Cmadong Chula

http://www.dnunet.com/mitrphol/index.html
http://www.raklukefamilygroup.com/MusicProgram.pdf
(http://www.gooimage.com/id/dsc_a0117a1re.jpg) (http://www.gooimage.com/show.php?id=db8d7690b726e7d7b44e8bcf1147dca4)

:D  :D ไม่น่าเชื่อ...บุรุษผู้หายไปจากซีมะโด่ง20 ...กลับมาหาเพื่อนแล้ว...
หายไปแต่ตัวนะ...ยังไม่หายไปจากความทรงจำ...หนุ่มครุอาร์ตหนึ่งเดียวในรุ่น...
สุนทร มีศรี....ทั้งงาน25 ปี และงาน30 ปี...มีประกาศเพื่อนหาย...สุนทรคือหนึ่งในนั้น :shock:  :shock:
ดีใจที่เพื่อนเข้ามาในเว็บ ยินดีต้อนรับนะ :D  :D
จากคู่เต้นเพลงร็อคแอนด์โรล :lol:  :lol:

สุนทรจ๊ะ

จำกันได้ไหม  ยินดีต้อนรับอย่างแรง....

ยินดีต้อนรับ

 ขอต้อนรับ สุนทร มีศรี ชมพู  กว่า 25 ปี ที่ไม่ได้พบกัน อยู่หอก็ไม่ได้พบกัน  เข้ามาแล้ว ก็มาคุยกันบ่อยๆนะ

 งานครบรอบ 30 ปี ทุกคนยังคิดถึงท่านอยู่  แต่ไม่ทราบว่าอยู่ไหน  ลองเข้าไปหาบรรยากาศได้ในหัวเรื่อง นี้ จะพบกับเพื่อนๆอีกหลายๆคน ครับ

http://www.gooimage.com/ir/river.jpg[/img]id=3255b162451578380a467812e4a4429d](http://www.gooimage.com/th/h091a.jpg) (http://www.gooimage.com/show.php?[img)

สุนทร  มีศรี

      Mr. Soontorn  Meesri graduated with a Bachelor Degree in Art Education from Chulalongkorn University . While an Art teacher he studied Theatre with Kamron Kunatilaka and  classical singing with Dusdi Banomyong and Ralph Schatzki. He used to teach Art at Arts and Music Center in New Jersey, but preferred to be in the theatre. He was awarded the Actor in Excellence from Pattravadi Theatre in 2001.In Addition to working in the theatre, he is a painter, a poet, a performance artist, a solo singer and professional actor.

      He has worked as a leading actor in Japan, Europe, the USA. and Thailand (including the Crescent Moon Theatre).His works include;  King Oedipus, The October Nightmare, The Land Beyond Dream, The Man with The Flower In His Mouth, The Revenge, Rock Bhuritat, Yanpucha, Akaoni, The 1932 Revolutionist, John A. Lone, Lighthouse, The Opera, (a solo performance in English),The Confession of a Sinner, second Bass in Pridi Kitanusara ,in the Opera Madana, Narrator in Peter and The Wolf with the Salaya Chamber Orchestra, The Noise of Art on Kitavipassana by Atibhop Pataradetpisan,  The Tide of Two Countries by Dnu  Huntrakul with the Mai-Thai Orchestra, Samveja-Samvasa by Atibhop Pataradetpisan with the Thailand Philharmonic Orchestra, The Octet soloists in Agnus Dei, Mass in D Major by Antonin Dvorak  with the Bangkok Music Society Choir and Orchestra, The Parables (in English) by Dan M. Heslink with the Integrated Percussion Ensemble,Trial by Jury (in English), Narator in Peter and the Wolf with the Thailand Philharmonic Orchestra.

       His works for Thai Films include; The Moon Hunter, Aunguli Mara, The Macabre Case of Prom Pi Ram, Queen of Langasuka.

:D  :D Hi! Soontorn Meesri!!
Can you speak thai??? :lol:  :lol:  :lol:  :oops:

เพื่อนเรา go inter  ไปแล้วนะ ยินดีด้วย

:roll: พูดทายดายหมายคร๊าบ...ผ๊มตกอังกิดคั่บ... :wink:

 :oops:  :oops: พูดได้...แล้วตัวเองทำไมตัวเองไม่คุยกะเค้าล่ะ..ให้เค้าอ่านๆๆๆแล้วก็ฟังๆๆๆอยู่ได้...เค้าอยากคุยกะตัว..แบบว่า...interactive...อ่ะนะ :oops:  :oops:

พี่จิ๋มซี,พี่นิตตี,พี่ต้อย,พี่เริง,
หนิงก็รอดูอยู่ด้วยความอดทน ว่าเมื่อไหร่พี่สุนทรจะออกมาเม้าธ์เอง จะได้ greet him directly ไม่ต้อง one way แบบนี้ ไม่เอา ผิดหลักเม้าธ์ชั้นเซียนหมด!!
nn. :lol:

