Cmadong Chula

เรือนรับแขก เมาท์แหลกไม่เลือกรุ่น => ห้องสุขภาพและความงาม => ข้อความที่เริ่มโดย: Samrotri2517 ที่ 29 ตุลาคม 2553, 16:12:30



หัวข้อ: ปลูกถ่ายไขกระดูกโรคโลหิตจางธาลัสซีเมียมีโอกาสหายขาดมากกว่า 96%
เริ่มหัวข้อโดย: Samrotri2517 ที่ 29 ตุลาคม 2553, 16:12:30

                                  ถ่ายไขกระดูกหายธาลัสซีเมีย
                     ขอขอบคุณเวบไทยโพสต์ การศึกษา-สาธารณสุข
                            วันพุธ 27 ตุลาคม 2553 ที่เอื้อเฟื้อข่าว
                    http://www.thaipost.net/news/271010/29219 (http://www.thaipost.net/news/271010/29219)

                           (http://www.cmadong.com/imageupload/2010_Cmadong-Image/data/image/lb1o6o-65f448.jpg)

    แพทย์ไทยย้ำความสำเร็จในการปลูกถ่ายไขกระดูกโรคโลหิตจางธาลัสซีเมียมีโอกาสหายขาดมากกว่า 96% ชี้รัฐยังไม่สนับสนุนผ่าตัดเปลี่ยนถ่ายไขกระดูก ทั้งที่รับภาระไม่เกิน 1 ล้านบาทต่อราย แต่ถ้ากินยาตลอดชีวิตใช้งบสูง 30 ล้าน

     รศ.นพ.สุรเดช หงส์อิง แพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านการเปลี่ยนถ่ายไขกระดูก คณะแพทยศาสตร์ รพ.รามาธิบดี ม.มหิดล เปิดเผยว่า คณะแพทยศาสตร์ รพ.รามาธิบดี ได้เริ่มรักษาโดยการเปลี่ยนถ่ายไขกระดูก หรือสเต็มเซลล์ ให้แก่ผู้ป่วยมาตั้งแต่ พ.ศ. 2532 จนถึงปัจจุบันมีผู้ป่วยได้รับการรักษาทั้งเด็กและผู้ใหญ่ไปแล้วกว่า 800 ราย โดยใช้ไขกระดูกของตนเองและไขกระดูกจากผู้อื่น ซึ่งค่าใช้จ่ายด้วยวิธีการปลูกถ่ายไขกระดูกต่อรายจะอยู่ประมาณ 500,000-750,000 บาทต่อราย โดยผู้ป่วยมีโอกาสหายขาดสูงถึง 96% ซึ่งเมื่อเทียบกับการรักษาด้วยวิธีการให้เลือด และการกินยาขับเหล็กแล้ว ผู้ป่วยจะใช้เงินในการรักษาตลอดทั้งชีวิตเฉลี่ยต่อรายสูงถึง 30 ล้านบาท หากรักษาด้วยวิธีการนี้ต่อเนื่องยาวนาน 30 ปี ซึ่งในปัจจุบันมีผู้ป่วยมากกว่า 90% ยังใช้วิธีการรักษาด้วยวิธีนี้ และไม่สามารถรักษาโรคโลหิตจางธาลัสซีเมียให้หายขาดได้

     อย่างไรก็ตาม ปัญหาสำคัญของโรคโลหิตจางธาลัสซีเมียในขณะนี้คือ การขาดการสนับสนุนจากทางภาครัฐ เพราะถูกมองว่าค่าใช้จ่ายต่อรายสูงเกินกว่าที่รัฐจะรับภาระได้ ทำให้เป็นจุดอ่อนในการพัฒนาการรักษาโรคธาลัสซีเมีย ซึ่งมีผู้ป่วยอยู่ในขณะนี้มากกว่า 1 แสนคนทั่วประเทศ และมีประชากรไทยมากกว่า 30% หรือ 20 ล้านคน มีภาวะแฝง (ยีนแฝง) ของโรคดังกล่าว

     "ถ้าใช้เซลล์ต้นกำเนิดเม็ดเลือดจากพี่น้องที่มีเนื้อเยื่อตรงกับผู้ป่วย จะมีโอกาสหายขาดจากโรคโดยไม่ต้องได้รับเลือดหรือยาใดๆ อีกต่อไปประมาณ 90% แต่ถ้าใช้เซลล์ต้นกำเนิดจากผู้บริจาคที่ไม่ใช่ญาติ แต่มีเอชแอลเอตรงกับผู้ป่วย จะมีโอกาสหายขาดน้อยกว่าประมาณ 80%" รศ.นพ.สุรเดชกล่าว และว่า

     ในวันอังคารที่ 9 พ.ย.นี้ มูลนิธิรามาธิบดีเตรียมเปิดตัวโครงการปลูกถ่ายเซลล์ต้นกำเนิดเทิดไท้คู่ขวัญองค์ราชัน ราชินี อย่างเป็นทางการ ณ ห้องประชุม 1 ชั้น 5 ศูนย์การแพทย์สิริกิติ์ คณะแพทยศาสตร์ รพ.รามาธิบดี ตั้งแต่เวลา 13.00-14.30 น. เป็นต้นไป.

                     emo28:win: emo28:win: emo28:win: