Cmadong Chula

เรือนประจำรุ่น อบอุ่นทุกสมัย => รุ่น 2524 => ข้อความที่เริ่มโดย: SC (ก้าน 24) ที่ 05 กรกฎาคม 2552, 20:24:14



หัวข้อ: มหากาพย์ ความรัก ชาติภพ
เริ่มหัวข้อโดย: SC (ก้าน 24) ที่ 05 กรกฎาคม 2552, 20:24:14
ผัวเมียคู่หนึ่ง รักใคร่หลงใหลในกันและกันมาก จึงได้อธิษฐานขอให้เบื้องบนเป็นพยาน สัญญาต่อกันว่าชาติหน้าขอเป็นผัวเมียกันอีก...

ครั้นพอผัวตาย นางเมียจึงได้ใช้แป้งเขียนรูปศรไว้บนร่างที่ไร้วิญญาณของผัวตรงกลางร่องอก...



 emo40::


[ นั่นเป็นภาพในบุพชาติ ]


หัวข้อ: Re: มหากาพย์ความรักและชาติภพ--ช่วยกันแต่งเติม--
เริ่มหัวข้อโดย: Kaimook ที่ 05 กรกฎาคม 2552, 22:42:57
อ้างถึง
ข้อความของ Q??? เมื่อ 05 กรกฎาคม 2552, 20:24:14

ผัวเมียคู่หนึ่ง รักใคร่หลงใหลในกันและกันมาก จึงได้อธิษฐานขอให้เบื้องบนเป็นพยาน สัญญาต่อกันว่าชาติหน้าขอเป็นผัวเมียกันอีก...

ครั้นพอผัวตาย นางเมียจึงได้ใช้แป้งเขียนเครื่องหมายไว้ที่กลางอกร่างไร้วิญญาณของผัว...



 emo40::


[ นั่นเป็นภาพในบุพชาติ เหตุการณ์จะเป็นอย่างไร ลองแต่งกันดู ]
เพี่อหวังว่าหากเกิดชาติใดภพใดจะได้มีเครื่องเตือนใจ


หัวข้อ: Re: มหากาพย์ ความรัก และ ชาติภพ
เริ่มหัวข้อโดย: SC (ก้าน 24) ที่ 07 กรกฎาคม 2552, 19:26:01
อ้างถึง
ข้อความของ Kaimook เมื่อ 05 กรกฎาคม 2552, 22:42:57
เพี่อหวังว่าหากเกิดชาติใดภพใดจะได้มีเครื่องเตือนใจ


ผมเคยเห็นปานดำตามร่างกายคนที่ว่ากันว่า " มาเกิดใหม่  " หลายคน ล้วนมีลักษณะเป็นรอยนิ้วมือ บางคนเห็นลายก้นหอยชัดเจน คาดว่าจะใช้วัตถุสีดำป้าย

แต่ที่ผมยังคงไม่เข้าใจคือว่า เป็น " วิญญาณ " ที่มาเกิดใหม่ เครื่องหมายทำไว้บน " ร่างอันไร้วิญญาณ  "  แต่เหตุใดรอยจึงมาปรากฏบน " ร่างที่เกิดใหม่  " ได้ ป่านนี้ยังหาคำตอบไม่ได้ ช่างน่าอัศจรรย์เหลือเกิน


 emo47


หัวข้อ: Re: มหากาพย์ ความรัก และ ชาติภพ
เริ่มหัวข้อโดย: khesorn mueller ที่ 07 กรกฎาคม 2552, 19:42:43
หนิงถามแฟนหนิง"ชาติหน้าเราจะเจอกันอีกมั้ยจ้ะ"
he บอก"ชาตินี้ยังไม่พออีกเรอะ..ที่รัก"
หนิงบอก" ม่าย,ไม่พอ ชาตินี้ I เป็นผู้หญิง,ชาติหน้า I จาเป็นผู้ชายล่ะ"
he ตาเหลือก"เฮ้ย,มีด้วย...แล้ว I ไม่ uglyตายชัก,youจาจีบเหรอ?"
หนิงตบท้าย"ก็คู่กันไง ไปโบสถ์ทีไร youก็ส่งเงินมาให้ I หยอดทุกที"

2ความเชื่อน่ะพี่ก้าน...ไม่มีใครขัดใคร ...ก็อยู่กันได้
แต่ต้อง...work out
!


nn.24+3


หัวข้อ: Re: มหากาพย์ ความรัก และ ชาติภพ
เริ่มหัวข้อโดย: SC (ก้าน 24) ที่ 07 กรกฎาคม 2552, 19:49:55
อ้างถึง
ข้อความของ khesorn mueller เมื่อ 07 กรกฎาคม 2552, 19:42:43
หนิงถามแฟนหนิง"ชาติหน้าเราจะเจอกันอีกมั้ยจ้ะ"
he บอก"ชาตินี้ยังไม่พออีกเรอะ..ที่รัก"
หนิงบอก" ม่าย,ไม่พอ ชาตินี้ I เป็นผู้หญิง,ชาติหน้า I จาเป็นผู้ชายล่ะ"
he ตาเหลือก"เฮ้ย,มีด้วย...แล้ว I ไม่ uglyตายชัก,youจาจีบเหรอ?"
หนิงตบท้าย"ก็คู่กันไง ไปโบสถ์ทีไร youก็ส่งเงินมาให้ I หยอดทุกที"

2ความเชื่อน่ะพี่ก้าน...ไม่มีใครขัดใคร ...ก็อยู่กันได้
แต่ต้อง...work out
!


nn.24+3

พี่ว่า เรื่องภพชาตินี่เป็นสากลนะ ไม่จำกัดด้วยศาสนา
ส่วนเรื่องศาสนาเป็นเรื่องของศรัทธา ความเชื่อ และการตีความ ให้เข้ากับกรอบทางความคิดของวัฒนธรรม ประเพณีของกลุ่มชนนั้นๆเอง อย่าง ยูดาห์ คริสต์ และ อิสลาม สถานที่ รวมทั้งลักษณะการแต่งกายแทบจะเหมือนกันเลยทีเดียว


 emo48:)


หัวข้อ: Re: มหากาพย์ ความรัก และ ชาติภพ
เริ่มหัวข้อโดย: khesorn mueller ที่ 07 กรกฎาคม 2552, 20:00:50
คริสต์-โปรเตสแตนท์ ไม่เชื่อเรื่องแบบนี้น่ะสิพี่!
เคยถกกะแฟนหนิงนานมาแล้ว heบอกว่าละสังขาร
ก็ไปอยู่อีกโลกนึง ที่ไม่เจ็บ ไม่ปวด ไม่หิว ...อ้าว!
หนิงก็ถามว่า แล้วพลเมืองบนโน้นไม่ล้นทะลักกันมั่งเหรอ
สงสัยแค่ว่า...เมื่อ youไปเกิด แล้วจะนัดเจอกันยังไง?
I จะรู้ได้ไง ว่าyou are the one??

heบอก...แล้วชาตินี้ รู้ได้ยังไงล่ะ?  


nn.24+3


หัวข้อ: Re: มหากาพย์ ความรัก และ ชาติภพ
เริ่มหัวข้อโดย: SC (ก้าน 24) ที่ 07 กรกฎาคม 2552, 20:26:15
อ้างถึง
ข้อความของ khesorn mueller เมื่อ 07 กรกฎาคม 2552, 20:00:50
คริสต์-โปรเตสแตนท์ ไม่เชื่อเรื่องแบบนี้น่ะสิพี่!
เคยถกกะแฟนหนิงนานมาแล้ว heบอกว่าละสังขาร
ก็ไปอยู่อีกโลกนึง ที่ไม่เจ็บ ไม่ปวด ไม่หิว ...อ้าว!
หนิงก็ถามว่า แล้วพลเมืองบนโน้นไม่ล้นทะลักกันมั่งเหรอ
สงสัยแค่ว่า...เมื่อ youไปเกิด แล้วจะนัดเจอกันยังไง?
I จะรู้ได้ไง ว่าyou are the one??

heบอก...แล้วชาตินี้ รู้ได้ยังไงล่ะ?  


nn.24+3

ซิกมันด์ ฟรอยด์ (ถ้าเขียนไม่ถูกก็แก้ให้ด้วย) ได้ให้ทฤษฎีไว้ว่า จิตมนุษย์เรามี 2 ส่วน คือ จิตสำนึก และ จิตใต้สำนึก (ปัจจุบันบางสำนักจะใช้คำว่าจิตไร้สำนึก unconscious แทน subconscious) จากทฤษฎีดังกล่าว จิตสำนึกเป็นความทรงจำและความคิดในชาติภพปัจจุบัน แต่ จิตไร้สำนึกมีความทรงจำเมื่อภพชาติที่แล้ว เราจะระลึกชาติได้ถ้าเราเข้าถึงระดับจิตไร้สำนึกได้

the unconscious, Psychoanalysis. the part of the mind containing psychic material that is only rarely accessible to awareness but that has a pronounced influence on behavior.


 emo26:D

 


หัวข้อ: Re: มหากาพย์ ความรัก และ ชาติภพ
เริ่มหัวข้อโดย: khesorn mueller ที่ 07 กรกฎาคม 2552, 20:53:49
heเป็นจิตแพทย์ชาว Austrianนี่
ฮึ่่ม,เป็นCatholicที่เคร่งครัดนะนั่น
heก็คงเห็นในแบบที่ heเติบโตมา

ขอโทษทีคะพี่ เป็นภาษาเยอรมัน!


http://video.google.com/googleplayer.swf?docid=3906066958874527860&hl=de&fs=true.swf


หัวข้อ: Re: มหากาพย์ ความรัก และ ชาติภพ
เริ่มหัวข้อโดย: khesorn mueller ที่ 07 กรกฎาคม 2552, 22:00:24
เพิ่งดูจบคะพี่ก้าน!
เกือบชั่วโมง...
เมื่อยขบไปทั้งตัว!


หัวข้อ: Re: มหากาพย์ ความรัก และ ชาติภพ
เริ่มหัวข้อโดย: SC (ก้าน 24) ที่ 08 กรกฎาคม 2552, 19:10:12
อ้างถึง
ข้อความของ khesorn mueller เมื่อ 07 กรกฎาคม 2552, 22:00:24
เพิ่งดูจบคะพี่ก้าน!
เกือบชั่วโมง...
เมื่อยขบไปทั้งตัว!


ดูอะไรจ๊ะ น้อง nn

 emo47


หัวข้อ: Re: มหากาพย์ ความรัก และ ชาติภพ
เริ่มหัวข้อโดย: Kaimook ที่ 09 กรกฎาคม 2552, 23:05:46
หวัดดียามดึกจ่ะก้าน
 emo4:)) emo4:)) emo4:))


หัวข้อ: Re: มหากาพย์ ความรัก และ ชาติภพ
เริ่มหัวข้อโดย: SC (ก้าน 24) ที่ 10 กรกฎาคม 2552, 19:02:47
 
อ้างถึง   

กุหลาบแดง 7 ดอก
: พ.ศ. 2530

เรื่องของผม เริ่มต้นเมื่อขณะที่ผมทำงานอยู่ที่ธนาคารกรุงศรีอยุธยาจำกัด สาขาสะพานเหลือง ช่วงมีนาคม 2529 - สิงหาคม 2530 ผมชอบน้องสาวลูกค้าคนหนึ่งและเธอก็เป็นลูกค้าของธนาคารด้วย เธอชื่อ จุ๋ม ผมได้ไปไหนกับเธอ 2-3 ครั้ง ดูเธอก็มีใจให้ผมอยู่เหมือนกัน จากการที่เธอได้พิงซบกับไหล่ผม ก่อนถึง 14 กุมภาพันธ์ 2530 วันวาเลนไทน์ เกิดมีภาพในอดีตผุดขึ้นมาในความทรงจำ เป็นภาพที่ผมพูดกับตัวเองในใจว่า " เรามาที่กรุงเทพฯนี่เพื่อมาตามหาคนๆหนึ่ง " ผมเลยเข้าใจว่า เธอคงใช่คนที่ผมตามหา นั่นหมายความว่าเธอเป็นเนื้อคู่ของผม วันวาเลนไทน์ปีนั้น ผมเลยให้ดอกกุหลาบเธอ 7 ดอก โดยบอกกับเธอว่า 1 ดอกหมายถึง 1 ปีที่กว่าจะได้พบเธอ นับตั้งแต่วันนั้น คือวันที่ผมเดินผ่านท้องสนามหลวงตอนที่เข้ามากรุงเทพฯครั้งแรกในปี 2523 และได้พูดกับตัวเองในใจ
 
แต่เธอมีแฟนอยู่ก่อนแล้ว และพี่สาวของเธอก็กีดกัน โทรไปก็ไม่ให้รับสาย ช่วงนั้นผมเคยคิดทำอะไรบ้าๆเหมือนกัน แต่สุดท้ายผมก็เลิกราไปด้วยเหตุผลใดผมก็จำไม่ได้ เพราะมันผ่านพ้นมานานถึง 22 ปีแล้ว...


 emo48:)


หัวข้อ: Re: มหากาพย์ ความรัก และ ชาติภพ
เริ่มหัวข้อโดย: khesorn mueller ที่ 10 กรกฎาคม 2552, 19:17:52
อ้าวพี่ก้าน,ไม่ไช่เหรอคะ?
หนิงมีคำถามคะ:เวลาของการได้พบ ได้คบหา
ยาวนานเท่าเวลาของการทำใจมั้ยคะ??
พี่ใช้เวลานานแค่ไหน??


พี่กดดู filmของ Sigmund Freudได้รึปล่าวคะ?
หนิงเห็นว่าเป็นระบบ archieveที่มีค่าได้เห็น
ภาพเมื่อปี 1900-ต้นๆ...น่าดู แม้ไม่เข้าใจภาษา
(เยอรมัน-ฝรั่งเศส)


nn.24+3


หัวข้อ: Re: มหากาพย์ ความรัก และ ชาติภพ
เริ่มหัวข้อโดย: SC (ก้าน 24) ที่ 10 กรกฎาคม 2552, 19:33:08
อ้างถึง
ข้อความของ khesorn mueller เมื่อ 10 กรกฎาคม 2552, 19:17:52
อ้าวพี่ก้าน,ไม่ไช่เหรอคะ?
หนิงมีคำถามคะ:เวลาของการได้พบ ได้คบหา
ยาวนานเท่าเวลาของการทำใจมั้ยคะ??
พี่ใช้เวลานานแค่ไหน??


พี่กดดู filmของ Sigmund Freudได้รึปล่าวคะ?
หนิงเห็นว่าเป็นระบบ archieveที่มีค่าได้เห็น
ภาพเมื่อปี 1900-ต้นๆ...น่าดู แม้ไม่เข้าใจภาษา
(เยอรมัน-ฝรั่งเศส)


nn.24+3

ก็ไม่นานนะ เพราะเมื่อรู้แล้วว่าไม่ใช่ ก็ไม่เสียใจ แต่ เสียดายมากกว่า น่าจะใช่คนนี้นะอะไรทำนองนี้
แต่คนเมื่อปี 2549 นี่นานหน่อย เป็นครั้งแรกที่เข้าใจคำว่า หลงไหลในรสสวาท  
เลยได้เข้าใจว่าไอ้ที่คนถึงกับฆ่าแกงกันก็เพราะอย่างนี้นี่เอง เจ็บปวดน่าดู ยิ่งได้ไปตามเขาที่บ้านแล้ว บ้านเขาอยู่ไกลมาก ถ้าไม่รักเขาคงไม่นั่งรถมาหา แต่พี่มันใช้ไม่ได้เอง เลยเสียใจนำตาไหลพราก เสียใจที่ตัวเองเป็นเหตุให้เขาต้องไป
เลยยกให้เธอเป็น 1 ใน 6 หญิงที่สุดแสนประทับใจ และเธอก็เป็นคนที่ 6 ด้วย เปรมฤดีที่พี่ไม่มีวันลืม...


 emo2:)


หัวข้อ: Re: มหากาพย์ ความรัก และ ชาติภพ
เริ่มหัวข้อโดย: SC (ก้าน 24) ที่ 10 กรกฎาคม 2552, 19:38:10
อ้างถึง
ข้อความของ khesorn mueller เมื่อ 10 กรกฎาคม 2552, 19:17:52

พี่กดดู filmของ Sigmund Freudได้รึปล่าวคะ?
หนิงเห็นว่าเป็นระบบ archieveที่มีค่าได้เห็น
ภาพเมื่อปี 1900-ต้นๆ...น่าดู แม้ไม่เข้าใจภาษา
(เยอรมัน-ฝรั่งเศส)




nn.24+3

ได้จ๊ะ แต่มันยาวอ่ะ เอาไว้ว่างๆจะดูจนจบ

 emo48:)


หัวข้อ: Re: มหากาพย์ ความรัก และ ชาติภพ
เริ่มหัวข้อโดย: khesorn mueller ที่ 10 กรกฎาคม 2552, 19:50:04
พี่ก้าน,
หนิงไม่ลงลึกในรายละเอียด
แต่สนใจในมุมมองของพี่.
มุมมองของผู้ชายที่ว่า...
จุดไหนคือ break pointที่เค้าจะ
สู้ตาย ...ไม่ด้วยเล่ห์ก็ด้วยกล
ที่จะเอาชนะ ช่วงชิง ผู้หญิงที่เค้า
พึงใจเพื่อจะร่วมชีวิตด้วยมาให้ได้?

 รึพี่ยังไม่ถึงจุดนี้?

หนิงอ่านบทสำรวจแบบสอบถามสุ่ม
ทางโทรศัพท์ของผู้ชายในเยอรมัน
อะไรคือจุดดึงดูดที่เค้าเลือก"ภรรยา"
น่าสนใจค่ะว่า ผู้ชายที่โน่นอาจชอบ
มองผู้หญิงสวย เตะตา ผมทอง นมโต
สะโพกบึ๊บ...แต่ถ้าเกี่ยวเนื่องกะการ
วางรากฐาน มีครอบครัวแล้ว...น่าอัศจรรย์ใจ
ว่ารูปร่างหน้าตากลับไม่ไช่ข้อแรก!!
กลายเป็นcharacterเป็น"สมอง"ที่ผู้หญิงคิดเห็น
ต่อเรื่องต่างๆ..processของการ"ทำความรู้จัก"
ตรงนี้ จึงลึกและintensiveกว่าคะ


หัวข้อ: Re: มหากาพย์ ความรัก และ ชาติภพ
เริ่มหัวข้อโดย: SC (ก้าน 24) ที่ 10 กรกฎาคม 2552, 20:20:27
อ้างถึง
ข้อความของ khesorn mueller เมื่อ 10 กรกฎาคม 2552, 19:50:04
พี่ก้าน,
หนิงไม่ลงลึกในรายละเอียด
แต่สนใจในมุมมองของพี่.
มุมมองของผู้ชายที่ว่า...
จุดไหนคือ break pointที่เค้าจะ
สู้ตาย ...ไม่ด้วยเล่ห์ก็ด้วยกล
ที่จะเอาชนะ ช่วงชิง ผู้หญิงที่เค้า
พึงใจเพื่อจะร่วมชีวิตด้วยมาให้ได้?

 รึพี่ยังไม่ถึงจุดนี้?

หนิงอ่านบทสำรวจแบบสอบถามสุ่ม
ทางโทรศัพท์ของผู้ชายในเยอรมัน
อะไรคือจุดดึงดูดที่เค้าเลือก"ภรรยา"
น่าสนใจค่ะว่า ผู้ชายที่โน่นอาจชอบ
มองผู้หญิงสวย เตะตา ผมทอง นมโต
สะโพกบึ๊บ...แต่ถ้าเกี่ยวเนื่องกะการ
วางรากฐาน มีครอบครัวแล้ว...น่าอัศจรรย์ใจ
ว่ารูปร่างหน้าตากลับไม่ไช่ข้อแรก!!
กลายเป็นcharacterเป็น"สมอง"ที่ผู้หญิงคิดเห็น
ต่อเรื่องต่างๆ..processของการ"ทำความรู้จัก"
ตรงนี้ จึงลึกและintensiveกว่าคะ


หนุงหนิง

พี่อาจจะไม่ได้มีมุมมองแบบนั้น คงไม่เหมือนใคร
อาจจะเป็นเพราะเหตุผลที่เกี่ยวกับจิตไร้สำนึก
จิตไร้สำนึกพี่มีอิทธิพลมากเกือบจะครอบงำพฤติกรรมทั้งชีวิต
มันเป็นเรื่องที่เหลือเชื่อและพิลึกพิลั่น
ถ้าพี่จะบอกว่าพี่มี พันธะสัญญาจากภพที่แล้ว  หนิงจะเชื่อไหม?


 emo29:P:





หัวข้อ: Re: มหากาพย์ ความรัก และ ชาติภพ
เริ่มหัวข้อโดย: ตุ๋ย 22 ที่ 10 กรกฎาคม 2552, 21:23:20
ก้านหัวข้อกระทู้น่าสนใจดีนะ


หัวข้อ: Re: มหากาพย์ ความรัก และ ชาติภพ
เริ่มหัวข้อโดย: Kaimook ที่ 11 กรกฎาคม 2552, 14:30:58
อ้างถึง
ข้อความของ Q??? เมื่อ 10 กรกฎาคม 2552, 20:20:27
อ้างถึง
ข้อความของ khesorn mueller เมื่อ 10 กรกฎาคม 2552, 19:50:04
พี่ก้าน,
หนิงไม่ลงลึกในรายละเอียด
แต่สนใจในมุมมองของพี่.
มุมมองของผู้ชายที่ว่า...
จุดไหนคือ break pointที่เค้าจะ
สู้ตาย ...ไม่ด้วยเล่ห์ก็ด้วยกล
ที่จะเอาชนะ ช่วงชิง ผู้หญิงที่เค้า
พึงใจเพื่อจะร่วมชีวิตด้วยมาให้ได้?

 รึพี่ยังไม่ถึงจุดนี้?

หนิงอ่านบทสำรวจแบบสอบถามสุ่ม
ทางโทรศัพท์ของผู้ชายในเยอรมัน
อะไรคือจุดดึงดูดที่เค้าเลือก"ภรรยา"
น่าสนใจค่ะว่า ผู้ชายที่โน่นอาจชอบ
มองผู้หญิงสวย เตะตา ผมทอง นมโต
สะโพกบึ๊บ...แต่ถ้าเกี่ยวเนื่องกะการ
วางรากฐาน มีครอบครัวแล้ว...น่าอัศจรรย์ใจ
ว่ารูปร่างหน้าตากลับไม่ไช่ข้อแรก!!
กลายเป็นcharacterเป็น"สมอง"ที่ผู้หญิงคิดเห็น
ต่อเรื่องต่างๆ..processของการ"ทำความรู้จัก"
ตรงนี้ จึงลึกและintensiveกว่าคะ


หนุงหนิง

พี่อาจจะไม่ได้มีมุมมองแบบนั้น คงไม่เหมือนใคร
อาจจะเป็นเพราะเหตุผลที่เกี่ยวกับจิตไร้สำนึก
จิตไร้สำนึกพี่มีอิทธิพลมากเกือบจะครอบงำพฤติกรรมทั้งชีวิต
มันเป็นเรื่องที่เหลือเชื่อและพิลึกพิลั่น
ถ้าพี่จะบอกว่าพี่มี พันธะสัญญาจากภพที่แล้ว  หนิงจะเชื่อไหม?


 emo29:P:




  พันธะสัญญาจากภพที่แล้วมันเป็นจะไดจะีก้าน (ไม่เข้าใจ)


หัวข้อ: Re: มหากาพย์ ความรัก และ ชาติภพ
เริ่มหัวข้อโดย: khesorn mueller ที่ 11 กรกฎาคม 2552, 14:37:31
อ้างถึง
ข้อความของ Q??? เมื่อ 10 กรกฎาคม 2552, 20:20:27
หนุงหนิง

พี่อาจจะไม่ได้มีมุมมองแบบนั้น คงไม่เหมือนใคร
อาจจะเป็นเพราะเหตุผลที่เกี่ยวกับจิตไร้สำนึก
จิตไร้สำนึกพี่มีอิทธิพลมากเกือบจะครอบงำพฤติกรรมทั้งชีวิต
มันเป็นเรื่องที่เหลือเชื่อและพิลึกพิลั่น
ถ้าพี่จะบอกว่าพี่มี พันธะสัญญาจากภพที่แล้ว  หนิงจะเชื่อไหม?


 emo29:P:

เอิ่ม,แปลกๆอยู่ค่ะ
เพราะพันธะสัญญาอันนี้
อาจทำร้ายผู้หญิงได้!!
โดยเฉพาะในสังคมไทย
จะเป็นยังงัยถ้าพี่ก้านทำพันธะสัญญาไว้มากมาย....
พวกเค้าเหล่าโน้นต้องจ่ายเหรอ หรือพี่ต้องจ่าย?
ชีวิตพวกเค้าหลังพ้นพันธะจะเป็นอย่างไร...
ล้วนเป็นคำถามในจิตหนิงทั้งนั้นพี่!


nn.24+3


หัวข้อ: Re: มหากาพย์ ความรัก และ ชาติภพ
เริ่มหัวข้อโดย: SC (ก้าน 24) ที่ 11 กรกฎาคม 2552, 15:47:27
อ้างถึง
ข้อความของ เก๊า(24) เมื่อ 04 กรกฎาคม 2552, 20:05:27
หวัดดี นายก้าน ทำไมเราจะจำไม่ได้  ตอนอยู่หอ นายทำเราตกใจหลายครั้ง  กินข้าวอยู่ดีๆนายก็ลงไปนอนดิ้นให้เพื่อนตกใจ ตอนนี้หายดีหรือยัง  ยินดีต้อนรับเข้าบ้านซีมะโด่ง64นะครับ


เมื่อคืนได้นึกย้อนไปถึงตอนครั้งแรกที่ผมเป็นลมชัก ตอนนั้นอยู่มศ. 5 ตอนเด็กไม่เป็นเพิ่งมาเป็นเอาตอนใกล้จบม.ศ. 5 และได้เข้ามากรุงเทพฯ ในปี 2523 แล้วผมก็พูดกับตัวเองในใจ น่าจะเป็นครั้งแรกเพราะไม่มีความทรงจำที่เก่ากว่านั้นผุดขึ้นมาเลย ถ้าจะว่าด้วยเรื่องจิตไร้สำนึกนั่นก็หมายถึงว่า จิตไร้สำนึกของผมได้ขึ้นมาบงการหรือครอบงำร่างกายแทนจิตสำนึก จากการบอกเล่าของเพื่อนๆที่เห็น ผมไม่ได้ลงไปชักในทันที แต่จะตาขวางๆเดินได้ หลบสิ่งกีดขวางได้ แต่ผมจะจำช่วงนั้นไม่ได้ แต่คล้ายความฝัน ผมกำลังพยายามจะทำอะไรอย่างหนึ่ง ทำซ้ำๆแต่ก็ทำไม่ได้ ถ้าวิเคราะห์ตามความทรงจำนี้ ก็หมายถึงว่าจิตสำนึกของผมพยายามที่จะกลับมาบงการหรือครอบครองร่างกายอีกแต่ก็ทำไม่สำเร็จ จนกระทั่งผมลงไปนอนชัก นั่นก็คือการต่อสู้กันระหว่างจิตสำนึกและจิตไร้สำนึก พอจิตสำนึกชนะกลับมาครองร่างกายได้ ผมก็ได้สติ

แต่ก็ไม่เสมอไปที่ผมจะลงไปนอนชัก มีอยู่ครั้งหนึ่งผมเดินข้ามถนนด้านหน้าคณะบัญชีฯ ผมเดินมาถึงเกาะกลางถนน...มารู้สึกตัวอีกทีเรายืนพิงประตูเหล็กดัดที่ฝั่งตรงข้าม ในกระเป๋าเสื้อมียาดมด้วย คงมีคนเอาใส่ให้ เสื้อผ้าก็เปื้อนอยู่เพราะพิงประตูร้านค้าที่ปิด ก็จำได้นะว่าเดินมาถึงเกาะกลางถนนแค่นั้น แสดงว่าผมเดินข้ามถนนมาได้ และมีอาการแปลกๆคนก็นึกว่าเป็นลม เลยเอายามดมมาให้ แต่ผมจำอะไรไม่ได้เลย

ทีนี้มาดูด้านกายภาพ จากการเอ็กเรย์สมองพบว่ามีก้อนเนื้ออยู่ประมาณเม็ดถั่วแดง หมอบอกว่าพอก้อนเนื้อนี้มันไปกดวงจรสมอง เลยทำให้สมองลัดวงจร

นั่นคือเหตุที่ทำให้จิตไร้สำนึกมันขึ้นมาครองร่างกายได้ในขณะนั้น

และถ้าจะคิดว่าเพราะพันธะสัญญาในอดีตภพ ก็เป็นได้ เพราะผมก็โตเป็นหนุ่มแล้ว อย่างที่บอก เพิ่งเป็นเอาตอนใกล้จบม.ศ. 5 สิ่งที่ผมเป็นอาจจะเพิ่งถูกใส่ลงไป เพื่อปลุกสิ่งที่หลับไหลอยู่ให้ตื่นขึ้นมา มีสิ่งหนึ่งคือ จากการสอบเอ็นฯทั้งสองครั้ง ผมเลือกในกรุงเทพฯหมดทั้ง 2 ครั้ง โดยเฉพาะครั้งแรกผมจะเข้ามาในกรุงเทพฯให้ได้ แม่ให้ไปสอบที่มช. ก็ไม่ยอม และพอมากรุงเทพฯ ขณะที่เดินผ่านท้องสนามหลวง ก็พูดกับตัวเองในใจ

เรามาที่กรุงเทพฯนี่เพื่อมาหาคนๆหนึ่ง


 


หัวข้อ: Re: มหากาพย์ ความรัก และ ชาติภพ
เริ่มหัวข้อโดย: SC (ก้าน 24) ที่ 11 กรกฎาคม 2552, 16:12:09
อ้างถึง
ข้อความของ ตุ๋ย 22 เมื่อ 10 กรกฎาคม 2552, 21:23:20
ก้านหัวข้อกระทู้น่าสนใจดีนะ

ขอบคุณครับ ร่วมแจมได้นะครับพี่ ถ้ามีมาเล่าสู่กันฟัง

 emo48:)


หัวข้อ: Re: มหากาพย์ ความรัก และ ชาติภพ
เริ่มหัวข้อโดย: SC (ก้าน 24) ที่ 11 กรกฎาคม 2552, 16:27:18
 
อ้างถึง   
 
อ้างถึง   
หนุงหนิง

พี่อาจจะไม่ได้มีมุมมองแบบนั้น คงไม่เหมือนใคร
อาจจะเป็นเพราะเหตุผลที่เกี่ยวกับจิตไร้สำนึก
จิตไร้สำนึกพี่มีอิทธิพลมากเกือบจะครอบงำพฤติกรรมทั้งชีวิต
มันเป็นเรื่องที่เหลือเชื่อและพิลึกพิลั่น
ถ้าพี่จะบอกว่าพี่มี พันธะสัญญาจากภพที่แล้ว  หนิงจะเชื่อไหม?


 emo29:P:




  พันธะสัญญาจากภพที่แล้วมันเป็นจะไดจะีก้าน (ไม่เข้าใจ)


ก็ต้องได้มาเจอกัน เจอกันแล้วใครจะทำตามสัญญาได้หรือไม่ได้ เพราะคนเราเกือบจะทั้งหมดระลึกชาติไม่ได้ แล้วเขาจะรู้ได้อย่างไร?
ถ้าคนใดคนหนึ่งต้องตายไปก่อนที่จะได้เจอกันในภพนี้ ก็บอกไม่ได้ว่าใครกันที่ผิดสัญญา ก็เลยต้องได้รับความคุ้มครองปกป้องจากเบื้องบนให้มีชีวิตรอดมาจนถึงเวลาที่ต้องเจอกัน หากชีวิตรุ่งเรืองก่อนเวลานั้น ชีวิตอาจไปพ้นจากวิถีที่สัญญาไว้ เบื้องบนท่านก็เลยทุบซะล้มลุกคลุกคลาน เพื่อให้อยู่ในวิถีจนกว่าจะถึงเวลาที่ต้องได้เจอกัน เพื่อที่จะดูว่า พวกมึงจะทำตามสัญญาที่ให้ไว้ต่อกันได้หรือไม่?


 emo29:P:



หัวข้อ: Re: มหากาพย์ ความรัก และ ชาติภพ
เริ่มหัวข้อโดย: jacky ที่ 11 กรกฎาคม 2552, 21:47:22
อ้างถึง
ข้อความของ Q??? เมื่อ 11 กรกฎาคม 2552, 15:47:27
อ้างถึง
ข้อความของ เก๊า(24) เมื่อ 04 กรกฎาคม 2552, 20:05:27
หวัดดี นายก้าน ทำไมเราจะจำไม่ได้  ตอนอยู่หอ นายทำเราตกใจหลายครั้ง  กินข้าวอยู่ดีๆนายก็ลงไปนอนดิ้นให้เพื่อนตกใจ ตอนนี้หายดีหรือยัง  ยินดีต้อนรับเข้าบ้านซีมะโด่ง64นะครับ


เมื่อคืนได้นึกย้อนไปถึงตอนครั้งแรกที่ผมเป็นลมชัก ตอนนั้นอยู่มศ. 5 ตอนเด็กไม่เป็นเพิ่งมาเป็นเอาตอนใกล้จบม.ศ. 5 และได้เข้ามากรุงเทพฯ ในปี 2523 แล้วผมก็พูดกับตัวเองในใจ น่าจะเป็นครั้งแรกเพราะไม่มีความทรงจำที่เก่ากว่านั้นผุดขึ้นมาเลย ถ้าจะว่าด้วยเรื่องจิตไร้สำนึกนั่นก็หมายถึงว่า จิตไร้สำนึกของผมได้ขึ้นมาบงการหรือครอบงำร่างกายแทนจิตสำนึก จากการบอกเล่าของเพื่อนๆที่เห็น ผมไม่ได้ลงไปชักในทันที แต่จะตาขวางๆเดินได้ หลบสิ่งกีดขวางได้ แต่ผมจะจำช่วงนั้นไม่ได้ แต่คล้ายความฝัน ผมกำลังพยายามจะทำอะไรอย่างหนึ่ง ทำซ้ำๆแต่ก็ทำไม่ได้ ถ้าวิเคราะห์ตามความทรงจำนี้ ก็หมายถึงว่าจิตสำนึกของผมพยายามที่จะกลับมาบงการหรือครอบครองร่างกายอีกแต่ก็ทำไม่สำเร็จ จนกระทั่งผมลงไปนอนชัก นั่นก็คือการต่อสู้กันระหว่างจิตสำนึกและจิตไร้สำนึก พอจิตสำนึกชนะกลับมาครองร่างกายได้ ผมก็ได้สติ

แต่ก็ไม่เสมอไปที่ผมจะลงไปนอนชัก มีอยู่ครั้งหนึ่งผมเดินข้ามถนนด้านหน้าคณะบัญชีฯ ผมเดินมาถึงเกาะกลางถนน...มารู้สึกตัวอีกทีเรายืนพิงประตูเหล็กดัดที่ฝั่งตรงข้าม ในกระเป๋าเสื้อมียาดมด้วย คงมีคนเอาใส่ให้ เสื้อผ้าก็เปื้อนอยู่เพราะพิงประตูร้านค้าที่ปิด ก็จำได้นะว่าเดินมาถึงเกาะกลางถนนแค่นั้น แสดงว่าผมเดินข้ามถนนมาได้ และมีอาการแปลกๆคนก็นึกว่าเป็นลม เลยเอายามดมมาให้ แต่ผมจำอะไรไม่ได้เลย

ทีนี้มาดูด้านกายภาพ จากการเอ็กเรย์สมองพบว่ามีก้อนเนื้ออยู่ประมาณเม็ดถั่วแดง หมอบอกว่าพอก้อนเนื้อนี้มันไปกดวงจรสมอง เลยทำให้สมองลัดวงจร