Synopsis: One- Act- Play;
"Lost & Found" [/size] by -Soontorn  Meesri  (สุนทร  มีศรี)
Prologue;ภาพนิ่ง 3 ฉาก(รูปอดีต-อดีตกว่า-อดีตกว่าอดีต)
 Act 1;
   - Scene 1; Do you read me?
     ฉันอ่านข้อความของเพื่อนๆทั้งหมดและพยายามทำความเข้าใจในหลายเรื่องแต่ฉันก็ยังมีคำถามก็ได้แต่ถามตัวเอง แล้ววันนี้ฉันก็เปล่งคำพูดว่า Do you read me? แล้วฉันก็พยายามถามตัวเองอีกครั้ง แล้วพูดกับเธอว่า Do you read me? ซ้ำแล้ว ซ้ำเล่า เวลาผ่านไปเนิ่นนาน ฉันอ่านข่าว พบว่า คนไทยอ่านหนังสือปีละไม่กี่บรรทัด ฉันตกใจและร้องตะโกนไปว่า Do you read me? มีเพียงแม่น้ำเจ้าพระยาที่กระเพื่อมแล้วก็หายไป ในความมืด  
- Scene 2; Do you hear me?[/size]
     ฉันนั่งฟังบทเพลงที่ฉันขับขานจากเครื่องเล่นเทป ฉันฟังซ้ำแล้ว ซ้ำเล่า แล้วฉันก็ถามเครื่องเล่นเทปว่า Do you hear me? ไม่มีเสียงตอบรับจากเครื่องเล่นเทป มีเพียงเสียงจากอดีต -อดีตกว่า- อดีตกว่าอดีต ดังก้องกลับมา แล้วฉันก็โยนหน่วยความจำของฉัน ลงสู่แม่น้ำเจ้าพระยา ซากสมองของฉัน แตกกระจาย ลอยฟ่องขาวโพลน เรียงเป็นตัวหนังสือว่า Do you read me? และไหลย้อนกลับสู่ต้นน้ำ    
Finale; Interactive[/size]
    - ฉันนั่งดูโทรทัศน์ ทันใดก็มีเสียงดังขึ้นในหัวของฉัน "หากชอบ Do you read me? ให้กด 1 หากชอบ Do You hear me? ให้กด 2 และหากชอบ finale ให้กด 3"  ฉันตกใจมาก รีบคว้ารีโมท แล้วกระโดดเข้าไปในโทรทัศน์ แล้วกดรีโมทใส่คนดูอย่างไม่ยั้งมือ- ไฟดับ ปิดฉาก(มีเสียงโทรศัพท์สายไม่ว่าง ดังในความมืด)

สุนทร

ดีใจจังที่เธอเข้ามาคุย  วันนี้ย่อมแตกต่างจากเมื่อวาน  อย่างน้อยในอดีต สุนทรก็ยังดูอ่อนเยาว์กว่านี้อิอิ   หยอกเล่นนะ  วันนี้ก็ดูมีภูมิ สมวัยวุฒิ  ที่คนรุ่นเราต้องเป็นกันทุกคน  

อย่างน้อยวันนี้เราก็ได้คุยกัน  เห็นเพื่อนมีความสุขกับงานที่ทำ ก็ดีใจด้วย  แต่คนเราแต่ละคนย่อมแตกต่างกันไปตามสภาพแวดล้อม ภูมิหลังในวัยเด็ก และภูมิปัจจุบัน  อย่าไปซีเรียสเลย จะแก่เร็วนะ หุหุ

ทำให้วันนี้ของเราทุกคนมีความสุข และเต็มไปด้วยรอยยิ้มดีกว่านะ  ชีวิตก็ไม่ได้ยาวนานมากนัก
แล้วเข้ามาคุยกันบ่อยๆนะ

คิดถึงเพื่อนเสมอ

โอ้...รุ่นพี่เราเป็นศิลปินระดับโลก โอ้ๆๆๆ...

