15 พฤษภาคม 2567, 06:56:15
ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน


เข้าสู่ระบบด้วยชื่อผู้ใช้ รหัสผ่าน [สมาชิกเก่าลืมรหัส โทร 081-7611760]
A A A A  ระเบียบปฎิบัติ
   
Languages    
  หน้า: 1 ... 382 383 [384] 385 386 ... 681   ลงล่าง
ผู้เขียน หัวข้อ: คุย กับ คุณมานพ กลับดี อดีตประธานชมรม ๓ สมัย  (อ่าน 3257408 ครั้ง)
0 สมาชิก และ 8 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
Manop Klabdee
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


พอเพียง มีสติ เกิดปัญญา
ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: 2513 วศ. รุ่นที่ 54
คณะ: วิศวกรรมศาสตร์ แผนกวิชาวิศวกรรมโยธา
กระทู้: 11,644

« ตอบ #9575 เมื่อ: 14 กรกฎาคม 2556, 21:25:20 »



 พี่กาญจนา   ว่องชวณิชย์


สวัสดีครับ ชาวซีมะโด่ง และแขกผู้มาเยือน ที่รักทุกท่าน

                       พี่สิงห์  อยู่บ้าน ที่ กทม.  เดินทางด้วยความปลอดภัย

                       Google Chrome พิมพ์ไว และโหลดรูปไวมาก

                       Internet Explorer 10 พิมพ์ช้า และโหลดณุปไม่ได้

                       พรุ่งนี้ไปโรงงานสระบุรี  ให้คุณดูแลระบบ Computer เขามาแก้ไขให้ เพราะซื้อที่เขา

                       ราตรีสวัสดิ์ทุกท่านครับ
      บันทึกการเข้า
Manop Klabdee
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


พอเพียง มีสติ เกิดปัญญา
ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: 2513 วศ. รุ่นที่ 54
คณะ: วิศวกรรมศาสตร์ แผนกวิชาวิศวกรรมโยธา
กระทู้: 11,644

« ตอบ #9576 เมื่อ: 14 กรกฎาคม 2556, 21:30:40 »

      บันทึกการเข้า
Manop Klabdee
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


พอเพียง มีสติ เกิดปัญญา
ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: 2513 วศ. รุ่นที่ 54
คณะ: วิศวกรรมศาสตร์ แผนกวิชาวิศวกรรมโยธา
กระทู้: 11,644

« ตอบ #9577 เมื่อ: 15 กรกฎาคม 2556, 06:15:10 »



สวัสดียามเช้าครับ ชาวซีมะโด่ง และแขกผู้มาเยือน ที่รักทุกท่าน

                           อากาศยามเช้าเหมาะแก่การเจริญสติภาวนายิ่ง

                           การพิจารณาข้อธรรมะ ในเช้าวันนี้ ได้สวดมนต์บท "ธัมจักกัปปวัตนสูตร" เพิ่มเติมจากบทสวดมนต์ทำวัตรเช้า และจบด้วยการแผ่เมตตา  เป็นการทบทวน  ให้เห็นความจริงในธรรม ตามนั้น

                            ก็ขอนำมาสรุป อีกครั้ง แบบสั้น ๆ ดังนี้

                            พระพุทธองค์สอนปัญจวัคคีย์ ประการแรกว่า "ที่สุดแห่งการกระทำสองอย่างเหล่านี้ มีอยู่"  ที่ภิกษุไม่ควรข้องแวะเลย คือ

                           ๑. กามะสุขัลลิกานุโยโค คือการประกอบตนพัวพันอยู่ด้วยความใคร่  ยินดี  เพลินเพลิน ในกามทั้งหลาย อันได้แก่ รูป  รส  กลิ่น เสียง สัมผัสทางกาย และปล่อยใจนึกคิด มันเป็นของต่ำทราม เป็นของชาวบ้าน เป็นของปุถุชนม์ และไม่ประกอบด้วยประโยชน์เลย

                           ๒. อัตตะกิละมะถานุโยโค คือการประกอบการทรมานตนให้ลำบาก ซึ่งจะนำมาซึ่งทุกข์ และไม่ประกอบด้วยประโยชน์เลย

                               ที่สุดแห่งการกระทำสองอย่างนี้ ภิกษุ ไม่ควรข้องแวะเลย ไม่ใช่ข้อปฏิบัติของพระอริยะเจ้า

                               ข้อปฏิบัติอันเป็นทางสายกลาง ไม่เข้าไปหาส่วนสุดแห่งการกระทำสองอย่างนั้น  มีอยู่

                               ข้อปฏิบัติเป็นทางสายกลางนั้น คือข้อปฏิบัติเป็นหนทางอันประเสริฐ เป็นประโยชน์ ประกอบด้วยองค์ ๘ ประการ  นี้เอง

                               ๑. สัมมาทิฏฐิ                    ความเห็นชอบ
          
                               ๒. สัมมาสังกัปโป              ความดำริชอบ

                               ๓. สัมมาวาจา                   การพูดจาชอบ

                               ๔. สัมมากัมมันโต              การทำการงานชอบ

                               ๕. สัมมาอาชีโว                 การเลี้ยงชีวิตชอบ

                               ๖. สัมมาวายาโม                ความพากเพียรชอบ

                               ๗. สัมมาสติ                      ความระลึกชอบ

                               ๘. สัมมาสมาธิ                   ความตั้งใจมั่นชอบ

                                    ข้อปฏิบัติอันเป็นทางสายกลางนี้ เป็นข้อปฏิบัติที่ ทำให้เกิดจักษุ(ดวงตาเห็นธรรม) ทำให้เกิดญาณ เพื่อความสงบ เพื่อความรู้ยิ่ง เพื่อความรู้พร้อม และเป็นไปเพื่อพระนิพพาน