นั่นคือเหตุที่ทำให้จิตไร้สำนึกมันขึ้นมาครองร่างกายได้ในขณะนั้น

และถ้าจะคิดว่าเพราะพันธะสัญญาในอดีตภพ ก็เป็นได้ เพราะผมก็โตเป็นหนุ่มแล้ว อย่างที่บอก เพิ่งเป็นเอาตอนใกล้จบม.ศ. 5 สิ่งที่ผมเป็นอาจจะเพิ่งถูกใส่ลงไป เพื่อปลุกสิ่งที่หลับไหลอยู่ให้ตื่นขึ้นมา มีสิ่งหนึ่งคือ จากการสอบเอ็นฯทั้งสองครั้ง ผมเลือกในกรุงเทพฯหมดทั้ง 2 ครั้ง โดยเฉพาะครั้งแรกผมจะเข้ามาในกรุงเทพฯให้ได้ แม่ให้ไปสอบที่มช. ก็ไม่ยอม และพอมากรุงเทพฯ ขณะที่เดินผ่านท้องสนามหลวง ก็พูดกับตัวเองในใจ

เรามาที่กรุงเทพฯนี่เพื่อมาหาคนๆหนึ่ง


 
เจอรึยังวะ ก้าน?
ดอกกุหลาบ เจ็ดดอก นายก็ให้ไปแล้ว
........
ปล.ในทางการแพทย์ การเป็นลมชักมีหลายรูปแบบ
เช่น ชักจริงๆ น้ำลายฟูมปาก เหม่อลอยตาขวาง
นั่งนิ่งๆเหมือนไร้วิญญาณ เป็นต้น
emo7:(: emo29:P: emo47


หัวข้อ: Re: มหากาพย์ ความรัก และ ชาติภพ
เริ่มหัวข้อโดย: SC (ก้าน 24) ที่ 13 กรกฎาคม 2552, 17:17:25
 
อ้างถึง   

เบื้องบน!
: มิถุนายน 2550 - 9 มีนาคม 2551

วันหนึ่งผมได้ดูภาพยนต์ที่นำมาฉายทางทีวีเรื่อง The Mummy Returns 2  ฉากตอนที่หัวหน้าเผ่านักรบทะเลทรายสนทนากับพระเอก
 
หัวหน้าเผ่าฯบอกกับพระเอกว่า " ท่านคือผู้ที่เบื้องบนเลือกให้เป็นผู้สังหาร Scorpion King  "
พระเอกถาม " ท่านรู้ได้อย่างไร? "
หัวหน้าเผ่าฯตอบว่า " จากสัญลักษณ์ที่ข้อมือของท่าน  "
พระเอกตอบว่า " บังเอิญมากกว่ามั๊ง  "
หัวหน้าเผ่าฯจึงตอบว่า " เบื้องบนกับบังเอิญมันแนบแน่นมาด้วยกันเหมือนฝาแฝด จนแยกไม่ออก แต่เมื่อถึงเวลาท่านจะรู้ได้เอง  "
 
เมื่อถึงฉากที่พระเอกสู้กับ Scorpion King วินาทีที่พระเอกใช้ หอกแห่ง Orisis แทงทะลุหัวใจ Scorpion King พระเอกหันไปเห็นภาพวาดในผนังถ้ำ แสดงถึงชายผู้หนึ่งที่มีสัญลักษณ์ที่ข้อมือข้างเดียวกันกับพระเอกใช้หอกแห่ง Orisis แทงทะลุหัวใจ Scorpion King พระเอกก็เข้าใจว่า ตนเองคือผู้ที่เบื้องบนเลือกจริงๆ
 

นั่นเป็นจุดเริ่มต้นที่คำว่า " เบื้องบน " เริ่มมีในสำนึกของผม  

 emo48:)


หัวข้อ: Re: มหากาพย์ ความรัก และ ชาติภพ
เริ่มหัวข้อโดย: SC (ก้าน 24) ที่ 13 กรกฎาคม 2552, 17:21:23
อ้างถึง
ข้อความของ jacky เมื่อ 11 กรกฎาคม 2552, 21:47:22
เจอรึยังวะ ก้าน?
ดอกกุหลาบ เจ็ดดอก นายก็ให้ไปแล้ว
........
ปล.ในทางการแพทย์ การเป็นลมชักมีหลายรูปแบบ
เช่น ชักจริงๆ น้ำลายฟูมปาก เหม่อลอยตาขวาง
นั่งนิ่งๆเหมือนไร้วิญญาณ เป็นต้น
emo7:(: emo29:P: emo47

เมื่อเล่าก็ต้องเจอแล้วสิ แต่ยังไม่รู้ผลว่าจะลงเอยอย่างไร? Happy Ending หรือ โศกนาฏกรรม!

 emo47


หัวข้อ: Re: มหากาพย์ ความรัก และ ชาติภพ
เริ่มหัวข้อโดย: SC (ก้าน 24) ที่ 13 กรกฎาคม 2552, 19:14:55
 
อ้างถึง   

เหตุการณ์รถแก๊สระเบิด
: สิงหาคม 2532 - สิงหาคม 2533
 
ช่วงนั้นผมทำงานเป็นเชลส์ขายนิตยสารภาษาอังกฤษ อาทิ TIME, FORTUNE ฯลฯ ที่ทำงานอยู่ตึกชินวัตรไหมไทย ซอยสุขุมวิท 23 ทุกวันถ้าไม่ได้ออกไปพบลูกค้าข้างนอก พวกผมจะโทรศัพท์หาลูกค้าอยู่ในสำนักงานจนถึง 6 โมงเย็น และจะมานั่งทานข้าวมื้อเย็นคุยกันแถวๆที่ทำงาน แล้วต่างแยกย้ายกันกลับ ผมจะมารอขึ้นรถเมล์สาย 38 ที่ซอยสุขุมวิท 21 อโศกก็ประมาณทุ่ม และรถก็จะมาติดแถวๆทางรถไฟตรงมักกะสันประมาณทุ่มครึ่ง
 
วันเกิดเหตุนั้น พอถึงช่วงบ่ายตอนประมาณบ่าย 3 โมงผมเริ่มรู้สึกกระสับกระส่ายเหมือนมีใครมากวน มันไม่อยากจะทำงาน ไม่มีสมาธิโทรหาลูกค้า ทนไม่ไหวผมเลยออกจากสำนักงานตอนบ่าย 4 โมงเย็น มาดูหนังที่โรงแม็คเคนน่าตรงข้ามโรงแรมเอเซีย แต่มาไม่ทันรอบ 5 โมงเย็น เลยได้ดูรอบทุ่มครึ่ง ดูหนังเสร็จออกจากโรงหนังผมเดินมาทางสี่แยกราชเทวี เดินเลี้ยวขวาไปขึ้นรถเมล์ป้ายตรงข้ามดรงแรมเฟิร์สในปัจจุบันเพื่อที่จะกลับที่พักตรงข้ามสนามม้านางเลิ้ง ขณะเดินไปที่ป้ายรถเมล์ผมก็เห็นไฟลุกแดงๆ แต่ไม่รู้ว่าเรื่องอะไร กลับถึงหอก็ยังไม่รู้เรื่องอีก จนกระทั่งตื่นมาตอนเช้าอีกวัน ก็ได้ยินคนที่หอพักคุยกัน ผมก็ร่วมคุยด้วยแบบไม่รู้เรื่อง ก็มีคนหนึ่งพูดว่า " เมื่อคืนรถแก๊สระเบิด คนถูกเผาตายเป็นร้อย มึงไม่รู้เรื่องเหรอ มึงกลับเส้นทางนั้นทุกวันไม่ใช่เหรอ? " ผม " หา..."
 
ถ้าผมไม่หนีออกจากสำนักงานตั้งแต่บ่าย 4 โมง ไม่รู้ว่าผลจะเป็นอย่างไร แต่ผมรอดพ้นจากเหตุการณ์ครั้งนั้นมาได้



 emo48:)


หัวข้อ: Re: มหากาพย์ ความรัก และ ชาติภพ
เริ่มหัวข้อโดย: ตุ๋ย 22 ที่ 13 กรกฎาคม 2552, 19:30:33
โชคดีไปก้าน  ไม่งั้นหนังหลุดหมด  ตอนนั้นนึกแล้วผมไม่กินปลาดุกย่างไปตั้งนาน


หัวข้อ: Re: มหากาพย์ ความรัก และ ชาติภพ
เริ่มหัวข้อโดย: SC (ก้าน 24) ที่ 13 กรกฎาคม 2552, 19:48:54
อ้างถึง
ข้อความของ ตุ๋ย 22 เมื่อ 13 กรกฎาคม 2552, 19:30:33
โชคดีไปก้าน  ไม่งั้นหนังหลุดหมด  ตอนนั้นนึกแล้วผมไม่กินปลาดุกย่างไปตั้งนาน

ครับพี่ตุ๋ย เมื่อนึกย้อนไปจากเมื่อเริ่มมีสำนึกเกี่ยวกับเบื้องบน นั่นเป็นครั้งแรกที่ผมได้รับการเตือนจาก Supernatural Power ที่เป็น เบื้องบน  ของผม


 emo48:)


หัวข้อ: Re: มหากาพย์ ความรัก และ ชาติภพ
เริ่มหัวข้อโดย: หนุน'21 ที่ 13 กรกฎาคม 2552, 21:27:47
 emo4:))

เข้ามาตามอ่านเรื่องของน้องก้านแล้ว
น่าติดตามครับ
เรื่องบางเรื่อง หลายเรื่อง
ก็ยากที่จะหาคำอธิบาย
แต่มันก็เกิดขึ้นแล้วอย่างเหลือเชื่อ

มาตามอ่านด้วยคนครับ

 emo42


หัวข้อ: Re: มหากาพย์ ความรัก และ ชาติภพ
เริ่มหัวข้อโดย: swsm ที่ 13 กรกฎาคม 2552, 21:36:41
"เบื้องบน" ของก้าน  เกี่ยวพันกับรูปศรกลางอกไหมคะ ??

ถ่ายภาพให้ดูด้วยจิ .. อยากเห็น


หัวข้อ: Re: มหากาพย์ ความรัก และ ชาติภพ
เริ่มหัวข้อโดย: Kaimook ที่ 13 กรกฎาคม 2552, 21:55:51
อ้างถึง
ข้อความของ Q??? เมื่อ 13 กรกฎาคม 2552, 17:21:23
อ้างถึง
ข้อความของ jacky เมื่อ 11 กรกฎาคม 2552, 21:47:22
เจอรึยังวะ ก้าน?
ดอกกุหลาบ เจ็ดดอก นายก็ให้ไปแล้ว
........
ปล.ในทางการแพทย์ การเป็นลมชักมีหลายรูปแบบ
เช่น ชักจริงๆ น้ำลายฟูมปาก เหม่อลอยตาขวาง
นั่งนิ่งๆเหมือนไร้วิญญาณ เป็นต้น
emo7:(: emo29:P: emo47

เมื่อเล่าก็ต้องเจอแล้วสิ แต่ยังไม่รู้ผลว่าจะลงเอยอย่างไร? Happy Ending หรือ โศกนาฏกรรม!

 emo47
ขอให้เลือกหนทางแห่ง Happy ending นะจ๊ะก้าน อย่าเลือก
โศกนาฎกรรมเลยจ่ะ(มันเจี๋ยว)


หัวข้อ: Re: มหากาพย์ ความรัก และ ชาติภพ
เริ่มหัวข้อโดย: Kaimook ที่ 14 กรกฎาคม 2552, 09:33:30
หวัดดีจ่ะก้าน emo4:))


หัวข้อ: Re: มหากาพย์ ความรัก และ ชาติภพ
เริ่มหัวข้อโดย: khesorn mueller ที่ 14 กรกฎาคม 2552, 15:43:26
พี่ก้านไปไหนวันนี้.
ไหนเล่าอีก...อยากฟังพันธะสัญญาอีก
 


nn.24+3


หัวข้อ: Re: มหากาพย์ ความรัก และ ชาติภพ
เริ่มหัวข้อโดย: SC (ก้าน 24) ที่ 14 กรกฎาคม 2552, 20:03:03
 
อ้างถึง   

ถูกเตือนจึงล้มเลิก
: เมษายน 2535 - พฤษภาคม 2536
 
ช่วงเวลานั้นผมทำงานในตำแหน่งเจ้าหน้าที่บริหารโครงการอาวุโส ในเครือวังทองกรุ๊ป นอกจากงานในสำนักงานขายโครงการแล้วผมมีหน้าที่ดูแลหมู่บ้านวังทอง-ริเวอร์ปาร์ค ก็มีเรื่องที่ลูกบ้านมาร้องเรียนเรื่องหมา 50 กว่าตัวที่คนงานก่อสร้างนำมาเลี้ยง แล้วปล่อยทิ้งไว้ไม่นำไปด้วย ซึ่งทำความเดือดร้อนรำคาญให้กับลูกบ้าน ทางโครงการได้ติดต่อไปทางกทม.ให้มาจับก็ไม่มา เพราะเป็นพื้นที่ของสุขาภิบาลคูคต ทางสุขาภิบาลฯเองก็ไม่รับจัดการให้เพราะไม่มีหน่วยงานด้านนี้ ผู้จัดการโครงการเลยมอบหน้าที่ให้ผมดำเนินการ จะตัดสินใจทำอะไรก็ทำได้เลย ผมจึงตัดสินใจฆ่ายกฝูงโดยให้ยาเบื่อ
 
ผมสั่งให้โฟร์แมนไปดำเนินการ ทางโฟร์แมนก็เกี่ยงและพูดทำนองท้าทายว่า "คุณ...ไปซื้อยาเบื่อมาสิ แล้วผมจะเบื่อให้ " ผมก็ตอบว่า " ท้าใช่ไหม? ได้ " แล้วผมก็เดินไปซื้อยาเบื่อที่เซียร์เล็ก ตอนนั้นเซียร์ รังสิต กำลังก่อสร้าง จึงเปิดเซียร์ขนาดเล็กขึ้นมาทำการ ซึ่งปัจจุบันก็ยังใช้ทำการอยู่ ระยะทางก็ประมาณ 500 เมตร ผมไปตอนประมาณบ่ายโมงกว่าๆเดินไปกลับท่ามกลางแดดเปรี้ยง
 
พอกลับมาถึงสำนักงานขายผมก็เรียกให้โฟร์แมนมารับยาเบื่อไปดำเนินการ พอโฟร์แมนรับยาและออกจากสำนักงานขายไปแล้ว หลังจากนั้นผมก็รู้สึงเวียนศีรษะเหมือนคนเมายา ท้องใส้ปั่นป่วนแบบไม่เคยเป็นมาก่อน ผมเลยขอกลับไปนอนที่บ้านพักห่างจากสำนักงานขายประมาณ 200 เมตร ผมหลับไปตั้งแต่เวลาบ่าย 2 โมง ตื่นขึ้นมาเห็นมืดๆดูนาฬิกาก็เป็นเวลา 2 ทุ่มแล้ว ผมหลับยาวไปนานถึง 6 ชั่วโมงเต็มๆ 
 
ผมก็มาคิดว่า อาการแบบนี้ผมไม่เคยเป็นมาก่อน เรื่องตากแดดแค่นั้นเรื่องเล็ก เพราะนั่นไม่ใช่ครั้งแรกที่เดินท่ามกลางแดดเปรี้ยงตอนทำงานที่นั่น ผมพูดกับตัวเองในใจว่า " ถูกเตือนไม่ให้ทำอะไรหรือเปล่า? " ผมเลยพยายามนึกว่าตอนนี้ผมกำลังทำอะไร พอนึกได้ถึงเรื่องเบื่อหมา ผมเลยโทรศัพท์ไปถามโฟร์แมนว่าได้ทำการเบื่อหมาแล้วหรือยัง? โฟร์แมนก็ตอบแบบทำนองท้าทายอีกว่า " คุณ...มาผสมยาเบื่อกับข้าวสิ ถ้าคุณ...มาผสม ผมจะยกไปให้มันกินเอง " ผมก็เลยสั่งยกเลิกไม่ต้องเบื่อแล้ว หลังจากนั้นผมก็ไม่คิดจัดการเรื่องหมาอีกเลย


 emo24:(


หัวข้อ: Re: มหากาพย์ ความรัก และ ชาติภพ
เริ่มหัวข้อโดย: SC (ก้าน 24) ที่ 14 กรกฎาคม 2552, 20:08:53
 
อ้างถึง   
อ้างถึง
ข้อความของ Kaimook เมื่อ 13 กรกฎาคม 2552, 21:55:51

เมื่อเล่าก็ต้องเจอแล้วสิ แต่ยังไม่รู้ผลว่าจะลงเอยอย่างไร? Happy Ending หรือ โศกนาฏกรรม!

 emo47
ขอให้เลือกหนทางแห่ง Happy ending นะจ๊ะก้าน อย่าเลือก
โศกนาฎกรรมเลยจ่ะ(มันเจี๋ยว)


อันนี้ก็คงขึ้นกับอีกฝ่ายแล้วละอ้อย เราไม่ได้เลือก เพราะเรานะทำตามสัญญาแล้ว อีกไม่นานหรอกคงได้รู้กัน

 emo48:)



หัวข้อ: Re: มหากาพย์ ความรัก และ ชาติภพ
เริ่มหัวข้อโดย: SC (ก้าน 24) ที่ 14 กรกฎาคม 2552, 20:11:26
อ้างถึง
ข้อความของ หนุน'21 เมื่อ 13 กรกฎาคม 2552, 21:27:47
emo4:))

เข้ามาตามอ่านเรื่องของน้องก้านแล้ว
น่าติดตามครับ
เรื่องบางเรื่อง หลายเรื่อง
ก็ยากที่จะหาคำอธิบาย
แต่มันก็เกิดขึ้นแล้วอย่างเหลือเชื่อ

มาตามอ่านด้วยคนครับ

 emo42

ขอบคุณพี่หนุนครับที่เข้าใจ

 emo41::


หัวข้อ: Re: มหากาพย์ ความรัก และ ชาติภพ
เริ่มหัวข้อโดย: SC (ก้าน 24) ที่ 14 กรกฎาคม 2552, 20:17:42
อ้างถึง
ข้อความของ swsm เมื่อ 13 กรกฎาคม 2552, 21:36:41
"เบื้องบน" ของก้าน  เกี่ยวพันกับรูปศรกลางอกไหมคะ ??

ถ่ายภาพให้ดูด้วยจิ .. อยากเห็น


คงไม่ครับพี่หยี ตอนแรกก็คิดว่าใช่ แต่พอมี x ก็แสดงว่ามันไม่เกี่ยวพัน ส่วน " X " ขออุบไว้ก่อนเพราะมันเป็นตัวไขปริศนา

 emo48:)


หัวข้อ: Re: มหากาพย์ ความรัก และ ชาติภพ
เริ่มหัวข้อโดย: jacky ที่ 14 กรกฎาคม 2552, 20:18:17
อ้างถึง
ข้อความของ Kaimook เมื่อ 13 กรกฎาคม 2552, 21:55:51
อ้างถึง
ข้อความของ Q??? เมื่อ 13 กรกฎาคม 2552, 17:21:23
อ้างถึง
ข้อความของ jacky เมื่อ 11 กรกฎาคม 2552, 21:47:22
เจอรึยังวะ ก้าน?
ดอกกุหลาบ เจ็ดดอก นายก็ให้ไปแล้ว
........
ปล.ในทางการแพทย์ การเป็นลมชักมีหลายรูปแบบ
เช่น ชักจริงๆ น้ำลายฟูมปาก เหม่อลอยตาขวาง
นั่งนิ่งๆเหมือนไร้วิญญาณ เป็นต้น
emo7:(: emo29:P: emo47

เมื่อเล่าก็ต้องเจอแล้วสิ แต่ยังไม่รู้ผลว่าจะลงเอยอย่างไร? Happy Ending หรือ โศกนาฏกรรม!

 emo47
ขอให้เลือกหนทางแห่ง Happy ending นะจ๊ะก้าน อย่าเลือก
โศกนาฎกรรมเลยจ่ะ(มันเจี๋ยว)

ให้ไปอีกซักแปดดอก Happy เพื่อน


หัวข้อ: Re: มหากาพย์ ความรัก และ ชาติภพ
เริ่มหัวข้อโดย: SC (ก้าน 24) ที่ 14 กรกฎาคม 2552, 20:19:25
อ้างถึง
ข้อความของ khesorn mueller เมื่อ 14 กรกฎาคม 2552, 15:43:26
พี่ก้านไปไหนวันนี้.
ไหนเล่าอีก...อยากฟังพันธะสัญญาอีก
 


nn.24+3

คอยติดตามละกันหนุงหนิง

 emo48:)


หัวข้อ: Re: มหากาพย์ ความรัก และ ชาติภพ
เริ่มหัวข้อโดย: jacky ที่ 14 กรกฎาคม 2552, 20:20:12
อ้างถึง
ข้อความของ Q??? เมื่อ 13 กรกฎาคม 2552, 19:14:55
 
อ้างถึง   

เหตุการณ์รถแก๊สระเบิด
: สิงหาคม 2532 - สิงหาคม 2533
 
ช่วงนั้นผมทำงานเป็นเชลส์ขายนิตยสารภาษาอังกฤษ อาทิ TIME, FORTUNE ฯลฯ ที่ทำงานอยู่ตึกชินวัตรไหมไทย ซอยสุขุมวิท 23 ทุกวันถ้าไม่ได้ออกไปพบลูกค้าข้างนอก พวกผมจะโทรศัพท์หาลูกค้าอยู่ในสำนักงานจนถึง 6 โมงเย็น และจะมานั่งทานข้าวมื้อเย็นคุยกันแถวๆที่ทำงาน แล้วต่างแยกย้ายกันกลับ ผมจะมารอขึ้นรถเมล์สาย 38 ที่ซอยสุขุมวิท 21 อโศกก็ประมาณทุ่ม และรถก็จะมาติดแถวๆทางรถไฟตรงมักกะสันประมาณทุ่มครึ่ง
 
วันเกิดเหตุนั้น พอถึงช่วงบ่ายตอนประมาณบ่าย 3 โมงผมเริ่มรู้สึกกระสับกระส่ายเหมือนมีใครมากวน มันไม่อยากจะทำงาน ไม่มีสมาธิโทรหาลูกค้า ทนไม่ไหวผมเลยออกจากสำนักงานตอนบ่าย 4 โมงเย็น มาดูหนังที่โรงแม็คเคนน่าตรงข้ามโรงแรมเอเซีย แต่มาไม่ทันรอบ 5 โมงเย็น เลยได้ดูรอบทุ่มครึ่ง ดูหนังเสร็จออกจากโรงหนังผมเดินมาทางสี่แยกราชเทวี เดินเลี้ยวขวาไปขึ้นรถเมล์ป้ายตรงข้ามดรงแรมเฟิร์สในปัจจุบันเพื่อที่จะกลับที่พักตรงข้ามสนามม้านางเลิ้ง ขณะเดินไปที่ป้ายรถเมล์ผมก็เห็นไฟลุกแดงๆ แต่ไม่รู้ว่าเรื่องอะไร กลับถึงหอก็ยังไม่รู้เรื่องอีก จนกระทั่งตื่นมาตอนเช้าอีกวัน ก็ได้ยินคนที่หอพักคุยกัน ผมก็ร่วมคุยด้วยแบบไม่รู้เรื่อง ก็มีคนหนึ่งพูดว่า " เมื่อคืนรถแก๊สระเบิด คนถูกเผาตายเป็นร้อย มึงไม่รู้เรื่องเหรอ มึงกลับเส้นทางนั้นทุกวันไม่ใช่เหรอ? " ผม " หา..."
 
ถ้าผมไม่หนีออกจากสำนักงานตั้งแต่บ่าย 4 โมง ไม่รู้ว่าผลจะเป็นอย่างไร แต่ผมรอดพ้นจากเหตุการณ์ครั้งนั้นมาได้



 emo48:)
คืนนั้น ข้าพเจ้าก็นึกยังงัยม่ายซาบ
กลับมาทางประตูน้ำ เห็นๆเลย......
ใกล้มาก


หัวข้อ: Re: มหากาพย์ ความรัก และ ชาติภพ
เริ่มหัวข้อโดย: SC (ก้าน 24) ที่ 14 กรกฎาคม 2552, 20:24:07
อ้างถึง
ข้อความของ jacky เมื่อ 14 กรกฎาคม 2552, 20:20:12
อ้างถึง
ข้อความของ Q??? เมื่อ 13 กรกฎาคม 2552, 19:14:55
 
อ้างถึง   

เหตุการณ์รถแก๊สระเบิด
: สิงหาคม 2532 - สิงหาคม 2533
 
ช่วงนั้นผมทำงานเป็นเชลส์ขายนิตยสารภาษาอังกฤษ อาทิ TIME, FORTUNE ฯลฯ ที่ทำงานอยู่ตึกชินวัตรไหมไทย ซอยสุขุมวิท 23 ทุกวันถ้าไม่ได้ออกไปพบลูกค้าข้างนอก พวกผมจะโทรศัพท์หาลูกค้าอยู่ในสำนักงานจนถึง 6 โมงเย็น และจะมานั่งทานข้าวมื้อเย็นคุยกันแถวๆที่ทำงาน แล้วต่างแยกย้ายกันกลับ ผมจะมารอขึ้นรถเมล์สาย 38 ที่ซอยสุขุมวิท 21 อโศกก็ประมาณทุ่ม และรถก็จะมาติดแถวๆทางรถไฟตรงมักกะสันประมาณทุ่มครึ่ง
 
วันเกิดเหตุนั้น พอถึงช่วงบ่ายตอนประมาณบ่าย 3 โมงผมเริ่มรู้สึกกระสับกระส่ายเหมือนมีใครมากวน มันไม่อยากจะทำงาน ไม่มีสมาธิโทรหาลูกค้า ทนไม่ไหวผมเลยออกจากสำนักงานตอนบ่าย 4 โมงเย็น มาดูหนังที่โรงแม็คเคนน่าตรงข้ามโรงแรมเอเซีย แต่มาไม่ทันรอบ 5 โมงเย็น เลยได้ดูรอบทุ่มครึ่ง ดูหนังเสร็จออกจากโรงหนังผมเดินมาทางสี่แยกราชเทวี เดินเลี้ยวขวาไปขึ้นรถเมล์ป้ายตรงข้ามดรงแรมเฟิร์สในปัจจุบันเพื่อที่จะกลับที่พักตรงข้ามสนามม้านางเลิ้ง ขณะเดินไปที่ป้ายรถเมล์ผมก็เห็นไฟลุกแดงๆ แต่ไม่รู้ว่าเรื่องอะไร กลับถึงหอก็ยังไม่รู้เรื่องอีก จนกระทั่งตื่นมาตอนเช้าอีกวัน ก็ได้ยินคนที่หอพักคุยกัน ผมก็ร่วมคุยด้วยแบบไม่รู้เรื่อง ก็มีคนหนึ่งพูดว่า " เมื่อคืนรถแก๊สระเบิด คนถูกเผาตายเป็นร้อย มึงไม่รู้เรื่องเหรอ มึงกลับเส้นทางนั้นทุกวันไม่ใช่เหรอ? " ผม " หา..."
 
ถ้าผมไม่หนีออกจากสำนักงานตั้งแต่บ่าย 4 โมง ไม่รู้ว่าผลจะเป็นอย่างไร แต่ผมรอดพ้นจากเหตุการณ์ครั้งนั้นมาได้



 emo48:)
คืนนั้น ข้าพเจ้าก็นึกยังงัยม่ายซาบ
กลับมาทางประตูน้ำ เห็นๆเลย......
ใกล้มาก


เห็นคนถูกเผาทั้งเป็นนะเหรอ?

 emo47


หัวข้อ: Re: มหากาพย์ ความรัก และ ชาติภพ
เริ่มหัวข้อโดย: SC (ก้าน 24) ที่ 14 กรกฎาคม 2552, 20:25:54
อ้างถึง
ข้อความของ jacky เมื่อ 14 กรกฎาคม 2552, 20:18:17
อ้างถึง
ข้อความของ Kaimook เมื่อ 13 กรกฎาคม 2552, 21:55:51
อ้างถึง
ข้อความของ Q??? เมื่อ 13 กรกฎาคม 2552, 17:21:23
อ้างถึง
ข้อความของ jacky เมื่อ 11 กรกฎาคม 2552, 21:47:22
เจอรึยังวะ ก้าน?
ดอกกุหลาบ เจ็ดดอก นายก็ให้ไปแล้ว
........
ปล.ในทางการแพทย์ การเป็นลมชักมีหลายรูปแบบ
เช่น ชักจริงๆ น้ำลายฟูมปาก เหม่อลอยตาขวาง
นั่งนิ่งๆเหมือนไร้วิญญาณ เป็นต้น
emo7:(: emo29:P: emo47

เมื่อเล่าก็ต้องเจอแล้วสิ แต่ยังไม่รู้ผลว่าจะลงเอยอย่างไร? Happy Ending หรือ โศกนาฏกรรม!

 emo47
ขอให้เลือกหนทางแห่ง Happy ending นะจ๊ะก้าน อย่าเลือก
โศกนาฎกรรมเลยจ่ะ(มันเจี๋ยว)

ให้ไปอีกซักแปดดอก Happy เพื่อน

แปดดอกคงไม่พอนะนายจักร 29 ปีก็ต้อง 29 ดอก หุหุ...

 emo26:D


หัวข้อ: Re: มหากาพย์ ความรัก และ ชาติภพ
เริ่มหัวข้อโดย: khesorn mueller ที่ 14 กรกฎาคม 2552, 20:29:56
อ้างถึง
ข้อความของ Q??? เมื่อ 14 กรกฎาคม 2552, 20:19:25
คอยติดตามละกันหนุงหนิง

 emo48:)

ตามอยู่ทุกวันเนี่ยพี่.


พูดถึงสุนัขไร้เจ้าของ 40-50ตัว
ว่าจะอันตรายขนาดไหนหากรับเชื้อสุนัขบ้า
(ทางการน่าจะจับตอน..castrated...ให้หมด
จะได้ไม่แพร่พันธุ์ต่อ...)หนิงห่วงเด็กๆที่อาจโดนกัด
น่ะพี่ก้าน


nn.24+3


หัวข้อ: Re: มหากาพย์ ความรัก และ ชาติภพ
เริ่มหัวข้อโดย: SC (ก้าน 24) ที่ 14 กรกฎาคม 2552, 20:32:23
อ้างถึง
ข้อความของ khesorn mueller เมื่อ 14 กรกฎาคม 2552, 20:29:56
อ้างถึง
ข้อความของ Q??? เมื่อ 14 กรกฎาคม 2552, 20:19:25
คอยติดตามละกันหนุงหนิง

 emo48:)

ตามอยู่ทุกวันเนี่ยพี่.


พูดถึงสุนัขไร้เจ้าของ 40-50ตัว
ว่าจะอันตรายขนาดไหนหากรับเชื้อสุนัขบ้า
(ทางการน่าจะจับตอน..castrated...ให้หมด
จะได้ไม่แพร่พันธุ์ต่อ...)หนิงห่วงเด็กๆที่อาจโดนกัด
น่ะพี่ก้าน


nn.24+3

นั่นแหล่ะ ถึงคิดเบื่อ แต่หลังจากนั้นไม่ทราบ

 emo48:)



หัวข้อ: Re: มหากาพย์ ความรัก และ ชาติภพ
เริ่มหัวข้อโดย: jacky ที่ 14 กรกฎาคม 2552, 20:40:04
อ้างถึง
ข้อความของ Q??? เมื่อ 14 กรกฎาคม 2552, 20:24:07
อ้างถึง
ข้อความของ jacky เมื่อ 14 กรกฎาคม 2552, 20:20:12
อ้างถึง
ข้อความของ Q??? เมื่อ 13 กรกฎาคม 2552, 19:14:55
 
อ้างถึง   

เหตุการณ์รถแก๊สระเบิด
: สิงหาคม 2532 - สิงหาคม 2533
 
ช่วงนั้นผมทำงานเป็นเชลส์ขายนิตยสารภาษาอังกฤษ อาทิ TIME, FORTUNE ฯลฯ ที่ทำงานอยู่ตึกชินวัตรไหมไทย ซอยสุขุมวิท 23 ทุกวันถ้าไม่ได้ออกไปพบลูกค้าข้างนอก พวกผมจะโทรศัพท์หาลูกค้าอยู่ในสำนักงานจนถึง 6 โมงเย็น และจะมานั่งทานข้าวมื้อเย็นคุยกันแถวๆที่ทำงาน แล้วต่างแยกย้ายกันกลับ ผมจะมารอขึ้นรถเมล์สาย 38 ที่ซอยสุขุมวิท 21 อโศกก็ประมาณทุ่ม และรถก็จะมาติดแถวๆทางรถไฟตรงมักกะสันประมาณทุ่มครึ่ง
 
วันเกิดเหตุนั้น พอถึงช่วงบ่ายตอนประมาณบ่าย 3 โมงผมเริ่มรู้สึกกระสับกระส่ายเหมือนมีใครมากวน มันไม่อยากจะทำงาน ไม่มีสมาธิโทรหาลูกค้า ทนไม่ไหวผมเลยออกจากสำนักงานตอนบ่าย 4 โมงเย็น มาดูหนังที่โรงแม็คเคนน่าตรงข้ามโรงแรมเอเซีย แต่มาไม่ทันรอบ 5 โมงเย็น เลยได้ดูรอบทุ่มครึ่ง ดูหนังเสร็จออกจากโรงหนังผมเดินมาทางสี่แยกราชเทวี เดินเลี้ยวขวาไปขึ้นรถเมล์ป้ายตรงข้ามดรงแรมเฟิร์สในปัจจุบันเพื่อที่จะกลับที่พักตรงข้ามสนามม้านางเลิ้ง ขณะเดินไปที่ป้ายรถเมล์ผมก็เห็นไฟลุกแดงๆ แต่ไม่รู้ว่าเรื่องอะไร กลับถึงหอก็ยังไม่รู้เรื่องอีก จนกระทั่งตื่นมาตอนเช้าอีกวัน ก็ได้ยินคนที่หอพักคุยกัน ผมก็ร่วมคุยด้วยแบบไม่รู้เรื่อง ก็มีคนหนึ่งพูดว่า " เมื่อคืนรถแก๊สระเบิด คนถูกเผาตายเป็นร้อย มึงไม่รู้เรื่องเหรอ มึงกลับเส้นทางนั้นทุกวันไม่ใช่เหรอ? " ผม " หา..."
 
ถ้าผมไม่หนีออกจากสำนักงานตั้งแต่บ่าย 4 โมง ไม่รู้ว่าผลจะเป็นอย่างไร แต่ผมรอดพ้นจากเหตุการณ์ครั้งนั้นมาได้



 emo48:)
คืนนั้น ข้าพเจ้าก็นึกยังงัยม่ายซาบ
กลับมาทางประตูน้ำ เห็นๆเลย......
ใกล้มาก


เห็นคนถูกเผาทั้งเป็นนะเหรอ?

 emo47
เห็นลูกไฟ บึ้ม...กะตา..
แต่ก็นึกว่าไฟไหม้ธรรมดา
ตอนนั้นพักที่ราชเทวีคอร์ท..
กลับมาเปิดทีวี.....
เหอ....รอดมาได้งัย
เพราะทุกครั้งขับรถไปส่งแฟนผมที่เซนต์หลุยส์
ต้องขับผ่านวิทยุ ผ่านโรงแรมนายเลิศ เข้าเพชรบุรี
เข้ามักกะสัน แล้วก็ราชเทวี
คืนนั้นชั่วแว่บเดียว อยากกินข้าวมันไก่ประตูน้ำ
เข้าราชดำริ.....


