Cmadong Chula

เรือนประจำรุ่น อบอุ่นทุกสมัย => รุ่น 2549 => ข้อความที่เริ่มโดย: Kittigon ที่ 09 ธันวาคม 2550, 23:57:54



หัวข้อ: เรื่องรกสมอง
เริ่มหัวข้อโดย: Kittigon ที่ 09 ธันวาคม 2550, 23:57:54
อิอิ
 :lol:
นำเสนอเรื่องแรกคับ
โลกร้อน กระเทือนถึงพืชผักและสรรพสัตว์บนโต๊ะอาหาร

นักวิทยาศาสตร์ระบุผัก-ผลไม้และเนื้อสัตว์บนโต๊ะอาหารที่เรารับประทานในแต่ละวันล้วนได้รับผลกระทบจากภาวะ "โลกร้อน" เพราะสภาพอันเกิดจากการเปลี่ยนแปลงภูมิอากาศ

เมื่อกระแสภูมิอากาศเปลี่ยนแปลง (Global warming) กำลังได้รับความสนใจ นักวิจัยต่างพยายามที่จะประเมินผลกระทบจากภาวะโลกร้อนที่มีต่อปศุสัตว์ ผักและธัญพืชอย่างข้าว เพื่อหาทางเสริมความต้านทานโรคและความหลากหลายของสายพันธุ์ที่แข็งแรง ซึ่งคนยากจนทั่วโลกนับพันล้านที่เป็นทั้งผู้ผลิตและบริโภคผลิตภัณฑ์ต่างๆ เหล่านี้จะต้องแบกรับผลกระทบรุนแรงที่จะตามมา

ถือเป็นสิ่งที่ย้ำเตือนนักวิทยาศาสตร์ทั้งหลายในที่ประชุมเกี่ยวเกษตรกรรมและการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ ซึ่งจบลงไปแล้วเมื่อวันที่ 24 พ.ย.ที่ผ่านมา ณ เมืองไฮเดอราบัดทางตอนใต้ของอินเดีย

"เวลาที่จะแก้ปัญหาได้ผ่านไปแล้ว การเปลี่ยนแปลงได้เกิดขึ้นเรียบร้อยแล้ว" จอห์น แมคเดอร์มอตต์ (John McDermott) ผู้ช่วยผู้อำนวยการสถาบันวิจัยปศุสัตว์นานาชาติในฐานวิจัยกรุงไนโรบี ประเทศเคนยา กล่าวถึงสถานการณ์ของการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ

พร้อมยกตัวอย่างว่าไข้ริฟท์ วัลเลย์ (Rift Valley Fever) หรืออาร์วีเอฟ (RVF) ซึ่งเกิดจากเชื้อไวรัสมรณะที่แพร่ไปยังแกะ อูฐ วัวควายและคนโดยการถูกยุงกัดนั้นก็โหมเชื้อจากการเปลี่ยนแปลงภูมิอากาศด้วย

แมคเดอร์มอตต์กล่าวอีกว่า ไวรัสไข้อาร์วีเอฟพบในแอฟริกาตะวันออกและเอเชียกลางเพราะมีความหลากหลายทางภูมิอากาศในอาณาเขตที่แห้งแล้งซึ่งช่วยให้พาหะนำโรคอย่างยุง แมลงดูดเลือด เห็บและหมัดนั้นแพร่พันธุ์ได้ดี โดยชี้ให้เห็นว่าหากเราพบโรคต่างๆ ได้เกิดขึ้นในพื้นที่ซึ่งไม่เคยพบโรคดังกล่าวอุบติขึ้นก็สันนิษฐานได้ว่าสัตว์บางชนิดได้กระจายไปยังพื้นที่ซึ่งสัตว์เหล่านั้นไม่เคยอาศัยอยู่

สำหรับคนยากจนแล้วปศุสัตว์ก็เปรียบเสมือนธนาคารเงินฝาก ที่เขาเหล่านั้นสามารถใช้แตะเบาๆ ก็สามารถดำรงชีวิตได้จากการขายสัตว์ที่เลี้ยงไว้ ซึ่งแมคเดอร์มอตต์แจงว่าคนจนเหล่านั้นไม่ได้สร้างรอยเท้าทางนิเวศน์ (ecological footprint) หรือผลกระทบจากการใช้ประโยชน์ของระบบนิเวศโลกมากนัก แต่ก็เป็นคนกลุ่มใหญ่ที่ต้องเสี่ยงจากความเสียหายเนื่องจากโรคที่เกิดกับปศุสัตว์ซึ่งเลวร้ายยิ่งขึ้นเนื่องจากการปรากฏการ์ณทางภูมิอากาศ

