.ต.บุญสืบ ไม่ทราบนามสกุล เจ้าหน้าที่ตำรวจ สน.ลุมพินี เป็นเหตุให้ ด.ต.บุญสืบ พร้อมภรรยาและลูกอีก 2 คน ที่นอนพักผ่อนอยู่ในห้องพักได้รับบาดเจ็บ เจ้าหน้าที่ที่ประสบเหตุได้ช่วยกันนำส่งโรงพยาบาลใกล้เคียงเป็นการด่วน
     ก่อนหน้านั้น ชายคนเดียวกันนี้ได้ยิงเอ็ม 79  เข้าใส่ สน.ลุมพินี แต่ปรากฏว่ากระสุนพลาดไปถูกกิ่งไม้ที่อยู่บริเวณด้านหน้า และกระสุนยังไม่อยู่ในระยะที่จะเกิดการระเบิดจึงตกลงมาที่ข้างถนน
     ส่วนบรรยากาศบริเวณย่านบ่อนไก่ ถนนพระราม 4 สถานการณ์การปะทะกันระหว่างเจ้าหน้าที่ทหารและกลุ่มผู้ชุมนุม นปช.ยังคงเป็นไปอย่างต่อเนื่อง โดยยังคงมีเสียงปืนและเสียงระเบิดรวมทั้งเสียงระเบิดเอ็ม 79 ดังขึ้นอย่างต่อเนื่อง
     ขณะเดียวกัน กลุ่มผู้ชุมนุมได้ทยอยมาสมทบเพิ่มมากขึ้นจำนวนหลายร้อยคน ในช่วงค่ำกลุ่มผู้ชุมนุมได้ขยายบริเวณเข้ามาถึง 3 แยกคลองเตย เนื่องจากมีกระแสข่าวว่าเจ้าหน้าที่ทหารจะใช้เส้นทางด่วนและลงเดินเท้าเข้ามาในพื้นที่การชุมนุม  พร้อมนำยางรถยนต์มาราดน้ำมันจุดไฟปิดทางลงบริเวณดังกล่าว
     เวลา 19.00 น. ที่กรมทหารราบที่ 11 รักษาพระองค์ (ร.11 รอ.) พล.ต.ต.สาโรจน์ พรหมเจริญ ผู้บังคับการตำรวจนครบาล 2 พร้อมด้วย พญ.คุณหญิงพรทิพย์ โรจนสุนันท์ ผู้อำนวยการสถาบันนิติวิทยาศาสตร์ และเจ้าหน้าที่เก็บกู้วัตถุระเบิด (อีโอดี) ได้นำกระสุนปืน ถังแก๊ส ดินระเบิด วัตถุระเบิดที่ต่อวงจรประกอบสำเร็จ พร้อมใช้งานจำนวนมากที่ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ สน.โคกครามจับได้จากรถยนต์ต้องสงสัยที่จอดทิ้งไว้ในซอยรามอินทรา 34 เมื่อวันที่ 14 พ.ค.ที่ผ่านมา นำมาแสดงให้สื่อมวลชนได้บันทึกภาพ
     พล.ต.ต.สาโรจน์กล่าวว่า การจับกุมครั้งนี้ถือเป็นการจับกุมวัตถุระเบิดได้มากที่สุดครั้งหนึ่ง ซึ่งทางตำรวจจะมีการสืบสวนสอบสวนต่อไปว่าผู้ใดเป็นเจ้าของวัตถุระเบิดดังกล่าว แต่เบื้องต้นคาดว่ารถดังกล่าวที่นำมาจอดน่าจะเป็นยานพานะที่เตรียมจะนำไปก่อเหตุในสถานที่ต่างๆ ในระหว่างการชุมนุมของกลุ่มคนเสื้อแดง แต่เนื่องจากปัจจุบันเจ้าหน้าที่ทหาร ตำรวจได้มีการตั้งด่านตรวจอย่างเข้มข้น ทำให้เจ้าของรถดังกล่าวไม่กล้าขับรถไปก่อเหตุในพื้นที่ต่างๆ ได้ จึงได้มีการจอดรถทิ้งไว้ ซ.รามอินทรา 34 ซึ่งเบื้องต้นวัตถุระเบิดดังกล่าวจะถูกเก็บไว้ที่หน่วยอีโอดีก่อน

ตั้งกองร้อยเคลื่อนที่เร็ว

     พ.อ.สรรเสริญ แก้วกำเนิด โฆษก ศอฉ. กล่าวถึงกรณีที่มีเหตุการณ์ความรุนแรงว่า ศอฉ.เป็นห่วงและวิตกกังวล จึงได้กำชับไปยัง ผบ.หน่วยที่รับผิดชอบในโซนพื้นที่ต่างๆ ให้เพิ่มความเข้มข้นในมาตรการรักษาความปลอดภัยมากกว่าเดิม โดยเฉพาะการจัดตั้งกองร้อยเคลื่อนที่เร็วในการเข้าไปแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้น ทั้งนี้สิ่งที่เกิดขึ้นทาง ศอฉ.พยายามแก้ไขปัญหา เพื่อให้สามารถควบคุมสถานการณ์ในวงจำกัดได้
     โฆษก ศอฉ.กล่าวว่า ส่วนกรณีที่หากมีสถานการณ์รุนแรงและกลุ่มกองกำลังติดอาวุธพยายามยิงอาวุธสงครามใส่เจ้าหน้าที่ทหารนั้น ทางทหารก็สามารถยิงตอบโต้ได้เพื่อเป็นการป้องกันชีวิตของตนเอง สำหรับกรณีที่หลายฝ่ายต้องการให้ ศอฉ.เข้าขอคืนพื้นที่แยกราชประสงค์นั้น ทาง ศอฉ.มีมาตรการว่าเวลาไหน จะเหมาะสมหรือไม่อย่างไรในการดำเนินการ
     "ขณะนี้สังคมเริ่มเร่งเร้าให้ดำเนินการจัดการกับกลุ่มผู้ชุมนุม  แต่ผมอยากให้แง่คิดว่า ขณะนี้เจ้าหน้าที่ ศอฉ.แค่ปฏิบัติงานกดดันกลุ่มผู้ชุมนุมยังมีผู้เสียชีวิตถึง 17 คน บาดเจ็บ 140 คน ดังนั้นหากเราทำอะไรรุนแรงกว่านี้ก็จะมีการสูญเสียมากขึ้น" พ.อ.สรรเสริญกล่าว
     รายงานข่าวแจ้งว่า ขณะนี้ ศอฉ.วิตกกังวลเกี่ยวกับกองกำลังติดอาวุธที่มีการนำอาวุธสงครามเอ็ม 79 มาปฏิบัติการตอบโต้เจ้าหน้าที่ทหาร ซึ่งจากการสืบทราบพบว่ากองกำลังติดอาวุธมีการสะสมอาวุธลูกระเบิดเอ็ม 79 ระเบิดขว้างเอ็ม 67 และจรวดอาร์พีจีจำนวนมาก โดยขณะนี้สืบทราบว่าอาวุธสงครามดังกล่าวส่วนใหญ่มีการซุกซ่อนไว้ในพื้นที่ 2 แห่งใหญ่ คือสวนลุมพินีและภายในตึกเซ็นทรัลเวิลด์ ทาง ศอฉ.จึงสั่งให้เจ้าหน้าที่มีความเข้มงวดในการรักษาความปลอดภัยเพื่อไม่ให้กลุ่มผู้ก่อการร้ายนำอาวุธดังกล่าวมาก่อเหตุได้
     ขณะที่ศูนย์เอราวัณ สำนักการแพทย์ กรุงเทพมหานคร (กทม.) ระบุว่า จนถึงเวลาประมาณ 19.30 น. มีผู้เสียชีวิตแล้ว 22 ราย และมีผู้ได้รับบาดเจ็บรวม 172 ราย จากเหตุการณ์ปะทะกันหลายครั้งระหว่างเจ้าหน้าที่กับผู้ชุมนุม กลุ่มแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) หรือกลุ่มเสื้อแดง หลายจุดในกรุงเทพฯ ใกล้บริเวณที่ชุมนุมกลุ่มเสื้อแดงที่แยกราชประสงค์ ส่วนชาวต่างชาติได้รับบาดเจ็บอีก 1 ราย เพิ่มเป็น 4 ราย เป็นชาวไลบีเรีย
     อย่างไรก็ตาม ล่าสุดในช่วงเย็นมีผู้เสียชีวิตเพิ่มที่ ซ.งามดูพลี เป็นเจ้าหน้าที่กู้ภัย ทราบว่าเป็นเจ้าหน้าที่กู้ภัยรหัส "ทองหล่อ 051" ศพถูกนำส่ง รพ.เลิดสิน ทำให้ยอดรวมผู้เสียชีวิตอย่างไม่เป็นทางการล่าสุดอยู่ที่ 18 ราย
     พญ.มาลินี สุขเวชชวรกิจ รองผู้ว่ากรุงเทพมหานคร เปิดเผยว่า ในส่วนของนายบุญทิ้ง ปางศิลา เจ้าหน้าที่หน่วยฉุกเฉินของ รพ.วชิรพยาบาล ซึ่งเสียชีวิตที่บริเวณ ซ.รางน้ำ ในขณะที่ปฏิบัติหน้าที่ เชื่อว่าเป็นอุบัติเหตุและน่าจะเกิดจากความเข้าใจผิด เนื่องจากในช่วงที่เข้าไปเจ้าหน้าที่รายนี้ได้ส่งสัญญาณยกมือเพื่อขอเข้าไปปฏิบัติหน้าที่แล้ว แต่ในขณะนั้นมีคนพลุกพล่าน ชุลมุน ทำให้เกิดความสับสน ซึ่งตรงนี้เราได้กำชับเจ้าหน้าที่ให้ปฏิบัติหน้าที่ด้วยความระมัดระวังมากขึ้น
     เวลา 20.00 น. แกนนำ นปช.ร่วมกันแถลงข่าว โดยนายณัฐวุฒิกล่าวว่า การเรียกร้องให้มีการหยุดยิงได้ล้มเหลวอย่างสิ้นเชิง เมื่อการแถลงข่าวของนายทหารของ ศอฉ.แถลงราวกับประเทศไทยประสบชัยชนะทั้งๆ ที่เป็นการใช้อาวุธฆ่าประชาชน และ ศอฉ.ไม่ยอมรับความจริงว่าประชาชนที่เสียชีวิตเกิดจากฝ่ายทหาร แต่กลับบอกว่ากลุ่ม นปช.ขัดแย้งกันเอง
     "เราต้องเรียกร้องอีกทีที่คุณอภิสิทธิ์  ต้องคืนสันติภาพแก่สังคมไทย ไม่เช่นนั้นวันต่อๆ ไปจะมีแต่ข่าวแบบนี้ ผมเรียนว่าสถานการณ์มันกำลังบานปลายไป เมื่อถึงเวลาหนึ่งใครก็ควบคุมไม่ได้ ประเด็นตอนนี้ไม่ได้อยู่ที่ราชประสงค์แล้ว แต่อยู่ด่านต่างๆ และถ้าจะปราบ มาปราบในนี้ ไม่ใช่มายิงเขาตายข้างนอก และเราจะเสนอให้คนไทยและทั่วโลกรู้ความจริงต่อไป"

แกนนำหารัฐยัดเอ็ม 79

     นายณัฐวุฒิยังกล่าวว่า  การยิงระเบิดเอ็ม 79 ที่แฟลตตำรวจ สน.ลุมพินี ตนอยากบอกว่าคนเสื้อแดงก็เป็นมิตรกัน  แต่รัฐบาลพยายามใส่ภาพว่าการยิงระเบิดเอ็ม 79 เป็นของคนเสื้อแดง
     ด้านนายจตุพร พรหมพันธุ์ รองประธาน นปช. กล่าวว่า ที่ ศอฉ.บอกว่าผู้ชุมนุมมีผู้ก่อการร้ายติดอาวุธ  500 คน แสดงว่า ศอฉ.จะติดใบมรณบัตร 500 ใบ ตนอยากบอกว่าถ้ามนุษย์ที่มีจิตใจเป็นธรรม ล้วนเป็นประชาชน พลเรือน และเจ้าหน้าที่พยาบาล ถ้าคนเสื้อแดงมีอาวุธจริงทำไมไม่มีทหารโดนยิงแม้แต่รายเดียว แล้วที่บอกว่ามีการยิงระเบิดเอ็ม 79 จากคนเสื้อแดง ทำไมไม่ระคายผิวทหาร  แต่การยิงเอ็ม 79 ว่าเป็นการยิงตอบโต้กัน ทั้งที่เป็นการยิงฝ่ายเดียวทั้งเอ็ม 16 และเอ็ม 79 เพราะฉะนั้นความตายที่เกิด เป็นมือเปล่า แต่พยายามออกโทรทัศน์บิดเบือน
     "เราจะยืนหยัดทวงความยุติธรรมกับทุกชีวิต เพราะฉะนั้นพวกผมเป็นหนี้ชีวิตทุกวีรชนที่ได้พลีชีพ ไม่ว่ากี่วันจะได้ความยุติธรรม ขอเพียงเศษเสี้ยวของความจริง และความยุติธรรมไม่ต้องให้ผมก็ได้ ให้กับคนตาย เพราะเขาไม่มีสิทธิ์เถียงอะไรเลย และเป็นหน้าที่ของเราทุกคนในการหาความยุติธรรมไม่ว่าในสวรรค์หรือนรก" นายจตุพรกล่าว
     เวลา 20.15 น. ที่อาคารกิตติสุข กรมทหารราบที่ 11 รักษาพระองค์ นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ได้ออกแถลงการณ์ผ่านโทรทัศน์รวมการเฉพาะกิจ แสดงความเสียใจต่อการสูญเสียที่เกิดขึ้น
     "ผมตลอดจนรัฐบาล และเจ้าหน้าที่ทุกคนก็รู้สึกไม่ต่างไปจากพี่น้องประชาชนคนไทย ที่ไม่ต้องการเห็นเหตุการณ์เหล่านี้เกิดขึ้น และไม่ต้องการเห็นสภาพของบ้านเมืองอยู่ในลักษณะของความขัดแย้งและความรุนแรง"
     นายกฯ กล่าวว่า ขณะนี้ไม่มีใครปฏิเสธได้ว่าการชุมนุมนั้นเกิดคู่ขนานไปกับการมีกองกำลังติดอาวุธ และมีการใช้อาวุธสงคราม อาวุธที่ร้ายแรง ทั้งก่อวินาศกรรมและทำร้ายเจ้าหน้าที่ และกระทำต่อประชาชนทั่วไป แม้กระทั่งกลุ่มผู้ชุมนุมด้วยกันเอง นี่จึงทำให้การแก้ไขปัญหาของเจ้าหน้าที่ของรัฐประสบปัญหาความยากลำบากมาโดยตลอด
     "ที่บอกว่าน่าเสียดาย น่าเสียใจ หรือว่าน่าผิดหวังนั้น เห็นได้ชัดว่าการปฏิเสธการปรองดองนั้นไม่ได้เป็นไปเพื่อประโยชน์ของใครเลย แต่เพื่อประโยชน์ของกลุ่มเล็กๆ ซึ่งประสงค์ที่จะให้เกิดความรุนแรงเกิดขึ้น ต้องการที่จะเดินไปสู่แผนที่จะทำให้เกิดสงครามกลางเมือง การสูญเสียบ้าง ซึ่งจะนำสิ่งเหล่านี้มากดดันรัฐบาล โดยเฉพาะอย่างยิ่งสิ่งที่ไม่น่าที่จะเป็นที่ยอมรับได้ คือแนวคิดการเอาชีวิตของประชาชนหรือชีวิตของคนมาเป็นเรื่องของการที่จะนำมากดดันรัฐบาลทำให้เกิดปัญหา"
     นายอภิสิทธิ์ยืนยันว่า สิ่งที่รัฐบาลและเจ้าหน้าที่ดำเนินการอยู่ขณะนี้ เป็นสิ่งที่มีความจำเป็น เราไม่สามารถที่จะปล่อยให้บ้านเมืองนั้นตกอยู่ในสภาพซึ่งมีคนไม่เคารพกฎหมาย พูดง่ายๆ เหมือนกับจับคนกรุงเทพฯ หรือศูนย์กลางของประเทศเป็นตัวประกัน เราไม่สามารถปล่อยให้บ้านเมืองอยู่ในสภาวะที่คนสามารถจัดตั้งกองกำลังและมาล้มล้างรัฐบาลที่ไม่เป็นที่พอใจของคนที่จัดตั้งหรือก่อตั้งกลุ่มที่มีกำลังเหล่านั้น
     "การดำเนินการในลักษณะนี้ผมจึงขอยืนยันว่า รัฐบาลจำเป็นต้องเดินหน้า รัฐบาลไม่อาจถอยได้ เพราะรัฐบาลกำลังทำในสิ่งที่จะเป็นประโยชน์สำหรับประชาชนส่วนใหญ่ของประเทศ ผมขอยืนยันว่าแนวทางนี้เป็นแนวทางเดียวที่จะนำไปสู่ความสงบสุขและการรักษาความถูกต้องในบ้านเมืองได้"
     นายกฯ ยืนยันว่า ถ้าเราปรารถนาที่จะเห็นความสูญเสียน้อยที่สุด วิธีการเดียวคือทำให้ผู้ชุมนุมยุติการชุมนุม เพราะตราบเท่าที่มีการชุมนุมกองกำลังที่ติดอาวุธ ผู้ก่อการร้ายก็ยังคงปฏิบัติการต่อไป นำความสูญเสียให้เกิดขึ้นกับประชาชนบ้าง ผู้ชุมนุมบ้าง และเจ้าหน้าที่ของรัฐบ้าง ไม่จบไม่สิ้น
     "ฉะนั้นขอยืนยันว่า ประชาชนทุกคนจะต้องช่วยกันทำให้เกิดการยุติการชุมนุม มาตรการที่ ศอฉ.ใช้ขณะนี้เหมาะสมที่สุด และจะเดินหน้าต่อไป คือการกระชับวงล้อม การตัดบริการสาธารณะ ที่จะนำไปสู่การตัดสินใจให้ยุติการชุมนุม"
     นายอภิสิทธิ์กล่าวว่า เมื่อการชุมนุมยุติลง ปัญหาทุกปัญหาได้ถูกบรรจุไว้ในแผนปรองดองที่ได้นำเสนอและเดินหน้าอย่างต่อเนื่อง เพราะฉะนั้นถึงเวลาแล้วที่เราทุกคนต้องมีเจตนารมณ์ร่วมกัน สื่อสารไปยังทุกคนที่เกี่ยวข้องว่า วันนี้การยุติการชุมนุมคือทางออกที่ดีที่สุดสำหรับประเทศชาติ ประชาชน ตนขอบคุณประชาชนอีกครั้งหนึ่งสำหรับความร่วมมือ กำลังใจที่ให้กับรัฐบาลและเจ้าหน้าที่ของรัฐ และขอให้กำลังใจที่มอบให้นั้นกลับคืนเป็นกำลังใจของประชาชนที่จะร่วมฟันฝ่าวิกฤติครั้งนี้ไปด้วยกัน.


http://www.thaipost.net/node/22250


หัวข้อ: Re: [2513]"ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: เหยง 16 ที่ 16 พฤษภาคม 2553, 08:37:13
แนวหน้าวิเคราะห์
 
ใบสั่งล้มแผนปรองดอง แดงแตกหักจุดไฟกลียุคนองเลือด (แนวหน้าวิเคราะห์)
 
 
 
      ทั้งๆ ที่ทำท่าว่าจะเดินไปได้สวยสำหรับโรดแมปแผนสร้างความปรองดองของนายกฯอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ที่บรรดาแกนนำคนเสื้อแดง ตลอดจนกระแสสังคมสนับสนุนกันทั่วบ้านทั่วเมือง โดยกำหนดให้ยุบสภาในช่วงครึ่งหลังของเดือน ก.ย.ที่จะถึงนี้ และมีการเลือกตั้งทั่วไปในราววันที่ 14 พ.ย. พร้อมกับแนวทางสร้างความปรองดอง 5 ข้อ แต่แล้วในที่สุดแผนสู่ความสมานฉันท์ก็ล่มไม่เป็นท่าเมื่อจู่ๆ แกนนำเสื้อแดงสายฮาร์ดคอร์เล่นเกมตีรวนยื้อเกมไม่ยอมสลายม็อบเสื้อแดงพ้นย่านราชประสงค์ จนเป็นชนวนทำให้สถานการณ์กลับไปสู่ความตึงเครียดเมื่อฝ่ายรัฐบาลตัดสินใจใช้มาตรการขั้นเด็ดขาดสลายการชุมนุมเคลียร์พื้นที่ย่าราชประสงค์และกวาดล้างกลุ่มก่อการร้ายที่ แฝงตัวอยู่ในม็อบเสื้อแดง

      เบื้องหลังแผนปรองดองที่ล่มลงอย่างฉับพลันสะท้อนให้เห็นอย่างชัดเจนว่าเกิดจากใบสั่งของ นักโทษชายแม้ว นายใหญ่     ขบวนการเสื้อแดง โดยจากคำให้สัมภาษณ์ของ พล.ต.ขัตติยะ สวัสดิผล หรือ เสธ.แดง หัวหน้ากองกำลังฮาร์ดคอร์ ที่ขึ้นตรงกับนักโทษชายแม้ว ออกมาเปิดเผยว่าได้รับโทรศัพท์จาก นักโทษชายแม้วว่า ไม่เห็นด้วยกับแผนปรองดองเพราะเป็นแค่แผนของฝ่ายรัฐบาลที่ต้องการสลายการชุมนุมม็อบเสื้อแดงเท่านั้น

      เสธ.แดง ยังเปิดเผยคำสั่งของ นักโทษชายแม้ว ที่ให้เตรียมแกนนำเสื้อแดงชุดใหม่อันประกอบด้วยแกนนำสายฮาร์ดคอร์ประกอบด้วย นายอริสมันต์ พงศ์เรืองรอง นายสุภรณ์ อัตถาวงศ์ นายขวัญชัย ไพรพนา นายพายัพ ปั้นเกตุ ขึ้นมาทำหน้าที่คุมม็อบเสื้อแดงแทน แก๊งสามเกลอ อันประกอบด้วย นายวีระ มุสิกพงศ์ นายจตุพร พรหมพันธุ์ และ นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ

      การที่ นักโทษชายแม้ว มีแผนเปลี่ยนขุนศึกกลางสนามรบก็คงเพราะประเมินแล้วว่า ตัวเอง ไม่ได้ประโยชน์อะไรเลยแม้แต่น้อยจากแผนปรองดองเพื่อนำชาติบ้านเมืองกลับคืนสู่ความสงบครั้งนี้ อีกทั้งหากเดินตามเกมแผนปรองดองของรัฐบาลด้วยการสลายม็อบเสื้อแดงแล้วไปวัดดวงในการเลือกตั้งทั่วไปวันที่ 14 พ.ย. ถือเป็นความเสี่ยงและไม่ทันการสำหรับการช่วงชิงอำนาจรัฐมาเป็นของตัวเองเพื่อผลักดันเป้าหมายสำคัญคือฟอกโทษความผิดทั้งหมดของ นักโทษชายแม้วและทวงทรัพย์สินที่ถูกยึดตกเป็นของแผ่นดินคืน รวมไปถึงแผนที่จะเปลี่ยนแปลงประเทศไปสู่ระบอบใหม่

      ทั้งนี้ นักโทษชายแม้ว อาจประเมินแล้วว่า การเลือกตั้งทั่วไปที่จะมีขึ้นไม่แน่ว่าพรรคเพื่อไทยซึ่งเป็นหุ่นเชิดของตัวเองจะชนะการเลือกตั้งอย่างเด็ดขาดจนได้เป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาล เพราะนับวันคะแนนนิยมของ นายกฯอภิสิทธิ์ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ จะดีวันดีคืน ขณะที่พรรคเพื่อไทยเองจนขณะนี้แม้แต่หัวหน้าพรรคตัวจริงที่มีคุณสมบัติเหมาะสมที่จะเข้าชิงเก้าอี้นายกรัฐมนตรีคนต่อไปอย่างแท้จริงก็ยังหาไม่ได้

      จากแนวโน้มที่มีความเสี่ยงไม่แน่นอนในศึกเลือกตั้งทั่วไปที่จะมีขึ้นแล้วทำให้ นักโทษชายแม้ว หันมาเดินเกมสร้างสถานการณ์ให้เกิดการเปลี่ยนแปลงทางการเมืองเพื่อช่วงชิงอำนาจรัฐแบบฉับพลัน เพราะหากปล่อยให้รัฐบาลอภิสิทธิ์คุมอำนาจต่อไปจนถึงเดือนก.ย.นี้ ก็จะทำให้ นักโทษชายแม้ว หมดโอกาสที่จะผลักดันให้นายทหารที่เป็นคนของตัวเองขึ้นคุมอำนาจในกองทัพ ซึ่งนั่นหมายถึงอุปสรรคอย่างสำคัญต่อแผนการใหญ่ที่ นักโทษชายแม้ว วางไว้ เพราะแม้ว่าพรรคเพื่อไทยจะชนะการเลือกตั้งทั่วไปและได้เป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาล แต่ก็คงดำเนินการตามเป้าหมายของ นักโทษชายแม้วได้ลำบากตราบใดที่ยังไม่สามารถควบคุมผู้นำในกองทัพได้ ทั้งนี้เนื่องจากไม่อาจปฏิเสธได้เลยว่ากองทัพคือปัจจัยแห่งอำนาจซึ่งมีความสำคัญที่จะกำหนดเสถียรภาพของรัฐบาลและอนาคตของประเทศ

      ด้วยแผนของ นักโทษชายแม้ว ที่ต้องการเร่งเผด็จศึกช่วงชิงอำนาจรัฐให้ได้โดยเร็วที่สุด รวมทั้งการผลักดันแกนนำเสื้อแดงสายฮาร์ดคอร์ให้ขึ้นมามีบทบาทนำม็อบเสื้อแดงแทนแก๊งสามเกลอหัวขวดที่ยึดแนวทางประนีประนอมทำให้นักวิเคราะห์ตั้งข้อสังเกตว่านี่คือสัญญาณอันตรายในการทำสงครามขั้นแตกของขบวนการเสื้อแดงภายใต้ใบสั่งของ นักโทษชายแม้ว เพราะมีแนวโน้มว่า

      นับตั้งแต่นี้เป็นต้นไปปฏิบัติการใต้ดินด้วยการลอบก่อวินาศกรรมจะเพิ่มความรุนแรงยิ่งขึ้นคู่ขนานไปกับการเคลื่อนไหวอย่างเข้มข้นยั่วยุท้าทายอำนาจรัฐของม็อบเสื้อแดง

      เบื้องหลังการล่มของแผนปรองดองครั้งนี้ยังสะท้อนให้เห็นถึงความขัดแย้งอย่างรุนแรงในหมู่แกนนำคนเสื้อแดงระหว่างแกนนำกลุ่มที่ยึดแนวทางสันติประนีประนอมนำโดย นายวีระ กับกลุ่มฮาร์ดคอร์ที่นำโดย เสธ.แดง นายอริสมันต์ นายขวัญชัย นายสุภรณ์ และนายพายัพ

      ความขัดแย้งในหมู่แกนนำคนเสื้อแดงมาถึงจุดแตกหักหลังจากที่มีการเจรจาอย่างลับๆระหว่างตัวแทนฝ่ายรัฐบาลกับตัวแทนคนเสื้อแดงนำโดย นายวีระ จนได้ข้อสรุปเพื่อนำไปสู่ความปรองดองแล้วโดยม็อบเสื้อแดงพร้อมที่จะสลายการชุมนุม แต่แล้วจู่ๆ แกนนำสายฮาร์ดคอร์ซึ่งได้รับคำสั่งจาก นักโทษชายแม้ว กลับยืนกรานด้วยท่าทีแข็งกร้าวไม่ยอมรับแผนปลองดองและต้องการให้ม็อบเสื้อแดงยึดย่านราชประสงค์ชุมนุมต่อไป ท่ามกลางกระแสข่าวว่า นายวีระ ไม่พอใจอย่างมากที่เสียคำพูดในการไปเจรจากับฝ่ายรัฐบาลถึงถอนตัวจากเวทีเสื้อแดง นอกจากนี้ยังมีข่าวว่าแกนนำเสื้อแดงสายอีกหลายคนที่คิดจะโบกมือลาเวทีคนเสื้อแดงตาม นายวีระ อาทิ นายอดิศร เพียงเกษ นายจรัล ดิษฐาอภิชัย นายกอบแก้ว พิกุลทอง นายวิสา คัญทัพ และนางไพจิตร อักษรณรงค์

      เงื่อนไขของฝ่ายรัฐบาลที่ไม่ยอมให้ประกันตัวแกนนำคนเสื้อแดงบางคนที่ถูกตั้งข้อกล่าวหาร้ายแรงว่าร่วมอยู่ในขบวนการก่อการร้าย เป็นอีกเหตุผลหนึ่งที่ให้เกิดความร้าวฉานในหมู่แกนนำคนเสื้อแดง ซึ่งสะท้อนให้เห็นชัดเจนจากคำกล่าวของ นายขวัญชัย ที่ว่า รัฐบาลตั้งเงื่อนไขยอมให้ประกันตัวแกนนำเสื้อแดง 20 คน แต่ไม่ยอมให้ประกันตัว 4 คน คือ ตัว นายขวัญชัย นายอริสมันต์ นายสุภรณ์ และ พ.ต.ท.ไวพจน์ อาภรณ์รัตน์

      ด้วยใบสั่งของ นักโทษชายแม้ว ที่หนุนหลังแกนนำสายฮาร์ดคอร์ให้ขึ้นมากุมการนำม็อบเสื้อแดงทำให้เกิดการตีรวนยื้อเกมและมีมติไม่สลายการชุมนุมคนเสื้อแดงตามเส้นตายที่ตกลงไว้กับฝ่ายรัฐบาลจึงเหมือนฟางเส้นสุดท้ายสำหรับแผนการสร้างความปรองดองระหว่างรัฐบาลกับคนเสื้อแดง โดยสะท้อนจากท่าทีที่แข็งกร้าวของ นายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกฯฝ่ายความมั่นคง ที่ประกาศว่า รัฐบาลได้พยายามทำตามข้อเรียกร้องของฝ่ายแกนนำคนเสื้อแดงทุกอย่างแล้วเพื่อสร้างความปรองดอง แต่ฝ่ายแกนนำคนเสื้อแดงกลับพยายามยื้อเวลาเพื่อชุมนุมต่อไป เพราะฉะนั้นถือว่า สังคมหมดความอดทนแล้วสำหรับม็อบเสื้อแดง

      แต่ที่สำคัญคือท่าทีของ นายกฯอภิสิทธิ์ ที่ประกาศอย่างหนักแน่นจริงจังว่าขอให้ม็อบเสื้อแดงสลายการชุมนุมในทันทีก่อนที่รัฐบาลจะใช้มาตรการขั้นเด็ดขาดเข้าเคลียร์พื้นที่ย่านราชประสงค์ รวมทั้งล้มเลิกข้อเสนอยุบสภาและกำหนดวันเลือกตั้งในวันที่ 14 พ.ย.นี้ ตามที่เคยประกาศไปก่อนหน้านี้

      " เวลานี้พี่น้องประชาชนเดือดร้อนมากพอแล้ว ความอดทนของประชาชนกลุ่มอื่นๆ ลดลงมาก ความเสี่ยงต่อการสูญเสียที่จะเกิดขึ้นทั้งในพื้นที่การชุมนุมและนอกพื้นที่การชุมนุมมีมากทุกวัน ไม่มีประโยชน์อะไรกับใครเลยที่จะมายื้อเวลาในลักษณะอย่างนี้ .....ไม่มีแล้วครับ ผมถือว่าการไม่ยุติการชุมนุมคือการไม่ตอบรับแผนปรองดอง และขอให้ยุติการชุมนุมในทันที"

      การตัดสินใจใช้ปฏิบัติการขั้นเด็ดขาดเพื่อสลายการชุมนุมของม็อบเสื้อแดงที่ยึดย่านราชประสงค์มานานกว่าหนึ่งเดือนของ นายกฯอภิสิทธิ์ ก็เพื่อรักษาความศักดิ์สิทธิ์ของหลักนิติรัฐและลบภาพความเป็น รัฐล้มเหลว ของรัฐบาล แต่ที่สำคัญก็คือเป้าหมายในการกวาดล้างกลุ่มก่อการร้ายที่แฝงตัวอยู่ในม็อบคนเสื้อแดงและมีการซุกซ่อนอาวุธสงครามไว้จำนวนมาก

      หลังคำสั่งที่เด็ดขาดจริงจังของ นายกฯอภิสิทธิ์ มีการประชุมศูนย์อำนวยการแก้ไขสถานการณ์ฉุกเฉิน(ศอฉ.)เป็นการด่วนโดยมี นายกฯอภิสิทธิ์ เป็นประธานเพื่อซักซ้อมแผนปฏิบัติการเพื่อสลายการชุมนุมม็อบเสื้อแดงให้ได้ก่อนที่จะถึงวันเปิดเทอม 17 พ.ค.นี้ โดยเป้าหมายสำคัญในปฏิบัติการขั้นเด็ดขาดสลายม็อบเสื้อแดงครั้งนี้ก็คือการกวาดล้างจับกุม เสธ.แดง และกลุ่มก่อการร้าย ตลอดจนแกนนำสายฮาร์ดคอร์ของคนเสื้อแดงแบบขุดรากถอนโคน

      การยื้อเกมตีรวนของขบวนการเสื้อแดงภายใต้ใบสั่งของนักโทษชายแม้วผู้เป็นนายใหญ่จนทำให้รัฐบาลตัดสินใจเลิกล้มแผนยุบสภาเพื่อเลือกตั้งทั่วไปในวันที่ 14 พ.ย.นี้ จนนำมาสู่ปฏิบัติการขั้นเด็ดขาดจัดการกับม็อบเสื้อแดงและกลุ่มก่อการร้ายที่แฝงตัวอยู่ ขณะที่กลุ่มผู้บงการวางแผนอยู่เบื้องหลังขบวนการเสื้อแดงพยายามที่จะสร้างสถานการณ์ใช้แผนสังหารเจ้าหน้าที่หรือแม้แต่ฆ่าพวกเดียวกันเองหวังจุดชนวนให้เกิดการจลาจลกลายเป็นสงครามกลางเมืองให้ได้เหมือนเช่นโศกนาฏกรรมเลือดเมื่อวันที่ 10 เม.ย.ที่แยกคอกวัว ซึ่งเหตุการณ์ลอบยิงเสธ.แเดงอาจเป็นไปได้ที่จะอยู่ในแผนปฏิบัติการดังกล่าว อย่างไรก็ตาม สถานการณ์ที่เกิดขึ้นถือเป็นปัญหาที่ท้าทายรัฐบาลภายใต้การนำของนายกฯอภิสิทธิ์ว่าจะสามารถควบคุมสถานการณ์และนำพาประเทศกลับคืนสู่ความสงบและเดินไปข้างหน้าโดยเกิดความสูญเสียน้อยที่สุดได้หรือไม่ แต่สำหรับนักโทษชายแม้วดูเหมือนกำลังรอตักตวงผลประโยชน์จากหายนะของชาติบ้านเมืองครั้งนี้ด้วยการใช้เหตุการณ์นองเลือดเป็นข้ออ้างในการเรียกร้องให้องค์กรระหว่างประเทศโดยเฉพาะองค์การสหประชาชาติเข้ามาแทรกแซงวิกฤตการณ์ในประเทศไทยโดยหวังที่จะนำไปสู่การเปลี่ยนแปลงซึ่งเป็นผลดีต่อตัวเอง



ทีมข่าวการเมือง
 
วันที่ 16/5/2010
 
http://www.naewna.com/news.asp?ID=211187


หัวข้อ: Re: [2513]"ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: เหยง 16 ที่ 16 พฤษภาคม 2553, 08:44:08
กำจัดอาวุธปืนยิงลูกระเบิด M-79 ไม่ได้ ประชาชนซึ่งเป็นสุจริตชนจะไม่ปลอดภัย (ทั้งนี้ไม่รวมถึงทหาร ตำรวจ)


http://www.youtube.com/watch?v=4hmSPbugDAA

      วิดีโอคลิปในเว็บไซต์ Youtube ซึ่งผู้ใช้นามว่า "realmkii" โพสต์ขึ้นไปเมื่อวันที่ 15 พ.ค.53 พร้อมระบุว่า เป็นภาพเหตุการณ์ที่คนเสื้อแดงยิงระเบิดเอ็ม 79 ที่บริเวณแยกศาลาแดง เมื่อวันที่ 14 พ.ค.53 ระหว่างที่คนเสื้อแดงต่อสู้กับเจ้าหน้าที่ทหาร ที่ทำการปิดล้อมพื้นที่ชุมนุมของคนเสื้อแดง


http://www.manager.co.th/Politics/ViewNews.aspx?NewsID=9530000067290


หัวข้อ: Re: [2513]"ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: เหยง 16 ที่ 16 พฤษภาคม 2553, 19:31:58
อ้าวพี่แอ๊ะ...เสธ. ก็เป็นรุ่นน้องครุศาสตร์ด้วยอ่ะ??

ประวัติ เสธ.แดง
วันศุกร์ ที่ 14 พฤษภาคม 2553 เวลา 08:32 น

ประวัติส่วนตัว พล.ต. ขัตติยะ เป็นชาวอำเภอโพธาราม จังหวัดราชบุรี เกิดเมื่อวันที่ 2 มิถุนายน 2494 เป็นบุตรชายคนสุดท้องของ ร.อ.สนิท สวัสดิผล และนางสอิ้ง สวัสดิผล จากจำนวนพี่น้อง 4 คนซึ่งเป็นหญิง 3 คนและชาย 1 คน


จบมัธยมศึกษาจากโรงเรียนศรีวิกรม์ การศึกษาด้านการทหาร จบโรงเรียนเตรียมทหาร รุ่นที่ 11, โรงเรียนนายร้อยพระจุลจอมเกล้า รุ่นที่ 22 และโรงเรียนเสนาธิการทหารบก รุ่นที่ 63


เรียนต่อปริญญาตรี ครุศาสตร์บัณฑิต จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย สำเร็จการศึกษาปี 2528 ปริญญาโท คณะพัฒนาสังคมและสิ่งแวดล้อม สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์ สำเร็จการศึกษาปี 2539


ปริญญาตรี นิติศาสตร์บัณฑิต มหาวิทยาลัยศรีปทุม สำเร็จการศึกษาปี 2545 ปริญญาตรี เศรษฐศาสตร์บัณฑิต มหาวิทยาลัยรามคำแหง สำเร็จการศึกษาปี 2547 และจบปริญญาเอก สาขาบริหารรัฐกิจ UNIVERSITY OF NORTHERN PHILIPPINES สำเร็จการศึกษาปี 2551


เข้ารับราชการครั้งแรกในกองพันทหารราบที่ 4 ค่ายอิงคยุทธบริหาร จังหวัดปัตตานี และเติบโตมาในสายทหารม้า เคยได้รับโปรดเกล้าฯ แต่งตั้งเป็นนายทหารพิเศษ ประจำกองพันทหารม้าที่ 3 รักษาพระองค์ เมื่อปี 2543


เคยเป็นอาจารย์โรงเรียนนายร้อยพระจุลจอมเกล้าในช่วงปี 2529 เป็นนายทหารติดตามของ พล.อ.อาทิตย์ กำลังเอก รองนายกรัฐมนตรี ในสมัยรัฐบาล พล.อ.ชวลิต ยงใจยุทธ และเคยเป็นนายทหารคนสนิทของนายไตรรงค์ สุวรรณคีรี รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงานในรัฐบาล นายชวน หลีกภัย ปัจจุบันดำรงตำแหน่งผู้ทรงคุณวุฒิกองทัพบก


สมรสกับ นาวาเอก (พิเศษ) หญิง จันทรา สวัสดิผล (เสียชีวิตแล้วด้วยโรคมะเร็ง) มีบุตรสาวด้วยกันทั้งหมด 1 คน ชื่อ นางสาวขัตติยา สวัสดิผล (ชื่อเล่น: เดียร์) ปัจจุบันทำงานเป็นทนายความในสำนักกฎหมายเอกชน


ปัจจุบัน พล.ต.ขัตติยะ สวัสดิผล มีเว็บไซต์ของตนเอง ที่วิพากษ์วิจารณ์สถานการณ์การเมืองในปัจจุบันอย่างดุเดือด โดยบุคคลที่ชื่นชอบจะเรียกชื่อ พล.ต.ขัตติยะ อย่างเคารพว่า "อาแดง"


(อ้างอิงจาก วิกีพีเดีย สารานุกรมเสรี)


http://tnews.teenee.com/politic/50455.html


หัวข้อ: Re: [2513]"ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: ตุ๋ย 22 ที่ 16 พฤษภาคม 2553, 20:50:51
เคยเกลียดเสธแดงมาก  ตอนนี้อโหสิ


หัวข้อ: Re: [2513]"ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: เหยง 16 ที่ 16 พฤษภาคม 2553, 22:48:52
อ้างถึง
ข้อความของ mek เมื่อ 16 พฤษภาคม 2553, 20:59:44
อ้างถึง
ข้อความของ เต้ ณ บ้านครู เมื่อ 16 พฤษภาคม 2553, 20:41:38
น้ำตาซึมเลยครับ ขอบคุณพี่อ๊อฟ พงษ์พัฒน์

http://www.youtube.com/watch?v=qtgJMOEREMw

วาทะแห่งปีเลยครับ สุดยอดจริง ๆ

คุณออฟ-พงษ์พัฒน์ ขึ้นรับรางวัลผู้แสดงนำฝ่ายชาย"นาฎราช" จากบทแสดงนำในละคร"พระจันทร์สีรุ้ง"
โดยมีคำกล่าวดังนี้- บทนี้เป็นบทเกี่ยวกับพ่อ พ่อเป็นเสาหลักของบ้าน
บ้านของผมหลังใหญ่ มาก เราอยู่กันหลายคน
ผมเกิดมา เราก็อยู่กันอย่างสงบมานาน
บรรพบุรุษของพ่อเสียเหงื่อ เสียเลือดเอาชีวิตเข้าแลก กว่าจะได้
บ้านหลังนี้มา จนมาถึงวันนี้ พ่อคนนี้ก็ยังเหนื่อยที่จะดูแลบ้าน
ดูแลความสุขของทุกๆ คนในบ้าน ถ้ามีใครสักคนโกรธใครมาก็ไม่รู้ ไม่ได้ดั่งใจ
เรื่องอะไรมาก็ไม่รู้ แต่พาลมาลงที่พ่อ เกลียดพ่อ ด่าพ่อ
คิดจะไล่พ่อออกจากบ้าน ผมจะเดินไปบอกคนๆ นั้นว่า
ถ้าเกลียดพ่อ ไม่รักพ่อแล้ว จงออกไปจากที่นี่ซะ
เพราะที่นี่คือบ้านของพ่อ ที่นี่คือแผ่นดินของพ่อ
ผมรักในหลวงครับ และผมก็เชื่อว่าทุกคน
ก็รักในหลวงเหมือนกัน.....


หัวข้อ: Re: [2513]"ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: เหยง 16 ที่ 17 พฤษภาคม 2553, 08:04:48
บทบรรณาธิการ นสพ. แนวหน้า ออนไลน์ วันจันทร์ที่ 17 พฤษภาคม 2553

บทบรรณาธิการ 
 
สังคมหนุนรัฐสลายม็อบเสื้อแดง (บทบรรณาธิการ) 
 

 
      แม้จะเกิดสงครามกลางเมืองจนทำให้มีผู้เสียชีวิตและบาดเจ็บจำนวนมากหลังจากที่รัฐบาลโดยศูนย์อำนวยการแก้ไขสถานการณ์ฉุกเฉิน(ศอฉ.)ได้ส่งกำลังทหารใช้มาตรการกดดันเพื่อขอคืนพื้นที่ย่านราชประสงค์ จากม็อบคนเสื้อแดง แต่จากผลสำรวจของศูนย์วิจัยสวนดุสิตโพล มหาวิทยาลัยราชภัฏสวนดุสิต ที่สุ่มตัวอย่างผลสำรวจความเห็นของชาวกรุงเทพมหานคร และปริมณฑล จำนวน 1,387 คน ระหว่างวันที่ 14-15 พฤษภาคม ที่ผ่านมา กลับสะท้อนให้เห็นว่า กระแสสังคมส่วนใหญ่เห็นด้วยกับมาตรการของรัฐบาล

      ผลสำรวจชี้ว่า ประชาชนส่วนใหญ่ร้อยละ 51.33 เห็นด้วยกับมาตรการสลายม็อบเสื้อแดงเพราะถือเป็นหน้าที่ของรัฐบาลที่จะต้องดำเนินการยุติการชุมนุมไม่ให้ยืดเยื้อออกไปอันจะส่งผลเสียหายต่อเศรษฐกิจและต่อประเทศชาติอย่างมาก ขณะที่ร้อยละ 40.16 ไม่เห็นด้วยโดยให้เหตุผลว่าจะทำให้เกิดการสูญเสียชีวิตและทรัพย์สิน รวมทั้งไม่อยากให้คนไทยฆ่ากันเอง ตลอดจนทำลายภาพลักษณ์ของประเทศ ส่วนร้อยละ 8.51 ไม่แน่ใจเพราะยังไม่มั่นใจว่ามาตรการของรัฐบาลจะสามารถทำให้การชุมนุมที่ยืดเยื้อของม็อบคนเสื้อแดงยุติลงได้จริงหรือไม่

     ข้อน่าสังเกตก็คือ ผลสำรวจของสวนดุสิตโพลต่อทัศนะของประชาชนกรณีที่นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ประกาศยกเลิกข้อเสนอที่จะยุบสภาและกำหนดให้มีการเลือกตั้งทั่วไปในวันที่ 14 พฤศจิกายนนี้ หลังจากที่แกนนำคนเสื้อแดงเล่นแง่ไม่ยอมรับแผนสร้างความปรองดอง ปรากฏว่า ประชาชนส่วนใหญ่ร้อยละ 42.32 เห็นด้วยกับท่าทีของนายกรัฐมนตรี เพราะเห็นว่า คนเสื้อแดงไม่จริงใจกับแผนการปรองดองและไม่ยอมสลายการชุมนุมตามเงื่อนไขที่มีการเจรจากับฝ่ายรัฐบาล ขณะที่ร้อยละ 39.40 ไม่เห็นด้วยกับคำประกาศของนายกรัฐมนตรีเพราะเห็นว่า ควรให้ประชาชนเป็นผู้ตัดสินปัญหาของบ้านเมืองและการยกเลิกกำหนดการเลือกตั้งยิ่งจะทำให้คนเสื้อแดงใช้เป็นข้ออ้างชุมนุมต่อไป ส่วนร้อยละ 18.28 ไม่แน่ใจ

      ทั้งนี้ โดยปกติหากเป็นการชุมนุมของมวลชนจนต้องใช้กำลังทหารเข้าสลายฝูงชนจนเกิดการสูญเสียดังเช่นเหตุการณ์ในอดีตที่ผ่านมา ประชาชนส่วนใหญ่มักจะมีทัศนคติในด้านลบต่อฝ่ายรัฐบาล แต่กับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในปัจจุบันกลับตรงกันข้ามโดยประชาชนส่วนใหญ่กลับสนับสนุนรัฐบาล ซึ่งที่เป็นเช่นกันนี้ ก็เพราะความเคลื่อนไหวของม็อบคนเสื้อแดงตลอดช่วงที่ผ่านมา พิสูจน์ให้เห็นแล้วว่าไร้ความชอบธรรมอย่างสิ้นเชิง เพราะเป็นการเคลื่อนไหวที่มีเป้าหมายแอบแฝงเพื่อคนเพียงคนเดียง คือ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี และมีพฤติกรรมเข้าข่ายก่อการร้ายที่ใช้วิธีการอันรุนแรง รวมทั้งพยายามยั่วยุสร้างสถานการณ์เพื่อนำไปสู่สงครามกลางเมืองจนเข้าสู่ภาวะรัฐล้มเหลวตลอดจนบ่อนทำลายทุกวิถีทางเพื่อให้บรรลุเป้าหมายของตัวเองโดยไม่คำนึงถึงหายนะใดๆ ที่จะเกิดกับชาติบ้านเมือง

      ดังนั้น รัฐบาลจึงมีความชอบธรรมในการดำเนินมาตรการที่จะกวาดล้างกลุ่มก่อการร้ายและสลายการชุมนุมม็อบคนเสื้อแดงที่เคลื่อนไหวคู่ขนานเป็นเนื้อเดียวกัน ทั้งนี้รัฐบาลต้องตระหนัก ก็คือรีบยุติวิกฤตการณ์ให้จบลงโดยเร็วและเกิดความสูญเสียให้น้อยที่สุดเพื่อป้องกันปัญหาแทรกซ้อนและความสูญเสียที่จะบานปลายตามมาจนเข้าสู่ภาวะรัฐล้มเหลว 
 
วันที่ 17/5/2010
 
http://www.naewna.com/news.asp?ID=211343


หัวข้อ: Re: [2513]"ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: เหยง 16 ที่ 17 พฤษภาคม 2553, 08:06:55
โพลของ นสพ.ฐานเศรษฐกิจ ณ เวลา 21.00 น. วันอาทิตย์ที่ 16 พฤษภาคม 53 เวลาโดยประมาณ

(http://www.cmadong.com/imageupload/2010_Cmadong-Image/data/image/l2jhq1-909baf.png)



หัวข้อ: Re: [2513]"ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: เหยง 16 ที่ 17 พฤษภาคม 2553, 08:13:15
บทบรรณาธิการ นสพ. ไทยโพสต์ ออนไลน์ วันนี้, ให้ความเห็น ต่อการเรียกร้อง UN ให้เข้ามาแทรกแซงกิจการภายใน จากเดิมที่"ทักษิณ" เคยปรามาส UN ไว้ว่า UN ไม่ใช่พ่อ

ยูเอ็น...ไม่ใช่พ่อ
บทบรรณาธิการ 17 พฤษภาคม 2553 - 00:00

     คำถาม..ใคร?!?ทำให้ประเทศไทยมีสภาพอันน่าเศร้าสลดใจเฉกเช่นในวันนี้  คงไม่น่าอเนจอนาถใจเท่ากับที่กลุ่มผู้ทำร้ายประเทศไทยกำลังเรียกร้องขอให้ "คนนอก" อย่างองค์การสหประชาชาติยื่นมือเข้ามาแทรกแซงกิจการภายในประเทศบ้านเกิดเมืองนอนของตัวเอง ทั้งๆ ที่สถานการณ์อันเลวร้ายไม่ผิดกับสงครามกลางเมืองนั้น สามารถยุติลงได้ก่อนหน้านี้ หากแกนนำแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการ (นปช.) ตอบรับข้อเสนอแผนการปรองดองแห่งชาติของนายกรัฐมนตรี อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ
     ชื่อขององค์การสหประชาชาติ หรือยูเอ็น เป็นที่รับทราบว่าเป็นองค์กรอิสระเพื่อส่งเสริมการสร้างสันติภาพของโลก โดยมีภารกิจหลักในการเป็นเวทีสำหรับการเจรจาเพื่อยุติข้อพิพาท การรักษาสันติภาพและความมั่นคง รักษาสิทธิมนุษยชนและให้ความช่วยเหลือทางมนุษยธรรมแก่ประเทศสมาชิกทั่วโลกรวมทั้งประเทศต่างๆ จึงไม่ใช่เรื่องแปลกหรือผิดปกติประการใด ที่มีกระแสข่าวแจ้งว่า เลขาธิการยูเอ็น นายบัน คี มูน ออกมาแสดงความกังวลต่อปัญหาสถานการณ์ความรุนแรงในประเทศไทย
     แต่เป็นเรื่องที่น่าสังเวชและอัปยศอดสูใจมากกว่า ที่มีคนไทยทั้งแกนนำ นปช. และสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรพรรคเพื่อไทยออกมาเคลื่อนไหวเรียกร้องขอให้ยูเอ็นเข้าเป็นคนกลางในการแก้ไขปัญหาในบ้านตัวเอง ทั้งๆ ที่ข้อเท็จจริงแล้ว ต้นเหตุแห่งความรุนแรง ที่มาของภาพทหารอาวุธครบมือ เดินเป็นกำแพงเข้าไปล้อมกรอบปิดถนนราชประสงค์ ตัดน้ำตัดไฟในพื้นที่ต่างๆ รอบบริเวณม็อบเสื้อแดงนั้น เกิดจากการปลิ้นปล้อนพลิกลิ้นของแกนนำ นปช. ที่ไม่ยอมทำตามคำพูดในการประกาศสลายการชุมนุมหลังจากที่รองนายกรัฐมนตรีนายสุเทพ เทือกสุบรรณ เดินเข้ามอบตัวต่อเจ้าพนักงานตำรวจ
     แม้สถานการณ์ที่เกิดขึ้นในประเทศไทย อันเกิดจากจลาจลในเขตกรุงเทพมหานครจะทวีความรุนแรงถึงขั้นมีผู้เสียชีวิตแล้วถึง 25 คน และมีผู้บาดเจ็บกว่า 200 คนในระยะเวลาตั้งแต่วันที่ 15 พฤษภาคมเป็นต้นมา แต่หากมีจิตใจที่เป็นกลางและรับรู้เหตุการณ์ที่เป็นขั้นเป็นตอนมาตั้งแต่การชุมนุมปิดถนนผ่านฟ้าเมื่อเดือนมีนาคม จนถึงถนนราชประสงค์เมื่อเดือนเมษายน และขยายบานปลายมาจนถึงการก่อการร้ายที่ถนนสีลมและศาลาแดง สร้างปัญหาให้กับแพทย์พยาบาลและผู้ใช้บริการโรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ กระทั่งเกิดเหตุ พล.ต.ขัตติยะ สวัสดิผล หรือ เสธ.แดงถูกยิงเจาะศีรษะอาการเป็นตายเท่ากันนั้น  คงยากที่จะปฏิเสธว่าความรุนแรงที่เกิดขึ้นล้วนเกิดจากแกนนำ นปช.ที่ปราศจากสำนึกรับผิดชอบต่อสิ่งที่ตนเองก่อและกระทำมาตลอดระยะเวลากว่า 2 เดือน
     ฉะนั้น ถ้าต้องการเห็นบ้านเมืองคืนสู่ความสงบอย่างแท้จริง ปรารถนาไม่อยากเห็นชาวบ้าน ชุมชนคนรักเสื้อแดง รวมทั้งประชาชนผู้ไม่เกี่ยวข้องใดๆ ด้วยเลย ต้องประสบปัญหาสุ่มเสี่ยงต่อการบาดเจ็บและเสียคนที่ตนเองรัก นปช.สามารถแก้ปัญหาดังกล่าวได้ด้วยตนเอง โดยไม่ต้องพึ่งพาร้องเรียกยูเอ็นที่ตัวเองนั่นแหละเคยพูดจาใหญ่โตข่มท่านว่า "ยูเอ็นไม่ใช่พ่อ" เมื่อคราวเป็นรัฐบาลปกครองประเทศ ยื่นมือเข้ามาช่วยเหลือ หรือหวังว่าจะเป็นหนทางให้ตัวเองรอดชีวิตท่ามกลางการปฏิบัติการเอาจริงของรัฐแต่อย่างใด
     ขอยืนยันว่า การเรียกยูเอ็นเข้ามาช่วยของ นปช. มีแต่เสียกับเสีย เสียแรก คือ กิจการภายในประเทศควรแล้วหรือที่จะให้คนนอกเข้ามาบริหารจัดการ เหมือนเอาประเทศของตัวเองใส่พานไปให้คนอื่นฉันใดฉันนั้น เสียประการที่สอง คือ เป็นการตอกย้ำว่า นปช.ทำได้ทุกอย่างเพื่อเอาตัวรอด  ใช้โล่มนุษย์ป้องกันตัวเองยังไม่พอ เมื่อจวนตัวก็คว้าหาคนช่วย โดยไม่สนใจเลยว่า เคยเป็นคนที่ตัวเองก่นด่าอย่างสาดเสียมาแล้ว..เหี้ย..ม.ม้าวิ่งตามไม่ทันแท้ๆ.

http://www.thaipost.net/news/170510/22279


หัวข้อ: Re: [2513]"ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: เหยง 16 ที่ 17 พฤษภาคม 2553, 08:37:22
คอลัมม์ "คนปลายซอย" ของคุณเปลว สีเงิน กล่าวถึงการปฏิบัติหน้าที่ของทหารในรอบ 3 วันที่ผ่านมา

คอลัมม์ที่ทุกคนอยากอ่านมากที่สุด ในขณะนี้


เมื่อ "เสือแห่งกองทัพ" ขยับกรงเล็บ
เปลว สีเงิน 17 พฤษภาคม 2553 - 00:00

      พี่น้อง-ประชาชนครับ ท่านจะทุกข์ จะหวาดกลัว จะท้อแท้-สิ้นหวัง ในภาวะคล้าย "บ้านแตก-สาแหรกขาด" นี้ก็ตามเถิด แต่ขอให้ "มีสติ" ในการติดตามสถานการณ์บ้านเมือง  และขอให้มั่นใจว่า พวกเรา-คนไทยทุกคนจะต้องก้าวผ่าน "มิคสัญญี" ร้ายแรงในรอบ ๒๒๘ ปีแห่ง "กรุงรัตนโกสินทร์" นี้ร่วมกันไปได้แน่นอน
      ถึงแม้ ณ กาลนี้ ยอดปราสาทราชวัง และวัดพระแก้วมรกต "ศูนย์รวมใจ" ของไทยเรา จะหม่นเศร้าอยู่ในม่านหมอกแห่งควันดำที่คลุ้มคลุมเมืองไปบ้าง นั่นก็ขอให้เข้าใจเถิดว่า ก่อนฟ้าเปิด "สู่อนาคตใหม่" ที่สดใสของไทยเรา วิบากกรรมที่เราทุกคนร่วมสร้างกันไว้ ณ กาลนี้...เราทั้งหลาย ได้ชดใช้แล้ว!
      เราจะรับอนาคตใหม่ ก็ต้องจ่ายให้อดีดผ่านปัจจุบันนี้ไปบ้างเป็นธรรมดา อย่าเอาแต่โทษใคร อย่าทุกข์ทนหม่นเศร้ากันไปเลย ตู่เอ๋ย ณัฐวุฒิเอ๋ย และทุกคนในแกนนำ นปช.ไม่มีใครผิด-ใครถูกหรอก เพียงแต่สิ่งที่ทำนั้น ฝืนมติฟ้า-ดิน หยามหมิ่นแผ่นดินบรรพบุรุษสร้าง และสวนทางใจแห่งมหาประชาชนไทย ยังไม่สาย "ยืดได้-หดได้" คือลูกผู้ชายแท้! ดันทุรัง คือตาย กลับใจมาร่วมกันแผ้วถางสร้างทางใหม่ให้กับพี่น้องประชาชนคนไทย ตามครรลอง ถูกต้องวิถีไทยเถิด เป็นความเมตตายิ่งใหญ่ของธรรมชาติยิ่งนัก นอกจากมอบ "ประสาทจำ" ให้มนุษย์แล้ว ยังมอบ "ประสาทลืม" มาด้วย ฉะนั้น ตู่-เต้น-เหวง-กี้-แรมโบ้ เอ๋ย...ใช้ "ประสาทลืม" ให้เป็นประโยชน์เถิด อย่าเกี่ยงงอน-ตั้งแง่ รีบหันหน้ามาสนทนาภาษาสันติสุขกับทางการเขา!
      ผมคำนวณลิขิตฟ้าแล้ว นับจากนี้ กองทัพที่คล้ายนิทรามากว่า ๗ เดือน ค่อยๆ พลิกฟื้นคืนสติและมีพลังสร้างสรรค์ยิ่งใหญ่แล้ว ยิ่งเลยผ่านวันพฤหัสบดีที่ ๒๗ พฤษภาไป ผมจะบอกให้ ไม่ว่าสีไหน-หน้าไหน ถ้าใครยังทำเปรอะเลอะเทอะประเทศชาติ-สถาบัน ทหาร-คือกองทัพจะไม่ปล่อยไว้ และจะไม่มีใครจะต้านได้ด้วย ไม่ว่าแดง หรือดำ หรือเขียว หรือเหลือง หน้าไหนทั้งนั้น!
      ขอให้ท่านทั้งหลายมั่นใจ จากวันจันทร์นี้เป็นต้นไป โจรเมืองที่ตกเข้าไปอยู่ในบ้านของรัฐบาล และ ศอฉ.ซึ่งมีความชอบธรรมในการใช้อำนาจ เรียกว่าเสาร์เข้าบ้านพุธที่ราศีกันย์ และเล็งพฤหัสดาวแห่งคุณธรรมในบ้านของเขาที่ราศีมีน พฤหัสโยงถึงอาทิตย์ อาทิตย์โยงถึงเสาร์ เสาร์โยงถึงราหูในบ้านพฤหัส และราหูโยงถึงพฤหัสที่กลับถึงบ้านแล้วเป็นรูป ๔ เหลี่ยมเช่นนี้
 งานนี้รัฐบาลมีชัย โจรร้าย...ตายหยั่งเขียด แอ๊บ..แอ๊บ!
      แต่จบจลาจลคราวนี้แค่ "จบชั่วคราว" ไปปลายมิถุนา จนถึงปลายกรกฎา ผมคิดว่าทั้งรัฐบาล โดยนายกฯ อภิสิทธิ์ และทั้งทหารคือกองทัพทั้ง ๔ อาจมีการเสียสละบนความคิดสร้างสรรค์ร่วมกันผ่าน "รูปแบบใหม่" ที่ดีกว่า หนีจากคำว่า "รัฐประหาร" เพื่อให้บ้านเมืองเดินหน้าสู่มิติใหม่โดยไม่ต้องไปคว่ำพานรัฐธรรมนูญ รัฐธรรมนูญ ปรัชญา คือ มีเพื่อรับใช้สังคมชาติ ไม่ใช่เอาสังคมชาติไปรับใช้รัฐธรรมนูญ ตรงนี้-มันคืออะไร เอาไว้ผ่านมิคสัญญีไป ค่อยคุยกันตอนนั้นก็ยังไม่สาย!?
      จากดวงเมืองกับดาวจรปัจจุบัน ผมเพิ่งเห็นรัฐบาล-ทหาร ผ่าน ศอฉ.เดินแต้มได้สอดคล้องกับวิถีดาวใน ๒-๓ วันนี้เอง นั่นคือ ปากเป็นเอก-เลขเป็นโท-วิชาเป็นตรี ก็ขอชมว่า ถูกต้องและเหมาะสมดีแล้วที่ ศอฉ.จัดให้ แม่ทัพ-นายกอง ที่ปฏิบัติงานทั้งหลาย เวียนกันออกมาชี้แถลงข่าวสารผ่านจอโทรทัศน์ตามกาลอันควรต่อเนื่อง-ทุกวัน "สื่อสาร-การข่าวครองโลก" รััฐบาล-ทหาร ตีประเด็นตรงนี้เข้าใจ ทุกอย่างก็...สบายไม่ต้องใส่ห่วง! จากที่เคยทำให้เข้าใจว่า ทั้งโลกนี้มีแค่ ๒ คน คือ พ.อ.สรรเสริญ แก้วกำเนิด กับ ดร.ปณิธาน วัฒนายากร โดดเดี่ยว-โด่เด่ หน้าจอมาเป็นแรมเดือน แต่บัดนี้ ประชาชนที่ว้าเหว่ และว้าวุ่น เหมือนลอยคอในทะเลหาที่เกาะไม่ได้ แต่เมื่อมีนายกฯ บ้าง มีแม่ทัพ-นายกอง เสนาธิการ สะพรึ่บทั้ง ๔ เหล่าทัพ "ดาราคับจอ" ออกมาเล่าแจ้งแถลงไข ให้เห็นหน้าวันละ ๒-๓ เวลา ตาที่ค้างของประชาชนค่อยหรี่หลับไปกับหมอน...นอนสบาย!
      มีประเด็นหนึ่งที่บางท่านอาจสงสัย และไม่แน่ใจ คือโลกทุกวันนี้คล้าย "รวมศูนย์" เรื่องในบ้านเราแท้ๆ ก็พยายามดึง "คนนอกบ้าน" ให้เข้ามาจุ้นจ้านเหมือนบ้านเมืองเสียเอกราช อย่างพวกกบฏแผ่นดินใกล้ตาย จตุพรก็แหกปากโวยวายให้ UN เข้ามาบ้าง จะไปฟ้องศาลโลกว่ารัฐบาลฆ่ากองโจรกบฏแผ่นดินอย่างพวกเขาบ้าง ผมจะบอกให้เข้าใจ "ไม่ต้องไปสน" เพราะการปราบกบฏของ ศอฉ.ขณะนี้ ชอบธรรม และถูกต้องตามขั้นตอนกฎหมายทุกอย่าง จะพูดว่า ได้รับความเห็นชอบจาก "ศาลสถิตยุติธรรม" แล้วก็ย่อมได้ ฉะนั้น ยูเอ็น หรือองค์กรไหน ไปไกลๆ เลย! คืออย่างนี้ครับ นายจตุพร พรหมพันธุ์ แกนนำ นปช.นั่นแหละให้ทนายไปร้องต่อศาลแพ่งขอคุ้มครองชั่วคราว และขอให้ศาลมีคำสั่งไม่ให้เจ้าหน้าที่รัฐเข้าสลายการชุมนุมโดยใช้อาวุธสงคราม และห้ามไม่ให้มีการปิดกั้น หรือขัดขวาง ไม่ให้รถขนอาหารและน้ำดื่มเข้าไปบริเวณพื้นที่การชุมนุม บริเวณแยกราชประสงค์
      แล้วเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมานี้ คือศุกร์ที่ ๑๔ พ.ค.ตอน ๕ โมงเย็น ท่านศาลพิจารณาคำร้องแล้วก็มีคำสั่งออกมาดังนี้.....
      ศาลพิเคราะห์แล้วเห็นว่า การที่นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี และนายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรีฝ่ายความมั่นคง ในฐานะผู้อำนวยการแก้ไขสถานการณ์ฉุกเฉิน (ศอฉ.) จำเลยที่ ๑-๒ ได้กำกับควบคุมสั่งการให้ พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา หัวหน้าผู้รับผิดชอบในการแก้ไขสถานการณ์ฉุกเฉิน มีประกาศศูนย์อำนวยการแก้ไขสถานการณ์ฉุกเฉิน เรื่องห้ามการใช้เส้นทางคมนาคมหรือการใช้ยานพาหนะ ฉบับลงวันที่ ๑๓ พ.ค.๕๓ และต่อมามีปฏิบัติการตามประกาศฉบับดังกล่าว เพื่อสกัดกั้นมิให้ประชาชนที่อยู่นอกพื้นที่การชุมนุมทั้งในกรุงเทพฯ และต่างจังหวัด เข้ามาสมทบกับกลุ่มผู้ชุมนุมเดิมบริเวณสี่แยกราชประสงค์นั้น เป็นมาตรการหนึ่งในการสลายการชุมนุมเพื่อให้เกิดความสงบสุขในบ้านเมือง ไม่กระทบต่อความมั่นคงของรัฐ และไม่ส่งผลเสียหายต่อระบบเศรษฐกิจของประเทศ อันเป็นอำนาจของฝ่ายบริหารที่จำเป็นต้องดำเนินการ แม้ปฏิบัติการดังกล่าวจะทำให้ผู้ชุมนุมได้รับความกระทบกระเทือนต่อความเป็นอยู่ตามคำร้อง ก็อยู่ในมาตรการการรักษาความสงบเรียบร้อยประการหนึ่ง ซึ่ง เป็นอำนาจของฝ่ายบริหาร ศาลจึงมิอาจก้าวล่วงไปพิจารณา หรือทบทวนการใช้ดุลพินิจของฝ่ายบริหารนั้นได้
      ส่วนที่โจทก์ขอให้จำเลยทั้งสองมีคำสั่งห้ามเจ้าหน้าที่ใช้อาวุธสงครามต่อประชาชนผู้เข้าร่วมชุมนุมนั้น เห็นว่าข้อเท็จจริงได้ความจากนายคารม พลทะกลาง ทนายความโจทก์ว่า เหตุการณ์ใช้อาวุธต่อบุคคลที่ระบุในคำร้องไม่อาจยืนยันได้ว่าเป็นการกระทำของฝ่ายใด ประกอบกับการที่เจ้าหน้าที่ดำเนินการสลายการชุมนุมเพื่อให้เกิดความสงบสุขในบ้านเมืองโดยมีอาวุธติดตัว ซึ่ง หากมีความจำเป็นก็สามารถนำมาใช้ เพื่อระงับยับยั้งได้ตามสถานการณ์หรือเหตุการณ์เฉพาะหน้า หรือป้องกันตนเองได้ อันเป็นไปตามหลักสากล กรณียังไม่มีเหตุผลอันสมควรและเพียงพอที่จะนำวิธีการคุ้มครองชั่วคราวก่อนพิพากษาตามที่โจทก์ขอมาใช้บังคับได้ จึงมีคำสั่งให้ยกคำร้อง

      ครับ..ก็ชัดเจนว่า สิ่งที่รัฐบาล-ทหาร-ตำรวจ ในนาม ศอฉ.ทำอยู่ขณะนี้ เป็นไปตาม ๗ ขั้นตอนสากล "เบาไปหาหนัก" ถูกต้อง ไม่มีอะไรที่ผิดกฎหมาย หรือเป็นอย่างที่พวกกบฏและพรรคการเมืองแก๊งกบฏพยายามแหกปากตะโกนบิดเบือนความจริงให้เห็นเป็นว่า "รัฐบาลฆ่าประชาชน"
      เราทั้งหลาย ในฐานะสุจริตชนพลเมือง ถ้าไม่ให้กำลังใจรัฐบาล-ทหาร-ตำรวจ ในการทำหน้าที่ก็ไม่เป็นไร แต่อย่าทำตัวเป็นปฏิปักษ์-ขัดขวางเลย เพราะสิ่งที่เขาทำก็เพื่อประโยชน์สุขของบ้านเมือง ถ้าเขาหวังสุขเฉพาะตัวของเขา เพียงอยู่เฉยๆ ไม่ทำอะไร อย่างนั้นเขาจะสุขกว่าออกมาเหนื่อย-หนัก แถมถูกด่าอีกตะหาก!
      เมื่อรัฐบาลและทหารรุก ดูจะรุกดุดันและต่อเนื่อง ก็ดูซี...ตัดท่อน้ำเลี้ยงชนิด "กระชากหน้ากาก" ให้เห็นหน้าเนื้อว่าใคร-เป็นใครจะแจ้งกันไปเลย ทั้งบริษัท-ห้างร้าน และบุคคลกว่าร้อยรายที่ถูกห้ามทำ "ธุรกรรมทางการเงิน" แบบนี้-พูดได้คำเดียวว่า...หน้าไหนยังซ่าต่อ ชาติ-ศาสนา-พระมหากษัตริย์ อยากลองของก็...เรียงหน้าเข้ามาเลย !!!
      ปฏิบัติการนี้ "เคลียร์-คัท" กว่า ๑๙ กันยา ๔๙ เป็นไหนๆ.

http://www.thaipost.net/news/170510/22290


หัวข้อ: Re: [2513]"ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: เหยง 16 ที่ 17 พฤษภาคม 2553, 08:50:47
คอลัมม์ "่ท่านขุนน้อย" ที่ต้องการ "แรงกดดันทางสังคม" เข้าช่วยสลายการชุมนุม

แรงกดดันทางสังคม
ท่านขุนน้อย 17 พฤษภาคม 2553 - 00:00

       อดทน อดกลั้น กันต่อไปอีกซักพัก...อย่ามัวแต่วูบๆไหวๆ หวิวไป หวิวมา คิดโน่น คิดนี่ แบบพวก นักวิชาการถังสังฆทาน อย่างที่ ป๋าเปลว สีเงิน ท่านให้คำจำกัดความเอาไว้ เพราะมีแต่ความหนักแน่น การแสดงออกถึงความร่วมมือ ร่วมใจ ในการฟื้นฟูกฎ ระเบียบ ของสังคมให้หวนคืนกลับมาเท่านั้น ที่จะเหลือเป็นทางออกของประเทศไทย ไม่ว่าในช่วงระยะปัจจุบัน หรือ ในอนาคตข้างหน้า ก็แล้วแต่...
                                                                        ------------------------------------------
      ปฏิบัติการกระชับวงล้อม หรือปฏิบัติการปิดล้อมของรัฐบาล และเจ้าหน้าที่ความมั่นคง ในช่วงวันสองวันที่ผ่านมานี้ ถือได้ว่าเป็นปฏิบัติการที่แสดงออกถึง เมตตาธรรม อย่างถึงที่สุดแล้ว ในการจัดการกับนักเคลื่อนไหวมวลชน ที่จับเอามวลชนของตัวเอง ไม่เว้นแม้แต่เด็ก สตรี คนชรา เอาไว้เป็นตัวประกัน ตลอดไปจนถึงกลุ่มกบฏ หรือพวกผู้ก่อการร้าย ที่จับเอานักเคลื่อนไหวมวลชนไว้เป็นตัวประกันกันอีกทอดหนึ่ง ท่ามกลางความเหี้ยมโหด อำมหิต ของกลุ่มคนทั้งสอง ซึ่งได้แสดงออกให้เห็นอย่างชัดเจน ไม่ว่าใครก็ใคร...ต่างก็ยอมรับไม่ได้ด้วยกันทั้งสิ้น ถ้าหากเป็นบ้านอื่น เมืองอื่น แม้กระทั่งบ้านเมืองที่เป็นประชาธิปไตยแบบสุดๆ ก็เถอะ การกระทำเหล่านี้...ย่อมต้องได้รับผลตอบแทนจากสังคมทั้งสังคม ชนิดแหลกราญ ยับเยิน ไม่เป็นชิ้นดีไปนานแล้ว...
                                                                       -----------------------------------------
      ส่วนสังคมไทยของเรา...แม้นว่าในช่วงระยะหลังๆ การแยกแยะ ถูก-ผิด การแยกแยะ ความดี-ความชั่ว ออกจากกัน อาจจะออกไปในทางสับสน มั่วๆ มึนซ์ซ์ๆ อันเนื่องมาจาก นักวิชาการถังสังฆทาน ในบ้านเรา ค่อนข้างจะมีอยู่เยอะแยะเป็นพิเศษ หรือจะด้วยเหตุผลกลใดก็แล้วแต่ แต่เมื่อมาถึงขั้นนี้แล้ว...ไม่ว่าโดยข้อเท็จจริงในเชิงประจักษ์ ความจริงในเชิงอนุมาน อรรถาปัตติ หรือ อนุปลัพธิ ฯลฯ ก็ตาม มันล้วนแต่ได้พิสูจน์ ยืนยัน ให้เห็นอย่างชัดเจนแล้วว่าใครกันแน่??? ที่ยืนอยู่กับ ผลประโยชน์ส่วนตัว อันมี ตัวกู-ของกู เป็นที่ตั้ง และใครกันแน่??? ที่ยืนอยู่บน ผลประโยชน์ส่วนรวม อันมีความสงบเรียบร้อยของบ้านเมืองเป็นสำคัญ ถ้าหากเราไม่เอาหัวทั้งหัว อันประกอบไปด้วยกะโหลก ที่เป็นเครื่องห่อหุ้มมันสมอง มุดลงไปในชักโครกก่อนที่จะคิด อ่าน ประการใดแล้ว...เราก็น่าจะตัดสินใจได้ไม่ยากว่า...ใครถูก-ใครผิด ใครดี-ใครชั่ว ภายใต้สถานการณ์ซึ่งกำลังดำเนินอยู่ในทุกวันนี้...
                                                                      --------------------------------------------
      ผู้ซึ่งพร้อมจะนำเอาชีวิตของเด็ก สตรี คนชรา นับเป็นพันๆ หมื่นๆ ชีวิต มาใช้เป็นเงื่อนไข ต่อรอง เพียงเพื่อแลกมากับการที่ รองนายกรัฐมนตรีจะต้องเดินไปพิมพ์นิ้วมือกับตำรวจ ณ โรงพักแห่งไหนต่อแห่งไหน ก็มิอาจทราบได้ หรือเพื่อให้เกิดการยุบสภา ทั้งๆ ที่ก็เคยมีการกำหนดวันเลือกตั้งไปเรียบร้อยแล้ว ไม่ว่าคนเหล่านั้นจะมีฐานะเป็น ส.ส. ที่ชักลากประชาชนของตัวเองมาเสี่ยงกับอันตราย หรือ แกนนำมวลชน ที่พยายามสร้างแฟนคลับของตัวเองขึ้นมาในแต่ละราย นอกจากเป็นผู้ที่แสดงออกถึงความโง่ งมงาย ในระดับสุดแสนจะ  ซิลลี่ เละเทะ เลอะเทอะ ยิ่งกว่าเด็กเล่นขี้แล้ว ยังสะท้อนให้เห็นถึงความเหี้ยมโหด อำมหิต ความเห็นแก่ตัวแบบสุดๆ โดยไม่ได้ตระหนักถึงคุณค่าชีวิตมนุษย์ แม้แต่มนุษย์ผู้ทุ่มเทความรัก ความปรารถนาดี ให้กับตัวเอง หรือ กลุ่มก้อนตัวเองมาโดยตลอด
                                                                 ------------------------------------------------
      ยิ่งเป็นพวกกบฏที่พยายามนำเอา ความโง่ งมงาย เหล่านี้มาใช้ เป็นเปลือกห่อหุ้มปฏิบัติการทางทหารของตัวเอง หรือ นำเอาประชาธิปไตย มาใช้เป็นเปลือกให้กับขบวนการก่อการร้าย จะด้วยความ ร้อนวิชา อันได้รับมาจากตำราทฤษฎีว่าด้วย การก่อการร้ายในเมือง หรือ ด้วยผลประโยชน์เงินๆ ทองๆ ลาภ ยศ สรรเสริญ ใดๆ ก็แล้วแต่ ปฏิบัติการป่วนบ้าน ป่วนเมือง ในช่วงระยะวันสองวันที่ผ่านมานี้ ได้สะท้อนให้เห็นถึงความไม่รู้สึกรู้สาต่อความสูญเสียใดๆ ในระหว่างการปฏิบัติการโจมตีฝ่ายตรงกันข้าม หรือ ระหว่างที่ฝ่ายตรงข้ามตอบโต้ตัวเองเอาเลยแม้แต่น้อย ศพแล้ว ศพเล่า ที่ร่วงผล็อยๆ ลงไป ไม่ว่าจะเป็นศพเจ้าหน้าที่บ้านเมือง ศพของประชาชนผู้ไม่รู้อิโหน่อิเหน่ หรือกระทั่งศพของพวกเดียวกันเอง...กลับมีค่าเป็นเพียงแค่ แรงกดดัน เพื่อให้รัฐบาลต้องยอมหันมาศิโรราบ หันมาประนีประนอมกับข้อต่อรอง อันมี ผลประโยชน์ของคนคนเดียว เป็นศูนย์กลางแต่เพียงเท่านั้น...
                                                                        --------------------------------------------------
      ความอำมหิต โหดเหี้ยม ชั่วช้า อันสุดแสนจะประมาณได้เช่นนี้...ถ้าหากเราไม่กระทำตัวเป็น ม้าลำปาง หรือ ไม่นำเอา แว่นสีแดง ออกมาสวมใส่จนมองไม่เห็นสีอื่นใดในโลกนี้ เราก็น่าจะตอบคำถามต่อ จิตสำนึก ของตัวเราเองได้ไม่ยากว่า...อะไรถูก อะไรผิด อะไรดี อะไรชั่ว กันแน่??? หรือถึงแม้นเราจะพยายามดิ้น พยายามตะแบง จนไม่เหลือสีข้าง ซีกซ้าย ซีกขวา ติดตัวเอาเลยก็ตาม แต่ถ้าหากเรายังเป็น มนุษย์ และยังพอมองเห็นถึง คุณค่าความเป็นมนุษย์ อยู่บ้าง อย่างน้อยเราก็น่าที่จะตัดสินใจได้ไม่ยากว่า...การเคี่ยวเข็ญ ทรมาน ให้มวลชน นับพัน นับหมื่น ต้องกลายมาเป็นเกราะกำบัง เป็นโล่ป้อง หรือ เป็นเปลือกห่อหุ้มปฏิบัติการก่อการร้าย ในสถานการณ์เช่นนี้ ย่อมเป็นสิ่งที่มิอาจพึงรับได้อีกต่อไปโดยเด็ดขาด...
                                                                        -----------------------------------------------
      แรงกดดันทางการทหารด้วยการกระชับวงล้อม หรือ ด้วยการปิดล้อมก็แล้วแต่...มันอาจมีผลอยู่บ้างในบางระดับ แต่ถ้าหากปราศจากเสียซึ่ง แรงกดดันทางสังคม โดยเฉพาะสังคมที่ยังพอหลงเหลือสัญชาตญาณแห่งความเป็นมนุษย์อยู่บ้าง ที่พร้อมจะออกมาปฏิเสธ การนำเอาชีวิตมนุษย์มาใช้เป็นเครื่องมือต่อรองในทางการเมือง พร้อมที่จะปฏิเสธความเหี้ยมโหด อำมหิต ของนักการเมือง หรือ กลุ่มการเมืองใดๆ ก็ตาม ผู้ซึ่งแสดงออกถึงความเห็นแก่ตัวแบบสุดฤทธิ์ สุดเดช...โอกาสที่จะลดจำนวนความสูญเสีย หรือ โอกาสที่จะหาข้อยุติความขัดแย้งอย่างยั่งยืน ถาวร มันคงเป็นไปได้ลำบากเอามากๆ เพราะไม่ว่าสังคมใดๆ ก็ตาม ถ้าหากต้องสูญเสียสัญชาตญาณแห่งความเป็นมนุษย์ สูญเสียมโนธรรมขั้นพื้นฐาน ในการแยกแยะ ความถูก-ผิด ระดับหยาบๆ ง่ายๆ ลงไปแล้ว...รับรองว่าสังคมนั้นมีแต่ต้องปั่นป่วน วุ่นวาย กันไปอีกนาน นานจนกว่าความตาย ความสูญเสีย ของเพื่อนมนุษย์ภายในสังคมเดียวกันเอง จะกลายเป็นสิ่งมีน้ำหนักยิ่งกว่าข้อเรียกร้องทางการเมืองแบบโง่ๆ ทั้งหลาย...
                                                                     ----------------------------------------------------
      ถึงเวลาแล้ว...ที่สังคมทั้งสังคม จะต้องร่วมกันสร้างแรงกดดันอย่างเป็นเอกภาพ เพื่อไม่ให้ประเทศทั้งประเทศ และชีวิตเพื่อนมนุษย์ในสังคมทั้งสังคม ต้องพังพินาศ ยับเยิน เพื่อแลกมากับ ผลประโยชน์ของคนคนเดียว ผู้ซึ่งเป็นที่ประจักษ์แล้วว่า เป็นผู้ที่มีอำนาจในการควบคุม บงการ บีบบังคับให้แกนนำมวลชนเท่าที่เหลือ ตลอดไปจนถึงกองกำลังก่อการร้าย แสดงอาการดื้อดึง ยื้อยุด ฉุดกระชาก สถานการณ์ให้จ่อมจมอยู่กับความเลวร้ายหนักยิ่งขึ้นเรื่อยๆ อย่ามัวแต่หงุดหงิด งุ่นง่าน จนหันไปกล่าวโทษรัฐบาล หรือ เจ้าหน้าที่บ้านเมือง ผู้พยายามปกป้อง กฎ ระเบียบ ภายในสังคม หรือพยายาม ทำหน้าที่ ของตัวเองแล้วอย่างดีที่สุดเท่าที่จะทำได้ การนำเอาสัญชาตญาณพื้นฐานของความเป็นมนุษย์ มาใช้ในการแยกแยะ ความถูก-ผิด นำมาใช้เป็นแรงกดดันทางสังคม เพื่อให้กลุ่มผู้ชุมนุมและขบวนการก่อการร้าย ยุติปฏิบัติการลงไปได้นั่นเอง ที่จะนำมาซึ่ง ความสงบเรียบร้อยในบ้านเมืองอย่างยั่งยืนและถาวร หรือทำให้ ความขัดแย้ง ทั้งหลาย กลายเป็นเพียงแค่ ความแตกต่าง อันไม่จำเป็นจะต้องนำเอา เลือดเนื้อ ชีวิต ของเพื่อนมนุษย์ไปใช้เป็นเครื่องเซ่นสังเวย เพื่อผลประโยชน์ทางการเมืองของใครต่อใครต่อไปอีก...
                                                                     -----------------------------------------------------
      ปิดท้ายด้วยวาทะวันนี้ จาก เล่าจื๊อ... ความยินดีในชัยชนะ...ก็คือ...การยินดีในฆาตกรรม
                                                                      ------------------------------------------------------

http://www.thaipost.net/news/170510/22281


หัวข้อ: Re: [2513]"ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: เหยง 16 ที่ 17 พฤษภาคม 2553, 08:58:18
คอลัมม์ "ถูกทุกข้อ" ของคุณสามวา สองศอก เพื่อตอบจดหมาย ศ.ระพี สาคริก

ทนไม่ไหวแล้ว
ถูกทุกข้อ 17 พฤษภาคม 2553 - 00:00

         รัฐบาล          มัวแต่           คิดการุณย์
     คุณสันติ          คุณละมุน         คุณละม่อม
     จนวันนี้          หลายคน         ต้องจำยอม
     ให้พวกนาย       ละม่อม          มันยึดเมือง
     รัฐบาล          ทำไม           ใจไม่กล้า
     มัวแต่ทำ         ชักช้า           เหมือนแมวเชื่อง
     ปล่อยไพร่แดง     ท้าทาย          อยู่เนืองเนือง
     จนพวกมัน        รุ่งเรือง         ทั่วแผ่นดิน
     ประชาชน        ล้มตาย          ไปหลายศพ
     รัฐบาล          ไม่สยบ          พวกใจหิน
     ปล่อยพวกมัน      บิดเบือน         เป็นอาจิณ
     มันบ้าบิ่น         โหดร้าย         ไม่ปราณี
     พอกันที          นายละมุน        นายละม่อม
     รัฐบาล          อย่ายอม         เสียศักดิ์ศรี
     รีบจัดการ        กบฏแดง         ในทันที
     ประชาชี         ทนไม่ไหว        กันแล้วโว้ย
                                             ลุงพร ณ บ้านโคกอีแร้ง

                 มีเหตุนั้นจึงมีเหตุนี้
เรียน คุณสามวา สองศอกที่เคารพ
     เมื่อวานซืนนี้ผมได้เขียนจดหมายถึงคุณแล้วครั้งหนึ่ง วันนี้ขออนุญาตเขียนมาถึงอีกฉบับหนึ่ง
ทั้งนี้เพราะเหตุว่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในบ้านเมืองของเรานั้น บางทีเราก็ยังมองออกจากตัวเองด้านเดียว คิดว่าเมื่อไหร่มันจะจบ
     ถ้าใช้หลักธรรมพิสูจน์ก็คงเห็นความจริงได้ว่า "เพราะมีเหตุนั้นจึงมีเหตุนี้"
     ผมเคยพูดย้ำแล้วย้ำอีกว่า "เพราะเหตุที่เกิดขึ้นมันหมักหมมมานานมาก ดังนั้นจะให้มันจบสิ้นโดยเร็วคงเป็นไปได้ยาก"
     เพราะคนที่ขึ้นไปอยู่ด้านบน หลงอยู่กับความสบายทางวัตถุ ทำให้ตกอยู่ในความประมาทจึง
ไม่ยอมลงมาสู่ด้านล่าง เพื่อสร้างความรักความเห็นใจ ให้มันลงรากฝังลึกอยู่ในพื้นฐานของเราเอง หรืออีกนัยหนึ่งอาจกล่าวว่า "เราทำกรรมไว้ก็ต้องชดใช้กรรมนั้น"
     ผมเคยพูดแล้วว่าองค์พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวของเรา ทั้งๆ ที่ท่านอยู่สูงสุดพระองค์ท่านยังลงทรงงานอยู่ที่พื้นดินร่วมกับชาวบ้านซึ่งส่วนใหญ่เป็นเกษตรกรตาดำๆ ให้เห็นประจักษ์ชัดมาตลอด แล้วเราล่ะดีแต่พูดด้วยปาก หากไม่ลงมาทำจากความจริงที่อยู่ในใจตนเอง
     ประชาธิปไตยคือรากฐานจิตใจที่อิสระ อิสรภาพไม่ใช่มองสู่ด้านนอก แต่ควรหวนกลับมามอง
ที่รากฐานจิตใจเราเอง ที่ปราศจากการยึดติดอยู่กับรูปวัตถุในระดับหนึ่ง เมื่อไม่ยึดติดก็ย่อมมีความ
สุข นี่คือความหมายของประชาธิปไตย ที่มีรากฐานเป็นของตนเอง
     ผมเริ่มทำมาตั้งแต่เด็กจนกระทั่งแก่ก็ยังทำ เพราะรู้ว่าทำแล้วมีความสุข ไม่ใช่พูดแต่ปากหากทำจริงจนกระทั่งเชื่อมโยงความรักจากพื้นแผ่นดินไทยไปถึงเพื่อนมนุษย์จนแทบจะทั่วโลก
     ดังนั้นเรื่องนี้เราจะมองแบบล้อมกรอบตัวเองอยู่แต่เพียงประเทศไทยไม่ได้ หากจิตใต้สำนึกความรักแผ่นดินควรจะมองให้ถึงสากลโลก แม้แต่ชาวต่างประเทศหลายชาติหลายภาษา ก็ยังให้ความเคารพรักแก่ผม
     แต่คนไทยกลับมองเห็นหน้าผมแค่กล้วยไม้ ซึ่งมันตื้นเขินมากเกินไป คนเหล่านี้ส่วนใหญ่ไม่รู้จักตัวเองจึงมองได้ไม่ถึง ผมต้องขอกราบอภัยที่พูดตามตรง
     หวนกลับไปนึกถึงอดีต ผมยังจำได้ว่าระหว่างช่วง 70 กว่าปีมาแล้ว ซึ่งขณะนั้นผมยังเป็นเด็กอายุไม่ถึง 10 ขวบ มองเห็นฝรั่งเดินควงคู่กันสองคน เราก็รู้สึกว่าเป็นมนุษย์ประหลาด เพราะรูปร่างหน้าตาและผิวพรรณ รวมทั้งภาษาพูดก็ไม่เหมือนเรา ผมและเพื่อนๆ อีก 2-3 คนจึงวิ่งตามดู ได้ยินเสียงพูดตามประสาเด็ก ทำให้รู้สึกว่าเป็นสำเนียง "ฟุต ฟิต ฟอ ไฟ" นี่แหละคือที่มาของคำนี้ซึ่งผมจำได้ดี
     ครั้นมาถึงช่วงนี้ผมอดไม่ได้ ที่จะหวนกลับมาถามตัวเองว่า "ประเทศนี้เมืองนี้มันเป็นของใครกันแน่ แถมยังมีสิทธิ์มาจดทะเบียนเป็นเจ้าของที่ดิน ถ้าแต่งงานกับผู้หญิงไทย"
     นี่แหละที่มันเกิดเรื่อง ยิ่งรากฐานจิตใจคนไทยมันอ่อนนุ่ม ขณะนี้ยิ่งกว่ามะเขือเผาเสียอีก เห็นเงินตาโต มีรถยนต์รูปแบบใหม่ๆ ก็ไปแย่งกันซื้อ โดยไม่ได้คิดว่ามันถึงเวลาหรือยัง
     นอกจากนั้นคำโบราณได้บอกไว้ว่า "เงินเข้าที่ไหน วัตถุเข้าที่ไหน ย่อมทำให้สังคมแตกแยกความสามัคคีที่นั่น เพราะคนหลงอยู่กับความสบายทำให้ลืมตัว โดยไม่รู้จักคำว่าพอเพียง สังคมย่อมเกิดความแตกแยกจนแทบไม่เป็นชิ้นดี แต่ตัวผมเองก็ยังมั่นคงเข้มแข็งอยู่เหมือนเดิม"
     "เพราะจิตใจเข้มแข็ง ร่างกายก็ย่อมแข็งแรงเป็นธรรมดา อันเป็นสัจธรรมของชีวิตมนุษย์ทุกคน"
     ผมไม่อยากจะคิดว่า "ปลาใหญ่กินปลาเล็กเสมอไป" ดูแต่ประเทศเล็กๆ หลายๆ ประเทศ ถูกประเทศใหญ่ๆ เอาไปเป็นเหยื่อเศรษฐกิจทรัพยากรก็หมด โดยเฉพาะอย่างยิ่งจิตใจตนก็หมด ความแปลกแยกก็เกิดขึ้นแทบทุกหนทุกแห่ง  แต่หลักธรรมชาติก็ได้ชี้ไว้ว่า "ทุกอย่างย่อมมีข้อยกเว้น แม้เพียงหนึ่งเดียว"
     ซึ่งสิ่งนี้ก็มีให้เห็นเป็นตัวอย่างกันมาแล้ว แต่จิตใจคนไทยส่วนใหญ่ก็ยังคิดได้ไม่ถึง เมื่อคิดไม่ได้ก็ย่อมทำไม่ได้แต่ก็ไม่เสมอไป ดูแต่ญี่ปุ่นซึ่งเป็นประเทศเล็กๆ แพ้สงครามโลกครั้งเดียว เขายังฟื้นตัวได้เร็วมาก แม้ถูกปิดกั้นด้วยกำลังอาวุธ แทนที่จะซ้ำร้ายกลับกลายเป็นซ้ำดี
     หลักธรรมได้ชี้ไว้ว่า "เพราะไม่มีเหตุนี้จึงมีเหตุนั้น" เพราะถูกปิดกั้นกำลังอาวุธ เขาจึงหาทางออกด้วยเศรษฐกิจ
     วิญญาณคนญี่ปุ่นเข้มแข็งมาก ดังจะเห็นว่าคนส่วนใหญ่มีศิลปะ "เมื่อถูกปิดด้านนี้ก็หาทางออกด้านโน้น"
     ในหลวงพระองค์นี้ท่านได้ทรงรับสั่งเตือนผมว่า "งานศิลปะอย่าทิ้งนะ" ถ้าผมจะบอกว่าการศึกษาของเรา "เรียนศาสตร์ทุกสาขาไม่ได้ใช้ศิลปะเป็นพื้นฐาน" จิตใจจึงแข็งกร้าว เมื่อแข็งกร้าวเกิดปัญหานิดเดียวก็ฆ่ากันได้ แทนที่จะอ่อนน้อมถ่อมตนเข้าหากันและพูดจากันได้โดยดี "คนญี่ปุ่นมีรากฐานจิตใจที่อิสระเสรี เมื่อมีจิตใจอิสระก็ย่อมมีความอดทนสูง"
     นี่แหละครับคือที่มาที่ไปของเหตุที่มันเกิดขึ้น ไม่ใช่ในครั้งนี้เท่านั้นแต่สิ่งที่เป็นมาแล้วผมอยากกล่าวว่า "มันเกิดครั้งแล้วครั้งเล่า แต่มันก็ยังไม่ทำให้เราเข้าถึงจุด ที่ควรจะจดจำจากใจจริง"
     ผมจึงกล่าวเตือนสติเพื่อนไทยทุกคนว่า "ระวัง! แม้ครั้งนี้จะจบสิ้นลงไม่ว่าจะยาวนานแค่ไหน วันหนึ่งข้างหน้ามันอาจเกิดขึ้นอีก และหนักยิ่งกว่าเก่าก็เป็นได้" ถ้าคนไทยยังหลงอยู่กับความสบายแบบนี้
     "ในน้ำมีปลาในนามีข้าว" คือคำเตือนให้เราได้สติ มีของดีก็ควรรักษาเอาไว้ให้ดีที่สุด แต่ตรงกันข้ามกลายเป็นความประมาท โดยที่คิดว่า "ข้าวปลาอาหารมีถมเถไป เราดีกว่าคนชาติอื่นจะใช้เท่าไหร่มันก็ไม่หมด มาถึงบัดนี้มันหมดแล้วหรือยัง นอกจากนั้นหมดไปโดยไม่เหลือหลอ แถมยังเป็นหนี้เป็นสิ้นเขาอีก" นี่แหละครับคือความจริงที่เราปฏิเสธไม่ได้
     พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ท่านก็ทรงใช้หลักธรรม "เตือนให้เรารู้จักพอเพียง" เตือนสติพสกนิกรด้วยความเมตตาปราณี แต่บัดนี้เราก็ดีแต่อ้างด้วยปาก แต่น้อยคนที่จะปฏิบัติได้จากใจจริงของตัวเอง     
     ท่านอาจารย์พุทธทาสภิกขุ ก็ได้เสนอความคิดอย่างง่ายๆ ว่า "สิ่งใดที่มันเกิดปัญหากลับทิศทางเสียได้ มันก็จะแก้ปัญหาได้ด้วยตัวของมันเอง"
     คนไทยส่วนใหญ่ปากก็บอกว่าเป็นชาวพุทธ "พุทธธรรมไม่ใช่พุทธศาสนา ทุกศาสนาก็คือพุทธ" พุทธแปลว่าความจริง ทุกศาสนาคือความจริงทั้งนั้น
     โปรดสังเกตดูให้ดีว่า "ทุกศาสนายกความสำคัญที่มุ่งนำเราลงสู่พื้นดิน ดังนั้นพื้นดินคือความจริง"
     "ตราบใดที่เราแต่ละคนมีจิตใต้สำนึก ที่หยั่งรู้ความจริงได้ว่าทุกคนเกิดมาก็มาจากพื้นดิน ตายไปก็ลงสู่พื้นดิน" เหตุไฉนระหว่างมีชีวิตอยู่ขาดวิญญาณความรักพื้นดิน กลายเป็นรังเกียจพื้นดินได้ยังไง
     โปรดอย่าคิดว่าคนชาติอื่นเขาเอาวัตถุมาครอบงำเรา ถ้าเรารู้ว่าสัจธรรมของการดำเนินชีวิต มีอยู่ว่า "ร้ายกลายเป็นดี" จึงควรรู้ว่า "ยิ่งเขาเอาวัตถุมาครอบงำ ก็ควรจะยิ่งทำให้รากฐานจิตใจเราเองเข้มแข็งยิ่งขึ้น"
     นั่นหมายความถึงการดำรงชีวิตอยู่ได้อย่างไม่ประมาท เมื่อไม่ประมาทหลังจากพบปัญหา ก็ควรต่อสู้กับใจตนเองให้ได้ นี่คืออาวุธซึ่งทุกคนมีอยู่ในจิตใจของตัวเองแล้ว โปรดอย่ามองข้ามขอให้นำออกมาใช้ประโยชน์ได้ทุกโอกาส
     เพราะความประมาททำให้ขาดสติ เมื่อขาดสติก็ย่อมตกเป็นทาสความสบาย อย่างที่โบราณเขาพูดว่ายอมแพ้กันตั้งแต่ในมุ้งแล้ว
     นี่แหละสิ่งที่ผมพูดมันไม่ใช่ของผม แต่มันเป็นของทุกคนที่มีอยู่แล้ว ภายในจิตใจตนเองมาตั้งแต่เกิด ดังนั้นเมื่อเกิดปัญหาครั้งใด โปรดอย่าแบ่งเป็นฝักเป็นฝ่าย จนกระทั่งทำให้ฆ่ากันตายเองอย่างน่าเศร้าใจที่สุด 
     ถ้าทุกคนปลดเอาเงื่อนไข ที่แบ่งแยกออกจากใจเป็นฝักเป็นฝ่ายให้ได้ หลังจากนั้นจึงคิดทบทวนตัวเองเพื่อค้นหาความจริงภายในรากฐานจิตใจ เราควรจะหันหน้าเข้ามาจับมือและกอดคอกันได้ โดยไม่ต้องเสียเลือดเนื้อใดๆ ทั้งสิ้น ทั้งที่ทุกคนต่างก็เป็นคนเหมือนกัน เรามารักกันสามัคคีกันมิดีกว่าหรือ เพราะจะทำให้บังเกิดความสุขสมปรารถนา
     ด้วยความเคารพรักอย่างยิ่งที่มอบให้กับทุกคน
                                                            ระพี สาคริก

ตอบ อาจารย์ระพี
     มีผู้เสนอแนะว่าควรนำจดหมายและบทความของอาจารย์ระพีมาพิมพ์รวมเป็นเล่ม ไม่ทราบว่าแฟนคอลัมน์ถูกทุกข้อและลูกศิษย์อาจารย์ระพีจะว่ายังไง
                                                        สามวา สองศอก         

 
http://www.thaipost.net/news/170510/22277


หัวข้อ: Re: [2513]"ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: jamsai ที่ 17 พฤษภาคม 2553, 09:07:33
ต้องยอมรับว่า
ดูและฟังคุณพงษ์พัฒน์ พูดในคลิปแล้วก็อด น้ำตาซึมไม่ได้

ช่วยนำไปเผยแพร่กันหน่อยนะคะ ถ้าใครมีโอกาส
ถ้าทำตรงๆไม่ได้ ก็ทำเนียนๆ อย่าง สุรยุทธ ช่อง 3 ก็ได้
สังเกตุให้ดี ถ้าข่าวใหนที่เป็นคุณกับภาครัฐ จะเร็วๆและผ่านๆ
ถ้าข่าวใหนเป็นความเสียหายที่เกิดกับกลุ่มเสื้อแดง
ก็จะนานหน่อยและมี ท่วงทำนองสร้างความรู้สึกด้วย อวจนภาษา แทรกๆมาโน้มนำ
เขาเป็นอย่างนี้มาตลอดล่ะ ลองกลับไปหดูข่าวย้อนหลังมาได้ตั้งแต่มีม้อบเหลือง โน่น

 emo7:(:
เสธ แดงก็ จบจุฬาฯ อะจึ๋ยยยยย
สายพันธ์ สุดาสุธาชโยยยยยยยย เป็นแน่
 emo7:(:


หัวข้อ: Re: [2513]"ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: prapasri AH ที่ 17 พฤษภาคม 2553, 09:14:26
เสธแดง เป็นรุ่นน้องพี่แอ๊ะที่ครุ จุฬา ตายแย้ววววววววววว

ไปเรียนเป็นครูทำไมกัน

หรืออยากมีเลือดจี๋จมพู  อิๆๆๆๆๆ


หัวข้อ: Re: [2513]"ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: อ้อย 14 ที่ 17 พฤษภาคม 2553, 09:40:32
 emo29:P:ขอว๊าย...อีกคน  โอ้ละหนอน้องแดงของพี่อ้อย พี่แอ๊ะ  พอมารู้ว่าเป็นน้องคณะก็จะมาจากไปซะแร้วส์ส์.... emo29:P:


หัวข้อ: Re: [2513]"ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: เหยง 16 ที่ 17 พฤษภาคม 2553, 11:30:14
พฤษภกาสร อีกกุญชรอันปลดปลง

โททนต์เสน่งคง สำคัญหมายในกายมี

นรชาติวางวาย มลายสิ้นทั้งอินทรีย์

สถิตทั่วแต่ชั่วดี ประดับไว้ในโลกา

ความดีก็ปรากฏ กิติยศฤาชา

ความชั่วก็นินทา ทุรยศยินขจร



ซีเอ็นเอ็นตีข่าว 'เสธ.แดง' เสียชีวิตแล้ว

สื่อนอกรายงานการเสียชีวิตอย่างสงบของ 'พล.ต.ขัตติยะ สวัสดิผล' หรือ 'เสธ.แดง' ในวันนี้ หลังถูกกระสุนจากพลซุ่มยิงระยะไกล พุ่งตรงเข้าบริเวณศีรษะ จนได้รับบาดเจ็บสาหัสเมื่อ 4 วันที่ผ่านมา...

สำนักข่าวซีเอ็นเอ็นรายงานเมื่อวันที่ 17 พ.ค. ถึงการเสียชีวิตของพล.ต.ขัตติยะ สวัสดิผล หรือเสธ.แดง ผู้ทรงคุณวุฒิพิเศษกองทัพบก หนึ่งในแกนนำกลุ่มต่อต้านรัฐบาล หรือกลุ่มคนเสื้อแดง หลังเข้ารับการรักษาที่โรงพยาบาลเพราะถูกกระสุนจากพลซุ่มยิงระยะไกล พุ่งตรงเข้าบริเวณศีรษะ เมื่อวันพฤหัสบดีที่ผ่านมา ( 13 พ.ค. )

ข่าวลือการเสียชีวิตของพล.ต.ขัตติยะ  แพร่สะพัดตั้งแต่เมื่อ 4 วันที่ผ่านมา หรือตั้งแต่วันที่ถูกยิง แต่ทีมแพทย์โรงพยาบาลวชิรพยาบาล เพิ่งแถลงอย่างเป็นทางการ ของการจากไปอย่างสงบในวันนี้

http://www.thairath.co.th/content/oversea/83452

อ่านข่าวเพิ่มเติม จากหนะังสือพิมพ์ฉบับอื่นที่...

“เสธ.แดง” ลาโลกแล้ว หลังแพทย์ระดมยื้อเต็มกำลัง 3 วัน 
โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ 17 พฤษภาคม 2553 10:18 น.

http://www.manager.co.th/QOL/ViewNews.aspx?NewsID=9530000067773


หัวข้อ: Re: [2513]"ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: prapasri AH ที่ 17 พฤษภาคม 2553, 21:17:56
ไปดีเถิดเฉ.. ชาติหน้าเลือกเกิดใหม่นะ

คิดผิดคิดใหม่ได้ ใน นรก นะจ๊ะ น้องครุศาสตร์ ของฉัน


หัวข้อ: Re: [2513]"ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: TAE2540 ที่ 18 พฤษภาคม 2553, 00:25:56
สวัสดีครับพี่แอ๊ะ และพี่ๆ ทุกท่าน

ผมมีคำถามมาทายครับ

พี่รู้ไหมครับในเสื้อเกราะของทหารมีอะไร ? (โพสต์คำตอบก่อนนะครับ แล้วค่อยย้อนกลับมาคลิกเฉลย)

 
อ้างถึง   
คลิกเฉลยครับ (http://www.cmadong.com/imageupload/2010_Cmadong-Image/data/image/l2kr2v-8d373a.jpg)

ที่มา : http://twitpic.com/1om5x2


หัวข้อ: Re: [2513]"ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: prapasri AH ที่ 18 พฤษภาคม 2553, 02:33:55
มีน่า ทหารจึงตายน้อย เพราะบารมีท่านคุ้มครอง

พี่แอ๊ะนอนไม่หลับตื่นมาตี2 เพื่อเช็คข่าวค่ะ


หัวข้อ: Re: [2513]"ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: เหยง 16 ที่ 18 พฤษภาคม 2553, 09:09:19
บทบรรณาธิการ นสพ. แนวหน้า ออนไลน์ วันอังคารที่ 18 พฤษภาคม 2553

บทบรรณาธิการ 
 

เสื้อแดงชักศึกเข้าบ้านเอาตัวรอด (บทบรรณาธิการ) 
 
 
      ทั้งๆ ที่ยุคหนึ่งสมัยหนึ่งที่ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ผู้เป็นนายใหญ่ที่บงการอยู่หลังฉากขบวนการคนเสื้อแดงครองอำนาจบริหารประเทศอย่างเบ็ดเสร็จเด็ดขาดเคยประกาศอย่างอหังการว่า "ยูเอ็นไม่ใช่พ่อผม" แต่ขณะนี้เหล่าแกนนำคนเสื้อแดงตลอดจนบรรดาแกนนำพรรคเพื่อไทย กลับร่วมกันออกมาเดินเกมเรียกร้องให้องค์การสหประชาชาติ หรือยูเอ็น ส่งกองกำลังรักษาสันติภาพเข้ามาควบคุมสถานการณ์ในประเทศไทย ทั้งๆ ที่ต้นเหตุแห่งปัญหาทั้งปวงล้วนเกิดจากพ.ต.ท.ทักษิณและขบวนการคนเสื้อแดง

      ขบวนการเสื้อแดงและพรรคเพื่อไทย นอกจากจะเดินเกมชักศึกเข้าบ้านแล้วยังทำลายภาพพจน์ของประเทศด้วยการบิดเบือนร้องเรียนไปยังองค์การสหประชาชาติอ้างว่า รัฐบาลและทหารเข่นฆ่าประชาชนผู้บริสุทธิ์เสียชีวิตและบาดเจ็บจำนวนมากจากเหตุการณ์เผชิญหน้ากันระหว่างกำลังทหารและมวลชนคนเสื้อแดงครั้งล่าสุด ทั้งๆ ที่ฝ่ายเจ้าหน้าที่ทั้งทหารและตำรวจพยายามหลีกเลี่ยงการใช้ความรุนแรงและมีหลักฐานเชื่อได้ว่าผู้เสียชีวิตและบาดเจ็บเกือบทั้งหมด เกิดจากการกระทำของกลุ่มก่อการร้ายที่แฝงตัวอยู่ในขบวนการคนเสื้อแดง

      เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นมีหลักฐานชัดเจนว่า กลุ่มก่อการร้ายได้ปฏิบัติการก่อการร้ายเต็มรูปแบบด้วยการใช้อาวุธสงครามร้ายแรงนานาชนิดทั้งกระสุนระเบิดเอ็ม 79 จรวดระเบิดอาร์พีจี ระเบิดสังหาร ปืนเอ็ม 16 ทำร้ายทั้งฝ่ายเจ้าหน้าที่ ประชาชนทั่วไป สื่อมวลชน หรือแม้แต่มวลชนคนเสื้อแดง พวกเดียวกันเพื่อสร้างสถานการณ์ให้ลุกลามบานปลายกลายเป็นสงครามกลางเมืองแล้วป้ายความผิดให้กับรัฐบาล และใช้เป็นข้ออ้างในการร้องเรียนไปยังองค์กรสหประชาชาติ

      นายกรัฐมนตรีอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ และ ดร.ปณิธาน วัฒนายากร ผู้ทำหน้าที่โฆษกรัฐบาล ให้ทัศนะที่สอดคล้องกันว่า วิกฤตการณ์ที่เกิดขึ้นรัฐบาลสามารถแก้ไขปัญหาของตัวเองได้และในประวัติศาสตร์ชาติไทย ซึ่งผ่านเหตุการณ์รุนแรงมานับครั้งไม่ถ้วนก็ไม่เคยให้องค์การสหประชาชาติเข้ามาแทรกแซงกิจการภายในของไทย และสิ่งที่สหประชาชาติควรกระทำในขณะนี้คือ ร่วมประณามกลุ่มก่อการร้ายที่แฝงตัวในม็อบคนเสื้อแดงซึ่งที่ผ่านมา เป็นต้นเหตุใช้วิธีการอันรุนแรงลอบก่อวินาศกรรมมาตลอด

      วิธีการชักศึกเผาบ้านตัวเองโดยไม่คำนึงถึงภาพหน้าตาของประเทศในลักษณะเช่นนี้ พ.ต.ท.ทักษิณและขบวนการคนเสื้อแดงเคยใช้มาแล้วก่อนหน้านี้ด้วยการสมคบกับสมเด็จฮุนเซ็น นายกรัฐมนตรีกัมพูชา บ่อนทำลายประเทศไทย

      ดังนั้น การที่แกนนำคนเสื้อแดงและพรรคเพื่อไทย ออกมาเรียกร้องให้องค์การสหประชาชาติ ส่งกองกำลังเข้ามาแทรกแซงวิกฤตการณ์ในประเทศไทยจึงเป็นเพียงลูกไม้แบบเดิมๆ และเป็นเกมเอาตัวรอดหลังจากที่กำลังทหารและตำรวจกระชับเข้าปิดล้อมตัดการส่งกำลังบำรุงม็อบคนเสื้อแดงที่ย่านราชประสงค์ อย่างหนักจนม็อบคนเสื้อแดงกำลังใกล้จนตรอกเข้าไปทุกขณะ 
 
วันที่ 18/5/2010
 
http://www.naewna.com/news.asp?ID=211510


หัวข้อ: Re: [2513]"ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: เหยง 16 ที่ 18 พฤษภาคม 2553, 09:14:11
บทบรรณาธิการ นสพ.ไทยโพสต์ วันนี้

ร้องคุณพ่อยูเอ็น ทางเลือกสุดท้ายของทักษิณ
บทบรรณาธิการ 18 พฤษภาคม 2553 - 00:00

      การชุมนุมคนเสื้อแดงเลยเถิดจนได้ข้อสรุปแล้วว่า  ไม่มีอะไรเกี่ยวข้องกับการเรียกร้องเพื่อประชาธิปไตย หรือความยุติธรรมในสังคม แม้ช่วงเริ่มต้นการชุมนุมบางฝ่ายจะหลงมองว่าเป็นเช่นนั้น สุดท้ายการเรียกร้องเพื่อให้ระบอบทักษิณได้อำนาจและทรัพย์สมบัติคืน ได้ประจานตัวเองออกมาว่าเพื่อให้บรรลุวัตถุประสงค์ดังกล่าว คนเสื้อแดงพร้อมที่จะแลกกับความวิบัติของประเทศ
     เงื่อนไขที่นำไปสู่การร้องให้องค์การสหประชาชาติเข้ามาไกล่เกลี่ยความขัดแย้ง เป็นไปได้ว่ามีการเตรียมการมาอย่างเป็นระบบ มีการแบ่งงานกันทำ โดยแต่ละทีมอาจรู้จักหรือไม่รู้จักกัน ที่สำคัญคือแต่ละทีมมีหัวหน้าคนเดียวกันคือ น.ช.ทักษิณ ชินวัตร
     ความรุนแรงที่นำไปสู่การล้มตายของประชาชนเป็นเงื่อนไขที่ถูกสร้างขึ้นมา มีการปล่อยให้เกิดด้วยความตั้งใจ มีความพยายามในการเพิ่มจำนวนศพให้มากขึ้นเรื่อยๆ เพื่อให้ดูเสมือนว่าเป็นการฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ เหมือนที่เคยเกิดในรวันดา หรือโซมาลีในอดีต
     เมื่อตรวจสอบการปะทะที่เกิดขึ้นระหว่างคนเสื้อแดงกับทหาร ทั้งที่ถนนพระราม 4 ย่านชุมนุมบ่อนไก่ บริเวณถนนราชปรารภถึงสามเหลี่ยมดินแดง และบริเวณแยกศาลาแดง ซึ่งเป็นพื้นที่นอกการชุมนุมบริเวณแยกราชประสงค์ ทั้งหมดเป็นการเข้าโจมตีกลุ่มทหารที่ตรึงกำลังหลังเข้ากระชับพื้นที่  โดยเฉพาะการปะทะบริเวณชุมนุมบ่อนไก่ มีการใช้อาวุธหนักยิงมาจากสวนลุมพีนี คือเอ็ม 79 และตึกสูงฝั่งซอยงามดูพลี ซึ่งแสดงให้เห็นว่ากลุ่มติดอาวุธนั้น มีอยู่ทั้งในและนอกพื้นที่การชุมนุมจำนวนมาก
     การที่ไม่มีทหารเสียชีวิต ก็เป็นอีกประเด็นที่มีความพยายามยกระดับให้เป็นประเด็นที่โดดเด่นขึ้นมา เพราะบทเรียนจากเหตุการณ์วันที่ 10 เมษายน ที่มีทหารเสียชีวิตจำนวนมากจากการตั้งใจยิง ได้กลายเป็นความผิดพลาดในเชิงยุทธศาสตร์ เมื่อคนเสื้อแดงตายและทหารก็ตายด้วย ได้เกิดข้อสงสัยที่มีการตั้งคำถามกันมากว่า คนเสื้อแดงไม่ได้ชุมนุมโดยสงบสันติอย่างแท้จริง แต่มีกองกำลังติดอาวุธสังหารเจ้าหน้าที่ทหาร และแม้แต่การปลิดชีพคนเสื้อแดงด้วยกันเอง บทเรียนครั้งนั้นจึงได้มีการปรับเปลี่ยนไม่ให้มีทหารตาย
     จริงอยู่ที่ครั้งนี้ทหารเตรียมตัวมาดี ไม่ให้ผู้ชุมนุมเข้าใกล้ตัวได้ แต่หากพิจารณาในรายละเอียดจะพบว่า เหตุการณ์วันที่ 10 เมษายน ทหารทั้งหมดที่เสียชีวิตไม่ได้มีเหตุมาจากการปะทะในระยะประชิด แต่ป็นการยิงในระยะหวังผลทั้งสิ้น
     จะสังเกตได้ว่า ทหารที่ปักหลักบริเวณสนามมวยลุมพินียังอยู่ในระยะยิงของเอ็ม 79 ที่ยิงมาจากภายในสวนลุมพินี แต่กลับมีคนเสื้อแดงจำนวนหนึ่งเสียชีวิตเพราะเอ็ม 79 และการยิงจากตึกสูงแทนที่จะเป็นทหาร ปรากฏการณ์นี้ส่อให้เห็นถึงยุทธศาสตร์ใหม่ของกลุ่มติดอาวุธ เป็นไปตามใบสั่งให้มีประชาชนเสียชีวิตเพียงฝ่ายเดียว เพื่อยกระดับปัญหาไปสู่เวทีโลก
     การที่ น.ช.ทักษิณ ชินวัตร เลือกวิธีนี้ เป็นเพราะการต่อสู้โดยใช้มวลชนเข้ากดดันให้นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ยุบสภา ไม่มีแนวโน้มว่าจะประสบความสำเร็จได้ จึงต้องหันไปเล่นวิธีอื่นที่มีโอกาสมากกว่าคือใช้เวทีโลกกดดัน แต่การจะได้มาซึ่งเงื่อนไขให้องค์การสหประชาชาติเข้ามาสนใจอย่างจริงจังนั้น ต้องยกระดับความรุนแรงให้มากกว่าที่เป็นอยู่
     และพบว่ามีการแบ่งกันทำงานอย่างชัดเจน พรรคเพื่อไทยทำหน้าที่ยื่นหนังสือไปยังองค์การสหประชาชาติ แกนนำคนเสื้อแดงในพื้นที่ชุมนุมทำหน้าที่แถลงข่าวให้ความเคลื่อนไหวกับสื่อมวลชนต่างประเทศ และกองกำลังติดอาวุธมีหน้าที่สร้างเงื่อนไขให้มีการเสียชีวิต โดยมีคนเสื้อแดงตกเป็นเหยื่อความรุนแรงในครั้งนี้
     แม้มีการปัดความรับผิดชอบโดยแกนนำคนเสื้อแดงในแยกราชประสงค์ว่า ไม่สามารถควบคุมคนเสื้อแดงที่อยู่รอบนอกได้ แต่นั่นคือสิ่งที่คนเหล่านี้อยากให้เป็น เพราะโดยสามัญสำนึกของนักประชาธิปไตยแล้ว เมื่อไม่สามารถควบคุมมวลชนได้ สิ่งที่ต้องดำเนินการในทันทีคือ สั่งยุติการชุมนุมนั้นเสีย และแกนนำคนเสื้อแดงเคยตัดสินใจเช่นนั้นมาแล้วในเหตุการณ์เมษาเลือดปีที่แล้ว
     ครั้งนี้ต่างจากครั้งก่อน เมื่อแกนนำหัวรุนแรงเข้ากุมการนำทั้งหมด จุดจบของการชุมนุมครั้งนี้จึงมีแนวโน้มสูงที่จะมีการนองเลือดเพิ่มขึ้นอีกมากในตัวเลขที่น่าตกใจ จากการปะทะกันโดยใช้อาวุธสงคราม แต่จะไม่มีทางที่สหประชาชาติจะเข้ามาได้ เพราะนี่ไม่ใช่สงครามล้างเผ่าพันธุ์ แต่เป็นการปราบปรามผู้ก่อการร้ายที่ติดอาวุธร้ายแรง.

 
http://www.thaipost.net/news/180510/22318


หัวข้อ: Re: [2513]"ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: prapasri AH ที่ 18 พฤษภาคม 2553, 09:46:10
[color=#d70000]เหยง ขอรูปเปรียบเทียบ ตอนรดนำศพ เฉ... กับตอน เฮียตั๊ก shpping ที่ร้านหลุยส์ติงต๊อง

หน่อย ดิ เพราะเวลาใกล้เคียงกัน แต่อยู่คนละประเทศ[/color]


หัวข้อ: Re: [2513]"ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: เหยง 16 ที่ 18 พฤษภาคม 2553, 09:46:53
คอลัมม์ "คนปลายซอย" ของคุณเปลว สีเงิน

"ทักษิณ-บิน ลาดิน" หัวหน้าโจรก่อการร้าย?
เปลว สีเงิน 18 พฤษภาคม 2553 - 00:00

      ราตรีกาลยิ่งทอดยาว ยิ่งหนาวและฝันร้ายนะครับ ผมคิดว่า นี่ก็ย่างเข้าวันที่ ๖-๗ ของปฏิบัติการ "ศอฉ.ขอคืนพื้นที่" จากพวกกบฏทักษิณแล้ว ฉะนั้น ไม่น่าจะปล่อยให้ยืดเยื้อยาวนานเกิน วันนี้-พรุ่งนี้ ขืนปล่อยนานไป "ข่าวแต่งหน้า" ในโลกสื่อสาร จะทำให้ประชาคมโลกทิ้งน้ำหนักไปทางกบฏทักษิณ ด้วยมุมมองว่า "ประชาชนน่าจะหนุนกลุ่มกบฏมากกว่าสนับสนุนรัฐบาล" ทหารจึงเอาไม่อยู่  การขีดเส้นตายของ ศอฉ.นั้น-ขีดได้ แต่ขีดจนเปรอะ แล้วไม่มีผลอะไร ระวัง...มันจะกลายเป็น "เส้นตายตัวเอง"! อย่าว่าแต่ประชาคมโลกเลยครับ ประชาคมไทยก็เถอะ ขืนลากสถานการณ์นานไป คนจะหน่าย อึดอัด และพาลเกลียดรัฐบาล-ทหาร-ตำรวจ ที่เอาเข้าจริงก็ช่วยอะไรไม่ได้อย่างที่ใจเคยหวัง แล้วลงท้าย ความคิดสังคมก็จะตีกลับเชิงประชด "เมื่อปราบไม่ได้ ก็ยกประเทศให้ฝ่ายกบฏทักษิณไปก็หมดเรื่อง บ้านเมืองจะได้สงบเสียที!"

      ผมสะท้อนความรู้สึกของคนระดับชาวบ้านที่สื่อสารถึงผม ให้รัฐบาลและ ศอฉ.ได้ทราบ ส่วนตัวผมนั้น ก็เข้าใจในความยาก-ง่าย และขีดจำกัดหลายๆ อย่างในการทำงาน แต่จะยกเหตุนั้นไปอ้างกับชาวบ้านเขา มันก็อ้างได้ แต่จะให้เขาเข้าใจนั้น...มันยาก เพราะชาวบ้านตกอยู่ใน "สถานการณ์นรก" ด้วยตัวเขาเองจริงๆ ก็ขอให้การเจรจาของฝ่ายรัฐกับฝ่ายกบฏที่ทำกันทั้งลับ-ทั้งแจ้งมาหลายวัน "ลงตัว" เสียที  ยอม-ก็สลายม็อบกันไปเลย แต่ถ้าไม่ยอมจะปล่อยให้โยกโย้ "ซื้อเวลา" สะสมคนเจ็บ-คนตายเป็นสถิติไปทีละวันอย่างนี้ไม่ได้ ทหาร-ตำรวจ ควรเข้าสลายทันที!
     สถานการณ์ถึงตอนนี้ ในภาษาชาวบ้านเขาเรียกว่า "เสียจนไม่มีอะไรจะเสียอีกแล้ว" ฉะนั้น จะมารีรออะไร เสีย-เมื่อแลกกับได้ที่ไม่เยิ่นเย้อ มันก็พอคุ้มมิใช่หรือ? ที่ว่าเสียนั้น ไม่ใช่พวกกบฏ หรือตัวหัวหน้ากบฏที่นั่งกระดิกตีน "ต่อสาย-สั่งการ" มาจากมอนเตเนโกรบ้าง ดูไบบ้างที่เสีย แต่เป็น"ประเทศไทย-คนไทย" ตะหาก ประเทศป่นปี้ หัวใจถูกย่ำยีแหลกสลาย นับต่อแต่นี้ไทยจะเป็นไทยที่...ไม่เหมือนเดิมอีกแล้ว

      สังเกตดูเถอะ แต่ละมุก-แต่ละเม็ดในการต่อรองของพวกกบฏ ถูกกำหนดและสั่งมาจากนายใหญ่ทั้งสิ้น อย่างที่เดินเกม-เดินแต้มประสานกันล่าสุดตอนนี้ ทั้งคนกบฏ ทั้งพรรคกบฏ และทั้งนักวิชาการกบฏ เดินไปในแผนเดียว-จุดเดียวกัน คือ ดึง UN ให้เป็นเจ้าเข้าครองประเทศ! UN ที่ทักษิณเคยบอกว่า "ไม่ใช่พ่อ" นั่นแหละ แต่ตอนนี้ นับถือเป็นพ่อขึ้นมาแล้ว สั่งให้จตุพร-ณัฐวุฒิ ปากแข็ง-ตูดนิ่มยืนกรานกับฝ่ายรัฐบาลอยู่นั่นแหละว่า "ยอมเจรจา แต่ว่าต้องให้ UN เข้ามาเป็นคนกลาง" ไอ้คนอย่างนี้ ไม่แปลกใจเลยที่ใครซื้อก็พร้อมขาย ก็ดูซี...ขนาดประเทศชาติแท้ๆ เพื่อตัวมัน มันบังอาจ ไม่ละอาย เอาประเทศไปขายให้ UN หน้าตาเฉย!
      ไอ้แผนดึง UN เข้ามา ก็คงจากคำแนะนำพวกบริษัททนาย บริษัทที่ปรึกษาทักษิณในต่างประเทศนั่นแหละ เป็นการเบิกช่องทาง-สร้างเงื่อนไขเพื่อการต่อสู้คดี เพราะมีแต่ช่อง UN ช่องเดียวเท่านั้นที่โลกใบนี้จะเหลือ "รูลอด" ให้ทักษิณได้ซุกหัวอยู่  เนื่องจากยุค "สื่อสารครองโลก" ขณะนี้ เจ้าระบบสื่อสารที่ตัวเองใช้เป็นเครื่องมือทำลายประเทศชาตินั่นแหละ มันกำลังย้อนสนองตัวเอง ทักษิณ ชินวัตร สู่ระดับ บิน ลาดิน แล้ว!

       ก็ด้วยจาก "สื่อสารครองโลก" เหตุการณ์ที่เกิด คำพูดผ่านวิดีโอลิงค์-โฟนอิน และคำให้การสมุนในเมืองไทย โดยเฉพาะจากเสธ.แดง ระบบสื่อสาร มันทำให้คนดู-คนฟัง ประมวลเรื่องและรวบรวมให้เห็นภาพได้ว่า  ทักษิณนั่นแหละ "หัวหน้าก่อการร้ายในไทย"!? ที่ยกตัวเองไปเทียบ เนลสัน แมนเดลา บ้าง มหาตมะ คานธี บ้างนั้น คนทั้งโลกฟังแล้วหัวเราะ และ...ถุ้ย! ลองเรียบเรียงดู หลังเหตุการณ์กบฏแผ่นดิน มีกองกำลังไม่ทราบฝ่ายซุ่มสังหารนายทหาร วินาศกรรมเมือง กระทั่งยิงเอ็ม ๗๙ หวังระเบิดคลังน้ำมัน
      ล่าสุด จากปากของ "พลตรีขัตติยะ สวัสดิผล" ที่ประกาศเมื่อ ๙-๑๐ พ.ค.ก่อนถูก "มือลึกลับ" ใกล้ตัว ประกบจ่อยิงศีรษะเสียชีวิตทิ้งปริศนา "ใครสั่งฆ่า" คนไกล...หรือใกล้ตัว เสธ.แดงประกาศ ไม่เอาแผนปรอง ค้านวีระเจรจาสลายชุมนุมกับรัฐบาล แล้วตัวเองประกาศ ประสานแกนนำกบฏในต่างจังหวัด จะยึดเวทีเป็นหัวหน้าแกนนำชุมนุมต่อ....ผมรับคำสั่งตรงจาก พ.ต.ท.ทักษิณคนเดียว!?
      บทบาทคลุมเครือเสธ.แดง ที่ให้ภาพพัวพันทั้ง "กองกำลังไม่ทราบฝ่าย" และทั้งภาพเปิดเผย "หัวหน้าการ์ด นปช." รวมถึงผู้ฝึกสอนกองกำลังทหารเสือพระเจ้าตาก ในรอบ ๒-๓ ปี เมื่อถูกประชาคมโลกนำแต่ละภาพมาเป็นจิ๊กซอว์ ก็พอดีมาบรรจบกับคำสารภาพสุดท้ายของเสธ.แดงเองว่า "ทำงานรับคำสั่งตรงจากทักษิณ" ภาพ "ทักษิณ-หัวหน้าก่อการร้าย" ที่ชักใยปฏิบัติการอยู่ในเมืองไทย...ชัดเป๊ะ! ยิ่ง ศอฉ.ออกมาประกาศว่า เหตุการณ์ในเมืองไทยประจักษ์ชัดว่ามี "กองกำลังไม่ทราบฝ่าย" คละเคล้าอยู่กับผู้ชุมนุมสันติ-อหิงสาจริง และการก่อวินาศกรรม การซุ่มสังหารนายทหาร การวินาศกรรม และปฏิบัติการต่อต้านกำลังรัฐ นี่..มันครบ "องค์ประกอบ" ของการเป็นปฏิบัติการ "ผู้ก่อการร้าย" ชัดแจ้ง! และนั่นก็คือ "ทักษิณ-หัวหน้าก่อการร้าย" เทียบชั้น บิน ลาดิน แต่ชั้นเลวกว่า บิน ลาดิน ก็ตรงที่ บิน ลาดิน ทำลายที่อื่น-คนอื่น-ประเทศอื่น ไม่ทำลาย และไม่ทำร้ายประเทศตัวเอง พี่น้องร่วมชาติตัวเอง ซึ่งเป็นหน้ามือกับหลังเท้า เพราะ....ทักษิณ...ทำทุกอย่างที่ "บิน ลาดิน" ไม่ทำกับชาติของเขา! ด้วยภาพ "หัวหน้าขบวนการก่อการร้าย-ชั้นเลว" ของทักษิณ อันประจักษ์ต่อชาวโลกเวลานี้ จึงทำให้พื้นที่ในการหยั่งเท้าของทักษิณเหลือน้อยเต็มทน และเท่าที่มีให้ยืน ก็ต้องยืนแบบเขย่งเท้า-แขม่วท้อง ถูกห้ามใช้พื้นที่ประเทศนั้นๆ เป็น "ฐานบัญชาการ" ก่อการร้ายข้ามชาติ

      การให้พรรคเพื่อไทย ส.ส.เพื่อไทย และแกนนำกบฏ ประสานเสียง-ชูประเด็น ให้ UN เข้ามาแทรกแซงกิจการภายในประเทศ ก็คือแผนการดึง UN มาเป็นขอนไม้ให้เกาะเท่านั้น เมื่อเหลือตาเดินไม่มาก ตัวเองก็...หางโผล่ โดยให้บริษัทที่ปรึกษากฎหมายในต่างประเทศออกแถลงการณ์ "ประสานเสียง" กับกลุ่มกบฏเมื่อวานนี้ (๑๗ พ.ค.๕๓) มีข้อความว่า "ผมขอเรียกร้องให้สหประชาชาติเข้ามาเป็นคนกลางในการเจรจาในทันที สหประชาชาติไม่ควรถูกกดดันให้นิ่งเฉย โดยนายกรัฐมนตรีที่ไม่เข้าใจว่าสิทธิในการมีชีวิตอยู่เป็นหลักสากลที่ทำให้พวกเราทุกคนเป็นหนึ่งเดียวกัน" ความจริงน่ะ ถ้าทักษิณต้องการร้องขอความช่วยเหลือกับองค์กรระหว่างประเทศ ด้วยความหวังดีกับคนไทย-ประเทศไทยจริงๆ ละก็ ควรไปร้องกับ "มูลนิธิแก้ไขปัญหาโลกร้อน" จะถูกที่-ถูกทางมากกว่า เพราะสิ่งที่พวกกบฏทักษิณทำขณะนี้คือการเผายางรถยนต์ นั้น มันสร้างควันดำเป็นมลพิษคลุมโลกมา ๓-๔ วันแล้ว

       ผมไม่เข้าใจ พวก ส.ส.-ส.ว. พวกนักวิชาการบางคน กระทั่งพวก "ผีผสมแดก" ในพรรคร่วมบางพรรคก็ดี เรียกร้องแต่ว่า รัฐบาล-ทหาร-ตำรวจ อย่าใช้ความรุนแรง ให้รัฐบาลใช้วิธีเจรจา กระทั่งว่า ให้รัฐบาลยุบสภา-ลาออกไปเลย แล้วปัญหาจะจบ ทำไมไม่มองถึงต้นเหตุล่ะว่า ใครคือตัวสร้างปัญหา และใครคือฝ่ายใช้ความรุนแรง และทำไมไม่พูด-ไม่บอกล่ะว่า "ต้นปัญหาคือพวกกบฏนั่นแหละ ควรสลายการชุมนุมที่เกินกรอบกฎหมาย สั่งให้กองกำลังไม่ทราบฝ่ายหยุดเผาเมือง แล้วมานั่งโต๊ะเจรจากับรัฐบาลที่เขารออยู่?"

     จากข้อมูลข่าวสาร เบื้องหน้า-เบื้องหลัง และเบื้องลับ ของเหตุการณ์ต่างๆ ที่ค่อยๆ ไหลออกสู่สาธารณะในยุค "สื่อสารครองโลก" ขณะนี้ มันยิ่งสนับสนุนความคลางแคลงสงสัยที่ซ่อนอยู่ในใจสังคมมานานให้ชัดขึ้นว่า ในขบวนการก่อการร้าย อันมีคำว่า "กองกำลังไม่ทราบฝ่าย" เป็นตัวลงมือนั้น รูปแบบปฏิบัติการมันฟ้องว่า นี่คือการสนธิกันระหว่าง "ตำรวจ-ทหารในราชการ กับ ตำรวจ-ทหารนอกราชการ" กลุ่มหนึ่ง!? จะกลุ่มไหน-ใครเป็นใคร น่าจะไปค้น "คำสั่ง ศอฉ." ที่ ๔๙/๒๕๕๓ ที่ออกเมื่อวันที่ ๑๖ พ.ค.เรื่อง "ตัดท่อน้ำเลี้ยง" สั่ง ๑๐๖ คน ต้องรายงานการทำธุรกรรมทางการเงินมาดูว่า...มีใครบ้าง? และที่ควรสังเกตไว้ คำสั่ง "ตัดท่อน้ำเลี้ยงกบฏ" คำสั่งนี้ คนที่ลงนามท้ายคำสั่งคือ..."พลเอกอนุพงษ์ เผ่าจินดา" หัวหน้าผู้รับผิดชอบในการแก้ไขสถานการณ์ฉุกเฉิน!!!!!

     ครับ...ต้องถือว่าเป็นคำสั่งที่กรวดน้ำคว่ำขัน "ผีไม่เผา-เงาไม่เหยียบ" ตัดเป็นตัดตายกันไปเด็ดขาด ระหว่างเส้นทางสาย "ทักษิณ" กับเส้นทางสาย "อนุพงษ์" จะพูดว่า นี่คือการชี้ขาด "ชีวิตทหาร-ชีวิตการเมือง-ชีวิตคนแก่หลังเกษียณ" ว่า พลเอกอนุพงษ์ ตัดสินใจเลือก "ทางไหน-เป็นทางเดิน" หลังเดือนกันยายน ๒๕๕๓ เป็นต้นไป นี่มันก็....ชัดเจนแล้ว!

      "หลังเสือ" จำต้องเป็นที่อยู่ "หลังเกษียณ" ของพลเอกอนุพงษ์ "ยากหนี" เสียแล้ว!?

http://www.thaipost.net/news/180510/22317


หัวข้อ: Re: [2513]"ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: prapasri AH ที่ 18 พฤษภาคม 2553, 12:46:01
 

สกู๊ปสัมภาษณ์ นายสตีเฟน ยัง นักศึกษาฮาร์วาร์ด ในฐานะที่เป็นลูกชายทูตสหรัฐฯ ประจำประเทศไทย และเป็นผู้เติบโตและศึกษาเล่าเรียนอยู่ในเมืองไทย จึงได้มองเห็นความเปลี่ยนแปลงทั้งด้านสังคม เศรษฐกิจ และการปกครอง ตั้งแต่ยุคล่าอาณานิคมมาจนถึงการเข้ามาของระบอบคอมมิวนิสต์ในภูมิภาคเอเชียอาคเนย์

 

การเปิดสกู๊ปสัมภาษณ์ นายสตีเฟน ยัง โดย นายสิทธิชัย หยุ่น เป็นผู้ซักถาม ในรายการชีพจรโลก ซึ่งเนื้อหาใจความของคำสัมภาษณ์ มีดังนี้ นายสตีเฟน กล่าวว่า บิดาของตนใกล้ชิดพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และใกล้ชิดกับจอมพลสฤษดิ์ ธนะรัชต์ ตั้งแต่ปี 2504 จึงได้เห็นช่องว่างระหว่างคนชนชั้นสูงกับคนจนในชนบทอย่างชัดเจน จนมาถึงปัจจุบัน ปี 2552 ตนได้ยินกลุ่มคนเสื้อแดงพูดว่า ไทยมีช่องว่างระหว่างคนรวยในกรุงเทพฯ กับคนจนในชนบท ทำให้ตนคิดว่ามันเป็นเรื่องไร้สาระ เพราะทุกวันนี้ช่องว่างมีเพียงแค่นี้ เทียบกับที่ประเทศสหรัฐฯ ก็มีช่องว่างเช่นกัน
       
        นายสตีเฟนกล่าวต่อว่า ตนเข้ามาอยู่ในประเทศไทย ตั้งแต่ปี 2504 ซึ่งเป็นเวลากว่า 48 ปีมาแล้ว โดยตนมาอยู่ตั้งแต่ประเทศไทยยังไม่มีไฟฟ้า และน้ำประปาใช้ รวมทั้งถนนยังเป็นดินลูกรัง แต่เมื่อวันเวลาผ่านไป ประเทศไทยมักเจอเรื่องราวแปลกประหลาดเสมอ ทำนองว่าประเทศนี้ยังไม่มีสิ่งนั้นสิ่งนี้ ต้องทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลง โดยปัญญาชนบางคนที่ต้องการปฏิวัติอำนาจ เขามองว่าเรื่องนี้ไร้สาระ และทำให้สิ่งเหล่านี้ทำให้ตนมองเห็นความทะเยอทะยานของผู้ชายชื่อ " พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร" ตั้งแต่เริ่มทำธุรกิจในเครือชินคอร์เปอเรชั่นฯ และสัมปทานโทรศัพท์ของรัฐบาลด้วยระบบผูกขาด
       
        นายสตีเฟน ย้ำว่า สาเหตุที่ พ.ต.ท.ทักษิณ ทำเงินได้เยอะ และกลายเป็นคนรวย เพราะรัฐบาลได้มอบฐานะบุคคลอภิสิทธิ์ให้เขา พร้อมทั้งให้สิทธิพิเศษในการผูกขาดด้านต่างๆ จึงทำให้การปกครองของคนชั้นสูงหรือกลุ่มคนร่ำรวย มีอภิสิทธิ์เหนือคนอื่น
       
       “ นี่ไม่ใช่เรื่องของผู้ชายคนหนึ่งที่เริ่มจากความยากจนแล้วไต่เต้าขึ้นมารวย เขามีสายสัมพันธ์พิเศษ และผมเห็นเขาใช้สายสัมพันธ์พิเศษเหล่านั้น ” นายสตีเฟน กล่าว
       
        นายสตีเฟนกล่าวอีกว่า สำหรับตนแล้วมุมมองความคิดของ พ.ต.ท.ทักษิณ เป็นแบบจักรพรรดิจีน นั่นคือ ในสมัย “ ฉิน จื่อ หวาง ” ได้มีการแบ่งชนชั้น เสมือนเบื้องบนเป็นสวรรค์ ถัดลงมาเป็นคนคนนึง ส่วนเบื้องล่างคือคนที่เหลือ แล้วเข้าควบคุมรัฐบาล ตำรวจ ผู้พิพากษา นักธุรกิจ โทรทัศน์ และนักหนังสือพิมพ์ ซึ่งสิ่งเหล่านี้ ทำให้ทุกสิ่งอยู่ใต้เขา ซึ่งไม่เคยมีผู้นำไทยคนไหนในประวัติศาสตร์ชาติไทยที่พยายามทำเช่นนี้ โดย พ.ต.ท.ทักษิณ ชอบทำให้คนไทยตัวเล็กๆ แหงนมองว่าเขาสำคัญ เพราะพวกเขามีความรู้สึกของระบบอุปถัมภ์อยู่ โดย พ.ต.ท.ทักษิณ ได้เข้าไปตัดลำดับขั้นต่างๆ เพื่อเข้าไปปกครองโดยตรง ทำให้ทุกคนที่ทำงานอยู่ต้องตกภายใต้ตัวผู้นำ ไม่ใช่ความร่วมมือแบบเก่าๆ ซึ่งคนส่วนใหญ่ทำงานให้ พ.ต.ท.ทักษิณ เชื่อว่าเงินของอดีตนายกรัฐมนตรี จะช่วยดูแลพวกเขาได้ แต่ถ้าถามว่าลักษณะเช่นนี้เรียกว่าเป็นประชาธิปไตยหรือไม่ ตนต้องขอตอบว่า คำว่าประชาธิปไตยที่ปราศจากศีลธรรมที่ว่าย่ำแย่ที่สุดแล้ว ยังเทียบไม่ได้กับความยุติธรรมที่เป็นสิ่งจำเป็นกว่านั้น
       
       “ ย้อนกลับไปที่อริสโตเติล หากคุณเป็นประชาธิปไตย แต่คุณฉ้อโกง ทำร้ายผู้อื่น เราเรียกว่าทรราช คุณไม่มีศีลธรรม ไม่ยุติธรรม นั่นเป็นระบบที่เลวร้าย อริสโตเติล กล่าวไว้ว่าทุกๆระบบ ไม่ว่าจะเป็นระบอบกษัตริย์ ขุนนาง หรือประชาธิปไตย ต้องมีกฎหมาย มีศีลธรรม และเป็นธรรม ที่จะควบคุมอำนาจในทางมิชอบ ” นายสตีเฟนกล่าว
       
        นายสตีเฟนกล่าวต่อว่า สิ่งที่ประเทศไทยเดินผิดทาง คือ การปกครองลักษณะเดียวกับประเทศอาร์เจนตินา ที่อยู่ภายใต้การนำของ “ ฮวน เปรอง ” ที่ไปบอกหากเลือกเขาเป็นผู้นำ จะเอาเงินจากคนรวยมาช่วยคนจน ทั้งที่เมื่อปี 1930 ก่อนยุค ฮวน เปรอง อาร์เจนตินาได้ชื่อว่าเป็นประเทศที่ร่ำรวย แต่เมื่อเจอผู้นำเผด็จการทำลายเศรษฐกิจและสร้างพรรคเผด็จการ 70 ปีต่อมา อาร์เจนตินากลับต้องเป็นประเทศที่เผชิญกับความยากจนและแตกแยก หากประเทศไทยยังปล่อยไว้เช่นนี้ ก็จะประสบชะตากรรมเดียวกันกับอาร์เจนตินา
       
        นายสตีเฟนย้ำอีกว่า ระบบที่ดีอยู่ที่ใครจะสร้างความยุติธรรมในสังคมได้ หรือใครจะปกครองสังคมอย่างมีศีลธรรม ซึ่งต้องมีการตรวจสอบและควบคุมกันและกันได้ เหมือนเช่นรัฐธรรมนูญปี 2540 ที่นับว่าดี แต่มีบางคนที่มีเงินแล้วเข้ามาทำตัวเหมือนหนูที่จะเอาเนยแข็งไปทั้งก้อน ทำให้คุณความดีของรัฐธรรมนูญสูญหายไป เกิดเหตุผู้คนไม่พอใจ ทำการประท้วง หรือปฏิเสธการประนีประนอม โดยที่ผ่านมาตนได้ยิน พ.ต.ท.ทักษิณ พูดมาตลอดว่า เหตุการณ์รัฐประหารเมื่อวันที่ 19 กันยายน ปี 2549 ที่ล้มล้างอำนาจเขา นับเป็นการข่มเหงเขามาตลอด ทั้งที่ก่อนหน้านี้ พ.ต.ท.ทักษิณ ไม่เคยพูดว่า ตนเองฝ่าฝืนเจตนารมณ์ของรัฐธรรมนูญและทำลายกฎหมายอย่างไร ยังไม่นับกับสร้างความชอบธรรมและอะลุ้มอล่วยทางกฎหมาย คือ หากจะพูดให้ชัดเจน พ.ต.ท.ทักษิณ เองที่เป็นฝ่ายทำให้กระบวนการล่มสลาย และการรัฐประหารเป็นเพียงแค่ส่วนหนึ่งของการล่มสลายเท่านั้น
       
       “ ตอนนั้นผมรู้สึกเศร้าใจ อะไรคือทางออกของไทย ถ้าเดินหน้าต่อไป พ.ต.ท.ทักษิณ อาจดำเนินเหตุการณ์ไปจบลงด้วยเผด็จการแบบจีน ซึ่งไม่ดีต่อประเทศไทยแน่ๆ แต่ถ้าเลือกรัฐประหารมันก็ขัดรัฐธรรมนูญ ซึ่งประเทศไทยไม่ควรตกอยู่ในจุดนั้น ไม่ใช่เพราะกองทัพ ไม่ใช่เพราะคุณอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ไม่ใช่เพราะ พล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ แต่เป็นเพราะคนๆนึงกับทีมของเขาเอง ” นายสตีเฟน กล่าว
       
        สำหรับกรณี พ.ต.ท.ทักษิณ โทษ พล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ ประธานองคมนตรีและรัฐบุรุษ ว่าอยู่เบื้องหลังความเดือดร้อนของประเทศ นายสตีเฟน กล่าวประเด็นนี้ว่า พ.ต.ท.ทักษิณ เป็นคนฉลาดในการพูด ดังนั้น เขารู้จักหัวใจคนไทยดี รู้ว่าควรจะพูดอะไรให้คนไทยคิดเหมือนเขา ซึ่งในตะวันตกเรียกว่าเป็นผู้ปลุกปั่น โดยเขาจะศึกษาตัวตนของคนฟังว่ามีอารมณ์อย่างไร แล้วก็พูดในสิ่งที่คนอยากได้ยิน ไม่ใช่ด้วยความรู้สึกชอบหรือห่วงใย แต่เป็นเพราะต้องการอะไรบางอย่าง นั่นคือ เสียงโหวตและความภักดี
       
        ท้ายสุด นายสตีเฟนกล่าวว่า ตนยังหวังว่าความแตกแยกทางการเมืองในประเทศไทยจะสามารถแก้ไขได้ ถ้าหากทุกฝ่ายนั่งลงแล้วคุยกันถึงวิธีแก้ปัญหาแล้วทำงานร่วมกัน โดยทุกคนควรมีจิตสำนึกในสิ่งที่ถูกต้องตามทำนองคลองธรรม จริยธรรม และความภาคภูมิใจที่เป็นคนไทย พร้อมทั้งไม่จำเป็นต้องเปลี่ยนหรือต้องฟังใคร รวมทั้ง ที่สำคัญกว่านั้น หากความทะเยอทะยานของ พ.ต.ท.ทักษิณ ถูกนำออกไปจากบริบทปัญหานี้ก็น่าจะมีทางออกสักทาง
       
       “ ยารสหวานๆ แบบฉบับไทยๆ กินทุกๆ วันเป็นเดือนหรือ 3 เดือนแล้วคุณจะดีขึ้นเอง ดีกว่ายาที่กินวันเดียว แต่คนอาจไม่ชอบ ยานี้คืออะไร ผมว่ามันต้องมาจากผู้นำรัฐบาล ผู้นำพรรคการเมือง พวกเขาอาจต้องกลืนยาขม จะต้องไม่มีใครรับสินบน ใช้เวลา 3 ปี ตำรวจและทุกๆ คนต้องทำหน้าที่ของตัวเอง นี่คือยาขมทำให้คนไทยได้เห็นว่านี่คือกฎเกณฑ์ใหม่ ” นายสตีเฟน กล่าว
 
 


หัวข้อ: Re: [2513]"ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: เหยง 16 ที่ 18 พฤษภาคม 2553, 14:58:11
อ้างถึง
ข้อความของ เหยง 16 เมื่อ 17 พฤษภาคม 2553, 18:46:05
เป็นไปได้หรือ !! ??

ทักษิณสำราญช้อปหลุยส์กลางปารีส
17 พฤษภาคม 2553 เวลา 18:16 น.

ทักษิณโผล่ช้อปปิ้งกระเป๋าหลุยส์วิตตอง ย่านถนนชองป์ส เอลิเซ่ส์ ขณะที่เมืองไทยวุ่นวายเกิดเหตุปะทะเดือดหลายจุด

รายการข่าวภาคค่ำของสถานีโทรทัศน์ช่อง11 ซึ่งร่วมผลิตโดยบริษัทโพสต์ พับลิชชิ่ง ได้รายงานเมื่อ เย็นวันนี้ (17พ.ค.) ว่าขณะที่เกิดเหตุปะทะระหว่างกลุ่มแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) และเจ้าหน้าที่ทหาร เมื่อวันที่ 15 พ.ค. ได้มีผู้พบเห็น พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ได้เดินทางไปช็อปปิ้งที่ ร้านหลุยส์ วิตตอง ที่ถนน ชองป์ส เอลิเซ่ส์ กลางกรุงปารีส ประเทศฝรั่งเศสในเวลา 12.00 น. ตามเวลาท้องถิ่น


                                        (http://www.cmadong.com/imageupload/2010_Cmadong-Image/data/image/l2kbb0-e2cc5a.jpg)

http://www.posttoday.com/ข่าว/การเมือง/29079/ทักษิณสำราญช้อปหลุยส์กลางปารีส

มันใช้ PASSPORT มอนเตเนโกร เข้าไปช๊อปปิ้งที่ปารีส

http://tnews.teenee.com/politic/50704.html

 


หัวข้อ: Re: [2513]"ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: Intania๑๖ ที่ 18 พฤษภาคม 2553, 15:53:00
คำเตือน: ไม่เหมาะกับคนเสื้อแดง และกระบือ เพราะวิดีโอมันแสดงความจริง อาจทำร้ายจิตใจได้  


http://www.youtube.com/watch?v=6rGqZDvRa_U
http://www.youtube.com/watch?v=4hmSPbugDAA
http://www.youtube.com/watch?v=XRi6m7QG06M
http://www.youtube.com/watch?v=Aws3ZMXzNjs
http://www.youtube.com/watch?v=giuEOQ62n6E
http://www.youtube.com/watch?v=yy3a73Y6fBg
http://www.youtube.com/watch?v=MLuffqnszIY
http://www.youtube.com/watch?v=LXMmQReCKVg


หัวข้อ: Re: [2513]"ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: เหยง 16 ที่ 18 พฤษภาคม 2553, 16:04:12
ยอมรับว่าเป็นการกระทำของเสื้อแดงครับ แต่ขอรายละเอียดเพิ่มสักนิดซีว่า เป็นที่ไหนและเมื่อไรบ้าง


หัวข้อ: Re: [2513]"ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: เหยง 16 ที่ 19 พฤษภาคม 2553, 07:59:42
ปะทะกันตั้งแต่เช้ามืดแล้วครับ

ทหารพร้อมรถหุ้มเกราะออกทำการยึดคืนพื้นที่พร้อมๆกันหลายจุด แต่ถูกตอบโต้ด้วยอาวุธปืนทุกชนิดที่ผู้ก่อการร้ายเสื้อแดงมีอยู่ พร้อมทำการเผาตึกที่ทำการรัฐบาล เช่น ปปส. ตอบโต้ ไม่รวมถึงการระดมเผายางกลางถนนอย่างมันมือเป็นที่สุด เบื้องต้นทหารได้สวนลุมพีนีคืน แต่ผู้ก่อการร้ายกดดันด้วยการเผายางติดรั้ว รพ.จุฬาฯ ตอบโต้ ทหารยังคุมจุดนี้ไม่ได้



ผู้ชุมนุมเตรียมพร้อมรอรับการสลาย
ประเด็น:เสื้อแดงจัดชุมนุมใหญ่ , 19 พฤษภาคม 2553 เวลา 07:16 น.

แกนนำนปช.ประกาศให้ผู้ชุมนุมอยู่ในความสงบ รับมือสลายม็อบ
 
ภายหลังจากที่ทหารเคลื่อนกำลังพลเข้าปิดล้อมพื้นที่ชุมนุมของกลุ่ม นปช. นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ แกนนำ นปช.ได้ขึ้นเวทีประกาศให้ผู้ชุมนุมทุกคนอยู่ในความสงบ เพื่อรอรับสถานการณ์เจ้าหน้าที่สลายการชุมนุม ขณะที่การ์ด นปช.ได้ทยอยแจกจ่ายผ้าปิดจมูก เพื่อป้องกันแก๊สน้ำตาให้กับผู้ชุมนุม ทั้งนี้แกนนำบางส่วน เช่น นายอริสมันต์ พงษ์เรืองรอง นายแพทย์เหวง โตจิราการ ยังคงอยู่ด้านหลังเวที และได้สวมชุดเกราะด้วย

http://www.posttoday.com/ข่าว/การเมือง/29363/ผู้ชุมนุมเตรียมพร้อมรอรับการสลาย


หัวข้อ: Re: [2513]"ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: เหยง 16 ที่ 19 พฤษภาคม 2553, 08:54:55
สถานการณ์จะลงใน ShoutBox ครับ


หัวข้อ: Re: [2513]"ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: prapasri AH ที่ 19 พฤษภาคม 2553, 11:01:13
เมื่อคืนพี่แอ๊ะโทรคุยกับ พี่สว. สรรหา ท่านหนึ่ง ทีเข้าร่วมเจรจากับแกนนำด้วย

พี่เขาบอกว่า นปช.ยินดีเข้าสู่การเจรา และบอกว่าเมื่อคคืนจะสงบ

และหยุดปั่นป่วนทั้งหมด เมื่อคืนนะคะ

 สัญญา สัญญา ๆสัญญา....สัญญาเสื้อเเดง จะเชื่อได้ไง

แล้ววันนี้จะคุยกันอีกกับสว.ตอน 9.00น.

แต่จากเหตุการณ์  สว สรรหา ที่เข้าไปเจรจา เมื่อวาน ก็ เหลว โดยสิ้นเชิงงง

โดน อุบาทว์ นปช. หลอกอีกแล้วววววววววววว


หัวข้อ: Re: [2513]"ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: เหยง 16 ที่ 19 พฤษภาคม 2553, 11:15:01
บทบรรณาธิการ นสพ.แนวหน้า ออนไลน์ เช้าวันพุธที่ 19 พฤษภาคม 2553 โพสต์ก่อนการรุกเพื่อขอพื้นที่คืนของทหาร

บทบรรณาธิการ 
 

นายใหญ่ยังไม่ยอมหยุด (บทบรรณาธิการ) 
 
 
       นับวันการเคลื่อนไหวทางการเมืองของกลุ่มคนเสื้อแดงที่เรียกตัวเองอย่างเต็มปากเต็มคำว่า”นปช.” หรือแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติยิ่งทวีความรุนแรงเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆจนทำให้ประเทศก้าวเข้าไปสู่สภาวะของสงครามกลางเมืองที่ไม่ได้ประกาศอยู่ในทุกวันนี้

      เป็นที่ทราบกันดีว่าตัวการใหญ่ที่สร้างสถานะการณ์ที่ทำให้บ้านเมืองเกิดการนองเลือดอยู่ในขณะนี้ก็คือพ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตรอดีตนายกรัฐมนตรีที่กำลังเสวยสุขและหลบหนีคดีอาญาจากข้อหาทุจริตฉ้อราษฎร์บังหลวงอยู่ในกรุงปารีส สาธารณรัฐฝรั่งเศสพร้อมๆกับครอบครัว

      ส่วนตัวการรองก็คือกลุ่มนักการเมืองที่อยู่ในสังกัดของพรรคเพื่อไทย พรรคพลังประชาชนและพรรคไทยรักไทย ซึ่งผลพวงของการกระทำของอดีตนายกรัฐมนตรีกับสมัครพรรคพวกจนถึงวันนี้ทำให้มีประชาชนทุกฝ่ายต้องเสียชีวิตไปแล้วเป็นจำนวน 65 คน บาดเจ็บทั้งสาหัสและไม่สาหัสอีกรวม 1,669 คน

      สภาพของมิกสัญญีที่เกิดขึ้นอยู่ในพื้นที่ใจกลางกรุงเทพมหานครที่เกิดขึ้นในวันนี้ล้วนมาจากการบงการของอดีตนายกรัฐมนตรีผู้สูญเสียอำนาจเมื่อวันที่ 19 กันยายน 2549 โดยมีกลุ่มคนเสื้อแดงทั่วประเทศหรือ นปช.เป็นคนรับงานมาปฎิบัติทำให้เกิดความสำเร็จโดยมีเป้าหมายสูงสุดก็คือการสร้างรัฐไทยใหม่ขึ้นมาให้ได้

      การแสดงออกของคนเสื้อแดงทั่วประเทศเวลานี้มีลักษณะการเป็นกองโจรซึ่งอาจจะเรียกว่าเป็น”แนวร่วมประชาชนปล้นชาติ” ที่เผาบ้านเผาเมืองมากกว่าจะชุมนุมด้วยความสงบสันติและอหิงสาอย่างที่อ้างซ้ำๆอยู่เสมอๆ

      การที่รัฐบาลส่งกำลังเจ้าหน้าที่ทหารและตำรวจเข้ากวาดล้างจับกุมและบีบพื้นที่ชุมนุมของกลุ่ม นปช.ในพื้นที่กลางเมืองหลวงอยู่ในขณะนี้ถือเป็นสิ่งที่รัฐบาลจะต้องกระทำเพื่อกำจัดโจรปล้นชาติปล้นแผ่นดินตามหน้าที่

      โดยรัฐบาลต้องดำเนินการให้บรรลุเป้าหมายจนถึงที่สุดอย่าได้ยอมอ่อนข้อให้แก่พวกโจรปล้นชาติเหล่านี้เป็นอันขาด ถ้าหากโจรปล้นชาติเหล่านี้ต้องการจะยุติการนองเลือดก็น่าจะมีวิธีการเดียวนั่นก็คือพวกเขาจะต้องยุติการชุมนุมทางการเมืองในพื้นที่กรุงเทพมหานครโดยเร็วเพื่อนำความสงบมาสู่ประเทศ

      สำหรับผู้ที่กระทำผิดตามประมวลกฎหมายอาญา รัฐบาลจะต้องนำตัวมาสอบสวนดำเนินคดีตามกระบวนการยุติธรรมโดยไม่เลือกปฎิบัติเพื่อไม่ให้เป็นตัวอย่างในทางที่ผิดนั่นคือใครที่กระทำผิดกฎหมายแล้วก็ต้องได้รับโทษ

      ส่วนกรณีที่มีคณะสมาชิกวุฒิสภาส่วนหนึ่งได้เข้ามาทำหน้าที่เป็นคนกลางไกล่เกลี่ยให้ทั้งฝ่ายรัฐบาลและฝ่าย นปช.ยุติศึกและลดการใช้ความรุนแรงระหว่างทั้ง 2 ฝ่ายนั้นนับเป็นเรื่องที่ดี แต่จะประสบผลสำเร็จหรือไม่ว่ากันว่าอยู่ที่พ.ต.ท.ทักษิณนายใหญ่เพียงคนเดียวไม่ใช่แกนนำ นปช.แต่อย่างใด
 
วันที่ 19/5/2010
 
http://www.naewna.com/news.asp?ID=211668


หัวข้อ: Re: [2513]"ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: เหยง 16 ที่ 19 พฤษภาคม 2553, 11:17:58
บทบรรณาธิการ นสพ. ไทยโพสต์ 29 พ.ค. 53 บ่งบอกถึงการขยายวันหยุดเพื่อจัดการกับ ผู้ก่อการร้ายเสื้อแดง

ขยายวันหยุดราชการ 3 วัน โอกาสสุดท้าย'รัฐบาลมาร์ค'
บทบรรณาธิการ 19 พฤษภาคม 2553 - 00:00


     การประกาศให้วันที่ 17-18 พฤษภาคมที่ผ่านมา เป็น "วันหยุดราชการ" ในท้องที่ กทม. เชื่อมต่อจากช่วงวันเสาร์-อาทิตย์ของรัฐบาล โดยอ้างว่าเพื่อให้เจ้าหน้าที่ปฏิบัติหน้าที่ด้วยความสะดวกในการรักษาความสงบเรียบร้อย ท่ามกลางความหวังของประชาชนว่า สถานการณ์ความรุนแรงและความวุ่นวายที่เกิดขึ้นจะจบลง บ้านเมืองจะกลับเข้าสู่ภาวะปกติ
     แต่ปรากฏว่าผ่านมา 2 วัน ตามที่รัฐบาลประกาศวันหยุดสงครามกลางเมือง สถานการณ์ความรุนแรงไม่มีทีท่าที่จะยุติลง ควันไฟ เสียงปืน เสียงระเบิด ดังสลับกันตลอดทั้งวัน การดำเนินการของรัฐบาลยังไม่มีอะไรให้เห็นเป็นรูปธรรมชัดเจน นอกจากการตรึงกำลังยิงปะทะกับกลุ่มติดอาวุธในแต่ละจุด และการแถลงข่าวรายชั่วโมง ชี้แจงการปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่รวมทั้งแฉพฤติกรรมต่างๆ ของกลุ่มติดอาวุธ โดยที่เวทีกลุ่มแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการฯ (นปช.) หรือกลุ่มคนเสื้อแดงก็ยังชุมนุมปิดแยกราชประสงค์กันเช่นเดิม
     เสียงจากผู้คนประชาชนที่ได้รับความเดือดร้อน เริ่มมีการตั้งคำถามกันแล้วว่า จะจบกันเมื่อไหร่? บางส่วนก็เริ่มมีเสียงบ่น "จะเอาอย่างไรก็เอา จะทำอะไรก็ทำ ปล่อยไว้แบบนี้ประสาทจะกิน ทำมาหากินอะไรก็ไม่ได้" ซึ่งหากฟังจากกระแสเสียงที่ปรากฏ ถือว่าเป็นสัญญาณไม่ดีต่อรัฐบาล เพราะยิ่งสถานการณ์ยืดเยื้อออกไปนานเท่าไหร่ แรงสนับสนุนที่มีต่อรัฐบาลในการดำเนินการแก้ปัญหาวิกฤติบ้านเมืองก็จะเริ่มตีกลับ
     ดังนั้น การที่คณะรัฐมนตรี (ครม.) ประกาศต่ออายุวันหยุดราชการออกไปอีก 3 วัน ตั้งแต่วันที่ 19-21 พฤษภาคม ในพื้นที่กรุงเทพมหานคร เพิ่มจากเดิมที่ประกาศวันหยุดราชการไปแล้ว 2 วัน เพื่อให้เจ้าหน้าที่ปฏิบัติงานด้วยความสะดวก น่าจะเป็นโอกาสสุดท้ายในการดำเนินการของรัฐบาลในการแก้ปัญหาวิกฤติการเมืองที่เกิดขึ้น เพราะการใช้วันหยุดติดต่อกันนานนับสัปดาห์ สร้างความเสียหายอย่างมากต่อเศรษฐกิจและความเชื่อถือของประเทศ หากยังไม่สามารถทำให้ทุกอย่างกลับสู่ภาวะปกติได้อีก รัฐบาลอภิสิทธิ์น่าจะหมดความชอบธรรมที่จะบริหารประเทศต่อไป


http://www.thaipost.net/news/190510/22350


หัวข้อ: Re: [2513]"ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: เหยง 16 ที่ 19 พฤษภาคม 2553, 11:29:19
บทความ "คนปลายซอย" ของ คุณเปลว สีเงิน

กบฏที่กำลังเป็น "ปลาปากแห" ให้ทหาร
เปลว สีเงิน 19 พฤษภาคม 2553 - 00:00

      กรุงเทพฯ ประกาศเป็นสัปดาห์ "หยุดงาน-กวาดกบฏ" ตั้งแต่จันทร์ที่ ๑๗ พ.ค.-อาทิตย์ที่  ๒๓ พ.ค.๕๓ ถ้าถามว่า "แน่นะ...จันทร์ที่ ๒๔ พ.ค. ชีพจรเมืองจะเดินปกติ?" ผมก็ว่า ถึงวันนั้น "น่าจะปกติ" แต่ถ้ายัง...แสดงว่าต้องมี "ปาฏิหาริย์เหนือวิกฤติ" เกิดขึ้น แต่ไม่ต้องไปสนใจเรื่องปาฏิหาริย์ ที่ควรสนใจคือ จากจันทร์หน้าเป็นต้นไป เราจะไม่เห็น "การเมืองต้องแก้ด้วยการเมือง" อีก แต่จะเห็น "การทหารและการเมือง" นำบ้านเมืองออกจากฝันร้ายด้วย "โครงสร้างใหม่ๆ" ร่วมกันในระบบรัฐสภา และนั่นคืออะไร...ผมก็ไม่ทราบ เพียงแต่ "ภาวะเหนือความเข้าใจ" บางอย่าง...กระซิบบอก!?

      เมื่อพฤษภาคม ๒๕๓๕ คือเมื่อ ๑๘ ปีที่แล้ว เราเกิด "พฤษภาทมิฬ" และวันนี้ พฤษภาคม ๒๕๕๓ ตัวเลขเดียวกัน แต่กลับกันจาก ๓๕ มาเป็น ๕๓ เราเกิด "พฤษภา-มหานรก" ถ้ามองในมุมรหัสดาว ก็ไม่น่าแปลกใจตามวงรอบดาวเสาร์ ซึ่งคุยกันไปแล้วว่า เสาร์รอบนี้เป็น "เสาร์รอบเช็กบิล" ใครทำดี ชีวิตอยู่ในศีล-ในธรรม ก็ถึงคราวชีวิตนำสุขมาสู่อันไม่เคยประสบเช่นนี้มาก่อน แต่ถ้าใครทำชั่ว ชีวิตเกลือกกลั้วอยู่กับความเลวร้าย ก็ถึงคราววิบัติ ฉิบหาย-ตายจาก พรัดพราก ราพณาสูร วงจรชีวิตจะมีแต่โศกาอาดูร สิ่งที่เพิ่มพูนคือทุกข์ถมทุกข์! ขณะนี้ รัฐบาล-ทหาร-ตำรวจ ถ้าจะพูดให้เห็นภาพ เขาก็คือตัวแทน "ดาวเสาร์" มาทำหน้าที่เช็กบิล "มนุษย์บุญ-มนุษย์บาป" ไม่มีความหมายอะไรที่พวกกบฏแผ่นดิน ปากก็ตะโกนว่า "รัฐบาล-ทหารฆ่าประชาชน"

      แต่มือพวกมัน...ฆ่าทหาร-เผาเมือง พยายามล้มสถาบัน เปลี่ยนระบอบ กระทำทารุณ โหดร้าย ป่าเถื่อน กับพี่น้องประชาชนร่วมชาติอันไม่เคยปรากฏว่ามนุษย์เมืองไหนจะทำกับบ้านเมืองตัวเองอย่างที่ "กบฏทักษิณ" กำลังทำ! รัฐบาล-ทหาร ไม่ได้ฆ่าประชาชน.....แต่ฆ่าผู้ก่อการร้ายที่ทำลายเมือง เป็นการพิทักษ์ชาติ-ประชาชน! ฝ่ายกบฏก่อการร้ายจะยอมเจรจา หรือไม่ยอมก็ตาม เมื่อมาถึงจุดนี้ คือจุดที่ "ไม่มีใครแพ้-ชนะ" เพราะแพ้ด้วยกันทั้งประเทศอยู่แล้ว รัฐบาล-ทหาร จะอ่อนข้อ-รามือเปิดโอกาสให้สัตว์ป่าเลียแผลไม่ได้  เพราะเห็นมาตลอดแล้วว่า "สัจจะไม่มีในหมู่โจร" เจรจากับโจรก็เจรจาไป แต่ฝ่ายรัฐต้องเป็นฝ่าย "หยัดอยู่-ชูกฎหมาย" ไม่ใช่ให้โจรมาต่อรองนอกกรอบกฎหมาย ซึ่งจะทำให้อีกหลายกลุ่ม-หลายพวกในขบวนการยกเป็นเงื่อนไขมาต่อรองบ้างในโอกาสต่อไป และนั่นก็จะทำให้คำว่า "๒ มาตรฐาน" ถูกโจรไร้ยางอายเวียนนำมาใช้ยามไม่ได้อย่างใจอีก!

      ผมก็ไม่เข้าใจเหมือนกันว่า สมาชิกวุฒิสภา หรือ ส.ว.มาทำหน้าที่ตัวกลางในการเจรจาหาทางสงบศึกระหว่างกบฏกับรัฐบาล ไหนๆ ก็ทำดี เป็นสัญลักษณ์แห่งประสานสามัคคีอยู่แล้ว แต่ทำไมแม่ปูต้องแยก-แตกสามัคคีเป็นกลุ่ม ๖๔ ส.ว.บ้าง กลุ่ม ๔๐ ส.ว.บ้าง ไปทำหน้าที่ตัวกลาง กลุ่มใคร-กลุ่มมัน เห็นแล้ว วุฒิภาวะแห่งวุฒิฯ จะมีตำหนิไปหน่อยนะครับ!

      ในการปราบกบฏที่มีกองกำลังก่อการร้ายเป็นหน่วยรบนั้น ก็ชัดแล้วว่า "หัวหน้าผู้ก่อการร้าย" อยู่นอกประเทศ ขณะนี้อยู่กันพร้อมหน้าทั้งพ่อ-แม่-ลูก ช็อปปิ้งกันเพลินที่ฝรั่งเศส แต่นี่ไม่ใช่ประเด็นที่ผมอยากจะบอก ที่อยากจะบอกคือ ยุทธการปราบกบฏครั้งนี้ ต้องใช้ระบบ "สื่อสารสังคม" ให้มาก! โจรอยู่เรือนพุธ โจรก็ปากเก่ง แต่พุธถึงอาทิตย์ถึงพฤหัสฯ สู้ปากรัฐบาลไม่ได้ เพราะเป็นปาก "สีผึ้งเสก" ฉะนั้น พูดอะไร สังคมจะให้น้ำหนักในการเชื่อถือมากกว่า เพราะฉะนั้น การจะให้ชนะศึกทั้งในสนาม  และทั้งในสนามสังคมโลก ศอฉ.จะต้องเป็นมิตรกับสื่อ และใช้การสื่อสาร "ออกข่าว-ออกจอ" เป็นประจำ ดาวพุธของหัวหน้าโจรก่อการร้ายเสีย แต่ดาวพุธในดวงเมืองขณะนี้ รัฐบาล-ทหารกำลังดีวัน-ดีคืน  และผมเชื่อว่า เสร็จศึกสนามแล้ว ต่อไปฝ่ายกบฏจะเปิดศึกทางมวลชนผ่านระบบสื่อ ฟ้องโน่น-ฟ้องนี่ ทั้งใน-นอกประเทศ โดยบิดเบือนทั้งเอกสาร ทั้งภาพ ให้ปรากฏว่า "รัฐบาล-ทหาร ฆ่าประชาชน"

      พยานบุคคลที่เป็น "คนกลาง" สำหรับใช้อ้างอิงว่า "ใครพูดตรง-ใครพูดบิด" ได้ดีที่สุดคือ สื่อมวลชนทั้งหลายไม่ว่าจะเป็น นักข่าว-ช่างภาพ-ช่างกล้อง ที่ติดตามอยู่ในแต่ละเหตุการณ์ใกล้ชิดตลอด และนั่น ฝ่าย ศอฉ.ซึ่งปฏิบัติการเปิดเผยท่ามกลางการจับตาของสื่อมวลชน น่าจะรวบรวมรายชื่อ สังกัด สถานที่ติดต่อ ของสื่อมวลชนนั้นไว้ทั้งหมดในฐานะ "สื่อร่วมศึก" เพราะสื่อมวลชน "คนกลาง" นี่แหละ เมื่อถึงคราวชี้ขาด สามารถบอกได้จากเหตุการณ์ที่ "เห็นด้วยตา" ตัวเองว่า อะไรใช่...อะไรไม่ใช่! ผมสังเกตว่าพวกกบฏเขารู้ และฉลาดในการยืมมือสื่อสร้างความชอบธรรม ฉะนั้น บางอ่านอาจสงสัยว่าตอนกลางวันโล่งๆ ทำไมกองกำลังกบฏทักษิณจึงเผยตัวให้เห็นตอนยิงหนังสติ๊กบ้าง ตอนเข็นยางมาเผาบ้าง ตอนจุดพลุ-จุดตะไลบ้าง ที่ว่าอาวุธร้ายแรงก็แค่ทำระเบิดขวดให้นักข่าว-ช่างภาพบันทึกเป็นภาพไปเผยแพร่ ไม่เห็นมี "กองกำลังไม่ทราบฝ่าย" มือระเบิดเอ็ม ๗๙ มือเอ็ม ๑๖ มือดักสังหาร มือแม่นปืน อย่างที่พูดกันแต่อย่างใด? นี่ไง...ที่ผมว่ายุทธศาสตร์ทางสื่อที่พวกกบฏใช้ พวกกบฏจงใจแอคชั่น "ผู้ชุมนุมไม่มีอาวุธ" มีเพียงหนังสติ๊กเป็นพื้นสู้กับฝ่ายทหารปรากฏตามหน้าหนังสือพิมพ์ ตามหน้าจอโทรทัศน์ ตามบรรทัดข่าวที่นักข่าวรายงานออกไป เพื่อสนับสนุนการปลิ้นปล้อนบนเวทีของแกนนำที่ว่า ผู้ชุมนุมไม่มีอาวุธ-ไม่มีใครตาย, แต่ทหารมีปืน-ประชาชนตาย!

      แต่พอมืดค่ำ มันดับไฟหมด เอาล่ะตานี้ มือระเบิด มือซุ่มยิง มือปืน เรียกว่าสารพัดอาวุธสงคราม โจรก่อการร้ายฝ่ายกบฏมันขนออกมาเป็น "มือฆ่ามุมตึก" ทั้งยิงใส่ ทั้งปาระเบิด ทั้งเผา เรียกว่าฆ่าไม่เลือกหน้า พวกทหาร หรือพวกชาวบ้าน "ขอให้ตาย" ถือว่าสะใจกูแล้ว นั่นคือ ผู้บาดเจ็บและตาย ส่วนหนึ่งมาจาก "มือฆ่ามุมตึก" อันยากที่ช่างภาพ-ช่างกล้องจะจับภาพมาให้เห็นชัดๆ เหมือน "ยิงหนังสติ๊ก" ตอนกลางวันได้ แต่ในข้อเท็จจริงอันเป็นที่ประจักษ์ นักข่าวในภาคสนาม รับรู้ได้ด้วยตา ด้วยวิญญาณนักข่าวถึง "มือฆ่า" ที่อยู่ข้างหลังของมือหนังสติ๊ก! สมมุติว่ารัฐบาล-ทหารกระหายเลือด จงใจฆ่าคนเผาบ้าน-ทำลายเมืองจริงๆ แล้ว ๗ วัน มีคนตาย  ๓๖ คน บาดเจ็บกว่า ๒๐๐ คน ต้องไล่ออกทั้งกองทัพ เพราะแสดงว่าฝีมือและสมรรถภาพห่วยมาก แต่ในข้อเท็จจริงมันไม่ใช่อย่างนั้น ที่ตาย-เจ็บแค่นั้น เป็นเรื่องน่ายินดี เพราะแสดงชัดว่า ทหาร-หลีกเลี่ยงการบาดเจ็บ-ล้มตายจนถึงที่สุดแล้ว! มิคสัญญีเมืองขนาดนี้     รัฐบาล-ทหาร ถนอมชีวิตคนเผาเมืองได้มากกว่าที่คาดว่าน่าจะสูญเสีย เราควรจะมองมุมนี้มากกว่าไปเพ่งเล็งในมุมลบ ถ้าจะเพ่งเล็ง ต้องไปดูเหตุการณ์ที่ตากใบ และที่กรือเซะ  ทักษิณสั่งฆ่าทีเดียวร่วมร้อยศพ นั่นเป็นตัวเลขสูญเสียที่ประชาชนเห็นว่า...ไม่มีเหตุผลที่ต้องสูญเสียเลย! หรืออย่างสงกรานต์ที นั่งนับศพกันได้ปีละ ๓๐๐-๔๐๐ ศพ ภายใน ๗ วัน ปีแล้ว-ปีเล่า "ตายนับร้อยทุกปี" แล้วตัวเลขมากมายขนาดนี้มีใครนำความสูญเสียรายปีมาเป็นต้นทุนแก้โจทย์บ้าง? ฉะนั้น ตัวเลขไม่ใช่คำตอบของคำว่า..ใช่-ไม่ใช่ แต่ตัวเลขนั้นต้องดูว่า "สะท้อนถึงเหตุผล" เช่นใด!?

      ผมก็อนุโมทนาที่วุฒิสมาชิกส่วนหนึ่งเป็น "ตัวตั้ง-ตัวตี" ประสานสงบศึก ความจริง แค่แกนนำสั่งสลายการชุมนุมทุกอย่างก็จบ ไม่ต้องไปเกี่ยงงอนให้ทหารเขาหยุดยิง หรือถอนกลับที่ตั้งเพราะปกติทหารเขาก็ไม่ยิงใครอยู่แล้ว ผิดกับพวกกบฏที่บ้าคลั่ง ดิบ-เถื่อน-โหด ทำร้ายประเทศ  ทำลายชีวิตสังคมประชาชาติทั้งเมือง เผายาง-ปิดถนน-ค้นรถ-ค้นโรงพยาบาล-ฆ่ากระทั่งคนกาชาด-ปล้นสะดมร้านค้า-ทุบตู้เอทีเอ็ม ฯลฯ นี่มันพฤติกรรมโจรก่อการร้าย "ปล้นบ้าน-เผาเมือง-ฆ่าประชาชน" มีโทษตาย-โทษตลอดชีวิตเกือบทั้งนั้น แล้วยังจะมีหน้าไปต่อรองให้รัฐบาล-ทหารเขา "หยุดทำหน้าที่" พิทักษ์บ้าน-ปกปักประชาชนอีกหรือ? "สะพานข้ามเหวนรก" ที่ ส.ว.ทอดให้นั้น เป็นทางสุดท้ายแล้ว ถ้าบรรดา "กบฏฮาร์ดคอร์" ทั้งหลายยังไม่ยึดไว้เป็น "ทางหนีตาย" ผมเกรงว่าจะตายเอาจริงๆ เพราะจะเห็นว่า "รัฐบาล-ทหาร" ถอดเกียร์ถอยหลังทิ้งไปแล้ว พวกคุณมัน "โจรไม่มีสัจจะ" พูดจาเชื่อถือไม่ได้ ฉะนั้น ครั้งนี้กบฏต้องอยู่ภายใต้เงื่อนไขที่ไม่มีสิทธิ์ปฏิเสธ กบฏ-เสียมวลชน.....แล้วมีหรือ "รัฐบาล-ทหาร" จะอ่อนข้อ "จากได้" ให้กลายเป็นเสีย!


http://www.thaipost.net/news/190510/22355


หัวข้อ: Re: [2513]"ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: prapasri AH ที่ 19 พฤษภาคม 2553, 11:38:04
เหยง อย่าโกรธรัฐบาล เลย เพราะนายใหญ่มันไม่หยุด

รัฐบาลทำงานยากมาก ทหารเเตงโมเอย ตำรวจมะเขือเทศเอยทุกคนไม่จริงใจกับรัฐบาลเลย

ทำให้รัฐบาลเป็น อ่อนเปลี้ย ทำงานยากมาก


ทำไปก็กลัวต่างประเทศ บอยคอต  กลัวประชาชนที่ถูก ปลุกระดม ตาย

เขาก็หาว่ารัฐบาลฆ่าประชาชน กลัวนักสิทธิมนุษยชน สรุปว่าเกรงใจประชาชนน่ะ

ทหาร สั่งงานไปก็ไม่ทำ เพิ่งมาทำเอาไม่กี่วันนี้เอง

ตำรวจไม่ต้องพูดถึงเพือนนายใหญ่ทั้งนั้น ปล่อยให้เสื้อแดงเข้ามาอย่าสะดวกโยธิน

ในขณะเดียวกัน รัฐบาล ต้องใช้ วิธีการทุกอย่างอย่างละมุนละม่อม มากที่สุด

อี พรรคร่วม ทั้งหลาย ก็นั่งดูความหายนะ
หากพลาดไป ฉันก็ไปกับนายใหญ่
หากชนะฉันก็ชนะด้วย


ฟัง บรรหาร ให้สัมภาษณ์ ทุเรศมาก
เดี๋ยวก็บอกว่าจะถอนตัว เด่วก็บอกว่าให้รัฐบาลปราบ เด่วก็บอกว่าก็บอกว่าถ้ารัฐบาลปราบผมจะถอนตัว

เลยไม่รู้ว่าไอ้เตี้ยมันจะเอาอะไร

คิดว่าคงอยากเป็นนายกรักษาการณ์มั้ง

ถ้าพี่แอ๊ะเป็นายกพีแอ๊ะ  จะลาออก หรือยุบสภา

ประเทศชาติจะเป็นอย่างไรช่างแม่งมัง

กูเอาตัวรอดดีกว่า

นี่พี่แอ๊ะ ถือว่า นายกท่านนี้รับผิดชอบต่อประเทศสูงมาก
ยอมเอาอนาคต ทางการเมืองของท่านเองเป็นเดิมพัน

ท่านนายก ท่านเลวน้อยที่สุดเเล้ว เป็นกำลังใจให้ท่านเถิด


หัวข้อ: Re: [2513]"ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: Intania๑๖ ที่ 19 พฤษภาคม 2553, 11:48:09


(http://farm4.static.flickr.com/3365/4620884086_7fe1246d6a_o.gif)

ดับทุกข์ ให้ดับต้นตอแห่งทุกข์


หัวข้อ: Re: [2513]"ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: prapasri AH ที่ 19 พฤษภาคม 2553, 14:21:09
ตอนนี้ ที่ยโสธร สีแดงยึดศาลากลางแล้ว

และศาลากลางถูกปิดเเล้วค่ะ ตำรวจก็มีน้อยเพราะไปกรุงเทพกันหมด
 

เมื่อ กี้พี่แอ๊ะ ขับรถมาตามถนนมีรถปิ๊กอั๊บติดธงแดง

 ชาวบ้านโพก หัวปิดหน้า นั่งบนรถไปตามถนนเเจ้งสนิทค่ะ

ไม่ใช่แกนนำมันมอบตัวในกรุงเทพ แล้ว ให้เครือข่ายก่อตัวในต่างจังหวัดหรือเปล่า

เมื่อวานเผายางรถ หน้าบ้านสส. ปชป.ค่ะ

แม้ว่ามันจะมอบตัวอย่าเพิ่งวางใจ นะ

แผนสอง แผน สาม ต้องมีอีก


หัวข้อ: Re: [2513]"ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: อ้อย 14 ที่ 19 พฤษภาคม 2553, 15:39:32
 emo:(ตอนนี้พวกมันเผาศาลากลางขอนแก่น  แล้วค่ะ ตำรวจ ยืนมองเฉย หลังจากนี้มันน่าจะต้องมีเคลียกับตำรวจแล้ว emo25:(((


หัวข้อ: Re: [2513]"ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: prapasri AH ที่ 19 พฤษภาคม 2553, 15:55:22
ข่าวว่าศาลากลางจังหวัดอุบลราชธานี ถูกเผาไปครึ่งหนึ่งแล้ว

เช็คข่าวให้ด้วยค่ะ


หัวข้อ: Re: [2513]"ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: เหยง 16 ที่ 19 พฤษภาคม 2553, 16:54:45
นี่.........อีกวันสองวัน ห้องนี้จะย้ายกลับไป 2513 แล้ว ใช่มั้ย??





5800  emo28:win:


หัวข้อ: Re: [2513]"ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: prapasri AH ที่ 19 พฤษภาคม 2553, 21:04:28
ศาลากลาง อุบล วอดไม่เหลือเลยค่ะ

เค้าคงมีแผนว่า ถ้าแกนนำมอบตัว ให้เผาหมดประเทศ


หัวข้อ: Re: [2513]"ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: เหยง 16 ที่ 19 พฤษภาคม 2553, 23:34:23
ฉลองเสร็จเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ที่เมืองทองธานี เจ้าสาวเป็นสาวนครชัยศรี คนงามของจังหวัดนครปฐม

(http://www.cmadong.com/imageupload/2010_Cmadong-Image/data/image/l2odz4-601470.jpg)


เพิ่มเติมครับ

“นุ่น-ต๊อด” เครียดฉลองวิวาห์ช่วงกรุงป่วน จูบปากโชว์แย้มชีวิตคู่สุดแฮปปี้
19 พฤษภาคม 2553 18:15 น.

(http://www.cmadong.com/imageupload/2010_Cmadong-Image/data/image/l2p668-e73efa.jpg)

       ฉลองแต่งท่ามกลางประกาศเคอร์ฟิว “นุ่น-ต๊อด” ห่วงความปลอดภัยแขก รีบรวดรัดพิธีฉลองแต่ง พร้อมแจงเตรียมงานมานานแล้ว เปล่าตั้งใจแต่งขณะบ้านเมืองกำลังป่วน จูบปากหวานโชว์สื่อ แย้มคอนเซ็ปต์งานเน้นเรียบง่าย ให้เทียนหอมเป็นของชำร่วย เจ้าสาวยิ้มได้เครื่องเพชรเป็นของขวัญเซอร์ไพร์สตั้งแต่งานหมั้น แถมแม่เจ้าบ่าวให้เพิ่มอีกชุด แย้มชีวิตคู่สุดแฮปปี้มาเติมเต็มกันและกัน
       
       ยังคงอยู่ในบรรยากาศหวานชื่นมื่น หลังจัดพิธีหมั้นหมายตามประเพณีไทยแท้ และจดทะเบียนสมรสกันไปเป็นที่เรียบร้อยแล้วเมื่อวันที่ 14 พ.ค.ที่ผ่านมา ณ โรงแรมแมนดาริน โอเรียนเต็ล วันนี้ (19 พ.ค.) คู่รักร้อยล้าน “นุ่น วรนุช และ ต๊อด ปิติ ภิรมย์ภักดี” ได้จัดพิธีฉลองมงคลสมรสขึ้นที่ห้องรอยัล จูบิลลี่ บอลรูม อิมแพคอารีน่า เมืองทองธานี มีพ่อของเจ้าบ่าว “นายสันติ ภิรมย์ภักดี” เป็นประธานในพิธีฝ่ายเจ้าบ่าว และ “คุณพารน อิสระเสนา ณ อยุธยา” เป็นประธานในพิธีฝ่ายหญิง ซึ่งบรรยากาศภายในงานประดับประดาไปด้วยดอกไม้สีขาวและฟ้า เป็นสีที่เจ้าบ่าวและเจ้าสาวโปรดปราน
 
 
http://www.manager.co.th/Entertainment/ViewNews.aspx?NewsID=9530000069498



หัวข้อ: Re: [2513]"ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: Khun28 ที่ 20 พฤษภาคม 2553, 06:24:08
อ้างถึง
ข้อความของ prapasri AH เมื่อ 19 พฤษภาคม 2553, 21:04:28
ศาลากลาง อุบล วอดไม่เหลือเลยค่ะ

เค้าคงมีแผนว่า ถ้าแกนนำมอบตัว ให้เผาหมดประเทศ

พี่แอ๋ะ แวะไปดู รวมภาพศาลากลางเมืองอุบลที่โดนเผา ได้ครับ

http://ben21-26.org/news/detail.php?id=2822

http://ben21-26.org/news/detail.php?id=2823


หัวข้อ: Re: [2513]"ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: เหยง 16 ที่ 20 พฤษภาคม 2553, 09:28:01
หมายเหตุกองบก.
บทบรรณาธิการ 20 พฤษภาคม 2553 - 00:00

      ขออภัย!    หนังสือพิมพ์ไทยโพสต์ ฉบับวันพฤหัสบดีที่ 20 พฤษภาคม 2553 งดวางแผง 1 วัน อันเนื่องมาจากความไม่สงบเรียบร้อยในบริเวณกรุงเทพมหานครชั้นใน ซึ่งกระทบกับการปฏิบัติงานในหลายด้าน  จนไม่สามารถตีพิมพ์หนังสือพิมพ์ออกมาได้ แต่กองบรรณาธิการไทยโพสต์จะกลับมาปฏิบัติงานตามปกติในวันถัดไป
                   
                                                   กองบรรณาธิการหนังสือพิมพ์ไทยโพสต์
                                                        19 พฤษภาคม 2553


หัวข้อ: Re: [2513]"ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: prapasri AH ที่ 20 พฤษภาคม 2553, 09:33:25
อ้างถึง
ข้อความของ เหยง 16 เมื่อ 19 พฤษภาคม 2553, 23:34:23
ฉลองเสร็จเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ที่เมืองทองธานี เจ้าสาวเป็นสาวนครชัยศรี คนงามของจังหวัดนครปฐม

(http://www.cmadong.com/imageupload/2010_Cmadong-Image/data/image/l2odz4-601470.jpg)



เจ้าบ่าวสาวคู่นี้เป็นใครคะ เหยง


หัวข้อ: Re: [2513]"ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: เหยง 16 ที่ 20 พฤษภาคม 2553, 09:34:53
บทบรรณาธิการ นสพ.แนวหน้า ออนไลน์ วันพฤหัสบดีที่ 20 พฤษภาคม 2553 ที่เรียกร้องให้รัฐบาล ดำเนินการอย่างเฉียบขาดกับกลุ่มผู้ก่อการร้าย ก่อนจะเสียหายหนักไปกว่านี้

บทบรรณาธิการ 
 
รัฐต้องรีบกวาดล้างกลุ่มก่อการร้าย (บทบรรณาธิการ) 
 
 
      นับเป็นความชอบธรรมของรัฐบาลโดยศูนย์อำนวยการแก้ไขสถานการณ์ฉุกเฉิน(ศอฉ.)ได้ดำเนินมาตรการกดดันเพื่อสลายการชุมนุมม็อบคนเสื้อแดงให้พ้นจากพื้นที่ย่านราชประสงค์ ขณะเดียวกันก็ถือเป็นภาระหน้าที่อันเร่งด่วนที่รัฐบาลจะต้องหยุดยั้งสถานการณ์สงครามกลางเมืองและควบคุมสถานการณ์บ้านเมืองให้กลับคืนสู่ความสงบโดยเร็วที่สุดจากปฏิบัติการก่อการร้ายจุดไฟเผาบ้านป่วนเมืองไปทั่วกรุงเทพมหานคร

      ทั้งนี้แต่ละวันที่สถานการณ์ความรุนแรงในภาวะสงครามกลางเมืองยิ่งยืดเยื้อออกไปก็ยิ่งสร้างความสูญเสียทั้งชีวิตและทรัพย์สินตลอดจนทำลายเศรษฐกิจของประเทศจนไม่มีชิ้นดี โดยล่าสุดหนึ่งสัปดาห์หลังการใช้มาตรการกดดันของกำลังทหารและตำรวจทำให้มีผู้เสียชีวิตแล้วเกือบ 40 รายและบาดเจ็บอีกหลายร้อยราย

      ภาพสงครามกลางเมืองกลางเมืองหลวงของประเทศไทยที่ถูกเผยแพร่ออกไปทั่วโลกส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจด้านการท่องเที่ยวโดยตรงอย่างรุนแรง โดยเฉพาะเหตุการณ์ที่มีการยิงกระสุนเบิดแบบเอ็ม 79 เข้าใส่โรงแรมดุสิตธานีอันเป็นโรงแรมระดับห้าดาวจนทำให้นักท่องเที่ยวต่างชาติต้องพากันหนีเอาชีวิตรอดกันอลหม่านด้วยความตกใจกลัวสุดขีด ซึ่งภาพของกรุงเทพมหานครที่กลายเป็นสมรภูมิดุจสงครามในขณะนี้ทำให้อย่างน้อย 19 ประเทศที่สั่งเตือนประชาชนของตัวเองไม่ให้เดินทางเข้ามาท่องเที่ยวในประเทศไทย

      นับตั้งแต่เกิดการชุมนุมของม็อบคนเสื้อแดงช่วงกว่า 2 เดือนที่ผ่านมาได้บ่อนทำลายสร้างความเสียหายทางเศรษฐกิจของประเทศไปแล้วเป็นมูลค่าเกือบ 1 แสนล้านบาทและเพิ่มมูลค่าความเสียหายมากขึ้นเรื่อยๆตามสถานการณ์ที่ยืดเยื้อออกไป ขณะที่กระทรวงการคลังเองก็ยอมรับว่าวิกฤติการณ์ความรุนแรงที่เกิดขี้นคาดว่าจะทำให้อัตราการเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจของประเทศหรือจีดีพีที่เดิมมีแนวโน้มสดใสจะลดลงถึงร้อยละ 2

      จากผลสำรวจของสวนดุสิตโพลครั้งล่าสุดสะท้อนให้เห็นอย่างชัดเจนว่ากระแสสังคมส่วนใหญ่เห็นด้วยกับมาตรการของรัฐบาลในการสลายการชุมนุมของม็อบคนเสื้อแดงเพราะเอือมระอาเต็มทีกับพฤติกรรมดุจอันธพาลป่วนเมืองที่เคลื่อนไหวคู่ขนานกับกลุ่มโจรก่อการร้ายที่บ่อนทำลายเผาบ้านป่วนเมืองเพื่อให้บรรลุเป้าหมายของคนเพียงคือเดียวโดยไม่คำนึงถึงหายนะใดๆที่จะเกิดกับชาติบ้านเมืองมาตลอดช่วงที่ผ่านมา

      ดังนั้นจึงถือเป็นความชอบธรรมของรัฐบาลในการสลายการชุมนุมของม็อบคนเสื้อแดง แต่ปัญหาสำหรับรัฐบาลขณะนี้ก็คือยังไม่สามารถหยุดยั้งภาวะสงครามกลางเมืองที่มีแนวโน้มเลวร้ายขึ้นทุกขณะจากปฏิบัติการก่อการร้ายอย่างเต็มรูปแบบด้วยการใช้อาวุธสงครามร้ายแรงนานาชนิด การวางเพลิง การเผากองยางรถยนต์ การปล้นสะดมภ์ และการก่อวินาศกรรมทุกรูปแบบ

      ขณะเดียวกันก็ถือเป็นหน้าที่อันชอบธรรมและเร่งด่วนอย่างยิ่งที่รัฐบาลจะต้องระดมสรรพกำลังและใช้มาตรการทุกวิถีทางที่เด็ดขาดเข้มข้นเพื่อหยุดยั้งและกวาดล้างจับกุมกลุ่มก่อการร้ายอย่างเฉียบขาดฉับพลัน เพราะหากสถานการณ์อันเลวร้ายยังลุกลามบานปลายต่อไปโดยที่รัฐไม่สามารถควบคุมสถานการณ์ได้จนถึงจุดที่เรียกว่า"รัฐล้มเหลว"ซึ่งนั่นคือสัญญาณอันตรายสำหรับรัฐบาลที่จะบริหารประเทศต่อไป
 
วันที่ 20/5/2010
 
http://www.naewna.com/news.asp?ID=211830


หัวข้อ: Re: [2513]"ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: prapasri AH ที่ 20 พฤษภาคม 2553, 09:37:06
โกรธอะไร กับศาลากลางงงงงง


หัวข้อ: Re: [2513]"ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: เหยง 16 ที่ 20 พฤษภาคม 2553, 09:44:01
อ้างถึง
ข้อความของ prapasri AH เมื่อ 20 พฤษภาคม 2553, 09:33:25
อ้างถึง
ข้อความของ เหยง 16 เมื่อ 19 พฤษภาคม 2553, 23:34:23
ฉลองเสร็จเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ที่เมืองทองธานี เจ้าสาวเป็นสาวนครชัยศรี คนงามของจังหวัดนครปฐม

(http://www.cmadong.com/imageupload/2010_Cmadong-Image/data/image/l2odz4-601470.jpg)



เจ้าบ่าวสาวคู่นี้เป็นใครคะ เหยง

“นุ่น-ต๊อด” เครียดฉลองวิวาห์ช่วงกรุงป่วน จูบปากโชว์แย้มชีวิตคู่สุดแฮปปี้
19 พฤษภาคม 2553 18:15 น.

(http://www.cmadong.com/imageupload/2010_Cmadong-Image/data/image/l2p668-e73efa.jpg)

       ฉลองแต่งท่ามกลางประกาศเคอร์ฟิว “นุ่น-ต๊อด” ห่วงความปลอดภัยแขก รีบรวดรัดพิธีฉลองแต่ง พร้อมแจงเตรียมงานมานานแล้ว เปล่าตั้งใจแต่งขณะบ้านเมืองกำลังป่วน จูบปากหวานโชว์สื่อ แย้มคอนเซ็ปต์งานเน้นเรียบง่าย ให้เทียนหอมเป็นของชำร่วย เจ้าสาวยิ้มได้เครื่องเพชรเป็นของขวัญเซอร์ไพร์สตั้งแต่งานหมั้น แถมแม่เจ้าบ่าวให้เพิ่มอีกชุด แย้มชีวิตคู่สุดแฮปปี้มาเติมเต็มกันและกัน
      
       ยังคงอยู่ในบรรยากาศหวานชื่นมื่น หลังจัดพิธีหมั้นหมายตามประเพณีไทยแท้ และจดทะเบียนสมรสกันไปเป็นที่เรียบร้อยแล้วเมื่อวันที่ 14 พ.ค.ที่ผ่านมา ณ โรงแรมแมนดาริน โอเรียนเต็ล วันนี้ (19 พ.ค.) คู่รักร้อยล้าน “นุ่น วรนุช และ ต๊อด ปิติ ภิรมย์ภักดี” ได้จัดพิธีฉลองมงคลสมรสขึ้นที่ห้องรอยัล จูบิลลี่ บอลรูม อิมแพคอารีน่า เมืองทองธานี มีพ่อของเจ้าบ่าว “นายสันติ ภิรมย์ภักดี” เป็นประธานในพิธีฝ่ายเจ้าบ่าว และ “คุณพารน อิสระเสนา ณ อยุธยา” เป็นประธานในพิธีฝ่ายหญิง ซึ่งบรรยากาศภายในงานประดับประดาไปด้วยดอกไม้สีขาวและฟ้า เป็นสีที่เจ้าบ่าวและเจ้าสาวโปรดปราน
 
 
http://www.manager.co.th/Entertainment/ViewNews.aspx?NewsID=9530000069498

หมายเหตุ ตั้งแต่เวลา 18.15 น. 19 พค. 53 ซึ่งเป็นเวลาที่ลงโพสต์ภาพและข้อความ จนถึงเวลาประมาณ 09.40 น. มีคนคลิีกเข้าชมเรื่องนี้แล้ว 140,519 ราย และชมภาพเพิ่มเติมอีกนับสิบภาพที่

http://www.manager.co.th/Entertainment/ViewNews.aspx?NewsID=9530000069498


หัวข้อ: Re: [2513]"ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: เหยง 16 ที่ 20 พฤษภาคม 2553, 09:46:14
อ้างถึง
ข้อความของ prapasri AH เมื่อ 20 พฤษภาคม 2553, 09:37:06
โกรธอะไร กับศาลากลางงงงงง

เป็นการแสดงออกถึงการไม่ยอมรับอำนาจการปกครอง

แต่ที่สำคัญแสดงให้รู้ว่า สามารถทำอะไรก็ได้ โดยอำนาจของรัฐไม่อาจยังยั้งได้ รวมทั้งเป็นใจด้วย


หัวข้อ: Re: [2513]"ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: prapasri AH ที่ 20 พฤษภาคม 2553, 09:57:30
<object width="480" height="385"><param name="movie" value="http://www.youtube.com/v/SG84UDO-lBA&hl=en_US&fs=1&"></param><param name="allowFullScreen" value="true"></param><param name="allowscriptaccess" value="always"></param><embed src="http://www.youtube.com/v/SG84UDO-lBA&hl=en_US&fs=1&" type="application/x-shockwave-flash" allowscriptaccess="always" allowfullscreen="true" width="480" height="385"></embed></object>

ใช้ต้องการตามที่ผมโพสต์หรือไม่ครับ ??
เหยง

http://www.youtube.com/watch?v=SG84UDO-lBA


หัวข้อ: Re: [2513]"ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: prapasri AH ที่ 20 พฤษภาคม 2553, 10:11:47
เหยง

ช่วยเอาเพลงโอ้ ชีวิตเป็นสุขลำเมื่อเห็นน้ำเจ้าพระยา
มาใส่ให้พี่แอ๊ะ หน่อยดิ


หัวข้อ: Re: [2513]"ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: prapasri AH ที่ 20 พฤษภาคม 2553, 10:14:11
แล้วเราจะทำยังไงกัน

ถ้าประชาธิปไตยหมายถึงเป็นอย่างนี้เราอย่าเอาเลยประชาธิปไตย

เอาแบบไหนก็ได้ ที่ทำให้สงครามกองโจร หมดไป


หัวข้อ: Re: [2513]"ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: prapasri AH ที่ 20 พฤษภาคม 2553, 10:38:27
จะเป็นคอมมูนิสต์ คอมมูหน่อย ก็เอาไปเถอะ เอาแบบประเทศจีนก็ได้

เค้าเผด็จการแต่เขาเจริญดี เป็นมหาอำนาจของโลกไปแล้วด้วย


หัวข้อ: Re: [2513]"ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: swsm ที่ 20 พฤษภาคม 2553, 10:58:57
ต้องขุดรากให้หมดนะคะ .. ดูเหมือนจะสร่างซา บางเบา ..
แต่แกนนำหลายคน หลายรุ่น คงยังไม่ยอมจบง่าย ๆ


วันดีคืนดี มันก็มารวมตัวกันใหม่ .. เอากฎหมู่มาขู่เหมือนเดิม
ไปเผาบ้านเมืองทำมาย .. ไม่เข้าจายจริง ๆ ..  



ควายเอ๊ย !!
   



หัวข้อ: Re: [2513]"ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: prapasri AH ที่ 20 พฤษภาคม 2553, 11:58:15
ส่งผู้ชุมนุม เข้าเขตอภัยทาน ที่วัดปทุมวนาราม

ในที่สุด พวกมันก็ต้องมาพึ่ง พระบรมโพธิสมภาร จนได้

ที่เก็บพระอัฐิ ของพระราชวงศ์หลายพระองค์อยู่ที่นี

พี่แอ๊ะไปทำบุญพระอัฐิ ของ ของพระราชวงศ์พระองค์หนึ่ง บ่อยๆ

ในวันครบรอบวันประสูติพระองค์ท่าน ประมาณเดือนธันวาคม (วันที่21ธค.)

คือ พระเจ้าวรวงศ์เธอพระองค์เจ้าจุไรรัตน์ศิริมาน ท่านมีศักดิ์เป็นหลานของรัชกาลที่ 5

เป็นธิดาของ สมเด็จฯเจ้าฟ้ากรมพระนครสวรรค์วรพินิตพระโอรสของรัชกาลที่5

(พระองค์หญิงเป็นพระมารดาของหม่อมเต่า)

ตอนที่ท่านมีพระชนมายุอยู่ พี่แอ๊ะกับพี่หาญได้เข้าเฝ้าเป็นประจำ
เพราะพี่หาญเป็นนักเรียนทุนของพระองค์ท่าน
ท่านประทานเงินให้เดือนละ500 บาท สมัยนั้นพี่หาญยังแบ่งให้น้องชาย พี่หาญได้เรียนด้วย

(พี่แอ๊ะน้ำตาซึมแล้วค่ะ)
บุญคุณของพระองค์ท่านพี่แอ๊ะไม่มีวันลืม ไม่มีพระองค์ท่านก็คงไม่มี หมอหาญ เช่นกัน

และได้ปาวรณาตัว รับใช้ "วังชิดลม "  (อยู่ตรงร.รอนุบาลจุไรรัตน์ )เสมอมา
ส่งข้าวสาร จากยโสธร ไปให้ ท่านยังมี บริวาร ที่ต้องดูแลอยู่ เป็นจำนวนมาก เรียกว่า

ดูแลกันถึงลูกถึงหลานเหลน ของ บริวารเลยทีเดียว

พระธิดาของพระองค์ท่านบอกว่า พระองค์หญิง ส่งเด็กให้เรียนหลายคน แต่มีหมอหาญคนเดียว
ที่ยังผูกพันกับวังชิดลม และ ยังเคารพ นับถือ ลูกหลานของพระองค์ท่าน



วัดปทุมวนาราม ราชวรวิหาร ตั้งอยู่ที่ ถนนพระรามที่ 1 แขวงปทุมวัน เขตปทุมวัน กรุงเทพมหานคร อยู่ระหว่างศูนย์การค้าสยามพารากอนและห้างเซ็นทรัลเวิลด์ วัดนี้เป็นที่ประดิษฐานพระพุทธรูปพระเสริมศักดิ์สิทธิ์ พระพุทธรูปสร้างพร้อมกัน จำนวน 3 องค์ ได้แก่ พระเสริม พระแสน และ พระสุก

วัดปทุมวนาราม ราชวรวิหาร ยังเป็นตั้งของพระเจดีย์ ที่เป็นที่ประดิษฐานพระบรมอัฐิ พระราชสรีรางคาร และพระอัฐิของพระเจ้าอยู่หัวและพระราชวงศ์ในราชสกุลมหิดลหลายพระองค์ เช่น สมเด็จพระศรีสวรินทิราบรมราชเทวี พระพันวัสสาอัยยิกาเจ้า สมเด็จพระมหิตลาธิเบศร อดุลยเดชวิกรม พระบรมราชชนก สมเด็จพระราชปิตุจฉา เจ้าฟ้าวไลยอลงกรณ์ กรมหลวงเพชรบุรีราชสิรินธร พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวอานันทมหิดล และสมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนี




หัวข้อ: Re: [2513]"ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: ดร.มนตรี ที่ 20 พฤษภาคม 2553, 12:18:53
มาเยี่ยมพี่แอ๊ะ เหมือนเดิม ... เข้าใจความคิดพี่แอ๊ะนะครับ

แต่เป็นห่วงเกรงจะเครียดจนมีผลต่อสุขภาพ


ผมยังมั่นใจว่า สุดท้ายแล้วจะจบได้ครับ


หัวข้อ: Re: [2513]"ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: Intania๑๖ ที่ 20 พฤษภาคม 2553, 12:59:58
ความเห็นที่น่าสนใจ เลยคัดลอกมาให้อ่าน

http://www.manager.co.th/Politics/ViewNews.aspx?NewsID=9530000069565

มองข้ามช็อตไปแล้ว

3 ก้าวสำคัญ เพื่อการล้มระบอบ ลัทธิแม้ว
ที่ไม่ควรทำช้า

…………………………………..

@@@ ตอนที่ 1 – ต้องแก้ที่ต้นเหตุ

“ต้อง อย่า ให้ มัน เผา บ้าน เผา เมือง ฟรี ครับ”

“ทุก สิ่ง ทุก การ กระทำ ต้อง มี ราคา เสมอ"

เอามัน ให้เต็มที่ ไอ้พวกเลวชาติ แม้ว ครอบครัวมัน และ สส พรรคแม้ว ลิ่วล้อมัน

…………………………..

อย่าปล่อยให้ "แม้ว กับครอบครัว" มันลอยนวล

ไอ้พวกนัก ธุรกิจเพื่อนมัน ตามล่ามาลงโทษซะ

ตำรวจ ทหาร หางแดง ที่ช่วยมันพังประเทศ ต้อง เช็คบิล

ครอบครัวมันทุกตัว ต้องโดนตามยึดทรัพย์ เพื่อชดใช้ค่าเสียหายรอบนี้ทั้งหมด

ผมขอถามหาความยุติธรรมจากสังคม ไทย ทุกภาคส่วนครับ

…………………………………

ส่วนไอ้แม้วนั้น มีคนให้การมัดมันเยอะแน่

ตอนนี้ ก็มีให้การมัดตัวแม้วหลายคนแล้ว

………………………….

ตอนนี้เป็น 3+3 ประเด็นหลักแล้ว ที่น่าจะมัดตัวแม้ว

เป็นผู้นำ นปชก “แนวร่วม ปกป้อง-ช่วยเหลือ กลุ่มก่อการร้าย”

1.- เสธแดง ให้สัมภาษณ์ 11 เมย. ยอมรับ ว่ากลุ่มชุดดำ คือโรนิน มาช่วยเสื้อแดงยิงทหารเมื่อ 10 เมย

2.- เสธแดง ให้สัมภาษณ์ ก่อนโดนยิง 2-3 วัน ยอมรับ ว่า “ม็อบ นปช จะยอมสลายเอง เมื่อทักษิณสั่งเท่านั้น”

3.- นายจรัล ดิษฐาอภิชัย แกนนำ นปช. ให้สัมภาษณ์
“การชุมนุมครั้งนี้ได้รับการสนับสนุนเงินทุนจากหลายฝ่าย
ทั้ง นักธุรกิจ อดีตนักการเมืองอย่างคุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์
หรือแม้ แต่พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ซึ่งเป็นข้อเท็จจริงที่ ปฏิเสธไม่ได้ ”

4.- อันนี้ แถมให้ หมอเหวง “ยอมรับว่า ชาวบ้าน นปช มาก่อม็อบรอบ ๆ เพราะความแค้นทหาร”
แสดงว่า ไอ้ที่เผาบ้าน เผาเมืองนั้น นปชก ก็ต้องรับผิดชอบด้วย

5. อันนี้ ก็แถมอีก เอาคำสารภาพของเมธี กับ รองหัวหน้า ลูกน้องเสธแดง
ที่จับได้ 1-2 วันนี้ ออกทีวีซ้ำ ๆ
และ แปลออกมาเป็นภาษาอังกฤษด้วย
เมธี นั้นน่าจะเป็น Keyword อีกอันครับ

6. แกนนำเสื้อแดง ที่จะแข่งกันคายข้อมูล เพื่อเอาชีวิตรอด ข้อมูลคนละร้อยหน้า
ซัดทอดไอ้แม้ว กับครอบครัว บิ๊กจิ๋ว พวกซ้ายที่อยู่เบื้องหลัง ทหาร ตร หางแดง นักธุรกิจ สส แม้ว
ใครคายข้อมูลเยอะสุดก็อาจจะได้เป็นพยาน ใครอมไว้ก็โดนประหาร
ไอ้กี้นี่ น่าจะถึงขั้นร้องเพลงครบอัลบั้มแน่ เพราะไอ้นี่ขี้ขลาดสุด ๆ
ตอนนี้ ไอ้แม้วสั่งปิดปากกันไม่ทัน

................................

@@@ ตอนที่ 2 – เพื่อจัดการโครงสร้างอสูร และลดโอกาสการกลับมาของปีศาจแม้ว

ขอเสียง สนับสนุนว่า

“ ควรยุบพรรคเพื่อไทย และ ตามเช็คบิลว่าเกี่ยวกับการก่อการร้าย ไหม”

ขอเสียง โหวตแรง ๆ ให้รัฐบาลจัดการต่อ

"ล้างโคตรพรรคชั่ว นปชก (แนวร่วมปกป้อง ช่วยเหลือ กลุ่มก่อการร้าย)"

+++++++++++++++++

เช้านี้ 19 พค 53 ทหารรายงานว่า

มัน ยิง M79 เข้าหาทหารที่ “แยกสามย่าน”

โดยยิง จากบน “ตึกพรรคเพื่อไทย”

และ มีการก่อม็อบ เผายางหน้าพรรคเพื่อไทย

สรุป ว่า พรรคเพื่อไทยเป็น 1 ในแนวร่วม กลุ่มก่อการร้าย

จึงควรโดนยุบพรรค เป็นอย่างยิ่ง

........................

@@@ ตอนที่ 3 – เพื่อจัดระบบการจัดการ ขบวนการขายชาติทั้งหมดให้ครบถ้วน

จึงขอยืนยันที่จะเสนอต่อ

....................

เรียน นายก ศอฉ รัฐบาล กับพี่น้อง พธม

เรื่อง การเปลี่ยนชื่อเรียก ม็อบเสื้อแดง ส่วนที่มีส่วนกับการก่อการร้ายที่เหมาะสม
เพื่อความเข้าใจ ที่ถูกต้อง และการสื่อให้ทั่วโลก รู้ตามทันเกมของแม้ว

…………………………………………..

เพื่อ เป็นการมองการจัดการถอนรากถอนโคน พวกแม้ว ให้เร็วที่สุด ครบที่สุด
ไม่ มองข้ามส่วนใดส่วนหนึ่งที่มีส่วนในการเชื่อมโยง การทำลายประเทศ

และ เพื่อ ความเข้าใจในอนาคตให้ตรงกัน
ทั้งในประเทศ และ ที่สำคัญใน “ต่างประเทศ”

เพราะ แม้วนั้นจะเริ่มใช้ยุทธศาสตร์ “โลกล้อมประเทศ ระยะสุดท้ายแล้ว”

จึงลองตั้งชื่อ นปช ให้ใหม่ เพื่อสมกับ สถานะ สภาวะ สถานการณ์ สมการ คุณสมบัติ

โดยมันจะเรียกตัวเองเหมือนเดิม ช่างมัน แต่เราจะเรียกมันอย่างนี้

เรียกให้เหมือน ๆ กัน

โดย ให้เป็นชื่อย่อใหม่ของ นปช คือ “ นปชก ”
ย่อ จาก “แนวร่วม ปกป้อง-ช่วยเหลือ กลุ่มก่อการร้าย ”

“Terrorism Assist – Protect Network ”

ย่อเป็น TAPNet

เพราะ แกนนำ แกนนำย่อย บุคคล นักธุรกิจ สส พรรคแม้ว หัวคะแนนบางคน
ตำรวจมะเขือเทศ ทหารแตงโม ข้าราชการหางแดง และอื่น ๆ
แม้จะไม่ได้โดนคดี ก่อการร้าย ตรง ๆ

แต่ ก็มีส่วนในการช่วยเหลือ ปกป้อง ซ่อนเร้น ผู้ก่อการร้ายในด้านต่าง ๆ

ซึ่ง ถ้าไม่จัดการตรงนี้ ไม่สามารถ ตีปัญหาให้แตก ไม่ทะลุ ไม่ครอบคลุมเพียงพอ

ที่ สำคัญ “นักธุรกิจกลุ่มนี้ จะมาระดมเงินช่วย พรรคแม้ว ซื้อเสียง ตอนเลือกตั้งอีก”
“ตำรวจ ข้าราชการท้องถิ่น ก็จะมาอำนวยความสะดวกในการโกงเลือกตั้งให้พรรคแม้วอีก”

วงจรอุบาทย์ จะกลับมาซ้ำแล้วซ้ำอีก

ถ้าทำได้ จะเป็นการ ถอนราก ถอนโคน และ ล้างระบบมาเฟียเสื้อแดงได้หลายระบบ
ล้างระบบ เสื้อแดงฮาร์ดคอร์ได้ด้วย

ส่วน ที่เป็น สส พรรคการเมืองที่ไม่ขึ้นเวทีเสื้อแดง ไม่ขนคนมา
และพวก ปชช เสื้อแดง ธรรมดาก็ปล่อยไป
ไม่ต้องแจ้งความ ในการช่วยเหลือผู้ก่อการร้าย

.....................

ใคร มี Facebook Twitter หรือติดต่อสายตรงกับนายกได้

ช่วยส่งข้อความนี้ ไปด้วยครับ

...
DrKon


หัวข้อ: Re: [2513]"ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: prapasri AH ที่ 20 พฤษภาคม 2553, 13:26:46
ขอบคุณน้องดร.มนตรี ที่มาเยี่ยมคนป่วย เอ๊ยม่ายช่ายยยยยยยยย

คนกลัวค่ะ ตอนนี้กลัวจริงๆ กลัวบ้านเมืองไม่สงบ ค่ะ

น้องมนตรีเห็นแล้วหรือยังว่าเพราะคนๆเดียว ทำให้ประเทศชาติล่มสลายขนาดนี้

ถ้าพี่แอ๊ะเป็นเขา รวยขนาดนี้แล้ว
ได้เงิน และความมั่งคั่ง จากประเทศชาติไปมากเหลือเกินแล้ว
พวก อัฟริกา ก็ยอมรับนับถือ ไปซื้อประเทศเหล่านั้นเเล้วเป็นประธานาธิบดีเถอะ

ไม่จำเป็นต้องกลับมาช่วยประเทศ ไทยหรอก
ให้อยู่เฉยๆก็พอ
น้องดร. มนตรี คนดี อย่ารักเขาเลยนะ

เขาไม่ได้ซื้อข้าวให้เรากินเลย จริงมะคะ

เราทำหากินด้วยน้ำพักน้ำเเรงและสมองของเรา

อย่าไป แบ่งสมอง ขี้โกง สมอง ซาดิสต์ ของมันมาเลย


หัวข้อ: Re: [2513]"ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: prapasri AH ที่ 20 พฤษภาคม 2553, 13:37:42
เวลามันให้สัมภาษณ์ มันบอกว่าเป็นห่วงประเทศไทย

อยากกลับมาช่วยชาวบ้านเมืองไทย

น้องๆ สีแดงในเวบนี้ ที่รู้จัก หนิดหนม กะมัน  

บอกมันเถอะ อย่ากลับมาเลย

เราจะฟื้นฟูประเทศ ของเราเอง

เราจะไม่ ต้องการ สมองอันชาญฉลาดของมันมา ช่วยประเทศอีกแล้ว

ขอโอกาสให้คนไทยที่เหลืออยู่ ดูแลประเทศของเราเองเถอะ

เราไม่ต้องการคนต่างชาติ มอนเตเรโก มาช่วยเรา


หัวข้อ: Re: [2513]"ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: swsm ที่ 20 พฤษภาคม 2553, 13:40:12
อ้างถึง
ข้อความของ prapasri AH เมื่อ 20 พฤษภาคม 2553, 13:37:42
เวลามันให้สัมภาษณ์ มันบอกว่าเป็นห่วงประเทศไทย

อยากกลับมาช่วยชาวบ้านเมืองไทย

บอกมันเถอะ อย่ากลับมาเลย

เราจะฟื้นฟูประเทศ ของเราเอง

เราจะไม่ ต้องการ สมองอันชาญฉลาดของมันมา ช่วยประเทศอีกแล้ว

ขอโอกาสให้คนไทยที่เหลืออยู่ ดูแลประเทศของเราเองเถอะ

เราไม่ต้องการคนต่างชาติ มอนเตเรโก มาช่วยเรา



ยกมือหนับหนุนค่ะ ..   emo48:)


หัวข้อ: Re: [2513]"ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: prapasri AH ที่ 20 พฤษภาคม 2553, 13:50:52
เห่...................
โอ้ชีวิต...เป็นสุขล้ำ เมื่อเห็นแม่น้ำเจ้าพระยา
นับเป็นบุญและวาสนา ที่เกิดมาใกล้แม่น้ำนี้
เจ้าพระยาให้ความร่มเย็น เหมือนดังเป็นเส้นเลือดน้องพี่
ให้ความสุขทั้งไพร่ผู้ดี เป็นมหานที เป็นมหาน้ำใจ
เห่....................
*เจ้าพระยา...ให้ความรัก ซึ้งสลักไปทั่วเมืองไทย
รักเจ้าพระยายิ่งสิ่งใด หนุ่มสาวไทย รักเจ้าพระยา
เห่...................(ซ้า*)


หัวข้อ: Re: [2513]"ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: prapasri AH ที่ 20 พฤษภาคม 2553, 13:52:13
น้อง หะยีคะ พี่ แอ๊ะรบกวน โหลดเพลง เจ้าพระยา ของเศรษฐา นะคะ

พี่แอ๊ะพยายาม แล้วแต่โหลดมาไม่ได้ค่ะ ช่วยทีนะคะ ขอบคุณค่ะ


หัวข้อ: Re: [2513]"ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: บ่าวหน่อ เมืองพลาญ ที่ 20 พฤษภาคม 2553, 13:57:52
http://www.4shared.com/embed/104316712/5b14d26a

ใช่อันนี้ใหมครับ พี่แอ๊ะ
หากใช่ส่งให้ทาง email แล้วครับ


หัวข้อ: Re: [2513]"ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: ดร.มนตรี ที่ 20 พฤษภาคม 2553, 14:01:31
ผมเป็นคนไทย รักในหลวง และไม่สนับสนุนการ กระทำผิดกฏหมาย ทุกกรณี ครับ ...


อ้างถึง
ข้อความของ prapasri AH เมื่อ 20 พฤษภาคม 2553, 13:26:46
ขอบคุณน้องดร.มนตรี ที่มาเยี่ยมคนป่วย เอ๊ยม่ายช่ายยยยยยยยย

คนกลัวค่ะ ตอนนี้กลัวจริงๆ กลัวบ้านเมืองไม่สงบ ค่ะ

น้องมนตรีเห็นแล้วหรือยังว่าเพราะคนๆเดียว ทำให้ประเทศชาติล่มสลายขนาดนี้

ถ้าพี่แอ๊ะเป็นเขา รวยขนาดนี้แล้ว
ได้เงิน และความมั่งคั่ง จากประเทศชาติไปมากเหลือเกินแล้ว
พวก อัฟริกา ก็ยอมรับนับถือ ไปซื้อประเทศเหล่านั้นเเล้วเป็นประธานาธิบดีเถอะ

ไม่จำเป็นต้องกลับมาช่วยประเทศ ไทยหรอก
ให้อยู่เฉยๆก็พอ
น้องดร. มนตรี คนดี อย่ารักเขาเลยนะ

เขาไม่ได้ซื้อข้าวให้เรากินเลย จริงมะคะ

เราทำหากินด้วยน้ำพักน้ำเเรงและสมองของเรา

อย่าไป แบ่งสมอง ขี้โกง สมอง ซาดิสต์ ของมันมาเลย


หัวข้อ: Re: [2513]"ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: prapasri AH ที่ 20 พฤษภาคม 2553, 14:07:07
ขอบคุณ น้องดร.มนตรีจริงๆค่ะ

รัก..นะ


หัวข้อ: Re: [2513]"ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: prapasri AH ที่ 20 พฤษภาคม 2553, 14:11:03
ขอบคุณ น้องบ่าวหน่อ ค่ะ
ได้ฟังเพลง กรุงเทพราตรี และเพลงเจ้าพระยา แล้ว สุขขึ้นมาบ้าง


กำลังคิดกับพี่หาญว่า ถ้าเราอยู่ทางนี้แล้วไม่ปลอดภัย  emo:(
เราไปซื้อบ้านอยู่อังกฤษดีไหม

พี่แอ๊ะ post ด้วยน้ำตาค่ะ

แต่มาคิดอีกที ไปอยู่ สปป.ลาวดีที่สุด
คนที่สะหวันนะเขต รักพี่แอ๊ะกับพี่หาญมาก


หัวข้อ: Re: [2513]"ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: swsm ที่ 20 พฤษภาคม 2553, 14:14:45
ขอเสริมด้วยเพลงนี้ .. ต่อจากเจ้าพระยาของน้องหน่อ .. ชื่อเพลง "สยามเมืองยิ้ม" ค่ะ  พี่แอ๊ะ


http://www.youtube.com/watch?v=6I1B_psgSwI


หัวข้อ: Re: [2513]"ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: swsm ที่ 20 พฤษภาคม 2553, 14:16:43
อ้างถึง
ข้อความของ prapasri AH เมื่อ 20 พฤษภาคม 2553, 14:11:03
ขอบคุณ น้องบ่าวหน่อ ค่ะ
ได้ฟังเพลง กรุงเทพราตรี และเพลงเจ้าพระยา แล้ว สุขขึ้นมาบ้าง

กำลังคิดกับพี่หาญว่า ถ้าเราอยู่ทางนี้แล้วไม่ปลอดภัย  emo:(
เราไปซื้อบ้านอยู่อังกฤษดีไหม

พี่แอ๊ะ post ด้วยน้ำตาค่ะ

แต่มาคิดอีกที ไปอยู่ สปป.ลาวดีที่สุด
คนที่สะหวันนะเขต รักพี่แอ๊ะกับพี่หาญมาก




รับรู้ความรู้สึกของพี่แอ๊ะค่ะ .. อย่าเพิ่งถอดใจค่ะ พี่แอ๊ะ
หากเราถอดใจ  กำลังที่จะช่วยทำนุบ้านเมืองจะหายไปอีกหนึ่งแรงนะคะ

หยีเองก็รู้สึกไม่ต่างกันค่ะ ..
    emo30:sorry:


หัวข้อ: Re: [2513]"ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: prapasri AH ที่ 20 พฤษภาคม 2553, 14:21:06
ขอบคุณน้องหะยีค่ะ

ช่วงนี้ต้องอาศัยเสียงเพลงปลอบใจ

อยู่ที่นี่อยู่ท่ามกลางสีแดงค่ะ

โชคดีที่เคยดูแลสส.เพื่อไทยบ้าง
และรักษาคนไข้สีเเดงตลอดมา
เลยไม่โดนเผายาง หน้าบ้าน


หัวข้อ: Re: [2513]"ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: ดร.มนตรี ที่ 20 พฤษภาคม 2553, 14:28:07
อ้างถึง
ข้อความของ prapasri AH เมื่อ 20 พฤษภาคม 2553, 14:07:07
ขอบคุณ น้องดร.มนตรีจริงๆค่ะ

รัก..นะ

รัก เคารพ พี่แอ๊ะ และพี่ๆที่รักชาติ ทุกท่านเหมือนกันครับ แม้การแสดงออกของเราจะแตกต่างกัน


เพิ่งทราบข่าวดี TK Park ที่อยู่ใน อีก โซน ของเซนทรัลเวิร์ล ไม่โดนเผาไปด้วย ^__^


(http://www.cmadong.com/imageupload/2010_Cmadong-Image/data/image/l2pjdd-9e029b.jpg)



หัวข้อ: Re: [2513]"ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: swsm ที่ 20 พฤษภาคม 2553, 14:30:21
อ้างถึง
ข้อความของ prapasri AH เมื่อ 20 พฤษภาคม 2553, 14:21:06
ขอบคุณน้องหะยีค่ะ

ช่วงนี้ต้องอาศัยเสียงเพลงปลอบใจ

อยู่ที่นี่อยู่ท่ามกลางสีแดงค่ะ

โชคดีที่เคยดูแลสส.เพื่อไทยบ้าง
และรักษาคนไข้สีเเดงตลอดมา
เลยไม่โดนเผายาง หน้าบ้าน


เป็นเรื่องของผลบุญล้วน ๆ ค่ะ .. พี่แอ๊ะ


ตอนนี้กำลังสาปแช่ง ให้พวกทำบาปกับประเทศชาติ
ให้มันหายนะในทุกเรื่อง  ..
ในทุกวิถีที่ที่มันดำเนินอยู่ ..

ไม่ว่าจะเป็นการทำบาปด้วยการกระทำ วาจา หรือความติด
ไม่ว่ามันจะจงใจกระทำแบบตรง ๆ หรือว่าส่งเสริมแบบอ้อม ๆ



หัวข้อ: Re: [2513]"ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: ภาณุ ปาตานี ที่ 20 พฤษภาคม 2553, 14:32:15
อ้างถึง
ข้อความของ prapasri AH เมื่อ 20 พฤษภาคม 2553, 10:14:11
แล้วเราจะทำยังไงกัน

ถ้าประชาธิปไตยหมายถึงเป็นอย่างนี้เราอย่าเอาเลยประชาธิปไตย

เอาแบบไหนก็ได้ ที่ทำให้สงครามกองโจร หมดไป
อ้างถึง
ข้อความของ prapasri AH เมื่อ 20 พฤษภาคม 2553, 10:38:27
จะเป็นคอมมูนิสต์ คอมมูหน่อย ก็เอาไปเถอะ เอาแบบประเทศจีนก็ได้

เค้าเผด็จการแต่เขาเจริญดี เป็นมหาอำนาจของโลกไปแล้วด้วย

Agreed ครับ


หัวข้อ: Re: [2513]"ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: Intania๑๖ ที่ 20 พฤษภาคม 2553, 14:38:11
(http://farm5.static.flickr.com/4043/4623257133_5865f26bb0_o.gif)

http://www.youtube.com/watch?v=ELNZFcYbYsM

ที่มา: http://www.naewna.com/news.asp?ID=211851


หัวข้อ: Re: [2513]"ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: ภาณุ ปาตานี ที่ 20 พฤษภาคม 2553, 14:54:26
Copy จาก เมื่อ: 01 กุมภาพันธ์ 2553, 14:54:48 » Intanier 16 ; คงจำกันได้นะครับ



กี้ร์"ปลุกเสื้อแดงล้านคน ถือขวดใส่น้ำมันคนละ1ลิตร-ล้านใบบุกกทม.ต่อรองรัฐบาล

 "แม้ว"วิดีโอลิงก์ขอนแก่น

"อริสมันต์"ปลุกเสื้อแดงล้านคน ถือขวดใส่น้ำมันคนละ1ลิตรล้านใบบุกกทม.ต่อรองรบ. แดงเชียงใหม่ลั่นชุมนุมยืดเยื้อบช.ภ.5 จนกว่า"สมคิด"จะพ้นเก้าอี้ ขอนแก่นชุมนุมใหญ่"แม้ว"วิดีโอลิงก์ "พัลลภ"ไม่เชื่อ "วิชญ์"นำปฏิวัติ นัดสิบล้อปิดค่ายทหารถ้าปว.

เสื้อแดงคุยระดม1ล้านเข้ากรุง

นายอริสมันต์ พงศ์เรืองรอง หรือ"กี้ร์" แกนนำเสื้อแดง ปราศรัยบนเวทีว่า ขอให้คนเสื้อแดงที่จะเดินทางเข้ากรุงเทพฯ นำขวดไปคนละ 1 ใบ 1 ล้านคนจะได้ 1 ล้านใบ เมื่อไปถึงซื้อน้ำมันคนละ 1 ลิตร เพื่อต่อรองกับนายอภิสิทธิ์ให้คืนรัฐธรรมนูญปี 2540 ให้กับคนเสื้อแดง และจะบอกกับพวกอำมาตย์ว่าถ้าคนเสื้อแดงเลือดตกเพียง 1 หยด จะไม่มีชีวิตอยู่

"ผมจะบริหารจัดการคนเสื้อแดงที่เข้ากรุงเทพฯ โดยชาวขอนแก่นชุมนุมที่กระทรวงมหาดไทย อุดรธานีไปกระทรวงกลาโหม กาฬสินธุ์ หนองคาย ไปกระทรวงการต่างประเทศ ชาวกรุงเทพฯไปทำเนียบรัฐบาล ส่วนจังหวัดอื่นขอให้แจ้งความประสงค์มาว่าจะไปที่ไหน" นายอริสมันต์กล่าว และว่า จะส่งคนไปติดตามนายสุเทพทุกวันเพราะส่งคนมาติดตามตนก่อน สำหรับนายอภิสิทธิ์ถ้าโอกาสเป็นของคนเสื้อแดง นายอภิสิทธิ์จะไม่มีแผ่นดินอยู่ อย่างไรก็ตาม สถานการณ์ขณะนี้กำลังเข้าด้ายเข้าเข็ม ไม่ชนะไม่กลับ

ทีมา : http://www.matichon.co.th/news_detail.php?newsid=1264928134&grpid=00&catid=


หัวข้อ: Re: [2513]"ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: prapasri AH ที่ 20 พฤษภาคม 2553, 14:57:21
ขอบคุณน้องya ที่มาเยี่ยมค่ะ

ไม่ทราบว่าเมื่อไร เราจะเป็นปกติ

พี่แอ๊ะกลัวจะเป็น สามจังหวัดภาคใต้

ผู้ก่อการร้ายเขาฝึกไว้ตั้ง 5000 คน

แค่เหลือ500 คนประเทศไทยก็หมดเเล้ว

ให้กำลังใจรัฐบาลกันเถิด
วันนี้ การเมืองแก้ด้วยการเมืองไม่ได้หรอก

หากนักการเมือง หลายพรรค ยังชั่วช้าอยู่อย่างนี้ เอาตัวรอด กันเกือบทุกคน

เวลาเสวยสุขกับตำแหน่งก็เสวย และกินกันเงียบๆตอนนี้

ไม่มีหน้าไหนมาช่วยกันเลย มีแต่มาซ้ำเติม

พี่แอ๊ะไม่ได้ เป็นปชป.นะ
แต่คิดว่า ณ. วันนี้เขาเลวน้อยที่สุด


หัวข้อ: Re: [2513]"ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: prapasri AH ที่ 20 พฤษภาคม 2553, 14:58:46
ขอไป งีบ  กลางวัน ก่อนนะ

ปวดหัวมากค่ะ


หัวข้อ: Re: [2513]"ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: อ้อย 14 ที่ 20 พฤษภาคม 2553, 15:42:58
เห็นด้วยกะพี่แอ๊ะค่ะ  มาเถอะระบบอะไรก็ได้  มาปกครองบ้านเมือง ขอให้มันสงบ  มีรัฐบาลที่ทำงานไม่ทันโจรนี่ เหนื่อยใจ  ตอนนี้ บอกได้เลยว่า  พวกกระบือแดงนั่น เขารับฟังข่าวสารด้านเดียวมาตลอดเวลา 2 ปีเต็ม เขาเชื่อแล้ว พันเปอร์เซนต์ ตามวิทยุกรอกหูทุกวัน  แล้วสองปีที่ผ่านมา รัฐบาลมัวแต่ทำอะไรอยู่  ไม่รับรู้เลยหรือว่า  มีสถานีวิทยุชุมชนเถื่อน มีการฝึกอาวุธ  มีการปลุกปั่น ด้วยข้อมูลที่เสกสรรปั้นแต่งมา มีเวบไซด์ด่าสถาบันอย่างหนักมานาน   ตอนนี้บอกได้เลยว่า  สายไปเสียแล้ว สำหรับการแก้ไขปัญหาของรัฐบาล  ต้องมีอำนาจที่รุนแรงมีพลังกว่านี้มากมายถึงจะเอางานนี้อยู่  ไม่งั้น  บ้านเมืองเราจะวอดวายมากกว่านี้หลายร้อยเท่า...แล้วใครล่ะ   จะเข้ามา emo46


หัวข้อ: Re: [2513]"ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: เหยง 16 ที่ 20 พฤษภาคม 2553, 16:45:48
วันที่ 20 พฤษภาคม พ.ศ. 2553 ปีที่ 20 ฉบับที่ 7112 ข่าวสดรายวัน
โปรดเกล้าฯเปิดสภาสมัยวิสามัญ


เมื่อวันที่ 19 พ.ค.ผู้สื่อข่าวรายงานจากรัฐสภาว่า พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ทรงมีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯ ให้ประกาศว่า โดยที่ทรงมีพระราชดำริว่ามีความจำเป็นเพื่อประโยชน์แห่งรัฐ สมควรที่จะเรียกประชุมรัฐสภาเป็นการประชุมสมัยวิสามัญ อาศัยอำนาจตามความในมาตรา 128 และมาตรา 187 ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย จึงทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้ตราพระราชกฤษฎีกา เรียกประชุมสมัยวิสามัญแห่งรัฐสภา พ.ศ.2553 ตั้งแต่วันที่ 24 พฤษภาคม พ.ศ. 2553

ให้ไว้ ณ วันที่ 14 พฤษภาคม พ.ศ.2553 เป็นปีที่ 65 ในรัชกาลปัจจุบัน ผู้รับสนอง พระบรมราชโองการ นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ขอให้ทรงมีพระราชกฤษฎีกาเปิดประชุมรัฐสภาสมัยวิสามัญ เพื่อนำร่างพ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2554 ให้สภาผู้แทนราษฎร พิจารณา โดยกำหนดวันประชุมตั้งแต่วันที่ 24-26 พ.ค. ส่วนวันที่ 27 พ.ค. วุฒิสภาเตรียมนัดประชุมด้วยเช่นกัน

http://www.khaosod.co.th/view_news.php?newsid=TUROd01EVXdNVEl3TURVMU13PT0=&sectionid=TURNek5RPT0=&day=TWpBeE1DMHdOUzB5TUE9PQ==


หัวข้อ: Re: [2513]"ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: suriya2513 ที่ 20 พฤษภาคม 2553, 17:54:11

(http://www.pantown.com/data/2216/board8/74-20100520200535.jpg)
เจ้าหน้าที่ศอฉ.คนนี้ขยันจังเลย กำลังรับโทรศัพท์ร้องทุกข์จากประชาชน


หัวข้อ: Re: [2513]"ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: เหยง 16 ที่ 20 พฤษภาคม 2553, 18:58:49
หวยออกรอบที่ 3 รวม 21 ราย,ตรวจหวยและต้องเดินทางไปรับรางวัลได้ที่ ศอฉ. ด้วยตัวเองทุกคน

“สุริยะ-เสริมศักดิ์-เจ้าพ่อเนสกาแฟ-เจ้าของโบนันซ่า” เจอห้ามทำนิติกรรมการเงินเพิ่ม
20 พฤษภาคม 2553 17:11 น.

 
       ศอฉ.ออกคำสั่งห้ามทำนิติกรรมทางการเงินเพิ่มอีก 21 คน “สุริยะ-เสริมศักดิ์ -ปลอดประสพ-เจ้าพ่อเนสกาแฟ-เจ้าของโบนันซ่าเขาใหญ่” ติดร่างแห
       
       ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันนี้ (20 พ.ค.) ศูนย์อำนวยการแก้ไขสถานการณ์ฉุกเฉิน (ศอฉ.) มีคำสั่งห้ามมิให้กระทำการใดๆ หรือสั่งให้กระทำการใดๆ เกี่ยวกับการทำธุรกรรมทางการเงิน หรือการดำเนินการเกี่ยวกับทรัพย์สินส่วนบุคคล หรือนิติบุคคลเท่าที่จำเป็นแก่การรักษาความมั่นคงของรัฐ ความปลอดภัยชองประเทศ และความปลอดภัยของประชาชน (ฉบับที่ 3) เพิ่มเติม บุคคลธรรมดา
       
       ประกอบด้วย 1.นายศักดา อ้อพงษ์ 2.นายพรศกร อรรณนพพร 3.นางดาวแข อรรณนพพร 4.นายเสริมศักดิ์ พงษ์พานิช อดีตกรรมการบริหารพรรคไทยรักไทย 5.นายจักริน พัฒน์ดำรงจิตร 6.นายภูมิ สาระผล อดีต ส.ส.พรรคไทยรักไทย 7.นายจตุพร เจริญเชื้อ 8.นายวิเชียรชนินทร์ สินธุไพร 9.นายนรินทร์ จิตมหาวงศ์ 10.นางสุพิชฌาย์ พัฒนะพันธุ์ 11.นายสมยศ พฤกษาเกษมสุข แกนนำคนเสื้อแดง 12.นายวิบูลย์ แช่มชื่น 13.นายไพวงษ์ เตชะณรงค์ เจ้าของโบนันซ่า เขาใหญ่ 14.นางพรประภา สาคำ 15.นายปลอดประสพ สุรัสสวดี รองหัวหน้าพรรคเพื่อไทย 16.พ.ต.ท.ศุภชัย ผุยแก้วคำ 17.นายวายุภักษ์ โนรี 18.นายภาสกร หรือ สมนึก ศิริภักษ์ 19.นายสุริยะ จึงรุงเรืองกิจ 20.นายประยุทธ มหากิจศิริ กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บมจ.ไทยน๊อคซ์ สเตนเลส (INOX) และ 21.นายเมธี อมรวุฒิกุล แนวร่วมกลุ่มเสื้อแดง
       
       ทั้งนี้ คำสั่งศูนย์อำนวยการแก้ไขสถานการณ์ฉุกเฉิน ที่ 61/2553 เรื่อง การห้ามกระทำการทางธุรกรรมทางการเงิน
       
       คำสั่งศูนย์อำนวยการแก้ไขสถานการณ์ฉุกเฉิน ที่ 61/2553 เรื่อง ห้ามมิให้กระทำการใดๆ หรือสั่งให้กระทำการใดๆ เกี่ยวกับการทำธุรกรรมทางการเงินหรือการดำเนินการเกี่ยวกับทรัพย์สินของบุคคลหรือนิติบุคคลเท่าที่จำเป็นแก่การรักษาความมั่นคงของรัฐ ความปลอดภัยของประเทศ และความปลอดภัยของประชาชน (ฉบับที่ 3)
       
       ตามที่ได้มีคำสั่งศูนย์อำนวยการแก้ไขสถานการณ์ฉุกเฉินที่ 49/2553 เรื่อง ห้ามมิให้กระทำการใดๆ หรือสั่งให้กระทำการใดๆ เกี่ยวกับการทำธุรกรรมทางการเงิน หรือการดำเนินการเกี่ยวกับทรัพย์สินของบุคคลหรือนิติบุคคลเท่าที่จำเป็นแก่การรักษาความมั่นคงของรัฐ ความปลอดภัยของประเทศและความปลอดภัยของประชาชน ลงวันที่ 16 พฤษภาคม 2553 นั้น
       
       อาศัยอำนาจตามข้อ 6 ของประกาศตามมาตรา 11 แห่งพระราชกำหนดการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ. 2548 ลงวันที่ 7 เมษายน พ.ศ. 2553 ประกอบกับคำสั่งนายกรัฐมนตรี ที่ พิเศษ 93/2553 เรื่อง แต่งตั้งผู้กำกับการปฏิบัติงาน หัวหน้าผู้รับผิดชอบ และพนักงานเจ้าหน้าที่ในการแก้ไขสถานการณ์ฉุกเฉินที่มีความร้ายแรง (เพิ่มเติม) ลงวันมี่ 16 เมษายน พ.ศ.2553 จึงมีคำสั่งดังต่อไปนี้
       
       ข้อ 1.ให้แก้ไขเพิ่มเติมบัญชีรายชื่อบุคคลหรือนิติบุคคลแนบท้ายคำสั่งศูนย์อำนวยการแก้ไขสถานการณ์ฉุกเฉินที่ 49/2553 เรื่อง ห้ามมิให้กระทำการใดๆ หรือสั่งให้กระทำการใดๆ เกี่ยวกับการทำธุรกรรมทางการเงิน หรือการดำเนินการเกี่ยวกับทรัพย์สินของบุคคลหรือนิติบุคคลเท่าที่จำเป็นแก่การรักษาความมั่นคงของรัฐ ความปลอดภัยของประเทศ และความปลอดภัยของประชาชน ลงวันที่ 16 พฤษภาคม 2553 โดยมีรายละเอียดปรากฏตามบัญชีรายชื่อแนบท้ายคำสั่งนี้
       
       ข้อ 2.ให้นำความในข้อ 1 ข้อ 2 ข้อ 4 และข้อ 5 ของคำสั่งศูนย์อำนวยการแก้ไขสถานการณ์ฉุกเฉินที่ 49/2553 เรื่อง ห้ามมิให้กระทำการใด ๆ หรือสั่งให้กระทำการใด ๆ เกี่ยวกับการทำธุรกรรมทางการเงิน หรือการดำเนินการเกี่ยวกับทรัพย์สินของบุคคลหรือนิติบุคคลเท่าที่จำเป็นแก่การรักษาความมั่นคงของรัฐ ความปลอดภัยของประเทศ และความปลอดภัยของประชาชน ลงวันที่ 16 พฤษภาคม 2553 มาใช้บังคับกับบุคคลหรือนิติบุคคลตามบัญชีรายชื่อแนบท้ายคำสั่งนี้
       
       ข้อ 3.ให้สถาบันการเงินและนิติบุคคลที่ประกอบธุรกิจตามข้อ 1 ของคำสั่งศูนย์อำนวยการแก้ไขสถานการณ์ฉุกเฉินที่ 49/2553 เรื่อง ห้ามมิให้กระทำการใดๆ หรือสั่งให้กระทำการใดๆ เกี่ยวกับการทำธุรกรรมทางการเงิน หรือการดำเนินการเกี่ยวกับทรัพย์สินของบุคคลหรือนิติบุคคลเท่าที่จำเป็นแก่การรักษาความมั่นคงของรัฐ ความปลอดภัยของประเทศ และความปลอดภัยของประชาชน ลงวันที่ 16 พฤษภาคม 2553 แจ้งและส่งข้อมูลเกี่ยวกับการทำธุรกรรมของบุคคลหรือนิติบุคคลตามบัญชีรายชื่อแนบท้ายคำสั่งนี้ซึ่งได้กระทำขึ้นตั้งแต่วันที่ 1 กันยายน พ.ศ. 2552 จนถึงวันที่ 20 พฤษภาคม พ.ศ.2553 มายังหัวหน้าผู้รับผิดชอบในการแก้ไขสถานการณ์ฉุกเฉินภายในวันที่ 23 พฤษภาคม พ.ศ.2553
       
       ทั้งนี้ ตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป
       สั่ง ณ วันที่ 20 พฤษภาคม พ.ศ.2553
       พลเอก
       (อนุพงษ์ เผ่าจินดา)
       หัวหน้าผู้รับผิดชอบในการแก้ไขสถานการณ์ฉุกเฉิน


จาก http://www.manager.co.th/asp-bin/mgrView.asp?NewsID=9530000069891
 


หัวข้อ: Re: [2513]"ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: เหยง 16 ที่ 20 พฤษภาคม 2553, 19:00:11
อ้างถึง
ข้อความของ suriya2513 เมื่อ 20 พฤษภาคม 2553, 17:54:11


เจ้าหน้าที่ศอฉ.คนนี้ขยันจังเลย กำลังรับโทรศัพท์ร้องทุกข์จากประชาชน

(http://www.pantown.com/data/2216/board8/74-20100520200535.jpg)

ภาพโพสต์ไม่ขึ้นครับ


หัวข้อ: Re: [2513]"ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: หนุน'21 ที่ 20 พฤษภาคม 2553, 20:18:20
อ้างถึง
ข้อความของ swsm เมื่อ 20 พฤษภาคม 2553, 13:40:12
อ้างถึง
ข้อความของ prapasri AH เมื่อ 20 พฤษภาคม 2553, 13:37:42
เวลามันให้สัมภาษณ์ มันบอกว่าเป็นห่วงประเทศไทย

อยากกลับมาช่วยชาวบ้านเมืองไทย

บอกมันเถอะ อย่ากลับมาเลย

เราจะฟื้นฟูประเทศ ของเราเอง

เราจะไม่ ต้องการ สมองอันชาญฉลาดของมันมา ช่วยประเทศอีกแล้ว

ขอโอกาสให้คนไทยที่เหลืออยู่ ดูแลประเทศของเราเองเถอะ

เราไม่ต้องการคนต่างชาติ มอนเตเรโก มาช่วยเรา



ยกมือหนับหนุนค่ะ ..   emo48:)

 emo4:))

สวัสดีพี่แอ๊ะครับ
ผมเห็นด้วยอย่างที่สุด
เราไม่ต้องการสมองที่ฉลาดและโกงแบบทักษิณครับ
พวกเราคนไทยแม้ไม่ฉลาดเท่ามัน แต่ก็เชื่อว่าทุกๆคนที่เป็นไทยในสายเลือด
ถ้าช่วยกันคนละไม้คนละมือ เราพาประเทศของเราไปรอดแน่นอน
ผู้นำโกง อกตัญญูและโหดแบบทักกี้ เราไม่ต้องการ
เห็นๆผลงานเผาบ้านเผาเมือง ของสมุนแดงมันแล้ว
ทำใจลำบากจริงๆครับ

ส่งกำลังใจให้พี่แอ๊ะกับพี่หมอหาญ ที่ต้องอยู่ท่ามกลาง"ดงแดง"
ให้ปลอดภัย อยูช่วยกันต้านไอ้พวกแดง ให้ได้นะครับ
สักวันคงดีขึ้น ถ้าพวกนี้ยอมเปิด โลกข่าวสาร ของเขาเองบ้าง


 emo6::)) emo6::))


หัวข้อ: Re: [2513]"ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: ภาณุ ปาตานี ที่ 20 พฤษภาคม 2553, 20:55:55
ขอเชิญติดตามผลงานชิ้นโบว์ "แดง"

http://www.cmadong.com/board/index.php/topic,5304.425.html


หัวข้อ: Re: [2513]"ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: prapasri AH ที่ 20 พฤษภาคม 2553, 20:59:48
ขอบคุณน้องหนุน21

น้องหะยี น้องอ้อย14 น้องเหยง น้องya น้องหน่อ เเละเพื่อนสุริยา

และน้องท่านอื่นๆ ที่เห็นใจพี่แอ๊ะ พี่แอ๊ะ ร้องไห้บ่อยจนพี่หาญตกใจ

คงเป็นอาการซึมเศร้า  ไม่ดูข่าวก็ไม่ได้

ตอนสมัยที่ พรรค ความหวังใหม่ ดังมาก ที่อิสาน

คุณชวน หลีกภัย ท่านบอกพี่แอ๊ะ เหมือนที่น้องหนุนบอก พี่แอ๊ะ นี่แหละ

ท่านบอกท่าน ว่าเห็นใจพี่แอ๊ะมากที่ต้องอยู่ในดง "หวังใหม่"

ตอนนี้อยู่ในดงแดง

ยังโชคดีอยู่บ้าง ที่  ร.พ  ทำโครงการ" ยโสธรและอิสานใต้ ปลอดโรคนิ่ว"
ซึ่งพี่แอ๊ะไม่คิดเงินกับคนไข้เลย
ได้รับการสนันสนุนงบประมาณจาก สำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ

ซึ่งร.พ อื่น จะทำได้อย่างพี่แอ๊ะยากมาก เพราะร.พ พี่แอ๊ะเป็นร.พต้นทุนต่ำ

และพี่หาญเเละหมอต้นกล้า เป็นหมอผ่าตัดเองเราเลยไม่ต้องจ่ายค่าแพทย์

คนไข้ที่มารักษาเป็น เเดง หมด 100 % ค่ะ

เค้าคงรักเรามั่งแหละนะ


หัวข้อ: Re: [2513]"ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: เหยง 16 ที่ 20 พฤษภาคม 2553, 22:24:22
อ้างถึง
ข้อความของ prapasri AH เมื่อ 20 พฤษภาคม 2553, 13:37:42
เวลามันให้สัมภาษณ์ มันบอกว่าเป็นห่วงประเทศไทย

อยากกลับมาช่วยชาวบ้านเมืองไทย

น้องๆ สีแดงในเวบนี้ ที่รู้จัก หนิดหนม กะมัน  

บอกมันเถอะ อย่ากลับมาเลย

เราจะฟื้นฟูประเทศ ของเราเอง

เราจะไม่ ต้องการ สมองอันชาญฉลาดของมันมา ช่วยประเทศอีกแล้ว

ขอโอกาสให้คนไทยที่เหลืออยู่ ดูแลประเทศของเราเองเถอะ

เราไม่ต้องการคนต่างชาติ มอนเตเรโก มาช่วยเรา


ให้มันกลับมาเถอะ เสธ.แดง จะได้มีเพื่อนคุยว่า  emo43 ใครโดนกระสุนชนิดไหน  emo24:( เจาะหัวเข้าตรงไหน ??  emo25:((( และออกตรงไหน...สนุกดีออก

  emo49:))


หัวข้อ: Re: [2513]"ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: swsm ที่ 20 พฤษภาคม 2553, 22:54:13
อ้างถึง
ข้อความของ เหยง 16 เมื่อ 20 พฤษภาคม 2553, 19:00:11
อ้างถึง
ข้อความของ suriya2513 เมื่อ 20 พฤษภาคม 2553, 17:54:11


เจ้าหน้าที่ศอฉ.คนนี้ขยันจังเลย กำลังรับโทรศัพท์ร้องทุกข์จากประชาชน

(http://www.pantown.com/data/2216/board8/74-20100520200535.jpg)

ภาพโพสต์ไม่ขึ้นครับ

ใครเหรอคะ พี่เหยง ??     emo47


หัวข้อ: Re: [2513]"ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: suriya2513 ที่ 20 พฤษภาคม 2553, 23:00:33
ท่านนายกฯอภิสิทธิ์เองครับ ไม่ใช่ใครที่ไหน


หัวข้อ: Re: [2513]"ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: Kaimook ที่ 20 พฤษภาคม 2553, 23:00:59
 สวัสดีค่ะพี่ๆเห็นเมืองกรุงแล้วเศร้าค่ะ


หัวข้อ: Re: [2513]"ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: เหยง 16 ที่ 20 พฤษภาคม 2553, 23:08:42
อ้างถึง
ข้อความของ swsm เมื่อ 20 พฤษภาคม 2553, 22:54:13
อ้างถึง
ข้อความของ เหยง 16 เมื่อ 20 พฤษภาคม 2553, 19:00:11
อ้างถึง
ข้อความของ suriya2513 เมื่อ 20 พฤษภาคม 2553, 17:54:11


เจ้าหน้าที่ศอฉ.คนนี้ขยันจังเลย กำลังรับโทรศัพท์ร้องทุกข์จากประชาชน

(http://www.pantown.com/data/2216/board8/74-20100520200535.jpg)

ภาพโพสต์ไม่ขึ้นครับ

ใครเหรอคะ พี่เหยง ??     emo47

เขาว่าเป็นพวกหัดงานใหม่ ในตำแหน่งนายกรัฐมนตรี ทำงานมาปีกว่าๆแล้ว ยังไม่พ้นโปรเบชั่นเลย   emo29:P:


หัวข้อ: Re: [2513]"ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: swsm ที่ 20 พฤษภาคม 2553, 23:21:54
 

emo48:)


หัวข้อ: Re: [2513]"ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: suriya2513 ที่ 21 พฤษภาคม 2553, 00:07:27
มุขนี้เอา A+ ไปเลยครับคุณพิเชษฐ์


หัวข้อ: Re: [2513]"ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: Preecha2510 ที่ 21 พฤษภาคม 2553, 02:23:45
อ้างถึง
ข้อความของ swsm เมื่อ 20 พฤษภาคม 2553, 13:40:12
อ้างถึง
ข้อความของ prapasri AH เมื่อ 20 พฤษภาคม 2553, 13:37:42
เวลามันให้สัมภาษณ์ มันบอกว่าเป็นห่วงประเทศไทย

อยากกลับมาช่วยชาวบ้านเมืองไทย

บอกมันเถอะ อย่ากลับมาเลย

เราจะฟื้นฟูประเทศ ของเราเอง

เราจะไม่ ต้องการ สมองอันชาญฉลาดของมันมา ช่วยประเทศอีกแล้ว

ขอโอกาสให้คนไทยที่เหลืออยู่ ดูแลประเทศของเราเองเถอะ

เราไม่ต้องการคนต่างชาติ มอนเตเรโก มาช่วยเรา



ยกมือหนับหนุนค่ะ ..   emo48:)

    สวัสดีครับ แอ๊ะ,เหยง,หนุน,น้องหะยี,น้องยา

        ผมคิดว่าตั้งแต่ประเทศไทยมีประวัติศาสตร์ความเป็นชาติมา คงไม่มีใครได้ทำร้ายประเทศชาติและสร้างความแตก

   แยกให้คนในชาติได้มากเท่านายทักษิณคนนี้เลย สุดยอดของความชั่วเลวร้ายจริงๆจนไม่รู้จะด่าหรือนำไปเปรียบเทียบกับ

  อะไรแล้ว  ดูรูปภาพที่น้องยาโพสต์มาในเว็บเห็นแล้วอึ้ง,เหมือนมีอะไรมาจุกอยู่ที่คอ นึกไม่ถึงว่าคนไทยด้วยกันสร้างความ

  พินาศย่อยยับให้กับชาติได้ถึงขนาดนี้ นี่ยังไม่รวมถึงการบาดเจ็บ,ล้มตายของชีวิตประชาชนและทหารจำนวนมาก

       ที่ผ่านมาคุณอภิสิทธิ์ผู้เป็นหัวหน้ารัฐบาล(ที่แสนสุภาพ,แต่ไม่มีบารมี)มีประชาชนสนับสนุนและคอยให้กำลังใจอยู่ข้าง

   หลังจำนวนมาก ดูเสมือนถูกรัฐประหารยึดอำนาจไปอย่างเงียบ บังคับบัญชาหรือสั่งการอะไรออกไปแทบไม่มีการตอบรับ

   หรือมีความหมายอย่างไรเลย ข้าราชการ,นักการเมืองที่อยู่รอบตัวดูเหมือนเป็นแตงโมเป็นมะเขือเทศไปกันหมด  ทุกคน

   ทำตัวเหมือนนั่งรอดูให้เหตุการณ์สุกงอม รอเวลาให้กลุ่มเสื้อแดงที่มีทักษิณกุมบังเหียนอยู่ข้างหลังเข้ายึดประเทศ

   หรือรอเพื่อให้กลุ่มอำนาจใหม่(กลุ่มที่3)ใช้ความวุ่นวายเป็นข้ออ้างความชอบธรรมสวมรอยเข้ามายึดอำนาจรัฐแทน

   คนไทยเกือบทั้งประเทศเหมือนอยู่ระหว่างเขาควายหรือหนีเสือปะจรเข้ อึดอัด,เครียด,ท้อแท้และอยู่ในสภาพสิ้นหวัง 

        วันนี้เหตุการณ์ได้เปลี่ยนแปลงไปกลุ่มม๊อบถูกสลายไป(ชั่วคราว) ทุกคนอย่าเพิ่งดีใจรัฐบาลอภิสิทธิ์ยังไม่ได้ชนะ

   เด็ดขาดอะไรเลย เพียงแต่ตัวหัวโจกและกลุ่มโจรผู้ก่อการร้ายสถุลได้ถอยหลังไปเพียงก้าวเดียวเท่านั้นเพราะเดินเกมส์

   ผิดไปหน่อย  กองกำลังพร้อมอาวุธและกลุ่มสมุนเพียงหลบเข้าฉากรอเวลาและโอกาสเหมาะที่จะโผล่มาใหม่เท่านั้น 

         ผมดูข่าวโทรทัศน์ในวันนี้ที่กลุ่มสามเกลือหัวขวดและแกนนำตอนนึ้อยู่ในความควบคุมของตำรวจ  เดินลงมาจาก

   เฮลิค๊อปเตอร์ที่สนามบินหัวหิน ก็ไม่ได้อยู่ในฐานะผู้ทำความผิดไม่มีการใส่กุญแจมือแต่อย่างใด เดินยิ้มร่ามีตำรวจเดิน

   ตามประกบนำไปพักอยู่รวมกันที่ที่บ้านพักรับรอง(V.I.P.)อยู่ริมทะเลกินอยู่อย่างดี  เพียงแต่กักบริเวณห้ามออกเท่านั้น แทน

   ที่จะนำไปแยกกักขังรอการสอบสวนเหมือนผู้ต้องหาทั่วไป ทั้งๆที่ทุกคนมึข้อหาร้ายแรงแต่ได้รับเกียรติเหมือนเป็นแขกของ

    รัฐฯ   ผมคิดว่าถ้าผู้มีอำนาจของรัฐยังคงทำตัวหน่อมแน้มเหมือนเดิม,อ่อนแอ, ไม่มีความกล้าหาญที่จะจัดการอะไรให้เด็ด

   ขาด กล้าๆกลัวๆแบบนี้  ความวุ่นวายยกที่ 3 ก็คงจะเกิดขึ้นซํ้าแบบปีที่แล้วและแบบในปีนี้อย่างแน่นอน   เซ็งมากๆๆๆครับ

           

   


หัวข้อ: Re: [2513]"ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: ดร.มนตรี ที่ 21 พฤษภาคม 2553, 06:51:40
(http://www.cmadong.com/imageupload/2010_Cmadong-Image/data/image/l2qulo-cae2bf.jpg)

(http://www.cmadong.com/imageupload/2010_Cmadong-Image/data/image/l2qsus-8c1bac.jpg)

(http://www.cmadong.com/imageupload/2010_Cmadong-Image/data/image/l2qsxn-e34ac0.jpg)


หัวข้อ: Re: [2513]"ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: ดร.มนตรี ที่ 21 พฤษภาคม 2553, 06:53:26
(http://www.cmadong.com/imageupload/2010_Cmadong-Image/data/image/l2qtyc-663431.jpg)


หัวข้อ: Re: [2513]"ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: ดร.มนตรี ที่ 21 พฤษภาคม 2553, 07:22:35
(http://www.cmadong.com/imageupload/2010_Cmadong-Image/data/image/l2qudg-2e5b1f.jpg)


หัวข้อ: Re: [2513]"ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: jamsai ที่ 21 พฤษภาคม 2553, 09:38:48
พี่แอ๊ะคะ

เห็นใจที่สุด ขอเป็นกำลังใจให้พี่ค่ะ แต่ถึงอย่างไรพี่ต้องเข้มแข็งนะคะ
ปัจจัยในการสร้างความเข้มแข็งอย่างหนึ่งคือเผชิญหน้ากับความเป็นจริง

ดังนั้นน้องป้าแจ่มอาจจะดูโหดร้าย ที่จะขอทำลายฝันพี่เล็กน้อย....คือ..

ที่พี่ว่า...

........." คนไข้ที่มารักษาเป็น เเดง หมด 100 % ค่ะ เค้าคงรักเรา มั่งแหละนะ..."
[/color]

พี่หวังเอาแค่ 1 % เถอะค่ะ จะได้ ไม่เสียใจมากหากผิดหวัง ถ้าจะให้ได้ผลคือช่วยเหลือโดยตั้งใจให้แบบไม่ต้องไปหวังเอาความรัก
จากพวกเขาเลย ให้หวังเพียงว่าให้เปล่าเป็นบุญไปเลย และกรวดน้ำตั้งจิตอธิษฐานทำนองนี้นะคะ

หากบุญกุศลอันเกิดจากความตั้งใจดีให้นี้ ขอได้โปรด เป้นพลวัต ปัจจัย บันดาลให้สรรพสัตว์ทั้งหลายในยโสธร ได้สำนึก
 ในผิดชอบชั่วดี ละอายชั่วกลัวบาปโดยฉับพลันทันทีเถิด อนึ่งหากมีเวรกรรมใดๆในอดีตชาติที่ได้กระทำต่อกันแล้วนั้น
ก็ขอให้อโหสิ ขอสะบั้นตัดทอนกรรมชั่วนั้นๆให้สิ้นสุด อย่าได้มีเวรต่อกันและกันอีกต่อไป

ที่ต้องบอกพี่อย่างนี้นะคะ เพราะ 1 ปี ของการสอนและจัดสัมมนา ของโรงเรียนการเมือง นปช 
ชาวบ้านภาคอิสาน ที่รับการอบรม เชื่อมั่นในประชาธิปไตยแบบกินได้ของไอ้วายร้ายทักษิณ
และจิตสำนึก ค่านิยม คือ ทำนองนี้ค่ะ

ความดีคือมีเงิน มีเงินมากคือดีมาก  มีเงินน้อย คือความดีน้อย
ความชั่วคือความที่ไม่มีเงิน
ให้เงินมากก็รักมาก ให้เงินน้อยก็รักน้อย ไม่ให้เงินก็ไม่รักเลย

พี่จะหวังอะไรได้ล่ะคะ  แม้แต่คนที่ทำดีมาตลอดอย่างน้อย กว่า 60 ปี
ทำเพื่อให้ประชาชนอยู่ดีกินดี มีศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์ พึ่งพาตัวเองได้อย่างเพียงพอ
รักษามรดกทรัพยากรธรรมชาติไว้ให้ลูกหลานสืบไปตราบเท่านาน
ยังถูกพวกนี้ด่าว่า ขับไล่ แล้วไปเคารพบูชาคนที่โกงกินบ้านเมืองล้างผลาญทรัพยากรล่วงหน้า

นี่คือความจริงที่เราจะต้องหันหน้ามารับรู้ และตั้งสติกันค่ะ

ป้าแจ่มเองก็กำลังปริ่มๆกับภาวะสติแตกค่ะพี่น้อง

อย่าดีใจว่ารัฐบาลชนะนะคะ ไม่เลยค่ะ นี่เป็นเพียง plan C Tukky + Plan A เริ่มต้น
ของผู้ใหญ่ลี (ลี กวน ยิว) เท่านั้น


รอดู plan D Tukky (ซึ่งจริงๆแล้วต่อไปคือ ผกค คืนชีพ จะโผล่มารับช่วงต่อ100%) + plan B ของผู้ใหญ่ลี

ซึ่งปัจจัยความสำเร็จของพวกเขาคือ นักการเมืองไทยที่ไร้ธรรมะและหิวกระหาย
+คนไทยโง่ๆ + คนไทยฉลาดแต่ขี้ขลาด นั่นเองล่ะค่ะ

 emo:( emo19:((:




หัวข้อ: Re: [2513]"ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: เหยง 16 ที่ 21 พฤษภาคม 2553, 09:39:52
บทบรรณาธิการ นสพ.แนวหน้า ออนไลน์ วันศุกร์ที่ 21 พฤษภาคม 2553

บทบรรณาธิการ
 
นปช.หยุดทำลายตัวเอง หยุดเผาประเทศไทย (บทบรรณาธิการ)
 
 
      ดูเสมือนว่าเหตุจลาจลในโศกนาฏกรรม 19 พฤษภาคม 2553 จะคลี่คลายลงไปบ้าง หลังจากทหารสามารถบุกสลายการชุมนุมของแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ หรือนปช.ที่สี่แยกราชประสงค์ และบริเวณลานหน้าพระบรมรูปรัชกาลที่ 6 ที่หน้าสวนลุมพินี ได้สำเร็จ

      แต่ทว่ากลุ่มคนที่ใช้ชื่อว่า นปช.ซึ่งเป็นผู้สนับสนุนระบอบทักษิณจะประกาศอย่างฮึกเหิมผสมกับความหวาดกลัวทำนองว่า "พวกเราจะกลับมาอีก วันนี้เป็นแค่เพียงการหยุดชั่วคราว แต่มิใช่การยอมแพ้"

      การประกาศเช่นนี้หมายความว่า พวกนปช.ที่เทิดทูนระบอบทักษิณจะกลับมาเผาบ้านเผาเมืองอีกใช่หรือไม่ และการที่บอกว่า หยุดเพียงชั่วคราวนั้น หมายถึงพวกคุณยังไม่เลิกความคิดจะทำลายล้างประเทศชาติใช่ไหม

      ทั้งพวกแกนนำนปช.และผู้สนับสนุนนปช.เคยคิดให้ลึกซึ้งบ้างไหมว่า ใครทำให้พวกคุณต้องตกอยู่ในสภาพเช่นนี้ แล้วการที่คุณอ้างว่า พวกคุณยากจน และถูกเอารัดเอาเปรียบนั้น ช่วยตอบให้ชัดได้ไหมว่า ใครทำให้พวกคุณต้องตกอยู่ในสภาพยากจน แล้วที่สำคัญคือ คุณเป็นคนยากจนจริง ๆ หรือพวกคุณทำตัวให้เป็นเสมือนคนยากจน เพราะต้องการได้รับความช่วยเหลือจากนักเลือกตั้งที่ทำตัวเสมือนผู้ให้การอุปถัมภ์

      กลุ่มนปช.ที่เคยสวมเสื้อแดงเป็นสัญลักษณ์ แต่สุดท้ายก็ต้องทิ้งสัญลักษณ์ดังกล่าวไป เพราะต้องการทำตัวให้กลมกลืนกับประชาชนผู้บริสุทธิ์ เพื่อหวังตบตาเจ้าหน้าที่บ้านเมืองให้รอดพ้นจากน้ำมือของกฎหมายและเพื่อตบตาประชาชนทั่วไป บัดนี้พวก นปช.พยายามจะเรียกร้องเพื่อขอความเห็นใจจากสาธารณชนว่า พวกเขาเป็นฝ่ายถูกกระทำและถูกย่ำยีซ้ำแล้วซ้ำเล่า

      แต่สมาชิกกลุ่ม นปช.เคยพิจารณาบ้างหรือไม่ว่า พวกคุณทำความเสียหายอย่างร้ายแรงให้กับประเทศชาติอย่างไรบ้าง หรือคุณคิดและเชื่อแค่เพียงว่าคุณเท่านั้นที่น่าสงสารที่สุด แล้วคนอื่นคือผู้ที่น่ารังเกียจ และต้องกำจัดพวกคนที่ไม่ใช่ นปช.ให้หมดสิ้นไปจากแผ่นดินนี้

      พวกคุณชอบอ้างว่าชุมนุมประท้วงด้วยความสงบและสันติ และมาเพื่อเรียกร้องประชาธิปไตย แต่คุณกลับไม่สำเหนียกว่า คุณคือผู้ที่ทำให้ผู้บริสุทธิ์รายอื่นๆ ได้รับความเดือดร้อนแสนสาหัส คุณทำให้สันติภาพของแผ่นดินมลายหายไปสิ้น

      พวกคุณอาจจะอ้างว่า ไม่เคยใช้ความรุนแรง แต่คุณสามารถตอบได้ไหมว่า แล้วใครคือผู้ก่อความรุนแรงขึ้นครั้งแล้วครั้งเล่า ใครคือผู้ยกขบวนไปปิดล้อมสถานที่ต่าง ๆ ทั้งของรัฐและของเอกชน ใครคือผู้ก่อการปิดถนนโดยไม่สนใจว่าประชาชนผู้อื่นจะเดือดร้อนแสนสาหัสสักเพียงใด ใครยกขบวนอันธพาลเข้าไปข่มขู่และตรวจค้นโรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ แล้วใครคือผู้เผาทำลายอาคารสถานที่ต่าง ๆ ในเขตเมืองหลวง และเผาศาลากลางหลายจังหวัด

      ขอย้ำว่า ไม่มีใครคิดทำร้ายพวกคุณ แต่คุณคือผู้ทำลายและทำร้ายตัวเอง แล้วยังทำลายประเทศไทย แผ่นดินซึ่งเป็นบ้านเกิดเมืองนอนของคุณและของบรรพบุรุษของคุณด้วย เลิกโทษคนอื่นแล้วหันมาพิจารณาตัวเองให้ถี่ถ้วน อย่าหลงงมงายกับความเท็จที่ทักษิณ ชินวัตรและพวกพยายามฝังเข้าไปในสมองของคุณ แล้วคุณจะรู้ว่าคนไทยและประเทศไทยไม่เคยรังเกียจและรังแกคุณ 
 
วันที่ 21/5/2010
 
http://www.naewna.com/news.asp?ID=211972


หัวข้อ: Re: [2513]"ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: เหยง 16 ที่ 21 พฤษภาคม 2553, 09:55:21
บทบรรณาธิการ นสพ.ไทยโพสต์ ออนไลน์

โศกนาฏกรรมประเทศไทย บทเรียนราคาแพงที่ทุกคนไม่อยากเจออีก
บทบรรณาธิการ 21 พฤษภาคม 2553 - 00:00

     คงยากจะสรรหาถ้อยคำใดๆ มาบรรยายภาพและความรู้สึกที่เกิดขึ้นกับประเทศไทยตลอดทั้งวันพุธที่ 19 พฤษภาคม 2553 และล่วงเลยมาถึงวันพฤหัสบดีที่ 20 พฤษภาคม 2553 โดยเฉพาะในพื้นที่กรุงเทพมหานครหลายต่อหลายจุด คือ ประมาณ 32 จุด ที่ถูกกลุ่มผู้ก่อการร้าย-ประชาชนผู้บ้าคลั่ง-มือที่สามที่ต้องการสร้างสถานการณ์ให้บ้านเมืองลุกเป็นไฟ ซึ่งก็ทำได้จริงและทำให้ประเทศไทยอยู่ในสภาพการเป็นประเทศที่ต้องโดนเผาบ้านเผาเมืองอย่างแท้จริง
 
     นี่คือความผิดหวัง ความเศร้าโศกเสียใจ ความทุกข์ระทมของคนไทยทั้งชาติ บนความสะใจของผู้ก่อการและผู้วางแผนสนับสนุนอยู่เบื้องหลังที่เห็นประเทศชาติต้องพังพินาศเช่นนี้ ซึ่งคงไม่ใช่แค่แกนนำ นปช.เท่านั้นที่จะต้องรับผิดชอบ แต่คนที่สนับสนุนอยู่ข้างหลังทั้งการส่งท่อน้ำเลี้ยง การให้เงินสนับสนุน การจัดหาคนมาร่วมชุมนุม รวมถึงสนับสนุนการจัดหาสิ่งผิดกฎหมายมาให้กับผู้ก่อการร้ายอย่างปืน กระสุนปืน ระเบิด น้ำมันเชื้อเพลิง ยางล้อรถยนต์เก่าเพื่อนำมาให้คนร้ายจุดไฟเผากันทั้งวันทั้งคืนตามถนนต่างๆ โดยเฉพาะบริเวณบ่อนไก่-ถนนพระรามที่ 4-สี่แยกดินแดง เป็นต้น

     คนกลุ่มนี้ทางศูนย์อำนวยการแก้ไขสถานการณ์ฉุกเฉิน (ศอฉ.) และหน่วยงานต่างๆ เช่น กองทัพ ตำรวจ กรมสอบสวนคดีพิเศษ จะต้องสอบสวนขยายผลเพื่อนำตัวมาดำเนินคดีในข้อหาสนับสนุนการก่อการร้ายและการก่อวินาศกรรมเผาบ้านเผาเมือง ไม่ใช่แค่การออกคำสั่ง ศอฉ.ห้ามบุคคลและนิติบุคคลรวม 130 ราย ห้ามทำนิติกรรมต่างๆ ทางการเงินเท่านั้น

     ขณะเดียวกันโศกนาฏรรมประเทศไทยครั้งนี้ ถือเป็นบทเรียนสำคัญของทุกฝ่ายที่ต้องเรียนรู้ความผิดพลาด จุดอ่อนต่างๆ ของระบบโครงสร้างและกลไกลอำนาจรัฐต่างๆ รวมถึงข้อบกพร่องในการเข้าปฏิบัติงานของหน่วยงานภาครัฐต่างๆ เพื่อไม่ให้เกิดความผิดพลาดเช่นนี้ขึ้นอีก เพราะเหตุการณ์เผาบ้านเผาเมืองที่เกิดขึ้นแสดงให้เห็นแล้วว่าหลายหน่วยงานไม่สามารถปฏิบัติหน้าที่ได้อย่างมีประสิทธิภาพเมื่อเกิดอุปสรรคขึ้น

     อาทิ กรณีที่รถดับเพลิงไม่สามารถเข้าดับเพลิงได้หลายพื้นที่ทำให้เกิดเหตุเพลิงไหม้บางจุดถึงเกือบ 10 ชั่วโมง จึงจะสามารถเข้าเคลียร์พื้นที่ได้ ซึ่งตรงนี้คงไม่มีใครโทษว่าเป็นความบกพร่องของเจ้าหน้าที่ดับเพลิงของกรุงเทพมหานคร เพราะทุกคนก็เข้าใจดีว่าการเข้าไปดับเพลิงสุ่มเสี่ยงต่อการถูกทำร้ายลอบยิงที่อาจทำให้สูญเสียชีวิตได้ ทั้งที่พนักงานเจ้าหน้าที่ดับเพลิงทุกคนก็มีความมุ่งมั่นอยากเข้าไปดับเพลิงทุกจุด แต่ไม่สามารถทำได้ เพราะไม่เคยเจอปัญหาลักษณะเช่นนี้
     เนื่องจากฝ่ายทหารเองก็ไม่สามารถให้ความคุ้มครองความปลอดภัยเจ้าหน้าที่ในการเข้าไปดับเพลิงได้ นี่เป็นบทเรียนที่เกิดขึ้น ซึ่งไม่ใช่แค่กรุงเทพมหานครจะต้องนำมาศึกษาเป็นบทเรียนในการแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้นเท่านั้น แต่ควรที่ฝ่ายต่างๆ อย่างกองทัพก็ต้องนำมาเป็นบทเรียนด้วยว่า หากเกิดเหตุลักษณะเช่นนี้อีกจะแก้ไขปัญหาอย่างไร

     ขณะที่ฝ่ายการเมืองเองก็ต้องนำเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นมาทบทวนกันได้แล้วว่าจะปล่อยให้อนาคตประเทศชาติอยู่ในภาวะเสี่ยงภัยเช่นนี้อีกไม่ได้แล้ว นักการเมืองไม่ว่ากลุ่มไหนควรที่จะต้องกลับมาพิจารณาบทบาทหน้าที่ของตัวเองว่าอะไรคือสิ่งที่ทำให้คนเสื้อแดงจำนวนมากต้องออกมารวมตัวกันที่ท้องถนนกันเป็นเวลาถึง 2 เดือนกว่า เพราะคงไม่ใช่แค่เงินค่าจ้างหรือการถูกชักจูงให้เข้าร่วมชุมนุมเท่านั้นที่ทำให้คนกลุ่มนี้บางคนถึงกับยอมเสี่ยงชีวิตมาร่วมชุมนุมกับคนเสื้อแดงได้ แต่ประชาชนกลุ่มนี้คงมีปัญหาหรือความคับข้องใจอะไรหลายอย่างด้วยที่เป็นแรงขับดันให้ต้องออกมาร่วมชุมนุมบนท้องถนนกับคนเสื้อแดง

     เช่น ปัญหาความยากจน ปัญหาที่ดินทำกิน ปัญหาการถูกเอารัดเอาเปรียบและกลั่นแกล้งจากเจ้าหน้าที่รัฐ เพราะหากฝ่ายการเมืองยังละเลยต่อปัญหาดังกล่าว ก็เชื่อว่าแม้คนเสื้อแดงจะสลายการชุมนุมไปแล้วในครั้งนี้ แต่หากปัญหาต่างๆ ไม่ได้รับการแก้ไข การชุมนุมแบบนี้ก็ต้องกลับมาอีกบนความหวาดผวาของคนไทยทั้งประเทศ.

http://www.thaipost.net/news/210510/22377


หัวข้อ: Re: [2513]"ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: เหยง 16 ที่ 21 พฤษภาคม 2553, 10:15:17
คอลัมม์ "คนปลายซอย" ของคุณเปลว สีเงิน เสนอแนวทางตั้ง "รัฐบาลแห่งชาติ" แทนการ "ยุบสภา" ซึ่งมองไม่เห็นทางออก

เมื่อประเทศไทยก้าวสู่แสง "ตะวันใหม่"
เปลว สีเงิน 21 พฤษภาคม 2553 - 00:00

     สวัสดีครับ...ยังไม่หายไปไหน ทั้งกายและใจยังอยู่กับท่าน เพียงแต่วานนี้ (๑๙ พ.ค.๕๓) ไทยโพสต์ต้องตกอยู่ในภาวะคับขัน สำนักงานอยู่ในวงล้อมทะเลเพลิงและห่ากระสุน ไม่สามารถพิมพ์จำหน่ายได้ จึงว่างเว้นการทำหน้าที่ "สื่อระหว่างศึก" ไป ๑ วัน ซึ่งต้องขอบคุณทุกท่าน โดยเฉพาะ "สมาชิกไทยโพสต์" ที่สอบถามมาด้วยความห่วงใย และไม่ขึ้งโกรธที่ไม่มีหนังสือพิมพ์ไปส่งให้ตามปกติ ทั้งที่จ่ายเงินค่าสมาชิกล่วงหน้าให้แล้ว...ทั้งปี! และขอเรียนให้ทราบด้วยว่า ระหว่างนี้ จากที่เคย "เช้าตรู่" ก็มีไทยโพสต์เสียบอยู่หน้าประตูบ้านท่าน แต่การอยู่ในภาวะเคอร์ฟิว ๑ และการใช้มอเตอร์ไซค์วิ่งกลางดึกเพื่อส่งหนังสือ ๑ เป็นการเสี่ยงอันตรายสำหรับ "ม้าด่วนไทยโพสต์" ที่ไม่น่าเสี่ยง ฉะนั้น จึงขอเรียนให้ทราบว่า ท่านสมาชิกจะได้รับหนังสือสายหน่อย เพราะ "ม้าด่วนไทยโพสต์" จะออกนำไทยโพสต์ไปส่งท่านได้ก็ต่อเมื่อ ๖ โมงเช้าไปแล้ว ส่วนท่านที่หาซื้อตามแผง-ตามร้านค้าทั่วไป บางพื้นที่ บางจังหวัด อาจไมได้รับไทยโพสต์  เนื่องจาก บางจุด-บางเอเย่นต์ อยู่ในพื้นที่ไม่สามารถนำหนังสือพิมพ์ไปส่งให้ได้กลางดึก!  ผมจะไม่นำทุกข์-นำปัญหาส่วนตัวมาทับถมท่าน เพราะทราบดีว่า "พี่น้องไทยทุกคน" เวลานี้ ทุกข์และว้าวุ่นเหมือนกัน ต้องเผชิญภาวะเลวร้ายสุดๆ ของบ้านเมืองเหมือนกัน อกจะแตก-ใจปิ่มแหลกเป็นผงในชะตากรรมชาติเหมือนกัน นั่นคือ เวลานี้ ไม่มีทุกข์ใคร-ปัญหาใคร "สำคัญกว่า-หนักกว่า" ทุกข์ของใคร-ปัญหาของใครทั้งสิ้น  เพราะนี่คือ "ทุกข์แผ่นดิน-ปัญหาแผ่นดิน" ของพวกเรา "ร่วมชาติ" ทุกคน

    พี่น้องทั้งหลาย...อย่าเอาแต่บ่น อย่าเอาแต่โทษคนอื่น อย่าเอาแต่เรียกร้อง อย่าพล่ามพิร่ำคร่ำครวญอยู่กับสิ่งที่เกิดขึ้นแล้ว ทุกคน-ทุกท่าน จง "ตั้งสติ" ให้มั่น แล้วเชิดหน้าให้พ้นซากทุกข์ที่ท่วมทับแผ่นดิน และใช้ปัญหาวันนี้เป็นเชื้อเพลิงปลุกพลัง "พี่น้องไทย" ไหล่ชนไหล่ กุมมือกันให้มั่นไว้ สะบัดขาก้าวข้ามซากปรักหักพังบนความแตกแยกวันนี้ไป แสวงหาสู่จุดรวมรักสามัคคีใจ พุ่งสู่ "เป้าหมายใหม่" ที่รอพวกเรา "พี่น้องไทยทุกคน" อยู่ข้างหน้าแล้ว ไม่มีดอกไม้งามดอกไหนบานสะพรั่งได้ โดยไม่มี ซากพืช-ซากสัตว์-ซากวัตถุ รองรับเป็นฐาน และเป็นอาหารเลี้ยงราก! นั่นคือ....พวกเราต้องใช้ "ความเจ็บปวดร่วมกัน" ของคนไทย "เป็นเดิมพัน" ต่อสู้ ฝ่าฟันปัญหา-อุปสรรค "๑๙ พฤษภา ๕๓" ก้าวไปสู่ "ชัยชนะร่วมกัน" ของประเทศชาติให้ได้
    ตราบใดที่โลกใบนี้ยังมีแสงสุรีย์ส่อง ตราบใดที่โลกใบนี้ยังไม่แตกสลาย และตราบใดที่เรายังดำรง ชาติ-พระศาสนา-พระมหากษัตริย์เอาไว้ เรา "เริ่มต้นใหม่" สู่จุดแห่งชัยได้เสมอ! รัฐบาล-โดยนายกฯ อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ท่านใช้ "ฐานะผู้นำ" ในภาวะต้องนำด้วยอำนาจได้ถูกต้อง-ครบถ้วนดีแล้ว ไม่ต้องไปสนใจ ไหวหวั่นกับเสียงที่อาจทำให้ทดท้อในสิ่งที่ทำ เพราะทั้งหลาย-ทั้งปวงนั้น  ท่านตัดสินใจบนการบ่มเพาะ "ความชอบธรรม" ในการกระทำให้ประจักษ์ต่อสายตาและความเข้าใจชาวโลกแต่ละขั้นตอน "ครบถ้วน" แล้วว่า ไม่ว่ารัฐบาลไทย หรือรัฐบาลไหนในโลก ถ้าตกอยู่ในสถานการณ์นี้ คือสถานการณ์ที่คณะก่อการร้าย "กบฏแผ่นดิน" ก่อการหวังยึด-เปลี่ยนระบอบประเทศแล้ว จะหดหัว "กลัวหงอ" ยกประเทศให้โจร โดยไม่ทำหน้าที่ "ผู้นำที่ดี" เพื่อชาติและประชาชน มือผู้นำ" เปื้อนเลือดผู้ก่อการร้าย" มือนั้นคือ-หัตถาป้องภพ!
    ถึงจะมีคนด่า-คนตำหนิ แต่โปรดทราบเถออะว่า การตัดสินใจของท่านถึงแล้วซึ่ง "ภาวะผู้นำ" การทำหน้าที่ของผู้นำไม่จำเป็นต้องมีดอกไม้เป็นรางวัลเสมอไป เพียงตอบจิตสำนึกในความเป็นคนของตัวเองได้ นั่นเป็นรางวัลที่ "ผู้นำยิ่งใหญ่" ทั้งในอดีตและปัจจุบันสุขใจแล้ว สุขในฐานะเป็นผู้นำที่.....ไม่ปล่อยให้ "เลือดประชาชน" ต้องสาดกระเซ็นด้วยมืออสูรร้าย "อันมีเป้าหมาย" ล้มสถาบัน-เปลี่ยนระบอบ!!! หลายคนบอกว่า "ปฏิบัติการกวาดล้างกบฏ" ครั้งนี้คือปฏิบัติการ "ทหารปฏิวัติซ่อนรูป" เหมือนเข็มกลัดซ่อนปลาย ภาพของเข็มกลัดไม่มีคม แต่การทำงานแท้จริงของเข็มกลัดคือ "คมที่ซ่อนปลาย" อยู่ในที่กลัด เราหยามเย้ย ก่นว่า ด่าตำหนิกองทัพมานาน โดยเฉพาะกับ "พลเอกอนุพงษ์ เผ่าจินดา" ในฐานะผบ.ทบ.แล้ววันนี้หน้าที่กำลังปราบกบฏ เป็นหน้าที่ที่ "พลเอกอนุพงษ์" แสดงประสิทธิภาพกองทัพให้เป็นที่พึ่ง-ที่หวังของประชาชนได้ดังประจักษ์ การใช้อำนาจทำหน้าที่โดยไม่แสดงหน้า (เอาหน้า) ขี่ทับอำนาจรัฐบาลเช่นนี้ พลเอกอนุพงษ์ และทุกท่านในกองทัพบก ทัพอากาศ ทัพเรือ โดยเฉพาะกำลังในภาคสนามทุกท่าน ขอได้รับความขอบคุณจากประชาชน และภารกิจนี้...ประชาชนขอจำด้วยซึ้งใจ

    ปฏิบัติการราชประสงค์จบ แต่ภารกิจขจัด "โจรก่อการร้าย" ที่แตกตัวขยายลงใต้ดินหลายจังหวัดเพื่อแยกแผ่นดิน โดยเฉพาะอีสาน-เหนือ และรอบๆ กรุงเทพมหานคร...ยังไม่จบ! ไม่ใช่การให้เกียรติโจร แต่ผมขอบอกว่า "อำนาจค้ำหลังหลังโจร" กล้าแข็งยิ่งนัก แฝงตัวอยู่ในหน่วยราชการ ในรัฐบาล ในกองทัพ ในตำรวจ ในรัฐสภา ในมหาวิทยาลัย ในโรงเรียน ในวัด ในซ่อง ในบ่อน อาจไม่เว้นกระทั่งในสถาบันสื่อ เป็นเรื่องที่ทั้งรัฐบาลและกองทัพทราบดีอยู่แล้ว ประเด็นก็คือ ปฏิบัติการทหารครั้งนี้ ขับเคลื่อนด้วย พ.ร.ก.ฉุกเฉิน แต่เมื่อปฏิบัติการจบ แต่ภารกิจขจัดภัยแผ่นดินยังต้องเดินหน้าต่อไป แล้วจะทำยังไง จะปล่อยให้รัฐบาลภายใต้ "ระบบรัฐสภา" อันมีสมาชิกบางส่วนเป็นแนวร่วมกบฏใช้ "อำนาจปกติ" ขับเคลื่อนแก้ไข ก็เท่ากับปล่อยให้ "ทั้งโจรนอก-ทั้งโจรใน" "แยกกันตี-ร่วมกันล้มประเทศ" ไปสู่เป้าหมายเท่านั้นเอง!?
    ณ ขณะนี้ ใครจะ "รัฐประหาร" คือยึดอำนาจรัฐบาล ในระบบรัฐสภา ไม่เป็นผลดีด้วยประการทั้งปวง และจะเสียแนวร่วมในสังคมโลก ทั้งที่เรา-คนไทยส่วนใหญ่เวลานี้ต่างรู้ดีว่า "อำนาจปกติ" ใช้แก้ไข-ควบคุมปัญหาไม่ได้แล้ว ไม่ต้องอะไรมาก นับจากวันนี้ไป นายกฯ ก็ดี รัฐมนตรีก็ดี จะไปปฏิบัติหน้าที่ "นอกทำเนียบฯ" ที่ไหน อันตรายทั้งนั้น!

     นายกฯ อภิสิทธิ์ ถึงจิตใจเข้มแข็งเกินคาดหมาย แต่เมื่อจบบทแรกของภารกิจนี้ ผมคิดว่า "ควรให้ท่านพัก" พักในที่นี้ ไม่ใช่ลาพัก แต่หมายถึงถ้าท่านปรารถนาจะลาออกเป็นการแสดงความรับผิดชอบก็ดี  เป็นการหยั่งความรู้สึกตอบสนองต่อบทบาทนายกฯ ที่ทำไปจากประชาชนก็ดี เป็นสิ่งที่ท่านคิดถูก!
     แต่การลาออก แล้วให้สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรเลือกตัวนายกฯ ใหม่นั้น นอกจากเยิ่นเย้อด้วยปัญหาจากตัณหานักการเมืองแล้ว ด้วยระบบรัฐสภาที่ถูกใช้เป็น "ตรายางให้โจร" เวลานี้ ผมมองว่านอกจากไม่สามารถพึ่งพาให้เป็นที่แก้ปัญหาแล้ว ยังจะเป็นรังโจรอาศัยเงินชาวบ้านเลี้ยง "สร้างปัญหา" ให้บ้านเมืองหนักขึ้น ผมคิดว่า ด้วยปัญหาวิกฤติบ้านเมืองเฉพาะหน้า ฝ่ายรัฐบาล ฝ่ายค้าน ฝ่ายวุฒิ และพรรคการเมืองที่มี ส.ส.อยู่ในสภา น่าจะมีการพบปะหารือด้วยหัวข้อเร่งด่วนเฉพาะ
     ควรจะ "พักใช้รัฐธรรมนูญบางมาตรา" ดีไหม? เพื่อเปิดช่องตั้ง "รัฐบาลแห่งชาติ" และแปลงรัฐสภาเป็น "รัฐสภาแห่งชาติ" ให้อำนาจผสมระหว่าง อำนาจรัฐสภา+อำนาจนอกรัฐสภาทำหน้าที่ ๒ อย่างในปัญหาเฉพาะหน้า คือ
๑.ภารกิจขจัดโจรก่อการร้าย และภารกิจจัดระเบียบข้าราชการ-ทหาร-ตำรวจใหม่
๒.ร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญโดยประชาชนมีส่วนร่วม ก่อนให้มีการเลือกตั้งใหม่
     การยุบสภา "เลือกตั้งใหม่" จะปลายปี-ต้นปี ไม่มีประโยชน์อะไรทั้งสิ้น  ระบบรัฐสภากับระบบกองทัพ ควรหารือร่วมกันออกแบบเสื้อผ้า "ประชาธิปไตยไทย" เป็นสินค้าตัวอย่างให้ประชาชนทางปฏิบัติ นั่นคือ "รัฐบาลแห่งชาติ" นี้มีลักษณะเป็นรัฐบาลประชาธิปไตยในระบบรัฐสภาเหมือนเดิม แต่ประชาธิปไตยแท้ก็เหมือนทองคำแท้ นิ่ม-เหลว ทำประโยชน์เพื่อการใช้สอยยาก ในทางปฏิบัติทุกวันนี้ ทองคำที่ซื้อขายทั้งโลกจึงเป็นทองคำที่ใช้ทองเหลือง-ทองแดงผสม เพื่อ "ให้แข็ง-ทำประโยชน์ได้" ฉะนั้น ทองคำในตลาดจึงเป็นทองกว่า ๙๐ เปอร์เซ็นต์ขึ้นไปทั้งนั้น!
    "รัฐบาลแห่งชาติ" ชั่วคราว จะเป็นรัฐบาลประชาธิปไตยซ่อนรูป การพักใช้รัฐธรรมนูญบางมาตรา ก็เพื่อเปิดโอกาสให้ "ตัวเลือกนายกฯ" มีทั้งคนในและคนนอก และคนกองทัพมีโอกาสเข้าร่วมบริหารในฐานะรัฐบาลได้เต็มตัว เช่นเดียวกับทุกพรรคที่มี ส.ส.ในสภา ส่วน ส.ส.และ ส.ว.คงสภาพไว้ แต่เพิ่มแต่งตั้ง "ฝ่ายชำนาญการ" และ "ฝ่ายปราชญ์ชาวบ้าน" แต่ละท้องถิ่นจำนวนหนึ่งเข้ามาร่วมออกแบบตัวอย่าง "ประชาธิปไตยไทย" แทนประชาธิปไตยลอกรอยตีนฝรั่งดังทุกวันนี้!

     นี่แหละ "การเมืองต้องแก้ด้วยการเมือง" จริงๆ คือให้ทุกคนระบบรัฐสภาวันนี้ หารือนอกรอบจนลงตัวกัน แล้วประชุมรัฐสภาลงมติ "พักใช้รัฐธรรมนูญบางมาตรา" เพื่อไปสู่การมี "รัฐบาล-รัฐสภา" แห่งชาติชั่วคราว การเมืองไทยระบอบประชาธิปไตยวันนี้ต้องมีตัว "อำนาจคั่นกลาง" ระหว่าง รัฐบาล-รัฐสภา-ประชาชน ไม่เช่นนั้น การแก้ปัญหาพี่น้องไทยแตกใจซึ่งกันและกัน "มันยากแก้" ต้องเอาทหารและปราชญ์ชาวบ้านท้องถิ่นมาเป็น "ตัวร่วม-ตัวหลอม" ในรัฐบาลชาติ
     ถึงเวลาแล้วจริงๆ ที่ประเทศไทยต้อง "ออกแบบประชาธิปไตย" ใช้เอง.


http://www.thaipost.net/news/210510/22374


หัวข้อ: Re: [2513]"ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: swsm ที่ 21 พฤษภาคม 2553, 10:23:35
พี่แก้วคะ .. เห็นเช่นเดียวกันค่ะ


คงไม่จบง่าย ๆ เพราะทั่วทุกหัวระแหงยังคงคุกรุ่นอย่างกระจัดกระจาย
ลองออกไปเดินตามตลาด 
ไปนั่งทานก๋วยเตี๋ยว ขึ้นรถเมล์
ได้ข้อมูลที่ทำเอาถึงกับอึ้งเลยค่ะ ..


วันก่อนได้ยินว่า .. 'อย่าคิดว่าจะจบง่าย ๆ ยังมีอีกหลายยก'


อยากจะเซ็ง  แต่ยังเซ็งไม่ได้ .. ต้องช่วยกันค่ะ
     emo49:))


หัวข้อ: Re: [2513]"ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: เหยง 16 ที่ 21 พฤษภาคม 2553, 10:23:56
คอลัมม์ "ท่านขุนน้อย" เขียน ถึงเวลา...ก้าวข้ามทักษิณ

ถึงเวลา...ก้าวข้ามทักษิณ
ท่านขุนน้อย 21 พฤษภาคม 2553 - 00:00

     คงแทบไม่ต้องเสียเวลาบรรยาย...ว่าความพังพินาศ ฉิบหาย ที่เกิดขึ้นกับชาติ บ้านเมือง มันหนักหนาสาหัสไปถึงขั้นไหน ไม่เพียงแค่ตึกราม อาคาร ทรัพย์สิน ของเอกชน และทางการเท่านั้น เลือดเนื้อชีวิตของผู้คน ตลอดไปจนความรู้สึกนึกคิด ของใครต่อใคร ที่ต่างต้องตกอยู่ในอาการหวั่นผวากับภาวะไร้ระเบียบ ไร้กฎเกณฑ์ ตกเป็นเหยื่อ เป็นตัวประกันของอำนาจมืด ผู้ซึ่งพยายามแสดงออกถึงความเกลียด เคียดแค้น อาฆาตพยาบาท ชนิดไม่เหลือความเป็นมนุษย์มนาติดตัวเอาเลยแม้แต่น้อย...
           ---------------------------------------------
     อะไรต่อมิอะไรเหล่านี้...คงต้องถือว่าเป็น "รายจ่าย" ชนิดหนึ่ง ซึ่งมิอาจหลีกเลี่ยงได้ ไม่ว่ามันจะ "คุ้มค่า" หรือไม่? เพียงใด? แต่สังคมทั้งสังคม...หนีไม่พ้นที่จะต้องสูญเสียรายจ่ายก้อนนี้ เพื่อแลกมากับบางสิ่ง บางอย่าง อันอาจทำให้เราทั้งหลาย มีโอกาสผลักดันสังคมให้เดินหน้าต่อไปได้อย่างมีสติ มีวุฒิภาวะ เพิ่มขึ้นมาบ้าง ไม่ว่ามากหรือน้อยก็ตามที หรืออย่างน้อยที่สุด...มันอาจนำเอาไปใช้ในการขจัด "อวิชชา" ที่ปกคลุม ครอบทับ ความรู้สึกนึกคิดของผู้ที่อยู่ร่วมในสังคมเดียวกันได้เป็นจำนวนไม่น้อย ไม่ว่าคนเหล่านั้นจะมีสถานะเป็นนักการเมือง นักวิชาการ ปัญญาชน สื่อมวลชน ตลอดไปจนถึงราษฎรธรรมดาสามัญ ฯลฯ ผู้ซึ่งสูญเสียขีดความสามารถ แม้แต่กระทั่งการแยกแยะความถูก-ความผิด ความดี-ความชั่ว ออกจากกันและกันมานานเต็มที...
           ----------------------------------------------
     ความมั่วๆ มึนซ์ซ์ ไม่รู้ว่าอะไรถูก อะไรผิด อะไรคือผลประโยชน์ส่วนรวม อะไรคือผลประโยชน์ส่วนตัว อะไรคือกงจักร อะไรคือดอกบัว ฯลฯ ที่ทำให้สังคมไทยต้องแบ่งข้าง แบ่งฝ่าย มานานนับเป็นปีๆ มาบัดนี้...โดยโฉมหน้าของเหตุการณ์ โดยข้อเท็จจริงของสถานการณ์ ได้เปิดเผยถึงรายละเอียด และคำอธิบายต่างๆ ด้วยตัวของมันเอง ให้เห็นกันแล้วอย่างชัดเจน แจ่มแจ้ง ชนิดไม่ว่าใครก็ใคร ต่อให้มี "สีข้าง" แข็งแรงระดับคอนกรีตเสริมใยเหล็กก็เถอะ โอกาสที่จะใช้สีข้างเถลือกไถล ตะบิด ตะแบง นำเอาเหตุผล ข้ออ้าง ข้อมูล ทฤษฎีต่างๆ มาใช้เป็นเครื่องมือในการสนับสนุนอารมณ์ความรู้สึก อันมี "ตัวกู-ของกู" เป็นศูนย์กลาง...น่าจะเป็นไปได้ยากซ์ซ์ซ์ยิ่งขึ้นเรื่อยๆ...
        ---------------------------------------------------
     เพราะไม่ว่าจะเป็นระบอบประชาธิปไตยอันมีองค์พระมหากษัตริย์ทรงเป็นพระประมุข หรือระบอบประชาธิปไตยในลักษณะไหนๆ ก็แล้วแต่ แต่ถ้าหากไม่มีคุณธรรม ศีลธรรม เป็นองค์ประกอบพื้นฐานแล้วละก็ มันก็จะกลายเป็นประชาธิป...ตาย หรืออนาธิปไตย อย่างที่เราเห็นๆ กันอยู่ในช่วงไม่กี่วันที่ผ่านมานั่นแหละ ความอำมหิต โหดร้าย การระบายออกซึ่งสัญชาตญาณดิบ เพียงเพื่อตอบสนองความสะใจ ความเกลียด โกรธ อาฆาต พยาบาทของตัวเอง โดยไม่ได้คำนึงถึงผู้อื่น ถึงผลประโยชน์ของส่วนรวม พร้อมที่จะนำเอาชาติทั้งชาติไปใช้เป็นเครื่องเซ่นสรวงบูชาบุคคลเพียงคนเดียว ทั้งที่บุคคลผู้นั้น...มันสุดจะชั่วว์ว์ว์แสนชั่วว์ว์ว์...ชั่วเกินกว่าจินตนาการใดๆ จะคาดได้ แต่ก็ด้วยการนำเอาเหตุผล ข้ออ้าง แบบมั่วๆ มึนซ์ซ์ๆ เบลอๆ มากล่อมเกลาภายในความรู้สึกของฝ่ายเดียวกันเอง เบื้องหลังฉากเหตุการณ์ อันทำให้ประเทศไทยทั้งประเทศต้องแหลกยับเยิน พังพินาศ ฉิบหาย ในคราวนี้...ย่อมมิอาจปฏิเสธได้เลยว่า เพราะคำว่า "ทักษิณ" เพียงคำเดียวเท่านั้น...ไม่ใช่คำว่าประชาธิปไตย ความเสมอภาค เสรีภาพ อันสูงส่งใดๆ เอาเลยแม้แต่น้อย...
               -------------------------------------
     แต่จะไปโทษ "ทักษิณ" เพียงคนเดียว...ก็คงไม่ถึงกับถูกเรื่องกันซักเท่าไหร่นัก เพราะตราบใดที่ไม่มี "อวิชชา" เป็นพื้นฐานรองรับอารมณ์ความรู้สึกของราษฎร นักการเมือง ข้าราชการ สื่อมวลชน ตลอดไปจนปัญญาชน นักวิชาการ ฯลฯ แล้ว คนคนเดียวมันคงไม่ถึงกับมีฤทธิ์ มีเดช มากมายถึงขั้นนี้ คำว่า "ทักษิณ" ในที่นี้...มันจึงมีความหมายในเชิงสัญลักษณ์ออกไปในแนวเดียวกับคำว่า "ความเห็นแก่ตัว" นั่นแหละ...ท่ามกลางความเห็นแก่ตัวซึ่งเกาะกุมอยู่ในความรู้สึกนึกคิดของนักการเมือง ผู้กระเหี้ยนกระหือรืออยู่กับการช่วงชิง แย่งยื้ออำนาจทางการเมือง โดยไม่สนใจต่อระบบ ระบอบ ใดๆ ทั้งสิ้น ข้าราชการที่เคยชินอยู่กับการเอาตัวรอด เลือกข้าง เลือกฝ่าย โดยไม่ได้คำนึงถึง "การทำหน้าที่" ตามความรับผิดชอบของตัวเอง นักวิชาการ ปัญญาชน ที่พยายามปั่นตัวเองเพื่อให้มีบทบาท มีที่ยืนอยู่ในสถานะใด สถานะหนึ่ง หรือแม้กระทั่งสื่อมวลชน ที่พร้อมทรยศต่อวิชาชีพ จรรยาบรรณ ของตัวเองมานานแล้ว ตลอดไปจนราษฎรผู้เสพติดอยู่กับการบริโภค จนไม่คำนึงถึงวัฒนธรรม ศีลธรรมอันดี ฯลฯ สิ่งเหล่านี้นี่เองที่มันถูกนำมาผสมกลมกลืนกันจนกลายเป็นความฉิบหายทั้งมวลของบ้านเมืองไปจนได้...
             -----------------------------------------
     "รายจ่าย" เพื่อที่จะให้ก้าวข้ามพ้นไปจากคำว่า "ทักษิณ" มันจึงกลายเป็นรายจ่ายก้อนโต มากมาย มหาศาลจนสุดแสนที่จะประมาณได้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อ "ยุทธศาสตร์" ของฝ่ายทักษิณ มันไม่ได้เป็นยุทธศาสตร์ที่มุ่งไปสู่การนำมาซึ่งความสุข ความสงบ ของบ้านเมืองใดๆ แม้แต่น้อย แต่เป็นยุทธศาสตร์ที่มุ่งไปสู่การสร้างพลังในการกดดัน ต่อรอง โดยมี "ผลประโยชน์ของคนคนเดียว" เป็นจุดมุ่งหมายปลายทางจุดสุดท้าย การสร้างความพังพินาศให้กับบ้านเมืองให้มากที่สุดเท่าที่จะมากได้ การเผาทำลายอาคาร บ้านเรือน ฆ่าฟัน ล้างผลาญ ชีวิตมนุษย์ ไม่ว่าฝ่ายตรงข้าม หรือกระทั่งฝ่ายเดียวกันเอง เพียงเพื่อให้บรรลุเป้าหมายดังกล่าว มันจึงปรากฏให้เห็นโดยชัดเจนในระดับแทบไม่น่าเชื่อว่า อะไรมันจะเห็นแก่ได้ เห็นแก่ตัว มากมายมหาศาลถึงเพียงนี้...
        ----------------------------------------------------
     ก็เอาเถอะ...ในเมื่อเรามิอาจที่จะหลีกเลี่ยงรายจ่ายก้อนนี้ไปได้ หรือจำเป็นที่จะต้องจ่ายกันไปเรียบร้อยแล้ว ก็ได้แต่หวังว่า บรรดาความเสียหาย และความสูญเสียต่างๆ ซึ่งเราทั้งหลายเลี่ยงไม่พ้นที่จะต้องแบกรับกันต่อไปโดยถ้วนหน้า จะสามารถนำมาใช้เป็น "บทเรียน" เป็นเครื่องมือในการขจัด "อวิชชา" และ "ความเห็นแก่ตัว" ที่แทรกซึมอยู่ในทุกซอก ทุกอณู ทุกแวดวงของสังคมลงไปได้บ้าง แม้แต่เพียงเล็กๆ น้อยๆ ก็ยังดี ภายใต้การเดินหน้าฟื้นฟู บูรณะ สิ่งต่างๆ เพื่อนำความสงบเรียบร้อยกลับคืนมาสู่บ้านเมืองนั้น...มันคงไม่ใช่เป็นเพียงแค่การหาทางฟื้นฟู บูรณะตึกรามอาคาร การฟื้นตัวเลขเศรษฐกิจ การหาทางสมานฉันท์กันแบบเจ๊าะๆ แจ๊ะๆ เท่านั้น เพราะสิ่งสำคัญที่สุดย่อมหนีไม่พ้นไปจากการฟื้นฟู บูรณะ ความรู้สึกนึกคิดของผู้คนในสังคม หรือการหาทางทำให้ผู้คนลด "ความเห็นแก่ตัว" ลงไปให้ได้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้นั่นเอง มันถึงจะทำให้เราทั้งหลายสามารถก้าวข้ามพ้นสถานี "ทักษิณ" ไปได้จริงๆ...
             ------------------------------------------
     ปิดท้ายด้วยวาทะวันนี้ จาก "ท่านพุทธทาสภิกขุ" (อีกครั้ง)..."ประชาธิปไตยที่แท้จริง ต้องเป็นไปเพื่อลดหรือป้องกันความเห็นแก่ตัว เพราะถ้าเห็นแก่ตัว...ก็มีแต่ประชาธิป-ตายเท่านั้น ความไม่เห็นแก่ตัวจึงเป็นรากฐานของประชาธิปไตยที่แท้ แม้จะเป็นไปได้ยากสำหรับปุถุชนสมัยนี้ที่หันไปบูชาวัตถุกันเป็นหลัก..
."
          -----------------------------------------------

http://www.thaipost.net/news/210510/22376


หัวข้อ: Re: [2513]"ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: เหยง 16 ที่ 21 พฤษภาคม 2553, 10:28:59
คอลัมม์ "ถูกทุกข้อ" ของคุณสามวา สองศอก

น่าสงสารคนไทย
ถูกทุกข้อ 21 พฤษภาคม 2553 - 00:00

          น่าสงสาร           ชาวพุทธ         สุดแสนเศร้า
     กิเลสเข้า                สิงสถิต          จิตเศร้าหมอง
     ทำ,พูดชั่ว                ทั่วไป           ไม่ไตร่ตรอง
     ผิดทำนอง                คลองธรรม       ประจำใจ
          พุทธศาสนา          เกิดมา          เพื่อดับทุกข์
     ให้มีสุข                  ถ้วนหน้า         พาสดใส
     แก้ปัญหา                 ทุกชนิด          ในจิตใจ
     แต่ทำไม                 ไทยพุทธ         ทรุดห่างธรรม
          นับถือพุทธ           ศาสนา          มาพันปี
     จิตใจมี                  แต่ตัณหา         ช่างน่าขำ
     ไม่ปฏิบัติ                 ขัดเกลาใจ       ใฝ่พระธรรม
     จึงกระทำ                พูด,คิด          จิตใจพาล
          เข้าห้ำหั่น           ปั่นปลุก          ทุกแห่งหน
     ยุให้คน                  ทำร้าย          คล้ายเดรัจฉาน
     เกิดเป็นไทย              ใจเป็นทาส       อันธพาล
     ในสันดาน                คิด,ทำ,พูด       ทุจริต
          กว่าจะมี            ประเทศไทย      ให้อาศัย
     ชีวิตไทย                 ในอดีต          กี่ชีวิต
     ต้องพลีชีพ                รักษาไทย        ไว้ทุกทิศ
     ยอมอุทิศ                 ชีวิต            เพื่อคนไทย
          แต่คนไทย           ในปัจจุบัน        มันไม่คิด
     ในใจจิต                 อำมหิต          ผิดวิสัย
     จากชาวพุทธ              สุดประเสริฐ      เกิดเป็นไทย
     ทำอะไร                 ให้มีค่า          น่าชื่นใจ.
                                                  ไสว  สุนทร     

                 คนบ้าสงคราม
เรียน คุณสามวา สองศอก และพี่น้องชาวไทยที่รักทุกท่าน
      เราคงจำกันได้ว่าเมื่อประมาณ 10 ปีที่ผ่านมานี่เอง ขณะที่ประเทศไทยของเรายังปกติสุขกันดีอยู่นั้น อยู่ๆ เราก็ได้ยินการประกาศสงครามภายในประเทศของเราขึ้นมา เช่น สงครามต้านยาเสพติด สงครามปราบความยากจน และสงครามปราบปรามการคอรัปชั่น แล้วก็คงจะมีอีกหลายสงครามตามมา
      ผมรู้สึกตกใจและได้คุยกับผู้คนหลายคน ว่าทำไมต้องไปตั้งชื่อนโยบายให้มันดูน่ากลัวกันขนาดนั้น ชื่ออื่นในภาษาไทยมีอีกมากมายไม่เอามาตั้ง ไปตั้งเป็นนโยบายการทำสงครามไปเสียหมดทุกโครงการ
     "สงครามก็คือสงคราม ทำไมต้องเอามาพูดมาตั้งชื่อกันเล่นๆ ให้เป็นลางร้าย ใครนะที่เป็นคนคิดชื่อนี้ได้คนแรก จะต้องเป็นคนรักการสงครามเอามากๆ หรือถึงขั้นบ้าสงครามเอาเลยทีเดียว"
     ทำให้ต้องหวนคิดไปถึงนักเผด็จการชาวเยอรมันคนนั้น อดอล์ฟ ฮิตเลอร์
     แล้วจากนั้นความตายจากภัยสงครามก็เริ่มขึ้น จาก "สงครามต้านยาเสพติด" ประมาณ 2,500 คน แล้วไปที่ "ตากใบ" และ "กรือเซะ" อีกหลายร้อยคน
     แล้วในที่สุดวันนี้ประเทศไทยของเราก็ตกอยู่ในภาวะสงครามอย่างแท้จริง และเป็นสงครามที่เราจะต้องรบกับคนที่รักการสงครามเป็นชีวิตจิตใจ ในขณะที่วันนี้เขาได้เปลี่ยนสัญชาติไปเป็นคนชาติอื่นไปแล้วด้วย
     การทำสงครามกับนักวางแผนมืออาชีพ ซึ่งมิใช่แค่ระดับชาติ แต่เป็นมือระดับโลกนั้น หากจะมองแค่สถานการณ์เฉพาะหน้าที่กำลังเผชิญอยู่ในแต่ละขั้นแต่ละตอนเท่านั้น จะเป็นการผิดพลาดอย่างมหันต์ทีเดียว เพราะจะเป็นเพียงการเล่นตามเกมที่อีกฝ่ายกำหนดไว้เท่านั้นเอง เราต้องรู้และเข้าใจทุกขั้นตอนและแผนสำรองทุกแผน รวมทั้งเป้าหมายที่ถูกกำหนดล่วงหน้าไว้แล้วนั้นด้วย
     ขอเพียงอย่าได้เข้าใจผิดว่าเหตุการณ์นี้เป็นเพียงความขัดแย้งภายในชาติอีกต่อไป ต้องขอย้ำอีกครั้งว่า
     มันคือสภาวะสงคราม เพียงแต่มิใช่สงครามในภาวะปกติ แต่เป็นสงครามในยุคข่าวสาร ซึ่งไม่มีทางที่จะมีรูปแบบเหมือนสงครามในอดีตอีกต่อไป เมื่อมาถึงจุดนี้แล้วจึงหลีกเลี่ยงไม่ได้ที่จะต้องเผชิญกับสงครามข่าวและสงครามก่อการร้าย
     เช่นเดียวกับเหตุการณ์ที่กำลังเกิดขึ้นทั่วโลก จากตะวันออกกลางแล้วก็แพร่ระบาดไปถึงสหรัฐอเมริกา มาจนถึงสามจังหวัดชายแดนของไทย แล้ววันนี้ก็มาถึงใจกลางกรุงเทพมหานคร และกำลังลุกลามไปทั่วทุกจังหวัดในประเทศไทย การประเมินสถานการณ์ต่ำไป มีแต่จะทำให้เกิดข้อผิดพลาดครั้งแล้วครั้งเล่า
     มาถึงขณะนี้กองกำลังปฏิบัติการที่เรียกกันว่าไม่ทราบฝ่ายนั้น แท้จริงก็คือกองกำลังอิสระที่ถูกฝึกขึ้นจากโรงเรียนฝึกกองกำลังอิสระที่กระจายอยู่ทั่วประเทศ ได้ถูกกำหนดภารกิจไว้ล่วงหน้าแล้ว รวมถึงการปฏิบัติการและอิสระในการตัดสินใจ ในบางสถานการณ์ที่ไม่จำเป็นต้องได้รับคำสั่งด้วย
     ตราบใดที่คู่สงครามยังมีชีวิตอยู่ และยังมีกำลังเงินก็จะยังมีกำลังคนในการต่อสู้ สงครามก็จะยังดำเนินต่อไป แม้อาจจะมีความสงบเป็นบางช่วง แต่ก็จะยังเป็นเพียงความสงบชั่วคราว เพื่อรอการเริ่มต้นของเหตุการณ์ใหม่ๆ ต่อไป
     สงครามก็คือสงคราม ต้องรู้เขารู้เราเท่านั้น จึงจะสามารถควบคุมสถานการณ์ให้ดำเนินไปสู่ความสงบได้ในที่สุด
                                                          เล็ก เมืองเก่า
ตอบ คุณเล็ก เมืองเก่า
     หลังจากแกนนำเสื้อแดงเข้ามอบตัวแล้ว ต่อไปหัวหน้าผู้ก่อการร้ายสัญชาติมอนเตรเนโกก็จะเปลี่ยนยุทธวิธีไปรบแบบกองโจร นายกฯ อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ตามให้ทันก็แล้วกัน

                     ผู้พันสไนเปอร์
เรียน คุณสามวา สองศอก
     ภาพยนตร์ฝรั่งเรื่อง The enemy at the gate เป็นเรื่องที่กล่าวถึงพลแม่นปืนทหารโซเวียตรัสเซีย ที่ใช้ยุทธวิธีซุ่มยิงทหารเยอรมัน ระหว่างการรบในสงครามโลกครั้งที่ 2 ที่เมืองสตาลินกราด ซึ่งเป็นเมืองด้านอุตสาหกรรมของรัสเซีย ยุทธวิธีดังกล่าวใช้ได้ผลในด้านสงครามจิตวิทยามวลชน ค่อยๆ ทำลายขวัญและกำลังใจของทหารเยอรมัน ที่ทำการสู้รบอยู่โดยไม่รู้ว่าวันใด สถานที่ใด ที่ตนเองหรือใครในกองทัพเยอรมันจะถูกซุ่มยิงที่หัว!!?
     และแล้วต่อมาในวันหนึ่ง กองทัพเยอรมันได้ส่งผู้พันนักแม่นปืนมาเข้าแก้ยุทธวิธีการซุ่มยิงของทหารโซเวียตรัสเซีย ด้วยวิธีการใช้ "เกลือจิ้มเกลือ" การยิงตอบโต้เพื่อเรียกขวัญกำลังใจในการรบของทหารเยอรมันกลับคืนมา
     ผู้พันสไนเปอร์โต้ตอบ โดยซุ่มยิงเป้าหมายโซเวียตรัสเซีย ทำลายขวัญกำลังใจทหารในการรบของทหารโซเวียตรัสเซียไปเรื่อยๆ และจนกระทั่งวันหนึ่งเขาก็สามารถค้นพบเป้าหมายหลัก คือพลแม่นปืนทหารรัสเซียคนนั้นได้ จากการใช้กลยุทธ์ลูกไม้ตื้นๆ หาข่าวจากเด็กรับใช้ชาวรัสเซียที่ดูแลขัดรองเท้าให้ผู้พันสไนเปอร์นั่นเอง เป็นจุดเริ่มต้นที่นำมาสู่การทำให้เขาสามารถสังหารเป้าหมายหลัก พลแม่นปืนทหารรัสเซียคนนั้นได้ในที่สุด
     เรื่องนี้เข้าตำราหมองูตายเพราะงู และผู้พันสไนเปอร์ก็เป็นเฉกเช่นเดียวกัน ในเวลาต่อมาเขาก็ถูกซุ่มยิงตายเพราะพลแม่นปืนคนอื่นๆ ซึ่งก็เข้าตำรา "เหนือฟ้ายังมีฟ้า" ของจีน และเข้าตำรา "กรรมตามทัน" ตามหลักศาสนาพุทธ ที่คนไทยส่วนใหญ่นับถือนั่นเอง
     กรณีการถูกซุ่มยิงที่หัวของเสธ.แดง คงจะเป็นปมปริศนาเหมือนกับเรื่องไอ้โม่งคลุมผ้าคลุมหัวสีดำ เมื่อ 10 เมษายน 53 ที่ผ่านมาเช่นกัน หัวกระสุนที่ยิงทะลุศีรษะเสธ.แดงออกไปเลย จึงไม่สามารถพิสูจน์หลักฐานใดๆ ของหัวกระสุนปืนได้ว่ามีที่มาที่ไปอย่างไร ใครเป็นผู้บงการ นอกเสียจากค้นหาหัวกระสุนปืนได้ในบริเวณที่เกิดเหตุ และคงจะเหมือนๆ กับทุกเรื่องเรื่องที่ผ่านมาเอ้อ..เอยก็ผ่านไป ที่เกิดขึ้นในประเทศนี้!!?
     บทเรียนจากการรบในภาพยนตร์เรื่องนี้ เป็นเรื่องที่สมควรประยุกต์นำเอามาใช้สำหรับกองทัพ ในการปราบม็อบการชุมนุมก่อการร้ายโดยไม่สงบ โดยมีจุดมุ่งหมายให้คนที่มาร่วมชุมนุมบาดเจ็บล้มตายน้อยที่สุด
     การซุ่มยิงระยะไกลเด็ดหัวตัวแกนนำให้ร่วงผล็อยเหมือนใบไม้ทีละใบร่วงจากกิ่ง จะส่งผลในด้านการทำลายขวัญกำลังใจ และจิตวิทยามวลชนผู้ชุมนุมในการชุมนุม และขณะเดียวกันทำพร้อมกันไปด้วยกับยุทธวิธีการตัดกำลังบำรุง ให้ผู้เข้าร่วมชุมนุมเริ่มโดดเดี่ยวเปล่าเปลี่ยว ไม่แน่ใจในชีวิตรอดปลอดภัยจะต้องคิดเลือกเอาวิธีไหน ในระหว่างการอดอาหารตาย หรือว่าถูกกระสุนปืนตามแกนนำ (กรรมแนน) ตาย!!?
     "กรรม" แปลว่าการกระทำ ในภาษาอังกฤษใช้คำว่า Action ขบวนการชุมนุมก่อการร้ายเสื้อแดงใช้ Action ในวิชาฟิสิกส์ที่สมมุติว่าเท่ากับ 100 นิวตันมาโดยตลอด ในขณะที่ ศอฉ.กลับใช้ Reaction เพียง 10 นิวตันมาโดยตลอดเช่นกัน
     ดังนั้นสภาพกรรมตามทัน ชั้นเชิงความเหนือกว่าและบดขยี้ได้ทันควัน ยังไงเสียก็ต้องอยู่ที่ขบวนการชุมนุมก่อการร้ายเสื้อแดง เป็นผู้กำชะตาและวิถีทางในการปฏิบัติ จึงถึงเวลาแล้วหรือยังที่กองทัพจะต้องงัดบทเรียนการรบในภาพยนตร์เรื่องนี้ มาประยุกต์ใช้โดย ศอฉ.ต้องใช้ Reaction มากกว่า 100 นิวตัน ผลักดันดับฝันผู้ชุมนุม โดยเฉพาะนายใหญ่มอนเตเนโกร ให้เสียค่าโง่และเสียทุกอย่างไปโดยไม่ประสบความสำเร็จใดๆ ตามที่มุ่งหวังเอาไว้
     "การดับเพลิง" จะต้องดูที่ลักษณะของเพลิงว่าเกิดขึ้นจากอะไร จึงหาวิธีการดับเพลิงได้สนิท ไม่ใช่ดันทุรังเข้าใจว่าใช้มาตรฐานน้ำเพียงอย่างเดียว ชาติหน้าบ่ายๆ ยังไงเสียไฟก็ไม่มอดดับลงได้อย่างแน่นอน!!?
                                                            เสธ.เหลือง
                                                    ผู้ทรงคุณธรรมกองทัพบก
ตอบ เสธ.เหลือง
     ขออภัยที่จดหมายฉบับนี้เพิ่งได้ลง เพราะส่งมาช่วงที่จดหมายเข้ามาเยอะมาก แต่เรื่องพลแม่นปืนที่เก็บเสธ.แดงได้ ลงเมื่อไหร่ก็ยังเป็นที่น่าสนใจ
                                                       สามวา สองศอก

http://www.thaipost.net/news/210510/22373


หัวข้อ: Re: [2513]"ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: เหยง 16 ที่ 21 พฤษภาคม 2553, 10:44:47
ฟังสื่อต่างชาติวิเคราะห์การเมืองไทย ไม่ทราบไปอ่านบทความของ"คุณเปลว สีเงิน" มาก่อนหรือเปล่า ??

วันที่ 21 พฤษภาคม พ.ศ. 2553 เวลา 10:06:24 น.  มติชนออนไลน์
รอยเตอร์สวิเคราะห์ 5 แนวทางทิศทางไทยหลังเหตุปั่นป่วนกลางกรุงเทพฯ


สำนักข่าวรอยเตอร์สรายงานเมื่อวันที่ 20 พ.ค. ที่ผ่านมาว่า กรุงเทพฯ ได้กลับเข้าสู่สภาวะสงบสุขแล้ว หลังจากการใช้ปฏิบัติการทางทหารเข้าสลายการชุมนุมของผู้ประท้วงที่ใจกลางกรุงเทพฯ ยุติการเผชิญหน้านาน 9 สัปดาห์ระหว่างผู้ประท้วงกับรัฐบาล ทำให้เกิดการจลาจลครั้งเลวร้ายที่สุดในประวัติศาสตร์ไทยยุคใหม่ สำนักข่าวรอยเตอร์สได้วิเคราะห์ความเป็นไปได้ที่จะเกิดขึ้นในไทยต่อไปไว้รวม 5 แนวทางดังนี้
 

1. การต่อต้านสงบลง ตกลงกันได้เรื่องแผนการเลือกตั้ง
2. มีสงครามกองโจรรุนแรงมากขึ้นในต่างจังหวัด
3. อภิสิทธิ์ถูกปลด ตั้งรัฐบาลรักษาการณ์
4. อภิสิทธิ์ถูกปลด ตั้งรัฐบาลเอกภาพแห่งชาติ
5. รัฐบาลไม่อาจควบคุมความสงบ และกองทัพก่อรัฐประหาร
 

ทั้งนี้ รอยเตอร์ส สรุปเองเช่นกันว่า แนวทางสุดท้ายนี้ไม่น่าจะเกิดขึ้นจริง จะไม่เกิดผลดีต่อการเงินของประเทศไทย และอาจส่งผลต่อตลาดการเงินชาติอื่นๆในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ด้วย


http://www.matichon.co.th/news_detail.php?newsid=1274411203&grpid=03&catid=


หัวข้อ: Re: [2513]"ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: prapasri AH ที่ 21 พฤษภาคม 2553, 14:12:02
อาจารย์แจ่มขา เด่วจะโทรมาคุยนะคะ

ขอเครียร์งานแป๊บเดียว

กำลังทำใบรับสมัครแพทย์ ประกาศในมติชนค่ะ

ตอนนี้ร.พ ขาดหมอมากค่ะ

มีหมอคนหนึ่ง ไปเป็นแดงซะเเล้ววววววว

ตอนก่อนเป็นเหลืองชนิดโพกหัว ผ้าเหลืองเลย

ตอนนี้เป็นแดงแจ๋....

คนเราทำไมเปลี่ยอุดมการณ์ กันได้ง่ายๆ ขนาดนี้

อุดมการณ์มันเป็นอะไรที่เปลี่ยนยากมาก สำหรับพี่แอ๊ะ

แต่คนอื่นทำไม เขา เปลียนง่ายๆ อย่างนี้...เป็น งง ไปหมด คนสมัยนี้

วันก่อน มาบอกน้องกระติ๊บให้บอกแม่ว่า

ให้ติดป้ายหน้าร.พว่า


"ขอให้ทหารหยุดฆ่าประชาชน"

น้องติ๊บ งง ใหญ่เลยค่ะ

เรื่องคนไข้พี่แอ๊ะ ส่วนใหญ่มาจากทั้ง  ยโสธร  ร้อยเอ็ด  มุกดาหาร อุบล ศรีสะเกษ  

ส่วนใหญ่จะเป็นร้อยเอ็ดค่ะ เพราะอาณาเขตใกล้ยโสธรมาก

มุกดาหาร เเถว ดงหลวง นั่นแหละค่ะ เป็นโรคนิ่วกันทั้งหมู่บ้านเลย ค่ะ

คนไข้สีแดง เยอะเลยเรา


ยโสธร , มีเพียง 50 % ของคนไข้ ทั้งหมดค่ะ

 เพราะประชากรยโสธร มีนิดเดียว

อ้างถึง
ข้อความของ jamsai เมื่อ 21 พฤษภาคม 2553, 09:38:48
พี่แอ๊ะคะ

เห็นใจที่สุด ขอเป็นกำลังใจให้พี่ค่ะ แต่ถึงอย่างไรพี่ต้องเข้มแข็งนะคะ
ปัจจัยในการสร้างความเข้มแข็งอย่างหนึ่งคือเผชิญหน้ากับความเป็นจริง

ดังนั้นน้องป้าแจ่มอาจจะดูโหดร้าย ที่จะขอทำลายฝันพี่เล็กน้อย....คือ..

ที่พี่ว่า...

........." คนไข้ที่มารักษาเป็น เเดง หมด 100 % ค่ะ เค้าคงรักเรา มั่งแหละนะ..."
[/color]

พี่หวังเอาแค่ 1 % เถอะค่ะ จะได้ ไม่เสียใจมากหากผิดหวัง ถ้าจะให้ได้ผลคือช่วยเหลือโดยตั้งใจให้แบบไม่ต้องไปหวังเอาความรัก
จากพวกเขาเลย ให้หวังเพียงว่าให้เปล่าเป็นบุญไปเลย และกรวดน้ำตั้งจิตอธิษฐานทำนองนี้นะคะ

หากบุญกุศลอันเกิดจากความตั้งใจดีให้นี้ ขอได้โปรด เป้นพลวัต ปัจจัย บันดาลให้สรรพสัตว์ทั้งหลายในยโสธร ได้สำนึก
 ในผิดชอบชั่วดี ละอายชั่วกลัวบาปโดยฉับพลันทันทีเถิด อนึ่งหากมีเวรกรรมใดๆในอดีตชาติที่ได้กระทำต่อกันแล้วนั้น
ก็ขอให้อโหสิ ขอสะบั้นตัดทอนกรรมชั่วนั้นๆให้สิ้นสุด อย่าได้มีเวรต่อกันและกันอีกต่อไป

ที่ต้องบอกพี่อย่างนี้นะคะ เพราะ 1 ปี ของการสอนและจัดสัมมนา ของโรงเรียนการเมือง นปช  
ชาวบ้านภาคอิสาน ที่รับการอบรม เชื่อมั่นในประชาธิปไตยแบบกินได้ของไอ้วายร้ายทักษิณ
และจิตสำนึก ค่านิยม คือ ทำนองนี้ค่ะ

ความดีคือมีเงิน มีเงินมากคือดีมาก  มีเงินน้อย คือความดีน้อย
ความชั่วคือความที่ไม่มีเงิน
ให้เงินมากก็รักมาก ให้เงินน้อยก็รักน้อย ไม่ให้เงินก็ไม่รักเลย

พี่จะหวังอะไรได้ล่ะคะ  แม้แต่คนที่ทำดีมาตลอดอย่างน้อย กว่า 60 ปี
ทำเพื่อให้ประชาชนอยู่ดีกินดี มีศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์ พึ่งพาตัวเองได้อย่างเพียงพอ
รักษามรดกทรัพยากรธรรมชาติไว้ให้ลูกหลานสืบไปตราบเท่านาน
ยังถูกพวกนี้ด่าว่า ขับไล่ แล้วไปเคารพบูชาคนที่โกงกินบ้านเมืองล้างผลาญทรัพยากรล่วงหน้า

นี่คือความจริงที่เราจะต้องหันหน้ามารับรู้ และตั้งสติกันค่ะ

ป้าแจ่มเองก็กำลังปริ่มๆกับภาวะสติแตกค่ะพี่น้อง

อย่าดีใจว่ารัฐบาลชนะนะคะ ไม่เลยค่ะ นี่เป็นเพียง plan C Tukky + Plan A เริ่มต้น
ของผู้ใหญ่ลี (ลี กวน ยิว) เท่านั้น


รอดู plan D Tukky (ซึ่งจริงๆแล้วต่อไปคือ ผกค คืนชีพ จะโผล่มารับช่วงต่อ100%) + plan B ของผู้ใหญ่ลี

ซึ่งปัจจัยความสำเร็จของพวกเขาคือ นักการเมืองไทยที่ไร้ธรรมะและหิวกระหาย
+คนไทยโง่ๆ + คนไทยฉลาดแต่ขี้ขลาด นั่นเองล่ะค่ะ

 emo:( emo19:((:





หัวข้อ: Re: [2513]"ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: prapasri AH ที่ 21 พฤษภาคม 2553, 14:20:09
เมื่อกี้ น้องต้นเล่าให้ฟังว่า

คนไข้เป็นพ่อใหญ่คนหนึ่ง กำลังดูทีวี ที่ตอนเพลิงไหม้ กรุงเทพ

พ่อใหญ่บอกว่า  อย่างนี้ต้องให้รัฐบาลรับผิดชอบ

น้องต้นเลย ตะโกนใส่ว่า (คิดว่า น้องต้นคงจะบอกแบบสุภาพนะค่ะ)

แต่เวลามาบอกแม่แบบว่าโมโหมาก

"พ่อใหญ่.... ถ้าพ่อใหญ่ไปเผาบ้าน หมอ แล้ว พ่อใหญ่ จะให้รัฐบาลรับผิดชอบหรือ

พ่อใหญ่ เผาได้ พ่อใหญ่ก็ต้องเข้าคุก ซิ จริงไหม"

พ่อใหญ่ทำหน้าป๋อหลอ เพราะ คิดว่าหมอคนนี้ เป็นแดง เลยคุยได้เเบบเพี้ยนๆอย่างนี้


หัวข้อ: Re: [2513]"ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: Intania๑๖ ที่ 21 พฤษภาคม 2553, 14:34:48
คนใกล้ชิด "หญิงอ้อ" แจงธุรกรรมเงินต้องสงสัย พบถอนเงินใส่รถครั้งละเกือบพันล้าน
แกนนำ นปช.บางคนเงินงอกนับร้อยล้าน ซื้อบ้านหลังละ10 ล้าน



(http://img169.imageshack.us/img169/7852/a02f.jpg)
 
ที่มา : http://www.suthichaiyoon.com/detail/2788


ศอฉ.เล็งเรียก คนใกล้ชิด "หญิงอ้อ" แจงธุรกรรมเงินต้องสงสัย พบถอนเงินใส่รถครั้งละเกือบพันล้าน "ตู่" จ่อคิวโดนด้วย เตรียมประกาศเพิ่มชื่ออีก 50 ราย แฉแกนนำ นปช.บางคนเงินงอกนับร้อยล้าน ซื้อบ้านหลังละ10 ล้าน ดีเอสไอ ปปง.เรียกถกตัวแทนธนาคาร แจงแนวทางรายงานธุรกรรมทางการเงินย้อนหลังเครือข่ายแม้ว เพื่อไทยโวยถูกเหวี่ยงแห

เมื่อวันที่ 17 พฤษภาคม รายงานข่าวจากศูนย์อำนวยการแก้ไขสถานการณ์ฉุกเฉิน (ศอฉ.) เปิดเผยว่า กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายใน (กอ.รมน.) และหน่วยข่าวของทหาร ได้รวบรวมรายชื่อนิติบุคคลและบุคคลที่มีธุรกรรมต้องสงสัย มีส่วนเกี่ยวพันกับการสนับสนุนกลุ่มก่อการร้ายประมาณ 100 รายชื่อ ส่งให้ตรวจสอบเทียบกับ 106 รายชื่อที่สั่งระงับการทำธุรกรรมทางการเงินไปแล้ว

"คมชัดลึก"รายงานว่า โดยรายชื่อทั้งหมดจะถูกรวบรวมนำเสนอให้ พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา ผบ.ทบ .พิจารณาเห็นชอบ ซึ่งอาจจะมีบุคคลและนิติบุคคลเพิ่มเติมประมาณ 20-50 รายชื่อ ส่วนหนึ่งเป็นแกนนำ นปช.ที่ยังไม่ถูกระงับการทำธุรกรรมการเงิน อาทิ นายจตุพร พรหมพันธุ์

สำหรับบุคคลและนิติบุคคลที่ถูกสั่งระงับไม่ให้ทำธุรกรรมการเงินทุกราย มีพฤติการณ์เบิกถอนเงินสดในลักษณะโอนเงินไปมาหรือถ่ายเทเงิน เมื่อถูกตรวจสอบถึงการทำธุรกรรมการเงินตั้งแต่ 2 ล้านบาทขึ้นไป ก็จะอ้างว่าต้องการนำเงินไปซื้อพระเครื่องหรือซื้อลอตเตอรี่ ยกตัวอย่าง กรณีของนายเอกราช ช่างเหลา และนางกาญจนาภา หงษ์เหิน พบรายการถอนเงินสดครั้งละ 600 และ 800 ล้านบาท ซึ่งต้องนำรถยนต์มาขนเงินสดออกจากธนาคาร

ขณะเดียวกัน ยังพบว่ามีแกนนำ นปช.บางคน มีทรัพย์สินงอกเงยขึ้นถึงหลัก 100 ล้านบาทนั้น ก็จะต้องเข้าชี้แจงว่า ประกอบอาชีพใดจึงมีกำไรจากรายได้นำไปซื้อบ้านและรถยนต์หรู มูลค่าบ้านหลังละไม่ต่ำกว่า 10 ล้านบาท และอาจมีแกนนำ นปช.จำนวนไม่น้อยที่นำเงินไปฝากไว้ในบัญชีชื่อของนอมินี ซึ่งไม่ยากเกินความสามารถของ ปปง.ที่จะเข้ามาประมวลความสัมพันธ์ของบุคคลเพื่อเสนอให้มีคำสั่งยึดอายัดเพิ่มเติม

รายงานข่าวระบุด้วยว่า การปฏิบัติการร่วมเพื่อตรวจสอบธุรกรรมการเงิน ศอฉ.ได้สั่งการตรงมายังกระทรวงยุติธรรมให้ดึงสำนักงานป้องกันและปราบปรามยาเสพติด (ป.ป.ส.) มาร่วมตรวจสอบเส้นทางการเงิน เนื่องจากมีเบาะแสว่ากลุ่มผู้ต้องสงสัยบางรายมีพฤติการณ์เกี่ยวข้องกับยาเสพติด

วันเดียวกัน นายธาริต เพ็งดิษฐ์ อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) พ.ต.อ.สีหนาท ประยูรรัตน์ รักษาการเลขาธิการสำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ปปง.) ตัวแทนจากสำนักงานป้องกันและปราบปรามยาเสพติด (ป.ป.ส.) และกรมสรรพากร ประชุมร่วมกับธนาคารแห่งประเทศไทย สมาคมธนาคารไทย สมาคมธนาคารต่างชาติ สมาคมบริษัทหลักทรัพย์ กรมส่งเสริมสหกรณ์ สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) และตัวแทนธนาคารทุกแห่ง

เพื่อชี้แจงแนวทางในการปฏิบัติตามคำสั่งศูนย์อำนวยการแก้ไขสถานการณ์ฉุกเฉิน (ศอฉ.) ที่ 49/2553 กรณีสั่งห้าม พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ครอบครัว สมาชิกพรรคเพื่อไทย สมาชิกบ้านเลขที่ 111 และแกนนำ นปช. รวม 93 คน และนิติบุคคล 13 แห่ง ทำธุรกรรมทางการเงินผ่านสถาบันการเงิน ยกเว้นจะได้ขออนุญาตต่อ ศอฉ.เป็นรายกรณี

และให้สถาบันการเงินส่งข้อมูลการทำธุรกรรมของบุคคลและนิติบุคคลทั้ง 106 คน ย้อนหลังตั้งแต่วันที่ 1 กันยายน 2552 หลังพบการถอนเงินผิดปกติ
นายธาริตกล่าวว่า หลังคำสั่งออกมาแล้วก็มีผลบังคับทันที หากธนาคารอ้างว่าระงับการทำธุรกรรมไม่ทันก็ต้องมีการพิสูจน์ เพราะได้ประกาศออกโทรทัศน์ร่วมการเฉพาะกิจ ชี้แจงผ่านสื่อมวลชน พร้อมส่งอีเมลคำสั่งถึงสมาคมธนาคาร ถ้าเป็นจริงว่าธนาคารไม่รู้จริงไม่ต้องรับผิด แต่ถ้าไม่ใช่ก็เป็นอีกเรื่องหนึ่ง

แต่เห็นว่าอย่าให้เป็นประเด็นเลยว่าธนาคารเพิกเฉย ไม่ปฏิบัติตาม มันเป็นเรื่องเฉพาะรายเดี่ยวจะไปพิจารณาตามเรื่องจริง เรื่องจริงเป็นอย่างไรก็เป็นอย่างนั้น เช่น กรณีธนาคารแจ้งว่าไม่สามารถเข้าไปในสาขาได้เพราะเป็นเขตอันตรายที่ยังมีการปะทะกัน ถ้าเป็นจริงก็โอเค แต่ถ้าไม่ใช่ มีระบบออนไลน์ได้ สามารถตรวจสอบได้ก็อีกเรื่องหนึ่ง

นายสงคราม กิจเลิศไพโรจน์ เจ้าของห้างสรรพสินค้าอิมพีเรียล และอดีตรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ ผู้ใกล้ชิด พ.ต.ท.ทักษิณ หนึ่งในผู้ที่ถูกคำสั่งห้ามทำธุรกรรมดังกล่าว เปิดเผยว่า ได้เตรียมปรึกษาฝ่ายกฎหมายแล้ว เพราะตนเป็นนักธุรกิจ จะต้องทำธุรกิจหารายได้ การมาสั่งห้ามทำธุรกรรมทางการเงินด้วยความลุแก่อำนาจของรัฐบาลและ ศอฉ. สร้างความเสียหายให้ตนอย่างมาก

นอกจากนี้เมื่อพิจารณาเหตุการณ์ที่ผ่านมาทั้งหมดแล้วก็ให้ความร่วมมือกับ ศอฉ.ทุกอย่าง โดยเมื่อมีหมายเรียกให้มารายงานตัวก็มา และแสดงความบริสุทธิ์ใจว่า ไม่เกี่ยวกับความเคลื่อนไหวของคนเสื้อแดงแล้ว
"แม้ห้างสรรพสินค้าอิมพีเรียล ลาดพร้าว จะเป็นสถานที่ตั้งของสถานีโทรทัศน์พีเพิล แชนแนล ก็เป็นในลักษณะของการเช่าพื้นที่ทางธุรกิจ ซึ่งสถานีโทรทัศน์ผ่านดาวเทียมช่องอื่นๆ อย่างเอ็มวี และมีเดียร์ออฟมีเดียร์ ก็มาเช่าพื้นที่เช่นกัน"

นายสงครามกล่าวว่า ที่สำคัญคือตนไม่ได้เป็นผู้บริหารห้างสรรพสินค้าอิมพีเรียล ตั้งแต่มาเป็น รมช.พาณิชย์ สมัยรัฐบาลสมัคร สุนทรเวช แล้ว จึงไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องอะไรกับคนเสื้อแดงเลย

ด้าน น.อ.อนุดิษฐ์ นาครทรรพ ส.ส.กทม. พรรคเพื่อไทย คนใกล้ชิดคุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ อดีตรองหัวหน้าพรรคไทยรักไทย กล่าวว่า ขณะนี้คุณหญิงสุดารัตน์อยู่ระหว่างการพักผ่อนอยู่ในต่างประเทศ แต่เข้าใจว่าน่าจะรับทราบคำสั่งของ ศอฉ.แล้ว ซึ่งเท่าที่ดูจากรายชื่อทั้ง 106 คน ศอฉ.น่าจะสงสัยว่ากลุ่มคนเหล่านี้เกี่ยวข้องกับการเคลื่อนไหวของคนเสื้อแดง

แต่ทางภาค กทม.ได้หารือกันเบื้องต้นแล้วจากรายชื่อทั้งหมด พบว่า ส.ส.กทม. พรรคเพื่อไทย มีรายชื่อใน 106 คนเกือบครบทั้งหมด จะขาดก็เพียงนายดนุพร ปุณณกันต์ ส.ส.กทม. พรรคเพื่อไทยเพียงคนเดียว
น.อ.อนุดิษฐ์กล่าวว่า การดำเนินการดังกล่าวเป็นการพยายามตัดหัว ตัดแขนและตัดขา ส.ส.กทม. พรรคเพื่อไทย เพื่อให้พรรคประชาธิปัตย์ได้โอกาสขี่คอในการหาเสียงเลือกตั้งสมาชิกสภาเขต (ส.ข.) กรุงเทพมหานคร ที่จะมีขึ้นในวันที่ 6 มิถุนายน จำนวน 14 เขต

ด้วยการอาศัยสถานการณ์การเมืองมาเหวี่ยงแหเอารายชื่อ ส.ส.กทม.เข้าไปพร้อมกัน เพื่อเปิดทางในการวางรากฐานทางการเมืองท้องถิ่น เพราะหลังจากเสร็จสิ้นการเลือกตั้ง ส.ข.แล้ว ก็จะต่อด้วยการเลือกตั้งสมาชิกสภากรุงเทพมหานคร (ส.ก.) อีกเกือบทั้งกรุงเทพฯ ซึ่งจุดนี้จะส่งผลต่อการเลือกตั้ง ส.ส. ในเขตพื้นที่กรุงเทพฯ ด้วย

เช่นเดียวกับนายพันธุ์เลิศ ใบหยก เจ้าของกลุ่มโรงแรมใบหยก ยืนยันว่า ไม่เกี่ยวข้องกับกลุ่ม นปช. มั่นใจว่าไม่ได้ทำอะไรผิด เพราะไม่ได้เกี่ยวข้องการเมืองนานแล้ว จึงกลัวการกลั่นแกล้งกัน


หัวข้อ: Re: [2513]"ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: Intania๑๖ ที่ 21 พฤษภาคม 2553, 16:29:20
(http://farm5.static.flickr.com/4064/4626547626_467553ebb7_o.jpg)
(http://farm4.static.flickr.com/3334/4626547648_8f05b6052e_o.jpg)
(http://farm5.static.flickr.com/4071/4625941485_de53ff3ace_o.jpg)
(http://farm4.static.flickr.com/3306/4625941509_47e7a71db0_o.jpg)

นี่คือผลงานของรัฐบาลอภิสิทธิ์ เด็กที่ยังไม่สิ้นกลิ่นน้ำนม

แกนนำเสื้อแดง ที่โดนจับข้อหาก่อการร้าย เผาทำลายทรัพย์สิน 2.3 แสนล้านบาท

ไปเก็บตัวไว้เรือนพักรับรอง ติดชายทะเล ของค่ายนเรศวร  อ. ชะอำ จ. เพชรบุรี

มีญาติเข้าไปเยี่ยมได้   นี่มันอะไรกัน พวกนี้เป็นอาชญากร เป็นผู้ทำลายชาติ เป็นผู้ก่อการร้าย ร้ายย่ิ่งกว่า บิล ลาเดน

รัฐบาลนี้ ให้การดูแลแบบนี้หรือ???

ที ท่านจำลอง ศรีมเือง พี่ไชยวัฒน์ สินสุงวงศ์ เข้าคุกไปเลย


หัวข้อ: Re: [2513]"ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: prapasri AH ที่ 21 พฤษภาคม 2553, 17:12:29
อยู่ยังกะราชา เลยนะ

ชื่อ บ้านบูญสร้าง น่าจะเป็นชื่อของพลเอกท่านหนึ่ง

อดีตนายทหารผู้ใหญ่ท่านหนึ่งที่เป็นคนดีมากๆๆ

 เด่วจะเรียนให้ท่านทราบค่ะ


หัวข้อ: Re: [2513]"ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: ดร.มนตรี ที่ 21 พฤษภาคม 2553, 17:45:20
แรมโบ้  เห็นแบบนี้ เลยอยากมอบตัว ...


หัวข้อ: Re: [2513]"ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: prapasri AH ที่ 21 พฤษภาคม 2553, 17:54:02
จริงๆ ล่วยยยยยยยย จริงล่วยยยยยยย

เริ่มจะเห็น ตรงกันหลายเรื่องแล้วนะน้องมนตรี คนดี

เห็นไหมแนวทางปรองดองแห่งชาติ คงไปได้

ขออย่าให้อีกฝ่ายมีเงื่อนไข เท่านั้นแหละ

พี่แอ๊ะสบายๆๆๆๆ จ้า

วันนี้อารมณ์ดี เพราะได้ข่าวดี จากทางรัฐบาลบ้าง

รู้ว่า กรุงเทพเป็นเมืองมหัศจรรย์ เพียงแค่เดือนเดียว เดี่ยวก็กลับมาเหมือนเดิมค่ะ

แต่พอเห็นรูป อีณัฐ.. ทีทางรัฐบอกว่าต้องติดคุกหัวโตแน่นอน

แต่กลับมาอยู่สบายเเบบ ก็รับไม่ได้เหมือนกันค่ะ


หัวข้อ: Re: [2513]"ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: ดร.มนตรี ที่ 21 พฤษภาคม 2553, 18:03:51
อ้างถึง
ข้อความของ prapasri AH เมื่อ 21 พฤษภาคม 2553, 17:54:02
จริงๆ ล่วยยยยยยยย จริงล่วยยยยยยย

เริ่มจะเห็น ตรงกันหลายเรื่องแล้วนะน้องมนตรี คนดี

เห็นไหมแนวทางปรองดองแห่งชาติ คงไปได้

ขออย่าให้อีกฝ่ายมีเงื่อนไข เท่านั้นแหละ

พี่แอ๊ะสบายๆๆๆๆ จ้า

วันนี้อารมณ์ดี เพราะได้ข่าวดี จากทางรัฐบาลบ้าง

รู้ว่า กรุงเทพเป็นเมืองมหัศจรรย์ เพียงแค่เดือนเดียว เดี่ยวก็กลับมาเหมือนเดิมค่ะ

แต่พอเห็นรูป อีณัฐ.. ทีทางรัฐบอกว่าต้องติดคุกหัวโตแน่นอน

แต่กลับมาอยู่สบายเเบบ ก็รับไม่ได้เหมือนกันค่ะ

ดีใจที่เห็นพี่แอ๊ะ เลิกเครียด ... อารมณ์ดี แล้วความคิดดีๆ ก็จะตามมา  จะได้มีผลในทางปฏิบัติไงครับ

ช่วยกันดูว่า เราพอจะทำอะไรได้บ้าง แล้วก็คนละมือ  ( แต่ไม่ต้องคนละไม้ ^__^ )


ขอบคุณครับ


หัวข้อ: Re: [2513]"ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: หนุน'21 ที่ 21 พฤษภาคม 2553, 21:41:42
ไปเจอ comment ในผจก.
เอามาให้อ่านกันครับ




 
อ้างถึง   
นายกครับเอาแดงพวกนี้เข้ากรุงเทพด่วนเลย

1.เรือนจำมีครับ

2.แยกขังด้วยครับ

3.โกนหัวทุกคนด้วยครับ นักโทษก่อการร้ายนะครับ

4.ติดกล้องถ่ายทอดสดทุก 24 ชั่วโมงด้วย เหมือน หลินปิง ครับ เดียวคนกรุงเทพจะช่วยดูและ 24 ชั่วโมง ผ่านกล้องครับ

5.กินข้าวเหมือนนักโทษทั่วไป ข้าวแดงนะครับ

6.ห้ามเยี่ยม ห้าม facebook ด้วย มีที่ไหนครับ นักโทษเล่นคอมได้ อยู่สบาย

7.ขอความจริงใจจากท่านนายกด้วยครับ

8.คนกรุงเทพรอท่านอยู่นะครับ....

9.ผมอยากให้ท่านนายกได้อ่านนะครับ


 emo24:(

http://www.manager.co.th/Politics/ViewNews.aspx?NewsID=9530000070415


หัวข้อ: Re: [2513]"ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: ตุ๋ย 22 ที่ 21 พฤษภาคม 2553, 21:49:07
สบายเกินไปแล้วนักโทษเมืองไทย


หัวข้อ: Re: [2513]"ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: prapasri AH ที่ 21 พฤษภาคม 2553, 22:08:08
อ้างถึง
ข้อความของ หนุน'21 เมื่อ 21 พฤษภาคม 2553, 21:41:42
ไปเจอ comment ในผจก.
เอามาให้อ่านกันครับ



น้องหนุน น้องตุ๋ย คะ

เมื่อกี้มีการเเถลงจาก ศอฉ. แล้วค่ะ

เขาอ้างสรุปได้ว่า ตำรวจจัดการ นำตัวไป
แล้วตอนเเรกพวกเขาขออยู่กันเองในกลุ่มนักโทษด้วยกัน
 แต่ตอนนี้ได้จับแยกแล้ว

ก็คอยดูกันต่อไป ถ้ามัน fb ออกมาอีก ก้ไปถล่ม พวกมันกัน ดีกว่า
[/b][/color]
 
อ้างถึง   
นายกครับเอาแดงพวกนี้เข้ากรุงเทพด่วนเลย

1.เรือนจำมีครับ

2.แยกขังด้วยครับ

3.โกนหัวทุกคนด้วยครับ นักโทษก่อการร้ายนะครับ

4.ติดกล้องถ่ายทอดสดทุก 24 ชั่วโมงด้วย เหมือน หลินปิง ครับ เดียวคนกรุงเทพจะช่วยดูและ 24 ชั่วโมง ผ่านกล้องครับ

5.กินข้าวเหมือนนักโทษทั่วไป ข้าวแดงนะครับ

6.ห้ามเยี่ยม ห้าม facebook ด้วย มีที่ไหนครับ นักโทษเล่นคอมได้ อยู่สบาย

7.ขอความจริงใจจากท่านนายกด้วยครับ

8.คนกรุงเทพรอท่านอยู่นะครับ....

9.ผมอยากให้ท่านนายกได้อ่านนะครับ


 emo24:(

http://www.manager.co.th/Politics/ViewNews.aspx?NewsID=9530000070415


หัวข้อ: Re: [2513]"ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: เหยง 16 ที่ 21 พฤษภาคม 2553, 22:26:19
ติดตามฝรั่งวิเคราะห์สถานการณ์ให้เราฟัง นี่หรือเปล่า ที่ว่า เลือกตั้งปีหน้า แดงจะเข้าวิน เลยลงทุนเลี้ยงดู เอาบุญ-เอาคุณ ไว้ก่อนน่ะ

วันที่ 21 พฤษภาคม พ.ศ. 2553 เวลา 20:25:09 น.  มติชนออนไลน์
วิเคราะห์"มะกัน"ไม่กล้าหนุน"แม้ว" หวั่นเป็น"ฮูโก้ ชาเวซ2" ไทมส์ชี้เสื้อแดงมีโอกาสชนะเลือกตั้งปีหน้า


สำนักข่าวเอเอฟพี รายงานเมื่อวันที่ 21 พ.ค.ว่า สหรัฐฯ กำลังเผชิญภารกิจอันละเอียดอ่อน ในขณะที่การเมืองไทยพยายามก้าวพ้นขอบเขตแห่งหายนะ โดยสหรัฐฯ พยายามที่จะกระตุ้นให้การเมืองไทยเกิดการประนีประนอมสมานฉันท์ต่อพันธมิตรที่ยาวนานประเทศนี้ เพื่อไม่ให้ตัวเองต้องสูญเสียอิทธิพลต่อไทยชาติพันธมิตร


ผู้เชี่ยวชาญระบุว่า สหรัฐจะต้องปฎิบัติต่อวิกฤตการเมืองไทยด้วยการหลีกเลี่ยงที่จะเลือกข้างและโดดเดี่ยวใครในฝ่ายใดฝ่ายหนึ่ง ทั้งกลุ่มทุนชั้นสูงและกลุ่มเสื้อแดง โดย "นายโจชัว เคอร์แลนตซ์ซิค" ผู้เชี่ยวชาญด้านการเมืองไทยระบุว่า การมีนโยบายปฎิสัมพันธ์เฉพาะกับกลุ่มชนชั้นสูง จะเพิ่มกระแสต่อต้านสหรัฐฯ ในกลุ่มชนเสื้อแดง คล้ายๆ กับความสัมพันธ์ของสหรัฐฯ กับ "ประธานาธิบดีฮูโก้ ชาเวซ ของเวเนซูเอล่า" และว่า นโยบายของสหรัฐฯจะต้องใคร่ครวญมากกว่าปกติ ซึ่งจะเป็นเรื่องที่ดี เพราะในระยะยาว สหรัฐก็ไม่รู้ว่าใครจะผงาดขึ้นมาเป็นบริหารประเทศไทย


ขณะที่นักวิเคราะห์บางรายมองว่า พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ซึ่งเคยมีความสัมพันธ์ที่ดีกับอดีตประธานาธิบดีจอร์จ ดับเบิลยู บุช ของสหรัฐฯ และสนับสนุนนโยบายต่อต้านการก่อการร้ายของเขา อาจกลายสภาพเป็น "ผู้นำหัวกร้าว"อย่างผู้นำเวเนซูเอล่า ผู้นำไม้เบื่อไม้เมาของสหรัฐฯ ซึ่งนิยมแนวทางกลุ่มติดอาวุธ


นอกจากนี้ ความเป็นจริงอีกประการที่จะต้องวิตกมากก็คือ หากความสัมพันธ์ของสหรัฐฯ กับไทยลดถอยลง อาจทำให้จีนผงาดเข้ามาเป็นพันธมิตรฯ หลักกับไทยเหนือสหรัฐฯ ได้


รายงานระบุว่า ก่อนหน้านี้ ไทยได้เรียกตัว นายเคิร์ต แคมป์เบลล์ ทูตสหรัฐฯ มาพูดคุยภายหลังเขาได้พบปะกับกลุ่มเสื้แดงระยะสั้นๆ ซึ่งเป็นเหตุการณ์ที่ไทยมองว่า สหรัฐฯ อาจให้การยอมรับทางกฎหมายต่อกลุ่มเสื้อแดง แต่จริงๆ แล้ว ผู้สันทัดกรณีชี้ว่า สหรัฐฯ พยายามญาติดีกับทุกฝ่าย โดยในช่วงที่ผ่านมา สหรัฐฯ ยังได้ต้อนรับการเยือนประเทศของ พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา ผบ.ทบ. และมีการหารือในระดับกว้างขวางอีกด้วย


สื่อนอกชี้เสื้อแดงยังมีโอกาสชนะ รอเลือกตั้งปีหน้า


สำนักข่าวไทมส์ ออนไลน์ ได้วิเคราะห์สถานการณ์วิกฤตการเมืองไทยอย่างต่อเนื่อง โดยล่าสุดวิเคราะห์ด้วยหัวข้อว่า "อะไรต่อไปสำหรับกลุ่มเสื้อแดง" โดยระบุว่า โดยรวมแล้ว ภายหลังรัฐบาลสามารถสลายการชุมนุมในเขตราชประสงค์ได้ และแกนนำได้ถูกจับตัวไปแล้ว ทว่าปฎิบัติการดังกล่าวไม่ได้ช่วยแก้ไขวิกฤตใด ๆ ต่อการเมืองไทย เว้นแต่ทำให้กลุ่มเสื้อแดงโกรธแค้นและไม่พอใจ

 
อย่างไรก็ตาม ไทมส์ ออนไลน์ ชี้ว่า ปัจจัยที่ต้องจับตาก็คือ การชุมนุมใหญ่ในอนาคตที่จะขึ้นใหม่จะฉุดในเขตพื้นที่ต่างจังหวัด ไม่ใช่ในกรุงเทพแล้ว โดยรายงานที่ผ่านมายืนยันว่า การล่มพังของการประท้วงในกรุงเทพได้กระตุ้นให้พื้นที่ต่างจังหวัดหลายสิบจังหวัด เช่น เชียงใหม่,ขอนแก่น และอุดรธานี ไทมส์ รายงานด้วยว่า อีกปัจจัยหนึ่งที่ไม่อาจคาดคะเนได้ก็คือ อิทธิพลของกลุ่มคนชุดดำ ซึ่งหากกลุ่มยังคงเข้มแข็งพวกเขาก็สามารถเปิดฉากสงครามก่อการร้ายด้วยอาวุธปืนและจรวดได้

 
อย่างไรก็ตาม กลุ่มเสื้อแดงยังมีทางออกที่ง่ายกว่านั้น คือ การเลือกตั้ง เพราะเมืองไทยจะต้องมีการเลือกตั้งก่อนช่วงสิ้นปีหน้า ขณะที่พรรคประชาธิปัตย์ของนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ไม่เคยได้ชัยชนะในการเลือกตั้งเลย และผู้สมัครเสื้อแดงน่าจะคว้าที่นั่งส่วนใหญ่ในสภา และนี่อาจเป็นยุทธศาสตร์ที่ใช้เพียงบางสิ่งบางอย่าง คือ การรอคอย


http://www.matichon.co.th/news_detail.php?newsid=1274448391&grpid=00&catid=06


หัวข้อ: Re: [2513]"ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: Intania๑๖ ที่ 22 พฤษภาคม 2553, 02:27:24

http://www.youtube.com/watch?v=icVXacOMpcM

พฤติกรรม ของขบวนการก่อการร้าย  


หัวข้อ: Re: [2513]"ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: Intania๑๖ ที่ 22 พฤษภาคม 2553, 04:13:34
(http://farm5.static.flickr.com/4042/4627822784_1d0162b28d_b.jpg)

ตำรวจปัดแกนนำอยู่สุขสบาย

ประเด็น:เสื้อแดงจัดชุมนุมใหญ่ , 21 พฤษภาคม 2553 เวลา 19:25 น.
โฆษก ศอฉ.  ยัน แกนนำ นปช. ถูกคุมตัว ไม่มีสิทธิ์ในการติดต่อภายนอก หรือ เล่นเฟซบุค  

พล.ต.ต. อำนวย นิ่มมะโน รองผบช.น. แถลงข่าวถึงกรณีการควบคุมแกนนำนปช. และมีข่าวว่าแกนนำนปช. อยู่กันอย่างสุขสบายเหมือนไปตากอากาศนั้น ขอเรียนว่าในวันแรกที่มีการควบคุมตัวไปที่ค่ายนเรศวร มีการควบคุมตัวผู้ชุมนุมที่มีความผิดที่ไม่ออกจากการชุมนุมไปควบคุมตัวที่ค่ายนเรศวรด้วย 40 คน ซึ่งห้องควบคุมที่ค่ายนเรศวรมี 10 ห้อง มีแกนนำไปเพิ่มอีก 5 คน จึงต้องให้ทั้ง 5 คนอยู่รวมกัน แต่มีกรมสอบสวนคดีพิเศษ มีพนักงานสอบสวนและตนไปแจ้งข้อหา  ขณะที่ในวันนี้ มีการนำบุคคลที่มีความผิดไม่ออกจากที่ชุมนุม 40 คนมาฟ้องศาล จึงสามารถแยกควบคุมตัว

"ดังนั้นที่บอกว่าอยู่กันสุขสบายนั้นไม่สุขสบายหรอกเพราะผมไปแจ้งข้อหา และทุกคนก็มีความวิตกกังวล เช่น เจ๋ง ดอกจิก ผมไปแจ้งข้อหาหมิ่นสถาบัน ไม่มีใครอยู่สุขสบายหรอก หรือในจำนวนนั้นบางคนก็ถูกแจ้งข้อหาก่อการร้าย ดังนั้นทุกคนอยู่ในสภาพของคนที่ถูกควบคุม ไม่ได้สุขสบาย" พล.ต.ต.อำนวย กล่าว

ก่อนหน้านี้ พ.อ.สรรเสริญ แก้วกำเนิด โฆษกศูนย์อำนวยการแก้ไขสถานการณ์ฉุกเฉิน (ศอฉ.) กล่าวถึงกรณีที่มีการเผยแพร่ภาพ นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ พร้อมพวกที่ถูกควบคุมตัวอยู่ที่ค่ายนเรศวร จ.เพชรบุรี กินอยู่หลับนอนแบบสบายไม่เหมือนผู้ต้องหาคดีร้ายแรงว่า เรื่องนี้เป็นอำนาจหน้าที่ของตำรวจ ซึ่งรายละเอียดต่างๆ คงต้องถามตำรวจ

" เรื่องนี้ นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี และนายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรี ด้านความมั่นคง ในฐานะ ผอ.ศอฉ. ได้เน้นย้ำกับเจ้าหน้าที่ตำรวจไปแล้วว่า ให้ดำเนินการทุกอย่างด้วยความรอบคอบ ส่วนเรื่องที่ว่าจะมีการอนุญาตให้มีการเข้าเยี่ยมจากบุคคลภายนอกหรือไม่ หรือระหว่างที่ถูกควบคุมตัวจะอยู่ในสถานที่ใดนั้นถือเป็นอำนาจหน้าที่ของตำรวจ ทั้งหมดขึ้นอยู่กับดุลยพินิจในการดำเนินการทุกอย่าง เพื่อเป็นผลประโยชน์ต่อการสืบสวนสอบสวน" พ.อ.สรรเสริญ กล่าว


ที่มา: http://www.posttoday.com/ข่าว/การเมือง/29589/ตำรวจปัดแกนนำอยู่สุขสบาย


หัวข้อ: Re: [2513]"ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: prapasri AH ที่ 22 พฤษภาคม 2553, 06:01:40
ดูหน้าตา ณัฐวุฒ และ วิภูเเถลง ในรูปแล้วไม่สดชื่นนะ ถึงอยู่สบาย แต่หน้าตาดูวิตกกังวล

ไม่ได้เข้าข้างรัฐบาลนะ เเต่ค่อนข้างจะเห็นใจเพราะเขาต้องปฎิบัติการ ปจว. ทุกอย่าง

และอาจจะเป็นเรื่องของตำรวจมะเขือเทศที่รัฐคุมยาก

แต่คิดว่ารัฐต้องลงมาดูเองทั้งหมดกับนักโทษเหล่านี อย่าให้มันได้ผุดได้เกิด


หัวข้อ: Re: [2513]"ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: prapasri AH ที่ 22 พฤษภาคม 2553, 06:04:42
พี่แอ๊ะถามคนวงในว่าก่อนที่จะจับพวกรี้ รัฐไปเกี๊ยเซี้ย กะเขาหรือเปล่า

เช่นเจรจา หรือไม่

เขาบอกว่าตอนนั้นไม่เจรจาเลย  เเยกผู้บริสุทธิ์ออกมา

เเล้วรถถังไปอยู่หลังเวทีแล้ว
มันก็กลัวตาย เลยยอมมอบตัว

ดีกว่าถูกส่องงงงงงงงงง


หัวข้อ: Re: [2513]"ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: prapasri AH ที่ 22 พฤษภาคม 2553, 06:09:54
 อย่างไรก็ตามเรายังประมาทไม่ได้

มันต้องมี  after shock อีก หลายครั้งในต่างจังหวัด

แต่ตอนนี้ข้าราชการที่เกียร์ว่างเพราะคิดว่า ทักษินอาจจะชนะ ในตอนนั้น

แต่ณ.วันนี้รัฐบาลคุมสถานการณ์ได้เกือบหมด

ข้าราชการ ทั้งหลายเลย ปล่อยเกียร์ กันแล้ว


หัวข้อ: Re: [2513]"ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: prapasri AH ที่ 22 พฤษภาคม 2553, 06:12:23
พี่แอ๊ะคิว่าเมื่อเหตุการณ์สงบ

คุณอภิสิทธิ์ อาจจะลาออก แล้วตั้งรัฐบาลแห่งชาติเพื่อฟื้นฟูประเทศชาติ

แล้วค่อยกำหนดเวลาเลือกตั้งใหม่

ถ้าให้การเมืองแก้ด้วยการเมือง

ปชป เก่งจะตายเรื่องแปรวิกฤติ ให้เป็นโอกาส


หัวข้อ: Re: [2513]"ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: prapasri AH ที่ 22 พฤษภาคม 2553, 06:19:10
เปลี่ยน เป็นเรื่องอื่นบ้างจะได้หายเครียด

(http://www.cmadong.com/imageupload/2010_Cmadong-Image/data/image/l2sm25-f72cc6.jpg)

ท่านผู้ ตรวจประชา เตรัตน์ มาตรวจราชการ ยโสธร แล้วมาเยี่ยมพี่แอ๊ะค่ะ


หัวข้อ: Re: [2513]"ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: prapasri AH ที่ 22 พฤษภาคม 2553, 06:34:17
ดูซิว่า ใครหล่อกว่ากัน

(http://www.cmadong.com/imageupload/2010_Cmadong-Image/data/image/l2sms6-0a6c2a.jpg)


หัวข้อ: Re: [2513]"ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: prapasri AH ที่ 22 พฤษภาคม 2553, 06:46:45
(http://www.cmadong.com/imageupload/2010_Cmadong-Image/data/image/l2sncp-211e77.jpg)

นายก อบจ. จี๋แดงงงงงงงงง ร้องเพลงอ่ะ


หัวข้อ: Re: [2513]"ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: prapasri AH ที่ 22 พฤษภาคม 2553, 06:49:01
ผู้ติดตาม อ่ะ

(http://www.cmadong.com/imageupload/2010_Cmadong-Image/data/image/l2sngw-e58668.jpg)


หัวข้อ: Re: [2513]"ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: akenui ที่ 22 พฤษภาคม 2553, 08:40:30
อำนวย นิ่ม  ชี้แจงเรื่อง นักโทษอยู่เรือนจำไม่เคลียร์ ยกตัวอย่างเจ๋งดอกจิกทำไม  อยากรู้ว่า 3 เกลอหัวขวดอยู่ยังไง ทำไมมีคอมไว้ใช้ได้อะ เวรจริงๆ ตำรวจไทย(ส่วนใหญ่)


หัวข้อ: Re: [2513]"ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: เหยง 16 ที่ 22 พฤษภาคม 2553, 09:37:22
บทบรรณาธิการ นสพ.แนวหน้า ออนไลน์ วันเสาร์ที่ 22 พฤษภาคม 2553

บทบรรณาธิการ 
 
รัฐต้องเด็ดขาดกับกบฎ (บทบรรณาธิการ) 
 
 
      การก่อกบฎของแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ(นปช.) หรือคนเสื้อแดงที่เกิดขึ้นในพื้นที่กรุงเทพมหานครและอีก24 จังหวัดตั้งแต่วันที่ 12 มีนาคมจนสิ้นสุดลงชั่วคราวในวันที่ 19 พฤษภาคมที่ผ่านมาได้สร้างความเสียหายต่อประเทศชาติอย่างเหลือคณานับ

      เอาเฉพาะตัวเลขผู้บาดเจ็บล้มตายจากเหตุการณ์ดังกล่าวล่าสุดมีตัวเลขผู้เสียชีวิตรวม 91 คน ในจำนวนนี้เป็นทหาร 8 คนและตำรวจ 2 คน นอกจากนี้ยังมีผู้ที่ได้รับบาดเจ็บรวม 1,382 คน ส่วนกลุ่มที่ตกเป็นผู้ต้องหาตามกฎหมายนั้นในระดับแกนนำที่ถูกจับกุมตัวและยอมมอบตัวมีทั้งหมด 9 คน

      ประกอบด้วยนายวีระ มุสิกพงษ์,นายณัฐวุฒิ ไสยเกื้อ,นายอารีย์ ไกรนรา,นายยศวริส ชูกล่อม,นายนิสิต สินธุไพร,นายก่อแก้ว พิกุลทอง,นายขวัญชัย สาราคำ,นายวิภูแถลง พัฒนภูมิไทและนายแพทย์เหวง โตจิราการ ที่ยังตามจับตัวไม่ได้ 2 คนคือนายศักดาหรืออริสมันต์ พงษ์เรืองรองและนายสุภรณ์ อัตถาวงศ์ ส่วนที่ได้รับการปล่อยตัวชั่วคราวเพราะมีเอกสิทธิ์คุ้มครองเนื่องจากเป็น ส.ส.คือนายจตุพร พรหมพันธ์

      นอกจากนี้ยังมีผู้ต้องหาที่เป็นสมาชิกนปช.ถูกจับกุมในฐานะที่กระทำผิดตามกฎหมายด้วยข้อหาที่แตกต่างกันมีจำนวนทั้งสิ้นอีก135 คนซึ่งรวมทั้งในพื้นที่กรุงเทพมหานครและในต่างจังหวัด ความเสียหายทางด้านทรัพย์สินและสถานที่นั้น ในเขตกรุงเทพมหานครมีทั้งหมด 38 จุด

      ส่วนในต่างจังหวัดนั้นประกอบด้วยอาคารของ ร.ร. 3 แห่งในพื้นที่จังหวัดขอนแก่น,หนองคายและยะโสธร ที่พักข้าราชการและห้างสรรพสินค้าในจังหวัดเชียงใหม่ ศาลากลางจังหวัดขอนแก่น,อุดรธานี,อุบลราชธานี,มุกดาหาร สถานีวิทยุกระจายเสียงและสถานีโทรทัศน์แห่งประเทศไทยจังหวัดขอนแก่น

      หลักฐานต่างๆที่มีอยู่ในมือของฝ่ายเจ้าหน้าที่รัฐบาลอยู่ในขณะนี้แสดงให้เห็นว่าการชุมนุมทางการเมืองตามที่ฝ่าย นปช. อ้างว่าชุมนุมด้วยความสงบสันติแลบะอหิงสานั้นล่วนเป็นเรื่องโกหกทั้งสิ้นเพราะการกระทำของ นปช.ที่ผ่านมาตั้งแต่เดือนเมษายน 2552 จนถึงเดือนพฤษภาคม 2553 มีแต่ความรุนแรงทั้งสิ้น

      เรื่องที่น่าห่วงที่ต้องเกิดตามมาก็คือการปลุกระดมของสื่อต่างๆของนปช. ที่เกิดขึ้นทั้งในกรุงเทพมหานครและในต่างจังหวัดทุกๆจังหวัดในภาคกลาง ภาคเหนือและภาคอีสานยังคงมีอยู่อย่างต่อเนื่องและไม่ได้ลดความรุนแรงลงแต่อย่างใดแต่กลับมีสัญญาณบ่งว่าอาจจะมีความรุนแรงเพิ่มมากขึ้น

      รัฐบาลต้องแสดงความเด็ดขาดกับกบฎ นปช.ที่เกิดขึ้นในครั้งนี้อย่างต่อเนื่องและจริงจังต้องไม่มีการอ่อนข้อหรือว่ายอมให้แกนนำ นปช.รวมไปถึงกลุ่มผู้สนับสนุนได้รับการประกันตัวออกไปอีกเพราะอาจจะไปสร้างเหตุร้ายแรงอันเป็นภัยต่อประเทศชาติได้อีกเหมือนที่เคยเกิดขึ้นมาแล้ว 2 ครั้งในปีที่แล้วและในปีนี้

      นอกจากนี้รัฐบาลจะต้องดำเนินการติดตามจับกุมผู้ต้องหาคนอื่นๆที่ยังจับกุมตัวไม่ได้มารับโทษตามกฎหมายอย่างเคร่งครัดเพราะเหตุการณ์ครั้งนี้ได้สร้างความเสียหายต่อประเทศชาติอย่างร้ายแรงนั่นเอง
 
วันที่ 22/5/2010
 
http://www.naewna.com/news.asp?ID=212098


หัวข้อ: Re: [2513]"ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: เหยง 16 ที่ 22 พฤษภาคม 2553, 09:47:25
บทความแสดงความเห็นเรื่อง "หายนะบ้านเมืองไทย - จะเยียวยากันอย่างไร" สิ่งที่เราคงต้องใส่ใจ

โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ผู้ประกอบการรายย่อย ผู้หาเช้ากินค่ำ ที่ ร้านค้า แผงลอยพร้อมสินค้า ถูกเผาจนหมดเนื้อหมดตัว


อภิปรายนอกสภา 
 
หายนะบ้านเมืองไทย - จะเยียวยากันอย่างไร (พิเชษฐ พันธุ์วิชาติกุล) 
 
     หายนะของบ้านเมืองวันนี้ไม่ใช่ฝันร้าย แต่มันเป็นความจริงที่ต้องเผชิญ

     ในด้านชีวิตและร่างกาย รวมตัวเลขจากรายงานที่เป็นทางการ เฉพาะจากเหตุร้ายในเดือนเมษายน และเดือนพฤษภาคมเพียงถึงวันนี้ มีรายงานว่าตายร่วม 80 คน และบาดเจ็บอีกประมาณ 1,300 ถึง 1,400 คนเข้าไปแล้ว ยังไม่นับอีกไม่รู้กี่ศพที่อาจจะพบในกองซากตึกจำนวนมากที่ถูกเผา และไม่รู้ว่าคนเจ็บจำนวนมากมายเหล่านี้จะต้องพิการอเนจอนาถไปชั่วชีวิตอีกจำนวนเท่าไร

     ในด้านทรัพย์สินและเศรษฐกิจ มีสถานประกอบธุรกิจใหญ่ของบ้านเมืองถูกเผาทำลายจนราพณาสูรอีกหลายสิบแห่ง ซึ่งล้วนแล้วแต่เป็นแหล่งเศรษฐกิจของชาติที่ติดระดับสำคัญในภูมิภาค ทั้งศูนย์การค้า ศูนย์การเงิน ศูนย์นันทนาการ ศูนย์พยาบาล โรงแรมชั้นนำ สถานที่ราชการ และอาคารผู้ประกอบการใหญ่น้อยทั้งหลายรวมแล้วนับพันนับหมื่นราย

     ความเสียหายตัวทรัพย์สินที่เป็นอาคาร สิ่งก่อสร้าง อสังหาริมทรัพย์เชื่อว่า มีมูลค่ากว่าหนึ่งแสนล้านบาท ความเสียหายที่เป็นอุปกรณ์เทคโนโลยีชั้นสูงและเครื่องมือเครื่องใช้ต่างๆรวมทั้งตัวสินค้าและบริการ น่าจะมีมูลค่าเกินกว่าหนึ่งแสนล้านบาทเช่นกัน ส่วนค่ากำจัดซากอาคาร บำบัดมลพิษ แก้ปัญหาสิ่งแวดล้อม ปรับปรุงเรียกคืนสภาพพื้นที่เดิม ค่าเสียหายจากการขาดรายได้ในช่วงเวลาวิกฤตที่ผ่านมาและต่อเนื่องไปข้างหน้าจนกว่าจะคืนสู่สภาพปกติในอีกหลายปีข้างหน้า เชื่อว่าเป็นความเสียหายอีกหลายแสนล้านบาท

     รวมทั้งสิ้นอาจเท่ากับครึ่งหนึ่งของรายจ่ายงบประมาณประจำปีของประเทศชาติ ส่งผลถึงอัตราการเจริญเติบโตของผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (จีดีพี) ที่จะต้องถดถอยจากเป้าหมายเดิมทั้งในปีนี้และกระทบต่อเนื่องในปีต่อๆไป

     ปัญหาสำคัญที่จะต้องประสบคือความเสียหายทั้งสิ้นไม่ว่าต่อชีวิตก็ดี ต่อทรัพย์สินก็ดี ต่อการสูญเสียโอกาสทางธุรกิจก็ดี ล้วนเป็นวินาศภัยที่เกิดจากการจลาจลและก่อการร้าย ซึ่งโดยปกติจะไม่ได้รับความคุ้มครองตามกรมธรรม์ประกันภัย นอกจากจะมีข้อตกลงคุ้มภัยครอบคลุมต่างหาก โดยต้องเพิ่มเบี้ยประกันสูงมากจนอาจจะไม่มีใครยอมเสียเบี้ยประกันเพิ่มเพื่อรับความคุ้มครอง

     มีผู้คาดหวังว่า ความเสียหายครั้งนี้อาจได้ชดเชยเป็นเงินตราเข้าประเทศจากบริษัทประกันช่วงที่อยู่ต่างประเทศ แต่หากวินาศภัยจากการจลาจลครั้งนี้ไม่ได้รับความคุ้มครองตามกรมธรรม์ประกันภัย ความเสียหายจะกระทบเนื้อๆต่อฐานะทางการเงินในประเทศโดยไม่ได้รับการเยียวยาจากเม็ดเงินต่างประเทศ

     ที่ดินแปลงสำคัญที่สุดที่ได้รับความเสียหายครั้งนี้เป็นที่ดินของสำนักงานทรัพย์สินส่วนพระมหากษัตริย์ที่ให้เอกชนทำสัญญาเช่าในช่วงระยะเวลาหนึ่ง เมื่อครบกำหนดสัญญาแล้วทรัพย์สินที่เป็นอาคารสิ่งปลูกสร้างทั้งหมดต้องตกเป็นกรรมสิทธิ์ของสำนักงานทรัพย์สินฯ เมื่ออาคารสิ่งปลูกสร้างและส่วนควบทั้งหมดถูกเผาทำลายไปหมดเช่นนี้ พันธะที่ผูกพันอยู่จะทำอย่างไร

     หายนะครั้งนี้แตกต่างและร้ายแรงกว่าเหตุการณ์วันมหาวิปโยคเมื่อ 14 ตุลาคม 2516 ร้ายแรงกว่าเหตุการณ์ไม่สงบเมื่อ 16 ตุลาคม 2519 และร้ายแรงกว่าเหตุการณ์พฤษภาทมิฬเมื่อวันที่ 17 พฤษภาคม 2535

     ร้ายแรงกว่าในจำนวนผู้บาดเจ็บพิการและล้มตาย ร้ายแรงกว่าในมูลค่าความเสียหายทางทรัพย์สินและเศรษฐกิจของประเทศชาติ

     แตกต่างด้วยเหตุการณ์ที่ผ่านมาทุกครั้งเกิดจากการชุมนุมของมวลชนผู้สุจริต แต่หายนะครั้งนี้เกิดจากการก่อวินาศกรรมของผู้ก่อการร้ายที่อ้างมวลชน

     วันนี้สังคมกำลังแสดงความคิดเห็นกันอย่างกว้างขวางในเรื่องการเยียวยา ทั้งต่อผู้บาดเจ็บล้มตาย และต่อผู้ประกอบการที่กำลังจะหายนะ

     ในส่วนที่เกี่ยวกับผู้บาดเจ็บล้มตาย แน่นอนที่สุดที่จะต้องมีทั้งประชาชนผู้บริสุทธิ์ที่เคราะห์ร้าย และมีทั้งผู้ก่อการร้ายที่ร่วมก่อจลาจลร้ายแรงในครั้งนี้รวมอยู่ด้วย แต่ถึงจะเป็นใครก็ตาม การเข้าไปเป็น"ไทยมุง" อยู่ในเขตประกาศห้ามย่อมเป็นการผิดกฎหมายอยู่แล้ว นอกจากผู้มีนิวาสถานอยู่ในที่นั้นหรือมีเหตุผลที่รับฟังได้ การนำเงินของรัฐไปช่วยเหลือเยียวยาเป็นการทั่วไปจะนำมาซึ่งข้อตำหนิต่อรัฐบาล ปัญหาที่จะต้อง "แยกปลาออกจากน้ำ" หรือ "แยกน้ำดีออกจากปลาเน่า" จะเป็นปัญหาสำคัญของรัฐบาลต่อไป

     ในส่วนที่เกี่ยวกับผู้ประกอบการที่เคราะห์ร้าย ความเสียหายครั้งนี้มหาศาลและกระจายไปกว้างขวางมากเหลือเกิน

     สำหรับผู้ประกอบการรายใหญ่ ซึ่งอาจต้องเสียหายเป็นพันล้านหมื่นล้านคงเกินกำลังที่จะช่วยเหลือในลักษณะ"เยียวยา"ฟื้นอาการให้เห็นผล แต่สำหรับผู้ประกอบการขนาดกลางและขนาดเล็กทั่วไป มีบางคนทุ่มเทสมบัติทั้งชีวิตไปลงทุนเปิดร้านทำแผงค้าขายเลี้ยงครอบครัวอยู่ในห้างสรรพสินค้า หรือตึกแถวร้านค้าทั่วไปในย่านที่เกิดเหตุ บัดนี้ทรัพย์สินที่มีทั้งหมดกลายเป็นเถ้าถ่านและตัวเลขหนี้สินติดตัวไปอย่างอนาถา สมควรต้องรีบเร่งหาทุกช่องทางเยียวยาช่วยเหลือให้ได้ผลอย่างจริงจังในฐานะที่เป็นรัฐบาลของประชาชน

     มีผู้กล่าวถึงการช่วยเหลือด้วยมาตรการทางภาษี คงต้องคำนึงถึงว่า ความเสียหายที่ผู้ประกอบการเหล่านี้ต้องประสบคือสูญเสียทรัพย์สินและสถานที่ประกอบการจนทำธุรกิจต่อไปไม่ได้ จึงไม่มีภาระภาษีใหม่ที่จะต้องเสียอีกแล้ว ความช่วยเหลือที่อาจจะทำได้ทางหนึ่งคือการยกเลิกภาษีเก่าที่ค้างจ่ายทั้งหมดในลักษณะเช่นเดียวกับการนิรโทษกรรมทางภาษี ซึ่งอยู่ในวิสัยที่อาจกระทำได้โดยทางนโยบาย

     การเปิดเผยว่ากระทรงการคลังจะตั้งกองทุนจำนวน 10,000 ล้านบาท เพื่อช่วยเหลือผู้ประกอบการ หากคำนึงถึงภาวะผู้ประสบความเดือดร้อนโดยรวมจำนวนมหาศาลขณะนี้ จำนวนเงินเท่านี้น้อยนิดเกินไปจนอาจเยียวยาไม่ได้ผล สมควรที่จะพิจารณาเพิ่มเติมมากกว่านี้อีกหลายเท่าตัว

     อีกประการหนึ่ง เงินจากกองทุนเป็นเงินที่ผู้รับความช่วยเหลือต้องใช้คืน จึงจำเป็นต้องพิจารณาช่วยเหลือในลักษณะ"เงินสงเคราะห์" เพื่อการเยียวยาทันทีทันใดอีกจำนวน ซึ่งสามารถทำได้ด้วยวิธีการทางงบประมาณ หรือใช้เงินกู้ในโครงการ"ไทยเข้มแข็ง"ซึ่งขณะนี้ยังเบิกจ่ายไปได้เพียงน้อยนิด เชื่อว่า หากนำเงินส่วนนี้มาช่วยเหลือเยียวยาให้ถูกเป้าหมายและโปร่งใส น่าจะมีส่วนช่วยเหลือให้ไทยเข้มแข็งขึ้นได้จริงๆ

     นอกจากผู้ประกอบการจำนวนมากที่ต้องได้รับความช่วยเหลือโดยรีบด่วนแล้ว ส่วนที่ลืมไม่ได้เป็นอันขาดคือประชาชน"มนุษย์เงินเดือน" ผู้ต้องได้รับผลกระทบทั้งทางตรงและทางอ้อม รวมกันแล้วน่าจะมีจำนวนหลายหมื่นคน เป็นหลายหมื่นคนในเมืองหลวงที่รัฐบาลจะต้องรีบเร่งช่วยเหลือเยียวยาเป็นอันดับแรก

     ปัญหาทั้งสิ้นกำลังท้าทายการตัดสินใจและปฏิบัติการของรัฐบาล หากช้าไปความเดือดร้อนเสียหายจะกลายเป็นกระแสถาโถมมากล่าวหาซ้ำเติมรัฐบาล

     หากถึงเมื่อนั้น รัฐบาลจะตกอยู่ในสภาพสาหัสจนเกินเยียวยา !!! 
 
วันที่ 22/5/2010
 
http://www.naewna.com/news.asp?ID=212097


หัวข้อ: Re: [2513]"ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: เหยง 16 ที่ 22 พฤษภาคม 2553, 09:52:13
นายกรัฐมนตรี ต้องไม่ลาออก ยุบสภา รวมทั้งต้องเดินทางออกต่างประเทศเด็ดขาด เพราะยังมีภาระกิจที่ต้องทำคือ

ภารกิจหนักรัฐบาลอภิสิทธิ์ สร้างความปรองดอง-สยบแดงก่อการร้ายใต้ดิน (ผ่าประเด็นร้อน)
 
 
     ความเสียหายอย่างย่อยยับของชาติบ้านเมืองจากการก่อการร้ายเผาบ้านทำลายเมืองของกลุ่มก่อการร้ายในคราบคนเสื้อแดงครั้งนี้จะต้องนำตัวจอมบงการที่ชักใยอยู่เบื้องหลังและต่อท่อน้ำเลี้ยงสนับสนุนกลุ่มก่อการร้ายมาลงโทษให้ได้ โดยเฉพาะนักโทษชายแม้วที่ถูกตั้งตราหน้าว่าเป็นโจร ก่อการ้ายตัวพ่อ

     ผลจากการชุมนุมของม็อบคนเสื้อแดงที่ทำสงครามขั้นแตกหักคู่ขนานกับการเคลื่อนไหวใต้ดินของกลุ่มก่อการร้ายตลอดช่วงกว่า 2 เดือนที่ผ่านมาได้ทิ้งไว้ซึ่งซากปรักหักพังและที่สำคัญคือความแตกแยกของคนในชาติที่ร้าวลึกรุนแรงอย่างไม่เคยมีมาก่อน

     ภาระอันหนักอึ้งและยากลำบากสำหรับบาลภายใต้การนำของ นายกฯอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นอกจากการฟื้นฟูภาวะบ้านเมืองให้กลับคืนสู่ความเป็นปกติโดยเร็วหลังการสลายตัวของม็อบคนเสื้อแดงที่ย่านราชประสงค์ไปแล้ว สิ่งที่สำคัญก็คือการสร้างความเข้าใจเพื่อความปรองดองของคนในชาติ เพราะหลังยุติการชุมนุมของม็อบคนเสื้อแดง ขณะที่ปฏิบัติการวางเพลิงเผาบ้านทำลายเมืองของกลุ่มก่อการร้ายในคราบคนเสื้อแดงเริ่มคลี่คลายจากมาตรการของศูนย์อำนวยการแก้ไขสถานการณ์ฉุกเฉิน (ศอฉ.) แต่ก็เป็นความสงบที่น่ากลัวและเชื่อว่าจะเกิดขึ้นชั่วคราวเท่านั้น

     เพราะหลังจากนี้เป็นต้นไปสิ่งที่รัฐบาลจะต้องเผชิญก็คือปฏิบัติการใต้ดินและการแก้แค้นเอาคืนทั้งจากกลุ่มก่อการร้ายในคราบเสื้อแดงที่ยังหลงเหลืออยู่อีกจำนวนไม่น้อยและที่สำคัญคือ บรรดาจอมบงการนับตั้งแต่ นักโทษชายแม้ว และเหล่าผู้ทรงอิทธิพลระดับชาติที่อยู่เบื้องหลังกลุ่มก่อการร้ายยังคงลอยนวลและยังพยายามวางแผนเพื่อจุดชนวนสร้างสถานการณ์ให้เกิดกลียุคมิคสัญญีจนนำไปสู่การโค่นล้มรัฐบาลเพื่อเปลี่ยนแปลงประเทศอยู่ตลอดเวลา

     นอกจากกลุ่มก่อการร้ายในคราบเสื้อแดงแล้ว มวลชนคนเสื้อแดงหัวรุนแรงจำนวนไม่น้อยที่ รับไม่ได้กับความพ่ายแพ้ของม็อบเสื้อแดงจนกลายเป็นความเคียดแค้นพร้อมที่จะเป็นแนวร่วมก่อความรุนแรงได้ทุกขณะจึงมักได้ยินคำพูดของจากบรรดามวลชนคนเสื้อแดงที่หัวรุนแรงซึ่งกล่าวด้วยความอาฆาตรัฐบาลอภิสิทธิ์ว่า "ทีใครทีมันก็แล้วกัน"

     ปรากฏการณ์ข้างต้นสะท้อนให้เห็นว่าปฏิบัติการใต้ดินและแนวโน้มที่จะเกิดความรุนแรงยังคงซ่อนตัวอยู่ ซึ่งการที่ความแตกแยกของคนในชาติได้พัฒนารุนแรงมาถึงจุดที่แบ่งสีแบ่งพวกกันอย่างลึกซึ้งก็เนื่องจากช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมามวลชนคนเสื้อแดงทั่วประเทศได้ถูกจัดตั้งและถูกปลุกระดมโดยสื่อเสื้อแดงที่มีอิทธิพลเป็นอย่างมาก ไม่ว่าจะเป็นสถานีโทรทัศน์พีเพิลชาแนล สถานีวิทยุชมรมรถแท็กซี่ และสถานีวิทยุชุมชนทั่วประเทศที่มีเป็นดอกเห็ด ตลอดจนโรงเรียนมวลชนคนเสื้อแดงที่ต่างล้างสมองปลูกฝังวัฒนธรรมคนเสื้อแดงอย่างฝังลึกจนยากที่จะแก้ไขกลับกลาย

     อย่างไรก็ตามในบรรดามวลชนคนเสื้อแดงก็มีจำนวนไม่น้อยเช่นกันที่ไม่ได้ต้องการคิดล้มล้างสถาบันเบื้องสูงเพื่อเปลี่ยนแปลงประเทศไปสู่รัฐไทยใหม่ และก็ไม่ได้เห็นด้วยกับการใช้ความรุนแรงตามที่เหล่าแกนนำต้องการ เพียงแต่มาร่วมชุมนุมเพื่อให้รัฐได้ตระหนักและกระตือรือร้นในการเข้ามาช่วยเหลือปัญหาความเดือดร้อนทุกข์ยากของพวกตนซึ่งเป็นกลุ่มคนรากหญ้า

     ส่วนกลุ่มมวลชนเสื้อแดงที่หัวรุนแรงถึงจะทำความเข้าใจอย่างไรก็คงไร้ประโยชน์เพราะมีทิฐิที่รุนแรงและมีวิธีคิดแบบหัวชนฝาไม่ยอมรับความเห็นที่แตกต่างใดๆทั้งสิ้น คิดที่จะล้างแค้นรัฐบาลและพร้อมทำทุกอย่างเพื่อ นักโทษชายแม้ว ที่ถูกเทิดทูนดุจดั่งเทพเจ้า

     แต่กระนั้นก็ตามยังคงถือเป็นภาระหน้าที่ของรัฐบาลที่จะต้องพยายามทำความเข้าใจกับมวลชนคนเสื้อแดงกลุ่มที่ยังมีจิตใจเที่ยงธรรมและเห็นแก่ประโยชน์ของชาติบ้านเมือง โดยต้องชี้ให้เห็นว่าบ้านเมืองบอบช้ำวิบัติย่อยยับมามากพอแล้วเพียงเพื่อคนเพียงคนเดียวคือ นักโทษชายแม้วและกลุ่มผู้บงการเพียงไม่กี่คน และถึงเวลาแล้วที่ทุกคนในบ้านเมืองซึ่งล้วนเป็นผู้ร่วม แผ่นดินเดียวกันจะหันมาจับมือกันสร้างชาติให้กลับคืนสู่ความเป็นปกติสุขและเดินไปข้างหน้าเสียที

     ทั้งนี้ความเห็นที่แตกต่างถือเป็นเรื่องปกติและสามารถแสดงออกได้ตามระบอบประชาธิปไตยและผ่านการเลือกตั้งทั่วไป แต่ความเห็นที่แตกต่างไม่ควรจะนำไปสู่ความแตกแยกและที่สำคัญคือต้องไม่ใช้ความรุนแรงอย่างเด็ดขาด

     อย่างไรก็ตามแนวโน้มสถานการณ์จากนี้ไปมีสัญญาณบ่งชี้ว่า กลุ่มก่อการร้ายและมวลชนคนเสื้อแดงในจังหวัดพื้นที่สีแดงเตรียมที่จะก่อเหตุรุนแรงทุกรูปแบบระลอกใหม่เพื่อจุดชนวนสร้างสถานการณ์ให้เกิดสงครามกลางเมืองให้จงได้ ซึ่งถือเป็นภารกิจอันหนักอึ้งและท้าทายสำหรับรัฐบาลที่จะต้องดึงมวลชนคนเสื้อแดงที่หลงผิดให้กลับมาร่วมพัฒนาชาติให้ก้าวผ่านช่วงแห่งความเลวร้ายไปให้จงได้ ขณะเดียวกันก็ต้องใช้มาตรการที่เด็ดขาดกับพวกคนเสื้อแดงหัวรุนแรงที่ไม่ยอมกลับใจ และที่สำคัญต้องขุดรากถอนโคนเครือข่ายกลุ่มก่อการร้ายและเหล่าผู้ทรงอิทธิพลที่บงการอยู่หลังฉากให้สิ้นซากเพื่อไม่ให้เป็นเภทภัยกลับมาทำลายบ้านเมืองในภายหลัง


ทีมข่าวการเมือง 
 
วันที่ 22/5/2010

http://www.naewna.com/news.asp?ID=212100



หัวข้อ: Re: [2513]"ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: เหยง 16 ที่ 22 พฤษภาคม 2553, 10:04:16
คอลัมม์ "คนปลายซอย" ของคุณเปลว สีเงิน วันเสาร์ที่ 22 พฤษภาคม 2553

ปัญหาก่อการร้ายกับ "อำนาจปกติ"
เปลว สีเงิน22 พฤษภาคม 2553 - 00:00

     ๓ วันผ่านไป หลังเหตุการณ์ "พฤษภา-เผากรุง" ฉากหน้าคล้ายว่าสงบ แต่ใต้ซากแห่งความสงบ เชื้อร้ายยังแผ่ซ่านรอวันปะทุ ผมอยากจะบอกว่า "ความจริงวันนี้" ของประเทศไทย เต็มไปด้วยคนบ้าประชาธิปไตย แต่ไม่รู้จักประชาธิปไตย เหตุที่เป็นเช่นนั้น เพราะเมื่อปี ๒๔๗๕ ผู้ใหญ่ไปเห็นไฟฟ้าในตะวันตก ก็อยากให้ประเทศไทยใช้ไฟฟ้าบ้าง ทั้งที่รากฐานสังคมไทยสว่างด้วยแสงนำทางจากเปลวเทียนหน้าองค์พระปฏิมา แต่คนหัวนอกบอกว่าต้อง "ประชาธิปไตย-ตีนฝรั่ง" เท่านั้น จึงจะเป็นแสงสว่างนำทางให้ประชาชนคนไทย และเมื่อ "ดับไต้-ดับเทียน" เลียนประชาธิปไตยฝรั่ง หันหลังให้ธรรมาธิปไตย นับจากวันนั้นมาจนถึงวันนี้ก็ ๗๘ ปีของการเลียนใช้ "ประชาธิปไตย-ไซส์ตีนฝรั่ง" ผลคือ คนป่าเอาประชาธิปไตยมาฆ่ากัน ฆ่ายังไม่หนำใจ ใช้ไฟ-คือประชาธิปไตยนั้น เผาบ้านเมืองทั่วทั้งประเทศ!
    ผมฟังนักข่าวต่างประเทศเขารายงานเหตุการณ์ในเมืองไทยกลับไปประเทศต้นสังกัดเขา และข่าวที่ถูกตีแผ่ไปทั่วโลก เขาบอกว่าสาเหตุใหญ่มาจาก "ความเหลื่อมล้ำ" ทางสังคมไทย พูดง่ายๆ คือ ความรวยและโอกาส กระจุกอยู่เฉพาะบางพวก-บางคน แต่ความจนกระจายสู่ประชาชนอันเป็นส่วนใหญ่ของประเทศ และเท่าที่ฟังผาดๆ คุณสุรินทร์ พิศสุวรรณ เลขาฯ อาเซียน ท่านก็ไปพูดในสังคมอาเซียนแห่งหนึ่งวานนี้ ท่านก็บอกทำนองเดียวกันว่า "ความเหลื่อมล้ำ" ทางสังคมเป็นต้นเหตุ!
 ผมคงไม่เถียง เพราะก็มีส่วนอยู่บ้าง แต่ต้องเถียงว่า "นี่..ไม่ใช่ต้นเหตุ" ของการเกิดสงครามกลางเมือง หรือสงครามก่อการร้าย ๑๙ พฤษภาคม ๒๕๕๓ แน่นอน!!!
     พูดถึง "ความเหลื่อมล้ำ" ในมุมที่เป็นจริงก็คือ...ทักษิณผูกขาดความร่ำรวยด้วย "ระบบสัมปทาน" แต่ผู้เดียว แถมยังพยายาม "ผูกขาดอำนาจรัฐ" ผนวกเข้ากับการผูกขาดทางธุรกิจ ควบคุมขบวนการ "โกงกินชาติ" ครบวงจร เพื่อสร้างความร่ำรวยผูกขาดให้ตัวเองและคณะเบ็ดเสร็จ นำไปสู่การขจัดความเหลื่อมล้ำคือ ผลประโยชน์-อำนาจ ที่หลงเหลืออยู่กับคนอื่นบ้าง ด้วยการ...พยายาม "รวบอำนาจ" แล้ว "ยึดประเทศ" ไปทั้งหมดเลย!
     อะไรที่ทักษิณอยากได้ แล้วไม่ได้ นี่จะเป็น "ความเหลื่อมล้ำ" เป็น ๒ มาตรฐานสำหรับทักษิณและคณะพรรค อะไรที่ผิดแล้วทักษิณอยู่เหนือกฎหมายไม่ได้ ติดสินบนไม่ได้ นี่ก็เป็นความเหลื่อมล้ำในทัศนะทักษิณและคณะพรรค!
     การปล่อยให้ทักษิณยึดครองประเทศ แล้วใช้เศษเงินแจกจ่ายบริวาร-ข้าราชการ-ประชาชน ในเครือข่ายของเขา และใครที่ไม่สวามิภักดิ์ ไม่ยอมเป็นพวก "กระทืบให้ตาย-เผาให้หมด" และ-ใครก็ได้ที่เป็นคนในเครือข่ายของเขา "ทำอะไรก็ได้" ตำรวจไม่จับ นี่แหละ...แบบนี้แหละ คือสังคมที่ไม่มีความเหลื่อมล้ำตามที่ทักษิณและคณะพรรคต้องการ!?
     ต้นเหตุของ "สงครามก่อการร้าย" มันมาจาก "ความเหลื่อมล้ำ" ตรงนี้ และอย่างนี้ ไม่ใช่จับเปลือกๆแล้วกระเดือกๆ ไปพูดเป็นว่าเหตุมาจากความเหลื่อมล้ำทางสังคมในแง่ของความรวย-ความจน ในแง่ของไพร่-อำมาตย์เพ้อเจ้อ จะไปว่าฝรั่งมันไม่รู้ประสาก็ยกไว้ แต่สำหรับคนไทย ถ้ายังพลอยเข้าใจไปอย่างนั้นไม่เหนื่อย แต่น่าอนาถ!?
     ผมฟัง พ.อ.สรรเสริญ แก้วกำเนิด โฆษก ศอฉ. และ "นายกฯ อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ" แถลงวานนี้ตามลำดับ ประเด็นหนึ่งที่ผมจับความได้ว่า ทาง ศอฉ.จะทยอยคืนงานให้กับตำรวจ ผมฟังแล้วเสียววาบ และคิดว่าประชาชนส่วนใหญ่ ถ้ารู้ว่า ศอฉ.หรือพูดตรงๆ คือ "ทหาร" จะถอนกลับที่ตั้ง คืนภารกิจปราบกบฏทั้งหมดนี้ให้ตำรวจวัน-สองวันนี้ เผลอๆ ประสาทหลอน หรืออาจมีบางคน "ช็อก" ตายไปเลย!
     ผมเอง เพื่อเห็นแก่สถานการณ์โดยรวม พยายามไม่เพ่งเล็งบทบาท-ท่าที-การทำงานของตำรวจ  เพราะอะไรที่อดทน-อดกลั้นได้เพื่อขจัดความแตกแยกให้มากที่สุดก็อยากจะทำ แต่ถ้า ศอฉ.และนายกฯบอกว่า จะเร่งคืนงานในหน้าที่ให้ตำรวจ และ กทม. ผมก็อยากจะบอกตามตรงว่า ชาวบ้าน "ไม่ไว้ใจตำรวจ" ครับ!? ตำรวจกับขบวนการเสื้อแดง หรือพูดให้ชัด รวมไปถึงบทบาทตำรวจกับขบวนการก่อการร้าย ๑๙  พฤษภานี้ มันกินใจประชาชนไปอีกนาน!
     ยิ่งในต่างจังหวัดด้วยแล้ว ความเหลื่อมล้ำสูงมาก คือขบวนการทักษิณ "ผูกขาด" อำนาจประชาชนไว้ฝ่ายเดียวชนิดไร้ขอบเขตกฎหมาย จะเผาสถานที่ราชการ โรงพัก ศาลากลาง หรือจะฆ่าใคร กระทั่งจะให้ใครเข้าจังหวัดได้-หรือไม่ได้ พวกข้านี่แหละ..ประกาศิตเสื้อแดง คือกฎหมาย! บอดี้-เสื้อแดง แค่เครื่องใน-เสื้อกากีบ้าง เสื้อเขียวบ้าง และที่มองข้ามกันไปทั้งที่เป็น "แกนใหญ่" ในการขับเคลื่อนแดงทั้งแผ่นดินคือ "ส.ส.ในพื้นที่" ผนึกบารมีคนการเมืองท้องถิ่น และเจ้าพ่อ-มาเฟียที่หากินเลาะตะเข็บกฎหมาย
     ตรงนี้แหละคือตัวการของเหตุการณ์ ๑๙ พฤษภา ไม่ใช่เรื่องเหลื่อมล้ำทางสังคมบ้าบออะไร เพราะคนไทยไม่เคยมีใครอดตาย มีแต่นักการเมืองเอาไปแจก-เอาไปบำเรอจน "ท้องแตกตาย" จนประเทศไทยกลายเป็นรัฐ "การเมืองเลี้ยง" ไปแล้ว! ขอย้ำ เรื่องความเหลื่อมล้ำซึ่งมีอยู่จริงใน "ชีวิตจริง" ตามธรรมชาติ ไม่ใช่ต้นตอของเหตุที่เกิด แต่ธรรมชาติของคนไทยระดับชาวบ้าน ชอบระบบ "ลูกพี่อุปถัมภ์" ยิ่งได้คนมีสี แถมมีเงินให้หนุนหลัง อย่าว่าแต่เผาเมืองเลย ให้คว่ำประเทศเอาสวรรค์จมดิน เอาด้านนรกขึ้นฟ้า มันก็ทำให้พูดไปก็ยาว แต่ก็เพราะ "ประชาธิปไตย" ที่ไม่ออกแบบตามไซส์ตีนคนไทย นั่นแหละบ่มเพาะมา!
     สมมุติเลิก พ.ร.ก.ฉุกเฉิน ทหารกลับที่ตั้ง คืนความเป็นเจ้าพนักงานตามกฎหมายให้ตำรวจแต่เพียงผู้เดียวเหมือนเดิม แล้วคิดซิว่า เมื่อการชุมนุมจบ แต่การก่อการร้ายยังไม่จบ เพิ่งเริ่มขยายตัว แล้วจะปล่อยให้ตำรวจโดยลำพังปราบผู้ก่อการร้าย
 แบบนี้...ยกประเทศให้กบฏทักษิณครองไปเลยไม่ดีกว่าหรือ จะได้ไม่ต้องฆ่า-ต้องเผากันอีก เพราะคน "ไม่เอาทักษิณ" เขารักสันติอยู่ในที่ตั้ง ไม่กล้าโผล่หัวออกมาแอะอะไรหรอก จริงมั้ย!?
     กรุงเทพฯ เคอร์ฟิวเข้าคืนที่ ๓ ผมจะบอกให้ ศอฉ.ทราบ เคอร์ฟิวแล้วสุจริตชนไม่ออกมา-ก็ใช่ แต่โจรมันออก มันขี่มอเตอร์ไซค์คุกคามไปทั่ว ศอฉ.จะแบ่งอำนาจ-แบ่งเวลาครองเมืองกับโจร ๓ ทุ่ม-๖ โมงเช้า "โจรครอง" ๖ โมงเช้า- ๒ ทุ่ม "รัฐบาลครอง" อย่างนี้ไม่ดีแน่ เพราะการปล่อยท้องถนนโล่งว่าง ไม่มีทั้งทหารและตำรวจมาตรวจตรา หรือตั้งด่านตามจุดสำคัญๆ ยามค่ำคืน ชาวบ้านจะนอนหัวถึงหมอนได้อย่างไร ผมเองยังต้องนอน "กอดปืนใหญ่" เฝ้าโรงพิมพ์ กลัวจะทำลั่นใส่หว่างขาตัวเองจะตายไป! ดึกดื่นคืนค่ำในเขตเคอร์ฟิว คุณตำรวจไม่อยากพูดถึง ขอให้ ศอฉ.จัดหน่วยทหารนั่งรถขับตระเวนเป็น "สายตรวจ" ตระเวนไปตามถนนต่างๆ ให้ทั่วฝั่งพระนคร และฝั่งธนฯ หน่อยเถอะ ชาวบ้านได้ยินเสียงรถยนต์แทนเสียงมอเตอร์ไซค์จะได้หายใจทั่วท้องหน่อย บางทีตรงไหนชาวบ้านมีเรื่องอะไรจะให้ช่วยเหลือเร่งด่วน จะได้พึ่งพาได้บ้าง
     อย่าเพิ่ง "ปล่อยเกาะ" ชาวบ้านเลยครับ ตอนนี้ถ้าไม่มีทหาร ชาวบ้านก็ไม่รู้จะไปพึ่งใคร เพราะฝ่ายอื่น พูดไปก็คล้าย "ฝากเนื้อไว้กับสุนัขหิว" ชาวบ้านก็ได้แต่สยิวกันไปเท่านั้น!
     ความจริงบ้านเมืองมีหลายเรื่องที่ต้องพูด-ต้องแก้ไขเร่งด่วน แต่ขณะนี้ "เร่งด่วนที่สุด" คือรัฐบาล-ศอฉ.ควรสร้างความอุ่นใจให้ประชาชนด้วยการปราบโจรก่อการร้าย และอยู่ในถนนให้ประชาชนเห็น ควบคู่ไปกับรัฐบาลฟื้นฟูเมือง ลบภาพบาดตา-สะเทือนใจที่กบฏทักษิณฝากทิ้งไว้เป็นบาดแผลในใจไปอีกนาน...เท่านาน
     ผมขอยืนยันว่า บาดแผลบ้านเมืองเวลานี้ จะให้ "การเมืองปกติ" อันมีขบวนการโจรก่อการร้าย "สวมเสื้อนอก" ลอยหน้าปะปนอยู่ในระบบด้วยเป็นฝ่ายรักษากันเอง บาดทะยักกินประเทศแน่นอน!
     ผมขอย้ำ ประชาธิปไตยที่ "คนไทยไม่ได้ออกแบบเอง" ที่ใช้กันมา ๗๘ ปี ไม่ใช่ทางออกของประเทศไทย ถึงเวลาที่คนไทยต้อง "ออกแบบประชาธิปไตย" ใช้กันเอง และคนไทยนั้นต้องไม่ใช่แค่คนรู้ตำรา คนร่างหนังสือเป็นกฎหมายเท่านั้น ส่วนหนึ่งต้องมาจากรัตตัญญูชน ปราชญ์ชาวบ้านแต่ละท้องถิ่น และผู้คนแต่ลักษณะอาชีพ กระทั่งโสเภณีเขาก็คือคน ควรต้องให้มีส่วนร่วม
     ลองสังคมทิ้งศีลธรรม-ทิ้งศาสนา ไปยึดทุนและวัตถุเป็นสรณะ ฉิบหาย ไปไม่รอดแน่ และมันก็จะไปสรุปลงที่ "โกงแล้วเอามาแบ่งชาวบ้าน ไม่เป็นไร"!? ใช่...ไม่เป็นไร แต่มันจัญไรสถานเดียว!?
    ระบบรัฐสภาประชาธิปไตยลอกแบบฝรั่ง มันแค่รูปแบบและพิธีกรรม ฝรั่งเขาออกแบบตามลักษณะสังคมของเขา ฝรั่งเขากินอาหารทีละจาน ไม่เห็นว่าจน แต่คนไทยลองกินทีละจาน มีแต่คนว่าจน-เป็นคนข้าวแกง ดังนั้น คนไทยยังเข้าแถวไม่เป็นก็ไม่เป็นไร แต่ต้องยึดให้อยู่ในกรอบ "ศีลธรรมและศาสนา" ไว้ แล้วเราก็จะศิวิไลซ์เป็นเอกลักษณ์ไทย ที่ใครๆ ทั่วโลกอิจฉา ไม่เชื่อลอง!
    ตอนนี้เราจำเป็นต้องยึดรูปแบบระบบรัฐสภา ทั้งที่รู้ชัด-เห็นชัดแล้วว่าคนใน "การเมืองระบบสภา" นำประชาชนแตกสามัคคีขยำขยี้ประเทศชาติปี้ป่น แต่นั่นแหละเข้าทำนอง "ใช้พิษล้างพิษ" ต้องคิดวิธีใช้ระบบสภาเป็นเครื่องมือจัดรูปแบบแก้ไขปัญหาสังคมชาติ การเมืองนำการทหาร หรือการทหารนำการเมือง ไม่ใช่ทั้งนั้น วันนี้ "การทหาร-การเมือง" ต้องไปด้วยกัน ก่อนถึงขั้นปฏิรูปใหญ่ "ย้ายส่วนราชการ" ทั้งหมดออกไปสร้างเป็น "เมืองใหม่"
    ปล่อยให้กรุงเทพฯ เป็น "เมืองฟ้าอมร" ปลอดการเมือง สำหรับคนไทย และคนทั้งโลกนิรันดร์เถอะครับ.

 

http://www.thaipost.net/news/220510/22402


หัวข้อ: Re: [2513]"ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: swsm ที่ 22 พฤษภาคม 2553, 10:05:59
พี่เหยงคะ .. พี่มาพัทยาหรือคะ ??
ตอนนี้หยีอยู่พัทยาเหมือนกันค่ะ


อะ อะ .. จะได้โอกาสพบกันไหมหนอ ..
      emo21:):):




หัวข้อ: Re: [2513]"ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: เหยง 16 ที่ 22 พฤษภาคม 2553, 12:42:40
อ้างถึง
ข้อความของ swsm เมื่อ 22 พฤษภาคม 2553, 10:05:59
พี่เหยงคะ .. พี่มาพัทยาหรือคะ ??
ตอนนี้หยีอยู่พัทยาเหมือนกันค่ะ


อะ อะ .. จะได้โอกาสพบกันไหมหนอ ..
      emo21:):):




พี่ไปส่งลูกๆ ที่ ม.เกษตรและกลับแล้วครับ ไม่ได้ไปต่อพัทยา เพราะไม่นึกว่าจะเลิกเคอร์ฟิวที่นั่น

บอกลูกๆ ว่า ศุกร์ที่ 28 นี้ อาจจะพาไปชะอำ แต่ต้องดูสถานการณ์รายวันด้วย


หัวข้อ: Re: [2513]"ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: เหยง 16 ที่ 22 พฤษภาคม 2553, 12:53:50
มีการตั้งคำถาม ถึงการทำหน้าที่ของทหาร,
และของตำรวจในการตั้งขบวนรับแกนนำกบถ และให้แถลงข่าวทุกครั้งที่มีการมอบตัว


ทางออกประเทศไทย
ถูกทุกข้อ 22 พฤษภาคม 2553 - 00:00

เรียน คุณสามวา สองศอก
     คำถามมากมายเกิดขึ้นในใจของประชาชนคนไทย ถึงสิ่งต่างๆ ที่เกิดขึ้นในประเทศไทย เร็วๆ นี้ คุณสามวาเป็นผู้อยู่ในตำแหน่งที่ข่าวสารวงใน มาถึงมือถึงหูได้มากกว่าพวกเรา พวกเราอยากจะถามคำถามบางคำถาม ให้ช่วยตอบพวกเราที
     1.ทำไมทหารถึงปฏิบัติการอย่างเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ทำไมหยุดปฏิบัติการกลางคัน???
     (ก) ทหารไทยไร้ความสามารถ โง่ ถึงจะมีทุน/โอกาสไปศึกษา/ร่วมฝึกกับนานาชาติ แต่คนโง่และไร้ความสามารถก็ทำได้แค่นี้เอง วางแผนไม่เป็น ไม่มีแผนหนึ่ง แผนสอง แผนสามรองรับ
     (ข) ทหารไทยฉลาดเป็นกรด เพื่อเป็นฉากโชว์หน้าก็ยอมบาดเจ็บ ยอมเสียทหารบางคน ทำเป็นปราบ TERRORISTS บ้างพอเป็นพิธี แต่แล้วปฏิบัติการชะงักออมมือ ให้ผู้ก่อการร้ายมีโอกาสปฏิบัติการให้หนักมือเพิ่มขึ้น โดยทหารไม่โดนต่อว่าโวยวาย
     2.ทำไมตำรวจต้องจัดกองเกียรติยศ รับการมอบตัวของพวกหัวหน้าก่อการร้าย???
     (ก) ตำรวจถือว่าหัวหน้าผู้ก่อการร้ายเป็นวีรบุรุษของตำรวจ
     (ข) งานช่วยเหลือคุ้มครองประชาชนเป็น DIRTY JOB ไม่ได้ลาภได้ยศอะไร สู้มาเสนอหน้าให้เจ้านายเห็นทาง TV จะได้ประโยชน์มากกว่า
     (ค) เงินภาษีของประชาชนที่ให้ตำรวจกินเงินเดือน เงินบำเหน็จ บำนาญ เป็นของตายอยู่แล้ว สู้เงินโบนัสที่จะได้เป็นกอบเป็นกำจากหัวหน้าผู้ก่อการร้ายไม่ได้
     3.ทางออกประเทศไทยคืออะไร???
     (ก) ตระกูลชินวัตรต้องตายยกโคตร ตั้งกองทุนรับเงินบริจาคจ้างมาเฟียตามล่า
     (ข) ประชาชนคนไทยต้องลุกขึ้นสู้เพื่อตัวเอง จะยอมให้ทักษิณมันสั่งการปฏิบัติการทำลายชาติโดยไม่ตอบโต้เลยไม่ได้ ลบชื่อชินวัตร สมบัติชินวัตรออกจากประเทศไทย เผาตึกชินวัตร บ้านจันทร์ส่องหล้า
     4.ทำไมพวกหัวหน้าผู้ก่อการร้ายต้องกล่าว SPEECH ยาว ต้องมีพิธีรีตองทรงเกียรติจอมปลอม
     (ก) หัวหน้าผู้ก่อการร้ายส่งสัญญาณให้ลูกน้องปฏิบัติการก่อการร้ายตามแผนที่วางไว้
     (ข) หลังจากก่อเวรก่อกรรมให้ประเทศชาติและเพื่อนร่วมชาติมานาน เกิดสำนึกผิด
     5.ทำไมรัฐบาลโอ๋คนทำผิด???
     (ก) ประชาชนคนสุจริตถูกมองข้าม เสียหายไม่เป็นไร บาดเจ็บไม่เป็นไร เสียชีวิตไม่เป็นไร ไม่กล้าร้อง/เรียกร้อง
     (ข) ลูกแกะหลงทางอย่างพวกมาร่วมชุมนุม ทำให้ PUBLIC EYES PAY ATTENTION
     (ค) รัฐบาลไม่มีปัญญา MANAGE ให้หน่วยราชการ กองทัพ ตำรวจทำงานได้ ไม่ว่าระดับหัวหน้า ระดับกลาง ลอยตัวเหนือปัญหา
     ประเทศไทยเป็น FAILED STATES เรียบร้อยแล้ว ในแง่อำนาจรัฐไม่มีความหมาย คนชั่วได้รับการปฏิบัติอย่างยกย่องดีกว่าสุจริตชน ทุกหน่วยงาน ทุกระดับขาดสำนึก ขาดความรับผิดชอบ   
                                                               ????
ตอบ คุณ????
     คำถามของคุณมีคำตอบให้เลือกแต่ (ก) หรือ (ข) หรือ (ค) ไม่มีข้อไหนที่ให้เลือกว่าถูกทุกข้อ แต่คุณก็คงไม่อยากได้คำตอบ ขอแค่ได้ระบายอารมณ์ที่รัฐบาลทำไม่ได้ดั่งใจเท่านั้น

                  ขาดเงินเรียนต่อ                                           
เรียน คุณสามวา สองศอก
     เนื่องด้วยมีนักศึกษาชั้นปีที่ 2 ที่ศึกษาอยู่ในมหาวิทยาลัยราชภัฏแห่งหนึ่งในกรุงเทพฯ เขากู้เงินของรัฐเพื่อใช้ในการศึกษาไม่ได้ พ่อของเขาเป็นอัมพาตเดินไม่ได้ ข้าพเจ้าได้ให้ทานยาสมุนไพร อาการดีขึ้น ลุกนั่งได้ ประคองให้ยืนได้บ้าง     
     แม่ของเขาทำขนมขายอยู่หน้าห้างแห่งหนึ่ง ซึ่งเลิกกิจการไปแล้วจึงไม่ค่อยมีคนมาซื้อ เขาขายขนมได้เพียงเล็กๆ น้อยๆ เท่านั้น เขาต้องเช่าห้องอยู่กับสามีที่เป็นอัมพาต ส่วนลูกต้องไปเช่าหอพักอยู่ใกล้มหาลัยราชภัฏเดือนละ 2,000 บาท เขาหมดปัญญาที่จะหาเงินให้ลูกเรียน
     แต่ด้วยวิญญาณของความเป็นแม่ เขาจึงพยายามต่อสู้เพื่อลูก เขาได้กู้เงินนอกระบบดอกเบี้ยร้อยละ 10 ต่อเดือน แต่ต้องใช้หนี้เป็นรายวันทั้งเงินต้นและดอกเบี้ย ขายขนมบางวันก็ไม่พอใช้หนี้รายวัน
     ด้วยเหตุนี้ข้าพเจ้าจึงใคร่จะขอความเมตตากรุณาจากท่านผู้ใจบุญ ขอให้ท่านช่วยนักศึกษาผู้น่าสงสารคนนี้ด้วย ขอให้ท่านให้นักศึกษาคนนี้กู้เงินดอกเบี้ยร้อยละ 1 บาทต่อเดือน หรือถ้าไม่เก็บดอกเบี้ยเลย ก็จะเป็นพระคุณอย่างยิ่ง ข้าพเจ้ายินดีค้ำประกันให้ ถ้าเขาเรียนจบแล้วยังหางานทำไม่ได้ เขายังไม่มีเงินใช้หนี้ท่าน ข้าพเจ้ายินดีใช้ผ่อนแทนให้จนกว่าเขามีงานทำ หวังว่าคงจะได้รับความเมตตากรุณาจากท่านผู้ใจบุญ
     เมื่อหลายปีมาแล้วมีนักศึกษาแพทย์คนหนึ่ง ศึกษาอยู่ชั้นปีที่ 2 ในคณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยแห่งหนึ่ง แม่ของเขาเป็นข้าราชการชั้นผู้น้อยในหน่วยงานของรัฐแห่งหนึ่ง พ่อของเขาตายไปนานแล้ว แม่ของเขาต้องรับภาระเลี้ยงดูบุตร ซึ่งอยู่ในวัยเรียนถึง 2 คน
     นักศึกษาแพทย์ขอกู้เงินของรัฐเพื่อการศึกษาไม่ได้ แม่ของเขาจึงไปขอกู้เงินโดยใช้บัตรเครดิตจนเป็นหนี้สินอีนุงตุงนังไปหมด ข้าพเจ้าทราบเรื่องนี้เข้า จึงได้เขียนจดหมายไปขอความช่วยเหลือจากสื่อมวลชนทั้งหลาย และ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี แต่ไม่มีใครช่วยเหลือ
     ข้าพเจ้าไม่ได้ขอเงินเปล่าๆ แต่ขอให้ราชการให้นักศึกษาแพทย์กู้เงินเท่านั้น เพราะถ้าเขาเรียนจบออกมาแล้ว ข้าพเจ้ามีงานทำแน่นอน เขาต้องมีเงินใช้คืนให้ทางราชการได้
     ข้าพเจ้าจึงได้ไปเล่าให้ คุณวิโรจน์ ศิริอัฐ ประธานมูลนิธิเผยแพร่ชีวิตประเสริฐได้รับทราบ ท่านได้พาข้าพเจ้าไปหาเจ้าของห้างกมลสุโกสล ซึ่งชรามากอายุ 80 กว่าปีแล้ว เจ้าของห้างได้ช่วยเหลือนักศึกษาแพทย์ให้เดือนละ 5,000 บาท จนเรียนจบเป็นนายแพทย์แล้วในปัจจุบันนี้
     ท่านทั้งหลายอาจจะสงสัยว่า ทำไมข้าพเจ้าไม่ช่วยเหลือนักศึกษาเสียเอง ขอเรียนให้ทราบว่าข้าพเจ้าเป็นคนยากจน ได้เรียนหนังสือในโรงเรียนเพียงชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 หลังจากนั้นก็เรียนด้วยตนเอง แล้วไปสมัครสอบมาตลอดจนกระทั่งเป็นครู และได้ออกจากครูมาหลายสิบปีแล้ว
     เมื่อหลายปีมาแล้วได้ไปหาเพื่อนที่เป็นอาจารย์ สอนอยู่ในโรงเรียนมัธยมของรัฐแห่งหนึ่งในกรุงเทพฯ เพื่อนกำลังสอบซ่อมนักเรียนอยู่ น่าแปลกใจมากนักเรียนชั้นมัธยมอ่านหนังสือไทยไม่ออก เพื่อนบอกว่านักเรียนมัธยมอ่านหนังสือไทยไม่ออกมีทุกปี มีจำนวนมากด้วย
     ข้าพเจ้าจึงได้เรียบเรียงหนังสือหัดอ่านภาษาไทยแบบใหม่ขึ้นมา 7 เล่ม เพื่อแก้ปัญหาเด็กไทยอ่านหนังสือไทยไม่ออก อ่านไม่คล่อง และเขียนภาษาไทยไม่ถูก ที่ปกรองของหนังสือชุดนี้เขียนไว้ว่า ผลกำไรทั้งหมดจากการจัดจำหน่ายหนังสือเล่มนี้ จะนำไปช่วยเหลือเพื่อนมนุษย์ทุกเชื้อชาติ ทุกศาสนา ที่มีความทุกข์ ให้พ้นจากความทุกข์ ทั้งร่างกายและจิตใจ
     สำนักพิมพ์แห่งหนึ่งช่วยจัดพิมพ์ให้ และช่วยจัดจำหน่ายให้ด้วย แต่ขายได้น้อย เพราะทางราชการกำหนดระเบียบกฎเกณฑ์ไว้ว่า หนังสือที่จะซื้อให้เด็กใช้อ่านในโรงเรียนของรัฐ ต้องเป็นหนังสือที่มีตราของกระทรวงศึกษาธิการเท่านั้น
     ผู้ปกครองจะซื้อเองก็ได้ แต่ห้ามไม่ให้ครูอาจารย์เก็บเงินจากผู้ปกครองมาซื้อหนังสือ ถึงแม้ผู้ปกครองจะซื้อหนังสือมาเองก็ใช้ไม่ได้ เพราะไม่มีตรากระทรวง แต่หนังสือที่มีตรากระทรวงไม่สามารถช่วยให้เด็กไทยอ่านหนังสือไทยออก และเขียนภาษาไทยได้อย่างถูกต้อง
     เงินกำไรอันน้อยนิดจากการจำหน่ายหนังสือดังกล่าวนี้ ข้าพเจ้าก็ได้นำมาซื้อยาสมุนไพรช่วยเหลือเพื่อนมนุษย์ที่ป่วยเป็นโรคต่างๆ มากมาย จนเงินที่ได้มาจากขายหนังสือไม่เพียงพอที่จะซื้อยาสมุนไพรให้ทาน มีคนใจบุญสมทบทุนมาบ้างเพียงเล็กน้อยเท่านั้น 
     ถึงแม้ว่าข้าพเจ้าจะยากจน ไม่มีสมบัติใดๆ ที่มีค่านอกจากหนังสือตำรับตำราเท่านั้น มีอายุมากถึง 76 ปีแล้ว แต่ก็จะพยายามช่วยเพื่อนมนุษย์ทุกเชื้อชาติ ทุกศาสนา โดยไม่หวังผลตอบแทนใดๆ ทั้งสิ้นต่อไป จนกว่าจะหมดลมหายใจ ตามที่ท่านอาจารย์พุทธทาสภิกขุได้สั่งสอนไว้
     ถึงแม้ว่าบางครั้งข้าพเจ้าจะไม่ได้รับความยุติธรรมจากกฎหมายและผู้ใช้กฎหมาย เช่นเมื่อวันที่ 4 พฤศจิกายน พ.ศ.2524 ข้าพเจ้าได้ถูกศาลพิพากษาถูกปรับ 500 บาท เพราะพิมพ์ข้อความในใบปลิวว่า รับรักษาพระภิกษุ สามเณร และคนยากจนฟรีด้วยยาสมุนไพร
     ส่วนอาจารย์แพทย์แผนโบราณที่เป็นเจ้าของสถานพยาบาลที่ร่วมบำเพ็ญกุศลกับข้าพเจ้าถูกกระทรวงสาธารณสุขยึดใบอนุญาตใบประกอบโรคศิลปะ สถานพยาบาลถูกปิด 6 เดือน และถูกปรับ 2,000 บาท
     นี่คือประเทศไทยซึ่งพลเมืองส่วนใหญ่นับถือพุทธศาสนา 95% และนี่คือประเทศไทยที่ปกครองด้วยระบอบประชาธิปไตยมาตั้งแต่ พ.ศ.2475 แต่ไม่มีเสรีภาพแม้กระทั่งการทำความดี ทำบุญกุศลในพระพุทธศาสนาตามกฎหมายรัฐธรรมนูญ 
     แต่นักการเมืองและนักปลุกระดมกล่าววจีทุจริต (พูดชั่ว) คือ พูดโกหก พูดคำหยาบ พูดส่อเสียด พูดเพ้อเจ้อ ไม่มีความผิด ถึงแม้ว่าข้าพเจ้าไม่ได้รับความยุติธรรมมากเพียงใด ข้าพเจ้าไม่เคยท้อถอย ข้าพเจ้าจะส่งเสริมสร้างสรรค์ และพัฒนาสังคมไทยตามแนวทางของพระพุทธศาสนา และระบอบประชาธิปไตยที่แท้จริงต่อไป เพื่อให้คนไทยมีความรู้ดี มีความประพฤติดี มีสุขภาพดี และมีเศรษฐกิจดีอย่างเสมอภาคเท่าเทียมกันโดยทั่วหน้า
     ในท้ายที่สุดนี้ข้าพเจ้าหวังว่า ท่านผู้ใจบุญและมีฐานะทางการเงินดีพอที่จะช่วยนักศึกษาวิชาครูคนนี้ ซึ่งต่อไปนี้จะเป็นแม่พิมพ์ที่ดีของชาติไทยในอนาคต ขอได้โปรดเมตตากรุณาช่วยนักศึกษาที่ดี ตั้งใจเรียน มีความประพฤติดี แต่ยากจนมากคนนี้ด้วยเถิด
     ขอขอบพระคุณและขออนุโมทนาล่วงหน้ามา ณ ที่นี้ ในกุศลเจตนาของท่าน
                                                       ขอแสดงความนับถือ                                 
                                                             ไสว สุนทร
ตอบ คุณไสว สุนทร
     ผมลงจดหมายของคุณให้แล้ว ถ้ามีผู้ใจบุญอยากช่วยเหลือให้เด็กได้เรียนต่อ ขอให้ติดต่อกับคุณไสวที่หมายเลขโทรศัพท์ 0-2426-7684 มือถือ 08-4461-9380
     หรือผู้ที่สนใจหนังสือหัดอ่านภาษาไทยแบบใหม่ 7 เล่ม ก็ติดต่อที่คุณไสวได้เช่นกัน ผมได้รับตัวอย่างหนังสือทั้ง  7 เล่มแล้ว ไม่ได้มีประโยชน์เฉพาะนักเรียนเท่านั้น คนไทยทุกคนที่ยังเขียนภาษาไทยผิดๆ ถูกๆ ก็ต้องอ่านหนังสือ 7 เล่มนี้
                                                          สามวา สองศอก
http://www.thaipost.net/news/220510/22401


หัวข้อ: Re: [2513]"ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: เหยง 16 ที่ 22 พฤษภาคม 2553, 16:00:04
อ่านความรู้สึกของเขาหน่อยครับ พร้อมกับจับประเด็นด้วย ใครบุกเข้าไปไล่ยิงเสื้อแดงและมีอะไรเกิดขึ้นในวัดปทุมวนาราม จะได้ทราบว่า ทำไมเขายังหวาดกลัวและชิงชังทหารหนักหนา

วันที่ 21 พฤษภาคม พ.ศ. 2553 เวลา 23:58:00 น.  มติชนออนไลน์
คลิ๊กรับชมวีดีโอข่าวนี้ =>   


"เสื้อแดง"ขอพูดบ้างจะเอาไป "ฆ่า-ประหาร"ก็เชิญ

โดย ชฎา ไอยคุปต์


(คลิกชมคลิปวิดีโอภาพและเสียงชาวบ้านได้ที่รูปกล้องเหนือพาดหัวข่าว)

 

ภายหลังแกนนำกลุ่มคนเสื้อแดงประกาศให้ผู้ชุมนุมกลับบ้านและยุติการชุมนุมแทนที่เดินทางกลับบ้าน ชาวบ้านกลับวิ่งหนีตายเข้าไปขอซุกตัวภายในวัดปทุมวนารามเป็นเขตอภัยทาน กับโรงพยาบาลตำรวจ เพื่อหลบซ่อนตัวไม่ยอมออกมาจากพื้นที่วัดตั้งแต่ตลอดเวลาช่วงบ่ายจนถึงเช้าของวันใหม่


ทั้งที่รัฐบาลประกาศเตรียมจัดรถคอยอำนวยความสะดวกให้เดินทางกลับบ้านอย่างปลอดภัยแต่ก็ไม่มีใครยอมออกมาและเวลานั้นก็ไม่มีมีใครรู้ว่าข้างในเกิดอะไรขึ้นภายในพื้นที่การชุมนุม หลังจากที่มีการประกาศเคอร์ฟิวผู้สื่อข่าวถอนออกจากพื้นที่ ขณะที่ผู้ชุมุนุมเดินออกจากพื้นที่ชุมนุมกลับภูมิลำเนาแค่ประมาณ 400 คนเท่านั้น แล้วอีกหลายพันคนหายเงียบ เข้าไปซุกตัวอยู่ในวัด   


ตลอดคืนที่แสนจะยาวนานในความรู้สึกของชาวบ้านท่ามกลางความไม่สงบแสงเพลิงที่ลุกไหม้ตึกอาคารรอบพื้นที่ มีเสียงปืนเสียงระเบิดดังตลอดทั้งคืนแต่ที่เลวยิ่งกว่า คือ การนอนร่วมกับศพเพื่อนร่วมรบ นี่คือคำบอกเล่าของกลุ่มผู้ชุมนุมที่พูดเป็นเสียงเดียวกันว่า "ยังผวาไม่เลิก"


แทบจะไม่มีใครได้หลับได้นอนกระทั่งรุ่งสาง แสงอาทิตย์ส่องสว่างมองเห็นสิ่งรอบข้างได้ชัดเจน ชาวบ้านเริ่มทยอยเดินทางออกมาตามเสียงเรียกของมือปราบหูดำ พล.ต.ต.วิชัย สังข์ประไพ ผบก.น.1 ใช้เครื่องขยายเสียงเรียกผู้ชุมนุมออกมาเพื่อเดินทางกลับบ้าน แต่ชาวบ้านยังคงมีอาการหวาดผวา เมื่อเดินออกมาเจอเจ้าหน้าที่ทหารยืนลาดตระเวนบนรางรถไฟฟ้าบีทีเอส หดกลับเข้าไปใหม่และไม่ยอมออกมา จนกระทั่งเจ้าหน้าที่ตำรวจต้องตั้งแถวเป็นทางยาวเพื่อสร้างความมั่นใจว่าจะไม่มีใครมาทำร้ายได้ โดยที่ตำรวจจะยืนเป็นเกราะกำบังให้ ชาวบ้านจึงยอมเดินทางออกมาจากวัดเพื่อเดินทางกลับบ้าน


ใบหน้าที่มันเยิ้มเปื้อนฝ้า สีผิวที่กรำแดดปรากฏริ้วรอยความหมองคล้ำ เคลือบไปด้วยความอิดโรย ตาแดงกร่ำ เสื้อผ้าที่เปื้อนฝุ่น กลิ่นตัวที่หมักหมมขาดน้ำชำระล้างมานาน แต่ยังไม่เด็ดชัด สัมผัสได้เท่ากับ ความเครียด ความกังวล ที่แสดงออกมาทาง สีหน้า แววตา ไร้อารมณ์ความรู้สึก เหม่อลอย และหวาดกลัว แต่ซ่อนความมุ่งมั่นในแววตา


ชาวบ้านทยอยเดินทางลงจากรถเมล์มาต่อรถโดยสารที่สถานีขนส่งหมอชิต หอบหิ้วเสื่อ หมอน พัดลม ข้าวของเครื่องใช้พะรุงพะรัง ขณะที่บางคนมีแค่เสื้อผ้าชุดเดียวห่อหุ้มร่างกายไว้เท่านั้น นี่คือ ภาพของผู้ชมุนุมคนไทยที่ดูไม่ต่างจากพวกอพยพลี้ภัยจากสมรภูมิรบในชายแดน เข้าแถวลงทะเบียนกับกระทรวงมหาดไทยก่อนจะแวะไปรับเงินจากกระทรวงพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์รายละ 200 บาท เป็นการเยียวยาค่าเดินทางต่อรถกลับภูมิลำเนาหลังจากมีรถฟรีไปส่งถึงตัวจังหวัด ส่วนใหญ่เข้าไปรับเงินแต่บางคนก็ไม่ยอมรับและบอกกับเจ้าหน้าที่ว่าคนเสื้อแดงไม่รับเงิน ส่วนบางคนก็ประชดด้วยการบอกว่ามาร่วม 2 เดือนได้เงินกลับบ้าน 200 บาท


พูดแล้วจะเอาออกจริงหรือ ? คำตอบที่ชาวบ้านถามกลับกับคนที่หิ้วกล้องพร้อมปากกาและกระดาษมาขอสัมภาษณ์  แต่สุดท้าย นางชวนพร ชัยมงคล  อายุ 55 ปี จ.เชียงใหม่ ก็ยอมเล่าถึงนาทีหนีตายเข้าไปอาศัยในวัดปทุมวนาราม ท่ามกลางวงล้อมของหมอกควันและเพลิงและกระสุนปืนที่ดังอย่างต่อเนื่องพร้อมกับผู้ชุมนุมหลายพันคนและอีก 6 ศพถูกยิงเสียชีวิตห่อด้วยเสื่อเรียงอยู่ในวัด  ว่า จะออกมาก็ออกไม่ได้เพราะว่าหลายคนที่ออกมาเพราะห่วงข้าวของเครื่องใช้ก็ถูกยิง มันไม่เหมือนประเทศไทย ที่มีการเอื้อเฟื้อกัน ทุกคนเสียใจมากไม่น่าจะเป็นแบบนี้ เราเรียกร้องแค่ให้ยุบสภาเท่านั้นเองทำไมต้องมายิงเราด้วย (พร้อมกับสะอื้น)  ทุกวันนี้ไม่มีความยุติธรรมสำหรับคนจนเลย คนจนไม่มีค่า ไม่มีราคา คนจนอย่างเราไม่ได้ขออะไรมากมาย ขอให้มันถูกต้อง อะไรที่เข้าสู่กระบวนการยุติธรรมได้มันจะสงบ จึงขอให้ยุบสภาเลือกตั้งใหม่ ไม่ใช่ว่าจะต้องเป็นพ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ ตลอด จะเป็นใครก็ได้ที่มาจากการเลือกตั้งอย่างยุติธรรม   


"ทุกคนกลับบ้านด้วยความเจ็บใจเพราะว่าญาติพี่น้องร่วมรบถูกยิง ถูกลากศพไปต่อหน้าต่อตา ไม่คิดว่าชีวิตนี้จะมาเจอแบบนี้ อยากให้บ้านเมืองได้ความยุติธรรมคืนมา มีความถูกต้อง มีกฎหมายเท่าเทียมกัน ไม่ใช่แบ่งพรรคแบ่งพวก คนรวย คนจน มีค่าเท่าเทียมกัน ต้องให้สิทธิการเป็นมนุษย์เหมือนกัน เป็นมนุษย์ขี้เหม็นเหมือนกัน แต่ถ้าขี้หอมก็ยกให้อีกระดับหนึ่ง ฉะนั้นต้องคิดว่าคุณคือมนุษย์เหมือนกัน


เราไม่ได้กลับบ้านมือเปล่าทุกคนรู้ที่แกนนำต้องเลิกเพื่อรักษาชีวิตผู้ชุมนุมไว้ วันนี้เราได้เพื่อนที่ไม่เข้าใจเราได้เข้าใจเรามากขึ้น แต่ที่ไม่เข้าใจก็ไม่เข้าใจเพราะฟังข่าวด้านเดียว เห็นแต่เสื้อแดงไปทำทหาร แต่ทหารทำร้ายคนเสื้อแดงไม่มีออกทีวีเลย ไม่ว่าอะไรหรอกคนที่เป็นนายกฯขอแค่คืนความยุติธรรมให้กับสังคมเท่านั้น หากยังแบ่งแยกกันอยู่อย่างนี้มันจะแตกแยกกัน"  นางชวนพรกล่าว


สาวใหญ่เมืองเชียงใหม่ยังบอกอีกว่า ขณะที่พวกเราหนีเขาวัดแล้วไปนั่งไหว้พระอยู่คิดว่าถ้าจะมายิงกันตอนไหว้พระก็ไม่เป็นไร ที่ตรงนั้นมีแต่เด็ก ผู้หญิง เต็มไปหมด


"ถ้าต่อสู้ซึ่งหน้าเราต้านไหว แต่เขาเอาเปรียบเรา ไปซุ่มยิงจากข้างบน แบบนี้มันหมารอบกัด  ต้องลงมาแล้วสู้กันซึ่งหน้าตัวต่อตัวเราจับมัดจับมัดดีดหำได้สบาย แต่เราไม่ฆ่าเพราะคนไทยด้วยกัน แต่เขามาตั้งใจฆ่าเรา ถ้าใครที่รับฟังมาจากที่ไหนก็ให้รู้ว่าเราคนไทยด้วยกัน ไม่ใช่ว่าเสื้อแดงต้องไปฆ่าเขา แค่จับเปลื้องผ้าก็ทำอะไรเราไม่ได้แล้ว แต่นี้มาฆ่าเราต้องนึกบ้าง ทำได้อย่างไรกับคนไม่มีทางสู้


คำว่าผู้ก่อการร้าย รัฐบาลคิดได้ไง ชาวบ้านดีดี แม่ค้าขายกล้วยทอดเป็นผู้ก่อการร้ายได้ไง เราต้องการความยุติธรรมคืนไม่น่าจะเป็นแบบนี้แค่ยุบสภาเขาก็ทำกันทั้งโลก หากคิดว่าหาเสียงเก่งก็หาวิธีการไปสิ ไม่เห็นต้องมาฆ่าเราเลย" สาวใหญ่เสื้อแดงคนเดิมระบุ


นางชวนพรเล่าต่อว่า ภายในวัดแทบจะไม่มีที่ให้เดินเพราะมีคนเข้าไปหลับนอนกันเรียงเป็นแถว ลูกก็เป็นห่วงโทรบอกให้ออกมาจากวัดซึ่งเขาไม่รู้ว่าเราออกไปไม่ได้ ถ้าออกมาตายแน่  ขนาดตอนเช้าที่ออกมาตำรวจต้องตั้งแถวเรียงกันเป็นแผงช่วยให้เราออกจากวัด เพราะข้างบนรางรถไฟยังมีทหารอีกเพียบ พร้อมกับชูภาพถ่ายจากกล้องดิจิตอลให้ดูรูปเจ้าหน้าที่ทหารยืนประจำการบนรางรถไฟ   


"วันนี้ไม่มีความยุติธรรมกับเราคนจนเลย คนจนอย่างเราใช่ว่าจะมาขออะไรมากมายขอแค่ให้ยุบสภา เลือกตั้งใหม่ คุณได้เป็นนายกฯไปเราไม่ว่าให้มันถูกต้องอะไรที่เข้าสู่กระบวนการยุติธรรมได้มันจะสงบ ทุกคนกลับบ้านด้วยความเจ็บใจ เพราะว่าญาติพี่น้องที่ร่วมรบกันเสียชีวิตไปต่อหน้าต่อตา ช่วยเหลืออะไรกันไม่ได้เลย การกลับบ้านครั้งนี้ถือว่าเสร็จแล้ว เรามาแสดงอุดมการณ์ของเราที่ไม่ชอบความไม่ยุติธรรมไม่ใช่ว่าเข้าข้างกัน ผิดก็คือผิด" นางชวนพร กล่าว 


นายอนุชา ยะอนันต์ อายุ  45 ปี นปช.ลำพูน ชายร่างใหญ่หนวดเฟิ้มเล่านาทีชีวิตเป็นตายเท่ากันขณะที่เข้าไปหลบซ่อนในวัดปทุมวนาราม ว่า "อยู่ในวัดไล่ยิงคนเหมือนหมา ออกไปนอกวัดก็ไม่ได้ มีทหารอยู่บนรางรถไฟเห็นๆกันอยู่ จะไม่เห็นได้ไงไล่ยิงกันรอบวัดเลย ลึกๆในใจใครทำอะไรก็รับไปให้รู้กันเองไม่เป็นไร"


นปช.ลำพูนกล่าวอีกว่า มองดูรัฐบาลตอนนี้ไม่เหมือนกับรัฐบาลทั่วโลก ขนาดเขาทำผิดนิดเดียวก็เริ่มรู้ตัวต้องออกไปแล้ว แต่ตอนนี้ประเทศเราไม่ใช่ประชาธิปไตย รัฐบาลถูกต่อต้านไปไหนไม่ได้ต้องมีทหารคอยคุ้มครองไปกันแต่ละครั้งขนตำรวจทหารไปล้อม 3-4 พันคน เข้าใจว่าความเกลียดชังคนเสื้อแดง ที่เกิดในใจหลายคน คิดว่าเกิดจากข้อมูลที่เขารับฟังข้างเดียว เราไม่ได้มองว่าเขาเป็นศัตรู แต่ถ้าวันหนึ่งเขาได้รับรู้ว่าความจริง คืออะไร เขาจะเสียใจมากยิ่งกว่าพวกเราเสียใจอีก รัฐบาลควรแสดงความจริงใจว่าส่วนใดที่เป็นจริงหรือไม่เป็นจริงต้องเอามาพูดกัน


"ความจริงของเรื่องนี้ คือ รัฐบาลเอาทหารออกมาแล้วปิดกั้นไม่ให้พวกที่เข้าไปชุมนุมได้ชุมนุมกันอย่างสันติวิธี พวกเราไม่มีอาวุธมีแต่ไม้เหลาแหลมแต่ทหารอาวุธครบมือ วันหนึ่งถ้าเป็นญาติของเขาบ้างจะรู้สึกอย่างไร รัฐบาลไม่น่าทำขนาดนี้ ผมอายชาวโลก ชาวโลกรับรู้ข่าวหมด แต่ช่องทีวีของไทยยังปิดหูปิดตา มีข่าวทางอินเตอร์เน็ตที่รายงานข่าวเราบ้าง ประเทศไทยยังมัวแต่ปิดกั้นอยู่อย่างนี้เราไปไม่รอดแน่"นายอนุชากล่าวทิ้งท้ายก่อนเดินไปขึ้นรถกลับลำพูน


ขณะที่ นางชฎาทาน ธันวาภักดี  ชาวจ.นนทบุรี อายุ 55 ปี อาชีพค้าขาย กำลังหอบหิ้วสัมภาระที่ขนกลับมาจากราชประสงค์เพื่อเดินทางกลับบ้าน กล่าวว่า เมื่อก่อนเคยสนับสนุนการปฏิวัติว่ามันดีแต่พอเห็นการยึดทำเนียบจึงได้รู้ว่ามันไม่ดีแล้ว เมื่อก่อนเราเหมือนกบในกะลาเมื่อมีคนมาเตะกะลาให้เราต้องออกมาเราต้องวิ่งออกมาจนได้เห็นความไม่ยุติธรรม ฉะนั้นเรายอมตายเพื่อความถูกต้องดังนั้นเราต้องช่วยกัน


"เขาใจร้ายมาก ฆ่าเราเหมือนหมูเหมือนหมา เหมือนเราไม่ใช่คน ยิงลงมาจากรางรถไฟฟ้ามีคนตาย 6 ศพ นอนอยู่ในวัดยังไม่ได้ฉีดยาให้ศพ น่า อนาถใจมาก ไม่คิดเลยว่าจะยิงเรา นัดเดียวคาที่หมด เห็นคนเชียงรายมากัน 8 ตาย 5 กระสุนเข้าหูซ้ายทะลุออกหูขวา"  นางชฎาทานบอกเล่าสิ่งที่ได้พบเจอ


นปช.นนทบุรี กล่าวต่อว่า "ตอนนี้เราต้องหยุดก่อนแต่เราไม่ถอย เราไม่ได้ทำอะไรเขาเลยเขามายิงเราทำไมเราแค่มาเรียกร้องประชาธิปไตยขอความเป็นธรรมมายิงเราทำไม พอใจยิงก็ยิง ก่อนหน้านี้เราไม่เคยแตะต้องอะไรเลย แต่ตอนนั้นระเบิดลงหน้าเวทีคุณฆ่าเราแล้ว พวกเราก็ระงับอารมณ์ทุกคนไม่ได้แล้ว พวกเราก็พากันหนีตายเข้าไปในวัดบ้าง หลบอยู่ใต้รางรถไฟฟ้าบ้าง เขาก็ยิงลงมาอย่างต่อเนื่องเก็บข้าวของกันแทบไม่ทัน เขายืนอยู่บนหัวเรา ตอนนั้นประมาณ 6 โมงเย็น พอเราออกมาตอนเช้ายังเห็นทหารยืนอยู่เต็มรางรถไฟฟ้า" 


"สิ่งที่พวกเราเจอยิ่งกว่าสงคราม เกิดมาไม่เคยเจอ ไม่คิดว่าประเทศเราจะเป็นขนาดนี้ ใจร้ายมากเขาเหยียบย่ำหัวใจเรามาก รอดตายมาทุกวันนี้เพราะตำรวจแท้ๆ และขอย้ำบอกกับพวกที่หาว่าเรามาแล้วได้เงินไม่จริงเลย มีแต่เสียเงินเองทุกบาททุกสตางค์ ไม่มีใครเอามาให้เลย เราสู้กันตั้งแต่พันธมิตรยึดทำเนียบจนกระทั่งวันนี้ที่พวกเราถูกไล่ยิง"  นางชฎาทานกล่าว
 


ทางด้านนายชัยวัฒน์ แสงเดช เจริญชัย อายุ 47 ปี ชาว จ.อุดรธานี ที่กำลังรอขึ้นรถกลับภูมิลำเนาหลังจากที่ลาสิกขาบทเพื่อมาร่วมชุมนุมบอกว่า ตอนนั้นได้ดูข่าวเห็นแล้วทนไม่ไหวจึงสึกออกมาเพราะเห็นความไม่ถูกต้อง ขอเงินพี่ชาย 4 พันบาท เข้ากรุงเทพฯตั้งแต่หัวโล้นจนตอนนี้ผมขึ้นขนาดนี้แล้ว(ชี้ไปที่ผม) มาร่วมชุมนุมเกือบ 2 เดือนเงินที่นำมาก็หมดแล้ว แต่ข้างในคนเสื้อแดงรักกันมากแบ่งบันกันกิน พวกเขาไม่มีอาวุธมีแต่หนังสติ๊ก ไม้ไผ่ กับบั้งไฟที่จุดไล่เฮลิคอปเตอร์ ส่วนพวกผู้หญิงน่าสงสารมากช่วงที่ทหารบุกยิงทั้งแก๊สน้ำตา ยิงปืนใส่


"พวกผู้หญิงที่อยู่ในพื้นที่ทนเห็นคนถูกยิงไม่ได้ไปช่วยกันเอาน้ำยาล้างส้วมเทใส่ถุงแล้วเอาไปเฟวี้ยง(ขว้าง)ทหารเห็นแล้วน้ำตาไหล ถ้าใครเข้าไปสัมผัสข้างไหนแล้วจะรู้ เมื่อกี้เดินออกมาตามถนนหนทางชาวบ้านร้องห่มร้องไห้มาตลอดทาง ตำรวจดีมากเลยที่เข้าไปช่วยพวกเราไม่งั้นทหารไม่ปล่อยออกมาแน่ ถ้าออกมาโดนยิงหมด" นายชัยวัฒน์ กล่าวย้ำสิ่งที่ผู้ชุมนุมคนอื่นบอกไว้ในเรื่องเดียวกัน


"ตอนทหารยิงผมอยู่ตรงศาลาแดง วิ่งหลบกระสุนทั้งวัน ทั้งคืน ทหารใช้ปืนสไนเปอร์ยิง โดนหัว โดนลำตัว ต่างคนต่างวิ่ง หมอบไปด้วยวิ่งไปเลาะตามเต็นท์ วิ่งโล่งๆไม่ได้ ตอนนั้นผมวิ่งไม่ถึงวัด จึงเข้าไปหลบในโรงพยาบาลตำรวจแทน พวกเรานอนเกลื่อนกับพื้นเต็มไปหมด ออกไปไหนก็ไม่ได้ คนในวัดก็ออกไม่ได้ ออกมาก็ถูกยิง ตรงศาลาแดง ดุเดือดมาก ไปซุ่มอยู่บนตึกยิงลงมา " นายชัยวัฒน์กล่าวถึงนาทีหนีตาย


นายชัยวัฒน์ เล่าถึงการเดินทางมาร่วมชุมนุมว่า มาคนเดียวได้แต่ดูเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นแต่ช่วยเหลืออะไรไม่ได้ เห็นแล้วน้ำตาไหลออกมาเองแบบไม่รู้สึกตัว พวกมวลชนไม่รู้เรื่องรู้ราว ทำไมต้องยิงเขาด้วย ผู้หญิง เด็ก ยิงหมด หากออกไปจากที่ชุมนุมเจอด่านทหารจะตรวจค้นมีอะไรแดงๆจะโดนหมดเลย เถื่อนมากเหมือนไม่ใช่ประเทศไทย มันจะไม่ใช่สยามเมืองยิ้มอีกต่อไปแล้ว


"คนเฒ่าคนแก่บางคนบอกว่า ตั้งแต่เกิดมาจนแก่ไม่เคยเห็นรัฐบาลไหนจะโหดขนาดนี้แม้แต่ตัวผมเอง" เสียงสะท้อนจากผู้ชุมนุมที่ตกใจกับเหตุการณ์ที่ไม่คิดว่าจะได้พบเจอ 
 

นางคำสอน  สมพงษ์ อายุ 57 ปี ชาวจ.หนองคาย นั่งรวมกลุ่มอยู่กับเพื่อน 3 คน รอเดินทางกลับบ้านที่สถานีขนส่งหมอชิต บอกเล่าเหตุการณ์ในวันที่ราชประสงค์มืดมิดพร้อมกับท่าทางที่ตื่นกลัว ว่า ลูกระเบิดลงมา พากันวิ่งเข้าวัดปทุมวนาราม เจ้าอาวาสดีมากให้พวกเราพักพิง


"ขณะที่นางพยายามกำลังปั้มหัวใจช่วยคนเจ็บอยู่ก็ถูกยิงเสียชีวิต การ์ดก็ตาย โหดมาก พวกเราไม่ได้กินข้าวกินน้ำกันเลยตี 5 ตั้งแต่ทหารเริ่มปฎิบัติิการ พวกเขามากล่าวหาว่าพวกเราเป็นผู้ก่อการร้าย เราไม่มีอะไรเลย มีแต่พัด แล้วมากล่าวหาว่าเราเป็นคอมมิวนิสต์ เป็นผู้ก่อการร้าย ถ้ามีปืนจริงคิดว่าจะเหลือหรือไงก็ยิงออกไปสิ บ้านเมืองไม่มีขื่อมีแป สั่งฆ่าใครฆ่าให้หมดจับใครได้ก็ฆ่าให้หมด" ยายคำสอนกล่าว


"กลัวก็กลัวแต่สู้ ช่วยๆกัน ระเบิดโยนมาไม่ถูกพวกเราก็ถูกคนอื่น ลูกปืนยิงมาไม่ถูกเราก็ถูกคนอื่น การ์ดผู้ชายรับปืนรับระเบิดแทนผู้หญิงหมด แต่ผู้หญิงตายเยอะหนีไม่ทันทั้งคนแก่และเด็ก แล้วยังยิงฝรั่งที่มาทำข่าวอยู่กินกับพวกเรา แล้วยังจะมาหาว่าเป็นพวกผู้ก่อการร้ายยิงอีก มันโหดร้ายแค่ไหนรัฐบาลนี้จะเอาเราไปประหารก็เชิญเพราะพูดความจริงเลย เพราะรัฐบาลทำได้ทุกอย่าง" ยายชาวหนองคายพูดอย่างไม่กลัวความผิดและภัยถึงตัว


"เราไม่ใช่คนมีความรู้แต่เป็นชาวนาเต็มตัวจะบอกว่า แม้แต่เด็กยังไม่ไว้ชีวิต คนแก่คลานไปร้องขอชีวิตยังโยนทิ้ง ไม่ตายก็โยนเข้ากองไฟ เอาศพไปทิ้งไม่ให้เห็นศพ" ยายคำสอนกล่าวย้ำอีกครั้งก่อนจะบอกว่าได้เข้าไปหลบอยู่ในวัดปทุมวนารามหลวงปู่ก็เทศนาให้ฟังแก๊สน้ำตาก็ยิงเข้ามาในวัดใจสั่นไปด้วยนั่งพนมมือไปด้วย ไม่ตายก็เหมือนตาย เราผ่านสนามรบมาแล้วไม่เห็นต้องกลัวอะไรอีกต่อไป


ขณะที่นายสุชาติ พรั่งพรหม นปช.จันทบุรี  กล่าวย้ำถึงภาพที่เห็นและเสียงที่ได้ยิน ว่า "เห็นทหารยิงประชาชนตอนนั้นพักอยู่ที่วัดปทุมวนารามเห็นศพอยู่ในวัด 6 ศพ บาดเจ็บอีกประมาณ 10 คน ยิงพยาบาล(อาสาสมัคร)ในวัดที่กำลังทำแผลให้กับคนเจ็บก่อนยิงยังด่าพยาบาลอีกว่าอีเสื้อแดงมึงเก่งนักหรอแล้วก็ยิงเลย  เป็นทหารแก่แล้วมีผมหงอก "


เสียงส่งท้ายของคนเสื้อแดงก่อนอำลาเมืองกรุง กลับบ้านพร้อมกับบาดแผลในใจ ความทรงจำครั้งหนึ่งในชีวิตบนเส้นทางการเรียกร้องประชาธิปไตยได้รับบทเรียนที่แสนล้ำค่าที่สุดในชีวิตของมวลชนคนธรรมดาที่ไม่คาดคิดว่าจะต้องมาตกอยู่ในสมรภูมิรบท่ามกลางสงคราม "คนไทยฆ่ากันเอง" จนแทบเอาชีวิตไม่รอด
 

http://www.matichon.co.th/news_detail.php?newsid=1274454415&grpid=01&catid=


หัวข้อ: Re: [2513]"ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: เหยง 16 ที่ 22 พฤษภาคม 2553, 16:31:24
ช่วยกันอ่านกระทู้ที่ผมโพสต์ข้างบนนั้นด้วยจิตใจที่เป็นธรรมครับ เกิดอะไรขึ้นในวัดปทุมวนาราม ตลอดวันที่ 19 และคืนนั้น

ศอฉ. บอกส่งทหารเข้าปิดทุกแยกที่เป็นหน้าด่านของ นปช. แต่รุกเข้าทางแยกศาลาแดงไปแยกสารสินเท่านั้น

แล้วมีใครไปบุกวัดปทุมวนาราม...ตามคำบอกเล่า

อย่าเอาแต่โพสต์ด้วยความสะใจ หรือแต่งภาพกันด้วยความสนุกครับ

ผมกลัวเขาฝังใจและพร้อมจะกลับมาด้วยความเครียดแค้น-ชิงชัง



อ่านเรื่องนี้ประกอบครับ พวกเราไม่เคยเห็นภาพนี้ครับ

วันที่ 22 พฤษภาคม พ.ศ. 2553 เวลา 12:48:28 น.  มติชนออนไลน์
แฉภาพชายแต่งตัวคล้ายทหารกลุ่มหนึ่ง ถืออาวุธปฏิบัติการอยู่ในรางรถไฟฟ้าบีทีเอส

 
(http://www.cmadong.com/imageupload/2010_Cmadong-Image/data/image/l2te9s-862c12.jpg)

เว็บไซต์แห่งหนึ่งบนอินเตอร์เน็ต เปิดเผยภาพกลุ่มชายแต่งตัวคล้ายทหารถืออาวุธปืนยาวอยู่บนรางรถไฟฟ้าบีทีเอส บนพื้นที่การชุมนุมสวมหมวกสีดำ มีป้ายสีแดงติดด้านหลัง
http://www.matichon.co.th/news_detail.php?newsid=1274507337&grpid=01&catid=no


หัวข้อ: Re: [2513]"ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: เหยง 16 ที่ 22 พฤษภาคม 2553, 17:05:10
หงายไพ่เล่นในสภาแล้ว

มติเพื่อไทยยื่นซักฟอกมาร์คพ่วง4รมต.
ประเด็น:เกาะติดฝ่าวิกฤตกลียุคประเทศไทย , 22 พฤษภาคม 2553 เวลา 16:14 น.

เพื่อไทนมีมติยื่นอภิปราย "มาร์ค" พ่วง 4 รมต. 24พ.ค.นี้ บอกแน่จริงต้องรับญัตติ "เฉลิม" ชี้ไม่มีรัฐบาลไหนอยู่ได้ประชาชนตายขนาดนี้โยนมือที่สามเผาเซ็นทรัลเวิล์ด

ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง ประธานสส.พรรคเพื่อไทยแถลงข่าวภายหลังการประชุมพรรคว่า ที่ประชุมพรรคมีมติให้ยื่นญัตติอภิปรายไม่ไว้วางใจนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรีกับพวกอีก 4 คนประกอบ ด้วยนายกรณ์  จาติกวณิช รมว.คลัง นายกษิต  ภิรมย์ รมว.ต่างประเทศ  นายชวรัตน์  ชาญวีรกูล รมว.มหาดไทย  และนายโสภณ  ซารัมย์ รมว.คมนาคม

ทั้งนี้ ในวันจันทร์ที่ 24 พ.ค.ประธานวิปฝ่ายค้านจะยื่นถอดถอนต่อประธานวุฒิสภา ช่วงบ่ายจะยื่นญัตติต่อประธานสภาผู้แทนราษฎร เดิมที่เหตุที่เราไม่ยื่นคือ รัฐบาลเลวร้ายเกินกว่าที่เราจะตรวจสอบ เป็นรัฐบาลประชาธิปไตยชุดแรกที่มีวิญญาณยิ่งกว่าเผด็จการ นายอภิสิทธิ์ถือเป็นจอมพลอภิสิทธิ์ ส่วนนายปณิธาน วัฒนายากร โฆษกรัฐบาล ถือเป็น พล.อ.ปณิธาน สมัยรัฐบาลสุจินดาใช้น้ำฉีดม็อบก็ถูกกล่าวหาเป็นเผด็จการ ดังนั้น ถ้าจะเรียกนายอภิสทธิ์ก็คือ จอมพลคนสุดท้อง ถัดจากจอมพลประภาส

"พรรคมีมติเอกฉันท์ให้อภิปราย ทั้งที่เราไม่อยากแตะต้องรัฐบาลนี้เพราะเลวทราม แต่เมื่อประชาชนตายเป็นจำนวนมากเฉลี่ย 100 คน บาดเจ็บ 2พันคนตรงนี้ไม่เคยมีรัฐบาลประชาธิปไตยที่ไหนทำอย่างนี้"ร.ต.อ.เฉลิมกล่าว

ร.ต.อ.เฉลิม กล่าวว่า ปัญหาที่เกิดขึ้นมาจากผู้ชุมนุมกับนายอภิสิทธิ์เท่านั้น คุณสร้างเรื่องสร้างสถานการณ์จนเอาประเทศชาติ หน่วยงานภาครัฐ มาทะเลาะกับประชาชนแล้วมาบอกว่าการชุมนุมก่อให้เกิด  ขอเตือนสติเมื่อครั้งพรรคประชาธิปัตย์เป็นฝ่ายค้านเปิดสมัยวิสามัญ ตอนนั้นพวกตนเป็นรัฐบาล ฝ่ายค้านจะขอยื่นญัตติ เราก็ยินดียินยอม บรรจุระเบียบวาระให้อภิปราย ตนก็ถูกอภิปราย ดังนั้น อย่าแกล้งโง่ เซ่อ อย่าดราม่ามาก กับญัตติอภิปราย อย่ามาพูดว่าครั้งที่แล้วไม่อภิปราย อย่ามาพูด ภ้านายอภิสิทธิ์ยังมีความเป็นคน เป็นมนุษย์ ความเป็นนักการเมืองคุณหมดแล้ว คุณต้องร้องขอประธานรัฐสภาให้บรรจุญัตติ  แน่จริงต้องรับญัตติ อย่ามาพูดนะว่าปิดสภาแล้ว วันนี้พวกคุณหมดเวลาแล้ว

"เผาเซ็นทรัลเวิล์ดเป็นการสร้างสถานการณ์ มือที่สาม ตอนเขาประกาศสลาย ระเบิดลง ตูมตูมตูม ถ้าเขาจะเผาจริงต้อง เผาโรงแรมคอนติเนลตันเพราะ ลูกเขยโรงแรม เป็นสมาชิกพรรคประชาธิปัตย์ อย่าง หลุยวิดตองราคาแพง อยู่ติดที่ชุมนุมไม่มีใครทุบเลย  ส่วนมุขงมน้ำแล้วเจอเป็นปืน เป็นลิเกบทเก่า ตั้งแต่ปี 2516 เขาใช้มุขนี้กัน อย่างการขึ้นไปยิงบนอาคารสถานที่ ไม่มีทางที่ตาสีตาสาจะขึ้่นไปยิงได้ ถ้าอยากรู้ว่า ยิงแล้วหนีอย่างไร ผมจะบอกให้ในการอภิปราย" ร.ต.อ.เฉลิม กล่าว

ทั้งนี้ ร.ต.อ.เฉลิม กล่าวด้วยว่า การยื่นญัตติครั้งนี้ พรรคจะเสนอให้ตนเป็นนายกฯแนบญัตติ


http://www.posttoday.com/ข่าว/การเมือง/29659/มติเพื่อไทยยื่นซักฟอกมาร์คพ่วง4รมต


หัวข้อ: Re: [2513]"ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: อ้อย 14 ที่ 22 พฤษภาคม 2553, 18:18:01
ขอต่อ เลยว่า  อ๊วก... emo25:(((


หัวข้อ: Re: [2513]"ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: mek ที่ 22 พฤษภาคม 2553, 20:11:10
อ้างถึง
ข้อความของ เหยง 16 เมื่อ 22 พฤษภาคม 2553, 16:31:24
ช่วยกันอ่านกระทู้ที่ผมโพสต์ข้างบนนั้นด้วยจิตใจที่เป็นธรรมครับ เกิดอะไรขึ้นในวัดปทุมวนาราม ตลอดวันที่ 19 และคืนนั้น

ศอฉ. บอกส่งทหารเข้าปิดทุกแยกที่เป็นหน้าด่านของ นปช. แต่รุกเข้าทางแยกศาลาแดงไปแยกสารสินเท่านั้น

แล้วมีใครไปบุกวัดปทุมวนาราม...ตามคำบอกเล่า

อย่าเอาแต่โพสต์ด้วยความสะใจ หรือแต่งภาพกันด้วยความสนุกครับ

ผมกลัวเขาฝังใจและพร้อมจะกลับมาด้วยความเครียดแค้น-ชิงชัง



อ่านเรื่องนี้ประกอบครับ พวกเราไม่เคยเห็นภาพนี้ครับ

วันที่ 22 พฤษภาคม พ.ศ. 2553 เวลา 12:48:28 น.  มติชนออนไลน์
แฉภาพชายแต่งตัวคล้ายทหารกลุ่มหนึ่ง ถืออาวุธปฏิบัติการอยู่ในรางรถไฟฟ้าบีทีเอส

 
(http://www.cmadong.com/imageupload/2010_Cmadong-Image/data/image/l2te9s-862c12.jpg)

เว็บไซต์แห่งหนึ่งบนอินเตอร์เน็ต เปิดเผยภาพกลุ่มชายแต่งตัวคล้ายทหารถืออาวุธปืนยาวอยู่บนรางรถไฟฟ้าบีทีเอส บนพื้นที่การชุมนุมสวมหมวกสีดำ มีป้ายสีแดงติดด้านหลัง
http://www.matichon.co.th/news_detail.php?newsid=1274507337&grpid=01&catid=no

ดูรูปแล้วผมคิดว่าน่าจะเป็นรางแถวโรงพยาบาลจุฬานะครับ เพราะพื้นด้านบนน่าจะเป็นพื้นบริเวณลานพระรูป และบังเกอร์สูง ๆ พอกับรางรถไฟฟ้าด้านล่าง ทำให้คิดว่าน่าจะเป็นแถวนั้น  คิดว่าน่าจะเป็นไปได้ที่ทหารต้องลุยบนรางรถไฟฟ้าด้วย เพราะถ้ามีพวกก่อการร้ายอยู่บนราง แล้วยิงใส่ทหารข้างล่างหรือโยนระเบิดใส่นี่คงลำบากแน่ ๆ ส่วนที่ ศอฉ. ไม่พูดถึงเพราะอาจทำให้รถไฟฟ้ากลายเป็นเป้าทำลายอีกแล้วมัุนจะไปกันใหญ่


หัวข้อ: Re: [2513]"ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: prapasri AH ที่ 22 พฤษภาคม 2553, 20:56:07
ทั้งนี้ ร.ต.อ.เฉลิม กล่าวด้วยว่า การยื่นญัตติครั้งนี้ พรรคจะเสนอให้ตนเป็นนายกฯแนบญัตติ  

อ๊วกๆๆๆๆ เหมือนกันโว๊ยยย

แหม๋ คงมันพิลึกกึกกือ  มันพะยะค่ะ
หากไอ้เหลิม เป็นนายก
พี่แอ๊ะจะลาออกจากเป็นพลเมืองประเทศไทย ค่ะ


หัวข้อ: Re: [2513]"ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: swsm ที่ 22 พฤษภาคม 2553, 20:57:22
อ้างถึง
ข้อความของ prapasri AH เมื่อ 22 พฤษภาคม 2553, 20:56:07
ทั้งนี้ ร.ต.อ.เฉลิม กล่าวด้วยว่า การยื่นญัตติครั้งนี้ พรรคจะเสนอให้ตนเป็นนายกฯแนบญัตติ  

อ๊วกๆๆๆๆ เหมือนกันโว๊ยยย

แหม๋ คงมันพิลึกกึกกือ  มันพะยะค่ะ
หากไอ้เหลิม เป็นนายก
พี่แอ๊ะจะลาออกจากเป็นพลเมืองประเทศไทย ค่ะ


 emo20:)):)    emo20:)):)


หัวข้อ: Re: [2513]"ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: prapasri AH ที่ 22 พฤษภาคม 2553, 21:25:21
วันก่อน โน้น มีคนที่เป็นญาติกะไอ้เหลิม เขาบอกว่าเขาไปหาทั๊ก กะไอ้เหลิม

ตอนนั้นเขา คิดว่าเสื้อเเดงจะชนะ เเน่ และยุบสภาเลือกตั้งแน่

เขาบอกว่าตอนนี้ ทั้กกี้ เตรียมไว้แล้วว่าจะให้ใครลงสส.เขตไหน

ถ้าเป็นพี่แอ๊ะลง สส. เขต ที่ ยโส

ทั๊ก คง โอเค

พี่แอ๊ะคิดในใจ กูไม่บ้า กะมึงหรอก

 อ๊วกกกกกกกกกกกกกกๆๆๆๆ

ให้100 -1000 ล้านยังไม่เอาเล้ยยยยยยยย

แต่เขาบอกว่า ใครลงเพื่อไทย ต้องจ่ายตังนะ

จ่ายให้ทั๊ก ด้วยนะ 5555555


หัวข้อ: Re: [2513]"ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: เหยง 16 ที่ 23 พฤษภาคม 2553, 14:55:39
ทางออกของประเทศไทยในยามนี้ครับ

ใครก็ได้ช่วยเปิดประตูให้หน่อย, ใคร..?? เอากุญแจมาล๊อคไว้หลายตัวจัง

ภาพจาก Ed's gallery หน้า 6 เนชั่น สุดสัปดาห์ ปก มิคสัญญีกลียุค

(http://www.cmadong.com/imageupload/2010_Cmadong-Image/data/image/l2v4dv-ec4f66.jpg)





หัวข้อ: Re: [2513]"ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: เหยง 16 ที่ 23 พฤษภาคม 2553, 16:21:21
วันที่ 23 พฤษภาคม พ.ศ. 2553 เวลา 12:40:37 น.  มติชนออนไลน์
เคาะแล้วประกาศเคอร์ฟิวเพิ่มอีกสองวันระหว่าง 23-24 พ.ค. ช่วงเวลา 5 ทุ่ม-ตี 4 ย้ายศอฉ.จากราบ 11 ไปกองทัพบก

ที่กรมทหารราบที่ 11 รักษาพระองค์  เมื่อเวลา 11.30 น. พ.อ.สรรเสริญ แก้วกำเนิด โฆษกศูนย์อำนวยการแก้ไขสถานการณ์ฉุกเฉิน (ศอฉ.) แถลงผลการประชุมศอฉ. ที่มีนายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรี ในฐานะผอ.ศอฉ. นั่งเป็นประธาน ว่าเรื่องการห้ามออกเคหะสถานยามวิกาล จำเป็นที่ต้องขอต่อระยะเวลาการประกาศห้ามออกนอกเคหะสถานต่ออีก 2 วัน ในวันที่ 23 – 24 พฤษภาคม เวลา 23.00 น. ถึง 04.00 น. โดยรวมถึงพื้นที่ที่ประกาศใช้พ.ร.ก.ฉุกเฉิน ทุกจังหวัด ทั้งนี้หลังจากนั้นจะมีการประเมินสถานการณ์เป็นช่วงๆ เพื่อดูว่ามีความเหมาะสมที่จะยกเลิกหรือขอต่ออีกกี่วัน

พ.อ.สรรเสริญ กล่าวต่อว่า ส่วนการดูแลความปลอดภัยให้กับประชาชนศอฉ.ได้จัดการใน 3 ลักษณะ ดังนี้ 1.จัดกำลังสารวัตทหารทุกเหล่าทัพ ปฏิบัติภาระกิจร่วมกับเจ้าหน้าที่ตำรวจและเทศกิจ รับผิดชอบพื้นที่โดยรอบแยกราชประสงค์ โดยจะตั้งจุดตรวจ 5 จุด ประกอบด้วย แยกราชประสงค์ แยกประตูน้ำ แยกศาลาแดง แยกเพลินจิต แยกประทุกวัน โดยเริ่มตั้งแต่เวลา 08.00 น. ของวันที่ 23 พฤษภาคม 2.จัดกำลังสายตรวจสารวัตรทหาร เป็นสายตรวจรถยนต์ โดยจะตรวจพื้นที่ต่างๆทั่วกทม.ทุกเส้นทาง โดยเริ่มตั้งแต่เวลา 08.00 น. ของวันที่ 23 พฤษภาคม 3.จัดตั้งด่านตรวจพื้นที่ชั้นนอกกทม.ชั้นนอกและปริมณฑทล จำนวน 17 ด่าน ส่วนกทม.ชั้นในมีการตั้งด่านตรวจทั้งหมด 16 ด่าน นอกจากนี้กำลังจากกองทัพบก กองทัพเรือ กองทัพอากาศ จะปรับกำลังออกไปควบคุม 50 เขต ของกทม. โดยจะแบ่งความรับผิดชอบเป็น 7 โซน พร้อมจัดกำลังรักษาความปลอดภัยสถานที่สำคัญ ซึ่งมีข้อมูลข่าวสารว่าต้องดูแลเป็นพิเศษเพิ่มเติมอีก 17 แห่ง เช่น โรงพยาบาลศิริราช ทำเนียบรัฐบาล อาคารรัฐสภา และสถานที่ราชการสำคัญๆ เป็นต้น

พ.อ.สรรเสริญ กล่าวต่อว่า นอกจากนี้ศอฉ.ได้ประกาศยกเลิกห้ามใช้เส้นทางบริเวณแยกราชประสงค์ ซึ่งกรุงเทพมหานครได้เข้าไปฟื้นฟูพื้นที่ อาทิ ระบบสัญญาณไฟจราจร ความสะอาด หากทุกอย่างเป็นไปตามแผนงาน คาดหมายว่าสามารถประกาศให้ประชาชนสัญจรในพื้นที่แยกราชประสงค์และบริเวณใกล้เคียงที่สั่งห้ามได้ภายในเวลา 05.00 น. วันที่ 24 พฤษภาคม

ทั้งนี้ในวันที่ 24 พฤษภาคม ศอฉ.จะย้ายที่กองบังคับการจากที่ร.11 รอ. ไปที่ กองบัญชาการกองทัพบก  ถ.ราชดำเนินซึ่งจะมีการประชุมกันวันละ 2 ครั้งตามปกติ ส่วนการยุติการปฏิบัติงานของศอฉ.หากรัฐบาลประเมินว่าหากมีความปลอดภัยเพียงพอก็จะพิจารณา อย่างไรก็ตามขณะนี้ยังไม่มีการพูดถึงประเด็นดังกล่าว

ผู้สื่อข่าวถามว่า กลุ่มผู้ชุมนุมจะมีการรวมตัวกันอีกครั้งในวันที่ 24 มิถุนายน พ.อ.สรรเสริญ กล่าวว่า ตนคิดว่าทุกฝ่ายคงเตรียมการ เพราะเราอยากให้บ้านเมืองสงบ แต่คิดว่าคนทั่วไปเขาเบื่อแล้ว

นายกฯ รอศอฉ. แถลงชัดประกาศเคอร์ฟิว

ก่อนหน้านี้  เมื่อเวลา 09.30 น.  วันที่ 23 พ.ค. นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมตรี  กล่าวผ่านรายการเชื่อมั่นประเทศไทยกับนายกรัฐมนตรี  โดยเป็นการพูดคุยทำความเข้าใจหลังเหตุการณ์ความวุ่นวายต่างๆ  ที่เกิดขึ้นมากมายตลอดช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา โดยระบุถึงการประกาศเคอร์ฟิว ในเขตพื้นที่กรุงเทพมหานตร และ อีก 29 จังหวัดทั่วประเทศ ที่มีมาตั้งแต่วันที่ 19 พ.ค. ที่ผ่านมาว่า จะยังคงมีการประกาศเคอร์ฟิวเพิ่มไปอีกสองวัน คือ วันที่ 23-24 พ.ค. นี้  โดย ศอฉ. กำลังประชุมเพื่อขยับเวลาในการกำหนดช่วงเวลาเพื่อให้กระบต่อความไม่สะดวกของพี่น้องประชาชนที่ได้รับผลกระทบและประกอบอาชีพด้วยความสุจริต ซึ่งอาจจะเป็นในช่วงเวลา เริ่มตั้งแต่ 4 ทุ่ม หรือ 5 ทุ่ม ไปสิ้นสุด ในเวลา ตี 4  หรือตี 5 ซึ่งตรงนี้ต้องรอ ศอฉ. แถลงความชัดเจนอีกครั้งในช่วงบ่ายวันนี้อีกครั้ง และต้องดุต่อไปว่า จะมีการประกาศเพิ่มอีกหรือไม่


http://www.matichon.co.th/news_detail.php?newsid=1274582823&grpid=00&catid=


หัวข้อ: Re: [2513]"ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: suriya2513 ที่ 23 พฤษภาคม 2553, 17:37:14
from twitter
(http://www.pantown.com/data/2216/board8/74-20100523173336.jpg)
(http://www.pantown.com/data/2216/board8/74-20100523173424.jpg)
...
อ่านจากล่างขึ้นบนตามลำดับหัวข้อ
คุณแคน สาริกา ทำให้ท้อได้ใจจริงๆ
คุณนายแอ๊ะ ไหวไหมครับ


หัวข้อ: Re: [2513]"ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: ดร.มนตรี ที่ 23 พฤษภาคม 2553, 20:57:20
อ้างถึง
ข้อความของ เหยง 16 เมื่อ 23 พฤษภาคม 2553, 14:55:39
ทางออกของประเทศไทยในยามนี้ครับ

ใครก็ได้ช่วยเปิดประตูให้หน่อย, ใคร..?? เอากุญแจมาล๊อคไว้หลายตัวจัง

ภาพจาก Ed's gallery หน้า 6 เนชั่น สุดสัปดาห์ ปก มิคสัญญีกลียุค

(http://www.cmadong.com/imageupload/2010_Cmadong-Image/data/image/l2v4dv-ec4f66.jpg)





เมื่อวานทานข้าวกับน้องชาย ...


คำหนึ่ง ที่คุยกันคือการ >> สลายเงื่อนไข "ไพร่-อำมาตย์"


ปรับแนวทาง จาก "การเมือง การปกครอง"  เป็น ...   "การบริหาร การพัฒนา"



ตัวอย่างง่าย ๆ ใช้แล้วได้ผล ?


เสิร์ฟน้ำให้กับประชาชนที่มาติดต่อราชการ .... เพิ่ม Value มี Option ให้เลือก >> น้ำเย็นธรรมดา น้ำเก็กฮวย น้ำแดง ...


น้องบอกว่า แค่น้ำ ไม่ว่าจะเป็นน้ำเย็นธรรมดาๆ หรือน้ำหวาน >>>  จะช่วยเติมเต็มช่องว่างระหว่าง ประชาชน กับ หน่วยงานของรัฐ ...



เพราะมันคือน้ำใจ ที่ช่วยสร้างมิตรภาพ ... คนไทยด้วยกันแค่มีน้ำใจให้กัน ... ปัญหาทุกปัญหา แก้ได้  ^__^


(http://img683.imageshack.us/img683/7663/jeab.jpg)


หัวข้อ: Re: [2513]"ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: ดร.มนตรี ที่ 23 พฤษภาคม 2553, 21:14:53
เคยโพสไว้ก่อนเกิดกลียุค เผาเมือง ,,,  แค่ขาดสติ ก็สร้างความเสียหายให้กับประเทศได้มหาศาล  


อ้างถึง
ข้อความของ ดร.มนตรี เมื่อ 21 เมษายน 2553, 10:24:13
บ้านเมืองคงใกล้ กลียุคแล้ว ... ถ้าพวกเราคนไทยยังไร้สติ


... ถึงตอนนั้นก็คงต้องเตรียมป้องกันตัวเองกันแล้ว ...  ^_^


หัวข้อ: Re: [2513]"ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: เหยง 16 ที่ 23 พฤษภาคม 2553, 22:01:47
วันที่ 23 พฤษภาคม พ.ศ. 2553 เวลา 21:30:15 น.  มติชนออนไลน์
แกะรอยไฮโซสีแดงรุ่นตัวแม่ "เจ๊ดา-ดารณี กฤตบุญญาลัย"เธอหายไปไหน? หลัง นปช.สลายการชุมนุม


ในการเดินทางเข้ามอบตัวของแกนนำแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) ได้แก่ นายวีระ มุสิกพงศ์ นพ.เหวง โตจิกาการ นายก่อแก้ว พิกุลทอง เมื่อวันที่ 21 พฤษภาคมที่ผ่านมา ไม่ปรากฏว่ามีนางดารณี กฤตบุญญาลัย หรือ เจ๊ดา ไฮโซชื่อดัง"ตัวแม่"รวมอยู่ด้วย

"เจ๊ดา"ตัดสินใจเข้าร่วมเคลื่อนไหวทางการเมืองกับคนเสื้อแดงมาตั้งแต่ปีที่แล้ว กระทั่งถูกศาลออกหมายจับฐานฝ่าฝืนประกาศตาม พ.ร.ก.การบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉินพร้อมพรรคพวก 17 คน เมื่อวันที่ 8 เมษายน 2553 

ล่าสุดยังถูกศูนย์อำนวยการแก้ไขสถานการณ์ฉุกเฉิน (ศอฉ.) ห้ามทำธุรกรรมทางการเงินพร้อมบุคคลและนิติบุคคลอื่น รวม 106 ราย ( คำสั่งที่ 49/2553) เมื่อวันที่ 16 พฤษภาคมที่ผ่านมา

ขณะเดียวกันก็ไม่ปรากฎเจ้าหน้าที่ตำรวจจัดชุดไล่ล่าเหมือนราย พี่กีร์-อริสมันต์ พงศ์เรืองรอง  หรือ แรมโบ้อีสาน สุภรณ์ อัตถาวงศ์ แต่อย่างใด

 คำถามกันแซดว่า ไฮโซรุ่นป้า หายไปไหน?   

 "เจ๊ดา"มีชื่อเสียงจากซีรีส์โทรทัศน์ ไฮโซบ้านนอก  ยังมีผลงานจัดรายการวิทยุ รับเชิญแสดงละครโทรทัศน์ โฆษณา และภาพยนตร์  กระทั่งเป็นสุดยอดแฟนพันธุ์แท้เครื่องเพชร

 ชีวิตครอบครัวสมรสกับนายประกิจ กฤตบุญญาลัย มีลูก 3 คน คือ  น.ส.วิรุฬกานต์ (น้ำฝน) น.ส.ธารนที (น้ำพุ) และ นายไอยคุปย์ (น้ำนิ่ง) ต่างคนต่างทำธุรกิจของตนเอง   

นางดารณีและสามีทำธุรกิจขายเครื่องปรับอากาศ ในนาม หจก. พี.แอนด์.พี.เอ็นจิเนียริ่ง ก่อตั้งวันที่ 5 เมษายน 2516 ทุนจดทะเบียน 1 ล้านบาท และบริษัท สยาม เอ.อาร์.ไอ. จำกัด  ก่อตั้งวันที่ 13 มกราคม 2526 ทุนจดทะเบียน  35 ล้านบาท

 กิจการขนส่งชื่อ บริษัท ไทย แอร์-คอน พาร์ทส์ จำกัด เมื่อวันที่  28 กรกฎาคม 2536  ทุนจดทะเบียน  10 ล้านบาท  เลิกกิจการในปี 2544

 กิจการขายอาหารร่วมกับ พล.ท.เจริญศักดิ์ เที่ยงธรรม ในชื่อ บริษัท ซุปเปอร์แฝด จำกัด  ก่อตั้งวันที่  23 พฤศจิกายน 2544 ทุนจดทะเบียน  6 แสนบาท เลิกกิจการปีใน 2547

ปัจจุบันมีแห่งเดียวที่เปิดดำเนินการ คือ บริษัท ซีเนเตอร์ (ประเทศไทย) จำกัด ขายเครื่องปรับอากาศ ก่อตั้งวันที่  9 พฤษภาคม 2522  ทุนจดทะเบียน 1 ล้านบาท ข้อมูลตามที่ส่งงบการเงินต่อกรมพัฒนาธุรกิจการค้า ปี 2547 ระบุว่ามีรายได้ 24.1 ล้านบาท กำไรสุทธิ 7 แสนบาทเศษ  สินทรัพย์ 38.1 ล้านบาท  หลังจากนั้นไม่ปรากฏข้อมูลแต่อย่างใด

ขณะที่นายไอยคุปต์ กฤตบุญญาลัย บุตรชาย เปิดร้านขายโทรศัพท์มือถือร่วมกับนายพานทองแท้ ชินวัตร  ในชื่อ บริษัท มาสเตอร์โฟน จำกัด ก่อตั้งวันที่  9 ธันวาคม 2546  ทุนจดทะเบียน  5 ล้านบาท   และ  บริษัท ฮาวคัม เอวี จำกัด ก่อตั้งวันที่  4 ตุลาคม 2547  ทุนจดทะเบียน  5 ล้านบาท  (เลิกกิจการในปี 2550)   

และเพิ่งก่อตั้งบริษัท สวีท แอนด์ เซเวอรี่ จำกัด ขายอาหาร เมื่อวันที่    22 เมษายน 2552  ทุนจดทะเบียน 1 ล้านบาท

ส่วนนางสาวธารนที เป็นเจ้าของกิจการอาหารชื่อ  บริษัท สวีทพาย จำกัด ก่อตั้งวันที่ 30 เมษายน 2550 ทุนจดทะเบียน 2 ล้านบาท อยู่ในอาคารเพรสิเดนท์ ถนนสุขุมวิท

 เมื่อปีที่แล้ว"เจ๊ดา"ตกเป็นข่าว กรณีถูกศาลล้มลายกลางตัดสินให้ล้มละลายเมื่อวันที่ 24 ตุลาคม 2549 

 คดีดังกล่าวเกิดขึ้นเมื่อ บริษัท เงินทุนบุคคลัภย์ จำกัด (มหาชน) เจ้าหนี้เป็นโจทก์ยื่นฟ้องต่อศาลล้มละลายกลางขอให้ลูกหนี้ล้มละลายและศาลได้มีคำสั่งลงวัน ที่ 14 กันยายน 2548 ให้พิทักษ์ทรัพย์ของ ห้างหุ้นส่วนสามัญนิติบุคคล พี.แอนด์.พี.เอ็นจิเนียริ่ง ที่ 1 นายประกิจ กฤตบุญญาลัย ที่ 2 นางดารุณี กฤตบุญญาลัยที่ 3 บริษัท สยาม เอ.อาร์.ไอ. จำกัด ที่ 4 นางสาววิรุฬกานต์ กฤตบุญญาลัย ที่ 5 นางสาวธารนที กฤตบุญญาลัย ที่ 6 ตาม พ.ร.บ.ล้มละลาย พุทธศักราช 2483

 ต่อมาถูกปลดจากลูกหนี้ล้มละละลาย ตามประกาศเจ้าพนักงานพิทักษ์นับแต่วันที่ 25 ตุลาคม 2552 แต่เพิ่งลงประกาศในราชกิจจานุเบกษาเมื่อวันที่ 19 ม.ค.2553

ขณะที่ บริษัท สยาม เอ.อาร์.ไอ. จำกัด ถูกศาลล้มละลายกลางติดสินให้ล้มละลายเช่นเดียวกัน เมื่อวันที่ 21 กุมภาพันธ์ 2550 

 มีข้อมูลระบุว่า ช่วงค่ำวันที่ 17  พฤษภาคม  2553 "เจ๊ดา"ขึ้นเวทีปราศรัยที่ราชประสงค์ ตอบโต้ "พี่ออฟ-พงษ์พัฒน์ วชิรบรรจง"กรณี "คนไม่รักในหลวงให้ออกจากบ้าน"ว่า การชุมนุมของกลุ่มคนเสื้อแดงชุมนุมอย่างสันติ อหิงสา

และยังบอกอีกว่าเธอเคยเป็นดารามาก่อนมักจะได้ยินดาราด่าเสื้อแดงแล้วนำไปเผยแพร่ต่อในอินเทอร์เน็ตเป็นประจำ

 กลางดึกวันที่ 18 พฤษภาคม ถึงเช้ามืดวันที่ 19 พฤษภาคม ไม่มีใครเห็นเงาเธออยู่นั่นพร้อมกับ วีระ มุสิกพงศ์ หมอเหวง และ จรัล ดิษฐาอภิชัย

ครั้นแดงสลาย วีระ มุสิกพงศ์ หมอเหวง เข้ามอบตัว แต่เธอก็ไม่ได้ไปด้วย

แวดวงเสื้อแดงและไม่แดงเลยถามกันให้แซดว่า เธอหายตัวไปไหน?   
...........[/color]
http://www.matichon.co.th/news_detail.php?newsid=1274613586&grpid=00&catid=no


หัวข้อ: Re: [2513]"ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: prapasri AH ที่ 24 พฤษภาคม 2553, 07:44:46
อยากให้เจ๊ดา เข้าไปนอนบนเตียงนอน อย่างผู้ถูกคุมขังบ้าง

เธอจะใส่ชุดสีไร นะ

แต่กางเกงในคงจะ สีเเลงงงงงงงงงงงงงง


หัวข้อ: Re: [2513]"ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: prapasri AH ที่ 24 พฤษภาคม 2553, 07:54:26
ป๋องงงงงง  

ใช่ค่ะ

นอกจากคนอิสาน ในอิสานแล้ว แม้แต่แม่บ้านแอ๊ะในบ้านกรุงเทพ เธอเป็นคนนครพนม

เธอก็เป็นแดง ปลุกระดม กันทางโทรศัพท์กับพี่น้องอิสานด้วยกันที่อยู่กรุงเทพ

พอไฟไหม้เซ็นทรัลเวิร์ล ลูกชาย หมอ "ฉายป๋อง" บอกว่า

เธอกระโดษเต้นเลย

สำหรับแอ๊ะอยู่ทางนี้ต้องตัวลีบค่ะ

ขนาดออกไปงาน เเอ๊ะ ต้องนั่งเงียบๆ เพราะเเวดล้อมดัวยแดง

อยาก บอก ว่า ต้อง เรียนรู้ที่จะมีชีวิตอยู่ ค่ะ


อ้างถึง
ข้อความของ suriya2513 เมื่อ 23 พฤษภาคม 2553, 17:37:14
from twitter
(http://www.pantown.com/data/2216/board8/74-20100523173336.jpg)
(http://www.pantown.com/data/2216/board8/74-20100523173424.jpg)
...
อ่านจากล่างขึ้นบนตามลำดับหัวข้อ
คุณแคน สาริกา ทำให้ท้อได้ใจจริงๆ
คุณนายแอ๊ะ ไหวไหมครับ



หัวข้อ: Re: [2513]"ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: เหยง 16 ที่ 24 พฤษภาคม 2553, 08:19:44
ช่วยกันหาคำตอบ เกี่ยวกับ 7 นายพลดัง ที่อาจเกี่ยวข้องกับเหตุการการต่อสู้ของโม่งชุดดำ

เจ็ดนายพลที่เกี่ยวข้องกับการชุมนุมของเสื้อแดง เกี่ยวข้องอย่างไร วาน เสธฯไก่อูช่วยตอบที
24 พฤษภาคม 2553 00:53 น.


       ด้วยอานุภาพแห่งองค์พระสยามเทวาธิราช และพระเดชะบารมีแห่งองค์พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ปกปักรักษากรุงเทพมหานคร ให้พ้นจากความพินาศฉิบหาย จากน้ำมือของคนใจทราม ชั่วช้า
      
       ความพินาศฉิบหายอันเกิดจากการวางเพลิง เผาบ้านเผาเมือง ของกลุ่มโจรก่อการร้าย ที่แฝงตัวอยู่กับการชุมนุมของคนเสื้อแดง ทันที่ที่แกนนำ นปช. ประกาศมอบตัว ยุติการชุมนุม อันเป็นการส่งสัญญาณให้ลงมือ เมื่อบ่ายวันที่ 19 พฤษภาคม อาจเทียบไม่ได้กับ ความสูญเสียอันใหญ่หลวง หากระเบิด “ คาร์บอมบ์” ที่ผู้ก่อการร้าย เสื้อแดง นำไปวางไว้รอบๆพื้นที่ชุมนุมที่สี่แยกราชประสงค์ รวม4 จุด เกิดระเบิดขึ้นมา ไม่ต้องครบทั้ง4จุดหรอก เพียงแต่จุดเดียว ลองนึกดูว่า อะไรจะเกิดขึ้น
      
       ในการแถลงข่าวของศูนย์อำนวยการแก้ไขสถานการณ์ฉุกเฉิน ( ศอฉ.) เมื่อวันที่ 22 พฤษภาคมที่ผ่านมา ซึ่งมีการนำอาวุธจำนวนมาก รวมทั้งอาวุธสงคราม ที่ ศอฉ. ยึดได้จากพื้นที่ชุมนุม มาแสดงให้ทูตและตัวแทนจาก 5 1 ประเทศ พร้อมกับสื่อมวลชนทั้งไทยและต่างประเทศร้อยกว่าคน ชม แพทย์หญิงคุณหญิงพรทิพย์ โรจนสุนันท์ ผู้อำนวยการสถาบันนิติวิทยาศาสตร์ เป็นผู้เปิดเผยว่า คาร์บอมบ์ทั้ง 4 จุด ถูกตรวจพบในวันที่ 19 พฤษภาคม ในระหว่างที่ ทหารเคลื่อนพลกระชับวงล้อมสี่แยกราชประสงค์
      
       จุดแรกคือที่สี่แยกถนนเพลินจิต เป็นรถตู้คอนเทนเนอร์ใส่ลูกระเบิดที่ดัดแปลงจากถังดับเพลิง ภายในรถมีน้ำยาเคมีด้วย จุดนี้มีคนพยายามจุดชนวน แต่ถูกทหารยิงสกัด กันไม่ให้จุดชนวนได้
      
       จุดที่สอง หน้าโรงเรียนมาร์แตเดอี เป็นรถบรรทุกหกล้อ บรรจุถังแก๊สหุงต้มเต็มคัน ซึ่งทหารเข้าควบคุมไว้ได้ก่อนที่จะมีคนมาจุดให้ระเบิด
      
       จุดที่สามเป็นรถตู้คอนเทนเนอร์ ในถนนชิดลม ฝั่งถนนเพชรบุรี บนสะพานข้ามคลองแสนแสบ ข้างธนาคารไทยพาณิชย์ กลุ่มผู้ชุมนุมพยายามเผายางรถยนต์เพื่อให้รถระเบิดและพยายามจุดชนวนด้วยการลากสายไฟ แต่ระเบิดไม่ทำงาน
      
       จุดที่สี่ เป็นรถปิคอัพ จอดไว้ที่สะพานเฉลิมโลก ใกล้สี่แยกประตูน้ำ มีระเบิดซีโฟร์ ที่ต่อชนวนเรียบร้อย รอให้มีผู้มาเสียบสายชนวนเท่านั้น ก็จะระเบิด แต่ถูกตรวจพบเสียก่อน
      
       ทั้งสี่จุดอยู่ในเส้นทางที่จะเข้าไปสู่เวทีการชุมนุม ที่สี่แยกราชประสงค์ เป็นพื้นที่ด่านหน้าที่ การ์ดนปช. ตั้งสกัดป้องกันการบุกยึดเข้ามายึดพื้นที่ของทหาร
      
       เรื่องร้ายแรงเข้าขั้นก่อวินาศกรรมกลางเมืองขนาดนี้ ต่อหน้าทูตและตัวแทน 5 1 ชาติ และสื่อมวลชนกว่าร้อยชีวิต ทั้งไทยและเทศ ศอฉ. คงไม่กล้าจัดฉาก แหกตาคนเหล่านี้แน่ เพราะถ้ามีพิรุธ แม้เพียงจุดเดียว หากมีคำถามที่ตอบไม่ได้เพียงคำถามเดียว รัฐบาล และศอฉ. จะหมดความน่าเชื่อถือไปในทันที
      
       คาร์บอมบ์ทั้ง 4 จุด และที่บริเวณโรงแรมโฟร์ซีซัน ยิ่งตอกย้ำ ความโหดเหี้ยม อำมหิตของผู้บงการ ที่พร้อมจะทำทุกอย่างเพื่อระบายโทสะ ความโกรธแค้นของตนเอง และยิ่งเป็นการฟ้องกับชาวโลกว่า การเคลื่อนไหวของคนเสื้อแดงนั้น ไม่ใช่เป็นการชุมนุมเพื่อเรียกร้องประชาธิปไตย โดยสันติ แต่เป็น การเคลื่อนไหวเพื่อนช. ทักษิณ ชินวัตร ที่ใช้ความรุนแรง ทุกรูปแบบ โดยมีการชุมนุมมวลชนเป็นฉากบังหน้าเท่านั้น
      
       ความรุนแรงที่เกิดขึ้น ทั้งที่เป็นการยิงระเบิดในใส่สถานที่สำคัญ ธนาคาร ก่อนหน้านี้ การสังหารทหารและไพร่แดงที่สี่แยกคอกวัว เมื่อวันที่ 10 เมษายน การยิงระเบิดเอ็ม 79ใส่ทหาร ตำรวจ และการปะทะกันที่บ่อนไก่ สามเหลี่ยมดินแดง ถนนราชปรารถ การเผาบ้านเผาเมือง หลังแกนนำประกาศยุติการชุมนุม ล้วนเป็นฝีมือของกองกำลังที่ ศอฉ.ก็น่าจะรู้ดีว่า ใครเป็นผู้บัญชาการ
      
       การแถลงข่าวของ ศอฉ. ที่ผ่านมา ทำให้ประชาชนมีความเข้าใจมากขึ้นว่า ในวันที่ 19 พฤษภาคม เกิดอะไรขึ้น ก่อนและหลังจากแกนนำยุติการชุมนุม โดยเฉพาะการแถลงของ พลโท ดาวพงษ์ รัตนสุบรรณ รองเสนาธิการทหารบก แต่เชื่อว่า ยังมีอีกเรื่องหนึ่งที่ คนไทยจำนวนมาก กำลังรอฟังจาก ศอฉ. คือ ใครคือผู้วางแผน สั่งการ ปฏิบัติการ ที่ต้องใช้ความชำนาญด้านยุทธวิธี ต้องมีเครือข่ายในการระดมคน และลำเลียงอาวุธ และต้องมีจิตใจที่โหดเหี้ยม อำมหิต
      
       คนไทยอยากรุ้ให้ชัดๆว่า เบื้องหลังกองกำลังไม่ทราบฝ่าย ผุ้ก่อการร้าย ชายชุดดำ และระหว่างผู้บงการในต่างประเทศ กับผู้ลงมือยิงเอ็ม79 ยิงอาร์พีจี มือสไนเปอร์ และผู้วางเพลิงเผาทรัพย์ คือใครบ้าง
      
       ที่ผ่านมา มีการกล่าวถึงผู้บงการเพียงแค่ว่า เป็นนายทหาร นายตำรวจทั้งในและนอกราชการ ที่ใกล้ชิด นช. ทักษิณ มีความเชี่ยวชาญในการวางแผนก่อการร้ายในเมือง มีความเคียดแค้นต่อการยึดอำนาจเมื่อวันที่ 19 กันยายน 2549 เพราะทำให้บางคนไม่ได้เป็นแม่ทัพน้อย แม่ทัพภาค
      
       สื่อมวลชนบางราย เรียกคนกลุ่มนี้ว่า แก๊งค์นายพล ที่นั่งบัญชาการบนตึกสูงใกล้ที่ชุมนุมบ้าง เรียกว่า กลุ่ม เสธฯ ที่นั่งวางแผนอยู่ในวอร์รูม โดยมี เสธฯ ที่ชะตาขาดไปแล้ว เป็นผู้ควบคุมการปฏิบัติหน้าไซต์งาน

      
       เมื่อวันที่ 16 และ 18 พฤษภาคม ศอฉ. ออกคำสั่งระงับธุรกรรมทางการเงินของนิติบุคคล และบุคคล ที่ตรวจสอบพบว่า อาจมีส่วนเกี่ยวข้องกับการชุมนุม มีจำนวนร้อย กว่าคน ในจำนวนนี้ มี “นายพล” ทั้ง นายพลทหาร และนายพลตำรวจ 7 คน คือ
      
       พล.อ.พัลลภ ปิ่นมณี , พล.ท.มนัส เปาริก, พล.ท.พฤณฑ์ สุวรรณทัต , พล.ต.ท.สล้าง บุนนาค ,พล.ต.ขัตติยะ สวัสดิผล พล.อ. ชวลิต ยงใจยุทธ และพลตำรวจโท ชัจจ์ กุลดิลก
      
       ฝากถามไปยัง พันเอกสรรเสริญ แก้วกำเนิด โฆษก ศอฉ. ว่า ที่ว่า ทั้ง 7 นายพลนี้ ศอฉ. สงสัยว่า อาจมีส่วนเกี่ยวข้องกับการชุมนุม จนสั่งระงับธุรกรรมทางการเงินน้น ความเกี่ยวข้องที่ว่า คืออะไร

 
จาก http://www.manager.co.th/asp-bin/mgrView.asp?NewsID=9530000071143
 


หัวข้อ: Re: [2513]"ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: เหยง 16 ที่ 24 พฤษภาคม 2553, 08:28:44
บทบรรณาธิการ นสพ. แนวหน้า ออนไลน์ วันจันทร์ที่ 24 พฤษภาคม 2553

บอกถึงการที่เสื้อแดงจะใช้วันที่ 24 มิถุนายน 2553 ซึ่งตรงกับกันก่อการเมื่อ 77 ปีที่แล้ว ชุมนุมเรียกร้องประชาธิปไตยอีกครั้ง


บทบรรณาธิการ 
 
ประชาธิปไตยเทียมของคนเสื้อแดง (บทบรรณาธิการ)
 

     วันที่ 24 มิถุนายนนี้ ถือเป็นวันครบรอบ 77 ปี ของการสถาปนาระบอบประชาธิปไตยไทยนับตั้งแต่เกิดการเปลี่ยนแปลงการปกครองจากระบอบสมบูรณาญาสิทธิราชย์มาเป็นระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัคริย์ทรงเป็นประมุข เมื่อวันที่ 24 มิถุนายน 2475 ซึ่งตลอดระยะเวลา 77 ปี ของประชาธิปไตยไทยอยู่ในภาวะที่ล้มลุกคลุกคลานมาตลอด ขณะเดียวกันก็มีการตั้งคำถามว่าจนบัดนี้ประชาธิปไตยแบบไทยๆ ได้พัฒนาเป็นประชาธิปไตยที่แท้จริงแล้วหรือยัง

     ตัวอย่างสถานการณ์ในปัจจุบันที่ถูกตั้งคำถามว่า เป็นประชาธิปไตยที่แท้จริงหรือไม่ ก็คือการชุมนุมของม็อบคนเสื้อแดงตลอดช่วงที่ผ่านมา ซึ่งอ้างว่าเป็นการเคลื่อนไหวตามระบอบประชาธิปไตยโดยยึดแนวทางอหิงสาสันติวิธี แต่พฤติกรรมของขบวนการคนเสื้อแดงได้พิสูจน์ให้เห็นแล้วว่าตรงกันข้ามกับความเป็นจริงอย่างสิ้นเชิงเพราะเป็นการเคลื่อนไหวที่ใช้กฎหมู่อยู่เหนือกฎหมายด้วยการยึดย่านราชประสงค์เป็นแหล่งชุมนุมยืดเยื้อบ่อนทำลายเศรษฐกิจของประเทศจนพินาศย่อยยับและสร้างความเดือดร้อนแก่ประชาชนอย่างหนัก

     ที่สำคัญและเป็นเรื่องร้ายแรงอย่างที่ไม่เคยปรากฏมาก่อนสำหรับการชุมนุมตามระบอบประชาธิปไตย ก็คือ การใช้ความรุนแรงถึงขั้นมีกองกำลังติดอาวุธปฏิบัติการก่อการร้ายและลอบก่อวินาศกรรมโดยแฝงตัวปะปนและเคลื่อนไหวคู่ขนานกับม็อบคนเสื้อแดง ทั้งนี้อาวุธสงครามร้ายแรงจำนวนมากซึ่งเจ้าหน้าที่ตรวจพบหลังการเข้าเคลียร์พื้นที่ย่านราชประสงค์ เป็นสิ่งที่ยืนยันได้อย่างชัดแจ้งการชุมนุมของม็อบคนเสื้อแดงที่หน้าฉาก คือ การเรียกร้องประชาธิปไตยและความเป็นธรรม แต่หลังฉากที่แท้จริงกลับเป็นกบฏก่อการร้ายมุ่งสถานการณ์ให้กลายเป็นกลียุคมิคสัญญีเพื่อล้มล้างรัฐบาลหวังเปลี่ยนแปลงการปกครองประเทศไปสู่ระบอบใหม่

     ที่ผ่านมา ขบวนการคนเสื้อแดงอันประกอบด้วย ม็อบคนเสื้อแดง พรรคเพื่อไทย และกลุ่มก่อการร้ายอันเป็นกองกำลังติดอาวุธที่มี พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี เป็นผู้บงการให้การสนับสนุนอยู่เบื้องหลังได้เคลื่อนไหวที่สอดประสานโดยมีเข็มมุ่งเดียวกันนั่นคือ สร้างสถานการณ์ความรุนแรงเพื่อนำไปสู่การเปลี่ยนแปลงประเทศมาโดยตลอดและปรากฏหลักฐานชัดเจนนั่นคือ คำพูดของพ.ต.ท.ทักษิณและเหล่าแกนนำคนเสื้อแดงได้ปลุกระดมมวลชนคนเสื้อแดงให้ลุกฮือขึ้นมาจุดไฟเผาบ้านป่วนเมืองอันเป็นพฤติกรรมของกบฏก่อการร้าย

     เพราะฉะนั้นบรรดามวลชนคนเสื้อแดงที่เข้ามร่วมชุมนุมด้วยความบริสุทธิ์ใจและรู้เท่าไม่ถึงการณ์จะต้องใช้สติและเหตุผลแยกแยะระหว่างประชาธิปไตยเทียมกับประชาธิปไตยที่แท้จริง ทั้งนี้ประชาธิปไตยที่แท้จริงนั้นต้องเป็นการต่อสู้ด้วยอุดมการณ์เพื่อส่วนรวม ไม่ใช่เผาบ้านป่วนเมืองโดยมีเป้าหมายแอบแฝงเพื่อคนเพียงคนเดียว และที่สำคัญคือ ต้องเป็นการแสดงออกด้วยแนวทางสันติวิธีไม่ใช้ความรุนแรงโดยเฉพาะด้วยวิธีการก่อการร้ายสร้างความหายนะแก่ชาติบ้านเมืองดังเช่นเหตุการณ์ที่เพิ่งผ่านพ้นมา 
 
วันที่ 24/5/2010
 
http://www.naewna.com/news.asp?ID=212296


หัวข้อ: Re: [2513]"ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: เหยง 16 ที่ 24 พฤษภาคม 2553, 08:32:26
บทบรรณาธิการ นสพ.ไทยโพสต์ ออนไลน์ พูดถึง "วาระแห่งชาติ" คือ "การฟื้นฟูประเทศ" ที่ไม่ใช่ "การเลือกตั้ง"

"ฟื้นฟูประเทศ" วาระคนไทยทั้งชาติ
บทบรรณาธิการ 24 พฤษภาคม 2553 - 00:00

     ความเคลื่อนไหวของทุกภาคส่วนในการสนับสนุน ส่งเสริมให้รัฐบาลคืนความเชื่อมั่นแก่สังคมไทย ตลอดจนสังคมโลก  หลังเหตุการณ์วิกฤติเผาบ้านเผาเมืองสงบลงเมื่อวันที่ 20 พฤษภาคม 2553 นับว่ามีนัยสำคัญบ่งบอกได้อย่างดีแล้วว่า ประชาชนคนไทยส่วนใหญ่คาดหวังว่า แผนการปรองดองแห่งชาติรวมทั้งนโยบายการฟื้นฟูประเทศโดยนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี เป็นความจำเป็นเร่งด่วนที่ไม่อาจปฏิเสธอีกต่อไป  

     ความสูญเสียที่เกิดจากการชุมนุมของคนเสื้อแดงโดยการนำของแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) ซึ่งเป็นที่ประจักษ์ว่ามี "ทักษิณ ชินวัตร" อยู่เบื้องหลัง อาจจะสามารถประเมินค่าความเสียหายได้จากตัวตึก อาคาร สถานที่ และทรัพย์สินต่างๆ ได้ แต่ความสูญเสียในความรู้สึกและจิตใจของคนไทย สูญสิ้นความมั่นใจ และความภาคภูมิใจต่อการเป็นพลเมืองในดินแดนสยามเมืองยิ้ม โดยเฉพาะคนที่ต้องตกอยู่ในภาวะตื่นตกใจ เพราะเป็นประชากรในพื้นที่อันตรายนั้น คงไม่อาจจะนับเป็นตัวเลขได้ ฉะนั้น วิธีการ แนวทาง นโยบายใดๆ ก็ตาม ที่สามารถเรียกคืนศักดิ์ศรีความเป็นคนไทยที่รักสงบ และมีน้ำใจไมตรี เป็นที่กล่าวขานของชาวโลกได้นั้น ไม่ว่าคนไทยจิตใจสีไหนก็ย่อมอยากเห็นและอยากให้เป็นโดยเร็วที่สุด

     แผนความปรองดองแห่งชาติ  5 ข้อ อันประกอบด้วย ข้อ 1.เทิดทูนสถาบันพระมหากษัตริย์ ข้อ 2.ปฏิรูปประเทศอย่างรอบด้าน ทั้งเรื่องความเหลื่อมล้ำ เรื่องการถูกรังแกจากผู้มีอำนาจ ความไม่เป็นธรรมในสังคม และปัญหาเรื่องสวัสดิการสังคม รวมถึงปัญหาอื่นๆ ข้อ 3.ระบบสื่อสารมวลชน ขอให้สื่อทำหน้าที่ที่ไม่สร้างความรุนแรงและไม่สร้างความเกลียดชัง ข้อ 4.ตั้งคณะกรรมการอิสระตรวจสอบข้อเท็จจริงของเหตุการณ์ต่างๆ จากความสูญเสียในเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น นับตั้งแต่มีการชุมนุมวันที่ 14 มี.ค.ที่ผ่านมา และ ข้อ 5.ปฏิรูปการเมืองและให้ความเป็นธรรมกับทุกฝ่าย

     จนถึงวันนี้ ดูเหมือนจะไม่น่าสนใจและน่าติดตามตรวจสอบเท่ากับสาระสำคัญที่นายกรัฐมนตรีประกาศต่อหน้าคนไทยทั้งประเทศว่า "เวลานี้ทุกคนต้องเข้าสู่กระบวนการของการฟื้นฟู ตึกรามบ้านช่อง อาคารต่างๆ และที่สำคัญที่สุดคือ การฟื้นฟูจิตใจ และความเป็นอันหนึ่งอันเดียวกันของบ้านเมืองที่จะต้องเกิดขึ้นต่อไป ส่วนการดำเนินคดี การดำเนินการตามกฏหมายกับผู้ซึ่งกระทำความผิดและมีโทษร้ายแรงในข้อหาต่างๆ นั้น ก็จะดำเนินการอย่างตรงไปตรงมา ต่อเนื่อง เด็ดขาด โดยให้ความเป็นธรรมกับทุกๆ ฝ่าย การฟื้นฟูประเทศ ฟื้นฟูจิตใจของประชาชนในระยะยาว ในแผนปรองดองประกอบด้วย 5 ข้อ แผนดังกล่าวก็ยังเป็นเจตนารมณ์สำคัญที่รัฐบาลยังยึดถืออยู่ แต่ที่จะต้องเพิ่มเติมเข้าไปก็จะเป็นในส่วนของการฟื้นฟูในทุกๆ ด้าน ไม่ว่าจะเป็นในด้านจิตใจ สังคม เศรษฐกิจ หรือแม้กระทั่งในเรื่องของการเมือง เน้นเรื่องของการมีส่วนร่วมของพี่น้องประชาชนทุกฝ่าย ที่จะช่วยกันทำให้บ้านเมืองกลับสู่ความสงบสุข และทำให้พี่น้องประชาชนคนไทยนั้นกลับมาเป็นหนึ่งเดียว มีความสมัครสมานสามัคคี"

     คำประกาศของนายกฯ ข้างต้น พร้อมกับเชิญชวนพี่น้องประชาชนทุกคนทุกกลุ่มมาช่วยกันออกแบบ ช่วยกันสร้าง ลงแรง ลงใจ ทำให้บ้านเมืองกลับมาเป็นบ้านที่น่าอยู่เหมือนเดิม โดยระบุว่ากระบวนการนี้จะเริ่มต้นนับตั้งแต่นาทีนี้นั้น เสมือนเป็นสัญญาประชาคมที่ขณะนี้คนไทยทั้งชาติต้องจับตามองเพราะทุกคนได้ประจักษ์แจ้งแล้วว่า ท่ามกลางการชุมนุมที่ยุติลงไปนั้น ยังปรากฏความคุกรุ่นของความแค้นและไม่พอใจระบายอยู่ทั่วสังคมไทย สอดคล้องกับที่มีการพิเคราะห์พิจารณ์ว่า การชุมนุมยุติแต่การต่อสู้ยังไม่ยุติ

     มาตรการการฟื้นฟูประเทศจึงไม่ใช่เพียงแค่ฟื้นฟูซากปรักหักพัง อาคาร สถานที่ ถนนสายต่างๆ ให้มีชีวิตคืนสู่ปกติเท่านั้น แต่ย่อมหมายถึงฟื้นฟูสุขภาวะในจิตใจของคนไทยทั้งชาติ ซึ่งโจทย์สำคัญคือความรู้สึกแบ่งแยกแตกต่างที่ไม่เพียงรัฐบาลเท่านั้นที่จะต้องแก้สมการปัญหานี้ให้ได้ แต่ทุกคนในสังคมไทยต้องยอมรับว่า ความเหลื่อมล้ำ ความเป็นสองมาตรฐานที่เป็นประเด็นการต่อสู้ของม็อบเสื้อแดงในครั้งนี้ เป็นหน้าที่ของคนไทยทุกฝ่ายที่ต้องช่วยทำการบ้านด้วยไม่มากก็น้อย

     คนไทยทุกคนต้องมีจิตสำนึกร่วมว่า อะไรคือสิ่งสำคัญที่สุดในการเกิดมาเป็นคน ศีลธรรม จริยธรรม ศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์ สิทธิเสรีภาพ หรือประชาธิปไตย คนไทยพึงต้องเรียนรู้ทำความเข้าใจว่า การชุมนุมเพื่อเรียกร้องสิทธิใดๆ ของผู้รักสันติ สงบ อหิงสา มีเส้นแบ่งที่เหมือนและแตกต่างอย่างมีนัยสำคัญของการชุมนุมที่มีการจัดตั้งโดยกลุ่มทุนสามานย์ พร้อมยังมีกองกำลังไม่ทราบฝ่ายเป็นผู้หนุนหลัง มิเช่นนั้น ความฉิบหายอันเกิดจากความไม่รู้ไม่เข้าใจและเห็นแก่ตัวก็จะเป็นวงจรอุบาทว์กลับมาสร้างวิกฤติให้กับประเทศอย่างไม่รู้จบ

     บทเรียนความเจ็บปวดจากคนไทยเข่นฆ่ากันเอง เพราะความแปลกแยกทางความคิด และความรู้ความเข้าใจที่แตกต่างกัน ทำให้สังคมไทยได้เห็นและพิสูจน์กับตาแล้วว่า ลำพังมาตรการความมั่นคงซึ่งใช้กำลังและอาวุธเป็นธงนำหน้านั้น ไม่อาจจะสามารถเอาชนะการก่อการร้ายหรือผู้ต่อต้านอำนาจรัฐได้ แม้กระทั่งมาตรการทางการเมือง ก็แก้ไขวิกฤติอันรุนแรงได้ยาก เพราะความเห็นแก่ตัวและขาดความเสียสละของบุคคลที่เกี่ยวข้อง

     ดังนั้น การฟื้นฟูประเทศจะบรรลุเป้าหมายคืนความสุขสู่สังคมไทยได้นั้น จำเป็นอย่างยิ่งที่คนไทยทุกคนต้องร่วมกันทำ ร่วมกันเป็นเจ้าภาพ โดยเริ่มจากครอบครัว ชุมชน โรงเรียน องค์กร สถาบัน จนเป็นเครือข่ายที่มีจิตสำนึกรักประเทศบ้านเกิดขยายวงกว้างออกไปเป็นลูกโซ่ จนปิดประตูมิให้คนนอกเข้ามาแทรกแซง และเงินไม่สามารถมีอิทธิพลต่อพฤติกรรมของทุกคนในสังคมอีกต่อไป อย่างน้อยที่สุด รัฐบาลนั่นแหละต้องทำให้ดูเป็นตัวอย่างนำร่อง ฯพณฯ จะจัดการฟื้นฟูทหารแตงโมและตำรวจมะเขือเทศให้เป็นรั้วของชาติและผู้พิทักษ์สันติราษฎร์อย่างแท้จริงได้อย่างไร.

http://www.thaipost.net/news/240510/22446


หัวข้อ: Re: [2513]"ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: เหยง 16 ที่ 24 พฤษภาคม 2553, 09:04:15
คอลัมม์ "คนปลายซอย" ของคุณเปลว สีเงิน เตือนให้ระวัง สภาโจร

"การทหาร-ทหารเมือง" ต้องนำบ้านเมืองอีกครั้ง?
เปลว สีเงิน 24 พฤษภาคม 2553 - 00:00

      อืมมมม...หยุดไปนอน "กระชับพื้นที่" เมื่อวันเสาร์มา ๑ วัน ก็กลับมาคุยกันเหมือนเดิม เคอร์ฟิวยังมีต่อนะครับ เมื่อคืนและคืนนี้ (๒๔ พ.ค.๕๓) แต่เป็นมินิ-เคอร์ฟิว คือร่นเวลาออกไปเป็นตั้งแต่ ๕ ทุ่ม ถึงตี ๔ ต่อจากนี้ คงไม่ต้องนอนผวากันมากนัก เพราะ ศอฉ.จัดกำลังตั้งด่านตรวจตามจุดใหญ่ๆ พร้อมทั้งส่ง "สารวัตรทหาร" ตระเวนเป็น "นายตรวจพระนคร" ทั้งชั้นใน และปริมณฑล ส่วนเคอร์ฟิวจะต่อหรือจบกันแค่นั้น คงต้องรอดูสถานการณ์เป็นวันๆ ไป!
      อีกเรื่องที่ควรทราบ ศอฉ.จะย้ายกองบัญชาการใหญ่ จากราบ ๑๑ รอ.บางเขน มาอยู่ที่ "กองบัญชาการกองทัพบก" ถนนราชดำเนิน ตั้งแต่วันจันทร์นี้แล้ว และใครที่เป็นแฟน "พ.อ.สรรเสริญ แก้วกำเนิด" ไม่ต้องกลัวว่า "ผู้ก่อการรัก" ท่านนี้จะหายหน้าไปกระชับพื้นที่ที่อื่น ยังคงอยู่ให้ท่านตามกระชับสายตา สลับกับ "โฆษกหน้าตาย" ดร.ปณิธาน วัฒนายากรทางหน้าจอ "รวมการเฉพาะกิจ" เหมือนเดิม
      ชมรมจิตอาสา ชาว FB นี่นอกจากน่ารักแล้ว ยังทำหน้าที่ "แกนสังคมคนรุ่นใหม่" ได้อย่างมีความหมายมาก เมื่อวันอาทิตย์ ทาง กทม.ของ ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ บริพัตร ท่านจัด บิ๊ก คลีนนิ่ง เดย์ ขึ้น คือระดมเจ้าหน้าที่ กทม.มาล้างคราบเสนียดเมือง กับซากบัดซบที่ "กบฏทักษิณ" มนุษย์ทรามทิ้งไว้ให้ ลำพัง กทม.ทำได้ แต่คงต้องใช้เวลานานหลายวัน แต่ปรากฏว่า ในความสูญเสียร่วมกันของคนไทยทั้งประเทศนี้ มีพี่น้องร่วมชาติพกความเจ็บปวดที่ต้อง "เอาชนะร่วมกัน" รวมทั้งชมรมจิตอาสา และหนุ่ม-สาวชาว FB ได้นัดแนะรวมใจกันออกมาเป็น "มหาประชาสังคม"
      "เช็ดคราบน้ำตา" ให้เมืองกรุง!
      ชาติบ้านเมืองเราคือ "มรดกบรรพบุรุษ" ที่พินัยกรรมระบุไว้ คนไทยทุกคนคือผู้ได้รับผลประโยชน์ เมื่อเห็นหนุ่ม-สาว "คนรุ่นใหม่" ยามมีภัยมา กลับรวมตัว รวมใจสามัคคีทำหน้าที่ ทั้งต่อต้าน ยอมสละทั้งสุข และทั้งชีวิตตัวเองด้วยความหมาย "ถึงตัวไม่อยู่-ชาติต้องอยู่" เช่นนี้ เห็นที "เฒ่าสยาม" ทั้งหลาย คงตายตาหลับ!
      หนุ่มสาว-เฒ่าแก่ทั้งหลายเอ๋ย...จงมองข้างหน้า อย่าอาลัยหลังจนเกินเหตุ จงใช้สิ่งที่เสียเป็นพลังกระตุ้นจิตรัก จิตอภัยให้กัน สร้าง "สังคมใหม่" ด้วยบทเรียนอภัยจากใจนั้น ผมสังเกตว่า พวกเราทั้งหลายขณะนี้ พกความคับแค้น ขึ้งเครียด เอาไว้มาก ซึ่งผมเข้าใจ และผมก็ไม่ต่างไปจากท่าน แต่ผมอยากให้ความคิดไว้อย่างหนึ่งว่า สำหรับสิ่งที่ "ตัดไม่ตาย-ขายไม่ขาด" ยังไงๆ ก็ต้องอยู่ "ร่วมชาติ-ร่วมแผ่นดิน" เราก็ต้อง "ตัดแค้น-ตัดอาฆาต" พลิกจากศัตรูให้มาอยู่ฉันมิตร-ฉันญาติ เหมือนกติกาในวงนักเลง คนไหนที่ฆ่าไม่ได้ ก็ต้องผูกใจไว้เป็นพวก!
      กับงาน "สร้างสังคมใหม่" ซึ่งเป็นงานใหญ่ ใครฝ่ายเดียว จะกองทัพ หรือรัฐบาลโดยลำพังก็สร้างไม่ได้ จะต้อง "มหาประชาสังคม" เท่านั้น และมหาประชาสังคมวันนี้ พวกท่าน...หนุ่ม-สาว ในความหมาย "คนรุ่นใหม่" เท่านั้น จะให้ไฟ ให้พลัง ให้ความหวังกับประเทศชาติผ่าน "สังคมใหม่" ได้สำเร็จ และเคล็ดลับสู่ความสำเร็จคือ "งานใหญ่-อย่าหยุมหยิมกับเรื่องย่อย"!  ไม่เช่นนั้น ความหยุมหยิมกับเรื่องย่อยจะทำให้เหมือนมดติดก้อนน้ำตาล เดินไม่ผ่านทะลุไปถึงแหล่งผลิต!!!
      กะแค่ตำรวจเอาตัวหัวโจกขบวนการก่อการร้าย "กบฏทักษิณ" ไปควบคุม โดยปล่อยงับโอโซนชายทะเลอยู่ในบ้านพักค่ายนเรศวร แค่ท้วงติงว่า "ประชาชนจับตาท่านตลอดเวลานะ...คุณตำรวจ" แค่นี้ก็พอแล้ว ไม่ต้องจิกกัดต่อเนื่องยาวนาน หันไปเพ่งเล็งงานใหญ่ดีกว่าว่า เมื่อ ๑...ผ่านไป อภิสิทธิ์-กองทัพ จะผ่าน ๒-๓-๔-๕ ไปจนถึงจุดศานติสุขแห่งชาติ คือ ๑๐ ด้วยรูปแบบไหน วิธีการไหน ในเมื่อ "ปัญหาสังคมชาติ" อันเป็นโจทย์วันนี้ มันเป็นปัญหาใหม่-โจทย์ใหม่ ที่จะใช้เครื่องมือ และกลไกกฎหมาย-การบริหารแบบเดิมๆ ที่ผ่านมา อันเป็น "ภาวะปกติ" ไม่ได้แล้ว! ตำรวจนั้น ถึงแม้มหาประชาสังคมวันนี้จะบอกว่า "ขอได้รับความเกลียดชังจากประชาชนด้วยจริงใจ" เพราะประจักษ์ชัดแล้วว่า ที่ผ่านมา ทั้งใน กทม.และต่างจังหวัด นอกจากเป็นที่พึ่ง และทำหน้าที่ผู้พิทักษ์สันติราษฎร์ให้ชาวบ้านไม่ได้ยามมีภัย ตรงกันข้าม ตำรวจบางส่วนนั่นแหละ  ทำหน้าที่ เป็นทั้งสาย-ทั้งเป็นใจ ให้โจร "ปล้นบ้าน-เผาเมือง"!?
      แต่ก็เห็นใจเขาเถอะ เขาไม่ได้เป็นเช่นนั้นโดยสันดาน และไม่มีเจตนาถึงขั้น "เปลี่ยนระบอบ-ล้มสถาบัน" เพียงแต่ สิ่งที่เขาเคยได้กิน-ได้อยู่ และได้เอาอำนาจไปฉีกเนื้อกิน ในสมัยทักษิณ "โกงแผ่นดิน" แล้วเจียดเป็นงบฯ มาแจกจ่ายจากเงินหวยบนดิน ๒ ตัว ๓ ตัวให้นั้น เมื่อสิ้นทักษิณ ไม่มีเงินบาปจากการปล้นคน-ปล้นแผ่นดินมาแจกจ่าย ตำรวจระดับล่างๆ ซึ่งใช้ตำแหน่งหากินได้ไม่มากเท่าระดับใหญ่ๆ รวมถึงครอบครัว จึงเกิดปฏิกิริยาเหมือนคนทั่วไป อะไรที่เคยได้ เมื่อไม่ได้ มันก็ต้องเล่นบท "ตะกายฝา" โหยหาแต่...ทักษิณ...ทักษิณ ...คนโกงแผ่นดิน แล้วเอาส่วนขี้มายีหัวบางตำรวจให้หลง!
      ตำรวจนั้น เราตัดไม่ตาย-ขายไม่ขาด ฉะนั้น ต้องมองเขาด้วยความเข้าใจ เหมือนพี่น้องปลายรากบางส่วน คาถาแก้การโกรธเป็นนิสัย คือการให้เมตตา คาถาแก้คนหลงผิด คือการให้อภัย....นี่คือ "กฎใจ-คุณธรรม" แต่ถ้าอภัยแล้วยังดีไม่ได้ และไม่สำนึก ถึงขั้นตาย......"ตาย...ก็ต้องให้ตาย"!
      จะไปปรองดองกับโจรก่อการร้าย ร้ายถึงขั้น "เผาบ้าน-ปล้นเมือง, ล้มสถาบัน-เปลี่ยนระบอบ" ไม่ได้ "การุณยฆาต" สถานเดียวที่ "เนื้อร้ายสังคม" ประเภทนี้ต้องได้รับ นีคือกฎหมาย-กฎเมือง!
      ผมขอย้ำว่า ปลายมิถุนา-กรกฎา-สิงหา นี้ ปัญหาโจรก่อการร้าย "กบฏทักษิณ" จะเวียนกลับมาก่อภัยให้แผ่นดินอีก และนี่คือสิ่งที่ผมจะบอกว่า นับจาก ๖ ตุลาคม ๒๕๑๙ ที่เกิดเหตุการณ์ "ขวาพิฆาตซ้าย" ฝากไว้เป็นรอยในประวัติศาสตร์ ๓๔ ปีผ่านมาแล้ว ณ ๑๙ พฤษภาคม พ.ศ.๒๕๕๓ ครบรอบตามวัฏฏะดาวเสาร์ ครั้งนี้ไม่ใช่ "ขวาพิฆาตซ้าย" หากแต่เป็น "ซ้ายพิฆาตขวา" คือพวกกบฏแดงเป็นฝ่ายฆ่าทหาร ฆ่าประชาชน และเมื่อดาวเสาร์-ดาวพฤหัสบดี และดาวมฤตยู อันเป็นคู่ดาวแห่ง "การเปลี่ยนแปลงใหญ่" ชนิดฉับพลันเหนือคาดหมายเล็งกันเช่นนี้ จะพูดให้เห็นภาพ ยุค ๑๔ ตุลา ๑๖ ถึงยุค ๖ ตุลา ๑๙ เรื่อยมาถึงยุคพลเอกเกรียงศักดิ์ และพลเอกเปรม นั่นเป็นยุคภัยจากลัทธิคอมมิวนิสต์แทรกซึมชาติ ทหารจึงเป็นส่วนผสมการเมืองในการบริหารราชการแผ่นดิน
      จนกระทั่งยุคพลเอกชาติชาย ภัยลัทธิหมดไป นโยบาย "แปลงสนามรบเป็นสนามการค้า" จึงถูกนำมาใช้แทนเรื่อยมา จาก ๒๕๓๐ จนถึง ๒๕๔๔ ที่แต่ละรัฐบาลใช้นโยบาย "การเมืองนำการทหาร" แต่นับจากปี พ.ศ.๒๕๔๔ ที่ทักษิณครอบงำอำนาจบริหารประเทศในฐานะนายกฯ "ภัยลัทธิ" รูปแบบใหม่ จากการผสมพันธุ์ระหว่าง "ซ้ายละเมอ" กับขวาเหิมเกริม "คิดใหม่-ทำใหม่" ค่อยๆ ฟักตัวเติบใหญ่ขึ้นมาเรื่อยๆ บนเป้าหมาย "ล้มสถาบัน-เปลี่ยนระบบ" อำนาจรวมศูนย์ทักษิณ!
      กลยุทธ์-กลวิธีเดินไปสู่เป้าหมาย หลักใหญ่ที่เห็นไม่มีอะไรมาก ยึดกรรมาชน ชาวไร่-ชาวนา คนยากคนจน ตั้งเป็นฐาน เหมือนเมื่อครั้งลัทธคอมมิวนิสต์เข้ามาไทยครั้งแรกเมื่อ พ.ศ.๒๔๗๓ ไม่ผิดเพี้ยน แต่แดงสยามครั้งนั้น "ยึดราก" ได้ช้า เพราะใช้อุดมการณ์ลัทธิเป็นตัวนำในการยึดราก ผิดกับระบบทักษิณใช้ "อุดมกู" กับ "เงิน" ยึดราก!
      ซึ่งได้ผลเร็วมาก ทั้งข้าราชการ-ตุลาการ-นักการเมือง-ทหาร-ตำรวจ-ครู-อาจารย์-นักวิชาการ-พระ-สื่อมวลชน และประชาชน เรียกว่า "ทั้งโจรทั้งบัณฑิต" ในทุกสถาบัน กลายเป็นนกติดตัง ในระบบ "ทุนวัตถุ" จนเกิดค่านิยมว่า "โกงแล้วเอามาแบ่ง...ยอมรับได้" ในขณะที่คนในแผ่นดินเมา "ทุนวัตถุ" ตัวทักษิณกับคณะพรรค ก็ก้าวขยับไปสู่เป้าหมายเรื่อยๆ จากขั้นก่อการ "กัดกร่อนสถาบัน" ให้ฐานเซ เพียง ๕-๖ ปี ก็เติบกล้าถึงขั้นลงมือปฏิบัติการ "แดงทั้งแผ่นดิน" ล้มสถาบัน-เปลี่ยนระบอบประเทศ โดยแบ่งงานฝ่ายการเมืองอันเป็น "ฝ่ายบุ๋น" ให้พรรคเพื่อโจร กับฝ่ายชุมนุมสันติ-อหิงสา เดินเกม
      ส่วนฝ่ายยุทธการอันเป็น "ฝ่ายบู๊" พวกเสนาธิการ "ทุนเหิมเกริม" กับ "ซ้ายละเมอ" วางแผนอยู่ในรังลับเรื่อยมาตั้งแต่ ๑๙ กันยา ๔๙ จัดตั้งกองกำลังผสมไม่ทราบฝ่าย อันมาจากทหาร-ตำรวจ-เสือพราน ทั้งในและนอกราชการ ผสมด้วยอันธพาล มาเฟียท้องถิ่น นักค้ายาและสิ่งผิดกฎหมายในเครือข่ายทุนใต้ฐานทักษิณ
      เป้าหมายหลักมีอย่างเดียว.....ยึดประเทศ-ล้มสถาบัน สถาปนา "อำนาจระบอบทักษิณ" ขึ้นครองแผ่นดิน ตามจินตนาการแอบจิต "คิดใหม่-ทำใหม่" ในแนว "ปฏิวัติฝรั่งเศส"! เมื่อเรียบเรียงเหตุการณ์มาร้อยต่อเข้าด้วยกันก็จะเห็นว่า "เงื่อนไขสังคมเดิม" คือเรื่องลัทธิยึดครองชาติ ๓๐ กว่าปีผ่านไป "เชื้อเก่า-ผสมใหม่" ก็ปะทุเชื้อร้ายอีกรูปแบบหนึ่งภายใต้โครงสร้าง "ทุนวัตถุ" ขึ้นมาอีกแล้วในวันนี้
      ชัดแล้วว่าสังคมที่ใช้ "ทุนวัตถุ" เป็นตัวนำ สุดท้ายจะมีบทสรุปให้เห็นดัง ๑๙ พฤษภา ๕๓ ฉะนั้น การปฏิวัติสังคมชาติใหม่ จะต้องนำ "ทุนธรรม" นำทุนวัตถุให้ได้ สังคมพอเพียง "จนพอเพียง-รวยพอเพียง-เจริญพอเพียง" นั่นคือฐานทุนธรรม อันมีแนวปฏิบัติผ่านสหกรณ์ และร่วมเป็น "สังคมใหม่" สังคมประชาธิปไตย-รัฐสภาประชาธิปไตยที่ "คนไทยทั้งประเทศ" ออกแบบกันเอง และใช้กันเอง
      และแบบที่ออกนั้น "ทหาร-การเมือง" ต้องอยู่ด้วยกัน-ไปด้วยกัน

      ไม่อย่างนั้น...เสร็จสภาโจร!?.
[/size]
http://www.thaipost.net/news/240510/22444


หัวข้อ: Re: [2513]"ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: เหยง 16 ที่ 24 พฤษภาคม 2553, 09:15:35
คอลัมม์ "ท่านขุนน้อย"

ขอคารวะ!!!
ท่านขุนน้อย 24 พฤษภาคม 2553 - 00:00

     ก่อนจะไปว่ากันเรื่องอื่น...ยังไงๆ ก็คงอดไม่ได้ที่จะต้องขอคารวะ ยกย่อง หัวจิตหัวใจ และการตัดสินใจ ของท่านนายกรัฐมนตรี  อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ตลอดไปจนถึงเจ้าหน้าที่ฝ่ายความมั่นคง ที่สามารถนำความสงบเรียบร้อยมาสู่บ้านเมืองไปพร้อมๆ กับการลดความสูญเสียชีวิต เลือดเนื้อของผู้คน ได้อย่างชนิดน้อยที่สุดเท่าที่จะน้อยได้ เพราะภายใต้ความเหี้ยมโหด อำมหิต ความบ้าคลั่ง อันไร้เหตุ ไร้ผล เช่นนี้...ถ้าหากไม่ละเอียด ประณีต ไม่อดทน อดกลั้น กันจริงๆ ป่านนี้ตัวเลขการสูญเสียอาจทะลุไปถึงร้อยศพ พันศพ เอาเลยก็ไม่แน่???
                                                                 -----------------------------------------------
     มาถึงวันนี้...ไม่ว่าใครจะรัก จะชัง จะชอบใจ ไม่ชอบใจ ต่อคนหนุ่มที่ชื่อ อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ด้วยเหตุผลกลใดก็ตาม แต่ก็คงปฏิเสธไม่ได้ถึงความมี เมตตาธรรม ที่ตั้งมั่น ยืนหยัด อยู่บนความทรหด อดทน ในการแบกรับแรงกดดันทุกๆ ด้าน อย่างที่ ป๋าเปลว สีเงิน ท่านว่าเอาไว้นั่นแหละว่า สำหรับคนที่ไม่ได้มีสถานะเป็นนายกรัฐมนตรี ไม่ได้ยืนอยู่ท่ามกลางแรงกดดันนานาชนิด ตลอดไปจนการแบกรับความรับผิดชอบ ชี้ขาดความเป็น ความตาย ของบ้านเมืองในระดับนาทีต่อนาที อะไรต่อมิอะไรมันอาจจะง่ายพอที่จะวิพากษ์ วิจารณ์ ง่ายพอที่จะละเลงขนมเบื้องด้วยปากได้เสมอๆ แต่ถ้าเมื่อไหร่ก็ตาม...ที่ตัวเองจะต้องยืนอยู่ ณ จุดๆ นี้ หรือ ต้องแบกรับความรับผิดชอบในระดับนี้ ส่วนใหญ่ก็อาจจะ ไปไม่เป็น ด้วยกันทั้งสิ้น...
                                                              --------------------------------------------------
     คงต้องยอมรับว่าการตัดสินใจของท่านนายกรัฐมนตรี อภิสิทธิ์ ตลอดช่วงระยะ 2 เดือนกว่าๆ ที่ผ่านมา...ถือได้ว่าเป็นการตัดสินใจที่สามารถก้าวข้ามพ้นความเป็น นักการเมือง โดยปกติธรรมดาทั่วไปมาแล้วหลายช่วงตัว เป็นการตัดสินใจที่ไม่ได้เกี่ยวข้องกับ ผลประโยชน์ของพรรค หรือ ผลประโยชน์ส่วนตัว อย่างที่ท่านยืนยันเอาไว้จริงๆ นั่นแหละ เพราะผลของการตัดสินใจในลักษณะเช่นนี้...นอกจากมันจะไม่ได้เอื้ออำนวยประโยชน์ต่อคะแนนนิยมในการเลือกตั้งครั้งหน้าได้ซักเท่าไหร่ ดีไม่ดีอาจเสียหายต่อฐานคะแนนเสียงประเภทคอซาดิสต์ หรือ ประเภทโมแลงติคกันไปไม่น้อย ยิ่งประเภทดื้อด้าน ดันทุรัง บ้าคลั่ง สนุกสนาน กับการเผาบ้าน เผาเมือง ชนิดเลยจุดที่จะใช้เหตุ ใช้ผล กันอีกต่อไป โอกาสที่จะเจาะ จะชำแรก เพิ่มเก้าอี้ในภาคเหนือ ภาคอีสาน ก็คงไม่ใช่เรื่องง่ายๆ อีกเช่นเคย  
                                                                -----------------------------------------------------
     ที่สำคัญที่สุด...การตัดสินใจในลักษณะเช่นนี้ อาจก่อให้เกิดผลกระทบต่อความสุข ความสงบ ในชีวิตส่วนตัว หรือ กระทั่งชีวิตครอบครัวของตัวเอง ทั้งในระยะสั้นและระยะยาวอีกด้วยก็ได้ และดูเหมือนว่า...ตัวท่านนายกรัฐมนตรีเองก็พอจะทราบดีว่า ท่านจะต้องเผชิญกับอะไรในอนาคตข้างหน้า ความเกลียด ความโกรธ ความอาฆาต พยาบาท อันไร้เหตุ ไร้ผล  ความชิงชังที่แทบไม่ได้มีต้นสายปลายเหตุ แต่ถูกนำมาเหมารวมลงไปที่บทบาทความรับผิดชอบของนายกรัฐมนตรีรายนี้ อาจทำให้ท่านต้องประสบความยุ่งยากในการใช้ชีวิตส่วนตัวไม่มากก็น้อย...แต่ถึงรู้ทั้งรู้ ท่านนายกรัฐมนตรี ท่านก็กล้าพอที่จะยึดเอาผลประโยชน์ของบ้านเมืองเป็นที่ตั้ง...
                                                                ----------------------------------------------------
     ในเมื่อท่านอุตส่าห์ทุ่มเท ลงแรง ลงใจ ถึงเพียงนี้...จะไม่ให้กระทำตัวเป็น พ่อยก ของ อภิสิทธิ์ กันบ้าง ก็ออกจะไร้น้ำใจกันเกินไป ด้วยเหตุนี้...ก็เอาเถอะ ถึงแม้นจะขนติดปากอยู่บ้างเล็กๆ น้อยๆ แต่อดใจไม่ไหวที่จะต้องขออนุญาต เชลียร์ โดยมิได้หวังผลตอบแทนใดๆ ทั้งสิ้น แม้นว่านับจากนี้ต่อไป หรือ     ภายในอนาคตอันใกล้ ก็ยังไม่อาจคาดเดาได้เลยว่า สถานการณ์บ้านเมืองในวันข้างหน้า จะหนักหนา สาหัส ในระดับเหลือบ่า กว่าแรง เกินกว่าที่คนหนุ่มอย่าง   อภิสิทธิ์ จะแบกรับไหวหรือไม่? เพียงใด? ก็ตามที แต่ด้วยความห่วงใย และความประทับใจ ในการเสียสละเท่าที่ผ่านมา หนีไม่พ้นที่จะต้องให้ กำลังใจ กันเอาไว้ ณ ที่นี้...
                                                             --------------------------------------------------
     ส่วนสังคมไทยนับแต่นี้ต่อไป...คงเป็นเรื่องของผู้มีสติ ปัญญา ผู้รู้ ผู้เชี่ยวชาญทั้งหลาย จะต้องร่วมมือ ร่วมใจ ให้ข้อเสนอ ข้อชี้แนะ กันไปตามสภาพ ซึ่งถ้าหากจะว่ากันแบบตรงไปตรงมา ไม่ต้องเสียเวลาไปแอบจิต แอ๊บเหลือง แอ๊บแดง อะไรกันมากมาย ก็ขอความกรุณาอย่าถึงกับเตลิดเปิดเปิง จนต้องหยิบเอาเรื่องประชาธิปไตย เรื่องความเสมอภาคทางชนชั้น เรื่องอำมาตย์ เรื่องไพร่ ฯลฯ มาพูด มาเถียง ให้เข้ารก เข้าพง มากไปกว่านี้อีกเลย เพราะสิ่งที่เราทั้งหลายกำลังเผชิญหน้าอยู่ในขณะนี้ มันไม่ใช่เป็นเรื่องของประชาธิปไตย ไม่ประชาธิปไตย เรื่องของความเสมอภาค ไม่เสมอภาค เรื่องของความมีเสรีภาพ หรือ ไร้เสรีภาพ...แต่มันเป็นเรื่องของ ศีลธรรม ล้วนๆ ไม่งั้นมันคงไม่เกิดความดื้อด้าน ความบ้าคลั่ง ไร้เหตุ ไร้ผล ไร้หิริโอตตัปปะ กันได้รุนแรงถึงเพียงนี้...
                                                             ---------------------------------------------------
     พูดง่ายๆ ก็คือ...จะด้วยเหตุผลกลใดก็แล้วแต่ ภาพเหตุการณ์เท่าที่ปรากฏให้เห็นอยู่ในทุกวันนี้ มันก็คือ ภาพสะท้อนความเสื่อมโทรมทางศีลธรรมในจิตใจของผู้คนนั่นเอง ไม่ว่าจะเป็นคนรวย คนจน อำมาตย์ หรือ ไพร่ นักการเมือง ข้าราชการ นักธุรกิจ นักวิชาการ ปัญญาชน สื่อมวลชน หรือแม้กระทั่งพระสงฆ์องค์เจ้า ฯลฯ ก็ตาม ล้วนแล้วแต่มีส่วนปล่อยปละละเลย ปล่อยให้ มโนธรรมขั้นพื้นฐาน คุณธรรมขั้นพื้นฐาน ของผู้คนในทุกแวดวง เกิดอาการเสื่อมโทรมลงไปตามลำดับ ขณะที่ความเห็นแก่ตัวนับวันมีแต่จะเพิ่มขึ้นๆ ความโลภ ความละอายต่อบาป มันย่อมต้องลดลงๆ ไปเป็นธรรมดา และภายใต้สภาพเช่นนี้...ไม่ว่าจะเป็นคำว่าประชาธิปไตย เสรีภาพ เสมอภาค คำว่าอำมาตย์ คำว่าไพร่ ต่างก็สามารถถูกหยิบยกเอามาใช้เป็น ข้ออ้าง หรือเป็น วาทกรรม ของแต่ละฝ่ายได้ด้วยกันทั้งสิ้น...
                                                       --------------------------------------------------------
     อภิมหาจอมปราชญ์แห่งวงการพระศาสนา อย่าง ท่านพุทธทาสภิกขุ ท่านจึงเคยพยายามเน้นย้ำเอาไว้มานานแล้วว่า ศีลธรรมไม่กลับมา...โลกาจะวินาศ แน่นอนว่า...ภาพแห่งความวินาศซึ่งอุบัติขึ้นมาในสังคมไทย ณ ขณะนี้ ยังไงๆ ก็คงหนีไม่พ้นไปจากเหตุปัจจัยอันเดียวกัน หรือเนื่องมาจาก ศีลธรรม ที่มันสูญหาย และไม่หวนกลับมาสู่สังคมไทย ดังเช่นที่เคยเป็นมา ดังเช่นที่เคยเป็นอยู่ นับแต่ช่วงอดีตนั่นเอง ในเมื่อ ความเห็นแก่ตัว ของผู้คนในแต่ละแวดวงมันเพิ่มขึ้นๆ ประชาธิปไตยย่อมต้องกลายเป็น ประชาธิป...ตาย ไปด้วยประการละฉะนี้ และอย่ามัวเสียเวลาไปปฏิรูป ปฏิรูด ปฏิสังขรณ์ อะไรให้เมื่อย ไม่ว่าจะยุบสภา แก้รัฐธรรมนูญ ปฏิรูปสื่อ ปฏิวัติเสื่อ อะไรก็ตาม แต่ถ้าหากไม่สามารถทำให้ผู้คนลดความเห็นแก่ตัว หันมายึดมั่นผลประโยชน์ส่วนรวม รู้จักเสียสละ เคารพในสิทธิของผู้อื่น พร้อมที่จะทำหน้าที่ไปตามความรับผิดชอบของตนอย่างตรงไป-ตรงมา อันอาจถือเป็นศีลธรรมขั้นพื้นฐานในการอยู่ร่วมกันภายในสังคมแล้วไซร้ ท้ายที่สุดเราคงหนีไม่พ้นที่จะต้องเผชิญกับ ไอ้คลั่ง รายใหม่ หรือ รายเดิม อย่างไม่มีวันสิ้นสุดอีกต่อไปนั่นแล...
                                                             -----------------------------------------------------
     ปิดท้ายด้วยวาทะวันนี้ จาก ท่านพุทธทาสภิกขุ (อีกครั้ง)... การเปลี่ยนแปลงสังคมเป็นสิ่งจำเป็น...โดยจะต้องมุ่งไปสู่การเปลี่ยนแปลงอุดมคติของสังคม ให้ลึกลงไปถึงสามัญชน มิฉะนั้นเขาจะไม่ทำ แม้ในสิ่งที่เขาสามารถกระทำได้  และไม่สนใจที่จะเรียนรู้ว่า อะไรควรทำ ไม่ควรทำ มีแต่การเป็นทาสอายตนะต่อไปเรื่อยๆ...
                                                            -------------------------------------------------------

http://www.thaipost.net/news/240510/22442



5900  emo28:win:


หัวข้อ: Re: [2513]"ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: เหยง 16 ที่ 24 พฤษภาคม 2553, 09:21:20
คอลัมม์ "ถูกทุกข้อ"

อิสรภาพแห่งความคิด
ถูกทุกข้อ 24 พฤษภาคม 2553 - 00:00

 เรียน คุณสามวา สองศอก
     ดีใจมากที่ไทยโพสต์กลับมา ขอเรียนด้วยใจจริงว่า ไทยโพสต์ได้ทำหน้าที่สื่อมวลชนที่ดี และมีคุณภาพของประเทศโดยไม่ต้องโอ้อวด
     ในห้วงเวลาวิกฤติของประเทศ ไทยโพสต์ได้เสนอข่าวสารเพื่อประโยชน์ของประเทศอย่างแท้จริง ไทยโพสต์ไม่หากำไรจากกระแส ไม่เอาใจใครนอกจากบอกว่าอะไรผิดอะไรถูก
     แน่นอนไทยโพสต์ลำเอียง แต่ลำเอียงเข้าข้างความถูกต้อง และผลประโยชน์ของประเทศชาติ ขอขอบคุณชาวไทยโพสต์ทุกคน ที่ร่วมใจกันทำงานเพื่อชาติและประชาชน
                                                         เพชร เมืองราช
ตอบ คุณเพชร
     พวกเราชาวไทยโพสต์ก็ดีใจครับ ที่ได้กลับมาทำหน้าที่สื่อมวลชนอีกครั้ง เพราะเหตุการณ์เมื่อบ่ายวันที่ 19 พฤษภาคม ที่บริเวณถนนพระราม 4 เป็นใครก็ต้องรักษาชีวิตตัวเองไว้ก่อน พวกเราพร้อมใจหนีไปตั้งหลักครับ เมื่อเหตุการณ์วิกฤติคลี่คลายไปในทางที่ดีขึ้น วันรุ่งขึ้นไทยโพสต์ก็กลับมาอยู่บนแผงหนังสือพิมพ์รายวันอีก
     ขอบคุณทุกความห่วงใยที่มีต่อชาวไทยโพสต์     
 
               สามเกลอตากอากาศ
เรียน คุณสามวา สองศอก
     ผมอยากทราบจริงๆ เลยว่า รัฐบาลมะเขือเผามีความคิดอย่างไรกันแน่ ในการควบคุมตัว
แกนนำขบวนการโจรกบฏเสื้อแดงเผาบ้านเผาเมืองจนพินาศป่นปี้ย่อยยับ โดยไม่จับยัดคุกมือซุกกุญแจมือและตีนซุกโซ่ตรวน ปล่อยให้ลอยนวลอยู่ในห้องขังที่อังไว้ด้วยความร้อน เหมือนกับพระเพลิงที่พวกมันได้จุดเผาบ้านเผาเมือง
     ถ้ารัฐบาลมะเขือเผาคิดแผนยุทธศาสตร์เป็น โดยเลือกให้สามเกลอหัวขวดได้บ้านพักตากอากาศเช่นนี้ ก็ควรคิดต่อไปว่าทำอย่างไร จึงจะให้บรรดาสามเกลอหัวขวดหลบหนีออกจากบ้านพักตากอากาศโดยสมัครใจหนี เช่น ปล่อยเสือเข้าไปในพื้นที่บ้านพัก เมื่อสามเกลอหัวขวดหนีก็เป็นหน้าที่ของเจ้าหน้าที่ตำรวจ (ไม่ใช่มะเขือเทศนะ) จัดการวิสามัญฆาตกรรมสามเกลอหัวขวด ให้กลายเป็นสามเกลอผีหัวขาด เฝ้าบริเวณบ้านพักตากอากาศไปโดยปริยาย
     กฎหมายบ้านเมืองไทยมีลักษณะอ่อน ตัดสินคดีได้ช้า ล้มคดีได้ง่าย ไม่มีความอายผีสางเทวดา คนไทยมักจะไม่กลัวเกรงกฎหมายไทย หน่วยงานดีเอสไอของท่านธาริต เพ็งดิษฐ์ ต้องมีภาระหนักในการทำคดี ซึ่งทายผลไม่ได้เลยว่าในอนาคตข้างหน้านั้น บรรดาสามเกลอหัวขวดจะดันผ่าได้อากาศดีมีโอโซนเยี่ยม จนกระทั่งมีอายุขัยยืนยาวนานกว่าคนไทยดีๆ และทหารไทยดีๆ อีกหลายๆ คนที่พลีชีพเพื่อชาติ ศาสน์ กษัตริย์ ไปก่อนล่วงหน้านี้แล้ว 
     ความฉิบหายวิบัติของบ้านเมืองที่เกิดขึ้นในครั้งนี้ มีแต่ความตายของพวกอัปรียชนขบวนการ
โจรก่อการร้ายเสื้อแดง ด้วยการยิงเป้าที่ท้องสนามหลวง ให้มหาชนดูได้ประจักษ์กับสายตาเท่านั้น จึงจะสาสมกับการกระทำของพวกมัน ที่กระทำต่อบ้านเมืองไทยอันเป็นที่รักของเราทุกคน
     แล้วคุณสามวา สองศอกล่ะครับ คิดอย่างไรในเรื่องนี้!!?
                                                        นายรัก พิทักษ์ไทย
ตอบ คุณรัก พิทักษ์ไทย
     ตำรวจไทยสร้างความเจ็บช้ำน้ำใจให้คนไทยได้ไม่รู้จักหยุดหย่อนเลยนะครับ ถึงจะมีภาพบาดตาบาดใจชาวบ้านที่พวกกบฏเสื้อแดงได้รับการปฏิบัติจากตำรวจอย่างดีเยี่ยม ก็มีการออกมาแก้ตัวกันเป็นที่เรียบร้อยแล้ว
     ด้วยเหตุนี้เมื่อทหารจะส่งมอบหน้าที่ดูแลบ้านเมืองให้ฝ่ายตำรวจ จึงมีแต่คนผวาเพราะรู้ลึกไปถึงลำไส้ใหญ่ตำรวจ เคยทำอะไรไว้บ้างล่ะชาวบ้านถึงไม่มีความไว้วางใจให้กับคนสีกากี

                     นอนฝันไป
เรียน คุณสามวา สองศอก
     ผมติดตามการปราบ "หน่วยกบฏชั่ว (นปช.) ของเจ้ามูลแม้ว" ด้วยความอึดอัดและมีความรู้สึกฉี่ไม่สุด เหมือนคนเป็นโรคต่อมลูกหมากโตผิดปกติ (แต่ยังไม่ถึงขั้นเป็นมะเร็ง) ด้วยสาเหตุ
หลายประการด้วยกันคือ
     1.ผมเชื่อว่าการชุมนุมของคนเสื้อแดง ตั้งแต่วันที่ ๑๒ มีนาคม ๒๕๕๓ จนกลายสภาพเป็นการก่อการร้ายต่อแผ่นดินในวันนี้ เพราะรัฐปล่อยให้การชุมนุมยืดเยื้อไม่ตัดไฟแต่ต้นลม และปล่อยให้เจ้ามูลแม้วในฐานะนักโทษหนีคุก ขณะยังเร่ร่อนหาแผ่นดินอยู่ เป็นผู้เขียนบท ผู้กำกับการแสดง และเป็นนายทุนผู้อุปถัมภ์การปฏิบัติ มันจึงดำเนินเรื่องอย่างเมามันได้อย่างสะใจ เพื่อประโยชน์ของมันเอง
     2.รัฐปล่อยให้เจ้ามูลแม้วในฐานะผู้กำกับ ได้ใช้เงิน (ที่มันโกงชาติ) แบ่งผู้ทำงานให้มันออกเป็นชนชั้นต่างๆ คือ
     หนึ่ง ชนชั้นผู้วางแผนและอำนวยการ ทำงานชั่วชาติให้มันอย่างมีระบบ ชนชั้นนี้ได้แก่ เหล่าอำมาตย์ในสังกัดซึ่งมีนายพลอกหัก ทั้งทหารและตำรวจ นักธุรกิจ อดีตปัญญาชน (ฝ่ายซ้าย) เหล่าคนสำส่อน (ส.ส.) และพลพรรคผู้สูงวัย (ส.ว.) 
     สอง ชนชั้นแกนนำผู้รับงานมาปฏิบัติการก่อการร้าย
     (ทั้งสองชนชั้นนี้ขึ้นตรงต่อมันโดยตรง ได้รับเงินค่าจ้างแตกต่างกัน ขึ้นอยู่กับว่าผลงานจะเข้าตามันเพียงใด) และ
     สาม ชนชั้นที่ตนเรียกว่าไพร่ คือชาวไร่ ชาวนา ผู้ใช้แรงงาน ที่มาร่วมชุมนุมด้วยความบริสุทธิ์ใจ และผู้ที่ได้รับการจ้างมา หรือหลงผิดถูกหลอกมาให้เป็นโล่มนุษย์
     3.ผมดูการปราบการก่อการร้ายของรัฐแล้ว เหมือนการเล่นลิเกนับตั้งแต่โหมโรงออกแขก
จนถึงตอนที่รัฐใช้กำลังทหารเข้าล้อมพื้นที่ชุมนุมของ นปช.รอบบริเวณราชประสงค์ เมื่อเช้าวันที่ 19 พฤษภาคม 2553 จนแกนนำ นปช.ขอเข้ามอบตัวอย่างลุกลี้ลุกลน หลบเข้าหลังฉากไปในตอนบ่าย ศอฉ.ก็ประกาศว่าทหารจะหยุดปฏิบัติการขอพื้นที่คืน
     เสมือนว่าเป็นการพักการแสดงภาคแรก หรือที่ฝรั่งเรียกว่า "Intermission" นั้น คนดูดูมาถึงตอนนี้บ่นกันตรึมเลยว่า ทำไมพระเอกยังไม่ออกโรงเลย บ้างก็ให้ความเห็นว่าเจ้ามูลแม้วเขียนบทไว้ ไม่ยอมให้มีพระเอกให้มีแต่ผู้ก่อการร้ายต่อแผ่นดิน และโจรปล้นสะดมเท่านั้น เพราะเห็นส่ง fb หรือ ทวิต มาว่า "ให้แกนนำตัดสินใจได้เลย เพราะอยู่ในพื้นที่ไม่ต้องห่วงผม"
     มิน่าตำรวจจึงให้แกนนำอย่างนายณัฐวุฒิได้สิทธิใช้ไมค์ตำรวจสั่งเสียคนเสื้อแดง ดำเนินการต่อไปตามสะดวกหลังจากที่ตนได้เข้ามอบตัว ซึ่งเป็นผลให้มีการก่อการร้ายเผาบ้านเมืองตามอัธยาศัย
     4.ผมเข้าใจว่าการปราบปรามกลุ่มผู้ก่อการร้าย รัฐดำเนินการค่อนข้างจะเป็นขั้นตอนมากเกินไป อาจจะเป็นเพราะต้องประสานทั้งด้านการเมืองกับกลุ่มผลประโยชน์ของพรรคร่วมรัฐบาล และขอความร่วมมือจากฝ่ายความมั่นคง ทั้งทหารและตำรวจ (ซึ่งเต็มไปด้วยแตงโมและมะเขือเทศ)
     การปราบปรามพวกก่อการร้ายจึงขาดความรวดเร็วเด็ดขาด ทำให้ศัตรูได้ใจและฮึกเหิม
โดยเฉพาะตำรวจปฏิบัติต่อแกนนำผู้ก่อการร้ายเยี่ยง VIP เช่น เปิดโอกาสให้นายณัฐวุฒิใช้ไมค์ตำรวจสั่งเสียคนเสื้อแดงก็ดี หรือให้นายวีระแถลงความในใจต่อคนเสื้อแดงทั้งประเทศในวันที่เข้ามอบตัวก็ดี
     รวมทั้งการใช้บ้านรับรองนายตำรวจชั้นผู้ใหญ่ ในค่าย ตชด.ริมหาดชายทะเลชะอำ เป็นที่พักผ่อนและกักกันตัว แทนที่จะฝากขังไว้ในเรือนจำดังเช่นผู้ต้องหาคดีอุกฉกรรจ์ตามที่ได้เคยปฏิบัติกันมา ตลอดจนภาพที่กลุ่มนายตำรวจชั้นผู้ใหญ่วางปืนให้นายอริสมันต์ยึดไป แล้วให้พรรคพวกจับตัว กดหัวตำรวจคนหนึ่งในกลุ่มนั้น ขึ้นรถไปเป็นตัวประกัน
     การปฏิบัติของตำรวจต่อผู้ต้องหาก่อการร้ายดังกล่าว ส่อให้เห็นความเป็นเพื่อนที่ดีของตำรวจกับฝ่ายผู้ก่อการร้าย ดังที่นายณัฐวุฒิได้กล่าวไว้ในวันที่เข้ามอบตัวว่า "พี่น้องไม่ต้องห่วงผมเพราะตลอดเวลาที่พวกเราชุมนุมมา ตำรวจเป็นเพื่อนที่ดีของพวกเรา"
     พฤติกรรมของตำรวจเหล่านี้ทำให้ประชาชนผู้เสียภาษีเป็นเงินเดือนให้แก่ตำรวจทั้งหลาย รู้สึกสิ้นศรัทธาในตำรวจไทย ยิ่งเห็นนายตำรวจใหญ่ โฆษก สตช.อย่างพงศพัศ พงษ์เจริญ ยืนยิ้มแก้มปริอยู่หน้าวัดปทุมวนารามฯ รับไหว้ผู้ชุมนุมที่ทางการกำลังดำเนินการจัดส่งตัวกลับบ้าน ในเช้าวันที่ 20 พฤษภาคม 2553 ผมแทบอ้วกแตก (ขอโทษ) เพราะเลี่ยนกับผักชีโรยหน้า สตช.เต็มทน
     ระหว่าง Intermission เพื่อรอดูการปราบปรามพวกก่อการร้ายภาคสอง ผมหลับผล็อย
ไปและฝันว่าเจ้ามูลแม้วร่วมกับชนชั้นอำมาตย์ของมัน กำลังยืนเรียงแถวรอเข้าเฝ้าพญายมเพื่อสารภาพบาป และรับบัตรผ่านเข้าสู่ขุมนรกขุมต่างๆ ตามโทษานุโทษของแต่ละคน รัฐปราบปรามแกนนำรวมทั้งผู้ก่อการร้ายทั้งหลายได้สำเร็จเด็ดขาด
     สตช.เต็มไปด้วยตำรวจที่เปรียบเสมือนร่มโพธิ์ร่มไทร เป็นที่พึ่งที่ศรัทธาของประชาชน หาผักชีสักต้นก็ไม่มี ทหารเป็นรั้วเป็นเสาหลักที่เข้มแข็งเพื่อป้องกัน ชาติ ศาสน์ กษัตริย์ จากอริราชศัตรูอย่างแท้จริง ไม่มีทหารมาเฟียหรือทหารธุรกิจแม้แต่คนเดียว ประชาชน ชาวไร่ ชาวนา มีความสุขบนพื้นฐานของความพอเพียง นักการเมืองและข้าราชการทุกภาคส่วน ยึดมั่นและสำนึกในหน้าที่ของตน ปฏิบัติหน้าที่ด้วยความบริสุทธิ์ ยุติธรรม เพื่อประโยชน์สุขของประชาชน
     กำลังฝันอย่างมีความสุขต้องตกใจตื่นเพราะฉี่ราดครับ ดีใจที่ต่อมลูกหมากกลับสู่ภาวะปกติเพราะฝันดี
                                             นายเสาชิงช้า หน้าโบสถ์พราหมณ์   
ตอบ คุณเสาชิงช้าฯ
     คุณมองการปราบกบฏเสื้อแดงว่าเหมือนรัฐบาลเล่นลิเก เพราะทุกบททุกฉากเหมือนมีคนเขียนบทรอไว้แล้ว แต่คุณยังมีอารมณ์ขันที่จะขอหลับและฝันเป็นตุเป็นตะ ว่าบ้านเมืองของเราต่อจากนี้ไปจะไม่มีทหารแตงโม ตำรวจมะเขือเทศ นักการเมืองที่ทำตัวทุเรศๆ แต่สุดท้ายฝันของคุณก็เปียกจนได้เพราะฉี่ราด
                                                        สามวา สองศอก       

http://www.thaipost.net/news/240510/22441


หัวข้อ: Re: [2513]"ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: ดร.มนตรี ที่ 24 พฤษภาคม 2553, 10:46:13
 
อ้างถึง   

"ฟื้นฟูประเทศ" วาระคนไทยทั้งชาติ
บทบรรณาธิการ 24 พฤษภาคม 2553 - 00:00

     

http://www.thaipost.net/news/240510/22446


ยังมีประเทศไทย ^__^  

http://www.pantip.com/cafe/camera/topic/O9283971/O9283971.html

(หน้าศาลากลาง จ.อุบลฯ)

(http://www.cmadong.com/imageupload/2010_Cmadong-Image/data/image/l2wmpb-419f8e.jpg)



หัวข้อ: Re: [2513]"ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: ดร.มนตรี ที่ 24 พฤษภาคม 2553, 11:00:07
ศาลากลาง จ. อุบลฯ ที่ทำงานเก่า ของ คุณ เถกิง  สิงห์ดำ รุ่น 3 

(http://www.cmadong.com/imageupload/2010_Cmadong-Image/data/image/l2wofx-77171f.jpg)


หัวข้อ: Re: [2513]"ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: ดร.มนตรี ที่ 24 พฤษภาคม 2553, 11:42:29
ภาพ: เครดิตโครงการฯต้นแบบ ม.แม่ฟ้าหลวง จ.เชียงราย

ขยายโครงการสู่พื้นที่เป้าหมาย ทั่วประเทศ   emo49:))

(http://www.cmadong.com/imageupload/2010_Cmadong-Image/data/image/l2wnd0-a159ef.jpg)






หัวข้อ: Re: [2513]"ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: ภาณุ ปาตานี ที่ 24 พฤษภาคม 2553, 12:32:42
อ้างถึง
ข้อความของ prapasri AH เมื่อ 24 พฤษภาคม 2553, 07:44:46
อยากให้เจ๊ดา เข้าไปนอนบนเตียงนอน อย่างผู้ถูกคุมขังบ้าง

เธอจะใส่ชุดสีไร นะ

แต่กางเกงในคงจะ สีเเลงงงงงงงงงงงงงง

คาดการณ์เฉยๆ นะโอเคครับพี่แอ๊ะ

แต่ไม่อยากจะเห็น...เลยครับ

คาดว่า...จะทรงกลม


หัวข้อ: Re: [2513]"ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: Intania๑๖ ที่ 24 พฤษภาคม 2553, 15:16:06
พี่แอ๊ะครับ ถ้ารู้จักเขียนอะไรติดหน้าร้านสักนิดแบบนี้ เช่นดังภาพ ก็จะไม่โดนทำลาย
ถ้าอนาคตจะมีอีก เอาภาพเช็ดหน้าสีแดง ติดรถไว้สักผืน ก็จะไม่โดนตรวจค้น

นี่คือบ้านป่าเมืองเถื่อน อีกนานสักเท่าไหร่ครับ เราจะมีประชาธิปไตยที่เป็นประชาธิปไตยจริงๆ
เป็นนิติรัฐที่แท้จริง ไม่มีคอร์รัปชั่น เก็บภาษีเต็มเม็ดเต็มหน่วย คนรวยคนมั่งมี รู้จักบริจาคให้คืนกับสังคม
พัฒนาการศึกษาให้กับเยาวชน และชนบทให้ดีขึ้น
ไม่สร้างความฟุ้งเฟ้อทางด้านวัตถุหรือเทคโนโลยี่ ที่รู้จักซื้อมาจากต่างประเทศ แต่ผลิตหรือพัฒนาไม่เป็น
อย่าบ้า Ipod Iphone Ipad I-ba อยู่เลย 


(http://i894.photobucket.com/albums/ac145/nick1usa/Z03.jpg)
(http://i894.photobucket.com/albums/ac145/nick1usa/Z02.jpg)
(http://i894.photobucket.com/albums/ac145/nick1usa/Z01.jpg)

ที่มา: http://www.pantip.com/cafe/camera/topic/O9269457/O9269457.html


หัวข้อ: Re: [2513]"ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: เหยง 16 ที่ 24 พฤษภาคม 2553, 15:29:37
ตรวจตัวเลขเพื่อเตือนความจำ ของ 4 นายกรัฐมนตรี

4 นายกฯ 4 ยุคการสูญเสีย (ชีวิต)

 (http://www.cmadong.com/imageupload/2010_Cmadong-Image/data/image/l2x0wu-df02f8.jpg)
จอมพลถนอม กิตติขจร - พล.อ.สุจินดา คราประยูร - สมชาย วงศ์สวัสดิ์ - อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ
  
นับตั้งแต่มีการเปลี่ยนแปลงการปกครองของไทยตั้งแต่ปี 2475 เกิดเหตุการณ์ให้ประวัติศาสตร์ต้องบันทึกไว้หลายต่อหลายเหตุการณ์ มีทั้งการเปลี่ยนแปลงในทางที่ดี และ เหตุการณ์ที่เลวร้ายสุดๆ ที่ไม่มีใครอยากเกิดขึ้นเลย โดยเฉพาะเหตุการณ์การต่อสู้ทางการเมือง ที่อ้างถึง "ประชาธิปไตย" ต่อสู้ ชุมนุม ยืดเยื้อ กระทั่งมีการปราบปรามจนมี "คนไทย" บาดเจ็บ ล้มตายกันเป็นจำนวนมาก

ท่ามกลางการบริหารประเทศของผู้นำสูงสุดของไทย มีทั้งคนที่เห็นด้วย ชื่นชม ทำตาม ขัดแย้ง ต่อต้าน ไม่ปฏิบัติตาม เป็นธรรมดาการทำงานในบรรยากาศชื่นชมที่เป็นไปอย่างราบรื่น แต่หลายต่อหลายครั้งการบริหารประเทศภายใต้บริบทที่ปกคลุมไปด้วยความขัดแย้ง รุนแรง ต้องจบลงด้วยความสูญเสีย ที่ยากจะลืมลง    

"14 ตุลา" ยุค จอมพลถนอม กิตติขจร

เริ่มมาจากการที่ จอมพลถนอม กิตติขจร ทำการรัฐประหารตัวเองในวันที่ 17 พ.ย. 14 เหตุการณ์ครั้งนั้นนักศึกษา และ ประชาชนมองว่าเป็นการสืบทอดอำนาจตนเองจากจอมพลสฤษดิ์ ธนะรัชต์ และ จอมพลประภาส จารุเสถียร บุคคลสำคัญในรัฐบาล ก็ไม่ได้รับการยอมรับเหมือนจอมพลถนอม แต่กลับต่ออายุราชการให้ตัวเอง ประกอบกับการทุจริตคอร์รัปชั่นจำนวนมาก สร้างความไม่พอใจให้กับประชาชน เป็นอย่างมาก กระทั่งวันที่  6 ต.ค. 14 มีบุคคล 100 คน เช่น นักวิชาการ นักการเมือง นักคิด นักเขียน นิสิต นักศึกษา เป็นต้น ร่วมลงชื่อร้องขอรัฐธรรมนูญ

จากนั้นนักศึกษาได้เดินแจกใบปลิวเรียก ร้องรัฐธรรมนูญตามสถานที่ต่างๆในกรุงเทพมหานคร ส่งผลให้เจ้าหน้าที่ตำรวจได้จับกุมประชาชน และ นักศึกษา ด้วยข้อหา "คอมมิวนิสต์"  และ ถูกเรียกขานว่าเป็น "ขบถรัฐธรรมนูญ" สร้างความไม่พอใจอย่างยิ่งให้แก่ นักศึกษา ประชาชนอย่างมาก นำไปสู่การชุมนุมใหญ่ที่มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ และ ยื่นคำขาดให้ทางรัฐบาลปล่อยตัวทั้งหมด แต่เมื่อถึงเวลาแล้วรัฐบาลก็กระทำการเดินขบวนครั้งใหญ่จึงเริ่มต้นที่มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ เมื่อวันที่ 13 ต.ค. ตามถนนราชดำเนิน สู่ลานพระบรมรูปทรงม้า โดยมีแกนนำเป็นนักศึกษาและมีประชาชนเข้าร่วมด้วยจำนวนมาก นำไปสู่การนองเลือดในเช้าตรู่วันที่ 14 ต.ค. เกิดการปะทะระหว่างเจ้าหน้าที่รัฐและประชาชน  จึงเกิดการปะทะกันกลายเป็นการจลาจล เฮลิคอปเตอร์ยิงปืนลงมาเพื่อสลายการชุมนุม

เหตุการณ์ยังไม่สงบลงง่ายๆ โดยกลุ่มทหารได้เปิดฉากยิงเข้าใส่นักศึกษาและ ประชาชนอีกครั้ง นักศึกษาพยายามพุ่งรถบัสที่ไม่มีคนขับเข้าใส่สถานีตำรวจ ที่อนุเสาวรีย์ประชาธิปไตย ประกาศท้าทายกฎอัยการศึก ประกาศว่าจะอยู่ที่อนุเสาวรีย์ประชาธิปไตย กระทั่งวันที่ 15 ต.ค. ได้มีประกาศว่า จอมพลถนอม จอมพลประภาส และ พ.อ.ณรงค์ กิตติขจร ได้เดินทางออกนอกประเทศแล้ว เหตุการณ์จึงค่อยสงบลง

เหตุการณ์ 14 ตุลา 2516 หรือ วันมหาวิปโยค เป็นเหตุการณ์ที่นักศึกษาและประชาชนในประเทศไทย มากกว่า 500,000 คน โดยในเหตุการณ์นี้มีผู้เสียชีวิต 77 ราย บาดเจ็บ 857 ราย และสูญหายอีกจำนวนมาก

"35 พฤษภาทมิฬ" ยุค พล.อ. สุจินดา คราประยูร

การรับตำแหน่งนายกรัฐมนตรีของ พล.อ.สุจินดา คราประยูร  นำไปสู่การเคลื่อนไหวคัดค้าน ต่อต้านของประชาชนอย่างกว้างขวาง เนื่องจากมองว่า เป็นการสืบทอดอำนาจของคณะรักษาความสงบเรียบร้อยแห่งชาติ (รสช.) โดยการอดอาหารของ ร.ต. ฉลาด วรฉัตร และ พล.ต. จำลอง ศรีเมือง หัวหน้าพรรคพลังธรรม ในขณะนั้น สหพันธ์นิสิตนักศึกษาแห่งประเทศไทย และการสนับสนุนของพรรคฝ่ายค้าน ประกอบด้วย พรรคประชาธิปัตย์ พรรคเอกภาพ พรรคความหวังใหม่และพรรคพลังธรรม มีข้อเรียกร้องให้นายกรัฐมนตรีลาออกจากตำแหน่ง และเสนอให้ผู้ดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีต้องมาจากการเลือกตั้ง

การชุมนุมยืดเยื้อตั้งแต่เดือน เม.ย. 35 แต่ช่วงที่มีการปะทะกันรุนแรงในช่วงวันที่ 17-20 พ.ค. โดยวันที่ 17 พ.ค. มีการเคลื่อนขบวนประชาชนจากสนามหลวงไปยังหน้าทำเนียบรัฐบาล ตำรวจและทหารได้สกัดการเคลื่อนขบวน จึงก่อให้เกิดการปะทะกันระหว่างประชาชนกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ และมีการบุกเผาสถานีตำรวจ กระทั่งในวันที่ 18 พ.ค. รัฐบาลได้ประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินในกรุงเทพมหานคร และให้ทหารทำหน้าที่รักษาความสงบ แต่ได้นำไปสู่การปะทะกันกับประชาชน มีการใช้กระสุนจริงยิงใส่ผู้ชุมนุมในบริเวณถนนราชดำเนินจากนั้นจึงเข้าสลาย และได้ควบคุมตัว พล.ต. จำลอง และยืนยันว่าไม่มีการเสียชีวิตของประชาชน แต่การชุมนุมต่อต้านของประชาชนยังไม่สิ้นสุด เริ่มมีประชาชนออกมาชุมนุมอย่างต่อเนื่องในหลายพื้นที่ทั่วกรุงเทพ  จนวันที่ 19 พ.ค. เจ้าหน้าที่เริ่มเข้าควบคุมพื้นที่บริเวณถนนราชดำเนินกลางได้ และควบคุมตัวประชาชนจำนวนมากขึ้นรถบรรทุกทหารไปควบคุมไว้ จนเหตุการณ์บานปลายรุนแรง

วันพุธที่ 20 พ.ค. 35 พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว พระราชทานพระบรมราชวโรกาสให้ ศาสตราจารย์สัญญา ธรรมศักดิ์ ประธานองคมนตรี และ พลเอก เปรม ติณสูลานนท์ องคมนตรีและรัฐบุรุษ นำพลเอกสุจินดา  และ พลตรี จำลอง เข้าเฝ้าทูลละอองธุลีพระบาท โอกาสนี้ ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อม พระราชทานพระราชดำรัสแก่คณะผู้เข้าเฝ้าทูลละอองธุลีพระบาทด้วย  หลังจากนั้นประมาณ 1 สัปดาห์ พลเอก สุจินดา จึงกราบถวายบังคมลาออกจากตำแหน่งนายกรัฐมนตรี และ มอบหมายให้ นายมีชัย ฤชุพันธุ์ รองนายกรัฐมนตรี รักษาการในตำแหน่งนายกรัฐมนตรีไปพลางก่อน

เหตุการณ์ที่ประชาชนเคลื่อนไหวประท้วงดังกล่าวนำไปสู่เหตุการณ์ปราบปรามและปะทะกันระหว่างเจ้าหน้าที่ตำรวจและทหารกับประชาชนผู้ชุมนุม มีผู้เสียชีวิตและบาดเจ็บจำนวนมาก

"7 ตุลาวิปโยค" ยุคนายสมชาย วงศ์สวัสดิ์

17 ก.ย. 51 ทายาทการเมืองของ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี นายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ รองหัวหน้าพรรคพลังประชาชน รักษาการหัวหน้าพรรค ได้รับการเลือกจากสภาผู้แทนราษฎรให้ดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีคนที่ 26 ของประเทศไทย ต่อจากนายสมัคร สุนทรเวช อดีตนายกรัฐมนตรี ที่เกิดอุบัติเหตุทางการเมือง ท่ามกลางกระแสคัดค้านว่าเป็นนอมินี เป็นสายตรง และ การทำงานต่างๆ ยังคงสืบทอดอำนาจจาก พ.ต.ท.ทักษิณ เต็มรูปแบบจนทำให้ประชาชน นำโดยกลุ่มพันมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ที่มีการชุมนุมคัดค้านรัฐบาล พ.ต.ท.ทักษิณ ต่อเนื่องมาตั้งแต่ปี 2548

กระทั่ง วันที่ 7 ต.ค. 2551 แกนนำพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยรุ่นที่ 2 นำมวลชน ชุมนุมต่อเนื่องหน้ารัฐสภา เพื่อไม่ให้รัฐบาลนายสมชาย แถลงนโยบายต่อรัฐสภา เป็นเหตุให้เจ้าหน้าที่ตำรวจใช้แก๊สน้ำตาและ ได้มีการปะทะระหว่างเจ้าหน้าที่ตำรวจกับกลุ่มผู้ชุมนุม โดยตำรวจอ้างว่าใช้เพียงแก๊สน้ำตาแบบยิง แก๊สน้ำตาแบบขว้างและโล่ ขณะที่กลุ่มพันธมิตรฯมีการใช้ ขวดน้ำ และหิน ปะทะกันจนถึงขั้นมีผู้เสียชีวิต

เหตุการณ์ดังกล่าวทำให้มีผู้เสียชีวิตจำนวน 2 คน และ บาดเจ็บจำนวนกว่า 443 คน 
พล.อ. ชวลิต ยงใจยุทธ รองนายกรัฐมนตรี ตัดสินใจลาออกจากตำแหน่งเพื่อรับผิดชอบเหตุการณ์ครั้งนี้และ ต่อมารัฐบาลนายสมชาย ถูกตัดสินคดีจนทำให้พรรคพลังประชาชน ที่นายสมชาย เป็นหัวหน้าพรรคถูกศาลรัฐธรรมนูญ ตัดสินยุบ ทำให้นายสมชาย หมดสภาพโดยทันที แต่เหตุการณ์ความขัดแย้งทางการเมืองยังไม่จบสิ้น

"สงกรานต์เลือด"-"พฤษภาเดือด" ยุคนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ

ภายหลังนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ขึ้นดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรี เมื่อวันที่ 20 ธ.ค. 51 กลุ่มผู้ต่อต้านคัดค้านที่้ชื่อว่า "กลุ่มคนเสื้อแดง" ได้มีการต่อต้านประท้วงอย่างทันที โดยเริ่มจากการชุมนุมที่ท้องสนามหลวงและเคลื่อนขบวนมาปักหลักชุมนุมอย่างยืดเยื้อบนถนนรอบทำเนียบรัฐบาล  เรียกร้อง 1. พล.อ. เปรม ติณสูลานนท์ พล.อ. สุรยุทธ์ จุลานนท์ และนายชาญชัย ลิขิตจิตถะ ต้องพิจารณาตัวเองด้วยการลาออกจากตำแหน่งองคมนตรี
 2. นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ต้องลาออกจากตำแหน่งนายกรัฐมนตรี
 3. การบริหารราชการแผ่นดินดำเนินไปตามครรลองของระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข การปรับปรุงใดๆ ให้ดีขึ้นตามหลักสากล ต้องมีการปรึกษาหารือกันระหว่างนักประชาธิปไตยผู้มีประวัติและพฤติกรรมเชิดชูระบอบประชาธิปไตยเป็นที่ประจักษ์
 ซึ่งแกนนำคนเสื้อแดงได้เรียกร้องให้เวลา 24 ชั่วโมง ไม่เช่นนั้น จะมีการยกระดับการชุมนุม หลังพ้นกำหนด 24 ชั่วโมงตามที่ได้เรียกร้อง ผู้ชุมนุมเสื้อแดงได้ทยอยเดินทางชุมนุมหน้าบ้านสี่เสาเทเวศร์ และปิดกั้นถนนสำคัญหลายสาย เช่น ถนนรอบอนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิและอนุสาวรีย์ประชาธิปไตย

กระทั่งวันที่ 11 เม.ย. 52 มีการบุกเข้าไปในโรงแรมรอยัล คลีฟ บีช รีสอร์ท และขัดขวางการประชุมสุดยอดผู้นำอาเซียน ได้ทำการปิดถนนตามแยกต่าง ๆ ภายในกรุงเทพมหานคร  ต่อมารัฐบาลได้ประกาศพระราชบัญญัติบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉินที่มีความร้ายแรงในเขตกรุงเทพมหานครและใกล้เคียง หลังจากที่ได้มีการประกาศสถานการณ์ฉุกเฉิน ในระหว่างมีเหตุการณ์รุนแรงเกิดขึ้นต่อเนื่อง ต่อมาวันที่ 14 เม.ย. 52 กำลังทหารและตำรวจได้ใช้แก๊สน้ำตา กระสุนจริงและกระสุนฝึกหัดเข้าสลายการชุมนุมที่บริเวณแยกดินแดง

จนมีผู้ได้รับบาดเจ็บ 70 คนแกนนำประกาศยุติการชุมนุมบนถนนรอบทำเนียบรัฐบาลเพื่อป้องกันการสูญเสียที่จะเพิ่มขึ้นจากการปราบปรามของรัฐบาล จากนั้นแกนนำ 5 คน คือ นายวีระ มุสิกพงศ์ นายแพทย์เหวง โตจิราการ นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ และนายสุพร อัตถาวงศ์ได้เข้ามอบตัวต่อ พล.ต.อ. พัชรวาท วงษ์สุวรรณ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ และนับเป็นการยุติเหตุการณ์ความไม่สงบดังกล่าว

กระทั่ง มีการรวมกลุ่มใหม่ของแกนนำรุ่น 2  โดยใช้ฤกษ์พฤษภาทมิฬ 17-20 พ.ค.แต่ก็ไม่มีอะไรมาก เป็นเพียงการชุมนุมเป็นครั้งครา ต่อมาได้มีการประกาศชุมนุมใหญ่โดยปักหลักที่บริเวณผ่านฟ้าลีลาศ ตั้งแต่วันที่ 12 มี.ค.53 และขยายไปตั้งเวทีใหญ่ที่สี่แยกราชประสงค์ แต่รัฐบาลเห็นว่ามีการชุมนุมกันเป็นเวลานาน และ กระทำผิดกฎหมายร้ายแรง เป็นที่มาของการ "ขอคืนพื้นที่" 10 เม.ย.จนเป็นเหตุทำให้มีผู้บาดเจ็บและเสียชีวิตจำนวนหนึ่ง ต่อเนื่องมาวันที่ 19 เม.ย. รัฐบาลนายอภิสิทธิ์ นำกำลังทหารเข้าสลายการชุมนุม จนแกนนำต้องประกาศสลายการชุมนุม เดินทางไปมอบตัวกับเจ้าหน้าที่ตำรวจเป็นครั้งที่ 2

ซึ่งการปฏิบัติการ ระหว่างวันที่ 10 เม.ย. และ 19 พ.ค. ศูนย์บริการการแพทย์ฉุกเฉิน กรุงเทพมหานคร (ศูนย์เอราวัณ) ได้รายงานว่ามีผู้เสียชีวิตทั้งสิ้นกว่า 80 ราย บาดเจ็บทั้งส้ินกว่า 1.3 พันคน  

ภาวนาและหวังเป็นอย่างยิ่งว่าเหตุการณ์การสูญเสียครั้งที่ผ่านๆ มาจะเป็นบทเรียน อุทาหรณ์สุดท้ายให้กับคนไทยทุกคน (ย้ำว่าทุกคน) ที่จะช่วยไม่ให้ชาติบ้านเมืองติดหล่ม "ประชาธิปไตย" จนเกิดเป็นโศกนาฏกรรมทางการเมือง

http://www.thairath.co.th/content/pol/84859


หัวข้อ: Re: [2513]"ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: อ้อย 14 ที่ 24 พฤษภาคม 2553, 19:47:25
 emo29:P: ว๊าย....หมดนี่  อภิสิทธิ์ หล่อสุด  รองลงมาก็ สุจินดา..... emo28:win: ตาสมชาย ไปไกลๆๆ


หัวข้อ: Re: [2513]"ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: เหยง 16 ที่ 24 พฤษภาคม 2553, 19:56:40
ต้องอ่านเอาเองครับ ระหว่าง "ใจล์ อึ้งภากรณ์" กับ "ฟิลิป คันนิ่งแฮม" กรณีการชุมนุมของเสื้อแดงและการสลายการชุมนุม

วันที่ 24 พฤษภาคม พ.ศ. 2553 เวลา 18:26:06 น.  มติชนออนไลน์
วิวาทะ "ไจล์ อึ้งภากรณ์" กับ "คันนิ่งแฮม" เสื้อแดงต่อสู้เพื่อรากหญ้าหรือทักษิณ กันแน่?

ประเทศไทยก็ถูกจับตามองจากนานาชาติว่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นจะเหมือนหรือต่างจากสิ่งที่เกิดขึ้นที่จตุรัสเทียนอันเหมิน ตอนที่มีการปฏิบัติการกับนักศึกษาที่ออกมาประท้วงเรียกร้องประชาธิปไตยจากรัฐบาลจีนหรือไม่ ?


     เมื่อไม่นานมานี้ รายการทีวี   Democracy Now  ได้เชิญ คนไทย และฝรั่ง ที่ติดตามเหตุการณ์อย่างใกล้ชิดมาพูดคุยในรายการ  ในหัวข้อ “การเคลื่อนไหวของกลุ่มคนเสื้อแดงเป็นเรื่องความยากแค้นของคนรากหญ้าอย่างแท้จริงหรือไม่ หรือเป็นเพียงฉากหน้าสำหรับอดีตนายกรัฐมนตรี มหาเศรษฐีผู้ทรงอิทธิพลที่โดนขับไล่


    ผู้ร่วมรายการคนแรกคือ   "ไจล์   อึ้งภากรณ์ "    ซึ่งขณะนี้อาศัยอยู่ในประเทศอังกฤษ เขาเคยเป็นอาจารย์คณะรัฐศาสตร์ จุฬาฯ  ก่อนที่จะหลบหนีหลังจากเขียนหนังสือวิพากษ์วิจารณ์การทำรัฐประหารโดยทหารในปี 2006 เขาเป็นผู้ที่สนับสนุนกลุ่มคนเสื้อแดง


   อีกคนคือ "ฟิลิป คันนิ่งแฮม" นักเขียนอิสระ ที่มีงานเขียนครอบคลุมพื้นที่เอเชียมากว่า 20 ปี เขาสอนที่จุฬาลงกรณมหาวิทยาลัย และ มหาวิทยาลัย Doshisha ในประเทศไทย งานเขียนของเขาปรากฏอยู่ในหนังสือพิมพ์ Bangkok Post  


   โดยมี  เอมี่ กู๊ดแมน เป็นผู้ดำเนินรายการ
 
  นายไจล์ อึ้งภากรณ์ :  สิ่งที่กลุ่มคนเสื้อแดงต้องการคือ ประชาธิปไตย เพราะว่ารัฐบาลชุดปัจจุบันเข้ามาผ่านทางทหาร และที่จริงรัฐบาลนี้เป็นผลพวงมาจากการเกิดรัฐประหารในปี 2006 และคดีที่เกี่ยวข้องกับการทำรัฐประหาร ดังนั้นคนเสื้อแดงจึงเรียกร้องให้มีการเลือกตั้งใหม่ เรียกร้องให้มีการจัดการเลือกตั้งที่ถูกต้องตามกฎหมาย และแม้ว่ากลุ่มคนเสื้อแดงจะเข้ามาอยู่ที่ใจกลางของกรุงเทพมหานครถึง 2 เดือนแล้ว แต่พื้นที่ส่วนนั้นก็เป็นเพียงส่วนหนึ่งของศูนย์การค้าและโรงแรมหรูหรา แม้กระนั้นรัฐบาลก็ยังเคลื่อนกำลังพลแม่นปืนและหน่วยพิฆาตเข้ามา ตั้งแต่ต้นเดือนเมษายนที่ผ่านมารัฐบาลฆ่าคนไปแล้ว 67 คน และมีคนเจ็บนับพัน อันที่จริงตอนนี้มันถึงเวลาที่รัฐบาลต้องสั่งให้หยุดยิงทันที และเข้ามาเจรจากับกลุ่มคนเสื้อแดง
 

เอมี่ กู๊ดแมน : ไจล์  ก่อนหน้านี้ คนเสื้อแดงเสนอการเจรจาแล้วรัฐบาลปฏิเสธ
 

นายไจล์ อึ้งภากรณ์ :   พวกกลุ่มคนเสื้อแดงเสนอที่จะเจรจากับรัฐบาลอีกครั้ง ฝ่ายรัฐบาลต้องการจะเอาชนะและรักษาอำนาจโดยการใช้กำลัง   คุณต้องตระหนักว่ารัฐบาลชุดนี้สั่งให้มีการเซ็นเซอร์ทีแย่ที่สุดที่เคยมีมาในประเทศไทย มีการเซ็นเซอร์ทางอินเตอร์เน็ต สื่อต่างๆในทุกรูปแบบ รัฐบาลแทรกแซงแม้แต่ทางเฟซบุ๊ค และทางด้านอื่นๆอีก  คุณจะเห็นว่าสิ่งที่ทำให้รัฐบาลยังคงมีอำนาจอยู่ก็มี 2 อย่าง คือการสั่งเซ็นเซอร์และกองกำลังที่โหดเหี้ยม พวกเขาไม่พร้อมที่จะให้โอกาสประชาชนตัดสินใจว่าต้องการจะให้ใครเข้ามาบริหารประเทศ โดยวิธีการอย่างไร
 

เอมี่ กู๊ดแมน :  ฟิลิป คันนิ่งแฮม คุณเคยอยู่ในญี่ปุ่น ตอนนี้อยู่ที่ เมืองอิตาคา นิวยอร์ก  จากที่คุณเฝ้าดูสถานการณ์ คุณคิดว่ากำลังเกิดอะไรขึ้นที่ประเทศไทย
 

ฟิลิป คันนิ่งแฮน :   ผมขออ้างบทกวีที่มีชื่อเสียงของ Gil Scott-Heron ที่ว่า “หากมีการปฏิวัติก็จะไม่มีการออกอากาศทางโทรทัศน์”  นี่มีการออกโทรทัศน์ ซึ่งมันก็ไม่ใช่การปฏิวัติ สิ่งที่ทุกคนเห็นเกิดขึ้นที่เมืองไทยเป็นการปฏิวัติปลอมๆ ที่ถูกกวนให้คุกรุ่นขึ้นมาโดยมหาเศรษฐีนักธุรกิจที่ร่ำรวยและมากอิทธิพลที่ต้องระเห็ดออกไปนอกประเทศที่คุณกำลังพูดถึง มันมีความคับข้องใจอยู่จริง มีคนยากจนอยู่จริงๆ มีข้อผิดพลาด และความอ่อนไหวแฝงอยู่ที่ง่ายมากที่จะยั่วยุ มันคงจะเหมือนกับมหาเศรษฐีในตระกูลร๊อกกี้เฟลเลอร์เข้าไปสนับสนุนทางการเงินให้เกิดความวุ่นวายในสลัม หากพวกเขาถูกจับและถูกเนรเทศ หรืออะไรทำนองนี้แหละครับ ผมหมายความว่า มันเป็นสถานการณ์ที่แปลกมาก และเป็นสถานการณ์ที่น่าเศร้ามากๆก็ตาม ผู้คนกำลังจะตาย พวกเขาตายเพื่อมหาเศรษฐีที่เปี่ยมอิทธิพล ฟังดูไม่สมเหตุสมผลเอาเสียเลย


ถ้าหากว่าประเทศไทยต้องการประชาธิปไตยหรือระบอบสังคมนิยม ซึ่งคุณไจล์ ต่อสู้มาเป็นเวลานาน ผมก็พอจะรับได้ว่ามันมีเหตุผลพอ แต่นั่นต้องเป็นการต่อสู้แบบสันติ แต่นี่กลุ่มคนเสื้อแดงไม่ใช่กลุ่มคนที่สันติ
 

เอมี่ กู๊ดแมน :  เชิญคุณไจล์ค่ะ
 

นายไจล์ อึ้งภากรณ์ :  มันเหลวไหลที่พูดว่าคนเสื้อแดงไม่ใช่เป็นคนที่รักสันติ อันที่จริงพวกเขาเป็นคนที่มีวินัยมากๆ และพยายามที่จะรักษาให้เป็นการชุมนุมประท้วงที่สันติ ต่อหน้าของรัฐบาล และรัฐบาลต่างหากที่นำทหารติดอาวุธและรถถังออกมาบนถนน รัฐบาลไหนๆก็ตามที่พยายามที่จะสลายการชุมนุมที่สันตินี้โดยการใช้อาวุธ รถถังและปืน แล้วก็ฆ่าคนไป 65 คน นี่ต้องประณามว่ามันผิด
 

ผมคิดว่าฟิลิปได้รับข้อมูลที่ผิดๆเกี่ยวกับคนเสื้อแดง ผมหมายความว่า .. คุณทักษิณ ชินวัตร คนที่ผมไม่ได้สนับสนุนและไม่เคยลงคะแนนให้ รวมถึงวิพากษ์วิจารณ์มาตลอดว่าเขาละเมิดสิทธิมนุษยชน … คุณทักษิณมาจัดตั้งกลุ่มคนเสื้อแดงไม่ได้หรอกครับ กลุ่มคนเสื้อแดงจัดตั้งโดยอดีตพรรคการเมือง คือพรรคไทยรักไทย จนวิวัฒนาการมาเป็นกลุ่มการเคลื่อนไหวทางการเมืองของคนรากหญ้า พวกเขาเก็บเงินกันเอง พวกเขาจัดตั้งสถานีวิทยุชุมชน พวกเขาประกอบด้วยหลายๆกลุ่มจากที่ต่างๆ หากคุณไปในบริเวณการชุมนุมของคนเสื้อแดง คุณจะเห็นป้ายของกลุ่มต่างๆชูอยู่สลอนเต็มไปหมด คุณจะได้ยินการขอเรี่ยไรเงินบนเวทีชุมนุมตามกำลังศรัทธา พวกเขาไม่ได้มาตายเพื่อคุณทักษิณ ชินวัตร พวกเขาไม่ชาวไร่ชาวนาที่โง่เง่า ไม่รู้เรื่องรู้ราว หรือไม่รู้ว่าตัวเองกำลังทำอะไรอยู่ แต่ความจริงพวกเขาเป็นชาวไร่ชาวนาและคนงานจากชานเมืองที่มีข้อมูลพร้อม พวกเขาโกรธที่สิทธิของเขาตามระบอบประชาธิปไตยถูกปล้น และนั่นมันทำให้เกิดความเหลื่อมล้ำในกระจายความมั่งคั่งในประเทศไทย
 

ฟิลิป คันนิ่งแฮน : ผมขอพูดอะไรหน่อยได้ไม๊ ผมคิดว่าสิ่งที่คุณไจล์กับผมเห็นพ้องต้องกันก็คือ มันไม่ถูกต้องที่จะใช้กองทหารมาหยุดยั้งประชาชน มันไม่เข้าท่าที่จะใช้กองทหารเป็นเครื่องมือ มันบ้า มันรุนแรงและไม่ถูกต้อง ผมเห็นด้วยกับคุณไจล์ว่าทหารไม่ควรที่จะเข้ามาเกี่ยวข้องกับเรื่องนี้
 

ผมกับคุณไจล์เคยอาศัยอยู่บนถนนเดียวกันในกรุงเทพ เราสอนในมหาวิทยาลัยเดียวกัน แต่เรามีความคิดเห็นแตกต่างกันในเรื่องของคนเสื้อแดง ผมเชื่อว่าการเคลื่อนไหวของกลุ่มคนเสื้อแดงนั้นประกอบด้วยคนหัวรุนแรง ผมเชื่อว่าความยากจนนั้นมีอยู่จริง ความต้องการที่จะให้มีการเปลี่ยนแปลงในหลายระบบในเมืองไทยนั้นมีอยู่ สามารถสัมผัสได้ในอณูของบรรยากาศรอบๆตัว แต่มันไม่เกี่ยวกับคนเสื้อแดง


   .. ผมนั่งฟังพวกเขาทุกวัน ดูการออกอากาศทางโทรทัศน์ของพวกเขาอย่างใกล้ชิดในช่วงที่ผมศึกษาเรื่องนี้ พวกเขาดูถูกคนต่างชาติ เขาดูถูกเกย์ พวกเขาเกี่ยวข้องกับการโฆษณาที่น่าขัน เช่น hominem attack    เขาเล่นกับฝูงชน มันเหมือนกับประสานกับคุณทักษิณ เหมือนๆกับมุสโสลินีหรืออะไรทำนองนั้น บางคนเปรียบเทียบคุณทักษิณกับ Berloscerni แต่ผมว่าเหมือนมุสโสลินีมากกว่า พวกเขาร้องเพลงสรรเสริญคุณทักษิณ มันเหมือนระบอบฟาสซิสต์ที่น่าละอาย   เพราะคนเหล่านี้ไฮแจ๊ค เหล่าคนยากคนจนให้มาร่วมสังฆกรรม ไฮแจ๊คความคับข้องใจของคนจนมารับใช้มหาเศรษฐีพลัดถิ่น เพียงเพื่อเศรษฐีคนนั้นจะได้กลับมาประเทศไทย และรับเงินของเขาคืน
 

เอมี่ กู๊ดแมน :  เชิญคุณไจล์ ค่ะ
 

นายไจล์ อึ้งภากรณ์ :  ผมคิดว่า คุณฟิลิป คันนิ่งแฮมไม่เข้าใจความหมายของคำว่า ระบอบฟาสซิสต์ดีพอ มันง่ายมากที่จะเฉไฉออกนอกทาง ฟาสซิสต์ไม่เรียกร้องประชาธิปไตย และไม่มีความเห็นที่แตกต่าง อาจจะใช่ที่คนเสื้อแดงบางคนอาจจะหยาบกระด้างอยู่บ้างขวางโลก บางคนอาจจะต่อต้านเกย์ และหลายคนอาจจะพูดในทำนองต่อต้านคนต่างชาติ แต่คนเสื้อแดงส่วนใหญ่ไม่ทำอย่างนั้น คนเสื้อแดงส่วนใหญ่พยายามที่จะให้ความเห็นที่แตกต่าง พวกเขาไม่ใช่กลุ่มที่ติดอาวุธ พวกฟาสซิสเป็นพวกชนชั้นกลางที่ไม่เป็นประชาธิปไตย หรือกลุ่มคนเสื้อเหลืองต่างหาก ที่ไม่ต้องการให้เกิดสิทธิของคนยากจนตามวิถีทางของประชาธิปไตย และอื่นๆ ผมคิดว่านี่มันเป็นการให้ร้ายสำหรับคนเสื้อแดงที่เกินเลยไปแล้ว
 

ฟิลิป คันนิ่งแฮน : ไจล์ ทำไมคุณจึงซื่ออย่างนี้ ผมไม่อยากจะเชื่อเลย
 

เอมี่ กู๊ดแมน :  ทำไมคุณถึงพูดอย่างนั้นคะ
 

ฟิลิป คันนิ่งแฮน : ผมคิดว่าคุณไจล์รู้ดีอยู่แล้ว หากคุณไจล์ฟังคำปราศรัยอย่างที่ผมฟัง มันไร้สาระจริงๆ ผมรู้ว่ามีคนเสื้อแดงที่พูดโน้มน้าวจิตใจคนได้เก่งๆ มีคนที่จัดฉากเก่ง แต่มันมีเงินจากสถานีโทรทัศน์จากคนของทักษิณ พวกเขาจัดฉาก พวกเขาจัดให้มีเหตุการณ์ประท้วงปลอมๆ การปฏิวัติปลอม มันไม่ใช่ของจริง .. ผมอยู่ที่จัตุรัสเทียนอันเหมินในปี 1989 ผมรู้ว่าของจริงน่ะมันเป็นยังไง ผมรู้ว่าการลุกขึ้นต่อสู้จริงๆมันมีลักษณะอย่างไร แต่นี่มันไม่ใช่


สิ่งที่เกิดขึ้น .. และผมยอมรับว่ามันใช่ -- ผมรู้ว่ามันเกิดปฏิกิริยาลูกโซ่ให้รู้ว่ามีการลุกฮือขึ้นต่อสู้แล้ว และประเทศไทยจะอยู่ในสภาวะที่เปราะบาง สถานการณ์มันอ่อนไหว มันเหมือนทุกอย่างจะล่มสลาย อะไรก็เกิดขึ้นได้ และนี่อันตรายมาก ผมไม่อยากจะเห็นว่าประเทศไทยล่มลายกลายเป็นแบบฟาสซิสต์ …
 

มีการพิสูจน์ออกมาแล้วว่ากลุ่มคนเสื้อแดงเป็นกลุ่มที่ติดอาวุธ พวกเขายิงเข้าใส่ทหารด้วยอาวุธต่างๆ ตั้งแต่หนังสติ๊กกับลูกแก้ว ระเบิดขวด ระเบิดเพลิง คนเสื้อแดงมีปืน ปืนสั้น นี่มันไม่ใช่การเคลื่อนไหวอย่างสันติอหิงสา เด็กนักศึกษาที่จตุรัสเทียนอันเหมินไม่เคยทำเช่นนั้น มันไม่มีความรุนแรง มันเปรียบเทียบกันไม่ได้เลย .. การเคลื่อนไหวของคนเสื้อแดงได้รับการหนุนหลังจากมหาเศรษฐีที่มีอิทธิพล ผมยอมรับไม่ได้ ผมไม่เข้าใจว่าทำไมคุณไจล์จึงสนับสนุนการเคลื่อนไหวครั้งนี้
 

นายไจล์ อึ้งภากรณ์ :  คุณไม่เข้าใจ ผมรู้ เพราะว่าคุณไม่ได้เตรียมตัวที่จะมายอมรับในสิ่งที่กำลังเกิดขึ้น คุณเพียงแต่ติดตามข่าวจากอินเตอร์เน็ตและดูทีวีอยู่ที่นั่น ผมอยู่ร่วมในการเคลื่อนไหวประท้วงที่กรุงเทพ ผมมีเพื่อนๆที่ร่วมเคลื่อนไหวของคนเสื้อแดง และจากการวิเคราะห์ของคุณคันนิ่งแฮมที่ว่าคนยากจนถูกไฮแจ๊คมาเพื่อคุณทักษิณนั้น มันเป็นการดูถูกคนเสื้อแดงแท้ๆนับล้านๆคน นี่มันเป็นเรื่องเก่าๆแบบเดียวกับที่พวกนักวิชาการเชื่อว่าคนไทยธรรมดาๆคิดด้วยตัวเองไม่เป็น จัดตั้งสิ่งต่างๆด้วยตัวเองไม่เป็น …
 

ฟิลิป คันนิ่งแฮน :  ไจล์   ผมรับไม่ได้นะ มันเป็นการหลอกลวงที่ไม่ยุติธรรมเลย
 

นายไจล์ อึ้งภากรณ์ :  มันใช่ ..
 

ฟิลิป คันนิ่งแฮน : หากใครบางคนไม่เห็นด้วยกับคุณ มันไม่ได้หมายความว่าเขาไม่เข้าใจในสิ่งที่เกิดขึ้น .
 

นายไจล์ อึ้งภากรณ์ :  ให้ผมพูดให้จบก่อนได้ไม๊ ฟิลิป? ให้ผมพูดให้จบก่อนได้ไม๊?
 

ฟิลิป คันนิ่งแฮน : เชิญ
 

นายไจล์ อึ้งภากรณ์ :  นี่มันเป็นแนวความคิดเดียวกับคนชั้นกลางในเมืองไทยที่มีต่อคนเสื้อแดง และด้วยการแก้ตัวแบบนี้ทำให้พวกเขาไม่เชื่อในระบอบประชาธิปไตย และเป็นเหตุผลที่เขาสนับสนุนเรื่องการรัฐประหาร เพราะเขาพูดว่าคนเสื้อแดงทุกคนถูกคุณทักษิณซื้อ และถูกปั่นหัวโดยทักษิณให้ลงคะแนนให้ ..
 

ฟิลิป คันนิ่งแฮน : คุณจะยอมรับไม๊ล่ะว่า คนเสื้อแดงบางคนถูกซื้อ และบางคนไม่ แต่ยอมรับไม๊ว่าบางคนถูกซื้อจริงๆ


นายไจล์ อึ้งภากรณ์ :  ให้ผมพูดให้จบก่อนได้ไม๊ ฟิลิป   ให้ผมพูดให้จบก่อนได้ไม๊  


เอมี่ กู๊ดแมน :  ไจล์ คำถามนั้น มีบางคนถูกซื้อหรือไม่
 

นายไจล์ อึ้งภากรณ์ :  คนเสื้อแดงไม่ได้ถูกซื้อแน่นอน คุณทักษิณไม่ต้องซื้อใคร เพราะแม้ว่ารัฐบาลของคุณทักษิณได้มีการละเมิดสิทธิมนุษยชนที่น่ากลัว แต่คุณทักษิณก็เป็นคนที่นำระบบสุขภาพถ้วนหน้ามาใช้ ซึ่งเป็นระบบที่ดีกว่าที่อมริกาเสียอีก ในแง่ของการดูแลสุขภาพและการรักษาที่คนยากจนได้รับ รัฐบาลคุณทักษิณสร้างงานให้คนยากคนจน โดยไม่จำเป็นที่จะต้องหยิบยื่นเงินทองมาให้ หากสิ่งที่รัฐบาลสัญญาแล้วสามารถทำให้มันเกิดขึ้นจริงๆ ผู้คนลงคะแนนให้กับสิ่งที่เขาต้องการ และมันเป็นการดูถูกอย่างยิ่งที่คนไทยถูกตราหน้าว่าได้รับการพิสูจน์ว่าถูกตบตาและซื้อโดยคุณทักษิณ
ประเด็นก็คือ ทำไมมหาเศรษฐีที่ทรงอิทธิพลอย่างคุณทักษิณจึงชนะใจของคนยากจนอย่างท่วมท้น คำตอบอยู่ที่สุญญากาศของการไม่มีพรรคการเมืองฝ่ายซ้ายในประเทศไทย คุณรู้ไม๊นับตั้งแต่พรรคคอมมูนิสต์พังทลาย และคุณทักษิณสามารถที่จะ
 

ฟิลิป คันนิ่งแฮน : ไจล์ นี่เป็นจุดอ่อนของการวิเคราะห์ของคุณ ผมรู้ว่าคุณเอียงซ้ายมานาน เราเคยไปที่ …
 

นายไจล์ อึ้งภากรณ์ :  เสียใจ หากคุณไม่สามารถให้ผมพูดให้จบเสียก่อน
 

ฟิลิป คันนิ่งแฮน : คุณรู้ไม๊ อนุสาวรีย์ของคนเดือนตุลา …
 

เอมี่ กู๊ดแมน :  ขอให้คุณ ฟิลิป คันนิ่งแฮม พูดให้จบก่อนค่ะ เชิญค่ะ คุณ ฟิลิป คันนิ่งแฮม

 
ฟิลิป คันนิ่งแฮน : คุณรู้มี ไอเดียที่ว่า .. ผมรู้สึกว่าคุณกระเหี้ยนกระหือรือที่จะให้พวกเอียงซ้ายทำอะไรบางอย่างที่คุณมองว่าเป็นเป็นการเริ่มต้นที่ผิด .. และคุณผิดพลาดที่คิดว่ามันเป็นเรื่องจริง นี่เป็นการเริ่มต้นที่ผิด มันไม่ใช่ของจริง


นายไจล์ อึ้งภากรณ์ :  ขอโทษ คุณไม่ได้ฟัง คุณพูดแซงขึ้นมาและไม่ได้ฟังผมพูด คุณมีภาพฝันในหัวของคุณว่าผมเชื่อในเรื่องอะไรบางอย่าง และคุณก็เริ่มต้นที่จะเถียงกับคนไร้ค่า ผมพูดว่าคุณทักษิณสามารถแบ่งแยกสังคมไทย ระหว่างคนรวยกับคนจน เพราะว่าไม่มีพรรคการเมืองฝ่ายซ้าย และนั่นเป็นเหตุผลที่ว่าทำไมมหาเศรษฐีที่ทรง
อิทธิพลอย่างคุณทักษิณสามารถกุมหัวใจของคนยากคนจนได้
 

ฟิลิป คันนิ่งแฮน : นั่นเป็นเรื่องที่น่าเศร้า ใช่ไม๊?

 
   ในที่สุดทั้ง 2 คนสรุปว่า
นายไจล์ อึ้งภากรณ์ :  ผมคิดว่าวิธีที่จะหยุดวิกฤติการณ์ก็คือ รัฐบาลควรจะสั่งให้หยุดยิงทันที และจัดให้มีการเลือกตั้งที่บริสุทธิ์ยุติธรรมตามวิถีทางของประชาธิปไตย


ฟิลิป คันนิ่งแฮน : ผมคิดว่าทหารควรจะถอนตัวออกไป ผมคิดว่ามันน่ากลัวมากในสิ่งที่ทหารกำลังทำอยู่ ผมต่อต้านสิ่งนี้เต็มที่ แต่ผมไม่สามารถจะบอกว่ากลุ่มคนเสื้อแดงเป็นประชาธิปไตยหรือพวกหัวเอียงขวา    พวกเขาเป็นส่วนหนึ่งของปัญหาเช่นกัน และผมคิดว่าเป็นเรื่องของตำรวจที่จะต้องจับกุมและดำเนินการ

 

(ต้นฉบับภาษาอังกฤษ)


 Debating the crisis in Thailand on Democracy now:Is Red Shirt Movement a Genuine Grassroots Struggle, or Front for Ousted Ex-PM, Billionaire Tycoon?
Guests;


Giles Ji Ungpakorn, Thai dissident living in exile in Britain. He was a university lecturer in Thailand before having to flee after writing a book criticizing the 2006 military coup. He is a Red Shirt supporter.
 

Philip Cunningham, freelance journalist who has covered Asia for over twenty years. He has taught at Chulalongkorn University and Doshisha University in Thailand. His writings frequently appear in the Bangkok Post.
 

GILES JI UNGPAKORN: what the Red Shirts want is democracy, because the present government was installed by the military, and it’s actually the fruit of a military coup in 2006 and various judicial coups. So, demanding fresh elections, demanding proper democratic elections is perfectly legitimate. And even though they have been occupying the center of Bangkok for two months, it’s only a shopping center and a site for luxury hotels, yet the government has deployed snipers and assassination squads. And since the beginning of April, they’ve actually been responsible for sixty-seven deaths and thousands of injuries. And really, the time has come for the government to order an immediate ceasefire and for them to enter into genuine talks with the Red Shirts.
 

AMY GOODMAN: And what about the latest developments, Ji, the offer of the Red Shirts to participate and the government saying no?
 

GILES JI UNGPAKORN: Well, the Red Shirts have made repeated offers to negotiate with the government, and the government really wants to shoot its way to a victory and to stay in power through the use of force.


You also have to realize that this government has brought about the worst censorship ever in Thailand. It censors all the internet, the media, in all shape and form. They even attack Facebook and everything else.


So the two things that they’re using to stay in power are censorship and brutal force. And they’re not prepared to actually offer the chance of the people to actually make a decision about who should run the country and in what way.


AMY GOODMAN: Philip Cunningham, I had said you’re in Japan; you’re now in Ithaca, New York. But can you give your observations on what’s happening in Thailand right now?
 

PHILIP CUNNINGHAM: Yes. You know, as a poet Gil Scott-Heron said, he famously said that "the revolution will not be televised." And it’s being televised, but it’s not a revolution. What we see in Thailand, I think, is a sham revolution, and I think it’s something stirred up primarily by the billionaire tycoon in exile, who you mentioned. There are real grievances. There are real poor people. There are fault lines, and in sensitive areas in Thailand, which are very easy to provoke. It would sort of be like Rockefeller funding riots in the ghettos, if he had somehow been arrested and sent into exile or something like that. I mean, it’s a really strange situation. It’s a hugely tragic situation. The people are dying. They’re dying for a billionaire tycoon in exile. It doesn’t make sense.

Does Thailand need democracy, the kind of socialism that Ji has been working for? Yes, I think that would be fine. But it has to be peaceful, and the Red Shirts are not peaceful.
 

GILES JI UNGPAKORN: Well, it’s nonsense to say that the Red Shirts aren’t peaceful. They’ve actually been very, very disciplined and try to maintain a peaceful demonstration in the face of the government, which actually brings armed soldiers and tanks onto the streets. Any government that tries to disperse a peaceful demonstration using armed tanks, guns, and so on, and kills sixty-five people, I think needs to be condemned.

But I’m afraid Philip is misinformed about the Red Shirts. I mean, Thaksin Shinawatra—and I’m no supporter of him; I never voted for him and have always criticized his abuse of human rights—Thaksin Shinawatra was incapable of organizing the Red Shirts. The Red Shirts were organized by former leaders of Thai Rak Thai, and they developed into a grassroots movement. They collect money in their own communities. They run community radio stations. They have different groups. If you go to any Red Shirt protest, you can see the signs up of the different groups, and you can hear people making donations on the stage and so on. And they’re not dying for Thaksin Shinawatra. They’re not stupid peasants, ignorant peasants who don’t know what they’re doing. They’re actually very well-informed small farmers and urban workers who are incensed by the fact that their democratic rights have been robbed and that this is part of the system that allows such inequality of wealth in Thailand.
 

PHILIP CUNNINGHAM: I think one thing Ji and I absolutely agree on is that it’s never right to use an army to suppress the people. I think it’s an extremely blunt instrument. It’s crazy. It’s bloody. It’s violent. And that’s wrong. And I completely agree with Ji that the army should not be involved in this.
 

However, Ji and I used to live on the same street in Bangkok. We taught at the same university. But we really disagree on our analysis of the Red Shirts. I believe the Red Shirts are a fascist movement. I believe the poverty is real. The need, the hunger, for a systemic change, a kind of change in Thailand, is there. It’s in the air. But there is nothing about the Red Shirts—I listen to them every day. I monitor their broadcasts. I’m doing a media study of that. And they insult foreigners. They insult gays. They engage in ridiculous ad hominem attacks. They are playing to the crowd. It’s kind of like a cross between—with Thaksin. And they sing songs in dedication to Thaksin. I mean, it’s sort of like, you know, Mussolini or something like that. Some people compare Thaksin to Berlusconi. I think it’s a little more like Mussolini. They sing for Thaksin. It is fascism, and it is a shame, because these people are hijacking the poor people, hijacking the genuine grievances of the poor, to serve a billionaire in exile so he can get back to Thailand and get his money back.
 

GILES JI UNGPAKORN: Well, I don’t think that Philip Cunningham really understands the definition of "fascism." It’s easy to bandy it about. Fascists don’t demand democracy. Fascists don’t have differences of opinion. Yes, there are elements of the Red Shirts who are rough and ready, and some of them are anti-gay, and some of them talk in terms of being anti-foreign, but the majority don’t do that. The majority actually try to give differences of opinion. And this is not an armed group. The fascists are the middle-class peoples who aren’t for democracy, the Yellow Shirts. They are the people who want an end to democratic rights for the poor and so on. And I think that’s just a really outrageous slander on the Red Shirts.
 

PHILIP CUNNINGHAM: Well, Ji, you’re so naive. I just can’t believe it.

 
AMY GOODMAN: Why are you saying that?


PHILIP CUNNINGHAM: Well, I think Ji knows very well that the—you know, if he listens to the speeches—I mean, Ji could listen to the speeches as well as I do. It’s nonsense. There is good rhetoric. There’s good drama. This is money from a TV station from Thaksin’s media people. They’ve put together a media show. They’ve put together a sham

demonstration, a sham revolution. It’s not the real thing. I was in a Tiananmen in ′89. I know what these things look like. I know what a spontaneous uprising looks like. This is not a spontaneous uprising.
 

What has happened—and I will acknowledge this—is that you′ve kind of had a chain reaction. You have some real spontaneous uprising now. Thailand is in a very brittle state. It’s very delicate. It’s at the kind of end of an era. And anything could happen, and this could be extremely dangerous. I just don’t want to see Thailand go down a fascist road.

And the Red Shirts have proven to be armed. They’re shooting at soldiers with slingshots, Molotov cocktails. There are people with guns, pistols. It is not a peaceful movement. The students in Tiananmen Square never did that. There was no violence. There’s no comparison to this. This is a bankrupt tycoon-backed Red Shirt movement. I just can’t accept—I just can’t understand why Ji supports it.
 

GILES JI UNGPAKORN: Well, you can’t understand, I know, because you’re not prepared to accept what’s going on. I follow the reports on the internet. I’m watching the TV there. I’ve been on Red Shirt demonstrations in Bangkok. I have friends who are in the Red Shirt movement. And the fact is that Philip’s analysis, you know, that it’s all being run by Thaksin and the movement is being hijacked, is an insult to the millions of Thais who are genuine Red Shirts. It’s the same old story from the academics, who believe that ordinary Thai people can’t think for themselves, can’t organize themselves—

PHILIP CUNNINGHAM: Ji, that’s just—that’s—I cannot accept that. That is a very unfair sleight.
 

GILES JI UNGPAKORN: It’s just that—
 

PHILIP CUNNINGHAM: Just because someone disagrees with you doesn’t mean they don’t understand [inaudible]—


GILES JI UNGPAKORN: How about letting me finish, Philip? How about letting me finish?
 

PHILIP CUNNINGHAM: Go ahead.
 

GILES JI UNGPAKORN: It’s the same kind of attitude that the middle class in Thailand have towards the Red Shirts, and it’s their justification for why they don’t believe in democracy and why they supported a coup d’?tat, because they said, you know, the Red Shirts have all been bought by Thaksin and they’re being manipulated by him into voting for him—
 

PHILIP CUNNINGHAM: Would you acknowledge that some of them have been bought, and a lot of them are not, but would you acknowledge that some of them have been bought?
 

GILES JI UNGPAKORN: How about letting me finish, Philip? How about letting me finish?


AMY GOODMAN: That question, Ji—that question, Ji, of whether some of them have been bought, bought off?
 

GILES JI UNGPAKORN: No, they haven’t, actually. You don’t need to buy people off, because the government, Thaksin’s government, horrendous though it was in terms of human rights abuses, actually brought in a universal healthcare system. It’s actually better than the healthcare system in the United States, in terms of what the poor get. They had pro-poor policies to create jobs. They don’t need to hand people money if the government actually offers and then delivers on that. People actually vote for what they want. And it’s actually very, very insulting to the Thai population to claim that they’ve been hoodwinked and bought by Thaksin.

Now, the issue is, really, is how come a tycoon like Thaksin can win the hearts and minds of the poor? And the answer is that this shows that there was a vacuum on the left in Thailand, you know, ever since the Communist Party collapsed, and Thaksin was able to work—
 

PHILIP CUNNINGHAM: Ji, this is the weakness of your analysis. I know you’ve been on the left for a long time. We went to the—
 

GILES JI UNGPAKORN: Sorry, if you could just let me finish—
 

PHILIP CUNNINGHAM: —you know, the stonecutter that was making the monument for October—
 

AMY GOODMAN: Let Philip Cunningham make a statement. Go ahead, Philip Cunningham.


PHILIP CUNNINGHAM: And, you know, this idea that—I just feel like you’re so hungry for the left to do something that you’re seeing a false dawn, and you’re mistaking it for the real thing. This is a false dawn; this is not the real thing.
 

GILES JI UNGPAKORN: Sorry, but you’re not listening. You’re speaking over me. You’re not listening to what I say. You’ve got some dream in your head about what I believe in, and you’re starting to argue with a straw man. I’m saying that Thaksin can—was able to exploit the divisions within Thai society between the rich and the poor because the left didn’t exist. And that’s how come a tycoon like Thaksin can win the hearts and minds of the poor.  


PHILIP CUNNINGHAM: That’s a sad statement, isn’t it?

 

Both end up with:
GILES JI UNGPAKORN: Well, I think the way to end the present crisis is that the government should order an immediate ceasefire and that there should be proper, genuine democratic elections.


PHILIP CUNNINGHAM: OK, I think the army should leave also. I think it’s absolutely horrendous what the army is doing. I’m totally against that. But I cannot say that the Red Shirts are democratic or in the right. They are also a problem. And I think it’s a police problem. They have to be arrested and taken care of.

 


http://www.matichon.co.th/news_detail.php?newsid=1274700394&grpid=01&catid=00


หัวข้อ: Re: [2513]"ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: prapasri AH ที่ 24 พฤษภาคม 2553, 22:59:14
ท่าน เถกิง เจริญศิริ เป็นคุณอา หรือคุณพ่อน้องมนตรีคะ


อ้างถึง
ข้อความของ ดร.มนตรี เมื่อ 24 พฤษภาคม 2553, 11:00:07
ศาลากลาง จ. อุบลฯ ที่ทำงานเก่า ของ คุณ เถกิง  สิงห์ดำ รุ่น 3 

(http://www.cmadong.com/imageupload/2010_Cmadong-Image/data/image/l2wofx-77171f.jpg)


หัวข้อ: Re: [2513]"ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: prapasri AH ที่ 24 พฤษภาคม 2553, 23:04:11
หากต้องส้ง ที่ โรงพยาบาล คนบ้า ร.พ รักษาโรคจิต ชื่อสวนสราญรมย์ ที่สุราษฎร์ เขาเรียกว่าไปหลังคาเเดง


อ้างถึง
ข้อความของ Intania๑๖ เมื่อ 24 พฤษภาคม 2553, 15:16:06
พี่แอ๊ะครับ ถ้ารู้จักเขียนอะไรติดหน้าร้านสักนิดแบบนี้ เช่นดังภาพ ก็จะไม่โดนทำลาย
ถ้าอนาคตจะมีอีก เอาภาพเช็ดหน้าสีแดง ติดรถไว้สักผืน ก็จะไม่โดนตรวจค้น

นี่คือบ้านป่าเมืองเถื่อน อีกนานสักเท่าไหร่ครับ เราจะมีประชาธิปไตยที่เป็นประชาธิปไตยจริงๆ
เป็นนิติรัฐที่แท้จริง ไม่มีคอร์รัปชั่น เก็บภาษีเต็มเม็ดเต็มหน่วย คนรวยคนมั่งมี รู้จักบริจาคให้คืนกับสังคม
พัฒนาการศึกษาให้กับเยาวชน และชนบทให้ดีขึ้น
ไม่สร้างความฟุ้งเฟ้อทางด้านวัตถุหรือเทคโนโลยี่ ที่รู้จักซื้อมาจากต่างประเทศ แต่ผลิตหรือพัฒนาไม่เป็น
อย่าบ้า Ipod Iphone Ipad I-ba อยู่เลย 


(http://i894.photobucket.com/albums/ac145/nick1usa/Z03.jpg)
(http://i894.photobucket.com/albums/ac145/nick1usa/Z02.jpg)
(http://i894.photobucket.com/albums/ac145/nick1usa/Z01.jpg)

ที่มา: http://www.pantip.com/cafe/camera/topic/O9269457/O9269457.html


หัวข้อ: Re: [2513]"ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: เหยง 16 ที่ 25 พฤษภาคม 2553, 08:48:59
ประเทสไทยเกิดเรื่อง เพื่อนบ้านซ้ำเติม...ผลประโยชน์ไม่เข้าใครออกใคร ?? แต่คนไทยเสื้อแดงไม่คิด

อ่านคอลัมม์ "ท่านขุนน้อย" ของวันนี้ (อังคารที่ 25 พฤษภาคม 2553)

ฝรั่งเวียดนาม!!!
ท่านขุนน้อย 25 พฤษภาคม 2553 - 00:00

     ไม่ว่าจะเป็นฝรั่งอเมริกา ฝรั่งยุโรป หรือฝรั่งออสเตรเลีย ฯลฯ ที่ออกมาแสดงปฏิกิริยาต่อสถานการณ์การเมืองไทยในช่วงระยะที่ผ่านมา  คงพอสรุปได้ว่า...ไม่ถึงกับต้องไปวิตก กังวล อะไรมากมายนัก เพราะโดยสไตล์ของบรรดาฝรั่งเหล่านี้ ก็คงต้องออกมาในแนวประมาณนี้นั่นแหละ หนักบ้าง เบาบ้าง ไปตามทัศนะ วิธีคิด ตามระดับความเข้าใจ ของใคร-ของมัน...แต่ที่น่าฉุกใจ และน่าตั้งข้อสังเกตเอาไว้ให้มากๆ เห็นทีจะไม่มีอะไรเกินไปกว่า ฝรั่งเวียดนาม เพื่อนบ้านผู้อยู่ใกล้ชิดติดพันกับประเทศไทยของเรานี่เอง....
            ---------------------------------------------
     อันที่จริง...นับตั้งแต่ช่วงต้นๆ  ที่บรรดาพวกเสื้อแดงได้แสดงอาการกระเหี้ยน กระหือรือ มุ่งที่จะทำร้ายประเทศตัวเองกันอย่างเป็นระบบ ปฏิกิริยาที่ปรากฏในสังคมเวียดนามต่อสถานการณ์ความขัดแย้งในประเทศไทย...ก็ออกจะดูแปลกๆ แปร่งๆ อย่างเห็นได้โดยชัดเจน โดยเฉพาะปฏิกิริยาที่ถูกสะท้อนออกมาจากสื่อมวลชนเวียดนาม ซึ่งอยู่ภายใต้การควบคุมของรัฐ หรือ อยู่ภายใต้การชี้นำของพรรคคอมมิวนิสต์เวียดนาม ที่ทำให้สำนักข่าวต่างประเทศหลายสำนัก พร้อมที่จะให้ข้อสรุปไปในแนวทางเดียวกัน ดังที่หน้าต่างประเทศหนังสือพิมพ์ ผู้จัดการ ได้นำมารายงานเอาไว้ว่า สื่อฯ ในเวียดนามยอมรับว่า ได้รับคำชี้นำจากทางการคอมมิวนิสต์ ให้พยายามโหมประโคมข่าวการชุมนุมประท้วงของคนเสื้อแดง เพื่อสร้างข้อเปรียบเทียบให้เห็นว่า เวียดนามมีระบบการเมืองที่มั่นคง และมีความสงบกว่าประเทศไทย เหมาะสำหรับเป็นแหล่งลงทุนมากกว่าประเทศไทย...
         --------------------------------------------------
     ตามรายงานข่าวในหน้าต่างประเทศ ผู้จัดการ นอกจากจะนำเอาคำยืนยันของนักหนังสือพิมพ์เวียดนามที่ระบุว่าทางการ หรือพรรคคอมมิวนิสต์เวียดนาม ได้พยายามชี้นำสื่อฯ ของรัฐ ให้พยายามหยิบเอาข่าวคราวความฉิบหายของประเทศไทย มาใช้ให้เป็นประโยชน์สำหรับประเทศเวียดนามแล้ว  ยังได้ตีพิมพ์คำให้สัมภาษณ์ของเจ้าหน้าที่ทางการเวียดนาม อย่างนาย ฝั่ง เจียน ขู หรือ ฟาม เชียน คู (Pham Chien Khu) แห่งสถาบันวิจัยเพื่อมติสังคม (Research Institute for Social Opinion) ที่สรุปถึงการนำเอาวิกฤติในประเทศไทยมาพลิกให้เป็นโอกาสสำหรับประเทศเวียดนาม ได้อย่างชนิดเขี้ยวลากดิน ปีกงอก แถมพ่นไฟได้ด้วย ดังที่ระบุเอาไว้ว่า... มันคงเป็นสิ่งที่ถูกต้องโดยตรรกะอยู่แล้วว่า ถ้าหากนักลงทุนต่างชาติมองเห็นว่า เวียดนามมีระบบการเมืองที่มั่นคงกว่า เขาเหล่านั้นย่อมเกิดแรงจูงที่จะย้ายฐานการลงทุนจากไทยไปยังเวียดนาม...
        -----------------------------------------------------
     อย่างไรก็ตาม...เป็นที่ทราบๆ  กันมาโดยตลอดว่า ความพยายามแข่งขัน ช่วงชิงโอกาส ของประเทศเวียดนามต่อประเทศไทยนั้น ไม่ใช่เพิ่งจะมาปรากฏแค่ในช่วงระยะนี้ หรือในช่วงวิกฤตการณ์คราวนี้เท่านั้น เพราะแม้แต่วิกฤตการณ์ความขัดแย้งบริเวณชายแดนระหว่างไทยกับกัมพูชา เมื่อไม่นานที่ผ่านมา ก็เป็นที่พิสูจน์ชัดแล้วว่า ผู้ที่ได้รับประโยชน์จากวิกฤติเหล่านี้แบบเต็มๆ ก็คือเวียดนามนั่นเอง!!! โดยไม่ต้องเสียเวลาไปนั่งวิเคราะห์อะไรให้ลึกซึ้งมากมายเกินไป แค่มองดูตัวเลขสินค้าเวียดนามในกัมพูชาที่พุ่งปรู๊ดๆ ปร๊าดๆ แทบจะแซงหน้าสินค้าไทยซึ่งลดลงไปแบบฮวบๆ ฮาบๆ หลังจากที่อดีตหุ่นเชิดเวียดนาม อย่างนายกรัฐมนตรี ฮวยเซ็ง ท่านได้ออกมาประเคนแข้งเข้าใส่ประเทศไทยชนิดดอกต่อดอก ก็พอใช้เป็นข้อสรุปได้ไม่ยาก...
       -------------------------------------------------------
     แต่ก็นั่นแหละ...ถ้าหากมันเป็นเพียงแค่การตอดนิด ตอดหน่อย หรือ การช่วงชิงจังหวะ โอกาส ไปตามสภาวะการแข่งขันโดยเสรี คงไม่ถึงกับต้องไปถือสาหาความอะไรมากมาย ในฐานะเพื่อนบ้านใกล้เคียงกัน ในฐานะพี่ๆ น้องๆ ที่น่าจะมีสายเลือดเดียวกันด้วยซ้ำ ต้องเรียกว่า...ขอกันกินยังมากกว่านี้!!! แต่ในช่วงไม่กี่วันที่ผ่านมา สิ่งที่มันออกจะขัดหู ขัดตา และอาจก่อให้เกิดความรู้สึกแตกต่างไปจากความเป็นพี่ๆ น้องๆ ก็ดันปรากฏขึ้นมา จนทำให้ใครต่อใครในประเทศไทย ชักจะเสียความรู้สึกต่อเวียดนามอย่างมิอาจหลีกเลี่ยงได้ นั่นก็คือ กรณีที่ประเทศเวียดนามในฐานะประธานอาเซียน ได้ตัดสินใจออกแถลงการณ์เรียกร้องสันติภาพ และเสถียรภาพในประเทศไทย อันถือได้ว่าเป็นแถลงการณ์ที่แสดงออกถึงความพยายามเข้ามายุ่งเกี่ยวกับกิจการภายในของประเทศสมาชิกอาเซียน ชนิดที่แทบไม่เคยมีการปฏิบัติกันมาก่อน...
      --------------------------------------------------------
     ด้วยเหตุนี้...จึงไม่น่าแปลกใจอะไรมากมายนัก ที่ภายใต้การแสดงปฏิกิริยาของเวียดนามในลักษณะเช่นนี้นี่เอง ทำให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังของไทย นาย กรณ์ จาติกวณิช จำต้องเอ่ยคำพูดบางประโยคในระหว่างการเดินทางไปสัมมนาที่กรุงโตเกียว ประเทศญี่ปุ่น เมื่อไม่นานมานี้ ตามที่สำนักข่าวต่างประเทศได้รายงานเอาไว้ดังนี้ว่า เวียดนามได้พยายามช่วงชิงโอกาส ในขณะที่ประเทศไทยกำลังมีปัญหา ด้วยการเชิญชวนนักลงทุนต่างชาติให้เข้าไปลงทุนในเวียดนาม แต่ทั้งนั้น ทั้งนี้...ถือเป็นบทเรียนให้คนไทยรับรู้ได้ว่า ความสูญเสียที่เกิดขึ้นนั้น ไม่มีใครในสังคมไทยได้รับประโยชน์ แต่กลับทำให้ต่างชาติอาศัยโอกาสใช้ความได้เปรียบที่มีอยู่ ช่วงชิงโอกาสจากประเทศไทยไปแล้ว...
       -------------------------------------------------------
     แน่นอนว่า...ถ้าหากคำพูดของรัฐมนตรี กรณ์ จาติกวณิช เป็นไปดังที่สำนักข่าวต่างประเทศได้เผยแพร่ออกมา ก็คงต้องสรุปว่า ถือเป็นคำพูดที่...พูดอีกก็ถูกอีกนั่นแหละ ในเมื่อขนาดคนไทยด้วยกันเอง ยังไม่เห็นแก่ประเทศชาติบ้านเมืองของตัวเอง แล้วจะไปโอดครวญ วิงวอน ขอร้อง ให้คนที่อยู่บ้านใกล้เรือนเคียง แม้นจะเคยเป็นพี่ๆ น้องๆ กันมาตั้งแต่ชาติปางก่อน มาแสดงออกถึงความปรารถนาดี เห็นอก เห็นใจ โดยบริสุทธิ์ใจ มันย่อมเป็นไปไม่ได้อยู่แล้วแน่ๆ งานนี้...มีแต่ต้อง กลืนเลือด เอาไว้เป็นลิ่มๆ เท่านั้น รวมทั้งหนีไม่พ้นที่จะต้องระแวด ระวังตัวเอาไว้ให้จงหนัก จากปฏิกิริยาของเพื่อนบ้านอย่างเวียดนามเท่าที่ปรากฏให้เห็นมาเป็นระยะๆ จนกระทั่งมาถึง ณ ขณะนี้ ถือได้ว่าเป็นการ ส่งสัญญาณ ให้เห็นอย่างเด่นชัดว่า ถ้าหากเรายังมัวแต่กัดกัน ตีกัน จนไม่อาจสร้างเอกภาพ ความสามัคคี ภายในสังคมของเราเองได้แล้วล่ะก็...โอกาสที่ประเทศไทยจะกลายเป็น แหนมเนือง ชิ้นโตของประเทศเพื่อนบ้าน ย่อมมีความเป็นไปได้สูงยิ่งขึ้นเรื่อยๆ...
      --------------------------------------------------------
     ปิดท้ายด้วยวาทะวันนี้ จาก ไลเคอร์กัส แห่ง สปาร์ต้า... การเป็นพันธมิตรโดยใกล้ชิดกับรัฐที่มุ่งหวังแต่เพียงอำนาจ ไม่เคยนำมาซึ่งความปลอดภัยต่อเสรีรัฐทั้งหลาย...

http://www.thaipost.net/news/250510/22496


หัวข้อ: Re: [2513]"ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: เหยง 16 ที่ 25 พฤษภาคม 2553, 08:59:57
ห้องนี้ ไม่เคยหลับ ไม่เคยนอน มีชาวหอเข้า-ออกเป็นประจำ

สมาชิกไม่ทราบสังกัดชื่อ Galinkaasiolia เข้ามาเปิดห้องขายภาพโป๊ในห้องปรัชญา และการเมืองเรื่องใกล้ตัว ทีเดียว 3 ห้องเลย

ภาพสวยมาก ผมโหลดแล้วขอให้ วม.ลบ กลัวชาวหอจะแย่งดู  emo19:((:  5 5 5 5  emo20:)):)


หัวข้อ: Re: [2513]"ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: opas ที่ 25 พฤษภาคม 2553, 09:45:20
ดีแล้วครับ   การลงทุนของต่างชาติ   ก็คือตัวเพิ่มค่านิยมวัตถุ  ต้นเหตุของปัญหาทั้งปวง

มีน้อยๆ ลงหน่อย  ก็ดี   แบบไทยๆ ก็อยู่ได้สบายอยู่แล้ว ไม่ต้องพึ่งใครเลยด้วยซ้ำไป

ผิดหลักการไม๊เนี่ย


 emo29:P: emo29:P: emo29:P:


หัวข้อ: Re: [2513]"ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: เหยง 16 ที่ 25 พฤษภาคม 2553, 11:58:56
เอ้า...บรรดาแม่ยก ทราบแล้วเปลี่ยน......

"เสธ.ไก่อู"...ใครอย่านึกว่าแค่ซีม่าร์ !
25 พฤษภาคม 2553 10:24 น.


       บอกกันตามตรงเลยว่า การที่รัฐบาลและศูนย์อำนวยการแก้ไขสถานการณ์ฉุกเฉิน หรือศอฉ. ได้รับชัยชนะ อันเป็นชัยชนะของประเทศนั้น ต้องยอมรับว่า ส่วนหนึ่งมาจากผลงานการประชาสัมพันธ์ของ พ.อ.สรรเสริญ หรือเสธ.ไก่อู แก้วกำเนิด โฆษก ศอฉ. ที่ถูกบรรดาแกนนำเสื้อแดง พูดให้บรรดาสาวกเฮฮากันบนเวทีว่า เบื่อศอฉ.จริงๆ เพราะตั้งแต่เช้าก็ส่งไก่อูออกมาขันทุกเช้า ครั้นเอาเข้าจริง การทำหน้าที่ของเสธ.ไก่อู กลับกลายเป็นหอกทิ่มแทงจนบรรดาแกนนำเจียนตายคาเวทีก็หลายครั้งหลายหน
       
       ยกตัวอย่าง ให้เห็นกันชัดๆ หลังเกิดเหตุ "แดงเถื่อน-พฤษภานรก" จากการชุมนุม มีบุคคลกลุ่มหนึ่ง ซึ่งต้องเรียกว่า คนร้าย พาพวกบุกเข้าปล้นร้านสะดวกซื้อ ทำลายข้าวของพังราพณาสูร ปล้นเอาสิ่งของมีค่าไปจนหมด เสธ.ไก่อู นำคลิปภาพหลังเกิดเหตุมาให้ประชาชนชม แล้วชี้ไปที่ ชั้นวางแผงหนังสือ พร้อมกับอธิบายว่า "จะเห็นได้ว่า กลุ่มคนร้าย เข้าปล้นเอาสิ่งของมีค่าไปจนหมด ยกเว้นเพียงหนังสือ ก็เพราะพากันรับรู้ข้อมูลข่าวสารด้านเดียวเท่านั้น" บอกได้คำเดียว คำอรรถาธิบายของเสธ.ไก่อูนั้น "แสบเข้าไส้ ถึงทรวง" ดีจริงๆ หะแรก...บรรดาแกนนนำแดงคงนึกว่าแค่ "ซีมาร์" มาซึ้งภายหลังดีว่า อนิจจา...ทิงเจอร์! นี่หว่า...
       
       เห็นทีการแต่งตั้งโยกย้ายเที่ยวหน้านี้ จปร. 27 จะได้นายพลเพิ่มอีกหนึ่งคน แต่ไม่รู้จะเป็นพ.อ.สรรเสริญ แก้วกำเนิดหรือไม่ แต่ถ้าคุณสมบัติยังไม่ครบ ก็ต้องรอไปก่อน เพราะสิ่งที่เสธ.ไก่อูได้ทำมานั้น ล้วน "เพื่อผืนดินไทย" ซึ่งคณานับมากกว่ายศ-ตำแหน่งเป็นไหนๆ แต่ถ้ากองทัพบกจะตกรางวัล "บิ๊กป๊อก" พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา ผบ.ทบ. ที่ดึงเอาเสธ.ไก่อูมาใช้ตั้งแต่ปฏิวัติ 49 ควรจะควักกระเป๋า จ่ายค่ากรีดถุงใต้ตาให้เป็นรางวัลปลอบใจก็จะดีไม่น้อย (ฮา)
ฯลฯ

จาก http://www.manager.co.th/asp-bin/mgrView.asp?NewsID=9530000071823
 
 


หัวข้อ: Re: [2513]"ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: ภาณุ ปาตานี ที่ 25 พฤษภาคม 2553, 12:06:03
อ้างถึง
ข้อความของ เหยง 16 เมื่อ 25 พฤษภาคม 2553, 08:59:57
ห้องนี้ ไม่เคยหลับ ไม่เคยนอน มีชาวหอเข้า-ออกเป็นประจำ

สมาชิกไม่ทราบสังกัดชื่อ Galinkaasiolia เข้ามาเปิดห้องขายภาพโป๊ในห้องปรัชญา และการเมืองเรื่องใกล้ตัว ทีเดียว 3 ห้องเลย

ภาพสวยมาก ผมโหลดแล้วขอให้ วม.ลบ กลัวชาวหอจะแย่งดู  emo19:((:  5 5 5 5  emo20:)):)

ขอโหวตรับรองให้ Galinkaasiolia เป็นสมาชิกถาวรครับ


หัวข้อ: Re: [2513]"ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: เหยง 16 ที่ 25 พฤษภาคม 2553, 14:01:03
ท่านผู้ว่าฯ ชวน เป็นรุ่นพี่รัฐศาสตร์และชาวหอ 2514

"ครม."เด้ง 4 ผวจ.เข้ากรุเซ่นเผาศาลากลาง
25 พค. 2553 13:18 น.


กระทรวงมหาดไทย โดยนายมานิต วัฒนเสน ปลัดกระทรวงได้เสนอวาระเพื่อทราบต่อครม.โดยมีการโยกย้ายผู้ว่า 4 จังหวัดช่วยราชการที่กระทรวงมหาดไทยได้แก่

1.นายปราโมช สัจจรัตน์ ผู้ว่าขอนแก่น โดยมีนายพยัพ ชาญประเสริฐ รองผู้ว่าฯขอนแก่นรักษาราชการแทน
2.นายอำนาจ ผการัตน์ ผู้ว่ามุกดาหาร โดยให้นายชาญวิทย์ วสยางกูร ที่ปรึกษา 10 ด้านการบริหาร รักษาการผู้ว่ามุกดาหาร

3.นายชวน ศิรินันทร ผู้ว่าอุบล โดยให้นายวิชิต ชาตไพสิฐ ที่ปรึกษา 10 ด้านความมั่นคง รักษาการผู้ว่าอุบล
4.นายอำนาจ ผการัตน์ ผู้ว่าอุดรธานี โดยให้นายวิรัตน์ ลิ้มสุวัฒน์ รองผู้ว่าอุดรรักษาราชการแทน

ทั้งนี้มีผลตั้งแต่วันที่ 27 พ.ค. 2553

http://breakingnews.nationchannel.com/read.php?newsid=449850


หัวข้อ: Re: [2513]"ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: เหยง 16 ที่ 25 พฤษภาคม 2553, 14:26:57
ศาลอาญาอนุมัติหมายจับฐานเป็น"ผู้ก่อการร้าย" กับ นช.ทักษิณ ชินวัตร แล้ว นับเป็นเกียรติประวัติกับครอบครัวนี้ตลอดไป

ศาลอนุมัติหมายจับ “ทักษิณ” เป็นผู้ก่อการร้ายเต็มตัว!
25 พฤษภาคม 2553 13:53 น.

 
       ศาลอนุมัติหมายจับ “ทักษิณ” เป็นผู้ก่อการร้ายแล้ว โดยต่อไปเป็นหน้าที่ของอัยการที่จะประสานกระทรวงการต่างประเทศ เพื่อตามล่าตัว “แม้ว” เป็นผู้ร้ายข้ามแดนกลับมาดำเนินคดีในไทยต่อไปให้ได้
       
       วันนี้ (25 พ.ค.) เมื่อเวลา 13.30 น. ที่ห้องพิจารณาคดี 611 ศาลอาญา ถ.รัชดาภิเษก ศาลออกนั่งบัลลังก์ไต่สวนคำร้องที่พนักงานสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) ขออนุมัติหมายจับ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี เป็นผู้ต้องหาคดีก่อการร้าย ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 135/1, 135/2 และ 135/3 โดยเมื่อวานนี้ (24 พ.ค.) กรมสอบสวนคดีพิเศษ ได้นำพยานเข้าไต่สวนรวม 3 ปาก ประกอบด้วย นายธาริต เพ็งดิษฐ์ อธิบดีดีเอสไอ, พ.ต.อ.ณรัชต์ เศวตนันทน์ รองอธิบดีดีเอสไอ และ พ.ต.ท.ถวัลย์ มั่งคั่ง หัวหน้าชุดพนักงานสอบสวน ซึ่งเป็นการไต่สวนลับ ไม่อนุญาตให้บุคคลอื่นที่ไม่เกี่ยวข้องร่วมฟังการพิจารณา และศาลนัดฟังคำสั่งในวันนี้ โดยไม่อนุญาตให้สื่อมวลชนและผู้ไม่เกี่ยวข้องเข้ารับฟังเช่นเดิม
       
       ทั้งนี้ กรมสอบสวนคดีพิเศษ มี พ.ต.อ.ณรัชต์ เศวตนันทน์ รองอธิบดีดีเอสไอ เดินทางมารับฟังคำสั่ง และเปิดเผยภายหลังการรับฟังคำสั่ง ว่า ศาลได้พิจารณาแล้ว เห็นว่า คดีมีพยานหลักฐานตามสมควร ให้ออกหมายจับ พ.ต.ท.ทักษิณ ในข้อหาก่อการร้ายได้ โดยขั้นตอนต่อไปนี้ จะต้องไปดำเนินการตาม ป.วิอาญา ซึ่งเป็นหน้าที่ของพนักงานอัยการ ที่จะประสานกับกระทรวงการต่างประเทศ เพื่อดำเนินการตามล่าตัว พ.ต.ท.ทักษิณ เป็นผู้ร้ายข้ามแดนกลับมาดำเนินคดีในประเทศไทยต่อไป

 
 
 
จาก http://www.manager.co.th/asp-bin/mgrView.asp?NewsID=9530000072010
 


หัวข้อ: Re: [2513]"ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: Intania๑๖ ที่ 25 พฤษภาคม 2553, 16:10:11

(http://i894.photobucket.com/albums/ac145/nick1usa/ThaksinisaTerrorist.jpg)

ศาลอนุมัติหมายจับ"ทักษิณ" ข้อหา"ก่อการร้าย"  


25 พค. 2553 14:04 น.


ศาลอาญารัชาดาภิเษก อนุมัติหมายจับ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ในข้อหาก่อการร้าย ยุยง ปลุกปั่น ให้กลุ่มแนวร่วมประชาธิปไตย หรือ นปช. ก่อความวุ่นวายในบ้านเมือง ฝ่าฝืน พรก.ฉุกเฉิน ตามพยานหลักฐาน ที่กรมสอบสวนคดีพิเศษร้องขอ โดยมีพยานหลักฐานเป็นคลิป การวีดีโอลิงค์ ซึ่งเป็นหลักฐานที่เพียงพอ หลังจากนี้ทาง ดีเอสไอ เตรียมติดตามตัว หากพบว่า อดีตนายกฯทักษิณ" พำนักอยู่ในประเทศใด จะใช้กฎหมายระหว่างประเทศขอส่งตัวผู้ร้ายข้ามแดน

http://breakingnews.nationchannel.com/read.php?newsid=449859



(http://i894.photobucket.com/albums/ac145/nick1usa/ResizeofWantedThaksin.jpg)
http://i894.photobucket.com/albums/ac145/nick1usa/ResizeofWantedThaksin.jpg 

ถ้ารัฐบาลตั้งรางวัลสินบนนำจับ สัก 10 ล้านเหรียญสหรัฐฯ
เชื่อว่า คงจะมีตำรวจต่างประเทศ อาสาจับให้แน่นอน



หัวข้อ: Re: [2513]"ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: prapasri AH ที่ 25 พฤษภาคม 2553, 16:36:30

จะช่วยผู้ว่า ชวน ได้ยังไงนี่ ท่านเป็นคนดีมากๆเลย


คลังสมองซีมะโด่ง  ต้องช่วยกันแล้ว

จริงๆแล้ว นปช. เข้ามาขอพบท่านแบบจะทำร้าย ผู้ว่า ด้วยนะ

หลังจากไม่ได้ทำร้าย เลยเผาจวน ซะเลย

เห็นใจจัง แต่อาจจะได้ไปอยู่จังหวัดใหญ่เดือนตุลาก็ได้นะ

เด่วต้องโทรไปคุยกับสส.  และผู้ใหญ่ เเถวนี้ก่อนค่ะ

อ้างถึง
ข้อความของ เหยง 16 เมื่อ 25 พฤษภาคม 2553, 14:01:03
ท่านผู้ว่าฯ ชวน เป็นรุ่นพี่รัฐศาสตร์[/color]และชาวหอ 2514

"ครม."เด้ง 4 ผวจ.เข้ากรุเซ่นเผาศาลากลาง
25 พค. 2553 13:18 น.


กระทรวงมหาดไทย โดยนายมานิต วัฒนเสน ปลัดกระทรวงได้เสนอวาระเพื่อทราบต่อครม.โดยมีการโยกย้ายผู้ว่า 4 จังหวัดช่วยราชการที่กระทรวงมหาดไทยได้แก่

1.นายปราโมช สัจจรัตน์ ผู้ว่าขอนแก่น โดยมีนายพยัพ ชาญประเสริฐ รองผู้ว่าฯขอนแก่นรักษาราชการแทน
2.นายอำนาจ ผการัตน์ ผู้ว่ามุกดาหาร โดยให้นายชาญวิทย์ วสยางกูร ที่ปรึกษา 10 ด้านการบริหาร รักษาการผู้ว่ามุกดาหาร

3.นายชวน ศิรินันทร ผู้ว่าอุบล โดยให้นายวิชิต ชาตไพสิฐ ที่ปรึกษา 10 ด้านความมั่นคง รักษาการผู้ว่าอุบล
4.นายอำนาจ ผการัตน์ ผู้ว่าอุดรธานี โดยให้นายวิรัตน์ ลิ้มสุวัฒน์ รองผู้ว่าอุดรรักษาราชการแทน

ทั้งนี้มีผลตั้งแต่วันที่ 27 พ.ค. 2553

http://breakingnews.nationchannel.com/read.php?newsid=449850


หัวข้อ: Re: [2513]"ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: yyswim ที่ 25 พฤษภาคม 2553, 17:23:17
  ไม่เกี่ยวกับการเมืองนะครับ ไม่รู้ว่าจะนำไปแอบไว้ตรงไหน


ถึง น้องแอ๊ะ13...

พี่นภ ไปเกาะหมุย ด้วย คร้าบ 

ไปราวบ่ายสามโมงมั๊ง? ของวันที่ 28 พ.ค.53

ไปพร้อมกับน้องสาว ชื่อเบญจมาศ

พี่นภไม่ได้จองตั๋วเอง ก็เลยไม่แน่ใจเรื่องเวลา น้องเบญจัดการให้หมด ทั้งการเดินทางและที่พัก

วันกลับ คงจะสัก 30 พ.ค. 53 เวลากลับน่าจะเป็นไฟลท์สุดท้าย ราวๆ4ทุ่ม มั๊ง?

เจ๊ดวง ต้องอยู่กับคุณแม่ครับ ก็เลยไม่ได้ไป


ครูยุทธ ไม่ทราบว่า จะไปหรือเปล่า? น่าที่จะมีคนเชิญชวน

ครูยุทธ จะไม่ค่อยมีคนไปเยี่ยมครูยุทธบ่อยนัก อาจจะเป็นครูที่ไม่ช่างพูด 

พี่นภไปหานานๆครั้ง  ครูยุทธจะดีใจ ฝากกล้วย ฝากขนมเข่ง ใส่มาให้ในรถเลย



ดีใจมากครับ ที่รู้ว่าน้องแอ๊ะจะไปด้วยในงานนี้ รุ่นน้องแอ๊ะคนดังทั้งนั้น

รุ่น9 ของพี่นภ ไม่รู้จะไปกันสักกี่คน ถึงหนึ่งโต๊ะหรือเปล่า ก็ยังไม่รู้เลย

แล้วเราเจอกันนะ

อยากจะกินน้ำพริกมุงมัง กับไข่เจียว ด้วย  อิ อิ


อู้ด พรเทพ คงจะไปใช่มั๊ย?

คิดถึง อู้ด เสียดายเนาะ อู้ดเขาไม่ค่อยเข้ามาโพสต์คอมเมนต์ในกระทู้



ขอนอกเรื่อง...

วันเสาร์อาทิตย์ ที่เพิ่งผ่านมา พี่ไปทำตัวกลมกลืน กะ น้องๆรุ่น24 

รุ่น24  รุ่นน้องตี้ถาปัด24 น้องแจง24 รุ่นป๋าทู24 รุ่นหมูพจน์24 รุ่นจิ้งจก24

น้องแอ๊ะคงจะรู้จัก นะ

ไปกินผลไม้ในสวนผลไม้ ที่จ.จันทบุรี ….สวนของ คุณเก๊า24

เจอหมอเสียด16  เจอหมอบุญเลิศ16   เจอ จ๋าย16

ก่อนจะไป ก็มีการโทร.ชักชวน ดร.ป๋อง  สิงห์มานพ ครับ

แต่ทราบว่า พอดี ติดธุระในวันนั้น



พี่นภขอนับว่า เป็นทริปที่สนุกมากๆทริปหนึ่ง ของปีนี้

น้องๆรุ่น 24 รักผูกพันสนิทสนมกัน หัวเราะกัน แซวกัน แบบเหมือนวัยเรียนเลย

ผลไม้อย่างทุเรียนเนื้อดี แกะกันให้แบบไม่อั้น

มังคุด วางให้หยิบกินเป็นเข่งใหญ่

แถม ใครใคร่อยากเด็ดอะไรในสวนทาน ก็เด็ดจากต้นเอาเลย

อุ อุ กล้ามั๊ย? เด็ด ผลสละ จากต้น

แต่ไม่ต้องกลัว ผลสละ จัดวางในถาดใหญ่รอไว้แล้ว



อาหารทะเลที่จัดเตรียม และอาหารจันทบุรีที่จัดเตรียม ก็สุดยอด ระดับ A+

ระหว่างกำลังทาน มีโทร.แซวกับ น้องหนุงหนิง27 ที่เยอรมันด้วย ยั่วปากน้องหนุงหนิงน่ะ

น้องหนุงหนิงรุ่นเดียวกับ น้องจิ๋วRCU27 น้องจิ๋วจบ Botany  เป็นคนข้างกาย เก๊า24

แล้วก็ส่งโทร.หมุนเวียน ไปที่แต่ละคน วันนั้นพูดยาวนาน ราว 30 นาที

อุ อุ ป๋าทู ใจดีจริงๆ เพราะเป็นเครื่องของป๋าทู24


น้องไพรสน49 ก็ไปนะ สนุกสนานมาก

รถที่ขับกันไป โอ น่าจะสักสิบคัน เพราะสังเกต การจัดโต๊ะอาหาร มีถึง 6 โต๊ะ

หากโต๊ะละ 8 คน ก็ราวๆ 48 คน

เสียดาย ไม่มีใครนับจำนวน เป็นสถิติที่ชัดเจน จดเอาไว้



คอมเมนต์นี้ ขออนุญาตบอกน้องแอ๊ะ และอีกหลายๆท่านที่อยากจะชมรูปและเรื่อง

ลองเข้าไปอ่าน "สังสรรค์สองสี่-ปาร์ตี้สัญจร.ตอน-22-23พฤษภา มาชิมผลไม้ถึงสวน อบอวลด้วยรัก" ได้นะครับ

http://www.cmadong.com/board/index.php/topic,3295.1675.html



ขออภัย เขียนให้อ่านยาวเลย






หัวข้อ: Re: [2513]"ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: prapasri AH ที่ 25 พฤษภาคม 2553, 19:01:24
เมื่อกี่ โทรไปถาม ในรัฐบาลแล้ว เค้าบอกว่าเป็นความจำเป็นต้องย้ายเพราะถือว่าคุมสถานการณ์ไม่ได้

เด่วจะย้าย ผู้บังคับการตำรวจ ตามจังหวัดเหล่านี้ อีกระลอก ค่ะ

ทำไงได้ล่ะ ผู้ว่าจะทัดทาน ฉีแดงได้ไง สงสารท่นน ผู้ว่า จังเลย


อ้างถึง
ข้อความของ prapasri AH เมื่อ 25 พฤษภาคม 2553, 16:36:30

จะช่วยผู้ว่า ชวน ได้ยังไงนี่ ท่านเป็นคนดีมากๆเลย


คลังสมองซีมะโด่ง  ต้องช่วยกันแล้ว

จริงๆแล้ว นปช. เข้ามาขอพบท่านแบบจะทำร้าย ผู้ว่า ด้วยนะ

หลังจากไม่ได้ทำร้าย เลยเผาจวน ซะเลย

เห็นใจจัง แต่อาจจะได้ไปอยู่จังหวัดใหญ่เดือนตุลาก็ได้นะ

เด่วต้องโทรไปคุยกับสส.  และผู้ใหญ่ เเถวนี้ก่อนค่ะ

อ้างถึง
ข้อความของ เหยง 16 เมื่อ 25 พฤษภาคม 2553, 14:01:03
ท่านผู้ว่าฯ ชวน เป็นรุ่นพี่รัฐศาสตร์[/color]และชาวหอ 2514

"ครม."เด้ง 4 ผวจ.เข้ากรุเซ่นเผาศาลากลาง
25 พค. 2553 13:18 น.


กระทรวงมหาดไทย โดยนายมานิต วัฒนเสน ปลัดกระทรวงได้เสนอวาระเพื่อทราบต่อครม.โดยมีการโยกย้ายผู้ว่า 4 จังหวัดช่วยราชการที่กระทรวงมหาดไทยได้แก่

1.นายปราโมช สัจจรัตน์ ผู้ว่าขอนแก่น โดยมีนายพยัพ ชาญประเสริฐ รองผู้ว่าฯขอนแก่นรักษาราชการแทน
2.นายอำนาจ ผการัตน์ ผู้ว่ามุกดาหาร โดยให้นายชาญวิทย์ วสยางกูร ที่ปรึกษา 10 ด้านการบริหาร รักษาการผู้ว่ามุกดาหาร

3.นายชวน ศิรินันทร ผู้ว่าอุบล โดยให้นายวิชิต ชาตไพสิฐ ที่ปรึกษา 10 ด้านความมั่นคง รักษาการผู้ว่าอุบล
4.นายอำนาจ ผการัตน์ ผู้ว่าอุดรธานี โดยให้นายวิรัตน์ ลิ้มสุวัฒน์ รองผู้ว่าอุดรรักษาราชการแทน

ทั้งนี้มีผลตั้งแต่วันที่ 27 พ.ค. 2553

http://breakingnews.nationchannel.com/read.php?newsid=449850



หัวข้อ: Re: [2513]"ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: prapasri AH ที่ 25 พฤษภาคม 2553, 19:05:36
พี่นภ แล้วเจอกันนนะคะ คิดถึงน้องเบญ จังเลย

เขาให้ใส่ กางเกงขาว เสื้อสีน้ำทะเล (ลูกทะเลขาว)

พี่นภเตรียมกางเกง สีขาวไปนะคะ เสื้อเขาทำเสื้อยืดไว้ให้ค่ะ

อ้างถึง
ข้อความของ yyswim เมื่อ 25 พฤษภาคม 2553, 17:23:17
  ไม่เกี่ยวกับการเมืองนะครับ ไม่รู้ว่าจะนำไปแอบไว้ตรงไหน


ถึง น้องแอ๊ะ13...

พี่นภ ไปเกาะหมุย ด้วย คร้าบ 

ไปราวบ่ายสามโมงมั๊ง? ของวันที่ 28 พ.ค.53

ไปพร้อมกับน้องสาว ชื่อเบญจมาศ

พี่นภไม่ได้จองตั๋วเอง ก็เลยไม่แน่ใจเรื่องเวลา น้องเบญจัดการให้หมด ทั้งการเดินทางและที่พัก

วันกลับ คงจะสัก 30 พ.ค. 53 เวลากลับน่าจะเป็นไฟลท์สุดท้าย ราวๆ4ทุ่ม มั๊ง?

เจ๊ดวง ต้องอยู่กับคุณแม่ครับ ก็เลยไม่ได้ไป


ครูยุทธ ไม่ทราบว่า จะไปหรือเปล่า? น่าที่จะมีคนเชิญชวน

ครูยุทธ จะไม่ค่อยมีคนไปเยี่ยมครูยุทธบ่อยนัก อาจจะเป็นครูที่ไม่ช่างพูด 

พี่นภไปหานานๆครั้ง  ครูยุทธจะดีใจ ฝากกล้วย ฝากขนมเข่ง ใส่มาให้ในรถเลย



ดีใจมากครับ ที่รู้ว่าน้องแอ๊ะจะไปด้วยในงานนี้ รุ่นน้องแอ๊ะคนดังทั้งนั้น

รุ่น9 ของพี่นภ ไม่รู้จะไปกันสักกี่คน ถึงหนึ่งโต๊ะหรือเปล่า ก็ยังไม่รู้เลย

แล้วเราเจอกันนะ

อยากจะกินน้ำพริกมุงมัง กับไข่เจียว ด้วย  อิ อิ


อู้ด พรเทพ คงจะไปใช่มั๊ย?

คิดถึง อู้ด เสียดายเนาะ อู้ดเขาไม่ค่อยเข้ามาโพสต์คอมเมนต์ในกระทู้



ขอนอกเรื่อง...

วันเสาร์อาทิตย์ ที่เพิ่งผ่านมา พี่ไปทำตัวกลมกลืน กะ น้องๆรุ่น24 

รุ่น24  รุ่นน้องตี้ถาปัด24 น้องแจง24 รุ่นป๋าทู24 รุ่นหมูพจน์24 รุ่นจิ้งจก24

น้องแอ๊ะคงจะรู้จัก นะ

ไปกินผลไม้ในสวนผลไม้ ที่จ.จันทบุรี ….สวนของ คุณเก๊า24

เจอหมอเสียด16  เจอหมอบุญเลิศ16   เจอ จ๋าย16

ก่อนจะไป ก็มีการโทร.ชักชวน ดร.ป๋อง  สิงห์มานพ ครับ

แต่ทราบว่า พอดี ติดธุระในวันนั้น



พี่นภขอนับว่า เป็นทริปที่สนุกมากๆทริปหนึ่ง ของปีนี้

น้องๆรุ่น 24 รักผูกพันสนิทสนมกัน หัวเราะกัน แซวกัน แบบเหมือนวัยเรียนเลย

ผลไม้อย่างทุเรียนเนื้อดี แกะกันให้แบบไม่อั้น

มังคุด วางให้หยิบกินเป็นเข่งใหญ่

แถม ใครใคร่อยากเด็ดอะไรในสวนทาน ก็เด็ดจากต้นเอาเลย

อุ อุ กล้ามั๊ย? เด็ด ผลสละ จากต้น

แต่ไม่ต้องกลัว ผลสละ จัดวางในถาดใหญ่รอไว้แล้ว



อาหารทะเลที่จัดเตรียม และอาหารจันทบุรีที่จัดเตรียม ก็สุดยอด ระดับ A+

ระหว่างกำลังทาน มีโทร.แซวกับ น้องหนุงหนิง27 ที่เยอรมันด้วย ยั่วปากน้องหนุงหนิงน่ะ

น้องหนุงหนิงรุ่นเดียวกับ น้องจิ๋วRCU27 น้องจิ๋วจบ Botany  เป็นคนข้างกาย เก๊า24

แล้วก็ส่งโทร.หมุนเวียน ไปที่แต่ละคน วันนั้นพูดยาวนาน ราว 30 นาที

อุ อุ ป๋าทู ใจดีจริงๆ เพราะเป็นเครื่องของป๋าทู24


น้องไพรสน49 ก็ไปนะ สนุกสนานมาก

รถที่ขับกันไป โอ น่าจะสักสิบคัน เพราะสังเกต การจัดโต๊ะอาหาร มีถึง 6 โต๊ะ

หากโต๊ะละ 8 คน ก็ราวๆ 48 คน

เสียดาย ไม่มีใครนับจำนวน เป็นสถิติที่ชัดเจน จดเอาไว้



คอมเมนต์นี้ ขออนุญาตบอกน้องแอ๊ะ และอีกหลายๆท่านที่อยากจะชมรูปและเรื่อง

ลองเข้าไปอ่าน "สังสรรค์สองสี่-ปาร์ตี้สัญจร.ตอน-22-23พฤษภา มาชิมผลไม้ถึงสวน อบอวลด้วยรัก" ได้นะครับ

http://www.cmadong.com/board/index.php/topic,3295.1675.html



ขออภัย เขียนให้อ่านยาวเลย







หัวข้อ: Re: [2513]"ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: เหยง 16 ที่ 25 พฤษภาคม 2553, 19:09:32
ดูหน้าชัดๆ คนเขียงใหม่ดึง"ธงในหลวง"โยนทิ้งน้ำ.......


ชมคลิป แดงเชียงใหม่ห้าว! แค้นสลายชุมนุม พาลถอน “ธงในหลวง” โยนทิ้งน้ำ
25 พฤษภาคม 2553 15:02 น.

http://www.youtube.com/watch?v=tyV2ZT0hxTY

       ASTVผู้จัดการ – แดงเชียงใหม่แค้นแกนนำประกาศสลายการชุมนุม 19 พ.ค.ก่อจลาจลหน้าจวนผู้ว่าฯ พาลโยนธงสีเหลืองอักษรพระปรมาภิไธย ภปร ที่ปักเคียงกับธงชาติไทยบนสะพานนวรัฐ ทิ้งแม่น้ำปิงเกลี้ยง
       
   
(http://www.cmadong.com/imageupload/2010_Cmadong-Image/data/image/l2z5kp-4ba734.jpg)
       
       
       จากกรณีเมื่อวันที่ 19 พ.ค.ที่แกนนำกลุ่มแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) หรือ คนเสื้อแดงประกาศสลายการชุมนุม ณ แยกราชประสงค์ หลังเจ้าหน้าที่ของศูนย์อำนวยการแก้ไขสถานการณ์ฉุกเฉิน (ศอฉ.) เข้ากดดัน จนก่อให้เกิดการวินาศกรรม และจลาจลขึ้นทั่วกรุงเทพฯ และลุกลามไปทั่วประเทศ ล่าสุด วานนี้ (24 พ.ค.) ได้มีประชาชนโพสต์คลิปวิดีโอลงในเว็บไซต์ยูทูป เป็นภาพการก่อการจลาจลที่จังหวัดเชียงใหม่ ในวันที่ 19 พ.ค.
       
       เหตุการณ์การจลาจลที่จังหวัดเชียงใหม่ เกิดขึ้นตั้งแต่ช่วงเที่ยงวัน บริเวณจวนผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ เชิงสะพานนวรัฐ อ.เมืองเชียงใหม่ โดย นปช.จังหวัดเชียงใหม่ จำนวนประมาณ 50 คน ได้นำยางรถยนต์มากองที่บริเวณหน้าจวนผู้ว่าฯ ก่อนราดน้ำมันจุดไฟเผา จนเกิดกลุ่มควันจำนวนมาก นอกจากนี้ กลุ่มวัยรุ่นดังกล่าวยังขว้างปาขวดน้ำและสิ่งของเข้าไปในจวนผู้ว่าฯ ใช้หนังสติ๊กยิงประทัดยักษ์เข้าไปในจวนผู้ว่าฯ เป็นระยะ จนเจ้าหน้าที่ต้องปิดการจราจรบริเวณสะพานนวรัฐข้ามแม่น้ำปิงเป็นการชั่วคราว
       
       สำหรับภาพคลิปวิดีโอดังกล่าว ตอนหนึ่งปรากฏภาพชายสวมเสื้อยืดคอกลมแขนสั้นสีขาว ได้เดินไปตามทางเท้าบนสะพานนวรัฐ และได้พยายามถอนธงสีเหลืองอักษรพระปรมาภิไธย ภปร ซึ่งปักอยู่เคียงกับธงชาติไทยบนสะพาน โยงทิ้งลงสู่แม่น้ำปิง ด้วยท่าทางโกรธแค้น ก่อนที่ นปช.อีกคนหนึ่งที่ใส่เสื้อแจ๊กเก็ตแขนยาวสีเขียวขี้ม้าจะกระทำถอนธงสีเหลือง ตามชายคนดังกล่าวบ้าง จากนั้นคนกลุ่มดังกล่าวจึงเดินไปรวมตัวกัน
       
       พฤติกรรมการจาบจ้วง หมิ่นพระบรมเดชานุภาพ และบ่อนทำลายสถาบันหลักของประเทศไทยนั้นเกิดขึ้นอย่างต่อเนื่องในช่วงหลายปีที่ผ่านมา อย่างเช่น กรณีเมื่อวันที่ 14 ต.ค.2551 หลังพิธีพระราชทานเพลิงศพ “น้องโบว์” น.ส.อังคณา ระดับปัญญาวุฒิ เพียงวันเดียว กลุ่มคนรักเชียงใหม่ ได้เปิดเวทีปราศรัยสนับสนุนรัฐบาลต่อต้านพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ซึ่งจัดบริเวณหน้าโรงแรมแกรนด์วโรรส โดยวันดังกล่าวแกนนำผู้ปราศรัยแสดงอาการโกรธแค้นต่อเหตุการณ์พิธีพระราชทานเพลิงศพอย่างชัดเจน โดย นายเพชรวรรต วัฒนพงศ์ศิริกุล แกนนำกลุ่มคนรักเชียงใหม่ 51 ปราศรัยถึงการเดินทางไปร่วมชุมนุมกับกลุ่ม นปช.ที่สนามหลวง และมีตอนหนึ่งที่กระทบกระเทียบกับสถาบันสูงสุดอย่างหมิ่นเหม่ โดยได้พูดว่า คนเชียงใหม่นับถือแค่กษัตริย์ 3 องค์เท่านั้น ก็คือ อนุสาวรีย์สามกษัตริย์ ซึ่งประดิษฐานอยู่หน้าศาลากลางหลังเก่า (พญาเม็งราย พญางำเมือง และ พ่อขุนรามคำแหง) ไปกรุงเทพฯ ก็ไปสักการะเฉพาะศาลเจ้าพ่อหลักเมืองเท่านั้น (อ่านข่าว : นปก.เชียงใหม่เหิม บอกคนเชียงใหม่นับถือแค่อนุสาวรีย์ 3 กษัตริย์ (16 ต.ค. 51))
       

 
 
จาก http://www.manager.co.th/asp-bin/mgrView.asp?NewsID=9530000072066
 


หัวข้อ: Re: [2513]"ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: yyswim ที่ 25 พฤษภาคม 2553, 20:04:31
ถึง น้องแอ๊ะ...

ขอบคุณครับที่บอกเรื่องให้เตรียมกางเกงขาวไปด้วย

เสื้อทะเลขาว ค่อยไปหาซื้อเอาข้างหน้า


หัวข้อ: Re: [2513]"ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: swsm ที่ 25 พฤษภาคม 2553, 20:05:49
ไม่ได้ไปด้วย .. แต่ขอรอชมภาพนะคะ  พี่สิน    emo6::))


หัวข้อ: Re: [2513]"ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: prapasri AH ที่ 25 พฤษภาคม 2553, 22:15:25
เสื้อยืด สีน้ำทะเล เขาเตรียมไว้ให้ค่ะ พี่นภ

ถ้าไม่รังเกียจ พักบ้านแอ๊ะก็ได้นะคะ เพื่อนๆพรเทพก็พักที่ตลิ่งงาม

เพือนแอ๊ะ น้องเหนียว เจ๊สี่ โสภา สารา ก็คงไปนอนกับแอ๊ะที่ตลิ่งงามค่ะ

ยกบ้านสวย ให้ ผู้ชายพักกัน ส่วนพรรคพวกแอ๊ะพักตรง resort ค่ะ

อยากให้พี่นภไปพักกะเเอ๊ะจัง ตอนเช้าจะได้ลุกมาทานขนมครก ตลิ่งงาม

และเอ่อๆๆๆๆ อยากให้พี่นภถ่ายรูปให้สวยๆ นะอ่ะ

เข้าไปดูบ้าน www.samuidelma.com ค่ะ

เเต่เอียด สุภร  คนบ้านหินลาด เขาจะให้ไปพัก resort เขา

คงแย่งตัวกันน่าดูชม งานนี้

ขอไปนอนก่อนนะ พรุ่งนี้ จะไป หน่วยแพทย์พอ.สว. เข้าเฝ้าถวายเงิน เจ้าฟ้าจุฬาภรณ์ค่ะ

งานนี้จับพี่หาญไปเข้าเฝ้าด้วยค่ะ
ตื่นเต้นมากค่ะที่จะได้ รับใช้พระองค์ท่าน  
อ้างถึง
ข้อความของ yyswim เมื่อ 25 พฤษภาคม 2553, 20:04:31
ถึง น้องแอ๊ะ...

ขอบคุณครับที่บอกเรื่องให้เตรียมกางเกงขาวไปด้วย

เสื้อทะเลขาว ค่อยไปหาซื้อเอาข้างหน้า



หัวข้อ: Re: [2513]"ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: prapasri AH ที่ 25 พฤษภาคม 2553, 22:39:12
น้องหะยี และน้องที่น่ารัก ทุกท่านคะ

ขอไปนอนก่อนนะคะ พรุ่งนี้ต้องตื่นเช้า ไปรับเสด็จ เจ้าฟ้าจุฬาภรณ์

ปีนี้ มีคนเเย่งกันเข้าเฝ้า ถวายเงินเข้ามูลนิธิ พอ.สว เกือบ200 คน เเน่ะ

เเละเจ้าอาวาสวัดหนึ่งก็ถวายเงิน ล้านกว่าบาท สมทบมูลนิธิ

แสดงว่า คนอิสาน ยังรักเทิดทูนสถาบันอยู่ไม่น้อย ปีนี้แย่งกันเข้าเฝ้าเลยค่ะ

เงินที่ถวายท่าน ท่านพระราชทานกลับมาให้มูลนิธิ พอ.สว.ของทุกจังหวัดนะคะ

เราจะเห็นว่า เวลา ประชาชน ถวายเงิน แท้จริงแล้ว ท่านรับไว้ แล้วประทานกลับมา

ทุกงานและทุกพระองค์ค่ะ

 อยากให้ทุกคนเข้าใจด้วยนะคะ ว่าทุกพระองค์ไม่ได้นำเงิน ไป นะคะ

 จะประทานกลับคืนมาทุกงานค่ะ



หัวข้อ: Re: [2513]"ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: เหยง 16 ที่ 26 พฤษภาคม 2553, 08:58:03
 คอลัมม์ "คนปลายซอย" ของคุณเปลว สีเงิน ซึ่งเป็นที่ชื่อชมของชาวไทยในขณะนี้ ฟังข้อเสนอการย้ายเมืองหลวงครับ

"สู่ศตวรรษใหม่" เราจะไปทางไหนกันดี?
เปลว สีเงิน 26 พฤษภาคม 2553 - 00:00

     วานซืน ผมตั้งหัวข้อ "หยั่งกระแส" ใน FB ว่า "เราย้ายเมืองหลวงไปสร้างกรุงเทพฯ แห่งที่  ๒ หรือ นิวบางกอกกันดีไหม? โดยเอาทำเนียบรัฐบาล รัฐสภา และกระทรวง ย้ายไปอยู่ที่นิว บางกอกทั้งหมด ปล่อยให้ "กรุงเทพมหานคร" หรือโอลด์บางกอกนี้ ได้เป็น "เมืองฟ้าอมร" ตัดขาดความขัดแย้งเรื่องลัทธิ-ศาสนา-การเมือง และอำนาจเสียที ให้กรุงเทพฯ เป็น "สวรรค์บนดิน" ที่ทั้งชาวไทยและชาวโลกขอเป็น "ครั้งหนึ่งในชีวิต" ที่ได้มายลบางกอกอันนิรันดร์ด้วยสัญลักษณ์ศูนย์กลางแห่งศิลปะ-วัฒนธรรม และการศึกษา ศูนย์กลางแห่งสถาบันพระมหากษัตริย์ ศูนย์กลางแห่งสถาบันพระพุทธศาสนา ศูนย์กลางแห่งการท่องเที่ยวพักผ่อน มาช็อปปิ้ง มาประชุม มาตกลงธุรกิจการค้า และมาตื่นตา-ตื่นใจกับเทศกาล งานพระราชพิธีต่างๆ อันมี ณ ที่แห่งเดียวในโลกคือที่...กรุงเทพฯ เมืองฟ้าอมร!

     ครับ...ปรากฏว่าได้รับความสนใจพอควร ยังไม่ถึงขนาดเว็บระเบิดหรอก เสียงส่วนใหญ่ก็ "เห็นด้วย" และผมอยากจะบอกว่า "ปัญหาคือปัญญา" จริงๆ เพียงแค่หยั่งท่าทีถามว่า "ควรสร้างกรุงเทพฯ แห่งใหม่ดีมั้ย" คำตอบที่น่าจะออกมาแค่ ดี หรือ ไม่ดี เห็นด้วย หรือ ไม่เห็นด้วย แต่ปรากฏว่า จากคำถาม จุดประเด็นความคิดชาว FB ให้แตกตัว เพราะนอกจากตอบเห็นด้วย หรือไม่เห็นด้วยแล้ว แต่ละท่านยังแตกแขนงทางปัญญาแบบ "ผู้มีวิสัยทัศน์" มองยาว-มองไกลไปข้างหน้า  ไม่ใช่มีปัญญาแค่ "ถามคำ-ตอบคำ" หลายท่านตั้งคำถามไปข้างหน้าด้วยการย้อนถามถึง "ประเด็นใหญ่" กลับมาคือ "แล้วเราจะย้ายไปตั้งอยู่ที่ไหนดี?"

     ไม่เพียงเท่านั้น ยังอีกมากมายหลายความคิดเห็นที่เป็นการ "คิดสรรค์สร้าง" ทางใหม่-เมืองใหม่  มองไกลขนาดว่า ปฏิรูปคือพัฒนาเมืองไทยให้มี "กรุงเทพฯ" ทั้ง ๔ ภาคเลยดีไหม แทนที่จะให้ประเทศไทย "ทั้งประเทศ" กระจุกตัว-ผูกติดไว้กับความเป็น "กรุงเทพฯ" วันนี้ แห่งเดียว! เห็นปฏิกิริยาตอบสนองต่อความเป็น "บ้านเมืองของเรา" จากหนุ่ม-สาวคนรุ่นใหม่ผ่าน FB แล้ว ผมก็แอบดีใจ อย่างนี้บ้านเมืองเราไปรอด และไปรุ่งแน่นอน เอาเป็นว่า ในขั้นตอนแรกนี้ เราหยั่งเสียงในหัวข้อใหญ่อย่างเดียวก่อนว่า "สร้างกรุงเทพฯ แห่งใหม่" พูดง่ายๆ คือ "ย้ายเมืองหลวง" ไปสร้างในที่แห่งใหม่ดีมั้ย? เท่านี้ก่อน

     ส่วนย้ายไปสร้างที่ไหน สร้างแล้วมันจะกินกันบรรลัย และควรเอาอะไร-ต่ออะไรไปไว้ที่เมืองใหม่นี้บ้าง นั่นเป็นรายละเอียดอีกยาวไกลครับ ต้องไปถึงจุดนั้นแน่ แต่ยังไม่ใช่ในขั้นตอนนี้ เฉพาะตอนนี้เอาแค่มติแรกก่อนว่า...ควรย้ายไปสร้างเมืองใหม่ หรือไม่ควร? หลายท่านเดาเจตนาผมว่า คงต้องการ "ย้ายเมืองหนีปัญหา" ม็อบการเมือง ความจริงไม่ใช่หรอกครับ ถ้าท่านพลิกๆ อ่านที่ผมเขียน-คุยมาตลอดจะพบว่า ผมเสนอ "สร้างเมืองใหม่" มาหลายครั้งแล้ว เจตนาก็คือ "ครอบครัวประเทศไทย" เติบโตด้วยสมาชิกกว่า ๖๐ ล้านคน และจะถึง ๑๐๐ ล้านคนในอีกไม่กี่สิบปีข้างหน้า ยังไม่รวมพลเมืองแฝงจากชาติต่างๆ อีกหลายสิบล้านคน นั่นคือ.....กรุงเทพฯ เล็ก คับแคบ และแก่ชรากว่า ๒๒๘ ปีแล้ว ไม่สามารถให้คนทั้ง ๖๐ กว่าล้านคนนั้น เข้ามาอยู่ เข้ามาทำงาน เข้ามาเรียน เข้ามาตั้งถิ่นฐาน เข้ามาตั้งโรงงาน เข้ามาประกอบธุรกิจการค้า เข้ามาแสวงหาโอกาสที่ดีกว่าของชีวิตในรูปแบบต่างๆ ได้อีกแล้ว
     เหมือนคอนโดฯ ๓๐ ตารางเมตร เคยอยู่กัน ๒ คนผัว-เมียก็สบายดี มีลูก ๑ คนก็ยังพอไหว แต่มีลูก ๕ คน แถมลูกแต่งงาน และมีหลานออกมาอีกเป็นสิบๆ ๓๐ ตารางเมตร ไม่ใช่ "บ้านคือวิมานของเรา" อีกต่อไปแล้วครับ มันกลายเป็น "นรกลอยฟ้า" ดีๆ นี่เอง!

     การแยกศูนย์กลางบริหาร ศูนย์กลางราชการไปไว้ที่หนึ่ง และแยกศูนย์การค้า ธุรกิจ-ติดต่อ-ท่องเที่ยวไปไว้ที่หนึ่ง และศูนย์ธุรกิจอุตสาหกรรมอีกที่หนึ่ง ผมก็ว่าเมืองไทยเรา "โตแบบไม่มีพิมพ์เขียว" มานาน มันถึงเวลาที่ต้อง "จัดระเบียบ" ด้วยการขอคืนพื้นที่บ้าง กระชับพื้นที่บ้าง เปิดพื้นที่ใหม่บ้างโดยใช้ปัญหา-อุปสรรคจาก "โตไร้แบบแผน" นั้นเป็นตัวอย่างเพื่อการวางผัง-วางแบบเป็นพิมพ์เขียว "สร้างเมืองใหม่" โดยคำนึงถึงระบบโลจิสติกส์ และระบบคมนาคมเชื่อมต่อเมืองระหว่างเมืองถึงกัน ดีกว่าเห็นรถติดตรงไหนก็ "ขุดทำรถไฟใต้ดิน" วนอยู่แต่ในกรุงเทพฯ-ปริมณฑล จนแผ่นดินใต้กรุงเทพฯ พรุนไปหมดแล้ว!

     พูดกันถึงอนาคต ต่อไปนี้ ใครจะพูดแต่เฉพาะประเทศตัวเองประเทศเดียวไม่ได้แล้ว ต้องมองในความเป็นหนึ่งบนความคล้ายคลึงกันเพื่ออยู่ร่วมแบบ "แบ่งกันอยู่-ร่วมกันรวย" อย่างไทยเรา จะโด่เด่แค่ไทยไปไม่รอด จะมองรวมกลุ่มอาเซียนเป็นหนึ่ง นั่นก็ยาก เพราะในความเป็นอาเซียน ยังมีความแตกต่างทางลัทธิ-ศาสนา-ขนบธรรมเนียม-ประเพณี ที่ยากจะรวมกันได้จริงๆ

     แต่ถ้ามองดูใน "กลุ่มอนุภาคลุ่มแม่น้ำโขง" ๖ ประเทศ อันประกอบด้วย ไทย-ลาว-เขมร-ญวน-พม่า และจีนตอนใต้ คือแถวๆ ๑๒ ปันนา คุณหมิงนั่นแหละ เราจะเห็นชัดเลยว่า ทั้งการสืบสาย และทั้งศิลปะ-วัฒนธรรม-ขนบธรรมเนียม ประเพณี ศาสนา กระทั่งภาษา และการกิน การอยู่ รวมถึงทัศนคติเหมือนกันหมด! ตรงนี้แหละคือจุด "ปฏิวัติประเทศไทย" สู่สังคมศตวรรษใหม่แท้จริง ๖ ประเทศจะต้องรวมกันเป็นหนึ่งในด้านเศรษฐกิจ-การท่องเที่ยว-การขนส่ง เพราะ ๖ ประเทศคุมประตูเชื่อมโลกอันเป็นยุทธศาสตร์ทางทะเลทั้งหมด ไม่ว่าอ่าวไทย อ่าวอันดามัน เชื่อมมหาสมุทรแปซิฟิกเข้ากับมหาสมุทรอินเดีย!!! ๖ ประเทศนี่แหละจะเป็น "จ้าวแห่งบูรพา" ตัวจริง เพราะนอกจากคุมยุทธศาสตร์ทางทะเลแล้ว  ภูมิศาสตร์พื้นที่แต่ละประเทศ ธรรมชาติยังกำหนดให้เป็น "พื้นที่อาหารแห่งโลก" และน่าอยู่อาศัย ด้วยร้อนพอดี-เย็นพอดี-น้ำพอดี-แสงอาทิตย์-แร่ธาตุ-พลังงานเหลือเฟือ ซึ่งทั้งหมดผสมลงตัวเป็น " ความสมดุล" อันหาที่ไหนในโลกไม่มีอีกแล้ว นอกจากที่นี่...ที่ ๖ ประเทศกลุ่มอนุภาคลุ่มน้ำโขงนี้เท่านั้น!

     เราลองหลับตานึกดูซิ ซื้อตั๋วเครื่องบิน หรือรถไฟจากที่ไหนก็ได้ใน ๖ ประเทศ สามารถหิ้วกระเป๋าไปถึงกันได้หมดเหมือนจากจังหวัดหนึ่งไปอีกจังหวัดหนึ่ง แล้วกลุ่ม ๖ ประเทศนี้จะร่ำรวย สุข-สนุกสนาน  และคลาคล่ำไปด้วยผู้คนหลากหลายจากทั่วทุกมุมโลกขนาดไหน!?
 ใครจะเป็นผู้นำที่เรียกว่า "ปฏิวัติสู่สังคมใหม่" ต้องไปถึงจุดนี้ให้ได้ ไม่อย่างนั้นยังไม่เรียกว่า "ผู้นำ" สู้ทักษิณไม่ได้ ตอนนี้ความระยำนำตัวเองไปถึงระดับ "ผู้ก่อการร้าย" ระดับโลกไปแล้ว!

     เมื่อวาน (๒๕ พ.ค.๕๓) ผมฟังข่าวแว่วๆ วุฒิสมาชิกสหรัฐลงมติเป็นเอกฉันท์ สนับสนุนแผนปรองดองของท่านนายกฯ อภิสิทธิ์ พูดชัดๆ ก็คือ สหรัฐแสดงท่าทีสนับสนุนรัฐบาลอภิสิทธิ์ต่อไป พร้อมประณามการก่อการร้ายของพวกเสื้อแดง ผมยกมาพูดเพราะสะดุดใน "แผนปรองดอง" ที่สหรัฐสนับสนุนนั่นแหละ เจตนานายกฯ อภิสิทธิ์นั้นดีแน่ แต่ ๑ ในแผนปรองดองที่จะใช้นโยบาย "รัฐสวัสดิการ" นั้น ผมอยากให้ใคร่ครวญให้รอบคอบ การให้เด็กเรียนฟรีไม่เป็นปัญหา แต่ที่รัฐจะจ่ายเงินเลี้ยงดูคนแก่นั้น...มีปัญหาแน่

     ก่อนจะเกิดคำว่า "รัฐสวัสดิการ" ควรต้องดูระบบและฐาน "การจัดเก็บ-การเสียภาษี" ให้ดีก่อน อย่าไปคิดแค่ว่า...นี่คือการพลิกแพลงจาก "เงินแจก" สมัยทักษิณไปเป็นการแจกในรูป "สวัสดิการ" สมัยอภิสิทธิ์ และประเด็นใหญ่ที่มองข้าม ผมอยากถามว่า "ดูสำมะโนประชากรศาสตร์" แล้วหรือยัง ถ้าดู...จะเห็นชัดเจนว่า ถ้าไม่แก้ไข ประเทศไทยเราต้องถูก "แรงงานต่างชาติ" ยึดประเทศแน่นอน! เพราะอะไรน่ะหรือ....ก็เพราะอัตราส่วนระหว่าง คนเกิดอันเป็นวัยเด็ก กับคนเติบโตอันเป็นวัยทำงาน กับคนเกษียณจากการทำงานสู่วัยคนแก่ มันเกิดช่องว่างด้วยอัตราส่วนที่ห่างกันจนน่าใจหาย ทุกวันนี้เราเพาะทรัพยากรบุคคลให้เกิดน้อยมาก ที่ยังเก็บภาษีได้อยู่ เพราะวัยทำงานมีตัวเลขสูง

      แต่ในขณะที่วัยเด็กมีจำนวนน้อย ไปโตอยู่ในวัยทำงานมาก เมื่อเหลียวดูคนในวัยชรา เห็นแล้วน่าตกใจ คนวัยทำงานไหลไปเพิ่มอยู่ในจำนวน "คนวัยชรา" ชนิดโป่งพองทุกปี และอนาคต ๑๐-๒๐-๓๐ ปีข้างหน้า ประเทศไทยจะเป็นประเทศ "หัวโต" แต่แขนขา และลำตัวลีบ! วันทำงานแทบไม่มี เกิดน้อยแล้ว ที่เกิดก็ขาดช่วง และโตไม่ทันรุ่นต่อรุ่น แถมส่วนใหญ่จะโตแบบ "ขาดคุณภาพ" มีภูมิภาคเดียวในโลกที่ "สมดุล" ระหว่างคน ๓ รุ่น คือ รุ่นเด็ก-รุ่นทำงาน-รุ่นชรา คือที่แอฟริกาใต้ อนาคตเขาจะแข็งแกร่งมาก

     คุณอภิสิทธิ์จะปรองดองก็ปรองดองไป แต่ในความเห็นผม "จุดแข็ง-จุดโต" ของประเทศไทยอยู่ที่ "เกษตร" และ "อุตสาหกรรมเกษตรสร้างมูลค่าเพิ่มจากการแปรรูป และการนำประเทศไปให้ถึงระบบเกษตร ต้องยึดปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง หรือที่รู้จัก "ด้วยเข้าใจ" กันไปแล้วทั่วโลกในคำว่า Sufficiency Economy ของ "พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว" เป็นกุญแจไข ไม่ใช่เพราะเป็นปรัชญาของ "พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว" จึงดี จึงยกย่องกัน หากแต่นำไปใช้แล้ว ทดลองแล้ว ปฏิบัติตามแล้ว ปรากฏว่า "ได้ผล" พลิกจากอดอยาก มาเป็นมีกิน, พลิกจากมีกิน มาเป็นมีขาย-มีเก็บ, พลิกจากมีขาย-มีเก็บ มาเป็นมีร่ำ-มีรวย และมีแจกเพื่อนบ้าน เพราะจริงเป็นที่ประจักษ์แล้ว ทั่วโลกจึงยอมรับ ไม่ใช่ยอมรับเพราะเห็นเป็นของ "ในหลวง"!

     ดูหนังในจอโทรทัศน์เห็นแล้วใช่มั้ย คุณลุง มะกรูด มะนาว มะพร้าว ส้มโอ ปลูกเอง ทำเอง กินเอง  เป็นนายกฯ เองนั่นปะไร เพราะน้อมนำปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงไปใช้ ท่านจึงกลายเป็น "นายกฯ ตั้งเอง" ที่ยิ่งใหญ่ โดยที่ไม่มีใครไม่ซูฮก-ยกนิ้วให้ เอาละ...วันนี้ไม่จบหรอก แต่อยากจะบอกส่งท้าย ผมก็นิยมแดง แต่ไม่ใช่ "แดงเผาบ้าน-เผาเมือง" แนวทางคอมมิวนิสต์นั้น หลายอย่างดี-ควรนำมาปรับใช้ในการ "แก้ปัญหาความยากจน" อันมาจากฐานะ-โอกาสที่ไม่ทัดเทียมกันในสังคมเกษตร ทั่วโลกพิสูจน์แล้ว ความยากจนในสังคมเกษตร ใช้ระบบ "ทุนนิยม" แก้ไม่สำเร็จ ต้องใช้ระบบ "สังคมนิยม" สามัคคี-มีแบ่งปัน เท่านั้นจึงแก้ได้ ฉะนั้น ในเมื่อประเทศไทยเป็น "สังคมเกษตร"
     เราต้องออกแแบบ "สังคมธิปไตย" ใช้แทน ซึ่งพิสูจน์แล้ว ๗๘ ปี ไทยจมปลักอยู่แต่ใน "แอ่งตีน" ประชาธิปไตยฝรั่ง...ไปไม่ถึงฝั่งซักที!

http://www.thaipost.net/news/260510/22537


หัวข้อ: Re: [2513]"ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: ดร.มนตรี ที่ 26 พฤษภาคม 2553, 09:14:17
พระองค์ทรงเป็นศูนย์รวมใจคนไทยทั้งประเทศ

(http://www.cmadong.com/imageupload/2010_Cmadong-Image/data/image/l308f5-045d6c.jpg)
(http://www.cmadong.com/imageupload/2010_Cmadong-Image/data/image/l308mx-5c3b3a.jpg)
(http://www.cmadong.com/imageupload/2010_Cmadong-Image/data/image/l308np-b341e7.jpg)
(http://www.cmadong.com/imageupload/2010_Cmadong-Image/data/image/l308om-d8d8a0.jpg)


หัวข้อ: Re: [2513]"ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: ดร.มนตรี ที่ 26 พฤษภาคม 2553, 09:18:02
พสกนิกร เตรียมรับเสด็จ ด้วยความจงรักภักดี

(http://www.cmadong.com/imageupload/2010_Cmadong-Image/data/image/l308pi-24e037.jpg)

(http://www.cmadong.com/imageupload/2010_Cmadong-Image/data/image/l308qc-cb745b.jpg)

(http://www.cmadong.com/imageupload/2010_Cmadong-Image/data/image/l308rb-0f39e2.jpg)

(http://www.cmadong.com/imageupload/2010_Cmadong-Image/data/image/l308t1-07ade5.jpg)


หัวข้อ: Re: [2513]"ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: ดร.มนตรี ที่ 26 พฤษภาคม 2553, 09:48:35
(http://www.cmadong.com/imageupload/2010_Cmadong-Image/data/image/l30afu-01185c.jpg)


หัวข้อ: Re: [2513]"ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: ดร.มนตรี ที่ 26 พฤษภาคม 2553, 09:56:08
http://www.cmadong.com/board/index.php/topic,4192.0.html

(http://www.cmadong.com/imageupload/2010_Cmadong-Image/data/image/l30atb-63286d.jpg)



หัวข้อ: Re: [2513]"ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: jamsai ที่ 26 พฤษภาคม 2553, 10:54:10
เป็นอีเมล์จาก คนทำงานฝ่ายevent ของกลุ่ม Amarin printing
เลยอยากให้พวกเราได้ทราบ

น้องๆที่รัก 
          พี่พึ่งไปเยี่ยมทหารที่ รพ.พระมงกุฏฯ   มา   มีทหารที่ได้รับบาทเจ็บทั้งเบาและหนัก   อยากบอกว่าสงสารทหารมาก   
เขาเล่าให้ฟังว่า   ที่เราเห็นเหมือนขวดน้ำเปล่าที่เสื้อแดงปาใส่ทหาร   จริงๆแล้วเป็นน้ำส้มสายชูผสมพริกไทยบ้าง   
พริกบ้างทำให้เขาทั้งแสบทั้งคัน   เขาบอกว่าถ้าผมอยู่ชายแดนผมก็ยังรู้ว่าฝั่งตรงข้ามคือศัตรูทั้งการแต่งตัวและอาวุธ   
แต่ นี่ทุกคนแต่งตัวธรรมดาเหมือนพวกพี่ที่มาเยี่ยมผมอยู่รอบตัวผมไปหมด คนพวกนั้นบอกว่าผมไม่ใช่เสื้อแดง ผมมาดูเฉยๆ
พอผมหันหลังเขาซัดผมเลยเอาไม้ตีขาผมหักสองท่อน   ต้องผ่าตัดและหมอบอกว่าต้องกายภาพบำบัดอีก   
เขาเล่าอีกว่าผมมีปืนและลูกปืนยาง แต่สั่งห้ามยิงโดยเด็ดขาด   ตก เย็นต้องนำมาคืนให้ครบจำนวน ถ้าหายไปแม้เพียงลูกเดียว
จะถูกสอบสวนทันทีและอาจโดยจำคุกทหาร และหักบำเหน็ดบำนาน ข้อหาละเมิดคำสั่งที่ไม่ให้ยิง     ฟังแล้วเห็นใจทหารมากๆ   
หลายคนต้องรับการรักษาแบบบำบัดจิต   เพราะขวัญเสียและโดนแรงกดดัน   คือมีคนเข้ามารุมทำร้ายเขา แต่ด้วยคำสั่งทหาร
ห้ามทำร้ายประชาชนเขาจึงไม่อาจตอบโต้ได้   จึงได้แต่ป้องกันตัวเท่านั้น   หลายคนจึงเห็นภาพที่ตัวเองโดนทำร้ายไม่เลิกนอน
ผวาบ้างละเมอบ้าง   นี่คือทหารที่ปฏิบัติการที่สี่แยกคอกวัว 


          อีกส่วนนึกที่พี่ไปเยี่ยมเป็นอีกตึกคือ   ทหารสามจังหวัดภาคใต้   น่าส่งสารหนักเข้าไปอีก   คือไม่มีใครไปเยี่ยมเขาเลย   
คงเป็นเพราะไม่มีใครรู้ว่าพวกเขาอยู่ที่นี่เพราะไม่ได้ประชาสัมพันธ์   เลยไปเยี่ยมพวกที่ปฎิบัติการที่คอกวัวเท่านั้น   
ทหารหลายคนเป็นทหารเกณฑ์ยังเด็กอยู่มาก   มีคนหนึ่งร่างกายครบแต่หัวยุบไปซีกหนึ่งเลย   บางคนขาด้วนเพราะโดนระเบิด 
 พึ่งเข้าประจำการได้ห้าเดือนเอง   มีอีกคนหายไปเลยครึ่งตัวยังเด็กอยู่มากๆนอน รพ. มา ปีกว่าแล้วเพราะต้องผ่าตัดเป็นระยะๆ   
 พี่ข้ามไปอีกตึกเป็นตึกเกี่ยวกับระบบเส้นประสาท   พวกนี่อาการหนักมาก คือขยับไม่ได้เลยจากคอลงไป   
เขาหายใจทีหนึ่งยังลำบากเลย   เป็นอัมภาพกันส่วนใหญ่และไม่มีคนมาเยี่ยม


            พี่คิดว่า ทหารเขาเสียสละมากจริงๆ   เราอยู่สบายได้ก็เพราะเขาลำบากเพื่อเรา   พิการแล้วก็ต้องเป็นภาระครอบครัว
เขาอีก   อยากให้พวกเราแสดงความขอบคุณโดยไปเยี่ยมเขาแค่ไปบอกเขาว่าเราขอบคุณ   พี่ ได้มีโอกาสพูดกับเขาขอบคุณ
ในความเสียสละ ขอบคุณที่ช่วยรักษาชาติบ้านเมืองและปกป้องในหลวงฯ พวกเราคนไทยระลึกในความดีของพวกเขาและ
เห็นว่าเขาเป็นวีรบุรุษของชาติ   รู้ไหมว่าพี่เห็นน้ำตาเขาครอเลยที่เดียว   เขาตอบกลับว่า ครับขอบคุณ   ก็จะปกป้องไป
จนตายครับ   ออกจาก รพ.แล้วก็จะกลับไปประจำการ ไปลาดตระเวรอีกครับเพื่อในหลวงฯ 

        ที่เล่ามายืดยาวก็เพื่อจะขอว่า   ถ้าใครว่างก็สละเวลาไปเยี่ยมเพื่อให้กำลังใจเขา   อยากเอาขนมไปเลี้ยงเขาหรือ
เอาเงินให้ขาก็ได้   บางคนก็เอาดอกไม้ไปให้   แต่ถ้าไปเยี่ยมเฉยๆพวกเขาก็ Happy แล้วว่าเราไม่ลืมเขา ที่เฮติเรายังร่วมกัน
ส่งเงินไปช่วยเขาในฐานะเพื่อนมนุษย์   แต่นี่คนไทยด้วยกันเป็นทหารที่เสียสละเพื่อรักษาอธิปไตยของชาติ   เราจึงมีแผ่นดิน
ไทยให้อาศัยอยู่ 
        ช่วยๆกันนะจ๊ะคนไทยเราไม่แล้งน้ำใจอยู่แล้ว   พี่ตั้งใจจะไปเยี่ยมเขาอีกแน่ๆวันอาทิตย์   ถ้าไปอาจได้เจอกันนะ   
รักชาติรักในหลวงฯก็ไปให้กำลังใจทหารกันเยอะๆนะจ๊ะ
 emo4:)) emo2:)

จะดีใหม ถ้าชาวซ๊มะโด่งจะรวมใจ เป็นกลุ่มไปเยี่ยมทหารและผู้บาดเจ็บ กันสักครั้งแทนการมาแสดงความเห็นใจแต่ในเวปเท่านั้น
 emo4:)) emo2:) emo4:))


หัวข้อ: Re: [2513]"ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: jamsai ที่ 26 พฤษภาคม 2553, 11:01:51
มีคน ส่งอีแมวมาให้ดูผลงาน ใน face book ของเด็กนักเรียนมัธยมที่ชื่อ
Natthakan Sakundarachat

เธอหมิ่นสถาบันสูงได้ถนัดชัดเจนมาก เสียดสี จนป้าสะอึก
อยากรู้จังว่าลูกเต้าเหล่าใคร โรงเรียนใหนสอน

เจ็บปวดหัวใจจัง
ลองเข้าไปดูนะคะ อยากเอามาให้ดูก็กลัวจะเป็นโรคสนธิ ลิ้ม



หัวข้อ: Re: [2513]"ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: เหยง 16 ที่ 26 พฤษภาคม 2553, 11:18:51
น.ส. ณัฐกานต์ สกุลดาราชาติ
ม. ศิลปากร ปฏิเสธกับรับตรงเข้าคณะอักษรศาตร์ไปแล้วครับ โดยอ้างว่าเธอไม่สามารถเข้ากับสังคมแวดล้อมได้
เหลืออีกที่หนึ่งคือ คณะวิศวะฯ เกษตรศาสตร์ครับ ที่ยังไม่แจ้งผลการเอ็นฯ ซึ่งเธอไปรายงานตัวเมื่อวานนี้
                      คณะสังคมศาสตร์ เอกรัฐศาสตร์ (ภาคพิเศษ) มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์


หัวข้อ: Re: [2513]"ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: jamsai ที่ 26 พฤษภาคม 2553, 11:19:33
ดร. มนตรี

โรงเรียนจุฬาภรณ์ที่มุกดาหาร ก็ให้โอกาสดีๆ กับเด็กแถวๆนั้น มากมาย
แต่ใน 1 ปี ของการลงพื้นที่ของโรงเรียน การเมือง นปช การจัดสัมมนาและการหว่านเงิน ของเขา
ปรากฏว่า ในช่วงสงครามพระเจ้ามูลเมืองเผาบ้านเผาเมืองที่ผ่านมานี้ รถประจำโรงเรียนติดธงแดง แ
ละ รูปลอก(สติ้กเกอร์) นปช.  ยุบสภา ขอประชาธิปไตยคืน แดงทั่วแผ่นดิน  เป็นต้น

มีคนจำนวนไม่น้อยที่ได้รับประโยชน์จากโครงการของสถาบันสูง โตรงการในพระราชดำริต่างๆ
หน้าฉากก็ทำท่าทีสำนึกรู้ในบุญคุณ
แต่ในใจก็ฝักใฝ่คุณทักษิณ หรือชอบผลประโยชน์จากคุณทักษิณ

ตอนนี้เราจะทำอย่างไรกันดีกับคนพวกนี้ พี่คิดว่าจะสนับสนุนให้จงรักภักดี เขาก็จะต่อต้าน
พี่อยากให้เขารู้ผิดชอบชั่วดี และให้เห็นความชั่วของคุณทักษิณและ ระบอบทักษิณให้มากๆ
น่าได้ผลยั่งยืนกว่า เพียงแต่ชนชั้นครีมของประเทศอย่างพวกเราจะทำอะไรดี เราจะกล้าหาญพอหรือยัง
ช่วยคิดกันหน่อยเถิด



หัวข้อ: Re: [2513]"ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: jamsai ที่ 26 พฤษภาคม 2553, 11:23:50
คุณเหยงคะ
ถ้าหนู นัฐกานต์ มาอยู่คณะอักษร จุฬาฯ คงเป็นคอหอยลูกกะเดือกกับ ดร.สุธาชัย และ อ.สุดา

แต่ก็เถอะ เขาคงโคจร มาพบกันสักวัน
เพราะจิตวิญญานที่คล้ายกัน มักจะดึงดูด กันและกัน




หัวข้อ: Re: [2513]"ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: เหยง 16 ที่ 26 พฤษภาคม 2553, 11:28:14
เธอได้ อักษรศาสตร์ ม.ศิลปากร และ วิศวฯ ม.เกษตรศาสตร์ คณะสังคมศาสตร์ เอกรัฐศาสตร์ (ภาคพิเศษ) มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์

แต่ ม.ศิลปากร ปฏิเสธการรับเธอไปแล้วครับ คงเหลือ ม.เกษตรฯ จะเอายังไง ??

สุธาชัย กับ ดร.สุดา ล่อนจ้อนขนาดนี้ จะมีใครคบหาอีกครับ..เว้นแต่ไปหาสมัครพรรคพวกนอกรั้วจุฬาฯ ก็พวกเสื้อแดงนั่นเอง

ตัดหางปล่อยวัดสำหรับ 2 คนนี้เถอะ

ทราบมาว่า สุธาชัย อัพเซ็ทตอน 6 ตุลา เนื่องจากเป็นนักศึกษาธรรมศาสตร์ในขณะนั้นครับ


หัวข้อ: Re: [2513]"ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: เหยง 16 ที่ 26 พฤษภาคม 2553, 11:32:20
รัฐ ตลอดจนหน่วยงานของรัฐ ไม่ตระหนักถึงการรุกของเสื้อแดง นปช. ว่าจะมีผลร้ายได้ถึงขนาดนั้น

แต่ผมโทษพรรคประชาธิปัตย์ครับ องค์กรที่มีแต่พวกทนายเป็นสมาชิก หาความจริงจังและจริงใจในการแก้ปัญหาไม่

วันๆดีแต่เห่า แต่หอน เรื่องไม่เข้าเรื่อง ใช้เป็นแต่ปากครับ-ไม่เหนื่อยและไม่เสียเงิน, ตามงานไม่เป็น-ต้องใช้เงินและเวลา

นี่เป็นเอกลักษณ์ที่ไม่มีวันตายของเขาล่ะ


หัวข้อ: Re: [2513]"ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: jamsai ที่ 26 พฤษภาคม 2553, 11:35:25
มาช่วยกันที่นี่เถอะค่ะ ถ้ารักในหลวงจริง

 สื่อออสซี่จันไร เขียนการ์ตูนจาบจ้วงในหลวง พวกเราต้องช่วยกันอัดมัน
>
> เมื่อสองสามวันก่อนผมได้อ่านหนังสือพิมพ์ Sydney Morning Herald
> ฉบับวันที่ 18 พฤษภา มันพิมพ์รูปการ์ตูนล้อเลียนในหลวงครับ
> แถมยังเขียนบทความจาบจ้วงในหลวงอีกด้วย
>
> รูปการ์ตูนที่มันเอามาลงดูแล้วทุเรศมาก
> มันกล้าดียังไงเอาในหลวงที่รักและเคารพของคนไทยมาวาดเป็นการ์ตูนแบบนี้
> ท่านทรงงานเพื่อคนไทยมาตลอดพระชนม์ชีพ
> แต่สุดท้ายต้องมาโดนไอ้ฝรั่งจันไรมาทำระยำตำบอนแบบนี้
> เห็นแบบนี้แล้วมันทิ่งแทงใจคนไทยนะครับ
>
> บทความที่ว่านี้เขียนโดยไอ้ Peter Hartcher
> มันจาบจ้วงในหลวงว่าเป็นคนทำให้เกิดวิกฤตการเมืองที่เป็นอยู่ในปัจจุบัน
> หาว่าท่านอยู่เบื้องหลังการปฏิวัติ และกล่าวหาท่านอีกหลายเรื่อง
> ถ้าจะเอามาเขียนหมดก็เป็นเสนียดคีย์บอร์ดของผมเปล่าๆ
> ใครมีเวลาลองอ่านดูนะครับ ผม attach
> ทั้งรูปการ์ตูนและบทความของมันมาให้แล้ว
>
> ผมคิดอยู่หลายวันว่าจะเล่นงานไอ้สถุน hartcher คนนี้ยังไงดีจึงจะหายแค้น
> แต่ในที่สุดก็นึกแผนสนุกๆ ขึ้นมาได้
>
> เอ้อ แต่ก่อนจะไปถึงขั้นนั้น อยากจะเล่าให้ฟังว่าเมื่อวานนี้ผมได้รับ
> forward mail มาจากเพื่อนคนหนึ่ง
> ส่งจดหมายฑูตไทยที่แคนเบอร์ราที่ส่งถึงหนังสือพิมพ์ฉบับนี้มาให้อ่าน
> เป็นหนังสือตอบโต้บทความของไอ้ hartcher
> อ่านแล้วมันส์และสะใจได้ใจคนไทยเหมือนกัน เรียนว่าเขียนซะไอ้สถุน
> hartcher มันเสียหมาไปเลย
> อย่างน้อยก็ดีใจที่ทางการไทยได้จัดการเรื่องนี้เรียบร้อยแล้ว
>
> ที่นี้มาถึงพวกเราบ้าง จะทำอะไรแก้เผ็ดไอ้สถุนนี่ได้บ้าง
>
> emo4:)) emo4:)) emo5:(


หัวข้อ: Re: [2513]"ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: jamsai ที่ 26 พฤษภาคม 2553, 11:39:24
ต่อนะคะ

ผมมีแผนมาขอความร่วมมือพวกเราชาวไทย ดังนี้
>
> 1. ยุทธการ comment อันนี้สำหรับท่านที่เขียนภาษาอังกฤษได้คล่องๆ
> ช่วยกันเขียน comment เข้าไปที่หนังสือพิมพ์ฉบับนี้มากๆ
> ด่ามันเข้าไปเยอะๆ หรือจะเขียนแบบชี้แจงดีๆ ก็ได้
> ยิ่งเยอะก็จะยิ่งแสดงให้เห็นว่าบทความของไอ้ hartcher มันเฮงซวย
> ส่งอีเมล์ไปที่
       letters@smh.com.au
>
> 2. ยุทธการ บอยคอต อันนี้สำหรับพี่ๆ
> ที่เป็นเจ้าของร้านอาหารไทยในซิดนีย์นะครับ ผม attach รูปถ่ายไอ้
> hartcher มาด้วย ดูมันให้ชัดๆ แล้วแปะรูปมันไว้หน้าร้าน
> ถ้ามันจะเข้ามากินอาหารในร้าน ไล่มันออกไป
> อย่าให้มันได้กินอาหารในร้านของท่าน
> คนระยำอย่างนี้เข้ามากินในร้านก็เป็นเสนียดจันไรเปล่าๆ
> นึกถึงสิ่งที่มันได้ทำกับในหลวง เราต้องช่วยกันทำให้มันอับอาย
> รักในหลวงจริง อย่าดีแต่ปาก ขอให้ช่วย "ทำ" ด้วย
>
> 3. ยุทธการ ถล่มอีเมล์ อันนี้สำหรับทุกท่านทั่วโลก หลายท่านคงเคยเจอแบบผม
> บางทีไม่ได้เช็คอีเมล์มาแค่ไม่กี่วัน เปิดมาเจอ forward mail
> กองอยู่หลายสิบอัน กว่าจะลบไปหมดก็เสียเวลานิดหน่อยเหมือนกัน
> ลองนึกภาพไอ้ hartcher ตื่นเช้ามาแล้วเจออีเมล์เข้ามาพร้อมๆ กันเป็นพันๆ
> อัน มันจะทำยังไง...
> มันจะต้องใช้เวลาแค่ไหนถึงจะลบไปหมด..มันจะมีเวลาได้ทำงานไหม..
> เริ่มสนุกแล้วใช่ไหมครับ เอาอย่างนี้นะครับ อีเมล์ของมันคือ
>
>phartcher@smh.com.au
>
> ผมขอนัดแนะแบบนี้นะครับ เราจะช่วยกันส่งอีเมล์เข้าไปหามันพร้อมๆ
> กันในช่วงเวลาตั้งแต่ 10.00-11.00 น. ของวันจันทร์ที่ 24 พฤษภาคมนี้
> (เวลาซิดนีย์) ขอให้ช่วยกันส่งเข้าไปคนละหลายๆ ครั้ง จะพิมพ์ข้อความด่า
> ทักทาย หรือจะส่งอีเมล์เปล่าๆ ไม่มีข้อความก็ได้ครับ ลองจินตนาการดู
> ถ้าคนไทย 1 พันคน ช่วยกันส่งเข้าไปคนละ 5 ครั้ง ไอ้ hartcher
> มันจะได้รับอีเมล์ 5 พันอัน มันคงหน้ามืดแน่นอน
> สำหรับคนที่เมืองไทยที่อยากร่วมสนุกด้วย เวลาในประเทศไทยคือ 7.00-8.00
> น.นะครับ เชิญได้ตามสบาย ยิ่งมาก ยิ่งมันส์...
>
> อันนี้แค่เริ่มต้น ขอให้ช่วยๆกันนะครับ ใครได้อีเมล์นี้ ขอให้ forward
> ต่อไปด้วย จะได้ช่วยกัน โดยเฉพาะยุทธการถล่มอีเมล์
> เราต้องการสมาชิกร่วมสนุกให้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้ ยิ่งได้เป็นหมื่นๆ
> อีเมล์ยิ่งดี

[/b]
 emo5:( emo5:( emo5:(


หัวข้อ: Re: [2513]"ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: jamsai ที่ 26 พฤษภาคม 2553, 11:46:52
อีกที
เห็นการโต้ตอบ ของนายใจ (รัญ) อึ๊งภากรณ์ กับฝรั่ง
เพื่อนส่งมาให้ แต่ในเวปเราก็มีนะ

เพื่อนป้าบอกว่า
............วิวาทะโต้ตอบกัน ของคน(คล้าย)คนไทย นาย ไจล์ อึ้งภากรณ์ กับ ฝรั่ง นายฟิลลิป คันนิ่งแฮม ในรายการทีวี Democracy Now ที่อังกฤษ ดูจบแล้วช่วยบอกผมทีว่าใครมันเป็นคนไทยกันแน่ ผมละเป็นงง????

ไปดูสดก็ได้นะที่

ที่มา : http://www.youtube.com/watch?v=a-PPpGScujQyl


หัวข้อ: Re: [2513]"ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: เหยง 16 ที่ 26 พฤษภาคม 2553, 12:06:20
ตามไม่ทัน อ่านจากนี่ประกอบก็ได้

ต้องอ่านเอาเองครับ ระหว่าง "ใจล์ อึ้งภากรณ์" กับ "ฟิลิป คันนิ่งแฮม" กรณีการชุมนุมของเสื้อแดงและการสลายการชุมนุม

วันที่ 24 พฤษภาคม พ.ศ. 2553 เวลา 18:26:06 น.  มติชนออนไลน์
วิวาทะ "ไจล์ อึ้งภากรณ์" กับ "คันนิ่งแฮม" เสื้อแดงต่อสู้เพื่อรากหญ้าหรือทักษิณ กันแน่?

ประเทศไทยก็ถูกจับตามองจากนานาชาติว่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นจะเหมือนหรือต่างจากสิ่งที่เกิดขึ้นที่จตุรัสเทียนอันเหมิน ตอนที่มีการปฏิบัติการกับนักศึกษาที่ออกมาประท้วงเรียกร้องประชาธิปไตยจากรัฐบาลจีนหรือไม่ ?


     เมื่อไม่นานมานี้ รายการทีวี   Democracy Now  ได้เชิญ คนไทย และฝรั่ง ที่ติดตามเหตุการณ์อย่างใกล้ชิดมาพูดคุยในรายการ  ในหัวข้อ “การเคลื่อนไหวของกลุ่มคนเสื้อแดงเป็นเรื่องความยากแค้นของคนรากหญ้าอย่างแท้จริงหรือไม่ หรือเป็นเพียงฉากหน้าสำหรับอดีตนายกรัฐมนตรี มหาเศรษฐีผู้ทรงอิทธิพลที่โดนขับไล่


    ผู้ร่วมรายการคนแรกคือ   "ไจล์   อึ้งภากรณ์ "    ซึ่งขณะนี้อาศัยอยู่ในประเทศอังกฤษ เขาเคยเป็นอาจารย์คณะรัฐศาสตร์ จุฬาฯ  ก่อนที่จะหลบหนีหลังจากเขียนหนังสือวิพากษ์วิจารณ์การทำรัฐประหารโดยทหารในปี 2006 เขาเป็นผู้ที่สนับสนุนกลุ่มคนเสื้อแดง


   อีกคนคือ "ฟิลิป คันนิ่งแฮม" นักเขียนอิสระ ที่มีงานเขียนครอบคลุมพื้นที่เอเชียมากว่า 20 ปี เขาสอนที่จุฬาลงกรณมหาวิทยาลัย และ มหาวิทยาลัย Doshisha ในประเทศไทย งานเขียนของเขาปรากฏอยู่ในหนังสือพิมพ์ Bangkok Post 


   โดยมี  เอมี่ กู๊ดแมน เป็นผู้ดำเนินรายการ
 
  นายไจล์ อึ้งภากรณ์ :  สิ่งที่กลุ่มคนเสื้อแดงต้องการคือ ประชาธิปไตย เพราะว่ารัฐบาลชุดปัจจุบันเข้ามาผ่านทางทหาร และที่จริงรัฐบาลนี้เป็นผลพวงมาจากการเกิดรัฐประหารในปี 2006 และคดีที่เกี่ยวข้องกับการทำรัฐประหาร ดังนั้นคนเสื้อแดงจึงเรียกร้องให้มีการเลือกตั้งใหม่ เรียกร้องให้มีการจัดการเลือกตั้งที่ถูกต้องตามกฎหมาย และแม้ว่ากลุ่มคนเสื้อแดงจะเข้ามาอยู่ที่ใจกลางของกรุงเทพมหานครถึง 2 เดือนแล้ว แต่พื้นที่ส่วนนั้นก็เป็นเพียงส่วนหนึ่งของศูนย์การค้าและโรงแรมหรูหรา แม้กระนั้นรัฐบาลก็ยังเคลื่อนกำลังพลแม่นปืนและหน่วยพิฆาตเข้ามา ตั้งแต่ต้นเดือนเมษายนที่ผ่านมารัฐบาลฆ่าคนไปแล้ว 67 คน และมีคนเจ็บนับพัน อันที่จริงตอนนี้มันถึงเวลาที่รัฐบาลต้องสั่งให้หยุดยิงทันที และเข้ามาเจรจากับกลุ่มคนเสื้อแดง
 

เอมี่ กู๊ดแมน : ไจล์  ก่อนหน้านี้ คนเสื้อแดงเสนอการเจรจาแล้วรัฐบาลปฏิเสธ
 

นายไจล์ อึ้งภากรณ์ :   พวกกลุ่มคนเสื้อแดงเสนอที่จะเจรจากับรัฐบาลอีกครั้ง ฝ่ายรัฐบาลต้องการจะเอาชนะและรักษาอำนาจโดยการใช้กำลัง   คุณต้องตระหนักว่ารัฐบาลชุดนี้สั่งให้มีการเซ็นเซอร์ทีแย่ที่สุดที่เคยมีมาในประเทศไทย มีการเซ็นเซอร์ทางอินเตอร์เน็ต สื่อต่างๆในทุกรูปแบบ รัฐบาลแทรกแซงแม้แต่ทางเฟซบุ๊ค และทางด้านอื่นๆอีก  คุณจะเห็นว่าสิ่งที่ทำให้รัฐบาลยังคงมีอำนาจอยู่ก็มี 2 อย่าง คือการสั่งเซ็นเซอร์และกองกำลังที่โหดเหี้ยม พวกเขาไม่พร้อมที่จะให้โอกาสประชาชนตัดสินใจว่าต้องการจะให้ใครเข้ามาบริหารประเทศ โดยวิธีการอย่างไร
 

เอมี่ กู๊ดแมน :  ฟิลิป คันนิ่งแฮม คุณเคยอยู่ในญี่ปุ่น ตอนนี้อยู่ที่ เมืองอิตาคา นิวยอร์ก  จากที่คุณเฝ้าดูสถานการณ์ คุณคิดว่ากำลังเกิดอะไรขึ้นที่ประเทศไทย
 

ฟิลิป คันนิ่งแฮน :   ผมขออ้างบทกวีที่มีชื่อเสียงของ Gil Scott-Heron ที่ว่า “หากมีการปฏิวัติก็จะไม่มีการออกอากาศทางโทรทัศน์”  นี่มีการออกโทรทัศน์ ซึ่งมันก็ไม่ใช่การปฏิวัติ สิ่งที่ทุกคนเห็นเกิดขึ้นที่เมืองไทยเป็นการปฏิวัติปลอมๆ ที่ถูกกวนให้คุกรุ่นขึ้นมาโดยมหาเศรษฐีนักธุรกิจที่ร่ำรวยและมากอิทธิพลที่ต้องระเห็ดออกไปนอกประเทศที่คุณกำลังพูดถึง มันมีความคับข้องใจอยู่จริง มีคนยากจนอยู่จริงๆ มีข้อผิดพลาด และความอ่อนไหวแฝงอยู่ที่ง่ายมากที่จะยั่วยุ มันคงจะเหมือนกับมหาเศรษฐีในตระกูลร๊อกกี้เฟลเลอร์เข้าไปสนับสนุนทางการเงินให้เกิดความวุ่นวายในสลัม หากพวกเขาถูกจับและถูกเนรเทศ หรืออะไรทำนองนี้แหละครับ ผมหมายความว่า มันเป็นสถานการณ์ที่แปลกมาก และเป็นสถานการณ์ที่น่าเศร้ามากๆก็ตาม ผู้คนกำลังจะตาย พวกเขาตายเพื่อมหาเศรษฐีที่เปี่ยมอิทธิพล ฟังดูไม่สมเหตุสมผลเอาเสียเลย


ถ้าหากว่าประเทศไทยต้องการประชาธิปไตยหรือระบอบสังคมนิยม ซึ่งคุณไจล์ ต่อสู้มาเป็นเวลานาน ผมก็พอจะรับได้ว่ามันมีเหตุผลพอ แต่นั่นต้องเป็นการต่อสู้แบบสันติ แต่นี่กลุ่มคนเสื้อแดงไม่ใช่กลุ่มคนที่สันติ
 

เอมี่ กู๊ดแมน :  เชิญคุณไจล์ค่ะ
 

นายไจล์ อึ้งภากรณ์ :  มันเหลวไหลที่พูดว่าคนเสื้อแดงไม่ใช่เป็นคนที่รักสันติ อันที่จริงพวกเขาเป็นคนที่มีวินัยมากๆ และพยายามที่จะรักษาให้เป็นการชุมนุมประท้วงที่สันติ ต่อหน้าของรัฐบาล และรัฐบาลต่างหากที่นำทหารติดอาวุธและรถถังออกมาบนถนน รัฐบาลไหนๆก็ตามที่พยายามที่จะสลายการชุมนุมที่สันตินี้โดยการใช้อาวุธ รถถังและปืน แล้วก็ฆ่าคนไป 65 คน นี่ต้องประณามว่ามันผิด
 

ผมคิดว่าฟิลิปได้รับข้อมูลที่ผิดๆเกี่ยวกับคนเสื้อแดง ผมหมายความว่า .. คุณทักษิณ ชินวัตร คนที่ผมไม่ได้สนับสนุนและไม่เคยลงคะแนนให้ รวมถึงวิพากษ์วิจารณ์มาตลอดว่าเขาละเมิดสิทธิมนุษยชน … คุณทักษิณมาจัดตั้งกลุ่มคนเสื้อแดงไม่ได้หรอกครับ กลุ่มคนเสื้อแดงจัดตั้งโดยอดีตพรรคการเมือง คือพรรคไทยรักไทย จนวิวัฒนาการมาเป็นกลุ่มการเคลื่อนไหวทางการเมืองของคนรากหญ้า พวกเขาเก็บเงินกันเอง พวกเขาจัดตั้งสถานีวิทยุชุมชน พวกเขาประกอบด้วยหลายๆกลุ่มจากที่ต่างๆ หากคุณไปในบริเวณการชุมนุมของคนเสื้อแดง คุณจะเห็นป้ายของกลุ่มต่างๆชูอยู่สลอนเต็มไปหมด คุณจะได้ยินการขอเรี่ยไรเงินบนเวทีชุมนุมตามกำลังศรัทธา พวกเขาไม่ได้มาตายเพื่อคุณทักษิณ ชินวัตร พวกเขาไม่ชาวไร่ชาวนาที่โง่เง่า ไม่รู้เรื่องรู้ราว หรือไม่รู้ว่าตัวเองกำลังทำอะไรอยู่ แต่ความจริงพวกเขาเป็นชาวไร่ชาวนาและคนงานจากชานเมืองที่มีข้อมูลพร้อม พวกเขาโกรธที่สิทธิของเขาตามระบอบประชาธิปไตยถูกปล้น และนั่นมันทำให้เกิดความเหลื่อมล้ำในกระจายความมั่งคั่งในประเทศไทย
 

ฟิลิป คันนิ่งแฮน : ผมขอพูดอะไรหน่อยได้ไม๊ ผมคิดว่าสิ่งที่คุณไจล์กับผมเห็นพ้องต้องกันก็คือ มันไม่ถูกต้องที่จะใช้กองทหารมาหยุดยั้งประชาชน มันไม่เข้าท่าที่จะใช้กองทหารเป็นเครื่องมือ มันบ้า มันรุนแรงและไม่ถูกต้อง ผมเห็นด้วยกับคุณไจล์ว่าทหารไม่ควรที่จะเข้ามาเกี่ยวข้องกับเรื่องนี้
 

ผมกับคุณไจล์เคยอาศัยอยู่บนถนนเดียวกันในกรุงเทพ เราสอนในมหาวิทยาลัยเดียวกัน แต่เรามีความคิดเห็นแตกต่างกันในเรื่องของคนเสื้อแดง ผมเชื่อว่าการเคลื่อนไหวของกลุ่มคนเสื้อแดงนั้นประกอบด้วยคนหัวรุนแรง ผมเชื่อว่าความยากจนนั้นมีอยู่จริง ความต้องการที่จะให้มีการเปลี่ยนแปลงในหลายระบบในเมืองไทยนั้นมีอยู่ สามารถสัมผัสได้ในอณูของบรรยากาศรอบๆตัว แต่มันไม่เกี่ยวกับคนเสื้อแดง


   .. ผมนั่งฟังพวกเขาทุกวัน ดูการออกอากาศทางโทรทัศน์ของพวกเขาอย่างใกล้ชิดในช่วงที่ผมศึกษาเรื่องนี้ พวกเขาดูถูกคนต่างชาติ เขาดูถูกเกย์ พวกเขาเกี่ยวข้องกับการโฆษณาที่น่าขัน เช่น hominem attack    เขาเล่นกับฝูงชน มันเหมือนกับประสานกับคุณทักษิณ เหมือนๆกับมุสโสลินีหรืออะไรทำนองนั้น บางคนเปรียบเทียบคุณทักษิณกับ Berloscerni แต่ผมว่าเหมือนมุสโสลินีมากกว่า พวกเขาร้องเพลงสรรเสริญคุณทักษิณ มันเหมือนระบอบฟาสซิสต์ที่น่าละอาย   เพราะคนเหล่านี้ไฮแจ๊ค เหล่าคนยากคนจนให้มาร่วมสังฆกรรม ไฮแจ๊คความคับข้องใจของคนจนมารับใช้มหาเศรษฐีพลัดถิ่น เพียงเพื่อเศรษฐีคนนั้นจะได้กลับมาประเทศไทย และรับเงินของเขาคืน
 

เอมี่ กู๊ดแมน :  เชิญคุณไจล์ ค่ะ
 

นายไจล์ อึ้งภากรณ์ :  ผมคิดว่า คุณฟิลิป คันนิ่งแฮมไม่เข้าใจความหมายของคำว่า ระบอบฟาสซิสต์ดีพอ มันง่ายมากที่จะเฉไฉออกนอกทาง ฟาสซิสต์ไม่เรียกร้องประชาธิปไตย และไม่มีความเห็นที่แตกต่าง อาจจะใช่ที่คนเสื้อแดงบางคนอาจจะหยาบกระด้างอยู่บ้างขวางโลก บางคนอาจจะต่อต้านเกย์ และหลายคนอาจจะพูดในทำนองต่อต้านคนต่างชาติ แต่คนเสื้อแดงส่วนใหญ่ไม่ทำอย่างนั้น คนเสื้อแดงส่วนใหญ่พยายามที่จะให้ความเห็นที่แตกต่าง พวกเขาไม่ใช่กลุ่มที่ติดอาวุธ พวกฟาสซิสเป็นพวกชนชั้นกลางที่ไม่เป็นประชาธิปไตย หรือกลุ่มคนเสื้อเหลืองต่างหาก ที่ไม่ต้องการให้เกิดสิทธิของคนยากจนตามวิถีทางของประชาธิปไตย และอื่นๆ ผมคิดว่านี่มันเป็นการให้ร้ายสำหรับคนเสื้อแดงที่เกินเลยไปแล้ว
 

ฟิลิป คันนิ่งแฮน : ไจล์ ทำไมคุณจึงซื่ออย่างนี้ ผมไม่อยากจะเชื่อเลย
 

เอมี่ กู๊ดแมน :  ทำไมคุณถึงพูดอย่างนั้นคะ
 

ฟิลิป คันนิ่งแฮน : ผมคิดว่าคุณไจล์รู้ดีอยู่แล้ว หากคุณไจล์ฟังคำปราศรัยอย่างที่ผมฟัง มันไร้สาระจริงๆ ผมรู้ว่ามีคนเสื้อแดงที่พูดโน้มน้าวจิตใจคนได้เก่งๆ มีคนที่จัดฉากเก่ง แต่มันมีเงินจากสถานีโทรทัศน์จากคนของทักษิณ พวกเขาจัดฉาก พวกเขาจัดให้มีเหตุการณ์ประท้วงปลอมๆ การปฏิวัติปลอม มันไม่ใช่ของจริง .. ผมอยู่ที่จัตุรัสเทียนอันเหมินในปี 1989 ผมรู้ว่าของจริงน่ะมันเป็นยังไง ผมรู้ว่าการลุกขึ้นต่อสู้จริงๆมันมีลักษณะอย่างไร แต่นี่มันไม่ใช่


สิ่งที่เกิดขึ้น .. และผมยอมรับว่ามันใช่ -- ผมรู้ว่ามันเกิดปฏิกิริยาลูกโซ่ให้รู้ว่ามีการลุกฮือขึ้นต่อสู้แล้ว และประเทศไทยจะอยู่ในสภาวะที่เปราะบาง สถานการณ์มันอ่อนไหว มันเหมือนทุกอย่างจะล่มสลาย อะไรก็เกิดขึ้นได้ และนี่อันตรายมาก ผมไม่อยากจะเห็นว่าประเทศไทยล่มลายกลายเป็นแบบฟาสซิสต์ …
 

มีการพิสูจน์ออกมาแล้วว่ากลุ่มคนเสื้อแดงเป็นกลุ่มที่ติดอาวุธ พวกเขายิงเข้าใส่ทหารด้วยอาวุธต่างๆ ตั้งแต่หนังสติ๊กกับลูกแก้ว ระเบิดขวด ระเบิดเพลิง คนเสื้อแดงมีปืน ปืนสั้น นี่มันไม่ใช่การเคลื่อนไหวอย่างสันติอหิงสา เด็กนักศึกษาที่จตุรัสเทียนอันเหมินไม่เคยทำเช่นนั้น มันไม่มีความรุนแรง มันเปรียบเทียบกันไม่ได้เลย .. การเคลื่อนไหวของคนเสื้อแดงได้รับการหนุนหลังจากมหาเศรษฐีที่มีอิทธิพล ผมยอมรับไม่ได้ ผมไม่เข้าใจว่าทำไมคุณไจล์จึงสนับสนุนการเคลื่อนไหวครั้งนี้
 

นายไจล์ อึ้งภากรณ์ :  คุณไม่เข้าใจ ผมรู้ เพราะว่าคุณไม่ได้เตรียมตัวที่จะมายอมรับในสิ่งที่กำลังเกิดขึ้น คุณเพียงแต่ติดตามข่าวจากอินเตอร์เน็ตและดูทีวีอยู่ที่นั่น ผมอยู่ร่วมในการเคลื่อนไหวประท้วงที่กรุงเทพ ผมมีเพื่อนๆที่ร่วมเคลื่อนไหวของคนเสื้อแดง และจากการวิเคราะห์ของคุณคันนิ่งแฮมที่ว่าคนยากจนถูกไฮแจ๊คมาเพื่อคุณทักษิณนั้น มันเป็นการดูถูกคนเสื้อแดงแท้ๆนับล้านๆคน นี่มันเป็นเรื่องเก่าๆแบบเดียวกับที่พวกนักวิชาการเชื่อว่าคนไทยธรรมดาๆคิดด้วยตัวเองไม่เป็น จัดตั้งสิ่งต่างๆด้วยตัวเองไม่เป็น …
 

ฟิลิป คันนิ่งแฮน :  ไจล์   ผมรับไม่ได้นะ มันเป็นการหลอกลวงที่ไม่ยุติธรรมเลย
 

นายไจล์ อึ้งภากรณ์ :  มันใช่ ..
 

ฟิลิป คันนิ่งแฮน : หากใครบางคนไม่เห็นด้วยกับคุณ มันไม่ได้หมายความว่าเขาไม่เข้าใจในสิ่งที่เกิดขึ้น .
 

นายไจล์ อึ้งภากรณ์ :  ให้ผมพูดให้จบก่อนได้ไม๊ ฟิลิป? ให้ผมพูดให้จบก่อนได้ไม๊?
 

ฟิลิป คันนิ่งแฮน : เชิญ
 

นายไจล์ อึ้งภากรณ์ :  นี่มันเป็นแนวความคิดเดียวกับคนชั้นกลางในเมืองไทยที่มีต่อคนเสื้อแดง และด้วยการแก้ตัวแบบนี้ทำให้พวกเขาไม่เชื่อในระบอบประชาธิปไตย และเป็นเหตุผลที่เขาสนับสนุนเรื่องการรัฐประหาร เพราะเขาพูดว่าคนเสื้อแดงทุกคนถูกคุณทักษิณซื้อ และถูกปั่นหัวโดยทักษิณให้ลงคะแนนให้ ..
 

ฟิลิป คันนิ่งแฮน : คุณจะยอมรับไม๊ล่ะว่า คนเสื้อแดงบางคนถูกซื้อ และบางคนไม่ แต่ยอมรับไม๊ว่าบางคนถูกซื้อจริงๆ


นายไจล์ อึ้งภากรณ์ :  ให้ผมพูดให้จบก่อนได้ไม๊ ฟิลิป   ให้ผมพูดให้จบก่อนได้ไม๊ 


เอมี่ กู๊ดแมน :  ไจล์ คำถามนั้น มีบางคนถูกซื้อหรือไม่
 

นายไจล์ อึ้งภากรณ์ :  คนเสื้อแดงไม่ได้ถูกซื้อแน่นอน คุณทักษิณไม่ต้องซื้อใคร เพราะแม้ว่ารัฐบาลของคุณทักษิณได้มีการละเมิดสิทธิมนุษยชนที่น่ากลัว แต่คุณทักษิณก็เป็นคนที่นำระบบสุขภาพถ้วนหน้ามาใช้ ซึ่งเป็นระบบที่ดีกว่าที่อมริกาเสียอีก ในแง่ของการดูแลสุขภาพและการรักษาที่คนยากจนได้รับ รัฐบาลคุณทักษิณสร้างงานให้คนยากคนจน โดยไม่จำเป็นที่จะต้องหยิบยื่นเงินทองมาให้ หากสิ่งที่รัฐบาลสัญญาแล้วสามารถทำให้มันเกิดขึ้นจริงๆ ผู้คนลงคะแนนให้กับสิ่งที่เขาต้องการ และมันเป็นการดูถูกอย่างยิ่งที่คนไทยถูกตราหน้าว่าได้รับการพิสูจน์ว่าถูกตบตาและซื้อโดยคุณทักษิณ
ประเด็นก็คือ ทำไมมหาเศรษฐีที่ทรงอิทธิพลอย่างคุณทักษิณจึงชนะใจของคนยากจนอย่างท่วมท้น คำตอบอยู่ที่สุญญากาศของการไม่มีพรรคการเมืองฝ่ายซ้ายในประเทศไทย คุณรู้ไม๊นับตั้งแต่พรรคคอมมูนิสต์พังทลาย และคุณทักษิณสามารถที่จะ
 

ฟิลิป คันนิ่งแฮน : ไจล์ นี่เป็นจุดอ่อนของการวิเคราะห์ของคุณ ผมรู้ว่าคุณเอียงซ้ายมานาน เราเคยไปที่ …
 

นายไจล์ อึ้งภากรณ์ :  เสียใจ หากคุณไม่สามารถให้ผมพูดให้จบเสียก่อน
 

ฟิลิป คันนิ่งแฮน : คุณรู้ไม๊ อนุสาวรีย์ของคนเดือนตุลา …
 

เอมี่ กู๊ดแมน :  ขอให้คุณ ฟิลิป คันนิ่งแฮม พูดให้จบก่อนค่ะ เชิญค่ะ คุณ ฟิลิป คันนิ่งแฮม

 
ฟิลิป คันนิ่งแฮน : คุณรู้มี ไอเดียที่ว่า .. ผมรู้สึกว่าคุณกระเหี้ยนกระหือรือที่จะให้พวกเอียงซ้ายทำอะไรบางอย่างที่คุณมองว่าเป็นเป็นการเริ่มต้นที่ผิด .. และคุณผิดพลาดที่คิดว่ามันเป็นเรื่องจริง นี่เป็นการเริ่มต้นที่ผิด มันไม่ใช่ของจริง


นายไจล์ อึ้งภากรณ์ :  ขอโทษ คุณไม่ได้ฟัง คุณพูดแซงขึ้นมาและไม่ได้ฟังผมพูด คุณมีภาพฝันในหัวของคุณว่าผมเชื่อในเรื่องอะไรบางอย่าง และคุณก็เริ่มต้นที่จะเถียงกับคนไร้ค่า ผมพูดว่าคุณทักษิณสามารถแบ่งแยกสังคมไทย ระหว่างคนรวยกับคนจน เพราะว่าไม่มีพรรคการเมืองฝ่ายซ้าย และนั่นเป็นเหตุผลที่ว่าทำไมมหาเศรษฐีที่ทรง
อิทธิพลอย่างคุณทักษิณสามารถกุมหัวใจของคนยากคนจนได้
 

ฟิลิป คันนิ่งแฮน : นั่นเป็นเรื่องที่น่าเศร้า ใช่ไม๊?

 
   ในที่สุดทั้ง 2 คนสรุปว่า
นายไจล์ อึ้งภากรณ์ :  ผมคิดว่าวิธีที่จะหยุดวิกฤติการณ์ก็คือ รัฐบาลควรจะสั่งให้หยุดยิงทันที และจัดให้มีการเลือกตั้งที่บริสุทธิ์ยุติธรรมตามวิถีทางของประชาธิปไตย


ฟิลิป คันนิ่งแฮน : ผมคิดว่าทหารควรจะถอนตัวออกไป ผมคิดว่ามันน่ากลัวมากในสิ่งที่ทหารกำลังทำอยู่ ผมต่อต้านสิ่งนี้เต็มที่ แต่ผมไม่สามารถจะบอกว่ากลุ่มคนเสื้อแดงเป็นประชาธิปไตยหรือพวกหัวเอียงขวา    พวกเขาเป็นส่วนหนึ่งของปัญหาเช่นกัน และผมคิดว่าเป็นเรื่องของตำรวจที่จะต้องจับกุมและดำเนินการ

 

(ต้นฉบับภาษาอังกฤษ)


 Debating the crisis in Thailand on Democracy now:Is Red Shirt Movement a Genuine Grassroots Struggle, or Front for Ousted Ex-PM, Billionaire Tycoon?
Guests;


Giles Ji Ungpakorn, Thai dissident living in exile in Britain. He was a university lecturer in Thailand before having to flee after writing a book criticizing the 2006 military coup. He is a Red Shirt supporter.
 

Philip Cunningham, freelance journalist who has covered Asia for over twenty years. He has taught at Chulalongkorn University and Doshisha University in Thailand. His writings frequently appear in the Bangkok Post.
 

GILES JI UNGPAKORN: what the Red Shirts want is democracy, because the present government was installed by the military, and it’s actually the fruit of a military coup in 2006 and various judicial coups. So, demanding fresh elections, demanding proper democratic elections is perfectly legitimate. And even though they have been occupying the center of Bangkok for two months, it’s only a shopping center and a site for luxury hotels, yet the government has deployed snipers and assassination squads. And since the beginning of April, they’ve actually been responsible for sixty-seven deaths and thousands of injuries. And really, the time has come for the government to order an immediate ceasefire and for them to enter into genuine talks with the Red Shirts.
 

AMY GOODMAN: And what about the latest developments, Ji, the offer of the Red Shirts to participate and the government saying no?
 

GILES JI UNGPAKORN: Well, the Red Shirts have made repeated offers to negotiate with the government, and the government really wants to shoot its way to a victory and to stay in power through the use of force.


You also have to realize that this government has brought about the worst censorship ever in Thailand. It censors all the internet, the media, in all shape and form. They even attack Facebook and everything else.


So the two things that they’re using to stay in power are censorship and brutal force. And they’re not prepared to actually offer the chance of the people to actually make a decision about who should run the country and in what way.


AMY GOODMAN: Philip Cunningham, I had said you’re in Japan; you’re now in Ithaca, New York. But can you give your observations on what’s happening in Thailand right now?
 

PHILIP CUNNINGHAM: Yes. You know, as a poet Gil Scott-Heron said, he famously said that "the revolution will not be televised." And it’s being televised, but it’s not a revolution. What we see in Thailand, I think, is a sham revolution, and I think it’s something stirred up primarily by the billionaire tycoon in exile, who you mentioned. There are real grievances. There are real poor people. There are fault lines, and in sensitive areas in Thailand, which are very easy to provoke. It would sort of be like Rockefeller funding riots in the ghettos, if he had somehow been arrested and sent into exile or something like that. I mean, it’s a really strange situation. It’s a hugely tragic situation. The people are dying. They’re dying for a billionaire tycoon in exile. It doesn’t make sense.

Does Thailand need democracy, the kind of socialism that Ji has been working for? Yes, I think that would be fine. But it has to be peaceful, and the Red Shirts are not peaceful.
 

GILES JI UNGPAKORN: Well, it’s nonsense to say that the Red Shirts aren’t peaceful. They’ve actually been very, very disciplined and try to maintain a peaceful demonstration in the face of the government, which actually brings armed soldiers and tanks onto the streets. Any government that tries to disperse a peaceful demonstration using armed tanks, guns, and so on, and kills sixty-five people, I think needs to be condemned.

But I’m afraid Philip is misinformed about the Red Shirts. I mean, Thaksin Shinawatra—and I’m no supporter of him; I never voted for him and have always criticized his abuse of human rights—Thaksin Shinawatra was incapable of organizing the Red Shirts. The Red Shirts were organized by former leaders of Thai Rak Thai, and they developed into a grassroots movement. They collect money in their own communities. They run community radio stations. They have different groups. If you go to any Red Shirt protest, you can see the signs up of the different groups, and you can hear people making donations on the stage and so on. And they’re not dying for Thaksin Shinawatra. They’re not stupid peasants, ignorant peasants who don’t know what they’re doing. They’re actually very well-informed small farmers and urban workers who are incensed by the fact that their democratic rights have been robbed and that this is part of the system that allows such inequality of wealth in Thailand.
 

PHILIP CUNNINGHAM: I think one thing Ji and I absolutely agree on is that it’s never right to use an army to suppress the people. I think it’s an extremely blunt instrument. It’s crazy. It’s bloody. It’s violent. And that’s wrong. And I completely agree with Ji that the army should not be involved in this.
 

However, Ji and I used to live on the same street in Bangkok. We taught at the same university. But we really disagree on our analysis of the Red Shirts. I believe the Red Shirts are a fascist movement. I believe the poverty is real. The need, the hunger, for a systemic change, a kind of change in Thailand, is there. It’s in the air. But there is nothing about the Red Shirts—I listen to them every day. I monitor their broadcasts. I’m doing a media study of that. And they insult foreigners. They insult gays. They engage in ridiculous ad hominem attacks. They are playing to the crowd. It’s kind of like a cross between—with Thaksin. And they sing songs in dedication to Thaksin. I mean, it’s sort of like, you know, Mussolini or something like that. Some people compare Thaksin to Berlusconi. I think it’s a little more like Mussolini. They sing for Thaksin. It is fascism, and it is a shame, because these people are hijacking the poor people, hijacking the genuine grievances of the poor, to serve a billionaire in exile so he can get back to Thailand and get his money back.
 

GILES JI UNGPAKORN: Well, I don’t think that Philip Cunningham really understands the definition of "fascism." It’s easy to bandy it about. Fascists don’t demand democracy. Fascists don’t have differences of opinion. Yes, there are elements of the Red Shirts who are rough and ready, and some of them are anti-gay, and some of them talk in terms of being anti-foreign, but the majority don’t do that. The majority actually try to give differences of opinion. And this is not an armed group. The fascists are the middle-class peoples who aren’t for democracy, the Yellow Shirts. They are the people who want an end to democratic rights for the poor and so on. And I think that’s just a really outrageous slander on the Red Shirts.
 

PHILIP CUNNINGHAM: Well, Ji, you’re so naive. I just can’t believe it.

 
AMY GOODMAN: Why are you saying that?


PHILIP CUNNINGHAM: Well, I think Ji knows very well that the—you know, if he listens to the speeches—I mean, Ji could listen to the speeches as well as I do. It’s nonsense. There is good rhetoric. There’s good drama. This is money from a TV station from Thaksin’s media people. They’ve put together a media show. They’ve put together a sham

demonstration, a sham revolution. It’s not the real thing. I was in a Tiananmen in ′89. I know what these things look like. I know what a spontaneous uprising looks like. This is not a spontaneous uprising.
 

What has happened—and I will acknowledge this—is that you′ve kind of had a chain reaction. You have some real spontaneous uprising now. Thailand is in a very brittle state. It’s very delicate. It’s at the kind of end of an era. And anything could happen, and this could be extremely dangerous. I just don’t want to see Thailand go down a fascist road.

And the Red Shirts have proven to be armed. They’re shooting at soldiers with slingshots, Molotov cocktails. There are people with guns, pistols. It is not a peaceful movement. The students in Tiananmen Square never did that. There was no violence. There’s no comparison to this. This is a bankrupt tycoon-backed Red Shirt movement. I just can’t accept—I just can’t understand why Ji supports it.
 

GILES JI UNGPAKORN: Well, you can’t understand, I know, because you’re not prepared to accept what’s going on. I follow the reports on the internet. I’m watching the TV there. I’ve been on Red Shirt demonstrations in Bangkok. I have friends who are in the Red Shirt movement. And the fact is that Philip’s analysis, you know, that it’s all being run by Thaksin and the movement is being hijacked, is an insult to the millions of Thais who are genuine Red Shirts. It’s the same old story from the academics, who believe that ordinary Thai people can’t think for themselves, can’t organize themselves—

PHILIP CUNNINGHAM: Ji, that’s just—that’s—I cannot accept that. That is a very unfair sleight.
 

GILES JI UNGPAKORN: It’s just that—
 

PHILIP CUNNINGHAM: Just because someone disagrees with you doesn’t mean they don’t understand [inaudible]—


GILES JI UNGPAKORN: How about letting me finish, Philip? How about letting me finish?
 

PHILIP CUNNINGHAM: Go ahead.
 

GILES JI UNGPAKORN: It’s the same kind of attitude that the middle class in Thailand have towards the Red Shirts, and it’s their justification for why they don’t believe in democracy and why they supported a coup d’?tat, because they said, you know, the Red Shirts have all been bought by Thaksin and they’re being manipulated by him into voting for him—
 

PHILIP CUNNINGHAM: Would you acknowledge that some of them have been bought, and a lot of them are not, but would you acknowledge that some of them have been bought?
 

GILES JI UNGPAKORN: How about letting me finish, Philip? How about letting me finish?


AMY GOODMAN: That question, Ji—that question, Ji, of whether some of them have been bought, bought off?
 

GILES JI UNGPAKORN: No, they haven’t, actually. You don’t need to buy people off, because the government, Thaksin’s government, horrendous though it was in terms of human rights abuses, actually brought in a universal healthcare system. It’s actually better than the healthcare system in the United States, in terms of what the poor get. They had pro-poor policies to create jobs. They don’t need to hand people money if the government actually offers and then delivers on that. People actually vote for what they want. And it’s actually very, very insulting to the Thai population to claim that they’ve been hoodwinked and bought by Thaksin.

Now, the issue is, really, is how come a tycoon like Thaksin can win the hearts and minds of the poor? And the answer is that this shows that there was a vacuum on the left in Thailand, you know, ever since the Communist Party collapsed, and Thaksin was able to work—
 

PHILIP CUNNINGHAM: Ji, this is the weakness of your analysis. I know you’ve been on the left for a long time. We went to the—
 

GILES JI UNGPAKORN: Sorry, if you could just let me finish—
 

PHILIP CUNNINGHAM: —you know, the stonecutter that was making the monument for October—
 

AMY GOODMAN: Let Philip Cunningham make a statement. Go ahead, Philip Cunningham.


PHILIP CUNNINGHAM: And, you know, this idea that—I just feel like you’re so hungry for the left to do something that you’re seeing a false dawn, and you’re mistaking it for the real thing. This is a false dawn; this is not the real thing.
 

GILES JI UNGPAKORN: Sorry, but you’re not listening. You’re speaking over me. You’re not listening to what I say. You’ve got some dream in your head about what I believe in, and you’re starting to argue with a straw man. I’m saying that Thaksin can—was able to exploit the divisions within Thai society between the rich and the poor because the left didn’t exist. And that’s how come a tycoon like Thaksin can win the hearts and minds of the poor. 


PHILIP CUNNINGHAM: That’s a sad statement, isn’t it?

 

Both end up with:
GILES JI UNGPAKORN: Well, I think the way to end the present crisis is that the government should order an immediate ceasefire and that there should be proper, genuine democratic elections.


PHILIP CUNNINGHAM: OK, I think the army should leave also. I think it’s absolutely horrendous what the army is doing. I’m totally against that. But I cannot say that the Red Shirts are democratic or in the right. They are also a problem. And I think it’s a police problem. They have to be arrested and taken care of.

 


http://www.matichon.co.th/news_detail.php?newsid=1274700394&grpid=01&catid=00


หัวข้อ: Re: [2513]"ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: ดร.มนตรี ที่ 26 พฤษภาคม 2553, 12:12:37
อ้างถึง
ข้อความของ เหยง 16 เมื่อ 26 พฤษภาคม 2553, 11:28:14
เธอได้ อักษรศาสตร์ ม.ศิลปากร และ วิศวฯ ม.เกษตรศาสตร์ คณะสังคมศาสตร์ เอกรัฐศาสตร์ (ภาคพิเศษ) มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์

ทราบมาว่า สุธาชัย อัพเซ็ทตอน 6 ตุลา เนื่องจากเป็นนักศึกษาธรรมศาสตร์ในขณะนั้นครับ

อักษร กับ วิศวะ  นี่มันคนละสายกันนะครับ (สายศิลป์ และสายวิทย์ ตามลำดับ)  ข้อมูลน่าจะคลาดเคลื่อนครับพี่เหยง


หัวข้อ: Re: [2513]"ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: เหยง 16 ที่ 26 พฤษภาคม 2553, 12:13:15
ข่าวล่าของ น.ส.ณัฐกานต์ สกุลดาราชาติ ครับว่า เธอไม่ไปสอบสัมภาษณ์ที่ ม.เกษตรฯแล้วครับ เพราะได้ทุนไปเรียนนอกแล้ว

“ก้านธูป” เมิน ม.เกษตรฯ ลือหึ่งได้ทุนโกอินเตอร์
โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ 26 พฤษภาคม 2553 10:07 น.

        สวัสดี “รอบรั้วการศึกษาฯ” ประจำวันที่ 26 พ.ค.จ้องกันตาไม่กะพริบทีเดียว สำหรับกรณีสอบสัมภาษณ์เข้าศึกษาต่อคณะสังคมศาสตร์ เอกรัฐศาสตร์ (ภาคพิเศษ) มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ ของ “น.ส.ณัฐกานต์ สกุลดาราชาติ” หรือ “น้องก้านธูปเยาวชนผู้หลงผิดโพสต์ข้อความหมิ่้นสถาบันพระมหากษัตริย์ไว้ในเฟซบุ๊กของตัวเอง และในเว็บไซต์ใต้ดินที่ถูกตั้งขึ้น เพื่อโจมตีสถาบัน จนถูกกระแสสังคมกดดันอย่างหนักหน่วง ปรากฏว่า ล่าสุด น.ส.ณัฐกานต์ ไม่ได้เดินทางมาสอบสัมภาษณ์ เท่ากับว่า “สละสิทธิ์” โอกาสที่จะเป็นนิสิตร่มนนทรี
       
       เห็นแล้วก็อดรู้สึกเป็นห่วงเยาวชนของชาติ สาวน้อยผู้สร้าง “วีรกรรมทำเพื่อแดง” รายนี้ไม่ได้ ว่า หนทางด้านการศึกษาของเธอจะเป็นอย่างไร
       
       สายสืบกระจิบข่าวตัวจ้อยไม่รอช้า ส่งข่าวร้อนว่า เขาลือกันให้แซดว่า “น้องก้านธูป” ขวัญใจแดงไซเบอร์ ได้รับทุนการศึกษาให้ไปเล่าเรียนถึงเมืองนอกเมืองนาเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ส่วนจะเป็นทุนจากกระเป๋าใคร...งานนี้เดากันเอาเองนะจ๊ะ

                                         
ฯลฯ

http://www.manager.co.th/QOL/ViewNews.aspx?NewsID=9530000072203


 


หัวข้อ: Re: [2513]"ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: เหยง 16 ที่ 26 พฤษภาคม 2553, 12:18:26
อ้างถึง
ข้อความของ ดร.มนตรี เมื่อ 26 พฤษภาคม 2553, 12:12:37
อ้างถึง
ข้อความของ เหยง 16 เมื่อ 26 พฤษภาคม 2553, 11:28:14
เธอได้ อักษรศาสตร์ ม.ศิลปากร และ วิศวฯ ม.เกษตรศาสตร์ คณะสังคมศาสตร์ เอกรัฐศาสตร์ (ภาคพิเศษ) มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์

ทราบมาว่า สุธาชัย อัพเซ็ทตอน 6 ตุลา เนื่องจากเป็นนักศึกษาธรรมศาสตร์ในขณะนั้นครับ

อักษร กับ วิศวะ  นี่มันคนละสายกันนะครับ (สายศิลป์ และสายวิทย์ ตามลำดับ)  ข้อมูลน่าจะคลาดเคลื่อนครับพี่เหยง

ขอบใจ ดร.มนตรี ที่ติง

และพี่ได้แก้ให้ตรงกับความเป็นจริงแล้วคือ คณะสังคมศาสตร์ ม.เกษตรฯ

อย่างไรก็ตาม เธอไม่ได้ไปสัมภาษณ์เมื่อวานนี้ ตามข่าวบอกว่า ได้รับทุนไปเรียนต่อต่างประเทศแล้ว ไม่ทราบประเทศ, ม.ด้วย

ซึ่งพี่ก็ดีใจด้วยว่า เธอจะไม่ได้รับแรงกดดันจากรอบๆตัว หากเรียนที่ ม.เกษตรฯ ในขณะที่เรียน 4 ปีต่อไปนี้

อย่างไรก็ตาม อนาคตของเธอ สำหรับการใช้ชีวิตต่อไปหลังจบการศึกษา เป็นเรื่องที่เธอต้องตัดสินใจแล้ว ??


หัวข้อ: Re: [2513]"ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: ดร.มนตรี ที่ 26 พฤษภาคม 2553, 12:21:04
อ้างถึง
ข้อความของ jamsai เมื่อ 26 พฤษภาคม 2553, 11:19:33
ดร. มนตรี

โรงเรียนจุฬาภรณ์ที่มุกดาหาร ก็ให้โอกาสดีๆ กับเด็กแถวๆนั้น มากมาย
...
ตอนนี้เราจะทำอย่างไรกันดีกับคนพวกนี้ ... เพียงแต่ชนชั้นครีมของประเทศอย่างพวกเราจะทำอะไรดี เราจะกล้าหาญพอหรือยัง
ช่วยคิดกันหน่อยเถิด



เราทำหน้าที่ของเราต่อไปครับพี่ ...  ส่วนตัวแล้วผมไม่คาดหวังอะไร 100 เปอร์เซนต์ครับ

ตัวผมเองยังเป็นคนดี 100 เปอร์เซนต์ ไม่ได้เลย ^__^


หัวข้อ: Re: [2513]"ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: ดร.มนตรี ที่ 26 พฤษภาคม 2553, 12:23:05
อ้างถึง
ข้อความของ เหยง 16 เมื่อ 26 พฤษภาคม 2553, 12:18:26
อ้างถึง
ข้อความของ ดร.มนตรี เมื่อ 26 พฤษภาคม 2553, 12:12:37
อ้างถึง
ข้อความของ เหยง 16 เมื่อ 26 พฤษภาคม 2553, 11:28:14
เธอได้ อักษรศาสตร์ ม.ศิลปากร และ วิศวฯ ม.เกษตรศาสตร์ คณะสังคมศาสตร์ เอกรัฐศาสตร์ (ภาคพิเศษ) มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์

ทราบมาว่า สุธาชัย อัพเซ็ทตอน 6 ตุลา เนื่องจากเป็นนักศึกษาธรรมศาสตร์ในขณะนั้นครับ

อักษร กับ วิศวะ  นี่มันคนละสายกันนะครับ (สายศิลป์ และสายวิทย์ ตามลำดับ)  ข้อมูลน่าจะคลาดเคลื่อนครับพี่เหยง

ขอบใจ ดร.มนตรี ที่ติง

และพี่ได้แก้ให้ตรงกับความเป็นจริงแล้วคือ คณะสังคมศาสตร์ ม.เกษตรฯ

อย่างไรก็ตาม เธอไม่ได้ไปสัมภาษณ์เมื่อวานนี้ ตามข่าวบอกว่า ได้รับทุนไปเรียนต่อต่างประเทศแล้ว ไม่ทราบประเทศ, ม.ด้วย

ซึ่งพี่ก็ดีใจด้วยว่า เธอจะไม่ได้รับแรงกดดันจากรอบๆตัว หากเรียนที่ ม.เกษตรฯ ในขณะที่เรียน 4 ปีต่อไปนี้

อย่างไรก็ตาม อนาคตของเธอ สำหรับการใช้ชีวิตต่อไปหลังจบการศึกษา เป็นเรื่องที่เธอต้องตัดสินใจแล้ว ??

ครับพี่ เห็นพี่แก้ข้อมูลแล้ว และผมกำลังจะลบ ของผมทิ้งพอดี เห็นโพสนี้ของพี่เสียก่อน ถือโอกาสสวัสดีพี่ตรงนี้เลยครับ

ขออนุญาตไปทานข้าว ก่อนนะครับ ^__^


หัวข้อ: Re: [2513]"ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: เหยง 16 ที่ 26 พฤษภาคม 2553, 12:29:45
สวัสดีเช่นกันครับ


หัวข้อ: Re: [2513]"ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: เหยง 16 ที่ 26 พฤษภาคม 2553, 13:34:14
ดูคลิป แดน ริเวอร์ส(ตัวปลอม) นักข่าวจาก CNN ครับ

ชมคลิป ฝรั่งล้อ CNN รับไม่ได้รายงานข่าวไทยบิดเบือน-ขาดความเป็นมืออาชีพ
โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ 26 พฤษภาคม 2553 13:11 น.

http://www.youtube.com/watch?v=38quBV7EKdY

อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมที่
http://www.manager.co.th/Politics/ViewNews.aspx?NewsID=9530000072544


หัวข้อ: Re: [2513]"ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: เหยง 16 ที่ 26 พฤษภาคม 2553, 22:11:39
อ้างถึง
ข้อความของ เหยง 16 เมื่อ 25 พฤษภาคม 2553, 19:09:32
ดูหน้าชัดๆ คนเขียงใหม่ดึง"ธงในหลวง"โยนทิ้งน้ำ.......


ชมคลิป แดงเชียงใหม่ห้าว! แค้นสลายชุมนุม พาลถอน “ธงในหลวง” โยนทิ้งน้ำ
25 พฤษภาคม 2553 15:02 น.

http://www.youtube.com/watch?v=tyV2ZT0hxTY

       ASTVผู้จัดการ – แดงเชียงใหม่แค้นแกนนำประกาศสลายการชุมนุม 19 พ.ค.ก่อจลาจลหน้าจวนผู้ว่าฯ พาลโยนธงสีเหลืองอักษรพระปรมาภิไธย ภปร ที่ปักเคียงกับธงชาติไทยบนสะพานนวรัฐ ทิ้งแม่น้ำปิงเกลี้ยง
      
    
(http://www.cmadong.com/imageupload/2010_Cmadong-Image/data/image/l2z5kp-4ba734.jpg)
     
      
       จากกรณีเมื่อวันที่ 19 พ.ค.ที่แกนนำกลุ่มแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) หรือ คนเสื้อแดงประกาศสลายการชุมนุม ณ แยกราชประสงค์ หลังเจ้าหน้าที่ของศูนย์อำนวยการแก้ไขสถานการณ์ฉุกเฉิน (ศอฉ.) เข้ากดดัน จนก่อให้เกิดการวินาศกรรม และจลาจลขึ้นทั่วกรุงเทพฯ และลุกลามไปทั่วประเทศ ล่าสุด วานนี้ (24 พ.ค.) ได้มีประชาชนโพสต์คลิปวิดีโอลงในเว็บไซต์ยูทูป เป็นภาพการก่อการจลาจลที่จังหวัดเชียงใหม่ ในวันที่ 19 พ.ค.
      
       เหตุการณ์การจลาจลที่จังหวัดเชียงใหม่ เกิดขึ้นตั้งแต่ช่วงเที่ยงวัน บริเวณจวนผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ เชิงสะพานนวรัฐ อ.เมืองเชียงใหม่ โดย นปช.จังหวัดเชียงใหม่ จำนวนประมาณ 50 คน ได้นำยางรถยนต์มากองที่บริเวณหน้าจวนผู้ว่าฯ ก่อนราดน้ำมันจุดไฟเผา จนเกิดกลุ่มควันจำนวนมาก นอกจากนี้ กลุ่มวัยรุ่นดังกล่าวยังขว้างปาขวดน้ำและสิ่งของเข้าไปในจวนผู้ว่าฯ ใช้หนังสติ๊กยิงประทัดยักษ์เข้าไปในจวนผู้ว่าฯ เป็นระยะ จนเจ้าหน้าที่ต้องปิดการจราจรบริเวณสะพานนวรัฐข้ามแม่น้ำปิงเป็นการชั่วคราว
      
       สำหรับภาพคลิปวิดีโอดังกล่าว ตอนหนึ่งปรากฏภาพชายสวมเสื้อยืดคอกลมแขนสั้นสีขาว ได้เดินไปตามทางเท้าบนสะพานนวรัฐ และได้พยายามถอนธงสีเหลืองอักษรพระปรมาภิไธย ภปร ซึ่งปักอยู่เคียงกับธงชาติไทยบนสะพาน โยงทิ้งลงสู่แม่น้ำปิง ด้วยท่าทางโกรธแค้น ก่อนที่ นปช.อีกคนหนึ่งที่ใส่เสื้อแจ๊กเก็ตแขนยาวสีเขียวขี้ม้าจะกระทำถอนธงสีเหลือง ตามชายคนดังกล่าวบ้าง จากนั้นคนกลุ่มดังกล่าวจึงเดินไปรวมตัวกัน
      
       พฤติกรรมการจาบจ้วง หมิ่นพระบรมเดชานุภาพ และบ่อนทำลายสถาบันหลักของประเทศไทยนั้นเกิดขึ้นอย่างต่อเนื่องในช่วงหลายปีที่ผ่านมา อย่างเช่น กรณีเมื่อวันที่ 14 ต.ค.2551 หลังพิธีพระราชทานเพลิงศพ “น้องโบว์” น.ส.อังคณา ระดับปัญญาวุฒิ เพียงวันเดียว กลุ่มคนรักเชียงใหม่ ได้เปิดเวทีปราศรัยสนับสนุนรัฐบาลต่อต้านพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ซึ่งจัดบริเวณหน้าโรงแรมแกรนด์วโรรส โดยวันดังกล่าวแกนนำผู้ปราศรัยแสดงอาการโกรธแค้นต่อเหตุการณ์พิธีพระราชทานเพลิงศพอย่างชัดเจน โดย นายเพชรวรรต วัฒนพงศ์ศิริกุล แกนนำกลุ่มคนรักเชียงใหม่ 51 ปราศรัยถึงการเดินทางไปร่วมชุมนุมกับกลุ่ม นปช.ที่สนามหลวง และมีตอนหนึ่งที่กระทบกระเทียบกับสถาบันสูงสุดอย่างหมิ่นเหม่ โดยได้พูดว่า คนเชียงใหม่นับถือแค่กษัตริย์ 3 องค์เท่านั้น ก็คือ อนุสาวรีย์สามกษัตริย์ ซึ่งประดิษฐานอยู่หน้าศาลากลางหลังเก่า (พญาเม็งราย พญางำเมือง และ พ่อขุนรามคำแหง) ไปกรุงเทพฯ ก็ไปสักการะเฉพาะศาลเจ้าพ่อหลักเมืองเท่านั้น (อ่านข่าว : นปก.เชียงใหม่เหิม บอกคนเชียงใหม่นับถือแค่อนุสาวรีย์ 3 กษัตริย์ (16 ต.ค. 51))
      

 
 
จาก http://www.manager.co.th/asp-bin/mgrView.asp?NewsID=9530000072066
 


ตามเจอแล้วครับ คนโยน"ธงในหลวง"ทิ้งแม่น้ำปิง ที่เชียงใหม่

พบแล้ว! มือปลดธง “ภปร” ทิ้งน้ำปิง-เป็นพ่อค้าขายกับข้าวในตลาดรวมโชค ชม.
26 พฤษภาคม 2553 16:37 น.

         
(http://www.cmadong.com/imageupload/2010_Cmadong-Image/data/image/l2z5kp-4ba734.jpg)

 
       ASTVผู้จัดการ – พบแล้วมือขว้าง “ธงในหลวง” ลงน้ำปิง เผยเป็นพ่อค้าขายกับข้าวในตลาดรวมโชค ล่าสุด หลังปรากฏภาพบนยูทูป กลับหายหน้าไปจากแผง 3 วันติด ปล่อยเมีย-ลูกน้องขายแทน
      
       รายงานข่าวแจ้งว่า หลังจากปรากฏภาพชายสวมเสื้อขาว ปลดธงตราสัญลักษณ์ “ภปร” ที่ติดไว้คู่กับธงชาติไทย บริเวณสะพานนวรัฐ อ.เมือง จ.เชียงใหม่ ติดกับจวนผู้ว่าฯ แล้วโยนทิ้งลงแม่น้ำปิง ระหว่างกลุ่มคนเสื้อแดงชุมนุมประท้วง และก่อเหตุเผายางรถยนต์ ขว้างระเบิดเพลิงใส่บ้านพักปลัดจังหวัดฯ และเผารถดับเพลิงของเทศบาลนครเชียงใหม่ 2 คัน (ซึ่งมีเจ้าหน้าที่ขับมาเพียงคันละ 1 คน โดยไม่มีเจ้าหน้าที่ประจำรถแม้แต่คนเดียว) เมื่อ 19 พ.ค.53 นั้น
      
       ปรากฏว่า ชายคนดังกล่าวมีใบหน้าคล้ายกับ นายกฤษฎา (ไม่ทราบนามสกุล) พ่อค้าขายกับข้าวในตลาดรวมโชค ติดกับถนนวงแหวนรอบกลาง อ.เมืองเชียงใหม่ ที่เปิดแผงขายอาหารใกล้กับร้านลาบเมืองแพร่-ร้านขายอาหารปักษ์ใต้มานาน และเป็นเครือข่ายของกลุ่มคนเสื้อแดง ที่มักไปร่วมการชุมนุมกับกลุ่มคนเสื้อแดงในพื้นที่แทบทุกครั้ง
      
       แต่ในระยะ 3 วันที่ผ่านมา นายกฤษฎา ได้หายหน้าไปจากแผงขายกับข้าวในตลาดดังกล่าว ปล่อยให้ลูกน้อง-ภรรยา มาขายแทนเท่านั้น
      
       ทั้งนี้ มีรายงานเพิ่มเติมว่า ขณะนี้กองกำลังจังหวัดเชียงใหม่ ได้มีคำสั่งให้ติดตามหาตัวผู้ที่ปลดธงตราสัญลักษณ์ “ภปร” ทิ้งแม่น้ำปิงแล้ว ซึ่งล่าสุดเริ่มมีชาวบ้านแจ้งยืนยันถึงตัวตนนายกฤษฎา ว่า ตรงกับบุคคลที่ปรากฏในภาพแล้วหลายราย
      
 
 
พิมพ์จาก http://www.manager.co.th/asp-bin/mgrView.asp?NewsID=9530000072698
 


หัวข้อ: Re: [2513]"ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: Preecha2510 ที่ 27 พฤษภาคม 2553, 00:55:52
อ้างถึง
ข้อความของ เหยง 16 เมื่อ 26 พฤษภาคม 2553, 11:32:20
รัฐ ตลอดจนหน่วยงานของรัฐ ไม่ตระหนักถึงการรุกของเสื้อแดง นปช. ว่าจะมีผลร้ายได้ถึงขนาดนั้น

แต่ผมโทษพรรคประชาธิปัตย์ครับ องค์กรที่มีแต่พวกทนายเป็นสมาชิก หาความจริงจังและจริงใจในการแก้ปัญหาไม่

วันๆดีแต่เห่า แต่หอน เรื่องไม่เข้าเรื่อง ใช้เป็นแต่ปากครับ-ไม่เหนื่อยและไม่เสียเงิน, ตามงานไม่เป็น-ต้องใช้เงินและเวลา

นี่เป็นเอกลักษณ์ที่ไม่มีวันตายของเขาล่ะ

      ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมาในอดีต ปชป.เป็นพรรคการเมืองที่มีบุคคลเก่งๆ มีชื่อเสียง มีความรู้ ความสามารถ หมุน

  เวียนเข้ามาเป็นสมาชิกทำงานให้พรรคจำนวนมาก เมื่อยามที่พรรค ปชป.ตกตํ่าสมาชิกพรรคก็จะสนับสนุนยกบุคคลที่มี

  ชื่อเสียงเป็นที่ยอมรับของสังคมเหล่านั้น เข้ามามีตำแหน่งระดับสูงหรือเป็นหัวหน้าพรรค เพื่อกอบกู้ภาพพจน์และ

   สถานะภาพของพรรคฯเพื่อให้ได้โอกาสจัดตั้งเป็นรัฐบาล  ที่เป็นหัวหน้าพรรคในอดีตเช่นคุณถนัด คอร์มันต์,คุณพิชัย

   รัตกุล ฯลฯ  แต่จากประเพณียึดมั่นในการเกาะกลุ่มในภาคนิยม(สะตอสามัคคี)ค่อนข้างมากเกินไป  พอยามเมื่อ ปชป.

  ผ่านพ้นวิกฤตและเข้ายุครุ่งเรืองแล้ว บุคคลที่เป็นข้าวนอกนาก็มักจะถูกสมาชิกสะตอสามัคคีกีดกันหรือลดบทบาทจน

  ต้องถอยห่างหรือลาออกจากพรรคฯไปในที่สุด ทำให้พรรค ปชป.จึงมีฐานคะแนนเสียงส่วนใหญ่จำกัดอยู่เฉพาะภาคใต้

  และในกรุงเทพฯบางช่วงเวลาบางเวลาเท่านั้น ซึ่งนับเป็นจุดอ่อนของพรรค ปชป.แต่ไหนแต่ไรมาจนถึงปัจจุบัน  ผมเอง

  ตอนนี้ก็ยังคาดคิดไม่ออกว่าในอนาคตคุณอภิสิทธิ์จะมีชาตากรรมเหมือนหัวหน้าพรรคฯที่เป็นข้าวนอกนารุ่นก่อนๆหรือไม่?


หัวข้อ: Re: [2513]"ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: เหยง 16 ที่ 27 พฤษภาคม 2553, 09:11:35
พี่แก้วครับ

ผมเห็นด้วยในความเห็นของพี่เป็นอย่างยิ่ง

การเมืองเปลี่ยนไปมากแล้ว ทุกคนสามารถเห็นกริยาท่าทองของผู้อภิปราย รวมทั้งคู่กรณี และคนอื่นๆในสภาฯ

รวมทั้งข้อมูลที่จะนำมาอภิปรายด้วยซ้ำ เดี๋ยวนี้เข้าค้นหาข้อมูลได้ทั้งจาก google, และเพื่อนๆใน FB ที่โพสต์กันกระหน่ำ

และที่แน่ๆ ข้าราชการที่ได้รับทั้งผลกระทบโดยตรงและโดยอ้อม ก็ส่งข้อมูลให้ทั้ง สส. สว. สื่อที่เขาเชื่อว่าจะช่วย

จะเห็นได้ว่า..พวกเรา ไม่รู้สึกเลย เมื่อฝ่ายค้านพรรคเผาไทย จะอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาล เพราะเรารู้แล้วว่าจะพูดอะไร

และที่สำคัญ..มันจะตะแบงข้อมูลซะด้วยซ้ำ แบบโกหกหน้าตาเฉย ประเภท เอาดีใส่ตัว ความชั่วยัดให้คนอื่น!! ?? 


หัวข้อ: Re: [2513]"ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: เหยง 16 ที่ 27 พฤษภาคม 2553, 09:17:31
ประเด็นเรื่อง 6 ศพในวัดปทุมวนาราม เป็นประเด็นที่พรรคเผาไทยจะยกขึ้นมาอ้าง หลังจากประเด็นอื่นๆ มีความชัดเจนอยู่ในตัว แต่อย่างไรก็ตาม ศอฉ.เคยบอกไว้ก่อนหน้าแล้วว่า หยุดปฏิบัติการทางทหาร ตั้งแต่ประมาณ 13.30 น. 19 พ.ค. 53 เมื่อแกนนำเดินทางไปมอบตัว
และหากประเด็นนี้ ทหารไม่ได้ทำ...แสดงว่า พวกมันเลวกว่าที่เราคาดคิด คือเข้าทำร้ายและฆ่าคนในวัดเพื่อสร้างสถานการณ์ อ่านบทบรรณาธิการ นสพ.ไทยโพสต์ วันพฤหัสบดีที่ 27 พฤษภาคม 2553 ครับ


ทำไมแค่ 6 ศพไม่ใช่ 83 หรือ
บทบรรณาธิการ 27 พฤษภาคม 2553 - 00:00

      คนไทยนอกจากเก่งในการคิดแยกส่วน ยังมักชอบยกตัวอย่างแยกส่วน ยกเหตุการณ์แยกส่วน  ยกเหตุผลแยกส่วน มาเพื่อให้ฝ่ายตนได้ประโยชน์และได้เปรียบฝ่ายตรงข้าม โดยไม่สนใจว่า เรื่องราวทั้งหมดตั้งแต่ต้นจนจบมีที่มาที่ไปอย่างไร

     ทำไมมีความพยายามให้น้ำหนักกับ 6 ศพ ที่ถูกนำไปไว้ในวัดปทุมวนารามราชวรวิหาร หรือเพียงเพราะมีทหารขึ้นไปอยู่บนรางรถไฟฟ้า จึงกลายเป็นหลักฐานเด็ดมัดแน่นหนาว่าทหารเป็นผู้ยิงประชาชน 6 ศพที่ว่า แล้ว 25 ศพ ในวันที่ 10 เมษายน กับอีก 52 ศพ จากเหตุการณ์หลังจากนั้นต่อเนื่องไปจนถึงวันที่ 19 พฤษภาคม รวม 77 ศพ ที่มีทั้งสื่อต่างประเทศ ทหาร ตำรวจ ประชาชนเสื้อแดง และประชาชนเสื้อสีอื่น ไม่มีคุณค่าในการทวงความเป็นธรรมให้เลยหรือ ทำไมมาเน้นกันที่ 6 ศพ หรือเป็นเพราะ 6 ศพนี้เล่นดีๆ อาจมีได้เสีย

     รัฐบาลและกองทัพมิอาจปฏิเสธได้ว่า  มีคนเสื้อแดงจำนวนหนึ่งเป็นเหยื่อกระสุนของทหาร แต่ทหารที่เป็นมือสังหารไม่ต้องรับผิดชอบในความสูญเสียนี้ เพราะมีพระราชกำหนดการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉินค้ำอยู่และหากไปกางกฎหมายดูให้ดี นายสุเทพ เทือกสุบรรณ ในฐานะผู้อำนวยการแก้ไขสถานการณ์ฉุกเฉิน ก็เข้าข่ายไม่ต้องรับผิดชอบทั้งทางแพ่งและอาญาตามมาตรา 17 เพราะมีสถานะเป็น "พนักงานเจ้าหน้าที่" ที่ได้รับการแต่งตั้งจากนายกรัฐมนตรีตามมาตรา 4

     นั่นหมายความว่า จะมีนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี เพียงคนเดียวเท่านั้น ที่ต้องรับผิดชอบต่อการใช้อาวุธยิงประชาชนโดยทหารและตำรวจ ภายใต้พระราชกำหนดการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน

     แต่ความจริงไม่ได้จบลงอย่างที่มีความพยายามให้ทหารเป็นผู้ยิงประชาชน 6 ศพในวัดปทุมวนารามราชวรวิหาร อีก 77 ศพ จะต้องมีการพิสูจน์โดยกระบวนการยุติธรรมให้ได้ว่า เป็นฝีมือใคร เป็นเรื่องน่าประหลาดใจ ที่พรรคเพื่อไทยพยายามย้ำในที่ประชุมสภาผู้แทนราษฎรระหว่างการพิจารณาร่างพระราชบัญญัติงบประมาณรายจ่ายประจำปี 2554 ว่า ทั้งหมดเสียชีวิตเพราะฝีมือทหาร มีการดุด่าว่ากล่าวสาดเสียเทเสียว่า กระทรวงกลาโหมไม่ควรได้รับงบประมาณเพราะเกรงจะนำไปซื้ออาวุธมาฆ่าประชาชนอีก

     ไม่น่าเชื่อ!  ลืมเอ็ม 79 ลืมกระสุนไม่ทราบที่มาไปได้อย่างไร ลืมกองกำลังไม่ทราบฝ่าย ที่สังคมทั่วไปและคนเสื้อแดงต่างรู้ดีว่าเป็นกองกำลังติดอาวุธที่เคลื่อนไหวคู่ขนานไปกับการชุมนุมของคนเสื้อแดงเพราะมีนายคนเดียวกันเร็วขนาดนั้นเลยหรือ พรรคเพื่อไทยกรุณากลับไปตัดข่าวเก่าๆ มาอ่านดูว่า ประชาชนทั้งเสื้อแดง เสื้อหลากสี และทหารที่ต้องตายเพราะเอ็ม 79 และกระสุนจากฝั่งแดงนั้นมีอยู่กี่สิบศพ แม้กระทั่งสื่อบางสำนักที่พยายามเอาจริงเอาจังกับ 6 ศพ จนผิดสังเกตนั้น ก็เคยเสนอข่าวมีคนตายเพราะเอ็ม 79 และกระสุนอื่น จากกองกำลังติดอาวุธที่เคลื่อนไหวร่วมกับคนเสื้อแดงไม่รู้กี่ศพ กลับมาคิดแยกส่วนจะเอาเฉพาะ 6 ศพ

     ทั้ง 83 ศพ ที่สูญเสียไปภายใต้พระราชกำหนดการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน จะต้องได้รับการสะสางจากกระบวนการยุติธรรมอย่างไม่ไว้หน้า หากพบว่า นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ มีความผิดต้องคิดคุก หรือประหารชีวิต ก็ต้องไปฉีดยาพิษให้ตาย และถ้าพิสูจน์ได้ว่าเป็นฝีมือกองกำลังติดอาวุธก็ต้องสาวให้ถึงคนบงการ ถ้าใช่ น.ช.ทักษิณ ชินวัตร ก็ต้องไปลากคอกลับมารับโทษในเมืองไทย อย่าหาประโยชน์จาก 6 ศพ เพียงเพราะเล็งผลเลิศในวัตถุประสงค์อื่นเลย.


http://www.thaipost.net/news/270510/22627


หัวข้อ: Re: [2513]"ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: เหยง 16 ที่ 27 พฤษภาคม 2553, 09:30:31
คอลัมม์ "คนปลายซอย" ของ คุณเปลว สีเงิน

"รุ่นสู่รุ่น" บนเส้นทางสู่สังคมใหม่
เปลว สีเงิน 27 พฤษภาคม 2553 - 00:00

     อาการ "ตกใจ-ไฟดับ" จนไทยโพสต์พิมพ์ไม่ได้ เมื่อ ๑๙ พฤษภา ค่อยผ่อนคลายลงหน่อยเมื่อทีมมวลชนสัมพันธ์ของท่านผู้ว่าการการไฟฟ้าฝ่ายผลิตฯ "สุทัศน์ ปัทมสิริวัฒน์" นำโกโก้-โอวัลตินมาช่วยละลายอาการ ซึ่งก็ต้องขอบคุณทั้งที่ กฟผ.เองตัวเป็นเกลียว หัวเป็นนอตกับการติดตั้ง-ตรวจบำรุง "เสาไฟฟ้าแรงสูง" ที่มีคนทดสอบความแข็งแรงด้วยระเบิดไปหลายต่อหลายจุด นี่ถ้าคุณภาพทีมไม่เจ๋งจริง มืดมิดทั้งเมืองไปนานแล้ว!
     คุยเรื่องเครียดต่อเนื่องกันมาหลายวัน ศุกร์ที่ ๒๘ พฤษภานี้ก็ถึงวัน "วิสาขบูชา" อีกแล้ว คงไม่ต้องขยายความกันรายปีแล้วกระมังว่า อะไรคือวิสาขบูชา และวิสาขบูชาคืออะไร เก็บเสน่ห์ตรงนี้เอาไว้ให้ท่านที่ยังไม่รู้-ไม่เข้าใจได้ค้นหาเอาเองบ้างดีกว่า จะได้อรรถรส และซึ้งคุณค่ากว่าที่ผมจะบอก (รายปี) แต่เท่าที่ผมจับเส้นทางเดินสังคม ชัดเจนว่าคนยุคนี้-สมัยนี้ที่เรียกว่า "หนุ่ม-สาวยุคใหม่" ไม่ได้เป็น-ไม่ได้เหลวไหล อย่างที่ผู้ใหญ่หลายต่อหลายท่านบ่นกันว่า "กายห่างวัด-ใจห่างธรรม" จะนำพาประเทศชาติไปสู่อนาคตใหม่ในเส้นทาง "สังคมทาสวัตถุ" ตรงกันข้าม หนุ่ม-สาวรุ่นใหม่ เขาโต ด้วยเรียนรู้ มีโลกทัศน์บนวิสัยทัศน์ มีแก่น-มีแกนวิเคราะห์สู่ฐานเชื่อ ถึงตอน กิน-เล่น-เที่ยว เขาก็สุดสวิงริงโก้ของเขาไป แต่ถึงคราวเป็นเรื่อง-เป็นราว พวกเขาเป็นหนุ่ม-สาวมีสาระ ไม่ยอมเชื่อตามๆ กันไปโดยไม่รู้จักค้นหา และไม่คั้นสาระจากความเป็นตัวของตัวเอง เพราะเท่าที่ผมลงไปสัมผัส "โลกในความคิด" ของหนุ่ม-สาวรุ่นใหม่ เขาจะถาม จะซักไซ้ เต็มไปด้วย what why when where และ who โดยมีสถาบันชาติ พระศาสนา และพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เป็นหลักยึดในการคิด-ในการเชื่อ ถ้าไม่มีเหตุผลเป็นคำอธิบายที่เข้าใจได้ บางคนฟังแล้วเมิน บางคนไม่เมินแต่ซักต่อ ซักแล้วก็ใช่จะเชื่อ หลายคนมีความเห็นและเหตุผลโต้แย้ง
     จนสุดท้าย ที่บอก "ขอบคุณ" เพราะเข้าใจก็มี ที่เฉยเพราะเขายังต้องไปคิดวิเคราะห์ต่อก็มี นี่คือคุณสมบัติปัจจุบันของ "คนรุ่นใหม่" ในกลุ่มนิยมแสวงหาสาระจากโลกและชีวิตรอบตัว

     ที่น่ายินดีคือ คนกลุ่มนี้นอกจากไม่ตกเป็นทาสไอทีแล้ว กลับใช้ไอทีเป็นทาสในการค้นหาสาระสู่โลกใหม่! ผมจะบอกอะไรให้อย่าง จากการสังเกตของผมเองจนเป็น "สถิติ" ชี้ทิศทางสังคมชาติได้ค่อนข้างแม่นยำ ทุกครั้งของการเปลี่ยนแปลงสังคม "เยาวชน-คนรุ่นใหม่" คือเข็มทิศ-ชี้ทาง! หมายความว่าเหตุการณ์ใด ถ้า "เยาวชน-คนรุ่นใหม่" ไม่เข้าไปเป็นส่วนร่วมด้วยแล้วละก็ ถึงเกิดเหตุ เหตุนั้นก็จะยังไม่นำไปสู่การเปลี่ยนแปลงใดๆ แต่ถ้าเหตุนั้น มีเยาวชน-คนรุ่นใหม่ เข้าไปร่วมในฐานะแกนนำ หรือในฐานะมวลชนร่วม กระทั่งในฐานะมีปฏิกิริยาร่วมตอบสนอง เหตุการณ์นั้นจะนำไปสู่การเปลี่ยนแปลงสังคม "สู่อนาคตใหม่" ค่อนข้างมาก
     สมัย ๑๔ ตุลา และ ๖ ตุลา หนุ่ม-สาวในภาพของนิสิต-นักศึกษา ปรากฏชัดเจนในความเป็นแกน "เปลี่ยนและนำสังคม" สมัยพฤษภาทมิฬ ส่วนหนึ่งนอกจากนิสิต-นักศึกษาเป็นตัวร่วมแล้ว ยังเขยิบขึ้นไปสู่หนุ่ม-สาวอันเป็นชนชั้นกลาง จนเรียกว่า "ม็อบมือถือ" เพราะตกเย็น หลังเลิกงาน "คนรุ่นใหม่" อันเป็นวัยทำงาน เขาจะโทร.มือถือนัดหมายกันมาชุมนุมที่ราชดำเนิน-ที่สนามหลวงเอง ต่างคน ต่างพวก ต่างกลุ่ม ไม่มีใครรู้จักใคร แต่มารู้จัก "ด้วยเข้าใจ" บนเป้าหมายเดียวกัน นอนบนพื้นถนนราชดำเนินนับดาวด้วยกัน แล้วใครก็ไม่รู้ เอาน้ำบ้าง เอาโน่น เอานี่บ้างมาแจกกันไป ตกดึกแยกย้ายกันกลับบ้าน เพื่อไปทำงานตอนเช้า ฉะนั้น ถนนราชดำเนินจะปิดการจราจรไปเองโดยอัตโนมัติ เพราะคนนั่ง-นอนเต็มพรึ่ด แต่ตอนเช้ายันบ่ายแก่ๆ ถนนก็โล่ง ไม่มีคน การจราจรจะเปิดได้เองโดยอัตโนมัติเช่นกัน จนกระทั่งเย็นย่ำค่ำมืด การจราจรก็ปิดเองโดยอัตโนมัติอีก อย่างนี้เป็นเดือน เป็นอารยะชุมนุมที่น่าพิสมัย ไม่ทำให้ส่วนรวมเดือดร้อน ต่างคน-ต่างมีความรับผิดชอบ และถนอมรักษาบ้านเมือง!

     มาดูเหตุการณ์นับจาก ๑๙ กันยา ๔๙ จนมาถึง ๑๙ พฤษภา ๕๓ บ้าง ท่านจะเห็นทันที กี่ครั้ง-กี่คราวที่คนเสื้อเหลือง-เสื้อแดงเวียนชุมนุม เกิดเหตุครั้งแล้ว-ครั้งเล่า แต่ไม่สามารถขยับเขยื้อนเคลื่อนสังคมไปจากที่เดิมได้ จนกระทั่งคนในโลกไซเบอร์ โดยเฉพาะจากคนในกลุ่ม "หนุ่ม-สาวรุ่นใหม่" ผสานด้วยคนวัยทำงาน "ทนไม่ไหว" กับการชุมนุมไร้อารยะของพวกเสื้อแดง เขาส่งข้อความนัดแนะกันออกมาร่วมชุมนุมต้านเป็นคนหลากสี เด่นชัดคือหนุ่ม-สาวคนรุ่นใหม่ "รักในหลวง" พวกเขาทนเห็นพวกนี้ย่ำยีสถาบันชาติ-ศาสนา-พระมหากษัตริย์ไม่ไหว ว่างงานตอนไหนก็นัดกันมารวมตัวแสดงอารยะสัญญาประชาสังคม! นี่คือสิ่งยืนยันในคำที่ผมบอกว่า "หนุ่ม-สาวรุ่นใหม่" ไม่เหลวไหล กายไม่ห่างวัด-ใจไม่ห่างธรรม  อย่างที่ใครๆ เข้าใจและชอบปรักปรำ เพราะจะเห็นว่า มีพิธีกรรมทางพุทธศาสนาและสถาบันกษัตริย์ที่ไหน เขาก็ไปกันเต็ม หรือถ้าใครไปวัดที่สอนการปฏิบัติธรรม ไม่ต้องมาก วันอาทิตย์ไปที่วัดชลประทาน ฯก็จะเห็น หนุ่ม-สาว อันเป็นคนรุ่นใหม่ เข้าวัดด้วยใจหาธรรมกันมากมายผิดกว่าแต่ก่อน!
     ความจริงเรื่องเข้าวัดไม่จำเป็นนักหรอก ขอให้เอาใจมาเข้าธรรม-เอาธรรมมาเข้าไว้ในใจ อย่างนี้ดีกว่าร้อยเท่า-พันเท่า เพราะไปวัดเดี๋ยวนี้ ลำบากที่ต้องคัดกรองหนัก กราบไปก็นึกไป...พระเสื้อแดงแก๊งตีนตบที่ซ้อนมอเตอร์ไซค์ถือป้าย "เอาพ่อทักษิณกูคืนมา" หรือเปล่าวุ้ย!? และอย่าง บิ๊ก คลีนนิ่ง เดย์ ของคุณชายสุขุมพันธุ์ บริพัตร เห็นมั้ย ทั้งเด็ก ทั้งหนุ่ม-สาว ทั้งคนรุ่นใหม่ รุ่นกลางเก่า-กลางใหม่ ไปจับไม้กวาด-แปรง ออกแรงขัดถู ทำความสะอาดบ้านเมืองของเรากัน "ด้วยใจ" ทั้งที่ตอนอยู่กะบ้าน พ่อก็กระแอม แม่ก็กระไอ แต่ลูกเฉไฉ ไม่เคยเฉียดใกล้ไม้กวาด

     แล้วใครรู้มั้ย...ที่เป็นนายตรวจประเทศไทยตอนนี้?
     ประชาสังคม "คนรุ่นใหม่" ในโลกไซเบอร์นั่นไง รัฐบาลทำอะไร ทหาร-ตำรวจทำอะไร "นายตรวจประเทศ" สอดส่อง-ติดตามยิบ ตำรวจถูกเหยียบเละเป็นขี้หมา เพราะคุมตัว "หัวโจกกบฏ" ไปบิ๊กฮอลิเดย์ในค่ายนเรศวร จนรัฐบาล-ศอฉ.และตำรวจ เหมือนตูดตำเตาอั้งโล่ นั่งไม่ติด ต้องส่งพี่นวยนิ่มออกมาแก้ทั้งตัว แก้ทั้งผ้า แต่ก็ยังเอาหน้าไม่รอดอยู่ดี
 นั่นไม่เพราะ "นายตรวจประเทศ" คอยจับตาดอกหรือ? ฉะนั้น เมื่อเยาวชน "คนรุ่นใหม่" ลุกขึ้นมารวมตัวเอาธุระกับปัญหาบ้านเมืองแล้วละก็ "สังคมเปลี่ยนแน่" และถ้าคนมีอำนาจ-หน้าที่เปลี่ยน...ไม่เปลี่ยน ระวัง...เยาวชน "คนรุ่นใหม่" เขาจะรวมใจมาเปลี่ยน!?

     เอาละ..ไหนๆ หนุ่ม-สาวรุ่นใหม่ใช้ "ความรักในหลวง" ออกมารวมตัวกันเป็นปฏิกิริยากดดัน "กบฏแดง" จนมีผลสรุปดังที่เห็นขณะนี้ และในเมื่อเป็นรุ่นใหม่ "ใกล้วัด-ใกล้ธรรม" ผมก็มีของดีมาฝาก คือ การ "ไหว้ ๕ ครั้ง" ของสมเด็จพระพุทธโฆษาจารย์ (เจริญ ญาณวรมหาเถร) อดีตเจ้าอาวาสวัดเทพศิรินทราวาส
     สมเด็จพระพุทธโฆษาจารย์นี้ ท่านเป็นพระอุปัชฌาย์ของท่านเจ้าคุณนรฯ หรือ "พระภิกษุพระยานรรัตนราชมานิต" และท่านก็ "ไหว้ ๕ ครั้ง" ตามพระอุปัชฌาย์มาตลอดจนกระทั่งมรณภาพ ปกติเราจะรู้จักการไหว้พระ ๓ ครั้ง คือ ไหว้พระพุทธคุณ พระธรรมคุณ และพระสังฆคุณ แต่สมเด็จพระพุทธโฆษาจารย์ท่านให้ไหว้พระ ๕ ครั้ง ดังนี้ เมื่อตั้งนะโม...ครบ ๓ หนแล้วก็เริ่ม
     ครั้งที่ ๑ สวดอิติปิโส ภควา...ไปจนจบบทพระพุทธคุณที่...พุทโธ ภควาติฯ ก็หยุดระลึกถึงพระปัญญาคุณ พระบริสุทธิคุณ และพระกรุณาคุณของพระพุทธเจ้า กราบหนที่ ๑
     ครั้งที่ ๒ สวดสวากขาโต...ไปจนจบบทพระธรรมคุณที่...เวทิตัพโพ วิญญูหีติฯ ก็หยุดระลึกถึงคุณพระธรรมที่รักษาผู้ปฏิบัติตามไม่ให้ตกไปในที่ชั่ว จนเห็นชัดแล้ว กราบหนที่ ๒
     ครั้งที่ ๓ สวดสุปะฏิปันโน...ไปจนจบบทพระสังฆคุณที่...ปุญญักเขตตัง โลกัสสาติฯ ก็หยุดระลึกถึงคุณ คือความปฏิบัติดี ปฏิบัติตรง ปฏิบัติถูก ปฏิบัติชอบ ของพระอริยสงฆ์ แล้วกราบหนที่ ๓
 จากนั้นตั้งใจระลึกถึงพระรัตนตรัยเป็นที่พึ่งอันประเสริฐตลอดไป และกล่าวคำปฏิญาณ พุทธัง สะระณัง คัจฉามิ ธัมมัง สะระณัง คัจฉามิ สังฆัง สะระณัง คัจฉามิ และทุติยัมปิ พุทธัง-ธัมมัง-สังฆัง ตะติยัมปิ  พุทธัง-ธัมมัง-สังฆัง เหมือนกันดังข้างต้นจนครบ ก็เริ่มไหว้ครั้งต่อไป
     ครั้งที่ ๔ ระลึกถึงคุณมารดา-บิดาของตน จนเห็นชัดแล้ว กราบหนที่ ๔
     ครั้งที่ ๕ ระลึกถึงคุณของบรรดาท่านผู้มีอุปการคุณแก่ตน เช่น พระมหากษัตริย์ ครูบาอาจารย์ ผู้มีพระคุณ ผู้ให้ข้าว ให้น้ำ ให้ความรัก ให้ความเมตตา-ปรารถนาดี ให้ความช่วยเหลืออุปถัมภ์-ค้ำจุน แล้วกราบหนที่ ๕
     ผลที่จะได้รับจากการไหว้ ๕ ครั้ง ท่านบอกไว้ดังนี้ :-
     การไหว้ ๕ ครั้งนี้ ถ้าวันไหนขาด ให้ไหว้ใช้ ๕ ครั้งในวันรุ่งขึ้น ถ้านั่งกระโหย่งเท้าไม่ได้ก็นั่งพับเพียบ ถ้าไม่ได้ ก็นอนไหว้ เมื่อยกมือไม่ขึ้น ก็ปากกับใจ ถ้าทำได้อย่างนี้ จะเป็นเครื่องพยุงตนให้เป็นคนดี ไม่ให้เป็นคนชั่ว และให้ตั้งอยู่ในที่ดี ไม่ให้ตกไปในที่ชั่ว ถ้าผู้ใดประพฤติได้เสมอตลอดชีวิต ผู้นั้นจะอุ่นใจในตัวของตัวเอง มีความเจริญงอกงามไพบูลย์ยิ่งๆ ขึ้นเสมอทุกคืนทุกวัน คุ้มครองป้องกันภยันตรายให้ปราศจากความเสียหายที่ไม่เหลือวิสัย และตั้งตัวได้ในทางคดีโลก และทางคดีธรรม เต็มภูมิ เต็มชั้น ของตนทุกประการ.
     เอ้า...คนรุ่นใหม่ต้อง "ไหว้ ๕ ครั้ง" อย่าลืมเน้อ.

http://www.thaipost.net/news/270510/22630


หัวข้อ: Re: [2513]"ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: เหยง 16 ที่ 27 พฤษภาคม 2553, 09:49:35
ปฏิรูปตำรวจ???
ท่านขุนน้อย 27 พฤษภาคม 2553 - 00:00

     หลังเหตุการณ์จลาจลเผาบ้าน เผาเมือง ผ่านไป...ใครต่อใครชักอดไม่ไหว ที่จะต้องออกมาพูดถึงเรื่อง การปฏิรูปตำรวจ กันอีกครั้ง ไม่ว่าอดีตนายกรัฐมนตรีอย่าง พี่ชวน หลีกภัย นายกรัฐมนตรีคนปัจจุบัน อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หรือ แม้กระทั่งรองนายกรัฐมนตรีที่ควบคุมดูแลตำรวจโดยตรงอย่าง  สุเทพ เทือกสุบรรณ ก็เลี่ยงไม่พ้นที่จะต้องแสดงความยอมรับต่อปฏิกิริยาในด้านลบ ซึ่งผู้คนในสังคมมีต่อแวดวงตำรวจอย่างตรงไป-ตรงมา...
     -----------------------------------------------------------
     แต่ก็อย่างว่า...เรื่องของ การปฏิรูปตำรวจ นั้น ไม่ว่าใครก็พูดได้ คิดได้ แต่ถ้าหากจะนำไปสู่ภาคการปฏิบัติที่เป็นจริงแล้ว ส่วนใหญ่...ล้วนแต่ต้องใบ้รับประทานไปด้วยกันทั้งสิ้น พูดง่ายๆว่า...มันเป็นภารกิจที่สุดจะยากซ์ซ์ซ์ แสนยากซ์ซ์ซ์ ยิ่งกว่าภารกิจที่ ตาและยายมอบหมายให้ยักษ์วิเศษเอาขนไปรีดให้ตรงไม่รู้กี่หมื่นกี่พันเท่า เพราะความพยายามกระทำในสิ่งที่เรียกว่า การปฏิรูปตำรวจ  นั้น เอาเข้าจริงๆ แล้ว เคยมีมานับตั้งแต่ยุคพระเจ้าเหายังใส่กางเกงหูรูดก็ว่าได้ แต่จนกระทั่งพระเจ้าเหาหันไปใส่ชุดอวกาศก็แล้ว การปฏิรูปตำรวจก็ยังคงเป็นไปในแบบรูดไป-รูดมาอยู่อีกเช่นเดิม...
        -----------------------------------------------------
     ขนาดผู้ซึ่งพากเพียร พยายาม คิดจะเข้ามาปฏิรูป หรือ ปฏิรูด มีสถานะเป็น ตำรวจด้วยกันเอง แท้ๆ อย่างเช่น พลตำรวจเอก วสิษฐ เดชกุญชร ที่ได้ชื่อว่าเป็นตำรวจตงฉิน มีความคิดทันสมัย ก้าวหน้า แถมยังเคยเป็นอาจารย์ฝึกสมาธิ รู้วิธีกำหนดลมปราณทะลวงจุดหยิม ต๊ก ได้อีกต่างหาก อีกทั้งยังได้รับอำนาจเด็ดขาดจากรัฐบาลปฏิวัติของ คมช. มอบหมายให้กระทำภารกิจชนิดนี้กันโดยเฉพาะ แต่หลังจากที่พูดได้ คิดได้ มาเป็นเวลาประมาณ 1 ปีเต็มๆ เมื่อถึงช่วงจังหวะเข้าสู่ภาคปฏิบัติ...ทุกสิ่งทุกอย่างก็ถูกนำกลับไปบรรจุไว้ภายในกระป๋องแห้ว จนต้องกลายเป็นการปฏิรูปฉบับ แห้วกระป๋อง อีกเช่นเคย...
       -------------------------------------------------------
     การปฏิรูปตำรวจที่ไม่เคยปฏิรูปใดๆ ได้เลย มีแต่ต้องรูดไป รูดมา ต่อไปเรื่อยๆ มันจึงกลายเป็น ปัญหา ที่หนักหนาสาหัส ซับซ้อน วุ่นวาย ไม่น้อยไปกว่า ปัญหาระดับวาระแห่งชาติก็ว่าได้ เพราะมันไม่ได้เป็นเพียงแค่ปัญหาที่ส่งผลกระทบต่อสถาบัน องค์กร ภายในตัวของมันเองเท่านั้น แต่ยังเป็นปัญหาที่สามารถก่อให้เกิด เงื่อนไข ทางสังคม ลุกลาม บานปลาย กลายเป็นปัญหาทางการเมือง  เศรษฐกิจ หรือ กระทั่งปัญหาความขัดแย้ง แตกแยก ภายในบ้านเมืองมานับเป็นปีๆ ชาติๆ ไม่ว่าจะเป็นความขัดแย้ง แตกแยก กับพรรคคอมมิวนิสต์แห่งประเทศไทย กับกลุ่มผู้ก่อความไม่สงบในภาคใต้ หรือ กับพวกแดงทั้งแผ่นดินในช่วงระยะที่ผ่านมา...ล้วนแต่มี เงื่อนไข อันเนื่องมาจากตำรวจเข้าไปเกี่ยวข้องด้วยเสมอๆ...
       ------------------------------------------------------
     อันที่จริง  ถ้าหากจะพูดกันในแง่ความเก่ง ฝีมือความสามารถ ประสิทธิภาพในการสืบสวน สอบสวนแล้ว...ตำรวจไทย คงไม่ได้ด้อยไปกว่าใครต่อใครในโลกกันซักเท่าไหร่นัก ไม่ว่าจะเป็นระดับเอฟบีไอ. เอ็มไอ.5 เอ็มไอ.6 ก็เถอะ ต่างก็เคยต้อง ขอดูตัว ตำรวจไทยกันไปเป็นแถวๆ เพียงแต่สิ่งที่เป็นปัญหาคาอก คาใจ คาราคาซัง และคาบ้านคาเมือง อยู่จนทุกวันนี้ ดูๆ มันจะหนักไปในเรื่องของ ความคิด และ จิตสำนึก ที่แทรกซึมอยู่ภายในหัวจิตหัวใจ ของเจ้าหน้าที่ตำรวจแต่ละตัวบุคคลซะมากกว่า ซึ่งต้องถือเป็นเรื่องใหญ่ และเป็นเรื่องยากซ์ซ์ซ์เอามากๆ ในการปรับปรุง ปรับเปลี่ยน หรือปฏิรูปสิ่งเหล่านี้ เพราะแม้แต่มนุษย์โดยทั่วๆ ไป...บางรายอาจต้องใช้เวลาเป็นชาติๆ ถึงจะเกิดการปรับเปลี่ยนความคิด ความรู้สึก ขึ้นมาได้บ้าง...
         ---------------------------------------------------
     แต่ถ้าหากเราต้องมัวรอคอยให้ตำรวจไทยโดยส่วนใหญ่ เกิดความคิดเป็นไปในทางที่สร้างสรรค์ เกิดจิตสำนึกแห่งความเป็นตำรวจอยู่ในทุกขณะจิต ไปจนกว่าจะถึงช่วงประมาณบ่ายๆ ชาติหน้าแล้วไซร้...ไปๆ-มาๆ ชาติไทย หรือ ประเทศไทย ก็อาจจะไม่หลงเหลืออยู่ในประวัติศาสตร์โลกอีกเลยก็ไม่แน่!!! ด้วยเหตุนี้ แม้นจะเป็นเรื่องยากซ์ซ์ซ์ แสนยากซ์ซ์ซ์ ซับซ้อน ยุ่งเหยิง ยิ่งกว่าภารกิจที่ตา-ยายมอบหมายให้กับยักษ์วิเศษ  แต่ก็คงเลี่ยงไม่ได้...ที่จะต้องหาทางเดินหน้า หาทางปฏิรูป ปฏิรูด หรือ ทั้งลูบ ทั้งรูด ให้มากที่สุดเท่าที่จะมากได้นั่นแล...
        -----------------------------------------------------
     คงปฏิเสธไม่ได้ว่า...นับตั้งแต่ ระบบทักษิณ ได้สถาปนา รัฐตำรวจ ขึ้นมาอย่างเป็นรูปเป็นร่าง ในตลอดช่วงระยะเวลายาวนานประมาณเกือบ 8 ปี การลูบ หรือ การรูด ตำรวจแต่ละราย...มันยิ่งกลายเป็นเรื่องที่ยุ่งยากหนักขึ้นไปกว่ายุคอดีตก่อนหน้านี้หลายต่อหลายเท่า การลูบ หรือ การรูด ตำรวจในแต่ละช่วง แต่ละระยะ มันจึงแยกไม่ออกไปจาก การต้องหาทางสลายรากเหง้า เครือข่าย ของระบบทักษิณควบคู่ไปด้วย ซึ่งถ้าหากรากเหง้า เครือข่ายของระบบทักษิณสูญสลายลงไปอย่างราบคาบแล้ว อาจพอตั้งความหวังเอาไว้ได้เล็กๆ น้อยๆ ว่า ด้วย สัญชาตญาณการปรับตัว ที่เชื่อกันว่า...ฝังลึกอยู่ในสายเลือด ดีเอ็นเอ ของตำรวจแต่ละนาย น่าจะทำให้ทุกสิ่งทุกอย่างดูดีขึ้นมาบ้างไม่มากก็น้อย...
      ---------------------------------------------------------
     แต่สิ่งที่สำคัญที่สุด...คงหนีไม่พ้นไปจากการหาทางขจัด ขัดขวาง ไม่ให้นักการเมือง หรือ อำนาจการเมือง นำเอาตำรวจไปใช้ประโยชน์ในทางส่วนตัวนั่นเอง ถ้าหากการแต่งตั้ง โยกย้าย ในแบบยื่นหมู ยื่นแมว มึงมั่ง กูมั่ง ยังคงดำเนินต่อไปเรื่อยๆ โอกาสที่จะปฏิรูปตำรวจ...ย่อมเป็นสิ่งที่เป็นไปไม่ได้เอาเลยก็ว่าได้ ส่วนสิ่งสำคัญอีกประการหนึ่ง ซึ่งไม่อาจละเลยได้โดยเด็ดขาด  นั่นก็คือ... แรงกดดันทางสังคม..ที่จะต้องคอยตรวจ คอยเช็ก คอยตั้งด่าน ดักจับตำรวจ ไปขึงพืดในเว็บไซต์ แต่ละเว็บไซต์ กันเป็นระยะๆ เอากันให้ถึงระดับที่ ตำรวจชายแดนทั้งกองบังคับการต้องหัวทิ่ม ตกน้ำ ตกท่า ตกทะเลชะอำ ชนิด มะเขือเทศรีสอร์ต แทบจะต้องปิดกิจการไปแล้วนั่นแหละ  เพราะสิ่งเหล่านี้นี่เอง...ที่เป็นเสมือน กตร.ตัวจริง อันจะมีบทบาทในการลูบ และรูด  ทั้งตำรวจและนักการเมืองได้ในวันนี้ พรุ่งนี้...โดยไม่ต้องรอไปถึงชาติหน้าตอนบ่ายๆ สามโมงแก่ๆ ก็ยังรูดไม่เสร็จกันซักกะที...
    ------------------------------------------------------------
     ปิดท้ายด้วยวาทะวันนี้ จาก สุภาษิตนิรนาม ... เมื่อสุนัขสองตัวกำลังแย่งกระดูกกัน แต่ตัวที่สามคาบหนีไปได้ นั่นย่อมหมายความว่า มีตำรวจ หรือ ทนายความ อยู่ท่ามกลางสุนัขสองตัวนั้น...


http://www.thaipost.net/news/270510/22596


หัวข้อ: Re: [2513]"ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: เหยง 16 ที่ 27 พฤษภาคม 2553, 10:18:48
กำลังใจให้นายกรัฐมนตรี
ถูกทุกข้อ 27 พฤษภาคม 2553 - 00:00

      คุณมาร์ค..ธรรมะชนะอธรรมแน่
     "อย่ายอมแพ้" นี่คือใจไทยทั้งผอง
     คนชั่วเลวทำลายชาติสาดเลือดนอง
     มันจะต้องหมดสิ้นแผ่นดินไทย         
               คุณมาร์ค..เมื่อใจใฝ่เพื่อชาติ
               ประชาราษฎร์ก็พร้อมร่วมมือให้
               ใครชั่ว..ใครดี..รู้ที่ใจ
               พวกมักได้..เห็นแก่ตัวชั่วทั้งนั้น
     มาร์ค..ธรรมะชนะอธรรมแน่
     กังฉินแผ่ชาติชั่วพวกตัวกลั่น
     แค่อุปสรรคผ่านหน้าอย่ากลัวมัน
     เร่งมุ่งมั่นพัฒนาประเทศไทย         
               พวกเปลี่ยนขาวเป็นดำเปลี่ยนดำเป็นขาว
               สร้างภาพร้าว..คนทุกผู้เขารู้ไต๋
               หากเสียชาติชนทุกผู้สู้ขาดใจ
               "รัฐไทยใหม่" ต้องไม่มีนะพี่มาร์ค.
                                    คนเมืองทอง 53   
                     
                  หลายๆ สิ่งที่พึงทำ         
เรียน คุณสามวา สองศอก
     1.โรงเรียนเตรียมทหารจะยังคงปล่อยให้ น.ช.ทักษิณ ชินวัตร มีชื่อโชว์หราอวดเกียรติภูมิ "เกียรติยศจากดาว" ของโรงเรียนเตรียมทหาร ที่มอบให้อดีตนายกฯ นรกอเวจีต่อไปอีกหรือ!!? หรือว่าผู้บัญชาการกองทัพไทย (พลเอกทรงกิตติ) จะปล่อยให้คงอยู่ต่อไป โดยอ้างว่าเป็นเรื่องราวที่เกิดขึ้นในอดีต
     แต่ก็เป็นอดีตที่พิสูจน์ได้ว่าเป็นอดีตอันโสมม ผมอยากให้สังคมไทยเราเรียกร้องจัดการกับเรื่องดังกล่าวนี้ เพราะต่อไปนักเรียนเตรียมทหารและคนรุ่นหลังๆ จะไม่เข้าใจและฉงนฉงายว่า เกียรติยศจากดาวนี้คืออะไรกันแน่!!?
     2.รัฐบาลเพิ่งจะมาแสดงฝีไม้ลายมือเอาที่ตอนกว่าถั่วจะสุกงาก็ไหม้แล้วหรอกครับ เรื่องเอาไอ้แม้วหน้าเหลี่ยมกลับมารับโทษทัณฑ์ตามกบิลเมือง มันยังยากอยู่เอาไว้ก่อน เอาแค่เรื่องหมูๆ แค่เอาวัฒนา อัศวเหม กับกำนันเปาะ ณ ขแมร์ กลับมาตากอากาศร่วมกันกับสามเกลอหัวขวดให้ได้เสียก่อนเถอะ แล้วค่อยไปเล่นเรื่องระดับช้างกับไอ้เหลี่ยมแม้วมัน คนจะได้เชื่อว่ากฎหมายไทยศักดิ์สิทธิ์เที่ยงตรงและเที่ยงธรรม
     3.เรื่องของสื่อสิ่งพิมพ์ที่เป็นหน้าที่ของตำรวจสันติบาล หนังสือในเครือข่ายกลุ่มแดงทักษิณที่มีพฤติกรรมการกระทำล่อแหลมและหมิ่นเหม่ มีผลกระทบต่อความมั่นคง ความสงบเรียบร้อยของบ้านเมืองมาโดยตลอด จะต้องถูกหยิบยกมาพิจารณาดำเนินการโดย ศอฉ.อย่างเร่งด่วน
     สำหรับตำรวจสันติบาลก็ปล่อยให้อยู่ใน "สังคมเกษตรกรรม" ไร่มะเขือเทศต่อไปอีกสักนิดนึง รอวันเกรดไถใหม่ของ "สังคมเวรกรรม" ที่รัฐบาลต้องไถปรับโครงสร้างใหม่ของตำรวจไทยโดยด่วนต่อไป
                                                       นายรัก พิทักษ์ไทย
ตอบ คุณรัก
     1.เกียรติยศแห่งดาวที่ทักษิณได้จากโรงเรียนเตรียมทหาร ต้องให้ศิษย์เก่าและศิษย์ปัจจุบันช่วยกันตัดสินว่าควรจะทำอย่างไร
     2.เพื่อไม่ให้ถูกหาว่า 2 มาตรฐาน รัฐบาลก็ควรเร่งจับตัวให้ได้ทั้ง 3 คนมาดำเนินคดี
     3.สื่อสิ่งพิมพ์มีกฎหมายควบคุมอยู่แล้ว ตรวจสอบไม่ยากหรอกครับ

                    ต้นตอความแตกแยก                           
เรียน คุณสามวา สองศอก
     บ้านเมืองที่เกิดจลาจลในใจกลางกรุงเทพมหานครร้ายแรงอย่างไม่เคยมีมาก่อนในประวัติศาสตร์อันยาวนานของประเทศไทย มาบัดนี้ก็ใกล้จะจบลงแล้ว ผมขอประมวลว่าสาเหตุต้นตอของความแตกแยกร้าวฉานของคนไทย จนเกิดเหตุการณ์ชนิดที่ไม่นึกมาก่อนว่าจะเกิดขึ้นได้ ดังนี้
     1.การตัดสินของศาลรัฐธรรมนูญเมื่อ 3 สิงหาคม 2544 ครั้งแรกตัดสินให้ทักษิณผิดด้วยคะแนน 11 : 4 และถูกพักทางการเมือง 5 ปี แต่ผลการตัดสินในที่สุดกลับพลิกเป็น 8 : 7 ทักษิณหลุดด้วยเหตุผลว่า  "บกพร่องโดยสุจริต" มีเบาะแสจากคอลัมนิสต์หลายคนว่า เกิดจากตุลาการ 4 คนไม่ทราบว่าความจริงเป็นอย่างไร
     2.มีรัฐธรรมนูญปี 2540 ฉบับดีที่สุดในโลก
     3.เมื่อทักษิณได้ขึ้นบริหารประเทศได้ใช้ คอรัปชั่นเชิงนโยบาย ไปทุกรูปแบบ จนได้ ส.ว. ส.ส. ตำรวจ ทหาร องค์กรอิสระและสื่อ เข้ามาไว้ในกำมือได้หมด แล้วใช้อำนาจบาตรใหญ่ได้ตามอำเภอใจจนร่ำรวยมหาศาล ทั้งนี้ก็เพราะบุคคลดังกล่าว ตลอดจนประชาชนที่ออกเสียงเลือกตั้งสนับสนุน เป็นบุคคลพาซื่อ หวังพึ่ง จึงตกเป็นเหยื่อถูกหลอกมาตลอด คือเป็นบุคคลประเภท "บัวใต้น้ำ" ตามคำพระพุทธองค์ หรือเป็น "Passivecitisen" ตามปรัชญากลับตก
     4.เกิดเหตุการณ์ ไล่ทรราช เมื่อ 19 กันยายน 2549 หลังจากขายหุ้นที่ร่ำรวยมาให้สิงค
โปร์ด้วยเงินกว่า 7 หมื่นล้านบาทโดยไม่เสียภาษี
     คุณสามวาว่าถูกทุกข้อไหมครับ?
                                                               สูง สีชม
ตอบ คุณสูง
     ทั้ง 4 ข้อที่คุณว่ามาก็น่าจะ "ถูกทุกข้อ" นะครับ

                    สะใจกันหรือยัง?              
สวัสดีครับ คุณสามวา
     ผมเพิ่งจะเขียนลงเรื่องเป็นห่วงนักข่าวภาคสนามได้ไม่นาน ก็เจอกันทุกทั่วหน้าไม่เว้นกระทั่งหน่วยกู้ชีพก็โดนกับเขาไปด้วย จนบาดเจ็บล้มตายอย่างที่เห็น ก็นี่แหละครับความรุนแรงที่ผมไม่อยากให้เกิดขึ้น ส่วนคุณศรีธัญญา ณ สวนปรุง เพิ่งจะเขียนมาชมนโยบายปรองดอง 5 ข้อของนายกฯ มาร์คว่าดีไม่นาน ตอนนี้กลายเป็นดีแตกไปซะแล้ว รวมทั้ง พล.อ.อนุพงษ์ ผบ.ทบ.ก็เอากับเขาด้วย
     ส่วนม็อบเสื้อแดงในที่สุดก็ต้องยอมสลาย เพราะน่าจะรู้ดีว่าเป็นม็อบไม่มีเส้น และหวังจะอยู่ทำลายสถิติ 193 วัน ที่ม็อบพันธมิตรฯ ทำไว้ก็คงยาก ผมก็เคยเขียนบอกตั้งแต่แรกๆ ก่อนการชุมนุมในไทยโพสต์ฉบับก่อนๆ แล้วว่า ผมไม่เห็นด้วยกับการชุมนุม อากาศร้อนก็ร้อน ให้อดเปรี้ยวไว้กินหวาน ค่อยๆ นวด ค่อยๆ คลึง เขย่าทุจริตในไทยเข้มแข็งอย่างต่อเนื่อง เดี๋ยวก็ร่วงไปแบบ สปก.4-01 และควรจะขยายโรงเรียนเสื้อแดงไปเรื่อยๆ มันจะยุบหรือไม่ยุบสภา หรือยุบพรรคประชาธิปัตย์ช่างมัน ไม่ต้องไปสนใจ และเป็นไงผลเสียที่เกิดขึ้น
     1.ทีวีช่องแดงถูกปิด 2.แกนนำเสื้อแดงถ้ายอมยุติการชุมนุมและมอบตัว ก็จะโดนข้อหาสารพัดเล่นงาน 3.เสียแนวร่วมและผลกระทบจากการปิดราชประสงค์และ รพ.จุฬาฯ 4.ข่าวเสื้อแดงกลบข่าวทุจริตไทยเข้มแข็ง แม้แต่เรื่องรถดับเพลิงของหล่อเล็ก (คุณอภิรักษ์) ก็เงียบหายไปพร้อมกับการเสียชีวิตของคุณสมัคร สุนทรเวช 5.ผู้ชุมนุมมีการเสียชีวิตเป็นจำนวนมาก
     สรุปแล้วเพราะการใจร้อนกันทั้งสิ้น ยุทธศาสตร์ในการต่อสู้เลยพังหมด มีเสื้อแดงผู้หญิงที่อยู่ข้างบ้านผม ที่ไปร่วมกับคนเสื้อแดงในการชุมนุมเป็นประจำ รวมทั้งที่ราชประสงค์ด้วย พอผมคุยให้ฟังเรื่องนี้บอกว่าอย่าเพิ่งชุมนุมเลยมันไม่มีประโยชน์ ผมยังโดนด่ากลับและหาว่าไม่เข้าข้างคนเสื้อแดง ฮิฮิ..(ขอฮิฮิ..หน่อยเดี๋ยวจะหาว่าเครียดอีก)
     แต่ผมก็ยังชื่นชมจิตใจของเธอแม้เป็นผู้หญิง ยังกล้าต่อสู้ไม่ยอมแพ้ง่ายๆ แม้ว่า ศอฉ.จะออกมาขู่แล้วขู่อีก แต่เธอก็มีวิธีเข้าไปชุมนุมในม็อบได้เกือบทุกคืน เพราะฉะนั้นถึงครูหยุยจะปรารถนาดีต่อเด็ก ผู้หญิงและคนชราแล้วก็ตาม แต่เธอไม่เกรงกลัวจะเกิดอันตราย ถือว่าบทบาทของผู้หญิงในยุคนี้ที่กล้าหาญชาญชัยจริงๆ รวมทั้งนักข่าวสาวภาคสนามทั้งหลายด้วย ฉะนั้นผมถึงไม่อยากให้ใช้ความรุนแรงกับม็อบทุกสีที่มีผู้หญิงอยู่เยอะล่ะครับ
     ต่อไปต้องมีการปฏิรูปกันครั้งใหญ่ เลิกเสียทีเถอะครับกับม็อบมาราธอน สู้กันในกติกาอย่างอเมริกาเลือกตั้งใครชนะ ก็ปล่อยให้บริหารกันครบเทอม แม้จะไม่พอใจประธานาธิบดีของตัวเองที่นำชาวอเมริกันเข้าสู่สงครามอิรัก จนพลเมืองชาวสหรัฐล้มตาย เพราะผลประโยชน์ทับซ้อนเรื่องบ่อน้ำมัน ก็ไม่เห็นชาวอเมริกันประท้วง จนถึงกับปิดถนน ยึดทำเนียบฯ ยึดสนามบิน เหมือนกับเราที่ทำกัน และต้องเลิกเสียทีกับมือที่มองไม่เห็น เลิก 2 มาตรฐานได้ทีขี่แพะไล่ ไม่เช่นนั้นบ้านเมืองก็จะลุกเป็นไฟไม่สิ้นสุด สะใจกันหรือยังครับพวกหัวหงอกที่ยังไม่ยอมตายกันทั้งหลาย ฮิฮิ..
     ทั้งนักข่าวแตงโม เอ้ย! บอกผิด นักข่าวสตรอเบอรี่ และนักข่าวกล้วยไข่ กล้วยหอมต่างค่ายกันทั้งหลาย โปรดช่วยสื่อสารนำความสงบสู่สังคมไทยกันเถิดครับ อย่าสร้างความโกรธแค้นต่อกันจนถึงกับมีการเผาสำนักพิมพ์หรืออย่างช่อง 3 กันอีกเลย เพราะตอนนี้คนป่วยด้วยโรคจิตมันมีเยอะ
     ส่วนนายกรัฐมนตรีถ้าเปลี่ยนได้ ผมขอเปลี่ยนเป็นท่าน ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ ผู้ว่าฯ กทม. มาเป็นแทน อยากได้บุคคลที่สุขุมตามชื่อมาดูแลในยุคคนไทยแตกแยก ส่วนนายกฯ มาร์คให้ไปเป็นผู้ว่าฯ ใน 3 จังหวัดภาคใต้แทน ฮิฮิ..
     เพราะท่านหม่อมสุขุมพันธุ์ก็ได้เตือนล่วงหน้าแล้ว อย่าได้สลายม็อบราชประสงค์เป็นอันขาด มิฉะนั้นแถวนั้นจะราบเป็นหน้ากลอง แล้วเป็นไงทหารที่เข้าไปสลาย โดน M 79 จนแขนขาดสยดสยอง และมีผู้ล้มตายเป็นจำนวนมาก ก็เคยบอกแล้วมันไม่มีเรื่องก็อย่าให้มีเรื่อง
     ก็ลาไปด้วยเพลง "บวชหน้าไฟ" ของคุณแอ๊ด คาราบาว ในท่อนจบที่ว่า "ฉันไม่เข้าใจ โกนหัวเข้าบวชหน้าไฟ เพราะความไม่เข้าใจ เอาไว้ไปถามพระธรรม" (มีเสียงสวดพระประกอบดนตรีส่งท้าย)
                                                       ขอแสดงความนับถือ
                                                         นายผีตองเหลือง
ตอบ คุณผีตองเหลือง
     สรุปว่าที่เกิดเรื่องเสียหายร้ายแรง เพราะทุกฝ่ายไม่เชื่อคุณผีตองเหลือง ถ้าเชื่อป่านนี้ม็อบก็ยังคงยืดเยื้ออยู่ที่สี่แยกราชประสงค์
                                                         สามวา สองศอก   


หัวข้อ: Re: [2513]"ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: เหยง 16 ที่ 27 พฤษภาคม 2553, 11:56:10
ฟังนักวิชาการชาวอเมริกันบอกให้คนไทยช่วยกันแก้ไขปัญหาอื่น ดีกว่าหมกมุ่นกับ "ปีศาจทักษิณ"

วันที่ 26 พฤษภาคม พ.ศ. 2553 เวลา 23:46:00 น.  มติชนออนไลน์
นักวิชาการอเมริกันเสนอไทยหยุดหมกมุ่นแค่ "ปีศาจทักษิณ" แนะควรแก้ปัญหาอื่นที่ก่อให้เกิดความขัดแย้งด้วย

นักมานุษยวิทยาอเมริกันแนะไทย อย่าหมกมุ่นกับ "ปีศาจทักษิณ" จนไม่ยอมแก้ปัญหาอื่น ชี้กองกำลังเสื้อแดงเกิดจากวิกฤตเศรษฐกิจโลก ขณะที่ปัญหา "ชนชั้น" และ "ชาติพันธุ์-ภูมิภาค" ก็ฝังรากลึก

"ชาร์ลส์ คายส์" ศาสตราจารย์เกียรติคุณทางด้านมานุษยวิทยาและนานาชาติศึกษา แห่งมหาวิทยาลัยวอชิงตัน ประเทศสหรัฐอเมริกา ที่ทำการศึกษาเรื่องเมืองไทย โดยเฉพาะประเด็นเรื่องชาวบ้านในภาคตะวันออกเฉียงเหนือมาอย่างยาวนาน ได้เขียนบทความชื่อ "ดีลลิ่ง วิธ ′เดอะ เดวิล′, เดอะ เร้ดส์ แอนด์ ลุคกิ้ง วิธอิน" (ความสัมพันธ์กับ "ปีศาจ", คนเสื้อแดง และการมองย้อนกลับเข้ามาภายใน) ลงในหนังสือพิมพ์บางกอกโพสต์ฉบับวันที่ 26 พฤษภาคม มติชนออนไลน์ เห็นว่าบทความดังกล่าวมีเนื้อหาน่าสนใจเป็นอย่างมาก จึงขออนุญาตสรุปความและนำมาเผยแพร่ดังต่อไปนี้

การก่อร่างสร้างปีศาจ

เหตุการณ์ปะทะกันระหว่างทหารกับกลุ่มคนเสื้อแดงที่กรุงเทพมหานคร จนนำมาสู่การเผาอาคารทางธุรกิจที่มีความสำคัญหลายแห่งโดยผู้ชุมนุม ส่งผลให้ชาวกทม.จำนวนมาก และผู้สนับสนุนนายกรัฐมนตรีอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ทั่วประเทศ ต่างชี้นิ้วว่าตัวการที่ก่อให้เกิดเหตุการณ์โศกนาฏกรรมในช่วงเดือนเมษายน-พฤษภาคมที่ผ่านมา ก็คือ คนเพียงคนเดียว ซึ่งเป็นอดีตนายกรัฐมนตรีนามว่า ทักษิณ ชินวัตร

ในสายตาคนเหล่านั้น ทักษิณกลายเป็นปีศาจที่มีตัวตน ผู้ก่อให้เกิดความโชคร้ายและปัญหาสังคมต่าง ๆ นานา พวกเขาเชื่อว่าหากอดีตผู้นำประเทศรายนี้ถูกเขี่ยพ้นออกไปจากการเมืองไทย สังคมไทยก็จะกลับคืนสู่ความสงบและความสามัคคี

แน่นอนว่าทักษิณได้ใช้ความร่ำรวยและอิทธิพลของตนเองในการสนับสนุนการชุมนุมทั้งที่สันติและรุนแรงของกลุ่มคนเสื้อแดง แต่หากรัฐบาลอภิสิทธิ์และคนอื่น ๆ ที่จะมีส่วนร่วมในนโยบายปรองดองแห่งชาติ ยังคงเห็นว่าทักษิณเป็นเพียงตัวการเดียวของปัญหาความขัดแย้งที่เกิดขึ้น พวกเขาก็จะประสบกับความผิดพลาดในเชิงยุทธวิธี และหนทางสู่ความปรองดองก็จะประสบกับทางตัน ขณะที่ความขัดแย้งในสังคมก็จะยังดำเนินต่อไป

สาเหตุอื่น ๆ ของความขัดแย้งในสังคมไทย

วิกฤตเศรษฐกิจโลกส่งผลเสียอย่างหนักต่อภาคตะวันออกเฉียงเหนือ (อีสาน) ของไทย เพราะในปัจจุบัน ครัวเรือนของชาวอีสานต้องพึ่งพิงรายได้ที่ส่งมาจากสมาชิกของครอบครัวซึ่งประกอบอาชีพในภาคอุตสาหกรรมและภาคบริการ มีแรงงานชายจากภาคอีสานนับแสนคนออกไปรับจ้างทำงานในต่างประเทศ

วิกฤตเศรษฐกิจโลกที่เกิดขึ้นตั้งแต่ปี 2550 จึงส่งผลเสียหายอย่างหนักต่อครอบครัวของชาวบ้านในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ซึ่งปัจจุบัน สมาชิกจำนวนมากของครอบครัวเหล่านี้ โดยเฉพาะกลุ่มเด็กหนุ่ม ได้กลายเป็นประชากรที่ตกงาน เด็กหนุ่มกลุ่มใหญ่กลุ่มนี้นี่เอง ที่เป็นทรัพยากรสำคัญของกลุ่มกองกำลังคนเสื้อแดง ซึ่งมีส่วนจุดไฟเผาอาคารสำคัญในกรุงเทพฯและต่างจังหวัด รวมทั้งยังกล้าเผชิญหน้ากับกองกำลังของรัฐบาล

ดูเหมือนรัฐบาลอภิสิทธิ์จะไม่ได้ตระหนักถึงกลุ่มเด็กหนุ่มเหล่านี้ ส่วนหนึ่งอาจเป็นเพราะพวกเขาคือกลุ่มคนว่างงานในภาคส่วนเศรษฐกิจที่ไม่เป็นทางการ ดังนั้น พวกเขาจึงไร้ตัวตนจากการเก็บสถิติของรัฐ แต่หากรัฐบาลไทยไม่แก้ปัญหาทางด้านเศรษฐกิจให้แก่คนกลุ่มนี้ ความเกลียดชังและความไม่พอใจของพวกเขาก็จะดำเนินต่อไป ไม่ว่าจะได้รับการสนับสนุนจากทักษิณหรือไม่ก็ตาม

สาเหตุสำคัญของความขัดแย้งในสังคมไทยประการต่อก็คือ ความแตกแยกอย่างลึกซึ้งในสังคม อันเกิดจากเส้นแบ่งในเรื่องชนชั้นและชาติพันธุ์-ภูมิภาค กลุ่มคนเสื้อแดงมีอยู่อย่างหนาแน่นในภาคอีสานและภาคเหนือ เพราะคนเหล่านี้ตระหนักว่าตนเองถูกใส่ร้ายป้ายสีตลอดมาจากเหล่าคนชั้นกลาง โดยเฉพาะอย่างยิ่งในกรุงเทพฯ

การใส่ร้ายป้ายสีดังกล่าวมีรากเหง้าทางประวัติศาสตร์ที่ยาวนาน คนในภาคอีสานและเหนือมักถูกมองจากคนไทยในส่วนกลางว่าเป็น "ลาว" เมื่อครั้งที่พวกเขาเพิ่งถูกควบรวมเข้ามาใน "รัฐ-ชาติ"  ไทย แม้ว่าต่อมานโยบายการศึกษาและสื่อสารมวลชนที่มีฐานอยู่ในกรุงเทพฯ จะบ่งชี้ว่าคนจากภูมิภาคเหล่านี้เป็น "ไทย" ทว่าภาพลักษณ์ด้านลบอันเก่าแก่ที่เห็นว่าคนเหนือและอีสานมี "ความเป็นไทย" น้อยกว่าคนกรุงเทพฯ ก็ยังคงดำรงอยู่มาจนถึงปัจจุบัน

ภาพลักษณ์ด้านลบ โดยเฉพาะอย่างยิ่งภาพด้านลบของคนอีสาน ปรากฏอยู่อย่างสม่ำเสมอในภาพยนตร์และละครโทรทัศน์ไทย ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา คนอีสานถูกใส่ร้ายป้ายสีครั้งแล้วครั้งเล่าโดยสถานีโทรทัศน์ผ่านดาวเทียมซึ่งฝักใฝ่การเมืองสีหนึ่ง, หนังสือพิมพ์ในกทม. และเว็บล็อกตลอดจนเฟซบุ๊กจำนวนมาก ว่าพวกเขาโง่เหมือน "ควาย" เป็นต้น  ความคิดจำนวนมากที่ถูกนำเสนอในสื่อยังเชื่อว่าชาวบ้านเหล่านี้เข้าไม่ถึงข้อมูลข่าวสาร และไม่ตระหนักว่าตนเองกำลังโดนดูถูกเหยียดหยาม

แต่ความจริงที่เกิดขึ้นก็คือ ชาวบ้านเหล่านี้ตระหนักว่าตนเองกำลังถูกใส่ร้ายป้ายสี และภาวะที่เกิดขึ้นอย่างต่อเนื่องดังกล่าวได้กลายเป็นปัจจัยหลักสำคัญประการหนึ่งของความขัดแย้งในสังคมไทย

ขณะที่รัฐบาลอภิสิทธิ์พยายามไล่ปิดสถานีวิทยุชุมชนและเว็บไซต์ที่สนับสนุนกลุ่มคนเสื้อแดง โดยให้เหตุผลว่าสื่อเหล่านั้นยั่วยุให้เกิดความรุนแรงและความเกลียดชัง แต่รัฐบาลกลับไม่เข้าไปควบคุมสถานีโทรทัศน์ผ่านดาวเทียมบางช่อง และสื่ออื่น ๆ ที่เร่ขายความเกลียดชังต่อคนบางกลุ่ม ตั้งแต่ คนเสื้อแดง คนมลายูมุสลิมในจังหวัดชายแดนภาคใต้ รวมทั้งคนเขมรในภาคอีสานและประเทศกัมพูชา

แม้รัฐบาลจะไม่สามารถและไม่ควรจะพยายามเข้าไปควบคุมเนื้อหาของสื่อ แต่รัฐบาลสามารถดำเนินคดีกับสื่อทั้งสองฝ่ายที่ยั่วยุให้ผู้คนเกลียดชังกันได้ นอกจากนี้รัฐบาลยังสามารถสร้างนโยบายการลงโทษทางสังคมผ่านการส่งเสริมสนับสนุนสื่อคุณภาพที่มีความเป็นอิสระ และคว่ำบาตรสื่อของกลุ่มการเมืองใดก็ตามที่ยังคงมีส่วนทำให้ความแตกแยกระหว่างคนไทยแพร่กระจายออกไปมากขึ้น นอกจากนี้ รัฐบาลยังควรระมัดระวังและหลีกเลี่ยงที่จะใช้ถ้อยคำซึ่งมีส่วนในการยั่วยุอารมณ์เสียเอง เช่น คำว่า "ผู้ก่อการร้าย" เป็นต้น

"หมดเวลา"

คนในภาครัฐบาลและส่วนอื่น ๆ ที่จะมีเข้ามาเกี่ยวข้องกับนโยบายปรองดองแห่งชาติต้องการรับความช่วยเหลือจากทุกฝ่าย เท่าที่พวกเขาจะสามารถรับได้ เพราะเมื่อกระสุนปืนถูกยิงออกไป ประเทศไทยก็ย่อมตกอยู่ในภาวะระอุคุกรุ่นอย่างมิอาจหลีกเลี่ยงได้

ชาวกรุงเทพฯจำนวนมากรู้สึกโกรธแค้นเดือดดาลกับบาดแผลที่เกิดขึ้นกับนครหลวงของพวกตนในช่วง 2 เดือนกว่าที่ผ่านมา พวกเขาเรียกร้องให้มีการลงโทษผู้มีส่วนรับผิดชอบโดยตรงต่อความเสียหายที่เกิดขึ้น รวมทั้งผู้มีส่วนร่วมสนับสนุนการกระทำดังกล่าว ขณะเดียวกัน กลุ่มคนเสื้อแดงก็มีความโกรธเคืองที่ถูกเก็บงำไว้อย่างลึกซึ้ง เกี่ยวกับความตายและการได้รับบาดเจ็บของเพื่อนตลอดจนญาติพี่น้องของพวกเขา จนนำไปสู่การเรียกร้องให้มีการแก้แค้น

ในสภาวะเช่นนี้ หลักธรรมทางพุทธศาสนาที่สอนให้คนรู้จักระงับความโกรธได้สูญหายไปจากสังคมไทย  และจะยิ่งอันตรายมากขึ้น ถ้าคนไทยบางส่วนเลือกเดินไปบนเส้นทางเดียวกับกลุ่ม "เขมรแดง" ซึ่งบิดเบือนอุดมคติทางพุทธศาสนาเรื่องการตัดทอนกิเลสตัณหา ให้กลายเป็นการขาดแคลนอารมณ์ความรู้สึกอันน่าหวาดกลัว เมื่ออุดมคติดังกล่าวถูกนำไปพัวพันกับปฏิบัติการแห่งความรุนแรง

จึงจำเป็นอย่างยิ่งที่คนไทยจะต้องกลับไปรื้อฟื้นหลักธรรมทางพุทธศาสนาที่สอนให้เรารู้จักข่มระงับกิเลสตัณหาอันเร่าร้อนของตนเอง

จึง "หมดเวลา" ที่คนไทยจะยังคงแตกแยกกัน กระทั่งเกิดแผลกลัดหนองอยู่ภายในตัวตน

แม้ผู้นำของกลุ่มการเมืองคู่ขัดแย้งในประเทศไทย ซึ่งแสวงหาแต่บทลงโทษและการแก้แค้น อาจจะเห็นต่างกับข้อเสนอนี้ แต่เราสามารถคาดหวังได้ว่าคนไทยส่วนใหญ่จะให้ความสนใจต่อเสียงร่ำไห้ที่ดังออกมาจากหัวใจของผู้คน แล้วหันเหตนเองไปสู้การทำงานอย่างค่อยเป็นค่อยไปและเต็มไปด้วยความอดทน เพื่อจะแก้ไขสาเหตุต่าง ๆ แห่งความขัดแย้งของประเทศ ซึ่งถูกนำไปใช้หาประโยชน์ใส่ตัวโดยเหล่าผู้นำที่ประพฤติตนผิดศีลธรรมหรือไร้ศีลธรรม

http://www.matichon.co.th/news_detail.php?newsid=1274880904&grpid=00&catid=


หัวข้อ: Re: [2513]"ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: prapasri AH ที่ 27 พฤษภาคม 2553, 13:24:40
คลายเครียดค่ะ

เพื่อนทหาร วปอ.ส่มาให้ ค่ะ

ชื่อว่า  เหตุที่ทหารต้องยอมแพ้

(http://www.cmadong.com/imageupload/2010_Cmadong-Image/data/image/l32f4e-64bcb2.jpg)


หัวข้อ: Re: [2513]"ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: prapasri AH ที่ 27 พฤษภาคม 2553, 13:27:31
นี่ก็เพือน วปอ.ส่งมาค่ะ

ความจริงที่ได้รับรู้จากปากพ่อหลวง ได้รับฟังเรื่องราวบางส่วนจากแพทย์ผู้ที่รับใช้ใกล้ชิด ได้เล่าให้ฟังว่า ภาพที่พ่อนั่งเหม่อลอยอยู่ริมแม่น้ำเจ้าพระยาเป็นเวลานานเหมือนจะ ร้องไห้นั้น คนบางกลุ่มนำมาพูดกันในทางที่ไม่ดีว่าพ่อมีปัญหากันกับแม่ ที่จริงแล้วพ่อเสียใจเรื่องของคนไทยที่กำลังแตกแยกกัน ทะเลาะกันอย่างมาก ณ ที่ตรงนั้นกับเวลาที่ยาวนาน พ่อพูดออกมาประโยคเดียวว่า เราไปทำอะไรให้เขาเจ็บช้ำ หรือ คนไทยเหล่านั้นถึงได้ โกรธ/เกลียดเราขนาดนี้ ผู้อยู่ใกล้ชิดพ่อน้ำตาไหลพรากเพราะสงสารพ่อที่ทำทุกอย่างทั้งชีวิตพ่อเพื่อ คนไทยมาตลอด พ่อที่ไม่เคยคิดทำร้ายคนไทยแม้แต่น้อยแต่สิ่งที่พ่อได้รับจากคนไทยกลุ่มนั้นมันคืออะไร วันที่พ่อออกจากโรงพยาบาลในเวลากลางคืนเพื่อกลับบ้าน ก็มีข่าวออกม าในทางที่ไม่ดี คุณหมอก็เล่าให้ฟังว่า ข่าวนั่้นไม่ใช่ความจริงแม้แต่น้อย คุณหมอเล่าว่าความจริงแล้วพ่อไปเยี่ยมแม่ที่มีอาการผิดปกติของการเต้นของ หัวใจ พ่อจับมือแม่ไว้เพื่อเป็นกำลังใจให้กันและกัน แล้วพ่อก็กลับมาพักที่โรงพยาบาลเพราะพ่อเองก็ไม่สบาย อีกเรื่องที่เพิ่งจะเคยรับรู้ซึ่งไม่เคยรู้มาก่อนเลยว่า การที่ประชาชนถวายผ้าไหมทอให้แม่ ยามที่แม่ไปเยี่ยมเยื่อนลุกๆของท่าน แม่ก็จะให้ผู้ใกล้ชิดนำเงินไปมอบให้ผู้ที่ถวายผ้าทอให้แม่ทุกครั้ง คนละไม่ต่ำกว่า 15,000 บาทต่อผืน คนใกล้ชิดถามแม่ว่า แล้วจะได้กำไรอะไร นำไปขายก็ไม่ได้ราคาเท่านี้ แม่ตอบว่าเงินที่มอบให้นี้ยังน้อยไปเสียอีก หากเทียบกับการที่ได้ส่งเสริมศิลปวัฒนธรรมและรักษาฝีมือทอผ้าของคนไทยให้คงอยู่ เงินจำนวนนี้อาจเลี้ยงครอบครัวเขาทั้งครอบครัวได้ทั้งปีอีกด้วย คนไทยเราเห็นแต่ภาพตอนประชาชนถวายแต่ไม่เคยเห็นตอนที่ท่านมอบตอบ ไม่ว่าคนไทยจะแตกแยกกันอย่างไร คิดต่างเห็นต่าง ก็อย่านำท่านทั้งสองมาเกี่ยวด้วยเลยนะ เพราะท่านให้สิ่งดีงามกับคนไทยมาตลอดชีวิต สงสารพ่อจัง สุดรัก สุดบูชา  


หัวข้อ: Re: [2513]"ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: prapasri AH ที่ 27 พฤษภาคม 2553, 13:34:11
(http://www.cmadong.com/imageupload/2010_Cmadong-Image/data/image/l32fkk-488bed.jpg)


หัวข้อ: Re: [2513]"ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: เหยง 16 ที่ 27 พฤษภาคม 2553, 16:45:18
สำหรับบรรดาแม่ยก และแฟนคลับ

http://www.youtube.com/watch?v=6uR6IYm3iZk

อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่
http://www.matichon.co.th/news_detail.php?newsid=1274949046&grpid=01&catid=


หัวข้อ: Re: [2513]"ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: pusadee sitthiphong ที่ 27 พฤษภาคม 2553, 23:35:22
สวัสดีค่ะพี่แอ๊ะ
คุณเหยง
แล้วเปิดกาเป๋าคุณเหยงมีไรมั่ง อิๆ


หัวข้อ: Re: [2513]"ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: ดร.มนตรี ที่ 28 พฤษภาคม 2553, 07:02:27
เพื่อนส่งมาให้ ครับ  ... น่าจะงานเดียวกับพี่แอ๊ะ ^__^

(http://www.cmadong.com/imageupload/2010_Cmadong-Image/data/image/l33s3d-b064ff.jpg)


หัวข้อ: Re: [2513]"ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: prapasri AH ที่ 28 พฤษภาคม 2553, 07:08:54
ใช่ค่ะ น้องดร.มนตรี รูปนี้ มีนายแพทย สสจ และภรรยา เเละภรรยาท่านผู้พิพากษาหัวหน้าศาล

เค้าไปถ่ายรูป กัน ส่วนพี่แอ๊ะไปนั่งอีกที่หนึ่ง เอางานเอกสารไปทำ ช่วงระหว่างรอ

และเดินมากไม่ได้เพราะใส่รองเท้าส้นสูงอ่ะ

ไม่มีเเรงเดิน....และไม่ได้ถ่านรูปเอง ต้องรอรูป ที่เขาถ่ายให้

เพราะกล้องที่เอาไป เเบตหมดค่ะ

อ๊าววววววว มีเพื่อนเป็นคน ยโสด้วยหรือคะ

คนยโสมีน้อย รู้จักกันเกือบหมด

ไม่ยักกะรู้ว่าน้องมีเพื่อนอยู่นโส โม้เรื่องยโสไปเยอะ ชักอายยยยยยยยยยย


อ้างถึง
ข้อความของ ดร.มนตรี เมื่อ 28 พฤษภาคม 2553, 07:02:27
เพื่อนส่งมาให้ ครับ  ... น่าจะงานเดียวกับพี่แอ๊ะ ^__^

(http://www.cmadong.com/imageupload/2010_Cmadong-Image/data/image/l33s3d-b064ff.jpg)


หัวข้อ: Re: [2513]"ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: swsm ที่ 28 พฤษภาคม 2553, 10:41:28
emo9:huhu:

.. Bangkok Restoration : Together We Can ..

How could you stop loving Thai people
I'm so proud to be born a Thai.


http://www.youtube.com/watch?v=DrzJ7apcGso


หัวข้อ: Re: [2513]"ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: ดร.มนตรี ที่ 28 พฤษภาคม 2553, 13:23:57
ชอบอ่านเรื่องที่พี่แอ๊ะเล่านะครับ มีแต่กิจกรรมดีๆ ที่ทำให้กับสังคมทั้งนั้น  เป็นความภูมิใจของน้องๆ ไม่เห็นต้องเขิลลลลลล    emo43

อ้างถึง
ข้อความของ prapasri AH เมื่อ 28 พฤษภาคม 2553, 07:08:54
ใช่ค่ะ น้องดร.มนตรี รูปนี้ มีนายแพทย สสจ และภรรยา เเละภรรยาท่านผู้พิพากษาหัวหน้าศาล

เค้าไปถ่ายรูป กัน ส่วนพี่แอ๊ะไปนั่งอีกที่หนึ่ง เอางานเอกสารไปทำ ช่วงระหว่างรอ

และเดินมากไม่ได้เพราะใส่รองเท้าส้นสูงอ่ะ

ไม่มีเเรงเดิน....และไม่ได้ถ่านรูปเอง ต้องรอรูป ที่เขาถ่ายให้

เพราะกล้องที่เอาไป เเบตหมดค่ะ

อ๊าววววววว มีเพื่อนเป็นคน ยโสด้วยหรือคะ

คนยโสมีน้อย รู้จักกันเกือบหมด

ไม่ยักกะรู้ว่าน้องมีเพื่อนอยู่นโส โม้เรื่องยโสไปเยอะ ชักอายยยยยยยยยยย


อ้างถึง
ข้อความของ ดร.มนตรี เมื่อ 28 พฤษภาคม 2553, 07:02:27
เพื่อนส่งมาให้ ครับ  ... น่าจะงานเดียวกับพี่แอ๊ะ ^__^

(http://www.cmadong.com/imageupload/2010_Cmadong-Image/data/image/l33s3d-b064ff.jpg)



หัวข้อ: Re: [2513]"ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: เหยง 16 ที่ 28 พฤษภาคม 2553, 18:27:47
คอลัมม์ "คนปลายซอย" ของคุณเปลว สีเงิน วันวิสาขบูชา ศุกร์ที่ 28 พฤษภาคม 2553 ครับ

วิสาขบูชา "วันใจใส" ไทยสู่สังคมใหม่
เปลว สีเงิน 28 พฤษภาคม 2553 - 00:00

     วันนี้-วันวิสาขบูชา ศุกร์ที่ ๒๘ พฤษภาคม ๒๕๕๓ ตรงกับวันขึ้น ๑๕ ค่ำ เดือน ๗  ปีขาล "จันทร์เพ็ญปุรณมี" และที่ต้องขอบอกเป็นพิเศษ "ดาวอังคาร" ท.ทหารอดทน ที่หลับใหล ไม่เอางานเอาการ "สิ้นสภาพ" หยุดนิ่งอยู่ที่ราศีกรกฎมาเป็นเวลาร่วมปี บัดนี้พลิกฟื้นคืนสติสัมปชัญญะ  รู้ชั่ว-รู้ดี, รู้ผิด-รู้ถูก ที่สำคัญ "รู้หน้าที่" แห่งตนพึงกระทำต่อสถาบันบ้านเมืองเต็มพิกัดตั้งแต่เย็นวันพุธที่ ๒๖ พ.ค.เรื่อยมาแล้ว!
     ฉะนั้น พวกเรา-เหล่าราษฎรเต็มขั้น "สบายใจ" ได้ครับ ไม่ต้องห่วงเรื่องกบฏทักษิณจะก่อการใต้ดิน-บนดิน ต่อให้ขึ้นไปซ่องสุมอยู่เหนือหล้า-สุดบาดาล ก็ไม่ต้องไปกลัว เพราะต่อจากนี้......"ทหารเอามึงแน่"
     เคอร์ฟิวกรุงเทพฯ และอีกหลายจังหวัดในเหนือ-อีสานมาร่วมครึ่งเดือนแล้ว ในความเห็นผม "เลิกเคอร์ฟิว" ดูการเคลื่อนไหว "ในภาวะปกติ" ซักระยะก่อนดีกว่า จะได้หาค่าสมการทั้ง ๒ ด้านได้ใกล้เคียงกับความเป็นจริง
     "คืนพื้นที่" ๒๔ ชั่วโมง ให้ชาวบ้านเขาเถอะ!
     และรัฐบาลควรจัดลำดับความสำคัญระหว่างการพูดรายวัน กับการทำสู่แผนปรองดองให้ชัดเจน เรื่องที่ควรทำให้สังคมลืม เพื่อคลายโกรธ คลายพยาบาท และละลายความเจ็บปวดในใจ รัฐบาลก็ควรทำด้วยการพยายามไม่ยกเรื่องนั้นๆ มาย้ำแผลแตก เช่น เรื่องทักษิณ เรื่องนำภาพบัดซบใน ๑๙ พฤษภา มาตอกย้ำ ซ้ำแล้ว-ซ้ำเล่า
     ยกเรื่องสร้างสรรค์ดีงาม ยกเรื่องอนาคตสดใสที่พวกเรา-คนไทยทุกคนจะต้องก้าวเดินไปข้างหน้าด้วยกันมาเป็น "ความหวังใหม่" ดีกว่า ว่าแต่ว่ารัฐบาลมี "พิมพ์เขียวอนาคต" เป็นเป้าหมาย-นโยบายอะไร นอกจาก "เก็บซากทุกข์" มาขายในตลาดการเมืองรายวันมั้ยล่ะ?
     สิ่งสูญเสียแต่หนหลังนั้น ผมว่า "ระดับผู้นำรัฐ" เพียงมอบนโยบาย และควบคุม-ดูแลให้ผู้มีหน้าที่จัดการ ให้เขาจัดการให้เป็นไปตามกระบวนการของมัน อะไรที่ต้องพูด ต้องอธิบาย ก็ให้ผู้มีอำนาจหน้าที่ในกระบวนการนั้นๆ เขาพูดกันเอง ไม่ต้องถึงกระบี่มือหนึ่งไปทุกเรื่องหรอก
     เอาละ...วันนี้ "วันวิสาขะ" คุณลูก-คุณหลานทั้งหลาย กราบคุณพ่อ คุณแม่ คุณปู่ คูณย่า คุณตา คุณยาย สุดแต่ว่าใครจะมีอยู่ในบ้าน แล้วชวนกันไปเวียนเทียนบูชาพระสยัมภู-สุปฏิปันโนตามวัดที่สะดวกเถิดครับ ไม่รู้จะไปไหน ก็ไปที่วัดพระแก้ว หรือที่พุทธมณฑลก็ได้ แต่อย่าลืมเผื่อจิตคิดเป็นบุญฝากผมด้วยละกัน  เพราะผมคงตกคลั่กอยู่ "แดนคนบาป" นี่แหละ
     ก็...ห้องแถวโย้เย้ยั่วไฟ ที่ใครๆ เขาเรียกว่า "โรงพิมพ์ไทยโพสต์" นั่นไง!?
     เมื่อวาน ความเป็นมงคลบังเกิดแก่ผม ราชบัณฑิตท่านหนึ่ง "รศ.ดร.สมศีล ฌานวังศะ" ผู้เป็นปราชญ์ทางอักษรศาสตร์ด้านภาษาและวรรณคดีอังกฤษ ปัจจุบันท่านเป็นอาจารย์อยู่ที่จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยด้วย ท่านกรุณามาเยี่ยม พร้อมทั้งมอบหนังสือให้ ๑ เล่ม
     หน้าปกเขียนว่า "ธรรมะทวิพากย์" พระพรหมคุณาภรณ์ (ป.อ.ปยุตโต) ดร.สมศีล ฌานวังศะ และมีภาษาอังกฤษว่า Dhamma Bilingualized  Bikkhu P.A.Payutto Translated by Dr.Somseen Chanawangsa
     ครับ..บอกตรงๆ ว่าเมื่อรับหนังสือมาดู แปลกปนทึ่ง เพราะไม่บ่อยนักที่จะเห็นพระเดชพระคุณท่านอนุญาตให้ผู้ใดนำงานธรรมของท่านไปพิมพ์ โดยใช้ชื่อผู้อื่นผสมเข้าไปในงานของท่านด้วย จนเมื่อพลิกดูข้างใน ก็พบคำอนุโมทนาของ "พระพรหมคุณาภรณ์" ซึ่งพระเดชพระคุณท่านเขียนละเอียดจนอดที่จะปลาบปลื้มแทนผู้ได้รับเสียมิได้ นั่นจึงค่อยเข้าใจอะไรมากขึ้น
     "งานของ ดร.สมศีลมิใช่เป็นแค่งานแปลภาษาอังกฤษเท่านั้น แต่เป็นงานของนักภาษาศาสตร์ ดังที่ไม่เพียงทำคำแปล แถมยังได้ทำคำชี้แจงอธิบายให้ความรู้เชิงภาษาศาสตร์คู่เคียงไปกับการแปลด้วย แต่มองอีกแง่หนึ่ง ก็กลายเป็นเหตุให้ ดร.สมศีลต้องทำงานหนักซ้อนขึ้นมาอีกชั้นหนึ่ง
     แม้หากมองเพียงเฉพาะในแง่ของการแปลภาษา ก็เห็นได้ว่า ผู้แปลท่านนี้ทำงานที่ทำได้ยาก นอกจากภาษาเกี่ยวกับพระธรรมวินัยจะเป็นที่รู้กันหรือถือกันว่ายาก แปลให้ตรงให้ชัดได้ลำบากแล้ว โดยคุณสมบัติของผู้แปลเองต้องพูดว่า ดร.สมศีล ฌานวังศะ เป็นบุคคลที่เคร่งครัดในหลักและความถูกต้อง มีความละเอียดลออและจริงจังในการทวนถาม สืบค้น ตรวจสอบหลักฐาน และเข้าถึงแหล่งความรู้ โดยย้อนไปถึงต้นทางของเจ้าของภาษา โยงมาจนถึงความสำเร็จแห่งผลเบื้องปลาย คือความเข้าใจถูกต้องชัดเจนของผู้อ่านผู้ฟัง จึงเป็นการทำงานที่ยากและหนักซ้อนเป็นสองชั้น แต่อันนี้แหละคือ วิถีทางแห่งความเป็นเลิศทางวิชาการ............."
     ครับ..ผมอ่านคำอนุโมทนาของพระพรหมคุณาภรณ์แล้วจึงเห็นภาพในความเป็น ดร.สมศีลต่อเนื่องด้วยความเข้าใจชัดยิ่งขึ้น จากการสนทนาทำให้ทราบว่า ท่านคือผู้มีส่วนสำคัญในการนำงานนิพนธ์ธรรมของพระเดชพระคุณท่านหลายเล่มแปลจากภาษาไทยเป็นภาษาอังกฤษสู่ชาวโลก
     และ "ธรรมะทวิพากย์" นี้ ดร.สมศีลได้รับเมตตาอนุญาตให้นำ "พระไตรปิฎก : สิ่งที่ชาวพุทธต้องรู้" กับ "วินัยชาวพุทธ" แปลเป็นภาษาอังกฤษ พร้อมทั้งจัดทำเป็น "ฉบับ ๒ ภาษา" ในหนังสือสือนี้มีทั้งหมด ๔ ภาค  เป็น ๒ ภาษาทั้งสิ้น
     ที่น่ายินดีคือ ท่านแปลประกบชนิด "หน้าต่อหน้า" ซึ่งการแปลเช่นนี้ ลำพังแค่ใครรู้จักเอาคำไทยเทียบเป็นอังกฤษ เอาคำอังกฤษเทียบเป็นไทย ถึงทำได้ แต่ผิดเพี้ยนสูงมาก ต้องรู้-ด้วยปฏิบัติจน "เข้าถึง" ในข้อธรรมนั้น จึงจะสามารถถ่ายทอด "เนื้อธรรม" ได้ตรงตามศัพท์ธรรม
     ความมหัศจรรย์ในธรรมศรัทธาแห่งท่าน อยู่ตรงนี้!!
     ความสูงส่งทั้งด้านอักษรศาสตร์ และด้านจิตเข้าถึงตรงนี้แหละ จึงได้รับความเมตตาจากพระพรหมคุณาภรณ์ด้วย "ไว้วางใจ" ใน ดร.สมศีลนำนิพนธ์ธรรมของท่านมาแปลเป็น ๒ ภาษา และพิมพ์เป็นรูปเล่มด้วยกระดาษถนอมสายตา เย็บกี่อย่างดีไม่มีหลุด-ไม่มีลุ่ย ผม-ในฐานะคนอยู่กับหนังสือเห็นแล้วบอกได้ว่า ราคาตกอยู่ระหว่าง ๓๐๐-๕๐๐ บาท
     แต่ ดร.สมศีลท่านพิมพ์โดยไม่ประสงค์จำหน่ายครับ ต้องการเผยแผ่ธรรมเป็นวิทยาทานมากกว่า แต่ถ้า "พิมพ์แจก" คนจะมองข้ามคุณค่า บางคนเห็นเป็นของแจกก็รับไป แต่รับไปในลักษณะ "สุนัขกับปลากระป๋อง" ก็จะเปล่าประโยชน์ แต่ถ้าพิมพ์ขาย ก็ต้องราคาสูง คนก็จะเข้าถึงน้อย
     ดังนั้น ท่านเลยตกลงใจสร้างคุณค่าด้วย "ราคา ๑๐๐ บาท"!?
     สำหรับกลุ่มคน "บัวเบิกรับอรุณ" หนังสือ Dhamma Bilingualized นิพนธ์ธรรมของพระพรหมคุณาภรณ์ ในราคา ๑๐๐ บาท ถือเป็นคารวะบูชาในธรรม และในเกียรติแห่งวิชาการท่าน ดร.สมศีล ฉะนั้น ถ้าท่านสนใจ หาซื้อได้ที่ "ศูนย์หนังสือจุฬาฯ" และราชบัณฑิตยสถาน หรือถ้าต้องการเพื่อการศึกษาทั้งธรรม  ทั้งภาษา และทั้งรูปแบบวิชาการแปลอันมีระเบียบแบบแผนมาตรฐาน ตลอดถึงเพื่อนำไปแจกจ่ายทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติ โทร.คุยกับ ดร.สมศีลได้โดยตรงที่เบอร์ ๐-๒๕๐๓-๐๗๐๒ หรือ ๐-๒๕๐๓-๑๒๑๗ หรือ  ๐๘-๑๓๔๕-๐๖๑๖ ทุกวัน-ทุกเวลาครับ
     มาดูความคืบหน้าในกิจบ้าน-งานเมืองกันบ้าง นี่...ก็ ๓ ทุ่มวันพฤหัสฯ ปกติผมชอบดูถ่ายทอดสดการประชุมสภา แต่ช่วงนี้ไม่รู้เป็นไง ถึง ๑๑ ต้องรีบกดรีโมตหนีไปช่องอื่น เหม็นหืน "สถาบันสร้างสรรค์โจร" น่ะ!
     นี่ก็...พ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปี ๒๕๕๔ ด้วยยอด ๒,๐๗๐,๐๐๐ ล้านบาท ผ่านสภา "วาระแรก" ไปเรียบร้อยแล้ว ก็ไปว่ากันต่อในขั้นกรรมาธิการสู่วาระ ๒ และ ๓ เพื่อจะได้เสร็จทันใช้กันตั้งแต่ ๑ ตุลา ตรงตาม "ปีงบประมาณ" ไปเลยทีเดียว แต่ทุกอย่างจะราบเรียบสู่จุดหมายสำเร็จหรือไม่
     วิบากใหญ่ "เรียงเป็นขั้นบันได" ให้รัฐบาลต้องไต่ข้ามอีกร่วม ๕ เดือน!
     ใน ๕ เดือนนี้ ยังมีเรื่องแต่งตั้งโยกย้าย นายทหาร นายตำรวจ และข้าราชการ "ประจำปี" รวมอยู่ด้วย ที่เขม็งเล็งตากันก็ที่ "กองทัพบก" เพราะ ผบ.ทบ." พลเอกอนุพงษ์ เผ่าจินดา ท่านเกษียณ
     หัวขยับคนเดียว ก็ต้องขยับเขยื้อนเลื่อนกันหมดทั้งกองทัพ "พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา" ขึ้นแทนที่ได้หรือไม่ เจ้าของยุทธการ "กระชับพื้นที่" พลโทดาว์พงษ์ รัตนสุวรรณ" รองเสธ.แม่ทัพภาค ๑ "พลโทคณิต สาพิทักษ์" พยัคฆ์บูรพาเหล่านี้จะขึ้นเรียงแถว ๕ เสือ ทบ.สำเร็จหรือไม่?
     ๑ ตุลา ๕๓ คือคำตอบ "อนาคตบ้านเมือง" ผ่านโฉมหน้า "การทหาร" ที่จะต้องมาผสมผสานเป็นสูตร "การทหาร+การเมือง" สู่การปฏิวัติโครงสร้างสังคมชาติอันพิสูจน์แล้ว ประชาธิปไตยที่ลอกฝรั่งมาใช้ นำสังคมไทยไปไม่ถึงฝั่ง
     ถึงเวลาที่ต้องปรับผัง-วางโครงสร้างใหม่เป็น "ประชาสังคมธิปไตย" ในความหมาย "พอเพียง-สามัคคี-มีแบ่งปัน" หลักนี้เท่านั้นจึงจะสามารถ "ปรับสมดุล" ความเหลื่อมล้ำในสังคมเกษตรอันมีคนยาก-คนจนเป็นเปอร์เซ็นต์สูงได้ลงตัว!
     และการสมานฉันท์หรือปรองดองนั้น การจะไปให้ถึงจุดนั้นได้ จะต้องเข้าใจให้ถ่องแท้ตาม "สังคหวัตถุ ๔" คือธรรมเครื่องยึดเหนี่ยวใจคน และประสานหมู่ชนไว้ในสามัคคีด้วยหลักการสงเคราะห์
     โดยเฉพาะในหัวข้อ "สมานัตตตา"!
     สมานัตตตา ในพจนานุกรมพุทธศาสตร์ของพระพรหมคุณาภรณ์ ให้ความหมายไว้ว่า ความมีตนเสมอ คือ ทำตนเสมอต้นเสมอปลาย ปฏิบัติสม่ำเสมอกันในชนทั้งหลาย และเสมอในสุขทุกข์โดยรับรู้ร่วมแก้ไข ตลอดถึงวางตนเหมาะแก่ฐานะ ภาวะ บุคคล เหตุการณ์และสิ่งแวดล้อม ถูกต้องตามธรรมในแต่ละกรณี
     อันคำว่า มัชฌิมปฏิปทา ที่เราเรียกกันว่า ทางสายกลางก็ดี คำว่า โภชเนมัตตัญญุตา ความเป็นผู้รู้จักประมาณในการบริโภคอาหารก็ดี กระทั่งคำว่า ทาน คือการให้ การแบ่งปันก็ดี นั่นล้วนแต่สะท้อนถึง "รากเหง้าไทย" ไม่โลภ พอเพียง เสมอภาค พอประมาณ และเจือจานน้ำใจต่อกัน
     ประชาสังคมธิปไตย โดยนัยนี้เท่านั้นจะนำชาติไทย-คนไทยสู่ความศิวิไลซ์ที่ "คนทั้งโลก" อิจฉา และถวิลถึง!
    ขอให้วิสาขบูชาวันนี้ เป็นวันตั้งสติ "คิดดี-พูดดี-ทำดี" ไปสู่อนาคตสังคมใหม่ "ที่ดี" ร่วมกันทุกท่านเถิด.

http://www.thaipost.net/news/280510/22696


หัวข้อ: Re: [2513]"ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: เหยง 16 ที่ 28 พฤษภาคม 2553, 18:35:50
คอลัมม์ "ถูกทุกข้อ" ของ สามวา สองศอก

ไม้เรียวจากชาวบ้าน
ถูกทุกข้อ 28 พฤษภาคม 2553 - 00:00

เรียน คุณสามวา สองศอก
     เห็นคนไทยคนต่างชาติร่วมมือพร้อมใจกันช่วยทำความสะอาด กทม. ที่พวกทักษิณทำโสมม โสโครกไว้นั้นรู้สึกอย่างไรบ้างครับ แล้วนายประสพสุข นายโคทม โคธา หายหน้าไปไหน?      เวลาทหารตั้งแนวป้องกันสภาฯ จากพวกแดง ท่านประธานฯ ประสพสุขท่านก็ประณามให้ร้ายว่า เขาทำเกินเหตุไม่ให้เกียรติ ส.ส. ส.ว. และสถาบัน ท่านตำหนิรัฐบาล ท่านให้เกียรติพวกเสื้อแดง แล้วพอทหารถอนตัวไป พวกเสื้อแดงบุกเข้าถล่มถึงห้องประชุมสภาฯ จนแตกกระเจิง ท่านรับผิดชอบอะไรไหมครับ
     ต่อมาจัดประชุมวุฒิฯ (ราว 20 คน) ลงมติปรองดองไม่ใช้ความรุนแรง โดยให้รัฐบาลถอนกำลัง แต่ไม่พูดถึงว่าให้เสื้อแดงเลิกชุมนุมแต่อย่างใด ทั้งๆ ที่การชุมนุมใช้ความรุนแรงมามากแล้ว ผิดกฎหมาย ประเทศชาติโดยรวมเสียหายเป็นแสนล้าน โอ! ท่านประธานฯ หน้าจืด
     ส่วนนายโคทม โคธา ก็แบบเดียวกัน ปรองดองไม่ใช้กำลังจัดเขตอภัยทานในวัด ให้เสื้อแดงคนแก่และเด็กเข้าพักเอาแรง ขี้เยี่ยว อาบน้ำ กินอาหารในวัด พอมีแรงก็เดินแถวไปประท้วงใหม่วนเวียนกันไป เท่ากับส่งเสริมการประท้วง ต่อมาฆ่ากันตายในวัดถึง 6 ศพ พบอาวุธและทรัพย์สินที่ขโมยมาจากห้างอีกมากมาย
     มันสมองระดับท่านทั้ง 2 ต้องรู้แน่นอนว่าใครผิดใครถูก และควรจะแก้ไขอย่างไร นอกจากว่าความเห็นแก่ตัวจึงทำให้เบี่ยงเบน แทงกั๊กไว้ก่อน ฝ่ายไหนชนะก็ยังรักษาสถานะของตัวเองไว้ได้ทั้งนั้น ลืมความถูกต้อง ลืมชาติ และก็เป็นอย่างนี้ทั้งนั้น เห็นแก่ตัว เห็นแก่บุตรหลาน วงค์ตระกูล  เพื่อนร่วมรุ่น ร่วมสถาบัน เพื่อจะได้เกื้อหนุนกับตัวเอง และบุตรหลานของตัวเอง ลืมชาติ ลืมสังคมประเทศชาติ
     อย่างสถาบันทหารตำรวจเมื่อก่อนแยกกันเรียน เป็นเตรียมทหารบก เตรียมทหารเรือ ตำรวจ ทหารอากาศ ไม่มีโรงเรียนเตรียม รับตรงจบจาก ม.8 นับรุ่นเชื่อมโยงเป็น Connection กันไม่ติด เป็นพวกเดียวกันไม่ได้ จึงตั้งเตรียมทหารให้เรียนร่วมกัน เชื่อมต่อไปถึงพ่อค้าวาณิช ตอนเรียน วปอ.อีก เป็น 3-4 สถาบันที่แข็งแกร่ง ที่ใครๆ ก็ต้องเกรงกลัว เอาใจ
     ก็เพื่อตัวเองและสถาบันของตัวอีกนั่นแหละ การเงินการงบประมาณจึงคล่องคอในการสร้างสิ่งอำนวยความสะดวกต่างๆ มากมาย เช่น สนามกอล์ฟ สนามกีฬา สโมสร บ้านพักตากอากาศหรูบนหาดส่วนของสถาบัน เขตทหารเขตตำรวจห้ามเข้า นายพลฟรีหรือถูกสุดๆ ลดเปอร์เซ็นต์ให้มากหน่อย
     สำหรับครอบครัวที่เมตตากับประชาชนบ้าง ก็มีของทหารอากาศที่ประจวบฯ ทหารเรือที่สัตหีบ ทหารบกที่ปราณบุรี ลองไล่เรียงไปดูซิครับ ตั้งแต่บางปู (ร้านอาหาร, ครอบครัวทหารลด 10%) จนถึงตราด จากเพชรบุรีจนถึงนราธิวาส
     แล้วสถาบันอื่นก็เอาอย่างบ้าง ปิดหาดยึดเป็นหาดส่วนตัวของสถาบันเฉยเลย ประชาชนเขารู้เขาด่ากันตรึม เช่น ที่หว้ากอเดิมเป็นหาดเปิด ก็ปิดยึดไปเป็นของส่วนตัว สถาบันอื่น เช่น กรมอุทยานฯ ก็เอาด้วย เปรมประชากรหนักเข้าไปอีก
     สำหรับ กฟผ.ที่มีสนามกอล์ฟ ที่พักตากอากาศตามเขื่อนต่างๆ แล้วไม่พอ กะจะยึดหาดบ่อนอกหินกรูดทำเลทอง ดีที่ประชาชนพากันคัดค้านจึงยังไม่สำเร็จ
     ที่น่าเกลียดมากๆ เอาเปรียบเป็นตัวอย่างฝังลึกความเห็นแก่ตัว จนการยืนต่อแถวต่อคิวไม่เกิดขึ้นในสังคมไทยจนบัดนี้ ก็เพราะความเห็นแก่ตัวนี่แหละ คือการสร้างระเบียบ แก้ไขระเบียบให้เป็นประโยชน์แก่สถาบัน แก่คนของสถาบันครอบครัว โดยไม่สนใจประชาชนที่เสียภาษีโดยรวม     เช่น ให้นับอายุราชการ ตั้งแต่เริ่มต้นเข้าศึกษาในสถาบันของตัวเอง แก้ไขให้โรงพยาบาลเบิกค่ายาค่ารักษาพยาบาลตรงจากต้นสังกัด ผู้ป่วยไม่ต้องจ่ายล่วงหน้าไปก่อน เลยสนุกกันใหญ่ หมอตรวจจ่ายยากันไม่อั้น เรียกว่ากินยา ทายา หยอดตากันทั้งครอบครัว ไม่หมดยังเหลือทิ้ง
     มีอีกมากมายที่สร้างระเบียบ แก้ไขระเบียบเพื่อตัวเอง ครอบครัว บุตรหลาน นอกจากอำนวยความสะดวกเพิ่มผลประโยชน์แล้ว ยังป้องกันความผิดไว้เบ็ดเสร็จ ไอ้ที่ถูกฟ้องศาลปกครองงามหน้ากันไปก็หลายรายหลายสถาบัน
     ที่หวังนักการเมืองให้แก้ไขนั้นลืมเสียเถอะ ที่นั่งในสภาหน้าสลอนนั้นเกือบ 100% ก็พันธุ์เห็นแก่ตัวทั้งนั้น ที่เห็นกันจะจะ ผู้ก่อการร้ายชุมนุมโดยผิดกฎหมาย ลักขโมยของห้าง พกอาวุธ กลับปล่อยตัวจัดรถรับส่งถึงบ้าน พร้อมแถมเงินอีก
     ที่บาดเจ็บจากการต่อสู้รักษาฟรีก็น่าจะพอ กลับปล่อยตัวแจกเงินแถมเงินอีก เพราะเห็นแก่ตัวเอาหน้าหาเสียง แทนที่จะจับส่งฟ้องศาลจะได้สำนึกถึงความผิดบ้าง
     หมดหวังวังเวงจริงๆ ที่จะรวมหัวระดมสมองปฏิวัติประเทศไทยนั้นอย่าหวัง ถ้าไม่ขจัดรากเหง้าและตัวอย่างเลวๆ ของความเห็นแก่ตัวพร้อมกันไปด้วย
     ก่อนจบขอแสดงความยินดีกับไทยโพสต์ ที่อยู่ในชุมชนเข้มแข็งไม่เห็นแก่ตัว จึงรอดปลอดภัยและขอให้ปลอดภัยตลอดไป
                                                            นายน่าเบื่อ
ตอบ คุณน่าเบื่อ
     จดหมายฉบับนี้ของคุณคงเขียนด้วยความหงุดหงิด ใครทำอะไรก็ดูขวางหูขวางตาไปหมด ไม่ว่าจะเป็นรัฐบาล ทหาร ตำรวจ นักการเมือง และนักสันติวิธี แต่ก็เป็นการสะท้อนความรู้สึกของชาวบ้าน ที่รู้สึกทนไม่ได้กับคนที่กินเงินภาษีของชาวบ้าน แต่ไม่เคยนึกถึงหัวอกชาวบ้านบ้างเลย   
 
                   แตงโม-มะเขือเทศ
สวัสดีค่ะ คุณ (ไปไหนมา) สามวา สองศอก
     ดิฉันติดตามคอลัมน์ของคุณสามวามานานแล้วค่ะ คุณสามวาตอบคำถามผู้อ่านตรงใจดิฉันมาก เหตุการณ์ที่เกิดในประเทศไทยในขณะนี้ คงทำให้คุณสามวาเศร้าใจไม่น้อยไปกว่าดิฉันและเพื่อนร่วมชาติที่รักชาติกตัญญูต่อแผ่นดินเกิดทุกคน 
     ดิฉันไม่แปลกใจที่ประชาชนรักทหารมากกว่าตำรวจ ถึงแม้ทหารชั้นผู้ใหญ่บางคนจะทำตัวเป็นแตงโมเน่า เป็นหนอนบ่อนไส้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งทหารชรานอกราชการบางคน แต่ก็มีส่วนน้อยมาก ทหารกว่า 99% รักเกียรติ รักศักดิ์ศรี รักชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ ยอมสละชีวิต เลือดเนื้อเพื่อปกป้องชาติบ้านเมือง
     ทุกครั้งที่ประเทศตกอยู่ในวิกฤติ ก็ได้ทหารในพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวนี่แหละที่ปกป้องชาติไว้ได้ ตำรวจที่ดีก็มี แต่ยุคนี้มีน้อยมาก ถ้าเทียบกับตำรวจมะเขือเทศเน่าที่เนรคุณทรยศชาติ มีพฤติกรรมที่ต่ำทรามน่ารังเกียจ ทำให้ภาพลักษณ์ของตำรวจต่ำทรามสุดบรรยาย
     ตำรวจต้องแก้ปัญหาด้วยตำรวจ ตำรวจดีจะต้องกำจัดตำรวจชั่วให้สิ้นซากโดยเร็วที่สุด เพื่อกู้ศรัทธาของประชาชนคืนมา มิฉะนั้นก็ควรยุบสำนักงานตำรวจแห่งชาติ
     คอลัมน์ถูกทุกข้อฉบับวันที่ 19 ก.พ.53 ได้ลงกลอนซึ่งเขียนโดยคุณ ม.ธ.ก.2497 เป็นกลอนที่ยอดเยี่ยมมาก ชื่อ "ชาติทรพี" เขียนเกี่ยวกับนพดลตาส่อน (ชาวปักษ์ใต้เรียกคนที่มีตาอย่างนพดลว่าตาส่อน คบไม่ได้ เพราะเนรคุณ กลับกลอก ปลิ้นปล้อน)
     ดิฉันชอบมากจึงอดไม่ได้ที่จะหยิบปากกาขึ้นมาเขียนแจมด้วยค่ะ
            "แด่...นักเรียนทุนมหิดล"
     ยกเว้นนพเหล่เนรคุณ     
     นักเรียนทุนมหิดลนั้นยอดยิ่ง
     ทุกท่านเป็นคนดีที่แท้จริง       
     ทำทุกสิ่งเพื่อแทนคุณแผ่นดิน
          เจริญรอยตามเบื้องพระยุคลบาท 
          เสียสละเพื่อชาติศาสนา
          ทำวิจัยเผยแพร่แต่วิชา         
          อันทรงคุณค่าแก่บ้านเมือง
     ทุกท่านสุภาพเรียบร้อย         
     มักน้อยไม่โลภไม่มุสา
     ด้วยกตัญญูกตเวทิตา           
     ต่อราชาและแผ่นดินถิ่นนคร
          ขอทวยเทพจงปกป้องคุ้มครองท่าน
     ประทานพรให้สุขสันต์เสมอหน้า
     ส่วนนพเหล่เนรคุณจงมรณา     
     เหมือนหมาขี้เรื้อนเร็วๆ เอย
     ขอให้คุณสามวาและชาวไทยโพสต์ทุกท่านจงโชคดีนะคะ
                                                         รักไทยโพสต์ค่ะ
                                                        ลูกแม่ตาปีใน กทม.
ตอบ คุณลูกแม่ตาปีฯ
     ก็รับไปเต็มๆ ทั้งทหารแตงโมและตำรวจมะเขือเทศ ที่วันนี้ต่างก็อยู่ในสภาพที่เน่าเหม็น จนชาวบ้านชาวเมืองเขารับไม่ได้อีกแล้ว

                  ประธานลูกไพร่                                      
เรียน คุณสามวา สองศอก
     นั่งดูโทรทัศน์ถ่ายทอดการอภิปรายเรื่องงบประมาณ เห็นหน้าผู้ทำหน้าที่ประธานในที่ประชุม พ.อ.อภิวันท์ วิริยะชัย (Romanob) แล้วรู้สึกหงุดหงิด ยิ่งพวก ส.ส.ขอพูด "ท่านประธานที่เคารพ" ฟังแล้วอยากจะอ้วก
     ท่าน Romanob ขึ้นเวทีเสื้อแดงประกาศตัวเองว่าเป็น "ลูกไพร่" พูดจาบนเวทีก็ดูว่าเป็นไพร่จริงๆ แล้วไม่รู้สึกละอายตัวเองบ้างหรือ เวลามานั่งเป็นประธานในที่ประชุม
     คนอย่างท่านคงไม่สามารถจะมาทำหน้าที่เป็นคนกลางได้หรอก เพราะจิตใจของท่านมันเอียงไปข้างเสื้อแดงหมดเแล้ว ถ้ายังมีจิตสำนึกดีๆ อยู่ขอให้สละสิทธิ์ในการทำหน้าที่ประธานรัฐสภาเถิด สาธุ
                                                        ด้วยความนับถือ
                                                            แฟนรายปี
ตอบ คุณแฟนรายปี
     อภิปรายงบประมาณที่ผ่านไปแล้วเป็นแค่หนังตัวอย่าง รอวันอภิปรายไม่ไว้วางใจ 31 พฤษภาคม และ 1 มิถุนายนนี้ อาจจะมีคนถูกถีบตกเก้าอี้ให้เห็น
                                                        สามวา สองศอก

http://www.thaipost.net/news/280510/22661


หัวข้อ: Re: [2513]"ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: หนุน'21 ที่ 30 พฤษภาคม 2553, 20:02:49
(http://www.cmadong.com/imageupload/2010_Cmadong-Image/data/image/l38hfu-aee8cd.jpg)

วันนี้วันเกิดพี่เหยง
ขออนุญาตพี่แอ๊ะอวยพรพี่เหยงครับ
ขออำนาจคุณพระศรีรัตนตรัยและสิ่งศักดิ์สิทธิ์ทั้งหลาย
ได้โปรดดลบันดาลให้พี่เหยงประสบแต่ความสุขความเจริญตลอดไปครับ


 emo6::)) emo6::)) emo6::))


หัวข้อ: Re: [2513]"ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: suriya2513 ที่ 30 พฤษภาคม 2553, 20:13:56
(http://www.cmadong.com/imageupload/2010_Cmadong-Image/data/image/l38hfu-aee8cd.jpg)
อ้างถึง
ข้อความของ หนุน'21 เมื่อ 30 พฤษภาคม 2553, 20:02:49

วันนี้วันเกิดพี่เหยง
ขออนุญาตพี่แอ๊ะอวยพรพี่เหยงครับ
ขออำนาจคุณพระศรีรัตนตรัยและสิ่งศักดิ์สิทธิ์ทั้งหลาย
ได้โปรดดลบันดาลให้พี่เหยงประสบแต่ความสุขความเจริญตลอดไปครับ


 emo6::)) emo6::)) emo6::))
ขอร่วมขบวนเสี่ยหนุนอวยพรให้คุณพิเชษฐ์ เป็นเสี่ยเต็มตัวได้แล้วนะครับนะครับ


หัวข้อ: Re: [2513]"ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: ตุ๋ย 22 ที่ 30 พฤษภาคม 2553, 20:42:01
สุขสรรค์วันเกิดครับพี่เหยง   ขออำนาจคุณพระศรีรัตนตรัยจงดลบันดาลให้พี่เหยงพบความสุขความสำเร็จทุกประการ


หัวข้อ: Re: [2513]"ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: ภาณุ ปาตานี ที่ 30 พฤษภาคม 2553, 21:12:46
HBD ครับ พี่เหยง


หัวข้อ: Re: [2513]"ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: swsm ที่ 30 พฤษภาคม 2553, 22:02:12

.. Happy Birthday ค่ะ  พี่เหยง ..

 emo9:huhu:

(http://www.cmadong.com/imageupload/2010_Cmadong-Image/data/image/l38n39-5fe9ff.jpg)


หัวข้อ: Re: [2513]"ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: Kaimook ที่ 30 พฤษภาคม 2553, 23:49:32
ขอให้พี่เหยงมีความสุขมากๆค่ะ... emo4:)) emo4:)) emo4:))


หัวข้อ: Re: [2513]"ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: เหยง 16 ที่ 31 พฤษภาคม 2553, 14:04:44
ขอบพระคุณพี่ป๋อง ขอบคุณ คุณป้อม หนุน ครูตุ๋ย หะยี น้ำ้อ้อย(ไข่มุก) ยา และทุกคน ด้วยครับ ขอให้พรทั้งหลาย ขอพรนี้จงอำนวยให้ทุกคน และครอบครัว ได้รับความสุขกาย สุขใจ เช่นกันครับ

เพิ่งกลับจาก กทม. ถึงบ้านเดี๋ยวนี้เอง  emo6::))


หัวข้อ: Re: [2513]"ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: เหยง 16 ที่ 01 มิถุนายน 2553, 08:25:22
โกหกตั้งแต่เริ่มการอภิปราย เปลี่ยนคลิ๊ป เรื่องเดียวกันแต่อ้างไปคนละเรื่อง ไม่พูดถึงกรณีประชาชนเดือดร้อนจากการที่ทรัพย์สินถูกเผา ถูกขโมย ไม่สามารถทำกินได้นานเป็นเดือน

ความจริงด้านเดียว
บทบรรณาธิการ 1 มิถุนายน 2553 - 00:00

ความเท็จทั่วสารทิศ
     การอภิปรายไม่ไว้วางใจวันแรก  แค่เริ่มต้นก็มีการบิดเบือนข้อเท็จจริงกันอย่างหน้าด้านๆ ไม่ใช่บิดเบือนธรรมดา แต่ระดมกันบิดเบือนโดย ส.ส.พรรคเพื่อไทย นั่นคือ กรณีการถ่ายทอดสดการประชุมของสถานีโทรทัศน์แห่งประเทศไทย (NBT) ทั้งที่เหตุมีอยู่นิดเดียวคือ NBT ได้ย้ายดาวเทียมในการส่งสัญญาณ บังเอิญว่าคนเสื้อแดงในภาคเหนือและอีสานไม่ได้เปิดดู NBT มานานแล้ว ครั้นมาเปิดอีกทีเห็นจอมืด ก็โวยวายไปยังผู้แทนราษฎรของเขา แล้วกลายเป็นที่มาของการโจมตีรัฐบาลว่าปิดหูปิดตาประชาชน นี่คือตัวอย่างของการไม่เคยค้นหาความจริง แต่มุ่งสร้างความเข้าใจผิดเพื่อผลประโยชน์ทางการเมือง
     นั่นเป็นเรื่องที่สามารถเข้าใจได้ง่าย แต่ก็ยังมีปัญหาชักจูงให้เข้าใจผิดกันได้ แล้วเรื่องที่เข้าใจยากๆ เช่น การกระชับพื้นที่ หรือ จะเรียกว่าสลายการชุมนุมก็ตามแต่ ซึ่งมีรายละเอียดปลีกย่อยที่ยากต่อการเข้าใจ จะมีการนำไปใช้เพื่อประโยชน์ทางการเมืองกันมากมายขนาดไหน การให้ความจริงเพียงด้านเดียว หรือ ความเท็จเป็นส่วนใหญ่ เพื่อให้บรรลุเป้าหมายทางการเมือง จะสร้างปัญหาให้กับประเทศไทยหลังผ่านพ้นการอภิปรายครั้งนี้ไป
     มีประชาชน ทหาร ตำรวจ เสียชีวิตจากเหตุการณ์ 10 เมษายน ต่อเนื่องมาถึง 19 พฤษภาคม ทั้งสิ้นกว่า 80 ศพ บาดเจ็บอีกกว่า 2 พันคน พรรคเพื่อไทยให้ข้อมูลด้านเดียว คือ ทั้งหมดเสียชีวิตเพราะการสาดกระสุนจากทหาร การเผาเซ็นทรัลเวิลด์ เซ็นเตอร์วัน อาคารมาลีนนท์ แบงก์กรุงเทพฯ และอื่นๆ ที่เป็นจุณ รัฐบาลไม่สามารถจับกุมใครได้แม้แต่คนเดียว จึงไม่ใช่ฝีมือคนเสื้อแดงแน่นอน พรรคเพื่อไทยยังอภิปรายในสภาว่า เป็นแผนของรัฐบาล เพราะหลังมีการเผาไม่มีการประสานให้รถดับเพลิงเข้าไปในพื้นที่เพื่อดับไฟแม้แต่คันเดียว...ไอ้คนพวกนี้ไปหลับที่ไหนมา
     เหตุผลหลักที่ทหาร-ตำรวจไม่สามารถจับกุมกลุ่มคนเสื้อดำ ซึ่งเป็นกองกำลังติดอาวุธส่วนตัวของใครบางคนนั้น เป็นเพราะคนชุดดำเคลื่อนไหวและปฏิบัติการปะปนอยู่ในหมู่คนเสื้อแดง เมื่อแกนนำคนเสื้อแดงสั่งสลายการชุมนุม คนชุดดำบางส่วนเปลี่ยนชุดหลบหนีไปพร้อมคนเสื้อแดง บางส่วนถูกจับกุม บางส่วนยังปักหลักสู้กับเจ้าหน้าที่รัฐ เหตุที่รถดับเพลิงเข้าระงับเหตุไฟไหม้ไม่ได้ก็อย่างที่เป็นข่าวแพร่หลายเป็นการทั่วไปก่อนหน้านี้ว่า คนชุดดำยิงสกัดไม่ให้เจ้าหน้าที่ดับเพลิงเข้าไปปฏิบัติงานได้ จนมีเจ้าหน้าที่ดับเพลิงได้รับบาดเจ็บจำนวนหนึ่ง
     มีการนำกรณีการจับกุมพระสงฆ์มาอภิปราย และตั้งใจที่จะเน้นเป็นพิเศษว่าทหารโดยคำสั่งของรัฐบาลย่ำยีพระพุทธศาสนา ซึ่งแน่นอนว่ามีเป้าประสงค์เพื่อสร้างความเกลียดชัง เพราะเป็นประเด็นละเอียดอ่อนที่สร้างความเข้าใจผิดได้ง่าย จะสังเกตเห็นว่า ส.ส.พรรคเพื่อไทยที่นำเรื่องนี้มาอภิปราย ตัดตอนเหตุการณ์ไม่พูดถึงสิ่งที่เกิดขึ้นก่อนที่พระสงฆ์จะถูกจับกุม กลับใช้เพียงภาพถ่ายอธิบายว่า รัฐบาลย่ำยีศาสนา เป็นความจริงเพียงเสี้ยวเดียวที่เต็มไปด้วยความเท็จ มีความจริงที่มากกว่านั้นคือ กลุ่มสงฆ์ที่ถูกจับกุมให้การอารักขากลุ่มติดอาวุธ
    ความสูญเสียทั้งชีวิตและทรัพย์สินที่เกิดขึ้นจากเหตุการณ์ความไม่สงบนี้ มีทางเดียวที่สร้างความกระจ่างได้คือ ปล่อยให้เป็นไปตามกระบวนการยุติรรม ซึ่งต้องใช้เวลาระยะหนึ่ง ขณะที่ความเคลื่อนไหวที่ต่อเนื่องของคนเสื้อแดงด้วยการลงไปเล่นเกมใต้ดิน โดยการบงการของ น.ช.ทักษิณ ชินวัตร นั้น ต้องจับตาดูต่อไปว่าปฏิบัติการที่จะเกิดขึ้น จะนำความรุนแรงมากกว่าที่ผ่านมาหรือไม่ และหากมีการเปลี่ยนขั้วทางการเมือง กลุ่มนี้จะยังเคลื่อนไหวต่อหรือไม่
     การเปลี่ยนขั้วการเมืองครั้งต่อไปจะมีความสำคัญมาก หากยังพบว่าขบวนการใต้ดินซึ่งมีกระแสข่าวว่า เริ่มมีการซ่องสุมกำลังโดยใช้ประเทศกัมพูชาเป็นฐานที่มั่น และจังหวัดสกลนครเป็นฐานบัญชาการเคลื่อนไหว มีการก่อการร้ายภายใต้การบริหารของพรรคเพื่อไทย แสดงให้เห็นว่าขบวนการใต้ดินมีจุดประสงค์มากกว่าการล้มรัฐบาลพรรคประชาธิปัตย์ พวกเขาต้องการล้มล้างการปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข เพื่อสร้างรัฐไทยใหม่อย่างที่เคยประกาศก่อนหน้านี้
     แต่ถ้าขบวนการใต้ดินยุติการเคลื่อนไหวทันทีที่พรรคเพื่อไทยเข้าบริหารประเทศ ก็สรุปได้ว่า พรรคเพื่อไทย คนเสื้อแดง กองกำลังติดอาวุธ คือ กลุ่มก้อนเดียวกันแยกกันไม่ออก และจะมีความจริงที่ไม่มีใครปฏิเสธได้ นั่นคือ รัฐบาลพรรคเพื่อไทยจะเป็นรัฐบาลในระบอบประชาธิปไตยประเทศเดียวในโลกที่มีผู้ก่อการร้ายคอยให้การสนับสนุน.

http://www.thaipost.net/news/010610/22866


หัวข้อ: Re: [2513]"ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: เหยง 16 ที่ 01 มิถุนายน 2553, 08:32:54
คอลัมม์ "คนปลายซอย" บอกถึงสถานการณ์วันพุธที่ 19 พฤษภาคม 2553 เป็นรายชั่วโมง ให้เด่นชัดขึ้น

ตะกอนที่ได้จาก Central World ๑๙/๕/๕๓
เปลว สีเงิน 1 มิถุนายน 2553 - 00:00

     คิดว่าทุกท่านคงมีความสุขกับการได้ติดตามชม-ติดตามฟังการ "อภิปรายไม่ไว้วางใจ" ของฝ่ายค้านเมื่อวานนี้นะครับ และวันนี้ (๑ มิ.ย.๕๓) ยังมีต่ออีกวัน ขอบอกว่าลืมได้ แต่พลาดไม่ได้ ถ้า (ทน) ฟังจบทั้ง ๒ วันแล้วได้ความว่าอย่างไร และท่านรู้สึกตอบสนองอย่างไร อย่าลืมเล่าให้ฟังบ้างละกัน หะแรกผมก็ตั้งท่าจะดูให้ครบทุกเม็ดอยู่หรอก แต่ "ใจไม่ด้านพอ" ลงท้ายต้องปิดเสียง แช่แต่ภาพไว้ชำเลือง
     เฮ้อ....ดูแล้ว ฟังแล้วก็ต้องปลง พวกฝ่ายค้านนี่เขาเก่ง เมืองไทยแทบเหลือแต่ซาก แต่เขาก็ยังสามารถขุดซากแห่งความอัปยศขึ้นมาเลือกแทะหน้าจอได้หน้าตาเฉย ก็ต้องยอมเขาละ...แบบนี้!
     ผมมองไม่เห็นประโยชน์อันใดจากประชาธิปไตย ระบบรัฐสภา ถ้าระบบยังไม่สามารถคัดกรอง "คนคุณภาพ" ด้วยคุณธรรมเข้ามาทำหน้าที่ และถ้าจะยึดตามคำกล่าวอ้างของบาง ส.ส.ที่อภิปรายว่า "ผมเป็นตัวแทนประชาชน...ประชาชนเลือกผมมา" ในเชิงตรรกะมันก็สะท้อนความจริงสังคมชาติวันนี้ว่า
     คุณภาพสังคมไทย เท่ากับคุณภาพ ส.ส.!?
     มันเป็นความจริงที่เจ็บปวดมากทีเดียว ผมเชื่อว่าคนส่วนใหญ่ก็คิดอย่างนั้น แต่ก็คนส่วนใหญ่อีกนั่นแหละ ในทางปฏิบัติ จะพูด-จะทำ "ตรงข้าม" กับสิ่งที่คิด
     จะว่าไปแล้ว ประเทศไทยวันนี้ "ตกหล่ม-จมปลัก" ประชาธิปไตยรูปแบบ จนกลายเป็น "เหยื่อ" ถาวรของนักเลือกตั้งอาชีพไปแล้ว!
     พักเรื่องตัวเงิน-ตัวทอง มาคุยเรื่องเป็นเงิน-เป็นทองของผมดีกว่า มีแฟกซ์ค้างอยู่ในตะกร้าตั้งแต่วันเสาร์ อ่านเดาๆ ลายเซ็นเพรียวลมตอนท้ายของข้อความ ๒-๓ บรรทัดว่า น่าจะเป็น "คุณอรทัย"
     บอกว่าดีใจที่คนไทยโพสต์ "หนีไปตั้งหลัก" จากเหตุการณ์ ๑๙ พฤษภา ปลอดภัยกลับมาทุกคน ก็เลยโอนเงินเข้าบัญชีบริษัทสารสู่อนาคตมา ๓,๐๐๐ บาท เป็นการสนับสนุน "เว็บไซต์ไทยโพสต์" ที่อ่านฟรีทุกวัน แล้วอย่างนี้จะให้ผมพูดอะไรได้นอกจาก "ขอบคุณ" และ "ขอบคุณ"
 และไม่อิดออดใดๆ รับไว้ทันทีเลย!
     คุณอรทัยบอกว่า "ดีใจ" ผมก็พลอยโล่งอก-โล่งใจไปด้วย เพราะยังขวัญผวา นอนละเมอยังไม่หายกับรหัสลับ "ตกใจ" ของคุณณัฐวุฒิเขา ที่ว่า คนเสื้อแดงตกใจวิ่งเข้าร้านเพชร ร้านขายกระเป๋า ขายนาฬิกา-แว่นตา ในห้างเซ็นทรัล และ..
    ตกใจ เผาเลย!!!!
     อันที่จริง ที่พวกกบฏทักษิณ "เผาบ้าน-เผาเมือง" ครั้งนี้ มันก็มีอานิสงส์เป็นสิ่งดีอยู่เหมือนกัน เท่าที่เห็นชัดเจนคือ ทำให้คนไทย "รักบ้าน-รักเมือง" มากขึ้น และที่น่าดีใจคือ ทำให้หันมารัก-สามัคคีกันเหนียวแน่น ซึ่งเห็นได้จากภาพที่ไม่เคยปรากฏมาก่อน
     ร่วมแรง-ร่วมใจ ออกไปกวาดถนน และ...ช็อปกระจาย!!
     ที่ต้องแอบดีใจสุดๆ คือ ทำให้หนุ่ม-สาว-เยาวชน "คนรุ่นใหม่" ตื่นตัว หันมาสนใจเรื่องบ้าน-เรื่องเมืองในรอบ ๓๐ ปีเลยก็ว่าได้ และไม่เพียงตื่นตัวเฉยๆ ยังแสดงออกซึ่งความรักหวงแหนบ้านเมืองและสถาบันด้วย "ปฏิบัติการร่วม" เป็นงานเป็นการกันไปเลย
     เมื่อ ๓๐ ปีที่แล้ว ในเหตุการณ์ ๑๔ ตุลา และ ๖ ตุลา ประชาชน คนหนุ่มสาว "เกลียดทหาร" ชนิดว่า ทหารออกจากบ้านไปทำงานต้องแต่ง "นอกเครื่องแบบ" ถึงที่ทำงานแล้วค่อยเอาเครื่องแบบมาสวม
     แต่ครบ ๓๐ ปีรอบนี้ตรงกันข้าม ประชาชน คนหนุ่มสาวกลับ "รักทหาร" เต็มหัวใจ เพราะครั้งก่อน ทหารเป็นผู้กระทำ แต่ครั้งนี้ ทหารตกเป็นผู้ถูกกระทำ และใช้ความอดทน-อดกลั้น กอบกู้รักษาประเทศชาติ-สถาบัน ให้รอดจากพวกกบฏทักษิณ ยอมตาย ยอมขายขี้หน้า และยอมให้ ส.ส.บางคนใช้สภาเป็นฐานโจร
     ก่น-กล่าวโทษ!?
     บทสรุปที่ได้จาก ๑๙ พฤษภา ก็คือ ไม่ว่าการบ้าน-การเมือง-การทหาร "ทุกการ" แหละ ใครจะทำอะไร ถ้าเอาหลังอิงมหาประชาชนไว้ แคล้วคลาดปลอดภัย แถมมีโชค-มีชัยทุกรายไป...บอกไม่เชื่อ!
     พูดถึงแต่ทหาร ลืมตำรวจไป ความจริงมีข้อความหนึ่งถูกส่งเข้าอีเมล์ผมต่อเนื่องเป็นสัปดาห์แล้ว เป็นบันทึกภาคสนามของ "นักข่าวเนชั่นทีวี" ผมอ่านแล้ว เป็นคำตอบถึงบทบาท-หน้าที่ตำรวจได้อย่างดี อ่านดูนะครับ
      นภพัฒน์จักร อัตตนนท์ **Nation Channel*
      ที่เห็นและเป็นอยู่* *: บันทึกเหตุการณ์ 19 พฤษภา '53**
     เราถือเป็น 48 ชั่วโมงที่ประเทศไทยพบกับความเปลี่ยนแปลงทั้งในหน้าประวัติศาสตร์การเมือง  และแน่นอนในเรื่องผลกระทบกับชีวิตของประชาชน ตั้งแต่เที่ยงคืนของวันที่ 19 พฤษภาคม จนถึงตกเย็นของวันที่ 20 พฤษภาคม ผมได้ลงไปเกาะติดรายงานข่าวจากภาคสนาม ซึ่งหลายอย่างผมได้นำเสนอผ่านหน้าจอโทรทัศน์ แต่อีกหลายสิ่งอย่างที่ไม่สามารถพูดออกไป...
 บันทึก 'ที่เห็นและเป็นอยู่' มีเจตนาเพื่อเล่าถึงสิ่งที่เกิดขึ้น แน่นอนด้วยวิกฤติทางการเมืองตอนนี้ หลายสิ่งอย่างไม่ใช่เรื่องดีนัก และบันทึกนี้อาจสร้างอารมณ์โกรธแค้นไม่พอใจคนบางคน หรือองค์กรบางองค์กรได้ แต่เจตนาที่เขียนบันทึกนี้ไว้เพื่อให้ได้ถ่ายทอดความจริงให้เราได้จดจำและเรียนรู้ต่อไป
     19/05/53 ราวเที่ยงคืนกว่าๆ: ผมได้รับโทรศัพท์ บอกว่ามีความเป็นไปได้ที่จะมีความพยายามของทหาร ในการเข้ามากดดันการชุมนุมที่เวทีราชประสงค์ แหล่งข่าวที่รายงานผมน่าเชื่อถือพอสมควร แต่สิ่งที่ผมทำได้ก็เพียงแค่การเตรียมตัวเตรียมใจให้พร้อมโทรศัพท์ไปบอกทีมงานออกอากาศให้เตรียมพร้อม และเข้านอนไปตอน 01.00 น. พิเศษหน่อยคือคืนนั้นผมเปิดเสียงโทรศัพท์ทิ้งไว้ตอนนอน
     03.30 น.: โทรศัพท์ดังระหว่างผมนอนหลับไปได้ไม่ถึง 3 ชั่วโมง แหล่งข่าวคนเดิมโทรมารายงานความคืบหน้าว่าปฏิบัติการทางทหารกำลังจะเริ่มแล้ว ผมโทรไปย้ำกับทีมออกอากาศโทรไปรายงานให้ บก.ที่โต๊ะ ตอนแรกเตรียมตัวออกจากบ้านทันที แต่ บก.ที่โต๊ะเตือนสติไว้ว่าให้ออกจากบ้านหลังพระอาทิตย์ขึ้นดีกว่าเพื่อความปลอดภัย
     07.00 น.: ออกจากบ้าน มุ่งหน้าราชประสงค์ ตั้งใจไปที่จุดไข่แดงของการชุมนุมของกลุ่ม นปช.แต่มาตรการอันรัดกุมของทางทหารทำให้ต้องจอดรถอยู่ที่หน้าจามจุรีสแควร์ ไม่สามารถเข้าไปที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติเหมือนทุกครั้งได้ บวกกับเหตุการณ์การปะทะกันระหว่าง นปช.กับทหารที่บริเวณสามย่าน ทำให้ตัดสินใจลงไปทำข่าวตรงจุดนี้ และทิ้งการทำข่าวการสลายการชุมนุมที่บริเวณแยกศาลาแดงไป
     12.00 น.: หลังการปะทะกันรวม 3 รอบ มีทั้งระเบิด M79 ประสุนจริงและกระสุนยาง มีคนเจ็บอย่างน้อย 2 ราย เมื่อสงบลงผมจึงตัดสินใจเดินเท้าจากสามย่านมุ่งหน้าอังรีดูนังต์ เพื่อไปติดตามสถานการณ์ที่เวทีราชประสงค์ ซึ่งบรรยากาศการเดินเท้า ณ จุดนั้น ระยะทางอย่างมาก 3 กิโลเมตร แต่สำหรับผม มันเป็น 3 กม.ที่วังเวงที่สุดในชีวิต เพราะบรรยากาศการปะทะกันเกิดขึ้นตลอดทั้งเช้าช่างดูรุนแรงจริงๆ
     13.00 น.: รายงานสดรอบ 12.30 น. เสร็จ ก็ได้รับข่าวการประกาศมอบตัวของแกนนำ นปช. ซึ่ง ณ นาทีนั้นผมประหลาดใจ ระคนดีใจเพราะการมอบตัวของแกนนำ นปช.เท่ากับการยุติการชุมนุม และนั่นก็จะหยุดการเข้ามาสลายที่จุดไข่แดงของทหาร ซึ่งถ้าเกิดขึ้นจริงคนนับสิบนับร้อยอาจต้องสูญชีวิตลง รวมถึงหลายคนที่ผมเกาะติดสัมภาษณ์มาตลอดเวลา ซึ่งในขณะนั้น การประกาศยุติการชุมนุมของคุณณัฐวุฒิและคุณจตุพร เกือบทำให้ผมรู้สึกว่า นปช.นี่แหละคือผู้ชนะในการประลองศึกการเมืองครั้งนี้แล้ว
     14.00 น.: ไม่กี่นาทีหลังจากการมอบตัวของ 6 แกนนำ นปช. จากความรู้สึกที่ดีที่ ณ นาทีนั้นผมมอบให้กับเหล่าแกนนำ ที่แม้ว่าหลายอย่างที่ผ่านมาผมไม่เห็นด้วย แต่การปักหลักอยู่กับผู้ชุมนุมจนนาทีสุดท้ายก็ทำให้รู้ว่าแกนนำกลุ่มนี้ไม่ทิ้งคนของตัวเอง และ เมื่อถึงวินาทีสุดท้ายก็รักษาชีวิตของผู้ชุมนุม ซึ่งถือว่าเป็นเรื่องดี ความรู้สึกที่ดีเหล่านั้นก็หมดลงด้วยเหตุการณ์ต่อไปนี้
     14.20 น.: ท่ามกลางควันดำที่ก่อตัวขึ้นหลังเวที นปช. นาทีนั้นผมยังเข้าใจว่าเกิดจากความคึกคะนองของผู้ชุมนุมไม่กี่คน (ในทีวียังรายงานไปเช่นนั้น) ไม่ได้มีความคิดเรื่องการเจตนาวางเพลิงห้าง Central World แม้แต่น้อย แต่ทันใดนั้นก็เกิดเหตุการณ์ที่น่าตกใจ ผมเห็นคนพยายามจุดไฟเผาสวนรอบๆ ตัวอาคาร จากนั้นก็ขว้างยางรถยนต์สลับกับระเบิดขวดเข้าใส่เพื่อให้ไฟลุกมากขึ้น และภาพสุดท้ายที่จะได้เห็นจากในวิดีโอนี้ คือ ผมเห็นคนขว้าง 'ถังแก๊ส' เข้าใส่กองเพลิง ย้ำชัดเจนถึงเจตนา ที่จะเผาอาคาร Central World ให้เสียหายได้มากที่สุด
     15.30 น.: กว่าชั่วโมงที่ผมเป็นสักขีพยานกับความพยายามของ *กลุ่มก่อการร้าย *(ก่อนหน้านี้ไม่เคยเรียก แต่ครั้งนี้ผมว่าคำเรียกนี้เหมาะสมแล้ว) ที่ตั้งใจแผดเผาอาคาร Central World ให้ราบคาบแบบที่ผมขอใช้คำว่า 'พยายามแล้ว พยายามอีก' เพราะหลายครั้ง ไฟก็มอดก็ดับไป แต่คนกลุ่มนี้ก็จะใช้วิธีการเดิม คือจุดไฟเผา-ขว้างระเบิดขวด-ปาถังแก๊สเพื่อบรรลุเป้าหมายให้ได้ จนถึงจุดหนึ่งผมก็เห็นควันไฟเหล่านี้ออกมาจากตัวอาคาร Central World ซึ่งเป็นจุดที่ผมเริ่มเศร้าใจกับความจริงที่ว่าอาคารแห่งนี้อาจจะกลายเป็นอดีตในอีกไม่นาน
     16.00 น.: เมื่อเริ่มตั้งสติได้ ผมก็เริ่มเดินสำรวจความพยายามของเจ้าหน้าที่ตำรวจที่อยู่ในรอบรั้วสำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตรงข้าม Central World) ที่น่าเศร้าคือ ตำรวจกว่า 300-400 คน ไม่มีใครแสดงถึงความพยายามในการหยุดยั้งการกระทำของกลุ่มก่อการร้าย หนำซ้ำผมเห็นหลายคน 'ซี้ดปาก' ด้วยความสะใจ ทุกครั้งที่ได้ยินเสียงระเบิดดังๆ ตำรวจหลายคนควักกระเป๋าล้วงกล้องดิจิตอลเก็บภาพตัวเองกับควันโขมงเหนืออาคาร Central World ไว้เป็นที่ระลึก ราวกับว่าเป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่น่าจดจำแห่งหนึ่ง
     16.30 น.: หลังประสบความสำเร็จกับเป้าหมายเผาผลาญห้าง Central World กลุ่มก่อการร้ายเริ่มหันมาให้ความสนใจกับสื่อมวลชน รถถ่ายทอดสดของช่อง 3 หลังได้ยินข่าว นปช.กลุ่มหนึ่งไปบุกที่อาคารสำนักงานที่พระราม 4 ถึงกับต้องถอยรถมาจอดหลบ และแกะป้ายสติกเกอร์โลโก้ช่อง 3 ออก
     16.45 น.: ความรุนแรงลุกลามขึ้น กลุ่มก่อการร้ายบางคนชี้นิ้วเข้ามาที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ มีการชักปืนขึ้นยิงสาดกระสุนเข้ามาข้างใน ช่างภาพหลายสำนักพยายามเก็บภาพสำคัญนี้ไว้ นักข่าวหลายคนวิ่งหลบหนีแต่ก็ยังพยายามทำหน้าที่ในการรายงานข่าวของตัวเองอยู่ ผมหันไปสำรวจบรรยากาศโดยรอบที่น่าตกใจ (หรือไม่น่าตกใจ?) คือผมเห็นตำรวจก้มหลบหลังตัวอาคารแทบทุกคน เรียกได้ว่าหลบก่อนช่างภาพบันทึกข่าวซะอีก
     17.00 น.: ผมเดินเท้าออกจากสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ใช้เส้นทางถนนอังรีดูนังต์ ครั้งนี้แค่เดินไม่ได้ครับ ผมวิ่งจ้ำอ้าว มุ่งหน้าจุดออกอากาศให้ได้เร็วที่สุด สาเหตุที่กลัวมากกว่าปกติ เพราะได้แวะสอบถาม อปพร.ที่พยายามเข้าไปดับไฟที่สยามสแควร์แต่ไม่สำเร็จ เนื่องจากกลุ่มก่อการร้ายระดมยิงเข้าใส่เจ้าหน้าที่ อปพร. ทั้งคำพูดนี้ไว้กับผมว่า "ไอ้น้องเดินออกไประวังละกัน กระสุนมันก็วิ่งไปทุกทิศแหละ"
     18.00 น.: ออกอากาศรอบสุดท้ายสำเร็จ ผมเดินทางออกจากถนนอังรีดูนังต์ทันทีพร้อมกับถอดปลอกแขนนักข่าวสีเขียวออก หลังทราบข่าวว่าแกนนำ นปช.ที่ดินแดง ปราศรัยมุ่งหมายทำร้ายสื่อมวลชน ระหว่างนั่งรถกลับมาที่บ้าน สิ่งที่อยู่ในสมองผมคือพระบรมราโชวาทขององค์ "พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว" เรื่องของ 'หน้าที่' อย่างที่ผมทำหน้าที่นักข่าวของผมเกาะติดรายงานสถานการณ์ หลบกระสุน-หลบระเบิดเพื่อได้รายงานความคืบหน้าให้กับประชาชนได้รับทราบ
     ทำให้ผมสงสัยว่าตำรวจ 300-400 คนในสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ณ นาทีนั้น นาทีที่คุณมีกำลังคนและอาวุธมากกว่ากลุ่มก่อการร้ายหลายเท่า พวกคุณไม่ได้มี 'หน้าที่' ที่ต้องออกปกป้องคุ้มครองชีวิตของประชาชนหรือ?
     ครับ..จบลงแค่นี้ "คุณนภพัฒน์จักร" กลั่นออกมาได้ใส..บริสุทธิ์ ไม่จำเป็นที่ผมจะไปแตะต้องอะไรให้ของเขาหมอง.

http://www.thaipost.net/news/010610/22868


หัวข้อ: Re: [2513]"ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: suriya2513 ที่ 01 มิถุนายน 2553, 10:16:02
 ผมนึกว่ามีผมคนเดียว ที่ไม่สามารถทนฟังการอภิปรายในสภาเมื่อวานนี้ได้
ผมคงถูกคุณเปลว สีเงิน ล้างสมองเสียแล้วเป็นแน่แท้


หัวข้อ: Re: [2513]"ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: mek ที่ 01 มิถุนายน 2553, 10:45:16
ผมก็ทนฟังไม่ค่อยได้เหมือนกันครับ เหมือนดู people channel เลย ต้องคอยเปลี่ยนเป็นระยะ ๆ ทนฟังไม่ไหวจริง ๆ พูดจาไปหน้าด้าน ๆ


หัวข้อ: Re: [2513]"ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: Preecha2510 ที่ 01 มิถุนายน 2553, 10:53:19

    สวัสดีครับเหยง

                 ไม่อยู่บ้านหลายวันเพิ่งกลับมาถึงบ้านวันนี้  เปิดดูเว็บ cmadong จึงเพิ่งทราบว่าวันที่ 30 พค.นี้ เป็นวันเกิด

   ของเหยง   จึงขออวยพรวันเกิดย้อนหลังขอให้เหยงมีความสุขมากๆ,มีสุขภาพสมบูรณ์แข็งแรงและมีโชคดีตลอดไป


หัวข้อ: Re: [2513]"ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: เหยง 16 ที่ 01 มิถุนายน 2553, 11:01:56
ขอบพระคุณพี่แก้ว สำหรับคำอวยพรครับ


หัวข้อ: Re: [2513]"ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: เหยง 16 ที่ 01 มิถุนายน 2553, 11:06:07
อย่าว่าแต่พวกเราที่ทั้งฟัง ทั้งดู การอภิปรายไม่ไว้วางใจในครั้งนี้ อย่างละเหี่ยใจไปกับสภาบันรัฐสภาไทย

อ๊วกแล้ว...อ๊วกอีก!!!
ท่านขุนน้อย 1 มิถุนายน 2553 - 00:00

      อุตส่าห์รับประทานยาแก้แพ้เอาไว้ก่อนล่วงหน้าประมาณ 1 กำมือ...แต่สุดท้าย ก็ยังคงต้องอ๊วกแตก  อ๊วกแตน จนได้ ระหว่างที่ต้องอดทน อดกลั้น รับฟังการอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาล ของพรรคฝ่ายค้านวันวานนี้ โดยเฉพาะช่วงที่คุณพี่ สุนัย ด่าง แห่งจังหวัดนครสวรรค์ ลุกขึ้นมาโยกไหว ไกวตัว สร้างความเปรี้ยวเท้า ให้กับใครต่อใคร ชนิดไม่มีลิมิตชีวิตเกินร้อยนั่นแหละ ต่อให้ยาแก้แพ้นับเป็นกระสอบๆ ก็ยังเอาไม่อยู่!!!
          -------------------------------------------------
     เฮ้ออ์อ์อ์...สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรของปวงชนชาวไทย  อะไรมันจะน่าทุเรศ น่าเกลียด น่าชัง ช่างทำไปได้ถึงเพียงนี้ ขนาดบ้านเมืองเพิ่งจะฉิบหาย วายวอด เห็นกันชัดๆ จะจะ คาตา อันเนื่องมาจากบรรดานักการเมืองที่ไม่ได้คิดจะใช้เวทีรัฐสภาเป็นทางออก หันไปโดดขึ้นเวทีของแก๊งป่วนบ้าน ป่วนเมือง อย่างเป็นระบบ แต่หลังจากร่วมมือกับโจรเผาบ้าน เผาเมือง ไม่สำเร็จ หลังจากชักชวนราษฎรให้มาบาดเจ็บ ล้มตาย นับเป็นสิบๆ ร้อยๆ ยังอุตส่าห์มีหน้ากลับมาใช้เวทีรัฐสภาเป็นช่องทางในการระบาย ใส่ร้าย ป้ายสี โกหก พกลม กันอย่างเป็นกระบวนการซะอีก...
         --------------------------------------------------
     ทำไงได้...ถ้าหากยึดหลักว่าราษฎรเป็นอย่างไร? ผู้แทนของราษฎรย่อมต้องเป็นไปเช่นนั้น ความชั่วช้า เลวทราม ไร้คุณภาพ คุณธรรม ของผู้แทนฯ แต่ละราย ก็คงไม่ต่างไปจากภาพสะท้อนความเป็นไปของราษฎรในแต่ละเขตพื้นที่เลือกตั้งนั่นแหละ ประชาธิปไตยที่ว่ากันว่า...เป็นของประชาชน โดยประชาชน เพื่อประชาชน แต่ถ้าหากประชาชนดันชั่วซะอย่าง!!! โอกาสที่เราจะปฏิเสธนักการเมืองชั่วๆ นักการเมืองที่ไร้คุณภาพ ไร้คุณธรรม ถนัดในการโกหก พกลม ไปวันๆ มันคงแทบเป็นไปไม่ได้ มีแต่ต้องอดทน อดกลั้น รับประทานยาแก้อ๊วกเป็นกระสอบๆ ระหว่างรับฟังการอภิปรายเรื่องราวต่างๆ ในรัฐสภาอันทรงเกือกไปโดยตลอด...
         ---------------------------------------------------
     และจะไปด่าว่า ด่าทอ นักการเมืองเป็นรายๆ ก็คงไม่มีประโยชน์โพดผลอะไรซักเท่าไหร่ ขนาด ป๋าเปลว สีเงิน ท่านอุตส่าห์ให้เกียรติ นำไปเปรียบเทียบกับ สัตว์เดียรัจฉาน ก็แล้ว แต่ยังไม่สามารถกระตุ้นต่อมสำนึกให้ผลิตสารความละอายต่อบาป ความเกรงกลัวต่อบาป พอที่จะทำให้เกิดการแสดงออกถึงหิริ โอตตัปปะ ใดๆ เอาเลยแม้แต่น้อย การยึดมั่นอยู่กับผลประโยชน์ของพรรคพวก และตัวกูเอง ไม่เพียงแต่จะทำให้ระบอบประชาธิปไตย หลงทิศ หลงทาง เคว้งคว้าง วนไปวนมา อยู่ในวัฏจักร วงจรอุบาทว์ มานานเกือบศตวรรษ ยังทำให้คุณค่า ความหมาย ของคำว่าประชาธิปไตย...ดูจะเป็นอะไรที่ด้อยค่า  เป็น อันตราย ต่อความสุข ความสงบเรียบร้อย ของบ้านเมือง และปวงชนชาวไทยหนักขึ้นๆ ทุกที...
      --------------------------------------------------------
     พูดง่ายๆ ว่า...นับวัน เวทีที่เรียกๆ กันว่า เวทีรัฐสภา อันเป็นแหล่งสิงสถิตของบรรดาผู้แทนราษฎรอันทรงเกือกทั้งหลายนั้น นอกจากจะไม่สามารถใช้เป็น ทางออก ในการ แก้ไขปัญหา ให้กับบ้านเมืองได้แล้ว ยังกลายเป็นเวทีในการ สร้างปัญหา หนักขึ้นเรื่อยๆ เพราะถ้าหากไม่ใช่บรรดานักการเมืองอันทรงเกือกเหล่านี้ โดดลงไปชักลากราษฎรรายละ 3,000 คน เป็นอย่างน้อย จากเขตเลือกตั้งของตัวเองในแต่ละเขต ให้มาร่วมกันสร้าง เวทีข้างถนน ตามยุทธศาสตร์ เป่านกหวีด ของเสื้อแดงตัวพ่อ หรือ ผู้ก่อการร้ายตัวพ่อแล้ว ปัญหาต่างๆ ในบ้านเมืองมันคงไม่ลุกลาม บานปลาย ไปได้ถึงขั้นนี้ หรือ ยังเป็นปัญหาซึ่งสามารถอาศัย เวทีรัฐสภา ขจัดความขัดแย้ง แตกต่างใดๆ ลงไปได้บ้างไม่มาก ก็น้อย...
        -----------------------------------------------------
     แต่เนื่องจากความพยายามแก้แค้น เอาคืน ความพยายามแย่งยื้อผลประโยชน์ อันมีตัวกู-ของกูเป็นที่ตั้งนั่นเอง การนำเอาราษฎรของกู หัวคะแนนของกู ภายใต้เขตเลือกตั้งของกู เข้ามาผสมรวมตัวจนกลายเป็น  ม็อบเสื้อแดง นับจำนวนเป็นหมื่นๆ แสนๆ แถมยังเปิดช่อง เปิดทางให้ กองกำลังไม่ทราบฝ่าย เข้ามาร่วมปฏิบัติการแค้นสวาทแล้วทวงคืน ชนิดการเคลื่อนไหวมวลชนต้องแปรสภาพกลายเป็น การก่อการร้าย ไปจนได้ ทั้งยังทำให้มวลชนของตัวเองตกอยู่ใน อันตราย อันเนื่องมาจากความจำเป็นของรัฐใดๆ ก็แล้วแต่ ที่พึงต้องทำหน้าที่ในการรักษากฎหมาย ระเบียบ กติกา ภายในสังคม มิให้ถูกทำลายลงไปด้วยความไร้เหตุ ไร้ผล หรือ ด้วยความมุ่งหวังเพียงเพื่อจะตอบสนองผลประโยชน์ของคนเพียงคนเดียวเท่านั้น...
      --------------------------------------------------------
     ผู้ที่นำพาราษฎรมาตาย และผู้ที่พยายามนำเอาศพของราษฎร มาใช้ประโยชน์ทางการเมืองอยู่ในขณะนี้ ก็คือ บรรดานักการเมืองเหล่านี้นี่แหละ การหวนกลับมาใช้เวทีรัฐสภากันอีกครั้ง มันจึงไม่ใช่ความพยายามที่จะอาศัยเวทีแห่งนี้เป็นทางออก หรือ เป็นหนทางในการแก้ปัญหาใดๆ ให้กับชาติบ้านเมืองเอาเลยแม้แต่น้อย แต่เป็นความพยายามที่จะนำเอาทุกสิ่งทุกอย่างมาใช้เป็นเครื่องมือให้กับการแสวงอำนาจ ผลประโยชน์ เพื่อตัวกู ของกู เป็นที่ตั้งเท่านั้นเอง ท่ามกลางความพังพินาศ ฉิบหาย ของประเทศทั้งประเทศ ท่ามกลางเลือดเนื้อชีวิตของราษฎร ตลอดจนเจ้าหน้าที่บ้านเมือง ซึ่งต่างก็ล้มตายไปด้วยกันทั้งสองฝ่าย มันจึงไม่ปรากฏท่าทีที่สะท้อนถึงจิตสำนึก ความรับผิดชอบ  ต่อความเป็นตัวแทนปวงชน หรือ แม้แต่ความละอายต่อบาป ความเกรงกลัวต่อบาป อันเป็นสิ่งที่มนุษย์ปกติธรรมดาพึงมีเอาเลยด้วยซ้ำ...
       -------------------------------------------------------
     ด้วยเหตุนี้...ไม่ว่าจะอภิปรายกันกี่วัน  กี่คืน ไม่ว่าจะแสดงโวหาร เหตุผล ข้ออ้าง ใดๆ ก็แล้วแต่ มันก็ไม่ได้ก่อให้เกิดประโยชน์ในทางสร้างสรรค์กับบ้าน กับเมือง กับระบอบประชาธิปไตย หรือ กับเวทีรัฐสภาแม้แต่น้อย มีแต่จะทำประชาชนผู้รับฟัง รับชม ทางบ้าน เกิดอาการอ๊วกแตก คลื่นเหียน วิงเวียน คลื่นไส้ อาเจียน ฯลฯ จนต้องรับประทานยาแก้แพ้กันเป็นกระสอบๆ อย่างที่ว่าเอาไว้แล้วนั่นแหละ แม้นว่าอาจมีผลอยู่บ้างในแง่ที่ การยืมหอกสนองคืน ของรัฐบาล สามารถก่อให้เกิดความหน้าแหก สามารถลากขี้ ลากไส้ ของนักการเมืองประเภทนี้ออกมาให้เห็นกันสดๆ จะจะ แต่ก็นั่นแหละ...มันยิ่งทำให้หน้าตาของระบอบประชาธิปไตยในแบบตัวกู ของกู ยิ่งน่าเกลียด น่าชัง น่าทุเรศ ยิ่งขึ้นไปอีก หรือ ยิ่งกลายเป็นภาพสะท้อนให้เห็นถึงความชั่ว ความเสื่อมโทรมทางศีลธรรมที่ซึมลึก และแพร่ระบาดอยู่ในสังคมไทย ชนิดที่มีแต่จะนำไปสู่ประชาธิป...ตาย ได้เสมอๆ...
     ----------------------------------------------------------
     ปิดท้ายด้วยวาทะวันนี้ จาก ชาร์ลส์ โยสต์ (อีกครั้ง...และอีกครั้ง) ประชาธิปไตยไม่ใช่เรื่องของอารมณ์ หากเป็นเรื่องของการมองการณ์ไกล ระบอบอะไรก็ตามที่ไม่ได้คำนึงถึงการณ์ไกล ก็จะเผาผลาญตนเองให้มอดไหม้ไปในระยะเวลาอันใกล้...
[size]
http://www.thaipost.net/news/010610/22842


หัวข้อ: Re: [2513]"ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: เหยง 16 ที่ 01 มิถุนายน 2553, 11:12:13
นานาทรรศกับการดูและฟังอภิปรายไม่ไว้วางใจ วันแรก และการจับคู่ตั้ง ครม. หาก สนธิ ลิ้ม ได้เป็นนายกฯ

แผ่นเสียงตกร่อง
ถูกทุกข้อ 1 มิถุนายน 2553 - 00:00

เรียน คุณสามวา สองศอก
     วันนี้เปิดดูถ่ายทอดการประชุมสภาผู้แทนแล้ว รู้สึกสมเพช ส.ส.พรรคเพื่อนายจัง ยิ่งตอน ส.ส.น้องชายนายอ๋อย ไฟฉาย ลุกขึ้นได้ก็อภิปรายโจมตีนายกฯ อย่างเอาเป็นเอาตายทันที พูดเหมือนเป็นแผ่นเสียงตกร่องกันไปทั้งพรรค ว่าทหารยิงนักข่าว นายกฯ สั่งฆ่าประชาชน ลอยหน้า ลอยตาพูด ทั้งที่เป็นการอภิปรายเรื่องงบประมาณแท้ๆ
     มันคงมีจิตใจที่ไม่ได้เป็นคนไทยใช่ไหมคะ ทำเป็นบอกนักข่าวต่างประเทศพูด ถ้าเรารักชาติไทยคงจะช่วยแก้ข่าวว่า ยังไม่ได้ตรวจสอบเลยว่าความจริงเป็นอย่างไร ขบวนการยุติธรรมยังไม่สิ้นสุดมาด่วนปรักปรำ (ความจริงถ้าคนที่มาชุมนุมจะยอมรับฟังรัฐบาลเจรจาบ้าง ก็คงไม่เกิดเรื่องบานปลายเช่นนี้ แต่กลับหน้ามืดตามัวทำตามแกนนำอย่างบ้าคลั่ง บอกให้กลับดีๆ ก็ไม่ยอมกลับ น่าเสียดายชีวิตนักข่าว-ทหารและคนดีๆ ที่โดนลูกหลง)     แล้วยังมีลูกคู่จอมสาระแนประท้วงอยู่ตลอดเวลา อย่างนายสุนัข แหลกละเอียดทั้งวงศ์ตระกูล ซึ่งคนนี้ไม่น่าเกิดมาเป็นคนไทยเลย เลวได้ถึงที่สุด หน้าไม่มียางอายแม้แต่น้อย ประธานบอกให้มันถอนคำพูด มันกลับบอกว่ากี่ร้อยครั้งก็ไม่ยอมถอน (มันควรเป็นผู้แทนหรือไม่) ไม่รู้ว่าคราวหน้าจะมีคนบ้าใบ้เลือกมันเข้ามาอีกหรือเปล่า ขอภาวนาว่าอย่ามีใครเลือกมันมาอีกเลย ขี้เกียจดูหน้าตาหัวหูมันดูน่าทุเรศไปหมด
     แล้วนาง ส.ส.สาระชั่วนั่นอีกคนดูดัดจริตจัง ทำจีบปากจีบคอนึกว่าสวยตายแล้ว เด็กเมื่อวานซืนเอ๊ย! มีความคิดผิดแต่เด็กน่าเป็นห่วงประเทศชาติ ที่มีคนบ้าๆ มาเกิดน่าจะตายเสียไวๆ
     อยากทราบจังว่าไอ้นักโทษหนีคุก ผู้ก่อการร้ายจอมบงการคนนั้น มันเลี้ยงดูลูกพรรคชั่วๆ ของมันด้วยอะไรกันนะ มันถึงได้พากันกตัญญูรู้คุณยอมตายถวายหัว พลีชีพกันทั้งตระกูลเช่น ตระกูลไฟฉาย เป็นต้น
     ลูกพรรคทุกคนก็พร้อมออกมาเจี๊ยวจ๊าว หลับหูหลับตาพูดกันเป็นเสียงเดียวไม่รู้ดี รู้ชั่ว เข้าข้างพ่อมันอย่างเอาเป็นเอาตาย ไม่พยายามลืมหูลืมตารับรู้เรื่องการโกงชาติ และความผิดของพ่อมันแม้แต่น้อยนิด จนน่าประหลาดใจว่ามีสมองกันหรือไม่? 
     คุณสามวาว่าพ่อมันให้ไอ้พวกบ้านี้มันกินอะไรกันคะ จะได้ไปหามาให้ลูกน้องกินบ้าง จะได้เชื่อง เหมือนลูกพรรคของมัน แต่ถ้าบอกว่าให้กินเศษเงินที่ โกงชาติ ไป ดิฉันคงไม่สามารถทำได้ เพราะไม่เคยโกงใครแม้แต่ภาษีก็เสียเต็มที่ และที่น่าสะอิดสะเอียนไม่แพ้กัน คือตำรวจมะเขือเทศค่ะ คุณสามวาว่าไม่ต้องมี สตช.จะดีมั้ยคะ (จ้างยามหมู่บ้านยังมีผลงานกว่าเลยนะคะ)     
     ป.ล.พอดีที่บ้านมีกระสุน M.79 เหลืออยู่หนึ่งลูก ฝากคุณสามวาไปกรอกปาก "พี่เบ็ด" ให้หน่อยได้มั้ยคะ รำคาญเสียงเห่าหอนจังค่ะ
                                        จาก คนชื่อแดง(แต่อยากเปลี่ยนชื่อจัง)
ตอบ คุณแดง
     แค่ฟังการอภิปรายงบประมาณคุณก็ทนไม่ได้แล้ว จะทนฟังการอภิปรายไม่ไว้วางใจ ที่พรรค
ฝ่ายค้านจะมาฟอกถ่านให้เป็นสีขาวไหวหรือครับ กระสุนเอ็ม 79 ที่คุณครอบครองอยู่มีความผิดตามกฎหมายนะครับ ต้องรีบเอาไปส่งมอบให้ตำรวจ ส่วนชื่อแดงก็ดีอยู่แล้วอย่าไปเปลี่ยนเลยครับ   
 
                    เลือกนักมักได้แร่
เรียน คุณสามวา สองศอกที่เคารพ
     "เลือกนักมักได้แร่" ภาษิตโบราณกล่าวขานไว้เช่นนั้น โดยเฉพาะบุคลากรบนเวทีการเมือง ซึ่งเพียงแต่หาคนที่มี "จิตสาธารณะ" เอามาทำยายังยาก มีแต่ผีป่าซาตานละโมบโลภมาก โกหกพกลมตัวเป็นขน พูดขาวเป็นดำได้อย่างเป็นธรรมชาติ ปลิ้นปล้อน หลอกลวงประชาชนได้อย่างหน้าตาเฉยและอยู่เป็นนิจ ถึงจะมีสิทธิ์เจริญงอกงาม จัดตั้งบริษัทการเมืองเข้ามาประเทืองประเทศ แบ่งเขตแบ่งพรรคตักตวงผลประโยชน์กันอย่างหน้าไม่มียางอายกันทั้งนั้น
     ไอ้ที่มีจิตใจงามทำการเมืองประเทืองประเทศ กันด้วยหัวใจโปร่งใสนั่นน่ะนับรายได้ แต่ในนั้นแน่นอนย่อมมีนายกฯ อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ยืนอยู่ด้วยอย่างแน่นอน
     อย่างนี้ท่านประธานองคมนตรี พล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ อดีตนายกรัฐมนตรีของเรา ถึงได้พูดอย่างเต็มปากว่า โชคดีที่ประเทศไทยมีนายกรัฐมนตรีชื่ออภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ
     รองนึกย้อนถึงอดีตนายกฯ ที่ปกครองประเทศถัดย้อนไปเป็นรายตัว เห็นจะไม่ต้องเอ่ยนามกัน ความสง่างามมีกันได้สักกี่รายคน มีแต่ความเฟอะฟะ เปรอะเปื้อนกันแทบทั้งนั้น และบางท่านก็เป็นเพื่อเพียงเกียรติประวัติเสียของวงศ์ตระกูล
     ที่จะแลดูเป็นผู้เป็นตัวนับหัวได้ ทั้งๆ ที่มีกันผ่านมาได้ตั้งหลายสิบ ลองหยิบเอามาพิจารณาดู
กันแต่ละคนซิครับ ทั้งที่ล่วงลับและยังมีชีวิตได้ ตายก็ไม่ตายที่ยังดิ้นรนทุรนทุรายอยู่ก็ยังมีให้เห็น แล้วเป็นไงโดยเฉพาะรายที่บำเพ็ญตนเป็นนกขมิ้นเหลืองอ่อน ค่ำนี้จะนอนไหนเอย นั่นแหละตัวสำคัญนัก
     แล้ววิญญูชนคนไทยผู้ใฝ่ดีเขานึกกันยังไง มองคนที่เตรียมตัวเตรียมใจเข้ามาอาสาทำงานเพื่อประเทศชาติ โดยอุทิศตัวทั้งประโยชน์ส่วนตน ไม่ต้องขวนขวายแสวงหาอาชีพอื่นใดมาเบียดเบียนผลประโยชน์ของผู้คนร่วมสังคม เพราะฐานะเดิมนี่พ่อแม่สร้างเสริมไว้ดีพออยู่ได้แล้วว่าปลายแถว ละอ่อนไปไม่ใช่มือโปร อพิโธ่พิถัง กลายเป็นแนวร่วมมุมกลับของนักโปรปะกันดา ของพวกผีป่าซาตานที่เข้ามายื้อแย่งทำสัมปทานประเทศ หรือพวกบริษัทพรรคการเมืองกินรวบจำกัดไป
     เรียนได้จากไฮสกูลเกรดเอของโลก ETON ผ่านมหาวิทยาลัยหมายเลขหนึ่ง OXFORD ด้วยวุฒิมหาบัณฑิตปริญญาโทด้านเศรษฐศาสตร์การเมือง โดยเป็นศิษย์รุ่นพี่ของเดวิด คาเมรอน ทั้งไฮสกูลและออกซ์ฟอร์ดในคณะเดียวกัน แต่รายนั้นประเทศต้นแบบประชาธิปไตยอย่างอังกฤษ ประชาชนของเขากลับหยิบป้ายประทับตราให้เป็นผู้เหมาะสมที่จะนำพาประเทศของเขาไป ทั้งๆ ที่วัยเพิ่งย่าง 40 ต้นๆ ผิดกับคนของเรา 40 ปลายๆ ใครๆ มันยังตะแบงกันว่าเด็ก พิลึก!
     มีของดีอยู่แล้วไม่รู้จักดูแลรักษา ให้ผีป่าซาตานมาปั่นขวาปั่นซ้าย ไม่ได้เป็นตัวของตัวเองกันเลยคนไทยเรา น่าสงสารจัง
                                                      ขอแสดงความคารวะ
                                                           บริสุทธิ์ จิณวุฒิ
ตอบ คุณบริสุทธิ์
     ผมดองจดหมายคุณนานพอสมควร เพราะอยากจะพิสูจน์ว่านายกฯ อภิสิทธิ์ของคุณจะดีแตกหรือไม่ ผ่านเหตุการณ์ 19 พฤษภาคม 53 ถือว่าคุณอภิสิทธิ์สอบผ่าน จึงลงจดหมายฉบับนี้เพื่อเป็นกำลังใจ

                    เมนูอร่อยล้วนๆ
เรียน คุณสามวาที่เคารพ
     เมื่อวานพรรคพวกที่แม่กลอง ฝากปลาหมึกกับปลาทูสดๆ จากเรือมาให้ทางรถสิบล้อที่ไปลากเกลือแถวบ้านบ่อ จึงเอาปลาทูมาทำซาเตี๊ยะ ปลาหมึกผัดกะปิ กินจนจุกตกดึกเลยฝันดี เดี๋ยวค่อยเล่าให้อ่าน
     ปกติผมเลิกกินตามร้านอาหารมานาน เพราะแพงและเห็นว่าเรื่องความสะอาดเป็นรองผม
อยู่มาก ไพร่อย่างผมจึงเลียนแบบคุณชายถนัดศรี ทำกับข้าวไปจิบเบียร์ไปแบบใจเย็นๆ ครัวบ้านผมสร้างเอง จึงมีขนาดใหญ่มากคือ 4x16 เมตร เป็นสวรรค์ของผม
     A เริ่มจากเอาน้ำใส่กระทะตั้งไฟ ใส่เกลือทะเลกับน้ำตาลโตนด เคี่ยวจนเป็นยางมะตูมได้รสหวานเค็มแล้ว จึงเติมน้ำส้มสายชู ตำพริกขี้หนูกับกระเทียมอย่างละกำมือ ใส่โพ้ละลงไป ตามด้วยผักชีเยอะๆ
     B ต้มน้ำใส่เกลือให้เดือดจัด จึงหย่อนปลาทูตามสักสิบตัว กะว่าสุกพอดีๆ แล้วช้อนขึ้นมาเรียงในจาน ตักเครื่องปรุงในข้อ A ราดเยอะๆ
     คุณสามวานึกภาพซิว่าอร่อยไหม
     เสร็จอย่างแรกคือปลาทูซาเตี๊ยะ เอากระทะตั้งไฟใส่น้ำมันสักช้อนโต๊ะให้ร้อนจัด ควักกะปิราว 1 ช้อนชาขยำกับปลาหมึก แทรกน้ำตาลทรายนิดหน่อยเตรียมไว้ ปอกกระเทียมไทยครึ่งกำมือไม่ต้องบุบ ใส่กระทะทอดให้หอมฉุย เทปลาหมึกคลุกกะปิลงผัดเร็วๆ พอสุก (อย่าสุกมาก) เหยาะน้ำปลาน้ำตาลทรายอีกเล็กน้อย ตามด้วยใบโหระพาคลุกๆ แล้วตักขึ้น
     คุณสามวาคิดว่าน่าจะอร่อยไหม
     อร่อยคักๆ เลยครับ โดยมีเงื่อนไขว่าปลาทู ปลาหมึก ต้องสดจริงๆ โดยเฉพาะปลาหมึกอย่าเอาหมึกดำออกสีไม่ค่อยสวย กินแล้วปากดำแต่อร่อย กินแล้วฝันดี
     ทีนี้จะเล่าเรื่องความฝันดีของผมบ้าง คือฝันว่าคุณสนธิ ลิ้มทองกุล เปลี่ยนใจรับตำแหน่งหัวหน้าพรรคการเมืองใหม่อีกครั้ง ลงรับสมัครเลือกตั้งภายหลังนายกฯ อภิสิทธิ์ยุบสภากะทันหัน พรรคประชาธิปัตย์ไม่ถูกยุบ ได้คะแนนล้นหลามจากคนกรุงเทพฯ และคนใต้รวม 167 ที่นั่ง
     ส่วนพรรคการเมืองใหม่ได้ ส.ส. 6 คน คือคุณสนธิ ลิ้มฯ คุณโสภณ องค์การ คุณชัชวาลย์ ชาติสุทธิชัย คุณอัญชะลี ไพรีรัก คุณสำราญ รอดเพชร และคุณประพันธ์ คูณมี ส่วนพี่ยะใสสอบตก
     พรรคเพื่อไทยได้ ส.ส. 249 คน แต่หาพวกตั้งรัฐบาลไม่ได้เลย จึงรวมหัวกันโหวตให้คุณสนธิ ลิ้มทองกุล เป็นนายกรัฐมนตรีซะเลย สร้างประวัติศาสตร์หน้าใหม่ให้เมืองไทย
     คุณสนธิฯ ตั้งรัฐบาลได้สำเร็จ จึงไปดึงนายประจักษ์ แกล้วกล้าหาญ มาเป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ให้คุณประพันธ์ คูณมี เป็น รมว.ยุติธรรม คุณชัชวาลย์ ชาติสุทธิชัย คุมกลาโหม คุณโสภณ องค์การ คุม DSI คุณสำราญ รอดเพชร คุม กอ.รมน.
     ส่วนคุณอัญชะลีเป็น รมว.สำนักนายกฯ คุมสื่อโดยเฉพาะ
     รมว.การต่างประเทศไม่พ้นคนชื่อกษิต ภิรมย์
     ผมฝันได้แค่นี้ก็ตื่นเพราะปวดท้องหนักท้องเบา เดินงัวเงียไปเข้าห้องน้ำ กลับมานอนหลับยาวถึงเช้า
     แหม่!! เสียดายจังที่ไม่ได้ฝันต่อ ว่าเมืองไทยจะมีสภาพอย่างไร หากฝันผมเป็นจริงขึ้นมา
                                                     ด้วยความนับถืออย่างสูง
                                                       ศรีธัญญา ณ สวนปรุง
ตอบ คุณศรีธัญญา
     เมนูปลาทูซาเตี๊ยะและปลาหมึกผัดกะปิของคุณ ท่าทางจะอร่อยนะครับ เปิดร้านเมื่อไหร่ช่วยบอกด้วยจะไปอุดหนุน ส่วนความฝันของคุณนั้นต้องไปถามพวกสภาท่าพระอาทิตย์ที่เอเอสทีวี ว่าแบ่งกระทรวงให้อย่างนี้เห็นด้วยหรือเปล่า
                                                         สามวา สองศอก 

http://www.thaipost.net/news/010610/22840


หัวข้อ: Re: [2513]"ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: ดร.มนตรี ที่ 01 มิถุนายน 2553, 15:23:43
ขออนุญาตต่อแถว พี่น้อง

HBD พี่เหยงด้วยคนครับ  ...


หัวข้อ: Re: [2513]"ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: เหยง 16 ที่ 01 มิถุนายน 2553, 17:57:36
ขอบใจ ดร.มนตรี ครับ

ขอให้บรรดาพรทั้งหลาย บันดาลให้น้องและครอบครัวมีความสุขตลอดไปเช่นกัน


หัวข้อ: Re: [2513]"ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: เหยง 16 ที่ 01 มิถุนายน 2553, 18:21:45
เห็นหน้า-เห็นตา กลุ่มคนผู้ถืออาวุธของเสื้อแดงซะที ทั้งปืนลูกซองสั้น ปืน M-16 และอื่นๆ

(http://www.cmadong.com/imageupload/2010_Cmadong-Image/data/image/l3c26g-ff5bd3.jpg)

นักข่าว CNN ลงรูปชุดดำแก้ตัวตีข่าวไทย

คมชัดลึก :แดน ริเวอร์ส นักข่าวสำนักข่าว CNN ประจำประเทศไทยลงภาพชายชุดดำ แก้ตัวการรายงานข่าวสถานการณ์ความรุนแรงในกรุงเทพฯ 

สำนักข่าว CNN บรรยายว่า ในสัปดาห์นี้ ฉากแห่งความรุนแรงในกรุงเทพฯ ได้รับความสนใจอีกครั้ง เมื่อพรรคการเมืองในทั้งสองฝ่ายของปัญหาได้มาถกกันเรื่องที่ว่าเกิดอะไรขึ้น

ในความรุนแรงเมื่อไม่นานมานี้ ข้อมูลของทางการบอกว่า มีผู้เสียชีวิต 88 ราย ส่วนมากเป็นผู้ประท้วง แต่ก็มีเจ้าหน้าที่ตำรวจทหารรวมอยู่ด้วย 11 ราย บางคนเป็นอาสาสมัครการแพทย์ ราว 1 พัน 500 คนบาดเจ็บ ซึ่งก็มีทั้งผู้ประท้วง อาสาสมัคร และผู้สื่อข่าว รวมทั้งทหาร รัฐบาลกล่าวหากลุ่มติดอาวุธหัวรุนแรงในหมู่ผู้ประท้วงเสื้อแดงที่ทางการเรียกว่าผู้ก่อการร้ายว่าเป็นคนเปิดฉากยิงก่อน

ปัจจุบันนายกรัฐมนตรีกำลังถูกอภิปรายไม่ไว้วางใจอยู่ในรัฐสภา โดยพรรคฝ่ายค้านอ้างว่าฝ่ายทหารใช้กำลังรุนแรง ฝ่ายค้านใช้วีดีโอคลิปในการพิสูจน์ข้อกล่าวหา ที่บอกว่าทหารยิงปืนใส่ผู้ประท้วงที่กำลังวิ่งหนี ฝ่ายรัฐบาลยืนยันว่าในกลุ่มคนเหล่านี้มีกลุ่มติดอาวุธแฝงอยู่ และยืนยันว่าทหารเล็งเป้าไปยังเฉพาะผู้ที่มีอาวุธเท่านั้น พร้อมกันนั้นก็ยังให้มีการสอบสวนการเสียชีวิตของผู้ประท้วงที่ไม่มีอาวุธด้วย

วีดีโอที่ทาง CNN ได้มาชุดนี้ จนถึงปัจจุบันเป็นหลักฐานที่ชัดเจนที่สุดเกี่ยวกับกลุ่มติดอาวุธที่เป็นปริศนา ที่ถูกรัฐบาลกล่าวหาว่าเป็นต้นเหตุการปะทะ มีการบอกให้ผู้ชมสามารถเห็นได้อย่างชัดเจน ถึงปืนเอ็ม 16 ที่เอวของผู้ชายในภาพ และก็เป็นครั้งแรกที่สามารถมองเห็นใบหน้าของชายคนนี้อย่างชัดเจน โดยคนหนึ่งใส่ชุดพรางแบบทหาร ส่วนอีกคนใส่ชุดดำ

ผู้ชายคนนี้ยืนยันให้ช่างภาพถอยออกไป โดยไม่รู้ว่าพวกเขาถูกบันทึกภาพวีดีโอเอาไว้แล้ว ใบหน้าของชายคนนี้อาจจะเป็นหลักฐานสำคัญว่าจริงๆแล้วใครอยู่เบื้องหลังเหตุการณ์ความรุนแรง

นายกรัฐมนตรีบอกว่า พวกอันธพาลเหล่านี้ไม่ใช่ส่วนปกติของขบวนการเสื้อแดง " ผมเชื่อมั่นหนักแน่นว่า คนที่ต้องการเข้ามายุ่งเกี่ยวกับความรุนแรง เป็นเพียงส่วนเล็กๆของขบวนการ ผมไม่เชื่อว่าคนที่มาร่วมกับขบวนการเสื้อแดง ต้องการสนับสนุนขบวนการที่ต้องการความรุนแรง"

แต่การที่เขายอมรับว่าส่วนมากของขบวนการเป็นไปอย่างสันติ ก่อให้เกิดคำถามเกี่ยวกับสิ่งที่เกิดขึ้นในวัด ที่ผู้ประท้วงหลายร้อยเข้าไปหลบภัย ตอนที่ทหารรุกเข้ามา พวกเสื้อแดงบอกว่าพวกเขาถูกยิงมาจากเส้นทางรถไฟฟ้าที่อยู่ข้างบน ภาพที่ถูกตีพิมพ์ในเว็บไซต์แห่งหนึ่งเผยให้เห็นทหารอยู่บนทางรถไฟที่อยู่ใกล้ๆ กัน แต่รัฐบาลบอกว่าทหารไม่ได้อยู่ที่นี่ในวันที่เกิดการยิงกัน  และตอนนี้เว็บไซต์ดังกล่าวก็ถูกบล็อกไปแล้วในประเทศไทย

มีผู้เสียชีวิต 6 รายในวัด ซึ่งก็รวมถึงผู้หญิงคนนี้ ที่มาช่วยดูแลบผู้บาดเจ็บ ซึ่งหนึ่งในนั้นก็คือแอนดรู บันคอมพ์ นักข่าวอังกฤษ " มีคนบาดเจ็บหนักกว่าผมอีก ผมถูกยิงบริเวณประมาณ 20 หลาจากหน้าวัด" คนที่รัฐบาลกล่าวว่าสำหรับเรื่องเหล่านี้ทั้งหมดก็คือ อดีตนายกรัฐมนตรีทักษิณ ชินวัตร  ปัจจุบันเขาอยู่ระหว่างการลี้ภัย และปฏิเสธข้อกล่าวหา รวมทั้งมีสัญญาณเพียงเล็กน้อยเท่านั้นที่รัฐบาลอื่นๆจะส่งตัวเขากลับมายังประเทศไทย รัฐบาลไทยกล่าวหาว่าทักษิณจ่ายเงินให้กับกลุ่มคนติดอาวุธอย่างชายคนนี้ เพื่อให้ก่อสงครามกลางเมือง ปัจจุบันชายคนนี้ยังอยู่ระหว่างการหลบหนี ขณะที่ความรุนแรง ก็ยังมีโอกาสเกิดขึ้นได้ในประเทศไทย
ชมคลิ๊ป คลิกที่นี่

http://edition.cnn.com/video/#/video/world/2010/06/01/rivers.thai.crisis.cnn

http://www.komchadluek.net/detail/20100601/61356/นักข่าวCNNลงรูปชุดดำแก้ตัวตีข่าวไทย.html


หัวข้อ: Re: [2513]"ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: เหยง 16 ที่ 02 มิถุนายน 2553, 13:05:14
โหวตซักฟอก “มาร์ค” ฉลุย “โสภณ” กระอัก “ปู่จิ้น” รองบ๊วย
2 มิถุนายน 2553 12:43 น.

 
       โหวตซักฟอก “มาร์ค” ได้เสียงสนับสนุนให้ทำหน้าที่นายกฯ ต่อไปโดยได้มากสุด 246 เสียง ขณะที่ “สุเทพ” ได้ 245 “กรณ์” 244 ตามด้วย “กษิต” 239 ขณะที่ “โสภณ” คะแนนต่ำสุด 234 ส่วน “ชวรัตน์” รองบ๊วย 236
     
       การลงมติอภิปรายไม่ไว้วางใจ หลังจากพรรคร่วมฝ่ายค้านอภิปรายไม่ไว้วางใจนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี นายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรี นายชวรัตน์ ชาญวีรกูล รมว.มหาดไทย นายโสภณ ซารัมย์ รมว.คมนาคม นายกษิต ภิรมย์ รมว.ต่างประเทศ และนายกรณ์ จาติกวณิช รมว.คลัง ตั้งแต่วันที่ 31 พ.ค.ถึง วันที่ 1 มิ.ย.ที่ผ่านมา นายชัย ชิดชอบ ประธานสภาผู้แทนราษฎร ได้เปิดประชุมสภาฯ เพื่อลงมติในญัตติอภิปรายไม่ไว้วางใจ ในเวลา 10.00 น.วันนี้ (2 มิ.ย.) ซึ่งรัฐมนตรีจะต้องได้รับเสียงในการลงมติไม่น้อยกว่า 238 เสียง จากจำนวน ส.ส.475 เสียง โดยมี ส.ส.จากพรรคร่วมรัฐบาล 275 เสียง ประกอบด้วย 6 พรรคการเมือง ได้แก่ ประชาธิปัตย์ 172 เสียง ภูมิใจไทย 32 เสียง เพื่อแผ่นดิน 32 เสียง ชาติไทยพัฒนา 25 เสียง รวมชาติพัฒนา 9 เสียง กิจสังคม 5 เสียง ขณะที่ฝ่ายค้านมี 200 เสียงประกอบด้วย 3 พรรคการเมืองได้แก่ พรรคเพื่อไทย 189 เสียง ประชาราช 8 เสียง และมาตุภูมิ 3 เสียง
       
       ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังจากเปิดประชุมสภา นายชัย ชิดชอบ ได้ขอนับองค์ประชุม ปรากฎว่ามีส.ส.เข้าร่วมประชุม 456 คน ครบองค์ประชุม จากนั้นจึงมีการลงมติผลการลงมติ นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ได้รับความไว้วางใจ 246 ไม่ไว้วางใจ 186 งดออกเสียง 11 ไม่ลงคะแนน 21 นายสุเทพ เทือกสุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ได้รับความไว้วางใจ 245 ไม่ไว้วางใจ..187 ลดออกเสียง11 ไม่ลงคะแนน 21
       
       นายกรณ์ จาติกวณิช รมว.คลัง ได้รับความไว้วางใจ 244 ไม่ได้รับความไว้วางใจ 187 งดอกเสียง 12 ไม่ลงคะแนน 22 นายกษิต ภิรมย์ รมว.ต่างประเทศ ได้รับความไว้วางใจ 239 ไม่ได้รับความไว้วางใจ 190 งดออกเสียง 15 ไม่ลงคะแนน 21
       
       นายชวรัตน์ ชาญวีรกูล รมว.มหาดไทย ได้รับความไว้วางใจ 236 ไม่ได้รับความไว้วางใจ 194 งดออกเสียง 14 ไม่ลงคะแนน 22 นายโสภณ ซารัมย์ รมว.คมนาคม ได้รับความไว้วางใจ 234 ไม่ได้รับความไว้วางใจ 196 งดออกเสียง 13 ไม่ลงคะแนน 22
       
       ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในจำนวนรัฐมนตรีที่ได้รับความไว้วางใจ ปรากฏว่ารัฐมนตรีจากพรรคภูมิใจไทย 2 คนที่ก่อนหน้านี้พรรคเพื่อแผ่นดินมีท่าทีไม่สนับสนุน ได้รับเสียงความไว้วางใจน้อยกว่ารัฐมนตรีที่ถูกอภิปราย โดยนายชวรัตน์ ชาญวีรกูล ได้เสียงไว้วางใจเพียง 236 เสียง ขณะที่นายโสภณได้รับเสียงสนับสนุนน้อยสุด 234 เสียง สร้างความฮือฮาอย่างมากในห้องประชุมหลังประธานสภาฯ ขานมติ
       
       ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังลงมติอภิปรายไม่ไว้วางใจแลัว นายพิฑูร พุ่มหิรัญ เลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร ได้อ่านพระราชกฤษฎีกาปิดประชุมสภาสมัยวิสามัญทันที จากนั้นประธานสภาจึงสั่งปิดประชุม

 
 
จาก http://www.manager.co.th/asp-bin/mgrView.asp?NewsID=9530000075770
 


หัวข้อ: Re: [2513]"ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: พธู ๒๕๒๔ ที่ 02 มิถุนายน 2553, 21:46:50


สตรีนางหนึ่ง แต่งงานมีลูกแล้ว และเธอก็มีชู้ด้วย 1 คน
ทุกวันพุธเธอจะพาชู้มาที่บ้าน เพื่อทำการ(จึ๊กก ระดึ๋ย)
และระหว่างนั้นเธอก็จะให้ลูกชายอายุ 8 ขวบไปอยู่ในตู้เสื้อผ้า

พุธหนึ่งสามีเธอเกิดเลิกงานเร็ว ผิดปกติและกลับบ้านก่อนเวลา
เธอตกใจมากจึงรีบพาชายชู้มาหลบในตู้เดียวกะ ที่ลูกชายเธออยู่
พอตู้เสื้อผ้าปิดลงเด็กน้อยก็พูดขึ้นว่า

"ใน นี้มืดจังเลยนะครับ"
"อื้อ นั่นน่ะสินะ" ชายชู้ตอบ
"ผมมีลูกเบสบอลลูก นึง ขายให้คุณ 50 ดอลล่า เอามั้ยครับ?"
เด็กน้อยเสนอ
ชายชู้รีบตอบ ปฏิเสธทันที
"ไม่เอาเว้ย ขายขูดรีดกันนี่หว่า"
"งั้นผมไปบอกพ่อดีกว่า ว่าคุณอยู่ในนี้
"เออ เอามาก็ได้วะ" ชายชู้จำยอม

พุธต่อมาก็เกิด เหตุการแบบเดียวกันขึ้น อีก
ชายชู้จึงถูกพาไปหลบในตู้เสื้อผ้าเดิม
"ใน นี้มืดจังนะครับ" เด็กชายพูดขึ้น
"เออ นั่นสินะ" ชายชู้กัดฟันพูด
"ผม มีไม้เบสบอลจะขายคุณ 50ดอลล่าเอามั้ยครับ?"
"เอามาเล้ย"

ครั้นพุธ ต่อมาผู้เป็นสามีลาพักร้อน
เขาชวนลูก ชาย
"นี่ลูก พ่อว่าเราไปเล่นเบสบอลกันดีมั้ย?"
เด็กชายตอบว่า
"ไม่ได้หรอกพ่อ ผมขายไม้กะลูกบอลไปแล้วในราคา100ดอลล่า

ผู้เป็นพ่อโกรธมาก
" แกนี่ทำแบบนี้ได้ยังไง แกไปหลอกขายใครเข้ามันเป็นบาปรู้มั้ย
และพระผู้ เป็นเจ้าจะไม่ยอมรับลูก ขึ้นสวรรค์ มานี่พ่อจะพาไปโบสถ์"

ที่ โบสถ์......
ผู้เป็นพ่อพาเด็กชายมาที่ห้อง สารภาพบาปซึ่งเป็นห้องที่เล็กๆและค่อนข้างมืด
"เอ้า เข้าไป แล้วบอกหลวงพ่อไปซะว่าแกทำบาปอะไรมา"
เด็กน้อยเข้าไปในห้องนั้นและประตู ก็ปิดลงทิ้งให้เด็กชายอยู่ในความมืด
เด็กน้อยรู้สึกกลัวจึงรำพึงออกมา
"ใน นี้มืดจึงเลย..."
ทันใดนั้นบาทหลวงก็ตอบกลับมาว่า

"จะเอาอะไรมา ขายอีก"

 

 

ที่มา teenee.com


หัวข้อ: Re: [2513]"ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: prapasri AH ที่ 04 มิถุนายน 2553, 09:49:16
แฮ๊ปปี้ เบ-เดิร์ท เบิร์ทเดย์ เหยงด้วยคนนะคะ

ขอให้สุขภาพเเข็ง เเรง และมีจิตใจสาธารณะ ที่เห็น ว่าอะไรคือความถูกต้อง

ของสังคมไทย อย่างนี้ไปตลอดนะคะ

คือรู้จักว่าอะไรถูกอะไรผิด  เหมือนที่เหยงเป็นอยู่น่ะค่ะ
อุดมการณ์ที่ดีอย่าได้เเปรเปลียน ไม่ว่าจะอยู่ตรงไหนก็ตาม


หัวข้อ: Re: [2513]"ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: ภาณุ ปาตานี ที่ 04 มิถุนายน 2553, 11:45:24
อ้างถึง
ข้อความของ suriya2513 เมื่อ 01 มิถุนายน 2553, 10:16:02
ผมนึกว่ามีผมคนเดียว ที่ไม่สามารถทนฟังการอภิปรายในสภาเมื่อวานนี้ได้
ผมคงถูกคุณเปลว สีเงิน ล้างสมองเสียแล้วเป็นแน่แท้


คนทั้งบางครับพี่ป๋อง ที่ฟังไม่ได้

เปลวไฟที่เผาครับที่ล้างสมอง

ส่วนคุณเปลว สีเงิน คงไม่เกี่ยวเท่าไหร่ มั้งครับ (ให้เกี่ยวสักหน่อยก็ได้ครับ..ให้เครดิตกับวิธีการคิดครับ)

 


หัวข้อ: Re: [2513]"ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: เหยง 16 ที่ 04 มิถุนายน 2553, 11:56:43
อ้างถึง
ข้อความของ prapasri AH เมื่อ 04 มิถุนายน 2553, 09:49:16
แฮ๊ปปี้ เบ-เดิร์ท เบิร์ทเดย์ เหยงด้วยคนนะคะ

ขอให้สุขภาพเเข็ง เเรง และมีจิตใจสาธารณะ ที่เห็น ว่าอะไรคือความถูกต้อง

ของสังคมไทย อย่างนี้ไปตลอดนะคะ

คือรู้จักว่าอะไรถูกอะไรผิด  เหมือนที่เหยงเป็นอยู่น่ะค่ะ
[size]
อุดมการณ์ที่ดีอย่าได้เเปรเปลียน ไม่ว่าจะอยู่ตรงไหนก็ตาม

ขอบคุณครับ


หัวข้อ: Re: [2513]"ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: เหยง 16 ที่ 04 มิถุนายน 2553, 12:12:37
คอลัมม์ "คนปลายซอย" วันนี้ (4 มิถุนายน 2553) ท่ามกลางวิกฤติพรรคร่วมรัฐบาลโหวตส่วนไม่ไว้วางใจ รมต. พร้อมระบุว่า นอกจากการปเลี่ยนตัว ครม.แล้ว ดวงดาวก็เปลี่ยนตำแหน่งไปด้วย เชิญอ่านครับ

ปรับ ครม.ไม่เท่าดวงดาวจะปรับแทน
เปลว สีเงิน 4 มิถุนายน 2553 - 00:00

     เอ้า...จะปรับพรรค-ปรับ ครม.ก็รีบปรับๆ เข้า เดี๋ยวอีกไม่กี่วันสื่อและชาวบ้านเขาก็จะไม่แลรัฐบาลแล้วละ เพราะจะไปแลการถ่ายทอดสด "ฟุตบอลโลก" กันหมด แต่ผมอยากบอกว่า ถึงแม้เพื่อแผ่นดิน หรือภูมิใจไทยน้ำลายหกออกไปจากการร่วมรัฐบาล ก็ไม่ต้องกลัวรัฐบาลจะล่ม  เพราะไปแต่โครงคือพรรค ส่วนไส้ในคือ ส.ส.ในพรรคส่วนใหญ่ไม่ไปด้วย แถมยังมีพรรคและแก๊งอะไหล่รอเสียบอยู่อีก ประเด็นสำคัญอยู่ที่การ "ปรับ ครม." มากกว่า คนอยากให้ปรับเข้าน่ะเยอะ  แต่คนไม่อยากให้ปรับออกเยอะกว่า...ตรงนี้แหละปัญหาปวดใจ-ปวดกะโหลก!
     ถามว่า ปรับคนโน้น-ปรับคนนี้ แล้วกล้าปรับตำแหน่งที่ควรปรับอย่าง นายชวรัตน์ ชาญวีรกูล รมว.มหาดไทย นายโสภณ ซารัมย์ รมว.คมนาคม และนางพรทิวา นาคาศัย รมว.พาณิชย์มั้ย?
     นายกฯ ก็ร้อง ไอ๊หยา..เค้าเป๋ ไปเท่านั้นเอง!
     ที่ผมพูดถึง ๓ ตำแหน่ง ๓ คนนี้ ไม่ใช่เพราะเขาไม่ดี ไม่เก่ง แต่เพราะว่า "วางตัวคนไม่เหมาะกับตำแหน่งงาน" นั่นแหละเป็นหลักใหญ่ อย่างกระทรวงมหาดไทยอันเกิดขึ้นมาพร้อมกับประเทศไทยในความหมายเป็น "แกนระบบบริหารประเทศ" เป็นทั้งแขน ทั้งขา ทั้งหู ทั้งตา กระจายอยู่ทั่วขอบเขตขัณฑสีมา ที่เรียกว่าทำงาน "ต่างพระเนตร-พระกรรณ" ของระบบราชการ ปรัชญาอันเป็นที่มา ก็น่าจะมาจากตรงนี้แหละ ตรงงานมหาดไทยนี่!
     แล้วลองหลับตานึกงานกระทรวงมหาดไทยที่โบราณเรียกว่า "กระทรวงเจ้าขุนมูลนาย" เทียบกับบุคลิกภาพ และพื้นฐานความเป็นมาของนายชวรัตน์ดูซิ พ่อค้า-อาแป๊ะมาเป็นผู้บังคับบัญชา "เจ้าเมือง" ตลอดถึงนายอำเภอ และหน่วยงานในความเป็น "ฝ่ายปกครอง" ทั้งหมด เหมือนสวมชุดไทย ใช้ชฎา แล้วไปเล่นงิ้ว!
     มาถึงนายโสภณ ซารัมย์ บ้าง เขาเก่ง มีความสามารถ ไม่งั้นนายเนวินไม่ให้ขับรถประจำตัวให้นั่งหรอก แต่กับงานคมนาคมในยุคสมัยที่เขามองไปถึงขั้นเส้นทางเชื่อมดาวเคราะห์กันแล้ว เรียกว่าไปไกลกว่าวิสัยทัศน์ถนนปลอดฝุ่น หรือแค่ตัดต้นไม้บนเขาใหญ่อันเป็นทั้งอุทยานแห่งชาติและมรดกโลกด้วยความคิดแค่ "ขยายถนน" ในพื้นที่ที่มนุษย์ต้องการต้นไม้มากกว่าต้องการถนนให้คนไปซิ่ง หลับตานึกถึงภาพนายโสภณ แล้วเอาวิสัยทัศน์งานคมนาคมที่ควรเป็นในอีก ๑๐-๒๐ ปีข้างหน้ามาเทียบ เห็นความลงตัวระหว่างคนกับงานตรงไหน นอกจาก "นายเนวิน" ต้องการ!?
     นางพรทิวา นาคาศัย ก็เหมือนกัน ในฐานะรัฐมนตรีพาณิชย์ ชอบไปเมืองนอกบ่อยๆ น่าจะเปลี่ยนชื่อเสียก่อนนะ เพราะเวลาไปแนะนำตัวกับฝรั่งว่า "พรทิวา" เขาจะอมยิ้มเอา หรือบางคนอาจเข้าใจไขว้เขวว่าพาณิชย์มาขายอะไร ความจริงเธอเป็นคนเก่ง สามารถบริหารสถานบริการอาบอบนวดของตระกูลพบความสำเร็จโด่งดังเช่นโพไซดอน ที่นักข่าวและนักการเมืองรู้จักดี แต่นั่นจะใช้เป็นเครื่องการันตีว่าเธอคลุกคลีอยู่กับการค้า จึงคู่ควรกับตำแหน่งรัฐมนตรีพาณิชย์หาได้ไม่!
     พูดกันตรงๆ ประเทศไทยทั้งอดีตและปัจจุบัน ที่ว่า GDP โตได้เท่านั้น-เท่านี้ กระทรวงพาณิชย์มีหน้าที่เป็นผลงานอย่างเดียวคือ หน้าที่เก็บตัวเลขมา "เอาหน้า-เอางบ" ในแต่ละไตรมาส บรรดาพ่อค้า นักธุรกิจ นักลงทุน อันเป็นภาคเอกชนเขาทำของเขาเอง ช่วยตัวของเขาเอง เกือบทั้งนั้น โดยเฉพาะในภาคส่งออก ถ้าภาครัฐไม่อ้างสิทธิตามอำนาจรัฐเข้าไปเป็นแมงดาเกาะหลัง ไม่ใช้อำนาจเป็นลูกตุ้มถ่วงเขามากนัก รับประทานแต่พอคำ เพียงคอยอำนวยความสะดวก และใช้ฐานะประเทศคอยปกป้อง-ดูแลเขาในฐานะพี่เลี้ยงที่ดีแค่นั้น ป่านนี้การค้าภาคเอกชนจะทำให้ประเทศไทยรวยไม่รู้เรื่อง!
 เป็นความตกต่ำ และโชคร้ายสุดๆ ของไทย ในขณะที่เรามีอุตสาหกรรมการส่งออกและศักยภาพพ่อค้าไทยเป็นจุดแข็งเหนือกว่าหลายๆ ประเทศ แต่กลับมีจุดอ่อนมาละลายจุดแข็งจนทำให้ด้อยกว่าเกือบทุกประเทศ เพราะได้คนที่มีคุณสมบัติแค่แจ๋วเดินตามเมียหัวหน้า "ก๊วนผสมพรรค" มาเป็นรัฐมนตรีพาณิชย์!
     นี่ผมยกตัวอย่างให้ดูถึง "ความยาก" ในการปรับ ครม.ให้ถูกคน ถูกงาน และถูกใจประชาชนเท่านั้น  เพราะด้วยการเมือง เรื่องถูกใจประชาชนมาทีหลัง การ "ถูกใจ" พรรคและก๊วนต้องมาก่อนอยู่แล้ว ในเมื่ออยากให้รัฐบาลอยู่ นายกฯ อภิสิทธิ์อยู่ บรรดาแฟนคลับอภิสิทธิ์ทั้งหลายก็ต้องพร้อม "ทำใจ" ประกาศโฉมหน้า ครม.มาร์ค ๒ เมื่อไหร่ ยี้...ค่อยๆ อยู่ในใจแล้วกัน!
 
     เอาละ..มีอะไรมาให้ท่านศึกษาต่อท้าย ท่านอาจารย์ "กรหริศ บัวสรวง" คงเห็นผมนั่งทางในคุยเปะปะในเชิงคาดการณ์บ้านเมืองล่วงหน้า ท่านเลยคำนวณเส้นทางโคจรของดวงดาวที่เป็นจริงบนท้องฟ้าขณะนี้มาให้อ่านกัน รู้-ดีกว่าไม่รู้ ฉะนั้น อ่านเพื่อศึกษาตามศาสตร์สถิติแห่งดวงดาวกันได้เลยนะครับ
       จับตาดาวเคราะห์ 3 ดวง
            กรหริศ บัวสรวง
     ...มีประเด็นที่ผมต้องขออนุญาตใช้พื้นที่ของคุณเปลว สีเงิน อีกครั้งเพื่อนำเสนอเรื่องของดาราศาสตร์และโหราศาสตร์ ในเดือนมิถุนายน ที่มีข่าวลือหนาหูว่าจะเกิดภัยพิบัติทางธรรมชาติ เช่น แผ่นดินไหวรุนแรง เกิดคลื่นยักษ์สึนามิ ปรากฏการณ์ทางดาราศาสตร์จากข้อมูลของสมาคมดาราศาสตร์ไทยระบุว่า ดาวเคราะห์ 3 ดวง คือ ดาวศุกร์ ดาวอังคารและดาวเสาร์ กำลังโคจรเข้าใกล้มากขึ้นและจะใกล้กันมากที่สุดในเดือนสิงหาคม ขณะนี้ดาวศุกร์อยู่ในกลุ่มดาวปู (ราศีกรกฎ) ดาวอังคารอยู่ในกลุ่มดาวสิงโต (ราศีสิงห์) และจะมีความสว่างมากขึ้น ดาวเสาร์อยู่ในกลุ่มดาวหญิงสาว (ราศีกันย์) ซึ่งเป็นข้อมูลที่ตรงกับการคำนวณของคัมภีร์สุริยาตร์ของไทยอย่างไม่ผิดเพี้ยน แสดงให้เห็นว่าส่วนหนึ่งของวิชาโหราศาสตร์นั้นก็คือวิชาดาราศาสตร์ที่เป็นวิทยาศาสตร์แขนงหนึ่ง สำหรับวิธีการพยากรณ์เป็นทั้งศาสตร์และศิลป์ที่มาจากสถิติและประสบการณ์ของนักโหราศาสตร์ เราได้ผ่านเดือน “พฤษภากาลี” ไปแล้ว แต่ก็ยังมีการบิดเบือนความจริงในสภาผู้แทนราษฎรตามมาหลอกหลอนผู้คนให้เกิดความสับสนเข้าใจผิด และเป็นการสร้างความแตกแยกโดยเจตนา ภัยพิบัติทางธรรมชาติเป็นสิ่งที่น่ากลัวไม่ต่างไปจากการก่อการร้ายที่เผาบ้านเผาเมือง แต่ความกาลีเลวร้ายที่เกิดขึ้นจากคนนั้นป้องกันและกำจัดได้ด้วยกฎหมาย ส่วนเรื่องของธรรมชาติสามารถรู้ล่วงหน้าได้จากดาวเคราะห์ที่กล่าวถึงทั้ง 3 ดวง เริ่มจากดาวศุกร์ ธาตุน้ำโคจรเข้าสู่ราศีกรกฎธาตุน้ำเช่นเดียวกัน ราศีนี้มีดาวจันทร์ครองราศีอยู่ ดาวจันทร์ก็เป็นดาวกึ่งธาตุน้ำและธาตุดินคือดินเหลว ดาวศุกร์ในภพที่ 4 ของดวงเมืองหมายถึงที่อยู่อาศัย ที่ดิน ดินฟ้าอากาศ เกษตรกรรม และในทางการเมืองหมายถึงพรรคฝ่ายค้าน ดาวอังคารธาตุลมโคจรในราศีธาตุไฟภพที่ 5 ของดวงเมืองที่มีดาวอาทิตย์ครองราศี ส่วนดาวเสาร์ธาตุไฟอยู่ในราศีธาตุดินภพอริที่มีดาวพุธครองราศี
     จะเห็นได้ชัดเจนว่าทั้งน้ำ ทั้งลม ทั้งไฟ ทั้งดิน รวมกันอยู่ในดาวที่โคจรในแต่ละราศี ดังนั้นภัยพิบัติย่อมมีโอกาสเกิดขึ้นได้จากอิทธิพลของธรรมชาติและฤทธิ์เดชของผู้สูญเสียอำนาจ จึงขอเตือนว่าอย่าได้วางใจเป็นอันขาด ตั้งแต่บัดนี้ถึงเดือนสิงหาคม ดินฟ้าอากาศจะวิปริต สังคมเกิดอาเพศขัดแย้งกันรุนแรงอีกรอบหนึ่ง ในขณะเดียวกันดาวพฤหัสบดีอยู่ในบริเวณกลุ่มดาวปลา (ราศีมีน) ค่อนไปทางกลุ่มดาวคนแบกหม้อน้ำ (ราศีกุมภ์) เดือนนี้ดาวพฤหัสบดีจะโคจรเข้าใกล้ดาวยูเรนัส (ดาวมฤตยู) มากที่สุดในช่วงเช้าของวันที่ 8 มิถุนายน นับเป็นครั้งแรกในจำนวน 3 ครั้งที่เกิดขึ้นในปีนี้ถึงต้นปี 2554 เมื่อเอ่ยถึงดาวมฤตยู นักโหราศาสตร์จะนึกเรื่องของการปฏิวัติเปลี่ยนแปลงเป็นอันดับแรก แต่ดาวนี้อยู่ในภพที่ 12 (ภพวินาศ) ของดวงเมือง ที่หมายถึงอาชญากรรม คุกตะราง ใครคิดก่อกบฏทรยศชาติมีสิทธิ์รับชะตากรรมต้องโทษทัณฑ์ตามกฎหมายด้วยผลของดาวพฤหัสบดีที่ทรงไว้ซึ่งความยุติธรรม เมื่อดาวศุกร์จรอยู่ในภพที่ 4 ซึ่งหมายถึงพรรคฝ่ายค้าน มาจากภพวินาศ จะส่งผลให้บางคนต้องย้ายที่อยู่จากบ้านไปสู่คุกตะรางหรือหลบหนีคดีไปต่างแดน
     รัฐบาลจะต้องเร่งปฏิรูปประเทศและระบบต่างๆ ที่เป็นอุปสรรคต่อความมั่นคงอย่างรวดเร็ว เพราะดาวกำลังเอื้ออำนวยความโชคดีอย่างไม่คาดฝัน แต่จะสำเร็จหรือไม่ ขึ้นอยู่กับนายกรัฐมนตรีว่าจะสามารถรวมร้อยใจคนไทยให้เกิดความเชื่อมั่นได้อย่างไร ก็จบเท่านี้ ต่อจากนี้ก็เป็นหน้าที่ของเราทั้งหลายคอย "ตรวจหวย" แต่ผมขอแทรกเป็นยาดำไว้นิดว่า ไม่ต้องเสียเวลาไปพึ่ง "อินเตอร์โพล" ให้ล่าตัวใครกลับมาเข้าคุกไทยหรอก ใครหนีไปอยู่ที่ไหน ก็ให้เขาอยู่ "ในที่ชอบๆ" ไปเถอะ ผมเคยบอกว่า "อีก ๕ เดือน" นี่ก็จะครบ ๕ เดือนในเดือนหน้า-เดือนโน้นแล้ว
     คุกจัดสรร ไม่สู้กรรมจัดสรรหรอก...คุณเอ๊ย!


http://www.thaipost.net/news/040610/23042


หัวข้อ: Re: [2513]"ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: yyswim ที่ 04 มิถุนายน 2553, 21:53:27
เหยง...  

พี่ไม่รู้เลยว่าวันเกิดเหยง พอดีว่าเพิ่งจะเข้ามา

บังเอิญว่า พี่หลบกระทู้การเมือง
เห็นป๋องบอกว่า ได้ช่วยแยกกระทู้ของน้องแอ๊ะ ออกเป็นสองกระทู้
กระทู้การเมือง กับกระทู้ ซำบายดีพี่แอ๊ะ

แต่เข้ามากระทู้นี้แล้ว เจอแต่การเมือง พี่ก็จะรีบออก

กระทู้ของน้องแอ๊ะ พี่จึงไม่ค่อยได้เข้ามา

หากสามารถ แยกกันได้ชัดเจน ก็คงจะดี จะได้เข้ามาบ่อยๆ


วันนี้ จังหวะฟลุ๊คครับ พี่เข้ามาแบบคลิกเล่นๆ


ขอสุขสันติ์วันเกิดครับเหยง


(http://www.cmadong.com/imageupload/2010_Cmadong-Image/data/image/l3hvvf-1f580b.jpg)


ขอให้บุญรักษาเหยง ให้มีสุขภาพแข็งแรง ไม่เมื่อย ไม่เคล็ด ไม่ปวด ไม่อ้วน
ขอให้ร่ำรวย แต่ตอนนี้ก็คงจะสบายตัวแล้ว
ขอให้เหยง มีความสุข ไม่เครียด มีอายุยืนนาน นะครับ

ขอชมเชยว่าเหยง เป็นคนเก่งหลายอย่าง มีมนุษยสัมพันธ์ที่ดีมากด้วย





หัวข้อ: Re: [2513]"ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: yyswim ที่ 04 มิถุนายน 2553, 21:58:29
น้องแอ๊ะ...

ที่เกาะ เราเจอกันแป๊บๆ นะ
ก็อยากจะหาจังหวะ ถ่ายรูปน้องแอ๊ะ แบบเยอะๆ 

แม้ว่า พี่นภจะยังถ่ายรูปไม่ค่อยเก่ง



(http://www.cmadong.com/imageupload/2010_Cmadong-Image/data/image/l3hw7w-6c6613.jpg)


หัวข้อ: Re: [2513]"ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: yyswim ที่ 04 มิถุนายน 2553, 22:01:06
พี่นภ นอนที่ราชภัฏสุราษฎร์ ตรงลิปะใหญ่
ห้องพักดีครับ นอนคนเดียว

รุ่งเช้า มีอาหารเช้าให้รับประทานด้วย ราคาฟรีครับ

ดร.ณรงค์ ศิษย์เก่ารุ่น 13 อธิการบดีราชภัฏสุราษฎร์ ให้เกียรติแก่รุ่น 13
น้องเอื้อมพร เกาะสมุยรุ่น13 เธอเป็นคนประสานงานให้

ที่นั่นจะมีแต่ ศิษย์เก่ารุ่น13 เข้าพัก ทั้งสี่ชั้น
น้องเบญ เธอรุ่น13 พี่นภก็เลยพลอยตามน้องสาว เข้ามาพักกับรุ่น13

แต่บังเอิญ ห้องว่างหนึ่งห้อง เพราะคู่ที่จองไว้ ไม่มา

น้องเบญจึงแยกไปนอนเป็นเพื่อน น้องพรรณ ลูกสาวน้าขนบ
ปล่อยให้พี่นภนอนคนเดียว




(http://www.cmadong.com/imageupload/2010_Cmadong-Image/data/image/l3hwbd-29a60f.jpg)






หัวข้อ: Re: [2513]"ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: yyswim ที่ 04 มิถุนายน 2553, 22:04:18
อู้ด พรเทพ   ชักชวนพี่นภแล้ว ให้ไปที่บ้านน้องแอ๊ะ
ก็อยากไปนะ แต่พี่นภไม่มีรถไป

อยากไป ก็เพื่อจะไปถ่ายรูปมาลงในกระทู้นี้

พี่รอจังหวะตอน อู้ด พรเทพ กลับบ้าน
ก็ไม่รู้ว่า อู้ด กลับตอนไหน
อด เลย เรา


(http://www.cmadong.com/imageupload/2010_Cmadong-Image/data/image/l3hwft-870f3f.jpg)



ครูสามารถ นอนที่ราชภัฏ ลิปะใหญ่ครับ
นอนห้อง ดร.ณรงค์เลย เป็นห้อง VIP
แต่ตอนเช้าไม่เห็น ดร.ณรงค์ ทราบว่าไปนอนที่ เฉวง

สงสัยจะเกรงใจครูสามารถ เลยปล่อยให้ครูสามารถ ครองห้องคนเดียว






หัวข้อ: Re: [2513]"ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: เหยง 16 ที่ 04 มิถุนายน 2553, 22:04:38
อ้างถึง
ข้อความของ yyswim เมื่อ 04 มิถุนายน 2553, 21:53:27
เหยง...  

พี่ไม่รู้เลยว่าวันเกิดเหยง พอดีว่าเพิ่งจะเข้ามา

บังเอิญว่า พี่หลบกระทู้การเมือง
เห็นป๋องบอกว่า ได้ช่วยแยกกระทู้ของน้องแอ๊ะ ออกเป็นสองกระทู้
กระทู้การเมือง กับกระทู้ ซำบายดีพี่แอ๊ะ

แต่เข้ามากระทู้นี้แล้ว เจอแต่การเมือง พี่ก็จะรีบออก

กระทู้ของน้องแอ๊ะ พี่จึงไม่ค่อยได้เข้ามา

หากสามารถ แยกกันได้ชัดเจน ก็คงจะดี จะได้เข้ามาบ่อยๆ


วันนี้ จังหวะฟลุ๊คครับ พี่เข้ามาแบบคลิกเล่นๆ


ขอสุขสันติ์วันเกิดครับเหยง


(http://www.cmadong.com/imageupload/2010_Cmadong-Image/data/image/l3hvvf-1f580b.jpg)


ขอให้บุญรักษาเหยง ให้มีสุขภาพแข็งแรง ไม่เมื่อย ไม่เคล็ด ไม่ปวด ไม่อ้วน
ขอให้ร่ำรวย แต่ตอนนี้ก็คงจะสบายตัวแล้ว
ขอให้เหยง มีความสุข ไม่เครียด มีอายุยืนนาน นะครับ

ขอชมเชยว่าเหยง เป็นคนเก่งหลายอย่าง มีมนุษยสัมพันธ์ที่ดีมากด้วย





ขอบพระคุณพี่นพ' ครับ


หัวข้อ: Re: [2513]"ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: yyswim ที่ 04 มิถุนายน 2553, 22:07:17
วันรุ่งขึ้น หลังจากวันงาน
พี่นภ ไปเที่ยวกับรุ่น 13 ไปกับครูสามารถด้วย  

ไปเที่ยวที่เกาะแตน ไปดำดูปลา
มีปลาตัวขนาดปลาทู คล้ายๆปลาทู แต่เป็นอีกพันธ์ ว่ายวนเวียนรอบๆตัว อยู่เยอะ

ไปเกาะแตน ไปรู้จักบ้านของคุณตาคุณยายของน้องพรรณ ลูกสาวน้าขนบ

และพบว่าทุกวันนี้ เกาะแตน ก็ยังเป็นเกาะที่สุนัขยังขึ้นเกาะไม่ได้!!!
หากนำสุนัขขึ้นเกาะ  สุนัขจะดิ้น จะว่ายน้ำออกไปเองจากเกาะ
และสุนัขจะจมน้ำตายในทะเล

จึงนับเป็นเรื่องแปลก เป็นเกาะอันซีน ของเกาะสมุยทีเดียว

ถ้ามีจังหวะจะนำรูปเกาะแตนมาฝาก  เผื่อว่าจะมีใครอยากดู





หัวข้อ: Re: [2513]"ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: yyswim ที่ 04 มิถุนายน 2553, 22:13:20
(http://www.cmadong.com/imageupload/2010_Cmadong-Image/data/image/l3hwmg-88f56e.jpg)


น้องอารี รูปข้างบน กลับพร้อมกับพี่นภครับน้องแอ๊ะ
เป็นเที่ยวดึก วันที่ 30 ถึงกรุงเทพราว 5 ทุ่มกว่าๆ
 


หัวข้อ: Re: [2513]"ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: อ้อย 14 ที่ 05 มิถุนายน 2553, 07:39:12
 emo20:)):)ทำไมพี่แอ๊ะ  ไม่ใส่เสื้อทีม ลายฟ้าขาว กะเขาบ้างละคะ  น่ารักดี...


หัวข้อ: Re: [2513]"ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: swsm ที่ 05 มิถุนายน 2553, 08:50:51
อ้างถึง
ข้อความของ อ้อย 14 เมื่อ 05 มิถุนายน 2553, 07:39:12
emo20:)):)ทำไมพี่แอ๊ะ  ไม่ใส่เสื้อทีม ลายฟ้าขาว กะเขาบ้างละคะ  น่ารักดี...

กำลังคิดเหมือนกันเลยค่ะ  .. อ่านต่อมาเรื่อย ๆ เจอ comment ของพี่อ้อยพอดี     emo43


หัวข้อ: Re: [2513]"ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: prapasri AH ที่ 05 มิถุนายน 2553, 13:59:58
พี่แอ๊ะเข้าไปทีหลัง ช้ากว่าเขาหน่อยเพราะมัวเอ้อระเหย อยู่ชายทะเลตลิ่งงาม

 คือต้องไปกราบไหว้ ญาติพี่น้องทั้งตำบลน่ะอ่ะ

พอไปถึงเขาก็ให้ซื้อเสื้อ จะถอด เปลียนตรงนั้นก้เกรงใจ เเฟนนานุแฟน เก่าๆ อ่ะ

แต่ตอนกลางคืนได้ใส่ไป และพยายามจะขอให้พี่นภถ่ายรูปตอน ส่ายฮาวาย

เต้นเพลง

เดินชมเกาะสมุยกลางทะเลเด่นลอยยยยยยยยยยยยย

แต่พี่นภ มีคิวยาวววววววววววววว


หัวข้อ: Re: [2513]"ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: prapasri AH ที่ 05 มิถุนายน 2553, 14:13:10
มาแล้วจ้า ลูกทะเลขาว

คนที่นั่งใกล้กัน ผู้ชายคนนั้น ปัจุบันเป็นเศรษฐีสมุย

สมัยก่อน เขาไม่ได้มาเรียนหนังสือ เคยเป็นแฟนนานุแฟน ตอนเด็กๆ

 (อย่าให้ภรรยาเขา  เข้ามาเชียว เศรษฐี ถูกตีตาย)

ตอนสมุยเจริญใหม่ๆ เขาขายที่ดินได้เป้นร้อยๆล้าน  พี่แอ๊ะโทรไปคุยกะเขา เขาบอกว่า

เธอ (มึง)มาช่วยนับเงินฉัน(กู)หน่อยยยยยยยยยยยยย

กูมึง เป็นภาษาสุภาพ ของคนชาวเกาะ ค่ะอิๆๆๆๆๆ

 พี่หาญ คนดี เขาจะตกใจพอพี่แอ๊ะพูดกูมึง เพราะคนราชบุรี เขาเป็นคนสุภาพ ค่ะ

(พี่แอ๊ะนึกในใจ มึงนับไปคนเดียวก็แล้วกัน

 กูจะเก็บเล็กผสมน้อยของกูตามประสาคนเรียนเก่ง เฮ้อ.....

คนสมุยที่เรียนเก่งมักไม่รวย เพราะต้องมาเรียนและทำงาน ในกรุงเทพ ไม่ได้สะสมที่ดินค่ะ)

คนถัดมาที่เป็นผู้ชาย ทำงานที่สภาพัฒน์ แล้ว ลาออกไป ทำรีสอร์ท ที่เฉวง นี่ก็ รวยไม่รู้เรื่องเหมือนกัน

(http://www.cmadong.com/imageupload/2010_Cmadong-Image/data/image/l3j51q-af3304.jpg)


หัวข้อ: Re: [2513]"ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: prapasri AH ที่ 05 มิถุนายน 2553, 14:34:27
(http://www.cmadong.com/imageupload/2010_Cmadong-Image/data/image/l3j5wh-6cffc5.jpg)




เพื่อนพี่แอ๊ะ คนนี้  ค่ะ เเต่งตัวเป็นเด็กนักเรียน เรียกว่าสปิริตสูงใจกล้ามาก คุณครู สามารถ ศักดิ์เจริญ

ซึ่งเป็นครูเก่าที่นักเรียนหลายคน โดยเฉพาะพี่แอ๊ะได้ดิบได้ดีเพราะคุณครูท่านนี้

คุณครูสามารถชมว่าเพื่อนเพื่อนแอ๊ะคนนี้ คุณครูให้คะแนนเกินร้อย

เธอเรียนก่งมาก และเพิ่งเกษียณ จากสถาบันวิจัยแห่งชาติ

เป็นพี่ของชาวหอ ลิขิต พงศ์พงันค่ะ

ท่าน ที่นั่งใกล้ คือ ท่านอธิบดีกรมราชฑ้ณฑ์ ท่านชาติชาย สุทธิกรม ค่ะ

จบเตรียมอุดม แล้วไปจบรัฐศาสตร์ ม.เชียงใหม่ค่ะ


หัวข้อ: Re: [2513]"ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: prapasri AH ที่ 05 มิถุนายน 2553, 14:48:46
(http://www.cmadong.com/imageupload/2010_Cmadong-Image/data/image/l3j6v6-f15804.jpg)



นี่คือ ลิขิต พงศ์พงัน เขาไปค้างบ้านพี่แอ๊ะค่ะ เขาสนิทกะ พรเทพ พวกนี้ตอนเด็กๆ เป็นลูกศิษย์ติดตามพี่นภ กันทั้งน้านนนนนนนนน

เป็นชาวหอเพื่อนเหยง16 เคยเข้ามาเวบเมื่อก่อน

ตอนนี้ทำงานที่บริษัทเหมืองบ้านปู บางทีก็ไปอยู่บ้านปูที่อินโดเนเซียค่ะ


หัวข้อ: Re: [2513]"ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: prapasri AH ที่ 05 มิถุนายน 2553, 14:54:35
ในที่สุดเพือนของเหยงงงง16  ก็หนีไม่พ้น ฟาม...แก่ เหยงเอ๊ยยยยยยยย

(http://www.cmadong.com/imageupload/2010_Cmadong-Image/data/image/l3j795-024ca1.jpg)


หัวข้อ: Re: [2513]"ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: prapasri AH ที่ 05 มิถุนายน 2553, 14:59:57
ดูสาวชาวเกาะ อ้อร้อ กันอีกจั๊กกะหน่อยยยยยยยยยยย


(http://www.cmadong.com/imageupload/2010_Cmadong-Image/data/image/l3j7if-b34d4c.jpg)

เหยงเอ๊ย

ช่วยตัดรูปนี้ให้พี่แอ๊ะเป้นรูปเดี่ยวหน่อยดิ พี่แอ๊ะรู้สึกว่ารูปนี้พี่แอ๊ะสวยพอใช้
กล้อง คง ดี เหมือนกล้อง พี่นภ

อยากเก็บไว้เป็นlogo อิๆๆๆ


หัวข้อ: Re: [2513]"ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: prapasri AH ที่ 05 มิถุนายน 2553, 15:04:53
รูปนี้ก็อ้อร้อออออออ


(http://www.cmadong.com/imageupload/2010_Cmadong-Image/data/image/l3j7r4-958e29.jpg)


หัวข้อ: Re: [2513]"ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: prapasri AH ที่ 05 มิถุนายน 2553, 15:07:11
รวมรุ่น ปี2507 น้องๆในที่นี่ ยังไม่ ปฎิสนธิ กันมั้ง

(http://www.cmadong.com/imageupload/2010_Cmadong-Image/data/image/l3j7um-0268db.jpg)


หัวข้อ: Re: [2513]"ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: prapasri AH ที่ 05 มิถุนายน 2553, 15:12:29
(http://www.cmadong.com/imageupload/2010_Cmadong-Image/data/image/l3j80b-f950fb.jpg)

โอภาส เพ็งเจริญ เป็นพิธีกร และ โต้โผใหญ่ในการจัดงาน

ผมขาว สีดอกเลา หมดเเร้ววววววววววว

 เป็นตำแหน่ง ใหญ่โต อยู่มติชน

น้องอ้อย17 รู้จักด้วย

จบนิเทศ น่าจะเป็นชาวหอ หรือสิงหอ นี่แหละค่า


หัวข้อ: Re: [2513]"ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: prapasri AH ที่ 05 มิถุนายน 2553, 15:17:00
ครู สามารถ ศักดิ์เจริญ ท่านนี้  ท่านเป็นส่วนหนึ่งที่ยิ่งใหญ่ ที่ทำให้พี่แอ๊ะได้ประสบความสำเร็จในชีวิต

ท่านน่าจะอายุ เกือบ 70 แล้ว แต่ไม่แก่เลยค่ะ ลูกศิษย์ แก่ทัน และเเก่กว่ากันหมดเลยยยยยยย

(http://www.cmadong.com/imageupload/2010_Cmadong-Image/data/image/l3j87y-1f9818.jpg)


หัวข้อ: Re: [2513]"ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: prapasri AH ที่ 05 มิถุนายน 2553, 15:40:11
คุณครู ก็ยังเอ็นดู เด็กเช่นเคยยยยยยยยยยยย

ยังเห็นพวกเราเป็นเด้กอยู่ซำเหมออออออออ

(http://www.cmadong.com/imageupload/2010_Cmadong-Image/data/image/l3j9db-1aadb9.jpg)


หัวข้อ: Re: [2513]"ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: prapasri AH ที่ 05 มิถุนายน 2553, 15:44:30
นี่ แน่ะ ลูกทะเลขาว ในร้านอาหาร สมุย green onion

เพิ่งเปิดใหม่ ในตลาดหน้าทอน

ใครผ่านไปช่วยอุดหนุน ร้านน้อง ๆ พี่แอ๊ะด้วยนะคะ


(http://www.cmadong.com/imageupload/2010_Cmadong-Image/data/image/l3j9id-eeba3f.jpg)


หัวข้อ: Re: [2513]"ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: prapasri AH ที่ 05 มิถุนายน 2553, 15:47:24
นี่ก็น้องสาว  ลูกของ คุณอา เรียนมาด้วยกัน เขาหน้าอ่อนกว่าพี่แอ๊ะนะคะ

ต้องไว้ผมหน้าม้า บ้างแล้วเรา รวมทั้งน้องหะยี คนสวยด้วยยยยค่า

(http://www.cmadong.com/imageupload/2010_Cmadong-Image/data/image/l3j9pe-2e6ec0.jpg)


อ๊าววววววว ไปดูรูปน้องหะยี ก็หน้าม้า นี่น่ามิน่า ถึงสวยยยยยยยยยย มิแก่เลยยยยยยยย


หัวข้อ: Re: [2513]"ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: prapasri AH ที่ 05 มิถุนายน 2553, 15:52:10
ดูรูปชายแก่ๆ เเต่งตัวนักเลง เอ๊ยยยนักเรียน

(http://www.cmadong.com/imageupload/2010_Cmadong-Image/data/image/l3j9xr-d3c780.jpg)


หัวข้อ: Re: [2513]"ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: prapasri AH ที่ 05 มิถุนายน 2553, 15:55:29
รุ่นน้องๆ สมุย ค่า

 เขาเรียก พี่แอ๊ะว่า เจ๊แอ๊ะ กันทั้งนั้นเพราะเป็นพี่ใหญ่ หัวโจก จอมซน ค่ะ

(http://www.cmadong.com/imageupload/2010_Cmadong-Image/data/image/l3ja2d-cd1752.jpg)


หัวข้อ: Re: [2513]"ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: prapasri AH ที่ 05 มิถุนายน 2553, 16:03:16
ดูห้องพระที่บ้านสมุยก่อนนะ


พี่แอ๊ะ ขอไปทำบุญ ที่อ.ป่าติ้ว วัดศรีฐานใน  ก่อนค่ะ

เพือน วปอ. พี่แอ๊ะมาทำบุญกัน พี่แอ๊ะมัวแต่เล่นเนต ป่านนี้เขาเเย่งบูญไปหมดเเล้ว

(http://www.cmadong.com/imageupload/2010_Cmadong-Image/data/image/l3jad3-db12c5.jpg)


หัวข้อ: Re: [2513]"ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: เหยง 16 ที่ 06 มิถุนายน 2553, 13:02:12
พี่แอ๊ะครับ

ผมว่าห้องนี้ เริ่มคลายความตึงเครียดด้านการเมืองลงแล้ว ตามสถานการณ์ปัจจุบันของบ้านเมือง ??


เรากำลังจะกลับสู่บรรยากาสเก่าๆกันแล้ว !! จริงไหม ??


หัวข้อ: Re: [2513]"ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: เหยง 16 ที่ 06 มิถุนายน 2553, 14:16:13
เห็นภาพ ศิษย์เก่าสังสรรค์อย่างน่าชื่นชม มาเจอข่าว รร.มหิดลวิทยานุสรณ์ เกิดไฟไหม้ห้องสมุด และผลการสืบสวนคือ

ม.5 รร.ดังศาลายามอบตัวรับเผาอาคารห้องสมุด
06 มิถุนายน 2553 เวลา 13:18 น.

ครูพา นร. ม.5 เข้ามอบตัวตำรวจรับสารภาพลงมือเผาอาคารห้องสมุดเพราะอยากให้รร.ปิดการสอนเพื่อซ่อมบำรุงอาคาร

พ.ต.อ.สุรพจน์ พิสุทธิวงส์ ผกก.สภ.พุทธมณฑล จ.นครปฐม เปิดเผยความคืบหน้าเหตุเพลิงไหม้ อาคารห้องสมุดโรงเรียนมหิดลวิทยานุสรณ์ ย่านศาลายา เมื่อกลางดึกที่ผ่านมาว่า ครูประจำโรงเรียนได้นำคือผู้ก่อเหตุ ซึ่งเป็นนักเรียนชั้น ม.5 ของโรงเรียนดังกล่าว เข้ามามอบตัวต่อเจ้าหน้าที่แล้ว

นักเรียนคนดังกล่าวให้การรับสารภาพว่าที่ลงมือเผาเพราะไม่ต้องการมาเรียน เนื่องจากโรงเรียนจัดการเรียนการสอนเข้มงวดมาก และไม่รู้จะหาเหตุผลใดบอกผู้ปกครอง จึงวางแผนเผาห้องสมุด เพื่อให้มีการปิดปรับปรุงซ่อมแซม ขณะลงมือก่อเหตุ ไม่มีผู้ใดพบเห็น จึงทำให้ไฟลุกลามไหม้ทั้งอาคารเสียหายอย่างหนัก จึงได้รับสารภาพกับครูฝ่ายปกครองของโรงเรียน และเข้ามอบตัวกับเจ้าหน้าที่ตำรวจในเวลาต่อมา
         
เบื้องต้น เจ้าหน้าที่ได้สอบปากคำ ร่วมกับ สหวิชาชีพ พร้อมแจ้งข้อหา วางเพลิงเผาทรัพย์ ทำให้เกิดความเสียหาย และควบคุมตัวส่งต่อให้สถานพินิจตามกฎหมาย.


http://www.posttoday.com/ข่าว/อาชญากรรม-สังคม/32516/ม-5รร-ดังศาลายามอบตัวรับเผาอาคารห้องสมุด


หัวข้อ: Re: [2513]"ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: prapasri AH ที่ 06 มิถุนายน 2553, 21:44:23
 เด่วจะหาว่าไม่แน่จริง

(http://www.cmadong.com/imageupload/2010_Cmadong-Image/data/image/l3lf1s-f592ca.jpg)

วันนี้ไปทานข้าวกลางวันกะเเดงทั้งแผ่นดินมา ค่ะ พี่น้อง

แต่นี่เป็นสีส้ม เป็นสีของจังหวัดอุดรธานี

คณะที่ถ่ายรูปด้วยเป็นท่าน นายก อบจ.อุดรธานี และคณะ[/color]

วันนี้เป็นงาน กีฬา ของ สมาพันธ์ อบจ ภาคอิสาน 19 จังหวัด

จ.ร้อยเอ็ดเป็นเจ้าภาพ

เดือนหน้าจะมีการประชุม สมาพันธ์ อบจ.ภาคอิสาน 19 จังหวัดที่ยโสธรค่ะ

พี่แอ๊ะจะ จัดรายการเเสดงอารายยยยยยยยยย ดีค่ะน้องหะยี



หัวข้อ: Re: [2513]"ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: เหยง 16 ที่ 07 มิถุนายน 2553, 16:24:14
สวัสดีครับพี่แอ๊ะ

จะบอกข่าวครับ ผมเปิดห้องไว้ในห้องคุยกันประสาพี่น้อง ชื่อ คุยกับเหยง 16-พิเชษฐ์ เชื่อมวราศาสตร์..
คลิ๊กไปที่.. http://www.cmadong.com/board/index.php/topic,5699.msg390095/boardseen.html#new


หัวข้อ: Re: [2513]"ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: prapasri AH ที่ 08 มิถุนายน 2553, 00:10:39
วันนี้ น้องยศวินทร์ และน้องวีระพงศ์ ประสงค์จีน มาเยี่ยม พี่แอ๊ะ

 ขอโทษน้อง ด้วยไม่ได้ดูแลน้องเท่าไรเลย

เพราะวันนี้รู้สึก มีอารมณ์ซึมเศร้า เบื่อชีวิตยังไงก็ไม่รู้



หัวข้อ: Re: [2513]"ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: เหยง 16 ที่ 08 มิถุนายน 2553, 11:16:05
พี่แอ๊ะครับ

วันนี้พี่ติ๋ว(อจ.พินิจ) โทรไปหาผม โดยจะชวนให้มาไหว้พระเมืองอุบลราชธานี และไปน้ำตกหลี่ผี ที่ สปป.ลาว หรือ

รอโปรแกรมไปเมืองซีอาน ประเทศจีน โดยอาจจัดในช่วงปลายเดือนกรกฎาคม (วันอาฬาหบูชาและวันเช้าพรรษา)

หรือกลางเดือนสิงหาคม ซึ่งเป็นช่วงวันเฉลิมฯและวันแม่แห่งชาติครับ


หัวข้อ: Re: [2513]"ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: prapasri AH ที่ 10 มิถุนายน 2553, 21:10:25
มาได้เลยค่ะเหยง

ยินดีต้อนรับ  แต่ไม่ทราบว่าจะไปเที่ยว ด้วยได้หรือไม่

ไว้ใกล้ๆแล้วพี่แอีะ จะบอกนะคะ

ช่วงนี้พี่แอี๊มากรุงเทพค่ะ


หัวข้อ: Re: [2513]"ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: YOTSAWIN ที่ 11 มิถุนายน 2553, 07:54:05
อ้างถึง
ข้อความของ prapasri AH เมื่อ 08 มิถุนายน 2553, 00:10:39
วันนี้ น้องยศวินทร์ และน้องวีระพงศ์ ประสงค์จีน มาเยี่ยม พี่แอ๊ะ

 ขอโทษน้อง ด้วยไม่ได้ดูแลน้องเท่าไรเลย

เพราะวันนี้รู้สึก มีอารมณ์ซึมเศร้า เบื่อชีวิตยังไงก็ไม่รู้


หวัดดีครับพี่แอ๊ะ
ไม่ต้องกังวลนะครับ ผมไปที่ยโสธร เหมือนเป็นบ้านผมแล้ว 5555
ก็ที่นั่น เรามีเซ็นเตอร์ต้องดูแลนี่ครับ
ปลายเดือนเจอกัน(อีกแล้ว) ครับ


หัวข้อ: Re: [2513]"ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: เหยง 16 ที่ 11 มิถุนายน 2553, 16:49:37
เข้าเทศกาล Football โลก เอาเพลงWaka Waka (This Time for Africa) มาฝากครับ

วันที่ 11 มิถุนายน พ.ศ. 2553 เวลา 08:40:57 น.  มติชนออนไลน์
คลิกกระจาย!! ′Waka Waka′ เพลงบอลโลก ร้องโดย "ชากีรา"


สหพันธ์ฟุตบอลโลกนานาชาติ หรือฟีฟ่า และโซนี บริษัทเพลงยักษ์ใหญ่ของโลก ตัดสินใจเลือกเพลง ′Waka Waka′  หรือ ′This Time for Africa′ เป็นเพลงประจำศึกฟุตบอลโลก 2010 อย่างเป็นทางการ ร้องโดย "ชากีรา" นักร้องสาวสวยชื่อดังระดับโลกชาวโคลัมเบีย และ Freshlyground วงดนตรีชื่อดังของแอฟริกาใต้ กำลังได้รับความนิยมอย่างแพร่หลาย ก่อนที่ฟุตบอลโลกจะระเบิดอย่างเป็นทางการในค่ำวันนี้ และเพลงนี้จะถูกร้องในพิธีเปิดการแข่งขันสนาม ซอคเกอร์ ซิตี้ กรุง โยฮันเนสเบิร์กในค่ำวันนี้ด้วย
 

เนื้อเพลง Waka Waka (Time For Africa)


You’re a good soldier
Choosing your battles
Pick yourself up
And dust yourself off
Get back in the saddle
You’re on the front line
Everyone’s watching
You know it’s serious
We’re getting closer
This isn’t over

 

The pressure’s on; you feel it
But you got it all; believe it
When you fall, get up, oh oh
And if you fall, get up, eh eh
Tsamina mina zangalewa
Cause this is Africa
Tsamina mina eh eh
Waka waka eh eh
Tsamina mina zangalewa
This time for Africa
 

Listen to your god; this is our motto
Your time to shine
 

Don’t wait in line
Y vamos por todo
People are raising their expectations
Go on and feel it
This is your moment
No hesitation
 

Today’s your day
I feel it
You paved the way,
Believe it
If you get down
Get up oh, oh


When you get down,
Get up eh, eh

Tsamina mina zangalewa
This time for Africa
Tsamina mina eh eh
Waka waka eh eh


Tsamina mina zangalewa
Anawa aa
Tsamina mina eh eh
Waka waka eh eh
Tsamina mina zangalewa
This time for Africa


http://www.youtube.com/watch?v=pRpeEdMmmQ0

http://www.matichon.co.th/news_detail.php?newsid=1276220088&grpid=01&catid=


หัวข้อ: Re: [2513]"ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: เหยง 16 ที่ 12 มิถุนายน 2553, 10:45:58
เม็กซิโก เสมอ แอฟริกาใต้ 1 : 1 มีหลายคนไปไม่เป็นเลย ไม่รู้ว่าหมดค่าดูบอลล์ไปคนละเท่าไหร่ ??  emo19:((:


หัวข้อ: Re: [2513]"ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: เหยง 16 ที่ 12 มิถุนายน 2553, 17:54:40
พี่แอ๊ะครับ

เปิดดูด้วย น่าสนุก

เอาคลิ๊ป "เฉลิมแร็พ" ของ เป็ดเหลิม มาโชว์ครับ

http://www.youtube.com/watch?v=iO4o5Vimp8Y 

สุดฮา!! สีสันการเมือง คลิปแร๊พ "เป็ดเหลิม" ว่อนเน็ต ขำกระจาย
โดย ASTV ผู้จัดการออนไลน์ 12 มิถุนายน 2553 13:13 น.

http://www.manager.co.th/Politics/ViewNews.aspx?NewsID=9530000081078


หัวข้อ: Re: [2513]"ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: prapasri AH ที่ 13 มิถุนายน 2553, 19:56:59
เมื่อคืนพี่ดูในห้อง พี่ปรีชา ยังงง ว่าเป็นเรื่องจริง ของ คุณเหลิมหรือป่าวววววววว

ห้องพี่ปรีชา ในเวบนะ เด่วน้องๆต๊กกะใจ พี่แอ๊ะไปบุกห้องพี่ปรีชาได้ถึงชลบุรี กลางคืน อิๆๆๆ

ถ้าเป็นจริงพี่ปรีชาคงกระโดดหนี 55555555555555555

นึกภาพดูก็แล้วกันนนนนนนนน  ลัน ลั๊น .....ล้า


หัวข้อ: Re: [2513]"ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: เหยง 16 ที่ 15 มิถุนายน 2553, 10:15:12
พี่แอ๊ะครับ

ขอไปอ่านดูก่อนครับว่า เรื่องอะไรกัน ??


หัวข้อ: Re: [2513]"ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: เหยง 16 ที่ 15 มิถุนายน 2553, 11:11:24
พี่แอ๊ะครับ

ต้องยกนิ้วให้เจ้าของคลิ๊ป ผู้ตัดต่อ ประสานเสียงและดนตรี ให้ได้ถ้อยคำที่ได้อรรถรส สนุก และสมน้ำ้หน้าคนแบบนั้น

นานๆ จึงจะมีคลิ๊ปสนุก หัวร่อด้วยความสงสารผู้แสดงอย่างจับจิตจับใจจริงๆครับ 


หัวข้อ: Re: [2513]"ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: พธู ๒๕๒๔ ที่ 15 มิถุนายน 2553, 23:40:32
(http://www.cmadong.com/imageupload/2010_Cmadong-Image/data/image/l42ebb-a1150d.jpg)


หัวข้อ: Re: [2513]"ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: jamsai ที่ 16 มิถุนายน 2553, 18:14:21
สวัสดีค่ะพี่แอ๊ะ

คิดถึงพี่แอ๊ะ ถ้าวันใหนพี่แอ๊ะกับพี่หมอหาญหนีงานไปเที่ยวกับพวกเราได้
คงสนุกสุขสันต์กันทั่วหน้า ทิ้งงานให้คุณหมอต้นหนีเที่ยวกันเถอะค่ะ น้องๆคิดถึง
พี่ปิ้งกับคุณหลิวก็กำลังซาวเสียงกันเรื่องเที่ยว เลยยังงงๆ

คิดถึงค่ะ


หัวข้อ: Re: [2513]"ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: suriya2513 ที่ 16 มิถุนายน 2553, 22:06:05
ทริปลาวใต้ของตะหลิว2514 อาจารย์เผ่าติดงานทริปอื่นไปกับซีมะโด่งทัวร์ไม่ได้ครับ


หัวข้อ: Re: [2513]"ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: เหยง 16 ที่ 17 มิถุนายน 2553, 07:54:49
พี่ป๋องไม่ได้ไปกับซีมะโด่งทัวร์เที่ยวนี้ด้วยหรือ ??


หัวข้อ: มาเชียร์บอลกัน
เริ่มหัวข้อโดย: พธู ๒๕๒๔ ที่ 18 มิถุนายน 2553, 18:36:34
(http://img155.imageshack.us/img155/8095/ellytranhanewphotosworln.jpg)


หัวข้อ: Re: [2513]"ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: prapasri AH ที่ 19 มิถุนายน 2553, 22:57:47
อ. แจ่มขา..
ไปไหนไม่ได้เลย ค่า

แต่หมอดูบอกว่าจะได้เดินทางไกล ค่ะ

ยังดูๆอยู่ว่าจะไปลาว ดี หรือ ฝรั่งเศสดีค่ะ


หัวข้อ: Re: [2513]"ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: prapasri AH ที่ 19 มิถุนายน 2553, 22:59:05
น้องปลาทูแมน
ชักจะ อึ่ม ไปหน่อยนะ น้องเรา
เด่ว พี่เหยง ตะบะเเตก

แต่เดี๋ยวนี้ เด็กๆ เป็นรุ่นหลานพี่ป๋องทั้งนั้นเลย555555


หัวข้อ: Re: [2513]"ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: เหยง 16 ที่ 23 มิถุนายน 2553, 14:39:12
พี่แอ๊ะ

ดารานางแบบชาวเวียตนามคนนี้ เขามีเอกลักษณ์แบบนี้ล่ะ (เขาเรียกกันว่า..ตัว-ประถม, อก-มัธยม 5 5 5 5)

อย่างอื่น.......ไม่มีอะไรครับ !! ??  ??



นี่ซิของจริง ........มาเรีย ซาราโปว่า

(http://www.cmadong.com/imageupload/2010_Cmadong-Image/data/image/l4glil-f0e0c1.jpg)

http://www.matichon.co.th/news_detail.php?newsid=1277277621&grpid=&catid=07


หัวข้อ: Re: [2513]"ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: เหยง 16 ที่ 25 มิถุนายน 2553, 15:54:15
หญิงเก่งคนที่ 1


รมต.สาวของญี่ปุ่นคนใหม่ วัย 42 ปีเศษ แถมยังถ่ายภาพนู๊ดของตนเองเอาไว้ด้วย

เปรี้ยวจี๊ด มั่นจัง “เรนโฮ” รมต.หญิงญี่ปุ่นกำลังฮอต เธอคือใคร?
โดย ASTV ผู้จัดการออนไลน์ 15 มิถุนายน 2553 17:32 น.

(http://www.cmadong.com/imageupload/2010_Cmadong-Image/data/image/l43897-e264e4.jpg)
ฯลฯ
เธอไม่ได้เป็นสาวญี่ปุ่นสายเลือดซามูไรเพียวๆ หากเป็นลูกครึ่งไต้หวัน-ญี่ปุ่น โดยคุณพ่อเป็นหนุ่มไต้หวัน คุณแม่เป็นสาวญี่ปุ่น เรนโฮเกิดเมื่อพ.ศ.2510 ในนามภาษาจีนว่า Hsieh Lien Fang เป็นพลเมืองไต้หวัน จนกระทั่งพ.ศ.2528 เปลี่ยนสัญชาติเป็นญี่ปุ่น โดยใช้นามสกุลแม่ เซยโต (Saito) และตั้งชื่อตัวเองใหม่ว่า เรนโฮ

(http://www.cmadong.com/imageupload/2010_Cmadong-Image/data/image/l438cv-02ed7f.jpg)
ฯลฯ
ความเป็นนักการเมืองของเธอยังโดดเด่นสุดๆ ตรงที่ความกล้าแสดงความคิดเห็นตรงไปตรงมา เรนโฮวิพากษ์วิจารณ์นโยบายการทูตของญี่ปุ่นต่อจีน และความพยายามของจีนที่จะดึงไต้หวันกลับมารวม…
       
       “ญี่ปุ่นสุภาพเกินไปในการเจรจากับจีน ทำตัว low profile เกินไปด้วย”
       “ไต้หวันคือประเทศของพ่อชั้น ไต้หวันก็มีฐานะเป็น ‘ประเทศ’ หนึ่ง ทำไมจะไม่ใช่..”
       
       นั่นคือ ตัวอย่างวาทะเผ็ดกร้าว ซึ่งเธอบินไปไต้หวันเสมอ ทั้งเป็นทางการและไม่เป็นทางการ ครอบครัวเธอเป็นผู้นำชุมชนไต้หวันในญี่ปุ่น ขณะเดียวกันเป็นตัวจักรสำคัญในการสนับสนุนญี่ปุ่นนำเข้าผลไม้จากไต้หวัน เพราะอาชีพพื้นฐานเดิมของพ่อเธอเป็นผู้ส่งออกกล้วยไต้หวันไปญี่ปุ่น
ฯลฯ

ส่วนภาพนู๊ด คลิ๊กไปดูได้ที่นี่ครับ;

http://www.manager.co.th/CelebOnline/ViewNews.aspx?NewsID=9530000082382





หัวข้อ: Re: [2513]"ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: เหยง 16 ที่ 25 มิถุนายน 2553, 16:00:05
หญิงเก่งคนที่ 2

ออสซี่เปลี่ยนไวได้นายกฯหญิง


(http://www.cmadong.com/imageupload/2010_Cmadong-Image/data/image/l4kbiv-70e1d4.jpg)

บีบีซีรายงานว่า วันที่ 24 มิ.ย. ออสเตรเลียเปลี่ยนตัวนายกรัฐมนตรีอย่างรวดเร็ว นางจูเลีย กิลลาร์ด วัย 48 ปี สาบานตนเข้ารับตำแหน่ง นายกรัฐมนตรีหญิงคนแรกของประวัติศาสตร์ออสเตรเลีย หลังจากสมาชิกพรรคแรงงานโค่น อำนาจนายเควิน รัดด์ ที่ดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีมาไม่ถึง 3 ปี ด้วยการลงมติอย่างเป็นเอกฉันท์ให้นางกิลลาร์ดขึ้นดำรงตำแหน่งหัวหน้าพรรคแทน เพื่อปรับทีมใหม่หลังคะแนนนิยมของนายรัดด์ตกต่ำลง หวังหลีกเลี่ยงความพ่ายแพ้ในการเลือกตั้งทั่วไปที่จะมาถึงในเดือนต.ค. ขณะที่ตลาดหุ้นออสเตรเลียพุ่งขึ้นขานรับนายกรัฐมนตรีหญิง

นางกิลลาร์ดกล่าวว่า รู้สึกเป็นเกียรติอย่างยิ่งที่ได้รับตำแหน่งผู้นำประเทศคนที่ 27 และสัญญาว่าจะนำพาประเทศผ่านพ้นวิกฤตเศรษฐกิจอย่างรวดเร็ว โดยจะช่วยเหลือพรรคเต็มที่สำหรับการเลือกตั้งทั่วไปในปลายปีนี้

"ดิฉันขอให้เพื่อนร่วมพรรคเปลี่ยนตัวหัวหน้า เพราะเห็นว่ารัฐบาลที่ดีชุดนี้กำลังเพลี่ยงพล้ำไปอยู่ในจุดเสี่ยงในการเลือกตั้งครั้งต่อไป ดิฉันไม่ได้มานั่งเก้าอี้นี้แบบเอ้อระเหย" นายกรัฐมนตรีหญิงกล่าว

คะแนนนิยมของนายรัดด์ วัย 52 ปี ตกต่ำจากการแก้ปัญหาโลกร้อนและการเก็บภาษีธุรกิจเหมืองแร่ กลายเป็นนายกรัฐมนตรีที่ดำรงตำแหน่งสั้นที่สุดของออสเตรเลียตั้งแต่ปี 2515 ส่วนนางกิลลาร์ดมีประวัติเกิดในแคว้นเวลส์ ประเทศอังกฤษ ย้ายตามพ่อแม่มาอยู่ออสเตรเลียตั้งแต่ 4 ขวบ เรียนจบด้านกฎหมาย ได้รับเลือกตั้งเป็นส.ส.แคว้นวิกตอเรียตั้งแต่ปี 2541 ก่อนมารับตำแหน่งผู้นำเป็นรองนายกรัฐมนตรีของนายรัดด์มาก่อน

ชีวิตส่วนตัว เธอสมรสกับสามีซึ่งเป็นช่างทำผมสตรี


http://www.khaosod.co.th/view_news.php?newsid=TURObWIzSXdNVEkxTURZMU13PT0=&sectionid=TURNd05nPT0=&day=TWpBeE1DMHdOaTB5TlE9PQ==


หัวข้อ: Re: [2513]"ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: เหยง 16 ที่ 26 มิถุนายน 2553, 10:33:04
สวัสดีครับ พี่แอ๊ะ และ RCU ทุกท่าน

วันนี้วันเสาร์ที่ 26 มิถุนายน 2553 ช่วง 18.31 น. ของเย็นนี้จะเกิดจันทรุปราคา(บางส่วน)ครับ

ประเทศไทยจะมองเห็นหรือไม่ ขึ้นกับเมฆในท้องฟ้ามีมากหรือน้อย หรือฟ้าปลอดโปร่งครับ


หัวข้อ: Re: [2513]"ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: เหยง 16 ที่ 26 มิถุนายน 2553, 15:06:11
เพิ่มเติมครับ นอกจากวันนี้จะเกิดปรากฏการณ์ธรรมชาติแล้ว ยังเป็นวัน

1. วันสุนทรภู่ ซึ่ง "สุนทรภู่" ที่เกิดเมื่อ 26 มิ.ย. 2329 หรือเมื่อ 224 ปีที่แล้ว ในยุคพระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลก

2. วันต่อต้านยาเสพติดโลก แต่เนื่องจากเป็นวันหยุดราชการ สธ. จึงทำการเผาทำลายยาเสพติดที่ยึดไว้ไปแล้วเมื่อวานนี้ ทำให้ผู้คนทั่วไปไม่ทราบถึงความสำคัญของวันนี้ ซึ่งเป็นวันจริง

3. สำหรับมิตรรักนักเพลง วันนี้ครบ 1 ปี การเสียชีวิตของ "ไมเคิล แจ็กสัน" ครับ เชื่อว่า ประเด็นนี้จะมีผู้คนทั่วโลกรวมทั้งคนไทยสนใจมากกว่าประเด็นที่ 1 ด้วยการจัดการแสดงความระลึกถึงในรูปแบบต่างๆ โดยน่าจะมีการเผยแพร่ทาง ที วี



หัวข้อ: Re: [2513]"ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: เหยง 16 ที่ 26 มิถุนายน 2553, 20:28:33
อ้างถึง
ข้อความของ เหยง 16 เมื่อ 26 มิถุนายน 2553, 10:33:04
สวัสดีครับ พี่แอ๊ะ และ RCU ทุกท่าน

วันนี้วันเสาร์ที่ 26 มิถุนายน 2553 ช่วง 18.31 น. ของเย็นนี้จะเกิดจันทรุปราคา(บางส่วน)ครับ

ประเทศไทยจะมองเห็นหรือไม่ ขึ้นกับเมฆในท้องฟ้ามีมากหรือน้อย หรือฟ้าปลอดโปร่งครับ


มาแจ้งให้ทราบครับ ช่วง 18.31 น. ไปจนถึง 19.00 น. ดวงอาทิตย์ยังคงอยู่บนฟ้าครับ ทำให้ไม่สามารถมองเห็นดวงจันทร์ได้เลย


หัวข้อ: Re: [2513]"ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: เหยง 16 ที่ 29 มิถุนายน 2553, 09:14:28
สถานการณ์ปกติแล้ว จะย้ายบ้านกลับแล้วหรือยัง ??


หัวข้อ: Re: [2513]"ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: seree_60 ที่ 29 มิถุนายน 2553, 10:34:31
ขออนุญาตพี่แอ๊ะ นำเสนอบทความที่สะท้อน ความเป็นคน ของวิสา คัญทัพ

เจ้าของวรรคทอง " เมื่อท้องฟ้าสีทองผ่องอำไพ ประชาชนต้องเป็นใหญ่ในแผ่นดิน
"

            วันที่ 28 มิถุนายน พ.ศ. 2553 เวลา 19:00:00 น.   มติชนออนไลน์

บันทึกฉบับที่ 1 (การยุทธและการหยุด)

โดย วิสา คัญทัพ

หมายเหตุ นี่คือบันทึกเหตุการณ์เรื่องการตัดสินใจยุติการเคลื่อนไหวร่วมกับแกนนำ นปช.รายอื่น ๆ ในวันที่ 1 พฤษภาคม 2553 ของนายวีระ มุสิกพงษ์ นายอดิศร เพียงเกษ นางไพจิตร อักษรณรงค์ และนายวิสา คัญทัพ ซึ่งนายวิสาได้เขียนขึ้นและนำไปเผยแพร่ในเว็บเพจเฟซบุ๊กของตนเอง มติชนออนไลน์เห็นว่างานชิ้นนี้มีความน่าสนใจ จึงขออนุญาตนำมาเผยแพร่ต่อ ณ ที่นี้


บันทึกของ วิสา คัญทัพ (ฉบับที่ 1)


เรื่องการยุทธและการหยุดเมื่อวันที่ 10 พฤษภาคม 2553


ทำไม วีระ มุสิกพงศ์ ประธาน นปช.แดงทั้งแผ่นดิน จึงเขียนจดหมายประกาศยุติบทบาทการต่อสู้โดยประกาศลงที่สถานีบางซื่อ ไม่ขอเดินทางต่อไปถึงสถานีหัวลำโพง คำตอบย่อมมาจากการกลั่นกรองเหตุผลหลายประการจนตกผลึกเป็นที่เรียบร้อยแล้ว


เป็นการตัดสินใจบนพื้นฐานที่ไม่ยอมให้มีการสูญเสียชีวิตและเลือด เนื้อประชาชนอีกต่อไป


เป็นการตัดสินใจบนพื้นฐานที่ยึดมั่นแนวทางสันติวิธีในการต่อสู้


เป็นการตัดสินใจที่เห็นว่าข้อเรียกร้อง "ยุบสภา" ได้รับการตอบรับจากรัฐบาลแล้วตามเงื่อนไขที่ได้เจรจากัน ดังที่ได้รับมอบหมายให้เป็นตัวแทนการเจรจา และผ่านมติเป็นเอกฉันท์ในทุกเรื่อง


รายละเอียดสุดท้ายคือการให้ประกันตัวแกนนำทั้ง 24 คน ซึ่งรัฐบาลยอมรับ ขณะที่แกนนำบางส่วนไม่เชื่อมั่นว่ารัฐบาลจะทำตามคำพูด เพราะหลายคนยังหวั่น พ.ร.ก.ฉุกเฉิน ทั้งยังเพิ่มข้อเรียกร้องเรื่องนายสุเทพ เทือกสุบรรณต้องมอบตัวให้ถูกต้องตามกระบวนการยุติธรรมกรณีสั่งฆ่าประชาชน 10 เมษาฯ อ้างว่าเพื่อเป็นการรับผิดชอบกับชีวิตวีรชนประชาธิปไตย ข้อเรียกร้องเรื่องสุเทพมอบตัวทำให้เกิดความสับสนในข้อกฎหมายว่าจะสิ้นสุดลง อย่างไรจึงจะเป็นที่ยอมรับของแกนนำคนเสื้อแดง


วีระ มุสิกพงศ์ เลือกลดบทบาทจากแกนนำลงไปเป็นคนเสื้อแดงธรรมดาเพราะเห็นว่า การทำตามสัจจะที่ได้ประกาศไว้มีความสำคัญต่อสังคมอย่างที่สุด เมื่อประกาศร่วมกันว่าทั้งสองฝ่ายพร้อมเดินเข้าสู่กระบวนการยุติธรรม ไม่เอาการนิรโทษกรรม ย่อมถือว่าสังคมรับรู้แล้ว เมื่อประกาศจะยุบสภาตามวันเวลาที่ชัดแจ้งก็ผูกมัดรัฐบาลต่อสายตาสังคมโลก แกนนำคนเสื้อแดงสมควรมอบตัวโดยมิต้องหวั่นไหวใดๆ แม้จะมีการหักหลัง จับกุมกักขังไม่ให้ประกัน แม้อภิสิทธิ์ สุเทพจะหลบหลีกไม่ยอมมอบตัว ก็เป็นเรื่องปกติของฝ่ายที่ยึดกุมอำนาจรัฐที่สามารถกระทำเช่นนั้นได้


ส่วนเราจะยื้อยุดฉุดดึงไปก็ไร้ประโยชน์ เพราะในความเป็นจริง กระบวนการเอาผิดทางกฎหมายต่อรัฐบาลอาชญากรมือเปื้อนเลือดก็มิได้ยุติลงใน รัฐบาลชุดนี้ อภิสิทธิ์ - สุเทพ หนีความผิดไม่พ้น ความไม่ชอบธรรมจะตกอยู่กับอภิสิทธิ์ - สุเทพทันที


การเลือกยุติการชุมนุมในจังหวะนี้ ความชอบธรรมจะอยู่กับฝ่าย นปช. สำคัญที่สุด ประชาชนไม่สมควรต้องสูญเสียเลือดเนื้อและชีวิตอีกเป็นอันขาด ประชาชนคนเสื้อแดงจะต้องกลับบ้านอย่างปลอดภัย องค์กร นปช.แดงทั้งแผ่นดินยังคงเคลื่อนไหวในหนทางสันติวิธีต่อไปได้ รัฐบาลจะถูกกดดันจากทุกภาคส่วนของสังคมให้ดำเนินการทุกอย่างไปสู่การยุบสภา อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ และสุเทพ เทือกสุบรรณ จะกลายเป็นซากศพที่เดินได้


ทั้งหมดที่กล่าวมานี้ อดิศร เพียงเกษ,ไพจิตร อักษรณรงค์ และผม เห็นด้วยและตัดสินใจลงสถานีเดียวกัน


แนวทางและชุดความคิดดังกล่าวถูกมองว่าเป็นจิตใจจำนนและถอย ยอมรัฐบาลมากเกินไป คนที่ยังไม่พร้อมจะลงจึงเดินทางต่อไป ถามว่า การเดินทางต่อมีความคิดชี้นำมาจากองค์ประกอบอื่นๆ นอกเหนือจากแกนนำที่ร่วมประชุมกันหรือไม่ เป็นเรื่องที่ต้องอาศัยข้อมูลที่เป็นจริง จึงยังไม่อยากวิเคราะห์ล่วงหน้า


อย่างไรก็ตาม แนวทางและชุดความคิดนี้หากมองกลับเป็นตรงกันข้าม ย่อมสามารถมองว่าเป็นการ "ต่อสู้" ได้ เพราะการที่แกนนำเดินทางเข้ามอบตัวโดยไม่หวั่นกลัวต่อการจับกุมคุมขัง เท่ากับ แกนนำยอมเสียสละอิสรภาพของตนเพื่อแลกกับการให้ประชาชนกลับบ้าน โดยไม่สูญเสีย ไม่ต้องตายกันอีก เป็นการลงอย่างสันติวิธี ไม่รุนแรง รักษาองค์กรให้คงอยู่และเคลื่อนไหวต่อสู้ต่อไปได้


หลังการประชุมในตู้คอนเทนเนอร์ ที่เวทีราชประสงค์สิ้นสุดลง ในวันที่ 10 พฤษภาคม 2553 วีระ มุสิกพงศ์ ไม่ได้ขึ้นพูดบนเวทีในคืนนั้น แล้วหายไปจากเวที ส่วน อดิศร เพียงเกษ,ไพจิตร อักษรณรงค์ และผม ยังอยู่ต่อ และเข้าร่วมประชุมครั้งสุดท้ายในวันที่ 11 พฤษภาคม 2553 อดิศร ชี้แจงเหตุผลที่เขาต้องยุติบทบาท แล้วลงจากตู้คอนเทนเนอร์ไปก่อนการประชุมจะสิ้นสุดลง ส่วน ไพจิตรและผมได้แจ้งที่ประชุมว่าจะขอลงสถานีบางซื่อเช่นเดียวกับวีระและอดิศร เช้าวันรุ่งขึ้น ไพจิตร อักษรณรงค์ก็ล้มป่วยเป็นไข้หวัด เจ็บคอ ไม่มีเสียง นอนพักรักษาตัว เราสามคนไม่ได้กลับเข้าไปที่เวทีตั้งแต่วันนั้น


เมื่อครั้งที่ผมและไพจิตร อักษรณรงค์ได้รับมอบหมายให้ดูแลเวทีปราศรัยที่ผ่านฟ้าลีลาศ ก่อนเกิดเหตุการณ์ 10 เมษายน เราคุมสถานการณ์ด้วยสันติวิธี ขณะเครื่องบินเฮลิคอปเตอร์มาบินวนในช่วงบ่ายวันนั้น ผมประกาศให้คนออกมาจากเต็นท์ให้หมด มารวมกันหน้าเวที เพื่อให้เจ้าหน้าที่บนเครื่องบินที่บินสังเกตุการณ์ได้เห็นว่ามีคนเสื้อแดง มากมาย ผมให้พี่น้องนั่งลง สงบนิ่ง ตั้งสติ ทำสมาธิ ยึดหลักการสันติอหิงสา ปล่อยให้ตำรวจทหารเข้ามาโดยไม่ขัดขวาง หากเขาจะมาจับแกนนำ ให้เปิดทางให้เขาเข้ามาจับบนเวที พวกเราพร้อม เพื่อไม่ให้เกิดความสูญเสียใดๆกับพี่น้องประชาชน


หลังจากผมพูดจบลง ไมโครโฟนก็ถูกแย่งดึงโดยบางคนที่ปลุกเร้าเร่าร้อนระดมกำลังให้ออกไปปะทะ เผชิญสะกัดกั้นไม่ให้ตำรวจทหารผ่านเข้ามาตามด่านต่างๆ ผลักดันสถานการณ์ไปสู่ความรุนแรง ผมเดินลงจากเวที เพราะผมไม่อยู่ในฐานะที่ไปห้ามปรามแล้วเพื่อนๆจะฟัง และไม่มีประโยชน์อะไรที่จะพูดสวนทางกันให้สับสน ในใจคิดว่าหากมีการสูญเสียเลือดเนื้อและชีวิตอีก คงรับไม่ไหว ผมติดต่อไปหาณัฐวุฒิ ใสยเกื้อที่เวทีราชประสงค์ให้มาคุมสถานการณ์ที่นี่ด้วยตัวเอง ก่อนที่มันจะลุกลามบานปลาย แต่ไม่เป็นผล ที่สุดก็ปะทะกันรุนแรง หลังเหตุการณ์นี้ผมเร่งเร้าให้ณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ ยุติเวทีที่สะพานผ่านฟ้าลีลาศ หากไม่มีคนนำที่แกนนำเชื่อฟังมาคุมเวที ก่อนที่ประวัติศาตร์นองเลือดจะซ้ำรอย ซึ่งเป็นผลสำเร็จในที่สุดเมื่อตกลงย้ายการชุมนุมไปรวมที่ราชประสงค์จุดเดียว


กรณี 10 เมษายน 2553 คุกคามจิตใจผมให้หดหู่ ขมขื่น และเจ็บปวดอย่างหนัก สำหรับผม พอแล้ว มันเขียนอะไรไม่ออก มันบอกอะไรไม่ถูก มันไม่ได้สร้างพลังอะไรเลย นอกจากสำนึกแห่งธรรมที่ว่าการฆ่าคือบาป และผู้ที่เกี่ยวข้องกับการทำให้เกิดการฆ่าเล่า จะพ้นบาปไปได้อย่างไร


วันที่ 10 พฤษภาคม 2553 เมื่อประธานวีระ มุสิกพงศ์ ลงขบวนรถไฟไป เหตุเพราะข้อเรียกร้อง "ยุบสภา" บรรลุแล้ว และแนวทางการต่อสู้ส่อเค้าจะหลุดเฟรมแห่งสันติวิธี มีสำเนียงบางอย่างกระตุ้นเร้าความรุนแรงแทรกซ้อนการนำของ นปช. ผมจึงเห็นด้วยและขอลงสถานีเดียวกับวีระ ใครจะชิงชังรังเกียจและหยามเหยียดอย่างไรก็ว่ากันไป เรารับเสียงร่ำไห้แห่งความโศกเศร้า เลือดเนื้อ น้ำตา การบาดเจ็บ สูญเสีย ไม่ได้อีกแล้ว


บันทึกนี้เขียนขึ้นเพื่อชี้แจงเหตุผลแห่งการยุติบทบาทอย่างเป็นทาง การของผมและไพจิตร อักษรณรงค์


หยุดคือหยุด ไม่ให้ใคร ต้องตายอีก
หยุดคือ หลีก ความรุนแรง อันแฝงฝัง
หยุดแล้วมวลชนได้ไม่พ่ายพัง
หยุดเขาขัง หลอกเราก็เข้าใจ


หยุดอาจมีความหมายว่าไม่หยุด
หยุดเพราะแท้ ที่สุด หาหยุดไม่
หยุดการตาย เพื่อให้อยู่ สู้ต่อไป
หยุดสงวนกำลังไว้ ใช้อีกนาน


ถ้าเราหยุดละวางตรงบางซื่อ
จักได้ความ เชื่อถือมหาศาล
คลื่นอธรรมก็จะซัดใส่รัฐบาล
ดำเนินการต้องประกอบด้วย ชอบธรรม


หยุดเพราะว่ายุบสภาได้มาแล้ว
เราได้แนวนำ เสนอไม่เพ้อพร่ำ
เป็นไปตามยุทธวิธีที่ชี้นำ
ให้ค่อยกินทีละคำจดหมดจาน


เหมือนจะยอม เหมือนจะแพ้ แท้แล้วสู้
ข้าง หน้าคุก รออยู่ ไม่สะท้าน
เพื่อหยุดการเข่นฆ่าอย่างสามานย์
นี้คือการ เรียกร้อง หยุดของเรา


(บันทึกนี้เขียนวันที่ 13 พฤษภาคม 2553)

 


หัวข้อ: Re: [2513]"ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: เหยง 16 ที่ 02 กรกฎาคม 2553, 14:07:16
สวัสดีครับ พี่แอ๊ะ

ย้ายห้องกลับบ้าน รุ่น 2513 แล้วหรือครับ !! ?? พร้อมยอดผู้อ่าน 45,242 ครั้ง

ถ้าอ่านครบ 50,000 ครั้งจะมีของแจก..ฉลองมั๊ยเนี่ย ?? ?? ??


หัวข้อ: Re: [2513]"ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: prapasri AH ที่ 02 กรกฎาคม 2553, 21:45:25
หวัดดีเหยง

ขอบคุณที่มาเยี่ยมนะ ช่วงนี้พี่แอ๊ะไม่ว่างเข้าเวบหอเลยค่ะ

ยุ่งจนหัวหมุนไปหมด

ร.พ พี่แอ๊ะเข้าโครงการ สามสิบบาท
สปสช .ต้องมาประเมินทุกปี

และต้องผ่านพรพ. HA ด้วยค่ะ

เลยต้อง จัดการร.พ ทั้ง 2แห่งทียโส


ที่มุกดาหารก็ไม่ได้ไปดูแลเลย

ป่านนี้ไม่ทราบร.พ หายไปแล้วหรือยัง55555555555555

ยุ่ง สุด ยุ่งค่ะ

มีผู้บริหาร ทุกแห่ง แต่ต้อง คอยดูแล ให้เขาเดินให้ถูกทางค่ะ


มีคนเข้ามาตั้ง สี่หมื่นกว่าครั้ง ดีใจ จัง

ครบ ห้าหมื่นเมื่อไร มีรางวัล จริงๆ ล่วยยยยยยยยยย

จะขอเลี้ยงน้องๆ สักหนึ่งมื้อที่  บ้าน กรุงเทพดีไหม

โยนหินถามทางงงงงงงงงงงงงงงงง


หัวข้อ: Re: [2513]"ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: suriya2513 ที่ 02 กรกฎาคม 2553, 21:53:04
อุตส่าห์ย้ายหนีกลับมาจากห้องการเมืองแล้ว หาเจอได้ไงครับคุณนายแอ๊ะ
นึกว่าจะโดนโวยอีก เพราะกระทู้หาย


หัวข้อ: Re: [2513]"ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: Kaimook ที่ 03 กรกฎาคม 2553, 23:07:17
 สวัสดีค่ะพี่แอ๊ะ ....ดีใจจังบ้านพี่แอ๊ะย้ายกลับมาแล้วค่ะ...


หัวข้อ: Re: [2513]"ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: Khun28 ที่ 04 กรกฎาคม 2553, 06:11:33
อ้างถึง
ข้อความของ prapasri AH เมื่อ 02 กรกฎาคม 2553, 21:45:25
หวัดดีเหยง

ขอบคุณที่มาเยี่ยมนะ ช่วงนี้พี่แอ๊ะไม่ว่างเข้าเวบหอเลยค่ะ

ยุ่งจนหัวหมุนไปหมด

ร.พ พี่แอ๊ะเข้าโครงการ สามสิบบาท
สปสช .ต้องมาประเมินทุกปี

และต้องผ่านพรพ. HA ด้วยค่ะ

เลยต้อง จัดการร.พ ทั้ง 2แห่งทียโส


ที่มุกดาหารก็ไม่ได้ไปดูแลเลย

ป่านนี้ไม่ทราบร.พ หายไปแล้วหรือยัง55555555555555

ยุ่ง สุด ยุ่งค่ะ

มีผู้บริหาร ทุกแห่ง แต่ต้อง คอยดูแล ให้เขาเดินให้ถูกทางค่ะ


มีคนเข้ามาตั้ง สี่หมื่นกว่าครั้ง ดีใจ จัง

ครบ ห้าหมื่นเมื่อไร มีรางวัล จริงๆ ล่วยยยยยยยยยย

จะขอเลี้ยงน้องๆ สักหนึ่งมื้อที่  บ้าน กรุงเทพดีไหม

โยนหินถามทางงงงงงงงงงงงงงงงง

ยังงี้ ต้องเข้ามาเยี่ยมพี่แอ๊ะทุกวันสิครับ


หัวข้อ: Re: [2513]"ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: ภาณุ ปาตานี ที่ 04 กรกฎาคม 2553, 10:02:51
สวัสดีครับพี่แอ๊ะ

หาห้องไม่เจอ...งานนี้ต้องโทษพี่ป๋องครับ


หัวข้อ: Re: [2513]"ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: เหยง 16 ที่ 04 กรกฎาคม 2553, 10:34:04
อย่าไปโทษพี่ป๋องเลยครับ พี่เหยงขอให้พี่ป๋องช่วยย้ายกลับมาห้อง 2513 เองครับ

เพราะเห็นว่า หมดเรื่องสถานการณ์ฉุกเฉินแล้ว จึงขอกลับคืนเข้าพื้นที่ครับ

ที่ไม่ได้ประกาศดังๆ เพราะกลัว เขาจะไม่ยอมย้ายกลับให้ ??


หัวข้อ: Re: [2513]"ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: suriya2513 ที่ 04 กรกฎาคม 2553, 12:18:19
อ้างถึง
ข้อความของ YA เมื่อ 04 กรกฎาคม 2553, 10:02:51
สวัสดีครับพี่แอ๊ะ

หาห้องไม่เจอ...งานนี้ต้องโทษพี่ป๋องครับ
ถ้าระดับยอดทนายนักสืบหาไม่เจอ พี่แอ๊ะรึจะหาเจอ


หัวข้อ: Re: [2513]"ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: หนุน'21 ที่ 05 กรกฎาคม 2553, 20:32:16

สวัสดีครับพี่แอ๊ะ
อย่างนี้ก็ต้องเข้ามาสืบข่าวบ่อยๆซิครับ
กลัวตกข่าว และกล้วไม่ได้ฉลองผู้อ่านครบ 50,000 ครั้งกับห้องพี่แอ๊ะ
อิ อิ


 emo48:) emo48:)


หัวข้อ: Re: [2513]"ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: เหยง 16 ที่ 06 กรกฎาคม 2553, 07:48:32
สวัสดีครับ พี่แอ๊ะ

ไปติดธุระที่ไหนครับ ไม่เข้าบ้านมาหลายวันแล้ว ??


หัวข้อ: Re: [2513]"ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: เหยง 16 ที่ 06 กรกฎาคม 2553, 12:36:10
ถึงจะย้ายห้องกลับ แต่ข่าวบ้านเมืองก็ยังคงต้องติดตามต่อ โดยเฉพาะอย่างยิ่งข่าวโหราพยากรณ์..5 5 5 5

อ้าว....มาอ่านกันหน่อย ประเด็นร้อนๆ
1.พี่ท่านทวิตมาบอกว่า จะกลับในปลายปีนี้..จริงหรือหลอก
2.ดวง นรม.อภสิทธิ์ ดวงจะถูกลอบสังหาร..จริงหรือหลอก


ฟังประเด็นแรกจากคุณเปลว สีเงิน

ถอดรหัส "วันลอบสังหาร"
เปลว สีเงิน 6 กรกฎาคม 2553 - 00:00

     ผมคง "ตกข่าว" ไม่รู้ว่า "ทักษิณ" โฟนอินเข้ามา หรือทวิตเตอร์เข้ามาก็ไม่ทราบได้ว่า "จะกลับเมืองไทยปลายปีนี้" มาได้ยินก็ต่อเมื่อนักข่าวไปถามความเห็น "นายกฯ อภิสิทธิ์" เมื่อวาน (๕ ก.ค.๕๓) ความจริง ทักษิณไม่ใช่คนไทยแล้ว เพราะสละสัญชาติไทยไปถือสัญชาติมอนเตเนโกรตั้งนานแล้ว!
     ใครปะหน้าก็ช่วยถามทีเถอะว่า ที่บอก "จะกลับมาไทยปลายปีนี้" นั้น มาในฐานะนักท่องเที่ยว นักลงทุนธุรกิจสัมปทาน หรือในฐานะหัวหน้าก่อการร้ายไม่ทราบ หรือจะมาเยี่ยม "จันทร์ส่องหล้า" เป็นการรำลึกถึงความหลัง ทั้งรัก ทั้งชัง ทั้งหวานและขมขื่น?
     จะมา-จะไปด้วยเหตุผลใดก็ช่างเถอะ แต่อย่าไปอินอำนาจเก่าเข้าไปจุ้นกิจการพรรคเพื่อไทยก็แล้วกัน เพราะตามกฎระเบียบบอกชัดอยู่แล้ว พรรคการเมืองห้าม "คนต่างชาติ" เข้าไปเกี่ยวข้อง ไม่ว่าทางประตูหน้า หรือประตูหลัง ถูกจับได้พรรคถูกยุบเอาง่ายๆ แล้วจะมาโวยวายว่า "๒ มาตรฐาน"
     เรื่อง ๒ มาตรฐานนี่ ผมสังเกตว่า อะไรที่ทักษิณและเพื่อไทยเป็นฝ่ายเสียประโยชน์ จะหาระบบรัฐปฏิบัติ ๒ มาตรฐานทุกทีไป ทั้งที่ความจริงนั้น ตั้งแต่ทักษิณยังเป็นคนไทย และเป็นนายกฯ ตั้งแต่ ๒๕๔๔ เรื่อยมาจนมาถึงทุกวันนี้
     ประเทศไทย มีมาตรฐานซะที่ไหนล่ะ!?
     เอาเถอะ...จะกลับก็กลับ ผมไม่กลัว กลัวไม่กลับมากกว่า ได้ยินพูดแบบนี้มาเป็นร้อยครั้งแล้วมั้ง ก็คงพูดเพราะมั่นใจกองกำลังกบฏนั่นแหละว่าต้องคว่ำฟ้า-พลิกดินได้สำเร็จแหงมๆ ขึ้นภูดูเชิ้ตแดงป่วนบ้าน-เผาเมืองมาตลอด ถึงตอนช็อตเด็ดบางทีเผลอตัว-เผลอปากสั่งการให้จับได้...นึกว่าใครเป็นนายโรงเชิด?
     ที่แท้ก็....พี่เหลี่ยม นี่เอง!
     ก็แค่ "เกือบได้กลับ" เท่านั้นแหละ เจอสูตร "กระชับพื้นที่" ของ ศอฉ.เข้าไปสอง-สามดอก บรรดาหัวโจกจากที่คอใส่สร้อยเส้นโตเท่าโซ่รถไฟขึ้นเวที ตอนนี้เปลี่ยนจากใส่คอไปเป็นใส่ขา แต่ไม่ใช่สร้อยนะ เขาเรียกว่า...ตรวน!
     เผาบนดินไม่สำเร็จ จะเปลี่ยนไปเผาใต้ดิน มันก็คง "เสร็จ" มากกว่า "สำเร็จ" ผมว่านะ?
     ก็อยากจะเตือนทักษิณไว้อย่าง หมอดูนั้น ฟังได้-เชื่อได้ ถ้าใช้เหตุผลบนการกระทำตัวเอง ประกอบสติปัญญากลั่นกรองอีกชั้น ไม่ใช่เลือกฟัง-เลือกเชื่อแต่หมอดูที่พูดเพียงให้ถูกหู-ถูกใจ ทายอย่างเดียวว่าจะชนะ จะสำเร็จ จะยิ่งใหญ่ตะพึดตะพือ
     ยิ่งคนไหนทายว่า จะได้กลับเมืองไทย จะได้ครองอำนาจ-ครองเมืองเป็นผู้ยิ่งใหญ่ เป็นเจ้าชายมูลแม้วคู่เจ้าหญิงดอกอ้อละก็ ฉีกยิ้มแก้มป่องเป็นแก้มก้นเด็ก จากหน้า ๔ เหลี่ยมกลายเป็น ๖ เหลี่ยมไปทันที!
     ผมเคยบอกไว้ต่างกรรม-ต่างวาระตรงนี้มิใช่หรือว่า ถึงอย่างไรก็ได้กลับแน่ แต่จะกลับแบบไหน นั่นเป็นอีกเรื่องหนึ่ง กลับแบบตัวเป็นๆ นั่ง first class ไขว่ห้างสบาย หรือกลับแบบป่นเป็นปี๊บ by cargo ตามออเดอร์กรรมที่ว่า.....
     ยัง กัมมัง กะริสสันติ-ใครทำกรรมอย่างใดไว้ กัลยานัง วา ปาปะกัง วา-ดีก็ตาม ชั่วก็ตาม ตัสสะ ทายาทา ภวิสสันติ-ตนจักต้องเป็นผู้รับผลของกรรมนั้น!
     ตามเหตุ-ตามผลน่าจะกลับเดือนกรกฎาคมนี้นะ เพราะวันที่ ๑๔ กรกฎา วันปฏิวัติฝรั่งเศส เป็นวันที่ทักษิณถือเป็นฤกษ์นำชัยตั้งพรรคไทยรักไทยมิใช่หรือ ก็น่ากลับมาฉลอง และวันที่ ๒๖ กรกฎา ก็เป็นวันครบรอบคล้ายวันเกิดอีก
     ถ้ากลับมาแบบตัวเป็นๆ เดือนนี้ จะได้ไม่ต้องมีรายการชักรอก "หุ่นทักษิณ" ถวายผ้าไตรพระ เหมือนอย่างคราวทำพิธีสะเดาะเคราะห์ ต่อกรรม ตัดอายุ ที่ทำกันแถววัดเมืองนนท์ปีที่แล้ว!

http://www.thaipost.net/news/060710/24489


หัวข้อ: Re: [2513]"ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: เหยง 16 ที่ 06 กรกฎาคม 2553, 12:36:38
(ต่อ)

ฟังประเด็นที่สอง ครับ

     เมื่อวาน ท่านอาจารย์กรหริศ บัวสรวง ท่านส่งบทความทางวิชาการเรื่อง "วันลอบสังหารมีจริงหรือไม่?" มาให้ผม ท่านปรารภว่า ระยะนี้มีโหราจารย์หลายท่าน หลายสำนักทายทักเรื่องบ้านเมือง โดยเฉพาะเรื่องชะตานายกฯ อภิสิทธิ์ไปในทางร้ายๆ ถึงขั้นเป็น-ตาย ในฐานะท่านก็เป็นโหราจารย์คนหนึ่ง ก็อยากจะพูดด้วยวิชาการโหรบ้าง
     ท่านพูดผ่านมาทางผม ดังนี้ครับ
       วันลอบสังหารมีจริงหรือไม่?
     ในระยะนี้มีข่าวข้นเข้มจากหน่วยข่าวกรองทุกสำนักว่าจะมีการลอบสังหารบุคคลสำคัญทางการเมือง นับตั้งแต่ข่าวที่มีกระแสว่าการวางระเบิดข้างพรรคภูมิใจไทยนั้นมีเป้าประสงค์ที่คุณเนวิน ชิดชอบ ทั้งดีเอสไอและ ศอฉ.มั่นใจว่าจะมีการก่อวินาศกรรมเช่นเดียวกับโหร และซินแสก็ประสานเสียงพุ่งไปที่ดวงนายกรัฐมนตรีอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ว่ากำลังดวงตก เข้าเคราะห์ มีอันตรายเกิดขึ้นโดยเฉพาะในช่วงเดือนตุลาคม
     เมื่อมีคำเตือนออกมาเช่นนี้ ก็คงต้องขอแสดงความเห็นผ่านมาทางคุณเปลว สีเงิน ผู้เกาะติดสถานการณ์การย้ายเมืองหลวงจากบางกอกไปบางอื่น (ภายในไม่เกิน 6 ปี เพราะน้ำจะท่วมและแก้ไขป้องกันไม่ได้ นายกรัฐมนตรีน่าจะคิดถึงเรื่องนี้เพื่ออนาคตของบ้านเมือง)
     เมื่อตรวจสอบการโคจรของดาวในเดือนตุลาคม มีดาวย้ายราศี ปรากฏว่ามีดาวอาทิตย์เข้าสู่ราศีตุลในวันที่ 18 เล็งลัคนาดวงเมือง ทำมุมโยคถึงดาวพฤหัสบดีและดาวเสาร์เดิม ส่งกระแสไปถึงดาวราหูจรในภพศุภะ ดาวราหูนี้เป็นอริกับดวงนายกรัฐมนตรี พวกคนที่ไม่คิดดี ไม่คิดปรองดองหรือไม่ร่วมมือปฏิรูปประเทศก็จะเป็นเสี้ยนหนามคอยตลบตะแลง ใช้วิชามารไปตามลักษณะของดาวราหู
     เดือนตุลาคม นี้จึงเป็นเดือนที่มีเหตุการณ์น่าระทึกใจทางการเมือง ส่วนดาวอังคารจะย้ายเข้าสูราศีพิจิกเป็นเกษตรเล็งไปยังดาวอังคารเดิมและทำมุมตรีโกณถึงดาวราหูเดิมในภพวินาศถึง สิ้นเดือนพฤศจิกายน ตำราโหราศาสตร์กล่าวไว้ว่า "ภุมมะราหู เร่งระวังดู จะวิวาทบาดใจ หลายศัตรูโสดสูญ เพิ่มพูนอันตราย ดุจไกรสรผาย ผจญแพ้แก่หมู่ชน"
     สรุปตรงนี้ว่า เป็นเดือนที่ไม่เหมาะกับการเลือกตั้ง เพราะบ้านเมืองยังไม่มีความสงบเรียบร้อย และน่าสังเกตว่าจะมีพรรคการเมืองถูกยุบ นักการเมืองติดคุก
     "วันลอบสังหาร" บุคคลสำคัญจะอยู่ในระยะเวลาตั้งแต่ 20 กรกฎาคม ถึง 5 กันยายน จะมีเรื่องที่น่าตื่นเต้นเร้าใจเป็นที่สุด ใครจะเป็น ใครจะตาย ก็อยู่ในระหว่างนี้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในช่วงวันที่ 18 สิงหาคม เป็นต้นไป จะมีข่าวของคนไทยพลัดถิ่นที่ดังไปทั่วโลก แต่ใครที่รักชอบนายกฯ อภิสิทธิ์ ไม่ต้องเป็นห่วง ขอยืนยันตรงนี้ว่าดวงยังดีอยู่ แม้จะมีคนมุ่งร้ายแต่ก็แคล้วคลาด เพราะมีทั้งดาวพฤหัสบดีและดาวเกตุคุ้มครอง สิ่งที่ต้องระวังในรอบปีนี้คือ ไม่ควรเดินทางไปต่างประเทศ และเหตุร้ายที่เกี่ยวกับลูกเมีย
     ผมคงส่งข่าวคราวของดวงดาวมาฝากคุณเปลว เพื่อให้ผู้อ่านได้รับรู้ในสิ่งที่มีความเป็นไปได้ จริงไม่จริง ถึงวันนั้นก็คงได้รู้
                           -กรหริศ บัวสรวง

     เอ้า...ก็ฟังกันไว้ประดับความรู้ จะได้ไม่ต้องมาเซ้าซี้ถามผมอะไรทำนองนี้บ่อยๆ อีก เพราะถ้าคาดคั้นให้ผมตอบ ผมก็โมเมเดาส่งดับความกระวนกระวายใคร่รู้ของท่านไปมื้อๆ เท่านั้น แต่นี่ของแท้ อาจารย์กรหริศท่านอ่านรหัสดาวมาบอกให้ทราบกันแล้ว ท่านนายกฯ อภิสิทธิ์ คงเบาใจไปได้ซักกิโล กะอีก ๒ ขีดนะครับ!


หัวข้อ: Re: [2513]"ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: พธู ๒๕๒๔ ที่ 06 กรกฎาคม 2553, 21:18:13
สถิติล่าสุด... ผู้ชายทำอะไรหลังมีเพศสัมพันธ์ ?
2% กิน , 3% สูบบุหรี่ , 4% อาบน้ำ , 5% หลับ , 86% ลุกขึ้นแต่งตัวและกลับบ้านไปหาเมียหลวง


หัวข้อ: Re: [2513]"ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: เหยง 16 ที่ 08 กรกฎาคม 2553, 09:30:23
ขอกลับไปดูสถิติที่จดสักหน่อยครับ ว่าอยู่ในส่วนไหนบ้างและเป็นกี่เปอร์เซ็นต์


หัวข้อ: Re: [2513]"ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: เหยง 16 ที่ 09 กรกฎาคม 2553, 21:17:02
ว่าจะไม่.....แล้วเชียวนา เพราะย้ายบ้านกลับมาแล้ว

เอาว่ามาแจ้งให้ทราบเป็นเบื้องต้นครับ

สภายูกันดาไต่สวนรัฐบาลหมกเม็ดออก"พาสปอร์ตทูต"ให้แม้ว

(http://img155.imageshack.us/img155/6657/taksin1.jpg)

รัฐสภายูกันดาเปิดการไต่สวนพิเศษกรณีที่รัฐบาลลักลอบออก "หนังสือเดินทางทูต"ให้กับ พ.ต.ท.ทักษิณ  ชินวัตร โดยไม่ผ่านสภา  พร้อมเผยความผิดปกติกรณีอดีตนายกรัฐมนตรีของไทยใช้ชื่อในพาสปอร์ตเล่มดังกล่าวว่า "ทัคกี้ ชิเนกร้า" แทนชื่อจริงของตัวเอง...


สำนักข่าวต่างประเทศรายงานเมื่อวันที่ 9 ก.ค.ว่า คณะกรรมาธิการตรวจสอบความโปร่งใสภาครัฐของรัฐสภายูกันดา หรือ "P.A.C." กำลังเปิดการไต่สวนเป็นกรณีพิเศษขึ้นที่รัฐสภาในกรุงกัมปาลาซึ่งเป็นเมืองหลวงของประเทศเกี่ยวกับการที่รัฐบาลยูกันดาภายใต้การนำของประธานาธิบดีโยเวรี  มูเซเวนี และนายกรัฐมนตรี อโปโล เอ็นซิบัมบีตัดสินใจออกหนังสือเดินทางทางการทูตให้กับ พ.ต.ท.ทักษิณ  ชินวัตร  อดีตนายกรัฐมนตรีของไทยที่ถูกทหารโค่นอำนาจเมื่อปี 2006 และตกเป็นผู้ต้องหาที่ทางการไทยต้องการตัวไปดำเนินคดีในข้อหาคอร์รัปชั่นและก่อการร้ายอยู่ในเวลานี้

นันดาลา  มาฟาบี  ประธานคณะกรรมาธิการพีเอซี ออกมาเปิดเผยว่า เขาได้รับข้อมูลเกี่ยวกับ  "ความไม่ชอบมาพากล" ของการออกหนังสือเดินทางทูตครั้งนี้มาจากเจ้าหน้าที่ของรัฐบาลรายหนึ่งซึ่งไม่ขอเปิดเผยชื่อเนื่องจากเหตุผลด้านความปลอด ภัย  โดยมาฟาบีชี้ว่าการตัดสินใจของรัฐบาลยูกันดาในการออกพาสปอร์ตทูตให้กับอดีตนายกรัฐมนตรีของไทยมีการดำเนินการแบบลับๆ ของคนในรัฐบาล โดยไม่ผ่านการพิจารณาของรัฐสภาแต่อย่างใด

ขณะเดียวกัน  มาฟาบียังเปิดเผยด้วยว่าพาสปอร์ตทูตที่รัฐบาลยูกันดาออกให้ พ.ต.ท. ทักษิณ เป็นการออกให้ในชื่อ "Mr. Takki Shinegra"  หรือ " ทัคกี้   ชิเนกร้า"    แทนที่จะเป็นการออกให้ในนามของ " Mr. Thaksin Shinawatra " ซึ่งเป็นชื่อที่แท้จริงของอดีตนายกรัฐมนตรีของไทย และเป็นหลักฐานยืนยันว่าแกนนำระดับสูงของรัฐบาลยูกันดากำลังกระทำบางอย่างที่ "ไม่โปร่งใส" และขัดต่อกฎหมายของประเทศตัวเองเพื่อแลกเปลี่ยนกับการที่ พ.ต.ท.ทักษิณจะนำเงินเข้ามาลงทุนในยูกันดาเพิ่มเติม

" อดีตนายกรัฐมนตรีของไทยผู้นี้ไม่ใช่พลเมืองของเราด้วยซ้ำ เขาจะมีสิทธิ์ครอบครองพาสปอร์ตทูตของประเทศเราได้อย่างไร  ผมมั่นใจว่าเรื่องที่เกิดขึ้นต้องมีเบื้องหลังที่ไม่โปร่งใสแอบแฝงอยู่อย่างแน่นอน"  มาฟาบีกล่าว

ขณะที่ ดร.สตีเวน   คาโกดา  เจ้าหน้าที่ระดับสูงที่ดูแลงานด้านกิจการภายในของรัฐบาลยูกันดาออกมาปฏิเสธว่ายังไม่ทราบเรื่องดังกล่าว   แต่ก็พร้อมให้มีการตรวจสอบ  พร้อมระบุว่า รัฐบาลยูกันดาไม่ต้องการให้มีการขยายประเด็นเรื่องพาสปอร์ตทูตที่ออกให้อดีตนายกรัฐมนตรีของไทยรายนี้ เนื่องจากเกรงว่าอาจเป็นชนวนให้เกิดความตึงเครียดทางการทูตระหว่างยูกันดากับประเทศไทย

ทั้งนี้ รายงานข่าวระบุว่า พ.ต.ท. ทักษิณ เคยนำเงินไปลงทุนในยูกันดามาแล้วครั้งหนึ่งในช่วงก่อนหน้านี้  โดยเป็นการลงทุนเกี่ยวกับการออกล็อตเตอรีภายใต้ชื่อบริษัท  "Go-lotto"  ที่อดีตนายกรัฐมนตรีของไทยรายนี้เป็นเจ้าของ.

http://www.thairath.co.th/content/oversea/94991


หัวข้อ: Re: [2513]"ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: suriya2513 ที่ 09 กรกฎาคม 2553, 21:49:18
จริงด้วย คุณพิเชษฐ์เองนั่นแหละ บอกให้ย้ายกลับห้อง 2513


หัวข้อ: Re: [2513]"ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: พธู ๒๕๒๔ ที่ 10 กรกฎาคม 2553, 14:23:58
อ้างถึง
ข้อความของ เหยง 16 เมื่อ 08 กรกฎาคม 2553, 09:30:23
ขอกลับไปดูสถิติที่จดสักหน่อยครับ ว่าอยู่ในส่วนไหนบ้างและเป็นกี่เปอร์เซ็นต์
เข้าใจว่าจะอยู่ในร้อยละ30 สุดท้าย


หัวข้อ: Re: [2513]"ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: ดร.มนตรี ที่ 12 กรกฎาคม 2553, 09:57:27
มาสวัสดีพี่แอ๊ะ ... และพี่ๆ ทุกท่านครับ   emo30:sorry:


ปล.

@ เรือนไทย ใจกลางกรุง ... สุขุมวิท 38  ... เป็นร้านอาหารไทย อินเดีย ญี่ปุ่น รสชาติบันเทิงลิ้นมากครับ ชื่อ The Face Res. & Spa.

อีก 1 ร้านอร่อย บรรยากาศคลาสสิค  ที่ขออนุญาตแนะนำ  ครับ ^_^

(http://www.cmadong.com/imageupload/2010_Cmadong-Image/data/image/l5fbz0-c4973e.jpg)

(http://www.cmadong.com/imageupload/2010_Cmadong-Image/data/image/l5fcho-235fc4.jpg)

(http://www.cmadong.com/imageupload/2010_Cmadong-Image/data/image/l5fc4i-dc7efe.jpg)

(http://www.cmadong.com/imageupload/2010_Cmadong-Image/data/image/l5fc57-3e5490.jpg)

(http://www.cmadong.com/imageupload/2010_Cmadong-Image/data/image/l5fc5u-6e8993.jpg)





หัวข้อ: Re: [2513]"ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: wannee ที่ 12 กรกฎาคม 2553, 11:28:37
สวัสดีค่ะ  พี่แอ๊ะ  emo6::))

กระทู้ย้ายกลับมาแล้ว  emo9:huhu:


หัวข้อ: Re: [2513]"ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: wannee ที่ 12 กรกฎาคม 2553, 11:32:17
เห็นอาหารที่ดร.มนตรี  นำเสนอแล้ว 

หิวข้าว..ต้องรีบไป..ใกล้เที่ยงด้วย  emo6::))


หัวข้อ: Re: [2513]"ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: พธู ๒๕๒๔ ที่ 12 กรกฎาคม 2553, 15:49:19
อ้างถึง
ข้อความของ ดร.มนตรี เมื่อ 12 กรกฎาคม 2553, 09:57:27
มาสวัสดีพี่แอ๊ะ ... และพี่ๆ ทุกท่านครับ   emo30:sorry:


ปล.

@ เรือนไทย ใจกลางกรุง ... สุขุมวิท 38  ... เป็นร้านอาหารไทย อินเดีย ญี่ปุ่น รสชาติบันเทิงลิ้นมากครับ ชื่อ The Face Res. & Spa.

อีก 1 ร้านอร่อย บรรยากาศคลาสสิค  ที่ขออนุญาตแนะนำ  ครับ ^_^

(http://www.cmadong.com/imageupload/2010_Cmadong-Image/data/image/l5fbz0-c4973e.jpg)

(http://www.cmadong.com/imageupload/2010_Cmadong-Image/data/image/l5fcho-235fc4.jpg)

(http://www.cmadong.com/imageupload/2010_Cmadong-Image/data/image/l5fc4i-dc7efe.jpg)

(http://www.cmadong.com/imageupload/2010_Cmadong-Image/data/image/l5fc57-3e5490.jpg)

(http://www.cmadong.com/imageupload/2010_Cmadong-Image/data/image/l5fc5u-6e8993.jpg)




อาหารอินเดียนิดหน่อยพอได้ แต่เคยกิน 7 วันแทบแย่


หัวข้อ: Re: [2513]"ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: ดร.มนตรี ที่ 12 กรกฎาคม 2553, 20:20:43
ที่บริษัทฯ กำลังทำคู่มือ กิน เที่ยว ทั่วไทย ... เสร็จแล้วจะเอามาเผย นะครับ พีเสียด  ^_^

อ้างถึง
ข้อความของ wannee เมื่อ 12 กรกฎาคม 2553, 11:32:17
เห็นอาหารที่ดร.มนตรี  นำเสนอแล้ว 

หิวข้าว..ต้องรีบไป..ใกล้เที่ยงด้วย  emo6::))


หัวข้อ: Re: [2513]"ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: ดร.มนตรี ที่ 12 กรกฎาคม 2553, 20:22:19
7 วัน ... ขอปรบมือเลยครับ พี่ทู เก่งมากกกกก ...   ถ้าเป็นผมเจออาหาร อินเดีย 7 วันรวด แย่แน่ๆ ^_^

อ้างถึง
ข้อความของ patooman 64 เมื่อ 12 กรกฎาคม 2553, 15:49:19
อ้างถึง
ข้อความของ ดร.มนตรี เมื่อ 12 กรกฎาคม 2553, 09:57:27
มาสวัสดีพี่แอ๊ะ ... และพี่ๆ ทุกท่านครับ   emo30:sorry:


ปล.

@ เรือนไทย ใจกลางกรุง ... สุขุมวิท 38  ... เป็นร้านอาหารไทย อินเดีย ญี่ปุ่น รสชาติบันเทิงลิ้นมากครับ ชื่อ The Face Res. & Spa.

อีก 1 ร้านอร่อย บรรยากาศคลาสสิค  ที่ขออนุญาตแนะนำ  ครับ ^_^

(http://www.cmadong.com/imageupload/2010_Cmadong-Image/data/image/l5fbz0-c4973e.jpg)

(http://www.cmadong.com/imageupload/2010_Cmadong-Image/data/image/l5fcho-235fc4.jpg)

(http://www.cmadong.com/imageupload/2010_Cmadong-Image/data/image/l5fc4i-dc7efe.jpg)

(http://www.cmadong.com/imageupload/2010_Cmadong-Image/data/image/l5fc57-3e5490.jpg)

(http://www.cmadong.com/imageupload/2010_Cmadong-Image/data/image/l5fc5u-6e8993.jpg)




อาหารอินเดียนิดหน่อยพอได้ แต่เคยกิน 7 วันแทบแย่


หัวข้อ: Re: [2513]"ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: เหยง 16 ที่ 13 กรกฎาคม 2553, 08:36:58
ดร. มนตรี

พี่ถือหลัก มีกิน ดีกว่าอด ครับ


หัวข้อ: Re: [2513]"ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: เหยง 16 ที่ 13 กรกฎาคม 2553, 08:38:39
ย้ายห้องตั้งแต่วันที่ 2 ก.ค. กลับบ้าน 2513 รวม 11 วันแล้วครับ ยังอุ่นหนาฝาคั่งเช่นเดิม


หัวข้อ: Re: [2513]"ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: Kaimook ที่ 13 กรกฎาคม 2553, 22:07:56
 สวัสดีค่ะพี่แอ๊ะ...มาอ่านเรื่องดีดีค่ะพี่เหยง...


หัวข้อ: Re: [2513]"ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: Kaimook ที่ 13 กรกฎาคม 2553, 22:08:30
อ้างถึง
ข้อความของ ดร.มนตรี เมื่อ 12 กรกฎาคม 2553, 09:57:27
มาสวัสดีพี่แอ๊ะ ... และพี่ๆ ทุกท่านครับ   emo30:sorry:


ปล.

@ เรือนไทย ใจกลางกรุง ... สุขุมวิท 38  ... เป็นร้านอาหารไทย อินเดีย ญี่ปุ่น รสชาติบันเทิงลิ้นมากครับ ชื่อ The Face Res. & Spa.

อีก 1 ร้านอร่อย บรรยากาศคลาสสิค  ที่ขออนุญาตแนะนำ  ครับ ^_^

(http://www.cmadong.com/imageupload/2010_Cmadong-Image/data/image/l5fbz0-c4973e.jpg)

(http://www.cmadong.com/imageupload/2010_Cmadong-Image/data/image/l5fcho-235fc4.jpg)

(http://www.cmadong.com/imageupload/2010_Cmadong-Image/data/image/l5fc4i-dc7efe.jpg)

(http://www.cmadong.com/imageupload/2010_Cmadong-Image/data/image/l5fc57-3e5490.jpg)

(http://www.cmadong.com/imageupload/2010_Cmadong-Image/data/image/l5fc5u-6e8993.jpg)




เห็นแล้วน่าหม่ำจังเลยค่ะ...


หัวข้อ: Re: [2513]"ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: ภาณุ ปาตานี ที่ 16 กรกฎาคม 2553, 06:57:27
สวัสดีครับ พี่แอ๊ะ


มารายงานตัวครับ


หัวข้อ: Re: [2513]"ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: prapasri AH ที่ 16 กรกฎาคม 2553, 18:43:42

Dear pi pi nong nong,now pi ah and pi hann are in milan ; monaco ,cannes,france.on tour with pi ah's family ka.  Send by bb ka,miss all of u naka


หัวข้อ: Re: [2513]"ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: เหยง 16 ที่ 16 กรกฎาคม 2553, 20:24:52
สวัสดีครับ พี่แอะ

ฝากเที่ยวเผื่อด้วยคนครับ


หัวข้อ: Re: [2513]"ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: ภาณุ ปาตานี ที่ 17 กรกฎาคม 2553, 08:47:17
อ้างถึง
ข้อความของ prapasri AH เมื่อ 16 กรกฎาคม 2553, 18:43:42

Dear pi pi nong nong,now pi ah and pi hann are in milan ; monaco ,cannes,france.on tour with pi ah's family ka.  Send by bb ka,miss all of u naka

Hello P'Ah,

Enjoy your trip krub !