หัวข้อ: Re: มหากาพย์ ความรัก และ ชาติภพ
เริ่มหัวข้อโดย: jacky ที่ 14 กรกฎาคม 2552, 20:41:43
อ้างถึง
ข้อความของ Q??? เมื่อ 14 กรกฎาคม 2552, 20:25:54
อ้างถึง
ข้อความของ jacky เมื่อ 14 กรกฎาคม 2552, 20:18:17
อ้างถึง
ข้อความของ Kaimook เมื่อ 13 กรกฎาคม 2552, 21:55:51
อ้างถึง
ข้อความของ Q??? เมื่อ 13 กรกฎาคม 2552, 17:21:23
อ้างถึง
ข้อความของ jacky เมื่อ 11 กรกฎาคม 2552, 21:47:22
เจอรึยังวะ ก้าน?
ดอกกุหลาบ เจ็ดดอก นายก็ให้ไปแล้ว
........
ปล.ในทางการแพทย์ การเป็นลมชักมีหลายรูปแบบ
เช่น ชักจริงๆ น้ำลายฟูมปาก เหม่อลอยตาขวาง
นั่งนิ่งๆเหมือนไร้วิญญาณ เป็นต้น
emo7:(: emo29:P: emo47

เมื่อเล่าก็ต้องเจอแล้วสิ แต่ยังไม่รู้ผลว่าจะลงเอยอย่างไร? Happy Ending หรือ โศกนาฏกรรม!

 emo47
ขอให้เลือกหนทางแห่ง Happy ending นะจ๊ะก้าน อย่าเลือก
โศกนาฎกรรมเลยจ่ะ(มันเจี๋ยว)

ให้ไปอีกซักแปดดอก Happy เพื่อน

แปดดอกคงไม่พอนะนายจักร 29 ปีก็ต้อง 29 ดอก หุหุ...

 emo26:D
นับมาทุกปี...
Happy Ending Sure"""
Good Nite เน่อ


หัวข้อ: Re: มหากาพย์ ความรัก และ ชาติภพ
เริ่มหัวข้อโดย: SC (ก้าน 24) ที่ 14 กรกฎาคม 2552, 20:44:16
อ้างถึง
ข้อความของ jacky เมื่อ 14 กรกฎาคม 2552, 20:40:04
อ้างถึง
ข้อความของ Q??? เมื่อ 14 กรกฎาคม 2552, 20:24:07
อ้างถึง
ข้อความของ jacky เมื่อ 14 กรกฎาคม 2552, 20:20:12
อ้างถึง
ข้อความของ Q??? เมื่อ 13 กรกฎาคม 2552, 19:14:55
 
อ้างถึง   

เหตุการณ์รถแก๊สระเบิด
: สิงหาคม 2532 - สิงหาคม 2533
 
ช่วงนั้นผมทำงานเป็นเชลส์ขายนิตยสารภาษาอังกฤษ อาทิ TIME, FORTUNE ฯลฯ ที่ทำงานอยู่ตึกชินวัตรไหมไทย ซอยสุขุมวิท 23 ทุกวันถ้าไม่ได้ออกไปพบลูกค้าข้างนอก พวกผมจะโทรศัพท์หาลูกค้าอยู่ในสำนักงานจนถึง 6 โมงเย็น และจะมานั่งทานข้าวมื้อเย็นคุยกันแถวๆที่ทำงาน แล้วต่างแยกย้ายกันกลับ ผมจะมารอขึ้นรถเมล์สาย 38 ที่ซอยสุขุมวิท 21 อโศกก็ประมาณทุ่ม และรถก็จะมาติดแถวๆทางรถไฟตรงมักกะสันประมาณทุ่มครึ่ง
 
วันเกิดเหตุนั้น พอถึงช่วงบ่ายตอนประมาณบ่าย 3 โมงผมเริ่มรู้สึกกระสับกระส่ายเหมือนมีใครมากวน มันไม่อยากจะทำงาน ไม่มีสมาธิโทรหาลูกค้า ทนไม่ไหวผมเลยออกจากสำนักงานตอนบ่าย 4 โมงเย็น มาดูหนังที่โรงแม็คเคนน่าตรงข้ามโรงแรมเอเซีย แต่มาไม่ทันรอบ 5 โมงเย็น เลยได้ดูรอบทุ่มครึ่ง ดูหนังเสร็จออกจากโรงหนังผมเดินมาทางสี่แยกราชเทวี เดินเลี้ยวขวาไปขึ้นรถเมล์ป้ายตรงข้ามดรงแรมเฟิร์สในปัจจุบันเพื่อที่จะกลับที่พักตรงข้ามสนามม้านางเลิ้ง ขณะเดินไปที่ป้ายรถเมล์ผมก็เห็นไฟลุกแดงๆ แต่ไม่รู้ว่าเรื่องอะไร กลับถึงหอก็ยังไม่รู้เรื่องอีก จนกระทั่งตื่นมาตอนเช้าอีกวัน ก็ได้ยินคนที่หอพักคุยกัน ผมก็ร่วมคุยด้วยแบบไม่รู้เรื่อง ก็มีคนหนึ่งพูดว่า " เมื่อคืนรถแก๊สระเบิด คนถูกเผาตายเป็นร้อย มึงไม่รู้เรื่องเหรอ มึงกลับเส้นทางนั้นทุกวันไม่ใช่เหรอ? " ผม " หา..."
 
ถ้าผมไม่หนีออกจากสำนักงานตั้งแต่บ่าย 4 โมง ไม่รู้ว่าผลจะเป็นอย่างไร แต่ผมรอดพ้นจากเหตุการณ์ครั้งนั้นมาได้



 emo48:)
คืนนั้น ข้าพเจ้าก็นึกยังงัยม่ายซาบ
กลับมาทางประตูน้ำ เห็นๆเลย......
ใกล้มาก


เห็นคนถูกเผาทั้งเป็นนะเหรอ?

 emo47
เห็นลูกไฟ บึ้ม...กะตา..
แต่ก็นึกว่าไฟไหม้ธรรมดา
ตอนนั้นพักที่ราชเทวีคอร์ท..
กลับมาเปิดทีวี.....
เหอ....รอดมาได้งัย
เพราะทุกครั้งขับรถไปส่งแฟนผมที่เซนต์หลุยส์
ต้องขับผ่านวิทยุ ผ่านโรงแรมนายเลิศ เข้าเพชรบุรี
เข้ามักกะสัน แล้วก็ราชเทวี
คืนนั้นชั่วแว่บเดียว อยากกินข้าวมันไก่ประตูน้ำ
เข้าราชดำริ.....


อืมม แสดงว่าได้รับการดลใจ ถ้ามีอะไรทำนองนี้อีกก็มาเล่าสู่กันฟังนะ แต่ละคนอาจจะมีอำนาจเหนือธรรมชาติในแบบของตนเอง

 emo48:)


หัวข้อ: Re: มหากาพย์ ความรัก และ ชาติภพ
เริ่มหัวข้อโดย: SC (ก้าน 24) ที่ 14 กรกฎาคม 2552, 20:46:13
อ้างถึง
ข้อความของ jacky เมื่อ 14 กรกฎาคม 2552, 20:41:43
อ้างถึง
ข้อความของ Q??? เมื่อ 14 กรกฎาคม 2552, 20:25:54
อ้างถึง
ข้อความของ jacky เมื่อ 14 กรกฎาคม 2552, 20:18:17
อ้างถึง
ข้อความของ Kaimook เมื่อ 13 กรกฎาคม 2552, 21:55:51
อ้างถึง
ข้อความของ Q??? เมื่อ 13 กรกฎาคม 2552, 17:21:23
อ้างถึง
ข้อความของ jacky เมื่อ 11 กรกฎาคม 2552, 21:47:22
เจอรึยังวะ ก้าน?
ดอกกุหลาบ เจ็ดดอก นายก็ให้ไปแล้ว
........
ปล.ในทางการแพทย์ การเป็นลมชักมีหลายรูปแบบ
เช่น ชักจริงๆ น้ำลายฟูมปาก เหม่อลอยตาขวาง
นั่งนิ่งๆเหมือนไร้วิญญาณ เป็นต้น
emo7:(: emo29:P: emo47

เมื่อเล่าก็ต้องเจอแล้วสิ แต่ยังไม่รู้ผลว่าจะลงเอยอย่างไร? Happy Ending หรือ โศกนาฏกรรม!

 emo47
ขอให้เลือกหนทางแห่ง Happy ending นะจ๊ะก้าน อย่าเลือก
โศกนาฎกรรมเลยจ่ะ(มันเจี๋ยว)

ให้ไปอีกซักแปดดอก Happy เพื่อน

แปดดอกคงไม่พอนะนายจักร 29 ปีก็ต้อง 29 ดอก หุหุ...

 emo26:D
นับมาทุกปี...
Happy Ending Sure"""
Good Nite เน่อ


Good Night เช่นกัน

 emo31:bye:


หัวข้อ: Re: มหากาพย์ ความรัก และ ชาติภพ
เริ่มหัวข้อโดย: Kaimook ที่ 14 กรกฎาคม 2552, 21:26:56
อ้างถึง
ข้อความของ Q??? เมื่อ 14 กรกฎาคม 2552, 20:03:03
 
อ้างถึง   

ถูกเตือนจึงล้มเลิก
: เมษายน 2535 - พฤษภาคม 2536
 
ช่วงเวลานั้นผมทำงานในตำแหน่งเจ้าหน้าที่บริหารโครงการอาวุโส ในเครือวังทองกรุ๊ป นอกจากงานในสำนักงานขายโครงการแล้วผมมีหน้าที่ดูแลหมู่บ้านวังทอง-ริเวอร์ปาร์ค ก็มีเรื่องที่ลูกบ้านมาร้องเรียนเรื่องหมา 50 กว่าตัวที่คนงานก่อสร้างนำมาเลี้ยง แล้วปล่อยทิ้งไว้ไม่นำไปด้วย ซึ่งทำความเดือดร้อนรำคาญให้กับลูกบ้าน ทางโครงการได้ติดต่อไปทางกทม.ให้มาจับก็ไม่มา เพราะเป็นพื้นที่ของสุขาภิบาลคูคต ทางสุขาภิบาลฯเองก็ไม่รับจัดการให้เพราะไม่มีหน่วยงานด้านนี้ ผู้จัดการโครงการเลยมอบหน้าที่ให้ผมดำเนินการ จะตัดสินใจทำอะไรก็ทำได้เลย ผมจึงตัดสินใจฆ่ายกฝูงโดยให้ยาเบื่อ
 
ผมสั่งให้โฟร์แมนไปดำเนินการ ทางโฟร์แมนก็เกี่ยงและพูดทำนองท้าทายว่า "คุณ...ไปซื้อยาเบื่อมาสิ แล้วผมจะเบื่อให้ " ผมก็ตอบว่า " ท้าใช่ไหม? ได้ " แล้วผมก็เดินไปซื้อยาเบื่อที่เซียร์เล็ก ตอนนั้นเซียร์ รังสิต กำลังก่อสร้าง จึงเปิดเซียร์ขนาดเล็กขึ้นมาทำการ ซึ่งปัจจุบันก็ยังใช้ทำการอยู่ ระยะทางก็ประมาณ 500 เมตร ผมไปตอนประมาณบ่ายโมงกว่าๆเดินไปกลับท่ามกลางแดดเปรี้ยง
 
พอกลับมาถึงสำนักงานขายผมก็เรียกให้โฟร์แมนมารับยาเบื่อไปดำเนินการ พอโฟร์แมนรับยาและออกจากสำนักงานขายไปแล้ว หลังจากนั้นผมก็รู้สึงเวียนศีรษะเหมือนคนเมายา ท้องใส้ปั่นป่วนแบบไม่เคยเป็นมาก่อน ผมเลยขอกลับไปนอนที่บ้านพักห่างจากสำนักงานขายประมาณ 200 เมตร ผมหลับไปตั้งแต่เวลาบ่าย 2 โมง ตื่นขึ้นมาเห็นมืดๆดูนาฬิกาก็เป็นเวลา 2 ทุ่มแล้ว ผมหลับยาวไปนานถึง 6 ชั่วโมงเต็มๆ 
 
ผมก็มาคิดว่า อาการแบบนี้ผมไม่เคยเป็นมาก่อน เรื่องตากแดดแค่นั้นเรื่องเล็ก เพราะนั่นไม่ใช่ครั้งแรกที่เดินท่ามกลางแดดเปรี้ยงตอนทำงานที่นั่น ผมพูดกับตัวเองในใจว่า " ถูกเตือนไม่ให้ทำอะไรหรือเปล่า? " ผมเลยพยายามนึกว่าตอนนี้ผมกำลังทำอะไร พอนึกได้ถึงเรื่องเบื่อหมา ผมเลยโทรศัพท์ไปถามโฟร์แมนว่าได้ทำการเบื่อหมาแล้วหรือยัง? โฟร์แมนก็ตอบแบบทำนองท้าทายอีกว่า " คุณ...มาผสมยาเบื่อกับข้าวสิ ถ้าคุณ...มาผสม ผมจะยกไปให้มันกินเอง " ผมก็เลยสั่งยกเลิกไม่ต้องเบื่อแล้ว หลังจากนั้นผมก็ไม่คิดจัดการเรื่องหมาอีกเลย


 emo24:(
ดีนะที่เบื้องบนเตือนก้านก่อนไม่งั้นเจ้า 40  ชีวิตเสร้จแน่ก้านก็จะเป็นกรรมกันต่อไป เฮ้ออออออออออออ


หัวข้อ: Re: มหากาพย์ ความรัก และ ชาติภพ
เริ่มหัวข้อโดย: Kaimook ที่ 14 กรกฎาคม 2552, 21:27:42
เล่าอีกสิก้านเรื่องของก้านแปลกดี
 emo7:(:


หัวข้อ: Re: มหากาพย์ ความรัก และ ชาติภพ
เริ่มหัวข้อโดย: SC (ก้าน 24) ที่ 15 กรกฎาคม 2552, 19:15:31
 
อ้างถึง   

เหลือเชื่อ!
: เมษายน 2535 - พฤษภาคม 2536
 
หน้าที่ของเจ้าหน้าที่บริหารโครงการอาวุโส นอกจากงานในสำนักงานขายแล้ว หลัง 5 โมงเย็นก็ตรวจตราดูแลภายในหมู่บ้าน ทุกวันผมจะขี่มอเตอร์ไซค์ตรวจ วันเกิดเหตุนั้นผมก็ขี่มอเตอร์ไซค์ไปตามทางในหมู่บ้านตามปกติเกือบครบรอบแล้ว พอผ่านจุดที่มีหมาชุมกันอยู่ หมามันเห่า ผมก็เลยเอาเท้าแหย่มัน ประกฎว่ามันเอาจริงไล่งับเอา ผมก็เลยบิดมอเตอร์ไซค์หนีเต็มที่ พอตาเหลือบเห็นทางโค้ง ผมก็หักเลี้ยว แต่พอหันหน้าตรงๆเห็นเสาไฟฟ้าเต็มหน้า วินาทีนั้นผมปลงใจยอมรับสิ่งที่จะเกิดขึ้น ผมหลับตาปล่อยมือจากแฮนด์ฯ...
 
ผมมารู้สึกตัวอีกทีก็รู้สึกว่าตัวเองนอนหลับตาอยู่ ผมไม่กล้าลืมตาในทันทีเพราะกลัวว่าจะเห็นกระดูกที่หักโผล่พ้นเนื้อออกมาอะไรทำนองนี้ ผมเลยค่อยๆลองขยับแขนขาดูก่อนเบาๆ พอไม่รู้สึกเจ็บก็เลยขยับเต็มที่รวมทั้งงอเข้าออกก็ไม่รู้สึกว่าเจ็บ ลองบิดตัวดูก็ไม่รู้สึกเจ็บ ผมเลยลืมตาดู ก็พบว่าตัวเองไม่เป็นอะไร เสื้อผ้าก็ไม่เปื้อนสีหญ้าแต่อย่างใด มองเห็นมอเตอร์ไซค์เกยเสาไม้ต้นหนึ่งพาดอยู่กับเสาไฟฟ้าอยู่ห่างออกไปข้างหน้าประมาณเกือบ 2 เมตร ผมเลยลุกขึ้นยืนก็ไม่รู้สึกว่าเคล็ดขัดยอกแต่ประการใด
 
ผมเลยเดินไปดูรถ เห็นรถเกยเสาไม้พาดอยู่กับเสาไฟฟ้าอยู่ ล้อหน้าเบี้ยว คาบูเรเตอร์แตก มีน้ำมันหยดติ๋งๆ เสาไม้ดังกล่าวขนาดเส้นผ่านศูนย์กลางประมาณ 3 นิ้วครึ่งถึง 4 นิ้ว มีตะปู 5 นิ้วตอกอยู่หลายตัว และเห็นตอไม้อยู่ในแนวเดียวกันกับเสาไฟฟ้า รถมอร์เตอร์ไซค์คงจะชนเสาไม้จนหลุดจากตอ ผมเห็นดังนั้น ผมเลยเดินสำรวจรอบบริเวณนั้นซึ่งเดิมเป็นบ้านตัวอย่าง รอบนอกเป็นฟุตปาธข้างในเป็นสนามหญ้ารอบตัวบ้าน เสาไฟฟ้าอยู่ด้านใน บ้านตัวอย่างนี้จะทำการทุบเพื่อสร้างเป็นทาวน์เฮ้าส์ขาย จึงต้องทำการล้อมรั้วสังกะสีเพราะอยู่ในชุมชน และใกล้กับสโมสรของหมู่บ้าน ผมพบว่าเสาไม้ขนาดเดียวกันทุกต้นถูกกดตอกลงในดินหมด มีเพียงต้นนั้นต้นเดียวที่มันสั้น เลยใช้ตอตอกลงไปในดินแล้วตอกตะปู 5 นิ้วยึดไว้ และวางอยู่ในแนวตรงกับเสาไฟฟ้าพอดี เหมือนกับว่าได้จัดเตรียมไว้สำหรับรองรับมอเตอร์ไซค์ของผมโดยเฉพาะ
 
ผมก็เลยค่อยๆขี่มอเตอร์ไซค์อย่างทุลักทุเลมาไว้ที่จอดหลังสำนักงานขาย วันรุ่งขึ้นได้เล่าให้คนขับรถของโครงการฟัง เขาเห็นรถแล้วยังพูดกับผมเลยว่า " คุณ...ไม่เป็นอะไรเลย เป็นไปได้ไง รถเป็นขนาดนี้อย่างน้อยก็ต้องฟกช้ำดำเขียวหรือมีรอยห้อเลือดบ้าง " แล้วมอเตอร์ไซค์คันนั้นก็ถูกส่งไปซ่อมตามระเบียบ
 
ผมนะสงสัยมานานว่า ไฉนตัวผมจึงมานอนเยื้องไปทางข้างหลังรถ และไม่รู้สึกเจ็บตรงส่วนไหนเลย เหมือนกับถูกอุ้มมาวางยังไงยังงั้น มันขัดกับหลักฟิสิกส์ เมื่อตัวผมมีความเร็วเท่ากับรถ รถชนสิ่งกีดขวางหยุดกระทันหัน ตัวผมต้องเหินไปข้างหน้า ต่อให้ถือแฮนด์แน่นๆก็ไม่แน่ว่าจะเอาอยู่ นี่ผมยิ่งปล่อยมือด้วย ถ้าคิดว่าแรงสะเทินไปเนื่องจากชนเสาไม้แล้วตะปูหลุด ผมก็น่าจะตกลงข้างๆรถ ไม่น่าจะห่างได้ขนาดนี้ ถ้ากระเด็นตกลงมาก็น่าจะเคล็ดขัดยอกบ้าง อย่าว่าแต่ชนเลยขนาดนั่งบนเบาะรถจอดอยู่แล้วพลาดหงายหลังตกลงมายังรู้สึกเจ็บเลย


แรกๆก็คิดแบบที่คนอื่นพูด ถ้าหมา 50 กว่าตัวตายเพราะยาเบื่อ วันนั้นผมอาจจะไม่รอด แต่แค่ไม่ได้ฆ่าหมามันจะมีอานิสงฆ์มากขนาดนั้นเลยเหรอ เอาแค่กระเด็นตกลงมาเคล็ดขัดยอกโดยที่แขนขาไม่หักก็น่าจะพอสมเหตุสมผลแล้ว

 emo47

 


หัวข้อ: Re: มหากาพย์ ความรัก และ ชาติภพ
เริ่มหัวข้อโดย: swsm ที่ 16 กรกฎาคม 2552, 09:27:37
อาจเป็นได้นะคะ ก้าน
การคิดดี ทำดี  ก็ย่อมได้รับการตอบสนองด้วยดี

การที่อานิสงฆ์แรงขนาดนั้น  ก็เป็นไปได้อีกว่า
บรรดา "the dogs" ทั้งหลายเหล่านั้น เขาเป็นเจ้ากรรมนายเวรของเรา


PS. เพียงแค่ "คิด" ดี   แม้จะยังไม่ได้ลงมือกระทำ ..
ใจเราก็สบายแล้ว .. จริงไหม ??  
 


emo4:))




หัวข้อ: Re: มหากาพย์ ความรัก และ ชาติภพ
เริ่มหัวข้อโดย: khesorn mueller ที่ 16 กรกฎาคม 2552, 13:30:14
อุ้ยพี่ก้าน...
น่ากลัวคะ..
อุบัติเหตุมักไม่คาดฝันเสมอ
ชีวิตพี่ทำไมถึงโลดโผนยังงี้


nn.24+3


หัวข้อ: Re: มหากาพย์ ความรัก และ ชาติภพ
เริ่มหัวข้อโดย: SC (ก้าน 24) ที่ 16 กรกฎาคม 2552, 18:47:31
 
อ้างถึง   

ให้ออกจากบ้าน
: กรกฎาคม - สิงหาคม 2551
 
ผมตัดสินใจกลับไปอยู่ที่บ้านเกิดที่จังหวัดลำปางเพราะว่าแม่ท่านแก่มากแล้ว ตั้งแต่ 9 มีนาคม 2551 ด้วยหวังว่าจะไปทำอะไรเล็กๆน้อยๆที่ตนเองทำได้ กอปรกับเห็นว่าตัวเองก็อายุมากพอสมควร เรื่องเนื้อคู่ก็คิดว่าคงจะไม่มีแล้วเพราะดูดวงตนเองก็เห็นว่ามันผ่านพ้นไปแล้วและไม่ได้พบคนที่ตามหา และคิดว่าภาพที่จำได้นั้นคงจะเป็นเพราะตัวเองวิปลาศไปเอง รู้สึกเสียใจที่นำชีวิตไปผูกพันกับเรื่องภพชาติจนเป็นเหตุให้ชีวิตล้มลุกคลุกคลาน อายุสี่สิบห้าแล้วยังไม่เป็นโล้เป็นพาย
 
ระหว่างที่อยู่ที่บ้านที่ลำปาง เรื่องที่หวังว่าจะได้ก็ทำไม่ได้อีก เพราะติดขัดเรื่องการสื่อสารขอคู่สายโทรศัพท์แล้วไม่มีให้เพราะชุมสายเต็ม หางานทำก็ไม่ได้ สี่เดือนผ่านไป จึงโทรศัพท์หารุ่นน้องที่ทำงานกับนายจ้างเก่าที่เคยทำที่กรุงเทพฯและเป็นผู้จัดการฝ่ายเอ็ชอาร์ให้ช่วยหางานให้ และตั้งใจไว้ว่าจะไม่เข้ามาแบบเคว้งคว้างอีกได้งานแน่นอนค่อยกลับเข้ากรุงเทพฯใหม่
 
ช่วงปลายเดือนกรกฎาคมคาบเกี่ยวกับต้นเดือนสิงหาคม อยู่ดีๆฝ่าเท้าก็เป็นแผลเหมือนโดนกรดกัด แต่ก็ไม่เคยเห็นนะว่าแผลที่โดนกรดกัดเป็นยังไง คิดเอาเอง เพราะหนังมันหลุดไปเห็นเนื้อแดงๆ เหยียบพื้นที่บ้านไม่ได้ เหยียบมากก็เป็นมากเหยียบน้อยก็เป็นน้อย อยู่บ้านต้องเอาถุงพลาสติกใส่ของหรือถุงก็อบแก็บสวมเท้าไว้ ต้องใช้วาสลินเจลโปะเพื่อกันเสียดสีที่เนื้อแดงๆเพราะมันเจ็บ เป็นอยู่นานเกือบ 3 สัปดาห์ แรกๆผมคิดว่าพื้นบ้านคงมีสภาพเป็นกรด แต่ก็มาคิดได้ว่าพ่อกับแม่ไม่เป็นไร และถ้าพื้นบ้านมีสภาพเป็นกรดจริง ตั้งแต่เดือนที่หนึ่งถึงเดือนที่สี่ผมไม่เป็น ทำไมต้องมารอจนถึงเดือนที่ห้าถึงเป็น ไม่น่าเป็นไปได้ที่ผิวหนังคนเราจะทนทานได้นานขนาดนั้น และทุกวันก็ใช้ชีวิตเหมือนเดิมไม่ได้ทำอะไรที่ผิดไปจากวันแรกที่กลับมาอยู่ แล้วผมก็ฉุกคิดขึ้นได้ว่า " หรือเบื้องบนท่านให้ออกจากบ้าน ไม่ให้อยู่ที่บ้านแล้ว  "
 
นี่เป็นครั้งแรกที่ผมมีสำนึกถึงเบื้องบน ผมเลยตัดสินใจออกจากบ้าน โดยมีเสื้อผ้าใส่กระเป๋าใบเดียวและกระเป๋าใส่เอกสารเท่านั้น ออกมาแบบผจญภัยกันเลย ผมนั่งรถมาลงที่กำแพงเพชรกะว่าจะหางานทำที่นั่น แต่พอลงแล้วดูเมืองเล็กๆคิดว่าไม่น่าจะหางานทำได้ จึงขึ้นรถเข้ากรุงเทพฯในคืนนั้นเอง...

มาถึงกรุงเทพฯ แล้วอีกวันหลังจากนั้นแผลที่ฝ่าเท้าก็หายสนิท


 emo48:)


หัวข้อ: Re: มหากาพย์ ความรัก และ ชาติภพ
เริ่มหัวข้อโดย: SC (ก้าน 24) ที่ 16 กรกฎาคม 2552, 18:56:29
อ้างถึง
ข้อความของ swsm เมื่อ 16 กรกฎาคม 2552, 09:27:37
อาจเป็นได้นะคะ ก้าน
การคิดดี ทำดี  ก็ย่อมได้รับการตอบสนองด้วยดี

การที่อานิสงฆ์แรงขนาดนั้น  ก็เป็นไปได้อีกว่า
บรรดา "the dogs" ทั้งหลายเหล่านั้น เขาเป็นเจ้ากรรมนายเวรของเรา


PS. เพียงแค่ "คิด" ดี   แม้จะยังไม่ได้ลงมือกระทำ ..
ใจเราก็สบายแล้ว .. จริงไหม ??  
 


emo4:))




แต่พอหลังเหตุการณ์เมื่อปี 2551 แล้ว เมื่อนึกทบทวนดูตั้งแต่เหตุการณ์รถแก๊สระเบิด ผมคิดว่า เพราะ " เบื้องบน  " ท่าน ก็สมเหตุสมผลทุกเหตุการณ์ที่เล่ามา ครับพี่

 emo48:)


หัวข้อ: Re: มหากาพย์ ความรัก และ ชาติภพ
เริ่มหัวข้อโดย: SC (ก้าน 24) ที่ 16 กรกฎาคม 2552, 18:58:58
อ้างถึง
ข้อความของ khesorn mueller เมื่อ 16 กรกฎาคม 2552, 13:30:14
อุ้ยพี่ก้าน...
น่ากลัวคะ..
อุบัติเหตุมักไม่คาดฝันเสมอ
ชีวิตพี่ทำไมถึงโลดโผนยังงี้


nn.24+3

ทั้งโลดโผน ทั้งล้มลุกคลุกคลาน และยังมีอีก...

 emo48:)


หัวข้อ: Re: มหากาพย์ ความรัก และ ชาติภพ
เริ่มหัวข้อโดย: พธู ๒๕๒๔ ที่ 16 กรกฎาคม 2552, 21:06:59
(http://img217.imageshack.us/img217/1262/186581.jpg)


หัวข้อ: Re: มหากาพย์ ความรัก และ ชาติภพ
เริ่มหัวข้อโดย: Kaimook ที่ 16 กรกฎาคม 2552, 21:31:35
อ้างถึง
ข้อความของ patooman24 เมื่อ 16 กรกฎาคม 2552, 21:06:59
(http://img217.imageshack.us/img217/1262/186581.jpg)
น่ารักจัง


หัวข้อ: Re: มหากาพย์ ความรัก และ ชาติภพ
เริ่มหัวข้อโดย: Kaimook ที่ 16 กรกฎาคม 2552, 21:41:14
อ้างถึง
ข้อความของ Q??? เมื่อ 16 กรกฎาคม 2552, 18:47:31
 
อ้างถึง   

ให้ออกจากบ้าน
: กรกฎาคม - สิงหาคม 2551
 
ผมตัดสินใจกลับไปอยู่ที่บ้านเกิดที่จังหวัดลำปางเพราะว่าแม่ท่านแก่มากแล้ว ตั้งแต่ 9 มีนาคม 2551 ด้วยหวังว่าจะไปทำอะไรเล็กๆน้อยๆที่ตนเองทำได้ กอปรกับเห็นว่าตัวเองก็อายุมากพอสมควร เรื่องเนื้อคู่ก็คิดว่าคงจะไม่มีแล้วเพราะดูดวงตนเองก็เห็นว่ามันผ่านพ้นไปแล้วและไม่ได้พบคนที่ตามหา และคิดว่าภาพที่จำได้นั้นคงจะเป็นเพราะตัวเองวิปลาศไปเอง รู้สึกเสียใจที่นำชีวิตไปผูกพันกับเรื่องภพชาติจนเป็นเหตุให้ชีวิตล้มลุกคลุกคลาน อายุสี่สิบห้าแล้วยังไม่เป็นโล้เป็นพาย
 
ระหว่างที่อยู่ที่บ้านที่ลำปาง เรื่องที่หวังว่าจะได้ก็ทำไม่ได้อีก เพราะติดขัดเรื่องการสื่อสารขอคู่สายโทรศัพท์แล้วไม่มีให้เพราะชุมสายเต็ม หางานทำก็ไม่ได้ สี่เดือนผ่านไป จึงโทรศัพท์หารุ่นน้องที่ทำงานกับนายจ้างเก่าที่เคยทำที่กรุงเทพฯและเป็นผู้จัดการฝ่ายเอ็ชอาร์ให้ช่วยหางานให้ และตั้งใจไว้ว่าจะไม่เข้ามาแบบเคว้งคว้างอีกได้งานแน่นอนค่อยกลับเข้ากรุงเทพฯใหม่
 
ช่วงปลายเดือนกรกฎาคมคาบเกี่ยวกับต้นเดือนสิงหาคม อยู่ดีๆฝ่าเท้าก็เป็นแผลเหมือนโดนกรดกัด แต่ก็ไม่เคยเห็นนะว่าแผลที่โดนกรดกัดเป็นยังไง คิดเอาเอง เพราะหนังมันหลุดไปเห็นเนื้อแดงๆ เหยียบพื้นที่บ้านไม่ได้ เหยียบมากก็เป็นมากเหยียบน้อยก็เป็นน้อย อยู่บ้านต้องเอาถุงพลาสติกใส่ของหรือถุงก็อบแก็บสวมเท้าไว้ ต้องใช้วาสลินเจลโปะเพื่อกันเสียดสีที่เนื้อแดงๆเพราะมันเจ็บ เป็นอยู่นานเกือบ 3 สัปดาห์ แรกๆผมคิดว่าพื้นบ้านคงมีสภาพเป็นกรด แต่ก็มาคิดได้ว่าพ่อกับแม่ไม่เป็นไร และถ้าพื้นบ้านมีสภาพเป็นกรดจริง ตั้งแต่เดือนที่หนึ่งถึงเดือนที่สี่ผมไม่เป็น ทำไมต้องมารอจนถึงเดือนที่ห้าถึงเป็น ไม่น่าเป็นไปได้ที่ผิวหนังคนเราจะทนทานได้นานขนาดนั้น และทุกวันก็ใช้ชีวิตเหมือนเดิมไม่ได้ทำอะไรที่ผิดไปจากวันแรกที่กลับมาอยู่ แล้วผมก็ฉุกคิดขึ้นได้ว่า " หรือเบื้องบนท่านให้ออกจากบ้าน ไม่ให้อยู่ที่บ้านแล้ว  "
 
นี่เป็นครั้งแรกที่ผมมีสำนึกถึงเบื้องบน ผมเลยตัดสินใจออกจากบ้าน โดยมีเสื้อผ้าใส่กระเป๋าใบเดียวและกระเป๋าใส่เอกสารเท่านั้น ออกมาแบบผจญภัยกันเลย ผมนั่งรถมาลงที่กำแพงเพชรกะว่าจะหางานทำที่นั่น แต่พอลงแล้วดูเมืองเล็กๆคิดว่าไม่น่าจะหางานทำได้ จึงขึ้นรถเข้ากรุงเทพฯในคืนนั้นเอง...

มาถึงกรุงเทพฯ แล้วอีกวันหลังจากนั้นแผลที่ฝ่าเท้าก็หายสนิท


 emo48:)

แปลกดีนะก้านเล่าอีกดิ  อย่าน้อยใจว่าชีวิตไม่เป็นโล๊เป็นพายยังมีอีกหลายชีวิตนะก้าน
ที่แย่กว่าที่ก้านเล่ามาอีกจ่ะ  อ้อยรู้จักชายคนหนึ่งหน้าที่การงานก็ดีรูปร่างหน้าตาก็ใช้ได้
ตอนนี้จะ50แล้วเขาก็ยังไม่มีคู่จ่ะบางทีการอยู่คนเดียวก็มีสุขอีกแบบนะก้าน
ไม่ต้องมีใครเป็นเจ้าชีวิตของเราหรือก้านไม่ชอบอย่างนี้แหละที่เขาเรียกคนในอยากออกคนนอกอยากเข้า
ก้านลองทำบุญด้วยข้าวต้มมัดซิ(ทำเป็นมัดๆเลยนะอย่าแกะไม้ที่พันออก)มีคนแนะนำอ้อยมาอีกที


หัวข้อ: Re: มหากาพย์ ความรัก และ ชาติภพ
เริ่มหัวข้อโดย: Lamai ที่ 16 กรกฎาคม 2552, 21:46:37
ชื่อกระทู้ดูยิ่งใหญ่อลังการจังเลยค่ะก้าน emo4:)) emo4:))


หัวข้อ: Re: มหากาพย์ ความรัก และ ชาติภพ
เริ่มหัวข้อโดย: swsm ที่ 16 กรกฎาคม 2552, 21:50:13
รอฟังต่อค่ะก้าน ..