นักวิทยาศาสตร์ยังศึกษารูปแบบการเพาะปลูกและการเกิดโรคในพืชผักตั้งแต่หัวมันฝรั่ง มะเขือเทศ หัวหอม กระเทียม ไปจนถึงผักใบเขียวจำพวกกะหล่ำและผักโขม เพื่อดูว่าจะสามารถเพาะปลูกท่ามกลางความกดดันซึ่งเกิดจากภาวะโลกร้อนและผลข้างเคียงได้อย่างไร ซึ่งแจกกี ฮิวส์ (Jackie Hughes) ผู้ช่วยผู้อำนวยการฐานวิจัยศูนย์พืชผักโลก (World Vegetable Centre) ในเมืองซั่นหัว ไต้หวัน กล่าวว่า อุณหภูมิที่เพิ่มสูงขึ้นนั้นจะก่อให้เกิดปัญหาด้านน้ำ

"คุณกำลังจะประสบกับพายุไต้ฝุ่น ไซโคลนและเฮอร์ริเคน" ฮิวส์กล่าวพร้อมเพิ่มเติมว่าผู้เพาะปลูกจำเป็นต้องเพาะปลูกในรูปแบบที่แตกต่างกัน เช่น ใช้เทคนิคการเพาะเลี้ยงเนื้อเยื่อเพื่อจัดการกับปัญหาน้องท่วม ใช้ฝนเทียมและระบบป้องกันแมลงกับพืชผลของพวกเขา และอาจต้องเปลี่ยนแปลงพื้นที่เพาะปลูก เช่น ย้ายหัวหอมไปยังอีกทีหนึ่ง และย้ายมะเขือเทศกับกะหล่ำปลีไปยังบริเวณที่แห้งมากๆ เป็นต้น

ฮิวส์แจงอีกว่าความสำเร็จในการติดตามผลกะทบจากการเปลี่ยนแปลงภูมิอากาศที่มีต่อพืชผลทางการเกษตรนั้นมีความสำคัญต่อโลกซึ่งมีประชากรนับพันล้านที่มีน้ำหนักต่ำกว่าเกณฑ์และอยู่ในภาวะทุพโภชนาการ โดยเธอได้ให้ข้อมูลอีกว่าโดยเฉลี่ยในผู้ใหญ่จะต้องการบริโภคผักประมาณปีละ 74 กิโลกรัมแต่ส่วนใหญ่ก็บริโภคไม่ถึงเกณฑ์ดังกล่าว

นักวิทยาศาสตร์ยังกังวลเกี่ยวกับผลกระทบจากการเปลี่ยนแปลงภูมิอากาศที่สร้างความเสียหายต่อมะเขือเทศจากโรคอันเนื่องจากสภาพอากาศซึ่งสร้างความเสียหายใหญ่หลวงแก่การเพาะปลูกมะเขือเทศ


หัวข้อ: เรื่องรกสมอง
เริ่มหัวข้อโดย: Kittigon ที่ 09 ธันวาคม 2550, 23:59:06
น้ำ กับ โค้ก

ถ้าท่านรู้เรื่องนี้ ท่านจะดื่มน้ำมากขึ้น เพราะน้ำเป็นส่วนสำคัญของร่างกาย 75%

มีงานวิจัยพบว่าในคน 100 คน ที่ดื่มน้ำวันละ 8-10 แก้ว จะช่วยให้คน 80 คนลดอาการปวดหลังปวดข้อลงได้

ดื่มน้ำวันละ 5 แก้วลดปัจจัยเสี่ยงต่อการเป็นมะเร็งของลำไส้ใหญ่ได้ถึง 45 % มะเร็งเต้านมได้ 79% และมะเร็งกระเพาะปัสสาวะได้เกือบ 50%

ทีนี้มาลองรู้จักน้ำ "โค้ก" กันหน่อย

แน่นอนโค้กรสชาดยอดเยี่ยม แต่ตำรวจทางหลวงจะบรรทุกโค้ก 2 แกลลอนในช่องท้ายรถเพื่อเวลามีรถชนกันสามารถเอา 'น้ำโค้ก' ล้างเลือดบนถนนได้เกลี้ยงเกลา