                            พระพุทธองค์สอนปัญจวัคคีย์ ประการที่สอง คือ อริยสัจ ๔ คือความจริงอันประเสริญ ๔ ประการคือ

                             ๑. อริยสัจคือทุกข์  ความเกิดก็เป็นทุกข์ ความแก่ก็เป็นทุกข์ ความตายก็เป็นทุกข์ ความโศก ความร่ำไรรำพัน ความไม่สบายกาย ความไม่สบายใจ ความคับแค้นใจ ก็เป็นทุกข์ ความประสบกับสิ่งไท่เป็นที่รักที่พอใจ ก็เป็นทุกข์ ความพลัดพรากจากสิ่งเป็นที่รักที่พอใจ ก็เป็นทุกข์ มีความปราถนาสิ่งใด ไม่ได้สิ่งนั้นด็เป็นทุกข์  ว่าโดยย่อคือ อุปาทานขันธ์ทั้งห้า เป็นตัวทุกข์ (จะเห็นว่าสิ่งที่เราคิดว่าเป็นตัวเรานั้น ไม่ได้ทุกข์)

                                 ทุกข์นี้พระพุทธองค์ ให้กำหนดรู้

                             ๒. อริยสัจคือสมุทัย หรือเหตุให้เกิดทุกข์ คือตัณหา หรือความทะยานอยาก เป็นเครื่องทำให้มีการเกิดอีก เป็นเครื่องให้เพลินเพลินอย่างยิ่งในอารมณ์นั้น ๆ

                                 ตัณหาเหล่านั้นคือ กามะตัณหา คือตัณหาในกาม(รูป  รส  กลิ่น เสียง สัมผัสทางกาย)  ภะวะตัณหา คือตัณหาในความมี  ความเป็น และวิภะวะตัณหา คือตัณหาในความไม่มี ไม่เป็น

                                 สมุทัย นี้พระพุทธองค์ท่านให้ละ

                             ๓. อริยสัจคือนิโรธ หรือความดับไม่เหลือแห่งทุกข์ คือความดับสนิทเพราะจางไปโดยไม่เหลือของตัรหานั้น นั่นเอง เป็นการสละทิ้ง เป็นความสลัดคืน เป็นความปล่อยวาง เป็นความทำไม่ให้มีที่อาศัย ซึ่งตัณหานั้น

                                  นิโรธ นี้พระพุทะองค์ท่านให้กระทำให้แจ้ง

                             ๔. อริยสัจคือทุกขะนิโรธะคามินี ปะฏิปะทา หรือข้อปฏิับติที่ทำสัตว์ให้ลุถึงความดับไม่เหลือแห่งทุกข์  ข้อปฏิบัติเป็นหนทางอันประเสริฐ เป็นประโยชน์ ประกอบด้วยองค์ ๘ ประการ

                               ๑. สัมมาทิฏฐิ                    ความเห็นชอบ
          
                               ๒. สัมมาสังกัปโป              ความดำริชอบ

                               ๓. สัมมาวาจา                   การพูดจาชอบ

                               ๔. สัมมากัมมันโต              การทำการงานชอบ

                               ๕. สัมมาอาชีโว                 การเลี้ยงชีวิตชอบ

                               ๖. สัมมาวายาโม                ความพากเพียรชอบ

                               ๗. สัมมาสติ                      ความระลึกชอบ

                               ๘. สัมมาสมาธิ                   ความตั้งใจมั่นชอบ

                                   ทุกขะนิโรธะคามินี ปะฏิปะทา  นี้พระพุทะองค์ท่านทรงสอนให้ปฏิบัติให้บังเกิดขึ้น เพราะนั่นคือ "พระนิพพาน"  อันเป็นจุดหมายสูงสุดของพุทธศาสนา

                                   สวัสดี


                      
      บันทึกการเข้า
เหยง 16
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: rcu2516
คณะ: เภสัชศาสตร์ 2516
กระทู้: 23,533

« ตอบ #9578 เมื่อ: 15 กรกฎาคม 2556, 07:13:22 »

พี่สิงห์


เดินทางปลอดภัย

วันนี้ฝนมากกว่าเมื่อวานร้อยละ 10
ฝนตะตกช่วงบ่ายถึงค่ำครับ
      บันทึกการเข้า
Manop Klabdee
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


พอเพียง มีสติ เกิดปัญญา
ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: 2513 วศ. รุ่นที่ 54
คณะ: วิศวกรรมศาสตร์ แผนกวิชาวิศวกรรมโยธา
กระทู้: 11,644

« ตอบ #9579 เมื่อ: 15 กรกฎาคม 2556, 07:43:43 »



สวัสดีครับ คุณเหยง

                           ขอบคุณมาก  ที่อวยพร และทักทาย

                           วันนี้เช้าอยู่บ้าน  ใด้หุงข้าวใส่บาตรพระที่หน้าบ้าน

                           ใส่บาตรพระเสร็จก็รับประทานอาหารเช้า เป็นแกงส้มดอกแค กับหัวฉ่ายโ้ผัดไข่  สัปปะรด(พี่ตู๊ นำมาให้) และถั่วและ

                            กำลังจะออกเดินทางไปสระบุรี และไปค้างคืนที่โคราช ครับ

                            สวัสดี
      บันทึกการเข้า
Manop Klabdee
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


พอเพียง มีสติ เกิดปัญญา
ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: 2513 วศ. รุ่นที่ 54
คณะ: วิศวกรรมศาสตร์ แผนกวิชาวิศวกรรมโยธา
กระทู้: 11,644

« ตอบ #9580 เมื่อ: 15 กรกฎาคม 2556, 09:53:42 »



                   เครื่องปกติ  ไม่มีอะไร โหลดรูปได้แล้ว
      บันทึกการเข้า
suriya2513
Cmadong ชั้นเซียน
*****


ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 9,457

« ตอบ #9581 เมื่อ: 15 กรกฎาคม 2556, 14:11:58 »