หัวข้อ: Re: มหากาพย์ ความรัก และ ชาติภพ
เริ่มหัวข้อโดย: พธู ๒๕๒๔ ที่ 16 กรกฎาคม 2552, 21:52:16
อ้างถึง
ข้อความของ Kaimook เมื่อ 16 กรกฎาคม 2552, 21:41:14
อ้างถึง
ข้อความของ Q??? เมื่อ 16 กรกฎาคม 2552, 18:47:31
 
อ้างถึง   

ให้ออกจากบ้าน
: กรกฎาคม - สิงหาคม 2551
 
ผมตัดสินใจกลับไปอยู่ที่บ้านเกิดที่จังหวัดลำปางเพราะว่าแม่ท่านแก่มากแล้ว ตั้งแต่ 9 มีนาคม 2551 ด้วยหวังว่าจะไปทำอะไรเล็กๆน้อยๆที่ตนเองทำได้ กอปรกับเห็นว่าตัวเองก็อายุมากพอสมควร เรื่องเนื้อคู่ก็คิดว่าคงจะไม่มีแล้วเพราะดูดวงตนเองก็เห็นว่ามันผ่านพ้นไปแล้วและไม่ได้พบคนที่ตามหา และคิดว่าภาพที่จำได้นั้นคงจะเป็นเพราะตัวเองวิปลาศไปเอง รู้สึกเสียใจที่นำชีวิตไปผูกพันกับเรื่องภพชาติจนเป็นเหตุให้ชีวิตล้มลุกคลุกคลาน อายุสี่สิบห้าแล้วยังไม่เป็นโล้เป็นพาย
 
ระหว่างที่อยู่ที่บ้านที่ลำปาง เรื่องที่หวังว่าจะได้ก็ทำไม่ได้อีก เพราะติดขัดเรื่องการสื่อสารขอคู่สายโทรศัพท์แล้วไม่มีให้เพราะชุมสายเต็ม หางานทำก็ไม่ได้ สี่เดือนผ่านไป จึงโทรศัพท์หารุ่นน้องที่ทำงานกับนายจ้างเก่าที่เคยทำที่กรุงเทพฯและเป็นผู้จัดการฝ่ายเอ็ชอาร์ให้ช่วยหางานให้ และตั้งใจไว้ว่าจะไม่เข้ามาแบบเคว้งคว้างอีกได้งานแน่นอนค่อยกลับเข้ากรุงเทพฯใหม่
 
ช่วงปลายเดือนกรกฎาคมคาบเกี่ยวกับต้นเดือนสิงหาคม อยู่ดีๆฝ่าเท้าก็เป็นแผลเหมือนโดนกรดกัด แต่ก็ไม่เคยเห็นนะว่าแผลที่โดนกรดกัดเป็นยังไง คิดเอาเอง เพราะหนังมันหลุดไปเห็นเนื้อแดงๆ เหยียบพื้นที่บ้านไม่ได้ เหยียบมากก็เป็นมากเหยียบน้อยก็เป็นน้อย อยู่บ้านต้องเอาถุงพลาสติกใส่ของหรือถุงก็อบแก็บสวมเท้าไว้ ต้องใช้วาสลินเจลโปะเพื่อกันเสียดสีที่เนื้อแดงๆเพราะมันเจ็บ เป็นอยู่นานเกือบ 3 สัปดาห์ แรกๆผมคิดว่าพื้นบ้านคงมีสภาพเป็นกรด แต่ก็มาคิดได้ว่าพ่อกับแม่ไม่เป็นไร และถ้าพื้นบ้านมีสภาพเป็นกรดจริง ตั้งแต่เดือนที่หนึ่งถึงเดือนที่สี่ผมไม่เป็น ทำไมต้องมารอจนถึงเดือนที่ห้าถึงเป็น ไม่น่าเป็นไปได้ที่ผิวหนังคนเราจะทนทานได้นานขนาดนั้น และทุกวันก็ใช้ชีวิตเหมือนเดิมไม่ได้ทำอะไรที่ผิดไปจากวันแรกที่กลับมาอยู่ แล้วผมก็ฉุกคิดขึ้นได้ว่า " หรือเบื้องบนท่านให้ออกจากบ้าน ไม่ให้อยู่ที่บ้านแล้ว  "
 
นี่เป็นครั้งแรกที่ผมมีสำนึกถึงเบื้องบน ผมเลยตัดสินใจออกจากบ้าน โดยมีเสื้อผ้าใส่กระเป๋าใบเดียวและกระเป๋าใส่เอกสารเท่านั้น ออกมาแบบผจญภัยกันเลย ผมนั่งรถมาลงที่กำแพงเพชรกะว่าจะหางานทำที่นั่น แต่พอลงแล้วดูเมืองเล็กๆคิดว่าไม่น่าจะหางานทำได้ จึงขึ้นรถเข้ากรุงเทพฯในคืนนั้นเอง...

มาถึงกรุงเทพฯ แล้วอีกวันหลังจากนั้นแผลที่ฝ่าเท้าก็หายสนิท


 emo48:)

แปลกดีนะก้านเล่าอีกดิ  อย่าน้อยใจว่าชีวิตไม่เป็นโล๊เป็นพายยังมีอีกหลายชีวิตนะก้าน
ที่แย่กว่าที่ก้านเล่ามาอีกจ่ะ  อ้อยรู้จักชายคนหนึ่งหน้าที่การงานก็ดีรูปร่างหน้าตาก็ใช้ได้
ตอนนี้จะ50แล้วเขาก็ยังไม่มีคู่จ่ะบางทีการอยู่คนเดียวก็มีสุขอีกแบบนะก้าน
ไม่ต้องมีใครเป็นเจ้าชีวิตของเราหรือก้านไม่ชอบอย่างนี้แหละที่เขาเรียกคนในอยากออกคนนอกอยากเข้า
ก้านลองทำบุญด้วยข้าวต้มมัดซิ(ทำเป็นมัดๆเลยนะอย่าแกะไม้ที่พันออก)มีคนแนะนำอ้อยมาอีกที

เราก็รู้จัก หน้าตาดีแต่ไม่มีเมีย  รุ้สึกจะรุ่น 12-13นี่เเหละ



หัวข้อ: Re: มหากาพย์ ความรัก และ ชาติภพ
เริ่มหัวข้อโดย: khesorn mueller ที่ 16 กรกฎาคม 2552, 22:02:01
พี่ก้าน,
ช่วงนั้นพี่มี contactกะเพื่อนๆหรือใครๆที่พี่สนิทมั้ยคะ?
การเป็นโสด ไม่ไช่สาเหตุของความเงียบเหงาเสมอไป
หากพี่มี social contactด้านอื่นๆมาเป็นสิ่งทดแทน.


nn.24+3


หัวข้อ: Re: มหากาพย์ ความรัก และ ชาติภพ
เริ่มหัวข้อโดย: swsm ที่ 16 กรกฎาคม 2552, 22:47:32
อ้างถึง
ข้อความของ patooman24 เมื่อ 16 กรกฎาคม 2552, 21:52:16
อ้างถึง
ข้อความของ Kaimook เมื่อ 16 กรกฎาคม 2552, 21:41:14
แปลกดีนะก้านเล่าอีกดิ  อย่าน้อยใจว่าชีวิตไม่เป็นโล๊เป็นพายยังมีอีกหลายชีวิตนะก้าน
ที่แย่กว่าที่ก้านเล่ามาอีกจ่ะ  อ้อยรู้จักชายคนหนึ่งหน้าที่การงานก็ดีรูปร่างหน้าตาก็ใช้ได้
ตอนนี้จะ50แล้วเขาก็ยังไม่มีคู่จ่ะบางทีการอยู่คนเดียวก็มีสุขอีกแบบนะก้าน
ไม่ต้องมีใครเป็นเจ้าชีวิตของเราหรือก้านไม่ชอบอย่างนี้แหละที่เขาเรียกคนในอยากออกคนนอกอยากเข้า
ก้านลองทำบุญด้วยข้าวต้มมัดซิ (ทำเป็นมัด ๆ เลยนะอย่าแกะไม้ที่พันออก )มีคนแนะนำอ้อยมาอีกที

เราก็รู้จัก หน้าตาดีแต่ไม่มีเมีย  รุ้สึกจะรุ่น 12-13 นี่เเหละ


พี่ป๋องขรา .. เชิญแวะมาอ่านห้องนี้ด้วยค่ะ
เนื้อเรื่องน่าติดตามมากเลย ..

[บ่าง เริ่มทำหน้าที่ .. ทันที]
  emo20:)):)


หัวข้อ: Re: มหากาพย์ ความรัก และ ชาติภพ
เริ่มหัวข้อโดย: SC (ก้าน 24) ที่ 17 กรกฎาคม 2552, 17:38:48
อ้างถึง
ข้อความของ Lamai เมื่อ 16 กรกฎาคม 2552, 21:46:37
ชื่อกระทู้ดูยิ่งใหญ่อลังการจังเลยค่ะก้าน emo4:)) emo4:))

อืม ก็มันยาวนานมากนี่ไม ตั้ง 18 ปีกว่าที่เราจะรู้สำนึกเกี่ยวกับเบื้องบน ครั้งแรกที่เหยียบกรุงเทพฯก็ปี 2523 นี่ก็ 29 ปีผ่านแล้วนะ หุหุ...

 emo48:)


หัวข้อ: Re: มหากาพย์ ความรัก และ ชาติภพ
เริ่มหัวข้อโดย: SC (ก้าน 24) ที่ 17 กรกฎาคม 2552, 17:41:31
อ้างถึง
ข้อความของ Kaimook เมื่อ 16 กรกฎาคม 2552, 21:41:14
อ้างถึง
ข้อความของ Q??? เมื่อ 16 กรกฎาคม 2552, 18:47:31
 
อ้างถึง   

ให้ออกจากบ้าน
: กรกฎาคม - สิงหาคม 2551
 
ผมตัดสินใจกลับไปอยู่ที่บ้านเกิดที่จังหวัดลำปางเพราะว่าแม่ท่านแก่มากแล้ว ตั้งแต่ 9 มีนาคม 2551 ด้วยหวังว่าจะไปทำอะไรเล็กๆน้อยๆที่ตนเองทำได้ กอปรกับเห็นว่าตัวเองก็อายุมากพอสมควร เรื่องเนื้อคู่ก็คิดว่าคงจะไม่มีแล้วเพราะดูดวงตนเองก็เห็นว่ามันผ่านพ้นไปแล้วและไม่ได้พบคนที่ตามหา และคิดว่าภาพที่จำได้นั้นคงจะเป็นเพราะตัวเองวิปลาศไปเอง รู้สึกเสียใจที่นำชีวิตไปผูกพันกับเรื่องภพชาติจนเป็นเหตุให้ชีวิตล้มลุกคลุกคลาน อายุสี่สิบห้าแล้วยังไม่เป็นโล้เป็นพาย
 
ระหว่างที่อยู่ที่บ้านที่ลำปาง เรื่องที่หวังว่าจะได้ก็ทำไม่ได้อีก เพราะติดขัดเรื่องการสื่อสารขอคู่สายโทรศัพท์แล้วไม่มีให้เพราะชุมสายเต็ม หางานทำก็ไม่ได้ สี่เดือนผ่านไป จึงโทรศัพท์หารุ่นน้องที่ทำงานกับนายจ้างเก่าที่เคยทำที่กรุงเทพฯและเป็นผู้จัดการฝ่ายเอ็ชอาร์ให้ช่วยหางานให้ และตั้งใจไว้ว่าจะไม่เข้ามาแบบเคว้งคว้างอีกได้งานแน่นอนค่อยกลับเข้ากรุงเทพฯใหม่
 
ช่วงปลายเดือนกรกฎาคมคาบเกี่ยวกับต้นเดือนสิงหาคม อยู่ดีๆฝ่าเท้าก็เป็นแผลเหมือนโดนกรดกัด แต่ก็ไม่เคยเห็นนะว่าแผลที่โดนกรดกัดเป็นยังไง คิดเอาเอง เพราะหนังมันหลุดไปเห็นเนื้อแดงๆ เหยียบพื้นที่บ้านไม่ได้ เหยียบมากก็เป็นมากเหยียบน้อยก็เป็นน้อย อยู่บ้านต้องเอาถุงพลาสติกใส่ของหรือถุงก็อบแก็บสวมเท้าไว้ ต้องใช้วาสลินเจลโปะเพื่อกันเสียดสีที่เนื้อแดงๆเพราะมันเจ็บ เป็นอยู่นานเกือบ 3 สัปดาห์ แรกๆผมคิดว่าพื้นบ้านคงมีสภาพเป็นกรด แต่ก็มาคิดได้ว่าพ่อกับแม่ไม่เป็นไร และถ้าพื้นบ้านมีสภาพเป็นกรดจริง ตั้งแต่เดือนที่หนึ่งถึงเดือนที่สี่ผมไม่เป็น ทำไมต้องมารอจนถึงเดือนที่ห้าถึงเป็น ไม่น่าเป็นไปได้ที่ผิวหนังคนเราจะทนทานได้นานขนาดนั้น และทุกวันก็ใช้ชีวิตเหมือนเดิมไม่ได้ทำอะไรที่ผิดไปจากวันแรกที่กลับมาอยู่ แล้วผมก็ฉุกคิดขึ้นได้ว่า " หรือเบื้องบนท่านให้ออกจากบ้าน ไม่ให้อยู่ที่บ้านแล้ว  "
 
นี่เป็นครั้งแรกที่ผมมีสำนึกถึงเบื้องบน ผมเลยตัดสินใจออกจากบ้าน โดยมีเสื้อผ้าใส่กระเป๋าใบเดียวและกระเป๋าใส่เอกสารเท่านั้น ออกมาแบบผจญภัยกันเลย ผมนั่งรถมาลงที่กำแพงเพชรกะว่าจะหางานทำที่นั่น แต่พอลงแล้วดูเมืองเล็กๆคิดว่าไม่น่าจะหางานทำได้ จึงขึ้นรถเข้ากรุงเทพฯในคืนนั้นเอง...

มาถึงกรุงเทพฯ แล้วอีกวันหลังจากนั้นแผลที่ฝ่าเท้าก็หายสนิท


 emo48:)

แปลกดีนะก้านเล่าอีกดิ  อย่าน้อยใจว่าชีวิตไม่เป็นโล๊เป็นพายยังมีอีกหลายชีวิตนะก้าน
ที่แย่กว่าที่ก้านเล่ามาอีกจ่ะ  อ้อยรู้จักชายคนหนึ่งหน้าที่การงานก็ดีรูปร่างหน้าตาก็ใช้ได้
ตอนนี้จะ50แล้วเขาก็ยังไม่มีคู่จ่ะบางทีการอยู่คนเดียวก็มีสุขอีกแบบนะก้าน
ไม่ต้องมีใครเป็นเจ้าชีวิตของเราหรือก้านไม่ชอบอย่างนี้แหละที่เขาเรียกคนในอยากออกคนนอกอยากเข้า
ก้านลองทำบุญด้วยข้าวต้มมัดซิ(ทำเป็นมัดๆเลยนะอย่าแกะไม้ที่พันออก)มีคนแนะนำอ้อยมาอีกที


ขอบใจมากจ๊ะอ้อย แต่มีคนบอกว่าเวลาทานข้าว ช้อมกับส้อมต้องถูกคู่กัน จะได้ไม่ร้างคู่

 emo48:)


หัวข้อ: Re: มหากาพย์ ความรัก และ ชาติภพ
เริ่มหัวข้อโดย: SC (ก้าน 24) ที่ 17 กรกฎาคม 2552, 17:44:38
อ้างถึง
ข้อความของ swsm เมื่อ 16 กรกฎาคม 2552, 21:50:13
รอฟังต่อค่ะก้าน ..

ครับพี่ อีกตอนก็จะจบเกี่ยวกับเบื้องบนแล้ว ที่จริงมีอีก 2 ตอนแต่อีกตอนไม่กล้าเล่าอาย

 emo2:)


หัวข้อ: Re: มหากาพย์ ความรัก และ ชาติภพ
เริ่มหัวข้อโดย: SC (ก้าน 24) ที่ 17 กรกฎาคม 2552, 17:52:00
 
อ้างถึง   

ให้ตามที่พ้อ
 : 1-2 พฤศจิกายน 2548
 
วันที่ 1 พฤศจิกายน 2548 วันออกสลากกินแบ่งรัฐบาล วันนั้นผมไม่ได้ลุ้นเพราะไม่มีเงินจะซื้อ ขณะที่เดินทางกลับที่พักผมลงรถเมล์ที่ป้ายหน้าตลาดสี่มุมเมืองเวลาประมาณเที่ยงคืน พอลงรถเสร็จก็เดินย้อนไปขึ้นสะพานลอยคนข้าม เห็นสลากกินแบ่งตกอยู่พับไว้ไม่เรียบร้อยเท่าไหร่ แต่สะอาดมากไม่มีรอยถูกเหยียบย่ำเลย เดินเลยไปประมาณ 3 - 4 ก้าว ไม่รู้นึกยังไงเลยย้อนไปเก็บขึ้นมาดู พอคลี่ดูเห็นมีอยู่ 2 คู่แต่เป็นงวดวันที่ 16 กันยายน 2548 ผมจะขยำทิ้งถังขยะแล้ว แต่ก็มาคิดตามประสาคนที่ศึกษาเพื่อเป็นนักลงทุนแต่โอกาสไม่อำนวย เพราะคนที่รู้จักผมดีที่สุดและเป็นผู้สนับสนุนผมได้เสียชีวิตลงขณะที่กำลังจะได้สัญญาบริหารเงิน (อยู่ระหว่างร่างสัญญา) ผมคิดว่าไหนๆก็เสียเวลาเดินย้อนกลับไปตั้ง 3 - 4 ก้าว เสียเวลาก้มลงเก็บ เอาไปตรวจดูคงไม่ลำบากมากนัก
 
วันรุ่งขึ้นผมก็เอาไปตรวจทางอินเตอร์เน็ท ก็พบว่าถูกรางวัลเลขท้าย 3 ตัว 124 ก็เป็นเงินแปดพันบาท ผมก็ลงจากสำนักงานเอามาขึ้นเงิน พอรับเงินเสร็จหลังจากนั้นความทรงจำของเหตุการณ์ก่อนหน้านั้นก็ผุดขึ้นมา จำได้ว่า
 
ก่อนหน้านั้นนานเท่าไหร่ไม่รู้ วันหนึ่งขณะที่ผมเดินทางเข้าซอยบ้านพี่ชายที่คบหากัน ซึ่งผมอาศัยบ้านเขานอนอยู่ วันนั้นฝนตกแต่ขณะที่ผมกลับฝนหยุดแล้วทางยังเปียกๆอยู่เวลาก็ประมาณเที่ยงคืนกว่าๆ ใกล้ถึงบ้านก็เห็นธนบัตรใบละยี่สิบบาทพับตกอยู่ ผมเก็บขึ้นมาคลี่ดูพบว่ามีอยู่ 4 ใบเป็นเงิน แปดสิบบาท ผมนึกในใจแบบไม่รู้ทำใมถึงได้พ้อว่า " น่าจะให้ซักแปดพัน  "
 
แล้วผมก็ได้ แปดพันจริงๆ


ผมคิดมาตลอดนะว่านี่ไม่ใช่เหตุบังเอิญเพราะมันมีเหตุการณ์นำหน้ามาก่อนที่จะเก็บสลากกินแบ่งที่ถูกรางวัลได้ และเหตุการณ์นำแบบนี้ผมมักจะจำมันไม่ได้จนกว่าจะเกิดเหตุการณ์ต่อเนื่อง ผมถึงจะจำมันได้ และจะจำมันได้แบบไม่ลืมอีกเลย

 emo48:)


หัวข้อ: Re: มหากาพย์ ความรัก และ ชาติภพ
เริ่มหัวข้อโดย: Kaimook ที่ 19 กรกฎาคม 2552, 17:05:45
อ้างถึง
ข้อความของ Q??? เมื่อ 17 กรกฎาคม 2552, 17:52:00
 
อ้างถึง   

ให้ตามที่พ้อ
 : 1-2 พฤศจิกายน 2548
 
วันที่ 1 พฤศจิกายน 2548 วันออกสลากกินแบ่งรัฐบาล วันนั้นผมไม่ได้ลุ้นเพราะไม่มีเงินจะซื้อ ขณะที่เดินทางกลับที่พักผมลงรถเมล์ที่ป้ายหน้าตลาดสี่มุมเมืองเวลาประมาณเที่ยงคืน พอลงรถเสร็จก็เดินย้อนไปขึ้นสะพานลอยคนข้าม เห็นสลากกินแบ่งตกอยู่พับไว้ไม่เรียบร้อยเท่าไหร่ แต่สะอาดมากไม่มีรอยถูกเหยียบย่ำเลย เดินเลยไปประมาณ 3 - 4 ก้าว ไม่รู้นึกยังไงเลยย้อนไปเก็บขึ้นมาดู พอคลี่ดูเห็นมีอยู่ 2 คู่แต่เป็นงวดวันที่ 16 กันยายน 2548 ผมจะขยำทิ้งถังขยะแล้ว แต่ก็มาคิดตามประสาคนที่ศึกษาเพื่อเป็นนักลงทุนแต่โอกาสไม่อำนวย เพราะคนที่รู้จักผมดีที่สุดและเป็นผู้สนับสนุนผมได้เสียชีวิตลงขณะที่กำลังจะได้สัญญาบริหารเงิน (อยู่ระหว่างร่างสัญญา) ผมคิดว่าไหนๆก็เสียเวลาเดินย้อนกลับไปตั้ง 3 - 4 ก้าว เสียเวลาก้มลงเก็บ เอาไปตรวจดูคงไม่ลำบากมากนัก
 
วันรุ่งขึ้นผมก็เอาไปตรวจทางอินเตอร์เน็ท ก็พบว่าถูกรางวัลเลขท้าย 3 ตัว 124 ก็เป็นเงินแปดพันบาท ผมก็ลงจากสำนักงานเอามาขึ้นเงิน พอรับเงินเสร็จหลังจากนั้นความทรงจำของเหตุการณ์ก่อนหน้านั้นก็ผุดขึ้นมา จำได้ว่า
 
ก่อนหน้านั้นนานเท่าไหร่ไม่รู้ วันหนึ่งขณะที่ผมเดินทางเข้าซอยบ้านพี่ชายที่คบหากัน ซึ่งผมอาศัยบ้านเขานอนอยู่ วันนั้นฝนตกแต่ขณะที่ผมกลับฝนหยุดแล้วทางยังเปียกๆอยู่เวลาก็ประมาณเที่ยงคืนกว่าๆ ใกล้ถึงบ้านก็เห็นธนบัตรใบละยี่สิบบาทพับตกอยู่ ผมเก็บขึ้นมาคลี่ดูพบว่ามีอยู่ 4 ใบเป็นเงิน แปดสิบบาท ผมนึกในใจแบบไม่รู้ทำใมถึงได้พ้อว่า " น่าจะให้ซักแปดพัน  "
 
แล้วผมก็ได้ แปดพันจริงๆ


ผมคิดมาตลอดนะว่านี่ไม่ใช่เหตุบังเอิญเพราะมันมีเหตุการณ์นำหน้ามาก่อนที่จะเก็บสลากกินแบ่งที่ถูกรางวัลได้ และเหตุการณ์นำแบบนี้ผมมักจะจำมันไม่ได้จนกว่าจะเกิดเหตุการณ์ต่อเนื่อง ผมถึงจะจำมันได้ และจะจำมันได้แบบไม่ลืมอีกเลย

 emo48:)
ก้านทำไมไม่นึกล่ะว่าน่าจะสัก2ล้าน(แหะๆๆก็เรามันงกนี่)


หัวข้อ: Re: มหากาพย์ ความรัก และ ชาติภพ
เริ่มหัวข้อโดย: SC (ก้าน 24) ที่ 19 กรกฎาคม 2552, 20:58:24
อ้างถึง
ข้อความของ Kaimook เมื่อ 19 กรกฎาคม 2552, 17:05:45
อ้างถึง
ข้อความของ Q??? เมื่อ 17 กรกฎาคม 2552, 17:52:00
 
อ้างถึง   

ให้ตามที่พ้อ
 : 1-2 พฤศจิกายน 2548
 
วันที่ 1 พฤศจิกายน 2548 วันออกสลากกินแบ่งรัฐบาล วันนั้นผมไม่ได้ลุ้นเพราะไม่มีเงินจะซื้อ ขณะที่เดินทางกลับที่พักผมลงรถเมล์ที่ป้ายหน้าตลาดสี่มุมเมืองเวลาประมาณเที่ยงคืน พอลงรถเสร็จก็เดินย้อนไปขึ้นสะพานลอยคนข้าม เห็นสลากกินแบ่งตกอยู่พับไว้ไม่เรียบร้อยเท่าไหร่ แต่สะอาดมากไม่มีรอยถูกเหยียบย่ำเลย เดินเลยไปประมาณ 3 - 4 ก้าว ไม่รู้นึกยังไงเลยย้อนไปเก็บขึ้นมาดู พอคลี่ดูเห็นมีอยู่ 2 คู่แต่เป็นงวดวันที่ 16 กันยายน 2548 ผมจะขยำทิ้งถังขยะแล้ว แต่ก็มาคิดตามประสาคนที่ศึกษาเพื่อเป็นนักลงทุนแต่โอกาสไม่อำนวย เพราะคนที่รู้จักผมดีที่สุดและเป็นผู้สนับสนุนผมได้เสียชีวิตลงขณะที่กำลังจะได้สัญญาบริหารเงิน (อยู่ระหว่างร่างสัญญา) ผมคิดว่าไหนๆก็เสียเวลาเดินย้อนกลับไปตั้ง 3 - 4 ก้าว เสียเวลาก้มลงเก็บ เอาไปตรวจดูคงไม่ลำบากมากนัก
 
วันรุ่งขึ้นผมก็เอาไปตรวจทางอินเตอร์เน็ท ก็พบว่าถูกรางวัลเลขท้าย 3 ตัว 124 ก็เป็นเงินแปดพันบาท ผมก็ลงจากสำนักงานเอามาขึ้นเงิน พอรับเงินเสร็จหลังจากนั้นความทรงจำของเหตุการณ์ก่อนหน้านั้นก็ผุดขึ้นมา จำได้ว่า
 
ก่อนหน้านั้นนานเท่าไหร่ไม่รู้ วันหนึ่งขณะที่ผมเดินทางเข้าซอยบ้านพี่ชายที่คบหากัน ซึ่งผมอาศัยบ้านเขานอนอยู่ วันนั้นฝนตกแต่ขณะที่ผมกลับฝนหยุดแล้วทางยังเปียกๆอยู่เวลาก็ประมาณเที่ยงคืนกว่าๆ ใกล้ถึงบ้านก็เห็นธนบัตรใบละยี่สิบบาทพับตกอยู่ ผมเก็บขึ้นมาคลี่ดูพบว่ามีอยู่ 4 ใบเป็นเงิน แปดสิบบาท ผมนึกในใจแบบไม่รู้ทำใมถึงได้พ้อว่า " น่าจะให้ซักแปดพัน  "
 
แล้วผมก็ได้ แปดพันจริงๆ


ผมคิดมาตลอดนะว่านี่ไม่ใช่เหตุบังเอิญเพราะมันมีเหตุการณ์นำหน้ามาก่อนที่จะเก็บสลากกินแบ่งที่ถูกรางวัลได้ และเหตุการณ์นำแบบนี้ผมมักจะจำมันไม่ได้จนกว่าจะเกิดเหตุการณ์ต่อเนื่อง ผมถึงจะจำมันได้ และจะจำมันได้แบบไม่ลืมอีกเลย

 emo48:)
ก้านทำไมไม่นึกล่ะว่าน่าจะสัก2ล้าน(แหะๆๆก็เรามันงกนี่)


คงจะได้หรอกนะ 2 ล้าน ที่ท่านให้นะเพราะมันไม่ทำให้รวยจนพ้นไปจากวิถีทางที่ต้องเป็น ท่านไม่ให้เราตาย แต่ท่านก็ไม่ให้เรารวย เพราะเราต้องได้พบกับคนๆหนึ่งที่เราหา เพื่อพิสูจน์อะไรบางอย่าง เพราะมีหลายครั้งที่เราต้องล้มเหลวอย่างเหลือเชื่อ

 emo:(


หัวข้อ: Re: มหากาพย์ ความรัก และ ชาติภพ
เริ่มหัวข้อโดย: SC (ก้าน 24) ที่ 19 กรกฎาคม 2552, 21:06:14
 
อ้างถึง   

7 ดาวเหนือ
 : พฤษภาคม - 19 สิงหาคม 2551
 
ผมเข้ามาอยู่กรุงเทพฯตั้งแต่ 20 สิงหาคม 2551 จนกระทั่งวันหนึ่งในช่วงหลังสงกรานต์ถึงวันที่ 26 พฤษภาคม 2552 คืนวันนั้นเมื่อผมนึกถึง 6 หญิงที่สุดแสนประทับใจในชีวิต ผมก็จำได้ถึงเหตุการณ์ย้อนหลังไปเมื่อปี 2551 ขณะที่ผมอยู่ที่บ้านแม่ที่ลำปาง
 
วันนั้นหลังจากอาบน้ำเสร็จประมาณ 5 ทุ่ม ผมเข้าห้องนอนปิดไฟมองออกไปนอกหน้าต่างเห็นเป็นคืนเดือนมืดท้องฟ้าโปร่ง ผมนึกอยากจะมองดูดาว เพราะอยู่กรุงเทพฯไม่เคยได้ดู ผมเลยมุดหัวออกนอกหน้าต่างแหงนมองดูท้องฟ้า แล้วผมก็ต้องประหลาดใจมากที่ผมเห็นดาวเหนือเจ็ดดวง และมันลอยต่ำกว่าดวงดาวทั้งหมด ผมถึงกับพูดในใจ " เฮ้ย ทำไมดาวเหนือมันอยู่ต่ำขนาดนี้วะ  " ผมมองอยู่นานด้วยความฉงน มันก็ยังอยู่ที่เดิม จนผมเมื่อยคอเลยมุดหัวกลับเข้ามา ล้มตัวลงนอนแล้วผมก็ลืมมันไป
 
ตอนที่ผมนึกถึง 6 หญิงที่สุดแสนประทับใจ ผมก็จำได้ว่า ตอนที่ผมเห็นดาวเหนือผมกำลังเขียนถึงเรื่องราวของพวกเธอทั้งหกทำเว็บไซต์บนโปรแกรม ช่วงที่นึกได้นั้น ผมคิดว่า ดาวเหนือมีทั้งหมด 6 ดวง หรือว่าผมจะมีหญิงที่สุดแสนประทับใจคนที่ 7 ผมเลยเรียก 6 หญิงที่สุดแสนประทับใจเสียใหม่ว่า หกยอดหญิงดาวเหนือ
 
(http://bbznet.pukpik.com/images/upload2/lover/yUah20090719212350.jpg)

อย่างไรก็ตามผมก็อยากรู้ว่าดาวเหนือจริงนะมันเป็นยังไงก็เลยได้สืบค้นดู ก็เลยได้ความว่า ดาวเหนือ (Polaris) ซึ่งเป็นดาวฤกษ์ที่สว่างที่สุดในกลุ่มดาวหมีเล็ก (Ursa Minor) ซึ่งคือตำแหน่งหาง แต่การจะดูมันก็ต้องรู้องศา ไม่ใช่มุดหัวออกนอกหน้าต่างแล้วเห็นเลย แถมแต่ละดวงยังดูใหญ่กว่าดาวทุกดวง นั่นแสดงว่าดาวเหนือที่ผมเห็นไม่ใช่ดาวเหนือจริงๆ แต่เป็นนิมิต
 
แต่ถ้าเป็นนิมิต มันก็ไม่สมเหตุผลถ้านิมิตนั้นแสดงเพื่อบ่งบอกแค่ กาม (ในความหมายดังเดิม) มันน่าจะบ่งบอกอะไรมากกว่านั้น เคยพูดเล่นๆกับน้องคนหนึ่งว่า " พี่รู้แล้วว่าเบื้องบนพี่ท่านคือใคร " น้องคนนั้นก็รู้ทันมุกตอบกลับทันทีว่า " เทพเจ้าดาวเหนือหรือพี่  พีคงจะอ่านการ์ตูน ฤทธิ์หมัดเทพเจ้าดาวเหนือมากไป " นั่นนะสิ ไม่เคยได้ยินว่ามีเทพเจ้าดาวเหนือนี้มาก่อนเลยจริงๆ
 
นี่จึงยังเป็นปริศนาที่หาคำตอบไม่ได้ และผมก็ไม่รู้เลยว่าเบื้องบนท่านคือเทพเจ้าองค์ใด
 

พึงสังเกตว่า เรื่องที่ผมเล่าไม่สามารถอ้างอิงวันเดือนปีที่แน่นอนได้เลย เพราะผมไม่เคยคิดว่ามันจะสำคัญในอนาคต หรือมีเหตุการณ์ต่อเนื่องติดตามมา

 emo48:)


หัวข้อ: Re: มหากาพย์ ความรัก และ ชาติภพ
เริ่มหัวข้อโดย: Kaimook ที่ 19 กรกฎาคม 2552, 22:21:05
น่าติดตามจริงๆค่ะก้าน


หัวข้อ: Re: มหากาพย์ ความรัก และ ชาติภพ
เริ่มหัวข้อโดย: swsm ที่ 19 กรกฎาคม 2552, 23:30:23
ต่อค่ะ ก้าน .. สนุกดี


หัวข้อ: Re: มหากาพย์ ความรัก และ ชาติภพ
เริ่มหัวข้อโดย: SC (ก้าน 24) ที่ 20 กรกฎาคม 2552, 19:08:12
อ้างถึง
ข้อความของ swsm เมื่อ 19 กรกฎาคม 2552, 23:30:23
ต่อค่ะ ก้าน .. สนุกดี

ครับผู้อ่านสนุก แต่เรื่องราวทั้งหมดมันรันทดครับพี่ 22 ปีที่ผ่านมาชีวิตของผมเป็นเหมือนดังคำทำนายไพ่ทาโรต์ใบที่ XII - The Hangman

(http://www.artofdivination.com/tarot/_lame/lama12.jpg)


 emo:(



หัวข้อ: Re: มหากาพย์ ความรัก และ ชาติภพ
เริ่มหัวข้อโดย: SC (ก้าน 24) ที่ 20 กรกฎาคม 2552, 19:09:13
อ้างถึง
ข้อความของ Kaimook เมื่อ 19 กรกฎาคม 2552, 22:21:05
น่าติดตามจริงๆค่ะก้าน


ขอบคุณ จ๊ะอ้อย

 emo48:)


หัวข้อ: Re: มหากาพย์ ความรัก และ ชาติภพ
เริ่มหัวข้อโดย: SC (ก้าน 24) ที่ 20 กรกฎาคม 2552, 19:16:49
 
อ้างถึง   

บุรุษผู้มีรูปศรกลางอก 2547

 
ย้อนไปเมื่อปี 2526 - 2527 ตอนที่ยังเรียนอยู่ผมได้เล่นเพาะกาย แล้วพบว่ากล้ามเนื้ออกของผมมันไม่เบียดชิดเข้ามาเหมือนคนอื่น จากการตรวจตราดูจึงพบว่าเป็นเพราะกระดูกทรวงออกด้านล่างมันมีลักษณะเป็นเงี่ยงและข้างล่างลงมาก็เป็นร่องลึกลงไป เมื่อกล้ามเนื้อช่วงล่างไม่เบียดชิดเข้ามาในขณะที่ด้านบนจรดกัน จึงมองดูเป็นรูปลูกศร ผมเคยเรียกให้เพื่อนดูพร้อมกับทำท่าทางโพสต์กล้าม " เฮ้ยมึงเห็นอะไรหรือเปล่า? ดูซิดูนี่ " เพื่อนรูมเมทก็ยอมรับว่าเห็นเป็นรูปลูกศรจริง และยังเอาท่าทางของผมไปล้อเลียนกับเพื่อนอีกคนเป็นที่สนุกสนาน ผมก็ภูมใจบ้างลืมมันบ้าง ไม่ได้ถึงขั้นตระหนักถึงความสำคัญของมันจนกระทั่ง
 
ปี 2547 เมื่อผมตัดสินใจกลับไปใช้นามสกุลเดิมของพ่อ ผมต้องการให้ค่าตัวเลขเท่ากับที่พ่อแม่ตั้งให้ แต่ผมไม่อยากกลับไปใช้ชื่อเดิม ผมมีเวลาที่จะคิดชื่อนานพอสมควร ช่วงที่คิดหาชื่อใหม่นั้น ผมดูตัวเองในกระจกเห็นรูปลูกศรที่กลางอก ผมเลยได้ความคิดว่าชื่อผมต้องมีคำว่าศรนำหน้า เลยได้ชื่อที่มีค่าตัวเลขตรงตามที่ต้องการว่า " ศรแดง " ตั้งแต่นั้นมาเป็นช่วงเวลาที่ผมภาคภูมิใจกับลูกศรที่กลางอกของผมมาก แม้ผมจะไม่รู้ว่ามันหมายถึงอะไร ผมเลยใช้นามเรียกตัวเองว่า " บุรุษผู้มีรูปศรกลางอก  "
 
และผมก็ได้ความคิดว่า ผมจะใช้นามนี้ในการลงนามในท้ายบทบัญญัติ หรือข้อเตือนใจ เพราะผมไม่แน่ใจว่าต่อไปในอนาคตผมต้องเปลี่ยนชื่ออีกหรือไม่ และถึงแม้ชื่อจะเปลี่ยนไป แต่ " บุรุษผู้มีรูปศรกลางอก  " นี้เป็นความจริงของตัวผมนิรันดร

(http://bbznet.pukpik.com/images/upload2/lover/Qbp720090612170620.jpg)


 emo48:)


หัวข้อ: Re: มหากาพย์ ความรัก และ ชาติภพ
เริ่มหัวข้อโดย: Lamai ที่ 20 กรกฎาคม 2552, 20:47:26
อ้างถึง
ข้อความของ Q??? เมื่อ 17 กรกฎาคม 2552, 17:38:48
อ้างถึง
ข้อความของ Lamai เมื่อ 16 กรกฎาคม 2552, 21:46:37
ชื่อกระทู้ดูยิ่งใหญ่อลังการจังเลยค่ะก้าน emo4:)) emo4:))