มาแนะนำตัวค่ะ พี่สุนทร...ว่างๆ แวะมาคุยกันที่นี่นะคะ

:D  :D สุนทร.....สำหรับคำถาม
-   Scene 1; Do you read me?
-   Scene 2; Do you hear me?
-   Finale; Interactive

อ่านอยู่แล้ว แต่ไม่จบจ๊ะ เพราะว่ามันเยอะจัด  
ก็พอรู้ว่าเพื่อนเราโลดแล่นในอาชีพศิลปินอิสระ ระดับอินเตอร์
ดีใจนะที่เธอได้ทำในสิ่งที่ชอบ มีความสุขในสิ่งที่ทำ และประสบความสำเร็จด้วยดี
 มีผลงานให้เพื่อนได้รับรู้รับทราบ ดีใจด้วยจริงๆ

ได้ฟังแล้วนะ  ดนตรีไพเราะมากกกกก...
 เสียงบรรยายของสุนทรก็เข้าบรรยากาศดี เสียงยังเหมือนเดิมนะจำได้..
ขอบคุณที่นำมาให้รับฟัง...เสียดายที่ไม่มีโอกาสชมการแสดงจริง


ตอนสาม...เราเป็นหนึ่งในเสียงตอบรับ...ทราบแล้วเปลี่ยน
กด 2  เพราะ ชอบตอนที่สองมากกว่า ดนตรีไพเราะมาก


และแล้วภาพในอดีตเก่าๆ..ที่พรั่งพราย...ก็ค่อยๆหายไป
สุนทรในวันก่อน...คงต่างจาก สุนทรในวันนี้
วันที่ฉัน อาจจะไม่ค่อยเข้าใจเธอเท่าไรนัก..
แต่สิ่งหนึ่งที่ฉันคิดว่า ยังคงอยู่...มิตรภาพ ของเรา..ใช่ไหม

 
ป.ล.  เราและเพื่อนหลายคน ชื่นชมเธออยู่อยู่แล้วล่ะ
 แต่พวกเราเพียงอยากถามสารทุกข์สุกดิบแบบคนธรรมดาๆเท่านั้นเอง
เช่น ตอนนี้สุนทรอยู่ที่ไหน แต่งงานหรือยัง มีลูกกี่คน สบายดีไหม

:roll:  :roll:  :roll: รุ่นนี้มีแต่ The Lost อ่ะ....หาย...ไปไหนกันหมดเยย :roll:  :roll:

:cry:  :cry:  :cry: มาดูรายชื่อกันหน่อย ใคร lost ไปมั่ง ประกาศคนหายหน่อยซิ
1.มโน อัครวิไลพานิช วิดวะ สุดหล่อ
2. ยัยแป้น รัดสาด (จำชื่อจริงไม่ได้แร้ว)
3. เอ๋ ชมจันทร์ นิเทศ รู้ว่าทำงาน EGAT แต่ไม่ยอมโผล่
4. เจี๊ยบ สุกัญญา นิติ ได้ข่าวว่าเป็น พ.ต.อ.อยู่หน้าห้องบิ๊กส.ต.ช. ไม่โผล่เหมียนกัน
5. เพื่อนๆอยากเจอใครช่วยมาเติมรายชื่อต่อ...

นิดเอ้ย

Happy Birthday จ๊ะ นิด ขอให้มีความสุขมากๆ และสมปรารถนาในทุกสิ่งนะ  โทษทีนะที่อวยพรช้า  เพราะไปปฎิบัติธรรม ที่สวนป่าสักกวัน อำเภอศีขรภูมิ สุรินทร์ ซะหลายวัน เพิ่งกลับมา ที่นั่นธรรมชาติมาก ไม่มีไฟฟ้า  นั่งสมาธิท่ามกลางแสงเดือน และหิ่งห้อย  virgin มาก อิอิ

พุธนี้เจอกันนะ

:D  :D อนุโมทนา สาธุนะ มิชิโกะ ขอบคุณที่เอาบุญมาฝาก อิอิ พรุ่งนี้ เจอกัน :D  :D

พี่สุนทร  มีศรี  ผมก็คิดถึงครับ

ไปเจอะเจอ ประวัติสุนทร มีศรี  พร้อมพากษ์ไทย จึงขอนำมาแปะไว้ครับ

Soontorn Meesri is a painter, a poet, a performance artist, a solo singer and professional actor.

สุนทร มีศรี เป็นจิตรกร กวี performance artist นักร้องเดี่ยว  และนักแสดงอาชีพ

สุนทร  มีศรี

  จบการ ศึกษาจากภาควิชาศิลปศึกษา คณะครุศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ศึกษาศิลปะการละครกับ คำรณ  คุณะดิลก และการขับร้องกับดุษฎี  พนมยงค์ และ ราล์ฟ  ชาทสกี้ เคยสอนศิลปะที่ศูนย์ศิลปะและดนตรีแห่งหนึ่งที่รัฐนิวเจอร์ซีย์ แต่ใช้เวลาส่วนใหญ่อยู่ในโรงละคร

สุนทร เคยได้รับ “รางวัลศิลปินแห่งละครเวที” จากภัทราวดี เธียเตอร์ในปี ๒๕๔๔ นอกจากนั้น สุนทรเป็นจิตรกร กวี performance artist นักร้องเดี่ยว  และนักแสดงอาชีพ