ถ้าเอา T-bone steak ใส่ในชามกะละมังที่มีน้ำโค้กเต็ม จะพบว่าจะถูกละลายไปหมดใน 2 วัน

รินโค้ก 1 กระป๋องลงในโถส้วมทิ้งไว้ 1 ชั่วโมงแล้วชักโครกกรดซิตริกในโค้กจะล้างคราบสกปรกในโถส้วมได้สะอาด

ถ้าต้องการกัดสนิมที่กันชน ชุมโครเมี่ยมของรถ ให้เอาที่ขัดที่ทำด้วย foil ชุบโค้ก ขัดสนิมจะออกหมด

ถ้าจะล้างทำความสะอาดขั้วแบตเตอรี่ที่มีคราบกรดเกลือเกาะขาวๆ ให้เทน้ำโค้ก ฟองจะกัดคราบขาวออกได้หมด

ถ้าจุดขวดติดแน่น งัดไม่ออก เอาผ้าชุบน้ำโค้กหุ้มไว้หลายๆ นาที จะบิดจุดขวดออกได้โดยง่าย

ถ้าจะปิ้ง moist ham ให้เทโค้ก 1 กระป๋อง เทลงในกระทะ ห่อแฮมด้วยอะลูมิเนียมฟอล์ยแล้วปิ้ง 30 นาที ก่อนแฮมจะสุก แกะฟอล์ยออก ปล่อยให้น้ำเนื้อหยดลงไปผสมกับน้ำโค้กในกระทะ ท่านจะได้น้ำเกรวี่สีน้ำตาล

การล้างคราบไขมันจากเสื้อผ้า ให้ใช้น้ำโค้ก 1 กระป๋อง ผสมกับผงซักฟอกในปริมาณที่จะใส่ในเครื่องซัก ปล่อยให้ซักด้วยเครื่องตามปกติ โค้กจะช่วยกำจัดคราบไขมันได้สะอาดหมดจด

ท่านสามารถผสมโค้ก ลงในน้ำล้างกระจกรถยนต์ ฟอสฟอริคแอซิดในโค้ก จะช่วยทำความสะอาดกระจกได้ดี

น้ำโค้กมี pH 2.8 ถ้าตัดเล็บแช่ในน้ำโค้ก 4 วัน จะละลายหมด

เวลาขนย้ายน้ำโค้กเข้มข้นเพื่อส่งตามโรงงานทั่วโลก ที่รถ truck จะต้องติดป้ายไว้ว่า "มีวัตถุที่มีกรดกัดกร่อนได้ เป็นอันตราย"

บริษัทขายน้ำโค้ก ใช้น้ำโค้กทำความสะอาดเครื่องยนต์ของรถ truck มานานประมาณ 20 ปีแล้ว

ท่านยังอยากดื่ม โค้ก หรือดื่มน้ำกัน เลือกเอาเอง

แปลโดย ศ.กิตติคุณ นพ.เสก อักษรานุเคราะห์
หน่วยงาน: ศูนย์เวชศาสตร์ฟื้นฟู
วันที่ลงบทความ 21 เม.ย.45


หัวข้อ: เรื่องรกสมอง
เริ่มหัวข้อโดย: khesorn mueller ที่ 10 ธันวาคม 2550, 04:22:06
Nong King ka,,,
p.ning needs time to read...
and this time she need for reply Gratoo too..
so I'll be back.
p.nn


หัวข้อ: เรื่องรกสมอง
เริ่มหัวข้อโดย: Kittigon ที่ 10 ธันวาคม 2550, 18:07:43
จะว่าไป ผมก็ยังมะได้อ่านเหมือนกันแหละคับ  8)  8)


หัวข้อ: เรื่องรกสมอง
เริ่มหัวข้อโดย: khesorn mueller ที่ 10 ธันวาคม 2550, 18:19:24
psst,Nong King...p.ning is coming back second round...it is still not worked out ka nong..ssshhh!
p.nn


หัวข้อ: เรื่องรกสมอง
เริ่มหัวข้อโดย: Lindsay_Lohan_[BBB] ที่ 10 ธันวาคม 2550, 19:03:44
แต่ละเรื่องยาวๆ ทั้งนั้น