อืม ก็มันยาวนานมากนี่ไม ตั้ง 18 ปีกว่าที่เราจะรู้สำนึกเกี่ยวกับเบื้องบน ครั้งแรกที่เหยียบกรุงเทพฯก็ปี 2523 นี่ก็ 29 ปีผ่านแล้วนะ หุหุ...

 emo48:)

น้อยคนนักที่สามารถสัมผัสเรื่องแบบนี้ emo47


หัวข้อ: Re: มหากาพย์ ความรัก และ ชาติภพ
เริ่มหัวข้อโดย: SC (ก้าน 24) ที่ 21 กรกฎาคม 2552, 11:40:16
อ้างถึง
ข้อความของ Q??? เมื่อ 07 กรกฎาคม 2552, 19:26:01
ผมเคยเห็นปานดำตามร่างกายคนที่ว่ากันว่า " มาเกิดใหม่  " หลายคน ล้วนมีลักษณะเป็นรอยนิ้วมือ บางคนเห็นลายก้นหอยชัดเจน คาดว่าจะใช้วัตถุสีดำป้าย

แต่ที่ผมยังคงไม่เข้าใจคือว่า เป็น " วิญญาณ " ที่มาเกิดใหม่ เครื่องหมายที่ทำไว้บน " ร่างอันไร้วิญญาณ  "  แต่เหตุใดรอยจึงมาปรากฏบน " ร่างที่เกิดใหม่  " ได้ ป่านนี้ยังหาคำตอบไม่ได้ ช่างน่าอัศจรรย์เหลือเกิน


 emo47

ตอนนี้ผมเข้าใจแล้วว่า ทำไมเครื่องหมายที่ทำไว้บน " ร่างอันไร้วิญญาณ  "  จึงมาปรากฏบน " ร่างที่เกิดใหม่  " ได้

ที่เป็นดังนั้นก็เพราะว่าธาตุเป็นของเขา ตาคนเรามองเห็นว่าร่างกายที่เป็นศพของเขาถูกไฟเผามอดไหม้ไป แต่ความจริงก็คือ ความร้อนทำให้พันธะระหว่างโมเลกุลของธาตุหลุดจากกันไป กระจายอยู่ในอากาศ ไม่ได้ถูกทำลาย ตามกฎวิทยาศาสตร์ที่ว่า สสารไม่สูญสลายไปไหน

เมื่อเขาไปเกิดใหม่ วิญญาณของเขาก็จะเรียกธาตุของเขาเข้าสู่ครรภ์ของแม่ผ่านอากาศที่แม่เขาหายใจเข้าไปและไปถึงเขาผ่านสายสะดือ

มีใครสามารถจำได้ถึงตอนที่ตัวเองอยู่ในครรภ์มารดาได้บ้าง? ไม่มีเลยใช่ไหม? นั่นเป็นเพราะว่า พอเราออกจากครรภ์มาดาสู่โลกภายนอก วิญญาณเราจะหลับไปเป็นจิตไร้สำนึก แล้วเราก็สั่งสมประสบการณ์จากโลกใหม่เป็นจิตสำนึกในภพปัจจุบัน ครั้นถึงเวลาที่เราตายไป วินาทีสุดท้ายจิตสำนึกและจิตไร้สำนึกจะรวมกันอีกครั้งกลายเป็นวิญญาณ และทิ้งร่างกายไป

ปัจจุบันวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีก้าวหน้าไปมากแต่ก็ยังไม่สามารถสร้างสิ่งมีชีวิตจากธาตุที่มีอยู่ได้ นั่นคือความเร้นลับของชีวิต

วิญญาณไม่ใช่ชีวิต สิ่งมีชีวิตไม่ใช่มีแค่วิญญาณ ถ้าวิญญาณคือชีวิต วิญญาณก็จะสามารถเข้าสิงศพคนตายใหม่ๆที่อยู่ในสภาพที่สมบูรณ์ แล้วลุกขึ้นมามีชีวิตต่อได้ไม่ต้องรอไปเกิดใหม่ เชื้ออสุจิของผู้ชายเวลาหลั่งออกมาแต่ละทีมีมากกว่า 20 ล้านตัว เป็นสิ่งมีชีวิตสามารถเคลื่อนแหวกว่ายได้ ถ้าชีวิตคือวิญญาณ ก็คงมีวิญญาณมากกว่า 20 ล้านวิญญาณในผู้ชายคนหนึ่งๆ

ปราณต่างหากคือชีวิต และปราณต้องสืบทอดจากสิ่งมีชีวิตไปสู่สิ่งมีชีวิตเท่านั้น วิญญาณอาศัยปราณในการอยู่ในร่างใหม่ซึ่งสร้างจากธาตุของเขา เมื่อปราณวายวิญญาณก็ไม่สามารถอยู่ในร่างกายนั้นต่อไปได้ จึงเรียกว่าตาย

วิญญาณ ปราณ และธาตุ จึงเป็นองค์ประกอบสำคัญของชีวิต ไม่มีวิญญาณ มีแต่ปราณและธาตุ ก็เป็นชีวิตที่ไม่รับรู้เรื่องราวใดหรือโคม่า วิญญาณเร่ร่อนก็ไม่สามารถเข้าสิงร่างที่มีชีวิตที่เป็นโคม่าได้ เพราะไม่ใช่ธาตุของเขา ปราณในร่างกายก็ยิ่งไม่ใช่

เมื่อวิญญาณอาศัยปราณเรียกธาตุของเขามาสร้างเป็นร่างใหม่ สิ่งที่ปรากฎบนร่างกายที่ไร้วิญญาณของเขาก่อนที่จะถูกไฟเผา จึงติดมาด้วย และปรากฎให้เห็นบนร่างใหม่...


 emo48:)



หัวข้อ: Re: มหากาพย์ ความรัก และ ชาติภพ
เริ่มหัวข้อโดย: หนุน'21 ที่ 21 กรกฎาคม 2552, 12:09:21
 emo4:))

ตามอ่านอย่าง อยากรู้อยากเห็น
น้องก้าน เล่าเรื่อง ได้อย่างน่าสนใจ น่าติดตาม
มีเหตุและผล ตามที่อ้างอิง ในแต่ละเรื่อง
หลายคนคงคิดว่าเป็นเรื่องบังเอิญ
...แต่...อะไรจะบังเอิญ...ขนาดนั้น
เล่าต่อ ๆ  คอยอยู่
ชอบ


 emo26:D


หัวข้อ: Re: มหากาพย์ ความรัก และ ชาติภพ
เริ่มหัวข้อโดย: หนุ่ม2524 ที่ 21 กรกฎาคม 2552, 15:15:54
สวัสดีครับ พี่หนุน ก้าน
แวะเข้ามาอ่านครับ


หัวข้อ: Re: มหากาพย์ ความรัก และ ชาติภพ
เริ่มหัวข้อโดย: อ้อย17 ที่ 21 กรกฎาคม 2552, 20:43:17
พี่ก็ตามอ่านด้วยใจระทึก นะน้องก้าน  เป็นอะไรที่ชอบมากกับเรื่องแบบนี้..เล่าสู่กันฟังมากๆก็ดีนะ..


หัวข้อ: Re: มหากาพย์ ความรัก และ ชาติภพ
เริ่มหัวข้อโดย: Kaimook ที่ 21 กรกฎาคม 2552, 23:24:55
หวัดดียามดึกจ่ะก้านชอบนะแต่อ่านดึกๆอย่างนี้ก็หนาวๆเหมียนกันจ่ะ
 emo4:)) emo4:)) emo4:))


หัวข้อ: Re: มหากาพย์ ความรัก และ ชาติภพ
เริ่มหัวข้อโดย: หนุน'21 ที่ 22 กรกฎาคม 2552, 07:41:21
emo4:))

หวัดดี ครับ
พี่อ้อย น้องไม น้องอ้อย
น้องหนุ่ม น้องก้าน
คราส คราวนี้
มีอะไรมาเล่ารึปล่าวครับ
รออ่านอยู่
ครับ


emo43


หัวข้อ: Re: มหากาพย์ ความรัก และ ชาติภพ
เริ่มหัวข้อโดย: อ้อย17 ที่ 22 กรกฎาคม 2552, 09:07:08
อ้างถึง
ข้อความของ หนุน'21 เมื่อ 22 กรกฎาคม 2552, 07:41:21
emo4:))

หวัดดี ครับ
พี่อ้อย น้องไม น้องอ้อย
น้องหนุ่ม น้องก้าน
คราส คราวนี้
มีอะไรมาเล่ารึปล่าวครับ
รออ่านอยู่
ครับ


emo43
  หวัดดี น้องหนุน..
    เข้ามาตรวจเว็บแต่เช้าทุกวันเลยนะ..เหมือนครูตรวจการบ้านอ๊ะเปล่า..หนุน..


หัวข้อ: Re: มหากาพย์ ความรัก และ ชาติภพ
เริ่มหัวข้อโดย: พัช 24 ที่ 22 กรกฎาคม 2552, 11:59:30
สวัสดีค่ะ คุณก้าน  พัช  อักษรค่ะ   ค่อนข้างมั่นใจว่าสมัยเป็นนิสิต  ไม่เคยได้คุยกันเลยค่ะ
แต่เข้ามาติดตามอ่านเรื่อง  สะุดุดตรงชื่อกระทู้ค่ะ  อ่านแล้วเพลินดี แต่ก็มีข้อสงสัยหลายอย่าง
เอาไว้จะเข้ามาถามนะคะ


หัวข้อ: Re: มหากาพย์ ความรัก และ ชาติภพ
เริ่มหัวข้อโดย: หนุน'21 ที่ 22 กรกฎาคม 2552, 16:23:00
อ้างถึง
ข้อความของ อ้อย17 เมื่อ 22 กรกฎาคม 2552, 09:07:08
อ้างถึง
ข้อความของ หนุน'21 เมื่อ 22 กรกฎาคม 2552, 07:41:21
emo4:))

หวัดดี ครับ
พี่อ้อย น้องไม น้องอ้อย
น้องหนุ่ม น้องก้าน
คราส คราวนี้
มีอะไรมาเล่ารึปล่าวครับ
รออ่านอยู่
ครับ


emo43
  หวัดดี น้องหนุน..
    เข้ามาตรวจเว็บแต่เช้าทุกวันเลยนะ..เหมือนครูตรวจการบ้านอ๊ะเปล่า..หนุน..

ไม่ขนาดนั้นหร็อกครับพี่
นึกว่าอาจจะได้อ่านเรื่องใหม่ๆอ่ะครับ
เลยเข้ามาดู
เผื่อฟลุค
ฮี่ ฮี่


 emo2:)


หัวข้อ: Re: มหากาพย์ ความรัก และ ชาติภพ
เริ่มหัวข้อโดย: SC (ก้าน 24) ที่ 22 กรกฎาคม 2552, 16:36:14
อ้างถึง
ข้อความของ หนุน'21 เมื่อ 22 กรกฎาคม 2552, 07:41:21
emo4:))

หวัดดี ครับ
พี่อ้อย น้องไม น้องอ้อย
น้องหนุ่ม น้องก้าน
คราส คราวนี้
มีอะไรมาเล่ารึปล่าวครับ
รออ่านอยู่
ครับ


emo43

โธ่ พี่หนุนครับ ผมไม่ใช่ระดับเกจิฯนะครับ
ประสบการณ์ส่วนตัวบางเรื่องก็บังเอิญรู้ครับ
ก็ไม่รู้ทางปรมาจารย์ด้านโหราศาตร์จะว่ายังไงบ้าง
ผมรู้อยู่แต่ว่า จันทร์บังอาทิตย์ เพราะ
อาทิตย์ จันทร์ และ พุทธ อยู่ราศีกรกฎ พบวินาศน์ของกระผม
การงานก็ติดขัด การเงินก็ขัดสน จน ถึง 15 สิงหาคมโน่น



 emo29:P: emo:(


หัวข้อ: Re: มหากาพย์ ความรัก และ ชาติภพ
เริ่มหัวข้อโดย: SC (ก้าน 24) ที่ 22 กรกฎาคม 2552, 16:39:10
อ้างถึง
ข้อความของ พัช 24 เมื่อ 22 กรกฎาคม 2552, 11:59:30
สวัสดีค่ะ คุณก้าน  พัช  อักษรค่ะ   ค่อนข้างมั่นใจว่าสมัยเป็นนิสิต  ไม่เคยได้คุยกันเลยค่ะ
แต่เข้ามาติดตามอ่านเรื่อง  สะุดุดตรงชื่อกระทู้ค่ะ  อ่านแล้วเพลินดี แต่ก็มีข้อสงสัยหลายอย่าง
เอาไว้จะเข้ามาถามนะคะ


สวัสดีครับ คุณพัชร ยินดีครับ ตอนโน้นไม่ได้คุย คุยตอนนี้ก็ได้ครับ เพราะตอนนี้มีแต่ความรู้สึกเป็นเพื่อนจริงๆ ไม่มีแอบ หุหุ

 emo48:)


หัวข้อ: Re: มหากาพย์ ความรัก และ ชาติภพ
เริ่มหัวข้อโดย: SC (ก้าน 24) ที่ 22 กรกฎาคม 2552, 17:20:38
 
อ้างถึง   

บุรุษผู้มีรูปศรกลางอก 2552

 
ผมออกจากบ้านมาทำงานเป็นรปภ.ได้เกือบ 8 เดือน นับจากที่เบื้องบนให้ออกจากบ้าน ผมก็ตระหนักในเบื้องบนเสมอมา และเฝ้าแต่ครุ่นคิดว่า " เบื้องบนท่านให้ผมออกจากบ้านมาเพื่ออะไร? " ถ้าเบื้องบนให้ผมออกจากบ้านมาเพื่อเป็นแค่รปภ. มันก็ไม่สมเหตุผล มันน่าจะมีอะไรที่ยิ่งใหญ่กว่านั้น นับตั้งแต่ผมตระหนักในเบื่องบน ผมก็ภูมิใจในรูปศรของผมมากขึ้น ด้วยความเข้าใจว่ามันเป็นสัญญลักษณ์จากเบื้องบน แต่แล้ว
 
ล่วงเข้าวันใหม่ของวันที่ 23 พฤษภาคม 2552 หลังจากที่ผมบังเกิดความรักกับสาวแถวที่ผมพักได้ไม่ถึงอาทิตย์ ผมปิดไฟเข้านอนแล้ว แต่ก็ไม่แน่ใจว่าเคลิ้มหลับไปแล้วตื่นหรือว่ายังไม่หลับ จำได้แต่ว่าเกิดอยากถ่ายรูปลูกศรที่หน้าอกตัวเองมาดู เลยลุกขึ้นมาเปิดไฟแล้วใช้กล้องมือถือถ่าย แล้วผมก็ถึงกับอึ้งเมื่อพบว่า มีรูปลูกศรถูกเขียนทับลงไปบนรูปลูกศรร่องอก

(http://bbznet.pukpik.com/images/upload2/lover/1gi720090527215719.jpg)

(http://bbznet.pukpik.com/images/upload2/lover/zUAJ20090527215924.jpg)
 
ช่วงแรกผมดีใจมาก และเข้าใจว่า ผมได้พบคนที่ผมหามานานแล้ว สิ่งที่ซ่อนเร้นถึงได้ปรากฎออกมา แต่ต่อมาผมก็คิดได้ว่า ถ้ารูปศรร่องอกนั้นเป็นสัญญลักษณ์จากเบื้องบน มันก็ไม่น่าที่จะถูกใครเขียนทับลงไปได้ เมื่อเป็นเช่นนี้น่าจะเป็นว่า เบื้องบนของผมไม่น่าจะเป็นเรื่องสำคัญที่สุด เรื่องราวที่เกี่ยวพันกับรูปลูกศรที่ถูกเขียนลงไปต่างหากที่เป็นเรื่องสำคัญที่สุด และการที่เบื้องบนท่านปกป้องคุ้มครองผมช่วงปี 2532 - 2536 นั้นก็เพื่อให้ผมได้พบกับคนเขียนรูปศร เพราะถ้าผมตายไปก่อนที่ผมจะได้พบกับคนๆนี้ มันก็จะไม่สามารถพิสูจน์อะไรได้เลย

ผมนึกย้อนไปช่วงมีนาคม 2549 - กุมภาพันธ์ 2550 ซึ่งผมได้ถ่ายรูปมาดูครั้งหนึ่ง เคยให้เพื่อนดู เพื่อนก็เห็นพ้องว่าร่องกระดูกเป็นรูปลูกศร แต่ทั้งผมและเพื่อนก็ไม่มีใครเห็นรูปลูกศรที่เขียนทับลงไป ช่วงเวลาแห่งการทบทวนความจำ ผมก็จำได้ว่า วันหนึ่งก่อนหน้าวันที่ผมจะถ่ายรูปนั้นนานเท่าไหร่จำไม่ได้ ผมรู้สึกเจ็บที่รูปศร มันเจ็บเป็นรูปศรเลย ผมถึงกับรำพึงด้วยความประหลาดใจว่า " ฮึ่ย วันนี้ทำไมเจ็บ  " เพราะว่ามันไม่เคยเจ็บแบบนั้นมาก่อนเลย นั่นแสดงว่า

รูปศรที่เขียนทับนั้น มันเพิ่งปรากฎเมื่อผมได้มีปฏิสัมพันธ์กับเธอคนนั้น!



 emo24:(



หัวข้อ: Re: มหากาพย์ ความรัก และ ชาติภพ
เริ่มหัวข้อโดย: SC (ก้าน 24) ที่ 22 กรกฎาคม 2552, 17:41:37
อ้างถึง
ข้อความของ อ้อย17 เมื่อ 21 กรกฎาคม 2552, 20:43:17
พี่ก็ตามอ่านด้วยใจระทึก นะน้องก้าน  เป็นอะไรที่ชอบมากกับเรื่องแบบนี้..เล่าสู่กันฟังมากๆก็ดีนะ..

ขอบคุณครับพี่ ที่ให้กำลังใจ

 emo48:)


หัวข้อ: Re: มหากาพย์ ความรัก และ ชาติภพ
เริ่มหัวข้อโดย: Kaimook ที่ 23 กรกฎาคม 2552, 00:00:17
อ้างถึง
ข้อความของ Q??? เมื่อ 22 กรกฎาคม 2552, 17:20:38
 
อ้างถึง   

บุรุษผู้มีรูปศรกลางอก 2552

 
ผมออกจากบ้านมาทำงานเป็นรปภ.ได้เกือบ 8 เดือน นับจากที่เบื้องบนให้ออกจากบ้าน ผมก็ตระหนักในเบื้องบนเสมอมา และเฝ้าแต่ครุ่นคิดว่า " เบื้องบนท่านให้ผมออกจากบ้านมาเพื่ออะไร? " ถ้าเบื้องบนให้ผมออกจากบ้านมาเพื่อเป็นแค่รปภ. มันก็ไม่สมเหตุผล มันน่าจะมีอะไรที่ยิ่งใหญ่กว่านั้น นับตั้งแต่ผมตระหนักในเบื่องบน ผมก็ภูมิใจในรูปศรของผมมากขึ้น ด้วยความเข้าใจว่ามันเป็นสัญญลักษณ์จากเบื้องบน แต่แล้ว
 
ล่วงเข้าวันใหม่ของวันที่ 23 พฤษภาคม 2552 หลังจากที่ผมบังเกิดความรักกับสาวแถวที่ผมพักได้ไม่ถึงอาทิตย์ ผมปิดไฟเข้านอนแล้ว แต่ก็ไม่แน่ใจว่าเคลิ้มหลับไปแล้วตื่นหรือว่ายังไม่หลับ จำได้แต่ว่าเกิดอยากถ่ายรูปลูกศรที่หน้าอกตัวเองมาดู เลยลุกขึ้นมาเปิดไฟแล้วใช้กล้องมือถือถ่าย แล้วผมก็ถึงกับอึ้งเมื่อพบว่า มีรูปลูกศรถูกเขียนทับลงไปบนรูปลูกศรร่องอก

(http://bbznet.pukpik.com/images/upload2/lover/1gi720090527215719.jpg)

(http://bbznet.pukpik.com/images/upload2/lover/zUAJ20090527215924.jpg)
 
ช่วงแรกผมดีใจมาก และเข้าใจว่า ผมได้พบคนที่ผมหามานานแล้ว สิ่งที่ซ่อนเร้นถึงได้ปรากฎออกมา แต่ต่อมาผมก็คิดได้ว่า ถ้ารูปศรร่องอกนั้นเป็นสัญญลักษณ์จากเบื้องบน มันก็ไม่น่าที่จะถูกใครเขียนทับลงไปได้ เมื่อเป็นเช่นนี้น่าจะเป็นว่า เบื้องบนของผมไม่น่าจะเป็นเรื่องสำคัญที่สุด เรื่องราวที่เกี่ยวพันกับรูปลูกศรที่ถูกเขียนลงไปต่างหากที่เป็นเรื่องสำคัญที่สุด และการที่เบื้องบนท่านปกป้องคุ้มครองผมช่วงปี 2532 - 2536 นั้นก็เพื่อให้ผมได้พบกับคนเขียนรูปศร เพราะถ้าผมตายไปก่อนที่ผมจะได้พบกับคนๆนี้ มันก็จะไม่สามารถพิสูจน์อะไรได้เลย

ผมนึกย้อนไปช่วงมีนาคม 2549 - กุมภาพันธ์ 2550 ซึ่งผมได้ถ่ายรูปมาดูครั้งหนึ่ง เคยให้เพื่อนดู เพื่อนก็เห็นพ้องว่าร่องกระดูกเป็นรูปลูกศร แต่ทั้งผมและเพื่อนก็ไม่มีใครเห็นรูปลูกศรที่เขียนทับลงไป ช่วงเวลาแห่งการทบทวนความจำ ผมก็จำได้ว่า วันหนึ่งก่อนหน้าวันที่ผมจะถ่ายรูปนั้นนานเท่าไหร่จำไม่ได้ ผมรู้สึกเจ็บที่รูปศร มันเจ็บเป็นรูปศรเลย ผมถึงกับรำพึงด้วยความประหลาดใจว่า " ฮึ่ย วันนี้ทำไมเจ็บ  " เพราะว่ามันไม่เคยเจ็บแบบนั้นมาก่อนเลย นั่นแสดงว่า

รูปศรที่เขียนทับนั้น มันเพิ่งปรากฎเมื่อผมได้มีปฏิสัมพันธ์กับเธอคนนั้น!



 emo24:(


แปลกดีนะก้านเป็นได้ไหมที่เขาบอกเป็นโหว้งเฮ้งอย่างหนนึ่งอะไรทำนองนั้น
ที่จะเปลี่ยนไปเรื่อยๆตามชีวิตของเรา(น่าติดตามไปเรื่อยๆนะคะ)


หัวข้อ: Re: มหากาพย์ ความรัก และ ชาติภพ
เริ่มหัวข้อโดย: พัช 24 ที่ 23 กรกฎาคม 2552, 14:42:12
อ้างถึง
ข้อความของ Q??? เมื่อ 22 กรกฎาคม 2552, 16:39:10
อ้างถึง
ข้อความของ พัช 24 เมื่อ 22 กรกฎาคม 2552, 11:59:30
สวัสดีค่ะ คุณก้าน  พัช  อักษรค่ะ   ค่อนข้างมั่นใจว่าสมัยเป็นนิสิต  ไม่เคยได้คุยกันเลยค่ะ
แต่เข้ามาติดตามอ่านเรื่อง  สะุดุดตรงชื่อกระทู้ค่ะ  อ่านแล้วเพลินดี แต่ก็มีข้อสงสัยหลายอย่าง
เอาไว้จะเข้ามาถามนะคะ


สวัสดีครับ คุณพัชร ยินดีครับ ตอนโน้นไม่ได้คุย คุยตอนนี้ก็ได้ครับ เพราะตอนนี้มีแต่ความรู้สึกเป็นเพื่อนจริงๆ ไม่มีแอบ หุหุ

 emo48:)
งั้น ขอเริ่มที่คำถามข้างท้ายนี้ค่ะ

ชาติ คือ อะไร
ภพ คือ อะไร
และ  เบื้องบนคืออะไรคะ

ถามมากไปอย่าแอบเคืองนะ



หัวข้อ: Re: มหากาพย์ ความรัก และ ชาติภพ
เริ่มหัวข้อโดย: Kaimook ที่ 23 กรกฎาคม 2552, 23:10:28
หวัดดียามดึกจ่ะก้าน emo4:)) emo4:)) emo4:))


หัวข้อ: Re: มหากาพย์ ความรัก และ ชาติภพ
เริ่มหัวข้อโดย: SC (ก้าน 24) ที่ 24 กรกฎาคม 2552, 19:57:29
อ้างถึง
ข้อความของ พัช 24 เมื่อ 23 กรกฎาคม 2552, 14:42:12


งั้น ขอเริ่มที่คำถามข้างท้ายนี้ค่ะ

ชาติ คือ อะไร
ภพ คือ อะไร
และ  เบื้องบนคืออะไรคะ

ถามมากไปอย่าแอบเคืองนะ



ตั้งแต่ออกจาครรภ์มารดา จนกระทั่งตาย เรียกว่า " ชาติ "
ภพ คือ โลก เช่น โลกสวรรค์ โลกมนุษย์

คนเรามีชาติเดียวหลายภพไม่ได้ แต่มีหลายชาติในภพเดียวได้ แต่เนื่องจากคนเราระลึกชาติไม่ได้ จึงไม่มีความแตกต่างกันระหว่างภพกับชาติ แต่ถ้าระลึกชาติได้ ก็จะเห็นความแตกต่างระหว่าง ชาติ และ ภพ

ส่วน " เบื้องบน " เป็นคำเรียกที่ไม่เจาะจงถึงเทพองค์ใดองค์หนึ่ง อาจเป็นเพราะว่าไม่รู้แน่ชัด สัมผัส จับต้องไม่ได้ แต่มีอิทธิพล หรือดลบันดาลให้เรากระทำ หรือละเว้นการกระทำบางอย่างได้ อย่างกรณีของผม


 emo48:)


หัวข้อ: Re: มหากาพย์ ความรัก และ ชาติภพ
เริ่มหัวข้อโดย: SC (ก้าน 24) ที่ 24 กรกฎาคม 2552, 20:05:47
อ้างถึง
ข้อความของ Kaimook เมื่อ 23 กรกฎาคม 2552, 00:00:17
อ้างถึง
ข้อความของ Q??? เมื่อ 22 กรกฎาคม 2552, 17:20:38
 
อ้างถึง   

บุรุษผู้มีรูปศรกลางอก 2552

 
ผมออกจากบ้านมาทำงานเป็นรปภ.ได้เกือบ 8 เดือน นับจากที่เบื้องบนให้ออกจากบ้าน ผมก็ตระหนักในเบื้องบนเสมอมา และเฝ้าแต่ครุ่นคิดว่า " เบื้องบนท่านให้ผมออกจากบ้านมาเพื่ออะไร? " ถ้าเบื้องบนให้ผมออกจากบ้านมาเพื่อเป็นแค่รปภ. มันก็ไม่สมเหตุผล มันน่าจะมีอะไรที่ยิ่งใหญ่กว่านั้น นับตั้งแต่ผมตระหนักในเบื่องบน ผมก็ภูมิใจในรูปศรของผมมากขึ้น ด้วยความเข้าใจว่ามันเป็นสัญญลักษณ์จากเบื้องบน แต่แล้ว
 
ล่วงเข้าวันใหม่ของวันที่ 23 พฤษภาคม 2552 หลังจากที่ผมบังเกิดความรักกับสาวแถวที่ผมพักได้ไม่ถึงอาทิตย์ ผมปิดไฟเข้านอนแล้ว แต่ก็ไม่แน่ใจว่าเคลิ้มหลับไปแล้วตื่นหรือว่ายังไม่หลับ จำได้แต่ว่าเกิดอยากถ่ายรูปลูกศรที่หน้าอกตัวเองมาดู เลยลุกขึ้นมาเปิดไฟแล้วใช้กล้องมือถือถ่าย แล้วผมก็ถึงกับอึ้งเมื่อพบว่า มีรูปลูกศรถูกเขียนทับลงไปบนรูปลูกศรร่องอก

(http://bbznet.pukpik.com/images/upload2/lover/1gi720090527215719.jpg)

(http://bbznet.pukpik.com/images/upload2/lover/zUAJ20090527215924.jpg)
 
ช่วงแรกผมดีใจมาก และเข้าใจว่า ผมได้พบคนที่ผมหามานานแล้ว สิ่งที่ซ่อนเร้นถึงได้ปรากฎออกมา แต่ต่อมาผมก็คิดได้ว่า ถ้ารูปศรร่องอกนั้นเป็นสัญญลักษณ์จากเบื้องบน มันก็ไม่น่าที่จะถูกใครเขียนทับลงไปได้ เมื่อเป็นเช่นนี้น่าจะเป็นว่า เบื้องบนของผมไม่น่าจะเป็นเรื่องสำคัญที่สุด เรื่องราวที่เกี่ยวพันกับรูปลูกศรที่ถูกเขียนลงไปต่างหากที่เป็นเรื่องสำคัญที่สุด และการที่เบื้องบนท่านปกป้องคุ้มครองผมช่วงปี 2532 - 2536 นั้นก็เพื่อให้ผมได้พบกับคนเขียนรูปศร เพราะถ้าผมตายไปก่อนที่ผมจะได้พบกับคนๆนี้ มันก็จะไม่สามารถพิสูจน์อะไรได้เลย

ผมนึกย้อนไปช่วงมีนาคม 2549 - กุมภาพันธ์ 2550 ซึ่งผมได้ถ่ายรูปมาดูครั้งหนึ่ง เคยให้เพื่อนดู เพื่อนก็เห็นพ้องว่าร่องกระดูกเป็นรูปลูกศร แต่ทั้งผมและเพื่อนก็ไม่มีใครเห็นรูปลูกศรที่เขียนทับลงไป ช่วงเวลาแห่งการทบทวนความจำ ผมก็จำได้ว่า วันหนึ่งก่อนหน้าวันที่ผมจะถ่ายรูปนั้นนานเท่าไหร่จำไม่ได้ ผมรู้สึกเจ็บที่รูปศร มันเจ็บเป็นรูปศรเลย ผมถึงกับรำพึงด้วยความประหลาดใจว่า " ฮึ่ย วันนี้ทำไมเจ็บ  " เพราะว่ามันไม่เคยเจ็บแบบนั้นมาก่อนเลย นั่นแสดงว่า

รูปศรที่เขียนทับนั้น มันเพิ่งปรากฎเมื่อผมได้มีปฏิสัมพันธ์กับเธอคนนั้น!



 emo24:(


แปลกดีนะก้านเป็นได้ไหมที่เขาบอกเป็นโหว้งเฮ้งอย่างหนึ่งอะไรทำนองนั้น
ที่จะเปลี่ยนไปเรื่อยๆตามชีวิตของเรา(น่าติดตามไปเรื่อยๆนะคะ)


ไม่ใช่หรอกจ๊ะอ้อย เราต้องใช้ประสบการณ์ 22 ปีในการปะติดปะต่อเรื่องราว แต่ขอบอกว่าไม่ใช่สิ่งที่น่ายินดี ขอไม่มีแล้วตอนนี้รวย เป็นหลักเป็นฐานดีกว่า ที่ต้องมีชีวิตที่เหมือนถูกแขวน ตามไพ่ทาโรต์ที่เราจับได้บ่อยที่สุดไพ่ใบที่ XIII - The Hangman
(http://www.artofdivination.com/tarot/_lame/lama12.jpg)


  emo29:P: emo:(


หัวข้อ: Re: มหากาพย์ ความรัก และ ชาติภพ
เริ่มหัวข้อโดย: khesorn mueller ที่ 24 กรกฎาคม 2552, 20:34:16
อ้างถึง
ข้อความของ Q??? เมื่อ 17 กรกฎาคม 2552, 17:44:38
ครับพี่ อีกตอนก็จะจบเกี่ยวกับเบื้องบนแล้ว ที่จริงมีอีก 2 ตอนแต่อีกตอนไม่กล้าเล่าอาย

 emo2:)
จาเฝ้า...ตอนนี้ตอนเดียวคะ
เล่าเหอะพี่ ไม่ต้องอาย
คนอ่านล้วนผ่านสมรภูมิ officially
มาแล้วทั้งสิ้น

nn.24+3


หัวข้อ: Re: มหากาพย์ ความรัก และ ชาติภพ
เริ่มหัวข้อโดย: SC (ก้าน 24) ที่ 24 กรกฎาคม 2552, 20:39:16
อ้างถึง
ข้อความของ khesorn mueller เมื่อ 24 กรกฎาคม 2552, 20:34:16
อ้างถึง
ข้อความของ Q??? เมื่อ 17 กรกฎาคม 2552, 17:44:38
ครับพี่ อีกตอนก็จะจบเกี่ยวกับเบื้องบนแล้ว ที่จริงมีอีก 2 ตอนแต่อีกตอนไม่กล้าเล่าอาย

 emo2:)
จาเฝ้า...ตอนนี้ตอนเดียวคะ
เล่าเหอะพี่ ไม่ต้องอาย
คนอ่านล้วนผ่านสมรภูมิ officially
มาแล้วทั้งสิ้น

nn.24+3

ไม่จ๊ะ หนุงหนิง

 emo21:):): emo21:):): emo21:):): emo21:):):


หัวข้อ: Re: มหากาพย์ ความรัก และ ชาติภพ
เริ่มหัวข้อโดย: khesorn mueller ที่ 24 กรกฎาคม 2552, 21:19:26
ดีแฮะ..
ยุไม่ขึ้น!

ม่ายงั้น เป็นได้เสียคน
ดีค่ะพี่...เรื่องบางเรื่อง
ควร"discretion"ก็ต้อง...ด้วยชีวิต!

nn.(น้องsecret service)


หัวข้อ: Re: มหากาพย์ ความรัก และ ชาติภพ
เริ่มหัวข้อโดย: Kaimook ที่ 24 กรกฎาคม 2552, 23:26:14
หวัดดีจ่ะก้าน emo4:)) emo4:)) emo4:))


หัวข้อ: Re: มหากาพย์ ความรัก และ ชาติภพ
เริ่มหัวข้อโดย: swsm ที่ 25 กรกฎาคม 2552, 08:47:43
อ้างถึง
ข้อความของ Q??? เมื่อ 20 กรกฎาคม 2552, 19:08:12
อ้างถึง
ข้อความของ swsm เมื่อ 19 กรกฎาคม 2552, 23:30:23
ต่อค่ะ ก้าน .. สนุกดี

ครับผู้อ่านสนุก แต่เรื่องราวทั้งหมดมันรันทดครับพี่ 22 ปีที่ผ่านมาชีวิตของผมเป็นเหมือนดังคำทำนายไพ่ทาโรต์ใบที่ XII - The Hangman

(http://www.artofdivination.com/tarot/_lame/lama12.jpg)


 emo:(


แว๊ก .. ใช้คำผิดค่ะ
ต้องบอกว่า .. น่าติดตาม .. จึงจะตรงกับความหมายที่ต้องการสื่อมากที่สุดค่ะ



emo29:P:



หัวข้อ: Re: มหากาพย์ ความรัก และ ชาติภพ
เริ่มหัวข้อโดย: SC (ก้าน 24) ที่ 25 กรกฎาคม 2552, 17:43:21
เบื้องบน หรือ บังเอิญ?
 