หัวข้อ: Re: [2513]"ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: เหยง 16 ที่ 18 กรกฎาคม 2553, 18:57:50
VDO ขอโทษประเทศไทย ซึ่งข่าวว่าถูกแบนจากจอ ทีวี นั้น วันนี้ (18 กค. ช่วงบ่ายโมง) Thai PBS นำออกมาอากาศแล้วครับ

ลองชมดูครับ

http://www.youtube.com/watch?v=H-NySQl7VJ0


http://www.youtube.com/watch?v=H-NySQl7VJ0&feature=player_embedded


หัวข้อ: Re: [2513]"ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: wannee ที่ 20 กรกฎาคม 2553, 15:18:03
อ้างถึง
ข้อความของ ดร.มนตรี เมื่อ 12 กรกฎาคม 2553, 20:20:43
ที่บริษัทฯ กำลังทำคู่มือ กิน เที่ยว ทั่วไทย ... เสร็จแล้วจะเอามาเผย นะครับ พีเสียด  ^_^


แล้วจะตามชมค่ะ ดร.มนตรี  emo6::))


หัวข้อ: Re: [2513]"ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: wannee ที่ 20 กรกฎาคม 2553, 15:19:52
อ้างถึง
ข้อความของ prapasri AH เมื่อ 16 กรกฎาคม 2553, 18:43:42

Dear pi pi nong nong,now pi ah and pi hann are in milan ; monaco ,cannes,france.on tour with pi ah's family ka.  Send by bb ka,miss all of u naka

สวัสดีค่ะ พี่แอ๊ะ emo4:))

คงต้องรอให้พี่แอ๊ะ กลับมาพูดไทย  ให้ล่ายก่อง  emo9:huhu:


หัวข้อ: Re: [2513]"ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: pusadee sitthiphong ที่ 20 กรกฎาคม 2553, 15:21:49
อ้างถึง
ข้อความของ wannee เมื่อ 20 กรกฎาคม 2553, 15:18:03
อ้างถึง
ข้อความของ ดร.มนตรี เมื่อ 12 กรกฎาคม 2553, 20:20:43
ที่บริษัทฯ กำลังทำคู่มือ กิน เที่ยว ทั่วไทย ... เสร็จแล้วจะเอามาเผย นะครับ พีเสียด  ^_^


แล้วจะตามชมค่ะ ดร.มนตรี  emo6::))
พี่ยินดีรับแจกด้วยค่ะ


หัวข้อ: Re: [2513]"ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: suriya2513 ที่ 20 กรกฎาคม 2553, 15:59:42
บริษัท 3T นี้พี่ป๋องคุ้นดี เพราะเคยเป็นลูกจ้างชั่วคราวอยู่สี่ห้าปี
เรื่องหนังสือที่พิมพ์ออกมา ถึงใครไม่ยินดีรับ เขาก็ไล่แจกครับคุณน้องป้อม


หัวข้อ: Re: [2513]"ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: ดร.มนตรี ที่ 22 กรกฎาคม 2553, 11:06:23
สวัสดีครับ พี่แอ๊ะ พี่ป๋อง พี่เหยง พี่ป้อม พี่เสียด และพี่ๆ ทุกท่าน 

และ ... สำหรับหนังสือ ด้วยความยินดีครับ


หัวข้อ: Re: [2513]"ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: ดร.มนตรี ที่ 22 กรกฎาคม 2553, 11:20:47
อ้างถึง
ข้อความของ suriya2513 เมื่อ 20 กรกฎาคม 2553, 15:59:42
บริษัท 3T นี้พี่ป๋องคุ้นดี เพราะเคยเป็นลูกจ้างชั่วคราวอยู่สี่ห้าปี
เรื่องหนังสือที่พิมพ์ออกมา ถึงใครไม่ยินดีรับ เขาก็ไล่แจกครับคุณน้องป้อม


พี่ป๋อง ... เรียกชื่อเล่น ของ ทีทีแอนด์ที ว่า 3ที ...


เมื่อวานซืน (20 ก.ค.) ผมรับเชิญไปร่วมพิธีมอบหนังสือเรียน อิเลกทรอนิกส์ฯ รู้สึกเกรงใจท่านประธาน


เพราะ ตอนเปิดพิธี ท่านอุตส่าห์โปรโมต ทีทีแอนด์ที ด้วยการ "ตีฆ้อง 3ที" ...โม๊ง โม๊ง โม๊ง   ...เกรงใจท่านจัง ^_^

(http://www.cmadong.com/imageupload/2010_Cmadong-Image/data/image/l5xypu-659761.jpg)





หัวข้อ: Re: [2513]"ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: ดร.มนตรี ที่ 22 กรกฎาคม 2553, 11:30:45
เขียนโปรแกรมบังคับหุ่นยนต์ ด้วยการค้นคว้าหาความรู้จากอินเตอร์เน็ต ... อีกหนึ่งผลงานของ นักเรียนในโครงการฯ สมควรได้รับการสนับสนุนเป็นอย่างยิ่ง ^_^

(http://www.cmadong.com/imageupload/2010_Cmadong-Image/data/image/l5xz6h-fc4c3f.jpg)


หัวข้อ: Re: [2513]"ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: หนุน'21 ที่ 23 กรกฎาคม 2553, 13:17:48


เข้ามากราบคารวะเยี่ยมเยี่ยน พี่แอ๊ะครับ


หัวข้อ: Re: [2513]"ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: suriya2513 ที่ 23 กรกฎาคม 2553, 14:43:53
สงสัยพี่แอ๊ะทำ blueberry ตกน้ำไปแล้วครับ เลยสื่อสารกับน้องๆ ไม่ได้


หัวข้อ: Re: [2513]"ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: wannee ที่ 28 กรกฎาคม 2553, 11:05:20


สวัสดีค่ะ พี่แอ๊ะ  emo6::))

มาเยี่ยมพี่แอ๊ะตามเคยค่ะ  emo9:huhu:


หัวข้อ: Re: [2513]"ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: wannee ที่ 15 สิงหาคม 2553, 06:34:59


สวัสดีพี่แอ๊ะค่ะ  emo4:))


หัวข้อ: Re: [2513]"ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: suriya2513 ที่ 15 สิงหาคม 2553, 17:26:32
คุณนายแอ๊ะคงกำลังหาซื้อ~mobile phone~เครื่องใหม่อยู่ครับ


หัวข้อ: Re: [2513]"ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: เหยง 16 ที่ 16 สิงหาคม 2553, 20:24:39
ใช้เวลาซื้อนานจัง จะหมดหน้าอยู่แล้วครับ


หัวข้อ: Re: [2513]"ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: Kaimook ที่ 16 สิงหาคม 2553, 22:31:49
กราบสวัสดีค่ะพี่แอ๊ะและพี่ๆทุกท่านค่ะ....อยากชมภาพพี่แอ๊ะจังค่ะ...


หัวข้อ: Re: [2513]"ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: wannee ที่ 27 สิงหาคม 2553, 10:00:30
สวัสดีค่ะ พี่แอ๊ะ  emo4:))

พี่แอ๊ะไม่กลับบ้านหลายวันแล้ว  emo7:(:

ชมรมฯ กำลังวางแผนไปอิสาน และสังสรรค์กับชาวหอ ที่ขอนแก่นนะคะ   พี่อ้อย 14 มีข่าวชัดเจน แล้วคงเรียนให้พี่แอ๊ะทราบค่ะ  emo6::))


หัวข้อ: Re: [2513]"ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: พธู ๒๕๒๔ ที่ 29 สิงหาคม 2553, 20:53:01
สงสัยพี่ไปต่างปะเตด


หัวข้อ: Re: [2513]"ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: เหยง 16 ที่ 30 สิงหาคม 2553, 20:18:19
อ้างถึง
ข้อความของ prapasri AH เมื่อ 16 กรกฎาคม 2553, 18:43:42

Dear pi pi nong nong,now pi ah and pi hann are in milan ; monaco ,cannes,france.on tour with pi ah's family ka.  Send by bb ka,miss all of u naka

สวัสดีครับพี่แอ๊ะ

เห็นกำลัง online เข้าเว็ปมาครับ


หัวข้อ: Re: [2513]"ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: prapasri AH ที่ 30 สิงหาคม 2553, 20:20:35
น้องๆ ที่น่ารักทุกท่าน ขอโต๊ด อย่าโกรธพี่แอ๊ะนะคะ

อยู่ในปะเต๊ดไตย นี่แหละค่า

พี่ยุ่งจริงๆๆๆๆๆๆๆๆค่ะ เรียกว่างานเข้า

ตั้งแต่กลับจากต่างประเทศ with bb หาได้ตกน้ำไม่

พี่แอ๊ะไม่ได้เข้ามาเวบเลยค่ะ ลืม pass word ด้วย กว่าจะเข้าบ้านได้ เกือยบตายยยยยยยยย

รูป ไปมอนาโค ก็ไม่ทราบไปอยู่กล้องไหน

พี่หาญแกยืม กล้องลูกคนไหนไปก็บ่ฮู้

เลยไม่ได้ส่งรูปมาให้ดู

ดูรูปเมื่อวันก่อนนะ

ได้รับรางวัลเเน่ะ  โฆษณา ตัวเองซะหน่อย น้องๆ คงได้อ่านจากนสพ แล้ว

ได้รับรางวัล คนดี ศรีอิสาน ค่ะ จาก สมาคมสื่อมวลชน17 จังหวัดภาคอิสาน

ตอนแรก เขาจัดให้ดร.ศักดิ์สิทธิ ตรีเดช มามอบรางวัลให้ ท่านเป็นชาวมหาสารคาม

ตอนหลังเลยให้น้อง14 ชาวหอเรา คุณชวน นันทศิริพร มามอบแทน

น้องดูรูปไปก่อนนะ พี่หาญเรียกพี่แอ๊ะทานข้าวอีกแย้วววววววววววว


(http://www.cmadong.com/imageupload/2010_Cmadong-Image/data/image/l7yx67-bb9fdb.jpg)



หัวข้อ: Re: [2513]"ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: prapasri AH ที่ 30 สิงหาคม 2553, 20:53:23
มาแล้ว จ้าเหยง จ้า


หัวข้อ: Re: [2513]"ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: prapasri AH ที่ 30 สิงหาคม 2553, 21:01:32
 สิบ ท่าน  จาก 17 จังหวัดค่ะ

(http://www.cmadong.com/imageupload/2010_Cmadong-Image/data/image/l7yxlc-239658.jpg)


หัวข้อ: Re: [2513]"ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: prapasri AH ที่ 30 สิงหาคม 2553, 21:14:48
เป็นคนยโสธร คนเดียวที่ได้รับ

และงานจัดที่ยโสธร

เขาเลยให้กล่าวเเสดงความรู้สึกในนามท่านที่ได้รับรางวัลทั้งหมด

(http://www.cmadong.com/imageupload/2010_Cmadong-Image/data/image/l7yy84-fadfd5.jpg)


หัวข้อ: Re: [2513]"ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: prapasri AH ที่ 30 สิงหาคม 2553, 21:32:36
หายไปนาน มาใหม่วันนี้

เลยขอโม้หน่อยเด้อ ค่ะเด้อ



เป็นตัวแทน กล่าวเเสดงความรู้สึก แทน ท่านที่ได้รับรางวัล ค่ะ[/b]


เรียน              ท่านสื่อมวลชนภาคตะวันออกเฉียงเหนือทุกท่าน  ท่านผู้มีเกียรติ ทั้งจาก จ.ยโสธรและ
                     จังหวัด ภาคอิสาน 17 จังหวัด

    ดิฉัน ประภาศรี สุฉันทบุตร รองนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดยโสธร ในนามของคณะผู้ได้รับ รางวัล

คนดี ศรี อิสานในวันนี้   รู้สึกเกียรติอย่างยิ่ง ที่จังหวัดยโสธรได้มีโอกาสต้อนรับพี่น้องสื่อมวลชนจากจังหวัดภาคอิสาน

ทั้ง17จังหวัด  และชาวจังหวัด ยโสธร ได้ มีโอกาสเป็นกำลังใจให้กับ คนดีศรีอิสาน  จากจังหวัดภาคอิสาน  ทั้ง--10------ท่าน

 ผลของการทำงาน ที่จะทำให้ ได้รับรางวัล จากสื่อมวลชน เป็นเรื่องที่เราภาคภุมิใจอย่างยิ่ง  

การทำงานที่ได้รับการแอบเฝ้ามอง การทำงาน ของพวกเรา จากสื่อมวลชน ได้มาประกาศเกียรติคุณต่อสาธารณะอย่างนี้

 ดิฉันในนามของผู้เข้ารับรางวัลขอขอบคุณอย่างสูงยิ่งโดยเฉพาะอย่างยิ่งรางวัลนี้เราได้รับจากสมาคมสื่อมวลชนภาคอิสานที่

 ซึ่งเป็นสมาคมที่มีอุดมการณ์ มีจริยธรรมสูงมากเป็นที่ทราบดีว่าสมาคมสื่อมวลชนภาคอิสาน

เป็นสมาคมที่ทำงานด้วยความซื่อสัตย์สุจริต ไม่มีอามิสสินจ้างใดๆทั้งสิ้น  

เราจึงมีความสุข ความภาคภูมิใจ กับรางวัลนี้เป็นอย่างมาก


หัวข้อ: Re: [2513]"ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: prapasri AH ที่ 30 สิงหาคม 2553, 21:36:17
ดิฉันอยากเรียนให้ผู้มีเกียรติที่ มาชุมนุมในที่นี้ได้ทราบว่า การทำงานของพวกเราทุกคน เราไม่ได้หวังรางวัลใดๆทั้งสิ้น

 แต่คิดว่าอะไรก็ตามที่จะเป็นประโยชน์ต่อพี่น้องประชาชน   ต่อการพัฒนาให้ภาคอิสานให้เจริญ ในทิศทางที่ถูกต้องดีงาม

 เราจะพยายามทำสิ่งดีๆเหล่านี้อยู่ตลอดเวลา

พวกเราทุกคนได้เป็นส่วนเล็กๆ ส่วนหนึ่งทีทำให้ ทุ่งกุลา หายร้องไห้ จาก และแผ่นดินอิสานทุกตารางนิ้ว ที่เคยแตกกระแหงแห้งแล้ง และกันดาร

  ได้กลายเป็นทุ่งนาที่เขียวขจี  และกลายเป็นแหล่งผลิตอาหาร ข้าวหอมมะลิให้เป็นอาหาร ที่ลือชื่อให้ ชาวโลกได้

 เด็กๆ รุ่น เมื่อ50ปี ที่แล้วที่เคยยากจน ในอดีต  

ปัจจุบันเด็กๆรุ่นหลังๆนี้ ได้เติบโตเป็นผู้ใหญ่ได้รับการศึกษาระดับปริญญาตรี ถึงระดับปริญญาโทและปริญญาเอก กันมากมาย

 ใครจะคิดว่าปัจจุบันในเมืองใหญ่ๆ ของภาคอิสานเรามีมหาวิทยาลัยอยู่แทบทุกจังหวัด

ใน ขณะเดียว ในอนาคตจากนี้ต่อไปพวก เรา ทุกคน และท่านทั้งหลาย จะต้องคิด ก้าวหน้า ให้ภาคอิสานนี้ ได้เติบโตอย่างมี

 ธรรมา ภิ บาลในทุกภาคส่วน  และเป็นชุมชนที่อยู่ร่วมกัน อย่าง มีคุณภาพชิวิตที่ดี และ เป็นสุข  [/color]


หัวข้อ: Re: [2513]"ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: prapasri AH ที่ 30 สิงหาคม 2553, 21:39:10
ดิฉันขอขอบคุณท่านทั้งหลายที่ได้เสียสละเวลามาให้กำลังใจกับพวกเราวันนี้

 เราทุกคนขอสัญญาว่า เราจะผดุงไว้ซึ่งเกียรติและศักดิ์ศรี ของรางวัลที่ได้รับ   

และในปีหน้า และปีต่อๆ ไปพวกเราอยาก เห็นหลายๆท่านที่อยุ่ ในที่นี้

ซึ่งหลายๆท่าน ได้กำลังสร้างสังคม อิสานให้ดีงาม 

พวกเรา ขอเป็นกำลังใจ ให้ท่านได้มีโอกาสรับรางวัลคนดี ศรีอิสาน บ้าง อย่างแน่นอน

 ท้ายที่สุดนี้  พวกเราขอขอบคุณ สมาคมสื่อมวลชนภาคตะวันออกเฉียงเหนือ

ที่ได้ยกย่องและมอบรางวัลอันมีค่ายิ่ง ให้กับพวกเรา ขอ ขอบคุณและสวัสดีค่ะ


หัวข้อ: Re: [2513]"ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: prapasri AH ที่ 30 สิงหาคม 2553, 21:41:57

ภรรยา คุณนาย นายอำเภอ จากมุกดาหารได้มาแสดงความยินดีด้วยค่ะ

(http://img155.imageshack.us/img155/6464/dscn2823re.jpg)


หัวข้อ: Re: [2513]"ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: prapasri AH ที่ 30 สิงหาคม 2553, 21:47:50
เพื่อน ไฮโซไฮซ้อ ยโสธร  มาแสดงความยินดีค่ะ

(http://www.cmadong.com/imageupload/2010_Cmadong-Image/data/image/l7yzq4-d68b09.jpg)


หัวข้อ: Re: [2513]"ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: prapasri AH ที่ 30 สิงหาคม 2553, 21:55:47
(http://www.cmadong.com/imageupload/2010_Cmadong-Image/data/image/l7z045-57038a.jpg)

เพื่อนๆค่ะ


หัวข้อ: Re: [2513]"ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: prapasri AH ที่ 30 สิงหาคม 2553, 21:59:01
สภาอุตสาหกรรม  และสภาการท่องเที่ยว จ.มุกดาหาร ค่ะ

(http://img84.imageshack.us/img84/5674/dscn2877re.jpg)


หัวข้อ: Re: [2513]"ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: prapasri AH ที่ 30 สิงหาคม 2553, 22:02:26
หอการค้า จ.ยโสธร และคุณนายพาณิชย์เขตอิสานค่ะ

(http://www.cmadong.com/imageupload/2010_Cmadong-Image/data/image/l7z0fi-b2dd04.jpg)


หัวข้อ: Re: [2513]"ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: prapasri AH ที่ 30 สิงหาคม 2553, 22:05:37
ประธานผู้พิพากษาสมทบ ศาลจังหวัดยโสธร แผนกคดีเยาวชนและครอบครัว

และ นายก อบจ. และส.อบจ ยโสธร

(http://www.cmadong.com/imageupload/2010_Cmadong-Image/data/image/l7z0j8-96c10f.jpg)


หัวข้อ: Re: [2513]"ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: prapasri AH ที่ 30 สิงหาคม 2553, 22:08:35
กลุ่มสาวเหลือน้อย

(http://www.cmadong.com/imageupload/2010_Cmadong-Image/data/image/l7z0pn-9ee796.jpg)


หัวข้อ: Re: [2513]"ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: prapasri AH ที่ 30 สิงหาคม 2553, 22:14:21

(http://www.cmadong.com/imageupload/2010_Cmadong-Image/data/image/l7z0yz-3a3dbe.jpg)



หัวข้อ: Re: [2513]"ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: prapasri AH ที่ 30 สิงหาคม 2553, 22:17:10


(http://www.cmadong.com/imageupload/2010_Cmadong-Image/data/image/l7z136-be5de4.jpg)

 
  ใคร คนนั้นนนนนนนนน ที่ ฉัน อยู่อิสานนนนนนนนนน เพื่อเขา


หัวข้อ: Re: [2513]"ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: prapasri AH ที่ 30 สิงหาคม 2553, 22:20:23


เขาและเธอ ก็ต้องอยู่เพื่อฉันด้วยยยยยยยยยยยยย

(http://www.cmadong.com/imageupload/2010_Cmadong-Image/data/image/l7z18r-50fdd9.jpg)


หัวข้อ: Re: [2513]"ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: prapasri AH ที่ 30 สิงหาคม 2553, 22:24:03
เหนื่อย เเระ

กลับบ้าน เเย้วววววววววววววว


(http://www.cmadong.com/imageupload/2010_Cmadong-Image/data/image/l7z1ez-dccbe6.jpg)


หัวข้อ: Re: [2513]"ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: prapasri AH ที่ 30 สิงหาคม 2553, 22:26:50

หนุ่มแย้มมมมมมม สาวยิ้มมมมมมมมมม อิๆๆๆๆ


(http://www.cmadong.com/imageupload/2010_Cmadong-Image/data/image/l7z1jc-cc2360.jpg)


หัวข้อ: Re: [2513]"ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: prapasri AH ที่ 30 สิงหาคม 2553, 22:36:13

ลูกคนนี้ ดีเหลือเกินนนนนนนนนนนน

พ่อ แม่ อยู่ที่ ไหน ลูกอยู่ที่ นั่น


ยามทุกข์ ยามสุข เคียงข้างแม่เสมอ


(http://www.cmadong.com/imageupload/2010_Cmadong-Image/data/image/l7z26h-261662.jpg)


หัวข้อ: Re: [2513]"ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: prapasri AH ที่ 30 สิงหาคม 2553, 22:42:00

หลับแล้ว สงสัย ง่วงนอนนนนนนนนนนน


(http://www.cmadong.com/imageupload/2010_Cmadong-Image/data/image/l7z28u-f1ad23.jpg)


หัวข้อ: Re: [2513]"ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: prapasri AH ที่ 30 สิงหาคม 2553, 22:47:15
กูดไนท์ ก่อนนะจ๊ะ

แล้วจะไม่หายไปนานๆ อีกแล้ววววววววววน พี่ แก้ว   ปรีชา เอ๋ยยยยยยยยยยย

เพราะกลับมาต่อสนทนาไม่ติด

เลยต้องโพสต์รูป เสนอแนะ ตัวเองก่อนนะเด่วชาวหอจำพี่แอ๊ะไม่ล่ายยยยยยยยยยยยยย

ขอบคุณน้องๆ ที่เข้ามา ตามหาพี่แอ๊ะทุกท่าน

น้องหมอเสียด น้องหนุน น้องปาทูแมน น้องยา น้อง ป๋อง น้องเหยง และน้อง ไข่มุก  น้อง ผุสดี น้องดร.มนตรี

และ น้องงงงงงงงงงงงงงงง......เก้า ลอ เก้า 5555


(http://www.cmadong.com/imageupload/2010_Cmadong-Image/data/image/l7z2b4-bda0bd.jpg)



หัวข้อ: Re: [2513]"ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: Kaimook ที่ 30 สิงหาคม 2553, 23:04:37
อ้างถึง
ข้อความของ prapasri AH เมื่อ 30 สิงหาคม 2553, 22:17:10


(http://www.cmadong.com/imageupload/2010_Cmadong-Image/data/image/l7z136-be5de4.jpg)

 
  ใคร คนนั้นนนนนนนนน ที่ ฉัน อยู่อิสานนนนนนนนนน เพื่อเขา
สวัสดีค่ะพี่แอ๊ะ ขอแสดงความยินดีกะพี่แอ๊ะด้วยค่ะ...ชอบภาพนี้จังค่ะ


หัวข้อ: Re: [2513]"ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: suriya2513 ที่ 30 สิงหาคม 2553, 23:08:41
นึกว่าจะไม่มาโพสท์ วันเสาร์นี้เบี้ยวจริงๆด้วยเอ้า


หัวข้อ: Re: [2513]"ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: ดร.มนตรี ที่ 31 สิงหาคม 2553, 08:01:45
ยินดีด้วยครับพี่แอ๊ะ ...

บรรยากาศ น่าชื่นใจมากครับ โดยเฉพาะ ครอบครัว น่ารักๆ ของพี่แอ๊ะ และพี่หมอหาญ คนดีศรีจุฬาฯ ^_^


หัวข้อ: Re: [2513]"ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: supanee ที่ 31 สิงหาคม 2553, 11:17:48
สวัสดีค่ะพี่แอ๊ะ
คิดถึงจังเลยค่ะ
ดีใจด้วยค่ะที่ได้รับรางวัล
ถ้าว่างช่วยแวะไปเยี่ยม'หลานยายอี๊ด'/2514/หน้า 2 ด้วยนะคะ


หัวข้อ: Re: [2513]"ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: เหยง 16 ที่ 31 สิงหาคม 2553, 11:54:19
อ้างถึง
ข้อความของ prapasri AH เมื่อ 30 สิงหาคม 2553, 20:53:23
มาแล้ว จ้าเหยง จ้า

ขอแสดงความยินดีกับพี่แอ๊ะเป็นอย่างยิ่งครับ  emo43

เขาจะรู้มั๊ยน้า ว่า สาวเกาะสมุย  emo49:)) มาได้รางวัล "คนดีศรีอีสาน" น่ะ  emo47


หัวข้อ: Re: [2513]"ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: prapasri AH ที่ 31 สิงหาคม 2553, 20:39:41
อ้างถึง
ข้อความของ supanee เมื่อ 31 สิงหาคม 2553, 11:17:48
สวัสดีค่ะพี่แอ๊ะ
คิดถึงจังเลยค่ะ
ดีใจด้วยค่ะที่ได้รับรางวัล
ถ้าว่างช่วยแวะไปเยี่ยม'หลานยายอี๊ด'/2514/หน้า 2 ด้วยนะคะ

ขอบคุณค่ะน้องอิ๊ด

คืนนี้จะเเวะไปดูหลายยายอิ๊ด ให้อิ่มใจเลยทีเดียว

พี่แอ๊ะยังนึกไม่ออกเลยว่าถ้าพี่แอ๊ะเป็นคุณย่า แล้วพี่แอ๊ะจะทำยังไง


หัวข้อ: Re: [2513]"ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: prapasri AH ที่ 31 สิงหาคม 2553, 20:50:25
ขอบคุณ เหยง น้องดร.มนตรี น้องกะป๋อง (วันเสาร์ ดวล กันนนนนนนนนนน)
และน้องไข่มุก

ผลงาน อีกหนึ่ง ผลงาน ที่พี่แอ๊ะได้รับรางวัลน่าจะเป็นผลงานนี้ เป็นเรื่องหนึ่งที่ทำให้สื่อมวลชนเป็น งง ว่าพี่แอ๊ะทำได้อย่างไร

คือ  โครงการอิสานปลอดโรคนิ่วค่ะ

พรุ่งนี้ จะ  copy  abtract ที่พี่แอ๊ะทำวิจัยเก็บข้อมูลมาให้ค่ะ (อยู่ในคอม ที่ฝ่ายธูระการค่ะ)

ทำมาได้ 1 ปี ที่ช่วงหลังยุ่งๆมากจนไม่ค่อยได้เข้าเวบนั่นแหละค่ะ

ถ้าเขารู้ว่า เข้าเวบหอ ด้วย ทำงานด้วย คงได้รางวัลผลงานเข้าเวบหอ อีก หนึ่งผลงาน55555555


หัวข้อ: Re: [2513]"ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: suriya2513 ที่ 31 สิงหาคม 2553, 20:54:39
อ้างถึง
ข้อความของ prapasri AH เมื่อ 31 สิงหาคม 2553, 20:39:41
อ้างถึง
ข้อความของ supanee เมื่อ 31 สิงหาคม 2553, 11:17:48
สวัสดีค่ะพี่แอ๊ะ
คิดถึงจังเลยค่ะ
ดีใจด้วยค่ะที่ได้รับรางวัล
ถ้าว่างช่วยแวะไปเยี่ยม'หลานยายอี๊ด'/2514/หน้า 2 ด้วยนะคะ

ขอบคุณค่ะน้องอิ๊ด

คืนนี้จะเเวะไปดูหลายยายอิ๊ด ให้อิ่มใจเลยทีเดียว

พี่แอ๊ะยังนึกไม่ออกเลยว่าถ้าพี่แอ๊ะเป็นคุณย่า แล้วพี่แอ๊ะจะทำยังไง
เลือกเป็นคุณยายก่อนซิครับ จะได้ศึกษาหาข้อมูลจากหนูอี๊ดได้
ก็แค่บอกให้หมอต้นชะลอการลงทุนไว้ก่อน
ไม่เห็นยาก


หัวข้อ: Re: [2513]"ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: หนุน'21 ที่ 01 กันยายน 2553, 08:02:42
อ้างถึง
ข้อความของ prapasri AH เมื่อ 30 สิงหาคม 2553, 22:26:50

หนุ่มแย้มมมมมมม สาวยิ้มมมมมมมมมม อิๆๆๆๆ


(http://www.cmadong.com/imageupload/2010_Cmadong-Image/data/image/l7z1jc-cc2360.jpg)

(http://www.cmadong.com/imageupload/2010_Cmadong-Image/data/image/l7z1jc-cc2360.jpg)

สดชื่น อบอุ่นมากเลยครับพี่แอ๊ะกับพี่หมอหาญ
นำชื่อเสียงมาให้พี่น้องชาวหอ และชาวจุฬาฯอีกแล้วครับ
เป็นแบบอย่างที่ดีงามให้น้องๆจริงๆครับ


 emo6::))


หัวข้อ: Re: [2513]"ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: เหยง 16 ที่ 01 กันยายน 2553, 12:16:37
เดี่ยวผมจะคอยอ่านรายงานครับ


หัวข้อ: Re: [2513]"ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: prapasri AH ที่ 02 กันยายน 2553, 07:02:00
ดูรูปนี้หน่อยนะ พี่แอ๊ะเกิด คิดถึง พี่อ้อย14 ขึ้นมา

เลย เเวบ ไปทานข้าวกับพี่อ้อย 14 ที่ร้าน  just me  ที่ขอนเเก่น เมื่อ 5-6 วันก่อน


(http://www.cmadong.com/imageupload/2010_Cmadong-Image/data/image/l83epw-1499f7.jpg)


สาวน้อย กะดอกไม้ บานนนนนนนนนน


หัวข้อ: Re: [2513]"ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: prapasri AH ที่ 02 กันยายน 2553, 07:04:51
 สาวใหญ่ ผลัดกัน ถ่ายรูปอ่ะ

ถ่ายจาก bb นะคะ  ทันหมัย ไหมคะ (ทันสมัย)

(http://www.cmadong.com/imageupload/2010_Cmadong-Image/data/image/l83et3-cdf8b8.jpg)



หัวข้อ: Re: [2513]"ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: ภาณุ ปาตานี ที่ 02 กันยายน 2553, 07:07:06

อรุณสวัสดิ์ครับ พี่แอ๊ะ

ยิ้มแต่เช้าๆ...จิตแจ่มใสครับ


หัวข้อ: Re: [2513]"ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: เหยง 16 ที่ 02 กันยายน 2553, 11:08:13
พี่แอ๊ะ

เข้ามาชมภาพแล้วครับ


หัวข้อ: Re: [2513]"ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: pusadee sitthiphong ที่ 02 กันยายน 2553, 12:40:44
สวัสดีค่ะ
พี่แอ๊ะกลับมาแล้ว ดีใจจังค่ะ


หัวข้อ: Re: [2513]"ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: ภาณุ ปาตานี ที่ 02 กันยายน 2553, 15:41:21
(http://www.cmadong.com/imageupload/2010_Cmadong-Image/data/image/l842pu-6bfb48.jpg)

                                ชอบรูปนี้ครับ..รูปพี่แอ๊ะกับน้องพงษ์ที่อังกฤษ.
                               
                                จิ๊กมาจากอีกแห่งหนึ่ง..ขออนุญาตนำมาโพสต์ครับพี่แอ๊ะ emo30:sorry:


หัวข้อ: Re: [2513]"ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: prapasri AH ที่ 02 กันยายน 2553, 16:57:59

 ได้ค่ะ น้อง ya จิ๊ก รูปสวยๆมาเยอะๆได้เลย

นี้เป็นรูปน้องจุฬาพาพี่เที่ยวอังกฤษ

อ้างถึง
ข้อความของ YA เมื่อ 02 กันยายน 2553, 15:41:21
(http://www.cmadong.com/imageupload/2010_Cmadong-Image/data/image/l842pu-6bfb48.jpg)

                                ชอบรูปนี้ครับ..รูปพี่แอ๊ะกับน้องพงษ์ที่อังกฤษ.
                               
                                จิ๊กมาจากอีกแห่งหนึ่ง..ขออนุญาตนำมาโพสต์ครับพี่แอ๊ะ emo30:sorry:



หัวข้อ: Re: [2513]"ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: prapasri AH ที่ 02 กันยายน 2553, 17:09:05
ส่งรูปที่ไปเที่ยว มอนาโค ฝรั่งเศส มิลานนะคะ

 น้องอ้อม ผุสดี  รูป น้องอ้อม สวยจังเลย สงสัยเหมือนตัวจริง ตอนสาวๆๆๆๆๆๆๆๆ หุๆๆๆๆ


(http://www.cmadong.com/imageupload/2010_Cmadong-Image/data/image/l846tq-bde1f0.jpg)

เบื้องหลัง นางงาม  ก่อนออกเดินทาง  55555555555


หัวข้อ: Re: [2513]"ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: prapasri AH ที่ 02 กันยายน 2553, 17:13:32

หมอหาญเหิร ฟ้า 5555555555555555

(http://www.cmadong.com/imageupload/2010_Cmadong-Image/data/image/l8471e-34ca92.jpg)


หัวข้อ: Re: [2513]"ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: prapasri AH ที่ 02 กันยายน 2553, 17:17:48
 5 สาว ชาวเกาะหมุย  ลูกโกเอี่ยน แห่ง หาดตลิ่งงาม

ขาดชาวหอชาย 16พรเทพ คนเดียว

เราต้องการไปเเต่สาวๆ

แต่ฝ่ายเขย แก่ๆเขาไม่ยอม ขอตามไปด้วย 2 คน


(http://www.cmadong.com/imageupload/2010_Cmadong-Image/data/image/l84759-66d978.jpg)


หัวข้อ: Re: [2513]"ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: prapasri AH ที่ 02 กันยายน 2553, 17:23:19
กับ หมอต๋อยยยยยย

เคยมาหอหญิงตั้งแต่ น้องเรียนชั้นประถม

น้องๆสนิท กะ พี่หญิง 13 พี่อ้อย 13พี่โหม้ย พี่หม่ง พี่หุย นี่สุดที่รักของน้องๆเลยค่ะ

พี่แอ๊ะเลียงน้องมาเหมือนลูก

ตามประเพณีคนใต้ ที่ต้องดูแลน้องแทนพ่อแม่

โตเเล้ว น้อง ก็ยังเป็นลูกอยู่ ค่ะ

(http://www.cmadong.com/imageupload/2010_Cmadong-Image/data/image/l847e0-31d8a8.jpg)


หัวข้อ: Re: [2513]"ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: prapasri AH ที่ 02 กันยายน 2553, 17:26:29
เวลา เจอใคร ชอบถามว่า ทายซิ ใครเป็นพี่เป็นน้องงงงงงงง

เพราะอยากฟังว่า ใครแก่ใคร 222222222222

(http://www.cmadong.com/imageupload/2010_Cmadong-Image/data/image/l847m8-3bdefb.jpg)


คนที่ 2 จากขวา ก็จุฬา นะ หมอติ๋ง ทันตะ จุฬา ค่ะ แต่ไม่ได้อยู่หอ ค่ะ


หัวข้อ: Re: [2513]"ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: prapasri AH ที่ 02 กันยายน 2553, 17:35:10

ทุ่งทานตะวัน เหมียนนนนนนนบ้านเราเปี๊ยบเลยยยยยยยยยยยยย

(http://www.cmadong.com/imageupload/2010_Cmadong-Image/data/image/l8481f-c54ddd.jpg)


หัวข้อ: Re: [2513]"ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: prapasri AH ที่ 02 กันยายน 2553, 17:37:24

หอชาย คนนี้ บ้านนอกเข้ากรุง ของแท้และดั้งเดิมมมมมมมมมมมม

(http://www.cmadong.com/imageupload/2010_Cmadong-Image/data/image/l84850-f6df3e.jpg)


หัวข้อ: Re: [2513]"ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: prapasri AH ที่ 02 กันยายน 2553, 17:45:41
มอนาโค

เมืองที่เจาะภูเขาสร้างอาคาร

ทำลิฟท์ ใส่ภูเขา ให้เราขึ้นลิฟท์ไปในชั้นต่างๆ


(http://www.cmadong.com/imageupload/2010_Cmadong-Image/data/image/l848h2-c376d7.jpg)


หัวข้อ: Re: [2513]"ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: prapasri AH ที่ 02 กันยายน 2553, 17:50:17
อิจฉา ฉันไหม น้องกระป๋องงงงงงงงงงง

(http://www.cmadong.com/imageupload/2010_Cmadong-Image/data/image/l848qo-90cd9f.jpg)



หัวข้อ: Re: [2513]"ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: prapasri AH ที่ 02 กันยายน 2553, 17:57:16

น้องอ้อม ผุสดี ขา  ช่วยตัดสินให้หน่อยว่า ใครสวยที่ซู้ดดดดดดดดดดดดด

(http://www.cmadong.com/imageupload/2010_Cmadong-Image/data/image/l8491z-60e9f4.jpg)


หัวข้อ: Re: [2513]"ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: prapasri AH ที่ 02 กันยายน 2553, 17:59:43

รูปนี้หมดเเรง อยู่เมืองนอก นั่งยังไงก้ได้ บ่มีไผฮู้จักกกกกกกกกกกก

(http://www.cmadong.com/imageupload/2010_Cmadong-Image/data/image/l8495s-23b04b.jpg)


หัวข้อ: Re: [2513]"ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: prapasri AH ที่ 02 กันยายน 2553, 18:05:15
รักเธอเพื่อนป๋องงงงงงงงในทุ่งลาเวนเดอร์

(http://www.cmadong.com/imageupload/2010_Cmadong-Image/data/image/l849f4-35a93b.jpg)


หัวข้อ: Re: [2513]"ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: prapasri AH ที่ 02 กันยายน 2553, 18:14:21
ฝากน้องอิ๊ด สุภาณี น้องหะยี หากผ่านมา

ช่วยตัดสินว่าใครสวยที่ซู้ดดดดดดดดดดดด

(http://www.cmadong.com/imageupload/2010_Cmadong-Image/data/image/l849uk-60545c.jpg)


หัวข้อ: Re: [2513]"ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: หนุน'21 ที่ 02 กันยายน 2553, 18:28:42

ขอมาตามชม 5 (พี่)สาวตะลุยโมนาโคด้วยคนครับพี่แอ๊ะ


หัวข้อ: Re: [2513]"ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: prapasri AH ที่ 02 กันยายน 2553, 18:30:37
น้องหนุน น้อง ya

ชอบรูปนี้ไหมคะ พี่แอ๊ะชอบมั๊กๆ

บังเอิญ สวยนะ บังเอิญ จริงๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ

(http://www.cmadong.com/imageupload/2010_Cmadong-Image/data/image/l84aq2-644646.jpg)



หัวข้อ: Re: [2513]"ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: prapasri AH ที่ 02 กันยายน 2553, 18:35:40
น้องหนุนคะ
ขอบคุณที่เข้ามาชม

พี่แอ๊ะปั่นจนมือหงิกเลยค่ะ เพราะต้องรีบไปอุบลไปตรวจงาน

ร.พพี่แอ๊ะไปออกบู๊ธ โชว์ผลงาน โครงการักษาผู้ป่วยในโครงการสามสิบบาทของ สปสช.ค่ะ

กลับดึกค่ะ คืนนี้ หากไม่ง่วงจะมา โชว์รูปสาวแก่ ต่อนะคะ


หัวข้อ: Re: [2513]"ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: หนุน'21 ที่ 02 กันยายน 2553, 18:39:46
อ้างถึง
ข้อความของ prapasri AH เมื่อ 02 กันยายน 2553, 18:30:37
น้องหนุน น้อง ya

ชอบรูปนี้ไหมคะ พี่แอ๊ะชอบมั๊กๆ

บังเอิญ สวยนะ บังเอิญ จริงๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ

(http://www.cmadong.com/imageupload/2010_Cmadong-Image/data/image/l84aq2-644646.jpg)

(http://www.cmadong.com/imageupload/2010_Cmadong-Image/data/image/l84aq2-644646.jpg)

สวยจริงๆครับพี่
สวยทั้งมุมกล้องที่จัดวาง
สีสันของชุดที่เข้ากับทุ่งลาเวนเดอร์
และที่สำคัญคือนางแบบครับ
พี่ป๋องว่าไงครับ


หัวข้อ: Re: [2513]"ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: pusadee sitthiphong ที่ 02 กันยายน 2553, 20:57:09
อ้างถึง
ข้อความของ prapasri AH เมื่อ 02 กันยายน 2553, 17:57:16

น้องอ้อม ผุสดี ขา  ช่วยตัดสินให้หน่อยว่า ใครสวยที่ซู้ดดดดดดดดดดดดด

(http://www.cmadong.com/imageupload/2010_Cmadong-Image/data/image/l8491z-60e9f4.jpg)
ป้อมว่าสวยทุกคนเลยค่ะ ดูดีมีความสุขมากกกกกค่ะ


หัวข้อ: Re: [2513]"ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: suriya2513 ที่ 02 กันยายน 2553, 21:49:10
อ้างถึง
ข้อความของ หนุน'21 เมื่อ 02 กันยายน 2553, 18:39:46
อ้างถึง
ข้อความของ prapasri AH เมื่อ 02 กันยายน 2553, 18:30:37
น้องหนุน น้อง ya

ชอบรูปนี้ไหมคะ พี่แอ๊ะชอบมั๊กๆ

บังเอิญ สวยนะ บังเอิญ จริงๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ

(http://www.cmadong.com/imageupload/2010_Cmadong-Image/data/image/l84aq2-644646.jpg)

(http://www.cmadong.com/imageupload/2010_Cmadong-Image/data/image/l84aq2-644646.jpg)

สวยจริงๆครับพี่
สวยทั้งมุมกล้องที่จัดวาง
สีสันของชุดที่เข้ากับทุ่งลาเวนเดอร์
และที่สำคัญคือนางแบบครับ
พี่ป๋องว่าไงครับ

เสี่ยหนุนอย่าโยนคำถามเผือกร้อนมาให้พี่ป๋องสิครับ
พูดความจริงออกไปก็จะหมางใจเพื่อนเปล่าๆ
เอ ! แล้วนี่ ถือว่าเราพูดหรือยังหว่า


หัวข้อ: Re: [2513]"ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: ดร.มนตรี ที่ 02 กันยายน 2553, 23:52:02
สวยครับ คอนเฟิร์ม ^_^

(http://www.cmadong.com/imageupload/2010_Cmadong-Image/data/image/l84pjf-e2e207.jpg)



หัวข้อ: Re: [2513]"ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: ดร.มนตรี ที่ 03 กันยายน 2553, 00:05:02
 emo9:huhu:

(http://www.cmadong.com/imageupload/2010_Cmadong-Image/data/image/l84q46-328aa8.jpg)



หัวข้อ: Re: [2513]"ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: ดร.มนตรี ที่ 03 กันยายน 2553, 00:11:32
 emo6::))

(http://www.cmadong.com/imageupload/2010_Cmadong-Image/data/image/l84qet-bcf486.jpg)



หัวข้อ: Re: [2513]"ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: ดร.มนตรี ที่ 03 กันยายน 2553, 00:12:37
ขอได้รับความขอบคุณ จาก ...

ผมเอง  ราตรีสวัสดิ์ครับ ^_^

(http://www.cmadong.com/imageupload/2010_Cmadong-Image/data/image/l84qgu-b3c593.jpg)



หัวข้อ: Re: [2513]"ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: suriya2513 ที่ 03 กันยายน 2553, 00:36:25
(http://www.cmadong.com/imageupload/2010_Cmadong-Image/data/image/l84qet-bcf486.jpg)
...
จัดให้ลงตีพิมพ์ที่ ใบเรียงเบอร์ตรวจหวยล๊อตเตอรี่ท้องถิ่นไม่ได้หรือครับ ดร.มนตรี


หัวข้อ: Re: [2513]"ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: supanee ที่ 03 กันยายน 2553, 11:56:30
สาวสวยกันทุกคนเลยค่ะ
ดูเด็กที่สุดก็ หมอต๋อย นอกนั้นสวยพอๆกัน เดาไม่ถูกเลยว่าใครเป็นพี่เป็นน้อง


หัวข้อ: Re: [2513]"ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: BU_KA ที่ 03 กันยายน 2553, 14:31:50

(http://www.cmadong.com/imageupload/2010_Cmadong-Image/data/image/l84aq2-644646.jpg)


ด้วยความเคารพนะคะ
แววตาพี่แอ๊ะน่าหลงใหล เกินคำบรรยายค่ะ


หัวข้อ: Re: [2513]"ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: ดร.มนตรี ที่ 03 กันยายน 2553, 19:08:02
อ้างถึง
ข้อความของ suriya2513 เมื่อ 03 กันยายน 2553, 00:36:25
(http://www.cmadong.com/imageupload/2010_Cmadong-Image/data/image/l84qet-bcf486.jpg)
...
จัดให้ลงตีพิมพ์ที่ ใบเรียงเบอร์ตรวจหวยล๊อตเตอรี่ท้องถิ่นไม่ได้หรือครับ ดร.มนตรี


พี่ป๋อง จักกะจี๊ มั้ยครับ  emo43



(http://www.cmadong.com/imageupload/2010_Cmadong-Image/data/image/l8670y-7818a6.jpg)


หัวข้อ: Re: [2513]"ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: ภาณุ ปาตานี ที่ 03 กันยายน 2553, 20:45:29
อ้างถึง
ข้อความของ ดร.มนตรี เมื่อ 03 กันยายน 2553, 19:08:02
อ้างถึง
ข้อความของ suriya2513 เมื่อ 03 กันยายน 2553, 00:36:25
(http://www.cmadong.com/imageupload/2010_Cmadong-Image/data/image/l84qet-bcf486.jpg)
...
จัดให้ลงตีพิมพ์ที่ ใบเรียงเบอร์ตรวจหวยล๊อตเตอรี่ท้องถิ่นไม่ได้หรือครับ ดร.มนตรี

 


พี่ป๋อง จักกะจี๊ มั้ยครับ  emo43



(http://www.cmadong.com/imageupload/2010_Cmadong-Image/data/image/l8670y-7818a6.jpg)

ชอบจังรูปนี้...


หัวข้อ: Re: [2513]"ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: suriya2513 ที่ 03 กันยายน 2553, 21:38:18
โลโกที่หน้าอกซ้ายพี่ป๋องเด่นเชียวหละ


หัวข้อ: Re: [2513]"ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: เหยง 16 ที่ 04 กันยายน 2553, 12:01:02
Logo ให้ความหมายดีจัง ??  emo47  emo47


หัวข้อ: Re: [2513]"ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: prapasri AH ที่ 04 กันยายน 2553, 17:12:42

Thank you dr montree
F very beutiful pics * sent fr the bb in the car to have.  a meeting with cmaong 2513ka
And cannot sigH out from this web ka


หัวข้อ: Re: [2513]"ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: เหยง 16 ที่ 04 กันยายน 2553, 18:22:19
อีก 10 reply จะขึ้นหน้าที่ 100 แล้วครับ


หัวข้อ: Re: [2513]"ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: suriya2513 ที่ 04 กันยายน 2553, 23:17:04
(http://www.cmadong.com/imageupload/2010_Cmadong-Image/data/image/l8670y-7818a6.jpg)
ขอบคุณครับ ดร.มนตรี ที่จัดให้เห็นสูงสุดแค่หน้าผาก
แลดูดีกว่าเห็นหมดหัว มากมายเลย


หัวข้อ: Re: [2513]"ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: เหยง 16 ที่ 05 กันยายน 2553, 08:56:42

 emo47  emo47  emo47


หัวข้อ: Re: [2513]"ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: wannee ที่ 06 กันยายน 2553, 17:12:21
อ้างถึง
ข้อความของ prapasri AH เมื่อ 02 กันยายน 2553, 18:30:37
น้องหนุน น้อง ya

ชอบรูปนี้ไหมคะ พี่แอ๊ะชอบมั๊กๆ

บังเอิญ สวยนะ บังเอิญ จริงๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ

(http://www.cmadong.com/imageupload/2010_Cmadong-Image/data/image/l84aq2-644646.jpg)





ใครๆก็ชอบรูปนี้   ชอบมากๆเลยค่ะพี่แอ๊ะ  emo6::))


หัวข้อ: Re: [2513]"ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: prapasri AH ที่ 06 กันยายน 2553, 20:05:21
หมอเสียดคะ

พี่แอ๊ะก็เพิ่งเจอรูปนี้โดยบังเอิญ ตอนนี้เตรียมขยายใส่กรอบโชว์ค่ะ 55555

คือช่วงไปเที่ยวเป็นหน้าร้อนของประเทศเขา พี่แอ๊ะคิดว่าเมืองนอกมีเเต่หนาว เลยเอาผ้าพันคอไปด้วย

ได้ผลคือได้เอามาคลุมหัว กลัวเเดด ค่ะ

เลยได้รูปนี้มา สงสัยต้องเอามาทำปฎิทินแม่โขง เอ๊ย..ปฏิทินสคส.แจก หุๆๆๆๆๆ


หัวข้อ: Re: [2513]"ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: เหยง 16 ที่ 06 กันยายน 2553, 21:12:26
พี่แอ๊ะ

ผมยินดีรับเป็นคนแรกเลย


หัวข้อ: Re: [2513]"ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: prapasri AH ที่ 06 กันยายน 2553, 21:45:44
ขอบคุณน้อง Bu_ka ที่อุตส่าห์มาชมรูป นะคะ


หัวข้อ: Re: [2513]"ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: prapasri AH ที่ 06 กันยายน 2553, 21:47:30
อ้างถึง
ข้อความของ เหยง 16 เมื่อ 06 กันยายน 2553, 21:12:26
พี่แอ๊ะ

ผมยินดีรับเป็นคนแรกเลย

จะรีบส่ง ปฎิทิน ไปให้เหยงเลยค่ะ

เอา แม่โขง ดีก่า เนอะ


หัวข้อ: Re: [2513]"ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: prapasri AH ที่ 06 กันยายน 2553, 22:30:42


ดูรูปเปรียบเทียบกันนะ ลูกสาว บ้านนี้ ชอบถ่ายรูปท่านี้ ห่างกัน 10 กว่าปีแล้วค่ะ

(http://www.cmadong.com/imageupload/2010_Cmadong-Image/data/image/l8c06y-b38a0b.jpg)




หัวข้อ: Re: [2513]"ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: prapasri AH ที่ 06 กันยายน 2553, 22:32:55

(http://www.cmadong.com/imageupload/2010_Cmadong-Image/data/image/l8c0hi-9d526b.jpg)

10 กว่าปี ดีใจจัง ไม่ค่อยแก่ เท่าดร.ป๋อง เลยอ่ะ


หัวข้อ: Re: [2513]"ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: prapasri AH ที่ 06 กันยายน 2553, 22:49:12
อ้างถึง
ข้อความของ ดร.มนตรี เมื่อ 02 กันยายน 2553, 23:52:02
สวยครับ คอนเฟิร์ม ^_^

(http://www.cmadong.com/imageupload/2010_Cmadong-Image/data/image/l84pjf-e2e207.jpg)



น้องดร.มนตรีคะ

พี่หาญ บอกว่า รูปนี้ ต้องมาวางในเมืองยโสธร

เป็น  land mark หน้า ร.พ ค่ะ

ร.พ นายแพทย์หาญ นะคะ ไม่ใช่ร.พ ศรีมหาโพธิ์ อิๆๆๆๆ


หัวข้อ: Re: [2513]"ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: prapasri AH ที่ 06 กันยายน 2553, 23:27:36
ว๊ายยยยยยย ดีใจจัง เหยงจ๋า

กระทู้พี่แอ๊ะ หน้าที่100 แล้วววววว สงสัยต้องเลี้ยงฉลองอิๆๆ

จะฉลองที่บ้านพี่แอ๊ะดีก่า

เมื่อกี้ พี่เเจ่ว โทรคุยกัน เธอบอกว่าบ้านพี่แอ๊ะไกล เกินไป ชวนให้ไปซื้อคอนโดอีกแล้ววววววว

แต่พี่แอ๊ะ จะพาไปฉลอง ครบ 100 หน้าเวบหอ ที่บ้านให้เข็ดในฟามไกลซะเลยยยยยยยยยย


หัวข้อ: Re: [2513]"ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: swsm ที่ 07 กันยายน 2553, 00:31:54



มาร่วมฉลองหน้าที่ 100 ด้วยคนค่ะ .. Cheers !!


(http://www.cmadong.com/imageupload/2010_Cmadong-Image/data/image/l8c607-37e6f6.jpg)


หัวข้อ: Re: [2513]"ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: suriya2513 ที่ 07 กันยายน 2553, 01:43:40
จริงๆเลยเชียว หะยีเนี่ย ได้ยินคำว่าฉลองเป็นไม่ได้
1 แต่งหน้าทาคิ้ว
2 น้ำตาไหล พรากๆ
3 เรียก taxi กลับบ้าน
ขาดอะไรไปเอ่ย


หัวข้อ: Re: [2513]"ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: swsm ที่ 07 กันยายน 2553, 01:58:06
อ้างถึง
ข้อความของ suriya2513 เมื่อ 07 กันยายน 2553, 01:43:40
จริงๆเลยเชียว หะยีเนี่ย ได้ยินคำว่าฉลองเป็นไม่ได้
1 แต่งหน้าทาคิ้ว
2 น้ำตาไหล พรากๆ
3 เรียก taxi กลับบ้าน
ขาดอะไรไปเอ่ย



อิอิอิ .. พี่ป๋องเนี่ยะ  

ข้อ 2 .. ต้องเป็น spoke England ก่อน
ข้อ 3 .. ตามมาจึงน้ำตาไหลพราก ๆ
แล้วจึงเป็นข้อ 4 .. เรียก taxi กลับบ้าน

มาวไม่ขับค่า
      emo21:):):


แต่ส่วนใหญ่แล้วหยีจะอยู่แค่ระดับ 1-2 เท่านั้นนะคะ ..
นาน น้าาาาาาาน ครั้ง .. จึงจะหลุดถึง 3
เมื่อมั่นใจว่าอยู่กับคนสนิทและรักกันจริง ๆ เท่านั้น


หัวข้อ: Re: [2513] "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: prapasri AH ที่ 07 กันยายน 2553, 07:54:31
ดีใจจัง น้องหะยี โพสต์มาจากต่างปะเต๊ดดดดดด แล้ว

พี่แอ๊ะกำลังจะตามไปเยี่ยมที่ โปตุ๊เกดดดดดดดดดด

จะให้ไปไหมคะ


หัวข้อ: Re: [2513] "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: swsm ที่ 07 กันยายน 2553, 16:24:39
พี่เอ๊ะขรา .. ต้อนรับเต็มที่เลยค่ะ  มาเมื่อไรคะ ?      emo9:huhu:


หัวข้อ: Re: [2513] "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: เหยง 16 ที่ 07 กันยายน 2553, 18:02:43
พี่แอ๊ะครับ

มาสวัสดีที่หน้า 100 ครับ พร้อมกับมีคนอ่านแล้ว 47,677 ครั้ง


หัวข้อ: Re: [2513] "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: prapasri AH ที่ 08 กันยายน 2553, 07:51:27
แล้วทำไงดีล่ะเหยง

จะฉลองกันยังงายยยยยยยยย

หน้าที่ 100 แล้ว (โว้ย)

เปิด แชมเปญ เอ๊ย แม่โขง ดีมะ


หัวข้อ: Re: [2513] "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: เหยง 16 ที่ 08 กันยายน 2553, 13:41:50
พี่ป๋อง

ฉลองหน้าที่ 100 ยังไงดี


หัวข้อ: Re: [2513] "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: prapasri AH ที่ 10 กันยายน 2553, 21:56:40

เหยง นี่ไงคะ ฉลองครบ หน้าที่ 100 ค่ะ

พี่แอ๊ะไม่ได้เอากล้องไป เดี๋ยวรอให้คนที่เขาถ่าย เขาส่งมาให้

มีข่าวในช่อง 9 วันที่9 ตอนข่าวค่ำ ค่ะ


นายกรัฐมนตรีมอบรางวัลคนดีศรีอีสาน

รัฐสภา 9 ก.ย.- นายคิด จินดากุล นายกสมาคมสื่อมวลชนจังหวัดยโสธร ได้นำคณะผู้ได้รับรางวัลคนดีศรีอีสาน และเจ้าหน้าที่จำนวน 30 คนเข้าเยี่ยมคารวะนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ที่อาคารรัฐสภา เพื่อรับโอวาทในโอกาสที่เดินทางมารับรางวัลคนดีศรีอีสาน ประจำปี 2553

โอกาสนี้ นายกรัฐมนตรี ได้กล่าวแสดงความยินดีกับผู้ที่ได้รับรางวัลคนดีศรีอีสาน ว่า รัฐบาลสนับสนุนแนวคิดของการยกย่องคนดีที่กระจายอยู่ตามพื้นที่ต่าง ๆ และทุกวงการมีคนดีอยู่ แต่เราต้องพยายามส่งเสริมสนับสนุนคนดีเพื่อเป็นตัวกระตุ้นสำคัญในการสร้างขวัญและกำลังใจ พร้อมทั้งเป็นแรงบันดาลใจให้กับคนอื่นในทุกวงการในทุกพื้นที่ที่อยากจะทำดีด้วย.-สำนักข่าวไทย


หัวข้อ: Re: [2513] "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: pusadee sitthiphong ที่ 10 กันยายน 2553, 23:37:36
ยังไม่เห็นข่าวขอดีใจด้วยไว้ก่อนค่ะ


หัวข้อ: Re: [2513] "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: prapasri AH ที่ 11 กันยายน 2553, 00:16:43
น้องป้อมคะ

พี่แอ๊ะพยายามเข้าไปดูในช่อง9 อสมท. ข่าวค่ำ เมือวาน ค่ะ

มีคุณครู และเพื่อน  จากสมุย โทรมา ว่าเห็นพี่แอ๊ะในทีวีช่อง9 เมื่อ วันที่9 ข่าวค่ำ

เขาบอกว่านั่งกะ ท่านนายก โก้มาก

พี่แอ๊ะค้นหาข่าวย้อนหลังตั้งแต่ หัวค่ำแล้ว หาไม่เจอเลย

หาจนปวดไหล่แล้วค่ะ

คงต้อง ขอรูปมาแล้วมาโพสต์ ให้ดูนะคะ

ขอบคุณน้องป้อมที่ติดตามชม ดารา อิๆๆๆๆๆ


หัวข้อ: Re: [2513] "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: prapasri AH ที่ 11 กันยายน 2553, 00:55:13
ข่าวล่ามาเร้ววววววววววว

พีหาญไม่สบาย ค่ะ เป็นไข้หวัด 2009 คงติดจากคนไข้

พี่แอ๊ะคงต้องเป็นไข้ 2009รายต่อไป

เพราะไม่ทราบจะหลีกเลี่ยงยังไง

ตอนนี้เลยนั่งเล่นคอม แล้ว เฝ้าดูพี่หาญค่ะ

แต่พี่แอ๊ะคิดว่าพี่แอ๊ะไม่น่าจะเป้นนะ เพราะน่าจะ เคยฉีดวัตซีนป้องกันไข้หวัดใหญ่แล้ว (ไม่เเน่ใจ  )

แต่พี่หาญดื้อ ไม่ยอมฉีดวัคซีน กลัวเจ็บ กลัวเข็ม และกลัวเป็นไข้หลังฉีดค่ะ

และคิดว่าตัวเองเเข็งเเรง ออกกำลังกายทุกวันเลยไม่กลัว หวัด2009

คราวนี้ เลย จ๋อย เลยค่ะ นอนซมเลย

คงต้องให้หยุด ทำงาน ผ่าตัดเเละตรวจคนไข้ สัก 4-5 วัน (หมอแอ๊ะ สั่งค่ะ)


หัวข้อ: Re: [2513] "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: prapasri AH ที่ 11 กันยายน 2553, 00:57:23
เหยงงงงงเอ๊ยยยยยยยย

ปรากฎว่า หน้าที่ 100 พีหาญ เลยป่วยเลย

คงประท้วง หน้าที่100 อิๆๆๆๆ

อ้างถึง
ข้อความของ เหยง 16 เมื่อ 07 กันยายน 2553, 18:02:43
พี่แอ๊ะครับ

มาสวัสดีที่หน้า 100 ครับ พร้อมกับมีคนอ่านแล้ว 47,677 ครั้ง



หัวข้อ: Re: [2513] "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: prapasri AH ที่ 11 กันยายน 2553, 01:02:06
อ้างถึง
ข้อความของ prapasri AH เมื่อ 11 กันยายน 2553, 00:57:23
เหยงงงงงเอ๊ยยยยยยยย

ปรากฎว่า หน้าที่ 100 พีหาญ เลยป่วยเลย

คงประท้วง หน้าที่100 อิๆๆๆๆ

 
อ้างถึง
ข้อความของ เหยง 16 เมื่อ 07 กันยายน 2553, 18:02:43
พี่แอ๊ะครับ

มาสวัสดีที่หน้า 100 ครับ พร้อมกับมีคนอ่านแล้ว 47,677 ครั้ง


เหยง ...

สงสัย พอ ครบ ห้าหมื่น ฉลองโดยให้ พี่แอ๊ะป่วย แหง๋แก๋...555555ตอนนี้เลย จับหน้าผากเช็ค ความร้อน( อุณหภูมิ)

ตัวเอง อยู่ทุก10 นาที อยากมีประสบการณ์ไข้ 2009 อ่ะ อยากรู้จังว่าจะเป็นอย่างไร

แต่พี่หาญบอกว่า ปวดตัว ปวดดดดดมากค่ะ


หัวข้อ: Re: [2513] "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: ดร.มนตรี ที่ 11 กันยายน 2553, 10:25:34
เอามาฝากพี่แอ๊ะ ครับ  ^_^

"ผู้รับรางวัลคนดีศรีอีสาน พบ นายกฯ"

(http://www.cmadong.com/imageupload/2010_Cmadong-Image/data/image/l8kc5q-bb77c1.jpg)
(http://www.cmadong.com/imageupload/2010_Cmadong-Image/data/image/l8kc6c-d9b180.jpg)





อ้างถึง
ข้อความของ prapasri AH เมื่อ 11 กันยายน 2553, 00:16:43
น้องป้อมคะ

พี่แอ๊ะพยายามเข้าไปดูในช่อง9 อสมท. ข่าวค่ำ เมือวาน ค่ะ

มีคุณครู และเพื่อน  จากสมุย โทรมา ว่าเห็นพี่แอ๊ะในทีวีช่อง9 เมื่อ วันที่9 ข่าวค่ำ

เขาบอกว่านั่งกะ ท่านนายก โก้มาก

พี่แอ๊ะค้นหาข่าวย้อนหลังตั้งแต่ หัวค่ำแล้ว หาไม่เจอเลย

หาจนปวดไหล่แล้วค่ะ

คงต้อง ขอรูปมาแล้วมาโพสต์ ให้ดูนะคะ

ขอบคุณน้องป้อมที่ติดตามชม ดารา อิๆๆๆๆๆ


หัวข้อ: Re: [2513] "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: ดร.มนตรี ที่ 11 กันยายน 2553, 10:35:42
ถ้า รพ. นายแพทย์หาญ เปิด แผนกสุขภาพและความงาม พี่แอ๊ะ เป็น  พรีเซนเตอร์ ไ้ด้เลย ไม่ต้องไปจ้างนางแบบ ที่ไหน นะครับ  ส่วนพี่หมอหาญ ท่านก็เป็น นายแบบ โชว์กล้ามท้อง เท่านี้ก็ เพอร์เฟ็กซ์  ^_^

อ้างถึง
ข้อความของ prapasri AH เมื่อ 06 กันยายน 2553, 22:49:12
อ้างถึง
ข้อความของ ดร.มนตรี เมื่อ 02 กันยายน 2553, 23:52:02
สวยครับ คอนเฟิร์ม ^_^

(http://www.cmadong.com/imageupload/2010_Cmadong-Image/data/image/l84pjf-e2e207.jpg)



น้องดร.มนตรีคะ

พี่หาญ บอกว่า รูปนี้ ต้องมาวางในเมืองยโสธร

เป็น  land mark หน้า ร.พ ค่ะ

ร.พ นายแพทย์หาญ นะคะ ไม่ใช่ร.พ ศรีมหาโพธิ์ อิๆๆๆๆ


หัวข้อ: Re: [2513] "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: prapasri AH ที่ 11 กันยายน 2553, 12:11:24

น้อง ดร. มนตรี ได้มาจากช่องไหนคะ
พี่แอ๊ะ หาจนง่วงก็หาไม่เจอ

ขอบคุณมากๆค่ะ พี่แอ๊ะใส่ชุดเดิม เพราะหาเสื้อผ้าไหม ใหม่ๆ สวยๆ ไม่ได้ค่ะ

อ้างถึง
ข้อความของ ดร.มนตรี เมื่อ 11 กันยายน 2553, 10:25:34
เอามาฝากพี่แอ๊ะ ครับ  ^_^

"ผู้รับรางวัลคนดีศรีอีสาน พบ นายกฯ"

(http://www.cmadong.com/imageupload/2010_Cmadong-Image/data/image/l8kc5q-bb77c1.jpg)
(http://www.cmadong.com/imageupload/2010_Cmadong-Image/data/image/l8kc6c-d9b180.jpg)





อ้างถึง
ข้อความของ prapasri AH เมื่อ 11 กันยายน 2553, 00:16:43
น้องป้อมคะ

พี่แอ๊ะพยายามเข้าไปดูในช่อง9 อสมท. ข่าวค่ำ เมือวาน ค่ะ

มีคุณครู และเพื่อน  จากสมุย โทรมา ว่าเห็นพี่แอ๊ะในทีวีช่อง9 เมื่อ วันที่9 ข่าวค่ำ

เขาบอกว่านั่งกะ ท่านนายก โก้มาก

พี่แอ๊ะค้นหาข่าวย้อนหลังตั้งแต่ หัวค่ำแล้ว หาไม่เจอเลย

หาจนปวดไหล่แล้วค่ะ

คงต้อง ขอรูปมาแล้วมาโพสต์ ให้ดูนะคะ

ขอบคุณน้องป้อมที่ติดตามชม ดารา อิๆๆๆๆๆ


หัวข้อ: Re: [2513] "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: prapasri AH ที่ 11 กันยายน 2553, 13:37:17
ดร มนตรี

ช่วย copyข่าว มาให้พี่แอ๊ะดูหน่อยค่ะ
พี่แอ๊ะหาเท่าไรก็ไม่พบค่ะ
เพือนบอกว่าข่าวตอนก่อน 2ทุ่ม

วันที่ 9 ก.ย ค่ะ


หัวข้อ: Re: [2513] "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: ดร.มนตรี ที่ 12 กันยายน 2553, 09:08:19
อ้างถึง
ข้อความของ prapasri AH เมื่อ 11 กันยายน 2553, 13:37:17
ดร มนตรี

ช่วย copyข่าว มาให้พี่แอ๊ะดูหน่อยค่ะ
พี่แอ๊ะหาเท่าไรก็ไม่พบค่ะ
เพือนบอกว่าข่าวตอนก่อน 2ทุ่ม

วันที่ 9 ก.ย ค่ะ

สวัสดีเช้า วันอาทิตย์ ครับพี่แอ๊ะ ...

ภาพที่นำมาโพส ... ผมเปิดดูจากรายการข่าวที่บันทึกย้อนหลังจาก IP TV ของที่ทำงาน รายการข่าวสำนักข่าวไทย ช่อง9 เวลาประมาณ 19:30 น. ของวันที่ 9 เดือน 9  (มีแต่เลข 9 ทั้งนั้นเลย ดีจริงๆ  emo49:))  ) และ ใช้มือถือถ่ายภาพหน้าจอมาครับเลยไม่ค่อยชัด ...  emo21:):):

สำหรับเนื้อหาข่าวลองใช้ Google.com เสิร์ซ ดูได้ตามนี้ครับ  emo42

http://news.impaqmsn.com/articles.aspx?id=360751&ch=pl1

นายกรัฐมนตรีมอบรางวัลคนดีศรีอีสาน  emo4:))

รัฐสภา 9 ก.ย.- นายคิด จินดากุล นายกสมาคมสื่อมวลชนจังหวัดยโสธร ได้นำคณะผู้ได้รับรางวัลคนดีศรีอีสาน และเจ้าหน้าที่จำนวน 30 คนเข้าเยี่ยมคารวะนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ที่อาคารรัฐสภา เพื่อรับโอวาทในโอกาสที่เดินทางมารับรางวัลคนดีศรีอีสาน ประจำปี 2553

โอกาสนี้ นายกรัฐมนตรี ได้กล่าวแสดงความยินดีกับผู้ที่ได้รับรางวัลคนดีศรีอีสาน ว่า รัฐบาลสนับสนุนแนวคิดของการยกย่องคนดีที่กระจายอยู่ตามพื้นที่ต่าง ๆ และทุกวงการมีคนดีอยู่ แต่เราต้องพยายามส่งเสริมสนับสนุนคนดีเพื่อเป็นตัวกระตุ้นสำคัญในการสร้างขวัญและกำลังใจ พร้อมทั้งเป็นแรงบันดาลใจให้กับคนอื่นในทุกวงการในทุกพื้นที่ที่อยากจะทำดีด้วย.-สำนักข่าวไทย
 


ที่มา : สำนักข่าวไทย  


หัวข้อ: Re: [2513] "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: ดร.มนตรี ที่ 12 กันยายน 2553, 11:18:47
ข้อมูลของ IP TV ( ขอขอบคุณข้อมูล จาก http://www.oknation.net )

iPTV คืออะไร ?


iPTV คือ การให้บริการที่ทำให้ผู้ใช้บริการอินเตอร์เน็ตความเร็วสูง สามารถดูรายการประเภท Multimedia ผ่านเครือข่ายบรอดแบนด์ภายในประเทศได้ ( รองรับด้วยระบบ Multimedia Streaming Data Base ป้องกันการ Download เพลง ) มีประโยชน์ในการใช้งานได้หลากหลายโดยมีคุณสมบัติหลักๆดังนี้คือ

1. สามารถใช้ประโยชน์ได้จากศักยภาพในด้านการนำเสนอเนื้อหาด้าน multimedia หรือการที่เป็นช่องทางให้ สามารถดูรายการต่างๆ ผ่านเครือข่ายบรอดแบนด์ความเร็วสูงได้อีกสื่อหนึ่ง โดยสามารถใช้ทั้งแบบดูรายการได้ตามที่ต้องการเมื่อไรก็ได้หรือจะเลือกดูแบบที่จัดเป็นเหมือนผังรายการของสถานีโทรทัศน์ทั่วไปก็ได้ ด้วยเอกลักษณ์เฉพาะตัวของระบบ iPTV ที่ทำให้สามารถให้บริการที่คล้ายกับการออกอากาศของสถานีโทรทัศน์ย่อยๆ ได้หลายสิบช่อง (Multi channel cable TV system) ประกอบกับการที่ระบบออกอากาศผ่านทาง IP network หรือ เครือข่ายบรอดแบนด์ความเร็วสูงนี้ ทำให้สามารถสร้างสรรรายการแบบการให้บริการโทรทัศน์ 2 ทาง (Interactive TV) ที่ผู้ชมสามารถตอบสนองหรือค้นหาข้อมูลเพิ่มเติมกับรายการที่ตนดูอยู่ ณ.ขณะนั้นๆได้

2. เชื่อมต่ออินเตอร์เน็ตความเร็วสูง ที่ใช้ในการ download ข้อมูลขนาดใหญ่ได้รวดเร็ว ในภาคการรับข้อมูลความเร็วสูง (ส่วนภาคการเรียกข้อมูลจะเรียกผ่าน Modem และ download ได้เฉพาะข้อมูลที่ผู้ผลิตอนุญาต)

3. ใช้เป็นระบบอินเตอร์เน็ตสนับสนุนการทำงานภายในองค์กร 





หัวข้อ: Re: [2513] "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: wannee ที่ 12 กันยายน 2553, 19:10:01

สวัสดีค่ะ พี่แอ๊ะ  emo4:))

ขอให้พี่หมอหาญ หายไวๆนะคะ  emo6::))

และมาร่วมฉลองหน้าที่ 100 กับพี่แอ๊ะค่ะ  emo9:huhu:


หัวข้อ: Re: [2513] "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: เหยง 16 ที่ 13 กันยายน 2553, 20:28:05
อีก 3 reply จะขึ้นหน้า 101 (ร้อยเอ็ด) ครับ


หัวข้อ: Re: [2513] "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: ภาณุ ปาตานี ที่ 14 กันยายน 2553, 17:08:14
สวัสดีครับพี่แอ๊ะและพี่น้องทุกท่านครับ


หัวข้อ: Re: [2513] "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: เหยง 16 ที่ 14 กันยายน 2553, 20:56:48
หน้าที่ ร้อยเอ็ด ครับ

พี่แอ๊ะ คงเฝ้าอาการป่วยของพี่หมอหาญอยู่มั้งครับ ??


หัวข้อ: Re: [2513] "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: หนุน'21 ที่ 15 กันยายน 2553, 07:16:42

มาสวัสดีพี่แอ๊ะที่ร้อยเอ็ดด้วยครับ
ขอให้พี่หาญหายป่วยไวๆครับ


หัวข้อ: Re: [2513] "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: prapasri AH ที่ 15 กันยายน 2553, 08:02:14
เหยง และน้องหนุนคะ

พี่แอ๊ะ ตื่นขึ้นมา งงๆ
คิดว่าน้องหนุนกับเหยงมาที่ จังหวัดร้อยเอ็ด 5555555555555


หัวข้อ: Re: [2513] "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: suriya2513 ที่ 15 กันยายน 2553, 08:50:01
(http://www.cmadong.com/imageupload/2010_Cmadong-Image/data/image/l8kc5q-bb77c1.jpg)

นึกว่าต่าย อรทัย นักร้องลูกทุ่งคนดังซะอีก


หัวข้อ: Re: [2513] "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: เหยง 16 ที่ 17 กันยายน 2553, 14:22:34
พี่แอ๊ะครับ

พี่หาญ อาการดีขึ้นและหายป่วยแล้วหรือยัง ??  emo47


หัวข้อ: Re: [2513] "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: หนุน'21 ที่ 17 กันยายน 2553, 14:31:04
(http://www.cmadong.com/imageupload/2010_Cmadong-Image/data/image/l8vrik-d463c2.jpg)

ขอให้พี่หมอหาญ หายไข้เร็วๆครับ
พี่แอ๊ะ รักษาสุขภาพด้วยนะครับ


หัวข้อ: Re: [2513] "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: Kaimook ที่ 17 กันยายน 2553, 21:52:12
 มาสวัสดีพี่แอ๊ะที่ร้อยเอ็ดด้วยคนค่ะ  ขอให้พี่คุณหมอหาญหายจากหวัด2009ไวๆนะคะ...
 emo4:))


หัวข้อ: Re: [2513] "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: prapasri AH ที่ 18 กันยายน 2553, 22:23:25
น้องไข่มุก น้องหนุน พี่ปรีชา เหยง หมอเสียด

และพี่ๆ น้องๆ ทุกท่าน คะ

พี่หาญหาย (จากโรค) เเล้วค่ะ

พี่แก สลบเหมือด อยู่วันเดียวเอง

อีกวัน ลุกได้ ไปวิ่งปร่อเลยค่ะ

เป็นงง ในความเเข็งแรง ของพี่หาญจริงๆ

พี่แก เลยไปรักษาคนอื่นต่อค่ะ

แต่พี่แอ๊ะแข็งเเรงกว่าคือไม่ติดหวัด h1 n1 เลย

ทั้งๆที่คนไข้ ด้วยโรคนี้เต็มร.พ เลย ค่ะ


หัวข้อ: Re: [2513] "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: prapasri AH ที่ 18 กันยายน 2553, 22:24:43
อ้างถึง
ข้อความของ เหยง 16 เมื่อ 14 กันยายน 2553, 20:56:48
หน้าที่ ร้อยเอ็ด ครับ

พี่แอ๊ะ คงเฝ้าอาการป่วยของพี่หมอหาญอยู่มั้งครับ ??


เหยง เอ๊ยยยยยยยยยยยย
จากร้อยเอ็ด ก็มายโส หรือขึ้นเหนือขึ้นไปหน่อยก็

มหาสารคาม ค่า


หัวข้อ: Re: [2513] "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: suriya2513 ที่ 18 กันยายน 2553, 22:31:50
ตะลึ่ง ตึ้ง โป๊ะ
ขอถาดอลูมิเนียมมาเคาะหัวกันหน่อยซิครับ...พี่หม่ำ


หัวข้อ: Re: [2513] "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: เหยง 16 ที่ 19 กันยายน 2553, 10:05:09
อ้างถึง
ข้อความของ prapasri AH เมื่อ 18 กันยายน 2553, 22:23:25
น้องไข่มุก น้องหนุน พี่ปรีชา เหยง หมอเสียด

และพี่ๆ น้องๆ ทุกท่าน คะ

พี่หาญหาย (จากโรค) เเล้วค่ะ

พี่แก สลบเหมือด อยู่วันเดียวเอง

อีกวัน ลุกได้ ไปวิ่งปร่อเลยค่ะ

เป็นงง ในความเเข็งแรง ของพี่หาญจริงๆ

พี่แก เลยไปรักษาคนอื่นต่อค่ะ

แต่พี่แอ๊ะแข็งเเรงกว่าคือไม่ติดหวัด h1 n1 เลย

ทั้งๆที่คนไข้ ด้วยโรคนี้เต็มร.พ เลย ค่ะ


ตอนนี้มี H3 N2 อีกตัวหนึ่งแล้วนะครับ

หวัดนก, หวัด 2009, ซาร์ ไม่รู้ว่าโรคไหนเป็นอย่างไรเลย?

อาการคล้ายกันหมด จนทุกโรคแทบจะกลายเป็นโรคประจำถิ่นไปหมดแล้ว


หัวข้อ: Re: [2513] "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: prapasri AH ที่ 19 กันยายน 2553, 13:26:28
คนไข้ ล้นทุก ร.พ เลยเหยง

ขนาดเป็นเอกชน นอน กันระเกะระกะไปหมด

ใส่ มาสค์กัน ทั้งคนไข้ ทั้งหมอ ทั้งเจ้าหน้าที่

โรงงานทำ มาสก์ รวย ไปเลย


หัวข้อ: Re: [2513] "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: เหยง 16 ที่ 19 กันยายน 2553, 20:40:13
พี่แอ๊ะ

เลิกน้ำท่วม เดี่ยวก็มีโรคฉี่หนู่ เท้าเปื่อย ท้องร่วง ตาแดง ฯลฯ พร้อมกับโรคเครียดจากน้ำท่วม เพิ่มเข้ามาอีกครับ


หัวข้อ: Re: [2513] "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: หนุน'21 ที่ 19 กันยายน 2553, 21:36:39

สวัสดีพี่แอ๊ะ พี่เหยงครับ
พี่หมอหาญ แข็งแรงนะครับฟื้นไข้เร็วมาก

อากาศแบบนี้ น้ำท่วมไปทั่วแบบนี้
สงสารคนที่่ต้องเจอปัญหาต่างๆจังเลยนะครับ



หัวข้อ: Re: [2513] "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: prapasri AH ที่ 20 กันยายน 2553, 23:09:05
น้องเหยง และน้องหนุนคะ

โรคเยอะจริงๆค่ะ

พี่หาญแกชอบสู้กับ ยมพะบาล ค่ะ555555

พี่แอ๊ะกำลังจะพาไปเที่ยวสุราษฎรื ให้พี่แก เข้าสังคม ไปเที่ยวบ้าง

กำลังเกลี้ยกล่อมอยู่ค่ะ

พี่แอ๊ะจะไปสุราษฏร์พรุ่งนี้ แวะนอนกับลูกที่กรุงเทพก่อน

แล้วบินต่อตอนเช้าไปสุราษฎร์

กำลังจีบพี่หาญให้ตามพี่แอ๊ะไป จีบยากมากค่ะ


ขากลับวันที่25 จะconnecting flight มาอุบลค่ะ

 เพี้ยง...ขอให้ เจอพี่ปรีชาพาน้องเที่ยวดูเครื่องบินขึ้นลงที่สุวรรรภูมิ อิๆๆๆๆๆ




หัวข้อ: Re: [2513] "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: เหยง 16 ที่ 21 กันยายน 2553, 20:21:31
พี่แอ๊ะครับ

ถ้าพี่หาญไปด้วย ก็คงได้พักผ่อน, แต่คงยากครับ พี่หาญเขาจะห่วงคนไข้มากกว่าท่องเที่ยวซี ??


หัวข้อ: Re: [2513] "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: Kaimook ที่ 21 กันยายน 2553, 22:16:07
อ้างถึง
ข้อความของ prapasri AH เมื่อ 20 กันยายน 2553, 23:09:05
น้องเหยง และน้องหนุนคะ

โรคเยอะจริงๆค่ะ

พี่หาญแกชอบสู้กับ ยมพะบาล ค่ะ555555

พี่แอ๊ะกำลังจะพาไปเที่ยวสุราษฎรื ให้พี่แก เข้าสังคม ไปเที่ยวบ้าง

กำลังเกลี้ยกล่อมอยู่ค่ะ

พี่แอ๊ะจะไปสุราษฏร์พรุ่งนี้ แวะนอนกับลูกที่กรุงเทพก่อน

แล้วบินต่อตอนเช้าไปสุราษฎร์

กำลังจีบพี่หาญให้ตามพี่แอ๊ะไป จีบยากมากค่ะ


ขากลับวันที่25 จะconnecting flight มาอุบลค่ะ

 เพี้ยง...ขอให้ เจอพี่ปรีชาพาน้องเที่ยวดูเครื่องบินขึ้นลงที่สุวรรรภูมิ อิๆๆๆๆๆ



ขอให้พี่แอ๊ะเกลี่ยกล่อมพี่หาญได้สำเร็จนะคะ  อย่าลืมไข่เค็มไชยามาฝากน้องพี่ซีมะโด่งนะคะ...


หัวข้อ: Re: [2513] "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: swsm ที่ 21 กันยายน 2553, 22:40:55
มาลุ๊นให้พี่แอ๊ะจีบพี่หาญสำเร็จ
มาลุ๊นให้พี่แอ๊ะเจอพี่ปรีชาที่สนามบิน
มาลุ๊นให้น้ำอ้อยได้ทานไข่เค็ม

และ .. มาลุ๊นว่าใครจะโดนถาดอลูมิเนียมของพี่ป๋อง .. ฮ่า ฮ่า


ตึ่งโป๊ะ !!
    emo20:)):)


หัวข้อ: Re: [2513] "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: swsm ที่ 23 กันยายน 2553, 04:46:40
แวะมาเยี่ยมค่ะ  พี่แอ๊ะ ..  แต่ไม่มีใครอยู่เลย     emo48:)


หัวข้อ: Re: [2513] "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: พธู ๒๕๒๔ ที่ 24 กันยายน 2553, 19:01:44
ผมว่าจีบไม่สำเร็จ แต่ก้อสำเร็จเพราะใช้วิธีบังคับพี่หาญเอา


หัวข้อ: Re: [2513] "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: เหยง 16 ที่ 26 กันยายน 2553, 11:57:14
สวัสดีพี่แอีะ พี่แ้ก้ว-ปรีชา พี่ป๋อง หะยี ป๋าทู น้ำอ้อย หนุน และทุกๆคนที่เป็นแฟนห้องนี้ครับ

ไปนครปฐมมา 3 วัน กลับนครสวรรค์เมื่อบ่ายวานนี้ แต่เพราะฝนตกหนักเลยไม่ได้เข้ามาทักทายครับ


หัวข้อ: Re: [2513] "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: ภาณุ ปาตานี ที่ 27 กันยายน 2553, 06:56:36

สวัสดีครับพี่แอ๊ะ...
พี่หมอหาญ..คงสบายดีแล้วนะครับ


หัวข้อ: Re: [2513] "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: เหยง 16 ที่ 03 ตุลาคม 2553, 09:01:01
พี่แอ๊ะ

กลับจากสมุยแล้วหรือยังครับ และพี่หมอหาญได้ไปพักผ่อนที่สมุยด้วยหรือไม่ ??


หัวข้อ: Re: [2513] "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: wannee ที่ 04 ตุลาคม 2553, 11:46:58


สวัสดีค่ะ ..พี่แอ๊ะ พี่หอหญิง 13    emo6::))


หัวข้อ: Re: [2513] "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: prapasri AH ที่ 05 ตุลาคม 2553, 23:23:41
น้องๆขา พี่แอ๊ะยุ่งสมากค่ะ ช่วงนี้ ย

ยุ่งเรื่องฟิล์ม กะแอนนี่ ค่ะ5555555555555555555


หัวข้อ: Re: [2513] "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: หนุน'21 ที่ 06 ตุลาคม 2553, 08:04:06


สงสัยพี่แอ๊ะจะเป็นตัวกลาง
ในการ ตรวจ DNA ให้ลูกแอนกับฟิล์ม
อิ อิ


หัวข้อ: Re: [2513] "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: เหยง 16 ที่ 06 ตุลาคม 2553, 10:07:23
อ้างถึง
ข้อความของ prapasri AH เมื่อ 05 ตุลาคม 2553, 23:23:41
น้องๆขา พี่แอ๊ะยุ่งสมากค่ะ ช่วงนี้ ย

ยุ่งเรื่องฟิล์ม กะแอนนี่ ค่ะ5555555555555555555


เขายิ่งออกข่าวได้มากเท่่าไร เราก็อาจจะเป็นเหยื่อมากขึ้นเท่านั้นน่ะครับ
"แอนนี่"ถ่ายแบบ ค่าตัวอัพขึ้นเป็นแสนแล้วครับ


หัวข้อ: Re: [2513] "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: Kaimook ที่ 07 ตุลาคม 2553, 11:44:21
 สวัสดีค่ะพี่แอ๊ะ ...  emo4:)) emo4:)) emo4:))


หัวข้อ: Re: [2513] "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: ti2521 ที่ 10 ตุลาคม 2553, 07:32:47

.....อรุณสวัสดิ์ 10 10 10  ครับ  พีแอ๊ะ.....


หัวข้อ: "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: พธู ๒๕๒๔ ที่ 12 ตุลาคม 2553, 06:15:38


แบงค์ปลอม

มีชายคนหนึ่งออกมาจากห้องที่เขาหาความสุข
ชาย... " นี่เธอแบงค์ 500 ที่ฉันให้เธอไปน่ะเป็นแบงค์ปลอม "
หญิง... " ไม่เป็นไรค่ะ เอดส์ที่ฉันให้ไปเป็นของแท้ "
ชาย... " จ๊ากกกก!!!!"




หัวข้อ: Re: [2513] "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: wannee ที่ 14 ตุลาคม 2553, 12:22:43
อ้างถึง
ข้อความของ prapasri AH เมื่อ 05 ตุลาคม 2553, 23:23:41
น้องๆขา พี่แอ๊ะยุ่งสมากค่ะ ช่วงนี้ ย

ยุ่งเรื่องฟิล์ม กะแอนนี่ ค่ะ5555555555555555555


แค่พี่แอ๊ะ มาหยอด (ตอบ) แค่นี้ก็ชื่นใจแล้วค่ะ  emo4:)) emo6::)) emo9:huhu:


หัวข้อ: Re: [2513] "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: เหยง 16 ที่ 15 ตุลาคม 2553, 10:12:52
พี่แอ๊ะ

ผ่านหน้า ร้อยเอ็ด มา ร้อยสอง หลายกระทู้แล้ว ยังติดธุระไม่ได้เข้าเว็ปอีกหรือครับ ??


หัวข้อ: Re: [2513] "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: prapasri AH ที่ 15 ตุลาคม 2553, 22:48:48
Pi ah and pi hann on the way back to yasothon in the heavy rain by car (alphard),it 's very dangerous ,flood ,the big tree fall across the road n





หัวข้อ: Re: [2513] "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: prapasri AH ที่ 15 ตุลาคม 2553, 22:53:36
Many good kindly men from the village help us and manage the traffice


หัวข้อ: Re: [2513] "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: pusadee sitthiphong ที่ 15 ตุลาคม 2553, 22:56:30
ขอให้กลับถึงบ้านอย่างปลอดภัยนะคะ


หัวข้อ: Re: [2513] "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: prapasri AH ที่ 15 ตุลาคม 2553, 23:00:43
They are no policeman at all ,very frightening in PayakapoompisAi.,border of Mahasarakham
We are on advenger,exiting like rescuing 33 miners in Chile 5555


หัวข้อ: Re: [2513] "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: prapasri AH ที่ 15 ตุลาคม 2553, 23:42:12
Thank yoU ka nong phusadee ,now w e. already passed the dangerous way ka and
Nearby Roied , good luck that we have a good driver ,he used to drive in this road at night ka


หัวข้อ: Re: [2513] "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: suriya2513 ที่ 15 ตุลาคม 2553, 23:47:17
Ho+ ultimate HiTech
(โห๋ ล้ำสมัยประลัยจัง)


หัวข้อ: Re: [2513] "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: prapasri AH ที่ 15 ตุลาคม 2553, 23:50:33
Pi ah went to bkk cause pi hann has medical academic meeting on coronary heart decease for two days ka.he finished the meeting this evening


หัวข้อ: Re: [2513] "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: prapasri AH ที่ 15 ตุลาคม 2553, 23:55:44
Sent by BB ja .my kids have bb so I have to get modern stye like them ,do u have any kids, dr kra pong?


หัวข้อ: Re: [2513] "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: prapasri AH ที่ 15 ตุลาคม 2553, 23:59:24
I will have i_phone new arrival too.I am in trend ja


หัวข้อ: Re: [2513] "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: suriya2513 ที่ 16 ตุลาคม 2553, 01:06:24
But I am in train.


หัวข้อ: Re: [2513] "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: Khun28 ที่ 16 ตุลาคม 2553, 06:14:35
อ้างถึง
ข้อความของ prapasri AH เมื่อ 15 ตุลาคม 2553, 23:59:24
I will have i_phone new arrival too.I am in trend ja
อย่าลืม ซื้อ IPAD ด้วยนะครับ  เวลาเข้า เวปซีมะโด่ง ตัวหนังสือจะใหญ่ชัด พกไปได้ทุกที่


หัวข้อ: Re: [2513] "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: ดร.มนตรี ที่ 16 ตุลาคม 2553, 10:13:54
สวัสดีพี่แอ๊ะด้วยคนครับ  ^_^


ปล.

วันที่ 10 เดือน 10 ปี 2010 @Pattaya

(http://www.cmadong.com/imageupload/2010_Cmadong-Image/data/image/lad4xs-782d92.jpg)



หัวข้อ: Re: [2513] "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: suriya2513 ที่ 16 ตุลาคม 2553, 10:20:25
อ้างถึง
ข้อความของ Khun28 เมื่อ 16 ตุลาคม 2553, 06:14:35
อ้างถึง
ข้อความของ prapasri AH เมื่อ 15 ตุลาคม 2553, 23:59:24
I will have i_phone new arrival too.I am in trend ja
อย่าลืม ซื้อ IPAD ด้วยนะครับ  เวลาเข้า เวปซีมะโด่ง ตัวหนังสือจะใหญ่ชัด พกไปได้ทุกที่
พี่แอ๊ะต้องโกรธควันออกหู เพราะน้องขุนกล่าวเช่นนี้ เท่ากับเน้นย้ำว่าพี่แอ๊ะแก่ สายตาไม่ดี


หัวข้อ: Re: [2513] "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: ดร.มนตรี ที่ 16 ตุลาคม 2553, 10:38:06
อ้างถึง
ข้อความของ suriya2513 เมื่อ 16 ตุลาคม 2553, 10:20:25
อ้างถึง
ข้อความของ Khun28 เมื่อ 16 ตุลาคม 2553, 06:14:35
อ้างถึง
ข้อความของ prapasri AH เมื่อ 15 ตุลาคม 2553, 23:59:24
I will have i_phone new arrival too.I am in trend ja
อย่าลืม ซื้อ IPAD ด้วยนะครับ  เวลาเข้า เวปซีมะโด่ง ตัวหนังสือจะใหญ่ชัด พกไปได้ทุกที่
พี่แอ๊ะต้องโกรธควันออกหู เพราะน้องขุนกล่าวเช่นนี้ เท่ากับเน้นย้ำว่าพี่แอ๊ะแก่ สายตาไม่ดี

ฺำBelieve it or Not !! เมืองไทย ยังไม่มี 3G   emo43

(http://www.cmadong.com/imageupload/2010_Cmadong-Image/data/image/lad5bc-56fbec.jpg)


หัวข้อ: Re: [2513] "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: เหยง 16 ที่ 16 ตุลาคม 2553, 10:47:06
สวัสดีครับพี่แอ๊ะ

คงเป็นการเดินทางที่เสี่ยงภัยน่าดู, อย่าไปหวังพึ่ง Policeman เลยครับ เขาบอกว่า วันตำรวจ 13 ตุลา ไม่ออกใบสั่ง 1 วันเท่านั้น แต่เรื่องช่วยประชาชนไม่ได้กล่าวถึง



ดร.มนตรี

คงต้องรอต่อครับ ให้ 3G เกิดให้ได้ นานอีก 1 ปีก็ทนได้


หัวข้อ: Re: [2513] "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: ดร.มนตรี ที่ 16 ตุลาคม 2553, 10:47:27
อ้างถึง
ข้อความของ suriya2513 เมื่อ 16 ตุลาคม 2553, 01:06:24
But I am in train.

http://www.youtube.com/watch?v=euSlc1ch6Iw


หัวข้อ: Re: [2513] "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: ดร.มนตรี ที่ 16 ตุลาคม 2553, 10:49:05
อ้างถึง
ข้อความของ เหยง 16 เมื่อ 16 ตุลาคม 2553, 10:47:06
สวัสดีครับพี่แอ๊ะ

คงเป็นการเดินทางที่เสี่ยงภัยน่าดู, อย่าไปหวังพึ่ง Policeman เลยครับ เขาบอกว่า วันตำรวจ 13 ตุลา ไม่ออกใบสั่ง 1 วันเท่านั้น แต่เรื่องช่วยประชาชนไม่ได้กล่าวถึง



ดร.มนตรี

คงต้องรอต่อครับ ให้ 3G เกิดให้ได้ นานอีก 1 ปีก็ทนได้



ครับพี่ ... คนไทยใจเย็นอยู่แล้ว รอได้ครับ  ^_^


หัวข้อ: Re: [2513] "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: prapasri AH ที่ 16 ตุลาคม 2553, 14:37:42
อ้างถึง
ข้อความของ ดร.มนตรี เมื่อ 16 ตุลาคม 2553, 10:13:54
สวัสดีพี่แอ๊ะด้วยคนครับ  ^_^


ปล.

วันที่ 10 เดือน 10 ปี 2010 @Pattaya

(http://www.cmadong.com/imageupload/2010_Cmadong-Image/data/image/lad4xs-782d92.jpg)



หล่อจังงงงงงงง


หัวข้อ: Re: [2513] "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: prapasri AH ที่ 16 ตุลาคม 2553, 14:40:35
อ้างถึง
ข้อความของ suriya2513 เมื่อ 16 ตุลาคม 2553, 01:06:24
But I am in train.
อ้างถึง
ข้อความของ suriya2513 เมื่อ 16 ตุลาคม 2553, 01:06:24
But I am in train.


I-PAD  เป็นพี่สาว i-phone ใช่มะ
อ้างถึง
ข้อความของ Khun28 เมื่อ 16 ตุลาคม 2553, 06:14:35
อ้างถึง
ข้อความของ prapasri AH เมื่อ 15 ตุลาคม 2553, 23:59:24
I will have i_phone new arrival too.I am in trend ja
อย่าลืม ซื้อ IPAD ด้วยนะครับ  เวลาเข้า เวปซีมะโด่ง ตัวหนังสือจะใหญ่ชัด พกไปได้ทุกที่


I-PAD เป็นพี่สาว i-phone ใช่มะ น้อง


หัวข้อ: Re: [2513] "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: prapasri AH ที่ 16 ตุลาคม 2553, 14:47:17
อึมมมมมมม

กลับถึงยโส โดยสวัสดิภาพ  

น่ากลัวมากค่ะ ตอนอยู่เเถวโคราช มีนำป่าไหลมา รถ.เเล่นบนน้ำเหมือนเรือเลยค่ะ

พอถึงตรงพยัคภูมิพิสัย  ชาวบ้านมาช่วย ให้ รถ ทุกคัน หลบต้นไม่ใหญ่ที่โค่นขวางถนน

 ให้ไปสวนกันที่ถนนเเคบๆในหมู่บ้าน คิดดูซิ มืดมิดไปหมดเเล้วรถที่สวนมา ก็เป็นรถบรรทุก
ถอย กันไป ถอยกัน มา

อิๆๆ ไม่ได้กลัว รถชน แต่กลัว รถบรรทุกเบียด ทำให้สีรถถลอก (ฮา)


หัวข้อ: Re: [2513] "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: เหยง 16 ที่ 16 ตุลาคม 2553, 22:14:45
พี่แอ๊ะครับ

หนังสือพิมพ์ ทีวี เพิ่งจะออกข่าว โคราชน้ำท่วมหนัก

โคราชอ่วม ! บ้านเรือน ถนน ไร่นา จมบาดาลหลายพื้นที่ - น้ำเขาใหญ่ทะลักท่วม“ปากช่อง”

คลิีก..อ่านข่าวทั้งหมด พร้อมภาพครับ
http://www.manager.co.th/Local/ViewNews.aspx?NewsID=9530000145820


หัวข้อ: Re: [2513] "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: ภาณุ ปาตานี ที่ 17 ตุลาคม 2553, 07:09:43
อ้างถึง
ข้อความของ suriya2513 เมื่อ 16 ตุลาคม 2553, 10:20:25
อ้างถึง
ข้อความของ Khun28 เมื่อ 16 ตุลาคม 2553, 06:14:35
อ้างถึง
ข้อความของ prapasri AH เมื่อ 15 ตุลาคม 2553, 23:59:24
I will have i_phone new arrival too.I am in trend ja
อย่าลืม ซื้อ IPAD ด้วยนะครับ  เวลาเข้า เวปซีมะโด่ง ตัวหนังสือจะใหญ่ชัด พกไปได้ทุกที่
พี่แอ๊ะต้องโกรธควันออกหู เพราะน้องขุนกล่าวเช่นนี้ เท่ากับเน้นย้ำว่าพี่แอ๊ะแก่ สายตาไม่ดี

ขุนเอ๊ย..เจอมุกเซียนเหยียบเมฆเข้าแล้ว


หัวข้อ: Re: [2513] "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: ภาณุ ปาตานี ที่ 17 ตุลาคม 2553, 07:11:56

สวัสดีครับพี่แอ๊ะและพี่น้องทุกท่านครับ



หัวข้อ: Re: [2513] "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: Khun28 ที่ 17 ตุลาคม 2553, 07:50:38
อ้างถึง
ข้อความของ YA เมื่อ 17 ตุลาคม 2553, 07:09:43
อ้างถึง
ข้อความของ suriya2513 เมื่อ 16 ตุลาคม 2553, 10:20:25
อ้างถึง
ข้อความของ Khun28 เมื่อ 16 ตุลาคม 2553, 06:14:35
อ้างถึง
ข้อความของ prapasri AH เมื่อ 15 ตุลาคม 2553, 23:59:24
I will have i_phone new arrival too.I am in trend ja
อย่าลืม ซื้อ IPAD ด้วยนะครับ  เวลาเข้า เวปซีมะโด่ง ตัวหนังสือจะใหญ่ชัด พกไปได้ทุกที่
พี่แอ๊ะต้องโกรธควันออกหู เพราะน้องขุนกล่าวเช่นนี้ เท่ากับเน้นย้ำว่าพี่แอ๊ะแก่ สายตาไม่ดี

ขุนเอ๊ย..เจอมุกเซียนเหยียบเมฆเข้าแล้ว

สำหรับ ท่านปุโรหิตพี่ป๋อง  ผมแกล้งผ่านบอลให้ท่านเองครับ



หัวข้อ: Re: [2513] "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: prapasri AH ที่ 17 ตุลาคม 2553, 17:07:55
พี่แอ๊ะโชคดีที่เดินทางออกมาก่อน คือวันศุกร์ตอนไม่ค่ำมาก

ไม่งั้น ว่ายน้ำ กะป๋อง กะแป๋ง อยู่บนถนนมิตรภาพเเหล่ว..


หัวข้อ: Re: [2513] "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: prapasri AH ที่ 17 ตุลาคม 2553, 17:17:49

น่ากลัวจัง หากใครไปซื้อบ้านตากอากาศ บ้า..โฮโซนอันดับ 7 ของโลก ที่เขาใหญ่ จะทำยังไงกันเนาะ

อยู่ เมือง หยิ่ง ของพี่แอ๊ะดีกว่า เนาะ


หัวข้อ: Re: [2513] "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: suriya2513 ที่ 17 ตุลาคม 2553, 17:51:11
อ้างถึง
ข้อความของ Khun28 เมื่อ 17 ตุลาคม 2553, 07:50:38
อ้างถึง
ข้อความของ YA เมื่อ 17 ตุลาคม 2553, 07:09:43
อ้างถึง
ข้อความของ suriya2513 เมื่อ 16 ตุลาคม 2553, 10:20:25
อ้างถึง
ข้อความของ Khun28 เมื่อ 16 ตุลาคม 2553, 06:14:35
อ้างถึง
ข้อความของ prapasri AH เมื่อ 15 ตุลาคม 2553, 23:59:24
I will have i_phone new arrival too.I am in trend ja
อย่าลืม ซื้อ IPAD ด้วยนะครับ  เวลาเข้า เวปซีมะโด่ง ตัวหนังสือจะใหญ่ชัด พกไปได้ทุกที่
พี่แอ๊ะต้องโกรธควันออกหู เพราะน้องขุนกล่าวเช่นนี้ เท่ากับเน้นย้ำว่าพี่แอ๊ะแก่ สายตาไม่ดี

ขุนเอ๊ย..เจอมุกเซียนเหยียบเมฆเข้าแล้ว

สำหรับ ท่านปุโรหิตพี่ป๋อง  ผมแกล้งผ่านบอลให้ท่านเองครับ


ผ่านได้ แต่ต้องผ่านลูกต่ำๆ นะครับ ลูกโด่งพี่ป๋องไม่ถนัด โหม่งมันคอยแฉลบ
(ต้องหยิบมาเล่นซะก่อน เดี๋ยวป๋าทูคว้าไปเล่นให้แค้นใจ)


หัวข้อ: Re: [2513] "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: เหยง 16 ที่ 17 ตุลาคม 2553, 18:32:08
อ้างถึง
ข้อความของ prapasri AH เมื่อ 17 ตุลาคม 2553, 17:17:49

น่ากลัวจัง หากใครไปซื้อบ้านตากอากาศ บ้า..โฮโซนอันดับ 7 ของโลก ที่เขาใหญ่ จะทำยังไงกันเนาะ

อยู่ เมือง หยิ่ง ของพี่แอ๊ะดีกว่า เนาะ


 emo7:(: แล้วเป็นอย่างงี้ ได้ยังไง ?? !!  emo7:(:

ผู้ว่าฯ ปราจีนบุรีระเริงมาเก๊าทิ้งชาวบ้านจมน้ำ-ลพบุรีปิดเส้นบายพาส
17 ตุลาคม 2553 12:40 น.

 
       คนงานภายในเขตอุตสาหกรรมนวนคร อ.สูงเนิน จ.นครราชสีมา ตัดสินใจเดินลุยน้ำออกมาจากโรงงาน หลังติดอยู่ภายในโรงงานนานกว่า 10 ชั่วโมง จากเหตุน้ำท่วมฉับพลัน เนื่องจากเจ้าหน้าที่ไม่มีรถบรรทุกและเรือท้องแบนเข้าไปรับ เพราะอุปกรณ์ไม่เพียงพอ ขณะที่สถานการณ์ในหลายอำเภอยังน่าเป็นห่วง เพราะระดับน้ำท่วมสูง โดยเฉพาะบริเวณถนนมิตรภาพ บางช่วงรถเล็กไม่สามารถวิ่งผ่านได้
        ส่วนที่ จ.ปราจีนบุรี สถานการณ์น่าเป็นห่วงเช่นกัน ล่าสุด น้ำท่วมใน อ.นาดี ไหลไปยัง อ.กบินทร์บุรี ส่งผลให้พื้นที่ 6 ตำบลมีระดับน้ำสูงขึ้นอีก ถนนในหมู่บ้านถูกตัดขาด ชาวบ้านส่วนใหญ่ขนย้ายทรัพย์สินไม่ทัน บางบ้านจำใจย้ายไก่เลี้ยงบนบ้าน ขณะที่บางส่วนต้องปล่อยทิ้งไว้กับน้ำ จนถึงขณะนี้ยังไม่มีหน่วยงานใดเข้าไปช่วยเหลือ เนื่องจากผู้ว่าราชการจังหวัดพาเจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครองทุกอำเภอ เดินทางไปยังฮ่องกงและมาเก๊า
        ส่วนที่ จ.ลพบุรี ฝนที่ตกหนักต่อเนื่อง ทำให้น้ำจากเขาสามยอดไหลท่วมพื้นที่ ต.นิคม เขาสามยอด ท่าศาลา ในเขต อ.เมือง ประชาชนหลายพันครอบครัวได้รับผลกระทบ โดยเฉพาะร้านค้าและลานจอดรถของห้างสรรพสินค้าบางแห่ง ซึ่งน้ำไหลเข้าท่วมตั้งแต่เมื่อคืนนี้
        ทั้งนี้ แขวงการทางลพบุรี ได้ประกาศปิดเส้นทางระหว่างเส้นบายพาส ที่วิ่งมาจาก อ.พระพุทธบาท จ.สระบุรี ไม่ให้รถทุกชนิดวิ่งเข้าไปในเส้นทางดังกล่าว เนื่องจากระดับน้ำไหลเชี่ยวกราก

 
 
 
พิมพ์จาก http://www.manager.co.th/asp-bin/mgrView.asp?NewsID=9530000146127
 


หัวข้อ: Re: [2513] "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: prapasri AH ที่ 17 ตุลาคม 2553, 23:44:13
ว๊ายยยยย ผู้ว่าปราจีน คงถูกย้ายแน่ โดนเข้าแบบนี้ เอ๊..จังหวัดปราจีน มีด้ายหรือ ชักงงๆๆๆ

เหยง ช่วยเช็คให้หน่อยนะ ว่า ที่ เขาแผงม้า และ ไทยเจริญ  ที่ อ.วังน้ำเขียว น้ำป่าไหลหลากไหม


หัวข้อ: Re: [2513] "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: เหยง 16 ที่ 18 ตุลาคม 2553, 08:57:53
พยากรณ์อากาศในภาคอีสาน

มีฝนฟ้าคะนองเกือบทั่วไป ร้อยละ 70 ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักบางแห่งบริเวณจังหวัดชัยภูมิ นครราชสีมา บุรีรัมย์ สุรินทร์ ศรีสะเกษ อำนาจเจริญ และอุบลราชธานี อุณหภูมิต่ำสุด 22 องศา สูงสุด 30 องศา ลมแปรปรวน ความเร็ว 15-35 กม./ชม. 
 
 
ออกประกาศ 18 ตุลาคม 2553 06:00 น.


หัวข้อ: Re: [2513] "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: เหยง 16 ที่ 18 ตุลาคม 2553, 09:15:02
Updated ข้อมูลน้ำท่วมครับ

วันที่ 18 ตุลาคม พ.ศ. 2553 เวลา 06:50:46 น.  มติชนออนไลน์
โคราชโกลาหล!น้ำลำตะคองทะลักท่วมเกือบทั้งเมือง หมอ-คนไข้ รพ.มหาราช-เซนต์แมรรี่ อพยพหนีอลหม่าน

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อเวลาประมาณ 19.00 น. วันที่ 17 ต.ค. ที่ผ่านมา  ระดับน้ำในลำน้ำลำตะคอง ซึ่งไหลผ่านตัวเมืองนครนครราชสีมา ได้เพิ่มระดับสูงขึ้นอย่างรวดเร็ว จนเอ่อล้นตลิ่งเข้าท่วมบ้านเรือนประชาชนที่อยู่บติดกับลำน้ำตลอดทั้งสาย โดยเฉพาะชุมชนมิตรภาพซอย 4 ,บ้านตะคองเก่า ,ตลาดประปา,ถนนช้างเผือก ,โรงเรียนเมืองฯ,วิทยาลัยอาชีวศึกษา,โรงเรียนอนุบาลนครราชสีมา,โรงเรียนสุรนารีวิทยา  ระดับน้ำสูงกว่า 80 ซม.


ทั้งนี้  น้ำลำตะคองไหลผ่านด้านหลังโรงพยาบาลมหาราชนครราชสีมา ได้ทะลักเข้าท่วมภายในโรงพยาบาลทั้งหมด ระดับน้ำสูงกว่า 60 ซม. จนปริ่มกำลังจะถึงห้องฉุกเฉิน ทางคณะแพทย์พยาบาลต้องเร่งขนย้ายอุปกรณ์เครื่องมือแพทย์ และอพยพผู้ป่วยขึ้นไปอยู่บนอาคารสูงกันอย่างอลหม่าน ซึ่งจนถึงขณะนี้ปริมาณน้ำยังคงเพิ่มสูงขึ้นอย่างรวดเร็ว และยังไม่มีทีท่าว่าจะลดระดับลง ทำให้ยังคงมีญาติผู้ป่วย คณะแพทย์พยาบาล จำนวนมากติดอยู่ภายในโรงพยาบาล


ทางโรงพยาบาลมหาราชนครราชสีมาได้ประสานหน่วยทหารจากกองทัพภาคที่ 2  เจ้าหน้าที่ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจากเทศบาลนครนครราชสีมา รวมถึงมูลนิธิการกุศลต่างๆ  ระดมกำลังและกำลังเร่งนำรถยนต์บรรทุกสูง เรือท้องแบน ไปช่วยลำเลียงผู้ที่ติดอยู่ภายในโรงพยาบาลออกมาอย่างเร่งด่วนแล้ว   นอกจากนี้ โรงพยาบาลเซนต์แมรี่นครราชสีมาและโรงเรียนอัสสัมชัญนครราชสีมา ซึ่งตั้งอยู่ใกล้กับลำตะคอง ก็ถูกน้ำท่วมสูงเช่นกัน
 

ต่อมากำแพงกั้นน้ำของ กำแพงของ รพ.เซนต์แมรี่ไม่สามารถกั้นแรงของน้ำได้ไหว พังทลายลงมา ทำให้ปริมาณน้ำไหลทะลักเข้าท่วมภายใน รพ. ดังกล่าว รถยนต์กว่า 60 คัน ถูกน้ำท่วมจนมิดหลังคา และผู้ป่วยหลายร้อยคน ต้องคิดค้างอยู่ภายใน นอกจากนี้ น้ำส่วนหนึ่งยังไหลเข้าท่วมพื้นผิวจราจร ถ.มิตรภาพ ทะลักเข้าสู่สถานีขนส่งแห่งที่ 2 นครราชสีมา หรือ บขส.ใหม่ และ ตลาดสุรนคร เมืองใหม่ ส่
 

สำหรับความเดือดร้อนของชาวบ้าน ที่มีบ้านักอยู่ภายในชุมชนด้านหลัง รพ.เซนต์แมรรี่ ที่มีจำนวนหลายพันหลัง มีจำนวนมากร้องขอความช่วยเหลือที่ต้องติดอยู่ภายในบ้าน ออกมาไม่ทัน และที่ต้องการเข้าบ้าน ก็ต้องรอการช่วยเหลืออย่างเร่งด่วน ซึ่งรถยีเอ็มซี ของทหาร ค่ายสุรนารี ไม่สามารถเข้าไปได้เนื่องจากระดับน้ำสูงจนเกือบมิดหลังคา การสัญจรต้องใช้เรือเพียงอย่างเดียว   
 

น้ำป่าเขาใหญ่ล้นต้นน้ำแม่น้ำปราจีนบุรีท่วมชุมชนตลาดเก่ากบินทร์บุรี


ขณะที่ จ. ปราจีนบุรี  เมื่อเวลา 20.00 น.  ที่ชุมชนตลาดเก่าเทศบาลตำบลกบินทร์ อ.กบินทร์บุรี จ.ปราจีนบุรี  ซึ่งเป็นต้นน้ำแม่น้ำปราจีนบุรีจุดบรรจบระหว่างแควหนุมานกับแควพระปรงน้ำจากแม่น้ำปราจีนบุรีได้ล้นตลิ่งกระทันหันเข้าท่วมบ้านเรือราษฎรรวมกว่า 200 ครอบครัวเป็นทางยาวกว่า 2 กม. ชาวบ้านต่างขนข้าวของไว้บนชั้น2ของตัวบ้านและขึ้นพักอาศัยจ้าละหวั่น  ระดับน้ำท่วมสูงกว่า  1.50 เมตร
 

นางศิรินัท์  มณีโชติ  หัวหน้าสำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณะภัย จ.ปราจีนบุรี  นายมนตรี  เกิดจิ๋ว ปลัดเทศบาลตำบลกบินทร์ นายสมชาย  สมบูรณ์คุณ รองนายกเทษมนตรีเทศบาลตำบลกบินทร์ อ.กบินทร์บุรี จ.ปราจีนบุรี  ได้ลงสำรวจปัญหาความเดือดร้อนของราษฎร
 

นายสมชาย  สมบูรณ์คุณ รองนายกเทษมนตรีเทศบาลตำบลกบินทร์ อ.กบินทร์บุรี   กล่าวว่า  น้ำเริ่มสูงต่อเนื่องตั้งแต่ 03.00 น. ที่ผ่านมา และเพิ่มระดับในช่วงค่ำนี้เป็นน้ำป่าจากอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ที่หลากระบายมาจากด้าน อ.นาดี จ.ปราจีนบุรี  เบื้องต้นเจ้าหน้าป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยเทศบาลตำบลกบินทร์ ได้ช่วยราษฎรขนย้านข้าวของขึ้นชั้นบน  และในเวลา 14.00 น. วันที่ 18 ต.ค. จะแจกข้าวสารอาหารแห้งและน้ำดื่มสะอาดแก่ชาวชุมชนและขณะนี้ได้ตั้งเต้นท์เพื่อเก็บรถจักรยานยนต์ รถยนต์ให้กับชาวบ้านด้วย

 
นางศิรินัท์  มณีโชติ  หัวหน้าสำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณะภัย จ.ปราจีนบุรี กล่าวว่า  น้ำท่วมหลายพื้นที่ เบื้องต้นวันนี้ได้นำข้าวสารอาหารแห้งแจกราษฎร ต.บุพรามหมณ์ อ.นาดี จ.ปราจีนบุรี รวมกว่า 400 ชุด  โดยระดับบางส่วนในหมู่ 10 ต.บุพราหมณ์ อ.นาดี จ.ปราจีนบุรียังท่วมทางเข้า-ออกหมู่บ้านได้จัดเรือท้องแบในการบริการรับ-ส่งเข้าออกหมู่บ้าน และระดับน้ำลดระดับเข้าท่วมพื้นที่  ต.ลาดตะเคียน  ต.เมืองเก่า ต.นาแขม และเทศบาลตำบลกบินทร์ อ.กบินทร์บุรี จ.ปราจีนบุรี
 

ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมที่หมู่บ้านปากแพรก หมู่ 3 ต.กบินทร์  อ.กบินทร์บุรี จ.ปราจีนบุรีน้ำหลากท่วมทั้งหมู่บ้าน ชาวบ้านกว่า 150 ครัวเรือต่างเตรียมเรือและอพยพ-ตั้งเต้นท์นำรถจยย.รถยนต์  ไว้ริมถนน

http://www.matichon.co.th/news_detail.php?newsid=1287359538&grpid=00&catid=


หัวข้อ: Re: [2513] "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: เหยง 16 ที่ 18 ตุลาคม 2553, 09:24:41
วันที่ 18 ตุลาคม พ.ศ. 2553 เวลา 06:32:33 น.  มติชนออนไลน์
ฝนถล่มศรีสะเกษ"ปราสาทตำหนักไทร"อายุ1,043ปี พังครืนพินาศ


ภายหลังเกิดฝนตกลงมาอย่างต่อเนื่องในพื้นที่ อ.ขุนหาญ  จ.ศรีสะเกษ   เป็นเหตุให้ เมื่อเวลา  17.30  น.วันที่  17  ต.ค. ที่ผ่านมา ตัวปราสาทตำหนักไทร  ซึ่งตั้งอยู่ภายในบริเวณวัดตำหนักไทร ต.บักดอง  อ.ขุนหาญ จ.ศรีสะเกษ  พังเสียหายลงมา  เนื่องจากอุ้มน้ำไว้มากประกอบกับความทรุดโทรมของตัวปราสาท  ซึ่งเป็นเทวาลัยในศาสนาพราหมณ์อายุราวพุทธศตวรรษที่ 16  มีอายุกว่า 1043  ปี 
 

จากการตรวจสอบบริเวณโดยรอบตัวปราสาทยังพบว่า  มีรอยร้าวที่บริเวณรอบ  ๆ  ตัวปราสาทอีกหลายจุด  ชาวบ้านที่พบเห็นเกรงว่า  หากยังมีฝนตกลงมาอย่างต่อเนื่อง  อาจจะทำให้ตัวปราสาทพังทลายลงมาอีกก็ได้
 

ด้านพระเสียน  ติสสโร รองเจ้าอาวาสวัดตำหนักไทร กล่าวว่า   ในช่วงนี้มีฝนตกลงมาอย่างต่อเนื่องตลอดวันตลอดคืน  ซึ่งในเบื้องต้นตนได้แจ้งไปที่ผู้ใหญ่บ้านและ  อบต.บักดอง  แล้ว  เพื่อให้ช่วยเร่งประสานงานกับเจ้าหน้าที่ให้ด้วย  ซึ่งตนอยากขอวิงวอนให้เจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องได้เร่งเข้ามาให้การช่วยเหลือบูรณะตัวปราสาทด้วย

http://www.matichon.co.th/news_detail.php?newsid=1287358370&grpid=&catid=19


หัวข้อ: Re: [2513] "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: เหยง 16 ที่ 18 ตุลาคม 2553, 09:30:59
บางข่าวอาจซ้ำกันบ้าง

วันที่ 18 ตุลาคม พ.ศ. 2553 ปีที่ 20 ฉบับที่ 7263 ข่าวสดรายวัน
ลพบุรีจมเมือง ผวาอ่างแตก

เขาใหญ่น้ำทะลัก 'โคราช'วิกฤต!


อุทกภัย- องค์พระนอนสมเด็จพระอาจารย์โต วัดสะตือ อ.ท่าเรือ จ.พระนครศรี อยุธยาเจอน้ำจากแม่น้ำ ป่าสักทะลักขึ้นมาท่วมแล้ว สร้างความสะเทือน ใจให้ประชาชน ขณะที่อีกหลายจว.ก็ท่วมหนักเช่นกัน

 
โคราชยังวิกฤต น้ำจากเขาใหญ่ทะลัก เจอน้ำลำตะคองเอ่อล้นตลิ่งซ้ำท่วมหนัก เสียหายยับทั้งตัวเมืองและอำเภอรอบๆ ระดับน้ำสูงสุดในรอบ 20 ปี หลายชุมชนถูกตัดขาด ร.พ.มหาราชป่วน น้ำลำตะคองล้นเข้าร.พ.ท่วมถึงตัวอาคารไฟดับทั้งร.พ. รถไฟน้ำท่วมรางต้องงดวิ่ง ถนนมิตร ภาพก็น้ำสูงหลายจุด ส่วนจว.รอบเขาใหญ่ทั้งปรา จีนบุรี สระแก้ว นครนายก ปิดแหล่งท่องเที่ยว ห้ามเล่นน้ำตก ลพบุรีอ่วมไม่แพ้กัน น้ำท่วม 10 อำเภอเสียหายหนัก ชาวบ้านผวาอ่างเก็บน้ำแตก ต้องเฝ้าระวังกันไม่ได้หลับได้นอน ชาวบ้านออกนอกบ้านไม่ได้ อดอาหาร น้ำซัดรถฟอร์จูนเนอร์จมหายไม่ทราบชะตากรรม

โคราชวิกฤต-จมบาดาล

เมื่อวันที่ 17 ต.ค. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ตั้งแต่ช่วงดึกวันที่ 16 ต.ค. เกิดเหตุน้ำป่าจากอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ ไหลหลากเข้าท่วมพื้นที่หลายอำเภอของจังหวัด ทั้งนี้สืบเนื่องจากเกิดฝนตก หนักเป็นเวลานานติดต่อกันก่อนหน้านั้น สร้างความเดือดร้อนแก่ประชาชนอย่างหนัก เนื่องจากน้ำที่ท่วมสูง หลายแห่งระดับน้ำสูงกว่า 1 เมตร

สำหรับพื้นที่ที่ประสบอุทกภัยอย่างหนัก ประกอบด้วย อ.เมืองนครราชสีมา อ.ปากช่อง อ.ปักธงชัย อ.สีคิ้ว อ.สูงเนิน อ.ด่านขุนทด อ.พิมาย อ.หนองบุญมาก อ.โชคชัย และอ.เสิง สาง ระดับน้ำโดยเฉลี่ยสูงประมาณ 1 เมตร บางแห่งสูงถึง 1.50 เมตร

ตัวเมืองป่วนน้ำสูงสุดรอบ20ปี

จากการตระเวนตรวจสอบน้ำท่วมขังในเขตเทศบาลนครนครราชสีมา มีชุมชนที่ตั้งอยู่ริมคลอง ได้รับความเดือดร้อน 15 ชุมชน เช่น ชุม ชนมิตรภาพซอย 4 ตรงข้ามห้างโลตัส ประ มาณ 1 พันหลังคาเรือน ระดับน้ำสูงที่สุดในรอบ 20 ปี นายสุรวุฒิ เชิดชัย นายกเทศมนตรี ได้ตั้งเต็นท์กองอำนวยการเฉพาะกิจ ช่วยเหลือด้านอาหาร น้ำดื่ม และยารักษาโรค

นอกจากนี้ ทางกองทัพภาคที่ 2 ค่ายสุรนารี ได้ส่งรถบรรทุก เรือท้องแบน และเจ้าหน้าที่ลำเลียงประชาชน พร้อมสัมภาระยานพาหนะขนาดเล็กออกจากที่พักอาศัย อีกจุดคือสะพานข้ามลำตะคองข้างโรงเรียนอัสสัมชัญ ที่ตั้งของร.พ. เซนต์แมรี่ และหมู่บ้านวีไอพี ระดับน้ำสูงกว่า 1 เมตร เจ้าหน้าที่ต้องระดมกำลังอพยพสิ่งของอย่างเร่งด่วน และนำกระสอบทรายมาวางกั้น ป้องกันน้ำไหลเข้าสู่สถานที่ราชการ ส่วนช่วงสะพานเทศบาล 2523 ที่ตั้งร.พ. มหาราชนครราชสีมา โรงเรียนสุรนารีวิทยา ระดับน้ำสูงขึ้นเรื่อยๆ เกือบจะพ้นขอบตลิ่งแล้ว

แห่ทุบเกาะถนนระบายน้ำ

ที่ถ.เพชรมาตุคลา ช่วงหลักกิโลเมตรที่ 4-5 ต.มะเริง อ.เมือง นครราชสีมา หน้าสำนักงานวัฒนธรรมจังหวัด นายสมาน กรองมะเริง นายกอบต.มะเริง พร้อมกำลังเจ้าหน้าที่และชาวบ้าน ได้ช่วยกันนำรถแบ๊กโฮขุดทำลายเกาะกลางถนน เพื่อเปิดช่องทางระบายน้ำออกจากพื้นที่ เพราะประชาชนกว่า 300 หลังคาเรือน ได้รับความเดือดร้อนจากน้ำท่วมขังนาน 3 วันแล้ว และเตรียมจะขุดทำลายเกาะกลางถนนจุดต่อไป

ที่นิคมอุตสาหกรรมนวนคร อ.สูงเนิน พนักงานโรงงานนับร้อยชีวิต ต้องตัดสินใจลุยน้ำที่ไหลบ่าเข้าท่วมโรงงานและถนนปากทางเข้าออกสูงกว่า 1 เมตร ออกมา หลังต้องติดอยู่ภายในโรงงานนานกว่า 10 ชั่วโมง เพราะถนนถูกตัด ขาด ขณะที่เรือท้องแบนและอุปกรณ์ให้ความช่วยเหลือต่างๆ ถูกระดมไปช่วยเหลือประชาชนหลายพื้นที่ สำหรับน้ำที่ไหลบ่าลงมาท่วม เป็นน้ำจากอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ และอุทยานแห่งชาติทับลาน

น้ำท่วมราง-รฟ.หยุดวิ่ง

เวลา 09.00 น. นายระพี ผ่องบุพกิจ ผวจ. นครราชสีมา เรียกนายอำเภอ และผู้บริหารหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เข้าประชุมหารือ ที่ห้องประชุมศาลากลางจังหวัด ใช้เวลากว่า 4 ชั่วโมง โดยผวจ.นครราชสีมาประกาศจัดตั้งศูนย์อำนวยการเฉพาะกิจป้องกันและแก้ไขปัญหาอุทกภัย ที่ศาลากลางจังหวัด หมายเลขโทรศัพท์ 0-4434-2652-4 และ 0-4434-2570-7

นายระพี กล่าวว่า จ.นครราชสีมา มี 13 อำเภอ 112 ตำบล 1,015 หมู่บ้าน ที่ประสบปัญหาอุทกภัย ที่ค่อนข้างหนัก คือ อ.ปักธงชัย ได้รับความเดือดร้อนมากที่สุด จำนวน 156 หมู่บ้าน 16 ตำบล ระดับน้ำท่วมขังสูงกว่า 1.50 เมตร, อ.เมือง 11 ตำบล 62 หมู่บ้าน, อ.ปากช่อง 11 ตำบล 46 หมู่บ้าน, อ.สีคิ้ว 7 ตำบล 49 หมู่บ้าน และอ.สูงเนิน มีน้ำท่วมขังผิวจราจรถนนมิตรภาพ 4 จุด

นอกจากนั้น มีรายงานว่าน้ำได้ไหลเข้าท่วมเส้นทางรถไฟสาย กทม.-ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ บริเวณสถานีรถไฟกุดจิก อ.สูงเนิน ถึงสถานีรถไฟโคกกรวด การรถไฟแห่งประเทศไทย จึงได้ประกาศหยุดการเดินขบวนรถไฟระหว่างสถานีรถไฟสีคิ้ว-สถานีรถไฟนครราช สีมา ตั้งแต่เวลา 24.00 น. วันที่ 16 ต.ค. โดยจัดรถโดยสาร 33 คัน รับผู้โดยสารจากสถานีทั้งสองสถานี เพื่อเดินทางต่อไป แต่การเดินทางก็ต้องลำบาก เพราะถนนมิตรภาพถูกกระแสน้ำไหลบ่าเข้าท่วม ตั้งแต่อ.เมืองไปจนถึงอ.ปาก ช่อง เจ้าหน้าที่ตำรวจได้แนะให้ผู้ที่จะเดินทางเข้ากทม. ไปใช้เส้นถนนสาย 304 นครราชสีมา-กบินทร์บุรี เดินทางแทน
ถนนคลอง - ชาวบ้านใช้เจ็ตสกีแล่นบนถนนในเขต อ.ปากช่อง จ.นครราชสีมา เพราะน้ำท่วมหนักจนไม่สามารถใช้รถยนต์ได้ ส่วนรถไฟต้องงดให้บริการเช่นกัน โดยมีจังหวัดที่ได้รับผลกระทบจากน้ำท่วมฉับพลันกว่า 10 จังหวัด

เผยเขื่อนต้องปล่อยน้ำอีก

นายไพศาล พันผึ้ง ผอ.โครงการชลประทาน จ.นครราชสีมา เปิดเผยว่า จากการที่มีฝนตกอย่างต่อเนื่อง ในพื้นที่ต้นน้ำผืนป่ามรดกโลกทับลาน-เขาใหญ่ ทำให้มีน้ำไหลเข้าอ่างเก็บน้ำลำพระเพลิง อ.ปักธงชัย จนเต็มความจุ 110 ล้านลูกบาศก์เมตร ปริมาณน้ำ 157.58 ล้านลูกบาศก์เมตร สูงกว่าสปิลเวย์ 4.50 เมตร ต้องระบายออกจากส่วนเกินออก ส่งผลให้ลำน้ำธรรมชาติที่อยู่ใต้เขื่อนในเขต อ.ปักธงชัย และ อ.โชคชัย สูงขึ้นเรื่อยๆ ถือว่าวิกฤตที่สุดในรอบ 40 ปี

นายไพศาล กล่าวว่า สำหรับอ่างเก็บน้ำลำตะคอง ขณะนี้มีปริมาณน้ำ 97.6% หรือ 307 ล้านลูกบาศ์กเมตร จากความจุเต็มที่ 314 ล้านลูกบาศก์เมตร ขอชี้แจงว่า สำนักชลประทานที่ 8 ได้ปิดประตูระบายน้ำมาตั้งแต่วันที่ 29 ก.ย. ที่เห็นน้ำไหลเข้าท่วมพื้นที่ อ.สีคิ้ว อ.สูงเนิน อ.ขามทะเลสอ เป็นน้ำฝนที่ตกสะสมอยู่ใต้เขื่อน สถานการณ์น้ำท่วมบ้านเรือนราษฎรและพื้นที่การเกษตรที่อยู่ใต้เขื่อน จะยังคงท่วมขังต่อไปอีกอย่างน้อย 1 สัปดาห์ ขอแจ้งเตือนให้ชาวบ้านที่อยู่ใต้เขื่อนอพยพขึ้นไปอยู่บนที่สูง จน กว่าระดับน้ำในเขื่อนลำพระเพลิงจะลดลง

เดือดร้อนกว่าแสนคน

ผู้สื่อข่าวรายงานสถานการณ์ในช่วงเย็นวันเดียวกัน ว่า ยังคงทวีความรุนแรงเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะอ.ปักธงชัย น้ำลำสำรายที่ล้นออกมาจากอ่างเก็บน้ำลำพระเพลิง ไหลลงมา ทำให้คลองลำสำรายเอ่อล้นตลิ่งเข้าท่วมถนนและบ้านเรือนของประชาชนสูงกว่า 1 เมตร ประชาชนในเขตเทศบาลเมืองปักกว่า 100 หลัง คาเรือน ต้องถูกตัดขาดจากโลกภายนอก หน่วยงานต่างๆ ไม่สามารถช่วยเหลือได้ เพราะอุป กรณ์ไม่เพียงพอ

ขณะเดียวกัน นายระวี ผ่องบุพกิจ ผวจ.นคร ราชสีมา เรียกประชุมหน่วยงานต่างๆ อีกครั้ง พร้อมแถลงสรุปความเสียหาย โดยระบุว่ามีพื้นที่ได้รับผลกระทบทั้งสิ้น 15 อำเภอ ประชา กรได้รับความเดือดร้อนกว่า 1 แสนคน และกำชับให้ทุกหน่วยงานรักษาเขตเศรษฐกิจในพื้นที่ของตนเอง ไม่ให้ถูกน้ำท่วม รวมทั้งเร่งระบายน้ำออกจากถนน โดยเฉพาะถนนมิตร ภาพ เพื่อให้กลับมาใช้การได้

ร.พ.มหาราชป่วน-น้ำท่วมไฟดับ

เวลาประมาณ 19.00 น. ระดับน้ำในลำน้ำลำตะคอง ซึ่งไหลผ่านตัวเมืองนครราชสีมา เพิ่มระดับสูงขึ้นอย่างรวดเร็ว จนเอ่อล้นตลิ่งเข้าท่วมบ้านเรือนประชาชนที่อยู่ติดกับลำน้ำตลอดทั้งสาย โดยเฉพาะชุมชนมิตรภาพซอย 4, บ้านตะคองเก่า, ตลาดประปา, ถนนช้างเผือก, โรงเรียนเมืองฯ, วิทยาลัยอาชีวศึกษา, โรงเรียนอนุบาลนครราชสีมา, โรงเรียนสุรนารีวิทยา ระดับน้ำสูงกว่า 80 ซ.ม.

และที่สำคัญน้ำลำตะคอง ที่ไหลผ่านด้านหลังร.พ.มหาราชนครราชสีมา ทะลักเข้าท่วม ร.พ. ระดับน้ำสูงกว่า 60 ซ.ม. จนปริ่มจะถึงห้องฉุกเฉิน ทางคณะแพทย์พยาบาลต้องเร่งขนย้ายอุปกรณ์เครื่องมือแพทย์ และอพยพผู้ป่วยขึ้นไปอยู่บนอาคารสูงกันอย่างอลหม่าน และต้องเผชิญสถานการณ์ฉุกเฉิน เนื่องจากไฟฟ้าดับ ต้องใช้ไฟสำรองของร.พ.เพื่อประคองสถาน การณ์ ขณะที่ปริมาณน้ำยังคงเพิ่มสูง ทำให้ยังคงมีญาติผู้ป่วย แพทย์พยาบาลติดอยู่ที่ร.พ. หน่วยทหารจากกองทัพภาคที่ 2 เจ้าหน้าที่ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยเทศบาลนครนครราชสีมา รวมถึงมูลนิธิการกุศลต่างๆ ได้ระดมกำลังและเร่งนำรถยนต์บรรทุกสูง เรือท้องแบน ไปช่วยลำเลียงผู้ที่ติดอยู่ที่ร.พ.ออกมาอย่างเร่งด่วน

บ้านนาก็โดนอ่วม

ที่จ.นครนายก นายสุทธิพงษ์ จุลเจริญ ผวจ. ออกเดินทางมาเยี่ยมผู้ประสบภัยน้ำท่วม ที่ต. บ้านนา อ.บ้านนา นายสุทธิพงษ์ กล่าวว่า จากการประเมินสถานการณ์ พบว่ามีสาเหตุสำคัญที่ทำให้เกิดน้ำท่วม คือที่รับน้ำไม่เพียงพอ ปัญหาเรื่องการสร้างถนนและบ้านเรือนกีดขวางทางน้ำ และการบริหารจัดการน้ำไม่มีประสิทธิภาพ ในระยะสั้น คงต้องเร่งช่วยเหลือชาวบ้านก่อน ต่อไปในระยะยาว จะได้สั่งการให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องปรับปรุงระบบการบริหารจัดการน้ำให้เป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น โดยเฉพาะปัญหาการเปิดปิดประตูน้ำ ให้สัมพันธ์กับปริมาณน้ำที่ไหลลงมาในพื้นที่จังหวัด

นายสมัย ธรรมสัตย์ ผู้อำนวยการโครงการส่งน้ำและบำรุงรักษาเขื่อนขุนด่านปราการชล กล่าวว่า สถานการณ์น้ำในอ่างเก็บน้ำความจุเต็มที่คือ 224 ล้านลูกบาศก์เมตร หากยังมีฝนตกอยู่น้ำจะเต็มเขื่อนภายใน 5 วัน ก็จะต้องมีการระบายน้ำออกบ้าง

ลพบุรีมิด-ผวาอ่างแตก

ทางด้านจ.ลพบุรี ที่อ.เมือง น้ำจากอ่างเก็บ น้ำซับเหล็ก ในพื้นที่ต.นิคมสร้างตนเอง ที่ล้นสปิลเวย์ ตั้งแต่เมื่อวันที่ 16 ต.ค. ไม่มีทีท่าจะลดน้อยลงและกระแสน้ำยังคงไหลแรง เริ่มขยายวงกว้างเข้าสู่พื้นที่เศรษฐกิจ และชุมชนขนาดใหญ่ ในเขตเทศบาลตำบลท่าศาลา และเทศบาลเมืองเขาสามยอด ในช่วงกลางดึกที่ผ่านมา ส่งผลให้ประชาชนหลายร้อยครอบครัว ไม่ได้นอนกันตลอดทั้งคืน เนื่องจากมีกระแสข่าวลือว่า อ่างเก็บน้ำแตก ทุกบ้านจึงต้องคอยเฝ้าระวังติดตามตรวจสอบระดับน้ำตลอดทั้งคืนจนถึงเช้า อย่าง ไรก็ตามระดับน้ำยังคงเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ทำให้ร้านค้าต่างๆ รวมถึงห้างสรรพสินค้าหลายแห่ง ไม่สามารถเปิดปริการให้แก่ลูกค้าได้

นอกจากนี้ ในหลายพื้นที่ เช่น ต.ถนนใหญ่ ต.ท่าแค ต.กกโก โดยเฉพาะที่ต.โคกตูม ขณะนี้อ่างเก็บน้ำห้วยส้มน้ำท่วมเอ่อ ชาวบ้านอยู่ในอาการหวาดผวา กลัวว่าอ่างจะแตกน้ำจะทะลักเข้าท่วมอ.พัฒนานิคม ส่วนอ.โคกสำโรง ระดับน้ำสูงประมาณ 50 ซ.ม ถนนสายลพบุรี-โคกสำโรง รถเล็กไม่สามารถผ่านได้ ขณะที่อ.ลำสนธิ ระดับน้ำท่วมสูง 1 เมตร บางหมู่บ้านไม่สามารถออกมาจากบ้านได้ ทหารมทบ.13 ต้องนำเรือออกช่วยชาวบ้านและสัตว์เลี้ยงออกมาจากบ้าน และที่ต.เขาพระงาม อ.เมือง มีน้ำท่วมสูงประมาณ 1 เมตร ชาวบ้านประมาณ 1,500 คน ไม่สามารถออกมาหาอาหารรับประทานได้ พ.อ. นภดล ดีอ่วม รองผบ.ศูนย์การทหารปืนใหญ่ สั่งกำลังพลนำข้าวกล่องและน้ำดื่ม ใส่รถบรรทุกไปแจกจ่าย และช่วยเหลือขนของหนีน้ำ

พหลโยธินอัมพาต

นอกจากนี้ น้ำยังไหลท่วมถนนพหลโยธิน และถนนเฉลิมพระเกียรติ ระดับความสูงประ มาณ 50 ซ.ม. ยานพาหนะขนาดเล็ก ไม่สามารถผ่านไปมาได้ ถนนพหลโยธินน้ำท่วมตั้งแต่วงเวียนพระนารายณ์มหาราช ถึงต.นิคมสร้าง ตน เอง เป็นระยะทางยาวกว่า 5 ก.ม. ร้านขายของรวมทั้งร้านขายทองรูปพรรณ และธนาคารที่ตั้งอยู่ริมถนนพหลโยธิน หน้าห้างบิ๊กซีลพบุรี ต้องปิดตัวเอง และนำถุงปุ๋ยบรรจุทรายมาปิดกั้น ไม่ให้น้ำไหลเข้ามาในร้าน

ชาวบ้านบางคนกล่าวว่า เหตุการณ์น้ำท่วมครั้งนี้ เป็นปรากฏการณ์ในรอบ 40 ปีเลยทีเดียว นอกจากน้ำฝนที่ตกลงมาแล้ว ยังมีน้ำจากอ่างเก็บน้ำซับเหล็ก ซึ่งตั้งอยู่ในเขตต.โคกตูม อ.เมือง จ.ลพบุรี ที่ปล่อยมาอีกด้วย

ท่วม 10 อำเภอ-65 ตำบล

นายฉัตรชัย พรหมเลิศ ผวจ.ลพบุรี กล่าวว่า ขณะนี้มีพื้นที่ถูกน้ำท่วม 10 อำเภอ จาก 11 อำเภอ ประกอบด้วยอำเภอเมืองลพบุรี 5 ตำบล, อ.ชัยบาดาล 16 ตำบล, อ.ลำสนธิ 6 ตำบล, อ.สระโบสถ์ 5 ตำบล, อ.บ้านหมี่ 7 ตำบล, อ.โคกสำโรง 13 ตำบล, อ.พัฒนานิคม 6 ตำบล, อ.ท่าหลวง 1 ตำบล, อ.หนองม่วง 1 ตำบล และอ.โคกเจริญ 5 ตำบล รวม 65 ตำบล

นายฉัตรชัย กล่าวว่า ในด้านการช่วยเหลือ ได้ติดตั้งเครื่องสูบน้ำเพื่อระบายน้ำลงคลองชลประทาน 24 เครื่อง ขอสนับสนุนเรือท้องแบนพร้อมเครื่องยนต์จากหน่วยทหารในพื้นที่ มูลนิธิ และศูนย์ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยเขต 2 เรือท้องแบน 43 ลำ เรือไฟเบอร์ 126 ลำ ออกให้ความช่วยเหลือชาวบ้าน พร้อมแจกจ่ายถุงยังชีพให้ชาวบ้านที่ได้รับความเดือดร้อนแล้ว พร้อมให้นายอำเภอสำรวจความเสียหายในอำเภอ รวมทั้งพื้นที่การเกษตร โรงเรียนและวัด เพื่อให้ความช่วยเหลือต่อไป

น้ำซัด'ฟอร์จูนเนอร์'จมหาย

นายธีรศักดิ์ ทรัพย์ศิริ ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดลพบุรี กล่าวว่า เมื่อเวลาประ มาณ 19.00 น. วันที่ 16 ต.ค. ได้รับแจ้งจากชาวบ้านต.ซับสมบูรณ์ อ.ลำสนธิ จ.ลพบุรี ว่า มีรถ ยนต์ยี่ห้อโตโยต้ารุ่นฟอร์จูนเนอร์ สีดำ ไม่ทราบหมายเลขทะเบียน ตกลงไปในคลองน้ำข้างทาง และจมหายไป หลังรับแจ้งจึงสั่งให้เจ้าหน้าที่ช่วยกันออกค้นหา แต่จนถึงขณะนี้ก็ยังไม่พบวี่แววแต่อย่างใด ซึ่งก็ให้เจ้าหน้าที่ค้นหาต่อไป

อยุธยา-สระบุรีเสียหายหนัก

ที่ จ.พระนครศรีอยุธยา นางวิมล ไชยวัฒน์ หน.สำนักงานป้องกันและบรรเทา เปิดเผยว่า เขื่อนป่าสักชลสิทธิ์ ได้ปล่อยน้ำด้วยความเร็ว 800 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที ทำให้กระแสน้ำไหลมาอย่างรวดเร็ว ทะลักเข้าท่วมตลาดท่าเรือ อ.ท่าเรือ ท่วมองค์พระนอนสมเด็จโตที่วัดสะตือ ท่วมหมู่บ้านอรัญญิกแหล่งทำมีดชื่อดัง บ้านเรือนที่อยู่ริมฝั่งแม่น้ำป่าสักทั้งสองด้าน ตั้งแต่ อ.ท่า เรือ อ.นครหลวง น้ำในแม่น้ำป่าสักจะไหลมาสมทบกับแม่น้ำเจ้าพระยาและแม่น้ำลพบุรี ที่ อ.พระนครศรีอยุธยา ดังนั้น บ้านเรือน วัดวาอารามต่างๆ ที่อยู่ริมฝังแม่น้ำเจ้าพระยาจะถูกน้ำท่วมแน่นอน และยังทราบว่าเขื่อนเจ้าพระยาได้ปล่อยน้ำด้วยความเร็ว 2,200 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที ทำให้ช่วงนี้ปริมาณน้ำสูงขึ้นจากเดิม 1 เมตร ไร่นาพืชผลทางการเกษตรเสียหายไปแล้ว กว่า 100,000 ไร่

ที่จ.สระบุรี นายชโลธร ผาโตคร รองผวจ. กล่าวว่า ระหว่างวันที่ 13-16 ต.ค. มีประชาชนได้รับผลกระทบจากน้ำในเขื่อนป่าสักชลสิทธิ์เอ่อล้น และน้ำป่าไหลหลากในหลายอําเภอ คือ อ.วังม่วง ประชาชนเดือดร้อน 31 หมู่บ้าน ทางจังหวัดต้องเจาะถนนหลายสายเพื่อระบายน้ำ และซ่อมคอสะพานที่ชำรุด แจกจ่ายถุงยังชีพให้กับผู้ประสบภัย และอพยพประชาชนออกจากบ้านพัก 73 ครัวเรือน อ.บ้านหมอ, อ.พระพุทธ บาท มีน้ำเอ่อล้นเข้าท่วมบ้านเรือนราษฎร 171 ครัวเรือน และถนนสายพระพุทธบาท-หนองโดน รถเล็กผ่านไม่ได้ ถนนสายหลักได้รับผลกระทบ

นายชโลธร กล่าวต่อว่า ที่อ.แก่งคอย เกิดน้ำป่าไหลหลากเข้าท่วมบ้านเรือนประชาชนและพื้นที่การเกษตรหลายตำบล หมู่บ้านที่อยู่ติดกับแม่น้ำป่าสักได้รับผลกระทบหนักต้องอพยพประชาชนออกมายังที่ปลอดภัย ขณะที่ อ.เสาไห้ หมู่บ้านที่อยู่ติดแม่น้ำป่าสัก ต้องอพยพประชาชนออกโดยด่วน ส่วน อ.เฉลิมพระเกียรติ เกิดน้ำท่วมขังหลายหมู่บ้าน เพราะฝนตกหนักระบายน้ำไม่ทัน

ปราจีนปิดแหล่งเที่ยวเขาใหญ่

ที่จ.ปราจีนบุรี ขณะที่ฝนยังคงตกในพื้นที่อุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ ทำให้ระดับน้ำใน อ.นาดี และ อ.กบินทร์บุรี สูงขึ้นอย่างรวดเร็ว ไหลลงสู่คลองลำพญาธารไปบรรจบกับแควโสมงและแควพระสทึง ส่งผลให้ในเขตพื้นที่ อ.กบินทร์บุรี ถูกน้ำท่วม ต.กบินทร์ ต.เมืองเก่า ต.นาแขม เขตเทศบาลตำบลกบินทร์ ถนนทางเข้าหมู่บ้านถูกน้ำท่วม รถเล็กไม่สามารถสัญจรได้ ชาวบ้านต้องขนย้ายสิ่งของและของมีค่ามาไว้ในที่สูง ขณะที่เด็กๆ ภายในชุมชนออกมาเล่นน้ำกันอย่างสนุกสนาน

นายมาโนช การพนักงาน หัวหน้าอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ กล่าวว่า ได้สั่งปิดแหล่งท่องเที่ยวรอบเขตอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ในเขตพื้นที่ จ.ปราจีนบุรี และนครนายก เพราะว่าที่หน่วยพิทักษ์อุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ ขญ.9 ถูกน้ำ ท่วมที่ทำการ รวมทั้งถนนที่เชื่อมต่อระหว่าง อ.กบินทร์บุรี เข้าไปยังถนนทางเข้าล่องแก่งหินเพิง ถูกน้ำท่วมประมาณ 50 ซ.ม.

ส่วนที่แก่งหินเพิง ผู้สื่อข่าวรายงานว่า น้ำในแก่งหินเพิงมีปริมาณสูงเกือบล้นตลิ่ง กระแสน้ำเริ่มเชี่ยวมีสีแดงเข้ม จนผู้ประกอบการหลายแห่งต้องยกเลิกลูกค้าในการเข้าที่พักและล่องแก่ง และขนย้ายที่นอนพร้อมอุปกรณ์ในบ้านพักรีสอร์ตไปไว้ในที่สูง ป้องกันน้ำป่าจากเขาใหญ่ไหลหลากท่วม

ล่าสุดเวลา 20.00 น. ที่ชุมชนตลาดเก่าเทศบาลตำบลกบินทร์ ต้นน้ำแม่น้ำปราจีนบุรี น้ำจากแม่น้ำปราจีนบุรีได้ล้นตลิ่งกะทันหัน เข้าท่วมบ้านเรือนราษฎร 200 ครอบครัว ชาวบ้านต่างขนข้าวของกันจ้าละหวั่น ระดับน้ำท่วมสูงประมาณ 1 เมตร

ปางสีดาสั่งห้ามเล่นน้ำตก

ทางด้าน จ.สระแก้ว จากการที่มีฝนตกหนักติดต่อกันทำให้น้ำป่าไหลหลาก จาก อ.วัฒนา นคร อ.โคกสูง เข้าท่วม ต.บ้านด่าน ต.บ้านใหม่หนองไทร อ.อรัญประเทศ ที่ตลาดโรงเกลือ ต.คลองลึก ระดับน้ำสูง 1 เมตร การค้าในตลาดโรงเกลือต้องหยุดชะงัก เพราะผู้ค้าไม่สามารถเก็บข้าวของได้ทัน ถนนบางสายรถเล็กไม่สามารถวิ่งผ่านได้ ชาวบ้านกว่า 1,000 หลังคาเรือนได้รับความเดือดร้อน พ่อค้าตลาดสดอรัญประเทศ ต้องอพยพนำสินค้าไปวางขายบนไหล่ถนน ถือว่าสถานการณ์หนักที่สุดในรอบ 13 ปี

นายชาตรี ผดุงพงษ์ หัวหน้าอุทยานแห่งชาติปางสีดา จ.สระแก้ว ได้ออกประกาศแจ้งเตือนนักท่องเที่ยว ห้ามลงเล่นน้ำบริเวณลำธารน้ำตกปางสีดาเด็ดขาด เนื่องจากพื้นที่อุทยานมีฝนตกหนักต่อเนื่องตั้งแต่วันที่ 13 ต.ค. ส่งผลทำให้ปริมาณน้ำบริเวณลำธารน้ำตกปางสีดามีปริมาณมากและกระแสน้ำไหลแรง ลักษณะสีน้ำขุ่น ไม่เหมาะแก่การลงเล่นน้ำ และมีโอกาสที่จะเกิดน้ำป่าไหลหลากได้ทุกเมื่อ เพื่อความปลอดภัยแก่นักท่องเที่ยว อุทยานขอปิดการให้บริการบริเวณ โซนน้ำตกปางสีดาชั่วคราว จนกว่าสถานการณ์จะเข้าสู่ปกติ

ศรีสะเกษปราสาทพัง

ที่จ.ศรีสะเกษ จากที่มีฝนตกลงมาอย่างต่อเนื่องในพื้นที่ อ.ขุนหาญ เป็นเหตุให้ ตัวปราสาทตำหนักไทร ในบริเวณวัดตำหนักไทร ต.บักดอง พังเสียหายลงมา เนื่องจากอุ้มน้ำไว้มากประกอบกับความทรุดโทรมของตัวปราสาท ซึ่งสร้างในพุทธศตวรรษที่ 16 อายุ 1,043 ปี พระเสียน ติสสโร รองเจ้าอาวาส กล่าวว่า เบื้องต้นได้แจ้งไปที่ผู้ใหญ่บ้านและอบต.บักดองแล้วให้มาช่วยบูรณะตัวปราสาท ก่อนจะถล่มทั้งหมด

'มาร์ค'แค่ให้ติดตามพยากรณ์

นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี กล่าวในรายการเชื่อมั่นประเทศไทยกับนายกฯ อภิสิทธิ์ ว่า สำหรับปัญหาน้ำท่วม อุทกภัย อยากให้ประชาชนติดตามพยากรณ์อากาศ เพราะยังมีปัญหาเรื่องฝนตกหนัก มีปัญหาน้ำท่วม น้ำหลาก เพื่อติดตามระบบการเตือนอันตรายในพื้นที่ต่างๆ ซึ่ง 2 วันที่ผ่านมา จ.นครราชสีมา ที่กำลังมีปัญหา ก็มีการระดมกำลังเพื่อดูแลผู้ประสบภัย และดูเส้นทางการจราจร ซึ่งถนนบางสายอาจไม่สามารถใช้ได้ ก็ขอให้ติดตามเพื่อให้ทราบว่าต้องหลีกเลี่ยงเส้นทางใด โดยจะมีการเร่งรัดตรวจสอบถนนที่ได้รับความเสียหายด้วย

หน้า 1

http://www.khaosod.co.th/view_news.php?newsid=TUROd01ERXdOREU0TVRBMU13PT0=&sectionid=TURNd01RPT0=&day=TWpBeE1DMHhNQzB4T0E9PQ==


หัวข้อ: Re: [2513] "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: เหยง 16 ที่ 18 ตุลาคม 2553, 09:35:53
ตามด้วยข่าวนี้ครับ เผื่อจะติดตามน้ำมาถึงเมืองไทบด้วย

ฟิลิปปินส์ เร่งอพยพหนีพายุ"ซูเปอร์ไต้ฝุ่น"
วันจันทร์ ที่ 18 ตุลาคม 2553 เวลา 8:51 น

"ซูเปอร์ไต้ฝุ่น"จ่อถล่มฟิลิปปินส์ -เกาะไหหลำของจีนอพยพปชช.นับแสนหนีพายุ

วันนี้ 18 ต.ค. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำนักงานอุตุนิยมวิทยาฟิลิปปินส์รายงานว่า ไต้ฝุ่น เมกี ได้ทวีความรุนแรงกลายเป็นซูเปอร์ไต้ฝุ่นแล้ว คาดว่าจะพัดกระหน่ำภาคเหนือสุดของฟิลิปปินส์ภายในวันที่ 18 ต.ค. หลังจากนั้นจะมุ่งหน้าไปทางทิศตะวันตกไปยังทะเลจีนใต้โดยคาดว่าจะพัดถล่มจีนเช่นกันซึ่งจะเป็นไต้ฝุ่นที่รุนแรงที่สุดที่พัดถล่มจีนในปีนี้ส่งผลให้จีนออกประกาศเตือนเรือประมงของตนให้งดออกจากฝั่ง พร้อมเรียกร้องเจ้าหน้าที่ในท้องถิ่นให้เตรียมพร้อมรับมือกับสถานการณ์ฉุกเฉินที่อาจเกิดจากลมและฝนที่รุนแรง

 ขณะเดียวกันมีรายงานว่า มีการอพยพผู้คนกว่า 100,000 คน ใน 200 หมู่บ้านหลังเกิดฝนตกหนักบนเกาะไหหลำของจีน ทำให้เกิดน้ำท่วมใหญ่เป็นครั้งที่สองในเดือนนี้ โดยฝนที่ตกลงหนักตั้งแต่วันศุกร์จนถึงเมื่อวานนี้วัดปริมาณได้ถึง 200 มิลลิเมตร หรือประมาณ 8 นิ้ว.


http://www.dailynews.co.th/newstartpage/index.cfm?page=content&categoryID=5&contentID=98672


หัวข้อ: Re: [2513] "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: เหยง 16 ที่ 18 ตุลาคม 2553, 09:44:56
สรุปในเบื้องต้นว่า
ปีนี้ประเทศไทยในตอนต้นปี ประสบภาวะภัยแล้ง ฝนทิ้งช่วงเป็นระยะเวลายาวนานกว่าปกติ (ประมาณ 6-8 สัปดาห์) ฝนเริ่มตกลงมาอย่างหนาแน่นในกลางเดือนกรกฎาคม 2553 และตกอย่างหนักและต่อเนื่องนับแต่นั้นมา จนเกิดภาวะน้ำท่วม ดินถล่ม สร้างความเสียหายอย่างหนัก ก่อนที่จะมีฝนนั้นหลายๆเขื่อน เช่น เขื่อนป่าสัก น้ำแทบไม่พอใช้ แต่เมื่อมีฝนตกลงมา ปริมาณน้ำเพิ่มขึ้นจนเกิดภาวะน้ำล้นเขื่อน จนต้องระบายน้ำทิ้งทางท้ายเขื่อน ส่งผลเสียหายให้บ้านเรือน ไร่นา สาธารณูปโภคต่างๆ ทั้ง ถนน สะพาน ระบบไฟฟ้า ฯ รวมทั้งผู้คนเสียชีวิต สัตว์เลี้ยง อีกทั้งโรคที่จะติดตามจากน้ำท่วมขัง และโรคที่เกิดจากจิตใจซึมเศร้า นานาประการ และในขณะนี้อีก 5 วันจะถึงวันออกพรรษา(วันเดียวกับวันปิยมหาราช) ฝนก็ยังตกลงมาอย่างต่อเนื่อง โดยไม่แน่ใจว่าจะเรียกว่า "ฝนสั่งว่า" ได้หรือไม่ ??, ทั้งนี้ยังไม่นับรวมว่าจะมีพายุไต้ฝุ่นอีก 1 ลูก"เมกี" ที่กำลังพัดถล่ม Phillippines ในขณะนี้ และอาจพัดเลยมาสู่ทะเลจีนใต้โดยมีปลายทางที่ จีน ฮ่องกง เวียตนาม และปลายของพายุอาจพัดมาถึงลาว และไทย ในที่สุด ซึ่งต้องติดตามใน 3-4 วันข้างหน้า


หัวข้อ: Re: [2513] "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: เหยง 16 ที่ 18 ตุลาคม 2553, 09:56:18
สดจากห้วงหาว .. มองทะลุนัยน์ตาน่าชิงชัง “ซูเปอร์ไต้ฝุ่นเมกี”
18 ตุลาคม 2553 02:42 น.

(http://img257.imageshack.us/img257/8835/megi1.jpg)
แผนที่ของหอสังเกตุการณ์ฮ่องกง (Hong Kong Observatory) จำลองขึ้นจากภาพถ่ายดาวเทียม MTSAT-2 เวลาประมาณ 16 น. วันอาทิตย์ (17 ต.ค.) ในฮ่องกง หรือ 18 น. ในกรุงเทพฯ แสดงให้เห็นซูเปอร์ไต้ฝุ่นเมกี (Megi) ทวีความเร็วเต็มเหยียดจนปรากฎให้เห็น "นัยน์ตาแห่งพายุ" เบื้องล่างลงไป "รูเข็ม" ที่มองเห็นในแผนที่นี้ คือศูนย์กลางของซูเปอร์ไต้ฝุ่นที่มีความกว้างหลายสิบกิโลเมตร บางคนเรียกมันว่า "นัยน์ตาที่น่าชิงชัง" เนื่องจากมันเป็นตัวแทนของความหายนะ  

       ASTVผู้จัดการออนไลน์-- ภาพจากดาวเทียมที่หอสังเกตการณ์ฮ่องกง (Hong Kong Observatory) กับ สำนักงานอุตุนิยมวิทยาแห่งญี่ปุ่น (Japan Meteorological Agency) เผยแพร่ในตอนค่ำวันอาทิตย์ (17 ต.ค.) นี้ ได้เผยให้เห็น "นัยน์ตาแห่งพายุ" เป็นครั้งแรก ในขณะที่ซูเปอร์ไต้ฝุ่นเมกี (Megi) เคลื่อนเข้าไกล้เกาะฟิลิปปินส์ทุกขณะ
       
       ภาพแผนที่ซึ่งจำลองจากภาพถ่ายของดาวเทียม MTSAT2 ได้ฉายให้เห็นรูเล็กๆ ตรงจุดศูนย์กลาง ขณะที่ซูเปอร์ไต้ฝุ่นกำลังหมุนคว้างปั่นความเร็วไม่หยุด “รูเข็ม” หรือ "นัยน์ตา" นี้จะมีขนาดใหญ่ขึ้นและค่อยๆ หายไปเมื่อไต้ฝุ่นลดระดับความเร็วลง
       
       "นัยน์ตาแห่งพายุ" หรือ Eye of the Storm จึงเป็นเครื่องบ่งชี้อำนาจการทำลายได้เป็นอย่างดี สิ่งนี้สามารถมองเห็นได้ทั้งจากดาวเทียมและจากพื้นดิน
       
       แต่เป็นที่น่าเสียดาย ผู้ที่มีโอกาสได้เห็นนัยน์ตาแห่งพายุจากเบื้องล่าง จากจุดที่เป็นใจกลางของมันจะไม่มีโอกาสรอดชีวิต ไปบอกเล่าเกี่ยวกับความน่าสะพรึงกลัวให้ผู้อื่นฟัง
       
       สิ่งที่มองเห็นเป็น “รูเข็ม” จากห้วงอวกาศนี้ อาจจะมีความกว้างเป็นกิโลเมตร และ สูงหลายกิโลเมตรจากพื้น ขึ้นอยู่กับความรุนแรงของพายุ และ รูปแบบการหมุน
       
       ภายในนั้นมีสภาพราวกับสุญญากาศ แต่จะไม่มีอะไรลอยอยู่ข้างในได้ ในขณะที่สรรพสิ่งที่อยู่รายรอบจะถูกดูดขึ้นไปหรือถูกฉีกเป็นชิ้นๆ ตามแรงกดกับแรงกระแทก
       
       ความเสียหายยังขึ้นอยู่กับความเร็วในการเคลื่อนตัวของพายุที่กำลังหมุนด้วยความเร็วสูงอีกด้วย
       
       นักวิทยาศาสตร์ในเวียดนามอธิบายเมื่อปีที่แล้วว่า พายุเกดสะหนา (Ketsana) ที่พัดเข้าฝั่งในวันที่ 29 ก.ย.2553 เป็นเพียงไต้ฝุ่นระดับ 2 เทียบไม่ได้กับเมกิ และ ยังอ่อนตัวลงเป็นระดับ 1 (C1) ขณะพัดผ่านจังหวัดในเขตที่ราบสูงภาคกลาง แต่เกดสะหนาสร้างความเสียหายรุนแรงเนื่องจากเคลื่อนที่ช้าเพียง 15 กม./ชม.
       
       นั่นก็คือ ยิ่งเคลื่อนที่ช้า เวลาในการทำลายล้างสรรพสิ่งที่อยู่เบื้องล่างก็ยาวนานยิ่งขึ้น สร้างความเสียหายได้มากขึ้น
       
       ตามรายงานของสำนักพยากรณ์อากาศแห่งฟิลิปปินส์บ่ายวันอาทิตย์นี้ ซูเปอร์ไต้ฝุ่นเมกี ยังคงอยู่ห่างจากเกาะลูซอนไปทางตะวันออกราว 450 กม. ความเร็วลม 230 กม./ชม. กับความเร็วใกล้สูญกลาง 195 กม./ชม. และ กำลังปั่นความเร็วขึ้นเรื่อยๆ ขณะเคลื่อนเข้าฝั่ง 24 กม./ชม.
       
       ช่วงสุดสัปดาห์นี้ทางการฟิลิปปินส์อพยพราษฎรออกจากพื้นที่เสี่ยงภัยแล้วหลายพันคน และ อาจจะต้องบังคับให้ราษฎรอีกจำนวนหนึ่งอพยพหากยังไม่สมัครใจ
(http://www.cmadong.com/imageupload/2010_Cmadong-Image/data/image/lagtf4-7b290e.jpg)
ก่อนหน้านั้นเล็กน้อย แผนที่เผยแพร่โดยสำนักอุตุนิยมวิทยาญี่ปุ่นหรือ JMA ซึ่งทำจำลองขึ้นจากภาพอินฟราเรดดาวเทียม MTSAT ถ่ายเมื่อเวลา 13.30 น.วันอาทิตย์ หรือ 16.30 น.ในกรุงเทพฯ แสดงให้เห็น "นัยน์ตาแห่งพายุ" อย่างชัดเจน ขณะที่ซูเปอร์ไต้ฝุ่นเร่งสปีดตัวเองขึ้นเรื่อยๆ เกาะลูซอนของฟิลิปปินส์เป้าหมายแรก คงจะห่างออกไปไม่เท่าไร

(http://www.cmadong.com/imageupload/2010_Cmadong-Image/data/image/lagtfp-de4d64.jpg)
ภาพสีที่เผยแพร่โดยสำนักอุตุนิยมวิทยาญี่ปุ่นหรือ JMA ซึ่งทำจำลองขึ้นจากภาพอินฟราเรดดาวเทียม MTSAT ในคราวเดียวกันกับภาพที่แล้ว แสดงให้เห็น "รูเข็ม" ศูนย์กลางของซูเปอร์ไต้ฝุ่นโดดเด่นอยู่ในทะเล ไม่ไกลจากฝั่งเกาะลูซอน ฟิลิปปินส์ ซึ่ง "เมกี" จะไปถึงในเช้าวันจันทร์ (18 ต.ค.) นี้. 

       ที่จะเคลื่อนย้ายจากพื้นที่อันตรายต่างๆ ทางตอนเหนือของประเทศ ซึ่งซูเปอร์ไต้ฝุ่นกำลังจะทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก ดินเลื่อน ดินถล่ม
       
       แต่ละปีฟิลิปปินส์เผชิญกับไต้ฝุ่นและพายุโซนร้อนกว่า 20 ลูก บางลูกเป็นความหายนะ
       
       ในช่วงปลายเดือน ก.ย.-ต้น ต.ค.ปีที่แล้ว ไต้ฝุ่นเกดสะหนา กับไต้ฝุ่นป้าหม่า (Parma) ที่พัดเข้ากรุงมะนิลาติดๆ กัน ทำให้เกิดอุทกภัยครั้งใหญ่ที่สุดในยุคใหม่ และ ยังทำให้มีผู้เสียชีวิตกว่า 1,000 คน
       
       สำนักงานอุตุนิยมวิทยาของจีนในกรุงปักกิ่งออกเตือนในวันอาทิตย์ ระบุว่าเมกีกำลังจะเป็นพายุรุนแรงที่สุดที่พัดเข้าจีนในปีนี้ ทางการได้สั่งให้เรือหาปลาเข้าฝั่งทั้งหมด โดยคาดว่าเมกีซึ่งจะอ่อนกำลังลงเป็นไต้ฝุ่นระดับ 3 เมื่อเข้าถึงย่านกลางทะเลจีนใต้ในวันพุธ (20 ต.ค.) กำลังจะทำให้เกิดคลื่นสูงถึง 6 เมตร และฝนตกหนัก
       
       สำหรับศูนย์อุตุนิยมวิทยาและอุทกศาสตร์กลางในกรุงฮานอย ยังไม่ปักใจเชื่อว่า เมกีจะเบนหัวขึ้นฝั่งทางตะวันตกเฉียงใต้ของจีน แต่ยังคงพุ่งตรงเข้าสู่ภาคกลางเวียดนาม
       
       อย่างไรก็ตามสิ่งหนึ่งที่หน่วยงานของเวียดนาม เชื่อเช่นเดียวกับสำนักพยากรณ์อื่นๆ ทั่วโลกก็คือ เมกีมีโอกาสจะทวีความแรงขึ้นเป็นไต้ฝุ่นระดับ 4 อีกครั้งกลางสัปดาห์นี้ พร้อมกับแสดงอำนาจการทำลายล้าง ผ่านนัยน์ตาหรี่เล็กอันน่าชิงชังของมัน ที่มองเห็นจากห้วงหาว.

 
(http://www.cmadong.com/imageupload/2010_Cmadong-Image/data/image/lagtcr-17609e.jpg)
จีนประกาศรับมือไต้ฝุ่นลูกที่รุนแรงที่สุดในปีนี้สำหรับจีน แต่เวียดนามยังไม่เชื่อเช่นนั้น แผนที่พยากรณ์อากาศของศูนย์อุตุนิยมวิทยาและอุทกศาสตร์กลางกรุงฮานอย ยังไม่เปลี่ยน ซูเปอร์ไต้ฝุ่นยังคงมุ่งหน้าเข้าถล่มจังหวัดภาคกลาง สัปดาห์นี้จะได้เห็นกันว่า เมกีจะเลือกเดินไปทางใด  
 

พิมพ์จาก http://www.manager.co.th/asp-bin/mgrView.asp?NewsID=9530000146375
 


หัวข้อ: Re: [2513] "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: เหยง 16 ที่ 18 ตุลาคม 2553, 14:40:22
ขณะนี้ "ช่อง 3" ตั้งหน่วยช่วยเหลือพร้อมองค์กรต่างๆ ที่อาคารมาลีนนท์ และถ่ายทอดพื้นที่น้ำท่วมในโคราชและจังหวัดใกล้เคียงอยู่ครับ


หัวข้อ: Re: [2513] "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: เหยง 16 ที่ 18 ตุลาคม 2553, 15:39:26
สวัสดีครับ

มาแจ้งข่าว บ่ายสามตรง นครสวรรค์แดดออกแจ๋เลย พร้อมกับข่าว F-16 จากฐานบินกองบิน 4 ตาคลี ตกเมื่อ 10.00 น. ที่จังหวัดตาก เนื่องจากทัศนวิสัยเลว เครื่องชนเขาพังยับ นักบินเสียชีวิต


หัวข้อ: Re: [2513] "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: เหยง 16 ที่ 18 ตุลาคม 2553, 20:34:28
สถานการณ์น้ำท่วมยังไม่มีทีท่าว่าจะดีขึ้นครับ แม้จะไม่ชอบกับข่าวนักการเมืองไม่แจกของฯ แบบนี้

วันที่ 18 ตุลาคม พ.ศ. 2553 เวลา 12:07:46 น.
มท.1 บินด่วน แจกถุงยังชีพ สีคิ้ว-ปากช่อง


ที่กองบินตำรวจ ท่าแร้ง ถนนรามอินทรา เวลา 09.30 น. นายชวรัตน์ ชาญวีรกูล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย พร้อมคณะเดินทางโดยเฮริคอปเตอร์ ไปยัง อ.สีคิ้ว และ อ.ปากช่อง จ.นครราชสีมา  เพื่อมอบถุงยังชีพของกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยให้กับผู้ประสบภัยน้ำท่วม  

                                                           ฯลฯ
http://www.matichon.co.th/news_detail.php?newsid=1287378493&grpid=&catid=19


หัวข้อ: Re: [2513] "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: เหยง 16 ที่ 18 ตุลาคม 2553, 20:36:12
เขื่อนจุฬาภรณ์รับไม่ไหว จ่อท่วมขอนแก่น
18 ตค. 2553 18:44 น.

สถานการณ์น้ำท่วมล่าสุด ที่ จ.ชัยภูมิ ได้รับผลกระทบจากเขื่อนลำคันฉู อ.เทพสถิต ความจุกว่า 43 ล้าน ลบ.ม.รับน้ำไม่ไหว น้ำป่าบนเทือกเขาพังเหยทะลักล้นสันเขื่อนสูงกว่า 50 ซม. หลากเข้าท่วมบ้านเรือนราษฎรสูงกว่า 1 เมตร ในเขต อ.บำเหน็จณรงค์ และอ.จัตุรัส เสียหายขยายวงกว้างเพิ่มกว่า 3,000 หลังคาเรือน เนื้อที่การเกษตรเสียหายแล้วหลายหมื่นไร่ ทางจังหวัดต้องเร่งอพยพนับหมื่นหนีน้ำขึ้นสู่ที่สูงตลอด 24 ชม.

และในพื้นที่เขตอ.เมืองชัยภูมิ ได้รับผลกระทบเกิดน้ำป่าบนเทือกเขาภูแลนคาไหลหลากเข้าล้นสันเขื่อนลำปะทาว อ.แก้งคร้อ ตอนบน และเขื่อนลำปะทาวตอนล่าง เขตอ.เมืองชัยภูมิ ซึ่งมีความจุรวมกว่า 66 ล้าน ลบ.ม. มีระดับน้ำล้นสันเขื่อนซึ่งอยู่ในระดับที่เขื่อนไม่สามารถรับน้ำได้ไหวสูงเป็นประวัติการณ์แล้วกว่า 90 ซม. และต้องเร่งระบายน้ำออกเป็นการด่วน ซึ่งไม่เคยเป็นมาก่อนในรอบ 30 ปี ทางเทศบาลเมืองชัยภูมิ แจ้งเตือนประชาชนเตรียมรับมือน้ำท่วมใหญ่ในค่ำวันนี้ ให้ขนย้ายสิ่งของขึ้นสู่ที่สูงไว้ก่อนในช่วงนี้ ซึ่งมีระดับน้ำเริ่มไหลหลากจากเขื่อนลำปะทาวเข้าท่วมตัวเมืองเป็นวงกว้างสูงกว่า 50 ซม. ใน 25 ชุมชน แล้วหลายร้อยหลังคาเรือน

ล่าสุดฝั่ง อ.คอนสาร จ.ชัยภูมิ ที่ตั้งเขื่อนจุฬาภรณ์ ได้ออกประกาศด่วนแจ้งเตือนประชาชน ให้เตรียมรับมือน้ำท่วมในพื้นที่เขตอ.คอนสาร,เกษตรสมบูรณ์,ภูเขียว และอ.บ้านแท่น จ.ชัยภูมิ และจ.ขอนแก่น เนื่องจากล่าสุดปริมาณน้ำในเขื่อนจุฬาภรณ์ ที่รับน้ำจากจากเทือกเขาภูเขียวที่ฝนตกต่อเนื่องมาหลายวันได้ทะลักเข้าจนล้นสันเขื่อนสูงกว่า 1 เมตร 10 ซม. ซึ่งมีความจุกว่า 188 ล้าน ลบ.ม. ปัจจุบันทำให้เขื่อนรับน้ำไม่ไหวต้องเร่งระบายน้ำออกเป็นการด่วนมาตั้งแต่ช่วงเวลา 14.30 น.วันเดียวกัน

ซึ่งมีปริมาณน้ำที่ถูกปล่อยออกจากเขื่อนจุฬาภรณ์เป็นจำนวนมากกว่า 100,000 ลบ.ม.ต่อนาที เริ่มเข้าท่วมเขต.อ.เกษตรสมบูรณ์และอ.ภูเขียว บางส่วนแล้ว และในช่วง 1-2 วันนี้ ให้พื้นที่ดังกล่าวของจ.ชัยภูมิเตรียมรับมือน้ำท่วม และน้ำอีกจำนวนมากจะไปต่อเพื่อไปลงสู่ลำน้ำพรม-ลำน้ำซิญ เข้าท่วมสู่จ.ขอนแก่น อย่างเลี่ยงไม่ได้ต่อไปใน 2-3 วันนี้ตามมาด้วยเช่นกัน

http://breakingnews.nationchannel.com/read.php?newsid=474700&lang=T&cat=


หัวข้อ: Re: [2513] "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: เหยง 16 ที่ 18 ตุลาคม 2553, 20:37:52
เขื่อนป่าสักชลสิทธิ์ เร่งระบายน้ำออก หลังรองรับน้ำไม่ไหว
18 ตค. 2553 18:35 น.

ผู้สื่อข่าวรายงานมาว่าฝนตกติดต่อกันหลายวันทำน้ำป่าทะลักอ่อล้นเข้าท่วมบ้านเรือนประชาชน ได้รับความเดือดร้อน นายถาวร พรหมมีชัย ผวจ.สระบุรี พร้อมนายกเหล่ากาชาดจังหวัดสระบุรี และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ออกช่วยเหลือประชาชน ใน 13 อำเภอ ไปที่ อ.วังม่วง อ.แก่งคอย พบน้ำป่าไหลเข้าท่วมพื้นที่ทางการเกษตร ไร่นาเสียหายจำนวนมาก ชาวบ้านที่อาศัยอยู่ริมแม่น้ำป่าสักตลอดแนว ต้องขนสิ่งของหนีน้ำขึ้นไปอยู่ในที่สูง และสัตว์เลี้ยง ต้องหนีน้ำขึ้นไปอยู่บนถนน พร้อมกันนี้ นายถาวร ผู้ว่าสระบุรี ได้เดินทางไปที่ อ.บ้านหมอ นายธวัชชัย เกตุพันธุ์ นายอำเภอบ้านหมอพร้อมด้วย นายชาญ เกตุพุก นายกเทศบาลตำบลท่าลาน รายงานว่า นับแต่วันศุกร์ที่15 ต.ค.ที่ผ่านมา ฝนตกหนักติดต่อกันหลายวันน้ำได้ไหลเข้าท่วมบ้านเรือประชาชนและพื้นที่ทางการเกษตร ไร่ข้าวโพด และนาข้าวได้รับความเสียหาย

ผู้ว่าสระบุรี ได้แจ้งให้ชาวบ้านทราบว่า ได้รับรายงานจากนายธวัชชัย ใบเจริญ ชลประทานจังหวัดสระบุรีตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไปเขื่อนป่าสักชลสิทธิ์ ได้ระบายน้ำออกจากเขื่อนขณะ 1,000 ลูกบาธส์เมตรต่อวินาที ระดับน้ำจะสูงขึ้นไปอีกด้านเขื่อนพระราม 6 เขต อ.ท่าเรือ จ.พระนครศรีอยุธยา ต้องเปิดประตูระบายทุกบานเพื่อระบายน้ำให้รวดเร็วขึ้น

พร้อมแจ้งว่าขณะนี้จังหวัดสระบุรีน้ำท่วมพื้นที่ 13อำเภอ ถนนพหลโยธิน เส้นทางเข้าตัวเมืองสระบุรี ช่วง ต.ห้วยบง กระแสน้ำสูง มากว่า 50 ซม.และเป็นทางยาว บรรดาผู้ใช้รถใช้ถนนควรระมัดระวังและสั่งกำชับเทศบาลทุกเทศบาล อบต.ทุกแห่ง รวมไปถึง กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน ให้เข้าช่วยเหลือประชาชนที่ได้รับความเดือดร้อนจากน้ำท่วมครั้งนี้พร้อมรายงานให้ทราบทุกระยะ

จากนั้น ผวจ.สระบุรี ได้นำข้าวสาร อาหารแห้ง และน้ำดื่ม ไปแจกจ่ายให้ชาวบ้านที่วัดบ้านครัว อ.บ้านหมอ จำนวนมากว่า 600ชุด เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนเป็นการช่วยเหลือในเบื้องต้น

นอกจากนี้ ได้ประสานงานกับ พล.ต.ต.กิตติ รุ่งเรือวงษ์ ผบก.ภจว.สระบุรี สั่งการให้เจ้าหน้าทีตำรวจที่มีอยู่จำนวน 15 สภ.ให้ช่วยกันป้องกันโจรที่มากัลน้ำจะไปมาฉวยโอกาส ลักเล็กขโมยน้อยเอาสิ่งของที่ชาวบ้านนำกองรวมไว้ริมถนนสายต่างๆ พร้อมส่งเรือท้องแบน เข้าช่วยเหลือชาวบ้านที่ได้รับความเดือดร้อนแล้วอย่างต่อเนื่อง


http://breakingnews.nationchannel.com/read.php?newsid=474697&lang=T&cat=


หัวข้อ: Re: [2513] "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: เหยง 16 ที่ 18 ตุลาคม 2553, 20:39:24
อ่างเก็บน้ำห้วยไม้เต็ง ราชบุรี น้ำล้นแล้ว
18 ตค. 2553 18:34 น.

นายมานิต นพอมรบดี ส.ส.ราชบุรี เขต 2 และอดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข พร้อมด้วยผู้อำนวยการโครงการชลประทานจังหวัดราชบุรี ได้เดินทางไปที่อ่างกักเก็บน้ำห้วยไม้เต็ง ตำบลน้ำพุ อำเภอเมือง จังหวัดราชบุรี เพื่อสำรวจอ่างกักเก็บน้ำห้วยไม้เต็ง ซึ่งเป็นอ่างเก็บน้ำขนาดใหญ่ หลังได้รับแจ้งจากชลประทาน ว่า น้ำในอ่างกักเก็บน้ำดังกล่าว มีปริมาณน้ำสูงเกินสปิงเวย์กว่า 8 เซนติเมตร นับเป็นครั้งแรกในรอบ 13 ปี หลังในปี 2540 ที่ผ่านมาเคยมีปริมาณน้ำสูงกว่า สปิงเวย์กว่า 1 เมตร 40 เซนติเมตร ทำให้น้ำท่วมจังหวัดราชบุรี อย่างฉับพลัน

โดยนายมานิต กล่าวว่า สำหรับปริมาณน้ำที่ล้นสปิงเวย์ในครั้งนี้เกิดขึ้นเนื่องจาก มีฝนตกติดต่อกันตลอด 2 - 3 วัน ที่ผ่านมา ทำให้ปริมาณน้ำในอ่างมีปริมาณสูงขึ้นอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ จนเอ่อล้นจะถูกระบายออกไปยังคลองชลประทานผ่านตำบลน้ำพุ ตำบลห้วยไผ่ ตำบลดอนแร่ ตำบลหินกอง ตำบลดอนตะโก และ ตำบลบ้านไร่บางส่วน

อย่างไรก็ตามประชาชนในละแวกใกล้เคียง อย่าพึ่งวิตกกังวลเนื่องจากปริมาณน้ำยังอยู่ในเกณฑ์ที่ไม่สูงมากนัก และสถานการณ์โดยรวมยังสามารถควบคุมได้ เนื่องจากมีการระบายน้ำ ออกจากอย่างต่อเนื่อง ทำให้ประชาชนในละแวกอ่างกักเก็บน้ำห้วยไม้เต็ง ไม่ได้รับผลกระทบอย่างแน่นอน

แต่ถ้าหากในช่วงนี้ มีฝนตกติดต่อกัน รวมถึงประสบกับดีเปรสชั่น โดยเฉพาะบริเวณพื้นที่ที่ใช้น้ำจากอ่างกักเก็บน้ำห้วยไม้เต็ง อาจจะทำให้ได้รับผลกระทบได้ในบางส่วน

นายมานิต กล่าวอีกว่า นอกจากนี้จากการลงพื้นที่ดังกล่าวก็พบว่ามีปริมาณของผักตบชวา ที่ไหลออกจากสปิงเวย์เป็นจำนวนมาก ซึ่งเรื่องดังกล่าวอาจจะทำให้การระบายน้ำไม่สะดวก ตนจึงประสานงานกับทางองค์การบริหารส่วนตำบลน้ำพุ ให้มีการกำจัดผักตบชวาโดยเร่งด่วน เพื่อให้ไม่มีการขวางทางระบายน้ำเกิดขึ้น และจะไม่ทำให้น้ำเอ่อล้นออกไปท่วมพืชผลทางการเกษตรของชาวบ้านอย่างแน่นอน

http://breakingnews.nationchannel.com/read.php?newsid=474696&lang=T&cat=


หัวข้อ: Re: [2513] "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: เหยง 16 ที่ 18 ตุลาคม 2553, 20:42:51
น้ำเหนือหลากเจ้าพระยาล้นท่วมปทุมธานี
18 ตค. 2553 20:20 น.

นายธานี สามารถกิจ ผู้ว่าราชการจังหวัดปทุมธานี ลงพื้นที่ตรวจสถานการณ์น้ำเข้าท่วมบ้านเรือนประชาชนที่อาศัยอยู่ติดริมแม่น้ำเจ้าพระยา ในเขตพื้นที่ อ.สามโคก และ อ.เมืองปทุม จ.ปทุมธานี โดยด่วนหลังจากเมื่อประมาณ 1 ชั่วโมงที่ผ่านมา ระดับน้ำในแม่น้ำเจ้าพระยาสูงขึ้นอย่างรวดเร็ว

ทั้งนี้ปริมาณน้ำเหนือและน้ำที่ถูกปล่อยจากแม่น้ำป่าสัก ลงสู่แม่น้ำเจ้าพระยา ส่งผลทำให้น้ำเอ่อเข้าท่วมบ้านเรือนประชาชน วัด สถานีอนามัย และโรงเรียน ที่อยู่ติดริมแม่เจ้าพระยาเป็นวงกว้าง ระดับน้ำเข้าท่วมสูง ทำให้ชาวบ้านต้องรีบขนย้ายข้าวของหนีน้ำ รถยนต์ไม่สามารถจอดในบ้านได้ บางบ้านระดับน้ำเข้าท่วมชั้นล่างของบ้าน ชาวบ้านรีบเก็บทรัพย์สินขึ้นที่สูง และต้องนำรถยนต์ขึ้นมาจอดริมถนนหรือในที่สูง เพื่อหนีน้ำท่วม

ขณะที่ ที่วัดโพธิเลื่อน ต.บางแขยง อ.เมืองปทุม จ.ปทุมธานี พื้นที่อยู่ติดริมแม่น้ำเจ้าพระยาหลาย น้ำเข้าท่วมพื้นที่วัด พระสงฆ์และชาวบ้านกั้นน้ำไม่ทัน จึงต้องทำสะพานไม้เดินเข้าวัด ที่หน้าพระอุโบสถ ที่ตั้งบรรจุกระดูก ถูกน้ำเข้าท่วม ระดับน้ำสูงกว่า 1 เมตร, ที่วัดบางนา ต.บางโพธิ์เหนือ อ.สามโคก จ.ปทุมธานี ซึ่งอยู่ติดริมแม่น้ำเจ้าพระยาเช่นกัน น้ำเริ่มเข้าท่วมด้านข้างวัดซึ่งอยู่ติดกับคลองย่อยจากแม่น้ำเจ้าพระยาไหลเข้าด้านศาลาเอนกประสงค์ของวัด พระสงฆ์และชาวบ้านเร่งช่วยกันกรอกกระสอบทรายกั้นเป็นคันกั้นน้ำ

พร้อมกันนี้ ผู้ว่าราชการจ.ปทุมธานี มีการสั่งการให้กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน เจ้าหน้าที่ในแต่ละพื้นที่เฝ้าระวังสถานการณ์น้ำอย่างใกล้ชิดและ ตรวจสอบระดับน้ำทุก 1 ชั่วโมง จัดเตรียมเครื่องสูบน้ำ กระสอบทราย และกำลังคน และประชาสัมพันธ์ให้ชาวบ้านเตรียมรับมือหากมีน้ำท่วมเข้าบ้านเรือนอย่างฉับพลัน สามารถแจ้งประสานขอความช่วยเหลือได้ตลอด 24 ชั่วโมง

http://breakingnews.nationchannel.com/read.php?newsid=474711&lang=T&cat=


หัวข้อ: Re: [2513] "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: เหยง 16 ที่ 18 ตุลาคม 2553, 22:01:47
สำหรับ "กรุงเทพมหานคร"

คาดว่าตั้งแต่เย็นวันพุธที่ 20 ตุลาคม 53 นี้เป็นต้นไป มีความเป็นไปได้ที่น้ำจะเริ่มเข้าท่วมครับ


หัวข้อ: Re: [2513] "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: prapasri AH ที่ 19 ตุลาคม 2553, 06:31:13
ตายยยยยย แล้ว ถ้าน้ำท่วมกรุงเทพจะทำยังงาย พี่แอ๊ะมีธุระ ต้องไปกรุงเทพ อีก สองสามวันนี้ แต่จะไปเครื่อง

แล้วไปว่ายน้ำเอาที่กรุงเทพ หากน้ำท่วมจริงๆ


หัวข้อ: Re: [2513] "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: เหยง 16 ที่ 19 ตุลาคม 2553, 07:50:09

พี่แอ๊ะครับ

น้ำเหนือและจากภาคกลาง ถึงเมืองปทุมธานีแล้ว โอกาสที่ "กทม." จะรอดนั้นยากมากครับ และเป็นน้ำท่วมปลายฤดูซะด้วย

ส่วน"พายุเมกี"เบนขึ้นเหนือมากขึ้น นั่นคือ จีน ฮ่องกง ไต้หวัน รับภาระเพิ่มขึ้น ขณะที่เวียตนาม ลาว ไทย ภาระเบาลง


ประกาศเตือนภัย
"ฝนตกหนักและน้ำท่วมฉับพลัน"

ฉบับที่ 30 ลงวันที่ 19 ตุลาคม 2553
 
     ร่องมรสุมได้เลื่อนขึ้นมาพาดผ่านภาคกลาง และภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ทำให้ในประเทศไทยมีฝนอยู่ในเกณฑ์กระจาย และมีฝนตกหนักบางแห่งในภาคเหนือและภาคกลาง จึงขอให้ประชาชนบริเวณภาคเหนือตอนล่างและภาคกลางที่อาศัยในพื้นที่เสี่ยงภัยตามที่ลาดเชิงเขาใกล้ทางน้ำไหลผ่าน และพื้นที่ราบลุ่มริมฝั่งแม่น้ำ ระมัดระวังอันตรายจากฝนตกหนักที่อาจทำให้เกิดสภาวะน้ำท่วมฉับพลัน และน้ำป่าไหลหลากได้ในระยะนี้ สำหรับพื้นที่ลุ่มใกล้ลำน้ำในภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนล่าง และภาคตะวันออกยังคงต้องระมัดระวัง
น้ำล้นตลิ่งต่อไปอีก
สำหรับ มวลอากาศเย็นจะแผ่เข้ามาปกคลุมประเทศไทยตอนบน โดยเฉพาะในภาคเหนือ
และภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบน ทำให้บริเวณดังกล่าวมีอากาศเย็นลง โดยอุณหภูมิจะลดลง 2-4 องศา
อนึ่ง เมื่อเวลา 04.00 น. วันนี้ พายุไต้ฝุ่น “เมกี” (MEGI) มีศูนย์กลางอยู่บริเวณทะเลจีนใต้ตอนกลาง
หรือที่ละติจูด 16.8 องศาเหนือ ลองจิจูด 118.7 องศาตะวันออก พายุนี้กำลังเคลื่อนตัวทางทิศตะวันตกค่อนทางเหนือ ด้วยความเร็วประมาณ 25 กิโลเมตรต่อชั่วโมง คาดว่าจะเคลื่อนเข้าใกล้ชายฝั่งประเทศจีนตอนใต้ในช่วงวันที่ 23-24 ตุลาคมนี้


ประกาศ ณ วันที่ 19 ตุลาคม พ.ศ. 2553
ออกประกาศ เวลา 05.00 น.

สำนักพยากรณ์อากาศ กรมอุตุนิยมวิทยา
กระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร

 



หัวข้อ: Re: [2513] "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: เหยง 16 ที่ 19 ตุลาคม 2553, 08:46:14
ภาพ "เมกิ" ขณะผ่านฟิลิปปินส์ เมื่อวานนี้ ซึ่งข่าวแจ้งว่าหนักกว่า "ทุเรียน" มาก


(http://img89.imageshack.us/img89/3285/megi6.jpg) 

แผนที่อากาศของหอสังเกตการณ์ฮ่องกง (Hong Kong Observatory) จำลองจากภาพถ่ายของดาวเทียม MTSAT-2 เวลา 05.01 วันอังคาร (19 ต.ค.) นี้ หรือ 03.01 น.เวลาในประเทศไทย แสดงให้เห็นไต้ฝุ่นเมกี (Megi) ที่อ่อนกำลังลงเป็นระดับ 3 ตามคาด กำลัง "เล่นน้ำ" ในทะเลจีนใต้ ส่งไอขึ้นคละคลุ้ง กินอาณาบริเวณกว้างขวางเกือบเท่าๆ กับบริเวณทั้งหมดของท้องทะเล นักพยากรณ์อากาศกล่าวว่า เมกิเป็นพายุใหญ่ที่สุดที่เกิดทั่วโลกในปีนี้ ใหญ่กว่าและรุนแรงกว่า "ทุเรียน" ซูเปอร์ไต้ฝุ่นชื่อไทยๆ ในปลายปี 2549  

(http://img221.imageshack.us/img221/9521/megi5.jpg)

ภาพจำลองโดยสำนัก TSR ในกรุงลอนดอน แสดงให้เห็นพลังอำนาจที่ศูนย์กลางของไต้ฝุ่นเมกี ขณะเคลื่อนตัวพ้นเกาะลูซอนใหม่ๆ ตอนบ่ายวันจันทร์ (18 ต.ค.) ที่ผ่านมา ต่างไปจากไต้ฝุ่นทุเรียนในปลายปี 2549 นับเป็๋นโชคดีที่ซูเปอร์ไต้ฝุ่นลูกล่าสุดไม่ได้พัดผ่าน เขตที่มีประชากรหนาแน่น แต่ทางการฟิลิปปินส์ก็กำลังจะเริ่มสำรวจความเสียหายทั้งหมดในวันอังคารนี้


อ่านและชมภาพทั้งหมดได้ที่
http://www.manager.co.th/IndoChina/ViewNews.aspx?NewsID=9530000146987



7300      emo28:win:


หัวข้อ: Re: [2513] "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: ดร.มนตรี ที่ 19 ตุลาคม 2553, 16:53:35
ขออนุญาต ฝากข่าว ... ครับ

บริษัท ทีทีแอนด์ที จำกัด (มหาชน) ศูนย์บริหารงานจ.นครราชสีมา ได้นำรถเครนช่วยขนย้ายประชาชนในตัวเมืองที่ประสบภัยน้ำท่วมซึ่งรถเล็กไม่สามารถผ่านเข้าไปได้ และติดตั้งเลขหมายโทรศัพท์ตามจุดที่มีน้ำท่วมหนักและมีศูนย์ช่วยเหลือผู้ประสบภัยที่จ.นครราชสีมาในเบื้องต้น 5 จุดให้ประชาชนได้ติดต่อสื่อสารติดตามสถานการณ์ห่วงใยผู้ประสบภัยได้ฟรี! โดยเลขหมายตามศูนย์ประสบภัยต่างๆมีดังนี้

 

1.ศูนย์ฯถนนมิตรภาพ ซอย 6 โทร. 044-261039    

   ผู้ประสานงาน  ผอ.อ้อน โทร.081-1853366

 2.บริเวณหน้าขนส่ง ตะคองเก่า  โทร. 044-261042 , 044-261053

     ผู้ประสานงาน คุณอธิชา 083-1011149

3.บริเวณถนนช้างเผือก หัวมุมรร.สุรนารี  โทร. 044-270356, 044-270358

   ผู้ประสานงาน  คุณคู่ขวัญ โทร. 087-2572145

 4. ที่ KCTV โคราช  โทร. 044-273203

 5. ที่ พีกาซัส ทาวเวอร์  โทร.  044-270371

    ผู้ประสานงาน คุณเลิศ  บุญเกาะโทร. 081-9669142

 

นอกจากนี้ท่านสามารถติดต่อสอบถามรายละเอียดและแจ้งขอรับความช่วยเหลือหรือประสานงานเพิ่มเติมได้ที่ฝ่ายการตลาดทีทีแอนด์ที โทร. 02-6932100 ต่อ 4601 , 4620 หรือ โทร 085-4858012.


หัวข้อ: Re: [2513] "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: เหยง 16 ที่ 19 ตุลาคม 2553, 17:30:45
ข่าวของอุตุนิยมฉบับล่าสุดครับ ภาวะน้ำท่วมซ้ำซ้อนจาก "พายุเมกี" คงไม่เกิดขึ้นแล้ว

ประกาศเตือนภัย
"ฝนตกหนักและน้ำท่วมฉับพลัน"

ฉบับที่ 32 ลงวันที่ 19 ตุลาคม 2553
 
     
ร่องมรสุมพาดผ่านภาคกลาง ภาคตะวันออก และภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนล่าง ทำให้ประเทศไทยตอนบนยังคงมีฝนตกต่อไปได้อีก แต่ปริมาณจะลดลง สำหรับประชาชนที่อาศัยในพื้นที่เสี่ยงภัยใกล้ทางน้ำไหลผ่าน และพื้นที่ราบลุ่มริมฝั่งแม่น้ำบริเวณภาคเหนือตอนล่าง ภาคกลาง ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และ ภาคตะวันออก ยังคงต้องระมัดระวังอันตรายจากสภาวะน้ำท่วมต่อไปอีก
ในช่วงวันที่ 19 - 22 ต.ค. มวลอากาศเย็นจากประเทศจีนจะแผ่เข้ามาปกคลุมบริเวณภาคเหนือ และภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบน ทำให้บริเวณดังกล่าวมีอากาศเย็นลง โดยอุณหภูมิจะลดลง 1-3 องศา
อนึ่ง พายุไต้ฝุ่น “เมกี” (MEGI) ได้เคลื่อนตัวผ่านประเทศฟิลิปปินส์ลงสู่ทะเลจีนใต้ตอนกลางแล้ว คาดว่า จะเคลื่อนตัวเข้าสู่บริเวณชายฝั่งประเทศจีนตอนใต้ใกล้เกาะฮ่องกง ในช่วงวันที่ 22-23 ตุลาคม 2553 ซึ่งพายุนี้จะไม่เคลื่อนตัวเข้าสู่ประเทศไทย 


หัวข้อ: Re: [2513] "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: เหยง 16 ที่ 19 ตุลาคม 2553, 18:01:04
พายุ"เมกิ" จีนรับไปเต็มๆ

วันที่ 19 ตุลาคม พ.ศ. 2553 เวลา 11:27:34 น.  มติชนออนไลน์
เอเชียระส่ำ"พายุเมกิ"ร้ายหนัก จีนอพยพผู้คนเรือนแสนหนี เวียดนามตายแล้ว 21 ศพ

(http://img254.imageshack.us/img254/1165/megi7.jpg)

สำนักข่าวต่างประเทศรายงานเมื่อวันที่ 19 ต.ค.ว่า ซูเปอร์พายุ"เมกิ"ได้ถล่มฟิลิปปินส์อย่างหนัก และทำให้มีผู้เสียชีวิต10 ราย และขณะนี้พายุได้เคลื่อนตัวด้วยระดับความเร็ว 140 ไมล์ต่อชม.และอาจรุนแรงขึ้นได้ในวันอังคารนี้ โดยจีนจะกลายเป็นประเทศต่อไปที่จะเผชิญพายุนี้ ซึ่งคาดว่าพายุจะถล่มพื้นทางตอนใต้ของจีน ขณะที่ทางการจีนได้ได้อพยพผู้คนนับแสนคนจากหมู่บ้านต่าง ๆ ในมณฑลไฮหนาน หลังเกิดน้ำท่วมก่อนหน้านี้จากพิษฝนตกหนักจากแรงพายุ

(http://img254.imageshack.us/img254/9952/megi8p.jpg)


นอกจากนี้ แรงพายุยังทำให้เกิดน้ำท่วมระดับรุนแรงเป็นประวัติการณ์ในมณฑลนี้ และกระทบต่อถนน เขื่อนซึ่งมีน้ำล้น และระบบเครือข่ายโทรคมนาคมถูกตัดขาด ไปทั่วเมือง

(http://img254.imageshack.us/img254/1991/megi9.jpg)

(http://img100.imageshack.us/img100/9932/megi10.jpg)


ส่วนที่เวียดนาม แรงพายุทำให้มีฝนตกหนักและน้ำท่วม ทำให้คร่าชีวิตผู้คนไปแล้ว 21 ราย ขณะที่เจ้าหน้าที่เตือนว่า พายุมากิอาจส่งผลให้ประเทศประสบภาวะน่าสลดเพิ่มขึ้น หลังก่อนหน้านี้เวียดนามเพิ่งเผชิญพายุถล่มประเทศ และชาวบ้านส่วนหนึ่งเพิ่งจะได้คืนถิ่นฐาน และบางส่วนยังไม่ได้กลับคืนถิ่นฐาน แต่ก็ต้องอพยพออกจากบ้านอีกรอบเพราะพายุมากิมาเยือน

http://www.matichon.co.th/news_detail.php?newsid=1287462569&grpid=&catid=06


หัวข้อ: Re: [2513] "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: prapasri AH ที่ 19 ตุลาคม 2553, 20:53:10
  พี่แอ๊ะเเอ๊ะเป็นคนแรก ของชาวเวบนี้ที่ได้เจอ อุทกภัยคราวนี้


หัวข้อ: Re: [2513] "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: suriya2513 ที่ 19 ตุลาคม 2553, 22:34:49
(http://img254.imageshack.us/img254/1165/megi7.jpg)

สถาปนิกเขาดีไซน์ไว้แบบนี้มังครับ
ไม่ได้เอียงเพราะถูกพระพายพัดหรอก


หัวข้อ: Re: [2513] "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: เหยง 16 ที่ 21 ตุลาคม 2553, 14:33:22
อีก 14-18 วัน น้ำจากโคราช, เพชรบูรณ์และชัยภูมิ จะไปถึงเมืองอุบลราชธานี เพื่อไหลลงแม่น้ำโขงครับ


หัวข้อ: Re: [2513] "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: prapasri AH ที่ 22 ตุลาคม 2553, 12:18:31
จะไปขึ้นเครื่องไปกทม. แล้ว ไปเฝ้าดูบ้านใหม่ อีกแห่งหนึ่งที่ถนนศรีนครินทร์

จะไปทำกำแพงไม่ให้น้ำเข้า หุๆๆๆๆ

เห็น ท่านอธิบดี อุตุนิยม วิทยา ท่าน เหยงบอกว่า น้ำ จะไหลลงสุดท้าย ที่เเม่น้ำโขง

เป็นอันว่าในเวบนี้พี่แอ๊ะเจอทั้ง ตอนต้นน้ำ และตอนปลายน้ำ เลย อิๆๆๆๆๆ

น้องท่านไหน ที่บอกให้พี่แอ๊ะมีทั่ง i-pod- i-pad

ต้องนี้พี่แอ๊ะมีทุก I เลยค่ะ ต้องหาตะกร้าใส่ตรื่องมือสื่สารทุกชนิด

กลัวต๊กข่าวววววววววววววววววว ชาวหอ นี่แหละ555555


หัวข้อ: Re: [2513] "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: เหยง 16 ที่ 22 ตุลาคม 2553, 14:32:49
อ้างถึง
ข้อความของ เหยง 16 เมื่อ 22 ตุลาคม 2553, 13:43:35
พี่ตู่ครับ

น่าห่วงจังหวัดที่น้ำจะไหลผ่าน เช่น สายแม่น้ำมูล มี-->บุรีรัมย์-สุรินทร์-ศรีษะเกษ-อุบลราชธานี-->แม่น้ำโขง
                                                  สายแม่น้ำชี มี-->ขอนแก่น มหาสารคาม ร้อยเอ็ด ยโสธร อุบลราชธานี-->แม่น้ำโขง
ไม่เห็นมีส่วนราชการใดแจ้งเตือนให้ อบต. เทศบาล อำเภอ อบจ. ให้สำรวจและเปิดเส้นทางน้ำทั้ง ชี & มูล ให้น้ำไหลสะดวก
ตลอดจนให้ชาวบ้านในจังหวัดที่ว่านี้ ขนย้ายสิ่งของ สัตว์เลี้ยง รวมทั้งครอบครัวหนีน้ำ-ขึ้นที่สูงไว้ก่อน
เฉพาะจังหวัดอุบลราชธานี ซึ่งน้ำจากทั้ง ชี & มูล จะไหลไปลงแม่น้ำโขง ต้องระวังมากๆทีเดียว
ถ้าวางแผนพลาด น้ำ 2 ส่วนนี้เล่นเมืองอุบลฯ จนบาดาลแน่นอน


พี่แอ๊ะครับ

ยโสธร อุบลราชธานี มีเวลาอีกประมาณ 10 วันเศษ ในการเตรียมรับมือกับน้ำที่ผ่าน ชี & มูล เพื่อออกแม่น้ำโขง
พี่บอก อบจ.ให้เตรียมเคลียร์เส้นทางน้ำไหล เก็บสิ่งของ ย้ายสัตว์เลี้ยง และครอบครัว ขึ้นที่สูงไว้ก่อน
กันปัญหาน้ำซึ่งมีปริมาณน้ำมากเมื่อรวมน้ำทั้ง 2 สายครับ ประเภท กันไว้ดีกว่าแก้ครับ


หัวข้อ: Re: [2513] "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: เหยง 16 ที่ 22 ตุลาคม 2553, 17:01:35
คั่นรายการด้วยภาพนางสาวไทย ซึ่งเป็นนิสิตนิเทศน์ศาสตร์ จุฬาฯ ปี 4

(http://img233.imageshack.us/img233/4258/2553k.jpg)


หัวข้อ: Re: [2513] "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: เหยง 16 ที่ 22 ตุลาคม 2553, 17:02:57
จังหวัด อำเภอ ซึ่งประสบภัยน้ำท่วม

ปภ.เผยน้ำท่วมแล้ว 29 จังหวัด เดือดร้อนเกือบ 2 ล้านคน ตาย 17
22 ตุลาคม 2553 15:30 น.

 
       กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย สรุปสถานการณ์น้ำท่วม 12 วัน มีพื้นที่ประสบอุทกภัย 29 จังหวัด 186 อำเภอ ราษฎรเดือดร้อน 4.5 แสนครัวเรือน เกือบ 2 ล้านคน พบผู้เสียชีวิตแล้ว 17 ราย สูญหาย 1
       
       นายวิบูลย์ สงวนพงศ์ อธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) กล่าวถึงสถานการณ์อุทกภัยในระหว่างวันที่ 10-22 ตุลาคม 2553 มีพื้นที่ประสบอุทกภัยรวม 29 จังหวัด 186 อำเภอ 1,355 ตำบล 8,609 หมู่บ้าน ราษฎรเดือดร้อน 456,823 ครัวเรือน 1,280,344 คน ผู้เสียชีวิต 17 ราย สูญหาย 1 ราย ถนนไม่สามารถใช้สัญจรได้รวม 17 เส้นทาง ใน 7 จังหวัด ดังนี้
       
       จ.พิจิตร น้ำในแม่น้ำยมเอ่อล้นตลิ่งเข้าท่วมพื้นที่ลุ่มต่ำริมฝั่งใน 5 อำเภอ 19 ตำบล 34 หมู่บ้าน ราษฎรเดือดร้อน 1,120 ครัวเรือน 4,000 คน ได้แก่ อำเภอสามง่าม โพธิ์ประทับช้าง บึงนางราง โพทะเล และสากเหล็ก
       
       จ.ชัยนาท น้ำท่วมพื้นที่ 7 อำเภอ 40 ตำบล 342 หมู่บ้าน ราษฎรเดือดร้อน 16,940 ครัวเรือน 44,987 คน ได้แก่ อำเภอเมืองชัยนาท เนินขาม หันคา วัดสิงห์ หนองมะโมง มโนรมย์ และสรรพยา
       
       จ.สุพรรณบุรี น้ำในแม่น้ำท่าจีนไหลเข้าท่วมพื้นที่ 6 อำเภอ 61 ตำบล 304 หมู่บ้าน ราษฎรเดือดร้อน 44,300 ครัวเรือน 121,436 คน ได้แก่ อำเภอเมืองสุพรรณบุรี บางปลาม้า สองพี่น้อง สามชุก หนองหญ้าไซ และเดิมบางนางบวช
       
       จ.อ่างทอง น้ำจากแม่น้ำเจ้าพระยาเอ่อล้นตลิ่งเข้าท่วมพื้นที่ 7 อำเภอ 52 ตำบล 215 หมู่บ้าน ราษฎรเดือดร้อน 1,950 ครัวเรือน 4,335 คน ได้แก่ อำเภอเมืองอ่างทอง ป่าโมก ไชโย วิเศษชัยชาญ โพธิ์ทอง สามโก้ และแสวงหา
       
       จ.พระนครศรีอยุธยา น้ำในแม่น้ำเจ้าพระยา แม่น้ำลพบุรี แม่น้ำน้อย เอ่อล้นตลิ่งเข้าท่วมพื้นที่ลุ่มการเกษตรใน 5 อำเภอ 54 ตำบล 297 หมู่บ้าน ราษฎรเดือดร้อน 4,494 ครัวเรือน 13,977 คน ได้แก่ อำเภอพระนครศรีอยุธยา บางไทร มหาราช ผักไห่ และบางบาล
       
       จ.ระยอง น้ำท่วมในพื้นที่ 2 อำเภอ 6 ตำบล 32 หมู่บ้าน ได้แก่ อำเภอเมืองระยอง และวังจันทร์
       
       จ.ตราด เกิดน้ำป่าไหลหลากและดินถล่มในพื้นที่ 2 อำเภอ ได้แก่ อำเภอเกาะช้าง และแหลมงอบ
       
       จ.สระแก้ว น้ำท่วมในพื้นที่ 4 อำเภอ 10 ตำบล 1 เทศบาล 32 หมู่บ้าน ราษฎรเดือดร้อน 6,346 ครัวเรือน 25,800 คน พื้นที่การเกษตรเสียหาย 40,000 ไร่ ได้แก่ อำเภออรัญประเทศ วังน้ำเย็น ตาพระยา และโคกสูง
       
       จ.นครราชสีมา น้ำท่วมในพื้นที่ 31 อำเภอ 376 ตำบล 2,158 หมู่บ้าน พื้นที่การเกษตรเสียหาย 452,174 ไร่ ได้แก่ อำเภอเมืองนครราชสีมา สูงเนิน ขามทะเลสอ โนนแดง คง เสิงสาง หนองบุญมาก จักราช เทพารักษ์ ด่านขุนทด บ้านเหลื่อม โนนสูงโชคชัย พิมาย โนนไทย ห้วยแถลง ปากช่อง สีคิ้ว ปักธงชัย ขามสะแกแสง เฉลิมพระเกียรติ พระทองคำ บัวใหญ่ ครบุรี บัวลาย เมืองยาง ศรีดา ชุมพวง วังน้ำเขียว ลำทะเมนชัย และแก้งสนามนาง
       
       จ.ปราจีนบุรี น้ำท่วมในพื้นที่ 2 อำเภอ 4 ตำบล 14 หมู่บ้าน ราษฎรเดือดร้อน 1,870 ครัวเรือน 5,610คนได้แก่ อำเภอนาดี และกบินทร์บุรี ความเสียหายอยู่ในระหว่างการสำรวจ
       
       จ.ลพบุรี น้ำท่วมในพื้นที่ 11 อำเภอ 120 ตำบล 1,012 หมู่บ้าน ได้แก่ อำเภอเมืองลพบุรี โคกสำโรง ชัยบาดาล พัฒนานิคม ลำสนธิ ท่าหลวง หนองม่วง สระโบสถ์ โคกเจริญ บ้านหมี่ และท่าวุ้ง
       
       จ.นครสวรรค์ น้ำท่วมในพื้นที่ 6 อำเภอ 25 ตำบล ราษฎรเดือดร้อน 2,226 ครัวเรือน 6,698 คน ได้แก่ อำเภอเมืองนครสวรรค์ ตาคลี ลาดยาว หนองบัว ท่าตะโก และไพศาลี
       
       จ.ชัยภูมิ น้ำท่วมในพื้นที่ 16 อำเภอ 113 ตำบล 1,305 หมู่บ้าน ราษฎรเดือดร้อน 63,610 ครัวเรือน 185,742 คน ได้แก่ อำเภอเมืองชัยภูมิ เกษตรสมบูรณ์ ภูเขียว บำเหน็จณรงค์ เนินสง่า จัตุรัส บ้านเขว้า แก้งคร้อ หนองบัวแดง หนองบัวระเหว คอนสวรรค์ ซับใหญ่ คอนสาร ภักดีชุมพล เทพสถิติ และบ้านแท่น
       
       จ.สระบุรี น้ำท่วมในพื้นที่ 13 อำเภอ 111 ตำบล 86,1000 ครัวเรือน 185,995 คน เสียชีวิต 1 ราย ได้แก่ อำเภอเมืองสระบุรี บ้านหม้อ พระพุทธบาท มวกเหล็ก แก่งคอย วังม่วง เสาไห้ เฉลิมพระเกียรติ ดอนพุด หนองแซง หนองแค วิหารแดง และหนองโดน
       
       จ.เพชรบูรณ์ น้ำท่วมในพื้นที่ 5 อำเภอ 49 ตำบล 271 หมู่บ้าน ได้แก่ อำเภอเมืองเพชรบูรณ์ หนองไผ่ ศรีเทพ บึงสามพัน และวิเชียรบุรี
       
       นครนายก น้ำท่วมในพื้นที่อำเภอบ้านนา 2 ตำบล ราษฎรเดือดร้อน 500 ครัวเรือน 1,500 คน
       
       จ.ศรีสะเกษ น้ำล้นสปริงเวย์เข้าท่วมในพื้นที่อำเภอขุนหาญ ความเสียหายอยู่ในระหว่างการสำรวจ
       
       จ.ตาก น้ำท่วมในพื้นที่ 6 อำเภอ 39 ตำบล 1 เทศบาลนคร 267 หมู่บ้าน ราษฎรเดือดร้อน 30,332 ครัวเรือน 100,006 คน ได้แก่ อำเภออุ้งผาง พบพระ แม่สอด ท่าสองยาง แม่ละมาด และบ้านตาก
       
       จ.สุรินทร์ น้ำท่วมในพื้นที่ 7 อำเภอ 33 ตำบล 252 หมู่บ้าน ราษฎรเดือดร้อน 25,422 ครัวเรือน 96,594 คน ได้แก่ อำเภอเมืองสุรินทร์ สังขะ บัวเชด ศรีขรภูมิ ศรีณรงค์ ชุมพลบุรี และกาบเชิง
       
       จ.บุรีรัมย์ น้ำท่วมในพื้นที่ 11 อำเภอ 62 ตำบล 485 หมู่บ้าน ราษฎรเดือดร้อน 13,275 ครัวเรือน 51,877คน ความเสียหายอยู่ในระหว่างการสำรวจ ได้แก่ อำเภอโนนดินแดง สตึก ปะคำ บ้านกรวด ประโคนชัย เฉลิมพระเกียรติ ละหานทราย นางรอง หนองหงส์ ลำปลายมาศ และชำนิ
       
       จ.ขอนแก่น น้ำท่วมในพื้นที่ 3 อำเภอ 27 ตำบล 153 หมู่บ้าน ราษฎรเดือดร้อน 4,582 ครัวเรือน 16,084 คน ได้แก่อำเภอภูผาม่าน บ้านไผ่ และชุมแพ
       
       จ.นนทบุรี แม่น้ำเจ้าพระยาเอ่อล้นเข้าท่วมในพื้นที่ 6 อำเภอ 54 ตำบล 128 หมู่บ้าน ราษฎรเดือดร้อน 15,027 ครัวเรือน 17,940 คน ได้แก่ อำเภอเมืองนนทบุรี ปากเกร็ด บางกรวย บางใหญ่ บางบัวทอง และไทรน้อย
       
       จ.ปทุมธานี น้ำเจ้าพระยาเอ่อล้นเข้าท่วมในพื้นที่ 7 อำเภอ 39 ตำบล ราษฎรเดือดร้อน 13,197 ครัวเรือน 26,394 คน ได้แก่ อำเภอเมืองปทุมธานี สามโคก ลาดหลุมแก้ว ธัญบุรี ลำลูกกา คลองหลวง และหนองเสือ
       
       จ.กำแพงเพชร น้ำท่วมในพื้นที่ 6 อำเภอ 33 ตำบล 248 หมู่บ้าน ราษฎรเดือดร้อน 31,758 ครัวเรือน 33,763 คน ได้แก่ อำเภอขาณุวรลักษบุรี ปางศิลาทอง ไทรงาม บึงสามัคคี ทรายทองวัฒนา ทรายทอง พรานกระต่าย
       
       จ.นครปฐม แม่น้ำท่าจีนเอ่อล้นเข้าท่วมพื้นที่อำเภอบางเลน และปริมาณน้ำแม่น้ำท่าจีนในพื้นที่อำเภอเมืองนครปฐม นครชัยศรี สามพราน กำแพงแสน มีระดับสูงขึ้น
       
       จ.อุทัยธานี น้ำจากแม่น้ำวงก์และคลองโพธิ์ ไหลเข้าสู่แม่น้ำแควตากแดด ส่งผลทำให้น้ำท่วมในพื้นที่ตำบลเนินแจง และตำบลโนนเหล็ก อำเภอเมืองอุทัยธานี พื้นที่การเกษตรได้รับความเสียหายประมาณ 300 ไร่ ระดับน้ำลดลงอย่างต่อเนื่องแล้ว
       
       จ.สิงห์บุรี น้ำเจ้าพระยาเอ่อล้นเข้าท่วมในพื้นที่อำเภออินทร์บุรี 2 ตำบล 1 เทศบาล 18 หมู่บ้าน ราษฎรเดือดร้อน 1,042 ครัวเรือน 2,084 คน
       
       จ.จันทบุรี ได้ประกาศพื้นที่ประสบภัยพิบัติกรณีฉุกเฉินในพื้นที่ 6 อำเภอ ได้แก่ อำเภอเมืองจันทบุรี แก่งหางแมว เขาคิชฌกูฏ มะขาม สอยดาว และโป่งน้ำร้อน
       
       จ.เชียงใหม่ น้ำท่วมในพื้นที่ 8 อำเภอ 25 ตำบล 109 หมู่บ้าน ราษฎรเดือดร้อน 5,901 ครัวเรือน 14,867 คน ได้แก่ อำเภอดอยเต่า ชัยปราการ แม่วาง จอมทอง ดอยหล่อ ฮอด สันป่าตอง และสะเมิง
       
       นอกจากนี้ จ.ลำปาง เกิดดินถล่มทับเส้นทางลำปาง-เชียงใหม่ บริเวณหลักกิโลเมตรที่ 28-29 ตำบลเวียงตาล อำเภอห้างฉัตร
       
       สำหรับการให้ความช่วยเหลือผู้ประสบภัย กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย โดยศูนย์ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยเขต และสำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดที่ประสบภัยได้ประสานความร่วมมือกับจังหวัด อำเภอ และองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ในพื้นที่ประสบภัยได้จัดส่งเรือท้องแบน 650 ลำ ถุงยังชีพ 88,760 ถุง เต๊นท์ 116 หลัง ไปติดตั้งเพื่อให้ผู้ประสบภัยมีที่พัก อาศัยชั่วคราว รถผลิตน้ำดื่ม 8 คัน น้ำดื่ม 75,209 ขวด เครื่องสูบน้ำ 134 เครื่อง รถกู้ภัยทุกชนิด 463 คัน รถไฟฟ้าส่องสว่าง 4 คัน สนับสนุนการให้ความช่วยเหลือผู้ประสบภัยโดยด่วนแล้ว ตลอดจนจัดเจ้าหน้าที่เร่งสำรวจความเสียหาย เพื่อให้การช่วยเหลือผู้ประสบภัยตามระเบียบกระทรวงการคลังฯ สุดท้ายนี้ หากประชาชนได้รับความเดือดร้อนจากอุทกภัย สามารถติดต่อขอความช่วยเหลือทางสายด่วนนิรภัย 1784 ตลอด 24 ชั่วโมง

 
 
 
http://www.manager.co.th/asp-bin/mgrView.asp?NewsID=9530000149214
 


หัวข้อ: Re: [2513] "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: เหยง 16 ที่ 22 ตุลาคม 2553, 17:10:38
จังหวัดขอนแก่น, บุรีรัมย์, สุรินทร์ และศรีษะเกษ มีอยู่ในรายชื่อประสบภัยแล้ว

ยังเหลือ มหาสารคาม, ร้อยเอ็ด, ยโสธร และอุบลราชธานี ที่น้ำยังไปไม่ถึง


หัวข้อ: Re: [2513] "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: เหยง 16 ที่ 22 ตุลาคม 2553, 19:46:20
ฝั่งพม่าก็คงจะไม่เบาเป็นแน่ หากเจอลูกนี้เข้า ฉลองรับวันเลือกตั้ง

ฝั่งทะเลจีนใต้ เพิ่งจะผ่านซูปเปอร์ไต้ฝุ่นเมกี Megi ไป, ฝั่งทะเลอินเดีย-อันดามัน เจอลูกใหญ่เท่ากันอีกลูกแล้ว

หม่องหนาวแน่ ไซโคลน “กิริ” พุ่งเข้าถล่มเขตบ่อก๊าซเบงกอล
22 ตุลาคม 2553 18:14 น.

(http://img229.imageshack.us/img229/7143/giri3w.jpg) 
ภาพขององค์การนาซ่าสหรัฐฯ ที่เผยแพร่ในบ่ายวันพฤหัสบดี (21 ต.ค.) "กิริ" (GIRI) ไต้ฝุ่นแห่งมหาสมุทรอินเดีย กำลังปั่นตัวเองอย่างพลุ่งพล่าน ในทะเลเบงกอล ห่างเมืองท่าสิตต่วย (Sittwe) ของพม่าเพียง 250 กม. ไซโคลนระดับ 4 หันหัวพุ่งเป้าขึ้นฝั่งในสุดสัปดาห์นี้ อาละวาดเหนือ "ทุ่งก๊าซ" พม่า ก่อนเข้ามัณฑะเลย์ (Mandalay)

       ASTVผู้จัดการออนไลน์ -- เฉียดไปเฉียดมาหลายครั้งตั้งแต่เดือนที่แล้ว คราวนี้เห็นทีจะเลี่ยงยาก ไซโคลน “กิริ” ความแรงเท่าไต้ฝุ่นระดับ 4 กำลังเร่งความเร็วอยู่ห่างจากเมืองท่าสิตต่วย (Sittwe) เพียง 200 กม.ในวันศุกร์ (22 ต.ค.) นี้ คาดว่าจะเข้าถึงฝั่งในสุดสัปดาห์
       
       องค์การพยากรณ์อากาศหลายแห่งทั่วโลก เตือนพม่าให้เตรียมรับมือกับพายุกิริ ก่อที่ตัวขึ้นในทะเลเบงกอล วันที่ 19 ต.ค.ที่ผ่านมา ในบริเวณใกล้ชายฝั่งภาคตะวันตกของพม่า ทำท่าจะไม่มีพิษสงอะไร เช่นเดียวกับพายุ 2 ลูก ปลายเดือนที่แล้วกับต้นเดือนนี้ ซึ่งมีความแรงระดับหย่อมความกดอากาศต่ำ
       
       สำนัก TSR ในกรุงลอนดอน ศูนย์เตือนภัยไต้ฝุ่น (Joint Typhoon Warning Center) สหรัฐฯ และ กรมอุตุนิยมวิทยาอินเดีย (Indian Meteorological Department) ต่างคำออกเตือนในวันศุกร์นี้ เกี่ยวกับการพัฒนาอย่างรวดเร็วของไซโคลนกิริ ซึ่งขึ้นสู่ระดับที่มีความรุนแรงมาก (C4)
       
       แผนที่พยากรณ์อากาศของ TSR ที่ออกในวันเดียวกัน แสดงให้เห็นไซโคลนกิริ พุ่งตรงเข้าสู่เมืองท่าสำคัญของรัฐระไค (Rakhine) หรือ ยะไข่ ทะลวงเข้าสู่ภาคกลางตอนบน เฉียดเมืองมัณฑะเลย์ (Mandalay) ไปจนถึงตอนเหนือของรัฐชาน โดยคาดว่า จะอ่อนกำลังลงเป็นระดับ 2 และ 1 และกลายเป็นพายุโซนร้อน แต่มีกำลังมากพอที่จะทำให้เกิดอุทกภัยซ้ำสอง
       
       ในเดือนนี้ภาคตะวันตกของพม่า ซึ่งรวมทั้งระไค และ ภาคกลางตอนบน รวมทั้งเมืองมัณฑะเลย์ เมืองใหญ่อันดับ 2 ของพม่า ประสบอุทกภัยรุนแรงไม่แพ้ในประเทศเพื่อนบ้านแถบนี้ หลังจากเกิดฝนตกติดต่อกันหลายวันกินอาณาบริเวณกว้าง
       
       แถบชายฝั่งเบงกอลที่อยู่ในเส้นทางเคลื่อนตัวของไซโคลนกินริ ยังเป็นเขตบ่อก๊าซใหญ่ 2-3 แห่งที่ค้นพบและเตรียมผลิตส่งจำหน่ายให้จีน นอกจากนั้นยังเขตแหล่งก๊าซใหญ่ของพม่า ที่ตั้งแปลงสำรวจ A-1, A-2 และ A-3
       
       ในวันแรกของเดือน พ.ค.2551 ไซโคลนนาร์กิส พัดเข้าเขตที่ราบปากแม่น้ำอิรวดีของพม่า ทำให้มีผู้เสียชีวิตกว่า 1 แสนคน อีกเท่าๆ กันยังสูญหาย

(http://img229.imageshack.us/img229/7552/giri1.jpg) 
แผนที่พยากรณ์อากาศของ TSR ในกรุงลอนดอน แสดงเส้นทางของกิริเป็นเส้นสีแดง ไซโคลนซึ่งมีความแรงเท่ากับไต้ฝุ่นระดับ 4 ในแปซิฟิก ตะขึ้นบกสุดสัปดาห์นี้ 

(http://img229.imageshack.us/img229/1101/giri2o.jpg) 
แผนที่พยากรณ์อากาศของ TSR ในกรุงลอนดอน ที่ออกในวันศุกร์ (22 ต.ค.) นี้ แสดงความแรงที่ศูนย์กลางและในรัศมีโดยรอบของไซโคลนกิริ ซึ่งจะขึ้นฝั่งใกล้เมืองท่าสิตต่วย (Sittwe) สุดสัปดาห์นี้  

 
 
 
จาก http://www.manager.co.th/asp-bin/mgrView.asp?NewsID=9530000149300
 


หัวข้อ: Re: [2513] "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: ดร.มนตรี ที่ 22 ตุลาคม 2553, 22:47:58
แถวนันทวัน ศรีนครินทร์ น้ำคงไม่ท่วม มั้งครับพี่แอ๊ะ ... เชื่อมือ แลนด์แอนด์เฮาส์ ^_^


อ้างถึง
ข้อความของ prapasri AH เมื่อ 22 ตุลาคม 2553, 12:18:31
จะไปขึ้นเครื่องไปกทม. แล้ว ไปเฝ้าดูบ้านใหม่ อีกแห่งหนึ่งที่ถนนศรีนครินทร์

จะไปทำกำแพงไม่ให้น้ำเข้า หุๆๆๆๆ

เห็น ท่านอธิบดี อุตุนิยม วิทยา ท่าน เหยงบอกว่า น้ำ จะไหลลงสุดท้าย ที่เเม่น้ำโขง

เป็นอันว่าในเวบนี้พี่แอ๊ะเจอทั้ง ตอนต้นน้ำ และตอนปลายน้ำ เลย อิๆๆๆๆๆ

น้องท่านไหน ที่บอกให้พี่แอ๊ะมีทั่ง i-pod- i-pad

ต้องนี้พี่แอ๊ะมีทุก I เลยค่ะ ต้องหาตะกร้าใส่ตรื่องมือสื่สารทุกชนิด

กลัวต๊กข่าวววววววววววววววววว ชาวหอ นี่แหละ555555


หัวข้อ: Re: [2513] "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: เหยง 16 ที่ 24 ตุลาคม 2553, 12:32:23
เส้นทางที่สมควรหลีกเลี่ยง เนื่องจากถูกน้ำท่วมและรถยนต์ไม่สามารถใช้สัญจร

วันที่ 24 ตุลาคม พ.ศ. 2553 เวลา 12:11:05 น.  มติชนออนไลน์
เปิดรายชื่อ 26 เส้นทาง น้ำท่วมรถผ่านไม่ได้ ใน 11 จังหวัด พร้อมแนะถนนหลีกเลี่ยง


กรมทางหลวงประกาศเส้นทางน้ำท่วมที่รถผ่านไม่ได้จำนวน 26 เส้นทาง ในพื้นที่ 11 จังหวัด พร้อมแนะนำเส้นทางหลีกเลี่ยง 
 

สำนักงานประชาสัมพันธ์ กรมทางหลวง ได้แจ้งเส้นทางน้ำท่วมที่รถผ่านไม่ได้ ในพื้นที่จังหวัดต่างๆที่ประสบภัยน้ำท่วม เนื่องจากมีระดับน้ำสูง และบางสายเส้นทางมีสภาพชำรุด โดยมีทั้งสิ้น 26 เส้นทาง ในพื้นที่ 11 จังหวัด ดังนี้
 

จังหวัดนครสวรรค์ จำนวน 3 สายทาง
 

1.ทางหลวงหมายเลข  1 "ทางน้ำ(ม่วงหัก)-สี่แยกเดชาติวงศ์ ท้องที่อำเภอเมือง น้ำท่วมจุด U-TURN สะพานเดชาติวงศ์ สูง 170 ซม. ที่กม.339+776 ให้ใช้จุด U-TURN ที่กำหนดให้ แทน"นครสวรรค์-เก้า เลี้ยว ท้องที่อำเภอบรรพตพิสัย น้ำท่วมสูง 50 ที่กม 7-10 ให้ใช้ทางหลวงชนบทสายกระทุมโทน-บางแก้ว- ตาขีด แทน"

2.ทางหลวงหมายเลข 122 "ทางเลี่ยงเมืองนครสวรรค์ด้านตะวันตก ท้องที่อำเภอเมือง น้ำท่วมจุด U-TURN สะพานด้านเหนือ สูง 180 ซม. ที่กม.8-9 ให้ใช้จุด U-TURN ที่กำหนดให้ แทน"

3.ทางหลวง หมายเลข  1072 "หนองเบน-ลาดยาว-วังซ่าน ท้องที่อำเภอลาดยาว น้ำท่วมสูง 40 ซม. ที่ กม. 12-29   เป็นแห่งๆให้ใช้ทางหลวงชนบท นว1001 หนองสังข์-ลาดยาว"


จังหวัดพระนครศรีอยุธยา จำนวน 3 สายทาง
 

1.ทางหลวงหมายเลข  32 "บางปะอิน-นครหลวง ท้องที่อำเภอปางปะอิน และอุทัยธานี น้ำท่วมจุด U-TURN ใต้สะพาน จำนวน 5 แห่ง สูง 20-40 ซม. ที่ กม.  4-20

2.ทางหลวงหมายเลข  3236 "อยุธยา-เสนา-บ้านสาลี  ท้องที่อำเภอบางบาล น้ำท่วมจุด U-TURN ใต้สะพานสีกุก สูง 130 ซม. ที่ กม.  10-11"

3.ทางหลวงหมายเลข 3467 "สามเรือน-กลางวังแดง ท้องที่อำเภอนครหลวง น้ำท่วมสูง 80 ซม. ที่ กม. 0-5 ให้ใช้เส้นทางสาย 329 ตอนนครหลวง-บางปะหัน แทน" "นครหลวง-ท่าเรือ ท้องที่ อำเภอท่าเรือ น้ำท่วมสูง 90 ซม. ที่ กม. 14-17 ให้ใช้เส้นทางสาย 329 ตอนนครหลวง-บางปะอิน แทน"
 

จังหวัดลพบุรี จำนวน 7 สายทาง


1.ทางหลวงหมายเลข 205"ม่วงค่อม-ลำนารายณ์ ท้องที่อำเภอชัยบาดาล น้ำท่วมสูง 100 ซม. ที่กม.  226-240 เป็นแห่งๆให้ใช้สาย 21 ม่วงค่อม-บึงสามพัน  แทน

2.ทางหลวงหมายเลข  311 "ทางเลี่ยงเมืองลพบุรี ท้องที่อำเภอเมือง น้ำท่วมสูง 70 ซม. ที่กม. 9-10 ให้ใช้ทางเขตเทศบาล แทน

3.ทางหลวงหมายเลข 3016 "ป่าตาล - ป่าหวาย ท้องที่อำเภอเมือง น้ำท่วมสูง 50-90 ซม. ที่กม. 0-5  เป็นแห่งๆ  ให้ใช้สาย 3196 ทางเลียบคลองชลประทาน แทน

4.ทางหลวงหมายเลข  3019 "เขาพระงาม-โคกกระเทียม ท้องที่อำเภอเมือง น้ำท่วมสูง 50 ซม. ที่กม. 1-2  ให้ใช้สาย 3196 ตอนบ้านหมี่-ลพบุรี แทน " 

5.ทางหลวงหมายเลข 3024 "บ้านหมี่-เขาช่องลม ท้องที่อำเภอบ้านหมี่ น้ำท่วมสูง 100 ซม.ที่กม. 6- 13 ให้ใช้สาย 3326 บ้านหมี่-หนองม่วง แทน" 

6.ทางหลวงหมายเลข 205 "โคกสำโรง-ลำนารายณ์ ท้องที่อำเภอชัยบาลดาล น้ำท่วมสูง 90 ซม. ที่ กม. 226-242 เป็นแห่งๆ ให้ใช้สาย 2089 ตอนน้ำสุด-ลำนารายณ์ แทน 

7.ทางหลวงหมายเลข   2256 "ท่าหลวง-ชัยบาดาล ท้องที่อำเภอชัยบาดาล น้ำท่วมสูง 65 ซม. ที่กม. 0-2 ให้ใช้สาย 21 ชัยบาดาล-บึงสามพัน แทน"
 

จังหวัดสระบุรี จำนวน 1 สายทาง
 

1.ทางหลวงหมายเลข 3034 "หน้าพระลาน-บ้านครัว ท้องที่อำเภอบ้านหมอ น้ำท่วมสูง 30-50 ซม. ที่กม.13-16ให้ใช้ สาย 3022 ตอนบ้านหมอ-ท่าเรือ แทน"
 

จังหวัดสุพรรณบุรี จำนวน 1 สายทาง


1.ทางหลวงหมายเลข 3502 "สระบัวก่ำ-ดอนไร่ ท้องที่อำเภอหนองหญ้าไซ น้ำท่วมสูง 20 ซม. ที่ กม. 17-19 ให้ใช้เส้นทางสาย 4322 ตอน หนองหญ้าไซ้-ด่านช้าง แทน (น้ำไหลเชี่ยวเนื่องจากเขื่อนระบายน้ำออก)"
 

จังหวัดอุทัยธานี จำนวน 3 สายทาง


1.ทางหลวงหมายเลข 3220 "อุทัยธานี-โกรกพระ ท้องที่อำเภอเมือง น้ำท่วมสูง 20 ซม. ที่ กม. 8-10 ให้ใช้สาย 32  เอเชีย ตอน นครสวรรค์-อุทัยธานี แทน "

2.ทางหลวงหมายเลข  3319 "เขาน้อย-ดอนหวาย ท้องที่อำเภอทัพทัน น้ำท่วมสูง 100 ซม. ที่ กม.  17-18 ให้ใช้ สาย 3221 ตอนอุทัยธานี- ทัพทัน  แทน"

3.ทางหลวงหมายเลข 3456 "หนองกระดี่-บ้านเขาดาวเรือง ท้องที่อำเภอทัพทัน น้ำท่วม สูง 20-60 ซม.ที่กม. 3-6ให้ใช้ทางสาย 3221 ตอนทัพทัน-อุทัยธานี"
 

จังหวัดสุโขทัย จำนวน 1 สายทาง


1.ทางหลวงหมายเลข 1293 สุโขทัย-บ้านใหม่ ท้องที่อำเภอเมือง น้ำท่วมสูง 20 ซม ที่กม.7-8
 

จังหวัด ลำพูน  จำนวน 1 สายทาง


1.ทางหลวงหมายเลข 106 "บ้านปาง-บ้านแพะ ท้องที่อำเภอบ้านโฮ่ง น้ำท่วมสูง 60 ซม. ที่กม. 112-114ให้ใช้ทางเบี่ยงเข้าบ้านโฮ่งหลวง แทน"
 

จังหวัดนครราชสีมา จำนวน 4 สายทาง

1.ทางหลวงหมายเลข 206 "ทางเลี่ยงเมืองพิมาย (ตลาดแค-พิมาย) ท้องที่อำเภอพิมาย น้ำท่วม สูง 60-100 ซม.ที่กม. 0-10 เป็นแห่งๆให้ใช้สาย 206 ตอนพิมาย-ห้วยแถลง แทน "

2.ทางหลวง 224 "โชคชัย-ครบุรี ท้องที่อำเภอโชคชัย น้ำท่วมสูง 40 ซม. ที่กม. 1-2 เป็นแห่งๆ ให้ใช้ทางสาย 2421 ถนนเลียบคลองชลประทาน แทน ครบุรี-เสิงสาง ท้องที่อำเภอครบุรี น้ำกัดเซาะ ทางขาด. ที่กม. 16-17 เป็นแห่งๆ ให้ใช้สาย  2317 ตอนหนองกี่-โชคชัย แทน"

3.ทางหลวงหมายเลข 226 "นครราชสีมา-อ.เฉลิมพระเกียรติ ท้องที่อำเภอเฉลิมพระเกียรติ น้ำท่วม สูง 30-40 ซม.ที่กม 15-18 ผ่านได้เฉพาะรถใหญ่ รถเล็กให้ใช้ทางสาย 2298 ห้วยลับ-ด่านเกวียน แทน"

4.ทางหลวงหมายเลข 2421 "เขื่อนลำพระเพลิง-โชคชัย ท้องที่อำเภอโชคชัย น้ำท่วมสูง 10-40 ซม. ที่กม. 44-46 เป็นแห่งๆ ให้ใช้สาย 24 ปักธงชัย-โชคชัย แทน"
 

จังหวัดบุรีรัมย์  1 สายทาง

1.ทางหลวงหมายเลข 226 "หนองคู-ลำปลายมาศ ท้องที่อำเภอลำปลายมาศ น้ำท่วมสูง 45 ซม. ที่กม. 87-88  ให้ใช้สาย 2208 ประโคนชัย-กระสัง แทน"
 

จังหวัดขอนแก่น จำนวน 1 สายทาง

1.ทางหลวงหมายเลข  2038 "กุดฉิม-หนองบัวลำภู ท้องที่อำเภอหนองเรือ น้ำท่วมสูง 40 ซม. ที่กม. 3-5 ให้ใช้สาย 2133 ศรีบุญเรือง-ภูเวียง แทน"
 

สำหรับประชาชนที่ต้องการสอบถามสภาพเส้นทาง หรือต้องการความช่วยเหลือ สามารถสอบถามได้ที่สายด่วนกรมทางหลวง 1586 และตำรวจทางหลวง 1193  ตลอด 24 ชั่วโมง   และสำนักงานประชาสัมพันธ์ 02-354-6530, 02-354-6668-76 ต่อ 2014 ,2031 ศูนย์บริหารงานอุบัติภัย สำนักบริหารบำรุงทาง 02-354-6551 ในวันเวลาราชการ

http://www.matichon.co.th/news_detail.php?newsid=1287897169&grpid=01&catid=

 



หัวข้อ: Re: [2513] "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: prapasri AH ที่ 24 ตุลาคม 2553, 21:13:42
ไปกทม กลับมาแล้ว โดยเครื่องบินค่ะ
บ้านพระรามก้า ก็ไม่ท่วม บ้านศรีนครินทร์ก็ไม่ท่วม

เลยได้ไป กับ พรเทพ หอชาย 16 ไปสำรวจบ้านเช่า เเถมพระรามเก้า เขาไม่จ่ายค่าเช่ามาหลายเดือนแล้ว

ไปดูบ้าน โอโฮ.... พม่าอยู่เต็มเลย น่าสงสารผู้หญิงพม่า นั่งให้นมลูกอยู่ เห็นแล้วสงสาร

แต่คนที่ไม่จ่ายค่าเช่าคือ นายจ้างคนไทย อ่ะ

สงสาร คนไร้ราก แรงงานพลัดถิ่น ปัญหาประเทศชาติของไทย ที่ต้องเกิด เพราะเเรงงานต่างชาติเหล่านี้

อ้างถึง
ข้อความของ ดร.มนตรี เมื่อ 22 ตุลาคม 2553, 22:47:58
แถวนันทวัน ศรีนครินทร์ น้ำคงไม่ท่วม มั้งครับพี่แอ๊ะ ... เชื่อมือ แลนด์แอนด์เฮาส์ ^_^


อ้างถึง
ข้อความของ prapasri AH เมื่อ 22 ตุลาคม 2553, 12:18:31
จะไปขึ้นเครื่องไปกทม. แล้ว ไปเฝ้าดูบ้านใหม่ อีกแห่งหนึ่งที่ถนนศรีนครินทร์

จะไปทำกำแพงไม่ให้น้ำเข้า หุๆๆๆๆ

เห็น ท่านอธิบดี อุตุนิยม วิทยา ท่าน เหยงบอกว่า น้ำ จะไหลลงสุดท้าย ที่เเม่น้ำโขง

เป็นอันว่าในเวบนี้พี่แอ๊ะเจอทั้ง ตอนต้นน้ำ และตอนปลายน้ำ เลย อิๆๆๆๆๆ

น้องท่านไหน ที่บอกให้พี่แอ๊ะมีทั่ง i-pod- i-pad

ต้องนี้พี่แอ๊ะมีทุก I เลยค่ะ ต้องหาตะกร้าใส่ตรื่องมือสื่สารทุกชนิด

กลัวต๊กข่าวววววววววววววววววว ชาวหอ นี่แหละ555555

w


หัวข้อ: Re: [2513] "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: เหยง 16 ที่ 24 ตุลาคม 2553, 22:14:06
อ้างถึง
ข้อความของ prapasri AH เมื่อ 24 ตุลาคม 2553, 21:13:42
ไปกทม กลับมาแล้ว โดยเครื่องบินค่ะ
บ้านพระรามก้า ก็ไม่ท่วม บ้านศรีนครินทร์ก็ไม่ท่วม
[/size]

เลยได้ไป กับ พรเทพ หอชาย 16 ไปสำรวจบ้านเช่า เเถมพระรามเก้า เขาไม่จ่ายค่าเช่ามาหลายเดือนแล้ว

ไปดูบ้าน โอโฮ.... พม่าอยู่เต็มเลย น่าสงสารผู้หญิงพม่า นั่งให้นมลูกอยู่ เห็นแล้วสงสาร

แต่คนที่ไม่จ่ายค่าเช่าคือ นายจ้างคนไทย อ่ะ

สงสาร คนไร้ราก แรงงานพลัดถิ่น ปัญหาประเทศชาติของไทย ที่ต้องเกิด เพราะเเรงงานต่างชาติเหล่านี้



คนไทยที่ใช้แรงงานพม่าหรือต่างด้าว ควรจะมีใจให้เขาเหมือนกับที่จ้างแรงงานไทย อย่านึกแต่จะจ้างถูกๆ ไร้ความเมตตาอย่างนั้น
ข้อดีของแรงงานต่างด้าวคือ ยินดีทำงานมากกว่าแรงงานคนไทย ขอเพียงให้ได้เงินตามที่ตกลงกันไว้
ในมุมกลับ ก็สมควรคิดถึงสภาพของแรงงานไทยที่ไปอยู่ไต้หวัน สิงคโปร์ เกาหลีใต้ ฯ ก็คงไม่แตกต่างกับสภาพของต่างด้าวในไทยมากนักเช่นกัน



หัวข้อ: Re: [2513] "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: เหยง 16 ที่ 25 ตุลาคม 2553, 10:29:12
เป็นข่าวพอดีครับ

วันที่ 25 ตุลาคม พ.ศ. 2553 เวลา 09:39:59 น.  มติชนออนไลน์
องค์กรด้านแรงงาน-สิทธิมนุษยชน เล็ง ยื่นหนังสือต่อ"บัน คี มุน"ตรวจสอบการละเมิดสิทธิแรงงานข้ามชาติ

3 องค์กรแรงงานใหญ่นัดยื่นหนังสือต่อเลขาฯยูเอ็นวันนี้ จี้สอบละเมิดแรงงานข้ามชาติ แฉเจ้าหน้าที่ไทยร่วมมือขบวนการค้ามนุษย์ "เหิมเกริม"ซื้อ-ขายบนเรือระหว่างผลักดันกลับ ซัดรัฐบาลเมินแก้ปัญหา แนะ 6 ข้อปรับนโยบายแรงงานต่างด้าวใหม่


เมื่อวันที่ 24 ตุลาคม ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในการมาเยือนประเทศไทยของ นายบัน คี มุน เลขาธิการสหประชาชาติ (ยูเอ็น) วันที่ 26 ตุลาคมนี้ เครือข่ายองค์กรที่ทำงานเกี่ยวกับแรงงานข้ามชาติ และองค์กรด้านสิทธิมนุษยชน อาทิ สมาพันธ์แรงงานรัฐวิสาหกิจสัมพันธ์ (สรส.) คณะกรรมการสมานฉันท์แรงงานไทย (คสรท.) มูลนิธิเพื่อสิทธิมนุษยชนและการพัฒนา (มสพ.) ได้ทำหนังสือร้องเรียนเตรียมยื่นต่อนายบัน คี มุน เพื่อให้ตรวจสอบการละเมิดสิทธิมนุษยชนต่อแรงงานข้ามชาติพม่าที่ถูกผลักดันออกจากประเทศไทยเป็นการด่วน พร้อมกับมีข้อเสนอเเนะรัฐบาลไทยในการพัฒนานโยบายแรงงานข้ามชาติบนพื้นฐานของการเคารพศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์


หนังสือร้องเรียนระบุว่า มีข้อมูลจากสื่อมวลชนหลายสำนัก โดยเฉพาะสื่อต่างประเทศได้รายงานข่าวการละเมิดสิทธิมนุษยชนอันเป็นผลจากนโยบายกวาดล้างเเละผลักดันแรงงานข้ามชาติที่ไม่แสดงความประสงค์จะพิสูจน์สัญชาติ หรือแรงงานข้ามชาติที่หลบหนีเข้าเมืองอย่างต่อเนื่อง อาทิ กรณีเจ้าหน้าที่ท้องถิ่นไทยบางรายนำแรงงานที่ถูกจับกุมเเละผลักดันออกนอกไทยไปยังพื้นที่กักกันภายใต้ควบคุมของกำลังกะเหรี่ยงพุทธ (ดีเคบีเอ) บริเวณริมแม่น้ำเมยฝั่งตรงข้ามกับ อ.แม่สอด จ.ตาก ทั้งๆ ที่คนงานกลุ่มชาติพันธุ์เหล่านั้นไม่ได้อยู่ในเขตการดูแลของดีเคบีเอ กรณีต่อมา เจ้าหน้าที่ไทยบางกลุ่มได้ขายแรงงานบนเรือขณะลอยลำอยู่ในน่าน จ.ระนอง เเละเกาะสองให้นายหน้าค้ามนุษย์ จากนั้นนายหน้าลักลอบนำกลับมาไทยอีกครั้ง กรณีเหล่านี้องค์กรด้านสิทธิแรงงาน องค์กรสิทธิมนุษยชนทั้งในประเทศเเละนานาชาติเคยยื่นจดหมายเปิดผนึกถึงนายกรัฐมนตรีให้ตรวจสอบกรณีดังกล่าวตั้งเเต่เดือนกรกฎาคมที่ผ่านมา แต่รัฐบาลไทยยังมิได้ดำเนินการใดๆ อย่างชัดเจน


หนังสือระบุต่อไปว่า เมื่อวันที่ 2 มิถุนายน 2553 รัฐบาลไทยเริ่มนโยบายการปราบปรามแรงงานข้ามชาติเข้าเมืองผิดกฎหมายและแรงงานที่ไม่แสดงความประสงค์จะเข้าสู่กระบวนการพิสูจน์สัญชาติ โดยนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ได้ออกคำสั่งนายกรัฐมนตรี ที่ 125/2553 เรื่อง "การจัดตั้งศูนย์เฉพาะกิจปราบปราม จับกุม เเละดำเนินคดีแรงงานข้ามชาติที่ไม่เเสดงความประสงค์จะพิสูจน์สัญชาติ ภายในวันที่ 28 กุมภาพันธ์ 2553" กวาดล้างแรงงานข้ามชาติที่ไม่ได้จดทะเบียนเเละเเรงงานข้ามชาติที่ไม่ได้เเสดงความประสงค์พิสูจน์สัญชาติตามภายในเวลาที่กำหนด ขณะเดียวกันรัฐบาลยังประกาศโครงการหักเงินเข้ากองทุนเพื่อการส่งกลับแรงงานข้ามชาติ จากเเรงงานข้ามชาติ ส่งผลกระทบกับแรงงานข้ามชาติที่มีรายได้น้อย สะท้อนให้เห็นว่าการปรับสถานะแรงงานข้ามชาติให้ถูกกฎหมายและการกวาดล้างเเรงงานข้ามชาติ เป็นการเปิดโอกาสให้มีการละเมิดสิทธิมนุษยชนของแรงงานข้ามชาติอย่างเป็นระบบ ทั้งยังไม่สามารถแก้ปัญหาการลักลอบเข้าเมืองผิดกฎหมาย หรือเปิดโอกาสให้แรงงานข้ามชาติเข้าถึงสิทธิอันพึงได้รับ


มีข้อมูลเชื่อได้ว่าแรงงานข้ามชาติที่ถูกส่งต่อเข้าค่ายกักกันของกองกำลังดีเคบีเอ ต้องจ่ายค่าไถ่ตัวสูงถึงคนละ 2,500 บาท เพื่อกลับสู่ไทยอีกครั้ง ส่วนแรงงานข้ามชาติที่ถูกผลักดันกลับทางเรือไปยังเกาะสอง มีหลักฐานว่าถ้าแรงงานไม่มีเงินเเลกกับการปล่อยตัว จะถูกนำไปขายให้ขบวนการค้ามนุษย์ และมีนายหน้าลักลอบพากลับสู่ไทยŽ หนังสือระบุ


หนังสือดังกล่าวระบุด้วยว่า สรส. คสรท.และ มสพ.มีข้อเสนอแนะรัฐบาลไทยผ่านเลขาธิการยูเอ็น ดังนี้

1.รัฐบาลควรเชิญผู้รายงานพิเศษเเห่งสหประชาชาติด้านสิทธิมนุษยชนของผู้อพยพ ผู้รายงานพิเศษเเห่งสหประชาชาติด้านการต่อต้านการค้ามนุษย์ ผู้รายงานพิเศษเเห่งสหประชาชาติว่าด้วยการต่อต้านการทรมาน มาเยือนไทยเพื่อให้คำเเนะนำต่อปัญหาที่เกิดขึ้น เเละให้ข้อเสนอเเนะปรับปรุงนโยบายการจัดการแรงงานข้ามชาติเพื่อให้เคารพสิทธิมนุษยชนของแรงงานข้ามชาติมากขึ้น


2.รัฐบาลควรระงับการผลักดันเเละจับกุมแรงงานข้ามชาติเข้าเมืองผิดกฎหมาย ตามคำสั่งนายกรัฐมนตรีทันที จนกว่าจะมีการตรวจสอบกรณีการละเมิดสิทธิดังกล่าวอย่างรอบคอบ เพื่อยุติการค้ามนุษย์ การแสวงประโยชน์โดยมิชอบ และการละเมิดสิทธิมนุษยชน ผู้ที่เกี่ยวข้องกับอาชญากรรมดังกล่าวต้องถูกดำเนินคดีเเละลงโทษโดยผ่านกระบวนการที่โปร่งใส


3.เมื่อรัฐบาลประกาศว่านโยบายเปิดจดทะเบียนแรงงานข้ามชาติครั้งใหม่เพื่อแก้ปัญหาขาดแคลนแรงงานไร้ฝีมือ ดังนั้น การยกเลิกการกวาดล้างจะสร้างแรงจูงใจเเก่นายจ้างเเละเเรงงานข้ามชาติให้กล้าแสดงตัวเพื่อเข้าจดทะเบียนตามกฎหมาย


4.รัฐบาลควรจดทะเบียนแรงงานข้ามชาติรอบใหม่โดยเร็วด้วยวิธีการที่สะดวก รวดเร็ว โปร่งใส ยึดหลักนิติธรรมในการบริหารจัดการเเรงงานข้ามชาติ เเละหลักการคุ้มครองสิทธิมนุษยชนของแรงงานข้ามชาติ ตลอดจนถึงผู้ติดตามเเละครอบครัว


5.รัฐบาลไทยควรทบทวนนโยบายการนำเข้าแรงงานข้ามชาติถูกกฎหมายจากประเทศเพื่อนบ้าน โดยคำนึงถึงสิทธิมนุษยชนพื้นฐานที่แรงงานข้ามชาติพึงได้รับ เเละป้องกันการเเสวงประโยชน์โดยมิชอบจากแรงงานข้ามชาติ ทั้งด้านเศรษฐกิจเเละด้านอื่นๆ


6.รัฐบาลควรให้ความสำคัญกับการกำหนดนโยบายระยะยาว ให้มีหน่วยงานเฉพาะเพียงหน่วยงานเดียวทำหน้าที่บริหารการอพยพย้ายถิ่น เปิดโอกาสให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ตัวเเรงงานข้ามชาติเอง นายจ้าง และภาคประชาสังคม เข้ามามีส่วนร่วมกำหนดนโยบาย

http://www.matichon.co.th/news_detail.php?newsid=1287957333&grpid=00&catid=


หัวข้อ: Re: [2513] "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: เหยง 16 ที่ 25 ตุลาคม 2553, 10:46:37
คนไทยน้ำใจงาม..จนขึ้นชื่อ เป็นผู้บริจาค ลดับที่ 3 ของโลก..อ่านครับ

สังคมไทยใจบุญสุนทาน บริจาคจนติดอันดับโลก
24 ตุลาคม 2553 22:17 น.

 
       ภาพน้ำสีขุ่นไหลเชี่ยวกรากท่วมถนน ท่วมบ้านเรือน ภาพคนกำลังคว้าข้าวของจำเป็นใส่กะละมังใบยักษ์ อุ้มลูกจูงมือหลานเดินฝ่าน้ำออกจากบ้าน ภาพที่ชวนให้เศร้าและสัมผัสได้ถึงความสูญเสีย
       
       ขณะที่ภาพดังกล่าวฉายซ้ำไปซ้ำมาอยู่บนหน้าจอโทรทัศน์ ภาพที่ฉายเคียงคู่กันไปตลอดก็คือ ภาพของธารน้ำใจจากคนไทยด้วยกันที่หลั่งไหลมาอย่างไม่ขาดสาย ภาพความช่วยเหลือของหน่วยงานต่างๆ ทั้งที่เข้าไปช่วยเหลือในพื้นที่และช่วยรับข้าวของบริจาค ไปจนถึงการประชาสัมพันธ์ช่องทางรับบริจาคเงินที่สามารถเอาไปแปรรูปเป็นของใช้จำเป็นได้ทุกชนิด
       
       ปรากฏการณ์คนไทยใจบุญที่เกิดขึ้นในขณะนี้ หรือในหลายๆ ครั้งที่เกิดเหตุการณ์ร้ายแรง เช่น สึนามิหรือแผ่นดินไหวที่เฮติ ทำให้เรื่องที่จะกล่าวต่อไปเป็นเครื่องการันตีสังคมแห่งการให้ของคนไทยได้เป็นอย่างดีที่สุด เพราะมูลนิธิการกุศลระหว่างประเทศ (Charities Aid Foundation-CAF) ได้จัดอันดับให้ประเทศไทยเป็นประเทศที่บริจาคเงินช่วยเหลือผู้อื่นมากเป็นอันดับ 3 ของโลก
       
       ที่มาของอันดับ 3
       
       มูลนิธิการกุศลระหว่างประเทศซึ่งมีสำนักงานใหญ่อยู่ในประเทศอังกฤษ และมีสาขาย่อยอยู่ในหลายๆ ทวีป ได้ทำการสำรวจและจัดอันดับ 153 ประเทศทั่วโลกเกี่ยวกับการกุศล ซึ่งใช้พฤติกรรม 3 แบบเป็นเกณฑ์จัดอันดับ คือ การเป็นอาสาสมัครเพื่อการกุศล, การช่วยเหลือคนแปลกหน้า และการบริจาคเงิน การสำรวจนี้ใช้วิธีสอบถามประชาชนจำนวน 500-2,000 คน แล้วแต่ขนาดของประเทศว่าในรอบ 1 เดือนที่ผ่านมาได้เคยทำการกุศลใดมาบ้าง ผู้ที่มาวินเป็นอันดับ 1 ของโลกคือ ประเทศออสเตรเลีย และนิวซีแลนด์ (57 เปอร์เซ็นต์) รองลงมาคือประเทศแคนาดา และไอร์แลนด์ (56 เปอร์เซ็นต์)
       
       สำหรับประเทศไทยก็ไม่น้อยหน้าชาติใดในโลก เพราะติดอันดับที่ 25 (42 เปอร์เซ็นต์) และเมื่อเจาะไปที่การบริจาคเงินอย่างเดียวแล้ว ไทยกลับไต่อันดับขึ้นมาเป็นที่ 3 ของโลก (73 เปอร์เซ็นต์) เท่ากับประเทศอังกฤษ
       
       เหตุการณ์นี้บอกอะไรได้บ้าง?
       
       สังคมพุทธ-วัฒนธรรมแห่งการให้
       
       ในหนึ่งวัน คนหนึ่งคนจะถูกสะกิดต่อมผู้ 'ให้' เกือบตลอดเวลา ผ่านทางตู้บริจาค ขอทานบนสะพานลอย หรือไฮเทคกว่านั้นคือทางข้อความผ่านโทรศัพท์มือถือ และก็มักจะรู้สึกจากใจจริงว่าอยากจะให้เสมอ เหตุที่เป็นเช่นนี้เพราะคนไทยเป็นผู้ที่มีจิตใจของการให้ โดยได้รับการปลูกฝังด้วยวัฒนธรรมทางพระพุทธศาสนาเรื่องของการทำทานมาแต่ครั้งโบราณกาล พระมหาวุฒิชัย วชิรเมธี หรือ ว.วชิรเมธี ได้อธิบายถึงรากฐานแห่งความเชื่อนี้ว่า
       
       “เราจะเห็นได้ว่าหลักธรรมทางพุทธศาสนาที่เป็นระดับหลักธรรมสำคัญ แทบทั้งนั้นเริ่มต้นด้วยทาน เช่น หลักการทำบุญ 10 ประการที่เรียกว่าบุญกิริยาวัตถุก็เริ่มต้นด้วยข้อแรกคือ ทาน หลักทศพิธราชธรรมของนักการเมืองหรือธรรมาภิบาลสำหรับนักการเมืองก็เริ่มต้นด้วยทานเหมือนกัน ขณะเดียวกัน สังคมไทยก็มีการปลูกฝังอุดมคติแห่งการเป็นผู้ให้ผ่านงานพิธีกรรมต่างๆ มากมาย โดยเฉพาะอย่างยิ่งในงานเทศมหาชาติพระเวชสันดรชาดก และพระเวชสันดรก็เป็นตัวอย่างของพระผู้ให้ นี่คือวิธีที่สังคมไทยปลูกฝังอุดมคติแห่งการให้โดยอาศัยหลักธรรมทางพระพุทธศาสนามาเป็นเครื่องมือ คนไทยจึงกลายเป็นชาตินักให้ คนไทยมีหัวจิตหัวใจที่ผูกพันกับศาสนามาแต่เดิม”
       
       ในฐานะประชาชนคนหนึ่งที่ทำงานด้านการกุศลมาอย่างยาวนาน เบญจวรรณ ตัมพานุวัตร ประธานมูลนิธิกุศลธรรมภูเก็ต องค์กรหนึ่งที่มีส่วนช่วยรับบริจาคสิ่งของเพื่อนำไปช่วยเหลือผู้ที่ได้รับความเดือดร้อนในเหตุการณ์น้ำท่วม เธอคิดว่าการได้รับการจัดอันดับสูงขนาดนี้ เป็นเรื่องที่น่ายินดีที่ต่างประเทศเห็นคนไทยเป็นคนจิตใจดีมีน้ำใจ
       
       “เราถูกสอนมาว่าให้ทำความดีเผื่อแผ่ผู้อื่น ช่วยผู้ที่ด้อยกว่าเมื่อมีโอกาส และทุกคนที่มีความคิดและแสดงออกเช่นนี้คือชาวพุทธแท้ๆ ช่วยหรือบริจาคได้ตามกำลังเรา ถ้าไม่ช่วยกันยามลำบากแล้วจะไปช่วยกันตอนไหน คนเราจะเห็นน้ำใจความเมตตากันก็ตอนลำบาก”
       
       เศรษฐศาสตร์ของการให้
       
       แม้แต่ในเชิงเศรษฐศาสตร์เอง ก็มองปรากฏการณ์นี้ว่าเกี่ยวข้องโดยตรงกับเรื่องของพระพุทธศาสนาอย่างไม่ต้องสงสัย หากแต่มีนัยทางเศรษฐศาสตร์ซ่อนอยู่ในกรอบความคิดแบบพุทธเหมือนกัน
       
       รศ.ดร.วรากรณ์ สามโกเศศ อธิการบดีมหาวิทยาลัยธุรกิจบัณฑิตย์ ในฐานะนักเศรษฐศาสตร์ ยอมรับว่าไม่แปลกใจกับปรากฏการณ์ที่เกิดนี้ เพราะหากมองในแง่ของวัฒนธรรมต้องยอมรับว่า พระพุทธศาสนานั้นมีส่วนสำคัญอย่างมาก โดยเฉพาะความคิดที่ว่า การบริจาคหรือการให้ทานคือการสะสมบุญประเภทหนึ่ง
       
       “ถ้าตัวเลขนี้เป็นจริงก็ถือเป็นการสะท้อนให้เห็นถึงพื้นฐานของคนไทยที่ชอบช่วยเหลือคนที่ลำบาก และผูกพันกับแนวคิดทางศาสนาค่อนข้างมาก ซึ่งหากถามว่าการให้แบบนี้หวังผลไหม ก็ต้องยอมรับว่าใช่ โดยในใจอาจจะรู้สึกว่าได้รับตอบแทนในที่สุด ซึ่งอาจจะมาในรูปของผลบุญก็จะส่งต่อไปยังชาติหน้า
       
        “ไม่เพียงแค่นั้น ตามหลักเศรษฐศาสตร์ยังมองอีกว่า การให้ก็เป็นเหตุให้เกิดความสุขเช่นเดียวกับการรับ ซึ่งการบริจาคก็ทำให้เกิดความสุขเช่นกัน”
       
       บริจาคใดคนไทยต้องการ
       
       ไม่มีใครปฏิเสธว่าการให้ทานในรูปแบบของเงิน เป็นการบริจาคที่ง่ายที่สุด เพราะสะดวกรวดเร็ว มีพกอยู่กับตัวตลอดเวลา และไม่ต้องลงแรง
       
       รศ.ดร.วรากรณ์ กล่าวว่านอกจากจะง่ายที่สุดแล้ว ยังมีภาระผูกพันน้อยที่สุดอีกด้วย ยิ่งเมื่อเทียบกับการให้ประเภทอื่นๆ อย่างเช่นการอุทิศตัวหรือทำงานสาธารณกุศล ซึ่งถือว่าขัดวัฒนธรรมไทยโดยรวมอย่างสิ้นเชิง
       
       “การเข้ามาลงแรง มันไม่ใช่วัฒนธรรมคนไทยนะ เพราะคนไทยพอให้เสร็จก็อย่ามายุ่งกับฉัน ขณะที่การช่วยงานมันเกี่ยวพัน แต่คนส่วนใหญ่ไม่ชอบอะไรที่มันผูกพันยืดยาว และจากข้อสันนิษฐาน ผมคิดว่าคนที่ชอบบริจาคน่าจะเป็นคนชนชั้นกลางเป็นส่วนใหญ่ ซึ่งปกติไม่ชอบที่จะยุ่งเกี่ยวกับคนอื่น ให้เงินครั้งเดียวก็จบ ที่สำคัญเราต้องยอมรับด้วยว่าการดำรงชีวิตของคนไทยกับเมืองนอกก็แตกต่างกัน เพราะของเรามันไม่มีเวที ไม่มีลักษณะที่จะไปทำงานอาสาสมัครได้”
       
       แม้จะไม่มีพื้นที่สำหรับอาสาสมัครเพื่องานการกุศลมากนักในบ้านเรา ในสังคมพุทธศาสนาก็ยังมีการทำทานในอีกหลายรูปแบบ ซึ่งพระมหาวุฒิชัย วชิรเมธีได้จำแนกประเภทออกมาให้เข้าใจได้ง่ายสำหรับคนทั่วไปว่า
       
       “คำว่าการให้ การบริจาค มันมีหลายรูปแบบ ไม่ใช่ว่าพูดถึงการให้ก็ต้องให้เงินเสมอไปนะ เช่น การช่วยเหลือเกื้อกูล การให้โอกาสแก่คนซึ่งขาดโอกาส การให้อภัยแก่คนที่ผิดพลาดไปแล้ว การให้ความรัก ความอบอุ่นแก่บุคคลในครอบครัว หรือการให้ความซื่อสัตย์สุจริตแก่แผ่นดินถิ่นเกิดของตน ตลอดจนถึงการมีจิตใจสาธารณะไม่เห็นแก่ตัว เพราะฉะนั้นเราควรขยายมิติของการให้ให้กว้างขวางออกไป ไม่ใช่แค่ว่าให้เงินให้ทองกันเท่านั้น แต่ควรจะรวมไปถึงการให้ในหลายๆ มิติที่กล่าวมาข้างต้นด้วย
       
       “ถ้าถามว่าการให้อะไรที่เหมาะสมที่สุดในสังคมไทยในเวลานี้นะ อาตมาคิดว่าการให้อภัยซึ่งกันและกันนี่แหละสำคัญที่สุดและจำเป็นที่สุดด้วย อภัยทานถือว่าเป็นทานอันยิ่งใหญ่ ซึ่งในรอบหลายปีที่ผ่านมาสังคมไทยเต็มไปด้วยความโกรธเกลียดชิงชัง ลองลดตัวเองให้ต่ำแล้วทำประเทศไทยให้สูง เราจะได้ช่วยให้ประเทศไทยมีโอกาสก้าวไปข้างหน้าอย่างยั่งยืน”
       >>>>>>>>>>
       ………
       เรื่อง : ทีมข่าว CLICK
       ภาพ : ธัชกร กิจไชยภณ


จาก http://www.manager.co.th/asp-bin/mgrView.asp?NewsID=9530000149930
 


หัวข้อ: Re: [2513] "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: เหยง 16 ที่ 25 ตุลาคม 2553, 11:30:18
ตามต่อสถานการณ์น้ำในภาคอีสาน

วันที่ 25 ตุลาคม พ.ศ. 2553 เวลา 09:37:38 น.  มติชนออนไลน์
ผวจ.ศรีสะเกษ เรียกประชุมด่วนนายอำเภอติดตามสถานการณ์น้ำ


นายสมศักดิ์ สุวรรณสุจริต ผู้ว่าราชการจังหวัดศรีสะเกษ กล่าวเมื่อวันที่ 25 ต.ค.ว่า ตนได้เรียกประชุมนายอำเภอทุกอำเภอ และหัวหน้าส่วนราชการที่เกี่ยวข้อง เพื่อติดตามสถานการณ์น้ำในการป้องกันและแก้ไขปัญหาอุทกภัย ซึ่งในขณะนี้ปริมาณน้ำที่กักเก็บตามอ่างเก็บน้ำ 16 แห่งในจังหวัด คิดเป็น 104 เปอร์เซ็นต์ โดยมีปริมาณน้ำที่เกินกว่าที่กักเก็บได้จำนวน 13 อ่าง เช่น อ่างห้วยศาลา อ่างห้วยติ๊กซู อ่างห้วยสำราญ อ่างห้วยทา ซึ่งส่วนใหญ่อยู่ในพื้นที่เทือกเขาพนมดงรัก ชายแดนไทย–กัมพูชา


"สำหรับปริมาณน้ำจากทางตอนบนของภาค เช่น นครราชสีมา ชัยภูมิ ซึ่งชลประทานจ.ศรีสะเกษ ได้ประเมินว่า ปริมาณน้ำที่ท่วมในพื้นที่จ.นครราชสีมา จะไหลลงสู่แม่น้ำมูล และจะไหลผ่าน บุรีรัมย์ สุรินทร์ และเข้าสู่จ.ศรีสะเกษ บริเวณพื้นที่ อ.ศิลาลาด ราษีไศล ยางชุมน้อย และกันทรารมย์ ซึ่งมีปริมาณสูงสุดเฉลี่ย 110 ล้านลูกบาศกเมตรต่อวัน ในวันที่ 28 ต.ค.นี้ ผมได้สั่งการให้อำเภอได้เฝ้าติดตามสถานการณ์น้ำตลอด 24 ชม. โดยเฉพาะพื้นที่เสี่ยง ให้ประชาสัมพันธ์แจ้งเตือนให้ประชาชน ระมัดระวังภาวะอุทกภัยตามเส้นทางน้ำไหล คาดว่าจะเกิดขึ้นประมาณ 2–3 วันอีกด้วย" นายสมศักดิ์ กล่าว

http://www.matichon.co.th/news_detail.php?newsid=1287974267&grpid=03&catid=


หัวข้อ: Re: [2513] "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: เหยง 16 ที่ 25 ตุลาคม 2553, 14:12:17
พี่แอ๊ะครับ

เข้าไปอ่าน Matichon online พอดี, เห็นเป็นอย่างไร ??

