22 พฤษภาคม 2567, 08:11:12
ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน


เข้าสู่ระบบด้วยชื่อผู้ใช้ รหัสผ่าน [สมาชิกเก่าลืมรหัส โทร 081-7611760]
A A A A  ระเบียบปฎิบัติ
   
Languages    
  หน้า: 1 ... 540 541 [542] 543 544 ... 681   ลงล่าง
ผู้เขียน หัวข้อ: คุย กับ คุณมานพ กลับดี อดีตประธานชมรม ๓ สมัย  (อ่าน 3274807 ครั้ง)
0 สมาชิก และ 11 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
Manop Klabdee
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


พอเพียง มีสติ เกิดปัญญา
ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: 2513 วศ. รุ่นที่ 54
คณะ: วิศวกรรมศาสตร์ แผนกวิชาวิศวกรรมโยธา
กระทู้: 11,644

« ตอบ #13525 เมื่อ: 08 ธันวาคม 2557, 11:57:50 »



หนูน้อย มีนา  วัย ๕ ขวบ ยังสู้ไหว
      บันทึกการเข้า
Manop Klabdee
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


พอเพียง มีสติ เกิดปัญญา
ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: 2513 วศ. รุ่นที่ 54
คณะ: วิศวกรรมศาสตร์ แผนกวิชาวิศวกรรมโยธา
กระทู้: 11,644

« ตอบ #13526 เมื่อ: 08 ธันวาคม 2557, 11:58:44 »

      บันทึกการเข้า
Manop Klabdee
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


พอเพียง มีสติ เกิดปัญญา
ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: 2513 วศ. รุ่นที่ 54
คณะ: วิศวกรรมศาสตร์ แผนกวิชาวิศวกรรมโยธา
กระทู้: 11,644

« ตอบ #13527 เมื่อ: 08 ธันวาคม 2557, 11:59:26 »

      บันทึกการเข้า
Manop Klabdee
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


พอเพียง มีสติ เกิดปัญญา
ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: 2513 วศ. รุ่นที่ 54
คณะ: วิศวกรรมศาสตร์ แผนกวิชาวิศวกรรมโยธา
กระทู้: 11,644

« ตอบ #13528 เมื่อ: 08 ธันวาคม 2557, 12:00:11 »

      บันทึกการเข้า
Manop Klabdee
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


พอเพียง มีสติ เกิดปัญญา
ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: 2513 วศ. รุ่นที่ 54
คณะ: วิศวกรรมศาสตร์ แผนกวิชาวิศวกรรมโยธา
กระทู้: 11,644

« ตอบ #13529 เมื่อ: 08 ธันวาคม 2557, 12:01:05 »

      บันทึกการเข้า
Manop Klabdee
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


พอเพียง มีสติ เกิดปัญญา
ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: 2513 วศ. รุ่นที่ 54
คณะ: วิศวกรรมศาสตร์ แผนกวิชาวิศวกรรมโยธา
กระทู้: 11,644

« ตอบ #13530 เมื่อ: 08 ธันวาคม 2557, 12:01:48 »

      บันทึกการเข้า
Manop Klabdee
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


พอเพียง มีสติ เกิดปัญญา
ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: 2513 วศ. รุ่นที่ 54
คณะ: วิศวกรรมศาสตร์ แผนกวิชาวิศวกรรมโยธา
กระทู้: 11,644

« ตอบ #13531 เมื่อ: 08 ธันวาคม 2557, 12:02:47 »

      บันทึกการเข้า
Manop Klabdee
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


พอเพียง มีสติ เกิดปัญญา
ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: 2513 วศ. รุ่นที่ 54
คณะ: วิศวกรรมศาสตร์ แผนกวิชาวิศวกรรมโยธา
กระทู้: 11,644

« ตอบ #13532 เมื่อ: 08 ธันวาคม 2557, 12:03:41 »

      บันทึกการเข้า
Manop Klabdee
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


พอเพียง มีสติ เกิดปัญญา
ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: 2513 วศ. รุ่นที่ 54
คณะ: วิศวกรรมศาสตร์ แผนกวิชาวิศวกรรมโยธา
กระทู้: 11,644

« ตอบ #13533 เมื่อ: 08 ธันวาคม 2557, 12:04:29 »

      บันทึกการเข้า
Manop Klabdee
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


พอเพียง มีสติ เกิดปัญญา
ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: 2513 วศ. รุ่นที่ 54
คณะ: วิศวกรรมศาสตร์ แผนกวิชาวิศวกรรมโยธา
กระทู้: 11,644

« ตอบ #13534 เมื่อ: 08 ธันวาคม 2557, 12:05:14 »

      บันทึกการเข้า
Manop Klabdee
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


พอเพียง มีสติ เกิดปัญญา
ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: 2513 วศ. รุ่นที่ 54
คณะ: วิศวกรรมศาสตร์ แผนกวิชาวิศวกรรมโยธา
กระทู้: 11,644

« ตอบ #13535 เมื่อ: 08 ธันวาคม 2557, 12:05:50 »

      บันทึกการเข้า
Manop Klabdee
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


พอเพียง มีสติ เกิดปัญญา
ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: 2513 วศ. รุ่นที่ 54
คณะ: วิศวกรรมศาสตร์ แผนกวิชาวิศวกรรมโยธา
กระทู้: 11,644

« ตอบ #13536 เมื่อ: 08 ธันวาคม 2557, 12:09:08 »



หลังจาก บุกป่าผ่าดง มาตลอดทั้งวัน

คณะธรรมยาตราลุ่มน้ำละปะทาว ก็มาถึงที่หมายสุดท้าย
      บันทึกการเข้า
Manop Klabdee
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


พอเพียง มีสติ เกิดปัญญา
ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: 2513 วศ. รุ่นที่ 54
คณะ: วิศวกรรมศาสตร์ แผนกวิชาวิศวกรรมโยธา
กระทู้: 11,644

« ตอบ #13537 เมื่อ: 08 ธันวาคม 2557, 17:36:27 »



      บันทึกการเข้า
Manop Klabdee
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


พอเพียง มีสติ เกิดปัญญา
ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: 2513 วศ. รุ่นที่ 54
คณะ: วิศวกรรมศาสตร์ แผนกวิชาวิศวกรรมโยธา
กระทู้: 11,644

« ตอบ #13538 เมื่อ: 08 ธันวาคม 2557, 17:41:07 »

      บันทึกการเข้า
Manop Klabdee
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


พอเพียง มีสติ เกิดปัญญา
ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: 2513 วศ. รุ่นที่ 54
คณะ: วิศวกรรมศาสตร์ แผนกวิชาวิศวกรรมโยธา
กระทู้: 11,644

« ตอบ #13539 เมื่อ: 08 ธันวาคม 2557, 17:42:02 »



วิวสวยครับ
      บันทึกการเข้า
Manop Klabdee
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


พอเพียง มีสติ เกิดปัญญา
ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: 2513 วศ. รุ่นที่ 54
คณะ: วิศวกรรมศาสตร์ แผนกวิชาวิศวกรรมโยธา
กระทู้: 11,644

« ตอบ #13540 เมื่อ: 08 ธันวาคม 2557, 17:43:18 »

สวัสดีทุกท่านครับ

พี่สิงห์  พักอยู่ที่สนามกอล์ฟโวยาส อำเภอสี่คิ้ว วันนี้อากาศเย็นทั้งวัน และค่ำนี้อากาศเย็นมาก อากาศหนาวมาแล้วครับ โคราช

สบายดีครับ

สวัสดี
      บันทึกการเข้า
Manop Klabdee
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


พอเพียง มีสติ เกิดปัญญา
ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: 2513 วศ. รุ่นที่ 54
คณะ: วิศวกรรมศาสตร์ แผนกวิชาวิศวกรรมโยธา
กระทู้: 11,644

« ตอบ #13541 เมื่อ: 08 ธันวาคม 2557, 18:01:40 »



ธรนมยาตรา ครั้งที่ ๑๕ ปิดฉากลงแล้ว
      บันทึกการเข้า
Manop Klabdee
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


พอเพียง มีสติ เกิดปัญญา
ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: 2513 วศ. รุ่นที่ 54
คณะ: วิศวกรรมศาสตร์ แผนกวิชาวิศวกรรมโยธา
กระทู้: 11,644

« ตอบ #13542 เมื่อ: 09 ธันวาคม 2557, 06:04:08 »



สวัสดีตอนเช้าครับ ชาวซีมะโด่งและแขกผู้มาเยือน ที่รักทุกท่าน

ขอนำภาพป่าพันปี ที่เป็นจุดสิ้นสุดของ คณะธรรมยาตรา ครั้งที่ ๑๕ ที่นำทัพธรรมโดยหลวงพ่อไพศาล  วิสาโล   วัดป่าสุคะโต  ชัยภูมิ

ธรรมชาติป่าที่สวยงามสร้างความสุขให้กับทุกท่าน  แต่ธรรมชาติสุข แท้จริงอยู่ในใจของทุกคน มันมีอยู่ ที่เรียกว่าพระนิพพาน

ดังนั้น จงกลับมามองกาย-ใจตนเอง หามันให้พบด้วยสติปัฏฐาน ๔ ด้วยตัวของท่านเอง

อรุณสวัสดิ์ทุกท่านครับ

      บันทึกการเข้า
Manop Klabdee
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


พอเพียง มีสติ เกิดปัญญา
ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: 2513 วศ. รุ่นที่ 54
คณะ: วิศวกรรมศาสตร์ แผนกวิชาวิศวกรรมโยธา
กระทู้: 11,644

« ตอบ #13543 เมื่อ: 09 ธันวาคม 2557, 18:11:24 »







วันพฤหัสบดีนี้  พี่สิงห์  จะไปรับหนังสือ ของอาจารย์กำพล  ทองบุญนุ่ม

เอาไว้แจกเพื่อนฝูง  และเอาไปบริจาคให้ทางโรงพยาบาลสิงห์บุรี - อินทร์บุรี  และชาวบ้านวัดพระนอน  ได้ศึกษา

ใครต้องการหนังสือนี้  บอกมาได้เลยครับ

สวัสดี
      บันทึกการเข้า
Manop Klabdee
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


พอเพียง มีสติ เกิดปัญญา
ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: 2513 วศ. รุ่นที่ 54
คณะ: วิศวกรรมศาสตร์ แผนกวิชาวิศวกรรมโยธา
กระทู้: 11,644

« ตอบ #13544 เมื่อ: 09 ธันวาคม 2557, 20:59:09 »



หลายท่าน ที่เคยปฏิบัติธรรม  บอกว่าไม่เห็นก้าวหน้าเลย !

ขอให้ท่านลองพิจารณา ตัวท่านว่า มีสิ่งเหล่านี้เกิดขึ้นกับท่าน หรือเปล่า ซึ่งประกอบไปด้วย
- ศรัทธา  ท่านมีศรัทธาเชื่อในการตรัสรู้ของพระพุทธองค์  เชื่อในพระธรรมคำสอนไม่มีความลังเลสงสัยในธรรม และเชื่อในพระอริยสงฆ์ เชื่อเรื่องกรรม ว่าทำดีได้ดี ทำชั่วได้ชั่ว ทุกสิ่งล้วนเกิดขึ้นจากเหตุ-ปัจจัย เกิดขึ้นเองไม่ได้