      บันทึกการเข้า

[โบราณคดี]จุดกำเนิดเริ่มต้นของ cmadong.com by : มานพ กลับดี  คลิ๊ก->
Pete15
Cmadong Member
Cmadong ชั้นเซียน
****


ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 9,460

« ตอบ #9582 เมื่อ: 15 กรกฎาคม 2556, 15:19:47 »

 เครื่องปกติ ไม่มีอะไร โหลดรูปได้แล้ว
 
อ้างถึง
ข้อความของ suriya2513 เมื่อ 15 กรกฎาคม 2556, 14:11:58

 ลูกศิษย์วัดก็ คงอด เพราะ รอ หลวงพี่ เสสังอยู่  comp. ดีแล้ว.......นึกว่าจะได้รับอานิสงค์จากท่าน,.....สาธุ
      บันทึกการเข้า
Manop Klabdee
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


พอเพียง มีสติ เกิดปัญญา
ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: 2513 วศ. รุ่นที่ 54
คณะ: วิศวกรรมศาสตร์ แผนกวิชาวิศวกรรมโยธา
กระทู้: 11,644

« ตอบ #9583 เมื่อ: 16 กรกฎาคม 2556, 07:36:15 »

สวัสดีครับ คุณสนธยา ดร.สุริยา และชาวซีมะโด่ง ที่รักทุกท่าน

                          ผมมาถึงโรงงานที่สระบุรี  คุณต้น ผู้ดูแล Computer ทั้งหมดที่โรงงาน ก็เอาเครื่องไปตรวจสอบ ไม่พบสิ่งผิดปกติ และได้ให้ผมลองเปิดเครื่องโหลดรูป  มันก็โหลดได้ทันที เป็นปกติ  แปลกพอมาเจอหมอ Com เท่านั้น มันเกิดใช้ได้ขึ้นมาอีก

                          คุณต้น อธิบายว่า  ไม่ได้เป็นที่เครื่อง เป็นที่บลาวเซอร์ เซิบเวอร์ของเวบมากกว่าครับ และได้อธิบายความแตกต่างของ Chrome และ internet  Explorer ให้ฟังในการโหลดรูป

                           ก็เรียนให้ทราบ

                           เช้านี้อยู่ที่โรงแรมขวัญเรือน ใกล้สวนสาธารณะ เมื่อเช้าได้ไปเดินออกกำลังกาย และฝึก ชิกง-โยคะ ตั้งแต่ตีห้าครึ่ง เป็นเวลาหนึ่งชั่วโมง

                           เมื่อวาน พี่ไพบูลย์  แห่งโรงไฟฟ้าราชบุรี  โทรศัพท์  มาคุยและบอกว่า วันที่ ๒๗-๒๘ ให้เอาถุงกอล์ฟไปด้วย

                           สวัสดี
      บันทึกการเข้า
Manop Klabdee
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


พอเพียง มีสติ เกิดปัญญา
ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: 2513 วศ. รุ่นที่ 54
คณะ: วิศวกรรมศาสตร์ แผนกวิชาวิศวกรรมโยธา
กระทู้: 11,644

« ตอบ #9584 เมื่อ: 16 กรกฎาคม 2556, 07:40:22 »


                      เช้านี้ได้ทบทวนธรรมะ ของพระพุทธองค์ ในเรื่อง ธรรมธาตุ และวงจรทุกข์ ครับ

                      สวัสดี
      บันทึกการเข้า
suriya2513
Cmadong ชั้นเซียน
*****


ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 9,457

« ตอบ #9585 เมื่อ: 16 กรกฎาคม 2556, 16:36:20 »



เพื่อน พนัสตาเราไปทำกิจกรรมกับคณะฯ

ประมาณว่าไปร้องเพลงกล่อมต้นจามจุรียักษ์ที่เมืองกาญจน์










      บันทึกการเข้า

[โบราณคดี]จุดกำเนิดเริ่มต้นของ cmadong.com by : มานพ กลับดี  คลิ๊ก->
nok15
Full Member
**


ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 529

« ตอบ #9586 เมื่อ: 16 กรกฎาคม 2556, 17:25:11 »

อ้างถึง
ข้อความของ suriya2513 เมื่อ 16 กรกฎาคม 2556, 16:36:20


เพื่อน พนัสตาเราไปทำกิจกรรมกับคณะฯ

ประมาณว่าไปร้องเพลงกล่อมต้นจามจุรียักษ์ที่เมืองกาญจน์












                     ขอบอกว่าเป็นกิจกรรมที่.....เด็ดสุดยอด....

                  


                     และ.............


                  

                     และ..........

                

  
                 และ.....อยากเห็น"คุณตาจามจุรี"ต้นนี้จังเพราะหล่อมาก

         ...... กิ่งแต่ละกิ่งบอกความยิ่งใหญ่และให้ความรักความอบอุ่น....,..

                เหมือน"จุฬาของเรา"
      บันทึกการเข้า
Manop Klabdee
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


พอเพียง มีสติ เกิดปัญญา
ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: 2513 วศ. รุ่นที่ 54
คณะ: วิศวกรรมศาสตร์ แผนกวิชาวิศวกรรมโยธา
กระทู้: 11,644

« ตอบ #9587 เมื่อ: 16 กรกฎาคม 2556, 19:07:09 »



สวัสดียามเย็นครับ ชาวซีมะโด่ง และแขกผู้มาเยือน ที่รักทุกท่าน

                           ขอขอบคุณ ดร.สุริยา และคุณพนัส  ที่ได้นำภาพต้นจามจุรี อายุ ๑๐๐ ปี  มาให้ชม

                           นอกจากจะเป็นต้นจามจุรี ที่มีอายุมากแล้ว  นับว่าเป็นต้นจามจุรี ที่งดงาม  แตกกิ่งก้านปกคลุม เจริญงอกงาม สวยงามมากต้นหนึ่ง