ปี 2544 มีเหตุให้ผมต้องไปทำงานเป็นเซลส์ขายสินเชื่อเพื่อที่อยู่อาศัย ธนาคารดีบีเอส ไทยทนุ ในขณะนั้น ที่ทำงานอยู่มักกะสัน ทำให้ผมได้รู้จักสาวที่เข้าทำงานพร้อมกันแต่อายุอ่อนกว่า 15 ปี เธอชื่อ ปุ๊ก เธอคนนี้มีอะไรหลายอย่างรวมทั้งพฤติกรรมที่แสดงออกในบางครั้ง จนทำให้ผมปักใจว่าเธอใช่คนที่ผมตามหา จนกระทั่งบัดนี้ผมก็ยังไม่เคยเจอใครเหมือนกับเธอ ผมเลยยกให้เธอเป็น 1 ใน 6 หญิงที่สุดแสนประทับใจ ปุ๊ก ศิริลักษณ์ ที่พี่ยังคาใจ

(http://www.geocities.com/saunloveyou/wof01.jpg)
 
ปุ๊กเธอเป็นสาวมังกร ตามนักษัตรจีน หรือเกิดปีมะโรงตามนักษัครไทย ซึ่งเป็นที่ปรารถนาอยากได้เป็นคู่ครองของผมมาก เพราะซินแสจีนว่าไว้ว่า ถ้าคนปีเสือกับปีมังกรเป็นคู่กัน พวกเขาสามารถพลิกฟ้าพลิกแผ่นดิน แต่จะดีมากถ้าเป็น ชายเสือหญิงมังกร และผมก็เกิดปีขาล เป็นชายเสือ จะว่าไปแล้ว ปุ๊ก ก็ดูจะมีใจให้ผมอยู่บ้างเหมือนกัน จากพฤติกรรมที่เธอแสดงออก เมื่อผมมีแฟนตอนปี 2549 ได้เล่าให้แฟนฟังและถามแฟนดู แฟนตอบว่า " ในฐานะที่เขาเป็นผู้หญิงเหมือนกัน บอกได้เลยว่า หึง " แต่ปุ๊กเธอก็มีแฟนที่คบกันอยู่แล้ว
 
ผมพยายามถีบตัวเองขึ้นมาเพื่อให้ปุ๊กยอมรับ ปี 2545 ผมได้ก่อตั้งบริษัทกับลูกค้าเก่าที่เคยใช้บริการที่ปรึกษาของผม โดยลูกค้าเก่าคนนี้เป็นนายทุน ถือหุ้นใหญ่ ต่อมาลูกค้าเก่าคนนี้ก็ให้ผมเรียกเขาว่า " พี่หมอ " พี่หมอเป็นผู้สนับสนุนผมมาตลอดที่ทำบริษัท หลังจากผ่านกาลเวลาที่ไม่ง่ายนักสำหรับกิจการงานที่ทำ จนกระทั่งล่วงเข้ากลางปี 2546 ก็สามารถหาผู้ใช้บริการได้จากการแนะนำผ่านอีกที เราประชุมกันหลายครั้งจนได้ข้อตกลง แต่ต้องร่างสัญญาให้ตรงตามเห็นชอบของทั้งสองฝ่าย ระหว่างรอร่างสัญญา พี่หมอก็เสียชีวิตกระทันหันด้วยโรคหัวใจวายตายฉับพลัน ล้มทั้งยืนตอนใกล้รุ่ง...
 
และทุกอย่างก็จบสิ้นลง เพราะพี่หมอเป็นคนโสด หย่ากับเมีย มีลูกสาวคนเดียวอายุ 11 - 12 ปี ไม่มีใครสานต่อ ทำให้ความหวังของผมต้องพังทลายลงไป พร้อมกับความสูญเสีย คนที่รู้ความสามารถของผมดีที่สุด เพราะผมกับพี่หมอเคยนั่งอยู่ด้วยกันทั้งวัน วิเคราะห์ความเป็นไปของตลาดฯนานพอที่จะสะสมความเชื่อถือ จนพี่หมอยินดีสนับสนุนโดยเป็นนายทุนให้
 
เมื่อมองย้อนไปจากปัจจุบัน ถ้าพี่หมอไม่ตาย ผมประสบความสำเร็จ ถีบตัวเองขึ้นมาได้ มันก็คงจะไม่มีวันนี้ วันที่มีรูปศรปรากฏที่กลางอกผม!


 emo24:(


หัวข้อ: Re: มหากาพย์ ความรัก และ ชาติภพ
เริ่มหัวข้อโดย: Kaimook ที่ 25 กรกฎาคม 2552, 19:17:13
หวัดดีจ่ะก้านเป็นกำลังใจให้นะคะสู้สู้ค่ะ emo4:)) emo4:)) emo4:))


หัวข้อ: Re: มหากาพย์ ความรัก และ ชาติภพ
เริ่มหัวข้อโดย: SC (ก้าน 24) ที่ 26 กรกฎาคม 2552, 18:28:40
อ้างถึง
ข้อความของ Kaimook เมื่อ 25 กรกฎาคม 2552, 19:17:13
หวัดดีจ่ะก้านเป็นกำลังใจให้นะคะสู้สู้ค่ะ emo4:)) emo4:)) emo4:))


ขอบใจจ๊ะอ้อย

 emo48:)


หัวข้อ: Re: มหากาพย์ ความรัก และ ชาติภพ
เริ่มหัวข้อโดย: swsm ที่ 26 กรกฎาคม 2552, 18:32:44
ต่อเลยค่ะ  .. น้องก้าน


หัวข้อ: Re: มหากาพย์ ความรัก และ ชาติภพ
เริ่มหัวข้อโดย: SC (ก้าน 24) ที่ 26 กรกฎาคม 2552, 18:34:25
Psycho-Cybernetics VS พันธะสัญญา
 
ผมได้ซื้อหนังสือเกี่ยวกับการรักษาผมร่วงมาอ่านเมื่อหลายปีมาแล้ว ในหนังสือนั้นได้เกริ่นนำด้วยเรื่อง Psycho-Cybernetics ในหนังสือนั้นอธิบายว่า Cybernetics เป็นระบบล็อคเป้าหมายของขืปนาวุธนำวิถี เช่นเดียวกัน จิตคนเราก็สามารถล็อคเป้าหมายได้ด้วยเรียกว่า Psycho-Cybernetics บางครั้งจิตไร้สำนึกของคนเรามีการล็อคเป้าหมายโดยที่ตัวเราเองไม่รู้ตัว ผลลัพท์ก็คือ เราจะประสบความล้มเหลวในอาการเดิมซ้ำๆ
 
ผมมาคิดทบทวนดู ก็พบว่าใช่ ความล้มเหลวที่เกิดขึ้นมักจะมีอาการแบบเดิมๆ ผมก็พยายามคิดว่าผมได้ตั้งเป้าหมายอะไรไว้ จนจิตไร้สำนึกของผมล็อคเป้าหมายนั้นไว้ แต่คิดเท่าไหร่ก็คิดไม่ออก จนกระทั่งเมื่อผมเขียนเรื่อง 6 หญิงที่สุดแสนประทับใจเสร็จแล้ว ผมก็คิดว่า หรือ เป้าหมายในจิตไร้สำนึกของผมที่ล็อคไว้ คือ " เป็นนักรัก " แบบ ดอน ฮวน อะไรประมาณนั้น ผมยังเคยคุยกับน้องคนหนึ่งเลยว่า พี่อาจจะไม่ประสบความสำเร็จในอาชีพการงาน แต่พี่ก็ประสบความสำเร็จในกลกามความรัก เพราะ พี่ได้ผ่านประสบการณ์ระดับเทพ ซึ่งน้อยคนนักที่จะบรรลุถึงขั้นนั้น...
 
แต่เมื่อมองจากปัจจุบัน ผมก็เข้าใจแล้วว่า จิตไร้สำนึกของผมได้ล็อคเป้าหมายไว้โดยที่ผมไม่รู้ตัว นั่นคือ " ตามหาคนๆหนึ่ง  " เป็นเป้าหมายที่ถูกล็อคไว้ในจิตไร้สำนึก แต่ไม่ใช่เพราะว่าผมไปตั้งมันไว้โดยที่ผมไม่รู้ตัว แต่เป็นเพราะ พันธะสัญญา  ตั้งแต่ชาติภพที่แล้ว!
 

  emo29:P:


หัวข้อ: Re: มหากาพย์ ความรัก และ ชาติภพ
เริ่มหัวข้อโดย: SC (ก้าน 24) ที่ 26 กรกฎาคม 2552, 18:35:53
อ้างถึง
ข้อความของ swsm เมื่อ 26 กรกฎาคม 2552, 18:32:44
ต่อเลยค่ะ  .. น้องก้าน

สวัสดีครับพี่หยี ทานข้าวมื้อเย็นเรียบร้อยหรือยังครับ?


 emo48:)


หัวข้อ: Re: มหากาพย์ ความรัก และ ชาติภพ
เริ่มหัวข้อโดย: swsm ที่ 26 กรกฎาคม 2552, 18:41:19
ทานแล้วคร่ะ  น้องก้าน
เย็นนี้ น้ำพริกกะปิ  ปลาทูทอด  แกล้มด้วยผัดสด
ตอนนี้ นั่งพุงกางอยู่หน้าจอคอมพิวเตอร์ค่ะ ..

อิ่มขนาดหนักแบบนี้มาทุกมื้อ ตั้งแต่เมื่อวาน ..
สงสัยน้ำหนักขึ้นแน่ ๆ


หัวข้อ: Re: มหากาพย์ ความรัก และ ชาติภพ
เริ่มหัวข้อโดย: หนุน'21 ที่ 26 กรกฎาคม 2552, 19:20:14
 emo47

สวัสดี
ตามอ่านด้วย น้องก้าน
อิ อิ อ่านบางตอน เขินแทนเหมือนกันนะนี่

อิตอนที่ไปมองหน้าอก...ใครคนนั้นอ่ะ
มาต่อเลย
พี่รออ่านอยู่


 emo42


หัวข้อ: Re: มหากาพย์ ความรัก และ ชาติภพ
เริ่มหัวข้อโดย: พัช 24 ที่ 27 กรกฎาคม 2552, 12:21:12
อ้างถึง
ข้อความของ Q??? เมื่อ 24 กรกฎาคม 2552, 19:57:29
อ้างถึง
ข้อความของ พัช 24 เมื่อ 23 กรกฎาคม 2552, 14:42:12


งั้น ขอเริ่มที่คำถามข้างท้ายนี้ค่ะ

ชาติ คือ อะไร
ภพ คือ อะไร
และ  เบื้องบนคืออะไรคะ

ถามมากไปอย่าแอบเคืองนะ



ตั้งแต่ออกจาครรภ์มารดา จนกระทั่งตาย เรียกว่า " ชาติ "
ภพ คือ โลก เช่น โลกสวรรค์ โลกมนุษย์

คนเรามีชาติเดียวหลายภพไม่ได้ แต่มีหลายชาติในภพเดียวได้ แต่เนื่องจากคนเราระลึกชาติไม่ได้ จึงไม่มีความแตกต่างกันระหว่างภพกับชาติ แต่ถ้าระลึกชาติได้ ก็จะเห็นความแตกต่างระหว่าง ชาติ และ ภพ

ส่วน " เบื้องบน " เป็นคำเรียกที่ไม่เจาะจงถึงเทพองค์ใดองค์หนึ่ง อาจเป็นเพราะว่าไม่รู้แน่ชัด สัมผัส จับต้องไม่ได้ แต่มีอิทธิพล หรือดลบันดาลให้เรากระทำ หรือละเว้นการกระทำบางอย่างได้ อย่างกรณีของผม


 emo48:)
ขอบคุณสำหรับคำตอบค่ะ คุณก้าน
1.  คำตอบของคุณก้านพัชเข้าใจว่า  ชาติแบ่งตามเกิดขึ้นของร่างกายเมื่อเริ่มมีลมหายใจ  ไปสิ้นสุดที่เมื่อร่างกายนี้หมดลมหายใจ  ุ เป็น  หนึ่งชาติ   ถูกต้องไหมคะ
2.  นอกจากชาติตามที่คุณก้านว่านี้แล้ว ยังแบ่งแบบอื่นได้อีกไหมคะ  (ห้ามบอกว่าชาติไทย ชาติจีน ....อะไรอย่างนี้นะ)
3.  คำตอบเรื่อง เบื้องบน  พัชเข้าใจคำอธิบายว่าหมายถึงเทพ   และนอกจากเทพ  ที่คุณก้านพบว่ามีอิทธิพลหรือดลบันดาลให้ทำหรือไม่ทำบางอย่างได้นั้น ยังมีสิ่งอื่นอีกหรือไม่ที่คุณก้านถือว่ามีอิทธิพลต่อคุณก้านที่จะทำหรือไม่ทำบางอย่าง  ถ้ามีขอทราบว่ามีอะไรบ้างค่ะ

ยังมีคำถามอยู่อีกหลายคำถาม  ถ้าไม่เบื่อตอบเสียก่อน จะมาถามอีก  แต่ตอนนี้รบกวนคำถามข้างต้นค่ะ  ขอบคุณค่ะ




4. กลับมา เพิ่มเติมคำถาม   ที่ว่า  ภพ คือ โลก   โลกสวรรค์  โลกมนุษย์  ถ้าจะสรุปว่า   คือ  ที่อยู่ของกายและใจได้ไหม
และขอถามว่า   กายอยู่โลกมนุษย์ ใจอยู่โลกมนุษย์ด้วยเสมอไปมั้ย  อะไรทำให้ได้มาอยู่โลกมนุษย์และอะไรทำให้อยู่โลกสวรรค์คะ


หัวข้อ: Re: มหากาพย์ ความรัก และ ชาติภพ
เริ่มหัวข้อโดย: พัช 24 ที่ 27 กรกฎาคม 2552, 15:40:23
อ้างถึง
ข้อความของ Q??? เมื่อ 26 กรกฎาคม 2552, 18:34:25
Psycho-Cybernetics VS พันธะสัญญา
 
ผมได้ซื้อหนังสือเกี่ยวกับการรักษาผมร่วงมาอ่านเมื่อหลายปีมาแล้ว ในหนังสือนั้นได้เกริ่นนำด้วยเรื่อง Psycho-Cybernetics ในหนังสือนั้นอธิบายว่า Cybernetics เป็นระบบล็อคเป้าหมายของขืปนาวุธนำวิถี เช่นเดียวกัน จิตคนเราก็สามารถล็อคเป้าหมายได้ด้วยเรียกว่า Psycho-Cybernetics บางครั้งจิตไร้สำนึกของคนเรามีการล็อคเป้าหมายโดยที่ตัวเราเองไม่รู้ตัว ผลลัพท์ก็คือ เราจะประสบความล้มเหลวในอาการเดิมซ้ำๆ
 
ผมมาคิดทบทวนดู ก็พบว่าใช่ ความล้มเหลวที่เกิดขึ้นมักจะมีอาการแบบเดิมๆ ผมก็พยายามคิดว่าผมได้ตั้งเป้าหมายอะไรไว้ จนจิตไร้สำนึกของผมล็อคเป้าหมายนั้นไว้ แต่คิดเท่าไหร่ก็คิดไม่ออก จนกระทั่งเมื่อผมเขียนเรื่อง 6 หญิงที่สุดแสนประทับใจเสร็จแล้ว ผมก็คิดว่า หรือ เป้าหมายในจิตไร้สำนึกของผมที่ล็อคไว้ คือ " เป็นนักรัก " แบบ ดอน ฮวน อะไรประมาณนั้น ผมยังเคยคุยกับน้องคนหนึ่งเลยว่า พี่อาจจะไม่ประสบความสำเร็จในอาชีพการงาน แต่พี่ก็ประสบความสำเร็จในกลกามความรัก เพราะ พี่ได้ผ่านประสบการณ์ระดับเทพ ซึ่งน้อยคนนักที่จะบรรลุถึงขั้นนั้น...
 
แต่เมื่อมองจากปัจจุบัน ผมก็เข้าใจแล้วว่า จิตไร้สำนึกของผมได้ล็อคเป้าหมายไว้โดยที่ผมไม่รู้ตัว นั่นคือ " ตามหาคนๆหนึ่ง " เป็นเป้าหมายที่ถูกล็อคไว้ในจิตไร้สำนึก แต่ไม่ใช่เพราะว่าผมไปตั้งมันไว้โดยที่ผมไม่รู้ตัว แต่เป็นเพราะ พันธะสัญญา  ตั้งแต่ชาติภพที่แล้ว!
 

  emo29:P:
ขอถามอีกค่ะ  ตกลงเป้าหมายเหล่านี้   เป็นประโยชน์หรือไม่เป็นประโยชน์ กับคุณก้านคะ   ถ้าเป็น  เป็นอย่างไรบ้าง   ถ้าไม่เป็น  ไม่เป็นอย่างไรบ้างคะ 


หัวข้อ: Re: มหากาพย์ ความรัก และ ชาติภพ
เริ่มหัวข้อโดย: พัช 24 ที่ 27 กรกฎาคม 2552, 15:53:30
อ้างถึง
ข้อความของ Q??? เมื่อ 25 กรกฎาคม 2552, 17:43:21
เบื้องบน หรือ บังเอิญ?
 
 
เมื่่อมองย้อนไปจากปัจจุบัน ถ้าพี่หมอไม่ตาย ผมประสบความสำเร็จ ถีบตัวเองขึ้นมาได้ มันก็คงจะไม่มีวันนี้ วันที่มีรูปศรปรากฏที่กลางอกผม![/size][/color]

 emo24:(
ยังไม่เข้าใจว่า  รูปศรฯ นั้น  เป็นเครื่องหมายบอกอะไร  ในความตระหนักรู้ของคุณก้านคะ  หรือเป็นสัญญลักษณ์บอกถึงอะไรคะ

ขอบคุณล่วงหน้าสำหรับคำตอบต่อทุกคำถามค่ะ  emo30:sorry:   emo30:sorry:   emo30:sorry:

 



หัวข้อ: Re: มหากาพย์ ความรัก และ ชาติภพ
เริ่มหัวข้อโดย: Lamai ที่ 27 กรกฎาคม 2552, 20:20:10
สวัสดีจ้ะก้าน emo48:)


หัวข้อ: Re: มหากาพย์ ความรัก และ ชาติภพ
เริ่มหัวข้อโดย: Kaimook ที่ 27 กรกฎาคม 2552, 22:51:55
สวัสดียามดึกค่ะก้าน
 emo4:)) emo4:)) emo4:))


หัวข้อ: Re: มหากาพย์ ความรัก และ ชาติภพ
เริ่มหัวข้อโดย: jacky ที่ 27 กรกฎาคม 2552, 23:01:38
แถม

(http://img89.imageshack.us/img89/9954/59438.jpg)


หัวข้อ: Re: มหากาพย์ ความรัก และ ชาติภพ
เริ่มหัวข้อโดย: หนุน'21 ที่ 28 กรกฎาคม 2552, 07:50:03
อ้างถึง
ข้อความของ jacky เมื่อ 27 กรกฎาคม 2552, 23:01:38
แถม

(http://img89.imageshack.us/img89/9954/59438.jpg)

ขอบคุณมากน้องจักร "บุรุษผู้ที่ยังไม่เคยทักทายกันเลย"
ชอบอันนี้ ขออนุญาต แฮฟ ไปเก็บไว้ทบทวนชีวิตของตัวเองครับ
ความจริงชีวิตเราไม่มีอะไรมากเลย
เพียงแต่ถ้าเราไม่วางเงื่อนไขให้กับตัวเรามากเกินไป
คิดว่าสุข ก็สุข
คิดว่าทุกข์ ก็ทุกข์

เอ้า...สาธุ....


 emo48:)


หัวข้อ: Re: มหากาพย์ ความรัก และ ชาติภพ
เริ่มหัวข้อโดย: swsm ที่ 28 กรกฎาคม 2552, 09:01:37
อ้างถึง
ข้อความของ jacky เมื่อ 27 กรกฎาคม 2552, 23:01:38
แถม

(http://img89.imageshack.us/img89/9954/59438.jpg)

ชอบมากเลยค่ะ  พี่ Jacky ของน้อง ๆ
ขอแอบนำไปใช้ประโยชน์ต่อในงานและในชีวิตด้วยนะคะ ..

เพราะรู้ว่าน้อง Jacky ของพี่ ไม่ขัดอยู่แล้ว  พี่จึงขอบคุณล่วงหน้าคร่ะ


emo9:huhu:


หัวข้อ: Re: มหากาพย์ ความรัก และ ชาติภพ
เริ่มหัวข้อโดย: swsm ที่ 28 กรกฎาคม 2552, 09:02:29
Good morning ค่ะพี่น้อง

ทานอาหารเช้ากันหรือยัง ??
หะยีมีแพนเค้ก (ที่ไม่ใช่ดารา) และกาแฟสดมาฝากค่ะ


(http://img187.imageshack.us/img187/9652/brunchandbreakfasttips7.jpg)  (http://img291.imageshack.us/img291/4712/coffee0022.jpg)


หัวข้อ: Re: มหากาพย์ ความรัก และ ชาติภพ
เริ่มหัวข้อโดย: jacky ที่ 28 กรกฎาคม 2552, 09:12:05
อ้างถึง
ข้อความของ หนุน'21 เมื่อ 28 กรกฎาคม 2552, 07:50:03
อ้างถึง
ข้อความของ jacky เมื่อ 27 กรกฎาคม 2552, 23:01:38
แถม

(http://img89.imageshack.us/img89/9954/59438.jpg)

ขอบคุณมากน้องจักร "บุรุษผู้ที่ยังไม่เคยทักทายกันเลย"
ชอบอันนี้ ขออนุญาต แฮฟ ไปเก็บไว้ทบทวนชีวิตของตัวเองครับ
ความจริงชีวิตเราไม่มีอะไรมากเลย
เพียงแต่ถ้าเราไม่วางเงื่อนไขให้กับตัวเรามากเกินไป
คิดว่าสุข ก็สุข
คิดว่าทุกข์ ก็ทุกข์

เอ้า...สาธุ....


 emo48:)

ขอบพระคุณครับพี่หนุน
ผมก็ "แฮพ" เค้ามาอีกที
เห็นว่าใช้ดีเลย บอกต่อ
สาธุด้วยคนครับ

 emo30:sorry:


หัวข้อ: Re: มหากาพย์ ความรัก และ ชาติภพ
เริ่มหัวข้อโดย: jacky ที่ 28 กรกฎาคม 2552, 09:18:13
อ้างถึง
ข้อความของ swsm เมื่อ 28 กรกฎาคม 2552, 09:01:37
อ้างถึง
ข้อความของ jacky เมื่อ 27 กรกฎาคม 2552, 23:01:38
แถม

(http://img89.imageshack.us/img89/9954/59438.jpg)

ชอบมากเลยค่ะ  พี่ Jacky ของน้อง ๆ
ขอแอบนำไปใช้ประโยชน์ต่อในงานและในชีวิตด้วยนะคะ ..

เพราะรู้ว่าน้อง Jacky ของพี่ ไม่ขัดอยู่แล้ว  พี่จึงขอบคุณล่วงหน้าคร่ะ


emo9:huhu:

สวัสดีครับพี่ หยี..
แฮพ ได้ตามสบายเลยครับ
ขออภัยย้อนหลังเป็นอย่างสูง
ที่ผมยังจำพี่ๆไม่ได้มากเท่าคนอื่นๆ
ในรุ่น
 เพราะตอนเรียนก็มัวแต่
หมกตัวอยู่ในห้องทำโปรเจค
โผล่มาอีกทีก็ส่งงานอาจารย์
ส่งเสร็จ สลบอีกสองวัน
เรียนบ้าง โดดบ้าง
สังสรรค์ น้อยมากครับ

 emo30:sorry: emo24:(


หัวข้อ: Re: มหากาพย์ ความรัก และ ชาติภพ
เริ่มหัวข้อโดย: jacky ที่ 28 กรกฎาคม 2552, 10:32:36
ก้าน
ผมยังมีบทความดีๆ
แปะไว้ที่บ้านผม และบ้านแม่เลี้ยงพัชนะ


หัวข้อ: Re: มหากาพย์ ความรัก และ ชาติภพ
เริ่มหัวข้อโดย: พัช 24 ที่ 28 กรกฎาคม 2552, 13:51:45
อ้างถึง
ข้อความของ jacky เมื่อ 28 กรกฎาคม 2552, 10:32:36
ก้าน
ผมยังมีบทความดีๆ
แปะไว้ที่บ้านผม และบ้านแม่เลี้ยงพัชนะ

บริการส่งถึงที่ค่ะ


 จากบ้านจักร  จะได้ต่อเนื่อง
อ้างถึง
ข้อความของ jacky เมื่อ 28 กรกฎาคม 2552, 09:53:12
เรื่องของ "มาร"



สรุปรวมความว่า มาร ๕ มีครบถ้วนอยู่ในกายในใจของเรานี้ทั้งหมด พอเกิดมาได้รูปได้นามแล้วก็ได้มาร ๕ มาพร้อมเลย เราจะรู้จะเห็นตัวของมันหรือไม่รู้ไม่เห็นก็ตาม ขันธมารและมัจจุมารมันก็ทำหน้าที่ของมันอยู่อย่างนั้น ส่วนกิเลสมาร เทวบุตรมาร และอภิสังขารมารนั้น เมื่อรู้เท่าเข้าใจตามเป็นจริงของมันแล้ว จะไม่สามารถหลอกลวงให้ไปติดบ่วงมันได้เลย
       ท่านจึงสอนอุบายทั้งหลายให้พวกเรา คือ อย่าไปหลงการหลอกลวงของจิต  แล้วอย่าไปยินดีในวิสัยของมาร อย่างที่อธิบายในเบื้องต้น อย่าไปเชื่อจิตอย่างเดียว จิตของเราไปเชื่อไม่ได้หรอก เราต้องอาศัยปัญญา ถ้าไม่มีปัญญาแล้วจะไม่รู้จักผิด ไม่รู้จักถูก ไม่รู้จักดี ไม่รู้จักชั่ว ไม่รู้ว่าจิตหลอกลวง ของจริงก็ไม่รู้จัก ของเท็จของเทียมก็ไม่รู้จักทั้งนั้น เราต้องอาศัยปัญญาจึงจะรู้
      ปัญญาเกิดขึ้นได้เพราะอาศัยความสงบ อาศัยการ ฟังธรรมะคำสั่งสอนของพระพุทธเจ้าให้เข้าใจ แล้วก็ทำความสงบจิตให้เข้าถึงสมาธิ จิตถึงสมาธิแล้วจะเห็นเรื่องการลวงของจิตด้วยตนเองชัดเจนทีเดียว จิตที่เป็นสมาธิแล้วไม่หลอกลวง เป็นจิตตรงไปตรงมาเข้าถึงสัจธรรมเห็นทุกข์เป็นทุกข์จริงๆ เห็นความสงบเป็นสุขจริงๆ เห็นความทะเยอทะยานดิ้นรนเป็นความเดือดร้อนแท้ทีเดียว ถ้าจิตไม่เป็นสมาธิแล้ว มันหลอกลวงเราอยู่ตลอดเวลา ให้เราลุ่มหลงมัวเมาไม่รู้จักหยุดไม่รู้จักพอ ที่เรียกว่า ตัณหา ๓ นั่นเอง
       เรื่องของตัณหานี้เราจะรู้ได้เมื่อจิตสงบเท่านั้น  ถ้ายังไม่รู้เรื่องของตัณหาแล้ว กิเลสอื่นๆ ก็จะรู้ได้ยาก ความทะเยอทะยานที่เกิดขึ้นมาในตัวของเรานั่นแหละเป็นตัวกิเลส พยายามให้เห็นตัวของมัน เห็นโทษของมัน เราจึงจะละวางมันได้ เมื่อไม่มีการเบื่อหน่ายก็ไม่มีการพ้นจากมัน เพราะกลับไปยินดีในตัณหาเสียอีก มันก็อยู่ในวิสัยของมาร ดังนั้นพระพุทธองค์จึงสอนให้เรารู้จักตัวมาร ไม่ให้ยินดีตามวิสัยของมาร ก็จะเป็นการชนะมารและพ้นจากกองทุกข์ เรามาทำทาน มารักษาศีล มาเจริญเมตตาภาวนา ทำกัมมัฏฐานก็ไม่ใช่อื่นไกลเลย เพราะต้องการละกิเลสมารตัวนี้แหละ
       การทำทาน หมายถึง เราเป็นคนยอมสละออกไป ถ้ามีอยู่ปรากฏอยู่แล้วมันเป็นกังวลและห่วงในเรื่องเหล่านั้น ห่วงในการรักษาในการถือว่าของกูๆ พอสละปุ๊ปปั๊บลงไปแล้วหมดห่วง ยังเหลือแต่ผลของการสละคือความดีใจ ความอิ่มเอิบใจ ปีติว่าเราได้สละให้เป็นประโยชน์แก่คนอื่นแล้ว ผลของมันเป็นอย่างนี้
       ตัวอย่างง่ายๆ เช่นเรามีเนื้อมีปลาอยู่สักกิโลสองกิโล ทีนี้เริ่มห่วงกังวลแล้ว จะเอาไว้ที่ใดก็กลัวหนูกลัวแมวจะเอาไปกิน ทิ้งไว้ก็กลัวจะบูดจะเน่า นั่นลองคิดดูซิ ถ้าหากเราสละเนื้อนั้นทำบุญทำทาน ที่เหลือเราก็กินเสีย เท่านี้แหละความห่วงความกังวลก็หมดไป ไม่มีเหลือ กลับมีความอิ่มอกอิ่มใจที่ได้ทำบุญ วัตถุสิ่งของอื่นๆ ก็อย่างเดียวกัน ความห่วงย่อมเป็นไปตามฐานะของวัตถุนั้นๆ มีมากหรือวัตถุมีค่าก็ห่วงมาก ของน้อยหรือวัตถุมีค่าน้อยก็ห่วงน้อย
       เหตุนั้น การทำทานจึงเป็นการสละความตระหนี่หวงแหน ความห่วงกังวล ไม่ให้มันหลงไปตามวิสัยของมาร ไม่ให้จิตมันหลอกลวง จึงจะพ้นจากบ่วงของมาร
       การรักษาศีล ก็เช่นเดียวกัน ความชั่วต่างๆ ที่เราพากันทำอยู่ทุกวันนี้ เช่นฆ่าสัตว์ ลักทรัพย์ ประพฤติผิดมิจฉาจาร ด่าทอเขา มุสาเขา ดื่มสุรายาเมา เหล่านี้ทำแล้วมันร้อนขึ้นมาภายในจิตใจของเรา ทำให้ไม่สบายใจ ถ้าหากว่าเรามาเห็นเรื่องทั้งหลายนี้ว่ามันเป็นโทษ ไม่ดีไม่งาม เราก็ละทิ้งมันได้ เมื่อละทิ้งได้แล้วก็หมดความร้อนใจ มีความสบายใจเย็นใจ นี่เรียกว่าเรารู้จักหน้าตาของมัน เห็นโทษของมันแล้วเบื่อหน่ายจึงละทิ้งได้
       ถ้าหากเรายังเสียดายหวงแหนอาลัยความชั่วอยู่ความร้อนความไม่สบายใจมันก็ยังมีอยู่นั่นเอง เพราะเรายังหวงเก็บเอาไว้ แต่นี่เราต้องการความสบายใจ ต้องการความเย็นใจ แล้วเราจะเอาความร้อนไว้ทำไม หากมีความคิดนึกอย่างนี้ก็จะละทิ้งความชั่วเสียได้ ดังนั้น การรักษาศีลจึงเป็นการระวังไม่ให้หลงตามวิสัยของมาร อัน นี้ก็เป็นการรักษาจิตไปในตัว
       การภาวนา คือการอบรมจิตใจให้มีความสงบ เป็นการชำระจิตใจให้สงบจากอารมณ์ต่างๆ ยิ่งเป็นการละ เอียดไปกว่าการรักษาศีลอีก จิตของเราถ้ายังไม่สงบตราบ ใดแล้ว มันก็จะต้องยุ่งวุ่นวายอยู่ตราบนั้น เมื่อมาฝึกหัด ภาวนา เห็นโทษเห็นภัยของความยุ่งความไม่สงบด้วยตนเองแล้ว เราก็จะพยายามทุกวิถีทางที่จะละความไม่สงบ เมื่อสิ่งใดที่ละได้แล้ว อารมณ์ใดที่วางได้แล้ว เราก็จะต้องรักษาไม่ให้สิ่งนั้นมันเกิดขึ้นมาอีก ไม่ใช่ว่าเราละได้แล้วก็แล้วไปเลยไม่ต้องคำนึงถึงมันอีก อย่างนั้นไม่ ถูกต้อง เพราะมันอาจสามารถที่จะฟื้นฟูขึ้นมาใหม่อีก ถ้ามันเกิดมาทีหลังจะยิ่งร้ายกว่าเก่า
       พระพุทธจ้าตรัสเทศนาไว้ว่า “เสขบุคคล ผู้ไม่คำนึงถึงจิตที่ละได้แล้ว และยังไม่ละ ขี้เกียจขี้คร้านทำความเพียรให้ติดต่อ คลุกคลีด้วยหมู่คณะ ประกอบความยินดีกับการงาน มันก็จะเสื่อมได้เหมือนกัน”       เหตุนั้น เมื่อเราละได้มากน้อยเท่าใดก็อย่าทอดทิ้งเคยพิจารณาอย่างนี้ ดำเนินได้อย่างนี้ก็อย่าลืม ดำเนินอยู่อย่างนั้น พิจารณาอยู่อย่างนั้น สิ่งที่ละได้แล้วก็จะต้องนำมาปรารภ นำมาพิจารณาอีกอยู่ตลอดเวลา ให้เห็นโทษเห็นภัยของมัน เห็นเป็นของน่าเบื่อหน่ายอยู่เช่นนั้น จึงได้ชื่อว่าเป็นผู้ไม่ประมาทแลไม่มีการเสื่อม
       นี่แหละเรื่องจิตหลอกลวงสัตว์คือตัวของเราเอง มีนัยตามที่ได้อธิบายมาโดยลำดับดังนี้ มันหลอกลวงเรา เราเลยไปยินดีกับมัน ติดในความลวงของมัน ชอบใจในความหลอกของมัน เลยเป็นเหตุให้เกิดแล้วตาย เกิดแล้วตาย วนเวียนอยู่นับภพนับชาติไม่ถ้วน เพราะเหตุนั้น พระพุทธเจ้าจึงทรงสอนให้เรามีสติ การที่จะละกิเลสได้หรือรู้จักตัวของกิเลสได้ก็ต้องมีความสงบของจิตเสีย ก่อน เมื่อใจสงบแล้วก็จะเห็นตัวมารและเห็นวิธีการหลอกลวงของมัน เห็นแล้วเราก็จะไม่หลงตามวิสัยของมันอีก จะเห็นทางเป็นไปเพื่อพ้นจากทุกข์       
 

 emo29:P: emo30:sorry: emo48:) emo26:D emo4:))


หัวข้อ: Re: มหากาพย์ ความรัก และ ชาติภพ
เริ่มหัวข้อโดย: jacky ที่ 28 กรกฎาคม 2552, 15:19:17
อ้างถึง
ข้อความของ พัช 24 เมื่อ 27 กรกฎาคม 2552, 12:21:12
อ้างถึง
ข้อความของ Q??? เมื่อ 24 กรกฎาคม 2552, 19:57:29
อ้างถึง
ข้อความของ พัช 24 เมื่อ 23 กรกฎาคม 2552, 14:42:12


งั้น ขอเริ่มที่คำถามข้างท้ายนี้ค่ะ

ชาติ คือ อะไร
ภพ คือ อะไร
และ  เบื้องบนคืออะไรคะ

ถามมากไปอย่าแอบเคืองนะ



ตั้งแต่ออกจาครรภ์มารดา จนกระทั่งตาย เรียกว่า " ชาติ "
ภพ คือ โลก เช่น โลกสวรรค์ โลกมนุษย์

คนเรามีชาติเดียวหลายภพไม่ได้ แต่มีหลายชาติในภพเดียวได้ แต่เนื่องจากคนเราระลึกชาติไม่ได้ จึงไม่มีความแตกต่างกันระหว่างภพกับชาติ แต่ถ้าระลึกชาติได้ ก็จะเห็นความแตกต่างระหว่าง ชาติ และ ภพ

ส่วน " เบื้องบน " เป็นคำเรียกที่ไม่เจาะจงถึงเทพองค์ใดองค์หนึ่ง อาจเป็นเพราะว่าไม่รู้แน่ชัด สัมผัส จับต้องไม่ได้ แต่มีอิทธิพล หรือดลบันดาลให้เรากระทำ หรือละเว้นการกระทำบางอย่างได้ อย่างกรณีของผม


 emo48:)
ขอบคุณสำหรับคำตอบค่ะ คุณก้าน
1.  คำตอบของคุณก้านพัชเข้าใจว่า  ชาติแบ่งตามเกิดขึ้นของร่างกายเมื่อเริ่มมีลมหายใจ  ไปสิ้นสุดที่เมื่อร่างกายนี้หมดลมหายใจ  ุ เป็น  หนึ่งชาติ   ถูกต้องไหมคะ
2.  นอกจากชาติตามที่คุณก้านว่านี้แล้ว ยังแบ่งแบบอื่นได้อีกไหมคะ  (ห้ามบอกว่าชาติไทย ชาติจีน ....อะไรอย่างนี้นะ)
3.  คำตอบเรื่อง เบื้องบน  พัชเข้าใจคำอธิบายว่าหมายถึงเทพ   และนอกจากเทพ  ที่คุณก้านพบว่ามีอิทธิพลหรือดลบันดาลให้ทำหรือไม่ทำบางอย่างได้นั้น ยังมีสิ่งอื่นอีกหรือไม่ที่คุณก้านถือว่ามีอิทธิพลต่อคุณก้านที่จะทำหรือไม่ทำบางอย่าง  ถ้ามีขอทราบว่ามีอะไรบ้างค่ะ