ใน ฐานะนักแสดงนำของพระจันทร์เสี้ยวการละคร และกลุ่มละครอื่นๆ มีผลงานด้านละครเวทีในประเทศ ญี่ปุ่น อเมริกา สหภาพยุโรป และไทย  เช่นเรื่อง  กูชื่อพญาพาน /  ฝันกลางเดือนหนาว /เมืองนิมิตร/ The Man with the Flower in His Mouth /๖๑๐๒๕๑๙ สอบถามยอดค้างชำระ/ ยัญบูชา/ ร็อค ภูริทัต / ยักษ์ตัวแดง / คือผู้อภิวัฒน์ ๒๔๗๕/  การแสดงเดี่ยว ภาคภาษาอังกฤษ ชุด John A. Lone, Lighthouse; The Opera /  ชุด คำสารภาพของคนบาป / ขับร้องเสียงเบส ๒ ใน ปรีดี คีตานุสรณ์ /  มัทนาโอเปร่า/ Trial by Jury/ เป็นผู้บรรยายใน Peter and the Wolf บรรเลงโดย วงศาลายา เชมเบอร์ ออเคสตรา และ อีกครั้งกับ วงดุริยางค์ฟิลฮาร์โมนิคแห่งประเทศไทย,/The  Noise of Art on Kitavipassana ประพันธ์โดย อติภพ  ภัทรเดชไพศาล / สายน้ำสองแผ่นดิน ประพันธ์โดย ดนู  ฮันตระกูล บรรเลงโดยวงไหมไทย / สังเวช สังวาส ประพันธ์โดย อติภพ  ภัทรเดชไพศาล บรรเลงโดยวงดุริยางค์ฟิลฮาร์โมนิก แห่งประเทศไทย/ ขับร้อง The Octet soloists in Agnus Dei, Mass in D Majorประพันธ์โดย Antonin Dvorak บรรเลงโดย Bangkok Music Society Choir and Orchestra / The Parables(บรรยายภาคภาษาอังกฤษ) ประพันธ์โดย Dan M. Heslink บรรเลงโดย วง Integrated Percussion Ensemble

       ผลงานด้านการแสดงภาพยนตร์ ไทยและต่างประเทศ เช่นเรื่อง ๑๔ ตุลา สงครามประชาชน / องคุลีมาล / คืนบาป พรหมพิราม และผลงานล่าสุด เรื่อง ปืนใหญ่จอมสลัด/Days of Destiny in Bangkok(หนังเยอรมัน)

 Mr. Soontorn  Meesri graduated with a Bachelor Degree in Art Education from Chulalongkorn University . While an Art teacher he studied Theatre with Kamron Kunatilaka and  classical singing with Dusdi Banomyong and Ralph Schatzki.

 He used to teach Art at Arts and Music Center in New Jersey, but preferred to be in the theatre. He was awarded the Actor in Excellence from Pattravadi Theatre in 2001.

 In Addition to working in the theatre, he is a painter, a poet, a performance artist, a solo singer and professional actor.

 He has worked as a leading actor in Japan, Europe, the USA. and Thailand (including the Crescent Moon Theatre).His works include;  King Oedipus, The October Nightmare, The Land Beyond Dream, The Man with The Flower In His Mouth, The Revenge, Rock Bhuritat, Yanpucha, Akaoni, The 1932 Revolutionist, John A. Lone, Lighthouse, The Opera, (a solo performance in English),The Confession of a Sinner, second Bass in Pridi Kitanusara ,in the Opera Madana,Trial by Jury, Narrator in Peter and The Wolf with the Salaya Chamber Orchestra and later with Thailand Philharmonic Orchestra, The Noise of Art on Kitavipassana by Atibhop Pataradetpisan,  The Tide of Two Countries by Dnu  Huntrakul with the Mai-Thai Orchestra, Samveja-Samvasa by Atibhop Pataradetpisan with the Thailand Philharmonic Orchestra, The Octet soloists in Agnus Dei, Mass in D Major by Antonin Dvorak  with the Bangkok Music Society Choir and Orchestra, The Parables (in English) by Dan M. Heslink with the Integrated Percussion Ensemble.

 His works for Thai and foreign Films include; The Moon Hunter, Aunguli Mara, The Macabre Case of Prom Pi Ram, Queens of Langasuka,Days of Destiny in Bangkok (German film)

พี่เราเป็นผู้ยิ่งใหญ่อีกคนหนึ่งแล้ว

หนูตามมา...ขอลายเซ็น
พี่ตุ๋ย เตรียมปากกา,รูปภาพ
แผ่น CDมาให้พี่เค้าเซ็นป่าว

nn.20+7

ช่ายแล้ว  สุนทรมีศรี ผู้กำกับเชียวนะ