                            ถ้าไม่ลำบากมาก  อยากจะให้คุณน้องกนกวรรณ  พาพวกเราแวะไปชม ด้วยครับ

                            พี่สิงห์  กลับมาถึงบ้านแล้วครับ

                            สวัสดี
      บันทึกการเข้า
เริง2520
Cmadong ชั้นเซียน
*****


ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 6,341

« ตอบ #9588 เมื่อ: 16 กรกฎาคม 2556, 19:34:50 »

งามมากจริงๆด้วย..จามจุรีต้นนี้
      บันทึกการเข้า
Manop Klabdee
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


พอเพียง มีสติ เกิดปัญญา
ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: 2513 วศ. รุ่นที่ 54
คณะ: วิศวกรรมศาสตร์ แผนกวิชาวิศวกรรมโยธา
กระทู้: 11,644

« ตอบ #9589 เมื่อ: 16 กรกฎาคม 2556, 20:37:31 »

อ้างถึง
ข้อความของ เริง2520 เมื่อ 16 กรกฎาคม 2556, 19:34:50
งามมากจริงๆด้วย..จามจุรีต้นนี้
สวัสดีครับ คุณน้องเริง ๒๐

                  จะเห็นว่าการเจริญเติบโต ของต้นจามจุรีต้นนี้ ได้สมดุลย์ คือ แผ่กิ่งก้านเป็นวงกลมโดยรอบ ในรัศมีที่ทำให้น้ำหนักของกิ่งใกล้เคียงกัน เพื่อให้ต้นสามารถตั้งตรงได้  โดยไม่เอนเอียง ธรรมชาติมันสร้างความสมดุลย์ของมันเอง

                  แต่ในโลกมนุษย์  ความเป็นธรรมมันไม่มี เพราะความเป็นธรรมในสังคมมนุษย์นั้น มันไม่ได้เกิดขึ้นตามธรรมชาติ  แต่มันเกิดขึ้นจากความคิดของมนุษย์  ที่คิดเข้าข้างตนเองเป็นหลัก  มันจึงไม่มีความเป็นธรรมอะไรเลยอย่างแท้จริง

                  เราต้องมองต้นจามจุรีต้นนี้ ให้เป็นครู

                 ขอบคุณมาก

                 สวัสดี
      บันทึกการเข้า
Manop Klabdee
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


พอเพียง มีสติ เกิดปัญญา
ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: 2513 วศ. รุ่นที่ 54
คณะ: วิศวกรรมศาสตร์ แผนกวิชาวิศวกรรมโยธา
กระทู้: 11,644

« ตอบ #9590 เมื่อ: 16 กรกฎาคม 2556, 20:49:54 »



สวัสดียามค่ำครับ ชาวซีมะโด่ง และแขกผู้มาเยือน ที่รักทุกท่าน

                       เมื่อตอนเย็น พี่สิงห์ ขับรถจากสระบุรี มา กทม. เจอฝนช่วงหินกอง ถึงวังน้อย ตลอดเส้นทาง พยายามขับไม่เร็วท่ามกลางสายฝน  พอถึงรังสิต  จึงไม่มีฝน ปลอดภัย เพราะลมไม่แรง  แต่ก็ไม่อยากขับรถขณะฝนตกเลย

                       พรุ่งนี้ ต้องไปทำงานที่สมุทรสาคร  ตอนเย็นขับรถกลับบ้าน คงจะเจอฝนแน่นอน เส้นทางนี้ฝนตก ขับรถอันตรายมาก และรถก็แยะ  แต่มันก็ต้องใช้เส้นทางนี้

                       วันนี้ตอนนั่งรถกลับจากอำเภอสูงเนิน ถึง สระบุรี จิตมันก็กำเริบในทางไม่ดี  คือคิดไม่ดี  จิตมันอยากให้เป็นแบบ คุณมิตซุโอะ บ้าง ! จิตมันอยากมีความสุขทางโลก  ทางกามสุข  ไม่ดีเลยคิดแบบนั้น มันหลงอยู่ในความคิด  เลยต้องให้มันคิดใหม่ว่า ความสุขที่ยั่งยืน  ความสุขที่ปราณีต คือความสุขที่เกิดขึ้นจากการไม่ปรุงแต่ง  อยู่อย่างสุญญตา  ต่างหากไม่ใช่ความสุขทาง กามสุขแต่อย่างใด  ความสุขทางกาม(รูป เสีง กลิ่น รส สัมผัส ใจนึกคิด) มันเป็นความสุขชั่วคราว และเป็นการเริ่มสร้างทุกข์กองใหม่  ไม่จบสิ้น  ไม่ใช่ทางอันประเสริฐ  การไม่เกิดใหม่ต่างหาก จึงเป็นหนทางที่เราจะต้องไปให้ถึง เพราะเมื่อไม่เกิดความทุกข์ก็ไม่มี

                        ต้องขอขอบคุณทางผู้ดูแลเวบ  เพราะโหลดรูปเร็วมาก กดปุ๊บ เสร็จปั๊ป  จนงง เลยครับ

                        ราตรีสวัสดิ์ทุกท่านครับ
      บันทึกการเข้า
Manop Klabdee
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


พอเพียง มีสติ เกิดปัญญา
ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: 2513 วศ. รุ่นที่ 54
คณะ: วิศวกรรมศาสตร์ แผนกวิชาวิศวกรรมโยธา
กระทู้: 11,644

« ตอบ #9591 เมื่อ: 17 กรกฎาคม 2556, 18:59:15 »

สวัสดีครับ ชาวซีมะโด่ง และแขกผู้มาเยือน ที่รักทุกท่าน

                               วันนี้ทำงานทั้งวันที่เอเซียคอนกรีต  สมุทรสาคร

                                กลับมาถึงบ้านแล้ว  เหนื่อยพอสมควร และต้องขับรถไกล  การจราจรหนาแน่น และรถวิ่งเร็ว  ก็พยายามระวังให้มาก  แต่คนอื่นเราระวังไม่ได้ ขับเร็วมาก