- ศีล เมื่อก่อนท่านอาจจะไม่เคยถือศีล แต่ท่านรู้ว่าการมีศีลนั้นทำให้ท่านสามารถรักษากาย วาจา และใจ ให้เป็นปกติได้ และเกิดความสงบสุขเกิดขึ้นกับท่าน
- พหุสัจจะ คือใคร่ใฝ่เรียนรู้ในธรรม และเมื่อได้ฟังธรรมแล้วสามารถแยกแยะได้ว่าธรรมอันใดเป็นของพระพุทธองค์
- หิริ มีความละอายในการทำบาป
- โอตัปปะ มีความเกรงกลัวในการที่จะทำบาป
- จาคะ คือการช่วยเหลือผู้ที่สมควรได้รับการช่วยเหลือ ทำบุญ ให้ทานอยู่เป็นนิจ
- มีความเพียรในการทำสิ่งที่เป็นกุศล และสติปัฏฐาน ๔
- อยู่ด้วยการมีสติเป็นส่วนใหญ่
- มีปัญญา ไม่หลงอยู่ในความคิด

ถ้าท่านมีสิ่งเหล่านี้เกิดขึ้น จากการปฏิบัติธรรมของท่าน  นั่นละะคือความก้าวหน้าในการปฏิบััติธรรมของท่าน  จะมีมากมีน้อยท่านสามารถรู้ได้ด้วยตัวของท่านเอง

อย่าลืมการปฏิบัติธรรมนั้นเปรียบเสมือน เวลาเราเอาไม้สีไฟเพื่อให้เกิดความร้อนจนเป็นเปลวไฟไปติดเชื้อเพลิงนั้้นต้องทำต่อเนื่องจนกว่าไฟจะติดฉันใด  การปฏิบัติธรรมก็เหมือนกันฉันนั้น คือต้องทำต่อเนื่อง ตลอดเวลาเช่นกันจึงจะประสพความสำเร็จได้  ซึ่งต้องใช้ความเพียรยิ่ง ในการเอาชนะจิตตนเอง  แต่ก็อยู่ในวิสัยมนุษย์ที่จะสามารถกระทำได้

ราตรีสวัสดิ์ทุกท่านครับ
      บันทึกการเข้า
Manop Klabdee
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


พอเพียง มีสติ เกิดปัญญา
ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: 2513 วศ. รุ่นที่ 54
คณะ: วิศวกรรมศาสตร์ แผนกวิชาวิศวกรรมโยธา
กระทู้: 11,644

« ตอบ #13545 เมื่อ: 10 ธันวาคม 2557, 05:08:51 »




สวัสดียามเช้า ชาวซีมะโด่ง และแขกผู้มาเยือน ที่รักทุกท่านครับ

วันนี้ ไปทำงานที่โรงงานเอเซียคอนกรีตบ้านแพ้ว

พี่สิงห์  ยังต้องทำงาน เงินที่ได้มานั้น ครึ่งหนึ่งจะใช้ไปในการทำบุญ สงเคราะห์ผู้ที่สมควรสงเคราะห์ ตามเหตุ-ปัจจัย คืนให้กับสังคมในหลายรูปแบบ  และเพื่อตอบแทนคนที่ให้เงินเราเพราะเขาเหล่านั้น ยังห่างไกลพุทธศาสนา ยังไม่ให้ความสำคัญของพุทธศาสนาเพื่อตนเองในการพ้นทุกข์

อย่าลืมการปฏิบัติธรรมแต่ละครั้ง ต้องเป็นตามรูปแบบที่อาจารย์ทั้งหลาย สอนมา และต้องเอาชนะนิวรณ์ ๕ ให้ได้ คือเอาชนะใจตนเอง นั่นเอง ถ้าเอาชนะได้ ท่านจะพบกับปีติิ ที่ท่านไม่เคยพบมาก่อนเป็นรางวัล  การเอาชนะนิวรณ์ เกิดปีติ นั่นหมายความว่าท่านทำญาณที่ ๓ ให้เกิดขึ้นได้แล้ว

แต่ถ้าท่านเลือกประเภท ตามดูจิตนั้้น มันเป็นเพียงอีกหนทางหนึ่งที่จิตมันชอบ เพราะไม่ต้องเดือดร้อนอะไรเลย  สบาย ๆ แต่ร้อยละร้อย หลงอยู่ในความคิดตนเองหรือโมหะเป็นส่วนใหญ่  ความก้าวหน้ามันจะน้อย ไม่ขอแนะนำสำหรับผู้ปฏิบัติธรรมมือใหม่ ยกเว้นพวกที่ผ่านการเห็นรูป-นาม เห็นความเป็นไตรลักษณ์แล้ว เป็นการเจริญสติในชีวิตประจำวัน แต่เขาก็รู้ดีว่าต้องทำเต็มรูปแบบ จึงจะเอาชนะจิตตนเองได้

การเห็น กับ การรู้  ในทางธรรมมันต่างกัน การเห็น มันเห็นด้วยตาในเห็ยด้วยความรู้สึกเข้าใจ  แต่การรู้ มันเกิดจากการคิด อ่าน ฟัง ตรึก ตรอง พิจารณา วิเคราะห์

การปฏิบัติธรรม ต้องให้มันเห็นในธรนมนั้น จาก รูป-นาม ของตนเองโดยเฉพาะจิตของเรานี่ละ เป็นครูชั้นดีเลิศเลย ขอให้ศึกษาติดตามดูเขาด้วยสติ หรือความรู้สึกตัว เป็นผู้ดู  อย่าไปเป็นผู้เป็น

เมื่อใดที่ท่านมีโอกาสฟังธรรม ขอให้ท่านมีสติเอาชนะนิวรณ์ ๕ ให้ได้ จิตท่านจะเหมาะกับการเรียนรู้ทางวิปัสสนาของมันเอง ท่านจงพิจารณาธรรมนั้นให้เห็นจริงเถิด แต่ไม่ใช่คิดตามให้พิจารณาตามธรรมนั้น จะเห็นจริงตามธรรมนั้นได้ ถ้าธรรมนั้นเป็นของพระพุทธองค์ เพราะธรรมของพระพุทธองค์เป็นจริงตามธรรมชาติเสมอ

เช้านี้ขอฝากทุกท่านให้พิจารณาด้วยครับ

สวัสดี
      บันทึกการเข้า
Manop Klabdee
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


พอเพียง มีสติ เกิดปัญญา
ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: 2513 วศ. รุ่นที่ 54
คณะ: วิศวกรรมศาสตร์ แผนกวิชาวิศวกรรมโยธา
กระทู้: 11,644

« ตอบ #13546 เมื่อ: 10 ธันวาคม 2557, 19:44:40 »



สวัสดียามค่ำครับ ชาวซีมะโด่ง และแขกผู้มาเยือน ที่รักทุกท่าน

วันนี้ เป็นวันรัฐธรรมนูญ เป็นวันที่ รัชกาลที่ ๗ ท่านได้พระราชทานรัฐธรรมนูญ ในการปกครองประเทศ ครั้งแรก แก่ประชาชนชาวไทย

แต่ตลอดเวลาที่ผ่านมา เป็นเพราะคนที่ขึ้นมามีอำนาจในการปกครองประเทศ ส่วนใหญ่ท่านหลงอยู่ในความคิดตัวเอง เป็นใหญ่แล้วท่านยิ่งหลงอำนาจเข้าไปอีก ผลคือ ประเทศไทยถอยหลังลงครองทุกที

ีนักการเมืองไทย ไม่พัฒนา มีแต่เอา และก็เอามากด้วย และเราก็ไปเทอดทูล คนทุจริตด้วย มันจึงเป็น อย่างนี้

ว่าจะไม่ข้องเกี่ยวแล้ว แต่ก็อดเป็นห่วงประเทศไทยไม่ได้  ว่าเมื่อไรนักการเมืองไทย  จะเป็นนักการเมืองที่ดี ทำเพื่อประชาชนจริง ๆ เสียที