ยังมีคำถามอยู่อีกหลายคำถาม  ถ้าไม่เบื่อตอบเสียก่อน จะมาถามอีก  แต่ตอนนี้รบกวนคำถามข้างต้นค่ะ  ขอบคุณค่ะ




4. กลับมา เพิ่มเติมคำถาม   ที่ว่า  ภพ คือ โลก   โลกสวรรค์  โลกมนุษย์  ถ้าจะสรุปว่า   คือ  ที่อยู่ของกายและใจได้ไหม
และขอถามว่า   กายอยู่โลกมนุษย์ ใจอยู่โลกมนุษย์ด้วยเสมอไปมั้ย  อะไรทำให้ได้มาอยู่โลกมนุษย์และอะไรทำให้อยู่โลกสวรรค์คะ

ดูภาพประกอบ

(http://img216.imageshack.us/img216/664/pagejjj.jpg)


หัวข้อ: Re: มหากาพย์ ความรัก และ ชาติภพ
เริ่มหัวข้อโดย: พัช 24 ที่ 28 กรกฎาคม 2552, 15:22:11
 emo43
อ้างถึง
ข้อความของ พัช 24 เมื่อ 28 กรกฎาคม 2552, 13:51:45
อ้างถึง
ข้อความของ jacky เมื่อ 28 กรกฎาคม 2552, 09:53:12
เรื่องของ "มาร"



สรุปรวมความว่า มาร ๕ มีครบถ้วนอยู่ในกายในใจของเรานี้ทั้งหมด พอเกิดมาได้รูปได้นามแล้วก็ได้มาร ๕ มาพร้อมเลย เราจะรู้จะเห็นตัวของมันหรือไม่รู้ไม่เห็นก็ตาม ขันธมารและมัจจุมารมันก็ทำหน้าที่ของมันอยู่อย่างนั้น ส่วนกิเลสมาร เทวบุตรมาร และอภิสังขารมารนั้น เมื่อรู้เท่าเข้าใจตามเป็นจริงของมันแล้ว จะไม่สามารถหลอกลวงให้ไปติดบ่วงมันได้เลย
       
มาสนับสนุนหลวงพี่จักร  ด้วยการให้ความหมายของมารทั้งห้า

มาร คือสิ่งที่ฆ่าเราจากความดี  หรือเป็นสิ่งขวางไม่ให้ได้พัฒนาตนยิ่ง ๆ ขึ้นไป

ขันธมาร    ขันธ์=กอง  พระพุทธเจ้าท่านว่าไม่มีคนในเรา บางทีท่านว่า เป็นทีธาตุมาประชุม  บางที่ท่านก็ว่า เป็นขันธ์ห้า(ห้ากอง)  คือ รูป  เวทนา สัญญา สังขาร และ วิญญาณ (หรือแบ่งเป็นสองกองใหญ่ก็คือ รูปกับนาม)
ขันธมาร ก็คือสิ่งกีดขวางจาก "เรา" เอง เช่นว่า จะไปวัดทำบุญ  ก็ให้ปวดหัวตัวร้อน ท้องไส้ปั่นป่วน(อันนี้ในอดีตเคยเป็นกับตัวเอง) ปวดแข้งปวดขาไปไหนไม่ได้  ประมาณนี้  ดูเผิน ๆ ก็เหมือนมันเป็นจริงนะ  แต่ถ้าเราลุกมาสู้มารตัวนี้มันก็แพ้เราได้ค่ะ  แต่ต้องแน่วแน่ก่อนว่าสิ่งที่เราจะทำนี้เป็นสิ่งที่ถูกที่ควร จะต้องทำให้สำเร็จ  ผู้ที่เขามีความแน่วแน่จริง ๆ เขายอมตายกันเลยค่ะ
มัจจุมาร   พระท่านว่าอย่ามัวประมาท  หายใจเข้าไม่หายใจออกก็ตายแล้ว  ดังนั้นจะทำความมดี จะพัฒนาตนต้องอย่าผลัดผ่อนค่ะ  เดี๋ยว ความตายมาพรากเราไปเสียก่อน
กิเลสมาร  อันนี้คงพอคุ้น วันนี้ขอเอ่ยถึงกิเลสใหญ่ คือ  ราคะ  โทสะ โมหะ

เทวบุตรมาร อธิบายสั้น ๆ ถ้าเป็นคนแบบเรา ๆ ก็คือ พวกอันธพาล มีมิจฉาทิฎฐิ แต่ในกามาวจรภูิมินอกจากมนุษย์แล้วก็ยังมีเทวดาเป็นต้น  ดังนั้นในที่นี้ก็คือเทวดาเกเรชอบมีอิทธิพลเหนือมนุษย์และชักจูงไปในทางเสีย (วันหลังจะมาเล่าให้ฟังว่าชาวพุทธควรเป็นอย่างไรกับเทวดาตามที่ครูบาอาจารย์ท่านสอน)

อภิสังขารมาร เป็นเจตนากรรมของเราแต่ในอดีตค่ะ  เคยได้ยินมาว่าพระคุณเจ้าองค์หนึ่งติดขัดไม่สามารถบรรลุธรรมขั้นสุดได้  เพราะติดเจตนาที่เคยปรารถนาพุทธภูมิ  ในที่สุดก็ต้องถอนเจตนานั้นจึงบรรลุธรรมขั้นสุด  ไม่ทราบมีใครเคยได้ยินมาบ้าง คงพอทราบว่าเป็นพระคุณเจ้าองค์ใด
 
 


หัวข้อ: Re: มหากาพย์ ความรัก และ ชาติภพ
เริ่มหัวข้อโดย: jacky ที่ 28 กรกฎาคม 2552, 15:42:30
อ้างถึง
ข้อความของ พัช 24 เมื่อ 28 กรกฎาคม 2552, 15:22:11
emo43
อ้างถึง
ข้อความของ พัช 24 เมื่อ 28 กรกฎาคม 2552, 13:51:45
อ้างถึง
ข้อความของ jacky เมื่อ 28 กรกฎาคม 2552, 09:53:12
เรื่องของ "มาร"



สรุปรวมความว่า มาร ๕ มีครบถ้วนอยู่ในกายในใจของเรานี้ทั้งหมด พอเกิดมาได้รูปได้นามแล้วก็ได้มาร ๕ มาพร้อมเลย เราจะรู้จะเห็นตัวของมันหรือไม่รู้ไม่เห็นก็ตาม ขันธมารและมัจจุมารมันก็ทำหน้าที่ของมันอยู่อย่างนั้น ส่วนกิเลสมาร เทวบุตรมาร และอภิสังขารมารนั้น เมื่อรู้เท่าเข้าใจตามเป็นจริงของมันแล้ว จะไม่สามารถหลอกลวงให้ไปติดบ่วงมันได้เลย
       
มาสนับสนุนหลวงพี่จักร  ด้วยการให้ความหมายของมารทั้งห้า

มาร คือสิ่งที่ฆ่าเราจากความดี  หรือเป็นสิ่งขวางไม่ให้ได้พัฒนาตนยิ่ง ๆ ขึ้นไป

ขันธมาร    ขันธ์=กอง  พระพุทธเจ้าท่านว่าไม่มีคนในเรา บางทีท่านว่า เป็นทีธาตุมาประชุม  บางที่ท่านก็ว่า เป็นขันธ์ห้า(ห้ากอง)  คือ รูป  เวทนา สัญญา สังขาร และ วิญญาณ (หรือแบ่งเป็นสองกองใหญ่ก็คือ รูปกับนาม)
ขันธมาร ก็คือสิ่งกีดขวางจาก "เรา" เอง เช่นว่า จะไปวัดทำบุญ  ก็ให้ปวดหัวตัวร้อน ท้องไส้ปั่นป่วน(อันนี้ในอดีตเคยเป็นกับตัวเอง) ปวดแข้งปวดขาไปไหนไม่ได้  ประมาณนี้  ดูเผิน ๆ ก็เหมือนมันเป็นจริงนะ  แต่ถ้าเราลุกมาสู้มารตัวนี้มันก็แพ้เราได้ค่ะ  แต่ต้องแน่วแน่ก่อนว่าสิ่งที่เราจะทำนี้เป็นสิ่งที่ถูกที่ควร จะต้องทำให้สำเร็จ  ผู้ที่เขามีความแน่วแน่จริง ๆ เขายอมตายกันเลยค่ะ
มัจจุมาร   พระท่านว่าอย่ามัวประมาท  หายใจเข้าไม่หายใจออกก็ตายแล้ว  ดังนั้นจะทำความมดี จะพัฒนาตนต้องอย่าผลัดผ่อนค่ะ  เดี๋ยว ความตายมาพรากเราไปเสียก่อน
กิเลสมาร  อันนี้คงพอคุ้น วันนี้ขอเอ่ยถึงกิเลสใหญ่ คือ  ราคะ  โทสะ โมหะ

เทวบุตรมาร อธิบายสั้น ๆ ถ้าเป็นคนแบบเรา ๆ ก็คือ พวกอันธพาล มีมิจฉาทิฎฐิ แต่ในกามาวจรภูิมินอกจากมนุษย์แล้วก็ยังมีเทวดาเป็นต้น  ดังนั้นในที่นี้ก็คือเทวดาเกเรชอบมีอิทธิพลเหนือมนุษย์และชักจูงไปในทางเสีย (วันหลังจะมาเล่าให้ฟังว่าชาวพุทธควรเป็นอย่างไรกับเทวดาตามที่ครูบาอาจารย์ท่านสอน)

อภิสังขารมาร เป็นเจตนากรรมของเราแต่ในอดีตค่ะ  เคยได้ยินมาว่าพระคุณเจ้าองค์หนึ่งติดขัดไม่สามารถบรรลุธรรมขั้นสุดได้  เพราะติดเจตนาที่เคยปรารถนาพุทธภูมิ  ในที่สุดก็ต้องถอนเจตนานั้นจึงบรรลุธรรมขั้นสุด  ไม่ทราบมีใครเคยได้ยินมาบ้าง คงพอทราบว่าเป็นพระคุณเจ้าองค์ใด
 
 

อย่างนี้ต้อง "แฮพ"
ขอบคุณแม่เลี้ยง
ที่ขยายความ
แบบ
"คม ชัด ลึก"
ที่ข้าพเจ้า บ่ มีความรู้เลย



หัวข้อ: Re: มหากาพย์ ความรัก และ ชาติภพ
เริ่มหัวข้อโดย: swsm ที่ 28 กรกฎาคม 2552, 15:57:57
งั้นป้าขอ "แฮพ" ต่ออีกที
เว็บนี้ทำให้พวกเราได้มี Knowledge Sharing ที่เยี่ยมมากเลยอ่ะ .. ว่าแมะ  


หัวข้อ: Re: มหากาพย์ ความรัก และ ชาติภพ
เริ่มหัวข้อโดย: jacky ที่ 28 กรกฎาคม 2552, 16:03:07
อ้างถึง
ข้อความของ swsm เมื่อ 28 กรกฎาคม 2552, 15:57:57
งั้นป้าขอ "แฮพ" ต่ออีกที
เว็บนี้ทำให้พวกเราได้มี Knowledge Sharing ที่เยี่ยมมากเลยอ่ะ .. ว่าแมะ  

variety 24 square
นะพี่หยี
emo31:bye:


หัวข้อ: Re: มหากาพย์ ความรัก และ ชาติภพ
เริ่มหัวข้อโดย: swsm ที่ 28 กรกฎาคม 2552, 16:07:56
โอเช .. น้องแจ๊กกี้
แทงยูคร่ะ


หัวข้อ: Re: มหากาพย์ ความรัก และ ชาติภพ
เริ่มหัวข้อโดย: suphot ที่ 28 กรกฎาคม 2552, 16:13:19
อ้างถึง
ข้อความของ swsm เมื่อ 28 กรกฎาคม 2552, 16:07:56
โอเช .. น้องแจ๊กกี้
แทงยูคร่ะ

เฮ้ย! Jacky แก่ยอมให้พีหะยี แทงได้ไงว่ะ ? ( วอนแล้วกู )


หัวข้อ: Re: มหากาพย์ ความรัก และ ชาติภพ
เริ่มหัวข้อโดย: jacky ที่ 28 กรกฎาคม 2552, 19:45:43
อ้างถึง
ข้อความของ suphot เมื่อ 28 กรกฎาคม 2552, 16:13:19
อ้างถึง
ข้อความของ swsm เมื่อ 28 กรกฎาคม 2552, 16:07:56
โอเช .. น้องแจ๊กกี้
แทงยูคร่ะ

เฮ้ย! Jacky แก่ยอมให้พีหะยี แทงได้ไงว่ะ ? ( วอนแล้วกู )
อ่ะน่ะ...ทั่นหะ-มู
มันอยู่ใน ธีม
"มหากาพย์ ความรักและชาติพันธุ์ เอ๊ย ชาติภพ"
พี่หะ-ยี เธอคงไม่อยากให้หลุดธีม มากไปอ่ะนะ


หัวข้อ: Re: มหากาพย์ ความรัก และ ชาติภพ
เริ่มหัวข้อโดย: swsm ที่ 29 กรกฎาคม 2552, 12:14:09
ถูกต้องคร่ะ ..

ไม่ว่าจะเป็น theme ของกระทู้หรือของพี่เอง..
พี่ย่อมไม่ยอมหลุด (theme) อยู่แล๊นนนนน !!


emo20:)):)


หัวข้อ: Re: มหากาพย์ ความรัก และ ชาติภพ
เริ่มหัวข้อโดย: SC (ก้าน 24) ที่ 29 กรกฎาคม 2552, 19:20:47
ศรัทธา เกิดจากความประทับใจในประสบการณ์ที่ได้รับ คนเราส่วนใหญ่มีจิตวิทยาที่คล้ายๆกัน หากเชื่อมั่นในสิ่งใด ทำตามแล้วได้ดี (ก็อยู่ที่ความต้องการของแต่ละบุคคลอีกว่าอย่างไรเรียกว่าดีในความรู้สึกของตน) คนเราก็จะเชื่อในสิ่งนั้น เรียกว่า การเสริมแรง มากครั้งเข้าก็กลายเป็นศรัทธา

ผมขอไม่ตอบคำถามที่นำไปสู่การทะเลาะในเรื่องศรัทธาความเชื่อ ผมไม่มองทุกคนเป็นแบบ Monotonous ประสบการณ์ของผมบอกให้ผมรู้ว่าไม่มีวิถีทางเดียวในจักรวาลนี้ วิถี่ทางที่ดีที่สุดในโลกใบนี้ ก็ไม่ใช่ทางของผม   

เอาไว้ เมื่อถึงเรื่อง " ตาที่สาม  " ก็อาจจะเห็นชัดขึ้นว่า " คนเราทำได้ดีในหนทางหนึ่ง แต่อาจทำไม่ได้เลย ในหนทางอีกสายหนึ่ง
 

 emo48:)

 


หัวข้อ: Re: มหากาพย์ ความรัก และ ชาติภพ
เริ่มหัวข้อโดย: SC (ก้าน 24) ที่ 29 กรกฎาคม 2552, 19:42:16
อ้างถึง
ข้อความของ jacky เมื่อ 28 กรกฎาคม 2552, 10:32:36
ก้าน
ผมยังมีบทความดีๆ
แปะไว้ที่บ้านผม และบ้านแม่เลี้ยงพัชนะ


ขอบคุณมั่กๆ
แต่ชีวิตเราจะเข้ากับบัญญัติแห่งความสำเร็จ 10 ประการดังนี้


 
อ้างถึง   

บัญญัติประการแรกแห่งความสำเร็จ - -จงหมั่นทำงานในแต่ละวัน ประหนึ่งชีวิตแขวนอยู่บนเส้นด้าย  
บัญญัติแห่งความสำเร็จประการที่สอง - - จงเรียนรู้ว่า ด้วยความอดทนจะสามารถควบคุมชะตากรรมของตนเองได้  
บัญญัติแห่งความสำเร็จประการที่สาม - - ต้องกำหนดเส้นทางให้ดี หรือมิฉะนั้นก็ถูกพัดพาล่องลอยไปตลอดกาล  
บัญญัติแห่งความสำเร็จประการที่สี่ - - จงเตรียมพร้อมที่จะเผชิญกับความมืดมิด แม้ในขณะเดินทางอยู่ท่ามกลางแสงตะวัน
บัญญัติแห่งความสำเร็จประการที่ห้า - - จงยิ้มใส่หน้าความทุกข์ยาก จนกระทั่งมันยอมพ่ายแพ้  
บัญญัติแห่งความสำเร็จประการที่หก - - จงตระหนักว่าแผนการเป็นแต่เพียงความฝัน หากขาดการปฏิบัติ
บัญญัติแห่งความสำเร็จประการที่เจ็ด - -จงกวาดใยแมงมุมออกจากจิตใจ ก่อนที่มันจะจองจำท่านเป็นนักโทษ  
บัญญัติแห่งความสำเร็จประการที่แปด - - จงแบ่งเบาสัมภาระ หากปรารถนาจะถึงจุดหมายปลายทาง  
บัญญัติแห่งความสำเร็จประการที่เก้า - - จงอย่าลืมว่า สรรพสิ่งมักจะสายกว่าที่คิดเสมอ  
บทบัญญัติแห่งความสำเร็จประการที่สิบ---จงอย่าดิ้นรนที่จะเป็นอะไรอื่น นอกจากตัวของท่านเอง

ที่เราโดนคือ บทบัญญัติประการที่สี่ - - จงเตรียมพร้อมที่จะเผชิญกับความมืดมิด แม้ในขณะเดินทางอยู่ท่ามกลางแสงตะวัน หลังจากการเจรจาต่อรองเสร็จสิ้น เราก็เหมือนเดินทางอยู่ท่ามกลางแสงตะวัน ดูโลกมันสว่างไสว พอพี่หมอตายมันคือความมืดมิด ที่เราไม่ได้เตรียมตัวที่จะเผชิญกับมัน

 emo48:)


หัวข้อ: Re: มหากาพย์ ความรัก และ ชาติภพ
เริ่มหัวข้อโดย: SC (ก้าน 24) ที่ 29 กรกฎาคม 2552, 19:44:53
อ้างถึง
ข้อความของ หนุน'21 เมื่อ 26 กรกฎาคม 2552, 19:20:14
emo47

สวัสดี
ตามอ่านด้วย น้องก้าน
อิ อิ อ่านบางตอน เขินแทนเหมือนกันนะนี่

อิตอนที่ไปมองหน้าอก...ใครคนนั้นอ่ะ
มาต่อเลย
พี่รออ่านอยู่


 emo42

สวัสดีครับ พี่หนุน

วันนั้นคาใจ
วันนี้ก็ยังคาใจ
ไม่มีคำตอบ


 emo24:(


หัวข้อ: Re: มหากาพย์ ความรัก และ ชาติภพ
เริ่มหัวข้อโดย: SC (ก้าน 24) ที่ 29 กรกฎาคม 2552, 20:08:29
ดีขึ้นทันตา ร่วงลงมาทันใด

ปลายปี 2526 หลังจากที่พี่หมอเสียชีวิตได้ประมาณ 5 เดือนผมได้ไปหางานทำกับพรรคการเมืองแถวๆการ์เด้นโฮม เห็นมีพรรคการเมืองใหม่เลยชะเง้อดู ก็เห็นมีชาย 2 คนอายุประมาณ 55-60 ปี เขาก็กวักมือเรียกให้เข้าไป หลังจากพูดคุยเรื่องงานเสร็จ 1 ใน 2 นั้นก็พูดว่า " มะ เดี๋ยวดูดวงให้ " พอดูเสร็จอาจารย์ก็ให้กำมือ แล้วรูดจากไต้ตาลงมา บอกว่า " มีไฝบ้างไหม? " ก็ปรากฏว่า มีจริงๆ อาจารย์เลยบอก " ให้ไปตัดออก ใช้มีดหมอโรงพยาบาลนี่แหล่ะ แต่ก่อนตัดให้ไปทำสังฆทานก่อน " แล้วอาจารย์ก็บอกว่า " วันนี้วันสุดท้ายพอดี ต้องทำให้เสร็จก่อน 2 ทุ่มคืนนี้นะ ก่อนออกจากที่พักให้จุดธูปไว้หน้าห้อง..."
 
ตกลงคืนวันนั้นก่อน 2 ทุ่มผมก็ได้ทำตามที่อาจารย์บอกทุกอย่าง อาทิตย์ต่อมาผมก็ได้ไปตัดไฝ พอออกจากโรงพยาบาล ผมก็โทรหาพี่ที่คบหากัน เขาก็บอกว่า " แกไปไหนมา นี่คนที่เคยทำตลาดด้วยกันเขาถูกหวยตั้ง 4 ล้าน...  " ตกลงหลังจากนั้นไม่นานผมก็มีงานเข้า และคิดว่าคงไปได้โลด
 
ทุกอย่างเริ่มดำเนินการตอนต้นปีใหม่ หลังจากนั้นประมาณเดือน ที่คิดว่าจะโลดก็กลับพังคลืนลงอย่างไม่เป็นท่า เหตุเกิดจากผมเองที่ไว้ใจเพื่อนมากเกินเหตุ แล้วเหตุการณ์ก็กลับไปเหมือนเดิม ไม่เคยเข็ดในความใจกว้างของตนเอง
 
ถ้าครั้งนั้นผมขึ้นมาได้ ผมก็จะเชื่ออย่างปักใจในหญิงที่ชื่อปุ๊ก แล้วอะไรจะเกิดขึ้น? เพราะกว่าที่ผมจะรู้ว่าปุ๊กไม่ใช่คนที่ผมตามหา ก็เมื่อล่วงเลยมาจนถึงเดือนมิถุนายน - กรกฎาคม 2548 แล้ว
 
จากเหตุการณ์ครั้งนั้นทำให้ผมตัดสินใจกลับไปใช้นามสกุลเดิมของพ่อ และ การตระหนักในรูปศรกลางอกของตนเอง และชื่อมีคำว่า " ศร " นำหน้าตั้งแต่ 21 พฤษภาคม 2547 เป็นต้นมา...


 emo48:)


หัวข้อ: Re: มหากาพย์ ความรัก และ ชาติภพ
เริ่มหัวข้อโดย: Lamai ที่ 29 กรกฎาคม 2552, 20:50:26
อ้างถึง
ข้อความของ หนุน'21 เมื่อ 28 กรกฎาคม 2552, 07:50:03
อ้างถึง
ข้อความของ jacky เมื่อ 27 กรกฎาคม 2552, 23:01:38
แถม

(http://img89.imageshack.us/img89/9954/59438.jpg)

ขอบคุณมากน้องจักร "บุรุษผู้ที่ยังไม่เคยทักทายกันเลย"
ชอบอันนี้ ขออนุญาต แฮฟ ไปเก็บไว้ทบทวนชีวิตของตัวเองครับ
ความจริงชีวิตเราไม่มีอะไรมากเลย
เพียงแต่ถ้าเราไม่วางเงื่อนไขให้กับตัวเรามากเกินไป
คิดว่าสุข ก็สุข
คิดว่าทุกข์ ก็ทุกข์

เอ้า...สาธุ....


 emo48:)

สวัสดีค่ะพี่หนุน
ไมชอบมากค่ะ กับคำพูดที่ว่า
คิดว่าสุข ก็สุข
คิดว่าทุกข์ ก็ทุกข์


หัวข้อ: Re: มหากาพย์ ความรัก และ ชาติภพ
เริ่มหัวข้อโดย: Kaimook ที่ 29 กรกฎาคม 2552, 21:23:23
หวัดดีจ่ะก้าน emo4:)) emo4:)) emo4:))


หัวข้อ: Re: มหากาพย์ ความรัก และ ชาติภพ
เริ่มหัวข้อโดย: jacky ที่ 29 กรกฎาคม 2552, 23:46:44
อ้างถึง
ข้อความของ Q??? เมื่อ 29 กรกฎาคม 2552, 20:08:29
ดีขึ้นทันตา ร่วงลงมาทันใด

ปลายปี 2526 หลังจากที่พี่หมอเสียชีวิตได้ประมาณ 5 เดือนผมได้ไปหางานทำกับพรรคการเมืองแถวๆการ์เด้นโฮม เห็นมีพรรคการเมืองใหม่เลยชะเง้อดู ก็เห็นมีชาย 2 คนอายุประมาณ 55-60 ปี เขาก็กวักมือเรียกให้เข้าไป หลังจากพูดคุยเรื่องงานเสร็จ 1 ใน 2 นั้นก็พูดว่า " มะ เดี๋ยวดูดวงให้ " พอดูเสร็จอาจารย์ก็ให้กำมือ แล้วรูดจากไต้ตาลงมา บอกว่า " มีไฝบ้างไหม? " ก็ปรากฏว่า มีจริงๆ อาจารย์เลยบอก " ให้ไปตัดออก ใช้มีดหมอโรงพยาบาลนี่แหล่ะ แต่ก่อนตัดให้ไปทำสังฆทานก่อน " แล้วอาจารย์ก็บอกว่า " วันนี้วันสุดท้ายพอดี ต้องทำให้เสร็จก่อน 2 ทุ่มคืนนี้นะ ก่อนออกจากที่พักให้จุดธูปไว้หน้าห้อง..."
 
ตกลงคืนวันนั้นก่อน 2 ทุ่มผมก็ได้ทำตามที่อาจารย์บอกทุกอย่าง อาทิตย์ต่อมาผมก็ได้ไปตัดไฝ พอออกจากโรงพยาบาล ผมก็โทรหาพี่ที่คบหากัน เขาก็บอกว่า " แกไปไหนมา นี่คนที่เคยทำตลาดด้วยกันเขาถูกหวยตั้ง 4 ล้าน...  " ตกลงหลังจากนั้นไม่นานผมก็มีงานเข้า และคิดว่าคงไปได้โลด
 
ทุกอย่างเริ่มดำเนินการตอนต้นปีใหม่ หลังจากนั้นประมาณเดือน ที่คิดว่าจะโลดก็กลับพังคลืนลงอย่างไม่เป็นท่า เหตุเกิดจากผมเองที่ไว้ใจเพื่อนมากเกินเหตุ แล้วเหตุการณ์ก็กลับไปเหมือนเดิม ไม่เคยเข็ดในความใจกว้างของตนเอง
 
ถ้าครั้งนั้นผมขึ้นมาได้ ผมก็จะเชื่ออย่างปักใจในหญิงที่ชื่อปุ๊ก แล้วอะไรจะเกิดขึ้น? เพราะกว่าที่ผมจะรู้ว่าปุ๊กไม่ใช่คนที่ผมตามหา ก็เมื่อล่วงเลยมาจนถึงเดือนมิถุนายน - กรกฎาคม 2548 แล้ว
 
จากเหตุการณ์ครั้งนั้นทำให้ผมตัดสินใจกลับไปใช้นามสกุลเดิมของพ่อ และ การตระหนักในรูปศรกลางอกของตนเอง และชื่อมีคำว่า " ศร " นำหน้าตั้งแต่ 21 พฤษภาคม 2547 เป็นต้นมา...


 emo48:)
ศรราม???

คายเคลียดเน่อ ก้าน


หัวข้อ: Re: มหากาพย์ ความรัก และ ชาติภพ
เริ่มหัวข้อโดย: jacky ที่ 29 กรกฎาคม 2552, 23:48:52
อ้างถึง
ข้อความของ Q??? เมื่อ 29 กรกฎาคม 2552, 19:20:47
ศรัทธา เกิดจากความประทับใจในประสบการณ์ที่ได้รับ คนเราส่วนใหญ่มีจิตวิทยาที่คล้ายๆกัน หากเชื่อมั่นในสิ่งใด ทำตามแล้วได้ดี (ก็อยู่ที่ความต้องการของแต่ละบุคคลอีกว่าอย่างไรเรียกว่าดีในความรู้สึกของตน) คนเราก็จะเชื่อในสิ่งนั้น เรียกว่า การเสริมแรง มากครั้งเข้าก็กลายเป็นศรัทธา

ผมขอไม่ตอบคำถามที่นำไปสู่การทะเลาะในเรื่องศรัทธาความเชื่อ ผมไม่มองทุกคนเป็นแบบ Monotonous ประสบการณ์ของผมบอกให้ผมรู้ว่าไม่มีวิถีทางเดียวในจักรวาลนี้ วิถี่ทางที่ดีที่สุดในโลกใบนี้ ก็ไม่ใช่ทางของผม   

เอาไว้ เมื่อถึงเรื่อง " ตาที่สาม  " ก็อาจจะเห็นชัดขึ้นว่า " คนเราทำได้ดีในหนทางหนึ่ง แต่อาจทำไม่ได้เลย ในหนทางอีกสายหนึ่ง
 

 emo48:)

 
อืมมมม...น่าคิดนะ
แต่ผมว่ามันอยู่ครบใน 10 ข้อของทั่นแล้วล่ะ
"จงมีศรัทธาในความดี"
จากเพื่อน


หัวข้อ: Re: มหากาพย์ ความรัก และ ชาติภพ
เริ่มหัวข้อโดย: หนุน'21 ที่ 30 กรกฎาคม 2552, 08:04:04
อ้างถึง
ข้อความของ Lamai เมื่อ 29 กรกฎาคม 2552, 20:50:26
อ้างถึง
ข้อความของ หนุน'21 เมื่อ 28 กรกฎาคม 2552, 07:50:03
อ้างถึง
ข้อความของ jacky เมื่อ 27 กรกฎาคม 2552, 23:01:38
แถม

(http://img89.imageshack.us/img89/9954/59438.jpg)

ขอบคุณมากน้องจักร "บุรุษผู้ที่ยังไม่เคยทักทายกันเลย"
ชอบอันนี้ ขออนุญาต แฮฟ ไปเก็บไว้ทบทวนชีวิตของตัวเองครับ
ความจริงชีวิตเราไม่มีอะไรมากเลย
เพียงแต่ถ้าเราไม่วางเงื่อนไขให้กับตัวเรามากเกินไป
คิดว่าสุข ก็สุข
คิดว่าทุกข์ ก็ทุกข์

เอ้า...สาธุ....


 emo48:)

สวัสดีค่ะพี่หนุน
ไมชอบมากค่ะ กับคำพูดที่ว่า
คิดว่าสุข ก็สุข
คิดว่าทุกข์ ก็ทุกข์


ครับน้องไม เป็นแบบนี้จริงๆนะ พี่หนุนว่า
หวัดดี น้องก้าน น้องอ้อย น้องจักร
น้องพจน์ น้องหยี น้องพัช
และทุกคนที่เข้ามาในห้องนี้
เราก็ตามอ่านความคิด ความเห็น ความเชื่อ
กันต่อไป


 emo24:(


หัวข้อ: Re: มหากาพย์ ความรัก และ ชาติภพ
เริ่มหัวข้อโดย: พัช 24 ที่ 30 กรกฎาคม 2552, 09:51:01
อ้างถึง
ข้อความของ Q??? เมื่อ 29 กรกฎาคม 2552, 19:20:47
ศรัทธา เกิดจากความประทับใจในประสบการณ์ที่ได้รับ คนเราส่วนใหญ่มีจิตวิทยาที่คล้ายๆกัน หากเชื่อมั่นในสิ่งใด ทำตามแล้วได้ดี (ก็อยู่ที่ความต้องการของแต่ละบุคคลอีกว่าอย่างไรเรียกว่าดีในความรู้สึกของตน) คนเราก็จะเชื่อในสิ่งนั้น เรียกว่า การเสริมแรง มากครั้งเข้าก็กลายเป็นศรัทธา

ผมขอไม่ตอบคำถามที่นำไปสู่การทะเลาะในเรื่องศรัทธาความเชื่อ ผมไม่มองทุกคนเป็นแบบ Monotonous ประสบการณ์ของผมบอกให้ผมรู้ว่าไม่มีวิถีทางเดียวในจักรวาลนี้ วิถี่ทางที่ดีที่สุดในโลกใบนี้ ก็ไม่ใช่ทางของผม   

เอาไว้ เมื่อถึงเรื่อง " ตาที่สาม  " ก็อาจจะเห็นชัดขึ้นว่า " คนเราทำได้ดีในหนทางหนึ่ง แต่อาจทำไม่ได้เลย ในหนทางอีกสายหนึ่ง
 

 emo48:)

 
คุณก้านยังไม่เห็นตอบคำถามของพัชเลยค่ะ

เห็นด้วยกับคุณก้านค่ะ ว่ามีหลายทางในจักรวาลนี้  และก็มีหลายจุดหมายเช่นกัน
พัชว่าที่สำคัญต้องเลือกจุดหมายปลายทางให้ดีค่ะ  ไม่งั้นเสียเวลาเดินทาง
แต่ถ้าเลือกปลายทางที่ดีที่ควรแล้ว  วิถีที่จะพาไปอาจมีรายละเอียดแตกต่าง สะดวกสบายยากง่าย  ถึงที่หมายช้าเร็ว   แต่ต้องไม่พาให้หลงทางค่ะ

ส่วนเรื่องศรัทธาก็เป็นสิ่งสำคัญเพราะทำให้จิตมีพลัง  แต่ข้อเสียของศรัทธาที่มากเกินไปทำให้ปัญญามาอ่อนแอลงค่ะ  สิ่งที่ต้องฝึกให้มีให้มาก ๆ ในจิตใจคนเราคือ สติค่ะ  เพราะเป็นพี่เลี้ยงใหญ่ไว้คอยเตือน ค่ะ





หัวข้อ: Re: มหากาพย์ ความรัก และ ชาติภพ
เริ่มหัวข้อโดย: พัช 24 ที่ 30 กรกฎาคม 2552, 10:05:52
อ้างถึง
ข้อความของ Q??? เมื่อ 29 กรกฎาคม 2552, 19:42:16
อ้างถึง
ข้อความของ jacky เมื่อ 28 กรกฎาคม 2552, 10:32:36
ก้าน
ผมยังมีบทความดีๆ
แปะไว้ที่บ้านผม และบ้านแม่เลี้ยงพัชนะ


ขอบคุณมั่กๆ
แต่ชีวิตเราจะเข้ากับบัญญัติแห่งความสำเร็จ 10 ประการดังนี้


 
อ้างถึง   

บัญญัติประการแรกแห่งความสำเร็จ - -จงหมั่นทำงานในแต่ละวัน ประหนึ่งชีวิตแขวนอยู่บนเส้นด้าย  
บัญญัติแห่งความสำเร็จประการที่สอง - - จงเรียนรู้ว่า ด้วยความอดทนจะสามารถควบคุมชะตากรรมของตนเองได้  
บัญญัติแห่งความสำเร็จประการที่สาม - - ต้องกำหนดเส้นทางให้ดี หรือมิฉะนั้นก็ถูกพัดพาล่องลอยไปตลอดกาล  
บัญญัติแห่งความสำเร็จประการที่สี่ - - จงเตรียมพร้อมที่จะเผชิญกับความมืดมิด แม้ในขณะเดินทางอยู่ท่ามกลางแสงตะวัน
บัญญัติแห่งความสำเร็จประการที่ห้า - - จงยิ้มใส่หน้าความทุกข์ยาก จนกระทั่งมันยอมพ่ายแพ้  
บัญญัติแห่งความสำเร็จประการที่หก - - จงตระหนักว่าแผนการเป็นแต่เพียงความฝัน หากขาดการปฏิบัติ
บัญญัติแห่งความสำเร็จประการที่เจ็ด - -จงกวาดใยแมงมุมออกจากจิตใจ ก่อนที่มันจะจองจำท่านเป็นนักโทษ  
บัญญัติแห่งความสำเร็จประการที่แปด - - จงแบ่งเบาสัมภาระ หากปรารถนาจะถึงจุดหมายปลายทาง  
บัญญัติแห่งความสำเร็จประการที่เก้า - - จงอย่าลืมว่า สรรพสิ่งมักจะสายกว่าที่คิดเสมอ  
บทบัญญัติแห่งความสำเร็จประการที่สิบ---จงอย่าดิ้นรนที่จะเป็นอะไรอื่น นอกจากตัวของท่านเอง