                                กลับมาบ้านก็ได้รับข่าวดี  ได้เงินปันผลจาก ประกันชีวิต  เหลือปีหน้าอีกหนึ่งปี ก็ส่งครบหมดทุกฉบับ  ไม่ต้องส่งเบี้ยประกันอีกแล้ว

                                 สบายใจได้  ถ้าตาย  มีเงินเผาศพ  แน่นอน  หลานคนไหน  จัดการเผาศพให้ก็จะได้รับเงินจากประกันชีวิต  ของไทยประกันชีวิต

                                 หมดห่วงเรื่องการตาย ปล่อยให้เป็นไปตามธรรมชาติ

                                  วันอาสาฬหบูชานี้  ไปทำบุญที่วัดพระนอน ครับ

                               เข้าพรรษา  คงอยู่บ้าน  หรือไม่ก็ไปทำบุญที่วัดพระนอน  ไม่มีอะไรต้องห่วงทั้งสิ้น  เราก็ถือศีลของเราอยู่แล้ว เพียรทำให้เจริญยิ่ง ๆ ขึ้นไป


                                 ใครต้งการคนงานพม่าแบบถูกต้องตามกฏหมายบอกมาได้  ผมมีนายหน้านำเข้าที่ใช้ได้  และเป็นคนงานที่ดีด้วย  คือมาทำงานจริง ๆ สัญญา ๒ ปี


                               สวัสดีครับ
      บันทึกการเข้า
เหยง 16
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: rcu2516
คณะ: เภสัชศาสตร์ 2516
กระทู้: 23,533

« ตอบ #9592 เมื่อ: 18 กรกฎาคม 2556, 09:41:17 »

สวัสดีครับ พี่สิงห์

16 เข้า กทม. และ 17 ประชุมที่เมืองทอง, เย็นก็ขับรถกลับนครสวรรค์
เส้นทางด่วน เริ่มแย่มากๆ ติดบนทางด่วยอุดรรัถยา
จากบางปะอิน ถึง อนุสาวรีย์ ระยะทาง 42 ก.ม. ใช้เวลา 1.20 ชั่วโมง เพื่อไปโรงแรมเอเชีย
17 ขับจากเอเชียขึ้นทางด่วนกลับไปเมืองทอง ก็พบรถติดฝั่งขาเข้ายาวตลอดไปถึงทางขึ้นงามวงศ์วาน
บ้านเรามลภาวะ และปัญหารถติดไม่คลี่คลายเลยครับ
      บันทึกการเข้า
Manop Klabdee
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


พอเพียง มีสติ เกิดปัญญา
ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: 2513 วศ. รุ่นที่ 54
คณะ: วิศวกรรมศาสตร์ แผนกวิชาวิศวกรรมโยธา
กระทู้: 11,644

« ตอบ #9593 เมื่อ: 18 กรกฎาคม 2556, 11:50:41 »

อ้างถึง
ข้อความของ เหยง 16 เมื่อ 18 กรกฎาคม 2556, 09:41:17
สวัสดีครับ พี่สิงห์

16 เข้า กทม. และ 17 ประชุมที่เมืองทอง, เย็นก็ขับรถกลับนครสวรรค์
เส้นทางด่วน เริ่มแย่มากๆ ติดบนทางด่วยอุดรรัถยา
จากบางปะอิน ถึง อนุสาวรีย์ ระยะทาง 42 ก.ม. ใช้เวลา 1.20 ชั่วโมง เพื่อไปโรงแรมเอเชีย
17 ขับจากเอเชียขึ้นทางด่วนกลับไปเมืองทอง ก็พบรถติดฝั่งขาเข้ายาวตลอดไปถึงทางขึ้นงามวงศ์วาน
บ้านเรามลภาวะ และปัญหารถติดไม่คลี่คลายเลยครับ


สวัสดีครับ คุณเหยง

                          สิบกว่าปีที่ผ่านมานั้น รถยนต์เพิ่มขึ้นมากขนาดไหน  คุณเหยงก็รู้ดีกว่าผม

                      สิบกว่าปีที่ผ่านมา  กทม. กรมทางหลวงแผ่นดิน และกรมทางหลวงชนบท  ไม่เคยทำถนนเพิ่มขึ้นเลย

                       มีข้ออ้างไม่มีงบประมาณ   มีงบเพียงค่าซ่อมถนน  ก็หมดแล้ว  เพราะโกงกินกันมาก

                       จะตัดถนนใหม่ต้องกู้  มันก็เลยไม่มีถนน  รถมันจึงต้องติดเป ็นเรื่องธรรมดา ครับ

                        ทำใจ  วางใจให้ถูกต้อง  อยู่กับมัน  เพราะเราเป็นคนไทย  ต้องยอมรับสภาพ

                        การเมือง  เลือกตั้งแบบไทย ๆ  มันก็ต้องหาเงินเข้ากระเป๋าแบบไทย ๆ 

                        คนไทยก็ยอมรับสภาพให้คอรับชั่น แบบไทย ๆ  จนติดอันดับต้น ๆ การคอรับชั่น หรือ โก่งบ้านโกงเมือง แล้วครับ

                            สวัสดี
      บันทึกการเข้า
Manop Klabdee
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


พอเพียง มีสติ เกิดปัญญา
ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: 2513 วศ. รุ่นที่ 54
คณะ: วิศวกรรมศาสตร์ แผนกวิชาวิศวกรรมโยธา
กระทู้: 11,644

« ตอบ #9594 เมื่อ: 18 กรกฎาคม 2556, 20:05:45 »

                        ขณะนี้ กทม. ฝนตก ที่บ้านผมครับ

                        สวัสดี
      บันทึกการเข้า
Manop Klabdee
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