วันที่ 24 ตุลาคม พ.ศ. 2553 เวลา 19:56:47 น.  มติชนออนไลน์
ส้วมกระดาษ สิ่งจำเป็นยามน้ำท่วม

(http://img221.imageshack.us/img221/5682/toiletsi.jpg)

ในสถานะการน้ำท่วมหลายจังหวัดในประเทศไทย
สิ่งหนึ่งที่ทำให้เราได้เห็น ได้รู้ว่าคนไทยยังมีน้ำใจ
และจิตใจที่เมตตาอยู่ 
 

ณ ขณะนี้ มีหลายองค์กร มีหลายกลุ่มคนที่ร่วมใจกันบริจาคช่วยน้ำท่วม
บ้างก็บริจาคเรื่องเงิน บางก็บริจาคอาหารและของใช้จำเป็น
แต่สิ่งหนึ่งที่ผู้ประสบภัยจำเป็นต้องใช้และหลายคนคิดไม่ถึง
นั้นคือ "ส้วมกระดาษ" ของมูลนิธิซิเมนต์ไทยที่ใช้ง่ายและขนส่งสะดวก
เพื่อใช้บรรเทาทุกข์ขั้นพื้นฐานของผู้ประสบภัย

http://www.matichon.co.th/news_detail.php?newsid=1287914261&grpid=01&catid=


หัวข้อ: Re: [2513] "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: เหยง 16 ที่ 25 ตุลาคม 2553, 14:18:47
อ่านกันเองครับ

โหรแม่น-ท่วมหนัก เคยเตือน ชี้อีกหนาวขั้นหิมะ

'โสรัจจะ'ทำนายไว้! ในศาสตร์แห่งโหร ปีหน้า-มีนองเลือด

คลิ๊กเลย...
http://www.khaosod.co.th/view_news.php?newsid=TUROd01ERXdNVEkxTVRBMU13PT0=&sectionid=TURNd01RPT0=&day=TWpBeE1DMHhNQzB5TlE9PQ==


หัวข้อ: Re: [2513] "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: เหยง 16 ที่ 25 ตุลาคม 2553, 16:09:43
จะมีฝนตกในหลายๆ พื้นที่ และอากาศเริ่มเย็นลง

ประจำวันที่ 25 ตุลาคม 2553
ลักษณะอากาศทั่วไป เมื่อเวลา 10:00 น.  บริเวณความกดอากาศสูงหรือมวลอากาศเย็นกำลังแรงจากประเทศจีนได้แผ่ลงมาปกคลุมถึงประเทศจีนตอนล่างแล้ว คาดว่าจะแผ่เข้ามาปกคลุมประเทศไทยตอนบนในช่วงวันที่ 26-29 ต.ค. 53 ลักษณะเช่นนี้ทำให้บริเวณดังกล่าวมีฝนฟ้าคะนองในระยะแรก จากนั้นอากาศจะเย็นลงและอุณหภูมิจะลดลง 2-4 องศา กับมีลมแรง โดยจะเริ่มในภาคตะวันออกเฉียงเหนือก่อน ส่วนภาคอื่นๆ จะได้รับผลกระทบในระยะต่อไป
สำหรับภาคใต้จะมีฝนเพิ่มมากขึ้นตั้งแต่วันพรุ่งนี้ (26 ต.ค.) เป็นต้นไป ส่วนคลื่นลมในอ่าวไทยจะมีกำลังแรงขึ้น ขอให้ชาวเรือในอ่าวไทยเพิ่มความระมัดระวังอันตรายในการเดินเรือไว้ด้วย
 
พยากรณ์อากาศสำหรับประเทศไทยตั้งแต่เวลา 12:00 วันนี้ ถึง 12:00 วันพรุ่งนี้.  
ภาคเหนือ  มีฝนฟ้าคะนองเป็นแห่งๆ ร้อยละ 30 ของพื้นที่
ส่วนมากบริเวณจังหวัดแม่ฮ่องสอน เชียงราย เชียงใหม่ พะเยา น่าน ตาก และเพชรบูรณ์
โดยอุณหภูมิจะลดลง 1-2 องศา
อุณหภูมิต่ำสุด 21 องศา สูงสุด 34 องศา
ลมตะวันออก ความเร็ว 10-30 กม./ชม.
 
ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ มีฝนฟ้าคะนองกระจาย ร้อยละ 40 ของพื้นที่
ส่วนมากบริเวณจังหวัดหนองคาย เลย หนองบัวลำภู อุดรธานี สกลนคร และนครพนม
โดยอุณหภูมิจะลดลง 2-4 องศา กับมีลมแรง
อุณหภูมิต่ำสุด 21 องศา สูงสุด 34 องศา
ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 20-35 กม./ชม.
 
ภาคกลาง มีฝนฟ้าคะนองเป็นแห่งๆ ร้อยละ 30 ของพื้นที่
ส่วนมากบริเวณจังหวัดนครสวรรค์ อุทัยธานี กาญจนบุรี และราชบุรี
อุณหภูมิต่ำสุด 25 องศา สูงสุด 34 องศา
ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 15-35 กม./ชม.
 
ภาคตะวันออก  มีฝนฟ้าคะนองกระจาย ร้อยละ 40 ของพื้นที่
ส่วนมากบริเวณจังหวัดชลบุรี ระยอง จันทบุรี และตราด
อุณหภูมิต่ำสุด 26 องศา สูงสุด 34 องศา
ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 15-35 กม./ชม.
ทะเลมีคลื่นสูง 1-2 เมตร
 
ภาคใต้ (ฝั่งตะวันออก)  มีฝนฟ้าคะนองเป็นแห่งๆ ร้อยละ 30 ของพื้นที่
ส่วนมากบริเวณจังหวัดเพชรบุรี ประจวบคีรีขันธ์ ชุมพร สุราษฎร์ธานี และนครศรีธรรมราช
อุณหภูมิต่ำสุด 24 องศา สูงสุด 35 องศา
ลมตะวันตกเฉียงเหนือ ความเร็ว 15-30 กม./ชม.
ทะเลมีคลื่นสูง ประมาณ 1 เมตร
 
ภาคใต้ (ฝั่งตะวันตก)  มีฝนฟ้าคะนองเป็นแห่งๆ ร้อยละ 20 ของพื้นที่
ส่วนมากบริเวณจังหวัดระนอง ตรัง และสตูล
อุณหภูมิต่ำสุด 24 องศา สูงสุด 34 องศา
ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 15-35 กม./ชม.
ทะเลมีคลื่นสูง 1-2 เมตร
 
กรุงเทพมหานครและปริมณฑล มีฝนฟ้าคะนองเป็นแห่งๆ ร้อยละ 30 ของพื้นที่
อุณหภูมิต่ำสุด 26 องศา สูงสุด 35 องศา
ลมเหนือ ความเร็ว 15-30 กม./ชม.
 
http://www.tmd.go.th/daily_forecast.php


หัวข้อ: Re: [2513] "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: prapasri AH ที่ 25 ตุลาคม 2553, 21:44:34

อ้างถึง
ข้อความของ เหยง 16 เมื่อ 25 ตุลาคม 2553, 14:12:17
พี่แอ๊ะครับ

เข้าไปอ่าน Matichon online พอดี, เห็นเป็นอย่างไร ??

วันที่ 24 ตุลาคม พ.ศ. 2553 เวลา 19:56:47 น.  มติชนออนไลน์
ส้วมกระดาษ สิ่งจำเป็นยามน้ำท่วม

(http://img221.imageshack.us/img221/5682/toiletsi.jpg)

ในสถานะการน้ำท่วมหลายจังหวัดในประเทศไทย
สิ่งหนึ่งที่ทำให้เราได้เห็น ได้รู้ว่าคนไทยยังมีน้ำใจ
และจิตใจที่เมตตาอยู่ 
 

ณ ขณะนี้ มีหลายองค์กร มีหลายกลุ่มคนที่ร่วมใจกันบริจาคช่วยน้ำท่วม
บ้างก็บริจาคเรื่องเงิน บางก็บริจาคอาหารและของใช้จำเป็น
แต่สิ่งหนึ่งที่ผู้ประสบภัยจำเป็นต้องใช้และหลายคนคิดไม่ถึง
นั้นคือ "ส้วมกระดาษ" ของมูลนิธิซิเมนต์ไทยที่ใช้ง่ายและขนส่งสะดวก
เพื่อใช้บรรเทาทุกข์ขั้นพื้นฐานของผู้ประสบภัย

http://www.matichon.co.th/news_detail.php?newsid=1287914261&grpid=01&catid=

 แล้ว เวลาใช้แล้ว เอาไปทิ้งที่ไหน ยังไงคะ


หัวข้อ: Re: [2513] "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: suriya2513 ที่ 25 ตุลาคม 2553, 21:48:59
เดาว่าถ่ายลงไปในถุงดำ เสร็จหนึ่งคนก็มัดปากถุงไม่ให้กลิ่นออก เอาถุงไปเก็บไม่ให้ลอยไปตามน้ำ
แล้วเปลี่ยนถุงใหม่มาใส่รองรับการถ่ายของคนต่อไป คงไม่ถ่ายหลายคนลงถุงเดียวกันหรอกครับ


หัวข้อ: Re: [2513] "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: wannee ที่ 26 ตุลาคม 2553, 16:24:50

สวัสดีค่ะพี่แอ๊ะ 13  emo4:))


หัวข้อ: Re: [2513] "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: wannee ที่ 26 ตุลาคม 2553, 16:25:48

กำลังเรื่อง อึ พอดี   emo20:)):)


หัวข้อ: Re: [2513] "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: เหยง 16 ที่ 27 ตุลาคม 2553, 21:23:14
สถานการณ์น้ำท่วมล่าสุด

วันที่ 27 ตุลาคม พ.ศ. 2553 เวลา 19:25:04 น.  มติชนออนไลน์
อุบลฯวิกฤตหนัก น้ำ"ชี-มูล"ทะลักท่วมก่อนลงโขง เร่งอพยพปชช.ที่ปลอดภัย สรุป36จว.อ่วม3.2ล้านคนกระอัก

"น้ำป่าสัก"ทะลักไหลบ่าเข้าถนนสายเอเซียแล้ว จ่อท่วม อ.บางบัวทอง นนทบุรี-อ.บางเลน นครปฐม สธ.เผยน้ำท่วมตายแล้ว59ราย รพ.เสียหาย42แห่ง "มาร์ค"ลงพื้นที่ตรวจระบบระบายน้ำกทม. ยันช่วย5,000เร่งเร็วสุด รับช่วยเหลือ100%ไม่ทุกพื้นที่ "อุบลฯ"วิกฤตหนัก น้ำ"ชี-มูล"ทะลักท่วมก่อนลงแม่โขง ใช้4มาตรการ สกัดน้ำไหลลงเจ้าพระยาเพิ่มหวั่นท่วมกรุง
 

สรุป36จว.อ่วม - 3.2ล้านคนกระอัก

กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย(ปภ.) สรุปรายงานสถานการณ์อุทกภัยเมื่อวันที่ 27 ตุลาคม ระหว่างวันที่ 10 - 27 ตุลาคม มีพื้นที่ประสบภัยรวม 36 จังหวัด 289 อำเภอ 2,059 ตำบล 16,299 หมู่บ้าน ราษฎรได้รับความเดือดร้อน 1,091,515 ครัวเรือน เป็นจำนวน 3,224,108 คน

ขณะนี้สถานการณ์อุทกภัยคลี่คลายแล้ว 11  จังหวัด ได้แก่ พิจิตร เพชรบูรณ์ ระยอง จันทบุรี ตราด ตาก ชลบุรี ลำพูน เชียงใหม่ สระแก้ว และนครนายก 

สำหรับพื้นที่ยังคงมีสถานการณ์อุทกภัยใน 25 จังหวัด 232 อำเภอ 1,762 ตำบล 14,341 หมู่บ้าน 941,889 ครัวเรือน 2,759,354 คน แบ่งเป็น

ภาคเหนือ 3 จังหวัด ได้แก่

นครสวรรค์ กำแพงเพชร อุทัยธานี

ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ 9 จังหวัด ได้แก่

นครราชสีมา ชัยภูมิ ศรีสะเกษ สุรินทร์ บุรีรัมย์ ขอนแก่น กาฬสินธุ์ มหาสารคาม อุบลราชธานี

ภาคกลาง 10 จังหวัด ได้แก่

ชัยนาท สิงห์บุรี อ่างทอง สุพรรณบุรี พระนครศรีอยุธยา ลพบุรี สระบุรี นนทบุรี ปทุมธานี นครปฐม

ภาคตะวันออก 3 จังหวัด

ฉะเชิงเทรา ปราจีนบุรี และ สมุทรปราการ

พื้นที่การเกษตรที่คาดว่าจะเสียหาย 3,468,204 ไร่ ผู้ประสบอุทกภัยสามารถติดต่อขอความช่วยเหลือได้ทางสายด่วนนิรภัย 1784 ตลอด 24 ชั่วโมง

"กรมน้ำ"ส่งทีมเฉพาะกิจรับมือ"ชี้-มูล"วิกฤตที่อุบล

           
นายจตุพร  บุรุษพัฒน์ อธิบดีกรมทรัพยากรน้ำ กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (ทส.)  กล่าววันที่ 27 ตุลาคม ว่า จากการการประชุมร่วมกับเจ้าหน้าที่ของศูนย์ป้องกันวิกฤติน้ำ (ศูนย์เมขลา) ได้รับรายงานในช่วง 2-3 วันข้างหน้ามวลน้ำท่วมที่ระบายจากแม่น้ำมูลและน้ำชี  กำลังเดินทางไปบรรจบกันแถวแก่งสะพือ  อ.พิบูลมังสาหาร จ.อุบลราชธานี ก่อนจะไหลลงไปแม่น้ำโขง โดยสั่งการให้จัดทีมเฉพาะกิจของกรมทรัพยากรน้ำ ประกอบ ด้วยทีมวิศวกรจากส่วนอุทกวิทยา และส่วนบริหารจัดการน้ำ ลงไปประจำที่อยู่แถวพื้นที่ที่แถววารินชำราบ  และ โขงเจียม  เพื่อให้สามารถวิเคราะห์และประเมินข้อมูลสถานการณ์น้ำอย่างใกล้ชิดร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพราะขณะนี้ถ้าปริมาณการไหลของน้ำเกินจุดรับได้ของลำน้ำ ก็ อาจจะจะต้องหาแนวทางการ เบนน้ำ   ออกไปได้ทันที นอกจากนี้ ยังเตรียมส่งรถผลิตน้ำประปาเคลื่อนที่ไปประจำแถวพื้นที่ อุบลราชธานีอีก 2 คันเพื่อผลิตน้ำสะอาดให้กับชาวบ้านที่ประสบภัยน้ำท่วม

อธิบดีกรมทรัพยากรน้ำ  กล่าวอีกว่า  ขณะเดียวกันในวันที่ 28 ตุลาคม ได้มอบหมายให้นายบุญจง  จรัสดำรงนิตย์ ผู้อำนวยการศูนย์เมขลา พร้อมทีมวิศวกร เตรียมนำโมเดลการไหลของน้ำ ที่ทางศูนย์เมขลา จัดทำขึ้นเพื่อ วิเคราะห์เส้นทางการระบายน้ำท่วมในภาคอีสาน ที่กำลังไหลไปลงแม่น้ำโขง ซึ่งสามารถพยาการณ์ล่วงหน้าได้ 3-5 วันไปนำเสนอในที่ประชุมชุดนายอภิรักษ์ โกษะโยธิน  ประธานการศูนย์ประสานงานช่วยเหลือเยียวยาผู้ประสบอุทกภัย ที่ทำเนียบรัฐบาล เพราะขณะนี้รัฐบาลมอบหมายให้ทุกหน่วยงานประสานข้อมูลร่วมกัน เพื่อให้การทำงานมีระบบมากขึ้น 

วันเดียวกัน ศูนย์เมขลา กรมทรัพยากรน้ำได้รายงานสถานการณ์น้ำในภาพรวม ในช่วงวันที่ 27-31 ตุลาคม ดังนี้ มีมรสุมตะวันออกเฉียงเหนือกำลังแรงพัดปกคลุมภาคใต้และอ่าวไทย ทำให้ภาคใต้ฝั่งตะวันออกมีฝนเพิ่มมากขึ้นกับฝนตกหนักหลายพื้นที่ส่วนมวลอากาศเย็นกำลังแรงจากประเทศจีนได้แผ่ลงมาปกคลุมประเทศไทยตอนบนแล้ว ทำให้ภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคกลาง และภาคตะวันออกมีฝนลดลงกับมีอากาศเย็นลงโดยอุณหภูมิลดลง 2-4 องศา

ใช้4มาตรการ สกัดน้ำไหลลงเจ้าพระยาเพิ่ม หวั่นท่วมเมืองกรุงช่วงทะเลหนุน

สำหรับสถานการณ์น้ำ ลุ่มน้ำเจ้าพระยา สรุปได้ว่า ตามที่ได้เกิดน้ำเหนือไหลหลากในแม่น้ำเจ้าพระยา กรอปกับในระยะนี้เป็นช่วงน้ำทะเลหนุนสูง ทำให้ปริมาณน้ำในแม่น้ำเจ้าพระยามีปริมาณมาก นั้นได้วางมาตรการ 4 มาตรการ คือ
1. ลดปริมาณน้ำที่จะไหลผ่านเขื่อนเจ้าพระยา โดยการเพิ่มระดับน้ำหน้าเขื่อนเจ้าพระยา จาก 16.81 เมตร (รทก.) เป็น 17.10 เมตร(รทก.)
2. ลดการระบายน้ำจากเขื่อนป่าสักชลสิทธิ์ จาก 1,300 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที เหลือเพียง 1,000 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที
3. เพิ่มการรับน้ำเข้าคลองระพีพัฒน์อีกจำนวน 50 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที
4. เพิ่มการรับน้ำเข้าสู่ระบบชลประทาน ทั้งสองฝั่งของแม่น้ำเจ้าพระยา รวมกันในเกณฑ์ 100 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที

จึงคาดการณ์ว่า ปริมาณน้ำที่จะไหลผ่านอำเภอบางไทร จังหวัดพระนครศรีอยุธยา ในช่วงน้ำทะเลหนุนสูงสุด ในกรณีที่ไม่มีฝนตกเพิ่มเติม อาจจะมีแนวโน้มลดลงต่ำกว่าที่ได้คาดการณ์ไว้ โดยจะมีปริมาณน้ำอยู่ในเกณฑ์ประมาณ 3,400 – 3,600 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที (คาดการณ์ไว้ 3,500 – 4,000 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที) ขณะที่วันที่ 27 ตุลาคม ที่บางไทรระบายน้ำ 3,319 ลบ.มต่อวินาที

ส่วนสถานการณ์น้ำลุ่มน้ำชี-ลุ่มน้ำมูล สรุปได้ดังนี้ ลุ่มน้ำมูล อ่างลำตะคองและอ่างลำพระเพลิง ความจุ 118 % และ 105% น้ำไหลเข้าอ่างน้อยลง  ในเมืองนครราชสีมา ยังมีน้ำท่วมขัง ระดับน้ำบริเวณ อ.พิมาย เริ่มทรงตัว แนวโน้มลดลง ระดับน้ำที่สถานีสตึก สูงกว่าตลิ่ง 1 เมตร ปริมาณน้ำในลำน้ำชีที่ จ.ขอนแก่น และอ.โกสุมพิสัย จ.มหาสารคาม ยังคงสูงขึ้น และล้นตลิ่ง โดยที่เขื่อนอุบลรัตน์มีน้ำเก็บกัก 114% ของความจุ

"มาร์ค"ลงพื้นที่ตรวจระบบระบายน้ำกทม.

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อเวลา 11.00 น. วันที่ 27 ตุลาคม นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี พร้อมด้วยนายพีระพันธ์ สาลีรัฐวิภาค นายองอาจ คล้ามไพบูลย์ รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เดินทางไปตรวจความพร้อมศูนย์ควบคุมระบบป้องกันน้ำท่วม สำนักการระบายน้ำ กรุงเทพมหานคร โดยมีม.ร.ว.สุขุมพันธ์ บริพัตร ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร พร้อมด้วยคณะผู้บริหารให้การต้อนรับ

ต่อมาเวลา 11.40 น. นายกฯได้ลงพื้นที่ตรวจอุโมงค์ระบายน้ำจากบึงมักกะสันลงสู่แม่น้ำเจ้าพระยา ตอนสถานีสูบน้ำคลองขุดวัดช่องลม โดยนายอภิสิทธิ์ ให้สัมภาษณ์ถึงวิกฤตสถานการณ์น้ำว่าผ่านพ้นช่วงวิกฤตไปแล้วหรือไม่ ว่า คงจะดูอีก 1 – 2 วัน แต่ขณะนี้ถ้าระดับเป็นอย่างนี้จะไม่มีปัญหา ซึ่งระบบของกทม.การใช้อุโมงค์ระบายน้ำยังเป็นไปด้วยความเรียบร้อย

“แต่ผมได้ฝากไว้ดังนี้
1.มีชุมชนที่อยู่ริมแม่น้ำที่เขาโดนผลกระทบแน่นอน ซึ่งขณะนี้มีกว่า 1,000 ครัวเรือน ต้องมีการช่วยเหลือเยียวยาต่อไป
2.แม้พ้นช่วงนี้ไปช่วงต้นเดือนหน้ายังเป็นสถานการณ์ที่ต้องจับตาอย่างใกล้ชิด
3.จะมีพื้นที่ทางตะวันออกซึ่งอยู่ด้านนอก ต้องมีการติดตามเนื่องจากเมื่อ 4 ปีก่อน จะมีน้ำท่วมอยู่และมีพื้นที่ที่ได้รับความเสียหายทั้งที่อยู่อาศัยและพื้นที่การเกษตร ซึ่งเชื่อมการระบายน้ำลงมาจากทางเหนือที่จะอ้อมมาทางตะวันออก ซึ่งขอให้เขาช่วยติดตามเป็นพิเศษ” นายอภิสิทธิ์ กล่าว

สั่งประเมินที่อยู่อาศัยใกล้ทางน้ำ เล็งอพยพตามความสมัครใจ

นายอภิสิทธิ์ กล่าวต่อว่า ส่วนการสนับสนุนการทำอุโมงค์ระบายน้ำนั้น ขณะนี้มีโครงการที่เสนอไปยังกระทรวงมหาดไทย ซึ่งคงจะดูว่าเร่งสนับสนุนอย่างไร ส่วนถนนต้องดูว่าจะใช้ระบบไหน บางที่ถนนเป็นคันอยู่ ซึ่งจะแต่ต่างในแต่ละพื้นที่ อย่างไรก็ตามการวางระบบบริหารจัดการน้ำทั้งประเทศต้องทำแน่นอน แต่สิ่งที่หลายพื้นที่ในขณะนี้ต้องทำซึ่งทำได้เร็วกว่าคือการดูแลสิ่งก่อสร้างที่ขวางทางน้ำ

“ปัญหาในหลายพื้นที่และหลายจังหวัด ซึ่งเป็นจุดที่ตนคิดว่าจะต้องเร่งทำหลังจากช่วงสถานการณ์นี้ผ่านไป เดี่ยวพอสถานการณ์ผ่านไปอยากให้ประเมินในแง่ของผู้ที่อาศัยอยู่ในชุมชน ซึ่งจะประสบปัญหาอย่างนี้เกือบทุกปีว่าจะมีทางอย่างไร ในการที่จะพูดคุยกับชาวบ้านว่าจะหาทางอย่างไร”

ผู้สี่อข่าวถามว่า จะอพยพประชาชนในพื้นที่เลยหรือไม่ นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า “ต้องอยู่ที่ความสมัครใจ แต่ก็น่าคิดเพราะไม่เช่นนั้นจะเป็นปัญหาเกือบทุกปี” เมื่อถามว่า ในส่วนของจังหวัดนครราชสีมา สนามกีฬาที่สร้างใหม่ มีส่วนขวางทางน้ำ นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า จะไปตรวจสอบว่าเป็นความจริงมาน้อยเพียงใด

เมื่อถามว่า ประชาชนจะต้องอยู่ในสภาพน้ำท่วมไปอีกนานแค่ไหน นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า แล้วแต่พื้นที่ ถ้าไล่ลงมาเริ่มมีพื้นที่ที่กลับเข้าสู่ภาวะปกติ แต่ยังมีพื้นที่ที่น้ำยังไปไม่ถึง ฉะนั้นอย่างน้อยอีกหลายสัปดาห์กว่าเหตุการณ์ทั้งหมดจะผ่านพ้นไป ซึ่งจะต้องดูในช่วง 2 สัปดาห์ต่อจากนี้ไปด้วย เมื่อถามว่า สถานการณ์ภาพรวมขณะนี้จะกระทบต่อจีดีพีหรือไม่ นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า ในวันที่ 1 พฤศจิกายน จะให้เขาประเมินมาอีกครั้งหนึ่ง วันนี้ยังไม่สามารถบอกได้ แต่ทั้งหมดอยู่ในช่วงนี้ด้วย เพราะหากกทม.และปริมณฑลได้รับผลกระทบตรงนี้จะหนัก เพราะเป็นพื้นที่เศรษฐกิจล้วนๆ

เมื่อถามว่า ตัวฉุดจีดีพีมีอะไรบ้าง นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า ซึ่งเหตุน้ำท่วมเป็นปัญหาอยู่แล้ว และความชะงักงันที่เกิดขึ้น ซึ่งในวันที่ 1 พฤศจิกายน นอกการประเมินความเสียหายจะมีประเด็นที่มีมาตรการเกี่ยวกับผู้ประกอบการ ซึ่งทางหน่ยวยงานเขาได้เสนอมาแต่ตนไม่อยากให้เกิดความสับสน เพราะในการประชุมครม.ต้องการดูแลประชาชนก่อน

ยันช่วย 5,000 เร่งให้เร็วที่สุด รับยังช่วยเหลือ100%ได้ไม่ทุกพื้นที่

เมื่อถามว่า มีเสียสะท้อนว่าเงินช่วยเหลือ 5,000 บาทต่อครัวเรือน อาจจะช้าเกินไป นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า จะเร่งให้เร็วที่สุด ตนพูดเผื่อไว้ก่อน คิดว่าพอเขาเสนอรูปแบบวิธีการมาได้ ยอมรับว่าพอเร็วการตรวจสอบจะไม่เข้มข้นเท่าที่บางฝ่ายอยากจะเห็น ฉะนั้นต้องหาความพอดี อย่างไรก็ตามการช่วยเหลือขณะนี้ตนเรียนตรงๆว่าไม่มีที่ไหนที่จะบอกได้เต็มปากเต็มคำว่าได้ช่วยเหลือ 100 เปอร์เซ็นต์ แต่ตราบใดที่การสื่อสารทำได้ จุดไหนที่มีปัญหาขอให้แจ้งมาเราจะส่งคนเข้าไป

เมื่อถามว่า ยุทธศาสตร์ในการแก้ไขปัญหาหลังจากนี้จะแก้อย่างไร นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า มีการดำเนินการสั่งการไปก่อนที่น้ำท่วมแล้ว ซึ่งเราได้พูดถึงการบริหารจัดการลุ่มน้ำที่เป็นโครงการการระบายน้ำทั้งหมดรวมถึงสิ่งก่อสร้าง ความจริงพูดและเป็นมติครม.ไปก่อนที่น้ำท่วม เพราะสิ่งเหล่านี้มันไม่สามารถทำได้ในระยะเวลาเป็นวัน มันต้องเป็นเดือนหรือปี ที่ตนไม่ได้พูดมากตอนนี้เพราะไม่ต้องการให้เกิดความสับสน เนื่องจากประชาชนจำนวนมากยังมีความกังวลและเครียดกับสถานการณ์เฉพาะหน้า แต่ถ้าเราเร่งพูดในเรื่องเหมือนกับเหตุการณ์ปกติ มันกระทบความรู้สึกของเขาเหมือนกัน แต่ไม่ได้ละเลยแน่ เราไม่ปล่อยผ่านไป

รับปีหน้าอาจมีน้ำท่วมอีก อ้างสร้างระบบทั้งหมดไม่ทัน

เมื่อถามว่า ในปี 2554 จะต้องเจอปัญหาน้ำท่วมอีกหรือไม่ นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า ปีหน้าก็อาจจะมีหลายพื้นที่ เพราะอย่าลืมว่าโครงการเวลาเราทำมันไม่ได้เสร็จภายในปีเดียว เช่น อุโมงค์ระบายน้ำ ต้องใช้เวลา 3 ปีในการก่อสร้าง ฉะนั้นในหลายพื้นที่ที่ต้องปรับปรุงโครงการระบายน้ำที่เป็นระบบทั้งหมดต้องใช้เวลา เมื่อถามว่า มีการวิจารณ์ว่าการช่วยเหลือล้าช้า เช่น เงินภัยแล้งยังไม่ถึงประชาชน นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า หลังตนเข้ามาตนไล่จ่ายเงินที่ค้างมา 2 – 3 ปีเกือบหมดแล้ว เหลือในช่วงนี้ซึ่งถ้าเราใช้วิธีปกติมันจะช้า เราถึงได้ตัดสินใจจ่าย 5,000 บาท แล้วจะมีส่วนอื่นที่ตามมา อย่าลืมว่าขณะนี้สถานการณ์ยังไม่นิ่ง บางพื้นที่ให้เขาเข้าไปสำรวจความเสียหายยังไม่ได้ แต่พื้นที่ไหนที่น้ำลดกระทรวงมหาดไทยยืนยันว่าได้เตรียมการและเริ่มดำเนินการแล้ว แต่เราต้องอยู่กับความเป็นจริงอย่างพื้นที่ปทุมธานี นนทบุรี ยังต้องแก้ไขปัญหาเฉพาะหน้า และปัญหาขยายวงอยู่ เราจะให้เจ้าหน้าที่ทำในเรื่องอื่นไมได้ เจ้าหน้าที่ต้องช่วยเหลือประชาชนเฉพาะหน้าก่อน

สธ.เผยน้ำท่วมตายแล้ว59รายสถานบริการทางการแพทย์เสียหาย42แห่ง

นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฎ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข(สธ.) กล่าวภายหลังการประชุมศูนย์ปฏิบัติการแก้ไขปัญหาอุทกภัยด้านการแพทย์และสาธารณสุข กระทรวงสาธารณสุข (วอร์รูม สธ.) วันที่ 27 ตุลาคมว่า มีผู้ป่วยจากสถานการณ์น้ำท่วมได้รับบริการทางการแพทย์จำนวน 122,000 ราย เสียชีวิต 59 ราย เพิ่มจากเมื่อวันที่ 26 ตุลาคมอีก 3 ราย โดยเป็นผู้เสียชีวิตจากจ. สระบุรี ชัยนาท และพิจิตร ในจำนวนดังกล่าวพบว่า 52 รายเสียชีวิตจากการจมน้ำ  ในหลายกรณีที่มีการตรวจสอบพบว่า มีหลายรายไม่น่าเสียชีวิต หากหลีกเลี่ยงพฤติกรรมเสี่ยง เช่น ออกจากบ้านในช่วงน้ำหลาก และถูกน้ำพัดหายไป หรือกรณีอุ้มเด็กทารกฝ่ากระแสน้ำและก็หล่นจมน้ำหายไป รวมทั้งกรณีออกไปหาปลา และจมน้ำพัดหายไป กรณีเหล่านี้สามารถหลีกเลี่ยงได้

สำหรับสถานบริการในสังกัด สธ. เสียหาย 42 แห่ง โดยในจำนวนดังกล่าวมี  3 แห่งใหญ่ คือ รพ.มหาราชนครราชสีมา รพ.ชัยภูมิ และรพ.พิมาย  เปิดให้บริการตามปกติแล้ว ส่วนความเสียหายเบื้องต้น พบว่า รพ.มหาราชนครราชสีมาเสียหาย 30 ล้านบาท รพ.ชัยภูมิเสียหาย  7 ล้านบาท รพ.พิมายเสียหาย  7 ล้านบาท รพ.จิตเวชนครราชสีมา เสียหาย 6 ล้านบาท รวมแล้ว 50 ล้านบาท  จะต้องหารือกับสำนักงบประมาณพื่อหาแนวทางช่วยเหลือ แต่ทางคณะรัฐมนตรี (ครม.) มีมติเห็นชอบเบื้องต้นในเรื่องงบประมาณดูแลแล้ว 

ส่วนการแจกยาชุดน้ำท่วม ทั้งยาแก้ไข้ ยารักษาน้ำกัดเท้า ยารักษาโรคผิวหนัง ไปยังพื้นที่ที่ประสบปัญหาน้ำท่วมแล้ว 300,000 ชุด แต่มีความจำเป็นต้องใช้ยาอีกจำนวนมาก ซึ่งขณะนี้ องค์การเภสัชกรรม (อภ.) มีอัตราการผลิตอยู่ที่ 25,000 ชุดต่อวัน ตนได้สั่งการให้เพิ่มการผลิตโดยภายใน 5 วันจะต้องผลิตให้ได้ 900,000 ชุด

“ถุงดำสำหรับแก้ปัญหาประชาชนไม่ให้ขับถ่ายลงน้ำทางกรมอนามัยรายงานว่า ได้แจกจ่ายไปแล้ว 360,000 ถุง และอยากแนะนำให้ประชาชนทำสุขาชั่วคราวขึ้นใช้เองโดยใช้ถุงดำ หากล่องใช้ได้และเจาะรูตรงกลาง และใส่ถุงดำลงไป เพราะถ่ายเสร็จก็มัดเชือกตรงปลายถุงดำ และนำไปเก็บรวมไว้จะมีเจ้าหน้าที่มาจัดเก็บต่อไป  โรคที่มักมากับน้ำท่วม คือ โรค อุจจาระร่วง ไข้หวัด ไข้เลือดออก  ฉี่หนู โรคหัด รวมถึงภาวะทางอารมณ์ เครียด ทางกรมสุขภาพจิตกำลังติดตามอยู่ 168 ราย”

ด้าน นพ.อภิชัย  มงคล อธิบดีกรมสุขภาพจิต กล่าวว่า จำนวนผู้ป่วยที่ต้องติดตาม 168 รายนั้น ส่วนใหญ่จะอยู่ในจ.นครราชสีมา พบว่ามีความเครียดสูงมาก บางคนเสี่ยงกับการฆ่าตัวตาย จึงต้องติดตามเป็นพิเศษ แต่ส่วนใหญ่จะเป็นผู้ป่วยเก่าด้านจิตเวช ซึ่งได้รับการรักษาจนสามารถใช้ชีวิตอยู่ในสภาวะปกติได้แล้ว แต่เมื่อเกิดสถานการณ์น้ำท่วมทำให้มีอาการกำเริบขึ้น ซึ่งทางกรมสุขภาพจิตจะคอยติดตามอาการทุกสัปดาห์ โดยเฉลี่ยแล้วจะใช้เวลาประมาณ 2-4 สัปดาห์ ผู้ป่วยจะกลับมามีอาการเป็นปกติ
       
ขณะที่สถาบันการแพทย์ฉุกเฉินแห่งชาติ (สพฉ.) รายงานว่า ตั้งแต่วันที่ 10-27 ตุลาคม 

มีผู้เสียชีวิตจากเหตุอุทกภัยรวม  59 ราย  ใน 18 จังหวัด  ประกอบด้วย

จ.นครราชสีมา 9 ราย 
จ.บุรีรัมย์ 6 ราย   
จ.ลพบุรี 10 ราย 
จ.ขอนแก่น 3 ราย   
จ.เพชรบูรณ์ 3 ราย 
จ.ระยอง 2 ราย 
จ.ชัยภูมิ 2 ราย
จ.ตราด 1 ราย 
จ.สระแก้ว 1 ราย
จ.สระบุรี 3 ราย
จ.พระนครศรีอยุธยา 1 ราย
จ.นนทบุรี 1 ราย
จ.อุทัยธานี 1 ราย 
จ.ชัยนาท 2 ราย
จ.กำแพงเพชร 3 ราย 
จ.นครสวรรค์ 8 ราย
จ.สิงห์บุรี 2 ราย 
จ.พิจิตร 1 ราย

น้ำป่าสักทะลักไหลบ่าเข้าถนนสายเอเซียแล้ว

ผู้สื่อข่าวรายงานเมื่อวันที่ 27 ตุลาคม  ว่าระดับน้ำในเขต ต.หันตรา อ.พระนครศรีอยุธยา จ.พระนครศรีอยุธยา เพิ่มสูงขึ้นเพราะแม่น้ำป่าสักไหลเข้ามาตามคลองบ้านม้า สูงกว่า 2 เมตรเศษ และพบว่าได้ไหลข้ามถนนช่างแสง ระดับความสูงของน้ำไหลกว่า 50 ซม. ระยะทางยาวกว่า 500 เมตร โดยน้ำทั้งหมดไหลลงข้างพื้นที่มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีสุวรรณภูมิวิทยาเขตหันตรา และไหลไปถึงถนนสายเอเชียช่วงหลัก กม.14-15 และไหลลงคลองสาคู โดยมุ่งหน้าไป  หลังตลาดกลางเพื่อการเกษตรและสหกรณ์ จ.พระนครศรีอยุธยา และมุ่งหน้าต่อไปยังเขต ต.ข้าวเม่า , ต.ธนู , ต.คานหาม อ.อุทัย ที่เป็นชุมชนขนาดใหญ่และพื้นที่นิคมอุตสาหกรรมจำนวนมากแล้ว   

สำหรับพื้นที่ อ.อุทัย ปกติ เป็นพื้นที่อยู่ในคันล้อมป้องกันน้ำท่วมและอยู่ในเขตชลประทาน  โดยน้ำที่ไหลทะลักเข้าจำนวนมากเช่นนี้จะเริ่มสร้างความเสียหายให้แก่ อ.อุทัย แล้วเช่นกัน

นอกจากนี้พบว่าน้ำจาก ต.หันตรา ได้ไหลข้ามถนนสายป่าโค-บ้านเกาะ สูงกว่า 70 ซม. ระยะทางยาวกว่า 500 เมตร จนรถเล็กไม่สามารถวิ่งผ่านได้ ซึ่งเส้นทางนี้เป็นเส้นทางสายสำคัญเส้นทางหนึ่งที่จะเข้าตัวเมือง จ.พระนครศรีอยุธยา   

ขณะที่ถนนโรจนะซึ่งเป็นถนนสายหลักเข้าจังหวัด พบว่าช่องทางขาออกของถนนโรจนะ ในช่องทางซ้ายสุดตั้งแต่วงเวียนกลางถนน ไปจนถึงแยกวัดพระญาติ น้ำจาก ต.หันตรา และ ต.ไผ่ลิง ได้ไหลเข้าท่วมผิวการจราจรสูงกว่า 30 ซม.แล้วเช่นกัน

จ่อที่ อ.บางบัวทอง นนทบุรี - อ.บางเลน นครปฐม

 
นายสมชัย ไตรถาวร อายุ37 ปี แกนนำกลุ่มเกษตร จ.พระนครศรีอยุธยา  กล่าวว่า  น้ำจากเจ้าพระยาไหลเข้าคลองโผงเผงมาออกแม่น้ำน้อยที่ ต.หัวเวียง อ.เสนา ทำให้น้ำในเขต อ.เสนามีระดับสูงมาก และน้ำในเขต อ.บางไทร ที่ติดแม่น้ำน้อย ก็มีระดับความสูงมากเช่นกัน  โดยพบว่า น้ำจากแม่น้ำน้อยในเขต อ.เสนา และ อ.บางไทร ได้ไหลข้ามถนนคันคลองชลประทานหลายจุดในประมาณมาก เช่นในเขต ต.บางยี่โท ต.ช่างเหล็ก ของ อ.บางไทร หรือ ต.บางนมโค อ.เสนา และน้ำทั้งหมดไหลลงทุ่งนาในเขตรอยต่อ อ.เสนา และ บางไทร เข้าท่วมพื้นที่ข้าวนาปรังแล้ว  โดยทุ่งนาที่น้ำทะลักเข้าท่วมนี้ขนาดหลายแสนไร่ อยู่ในอยู่ในเขตรอยต่อระหว่าง 4 อำเภอ คือ อ.เสนา , อ.บางไทร , อ.บางซ้าย และ อ.ลาดบัวหลวง   

แกนนำกลุ่มเกษตร จ.พระนครศรีอยุธยา  กล่าวต่อว่า   ทางน้ำไหลไม่ได้มาตามลำคลองแล้วเพราะระดับน้ำท่วมสูงกว่าพื้นนาประมาณ 1 เมตร ได้ได้ไหลบ่าข้ามเป็นทุ่ง ๆ กินพื้นที่บริเวณกว้า  และเชื่อว่าในระยะ 1-2 วันนี้น้ำจำนวนมหาศาลจะไหลเข้าสู่ทุ่งในเขต  อ.ลาดบัวหลวง ได้แก่ ทุ่ง ต.ลาดบัวหลวง , ต.หลักชัย , ต.สามเมือง ซึ่งจะเป็นเขตติดต่อไปยังทุ่งนาในเขต อ.บางบัวทอง จ.นนทบุรี และทุ่งนาในเขต อ.บางเลน จ.นครปฐมได้เช่นกัน   ทั้งนี้  ทุ่งนาพื้นที่กว้างขนาดนี้เคยถูกน้ำท่วมครั้งสุดท้ายเมื่อปี 2549 เพราะมีการผลักดันน้ำเข้าทุ่ง และครั้งนี้ก็มีน้ำไหลเข้าทุ่งแล้วเช่นกัน ปัจจุบันนาปรังที่ต้นข้าวเริ่มตั้งท้อง เริ่มจมน้ำเสียหายแล้วเช่นกัน และชาวนาในเขต อ.ลาดบัวหลวง ที่ต้นข้าวออกรวงและจะเก็บเกี่ยวได้ประมาณกลางเดือนพฤศจิกายนนี้ ต้องเร่งเก็บเกี่ยวข้าวก่อนกำหนด และสามารถขายได้เพียงราคาตันละ 6,000 บาทเท่านั้น  นอกจากทุ่งนาแล้วยังมีสวนกล้วยไม้ขนาดใหญ่ ๆ และสวนผลไม่ขนาดใหญ่อีกจำนวนมากที่อาจได้รับผลกระทบ

“  ชาวนาในทุ่งก็มีความคิดเป็นสองทาง กลุ่มแรกไม่เห็นด้วยกับการผันน้ำเข้าทุ่ง เพราะบ้านเรือนเสียหายไปแล้วจะให้ไร่นาเสียหายอีกก็แย่หมดตัวหมดช่องทางทำมาหากินและขอขัดขวางเต็มที่  กลุ่มที่สองก็ยอมรับสภาพและเชื่อว่าการผันน้ำเข้าทุ่งเพื่อแบกรับภาระน้ำแทนคนกรุงเทพ ซึ่งต้องจำยอมเสียสละพื้นที่นาเพื่อรองรับน้ำเหนือหลาก แต่อยากขอให้รัฐและคนที่เราแบกรับน้ำแทน มาเห็นใจพวกเราบ้าง โดยต้องมาช่วยเหลือตามสภาพความเสียหายที่แท้จริง  อยากให้เห็นใจอกเขาอกเราบ้าง ” นายสมชัย ไตรถาวร

เตรียมรับน้ำเขื่อนกระเสียว "ทต.บางหลวง"หวั่นตลาดเก่า 100 ปีพัง

ด.ต.บำรุง  วิมูลชาติ  นายกเทศมนตรีตำบลบางหลวง อ.บางเลน จ.นครปฐม เปิดเผยเมื่อวันที่ 27 ต.ค. ถึงสถานการณ์น้ำในแม่น้ำท่าจีน ที่กำลังเพิ่มขึ้นตามลำดับ ว่าได้เตรียมรับมือการเพิ่มของระดับน้ำโดยประสานความร่วมมือไปยังโรงเรียนการบินกำแพงแสน จัดส่งทหารมาช่วยทำผนังกั้นน้ำตลอดแนวสองฝั่งลำน้ำท่าจีน และคลองสาขาที่เชื่อมต่อแม่น้ำท่าจีน เพื่อป้องกันไม่ให้น้ำล้นเข้ามาในพื้นที่เศรษฐกิจ ตลาดน้ำบางหลวงซึ่งเป็นตลาดเก่าแก่กว่า 100 ปี ที่เป็นแหล่งท่องเที่ยวได้รับความเสียหาย  และเสริมคันกั้นน้ำถนนสายหลักเชื่อต่อระหว่างตำบล และหมู่บ้าน เพื่อให้ชาวบ้านที่ส่วนใหญ่เป็นเกษตรกร ได้นำผลผลิตส่งตลาดได้ทันเวลา

ด.ต.บำรุง  กล่าวว่า เทศบาลได้ตั้งวอร์รูมเพื่อรับปัญหาน้ำท่วม โดยมีเจ้าหน้าที่เฝ้าระวังตลอด24 ชั่วโมง และประสานกับผู้ดูแลประตูระบายน้ำพระพิมล ซึ่งเป็นประตูน้ำสำคัญที่จะผันน้ำลงท่าจีน และประชุมร่วมกับนายอำเภอ ป้องกันภัยจังหวัด เพื่อเช็คระดับความปลอดภัย และขณะนี้ได้เตรียมรับมือน้ำทีเขื่อนกระเสียว จ.สุพรรณบุรี ระบายออกมาอย่างต่อเนื่อง ซึ่งคาดว่าแนวป้องกันที่ทำไว้น่าจะรับไว้ได้ และหรือหากไม่ไหวจริงๆเรามีพื้นที่แก้มลิงเตรียมไว้แล้ว

รบ.ใช้งบฯ5พันล้านเร่งช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัย25 จังหวัดเต็มที่

นายปณิธาน วัฒนายากร รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรี ปฏิบัติหน้าที่โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวเมื่อวันที่ 27 ต.ค. ถึงการช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัยในพื้นที่ 25 จังหวัดว่า ขณะนี้อยู่ระหว่างประเมินความเสียหาย เบื้องต้นได้เยียวยาแบบเร่งด่วนฉุกเฉิน ด้านความเป็นอยู่, อาหาร ส่วนระยะยาวต้องรอประเมินตัวเลข โดยประชาชนกว่า 5 แสนครอบครัวที่ได้รับผลกระทบ โดยเมื่อวันที่ 26 ต.ค. ที่ผ่านมา คณะรัฐมนตรี ได้อนุมัติวงเงินกว่า 5 พันล้านบาท เพื่อชดเชยทรัพย์สินที่เสียหายจากน้ำท่วมเฉียบพลัน ซ่อมแซมบ้านเรือนให้กับประชาชน รวมทั้งอนุมัติวงเงินเพิ่ม 308 ล้านบาท จัดซื้อเรือท้องแบน, เต็นท์ยกพื้น ที่ได้รับความเดือดร้อน ขณะเดียวกัน ได้เปิดศูนย์ประสานการช่วยเหลือและเยียวยาผู้ประสบอุทกภัย ที่ทำเนียบรัฐบาล โดยมีอภิรักษ์ โกษะโยธิน เป็นผู้รับผิดชอบ ทำงานภายใต้การกำกับดูแลของคณะกรรมการอำนวยการกำกับและติดตามช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัย หรือ คชอ. มีนายสาทิตย์ วงศ์หนองเตย รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เป็นประธาน ในการประสานนโยบายและทำความเข้าใจ ในการแก้ไขปัญหาข้อติดขัด เพื่อนำความช่วยเหลือเข้าสู่พื้นที่อย่างรวดเร็ว



http://www.matichon.co.th/news_detail.php?newsid=1288150636&grpid=00&catid=


หัวข้อ: Re: [2513] "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: เหยง 16 ที่ 28 ตุลาคม 2553, 18:12:18
วันนี้มีข่าวที่เกี่ยวกับชาวหอเราครับคือ ข่าวของพี่หมอมนัส กนกศิลป์ ผอ. รพ. สรรพสิทธิประสงค์

รพ.สรรพสิทธิประสงค์ทำกระสอบกั้นน้ำ

ส่วนที่โรงพยาบาลสรรพสิทธิประสงค์ โรงพยาบาลประจำจังหวัดอุบลราชธานี นพ. มนัส กนกศิลป์ ผู้อำนวยการโรงพยาบาล ได้ขอกำลังพลจากทหารอากาศ กองบินที่ 21 และนักศึกษาอาชีวศึกษาช่วยนำทรายบรรจุถุงปุ๋ยจำนวน 10,000 ใบ ทำเป็นกระสอบทรายใช้กั้นน้ำ นำไปวางไว้รอบโรงพยาบาล เพื่อทำเป็นพนังกั้นน้ำ รวมทั้งได้รับการสนับสนุนเครื่องสูบน้ำจากสำนักงานชลประทานจังหวัด 8 เครื่องไปติดตั้งไว้ตามจุดสำคัญ เพื่อไม่ให้น้ำมีโอกาสไหลเข้าท่วมเหมือนโรงพยาบาลมหาราช จ.นครราชสีมา

ข่าวจาก นสพ.ผู้จัดการรายวัน หน้า 13 วันพฤหัสบดีที่ 28 ตุลาคม 2553


หัวข้อ: Re: [2513] "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: prapasri AH ที่ 28 ตุลาคม 2553, 22:02:19
น้องเสียดคะ

จินตนาการ การบรรยายของพี่ป๋องแล้ว อ๊วกๆๆๆๆ

คืนนี้คงนอนไมหลับ ดร.กระป๋องเอ๊ยยยยยยยย


อ้างถึง
ข้อความของ suriya2513 เมื่อ 25 ตุลาคม 2553, 21:48:59
เดาว่าถ่ายลงไปในถุงดำ เสร็จหนึ่งคนก็มัดปากถุงไม่ให้กลิ่นออก เอาถุงไปเก็บไม่ให้ลอยไปตามน้ำ
แล้วเปลี่ยนถุงใหม่มาใส่รองรับการถ่ายของคนต่อไป คงไม่ถ่ายหลายคนลงถุงเดียวกันหรอกครับ

อ้างถึง
ข้อความของ wannee เมื่อ 26 ตุลาคม 2553, 16:25:48

กำลังเรื่อง อึ พอดี   emo20:)):)


หัวข้อ: Re: [2513] "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: prapasri AH ที่ 28 ตุลาคม 2553, 22:03:30
ไปนอน ดีก่า 5555 อิๆๆๆ อึๆๆๆๆ


หัวข้อ: Re: [2513] "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: suriya2513 ที่ 28 ตุลาคม 2553, 22:24:06
อ้างถึง
ข้อความของ prapasri AH เมื่อ 28 ตุลาคม 2553, 22:03:30
ไปนอน ดีก่า 5555 อิๆๆๆ อึๆๆๆๆ
อย่าลืมฝันดีถึงถุงดำนะครับ

แล้วอย่าลืมจำไปเล่าให้พี่หมอฟัง ระหว่างมื้ออาหารนะครับ


หัวข้อ: Re: [2513] "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: เหยง 16 ที่ 29 ตุลาคม 2553, 13:39:40
ปภ รายงานสถานการณ์อุทกภัยตั้งแต่วันที่ 10 – 28 ต.ค.53
วันศุกร์ที่ 29 ตุลาคม 2010 เวลา 12:34 น. ณัฐญา เนตรหิน ข่าวรายวัน - ข่าวในประเทศ   


นายวิบูลย์ สงวนพงศ์ อธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย เปิดเผยว่า ปัจจุบันยังคงมีสถานการณ์อุทกภัยในพื้นที่ 27 จังหวัด 244 อำเภอ 1,847 ตำบล 15,461 หมู่บ้าน 1,210,968 ครัวเรือน 3,774,789 คน พื้นที่การเกษตรที่คาดว่าจะเสียหาย 4,001,701 ไร่ ได้แก่ จังหวัดนครสวรรค์ กำแพงเพชร อุทัยธานี นครราชสีมา ชัยภูมิ ศรีสะเกษ สุรินทร์ บุรีรัมย์ ขอนแก่น กาฬสินธุ์ มหาสารคาม อุบลราชธานี ชัยนาท สิงห์บุรี อ่างทอง สุพรรณบุรี พระนครศรีอยุธยา ลพบุรี สระบุรี นนทบุรี ปทุมธานี นครปฐม ปราจีนบุรี ฉะเชิงเทรา สมุทรปราการ พิษณุโลก และจังหวัดหนองบัวลำภู

สำหรับจังหวัดที่สถานการณ์คลี่คลายแล้วมี 11 จังหวัด ได้แก่ จังหวัดพิจิตร เพชรบูรณ์ ระยอง จันทบุรี ตราด ตาก ชลบุรี ลำพูน เชียงใหม่ สระแก้ว และจังหวัดนครนายก ยอดผู้เสียชีวิตมี 75 ราย  และตั้งแต่วันที่ 10 – 28 ตุลาคม 2553 มีพื้นที่ประสบภัย 8 จังหวัด 297 อำเภอ 2,180 ตำบล 17,711 หมู่บ้าน ราษฎรได้รับความเดือดร้อน 1,355,500 ครัวเรือน 4,161,363 คน

http://www.thannews.th.com/index.php?option=com_content&view=article&id=45738:--10--28-53-&catid=176:2009-06-25-09-26-02&Itemid=524


หัวข้อ: Re: [2513] "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: wannee ที่ 29 ตุลาคม 2553, 15:34:25
อ้างถึง
ข้อความของ prapasri AH เมื่อ 28 ตุลาคม 2553, 22:03:30
ไปนอน ดีก่า 5555 อิๆๆๆ อึๆๆๆๆ

 emo20:)):) emo20:)):) emo20:)):)


หัวข้อ: Re: [2513] "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: wannee ที่ 29 ตุลาคม 2553, 15:39:18
อ้างถึง
ข้อความของ suriya2513 เมื่อ 28 ตุลาคม 2553, 22:24:06
อ้างถึง
ข้อความของ prapasri AH เมื่อ 28 ตุลาคม 2553, 22:03:30
ไปนอน ดีก่า 5555 อิๆๆๆ อึๆๆๆๆ
อย่าลืมฝันดีถึงถุงดำนะครับ

แล้วอย่าลืมจำไปเล่าให้พี่หมอฟัง ระหว่างมื้ออาหารนะครับ

โป๊ก โป๊ก โป๊ก  (ถูกเขกกะบาล)   emo5:( emo5:(

โอ๊ย โอ๊ย โอ๊ย     emo:( emo:(



หัวข้อ: Re: [2513] "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: เหยง 16 ที่ 29 ตุลาคม 2553, 20:51:10
นายกฯ คอนเฟอเรนซ์ถามความคืบหน้า-ปัญหาแก้ไขสถานการณ์น้ำท่วม
29 ตุลาคม 2553 20:10 น.

 
       นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี วิดีโอคอนเฟอเรนซ์จากกรุงฮานอย ประเทศเวียดนาม เพื่อสอบถามความคืบหน้าการแก้ไขปัญหาน้ำท่วมจากนายสาทิตย์ วงศ์หนองเตย และนายอภิรักษ์ โกษะโยธิน โดยนายสาทิตย์ รายงานว่า งบประมาณที่อนุมัติช่วยเหลือนั้น ส่วนใหญ่ส่งลงพื้นที่ไปแล้ว ขณะที่นายอภิรักษ์ รายงานเพิ่มเติมว่า ตัวแทนภาคเอกชนหลายส่วนเสนอตัวเข้าช่วยในการฟื้นฟูซ่อมแซมบ้านพักหลังน้ำลด
        นอกจากนี้ นายกรัฐมนตรียังได้สอบถามถึงเรื่องการปรับกำลังคนที่ลงพื้นที่ไปช่วยเหลือในจังหวัดต่างๆ ว่ามีการถ่ายเทไปยังจังหวัดอื่นๆ ที่ประสบปัญหาแล้วหรือไม่ โดยนายสาทิตย์ ยืนยันว่า มีการปรับไปแล้ว นอกจากนี้ ยังได้มอบหมายให้กระทรวงมหาดไทยทำรายงานตัวเลขเกี่ยวกับผู้ได้รับความเสียหายจากอุทกภัย เพื่อจัดสรรงบประมาณช่วยเหลือรายละ 5,000 บาท ให้
        อย่างไรก็ตาม นายกรัฐมนตรี ได้ฝากให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ช่วยดูเรื่องของการรายงานตัวเลขผู้เสียชีวิตระหว่างหน่วยงานที่ไม่ตรงกัน ซึ่งนายสาทิตย์ ยืนยันว่า ตัวเลขผู้เสียชีวิตยังอยู่ที่ 85 ราย
        ขณะที่ทางด้านเจ้าหน้าที่ตำรวจ ได้รายงานกรณีสื่อมวลชนเสนอข่าวความขัดแย้งของชาวบ้านในหมู่บ้านเมืองเอก กระทั่งมีการรื้อคันกั้นน้ำว่า จากการลงพื้นที่ตรวจสอบไม่พบว่ามีความขัดแย้งเกิดขึ้นแต่อย่างใด ซึ่งน่าจะเป็นการเข้าใจผิดจากการที่ชาวบ้านเข้าไปช่วยจัดเรียงกระสอบทรายมากกว่า ขณะที่หน่วยงานอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง เช่น กระทรวงสาธารณสุข กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย และกรมชลประทาน ต่างรายงานความคืบหน้าของการทำงานให้ทราบด้วยเช่นกัน
        อย่างไรก็ตาม ในช่วงท้ายนายกรัฐมนตรี ยืนยันว่า ในวันอาทิตย์นี้หลังจบรายการเชื่อมั่นประเทศไทยฯ แล้ว ตนเองจะลงพื้นที่ตรวจเยี่ยมประชาชนต่อด้วย

 
 
 
จาก http://www.manager.co.th/asp-bin/mgrView.asp?NewsID=9530000152769
 


หัวข้อ: Re: [2513] "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: prapasri AH ที่ 29 ตุลาคม 2553, 22:17:19
เสียดจ๋า

เผ่นแล้วเฟ๊ยยยยยยยยย

กลัวฝันเห็นถุงสีดำ อ่ะ


หัวข้อ: Re: [2513] "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: เหยง 16 ที่ 30 ตุลาคม 2553, 11:23:45
 emo33:(: ตายครบ 100 รายแล้วครับ  emo33:(:

สถาบันการแพทย์ฉุกเฉินแห่งชาติ (สพฉ.) รายงานสรุปยอดผู้เสียชีวิตจากสถานการณ์น้ำท่วมในพื้นที่จังหวัดต่างๆ ตั้งแต่วันที่ 10 - 30 ตค. 53 ซึ่งมีข้อมูลล่าสุดพบว่า มีรายงานยอดผู้เสียชีวิตเพิ่มเข้ามาอีก 6 ราย รวมเป็นทั้งสิ้น 100 รายพอดี จากพื้นที่ประสบอุทกภัย 20 จังหวัด โดเป็นผู้ชาย 84 ราย หญิง 16 ราย ซึ่งผู้เสียชีวิตที่เพิ่มขึ้นมาจาก จ.ลพบุรี 2 ราย พระนครศรีอยุธยา ขอนแก่น เพชรบูรณณ์ และชัยนาท จังหวัดละ 1 ราย

เมื่อแยกตามรายจังหวัดที่มีผู้เสียชีวิตจากจำนวน 20 จังหวัด เรียงลำดับจากมากไปหาน้อย พบว่า จ.นครราชสีมา ยังคงมียอดผู้เสียชีวิตมากที่สุด 18 ราย รองมาเป็น จ.ลพบุรี 13 ราย นครสวรรค์ 12 ราย พระนครศรีอยุธยา 8 ราย บุรีรัมย์ 6 ราย นนทบุรี และสุพรรณบุรี จังหวัดละ 5 ราย ลพบุรี ขอนแก่น กำแพงเพชร และเพชรบูรณ์ จังหวัดละ 4 ราย ชัยนาท ชัยภูมิ ปทุมธานี จังหวัดละ 3 ราย ระยอง และสิงห์บุรี จังหวัดละ 2 ราย ขณะที่สระแก้ว ตราด อุทัยธานี พิจิตร จังหวัดละ 1 ราย
       ฯลฯ

http://www.thairath.co.th/content/region/122945


หัวข้อ: Re: [2513] "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: เหยง 16 ที่ 30 ตุลาคม 2553, 11:57:55
ไม่ได้ขี้เหนียว หรือ ไม่อยากบริจาคช่วยคนไทยน่ะครับ กระทรวงมหาดไทยมันบริหารประเทศด้วยงบประมาณ
ไม่ใช่บริหารด้วยการขอรับบริจาค กลัวแต่มันรับบริจาคแล้วไปเบิกงบประมาณนี่แหละ ที่ไม่ไว้ใจพรรคการเมืองพวกนี้


มหาดไทยมองข้ามช็อต ตั้งศูนย์รับบริจาคเครื่องกันหนาวหลังอุตุฯเตือนปีนี้หนาวสุดรอบ30ปี
วันที่ 28 ตุลาคม พ.ศ. 2553 เวลา 10:34:02 น.

วานนี้(27ต.ค.)นายชวรัตน์ ชาญวีรกูล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย เป็นประธาน การประชุมกระทรวงมหาดไทย ผ่านระบบวีดีโอคอนเฟอร์เร้นส์ ไปยังผู้ว่าราชการจังหวัดทั่วประเทศ กล่าวว่า ตามที่กรมอุตุนิยมวิทยา คาดการณ์ว่า ฤดูหนาวปีนี้ อุณหภูมิจะต่ำสุดในรอบ 30 ปี กระทรวงมหาดไทย จะตั้งศูนย์รับบริจาคเครื่องกันหนาว ที่กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย หมายเลข 02 243 2213 ในส่วนภูมิภาค ขอให้ทุกจังหวัด จัดตั้งศูนย์รับบริจาคของแต่ละจังหวัด ในระหว่างนี้ ขอให้ผู้ว่าฯ ทางภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ เตรียมความพร้อมและติดตามการรายงานพยากรณ์อากาศเพื่อพิจารณาประกาศพื้นที่ประสบภัยพิบัติได้ทันต่อเหตุการณ์


พร้อมกันนี้ ขอให้ระมัดระวังหมอกควัน หรือควันไฟจากไฟป่า จากสภาพอากาศที่แห้งในช่วงฤดูหนาว โดยประชาสัมพันธ์ให้คนในชุมชนเข้ามามีส่วนร่วม สอดส่องดูแลอีกทางหนึ่ง เพื่อลดอันตรายที่อาจเกิดขึ้นให้มากที่สุด

http://www.matichon.co.th/news_detail.php?newsid=1288236827&grpid=03&catid=19&subcatid=1906



หัวข้อ: Re: [2513] "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: เหยง 16 ที่ 30 ตุลาคม 2553, 12:47:18
เตรียมการณ์ล่วงหน้า ก่อนน้ำลดครับ


ตรวจสอบบ้านหลังน้ำลด
วันเสาร์ ที่ 30 ตุลาคม 2553 เวลา 0:00

แม้ว่าน้ำจะเริ่มลดลงบ้างแล้ว แต่ความทุกข์ของผู้ประสบภัยก็ไม่ได้ลดน้อยลง
   
ปัญหาที่ตามมาหลังจากน้ำลด อย่างแรกที่ทุกคนนึกถึงก็คือเรื่องของการซ่อมแซมบ้านเพื่อให้กลับเข้าไปอยู่อาศัยได้ใหม่
   
อ.ธเนศ วีระศิริ ภาควิชาเทคโนโลยีชนบท คณะวิทยาศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ กล่าวว่า “ก่อนจะคิดถึงเรื่องซ่อมแซมบ้าน ควรให้วิศวกรเข้าไปตรวจสอบโครงสร้างของตัวบ้านก่อนว่ามีความปลอดภัยหรือไม่ อาคารบ้านเรือนที่จมน้ำอยู่เป็นเวลานาน อาจก่อให้เกิดการเปื่อยยุ่ย ที่ต้องระวังมากที่สุดคือบ้านที่ตั้งอยู่ริมน้ำ อาจเกิดการทรุดตัวไหลลงไปตามน้ำได้”
   
อันดับแรกที่ต้องทำคือต้องตรวจดูสภาพรอบบ้าน โดยเฉพาะบ้านริมแม่น้ำ ริมคลอง ดินรอบบ้านอาจมีอาการอ่อนตัว ไหลไปตามแม่น้ำลำคลองได้ บ้านที่สร้างอยู่ชิดริมน้ำ จะมีโอกาสสูงที่จะเลื่อนไหลลงไปในน้ำ หรืออาจเกิดปัญหาบ้านเอียงได้
   
ข้อสังเกต ให้ตรวจดูว่ามีรอยแตกบนพื้นดินขนานไปกับลำคลองหรือถนนหรือไม่ ถ้ามีแสดงว่าดินกำลังแยกตัวไหลลงไปในน้ำ
   
การตรวจสอบตัวบ้านก็มีความสำคัญไม่น้อยไปกว่าการตรวจดูสภาพรอบบ้าน สำหรับบ้านที่สร้างด้วยคอนกรีตเสริมเหล็ก ให้ตรวจดูดินที่รองรับตัวบ้านว่ามีการยุบตัวหรือไม่ หากดินมีการยุบตัวอาจทำให้ฐานรากขยับตัวได้ นอกจากนี้การที่ดินยุบตัวอาจทำให้พื้นคอนกรีตชั้นล่างเกิดอาการแอ่นตัวขึ้นได้
   
หากพบว่าเสาบ้านมีรอยแตกขนานกับเสา ให้เร่งทำการแก้ไข เพราะการที่เสาบ้านถูกน้ำท่วมขังเป็นเวลานาน อาจทำให้เหล็กเป็นสนิม ดันให้คอนกรีตแตกหลุดออกมาได้ ซึ่งจะทำให้ เสาไม่สามารถรับน้ำหนักได้ แม้จะไม่ได้ก่อให้เกิดปัญหาในทันที แต่ถ้าปล่อยทิ้งไว้อาจก่อให้เกิดอันตรายกับผู้อยู่อาศัยได้
   
สำหรับคานรับพื้นชั้นบน หากพบรอยแตกตามแนวนอน ให้รีบแก้ไขด่วนเช่นกัน เพราะอาจก่อให้เกิดปัญหาเดียวกับรอยแตกที่ขนานกับเสา
   
พื้นคอนกรีตชั้น 2 ถ้ามีความชื้นใต้พื้น จะเกิดรอยแตกเป็นเส้น ต้องรีบทำการค้ำยันไม่ให้พื้นทรุดตัวลงมา ก่อนเร่งรีบทำการแก้ไข ส่วนเสาชั้นบน ถ้าน้ำท่วมถึง ให้ทำการสำรวจเช่นเดียวกับเสาชั้นล่าง
   
กรณีบ้านไม้ มักพบปัญหาไม้ผุกร่อนตามตำแหน่งรอยต่อ เสากับคาน หรือคานกับพื้น เนื่องจากมีความชื้นสลับกับแห้ง ทำให้ไม้มีโอกาสแตกร่อนได้สูง
   
ระบบไฟฟ้าและประปาก็จำเป็นที่จะต้องได้รับการตรวจสอบอย่างละเอียดก่อนเริ่มใช้งาน
   
สำหรับระบบไฟฟ้า ให้ตรวจสอบทุกจุดที่ถูกน้ำท่วม โดยเฉพาะจุดที่มีการต่อสายลงดิน เพื่อป้องกันการเกิดไฟฟ้าลัดวงจร โอกาสที่จะต้องซ่อมแซมมีอยู่สูง ยิ่งส่วนที่โดนน้ำท่วม อาจต้องทำการเปลี่ยนใหม่หมด เพื่อความปลอดภัย
   
ระบบประปา มักเกิดปัญหาการอุดตัน ต้องมีการชัก   รอกเพื่อระบายไม่ให้น้ำอุดตัน สำหรับท่อระบายริมคลองอาจ   เกิดการขยับตัว มีรอยแตก ควรตรวจเช็กแนวท่อระบายทั้งหมด
   
การแก้ไขปัญหา ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของโครงสร้างอาคาร ระบบไฟฟ้า ระบบประปา ควรปรึกษาวิศวกร พยายามหลีกเลี่ยงการเข้าไปใช้งานในบริเวณที่มีรอยร้าวจนกว่าจะได้รับการแก้ไขให้เสร็จเรียบร้อยก่อน
   
“วัสดุปิดผิวภายนอก ไม่ว่าจะเป็นพื้น ผนัง ประตู หน้าต่าง หากเกิดการชำรุด เสียหาย จากการที่ถูกน้ำท่วมขังเป็นเวลานาน เราสามารถรื้อ ถอด เปลี่ยนได้ง่าย แต่ที่น่าเป็นห่วงคือเรื่องของโครงสร้าง หลักการตรวจสอบข้างต้น เจ้าของบ้านสามารถนำไปใช้ตรวจสอบเบื้องต้นด้วยตัวเองได้ แต่ถ้าพบสิ่งผิดปกติควรให้วิศวกรเข้ามาตรวจสอบ และเร่งทำการแก้ไข เพื่อความปลอดภัย”
   
เพื่อให้ความช่วยเหลือแก่ผู้ประสบภัยน้ำท่วม วิศวกรรมสถานแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์ (วสท.) ได้จัดทำโครงการ “วิศวกรอาสา” ขึ้น เพื่อให้ความช่วยเหลือทางด้านวิศวกรรมหลังจากน้ำลด
   
สำหรับวิศวกรผู้สนใจเข้าร่วมโครงการ หรือผู้ประสบภัยที่ต้องการความช่วยเหลือทางด้านวิศวกรรม สามารถติดต่อขอความร่วมมือ หรือติดต่อสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ เบอร์โทรศัพท์ 0-2319-2410.

http://www.dailynews.co.th/newstartpage/index.cfm?page=content&categoryId=494&contentId=100989


หัวข้อ: Re: [2513] "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: เหยง 16 ที่ 30 ตุลาคม 2553, 13:15:21
ประกาศเตือนภัยของกรมอุตุนิยมวิทยา
ภาคเหนือ กลาง อีสาน และภาคตะวันออก อากาศเริ่มหนาวลง ส่วนที่น้ำท่วมขัง ยังต้องระวังน้ำป่าไหลหลาก
ฝนตกหนักและคลื่นลงแรงในพื้นที่ภาคใต้ เริ่มตั้งแต่วันนี้
ดังสภาษิตของสุนทรภู่
"..ทั้งโรคซ้ำ กรรมซัด วิบัติเป็น ไม่เล็งเห็น ที่ซึ่ง จะพึ่งพา.."


ประกาศเตือนภัย
"ฝนตกหนักในภาคใต้และคลื่นลมแรงในอ่าวไทย"

ฉบับที่ 14 ลงวันที่ 30 ตุลาคม 2553
 
     
ในช่วงวันที่ 30-31 ตุลาคม บริเวณความกดอากาศสูงหรือมวลอากาศเย็นกำลังแรงจากประเทศจีน
ยังคงแผ่ลงมาปกคลุมประเทศไทย ประกอบกับมีร่องมรสุมพาดผ่านทะเลอันดามัน ภาคใต้ตอนล่าง และ
อ่าวไทยตอนล่างเข้าสู่หย่อมความกดอากาศต่ำกำลังแรงในทะเลจีนใต้ตอนล่าง ลักษณะเช่นนี้ทำให้ภาคใต้ตั้งแต่จังหวัดสุราษฎร์ธานีลงไปมีฝนตกชุกหนาแน่น และมีฝนตกหนักถึงหนักบางแห่ง ส่วนคลื่นลมในอ่าวไทย
มีกำลังแรง
ขอให้ประชาชนที่อาศัยในพื้นที่เสี่ยงภัยบริเวณที่ลาดเชิงเขาใกล้ทางน้ำไหลผ่าน และพื้นที่ราบลุ่มริมฝั่งแม่น้ำบริเวณจังหวัดชุมพร สุราษฎร์ธานี นครศรีธรรมราช พัทลุง สงขลา ปัตตานี ยะลา นราธิวาส พังงา ตรัง และสตูล ระมัดระวังอันตรายจากฝนตกหนักที่อาจทำให้เกิดสภาวะน้ำท่วมฉับพลัน
น้ำป่าไหลหลากและน้ำล้นตลิ่งได้ ส่วนชาวเรือควรระมัดระวังอันตรายในการเดินเรือและเรือเล็กในอ่าวไทยควรงดออกจากฝั่งในระยะนี้ไว้ด้วย
สำหรับภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคกลาง และภาคตะวันออกมีอากาศเย็นลงโดยทั่วไป โดยอุณหภูมิลดลงอีก 1-3 องศา
ในช่วงวันที่ 1-3 พ.ย. หย่อมความกดอากาศต่ำกำลังแรงในทะเลจีนใต้ตอนล่างจะเคลื่อนตัวเข้ามาปกคลุมบริเวณอ่าวไทยและภาคใต้ตอนกลาง ทำให้ภาคใต้ยังมีฝนตกหนักถึงหนักมาก และคลื่นลมยังคงแรงต่อเนื่องไปอีก
ในระยะนี้ขอให้ประชาชนติดตามข่าวพยากรณ์อากาศและเตือนภัย จากกรมอุตุนิยมวิทยาอย่างใกล้ชิด
ประกาศ ณ วันที่ 30 ตุลาคม พ.ศ. 2553
ออกประกาศ เวลา 11.00 น.

(http://img221.imageshack.us/img221/8458/20101030topchart07.jpg)


หัวข้อ: Re: [2513] "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: suriya2513 ที่ 30 ตุลาคม 2553, 13:39:21
ช่วงเวลาอย่างนี้ ช่างเหมาะสมซะจริงที่จะชิงมวลชนให้เปลี่ยนใจกลับข้าง
ถ้าผมเป็นประชาสัมพันธ์ฝ่ายตรงข้ามรัฐบาล ผมจะโหมโฆษณา
ให้ระลึกถึงความฉับไว คิดเร็วทำเร็วจัดเร็ว ของผู้นำรัฐบาล ตอนเกิดซูนามิ


เพื่อให้ประชาชนเห็น "ที่ซึ่ง จะพึ่งพา"


หัวข้อ: Re: [2513] "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: เหยง 16 ที่ 30 ตุลาคม 2553, 17:38:55
พี่แอ๊ะ พี่ป๋อง

ผมกลัวพวกมันทำไม่เป็น เพราะเริ่มมีเค้าแล้วว่า
1.ปลอมชื่อชาวบ้าน เพื่อรับเงินค่าเสียหายเบื้องต้น 5,000 บาท(รัฐบาลบอกบ้านต้องจมน้ำอย่างน้อย 7 วัน)
2.บ้านเสียหายทั้งหลังให้ 30,000 บาทโดยมหาดไทย ตามด้วย พม. อีก 30,000 บาท
   เสียหายไม่ทั้งหลัง มหาดไทยให้ 20,000 บาท ตามด้วย พม. อีก 20,000 บาท
3.คนตายให้ศพละ 100,000 บาท วันนี้ตายแล้ว 100 ราย
4.ถุงยังชีพยังถูกอมโดย สมาชิกองค์การส่วนท้องถิ่น อมกันไปบ้างแล้ว
5.งบจังหวัด ขณะนี้ให้ 250 ล้านบาท/จังหวัด จากเดิม 50 ล้านบาท
6.งบซ่อมถนน คมนาคมขอเบื้องต้น 5,000 ล้านบาท ยังไม่รวมงบซ่อมแซมอื่นๆ

ทำจริงไม่กลัว กลัวอม

เพิ่มเติมเมื่อเวลา 18.25 น...ครับ

เหลือบสูบน้ำท่วม ปปท.ส่งชุดสอบงบช่วย ‘มาร์ค’สั่งเช็กยอดตาย
ข่าวหน้า 130 ตุลาคม 2553 - 00:00


"มาร์ค" วิดีโอคอนเฟอเรนซ์จากเวียดนามห่วงสถานการณ์น้ำท่วม ติงตัวเลขผู้เสียชีวิตไม่ตรงกัน สั่งทุกกระทรวงปรับลดงบประมาณเพื่อนำมาช่วยฟื้นฟู ชงเข้า ครม.เศรษฐกิจ 1 พ.ย. คชอ.ประเดิมมอบเงินช่วยเหลือแก่ญาติผู้เสียชีวิต จ.ลพบุรี 15 ราย ขณะที่ ป.ป.ท.ส่งชุดปฏิบัติการพิเศษตรวจสอบการจ่ายงบ ผงะ! งบภัยพิบัติปี 52 ถึงมือ ปชช.ไม่ถึง 10% พบทุจริตเพียบ ลั่นต้องทำตามระเบียบ ประธานชมรมกำนันผู้ใหญ่บ้านฯ แนะจ่ายผ่านอำเภอ หากให้ท้องถิ่นเสร็จหัวคะแนน ส่วนยอดผู้เสียชีวิตพุ่งถึง 94 ราย
     เมื่อวันศุกร์ นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ซึ่งอยู่ระหว่างร่วมประชุมสุดยอดผู้นำอาเซียนที่ประเทศเวียดนาม เปิดเผยว่า อาเซียนแสดงความห่วงใยต่อสถานการณ์อุทกภัยที่เกิดขึ้นในประเทศไทย ซึ่งในหลายประเทศก็เกิดเหตุการณ์คล้ายคลึงกัน ดังนั้นขอให้คนไทยสบายใจได้ว่า มิตรประเทศให้ความห่วงใยและไม่ทอดทิ้ง สำหรับแนวทางช่วยเหลือฟื้นฟูนั้นได้แบ่งเป็นรายภาค ทั้งนี้ ขอยืนยันว่าไม่มีแนวคิดที่จะกู้เงินเพื่อช่วยเหลือฟื้นฟู
     "และได้สั่งการให้ทุกกระทรวงไปพิจารณาปรับลดงบประมาณ เพื่อนำมาใช้ในการดำเนินการช่วยเหลือฟื้นฟูแล้ว เพื่อไม่ให้เป็นภาระกับงบกลางมากจนเกินไป ซึ่งเรื่องดังกล่าวจะนำเข้าสู่การพิจารณาในการประชุมคณะรัฐมนตรีเศรษฐกิจ ในวันจันทร์ที่ 1 พฤศจิกายนนี้"
     นายกรัฐมนตรีกล่าวถึงสถานการณ์น้ำว่า ในส่วนของพื้นที่ภาคกลางขณะนี้ระดับน้ำเริ่มลดแล้ว ขณะที่ในบางพื้นที่ซึ่งน้ำท่วมขังต้องเร่งให้ความช่วยเหลือต่อไป สำหรับในพื้นที่กรุงเทพมหานครนั้น มั่นใจได้ว่าระดับน้ำจะไม่เกินปริมาณที่เตรียมการรองรับไว้ ส่วนภาคใต้และภาคตะวันออกต้องติดตามเฝ้าระวังต่อไป
     ที่ทำเนียบรัฐบาล นายสาทิตย์ วงศ์หนองเตย รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ในฐานะประธานคณะกรรมการอำนวยการกำกับติดตามการช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัย (คชอ.) เป็นประธานปล่อยขบวนคาราวานขนส่งสิ่งของสนับสนุนการช่วยเหลือผู้ประสบภัยอุทกภัยให้แก่ประชาชนใน 11 จังหวัด
     ทั้งนี้ นายสาทิตย์กล่าวว่า ในที่ประชุม คชอ.จะมีการหารือกันหลายเรื่อง ก่อนที่จะนำเข้าสู่ที่ประชุม ครม.เศรษฐกิจในวันจันทร์ที่ 1 พ.ย.นี้ และจะรายงานต่อที่ประชุม ครม.วันอังคารต่อไป เมื่อ ครม.เศรษฐกิจผ่านมาตรการในวันจันทร์ที่ 1 พ.ย. ก็ตั้งใจว่าจะจ่ายเงิน 5 พันให้ทันในสัปดาห์หน้าไม่เกินวันศุกร์ ดังนั้นตัวเลขในการประเมินความเสียหายก็คงจะมีความสำคัญมาก อย่างไรก็ตาม  ยืนยันวันนี้งบประมาณต่างๆ มีความพร้อมที่จะช่วยเหลือ กลไกต่างๆ จะทำให้ประชาชนได้รับความสะดวกมากที่สุด
     ส่วนการดูแลงบที่อาจจะรั่วไหล นายสาทิตย์กล่าวว่า ในแต่ละเงินงบประมาณที่จ่ายลงไปจะมีระบบไปกำกับดูแล เช่น เงินกองทุนบริจาคเราจะใช้เว็บไซต์ ทั้งไทยพลัส พีเอ็ม และสำนักนายกฯ แจ้งให้ทราบ ทั้งตัวเลขเงินเข้าออก ส่วนตัวเลขที่เกี่ยวกับเงินงบประมาณด้านอื่น เช่น 5 พัน จะใช้หลักฐานสำเนาทะเบียนบ้าน ตรงนี้จะควบคุมได้ง่าย หากเป็นบ้านเช่าจะมีทะเบียนที่ชัดเจน ส่วนงบที่อนุมัติให้ซื้อของไปนั้น รายละเอียดจะมีการอนุมัติไปสองส่วนที่สำคัญ คือ กรมการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) 70 ล้าน กับ 238 ล้านตอนหลัง และทุกรายการจะมีกรมบัญชีกลางและสำนักงบกำกับดูแล ขณะเดียวกันในที่ประชุม คชอ.จะมีภาคประชาสังคมที่มากำกับอยู่ด้วย
     ต่อมานายสาทิตย์ พร้อมด้วยนายอภิรักษ์ โกษะโยธิน ผู้อำนวยการศูนย์ ศชอ.และคณะ เดินทางไปยัง ต.ท่าแค อ.เมืองฯ และ ต.พุคา อ.บ้านหมี่ จ.ลพบุรี เพื่อมอบเงินช่วยเหลือให้แก่ครอบครัวผู้เสียชีวิตจากการประสบอุทกภัย จำนวน 14 ราย และ ต.พุคา อ.บ้านหมี่ จำนวน 1 ราย รายละ 5 หมื่นบาท รวมทั้งหมด 15 ราย

'มาร์ค' ติงยอดคนตายไม่ตรงกัน
     เมื่อเวลา 19.00 น. นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ได้วิดีโอคอนเฟอเรนซ์จากที่ประชุมสุดยอดผู้นำอาเซียน กรุงฮานอย ประเทศเวียดนาม มายังตึกสันติไมตรี ที่ตั้งศูนย์ประสานงานช่วยเหลือเยียวยาผู้ประสบอุทกภัย เพื่อสอบถามถึงการช่วยเหลือผู้ประสบภัยน้ำท่วมและสถานการณ์น้ำท่วม
     โดยนายสาทิตย์รายงานว่า แม่น้ำชีและแม่น้ำมูลที่ไหลผ่าน จ.อุบลฯ คาดว่าภายใน 4-5 วันนี้จะไหลมาถึง จ.สุรินทร์ และจะถึงอุบลฯ ในวันที่ 2 พ.ย. ขณะที่นายอภิรักษ์รายงานว่า กทม.เข้าสู่ภาวะปกติ แต่ต้องระวังน้ำทะเลหนุนในวันที่ 1 พ.ย.นี้
     นายอภิสิทธิ์ยังขอให้รายงานสถานการณ์น้ำท่วมขังใน จ.พระนครศรีอยุธยา สิงห์บุรี นนทบุรี ปทุมธานี ว่าระดับน้ำสูงมากเพียงใด นายสาทิตย์ระบุว่า ขณะนี้กำลังแย่ จังหวัดที่มีน้ำท่วมขังเกิน 15 วัน ซึ่งเป็นจังหวัดที่น้ำท่วมสูงคือ พระนครศรีอยุธยาและนนทบุรี จำเป็นต้องเฝ้าระวัง โดยเฉพาะวันที่ 8 พ.ย.น้ำอาจจะหนุนสูง อย่างไรก็ตามทาง คชอ.ได้จัดตั้งหน่วยเฉพาะกิจ ที่ประกอบด้วย 3 เหล่าทัพ และเจ้าหน้าที่เข้าไปช่วยเหลือประชาชนโดยเร่งด่วน   
     สำหรับการช่วยเหลือนั้น นายสาทิตย์ระบุว่า สำหรับงบกลางในการจัดซื้ออุปกรณ์จำเป็นให้ผู้ประสบอุทกภัย ในส่วนของเงินบริจาค 70 ล้านบาท ทางรัฐบาลได้ดำเนินการจัดเตรียมสุขาลอยน้ำ โดยปล่อยเป็นคาราวาน ส่วนงบประมาณอีก 238 ล้านบาท และเพิ่ม 106 ล้านบาท ให้ดำเนินการช่วยเหลือประชาชน ซึ่งสิ่งที่ประชาชนร้องขอมากที่สุดยังเป็นสุขา ก็พยายามจัดให้อย่างเพียงพอ นายอภิรักษ์กล่าวเสริมว่า ขณะนี้มีองค์กรภาคเอกชนให้ความร่วมมือให้ความช่วยเหลือด้วย
     ขณะที่หน่วยงานอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง เช่น กระทรวงสาธารณสุข กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย และกรมชลประทาน ต่างรายงานความคืบหน้าการทำงานให้ทราบด้วยเช่นกัน โดย นพ.ไพจิตร์ วราชิต ปลัดกระทรวงสาธารณสุข รายงานว่า ขณะนี้ได้จัดทำแผนในการฟื้นฟูเฝ้าระวังโรคติดต่อ เช่น ไข้เลือดออก ฉี่หนู รวมทั้งเรื่องของอนามัยและสิ่งแวดล้อม 
     นายอภิสิทธิ์ยังท้วงติงในเรื่องตัวเลขผู้เสียชีวิต ที่แต่ละหน่วยงานข้อมูลไม่เหมือนกัน นายสาทิตย์ได้หันไปถามปลัดกระทรวงสาธารณสุขและกล่าวว่า มีผู้เสียชีวิตแล้ว 85 ราย ซึ่งนายกฯ ได้กำชับให้เจ้าหน้าที่ช่วยติดตามสถานการณ์ให้ดี เพราะขณะนี้สถานการณ์ยังไม่นิ่ง อยากให้ติดตามใกล้ชิดอย่าเพิ่งวางใจ      มีความเคลื่อนไหวที่น่าสนใจสำหรับการจ่ายเงินช่วยเหลือแก่ผู้ประสบอุทกภัย โดยขณะที่นายอำพล วงศ์ศิริ รองเลขาธิการสำนักงานป้องกันและปราบปรามการทุจริตในภาครัฐ (ป.ป.ท.) ในฐานะหัวหน้าศูนย์ปฏิบัติการพิเศษ (ศปพ.) ตามคำสั่งนายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค รมว.ยุติธรรม ให้จัดชุดปฏิบัติการพิเศษ 5 ชุด เพื่อตรวจสอบข้อเท็จจริงเรื่องการใช้งบภัยพิบัติ เปิดเผยว่า ได้รับมอบนโยบายจาก รมว.ยุติธรรม ให้ส่งเจ้าหน้าที่เข้าไปตรวจสอบและติดตามผลการใช้งบประมาณของรัฐบาลในการแก้ไขปัญหาภัยพิบัติจากเหตุน้ำท่วม โดยเฉพาะในจังหวัดที่ใช้งบแก้ไขปัญหาดังกล่าวจำนวน 50-100 ล้านบาท ว่าได้ใช้จ่ายถูกต้องตามระเบียบหรือไม่

ป.ป.ท.ลุยสอบงบรั่วไหล
     นายอำพลกล่าวว่า ป.ป.ท.จะเปิดโอกาสให้ประชาชนเข้าร่วมตรวจสอบในลักษณะคู่ขนานไปด้วย เพื่อให้เกิดความโปร่งใสในการใช้งบประมาณ เนื่องจากที่ผ่านมาเม็ดเงินงบประมาณถึงมือประชาชนไม่ถึงร้อยละ 10 โดยแนวทางการตรวจสอบจะใช้ฐานข้อมูลเดิม ซึ่ง ป.ป.ท.พบว่าบางจังหวัดมีการทุจริตงบประมาณเกินความเสียหายที่เกิดขึ้นจริง โดยในวันที่ 1 พ.ย. จะเรียกประชุมเจ้าหน้าที่ชุดปฏิบัติการพิเศษเพื่อทำความเข้าใจกันก่อนลงพื้นที่ปฏิบัติการในพื้นที่จริงด้วย
     ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับงบประมาณที่รัฐบาลเตรียมเสนอเข้าที่ประชุม ครม.เพื่ออนุมัติการช่วยเหลือผู้ประสบภัยที่มีวงเงินประมาณ 3,000 ล้านบาท ขณะที่การตรวจสอบทุจริตงบภัยพิบัติของ ป.ป.ท.ก่อนหน้านี้มีสรุปผลสอบการใช้งบภัยพิบัติประจำปีงบประมาณ 2552 พบว่าในการสุ่มตรวจสอบโครงการทั้งสิ้น 373 โครงการ มีโครงการที่ส่อใช้งบทุจริตมากถึง 274 โครงการ คิดเป็นมูลค่าความเสียหายกว่า  50 ล้านบาท โดยภาคตะวันออกเฉียงเหนือจากการสุ่มตรวจสอบ 163 โครงการใน 6 จังหวัด พบว่าทุจริตโครงการมีการใช้งบที่ผิดปกติ
     ขณะที่นายพีระ ตั้งชูทวีทรัพย์ ประธานชมรมกำนันผู้ใหญ่บ้านภาคกลาง กล่าวว่า ในการจ่ายเงินให้กับประชาชนในท้องถิ่นควรจ่ายผ่านอำเภอซึ่งเป็นหน่วยงานกลางของรัฐ มากกว่าจ่ายผ่านท้องถิ่นหรือองค์การบริหารส่วนตำบล (อบต.) กับองค์การบริหารส่วนจังหวัด (อบจ.) เนื่องจากที่ผ่านมาพบปัญหาว่านักการเมือง  อบต., อบจ.บางกลุ่มมีการเล่นพรรคเล่นพวก เช่น กั๊กเงินบริจาคหรือสิ่งของเพื่อไปแจกจ่ายให้กับฐานเสียงของตัวเอง
     "การจ่ายเงินผ่านอำเภอมีความเป็นกลางและโปร่งใสมากกว่า เช่นเดียวกับที่รัฐบาลเคยแจกเช็คช่วยชาติ  2 พันบาท ก็ผ่านอำเภอโดยให้ปลัดอำเภอไปประสานงานกับท้องถิ่นกำนัน-ผู้ใหญ่บ้าน อบจ.และ อบต.ไปดำเนินการสำรวจ และจัดทำบัญชีประชาชนที่เดือดร้อนว่ามียอดเท่าไรแล้วให้ประชาชนมารับที่อำเภอ เป็นต้น" นายพีระกล่าว
     ทางด้านกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) รายงานสถานการณ์อุทกภัยระหว่างวันที่ 10-29 ตุลาคม 2553 มีพื้นที่ประสบภัย 38 จังหวัด 297 อำเภอ 2,180 ตำบล 17,711 หมู่บ้าน ราษฎรได้รับความเดือดร้อน 1,355,500 ครัวเรือน 4,161,363 คน ขณะนี้สถานการณ์อุทกภัยคลี่คลายแล้ว 11 จังหวัด ยังคงมีสถานการณ์อุทกภัยใน 27 จังหวัด ทั้งนี้ พื้นที่การเกษตรที่คาดว่าจะเสียหาย 4,001,701 ไร่ ผู้เสียชีวิต 75 ราย น้ำป่าไหลหลากเข้าท่วมพื้นที่ อ.พนม จ.สุราษฎร์ธานี และพื้นที่ อ.ทับปุด อ.ตะกั่วทุ่ง อ.ท้ายเมือง จ.พังงา ซึ่งขณะนี้ระดับน้ำได้ลดลงอย่างต่อเนื่อง

ตายพุ่ง 94 ราย
     นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รมว.สาธารณสุข เปิดเผยว่า เฉพาะในวันที่ 28 ต.ค. มีผู้ป่วยมารับบริการ 49,195 ราย ยอดสะสมตั้งแต่วันที่ 20-28 ต.ค. รวม 9 วัน พบผู้เจ็บป่วย 229,398  ราย โรคที่พบมากอันดับ 1 คือ น้ำกัดเท้า 110,111 ราย ที่เหลือเป็นไข้หวัดปวดเมื่อยร่างกาย และพบผู้ที่มีอาการเครียดนอนไม่หลับ ใจสั่น วิตกกังวล ร้อยละ 12 หรือประมาณ 25,233 คน
     สำหรับผู้เสียชีวิตตั้งแต่วันที่ 20-28 ต.ค. มีผู้เสียชีวิตรวม 94 ราย 20 จังหวัด มากที่สุดที่จังหวัดนครราชสีมา 18 ราย รองลงมาคือนครสวรรค์ 12 ราย, ลพบุรี 11 ราย, พระนครศรีอยุธยา 7 ราย, บุรีรัมย์  6 ราย เมื่อวานนี้เสียชีวิตเพิ่ม 26 ราย คือที่นครราชสีมา 9 ราย, นครสวรรค์ 1 ราย, พระนครศรีอยุธยา 6 ราย, นนทบุรี 2 ราย, สุพรรณบุรี 4 ราย,
 กำแพงเพชร 1 ราย และปทุมธานี 3 ราย ส่วนใหญ่จมน้ำเพราะลื่นพลัดตกน้ำ ส่วนโรคระบาดหลังน้ำท่วมยังไม่มีการระบาดเกิดขึ้น
     ส่วนสถานการณ์น้ำท่วมล่าสุด  นายวีระ วงศ์แสงนาค รองอธิบดีกรมชลประทาน เปิดเผยถึงสถาณการณ์น้ำในลุ่มน้ำเจ้าพระยาของวันที่ 29 พ.ย.ว่า ปริมาณน้ำจากนครสวรรค์ได้เลยจุดสูงสุดและมีแนวโน้มลดลงอย่างต่อเนื่อง โดยปริมาณน้ำที่วัดได้วันนี้คือ 2,675 ลูกบาศก์เมตร (ลบ.ม.) ต่อวินาที ลดลงจากเมื่อวานที่วัดได้ 2,788 ลบ.ม.ต่อวินาที ซึ่งหากไม่มีฝนตกในช่วงนี้ ประกอบกับได้ผ่านพ้นช่วงน้ำทะเลหนุนสูงสุดไปแล้ว การระบายน้ำของลุ่มน้ำเจ้าพระยาจึงระบายออกได้ดี โอกาสที่น้ำจะกลับมามีปริมาณสูงอีกจึงไม่น่าจะเกิดขึ้น
     สำหรับสถานการณ์ของลุ่มน้ำมูล คาดว่าปริมาณน้ำรอบแรกจะไหลเข้า อ.วารินชำราบ จ.อุบลราชธานี ประมาณเย็นวันนี้หรือตอนเช้าของพรุ่งนี้ ส่วนน้ำชี ปริมาณน้ำรอบแรกยังอยู่ที่ อ.ทุ่งเขาหลวง จ.ร้อยเอ็ด โดยจะไหลเข้า อ.วารินชำราบ ในวันที่ 7 พ.ย. แต่คงจะไม่รุนแรงมากนัก  เนื่องจากระหว่างนั้นกรมชลประทานสามารถระบายน้ำออกได้พอสมควร จึงคาดว่าปริมาณน้ำน่าจะสูงขึ้นประมาณ 80 เซนติเมตร-1.20 เมตร ซึ่งจะไม่สูงไปกว่าปีที่ผ่านมา
     นายต่อศักดิ์ วานิชขจร รองอธิบดี รักษาการแทนอธิบดีกรมอุตุนิยมวิทยา ระบุว่า ช่วงระหว่างวันนี้จนถึงวันที่ 1 พ.ย. ต้องจับตาหย่อมความกดอากาศต่ำปลายแหลมญวนในอ่าวไทย มีโอกาสทวีกำลังแรงกลายเป็นพายุดีเปรสชัน พัดเข้าสู่ตอนกลางของภาคใต้ และทำให้ฝนตกหนักในภาคใต้ฝั่งตะวันออก  และนับจากวันนี้จนถึงวันที่  3 พ.ย. ภาคใต้หลายจังหวัดอาจมีฝนตกหนักเกิน 100 มิลลิเมตร ตั้งแต่ จ.ประจวบคีรีขันธ์ จนถึงนราธิวาส จะทำให้เกิดน้ำป่าไหลหลาก น้ำท่วมฉับพลัน โคลนถล่ม และน้ำล้นตลิ่งเหมือนภาคกลางในเขต จ.นราศรีธรรมราช และ จ.สุราษฎร์ธานี ส่วนทะเลอาจมีคลื่นสูงถึง 4 เมตร.

http://www.thaipost.net/node/29392


หัวข้อ: Re: [2513] "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: เหยง 16 ที่ 30 ตุลาคม 2553, 17:52:48
(http://img139.imageshack.us/img139/7076/lossinwater.jpg)  

น่าเวทนายิ่ง ภาพเด็กๆ เวียดนามร่ำไห้ไม่มีหนังสือเรียน น้ำพัดหายไปหมด

อ่านและชมภาพประทับใจเพิ่มเติมได้ที่

http://www.manager.co.th/IndoChina/ViewNews.aspx?NewsID=9530000153049


หัวข้อ: Re: [2513] "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: prapasri AH ที่ 30 ตุลาคม 2553, 18:12:10
ส่วนใหญ่ก็จะ อม ซะ 30-50 เปอร์เซ็นต์ อ่ะ

ยิ่งท่วมมาก รัฐบาล ผู้บริหาร ประเทศ ยิ่งรวย จริงแมะ



อ้างถึง
ข้อความของ เหยง 16 เมื่อ 30 ตุลาคม 2553, 17:38:55
พี่แอ๊ะ พี่ป๋อง

ผมกลัวพวกมันทำไม่เป็น เพราะเริ่มมีเค้าแล้วว่า
1.ปลอมชื่อชาวบ้าน เพื่อรับเงินค่าเสียหายเบื้องต้น 5,000 บาท(รัฐบาลบอกบ้านต้องจมน้ำอย่างน้อย 7 วัน)
2.บ้านเสียหายทั้งหลังให้ 30,000 บาทโดยมหาดไทย ตามด้วย พม. อีก 30,000 บาท
   เสียหายไม่ทั้งหลัง มหาดไทยให้ 20,000 บาท ตามด้วย พม. อีก 20,000 บาท
3.คนตายให้ศพละ 100,000 บาท วันนี้ตายแล้ว 100 ราย
4.ถุงยังชีพยังถูกอมโดย สมาชิกองค์การส่วนท้องถิ่น อมกันไปบ้างแล้ว
5.งบจังหวัด ขณะนี้ให้ 250 ล้านบาท/จังหวัด จากเดิม 50 ล้านบาท
6.งบซ่อมถนน คมนาคมขอเบื้องต้น 5,000 ล้านบาท ยังไม่รวมงบซ่อมแซมอื่นๆ


ทำจริงไม่กลัว กลัวอม


หัวข้อ: Re: [2513] "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: prapasri AH ที่ 30 ตุลาคม 2553, 18:13:36

มะรืนนี้ จะบิน ไปสุราษฎร์ จะทำไงดีละนี่

อ้างถึง
ข้อความของ เหยง 16 เมื่อ 30 ตุลาคม 2553, 13:15:21
ประกาศเตือนภัยของกรมอุตุนิยมวิทยา
ภาคเหนือ กลาง อีสาน และภาคตะวันออก อากาศเริ่มหนาวลง ส่วนที่น้ำท่วมขัง ยังต้องระวังน้ำป่าไหลหลาก
ฝนตกหนักและคลื่นลงแรงในพื้นที่ภาคใต้ เริ่มตั้งแต่วันนี้
ดังสภาษิตของสุนทรภู่
"..ทั้งโรคซ้ำ กรรมซัด วิบัติเป็น ไม่เล็งเห็น ที่ซึ่ง จะพึ่งพา.."


ประกาศเตือนภัย
"ฝนตกหนักในภาคใต้และคลื่นลมแรงในอ่าวไทย"

ฉบับที่ 14 ลงวันที่ 30 ตุลาคม 2553
 
     
ในช่วงวันที่ 30-31 ตุลาคม บริเวณความกดอากาศสูงหรือมวลอากาศเย็นกำลังแรงจากประเทศจีน
ยังคงแผ่ลงมาปกคลุมประเทศไทย ประกอบกับมีร่องมรสุมพาดผ่านทะเลอันดามัน ภาคใต้ตอนล่าง และ
อ่าวไทยตอนล่างเข้าสู่หย่อมความกดอากาศต่ำกำลังแรงในทะเลจีนใต้ตอนล่าง ลักษณะเช่นนี้ทำให้ภาคใต้ตั้งแต่จังหวัดสุราษฎร์ธานีลงไปมีฝนตกชุกหนาแน่น และมีฝนตกหนักถึงหนักบางแห่ง ส่วนคลื่นลมในอ่าวไทย
มีกำลังแรง
ขอให้ประชาชนที่อาศัยในพื้นที่เสี่ยงภัยบริเวณที่ลาดเชิงเขาใกล้ทางน้ำไหลผ่าน และพื้นที่ราบลุ่มริมฝั่งแม่น้ำบริเวณจังหวัดชุมพร สุราษฎร์ธานี นครศรีธรรมราช พัทลุง สงขลา ปัตตานี ยะลา นราธิวาส พังงา ตรัง และสตูล ระมัดระวังอันตรายจากฝนตกหนักที่อาจทำให้เกิดสภาวะน้ำท่วมฉับพลัน
น้ำป่าไหลหลากและน้ำล้นตลิ่งได้ ส่วนชาวเรือควรระมัดระวังอันตรายในการเดินเรือและเรือเล็กในอ่าวไทยควรงดออกจากฝั่งในระยะนี้ไว้ด้วย
สำหรับภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคกลาง และภาคตะวันออกมีอากาศเย็นลงโดยทั่วไป โดยอุณหภูมิลดลงอีก 1-3 องศา
ในช่วงวันที่ 1-3 พ.ย. หย่อมความกดอากาศต่ำกำลังแรงในทะเลจีนใต้ตอนล่างจะเคลื่อนตัวเข้ามาปกคลุมบริเวณอ่าวไทยและภาคใต้ตอนกลาง ทำให้ภาคใต้ยังมีฝนตกหนักถึงหนักมาก และคลื่นลมยังคงแรงต่อเนื่องไปอีก
ในระยะนี้ขอให้ประชาชนติดตามข่าวพยากรณ์อากาศและเตือนภัย จากกรมอุตุนิยมวิทยาอย่างใกล้ชิด
ประกาศ ณ วันที่ 30 ตุลาคม พ.ศ. 2553
ออกประกาศ เวลา 11.00 น.

(http://img221.imageshack.us/img221/8458/20101030topchart07.jpg)


หัวข้อ: Re: [2513] "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: เหยง 16 ที่ 30 ตุลาคม 2553, 18:29:57
พี่แอ๊ะ

แล้ววันนี้ไม่ได้ไปลงบัตรเลือกตั้งที่สมุยหรือ ??


หัวข้อ: Re: [2513] "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: prapasri AH ที่ 30 ตุลาคม 2553, 21:34:32
อ้างถึง
ข้อความของ เหยง 16 เมื่อ 30 ตุลาคม 2553, 18:29:57
พี่แอ๊ะ

แล้ววันนี้ไม่ได้ไปลงบัตรเลือกตั้งที่สมุยหรือ ??


อี๊แม่ นาง ปะพาสี เป็น ชาวยะโส เด๊อค่าเด๊ออออออออออออ


หัวข้อ: Re: [2513] "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: เหยง 16 ที่ 31 ตุลาคม 2553, 09:38:10
ถึงว่า อดีตรองนายกฯ เลยชนะการเลือกตั้งไป   emo20:)):)  emo20:)):)  emo20:)):)  emo20:)):)


หัวข้อ: Re: [2513] "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: เหยง 16 ที่ 31 ตุลาคม 2553, 17:01:17
 emo45:( ยังไม่ทันหมดฝน น้ำยังไม่เลิกท่วม ก็หนาวซะแล้ว แบบนี้เข้าทำนอง "ไม่ตาย ก็เลี้ยงไม่โต ??"  emo46


   
ประกาศเตือนภัย
"พายุดีเปรสชันในอ่าวไทย และอากาศหนาวเย็นบริเวณประเทศไทยตอนบน "

ฉบับที่ 1 ลงวันที่ 31 ตุลาคม 2553
 
     เมื่อเวลา 13.00 น. วันนี้ (31 ต.ค) หย่อมความกดอากาศต่ำกำลังแรงบริเวณทะเลจีนใต้ตอนล่างได้ทวีกำลังแรงขึ้นเป็นพายุดีเปรสชันแล้ว มีศูนย์กลางห่างประมาณ 450 กิโลเมตร ทางตะวันออกเฉียงใต้ ของจังหวัดสงขลา หรือที่ ละติจูด 6.5 องศาเหนือ ลองจิจูด 105.5 องศาตะวันออก มีความเร็วสูงสุดประมาณ 50 กม./ชม. พายุนี้กำลังเคลื่อนตัวทางตะวันตกเฉียงเหนือ ด้วยความเร็ว 15 กม./ชม. คาดว่า จะเคลื่อนตัวผ่านบริเวณอ่าวไทยและภาคใต้ตอนล่างในช่วงวันที่ 1-3 พฤศจิกายน ลักษณะเช่นนี้ทำให้ภาคใต้มีฝนตกชุกหนาแน่น และมีฝนตกหนักถึงหนักมากหลายพื้นที่ และอ่าวไทยมีคลื่นสูง 2-4 เมตร
จึงขอให้ประชาชนที่อาศัยในพื้นที่เสี่ยงภัยบริเวณที่ลาดเชิงเขาใกล้ทางน้ำไหลผ่านและพื้นที่ราบลุ่มริมฝั่งแม่น้ำ บริเวณจังหวัดชุมพร สุราษฎร์ธานี นครศรีธรรมราช พัทลุง สงขลา ปัตตานี ยะลา นราธิวาส กระบี่ ตรัง และสตูล ระมัดระวังอันตรายจากฝนตกหนักที่อาจทำให้เกิดสภาวะน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก และน้ำล้นตลิ่งได้ สำหรับประชาชนที่อาศัยอยู่ตามชายฝั่งทะเลของภาคใต้ฝั่งตะวันออก ขอให้ระวังอันตรายจากคลื่นลมแรงที่พัดเข้าสู่ฝั่งในระยะนี้ไว้ด้วย ชาวเรือควรเพิ่มความระมัดระวังในการเดินเรือ โดยเรือเล็กในอ่าวไทยควรงดออกจากฝั่ง
สำหรับ
อนึ่ง บริเวณความกดอากาศสูงหรือมวลอากาศเย็นกำลังแรงจากประเทศจีนยังคงแผ่ลงมาปกคลุม
ประเทศไทย ทำให้บริเวณประเทศไทยตอนบนมีอากาศหนาวเย็นโดยทั่วไปกับมีลมแรง และในระยะ 2-3 วันนี้ อุณหภูมิจะลดลงได้อีก 1-3 องศา ภาคเหนือตอนบน และภาคตะวันออกเฉียงเหนือ อุณหภูมิต่ำสุด 12-16 องศาเซลเซียส ส่วนบริเวณยอดดอยและยอดภู อุณหภูมิต่ำสุด 6-12 องศาเซลเซียส
ในระยะนี้ขอให้ประชาชนติดตามข่าวพยากรณ์อากาศและเตือนภัย จากกรมอุตุนิยมวิทยาอย่างใกล้ชิด

 
(http://img219.imageshack.us/img219/2656/20101031topchart13.jpg)



หัวข้อ: Re: [2513] "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: เหยง 16 ที่ 01 พฤศจิกายน 2553, 15:13:25
ขณะนี้แปะชื่อ "สงขลา" เป็นจังหวัดที่ได้รับภัยพิบัติล่าสุดได้แล้ว

ประกาศเตือนภัย
"พายุดีเปรสชันในอ่าวไทย และอากาศหนาวเย็นบริเวณประเทศไทยตอนบน"

ฉบับที่ 4 ลงวันที่ 01 พฤศจิกายน 2553
 
     
เมื่อเวลา 10.00 น. วันนี้ (1 พ.ย.) พายุดีเปรสชันบริเวณอ่าวไทยตอนล่าง มีศูนย์กลางห่างประมาณ 270 กิโลเมตร ทางตะวันออกเฉียงใต้ของจังหวัดสงขลา หรือที่ ละติจูด 6.5 องศาเหนือ ลองจิจูด 103.0 องศาตะวันออก มีความเร็วสูงสุดใกล้จุดศูนย์กลางประมาณ 50 กม./ชม. พายุนี้กำลังเคลื่อนตัวทางทิศตะวันตกค่อนทางเหนือเล็กน้อย ด้วยความเร็วประมาณ 15 กม./ชม. คาดว่า จะเคลื่อนตัวผ่านบริเวณภาคใต้ตอนล่างแนวจังหวัด ปัตตานี สงขลา พัทลุง นครศรีธรรมราช สตูล ตรัง กระบี่ ภูเก็ต และพังงา ในคืนนี้ ลักษณะเช่นนี้ทำให้บริเวณภาคใต้ ตั้งแต่จังหวัดสุราษฎร์ธานีลงไปมีฝนตกเป็นบริเวณกว้าง และมีฝนตกหนัก
ถึงหนักมากหลายพื้นที่ และอ่าวไทยมีคลื่นสูง 3-5 เมตร จึงขอให้ประชาชนที่อาศัยในพื้นที่เสี่ยงภัยบริเวณที่ลาดเชิงเขาใกล้ทางน้ำไหลผ่าน และพื้นที่ราบลุ่มริมฝั่งแม่น้ำ บริเวณจังหวัดสุราษฎร์ธานี นครศรีธรรมราช พัทลุง สงขลา ปัตตานี ยะลา นราธิวาส กระบี่ ตรัง และสตูล ระมัดระวังอันตรายจากฝนตกหนักที่ทำให้เกิดสภาวะน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลากและน้ำล้นตลิ่งได้ สำหรับประชาชนที่อาศัยอยู่ตามชายฝั่งทะเลของภาคใต้ฝั่งตะวันออกขอให้ระวังอันตรายจากคลื่นลมแรงที่ซัดเข้าสู่ฝั่งในระยะนี้ไว้ด้วย ชาวเรือบริเวณอ่าวไทยโดยเฉพาะตั้งแต่จังหวัดสุราษฎร์ธานีลงไปควรงดออกจากฝั่งในระยะนี้ไว้ด้วย
อนึ่ง ในระยะ 3-4 วันนี้ บริเวณความกดอากาศสูงหรือมวลอากาศเย็นกำลังแรงจากประเทศจีนยังคงแผ่ลงมาปกคลุมประเทศไทย ทำให้บริเวณประเทศไทยตอนบนมีอากาศหนาวเย็นโดยทั่วไปกับมีลมแรง สำหรับภาคเหนือตอนบน และภาคตะวันออกเฉียงเหนือ อุณหภูมิต่ำสุด 12-16 องศาเซลเซียส ส่วนบริเวณยอดดอยและยอดภู
อุณหภูมิต่ำสุด 6-12 องศาเซลเซียส
จึงขอให้ประชาชนติดตามข่าวพยากรณ์อากาศและเตือนภัย จากกรมอุตุนิยมวิทยาอย่างใกล้ชิด


ประกาศ ณ วันที่ 1 พฤศจิกายน พ.ศ. 2553
ออกประกาศ เวลา 11.30 น.

สำนักพยากรณ์อากาศ กรมอุตุนิยมวิทยา
กระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร
 






หัวข้อ: Re: [2513] "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: jamsai ที่ 02 พฤศจิกายน 2553, 10:20:03
สวัสดีค่ะพี่แอ๊ะ
มาตามอ่านด้วยความสุข สนุก สดชื่นตามพี่ไปด้วย
ดีใจที่พี่หาญแข็งแรง
ตอนนี้ วัคซีนไข้หวัดนก ขายดี รพ.เอกชน ฉีดเข็มละ 1000+
รพ. รัฐ ฟรีสำหรับกลุ่มเสี่ยง จนถึง 400-500 บาท สำหรับผู้ไม่เสี่ยงที่ประสงค์จะป้องกัน
รพ. พี่แอ๊ะ มีคนมาขอฉีดมั้ยคะ
หนาวนี้หลายคนก็กลัว หวัดนก
แต่จริงๆ แล้วก็ยังงงๆ ว่า ควรฉีดหรือไม่ฉีดดี

คิดถึงค่ะ


หัวข้อ: Re: [2513] "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: เหยง 16 ที่ 02 พฤศจิกายน 2553, 12:34:21
อ้างถึง
ข้อความของ prapasri AH เมื่อ 30 ตุลาคม 2553, 18:13:36

มะรืนนี้ จะบิน ไปสุราษฎร์ จะทำไงดีละนี่
 


พี่แอ๊ะ อยู่หน่ายครับ ?? ??  emo47

"เกาะสมุย"ไฟฟ้า-สื่อสารถูกตัดขาด เฟอร์รี่-เครื่องบินหยุดนิ่ง หาดใหญ่จมบาดาล 3 หมื่นครัวเรือนเคว้ง
วันที่ 02 พฤศจิกายน พ.ศ. 2553 เวลา 12:05:56 น.

"เกาะสมุย"ลมแรงจัด"บางกอกแอร์เวย์"ยังไม่สามารถบิน
 
จ.สุราษฎร์ธานี สถานการณ์ล่าสุดปริมาณฝนเริ่มตกโปรยปรายแล้วในบางพื้น แต่ยังมีลมพัดแรง ระดับน้ำในตัวเมืองสุราษฎร์ธานีเริ่มลดลงเนื่องจากทางเทศบาลนครสุราษฎร์ธานีได้ใช้เครื่องสูบน้ำขนาดใหญ่สูบน้ำระบายออกลงสู่แม่น้ำตาปี และยังย้ำเตือนให้ประชาชนเฝ้าระมัดระวังน้ำท่วมเพิ่มเติมอย่าประมาท
 

ส่วนบริเวณเส้นทางสายสุราษฎร์ธานี - บ้านนาสาร บริเวณช่วงโค้งเขาท่าเพชร -หน้าศาลแขวงสุราษฎร์ธานี ม.1 ต.ขุนทะเล ระดับน้ำยังไหลเชี่ยวกราก รถเล็กยังไม่สามารถผ่านได้ต้องเลี่ยงไปใช้เส้นทางอื่นแทน


มีรายงานว่า ที่เกาะสมุย,เกาะพะงันและหมู่เกาะต่าง ๆคลื่นลมยังแรง โดยคลื่นสูงประมาณ 3-4 เมตร เรือเฟอร์รี่ยังไม่สามารถบริการได้ ขณะที่เกาะสมุยกระแสไฟฟ้าและระบบการสื่อสารถูกตัดขาดทั้งหมดแล้วนานกว่า 1 ชั่วโมง อยู่ในระหว่างรอการซ่อมแซม เนื่องจากมีลมแรงทำให้สายไฟฟ้าล้มหลายแห่งและน้ำท่วมขังในพื้นที่หลายแห่ง


สำหรับสายการบินบางกอกแอร์เวย์ที่สนามบินเกาะสมุย ยังไม่ปิดรับบริการผู้โดยสาร แต่ยังไม่สามารถบินได้ในช่วงนี้ เนื่องจากลมแรงจัด โดยที่มีผู้โดยสารรอเดินทางเป็นจำนวนมาก

                                ฯลฯ
http://www.matichon.co.th/news_detail.php?newsid=1288612792&grpid=00&catid=


หัวข้อ: Re: [2513] "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: เหยง 16 ที่ 02 พฤศจิกายน 2553, 19:18:53
ไม่เพียงแต่ประเทศไทยที่เจอฝนตกและน้ำท่วมอย่างรุนแรง มาเลเซียก็เช่นกัน

สองรัฐมาเลย์ น้ำท่วมอ่วม ฝกหนัก ปชช.อพยพหลายพัน
2 พย. 2553 09:49 น.

หนังสือพิมพ์เดอะสตาร์ของมาเลเซีย และหนังสือพิมพ์เสตรทส์ ไทม์ส ของสิงคโปร์ รายงานว่าประชาชนมากกว่า 3 พันคน จากหมู่บ้านราว 50 แห่ง ในรัฐเคดาห์และปะลิส ของมาเลเซีย ต้องอพยพไปยังศูนย์พักพิงชั่วคราว หลังเกิดฝนตกหนักต่อเนื่อง

สภาพอากาศเลวร้าย ที่ดำเนินมาตั้งแต่วันอาทิตย์ ยังทำให้ถนนหลายสายต้องปิดการจราจรรวมทั้งทางด่วน นอร์ธ-เซาธ์ เอ็กเพรสส์เวย์ ในเมืองชางลัน เป็นระยะทาง 10.2 กิโลเมตร ทำให้การจราจรติดขัดอย่างหนัก

ถนนหลายสายไม่สัญจรผ่านไปได้ เพราะจมอยู่ใต้น้ำลึก 2 เมตร มีการติดตั้งป้ายเตือนบรรดาผู้ขับขี่ยวดยาน เลี่ยงเส้นทางเชื่อมระหว่างบูกิต คายู ฮิตัม กับชางลัน ไปใช้ถนนทางหลวงชางลัน-กัวลา ปะลิส แทน

ที่รัฐเคดาห์ มีประชาชนมากกว่า 2 พันคน จากหมู่บ้าน 35 แห่ง ในรัฐเคดาห์ ต้องอพยพด่วนไปอยู่ที่ศูนย์พักพิง ส่วนที่รัฐปะลิส มีประชาชน 1,218 คน จากหมู่บ้าน 17 แห่ง อพยพไปอยู่ที่ศูนย์พักพิงชั่วคราวแล้วเช่นกัน

http://breakingnews.nationchannel.com/read.php?newsid=477249&lang=T&cat=


หัวข้อ: Re: [2513] "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: เหยง 16 ที่ 02 พฤศจิกายน 2553, 19:23:20
ที่สุดคนไทยก็ไม่ยอมทนรับภาระให้ใคร ??

กทม. ปัดทำ "คนอยุธยา" เดือดร้อน
2 พย. 2553 16:54 น.

นาย สัญญา ชีนิมิตร ผู้อำนวยการสำนักการระบายน้ำ(สนน) กทม. กล่าวถึงกรณีผู้นำชุมชนกว่า 60 คน ใน จ.พระนครศรีอยุธยา แสดงท่าทีที่จะไม่ยอมแบกรับภาระน้ำท่วมแทนคนกรุงเทพฯ และเสนอให้ขุดเจ้าพระยา 2 ว่า การขุดเจ้าพระยา 2 คาดว่าจะทำนอกเขตกรุงเทพฯ ซึ่งเป็นเรื่องที่หน่วยงานกลางต้องเข้ามาดูแล และต้องมีการพูดคุยกันในระดับจังหวัดซึ่งตนคงไม่สามารถให้คำตอบตรงนี้ได้ เพราะเป็นเรื่องนโยบายของรัฐบาลมากกว่า ส่วนกรณีที่บอกว่าคนอยุธยาฯ แบกรับน้ำแทนคนกรุงเทพฯ นั้น ตนมองว่าไม่ใช่ประเด็น แต่จุดสำคัญก็คือท้องถิ่นแต่ละแห่งควรดูแลเรื่องระบบระบายน้ำ และแนวป้องกันน้ำท่วมของพื้นที่ตนเองให้ดีเสียก่อน ซึ่งหากมีการทำระบบป้องกันน้ำท่วมที่ดีอยู่แล้ว ก็ไม่น่าจะมีปัญหาในพื้นที่มาก หรือมีก็อาจจะกระทบส่วนน้อยเท่านั้น

นายสัญญา กล่าวว่า สำหรับการเตรียมแผนป้องกันน้ำท่วมช่วงน้ำทะเลหนุนสูงในวันที่ 8 พ.ย.นี้ เมื่อช่วงเช้าวันเดียวกันได้มีการประชุมหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เตรียมความพร้อมเรื่องเครื่องมือในการระบายน้ำ เช่น เครื่องสูบน้ำประจำบริเวณริมแม่น้ำเจ้าพระยา นอกจากนี้ได้กำชับให้เสริมแนวกระสอบทรายให้แข็งแรง ในจุดที่ไม่มีเขื่อนป้องกันน้ำท่วม ส่วนน้ำในคลองย่อยในพื้นที่กทม. ขณะนี้อาจมีระดับลดต่ำลง และอาจทำให้น้ำเน่าเสียบ้าง ขอให้คนที่อาศัยริมคลองเข้าใจ เนื่องจาก กทม. ต้องบริหารจัดการน้ำโดยลดระดับน้ำในคลองลงเพื่อรองรับน้ำทะเลหนุนและน้ำในแม่น้ำเจ้าพระยาโดยเฉพาะวันที่ 8 พ.ย.นี้ ซึ่งเป็นการทำเพื่อส่วนรวมดังนั้นอยากให้ประชาชนที่บ่นเรื่องน้ำเน่าเสียเข้าใจด้วย

ส่วนกรณีที่ก่อนหน้านี้ข่าวว่าบริเวณเขื่อนหน้าโรงเรียนพลาธิการ เขตบางซื่อนั้น มีแนวเขื่อนป้องกันน้ำท่วมเกิดรอยร้าว นายสัญญา กล่าวว่า เท่าที่ตรวจสอบเป็นแนวเขื่อนของโรงเรียนพลาธิการนั้น พบว่าเป็นเขื่อนที่ใช้งานมานานและเกิดรอยร้าวเนื่องจากกระแสน้ำที่เชี่ยวกราก อย่างไรก็ตาม สนน.ได้เข้าไปเสริมแนวกระสอบทรายหลังเขื่อนที่มีปัญหาแล้ว และหลังจากสถานการณ์น้ำลดลง จะตรวจสอบรอยร้าวร่วมกันโรงเรียนพลาธิการอีกครั้ง

http://breakingnews.nationchannel.com/read.php?newsid=477385&lang=T&cat=


หัวข้อ: Re: [2513] "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: jamsai ที่ 03 พฤศจิกายน 2553, 18:42:18
อึ้งกับน้ำท่วม เห็นแล้วอิ้ง ได้ยินแล้วอึ้ง
ช่วงนี้ขยับ จะช่วยอย่างไรดี หรือจะชวนกันทำโครงการช่วยหลังน้ำลด จะดีกว่ามั้ย
จะบริจาคตอนนี้ เดี๋ยวจะกลายเป็นถุงช่วยน้ำท่วมของรัฐมนตรี ชวรัตน์(มหาดไทย)
หรือพรรคภูมิใจไทยไปเสียอีก

ก็คิดไม่ถึงว่าใจเราเป็นอย่างนี้ และคงไม่ได้บุญแน่ๆ
เออ หรือใจเรายังไม่มีเมตตามากพอ
คือเต็มไปด้วยโทสะ ต่อ คนที่เราเห็นว่าเขาไม่ดี จนมองข้ามความเดือดร้อนของเพื่อนมนุษย์
สรุป ใจยังมีกิเลสครบทุกตัว- ยังเลือกที่รัก มักที่ชัง อยู่มาก

ปีืที่แล้ว มีหลวงพ่อรูปหนึ่งท่านก็เปรยๆว่า อาตมาเห็นภาพปลาว่ายเวียนในตึกใหญ่ๆใน กทม ในอีกประมาณ 4 ปี
เอหรือว่าจริง หรือว่าจริง
ดร.พิกุล ที่หาดใหญ่
ตุ๊-อรษาิ 14 ที่ ห้วยยอด-ตรัง
บ้านพี่แอ๊ะที่สมุย
เป็นอย่างไรกันบ้างหนอ


หัวข้อ: Re: [2513] "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: เหยง 16 ที่ 03 พฤศจิกายน 2553, 20:50:37
พี่แอ๊ะครับ

อ่านเรื่องรักโรแมนติก ช่วงกำลังถูกน้ำท่วม

มหัศจรรย์แห่งรัก จากกันกว่าครึ่งศตวรรษ ได้กลับมาครองคู่ยามไม้ใกล้ฝั่ง
3 พฤศจิกายน 2553 11:30 น.

 
       ไชน่า เดลี่ -เรื่องราวความรักของคนคู่หนึ่ง ที่ฝ่ามรสุมการเมืองและชีวิตส่วนตัว เป็นเวลากว่าครึ่งศตวรรษ กระทั่งได้มาพบกันอีกครั้ง ได้สมปรารถนาครองคู่ครองรักกันในยามไม้ใกล้ฝั่ง
      
       สาวลูกครึ่ง แดนนี่ หลี่ กับ นายหยวน ตี้เปา พบกันที่เมืองหังโจวในฤดูใบไม้ผลิ ปี 2496 แต่โชคชะตาทำให้เขาทั้งสองพรากจากกันไปไกลถึงคนละซีกโลก นานถึง 54 ปี และปาฏิหาริย์แห่งรักก็เกิดขึ้น นำพาพวกเขามาพบกันอีกครั้งเมื่อไม่นานมานี้ ทั้งสองได้กลับมาครองรักแต่งงานกันในที่สุด ในวัยกว่า 80 ปี!
      
       เรื่องราวตำนานรักของทั้งสอง ได้กลายเป็นข่าวยอดนิยมในหน้าหนังสือพิมพ์และโทรทัศน์จีน นอกจากนี้ บรรดาชาวเน็ตจีน ต่างยกย่องความรักของคู่รักคู่นี้ว่าเป็น “ความรักที่บริสุทธิ์ที่สุดในโลก”
      
       แดนนี่ หลี่ กล่าวว่า “มันเหมือนความฝัน ฉันไม่เคยคาดหวังว่าจะได้พบเขาอีกครั้ง”
      
       หลี่ เกิดในปี 2469 ณ กรุงปักกิ่ง มีแม่เป็นชาวฝรั่งเศส และพ่อเป็นชาวจีน เมื่อเธออายุ 24 ปี ก็ได้เป็นอาจารย์ที่อายุน้อยที่สุดคนหนึ่งในวิทยาลัยแพทยศาสตร์เจ้อเจียง ในเมืองหังโจว และด้วยความเชี่ยวชาญถึง 4 ภาษา คือ ภาษาจีน อังกฤษ รัสเซีย และภาษาฝรั่งเศส จึงทำให้เธอมีชื่อเสียงเป็นที่รู้จัก
      
       หยวน ตี้เปา นักศึกษาปีหนึ่ง รูปหล่อ วัย 25 ปี ผู้เป็นหัวหน้าชั้นเรียน และเป็นนักศึกษาที่ยอดเยี่ยมที่สุดในชั้นเรียนภาษารัสเซียของหลี่ หยวนทั้งฉลาดและขยัน ซึ่งเขาพิสูจน์ด้วยการได้คะแนนสอบมากที่สุดในชั้นเรียน

(http://img219.imageshack.us/img219/4929/love1r.jpg)

หยวน ตี้เปา ในวัย 82 ปี และแดนนี่ หลี่ ในวัย 83 ปี กำลังนั่งอ่านจดหมายด้วยกัน และทั้งคู่ก็ได้ใช้ชีวิตอย่างมีความสุข หลังจากที่ต้องพลัดพรากจากกันนานถึงมากกว่าครึ่งศตวรรษ(ภาพไชน่า เดลี่)
     
      “เขาเป็นคนดี ทั้งยังดีกับคนอื่นๆด้วย บรรดานักศึกษาและครูอาจารย์ล้วนชอบเขามาก” หลี่ รำลึกหยวนในช่วงวัยเรียน
      
       ขณะที่ หลี่ เริ่มศึกษาถึงตัวตนของหยวน เธอก็พบว่า ทั้งหยวนกับเธอ มีสิ่งที่คล้ายกันอยู่มาก และความรู้สึกอันแสนอบอุ่นของหลี่ที่มีให้หยวน ก็ได้พัฒนาไปสู่ความรักอันแสนบริสุทธิ์ในที่สุด
      
       ถึงแม้สังคมจะมองความสัมพันธ์ระหว่างอาจารย์กับศิษย์เป็นเรื่องไม่ดีนัก ทั้งคู่ก็ยังสนิทสนมกัน โดยมีเพียงครอบครัวของหลี่เท่านั้นที่รู้เรื่องนี้
      
       ทุกๆครั้งที่หยวนไปขอคำปรึกษาเรื่องการเรียนที่ห้องทำงานของหลี่ พวกเขาก็จะนัดกันต่อหลังเลิกเรียน
      
       เมืองหังโจว ที่แห่งความรักอันแสนหวานปานน้ำผึ้ง
      
       ที่หังโจว หยวนมักเดินไปส่งหลี่ที่บ้าน และแวะบ้านของหลี่ครู่หนึ่งเสมอ ครอบครัวของหลี่ก็มิได้ขัดขวางแต่ประการใด กลับต้อนรับชายหนุ่มผู้มีเสน่ห์และมีความสุภาพอ่อนโยนนี้อย่างดี
      
       เมื่อทั้งคู่ได้ใกล้ชิดกัน หลี่มีความสุขหวานชื่น ขณะที่หยวน กลับสับสนว้าวุ่นอยู่ระหว่างความสุขและความรู้สึกผิด
      
       “ฉันสัมผัสได้ถึงบางสิ่งบางอย่างที่เขาเก็บงำไว้” หลี่ เล่า
      
       ในตอนนั้น สิ่งที่หลี่ไม่รู้ ก็คือ หยวนได้แต่งงานมีภรรยาแล้ว
      
       ครอบครัวของหยวนได้จัดการให้เขาแต่งงานกับน้องสาวของเพื่อนที่บ้านเกิด ในเกาะกู้หลังอี้ว์ เมืองซย่าเหมิน มณฑลฝูเจี้ยน ก่อนที่หยวนจะเข้าเรียนที่วิทยาลัยแพทยศาสตร์ของเมืองแห่งนี้ ในปี 2496
      
       หยวนไม่ได้บอกหลี่ เรื่องที่เขาแต่งงานแล้ว
      
       จนกระทั่งเมื่อปี 2497 ก่อนที่หยวนจะย้ายไปศึกษาต่อยังเมืองเฉิงตู มณฑลซื่อชวน(เสฉวน) เขาจึงได้รวบรวมความกล้า และบอกกับหลี่ว่า
      
       “ผมมีภรรยาแล้ว และจะต้องดูแลเธอไปจนกว่าจะตายจากกัน”
      
       หัวใจของหลี่ร้าวรานเมื่อได้ยินคำสารภาพของหยวน และแม้ว่าจะรักหยวนมากเพียงใด แต่ทั้งคู่ก็จำต้องแยกจากกัน
      
       “ฉันไม่มีทางเลือก เราไม่ควรมีความสุขอยู่บนความทุกข์ของผู้หญิงที่เป็นผู้บริสุทธิ์อีกคน” หลี่ ให้ความเห็น
      
       หลังจากนั้น หลี่และหยวนก็ไม่ได้พบกันอีก
      
       จากกันไกลถึงซีกโลก...

(http://img80.imageshack.us/img80/8695/love2l.jpg)

ภาพหยวน ตี้เปา และแดนนี่ หลี่ ในช่วงปี 2493 (ภาพไชน่า เดลี่)
     
       ในปี 2499 หลี่ กับแม่ของเธอได้ย้ายไปอยู่ที่เมืองลียง ประเทศฝรั่งเศส ก่อนจะออกจากประเทศจีน หลี่ได้เขียนจดหมายบอกลาหยวน
      
       ทว่าไม่กี่วันต่อมา หยวนก็ได้สร้างความประหลาดใจด้วยการส่งจดหมายอีกหลายฉบับ จากนั้นทั้งคู่ก็เริ่มติดต่อกันผ่านทางจดหมายมาตลอด
      
       โดยจดหมายจากหลี่ จะส่งไปถึงที่ทำงานของหยวน ขณะเดียวกัน หยวนก็เก็บจดหมายทุกฉบับของหลี่ไว้ที่บ้านญาติ เพื่อไม่ให้ภรรยารู้
      
       หลี่ ต้องดิ้นรนเพื่อมีชีวิตอยู่ในสังคมที่เธอไม่คุ้นเคยในประเทศฝรั่งเศส ประกอบกับใบรับรองคุณวุฒิทางการศึกษาของเธอก็ยังถูกปฏิเสธ อีกทั้งวัฒนธรรมที่แตกต่างจนทำให้เกิดความรู้สึกสับสน
      
       หลี่ ได้เรียนรู้การเขียนชวเลข และการพิมพ์ดีด จนท้ายที่สุดก็ได้งานในตำแหน่งเลขานุการของบริษัทการค้าระหว่างประเทศแห่งหนึ่ง ขณะที่ หยวนก็สำเร็จการศึกษาและเริ่มทำงานในซย่าเหมิน
      
       เนื้อความในจดหมายของทั้งสอง แทบจะไม่มีการระบายถึงความทุกข์ยากของแต่ละฝ่าย หยวนเล่าถึงความสุขที่ได้เป็นพ่อคน ขณะที่ หลี่ ก็ส่งนมผงสำหรับทารกและเสื้อผ้าเด็กมาให้ ซึ่งในขณะนั้นในประเทศจีนยังค่อนข้างขาดแคลนสินค้าดังกล่าว

 
       เมื่อถึงช่วงปฏิวัติวัฒนธรรม (2509-2519) จดหมายของหลี่ก็เริ่มถูกตีกลับ และเธอได้หยุดเขียนจดหมายเพื่อไม่ให้เกิดปัญหากับหยวน แต่หลี่ ก็ไม่สามารถลืมหยวนได้
      
       “ฉันไม่สามารถเริ่มความสัมพันธ์ใหม่ได้ แม้ว่าจะมีหลายคนผ่านเข้ามาในชีวิตฉันก็ตาม ฉันพบว่าความรักของหยวน เป็นรักแท้ และรู้สึกถึงความพิเศษที่ไม่มีใครสามารถทัดเทียมได้” หลี่ เผยความใน
      
       ในปี 2519 ทันทีที่หลี่มั่นใจว่าความวุ่นวายจากการปฏิวัตวัฒนธรรมในประเทศจีนได้สงบลง เธอก็เขียนจดหมายส่งไปยังที่ทำงานของหยวนเช่นเคย แต่จดหมายดังกล่าวถูกตีกลับ ในตอนนั้น เธอไม่รู้ว่า หยวนได้เปลี่ยนที่ทำงานแล้ว ซึ่งในปี 2516 หยวนได้เขียนจดหมายบอกหลี่ แต่ไม่สำเร็จ จนกระทั่ง ทั้งคู่ก็ได้ติดต่อกันอีกครั้ง เมื่อเดือนพ.ค.ปีนี้เอง (2553) นานถึง 45 ปี ที่ทั้งสองพรากจากกันหลังจากได้ติดต่อกันครั้งสุดท้าย
      
       แสงสว่างฉายโฉนบนเส้นทางรัก...
      
       ช่วงระหว่างเทศกาลตรุษจีน (ปลายเดือนก.พ.) โอวหยัง ลู่อิง ลูกสะใภ้คนที่สามของหยวน ได้ล่วงรู้จากญาติที่เป็นผู้ช่วยกุมความลับจดหมายของหลี่ไว้ ว่า พ่อสามีของเธอ ได้เคยตกหลุมรักกับครูต่างชาติสาวสวย เธอกล่าวว่า
      
       “เมื่อได้ฟังเรื่องของพ่อสามีฉัน ก็สัมผัสได้ถึงความลึกซึ้งในความรัก และเมื่อแม่สามีของฉันได้เสียชีวิตไปตั้งแต่ปี 2537 ฉันจึงขอให้พ่อเขียนจดหมายอีกครั้ง”
      
       แม้ตลอดชีวิตที่ผ่านมา หยวนมักจะไปยังสถานที่ที่เขากับหลี่เคยมาด้วยกันเป็นประจำในเมืองหังโจว แต่หยวนก็ไม่เคยคาดคิดที่จะกลับไปติดต่อกับหลี่อีก
      
       จนเมื่อลูกสะใภ้โอวหยังได้ปลุกความทรงจำทั้งหมดจากก้นบึ้งในจิตใจ หยวนจึงมีกำลังใจและมีความหวังที่จะพบกับหลี่อีกครั้ง เขาใช้เวลาหลายวันในการเขียนจดหมายทั้งสิ้น 5 ฉบับ นอกจากจะเขียนเป็นภาษาจีนอวยพรให้หลี่มีสุขภาพร่างกายแข็งแรงแล้ว หยวนยังเขียนถึงญาติของหลี่เป็นภาษาอังกฤษ ด้วยเกรงว่าหลี่อาจเสียชีวิตแล้ว โดยเขียนว่า
      
       "ผมเป็นนักเรียนและเพื่อนของหลี่ และต้องการทราบถึงที่อยู่ของหลี่"
      
       ทุกๆ วันเว้นวัน หยวนได้ส่งจดหมาย 1 ฉบับ และหากไม่ได้รับจดหมายตอบกลับเลยสักฉบับ เรื่องราวต่างๆ ก็อาจต้องยุติลงเพียงเท่านี้
      
       ในที่สุดก็มีจดหมายส่งตรงจากฝรั่งเศส หยวนซึ่งบัดนี้อายุ 80 ปี ได้เปิดจดหมายฉบับนั้นด้วยมือที่สั่นเทา และได้เห็นลายมือที่คุ้นเคยอีกครั้ง หยวนเล่าถึงความรู้สึก ณ ขณะนั้น ว่า “ขอบคุณสวรรค์ เธอยังมีชีวิตอยู่” ในซองจดหมายมีรูปของหลี่แนบมาพร้อมกับเนื้อความ 3 หน้ากระดาษ บอกเล่าเรื่องราวต่างๆ ที่เกิดขึ้นกับตัวเธอว่า...
      
       "ในปี 2517 เป็นระยะเวลา 9 ปี หลังจากการติดต่อกันครั้งสุดท้าย ฉันจบการศึกษาภาษาจีนและได้รับคุณวุฒิเทียบเท่ามหาบัณฑิต จึงได้งานสอนภาษาจีนในมหาวิทยาลัยช็อง มูแลง - ลียง 3
      
       ในปี 2535 ฉันเกษียณในตำแหน่งรองศาสตราจารย์ของมหาวิทยาลัยดังกล่าว และจากนั้นได้ทำงานเป็นรองประธานองค์กรไม่แสวงกำไรที่ช่วยเหลือนักศึกษาชาวจีนในมหาวิทยาลัยนี้
      
       เธอยังคงครองโสดและอยู่เพียงลำพังหลังจากที่พ่อแม่ของเธอเสียชีวิตลง
      
       ในวันที่ 1 พ.ค.ที่ผ่านมา หลี่กลับมาถึงบ้านก็พบจดหมายของหยวนวางอยู่ที่พื้น เธอเล่าว่า “ฉันยังไม่ได้ตอบกลับไปในทันที เพราะฉันไม่อยากจะเชื่อว่ามันเป็นเรื่องจริง”
      
       เธอนั่งมองจดหมายของหยวนที่สวนในบ้านตั้งแต่เที่ยงวันไปถึงเที่ยงคืน กระทั่งเมื่อรุ่งอรุณเบิกฟ้าของวันถัดมา เธอก็ได้รับจดหมายของหยวนอีกฉบับ หลี่จึงมั่นใจว่า มันไม่ใช่ความฝัน
      
       จากนั้นทั้งคู่ได้เริ่มส่งจดหมายหากันเหมือนแต่ก่อน และในบางครั้ง ด้วยความช่วยเหลือของโอวหยัง ทำให้ทั้งหลี่ และหยวน ได้พูดคุยกันทางโทรศัพท์ แต่ไม่นานก็กลับไปใช้การเขียนจดหมายเช่นเดิม เพราะหยวนมีปัญหาด้านการได้ยิน
      
       ในการคุยโทรศัพท์ครั้งแรก หลี่ ได้เล่าว่า “โอวหยัง เรียกฉันว่าคุณแม่แดนนี่ ยังไม่เคยมีใครเรียกฉันว่าแม่มาก่อน ฉันไม่สามารถอธิบายความรู้สึกอันแสนวิเศษนี้ได้”
      
       หนึ่งเดือนต่อมา หยวนได้เชิญชวนให้หลี่มาที่ซย่าเหมิน และได้บอกกับหลี่ว่า “เธอต้องการมาอยู่กับฉันหรือแค่มาเยี่ยมก็ได้ แล้วแต่เธอจะตัดสินใจ”
      
       เมื่อหลี่ มาถึงซย่าเหมิน หยวนและครอบครัวก็ได้พบกับเธอที่สนามบิน และ ณ เวลานั้น หยวนได้ถือช่อกุหลาบอันสวยสด 55 ดอก เพื่อขอเธอแต่งงาน หลี่ได้ตอบรับคำขอของหยวน จากนั้นทั้งคู่ก็ได้จดทะเบียนสมรสกันในวันที่ 21 ก.ย.ที่ผ่านมา หนึ่งวันก่อนถึงเทศกาลไหว้พระจันทร์ ซึ่งเป็นช่วงเวลาที่ครอบครัวชาวจีนกลับมาพบปะกันอย่างพร้อมหน้าพร้อมตา
      
       ในวันที่ 26 ก.ย.2553 บุตรชายของหยวน ได้จัดงานแต่งงานให้กับพวกเขา จากนั้น ทั้งหลี่และหยวนก็ได้อาศัยอยู่ในบ้านของบุตรชายคนที่ 3 และในทุกๆเช้า หยวนกับหลี่ ก็จะจับมือกันเดินตากลมทะเลริมชายหาดรับกลิ่นอายรุ่งอรุณของวันใหม่อันแสนอบอุ่น
      
       หลี่ กล่าวปิดท้ายตำนานรักสุดขอบฟ้าของเธอกับหยวน ว่า “สิ่งที่ผ่านมาแล้ว ก็ให้มันผ่านไป เราต้องการใช้ชีวิตที่เหลืออยู่เคียงข้างกันตลอดไป ฉันมีปัญหาด้านการมอง และเขามีปัญหาด้านการฟัง ดังนั้นฉันจึงเป็นหูให้กับเขา และเขาก็เป็นตาให้กับฉัน เราเติมเต็มกันและกัน

 
พิมพ์จาก http://www.manager.co.th/asp-bin/mgrView.asp?NewsID=9530000154511
 


หัวข้อ: Re: [2513] "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: เหยง 16 ที่ 03 พฤศจิกายน 2553, 21:54:46
ตามด้วยเรื่องดีๆ อีกหนึ่งเรื่อง

“เขยฝรั่ง” เมืองช้างน้ำใจงาม พายเรือช่วยชาวนาเก็บเกี่ยวข้าวจมใต้น้ำ
โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ 3 พฤศจิกายน 2553 16:32 น.

(http://img220.imageshack.us/img220/9734/53548671.jpg)(http://img220.imageshack.us/img220/7434/96428996.jpg)

สุรินทร์- “ลูกเขยฝรั่ง” เมืองช้าง น้ำใจงาม พายเรือช่วยชาวนาเก็บเกี่ยวข้าวจมใต้น้ำ โดยไม่คิดค่าแรงใดๆ เผย 3 อำเภอริมแม่น้ำมูล “ชุมพลบุรี-ท่าตูม-รัตนบุรี” จ.สุรินทร์ บ้านเรือน นาข้าว จมบาดาลมานานกว่า 1 สัปดาห์ เดือดร้อนหนัก คาดอีกไม่ต่ำกว่า 1 สัปดาห์ ถึงจะเข้าสู่ภาวะปกติ


คลิ๊กเลย...
http://www.manager.co.th/Local/ViewNews.aspx?NewsID=9530000155188



หัวข้อ: Re: [2513] "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: prapasri AH ที่ 04 พฤศจิกายน 2553, 17:38:36
น้องอาจารย์แจ่ม คะ

ตามมาตอบด้วยความสุขเช่นกัน

พี่แอ๊ะเพิ่งบินกลับจาก สุราษฎร์ ออกจาก สุราษฎร์ 11.30

check through มาถึงอุบลเลยค่ะ  บ่าย 3โมงกว่าเกือบ 4โมงก็ถึงยโสแล้วค่ะ

น้องชาย นายพรเทพ 16  โทรมาถามว่าถึงบ้านแล้วหรือ

เขาเป็นงง  แล้วอุทานว่า

คนรวยนี่ดีจังเลยน่ะ บินได้55555555[/color]

เรื่องวัคซีน ไข้หวัด หากมีโอกาสฉีด ก็ฉีด ซะเลยนะคะ

พี่แอ๊ะติดตาม ทราบแต่ว่า วัคซีน 2009 ยังไม่มี

 (หรืออาจจะมีเเล้ว ช่วงหลังไม่ได้ตามติด อิๆๆๆๆๆ)

ทราบแต่ว่าให้ฉีดวัคซีนไข้หวัดใหญ่ไว้ ได้เลย และต้องฉีดปีละครั้ง

 เพราะจะมีภูมิต้านทานแค่ หนึ่งปี เท่านั้น

แต่หากฉีด วัคซีนไข้หวัดใหญ่ เเล้ว หากได้รับเชื้อไข้หวัด 2009

อาการจะไม่รุนเเรงค่ะ



อ้างถึง
ข้อความของ jamsai เมื่อ 02 พฤศจิกายน 2553, 10:20:03
สวัสดีค่ะพี่แอ๊ะ
มาตามอ่านด้วยความสุข สนุก สดชื่นตามพี่ไปด้วย
ดีใจที่พี่หาญแข็งแรง
ตอนนี้ วัคซีนไข้หวัดนก ขายดี รพ.เอกชน ฉีดเข็มละ 1000+
รพ. รัฐ ฟรีสำหรับกลุ่มเสี่ยง จนถึง 400-500 บาท สำหรับผู้ไม่เสี่ยงที่ประสงค์จะป้องกัน
รพ. พี่แอ๊ะ มีคนมาขอฉีดมั้ยคะ
หนาวนี้หลายคนก็กลัว หวัดนก
แต่จริงๆ แล้วก็ยังงงๆ ว่า ควรฉีดหรือไม่ฉีดดี

คิดถึงค่ะ



หัวข้อ: Re: [2513] "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: prapasri AH ที่ 04 พฤศจิกายน 2553, 17:45:10
เขยฝาหรั่งงงงงงง นี่น่ารักจริงๆเชียว

อยู่บ้านท่านไม่นั่งดูดาย

 ปั้นวัวปั้นควาย เอ๊ย จับเรือ จับพาย ช่วยลูกท่านด้วย

ถ้าเป็นเขยไทย อีคงคิดอัตราค่าเเรงขั้น ต่ำ แหง๋แก๋

อ้างถึง
ข้อความของ เหยง 16 เมื่อ 03 พฤศจิกายน 2553, 21:54:46
ตามด้วยเรื่องดีๆ อีกหนึ่งเรื่อง

“เขยฝรั่ง” เมืองช้างน้ำใจงาม พายเรือช่วยชาวนาเก็บเกี่ยวข้าวจมใต้น้ำ
โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ 3 พฤศจิกายน 2553 16:32 น.

(http://img220.imageshack.us/img220/9734/53548671.jpg)(http://img220.imageshack.us/img220/7434/96428996.jpg)

สุรินทร์- “ลูกเขยฝรั่ง” เมืองช้าง น้ำใจงาม พายเรือช่วยชาวนาเก็บเกี่ยวข้าวจมใต้น้ำ โดยไม่คิดค่าแรงใดๆ เผย 3 อำเภอริมแม่น้ำมูล “ชุมพลบุรี-ท่าตูม-รัตนบุรี” จ.สุรินทร์ บ้านเรือน นาข้าว จมบาดาลมานานกว่า 1 สัปดาห์ เดือดร้อนหนัก คาดอีกไม่ต่ำกว่า 1 สัปดาห์ ถึงจะเข้าสู่ภาวะปกติ


คลิ๊กเลย...
http://www.manager.co.th/Local/ViewNews.aspx?NewsID=9530000155188




หัวข้อ: Re: [2513] "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: prapasri AH ที่ 04 พฤศจิกายน 2553, 19:29:42

เรื่องน้ำท่วม นี้พี่แอ๊ะก็ สองจิตสองใจ ที่จะให้ความเห็นนะ พอดีช่วงนี้ มีเรื่องยุ่งๆส่วนตัว

เลยไม่ค่อยได้ติดตามอย่างใกล้ชิด

เเต่จากการที่อยู่ในพื่นที่ตอนท่วมอิสาน

เค้า บอกว่า ยโสท่วมแล้ว  พี่แอ๊ะก้ไม่เห็นท่วมจั๊กกะหน่อยยยยยยยยยยยยยย


หรือโมเม เอาทุกจังหวัดเลย  ไทยเข้มแข็งจะได้ออกมามากๆ

ที่สุราษฎร์ ฝนก็ตก แต่ก็ไปไหนๆ ในเมืองได้ทุกที่  คงท่วมตามอำเภอบ้านนอก

ที่สมุย ญาติ ก็ส่งข่าวว่าท่วม ที่ตำบลอื่นนะ เช่นที่เฉวง และหน้าทอน ที่เป็นที่เจริญๆ

ตำบล พี่แอ๊ะไม่ท่วมเพราะ ตำบลพี่แอ๊ะไม่ได้มีการก่อสร้างอะไรมากมาย

สรุปว่าจุดที่ท่วมมากๆ คือที่มีการก่อสร้างมากๆเช่น เขต เฉวง

หรือ ที่ สงขลาคือหาดใหญ่

ทีให้วิเคราะห์ ได้ว่า เรา ทำ ตัวเราเอง

คือก่อสร้างมาก ๆ และผู้บริหารบ้านเมือง

 ไม่คิดถึงการป้องกัน ว่า จะให้น้ำไหล ไปทางไหน ฝนตกนิดเดียว
น้ำก็ท่วมซะแหล่ววววววววววว

อ้างถึง
ข้อความของ เหยง 16 เมื่อ 02 พฤศจิกายน 2553, 12:34:21
อ้างถึง
ข้อความของ prapasri AH เมื่อ 30 ตุลาคม 2553, 18:13:36

มะรืนนี้ จะบิน ไปสุราษฎร์ จะทำไงดีละนี่
 


พี่แอ๊ะ อยู่หน่ายครับ ?? ??  emo47

"เกาะสมุย"ไฟฟ้า-สื่อสารถูกตัดขาด เฟอร์รี่-เครื่องบินหยุดนิ่ง หาดใหญ่จมบาดาล 3 หมื่นครัวเรือนเคว้ง
วันที่ 02 พฤศจิกายน พ.ศ. 2553 เวลา 12:05:56 น.

"เกาะสมุย"ลมแรงจัด"บางกอกแอร์เวย์"ยังไม่สามารถบิน
 
จ.สุราษฎร์ธานี สถานการณ์ล่าสุดปริมาณฝนเริ่มตกโปรยปรายแล้วในบางพื้น แต่ยังมีลมพัดแรง ระดับน้ำในตัวเมืองสุราษฎร์ธานีเริ่มลดลงเนื่องจากทางเทศบาลนครสุราษฎร์ธานีได้ใช้เครื่องสูบน้ำขนาดใหญ่สูบน้ำระบายออกลงสู่แม่น้ำตาปี และยังย้ำเตือนให้ประชาชนเฝ้าระมัดระวังน้ำท่วมเพิ่มเติมอย่าประมาท
 

ส่วนบริเวณเส้นทางสายสุราษฎร์ธานี - บ้านนาสาร บริเวณช่วงโค้งเขาท่าเพชร -หน้าศาลแขวงสุราษฎร์ธานี ม.1 ต.ขุนทะเล ระดับน้ำยังไหลเชี่ยวกราก รถเล็กยังไม่สามารถผ่านได้ต้องเลี่ยงไปใช้เส้นทางอื่นแทน


มีรายงานว่า ที่เกาะสมุย,เกาะพะงันและหมู่เกาะต่าง ๆคลื่นลมยังแรง โดยคลื่นสูงประมาณ 3-4 เมตร เรือเฟอร์รี่ยังไม่สามารถบริการได้ ขณะที่เกาะสมุยกระแสไฟฟ้าและระบบการสื่อสารถูกตัดขาดทั้งหมดแล้วนานกว่า 1 ชั่วโมง อยู่ในระหว่างรอการซ่อมแซม เนื่องจากมีลมแรงทำให้สายไฟฟ้าล้มหลายแห่งและน้ำท่วมขังในพื้นที่หลายแห่ง


สำหรับสายการบินบางกอกแอร์เวย์ที่สนามบินเกาะสมุย ยังไม่ปิดรับบริการผู้โดยสาร แต่ยังไม่สามารถบินได้ในช่วงนี้ เนื่องจากลมแรงจัด โดยที่มีผู้โดยสารรอเดินทางเป็นจำนวนมาก

                                ฯลฯ
http://www.matichon.co.th/news_detail.php?newsid=1288612792&grpid=00&catid=

อ้างถึง
ข้อความของ jamsai เมื่อ 03 พฤศจิกายน 2553, 18:42:18
อึ้งกับน้ำท่วม เห็นแล้วอิ้ง ได้ยินแล้วอึ้ง
ช่วงนี้ขยับ จะช่วยอย่างไรดี หรือจะชวนกันทำโครงการช่วยหลังน้ำลด จะดีกว่ามั้ย
จะบริจาคตอนนี้ เดี๋ยวจะกลายเป็นถุงช่วยน้ำท่วมของรัฐมนตรี ชวรัตน์(มหาดไทย)
หรือพรรคภูมิใจไทยไปเสียอีก

ก็คิดไม่ถึงว่าใจเราเป็นอย่างนี้ และคงไม่ได้บุญแน่ๆ
เออ หรือใจเรายังไม่มีเมตตามากพอ
คือเต็มไปด้วยโทสะ ต่อ คนที่เราเห็นว่าเขาไม่ดี จนมองข้ามความเดือดร้อนของเพื่อนมนุษย์
สรุป ใจยังมีกิเลสครบทุกตัว- ยังเลือกที่รัก มักที่ชัง อยู่มาก

ปีืที่แล้ว มีหลวงพ่อรูปหนึ่งท่านก็เปรยๆว่า อาตมาเห็นภาพปลาว่ายเวียนในตึกใหญ่ๆใน กทม ในอีกประมาณ 4 ปี
เอหรือว่าจริง หรือว่าจริง
ดร.พิกุล ที่หาดใหญ่
ตุ๊-อรษาิ 14 ที่ ห้วยยอด-ตรัง
บ้านพี่แอ๊ะที่สมุย
เป็นอย่างไรกันบ้างหนอ


หัวข้อ: Re: [2513] "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: prapasri AH ที่ 04 พฤศจิกายน 2553, 19:37:25
เหยง เอ๊ยยยยยยย

พี่แอ๊ะบินไป เครื่องก็ขึ้นลงได้ดี

มีแต่ตอนขาไปเที่ยวเช้าเป็น นกเเอร์ ลงไม่ได้เพราะช่วงเช้า ท้องฟ้าปิด
นกแอร์ต้องบินกลับ

พี่แอ๊ะไปการบินไทย 9.30 น.เครื่องลงได้ดี เขาใช้เครื่องลำใหญ่

ไม่แกว่ง ไม่สั่น ไม่น่ากลัวค่ะ

ขากลับ เขาก็ ให้คนโดยสาร ของนกแอร์ มาขึ้นการบินไทยด้วย

เพราะ ผู้โดยสารน้อย เลยหยุดบิน หนึ่งสายการบิน

เอา ผู้โดยสารมารวมกัน

เครื่องก็บินได้ดี ไม่แกว่งไม่สั่น  ไม่น่ากลัวเลยค่ะ

มาถึงยโส อากาศเย็นสบายยยยยยยยยย

 มีความสุขที่สุดเมื่อมาถึงยโส
กลับบ้านเรา รักรออยู่


หัวข้อ: Re: [2513] "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: prapasri AH ที่ 04 พฤศจิกายน 2553, 19:46:45
เหยง
เด่ว ดึกๆ จะแวะมาอ่าน นิยายรักแม่ น้ำเเยงซีเกียงง

อ่านผ่านนิดหนึ่ง น่าสนใจมากกกกกก

อ้างถึง
ข้อความของ เหยง 16 เมื่อ 03 พฤศจิกายน 2553, 20:50:37
พี่แอ๊ะครับ

อ่านเรื่องรักโรแมนติก ช่วงกำลังถูกน้ำท่วม

มหัศจรรย์แห่งรัก จากกันกว่าครึ่งศตวรรษ ได้กลับมาครองคู่ยามไม้ใกล้ฝั่ง
3 พฤศจิกายน 2553 11:30 น.

 
       ไชน่า เดลี่ -เรื่องราวความรักของคนคู่หนึ่ง ที่ฝ่ามรสุมการเมืองและชีวิตส่วนตัว เป็นเวลากว่าครึ่งศตวรรษ กระทั่งได้มาพบกันอีกครั้ง ได้สมปรารถนาครองคู่ครองรักกันในยามไม้ใกล้ฝั่ง
       
       สาวลูกครึ่ง แดนนี่ หลี่ กับ นายหยวน ตี้เปา พบกันที่เมืองหังโจวในฤดูใบไม้ผลิ ปี 2496 แต่โชคชะตาทำให้เขาทั้งสองพรากจากกันไปไกลถึงคนละซีกโลก นานถึง 54 ปี และปาฏิหาริย์แห่งรักก็เกิดขึ้น นำพาพวกเขามาพบกันอีกครั้งเมื่อไม่นานมานี้ ทั้งสองได้กลับมาครองรักแต่งงานกันในที่สุด ในวัยกว่า 80 ปี!
       
       เรื่องราวตำนานรักของทั้งสอง ได้กลายเป็นข่าวยอดนิยมในหน้าหนังสือพิมพ์และโทรทัศน์จีน นอกจากนี้ บรรดาชาวเน็ตจีน ต่างยกย่องความรักของคู่รักคู่นี้ว่าเป็น “ความรักที่บริสุทธิ์ที่สุดในโลก”
       
       แดนนี่ หลี่ กล่าวว่า “มันเหมือนความฝัน ฉันไม่เคยคาดหวังว่าจะได้พบเขาอีกครั้ง”
       
       หลี่ เกิดในปี 2469 ณ กรุงปักกิ่ง มีแม่เป็นชาวฝรั่งเศส และพ่อเป็นชาวจีน เมื่อเธออายุ 24 ปี ก็ได้เป็นอาจารย์ที่อายุน้อยที่สุดคนหนึ่งในวิทยาลัยแพทยศาสตร์เจ้อเจียง ในเมืองหังโจว และด้วยความเชี่ยวชาญถึง 4 ภาษา คือ ภาษาจีน อังกฤษ รัสเซีย และภาษาฝรั่งเศส จึงทำให้เธอมีชื่อเสียงเป็นที่รู้จัก
       
       หยวน ตี้เปา นักศึกษาปีหนึ่ง รูปหล่อ วัย 25 ปี ผู้เป็นหัวหน้าชั้นเรียน และเป็นนักศึกษาที่ยอดเยี่ยมที่สุดในชั้นเรียนภาษารัสเซียของหลี่ หยวนทั้งฉลาดและขยัน ซึ่งเขาพิสูจน์ด้วยการได้คะแนนสอบมากที่สุดในชั้นเรียน

(http://img219.imageshack.us/img219/4929/love1r.jpg)

หยวน ตี้เปา ในวัย 82 ปี และแดนนี่ หลี่ ในวัย 83 ปี กำลังนั่งอ่านจดหมายด้วยกัน และทั้งคู่ก็ได้ใช้ชีวิตอย่างมีความสุข หลังจากที่ต้องพลัดพรากจากกันนานถึงมากกว่าครึ่งศตวรรษ(ภาพไชน่า เดลี่)
       
       “เขาเป็นคนดี ทั้งยังดีกับคนอื่นๆด้วย บรรดานักศึกษาและครูอาจารย์ล้วนชอบเขามาก” หลี่ รำลึกหยวนในช่วงวัยเรียน
       
       ขณะที่ หลี่ เริ่มศึกษาถึงตัวตนของหยวน เธอก็พบว่า ทั้งหยวนกับเธอ มีสิ่งที่คล้ายกันอยู่มาก และความรู้สึกอันแสนอบอุ่นของหลี่ที่มีให้หยวน ก็ได้พัฒนาไปสู่ความรักอันแสนบริสุทธิ์ในที่สุด
       
       ถึงแม้สังคมจะมองความสัมพันธ์ระหว่างอาจารย์กับศิษย์เป็นเรื่องไม่ดีนัก ทั้งคู่ก็ยังสนิทสนมกัน โดยมีเพียงครอบครัวของหลี่เท่านั้นที่รู้เรื่องนี้
       
       ทุกๆครั้งที่หยวนไปขอคำปรึกษาเรื่องการเรียนที่ห้องทำงานของหลี่ พวกเขาก็จะนัดกันต่อหลังเลิกเรียน
       
       เมืองหังโจว ที่แห่งความรักอันแสนหวานปานน้ำผึ้ง
       
       ที่หังโจว หยวนมักเดินไปส่งหลี่ที่บ้าน และแวะบ้านของหลี่ครู่หนึ่งเสมอ ครอบครัวของหลี่ก็มิได้ขัดขวางแต่ประการใด กลับต้อนรับชายหนุ่มผู้มีเสน่ห์และมีความสุภาพอ่อนโยนนี้อย่างดี
       
       เมื่อทั้งคู่ได้ใกล้ชิดกัน หลี่มีความสุขหวานชื่น ขณะที่หยวน กลับสับสนว้าวุ่นอยู่ระหว่างความสุขและความรู้สึกผิด
       
       “ฉันสัมผัสได้ถึงบางสิ่งบางอย่างที่เขาเก็บงำไว้” หลี่ เล่า
       
       ในตอนนั้น สิ่งที่หลี่ไม่รู้ ก็คือ หยวนได้แต่งงานมีภรรยาแล้ว
       
       ครอบครัวของหยวนได้จัดการให้เขาแต่งงานกับน้องสาวของเพื่อนที่บ้านเกิด ในเกาะกู้หลังอี้ว์ เมืองซย่าเหมิน มณฑลฝูเจี้ยน ก่อนที่หยวนจะเข้าเรียนที่วิทยาลัยแพทยศาสตร์ของเมืองแห่งนี้ ในปี 2496
       
       หยวนไม่ได้บอกหลี่ เรื่องที่เขาแต่งงานแล้ว
       
       จนกระทั่งเมื่อปี 2497 ก่อนที่หยวนจะย้ายไปศึกษาต่อยังเมืองเฉิงตู มณฑลซื่อชวน(เสฉวน) เขาจึงได้รวบรวมความกล้า และบอกกับหลี่ว่า
       
       “ผมมีภรรยาแล้ว และจะต้องดูแลเธอไปจนกว่าจะตายจากกัน”
       
       หัวใจของหลี่ร้าวรานเมื่อได้ยินคำสารภาพของหยวน และแม้ว่าจะรักหยวนมากเพียงใด แต่ทั้งคู่ก็จำต้องแยกจากกัน
       
       “ฉันไม่มีทางเลือก เราไม่ควรมีความสุขอยู่บนความทุกข์ของผู้หญิงที่เป็นผู้บริสุทธิ์อีกคน” หลี่ ให้ความเห็น
       
       หลังจากนั้น หลี่และหยวนก็ไม่ได้พบกันอีก
       
       จากกันไกลถึงซีกโลก...

(http://img80.imageshack.us/img80/8695/love2l.jpg)

ภาพหยวน ตี้เปา และแดนนี่ หลี่ ในช่วงปี 2493 (ภาพไชน่า เดลี่)
       
       ในปี 2499 หลี่ กับแม่ของเธอได้ย้ายไปอยู่ที่เมืองลียง ประเทศฝรั่งเศส ก่อนจะออกจากประเทศจีน หลี่ได้เขียนจดหมายบอกลาหยวน
       
       ทว่าไม่กี่วันต่อมา หยวนก็ได้สร้างความประหลาดใจด้วยการส่งจดหมายอีกหลายฉบับ จากนั้นทั้งคู่ก็เริ่มติดต่อกันผ่านทางจดหมายมาตลอด
       
       โดยจดหมายจากหลี่ จะส่งไปถึงที่ทำงานของหยวน ขณะเดียวกัน หยวนก็เก็บจดหมายทุกฉบับของหลี่ไว้ที่บ้านญาติ เพื่อไม่ให้ภรรยารู้
       
       หลี่ ต้องดิ้นรนเพื่อมีชีวิตอยู่ในสังคมที่เธอไม่คุ้นเคยในประเทศฝรั่งเศส ประกอบกับใบรับรองคุณวุฒิทางการศึกษาของเธอก็ยังถูกปฏิเสธ อีกทั้งวัฒนธรรมที่แตกต่างจนทำให้เกิดความรู้สึกสับสน
       
       หลี่ ได้เรียนรู้การเขียนชวเลข และการพิมพ์ดีด จนท้ายที่สุดก็ได้งานในตำแหน่งเลขานุการของบริษัทการค้าระหว่างประเทศแห่งหนึ่ง ขณะที่ หยวนก็สำเร็จการศึกษาและเริ่มทำงานในซย่าเหมิน
       
       เนื้อความในจดหมายของทั้งสอง แทบจะไม่มีการระบายถึงความทุกข์ยากของแต่ละฝ่าย หยวนเล่าถึงความสุขที่ได้เป็นพ่อคน ขณะที่ หลี่ ก็ส่งนมผงสำหรับทารกและเสื้อผ้าเด็กมาให้ ซึ่งในขณะนั้นในประเทศจีนยังค่อนข้างขาดแคลนสินค้าดังกล่าว

 
       เมื่อถึงช่วงปฏิวัติวัฒนธรรม (2509-2519) จดหมายของหลี่ก็เริ่มถูกตีกลับ และเธอได้หยุดเขียนจดหมายเพื่อไม่ให้เกิดปัญหากับหยวน แต่หลี่ ก็ไม่สามารถลืมหยวนได้
       
       “ฉันไม่สามารถเริ่มความสัมพันธ์ใหม่ได้ แม้ว่าจะมีหลายคนผ่านเข้ามาในชีวิตฉันก็ตาม ฉันพบว่าความรักของหยวน เป็นรักแท้ และรู้สึกถึงความพิเศษที่ไม่มีใครสามารถทัดเทียมได้” หลี่ เผยความใน
       
       ในปี 2519 ทันทีที่หลี่มั่นใจว่าความวุ่นวายจากการปฏิวัตวัฒนธรรมในประเทศจีนได้สงบลง เธอก็เขียนจดหมายส่งไปยังที่ทำงานของหยวนเช่นเคย แต่จดหมายดังกล่าวถูกตีกลับ ในตอนนั้น เธอไม่รู้ว่า หยวนได้เปลี่ยนที่ทำงานแล้ว ซึ่งในปี 2516 หยวนได้เขียนจดหมายบอกหลี่ แต่ไม่สำเร็จ จนกระทั่ง ทั้งคู่ก็ได้ติดต่อกันอีกครั้ง เมื่อเดือนพ.ค.ปีนี้เอง (2553) นานถึง 45 ปี ที่ทั้งสองพรากจากกันหลังจากได้ติดต่อกันครั้งสุดท้าย
       
       แสงสว่างฉายโฉนบนเส้นทางรัก...
       
       ช่วงระหว่างเทศกาลตรุษจีน (ปลายเดือนก.พ.) โอวหยัง ลู่อิง ลูกสะใภ้คนที่สามของหยวน ได้ล่วงรู้จากญาติที่เป็นผู้ช่วยกุมความลับจดหมายของหลี่ไว้ ว่า พ่อสามีของเธอ ได้เคยตกหลุมรักกับครูต่างชาติสาวสวย เธอกล่าวว่า
       
       “เมื่อได้ฟังเรื่องของพ่อสามีฉัน ก็สัมผัสได้ถึงความลึกซึ้งในความรัก และเมื่อแม่สามีของฉันได้เสียชีวิตไปตั้งแต่ปี 2537 ฉันจึงขอให้พ่อเขียนจดหมายอีกครั้ง”
       
       แม้ตลอดชีวิตที่ผ่านมา หยวนมักจะไปยังสถานที่ที่เขากับหลี่เคยมาด้วยกันเป็นประจำในเมืองหังโจว แต่หยวนก็ไม่เคยคาดคิดที่จะกลับไปติดต่อกับหลี่อีก
       
       จนเมื่อลูกสะใภ้โอวหยังได้ปลุกความทรงจำทั้งหมดจากก้นบึ้งในจิตใจ หยวนจึงมีกำลังใจและมีความหวังที่จะพบกับหลี่อีกครั้ง เขาใช้เวลาหลายวันในการเขียนจดหมายทั้งสิ้น 5 ฉบับ นอกจากจะเขียนเป็นภาษาจีนอวยพรให้หลี่มีสุขภาพร่างกายแข็งแรงแล้ว หยวนยังเขียนถึงญาติของหลี่เป็นภาษาอังกฤษ ด้วยเกรงว่าหลี่อาจเสียชีวิตแล้ว โดยเขียนว่า
       
       "ผมเป็นนักเรียนและเพื่อนของหลี่ และต้องการทราบถึงที่อยู่ของหลี่"
       
       ทุกๆ วันเว้นวัน หยวนได้ส่งจดหมาย 1 ฉบับ และหากไม่ได้รับจดหมายตอบกลับเลยสักฉบับ เรื่องราวต่างๆ ก็อาจต้องยุติลงเพียงเท่านี้
       
       ในที่สุดก็มีจดหมายส่งตรงจากฝรั่งเศส หยวนซึ่งบัดนี้อายุ 80 ปี ได้เปิดจดหมายฉบับนั้นด้วยมือที่สั่นเทา และได้เห็นลายมือที่คุ้นเคยอีกครั้ง หยวนเล่าถึงความรู้สึก ณ ขณะนั้น ว่า “ขอบคุณสวรรค์ เธอยังมีชีวิตอยู่” ในซองจดหมายมีรูปของหลี่แนบมาพร้อมกับเนื้อความ 3 หน้ากระดาษ บอกเล่าเรื่องราวต่างๆ ที่เกิดขึ้นกับตัวเธอว่า...
       
       "ในปี 2517 เป็นระยะเวลา 9 ปี หลังจากการติดต่อกันครั้งสุดท้าย ฉันจบการศึกษาภาษาจีนและได้รับคุณวุฒิเทียบเท่ามหาบัณฑิต จึงได้งานสอนภาษาจีนในมหาวิทยาลัยช็อง มูแลง - ลียง 3
       
       ในปี 2535 ฉันเกษียณในตำแหน่งรองศาสตราจารย์ของมหาวิทยาลัยดังกล่าว และจากนั้นได้ทำงานเป็นรองประธานองค์กรไม่แสวงกำไรที่ช่วยเหลือนักศึกษาชาวจีนในมหาวิทยาลัยนี้
       
       เธอยังคงครองโสดและอยู่เพียงลำพังหลังจากที่พ่อแม่ของเธอเสียชีวิตลง
       
       ในวันที่ 1 พ.ค.ที่ผ่านมา หลี่กลับมาถึงบ้านก็พบจดหมายของหยวนวางอยู่ที่พื้น เธอเล่าว่า “ฉันยังไม่ได้ตอบกลับไปในทันที เพราะฉันไม่อยากจะเชื่อว่ามันเป็นเรื่องจริง”
       
       เธอนั่งมองจดหมายของหยวนที่สวนในบ้านตั้งแต่เที่ยงวันไปถึงเที่ยงคืน กระทั่งเมื่อรุ่งอรุณเบิกฟ้าของวันถัดมา เธอก็ได้รับจดหมายของหยวนอีกฉบับ หลี่จึงมั่นใจว่า มันไม่ใช่ความฝัน
       
       จากนั้นทั้งคู่ได้เริ่มส่งจดหมายหากันเหมือนแต่ก่อน และในบางครั้ง ด้วยความช่วยเหลือของโอวหยัง ทำให้ทั้งหลี่ และหยวน ได้พูดคุยกันทางโทรศัพท์ แต่ไม่นานก็กลับไปใช้การเขียนจดหมายเช่นเดิม เพราะหยวนมีปัญหาด้านการได้ยิน
       
       ในการคุยโทรศัพท์ครั้งแรก หลี่ ได้เล่าว่า “โอวหยัง เรียกฉันว่าคุณแม่แดนนี่ ยังไม่เคยมีใครเรียกฉันว่าแม่มาก่อน ฉันไม่สามารถอธิบายความรู้สึกอันแสนวิเศษนี้ได้”
       
       หนึ่งเดือนต่อมา หยวนได้เชิญชวนให้หลี่มาที่ซย่าเหมิน และได้บอกกับหลี่ว่า “เธอต้องการมาอยู่กับฉันหรือแค่มาเยี่ยมก็ได้ แล้วแต่เธอจะตัดสินใจ”
       
       เมื่อหลี่ มาถึงซย่าเหมิน หยวนและครอบครัวก็ได้พบกับเธอที่สนามบิน และ ณ เวลานั้น หยวนได้ถือช่อกุหลาบอันสวยสด 55 ดอก เพื่อขอเธอแต่งงาน หลี่ได้ตอบรับคำขอของหยวน จากนั้นทั้งคู่ก็ได้จดทะเบียนสมรสกันในวันที่ 21 ก.ย.ที่ผ่านมา หนึ่งวันก่อนถึงเทศกาลไหว้พระจันทร์ ซึ่งเป็นช่วงเวลาที่ครอบครัวชาวจีนกลับมาพบปะกันอย่างพร้อมหน้าพร้อมตา
       
       ในวันที่ 26 ก.ย.2553 บุตรชายของหยวน ได้จัดงานแต่งงานให้กับพวกเขา จากนั้น ทั้งหลี่และหยวนก็ได้อาศัยอยู่ในบ้านของบุตรชายคนที่ 3 และในทุกๆเช้า หยวนกับหลี่ ก็จะจับมือกันเดินตากลมทะเลริมชายหาดรับกลิ่นอายรุ่งอรุณของวันใหม่อันแสนอบอุ่น
       
       หลี่ กล่าวปิดท้ายตำนานรักสุดขอบฟ้าของเธอกับหยวน ว่า “สิ่งที่ผ่านมาแล้ว ก็ให้มันผ่านไป เราต้องการใช้ชีวิตที่เหลืออยู่เคียงข้างกันตลอดไป ฉันมีปัญหาด้านการมอง และเขามีปัญหาด้านการฟัง ดังนั้นฉันจึงเป็นหูให้กับเขา และเขาก็เป็นตาให้กับฉัน เราเติมเต็มกันและกัน

 
พิมพ์จาก http://www.manager.co.th/asp-bin/mgrView.asp?NewsID=9530000154511
 



หัวข้อ: Re: [2513] "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: เหยง 16 ที่ 04 พฤศจิกายน 2553, 20:52:55
สวัสดีครับ พี่แอ๊ะ

ยินดีด้วยครับ ที่กลับถึงบ้านแล้วอย่างปลอดภัยและโล่ง...
เขาว่าน้ำจะถึงอุบลฯเย็นนี้ ทั้งสาย ชี และมูล และจะเพิ่มระดับในอีก 2 วันข้างหน้า
"งบไทยเข้มแข็ง"นี้ละตัวดีเลย ในฐานะ"กรรมการธรรมาภิบาลจังหวัด"ตรวจไปมีแต่ปัญหา สุกเอาเผากิน จริงๆ
กินแม้แต่ป้ายที่มีรูป นรม.อภิสิทธ์ เวชชาชีวะ (เขาตีราคาไว้ป้ายละ 3,000 บาทครับ)


หัวข้อ: Re: [2513] "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: Preecha2510 ที่ 05 พฤศจิกายน 2553, 00:38:11

 สวัสดีครับแอ๊ะ

         ไม่ได้ทักทายกับแอ๊ะนานแล้วหวังว่าแอ๊ะและหมอหาญเพื่อนผมคงสบายดีหายป่วยหายไข้แล้ว  ช่วง

   ปลายเดือนนี้ผมและหมอโอภาสจะไปอิสานกับ Cmadong Tour  ผมดีใจที่จะได้พบแอ๊ะและหมอหาญ

   อีกครั้งครับ


หัวข้อ: Re: [2513] "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: swsm ที่ 05 พฤศจิกายน 2553, 02:24:33
อ้างถึง
ข้อความของ เหยง 16 เมื่อ 03 พฤศจิกายน 2553, 20:50:37
พี่แอ๊ะครับ

อ่านเรื่องรักโรแมนติก ช่วงกำลังถูกน้ำท่วม

มหัศจรรย์แห่งรัก จากกันกว่าครึ่งศตวรรษ ได้กลับมาครองคู่ยามไม้ใกล้ฝั่ง
3 พฤศจิกายน 2553 11:30 น.

 
       ไชน่า เดลี่ -เรื่องราวความรักของคนคู่หนึ่ง ที่ฝ่ามรสุมการเมืองและชีวิตส่วนตัว เป็นเวลากว่าครึ่งศตวรรษ กระทั่งได้มาพบกันอีกครั้ง ได้สมปรารถนาครองคู่ครองรักกันในยามไม้ใกล้ฝั่ง
       
       สาวลูกครึ่ง แดนนี่ หลี่ กับ นายหยวน ตี้เปา พบกันที่เมืองหังโจวในฤดูใบไม้ผลิ ปี 2496 แต่โชคชะตาทำให้เขาทั้งสองพรากจากกันไปไกลถึงคนละซีกโลก นานถึง 54 ปี และปาฏิหาริย์แห่งรักก็เกิดขึ้น นำพาพวกเขามาพบกันอีกครั้งเมื่อไม่นานมานี้ ทั้งสองได้กลับมาครองรักแต่งงานกันในที่สุด ในวัยกว่า 80 ปี!
       
       เรื่องราวตำนานรักของทั้งสอง ได้กลายเป็นข่าวยอดนิยมในหน้าหนังสือพิมพ์และโทรทัศน์จีน นอกจากนี้ บรรดาชาวเน็ตจีน ต่างยกย่องความรักของคู่รักคู่นี้ว่าเป็น “ความรักที่บริสุทธิ์ที่สุดในโลก”
       
       แดนนี่ หลี่ กล่าวว่า “มันเหมือนความฝัน ฉันไม่เคยคาดหวังว่าจะได้พบเขาอีกครั้ง”
       
       หลี่ เกิดในปี 2469 ณ กรุงปักกิ่ง มีแม่เป็นชาวฝรั่งเศส และพ่อเป็นชาวจีน เมื่อเธออายุ 24 ปี ก็ได้เป็นอาจารย์ที่อายุน้อยที่สุดคนหนึ่งในวิทยาลัยแพทยศาสตร์เจ้อเจียง ในเมืองหังโจว และด้วยความเชี่ยวชาญถึง 4 ภาษา คือ ภาษาจีน อังกฤษ รัสเซีย และภาษาฝรั่งเศส จึงทำให้เธอมีชื่อเสียงเป็นที่รู้จัก
       
       หยวน ตี้เปา นักศึกษาปีหนึ่ง รูปหล่อ วัย 25 ปี ผู้เป็นหัวหน้าชั้นเรียน และเป็นนักศึกษาที่ยอดเยี่ยมที่สุดในชั้นเรียนภาษารัสเซียของหลี่ หยวนทั้งฉลาดและขยัน ซึ่งเขาพิสูจน์ด้วยการได้คะแนนสอบมากที่สุดในชั้นเรียน

(http://img219.imageshack.us/img219/4929/love1r.jpg)

หยวน ตี้เปา ในวัย 82 ปี และแดนนี่ หลี่ ในวัย 83 ปี กำลังนั่งอ่านจดหมายด้วยกัน และทั้งคู่ก็ได้ใช้ชีวิตอย่างมีความสุข หลังจากที่ต้องพลัดพรากจากกันนานถึงมากกว่าครึ่งศตวรรษ(ภาพไชน่า เดลี่)
       
       “เขาเป็นคนดี ทั้งยังดีกับคนอื่นๆด้วย บรรดานักศึกษาและครูอาจารย์ล้วนชอบเขามาก” หลี่ รำลึกหยวนในช่วงวัยเรียน
       
       ขณะที่ หลี่ เริ่มศึกษาถึงตัวตนของหยวน เธอก็พบว่า ทั้งหยวนกับเธอ มีสิ่งที่คล้ายกันอยู่มาก และความรู้สึกอันแสนอบอุ่นของหลี่ที่มีให้หยวน ก็ได้พัฒนาไปสู่ความรักอันแสนบริสุทธิ์ในที่สุด
       
       ถึงแม้สังคมจะมองความสัมพันธ์ระหว่างอาจารย์กับศิษย์เป็นเรื่องไม่ดีนัก ทั้งคู่ก็ยังสนิทสนมกัน โดยมีเพียงครอบครัวของหลี่เท่านั้นที่รู้เรื่องนี้
       
       ทุกๆครั้งที่หยวนไปขอคำปรึกษาเรื่องการเรียนที่ห้องทำงานของหลี่ พวกเขาก็จะนัดกันต่อหลังเลิกเรียน
       
       เมืองหังโจว ที่แห่งความรักอันแสนหวานปานน้ำผึ้ง
       
       ที่หังโจว หยวนมักเดินไปส่งหลี่ที่บ้าน และแวะบ้านของหลี่ครู่หนึ่งเสมอ ครอบครัวของหลี่ก็มิได้ขัดขวางแต่ประการใด กลับต้อนรับชายหนุ่มผู้มีเสน่ห์และมีความสุภาพอ่อนโยนนี้อย่างดี
       
       เมื่อทั้งคู่ได้ใกล้ชิดกัน หลี่มีความสุขหวานชื่น ขณะที่หยวน กลับสับสนว้าวุ่นอยู่ระหว่างความสุขและความรู้สึกผิด
       
       “ฉันสัมผัสได้ถึงบางสิ่งบางอย่างที่เขาเก็บงำไว้” หลี่ เล่า
       
       ในตอนนั้น สิ่งที่หลี่ไม่รู้ ก็คือ หยวนได้แต่งงานมีภรรยาแล้ว
       
       ครอบครัวของหยวนได้จัดการให้เขาแต่งงานกับน้องสาวของเพื่อนที่บ้านเกิด ในเกาะกู้หลังอี้ว์ เมืองซย่าเหมิน มณฑลฝูเจี้ยน ก่อนที่หยวนจะเข้าเรียนที่วิทยาลัยแพทยศาสตร์ของเมืองแห่งนี้ ในปี 2496
       
       หยวนไม่ได้บอกหลี่ เรื่องที่เขาแต่งงานแล้ว
       
       จนกระทั่งเมื่อปี 2497 ก่อนที่หยวนจะย้ายไปศึกษาต่อยังเมืองเฉิงตู มณฑลซื่อชวน(เสฉวน) เขาจึงได้รวบรวมความกล้า และบอกกับหลี่ว่า
       
       “ผมมีภรรยาแล้ว และจะต้องดูแลเธอไปจนกว่าจะตายจากกัน”
       
       หัวใจของหลี่ร้าวรานเมื่อได้ยินคำสารภาพของหยวน และแม้ว่าจะรักหยวนมากเพียงใด แต่ทั้งคู่ก็จำต้องแยกจากกัน
       
       “ฉันไม่มีทางเลือก เราไม่ควรมีความสุขอยู่บนความทุกข์ของผู้หญิงที่เป็นผู้บริสุทธิ์อีกคน” หลี่ ให้ความเห็น
       
       หลังจากนั้น หลี่และหยวนก็ไม่ได้พบกันอีก
       
       จากกันไกลถึงซีกโลก...

(http://img80.imageshack.us/img80/8695/love2l.jpg)

ภาพหยวน ตี้เปา และแดนนี่ หลี่ ในช่วงปี 2493 (ภาพไชน่า เดลี่)
       
       ในปี 2499 หลี่ กับแม่ของเธอได้ย้ายไปอยู่ที่เมืองลียง ประเทศฝรั่งเศส ก่อนจะออกจากประเทศจีน หลี่ได้เขียนจดหมายบอกลาหยวน
       
       ทว่าไม่กี่วันต่อมา หยวนก็ได้สร้างความประหลาดใจด้วยการส่งจดหมายอีกหลายฉบับ จากนั้นทั้งคู่ก็เริ่มติดต่อกันผ่านทางจดหมายมาตลอด
       
       โดยจดหมายจากหลี่ จะส่งไปถึงที่ทำงานของหยวน ขณะเดียวกัน หยวนก็เก็บจดหมายทุกฉบับของหลี่ไว้ที่บ้านญาติ เพื่อไม่ให้ภรรยารู้
       
       หลี่ ต้องดิ้นรนเพื่อมีชีวิตอยู่ในสังคมที่เธอไม่คุ้นเคยในประเทศฝรั่งเศส ประกอบกับใบรับรองคุณวุฒิทางการศึกษาของเธอก็ยังถูกปฏิเสธ อีกทั้งวัฒนธรรมที่แตกต่างจนทำให้เกิดความรู้สึกสับสน
       
       หลี่ ได้เรียนรู้การเขียนชวเลข และการพิมพ์ดีด จนท้ายที่สุดก็ได้งานในตำแหน่งเลขานุการของบริษัทการค้าระหว่างประเทศแห่งหนึ่ง ขณะที่ หยวนก็สำเร็จการศึกษาและเริ่มทำงานในซย่าเหมิน
       
       เนื้อความในจดหมายของทั้งสอง แทบจะไม่มีการระบายถึงความทุกข์ยากของแต่ละฝ่าย หยวนเล่าถึงความสุขที่ได้เป็นพ่อคน ขณะที่ หลี่ ก็ส่งนมผงสำหรับทารกและเสื้อผ้าเด็กมาให้ ซึ่งในขณะนั้นในประเทศจีนยังค่อนข้างขาดแคลนสินค้าดังกล่าว

 
       เมื่อถึงช่วงปฏิวัติวัฒนธรรม (2509-2519) จดหมายของหลี่ก็เริ่มถูกตีกลับ และเธอได้หยุดเขียนจดหมายเพื่อไม่ให้เกิดปัญหากับหยวน แต่หลี่ ก็ไม่สามารถลืมหยวนได้
       
       “ฉันไม่สามารถเริ่มความสัมพันธ์ใหม่ได้ แม้ว่าจะมีหลายคนผ่านเข้ามาในชีวิตฉันก็ตาม ฉันพบว่าความรักของหยวน เป็นรักแท้ และรู้สึกถึงความพิเศษที่ไม่มีใครสามารถทัดเทียมได้” หลี่ เผยความใน
       
       ในปี 2519 ทันทีที่หลี่มั่นใจว่าความวุ่นวายจากการปฏิวัตวัฒนธรรมในประเทศจีนได้สงบลง เธอก็เขียนจดหมายส่งไปยังที่ทำงานของหยวนเช่นเคย แต่จดหมายดังกล่าวถูกตีกลับ ในตอนนั้น เธอไม่รู้ว่า หยวนได้เปลี่ยนที่ทำงานแล้ว ซึ่งในปี 2516 หยวนได้เขียนจดหมายบอกหลี่ แต่ไม่สำเร็จ จนกระทั่ง ทั้งคู่ก็ได้ติดต่อกันอีกครั้ง เมื่อเดือนพ.ค.ปีนี้เอง (2553) นานถึง 45 ปี ที่ทั้งสองพรากจากกันหลังจากได้ติดต่อกันครั้งสุดท้าย
       
       แสงสว่างฉายโฉนบนเส้นทางรัก...
       
       ช่วงระหว่างเทศกาลตรุษจีน (ปลายเดือนก.พ.) โอวหยัง ลู่อิง ลูกสะใภ้คนที่สามของหยวน ได้ล่วงรู้จากญาติที่เป็นผู้ช่วยกุมความลับจดหมายของหลี่ไว้ ว่า พ่อสามีของเธอ ได้เคยตกหลุมรักกับครูต่างชาติสาวสวย เธอกล่าวว่า
       
       “เมื่อได้ฟังเรื่องของพ่อสามีฉัน ก็สัมผัสได้ถึงความลึกซึ้งในความรัก และเมื่อแม่สามีของฉันได้เสียชีวิตไปตั้งแต่ปี 2537 ฉันจึงขอให้พ่อเขียนจดหมายอีกครั้ง”
       
       แม้ตลอดชีวิตที่ผ่านมา หยวนมักจะไปยังสถานที่ที่เขากับหลี่เคยมาด้วยกันเป็นประจำในเมืองหังโจว แต่หยวนก็ไม่เคยคาดคิดที่จะกลับไปติดต่อกับหลี่อีก
       
       จนเมื่อลูกสะใภ้โอวหยังได้ปลุกความทรงจำทั้งหมดจากก้นบึ้งในจิตใจ หยวนจึงมีกำลังใจและมีความหวังที่จะพบกับหลี่อีกครั้ง เขาใช้เวลาหลายวันในการเขียนจดหมายทั้งสิ้น 5 ฉบับ นอกจากจะเขียนเป็นภาษาจีนอวยพรให้หลี่มีสุขภาพร่างกายแข็งแรงแล้ว หยวนยังเขียนถึงญาติของหลี่เป็นภาษาอังกฤษ ด้วยเกรงว่าหลี่อาจเสียชีวิตแล้ว โดยเขียนว่า
       
       "ผมเป็นนักเรียนและเพื่อนของหลี่ และต้องการทราบถึงที่อยู่ของหลี่"
       
       ทุกๆ วันเว้นวัน หยวนได้ส่งจดหมาย 1 ฉบับ และหากไม่ได้รับจดหมายตอบกลับเลยสักฉบับ เรื่องราวต่างๆ ก็อาจต้องยุติลงเพียงเท่านี้
       
       ในที่สุดก็มีจดหมายส่งตรงจากฝรั่งเศส หยวนซึ่งบัดนี้อายุ 80 ปี ได้เปิดจดหมายฉบับนั้นด้วยมือที่สั่นเทา และได้เห็นลายมือที่คุ้นเคยอีกครั้ง หยวนเล่าถึงความรู้สึก ณ ขณะนั้น ว่า “ขอบคุณสวรรค์ เธอยังมีชีวิตอยู่” ในซองจดหมายมีรูปของหลี่แนบมาพร้อมกับเนื้อความ 3 หน้ากระดาษ บอกเล่าเรื่องราวต่างๆ ที่เกิดขึ้นกับตัวเธอว่า...
       
       "ในปี 2517 เป็นระยะเวลา 9 ปี หลังจากการติดต่อกันครั้งสุดท้าย ฉันจบการศึกษาภาษาจีนและได้รับคุณวุฒิเทียบเท่ามหาบัณฑิต จึงได้งานสอนภาษาจีนในมหาวิทยาลัยช็อง มูแลง - ลียง 3
       
       ในปี 2535 ฉันเกษียณในตำแหน่งรองศาสตราจารย์ของมหาวิทยาลัยดังกล่าว และจากนั้นได้ทำงานเป็นรองประธานองค์กรไม่แสวงกำไรที่ช่วยเหลือนักศึกษาชาวจีนในมหาวิทยาลัยนี้
       
       เธอยังคงครองโสดและอยู่เพียงลำพังหลังจากที่พ่อแม่ของเธอเสียชีวิตลง
       
       ในวันที่ 1 พ.ค.ที่ผ่านมา หลี่กลับมาถึงบ้านก็พบจดหมายของหยวนวางอยู่ที่พื้น เธอเล่าว่า “ฉันยังไม่ได้ตอบกลับไปในทันที เพราะฉันไม่อยากจะเชื่อว่ามันเป็นเรื่องจริง”
       
       เธอนั่งมองจดหมายของหยวนที่สวนในบ้านตั้งแต่เที่ยงวันไปถึงเที่ยงคืน กระทั่งเมื่อรุ่งอรุณเบิกฟ้าของวันถัดมา เธอก็ได้รับจดหมายของหยวนอีกฉบับ หลี่จึงมั่นใจว่า มันไม่ใช่ความฝัน
       
       จากนั้นทั้งคู่ได้เริ่มส่งจดหมายหากันเหมือนแต่ก่อน และในบางครั้ง ด้วยความช่วยเหลือของโอวหยัง ทำให้ทั้งหลี่ และหยวน ได้พูดคุยกันทางโทรศัพท์ แต่ไม่นานก็กลับไปใช้การเขียนจดหมายเช่นเดิม เพราะหยวนมีปัญหาด้านการได้ยิน
       
       ในการคุยโทรศัพท์ครั้งแรก หลี่ ได้เล่าว่า “โอวหยัง เรียกฉันว่าคุณแม่แดนนี่ ยังไม่เคยมีใครเรียกฉันว่าแม่มาก่อน ฉันไม่สามารถอธิบายความรู้สึกอันแสนวิเศษนี้ได้”
       
       หนึ่งเดือนต่อมา หยวนได้เชิญชวนให้หลี่มาที่ซย่าเหมิน และได้บอกกับหลี่ว่า “เธอต้องการมาอยู่กับฉันหรือแค่มาเยี่ยมก็ได้ แล้วแต่เธอจะตัดสินใจ”
       
       เมื่อหลี่ มาถึงซย่าเหมิน หยวนและครอบครัวก็ได้พบกับเธอที่สนามบิน และ ณ เวลานั้น หยวนได้ถือช่อกุหลาบอันสวยสด 55 ดอก เพื่อขอเธอแต่งงาน หลี่ได้ตอบรับคำขอของหยวน จากนั้นทั้งคู่ก็ได้จดทะเบียนสมรสกันในวันที่ 21 ก.ย.ที่ผ่านมา หนึ่งวันก่อนถึงเทศกาลไหว้พระจันทร์ ซึ่งเป็นช่วงเวลาที่ครอบครัวชาวจีนกลับมาพบปะกันอย่างพร้อมหน้าพร้อมตา
       
       ในวันที่ 26 ก.ย.2553 บุตรชายของหยวน ได้จัดงานแต่งงานให้กับพวกเขา จากนั้น ทั้งหลี่และหยวนก็ได้อาศัยอยู่ในบ้านของบุตรชายคนที่ 3 และในทุกๆเช้า หยวนกับหลี่ ก็จะจับมือกันเดินตากลมทะเลริมชายหาดรับกลิ่นอายรุ่งอรุณของวันใหม่อันแสนอบอุ่น
       
       หลี่ กล่าวปิดท้ายตำนานรักสุดขอบฟ้าของเธอกับหยวน ว่า “สิ่งที่ผ่านมาแล้ว ก็ให้มันผ่านไป เราต้องการใช้ชีวิตที่เหลืออยู่เคียงข้างกันตลอดไป ฉันมีปัญหาด้านการมอง และเขามีปัญหาด้านการฟัง ดังนั้นฉันจึงเป็นหูให้กับเขา และเขาก็เป็นตาให้กับฉัน เราเติมเต็มกันและกัน

 
พิมพ์จาก http://www.manager.co.th/asp-bin/mgrView.asp?NewsID=9530000154511
 



น่ารักจังค่ะ ..    emo6::))


หัวข้อ: Re: [2513] "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: เหยง 16 ที่ 05 พฤศจิกายน 2553, 10:52:08
อ่านเพื่อเป็นข้อมูลครับ

เปิดปัจจัย 4 'ถุงยังชีพ' น้ำท่วมใหญ่แต่ไม่ท่วมหัวใจไทยทั้งชาติ
4 พฤศจิกายน 2553 18:29 น.

 
       กลายเป็นวิกฤตที่ใหญ่กว่าที่ใครจะคาดคิด สำหรับอุทกภัยครั้งใหญ่ ที่ไม่ว่าจะอยู่ในมุมไหนของประเทศ ทั้งภาคเหนือ ภาคกลาง ภาคอีสาน หรือภาคใต้ที่ต่างก็เผชิญชะตากรรมเดียวกัน
      
       อย่างตอนนี้พบว่าผู้ได้รับผลกระทบไปแล้วมากกว่า 1.8 ล้านครัวเรือน หรือราวๆ 6 ล้านคน ในพื้นที่ 39 จังหวัด 384 อำเภอ 2,838 ตำบล 24,575 หมู่บ้าน ซึ่งแม้หลายๆ แห่งจะกลับคืนสู่ภาวะปกติกันบ้างแล้ว แต่ก็คงต้องยอมรับความจริงว่า ซากความสูญเสียทั้งที่เจออยู่หรือผ่านไปแล้วนั้นช่างรุนแรง และต้องการได้รับการเยียวยาอย่างเร่งด่วน ซึ่งหนึ่งในภารกิจที่หลายๆ คนรีบยื่นมือเข้ามาช่วยอย่างเร่งด่วน ก็คือการแจกจ่าย 'ถุงยังชีพ' นั่นเอง
      
       เปิดของออกจากถุง
      
       สังเกตได้จากหลายๆ หน่วยงาน ทั้งภาครัฐและเอกชนที่ต่างระดมแรงระดมใจมาช่วยทำถุงยังชีพแจกจ่ายอย่างหยุดหย่อน หนักบ้างเบาบ้างแล้วแต่กำลังศรัทธาและทุนทรัพย์ของแต่ละที่ โดยของที่อยู่ภายในนั้นก็มีความแตกต่างกันไป ไม่เหมือนกัน แต่เน้นที่ความจำเป็นของผู้ประสบภัยเป็นหลัก
      
       อย่างถุงยังชีพของชุดธารน้ำใจสภากาชาดไทย ตามแนวพระราชดำริในสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ ก็อัดแน่นไปด้วย บะหมี่กึ่งสำเร็จรูป 30 ซอง ปลากระป๋อง 6 กระป๋อง ผักกาดดอง 6 กระป๋อง ปลาราดพริก 6 กระป๋อง ข้าวหอมมะลิกระป๋อง 150 กรัม 6 กระป๋อง น้ำพริก 2 กระปุก ไก่ทอดกระเทียม 2 กระป๋อง เครื่องดื่มช็อกโกแลตผง 3 in 1 (1X6 ซอง) 2 ถุง ข้าวสาร 5 กิโลกรัม โลชันกันยุง 1 ขวด เทียนไข 2 เล่ม ไฟแช็ก 1 อัน ไฟฉายพร้อมถ่าน 1 ชุด ยาสามัญประจำบ้าน 1 ชุด ยาแก้น้ำกัดเท้า 1 หลอด เกลือไอโอดีน 1 ถุง ถุงขยะสีดำขนาดเล็ก 6 ใบ และถุงขยะสีดำขนาดใหญ่ 6 ใบ
      
       ขณะที่ถุงยังชีพพระราชทานสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี นั้น ถือว่าหนักไม่แพ้กัน เพราะภายในนั้นมีที่ทั้งปลากระป๋องแบบฝาดึง 2 กระป๋อง น้ำพริก 5 กระปุก ผักกาดดองแบบฝาดึง 2 กระป๋อง บะหมี่กึ่งสำเร็จรูป 10 ซอง ขนมขบเคี้ยว 2 ห่อ นมสด 6 กระป๋อง ผ้าเช็ดตัว และผ้าขาวม้า อย่างละ 1 ผืน ข้าวสาร 1 กิโลกรัม เสื้อยืด กางเกง รองเท้าแตะ 1 ชุด เกลือ 1 กระปุก สบู่ ยาสีฟัน แปรงสีฟัน แป้ง ไฟแช็ก อย่างละ 1 อัน น้ำดื่มขนาดเล็ก 6 ขวด ยาพาราเซตามอล ยาลดกรดในกระเพาะ ยาแก้แพ้ อย่างละ 20 เม็ด ยาทาแก้โรคผิวหนัง 2 หลอด ยาทาแก้เคล็ดขัดยอก 1 หลอด ยาใส่แผลสด 1 ขวด และปลาสเตอร์ปิดแผล 10 แผ่น
      
       ส่วนองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นเอง ก็แจ๋วไม่ใช่เล่น เพราะตามเทศบาลต่างๆ ก็มีการแจกทั้งข้าวสาร 5 กิโลกรัม บะหมี่กึ่งสำเร็จรูป 6 ซอง ปลากระป๋องแบบฝาดึง 6 กระป๋อง น้ำมันพืช 1 ลิตร 1 ขวด น้ำปลา 1 ขวด และน้ำดื่มขนาดเล็ก 12 ขวด
      
       ด้านสโมสรโรตารี่ ก็มีน้ำใจก็เต็มเปี่ยมไม่แพ้กัน เพราะงานนี้แจกทั้งบะหมี่กึ่งสำเร็จรูป 5 ซอง ทิชชู่ 4 ม้วน ถุงดำ 1 ห่อ ไฟฉายพร้อมถ่าน 1 ชุด ยาทาแก้โรคผิวหนัง 1 หลอด ขนมปังกรอบไส้สับปะรด 1 ปี๊บ และน้ำดื่มขนาดเล็ก 6 ขวด ขนาดใหญ่ 2 ขวด
      
       แน่นอนว่าที่เอ่ยมาทั้งหมดนี้เป็นเพียงส่วนหนึ่งเท่านั้น เพราะนอกจากนี้ยังมีหน่วยงานอีกหลายร้อยแห่ง ทั้งช่อง 3 ทีวีไทย เอเอสทีวี มูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง ฯลฯ ที่ต่างระดมพลเพื่อผลิตถุงยังชีพอย่างเต็มที่ เพราะช่วยเหลือผู้ประสบภัยในครั้งนี้
      
       เปิดขั้นตอนการผลิต
      
       เห็นของหลากหลายในถุงยังชีพ ก็ทำให้เกิดข้อสงสัยไม่น้อยว่า อะไรกันหนอที่เป็นปัจจัยสำคัญที่แต่ละหน่วยงานจะตัดสินว่าจะเลือกของชิ้นนั้นชิ้นนี้ลงไปในถุงกันบ้าง รวมไปถึงขั้นตอนที่จะส่งต่อถุงยังชีพไปสู่มือประชาชนด้วย
      
       ในฐานะที่เป็นหน่วยงานแรกๆ ซึ่งยื่นมือเข้ามาช่วยเหลือประชาชน อภัย จันทนจุลกะ รองประธานมูลนิธิอาสาเพื่อนพึ่ง (ภาฯ) ยามยาก สภากาชาดไทย เล่าถึงที่มาที่ไปของถุงยังชีพที่มูลนิธิฯ แจกว่า เป็นไปพระประสงค์ของพระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าโสมสวลี พระวรราชาทินัดดามาตุ และพระเจ้าหลานเธอ พระองค์เจ้าพัชรกิติยาภา ประธานมูลนิธิฯ โดยของที่อยู่ในถุงนี้จะอาศัยหลักการที่ว่าครอบครัวที่ได้ถุงนั้นไปจะต้องสามารถดำรงชีวิตได้อยู่ประมาณ 7 วัน ซึ่งขณะนี้ได้ดำเนินการแจกจ่ายให้แก่พสกนิกรทั่วประเทศไปกว่า 30,000 ถุงแล้ว
      
       “ของที่อยู่ในถุง หลักๆ เลยก็คืออาหาร ซึ่งที่ต้องมีเลยก็อย่างเช่นข้าวสารอย่างดี 5 กิโลกรัม อาหารแห้ง อันได้แก่ปลากระป๋อง เครื่องกระป๋องทั้งหลาย โดยต้องมีอายุอย่างน้อยประมาณ 6 เดือน นอกจากนี้ก็มีพวกเครื่องใช้ต่างๆ ซึ่งใช้ประจำอยู่ทั้ง จาน ชาม ไฟฉาย ไม้ขีดไฟ อันต่อมาก็คือ ยารักษาโรค เพราะท่านบอกว่าในยามค่ำคืนฉุกเฉิน ไปโอสถศาลาไม่ทันก็สามารถรักษาในเบื้องต้นได้หมด แล้วก็มีพวกเสื้อผ้า ทั้งของผู้ชาย ผู้หญิง ของพระ พวกสบงจีวร
      
       “สรุปก็คือ ในถุงนี้คือปัจจัย 4 นั่นเอง โดยทั้งสองพระองค์จะเป็นผู้พิจารณาของทั้งหมด แล้วก็สั่งซื้อจากห้างใหญ่ๆ ซึ่งตอนนี้ก็รวมทั้งหมด 34 รายการ ส่วนน้ำหนักท่านก็ทรงเพิ่มเรื่อยๆ อย่างตอนแรกๆ ก็ 7-8 กิโลกรัม แต่ตอนนี้ก็ประมาณ 20 กิโลกรัมแล้ว (หัวเราะ)”
      
       หลังจากที่มีการคัดเลือกและเตรียมของเสร็จสิ้นแล้ว ก็ถึงเวลาที่หน่วยงานต่างๆ จะเร่งระดมพลอาสาสมัครใจบุญทั้งหลายมาช่วยกันแพ็กของ เพื่อดำเนินการส่งด้วย อย่าง ณัฐสิรี พงษ์ดี นักศึกษาชั้นปี4 คณะวารสารศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ก็เป็นอีกผู้หนึ่งที่ไปร่วมกิจกรรมของทีวีไทย
      
       “ทราบข่าวผ่านทางโทรทัศน์ว่า ต้องการคนอาสาสมัครมาช่วย ก็เลยรวมกลุ่มกับเพื่อนๆ ตนไปช่วย เพราะรู้สึกว่าอยากทำประโยชน์ให้แก่สังคมบ้าง ซึ่งพอมาก็ประทับใจมากๆ เพราะได้เห็นภาพความร่วมมือของหลายๆ ฝ่าย เช่นเห็นภาพครอบครัวที่พ่อแม่พาลูกมาช่วย หรือภาพของคุณลุงคนหนึ่งที่มาช่วย 4-5 วันติดๆ”
      
       เปิดใจคนรับของ
      
       เห็นหน่วยงานใจดีระดมพลกันหนักขนาดนี้ ก็คงต้องหันมาดูในฝั่งผู้ได้รับของกันบ้างว่าจะรู้สึกปลื้มใจกับน้ำใจของคนไทยที่มีให้กันในยามวิกฤตขนาดนี้
      
       อำนาจ เกิดเทพ หนึ่งในผู้ประสบภัยน้ำท่วม จากอำเภอเสาไห้ ตำบลม่วงงาม จังหวัดสระบุรี กล่าวว่า โชคดีมากที่ในหมู่บ้านมีคนมาแจกถุงยังชีพกันตลอด ทำให้อยู่กันอย่างไม่ลำบากมากนัก
      
       “ในหมู่บ้านน้ำท่วมเยอะมาก สูงประมาณ 3 เมตรได้ เวลาออกไปรับถุงยังชีพก็ต้องนั่งเรือออกไปรับ แต่ว่าปีนี้ได้รับความช่วยเหลือเร็วมาก ท่วมวันแรกของก็ถึงมือเราเลย เดลินิวส์ ไทยรัฐ ช่องสาม ของพระราชทานก็มา ส่วนใหญ่ของที่มีในถุงก็จะเป็นข่าวสาร ปลากระป๋อง บะหมี่กึ่งสำเร็จรูป เราก็ได้ใช้หมดทุกอย่าง
      
       “บ้านเราน้ำท่วมทุกปีก็ต้องทำใจแหละครับ พยายามคิดว่ามันเป็นเรื่องสนุกที่ต้องวิ่งไปรับถุงยังชีพนะ ถามว่ามันก็ลำบากไหม ก็ลำบาก แต่เราจะทำอะไรได้ นอกจากคิดในแง่บวกเข้าไว้”
       .........
      
       แม้ช่วงนี้หลายๆ แห่งจะต้องประสบกับภัยพิบัติหนักหนาสักแค่ไหน แต่เชื่อว่าพอได้เห็นภาพความร่วมมือร่วมใจกันขนาดนี้ คงอดรู้สึกซึ้งกับมิตรภาพของคนไทยไม่ได้ ซึ่งก็คงเหมือนกับที่หลายคนชอบพูดกันว่า คนเราจะวัดน้ำใจกันได้ว่ามีแค่ไหน ก็ต้องเป็นช่วงลำบากนี่แหละ
      
       เพราะแม้ในความเป็นจริงถุงยังชีพเหล่านี้จะเป็นเพียงแค่เครื่องช่วยบรรเทาความปวดร้าวกับภัยพิบัติเท่านั้น แต่ในอีกมุมหนึ่งซึ่งสำคัญไม่แพ้กัน ก็ถือ ถุงเล็กๆ ดังกล่าวนั้นยังได้ใส่ พลังของน้ำใจอันเปี่ยมล้ม ความปรารถนาดี ความอยากช่วยเหลือ และความเป็นน้ำหนึ่งใจด้วยกันของทุกคนมีให้กันไว้เต็มถุง ซึ่งเพียงแค่เปิดออกมาก็รับรองว่า จะสัมผัสได้อย่างแน่นอน
       >>>>>>>>>>
      
       ผู้ที่สนใจช่วยเหลือผู้ประสบภัยน้ำท่วมกับมูลนิธิเพื่อนพึ่ง (ภาฯ) ยามยาก ติดต่อได้ที่ธนาคารไทยพาณิชย์ สาขาเทเวศน์ โทร 0-2025-3333-5
       ………
      
       เรื่อง : ทีมข่าว CLICK
       ภาพ : ทีมภาพ CLICK

 
 
ชมภาพเพิ่มเติม คลิ๊กตรงนี้...
จาก http://www.manager.co.th/asp-bin/mgrView.asp?NewsID=9530000155968
 


หัวข้อ: Re: [2513] "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: เหยง 16 ที่ 05 พฤศจิกายน 2553, 12:03:13
ผลโพลครับ เรื่องการช่วยน้ำท่วม

ไม่มั่นใจความช่วยเหลือถึงมือผู้เดือดร้อนวันที่
05 พฤศจิกายน พ.ศ. 2553 เวลา 10:40:13 น.

ศูนย์วิจัยมหาวิทยาลัยกรุงเทพ(กรุงเทพโพลล์) เผยผลสำรวจความคิดเห็นประชาชนจากทั่วประเทศพบว่าประชาชนส่วนใหญ่มากกว่าร้อยละ 70 เห็นด้วยกับมาตรการต่างๆ ของรัฐบาลในการเยียวยาผู้ประสบภัยน้ำท่วม โดยเฉพาะอย่างยิ่งเรื่องการขยายเวลาชำระหนี้และจำหน่ายหนี้สูญในกรณีลูกหนี้เสียชีวิตจากน้ำท่วม อย่างไรก็ตามประชาชนถึงร้อยละ 67.7 ยังไม่มั่นใจว่าความช่วยเหลือจากรัฐบาล จะสามารถไปถึงมือผู้ประสบภัยอย่างครบถ้วนและทั่วถึง

ทั้งนี้ ประชาชนให้คะแนนความพึงพอใจการทำงานของรัฐบาลในการป้องกันและแก้ปัญหาผู้ประสบภัยน้ำท่วมเฉลี่ย 5.45 คะแนน จากคะแนนเต็ม 10 คะแนน โดยให้คะแนนในด้านมาตรการต่างๆ ที่ออกมาเพื่อช่วยเหลือและเยียวยาแก่ผู้ประสบภัยได้มากที่สุด ( 6.22 คะแนน) ในขณะที่ให้คะแนนด้านการเตรียมความพร้อมรับมือกับภัยน้ำท่วมน้อยที่สุด ( 5.07 คะแนน)

ส่วนเรื่องที่ประชาชนเป็นห่วงและกังวลใจมากที่สุดหลังน้ำลด คือ ห่วงเรื่องการทุจริตคอร์รัปชันเงินงบประมาณช่วยเหลือผู้ประสบภัยและการฟื้นฟูบูรณะ (ร้อยละ 32.6) รองลงมาห่วงเรื่องโรคระบาด(ร้อยละ 26.7 ) และห่วงเรื่องความล่าช้าในการจ่ายเงินช่วยเหลือ และขั้นตอนที่ยุ่งยากซับซ้อน (ร้อยละ 24.2)

สำหรับแนวทางป้องกันและแก้ปัญหาน้ำท่วมในอนาคตที่ประชาชนต้องการมากที่สุดคือ ให้เร่งปลูกป่าและรักษาสิ่งแวดล้อม(ร้อยละ 33.0) รองลงมาคือให้ปรับปรุงระบบชลประทานเพื่อกักเก็บและระบายน้ำให้ดีขึ้น  (ร้อยละ 31.8)

http://www.matichon.co.th/news_detail.php?newsid=1288928526&grpid=00&catid=


หัวข้อ: Re: [2513] "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: wannee ที่ 05 พฤศจิกายน 2553, 13:51:12

สวัสดีค่ะพี่แอ๊ะ  emo4:))

กะว่าจะโทร- email คุยกับ พรเทพ 16 เรื่องมางานจุฬาฯ 2516....55 ฮ่า หรือไม่ค่ะ emo6::))


หัวข้อ: Re: [2513] "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: เหยง 16 ที่ 05 พฤศจิกายน 2553, 14:22:09
Forward Mail จากมติชนออนไลน์ครับ แสดงถึงน้ำที่ท่วมอำเภอสวนผึง จังหวัดราชบุรี ในช่วงเดือนกันยายนต่อเดือนตุลาคม 53 ก่อนฝนจะตกหนักที่โคราช

FW:ความน่าสะพึงกลัวของธรรมชาติ!! น้ำป่าพัดถล่มรีสอร์ทหวานพังยับ ทำแขกที่พักขวัญกระเจิง
วันที่ 04 พฤศจิกายน พ.ศ. 2553 เวลา 23:48:14 น.


ผู้สื่อข่าว "มติชนออนไลน์" ได้รับฟอร์เวิร์ดเมล์ที่น่าสนใจเกี่ยวกับเหตุการณ์น้ำป่าไหลบ่าถาโถม จึงขออนุญาตคุณ "จิ้งจอกหลงกรุง" ที่โพสต์ไว้เมื่อวันที่ 4 ตุลาคม นำมาเผยแพร่ให้เห็นถึงความโหดร้ายของภัยธรรมชาติ ซึ่งบางทีต้นตอที่แท้จริงอาจจะมาจากฝีมือมนุษย์อย่างพวกเราก็ได้

 

*********************************************


+++บ้านอ้อมกอดขุนเขา+++ ในวันที่น้ำป่าไหลผ่าน

 

สวัสดีครับ เพื่อนพ้องน้องพี่ชาวบีพี เป็นครั้งแรกที่ทำรีวิวด้วยใจที่ยังเต้น..ตึก..ตึก..อยู่ เพราะเพิ่งผ่านเหตุการณ์ที่ค่อนข้างระทึกขวัญมา
 

ไปกันเลยนะครับ..ณ..บ้านอ้อมกอดขุนเขา..อ.สวนผึ้ง จ.ราชบุรี  ผมพักห้องนี้ครับ

 
(http://img294.imageshack.us/img294/3753/1288871431.jpg)

เข้าไปหลบฝนในห้องก่อนครับ เพราะเปียกโชกกันทั้งผมและคุณภรรยา

(http://img294.imageshack.us/img294/1420/1288871434.jpg)

(http://img294.imageshack.us/img294/7452/1288871436.jpg)

ดูสิครับ ไดร์เป่าผมยังหว๊าน..หวาน

(http://img294.imageshack.us/img294/5514/1288871439.jpg)

ออกไปดูระเบียงหลังบ้านบ้าง กรุณาสังเกตุน้ำสีแดงๆ และสะพานปูนด้านหลังนะครับ

(http://img294.imageshack.us/img294/3103/1288871444.jpg)

(http://img89.imageshack.us/img89/6888/1288871446.jpg)

ไปชมส่วนของหน้าบ้านกันบ้างครับผม เป็นสระน้ำรูปหัวใจครับ แต่ฝนตกผมเลยหลบน้ำฝน ถ่ายได้ไม่เต็มดวง หึหึ

(http://img89.imageshack.us/img89/671/1288871449.jpg)

(http://img89.imageshack.us/img89/5998/1288871459.jpg)
 
คุณภรรยานั่งดูทีวี ในห้อง ส่วนผมไปดูระดับน้ำ

ที่ระเบียงหลังบ้านมีเจ้าหน้าที่ของรีสอร์ท

นำกระสอบทรายมาลงไว้เยอะทีเดียว ซึ่งตอนแรก

ผมคิดว่าคงปลอดภัยแต่....


(http://img294.imageshack.us/img294/9494/1288871462.jpg)

ฝนตกหนักตลอดจนกระทั่งมืด ผมจึงค่อย

ออกไปถ่ายรูปที่หน้าบ้านพัก แต่เป็นเพราะไม่สามารถ

วางขาตั้งกล้องได้รูปจึงเป็นเช่นนี้

รูปสุดท้ายของบ้านแอบรัก ในสภาพที่สวยยังที่สุดในสายตาผม


ถ่ายเมื่อเวลา 22.00น.ของวันที่ 3 ต.ค.2553 ครับบ


(http://img294.imageshack.us/img294/330/1288871464.jpg)

ผมและภรรยาเข้านอนกันเวลาประมาณ 22.30 น.
ณ เวลานั้น น้ำที่ลำธารหลังบ้านห่างจากระเบียง
ประมาณ 1.5 เมตร และฝนก็ยังไม่มีทีท่าจะหยุดครับ

ผมมาสะดุ้งตื่นอีกครั้งเวลา 5.00 น.ภรรยาเรียกน่ะครับ
เธอบอกว่า เตรียมเก็บของเถอะ..
หา..ผมร้อง..ทำไมล่ะ
เธอกวักมือให้ไปดูน้ำที่ระเบียงหลังบ้าน
ผมตัวเย็นวาบน้ำมาถึงระเบียงแล้ว
และสะพานที่ผมบอกให้เพื่อนๆ ดูมันก็ขาดไปแล้ว
เราช่วยกันเก็บของยังไม่ทันเสร็จ
มีเสียงเคาะประตู เปิดออกไปเห็นน้องเจ้าหน้าที่
ยืนหน้าเครียดๆ ...บอกว่า คุณคะกรุณารีบเก็บของ
เราต้องย้ายออกจากที่นี่โดยเร็ว....
ผมกับภรรยาใช้เวลาไม่ถึง 10 นาที
ในการกวาดทุกอย่างใส่กระเป๋าเดินทาง
น้องเจ้าหน้าที่เข้ามาช่วยยกทั้งถุงทั้งกระเป๋าผมจะยกเองเธอก็ไม่ยอม เฮ้อ..ซึ้ง

เรานั่งรถของน้องที่มาจอดด้านหลังของรีสอร์ท
ฝ่าสายฝนออกไปที่ส่วนต้อนรับ
น้องคนเดิมส่งเสร็จก็วิ่งกลับไปดูแลผู้เข้าพัก
บ้านอื่นต่อ เจ้าหน้าคนใหม่ยื่นข้อเสนอให้
เราไปพักรีสอร์ทอีกแห่งใกล้ๆ กับ Scenery
โดยบ้านอ้อมกอดฯ จะเป็นผู้ออกค่าใช้จ่ายให้
ไม่ต้อง ครับ(ค่ะ) ทั้งผมและภรรยาตอบพร้อมกัน
โธ่..แค่นี้บ้านอ้อมกอดฯ ก็เดือดร้อนจะแย่อยู่แล้ว
เรานั่งรอให้เช้าตรงนี้ก็ได้ อีกไม่กี่ชั่วโมงก็เช้าแล้ว
เจ้าหน้าที่คนนั้นยิ้มให้ แล้วกล่าวขอบคุณ
 
จากนั้นเธอก็โทร.สั่งให้แม่บ้านทำความสะอาด
ห้องรับรองที่อยู่ด้านบนของส่วนต้อนรับ แล้วให้
ผมและภรรยาเข้าไปอาบน้ำอาบท่าเปลี่ยนเสื้อผ้า
รอจนเช้า ได้เวลาอาหารเราสองคนค่อยลงไป
รับประทานอาหารเช้า ซึ่งจัดแบบบุฟเฟ่ท์
ที่ห้องอาหารของรีสอร์ท

ระหว่างที่กำลังทานอาหาร

ได้ยินคุณผู้หญิงซึ่งจำได้ว่า

เธออยู่บ้านสร้อยฟ้า ที่อยู่ติด

กับบ้านแอบรัก เธอว่า...

บ้านเราน่ะไม่เป็นไร แต่บ้าน

สีชมพูสิ ไม่เหลือ ไปหมดแล้ว..

หา..ผมกับภรรยาหันมองหน้ากัน

อะไรนะครับ... ผมถาม

..ก็บ้านข้างๆพี่น่ะ..มันพังลงมาหมดแล้ว..

 
แค่นั้นแหละครับ ผมมองหน้าภรรยา

เธอไม่พูดอะไร นั่งก้มหน้าเหมือนไม่สนใจ

แต่ผมรู้ว่าเธอเครียด เพราะเธอไม่กินอะไรต่ออีก

นิ่งไปสักครู่เธอก็บอกว่า..ไปดูบ้านเรากัน.. 

ไม่มีคำพูดจากผม..เพราะพูดไม่ออกครับ

ได้แต่ลุกเดินจูงมือกันไป ฝนยังไม่หยุด

แต่เราไม่สนใจ ภรรยาผมปกติเธอกลัวฝน

อย่างกับอะไรดี เพราะเธอเป็นโรคภูมิแพ้

แต่ครั้งนี้เธอเดินเร็วซะจนผมต้องวิ่งอ่ะ



แล้วภาพที่เราสองคนเห็นตรงหน้า

มันทำให้ลูกผู้ชายอย่างผมน้ำตาซึม

บ้านที่เราอยู่อย่างมีความสุขแม้เพียง

คืนเดียวมีสภาพเป็นอย่างนี้..ไปแล้ว


(http://img219.imageshack.us/img219/3899/1288871466.jpg)

เรายืนอยู่พักนึง แล้วก็เดินกลับไปที่ส่วนต้อนรับ
เห็นเจ้าหน้าที่ผู้ชาย 2 คน คุยกันอยู่เรื่องน้ำท่วม
ผมถามว่าถนนที่จะเข้าตัวเมืองเป็นอย่างไรบ้าง
เจ้าหน้าที่บอกว่า..ตอนนี้รถเล็กยังแล่นได้..แต่ถ้า
ผ่านไปอีกชั่วโมงก็ไม่แน่ เพราะฝนยังไม่หยุดตก
น้ำบนเขาตะนาวศรีก็ไหลลงมาเรื่อยๆ

ผมกับภรรยาจึงตัดสินใจกลับกรุงเทพฯทันที
เราชำระเงินส่ว นที่เกินทั้งหมด ก่อนจะกล่าวอำลา
...บ้านอ้อมกอดขุนเขา..ในเวลาประมาณ 8.00 น.
และมาถึง บ้านที่บางบัวทองเวลา ใกล้เที่ยงครับ


จากคุณ
: จิ้งจอกหลงกรุง เขียนเมื่อ : 4 ต.ค. 53 17:15:58
http://www.matichon.co.th/news_detail.php?newsid=1288871335&grpid=01&catid=


หัวข้อ: Re: [2513] "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: prapasri AH ที่ 07 พฤศจิกายน 2553, 13:38:18
หมอเสียด e-mail พรเทพ16

thailandlaw@hotmail.com ค่ะ


หัวข้อ: Re: [2513] "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: prapasri AH ที่ 07 พฤศจิกายน 2553, 22:26:35
เสียดาย บ้านสวย resort สวยๆจัง

เสียดายผ้าปูที่นอนสีชมพูด้วยยยยยยยยยยยย

แต่น้ำยังไม่มาถึงยโสธรเลยค่ะ

พี่แอ๊ะคอยน้ำให้มาได้แล้วววววววววววว

และคอยระวังอยู่ค่ะ



หัวข้อ: Re: [2513] "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: เหยง 16 ที่ 08 พฤศจิกายน 2553, 19:16:14
อากาศร้อน ต้องเปิดแอร์นอนมา 2 คืนแล้วครับ หลังจากหนาวเย็นเพียง 2 คืนแรกเท่านั้น


หัวข้อ: Re: [2513] "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: เหยง 16 ที่ 10 พฤศจิกายน 2553, 11:07:26
อ่อนใจจริงๆครับ เบื่อด้วย

เอาใจช่วยเรื่องน้ำท่วมให้ลดลง ยังไม่ทันไร ข่าวกินหัวคิวช่วยเหลือน้ำท่วมก็กระหึ่มแล้ว ??


หัวข้อ: Re: [2513] "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: พธู ๒๕๒๔ ที่ 10 พฤศจิกายน 2553, 18:09:20
อ้างถึง
ข้อความของ เหยง 16 เมื่อ 10 พฤศจิกายน 2553, 11:07:26
อ่อนใจจริงๆครับ เบื่อด้วย

เอาใจช่วยเรื่องน้ำท่วมให้ลดลง ยังไม่ทันไร ข่าวกินหัวคิวช่วยเหลือน้ำท่วมก็กระหึ่มแล้ว ??

ถ้าพีมีข่าวเรื่องกินหัวคิวส่งข้อมูลให้ผมได้ที่ wira.dan@gmail.com ผมกำลังตั้งเรื่องตรวจสอบอยู่ครับ


หัวข้อ: Re: [2513] "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: wannee ที่ 11 พฤศจิกายน 2553, 12:51:56
อ้างถึง
ข้อความของ prapasri AH เมื่อ 07 พฤศจิกายน 2553, 13:38:18
หมอเสียด e-mail พรเทพ16

thailandlaw@hotmail.com ค่ะ

ขอบพระคุณค่ะพี่แอ๊ะ  ทั้งส่ง email และฝากข้อความแล้วค่ะ   emo6::))

อยากให้พรเทพ มาเจอเพื่อนRCU 16 โดย มาพบปะกันที่หอพักนิสิตจุฬาฯ   ณ. ห้องประชุม 2 (ติดกับ) สำนักงานหอพักนิสิตจุฬาฯ  ในวันศุกร์ที่ 19 พ.ย. 2553 เวลา 13.00 -16.00 น. ค่ะ  emo4:))
  


หัวข้อ: Re: [2513] "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: เหยง 16 ที่ 11 พฤศจิกายน 2553, 14:43:43
น้ำยังไม่ทันลด ตอผุดให้เห็นแล้ว เมืองชาละวันของรองนายกฯ และรมช.คลัง ซะด้วย

แฉชาวนา-ผู้นำชุมชน 3 อำเภอเมืองชาละวันแจ้งเท็จลักไก่บอกน้ำท่วมนาหวังเงินชดเชย
11 พฤศจิกายน 2553 12:45 น.

 
       พิจิตร - แฉเกษตรกร-ผู้นำชุมชน 3 อำเภอเมืองชาละวัน ส่อแจ้งเท็จ ลักไก่แจ้งน้ำท่วมนาหวังรับเงินชดเชยร่วมพันราย
      
       นายปริมาณ ปั้นลี้ รักษาการเกษตรจังหวัดพิจิตร เปิดเผยว่า สถานการณ์น้ำท่วมที่ผ่านมา ทางราชการให้ชาวนามาแจ้งความเสียหายเพื่อขอรับการช่วยเหลือจากรัฐบาล ซึ่งพิจิตรมี 12 อำเภอ แต่ถูกน้ำท่วมหนักพืชผลทางการเกษตรเสียหายจริง 10 อำเภอ จากการส่งบัญชีรายชื่อมาจึงต้องมีการสุ่มตรวจข้อเท็จจริง การขอรับเงินชดเชยจากภัยน้ำท่วมดังกล่าวโดยมีการแต่งตั้งคณะทำงานระดับจังหวัดออกสุ่มตรวจ
      
       ปรากฏว่า ใน 10 อำเภอ ตรวจสอบผ่านเพียง 4 อำเภอ ส่วนอีก 3 อำเภอ คือ อ.บางมูลนาก อ.บึงนาราง อ.โพธิ์ประทับช้าง ยังทำข้อมูลไม่เสร็จ และพบว่า มี 3 อำเภอ ที่ลงไปสุ่มตัวอย่างตรวจแล้ว มีข้อเคลือบแคลงสงสัยว่าชาวนาและผู้นำชุมชนรวมหัวกันแจ้งข้อมูลอันเป็นเท็จ น้ำท่วมนาข้าวไม่เสียหายแต่จะเอาเงินชดเชย ได้แก่ อ.ทับคล้อ อ.โพทะเล อ.วังทรายพูน มีเกษตรกรที่แจ้งแล้วน่าสงสัยประมาณ 900 ราย พื้นที่จำนวน 14,000 ไร่
      
       ซึ่งทางคณะทำงานได้สั่งการตีกลับเรื่องดังกล่าวให้เกษตรอำเภอไปดำเนินการตรวจสอบใหม่ทั้งหมด เพื่อมิให้เกิดการทุจริตในการมาขอรับการช่วยเหลือเงินชดเชยอันเป็นเท็จ
      
       สำหรับการช่วยเหลือชาวนาที่ประสบภัยพิบัติขณะนี้คณะรัฐมนตรีได้มีมติเห็นชอบและมีหนังสือสั่งการอย่างเป็นทางการมาแล้วว่า ผู้ประสบภัยน้ำท่วมในครั้งนี้จะได้รับการช่วยเหลือเงินชดเชยความเสียหายเพิ่มขึ้นจากเดิมมากกว่า 3 เท่า ในกลุ่มที่ผลิตข้าวจะได้รับความช่วยเหลือเพิ่มขึ้นจากไร่ละ 606 บาทเป็น 2,098 บาท พืชไร่จากเดิมไร่ละ 837 บาทเป็นไร่ละ 2,921 บาท พืชสวนจากเดิมไร่ละ 912 บาท เป็นไร่ละ 4,908 บาท และคาดว่ามาตรการดังกล่าว น่าจะเป็นมาตรการที่ใช้ช่วยเหลือในภัยพิบัติอื่นๆ ต่อไปในอนาคต

 
 
 
จาก http://www.manager.co.th/asp-bin/mgrView.asp?NewsID=9530000159297
 


หัวข้อ: Re: [2513] "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: เหยง 16 ที่ 11 พฤศจิกายน 2553, 15:25:32
รัฐแจกข้าวสาร พัทลุงฉาว ชื่อนักการเมืองโผล่

พัทลุงฉาวอีก "นิพิฎฐ์ อินทรสมบัติ" สส.พัทลุง จี้ ผู้ว่าฯ ให้ตรวจสอบข้าวสารกระทรวงพาณิชย์ 3 หมื่นถุง ที่หายไปอยู่ในมือนักการเมืองท้องถิ่น เตรียมรายงานนายกฯ และ รมว.พาณิชย์ทราบวันนี้....

อ่านข่าวเพิ่มเติมทั้งหมดที่......
http://www.thairath.co.th/content/pol/126144


หัวข้อ: Re: [2513] "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: เหยง 16 ที่ 11 พฤศจิกายน 2553, 15:41:05
"บุญจง"ท้า"ไพโรจน์"เปิดชื่อใครหักหัวคิว ซัดอย่าพูดลอยๆ "สามสี"อ้างอายชาวโลกเลิกใช้งบฯคงคลังแก้ปัญหา
วันที่ 11 พฤศจิกายน พ.ศ. 2553 เวลา 06:53:11 น.

ปปท.ส่งทีมฉก.ลงพื้นที่สุ่มตรวจหักหัวคิวช่วยเหยื่อน้ำท่วม ตั้งศูนย์รับร้องเรียนทุจริตทุกจว. "บุญจง"ท้า"ไพโรจน์"เปิดชื่อ ซัดอย่าพูดลอยๆ "สาทิตย์"รับจ่าย5พันอืด เร่งชดเชย 6.32 แสนรายเสร็จสิ้นพ.ย. "ไตรรงค์"อ้างอายชาวโลกเลิกใช้งบคงคลังแก้ปัญหา

อ่านข่าวเพิ่มเติมที่...
http://www.matichon.co.th/news_detail.php?newsid=1289396863&grpid=00&catid=&subcatid=


หัวข้อ: Re: [2513] "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: ดร.มนตรี ที่ 11 พฤศจิกายน 2553, 16:49:02
สวัสดี ครับ พี่แอ๊ะ

อ้างถึง
ข้อความของ pusadee sittipong เมื่อ 20 กรกฎาคม 2553, 15:21:49
อ้างถึง
ข้อความของ wannee เมื่อ 20 กรกฎาคม 2553, 15:18:03
อ้างถึง
ข้อความของ ดร.มนตรี เมื่อ 12 กรกฎาคม 2553, 20:20:43
ที่บริษัทฯ กำลังทำคู่มือ กิน เที่ยว ทั่วไทย ... เสร็จแล้วจะเอามาเผย นะครับ พีเสียด  ^_^


แล้วจะตามชมค่ะ ดร.มนตรี  emo6::))
พี่ยินดีรับแจกด้วยค่ะ

เรียน ... พี่ป้อม พี่เสียด ครับ


หนังสือเสร็จแล้วครับพี่ ... ผมขออนุญาต ส่ง PM ไปเพื่อ ขอที่อยู่ ในการจัดส่งหนังสือไปให้นะครับ  


(http://www.cmadong.com/imageupload/2010_Cmadong-Image/data/image/lbpsl6-cddb10.jpg)



หัวข้อ: Re: [2513] "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: เหยง 16 ที่ 11 พฤศจิกายน 2553, 19:54:31
อ้างถึง
ข้อความของ เหยง 16 เมื่อ 11 พฤศจิกายน 2553, 15:25:32
รัฐแจกข้าวสาร พัทลุงฉาว ชื่อนักการเมืองโผล่

พัทลุงฉาวอีก "นิพิฎฐ์ อินทรสมบัติ" สส.พัทลุง จี้ ผู้ว่าฯ ให้ตรวจสอบข้าวสารกระทรวงพาณิชย์ 3 หมื่นถุง ที่หายไปอยู่ในมือนักการเมืองท้องถิ่น เตรียมรายงานนายกฯ และ รมว.พาณิชย์ทราบวันนี้....

อ่านข่าวเพิ่มเติมทั้งหมดที่......

http://www.thairath.co.th/content/pol/126144

มาต่อครับ........

ชาวบ้านโวย! ข้าวสารกระทรวงพาณิชย์ 3 หมื่นถุง ถูกนักการเมืองแจกจ่ายเป็นฐานเสียง
11 พฤศจิกายน 2553 16:17 น.

(http://img178.imageshack.us/img178/3158/securerice.jpg) (http://img178.imageshack.us/img178/4638/securerice2.jpg)
 
       พัทลุง - ชาวบ้านในพื้นที่ จ.พัทลุงโวย ข้าวสารของกระทรวงพาณิชย์ 3 หมื่นถุง ถูกนักการเมืองนำไปอ้างสิทธิ์เป็นฐานเสียง ทำให้การแจกจ่ายไม่เป็นระบบและไม่ทั่วถึง
      
       วันนี้ (11 พ.ย.) นายพิสิษฐ บุญช่วง ผู้ว่าราชการจังหวัดพัทลุง กล่าวชี้หลังมีการร้องเรียนจากชาวบ้านว่ามีอดีตผู้สมัคร นายก อบจ.และ ส.ว.จังหวัดพัทลุง นำข้าวสารช่วยเหลือน้ำท่วมขององค์การคลังสินค้า กรมการค้าภายใน กระทรวงพาณิชย์ ไปใช้ชื่อของตนเองในการแจกจ่ายให้กับชาวบ้านในหลายพื้นที่นั้น
      
       ก่อนหน้านี้ จังหวัดได้ทำหนังสือถึงรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เพื่อขอสนับสนุนข้าวสารมาแจกจ่ายช่วยเหลือชาวบ้านผู้ประสบภัยน้ำท่วมในพื้นที่ จ.พัทลุง จริง โดยข้าวสารดังกล่าวใครก็สามารถมาขอได้ ทางจังหวัดจะทำบัญชีรายชื่อไว้ ในส่วนของนักการเมืองที่นำไปอ้างสิทธิ์แจกจ่ายให้กับชาวบ้านตนยังไม่ทราบเรื่อง แต่จะเร่งทำการตรวจสอบเรื่องดังกล่าวโดยเร็ว แต่ล่าสุดยังไม่เห็นรายชื่อนักการเมือง มีเพียงองค์กรต่างๆ เท่านั้น อีกทั้งการแจกจ่ายทุกครั้ง จะมีตัวแทนของจังหวัดเข้าไปร่วมอยู่ด้วย
      
       นายพริก หนูจันทร์ อายุ 43 ปี ชาวบ้าน ต.พนางตุง ระบุว่า ข้าวสารที่ได้รับมีการประกาศว่า เป็นของ นางนาที ซึ่งเมื่อไปรับมาปรากฏว่า ด้านในเป็นชื่อขององค์การคลังสินค้า กรมการค้าภายใน กระทรวงพาณิชย์ และมีถุงสวมทับพร้อมใส่แผ่นกระดาษระบุตัวหนังสือใส่ชื่อของนางนาที รัชกิจประการ โดยมีการแจกจ่ายเฉพาะในจุดที่เป็นฐานเสียงเท่านั้น
      
       สำหรับข้าวสารดังกล่าว ได้ลงมาในพื้นที่จังหวัดพัทลุง 2 ล็อต ล็อตแรกลงมาเมื่อวันที่ 9 พ.ย.53 จำนวน 17,000 ถุง ล็อตที่ 2 ลงมาเมื่อวันที่ 11 พ.ย.จำนวน 13,000 ถุง ซึ่งส่วนใหญ่ไปอยู่ในมือของนักการเมือง ทำให้การแจกจ่ายไม่เป็นระบบและไม่ทั่วถึง ส่งผลชาวบ้านได้รับความเดือดร้อนทุกครัวเรือน

  
จาก http://www.manager.co.th/asp-bin/mgrView.asp?NewsID=9530000159626
 


หัวข้อ: Re: [2513] "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: เหยง 16 ที่ 11 พฤศจิกายน 2553, 20:01:19
ข้อสงสัย...ข้าวถุงส่งถึงหน้าศาลากลางจังหวัดพัทลุง แล้วปล่อยให้เขาเอาไปได้ทั้งหมด 30,000 ถุงๆละ 5 กก.
ประเทศไทยไว้ใจใครไม่ได้แล้วครับ ?? !!~
  emo47  emo22:(


หัวข้อ: Re: [2513] "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: พธู ๒๕๒๔ ที่ 11 พฤศจิกายน 2553, 23:27:46
อ้างถึง
ข้อความของ ดร.มนตรี เมื่อ 11 พฤศจิกายน 2553, 16:49:02
สวัสดี ครับ พี่แอ๊ะ

อ้างถึง
ข้อความของ pusadee sittipong เมื่อ 20 กรกฎาคม 2553, 15:21:49
อ้างถึง
ข้อความของ wannee เมื่อ 20 กรกฎาคม 2553, 15:18:03
อ้างถึง
ข้อความของ ดร.มนตรี เมื่อ 12 กรกฎาคม 2553, 20:20:43
ที่บริษัทฯ กำลังทำคู่มือ กิน เที่ยว ทั่วไทย ... เสร็จแล้วจะเอามาเผย นะครับ พีเสียด  ^_^


แล้วจะตามชมค่ะ ดร.มนตรี  emo6::))
พี่ยินดีรับแจกด้วยค่ะ

เรียน ... พี่ป้อม พี่เสียด ครับ


หนังสือเสร็จแล้วครับพี่ ... ผมขออนุญาต ส่ง PM ไปเพื่อ ขอที่อยู่ ในการจัดส่งหนังสือไปให้นะครับ  


(http://www.cmadong.com/imageupload/2010_Cmadong-Image/data/image/lbpsl6-cddb10.jpg)


มีวางขายที่ไหนครับ


หัวข้อ: Re: [2513] "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: pusadee sitthiphong ที่ 12 พฤศจิกายน 2553, 09:26:31
น้อง ดร.มนตรีคะ
พี่ส่ง PM ให้แล้วนะคะ
ขอบคุณอีกครั้งค่ะ


หัวข้อ: Re: [2513] "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: ดร.มนตรี ที่ 12 พฤศจิกายน 2553, 10:36:30
อ้างถึง
ข้อความของ pusadee sittipong เมื่อ 12 พฤศจิกายน 2553, 09:26:31
น้อง ดร.มนตรีคะ
พี่ส่ง PM ให้แล้วนะคะ
ขอบคุณอีกครั้งค่ะ

ขอบคุณครับพี่ป้อม PM ตอบไปแล้วนะครับ


หัวข้อ: Re: [2513] "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: ดร.มนตรี ที่ 12 พฤศจิกายน 2553, 10:48:40
อ้างถึง
ข้อความของ patooman 64 เมื่อ 11 พฤศจิกายน 2553, 23:27:46

มีวางขายที่ไหนครับ


ผมตัดส่วนท้ายในโปสเตอร์ออกหน่ะครับ ...  เดี๋ยวจะกลายเป็นการโฆษณาไป...   emo2:)


ถ้าบอกว่า ... สามารถ หาชมได้ ตามศูนย์บริการ ทีทีแอนด์ที ทั่วประเทศ ... จะเป็นการโฆษณา ไหมครับ นี่  emo20:)):)


หาก พี่ทู ต้องการ ไม่ต้องลำบากไปที่ศูนย์ครับ ... ผมยังพอมีโควตาอยู่ครับ ...


ขออนุญาต PM หลังไมค์ เพื่อขอที่อยู่ในการจัดส่ง ครับพี่ทู ... ^_^




ปล.

ขออนุญาต รบกวนกระทู้พี่แอ๊ะ นิดนึง นะครับ ... พอดีเป็นลูกติดพัน จากที่เคยคุยกันไว้ในกระทู้ นี้ หน่ะครับ

 



ปล. 2

เรื่องงาน ... เรื่องทาน ... เรื่องเที่ยว  ...ถือว่า เป็นเรื่องเดียวกัน  
  emo43

(http://www.cmadong.com/imageupload/2010_Cmadong-Image/data/image/lbr6ug-44be8c.jpg)

(http://www.cmadong.com/imageupload/2010_Cmadong-Image/data/image/lbr6yk-63382c.jpg)



หัวข้อ: Re: [2513] "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: เหยง 16 ที่ 12 พฤศจิกายน 2553, 11:06:12
ดร.มนตรี

ส่ง PM ไปให้แล้ว คงพอมีเหลือนะ ขอบคุณล่วงหน้าครับ่


หัวข้อ: Re: [2513] "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: ดร.มนตรี ที่ 12 พฤศจิกายน 2553, 13:24:14
อ้างถึง
ข้อความของ เหยง 16 เมื่อ 12 พฤศจิกายน 2553, 11:06:12
ดร.มนตรี

ส่ง PM ไปให้แล้ว คงพอมีเหลือนะ ขอบคุณล่วงหน้าครับ่


 ด้วยความยินดีครับ พี่เหยง ...  emo6::))


โปรโมตท่องเที่ยวไทย ...  
  emo9:huhu:


(http://www.cmadong.com/imageupload/2010_Cmadong-Image/data/image/l6q3sk-5473a0.jpg)

(http://www.cmadong.com/imageupload/2010_Cmadong-Image/data/image/l68v7v-395c53.jpg)

(http://www.cmadong.com/imageupload/2010_Cmadong-Image/data/image/l68v7d-3b8f1d.jpg)

(http://www.cmadong.com/imageupload/2010_Cmadong-Image/data/image/l68v9c-844dcd.jpg)

(http://www.cmadong.com/imageupload/2010_Cmadong-Image/data/image/l6q3t8-d41968.jpg)

(http://www.cmadong.com/imageupload/2010_Cmadong-Image/data/image/l6q3tv-005d86.jpg)


หัวข้อ: Re: [2513] "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: พธู ๒๕๒๔ ที่ 12 พฤศจิกายน 2553, 16:25:43
หมั่นใส้ พวกมีลูกเมียหน้าตาดี ชอบเอามาอวดให้ริษยา


หัวข้อ: Re: [2513] "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: ดร.มนตรี ที่ 12 พฤศจิกายน 2553, 19:53:06
อ้างถึง
ข้อความของ patooman 64 เมื่อ 12 พฤศจิกายน 2553, 16:25:43
หมั่นใส้ พวกมีลูกเมียหน้าตาดี ชอบเอามาอวดให้ริษยา

ผมผิดไปแล้วคร๊าบบ ...


ปล.

ภรรยามาุคุม
 emo20:)):) emo20:)):)

(http://www.cmadong.com/imageupload/2010_Cmadong-Image/data/image/lbrvr4-1e9e7d.jpg)

(http://www.cmadong.com/imageupload/2010_Cmadong-Image/data/image/lbrvws-caefe0.jpg)




หัวข้อ: Re: [2513] "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: wannee ที่ 13 พฤศจิกายน 2553, 12:55:18
อ้างถึง
ข้อความของ wannee เมื่อ 11 พฤศจิกายน 2553, 12:51:56
อ้างถึง
ข้อความของ prapasri AH เมื่อ 07 พฤศจิกายน 2553, 13:38:18
หมอเสียด e-mail พรเทพ16

thailandlaw@hotmail.com ค่ะ

ขอบพระคุณค่ะพี่แอ๊ะ  ทั้งส่ง email และฝากข้อความแล้วค่ะ   emo6::))

อยากให้พรเทพ มาเจอเพื่อนRCU 16 โดย มาพบปะกันที่หอพักนิสิตจุฬาฯ   ณ. ห้องประชุม 2 (ติดกับ) สำนักงานหอพักนิสิตจุฬาฯ  ในวันศุกร์ที่ 19 พ.ย. 2553 เวลา 13.00 -16.00 น. ค่ะ  emo4:))
  

สวัสดีค่ะพี่แอ๊ะ    emo6::))

พรเทพตอบ email  แล้วว่า  อยากเจอเพื่อน แต่มาไม่ได้ค่ะ  emo45:(


หัวข้อ: Re: [2513] "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: prapasri AH ที่ 13 พฤศจิกายน 2553, 22:39:39

นี่ภรรยา หรือ ภรรระลูก คะ ยังเด็กๆอยู่เลย เอ๊าะๆๆ จนน้องปลาทูแมนริษยา

ปล.ริษยาเป็นเพื่อนกะอิจฉา 5..55555


อ้างถึง
ข้อความของ ดร.มนตรี เมื่อ 12 พฤศจิกายน 2553, 19:53:06
อ้างถึง
ข้อความของ patooman 64 เมื่อ 12 พฤศจิกายน 2553, 16:25:43
หมั่นใส้ พวกมีลูกเมียหน้าตาดี ชอบเอามาอวดให้ริษยา

ผมผิดไปแล้วคร๊าบบ ...


ปล.

ภรรยามาุคุม
  emo20:)):) emo20:)):)

(http://www.cmadong.com/imageupload/2010_Cmadong-Image/data/image/lbrvr4-1e9e7d.jpg)

(http://www.cmadong.com/imageupload/2010_Cmadong-Image/data/image/lbrvws-caefe0.jpg)





หัวข้อ: Re: [2513] "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: suriya2513 ที่ 13 พฤศจิกายน 2553, 23:12:34
อ้างถึง
ข้อความของ prapasri AH เมื่อ 13 พฤศจิกายน 2553, 22:39:39

นี่ภรรยา หรือ ภรรระลูก คะ ยังเด็กๆอยู่เลย เอ๊าะๆๆ จนน้องปลาทูแมนริษยา

ปล.ริษยาเป็นเพื่อนกะอิจฉา 5..55555
แล้วเป็นอะไรกับสุริยา


หัวข้อ: Re: [2513] "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: prapasri AH ที่ 14 พฤศจิกายน 2553, 10:19:51
อ้างถึง
ข้อความของ suriya2513 เมื่อ 13 พฤศจิกายน 2553, 23:12:34
อ้างถึง
ข้อความของ prapasri AH เมื่อ 13 พฤศจิกายน 2553, 22:39:39

นี่ภรรยา หรือ ภรรระลูก คะ ยังเด็กๆอยู่เลย เอ๊าะๆๆ จนน้องปลาทูแมนริษยา

ปล.ริษยาเป็นเพื่อนกะอิจฉา 5..55555
แล้วเป็นอะไรกับสุริยา

สุริยา เป็นพ่อหม้ายเมียเผลอ อิๆๆๆๆ


หัวข้อ: Re: [2513] "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: prapasri AH ที่ 14 พฤศจิกายน 2553, 10:22:33
ถ้าเมียไม่เผลอ ต้องหยั่ง ซี่ ... หยังซี่....

โกรกผมหงอกขาว ให้ดำจ้า

ตากระป๋องหามีคนทำให้ไม่

คงต้องโกรก เอง เเต่อาจจะไม่มีผมให้โกรก (ฮา)

(http://www.cmadong.com/imageupload/2010_Cmadong-Image/data/image/lbuumn-f20b4e.jpg)

ยามแก่ นะน้องปลาทูแมน และน้องดร.มนตรี สวีทหวานนนนนนนนน จ๋า


หัวข้อ: Re: [2513] "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: เหยง 16 ที่ 14 พฤศจิกายน 2553, 11:52:30
ข่าวที่พอจะทำให้คนไทย มีอารมณ์ดีขึ้นบ้าง แม้จะยังไม่ดีมากนักก็คือ เหรียญเงินเอเชี่ยนเกมส์ เหรียญแรกจากยกน้ำหนักหญิง ในขณะที่ชาวไทยทั้งในภาคอีสานและภายใต้ยังจมน้ำในหลายๆพื้นที่

ทัพ อชก.ไทยประเดิมเหรียญแล้ว! "เพ็ญศิริ เหล่าศิริกุล" ยกน้ำหนักสาวขึ้นแท่นซิวเหรียญเงิน
วันที่ 13 พฤศจิกายน พ.ศ. 2553 เวลา 19:09:25 น.

(http://img139.imageshack.us/img139/2705/asiangame1.jpg)

เพ็ญศิริ เหล่าศิริกุล คว้าเหรียญเงินเป็นการประเดิมเหรียญรางวัลของทัพนักกีฬาไทยในการแข่งขันกวางโจว เกมส์ได้สำเร็จ หลังลงแข่งขันยกน้ำหนักหญิงประเภทน้ำหนักตัวไม่เกิน 48 กิโลกรัม
 

โดยยกในท่าแสนชได้น้ำหนัก 83 กิโลกรัม และท่าคลีน แอนด์ เจิร์คที่ 109 กิโลกรัม รวมน้ำหนัก 192 กิโลกรัม ขึ้นแท่นรับเหรียญเงินไปเป็นที่เรียบร้อย


เหรียญทองตกเป็นของนักกีฬาจีน คือหวัง หมิงจวน แชมป์เก่าจากโดฮา เกมส์ สร้างสถิติเอเชี่ยน เกมส์ใหม่ ยกน้ำหนักรวมไปได้ถึง 210 กิโลกรัม โดยทำสถิติใหม่ในท่าแสนชที่ 95 กิโลกรัม ส่วนท่าคลีน แอนด์ เจิร์คยกได้ 115 กิโลกรัม


ด้าน เชน เหว่ย หลิง นักกีฬาไทเปยกท่าแสนชได้ 86 กิโลกรัม แต่มาพลาดในท่าคลีน แอนด์ เจิร์ค ไม่สามารถยกน้ำหนักที่ 110 กิโลกรัมตามที่เรียกได้ ส่งผลให้ทำน้ำหนักรวมได้ 191 กิโลกรัมน้อยกว่าเพ็ญศิริแค่ 1 กิโลกรัม คว้าเหรียญทองแดงไปครอง

 
ก่อนหน้านี้ ในช่วงเวลาใกล้กันไทยมีลุ้นชิงเหรียญยกน้ำหนักชาย น้ำหนักตัวไม่เกิน 56 กิโลกรัมจากวันชัย เหมือนนึก ยกท่าสแนทช์ได้ 102 ในครั้งที่ 3 อย่างหวุดหวิด ท่าคลีน แอนด์ เจิร์คที่ 130 กิโลกรัม น้ำหนักรวม 232 กิโลกรัม จบที่อันดับ 9

http://www.matichon.co.th/news_detail.php?newsid=1289650717&grpid=02&catid=07&subcatid=0798


หัวข้อ: Re: [2513] "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: suriya2513 ที่ 14 พฤศจิกายน 2553, 12:32:49
(http://www.cmadong.com/imageupload/2010_Cmadong-Image/data/image/lbuumn-f20b4e.jpg)

สงสารพี่หมอจังเลย แทนที่จะไปให้ช่างเสริมสวยวัยสาวเอ๊าะๆ ทำให้
ก็ไม่มีโอกาส เจอแต่ช่างแอ๊ะๆ เนี่ย ไม่เบื่อตายหรือครับพี่หมอ


หัวข้อ: Re: [2513] "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: prapasri AH ที่ 14 พฤศจิกายน 2553, 15:21:29
เอออจริง ด้วย ควรจะให้พี่หาญไปหาช่าง โกรกให้บ้าง ชิมิเคอะ

มาโกรกกะช่างแก่ๆอยู่  ล่าย ชิมิ


หัวข้อ: Re: [2513] "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: พธู ๒๕๒๔ ที่ 14 พฤศจิกายน 2553, 16:21:31
พิจารณาจากหน้าตาพี่หมอ ดูเหมือนเต็มใจอยู่นา (แต่แค่ไหนไม่รู้/อาจมีทางเลือกเดียวก้อได้)5555


หัวข้อ: Re: [2513] "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: ดร.มนตรี ที่ 14 พฤศจิกายน 2553, 16:28:46
อ้างถึง
ข้อความของ prapasri AH เมื่อ 14 พฤศจิกายน 2553, 10:22:33
ถ้าเมียไม่เผลอ ต้องหยั่ง ซี่ ... หยังซี่....

โกรกผมหงอกขาว ให้ดำจ้า

ตากระป๋องหามีคนทำให้ไม่

คงต้องโกรก เอง เเต่อาจจะไม่มีผมให้โกรก (ฮา)

(http://www.cmadong.com/imageupload/2010_Cmadong-Image/data/image/lbuumn-f20b4e.jpg)

ยามแก่ นะน้องปลาทูแมน และน้องดร.มนตรี สวีทหวานนนนนนนนน จ๋า

น่ารักที่สุดในโลก ครับ พี่แอ๊ะ พี่หาญ emo9:huhu: emo9:huhu: emo6::)) emo6::))


ขออนุญาต SAVE เก็บ นะครับ ...ภาพแห่งความประทับใจ  
 emo9:huhu: emo9:huhu: emo6::)) emo6::))


ปล.

สวัสดีพี่ๆทุกท่าน ด้วยครับ
emo6::))


หัวข้อ: Re: [2513] "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: ภาณุ ปาตานี ที่ 15 พฤศจิกายน 2553, 06:38:27

สวัสดีครับพี่แอ๊ะและพี่น้อง

นึกว่าพี่แอ๊ะเปิดร้านเสริมสวยในโรงพยาบาล


หัวข้อ: Re: [2513] "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: เหยง 16 ที่ 15 พฤศจิกายน 2553, 14:38:10
น้ำท่วมยังไม่จบนะครับ

ปภ.สรุปพิษน้ำท่วมล่าสุด 17 จังหวัด เสียชีวิต 224ราย
15 พย. 2553 12:45 น.

นายวิบูลย์ สงวนพงศ์ อธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย(ปภ.) กล่าวถึงสถานการณ์อุทกภัยว่า ยังคงมีสถานการณ์อุทกภัยในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และภาคกลาง รวม 13 จังหวัด 55 อำเภอ 427 ตำบล 2,881 หมู่บ้าน ราษฎรเดือดร้อน 234,383 ครัวเรือน 820,941 คน พื้นที่การเกษตรเสียหาย 6,316,156 ไร่ ผู้เสียชีวิต 152 ราย แบ่งเป็น ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ 7 จังหวัด ภาคกลาง 6 จังหวัด ส่วนภาคใต้ยังคงมีสถานการณ์อุทกภัย ใน 4 จังหวัด 45 อำเภอ 324 ตำบล 2,800 หมู่บ้าน ราษฎรเดือดร้อน 210,206 ครัวเรือน 672,098 คน ผู้เสียชีวิต 72 ราย

อย่างไรก็ตาม ขณะนี้ทั่วประเทศมีพื้นที่ประสบอุทกภัย รวม 17 จังหวัด 100 อำเภอ 751 ตำบล5,681 หมู่บ้าน 444,589 ครัวเรือน 1,493,039 คน มีผู้เสียชีวิต 224ราย ทั้งนี้ ผู้ประสบอุทกภัยสามารถติดต่อขอความช่วยเหลือได้ทางสายด่วนนิรภัย 1784 ตลอด 24 ชั่วโมง

http://breakingnews.nationchannel.com/read.php?newsid=479659&lang=T&cat=


หัวข้อ: Re: [2513] "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: suriya2513 ที่ 15 พฤศจิกายน 2553, 18:10:15
อ้างถึง
ข้อความของ YA เมื่อ 15 พฤศจิกายน 2553, 06:38:27

สวัสดีครับพี่แอ๊ะและพี่น้อง

นึกว่าพี่แอ๊ะเปิดร้านเสริมสวยในโรงพยาบาล
ช่างตกรุ่นราวๆ นี้ เปิดไปก็ไม่คุ้มค่าไฟครับ


หัวข้อ: Re: [2513] "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: อ้อย 14 ที่ 15 พฤศจิกายน 2553, 21:56:34
 emo43 5555พี่ๆ 13 นี่ น่ารัก จริงๆ  emo43


หัวข้อ: Re: [2513] "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: prapasri AH ที่ 20 พฤศจิกายน 2553, 21:48:11
ทิ้งห้องที่หอไปหลายวัน เพราะไปท่องในโลกกว้าง fb โน่นแน่ะ

ว่าจะมาแบ่งบุญให้ตั้งแต่วันทอดกฐินเลย วันนี้มาแบ่งบุญให้น้องๆ จ้า

เราๆท่านๆๆทั้งหลายต้องฝึกการกล่าวคำถวายผ้ากฐินไว้นะคะ

หากวันใดมีโอกาสได้เป็นประธานในการถวายผ้ากฐินจะได้ไม่ต้องอ่าน

อย่างพี่แอ๊ะนี่ แหละ ค่า

(http://www.cmadong.com/imageupload/2010_Cmadong-Image/data/image/lc6uc5-fc33be.jpg)


หัวข้อ: Re: [2513] "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: prapasri AH ที่ 20 พฤศจิกายน 2553, 21:50:11
(http://www.cmadong.com/imageupload/2010_Cmadong-Image/data/image/lc6uja-0c2e70.jpg)


หัวข้อ: Re: [2513] "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: เหยง 16 ที่ 20 พฤศจิกายน 2553, 21:53:42
สวัสดีครับ พี่แอ๊ะ

อนุโมทนาบุญกฐินด้วยครับ


หัวข้อ: Re: [2513] "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: prapasri AH ที่ 20 พฤศจิกายน 2553, 21:55:31
ทำไมรูปมันเล็กอย่างนี้ก็ไม่ทราบ

(http://www.cmadong.com/imageupload/2010_Cmadong-Image/data/image/lc6ul0-80b549.jpg)

ดร.เจษฎ์ โทณวนิก และคุณ มโนทัย ปราโมช ณ อยุธยา

เขาชวนพี่แอ๊ะทำกฐินที่วัดภูถ้ำพระจังหวัดยโสธร

เขาอนุโมทนาบูญมาจากกรุงเทพ และพี่แอ๊ะมา ต่อยอด ที่ยโสธร (เล็กๆน้อยๆนิดเดียวจริงๆ)

เรียกว่ากฐินสามัคคี พี่แอ๊ะ งงมาก  คนละเล็กละน้อยจริงๆ พี่แอ๊ะติดต้นกฐินที่วางไว้ที่ร.พ

คนไข้ มาอนุโมทนา คนละ 20-50-100 บาทเท่านั้น ก่อนผ่าตัด มาติด 20บาท ผ่าตัดเสร็จกลับบ้านติดอีก 50บาท

ขอทำบุญกับหมอหาญ ชาติหน้าจะเกิดมาเป็นหมอหาญ ให้หมอหาญเป็นคนไข้ จะได้ถูกผ่า บ้าง ชิมิ

รวมกับทีมาจากกรุงเทพ เลยได้ปัจจัยให้วัด ล้านกว่าบาท แน่ะ เป็นงง

ที่สำคัญวัดจะได้มีที่ให้พระได้มาอยู่บนภูนี้


หัวข้อ: Re: [2513] "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: prapasri AH ที่ 20 พฤศจิกายน 2553, 21:57:51

(http://www.cmadong.com/imageupload/2010_Cmadong-Image/data/image/lc6uvy-7b26a3.jpg)


หัวข้อ: Re: [2513] "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: prapasri AH ที่ 20 พฤศจิกายน 2553, 22:00:51

(http://www.cmadong.com/imageupload/2010_Cmadong-Image/data/image/lc6uzl-5779a1.jpg)


ถวายหลวงตาหมดเลย หลวงตาบอกว่า ยังไม่มีใครมาเท่าบุญให้หลวงตาอย่างนี้เลยตั้งแต่ตั้งวัดมา


หัวข้อ: Re: [2513] "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: prapasri AH ที่ 20 พฤศจิกายน 2553, 22:02:30

เสียดายจัง รูปเล็กมาก จะทำบุญทั้งทีทำรูปให้ใหญ่อวดน้องๆหน่อยก้ไม่ล่ายยยยยยยย ชิมิเคอะ


หัวข้อ: Re: [2513] "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: prapasri AH ที่ 20 พฤศจิกายน 2553, 22:04:53
อ้างถึง
ข้อความของ เหยง 16 เมื่อ 20 พฤศจิกายน 2553, 21:53:42
สวัสดีครับ พี่แอ๊ะ

อนุโมทนาบุญกฐินด้วยครับ

แบ่งบูญให้เหยงเยอะเลย ปกติ พี่แอ๊ะไม่ค่อยได้เข้าวัดวาเท่าไรเลย

เด็กๆ จากกรุงเทพ เป็นหนูน้อยไฮโซแต่มีสาระ มาชวนคุณแม่แอ๊ะทำบูญค่ะ


หัวข้อ: Re: [2513] "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: เหยง 16 ที่ 21 พฤศจิกายน 2553, 11:50:46
พี่แอ๊ะครับ

กล้องที่พี่ถืออยู่อาจเซ็ทให้บันทึกภาพที่ขนาด 104 X 104 พิกเซล ซึ่งเล็กมากครับ
พี่ลองให้ใครเซ็ทกล้องให้ใหม่ โดยให้อยู่ที่ 640 X 480 pixels ก็ได้ครับ ภาพจะพอดีโพสต์ในเว็ปนี้เลย
แต่หากจะใช้ไปอัดเป็นภาพสีต้องใหญ่กว่านี้อีกครับ


หัวข้อ: Re: [2513] "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: prapasri AH ที่ 21 พฤศจิกายน 2553, 13:45:21
เหยง เอ๊ยยยยยยยย

ภาพนี้ เจ้าหน้าที่การตลาด ที่ ร.พ มุกอินเตอร์ของ พี่แอ๊ะเขาถ่ายมาเป็นวิดิโอ อ่ะ

(วัดนี้อยู่ ที่อ.เลิงนกทา รอยต่อกับมุกดาหาร)

แล้ว ส่งเป็นอีแมว มาให้พี่แอ๊ะ

พี่แอ๊ะก็ไป save ๆๆ มา

เลยได้มาหยั่งซี๊และค่า

อายุจะ 60 เข้าเนตทั้งวัน ทั้งคืน ได้ก็บุญแล้วเนาะ

หรือบ้า ก็ไม่รู้ นะ555555555555555

เพราะบางทีเด็กๆเขาเห็นคนแก่เล่นเนต เขาว่ายายแก่นี้เเกเพี้ยน

 แถมยัง นั่งจิ้ม บีบี ไอโฟน ไอเเพดอยู่ได้ ชิมิเคอะ


หัวข้อ: Re: [2513] "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: prapasri AH ที่ 21 พฤศจิกายน 2553, 20:58:45
เฮ..คงไปลอยกระทงกันหมด ไม่มีใครเข้ามาห้องนี้เลย

ไป สู่โลกกว้าง อันเเคบของ fb  cmadong  หมดซะแหล่ววววววววว

ไว้ไปสุราษฎร์กลับมาก่อนแล้วจะเฉลย นะคะ

พรุ่งนี้ต้องไปประชุมค่ะ


หัวข้อ: Re: [2513] "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: เหยง 16 ที่ 21 พฤศจิกายน 2553, 22:50:31
ไปลอยกระทงมาครับ แต่มีมากที่รอลอยช่วงก่อนเที่ยงคืน โดยเฉพาะที่เป็นคู่หนุ่ม-สาว นั่งคุยกันเต็มลานวัดเลย


หัวข้อ: Re: [2513] "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: suriya2513 ที่ 24 พฤศจิกายน 2553, 21:09:42
เรียนคุณนายแอ๊ะ ประภาศรี โปรดทราบ

วันนี้ผมได้รับโทรศัพท์จากคุณนายแจ๋ว พิมลรัตน์ เพื่อนรักร่วมรุ่นของเรา
สั่งให้ผมโพสท์บอกคุณนายว่า คุณนายแอ๊ะน่าจะไปร่วมขบวนกับพวกเราชาวหอฯ
ตั้งแต่เช้าวันเสาร์ จึงจะควรมากที่สุด ไม่ใช่รอจนพวกเราจะกลับกทม.แล้วจึงไปร่วมขบวนส่ง

จึงเรียนมาเพื่อโปรดพิจารณา

ป๋อง สุริยา 2513


หัวข้อ: Re: [2513] "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: Kaimook ที่ 24 พฤศจิกายน 2553, 22:10:18
 สวัสดีค่ะพี่แอ๊ะและพี่ๆทุกท่าน ป๋าทุ น้องดร.มนตรี...พี่แอ๊ะขราาาาน่าชื่นใจจังค่ะพี่แอ๊ะโกรกผมให้พี่หมอหาญด้วยน่าชื่นใจจังค่ะ...


หัวข้อ: Re: [2513] "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: prapasri AH ที่ 24 พฤศจิกายน 2553, 22:26:03
หวัดดีค่ะ

พี่แอ๊ะลงเครืองบินมาจากสุราษฏร์  เลยเข้า cmadong .com


น้องไข่มุกดีใจจัง อายุน้องต้องยืนแน่ๆเลย เพราะไม่ค่อยมีคนมาเม้น

พี่แอ๊ะเลยนึกถึงน้องไข่มุก ว่าหายไปไหนนานจังงงงงงงงงงง

น้องก็มาทันที่เเสดงว่า อายุยืน อิๆๆๆๆ

พี่ป๋องอิจฉา อ่ะอ่ะอ่ะ



หัวข้อ: Re: [2513] "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: prapasri AH ที่ 24 พฤศจิกายน 2553, 22:29:50
น้องกะป๋อง

ถ้าฉันไปหนองบัวลำพู ก็เป็นเรื่องใหญ่ดิ

ผู้ว่าต้องเหนื่อยอีก ท่านต้องมารับฉันแน่ๆ เพราะสนิท กันมาก

ท่านชื่อ ท่านวินัย บัวประดิษฐ์

จบราม แต่สนิท กันมาก

เป็นเรื่องใหญ่แน่ ถ้าฉันไปหนองบัวแล้วไม่แจ้งให้ท่านทราบว่าฉันข้ามอาณาจักรมา

5555555555555555555


หัวข้อ: Re: [2513] "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: suriya2513 ที่ 24 พฤศจิกายน 2553, 22:36:26
ข้ออ้างฟังไม่ขึ้นเลยครับคุณนายแอ๊ะ


หัวข้อ: Re: [2513] "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: prapasri AH ที่ 25 พฤศจิกายน 2553, 09:04:49
ป๋อง
ฉันไม่หนุ่มเท่าเธอนะ ที่จะนั่งรถไกลๆได้

เธอรู้ไหม จาก ยโสไป อุดร หรือหนองบัว

ระยะทางเท่ากับนั่งรถไปกรุงเทพเชียวนา

ถ้าให้ดีเธอเอาเฮลิคอปเตอร์มารับฉันดิ

ฉันจะนั่ง ฮ.ไปหาเธอ


หัวข้อ: Re: [2513] "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: อ้อย 14 ที่ 25 พฤศจิกายน 2553, 11:36:00
พี่แอ๊ะคะ

                พี่ไม่มาประชุม หอการค้า ที่ขอนแก่นหรือคะ


หัวข้อ: Re: [2513] "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: ดร.มนตรี ที่ 27 พฤศจิกายน 2553, 15:05:46
อ้างถึง
ข้อความของ prapasri AH เมื่อ 21 พฤศจิกายน 2553, 20:58:45
เฮ..คงไปลอยกระทงกันหมด ไม่มีใครเข้ามาห้องนี้เลย

ไป สู่โลกกว้าง อันเเคบของ fb  cmadong  หมดซะแหล่ววววววววว

ไว้ไปสุราษฎร์กลับมาก่อนแล้วจะเฉลย นะคะ

พรุ่งนี้ต้องไปประชุมค่ะ



เข้ามาสวัสดีพี่แอ๊ะและพี่ๆ ทุกท่านครับ ...

ผมไปเปิดหูเปิดตา ที่ประเทศเพื่อนบ้านมาครับพี่แอ๊ะ ... ตอนนี้กลับถึงเมืองไทยแล้ว ...



ปล.

ขออนุญาตรับบุญกฐินด้วยคน นะครับ...