นักการเมืองน้ำเน่า  จงหมดไปเสียที  แต่ก็เป็นไปไม่ได้ เพราะคนไม่มีพุทธศาสนาที่แท้จริง ไม่มีศีล ๕ อยู่ในจิต

สวัสดี
      บันทึกการเข้า
suriya2513
Cmadong ชั้นเซียน
*****


ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 9,457

« ตอบ #13547 เมื่อ: 10 ธันวาคม 2557, 22:34:29 »

เพื่อนผมเขามีจิตเป็นศาสนาของเขาอย่างนี้
อยากให้อาจารย์มานพ ช่วยวิจารณ์ ว่าผิดหลักตรงไหนบ้าง
รบกวนชี้แนะ


เพื่อนเชียร์ให้เอามาลง ก็อายๆอยู่นะ
กลัวเพื่อนๆจะเห็นว่า ไร้สาระอยู่บ้าง
แต่ไหนๆ ก็วันหยุด อ่านเล่นเพลินๆ แล้วกันครับ
---ข้อคิดของผม---
วิธีคิดของผมคือ ไม่ปฏิเสธ; พร้อมและยอมรับ การเกิดใหม่
เมื่อเกิดแล้วก็เน้น การมีชีวิตอยู่ ในหนทางที่ถูกต้อง
อันจะเป็นประโยชน์ ทั้งกับในชาตินี้ และชาติต่อๆไป
หลักคิดสำคัญที่ใช้อยู่ตอนนี้ มีเพียง ข้อเดียว คือ
"หลีกเลี่ยงการเบียดเบียนผู้อื่น"
ผู้อื่นในที่นี้ รวมตัวเองด้วยนะครับ เพราะเมื่อ
"ตัวกู ไม่ใช่ของกู" มันก็คงเป็นของคนอื่นนั่นแหละ
เน้นที่จะมีชีวิตอยู่ในชาตินี้อย่างมีความสุข จนลมหายใจสุดท้ายครับ
"ทุกข์มีให้เห็น ไม่ได้มีให้เป็น" ใช่มั้ยครับ ทุกๆท่าน
แต่สุขนั้น มีให้เป็นแน่นอนครับ รับรองได้
"จง เป็นสุข เป็นสุขเถิด" ทุกท่านทุกคน อย่าได้เบียดเบียนซึ่งกันและกันเลย
.......จริงแม๊ะ......
      บันทึกการเข้า

[โบราณคดี]จุดกำเนิดเริ่มต้นของ cmadong.com by : มานพ กลับดี  คลิ๊ก->
Manop Klabdee
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


พอเพียง มีสติ เกิดปัญญา
ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: 2513 วศ. รุ่นที่ 54
คณะ: วิศวกรรมศาสตร์ แผนกวิชาวิศวกรรมโยธา
กระทู้: 11,644

« ตอบ #13548 เมื่อ: 11 ธันวาคม 2557, 12:37:38 »



เรียน ดร.สุริยา

การไม่เบียดเบียนทั้งตนเองและผู้อื่นนั้น มันก็เป็นหนทางอันประเสริฐแล้ว ยิ่งเป็นผู้เห็นในทุกข์  ไม่เป็นผู้เป็น ยิ่งประเสริฐใหญ่