พอเพียง มีสติ เกิดปัญญา
ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: 2513 วศ. รุ่นที่ 54
คณะ: วิศวกรรมศาสตร์ แผนกวิชาวิศวกรรมโยธา
กระทู้: 11,644

« ตอบ #9595 เมื่อ: 18 กรกฎาคม 2556, 21:01:59 »





สวัสดีครับ ชาวซีมะโด่ง และแขกผู้มาเยือน ที่รักทุกท่าน

                   วันนี้ทั้งวัน ไปซ้อมกอล์ฟ เช้ามืด และที่ สนามซ้อมกอล์ฟ และอยู่บ้าน  การอยู่บ้านมีความสุข

                   ตามที่ผมได้ยกในสิ่งที่หลวงพ่อพระไพศาล  วิสาโล  ท่านเขียนเอาไว้ นั้น ผมเห็นจริงตามที่หลวงพ่อพระไพศาล  วิสาโล นั้นทุกประการ และเป็นเช่นนั้น จริง ๆ  ทุกคนสามารถแยกสติออกมาดูกาย  ดูใจตนเองได้  ไม่หลงอยู่ในความคิด  กระทำตามความคิด ที่ยึดถือว่าเป็นตนเองตลอดเวลา  จนเป็นความเคยชิน

                   การรู้สึกตัว  จะทำให้เราถอนออกมาจากความคิด  ได้เห็นจิตตนเองที่คิด  จนสามารถที่จะละความยึดมั่นถือมั่น ตนเอง ลงไปได้  ไม่มากก็น้อย และจะมากขึ้น ๆ เป็นลำดับ  ทุกสิ่งทุกอย่าง ความรู้สึกตัวจะเป็นตัวเตือนเรา  ให้เราใช้ปัญญาในการดำเนินชีวิต  กระทำทุกสิ่งที่สมควรกระทำ  ไม่ทำตามความคิดตนเอง  ความสงบต่าง ๆ (ไม่ปรุงแต่ง) มันจะตามมา  มีชีวิตที่สุขพอสมควร คือสุขใจ  แต่ไม่สุขกาย เหมือนกับท่านอื่น ๆ เขา

                   แต่อุปสรรคในการดำรงชีวิต แบบปุถุชนม์แบบพี่สิงห์  นั้นลำบาก เพราะยังเกี่ยวข้องกับคนจำนวนมาก ในการทำงาน  ทำให้บางครั้งเกิคความพลั้งเผลอ ทั้งตั้งใจและไม่ตั้งใจ  ไม่ดำรงอยู่ด้วย มรรค มีองค์ ๘ ตลอดเวลา ซึ่งเป็นสิ่งที่จำเป็นมาก เพราะจิตของเรานั้น มันยังไม่ถ่ายถอน ในความยึดมั่นถือมั่น  ทั้งหมด เป็นเพียงบางส่วนเท่านั้น

                    อย่าลืม ขโมย  โจร  ชู้สาว เขาก็รู้ตัว มีสติเหมือนกัน  แต่เขาไม่ได้ยึดมั่นในมรรค มีองค์ ๘ จึงไม่มีคุณสมบัติในการบรรลุธรรมได้

                    เราต้องรู้สึกตัว และมีมรรค มีองค์ ๘ เกิดขึ้นตลอดเวลา เสมอ  เราจึงจะมีพารพัฒนาความรู้สึกตัวของเราสูงยิ่ง ๆ ขึ้นไป  จนสติสมบูรณ์ได้

                    มรรคมีองค์ ๘ นั้น ง่าย ๆ คือ อยู่ในศีล อย่างน้อย ศีล ๕ ที่ไม่เบียดเบียน หรือทำให้สัตว์  ตนเอง เดือดร้อนทั้งสิ้น และต้องยึดสัมมาวายามะ อย่างแรงในการกระทำแต่สิ่งที่เป็นกุศล  ทั้งสิ้น

                    แต่ถ้าเราอยู่ในเพศสมณะ คือบวชพระ  มันจะกระทำได้ง่าย เพราะตัดเรื่องการกิน  ที่อยู่อาศัย  ไม่มีความกังวลอะไรทั้งสิ้น  ละสิ่งต่าง ๆ ออกไปได้ และไม่ต้องเกี่ยวข้องกับคนมาก  สามารถที่จะมีเวลาพิจารณาดูกาย  ดูใจ  ตนเองด้วยการรู้สึกตัว มีสติ  จนคลายความยึดมั่นถือมั่นได้

                    พรุ่งนี้ ต้องเดินทางไปทำงานที่นครศรีธรรมราช Boarding 09:15 น. คือใส่บาตรพระที่หน้าบ้านเสร็จก็ออกเดินทางไปสนามบินทันที

                    ราตรีสวัสดิ์ทุกท่าน ครับ
      บันทึกการเข้า
Manop Klabdee
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


พอเพียง มีสติ เกิดปัญญา
ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: 2513 วศ. รุ่นที่ 54
คณะ: วิศวกรรมศาสตร์ แผนกวิชาวิศวกรรมโยธา
กระทู้: 11,644

« ตอบ #9596 เมื่อ: 19 กรกฎาคม 2556, 06:14:16 »



สวัสดียามเช้าครับ ชาวซีมะโด่ง และแขกผู้มาเยือน ที่รักทุกท่าน

                       เช้านี้ท่านเจริญสติ  แล้วหรือยัง !