สัปดาห์หน้า ต้องไปท่องโลกกว้างต่ออีก ^_^


(http://www.cmadong.com/imageupload/2010_Cmadong-Image/data/image/lcixbr-3fce13.jpg)

(http://www.cmadong.com/imageupload/2010_Cmadong-Image/data/image/lciyna-3e4ff4.jpg)


หัวข้อ: Re: [2513] "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: prapasri AH ที่ 27 พฤศจิกายน 2553, 20:40:45
น้องดร.มนตรีไปไหนคะ

พี่แอ๊ะจะไปเซี่ยงไฮ้ 13-17 ธค. ค่ะ

ไปดูเครื่องมือ  ตัดมะเร็งตับบบบบบบบบบ

ด้ว ยความร้อน และอัลตร้าซาวด์ ค่ะ ชื่อ hi-fu


high itensity focused ultrasound  

แปลกมากที่ประเทศจีนผลิตได้

และใช้รักษาคนไข้มะเร็งแทนการให้คีโม


หัวข้อ: Re: [2513] "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: เหยง 16 ที่ 29 พฤศจิกายน 2553, 13:53:35
สวัสดีครับ พี่แอ๊ะ

เมื่อคืนได้พบกับ RCU ทัวร์ค่าย 3 ที่มหาสารคามแล้ว อบอุ่นไหม ขอดูบรรยากาศหน่อยครับ


หัวข้อ: Re: [2513] "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: suriya2513 ที่ 29 พฤศจิกายน 2553, 22:45:31
ซื้อ ฮ. ได้แล้วครับ คนดีศรีอีสาน ผู้อำนวยการใหญ่โรงพยาบาล 9 แห่งในเครือ DR.HANN

มิฉะนั้นจะเสียเวลานั่งรถจนอาน ไปตรวจงานไม่ได้ทั่ว


หัวข้อ: Re: [2513] "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: prapasri AH ที่ 30 พฤศจิกายน 2553, 00:25:10
เตรียมรับดร.ป๋อง คนดีศรีซีมะโด่ง

(http://img98.imageshack.us/img98/6628/img11710.jpg)


หัวข้อ: Re: [2513] "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: prapasri AH ที่ 30 พฤศจิกายน 2553, 00:26:51
พ่อใหญ่แม่ใหญ่ ลงกันมาจากรถทัวร์อ่ะ

(http://img98.imageshack.us/img98/5544/img1175a.jpg)


หัวข้อ: Re: [2513] "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: prapasri AH ที่ 30 พฤศจิกายน 2553, 00:29:07
กาเป๋า จี๋จมพู อีกตามเคยยยยยยยยยยยยยยย

(http://www.cmadong.com/imageupload/2010_Cmadong-Image/data/image/lcnptz-7d8a51.jpg)


มาเยี่ยม hann group ปีละครั้ง ได้กาเป๋า เป็น collection ใหม่นะฮ้า

(http://www.cmadong.com/imageupload/2010_Cmadong-Image/data/image/lcnptz-7d8a51.jpg)


หัวข้อ: Re: [2513] "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: suriya2513 ที่ 30 พฤศจิกายน 2553, 00:31:51
อย่างนี้ต้องไปตรวจความก้าวหน้าทุกปี


หัวข้อ: Re: [2513] "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: prapasri AH ที่ 30 พฤศจิกายน 2553, 00:32:01
ดีใจมากกว่าได้กระเป๋าหลุยวิตตองส์อีก

เรียกว่ารุ่น limited ค่ะ

(http://www.cmadong.com/imageupload/2010_Cmadong-Image/data/image/lcnq3t-f43d43.jpg)


หัวข้อ: Re: [2513] "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: prapasri AH ที่ 30 พฤศจิกายน 2553, 00:37:33
ย่างหมูสะเต๊ะ อร่อยสุดในมหาสารคาม

(http://www.cmadong.com/imageupload/2010_Cmadong-Image/data/image/lcnq92-06bab7.jpg)


ร.พ นี้ขายหมูสะเต๊ะซะแหล่ววววววววววววววว


หัวข้อ: Re: [2513] "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: prapasri AH ที่ 30 พฤศจิกายน 2553, 00:42:32
สส .พ่อแม่พี่น้อง ครับ สส. มาแล้ววววววววววววววว

(http://img225.imageshack.us/img225/9746/img1292d.jpg)


หัวข้อ: Re: [2513] "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: prapasri AH ที่ 30 พฤศจิกายน 2553, 00:46:04
เจ้าของบ้าน เหาะมาช้ากว่าเเขกอ่ะ

ติดงานสำคัญที่ยโสธร ค่ะ

(http://img217.imageshack.us/img217/8764/img12900.jpg)


หัวข้อ: Re: [2513] "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: prapasri AH ที่ 30 พฤศจิกายน 2553, 00:48:08
น้องเป็นสาวขอนแก่น น้องบ่เคยมีแฟน บ้านอยู่เเดนอิสาน

(http://www.cmadong.com/imageupload/2010_Cmadong-Image/data/image/lcnqqb-bfe0b4.jpg)



หัวข้อ: Re: [2513] "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: prapasri AH ที่ 30 พฤศจิกายน 2553, 00:51:59
 พิธีกร กรรณิกา ธรรมเกษร ภริยานายพล

ขอเเนะนำ สุรนารี ณ ราชสีมา ค่ะ


หัวข้อ: Re: [2513] "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: prapasri AH ที่ 30 พฤศจิกายน 2553, 00:58:06
อ๊าววววววววว หลานย่าโมไม่มาซะเเหล่ว

รอพรุ่งนี้นะคะ


หัวข้อ: Re: [2513] "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: เหยง 16 ที่ 30 พฤศจิกายน 2553, 11:47:05
อ้างถึง
ข้อความของ prapasri AH เมื่อ 30 พฤศจิกายน 2553, 00:29:07
กาเป๋า จี๋จมพู อีกตามเคยยยยยยยยยยยยยยย

(http://www.cmadong.com/imageupload/2010_Cmadong-Image/data/image/lcnptz-7d8a51.jpg)


มาเยี่ยม hann group ปีละครั้ง ได้กาเป๋า เป็น collection ใหม่นะฮ้า

(http://www.cmadong.com/imageupload/2010_Cmadong-Image/data/image/lcnptz-7d8a51.jpg)

ไม่ยอม! ไม่ยอม! เด็ดขาด  emo19:((:  emo19:((:


หัวข้อ: Re: [2513] "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: wannee ที่ 30 พฤศจิกายน 2553, 13:05:06

กราบขอบพระคุณพี่หมอหาญ และพี่แอ๊ะ ที่ให้การต้อนรับที่ประทับใจ และอบอุ่นยิ่งค่ะ  emo6::))


หัวข้อ: Re: [2513] "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: ดร.มนตรี ที่ 30 พฤศจิกายน 2553, 14:26:34
น้ำใจน้องพี่สีชมพู  emo43


หัวข้อ: Re: [2513] "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: ดร.มนตรี ที่ 30 พฤศจิกายน 2553, 14:31:24
อ้างถึง
ข้อความของ prapasri AH เมื่อ 27 พฤศจิกายน 2553, 20:40:45
น้องดร.มนตรีไปไหนคะ

พี่แอ๊ะจะไปเซี่ยงไฮ้ 13-17 ธค. ค่ะ

ไปดูเครื่องมือ  ตัดมะเร็งตับบบบบบบบบบ

ด้ว ยความร้อน และอัลตร้าซาวด์ ค่ะ ชื่อ hi-fu


high itensity focused ultrasound  

แปลกมากที่ประเทศจีนผลิตได้

และใช้รักษาคนไข้มะเร็งแทนการให้คีโม


ดีจังเลยครับพี่แอ๊ะ ... คนไข้จะได้ไม่ต้องทรมานจาก Side Effect ของ คีโม ...  emo6::))


ปล.

ผมไปยุโรป ต่อครับ ...

และปีนี้คงไปจบอีกครั้ง ที่ อเมริกา ในเดือน ธ.ค. (ถ้าไม่หมดแรงข้าวต้มเสียก่อน ครับ  emo:()


หัวข้อ: Re: [2513] "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: prapasri AH ที่ 30 พฤศจิกายน 2553, 20:58:09
สวยเซ็กซี่ นี่เป็น พยาบาล หมดเลยนะเหยง พอเเต่งตัวอย่างนี้พี่แอ๊ะก็จำ หนูๆนี้ ไม่ได้เลย

(http://img220.imageshack.us/img220/250/img1187resize.jpg)


หัวข้อ: Re: [2513] "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: prapasri AH ที่ 30 พฤศจิกายน 2553, 20:59:56
น้องนาง เอ๊ยเเม่เฒ่าคนนี้ ไม่ตามหาไดโนเสา แต่ตามหากาเป๋า5555

(http://img220.imageshack.us/img220/3289/img1214be.jpg)


หัวข้อ: Re: [2513] "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: prapasri AH ที่ 30 พฤศจิกายน 2553, 21:02:51
เพื่อนเเจ๋ว กะเพื่อนเหน่ง13 ให้คลุมผ้าจี๋จมพู ก่อนลิเกจะออกโรง  อ่ะ

(http://www.cmadong.com/imageupload/2010_Cmadong-Image/data/image/lcpayt-4bded8.jpg)



หัวข้อ: Re: [2513] "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: prapasri AH ที่ 30 พฤศจิกายน 2553, 21:05:17
สงสารพนักงานพี่แอ๊ะไหม ตั้งใจเต็มที่  เพื่อ ชาวหอจุฬา

แบกเตาย่างหมูสะเต๊ะ

(http://www.cmadong.com/imageupload/2010_Cmadong-Image/data/image/lcpb2r-7c7481.jpg)


หัวข้อ: Re: [2513] "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: prapasri AH ที่ 30 พฤศจิกายน 2553, 21:06:36
หนุ่มหล่อ พ่อเฒ่า พ่อใหญ่ หอจุฬา

(http://www.cmadong.com/imageupload/2010_Cmadong-Image/data/image/lcpb61-be09e6.jpg)


หัวข้อ: Re: [2513] "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: prapasri AH ที่ 30 พฤศจิกายน 2553, 21:09:04
พี่ๆ จุฬามหาสารคาม มาต้อนรับด้วย พี่ ผู้หญิง จบอักษร อายุจะ 80แล้วค่ะ

เราๆแก่ทันพี่แล้ว

(http://www.cmadong.com/imageupload/2010_Cmadong-Image/data/image/lcpb92-d020db.jpg)


หัวข้อ: Re: [2513] "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: prapasri AH ที่ 30 พฤศจิกายน 2553, 21:11:40
ไก่ย่าง ส้มตำผลไม้เจ้าอร่อยสุดของจังหวัดนี้  ค่ะ


หัวข้อ: Re: [2513] "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: prapasri AH ที่ 30 พฤศจิกายน 2553, 21:12:45
(http://www.cmadong.com/imageupload/2010_Cmadong-Image/data/image/lcpbgv-a170d5.jpg)


หัวข้อ: Re: [2513] "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: prapasri AH ที่ 30 พฤศจิกายน 2553, 21:14:04
คนสวยร้อยเอ้ด

(http://www.cmadong.com/imageupload/2010_Cmadong-Image/data/image/lcpbis-99186b.jpg)


หัวข้อ: Re: [2513] "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: prapasri AH ที่ 30 พฤศจิกายน 2553, 21:15:52
พาลูกๆเอ๊ยน้องจุฬามาด้วยจะได้เรียนรู้งานของพี่ๆ

(http://www.cmadong.com/imageupload/2010_Cmadong-Image/data/image/lcpbkt-bc836a.jpg)


หัวข้อ: Re: [2513] "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: prapasri AH ที่ 30 พฤศจิกายน 2553, 21:17:16
สาวๆ อินเตอร์สารคามค่ะ

(http://www.cmadong.com/imageupload/2010_Cmadong-Image/data/image/lcpbo1-07ef74.jpg)


หัวข้อ: Re: [2513] "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: prapasri AH ที่ 30 พฤศจิกายน 2553, 21:20:11
นายพลตำรวจตรีเพื่อนเขยของพี่แอ๊ะ

กับ ประธานชมรมนิสิตเก่าจุฬามหาสารคาม

ประธานชมรมนิสิตเก่าสปิริตสูงมากค่ะ ท่านเข้าเป็นน้องใหม่ จุฬาปี2509 จบวิศวะ

เป็นคหบดี ของจังหวัดนี้ค่ะ

(http://www.cmadong.com/imageupload/2010_Cmadong-Image/data/image/lcpbwp-60c8a6.jpg)





หัวข้อ: Re: [2513] "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: prapasri AH ที่ 30 พฤศจิกายน 2553, 21:26:02
ลูกสะใภ้พี่แอ๊ะก็จบจุฬาค่ะ จบนิเทศ

(http://www.cmadong.com/imageupload/2010_Cmadong-Image/data/image/lcpc2a-0f36d8.jpg)


หัวข้อ: Re: [2513] "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: prapasri AH ที่ 30 พฤศจิกายน 2553, 21:27:59
น้าอ้อย จารุวรรณ 14 แกสวยไม่น้อยกว่าเด็กเลยนะนี่

(http://www.cmadong.com/imageupload/2010_Cmadong-Image/data/image/lcpc5b-fd008a.jpg)


หัวข้อ: Re: [2513] "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: prapasri AH ที่ 30 พฤศจิกายน 2553, 21:31:16
ยายซิ้มมาแล้ว ช่วงนี้เปล่งปลั่งด้วยฟามอ้วนค่ะ

ไม่ได้เดินออกกำลังกายมาเกือบปี น้ำหนักขึ้น 3 กิโลค่ะ

กลุ้มใจจัง ทำยังไงก็ไม่ลด

(http://www.cmadong.com/imageupload/2010_Cmadong-Image/data/image/lcpc97-5b1c38.jpg)


หัวข้อ: Re: [2513] "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: prapasri AH ที่ 30 พฤศจิกายน 2553, 21:34:08
ปิ๊ด น้องรัก น้องแอไม่มาด้วยหรือ

(http://www.cmadong.com/imageupload/2010_Cmadong-Image/data/image/lcpcft-acaae7.jpg)


หัวข้อ: Re: [2513] "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: prapasri AH ที่ 30 พฤศจิกายน 2553, 21:36:18

หมอเสียดก็สวย พี่แอ๊ะก็สวย อ้อย17 ก็สวย ชมกันหญ่ายยยยยยยยยยยยยยย

(http://www.cmadong.com/imageupload/2010_Cmadong-Image/data/image/lcpcj6-36a197.jpg)


หัวข้อ: Re: [2513] "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: prapasri AH ที่ 30 พฤศจิกายน 2553, 21:39:26
พี่แอ๊ะกับดร.ป๋องค่ะ ใครสวยกว่ากัน

 ช่วงนี้ดร.ป๋องหล่อขึ้น จนจำไม่ได้เเน่ะ

เเถมนั่งเงียบๆไม่ไม่พูดไม่จา  เพราะตามหาไดโนเสาแล้วไม่เจออ่ะ

(http://www.cmadong.com/imageupload/2010_Cmadong-Image/data/image/lcpcn7-3368e2.jpg)


หัวข้อ: Re: [2513] "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: prapasri AH ที่ 30 พฤศจิกายน 2553, 21:43:48
น้องนุชขา

(http://www.cmadong.com/imageupload/2010_Cmadong-Image/data/image/lcpcr0-a41988.jpg)


หารูป น้องนุชเจอแล้ว น่ารักมากขับรถมาจากอำนาจเจริญแน่ะ

เเถมมีของฝากมากมาย ข้าวเม่าอร่อยสุดๆ

ที่สำคัญที่สุดประทับใจกับน้องนุช ที่ชวนว่าไปอำนาจเจริญบ้างนะ

ถึงน้องนุชจะเป็นน้องเล็กๆ แต่ก็เลี้ยงพี่ๆได้

พี่เราดีใจกันใหญ่ จะไปให้น้องนุชเลี้ยงแน่นอนค่ะ

น่ารักจังน้องน้อยของเราคนนี้


หัวข้อ: Re: [2513] "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: prapasri AH ที่ 30 พฤศจิกายน 2553, 21:46:38
พ่อใหญ่หาญ มีฟามสุขมากๆ

(http://www.cmadong.com/imageupload/2010_Cmadong-Image/data/image/lcpd0q-77dea8.jpg)


หัวข้อ: Re: [2513] "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: pusadee sitthiphong ที่ 30 พฤศจิกายน 2553, 21:48:05
ตามดูค่ะ ยืนยันพี่แอ๊ะไม่อ้วนค่ะ


หัวข้อ: Re: [2513] "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: prapasri AH ที่ 30 พฤศจิกายน 2553, 21:50:54

(http://www.cmadong.com/imageupload/2010_Cmadong-Image/data/image/lcpd3o-b9b54d.jpg)

นายกเทศมนตรีเมืองมหาสารคาม นายแพทย์กิตติศักดิ์ คณาสวัสดิ์ ทาน น่ารก nice มากๆ

ให้เกียรติมาต้อนรับด้วยค่ะ

ท่านจบแพทย์ม.ขอนแก่น

แต่เคยรู้จักหอซีมะโด่งตอนอยู่ ร.ร เตรียมอุดมศึกษาเห็นชาวหอตีแบด กันอยู่ในหอชายค่ะ


หัวข้อ: Re: [2513] "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: prapasri AH ที่ 30 พฤศจิกายน 2553, 21:53:56
พิธีกร กรรริกา ธรรมเกสร คุณนายอนงค์ รุ่งเเจ้ง อักษร 13

เป็นพิธีกรเชิญ สุนารี ณราชสีมา มาออกโรงแล้วค่ะ

(http://www.cmadong.com/imageupload/2010_Cmadong-Image/data/image/lcpdbi-4fdc4a.jpg)


หัวข้อ: Re: [2513] "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: prapasri AH ที่ 30 พฤศจิกายน 2553, 21:58:59
หมอต้นกล้า คอยกำกับ แม่  ปาป๊า อย่าพูดมาก

(http://www.cmadong.com/imageupload/2010_Cmadong-Image/data/image/lcpdky-e4e8ac.jpg)


หัวข้อ: Re: [2513] "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: prapasri AH ที่ 30 พฤศจิกายน 2553, 22:00:46
หมอหาญ ปราศัย ค่ะ

(http://www.cmadong.com/imageupload/2010_Cmadong-Image/data/image/lcpdo7-ba3151.jpg)


หัวข้อ: Re: [2513] "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: prapasri AH ที่ 30 พฤศจิกายน 2553, 22:06:13
พงศธร น้องรัก ผู้บุกบิกค่ายเเรก ค่ายดงเสลา แน่ะ

น้องๆ คงจะงง นะ ว่าพี่แอ๊ะเป็นผู้ก่อตั้งค่ายหอจุฬามากับมือ

 และเป็น ผอ.ค่ายหญิง ที่ค่าย 2 ค่ายห้วยเเถลงค่ะ

ทำไมเพื่อนให้เป็นก็บ่ฮู้.. ยังเด้กมากตอนนั้น

(http://www.cmadong.com/imageupload/2010_Cmadong-Image/data/image/lcpduh-ff9adf.jpg)


หัวข้อ: Re: [2513] "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: prapasri AH ที่ 30 พฤศจิกายน 2553, 22:08:56
ก่อนจากกันขอสัญญา.. ฝากประทับตรึงตราจนกว่าจะพบกันใหม่

(http://www.cmadong.com/imageupload/2010_Cmadong-Image/data/image/lcpe19-3b0d9b.jpg)


หัวข้อ: Re: [2513] "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: prapasri AH ที่ 30 พฤศจิกายน 2553, 22:13:49
ปล่อยโคมด้วยกัน จะได้โชคดีทั้งปีนี้ ปีหน้าและปีต่อไป ค่ะ

(http://www.cmadong.com/imageupload/2010_Cmadong-Image/data/image/lcpe97-b51c70.jpg)


หัวข้อ: Re: [2513] "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: prapasri AH ที่ 30 พฤศจิกายน 2553, 22:15:36
โคม สีชมพูค่ะ

(http://www.cmadong.com/imageupload/2010_Cmadong-Image/data/image/lcpeda-18ca48.jpg)


หัวข้อ: Re: [2513] "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: prapasri AH ที่ 30 พฤศจิกายน 2553, 22:19:42
ปล่อยโคม ไอเดียลูกสะใภ้ค่ะ

(http://www.cmadong.com/imageupload/2010_Cmadong-Image/data/image/lcpeju-680251.jpg)


หัวข้อ: Re: [2513] "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: prapasri AH ที่ 30 พฤศจิกายน 2553, 22:26:06
(http://www.cmadong.com/imageupload/2010_Cmadong-Image/data/image/lcpeo6-4fa00d.jpg)

(http://www.cmadong.com/imageupload/2010_Cmadong-Image/data/image/lcpepp-c6aa06.jpg)


หัวข้อ: Re: [2513] "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: prapasri AH ที่ 30 พฤศจิกายน 2553, 22:27:48
(http://www.cmadong.com/imageupload/2010_Cmadong-Image/data/image/lcpexx-fb1c16.jpg)


หัวข้อ: Re: [2513] "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: prapasri AH ที่ 30 พฤศจิกายน 2553, 22:29:33
(http://www.cmadong.com/imageupload/2010_Cmadong-Image/data/image/lcpezs-0e7c7a.jpg)

(http://www.cmadong.com/imageupload/2010_Cmadong-Image/data/image/lcpf0t-e629e2.jpg)


หัวข้อ: Re: [2513] "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: prapasri AH ที่ 30 พฤศจิกายน 2553, 22:30:56
ขอส่งแค่นี้ก่อนนะคะ

จะไป แม่สอด สองสามวันค่ะ

กลับมาจะมาบรรยายต่อนะคะ


หัวข้อ: Re: [2513] "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: prapasri AH ที่ 30 พฤศจิกายน 2553, 22:38:14
อ้างถึง
ข้อความของ pusadee sittipong เมื่อ 30 พฤศจิกายน 2553, 21:48:05
ตามดูค่ะ ยืนยันพี่แอ๊ะไม่อ้วนค่ะ

ขอบคุณน้องผุสดี พี่แอ๊ะเเต่งหน้าเเต่งตัวไปงาน ใหญ่ที่ยโสธร มาก่อน

เลยเว่อไปหน่อยไม่สมเป็นชาวค่ายเล๊ยยยยยยยยยย

สัญญาว่าจะลดความอ้วนให้ได้ ให้ลงอีก 2 กิโล ค่ะ


หัวข้อ: Re: [2513] "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: หนุน'21 ที่ 02 ธันวาคม 2553, 09:26:46

เข้ามาสวัสดีพี่แอ๊ะ
และติดตามงานต้อนรับชาวซีมะโด่ง
อย่างอบอุ่นที่สุดของพี่หมอหาญ พี่แอ๊ะและครอบครัวครับ
อลังการจังเลยครับพี่

like like like


 emo6::)) emo6::))


หัวข้อ: Re: [2513] "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: อ้อย17 ที่ 02 ธันวาคม 2553, 09:35:04
อ้างถึง
ข้อความของ prapasri AH เมื่อ 30 พฤศจิกายน 2553, 21:14:04
คนสวยร้อยเอ้ด

(http://www.cmadong.com/imageupload/2010_Cmadong-Image/data/image/lcpbis-99186b.jpg)

   เหอเหอ...พี่แอ๊ะก็......เห็นน้องคนไหนสวยไปหมด....
  แม้กระทั่งคนร้อยเอ็ดคนนี้...อายค่ะ..เพราะน้องไม่ได้สวย..
  แต่พี่ป๋องยังสงสาร เลยยกให้เป็นคน "สวยตลก."..555...


หัวข้อ: Re: [2513] "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: jamsai ที่ 02 ธันวาคม 2553, 11:04:12
เสียดายยยยยยยย     ที่ไปไม่ได้

พี่แอ๊ะ พี่หมอหาญ ก็เป็นพี่ใหญ่น้ำใจ ท่วมท้น สำหรับน้องๆ เสมอ ชื่นใจแทนน้องๆจุฬาฯ

พี่แอ๊ะขา อวบอิ่มค่ะ มีสง่าราศร๊ สวยงามตามวัย กำลังพอดีค่ะ ไม่ต้องลดน้ำหนักหรอกค่ะ แต่ก็ไม่ต้องเพิ่มนะคะ

ส่งใบสมัครสมาคมไทย-ลาว มาให้ เปิด จดหมายดูนะคะ





หัวข้อ: Re: [2513] "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: เหยง 16 ที่ 02 ธันวาคม 2553, 12:20:46
มาสวัสดีในวันที่ 2 ธันวาคม ครับ

น้ำที่ท่วมอยู่ ลดทั้งหมดแล้วหรือยัง??


หัวข้อ: Re: [2513] "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: อ้อย 14 ที่ 04 ธันวาคม 2553, 07:49:06
พี่แอะ คะ

                  ขอชมภาพของขวัญที่ ชาวคณะเยี่ยมค่าย มอบให้ด้วย  เป็นฝีมือของ น้องชัชชัย  ชาวยโส ค่ะ


หัวข้อ: Re: [2513] "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: ดร.มนตรี ที่ 04 ธันวาคม 2553, 09:43:37
Sawasdee krub, P' Ah' and P' Ah's Fan club... emo6::))


(http://www.cmadong.com/imageupload/2010_Cmadong-Image/data/image/lcvu71-1acd92.jpg)

(http://www.cmadong.com/imageupload/2010_Cmadong-Image/data/image/lcvu7w-526120.jpg)



หัวข้อ: Re: [2513] "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: suriya2513 ที่ 04 ธันวาคม 2553, 09:52:33
อ้างถึง
ข้อความของ ดร.มนตรี เมื่อ 30 พฤศจิกายน 2553, 14:26:34
น้ำใจน้องพี่สีชมพู  emo43
ไม่ใช่น้ำใจอย่างเดียว กระเป๋าที่พี่แอ๊ะแจกด้วยครับ ที่สีชมพู


หัวข้อ: Re: [2513] "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: prapasri AH ที่ 04 ธันวาคม 2553, 10:14:59
ดร.มนตรี ประตู ห้องประชุม สวยจัง เอ๊ยไม่ใช่ ดร. หล่อจังเลย

ขอบคุณที่ไปไหนมาไหนเเล้วยังไม่ลืมเวบหอ พี่แอ๊ะเลยอยากตามไปเที่ยวด้วยจัง

อ้างถึง
ข้อความของ ดร.มนตรี เมื่อ 04 ธันวาคม 2553, 09:43:37
Sawasdee krub, P' Ah' and P' Ah's Fan club... emo6::))


(http://www.cmadong.com/imageupload/2010_Cmadong-Image/data/image/lcvu71-1acd92.jpg)

(http://www.cmadong.com/imageupload/2010_Cmadong-Image/data/image/lcvu7w-526120.jpg)




หัวข้อ: Re: [2513] "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: prapasri AH ที่ 04 ธันวาคม 2553, 10:17:54
จริงๆชอบรูปนี้มากค่ะ เพราะ บังเอิญรูปออกมาสวย ค่ะ

แต่รูปทีน้องธัชชัยทำให้สมบูรณ์แบบมากกว่า เพราะมีพี่หาญอยู่ด้วย

(http://www.cmadong.com/imageupload/2010_Cmadong-Image/data/image/lcvvr0-d78b89.jpg)


หัวข้อ: Re: [2513] "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: เหยง 16 ที่ 04 ธันวาคม 2553, 19:18:53
พี่แอ๊ะ

กลับจากแม่สอดแล้วหรือครับ ??


หัวข้อ: Re: [2513] "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: prapasri AH ที่ 04 ธันวาคม 2553, 22:18:25
อ้างถึง
ข้อความของ เหยง 16 เมื่อ 04 ธันวาคม 2553, 19:18:53
พี่แอ๊ะ

กลับจากแม่สอดแล้วหรือครับ ??




กลับมาแล้วจ๊ะเหยง

ไกลมากกกกกกกกกกกก เหยงเอ๊ยยยย

นั่งรถไป 10ชั่วโมง ขากลับ 10ชั่วโมงเท่ากับนั่งเครื่องบินไปฝรั่งเศสเลย

พี่แอ๊ะเหนื่อยมาก คิดว่า เส้นทาง east west corridor

(จากพม่า แม่สอด มา มุกดาหาร สู่ ลาวเเละเวียตนาม)

ที่พวกพี่แอ๊ะพยามปลุกปั้นสมัยเป็นกรรมการหอการค้าไทย

คิดว่าเขาสร้างเสร็จแล้ว

คิดว่าคงเดินทางผ่ากลางประเทศไทย แค่5ชั่วโมงเท่านั้น

ที่ไหนได้ ไอ้หยา...... ต้องข้ามภูเขา ตั้งสามภูเขา เกือบพันกิโล

 เพชรบูรณ์ - พิษณุโลก-  แม่สอด

ไปถึงก็วิงเวียน งง เดินแทบล้มมมมมมมมมม

เลยรีบกลับ หลับสนิท สลบ มาในรถพราะมีงานที่ยโสธรต่ออีก

กลับมานอนให้สดชื่นก่อนออกงานค่ะ หุๆๆๆๆ

เจอแต่ ประชาชนชาวพม่า ได้ไปดูโรงพยาบาล ที่ชาวพม่ามารักษา น่าสงสารมาก

เพราะผู้นำประเทศ ไม่ดี ทำให้ประชาชนต้องลำบากอย่างนั้น

ตอนนี้พม่าปิดประเทศมา4-5เดือนแล้วตั้งแต่เลือกตั้งในพม่า

ชาวพม่าที่มาอยู่ในไทยคือพวกที่มาทำงานก็กลับบ้านไม่ได้


หัวข้อ: Re: [2513] "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: suriya2513 ที่ 04 ธันวาคม 2553, 22:22:15
บอกให้ถอย ฮ. ก้อไม่เชื่อ


หัวข้อ: Re: [2513] "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: เหยง 16 ที่ 05 ธันวาคม 2553, 08:10:42
เขาปิดด่านเมื่อวันที่ 28 ก.ค. ด้วยอ้างว่า ฝั่งไทยต่อเติมชายฝั่งแม่น้ำเมยรุกล้ำลงไปในแม่น้ำเอาเปรียบเขา
ฝั่งไทยก็ส่งเหล็ก ปูนซีเมนต์ ไปให้ โดยแจ้งว่า เพื่อป้องกันดินถล่มลงไปในแม่น้ำเมย ขอให้สร้างแนวตลิ่งคู่ขนานกันไป
มันเก่งกว่าคือสร้างไม่ยอมหยุดและขอวัตถุที่ใช้ก่อสร้างเพิ่ม จนฝั่งเราหยุดส่ง เพราะมันสร้างเกินกว่าที่เราทำในฝั่งไทย

ในขณะเดียวกัน เราเพิ่งรู้ว่า มันปิดด่านเพราะจะเลือกตั้ง ต้องการสกรีนคนที่ไม่เกี่ยวข้องเข้าไป
แต่มันเรียกคนพม่าในประเทสเรากลับไปเลือกตั้ง เพราะรู้ว่า คนกลับไปจะมีเงินติดกระเป๋ากลับไปด้วย
เป็นการนำเงินกลับไปใช้ ทดแทนกับที่มันปิดด่าน ด้วยการให้นั่งเรือข้ามไปเลยโดยไม่มีพิธีตรวจคนเข้า-ออกเมือง
ที่สุดมันปิดไม่มิด เพราะกระเหรี่ยง DKBA ไม่รับข้อเสนอในการบริหารจัดการหลังการเลือกตั้ง จึงต้องยิงกันเพื่อชิงพื้นที่
มันก็ยังไม่สามารถเปิดด่านตรงแม่สอดได้ เพราะคุมพื้นที่ฝั่งตรงข้าม"แม่สอด-พบพระ"ไม่ได้ เพราะเป็นเขตยึดครอง DKBA
ส่งผลให้การค้าในแม่สอดเงียบเหงา คนไทยก็แทบล่มจมเพราะตุนสินค้าแต่นำข้ามไปขายไม่ได้ ที่ไปแล้วก็ยังไม่ได้เงิน
รถยนต์บรรทุกตกค้างอยู่ฝั่งนั้นนับเป็นจำนวนหลายร้อยคัน ที่ยังไม่ได้รับสิทธิให้นำกลับคืนมาเพราะด่านไม่เปิด
แต่ชาวบ้านก็ยังพอข้ามไป-ข้ามมาได้ตรงตำบลท่าสายลวด ซึ่งแม่น้ำเมยแคบที่สุด เพียงแต่ของชิ้นใหญ่เอาข้ามไปยาก

คนงานของผมยังลางานกลับไปที่จังหวัดเมียวดีเพื่อเลือกตั้งเลยครับ บอกลา 7 วันไปซะ 20 วัน เพราะติดยิงกันตามข่าว
พม่ามีเขื่อนสร้างเพื่อปั่นไฟฟ้าเอามาขายให้ฝั่งไทย แต่ชาวบ้านเมียวดีส่วนหนึ่งไม่มีไฟฟ้าใช้ ต้องใช้ตะเกียงน้ำมันก๊าซ

อย่าคิดว่าเป็นกรรมที่มีผู้นำไม่ดีครับ คิดว่าเป็นกรรมของชาวพม่าดีกว่า ที่ดันไปเกิดเป็นชาวพม่า
เหมือนกับที่เราดันเกิดเป็นคนไทยในรัฐบาลยุคนี้ ที่ตำแหน่ง"ปลัดกระทรวงมหาดไทย"คนเดียวยังตั้งไม่ได้เลย   emo29:P:  emo19:((:


หัวข้อ: Re: [2513] "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: suriya2513 ที่ 05 ธันวาคม 2553, 08:54:29
ยังดีนะครับนี่ ที่ตั้งผบ.ตร. สำเร็จแล้ว


หัวข้อ: Re: [2513] "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: prapasri AH ที่ 05 ธันวาคม 2553, 09:17:20
อ้างถึง
ข้อความของ suriya2513 เมื่อ 04 ธันวาคม 2553, 22:22:15
บอกให้ถอย ฮ. ก้อไม่เชื่อ


ว่างั้นแหละ แต่ หาคนขับฮ. ระดับ ดร.ยังมิได้จ้า


หัวข้อ: Re: [2513] "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: prapasri AH ที่ 05 ธันวาคม 2553, 09:22:47

ว่าเเล้วก้กลับมาเรื่องการเมืองจนได้เลยนะเหยง

พี่แอ๊ะเเทบจะไม่สนใจการเมืองเลย เซ็งมากหลังจากคดียกฟ้องเรื่องยุบพรรค

กำลังจะไปเป็นสีเเดงเเระ

ไม่อยากให้ยุบพรรค หรือไม่ยุบพรรค

แต่ต้องเป็นเหตุผลที่อธิบายได้

ไม่ใช่ปัดความรับผิดชอบ ลดความน่าเชื่อถือ ลงไปได้อย่างนั้น

อ้างถึง
ข้อความของ เหยง 16 เมื่อ 05 ธันวาคม 2553, 08:10:42
เขาปิดด่านเมื่อวันที่ 28 ก.ค. ด้วยอ้างว่า ฝั่งไทยต่อเติมชายฝั่งแม่น้ำเมยรุกล้ำลงไปในแม่น้ำเอาเปรียบเขา
ฝั่งไทยก็ส่งเหล็ก ปูนซีเมนต์ ไปให้ โดยแจ้งว่า เพื่อป้องกันดินถล่มลงไปในแม่น้ำเมย ขอให้สร้างแนวตลิ่งคู่ขนานกันไป
มันเก่งกว่าคือสร้างไม่ยอมหยุดและขอวัตถุที่ใช้ก่อสร้างเพิ่ม จนฝั่งเราหยุดส่ง เพราะมันสร้างเกินกว่าที่เราทำในฝั่งไทย

ในขณะเดียวกัน เราเพิ่งรู้ว่า มันปิดด่านเพราะจะเลือกตั้ง ต้องการสกรีนคนที่ไม่เกี่ยวข้องเข้าไป
แต่มันเรียกคนพม่าในประเทสเรากลับไปเลือกตั้ง เพราะรู้ว่า คนกลับไปจะมีเงินติดกระเป๋ากลับไปด้วย
เป็นการนำเงินกลับไปใช้ ทดแทนกับที่มันปิดด่าน ด้วยการให้นั่งเรือข้ามไปเลยโดยไม่มีพิธีตรวจคนเข้า-ออกเมือง
ที่สุดมันปิดไม่มิด เพราะกระเหรี่ยง DKBA ไม่รับข้อเสนอในการบริหารจัดการหลังการเลือกตั้ง จึงต้องยิงกันเพื่อชิงพื้นที่
มันก็ยังไม่สามารถเปิดด่านตรงแม่สอดได้ เพราะคุมพื้นที่ฝั่งตรงข้าม"แม่สอด-พบพระ"ไม่ได้ เพราะเป็นเขตยึดครอง DKBA
ส่งผลให้การค้าในแม่สอดเงียบเหงา คนไทยก็แทบล่มจมเพราะตุนสินค้าแต่นำข้ามไปขายไม่ได้ ที่ไปแล้วก็ยังไม่ได้เงิน
รถยนต์บรรทุกตกค้างอยู่ฝั่งนั้นนับเป็นจำนวนหลายร้อยคัน ที่ยังไม่ได้รับสิทธิให้นำกลับคืนมาเพราะด่านไม่เปิด
แต่ชาวบ้านก็ยังพอข้ามไป-ข้ามมาได้ตรงตำบลท่าสายลวด ซึ่งแม่น้ำเมยแคบที่สุด เพียงแต่ของชิ้นใหญ่เอาข้ามไปยาก

คนงานของผมยังลางานกลับไปที่จังหวัดเมียวดีเพื่อเลือกตั้งเลยครับ บอกลา 7 วันไปซะ 20 วัน เพราะติดยิงกันตามข่าว
พม่ามีเขื่อนสร้างเพื่อปั่นไฟฟ้าเอามาขายให้ฝั่งไทย แต่ชาวบ้านเมียวดีส่วนหนึ่งไม่มีไฟฟ้าใช้ ต้องใช้ตะเกียงน้ำมันก๊าซ

อย่าคิดว่าเป็นกรรมที่มีผู้นำไม่ดีครับ คิดว่าเป็นกรรมของชาวพม่าดีกว่า ที่ดันไปเกิดเป็นชาวพม่า
เหมือนกับที่เราดันเกิดเป็นคนไทยในรัฐบาลยุคนี้ ที่ตำแหน่ง"ปลัดกระทรวงมหาดไทย"คนเดียวยังตั้งไม่ได้เลย   emo29:P:  emo19:((:


หัวข้อ: Re: [2513] "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: เหยง 16 ที่ 05 ธันวาคม 2553, 13:01:53
พี่แอ๊ะ

อย่าไปเซ็งครับ มันกลายเป็น การเมือง-การต่างประเทศ คลุกปนกันไปจนจะเละแล้ว

ผมเห็นด้วยการศาลรัฐธรรมนูญครับ
การที่ให้สืบพยานไปจนสิ้นขบวนความนั้นแหละดี เพราะมิฉะนั้นมันก็จะเก็บเรื่องนี้และพยานหลักฐานไปใช้ในเรื่องอื่นต่อไปอีก
เมื่อเอกสาร หลักฐานต่างๆได้ยื่นต่อศาลในคดีนี้แล้ว จะเอาไปใช้ตะแบงในคดีอื่นต่อไปไม่ได้แล้ว
เป็นไปได้อย่างไรครับ ที่อดีตรองอธิบดี DSI เก็บเทปบันทึกเสียงพยานไว้กับตัวเองโดยไม่จดแจ้งลงในบัญชีพยาน
แล้วตัวเองนำส่งศาล แบบนี้โบราณเขามีคำพังเพย และต่อไปจะเชื่อถือได้หรือ
การอมพยานหลักฐานไว้กับตัวเอง มีความผิดนะครับ และที่อมเอาไว้นั้นต้องมีเจตนาแอบแฝง
ดังเช่นที่ รมต.ยุติธรรม กลัวอดีตอธิบดี DSI ไม่กล้าลงโทษ แต่ใช้วิธีแต่งตั้งไปเป็นรองปลัดฯ ใหญ่กว่าเก่าอีก
มันต่องมีอะไรซุกใต้พรมเป็นแน่ครับ


หัวข้อ: Re: [2513] "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: เหยง 16 ที่ 05 ธันวาคม 2553, 13:10:05
กลับมาเรื่องที่พี่ไปแม่สอดดีกว่า
EASTERN CORRIDOR โดยจากพม่า-เมียวดี-แม่สอด(ตาก)-พิษณุโลก-เพชรบูรณ์-ชัยภูมิ-มุกดาหาร-ลาว-ด่านลาวบาว-เวียตนาม
มันไม่ยอมเป็นความจริงเสียที
แต่เส้นพม่า-บ่อแก้ว(ลาว)-เวียตนาม โดยไม่ผ่านไทย กลับมีความเป็นไปได้ ด้วยระบบรถไฟที่จีนช่วยลงทุนในพม่า

เพิ่มเติมครับ

เขมร-พม่า-ลาว-เวียตนาม จะตั้งองค์กรระหว่าง 4 ประเทศนี้ขึ้นมาซ้อนกับอาเซียน ซึ่งเขาให้ชื่อย่อว่า CMLV
คือ Combodia - Myanma - Lao - Vietnam โดยมี จีน เป็นนายทุน ซึ่งกำลังมีความพยายามสร้างทางรถไฟเชื่อมกันใน4ประเทศนี้ครับ


หัวข้อ: Re: [2513] "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: wannee ที่ 05 ธันวาคม 2553, 14:14:33
อ้างถึง
ข้อความของ prapasri AH เมื่อ 04 ธันวาคม 2553, 10:17:54
จริงๆชอบรูปนี้มากค่ะ เพราะ บังเอิญรูปออกมาสวย ค่ะ

แต่รูปทีน้องธัชชัยทำให้สมบูรณ์แบบมากกว่า เพราะมีพี่หาญอยู่ด้วย

(http://www.cmadong.com/imageupload/2010_Cmadong-Image/data/image/lcvvr0-d78b89.jpg)

สวัสดีค่ะ พี่แอ๊ะ 13  emo9:huhu:

พวกเราหลายคนก็ชอบรูปนี้  emo4:))

แต่รูปที่มอบให้คงต้องมีพี่หมอหาญในภาพเนอะพี่แอ๊ะ emo6::))


หัวข้อ: Re: [2513] "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: wannee ที่ 05 ธันวาคม 2553, 14:17:53
อ้างถึง
ข้อความของ prapasri AH เมื่อ 30 พฤศจิกายน 2553, 21:36:18

หมอเสียดก็สวย พี่แอ๊ะก็สวย อ้อย17 ก็สวย ชมกันหญ่ายยยยยยยยยยยยยยย

(http://www.cmadong.com/imageupload/2010_Cmadong-Image/data/image/lcpcj6-36a197.jpg)

แฟนคลับพี่แอ๊ะเจ้าขา  พี่แอ๊ะ ตัวจริง slender กว่าในรูปเยอะค่ะ   emo48:)


หัวข้อ: Re: [2513] "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: เหยง 16 ที่ 05 ธันวาคม 2553, 16:35:59
พี่แอ๊ะครับ

เมือวานนี้ (ศุกร์ที่ 4 ธันวาคม 2553) จังหวัดพิษณุโลก โดย ผวจ. ปรีชา เรืองจันทร์ รัฐ & RCU 2515 จัดงาน (ซึ่งผมคิดว่าน่าเกี่ยวข้องกับคณะของพี่ที่เดินทางไปแม่สอดในครั้งนี้ด้วย ) โดยงานเริ่มตั้งแต่ 4 - 13 ธันวาคม 2553 INDO CHINA FAIR 2010

(http://img153.imageshack.us/img153/448/img340u.jpg)

 


หัวข้อ: Re: [2513] "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: เหยง 16 ที่ 05 ธันวาคม 2553, 16:37:40
โบชัวร์ของงานครับ-หน้าแรก

(http://img258.imageshack.us/img258/5126/img341.jpg)


หัวข้อ: Re: [2513] "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: เหยง 16 ที่ 05 ธันวาคม 2553, 16:39:08
หน้าสอง

(http://img253.imageshack.us/img253/5697/img342h.jpg)



หัวข้อ: Re: [2513] "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: เหยง 16 ที่ 05 ธันวาคม 2553, 16:45:50
จังหวัดรอบๆพิษณุโลก ระดมคนไปร่วมงาน เพื่อสร้างบรรยากาศงานให้คับคั่งแบบไปเอง-กลับเอง
แต่ช่วงงานเลี้ยง-เลี้ยงแต่แขกเมือง VIP พวกที่เหลือหากินเอาเอง


หัวข้อ: Re: [2513] "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: prapasri AH ที่ 05 ธันวาคม 2553, 22:27:28
น้องหนุนทำไมไม่มาเที่ยวละคะ

วันหลังมาเเบบ ข้ามาคนเดียวก็ได้เนอะ

พี่สิงหะมานพ ก็เคยมายโสธรแบบข้ามาคนเดียวมาแล้ว ค่ะ
อ้างถึง
ข้อความของ หนุน'21 เมื่อ 02 ธันวาคม 2553, 09:26:46

เข้ามาสวัสดีพี่แอ๊ะ
และติดตามงานต้อนรับชาวซีมะโด่ง
อย่างอบอุ่นที่สุดของพี่หมอหาญ พี่แอ๊ะและครอบครัวครับ
อลังการจังเลยครับพี่

like like like


 emo6::)) emo6::))


หัวข้อ: Re: [2513] "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: prapasri AH ที่ 05 ธันวาคม 2553, 22:32:58

จีน เข้าไปแทรก กิจการภายในในหลายประเทศ ที่อ่อนแอ ในแถบนี้แล้ว คงตามอย่างอเมริกา และประเทศล่าอาณานิคม

 สมัยก่อนนะ

ประเทศด้อยพัฒนายังไงก็ยังมีทรัพยากรอีกมากมาย ให้มหาอำนาจเข้าไป ขุดเจาะ ลากไถ เอามา อย่างไม่หยุดยั้ง



อ้างถึง
ข้อความของ เหยง 16 เมื่อ 05 ธันวาคม 2553, 13:10:05
กลับมาเรื่องที่พี่ไปแม่สอดดีกว่า
EASTERN CORRIDOR โดยจากพม่า-เมียวดี-แม่สอด(ตาก)-พิษณุโลก-เพชรบูรณ์-ชัยภูมิ-มุกดาหาร-ลาว-ด่านลาวบาว-เวียตนาม
มันไม่ยอมเป็นความจริงเสียที
แต่เส้นพม่า-บ่อแก้ว(ลาว)-เวียตนาม โดยไม่ผ่านไทย กลับมีความเป็นไปได้ ด้วยระบบรถไฟที่จีนช่วยลงทุนในพม่า

เพิ่มเติมครับ

เขมร-พม่า-ลาว-เวียตนาม จะตั้งองค์กรระหว่าง 4 ประเทศนี้ขึ้นมาซ้อนกับอาเซียน ซึ่งเขาให้ชื่อย่อว่า CMLV
คือ Combodia - Myanma - Lao - Vietnam โดยมี จีน เป็นนายทุน ซึ่งกำลังมีความพยายามสร้างทางรถไฟเชื่อมกันใน4ประเทศนี้ครับ



หัวข้อ: Re: [2513] "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: prapasri AH ที่ 05 ธันวาคม 2553, 22:43:56

เห็นน้องไข่มุก มาไวๆ ที่ห้อง2513 ไม่ทราบแวะมาบ้านพี่แอ๊ะอะป่าวววววว


หัวข้อ: Re: [2513] "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: Kaimook ที่ 05 ธันวาคม 2553, 22:43:57
 สวัสดีค่ะพี่แอ๊ะ...


หัวข้อ: Re: [2513] "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: prapasri AH ที่ 05 ธันวาคม 2553, 22:47:48

ค่ำ นี้ไป จุดเทียนชัยมาค่ะ

ได้ร้องเพลง สดุดีมหาราชา มีความสุขมากกกกก


(http://www.cmadong.com/imageupload/2010_Cmadong-Image/data/image/lcyp3l-57057b.jpg)


ท่านผู้ว่ายโสธร กรุณาให้เกียรติเดินมา ต่อเเสงเทียนให้พี่แอ๊ะด้วยค่ะ



หัวข้อ: Re: [2513] "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: suriya2513 ที่ 05 ธันวาคม 2553, 22:52:22
ท่านมาต่อให้พี่หมอต่างหากครับ พอดีคุณนายไปยืนตรงนั้น


หัวข้อ: Re: [2513] "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: prapasri AH ที่ 05 ธันวาคม 2553, 22:55:51
รูปเมื่อกี้ พี่หาญผอมไป เอารูปใหม่นะอ้วนขึ้นมาหน่อย

พี่หาญเค้า ออกกำลังกายจนผอม เเละเสื้อก็หลวม คงต้องตัดใหม่ทั้ง set

วันก่อน อ้อย14 ต๊กกะใจว่าพี่หาญผอมมาก พี่หาญเลยมาเยาะเย้ยว่าพวกเราซิอ้วนมากไป

(http://www.cmadong.com/imageupload/2010_Cmadong-Image/data/image/lcypgj-38419a.jpg)


หัวข้อ: Re: [2513] "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: prapasri AH ที่ 05 ธันวาคม 2553, 23:02:41

(http://www.cmadong.com/imageupload/2010_Cmadong-Image/data/image/lcyppj-d491aa.jpg)
อ้างถึง
ข้อความของ suriya2513 เมื่อ 05 ธันวาคม 2553, 22:52:22
ท่านมาต่อให้พี่หมอต่างหากครับ พอดีคุณนายไปยืนตรงนั้น


คุณชายกระป๋อง  ปกติ พี่หาญไม่ชอบออกงานจ้า

แต่วันนี้ คณะตีเทนนิส เขาไหนกันหมด

พี่หาญเลยเหงา ร้องตามฉันไปงาน

วิ่งมาหาเสื้อไม่ทัน ได้เสื้อตัวเก่าที่หลวมไปหน่อย

พรุ่งนี้ฉันจัดการตามช่างให้มาวัดตัวตัดเสื้อเอาแบบให้หล่อๆ

เสื้อหล่อนะ อิๆๆๆ


หัวข้อ: Re: [2513] "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: prapasri AH ที่ 05 ธันวาคม 2553, 23:05:01
รูป นี้พี่หาญ ก็ผอมน้อยลงนิดนึงงงงงงงง

(http://www.cmadong.com/imageupload/2010_Cmadong-Image/data/image/lcypzm-e8f40b.jpg)

ถ้าไม่สวยก็อย่าว่ากันนะ เพราะถ่ายจากมือถือ

มือถือ ที่ยโสเขาเรียกว่า" เมียถือ " เพราะ สามีไม่ค่อยถือมือถือ ปล่อยให้ภรรยาถืออยู่นั่นแหละ


หัวข้อ: Re: [2513] "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: prapasri AH ที่ 05 ธันวาคม 2553, 23:09:23
ดูรูปนี้ดีก่านะ เผื่อหมอเสียดจะเลือกให้น้องธัชชัยไปเพนท์ให้อีก



(http://www.cmadong.com/imageupload/2010_Cmadong-Image/data/image/lcyq4d-6400a9.jpg)


หัวข้อ: Re: [2513] "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: prapasri AH ที่ 05 ธันวาคม 2553, 23:14:40
 
เอารูปไม่ยิ้มบ้างนะ อาจารย์แจ่ม ขา

(http://www.cmadong.com/imageupload/2010_Cmadong-Image/data/image/lcyqhz-14d629.jpg)



หัวข้อ: Re: [2513] "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: prapasri AH ที่ 05 ธันวาคม 2553, 23:22:59

รูปเพนท์นกยูง ให้น้องไข่มุกด์ และ เหยง ค่ะ พี่แอ๊ะชอบรูปนี้มาก


พรุ่งนี้จะส่งรูปตอนวางพาน พุ่ม ให้ดู นะคะ

เจ้าหน้าที่อบจ. ถ่ายให้ หากสวย และไม่อ้วน ก็จะได้ชม ค่ะ5555555

เหยง ว่า เราโชคดีไหม ที่อยู่ต่างจังหวัด มีกิจกรรม และได้ทำงาน เยอะเเยะเลย

คนกรุงเทพแค่รถติด อยู่บนถนน พักใหญ่ๆ พี่หาญแกก็ผ่าตัดคนไข้ไปได้หลายเคสแล้วววววววว

(http://www.cmadong.com/imageupload/2010_Cmadong-Image/data/image/lcyqmh-096a63.jpg)


หัวข้อ: Re: [2513] "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: prapasri AH ที่ 05 ธันวาคม 2553, 23:27:29

รูปนี้ อ้อยกรองละออน ฝากให้คุณชายกระป๋องค่ะ

(http://www.cmadong.com/imageupload/2010_Cmadong-Image/data/image/lcyr0n-bbe89b.jpg)

ผ่านไป 2 ปีแก่ๆกันไปเยอะเลยยยยยยย


หัวข้อ: Re: [2513] "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: เหยง 16 ที่ 06 ธันวาคม 2553, 10:14:26
เมื่อคืนนี้ ลูกสาวส่งการ์ดวันพ่อมาให้ครับ ขอลงไว้ให้ชม


(http://img153.imageshack.us/img153/9347/15dec2010set1.jpg)


หัวข้อ: Re: [2513] "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: prapasri AH ที่ 06 ธันวาคม 2553, 21:26:10
 เหยง
มีลูกสาวตั้งสามคนเลยหรือ น่ารักจังเลยยย


หัวข้อ: Re: [2513] "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: หนุน'21 ที่ 07 ธันวาคม 2553, 09:16:49
อ้างถึง
ข้อความของ prapasri AH เมื่อ 05 ธันวาคม 2553, 22:27:28
น้องหนุนทำไมไม่มาเที่ยวละคะ

วันหลังมาเเบบ ข้ามาคนเดียวก็ได้เนอะ

พี่สิงหะมานพ ก็เคยมายโสธรแบบข้ามาคนเดียวมาแล้ว ค่ะ
อ้างถึง
ข้อความของ หนุน'21 เมื่อ 02 ธันวาคม 2553, 09:26:46

เข้ามาสวัสดีพี่แอ๊ะ
และติดตามงานต้อนรับชาวซีมะโด่ง
อย่างอบอุ่นที่สุดของพี่หมอหาญ พี่แอ๊ะและครอบครัวครับ
อลังการจังเลยครับพี่

like like like


 emo6::)) emo6::))

กราบขอบพระคุณพี่แอ๊ะครับ
สักวัน คงได้มีโอกาสไปกราบสวัสดีพี่แอ๊ะและพี่หมอหาญนะครับ


 emo6::)) emo6::))


หัวข้อ: Re: [2513] "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: หนุน'21 ที่ 07 ธันวาคม 2553, 09:22:40
อ้างถึง
ข้อความของ prapasri AH เมื่อ 05 ธันวาคม 2553, 23:09:23
ดูรูปนี้ดีก่านะ เผื่อหมอเสียดจะเลือกให้น้องธัชชัยไปเพนท์ให้อีก



(http://www.cmadong.com/imageupload/2010_Cmadong-Image/data/image/lcyq4d-6400a9.jpg)
อ้างถึง
ข้อความของ prapasri AH เมื่อ 05 ธันวาคม 2553, 23:05:01
รูป นี้พี่หาญ ก็ผอมน้อยลงนิดนึงงงงงงงง

(http://www.cmadong.com/imageupload/2010_Cmadong-Image/data/image/lcypzm-e8f40b.jpg)

ถ้าไม่สวยก็อย่าว่ากันนะ เพราะถ่ายจากมือถือ

มือถือ ที่ยโสเขาเรียกว่า" เมียถือ " เพราะ สามีไม่ค่อยถือมือถือ ปล่อยให้ภรรยาถืออยู่นั่นแหละ

(http://www.cmadong.com/imageupload/2010_Cmadong-Image/data/image/lcypzm-e8f40b.jpg)

สวย สง่างามทั้ง 2 รูปเลยครับพี่
แต่ผมชอบรูปคู่มากกว่าครับ
ดูพี่แอ๊ะ จะมีแรงดึงดูดมาก
กระทั่งพี่หมอหาญ
เอียงเลยครับ
ดูแล้วอบอุ่น


 emo6::))


หัวข้อ: Re: [2513] "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: ดร.มนตรี ที่ 07 ธันวาคม 2553, 16:29:58
กราบสวัสดี พี่แอ๊ะ พี่ป๋อง พี่เหยง และพี่ๆ ทุกท่านครับ ...


ถึงบ้านแล้ว... มารายงานตัว ... ติดตามชม ต่อครับ ^_^


อ้างถึง
ข้อความของ prapasri AH เมื่อ 04 ธันวาคม 2553, 10:14:59
ดร.มนตรี ประตู ห้องประชุม สวยจัง เอ๊ยไม่ใช่ ดร. หล่อจังเลย

ขอบคุณที่ไปไหนมาไหนเเล้วยังไม่ลืมเวบหอ พี่แอ๊ะเลยอยากตามไปเที่ยวด้วยจัง

อ้างถึง
ข้อความของ ดร.มนตรี เมื่อ 04 ธันวาคม 2553, 09:43:37
Sawasdee krub, P' Ah' and P' Ah's Fan club... emo6::))


(http://www.cmadong.com/imageupload/2010_Cmadong-Image/data/image/lcvu71-1acd92.jpg)

(http://www.cmadong.com/imageupload/2010_Cmadong-Image/data/image/lcvu7w-526120.jpg)




หัวข้อ: Re: [2513] "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: ดร.มนตรี ที่ 07 ธันวาคม 2553, 16:45:57
พี่หาญ ดูกี่ทีๆ ท่านก็มีเสน่ห์ ครับ ... ชอบบุคลิกที่ดูใจดีๆ แบบนี้จัง  emo6::))


ปล.

อยากชมพี่แอ๊ะ ว่าก็มีเสน่ห์ไม่แพ้พี่หาญ ... แต่เดี๋ยวจะหาว่ายอ ... แบบว่าชมกันบ่อยเกินไป emo21:):):

งั้นเป็นว่า ... ผมเห็นด้วยกับทุกๆ ท่านที่ชื่นชมพี่แอ๊ะ ...ไปแล้วดีกว่านะครับ ^_^


หัวข้อ: Re: [2513] "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: suriya2513 ที่ 07 ธันวาคม 2553, 17:17:46
(http://www.cmadong.com/imageupload/2010_Cmadong-Image/data/image/lcypzm-e8f40b.jpg)
แว่นตาแบบมีเส้นบนดั้งจมูกสองเส้นนี่บอกอายุชัดเลยครับ
ตอน วิชัย วงพิ้งค์แพนเตอร์ ทำ MV เพลง "รักฉันนั้นเพื่อเธอ" เมื่อ 35 ปีก่อน
ใช้แว่นตาโมเดลนี้เป๊ะเลยครับ...
คุณหมอต้นกล้า พาคุณพ่อหมอไปถอยแว่นร่วมสมัยมาสักอัน สองอันเถอะครับ


หัวข้อ: Re: [2513] "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: pattaya ที่ 07 ธันวาคม 2553, 21:36:08
สวัสดีค่ะพี่แอ๊ะ  พี่เอ พี่ป๋องและพี่เหยง  น้องนุชเพิ่งมีโอกาสเข้ามาโพสต์ที่ห้องนี้  รุ่นสว.มหาอำนาจที่สุด  วันงานที่สารคามสนุกมากค่ะเสียดายอยู่ไกลไปหน่อยเลยต้องรีบกลับค่ะ  เอาไว้วันหลังขอมาแจมใหม่นะค่ะ


หัวข้อ: Re: [2513] "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: pattaya ที่ 07 ธันวาคม 2553, 21:37:24
น้องนุชชอบรูปที่พี่ๆเข้ากรอบมอบให้พี่แอ๊ะและพี่หาญวันงาน  28 พ.ย มากกว่าค่ะรูปนั้นสวยมากกกกกกกกกกกกก


หัวข้อ: Re: [2513] "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: prapasri AH ที่ 07 ธันวาคม 2553, 21:41:01
น้องนุช น่ารัก และสปิริตสูงจริง

เรียกว่า น้อง 500 miles ได้เลยนะ เพราะขับรถไปกลับ ไกลจริงๆ

อ้างถึง
ข้อความของ pattaya เมื่อ 07 ธันวาคม 2553, 21:36:08
สวัสดีค่ะพี่แอ๊ะ  พี่เอ พี่ป๋องและพี่เหยง  น้องนุชเพิ่งมีโอกาสเข้ามาโพสต์ที่ห้องนี้  รุ่นสว.มหาอำนาจที่สุด  วันงานที่สารคามสนุกมากค่ะเสียดายอยู่ไกลไปหน่อยเลยต้องรีบกลับค่ะ  เอาไว้วันหลังขอมาแจมใหม่นะค่ะ


หัวข้อ: Re: [2513] "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: prapasri AH ที่ 07 ธันวาคม 2553, 21:43:10

(http://www.cmadong.com/imageupload/2010_Cmadong-Image/data/image/ld2bhb-b56c5b.jpg)

ให้ดูอีก คนต่างจังหวัดมีโอกาส ออกงาน ดีๆ มีค่าอย่างนี้ มากกว่าคนกรุงเทพแน่นอน

ดร.ป๋อง เธอไปจุดเทียนชัยหรือเปล่าล่ะ


หัวข้อ: Re: [2513] "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: prapasri AH ที่ 07 ธันวาคม 2553, 21:45:11

นายก อบจ. ไม่อยู่ พี่หาญเลยไปประจำที่เเทน 5555

(http://www.cmadong.com/imageupload/2010_Cmadong-Image/data/image/ld2bm9-77e7b8.jpg)


หัวข้อ: Re: [2513] "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: Kaimook ที่ 07 ธันวาคม 2553, 23:17:44
อ้างถึง
ข้อความของ prapasri AH เมื่อ 05 ธันวาคม 2553, 23:05:01
รูป นี้พี่หาญ ก็ผอมน้อยลงนิดนึงงงงงงงง

(http://www.cmadong.com/imageupload/2010_Cmadong-Image/data/image/lcypzm-e8f40b.jpg)

ถ้าไม่สวยก็อย่าว่ากันนะ เพราะถ่ายจากมือถือ

มือถือ ที่ยโสเขาเรียกว่า" เมียถือ " เพราะ สามีไม่ค่อยถือมือถือ ปล่อยให้ภรรยาถืออยู่นั่นแหละ
สวัสดีค่ะพี่แอ๊ะ รูปนี้เห็นแล้วชื่นใจจังค่ะ...


หัวข้อ: Re: [2513] "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: Kaimook ที่ 07 ธันวาคม 2553, 23:20:13
อ้างถึง
ข้อความของ prapasri AH เมื่อ 05 ธันวาคม 2553, 23:22:59

รูปเพนท์นกยูง ให้น้องไข่มุกด์ และ เหยง ค่ะ พี่แอ๊ะชอบรูปนี้มาก


พรุ่งนี้จะส่งรูปตอนวางพาน พุ่ม ให้ดู นะคะ

เจ้าหน้าที่อบจ. ถ่ายให้ หากสวย และไม่อ้วน ก็จะได้ชม ค่ะ5555555

เหยง ว่า เราโชคดีไหม ที่อยู่ต่างจังหวัด มีกิจกรรม และได้ทำงาน เยอะเเยะเลย

คนกรุงเทพแค่รถติด อยู่บนถนน พักใหญ่ๆ พี่หาญแกก็ผ่าตัดคนไข้ไปได้หลายเคสแล้วววววววว

(http://www.cmadong.com/imageupload/2010_Cmadong-Image/data/image/lcyqmh-096a63.jpg)
ขอบพระคุณมากๆค่ะพี่แอ๊ะ น้ำอ้อยก็ชอบค่ะสวยมากค่ะ...


หัวข้อ: Re: [2513] "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: ดร.มนตรี ที่ 08 ธันวาคม 2553, 08:12:42
ติดตามชมต่อครับ  เอาอีกๆๆๆๆ  emo43


ปล.

อ้างถึง
ข้อความของ pattaya เมื่อ 07 ธันวาคม 2553, 21:36:08
สวัสดีค่ะ พี่เอ

สวัสดีครับน้องนุช ... ว่าที่ลูกสะใภ้พี่น่ารักจัง emo6::))

ภาพนี้ลูกชายพี่ล่าสุดหล่ะ เป็นหนุ่มแล้ว ... ปีหน้าทำบัตรประชาชน 
  emo9:huhu:

(http://www.cmadong.com/imageupload/2010_Cmadong-Image/data/image/ld34nu-74fb60.jpg)



หัวข้อ: Re: [2513] "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: เหยง 16 ที่ 08 ธันวาคม 2553, 11:04:17
พี่แอ๊ะครับ

เห็นด้วยครับว่า คนต่างจังหวัดทำกิจกรรมได้มากกว่าคนในกรุงเทพ ซึ่งจะใช้เวลาเดินทางมากกว่าคนต่างจังหวัด
ก็ดูงานโชว์รถยนต์ซีว่า มียอดจองแล้ว 10,440 คันเศษ และคาดว่าจบงานในอีก 2-3 วันข้างหน้า ยอดขายรถอาจถึง 20,000 คัน
รถสองหมื่นคัน ต้องใช้พื้นที่บนถนนอย่างน้อย 4 เมตร/คัน รวมต้องใช้ถนนยาวถึง 80 ก.ม. ไม่รวมที่จอดรถอีกต่างหาก
รถส่วนใหญ่ใช้งานอยู่ใน กทม. แล้วจะยังมีพื้นผิวถนนเพื่อการจราจรเพิ่มเติมหรือ...ไม่มีแน่นอนครับ
พวกเราอยู่ต่างจังหวัดจึงค่อนข้างจะโชคดีในเรื่องการเดินทาง เวลาที่ใช้ไปในการเดินทาง
แต่ถนนในภาคอีสานหลายเส้นทาง ยังเป็นทางเลนเดียว ซึ่งปกติทางระหว่างจังหวัดควรจะมีอย่างน้อย 4 ช่องจราจรไป-กลับ
พี่เสนอให้ อบจ.ยโสธร สร้างถนนเลนคู่ไปทุกจังหวัดที่เชื่อมโบงกันด้วยครับ 


หัวข้อ: Re: [2513] "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: wannee ที่ 09 ธันวาคม 2553, 15:41:54
อ้างถึง
ข้อความของ prapasri AH เมื่อ 05 ธันวาคม 2553, 23:09:23
ดูรูปนี้ดีก่านะ เผื่อหมอเสียดจะเลือกให้น้องธัชชัยไปเพนท์ให้อีก


(http://www.cmadong.com/imageupload/2010_Cmadong-Image/data/image/lcyq4d-6400a9.jpg)

พี่แอ๊ะ มีรูปก็ post ไปเรื่อยๆนะค้าา  เดี๋ยวพวกเรา แฟนคลับ ก็ช่วยกันเลือกไปเรื่อยๆเช่นกัน  

ครั้งที่แล้ว พี่อ้อย 14 เป็นคนเลือก   คนอื่นก็เห็นด้วยค่ะเพราะเคยเห็นในเวบมาแล้ว

(http://www.cmadong.com/imageupload/2010_Cmadong-Image/data/image/lcyq4d-6400a9.jpg)


หัวข้อ: Re: [2513] "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: wannee ที่ 12 ธันวาคม 2553, 10:07:14

สวัสดีค่ะ พี่แอ๊ะ หอหญิง 13  emo4:))


หัวข้อ: Re: [2513] "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: Kaimook ที่ 12 ธันวาคม 2553, 22:42:18
สวัสดีค่ะพี่แอ๊ะ  พี่เสียด พี่เหยง น้องดร.มนตรี  ลูกชายน้องน่ารักรูปหล่อเหมือนคุณพ่อนะคะ...


หัวข้อ: Re: [2513] "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: เหยง 16 ที่ 13 ธันวาคม 2553, 18:30:55
สวัสดีค๊ะ

น้องน้ำอ้อย (เรียก"ไข่มุกด์" บ้างตามโอกาส)

ไม่ทราบ"พี่แอ๊ะ"ไปติดภาระกิจอยู่ที่ไหน หายตัวไปเกิอบอาทิตย์หนึ่งแล้ว ??


หัวข้อ: Re: [2513] "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: เหยง 16 ที่ 14 ธันวาคม 2553, 11:43:45
อดึตทหารญี่ปุ่นยุคนานกิง ใช้ชีวิตเพื่อคนจีนจนวันตาย
14 ธันวาคม 2553 07:34 น.


(http://img413.imageshack.us/img413/2812/sun1c.jpg)
  สำหรับคนทั่วไป ไม่มีใครทราบเลยว่าชายชราผู้เป็นหมอคนนี้คือทหารผ่านศึกญี่ปุ่น ที่ยังคงอยู่ในจีนนับแต่สงครามต่อต้านญี่ปุ่นยุติไปแล้ว (ช่วงปี พ.ศ. 2480 - 2488) ไม่มีใครทราบแม้แต่บุตรสาวของเขาเอง (ภาพไชน่าเดลี) 


       ในช่วงสัปดาห์เดียวกับกระแสข่าวพิธีมอบรางวัลโนเบลสาขาสันติภาพนั้น มีข่าวการร่วมไว้อาลัยอย่างเงียบๆ ของชาวเน็ตจีน กับการจากไปของหมอจีนวัยชราในเมืองจี่หนันคนหนึ่ง เขาชื่อหมอซัน ผู้จากไปในวัย 103 ปี การเสียชีวิตของเขาไม่ได้เป็นข่าวในหน้าหนังสือพิมพ์ใดๆ จนกระทั่งข่าวแพร่ออกไปในโลกออนไลน์ ผู้คนจึงร่วมกันเขียนไว้อาลัย
       
       หมอยาจีนที่ชื่อ ซัน ในจี่หนันผู้นี้ เดิมในอดีตเคยเป็นทหารญี่ปุ่นที่รบในปฏิบัติการ สะพานมาร์โค โปโล (Marco Polo Bridge Incident หรือ 卢沟桥事变) เมื่อวันที่ 7 กรกฎาคม ปี พ.ศ. 2480
       
       ชีวิตของเขาเคยได้รับการเสนอเป็นสารคดีข่าวในไชน่าเดลีย์ เมื่อปีที่แล้ว ก่อนเสียชีวิตหนึ่งปี ซึ่งหมอซัน ในวัย 102 ปีนั้นได้ให้สัมภาษณ์บอกเล่าเรื่องราวชีวิตในอดีตของเขาว่า มีชื่อจริงคือฮิโรชิ ยามาซากิ ซึ่งได้เปลี่ยนเป็น ซัน ในเวลาต่อมา และใช้ชีวิตเป็นหมอรักษาผู้ป่วยอยู่ที่เมืองจี่หนันมานานกว่า 70 ปีแล้ว
       
       "ผมเคยประจำการเป็นแพทย์อยู่อยู่นาน 6 เดือนในกองทัพญี่ปุ่น เข้าปฎิบัติการรบในศึกสะพานมาร์โค โปโล ก่อนที่จะหนีทัพ และตัดสินใจใช้ชีวิตในจีนเพื่อชดใช้คืนในสิ่งที่กองทัพญี่ปุ่นได้เคยก่อไว้" ยามาซากิกล่าวกับนักข่าวจีนเมื่อปีที่แล้ว
       
       ศึกสะพานมาร์โค โปโล คือการรบระหว่างกองทัพจักรวรรดิญี่ปุ่นกับกองทัพคณะปฏิวัติแห่งชาติจีน ซึ่งนักประวัติศาสตร์ส่วนใหญ่ถือเอาว่า เป็นจุดแตกหักที่ทำให้เกิดสงครามจีน-ญี่ปุ่นครั้งที่สอง (พ.ศ. 2480-2488)
       
       โดยหลังจากการศึกที่สะพานมาร์โค โปโล กองทัพญี่ปุ่นซึ่งยามาซากิประจำอยู่ ก็เคลื่อนบุกตีเซี่ยงไฮ้ศูนย์กลางทางเศรษฐกิจของจีนในเดือนถัดมา และเพื่อให้บรรลุภารกิจยึดจีนให้ได้ภายใน 3 เดือน กองทัพญี่ปุ่นจึงส่งกำลัง 3 เหล่าทัพ พร้อมเครื่องบินทิ้งระเบิดเข้าถล่มนานกิง
       
       นานกิง (หรือ หนานจิง) เมืองหลวงของจีนในเวลานั้นและยังเป็นที่ตั้งสุสานของดร.ซุนยัดเซ็น ถูกกองทัพญี่ปุ่นบุกขยี้จนเจียงไคเช็กต้องถอยทัพหนีไปที่ ฉงชิ่ง ทิ้งพลเมืองเกือบ 1 ล้านคน กับกำลังทหารป้องกันนานกิงเพียงไม่กี่หมื่นคน กระทั่งนานกิงแตกเมื่อวันที่ 13 ธันวาคม ค.ศ.1937 และแปรสภาพกลายเป็นทุ่งสังหารหมู่ของปีศาจสงคราม

(http://img413.imageshack.us/img413/3040/sun2m.jpg)
 

       "ฝูงปีศาจ"
       ประวัติศาสตร์นานกิงบันทึกว่า ทหารญี่ปุ่นทำลายทุกสิ่ง และทุกชีวิตที่ขวางหน้า ฆ่า ปล้น ชิง เผา ข่มขืน ทรมาน ชาวนานกิงทั้งเมืองอย่างวิปริต ยิงเป้า ตัดคอ แขวนคอ ตัดแขน-ขาทั้งสี่ ตัดอวัยวะเพศ ฝังและเผาทั้งเป็น บังคับให้ลูกชายข่มขืนแม่ พ่อข่มขืนลูกสาว
       
       ยามาซากิ ซึ่งประจำการเป็นแพทย์ทหารในกองกำลังที่ถูกเรียกว่า "ฝูงปีศาจ" นี้ ไม่อาจทนดูความวิปริตที่เพื่อนทหารของตนกระทำต่อชาวเมืองผู้ไร้ทางต่อสู้ ที่สุดจึงได้หาทางหลบหนีออกจากค่าย และเดินเท้าไปจนถึงซานตง โดยความตั้งใจว่าจะหาทางข้ามทะเลกลับไปยังประเทศญี่ปุ่น
       
       "แรกเริ่มเดิมที ผมไม่เคยคิดจะเป็นทหาร แต่ด้วยเหตุที่รัฐบาลญี่ปุ่นออกกฎหมายบังคับให้ทุกครอบครัวต้องส่งลูกชายหนึ่งคนเข้าเกณฑ์ไปรบ ดังนั้น เพื่อไม่ให้พี่ชายที่เพิ่งแต่งงานมีครอบครัวต้องเสี่ยงชีวิต ผมซึ่งเป็นลูกชายคนสุดท้องของครอบครัว ตอนนั้นอายุ 31 ปี ทำงานเป็นแพทย์และยังไม่มีครอบครัว จึงรับหมายเกณฑ์มาเป็นทหาร"
       
       ยามาซากิถูกส่งตัวไปประจำการอย่างเร่งด่วน ในกองพลที่ปฏิบัติการรบบนสะพานมาร์โค โปโล ตลอดเวลา 6 เดือน หลังจากศึกครั้งนั้น เขาได้พบเห็นเพื่อนทหารญี่ปุ่นกลายสภาพเป็นปีศาจสงคราม สังหารผู้คนเพื่อความบันเทิง ครั้งหนึ่งเขาเห็นเด็กทารกชาวจีนถูกทหารญี่ปุ่นกระหน่ำแทงด้วยดาบปลายปืนอย่างสนุกสนานเหมือนแทงกระสอบซ้อมมือ ยามาซากิ พยายามเข้าไปยับยั้งความบ้าคลั่งและช่วยชีวิตทารกน้อยคนนั้น แต่สายเกินไป
       
       "เหตุการณ์นั้นทำให้ผมตัดขาดจากกองทัพ" ยามาซากิพูด และเล่าว่า ผมวางแผนหนีทัพในกลางดึกของคืนนั้น และเดินเท้ามุ่งหน้าไปทางชายฝั่งตะวันออก เพื่อหาทางกลับญี่ปุ่น แต่ด้วยความที่ไม่ได้กินอาหาร เป็นเวลา 4 วัน 4 คืน ในที่สุดก็ล้มหมดสติไป"
       
       "ผมตื่นขึ้นมาอีกครั้ง ก็พบว่า ตนเองอยู่ในบ้านของชาวนาจีนแก่ๆ ครอบครัวหนึ่ง ซึ่งช่วยชีวิตและให้ที่พักกับอาหาร เมื่อผมสามารถลุกเดินได้ คู่สามีภรรยาวัยชรา ให้เสื้อผ้าชุดใหม่กับผม มันเป็นชุดใหม่ๆ สะอาด ชุดเดียวที่พวกเขามีอยู่ ผมมองดูเสื้อผ้านี้ด้วยความรู้สึกที่บอกไม่ถูก ทำได้เพียงแค่โค้งคำนับเขา
       
       "นอกจากนั้น พวกเขายังยอมสละแป้งข้าว ที่มีสำรองเพียงน้อยนิดมาทำอาหารให้ผมเก็บไว้กินตอนเดินทาง"
       
       ยามาซากิ หวนรำลึกภาพครอบครัวนี้ครั้งใด ก็อดไม่ได้ที่จะหลั่งน้ำตา
       "พวกเขารู้ทั้งรู้ว่าผมเป็นทหารญี่ปุ่น แต่ก็ยังช่วยชีวิตผม"
       
       ยังมีคนจีนอีกหลายคนที่ช่วยยามาซากิตลอดการเดินทาง ซึ่งในที่สุด ก็เดินไปจนถึงเมืองจี่หนัน เขาเปลี่ยนชื่อของตน เป็น ซัน ระหว่างที่รอข้ามทะเลกลับญี่ปุ่น เขาได้งานเป็นคนเฝ้าโกดังเก็บเสบียงของกองทัพญี่ปุ่นที่สถานีรถไฟ
       
       ที่นี่ ยามาซากิ ได้เห็นความลำบากของคนจีน เขาแอบเปิดประตูให้คนงานจีนขโมยอาหารประทังชีวิต รวมถึงเสบียงยังชีพอื่นๆ กระทั่งถูกจับได้ จึงโดนสอบสวนโบยตีอย่างทรมาน แต่เขาไม่ยอมเอ่ยปากซัดทอดหรือเป็นพยานว่ามีคนงานจีนคนไหนที่เกี่ยวข้อง
       
       การยอมรับโทษเพียงลำพังในครั้งนั้น ทำให้คนงานจีนรู้สึกถือเขาเสมือนหนึ่งเป็นพี่ชาย ถึงขนาดที่มีเพื่อนจีนคนหนึ่งได้แนะนำหญิงจีนให้เขารู้จัก เธอซึ่งต่อมาได้สมรสเป็นคู่ชีวิตเขา

(http://img152.imageshack.us/img152/821/sun3.jpg)
ฮิโรชิ ยามาซากิ วัย 101 ปี กับครอบครัวเด็กจีน ในคลีนิคของเขาที่จี้หนัน มณฑลซานตง

       "เส้นทางสายใหม่"
       ที่จี่หลินนี้ ยามาซากิ ได้ตัดสินใจว่าจะประยุกต์ความรู้ทางการแพทย์ที่ตนมี และศึกษาเกี่ยวกับการแพทย์แผนจีนอย่างคร่ำเคร่ง เพื่อเปิดคลีนิคหมอรักษาผู้ป่วยชาวจีนที่ยากจนโดยไม่คิดค่ารักษา และไม่ยอมกลับญี่ปุ่นอีกเลยแม้ว่าสงครามระหว่างจีน - ญี่ปุ่นจะยุติไปแล้ว เมื่อปี พ.ศ. 2488
       
       "หลังจากที่กองทัพคอมมิวนิสต์สถาปนาสาธารณรัฐประชาชนจีน ในปี 2492 ผมได้ฟังเสียงของประธานเหมา เจ๋อตง ที่ประกาศว่าจะดำเนินนโยบายอย่างเป็นมิตรกับชาวต่างชาติทุกคนที่อาศัยอยู่ในประเทศจีน ในเวลานั้น ผมรู้สึกตื้นตัน"
       
       ยามาซากิได้งานในโรงพยาบาลรัฐแห่งหนึ่ง ซึ่งเขาเก็บเงินเดือนให้กับผู้ยากจนอื่นๆ เขาไม่เคยพูดกับใครเกี่ยวกับความหลังของตนเอง แม้กระทั่งครอบครัว โดยบุตรสาวของเขาเพิ่งจะรู้ว่าพ่อของตนเคยเป็นใคร ก็เมื่อไม่กี่สิบปีมานี้เอง หลังจากที่บังเอิญไปได้ยินชายคนหนึ่งซึ่งพ่อเขาเคยช่วยรักษาเมื่ออดีต 40 ปีก่อน
       
       แต่ไม่ว่าจะนานเพียงใด ยามาซากิ ไม่เคยลืมความจริงที่เขาเก็บไว้ข้างในเงียบๆ นั่นคือความทารุณที่ทหารญี่ปุ่นได้เคยทำไว้
       
       หลังจาก 40 ปี ที่เข้ามาเหยียบแผ่นดินจีนพร้อมกับกองทัพจักรพรรดิ์ ยามาซากิ ได้กลับไปประเทศญี่ปุ่นครั้งแรก เมื่อปี พ.ศ. 2519 สี่ปีหลังจากที่จีนกับญี่ปุ่นได้เริ่มต้นความสัมพันธ์ทางการทูต
       
       "แม้ว่า ครอบครัวของผมที่ญี่ปุ่นจะดีใจมากและต้องการให้ผมกลับมาอยู่ในญี่ปุ่น ผมก็ได้แต่บอกครอบครัวว่า ประเทศจีนคือบ้านของผมแล้ว ผมต้องกลับบ้าน"
       
       ในปีนั้น ยามาซากิทราบข่าวว่า เมืองทากิโมโต บ้านเกิดของเขา ในญี่ปุ่น ต้องการที่จะสานมิตรภาพระหว่างเมืองกับเมืองจี่หนัน เขาจึงอาสาทำงานในโครงการนี้
       
       ยามาซากิ เขียนจดหมายไปถึงนายนากาโซเน่ ยาสุฮิโร นายกรัฐมนตรีญี่ปุ่นในเวลานั้น ถึงแผนงานของเขา และได้รับจดหมายตอบกลับมาจากนายกฯ
       
       ซึ่งในที่สุดด้วยการร่วมปฏิบัติงานของเขา ทำให้การกระชับความสัมพันธ์ของสองเมืองนี้สำเร็จลุล่วงด้วยดีในปี พ.ศ. 2526 และเขาได้รับจดหมายแสดงความขอบคุณจากทางการทั้งสองเมือง
       
       "ยามาซากิ บอกว่า นี่คือสิ่งดีๆ สิ่งเดียวในชีวิตที่ผมรู้สึกว่าทำสำเร็จ"
       
       ในความจริง ยามาซากิผู้เงียบขรึม ได้ทำมากกว่าที่เขาพูด ทุกๆ ปี ยามาซากิจะอุทิศเงินสวัสดิการที่ตนได้รับจากรัฐบาลญี่ปุ่นให้กับชาวจีน เขายังได้สอนภาษาญี่ปุ่นให้กับนักเรียนจีนที่สนใจ โดยไม่คิดเงินทอง และออกเดินทำงานกวาดถนนหนทางสาธารณะรอบๆ ที่พักของตน ทุกวัน ตลอด 20 ปีที่ผ่านมานี้
       
       เขายังอุทิศหนังสือและอุปกรณ์การแพทย์ที่ซื้อมาจากญี่ปุ่นจำนวนมากแก่ห้องสมุดและโรงพยาบาลที่ยากไร้ในเมืองจี่หนัน โดยไม่มีของฝากอะไรจากญี่ปุ่นแก่ครอบครัวตัวเองเลย
       
       เขาเชื่อว่า หนทางที่ดีที่สุดที่จะขอโทษ และชดใช้กับความรู้สึกผิดที่ตนและทหารญี่ปุ่นในครั้งนั้นได้เคยทำไว้ มีแต่เพียงการชดใช้ด้วยการทำความดีต่อคนจีนให้มากยิ่งๆ ขึ้นไปเท่านั้น
       
       เมื่อล่วงสู่วัยชรา บรรดาผู้คนที่เคยรู้จักอดีตของเขาเริ่มสูญหายตายจากไปเกือบหมด จนแทบไม่มีใครรู้จักยามาซากิ ทหารญี่ปุ่นคนนี้อีกต่อไป
       
       เส้นทางที่ยามาซากิตั้งใจเมื่อแรกหนีทัพกลับญี่ปุ่นนั้น ได้เปลี่ยนเป็นทางสายใหม่ ซึ่งนำไปสู่การอุทิศตนเพื่อชดใช้และสร้างสันติภาพ
       
       ยามาซากิ วัย 103 ปี เสียชีวิตอย่างสงบด้วยชราภาพ ในวันที่ 6 ธันวาคม ที่ผ่านมานี้ โดยเมื่อครั้งที่เขายื่นคำร้องขอทำบัตรประจำตัวจากทางการจีนนั้น ยามาซากิได้ระบุแนบท้ายไว้ว่า "เมื่อผมตาย ผมขออุทิศร่างกายเพื่อเป็นประโยชน์ทางการแพทย์แก่ชาวจีน โปรดได้รับร่างกายนี้ไว้ด้วย"
[/size]

(http://img152.imageshack.us/img152/6857/sun4.jpg)

(http://img152.imageshack.us/img152/9991/sun5.jpg)

(http://img152.imageshack.us/img152/8324/sun6.jpg)

(http://img440.imageshack.us/img440/9607/sun7.jpg)
"ตราบใดที่ดวงจันทร์ยังทอแสง ขอให้มนุษย์มีเมตตาต่อกัน" ลายมือของยามาซากิ

(http://img440.imageshack.us/img440/5366/sun8.jpg)
สือมวลชนจีนเมื่อครั้งไปสัมภาษณ์ ยามาซากิ ปี พ.ศ. 2552

(http://img440.imageshack.us/img440/6734/sun9.jpg)


จาก http://www.manager.co.th/asp-bin/mgrView.asp?NewsID=9530000175338
 


หัวข้อ: Re: [2513] "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: เหยง 16 ที่ 15 ธันวาคม 2553, 17:31:19
เวียดนามอาลัยมารดาวีรชน ลูกชาย 9 คนสละชีพเพื่อชาติ
15 ธันวาคม 2553 11:28 น.

(http://img408.imageshack.us/img408/7413/89748525.jpg)
อาลัยรัก-- จากกันไปนาน 40-50 ปีกว่า เมื่อยังมีชีวิตอยู่ "แม่ถู" ยังจุดเทียนให้กับดวงวิญญาณของบุตรชาย วีรบุรุษทั้ง 9 คนอยู่เสมอ และ บัดนี้คุณยายเหวียนถิถู (Nguyen Thi Thu) ได้กลับไปอยู่กับทุกคนแล้ว ในสุสานวีรชนแห่งแผ่นดินบ้านเกิด ที่ทุกคนหลั่งเลือดต่อสู้พิทักษ์ปกป้องมา. 
 


       Photos by Tin Tuc
       ASTVผู้จัดการออนไลน์ -- ชาวเวียดนามหลายพันคนได้ร่วมกับครอบครัวนางเหวียนถิถู (Nguyen Thi Thu) เพื่ออาลัยเป็นครั้งสุดท้ายในวันอังคาร 12 ธ.ค.ศกนี้ ที่บ้านเกิด จ.กว๋างนาม (Quang Nam) ในภาคกลางของประเทศ ทางการได้จัดงานพิธีศพ “มารดาวีรชนแห่งชาติ” อย่างสมเกียรติ
       
       นางถู สูญเสียบุตรชายไปทั้ง 9 คน ในสงครามต่อสู้กับฝรั่งเศสเพื่อเอกราช และในสงครามกับสหรัฐฯ เพื่อให้เวียดนามได้เป็นประเทศเอกราช ซึ่งนำมาสู่การรวมประเทศเป็นหนึ่งเดียวในปี 2519 นอกจากนั้น ยังสูญเสียบุตรเขย พร้อมหลานสาว 1 คน
       
       มารดาวีรชนถึงแก่กรรมเมื่อวันศุกร์ด้วยวัย 106 ปี ท่ามกลางความเศร้าสลด ของญาติมิตร และเพื่อนบ้านร่วมคอมมูนเดียวกัน ทุกคนรู้จัก เคารพนับถือและเทิดทูนการเสียสละของสมาชิกครอบครัวนี้
       
       นางถู แต่งงานตั้งแต่อายุ 20 ปี มีลูกทั้งหมด 12 คน เป็นหญิง 1 คน ชาย 11 ในนั้น 1 คนเสียชีวิตแต่เยาว์วัย และนับตั้งแต่สามีถึงแก่กรรมในปี 2532 ชีวิตในบั้นปลายอาศัยอยู่กับบุตรสาวคนโตซึ่งปัจจุบันอายุ 86 ปี และบุตรชายคนสุดท้องวัย 68 ปี ซึ่งเป็นผู้จัดงานศพของมารดาในวันนี้
       
       นางฮายบ่าจิ (Hai Ba Tri) บุตรสาวเพียงคนเดียวก็เป็นมรดาวีรชนอีกคนหนึ่ง สามีของนางกับบุตรสาว 1 คน เสียชีวิตในสงครามกับสหรัฐฯ เช่นกัน
       
       พิธีแห่ศพจากบ้านพักในคอมมูนเดียนจาง (Dien Trang) อ.เดียนบาน (Dien Ban) จ.กว๋างนาม จัดขึ้นในเช้าวันอังคาร ขบวนแถวของผู้คนทอดยาวไปตามสองข้างทาง เป็นจำนวนหลายพันคน ขณะมุ่งไปยังสุสานวีรชนเดียนจาง พิธีฝังศพแล้วเสร็จลงเวลา 10.40 น.ทั้งนี้ เป็นรายงานของสำนักข่าวติ๋นตึก (Tin Tuc)
       
       ทางการจังหวัดได้จัดทหารกองเกียรติยศขบองกองทัพประชาชนเข้าร่วมพิธีศพของมารดาวีรชนแห่งชาติครั้งนี้ด้วย สำนักข่าวออนไลน์ภาษาเวียดนาม กล่าว
       
       เกิดปี ค.ศ.1904 นางเหวียนถิถู ได้รับการยกย่องเชิดชูเป็นนักปฏิวัติที่เสียสละอย่างสูงผู้หนึ่ง แม้ว่าบุตรชายจะล้มตายลงคนแล้วคนเล่าในสงครามกับข้าศึกที่มีอาวุธเหนือกว่า แต่ไม่เคยย่อท้อ ทั้งยังให้กำลังใจ ให้ทุกคนร่วมต่อสู้ต่อไป คำพูดของ “แม่ถู” ที่ว่า “ต้องเสียสละต่อไป” ยังก้องอยู่ในหูของเพื่อนบ้านตลอดมา
       (โปรดเลื่อนลงเพื่ออ่านต่อ)

(http://img408.imageshack.us/img408/6197/14525063.jpg)

       2

(http://img221.imageshack.us/img221/9369/80969944.jpg)
อาลัยรัก-- จากกันไปนาน 40-50 ปีกว่าแล้ว คุณยายเหวียนถิถู (Nguyen Thi Thu) ยังคงจัดสำหรับกับข้าวเลี้ยงดูบุตรชาย วีรบุรุษทั้ง 9 คนอยู่เสมอ และ บัดนี้คุณยายได้กลับไปอยู่กับทุกคนแล้วในสุสานวีรชนแห่งเดียวกันที่แผ่นดินบ้านเกิด ที่ทุกคนหลั่งเลือดต่อสู้พิทักษ์ปกป้องมา. 

       3
       
       บ้านหลังที่อยู่ทุกวันนี้เมื่อ 40-50 ปีก่อน เคยเป็นแหล่งหลบซ่อนของนักรบกองโจรในช่วงสงครามกับสหรัฐฯ โดยขุดอุโมงค์ไว้ในบริเวณสวนหลังบ้าน ทำผนังและเพดานอย่างแน่นหนา ข้างบนเลี้ยงวัวเอาไว้หลายสิบตัว อำพรางทางการระบอบไซ่ง่อนกับกองทัพสหรัฐฯ เอาไว้
       
       นางถูกับบุตรสาวจะคอยจัดหาอาหารไว้เลี้ยงดูนักรบปฏิวัติ และคอยจุดตะเกียงน้ำมันส่งสัญญาณบอกนักรบ เกี่ยวกับเวลาเข้าเวลาออกที่ปลอดภัย หลังออกปฏิบัติการโจมตีข้าศึกแต่ละครั้ง สื่อของทางการกล่าว
       
       “ในวันนี้สวนหลังบ้านของนางถูเต็มไปด้วยผู้คนที่ไปไว้อาลัยมารดาของทุกคนที่ต่อสู้เสียสละเพื่อประเทศชาติ ญาติๆ และเพื่อนบ้าน ชาวเวียดนามทั่วไปจากท้องถิ่นและจังหวัดอื่นที่ทราบข่าวไปกันไปที่นั่นเพื่ออาลัยเป็นครั้งสุดท้าย” ติ๋นตึก กล่าว
       
       บุตรชาย 3 คนแรกสละชีพ เมื่อปี 2491 คนที่ 4 ในปี 2497 ในช่วงสงครามต่อต้านฝรั่งเศส อีก 5 คน ทยอยเสียสละชีวิตในปี 2509, 2515 (2 คน) 2517 และคนล่าสุดในวันที่ 30 เม.ย.2518 ขณะสู้รบในกรุงไซ่ง่อน ซึ่งทำให้ฝ่ายกองโจรสามารถยึดเมืองหลวงของอดีตเวียดนามใต้ได้ในวันเดียวกัน ส่วนบุตรเขยเสียชีวิตในปี 2500 และ บุตรสาว (หลานสาว) สิ้นชีพในการสู้รบปี 2516
       
       ในปี 2536 นางถู ได้รับเหรียญตราแห่งเกียรติยศจากประธานาธิบดีเวียดนาม และ ประกาศนียบัตรเชิดชูเกียรติจากประธานรัฐสภาเวียดนาม ประวัติและรูปภาพกาต่อสู้ของ “แม่ถู” ได้รับการจารึกไว้ในพิพิธภัณฑ์ทหารของกองทัพประชาชนเวียดนาม
       
       ในปี 2550 ในโอกาสครบรอบปีที่ 60 วันแห่งวีรชนและนักรบเก่า กระทรวงแรงงาน สวัสดิการสังคมและนักรบเก่าในยุคนั้น ได้จัดสร้างอนุสาวรีย์มารดาวีรชนแห่งชาติขึ้นที่ อ.เติมกี๋ (Tam Ky) อนุสาวรีย์สูง 15.2 เมตร ปั้นหล่อเป็นรูปของนางเหวียนถิถู เพื่อให้เป็นตัวแทนของมารดาวีรชนผู้เสียสละทั่วประเทศ
       
        อาลัยมารดาวีรชนแห่งชาติ
(http://img221.imageshack.us/img221/1994/93826738.jpg)
วันนี้หลานๆ ช่วยกันนำคุณยายถูไปสู่สวงสวรรค์ เพื่ออยู่ร่วมกับคุณลุงกับคุณน้าอีก 9 คน.   

       4
(http://img221.imageshack.us/img221/4140/93464187.jpg)
ทหารกองเกียรติยศของกองทัพประชาชน ไปช่วยส่งดวงวิญญาณของมารดาวีรชนแห่งชาติ.

       5
(http://img221.imageshack.us/img221/830/55264921.jpg)
รถนำคุณยายถูไปยังสุสานวีรชน มารดาวีรชนแห่งชาติจะสถิตในดวงใจของชาวเวียดนามตลอดไป.

       6
(http://img221.imageshack.us/img221/2382/31856003.jpg)
ทหารผ่านศึกที่ยังมีชีวิตอยู่ไปร่วมงานศพ หลายคนเคยหลบซ่อนที่บ้านและได้กินข้าวของ "แม่ถู".

       7
(http://img221.imageshack.us/img221/6159/24849504.jpg)
ชาวเวียดนามจากต่างท้องถิ่นและต่างจังหวัดที่ทราบข่าวไปร่วมงานศพคุณยายถูเนืองแน่น.

       8
(http://img221.imageshack.us/img221/6961/64806774.jpg)
จากกันไป 40-50 ปีกว่าๆ บัดนี้คุณยายได้อยู่ร่วมกับลูกชายทั้ง 9 แล้ว ณ สุสานวีรชน ใน จ.กว๋างนาม (Quang Nam).

       9
 
 

 
 
จาก http://www.manager.co.th/asp-bin/mgrView.asp?NewsID=9530000175989
 


หัวข้อ: Re: [2513] "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: prapasri AH ที่ 18 ธันวาคม 2553, 21:19:34
มาแล้วจ้า มาแล้วจ้า หลังจากหายไปหลายวัน

พาลูกสาว เด็กหญิง.หมอ กระติ๊บ ไปดูงานและไปเที่ยวเซี่ยงไฮ้ค่ะ

(http://img217.imageshack.us/img217/6482/sn2g.jpg)


หัวข้อ: Re: [2513] "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: prapasri AH ที่ 18 ธันวาคม 2553, 21:25:57
(http://www.cmadong.com/imageupload/2010_Cmadong-Image/data/image/ldmo2t-68abe9.jpg)


หัวข้อ: Re: [2513] "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: prapasri AH ที่ 18 ธันวาคม 2553, 21:33:34
พ่อใหญ่หาญนั่งหลับตา ใน "เล้า " ซะแหล่ว

(http://www.cmadong.com/imageupload/2010_Cmadong-Image/data/image/ldmoff-8bec0f.jpg)


หัวข้อ: Re: [2513] "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: prapasri AH ที่ 18 ธันวาคม 2553, 21:36:16

(http://www.cmadong.com/imageupload/2010_Cmadong-Image/data/image/ldmojl-e7e5cb.jpg)

กับลูกสาวสุดรัก


หัวข้อ: Re: [2513] "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: prapasri AH ที่ 18 ธันวาคม 2553, 21:40:44
เปิด แชมเป....... เขียนยังไงหว่า

(http://www.cmadong.com/imageupload/2010_Cmadong-Image/data/image/ldmopr-05d2d2.jpg)


หัวข้อ: Re: [2513] "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: prapasri AH ที่ 18 ธันวาคม 2553, 22:04:05
ส่งรูปดูงานซะที่

คือเนื่องจากมีบริษัทมาเสนอขายเครื่อง ตัดมะเร็งและก้อนเนื้อ ชื่อเครื่อง HIFU

ด้วยระบบ HIGH  INTENSITY  FOCUSED  ULTRASOUND

ใช้ อัลตร้าซาวน์ เล็ง แล้วส่งความร้อน เข้าไปทำลายเนื้องอกหรือเนื้อมะเร็งร้าย

แทนการให้คีโม หรือฉายรังสี

(จีน ทำวิจัยทดลองได้ดีเพราะมีประชากรมาก ที่ป่วยเป็นมะเร็ง เลยทดลองแบบ ตายบ้างรอดบ้างไม่ค่อยเสียดายชีวิตคนกันเท่าไร

  ทดลองเป็นจำนวนมากเลยทำให้ หาข้อสรุปได้ว่าเครื่องนี้สามารถรักษาได้จริง)

ได้ fda  ของเกาหลี และ fda จีน แต่ยังไม่ได้จาก พี่ เมริกา แต่ คนอเมริกามารักษากันเป็นจำนวนมากแล้ว

(พี่แอ๊ะคิดว่าหากเครื่องนี้ใช้ได้ดี บางทีมาตรฐาน ต่างๆ เป็นการกีดกันทางการค้าเหมือนกันนะ)

เครื่องนี้ได้วางที่อังกฤษแล้ว  ที่ สิงคโปร์ ด้วย

คนไทยไปรักษา ที่จีนกันมาก แต่ หากไปในบางเมืองจะทนความสกปรกของโรงพยาบาลที่นั่นไม่ไหว

นี่คือเครื่อง ไฮฟู ค่ะ

(http://www.cmadong.com/imageupload/2010_Cmadong-Image/data/image/ldmpu5-0f3816.jpg)


หัวข้อ: Re: [2513] "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: prapasri AH ที่ 18 ธันวาคม 2553, 22:33:58

เนื่องจาก โรงพยาบาลที่พี่แอ๊ะไปดูงานเป็นโรงเรียนแพทย์ มาตรฐานสูงแบบ ศิริราช

จึงสะอาด และ ดีมาก

หารูปโรงพยาบาลจากกล้องไม่เจอซะเเล้ว

จะเอารูปหมอ สาวชาวจีนสวยให้ดร.ป๋องสักคน (ให้ดูนะ)แต่รูปหายไปแย้ว หมอคงกลัวดร.ป๋องจะจีบ อิๆๆๆ

ดูรูปไปเที่ยวก่อนนะ

(http://www.cmadong.com/imageupload/2010_Cmadong-Image/data/image/ldmr4m-b8d05b.jpg)


หัวข้อ: Re: [2513] "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: เหยง 16 ที่ 19 ธันวาคม 2553, 07:33:17
พี่แอีะ

เล่าต่อเรื่องการไปดูเครื่อง วิธีการรักษาและผลการใช้เครื่องนี้ด้วยครับ


หัวข้อ: Re: [2513] "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: prapasri AH ที่ 19 ธันวาคม 2553, 07:56:08
เหยง

เครื่อง hifu นี้ พี่แอ๊ะรู้จักมาประมาณ5-6 ปีแล้ว มีสิงคโปร์มาเสนอขาย

แต่ช่วงนั้นพี่แอ๊ะดูแล้ว ไม่มั่นใจว่าจะรักษาโรคได้จริง ตอนนั้นเขาใช้กันในวงการแพทย์ทางเลือก

พี่แอ๊กก็ทำแพทย์ทางเลือก ที่ร.พ พี่แอ๊ะเหมือนกัน

แต่พี่แอ๊ะรู้สึกว่า แพทย์ทางเลือก ยังไม่เหมาะกับสภาพ คนจนๆ ทางอิสาน

เหมาะกับคนรวยๆที่หาทางเลือก ผิดบ้าง ถูกบ้าง

ไม่เป็นวิทยาศาสตร์

บางทีก็เหมือนหลอก  เรียกว่า เข้าทางแพทย์ ว่างั้นเถอะ

พี่หาญก็ไม่สนับสนุนเพราะหลายๆ propocal  พิสูจน์ไม่ได้ทางวิทยาศาสตร์ ไม่มีผลทางวิจัยที่ชัดเจน

ลองเข้าไปในคลินิกแพทย์ทางเลือก ที่มีกันมากๆ ในกรุงเทพ

 คนที่ใจไม่เเข็ง เงินจะหมดไปในกระเป๋าเลยทีเดียว

เพราะหมอ ดังๆที่รักษาแพทย์ทางเลือก จะรักษา ด้วยปาก คือพูดเก่ง

เราก็รูดการ์ด ให้ไปโดยเชื่อตอนนั้น พอออกมาจากคลินิกนั้นก็ รู้สึกไม่สบายใจว่า โดนหลอกเข้าอีกแล้ว

พี่หาญเยอะเย้ย พี่แอ๊ะบอกว่า เข้าทางแพทย์ (อีกแล้ว)


หัวข้อ: Re: [2513] "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: prapasri AH ที่ 19 ธันวาคม 2553, 08:06:23
พี่แอ๊ะศึกษาทั้ง stemcell  ทั้งเซล์สด จากเยอรมัน เซลล์สกัด

และอะไรๆต่างๆมากมายที่เป็นทางเลือก ที่เข้าทางแพทย์ หาเงิน

ศึกษามากแต่ก็ไม่กล้าให้กับคนไข้เพราะเเพงมาก ทั้งๆที่ต้นทุน นิดเดียว

แต่ที่สำคัญคือยังไม่มีเหตุผลทางการแพทย์ยอมรับว่ารักษาได้จริง

พี่แอ๊ะเคยมีลิขสิทธิ์ เซลล์ จาก ฝรั่งของเยอรมัน

แต่พี่แอ๊ะก็ไม่ได้นำมารักษาคนไข้ เพราะแพทยสภายังไม่ยอมรับ

และกลัว ว่าเราจะทำในสิ่งที่ไม่ถูกต้อง

เเต่จากการศึกษามานาน ทั้งการอ่านและลงไปคลุกคลี กับเรื่องนี้

เลยคิดว่า ตัวเอง มีความรู้มากพอสมควร แต่ยังไม่นำมารักษาคนไข้ ตราบใด ที่ยังไม่ถูกกฎหมาย

และได้รับการวิจัย ที่ถูกต้อง ได้รับการยอมรับ และไม่ผิดจริยธรรม

มีหมอคนหนึ่งชมพี่แอ๊ะที่ทำให้พี่แอ๊ะภาคภูมิใจว่าเราใจแข็งไม่เถเลไถล

ไปกับการเห็นเงินจำนวนสูงที่ได้จากคนไข้ เเต่ไม่มั่นใจว่าจะรักษาคนไข้ได้จริงว่า

 หมอผู้หญิงคนนั้น บอกว่า "หนูชอบพี่จริงๆที่พี่รู้เรื่องนี้มาก แต่ไม่เอามาให้กับคนไข้"



หัวข้อ: Re: [2513] "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: เหยง 16 ที่ 19 ธันวาคม 2553, 08:18:15
พี่แอ๊ะ

แล้ว HIFU นี้จะมีมาอยู่ใน รพ.เครือนายแพทย์หาญ หรือเปล่า??
ติดตั้งเครื่องเดียว แต่ใช้กับทุกโรงพยาบาลเครือข่ายน่ะ หรือมีทุกโรงพยาบาล


หัวข้อ: Re: [2513] "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: prapasri AH ที่ 19 ธันวาคม 2553, 08:57:55
เหยง พี่แอ๊ะศึกษษเรื่อง hifu มา 5-6 ปี

มาตอนนี้จีนได้วิจัยมาจนถึง version ที่3 ที่สามารถรักษามะเร็งได้จริง

ด้วยลำเเสงความร้อน และไปตัดเนื้อร้าย โดยไม่ทำลายเนื้อข้างเคียง

รักษาได้ดี ในมะเร็งตับ เนื้องอกในมดลูก มะเร็งตับอ่อน  panclease

มะเร็ง blladder

มะเร็งในไต มะเร็งต่อมลูกหมาก

พี่แอ๊ะจะนำเครื่องนี้มาลงที่รพ ในกลุ่ม  HANN GROUP แน่นอน

เพราะ รักษาได้จริง


หัวข้อ: Re: [2513] "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: prapasri AH ที่ 19 ธันวาคม 2553, 09:07:06

เหยง เข้าไปดูในเวบบนี้ก่อนนะ พี่แอ๊ะจะมาเล่าต่อในสิ่งที่ได้ไปศึกษาดูงานมา

อีก 2 อาทิตย์จะไปดูที่ปักกิ่งอีกแห่งหนึ่ง ที่เขาตัดเนื้องอกในมดลูก หลายหมื่นรายแล้ว

ที่เซี่ยงไฮ้ พี่แอ๊ะดูเรื่องมะเร็งตับ ไต ตับอ่อน bladder

เด่วจะมาเล่าต่อ ขอไปทำงานก่อนนะ

http://www.hifucancertreatment.co.uk/


หัวข้อ: Re: [2513] "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: prapasri AH ที่ 19 ธันวาคม 2553, 09:12:51

พี่แอ๊ะ จะนำมาลง ที่รพ หาญ ที่ยโส นี่แหละ คงเป็นเครื่องเเรกในประเทศไทยค่ะ


หัวข้อ: Re: [2513] "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: prapasri AH ที่ 19 ธันวาคม 2553, 14:23:27

http://www.utlltd.co.uk/

เหยง

เข้าไปเวบนี้ด้วยนะ

ที่อังกฤษก็ใช้เครื่องนี้แล้ว


หัวข้อ: Re: [2513] "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: เหยง 16 ที่ 20 ธันวาคม 2553, 11:48:54
พี่แอ๊ะ

เรื่องไม่คาดคิด
เมื่อได้ข่าวผู้นำพม่า เขมร เดินทางไปรักษาโรคมะเร็งกันที่ประเทศสิงคโปร์ แทนการเข้ามารักษาในประเทศไทย
อาจจะเป็นเพราะการใช้เจ้าเครื่องตัวนี้ด้วย
(หมายเหตุ-ผู้นำเขมรคือ ผู้บริหาร ไม่ได้หมายถึงอดีตกษัตริย์สีหนุและพระชายา ซึ่งรักษาตัวที่ปักกิ่งอยู่แล้ว)


หัวข้อ: Re: [2513] "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: wannee ที่ 20 ธันวาคม 2553, 14:06:34


สวัสดีค่ะพี่แอ๊ะ  emo4:))

 เจอพี่แอ๊ะที่มหาสารคามครั้งหลังสุด   ฟังที่พี่พูดผสมกับบนเวบ พี่แอ๊ะมีอะไรที่ต้องทำมากมายเลยค่ะ   emo48:)

ต้องซูฮกพี่แอ๊ะ จิงๆ emo6::))


หัวข้อ: Re: [2513] "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: prapasri AH ที่ 20 ธันวาคม 2553, 22:46:28
หมอเสียด

คือ พี่แอ๊ะเป็นอะไรก็ไม่รู้ อยู่เฉยๆไม่ได้ เเละมีงานให้ทำเยอะมาก

เเละพี่แอ๊ะมีความสุขในการทำงาน  แต่มีตัวช่วยเยอะ ที่ทำงานให้สำเร็จได้ในเวลาที่กำหนดไว้

อาจจะเป็นเพราะมาอยู่ที่นี ยโสธร ไม่มีญาติพี่น้อง  ไม่มีภาระอื่น นอกจากการทำงาน

หากไม่ทำงานคงเหงา เพราะอยู่ว่างไม่ได้ มีงานมาให้ทำตลอด

อยากจะกลับมาอยู่กรุงเทพใจจะขาด ก็กลับไม่ได้ เพราะพี่หาญต้องการอยู่ทางนี้

ก็เลยทำงาน ทำงาน ทำงานๆๆๆๆ และพี่แอ๊ะไม่ค่อย มีอะไรที่เป็นเรื่องจุกจิก

เช่น บางคนต้องไปทะเลาะ หรือนินทา คนโน้นคนนี้ หรือไปบ้านโน้นบ้านนี้

บางคนว่างก็ไปเม้าท์ ไปรำพัด ซึ่งพี่แอ๊ะทำแบบนี้ไม่เป็น

พี่แอ๊ะเลยไม่มีเพื่อนที่ยโสธร ที่ เป็นแบบสังคมจุ๊กๆจิ๊กๆ

มีเเต่คนที่ทำงานด้วยกัน แบบ ทำงาน ที่เป็นเรื่องเป็นราว

ไม่ทราบจะอธิบายอย่างไร

พี่แอ๊ะจะไม่ค่อยเสียเวลากับเรื่องไม่เป็นเรื่อง หรือเรื่องเล็กๆน้อยๆ ที่กลุ่มผู้หญิงเขาชอบเป็นกัน

ไปกรุงเทพก็ ตัดเสื้อมาให้พอใช้ได้สัก สามปี แล้วค่อยไปตัดใหม่

หรือซื้อของมาให้พอใช้ จะได้ไม่เสียเวลาไปหาซื้ออีก

ทานอาหารก็ทานอะไรก้ได้ที่แม่บ้านจัดให้ทาน ไม่อร่อยก็ทาน เพราะไม่มีเวลาไปทำเอง

ทำเอง ก็ทำไม่เป็น ทำไม่อร่อย  แล้วก็ ยิ่งยุ่งมากอีก

สมัยพี่แอ๊ะเป็นแม่บ้านธรรมดา เป็นภรรยาพี่หาญอยู่ในร.พ รัฐบาล

พวกภรรยาหมอเขาก้ไปซื้อกับข้าวมาทำ เป็นแม่บ้านกัน

พี่แอ๊ะก็ไปตลาดไม่เป็น คือเคยไปแล้วก็ซื้อของมาเยอะเเยะเกินความจำเป็น

ยิ่งไปตลาดตอนหิว ยิ่งซื้อกับข้าวมามาก พอมาถึงบ้าน ไม่อยากทานอาหารนั้นเลย

เลยเปลืองเงินไปเปล่า เลยไม่ไปตลาดสดอีกเลย




หัวข้อ: Re: [2513] "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: prapasri AH ที่ 20 ธันวาคม 2553, 23:12:23

และพี่แอ๊ะโชคดีที่มีตัวช่วย คือคนช่วยทำงาน มาก

ฝ่ายธุรการพี่แอ๊ะ มีเป็นแผนกเลยค่ะ

ฝ่ายดูเรื่องงานร.พ ดูบัญชี ดูการเงิน ดูการตรวจสอบ รายงาน

เรื่องงานเพื่อนๆ (ตัวอย่างเช่น อย่างติดต่องานตอนที่ ซีมะโด่งมาเที่ยว)

 ก็จะมีสองสามคนที่คอยประสานงานและจัดงาน ซึ่งคนทำงานเหล่านี้ก็จะชำนาญ

การดูแลเเขกพี่แอ๊ะ ประสานงานให้ไม่ให้บกพร่อง

เมือวานก็มีคณะ อาจารย์แพทย์ และวิทยาศาสตร์จุฬา รุ่นเข้าจุฬา ปี 2501 อายุประมาณท่านละ เกือบ70ปี

เป็นอดีตอาจารย์แพทย์ที่ใหญ่โตในโรงพยาบาลต่างๆ มาเยียมพี่แอ๊ะกับพี่หาญที่มุกดาหาร

ก็ฝ่ายทีมงานพี่แอ๊ะประสานงาน ให้พี่แอ๊ะ ไปดูแลโดยเรียบร้อย

พี่แอ๊ะกับพี่หาญก็ไปตอนต้อนรับ ทานอาหาร


เรื่องงานดูแลลูก ๆ ก็มีอีกแผนกที่คอยดูแลเรื่องของลูกๆให้

พี่แอ๊ะมีหน้าที่โทรคุย  หรือ บีบี กับลูกอย่างเดียว

พี่แอ๊ะเลยสามารถใช้เวลามาเล่นเนต  เข้าเวบ ซีมะโด่งเป็นการพักผ่อน5555555

น้องๆท่านไหนคุยกันได้ดี พี่แอ๊ะก็คุย คุยๆๆๆๆ

เเล้วก็ไปนอนคิดถึงเรื่องที่เราคุยกัน แบบ ขำๆๆๆ จนหลับไป

พี่แอ๊ะว่า พี่แอ๊ะ ก็ สุข ๆ และมีทุกข์บ้าง แต่ทุกข์ มีน้อย เพราะ ไม่อยากสนใจเรื่องทุกข์ๆ

อะไรที่เสียไปแล้วก็เสียไป ไม่คิดถึง อีก

พี่แอ๊ะจะไม่สนใจกับอดีต ที่ไม่ดี และผ่านไปแล้ว และไม่คาดหวังกับอนาคตมาก

เพราะอายุจะ60แล้ว ไม่มีอะไรจะคาดหวังแล้ว555

กับลูกๆ ก็ไม่คาดหวังมาก คิดว่าเขาต้องดูแลตัวเขาได้

เพราะ เราปั้น เราสร้างเขาไว้อย่างดีแล้ว เขาต้องช่วยตัวเขาเองได้

ชีวิตพี่แอ๊ะก็เป็นอย่างนี้แหละ หมอเสียด

สิ่งที่ต้องการอย่างเดียว คืออยากกลับไปอยู่กรุงเทพตอนแก่ค่ะ

สงสัยได้อยู่บ้านพักคนชรา 55555555


หัวข้อ: Re: [2513] "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: prapasri AH ที่ 20 ธันวาคม 2553, 23:15:11
เขียนมายาว เลย    ดร.ป๋อง อาจจะคิดว่าพี่แอ๊ะเพี้ยนก็ได้ อิๆๆๆๆๆๆ 55555


หัวข้อ: Re: [2513] "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: wannee ที่ 21 ธันวาคม 2553, 14:33:07
สวัสดีค่ะพี่แอ๊ะ 13  emo6::))
       อ่านที่พีเล่าพูดคุยให้ฟัง  ขณะนี้สำหรับพี่แอ๊ะทุกอย่างลงตัวหมดค่ะ  ทั้งตัวพี่แอ๊ะเอง พี่หมอหาญ ลูกๆทั้ง 4 คน
        แฟนคลับที่ติดตามและรู้จักพี่แอ๊ะ จะรู้ได้เช่นกันว่าทุกอย่างมาจากการจัดการที่ดี และมีวิสัยทัศน์ของครอบครัวพี่แอ๊ะ  มีพี่หมอหาญที่เป็นที่ยอมรับของคนไข้ว่าเป็นหมอเก่ง มีฝีมือ เป็นที่พึ่งของคนไข้ได้จริง
       และเป็นที่กล่าวขวํญว่าเป็นหมอที่มีฝีมือมากคนหนึ่งในวงการแพทย์   สามารถทำงานยากให้ง่าย  การรักษาที่เสียเวลามากก็เสียเวลาน้อย  ต้องจ่ายมากก็เหลือจ่ายน้อย  ผลการรักษาไม่แตกต่างจากที่ต้องไปจ่ายแพงๆ  ทำให้กิจการร.พ.ในเครือของหมอหาญมีชื่อเสียงมากโดยเฉพาะภาคอิสาน  
       เราชาวซีมะโด่งรู้สึกชื่นชมและภาคภูมิใจในตัวพี่หมอหาญ และพี่แอ๊ะค่ะ emo30:sorry: (เคารพ)


หัวข้อ: Re: [2513] "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: prapasri AH ที่ 21 ธันวาคม 2553, 23:30:39
หมอเสียด และเหยง

พี่แอ๊ะ copy u tube ไม่เป็น แต่จะพยายามหาข้อมูล ไฮฟูมาให้ มหัศจรรย์จริงๆ


HIFU, high intensity focused ultrasound, is known as a novel cancer treatment technology by which an ultrasound beam can be directed to a tight focus in tissue where the temperature can be enhanced to over 60 degree centigrade in seconds to cook the tissue. Tissue sonicated by HIFU becomes coagulative necrosis and vascularities were eliminated leading to denaturation of cancer cells. This technology was developed in Chongqing China in 1997 and applied to treat over 10000 patients worldwide


หัวข้อ: Re: [2513] "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: prapasri AH ที่ 21 ธันวาคม 2553, 23:33:07
 
http://www.youtube.com/watch?v=48WmkWSQCAw&feature=player_detailpage

อันนี้เป็นรักษา มะเร็งต่อมลูกหมากซึ่งได้รับการยอมรับทั่วโลก

แต่มะเร็งส่วนอื่นๆ ยังไม่ค่อยมีใครทราบในไทย และอเมริกา


หัวข้อ: Re: [2513] "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: prapasri AH ที่ 21 ธันวาคม 2553, 23:40:35

http://www.youtube.com/watch?v=n13QktsZROw&feature=player_detailpage


พี่แอ๊ะ จะไปปักกิ่ง และ ไป chong ching และซีอาน

ก่อนจะลงทุนซื้อเพราะค่อนข้างแพงมากสำหรับพี่แอ๊ะ

 จึงต้องดูอีกหลายๆ version



หัวข้อ: Re: [2513] "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: prapasri AH ที่ 21 ธันวาคม 2553, 23:43:12
 เปิดคณะแพทย์ ใน ซำบายดี  2513 พี่แอ๊ะซะเลยดีไหมนี่

http://www.youtube.com/watch?v=EqWlE6huCGk&feature=player_detailpage


หัวข้อ: Re: [2513] "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: prapasri AH ที่ 21 ธันวาคม 2553, 23:48:25
 
http://www.youtube.com/watch?feature=player_detailpage&v=WYpR--VUAdw


หัวข้อ: Re: [2513] "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: prapasri AH ที่ 21 ธันวาคม 2553, 23:55:13

(http://www.cmadong.com/imageupload/2010_Cmadong-Image/data/image/ldsez8-508edf.jpg)


คนไข้จะมารักษาเเบบ opd  case เลยค่ะ ไม่ต้อง sterile เหมือนห้องผ่าตัดทั่วไปค่ะ

ที่จีน นั่งรอคิว เข้า ไฮฟู กันเป็น 20-30คน เลยค่ะ



หัวข้อ: Re: [2513] "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: prapasri AH ที่ 21 ธันวาคม 2553, 23:56:23

ศึกษาเรื่อง hifu  แต่อย่าใช้ hi-fu เลยนะคะ


หัวข้อ: Re: [2513] "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: เหยง 16 ที่ 22 ธันวาคม 2553, 09:01:59
อ้างถึง
ข้อความของ prapasri AH เมื่อ 21 ธันวาคม 2553, 23:33:07

http://www.youtube.com/watch?v=48WmkWSQCAw&feature=player_detailpage

อันนี้เป็นรักษา มะเร็งต่อมลูกหมากซึ่งได้รับการยอมรับทั่วโลก

แต่มะเร็งส่วนอื่นๆ ยังไม่ค่อยมีใครทราบในไทย และอเมริกา


บอกพี่ป๋อง เป็นคนแรกเลย


หัวข้อ: Re: [2513] "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: ตุ๋ย 22 ที่ 24 ธันวาคม 2553, 18:21:56
(http://img218.imageshack.us/img218/6281/t03121002ccf.gif)


หัวข้อ: Re: [2513] "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: pusadee sitthiphong ที่ 24 ธันวาคม 2553, 21:40:47
Merry Christmas and Happy New Year ค่า


หัวข้อ: Re: [2513] "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: prapasri AH ที่ 25 ธันวาคม 2553, 08:26:04
อ้างถึง
ข้อความของ pusadee sittipong เมื่อ 24 ธันวาคม 2553, 21:40:47
Merry Christmas and Happy New Year ค่า

น้องป้อมขา

ขอบคุณมากค่ะ  ขอให้มีความสุขมากๆเช่นกัน และขอให้อายุยืน 120 ปีนะคะ

เราจะได้มีความสุขกัน นานๆ
อยากมีอายุยืน 120 ปี  และสวเสมอสวยเสมอ ด้วยเครื่องสำอาง เมิลนอเเมน

ปรึกษาพี่แอ๊ะได้ค่ะ


หัวข้อ: Re: [2513] "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: prapasri AH ที่ 25 ธันวาคม 2553, 08:32:07
อ้างถึง
ข้อความของ ตุ๋ย 22 เมื่อ 24 ธันวาคม 2553, 18:21:56
(http://img218.imageshack.us/img218/6281/t03121002ccf.gif)

น้องตุ๋ยคะ

ขอบคุณสำหรับ สคส ที่ทันสมัย

ขอให้น้องตุ๋ยมีความสุขกับการทำงาน และมีความสุขกับการใช้ชีวิต

และให้มีอายุยืน 120 ปี นะคะ

เดี่ยวนี้เขาอยู่กันเกิน 100 ปีแล้วค่ะ

อาจารย์หมอเฉก เลยตั้งไว้ 120 ปี

เพราะอาจารย์หมอเฉก 90 ปีเเล้วยังแข็งแรง

อาจารย์ท่านผู้หญิงพูนทรัพย์ นพวงศ์ อดีตคณบดีคณะ ครุ ของเรา

อายุ 100กว่าปี เเต่ดูยังสาวกว่าตอนเป้นคณบดีอีกค่ะ

ท่านผู้หญิงยศวดี อัมพรไพศาล อายุ110 ปี ยังแข็งเเรงค่ะ

ขึ้นเวทีกล่าวอวยพรให้คู่บ่าวสาวได้อย่างกระฉับกระเฉงค่ะ

เรามีความสุขกันอย่างนี้ ต้องตั้งเป้าอยู่ให้ได้ 120 ปีกันทุกคน

ยังมีงานที่ทำไม่เสร็จอีกมากมาย ต้องอยู่ทำงานก่อน อิๆๆๆๆๆ


หัวข้อ: Re: [2513] "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: prapasri AH ที่ 25 ธันวาคม 2553, 09:11:01

(http://www.cmadong.com/imageupload/2010_Cmadong-Image/data/image/ldyomp-51e17e.jpg)



โชว์รูป จะอยู่ให้ได้ 120  ปี ให้ดูก่อนนะว่าจะอยู่ได้ไหม



ดร . ป๋องเธออย่าแก๋  ซะล่ะ



ถ้าเป็นมะเร็งต่อมลูกหมากก็ มี เครื่องมือรักษาแล้ววววววววววววว


หัวข้อ: Re: [2513] "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: prapasri AH ที่ 25 ธันวาคม 2553, 11:40:24
ร.พ ในจีน ใครว่าสกปรก  คงเป็น ในบาง มณฑล ที่ยังล้าหลังเท่านั้น


(http://www.cmadong.com/imageupload/2010_Cmadong-Image/data/image/ldyouu-0a32dc.jpg)

แต่ร.พ ในเมืองใหญ่ๆร.พ ที่เขารื้อมาสร้างใหม่ ทันสมัย จะก่อสร้างแบบ คงทนถาวรมาก

ปูด้วย หินอ่อน ทุกตารางนิ้วค่ะ

เรียกว่า อนาคต จีนจะเป็น มหาอำนาจอย่าง เเน่นอน

ไม่ได้หมายถึง ปูหินอ่อน

คือใน ทุกๆเรื่อง

 และเรื่องสุขภาพ  จีนจะพยายามค้นคว้าวิจัย อย่างมาก เพราะมีประชากร มากมายที่ให้เป็นหนูทดลอง

คือตายก็ไม่ว่ากัน  ทดลองมาก ก็จะได้มีความรู้มาก


หัวข้อ: Re: [2513] "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: prapasri AH ที่ 25 ธันวาคม 2553, 14:57:45

อ้อย 14 ไปเที่ยวไหนเห็นอยู่ไวๆ ว่าเข้าเวบมา

มาหาเจ๊ เล้า ซะดีๆ

มาดูคนจีนป่วย นั่งให้น้ำเกลือ เตียงไม่พอให้นอน

ยืนเข้าคิว ขอน้ำเกลือเหมือนเข้าคิวซื้อของใน 7/11

(http://www.cmadong.com/imageupload/2010_Cmadong-Image/data/image/ldz4ot-15f2ad.jpg)


หัวข้อ: Re: [2513] "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: prapasri AH ที่ 25 ธันวาคม 2553, 14:59:57
ญาติ และคนไข้ มารับน้ำเกลือ จากพยาบาล

(http://www.cmadong.com/imageupload/2010_Cmadong-Image/data/image/ldz4uj-0d6998.jpg)


หัวข้อ: Re: [2513] "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: prapasri AH ที่ 25 ธันวาคม 2553, 15:03:13
รอรับยา อลังการกว่าไทยเยอะ

(http://www.cmadong.com/imageupload/2010_Cmadong-Image/data/image/ldz50l-1facd7.jpg)


หัวข้อ: Re: [2513] "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: prapasri AH ที่ 25 ธันวาคม 2553, 15:05:29

อุปกรณ์ เขาพร้อม รออีกหน่อย ให้เขา ทำพัฒนาคุณภาพ

และมาตรฐาน ร.พ จะก้าวไปไกลกว่าบ้านเรา และ มะริกาเยอะเลย

(http://www.cmadong.com/imageupload/2010_Cmadong-Image/data/image/ldz52n-69844d.jpg)


หัวข้อ: Re: [2513] "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: prapasri AH ที่ 25 ธันวาคม 2553, 15:07:11

ป้ายบอกทาง น้องๆ สนามบินสุวรรณภูมิเลยทีเดียว

(http://www.cmadong.com/imageupload/2010_Cmadong-Image/data/image/ldz56u-bb8a7e.jpg)


หัวข้อ: Re: [2513] "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: prapasri AH ที่ 25 ธันวาคม 2553, 15:09:42

มาแล้วศูนย์รักษามะเร็ง

(http://www.cmadong.com/imageupload/2010_Cmadong-Image/data/image/ldz5az-57bfad.jpg)


หัวข้อ: Re: [2513] "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: prapasri AH ที่ 25 ธันวาคม 2553, 15:12:14

คูณหมอ กำลัง ใช้ อัลตร้าซาวน์ หา ตำแหน่งมะเร็ง ค่ะ

(http://www.cmadong.com/imageupload/2010_Cmadong-Image/data/image/ldz5ei-02cf95.jpg)


หัวข้อ: Re: [2513] "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: prapasri AH ที่ 25 ธันวาคม 2553, 15:17:29

แล้วก็เอา หัวไฮฟู ไปวางที่ตรงตำแหน่งมะเร็ง

ลำเเสงความร้อนจะลงไป ที่ตำแหน่งนั้น

เครื่องจะ ขีด วง ตำแหน่งที่เป็นเนื้อร้ายไว้ก่อน

ดังนั้นลำเเสงจะไม่ไปทำลายเนื้อข้างเคียง

เผาไหม้เฉพาะเนื้อร้าย  ง่ายๆเเต่มหัศจรรย์

คนไข้คนนี้เป็นมะเร็งตับไม่ฉายแสงไม่ให้คีโม และ ไม่ผ่าตัด

ทำ ไฮฟู ประมาณ สองครั้ง

ครั้งแรก ทำ ก็ยุบไปเยอะมาก

แล้วมาเก็บครั้งที่ 2

(http://www.cmadong.com/imageupload/2010_Cmadong-Image/data/image/ldz5ic-966263.jpg)


หัวข้อ: Re: [2513] "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: prapasri AH ที่ 25 ธันวาคม 2553, 15:19:14
เนื้อที่ ผิวหนังข้างนอกก็ไม่ไหม้นะคะ

คนไข้รู้สึกปวดนิดๆ บางคนก็ไม่ปวดเลย

บางคนปวดประมาณ ดีกรี ที่3 ของการวัดความปวด


หัวข้อ: Re: [2513] "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: prapasri AH ที่ 25 ธันวาคม 2553, 15:21:01

(http://www.cmadong.com/imageupload/2010_Cmadong-Image/data/image/ldz5tn-b7f437.jpg)

คุณหมอ ผอ.ศูนย์มะเร็งมาต้อนรับด้วย ทุกคนรักคนไทย และประเทศไทยค่ะ


หัวข้อ: Re: [2513] "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: prapasri AH ที่ 25 ธันวาคม 2553, 15:29:45
ดูร.พ พี่จีน ซิ  น้องไทย อายเลยค่ะ

(http://www.cmadong.com/imageupload/2010_Cmadong-Image/data/image/ldz5zm-834a7a.jpg)

ร. พ เขารักษา ฟรีนะคะ หรือคนไข้ร่วมจ่าย 10%

เขาบอกนะคะ แต่คิดว่าคงฟรีเพราะ ไม่เห็นมีการไปจ่ายเงินที่ตรงไหนเลย

แต่เห็นมี แผนกวีไอพี  แยกไป อีกจุดหนึ่ง คงเสียเงินมั้ง

จีนเป็นคอมมูนิสต์ คงไม่เก็นค่ารักษาพยาบาล

สงสารแต่ คอมมูนิสต์ สปป.ลาว ต้องจ่ายเงิน

น่าสงสารมาก พี่แอ๊ะเคยไป ดูคนไข้ในร.พ ที่ลาว

เขาปวดท้องมากแต่ไม่มีเงินค่าผ่าตัด คิดตั้งเป็นหลายล้านกีบ

ประมาณ 6-7 พันบาท

จะเเอบเอาคนไข้หนีมาผ่าตัดให้แล้ว

แต่กลัวทางการลาวจับพี่แอ๊ะเข้าคุกขี้ไก่ค่ะ



หัวข้อ: Re: [2513] "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: ti2521 ที่ 25 ธันวาคม 2553, 15:30:30
.....สวัสดี ครับ พี่แอ๊ะ มีอะไรๆ ดีๆ มาเล่าตลอด  น่าทึ่งมากครับ  ขอบคุณมากครับ.....


หัวข้อ: Re: [2513] "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: prapasri AH ที่ 25 ธันวาคม 2553, 15:43:17

ว่าจะไปแต่งตัว ไปงานปีใหม่ทีมุกดาหารเเล้ว

เเต่เห็นน้องเต้ เข้ามาชม เลย มารับคำชม พี่แอ๊ะบ้ายอค่ะ อิๆๆๆ


ขอสวัสดีปีใหม่น้องเต้นะคะ ขอให้มีความสุข สุขภาพดี และ หล่อวันหล่อคืน

เหมือนใน LOGO  นะคะ หล่อกว่าดาราอีกค่ะ

จากพี่แอ๊ะ กะ พ่อใหญ่หาญ ตอนพาพ่อใหญ่หาญเที่ยวค่ะ

(http://www.cmadong.com/imageupload/2010_Cmadong-Image/data/image/ldz6to-0cfcc8.jpg)


หัวข้อ: Re: [2513] "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: wannee ที่ 25 ธันวาคม 2553, 16:13:04

สุขสันต์วันคริสต์มาส และสวัสดีปีใหม่ค่ะพี่แอ๊ะ 13  emo4:))

(เเงๆๆ  มาไม่ทัน  เมื่อเช้าก็เห็นแวบ  พิมพ์เสร็จแล้ว แต่ลืมกดส่ง แงๆๆ)


หัวข้อ: Re: [2513] "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: ก่อศักดิ์16 ที่ 25 ธันวาคม 2553, 16:17:38
สวัสดีครับ พี่แอ๊ะ
ขออนุญาตแนะนำตัวครับ
ผมชื่อ อุ้ย ครับเป็นRCU16  ยินดีที่ได้รู้จักพี่แอ๊ะครับ เมื่อกี้เห็นพี่เข้ามาแว้บๆ   
ผมเพิ่งเข้ามาเป็นสมาชิกใหม่เมื่อเดือนที่แล้วนี่เอง
อ่านในกระทู้ว่าพี่เป็นคนเกาะหมุย    ผมคนบ้านดอนครับพี่
พี่แอ๊ะเป็นพี่ของอู๊ดพรเทพรึป่าวครับครับ  ผมไม่ได้เจออู๊ดหลายปีแล้ว กลับไปบ้านดอนก็ไม่มีโอกาสแวะไปหาซักที
วันหลังคงมีโอกาสเจอพี่แอ๊ะนะครับ
อุ้ย



หัวข้อ: Re: [2513] "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: prapasri AH ที่ 26 ธันวาคม 2553, 08:35:39
อ้างถึง
ข้อความของ wannee เมื่อ 25 ธันวาคม 2553, 16:13:04

สุขสันต์วันคริสต์มาส และสวัสดีปีใหม่ค่ะพี่แอ๊ะ 13  emo4:))

(เเงๆๆ  มาไม่ทัน  เมื่อเช้าก็เห็นแวบ  พิมพ์เสร็จแล้ว แต่ลืมกดส่ง แงๆๆ)

หวัดดีค่ะหนู เสียด

ฝากสวัสดีปีใหม่ คุณหมอบุญเลิศ และ ลูกๆ ด้วยนะคะ

ขอให้อายุมั่นขวัญยืน อายุยืน 120ปี ค่ะ


หัวข้อ: Re: [2513] "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: prapasri AH ที่ 26 ธันวาคม 2553, 08:56:41
น้องก่อศักดิ์ คะ

พี่แอ๊ะเป็นพีสาว อู้ดพรเทพ ค่ะ

พี่แอ๊ะมาอยู่หอจุฬา พอ อู้ด เข้าจุฬา พี่แอ๊ะบังคับให้เขามาอยู่หอ

เเรกๆเขาโกรธพี่แอ๊ะ ว่าพาเขามาอยู่ หอไม้ ที่หอชาย เขาบอกว่านอนไม่หลับเลย

กลัว ไม้พังทับเขา

พี่แอ๊ะบอกว่าอยู่ไปเถิด เเล้วจะเกิดผล

คนที่จะอยู่หอจุฬาได้ต้องมีคุณสมบัติ และอภิสิทธิ์ชน จริงๆ

คือต้องเป็นคนบ้านนอก ทีจุฬาต้องสงเคราะห์ช่วยเหลือ

กาลเวลาก็พบว่า ชาวหอจุฬาเป็นอภิสิทธิ์ชน จริง
ชาวจุฬา ที่ไม่ได้อยู่หอ อิจฉาชาวหอจะตายไป
ไปเรียนหนังสือก็ไม่ต้องขึ้นรถเมล์  เดินไปเรียนได้ หาที่ไหนได้นะคะ

พี่แอ๊ะบอกน้องว่า มีที่ไหน ที่เรียนจุฬาแล้วจะได้มีพี่มีเพื่อนสนิทเหมือนพี่น้อง ทุกคณะ
คนอื่นเรียนจุฬาเขามีเพื่อนคณะเดียวที่เรียน แต่เรา มีเพื่อนทุกคณะ

จบแล้วจะได้พึ่งพาอาศัยกันได้
และก้เป็นอย่างนั้นจริงๆ

ใครจะเรียกท่านผู้ว่า ว่า .."ไอ้.......ได้

มีชาวหอเท่านั้นแหละ เพราะผู้ว่าเป้นน้องเราเป็นเพื่อนเรา

เดินกินไอติม มาด้วยกัน จะเรียกท่าน.... ทำไม (วะ)

แล้วท่านผู้ว่า  หรือ ท่านที่ใหญ่โตทั้งหลายก็ยอม ชาวหอ ทุกอย่างๆ

ไปจังหวัดไหน ท่านผู้ว่า มาต้อนรับชาวหอยิ่งกว่าต้อนรับรัฐมนตรีซะอีก

นี่คือประโยชน์เล็กๆ ของการอยู่หอ ยังมีประโยชน์ใหญ่ๆอีก  เช่นมี cmadong .com งี้

ใครเข้ามา ก็คุยไม่รู้เรื่องนอกจากพวกเรากันเอง.....

อ้างถึง
ข้อความของ ก่อศักดิ์16 เมื่อ 25 ธันวาคม 2553, 16:17:38
สวัสดีครับ พี่แอ๊ะ
ขออนุญาตแนะนำตัวครับ
ผมชื่อ อุ้ย ครับเป็นRCU16  ยินดีที่ได้รู้จักพี่แอ๊ะครับ เมื่อกี้เห็นพี่เข้ามาแว้บๆ   
ผมเพิ่งเข้ามาเป็นสมาชิกใหม่เมื่อเดือนที่แล้วนี่เอง
อ่านในกระทู้ว่าพี่เป็นคนเกาะหมุย    ผมคนบ้านดอนครับพี่
พี่แอ๊ะเป็นพี่ของอู๊ดพรเทพรึป่าวครับครับ  ผมไม่ได้เจออู๊ดหลายปีแล้ว กลับไปบ้านดอนก็ไม่มีโอกาสแวะไปหาซักที
วันหลังคงมีโอกาสเจอพี่แอ๊ะนะครับ
อุ้ย



 


หัวข้อ: Re: [2513] "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: prapasri AH ที่ 26 ธันวาคม 2553, 09:02:42
น้องกอบศักดิ์เป็นคนบ้านดอน อยู่ตรงไหนคะ

พี่แอ๊ะอยู่ทั้งเกาะหมุยและบ้านดอน สุราษฎร์คะ

แต่อยู่ยโสธรมากกว่าที่ไหนหมด มาอยู่ยโส 30 ปีเเล้วค่ะ

เป้นคน ทุ่งกุลา ค่ะ

พรเทพกลับไปอยู่สุราษฏร์ ค่ะ

ดีใจที่น้องกอบศักดิ์ 16 เข้ามาในเวบนะคะ

รุ่น 16 ยิ่งใหญ่มากนะตอนนี้เป้น ประธานชมรมนิสิตเก่าหอจุฬาเลยที่เดียว

ใหญ่กว่า สำนักงานเลขาธิการนายกรัฐมนตรี ที่เขา กำลังงอนๆ กันตอนนี้อีก

ของเรารุ่น1 6 เต็มใจทำงาน บริการชาวหอ ไม่งอนกันเลย..

จริงไหมคะ หมอเสียด... แต๋ง.. เหยง ...โด่ง และ16 ผู้น่ารักทุกท่าน


หัวข้อ: Re: [2513] "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: เหยง 16 ที่ 26 ธันวาคม 2553, 09:20:14
ผมว่า โรงพยาบาลเมืองไทยไม่ว่าจะเป็นโรงพยาบาลจังหวัด อำเภอ หรือต่อไปจะเป็นตามตำบลต่างๆนั้น
สร้างก็ให้ใหญ่โตพอประมาณไปเลย คนไข้ไม่มีวันลดลง เพราะประชากรมีแต่จะเพิ่มขึ้น
เมืองไทย คนไข้นอนรอการรักษาอยู่ตามระเบียง ทางเดิน ที่นั่งของญาติที่ไปเฝ้าไข้มีให้เห็นกันเกือบทุกแห่ง

เพิ่มเห็นครับว่าที่นั่งให้น้ำเกลือของโรงพยาบาลในจีน เก้าอี้ที่จัดไว้อยู่ในระดับดีทีเดียว เมืองไทยยังคงไม่มีใช้เลย


(http://www.cmadong.com/imageupload/2010_Cmadong-Image/data/image/ldz4uj-0d6998.jpg)


หัวข้อ: Re: [2513] "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: prapasri AH ที่ 26 ธันวาคม 2553, 09:41:31

Podcast



หัวข้อ: Re: [2513] "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: ก่อศักดิ์16 ที่ 26 ธันวาคม 2553, 09:46:20
อ้างถึง
ข้อความของ prapasri AH เมื่อ 26 ธันวาคม 2553, 09:02:42
น้องกอบศักดิ์เป็นคนบ้านดอน อยู่ตรงไหนคะ

พี่แอ๊ะอยู่ทั้งเกาะหมุยและบ้านดอน สุราษฎร์คะ

แต่อยู่ยโสธรมากกว่าที่ไหนหมด มาอยู่ยโส 30 ปีเเล้วค่ะ

เป้นคน ทุ่งกุลา ค่ะ

พรเทพกลับไปอยู่สุราษฏร์ ค่ะ

ดีใจที่น้องกอบศักดิ์ 16 เข้ามาในเวบนะคะ

รุ่น 16 ยิ่งใหญ่มากนะตอนนี้เป้น ประธานชมรมนิสิตเก่าหอจุฬาเลยที่เดียว

ใหญ่กว่า สำนักงานเลขาธิการนายกรัฐมนตรี ที่เขา กำลังงอนๆ กันตอนนี้อีก

ของเรารุ่น1 6 เต็มใจทำงาน บริการชาวหอ ไม่งอนกันเลย..

จริงไหมคะ หมอเสียด... แต๋ง.. เหยง ...โด่ง และ16 ผู้น่ารักทุกท่าน
บ้านที่อยู่เดิมอยู่ถนนชนเกษมก่อนถึงพานนาริดครับ แต่ตอนนี้เจ้าของบ้านเป็นญาติกันเขาเอาบ้านคืน แม่เลยย้ายมาอยู่ที่
เซ็นเตอร์พอยท์ใกล้ รร.lสตรี(ทีี่รร กวดวิชาเยอะๆ)
ตอนจบม.ศ.3ก็เข้ามาเรียนกรุงเทพพร้อมๆอู๊ดกับเพื่อนชื่อประจักษ์ที่ตอนนั้นสนิทกับอู๊ด
มาเจออู๊ดอีกทีตอนมาอยู่หอ ชาวหอเป็นอย่างที่พี่แอ๊ะบอกจิงๆ ผมได้มาอยู่หอเพราะมีญาติฝากกับอ.ประณตไว้ ไม่งั้นคงไม่ได้อยู่หอ
นี่ปีใหม่มีกำหนดกลับสุราดเหมือนกัน
พี่แอ๊ะครับ แหะๆ ผมชื่อ ก่อศักดิ์ ครับไม่ใช่ กอบศักดิ์  ชื่อผมมีคนเรียกผิดบ่อยครับ  เรียก อุ้ย ก็ได้ครับ


หัวข้อ: Re: [2513] "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: prapasri AH ที่ 26 ธันวาคม 2553, 10:20:25
น้องอุ้ย ก่อศักดิ์ คะ  แปลกจัง ทำไม นึกอยู่ว่าเปนชื่อก่อศักดิ์ แต่พอเขียนก็เขียนเป็นกอบศักดิ์ ไปได้

ก่อ  แล้วก็ กอบ เอาไปเลยนะ

พี่แอ๊ะจะไปสุราษฎร์ วัน พรุ่งนี้ค่ะ บินจากอุบล ไปนอนกับลุกที่กรุงเทพ 1คืน

แล้วบินไปสุราษฏร์ วันมะรืนนี้ แล้วกลับอีกวันหนึ่ง

ไป ประชุม กรรมการสภามหาวิทยาลัย.ราชภัฎ สุราษฏร์ ค่ะ

และได้ไปนอนกับคุณแม่หนึ่งคืนด้วยค่ะ

จะได้เจอกับ น้องอุ้ยไหมนี่

จะเล่าให้พรเทพฟังว่าเจอ น้องอุ้ยในเวบ นะคะ

พรเทพเขาก้แอบเข้ามาอ่านบ่อยๆ ในเวบนี้ค่ะ


หัวข้อ: Re: [2513] "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: prapasri AH ที่ 26 ธันวาคม 2553, 10:25:34


(http://www.cmadong.com/imageupload/2010_Cmadong-Image/data/image/le0mna-5974b8.jpg)


เมื่อวาน ไปงานปีใหม่ที่ร.พ มุก อินเตอร์ของพี่แอ๊ะที่มุกดาหาร

เจอชาวหอเป็นใหญ่เป็นโต อีกแล้วววววววว

ทายซิว่าเป็นใคร

คือท่านผู้ว่าราชการจังหวัดติดรับแขกผู้ใหญ่ จาก เมืองจีน ที่ต้องการมาเป็นเมืองคู่แฝด กับมุกดาหาร

เลยส่งท่านรองผู้ว่า มาแทน

ว๊าวววววววว เจอกันเลยกอดกันใหญ่

คนบ้านเดียวกันนนนนนนนนน  แค่มองตากันก็เข้าใจอยู่......


หัวข้อ: Re: [2513] "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: prapasri AH ที่ 26 ธันวาคม 2553, 10:32:57

(http://www.cmadong.com/imageupload/2010_Cmadong-Image/data/image/le0n5l-615273.jpg)

ให้ ทายยนะคะ ว่าท่านรองผู้ว่าเป้น ชาวหอชาย รุ่นไหน ชื่อไร


หัวข้อ: Re: [2513] "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: prapasri AH ที่ 26 ธันวาคม 2553, 10:40:42

(http://www.cmadong.com/imageupload/2010_Cmadong-Image/data/image/le0nio-d8bc06.jpg)

โหลดจาก บีบี เลย ยังทำไม่ค่อยเป็น รูปนี้เห็นหน้าท่านรองชัดขึ้นนะคะ


หัวข้อ: Re: [2513] "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: ก่อศักดิ์16 ที่ 26 ธันวาคม 2553, 10:42:57
อ้างถึง
ข้อความของ prapasri AH เมื่อ 26 ธันวาคม 2553, 10:20:25
น้องอุ้ย ก่อศักดิ์ คะ  แปลกจัง ทำไม นึกอยู่ว่าเปนชื่อก่อศักดิ์ แต่พอเขียนก็เขียนเป็นกอบศักดิ์ ไปได้

ก่อ  แล้วก็ กอบ เอาไปเลยนะ

พี่แอ๊ะจะไปสุราษฎร์ วัน พรุ่งนี้ค่ะ บินจากอุบล ไปนอนกับลุกที่กรุงเทพ 1คืน

แล้วบินไปสุราษฏร์ วันมะรืนนี้ แล้วกลับอีกวันหนึ่ง

ไป ประชุม กรรมการสภามหาวิทยาลัย.ราชภัฎ สุราษฏร์ ค่ะ

และได้ไปนอนกับคุณแม่หนึ่งคืนด้วยค่ะ

จะได้เจอกับ น้องอุ้ยไหมนี่

จะเล่าให้พรเทพฟังว่าเจอ น้องอุ้ยในเวบ นะคะ

พรเทพเขาก้แอบเข้ามาอ่านบ่อยๆ ในเวบนี้ค่ะ
ผมจะกลับวันที่ 31 ครับ ขับรถลงไปสามคนพ่อแม่ลูกแล้ว บ้านแม่ยายก็อยู่ท่าข้าม กลับกท.วันที่3  คงไม่ได้เจอพี่แอ๊ะครับ
ไม่รู้อู๊ดจะจำผมได้รึป่าว ไม่เจอกันนานมาก แต่ตอนอยู่หอ ผมได้หัดเล่นกีต้าร์เพราะอู๊ดใจดีให้ยืมกีต้าร์มาเล่นอยู่ ตั้งสองปี
เรื่องนี้ต้องยกความดีให้อู๊ดครับ
ขอถือโอกาสนี้ สวัสดีปีใหม่ 2554 ครับพี่แอ๊ะ


หัวข้อ: Re: [2513] "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: prapasri AH ที่ 26 ธันวาคม 2553, 10:57:48
พี่แอ๊ะหารุป พรเทพ ไม่เจอ ว่าจะส่งมาให้น้องอุ้ยดูก่อน

แต่วันนี้จะโทรไปเล่าให้เขาฟังว่าเจอน้องอุ้ยในเวบนะคะ

เมื่อวาน พรเทพก็โทรมาหาพี่แอ๊ะ พี่แอ๊ะยังร้องไห้ คิดถึงบ้านกะเขาเลย เเงๆๆๆๆๆๆ


หัวข้อ: Re: [2513] "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: prapasri AH ที่ 26 ธันวาคม 2553, 11:27:45
อ้างถึง
ข้อความของ เหยง 16 เมื่อ 26 ธันวาคม 2553, 09:20:14
ผมว่า โรงพยาบาลเมืองไทยไม่ว่าจะเป็นโรงพยาบาลจังหวัด อำเภอ หรือต่อไปจะเป็นตามตำบลต่างๆนั้น
สร้างก็ให้ใหญ่โตพอประมาณไปเลย คนไข้ไม่มีวันลดลง เพราะประชากรมีแต่จะเพิ่มขึ้น
เมืองไทย คนไข้นอนรอการรักษาอยู่ตามระเบียง ทางเดิน ที่นั่งของญาติที่ไปเฝ้าไข้มีให้เห็นกันเกือบทุกแห่ง

เพิ่มเห็นครับว่าที่นั่งให้น้ำเกลือของโรงพยาบาลในจีน เก้าอี้ที่จัดไว้อยู่ในระดับดีทีเดียว เมืองไทยยังคงไม่มีใช้เลย


(http://www.cmadong.com/imageupload/2010_Cmadong-Image/data/image/ldz4uj-0d6998.jpg)

 เหยงคะ

 แผนกไตเทียม ร.พ พี่แอ๊ะ ก็ให้ใช้เก้าอี้นั่งล้างไต บ้างแล้ว เพราะหากให้คนไข้นอนอยู่ตลอดเขาจะรู้สึกว่าเขาเป็นคนป่วยตลอดเลย

หากให้นั่งบ้างในคนไข้ที่อาการไม่หนัก

คนไข้จะรู้สึกดีขึ้น ไม่ทรมาน รู้สึกว่าตัวเอง ยังไม่ใกล้ตาย เพราะยังนั่งได้อยู่เลย

พี่แอ๊ะนำมาใช้นานแล้วก่อนที่เขาจะใช้กันในเมืองไทย

คือพี่แอ๊ะไปดูงานร.พ ที่ ญี่ปุ่น เมือ่ 10กว่าปีมาแล้ว เขามีร.พ สำหรับล้างไตเลยค่ะ

และเขาใช้เก้าอี้นั่ง ล้างไต ค่ะ



หัวข้อ: Re: [2513] "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: prapasri AH ที่ 27 ธันวาคม 2553, 09:29:45
โม้เรื่อง ล้างไต ด้วยการนั่งเก้าอี้  lazy boy ยังไม่หมด

เลยต้อง เดินไป ห้องไตเทียม ส่งรูปมาให้ดู

แต่พีหาญบอกว่า

หากให้น้ำเกลือ  แบบนั่งให้เเบบเมืองจีน คนไข้ควรจะนอนดีกว่า

เเต่ที่ต้อง นั่ง เพราะเตียง และพื้นที่ไม่พอ อ่ะ

หมอ (แมว) แอ๊ะ ะเข้าใจผิด คิดว่า คนไข้อยากนั่งแบบสบายๆ อิๆๆ หุๆๆๆ

(http://www.cmadong.com/imageupload/2010_Cmadong-Image/data/image/le2ew2-577834.jpg)

คนไข้ คนนี้ ปกติ จองเตียงนั่ง แต่วันนี้หนาว ขอนอนหน่อยยยยยยยยยย


หัวข้อ: Re: [2513] "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: prapasri AH ที่ 27 ธันวาคม 2553, 09:33:07

(http://www.cmadong.com/imageupload/2010_Cmadong-Image/data/image/le2f07-a099a8.jpg)

คนนี้นอนหลับ อุ่นสบาย

ปกติเป็นสิทธิผู้ป่วยนะคะ ห้ามเอารูปคนไข้มาโชว์

แต่ขออนุญาตคนไข้เเล้วค่ะ

บอกว่าจะนำรูปมาให้น้องหอจุฬา ศึกษาวิชาการ (ขี้โม้อีกแล้ววววววววววว5555)


หัวข้อ: Re: [2513] "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: อ้อย 14 ที่ 27 ธันวาคม 2553, 09:34:30
อ้างถึง
ข้อความของ prapasri AH เมื่อ 26 ธันวาคม 2553, 10:32:57

(http://www.cmadong.com/imageupload/2010_Cmadong-Image/data/image/le0n5l-615273.jpg)

ให้ ทายยนะคะ ว่าท่านรองผู้ว่าเป้น ชาวหอชาย รุ่นไหน ชื่อไร

หน้าตาโซนนี้ น่าจะเป็น ติ่ง 14 แห่งตระกูล สุขพอดี ใช่ใหมคะพี่แอ๊ะ...


หัวข้อ: Re: [2513] "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: prapasri AH ที่ 27 ธันวาคม 2553, 09:50:45

(http://www.cmadong.com/imageupload/2010_Cmadong-Image/data/image/le2f46-639c96.jpg)

สมัยก่อนการล้างไต เป็นสิ่งที่ทำได้ยากสำหรับคนไข้ยากจน

คือค่าล้างไตแพงมาก ครั้งละ 8000 บาท แน่ะ แต่สมัยนั้นร.พ พี่แอ๊ะคิดเพียง 2500 บาท 10 กว่าปีที่เเล้วค่ะ

ดังนั้นคนไข้ต้องตายเพราะไตวายเร็วมาก

สมัยนั้นเรามีเครืองไตเทียมไว้เพื่อช่วยยืดอายุคนไข้ไปอีก สัก ไม่กี่วัน หรือไม่กี่เดือน

เพื่อให้คนไข้ และลูกหลาน ทำใจ

และคนไข้ได้ทำนิติกรรมต่างๆให้เรียบร้อย

ปัจจุบัน สำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ และกองทุนโรคไต ของรัฐบาล

ได้มี การจ่ายเงินให้ในเรื่องการล้างไต ในราคา 1500 บาทสำหรับคนไข้ในโครงการหลักประกันสุขภาพ

และคนไข้ ราชการ กรมบัญชีกลาง จ่าย 1800 บาท ประกันสังคมจ่าย 1700 หรือไงนี่แหละ

 ร.พ พี่แอ๊ะได้กำไรน้อยมาก แต่ เอาจำนวนคนไข้มาก เข้าว่า เราล้างไต วันละ 3รอบ

เช้า บ่าย  เย็น ค่ะ

คนไข้ไม่ต้องจ่ายเงิน เลยมารักษาได้ นาน และยืดอายุคนไข้ไปได้หลายๆปี

เราๆ อย่าไตวาย (ตายไว ) กันนะคะ พี่แอ๊ะไม่อยากรักษา

จะรักษาแต่ต่อมลูกหมากโต ของพี่ป๋อง ก็พอแล้ว ค่ะ 555555

เด่ว ป๋องตีหัว ตาย เอาพี่ป๋องมาเป็น model ซะเรื่อยเลย อิๆๆๆๆ

ศรีษะ ล้าน แต่ใจไม่น้ออยยยยยยยยยยยยย


หัวข้อ: Re: [2513] "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: prapasri AH ที่ 27 ธันวาคม 2553, 09:55:24
อ้อย 14
บอกให้มาเจ๊เล้า ซะดีๆ

มาแล้วหรือ

พอดีเจ๊ ต้องรีบไปทำผม แล้วอ่ะ จะเดินทางเข้ากรุงเทพ ไปสุราษฎร์ บ่ายนี้ค่ะ

อ้างถึง
ข้อความของ อ้อย 14 เมื่อ 27 ธันวาคม 2553, 09:34:30
อ้างถึง
ข้อความของ prapasri AH เมื่อ 26 ธันวาคม 2553, 10:32:57

(http://www.cmadong.com/imageupload/2010_Cmadong-Image/data/image/le0n5l-615273.jpg)

ให้ ทายยนะคะ ว่าท่านรองผู้ว่าเป้น ชาวหอชาย รุ่นไหน ชื่อไร

หน้าตาโซนนี้ น่าจะเป็น ติ่ง 14 แห่งตระกูล สุขพอดี ใช่ใหมคะพี่แอ๊ะ...


หัวข้อ: Re: [2513] "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: เหยง 16 ที่ 27 ธันวาคม 2553, 12:44:29
พี่แอ๊ะ

ห้องซีมะโด่งทัวร์ค่าย 3 โพสต์ถึง รพ.สารคามอินเตอร์แล้วครับ


หัวข้อ: Re: [2513] "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: Kaimook ที่ 27 ธันวาคม 2553, 23:46:12
พี่แอ๊ะขราาาาา....สุขสันต์วันคริสต์มาสและกราบสวัสดีวันปีใหม่ค่ะ....


หัวข้อ: Re: [2513] "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: wannee ที่ 28 ธันวาคม 2553, 22:31:55

สวัสดีค่ะ พี่แอ๊ะ
อุ้ยคะ  post รูปพรเทพแทนพี่แอ๊ะนะ  ถ่ายภาพวันที่หมอต้นแต่งงาน ประมาณครึ่งปีมั้งคะ

(http://www.cmadong.com/imageupload/2010_Cmadong-Image/data/image/le59pk-8d2ea4.jpg)


หัวข้อ: Re: [2513] "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: ก่อศักดิ์16 ที่ 28 ธันวาคม 2553, 22:47:03
ขอบคุณครับ เสียด


หัวข้อ: Re: [2513] "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: พธู ๒๕๒๔ ที่ 01 มกราคม 2554, 00:37:08
(http://www.cmadong.com/imageupload/2010_Cmadong-Image/data/image/leazch-2bd002.jpg)


หัวข้อ: Re: [2513] "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: ti2521 ที่ 01 มกราคม 2554, 14:07:52
.....ผม ขออัญเชิญเพลงพระราชนิพนธ์ พรปีใหม่ ให้ พี่หมอหาญ@พี่แอ๊ะ รับฟังครับ.....
http://www.youtube.com/watch?v=iJdjgr76-cA


หัวข้อ: Re: [2513] "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: prapasri AH ที่ 02 มกราคม 2554, 22:08:15
ขอบคุณน้องเต้ และสวัสดีปีใหม่จากพี่แอ๊ะ กะพีหาญค่ะ

อยู่กันสองคนตาแก่กะยายแก่ค่ะ เลยเอาชิงช้ามานั่งเล่นซะเลย

ก่อนไปงานปีใหม่บ้านเพื่อน

(http://www.cmadong.com/imageupload/2010_Cmadong-Image/data/image/leehzx-aff6ce.jpg)



หัวข้อ: Re: [2513] "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: prapasri AH ที่ 02 มกราคม 2554, 22:12:44
อีกรูป  ยามแก่ตากับยายหงอยเหงา

ปีใหม่นี้เหลือเพียงสองเรา

ลูกเต้าออกไปสร้างเรือนรัง และไปเที่ยวของเขาค่ะ


หัวข้อ: Re: [2513] "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: prapasri AH ที่ 02 มกราคม 2554, 22:14:30
อ้างถึง
ข้อความของ prapasri AH เมื่อ 02 มกราคม 2554, 22:12:44
อีกรูป  ยามแก่ตากับยายหงอยเหงา

ปีใหม่นี้เหลือเพียงสองเรา

ลูกเต้าออกไปสร้างเรือนรัง และไปเที่ยวของเขาค่ะ

(http://www.cmadong.com/imageupload/2010_Cmadong-Image/data/image/leeib9-0015d1.jpg)


หัวข้อ: Re: [2513] "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: prapasri AH ที่ 02 มกราคม 2554, 22:18:06

happy new year จากพี่แอ๊ะ


หัวข้อ: Re: [2513] "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: prapasri AH ที่ 02 มกราคม 2554, 22:20:03
อ้างถึง
ข้อความของ prapasri AH เมื่อ 02 มกราคม 2554, 22:18:06

happy new year จากพี่แอ๊ะ  ค่ะพี่ น้อง เห็นพี่ชรินทร์ อยูไวๆ

(http://img153.imageshack.us/img153/1122/p134.jpg)


หัวข้อ: Re: [2513] "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: prapasri AH ที่ 02 มกราคม 2554, 22:22:36

happy new year จาก dr.hann ค่ะ

(http://www.cmadong.com/imageupload/2010_Cmadong-Image/data/image/leeint-80289e.jpg)


หัวข้อ: Re: [2513] "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: prapasri AH ที่ 02 มกราคม 2554, 22:30:47
รูปนี้ อีกรูปนะคะ

รูปนี้ คล้ายๆ น้องอิ๊ด สุภาณี14 ค่ะ

(http://www.cmadong.com/imageupload/2010_Cmadong-Image/data/image/leej2u-83e23b.jpg)


หัวข้อ: Re: [2513] "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: prapasri AH ที่ 02 มกราคม 2554, 22:35:25
รูปนี้อยากให้ น้องโสภณ เท่านี้  เอ๊ย น้องเล็ก อดิศร  paint ให้อีกทีได้ไหมคะ

(http://www.cmadong.com/imageupload/2010_Cmadong-Image/data/image/leej9k-0c65c7.jpg)


หัวข้อ: Re: [2513] "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: หนุน'21 ที่ 03 มกราคม 2554, 10:55:40
(http://www.cmadong.com/imageupload/2010_Cmadong-Image/data/image/lefhjt-915187.jpg)

กราบสวัสดีปีใหม่พี่แอ๊ะ พี่หมอหาญครับ


หัวข้อ: Re: [2513] "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: prapasri AH ที่ 03 มกราคม 2554, 11:05:07
ขอบคุณน้องหนุนค่ะ

ปีใหม่ใครๆก็ไปเที่ยวกัน แต่พี่แอ๊ะไม่ชอบไปไหน

ไม่ชอบผู้คนมากๆ ไม่ชอบความวุ่นวายค่ะ และกลัวอุบัติเหตุ

พี่หาญฝากสวัสดีปีใหม่น้องหนุน21 และน้องๆ ทุกท่าน รวมเพื่อนๆ รุ่น more than sixty ด้วยค่า

(http://www.cmadong.com/imageupload/2010_Cmadong-Image/data/image/lefhzx-1929ec.jpg)


หัวข้อ: Re: [2513] "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: prapasri AH ที่ 03 มกราคม 2554, 11:09:30

ต้นกล้า นักร้องชื่อดัง

ฝากสวัสดีปีใหม่ค่ะ

"มาทำไม ให้อายบ้านนา ...นวลน้องไม่ต้องกลับคืนมา

คิดว่าเป็นคุณนายไปกับเมืองหลวง ทิ้งคนข้างหลังให้น้ำตาร่วงงงงงงงงงงงงง

(http://www.cmadong.com/imageupload/2010_Cmadong-Image/data/image/lefi4q-acd7ab.jpg)


หัวข้อ: Re: [2513] "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: prapasri AH ที่ 03 มกราคม 2554, 11:16:38
 นักร้องลูกทุ่ง ขวัญใจชาวหมอหาญ

(http://www.cmadong.com/imageupload/2010_Cmadong-Image/data/image/lefic9-176a44.jpg)

และ จะไปขออยู่ วงดนตรี ของ แหยม ยโสธร ค่ะ


ไปหาคนใหม่ซะเถิดคนสวย หาคนร่ำรวยก็อาจจะมี

ขอบใจสุดซึ้งที่นึกถึงพี่
......

แต่ขอโทษที พี่ ไม่ว่างงงงงงงงงงงงงง


หัวข้อ: Re: [2513] "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: เหยง 16 ที่ 03 มกราคม 2554, 20:40:22
(http://www.cmadong.com/imageupload/2010_Cmadong-Image/data/image/lefic9-176a44.jpg)


หมอต้นกล้า มีแม่ยกเยอะดีจริง ??  emo49:))


หัวข้อ: Re: [2513] "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: Preecha2510 ที่ 03 มกราคม 2554, 23:11:07
อ้างถึง
ข้อความของ prapasri AH เมื่อ 02 มกราคม 2554, 22:14:30
อ้างถึง
ข้อความของ prapasri AH เมื่อ 02 มกราคม 2554, 22:12:44
อีกรูป  ยามแก่ตากับยายหงอยเหงา

ปีใหม่นี้เหลือเพียงสองเรา

ลูกเต้าออกไปสร้างเรือนรัง และไปเที่ยวของเขาค่ะ

(http://www.cmadong.com/imageupload/2010_Cmadong-Image/data/image/leeib9-0015d1.jpg)

                                                             สวัสดีปีใหม่ 2554

               สวัสดีปีใหม่ครับแอ๊ะ     

                   คงไม่ใช่บ้านแอ๊ะบ้านเดียวที่ช่วงเวลานี้ต้องอยู่กันสองคนตายาย  คิดว่าพวกเราชาวซีมะโด่ง

อีกหลายๆบ้านที่ลูกๆโตเรียนจบแล้วก็เหงาเช่นเดียวกัน  ลูกๆต่างก็แยกย้ายออกไปประกอบอาชีพเพื่อตั้งตัว

ตามอัตภาพ  พวกเรารุ่นพ่อแม่ก็เลยได้แต่คิดถึงลูก แต่สมัยนี้ดีกว่าสมัยก่อนมากที่สามารถโทรติดต่อคุยกัน

ได้ทุกเวลาที่คิดถึงกัน 

                      ฝากสวัสดีปีใหม่มาถึงหมอหาญเพื่อนผมด้วยครับ

                 

   


หัวข้อ: Re: [2513] "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: เอมอร 2515 ที่ 04 มกราคม 2554, 07:07:00
แวะเข้ามาสวัสดีปีใหม่พี่แอ๊ะค่ะ มีความสุขนะคะ พี่แอ๊ะที่น่ารักของน้องๆ


หัวข้อ: Re: [2513] "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: prapasri AH ที่ 04 มกราคม 2554, 08:22:03
ขอบคุณ พี่ปรีชา และ น้องเอมอรที่เข้ามาเยี่ยมค่ะ

พี่แอ๊ะตื่นขึ้นมาไม่ทำอะไร ก็เข้าเวบหอก่อนเลยค่ะ

คนว่างงาน อิๆๆๆๆๆ

สวัสดีปีใหม่นะคะ  อยู่กันสองคน จริงค่ะพี่ปรีชา ลูกๆเขาไม่กลับมาเลย

เขาอยู่ยโส กันไม่ได้ เขาบอกว่าเเม่เก่งจังที่อยู่เมืองนี้ได้มา30ปี


หัวข้อ: Re: [2513] "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: เอมอร 2515 ที่ 04 มกราคม 2554, 09:01:56
พี่แอ๊ะคะ หงอยเหงาอยู่กัน ๒ คนตายาย เพราะลูกแข็งแรงจนบินไปสร้างรังได้ด้วยตัวเองเป็นความเหงาบนความสุขใจ เบาใจนะคะ แต่น้องนี้ลูกเพึ่งจะอยู่ ม.๕ ยังไม่รู้จะออกหัวหรือก้อย ก็วังเวงไปคนละแบบค่ะ แต่อยากเป็นหงอยเหงาแบบพี่มากกว่าน่าอิจฉาตาร้อนผ่าวๆๆๆค่ะ


หัวข้อ: Re: [2513] "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: ดร.มนตรี ที่ 04 มกราคม 2554, 10:15:00
(http://www.cmadong.com/imageupload/2010_Cmadong-Image/data/image/leha9d-32c392.jpg)


สวัสดีปีใหม่ครับ พี่แอ๊ะ
  emo6::))


หัวข้อ: Re: [2513] "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: prapasri AH ที่ 04 มกราคม 2554, 20:50:24
น้องเอมอรคะ

พีแอ๊ะโชคดี ที่ไม่คาดหวังกับลูกมาก แล้วแต่เขาจะเป็นไป เราคิดว่าเราปั้นเขาไว้ดีแล้ว

พอเขาโตขึ้น เราไม่สามารถคาดคะเนเขาได้ แต่คิดว่าเขาคงเอาตัวรอด

คือเป็นอะไร ที่ชิวๆ กับลูก

เเต่เกรงใจ และให้ความเคารพลูกค่ะ 55555555555555555

(เคารพจริงๆ นะคะ  คือเคารพในสิทธิส่วนบุคคลของเขา

และไม่กล้าไปขัดขวางความคิด ที่เเตกต่าง ของเขา กลัวเขาโกรธหรือกลัวเขาไม่สบายใจค่ะ)

จริงๆแล้วเลี้ยงลูกมา พอเขาโตแล้วก็ต้องทำใจ

พี่แอ๊ะอยู่กับพี่หาญ ที่ยโส สองคนจนชินแล้วค่ะ

เงียบและสงบดี





 

อ้างถึง
ข้อความของ เอมอร 2515 เมื่อ 04 มกราคม 2554, 09:01:56
พี่แอ๊ะคะ หงอยเหงาอยู่กัน ๒ คนตายาย เพราะลูกแข็งแรงจนบินไปสร้างรังได้ด้วยตัวเองเป็นความเหงาบนความสุขใจ เบาใจนะคะ แต่น้องนี้ลูกเพึ่งจะอยู่ ม.๕ ยังไม่รู้จะออกหัวหรือก้อย ก็วังเวงไปคนละแบบค่ะ แต่อยากเป็นหงอยเหงาแบบพี่มากกว่าน่าอิจฉาตาร้อนผ่าวๆๆๆค่ะ


หัวข้อ: Re: [2513] "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: prapasri AH ที่ 04 มกราคม 2554, 20:51:42
สวัสดีปีใหม่น้องเอมอร และน้องดร.มนตรีนะคะ


หัวข้อ: Re: [2513] "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: Kaimook ที่ 05 มกราคม 2554, 23:07:35
อ้างถึง
ข้อความของ prapasri AH เมื่อ 03 มกราคม 2554, 11:05:07
ขอบคุณน้องหนุนค่ะ

ปีใหม่ใครๆก็ไปเที่ยวกัน แต่พี่แอ๊ะไม่ชอบไปไหน

ไม่ชอบผู้คนมากๆ ไม่ชอบความวุ่นวายค่ะ และกลัวอุบัติเหตุ

พี่หาญฝากสวัสดีปีใหม่น้องหนุน21 และน้องๆ ทุกท่าน รวมเพื่อนๆ รุ่น more than sixty ด้วยค่า

(http://www.cmadong.com/imageupload/2010_Cmadong-Image/data/image/lefhzx-1929ec.jpg)
อุ้ยยยยยย....น่ารักจังค่ะพี่แอ๊ะ พี่คุรหมอหาญ...กราบสวัสดีปีใหม่พี่ทั้งสองค่ะ...


หัวข้อ: Re: [2513] "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: jamsai ที่ 06 มกราคม 2554, 17:07:18
สวัสดีปีใหม่ พี่แอ๊ะ พี่หมอหาญค่ะ

ปรารถนาและขออธิษฐานให้พี่ทั้งสองมีความสุขทั้งกายและใจ
ปลอดภัย ชนะคนพาล เกษมสำราญกับลูกหลาน ญาติ
และกัลยาณมิตร ตลอดปี 2554 และตลอดไปด้วยเทอญ

อ.เผ่า + ป้าแจ่มค่ะ
 emo6::)) emo9:huhu: emo6::)) emo9:huhu:


หัวข้อ: Re: [2513] "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: prapasri AH ที่ 06 มกราคม 2554, 21:00:32
หวัดดี อาจารย์แจ่ม

พี่แอ๊ะคิดถึงอาจารย์จังเลยค่ะ


หัวข้อ: Re: [2513] "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: BU_KA ที่ 06 มกราคม 2554, 21:55:37

(http://www.cmadong.com/imageupload/2010_Cmadong-Image/data/image/lefhzx-1929ec.jpg)
อ้างถึง
ข้อความของ Kaimook เมื่อ 05 มกราคม 2554, 23:07:35
อุ้ยยยยยย....น่ารักจังค่ะพี่แอ๊ะ พี่คุรหมอหาญ...กราบสวัสดีปีใหม่พี่ทั้งสองค่ะ...

เช่นกันค่ะพี่อ้อย     
กราบสวัสดีปีใหม่พี่แอ๊ะและพี่คุณหมอหาญค่ะ


หัวข้อ: Re: [2513] "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: อ้อย17 ที่ 07 มกราคม 2554, 09:00:43
อ้างถึง
ข้อความของ BU_KA เมื่อ 06 มกราคม 2554, 21:55:37

(http://www.cmadong.com/imageupload/2010_Cmadong-Image/data/image/lefhzx-1929ec.jpg)
อ้างถึง
ข้อความของ Kaimook เมื่อ 05 มกราคม 2554, 23:07:35
อุ้ยยยยยย....น่ารักจังค่ะพี่แอ๊ะ พี่คุรหมอหาญ...กราบสวัสดีปีใหม่พี่ทั้งสองค่ะ...

เช่นกันค่ะพี่อ้อย     
กราบสวัสดีปีใหม่พี่แอ๊ะและพี่คุณหมอหาญค่ะ

โอ๊ววววว.....เพิ่งเดินทางมาถึงบ้านพี่แอ๊ะ...
 
  กราบสวัสดีปีใหม่งามๆที่ตักท่านประธานและหมอใหญ่ค่ะ...
      ขอคุณพระคุ้มครองให้พี่ทั้งสองและครอบครัวจงมีแต่ความสุขสวัสดี
      ปรารถนาสิ่งใดขอให้สมดังใจทุกประการนะคะ


หัวข้อ: Re: [2513] "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: อ้อย 14 ที่ 07 มกราคม 2554, 13:10:49
อ้างถึง
ข้อความของ prapasri AH เมื่อ 02 มกราคม 2554, 22:35:25
รูปนี้อยากให้ น้องโสภณ เท่านี้  เอ๊ย น้องเล็ก อดิศร  paint ให้อีกทีได้ไหมคะ

(http://www.cmadong.com/imageupload/2010_Cmadong-Image/data/image/leej9k-0c65c7.jpg)

ชุดนี้เด็ดไปเลยพี่แอ๊ะขา  สวัสดีปีใหม่ และอย่าตอบมาว่า  TATA อีกนะคะ


หัวข้อ: Re: [2513] "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: อ้อย17 ที่ 07 มกราคม 2554, 13:27:53
อ้างถึง
ข้อความของ อ้อย 14 เมื่อ 07 มกราคม 2554, 13:10:49
อ้างถึง
ข้อความของ prapasri AH เมื่อ 02 มกราคม 2554, 22:35:25
รูปนี้อยากให้ น้องโสภณ เท่านี้  เอ๊ย น้องเล็ก อดิศร  paint ให้อีกทีได้ไหมคะ

(http://www.cmadong.com/imageupload/2010_Cmadong-Image/data/image/leej9k-0c65c7.jpg)

ชุดนี้เด็ดไปเลยพี่แอ๊ะขา  สวัสดีปีใหม่ และอย่าตอบมาว่า  TATA อีกนะคะ

   โอ๊ววว...ว๊าววว....สุดยอดไปเลยค่ะรูปนี้  ...ต้องขยายใหญ่ๆค่ะ พี่แอ๊ะ ...งามสง่า ดุจนางพญา.... emo6::)) emo6::))


หัวข้อ: Re: [2513] "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: เหยง 16 ที่ 13 มกราคม 2554, 10:43:14
สงสารคนใต้จัง น้ำยังไม่เลิกท่วมเลย

ปีใหม่ คนในภาคอื่นได้ฉลองปีใหม่ แต่คนภาคใต้ยังจมน้ำอยู่


หัวข้อ: Re: [2513] "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: เหยง 16 ที่ 13 มกราคม 2554, 17:05:03
นายกฯ มอบพานพุ่มไหว้ครูที่ครุศาสตร์ จุฬาฯ
13 มกราคม 2554 15:44 น.

(http://img135.imageshack.us/img135/4571/cu13jan2011.jpg)

       นายกฯ ร่วมงานวันไหว้ครู ประจำปี 2554 คณะครุศาสตร์ จุฬาฯ โดยมอบพานพุ่มแก่ คณบดีคนแรกของคณะ พร้อมมอบพวงมาลัยแด่คณาจารย์อาวุโส มีนิสิตจุฬาฯ เข้าร่วมงานพร้อมเพรียง
       
       วันนี้ (13 ม.ค.) เวลา 11.00 น.ที่ห้องประชุม 101 อาคารประชุมสุข อาชวบำรุง จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ได้เข้าร่วมพิธีไหว้ครู ในงานวันครูประจำปี 2554 จัดโดยคณะครุศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย เพื่อรำลึกถึงพระคุณของครู นอกจากนี้ มี ศาสตราจารย์ ดร.ศิริชัย กาญจนวาสี คณบดีคณะครุศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย คณาจารย์อาวุโส อดีตคณาจารย์ นิสิต นักศึกษา เข้าร่วมพิธีอย่างพร้อมเพรียง
       
       ทั้งนี้ นายกรัฐมนตรี ได้มอบพานพุ่มดอกไม้คารวะปูชนียาจารย์ แด่ ศาสตราจารย์ ท่านผู้หญิงพูนทรัพย์ นพวงศ์ ณ อยุธยา ซึ่งท่านเป็นคณบดีคนแรกของคณะครุศาสตร์ และได้เล็งเห็นความจำเป็นในการจัดตั้งโรงเรียนสาธิต เพื่อการฝึกหัดครูขั้นปริญญาขึ้นแทนโรงเรียนมัธยมหอวังแห่งจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย จึงได้ดำเนินการจัดตั้งโรงเรียนขึ้นโดยให้ชื่อว่า “โรงเรียนสาธิตจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย” พร้อมกันนี้ นายกรัฐมนตรี ยังมอบพวงมาลัยแด่คณาจารย์อาวุโสก่อนเดินทางกลับ

 
 
จาก http://www.manager.co.th/asp-bin/mgrView.asp?NewsID=9540000004811
 


หัวข้อ: Re: [2513] "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: prapasri AH ที่ 16 มกราคม 2554, 20:45:51
อากาศที่ยโส หนาวมากค่ะ

เหมือนอยู่ปะเต๊ดนอกเลยค่า


หัวข้อ: Re: [2513] "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: เหยง 16 ที่ 16 มกราคม 2554, 21:31:02
อุตุฯ เขาว่า คืนนี้ภาคเหนือ อีสานจะเย็นลง 2-3 องศา มีลมแรงและอาจจะมีฝนตกลงมาด้วย !!


หัวข้อ: Re: [2513] "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: หนุน'21 ที่ 17 มกราคม 2554, 08:36:56


สวัสดีครับพี่เหยงและพี่น้องทุกท่าน
ที่บ้านผมแถวรัชโยธิน 19 องศาครับพี่
ชอบหนาวๆแบบนี้ แต่เห็นใจคนที่ต้องหนาวมากๆที่อยู่ต่างจังหวัดออกไป


หัวข้อ: Re: [2513] "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: ตุ๋ย 22 ที่ 25 มกราคม 2554, 15:57:01
(http://img87.imageshack.us/img87/1952/t27011005cm.gif)


หัวข้อ: Re: [2513] "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: ti2521 ที่ 02 กุมภาพันธ์ 2554, 22:42:58
.....ซิงเจียอยู่อี่ ซิงนี้เพ่งอัง ครับ พี่แอ๊ะ.....


http://www.youtube.com/watch?v=anOFiPcbxuE


หัวข้อ: "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: พธู ๒๕๒๔ ที่ 03 กุมภาพันธ์ 2554, 20:45:40
(http://www.cmadong.com/imageupload/2010_Cmadong-Image/data/image/lg1lvh-202e6c.jpg)


หัวข้อ: Re: [2513] "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: prapasri AH ที่ 05 กุมภาพันธ์ 2554, 20:42:04
ขอบคุณ ของขวัญจากน้องเต้ น้องตุ๋ย และน้องปลาทูแมน และน้องๆทุกท่าน ค่ะ


หัวข้อ: Re: [2513] "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: เอมอร 2515 ที่ 05 กุมภาพันธ์ 2554, 20:58:20
สวัสดีค่ะ พี่แอ๊ะ
 ไม่ได้เข้ามาเยี่ยมเยียนเสียนาน
 พี่สบายดีหรือคะ


หัวข้อ: Re: [2513] "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: prapasri AH ที่ 06 กุมภาพันธ์ 2554, 10:01:58
อ้างถึง
ข้อความของ เอมอร 2515 เมื่อ 05 กุมภาพันธ์ 2554, 20:58:20
สวัสดีค่ะ พี่แอ๊ะ
 ไม่ได้เข้ามาเยี่ยมเยียนเสียนาน
 พี่สบายดีหรือคะ

ขอบคุณน้องเอมอรค่ะ

พี่แอ๊ะไม่ได้เข้าเวบหอนานๆ เกือบเข้าบ้านไม่ถูกแน่ะ

จำชื่อที่sigh in กับ pass word ไม่ได้

คนแก่ขี้ลืมค่ะ


หัวข้อ: Re: [2513] "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: เอมอร 2515 ที่ 06 กุมภาพันธ์ 2554, 16:50:20
อรก็ไม่จำหรอกนะคะ ให้เครื่องจำไปเลย พอเข้าweb ก็เข้าauto ไปเลย
ขี้ลืมเหมือนกันค่ะ
ตอนนี้คงหายหนาวแล้วใช่ไหมคะ
กรุงเทพเริ่มร้อนแล้ว
จะแวะเข้ามาเยี่ยมอีกนะคะ


หัวข้อ: Re: [2513] "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: prapasri AH ที่ 06 กุมภาพันธ์ 2554, 20:57:08

น้องเอมอร คะ

เป็นความรู้ใหม่ พี่แอ๊ะ ไปติ๊ก ที่บอกว่าให้คงสถานะไว้

เครื่องก็ไม่ทำให้

อีเมล์ต่างๆก็เหมือนกัน พี่แอ๊ะ ต้องจด pass word ไว้ใน note pad
ยกเว้นของหอ เเต่ก่อนพี่แอ๊ะเข้าทุกวัน เลยจำได้

พอไม่ได้เข้าเป็นเดือนๆเลยจำไม่ได้

เด่ว จะต้องศึกษาวิธีที่ทำให้เครือ่งจำ password พี่แอ๊ะ ค่ะ


หัวข้อ: Re: [2513] "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: ภาณุ ปาตานี ที่ 06 กุมภาพันธ์ 2554, 21:15:05

สวัสดีครับพี่แอ๊ะที่เคารพ

คงจะได้เจอในเว๊บหอบ่อยๆนะครับ


 


หัวข้อ: Re: [2513] "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: prapasri AH ที่ 06 กุมภาพันธ์ 2554, 21:29:04
คิดถึงน้องya จังเลย ไม่ค่อยได้เข้าบ้าน

วันก่อนเห็น logo น้อง ya ไวๆ เลยตามมา กลัวจะจำน้องya ไม่ได้

พอดี พี่เสียด 16 เบื่อบ้าน เลย ไปเที่ยว  พี่แอ๊ะเลยตาม พี่เสียดไปเที่ยวบ้าง

แต่มาเมียงๆดูว่าพี่เสียด 16 กลับมาแล้วหรือยัง

พี่แอ๊ะติดต่อพี่เสียดไม่ได้เลย  email พี่เค้าพี่แอ๊ะก็ไม่มี

จะชวนไปเล่น fb ให้ เจอโลกภายนอกบ้าง


หัวข้อ: Re: [2513] "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: prapasri AH ที่ 06 กุมภาพันธ์ 2554, 21:30:05

เบื่อบ้านก็ต้องไปเที่ยว ตามประสาวัยรุ่น  เนาะ


หัวข้อ: Re: [2513] "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: เอมอร 2515 ที่ 08 กุมภาพันธ์ 2554, 18:30:56
ไปด้วยคนคะ พี่แอ๊ะ
กลัวแต่ว่าพอพี่ไปจริง ก็คิดถึงคนที่บ้าน และงานที่โรงพยาบาลสิคะ


หัวข้อ: Re: [2513] "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: ตุ๋ย 22 ที่ 12 กุมภาพันธ์ 2554, 22:29:13
(http://img145.imageshack.us/img145/5200/originalhappyvalentine2q.gif)


หัวข้อ: Re: [2513] "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: pusadee sitthiphong ที่ 13 กุมภาพันธ์ 2554, 17:44:32
พระธรรมโครินธ์ 13:4-8 กล่าวไว้ว่า  ความรักนั้นก็อดทนนานและกระทำคุณให้ ความรักไม่อิจฉา ไม่อวดตัว ไม่หยิ่งผยอง ไม่หยาบคาย ไม่คิดเห็นแก่ตนเองฝ่ายเดียว ไม่ฉุนเฉียว ไม่ชอบจดจำความผิด ไม่ชื่นชมยินดีเมื่อมีการประพฤติผิด แต่ชื่นชมยินดีเมื่อประพฤติชอบ ความรักทนได้ทุกอย่างแม้ความผิดของคนอื่น และเชื่อในส่วนดีของเขาอยู่เสมอ และมีความหวังอยู่เสมอ และทนต่อทุกอย่าง
Happy Valentine Day ค่ะ


หัวข้อ: Re: [2513] "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: swsm ที่ 13 กุมภาพันธ์ 2554, 20:34:44
(http://www.cmadong.com/imgup/pics/63548Valentine_2011_CMD.jpg)


หัวข้อ: Re: [2513] "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: ตุ๋ย 22 ที่ 19 กุมภาพันธ์ 2554, 18:21:43
หวัดดีครับพี่แอ๊ะไม่แวะเข้าเว็บเลยครับ


หัวข้อ: Re: [2513] "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: Kaimook ที่ 22 กุมภาพันธ์ 2554, 19:13:26
สวัสดีค่ะพี่แอ๊ะ...
 emo4:)) emo4:)) emo4:))


หัวข้อ: Re: [2513] "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: เหยง 16 ที่ 24 กุมภาพันธ์ 2554, 16:53:13
สวัสดีครับพี่แอ๊ะ

ไม่ได้เข้ามาเยี่ยมพี่เป็นเวลาหลายๆวัน ทีเดียว


หัวข้อ: Re: [2513] "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: พธู ๒๕๒๔ ที่ 28 กุมภาพันธ์ 2554, 17:31:10
ยินดีกันพี่ทั้งสองคนที่จะได้ลูกชายเพิ่ม


หัวข้อ: Re: [2513] "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: ภาณุ ปาตานี ที่ 05 มีนาคม 2554, 06:59:11

มาสวัสดีครับพี่แอ๊ะ...
คงกำลังวุ่นวายกับงานใหญ่นะครับ


หัวข้อ: Re: [2513] "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: เหยง 16 ที่ 07 มีนาคม 2554, 15:15:28
สวัสดีครับ พี่แอ๊ะ

หายไปจากเว็ปเป็นเดือนแล้วครับ มีภาระกิจเยอะเลยหรือ ??


หัวข้อ: Re: [2513] "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: prapasri AH ที่ 07 มีนาคม 2554, 21:03:55
น้องๆ สุดที่รักทุกท่าน

พี่แอ๊ะต้องขอโทษที่ห่างหายเวบไปนานนนนนนนนนนนนนนมาก

ช่วงนี้ ยุ่งมากค่ะ  

ทั้งงาน ร.พ และงานลูก

น้องติ๊บ จะเเต่งงานวันที่ 15 มีค นี้ ที่ รร.ปาร์คนายเลิศ  และที่ยโสธร วันที่ 27 มีค.ค่ะ

และตอนเช้าเเต่งที่บ้าน เพราะใช้ประเพณีจีน ฤกษ์แต่งงาน ตี 5 เช้ามืด

เลยต้องจัดที่บ้าน เพราะโรงเเรมไม่รับจัด

พี่แอ๊ะเลยยุ่ง ไปอยู่กรุงเทพเป็นอาทิตย์ๆ เพราะต้องจัดบ้านค่ะ

แล้วกลับมาเลียร์งานที่ยโส 2-3 วัน และก็เข้ากรุงเทพอีก

ยุ่งมากจริงๆ

คิดถึงน้องๆมาก ต้องขออำไพ ด้วยนะคะ ไม่ได้เข้าเวบเลย

ขอบคุณ น้อง ๆทุกท่าน ที่คิดถึง

แล้วจะส่งรูป งานแต่งมาให้ดูนะคะ

พี่แอ๊ะเกรงใจชาวหอ ไม่ค่อยได้เชิญมาก เพราะคราวงานน้องต้นเชิญ หลายท่านแล้ว

 ไม่ถึงปีเชิญอีก ก็เกรงใจค่ะ

อยากเชิญเหยง มาก เพราะพรเทพ มางานด้วย แต่เกรงใจหากต้องมาจากนครสวรรค์

อวยพรหลาน ทางเวบก็ได้นะคะ

พรุ่งนี้ หากเคลียร์งานที่ยโสเสร็จ ก็ต้องไปกรุงเทพ ต่ออีกแล้วค่ะ

เหนื่อยจริงๆค่ะ

(http://img135.imageshack.us/img135/5285/32015214.jpg)

รูปนี้ปูเตียงให้ลูกค่ะ



หัวข้อ: Re: [2513] "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: prapasri AH ที่ 07 มีนาคม 2554, 21:14:19

(http://img87.imageshack.us/img87/130/88400055.png)


หัวข้อ: Re: [2513] "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: pusadee sitthiphong ที่ 07 มีนาคม 2554, 21:15:51
สวัสดีค่ะ พี่แอ๊ะ


หัวข้อ: Re: [2513] "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: prapasri AH ที่ 07 มีนาคม 2554, 21:21:34
หวัดดี น้องป้อม คิดถึงจัง

พี่แอ๊ะยุ่งๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ มั๊กๆ ค่ะ แต่ก็คิดถึงน้องๆตลอดค่ะเเต่ไม่ได้เข้ามาทักทาย


หัวข้อ: Re: [2513] "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: เอมอร 2515 ที่ 07 มีนาคม 2554, 23:05:15
สวัสดีค่ะ  พี่แอ๊ะ
ยินดีกับหลานด้วยนะคะ


หัวข้อ: Re: [2513] "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: Kaimook ที่ 08 มีนาคม 2554, 00:18:41
อ้างถึง
ข้อความของ prapasri AH เมื่อ 07 มีนาคม 2554, 21:14:19

(http://img87.imageshack.us/img87/130/88400055.png)
สวัสดีค่ะพี่แอ๊ะ...รูปนี้สดชื่นมากๆๆๆๆค่ะ ขอให้น้องติ๊บมีความสุขในชีวิตสมรสค่ะ...


หัวข้อ: Re: [2513] "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: เหยง 16 ที่ 14 มีนาคม 2554, 09:10:34
พี่แอ๊ะครับ

ทราบแล้ว กำลังพยายามเคลีย์คิวอยู่ครับ

ยินดีกับหลานด้วยครับ


หัวข้อ: Re: [2513] "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: เหยง 16 ที่ 15 มีนาคม 2554, 15:46:38
พี่แอ๊ะครับ

ติดฝนครับ ไม่ได้ไปงานแน่นอนแล้ว

ขออวยพรให้หลานกระติ๊บมีความสุขในชีวิตสมรสครับ


หัวข้อ: Re: [2513] "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: prapasri AH ที่ 17 มีนาคม 2554, 20:55:47
ไม่เป็นไร ค่ะ เหยง อยู่ถึงพิจิตร พี่แอ๊ะเกรงใจ ค่ะ

แต่ยังมีลูกไม่ได้เเต่งอีก สองคนแน่ะ


หัวข้อ: Re: [2513] "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: prapasri AH ที่ 20 มีนาคม 2554, 07:51:56
กลับบ้านเรารักรออยู่

 ปกติพี่แอ๊ะไม่ค่อยได้ไปคุยห้องอื่น เพราะเเค่ต้องรับผิดชอบห้องนี้ ที่เจ้าดร.กระป๋อง มาสร้างไว้ให้

 พี่แอ๊ะก็เมื่อยมือ จิ้ม คีย์บอร์ด และเมื่อย ตา เมือยหลังจากการนั่งนานๆ กับคอมแล้ว

ตอนค่ำๆ ต้องให้แผนไทยนวดให้เลยค่ะ

เเต่ต้องรับผิดชอบปัดกวาดบ้านตัวเอง

และมีเรื่องมาคุยเยอะๆ เพื่อ เช็คเรตติ้ง ๆ อิๆๆๆๆๆ

ดังนั้น  เเฟนคลับพี่แอ๊ะช่วยมา ติ้งเรต ให้พี่แอ๊ะกันหน่ยอนะ

ปล. อุส่าห์ ทิ้งงาน ร.พ ให้ลูกน้องทำ แล้ว มาเฝ้าเวบ อยู่นี่ พี่หาญก็เกรงใจเต็มที

พี่หาญ เเกอยากจะดุ แต่ไม่กล้าดุ คงเกรงใจ เจ้าดร.กระป๋องมั้งงงงงง


หัวข้อ: Re: [2513] "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: prapasri AH ที่ 20 มีนาคม 2554, 08:13:45
พี่แอ๊ะเเต่งงานลูกสาว หลังจากพี่ที่เเล้วเเต่ง หมอต้น

ไม่น่าเชื่อว่า หนึ่งปีพอดี และวั นที่เเต่งก็ตรงกันค่ะ 15 มีค และที่ยโสธรก็ 27 มีนาคม เช่นกัน

ท่านอานันท์ ปันยารชุน ให้เกียรติมาเป็นประธานเช่นเคย

ท่านถามว่า ผมต้องเเต่งให้ กี่คน ละนี่ 55555

อีก สองคน ค่ะท่าน

แต่สองคน นี้ คงอีกนาน พอให้ชาวหอไม่เบื่อด้วยเพราะ  กะต้า กับ กะต๊อบ ยังเรียนไม่จบเลยค่ะ



หัวข้อ: Re: [2513] "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: prapasri AH ที่ 20 มีนาคม 2554, 08:21:50
(http://img850.imageshack.us/img850/5424/66424350.jpg)


หัวข้อ: Re: [2513] "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: prapasri AH ที่ 20 มีนาคม 2554, 09:19:03
พี่แอ๊ะหายจากเวบหอ ไปนาน ร่วมสองเดือนเพราะต้องเตรียมงานเเต่งให้ลูก

งานเเต่งมีพิธี จีน ในตอนเช้า ที่บ้าน นันทวัน ศรีนครินทร์ ซื้อต่อเขามา

คือพี่แอ๊ะมีบ้านอยู่ที่นี่นานมากแล้ว แต่ไกลมาก เลยไม่ได้มาอยู่ ให้แม่บ้านเฝ้าไว้

ตอนน้องต้นเเต่งงาน เมื่อปีที่เเล้ว พี่แอ๊ะเลยมาแต่งบ้านนี้ ปรับฮวงจุ๊ย หมดไปหลาย

แต่พอปรับฮวงจุ๊ยเสร็จ ทุกอย่างก็ดีมากๆ ตามที่หมอฮวงจุ๊ยบอก

พี่แอ๊ะไม่เชื่อหมอดู แต่เชื่อเรื่องฮวงจุ๊ยพอสมควร

ทำ  5 ส.(สะอาด สะสาง สะดวก...... ในโรงพยาบาล ) ก็จะพบว่าเป็นเรื่องของฮวงจู๊ย อยู่มากเลยค่ะ

หลายอย่างพิสูจน์แล้ว ด้วยตัวเองว่าเป็นวิทยาศาสตร์


หัวข้อ: Re: [2513] "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: เหยง 16 ที่ 24 มีนาคม 2554, 22:22:10
สวัสดีครับพี่แอ๊ะ

เมื่อสักครู่เกิดแผ่นดินไหวที่เชียงราย แต่คอนโดฯที่ กทม. รับรู้ได้ ลูกสาวต้องเดินลงมาข้างล่างกัน และเพิ่งขึ้น

ในขณะนี้ที่ห้างแพลตทินััม ประตูน้ำ เกิดไฟไหม้ แต่ยังไม่ทราบว่าสาเหตุจากแผ่นดินไหวหรือไม่ครับ


หัวข้อ: Re: [2513] "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: prapasri AH ที่ 24 มีนาคม 2554, 22:23:28
สงสัย ต้องไปดูข่าวก่อนเเล้วค่ะ เหยง


หัวข้อ: Re: [2513] "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: เหยง 16 ที่ 28 มีนาคม 2554, 20:29:56
พี่แอีะ

มีบรรยากาศของงานแต่งเมื่อคืนนี้มาลงหรือไม่ครับ ??


หัวข้อ: Re: [2513] "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: prapasri AH ที่ 29 มีนาคม 2554, 19:51:59
พรุ่งนี้เย็นๆ จะนำมาลงนะคะ

วันสองวันนี้พี่แอ๊ะดูแลญาติพี่น้องหมอนัท ไปเที่ยว สปป.ลาว
และร้องเพลงสองฝั่งโขง กันที่มุกดาหารค่ะ

เเละ วันนี้พี่แอ๊ะหนาววววววววววว มาก เลยหลับในที่นอนอันอ่อนนุ่มทั้งวันทั้งคืน5555555

เจ้าสาวเจ้าบ่าว บินกลับไปทำงานในวันรุ่งขึ้น ทันที่ น่าสงสาร สองหมอจังเลย

อ้างถึง
ข้อความของ เหยง 16 เมื่อ 28 มีนาคม 2554, 20:29:56
พี่แอีะ

มีบรรยากาศของงานแต่งเมื่อคืนนี้มาลงหรือไม่ครับ ??



หัวข้อ: Re: [2513] "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: เหยง 16 ที่ 29 มีนาคม 2554, 21:24:31
ช่วงนี้ คุณหมอลาหยุดยาวไม่ค่อยจะได้ซะด้วย ยิ่งมีเทศกาลหยุดยาวของสงกรานต์ด้วย

ต้องไปลาหยุดฮันนีมูน หลังสงกรานต์มั้งครับ


หัวข้อ: Re: [2513] "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: ภาณุ ปาตานี ที่ 30 มีนาคม 2554, 00:15:00

สวัสดีครับพี่แอ๊ะ


หัวข้อ: Re: [2513] "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: เหยง 16 ที่ 31 มีนาคม 2554, 23:25:55
สวัสดีครับพี่แอ๊ะ

ญาติๆ และบ้านที่สมุยเป็นอย่างไรบ้างครับ, อู๊ด-พรเทพ คงสบายดีน่ะครับ


หัวข้อ: Re: [2513] "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: Kaimook ที่ 03 เมษายน 2554, 23:10:41
 สวัสดีค่ะพี่แอ๊ะ...รอชมค่ะ...


หัวข้อ: Re: [2513] "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: prapasri AH ที่ 12 เมษายน 2554, 16:19:06
โทษทีค่ะ น้องๆขา

พี่เเอ๊ะหายไปนานมาก พอดียุ่งๆงานโรงพยาบาลค่ะ

ไม่ได้จมน้ำ ไปค่ะ ข่าวคราวของสุราษฎร์ ที่ออกใน ทีวี ยังน้อยกว่าที่เป็นจริงค่ะ

แต่ที่บ้านพี่แอ๊ะเเละพรเทพ ไม่โดนค่ะเพราะอยู่ในเมืองบ้านดอน

วันนี้ขอนำรายชื่อ สว สรรหา มาให้ทราบนะคะ เป็นเพื่อนพี่แอ๊ะเป็น10 คนเลยค่ะ

พี่แอ๊ะใจไม่ถึงพอที่จะเข้ารับการสรรหา กลัว ตก ค่ะ



หัวข้อ: Re: [2513] "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: prapasri AH ที่ 12 เมษายน 2554, 16:19:40
 
เปิดรายชื่อสว.สรรหาตามคาดสายคมช.ผงาด
วันอังคาร ที่ 12 เมษายน 2554 เวลา 13:48 น
 
 
เปิดรายชื่อสว.สรรหาจำนวน73รายพล.ต.อ.จงรัก พล.อ.ธีรเดช พล.อ.สมเจตน์ ผงาดนั่งตามคาดสายคมช.ได้ดี

วันนี้ 12 เม.ย. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า   เมื่อเวลา 14.00 น. ที่สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง นายสุทธิพล ทวีชัยการ เลขาธิการคณะกรรมการการเลือกตั้ง แถลงภายหลังการประชุมกกต. เพื่อพิจารณารับรองรายชื่อผู้ที่ได้รับการสรรหาเป็นส.ว.สรรหาว่า ภายหลังจากคณะกรรมการการสรรหาส.ว. ได้พิจารณาสรรหาบุคคลที่ได้รับการสรรหาเป็นส.ว.ตามหลักเกณฑ์ที่บัญญัติไว้ในรัฐธรรมนูญเสร็จสิ้นและส่งมาให้คณะกรรมการการเลือกตั้งรับรองนั้น  วันนี้ที่ประชุมกกต.ได้นัดประชุมเพื่อรับรองรายชื่อผู้ได้รับการเสนอชื่อเป็นส.ว. 73 คน ใน 5 ภาค ตามที่คณะกรรมการสรรหาได้เสนอมา ประกอบด้วย

1.รองศาสตราจารย์กอบกุล พันธ์เจริญวรกุล
2.นางกีระณา สุมาวงศ์
3.พล.อ.เกษมศักดิ์ ปลูกสวัสดิ์
4.นายคำนูณ สิทธิสมาน
5.พล.ต.อ.จงรัก จุฑานนท์
6.นายจักรธรรม ธรรมศักดิ์
7.นายจารุพงศ์ จีนาพันธ์
8.นายเจตน์ ศิรธรานนท์
9.พล.อ.ต.เฉลิมชัย เครืองาม
10.พล.อ.อ.ชาลี จันทร์เรือง
11.พล.อ.ชูชาติ สุขสงวน
12.นายเดชอุดม ไกรฤทธิ์
13.ศ.เกียรติคุณตรึงใจ บูรณสมภพ
14.นายตวง อันทะไชย
15.นายถาวร ลีนุตพงษ์
16.รศ.ทัศนา บุญทอง
17.นายธวัช บวรวณิชยกูร
18.นายธานี อ่อนละเอียด
19.พล.อ.ธีรเดช มีเพียร
20.นายธีระ สุวรรณกุล
21.รศ.นรีวรรณ จินตกานนท์
22.นางนิลวรรณ เพชระบูรณิน
23.นายบุญชัย โชควัฒนา
24.นายปรเทพ สุจริตกุล
25.นายประจิตต์ โรจนพฤกษ์
26.นายประวิทย์ จันทราประภาวัฒน์
27.นายประสงค์ ตันมณีวัฒนา
28.นายประสงค์ นุรักษ์
29.นายประสงค์ศักดิ์ บุญเดช
30.มล.ปรียพรรณ ศรีธวัช
31.นายปัญญา เบ็ญจศิริวรรณ
32.นายปิยพันธุ์ นิมมานเหมินท์
33.รศ.พรพันธุ์ บุณยรัตพันธุ์
34.พล.ต.อ.พิชิต ควรเดชะคุปต์
35.นายพิเชต สุนทรพิพิธ
36.นางพิไลพรรณ สมบัติศิริ
37.นายพิสิฐ เกตุผาสุก
38.นางเพ็ญพักตร์ ศรีทอง
39.นายมณเฑียร บุญตัน
40.นายมหรรณพ เดชวิทักษ์
41.พล.ต.ท.ยุทธนา ไทยภักดี
42.นางยุวดี นิ่มสมบุญ
43.พล.อ.รัชกฤต กาญจนวัฒน์
44.พล.อ.เลิศฤทธิ์ เวชสวรรค์
45.พล.ต.อ.วงกต มณีรินทร์
46.นายวัชระ ตันตรานนท์
47.นายวันชัย สอนศิริ
48.นายวิชัย ไพรสงบ
49.นายนายวิชาญ ศิริชัยเอกวัฒน์
50.รศ.วิชุดา รัตนเพียร
51.นายวิทวัช บุญญสถิต
52.นายวิบูลย์ คูหิรัญ
53.ศ.วิรัติ พาณิชย์พงษ์
54.พล.อ.อ.วีรวิท คงศักดิ์
55.มรว.วุฒิเลิศ เทวกุล
56.พล.ร.อ.ศิษฐวัชร วงษ์สุวรรณ
57.นายศรีสุข รุ่งวิสัย
58.พ.ต.อ.สนธยา แสงเภา
59.ศ.สม จาตุศรีพิทักษ์
60.พล.อ.สมเจตน์ บุญถนอม
61.นายสมชายแสวงการ
62.นายสมบูรณ์ งามลักษณ์
63.นายสมพล พันธุ์มณี
64.พล.ต.ท.สมยศ ดีมาก
65.นายสมัคร เชาวภานันท์
66.นายสัก กอแสงเรือง
67.นายสุธรรม พันธุศักดิ์
68.น.ส.สุนันท์ สิงห์สมบุญ
69.นายสุรชัย เลี้ยงบุญเลิศชัย
70.พล.ร.อ.สุรศักดิ์ ศรีอรุณ
71.นายอโณทัย ฤทธิปัญญาวงศ์
72.นายอนุรักษ์ นิยมเวช
73.นายอนุศาสน์ สุวรรณมงคล



หัวข้อ: Re: [2513] "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: prapasri AH ที่ 12 เมษายน 2554, 16:21:35
มีท่านหนึ่งเป็นชาวหอ หรือไม่ก็สิงหอเเน่นอน ค่ะ
จบ วิศวะ ค่ะ

27.นายประสงค์ ตันมณีวัฒนา


หัวข้อ: Re: [2513] "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: prapasri AH ที่ 12 เมษายน 2554, 16:30:42
ท่านใดรู้จักจะเลี้ยงเเสดงความยินดีให้กันไหมคะ

จะได้เลี้ยงพร้อมกัน พี่แอ๊ะจะเป็นเจ้าภาพเลี้ยงเเสดงความยินดีให้เพื่อนๆ ที่ได้เป็น สว. หลังสงกรานต์ค่ะ

พี่แอ๊ะ  ตัวเล็ก ใจ ใหญ่ อาสาเป็นเจ้าภาพเลี้ยงให้เอง55555

ท่านใดรู้จักท่านใดมาร่วมงานได้ค่ะ


หัวข้อ: Re: [2513] "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: เหยง 16 ที่ 12 เมษายน 2554, 18:07:20
ขอบคุณพี่แอีะครับ

หลายชื่อถูกใจ และมีหลายชื่อไม่ถูกใจเช่นกัน

แต่ผ่านการสรรหาจากบุคคลชุดเดียวกันทั้งหมด ก็น่าจะดีทั้งสิ้นครับ

คงต้องตามดูต่อครับว่า 6 ปีต่อไปนี้จะทำอะไรให้กับสภาและประเทศชาติได้บ้าง ??


หัวข้อ: Re: [2513] "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: swsm ที่ 12 เมษายน 2554, 18:20:37
สุขสันต์วันสงกรานต์ค่ะ .. พี่แอ๊ะ     emo9:huhu:

(http://img856.imageshack.us/img856/404/waterfestival02.jpg)


หัวข้อ: Re: [2513] "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: jeam ที่ 12 เมษายน 2554, 20:39:32
(http://img856.imageshack.us/img856/5295/84477256.jpg)


หัวข้อ: Re: [2513] "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: prapasri AH ที่ 12 เมษายน 2554, 21:20:20
สว. สรรหาจะอยู่ได้วาระละ 3ปี    2.วาระ ค่ะเหยง

สว.ชุดเเรกที่ครบ 3ปี ถูก ไม่ได้รับการสรรหาเข้ามาใหม่ (คือ สอบตก)ประมาณ30กว่าคน

ถ้าเป็น สว.เลือกตั้ง จะอยู่ได้ 6 ปี วาระเดียว  แต่เลือกได้จังหวัด ละ 1คน

อีกประมาณ 2 ปีก็จะเลือก เเล้วค่ะ สว.เลือกตั้ง 77 จังหวัด (รวมบึงกาฬ ละทีนี้)


และสว. เลือกตั้งก็ต้องผ่าน การเลือกตั้ง จากประชาชนทั้งจังหวัด

และ ต้องผ่าน ด่านซื้อเสียงของเเต่ละจังหวัดให้ได้

ผ่านได้เเล้วกกต .อาจจะสอยอีก




หัวข้อ: Re: [2513] "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: prapasri AH ที่ 12 เมษายน 2554, 21:45:42
ดูชื่อองค์กรที่ส่ง สว เข้ามารับการสรรหานะคะ

  กกต.รับรอง 73 ส.ว.สรรหา หน้าเก่าเข้าป้าย 31 คน “คำนูณ” พร้อมกลุ่ม 40 ส.ว.คัมแบ็กหลายคน “เดชอุดม-สมเจตน์-บิ๊กมาม่า-ทนายวันชัย-พี่สมคิด-จงรัก-วงกต-น้องบิ๊กป้อม-สัก” ด้าน “สุทธิพล” แจงคัดสรรเป็นดุลพินิจของกรรมการ ยัน ส.ว.ชุดเก่ากระจายตามภาควิชา
       

       วันนี้ (12 เม.ย.) ที่คณะกรรมการการเลือกตั้ง ได้มีการประชุมพิจารณารับรองรายชื่อผู้ได้รับการสรรหาเป็น ส.ว.สรรหาทั้ง 73 คน จาก 5 ภาค โดยก่อนการประชุมจะเริ่มขึ้น นายอภิชาต สุขัคคานนท์ ประธาน กกต.หนึ่งในคณะกรรมการสรรหา ได้แสดงซองเอกสารสีน้ำตาลบรรจุรายชื่อผู้ได้รับการสรรหาที่มีการปิดผนึกอย่างแน่นหนา ให้กับ กกต.ทั้ง 4 คน เจ้าหน้าที่ กกต.และสื่อมวลชนที่ได้รับอนุญาตให้ไปบันทึกภาพก่อนการเริ่มประชุม
       
       ทั้งนี้ นายอภิชาต ยืนยันว่า คณะกรรมการสรรหาได้ระมัดระวังเป็นอย่างดี ไม่ให้รายชื่อผู้ได้รับการสรรหาทั้ง 73 คนรั่วไหลออกไปก่อนที่จะมีการประกาศรับรองจาก กกต.โดยคณะกรรมการสรรหาได้นำรายชื่อใส่ซองปิดผนึกอย่างหนาแน่น และ นายชัช ชลวร ประธานศาลรัฐธรรมนูญ ในฐานะประธานคณะกรรมการสรรหา ส.ว.ได้ลงลายมือชื่อกำกับร่วมกับตน
       
       หลังการประชุม นายสุทธิพล ทวีชัยการ เลขาธิการ กกต.แถลงว่า กกต.มีมติประกาศผลการสรรหา และแจ้งประกาศผลการสรรหาไปยังประธานวุฒิสภาโดยผู้ได้รับการสรรหาเป็น ส.ว.สรรหาทั้ง 73 คน ประกอบด้วย ภาควิชาการ จำนวน 14 คน ได้แก่
       
       1.รองศาสตราจารย์ กอบกุล พันธ์เจริญวรกุล จากมูลนิธิคณะพยาบาลศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล
       2.นายคำนูณ สิทธิสมาน จากมูลนิธิยามเฝ้าแผ่นดิน
       3.นายเจตน์ ศิรธรานนท์ จากสมาคมนักบริหารโรงพยาบาลประเทศไทย
       4.พล.อ.ต.เฉลิมชัย เครืองาม จากมหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย
       5.นายเดชอุดม ไกรฤทธิ์ จากเนติบัณฑิตสภา ในพระบรมราชูปถัมภ์
       6.ศ.เกียรติคุณ ตรึงใจ บูรณสมภพ จากมหาวิทยาลัยศิลปากร
       7.นายถาวร ลีนุตพงษ์ จากมหาวิทยาลัยราชภัฏมหาสารคาม
       8.รศ.นรีวรรณ จินตกานนท์ จากสถาบันบัณฑิตบริหารศาสตร์
       9.นายปรเทพ สุจริตกุล จากสมาคมนักเรียนเก่านวลนรดิศ
       10.นายพิเชต สุนทรพิพิธ จากสมาคมวางแผนครอบครัวแห่งประเทศไทย
       11.นายมหรรณพ เดชวิทักษ์ จากสมาคมแห่งสถาบันพระปกเกล้า
       12.รศ.วิชุดา รัตนเพียร จากมหาวิทยาลัยรัตนบัณฑิต
       13.นายวิทวัส บุญญสถิต จากมหาวิทยาลัยราชภัฏธนบุรี และ
       14.ม.ร.ว.วุฒิเลิศ เทวกุล จากสถาบันพระปกเกล้า
       
       ภาครัฐ 14 คน ได้แก่
       1.พล.อ.อ.ชาลี จันทร์เรือง จากกองทัพอากาศ
       2.พล.อ.ชูชาติ สุขสงวน จากสำนักงาน กสทช.
       3.พล.อ.ธีรเดช มีเพียร จากสำนักงานตรวจการแผ่นดิน
       4.นายประจิตต์ โรจนพฤกษ์ จากกรมสารนิเทศ
       5.นายประสงค์ ตันมณีวัฒนา จากเทศบาลตำบลขุนทัดเพ็ง
       6.นายประสงค์ศักดิ์ บุญเดช จาก จ.ร้อยเอ็ด
       7.นายปิยพันธุ์ นิมมานเหมินท์ จากกรมบัญชีกลาง
       8.นายพิสิฐ เกตุผาสุก จาก จ.ชลบุรี
       9.พล.อ.เลิศฤทธิ์ เวชสวรรค์ จากกระทรวงกลาโหม
       10.นายวิชัย ไพรสงบ จาก จ.ภูเก็ต
       11.พล.อ.สมเจตน์ บุญถนอม จากสำนักงานปลัด กระทรวงกลาโหม
       12.นายสมบูรณ์ งามลักษณ์ จาก จ.นครราชสีมา
       13.นายสมพล พันธุ์มณี จากสำนักงานคณะกรรมการพิเศษเพื่อประสานงาน โครงการอันเนื่องมากจากพระราชดำริ และ
       14.นายอนุศาสน์ สุวรรณมงคล จากมหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์
       
       ภาคเอกชน 15 คน ได้แก่
       1.นายธวัช บวรวณิชยกูร จากสมาคมอัสสัมชัญ
       2.นายธีระ สุวรรณกุล จากมูลนิธิหลวงพ่อวิริยังค์ สิรินธโร
       3.นางนิลวรรณ เพชระบูรณิน จากสมาคมธุรกิจท่องเที่ยง จ.เพชรบูรณ์
       4.นายบุญชัย โชควัฒนา จากหอการค้าไทย
       5.นายประวิทย์ จันทราประภาวัฒน์ จากหอการค้าไทย-ไนจีเรีย
       6.ม.ล.ปรียพรรณ ศรีธวัช จากสภาสตรีแห่งชาติในพระบรมราชินูปถัมภ์
       7.นางเพ็ญพักตร์ ศรีทอง จากหอการค้า จ.อุบลราชธานี
       8.นางยุวดี นิ่มสมบุญ จากสหพันธ์สมาคมสตรีนักธุรกิจและวิชาชีพแห่งประเทศไทยในพระบรมราชูปถัมภ์
       9.นายวัชระ ตันตรานนท์ จากสมาคมการค้าและอสังหาริมทรัพย์เชียงใหม่-ลำพูน
       10.นายวันชัย สอนศิริ จากมูลนิธิร่มฉัตร
       11.นายวิบูลย์ คูหิรัญ จากมูลนิธิโรงพยาบาลโพธาราม
       12.พ.ต.อ.สนธยา แสงเภา จากสมาคมไทยซิกข์-รักษาความมั่นคงภายใน (ประเทศไทย)
       13.ศ.สม จาตุศรีพิทักษ์ จากมูลนิธิฮั่วเคี้ยวป่อเต็กเซี่ยงติ๊ง
       14.นายสุรชัย เลี้ยงบุญเลิศชัย จากมูลนิธิเจ้าพระยามหิธร และ
       15.น.ส.สุนันท์ สิงห์สมบุญ จากสมาคมพ่อค้าข้าวโพดและพืชพันธุ์ไทย
       
       ภาควิชาชีพ 15 คน ได้แก่
       1.นางกีระณา สุมาวงศ์ จากสมาคมบัณฑิตสตรีทางกฎหมายแห่งประเทศไทยในพระบรมราชูปถัมภ์
       2.พล.ต.อ.จงรัก จุฑานนท์ จากสมาคมปศุสัตว์ไทย
       3.นายจารุพงศ์ จีนาพันธ์ จากสมาคมศิษย์เก่ามหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าพระนครเหนือ
       4.นายตวง อันทะไชย จากสมาคมข้าราชการพลเรือนและบุคลากรทางการศึกษา
       5.รศ.ทัศนา บุญทอง จากสภาการพยาบาล
       6.รศ.พรพันธุ์ บุณยรัตพันธุ์ จากสมาคมแพทย์สตรีแห่งประเทศไทยในพระบรมราชินูปถัมภ์
       7.พล.ต.อ.วงกต มณีรินทร์ จากสมาคมโรงเรียนนายร้อยตำรวจ
       8.นายวิชาญ ศิริชัยเอกวัฒน์ จากสมาคมการประมงสมุทรสาคร
       9.นพ.วิรัติ พาณิชย์พงษ์ จากแพทยสภา
       10.พล.อ.อ.วีรวิท คงศักดิ์ จากมูลนิธิคลังสมอง วปอ.เพื่อสังคม
       11.พล.ร.อ.ศิษฐวัชร วงษ์สุวรรณ จากสมาคมประมงระยอง
       12.นายสมชาย แสวงการ จากมูลนิธิสื่อสร้างสรรค์
       13.นายสัก กอแสงเรือง จากสภาทนายความ
       14.พล.ร.อ.สุรศักดิ์ ศรีอรุณ จากอรุณ สมาคมต่อเรือและซ่อมเรือไทย และ
       15.นายอนุรักษ์ นิยมเวช จากมูลนิธิสหพันธ์ธุรกิจบริหารออกแบบและก่อสร้างแห่งประเทศไทย
       
       ภาคอื่น 15 คน
       1.พล.อ.เกษมศักดิ์ ปลูกสวัสดิ์ จากสมาคมศิษย์เก่าเซนต์คาเบรียล
       2.นายจักรธรรม ธรรมศักดิ์ จากพุทธสมาคมแห่งประเทศไทย
       3.นายธานี อ่อนละเอียด จากมูลนิธิฟ้าธรรมทาน (ฮั่วหกเซี้ยงตึ้ง)
       4.นายประสงค์ นุรักษ์ จากสหภาพแรงงานรัฐวิสาหกิจการทางพิเศษแห่งประเทศไทย
       5.นายปัญญา เบ็ญจศิริวรรณ
       6.พล.ต.อ.พิชิต ควรเดชะคุปต์ จากสมาคมสภาสังคมสงเคราะห์แห่งประเทศไทยในพระบรมราชูปถัมภ์
       7.นางพิไลพรรณ สมบัติศิริ จากสยามสมาคมในพระบรมราชูปถัมภ์
       8.นายมณเฑียร บุญตัน จากสมาคมคนตาบอดแห่งประเทศไทย
       9.พล.ต.ท.ยุทธนา ไทยภักดี จากสมาคมศิษย์เก่าโรงเรียนปทุมวิลัย
       10.พล.อ.รัชกฤต กาญจนวัฒน์ จากสมาคมชาวฉะเชิงเทรา
       11.นายศรีสุข รุ่งวิสัย จากสมาคมผู้สื่อข่าวกีฬาแห่งประเทศไทย
       12.พล.ต.ท.สมยศ ดีมาก จากสมาพันธ์สมาคมศิษย์เก่าคณะเซนต์คาเบียลแห่งประเทศไทย
       13.นายสมัคร เชาวภานันท์ จากสมาคมนิติศาสตร์มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์
       14.นายสุธรรม พันธุศักดิ์ จากมูลนิธิอาจารย์กอง วิสุทธารมย์เพื่อกิจการลูกเสือ และ
       15.นายอโณทัย ฤทธิปัญญาวงศ์ จากมูลนิธิมิตราทร
       
       ทั้งนี้ ส.ว.สรรหาทั้ง 73 คนที่ กกต.รับรองแล้ว สามารถเดินทางมารับหนังสือรับรองได้ทันที ซึ่งจะเปิดให้รับจนถึงเวลา 19.00 น.วันเดียวกัน และในวันที่ 13 เม.ย.ตั้งแต่เวลา 08.30-16.30 น.หากยังไม่สะดวกมารับ ก็สามารถมาขอรับได้อีกตั้งแต่วันที่ 18 เม.ย.ที่ด้านกิจการบริหารงานเลือกตั้ง สำนักงาน กกต.อย่างไรก็ตาม จากสถิติผู้ที่ถูกเสนอชื่อเข้ารับการสรรหาเป็น ส.ว.ในครั้งนี้จำนวน 671 รายนั้น แบ่งเป็นเพศชาย 586 คน เพศหญิง 85 คน คิดเป็นสัดส่วนเพศหญิง ร้อยละ 12.6 จากจำนวนผู้ที่เข้ารับการสรรหา ซึ่งปรากฏว่า เพศหญิงได้รับการคัดเลือกในการสรรหาครั้งนี้มีจำนวน 13 คน คิดเป็นร้อยละ 17.8 ซึ่งสูงกว่าร้อยละของผู้ที่ได้รับการเสนอชื่อเข้ารับการสรรหาที่เป็นเพศหญิง และในการสรรหาครั้งนี้มีผู้ที่ได้รับการสรรหาอายุมากสุด คือ อายุ 75 ปี คือ นางพรพันธุ์ บุญยรัตพันธุ์ ส่วนผู้ที่มีอายุน้อยที่สุด คือ 46 ปี มีจำนวน 3 คน
       
       นอกจากนี้ สัดส่วนที่น่าสนใจของการสรรหา ส.ว.ครั้งนี้ คือ สัดส่วนของผู้ด้อยโอกาสทางสังคม ซึ่งมีการเสนอชื่อเข้ารับการสรรหาเพียง 2 คน ปรากฏว่า ได้รับการสรรหา 1 คน ขณะที่วุฒิการศึกษาของผู้ได้รับคัดเลือกเป็น ส.ว.สรรหา แบ่งเป็นวุฒิการศึกษาระดับปริญญาตรีจำนวน 17 คน ปริญญาโท 47 คน ปริญญาเอก จำนวน 9 คน และ ส.ว.สรรหาชุดใหม่นี้มีอดีตข้าราชการตำรวจ 6 คน อดีตข้าราชการทหาร 11 คน อดีตข้าราชการพลเรือน 18 คน และนักกฎหมาย 11 คน รวมอยู่ด้วย รวมถึงเป็นอดีต ส.ว.สรรหาในชุดที่แล้วที่ได้รับการสรรหาเข้ามาอีกจำนวน 31 คน
       
       นายสุทธิพล ยังกล่าวด้วยว่า ก่อนที่ประชุม กกต.จะให้การรับรองรายชื่อ ได้มีการพิจารณากรณีที่มีบุคคล 2 คน ยื่นคำร้องคัดค้านการสรรหา โดยอ้างข่าวจากหนังสือพิมพ์ ว่า ผลการสรรหาได้มีการกำหนดไว้ก่อนแล้ว แต่หลังจากประกาศชื่อผู้ได้รับการสรรหา ก็พบว่า รายชื่อคลาดเคลื่อนจากที่เป็นข่าวอยู่ กับมีการร้องของผู้ได้รับการเสนอชื่อว่าคณะกรรมการสรรหาสัญญาว่า จะลงคะแนนให้ แต่กลับไม่ปฏิบัติตาม ซึ่งผู้ร้องรายนี้ไม่ได้รับการสรรหา อย่างไรก็ตาม ที่ประชุม กกต.ได้มีคำสั่งให้สำนักงาน กกต.ถ่ายสำเนารายงานการประชุมของกรรมการสรรหา รวมทั้งสอบถามประธาน กกต.ซึ่งเป็นหนึ่งในคณะกรรมการสรรหา ถึงขั้นตอนการทำงาน และได้สั่งให้สำนักงานฯแจ้งช่องทางการร้องคัดค้านภายหลังการประกาศผล โดยผู้ที่จะคัดค้านสามารถยื่นคำร้องคัดค้านได้ภายใน 30 วันนับแต่วันสรรหา
       
       สำหรับผลการลงคะแนนของคณะกรรมการสรรหานั้น จะไม่มีการเปิดเผยต่อสาธารณะแม้ว่าขั้นตอนการลงคะแนนของคณะกรรมการสรรหาจะเป็นไปโดยเปิดเผย โดยกรรมการสรรหาแต่ละคนจะทราบว่าใครลงคะแนนให้ใคร ซึ่งถ้าหากผู้มีส่วนได้เสียต้องการทราบผลการลงมติ ก็สามารถเปิดเผยเฉพาะผลคะแนนได้เท่านั้น แต่จะไม่มีการเปิดเผยว่ากรรมการคนใดลงคะแนนให้กับใคร
       
       ส่วนที่มีการตั้งข้อสังเกตว่า ผู้มีชื่อเสียงทางสังคมหลายคน ไม่ได้รับการสรรหา แต่ ส.ว.สรรหาชุดเก่าที่ถูกสังคมมองว่าผลงานไม่เป็นที่ประทับใจ กลับได้รับการสรรหานั้น นายสุทธิพล กล่าวว่า เป็นดุลพินิจของคณะกรรมการสรรหา ซึ่ง ส.ว.สรรหาชุดเก่าที่ได้รับการสรรหาเข้ามาใหม่ก็ได้เข้ามาไม่ถึงครึ่งหนึ่งของ ส.ว.ชุดเก่า โดยการสรรหาครั้งนี้จะเห็นว่าผู้ได้รับการสรรหา มีความเชี่ยวชาญในด้านต่างๆ จำนวนมาก เช่น ด้านกฎหมาย โทรคมนาคม สื่อมวลชน ศิลปวัฒนธรรม ที่จำเป็นต้องการทำงานของ ส.ว.
       
       “ที่วิจารณ์ว่าฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งได้รับการสรรหาเข้ามานั้นไม่ถูกต้อง ถ้าดูก็จะเห็นว่า กระจายไปในแต่ละสาขาวิชาชีพ แม้จะมีแนวทางไม่สอดคล้องกัน ก็เข้ามาได้ คณะกรรมการสรรหาไม่ได้ให้น้ำหนักไปในด้านใดด้านหนึ่ง” นายสุทธิพล กล่าว
       
       รายงานข่าวแจ้งว่า สำหรับกรณี นายสัก กอแสงเรือง ที่ได้รับการสรรหาและถูกตั้งข้อสังเกตว่าพ้นจากการเป็น ส.ว.เลือกตั้งเมื่อปี 43 ที่ถือว่าเป็นผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง มาไม่ถึง 5 ปีจนถึงวันที่ได้รับการเสนอชื่อ จึงน่าจะเข้าข่ายขาดคุณสมบัติการเข้ารับการสรรหา ส.ว.นั้น ทางคณะกรรมการสรรหาได้มีการตรวจสอบแล้ว พบว่า นายสัก เป็น ส.ว.เมื่อปี 43 นับแต่วันเลือกตั้งที่ 4 มี.ค.43 ซึ่งกรอบระยะเวลา 5 ปี ในกรณีของนายสัก คือ วันที่ 3 มี.ค.54 แต่นายสักได้รับการเสนอชื่อจากสภาทนายความให้เข้ารับการสรรหาในองค์กรภาควิชาชีพวันที่ 6 มี.ค.จึงถือว่าขณะที่ได้รับการเสนอชื่อมีคุณสมบัติตามที่กฎหมายกำหนด
       
       ทั้งนี้ ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ขณะที่ นายสุทธิพล เริ่มแถลงข่าวต่อสื่อมวลชน บรรดาผู้ที่ได้รับการสรรหาต่างก็ทยอยเดินทางเข้ามารับหนังสือรับรองที่บริเวณห้องโถงชั้น 2 ที่สำนักงาน กกต.จัดเตรียมไว้เป็นสถานที่รับหนังสือรับหนังสือรับรอง อาทิ นายคำนูณ สิทธิสมาน นายสมชาย แสวงการ พล.อ.ธีรเดช มีเพียร พล.ต.อ.พิชิต ควรเตชะคุปต์ นายพิเชต สุนทรพิพิธ ซึ่งผู้ที่เดินทางมารับหนังสือรับรองเป็นคนแรก ก็คือ นางนิลวรรณ เพชระบูรณิน ส.ว.สรรหา ภาคเอกชน อย่างไรก็ตาม ระหว่าง นายสุทธิพล แถลงข่าว นายประสงค์ นุรักษ์ ส.ว.สรรหา ก็ได้เข้าไปรับฟังการแถลงข่าวด้วย พร้อมกับให้สัมภาษณ์สื่อมวลชน ว่า ทราบข่าวว่าได้รับการสรรหาจากสภา และคิดว่า ที่ได้รับการสรรหาเป็น ส.ว.รอบ 2 เนื่องจากผลงานของตนเองในช่วง 3 ปีที่ผ่านมา เป็นที่ประจักษ์แก่คณะกรรมการสรรหา เพราะตนไม่รู้จักคณะกรรมการสรรหาเป็นส่วนตัวอยู่แล้ว
       
       นอกจากนี้ การสรรหาครั้งนี้ ยังพบว่ามีผู้มีชื่อเสียงทางสังคมหลายคนไม่ได้รับการสรรหา ไม่ว่าจะเป็น นายนาม ยิ้มแย้ม อดีตประธานคณะตรวจสอบการกระทำที่ก่อให้เกิดความเสียหายต่อรัฐ (คตส.) นายอุดม เฟื่องฟุ้ง กรรมการ คตส. พล.ต.อ.นพดล สมบูรณ์ทรัพย์ อดีตอธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ นายโสภณ สุภาพงษ์ นายวัลลภ ตังคนานุรักษ์ นายอิมรอน มะลูลีม อดีต ส.ว.นายโสภณ ดำนุ้ย ผอ.องค์การสวนสัตว์ นายเรืองไกร ลีกิจวัฒนะ พล.อ.เลิศรัตน์ รัตนวานิช อดีต ส.ว.สรรหา นายเกริกเกียรติ พิพัฒน์เสรีธรรม อดีต ป.ป.ช.เป็นต้น
       
       ผู้สื่อข่าวรายงานอีกว่า สำหรับ ส.ว.ที่ได้รับการสรรหาหลายคนต่างเป็นญาติกับบุคคลที่อยู่ในแวดวงสังคมการเมือง อาทิ เช่น นางนรีวรรณ จินตกานนท์ เป็นพี่สาวของ พล.ร.อ.บรรณวิทย์ เก่งเรียน อดีตรองปลัดกระทรวงกลาโหม และแกนนำเครือข่ายคนไทยหัวใจรักชาติ พล.อ.สมเจตน์ บุญถนอม อดีตหัวหน้าคณะสำนักงานเลขาธิการคณะมนตรีความมั่นคงแห่งชาติ (คมช.) พล.ร.อ.ศิษฐวัชร วงษ์สุวรรณ น้องชายของ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รมว.กลาโหม นายจักรธรรม ธรรมศักดิ์ ลูกชายของ นายสัญญา ธรรมศักดิ์ อดีตอธิการบดีมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ นายสม จาตุศรีพิทักษ์ พี่ชายของ นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ อดีตรองหัวหน้าพรรคไทยรักไทย นายประสงค์ศักดิ์ บุญเดช พี่ชาย นายประสพสุข บุญเดช อดีตประธานวุฒิสภา
 
 
 


หัวข้อ: Re: [2513] "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: เหยง 16 ที่ 12 เมษายน 2554, 22:52:39
อ้างถึง
ข้อความของ prapasri AH เมื่อ 12 เมษายน 2554, 21:20:20
สว. สรรหาจะอยู่ได้วาระละ 3ปี    2.วาระ ค่ะเหยง

สว.ชุดเเรกที่ครบ 3ปี ถูก ไม่ได้รับการสรรหาเข้ามาใหม่ (คือ สอบตก)ประมาณ30กว่าคน

ถ้าเป็น สว.เลือกตั้ง จะอยู่ได้ 6 ปี วาระเดียว  แต่เลือกได้จังหวัด ละ 1คน

อีกประมาณ 2 ปีก็จะเลือก เเล้วค่ะ สว.เลือกตั้ง 77 จังหวัด (รวมบึงกาฬ ละทีนี้)


และสว. เลือกตั้งก็ต้องผ่าน การเลือกตั้ง จากประชาชนทั้งจังหวัด

และ ต้องผ่าน ด่านซื้อเสียงของเเต่ละจังหวัดให้ได้

ผ่านได้เเล้วกกต .อาจจะสอยอีก




ขอบคุณครับ


หัวข้อ: Re: [2513] "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: ภาณุ ปาตานี ที่ 12 เมษายน 2554, 23:01:27
(http://www.cmadong.com/imgup/pics/cmd571553.jpg)


หัวข้อ: Re: [2513] "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: หนุน'21 ที่ 13 เมษายน 2554, 07:59:29
(http://www.cmadong.com/imgup/pics/cmd441902.jpg)


มารดน้ำขอพรพี่ครับ
สุขสันต์วันสงกรานต์ครับ พี่แอ๊ะและสมาชิกทุกท่าน


หัวข้อ: Re: [2513] "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: prapasri AH ที่ 15 เมษายน 2554, 13:02:21
ขอบคุณน้องหนุน นาฬิกาสวย  ค่ะ

อ้างถึง
ข้อความของ หนุน'21 เมื่อ 13 เมษายน 2554, 07:59:29
(http://www.cmadong.com/imgup/pics/cmd441902.jpg)


มารดน้ำขอพรพี่ครับ
สุขสันต์วันสงกรานต์ครับ พี่แอ๊ะและสมาชิกทุกท่าน


หัวข้อ: Re: [2513] "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: prapasri AH ที่ 15 เมษายน 2554, 13:04:44
ขอบคุณน้องๆทุกท่านค่ะ


อ้างถึง
ข้อความของ YA เมื่อ 12 เมษายน 2554, 23:01:27
(http://www.cmadong.com/imgup/pics/cmd571553.jpg)
อ้างถึง
ข้อความของ jeam เมื่อ 12 เมษายน 2554, 20:39:32
(http://img856.imageshack.us/img856/5295/84477256.jpg)
อ้างถึง
ข้อความของ jeam เมื่อ 12 เมษายน 2554, 20:39:32
(http://img856.imageshack.us/img856/5295/84477256.jpg)
อ้างถึง
ข้อความของ swsm เมื่อ 12 เมษายน 2554, 18:20:37
สุขสันต์วันสงกรานต์ค่ะ .. พี่แอ๊ะ    emo9:huhu:

(http://img856.imageshack.us/img856/404/waterfestival02.jpg)


หัวข้อ: Re: [2513] "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: prapasri AH ที่ 15 เมษายน 2554, 13:16:46
พี่แอ๊ะไม่ค่อยชอบวันสงกรานต์ ดังนั้นรดน้ำอวยพร ให้ในเวบก็ขอบคุณมากแล้วค่ะ

คือพี่แอ๊ะคิดว่าคนไทยมีวันหยุดมากไป หยุดอะไรหยุดได้หยุดดี ตั้ง 10วันติดๆกันงานราชการก็ชะงักไปหมด

จริงๆสำหรับธุรกิจพี่แอ๊ะที่ยโสธรดีมากนะคะเป็น คนอิสานที่กลับมาจะพาพ่อแม่มาหาหมอกัน

แต่พี่แอ๊ะก็ไม่ชอบให้หยุดมากินเหล้ากัน

แต่เดิมอิสาน ไม่ค่อยเน้นสงกรานต์ เน้นเเต่บั้งไฟ ซึ่งเมากันเป็นสิบๆวัน

เเต่เดี๋ยวนี้ เมาสงกรานต์ กันตั้งเเต่วันที่11 เเล้ว จนบัดนี้ ยังไม่หยุดเมา

ที่สำคัญ การสาดน้ำควรจะรณรงค์ให้สาดกันเฉพาะคนที่เขานั่งรถไปสาดด้วยกัน

คนทำธุระขับรถออกนอกบ้านไป มาสาดใส่กระจกหน้ารถ ทำให้โมโห สุดๆ

ที่สำคัญเขาเปิดเสียง ดนตรี กัน ใส่บ้านนอนก็ไม่ได้นอน กี่วันกี่คืนเเล้วก็ไม่รู้

บ้านพี่แอ๊ะอยู่ในเมือง เลย อยู่ท่ามกลางตระกูลเเผด (หงุดหงิด แล้วค่ะ)

ถ้าไม่ห่วงพี่หาญ  พี่แอ๊ะ ไปกรุงเทพ แล้ว หรือเเอบไปพักผ่อนที่ไหนเเล้ว

แต่ต้องอยู่ ซึ่งต้องเฝ้ารักษาคนไข้หัวร้างข้างเเตกมา รถชนมา  

และคนอิสานที่ไปอยู่กรุงเทพเขาตั้งใจมาหาในช่วงสงกรานต์

และแพทย์ท่านอื่นๆก็ หยุดเวรกัน พี่หาญ(เจ้าของ) ต้องอยู่เวร (กรรม) จนบัดนี้

ขณะนี้เสียง ดนตรี เเละเสียงเมามัน กำลังตะโกนอย่างไม่หยุดค่ะ


หัวข้อ: Re: [2513] "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: prapasri AH ที่ 15 เมษายน 2554, 13:21:32
และก็เสียดายน้ำ ด้วย

ประเทศชาติจะขาดน้ำจนต้องเเย่งน้ำกันเเน่นอนในอนาคต

แล้วเอามาสาดกันอยู่ได้

ใครไม่เห็นด้วยก็ยกมือได้นะคะ


หัวข้อ: Re: [2513] "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: prapasri AH ที่ 15 เมษายน 2554, 13:23:07

แต่พี่แอ๊ะก็ยังต้องทำหน้าที่ ไปรดน้ำขอพร

ผู้สูงอายุในชุมชน 14.30 น วันนี้

 หากถ่ายรูปมาได้ จะส่งมาให้ดู นะคะ


หัวข้อ: Re: [2513] "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: prapasri AH ที่ 16 เมษายน 2554, 10:46:36
 เมือ่คืนคิดว่าพี่แอ๊ะบ่น งึมงัมๆๆ ในเวบ คนทำให้น้องบางคนรำคาญเเน่เชียว

อย่าถือคนแก่นะคะ

และวันนี้ได้ผลจริงๆ น้ำประปาที่ยโส ไม่ไหลแล้วค่ะ โรงพยาบาลต้องใช้น้ำสำรอง เเล้ว

พี่แอ๊ะอาบน้ำต้อง ขอด น้ำในถังที่สำรองไว้ค่ะ

ก็อิสาน ขาดน้ำน่ะ แล้วจะเอาน้ำไปสาดเล่นทำไมนะ

การรดน้ำขอพร ตามธรรมเนียมก็ ต้องคงไว้ เพราะ สวยงาม แล้ว


หัวข้อ: Re: [2513] "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: เหยง 16 ที่ 17 เมษายน 2554, 12:12:09
พี่แอ๊ะ


ผมเห็นด้วยครับ
1.สงกรานต์ไม่ใช่เอาน้ำเที่ยวไปไล่สาดคน แบบไม่แยกแยะว่าเขาจะเล่นด้วยหรือไม่ ??!!
2.หยุดหลายวัน ก็เป็นเพราะราชการส่งเสริมในทางที่ผิดเอง งานราชงานหลวงเสียหายมาก คนที่กำลังช่วยงานภาคใต้ไม่ได้พักเลย
3.น้ำขาดแคลน แต่รัฐเอารถดับเพลิงไปสูบน้ำมาให้เขาเล่นสงกรานต์กัน เพียงเพื่อโปรโมทการท่องเที่ยว ให้กิน ดื่ม เล่นน้ำ โดยไม่ให้ความรู้เรื่องวัฒนธรรม ประเพณีแต่โบราณ
   ผมอดแปลกใจไม่ได้เหมือนกันว่า พวกที่ขับรถยนตืไปเป็นหลายๆร้อยกิโล ตามจังหวัดต่างๆ เช่น เชียงใหม่ ขอนแก่น และวันนี้เกิดขึ้นที่จังหวัดชลบุรี แบบรถติดยาว 10 กิโล เล่นกัน 3 วัน 3 คืนนั้น เคยได้กลับไปรดน้ำขอพรพ่อ แม่ ญาติผู้ใหญ่ของตัวเองกันบ้างหรือไม่ ?? หรือเอาแต่ตะเวนเล่นน้ำเพียงอย่างเดียว
4.ราชการส่งเสริมการท่องเที่ยว โดยสนับสนุนให้เที่ยวกันทีละนับหมื่นๆคน มันก็ต้องมีการตายด้วยอุบัติเหตุทางรถขณะเดินทาง สถานที่ท่องเที่ยวเสียหายเพราะจำนวนคนมากไปทำลายและสร้างสิ่งสกปรกทิ้งไว้ให้
   สนับสนุนการท่องเที่ยวแบบค่อยไปกันทีละน้อย ราชการไทยทำไม่เป็นหรืออย่างไร ??
5.น่าสงสารชาวบ้านในภาคใต้ ที่ไม่มีจิตใจเล่นสงกรานต์ทั้งเด็ก ผู้ใหญ่ เพราะพิษภัยน้ำท่วม ดินโคลนถล่ม จนถึงขณะนี้ครับ


หัวข้อ: Re: [2513] "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: prapasri AH ที่ 17 เมษายน 2554, 14:42:45

เหยงเอ๊ยดีใจจัง ที่มีลูกคู่เป็นเหยงเห็นด้วยเหมือนพี่แอ๊ะ

เขียนออกมาเเล้วใจไม่ดีเลยแอบมาอ่านทุกวัน ว่าอาจจะมีคนไม่เห็นด้วย แล้วอาจถูกด่า

เลยเข้ามาอ่านเเบบ กลัวๆ แหะๆๆๆ

แต่ไม่ชอบสงกรานต์ แบบ หยุดให้สาดน้ำหลายๆวันเลยจริงๆ

ไม่กล้าออกจากบ้านไปไหนเลย


อ้างถึง
ข้อความของ เหยง 16 เมื่อ 17 เมษายน 2554, 12:12:09
พี่แอ๊ะ


ผมเห็นด้วยครับ
1.สงกรานต์ไม่ใช่เอาน้ำเที่ยวไปไล่สาดคน แบบไม่แยกแยะว่าเขาจะเล่นด้วยหรือไม่ ??!!
2.หยุดหลายวัน ก็เป็นเพราะราชการส่งเสริมในทางที่ผิดเอง งานราชงานหลวงเสียหายมาก คนที่กำลังช่วยงานภาคใต้ไม่ได้พักเลย
3.น้ำขาดแคลน แต่รัฐเอารถดับเพลิงไปสูบน้ำมาให้เขาเล่นสงกรานต์กัน เพียงเพื่อโปรโมทการท่องเที่ยว ให้กิน ดื่ม เล่นน้ำ โดยไม่ให้ความรู้เรื่องวัฒนธรรม ประเพณีแต่โบราณ
   ผมอดแปลกใจไม่ได้เหมือนกันว่า พวกที่ขับรถยนตืไปเป็นหลายๆร้อยกิโล ตามจังหวัดต่างๆ เช่น เชียงใหม่ ขอนแก่น และวันนี้เกิดขึ้นที่จังหวัดชลบุรี แบบรถติดยาว 10 กิโล เล่นกัน 3 วัน 3 คืนนั้น เคยได้กลับไปรดน้ำขอพรพ่อ แม่ ญาติผู้ใหญ่ของตัวเองกันบ้างหรือไม่ ?? หรือเอาแต่ตะเวนเล่นน้ำเพียงอย่างเดียว
4.ราชการส่งเสริมการท่องเที่ยว โดยสนับสนุนให้เที่ยวกันทีละนับหมื่นๆคน มันก็ต้องมีการตายด้วยอุบัติเหตุทางรถขณะเดินทาง สถานที่ท่องเที่ยวเสียหายเพราะจำนวนคนมากไปทำลายและสร้างสิ่งสกปรกทิ้งไว้ให้
   สนับสนุนการท่องเที่ยวแบบค่อยไปกันทีละน้อย ราชการไทยทำไม่เป็นหรืออย่างไร ??
5.น่าสงสารชาวบ้านในภาคใต้ ที่ไม่มีจิตใจเล่นสงกรานต์ทั้งเด็ก ผู้ใหญ่ เพราะพิษภัยน้ำท่วม ดินโคลนถล่ม จนถึงขณะนี้ครับ


หัวข้อ: Re: [2513] "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: เหยง 16 ที่ 17 เมษายน 2554, 16:24:50
ผมเห็นเด็กๆ รวมทั้งคนโต สะใจกับการใช้น้ำสาดเข้าไปในรถสองแถว รถเมล์เล็ก
ไม่ทราบว่าเขาเกลียดอะไรนักหนา
คนที่อาศัยรถสองแถว รถสาธารณะ เขาอาจจำเป็นต้องเดินทางไปทำธุระ แต่ก็ไม่มีใครละเว้นให้สักราย
เปียกมะลอกมะแล่กไปทุกราย น่าสงสารและสมควรกำหนดห้ามการสาดน้ำใส่รถยนต์สาธารณะ
แต่ไม่เห็นใครวางเงื่อนไขกันเลย


หัวข้อ: Re: [2513] "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: เหยง 16 ที่ 17 เมษายน 2554, 22:47:03
(ต่อครับ)

ถ้าคนไทยมีวัฒนธรรมแบบคนจีน คือ ไหว้คนตายทุกวันครบรอบที่เสียชีวิต
จะต้องมีคนหยุดอยู่กับบ้านและทำพิธีไหว้ในวันปีใหม่ และวันสงกรานต์นับเป็นพันครอบครัวแล้วครับ
ปีใหม่และสงกรานต์ตายครั้งละ 3-400 ศพ/หนึ่งเทศกาล นี่ผ่านมาหลายปีแล้ว เอาจำนวนปี คูณด้วย 600 ศพก็พอ
10 ปี ก็ 6,000 ศพเศษ: มองตัวเลขแต่นี้ ผมก็ว่าแย่หนักหนาแล้ว
ยังไม่รวมคนเจ็บ-คนป่วยและพิการ เทศกาลละ 2-3,000 ราย สองเทศกาลก็รวมเกือบ 6,000 ราย
คูณเข้าไปแล้ว 10 ปี เสียหายคิดเป็นตัวเงินไม่ได้เลย ยิ่งเป็นผู้พิการด้วยอุบัติเหตุด้วยแล้ว
ครอบครัวผู้เกี่ยวข้องต้องดูแลคนพิการเหล่านั้นต่อไป ช่างสาหัสสากรรจ์จริงๆ


หัวข้อ: Re: [2513] "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: เหยง 16 ที่ 19 เมษายน 2554, 17:11:30
(ต่อครับ)

ส่งเสริมการจัดงานสงกรานต์ ชนิดเอาปริมาณคนเข้าร่วมงานเป็นตัวตั้ง เห็นคนเยอะยิ่งดี นี่คือนิสัยคนไทย
แต่วัฒนธรรมถูกทำลายลงไป ไม่เคยรับรู้ หรือเพียงสะกิดใจว่า ข้าไม่ได้ทำ
จึงต้องหาทางเล่นงาน 3 สาวที่ขึ้นเต้นเปลือกอกที่สีลม มาลงโทษให้ได้
ทั้งๆ ที่ปล่อยไปตามเรื่องตามราวก็ได้ ถนนที่ยาว 1 ก.ม. คนนับหลายหมื่น ใครจะทำอะไรก็เชิญ..จริงไหม ??
แต่กลับโทษกันใหญ่ แย่สุดคือ ตำรวจ โดนข้อหาปล่อยให้มีการกระทำอนาจาร...!!!

(http://www.cmadong.com/imgup/pics/cmd618140.jpg)




9300  emo28:win:


หัวข้อ: Re: [2513] "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: เหยง 16 ที่ 19 เมษายน 2554, 18:05:04
(ต่อครับ)

ไทยรัฐออนไลน์เพิ่งให้ข่าวเกี่ยวกับจำนวนนักท่องเที่ยว รายได้ อัตราการเข้าพักโรงแรมในแต่ละภาคว่า

ททท.เผย สงกรานต์ 13-17 เม.ย. ที่ผ่านมาทำเงินสะพัด 8.5 พันล้านบาท
ภาคกลางมีนักท่องเที่ยวเข้าพักมากที่สุดถึง 1.37 ล้านคน สร้างรายได้ 1.995 พันล้านบาท อัตราเข้าพักโรงแรมเฉลี่ยอยู่ที่ 70%
รองลงมาคือ ภาคตะวันออก 644,952 คน รายได้ 1.408 พันล้านบาท อัตราเข้าพักเฉลี่ย 73% แต่หากนับเฉพาะจังหวัดชลบุรี อยู่ที่ 90%
ภาคใต้ 421,835 คน รายได้ 1.983 พันล้านบาท อัตราเข้าพัก 60% แต่เฉพาะที่อำเภอหาดใหญ่ สงขลา เข้าพัก 100%
ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ 346,950 คน รายได้ 1.130 พันล้านบาท อัตราเข้าพัก 50-60%
และภาคเหนือ 259,066 คน รายได้ 1.993 ล้านบาท อัตราเข้าพัก 60%

http://www.thairath.co.th/content/eco/165168

(http://www.cmadong.com/imgup/pics/cmd42569.jpg)


หัวข้อ: Re: [2513] "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: suphot ที่ 20 เมษายน 2554, 14:30:55
 emo30:sorry: กราบเรียนพี่ป๋องที่เคารพ วันศุกร์นี้ 22 เมษายน 2554 ท่านพี่ว่างไหมครับ
น้องๆคิดถึง จึงมาเรียนเชิญท่านพี่ไปร่วมแชร์ แลกเปลี่ยนความคิดและพบปะพูดคุย เพราะไม่ได้เจอหน้าพี่
มานานมากแล้ว...ไม่ได้ช่วนไปเล่นแชร์นะครับ...หากพี่ป๋องว่าง เรานัดกันที่ CAMP HAVANA ถนนเกษตร นวมินทร์
ตอม่อที่ 88 เวลา 18.00 น.ครับ ขอเรียนเชิญ ด้วยความเคารพครับ

หมูพจน์ ฉึก ฉึก 24  emo45:(


หัวข้อ: Re: [2513] "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: เหยง 16 ที่ 20 เมษายน 2554, 19:00:45
เมื่ออยากได้ตังค์ วัฒนธรรมแบบนี้ก็ไม่มีอีกแล้ว

(http://img856.imageshack.us/img856/404/waterfestival02.jpg)


หัวข้อ: Re: [2513] "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: เหยง 16 ที่ 20 เมษายน 2554, 19:05:24
ปิดท้ายสำหรับ 3 สาวที่เปลือยอกเต้นโชว์บนท้ายรถกระบะ

3 สาวรับดื่มเหล้าย้อมใจก่อนเต้นเปลือยกลางสีลม อ้างไม่แปลก เคยแล้วแข่งกันโป๊ แลกกิน-ดื่ม-เที่ยวฟรี

วันที่ 20 เมษายน พ.ศ. 2554 เวลา 09:30:50 น.

แหล่งข่าวจากชุดสอบสวนคดี 3 สาววัยรุ่นอายุตั้งแต่ 13-16 ปี ซึ่งปรากฏในคลิปเปลือยกายท่อนบนนุ่งกางเกงขาสั้นยืนเต้นบนหลังคารถ กลางสี่แยกถนนสีลมตัดถนนนราธิวาสช่วงเทศกาลสงกรานต์ ระบุคำให้การของทั้ง 3 สาวหลังเข้ารับทราบข้อกล่าวหากระทำการอันควรขายหน้าต่อธารกำนัล ที่กองบังคับการสืบสวนนครบาล 6 (บก.น.6) โดยมีโทษปรับคนละ 500 บาท ว่า ทั้ง 3 คนเพิ่งรู้จักกันในสถานบันเทิงประมาณ 2-3 เดือนก่อน ทั้งหมดมีปัญหาครอบครัว ไม่ได้เรียนหนังสือ โดยพบว่าเด็กหญิงอายุ 13 ปี และ 14 ปี เคยถูกจับกุมคดีเสพยาเสพติดด้วย
 

เด็กสาวทั้ง 3 คนบอกว่า วันนั้นตั้งใจไปโชว์ ไปกับกลุ่มเพื่อน 7-8 คน ทั้งผู้หญิง ผู้ชาย และกะเทย ดื่มสุรากันมาจากบ้าน เห็นว่าการโชว์เต้นเปลือยไม่ใช่เรื่องแปลก เคยไปเที่ยวสถานบันเทิงแห่งหนึ่งในพื้นที่ปริมณฑลพบการโชว์เต้นเปลือย เพื่อจะได้กินเที่ยวและดื่มสุราฟรี รวมทั้งมีการเกทับโชว์เต้นเปลือยกันด้วย เพราะนอกจากจะได้กินดื่มและเที่ยวฟรีแล้ว ยังได้สุราเพิ่มอีก 1 ขวด แหล่งข่าวระบุ


http://www.matichon.co.th/news_detail.php?newsid=1303264610&grpid=00&catid=&subcatid=



หัวข้อ: Re: [2513] "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: เหยง 16 ที่ 20 เมษายน 2554, 19:57:07
ปิดเทศกาลสงกรานต์ ด้วยบทบรรณาธิการของ ไทยโพสต์ออนไลน์

ปัญหาที่ต้องแก้
บทบรรณาธิการ                                                                                            19 เมษายน 2554 - 00:00

      เทศกาลสงกรานต์ที่สนุกสนานที่สุดในรอบ 3 ปีผ่านพ้นไป พร้อมควันหลงต่างๆ มากมายให้สังคมไทยได้ขบคิดแก้ปัญหาร่วมกันว่า เทศกาลสงกรานต์นับแต่ปีหน้าเป็นต้นไป มีสิ่งไหนต้องแก้ไข ดัดแปลง หรือควบคุม ให้เทศกาลนี้ยังถูกเรียกว่า "เทศกาลสงกรานต์" ต่อไป มิใช่เทศกาลเปลี่ยนที่กินเหล้า เสพยา แก้ผ้าโชว์
     และที่ลืมเสียมิได้คือ อัตราการเสียชีวิต แม้ปีนี้ยอดผู้เสียชีวิตจากอุบัติเหตุในการเดินทางและระหว่างร่วมเฉลิมฉลองสาดน้ำช่วง 7 วันอันตราย จะลดลงจากปีก่อน 90 ศพก็ตาม แต่ยังคงเป็นความสูญเสียที่ไม่สมควรแก่เหตุมากมายเหลือคณานับอยู่ดี
     สาเหตุแห่งการตายก็เป็นที่รับรู้เป็นการทั่วไปอยู่แล้วว่า ส่วนใหญ่มาจาก "เมาขับ" วิธีการแก้ปัญหาที่เท่าปรากฏออกมา เพื่อไม่ให้ปีต่อๆ ไปต้องมานั่งนับศพในเทศกาลรื่นเริงคือ ควบคุมการขายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ เพราะผู้แก้ปัญหามองว่าต้นเหตุของปัญหาคือ บรรดาของมึนเมาทั้งหลายที่หาซื้อได้ง่ายกว่าลูกอม
     ส่วนหนึ่งอาจจะถูก แต่อีกด้านหนึ่งอาจเป็นการแก้ปัญหาที่ตื้นเกินไป แม้วิธีนี้อาจจะลดการดื่มสุราลงได้บ้าง แต่ไม่ได้ไปแก้ปัญหาที่ต้นตอโดยตรง เพราะเอาเข้าจริงถึงไม่มีสุรายาเมาขายในช่วงเทศกาลสงกรานต์ บรรดาคอเหล้าทั้งหลายซื้อตุนไว้ล่วงหน้าก็ได้
     วิธีการแก้ไขทุกปัญหาในโลกนี้ ถ้าต้องการให้ได้ผลอย่างจริงจังนั้นไม่มีอะไรง่าย เพราะต้องใช้เวลาในการทำความเข้าใจ เพื่อให้สังคมมองปัญหาตรงกันและพร้อมที่จะแก้ไขปัญหาร่วมกัน ดูอย่างการแก้ไขปัญหาบุหรี่ แม้จะมีการพิมพ์รูป "ความตาย" ข้างซอง บรรดาสิงห์อมควันก็ยังคงเกลื่อนเมือง นั่นเพราะความรับผิดชอบต่อส่วนรวมยังน้อย เว้นเสียว่าการสูบบุหรี่นั่นกระทบกับคนในครอบครัว เราจึงมักได้ยิน "ผมเลิกบุหรี่เพราะลูกครับ"  "หนูเลิกบุหรี่เพราะคุณแม่ขอร้องคะ" แต่ไม่เคยได้ยิน "เลิกบุหรี่เพราะสังคมจะได้มีอากาศบริสุทธิ์หายใจ"
     แต่ที่ผ่านมา ใช่ว่าการรณรงค์จะไม่ได้ผลไปเสียทีเดียว อย่างน้อยๆ มีความสำนึกรับผิดชอบต่อครอบครัว ดังนั้นต้องก้าวไปอีกขั้นคือ ต้องรับผิดชอบต่อสังคม ซึ่งเป็นงานที่ยาก และต้องใช้เวลานาน แต่การไปตั้งเป้าว่าปีหน้าต้องตายน้อยกว่าปีนี้นั้นอาจแก้ปัญหาไม่ตรงจุดนัก แม้อัตราการตายจะลดลงมาเรื่อยๆ ก็ตาม เพราะเอาเข้าจริง เมื่อไปถามเรื่องจิตสำนึกต่อสังคม คำตอบที่ได้-ไม่ได้สัมพันธ์กับอัตราการตายที่ลดลงแต่อย่างใด
      การแก้ไขเรื่องจิตสำนึกเป็นเรื่องที่ยากจริงๆ เพราะต้องรื้อความเชื่อของสังคมใหม่ทั้งหมด หลายประเทศในยุโรป เอเชียตะวันออก อเมริกาเหนือ ออสเตรเลีย สอนคนให้รู้จักกับคำว่า "ส่วนรวม" ตั้งแต่ตัวยังแดง แต่สังคมไทยสอนให้ลูกหลานแข่งกันเพื่อวงศ์ตระกูลตั้งแต่ยังเขียน ก.ไก่ ไม่เป็น และนี่คือต้นทางที่แท้จริงของการแก้ไขปัญหาทั้งปวง


http://www.thaipost.net/news/190411/37332


หัวข้อ: Re: [2513] "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: เหยง 16 ที่ 08 พฤษภาคม 2554, 22:59:56
พี่แอ๊ะ

ไปไหนรวม 20 วันแล้วครับ


หัวข้อ: Re: [2513] "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: Mai25 ที่ 08 พฤษภาคม 2554, 23:15:24
อ้างถึง
ข้อความของ prapasri AH เมื่อ 15 เมษายน 2554, 13:21:32
และก็เสียดายน้ำ ด้วย

ประเทศชาติจะขาดน้ำจนต้องเเย่งน้ำกันเเน่นอนในอนาคต

แล้วเอามาสาดกันอยู่ได้

ใครไม่เห็นด้วยก็ยกมือได้นะคะ


สวัสดีค่ะพี่แอ๊ะ

ใหม่รุ่น25  มารายงานตัวค่ะ

ขอบคุณค่ะ




หัวข้อ: Re: [2513] "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: prapasri AH ที่ 09 พฤษภาคม 2554, 22:36:58
ขอบคุณน้อง ใหม่รุ่น 25 ที่เข้ามาเยี่ยมบ้านพี่แอ๊ะ

ขอบคุณเหยงทีนับวันได้ว่าพี่แอ๊ะหายไป20 วัน

พี่แอ๊ะมาเมียงมองอยู้เกือบทุกวันว่าใครมาเยี่ยมบ้างจะได้เข้ามาคุยด้วย

ช่วงนี้ ยุ่งมากจนไม่มีเวลา ทำอะไรเลยค่ะ

จะมีงานบั้งไฟ ที่ยโสธร ปีนี้ญี่ปุ่นมาได้น้อย แต่เขาก็มา

เลยเตรียมร้องเพลง ดอกไม้ของน้ำใจให้เขา ค่ะ

แต่งกิโมโน ด้วย พี่แอ๊ะจะต้องเป็นหัวหน้าคณะกลุ่มสตรียโสธร เเสดงรายการอีกแล้ว

ทั้งๆที่รุ่งขึ้น พี่แอ๊ะ ต้องเดินทางไป สวิตเซอร์เเลนด์ ออสเตรีย และโคอิเซีย

ไปดูงานกับ ม.ราชภัฎสุราษฏร์ค่ะ

เลยต้องเคลียร์งาน จนหัวหมุนเลยค่ะ

งาน ร.พ ก็ยุ่งงงงงงงงงงงงงง มากๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ


อ้างถึง
ข้อความของ เหยง 16 เมื่อ 08 พฤษภาคม 2554, 22:59:56
พี่แอ๊ะ

ไปไหนรวม 20 วันแล้วครับ
อ้างถึง
ข้อความของ Mai25 เมื่อ 08 พฤษภาคม 2554, 23:15:24
อ้างถึง
ข้อความของ prapasri AH เมื่อ 15 เมษายน 2554, 13:21:32
และก็เสียดายน้ำ ด้วย

ประเทศชาติจะขาดน้ำจนต้องเเย่งน้ำกันเเน่นอนในอนาคต

แล้วเอามาสาดกันอยู่ได้

ใครไม่เห็นด้วยก็ยกมือได้นะคะ


สวัสดีค่ะพี่แอ๊ะ

ใหม่รุ่น25  มารายงานตัวค่ะ

ขอบคุณค่ะ





หัวข้อ: Re: [2513] "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: Mai25 ที่ 09 พฤษภาคม 2554, 23:31:20
สวัสดีค่ะพี่แอ๊ะ

อูย..คอมฯหล่นเลยพี่

เพราะพี่เดินทางเยอะจริงๆ

เหมือนพี่ไปทำบุญเลย

ขอให้พี่สุขภาพแข็งแรงและเท่ห์อย่างนี้ตลอดไปค่ะ

 emo4:))


หัวข้อ: Re: [2513] "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: krongon2513 ที่ 20 พฤษภาคม 2554, 21:05:33
ลืมขอบคุณแอ๊ะที่ช่วยเป็นธุระแทนพี่หาญเรื่องทุน  ดร.ชลฝากขอบคุณมาด้วย อย่าลืมไปรับเข็มพระราชทานนะคะ
ขอให้กุศลหนุนส่งให้เพื่อนฉันสวยและรวยอย่างนี้ตลอดไป...เพี้ยง

ตอนโทร.หาแอ๊ะอ้อยอยู่ที่เมืองโบราณกำลังฟัง อ.สุขุม นวลสกุลพูดอยู่ มัวแต่ขำอาจารย์ไม่ค่อยได้ยินที่แอ๊ะพูด..ไปสัมมนาสหกรณ์ออมทรัพย์จ้า
ลูกสาว ลูกเขย ลูกชาย ลูกสะใภ้ และพี่หาญคงสบายดี  เพื่อนๆสบายดี คิดถึงแอ๊ะทุกคน


หัวข้อ: Re: [2513] "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: prapasri AH ที่ 29 พฤษภาคม 2554, 17:21:33
สวัสดี เพื่อนอ้อย และน้อง mai25

พี่แอ๊ะกลับมา  หลายวันเเล้ว เเต่เป็นอะไรไม่รู้หลับได้หลับดี

หลับได้ทั้งวันทั้งคืน  สงสัยเเก่...แล้ว


อ้างถึง
ข้อความของ krongon2513 เมื่อ 20 พฤษภาคม 2554, 21:05:33
ลืมขอบคุณแอ๊ะที่ช่วยเป็นธุระแทนพี่หาญเรื่องทุน  ดร.ชลฝากขอบคุณมาด้วย อย่าลืมไปรับเข็มพระราชทานนะคะ
ขอให้กุศลหนุนส่งให้เพื่อนฉันสวยและรวยอย่างนี้ตลอดไป...เพี้ยง

ตอนโทร.หาแอ๊ะอ้อยอยู่ที่เมืองโบราณกำลังฟัง อ.สุขุม นวลสกุลพูดอยู่ มัวแต่ขำอาจารย์ไม่ค่อยได้ยินที่แอ๊ะพูด..ไปสัมมนาสหกรณ์ออมทรัพย์จ้า
ลูกสาว ลูกเขย ลูกชาย ลูกสะใภ้ และพี่หาญคงสบายดี  เพื่อนๆสบายดี คิดถึงแอ๊ะทุกคน
อ้างถึง
ข้อความของ Mai25 เมื่อ 09 พฤษภาคม 2554, 23:31:20
สวัสดีค่ะพี่แอ๊ะ

อูย..คอมฯหล่นเลยพี่

เพราะพี่เดินทางเยอะจริงๆ

เหมือนพี่ไปทำบุญเลย

ขอให้พี่สุขภาพแข็งแรงและเท่ห์อย่างนี้ตลอดไปค่ะ

 emo4:))


หัวข้อ: Re: [2513] "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: เหยง 16 ที่ 01 มิถุนายน 2554, 20:30:54
พี่แอ๊ะ

นอนมากๆ เดี๋ยวจะเกิดอาการปวดเมื่อยเนื้อเมื่อตัวขึ้นมา ลองใช้แพทย์แผนไทยสักหน่อยสัก
กระตุ้นกล้ามเนื้อและสร้างความสดชื่น อาการอยากนอนจะลดลงครับ


หัวข้อ: Re: [2513] "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: prapasri AH ที่ 01 มิถุนายน 2554, 21:50:44
ขอบคุณเหยง ที่เข้ามาทักทาย พี่แอ๊ะเพิ่งบิน connecting flight จาก สุราษฏร์ มาถึงอุบล เมื่อเย็นนี้เอง

ไปทานข้าวกับพรเทพได้ สองมื้อ

กลับมาถึงยโส ขณะที่จิ้มคีย์บอร์ดนี้ ตา จะหลับอีกแล้วค่ะ

เป็นโรคแก่ ง่วงได้ง่วงดี

หนู้อ้อย 14 พี่แอ๊ะหายง่วงเเล้วจะโทรหานะคะ


หัวข้อ: Re: [2513] "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: เหยง 16 ที่ 04 มิถุนายน 2554, 23:12:06
พี่แอ๊ะ

หายง่วง-หายปวดตัวแล้ว เข้ามาโพสต์นะครับ


หัวข้อ: Re: [2513] "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: prapasri AH ที่ 05 มิถุนายน 2554, 09:28:15
พี่แอ๊ะเหนื่อยมากเหยง  ใช้โทรศัพท์มากก็ไม่ได้ จะปวดหัว เลยใช้โทรน้อยๆ

สังงานก็สั่งทาง email   พี่แอ๊ะเลยกลายเป็นคนขี้เกียจพูด

ตอนนี้เบื่อ ตำแหน่ง CEO ของตัวเองเต็มทีเเล้ว

เพราะต้องไปประชุม ทุก ร.พ  ต้องทำคุณภาพ โรงพยาบาลค่ะ

อยากหาคนมาเป็น ceo แทน เเต่ยังหาไม่ได้


หัวข้อ: Re: [2513] "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: Kaimook ที่ 09 มิถุนายน 2554, 10:57:22
 สวัสดียามเฃ้าค่ะพี่แอ๊ะ...


หัวข้อ: Re: [2513] "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: prapasri AH ที่ 11 มิถุนายน 2554, 22:50:08
สวัสดี ยามดึกค่ะน้องไข่มุก

ขอบคุณที่เเวะมาเยี่ยม พี่แอ๊ะเข้า เช็คเรตติ้งทุกวันค่ะ

หากน้องท่านใดมาเยียม พี่แอ๊ะก็จะมาทักทายตอบนะคะ

น้องไข่มุกดี สบายดีนะคะ







หัวข้อ: Re: [2513] "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: prapasri AH ที่ 11 มิถุนายน 2554, 22:51:17
เหยง
พิจิตร เป็นไง บ้าง เบอร์ไหนนำ คะ


หัวข้อ: Re: [2513] "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: prapasri AH ที่ 11 มิถุนายน 2554, 23:07:49
พี่แอ๊ะไปเที่ยวมา

ที่ Croatia มีพิพิธภันฑืแห่งการเลิกรา

คือหนุ่มสาวที่เคยรักกัน หากต้องเลิกกัน จะนำสิ่งของที่เคยให้เเก่กัน มาทิ้งไว้ที่นี่ค่ะ


หัวข้อ: Re: [2513] "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: prapasri AH ที่ 11 มิถุนายน 2554, 23:11:07
ว๊า ..ส่งรูปไม่ได้ ค่ะ

เลย ไม่ได้ดู เลยเเสดง ว่า ชาวหอรักจริงหวังเเต่ง ไม่เลิกกันอิๆๆๆ


หัวข้อ: Re: [2513] "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: เหยง 16 ที่ 15 มิถุนายน 2554, 19:34:05
อ้างถึง
ข้อความของ prapasri AH เมื่อ 11 มิถุนายน 2554, 22:51:17
เหยง
พิจิตร เป็นไง บ้าง เบอร์ไหนนำ คะ


ยังไม่เจอชาวพิจิตรสักคนเลยครับ ในขณะที่ชาวบ้านกำลังแย่
ฝนตกอย่างต่อเนื่องน้ำท่วมนาข้าว ส่งผลให้ข้าวกล้าในนาลอยตามน้ำเสียหายมากอยู่ครับ


หัวข้อ: Re: [2513] "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: เหยง 16 ที่ 25 มิถุนายน 2554, 21:52:32
สำหรับผู้ใช้สิทธิเลือกตั้งล่วงหน้า

หรุ่งนี้ อาทิตย์ที่ 26 มิถุนายน 2554 เตรียมบัตรประชาชนไปยังหน่วยประจำเขต อำเภอ หรือจังหวัด

นำ"หนังสือแจ้งผลการขอลงทะเบียนใช้สิทธิลงคะแนนเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรก่อนวันเลือกตั้งในเขตเลือกตั้งแบบรายบุคคล หรือ แบบ ทก.๒" ไปด้วยครับ ในนั้นจะบอกถึงที่ตั้งหน่วยลงคะแนนล่วงหน้า


หัวข้อ: Re: [2513] "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: เหยง 16 ที่ 26 มิถุนายน 2554, 09:40:31
ข่าวแต่เช้าเลย คือไทยขอถอนตัวออกจากคณะกรรมการมรดกโลก ถือเป็นชาติแรกที่ทำเช่นนี้
อย่างไรก็ตาม เมื่อตัดสินใจแล้ว ก็ขอให้เดินตามแนวทางนี้ตลอดไป และไม่สมควรกลับเข้าไปอีก

มรดกโลกที่มีอยู่แล้ว ก็หาเงินหาทองบริหารเอาเอง ส่วนที่จะยื่นใหม่ ก็เลิกคิดกันไปเลยแล้วกัน
อนุรักษ์ หรือรักษาเอาไว้เองก็ได้ ของดีๆ เขาพากันมาดูเอง ไม่ต้องเอาตรามรดกโลกไปแปะรับรองก็ได้


ด่วน! "สุวิทย์" ประกาศถอนตัวจากภาคีมรดกโลกแล้ว
26 มิถุนายน 2554 04:36 น.