แต่การ จะเป็นผู้เห็นได้นั้น ต้องปฏิบัติธรรม จนสามารถแยกรูป-นาม คือ แยกรูป-นามของเรานั้นออกเป็น ห้า ส่วน คือ
- แยกรูปออกมา รูปนี้ไม่มีตัวตน เพราะมันไม่ใช่สัตว์ บุคคล ตัวตนใด ๆ มีเพียงธาตุทั้ง ๔ เท่านั้น
- นามหรือจิต ที่ประกอบไปด้วย เวทนา สัญญา สังขาร วิญญาณ
- เจตสิก คือเครื่องประกอบจิต หรืออารมณ์ต่าง ๆ ที่มากระทบจิตแล้วทำให้จิตตกเป็นทาษของอารมณ์ รวม ๆ แล้ว คือ โลภ  โกรธ  หลง ความสุข  ความทุกข์ ....
- นิพพาน (ไม่ขอตอบพระยังตอบไม่ได้)
- ความรู้สึกตัว หรือสติ ที่จิตมันไปผูกเอาไว้ จนสามารถเป็นผู้ดู ไม่เป็นผู้เป็น ท่านจะเห็น(จากความรู้สึกภายใน) ว่านี่รูป  จิต  เจตสิก นิพาน มันเกิดขึ้น ดับไปของมัน เพราะธรรมชาติมันมีของมันอย่างนี้  ขึ้นอยู่กับเหตุ-ปัจจัย

แต่ท่านจะเป็นผู้ดูได้นั้น มันเป็นผลมาจากการเจริญสติปัฏฐาน ๔ จนแยกรูป-นาม  ออกมาได้เท่านั้น  ท่านไม่สามารถคิดขึ้นเองได้ มันไม่ใช่รู้ แต่มันเห็นความจริงได้จากภายในเท่านั้น นี่คือความจริง

ท่านจะอ่านหนังสือมามาก แล้วมาบอกว่า กูจะเป็นผู้เห็น กูไม่เป็นผู้เป็นนั้น มันคงเป็นไปไม่ได้ เพราะคนมันหลงอยู่ในความคิด

จริงอยู่ชาตินี้ท่านตั้งใจจะไม่เบียดเบียนใคร นั้นทำได้  แต่ชาติหน้าท่านไม่รู้จะไปเกิดที่ไหน เมื่อเกิดแล้ว ท่านึกหรือว่าท่านจะไม่เบียดเบียนใคร มันสั่งไม่ได้ การเกิดทุกครั้ง มันก็เริ่มต้นชีวิตใหม่ มีแต่กองทุกข์ใหม่ ท่านสั่งมันตั้งแต่ชาตินี้ไม่ได้ มันเป็นเพียงความคิดของท่านเท่านั้นในชาตินี้ ท่านคิดได้ แต่มันคงไม่เป็นไปตามคิดหรอก เพราะท่านบังคับชาติหน้าไม่ได้ นี่คือความจริง

ความสุขจากกามคุณที่เกิดจากการสัมผัสทาง ตา หู จมูก ลิ้น กาย ใจ มันเป็นความสุขชั่วคราวเท่านั้น และท่านจะยิ่งอยากมากขึ้นเรื่อย ๆ ตลอดเวลา เพราะจิตท่านชอบ  และท่านก็ยังปรุงแต่งมากขึ้น

ถ้าท่าน จะดำเนินชีวิตแบบนั้น มันขึ้นอยู่กับท่านเอง มันก็ดีมาก  แต่มันยังไม่ใช่หนทางที่ดีที่สุด

ศรัทธา จริง ๆ มันยังไม่เกิดกับท่านเท่านั้น อย่าลืมศรัทธา เป็นอริยะทรัพย์ มันเป็นผลจากการภาวนา มันเกิดขึ้นเอง จะคิดไม่ได้

สรุปแล้ว  ท่านคิดได้อย่างนั้น และทำได้อย่างนั้น มันก็ดี แต่ท่านหนีทุกข์ไม่พ้นหรอก  อย่าไปหลงอยู่ในความคิดเลย

ทางสายเอกรอท่านอยู่  ถึงหนทางมันจะแสนไกล ทุระกันดาร  แต่มันก็ไปถึงได้  ถึงจะไปไม่ถึงชาตินี้ มันก็มีชีวิตที่สุขกว่า ปราณีตกว่า ความสุขทางกามคุณ คือความสุขที่เกิดจากการปรุงแต่งน้อย ๆ หรือไม่ปรุงแต่งเลย เกว่าแยะ