                       หลวงพ่อพระไพศาล   วิสาโล  ท่านให้ข้อคิดเอาไว้ว่า

                       "เมื่อใดที่ความรู้สึกตัว เกิดขึ้น

                        ความหลงย่อมทนอยู่ไม่ได้

                        เมื่อมีความระลึกรู้อยู่ในกายและใจ

                        การเผลอคิด เผลอปรุงแต่งย่อมสิ้นสุดลง"


                        มันเป็นความจริง  ที่ท่านสามารถรู้ได้เอง  ไม่อยาก

                        มาลองดูซิครับ สมมติว่าท่านกำลังสวดมนต์ หรือนั่งภาวนา วิธีใดก็ได้

                        ถ้าท่านระลึกรู้อยู่ว่า ท่านกำลังท่องบทสวดมนต์ไปทีละคำหรือ ท่านที่นั่งภาวนา เช่น ถ้าท่านระลึกรู้อยู่ที่ลมหายใจกำลังสูดลมหายในเข้าผ่านรูจมูก ลมหายใจออกกำลังผ่านรูจมูก หรือท่านที่เดินจงกรม ท่านก้าวเท้า ท่านยกเท้า ท่านเหยียบเท้า ท่านก็ระลึกได้ว่าก้าว ยก เหยียบเท้า หรือท่านที่ยกมือสร้างจังหวะ ๑๔ จังหวะของหลวงพ่อเทียน  จิตตฺสุโภ ท่านระลึกได้เมื่อท่านเคลื่อนมือ หยุดมือ จนเป็นอารมณ์เดียว หรือพอระลึกได้

                        ท่านจะพบว่า สิ่งที่ท่านคิด มันเป็นอดีตไปหมดแล้ว  คือท่านสามารถตัดหรือถอนตัวออกมาจากความคิด(โมหะ หรือหลง) ด้วยความรู้สึกตัวได้

                        เมื่อท่านถอนตัวออกมาจากความคิดได้  ท่านเอาความระลึกได้นั้นมาเป็นผู้ดู  ดูหรือติดตามจิตของท่าน ทั้งกาย และใจ ว่าจิตของท่านมันมีพฤติกรรมอย่างไร ท่องเที่ยวไปไหนบ้าง  แต่อย่าไปเผลอเป็นผู้คิด ผู้ปรุงแต่ง เสียเองระวังให้จงหนัก ท่านต้องเป็นผู้ดู ด้วยการรู้สึกตัวหรือมีสติ หรือระลึกได้

                         ทำให้บ่อย ๆ จิตท่านจะตื่นเองด้วยตัวของมัน สามารถที่จะระลึกได้เกือบตลอดเวลา และมาเป็นผู้เตือนท่านเสียด้วยซ้ำ ให้ระลึกได้อยู่เสมอ  มาอยู่ในโลกของความรู้สึกตัว  ถอนออกจากในโลกของความคิด  ความยึดมั่นถือมั่น มันจะคลาย หรือจางลงไปเองโดยอัตโนมัติ

                         อย่าลืม เมื่อระลึกได้ ความคิดความปรุงแต่งจะหยุดลง หรือสิ้นสุดลง ทันที

                         เมื่อไม่คิด ก็ไม่ทุกข์ เพราะความทุกข์ เกิดจากการคิด หรือหลงอยูาในความคิด

                          สวัสดีครับ
      บันทึกการเข้า
Manop Klabdee
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


พอเพียง มีสติ เกิดปัญญา
ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: 2513 วศ. รุ่นที่ 54
คณะ: วิศวกรรมศาสตร์ แผนกวิชาวิศวกรรมโยธา
กระทู้: 11,644

« ตอบ #9597 เมื่อ: 19 กรกฎาคม 2556, 08:30:12 »

สวัสดีครับ ชาวซีมะโด่ง และแขกผู้มาเยือน ที่รักทุกท่าน

                     พี่สิงห์ อยู่สนามบินดอนเมือง รอขึ้นเครื่อง Nok Air ไปนครศรีธรรมราช ในเวลา Boarding 09:15 น.

                     เมื่อเช้าที่ผ่านมา ได้หุงข้าว สวดมนต์ทำวัตรเช้า ทบทวนศีล ๘ ให้สมบูรณ์ ได้ซื้อพวงมาลัยดอกมะลิมาประดับที่โกฏิแม่ และได้ใส่บาตรพระ ที่หน้าบ้าน  ได้คุณเรื่องธรรมะ กับพี่โส  เพื่อนบ้านที่รvใส่บาตรพระ ด้วยกัน

                     วันนี้เช้าที่สนามบินดอนเมืองปกติ คือคนแน่นในการเดินทางไปต่างจังหวัด

                     สำหรับเที่ยวบินไปนครศรีธรรมราช Nok Air บินห้าเที่ยวต่อวัน เต็มหรือเกือบเต็มทุกเที่ยวบิน

                     ทุกนาที ทุกชั่วโมง  อย่าลืมตามจิตของท่านให้พบ และดำรงอยู่ด้วยการกระทำที่เป็นกุศล  นั่นละคือการปฏิบัติธรรม แล้วครับ

                     สวัสดี
      บันทึกการเข้า
Manop Klabdee
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


พอเพียง มีสติ เกิดปัญญา
ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: 2513 วศ. รุ่นที่ 54
คณะ: วิศวกรรมศาสตร์ แผนกวิชาวิศวกรรมโยธา
กระทู้: 11,644

« ตอบ #9598 เมื่อ: 19 กรกฎาคม 2556, 11:06:37 »

สวัสดีครับ ชาวซีมะโด่ง และแขกผู้มาเยือน ที่รักทุกท่าน

                 ผ่านไปหนึ่งชั่วโมงครึ่ง พี่สิงห์ ก็มาถึงที่ทำงาน โรงงานที่นครศรีธรรมราชเรียบร้อยแล้ว

                 ท้องฟ้ามีเมฆ คลึ้ม  ฝนไม่ตก  อากาศขมุกขมัว  ไม่ร้อน ไม่มีแสงแดดจัด  บ่าย ๆ ฝนคงตก มาจากเขาหลวง