(http://www.cmadong.com/imgup/pics/cmd40014_8560415_2187360_635339photo.jpg)

       "สุวิทย์" ทวีต ที่ประชุมคณะกรรมการมรดกโลก บรรจุวาระพิจารณาแผนบริหารจัดการโดยรอบประสาทเขาพระวิหาร โดยไม่ยอมเลื่อนตามที่ไทยขอ ประกาศนำประเทศไทยถอนตัวจากการเป็นสมาชิกมรดกโลกแล้ว ย้ำไม่มีประโยชน์ใดที่จะอยู่ในสังคมที่ดำเนินการตามใจตนเอง ไม่คิดถึงกฏระเบียบที่ลงมติโดยสมาชิกแล้ว
       
       นายสุวิทย์ คุณกิตติ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (ทส.) ในฐานะหัวหน้าคณะเจรจามรดกโลกไทย ได้ทวิตข้อความผ่าน @SuwitKhunkitti เมื่อเวลา 23.24 น. ระหว่างการเดินทางร่วมประชุมคณะกรรมการมรดกโลกที่กรุงปารีส ประเทศฝรั่งเศส ซึ่งจะมีการประชุมเพื่อหาข้อสรุปกรณีปราสาทเขาพระวิหาร ว่า ที่ประชุมบรรจุวาระ ผมไม่มีทางเลือกครับ คงต้องถอนตัว ผมได้เคยพูดกับสื่อไทยไปว่า หากสังคมใดดำเนินการตามใจตนเอง ไม่คิดถึงกฏระเบียบที่ลงมติโดยสมาชิกแล้ว ก็ไม่มีประโยชน์ใดๆที่เราจะอยู่ในสังคมแบบนี้
       
       นายสุวิทย์ เผยต่อมาว่า "กำลังแถลงต่อที่ประชุมครับ คณะผู้แทนพยายามเข้าใจ อธิบาย และอดทนรออย่างเต็มที่แล้ว"
       
       ล่าสุด เมื่อเวลา 23.40 น. ตามเวลาในประเทศไทย นายสุวิทย์ระบุว่า "ผมและคณะนำประเทศไทยถอนตัวจากการเป็นสมาชิกมรดกโลกแล้วครับ"
       
       โดยก่อนหน้านี้เมื่อเวลาประมาณ 17.47 น. นายสุวิทย์ ได้ระบุว่า  ไม่มีประโยชน์อะไรที่ประเทศไทยจะอยู่ในสังคมที่ไม่มีกติกาแบบนี้ ทุกคนได้ทำหน้าที่ในการปกป้องผลประโยชน์ของไทยอย่างเต็มความสามารถแล้ว ทำทุกอย่างเท่าที่ควร และจำเป็นต้องทำไปหมดแล้ว สิ่งที่เหลือในตอนนี้คือ รอการพิจารณา และเราจะตัดสินใจในขั้นสุดท้ายต่อไป คาดว่า คณะกรรมการมรดกโลก จะมีคำตอบให้ภายใน 1 ชั่วโมงนับจากนี้ ซึ่งเราจะใช้เวลาช่วงสุดท้ายตัดสินใจก่อนเรื่องเข้าที่ประชุมคณะกรรมการ
       
       ด้านนายชวนนท์ อินทรโกมาลย์สุต เลขานุการ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศได้ให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชนว่า ในการถอนตัวดังกล่าวนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี และนายกษิต ภิรมย์ รมว.ต่างประเทศ ได้รับทราบแล้ว อย่างไรก็ตามในเบื้องต้นยังไม่ได้พูดคุยกับนายกรัฐมนตรีว่าจะมีการแถลงข่าวอย่างเป็นทางการหรือไม่ ส่วนผลกระทบบริเวณชายแดนนั้นก็ต้องดำเนินการผ่านกรอบที่มีอยู่แล้วไม่ว่าจะเป็นการประชุมคณะกรรมาธิการเขตแดนร่วมไทย-กัมพูชา (เจบีซี) หรือ การประชุมคณะกรรมการชายแดนทั่วไปไทย-กัมพูชา (จีบีซี ) ทั้งนี้ยืนยันว่าทางทหารไทยพร้อมที่จะปกป้องอธิปไตยของชาติอยู่แล้ว

 
 
 
จาก http://www.manager.co.th/asp-bin/mgrView.asp?NewsID=9540000077762


 



หัวข้อ: Re: [2513] "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: Soponเท่านั้น ที่ 26 มิถุนายน 2554, 16:50:51
สวัสดีครับพี่แอ๊ะ
ชอบที่พี่แอ๊ะถกการเมืองกับตะวันเพื่อนผมจัง อ่านแล้วสนุก พี่แอ๊ะมีมุกหนุกหนานครับ

ขออนุญาตหาเสียงให้เพื่อนที่สมัครกสทช.หน่อยครับ คนเก่ง คนดี มีคุณธรรม พี่มีเครือข่ายกว้างขวาง เผื่อจะช่วยแนะนำบ้างครับ
http://www.cmadong.com/board/index.php/topic,4765.new/topicseen.html#new (http://www.cmadong.com/board/index.php/topic,4765.new/topicseen.html#new)


หัวข้อ: Re: [2513] "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: เหยง 16 ที่ 27 มิถุนายน 2554, 18:48:09
มุมมองของ"คุณเปลว สีเงิน" แห่ง ไทยโพสต์ ต่อการลาออกจากคณะกรรมการมรดกโลก "ดีกว่าอยู่ต่อ"ครับ

"ก้อนกรวดในรองเท้าเพื่อไทย"
เปลว สีเงิน                                                                                                                                         27 มิถุนายน 2554 - 00:00


ถือเป็น "ศึกกระหนาบ" ของนายกฯ อภิสิทธิ์ ไหนจะศึกชิงอำนาจบริหารรัฐในเวทีเลือกตั้ง และไหนจะศึกชิงพื้นที่ ๔.๖ ตารางกิโลเมตรในเวทีมรดกโลก แล้ววานซืน (๒๕ มิ.ย.๕๔) ไทยก็ตัดสินใจ "ถอนตัว" ออกจากการเป็นภาคีอนุสัญญามรดกโลกของ "ยูเนสโก" ซึ่งยูเนสโกก็คือลูกมือของยูเอ็น และยูเอ็นก็คือ "เครื่องมือ" ของขบวนการ CFR อันเป็นขบวนการกลุ่มทุนโลกยุโรป-สหรัฐ ที่ตั้งขึ้นมานับร้อยปีแล้ว มีเป้าหมายจัดระเบียบโลก New World Order ๑ อำนาจ ๑ คำสั่ง เป็น "รัฐบาลโลก" ในศตวรรษนี้
      ถามกันว่า ถูกต้องมั้ย ที่อภิสิทธิ์โอ.เค.ให้คุณสุวิทย์ คุณกิตติ ตัวแทนรัฐบาลไทยประกาศถอนตัวจากการเป็นภาคีอนุสัญญามรดกโลก ผมขอตอบว่า...ถูกต้องแล้วครับ
      ถามกันว่า การถอนตัวจะทำให้ไทยเราได้มากกว่า หรือเสียมากกว่า ผมขอตอบว่า...นอกจากไม่มีอะไรเสียแล้ว กลับได้มากกว่าด้วยซ้ำครับ
      ถามกันว่า เมื่อถอนตัวแล้ว ปัญหาปราสาทพระวิหารกับดินแดนรอบตัวปราสาท ๔.๖ ตารางกิโลเมตรของไทย จะลงเอยอย่างไร ผมขอตอบว่า ลงเอยแบบ...ยูเนสโก โดยคณะกรรมการมรดกโลกจะไม่สามารถอาศัยเขมรบังหน้ามาฮุบดินแดนเราได้อีกต่อไป 
      ถามกันว่า แล้วมีผลกระทบถึงสถานที่ของไทยที่ยูเนสโกให้ขึ้นเป็นมรดกโลกแล้ว ๕ แห่ง คือ ที่สุโขทัย อยุธยา บ้านเชียง ทุ่งใหญ่นเรศวร-ห้วยขาแข้ง และผืนป่าเขาใหญ่-ดงพญาเย็นหรือไม่?
      คำตอบคือ ถ้าดูแลรักษาไว้ได้ตามกฎระเบียบกำหนดของเขา ไม่มีผลกระทบอะไร ยังคงเป็นมรดกโลกตามเดิม

      ถามกันว่า ถ้ารัฐบาลต่อไปไม่ใช่นายกฯ อภิสิทธิ์ สมมุติเป็นนายกฯ ยิ่งลักษณ์ แล้วขอกลับเป็นภาคีมรดกโลกตามเดิม หันไปจูบปากเขมร ยอมรับแผนบริหารจัดการรอบพื้นที่ปราสาท ๔.๖ ตารางกิโลเมตร อะไรจะเกิดขึ้น?
      คำตอบคือ ...ไม่มีอะไรเกิด นอกจากดับ คือไทย-นอกจากเสียดินแดน ๔.๖ ตารางกิโลเมตรรอบตัวปราสาทแล้ว ตามเส้นรุ้ง-เส้นแวงที่ลากไปถึงอ่าวไทย ไทยอาจต้องเสียพื้นที่อันเป็นแหล่งทรัพยากรทั้งก๊าซ ทั้งน้ำมันมหาศาลให้เขมร
      หรือพูดให้ชัด ให้ "ชาติมหาอำนาจ" ๒-๓ ชาติที่แอบชักใย และใช้เขมรเป็นตัวออกหน้าเดินเกม เมื่อสำเร็จพวกเขาก็จะได้ครอบครองแหล่งทรัพยากรพลังงานนั้น!
      และถามกันว่า ถ้าเขมรถือว่า "ปลอกคอแข็ง" บุกเข้ามาก่อสร้างในพื้นที่ ๔.๖ ตารางกิโลเมตรของเราล่ะ จะว่าไง คำตอบของผมคือ....ไม่ว่าไง
 ยิงกระบาลมันสถานเดียว!
       นั่นคือ "ประเด็นสรุป" ที่ผมขอแจกแจงให้ท่านทราบก่อนอกแตกตาย ส่วนที่มา-ที่ไปของการถอนตัวจากภาคีมรดกโลกนั้นก็คือว่า ในวงประชุมคณะกรรมการมรดกโลกที่ฝรั่งเศส ไทย-โดยคุณสุวิทย์ เสนอให้เลื่อนวาระการพิจารณาขึ้นทะเบียนปราสาทพระวิหารเป็นมรดกโลกไปก่อน เพราะพื้นที่ยังมีปัญหาอยู่
      ในการหารือนอกรอบ "ต่อหน้า" ระดับบิ๊กๆ ยูเนสโกก็ทำเป็นเข้าใจ และเห็นด้วยกับข้อเสนอไทย "ลับหลัง" ถึงตอนในรอบ ท่าทีกลับเป็นว่า จะนำแผนบริหารจัดการพื้นที่อนุรักษ์รอบตัวปราสาท ๔.๖ ตารางกิโลเมตรที่ "เขมรเสนอฝ่ายเดียว" บรรจุเข้าวาระการประชุม
      มันส่ออาการรวมหัว "ปิดประตูตีแมว" ชัดๆ หวังใช้มติที่ประชุมคณะกรรมการ ๒๑ ชาติลงมติ "ฮุบ" พื้นที่ ๔.๖ ตารางกิโลเมตรของไทยไปให้เขมร แล้วพวกมันไปแบ่งปันผลประโยชน์เชิงธุรกิจกับเขมรกันเองทีหลัง เพราะถ้าไทยตกหลุมพรางยูเนสโกด้วยตายใจว่า "ถึงเข้าก็คงไม่ผ่าน" ยอมให้บรรจุระเบียบวาระ
      เอาเข้าจริง เจอต้มยำปลากรอบ...มันผ่านล่ะ!?
      กล้วยปอกทั้งประเทศทันที ไทยเราจะกลับตัว-กลับลำอะไรไม่ได้เลย ในทันทีที่คณะกรรมการลงมติอนุมัติแผนให้เขมร เท่ากับไทยเรา "เสียดินแดน ๔.๖ ตารางกิโลเมตร" ให้เขมร โดยไม่สามารถโต้แย้งอะไรได้อีก
      ถ้าขัดขืน-โต้แย้ง เท่ากับเรา "ป่าเถื่อน-เกเร" บนเวทีโลก อาจถูกลากไปให้ UNSC ที่จ้องรับลูก "รอเขมือบ" เราเป็นดาบ ๒ เชือด ในยุคที่ชาติมหาอำนาจ "กระหายน้ำมัน" ดังที่เห็นอยู่ในเวทีโลกเวลานี้ เช่นที่ลิเบีย เป็นต้น
      ก็ต้องชมเชย ให้กำลังใจคุณสุวิทย์ที่ทำหน้าที่และตัดสินใจดีแล้ว-ถูกแล้ว ใช้ไหวพริบปฏิภาณด้วยสติปัญญา "ทันรู้-รู้ทัน" โทร.ปรึกษานายกฯ อภิสิทธิ์ แล้วใช้อำนาจตามที่ ครม.ให้ไป ประกาศ....
      "ไทย-ถอนตัวจากการเป็นภาคีอนุสัญญามรดกโลก" ก่อนที่จะมีการพิจารณาแผนบริหาร-จัดการในที่ประชุม ผลของการลาออกก่อนที่จะมีเรื่องเข้าที่ประชุมคือ
      การถอนตัวถือว่ามีผลทันที คณะกรรมการมรดกโลกจะพิจารณารับ หรือไม่รับข้อเสนอใดๆ ของเขมร ก็จะไม่มีผลผูกพันใดๆ กับไทยอีกต่อไป ไม่สามารถอ้างมติหรืออำนาจใดๆ รุกล้ำเข้ามาในดินแดนไทย ส่วนใครจะขึ้นไปบูรณะซ่อมแซม-สำรวจตัวปราสาท ก็ต้องไปขึ้นทางฝั่งเขมร มาขึ้นทางฝั่งไทยไม่ได้
      ครับ..เราต้องจำให้แม่น จำให้ถูกต้องว่า คำพิพากษาศาลโลก ปี ๒๕๐๕ นั้น เขมรฟ้องให้ศาลโลกตัดสินเรื่อง "อธิปไตยแห่งดินแดนเหนือปราสาทพระวิหาร" เท่านั้น และศาลโลกก็ตัดสินให้เฉพาะเรื่องอธิปไตยเหนือตัวปราสาทพระวิหารนั้นเช่นกัน
      เขมรไม่ได้ขอให้ศาลโลกตัดสินเรื่องเส้นเขตแดนระหว่างไทย-เขมรในพื้นที่อันเป็นของไทยแต่เดิมรวมถึง ๔.๖ ตารางกิโลเมตรนั้นด้วย นอกเหนือพื้นที่ที่ตั้งโดยกำหนดขอบเขตปราสาทที่ไทยปฏิบัติตามคำพิพากษาไปแล้ว และเขมรก็ยอมรับโดยไม่ท้วงติงใดๆ ตั้งแต่เวลาเที่ยงของวันที่ ๑๕ กรกฎาคม ๒๕๐๕ เป็นต้นมาแล้ว
      ที่เป็นของเขมรก็มี "จากทิศเหนือที่ระยะ ๒๐ เมตร จากบันไดนาคไปทางทิศตะวันออกจนถึงช่องบันไดหัก และทางทิศตะวันตกที่ระยะ ๑๐๐ เมตร จากแกนของตัวปราสาทไปทางทิศใต้จนจรดขอบหน้าผา"
      นอกจากพื้นที่ตามระบุ ตามที่ศาลโลกและเขมรรับทราบ-รับรู้แล้ว ใครแหยมเข้ามา...ยิงกระบาลมันได้เลย!
      การถอนตัวจากมรดกโลกนี้มีผลทันทีไหม คำตอบคือ ยังมีขั้นตอนตามระเบียบที่ต้องปฏิบัติให้ครบถ้วน ทั้งขั้นตอนภาคีมรดกโลก และทั้งขั้นตอนกฎหมายของไทยเรา ฟังที่นายกฯ อภิสิทธิ์ตอบนักข่าวซักนิดนะ
      "การดำเนินการของคุณสุวิทย์ทั้งหมดเป็นไปตามมติ ครม. อย่างไรก็ตามเมื่อนายสุวิทย์เดินออกจากที่ประชุม ที่ประชุมมีมติตัดข้อความที่กัมพูชาเสนอในย่อหน้าที่เป็นปัญหา ฉะนั้น ในชั้นนี้ยังไม่มีการพิจารณาแผนบริหารพื้นที่ของกัมพูชาแต่ประการใด
      การดำเนินการต่อไป จะเป็นหน้าที่รัฐบาลใหม่ที่จะดำเนินการถอนตัวจากกรรมการมรดกโลก แต่ระหว่างนี้ยูเนสโกสามารถปรึกษาหารือกับไทยได้เกี่ยวกับการดำเนินการต่อไป โดยไทยจะยืนยันว่าหากจะฟื้นฟูบูรณะใดๆ ก็ตามที่เกี่ยวข้องกับดินแดนไทย ต้องได้รับความยินยอมจากไทย และไทยยืนยันเสมอว่า กัมพูชาต้องถอนทหารออกจากปราสาททั้งหมด มิฉะนั้นจะถือว่าขัดต่อสนธิสัญญาและเจตนารมณ์ของกรรมการมรดกโลกด้วย"
      ครับ...ใครมาเป็นรัฐบาลต่อหลังเลือกตั้ง ๓ ก.ค.ก็จะต้องสานเรื่องนี้ต่อ ต้องผ่านรัฐสภา คือเรื่องสนธิสัญญาต้องได้รับอนุมัติจากรัฐสภา แต่เท่าที่ฟัง การถอนตัวจากมรดกโลกได้รับเสียงสนับสนุนจากทุกฝ่าย ยกเว้นมีอยู่พรรคหนึ่ง ออกแถลงการณ์ในเชิงคัดค้านทันที ๙ ข้อ
      อ่านทีแรกนึกว่าเป็นแถลงการณ์ของพรรค Cambodian People Party หรือพรรค CPP ของสมเด็จฮุน เซน ณ กัมพูชา แต่พออ่านจบ อ้าว...ไม่ยักใช่ คนแถลงชื่อนายปลอดประสพ สุรัสวดี แห่งพรรคพท.-เพื่อไทย ของเจ้ามูลแม้ว ณ แดงทั้งแผ่นดิน นี่เอง!
      ออกลายตั้งแต่แรกแบบนี้ ถ้าพรรคเพื่อทักษิณได้เป็นรัฐบาล มองเห็นรำไรแล้วว่า...พื้นที่ ๔.๖ ตารางกิโลเมตรของไทยคงยากรักษาไว้ได้ รัฐบาลเพื่อไทยคงกลับเข้าภาคีมรดกโลก และยอมให้คณะกรรมการมรดกโลกนำพื้นที่ผนวกรวมกับปราสาทพระวิหารขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกฝ่ายเดียวโดยสมบูรณ์
      ๔.๖ ตารางกิโลเมตรนั้น ไทยไม่เพียงเสียพื้นที่รอบปราสาทเท่านั้น แต่จะเสียถึงพื้นที่แหล่งพลังงานในอ่าวไทย!!!
      ไม่เพียงแถลงการณ์ ๙ ข้อของนายปลอดประสพ นายนพดล ปัทมะ อดีต รมว.ต่างประเทศ ผู้ลงนาม "แถลงการณ์ร่วมไทย-เขมร" ๑๘ มิ.ย.๕๑ ยังเขียนในเฟซบุ๊กวานนี้ด้วยข้อความตอนหนึ่งว่า
      "........การลาออกจากภาคีมรดกโลกจะสร้างความเสียหายให้ประเทศไทยอย่างมาก เพราะเราจะไม่สามารถนำโบราณสถานและอุทยานแห่งชาติไปขึ้นทะเบียนมรดกโลกได้ การลาออกเป็นการปิ้งปลาประชดแมว นอกจากนั้นเรายังสามารถปกป้องสิทธิในเขตแดนโดยวิธีอื่นๆ ได้ มากกว่าการลาออกจากภาคีมรดกโลก"
      แต่นักวิชาการอิสระแห่งวิทยาลัยเฉลิมกาญจนา ศรีสะเกษ "นายชัยวุฒิ เทโพธิ์" บอกกับมติชนออนไลน์ ว่า   
      "สนับสนุนเต็มที่ในการตัดสินใจ เพราะถือว่าเป็นวิธีการแสดงจุดยืนที่ชัดเจนของเรา...การถอนตัวออกจากมรดกโลก เท่ากับเราไม่ยอมรับแผนบริหารจัดการพื้นที่รอบปราสาทของกัมพูชา หากเราไม่ถอนตัวออกมาเท่ากับยอมรับแผนบริหารดังกล่าว และก็เท่ากับเราได้เสียดินแดนไปโดยปริยาย"
      เอาละครับ...วันนี้เป็นการ "คุยสรุป" เพื่อทราบสถานการณ์รวม แต่..อ้อ..ผมขอแถลงการณ์ "รับผิด" ซักนิด คือเขียนไปวันก่อนว่าปาร์ตี้ลิสต์มี ๑๐๐ คนนั้น ผมผิดพลาดโดยโง่เขลา ที่ถูกต้องมี ๑๒๕ คน และขอโทษเอแบคโพลในส่วนที่ผมนำสิ่งผิดไปวิพากษ์ตัวเลขโพลด้วย
       เท่านั้นละครับ ถ้าท่านไม่รับการขอโทษ ผมก็จะไปโดดหน้าพรรคเพื่อไทยให้ตายต่อหน้าว่าที่นายกฯ หญิงยิ่งลักษณ์นะ..เอ้า.


หัวข้อ: Re: [2513] "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: suriya2513 ที่ 27 มิถุนายน 2554, 22:13:47
...ขอบคุณคุณพิเชษฐ์์ ที่นำมาโพสท์ กำลังอยากทราบความเห็นของคุณเปลว สีเงิน อยู่พอดีเชียว
พอ "เพื่อไทย" มาเป็นรัฐบาล คุณเปลว จะได้เขียนอะไรให้เราอ่านแบบนี้อีกไหมเนี่ย...น่าหนักใจ


หัวข้อ: Re: [2513] "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: เหยง 16 ที่ 02 กรกฎาคม 2554, 20:48:41
พี่ป๋องครับ

หมดเวลาหาเสียงไปตั้งแต่ 18.00 น.แล้ว
ตามมาด้วยการแทงหวย ในเขตเลือกตั้งว่าใครจะเข้า ต่อรองกันสนุกเลย เล่นกันเป็นเงินร้อย-เงินพัน
ยังไม่รู้ว่าคืนนี้หมาจะหอนหรือไม่ เพราะบ้านผมเป็ยบ้านเดี่ยวๆ อยู่ห่างจากหมู่บ้านพอสมควร


หัวข้อ: Re: [2513] "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: prapasri AH ที่ 02 กรกฎาคม 2554, 20:53:13
เหยงจ๋า

หมาหอน มาตั้งเเต่สี่ห้าคืนมาเเล้วค่ะ

คืน นี้ NO หอน และ หอน NO ค่ะ

วันนี้ก็ทราบเเล้วค่ะ ว่าใครจะได้เป็น สส.


หัวข้อ: Re: [2513] "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: Kaimook ที่ 03 กรกฎาคม 2554, 08:39:36
 สวัสดีค่ะพี่แอ๊ะ...วันนี้ที่รอคอยนะคะ...


หัวข้อ: Re: [2513] "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: prapasri AH ที่ 03 กรกฎาคม 2554, 08:50:27
หวัดดีค่ะ น้องไข่มุกดี
ช่วงนี้พี่แอ๊ะยุ่งหน่อย ไปติด face book ได้คุยกับลูกๆด้วย

แต่ตอนนี้ เข้าห้อง2515 บ่อย มารบกับ คุณปูตะวัน อิๆๆๆๆ


หัวข้อ: Re: [2513] "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: prapasri AH ที่ 03 กรกฎาคม 2554, 13:31:15

น้องโสภณเท่านี้ คะ


หมายถึง จะให้พี่แอ๊ะหาเสียง สว .ให้ใช่ไหมคะ

คุณ อะไร นะ.... ทวีชัยการ  ก็สมัคร เเละสว .น่าจะเลือกท่านเยอะอยู่นะ

แต่พี่แอ๊ะจะลองโทรหา สว. ที่ สนิทๆ นะ
คงได้ คะเเนน บ้างนะ

อ้างถึง
ข้อความของ Soponเท่านั้น เมื่อ 26 มิถุนายน 2554, 16:50:51
สวัสดีครับพี่แอ๊ะ
ชอบที่พี่แอ๊ะถกการเมืองกับตะวันเพื่อนผมจัง อ่านแล้วสนุก พี่แอ๊ะมีมุกหนุกหนานครับ

ขออนุญาตหาเสียงให้เพื่อนที่สมัครกสทช.หน่อยครับ คนเก่ง คนดี มีคุณธรรม พี่มีเครือข่ายกว้างขวาง เผื่อจะช่วยแนะนำบ้างครับ
http://www.cmadong.com/board/index.php/topic,4765.new/topicseen.html#new (http://www.cmadong.com/board/index.php/topic,4765.new/topicseen.html#new)



หัวข้อ: Re: [2513] "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: เหยง 16 ที่ 04 กรกฎาคม 2554, 17:55:54
อ้างถึง
ข้อความของ prapasri AH เมื่อ 02 กรกฎาคม 2554, 20:53:13
เหยงจ๋า

หมาหอน มาตั้งเเต่สี่ห้าคืนมาเเล้วค่ะ

คืน นี้ NO หอน และ หอน NO ค่ะ

วันนี้ก็ทราบเเล้วค่ะ ว่าใครจะได้เป็น สส.


ผมได้ข้อมูลมาตั้งแต่ 7 มิ.ย. แล้วครับ
นครสวรรค์-เขาระดม สจ., ส.อบต. ของแต่ละเขตไปวางแผนที่จังหวัดภูเก็ตพร้อมคำมั่นต่างๆแล้วครับ
พร้อมคำขาดด้วยว่า...ถ้าไม่ได้ มึงก็อยู่......ไม่ได้ด้วย ?? !!!


หัวข้อ: Re: [2513] "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: prapasri AH ที่ 07 สิงหาคม 2554, 00:02:35
กลับมาถึงยโสธรเมื่อกีนี้เอง เลยขอเล่าเรื่อง เด็กชายนายกระต๊อบ

ลูกชายคนเล็กสุดของพี่เเอ๊ะเป็นปฐมฤกษ์นะคะ หลังจากที่ไม่ได้เข้าบ้าน สบายดีพี่เเอ๊ะมาตั้งเเต่ เดือนกค โน่นเเน่ะ

คือพี่เเอ๊ะปงานรับปริญญาลูกชาย นายกระต๊อบ เมืองLEDDS   UK .

เเต่ไม่ได้โพสต์รูปเพราะน้องเขยเป็นคนถ่ายรูปเพิ่งไปกทม กลัมมาาจึงได้ cd รูป

มาค่ะ ขอส่งมาเป็นไตเติ้ลก่อนจะเข้านอนก่อนนะคะ

รูปนี้เตรียมออกไปมหาลัยค่ะ  มีน้องสาวพี่เเอ๊ะ น้องเขย พี่หาญเเละ ลูกกระติ๊บ

กระต๊อบ ไปถ่ายรูปกับเพื่อนๆก่อน ที่คณะ


หัวข้อ: Re: [2513] "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: prapasri AH ที่ 07 สิงหาคม 2554, 00:03:40
อ๊าวว.... ไหนว่า  เวบหอ รีไซส์ ได้ละคะ


หัวข้อ: Re: [2513] "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: prapasri AH ที่ 07 สิงหาคม 2554, 00:16:11
ว๊า..ได้ดูหน้าพระเอก คนเล็กสุดท้องของพี่เเอ๊ะ เเล้วค่ะ

อ๊าวววววววว error อีกอดใจรอนะคะ

พรุ่งนี้หากมีเวลาจะส่งให้ดูพระเอกคนเล็กของพี่แอ๊ะค่ะ


หัวข้อ: Re: [2513] "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: prapasri AH ที่ 07 สิงหาคม 2554, 10:26:52
สวัสดีตอนเช้าจาก บัณฑิตกระต๊อบก่อนนะคะ พี่ น้าๆ  ลุง อา หอจุฬา ครับ

MR. KONG KLAI  SUCHANTABUTR  ก้องไกล สุฉันทบุตร กระต๊อบครับ


หัวข้อ: Re: [2513] "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: prapasri AH ที่ 07 สิงหาคม 2554, 10:28:35
(http://www.cmadong.com/imgup/pics/cmd717942_1768078_5492433_9409893photo.jpg)


หัวข้อ: Re: [2513] "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: ทราย 16 ที่ 07 สิงหาคม 2554, 10:30:15
อ้างถึง
ข้อความของ prapasri AH เมื่อ 07 สิงหาคม 2554, 00:16:11
ว๊า..ได้ดูหน้าพระเอก คนเล็กสุดท้องของพี่เเอ๊ะ เเล้วค่ะ

อ๊าวววววววว error อีกอดใจรอนะคะ

พรุ่งนี้หากมีเวลาจะส่งให้ดูพระเอกคนเล็กของพี่แอ๊ะค่ะ

พี่แอ๊ะค่ะ
รอดูรูปพระเอกของพี่แอ๊ะค่ะ
นี่ยังไม่ได้เห็นรูป
ความรู้สึกปลื้มมม ... และดีใจ
มันออกมาแล้วน่ะเนี๊ยยย
ทราย16


หัวข้อ: Re: [2513] "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: ทราย 16 ที่ 07 สิงหาคม 2554, 10:31:48
อ้างถึง
ข้อความของ prapasri AH เมื่อ 07 สิงหาคม 2554, 10:28:35
(http://www.cmadong.com/imgup/pics/cmd717942_1768078_5492433_9409893photo.jpg)

โอ๊ ... ได้เห็นทันทีค่ะ
ยินดีด้วยค่ะ
ทราย 16


หัวข้อ: Re: [2513] "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: prapasri AH ที่ 07 สิงหาคม 2554, 10:32:46
ดีใจจัง resize จาก เวบหอได้เเล้ว ความพยายามอยู่ทีไหน ความสำเร็จของคนเเก่ sixty ต้องอยู่ที่นั่น

สวัสดี น้องๆจากพี่เเอ๊ะเเละพี่หาญ in England ค่ะ

(http://www.cmadong.com/imgup/pics/cmd730710_8513650_7060202_9259315photo.jpg)


หัวข้อ: Re: [2513] "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: prapasri AH ที่ 07 สิงหาคม 2554, 10:37:46
ขอบคุณน้องทราย 16ค่ะ

น้องกระต๊อบเกิดที่ยโสธร เป็นลูกข้าวหนียวขนานเเท้จากอิสานที่ต้องไปผจญภัยต่างเเดนตั้งเเต่เล็กๆค่ะ

หลังจากพี่เเอ๊ะ มีต้นกล้า ตะวัน กระติ๊บ  แล้วก็มี กระต๊อบ  

ให้เป็นสมบัติของชาวนาค่ะ

(http://www.cmadong.com/imgup/pics/cmd673431_5479980_2563171_1501897photo.jpg)


หัวข้อ: Re: [2513] "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: prapasri AH ที่ 07 สิงหาคม 2554, 10:43:58

(http://www.cmadong.com/imgup/pics/cmd140390_3224876_9067925_5433898photo.jpg)

น้าๆ น้าเขย ไปกัน ค่ะ มี  น้าอิ่น พิมพรรณ วิริยพันธ์ เเละน้าเขยเกียรติศักดิ์  น้าติ๋ม พรพัฎ วิริยพันธ์

 น้า ทญ.กัญญารัตน์  และ กัปตันการบินไทย เชษฐพงศ์ อินทรเเก้ว  พี่หาญ พี่เเอ๊ะเเละหมอกระติ๊บค่ะ

น้าพรเทพ เเละน้าหมอต๋อย ไม่ได้ไปค่ะ

น้าๆเหล่านี้ไม่มีลูกกันค่ะ เลยดูแลหลานเหมือนลูก

เป็น sponsor ในการไปรับปริญญาหลานชายคนเล็กค่ะ


หัวข้อ: Re: [2513] "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: prapasri AH ที่ 07 สิงหาคม 2554, 10:51:33
กระต๊อบอยู ทียโสธร จะชอบ ทานข้าวหนียว ลาบส้มตำปลาร้า  น้ำตก

เเละก็ ทานอาหารใต้ ด้วย เเกงเหลือง คั่วกลิ้ง กระต๊อบเวลากลับมาตอนปิดเทอม จะขนเเจ่วบอง และ นำพริกคั่วกลิ้ง

รวมทั้งมาม่า ใส่กระเป๋าเดินทางจนเต็มกระเป๋าเลยค่ะ

ไปทำกับข้าว เเละให้เพื่อนจีน ฝรั่ง อินเดีย ตะวันออกกลาง ทำทานกัน ต๊อบบอกว่าเพื่อนชอบมั๊กๆ


หัวข้อ: Re: [2513] "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: prapasri AH ที่ 07 สิงหาคม 2554, 10:57:21
(http://www.cmadong.com/imgup/pics/cmd835780_2951620_2479986_55788photo.jpg)

กระต๊อบบตอนเรียน มัธยมปลาย และจบ year 13 จาก นิวซีเเลนด์ค่ะ


หัวข้อ: Re: [2513] "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: prapasri AH ที่ 07 สิงหาคม 2554, 11:06:15
(http://www.cmadong.com/imgup/pics/cmd202618_82162_4912625_2765549photo.jpg)

วันเเรกที่ กระต๊อบอกมาดูโลก ค่ะ

รูปนี้ หลังจากพี่เเอ๊ะคลอดกระต๊อบ พี่เเอ๊ะก็เเข็งเเรงลุกขึ้นมาถ่ายรูป

อายุสองสามชั่วโมงเเรกของลูกได้

พี่เเอ๊ะเก็บของลูกไว้หมดต่ะ สายสะดือลูก  ฟันน้ำนมซี่เเรกของลูก

ตอนตั้งชื่อลูก ว่า กระต๊อบ คิดอยู่นานว่าจะให้เขาชื่ออะไรดี

ตอนเเรกจะให้ซื่อ "ตึก" เพราะเรา ไปซื้อตึกมาทำคลินิก

 และ ขยายเป็นโรงพยาบาลเล็กๆใน ปีที่กระต๊อบเกิดมา

เเต่ดูแล้ว ไม่น่าชื่อ ตึก ค่ะ ตึกเล็กๆน่าจะเป็นกระต๊อบดีกว่า

และพี่หาญเริ่มมีชื่อเสียงมาก เลยให้เขา ชื่อว่า ก้องไกล


หัวข้อ: Re: [2513] "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: prapasri AH ที่ 07 สิงหาคม 2554, 21:23:41
(http://www.cmadong.com/imgup/pics/cmd71968_5115686_122238_3178252photo.jpg)

ต๊อบจะตัวเล็กสุด จะถูกพี่ๆเเกล้งเป็นประจำ
เพราะพี่ๆจะหาว่าเเม่เอาใจน้องคนเล็ก เเต่น้องคนเล็ก นี้ก็สู้สุดๆค่ะ


หัวข้อ: Re: [2513] "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: prapasri AH ที่ 07 สิงหาคม 2554, 21:25:35
(http://www.cmadong.com/imgup/pics/cmd617268_3622595_283129_1837829photo.jpg)

เเถมรูปนี้ซะหน่อย ลูกพี่เเอ๊ะฝึกเป็นหมอกันตั้งแต่เล็กๆ พี่ต้นนอนเป็นคนไข้ ค่ะ


หัวข้อ: Re: [2513] "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: prapasri AH ที่ 07 สิงหาคม 2554, 21:53:24
(http://www.cmadong.com/imgup/pics/cmd730931_6307288_7694881_8336001photo.jpg)

ต๊อบ ขอเเอบใกล้พี่ๆเสมอ ค่ะ


หัวข้อ: Re: [2513] "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: prapasri AH ที่ 07 สิงหาคม 2554, 21:56:54

(http://www.cmadong.com/imgup/pics/cmd477292_4589216_9589504_4318189photo.jpg)

น้องๆ อย่าเบื่อนะคะ พี่เเอ๊ะ นำเรื่องของลูกที่เก็บไว้ เพื่ออยากให้น้องที่กำลังจะมีลูก ได้เก็บเรื่องราวดีของลูกไว้ให้ลูกได้เห็นตอนโต

สมัยนี้เก็บง่ายกว่าสมัยโน้นเยอะเลยค่ะ

อ่านที่ลูกเขียนเเล้วก็ขำ ความคิดลูกสมันนั้นค่ะ


หัวข้อ: Re: [2513] "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: prapasri AH ที่ 07 สิงหาคม 2554, 21:59:56
ลุงปรีชา 10 เข้ามาอ่านที่หลานเขียนหรือเปล่าคะ

น้องตะวันเปลียนบรรยากาศจากการเมืองมาดูลูกพี่เเอ๊ะบ้างนะ

จะเห็นว่าลูกพี่เเอ๊ะคิดว่าพี่เเอ๊ะมีอาชีพขายที่ดิน

 เเสดงว่าพี่เเอ๊ะบ้าซื้อที่ดินตั้งสมันนู้นจริงๆ

น้องเอมอร คงเป็นงงงงงงงงงงงง


หัวข้อ: Re: [2513] "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: prapasri AH ที่ 07 สิงหาคม 2554, 22:02:02
(http://www.cmadong.com/imgup/pics/cmd272849_689063_7357105_5029438photo.jpg)

ขอบคุณโปรเเกรม รีไซส์รูปของเวบหอจริงๆ ส่งรูปได้ง่ายกว่าเก่าเยอะเลยค่ะ


หัวข้อ: Re: [2513] "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: prapasri AH ที่ 07 สิงหาคม 2554, 22:05:22
(http://www.cmadong.com/imgup/pics/cmd361977_9280512_7570808_3458433photo.jpg)

ตอนต๊อบเขียนเขาอยู่ป.2

แผ่นนี้ติ๊บเขียน ตอนป.4 ติ๊บลายมือสวยกว่าต๊อบเยอะเลยค่ะ


หัวข้อ: Re: [2513] "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: prapasri AH ที่ 07 สิงหาคม 2554, 22:23:34
(http://www.cmadong.com/imgup/pics/cmd14166_5346488_7142042_2030193photo.jpg)

อ่านที่กระติ๊บเขียนด้วยนะคะ


หัวข้อ: Re: [2513] "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: prapasri AH ที่ 07 สิงหาคม 2554, 22:25:37
ขอบคุณทีกรุณาอ่านเรื่องราวลูกพี่เเอ๊ะนะ  เเม่ก็สุขอย่างนี้ คนอื่นไม่ทราบเขาจะสุขหรือเปล่า

ต้องบอกว่าเเด่คนที่มีลูก ลูกตัวเองน่ารักเสมอ ค่ะ


หัวข้อ: Re: [2513] "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: prapasri AH ที่ 07 สิงหาคม 2554, 22:30:02
กลับมาอังกฤษดีกว่านะ

เห็นเหยง 16 อยู่ไวๆ เเละน้อง หะยีด้วย มาดูรูปพี่เเอ๊ะด้วยนะคะ

วันอาทิตย์คงไปเที่ยวกันหมด พี่เเอ๊ะอุตส่าห์นั่งทำรูปจนหลังเเข็งเเล้วค่ะ

(http://www.cmadong.com/imgup/pics/cmd324230_4155053_8900558_1587721photo.jpg)


หัวข้อ: Re: [2513] "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: prapasri AH ที่ 07 สิงหาคม 2554, 22:36:54
(http://www.cmadong.com/imgup/pics/cmd566515_8966605_2448835_3571273photo.jpg)


หัวข้อ: Re: [2513] "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: prapasri AH ที่ 07 สิงหาคม 2554, 22:42:05

กับพี่กระติ๊บ  พี่ติ๊บจะมีน้องเเล้วค่ะ พี่เเอ๊ะจะได้เป็นคุณยายเเล้ว

เเละ เเอ้ม ภรรยาน้องต้นก็จะมีน้อง

(http://www.cmadong.com/imgup/pics/cmd21703_5721053_4368308_8886511photo.jpg)


พี่แอ๊ะจะได้เป็นคุณย่า และคุณยาย

น้องแอ 14 น้องอ้อย14 ได้เป็นยายเเอ ยายอ้อย

น้องหะยี ได้เป็น ยายหะยี

ป๋องสุริยาได้เป็นคุณตาป๋อง

สิงห์ได้เป็นตาสิงห์

จะคื๊อ บ่ ค่ะ คุณตาปรีชา คุณตาเหยง 55555


หัวข้อ: Re: [2513] "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: prapasri AH ที่ 07 สิงหาคม 2554, 22:50:01
(http://www.cmadong.com/imgup/pics/cmd779152_5002826_524798_2716262photo.jpg)

ไม่มีคนมาคุยด้วย คงต้องไปนอนเเล้วล่ะ เเงๆ วันอาทิตย์ไปไหนกันหมด คะ

เด่วพี่เเอ๊ะไปอยู่ face book ดีก่า มีคนมาคุยเยอะดี


หัวข้อ: Re: [2513] "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: เหยง 16 ที่ 07 สิงหาคม 2554, 22:51:54
พี่แอ๊ะ และพี่หมอหาญ

ขอแสดงความยินดีด้วยครับ


หัวข้อ: Re: [2513] "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: prapasri AH ที่ 07 สิงหาคม 2554, 22:52:20

(http://www.cmadong.com/imgup/pics/cmd949456_7143294_7496239_1611216photo.jpg)


หัวข้อ: Re: [2513] "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: เหยง 16 ที่ 07 สิงหาคม 2554, 22:59:41
พี่แอ๊ะ

มาคุยด้วยแล้ว
จริงๆแล้ว ไม่อยากขัดจังหวะ อยากให้พี่แอ๊ะได้โพสต์รูปและเรื่องราวให้ต่อเนื่องไปก่อน
ในขณะที่ผมและคนอื่นๆ ตามอ่าน ตามดูไปสักพักก่อน และค่อยมีคอมเม้นต์ครับ


หัวข้อ: Re: [2513] "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: prapasri AH ที่ 07 สิงหาคม 2554, 23:04:38

(http://www.cmadong.com/imgup/pics/cmd869826_3204308_7080856_544105photo.jpg)

เหยง คะ นี่คือ น้องเขยพี่เเอ๊ะ สามีของหมอติ๋ง น้องคนสุดท้องของพี่เเอ๊ะ

 เชษฐ์ เป็นกัปตัน การบินไทย วันนี้ไปงานหลานเลยได้เป็นผู้โดยสาร

น้อง ตะวัน 15 มาดูด้วยนะคะ ว่าหน้าตาเหมือนคุณทักษิณของน้องตะวันไหมคะ


หัวข้อ: Re: [2513] "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: prapasri AH ที่ 07 สิงหาคม 2554, 23:07:56
เหยงจ๋า ขัดจังหวะ เถอะ พี่แอ๊ะจะได้คุยด้วย จะได้เล่า ไปได้ร้อยเรื่องราวได้สัมพันธ์กันหากมี น้องๆมาเม้นท์บ้าง

พี่แอ๊ะมีลูกเยอะ ลูก สี่คนก็สี่เเบบ ไม่เหมือนกันเลยค่ะ

แต่น่ารักทุกเเบบ ลูกตัวเองดีทุกอย่างเลย เเม่ คนนี้หลงลูกค่ะ ลูกดื้อก็หลงงงงงงงงง55555


หัวข้อ: Re: [2513] "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: prapasri AH ที่ 07 สิงหาคม 2554, 23:16:29
น้องเขยกับหมอติ๋งไปการบินไทย เขาได้สิทธิพิเศษ เฟิสสะคลาส เพราะเป็นกัปตันอาวุโสเเล้ว

ส่วนพวกพี่เเอ๊ะไปเที่ยวคราวนี้ไปแบบประหยัดเพราะ มีหัวการค้า

เลยไปกับอาหรับเเอมิเรต เเวะดูไบ ว่าจะเเวะเยียมคุณทัก พี่ชายน้องตะวันซะหน่อย

คือจะ transit ที่ดูไบ หลายชั่วโมง ใน ดิวตี้ฟรี ที่ดูไบ จองทองคำ สวยๆ ออกเเบบอลังการเป็นเเขกๆดูไบ เท่มากค่ะ

พี่เเอ๊ะยอมนั่งหลังขดหลังเเข็งเกือบตาย ด้วยความงก

ประหยัดเงินไว้ซื้อทอง ค่ะ

ขากลับก็ได้ซื้อมาหลายเส้นเลยค่ะ เพราะ สายการบินอื่นจะประหยัดกว่าการบินไทยมาก

แต่อย่างไรก็ตามพี่เเอ๊ะก็ชอบการบินไทยมากว่าค่ะ

แต่ก็มีความสุขที่ มาถึงราคาทองขึ้นเอา ขึ้นเอา เรียกว่าไปเที่ยวนี้ได้กำไรเกินคาด


หัวข้อ: Re: [2513] "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: prapasri AH ที่ 07 สิงหาคม 2554, 23:20:18
(http://www.cmadong.com/imgup/pics/cmd185341_1974150_3839723_7460874photo.jpg)

มีสาวเอาดอกไม้มาให้ ตอนเเรกน้าๆจะเอาดอกไม่ม้มาให้เหมือนบ้านเรา ต๊อบบอกว่าไม่ต้องเอาดอกไม้นะเเม่

ไม่อยากให้น้าเปลืองเงิน เก็บเงินไว้ให้ต๊อบดีก่า


หัวข้อ: Re: [2513] "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: prapasri AH ที่ 07 สิงหาคม 2554, 23:24:22
(http://www.cmadong.com/imgup/pics/cmd237921_6760981_3740593_5789687photo.jpg)

เขาให้ผู้ปกครองเข้าไปในห้องประชุมด้วยค่ะ

ตอนเเรกพี่แอ๊ะคิดว่าเขาทำง่ายๆ

เเต่ไม่ใช่เลยค่ะ เป็นพิธีที่ศักดิ์สิทธิ์ คือมีพิธีการ

เเต่รูปที่ต๊อบให้เพื่อนจากลิเวอร์พูลมาถ่ายให้สวยๆ พี่เเอ๊ะยังไม่ได้รับรูปค่ะ ตัวเองถ่ายกล้องเซงกะบ๊วยเลยเก็บภาพได้น้อยค่ะ


หัวข้อ: Re: [2513] "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: prapasri AH ที่ 07 สิงหาคม 2554, 23:27:21
(http://www.cmadong.com/imgup/pics/cmd563202_8471874_2869902_5128581photo.jpg)

เบื้องหน้าเป็น กรรมการสภามหาวิทยาลัย อาจารย์ อธิการ คณบดี

พี่เเอ๊ะถ่ายจากอโฟนมาด้วยเป็นวีดิโอ เเต่ เอาวิดิโอออกมาไม่เป็น


หัวข้อ: Re: [2513] "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: prapasri AH ที่ 07 สิงหาคม 2554, 23:30:32
(http://www.cmadong.com/imgup/pics/cmd600037_2225173_6944736_7853610photo.jpg)

ชื่อต๊อบ เป็นนักเรียนไทยคนเดียวใน วิชา คณะนี้นะคะ ต๊อบเรียนบริหารธุรกิจ วิชาการจัดการ

ที่ leeds เด็กไทยเรียนปริญญาตรีมีไม่กี่คน ส่วนใหญ่เขามาเรียนปริญญาโทกันค่ะ


หัวข้อ: Re: [2513] "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: prapasri AH ที่ 07 สิงหาคม 2554, 23:32:33

(http://www.cmadong.com/imgup/pics/cmd346383_7898581_807386_8336132photo.jpg)


MR.KONGKLAI  SUCHANTABUTR มาเเล้วค่ะ


หัวข้อ: Re: [2513] "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: prapasri AH ที่ 07 สิงหาคม 2554, 23:33:56
(http://www.cmadong.com/imgup/pics/cmd627022_5749163_1968602_6966584photo.jpg)

ลูกได้ปริญญามาเเล้วค่ะ


หัวข้อ: Re: [2513] "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: prapasri AH ที่ 07 สิงหาคม 2554, 23:35:21
(http://www.cmadong.com/imgup/pics/cmd64087_2092265_5015605_7797335photo.jpg)

ลูกได้เกียรตินิยมอันดับสองค่ะ


หัวข้อ: Re: [2513] "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: prapasri AH ที่ 07 สิงหาคม 2554, 23:40:04
(http://www.cmadong.com/imgup/pics/cmd163800_7905954_1758636_3304743photo.jpg)

นี่เเน่ลูกเเม่แอ๊ะ

ลูกเรียนอินเตอร์เนชั่นเเนล ตั้งเต่อยู่เมืองไทยค่ะ เเรกๆลูกก็ถามว่า ทำไมไม่ให้ต๊อบเรียนหมอเหมือนพี่ๆล่ะ

แต่พี่แอ๊ะอยากให้ลูกเป็นนักเรียนนอกบ้างเลย และอยากให้เรียนบริหารธุรกิจบ้างจะได้มาดูแลกิจการ บริหารงานให้พี่ๆทำงานได้อย่างสบาย


หัวข้อ: Re: [2513] "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: prapasri AH ที่ 07 สิงหาคม 2554, 23:47:03
(http://www.cmadong.com/imgup/pics/cmd33706_8062489_6034955_5375855photo.jpg)

หลังจากนั้น ก็มี party ในหมู่อาจารย์ ผู้ปกครองเเละบัณฑิต ค่ะ

ขอไปนอนก่อนนะไม่มีใครเข้ามาเลย เลยเล่าไม่สนุก จริงๆเเล้วการรับปริญญาเขา เขาก็ตื่นเต้นเหมือนเมืองไทย

คนอังกฤษเเต่งตัวสวยๆ นุ่งกระโปรง สุภาพ ดีๆทั้งนั้นเลย พี่เเอ๊ะตัดสินใจถูกที่เเต่งตัวดีๆไป

ตอนเเรกคิดว่าเขาคงเเต่งยังไงก็ได้คิดว่าฝรั่งคงไม่เป็นเเบบไทย เเต่ที่ไหนได้เขาเเต่งตัวดีๆ smart

รอดูรูป ที่ช่างกล้องจะส่งมานะคะ


หัวข้อ: Re: [2513] "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: prapasri AH ที่ 07 สิงหาคม 2554, 23:50:23
(http://www.cmadong.com/imgup/pics/cmd44220_4414119_9013835_8570152photo.jpg)

ช่วง ปาร์ตี้ น้าๆ มัวเเต่ไป เหมากระเป๋าหลุยส์ในเมือง

เสียดายกันใหญ่ที่ไม่ได้มาparty ด้วย

เเต่ดีใจที่ได้เหมาหลุยส์ วิตตองมากกว่า ค่ะ555555


หัวข้อ: Re: [2513] "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: prapasri AH ที่ 07 สิงหาคม 2554, 23:52:16
(http://www.cmadong.com/imgup/pics/cmd262910_9326368_9498878_2418149photo.jpg)

สุดที่รักของมามี้ค่า


หัวข้อ: Re: [2513] "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: prapasri AH ที่ 07 สิงหาคม 2554, 23:54:01
(http://www.cmadong.com/imgup/pics/cmd743018_6640766_443123_8767223photo.jpg)

น้าๆ  สนุกกันอีกเเล้วววววววว


หัวข้อ: Re: [2513] "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: prapasri AH ที่ 07 สิงหาคม 2554, 23:55:55
(http://www.cmadong.com/imgup/pics/cmd189465_41507_1270501_878190photo.jpg)


น้องคนไหน ออกเเบบโปรเเกรม รีไซซ์รุปคะ สงสัยต้องให้รางวัลซะเเล้ว

พี่เเอ๊ะโพสต์ ง่ายยยยยยยยยยยยยยยย มากกกกกกกกกกกกกกก ค่ะ



หัวข้อ: Re: [2513] "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: prapasri AH ที่ 07 สิงหาคม 2554, 23:57:51
เห็นน้อง ไข่มุก  น้อง หะยี ไวๆ  มาดูรูปพี่เเอ๊ะได้เเล้วค่ะ

ขอไปนอน เเล้วล่ะ คุยอยู่คนเดียว เเงๆๆๆ


หัวข้อ: Re: [2513] "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: Preecha2510 ที่ 08 สิงหาคม 2554, 00:21:29
อ้างถึง
ข้อความของ prapasri AH เมื่อ 07 สิงหาคม 2554, 21:59:56
ลุงปรีชา 10 เข้ามาอ่านที่หลานเขียนหรือเปล่าคะ

น้องตะวันเปลียนบรรยากาศจากการเมืองมาดูลูกพี่เเอ๊ะบ้างนะ

จะเห็นว่าลูกพี่เเอ๊ะคิดว่าพี่เเอ๊ะมีอาชีพขายที่ดิน

 เเสดงว่าพี่เเอ๊ะบ้าซื้อที่ดินตั้งสมันนู้นจริงๆ

น้องเอมอร คงเป็นงงงงงงงงงงงง

  สวัสดีครับแอ๊ะ

        ขอแสดงความยินดีและปลื้มใจไปกับแอ๊ะและหมอหาญด้วยที่ลูกชายคนเล็กสำเร็จการศึกษา  จะได้กลับมาช่วย

 บริหารงานฯแบ่งเบาภาระงานของคุณพ่อคุณแม่  ที่สร้างวางรากฐานให้ลูกทั้งสี่ได้เจริญรอยสืบต่อไป  ผมเข้ามาติด

  ตามอ่านในห้องนี้เสมอๆทุกครั้งที่เปิดเข้ามาในเว็บซีมะโด่ง เมื่อมีลูกกลับมาช่วยงานแล้วต่อไปแอ๊ะกับหมอหาญคง

 จะมีเวลามากขึ้น จะได้มาร่วมทีมเที่ยวกับผมและหมอโอภาส(ที่ไปเที่ยวด้วยกันบ่อยๆ)ได้บ้าง


หัวข้อ: Re: [2513] "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: อ้อย 14 ที่ 08 สิงหาคม 2554, 05:35:10
อ้างถึง
ข้อความของ prapasri AH เมื่อ 07 สิงหาคม 2554, 23:52:16
(http://www.cmadong.com/imgup/pics/cmd262910_9326368_9498878_2418149photo.jpg)

สุดที่รักของมามี้ค่า

โปรดทราบว่า เวลาพี่แอ๊ะอยู่กะลูกคนไหน คนนั้นเป็นสุดที่รักเสมอ อยากให้อยู่พร้อมกันจริงว่า มามี๊จะรักใครที่สุด 555!!


หัวข้อ: Re: [2513] "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: prapasri AH ที่ 08 สิงหาคม 2554, 08:34:20

ขอบคุณพี่ปรีชาที่เข้ามาให้กำลังใจ

ลูกๆ ก็ไม่ได้ดีหมดทุกคนค่ะ เเต่ค่อยๆประคับประคองไป จนต้องให้เข้าเรื่องเข้าราวให้ได้

เลี้ยงลูกต้องใจเย็นเเละยอมเเพ้ลูก แอ๊ะไม่กล้าเอาชนะลูกค่ะ

เเต่เป็นการประคับประคองที่มีความสุขค่ะ เพราะรู้สึกว่าได้ทำหน้าที่เเม่ ให้ลูก

เพื่อทดเเทนบางครั้งที่เราต้องทำงานหนัก และมีงานสังสังคมมากเกินไป เเละทำให้ ไม่ได้ดูแลเขาในบางครั้ง

พอได้ทำอะไรที่ได้ชดเชยให้ลูกในบางส่วนที่ขาดหายไป เเอ๊ะจะมีความสุขมากค่ะ

ขอบคุณพีปรีชามาก เป็นเพื่อนที่ดีของพี่หาญเสมอมา รวมทั้งพี่โอภาส ด้วย

 เเอ๊ะตามพี่หาญให้มาฟังเพลงในห้อง2510 ของพี่ปรีชาบ่อยๆค่ะ

ขอเพลง สุรพล สมบัติเจริญให้พี่หาญบ้างนะคะ

เเอ๊ะชอบขอร้องเเกมบังคับให้พี่หาญ ร้องเพลง "ขาขาวๆก็พอไหว เเต่บางคนขาลายไม่เอาไหนเลย"
5555555

ชาวยโสธรจะได้เห็นว่า ที่จริงเเล้วพี่หาญเป็นคนมีอารมณ์ขัน ไม่ได้ซีเรียสกับงานอย่างที่ ชาวยโสเขา คิดกัน
อ้างถึง
ข้อความของ Preecha2510 เมื่อ 08 สิงหาคม 2554, 00:21:29
อ้างถึง
ข้อความของ prapasri AH เมื่อ 07 สิงหาคม 2554, 21:59:56
ลุงปรีชา 10 เข้ามาอ่านที่หลานเขียนหรือเปล่าคะ

น้องตะวันเปลียนบรรยากาศจากการเมืองมาดูลูกพี่เเอ๊ะบ้างนะ

จะเห็นว่าลูกพี่เเอ๊ะคิดว่าพี่เเอ๊ะมีอาชีพขายที่ดิน

 เเสดงว่าพี่เเอ๊ะบ้าซื้อที่ดินตั้งสมันนู้นจริงๆ

น้องเอมอร คงเป็นงงงงงงงงงงงง

  สวัสดีครับแอ๊ะ

        ขอแสดงความยินดีและปลื้มใจไปกับแอ๊ะและหมอหาญด้วยที่ลูกชายคนเล็กสำเร็จการศึกษา  จะได้กลับมาช่วย

 บริหารงานฯแบ่งเบาภาระงานของคุณพ่อคุณแม่  ที่สร้างวางรากฐานให้ลูกทั้งสี่ได้เจริญรอยสืบต่อไป  ผมเข้ามาติด

  ตามอ่านในห้องนี้เสมอๆทุกครั้งที่เปิดเข้ามาในเว็บซีมะโด่ง เมื่อมีลูกกลับมาช่วยงานแล้วต่อไปแอ๊ะกับหมอหาญคง

 จะมีเวลามากขึ้น จะได้มาร่วมทีมเที่ยวกับผมและหมอโอภาส(ที่ไปเที่ยวด้วยกันบ่อยๆ)ได้บ้าง


หัวข้อ: Re: [2513] "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: prapasri AH ที่ 08 สิงหาคม 2554, 08:43:26

[color=#ff1300]อ้อย สุดที่รัก  เเละ น้องเเอ.สุดที่รัก...อีกคน เป็นไง ชอบ กระเป๋า.
(ถุง ) harrods ไหมคะ[/color]
อ้างจาก: อ้อย 14 link=topic=3396.msg492366#msg492366 [/b
date=1312756510]

อ้างถึง
ข้อความของ prapasri AH เมื่อ 07 สิงหาคม 2554, 23:52:16
(http://www.cmadong.com/imgup/pics/cmd262910_9326368_9498878_2418149photo.jpg)

สุดที่รักของมามี้ค่า

โปรดทราบว่า เวลาพี่แอ๊ะอยู่กะลูกคนไหน คนนั้นเป็นสุดที่รักเสมอ อยากให้อยู่พร้อมกันจริงว่า มามี๊จะรักใครที่สุด 555!!


หัวข้อ: Re: [2513] "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: prapasri AH ที่ 08 สิงหาคม 2554, 08:45:44
 
พี่เเอ๊ะจะเฉลย ที่บอกว่าพี่เเอ๊ะจะไปอยู่อีกสังคมหนึ่ง คือไปจองคอนโดเเถวพระราม 9 เก็งกำไรรับรัฐบาลใหม่ค่ะ

เป็นสังคมชั้นสูง คืออยู่ชั้น ที่10 ขึ้นไป 55555555


หัวข้อ: Re: [2513] "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: เหยง 16 ที่ 08 สิงหาคม 2554, 09:31:16
อยู่เอง ต้อง 2 ห้องคู่ หรือมีชั้นสองด้วยน่ะครับ โอ่โถงดี


หัวข้อ: Re: [2513] "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: เหยง 16 ที่ 08 สิงหาคม 2554, 09:32:07
อ้างถึง
ข้อความของ prapasri AH เมื่อ 07 สิงหาคม 2554, 23:16:29
color=#ff2700]น้องเขยกับหมอติ๋งไปการบินไทย เขาได้สิทธิพิเศษ เฟิสสะคลาส เพราะเป็นกัปตันอาวุโสเเล้ว [/color]

ส่วนพวกพี่เเอ๊ะไปเที่ยวคราวนี้ไปแบบประหยัดเพราะ มีหัวการค้า

เลยไปกับอาหรับเเอมิเรต เเวะดูไบ ว่าจะเเวะเยียมคุณทัก พี่ชายน้องตะวันซะหน่อย

คือจะ transit ที่ดูไบ หลายชั่วโมง ใน ดิวตี้ฟรี ที่ดูไบ จองทองคำ สวยๆ ออกเเบบอลังการเป็นเเขกๆดูไบ เท่มากค่ะ

พี่เเอ๊ะยอมนั่งหลังขดหลังเเข็งเกือบตาย ด้วยความงก

ประหยัดเงินไว้ซื้อทอง ค่ะ

ขากลับก็ได้ซื้อมาหลายเส้นเลยค่ะ เพราะ สายการบินอื่นจะประหยัดกว่าการบินไทยมาก

แต่อย่างไรก็ตามพี่เเอ๊ะก็ชอบการบินไทยมากว่าค่ะ

แต่ก็มีความสุขที่ มาถึงราคาทองขึ้นเอา ขึ้นเอา เรียกว่าไปเที่ยวนี้ได้กำไรเกินคาด


พี่แอ๊ะครับ

เห็นพี่แอ๊ะใส่เพชรเม็ดโตเท่าไข่ แล้วยังจะซื้อทองคำอีกหรือ ??
แต่ซื้อก็ได้น่ะ เพราะคาดว่าทองคำไม่น่าจะตำกว่า US $1,600/oz อีกต่อไปแล้ว
ขยับขึ้นจาก $1,300 ไปเรื่อยๆเลย แสดงว่าค่าเงินทั่วโลกจะอ่อนค่าลงตลอด


หัวข้อ: Re: [2513] "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: krongon2513 ที่ 08 สิงหาคม 2554, 13:06:30
หลานกระต๊อบจบแล้วจะต่อโทเลยหรือเปล่า  หลานฉันก็จบที่นี่ แต่เขาจบตรีที่จุฬาก่อน
ดีใจด้วยนะ.... อีกหน่อยก็เป็นคุณย่า คุณยายแล้ว  ดูมีอาวุโส น่านับถือมั่กๆ

ฉันตามซะมีไปดูไบตั้งหลายวัน ไม่ได้ซื้อทองสักเส้น เพราะไม่รู้จะใส่ไปไหน

ลายมือหลานกระติ๊บสวยมากๆ

อ้อ..ดร.ชลฝากบอกว่ารอรับเข็มที่บริจาคเงินด้วยนะค้า


หัวข้อ: Re: [2513] "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: prapasri AH ที่ 08 สิงหาคม 2554, 13:09:15
อ่อนค่าลง เเปลว่า ของจากต่างประเทศจะเเพงใช่มะ พี่เเอ๊ะสั่งซื้อเครื่องรักษามะเร็งจากจีน มัดจำไปแล้ว รอขอ อย.

คงต้องรีบ ดูสัญญาให้ชัดเจน ว่าเขาจะให้เราทำอย่างไรไม่ให้ราคาสูงขึ้น

อ้างถึง
ข้อความของ เหยง 16 เมื่อ 08 สิงหาคม 2554, 09:32:07
อ้างถึง
ข้อความของ prapasri AH เมื่อ 07 สิงหาคม 2554, 23:16:29
น้องเขยกับหมอติ๋งไปการบินไทย เขาได้สิทธิพิเศษ เฟิสสะคลาส เพราะเป็นกัปตันอาวุโสเเล้ว

ส่วนพวกพี่เเอ๊ะไปเที่ยวคราวนี้ไปแบบประหยัดเพราะ มีหัวการค้า

เลยไปกับอาหรับเเอมิเรต เเวะดูไบ ว่าจะเเวะเยียมคุณทัก พี่ชายน้องตะวันซะหน่อย

คือจะ transit ที่ดูไบ หลายชั่วโมง ใน ดิวตี้ฟรี ที่ดูไบ จองทองคำ สวยๆ ออกเเบบอลังการเป็นเเขกๆดูไบ เท่มากค่ะ

พี่เเอ๊ะยอมนั่งหลังขดหลังเเข็งเกือบตาย ด้วยความงก

ประหยัดเงินไว้ซื้อทอง ค่ะ

ขากลับก็ได้ซื้อมาหลายเส้นเลยค่ะ เพราะ สายการบินอื่นจะประหยัดกว่าการบินไทยมาก

แต่อย่างไรก็ตามพี่เเอ๊ะก็ชอบการบินไทยมากว่าค่ะ

แต่ก็มีความสุขที่ มาถึงราคาทองขึ้นเอา ขึ้นเอา เรียกว่าไปเที่ยวนี้ได้กำไรเกินคาด


พี่แอ๊ะครับ

เห็นพี่แอ๊ะใส่เพชรเม็ดโตเท่าไข่ แล้วยังจะซื้อทองคำอีกหรือ ??
แต่ซื้อก็ได้น่ะ เพราะคาดว่าทองคำไม่น่าจะตำกว่า US $1,600/oz อีกต่อไปแล้ว
ขยับขึ้นจาก $1,300 ไปเรื่อยๆเลย แสดงว่าค่าเงินทั่วโลกจะอ่อนค่าลงตลอด



หัวข้อ: Re: [2513] "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: krongon2513 ที่ 08 สิงหาคม 2554, 13:15:21
อ่อนค่าลง น่าจะแปลว่าเราซื้อของนอกได้ถูกลงนะ ใช่ไหมก็ไม่รู้ นักเศรษฐศาสตร์คงอธิบายได้


หัวข้อ: Re: [2513] "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: prapasri AH ที่ 08 สิงหาคม 2554, 13:18:48
 @  เหยง คะ

ไว้ขาย เก็งกำไร จองไว้ตอนนี้ เหยงสนใจไหมละ แค่จองเท่านั้น เเหละพอรัฐบาลใหม่ทำงาน เราก็เริ่มขาย เพราะจะมีการปั่นราคา เราก็คงได้กำไร อิๆๆ

เเต่ต้องเตรียมเงินไว้ผ่อน เผื่อ ขายไม่ออกเรียกว่าต้องทำให้ตัวสายป่านยาวววววววววว

เอ๊ะเราเป็นคนทำลายชาติหรือเปล่า ร่วมมือกันปั่นราคา อิๆๆๆๆ อีกที  

อ้างถึง
ข้อความของ เหยง 16 เมื่อ 08 สิงหาคม 2554, 09:31:16
อยู่เอง ต้อง 2 ห้องคู่ หรือมีชั้นสองด้วยน่ะครับ โอ่โถงดี


หัวข้อ: Re: [2513] "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: prapasri AH ที่ 08 สิงหาคม 2554, 13:27:57
คุณหญิงอ้อยกรองอรขา

ฉันเพิ่งนึกออก

ฉันพอจะรู้เเต่ก็งง เพราะต้องใช้เวลาคิดสลับกันคือ

อ่อนค่าลงเเปลว่าของสั่งจากเมืองนอกแพงขึ้นค่ะ เพราะอ่อนไป 40 บาทต่อ 1ดอลลาร์ อย่างนี้

เเละเเข็งค่าคือ 25 บาทต่อ 1 ดอลลาร์   ของจากนอก ก็ถูกลง ใช้วิชาคณิตศาสตร์ ที่เราไม่ค่อยเก่ง คำนวณนะ

การอ่อนค่าก็เป็นประโยชน์ต่อประเทศชาติด้านการส่งออก เช่นชาวนารวยขึ้น เพราะเราได้ขายข้าวเเพง

แต่เราๆต้องใช้สินค้าเเบรนด์เนมเเพง หากเราบ้าเเบรนด์

เธอจะให้ชาวนารวย หรือจะบ้าเเบรนด์ล่ะ

ฉันอยากได้ทั้สองอย่าง ฉันจึงต้องพยายามทำให้เงินบาทมีเสถียรภาพ

คืออย่าเเกว่งมากนัก หากฉันได้เป็น รมว.คลังนะ
อ้างถึง
ข้อความของ krongon2513 เมื่อ 08 สิงหาคม 2554, 13:15:21
อ่อนค่าลง น่าจะแปลว่าเราซื้อของนอกได้ถูกลงนะ ใช่ไหมก็ไม่รู้ นักเศรษฐศาสตร์คงอธิบายได้


หัวข้อ: Re: [2513] "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: prapasri AH ที่ 08 สิงหาคม 2554, 13:33:01
อีกอย่างหนึ่ง คือมีปัญหากับโรงพยาบาลฉัน หากเงินบาทอ่อนค่า

เพราะ ค่ายา ต่างประเทศ ที่ฉันซื้อต้องเเพง  คนไข้ก็ต้องใช้ราคาเเพง

ยุ่งจัง เงิน นี่

บริษัทที่ขายยามักจะลักไก่พอเงินบาทอ่อน เขาก็ขึ้นราคายา และเวชภัณ

 ( เวชภัณ เขียนไง  คะ หา ทอนางมณโทไม่เจอ)
5555555
 พอเงินบาทเเข็ง เขาก็ไม่ลดราคายา

อ้อย 13 เรียนดร ชลดา ว่าพี่หาญคิดถึง พี่หาญชมว่า ดร.ชลดาเรียบร้อยนิสัยดีมาก ใบประกาศ เเละ ของที่ระลึกได้รับเเล้วค่ะ


หัวข้อ: Re: [2513] "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: prapasri AH ที่ 08 สิงหาคม 2554, 13:46:27


(http://www.cmadong.com/imgup/pics/cmd852213_9076039_1689106_3100693photo.jpg)

เหยงคะ

พี่เเอ๊ะก็ขออวดทองหน่อย

ทั้งๆที่พรเทพ 16 เพื่อนเหยง เขาคงเเอบมาอ่าน เขาเตือนพี่เเอ๊ะว่าอย่าอ้อรอ ทางเวบมากนัก55555

คืออะไรที่ไม่ควรโพสต์ก็อย่าโพสต์

เเต่พี่เเอ๊ะ เฟลิ๊ตสะก๊าด แก้ไขตัวเองไม่ได้ พี่เเอ๊ะ เปิดเผยค่ะ เเต่ก็ปิดไม่เผยในบางเรื่องอยู่เหมือนกันนา

สิงห์ 13 ยังไม่ว่าเลย เเสดงว่า ผ่านอยู่นะคะ

 เเต่เอาไปไว้ธนาคารเเล้วค่ะ

หากโจรยโสธรเข้ามาอ่าน จะได้ไม่เข้าบ้านพี่เเอ๊ะ  


หัวข้อ: Re: [2513] "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: prapasri AH ที่ 08 สิงหาคม 2554, 13:48:22
อีกรูปนะ เป็นนางเเบบให้พี่หาญถ่ายรูปให้ค่ะ

กระเป๋าไม่เข้ากะชุดเท่าไร เพราะไปงานกลางคืนมา เเต่หยิบกระเป๋า หลุยส์จากตู้ มาใส่ขำๆ ค่ะ

(http://www.cmadong.com/imgup/pics/cmd344702_3662227_6190579_8253567photo.jpg)


หัวข้อ: Re: [2513] "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: prapasri AH ที่ 08 สิงหาคม 2554, 13:51:50

(http://www.cmadong.com/imgup/pics/cmd864368_4089515_3661075_3646159photo.jpg)

ดูรูปนี้ดีก่า นะ สวยกว่าเดิมนิดหนึ่ง



หัวข้อ: Re: [2513] "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: prapasri AH ที่ 08 สิงหาคม 2554, 18:04:10
(http://www.cmadong.com/imgup/pics/cmd863810_9328044_8712902_5434304photo.jpg)


ส่งมาให้ดูอีกเส้น ให้น้องชายนายพรเทพ 16 โทรมาดุ

น้องหะยี ชอบไหมคะ เเปลกมาก ที่เขา setting ใส่ พลอย ทับทิมเเละมรกต ด้วย

พี่เเอ๊ะใส่จะเป็นนางพันธุรัตน์ค่ะ

ซื้อทองเป็นรูปพรรณเพราะได้ใส่ด้วย เก็บไว้ขายได้ ยามต้องใช้เงิน

พี่หาญบอว่าให้หยุดซื้อกระเป๋า กับเสื้อผ้าได้เเล้ว ให้ซื้อทองดีกว่า

เเต่พี่เเอ๊ะว่า มันจำเป็นหมดนะ เช่นใส่เสื้อสวย เเล้วไม่ใส่ เครื่องประดับก็ไม่ได้

ไม่ทำผมสวยก็ไม่ได้  ไม่ถือกระเป๋า เเบนๆ (เเบรนด์ๆ) ก็ไม่ได้   จะทำไงดีคะ

พี่สิงห์ 13 เเก หมดอาลัยตายอยากเเล้ว

เเต่พี่เเอ๊ะว่าชีวิตพี่เเอ๊ะเพิ่งเริ่มต้นเมือ่อายุ 60  
55555555


หัวข้อ: Re: [2513] "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: เหยง 16 ที่ 08 สิงหาคม 2554, 21:04:17
พี่แอ๊ะครับ

ไปอ่านในห้องของพี่สิงห์ เห็นบอกว่า อาทิตย์ที่ผ่านมาโดนพวกเอารองเท้าไป 5 คู่ครับ


หัวข้อ: Re: [2513] "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: เหยง 16 ที่ 08 สิงหาคม 2554, 21:06:40
อ้างถึง
ข้อความของ prapasri AH เมื่อ 08 สิงหาคม 2554, 13:18:48
@  เหยง คะ

ไว้ขาย เก็งกำไร จองไว้ตอนนี้ เหยงสนใจไหมละ แค่จองเท่านั้น เเหละพอรัฐบาลใหม่ทำงาน เราก็เริ่มขาย เพราะจะมีการปั่นราคา เราก็คงได้กำไร อิๆๆ

เเต่ต้องเตรียมเงินไว้ผ่อน เผื่อ ขายไม่ออกเรียกว่าต้องทำให้ตัวสายป่านยาวววววววววว

เอ๊ะเราเป็นคนทำลายชาติหรือเปล่า ร่วมมือกันปั่นราคา อิๆๆๆๆ อีกที
[/color]

อ้างถึง
ข้อความของ เหยง 16 เมื่อ 08 สิงหาคม 2554, 09:31:16
อยู่เอง ต้อง 2 ห้องคู่ หรือมีชั้นสองด้วยน่ะครับ โอ่โถงดี

ผมเพิ่งซื้อที่ปริญสิริ ตรงแยกสามเหลี่ยมดินแดงนี่เอง อยู่ชั้น 20 และมีสนามหญ้ากลางด้วยครับ

แต่ ป.ล. เขายังไม่ยอมปลูกหญ้าในสนามพื้นที่ประมาณ 50-80 ตร.ม.เลย


หัวข้อ: Re: [2513] "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: prapasri AH ที่ 08 สิงหาคม 2554, 22:37:01
ดีๆ เหยงเรามาเก็งกำไร กัน หลังจากพี่เเอ๊ะรอดตัวมาจากวังน้ำเขียว ดีใจที่ซู๊ด


น้องๆที่ผ่านมา อย่าหาว่าพี่เว่อๆนะคะ การลงทุนบางอย่างก็มีกำไร บางทีก็ขาดทุนเจ็บ

ไม่รู้เท่าไรเเต่เวลาขาดทุนมักจะเก็บเงียบ

พอได้กำไรก็ ประกาศทั่วโลกเลยอ่ะ


หัวข้อ: Re: [2513] "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: prapasri AH ที่ 08 สิงหาคม 2554, 22:45:13
อ้างถึง
ข้อความของ เหยง 16 เมื่อ 08 สิงหาคม 2554, 21:04:17
พี่แอ๊ะครับ

ไปอ่านในห้องของพี่สิงห์ เห็นบอกว่า อาทิตย์ที่ผ่านมาโดนพวกเอารองเท้าไป 5 คู่ครับ


เหยงบอกสิงห์นะ พี่เเอ๊ะจะไปเยี่ยม มะรืนนี้ หรือพรุ่งนี้ค่ำๆ ที่ห้องสิงห์ เเต่บางทีอาจจะคุยทาง ipad

หรือ i-phone

หากมีเวลา ตอนนี้อ้อย 14 กำลังสอนพี่แอ๊ะให้ใช้ i-pad ค่ะ
พอดีต้องรีบนอนเเล้วค่ะ พรุ่งนี้ต้องบินไปกรุงเทพเเต่เช้า

และบินกลับเย็น

เอ..สิงห์แก่เเล้วหรือจึงเผลอให้คนขโมยรองเท้าไปได้ สงสัยสิงห์เเก่จิงๆ

good nite นะคะ


หัวข้อ: Re: [2513] "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: หนุน'21 ที่ 09 สิงหาคม 2554, 08:50:16
สวัสดีครับพี่แอ๊ะ
เข้ามาติดตามอ่าน ตามชมอย่างเพลิดเพลินครับ
ทองที่ดูไบนี่...อลังการณ์จริงๆนะครับ


หัวข้อ: Re: [2513] "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: seree_60 ที่ 09 สิงหาคม 2554, 09:52:21
ตามมาทวงหนี้
มีพี่คนหนึ่งที่ชื่อ แอ๊ะ บอกว่ารักน้องตะวันที่ซู้ดเ้ลย
และบอกว่า อาทิตย์ไหนแล้วไม่รู้ พี่ที่แอ๊ะ มีความสุขที่ซู้ดเลย
แต่ยังไม่ยอมบอก
ถ้าแน่นอนแล้ว จาบอกน้องตะซันที่รักที่ซู้ด เป็นคนแรก

น้องตะวัน คนซื่อ ก็เฝ้ารอ คอยคำตอบนั้น แต่พี่ที่ชือ่แอ๊ะ คงหลงลืม วาจา ที่ลั่นไว้เป็นแม่นมั่น
เลยต้องลุกมาทวงสัญญา...

ฝากทวงผ่านไปยังพี่ที่ชื่อแอ๊ะด้วยนะขอรับ


หัวข้อ: Re: [2513] "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: supanee ที่ 10 สิงหาคม 2554, 09:25:40
พี่แอ๊ะคะ ดีใจด้วยนะคะ ปีนี้คงเป็นปีทองของพี่แอ๊ะ
น้องกระต๊อบเรียนจบ น้องกระติ๊บ น้องต้น กำลังจะมีหลานยาย หลานย่า ให้อุ้ม
น่ายิ้มแก้มปริทั้งปีจริงๆ
พี่แอ๊ะอย่าหายไปนานๆนะคะ คิดถึงค่ะ ยังเข้าเฟซบุ๊คไม่เป็นค่ะจึงตามไปอ่านที่นั่นไม่ได้
พี่แอ๊ะและน้องๆยังสวยและสาวกว่าวัยมากๆค่ะ (พี่หาญก็ดูหนุ่มด้วยค่ะ)


หัวข้อ: Re: [2513] "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: prapasri AH ที่ 11 สิงหาคม 2554, 10:21:37
อ๊ายหยา น้องตะวัน ตามมาทวงหนี้พี่ลืมไปเเล้ว่าพี่ค้างเรื่องอะไร

น้องตะวันอาจจะคิดว่าไม่สำคัญก็ได้ ธรรมดาๆๆสำหรับบางคนเเต่อาจจะธรรมดากับคนที่ละกิเลสเเล้ว

เเต่อาจจะสำคัญกับพี่ค่ะ  ซึ่งยังไม่ละกิเลสอิๆๆๆๆ ชักไม่อยากเล่าที่นี่อายค่ะเพราะธรรรมด๊าๆๆเด่วคนอื่นหมั่นไส้


ขอเล่าเรื่องที่อังกฤษนิดหนึ่งนะ

ลูกยังอยู่ที่โน่นเพราะรอ ใบตอบรับจากมหาวิทยาลัยต่างๆที่ลูกเลือกไปเพื่อต่อโทที่โน่น

ลูกบอกว่า น่ากลัวมาก เป็นพวกเด็กเเว๊น

ทีมาทำการจลาจล ยังมาไม่ถึง leeds เเต่มาถึง  liverpool   เเละเเมนเชสเตอร์แล้ว ค่ะ

เเต่เขาจะไม่ทำร้าย ประชาชนทั่วไป ยกเว้นเราซวยไปเจอลูกหลง

เขาจะปล้นร้านค้า อย่าง ร้านเเบรนด์ เนม ต่างๆ ค่ะ

อ้างถึง
ข้อความของ seree_60 เมื่อ 09 สิงหาคม 2554, 09:52:21
ตามมาทวงหนี้
มีพี่คนหนึ่งที่ชื่อ แอ๊ะ บอกว่ารักน้องตะวันที่ซู้ดเ้ลย
และบอกว่า อาทิตย์ไหนแล้วไม่รู้ พี่ที่แอ๊ะ มีความสุขที่ซู้ดเลย
แต่ยังไม่ยอมบอก
ถ้าแน่นอนแล้ว จาบอกน้องตะซันที่รักที่ซู้ด เป็นคนแรก

น้องตะวัน คนซื่อ ก็เฝ้ารอ คอยคำตอบนั้น แต่พี่ที่ชือ่แอ๊ะ คงหลงลืม วาจา ที่ลั่นไว้เป็นแม่นมั่น
เลยต้องลุกมาทวงสัญญา...

ฝากทวงผ่านไปยังพี่ที่ชื่อแอ๊ะด้วยนะขอรับ



หัวข้อ: Re: [2513] "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: prapasri AH ที่ 11 สิงหาคม 2554, 10:29:36

น้องอิ๊ดขา

ขอบคุณที่เเวะมาเยี่ยมพี่เเอ๊ะ

พี่จะได้เป็นยายเเอ๊ะเหมือนยายอิ๊ด

ดีใจที่เห็นยายอิ๊ดมีความสุขกะหลานฮานะ มากค่ะ

ยายยังสาววววววววววว
ไม่น่าเชื่อนะ ว่าเราจะกลายเป็นยายไปได้ ตอนเด็กๆ ใครเป็นยาย นี่เเก่มากๆๆ เลย

น้องอิ๊ดอย่าลืมเก็บเรื่องราวดีของหลานไว้นะ ไว้ให้เขาดูตอนโต

เค้าจะทึ่งคุณยายมากเเละเราได้ดูตอนเราเเก่มาก

เราจะงง ว่าตอนนั้นเราเก็บไว้ได้อย่างไร

อ้างถึง
ข้อความของ supanee เมื่อ 10 สิงหาคม 2554, 09:25:40
พี่แอ๊ะคะ ดีใจด้วยนะคะ ปีนี้คงเป็นปีทองของพี่แอ๊ะ
น้องกระต๊อบเรียนจบ น้องกระติ๊บ น้องต้น กำลังจะมีหลานยาย หลานย่า ให้อุ้ม
น่ายิ้มแก้มปริทั้งปีจริงๆ
พี่แอ๊ะอย่าหายไปนานๆนะคะ คิดถึงค่ะ ยังเข้าเฟซบุ๊คไม่เป็นค่ะจึงตามไปอ่านที่นั่นไม่ได้
พี่แอ๊ะและน้องๆยังสวยและสาวกว่าวัยมากๆค่ะ (พี่หาญก็ดูหนุ่มด้วยค่ะ)


หัวข้อ: Re: [2513] "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: เหยง 16 ที่ 11 สิงหาคม 2554, 11:05:26
อ้างถึง
ข้อความของ prapasri AH เมื่อ 11 สิงหาคม 2554, 10:21:37
อ๊ายหยา น้องตะวัน ตามมาทวงหนี้พี่ลืมไปเเล้ว่าพี่ค้างเรื่องอะไร

น้องตะวันอาจจะคิดว่าไม่สำคัญก็ได้ ธรรมดาๆๆสำหรับบางคนเเต่อาจจะธรรมดากับคนที่ละกิเลสเเล้ว

เเต่อาจจะสำคัญกับพี่ค่ะ  ซึ่งยังไม่ละกิเลสอิๆๆๆๆ ชักไม่อยากเล่าที่นี่อายค่ะเพราะธรรรมด๊าๆๆเด่วคนอื่นหมั่นไส้


ขอเล่าเรื่องที่อังกฤษนิดหนึ่งนะ

ลูกยังอยู่ที่โน่นเพราะรอ ใบตอบรับจากมหาวิทยาลัยต่างๆที่ลูกเลือกไปเพื่อต่อโทที่โน่น

ลูกบอกว่า น่ากลัวมาก เป็นพวกเด็กเเว๊น

ทีมาทำการจลาจล ยังมาไม่ถึง leeds เเต่มาถึง  liverpool   เเละเเมนเชสเตอร์แล้ว ค่ะ

เเต่เขาจะไม่ทำร้าย ประชาชนทั่วไป ยกเว้นเราซวยไปเจอลูกหลง

เขาจะปล้นร้านค้า อย่าง ร้านเเบรนด์ เนม ต่างๆ ค่ะ

อ้างถึง
ข้อความของ seree_60 เมื่อ 09 สิงหาคม 2554, 09:52:21
ตามมาทวงหนี้
มีพี่คนหนึ่งที่ชื่อ แอ๊ะ บอกว่ารักน้องตะวันที่ซู้ดเ้ลย
และบอกว่า อาทิตย์ไหนแล้วไม่รู้ พี่ที่แอ๊ะ มีความสุขที่ซู้ดเลย
แต่ยังไม่ยอมบอก
ถ้าแน่นอนแล้ว จาบอกน้องตะซันที่รักที่ซู้ด เป็นคนแรก

น้องตะวัน คนซื่อ ก็เฝ้ารอ คอยคำตอบนั้น แต่พี่ที่ชือ่แอ๊ะ คงหลงลืม วาจา ที่ลั่นไว้เป็นแม่นมั่น
เลยต้องลุกมาทวงสัญญา...

ฝากทวงผ่านไปยังพี่ที่ชื่อแอ๊ะด้วยนะขอรับ


พี่แอ๊ะ

ลูกสาวของผมอยู่ีที่เลสเตอร์ บอกว่าม๊อบลามไปถึงที่นั่นแล้วเช่นกัน
เมื่อคืนต้องไปนอนค้างกับเพื่อนๆ ชาวไทยใกล้กับมหา'ลัย


หัวข้อ: Re: [2513] "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: seree_60 ที่ 11 สิงหาคม 2554, 11:50:03
อ้างถึง
ข้อความของ prapasri AH เมื่อ 11 สิงหาคม 2554, 10:21:37
อ๊ายหยา น้องตะวัน ตามมาทวงหนี้พี่ลืมไปเเล้ว่าพี่ค้างเรื่องอะไร

น้องตะวันอาจจะคิดว่าไม่สำคัญก็ได้ ธรรมดาๆๆสำหรับบางคนเเต่อาจจะธรรมดากับคนที่ละกิเลสเเล้ว

เเต่อาจจะสำคัญกับพี่ค่ะ  ซึ่งยังไม่ละกิเลสอิๆๆๆๆ ชักไม่อยากเล่าที่นี่อายค่ะเพราะธรรรมด๊าๆๆเด่วคนอื่นหมั่นไส้


ขอเล่าเรื่องที่อังกฤษนิดหนึ่งนะ

ลูกยังอยู่ที่โน่นเพราะรอ ใบตอบรับจากมหาวิทยาลัยต่างๆที่ลูกเลือกไปเพื่อต่อโทที่โน่น

ลูกบอกว่า น่ากลัวมาก เป็นพวกเด็กเเว๊น

ทีมาทำการจลาจล ยังมาไม่ถึง leeds เเต่มาถึง  liverpool   เเละเเมนเชสเตอร์แล้ว ค่ะ

เเต่เขาจะไม่ทำร้าย ประชาชนทั่วไป ยกเว้นเราซวยไปเจอลูกหลง

เขาจะปล้นร้านค้า อย่าง ร้านเเบรนด์ เนม ต่างๆ ค่ะ

อ้างถึง
ข้อความของ seree_60 เมื่อ 09 สิงหาคม 2554, 09:52:21
ตามมาทวงหนี้
มีพี่คนหนึ่งที่ชื่อ แอ๊ะ บอกว่ารักน้องตะวันที่ซู้ดเ้ลย
และบอกว่า อาทิตย์ไหนแล้วไม่รู้ พี่ที่แอ๊ะ มีความสุขที่ซู้ดเลย
แต่ยังไม่ยอมบอก
ถ้าแน่นอนแล้ว จาบอกน้องตะซันที่รักที่ซู้ด เป็นคนแรก

น้องตะวัน คนซื่อ ก็เฝ้ารอ คอยคำตอบนั้น แต่พี่ที่ชือ่แอ๊ะ คงหลงลืม วาจา ที่ลั่นไว้เป็นแม่นมั่น
เลยต้องลุกมาทวงสัญญา...

ฝากทวงผ่านไปยังพี่ที่ชื่อแอ๊ะด้วยนะขอรับ


หลักฐานของคนปากหวานขี้จุ๊...

prapasri AH
Cmadong พันธุ์แท้
****


ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 3,138


ดูรายละเอียด เว็บไซต์ อีเมล์ ข้อความส่วนตัว (ออฟไลน์)
   
   
Re: RCU15 บุกเขาใหญ่
« ตอบ #56 เมื่อ: 01 สิงหาคม 2554, 22:06:56 »
   ตอบโดยอ้างถึงข้อความอ้างถึง
อิๆ ๆๆๆ

วันนี้ ตอนเย็นได้รับข่าวดี เป็นวันที่พี่เเอ๊ะมีความสุขมาก ค่ะ

อีกสักอาทิตย์เเล้วจะเฉลยว่าสุขเพราะอะไร ค่ะ

แล้วจะเล่าให้น้องตะวันทราบเป็นคนเเรก

 โปรดอดใจรอ ด้วยความระทึกโดยพลัน


หัวข้อ: Re: [2513] "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: prapasri AH ที่ 12 สิงหาคม 2554, 06:30:16
 พี่เเอ๊ะไม่หลอกหรอกค่ะ คำไหนคำนั้น วันนี้ฤกษ์ดี มีเวลา เลยให้น้อง ตะวันเข้าไปในเวบ นี้นะคะ

แล้วพี่เเอ๊ะจะได้นำ ความรู้เกี่ยวกับตลาดทุน ตลาดเงิน มาเล่าให้น้องฟังในห้องนี้จะได้เรียนรู้ไปพร้อมๆกัน

เเต้ต้องบอกว่า หากมีเวลา นะคะ

เด่วจะหาว่า พูดไม่จริง น้องตะวันตามทวง หนี้ (รัก)อีก

เชิญเข้าเวบ นี้นะคะ  เข้าเวบนี้ง่ายเเต่เข้าโรงเรียนนี้ยากมากค่ะ เขาต้องเชิญเข้าไปค่ะ

http://www.cma.in.th/

www.cma.in.th ค่ะ



อ้างถึง
ข้อความของ seree_60 เมื่อ 11 สิงหาคม 2554, 11:50:03
อ้างถึง
ข้อความของ prapasri AH เมื่อ 11 สิงหาคม 2554, 10:21:37
อ๊ายหยา น้องตะวัน ตามมาทวงหนี้พี่ลืมไปเเล้ว่าพี่ค้างเรื่องอะไร

น้องตะวันอาจจะคิดว่าไม่สำคัญก็ได้ ธรรมดาๆๆสำหรับบางคนเเต่อาจจะธรรมดากับคนที่ละกิเลสเเล้ว

เเต่อาจจะสำคัญกับพี่ค่ะ  ซึ่งยังไม่ละกิเลสอิๆๆๆๆ ชักไม่อยากเล่าที่นี่อายค่ะเพราะธรรรมด๊าๆๆเด่วคนอื่นหมั่นไส้


ขอเล่าเรื่องที่อังกฤษนิดหนึ่งนะ

ลูกยังอยู่ที่โน่นเพราะรอ ใบตอบรับจากมหาวิทยาลัยต่างๆที่ลูกเลือกไปเพื่อต่อโทที่โน่น

ลูกบอกว่า น่ากลัวมาก เป็นพวกเด็กเเว๊น

ทีมาทำการจลาจล ยังมาไม่ถึง leeds เเต่มาถึง  liverpool   เเละเเมนเชสเตอร์แล้ว ค่ะ

เเต่เขาจะไม่ทำร้าย ประชาชนทั่วไป ยกเว้นเราซวยไปเจอลูกหลง

เขาจะปล้นร้านค้า อย่าง ร้านเเบรนด์ เนม ต่างๆ ค่ะ

อ้างถึง
ข้อความของ seree_60 เมื่อ 09 สิงหาคม 2554, 09:52:21
ตามมาทวงหนี้
มีพี่คนหนึ่งที่ชื่อ แอ๊ะ บอกว่ารักน้องตะวันที่ซู้ดเ้ลย
และบอกว่า อาทิตย์ไหนแล้วไม่รู้ พี่ที่แอ๊ะ มีความสุขที่ซู้ดเลย
แต่ยังไม่ยอมบอก
ถ้าแน่นอนแล้ว จาบอกน้องตะซันที่รักที่ซู้ด เป็นคนแรก

น้องตะวัน คนซื่อ ก็เฝ้ารอ คอยคำตอบนั้น แต่พี่ที่ชือ่แอ๊ะ คงหลงลืม วาจา ที่ลั่นไว้เป็นแม่นมั่น
เลยต้องลุกมาทวงสัญญา...

ฝากทวงผ่านไปยังพี่ที่ชื่อแอ๊ะด้วยนะขอรับ


หลักฐานของคนปากหวานขี้จุ๊...

prapasri AH
Cmadong พันธุ์แท้
****


ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 3,138


ดูรายละเอียด เว็บไซต์ อีเมล์ ข้อความส่วนตัว (ออฟไลน์)
   
   
Re: RCU15 บุกเขาใหญ่
« ตอบ #56 เมื่อ: 01 สิงหาคม 2554, 22:06:56 »
   ตอบโดยอ้างถึงข้อความอ้างถึง
อิๆ ๆๆๆ

วันนี้ ตอนเย็นได้รับข่าวดี เป็นวันที่พี่เเอ๊ะมีความสุขมาก ค่ะ

อีกสักอาทิตย์เเล้วจะเฉลยว่าสุขเพราะอะไร ค่ะ

แล้วจะเล่าให้น้องตะวันทราบเป็นคนเเรก

 โปรดอดใจรอ ด้วยความระทึกโดยพลัน


หัวข้อ: Re: [2513] "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: เหยง 16 ที่ 12 สิงหาคม 2554, 07:41:28
สวัสดีพี่แอีะ ในวันที่ 12 สิงหา วันแม่


http://www.youtube.com/watch?v=6I1zCyqugZ0
http://www.youtube.com/watch?v=6I1zCyqugZ0&feature=related

http://www.youtube.com/watch?v=gsY0PgmDKYc
http://www.youtube.com/watch?v=gsY0PgmDKYc&feature=related


หัวข้อ: Re: [2513] "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: seree_60 ที่ 12 สิงหาคม 2554, 20:08:13
อ้างถึง
ข้อความของ prapasri AH เมื่อ 12 สิงหาคม 2554, 06:30:16
พี่เเอ๊ะไม่หลอกหรอกค่ะ คำไหนคำนั้น วันนี้ฤกษ์ดี มีเวลา เลยให้น้อง ตะวันเข้าไปในเวบ นี้นะคะ

แล้วพี่เเอ๊ะจะได้นำ ความรู้เกี่ยวกับตลาดทุน ตลาดเงิน มาเล่าให้น้องฟังในห้องนี้จะได้เรียนรู้ไปพร้อมๆกัน

เเต้ต้องบอกว่า หากมีเวลา นะคะ

เด่วจะหาว่า พูดไม่จริง น้องตะวันตามทวง หนี้ (รัก)อีก

เชิญเข้าเวบ นี้นะคะ  เข้าเวบนี้ง่ายเเต่เข้าโรงเรียนนี้ยากมากค่ะ เขาต้องเชิญเข้าไปค่ะ

http://www.cma.in.th/

www.cma.in.th ค่ะ



อ้างถึง
ข้อความของ seree_60 เมื่อ 11 สิงหาคม 2554, 11:50:03
อ้างถึง
ข้อความของ prapasri AH เมื่อ 11 สิงหาคม 2554, 10:21:37
อ๊ายหยา น้องตะวัน ตามมาทวงหนี้พี่ลืมไปเเล้ว่าพี่ค้างเรื่องอะไร

น้องตะวันอาจจะคิดว่าไม่สำคัญก็ได้ ธรรมดาๆๆสำหรับบางคนเเต่อาจจะธรรมดากับคนที่ละกิเลสเเล้ว

เเต่อาจจะสำคัญกับพี่ค่ะ  ซึ่งยังไม่ละกิเลสอิๆๆๆๆ ชักไม่อยากเล่าที่นี่อายค่ะเพราะธรรรมด๊าๆๆเด่วคนอื่นหมั่นไส้


ขอเล่าเรื่องที่อังกฤษนิดหนึ่งนะ

ลูกยังอยู่ที่โน่นเพราะรอ ใบตอบรับจากมหาวิทยาลัยต่างๆที่ลูกเลือกไปเพื่อต่อโทที่โน่น

ลูกบอกว่า น่ากลัวมาก เป็นพวกเด็กเเว๊น

ทีมาทำการจลาจล ยังมาไม่ถึง leeds เเต่มาถึง  liverpool   เเละเเมนเชสเตอร์แล้ว ค่ะ

เเต่เขาจะไม่ทำร้าย ประชาชนทั่วไป ยกเว้นเราซวยไปเจอลูกหลง

เขาจะปล้นร้านค้า อย่าง ร้านเเบรนด์ เนม ต่างๆ ค่ะ

อ้างถึง
ข้อความของ seree_60 เมื่อ 09 สิงหาคม 2554, 09:52:21
ตามมาทวงหนี้
มีพี่คนหนึ่งที่ชื่อ แอ๊ะ บอกว่ารักน้องตะวันที่ซู้ดเ้ลย
และบอกว่า อาทิตย์ไหนแล้วไม่รู้ พี่ที่แอ๊ะ มีความสุขที่ซู้ดเลย
แต่ยังไม่ยอมบอก
ถ้าแน่นอนแล้ว จาบอกน้องตะซันที่รักที่ซู้ด เป็นคนแรก

น้องตะวัน คนซื่อ ก็เฝ้ารอ คอยคำตอบนั้น แต่พี่ที่ชือ่แอ๊ะ คงหลงลืม วาจา ที่ลั่นไว้เป็นแม่นมั่น
เลยต้องลุกมาทวงสัญญา...

ฝากทวงผ่านไปยังพี่ที่ชื่อแอ๊ะด้วยนะขอรับ


หลักฐานของคนปากหวานขี้จุ๊...

prapasri AH
Cmadong พันธุ์แท้
****


ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 3,138


ดูรายละเอียด เว็บไซต์ อีเมล์ ข้อความส่วนตัว (ออฟไลน์)
   
   
Re: RCU15 บุกเขาใหญ่
« ตอบ #56 เมื่อ: 01 สิงหาคม 2554, 22:06:56 »
   ตอบโดยอ้างถึงข้อความอ้างถึง
อิๆ ๆๆๆ

วันนี้ ตอนเย็นได้รับข่าวดี เป็นวันที่พี่เเอ๊ะมีความสุขมาก ค่ะ

อีกสักอาทิตย์เเล้วจะเฉลยว่าสุขเพราะอะไร ค่ะ

แล้วจะเล่าให้น้องตะวันทราบเป็นคนเเรก

 โปรดอดใจรอ ด้วยความระทึกโดยพลัน
พี่แอ๊ะลงทุนในตลาดหลักทรัพย์ ด้วยหรือเปล่า
หากพี่มี inside ตัวไหนเด็ด กระซิบให้ด้วยนะครับ หรือตัวไหนในทัศนะของพี่ที่ได้อบรมมาอย่างโชกโชน
ช่วยกระซิบบอกผ่านทาง email หรือ PM จะเป็นพระคุณอย่างสูง
ตอนนี้ไม่ค่อยกล้าเท่าไหร่ ยังแขยงฤทธฺ์ ปูดองอยู่ มันวิ่งกะโดด ขึ้นลง น่าเวียนหัว


หัวข้อ: Re: [2513] "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: prapasri AH ที่ 12 สิงหาคม 2554, 21:33:39
น้องตะวัน คะ

พี่เเอ๊ะไม่เคยซื้อหุ้นในตลาดเลยค่ะ เพราะกลัว พี่เเอ๊ะจะลงทุนเฉพาะการลงทุนที่ไม่เสี่ยงเท่านั้น

เช่น บ้านเเละ ทีดิน เพชรพลอย ทองคำ เป็นต้น เพราะพวกนี้มีเเต่ ขึ้นราคา ไม่มีทางขาดทุน

หวย ลอตเตอรี่ การเล่นการพนันไม่เล่นเลยค่ะ เพราะกลัวขาดทุน

เเต่เดิมพี่เเอ๊ะคิดว่าการซื้อหุ้นในตลาด เหมือนการเล่นการพนัน พี่เเอ๊ะไม่ชอบเพราะ กลัว ค่ะ

คนทั่วไปอาจจะคิดว่าท่าทางพี่เเอ๊ะนักเลง  ใจกล้าน่าจะต้องเล่นหุ้นในตลาด

เเต่ไม่เคยซื้อหุ้น เเละไม่สนใจเลยค่ะ

เเต่พอธุรกิจพี่เเอ๊ะโตมากขึ้นมา จนคิดว่าเราทำคนเดียวคงเหนื่อย

เเละหากลูกไม่เก่งไม่อดทนเหมือนเรา เขาจะทำอย่างไร

จึงคิดถึงการเป็นบริษัทมหาชน เเละสนใจที่จะนำเข้าตลาดหลักทรัพย์

เริ่มเเต่งตัวบริษัท มา 2 ปีได้เเล้วค่ะ คือเริ่มๆทำบัญชีให้ถูกต้อง

สำรวจทรัพย์สินตัวเอง เเละเรียนรู้บรรษัทภิบาล  หุ้น โรงพยาบาลต่างๆในตลาดเป็นที่ต้องการมาก

การเข้าเรียนที่นี่ก็เพือ่จะศึกษาว่าอย่างเราควรจะเข้าตลาดไหม หรือเราจะไปจับมือกับใครให้เราโตมากๆขึ้น

รุ่นที่เเล้ว คุณปู น้องสาวสุดรัก น้องตะวันเป็นประธานรุ่นนะคะ

 

อ้างถึง
ข้อความของ seree_60 เมื่อ 12 สิงหาคม 2554, 20:08:13
อ้างถึง
ข้อความของ prapasri AH เมื่อ 12 สิงหาคม 2554, 06:30:16
พี่เเอ๊ะไม่หลอกหรอกค่ะ คำไหนคำนั้น วันนี้ฤกษ์ดี มีเวลา เลยให้น้อง ตะวันเข้าไปในเวบ นี้นะคะ

แล้วพี่เเอ๊ะจะได้นำ ความรู้เกี่ยวกับตลาดทุน ตลาดเงิน มาเล่าให้น้องฟังในห้องนี้จะได้เรียนรู้ไปพร้อมๆกัน

เเต้ต้องบอกว่า หากมีเวลา นะคะ

เด่วจะหาว่า พูดไม่จริง น้องตะวันตามทวง หนี้ (รัก)อีก

เชิญเข้าเวบ นี้นะคะ  เข้าเวบนี้ง่ายเเต่เข้าโรงเรียนนี้ยากมากค่ะ เขาต้องเชิญเข้าไปค่ะ

http://www.cma.in.th/

www.cma.in.th ค่ะ



อ้างถึง
ข้อความของ seree_60 เมื่อ 11 สิงหาคม 2554, 11:50:03
อ้างถึง
ข้อความของ prapasri AH เมื่อ 11 สิงหาคม 2554, 10:21:37
อ๊ายหยา น้องตะวัน ตามมาทวงหนี้พี่ลืมไปเเล้ว่าพี่ค้างเรื่องอะไร

น้องตะวันอาจจะคิดว่าไม่สำคัญก็ได้ ธรรมดาๆๆสำหรับบางคนเเต่อาจจะธรรมดากับคนที่ละกิเลสเเล้ว

เเต่อาจจะสำคัญกับพี่ค่ะ  ซึ่งยังไม่ละกิเลสอิๆๆๆๆ ชักไม่อยากเล่าที่นี่อายค่ะเพราะธรรรมด๊าๆๆเด่วคนอื่นหมั่นไส้


ขอเล่าเรื่องที่อังกฤษนิดหนึ่งนะ

ลูกยังอยู่ที่โน่นเพราะรอ ใบตอบรับจากมหาวิทยาลัยต่างๆที่ลูกเลือกไปเพื่อต่อโทที่โน่น

ลูกบอกว่า น่ากลัวมาก เป็นพวกเด็กเเว๊น

ทีมาทำการจลาจล ยังมาไม่ถึง leeds เเต่มาถึง  liverpool   เเละเเมนเชสเตอร์แล้ว ค่ะ

เเต่เขาจะไม่ทำร้าย ประชาชนทั่วไป ยกเว้นเราซวยไปเจอลูกหลง

เขาจะปล้นร้านค้า อย่าง ร้านเเบรนด์ เนม ต่างๆ ค่ะ

อ้างถึง
ข้อความของ seree_60 เมื่อ 09 สิงหาคม 2554, 09:52:21
ตามมาทวงหนี้
มีพี่คนหนึ่งที่ชื่อ แอ๊ะ บอกว่ารักน้องตะวันที่ซู้ดเ้ลย
และบอกว่า อาทิตย์ไหนแล้วไม่รู้ พี่ที่แอ๊ะ มีความสุขที่ซู้ดเลย
แต่ยังไม่ยอมบอก
ถ้าแน่นอนแล้ว จาบอกน้องตะซันที่รักที่ซู้ด เป็นคนแรก

น้องตะวัน คนซื่อ ก็เฝ้ารอ คอยคำตอบนั้น แต่พี่ที่ชือ่แอ๊ะ คงหลงลืม วาจา ที่ลั่นไว้เป็นแม่นมั่น
เลยต้องลุกมาทวงสัญญา...

ฝากทวงผ่านไปยังพี่ที่ชื่อแอ๊ะด้วยนะขอรับ


หลักฐานของคนปากหวานขี้จุ๊...

prapasri AH
Cmadong พันธุ์แท้
****


ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 3,138


ดูรายละเอียด เว็บไซต์ อีเมล์ ข้อความส่วนตัว (ออฟไลน์)
   
   
Re: RCU15 บุกเขาใหญ่
« ตอบ #56 เมื่อ: 01 สิงหาคม 2554, 22:06:56 »
   ตอบโดยอ้างถึงข้อความอ้างถึง
อิๆ ๆๆๆ

วันนี้ ตอนเย็นได้รับข่าวดี เป็นวันที่พี่เเอ๊ะมีความสุขมาก ค่ะ

อีกสักอาทิตย์เเล้วจะเฉลยว่าสุขเพราะอะไร ค่ะ

แล้วจะเล่าให้น้องตะวันทราบเป็นคนเเรก

 โปรดอดใจรอ ด้วยความระทึกโดยพลัน
พี่แอ๊ะลงทุนในตลาดหลักทรัพย์ ด้วยหรือเปล่า
หากพี่มี inside ตัวไหนเด็ด กระซิบให้ด้วยนะครับ หรือตัวไหนในทัศนะของพี่ที่ได้อบรมมาอย่างโชกโชน
ช่วยกระซิบบอกผ่านทาง email หรือ PM จะเป็นพระคุณอย่างสูง
ตอนนี้ไม่ค่อยกล้าเท่าไหร่ ยังแขยงฤทธฺ์ ปูดองอยู่ มันวิ่งกะโดด ขึ้นลง น่าเวียนหัว


หัวข้อ: Re: [2513] "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: prapasri AH ที่ 12 สิงหาคม 2554, 21:45:06

  เเม่เเอ๊ะ ขอบคุณ  น้อง (ลูก ) เหยงคะ

เมื่อกี้ กระต๊อบโทรมาวันเเม่

ต๊อบเล่าว่าใน เเมนเชสเตอร์ ยัง มีจลาจล อยู่

ที่ลีดส์ มีน้อย เเต่ไปปล้นร้าน หลุยส์ (ของเเม่อิๆๆๆ) เเต่เขาเก็บสินค้าทัน มีเเต่กระจกถูกทุบ

มีเด็กจีนโดนทำร้าย เด็กเเว๊นท์ ทำท่าจะไปช่วย เเต่เข้ารุมปล้นต่อ

พี่เเอ๊ะเป็นห่วง ว่าในลอนดอน ที่แฮร์รอด (ของพี่เเอ๊ะ อิๆๆ) โดนไหม

ลูกบอกว่าไม่โดนเพราะที่ๆจลาจลเขาอยู่ ห่างกัน ค่ะ  ส่งรูปห้างเเฮรอด มาให้ดูนะคะ คิดว่าพวกเราคงไปกันมาเเล้วทั้งนั้น

ไปทีไรพี่เเอ๊ะเห็นคนไทยเดินกันเกร่อเลยค่ะ

(http://www.cmadong.com/imgup/pics/cmd862564_4898981_6894485_5255320photo.jpg)


อ้างถึง
ข้อความของ เหยง 16 เมื่อ 12 สิงหาคม 2554, 07:41:28
สวัสดีพี่แอีะ ในวันที่ 12 สิงหา วันแม่


http://www.youtube.com/watch?v=6I1zCyqugZ0
http://www.youtube.com/watch?v=6I1zCyqugZ0&feature=related

http://www.youtube.com/watch?v=gsY0PgmDKYc
http://www.youtube.com/watch?v=gsY0PgmDKYc&feature=related



หัวข้อ: Re: [2513] "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: prapasri AH ที่ 12 สิงหาคม 2554, 21:48:46
วันนี้ ที่ยโสธร พี่เเอ๊ะได้ไป จุดเทียนชัย ถวายพระพร พระราชินีค่ะ


(http://www.cmadong.com/imgup/pics/cmd926760_746578_6865491_4863766photo.jpg)


หัวข้อ: Re: [2513] "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: prapasri AH ที่ 12 สิงหาคม 2554, 21:50:01
(http://www.cmadong.com/imgup/pics/cmd660482_4921270_278222_3113928photo.jpg)

กับท่านอัยการจังหวัด ท่านรองผู้ว่าราชการจังหวัด ท่านหัวหน้าศาลเยาวชนและครอบครัวค่ะ


หัวข้อ: Re: [2513] "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: prapasri AH ที่ 12 สิงหาคม 2554, 21:52:35
(http://www.cmadong.com/imgup/pics/cmd880577_4287190_2462483_9222525photo.jpg)

กับ ครอบครัว ท่าน สส .ยโสธร หมาดๆ  เบอร 1 พรรคเพื่อไทยค่ะ

ภรรยาท่าน สวยมาก คล้าย ๆน้องปูของพี่ตะวันค่ะ


หัวข้อ: Re: [2513] "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: prapasri AH ที่ 12 สิงหาคม 2554, 21:56:12
(http://www.cmadong.com/imgup/pics/cmd737597_1420862_6981354_2855455photo.jpg)

กับท่านพาณิชย์ จ. ยโสธร เป็นสุภาพสตรี ค่ะ

เด่วนี้ เเสดง ว่า ผู้หญิงเริ่มนำหน้ามานานแล้วนะ


หัวข้อ: Re: [2513] "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: prapasri AH ที่ 14 สิงหาคม 2554, 09:21:39
น้องเอมอร น้องไข่มุก น้องหะยี เเละน้องๆที่ผ่านมา ไม่เห็นมาคุยพี่เเอ๊ะเลย


เด่วพี่เเอ๊ะหายไป นะ เพราะการเข้าเวบหอ ต้องนั่งหลังขดหลังเเข็งนา

เลยไม่มีหัวข้อสนทนา พูดอยู๋คนเดียวเด่วคนคิดว่าบ้า


หัวข้อ: Re: [2513] "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: seree_60 ที่ 14 สิงหาคม 2554, 16:07:43
อ้างถึง
ข้อความของ prapasri AH เมื่อ 12 สิงหาคม 2554, 21:33:39
น้องตะวัน คะ

พี่เเอ๊ะไม่เคยซื้อหุ้นในตลาดเลยค่ะ เพราะกลัว พี่เเอ๊ะจะลงทุนเฉพาะการลงทุนที่ไม่เสี่ยงเท่านั้น

เช่น บ้านเเละ ทีดิน เพชรพลอย ทองคำ เป็นต้น เพราะพวกนี้มีเเต่ ขึ้นราคา ไม่มีทางขาดทุน

หวย ลอตเตอรี่ การเล่นการพนันไม่เล่นเลยค่ะ เพราะกลัวขาดทุน

เเต่เดิมพี่เเอ๊ะคิดว่าการซื้อหุ้นในตลาด เหมือนการเล่นการพนัน พี่เเอ๊ะไม่ชอบเพราะ กลัว ค่ะ

คนทั่วไปอาจจะคิดว่าท่าทางพี่เเอ๊ะนักเลง  ใจกล้าน่าจะต้องเล่นหุ้นในตลาด

เเต่ไม่เคยซื้อหุ้น เเละไม่สนใจเลยค่ะ

เเต่พอธุรกิจพี่เเอ๊ะโตมากขึ้นมา จนคิดว่าเราทำคนเดียวคงเหนื่อย

เเละหากลูกไม่เก่งไม่อดทนเหมือนเรา เขาจะทำอย่างไร

จึงคิดถึงการเป็นบริษัทมหาชน เเละสนใจที่จะนำเข้าตลาดหลักทรัพย์

เริ่มเเต่งตัวบริษัท มา 2 ปีได้เเล้วค่ะ คือเริ่มๆทำบัญชีให้ถูกต้อง

สำรวจทรัพย์สินตัวเอง เเละเรียนรู้บรรษัทภิบาล  หุ้น โรงพยาบาลต่างๆในตลาดเป็นที่ต้องการมาก

การเข้าเรียนที่นี่ก็เพือ่จะศึกษาว่าอย่างเราควรจะเข้าตลาดไหม หรือเราจะไปจับมือกับใครให้เราโตมากๆขึ้น

รุ่นที่เเล้ว คุณปู น้องสาวสุดรัก น้องตะวันเป็นประธานรุ่นนะคะ

 

อ้างถึง
ข้อความของ seree_60 เมื่อ 12 สิงหาคม 2554, 20:08:13
อ้างถึง
ข้อความของ prapasri AH เมื่อ 12 สิงหาคม 2554, 06:30:16
พี่เเอ๊ะไม่หลอกหรอกค่ะ คำไหนคำนั้น วันนี้ฤกษ์ดี มีเวลา เลยให้น้อง ตะวันเข้าไปในเวบ นี้นะคะ

แล้วพี่เเอ๊ะจะได้นำ ความรู้เกี่ยวกับตลาดทุน ตลาดเงิน มาเล่าให้น้องฟังในห้องนี้จะได้เรียนรู้ไปพร้อมๆกัน

เเต้ต้องบอกว่า หากมีเวลา นะคะ

เด่วจะหาว่า พูดไม่จริง น้องตะวันตามทวง หนี้ (รัก)อีก

เชิญเข้าเวบ นี้นะคะ  เข้าเวบนี้ง่ายเเต่เข้าโรงเรียนนี้ยากมากค่ะ เขาต้องเชิญเข้าไปค่ะ

http://www.cma.in.th/

www.cma.in.th ค่ะ



อ้างถึง
ข้อความของ seree_60 เมื่อ 11 สิงหาคม 2554, 11:50:03
อ้างถึง
ข้อความของ prapasri AH เมื่อ 11 สิงหาคม 2554, 10:21:37
อ๊ายหยา น้องตะวัน ตามมาทวงหนี้พี่ลืมไปเเล้ว่าพี่ค้างเรื่องอะไร

น้องตะวันอาจจะคิดว่าไม่สำคัญก็ได้ ธรรมดาๆๆสำหรับบางคนเเต่อาจจะธรรมดากับคนที่ละกิเลสเเล้ว

เเต่อาจจะสำคัญกับพี่ค่ะ  ซึ่งยังไม่ละกิเลสอิๆๆๆๆ ชักไม่อยากเล่าที่นี่อายค่ะเพราะธรรรมด๊าๆๆเด่วคนอื่นหมั่นไส้


ขอเล่าเรื่องที่อังกฤษนิดหนึ่งนะ

ลูกยังอยู่ที่โน่นเพราะรอ ใบตอบรับจากมหาวิทยาลัยต่างๆที่ลูกเลือกไปเพื่อต่อโทที่โน่น

ลูกบอกว่า น่ากลัวมาก เป็นพวกเด็กเเว๊น

ทีมาทำการจลาจล ยังมาไม่ถึง leeds เเต่มาถึง  liverpool   เเละเเมนเชสเตอร์แล้ว ค่ะ

เเต่เขาจะไม่ทำร้าย ประชาชนทั่วไป ยกเว้นเราซวยไปเจอลูกหลง

เขาจะปล้นร้านค้า อย่าง ร้านเเบรนด์ เนม ต่างๆ ค่ะ

อ้างถึง
ข้อความของ seree_60 เมื่อ 09 สิงหาคม 2554, 09:52:21
ตามมาทวงหนี้
มีพี่คนหนึ่งที่ชื่อ แอ๊ะ บอกว่ารักน้องตะวันที่ซู้ดเ้ลย
และบอกว่า อาทิตย์ไหนแล้วไม่รู้ พี่ที่แอ๊ะ มีความสุขที่ซู้ดเลย
แต่ยังไม่ยอมบอก
ถ้าแน่นอนแล้ว จาบอกน้องตะซันที่รักที่ซู้ด เป็นคนแรก

น้องตะวัน คนซื่อ ก็เฝ้ารอ คอยคำตอบนั้น แต่พี่ที่ชือ่แอ๊ะ คงหลงลืม วาจา ที่ลั่นไว้เป็นแม่นมั่น
เลยต้องลุกมาทวงสัญญา...

ฝากทวงผ่านไปยังพี่ที่ชื่อแอ๊ะด้วยนะขอรับ


หลักฐานของคนปากหวานขี้จุ๊...

prapasri AH
Cmadong พันธุ์แท้
****


ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 3,138


ดูรายละเอียด เว็บไซต์ อีเมล์ ข้อความส่วนตัว (ออฟไลน์)
   
   
Re: RCU15 บุกเขาใหญ่
« ตอบ #56 เมื่อ: 01 สิงหาคม 2554, 22:06:56 »
   ตอบโดยอ้างถึงข้อความอ้างถึง
อิๆ ๆๆๆ

วันนี้ ตอนเย็นได้รับข่าวดี เป็นวันที่พี่เเอ๊ะมีความสุขมาก ค่ะ

อีกสักอาทิตย์เเล้วจะเฉลยว่าสุขเพราะอะไร ค่ะ

แล้วจะเล่าให้น้องตะวันทราบเป็นคนเเรก

 โปรดอดใจรอ ด้วยความระทึกโดยพลัน
พี่แอ๊ะลงทุนในตลาดหลักทรัพย์ ด้วยหรือเปล่า
หากพี่มี inside ตัวไหนเด็ด กระซิบให้ด้วยนะครับ หรือตัวไหนในทัศนะของพี่ที่ได้อบรมมาอย่างโชกโชน
ช่วยกระซิบบอกผ่านทาง email หรือ PM จะเป็นพระคุณอย่างสูง
ตอนนี้ไม่ค่อยกล้าเท่าไหร่ ยังแขยงฤทธฺ์ ปูดองอยู่ มันวิ่งกะโดด ขึ้นลง น่าเวียนหัว
กลุ้มใจจัง มีพี่ใจดี คอยยกเมียชาวบ้านให้เรื่อยเลย
อย่างนี้ผมก็ต้องเป็นสุภาพบุรุษ ลำดับที่ 2 รองจาก นาย..สอน..นะครับ


หัวข้อ: Re: [2513] "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: prapasri AH ที่ 14 สิงหาคม 2554, 16:35:06
ขอบคุณน้องตะวันที่เเวะมาเยี่ยม

 พี่เเอ๊ะ ยกให้เป็นน้องสาวต่างหาก อย่าเข้าผิด ดิ

ไม่ใช่ยกให้เป็นพันยา นะจ๊ะ เขามีของเขาเเล้วค่า

วันนี้พี่เเอ๊ะทำงานกับคอมทั้งวันเลยปวดต้นคอมาก

 ต้องให้แพทย์แผนไทยมากดไหล่ให้ขณะนั่งพิมพ์คอมนี้

เเล้วก็เเวะมา ห้องพี่เเอ๊ะ ว่าใครจะมาเยี่ยมมาคุยบ้าง

จะได้คุยตอบ ไม่ใช่ปล่อยให้คุยอยู่คนเดียวอิๆๆๆๆๆ


หัวข้อ: Re: [2513] "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: อ้อย 14 ที่ 14 สิงหาคม 2554, 17:28:52


ยังไม่ใช้ไอแพดอีกหรือคะ... emo47


หัวข้อ: Re: [2513] "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: เหยง 16 ที่ 14 สิงหาคม 2554, 18:07:36
อ้างถึง
ข้อความของ prapasri AH เมื่อ 14 สิงหาคม 2554, 16:35:06
ขอบคุณน้องตะวันที่เเวะมาเยี่ยม

 พี่เเอ๊ะ ยกให้เป็นน้องสาวต่างหาก อย่าเข้าผิด ดิ

ไม่ใช่ยกให้เป็นพันยา นะจ๊ะ เขามีของเขาเเล้วค่า

วันนี้พี่เเอ๊ะทำงานกับคอมทั้งวันเลยปวดต้นคอมาก

 ต้องให้แพทย์แผนไทยมากดไหล่ให้ขณะนั่งพิมพ์คอมนี้

เเล้วก็เเวะมา ห้องพี่เเอ๊ะ ว่าใครจะมาเยี่ยมมาคุยบ้าง

จะได้คุยตอบ ไม่ใช่ปล่อยให้คุยอยู่คนเดียวอิๆๆๆๆๆ


อ้างถึง
ข้อความของ prapasri AH เมื่อ 14 สิงหาคม 2554, 09:21:39
น้องเอมอร น้องไข่มุก น้องหะยี เเละน้องๆที่ผ่านมา ไม่เห็นมาคุยพี่เเอ๊ะเลย


เด่วพี่เเอ๊ะหายไป นะ เพราะการเข้าเวบหอ ต้องนั่งหลังขดหลังเเข็งนา

เลยไม่มีหัวข้อสนทนา พูดอยู๋คนเดียวเด่วคนคิดว่าบ้า


สวัสดีครับ

เข้ามาเมื่อเช้าครั้งหนึ้งแล้วครับ
อ่านผ่านอย่างเดียว ขณะไหว้เจ้าวันสาร์ทจีน จึงไม่ได้ทักทายครับ


หัวข้อ: Re: [2513] "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: prapasri AH ที่ 14 สิงหาคม 2554, 21:15:47
ยังไม่ได้ฝึกใช้ ipad เลย อีหนูเอ๊ย

คืนนี้ถ้าไม่ง่วง ซะก่อนจะ นอนฝึก ไอเเพดค่ะ

เดี๋ยวนี้พี่เเอ๊ะหลับง่ายมาก หลังจากทาน dr.hann sb

อีหนูทานเเล้วเป็นไงบ้างคะ

อ้างถึง
ข้อความของ อ้อย 14 เมื่อ 14 สิงหาคม 2554, 17:28:52


ยังไม่ใช้ไอแพดอีกหรือคะ... emo47


หัวข้อ: Re: [2513] "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: prapasri AH ที่ 14 สิงหาคม 2554, 21:17:34


ขอบคุณ เหยง อย่าให้พี่เเอ๊ะเหงานะคะ หากเหงาอาจจะต้องไปทะเลาะกะคุณตะวันเเดง อิๆๆๆๆๆ
 ผู้เเรงฤทธิ์ เเหะๆๆๆ


อ้างถึง
ข้อความของ เหยง 16 เมื่อ 14 สิงหาคม 2554, 18:07:36
อ้างถึง
ข้อความของ prapasri AH เมื่อ 14 สิงหาคม 2554, 16:35:06
ขอบคุณน้องตะวันที่เเวะมาเยี่ยม

 พี่เเอ๊ะ ยกให้เป็นน้องสาวต่างหาก อย่าเข้าผิด ดิ

ไม่ใช่ยกให้เป็นพันยา นะจ๊ะ เขามีของเขาเเล้วค่า

วันนี้พี่เเอ๊ะทำงานกับคอมทั้งวันเลยปวดต้นคอมาก

 ต้องให้แพทย์แผนไทยมากดไหล่ให้ขณะนั่งพิมพ์คอมนี้

เเล้วก็เเวะมา ห้องพี่เเอ๊ะ ว่าใครจะมาเยี่ยมมาคุยบ้าง

จะได้คุยตอบ ไม่ใช่ปล่อยให้คุยอยู่คนเดียวอิๆๆๆๆๆ


อ้างถึง
ข้อความของ prapasri AH เมื่อ 14 สิงหาคม 2554, 09:21:39
น้องเอมอร น้องไข่มุก น้องหะยี เเละน้องๆที่ผ่านมา ไม่เห็นมาคุยพี่เเอ๊ะเลย


เด่วพี่เเอ๊ะหายไป นะ เพราะการเข้าเวบหอ ต้องนั่งหลังขดหลังเเข็งนา

เลยไม่มีหัวข้อสนทนา พูดอยู๋คนเดียวเด่วคนคิดว่าบ้า


สวัสดีครับ

เข้ามาเมื่อเช้าครั้งหนึ้งแล้วครับ
อ่านผ่านอย่างเดียว ขณะไหว้เจ้าวันสาร์ทจีน จึงไม่ได้ทักทายครับ



หัวข้อ: Re: [2513] "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: seree_60 ที่ 14 สิงหาคม 2554, 22:40:59
อ้างถึง
ข้อความของ prapasri AH เมื่อ 14 สิงหาคม 2554, 21:17:34


ขอบคุณ เหยง อย่าให้พี่เเอ๊ะเหงานะคะ หากเหงาอาจจะต้องไปทะเลาะกะคุณตะวันเเดง อิๆๆๆๆๆ
 ผู้เเรงฤทธิ์ เเหะๆๆๆ


อ้างถึง
ข้อความของ เหยง 16 เมื่อ 14 สิงหาคม 2554, 18:07:36
อ้างถึง
ข้อความของ prapasri AH เมื่อ 14 สิงหาคม 2554, 16:35:06
ขอบคุณน้องตะวันที่เเวะมาเยี่ยม

 พี่เเอ๊ะ ยกให้เป็นน้องสาวต่างหาก อย่าเข้าผิด ดิ

ไม่ใช่ยกให้เป็นพันยา นะจ๊ะ เขามีของเขาเเล้วค่า

วันนี้พี่เเอ๊ะทำงานกับคอมทั้งวันเลยปวดต้นคอมาก

 ต้องให้แพทย์แผนไทยมากดไหล่ให้ขณะนั่งพิมพ์คอมนี้

เเล้วก็เเวะมา ห้องพี่เเอ๊ะ ว่าใครจะมาเยี่ยมมาคุยบ้าง

จะได้คุยตอบ ไม่ใช่ปล่อยให้คุยอยู่คนเดียวอิๆๆๆๆๆ


อ้างถึง
ข้อความของ prapasri AH เมื่อ 14 สิงหาคม 2554, 09:21:39
น้องเอมอร น้องไข่มุก น้องหะยี เเละน้องๆที่ผ่านมา ไม่เห็นมาคุยพี่เเอ๊ะเลย


เด่วพี่เเอ๊ะหายไป นะ เพราะการเข้าเวบหอ ต้องนั่งหลังขดหลังเเข็งนา

เลยไม่มีหัวข้อสนทนา พูดอยู๋คนเดียวเด่วคนคิดว่าบ้า


สวัสดีครับ

เข้ามาเมื่อเช้าครั้งหนึ้งแล้วครับ
อ่านผ่านอย่างเดียว ขณะไหว้เจ้าวันสาร์ทจีน จึงไม่ได้ทักทายครับ

[/color]เปล่าทะเลาะกันนะครับ..เขาเรียก การแลกเปลี่่ยนความคิดเห็น คนละมุมมอง....55555
อ้อ พี่แอ๊ะ..ผมอ่านข่าวแว่วว่า คุณหนู สิด สุดรักของพี่แอ๊ะ ยังถูกโทร ข่มมขู่คุกคามอยู่
พี่คงต้องไปปลอบขวัญแล้วนะครับ...เดี๋ยวคุณหนู ปสด.....[/color]


หัวข้อ: Re: [2513] "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: prapasri AH ที่ 14 สิงหาคม 2554, 22:49:38

ใครหาญกล้าโทรไปขู่ ลูกชายเเม่ยก นะ

เเม่ยกต้องไปปลอบซะเเล้ว

น่าจะโทรขู่น้องเสรีซะมากกว่า 555555

ขอไปนอนก่อนนะ ปวดไหล่จนใจจะขาดเเล้วค่ะ

อ้างถึง
ข้อความของ seree_60 เมื่อ 14 สิงหาคม 2554, 22:40:59
อ้างถึง
ข้อความของ prapasri AH เมื่อ 14 สิงหาคม 2554, 21:17:34


ขอบคุณ เหยง อย่าให้พี่เเอ๊ะเหงานะคะ หากเหงาอาจจะต้องไปทะเลาะกะคุณตะวันเเดง อิๆๆๆๆๆ
 ผู้เเรงฤทธิ์ เเหะๆๆๆ


อ้างถึง
ข้อความของ เหยง 16 เมื่อ 14 สิงหาคม 2554, 18:07:36
อ้างถึง
ข้อความของ prapasri AH เมื่อ 14 สิงหาคม 2554, 16:35:06
ขอบคุณน้องตะวันที่เเวะมาเยี่ยม

 พี่เเอ๊ะ ยกให้เป็นน้องสาวต่างหาก อย่าเข้าผิด ดิ

ไม่ใช่ยกให้เป็นพันยา นะจ๊ะ เขามีของเขาเเล้วค่า

วันนี้พี่เเอ๊ะทำงานกับคอมทั้งวันเลยปวดต้นคอมาก

 ต้องให้แพทย์แผนไทยมากดไหล่ให้ขณะนั่งพิมพ์คอมนี้

เเล้วก็เเวะมา ห้องพี่เเอ๊ะ ว่าใครจะมาเยี่ยมมาคุยบ้าง

จะได้คุยตอบ ไม่ใช่ปล่อยให้คุยอยู่คนเดียวอิๆๆๆๆๆ


อ้างถึง
ข้อความของ prapasri AH เมื่อ 14 สิงหาคม 2554, 09:21:39
น้องเอมอร น้องไข่มุก น้องหะยี เเละน้องๆที่ผ่านมา ไม่เห็นมาคุยพี่เเอ๊ะเลย


เด่วพี่เเอ๊ะหายไป นะ เพราะการเข้าเวบหอ ต้องนั่งหลังขดหลังเเข็งนา

เลยไม่มีหัวข้อสนทนา พูดอยู๋คนเดียวเด่วคนคิดว่าบ้า


สวัสดีครับ

เข้ามาเมื่อเช้าครั้งหนึ้งแล้วครับ
อ่านผ่านอย่างเดียว ขณะไหว้เจ้าวันสาร์ทจีน จึงไม่ได้ทักทายครับ

[/color]เปล่าทะเลาะกันนะครับ..เขาเรียก การแลกเปลี่่ยนความคิดเห็น คนละมุมมอง....55555
อ้อ พี่แอ๊ะ..ผมอ่านข่าวแว่วว่า คุณหนู สิด สุดรักของพี่แอ๊ะ ยังถูกโทร ข่มมขู่คุกคามอยู่
พี่คงต้องไปปลอบขวัญแล้วนะครับ...เดี๋ยวคุณหนู ปสด.....[/color]


หัวข้อ: Re: [2513] "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: prapasri AH ที่ 14 สิงหาคม 2554, 22:51:05

ปล.ลูกแม่ยก เข้มเเข็งสุขุม ไม่ ปสด. เเน่นอน ค่ะ


หัวข้อ: Re: [2513] "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: หนุน'21 ที่ 14 สิงหาคม 2554, 22:59:45
เข้ามาสวัสดีพี่แอ๊ะรอบดึกครับ
ตามชมกิจกรรมวันแม่ของพี่แอ๊ะซะเพลินเลยครับ


 emo4:))


หัวข้อ: Re: [2513] "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: prapasri AH ที่ 15 สิงหาคม 2554, 09:27:08
ขอบคุณน้องหนุน เข้ามาบ่อยๆนะคะ พี่เเอ๊ะนั่งทำงานทั้งวันเเล้วก็เเวะมาเวบหอเป็นประจำ

หากมีคนมาคุยน้อยพี่เเอ๊ะก็พูดอยู่คนเดียวไม่หนุก

ที่สำคัญต้องถกเเถลงกันคุณชายเสรี ตะวันเเดง ด้วย จะได้ไม่เเพ้อิๆๆๆๆ

อ้างถึง
ข้อความของ หนุน'21 เมื่อ 14 สิงหาคม 2554, 22:59:45
เข้ามาสวัสดีพี่แอ๊ะรอบดึกครับ
ตามชมกิจกรรมวันแม่ของพี่แอ๊ะซะเพลินเลยครับ


 emo4:))


หัวข้อ: Re: [2513] "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: prapasri AH ที่ 15 สิงหาคม 2554, 10:10:12
อ้อย 14 วันนี้พี่เเอ๊ะจะ ฝึกใช้ ipad

เเล้ว ทำไงดีกับ บีบี และ iphone ล่ะ

หากชำนาญ ipad 1 เเล้วคงต้องไปใช้ ipad2  เหมือนอ้อย อีก

กลายเป็นมี 4 เครื่อง

ใกล้ๆจะเป็นเฮียตั๊ก ของน้องตะวันเเดง ข่าวว่าท่านมี โทรศัพท์ ถึง 10เครือง

 มี การโทรเข้าโทรออก ทั้งวันทั้งคืน


หัวข้อ: Re: [2513] "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: prapasri AH ที่ 15 สิงหาคม 2554, 10:21:13
อ้้อย14test testตอนนี พี่แอะลองใช้ iPad ตามคำสั่ง อ้อย แล้วค่ะ แต่เสียเวลาพอสมควร เเตต้องทำตามคำสั่งของเจ้าเเม่ขอนแก่น


หัวข้อ: Re: [2513] "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: อ้อย 14 ที่ 15 สิงหาคม 2554, 11:13:22
สวัสดีค่ะพี่แอ๊ะ

                     พี่แอ๊ะหัดใช้ไอแพดด้วยการหัดพิมพ์เสียก่อน  และใช้เปิดเมล์  อ่านและตอบ  และใช้การเขียนบันทึกซึ่งส่งเป็นเมล์ได้ด้วยส่วน ไอโฟนก็เอาไว้รับโทรศัพท์  บีบี นั้นพี่ต้องเพ่งสายตา ไม่เหมาะสำหรับวัยเราเลย  พี่ต้องถนอมสายตาเอาไว้ดูราคาทองคำและดูหน้าหล่อๆของพี่หาญดีกว่า...สิ่งที่สำคัญมากในวัยของเราคือ สายตาค่ะ และอาการปวดหลังปวดไหล่  ไม่สนุกหรอกค่ะ....

                   เอาไว้ เจอกันที่กทม.  หรือ ยโสธร  อ้อยจะสอนเทคนิคใช้ง่ายๆให้พี่แอ๊ะ  มีไอแพด 1 ก็พอแล้ว ไอแพด 2 เอามาทำไมคะ พี่จะถ่ายรูปด้วยไอแพดหรือ ถ่ายด้วยไอโฟนก็เริ่ดมากแล้ว  emo43 


หัวข้อ: Re: [2513] "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: prapasri AH ที่ 15 สิงหาคม 2554, 20:43:42

รับทราบเเละเชื่อฟังเจ้าค่ะ
อ้างจาก: อ้อย 14

link=topic=3396.msg494394#msg494394 date=1313381602
สวัสดีค่ะพี่แอ๊ะ

                     พี่แอ๊ะหัดใช้ไอแพดด้วยการหัดพิมพ์เสียก่อน  และใช้เปิดเมล์  อ่านและตอบ  และใช้การเขียนบันทึกซึ่งส่งเป็นเมล์ได้ด้วยส่วน ไอโฟนก็เอาไว้รับโทรศัพท์  บีบี นั้นพี่ต้องเพ่งสายตา ไม่เหมาะสำหรับวัยเราเลย  พี่ต้องถนอมสายตาเอาไว้ดูราคาทองคำและดูหน้าหล่อๆของพี่หาญดีกว่า...สิ่งที่สำคัญมากในวัยของเราคือ สายตาค่ะ และอาการปวดหลังปวดไหล่  ไม่สนุกหรอกค่ะ....

                   เอาไว้ เจอกันที่กทม.  หรือ ยโสธร  อ้อยจะสอนเทคนิคใช้ง่ายๆให้พี่แอ๊ะ  มีไอแพด 1 ก็พอแล้ว ไอแพด 2 เอามาทำไมคะ พี่จะถ่ายรูปด้วยไอแพดหรือ ถ่ายด้วยไอโฟนก็เริ่ดมากแล้ว  emo43 


หัวข้อ: Re: [2513] "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: เหยง 16 ที่ 16 สิงหาคม 2554, 07:35:03
สวัสดีในเช้าวันอังคารครับ พี่แอีะ พี่อ้อย พี่ตะวัน หนุน และทุกๆคนครับ

วันนี้ฝนจะตกแทบทุกภาคของประเทศกว่าร้อยละ 60-80 ของพื้นที่
ผู้ที่อยู่ใกล้ทางน้ำ ชายเขามีโอกาสเสี่ยงสูง ปีนี้น้ำมาเร็วกว่าปีที่แล้วถึง 2 เดือน
เห็นว่ามุกดาหาร อุบลฯ จมน้ำไปพอสมควรแล้ว ทั้งที่ปีก่อนจมน้ำช่วงลอยกระทง ??


หัวข้อ: Re: [2513] "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: prapasri AH ที่ 16 สิงหาคม 2554, 20:59:59
วันนี้กรมอุตุนิยมวิทยา เหยง 16 รายงานว่านำขึ้นเต็มที่ที่สะพานพุทธยอดฟ้า เวลา.....

ทียโสธร ฝนตกหนักครับ

คุณประภาศรี ไปดัดผม กลับมา เปียกมะลอกมะเเลก


หัวข้อ: Re: [2513] "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: เหยง 16 ที่ 17 สิงหาคม 2554, 08:46:46
พี่แอ๊ะครับ

วันนี้อุตุนิยมฯ บอกว่า ประเทศไทยมีฝนตกฟ้าคะนอง ร้อยละ 80 ของพื้นที่
ห้ามใส่ทอง เครื่องเพชร ห้ามใช้มือถือ เดินโชว์ชาวบ้านในขณะมีฝนฟ้าคะนอง อาจถูกฟ้าผ่าหรืแถูกชิงทรัพย์ก็ได้ ?? !!!


 emo19:((: emo19:((:                                                                                                                                 emo20:)):) emo20:)):)


หัวข้อ: Re: [2513] "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: prapasri AH ที่ 17 สิงหาคม 2554, 09:43:04

วันนี้อากาศที่ยโสธร   หลังจาก ที่ฝนตกหนักเมื่อวาน  วันนี้ ท้องฟ้าเเจ่มใส อากาศดีมาก ลมพัดเย็นๆ

เมื่อคืน พี่เเอ๊ะกับพี่หาญนอนดึกมาก เพราะ ค้นบ้านกัน คือว่า พระสมเด็จวัดระฆัง ของพี่เเอ๊ะหายไป

ท่านมาอยู่ให้พี่เเอ๊ะได้มนัสการ ประมาณ 1เดือน อธิษฐาน ขอเรื่องสำคัญได้สองเรื่อง และได้จริงๆ

เเล้วท่านก็จากพี่เเอ๊ะไป (เเงๆ) ท่านคงไม่อยากอยู่กับพี่เเอ๊ะ เสียดายมาก

ว่างๆจะมาเล่าให้ฟังว่าท่านมาได้อย่างไร


หัวข้อ: Re: [2513] "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: เหยง 16 ที่ 17 สิงหาคม 2554, 11:03:33
พี่แอ๊ะ

ขอให้เจอครับ

 emo43  emo49:))



หัวข้อ: Re: [2513] "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: เหยง 16 ที่ 17 สิงหาคม 2554, 11:05:12
ดีใจหรือไม่ ?? คนไทยรวยขึ้น !!!

ธนาคารโลกปรับฐานะไทยเป็นประเทศที่มีรายได้ปานกลางระดับสูง
ชี้ยากจนลดลง ฐานะการคลังแน่นปึ้ก !!

วันที่ 16 สิงหาคม พ.ศ. 2554 เวลา 22:42:03 น.

เว็บไซต์ธนาคารโลก ประจำประเทศไทย เปิดเผยว่า ในแต่ละปี ธนาคารโลกจะทำการทบทวนการจัดกลุ่มประเทศต่างๆ ในโลกจากการประเมินรายได้ประชาชาติต่อหัว (GNI per capita) โดยใช้วิธีที่เรียกว่า Atlas method ณ วันที่ 1 กรกฏาคม 2554 ประเทศที่ถือว่ามีรายได้ปานกลางระดับสูง คือประเทศที่ประชากรมีรายได้เฉลี่ย 3,976 – 12,275 เหรียญสหรัฐฯ (ประมาณ 118,662 - 366,337 บาท) ด้วยวิธี Atlas method ดังกล่าว ปัจจุบันรายได้ประชาชาติต่อหัวของประเทศไทยเท่ากับ 4,210 เหรียญสหรัฐ (ประมาณ 125,756 บาท)
 
กิริฎา เภาพิจิตร นักเศรษฐศาสตร์อาวุโสของธนาคารโลก กล่าวว่า การปรับเลื่อนฐานะในครั้งนี้แสดงถึงความสำเร็จทางเศรษฐกิจของไทยในช่วงทศวรรษที่ผ่านมาซึ่งรายได้ประชาชาติต่อหัวเพิ่มขึ้นเกือบสองเท่า ขณะที่ความยากจนก็ลดลงไปอย่างมาก ประเทศไทยมีความรอบคอบในการบริหารจัดการเศรษฐกิจมหภาค โดยมีฐานะการคลังที่เข้มแข็ง หนี้ภาคสาธารณะและเงินเฟ้อต่ำ ประเทศไทยมีบรรยากาศการลงทุนที่เป็นมิตร และประสบความสำเร็จในการดึงดูดการลงทุนโดยตรงจากต่างประเทศและการสร้างความหลากหลายเพิ่มมากขึ้นในภาคการผลิตอุตสาหกรรม ทั้งในแง่การผลิตที่เพิ่มมูลค่าในระดับที่สูงขึ้นและการขยายไปยังตลาดส่งออกใหม่ๆ

“ความสำเร็จเหล่านี้สะท้อนให้เห็นในความสามารถของเศรษฐกิจไทยในการปรับตัวเพื่อรองรับวิกฤตทางการเงินโลกเมื่อเร็วๆ นี้ ซึ่งทำให้ไทยมีโอกาสที่จะสร้างความสัมพันธ์กับอาเซียนและทั่วโลกให้เข้มแข็งยิ่งขึ้น” กิริฎากล่าว และว่า

“ในการที่จะรักษาการเติบโตให้ยั่งยืนและหลีกเลี่ยงการติดกับดักรายได้ปานกลางนั้น ประเทศไทยก็จะต้องให้ความสนใจกับการเพิ่มผลิตภาพ ซึ่งไม่แต่เฉพาะของภาคการผลิตอุตสาหกรรมเท่านั้น ยังรวมถึงภาคการเกษตรและภาคบริการด้วย สิ่งที่จำเป็นคือระดับการศึกษาและทักษะที่สูงขึ้น ตลอดจนความคิดสร้างสรรค์ การคิดค้นนวัตกรรมและการแข่งขัน ซึ่งสิ่งเหล่านี้จะส่งเสริมไม่เพียงแต่ให้เศรษฐกิจมีการขยายตัวมากขึ้นเท่านั้น แต่ยังเป็นการกระจายผลของการขยายตัวนี้สู่ทุกภาคส่วนในสังคมอีกด้วย ซึ่งจะช่วยลดความเหลื่อมล้ำทางด้านรายได้ที่มีอยู่สูงและมีมานานในประเทศไทย”

ธนาคารโลกใช้ตัวเลขประเมินรายได้ประชาชาติต่อหัวในการจัดกลุ่มประเทศต่างๆ ซึ่งจะเป็นตัวกำหนดคุณสมบัติในการกู้ยืม การจัดกลุ่มประเทศต่างๆ ในฐานข้อมูลของธนาคารโลก ตามภูมิภาคและระดับรายได้

 
http://www.matichon.co.th/news_detail.php?newsid=1313508495&grpid=01&catid=05&subcatid=0501


หัวข้อ: Re: [2513] "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: seree_60 ที่ 17 สิงหาคม 2554, 16:21:36
อ้างถึง
ข้อความของ prapasri AH เมื่อ 15 สิงหาคม 2554, 09:27:08
ขอบคุณน้องหนุน เข้ามาบ่อยๆนะคะ พี่เเอ๊ะนั่งทำงานทั้งวันเเล้วก็เเวะมาเวบหอเป็นประจำ

หากมีคนมาคุยน้อยพี่เเอ๊ะก็พูดอยู่คนเดียวไม่หนุก

ที่สำคัญต้องถกเเถลงกันคุณชายเสรี ตะวันเเดง ด้วย จะได้ไม่เเพ้อิๆๆๆๆ

อ้างถึง
ข้อความของ หนุน'21 เมื่อ 14 สิงหาคม 2554, 22:59:45
เข้ามาสวัสดีพี่แอ๊ะรอบดึกครับ
ตามชมกิจกรรมวันแม่ของพี่แอ๊ะซะเพลินเลยครับ


 emo4:))
ขอใช้สิทธ์พาดพิงครับ
ตกลงงานหอ ปีนี้ (12 พย.)พี่แอ๊ะจะ จรลีมาพร้อมเครื่องเพชรทองหยอง ทองหยิบ มูลค่า 300ล้าน
 มาโชว์น้องหรือไม่ครับ
ปล. ถ้าไม่มา..ชาวหอ น้ำมันคนละขวด..เผา..ผมจะรับผิดชอบเอง....กลัวไหมครับ...


หัวข้อ: Re: [2513] "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: prapasri AH ที่ 17 สิงหาคม 2554, 16:42:26

เผาเเม่งเลยพี่น้องงงงงงงงงงงงง

เผาบ้านเผาเมืองเเล้วได้เงินคนละสิบล้าน น่าเผาจะตายไป
อ้างจาก: seree_60







link=topic=3396.msg494949#msg494949 date=1313572896
อ้างถึง
ข้อความของ prapasri AH เมื่อ 15 สิงหาคม 2554, 09:27:08
ขอบคุณน้องหนุน เข้ามาบ่อยๆนะคะ พี่เเอ๊ะนั่งทำงานทั้งวันเเล้วก็เเวะมาเวบหอเป็นประจำ

หากมีคนมาคุยน้อยพี่เเอ๊ะก็พูดอยู่คนเดียวไม่หนุก

ที่สำคัญต้องถกเเถลงกันคุณชายเสรี ตะวันเเดง ด้วย จะได้ไม่เเพ้อิๆๆๆๆ

อ้างถึง
ข้อความของ หนุน'21 เมื่อ 14 สิงหาคม 2554, 22:59:45
เข้ามาสวัสดีพี่แอ๊ะรอบดึกครับ
ตามชมกิจกรรมวันแม่ของพี่แอ๊ะซะเพลินเลยครับ


 emo4:))
ขอใช้สิทธ์พาดพิงครับ
ตกลงงานหอ ปีนี้ (12 พย.)พี่แอ๊ะจะ จรลีมาพร้อมเครื่องเพชรทองหยอง ทองหยิบ มูลค่า 300ล้าน
 มาโชว์น้องหรือไม่ครับ
ปล. ถ้าไม่มา..ชาวหอ น้ำมันคนละขวด..เผา..ผมจะรับผิดชอบเอง....กลัวไหมครับ...


หัวข้อ: Re: [2513] "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: seree_60 ที่ 17 สิงหาคม 2554, 19:29:11
อ้างถึง
ข้อความของ prapasri AH เมื่อ 17 สิงหาคม 2554, 16:42:26

เผาเเม่งเลยพี่น้องงงงงงงงงงงงง

เผาบ้านเผาเมืองเเล้วได้เงินคนละสิบล้าน น่าเผาจะตายไป
อ้างจาก: seree_60







link=topic=3396.msg494949#msg494949 date=1313572896
อ้างถึง
ข้อความของ prapasri AH เมื่อ 15 สิงหาคม 2554, 09:27:08
ขอบคุณน้องหนุน เข้ามาบ่อยๆนะคะ พี่เเอ๊ะนั่งทำงานทั้งวันเเล้วก็เเวะมาเวบหอเป็นประจำ

หากมีคนมาคุยน้อยพี่เเอ๊ะก็พูดอยู่คนเดียวไม่หนุก

ที่สำคัญต้องถกเเถลงกันคุณชายเสรี ตะวันเเดง ด้วย จะได้ไม่เเพ้อิๆๆๆๆ

อ้างถึง
ข้อความของ หนุน'21 เมื่อ 14 สิงหาคม 2554, 22:59:45
เข้ามาสวัสดีพี่แอ๊ะรอบดึกครับ
ตามชมกิจกรรมวันแม่ของพี่แอ๊ะซะเพลินเลยครับ


 emo4:))
ขอใช้สิทธ์พาดพิงครับ
ตกลงงานหอ ปีนี้ (12 พย.)พี่แอ๊ะจะ จรลีมาพร้อมเครื่องเพชรทองหยอง ทองหยิบ มูลค่า 300ล้าน
 มาโชว์น้องหรือไม่ครับ
ปล. ถ้าไม่มา..ชาวหอ น้ำมันคนละขวด..เผา..ผมจะรับผิดชอบเอง....กลัวไหมครับ...

ลุยเลยพี่น้อง เจ๊..สั่งลุย แ้ล้ว...เผาเพื่อ 10 ล้าน


หัวข้อ: Re: [2513] "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: prapasri AH ที่ 17 สิงหาคม 2554, 19:55:58
555555555


หัวข้อ: Re: [2513] "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: เหยง 16 ที่ 17 สิงหาคม 2554, 20:53:14
พี่แอ๊ะ

หาหลวงพ่อเจอแล้วหรือยัง ??


หัวข้อ: Re: [2513] "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: prapasri AH ที่ 17 สิงหาคม 2554, 21:16:40

(http://www.cmadong.com/imgup/pics/cmd430374_5314856_2623842_7052005photo.jpg)


เล่าเรื่องไปอังกฤษก่อนนะน้องตะวัน

จริงๆแล้วพี่เเอ๊ะให้ทัวร์จัดเป็นกรุ๊ปเล็กๆให้ค่ะ

เลยสะดวกสบาย มาก หลังจากงานรับปริญญาลูกเเล้วก็ตลุยเที่ยวต่อค่ะ


หัวข้อ: Re: [2513] "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: prapasri AH ที่ 17 สิงหาคม 2554, 21:20:45
(http://www.cmadong.com/imgup/pics/cmd705221_7008308_7122111_2228042photo.jpg)

กระต๊อบไปถ่ายรูปกับเพื่อนๆที่คณะตั้งเเต่เช้า

ให้เเม่ๆ แอ๊คชั่นในโรงเเรมกันก่อน เเล้วจึงตามไป ค่ะ


หัวข้อ: Re: [2513] "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: prapasri AH ที่ 17 สิงหาคม 2554, 21:21:23

ยังเลย เหยงเอ๊ยพี่เเอ๊ะ ใจจะขาดอยู่เเล้ว
อ้างถึง
ข้อความของ เหยง 16 เมื่อ 17 สิงหาคม 2554, 20:53:14
พี่แอ๊ะ

หาหลวงพ่อเจอแล้วหรือยัง ??



หัวข้อ: Re: [2513] "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: prapasri AH ที่ 17 สิงหาคม 2554, 21:23:13
พี่เเอ๊ะขอคั่นเล่าเรื่องพระสมเด็จวัดระฆังนะคะ

ปกติพี่เเอ๊ะมีพระเยอะ คนไข้ให้มา สมัยพี่หาญอยู่สิงห์บุรี พี่เเอ๊ะยังเก็บไว้อย่างดี

แต่ก็ไม่ได้นำมาเเขวนคอ เพราะหนัก ค่ะ


หัวข้อ: Re: [2513] "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: prapasri AH ที่ 17 สิงหาคม 2554, 21:26:56
เมือ่ ประมาณไม่น่าจะถึงเดือนนะ มีเด็กเยาวชนคนหนึ่ง เป็นตัวเเทนเยาวชน ในสายคนพิการ

สมัยนี้เวลามีงานต่างๆของจังหวัด เขาจะให้กลุ่ม ngo ภาคประชาชนเข้าร่วมทำงานด้วย

เด็กคนนี้ทำงานกับพี่เเอ๊ะในหลายคณะทำงานของจังหวัด

เขามาหาพี่เเอ๊ะโดยบอกว่าเขาเดือดร้อนเรื่องเงิน สองหมื่นบาท คือมาขอยืมเงินนั่นเเหละ

เเละเอาพระมาให้พี่เเอ๊ะ


หัวข้อ: Re: [2513] "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: prapasri AH ที่ 17 สิงหาคม 2554, 21:37:42
พี่เเอ๊ะรีบตอบเขาทันที่ว่า

คุณป้าเป็นวิทยาศาสตร์ ไม่ค่อยเชื่อเรื่องพระ นะ เพราะคิดว่าหากเราทำดีก็จะได้ดี

เอาพระคืนไปนะ

เเล้วหนูจะเอาเงินมาคืนคุณป้าได้อย่างไร  หนูมีรายได้เท่าไร

เขาบอกว่า รายได้ประมาณเดือนละ 2000 (สองพันบาท)

อ๊าวว...เเล้วอยู่ได้อย่างไรล่ะ  พี่เเอ๊ะถามเขา

พ่อแม่ ทำงานอะไร

เขาบอกว่า พ่อเป็นคนขับรถเงินเดือน สี่พันห้า
คุณตาเป็น ยาม เฝ้า ร้านขายของอยู่ร้านหนึ่งเงินเดือน4000

พี่เเอ๊ะก็งง ..บอกว่าอ๊าว..ต่ำกว่าค่าเเรงขั้นต่ำนี่ (ไม่ได้หมายถึง 300 บาทนะคะ คือค่าเเรงขั้นต่ำทียโสธร ไม่น่าจะถึง200 นะคะ ในปัจจุบัน)เเล้วทำอะไรอีกได้บ้าง หมายถึงพ่อเเละคุณตา

เขาบอกว่าคุณตาทำสวนได้ด้วย  พี่เเอ๊ะเลยบอกว่า งั้นมาอยู่กับร.พคุณป้าได้เลย คุณป้าต้องการคนขับรถ ยาม เเละคนสวน

คุณป้าอยากปลูกผัก เกษตรอินทรีย์ในโรงพยาบาล เเละยินดีให้เงินเดือนขั้นต้น ไม่น้อยกว่าค่าเเรงขั้นต่ำ


หัวข้อ: Re: [2513] "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: prapasri AH ที่ 17 สิงหาคม 2554, 21:44:32
เเล้วหนูจะคืนเงินคุณป้าได้อย่างไร หากมีรายได้เเค่ สองพัน

เขาก็อึ้ง..ไป

พี่เเอ๊ะเลยบอกว่า งั้นเอางี้เเล้วกัน หนูจัดรายการวิทยุอยู่ด้วยใช่ไหม คือเขาทำรายการด้วยเเละได้คอมิสชั่นค่าโฆษณาด้วย

หนูไปจัดรายการ ที่สถานีนี้นะ.......... (คือพี่เเอ๊ะได้ลงทุนสถานีวิทยุชุมชนไว้สถานีหนึ่ง ให้น้องๆที่รักๆเขาทำอยู่)

คุณป้าจะขอไม่ให้เขาคิดค่าสถานี เเล้วหนู้ทำรายการให้คุณป้า คิดเดือนละ 2000 หักไป 10เดือนนะ

คือคุณป้าอยาก ให้ทำรายการ ให้ เปิดสปอต เท่านั้น คือคุณป้ารำคาญเด็กๆที่ขีมอเตอร์ไซค์เเล้วโทรมือถือ

เเละรับไม่ได้กับผู้ใหญ่ที่ขับรถเเล้ว โทรศัพท์เฉยเลย

ที่มุกดาหารหากตำรวจเห็นเขาจะจับปรับทันทีเเต่ที่ยโสธร ไม่จับเลย

คุณป้ารำคาญเต็มทีเเล้ว


หัวข้อ: Re: [2513] "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: prapasri AH ที่ 17 สิงหาคม 2554, 21:55:32
คุณป้าเคยให้ สถานีวิทยุ ต่างๆ เขาทำเเล้วเเต่เขาทำเป็น soft sale ไม่ได้ผล  

อยากให้ทำ  hard sale ไปเลย

ให้ทำอย่างนี้นะ เช่น

โทรเเล้วขับ ผิดกฎหมาย ตำรวจจับได้นะ

หรือ.....คนยโสธรมารยาทงาม ไม่โทรขณะขับ[/b]

อะไร ทำนองนี้

เยาวชน คนนนี้ก็บอกว่าทำได้ครับ

แต่อย่างไรก็ตาม ผมอยากให้พระนี้ไว้กับคุณป้าครับ

คุณป้าดูเป้นผู้ดี เเต่งตัวดี เเต่คุณป้า ไม่รังเกียจ คนจนๆเเบบพวกผม (นั่นเเน่ะ หนูน้อยยอ  ป้าตัวลอยเเล้วล่ะ)


หัวข้อ: Re: [2513] "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: prapasri AH ที่ 17 สิงหาคม 2554, 22:01:46
พอดี เลขาพี่เเอ๊ะเดินเข้ามาพอดี

พี่เเอ๊ะเลย จับพระมาดู เเล้วบอกเลขาว่า

"หมู เธอช่วยเอาพระนี้ไปให้ ชมรมพระเครื่องเขาดูหน่อยซิว่าเป็นพระอะไร"

ชมรมพระเครื่อง อยู่ใกล้ ร.พ

เเป๊บเดียว

เจ้าหมูเด็กของพี่เเอ๊ะก็วิ่งตาเหลือกมา

พร้อมกับนำกระดาษ ที่ชมรมพระเครื่องจดให้มาว่า

"เป็นพระสมเด็จ วัดระฆังเเท้ รุ่นเเรก หลวงพ่อ โต ปั้นเอง ข้างในมี ผง สรีระของพระพุทธเจ้าด้วย

ราคาสูงมาก ให้ไปให้ผู้ที่ชำนาญในกรุงเทพ ดูซ้ำก็ได้ ให้ไปที่พันธ์ ทิพย์พลาซ่า ที่กรุงเทพดู"


หัวข้อ: Re: [2513] "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: prapasri AH ที่ 17 สิงหาคม 2554, 22:10:25
พี่เเอ๊ะก็บอก หนูคนนั้น ว่า คุณป้า ขอ นำพระ ไปให้ ผู้ชำนาญ เขาเช็คให้ที่กรุงเทพนะ
หากมีราคาสูงคุณป้าจะให้เงินครอบครัวหนูเพิ่ม

เยาวชนคนนี้ก็บอกว่าไม่เป็นไร ผมอยากให้คุณป้าจริงๆ

ไม่ต้องการอะไรเพิ่มอีกเเล้ว

 เเละจัดรายการให้คุณป้าด้วย

พี่เเอ๊ะ ก็บอกว่า รอผลพิสูจน์ก่อนนะ คุณป้าไม่เอาเปรียบหนูหรอก

เเล้วพี่เเอ๊ะก็นำพระนั้นมาบูชา  เเละอธิษฐานขอสิ่งที่พี่เเอ๊ะต้องการสองอย่าง

ซึ่งเป็นเรื่องที่ยากมาก

ปรากฎว่า สิ่งที่พี่เเอ๊ะอธิษฐานขอ ก็ได้จริงๆ


หัวข้อ: Re: [2513] "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: prapasri AH ที่ 17 สิงหาคม 2554, 22:18:28
อาทิตย์ที่เเล้วพี่เเอะ มากรุงเทพ ก้นำพระมาด้วย

ปรากฎว่าคนรถพาไปผิด พันธุ์ทิพย์พลาซ่า คือพาไปประตูน้ำ

พี่เเอ๊ะสุดเซ็งเลย ก็คุณนายไม่ค่อยได้เดินประตูน้ำมาหลายสิบปีเเล้ว

คนเเน่นไปหมด  เสียงก็ดัง ร้อนก็ร้อน น่ากลัวก็น่ากลัว

เพราะเราต้องระวังกระเป๋า ที่ใส่พระไว้ กลัวถูกระชาก

พอไปถึงก็ถามเขาว่าที่เขาดูพระอยู่ที่ไหน

เขาบอกว่า ไม่ใช่พันธ์ทิพย์ที่นี้ เป้นพันธ์ทิพย์ที่ เเจ้งวัฒนะ

อ๊ายยยยยยย หยา อ๊วจะทำงายดีล่ะ  เเจ้งวัฒนะ อยู่ตรงไหนก็ไม่รู้

เลยโทรหาคนรถ กลับบ้านไปตั้งต้นที่บ้านดีกว่า

เเล้วก็โทรหาลุกชายสุดรัก

หมอต้นกล้าเขาเข้ากรุงเทพพอดี

"สบายมากเเม่ พรุ่งนี้ต้นพาไปเอง"


หัวข้อ: Re: [2513] "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: prapasri AH ที่ 17 สิงหาคม 2554, 22:28:23
วันรุ่งขึ้นลูกชายก็จูงเเม่ไปพันธ์ทิพย์เเจ้งวัฒนะ  พี่เเอ๊ะไม่เคยทราบเลยว่าพันธ์ทิพย์พลาซ่า มาขยายเผ่าพันธ์อยู่ ที่นี่

เราเดินให้เขาดูหลายร้าน เขาก็บอกว่าเป็นพระสมเด็จเเท้ จิงๆ

เขาบอกว่า ของเเบบนี้ไม่ต้องไปเเสวงหา ท่านอยากมาหาใคร ท่านก็จะมาเอง

บางคนมีเงินมากก็หาเช่าไม่ได้ บางคนไม่ต้องใช้เงินเลย ก้ได้มา

คุณ.... ก็มี .. กี่ล้านก็ไม่ขาย

คุณ... ก็มี..

โอโฮ พีเเอ๊ะมีความสุขที่สุด ตอนนั้น เรามีบุญ จริงๆ ไม่เคยเข้าวัดเเบบเป็นเรื่องเป็นราวเลย

พระเลยมาหาเอง

อีกวันหนึ่ง พี่เเอ๊ะไปทานอาหารที่เกรย์ฮาวน์ ชิดลม กะน้องอ้อย14 น้องแอ14 น้องเล็ก อดิศร น้องไพรสนฑ์

ก็เล่าให้น้องเเอ กะน้องอ้อย 14 ฟัง

และบอกถึงปาฏิหาริย์ ที่พี่เเอ๊ะได้รับ

พี่เเอ๊ะบอกน้องอ้อย14 อยากได้อะไร ให้ขอ นะ


หัวข้อ: Re: [2513] "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: prapasri AH ที่ 17 สิงหาคม 2554, 22:31:57
อ้อย 14 รีบขอใหญ่เลย เเต่ขอเรื่องง่ายๆ

พี่เเอ๊ะบอกว่าขอเรื่องยาก ขอจริงๆ

ไม่ต้องขอให้เรามีความสุขหรอกเพราะเรามีความสุขอยู่เเล้ว55555

หลังจากนั้พี่เเอ๊ะก็นำท่าน ประคบประหงม กลับมายโสธร กะว่าไปกรุงเทพคราวหน้าจะนำไปใส่กรอบทองกับเพชร ใส่ให้สวยเลย


หัวข้อ: Re: [2513] "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: prapasri AH ที่ 17 สิงหาคม 2554, 22:34:45
พอมายโส เหยงเอ๊ย พี่เเอ๊ะต้องไปงานหลายงาน มาก

เปลียน กระเป๋าเป็นว่าเล่น เเละพี่เเอ๊ะนำท่านติดตัวใส่กระเป๋าไปทุกงาน

แต่บางวันพี่เเอ๊ะกลัว ท่าน จะช้ำเพราะเรายังไม่ได้ใส่กรอบ

จึงเอาออกจากกระเป๋าบ้าง


หัวข้อ: Re: [2513] "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: prapasri AH ที่ 17 สิงหาคม 2554, 22:41:31
เเต่ไม่คิดว่าท่านจะหายไป พอหาไม่เจอก็ยังเฉยๆ คิดว่าเดี๋ยวก็เจอ เพราะ จะใส่ไว้ในที่พิเศษเท่านั้น

เเละระมัดระวังถนอมท่านด้วย

เริ่มรู้สึกว่าท่านหายไป เเต่ก็คิดว่า ไม่หาย น่า จะต้องอยู่ในกระเป๋าใดกระเป๋าหนึ่ง

พอเมื่อวานซืน เริ่มรู้สึกว่า จะหาไม่เจอจริงๆ

พี่เเอ๊ะก็เริ่มค้นบ้าน เปิดเซฟ  เซฟบางเซฟ ตัว ล๊อคขัดข้องพี่เเอ๊ะก็เเทบจะงัดเซฟเลยที่เดียว

พี่หาญก็ช่วยหา  จนดึกหาจากกระเป๋า พี่เเอ๊ะทุกใบ (ไม่น่าจะต่ำกว่า 50ใบ อิๆๆๆๆ)

เรียกว่าค้นบ้านกันเลย เเม่บ้านก็ช่วยกันหา ปกติในบ้าน ของไม่หายอยู่เเล้ว หายเมื่อไรเเม่บ้านเขาก็หาให้จนเจอ

เเต่คราวนี้ไม่เจอค่ะ


หัวข้อ: Re: [2513] "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: seree_60 ที่ 17 สิงหาคม 2554, 22:46:24
ติดตามฟังอย่างไม่กะพริบตา...น่าสนใจมาก
พี่สาวคนสวย ใจดีจริงๆสมกับเป็นพี่ของผม
รักพี่แอ๊ะ มากกว่า ยัยปู..555555


หัวข้อ: Re: [2513] "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: prapasri AH ที่ 17 สิงหาคม 2554, 22:47:21

พี่เเอ๊ะเลยคิดว่าท่านเป็นสิ่งศักดิ์สิทธิ์จริงๆ เเละมาช่วยพี่เเอ๊ะในยามที่พี่เเอ๊ะต้องการความช่วยเหลือ

เเล้วท่านก็จากพี่เเอ๊ะไป

พี่เเอ๊ะ จะสักการะ ถึงท่าน เเม้ว่าไม่มี องค์ท่านอยู่ ก็จะ สักการะโดยจิตวิญญาน

คิดว่าท่านคง ปรานี พี่เเอ๊ะเหมือนเดิม

ขอบคุณเหยงที่เป็นห่วง ทุกอย่างอยู่ที่ใจ และปฎิบัติดี ปฎิบัติชอบ ท่านคงจะให้ในสิ่งที่สมควรให้ได้ นะคะ


หัวข้อ: Re: [2513] "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: prapasri AH ที่ 17 สิงหาคม 2554, 22:48:51
สงสารเเต่พี่หาญ พี่หาญเสียดาย

และดุว่าพี่เเอ๊ะไม่ระมัดระวัง สงสารที่พี่หาญช่วยมาค้นหาเเบบไม่ง่วงนอนเลยค่ะ


หัวข้อ: Re: [2513] "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: prapasri AH ที่ 17 สิงหาคม 2554, 23:00:08

ขอบคุณพีตะวันมากนะคะ

ช่วงนี้ปูผอมลงนิดนึง งานมากค่ะ เมื่อวานออกรายการช่อง3

ปูพูดได้ดีขึ้นค่ะพี่ตะวัน

วันนี้ ปูคิดไปคิดมา เอ... ปูจะ เอาตำเเหน่งนายกมาทดลองงานหรือเปล่า

เเต่ปูจะสู้ๆๆๆๆ ค่ะ พี่ตะวันขา

ขอบคุณพี่เเอ๊ะ พี่ของพี่ตะวันที่ชอบวิ่งมาดูปู พี่เเอ๊ะชอบดูเสื้อผ้าทรงผมเเละกระเป๋าถือของปู ค่ะ


อ้างถึง
ข้อความของ seree_60 เมื่อ 17 สิงหาคม 2554, 22:46:24
ติดตามฟังอย่างไม่กะพริบตา...น่าสนใจมาก
พี่สาวคนสวย ใจดีจริงๆสมกับเป็นพี่ของผม
รักพี่แอ๊ะ มากกว่า ยัยปู..555555


หัวข้อ: Re: [2513] "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: เหยง 16 ที่ 18 สิงหาคม 2554, 08:14:19
พี่แอีะ

อธิษฐานถึงท่านอีกครั้ง ขอให้กลับมาอยู่ด้วยครับ จะได้ช่วยเด็กคนนั้นด้วยกัน
เป็นแรงใจให้ครับ


หัวข้อ: Re: [2513] "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: เหยง 16 ที่ 18 สิงหาคม 2554, 08:16:51
ระวังน้ำด้วยครับ ฝนจะตกหนักถึงหนักมากในภาคเหนิือ ภาคอีสาน ภาคตะวันออก ภาคกลาง กทม.และปริมณฑล ช่วง 1-3 วันนี้ ต้องระมัดระวังด้วย เพราะตกถึงร้อยละ 90 ของแต่ละพื้นที่....มีรายละเอียดครับ


                     กรมอุตุนิยมวิทยา ประกาศเตือนภัย ฉบับที่ 4   เมื่อวันที่ 18 สิงหาคม 2554 เวลา 05.30
"ฝนตกหนักในภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนือ" ร่องมรสุมกำลังค่อนข้างแรงพาดผ่านภาคเหนือ และภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบน ประกอบกับมีหย่อมความกดอากาศต่ำบริเวณทะเลจีนใต้ ลักษณะเช่นนี้ทำให้ประเทศไทยตอนบนมีฝนตกชุกหนาแน่น โดยที่ในภาคเหนือและตะวันออกเฉียงเหนือมีฝนตกหนักหลายพื้นที่และฝนตกหนักมากบางแห่ง

จึงขอให้ประชาชนที่อาศัยในพื้นที่เสี่ยงภัยตามที่ลาดเชิงเขา ใกล้ทางน้ำไหลผ่าน และพื้นที่ราบลุ่มบริเวณจังหวัดแม่ฮ่องสอน เชียงราย เชียงใหม่ พะเยา น่าน แพร่ อุตรดิตถ์ พิษณุโลก สุโขทัย เพชรบูรณ์ เลย หนองคาย บึงกาฬ หนองบัวลำภู อุดรธานี สกลนคร และนครพนม ให้ระมัดระวังอันตรายจากฝนตกหนัก ซึ่งอาจจะทำให้เกิดสภาวะน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลากและน้ำล้นตลิ่ง ได้ในระยะ 1-3 วันนี้

                            พยากรณ์อากาศสำหรับประเทศไทยตั้งแต่เวลา 06:00 วันนี้ ถึง 06:00 วันพรุ่งนี้. 

ภาคเหนือ  มีฝนฟ้าคะนองเกือบทั่วไป ร้อยละ 90 ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่ง บริเวณจังหวัดแม่ฮ่องสอน เชียงใหม่ เชียงราย พะเยา น่าน อุตรดิตถ์ แพร่ ตาก พิษณุโลก สุโขทัย พิจิตร และเพชรบูรณ์ อุณหภูมิต่ำสุด 23-24 องศา อุณหภูมิสูงสุด 29-32 องศา ลมแปรปรวน ความเร็ว 10-25 กม./ชม.

ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ  มีฝนฟ้าคะนองเกือบทั่วไป ร้อยละ 90 ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักถึงหนักมากบางพื้นที่ บริเวณจังหวัดเลย หนองคาย บึงกาฬ อุดรธานี หนองบัวลำภู สกลนคร นครพนม กาฬสินธุ์ มุกดาหาร อำนาจเจริญ ศรีสะเกษ และอุบลราชธานี อุณหภูมิต่ำสุด 23-24 องศา อุณหภูมิสูงสุด 29-32 องศา ลมแปรปรวน ความเร็ว 10-30 กม./ชม.

ภาคกลาง มีฝนฟ้าคะนองเกือบทั่วไป ร้อยละ 80 ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักบางแห่ง บริเวณจังหวัดนครสวรรค์ อุทัยธานี ลพบุรี สระบุรี และพระนครศรีอยุธยา อุณหภูมิต่ำสุด 23-25 องศา อุณหภูมิสูงสุด 32-33 องศา ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 10-30 กม./ชม.

ภาคตะวันออก  มีฝนฟ้าคะนองเกือบทั่วไป ร้อยละ 80 ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักบางแห่ง บริเวณจังหวัดนครนายก ชลบุรี ระยอง จันทบุรี และตราด อุณหภูมิต่ำสุด 23-25 องศา อุณหภูมิสูงสุด 30-33 องศา ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 15-30 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร ส่วนบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนอง คลื่นสูงประมาณ 2 เมตร

ภาคใต้ (ฝั่งตะวันออก) มีฝนฟ้าคะนองกระจาย ร้อยละ 60 ของพื้นที่ ส่วนมากบริเวณจังหวัดเพชรบุรี ประจวบคีรีขันธ์ ชุมพร สุราษฎร์ธานี และนครศรีธรรมราช อุณหภูมิต่ำสุด 24-25 องศา อุณหภูมิสูงสุด 31-33 องศา ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 15-30 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร ส่วนบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนอง คลื่นสูงประมาณ 2 เมตร

ภาคใต้ (ฝั่งตะวันตก)  มีฝนฟ้าคะนองกระจาย ร้อยละ 60 ของพื้นที่ ส่วนมากบริเวณจังหวัดระนอง พังงา และภูเก็ต อุณหภูมิต่ำสุด 23-25 องศา อุณหภูมิสูงสุด 31-33 องศา ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 15-35 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูง 1-2 เมตร

กรุงเทพมหานครและปริมณฑล  มีฝนฟ้าคะนองเกือบทั่วไป ร้อยละ 80 ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักบางแห่ง อุณหภูมิต่ำสุด 24-25 องศา อุณหภูมิสูงสุด 30-32 องศา ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 10-30 กม./ชม.



หัวข้อ: Re: [2513] "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: prapasri AH ที่ 18 สิงหาคม 2554, 10:04:00
ขอบคุณมาก เหยง

พี่เเอ๊ะคิดว่า จะต้องเจอท่านค่ะ

เพราะ พี่เเอ๊ะเป็นคนเก็บสิ่งของไว้ได้นานเเละไม่หาย

สิ่งศักดิ์สิทธิ์ของทวดหลวง คุณทวดของพี่เเอ๊ะที่ก่อสร้างวัดตลิ่งงามที่สมุย

พี่เเอ๊ะเก็บไว้ตั้งเเต่เรียน ชั้นเด็กๆ ที่สมุย พี่เเอ๊ะยังเก็บไว้ได้เลย 50 กว่าปีเเล้ว

(ของพรเทพ16 จะมีมากกว่าพี่เเอ๊ะเพราะเป็นหลานชาย เเต่หลานชายทำหายหมด ไม่เหลือเลย

พอชิ้นนี้หายไป แม่พี่เเอ๊ะก็ให้ชิ้นใหม่ กับพรเทพอีก เเล้วก็จะหายอีก)

สำหรับพี่เเอ๊ะจะใส่ติดกระเป๋า ติดตัวตลอด เปลียนกระเป๋าใบไหนก็ย้ายไปใส่กระเป๋าใบ นั้น

ว่างๆจะถ่ายรูปส่งมาให้ดู

หรือสมเด็จ ท่านไม่ต้องการอยู่ที่เดียวกับทวดหลวงก็ได้นะ หากปฏิหาริย์มีจริง[/color]


หัวข้อ: Re: [2513] "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: prapasri AH ที่ 18 สิงหาคม 2554, 10:20:38
 
(http://www.cmadong.com/imgup/pics/cmd293115_5441339_9103576_2363536photo.jpg)

ที่เมือง บาธ  Bath เป็นเมืองที่มีฐานะนครในมณฑลซอมเมอร์เซ็ทในภาคการปกครอง ตะวันตกเฉียงใต้ของอังกฤษ บาธตั้งอยู่ห่างจากลอนดอนไปทาง

ตะวันตก 156 กิโลเมตร ... เป็นเมืองเก่าแก่ มีศิลปะยุคโรมันที่ หลงเหลืออยู่มากมาย ความสวยงามของสถาปัตยกรรมยุคจอร์เจียนและความงดงาม

 เป็นเมืองท่องเที่ยว คนเยอะมาก พี่โหม้ย ดร.สุวดี 13 เคยไปอยู่ดูแลลูกตอนน้องเเพรไปเรียน ป.โทที่นี่ พี่เเอ๊ะยังนึกว่า

พี่โหม้ย คงอยู่เเบบสนุกเเน่ๆเพราะมีที่ท่องเที่ยวเป็นประวัติศาสตร์มากมาย และมีอะไรๆเยอะเเยะไปหมด

ตรงนี้เป็น ที่อาบน้ำในยุคโรมัน

เขาจะเเจก หูฟังให้คนละอัน เเละเขาจะอธิบายเรื่องราวต่างๆให้เราทราบ



หัวข้อ: Re: [2513] "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: prapasri AH ที่ 18 สิงหาคม 2554, 10:23:03
(http://www.cmadong.com/imgup/pics/cmd539435_3231170_72764_7277052photo.jpg)

อ่างอาบน้ำเเบบโรมันค่ะ


หัวข้อ: Re: [2513] "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: prapasri AH ที่ 18 สิงหาคม 2554, 10:27:22
(http://www.cmadong.com/imgup/pics/cmd553610_3478600_4669133_7697933photo.jpg)


ศิลปะ โบราณ คล้ายๆบ้านเราเหมือนกันนะ


หัวข้อ: Re: [2513] "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: prapasri AH ที่ 18 สิงหาคม 2554, 10:29:32
(http://www.cmadong.com/imgup/pics/cmd472047_2565389_1453402_3158458photo.jpg)

สาวๆ พี่ๆน้องๆ  ผู้มีความสุข ของพรเทพ 16 เพื่อนเหยง ค่ะ

เเต่ตัวเตี้ยหมดเลย ไม่สูงเหมือนพรเทพ


หัวข้อ: Re: [2513] "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: ทราย 16 ที่ 18 สิงหาคม 2554, 12:09:41
อ้างถึง
ข้อความของ เหยง 16 เมื่อ 18 สิงหาคม 2554, 08:14:19
พี่แอีะ

อธิษฐานถึงท่านอีกครั้ง ขอให้กลับมาอยู่ด้วยครับ จะได้ช่วยเด็กคนนั้นด้วยกัน
เป็นแรงใจให้ครับ


เห็นด้วยกะเหยงค่ะพี่แอ๊ะ
ท่านอาจจะเล่นซ่อนแอบ
เพื่อวัดใจโยมแอ๊ะอยู่ก็ได้ค่ะ
อธิฐานด้วยจิตที่บริสุทธิ์
ท่านจะได้ออกมาจ๊ะเอ๋กะพี่แอ๊ะ
เร็วๆนี้ ส่งแรงใจไปช่วยค่ะ
ทราย16


หัวข้อ: Re: [2513] "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: seree_60 ที่ 18 สิงหาคม 2554, 23:41:39
เอาข่าวยัยปูดองมาฝากครับ

เสียชาติเกิดเป็นนักหนังสือพิมพ์
       by Kanok Ratwongsakul on Thursday, August 18, 2011 at 1:04pm
       
       เมื่อวานนี้นายกฯปู เดินหนีคำถามนี้
       “การแก้ไขรัฐธรรมนูญในครั้งนี้ คิดจะทำอะไรเพื่อประเทศชาติและประชาชนบ้างหรือไม่?”
       
       ก่อนหน้านี้ น้องนักข่าวคนเดียวกันเป็นผู้ถามเรื่องการแต่งตั้ง ครม.
       “โฉมหน้าคณะรัฐมนตรี ขี้เหร่กว่าท่านนายกรัฐมนตรีนะคะ?”
       “ทำไมถึงแต่งตั้งคนที่มาจากสายการเงิน การลงทุน มาเป็นรัฐมนตรีคลังคะ?”
       “จะประสานนโยบายการเงินกับการคลังอย่างไรให้ลงตัว?”
       
       “แม่ปู” ตอบว่า “รอให้มีการแต่งตั้งทีมที่ปรึกษาก่อนนะคะ นโยบายทุกด้านจะชัดเจน”
       น้องคนนี้ถาม “ทำไมต้องรอมีที่ปรึกษาล่ะคะ ถ้าไม่มีที่ปรึกษาทุกอย่างจะไม่ชัดเจนหรือคะ?”
       พอเจอคำถามนี้ นายกฯเดินหนีนักข่าวเป็นครั้งแรก
       
       แล้วไปถามคณะติดตามนายกฯ ว่า ช่วยไปถามหน่อย นักข่าวคนที่ถามนั้น..ชื่ออะไร? อยู่ค่ายไหน?
       น้องเค้าอยู่ช่อง 7 ครับ กล้าถามจากใจมานานแล้ว เป็นความรู้สึกดีเล็กๆ ที่อย่างน้อยในสนามข่าว
       ยังมีน้องๆ นักข่าวอีกหลายคน ที่ถามอย่างมีเกียรติภูมิ มีศักดิ์ศรี มีสำนึกแยกแยะ ดี-เลว ได้
       
       ไม่เหมือน ไอ้นักหนังสือพิมพ์หัวหงอก ที่ทรยศวิชาชีพ อุตส่าห์ก่อตั้งหนังสือพิมพ์คุณภาพมา 30 กว่าปี
       ต้องมาเสียผู้เสียคน เดี๋ยวนี้เห็นหนังสือพิมพ์หัวนี้วางอยู่ จะถ่มถุย..ยังเสียดายน้ำลาย
       
       - - - - - - - - -
       
       เป็นที่น่าสังเกตว่า บันทึกของนายกนก เกิดขึ้นภายหลังจากกรณีที่ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรีมีท่าทีหลบหนีผู้สื่อข่าวอยู่บ่อยครั้ง เวลาที่ผู้สื่อข่าวถามเกี่ยวกับประเด็นทางการเมือง นอกจากนี้ ยังเป็นช่วงเดียวกับการที่สภาการหนังสือพิมพ์แห่งชาติ เปิดเผยผลการสอบสวนข้อเท็จจริง กรณีการส่งจดหมายอิเล็กทรอนิกส์ของนักการเมือง ระบุการให้เงิน และผลประโยชน์แก่ผู้ประกอบวิชาชีพสื่อมวลชนในสังกัด หนังสือพิมพ์ข่าวสด มติชน ไทยรัฐ เดลินิวส์ คมชัดลึก และจากการตรวจสอบพบว่าข่าวสด มติชน ไทยรัฐเสนอข่าวเอนเอียงไปในทางสนับสนุน น.ส.ยิ่งลักษณ์ และพรรคเพื่อไทยอย่างชัดเจน
       
       สำหรับ นายกนก รัตน์วงศ์สกุล เป็นผู้ดำเนินรายการข่าวชื่อดังในเครือเนชั่น โดยจบการศึกษาจากคณะวารสารศาสตร์และสื่อสารมวลชน มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ทั้งยังเป็นผู้ดำเนินรายการข่าวทางช่องฟรีทีวี เช่น ช่อง 7 และโมเดิร์นไนน์ อีกด้วย



หัวข้อ: Re: [2513] "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: เหยง 16 ที่ 02 กันยายน 2554, 22:05:40
พี่แอ๊ะ

พักไปกว่า 2 อาทิตย์แล้ว กลับเข้ามาในห้องนี้แล้วหรือยัง ??


หัวข้อ: Re: [2513] "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: prapasri AH ที่ 05 กันยายน 2554, 23:09:23
เหยง สุดที่รัก

พี่เเอ๊ะเเทบไม่มีเวลาเลย เมื่อกี้เพิ่งเซ็นเเฟ้มเสร็จ 10กว่าเเฟ้ม เซ็นเเล้วโยนเเฟ้มโครมๆเลยค่ะ เหนื่อยค่ะ

พรุ่งนี้ก็ยุ่งเเต่เช้า นัดคนจัดสวนมาจัดสวนใน ร.พ

จะทำให้ร.พ ที่ยโส เป็น hospital in the park

 เเละ พาช่างไป จัด สวนริมเเม่น้ำโขงที่มุกดาหารตอนบ่าย จะทำบ้านริมเเม่น้ำโขงให้น้องต้นค่ะ คือเป็นทาสลูก น่ะค่ะ5555555

เเต่ตอน 10 โมงต้องประชุมสภาอบจ. อีก ยังไม่รู้ว่าจะจัดเวลาอย่างไร วันพฤหัสเช้าก้ต้องบินไปเรียนอีก

ช่วงนี้ ยุ่งงงงงงงงง ทีนี้เข้าเวบหอไม่เป็นด้วย bb หรือ ไอโฟน ว่าจะหัดจิ้ม ipad ก็ยังไม่ได้จับไอเเพด เลยค่ะ

อ้อย 14 บ่นเเย่แล้วว่าไม่ทำตามที่อ้อยสั่ง ให้ใช้ ไอเเพด

กับเพื่อน วตท.  คุยกันทาง bb ค่ะ
คุยช้าหน่อย เพราะต้องคุยเป้นภาษาอักะลิด เพราะ ตัวหนังสือภาษาไทนเล็กจิ๊ดเดียวพิมพ์ไทยใน bb ไม่เป็น ค่ะ

 เช็คอีเมล์เเละสั่งงานทาง bb เช่นกัน

คิดถึง desk top เเย่เเล้ว คิดถึงเหยงด้วยค่ะ


หัวข้อ: Re: [2513] "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: prapasri AH ที่ 05 กันยายน 2554, 23:16:03
 มีเรื่องดี มาฝาก

ว่าจะเเนะเรื่องวิธีซื้อหุ้นในตลาดหลักทรัพย์ตามที่ได้ความรู้มาเเต่ยังไม่มีเวลาเขียนเลยค่ะ

เอาเรื่องนี้ก่อนนะ

คนไทยกับเรื่อง Thai PIN Code


"สิทธิของท่านท่านพึงต้องรักษาไว้ด้วยตัว ของท่าน"

ใครเคยรู้เรื่องนี้บ้าง ??
 
รหัสลับบุคคล
(PIN Code : Personal Identification Number Code)
 

PIN Code คืออะไร
PIN Code คือชุดตัวเลขหรือตัวอักษรที่กำหนดขึ้นเป็นรหัสลับเฉพาะส่วนบุคคลที่ใช้ร่วม กับเลขประจำตัวประชาชนเพื่อใช้เป็นรหัสผ่านเข้าสู่ระบบงาน

หรือการให้บริการ ในระบบคอมพิวเตอร์ ภายใต้ข้อกำหนดหรือรูปแบบของหน่วยงานผู้ให้บริการจะกำหนดขึ้น  


หัวข้อ: Re: [2513] "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: prapasri AH ที่ 05 กันยายน 2554, 23:17:40
PIN Code กับ กรมการปกครอง
กรมการปกครองได้พัฒนาระบบงานการให้บริการ ประชาชนทางด้านงานทะเบียนและบัตรด้วยระบบคอมพิวเตอร์มาอย่างต่อเนื่องมี ประสิทธิภาพและ

ประชาชนที่ไปติดต่อขอใช้บริการได้รับความสะดวกรวดเร็วประหยัด เวลาและค่าใช้จ่าย จากการพัฒนาระบบงานอยู่อย่างต่อเนื่อง

เพื่อให้ประชาชนคนไทยทุกคนทุกหนแห่งมี สิทธิเข้าถึงการบริการของภาครัฐที่เปิดให้บริการข้อมูลด้านต่างๆ ได้อย่างทั่วถึงผ่านระบบเครือข่าย

กรมการปกครองจึงได้ขยายรูปแบบการให้บริการโดยได้รับความเห็นชอบและอนุมัติ จากอธิบดีกรมการปกครองให้สำนักบริหารการทะเบียนเป็นหน่

วยงานที่รับผิดชอบนำ โครงการรหัสบุคคล( PIN PROJECT) มาใช้ พร้อมทั้งให้กล่องจดหมายอิเล็กทรอนิกส์คนไทยดอทคอมฟรี ( Free E-mail
Address khonthai.com ) แก่คนไทยทุกคนที่มีรหัส PIN Code เพื่อใช้ในการรับ-ส่งจดหมายผ่านระบบเครือข่าย Internet ที่เว็บไซต์ www.khonthai.com


เริ่มใช้รหัส PIN Code เมื่อไหร่ ่
กรมการปกครองได้เริ่มให้บริการรหัส PIN Code เป็นการทดลองปฏิบัติ ตั้งแต่วันที่ 1 สิงหาคม 2544 เพื่อให้ประชาชนได้ใช้เป็นรหัสผ่านควบคู่กับเลขประจำตัวประชาชนเพื่อเข้าสู่ ระบบการให้บริการตรวจสอบข้อมูลของตนเองและเป็นรหัสผ่านเข้าสู่กล่องจดหมาย อิเล็กทรอนิกส์ ( E-mail) ที่ได้มาพร้อมกับรหัส PIN Code ผ่าน Internet ที่ www.dopa.go.th และ www.khonthai.com  


หัวข้อ: Re: [2513] "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: prapasri AH ที่ 05 กันยายน 2554, 23:18:41
ผู้มีสิทธิ และ การไปติดต่อขอรับ PIN Code

1. ประชาชนคนไทยทุกคนที่มีชื่ออยู่ในทะเบียนบ้านถูกต้องตามกฎหมายมีสิทธิขอรับ ได้ทุกคน PIN Code

2. หากท่านต้องการ สามารถไปขอรหัส PIN Code ได้ที่สำนักทะเบียนอำเภอ สำนักงานเขต หรือเทศบาล แห่งใดก็ได้ทั่วประเทศ ซึ่งขณะนี้สำนักทะเบียนสามารถออนไลน์ทั่วถึงกันทุกแห่งแล้ว ให้ไปติดต่อขอรับที่งานทะเบียนราษฎร

3. โปรแกรมให้รหัสลับบุคคล หรือ PIN Code นี้จะอยู่ที่ โปรแกรมรับแจ้งให้บริการงานทะเบียนราษฎร ข้อที่ 11
4. ผู้ขอต้องเป็นเจ้าของข้อมูลเท่านั้น

5. หลักฐานที่ใช้ เพียงบัตรประจำตัวประชาชนก็พอแล้ว ( สำหรับผู้ที่ยังไม่มีบัตรสามารถนำหลักฐานสำเนาทะเบียนบ้านและสำเนาใบ สูติบัตรไปยื่น

ขอได้ที่งานทะเบียนราษฎร) ปล. ไม่มีค่าใช้จ่าย-ไม่มีค่าธรรมเนียมใด ๆ ทั้งสิ้น





หัวข้อ: Re: [2513] "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: prapasri AH ที่ 05 กันยายน 2554, 23:20:01
รหัส PIN Code ที่ได้มาเป็นอย่างไร

รหัส PIN Code ที่ได้มา (อาจเป็นตัวเลขหรือตัวอักษร 4 ตัว) มี 2 ชุด อยู่คนละบรรทัด ชุดที่ 1 บรรทัดบน เรียกว่า PIN 1 ชุดที่

2 บรรทัดล่าง เรียกว่า PIN 2 โดยทั่วไปจะใช้ PIN 1 ส่วน PIN 2 จะใช้ในบางโปรแกรมซึ่งจะระบุให้ใช้ทั้ง PIN 1 และ PIN 2 โดยจะมีคำชี้แจงแจ้งให้ทราบไว้อย่างชัดเจน

เมื่อท่านได้รหัส PIN Code มา ท่านจะได้รับกล่องจดหมายอิเล็กทรอนิกส์คนไทยดอทคอมโดยอัตโนมัติด้วย ซึ่ง e-mail

address ของท่านคือ p ตามด้วยเลขประจำตัวประชาชนของท่าน @ khonthai.com ดังตัวอย่าง

p3100199999001@khonthai.com ฟรีทันทีซึ่งให้เนื้อที่เก็บจดหมายขนาด 2 เมกะไบต์ ( Megabytes) และสามารถแนบไฟล์ข้อมูลได้ครั้งละ 30 กิโลไบต์ ( Kilobyte) เมื่อใดก็ตามที่เนื้อที่เก็บจดหมายของท่านเต็มท่านจะไม่สามารถรับจดหมาย

ใหม่ ได้ท่านต้องทำการลบจดหมายที่ไม่ต้องการทิ้งด้วยตัวท่านเอง

 

การใช้รหัส PIN Code
เมื่อท่านได้รับรหัส PIN Code มาท่านสามารถเข้าสู่ระบบตรวจสอบข้อมูลตนเองได้ทันที

สำหรับการเข้าใช้งานระบบ webmail khonthai ท่านจะใช้งานได้ในวันถัดไป  


หัวข้อ: Re: [2513] "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: prapasri AH ที่ 05 กันยายน 2554, 23:21:07
ช่องทางการเข้า ใช้งาน มีดังนี้

1. ที่เว็บไซต์ www.dopa.go.th และ คลิกที่ Banner : Thailand Gateway

2. ที่เว็บไซต์ www.khonthai.com และ คลิกที่หัวข้อ Thailand Gateway หรือ หัวข้อประตูสู่การบริการภาครัฐ หรือ URL : http://www.khonthai.com/thailandgateway/

3. ใช้ผ่านตู้บริการอเนกประสงค์ ( MPM : Multi Purpose Machine) ซึ่งเป็นเครื่องบริการประชาชนอัตโนมัติ มีระบบให้บริการประชาชนหลากหลายรูป

แบบ อาทิ การคัดสำเนารายการข้อมูลตนเอง การแจ้งย้ายเข้าหรือออกจากทะเบียนบ้านแบบอัตโนมัติโดยไม่ต้องไปทำที่อำเภอ ฯลฯ จะเปิดให้บริการ ในเร็ว ๆ นี้  


หัวข้อ: Re: [2513] "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: prapasri AH ที่ 05 กันยายน 2554, 23:22:53
ประชาชนจะได้รับ ประโยชน์อย่างไร

1. เป็นรหัสสำหรับเข้าตรวจสอบข้อมูลของตนเองจากฐานข้อมูลโดยตรง เช่น ข้อมูลตามทะเบียนราษฎร ข้อมูลการทำบัตร ข้อมูลการจดทะเบียนสมรส / หย่า ฯลฯ

2. เป็นรหัสสำหรับเข้าตรวจสอบสิทธิประโยชน์อื่นๆ ของภาครัฐที่ทางราชการจะแจ้งสิทธิต่างๆ ของท่านให้ทราบผ่านทาง

เลือกนี้ และที่จะเปิดให้บริการเพิ่มเติม เช่นสิทธิการเลือกตั้งประกันสุขภาพประกันสังคม การขึ้นทะเบียนทหารการทำใบขับขี่ฯลฯ
3.
 เป็นรหัสสำหรับเข้าขอตรวจคัดรับรองสำเนารายการทะเบียนข้อมูลของตนเองผ่านทาง Internet และตู้บริการอเนกประสงค์ (
MPM) เพื่อใช้เป็นหลักฐานในการติดต่อหน่วยงานใด ๆ ได้โดยไม่ต้องพกพาเอกสารติดตัว

4. เป็นรหัสสำหรับเข้าสู่กล่องจดหมายอิเล็กทรอนิกส์ ( E-mail Address khonthai.com ) เพื่อรับ-ส่งข้อมูลข่าวสารได้

5. เป็นรหัสสำหรับการยืนยันตัวบุคคลในการขอทำบัตรประจำตัวประชาชนครั้งต่อไป เพื่อเป็นการป้องกันบุคคลอื่นมาสวมตัวหรือสวมสิทธิขอท่านในการทำบัตร

6. เป็นรหัสในการขอเข้ารับบริการต่างๆ ภาครัฐ (E-GOVERNMENT)

7. เป็นรหัสในการแสดงความคิดเห็นและลงประชามติ
8. เป็นรหัสในการขอเข้ารับบริการทางธุรกิจ (E-BUSSINESS)

9. เป็นรหัสในการยื่นคำร้องสอบถามข้อมูลหรือจ่ายค่าบริการภาครัฐ
10. ประชาชนได้รับความสะดวกและรวดเร็วในการขอใช้บริการทำให้ประหยัดเวลาและค่า ใช้จ่าย

สิ่งเหล่านี้เป็นเพียงส่วนหนึ่งที่รัฐ จัดทำขึ้นให้แก่ประชาชนเพื่อส่งเสริมความเป็นอยู่ให้ดีขึ้นและในอนาคตอัน ใกล้นี้ ยังมีบริการอื่นๆ อีกมากที่จะตามมาดังนั้นรหัสบุคคลจึงมีความจำเป็นสำหรับทุกคนขอให้เก็บรักษา ไว้ให้ดีและพยายามจดจำไว้ให้แม่นยำ

" สิทธิของท่านท่านพึงต้องรักษาไว้ด้วยตัว ของท่าน"
[/b]  



หัวข้อ: Re: [2513] "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: prapasri AH ที่ 05 กันยายน 2554, 23:24:06

ไปนอนเเล้ว นะ good nite ค่ะ my darling my darling ทั้งหลาย


หัวข้อ: Re: [2513] "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: อ้อย 14 ที่ 06 กันยายน 2554, 13:11:27


สวัสดีค่ะนักเรียน

                สนุกไหมคะ อาหารอร่อยไหมคะ หุ้นตกจังเลยค่ะ.....


หัวข้อ: Re: [2513] "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: prapasri AH ที่ 06 กันยายน 2554, 13:24:48

อ้อยเอ๊ย เรียนไม่ค่อยรู้เรื่องเพราะไม่เคยสนใจเรื่องหุ้นในตลาดเลย

ว่าจะนำมาเล่าให้ฟังเเต่ลืม ว่าเนื้อหาสาระมีไรบ้าง

ตอนนี้เเค่จัดระบบตัวเองให้ลงตัวก่อน

เคลียร์งานที่ติดตัวอยู่ให้เสร็จเป็นงานๆไป ทำตัวไปตามตารางเลยค่ะ

แค่งานตัดชุดใส่  รื้อกระเป๋า รองเท้าเเบรนด์เนมออกมาปัดฝุ่นให้เเม่บ้านเช็ด ก็เหนื่อยเเล้ว

เรียน วปอ.คิดว่าไฮโซเเล้ว เเต่ที่นั่นยัง ถือ โอทอป กิ๊บเก๋

ที่นี่ต้องเเบรนด์ ทั่งตัว 

พี่เเอ๊ะขนาดว่า ไฮโซเเล้ว (ยินดีให้หมั่นไส้ได้เลยนะ)

 ยัง จ๋อยยยยยย เลยอ่ะ

คิดถึงอ้อย ไว้ตอนนั่งรถ ว่างๆเเล้วจะโทรหานะคะ


อ้างถึง
ข้อความของ อ้อย 14 เมื่อ 06 กันยายน 2554, 13:11:27


สวัสดีค่ะนักเรียน

                สนุกไหมคะ อาหารอร่อยไหมคะ หุ้นตกจังเลยค่ะ.....


หัวข้อ: Re: [2513] "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: เหยง 16 ที่ 06 กันยายน 2554, 16:10:07
พี่แอ๊ะ

มาตามข่าวสารข้อมูลแล้วครับ


หัวข้อ: Re: [2513] "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: เหยง 16 ที่ 13 กันยายน 2554, 21:19:47
พี่แอ๊ะครับ

มติ ครม.ปูจ๋า วันนี้ครับ
กระทรวงยุติธรรม
คณะรัฐมนตรีอนุมัติตามที่กระทรวงยุติธรรมเสนอแต่งตั้งข้าราชการพลเรือนสามัญให้ดำรงตำแหน่งประเภทบริหารระดับสูง กระทรวงยุติธรรม จำนวน 7 ราย ดังนี้
   
1. นายชาติชาย สุทธิกลม อธิบดี (บริหารสูง) กรมราชทัณฑ์ กระทรวงยุติธรรม ให้ดำรงตำแหน่งรองปลัดกระทรวง (บริหารสูง) สำนักงานปลัดกระทรวง กระทรวงยุติธรรม
                                                           ฯลฯ
ทั้งนี้ ตั้งแต่วันที่ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ แต่งตั้งเป็นต้นไป 



หัวข้อ: Re: [2513] "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: prapasri AH ที่ 13 กันยายน 2554, 22:21:41
ว๊า น้องเหยง

เเสดงว่า ชาติชาย ถูกย้าย ใช่มะ  ฮือๆๆๆๆ

อ้างถึง
ข้อความของ เหยง 16 เมื่อ 13 กันยายน 2554, 21:19:47
พี่แอ๊ะครับ

มติ ครม.ปูจ๋า วันนี้ครับ
กระทรวงยุติธรรม
คณะรัฐมนตรีอนุมัติตามที่กระทรวงยุติธรรมเสนอแต่งตั้งข้าราชการพลเรือนสามัญให้ดำรงตำแหน่งประเภทบริหารระดับสูง กระทรวงยุติธรรม จำนวน 7 ราย ดังนี้
   
1. นายชาติชาย สุทธิกลม อธิบดี (บริหารสูง) กรมราชทัณฑ์ กระทรวงยุติธรรม ให้ดำรงตำแหน่งรองปลัดกระทรวง (บริหารสูง) สำนักงานปลัดกระทรวง กระทรวงยุติธรรม
                                                           ฯลฯ
ทั้งนี้ ตั้งแต่วันที่ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ แต่งตั้งเป็นต้นไป 




หัวข้อ: Re: [2513] "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: prapasri AH ที่ 13 กันยายน 2554, 22:25:21
ไม่มีเวลามาคุยเลย เเต่เเวะมาอ่าน หากน้องคนไหนเข้ามา พี่เเอ๊ะก็จะรีบมาคุยด้วยนะคะ

หากบ้านว่างๆไม่มีคนมาเยี่ยมพี่เเอ๊ะก็ ไป เวบ อื่นนะคะ

เพราะ ยุ่งจริงๆ ยังปรับตัวปรับเวลาไม่ได้ กิจกรรมมีตลอด

บางวันมี evening class  เรียนถึงเที่ยงคืนค่ะ


หัวข้อ: Re: [2513] "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: prapasri AH ที่ 13 กันยายน 2554, 22:33:13
หาก น้องๆ ต้องการให้พี่เเอ๊ะมาคุยด้วยก็มาคุยบ่อยๆเหมือนเหยง นะคะ


อาทิตย์หน้า เพื่อนที่ มาจาก บ.ทรู เขาจะเอา ipad 2 เเละไอโฟนมาเเจกให้เพื่อนทั้งรุ่นค่ะ

พี่เเอ๊ะคงคุยได้มากขึ้นจาก ipad2

 เมื่อวันพฤหัสที่เเล้ว เขา มี class พิเศษ ก่อนเวลาเรียน 

เขามาสอนเรื่องการใช้   bb  i-phone เเละ i-pad

เเต่พี่เเอ๊ะ มัวไปทำผม ตีโป่ง เลย มาเรียนไม่ทัน เสียดายจัง ไม่งั้นป่านนี้ชำนาญไปเยอะเเล้ว เด่วต้องเรียนเอาเอง

รอให้ได้ ipad 2  ฟรี ก่อนนะ

เเต่ตอนนี้ เขาบอกว่า จะมี i-phone 5 เเล้วนะคะ


หัวข้อ: Re: [2513] "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: เหยง 16 ที่ 14 กันยายน 2554, 18:38:34
พี่แอ๊ะ

มีตัวเก่าๆ ก็ส่งไปให้ผมได้น่ะ


หัวข้อ: Re: [2513] "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: เหยง 16 ที่ 14 กันยายน 2554, 18:39:42
ช่วงนี้สถานการณ์หุ้นไม่ดี ภาพยังไม่ชัดทั้งกรณีของยูโรโซน และเศรษฐกิจของสหรัฐ


หัวข้อ: Re: [2513] "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: prapasri AH ที่ 14 กันยายน 2554, 21:57:39
เหยง
หากพี่เเอ๊ะทราบหุ้นดีเเล้วจะบอก เเต่ตอนนี้ยังไม่เข้าใจเรื่องหุ้นเท่าไรค่ะ

หรุ่งนี้ต้องตื่นตี 5 ไปขึ้นเครื่อง 8โมงที่อุบล

ชีวิตนี้ งงๆๆๆ ค่ะ ว่าต้องไปตามตารางทุกรายการ

เมื่อวาน ประชุม ส อบจ.

วันนี้ต้องไปนั่งเเทนนายก อบจ. ในการให้คณะกรรมการ ซักถามเรื่องการจัดงบประมาณ

เขาเรียก  เเปรญัตติ  ก็ยัง  งง งง งง ค่ะ

งานหอพี่เเอ๊ะคงไม่ได้เข้ามาช่วย นะปีนี้  เพราะยุ่งจนไม่รู้จะทำอะไรก่อนหลังค่ะ

เดือน หน้า ไป ตุรกี ไปดูตลาดหลักทรัพย์ที่นั่น ค่ะ

ขอบคุณที่เเวะมาคุยนะเหยงน้องรัก


หัวข้อ: Re: [2513] "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: pusadee sitthiphong ที่ 14 กันยายน 2554, 23:41:32
อ้างถึง
ข้อความของ prapasri AH เมื่อ 13 กันยายน 2554, 22:33:13
หาก น้องๆ ต้องการให้พี่เเอ๊ะมาคุยด้วยก็มาคุยบ่อยๆเหมือนเหยง นะคะ


อาทิตย์หน้า เพื่อนที่ มาจาก บ.ทรู เขาจะเอา ipad 2 เเละไอโฟนมาเเจกให้เพื่อนทั้งรุ่นค่ะ

พี่เเอ๊ะคงคุยได้มากขึ้นจาก ipad2

 เมื่อวันพฤหัสที่เเล้ว เขา มี class พิเศษ ก่อนเวลาเรียน 

เขามาสอนเรื่องการใช้   bb  i-phone เเละ i-pad

เเต่พี่เเอ๊ะ มัวไปทำผม ตีโป่ง เลย มาเรียนไม่ทัน เสียดายจัง ไม่งั้นป่านนี้ชำนาญไปเยอะเเล้ว เด่วต้องเรียนเอาเอง

รอให้ได้ ipad 2  ฟรี ก่อนนะ

เเต่ตอนนี้ เขาบอกว่า จะมี i-phone 5 เเล้วนะคะ

หมู่นี้ไม่ค่อยได้อยู่บ้านค่ะ เลยไม่ค่อยได้เข้ามา อยากคุยกับพี่แอ๊ะเสมอค่ะ
ยืนยัน
ขอพี่แอ๊ะหาเวลาว่างมางานหอให้ได้นะคะ
คิดถึงค่ะ


หัวข้อ: Re: [2513] "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: เหยง 16 ที่ 15 กันยายน 2554, 22:25:13
อ้างถึง
ข้อความของ prapasri AH เมื่อ 14 กันยายน 2554, 21:57:39
เหยง
หากพี่เเอ๊ะทราบหุ้นดีเเล้วจะบอก เเต่ตอนนี้ยังไม่เข้าใจเรื่องหุ้นเท่าไรค่ะ

หรุ่งนี้ต้องตื่นตี 5 ไปขึ้นเครื่อง 8โมงที่อุบล

ชีวิตนี้ งงๆๆๆ ค่ะ ว่าต้องไปตามตารางทุกรายการ

เมื่อวาน ประชุม ส อบจ.

วันนี้ต้องไปนั่งเเทนนายก อบจ. ในการให้คณะกรรมการ ซักถามเรื่องการจัดงบประมาณ

เขาเรียก  เเปรญัตติ  ก็ยัง  งง งง งง ค่ะ

งานหอพี่เเอ๊ะคงไม่ได้เข้ามาช่วย นะปีนี้  เพราะยุ่งจนไม่รู้จะทำอะไรก่อนหลังค่ะ

เดือน หน้า ไป ตุรกี ไปดูตลาดหลักทรัพย์ที่นั่น ค่ะ

ขอบคุณที่เเวะมาคุยนะเหยงน้องรัก


พี่แอ๊ะ

ไม่ต้องช่วยงาน มาร่วมงานพร้อมพี่หมอหาญอย่างเดียวเป็นพอครับ น้องๆ ช่วยงานเยอะแยะไป


หัวข้อ: Re: [2513] "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: prapasri AH ที่ 18 กันยายน 2554, 21:27:24
หวัดดีเหยงคะ

วันนี้พี่เเอ๊ะกลัจากรุงเทพ เเละวันอังคาร ต้องเดินทางเข้ากรุงอีก  

น้อง ya  เห้นมาเที่ยว ห้อง2513 ไม่เห็นเข้ามาคุยกะพี่เเอ๊ะเลย


หัวข้อ: Re: [2513] "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: ภาณุ ปาตานี ที่ 18 กันยายน 2554, 21:43:11
มาสวัสดีทันทีครับ...ช้าไป 13 นาทีเท่านั้น ยังไม่ 1 Quater

ถือว่าทันเวลาครับ


หัวข้อ: Re: [2513] "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: หนุน'21 ที่ 19 กันยายน 2554, 19:36:53


ตามพี่เหยง น้องยา เข้ามาสวัสดีพี่แอ๊ะด้วยครับ


หัวข้อ: Re: [2513] "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: prapasri AH ที่ 19 กันยายน 2554, 22:45:12

เเวะเข้ามา บ้าน เลยต้อง เปิดประตูบ้าน sign in
เพื่อต้อนรับน้องหนุน ค่ะ

น้อง ya มานั่งคอย ตั้งเเต่เมือคืน สับปะหงก ไป 24 ชั่วโมงเเล้วค่ะ เหอๆๆๆๆ

อ้างถึง
ข้อความของ หนุน'21 เมื่อ 19 กันยายน 2554, 19:36:53


ตามพี่เหยง น้องยา เข้ามาสวัสดีพี่แอ๊ะด้วยครับ


หัวข้อ: Re: [2513] "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: prapasri AH ที่ 19 กันยายน 2554, 22:59:56
ส่งรูป ทีไปเจอชาวหอจุฬา ที่  บริสเลอร์ เอาท์เล็ท

น้องเข้ามาทัก บอกว่าจำพี่เเอ๊ะได้จาก เวบซีมะโด่ง

  น้อง 17 มางาน ลูกสาวของน้อง รับปริญญาเอกค่ะ

น้องรุ่น  17 คงรู้จักนะคะ  น้องเขาจบบัญชีค่ะ




หัวข้อ: Re: [2513] "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: prapasri AH ที่ 19 กันยายน 2554, 23:12:05
อ๊าวววววว รูปไม่มา ขอเป็นอีกสองสามวันนะเพราะพรุ่งนี้ต้องเข้ากรุง อีกแล้วค่ะ

วันนี้ขอไปนอนก่อน ค่ะ


หัวข้อ: Re: [2513] "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: เหยง 16 ที่ 20 กันยายน 2554, 23:44:55
อีก 2-3 วันจะตามเข้ามาชมรูปด้วยครับ


หัวข้อ: Re: [2513] "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: Kaimook ที่ 22 กันยายน 2554, 21:38:14
สวัสดีค่ะพี่แอ๊ะ.....


หัวข้อ: Re: [2513] "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: Mai25 ที่ 27 กันยายน 2554, 23:38:16
พี่แอ๊ะสวัสดีค่ะ

เฝ้าติดตามค่ะ


หัวข้อ: Re: [2513] "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: prapasri AH ที่ 04 ตุลาคม 2554, 10:31:27
ขอบคุณน้องใหม่ น้องไข่มุกดิ์ เเละเหยง น้อง  ya  น้องหนุน เเละน้องท่านอื่นๆ
ที่เข้ามาเยี่ยม


 ช่วงนี้พี่เเอ๊ะไม่ว่างเข้ามาเลยค่ะ พอดีน้องติ๊บ ท้อง  เเละทำท่าจะคลอดก่อนกำหนดเด็กเเค่1300 กรัม หมอกำลังให้ยาให้ไม่

คลอดก่อนพยายามอย่างน้อยให้ได้ 1500 กรัมออกมาต้องเลี้ยงในตู้อบเเละต้องฉีดยาให้ปอดเเข็งเเรง

ตอนนี้นอนอยู่ที่น้องคลอดร.พรามาธิบดี เขาห้ามเยี่ยมด้วยค่ะ  
อ้างถึง
ข้อความของ เหยง 16 เมื่อ 20 กันยายน 2554, 23:44:55
อีก 2-3 วันจะตามเข้ามาชมรูปด้วยครับ
อ้างถึง
ข้อความของ Kaimook เมื่อ 22 กันยายน 2554, 21:38:14
สวัสดีค่ะพี่แอ๊ะ.....

อ้างถึง
ข้อความของ Mai25 เมื่อ 27 กันยายน 2554, 23:38:16
พี่แอ๊ะสวัสดีค่ะ

เฝ้าติดตามค่ะ


หัวข้อ: Re: [2513] "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: wannee ที่ 04 ตุลาคม 2554, 18:39:58

สวัสดีค่ะ พี่แอ๊ะ  

รักษาสุขภาพนะคะ






หัวข้อ: Re: [2513] "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: ทราย 16 ที่ 05 ตุลาคม 2554, 08:51:44
มาให้กำลังใจกะน้องติ๊บ
และครอบครัวพี่แอ๊ะค่ะ
ทราย 16


หัวข้อ: Re: [2513] "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: jeam ที่ 05 ตุลาคม 2554, 22:24:36
ขอพระคุ้มครองให้ปลอดภัยครับ....

ผมได้รับ mail จากพี่แอ๊ะ แต่ไม่มีข้อความอะไรครับ
มีประโยคว่า ..Read this Meaasge Here..
พอคลิกเข้าไป เป็น web ที่มีคำเตือนจาก anti virus ว่าไม่ปลอดภัย เลยไม่เข้าต่อ

ไม่รู้ email (Hotmail) ของพี่ถูก Hack หรือป่าว...
คนอื่นได้ด้วยหรือไม่ บอกให้ทราบครับ


หัวข้อ: Re: [2513] "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: prapasri AH ที่ 09 ตุลาคม 2554, 23:27:38
กำลังกลุ้มใจเลยค่ะ น้องเจียม

เพราะไวรัสเข้าอีเมล์พี่เเอ๊ะ ตอนนี้เข้าอีเมล์ตัวเองไม่ได้เลย กู้คืนก็ไม่เป็น

หากน้องๆสนใจข่าวคราวน้องกระติ๊บ เข้าไปที่ face book พี่เเอ๊ะ นะคะ prapasri suchantabutr ค่ะ

อ้างถึง
ข้อความของ jeam เมื่อ 05 ตุลาคม 2554, 22:24:36
ขอพระคุ้มครองให้ปลอดภัยครับ....

ผมได้รับ mail จากพี่แอ๊ะ แต่ไม่มีข้อความอะไรครับ
มีประโยคว่า ..Read this Meaasge Here..
พอคลิกเข้าไป เป็น web ที่มีคำเตือนจาก anti virus ว่าไม่ปลอดภัย เลยไม่เข้าต่อ

ไม่รู้ email (Hotmail) ของพี่ถูก Hack หรือป่าว...
คนอื่นได้ด้วยหรือไม่ บอกให้ทราบครับ


หัวข้อ: Re: [2513] "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: prapasri AH ที่ 09 ตุลาคม 2554, 23:34:32
ขอบคุณน้องทุกท่านนะคะ ทั้งที่ได้เอ่ยนาม หรือไม่ได้เอ่ยนาม  ช่วงนี้พี่เเอ๊ะต้องเฝ้าลูก เเละ บินกลับยโสเย็นเเละบินเข้ากรุงเทพเช้า ในบางวัน เพราะต้องมาเซ็นเช็ค  เซ็นเเฟ้ม ค่ะ  เช็คยังต้องเซ็นเอง ในบางบัญชี ให้ใครเซ็นเเทนไม่ได้ค่ะ

เลย ยุ่งขิง เเต่มีความสุขที่ได้ทำหน้าที่เเม่ของลูก  

เรื่องน้ำท่วม หรือข่าวคราวบ้านเมืองไม่ได้สนใจเลยค่ะ ทีวีก็ไม่ได้ดู เพราะ เปิดทีวีที่กรุงเทพไม่เป็น

หนังสือพิมพ์ก็ไม่ได้อ่าน เพราะบ้านกรุงเทพมีเเต่เเม่บ้าน เลยไม่ได้รับหนังสือพิมพ์ค่ะ

สงสารตัวเองเเย่เเล้ววววววววววววววว

โชคดี มี bb เลย up ข่าวลง fb ได้ ช่วงนั่งรถ ค่ะ
อ้างถึง
ข้อความของ Jintana Yhoung-aree เมื่อ 05 ตุลาคม 2554, 08:51:44
มาให้กำลังใจกะน้องติ๊บ
และครอบครัวพี่แอ๊ะค่ะ
ทราย 16
อ้างถึง
ข้อความของ wannee เมื่อ 04 ตุลาคม 2554, 18:39:58

สวัสดีค่ะ พี่แอ๊ะ 

รักษาสุขภาพนะคะ





อ้างถึง
ข้อความของ Mai25 เมื่อ 27 กันยายน 2554, 23:38:16
พี่แอ๊ะสวัสดีค่ะ

เฝ้าติดตามค่ะ
อ้างถึง
ข้อความของ Kaimook เมื่อ 22 กันยายน 2554, 21:38:14
สวัสดีค่ะพี่แอ๊ะ.....



หัวข้อ: Re: [2513] "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: เหยง 16 ที่ 10 ตุลาคม 2554, 19:11:31
พี่แอ๊ะ

ขอลุยน้ำมาให้กำลังใจพี่  หลานกระติ๊บและหลานในท้องครับ


หัวข้อ: Re: [2513] "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: prapasri AH ที่ 10 ตุลาคม 2554, 19:24:56
เหยง

นครสวรรค์เป็นยังไง บ้าง เเย่เเล้วหรือ

เหยงอยู่พิจิตร หรือนครสวรรค์ คะ


หัวข้อ: Re: [2513] "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: เหยง 16 ที่ 11 ตุลาคม 2554, 16:44:50
พี่แอ๊ะ

อยู่นครสวรรค์ บนถนนสายนครสวรรค์-พิษณุโลก กม.ที่ 12, ส่วนจังหวัดพิจิตร อยู่เลยผมไปอีกประมาณ 40 ก.ม.ครับ
ถนนสายนี้ ตั้งแต่ กม.ที่ 4 - 17 จมน้ำ รถทุกชนิดผ่านไม่ได้มาเกือบเดือนแล้วครับ
กิจกรรมการค้าของผมยุติมาเกือบเดือนเช่นกัน
ในขณะที่รอบบ้าน อาทิ วัดท่าดินแดง ตำบลบางพระหลวง (หลังบ้านผม 15 กม.)
สถานที่ซึ่ง ร. 5 เสด็จประพาสต้นไปดูการรักษาโรคเรื้อน โดยใช้ลูกกระเบาและมีโบสถ์ลอยน้ำหลังเดียวของไทย
และปีที่แล้ว นายกฯอภิสิทธิ์ เดินทางไปแจกเงิน 5,000 บาทเพราะน้ำท่วมนั้น  ปีนี้จมน้ำมานานกว่า 2 เดือนแล้ว


หัวข้อ: Re: [2513] "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: prapasri AH ที่ 12 ตุลาคม 2554, 23:15:09
ตายเเล้ววววววววว

กลุ้มใจจัง ดูข่าวเเล้วเครียด จนไม่อยากดูเเล้ววววว

ขอให้ปลอดภัยนะเหยง


หัวข้อ: Re: [2513] "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: wannee ที่ 12 ตุลาคม 2554, 23:23:48

สวัสดีค่ะ พี่แอ๊ะ 

เนื่องจากปัญหาน้ำท่วมขณะนี้    งานคืนสู่เหย้าปีนี้ จึงเลื่อนไปก่อน  เพิ่งประชุมเสร็จค่ำนี้เองค่ะ

จึงขอเรียนให้พี่แอ๊ะทราบค่ะ 

พี่แอ๊ะ  รักษาสุขภาพด้วยนะคะ


หัวข้อ: Re: [2513] "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: เหยง 16 ที่ 13 ตุลาคม 2554, 10:53:55
พี่แอ๊ะครับ

งานช้างมารอพี่แล้วครับตั้งแต่วันจันทร์ที่ 17 นี้เป็นต้นไป

ดูทิศทางการเดินของพายุโซนร้อน Banyan ซีครับ เป็นไปแบบเสมือนแกล้งคนไทยที่กำลังจมน้ำอยู่เลย
พัดผ่านทางตอนใต้ของหมู่เกาะฟิลิปปินส์ แล้วแถขึ้นเหนือมาพาดผ่านทะเลจีนตอนใต้และตอนใต้ของเกาะไหหลำ
จากนั้นวกลงใต้เล็กน้อยเพื่อเข้าฝั่งเวียตนามใต้เมืองเว้-ดานัง แล้วเข้าลาว
ออกใต้จังหวัดมุกดาหาร ในช่วงวันจันทร์ที่ 17 ตุลาคม นี้ โดยน่าจะเป็นช่วงค่ำๆ ไปแล้ว (หากไม่มีการเปลี่ยนทิศทางเดิน)
ส่งผลกระทบต่อภาคอิสาน ภาคตะวันออก ภาคกลางตอนบน หรือภาคเหนือตอนล่าง กทม.และปริมณฑล


(http://www.cmadong.com/imgup/pics/cmd137445_3954202_5753636_4389892photo.jpg)


หัวข้อ: Re: [2513] "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: เหยง 16 ที่ 13 ตุลาคม 2554, 17:42:25
ภาพชุดใหม่ของแนวทางเดินของ "พายุโซนร้อน Banyan" ออกจากฟิลิปปินส์มาแล้ว
หากพายุลูกนี้สะสมน้ำในมหาสมุทรปาชิฟิคเพิ่ม จะทวีความรุนแรงขึ้น
กำหนดขึ้นฝั่งเหนือเมืองเว้ ผ่านมาทางใต้ของจังหวัดมุกดาหารเล็กน้อย ในวันที่ 18 ช่วงเช้า


(http://www.cmadong.com/imgup/pics/cmd645688_648636_5019725_2208954photo.jpg)


หัวข้อ: Re: [2513] "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: เหยง 16 ที่ 14 ตุลาคม 2554, 10:57:35
พี่แอ๊ะครับ
อัพเดท พายุโซนร้อน บันยอน Banyan ครับ


น่าจะสบายใจขึ้นระดับหนึ่งครับ พายุหกหัวลงใต้เมืองเว้ (Hue) ของเวียตนาม ส่งผลให้พายุจะพัดเข้าประเทศเขมร โดยผ่านตอนใต้ของ สปป.ลาว และน่าจะมีอิทธิพลต่อเมืองชายทะเลตะวันตกของไทยคือ จันทบุรี ตราด ปราจีนบุรี ศรีษะเกษ ในรูปของดีเปรสชั่น ในวันพุธที่ 19 ต.ค.นี้ โดยเริ่มตั้งแต่ตีหนึ่งเป็นต้นไป ด้วยความเร็วลมประมาณ 20 ถึง 30 น๊อต

(http://www.cmadong.com/imgup/pics/cmd638465_8851539_3342457_1496851photo.jpg)


หัวข้อ: Re: [2513] "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: เหยง 16 ที่ 14 ตุลาคม 2554, 14:05:29
ภาพผ่านด่วเทียม ที่แสดงพายุโซนร้อน Banyan และกลุ่มเมฆที่ปกคลุมประเทศไทย

(http://www.cmadong.com/imgup/pics/cmd258031_4790147_3395503_7172591photo.jpg)


หัวข้อ: Re: [2513] "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: เหยง 16 ที่ 14 ตุลาคม 2554, 18:40:14
อัพเดทอีกรอบครับ.............

Banyan น่าจะลดระดับลงเป็น "ดีเปรสชั่น" เนื่องจากความเร็วลมลดลง
ทิศทางชัดเจนขึ้น คือเข้าใต้เมืองเว้ (Hue) ผ่านตอนใต้ของลาว เข้าสู่เขมรตอนบน
ทะลุเขาพระวิหารสู่จังหวัดอีสานใต้คือ ศรีษะเกษ เข้าสู่ภาคตะวันออกของไทย
และน่าจะมีอิทธิพลต่อ กทม.และปริมณฑลด้วย


(http://www.cmadong.com/imgup/pics/cmd539674_8800477_2916120_6476484photo.jpg)

ภาพดาวเทียมแสดงยืนยันว่าพายุโซนร้อน บันยัน Banyan ลดระดับความรุนแรงลงอย่างชัดเจน
โชคดีของประเทศไทย (ในขณะนี้ครับ)


(http://www.cmadong.com/imgup/pics/cmd221921_5997022_65161_8421798photo.jpg)



หัวข้อ: Re: [2513] "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: เหยง 16 ที่ 15 ตุลาคม 2554, 11:58:34
พี่แอ๊ะ
 ไม่ได้เข้าเว็ปมาสองวันแล้วครับ อัพเดทข้อมูลพายุ "บันยัน" ครับ

ภาพล่าสุดและน่าจะเป็นภาพสุดท้ายของ "บันยัน" Banyan เนื่องจากแปรสภาพเป็นหย่อมความกดอากาศไปแล้ว


(http://www.cmadong.com/imgup/pics/cmd598935_4166523_726040_6720131photo.jpg)

ภาพถ่ายทางดาวเทียม ไม่ปรากฎพายุในมหาสมุทรอินเดีย
แต่ฝั่งเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ จะพบกลุ่มเมฆเหนือประเทศไทย เขมร ลาวและเวียตนาม ซึ่งเป็นอิทธิพลของ "บันยัน"


(http://www.cmadong.com/imgup/pics/cmd107214_2668731_5704128_214984photo.jpg)


หัวข้อ: Re: [2513] "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: เหยง 16 ที่ 15 ตุลาคม 2554, 11:59:56
กรมอุตุฯแจง พายุ บันยัน อ่อนกำลังลงแล้ว ไม่กระทบไทย แต่จะมีฝนตกหนักในระยะ 1-2 วันนี้

วันนี้ (15 ต.ค.) กรมอุตุนิยมวิทยา รายงานว่า ร่องมรสุมพาดผ่านภาคกลาง ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และภาคตะวันออกเข้าสู่หย่อมความกดอากาศต่ำบริเวณชายฝั่งประเทศเวียดนาม ลักษณะเช่นนี้ทำให้บริเวณภาคกลาง ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และภาคตะวันออกของประเทศไทยยังคงมีฝนฟ้าคะนองกระจายถึงเกือบทั่วไป และมีฝนตกหนักได้บางแห่ง ในระยะ 1-2 วันนี้

อนึ่ง พายุดีเปรสชัน “บันยัน”บริเวณทะเลจีนใต้ได้อ่อนกำลังลงเป็น หย่อมความกดอากาศต่ำกำลังแรงแล้ว และจะไม่มีผลกระทบกับประเทศไทย

ภาคเหนือ  มีฝนฟ้าคะนองกระจาย ร้อยละ 40 ของพื้นที่ ส่วนมากบริเวณจังหวัดอุตรดิตถ์ สุโขทัย กำแพงเพชร พิษณุโลก พิจิตร แพร่ และน่าน อุณหภูมิต่ำสุด 23-24 องศา อุณหภูมิสูงสุด 31-34 องศา ลมเหนือ ความเร็ว 10-30 กม./ชม.
 
ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ  มีฝนฟ้าคะนองเกือบทั่วไป ร้อยละ 70 ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักบางแห่ง
บริเวณจังหวัดสกลนคร นครพนม มุกดาหาร อำนาจเจริญ ชัยภูมิ กาฬสินธ์ ร้อยเอ็ด ยโสธร นครราชสีมา บุรีรัมย์ สุรินทร์ ศรีสะเกษ และอุบลราชธานี อุณหภูมิต่ำสุด 22-24 องศา อุณหภูมิสูงสุด 28-32 องศา ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 15-35 กม./ชม.
 
ภาคกลาง  มีฝนฟ้าคะนองเกือบทั่วไป ร้อยละ 70 ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักบางแห่ง ส่วนมากบริเวณจังหวัดอุทัยธานี สิงห์บุรี อ่างทอง ลพบุรี สระบุรี และพระนครศรีอยุธยา อุณหภูมิต่ำสุด 23-24 องศา อุณหภูมิสูงสุด 30-33 องศา ลมแปรปรวน ความเร็ว 15-30 กม./ชม.
 
ภาคตะวันออก  มีฝนฟ้าคะนองเกือบทั่วไป ร้อยละ 80 ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักบางแห่ง บริเวณจังหวัดนครนายก สระแก้ว จันทบุรี และตราด อุณหภูมิต่ำสุด 23-25 องศา อุณหภูมิสูงสุด 29-32 องศา ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 15-30 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูง ประมาณ 1 เมตร บริเวณฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร
 
ภาคใต้ (ฝั่งตะวันออก)  มีฝนฟ้าคะนองเป็นแห่งๆ ร้อยละ 30 ของพื้นที่ ส่วนมากบริเวณจังหวัดเพชรบุรี ประจวบคีรีขันธ์ และชุมพร อุณหภูมิต่ำสุด 22-25 องศา อุณหภูมิสูงสุด 31-34 องศา ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 15-30 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร บริเวณฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร
 
ภาคใต้ (ฝั่งตะวันตก)  มีฝนฟ้าคะนองเป็นแห่งๆ ร้อยละ 30 ของพื้นที่ ส่วนมากบริเวณจังหวัดระนอง และพังงา อุณหภูมิต่ำสุด 21-24 องศา อุณหภูมิสูงสุด 29-33 องศา ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 15-35 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูง 1-2 เมตร บริเวณฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร
 
กรุงเทพมหานครและปริมณฑล  มีฝนฟ้าคะนองเกือบทั่วไป ร้อยละ 80 ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักบางแห่ง อุณหภูมิต่ำสุด 24-25 องศา อุณหภูมิสูงสุด 31-32 องศา ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 15-30 กม./ชม.


http://www.dailynews.co.th/newstartpage/index.cfm?page=content&categoryID=561&contentID=169796


หัวข้อ: Re: [2513] "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: prapasri AH ที่ 16 ตุลาคม 2554, 08:09:13
เหยงคะ

ฝนเริ่มตกที่ยโสธร เเต่ตกยังไม่มาก ฟ้ามืด

อากาศเริ่มหนาว

พี่เเอ๊ะกลับมาตั้งหลักที่ยโสธรก่อน

น้องติ๊บยังอยู่กรุงเทพ เพราะต้อง บีบน้ำนมไปป้อนลูกในตู้อบค่ะ




หัวข้อ: Re: [2513] "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: เหยง 16 ที่ 17 ตุลาคม 2554, 06:55:50
พี่แอ๊ะ

ระวังอากาศหนาวประทะกับอากาศร้อน ฝนตะตกหนัก ที่เขาเรียก "ฝนสั่งฟ้า" นะครับ
อีสานก็จมน้ำเช่นกัน บริเวณใกล้เขื่อนอุบลรัตน์ เห็นว่าระบายน้ำออกมากทีเดียว


หัวข้อ: Re: [2513] "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: ภาณุ ปาตานี ที่ 17 ตุลาคม 2554, 07:24:47
สวัสดีครับพี่แอ๊ะ พี่เหยง

ทราบข่าวว่า พี่เหยงได้รับผลกระทบจากน้ำท่วมมาก

ยังไงก็ขอให้สู้ต่อไปนะครับพี่


หัวข้อ: Re: [2513] "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: supanee ที่ 17 ตุลาคม 2554, 09:49:48
พี่แอ๊ะคะ
ยินดีด้วยค่ะ เป็นคุณยายแล้ว หลานหญิงหรือชายคะ
ขอให้หลานแข็งแรง น้ำหนักขึ้นไวๆ คุณแม่มีน้ำนมเยอะๆ คุณยายอย่าเครียดนะคะ หลานอยู่ในแวดวงหมอทั้งนั้น


หัวข้อ: Re: [2513] "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: เหยง 16 ที่ 17 ตุลาคม 2554, 14:13:39
อ้างถึง
ข้อความของ YA เมื่อ 17 ตุลาคม 2554, 07:24:47
สวัสดีครับพี่แอ๊ะ พี่เหยง

ทราบข่าวว่า พี่เหยงได้รับผลกระทบจากน้ำท่วมมาก

ยังไงก็ขอให้สู้ต่อไปนะครับพี่

ยา

พี่เหยงขอบใจที่มาให้กำลังใจพี่
ชาวหออีกจำนวนมากอาจจะต้องต่อสู้กับน้ำ หากมันเข้าท่วมใน กทม.และปริมณฑล
เชื่อว่า ขณะนี้ คงมีพวกเราหลายคนเจอเข้าไปแล้วก็ได้ทั้งที่นนทบุรี ปทุมธานี พระนครศรีอยุธยา
กทม. ก็แถวมีนบุรี ฝั่งธนฯ
เป็นกำลังใจด้วยเช่นกัน อย่าเครียด เอาชนะน้ำท่วมแบบทำข้อสอบให้ผ่านก็ได้


หัวข้อ: Re: [2513] "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: prapasri AH ที่ 23 ตุลาคม 2554, 16:02:20

ขอบคุณน้องอิ๊ดค่ะ

ตอนนี้น้องติ๊บออกจากร.พ ไปอยู่คอนโดของหมอนัทซอยอารี พหลโยธินค่ะ

ลูกยังอยู่ในตู้อบ

บีบน้ำนมใส่ เเพคใส่ ซอง เเช่ตู้เย็นไว้ ตอนเช้าให่พ่อหมอนัทเอาไปอุ่นป้อนลูก ในห้องเด็ก คิดว่าต้องอยู่อีกสองเดือน

น้ำหนักขึ้นนิดหน่อย ตอนเย็นเเม่ติ๊บเดินลุยน้ำไปป้อนนมลูกค่ะ

สมัยนี้ ทันสมัย มีอุปกรณ์ sterile เก็บน้ำนมไว้ได้ถึงหกเดือน

ขอให้ชาวหอที่อยู่กรุงเทพ ปลอดภัยนะคะ

พี่เเอ๊ะจะไปประชุมกรรมการสภามหาวิทยาลัยราชภัฎสุราษฏร์ คงบินจากอุบล เเล้วต่อเครื่องไปสุราษฏร์

ทั้งไปเเละกลับ ไม่กล้าเเวะเข้าบ้านกรุงเทพค่ะ

อ้างถึง
ข้อความของ supanee เมื่อ 17 ตุลาคม 2554, 09:49:48
พี่แอ๊ะคะ
ยินดีด้วยค่ะ เป็นคุณยายแล้ว หลานหญิงหรือชายคะ
ขอให้หลานแข็งแรง น้ำหนักขึ้นไวๆ คุณแม่มีน้ำนมเยอะๆ คุณยายอย่าเครียดนะคะ หลานอยู่ในแวดวงหมอทั้งนั้น


หัวข้อ: Re: [2513] "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: เหยง 16 ที่ 05 ธันวาคม 2554, 09:41:21
(http://www.cmadong.com/imgup/pics/cmd929865_2733709_5018452_3462811photo.jpg)

สวัสดี พี่ๆ เพื่อน น้องๆ ชาวหอ และทุกท่าน ในวันพ่อ 5 ธันวาคม ครับ

ขอพระองค์ทรงพระเจริญ




ภาพจากไทยโพสต์ ออนไลน์


หัวข้อ: Re: [2513] "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: prapasri AH ที่ 12 ธันวาคม 2554, 22:05:11
พี่เเอ๊ะไปเที่ยวเชียงใหม่มาค่ะ
เจอน้องอิ๊ด 14
ในตัวเมือง เจียงใหม่

เเละเจอน้อง ปลาทูเเมน
ที่ดอยอินทนนท์ 

สุดเเสนจะดีใจ

น้องปลาทูเเมนถ่ายรูปให้พี่เเอ๊ะด้วย

รีบpost เร็วนะคะ รีทัช ให้ด้วยนะคะ

ช่วงนี้ ยุ่งมาก ไม่ได้เข้าเวบหอเลยค่ะ

ขอโทษด้วยนะคะ

เหยงคงไม่ว่านะ พี่เเอ๊ะคิดถึงเหยงมากค่ะ

เป็นห่วงด้วย  คงไม่เป็นอะไรเเล้วนะ

 น้องน้ำเน่าตายเเล้ว


หัวข้อ: Re: [2513] "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: prapasri AH ที่ 12 ธันวาคม 2554, 22:11:31
ปล. หลานพี่เเอ๊ะ ยังอยู่ใน nursing icu ที่ รามา

น้ำหนักขึ้นมา 3000 กรัมแล้ว

เเต่ยังออกจากร.พไม่ได้ พอฉีดวัคซีน จะมีไข้อีก

 เเละยังหายใจเหนื่อยหอบต้อง on oxygen ในบางครั้ง

เด็กคลอดก่อนกำหนด ปอดจะไม่เเข็งเเรงค่ะ

เลยเปลียนชื่อจาก น้อง โออาร์ ที่เเปลว่าห้องผ่าตัด เป็นน้องสมาร์ท เเล้วค่ะ

ชื่อน้อง โออาร์ เลยสลบ ทั้งวัน ค่ะ พอชื่อสมาร์ท ตื่น เล่นได้เลยค่ะ

หมอยังไม่ให้ออกจากร.พค่ะ

น้องติ๊บเป็น baby sist อยู่กับลูก ทั้งวัน ตั้งเเต่เช้าจนเย็น

เห็นว่าไม่อยากเป็นหมอเเล้วอยากเลี้ยงลูกอย่างเดียวค่ะ

update ข่าว เท่านี้ก่อนนะคะ


หัวข้อ: Re: [2513] "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: Preecha2510 ที่ 12 ธันวาคม 2554, 23:07:40

         ขออวยพรให้หลานมีสุขภาพสมบูรณ์แข็งแรงและออกจากโรงพยาบาลโดยเร็วไว คุณตาคุณยายจะได้

 อุ้มหลานด้วยความชื่นใจ และพักวางมือจากงานเสียทีเพื่อมาช่วยเลี้ยงหลานต่อไป


หัวข้อ: Re: [2513] "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: supanee ที่ 13 ธันวาคม 2554, 14:03:08
     ขอให้หลานสมาร์ทแข็งแรง ออกจากรพ.เร็วๆนะคะ


หัวข้อ: Re: [2513] "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: ทราย 16 ที่ 14 ธันวาคม 2554, 20:39:31
อ้างถึง
ข้อความของ prapasri AH เมื่อ 12 ธันวาคม 2554, 22:11:31
ปล. หลานพี่เเอ๊ะ ยังอยู่ใน nursing icu ที่ รามา
น้ำหนักขึ้นมา 3000 กรัมแล้ว
เเต่ยังออกจากร.พไม่ได้ พอฉีดวัคซีน จะมีไข้อีก
 เเละยังหายใจเหนื่อยหอบต้อง on oxygen ในบางครั้ง
เด็กคลอดก่อนกำหนด ปอดจะไม่เเข็งเเรงค่ะ
เลยเปลียนชื่อจาก น้อง โออาร์ ที่เเปลว่าห้องผ่าตัด เป็นน้องสมาร์ท เเล้วค่ะ
ชื่อน้อง โออาร์ เลยสลบ ทั้งวัน ค่ะ พอชื่อสมาร์ท ตื่น เล่นได้เลยค่ะ
หมอยังไม่ให้ออกจากร.พค่ะ
น้องติ๊บเป็น baby sist อยู่กับลูก ทั้งวัน ตั้งเเต่เช้าจนเย็น
เห็นว่าไม่อยากเป็นหมอเเล้วอยากเลี้ยงลูกอย่างเดียวค่ะ
update ข่าว เท่านี้ก่อนนะคะ
ขอส่งกำลังใจให้หลานสมาร์ทมีสุขภาพดีวัน ดีคืนเป็นของขวัญปีใหม่ให้แก่คุณปู่ คุณย่า คุณตาและคุณยายแถวๆนี้น่ะค่ะ


หัวข้อ: Re: [2513] "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: พธู ๒๕๒๔ ที่ 16 ธันวาคม 2554, 14:43:22
(http://www.cmadong.com/imgup/pics/cmd773065_8072167_374044_8236122photo.jpg)


หัวข้อ: Re: [2513] "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: พธู ๒๕๒๔ ที่ 16 ธันวาคม 2554, 14:49:53
(http://www.cmadong.com/imgup/pics/cmd647023_1212195_2747437_6416426photo.jpg)


หัวข้อ: Re: [2513] "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: พธู ๒๕๒๔ ที่ 16 ธันวาคม 2554, 14:56:58
(http://www.cmadong.com/imgup/pics/cmd611489_7342709_6632027_5701696photo.jpg)


หัวข้อ: Re: [2513] "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: พธู ๒๕๒๔ ที่ 16 ธันวาคม 2554, 15:21:58
(http://www.cmadong.com/imgup/pics/cmd87685_9862914_1328021_3491068photo.jpg)


หัวข้อ: Re: [2513] "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: พธู ๒๕๒๔ ที่ 16 ธันวาคม 2554, 15:28:57
(http://www.cmadong.com/imgup/pics/cmd583265_9418024_4514569_2974669photo.jpg)


หัวข้อ: Re: [2513] "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: พธู ๒๕๒๔ ที่ 17 ธันวาคม 2554, 00:28:33
 (http://www.cmadong.com/imgup/pics/cmd612030_6525245_2979792_8338625photo.jpg)


หัวข้อ: Re: [2513] "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: พธู ๒๕๒๔ ที่ 17 ธันวาคม 2554, 00:29:39
(http://www.cmadong.com/imgup/pics/cmd897973_6499593_7477820_6948029photo.jpg)


หัวข้อ: Re: [2513] "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: prapasri AH ที่ 19 ธันวาคม 2554, 22:51:57

ขอบคุณพี่ปรีชา น้องอิ๊ด 14 เเละน้องจินตนา ค่ะ

พี่เเอ๊ะ ยุ่งจนไม่มีเวลาเข้เวบหอเลยค่ะ

เเต่ตอนนี้อยากทิ้งงานทุกอย่างไปเลี้ยงหลานค่ะ

น่ารักมาก เลี้ยงง่าย

งานยากสำหรับน้องติ๊บ เเต่ง่ายกับพี่เเอ๊ะมากค่ะ

พอหลานร้อง พี่เเอ๊ะ ก็อุ้ม เเบก เเล้วร้องเพลง เต้นรำ เต้นเเทงโก้ ร้องเพลงไปด้วย

หรือร้องเพลงหวานๆ ให้หลานฟัง  หลานเงียบ หลับ เลยค่ะ

คงชอบฟังเพลง

ไปกรุงเทพคราวนี้ กะว่าจะร้องเพลงให้เป็นอัลลบั้มเลยค่ะ

อ้างถึง
ข้อความของ Preecha2510 เมื่อ 12 ธันวาคม 2554, 23:07:40

         ขออวยพรให้หลานมีสุขภาพสมบูรณ์แข็งแรงและออกจากโรงพยาบาลโดยเร็วไว คุณตาคุณยายจะได้

 อุ้มหลานด้วยความชื่นใจ และพักวางมือจากงานเสียทีเพื่อมาช่วยเลี้ยงหลานต่อไป
อ้างถึง
ข้อความของ supanee เมื่อ 13 ธันวาคม 2554, 14:03:08
     ขอให้หลานสมาร์ทแข็งแรง ออกจากรพ.เร็วๆนะคะ
อ้างถึง
ข้อความของ Jintana Yhoung-aree เมื่อ 14 ธันวาคม 2554, 20:39:31
อ้างถึง
ข้อความของ prapasri AH เมื่อ 12 ธันวาคม 2554, 22:11:31
ปล. หลานพี่เเอ๊ะ ยังอยู่ใน nursing icu ที่ รามา
น้ำหนักขึ้นมา 3000 กรัมแล้ว
เเต่ยังออกจากร.พไม่ได้ พอฉีดวัคซีน จะมีไข้อีก
 เเละยังหายใจเหนื่อยหอบต้อง on oxygen ในบางครั้ง
เด็กคลอดก่อนกำหนด ปอดจะไม่เเข็งเเรงค่ะ
เลยเปลียนชื่อจาก น้อง โออาร์ ที่เเปลว่าห้องผ่าตัด เป็นน้องสมาร์ท เเล้วค่ะ
ชื่อน้อง โออาร์ เลยสลบ ทั้งวัน ค่ะ พอชื่อสมาร์ท ตื่น เล่นได้เลยค่ะ
หมอยังไม่ให้ออกจากร.พค่ะ
น้องติ๊บเป็น baby sist อยู่กับลูก ทั้งวัน ตั้งเเต่เช้าจนเย็น
เห็นว่าไม่อยากเป็นหมอเเล้วอยากเลี้ยงลูกอย่างเดียวค่ะ
update ข่าว เท่านี้ก่อนนะคะ
ขอส่งกำลังใจให้หลานสมาร์ทมีสุขภาพดีวัน ดีคืนเป็นของขวัญปีใหม่ให้แก่คุณปู่ คุณย่า คุณตาและคุณยายแถวๆนี้น่ะค่ะ



หัวข้อ: Re: [2513] "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: prapasri AH ที่ 19 ธันวาคม 2554, 22:53:27

จุฬาเกือบทั้งนั้นเลยนะคะ

อ้างถึง
ข้อความของ patooman 64 เมื่อ 16 ธันวาคม 2554, 14:49:53
(http://www.cmadong.com/imgup/pics/cmd647023_1212195_2747437_6416426photo.jpg)



หัวข้อ: Re: [2513] "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: prapasri AH ที่ 19 ธันวาคม 2554, 23:07:51
จา
อ้างถึง
ข้อความของ prapasri AH เมื่อ 19 ธันวาคม 2554, 22:53:27

จุฬาเกือบทั้งนั้นเลยนะคะ

จากซ้ายไปขวา

1คุณคุรุจิต นาครทรรพ  รองปลัดกระทรวงพลังงาน  จบวิศวะเกษตร
เป็นลูกชาย อาจารย์ฐาปนีย์ นาครทรรพ  อาจารย์ครุ ค่ะ

2.คุณ ปิยะมาน เตชะไพบูลย์

3 พี่เเอ๊ะ จบ จาก  ยโส ค่ะ

4.รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ธนาคารกรงไทย คุณ ปู .ค่ะ จบธรรมศาสตร์

5คุณเเก้วเก้า (เดิม ..กิตติมานนท์)  เผอิญโชค  จากไทยรุ่ง ค่ะ จบบัญชี จุฬา น่าจะเป็นดาวบัญชีหรือดาวจุฬาค่ะ สุดสวย ค่ะ

6 คุณเนติมา จบนิติจุฬา ผู้บริหารระดับสูง ของ ทรู ค่ะ

7 คุณชัชวาล ปตท.ค่ะ

ส่วนใหญ่ คลาส นี้ของพี่เเอ๊ะไม่เจอชาวหอเลยค่ะ

เป็นนักธุรกิจที่เป็นเจ้าของกิจการที่อยู่ในตลาดหลักทรัพย์ 

เเละข้าราชการระดับสูงจาก องค์กรอิสระต่างๆ เเละหน่วยงานราชการ ระดับสูงมากๆ
เช่นตุลาการศ่าลรัฐธรรมนูญ จากศาลฎีกา   เเละนักการเมืองดังๆ จากทุกพรรค

สว. สส. ที่เป็นประธานหรือรองประธานกรรมาธิการคณะต่างๆค่ะ

อ้างถึง
ข้อความของ patooman 64 เมื่อ 16 ธันวาคม 2554, 14:49:53
(http://www.cmadong.com/imgup/pics/cmd647023_1212195_2747437_6416426photo.jpg)



หัวข้อ: Re: [2513] "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: prapasri AH ที่ 19 ธันวาคม 2554, 23:11:08
พี่เเอ๊ะ อ้วนขึ้นมากค่ะ หลังจากเห็นรูปนี้เเล้ว รีบลดน้ำหนัก โดยพลันค่ะ ลดได้ 1.5 กก.เเล้วค่ะ

จะลดอีก 1.2 กก. ลอเเค่ 3กก พอค่ะ ไม่อยากผอมมาก เเต่ก็ไม่อยากอ้วนอีกเเล้ววววววววววววววววว

อ้างถึง
ข้อความของ patooman 64 เมื่อ 16 ธันวาคม 2554, 15:28:57
(http://www.cmadong.com/imgup/pics/cmd583265_9418024_4514569_2974669photo.jpg)


หัวข้อ: Re: [2513] "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: หนุน'21 ที่ 25 ธันวาคม 2554, 10:13:04
(http://www.cmadong.com/imgup/pics/cmd83816_8058578_4723036_12098photo.jpg)


Merry Christmas ครับพี่แอ๊ะและพี่ๆ น้องๆสมาชิกทุกท่าน

 emo6::)) emo6::))


หัวข้อ: Re: [2513] "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: pusadee sitthiphong ที่ 25 ธันวาคม 2554, 11:29:54
 emo6::))Merry Christmas and may God's grace be with พี่แอ๊ะและครอบครัว
 Make merry not just on this wonderful holiday but all through the year
....


หัวข้อ: Re: [2513] "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: ti2521 ที่ 25 ธันวาคม 2554, 11:57:33
.....Merry Christmas  พี่แอ๊ะ+พี่หมอหาญและพี่ๆน้องๆครับ.....

http://www.youtube.com/watch?v=nYZRxq3jCJo


หัวข้อ: Re: [2513] "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: Leam ที่ 25 ธันวาคม 2554, 12:13:58

 " สุขสันต์วันคริสต์มาส ครับ.. พี่แอ๊ะ และพี่น้องทุกท่าน "


(http://www.cmadong.com/imgup/pics/cmd661691_478262_5236103_741082photo.jpg)


หัวข้อ: Re: [2513] "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: พธู ๒๕๒๔ ที่ 25 ธันวาคม 2554, 22:59:39
(http://www.cmadong.com/imgup/pics/cmd94744_5265552_4247980_9873705photo.jpg)


หัวข้อ: Re: [2513] "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: ภาณุ ปาตานี ที่ 27 ธันวาคม 2554, 19:03:02
(http://www.cmadong.com/imgup/pics/cmd837113_3779008_9601922_6725684photo.jpg)


หัวข้อ: Re: [2513] "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: prapasri AH ที่ 29 ธันวาคม 2554, 20:22:39
ขอบคุณน้องๆทุกท่านที่เข้ามาอวยพราพี่เเอ๊ะนะคะ

ขอให้พี่ๆน้องๆในห้องนี้มีความสุข ตลอดปี 2555 เเละตลอดไปนะคะ

จาก พี่เเอ๊ะ พี่หาญค่ะ

(http://www.cmadong.com/imgup/pics/cmd66742_853171_620325_9286068photo.jpg)


หัวข้อ: Re: [2513] "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: prapasri AH ที่ 29 ธันวาคม 2554, 20:30:06
(http://www.cmadong.com/imgup/pics/cmd392198_9851842_2174337_296591photo.jpg)


อ้างถึง
ข้อความของ YA เมื่อ 27 ธันวาคม 2554, 19:03:02
(http://www.cmadong.com/imgup/pics/cmd837113_3779008_9601922_6725684photo.jpg)
อ้างถึง
ข้อความของ patooman 64 เมื่อ 25 ธันวาคม 2554, 22:59:39
(http://www.cmadong.com/imgup/pics/cmd94744_5265552_4247980_9873705photo.jpg)
อ้างถึง
ข้อความของ Leam เมื่อ 25 ธันวาคม 2554, 12:13:58

 " สุขสันต์วันคริสต์มาส ครับ.. พี่แอ๊ะ และพี่น้องทุกท่าน "


(http://www.cmadong.com/imgup/pics/cmd661691_478262_5236103_741082photo.jpg)

อ้างถึง
ข้อความของ หนุน'21 เมื่อ 25 ธันวาคม 2554, 10:13:04
(http://www.cmadong.com/imgup/pics/cmd83816_8058578_4723036_12098photo.jpg)


Merry Christmas ครับพี่แอ๊ะและพี่ๆ น้องๆสมาชิกทุกท่าน

 emo6::)) emo6::))


หัวข้อ: Re: [2513] "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: หนุน'21 ที่ 01 มกราคม 2555, 18:19:08
(http://www.cmadong.com/imgup/pics/cmd895848_2705745_1194019_6935762photo.jpg)


สวัสดีปีใหม่ ๒๕๕๕ ครับพี่แอ๊ะพี่หมอหาญ
ขอให้มีความสุข สมบูรณ์ แข็งแรง
ร่ำรวย เจริญก้าวหน้า ในสิ่งปรารถนาทุกประการครับ



 emo6::)) emo6::))


หัวข้อ: Re: [2513] "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: prapasri AH ที่ 02 มกราคม 2555, 07:35:45

ขอบคุณน้องหนุนค่ะ

ไปเที่ยวที่ไหนคะ ปีใหม่นี้
ขอให้มีความสุขตลอดปี เเละทุกๆปีค่ะ

อ้างถึง
ข้อความของ หนุน'21 เมื่อ 01 มกราคม 2555, 18:19:08
(http://www.cmadong.com/imgup/pics/cmd895848_2705745_1194019_6935762photo.jpg)


สวัสดีปีใหม่ ๒๕๕๕ ครับพี่แอ๊ะพี่หมอหาญ
ขอให้มีความสุข สมบูรณ์ แข็งแรง
ร่ำรวย เจริญก้าวหน้า ในสิ่งปรารถนาทุกประการครับ



 emo6::)) emo6::))



หัวข้อ: Re: [2513] "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: Leam ที่ 02 มกราคม 2555, 07:43:39

สวัสดีปีใหม่ครับ.. พี่แอ๊ะ

ปราถนาสุข  ได้สุขดังใจ... นิราศห่างทุกข์ไกล  ตลอดเทอญ


(http://www.cmadong.com/imgup/pics/cmd202256_1721690_9292377_4745756photo.jpg)


หัวข้อ: Re: [2513] "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: prapasri AH ที่ 03 มกราคม 2555, 22:23:52
ขอบคุณน้องเเหลมค่ะ ตาปะหลับปะเหลือกเหมือนเดิมนะคะ

ขอให้น่ารักเเละมีความสุขอย่างนี้ตลอดไปนะคะ

อ้างถึง
ข้อความของ Leam เมื่อ 02 มกราคม 2555, 07:43:39

สวัสดีปีใหม่ครับ.. พี่แอ๊ะ

ปราถนาสุข  ได้สุขดังใจ... นิราศห่างทุกข์ไกล  ตลอดเทอญ


(http://www.cmadong.com/imgup/pics/cmd202256_1721690_9292377_4745756photo.jpg)


หัวข้อ: Re: [2513] "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: Kaimook ที่ 04 มกราคม 2555, 02:06:10
อ้างถึง
ข้อความของ prapasri AH เมื่อ 29 ธันวาคม 2554, 20:22:39
ขอบคุณน้องๆทุกท่านที่เข้ามาอวยพราพี่เเอ๊ะนะคะ

ขอให้พี่ๆน้องๆในห้องนี้มีความสุข ตลอดปี 2555 เเละตลอดไปนะคะ

จาก พี่เเอ๊ะ พี่หาญค่ะ

(http://www.cmadong.com/imgup/pics/cmd66742_853171_620325_9286068photo.jpg)
สวัสดีปีใหม่ค่ะพี่แอ๊ะ พี่หมอหาญ...


หัวข้อ: Re: [2513] "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: ทราย 16 ที่ 04 มกราคม 2555, 08:02:17
สวัสดีปีใหม่ค่ะพี่แอ๊ะ & พี่หมอหาญ
ขอให้ปี 2555 นี้เป็นปีเงินปีทองของพี่แอ๊ะและครอบครัวน่ะค่ะ


หัวข้อ: Re: [2513] "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: ดร.มนตรี ที่ 06 มกราคม 2555, 08:51:07
กราบสวัสดีปีใหม่ครับ พี่แอ๊ะ ...

(http://www.cmadong.com/imgup/pics/cmd295844_8700290_9877838_1492635photo.jpg)


หัวข้อ: Re: [2513] "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: swsm ที่ 07 มกราคม 2555, 21:19:17
พี่แอ๊ะคะ .. อันเนื่องมาจากพี่ป๋องจะครบ 60 ปีค่ะ     emo43

http://www.cmadong.com/board/index.php/topic,6097.msg546126.html#msg546126


หัวข้อ: Re: [2513] "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: เหยง 16 ที่ 03 กุมภาพันธ์ 2555, 19:39:41
พี่แอ๊ะ

เตรียมตัวไปงานคืนสู่เหย้า 11 ก.พ. 55 แล้วหรือยัง ??


หัวข้อ: Re: [2513] "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: Kaimook ที่ 13 กุมภาพันธ์ 2555, 16:26:21
 สวัสดีค่ะพี่แอ๊ะ  พี่หมอหาญ  สุขสันต์วันวาเลนไทน์นะคะ.....


หัวข้อ: Re: [2513] "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: Dtoy16 ที่ 09 มีนาคม 2555, 20:58:04
                      (http://www.cmadong.com/imgup/pics/cmd860742_162365_61327_4093259photo.jpg)
               สวัสดีค่ะพี่แอ๊ะ  ต้อย16เพื่อนอู๊ด วันนี้แวะไปทำธุระที่ลันตาแวะหาชาวเกาะสมุย
                                    มาทำรีสอรท์เจ้าแรกที่นี่ พี่เค้าชื่อพี่อ้อย เค้ายังบอกว่า วิริยะพันธ์เมื่อก่อนแซ่ภู่ใช่ไหมค่ะ
                                   พี่เค้ารู้จักแทบทุกบ้านที่สมุยเมื่อก่อนแต่ก็ขึ้นมาเรียนหนังสือที่สุราษฏร์ตอนป.5
                                     ภาพต่อไปเป็นภายในรีสอร์ทพี่เค้า
                     (http://www.cmadong.com/imgup/pics/cmd178006_3267761_6877799_9577627photo.jpg)
                 (http://www.cmadong.com/imgup/pics/cmd824844_9508655_3333069_8781844photo.jpg)


หัวข้อ: Re: [2513] "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: เหยง 16 ที่ 19 มิถุนายน 2555, 12:38:04
พี่แอ๊ะ

ห่างหายไป 5 เดือนเลยครับ


หัวข้อ: Re: [2513] "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: เหยง 16 ที่ 23 กรกฎาคม 2555, 19:06:02
สวัสดีครับ พี่แอ๊ะ

ไม่ได้เข้ามาในห้องนี้นานแล้วนะครับ
ตกลงไปเลี้ยงแสดงความยินดีกับ "บิ๊กอู๋" ว่าที่ ผบ.ตร. กันเมื่อไหร่ ??


หัวข้อ: Re: [2513] "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: prapasri AH ที่ 17 กันยายน 2555, 13:45:12
เหยง

เพื่อน วปอ. เขาเลี้ยงให้ พลเอกอดุลย์ เเสงสิงเเก้ว ไปแล้ว พี่เเอ๊ะก็ไม่ได้ไปค่ะ ช่วงนี้ ไม่ค่อยสบาย

เเละเอาหลานลูกน้องติ๊บมาเลี้ยงด้วย  น้องติ๊บเรียนต่อ อายุรกรรมสมอง ไม่มีเวลาดูลูกค่ะ


หัวข้อ: Re: [2513] "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: wannee ที่ 17 กันยายน 2555, 16:01:05
สวัสดีค่ะ พี่แอ๊ะ   emo6::))

มาคุยกับน้องๆให้สมที่น้องๆคิดถึงนะคะ  emo4:))

เคารพพี่ เคารพพี่   emo30:sorry:


หัวข้อ: Re: [2513] "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: wannee ที่ 17 กันยายน 2555, 20:11:25

พี่แอ๊ะ คงไม่มา  emo45:(



หัวข้อ: Re: [2513] "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: prapasri AH ที่ 17 กันยายน 2555, 21:57:32
ขอบคุณมากค่ะหมอเสียด  พี่อยู่กับคอมทั้งวันเหมือนกัน ใช้ไอเเพดด้วย

เเต่พยายามที่จะไม่เข้าเวบหอเพราะ เข้าเเล้วติด เสียเวลามาก

พี่จะสนุกกับการทำงานเหมือนเดิม ดูเหมือนว่างานมากกว่าเดิมค่ะ เเต่ก็มีความสุขที่ได้ทำงาน

ตอนนี้พี่เล่นโยคะ ด้วยนะ ไป เรียน มีครูสอน เป็นกลุ่ม ไม่เคยคิดว่าจะเล่นได้

เล่นได้วันละ2ชั่วโมง น้ำหนักลดไป 2กก. หลังจากเล่นได้ ประมาณ10ครั้ง ชอบมากกกกกกกกกกกกก

เหงื่ออก ท่วมตัวเลยค่ะ

คิดถึงเสียดนะ  เหมือนเดิมค่ะ กาลเวลาเปลียนไปแต่คนไม่เปลี่ยน ค่ะ

รักนะ  จากพี่เเอ๊ะ


หัวข้อ: Re: [2513] "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: TU14 ที่ 18 กันยายน 2555, 10:57:01
พี่แอ๊ะขา  คิดถึงค่ะ ไม่ได้เจอกันเลย


หัวข้อ: Re: [2513] "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: wannee ที่ 18 กันยายน 2555, 19:35:12
อ้างถึง
ข้อความของ prapasri AH เมื่อ 17 กันยายน 2555, 21:57:32
ขอบคุณมากค่ะหมอเสียด  พี่อยู่กับคอมทั้งวันเหมือนกัน ใช้ไอเเพดด้วย

เเต่พยายามที่จะไม่เข้าเวบหอเพราะ เข้าเเล้วติด เสียเวลามาก

พี่จะสนุกกับการทำงานเหมือนเดิม ดูเหมือนว่างานมากกว่าเดิมค่ะ เเต่ก็มีความสุขที่ได้ทำงาน

ตอนนี้พี่เล่นโยคะ ด้วยนะ ไป เรียน มีครูสอน เป็นกลุ่ม ไม่เคยคิดว่าจะเล่นได้

เล่นได้วันละ2ชั่วโมง น้ำหนักลดไป 2กก. หลังจากเล่นได้ ประมาณ10ครั้ง ชอบมากกกกกกกกกกกกก

เหงื่ออก ท่วมตัวเลยค่ะ

คิดถึงเสียดนะ  เหมือนเดิมค่ะ กาลเวลาเปลียนไปแต่คนไม่เปลี่ยน ค่ะ

รักนะ  จากพี่เเอ๊ะ

ขอบคุณพี่แอ๊ะที่เข้ามาคุยเล่าให้น้องๆฟังนะคะ   emo6::))


หัวข้อ: Re: [2513] "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: wannee ที่ 18 กันยายน 2555, 19:36:21
อ้างถึง
ข้อความของ TU14 เมื่อ 18 กันยายน 2555, 10:57:01
พี่แอ๊ะขา  คิดถึงค่ะ ไม่ได้เจอกันเลย

เหมือนพี่ตุ๊อรสาเลยค่ะ   emo18:brae:


หัวข้อ: Re: [2513] "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: wannee ที่ 18 กันยายน 2555, 19:37:23

พี่แอ๊ะคะ   พี่แอ๊ะ งานยุ่ง เวลาว่างก็น้อย 

ที่ผ่านมาพี่แอ๊ะ เงียบ จนไม่กล้าติดต่อกับพี่ ด้วยเกรงว่าพี่งานยุ่ง เดินทางไปโน้นไปนี่

อย่างน้อยก็ขอพี่แอ๊ะ มาคุยกับน้องๆที่กระทู้พี่แอ๊ะก็ยังดีนะคะ 

น้อยๆแต่นานๆค่ะพี่ 

 emo4:)) emo6::)) emo9:huhu:


หัวข้อ: Re: [2513] "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: prapasri AH ที่ 19 กันยายน 2555, 22:36:46
ขอบคุณน้องตุ๊ อรสา 14  หมอเสียด   เมื่อวานได้คุยโทรศัพท์กับหมอเสียด เเล้วอิ่มอกอิ่มใจ


วันนี้เลยไม่รีบนอน มาเข้าเวบ อีกตามเคย555 ติดเวบหอ อีกเเล้ว
ขอบคุณ เหยง เเละน้องไข่มุกด์ เเละน้องต้อย16

เเละน้องๆที่เข้ามาเยี่ยมทุกท่านนะคะ อาจจะเอ่ยชื่อได้ไม่หมด พรุ่งนี้หากว่าง จะมาอ่านย้อนหลังอักที ค่ะ


หัวข้อ: Re: [2513] "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: prapasri AH ที่ 19 กันยายน 2555, 22:47:41
(http://www.cmadong.com/imgup/pics/cmd128071_6785128_6429392_4761618photo.jpg)


เอาหลานมาเลียงค่ะ ลูก หมอกระติ๊บ กับ หมอนัท ชือ smart ค่ะ


หัวข้อ: Re: [2513] "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: prapasri AH ที่ 19 กันยายน 2555, 22:56:03
(http://www.cmadong.com/imgup/pics/cmd929883_4321394_7510077_2166619photo.jpg)


วันนี้จะเเย่งตุ้มหูคุณยายไปให้สาวๆ ค่ะ


หัวข้อ: Re: [2513] "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: prapasri AH ที่ 19 กันยายน 2555, 23:04:28
(http://www.cmadong.com/imgup/pics/cmd148950_1965514_1803224_954535photo.jpg)


nite  เเล้วค่ะ เด่วติดเวบหอ อีก


หัวข้อ: Re: [2513] "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: supanee ที่ 20 กันยายน 2555, 09:25:36
หลานคุณยาย น่ารักน่าเอ็นดู
ขอชมภาพหลานคุณย่ากับคุณย่าด้วยนะคะ


หัวข้อ: Re: [2513] "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: wannee ที่ 21 กันยายน 2555, 06:25:58
 
สวัสดีค่ะพี่แอ๊ะ  emo4:))

ขอชมรูปหลานๆของพี่อีก  เด็กเล็กๆน่ารัก น่าเอ็นดูจริง  emo6::))

และได้เห็นรูปพี่แอ๊ะเวลาเป็นคุณยาย คุณย่าด้วย  emo9:huhu:


หัวข้อ: Re: [2513] "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: ประทาน14 ที่ 21 กันยายน 2555, 19:56:31
สวัสดีครับพี่แอ๊ะ
ดีใจที่ได้ยินเสียงพี่จากเว็บอีก หลานชายน่ารักนะครับ


หัวข้อ: Re: [2513] "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: wannee ที่ 02 ตุลาคม 2555, 19:31:35

สวัสดีค่ะพี่แอ๊ะ   emo6::))

ได้ข่าวว่า พี่ไปเซินเจิน   ขอชมรูปหน่อยนะคะ  emo4:))



หัวข้อ: Re: [2513] "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: prapasri AH ที่ 02 ตุลาคม 2555, 23:00:07
หวัดดีเสียด

วันนี้มี miss call จาก เสียด ขอโทษทีไม่ได้โทรกลับ พอดีกลับมาจากเสินเจิ้น

เเล้วง่วงนอน เพิ่งจะได้ติ่นค่ะ  จริงๆเเล้วเวลาต่างกันเเค่ชั่วโมงเดียว

เเต่ กลับมาสลบเลยค่ะ

พรุ่งนี้ เมื่อพี่ว่าง พี่จะ โทรกลับ หาเสียด ค่ะ

ขอบคุณน้อง อิ๊ด น้องประทาน ที่เเวะมาเยี่ยม ค่ะ


หัวข้อ: Re: [2513] "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: เหยง 16 ที่ 03 ตุลาคม 2555, 19:53:11
สวัสดีครับ พี่แอ๊ะ


หัวข้อ: Re: [2513] "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: wannee ที่ 03 ตุลาคม 2555, 22:42:16
อ้างถึง
ข้อความของ prapasri AH เมื่อ 02 ตุลาคม 2555, 23:00:07
หวัดดีเสียด

วันนี้มี miss call จาก เสียด ขอโทษทีไม่ได้โทรกลับ พอดีกลับมาจากเสินเจิ้น

เเล้วง่วงนอน เพิ่งจะได้ติ่นค่ะ  จริงๆเเล้วเวลาต่างกันเเค่ชั่วโมงเดียว

เเต่ กลับมาสลบเลยค่ะ

พรุ่งนี้ เมื่อพี่ว่าง พี่จะ โทรกลับ หาเสียด ค่ะ

ขอบคุณน้อง อิ๊ด น้องประทาน ที่เเวะมาเยี่ยม ค่ะ

สวัสดีพี่แอ๊ะยามดึกค่ะ   emo6::))

จะคอย (ตอนพีว่าง)นะคะ  emo4:))


หัวข้อ: Re: [2513] "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: wannee ที่ 05 ตุลาคม 2555, 19:34:06

สวัสดีค่ะพี่แอ๊ะ   emo6::))


หัวข้อ: Re: [2513] "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: เหยง 16 ที่ 10 มีนาคม 2556, 07:19:25
สวัสดีครับพี่แอ๊ะ

ห่างหายจากเว็ปหอไป 5 เดือนแล้วครับ ??
หลานชายคงโตขึ้นมาก จนคุณยายไม่มีเวลาเข้าเว็ป


หัวข้อ: Re: [2513] "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: เหยง 16 ที่ 06 ตุลาคม 2557, 15:19:15
พี่แอ๊ะ

ยินดีดัวยครับ
ลำดับที่ 130 สมาชิก สปช.


หัวข้อ: Re: [2513] "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"
เริ่มหัวข้อโดย: เหยง 16 ที่ 08 ตุลาคม 2557, 22:31:55
จากห้องของ หนุน 21 ครับ


อ้างถึง
ข้อความของ หนุน'21 เมื่อ 07 ตุลาคม 2557, 13:04:09
ขอแสดงความยินดีกับชาวหอซีมะโด่ง
จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ที่ได้รับโปรดเกล้าฯ
แต่งตั้งเป็นสมาชิกสภาปฏิรูปแห่งชาติ ...
เทาที่นึกออกตอนนี้นะครับ พี่น้อง



(http://www.cmadong.com/picup/201401/6503914126618118516146130.jpg)

 emo6::)) emo6::))


(http://www.cmadong.com/picup/201401/9810914126618738099498208.jpg)


ลืม อ.จรัส สุวรรณมาลา ไปอีกท่านนึงครับ

 emo28:win:



(http://www.cmadong.com/picup/201401/6503914126618118516146130.jpg)




(http://www.cmadong.com/picup/201401/9810914126618738099498208.jpg)