ท่านลองเจริญสติ ให้นาน จนละนิวรณ์ ๕ ได้ ทำฌาณที่สามให้เกิดขึ้น  ท่านจะสัมผัสกับปีติ ความสุขที่ท่านไม่เคยพบมาก่อนเลย ท่านจะพบว่า มันสุขกว่ากามคุณ ที่ท่านชอบแบบคนและเรื่องแบบหน้ามือเป็นหลังมือเลย  แต่สุขที่เกิดจากการทำฌาณที่ ๔ ให้เกิดขึ้น มีแต่สติล้วน ๆ มันสุขยิ่งกว่าปราณีตกว่าอีก  ลองดูซิท่านจะรู้ด้วยตัวของท่านเอง

จงละทิฐิ  เสียเถิด ทำสัมมาทิฐิให้เกิดขึ้น แล้วท่านจะเข้าใจเอง อย่าหลงในความคิดเลย

สวัสดี
      บันทึกการเข้า
Manop Klabdee
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


พอเพียง มีสติ เกิดปัญญา
ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: 2513 วศ. รุ่นที่ 54
คณะ: วิศวกรรมศาสตร์ แผนกวิชาวิศวกรรมโยธา
กระทู้: 11,644

« ตอบ #13549 เมื่อ: 11 ธันวาคม 2557, 13:16:24 »



พุทธศาสนา นั้นมันเป็นเรื่องของความจริง ที่มีอยู่จริง ตามธรรมชาติของมัน จะไปบังคับก็ไม่ได้ มันเกิดขึ้น  ตั้งอยู่  ดับไปของมันตลอดเวลา ตามเหตุ-ปัจจัย  เพียงแต่พระำทธองค์ทรงค้นพบเป็นคนแรกแล้วเอามาบอก เปิดเผยให้ทราบ

ทุกท่านก็สามารถค้นพบตามพระพุทธองค์ได้

ท่านสามารถค้นหาทางส่ยเอกที่ไปสู่พระนิพพานด้วยตัวท่านเองได้  ท่านสามารถหาอริยทรัพย์ด้วยตัวท่านเองได้ ท่านสามารถเห็นปฏิจจสมุปบาท อริยสัจ ๔ ด้วยตัวของท่านเองได้

ทุกอย่างมันเป็นผลจากการเจริญสติปัฏฐาน ๔ เท่านั้น

ไปอ่าน  ไปฟัง  ไปตรึก  ไปตรองเอา  นั้นทำไม่ได้ มันต้องเกิดของมันเอง เห็นจากภายในเท่านั้น แล้วจิตมันจะเบื่อหน่าย ค่อย ๆ เบื่อหน่าย

แต่มันไม่ง่ายเลย เพราะต้องเอาชนะจิตตนเองสถานเดียวเท่านั้น

วันนี้เขาเอาหนังสือมาส่ง ๔๐๐ เล่ม ทำบุญไป ๘๐๐๐ บาท ตั้งใจเอาไว้ให้เพื่อนฝูง และเอาไปใว้ตามห้องคนไข้โรงพยาบาลสิงห์บุรี  อินท์บุรี ให้คนไข้  ผู้เฝ้าไข้เอาไว้ อ่านยามว่าง ครับ

การปฏ บัติธรรมนั้นถ้าไม่มีศรัทธา  ท่านทำไม่ได้ เพราะจิตมันไม่ชอบ

สวัสดี
      บันทึกการเข้า
  หน้า: 1 ... 540 541 [542] 543 544 ... 681   ขึ้นบน
  
กระโดดไป:  

     

ทำไมหอพักนิสิตจุฬาจึงเป็นดินแดนมหัศจรรย์            " ไม่ได้เป็นแค่หอให้นอนพัก  แต่เป็นบ้านอบอุ่นรักให้อาศัย  ไม่เป็นแค่ที่ซุกหัวยามหลบภัย  แต่สร้างใจให้เข้มแข็งแกร่งการงาน"  <))))><