                 งานของผมที่นครศรีธรรมราช  ถ้าไม่มีงานออกแบบเสาเข็ม  คานสะพาน  แผ่นพื้น และเสาไฟฟ้า  มันก็ไม่มีอะไรจะทำเหมือนกัน  งานส่วนใหญ่นอกจากการออกแบบแล้ว คืองานที่จะต้องใช้ปัญญา และปาก เป็นสำคัญ

                  คนเรามันก็อย่างนี้อายุมากแล้ว  จะไปทำงานแบบหนุ่ม ๆ มันไม่คุ้ม  มันเป็นเรื่องของคนรุ่นใหม่

                  เราคนรุ่นเก่า  ก็อาศัย ประสบการณ์การทำงาน  แนวทางการทำธุรกิจ  และการบริหารจัดการ มาวางเป็นแนวทางให้คนรุ่นใหม่ กระทำตาม  มันก็มีเท่านี้ละ  จึงเป็นงานให้คำปรึกษา  แนะนำ  สอนหนังสือ และประชุม เป็นส่วนใหญ่

                  เป็นงานที่ไม่มีอะไรจะทำ  หรือรับผิดชอบมากมายนัก  เป็นงานน่าเบื่อ เพราะบางทีไม่มีอะไรจะทำ  เราต้องหางานมาให้ตัวเองทำ ที่มันก่อประโยชน์ต่อบริษัท  ต้องทำในสิ่งที่คนอื่นเขาไม่คิด และทำไม่เป็น

                  ทุกที่ ที่ผมไปทำงานให้เขา มันก็เป็นแบบนี้ทั้งนั้น  เขาจ้างเราเพื่อเอาประสบการณ์ของเรามาถ่ายทอด หรือคิดอะไรที่มันใหม่ ๆ

                   ตอนนี้สิ่งที่คิดเอาไว้คือ การลดต้นทุนการผลิตเสาเข็ม แผ่นพื้น โดยนำเครื่องจักรมาใช้  อย่างเครื่องมือร้อยลวด PC.wire ก็ทำได้แล้ว สามารถร้อย-ตัด ได้โดยไม่ต้องใช้คน และเครื่องมือเขย่า -แต่งหน้าปูนคอนกรีต สำหรับแผ่นพื้นนั้นทำสำเร็จแล้ว  ส่วนเสาเข็ม อีกหนึ่งอาทิตย์เสร็จ เมื่อเสร็จ จะทดลองใช้  ถ้าสำเร็จ สามารถลดคนงานเทคอนกรีตจาก ที่ต้องใช้สิบกว่าคน เหลือเพียง สามคนเท่านั้น  นี่ละงานของผม

                  นอกจากนั้น ต้องดูเรื่องการตลาด ทำอย่างไรจะขายได้  ทิศทางของตลาด แนวโน้มเศรษฐกิจของประเทศ ที่มีผลต่ออุตสาหกรรมของเรา  มันก็เป็นเรื่องใหญ่ที่เราต้องติดตาม คอยระวัง เพราะว่าพนักงานประจำเขาไม่คิด  ไม่สนใจ  เราจึงต้องดูแลแทน

                   ตอนนี้ก็ต้องระวังเรื่องฟองสบู่ที่กำลังก่อตัวในประเทศไทย  จีน และเศรษฐกิจของโลก  ว่าหวยจะไปออกที่ใด  เพราะมันมีผลต่อธุรกิจทั้งนั้น  การลงทุนใหม่ ๆ ขยายกำลังผลิต  จึงต้องระวัง  ก้าวให้มั่นคง  มีกำลังสำรองเผื่อเอาไว้  อดีตที่ผ่านมาเป็นบทเรียนที่ดีต่อเราต้องเอามาก่อให้เกิดประโยชน์

                      ตอนนี้ธุรกิจคอนโดมิเนี่ยม  น่าจับตามองยิ่ง เพราะ ธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ประเภทนี้ บริษัมแม่สร้าง  บริษัทลูกมารับซื้อทั้งหมด แล้วเอาไปขายต่อ เพื่อหวังผลกำไร มีลูกค้าซื้อจริงๆ น้อย  นี่ละอันตรายในการทำธุรกิจ  ระวัง

                    อีกสองปี เปิด AEC และไม่เป็นไปตามที่คาดหวัง  ฟองสบู่แตกแน่ ๆ ในภาคอสังหาริมทรัพย์

                    สวัสดี
      บันทึกการเข้า
Manop Klabdee
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


พอเพียง มีสติ เกิดปัญญา
ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: 2513 วศ. รุ่นที่ 54
คณะ: วิศวกรรมศาสตร์ แผนกวิชาวิศวกรรมโยธา
กระทู้: 11,644

« ตอบ #9599 เมื่อ: 19 กรกฎาคม 2556, 16:01:50 »


                  อย่าลืมแกว่งแขนแบบหนูนะค่ะ

                  แกว่งขึ้นให้หายใจเข้า

                  แกว่งแขนลงให้หายใจออก

                  เป็นการกระตุ้น ต้อมน้ำเหลืองให้ทำงาน

                  และการหายใจเข้าช้าๆ ยาวๆ มีประโยชน์หลายค่ะ

                 กระทำวันละ ๒๐๐ ครั้ง ขึ้นไป หรือต่อเนื่องเกิน ๔๕ นาที เป็นดี

                 ขอบคุณค่ะ ที่ติดตามอ่าน
      บันทึกการเข้า
  หน้า: 1 ... 382 383 [384] 385 386 ... 681   ขึ้นบน
  
กระโดดไป:  

     

ทำไมหอพักนิสิตจุฬาจึงเป็นดินแดนมหัศจรรย์            " ไม่ได้เป็นแค่หอให้นอนพัก  แต่เป็นบ้านอบอุ่นรักให้อาศัย  ไม่เป็นแค่ที่ซุกหัวยามหลบภัย  แต่สร้างใจให้เข้มแข็งแกร่งการงาน"  <))))><