ที่เราโดนคือ บทบัญญัติประการที่สี่ - - จงเตรียมพร้อมที่จะเผชิญกับความมืดมิด แม้ในขณะเดินทางอยู่ท่ามกลางแสงตะวัน หลังจากการเจรจาต่อรองเสร็จสิ้น เราก็เหมือนเดินทางอยู่ท่ามกลางแสงตะวัน ดูโลกมันสว่างไสว พอพี่หมอตายมันคือความมืดมิด ที่เราไม่ได้เตรียมตัวที่จะเผชิญกับมัน

 emo48:)

เชื่อว่าไม่มีใครไม่เคยประสบปัญหาหรอกค่ะคุณก้าน  แม้กระทั่งบุคคลที่เราเห็นว่าเขาประสบความสำเร็จอย่างสูงก็ตาม   แต่ทุกสิ่งมีดีและไม่ดีมาพร้อมกันเสมอ  ปัญหาก็ช่วยให้เราได้ฝึกฝนตนเองทั้งจิตใจและด้านอื่น ๆ ที่จะทำให้เราผ่านปัญหาไปได้  โดยไม่สร้างปัญหาใหม่ ค่ะ  

สำหรับัญญัติของที่เจ็ด   พัชว่าเราต้องรู้ก่อนนะคะ  ว่า  นี่คือ ใยแมงมุม  ในจิตใจ  ไม่รู้จัก  กวาดไม่ถูก มองไม่เห็นค่ะ  



หัวข้อ: Re: มหากาพย์ ความรัก และ ชาติภพ
เริ่มหัวข้อโดย: พัช 24 ที่ 30 กรกฎาคม 2552, 10:12:54
อ้างถึง
ข้อความของ หนุน'21 เมื่อ 30 กรกฎาคม 2552, 08:04:04

ครับน้องไม เป็นแบบนี้จริงๆนะ พี่หนุนว่า
หวัดดี น้องก้าน น้องอ้อย น้องจักร
น้องพจน์ น้องหยี น้องพัช
และทุกคนที่เข้ามาในห้องนี้
เราก็ตามอ่านความคิด ความเห็น ความเชื่อ
กันต่อไป


 emo24:(
สวัสดีค่ะ  พี่หนุน  ยินดีที่ได้คุยด้วยค่ะ
ความสุขมีสองชนิด  อามิสสุข  กับ นิรามิสสุข   นิรามิสสุขไม่ต้องมีเงื่อนไข วัตถุุ หรือสิ่งใด  มาเป็นอามิสล่อใจค่ะ
 สุขจากภายในใจที่ฝึกดีแล้วค่ะพี่หนุน   คงคล้ายกับที่พี่หนุนว่า คิดว่าสุขก็สุข คิดว่าทุกข์ก็ทุกข์  ค่ะ  แต่ไม่คิดก็ยิ่งไม่ทุกข์นะคะ 



หัวข้อ: Re: มหากาพย์ ความรัก และ ชาติภพ
เริ่มหัวข้อโดย: jacky ที่ 30 กรกฎาคม 2552, 10:41:47
อ้างถึง
ข้อความของ หนุน'21 เมื่อ 30 กรกฎาคม 2552, 08:04:04
อ้างถึง
ข้อความของ Lamai เมื่อ 29 กรกฎาคม 2552, 20:50:26
อ้างถึง
ข้อความของ หนุน'21 เมื่อ 28 กรกฎาคม 2552, 07:50:03
อ้างถึง
ข้อความของ jacky เมื่อ 27 กรกฎาคม 2552, 23:01:38
แถม

(http://img89.imageshack.us/img89/9954/59438.jpg)

ขอบคุณมากน้องจักร "บุรุษผู้ที่ยังไม่เคยทักทายกันเลย"
ชอบอันนี้ ขออนุญาต แฮฟ ไปเก็บไว้ทบทวนชีวิตของตัวเองครับ
ความจริงชีวิตเราไม่มีอะไรมากเลย
เพียงแต่ถ้าเราไม่วางเงื่อนไขให้กับตัวเรามากเกินไป
คิดว่าสุข ก็สุข
คิดว่าทุกข์ ก็ทุกข์

เอ้า...สาธุ....


 emo48:)

สวัสดีค่ะพี่หนุน
ไมชอบมากค่ะ กับคำพูดที่ว่า
คิดว่าสุข ก็สุข
คิดว่าทุกข์ ก็ทุกข์


ครับน้องไม เป็นแบบนี้จริงๆนะ พี่หนุนว่า
หวัดดี น้องก้าน น้องอ้อย น้องจักร
น้องพจน์ น้องหยี น้องพัช
และทุกคนที่เข้ามาในห้องนี้
เราก็ตามอ่านความคิด ความเห็น ความเชื่อ
กันต่อไป


 emo24:(
เห็นด้วยครับ
กับพี่หนุนและทุกท่านที่มาแชร์ในห้องนี้
"จิต"
คำเดียวแท้ๆ
สร้างอะไรๆให้เราได้มากมาย
"วิบาก"
มีทั้ง ทางดี และ ไม่ดี
"จงเลือกทางเดินของท่านเถิด"
ทางเผ่ามายาเค้าให้จุดหมายโลกเราแค่อีก 3 ปี
ทำอะไรก็ทำไปเถิด
ถ้ามันเป็นทางที่ดีนะ


(http://img187.imageshack.us/img187/1707/2012wp21600.jpg)


หัวข้อ: Re: มหากาพย์ ความรัก และ ชาติภพ
เริ่มหัวข้อโดย: พัช 24 ที่ 30 กรกฎาคม 2552, 10:52:40
อ้างถึง
ข้อความของ jacky เมื่อ 30 กรกฎาคม 2552, 10:41:47
เห็นด้วยครับ
กับพี่หนุนและทุกท่านที่มาแชร์ในห้องนี้
"จิต"
คำเดียวแท้ๆ
สร้างอะไรๆให้เราได้มากมาย
"วิบาก"
มีทั้ง ทางดี และ ไม่ดี
"จงเลือกทางเดินของท่านเถิด"
ทางเผ่ามายาเค้าให้จุดหมายโลกเราแค่อีก 3 ปี
ทำอะไรก็ทำไปเถิด
ถ้ามันเป็นทางที่ดีนะ


ขออนุญาตขยายความค่ะ

วิบาก   ในความคุ้นเคยกับภาษา  คิดว่าหลาย ๆ คนคงนึกถึงอะไรที่มัน  ทรหด  ลำบาก
แต่คำนี้  ความหมายเป็นกลาง ๆ ค่ะ  คือ  ผลจากการกระทำ
ที่เรามักพูดกันว่า  รับกรรม นั้นจริง ๆ แล้วคือ  รับผลของกรรม   กรรมคือการกระทำ  วิบากคือผลจากการกระทำ

กุศลกรรม-กุศลวิบาก    อกุศลกรรม-อกุศลวิบากค่ะ

ส่วนดี  ขอขยายความตามความเห็นของตนว่า  ควรเป็นดีตามกฎธรรมชาติหรือกฎแห่งกรรม  ไม่ใช่ดีตาม สังคมนิยม  สำหรับผู้ครองเรือนแล้ว การอยู่ในเบญจศีล  และเบญจธรรม  คือดีค่ะ  ช่วยใ้ห้ตนเอง  และสังคมสงบสุขค่ะ




หัวข้อ: Re: มหากาพย์ ความรัก และ ชาติภพ
เริ่มหัวข้อโดย: SC (ก้าน 24) ที่ 30 กรกฎาคม 2552, 13:05:50
พันธะสัญญา ปมปริศนาชีวิต
 
ผมได้เล่าสองเหตุกาณ์ที่เกิดขึ้นในระยะเวลาที่ห่างกันเพียงประมาณ 6 เดือน เหตุการณ์แรกผมกำลังจะขึ้นได้ด้วยความเพียร แล้วก็ต้องพังพาบลงมาด้วยปัจจัยที่ผมไม่สามารถควบคุมได้ ส่วนเหตุกาณ์ที่สองนั้นผมจะขึ้นได้ด้วยอานิสงส์ของพิธีกรรม (ตัดไฝ+ถวายสังฆทาน) แล้วก็พังพาบลงมาเพราะความไว้วางใจเพื่อนมากเกินไป ซึ่งทั้งสองเหตุการณ์สร้างความสะเทือนต่อชีวิตผมอย่างมาก รวมถึงภาพพจน์ของผมในสายตาของผู้ที่รู้แต่ผล แต่มองไม่เห็นสาเหตุ
 
หลังจากที่ผมได้รู้ว่า ผมได้พบคนที่ค้นหาแล้ว เมื่อพิจารณาถึงสถานที่ที่ได้พบกัน และสถานภาพของผม รวมทั้งทุกเหตุการณ์ที่ผ่านมา ผมก็เกิดจำได้ว่า ในช่วงหนึ่งที่ผมรู้สึกทดท้อใจในโชคชะตา ทำไมผมถึงหาโอกาสได้แสดงฝีมือยากเย็นเสียเหลือเกิน ครั้นพอจะมีโอกาสก็พังพาบไปซะก่อน เหมือนเรือล่มปากอ่าวก่อนที่จะได้ออกแล่นสู่มหาสมุทร แล้วแว็บหนึ่งผมก็พูดกับตัวเองว่า " หรือต้องได้เจอเขาก่อน เราถึงจะขึ้นได้... "
 
เมื่อปะติดปะต่อเรื่องราวทั้งหมดตลอด 22 ปีที่ผ่านมา ผมสรุปได้ว่า เบื้องบนที่ปกป้องคุ้มครองชีวิตผม ไม่ให้ผมต้องตายไปก่อนเวลาอันสมควร ตลอดจนผลักดันให้ผมต้องออกจากบ้านเมื่อผมถอดใจไปแล้วนั้น ท่านทำหน้าที่ของพยานในพันธะสัญญาระหว่างผมกับคนที่ผมตามหา เพราะหากฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งต้องมาด่วนตายไปเสียก่อน ก็จะไม่รู้ว่าใครกันแน่ที่เป็นฝ่ายผิดสัญญา
 
และที่ผมต้องประสบความล้มเหลวชีวิตล้มลุกคลุกคลาน บางทีเบื้องบนท่านอาจจะกลั่นแกล้งเพื่อลองใจ เพราะท่านอาจจะอยากรู้ว่าพวกมึงจะรักษาสัญญาที่มีต่อกันได้หรือไม่? ถ้าผมแก่และจน เขาจะรักษาสัญญาได้ไหม? กับ สิ่งที่เขาเป็น ผมรักษาสัญญาได้หรือเปล่า?
 
เพราะอายุผมมากกว่าเขาถึง 26 ปี 4 เดือน 4 วัน!


 emo48:)


หัวข้อ: Re: มหากาพย์ ความรัก และ ชาติภพ
เริ่มหัวข้อโดย: jacky ที่ 30 กรกฎาคม 2552, 18:22:57
อ้างถึง
ข้อความของ พัช 24 เมื่อ 30 กรกฎาคม 2552, 10:52:40
อ้างถึง
ข้อความของ jacky เมื่อ 30 กรกฎาคม 2552, 10:41:47
เห็นด้วยครับ
กับพี่หนุนและทุกท่านที่มาแชร์ในห้องนี้
"จิต"
คำเดียวแท้ๆ
สร้างอะไรๆให้เราได้มากมาย
"วิบาก"
มีทั้ง ทางดี และ ไม่ดี
"จงเลือกทางเดินของท่านเถิด"
ทางเผ่ามายาเค้าให้จุดหมายโลกเราแค่อีก 3 ปี
ทำอะไรก็ทำไปเถิด
ถ้ามันเป็นทางที่ดีนะ


ขออนุญาตขยายความค่ะ

วิบาก   ในความคุ้นเคยกับภาษา  คิดว่าหลาย ๆ คนคงนึกถึงอะไรที่มัน  ทรหด  ลำบาก
แต่คำนี้  ความหมายเป็นกลาง ๆ ค่ะ  คือ  ผลจากการกระทำ
ที่เรามักพูดกันว่า  รับกรรม นั้นจริง ๆ แล้วคือ  รับผลของกรรม   กรรมคือการกระทำ  วิบากคือผลจากการกระทำ

กุศลกรรม-กุศลวิบาก    อกุศลกรรม-อกุศลวิบากค่ะ

ส่วนดี  ขอขยายความตามความเห็นของตนว่า  ควรเป็นดีตามกฎธรรมชาติหรือกฎแห่งกรรม  ไม่ใช่ดีตาม สังคมนิยม  สำหรับผู้ครองเรือนแล้ว การอยู่ในเบญจศีล  และเบญจธรรม  คือดีค่ะ  ช่วยใ้ห้ตนเอง  และสังคมสงบสุขค่ะ



ตรงกันจ๊ะแม้เลี้ยง
มีหลายคนเข้าใจคำว่า "วิบาก"
แบบทรหด อดอยาก
แม่เลี้ยงขยายความได้ทุกเรื่อง
ผมว่า ดีมากๆนะ


(http://img74.imageshack.us/img74/6360/357154433fd4359f786.jpg)


หัวข้อ: Re: มหากาพย์ ความรัก และ ชาติภพ
เริ่มหัวข้อโดย: jacky ที่ 30 กรกฎาคม 2552, 18:25:52
อ้างถึง
ข้อความของ Q??? เมื่อ 30 กรกฎาคม 2552, 13:05:50
พันธะสัญญา ปมปริศนาชีวิต
 
ผมได้เล่าสองเหตุกาณ์ที่เกิดขึ้นในระยะเวลาที่ห่างกันเพียงประมาณ 6 เดือน เหตุการณ์แรกผมกำลังจะขึ้นได้ด้วยความเพียร แล้วก็ต้องพังพาบลงมาด้วยปัจจัยที่ผมไม่สามารถควบคุมได้ ส่วนเหตุกาณ์ที่สองนั้นผมจะขึ้นได้ด้วยอานิสงส์ของพิธีกรรม (ตัดไฝ+ถวายสังฆทาน) แล้วก็พังพาบลงมาเพราะความไว้วางใจเพื่อนมากเกินไป ซึ่งทั้งสองเหตุการณ์สร้างความสะเทือนต่อชีวิตผมอย่างมาก รวมถึงภาพพจน์ของผมในสายตาของผู้ที่รู้แต่ผล แต่มองไม่เห็นสาเหตุ
 
หลังจากที่ผมได้รู้ว่า ผมได้พบคนที่ค้นหาแล้ว เมื่อพิจารณาถึงสถานที่ที่ได้พบกัน และสถานภาพของผม รวมทั้งทุกเหตุการณ์ที่ผ่านมา ผมก็เกิดจำได้ว่า ในช่วงหนึ่งที่ผมรู้สึกทดท้อใจในโชคชะตา ทำไมผมถึงหาโอกาสได้แสดงฝีมือยากเย็นเสียเหลือเกิน ครั้นพอจะมีโอกาสก็พังพาบไปซะก่อน เหมือนเรือล่มปากอ่าวก่อนที่จะได้ออกแล่นสู่มหาสมุทร แล้วแว็บหนึ่งผมก็พูดกับตัวเองว่า " หรือต้องได้เจอเขาก่อน เราถึงจะขึ้นได้... "
 
เมื่อปะติดปะต่อเรื่องราวทั้งหมดตลอด 22 ปีที่ผ่านมา ผมสรุปได้ว่า เบื้องบนที่ปกป้องคุ้มครองชีวิตผม ไม่ให้ผมต้องตายไปก่อนเวลาอันสมควร ตลอดจนผลักดันให้ผมต้องออกจากบ้านเมื่อผมถอดใจไปแล้วนั้น ท่านทำหน้าที่ของพยานในพันธะสัญญาระหว่างผมกับคนที่ผมตามหา เพราะหากฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งต้องมาด่วนตายไปเสียก่อน ก็จะไม่รู้ว่าใครกันแน่ที่เป็นฝ่ายผิดสัญญา
 
และที่ผมต้องประสบความล้มเหลวชีวิตล้มลุกคลุกคลาน บางทีเบื้องบนท่านอาจจะกลั่นแกล้งเพื่อลองใจ เพราะท่านอาจจะอยากรู้ว่าพวกมึงจะรักษาสัญญาที่มีต่อกันได้หรือไม่? ถ้าผมแก่และจน เขาจะรักษาสัญญาได้ไหม? กับ สิ่งที่เขาเป็น ผมรักษาสัญญาได้หรือเปล่า?
 
เพราะอายุผมมากกว่าเขาถึง 26 ปี 4 เดือน 4 วัน!


 emo48:)

ชักอยากมีพันธะสัญญาแบบนี้มั่ง นายก้าน
เอ...แม่เลี้ยงเพิ่งเตือนมาหยกๆ
ไม่เอาดีก่า
อวยพรให้
รักษาสัญญาดีๆเน้อเพื่อน
ปล.แนบพันธะสัญญาของผมมาให้ดู
ห่างจากผม 30 กว่าปีเท่านั้นเอง อิอิ


(http://img160.imageshack.us/img160/2481/pagev.jpg)


หัวข้อ: Re: มหากาพย์ ความรัก และ ชาติภพ
เริ่มหัวข้อโดย: Lamai ที่ 30 กรกฎาคม 2552, 20:46:25
อ้างถึง
ข้อความของ พัช 24 เมื่อ 30 กรกฎาคม 2552, 10:12:54
อ้างถึง
ข้อความของ หนุน'21 เมื่อ 30 กรกฎาคม 2552, 08:04:04

ครับน้องไม เป็นแบบนี้จริงๆนะ พี่หนุนว่า
หวัดดี น้องก้าน น้องอ้อย น้องจักร
น้องพจน์ น้องหยี น้องพัช
และทุกคนที่เข้ามาในห้องนี้
เราก็ตามอ่านความคิด ความเห็น ความเชื่อ
กันต่อไป


 emo24:(
สวัสดีค่ะ  พี่หนุน  ยินดีที่ได้คุยด้วยค่ะ
ความสุขมีสองชนิด  อามิสสุข  กับ นิรามิสสุข   นิรามิสสุขไม่ต้องมีเงื่อนไข วัตถุุ หรือสิ่งใด  มาเป็นอามิสล่อใจค่ะ
 สุขจากภายในใจที่ฝึกดีแล้วค่ะพี่หนุน   คงคล้ายกับที่พี่หนุนว่า คิดว่าสุขก็สุข คิดว่าทุกข์ก็ทุกข์  ค่ะ  แต่ไม่คิดก็ยิ่งไม่ทุกข์นะคะ 



สวัสดีพัช สนทนาธรรมกันแบบนี้ก็ดีเน๊าะสบายใจดี emo48:)


หัวข้อ: Re: มหากาพย์ ความรัก และ ชาติภพ
เริ่มหัวข้อโดย: Lamai ที่ 30 กรกฎาคม 2552, 20:52:14
ลูกๆของจักร สำเนาถูกต้อง

(http://img181.imageshack.us/img181/6826/pagev1.jpg)


หัวข้อ: Re: มหากาพย์ ความรัก และ ชาติภพ
เริ่มหัวข้อโดย: หนุน'21 ที่ 30 กรกฎาคม 2552, 21:13:53
อ้างถึง
ข้อความของ Lamai เมื่อ 30 กรกฎาคม 2552, 20:46:25
อ้างถึง
ข้อความของ พัช 24 เมื่อ 30 กรกฎาคม 2552, 10:12:54
อ้างถึง
ข้อความของ หนุน'21 เมื่อ 30 กรกฎาคม 2552, 08:04:04

ครับน้องไม เป็นแบบนี้จริงๆนะ พี่หนุนว่า
หวัดดี น้องก้าน น้องอ้อย น้องจักร
น้องพจน์ น้องหยี น้องพัช
และทุกคนที่เข้ามาในห้องนี้
เราก็ตามอ่านความคิด ความเห็น ความเชื่อ
กันต่อไป


 emo24:(
สวัสดีค่ะ  พี่หนุน  ยินดีที่ได้คุยด้วยค่ะ
ความสุขมีสองชนิด  อามิสสุข  กับ นิรามิสสุข   นิรามิสสุขไม่ต้องมีเงื่อนไข วัตถุุ หรือสิ่งใด  มาเป็นอามิสล่อใจค่ะ
 สุขจากภายในใจที่ฝึกดีแล้วค่ะพี่หนุน   คงคล้ายกับที่พี่หนุนว่า คิดว่าสุขก็สุข คิดว่าทุกข์ก็ทุกข์  ค่ะ  แต่ไม่คิดก็ยิ่งไม่ทุกข์นะคะ 



สวัสดีพัช สนทนาธรรมกันแบบนี้ก็ดีเน๊าะสบายใจดี emo48:)

สวัสดีตอนเกือบดึกครับ น้องพัช น้องไม
พี่หนุนได้อ่านความเห็นของน้องพัช น้องจักร
แล้วเขินเลยอ่ะ สองคนนี้แนวทางธรรมตรงแน๋ว
แม่นยำ รอบรู้มากๆ พี่หนุนต้องสมัครตัวเป็นลูกศิษย์แล้วครับ
อ่านแล้วได้ความคิด ดีๆ จากผู้รู้เข้ามาทบทวนชีวิตด้วย

ดูอย่างประโยคสุดท้าย แต่ไม่ท้ายสุดข้างบนซิครับ
   " แต่ไม่คิดก็ยิ่งไม่ทุกข์นะคะ "
แนวพุทธธรรม อย่างเบื้องต้นเลย
ชอบจริงเลยครับ


 emo48:)


หัวข้อ: Re: มหากาพย์ ความรัก และ ชาติภพ
เริ่มหัวข้อโดย: Kaimook ที่ 30 กรกฎาคม 2552, 21:31:12
อ้างถึง
ข้อความของ jacky เมื่อ 30 กรกฎาคม 2552, 10:41:47
อ้างถึง
ข้อความของ หนุน'21 เมื่อ 30 กรกฎาคม 2552, 08:04:04
อ้างถึง
ข้อความของ Lamai เมื่อ 29 กรกฎาคม 2552, 20:50:26
อ้างถึง
ข้อความของ หนุน'21 เมื่อ 28 กรกฎาคม 2552, 07:50:03
อ้างถึง
ข้อความของ jacky เมื่อ 27 กรกฎาคม 2552, 23:01:38
แถม

(http://img89.imageshack.us/img89/9954/59438.jpg)

ขอบคุณมากน้องจักร "บุรุษผู้ที่ยังไม่เคยทักทายกันเลย"
ชอบอันนี้ ขออนุญาต แฮฟ ไปเก็บไว้ทบทวนชีวิตของตัวเองครับ
ความจริงชีวิตเราไม่มีอะไรมากเลย
เพียงแต่ถ้าเราไม่วางเงื่อนไขให้กับตัวเรามากเกินไป
คิดว่าสุข ก็สุข
คิดว่าทุกข์ ก็ทุกข์

เอ้า...สาธุ....


 emo48:)

สวัสดีค่ะพี่หนุน
ไมชอบมากค่ะ กับคำพูดที่ว่า
คิดว่าสุข ก็สุข
คิดว่าทุกข์ ก็ทุกข์


ครับน้องไม เป็นแบบนี้จริงๆนะ พี่หนุนว่า
หวัดดี น้องก้าน น้องอ้อย น้องจักร
น้องพจน์ น้องหยี น้องพัช
และทุกคนที่เข้ามาในห้องนี้
เราก็ตามอ่านความคิด ความเห็น ความเชื่อ
กันต่อไป


 emo24:(
เห็นด้วยครับ
กับพี่หนุนและทุกท่านที่มาแชร์ในห้องนี้
"จิต"
คำเดียวแท้ๆ
สร้างอะไรๆให้เราได้มากมาย
"วิบาก"
มีทั้ง ทางดี และ ไม่ดี
"จงเลือกทางเดินของท่านเถิด"
ทางเผ่ามายาเค้าให้จุดหมายโลกเราแค่อีก 3 ปี
ทำอะไรก็ทำไปเถิด
ถ้ามันเป็นทางที่ดีนะ


(http://img187.imageshack.us/img187/1707/2012wp21600.jpg)

น่ากลัวจังนะคะจักร เล่าให้ฟังหน่อยค่ะเกี่ยวกับเผ่ามายาเนี่ยอยากรู้จัง


หัวข้อ: Re: มหากาพย์ ความรัก และ ชาติภพ
เริ่มหัวข้อโดย: Kaimook ที่ 30 กรกฎาคม 2552, 21:32:38
อ้างถึง
ข้อความของ Lamai เมื่อ 30 กรกฎาคม 2552, 20:52:14
ลูกๆของจักร สำเนาถูกต้อง

(http://img181.imageshack.us/img181/6826/pagev1.jpg)
ลูกๆน่ารักทั้งคู่เลยจ่ะ อยากเห็นรูปคุณแม่บ้างค่ะ


หัวข้อ: Re: มหากาพย์ ความรัก และ ชาติภพ
เริ่มหัวข้อโดย: jacky ที่ 30 กรกฎาคม 2552, 22:08:05
อ้างถึง
ข้อความของ หนุน'21 เมื่อ 30 กรกฎาคม 2552, 21:13:53
อ้างถึง
ข้อความของ Lamai เมื่อ 30 กรกฎาคม 2552, 20:46:25
อ้างถึง
ข้อความของ พัช 24 เมื่อ 30 กรกฎาคม 2552, 10:12:54
อ้างถึง
ข้อความของ หนุน'21 เมื่อ 30 กรกฎาคม 2552, 08:04:04

ครับน้องไม เป็นแบบนี้จริงๆนะ พี่หนุนว่า
หวัดดี น้องก้าน น้องอ้อย น้องจักร
น้องพจน์ น้องหยี น้องพัช
และทุกคนที่เข้ามาในห้องนี้
เราก็ตามอ่านความคิด ความเห็น ความเชื่อ
กันต่อไป


 emo24:(
สวัสดีค่ะ  พี่หนุน  ยินดีที่ได้คุยด้วยค่ะ
ความสุขมีสองชนิด  อามิสสุข  กับ นิรามิสสุข   นิรามิสสุขไม่ต้องมีเงื่อนไข วัตถุุ หรือสิ่งใด  มาเป็นอามิสล่อใจค่ะ
 สุขจากภายในใจที่ฝึกดีแล้วค่ะพี่หนุน   คงคล้ายกับที่พี่หนุนว่า คิดว่าสุขก็สุข คิดว่าทุกข์ก็ทุกข์  ค่ะ  แต่ไม่คิดก็ยิ่งไม่ทุกข์นะคะ 



สวัสดีพัช สนทนาธรรมกันแบบนี้ก็ดีเน๊าะสบายใจดี emo48:)

สวัสดีตอนเกือบดึกครับ น้องพัช น้องไม
พี่หนุนได้อ่านความเห็นของน้องพัช น้องจักร
แล้วเขินเลยอ่ะ สองคนนี้แนวทางธรรมตรงแน๋ว
แม่นยำ รอบรู้มากๆ พี่หนุนต้องสมัครตัวเป็นลูกศิษย์แล้วครับ
อ่านแล้วได้ความคิด ดีๆ จากผู้รู้เข้ามาทบทวนชีวิตด้วย

ดูอย่างประโยคสุดท้าย แต่ไม่ท้ายสุดข้างบนซิครับ
   " แต่ไม่คิดก็ยิ่งไม่ทุกข์นะคะ "
แนวพุทธธรรม อย่างเบื้องต้นเลย
ชอบจริงเลยครับ


 emo48:)
ยังสมัครเล่นขั้นประถม อยู่เลยครับ


หัวข้อ: Re: มหากาพย์ ความรัก และ ชาติภพ
เริ่มหัวข้อโดย: jacky ที่ 30 กรกฎาคม 2552, 22:13:15
 "จงเลือกทางเดินของท่านเถิด"
ทางเผ่ามายาเค้าให้จุดหมายโลกเราแค่อีก 3 ปี
ทำอะไรก็ทำไปเถิด
ถ้ามันเป็นทางที่ดีนะ[/b][/size][/color]

(http://img187.imageshack.us/img187/1707/2012wp21600.jpg)

[/quote]น่ากลัวจังนะคะจักร เล่าให้ฟังหน่อยค่ะเกี่ยวกับเผ่ามายาเนี่ยอยากรู้จัง

[/quote]
ครูอ้อย..
ผมก็ไม่รู้อะไรมากน่ะครับ
ว่ากันว่าชาวมายา
เค้าทำนายไว้ว่าวันสิ้นโลก
ซึ่งตามปฏิทินของเขาจะสิ้นสุดแค่อีกสามปีเท่านั้น
คนทำหนังอย่างทรนง ศรีเชื้อ
และโซนี่ โคลัมเบียเลยเอามาต่อยอด
หนังของไทย เจ๊งไปเรียบร้อย ส่วนของโซนี่
ดูตัวอย่างแล้วสุดยอด
CG ครับ
เด๋วเค้าหาว่าโฆษณา อิอิ
ปล.ตอนนี้ผมก็ว่าโลกเราเริ่มมีอะไรแปลกๆมาทดสอบพวกเรา
ชาวมนุษย์แล้วล่ะนะ
สุดท้ายก็
ทำดีไว้เถิด


หัวข้อ: Re: มหากาพย์ ความรัก และ ชาติภพ
เริ่มหัวข้อโดย: jacky ที่ 30 กรกฎาคม 2552, 22:14:19
อ้างถึง
ข้อความของ Kaimook เมื่อ 30 กรกฎาคม 2552, 21:32:38
อ้างถึง
ข้อความของ Lamai เมื่อ 30 กรกฎาคม 2552, 20:52:14
ลูกๆของจักร สำเนาถูกต้อง

(http://img181.imageshack.us/img181/6826/pagev1.jpg)
ลูกๆน่ารักทั้งคู่เลยจ่ะ อยากเห็นรูปคุณแม่บ้างค่ะ

แปะไว้ที่บ้านดร.เอ๋แล้วครับ


หัวข้อ: Re: มหากาพย์ ความรัก และ ชาติภพ
เริ่มหัวข้อโดย: พัช 24 ที่ 31 กรกฎาคม 2552, 09:13:29
อ้างถึง
ข้อความของ หนุน'21 เมื่อ 30 กรกฎาคม 2552, 21:13:53
สวัสดีตอนเกือบดึกครับ น้องพัช น้องไม
พี่หนุนได้อ่านความเห็นของน้องพัช น้องจักร
แล้วเขินเลยอ่ะ สองคนนี้แนวทางธรรมตรงแน๋ว
แม่นยำ รอบรู้มากๆ พี่หนุนต้องสมัครตัวเป็นลูกศิษย์แล้วครับ
อ่านแล้วได้ความคิด ดีๆ จากผู้รู้เข้ามาทบทวนชีวิตด้วย

ดูอย่างประโยคสุดท้าย แต่ไม่ท้ายสุดข้างบนซิครับ
   " แต่ไม่คิดก็ยิ่งไม่ทุกข์นะคะ "
แนวพุทธธรรม อย่างเบื้องต้นเลย
ชอบจริงเลยครับ

สวัสดีค่ะ พี่หนุน
ไม่บังอาจค่ะ  พี่หนุน  พัชกำลังหยอดกระปุกอยู่   
ที่เอามาคุย ๆ กันนี่มันก็เป็นชื่อของธรรม   ธรรมจริง ๆ รู้อยู่ที่กายกับจิต
เชื่อว่าพี่หนุนก็รู้อยู่ค่ะ  ส่วนคำว่า  พุทธธรรม  นั้น ก็จะเห็นแต่ในหมู่ผู้สนใจธรรมจะเอ่ยคำศัพท์แบบนี้นะคะ

เอาเป็นว่าเราเป็นกัลยาณมิตรกันนะคะ  แลกเปลี่ยน สิ่งดี ๆ ที่มีโอกาสได้รับเหมือนกันหรือแตกต่างกัน
ให้พอเป็น อนุสติ แก่กันค่ะ



 emo30:sorry:   emo30:sorry:   emo30:sorry:





หัวข้อ: Re: มหากาพย์ ความรัก และ ชาติภพ
เริ่มหัวข้อโดย: พัช 24 ที่ 31 กรกฎาคม 2552, 09:19:05
อ้างถึง
ข้อความของ Lamai เมื่อ 30 กรกฎาคม 2552, 20:46:25

สวัสดีพัช สนทนาธรรมกันแบบนี้ก็ดีเน๊าะสบายใจดี emo48:)
สวัสดีค่ะ  ไม  ดีใจที่ไมรู้สึกดีค่ะ



หัวข้อ: Re: มหากาพย์ ความรัก และ ชาติภพ
เริ่มหัวข้อโดย: Kaimook ที่ 31 กรกฎาคม 2552, 09:38:27
หวัดดีจ่ะก้านและเพื่อนๆค่ะ emo4:)) emo4:)) emo4:))


หัวข้อ: Re: มหากาพย์ ความรัก และ ชาติภพ
เริ่มหัวข้อโดย: SC (ก้าน 24) ที่ 31 กรกฎาคม 2552, 13:22:11
ดวงตาที่สาม
 
สมัยที่ผมไปปฏิบัติวิปัสสนากรรมฐานที่วัดอัมพวัน จังหวัดสิงห์บุรี โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อตัดเวรตัดกรรมอุทิศส่วนกุศลให้เจ้ากรรมนายเวร ตามคำแนะนำของเพื่อน ท่านแม่ชีที่เป็นผู้นำการปฏิบัติได้กล่าวถึง ดวงตาที่สาม ที่อยู่ตรงหว่างคิ้งทั้งสองข้างเหนือขึ้นไปเล็กน้อย
 
ความจริงเรื่องดวงตาที่สามนี้ ผมได้รู้มาก่อนหน้านั้นแล้ว ไม่ใช่ความรู้ใหม่ และถ้าจะเป็นความรู้ใหม่ ก็คงเป็นเพราะว่า พุทธศานาก็ใช้ดวงตาที่สามนี่ด้วยเท่านั้นเอง
 
ท่านแม่ชีให้เพ่งดวงตาที่สามไปยังพระพุทธรูปตอนที่พนมมือสวดมนต์ทำวัตรเช้า-เย็น ผมก็ปฏิบัติตามคำแนะนำ แต่ก็ไม่รู้สึกว่าจะเกิดมีอะไรที่ดวงตาที่สาม นอกจากรู้สึกเพราะว่าผมเพ่งมันเท่านั้น
 
ซึ่งผิดกับปัจจุบันนี้ หลังจากที่ผมได้รู้สำนึกในเบื้องบน ความรู้เรื่องปราณก็แจ่มชัดในความคิด ตั้งแต่วันที่ 11 กรกฎาคม ที่ผ่านมาผมเริ่มปฏิบัติด้วยการนั่งคุกเข่าตั้งสมาธิ กราบพระคุณพ่อ 1 ครั้ง จากนั้นก็กราบพระคุณแม่ 1 ครั้ง ตามด้วยกราบพระคุณเบื้องบนที่ปกป้องชีวิต และ ผลักดันจนได้พบคนที่ผมตามหา ได้รู้ปมปริศนาชีวิตตนเอง  อีก 1 ครั้ง
 
แล้วผมก็นั่งพนมมือสำรวมจิตเพื่อสื่อกับเบื้องบน (วิงวอนบ้าง ตัดพ้อบ้าง) แค่สูดลมหายใจ 3 – 4 ครั้ง รู้สึกได้เลยว่า ตรงที่เรียกว่าดวงตาที่สามนั้นร้อนผ่าวขึ้นทันควัน และหลังจากนั้นสักพัก ฝ่ามือทั้งสองที่ประกบกันพนมมืออยู่นั้นก็รู้สึกได้ว่ามีปฏิกิริยาต่อกันอย่างชัดเจน
 
ตอนที่ปฏิบัติวิปัสสนากรรมฐาน พนมมือตั้งนานกว่าครึ่งชั่วโมง วันละ 2 รอบ 2 วัน 2 คืน ก็ไม่เคยเกิดปฏิกิริยาดังกล่าวแม้แต่ครั้งเดียว!


 emo48:)


หัวข้อ: Re: มหากาพย์ ความรัก และ ชาติภพ
เริ่มหัวข้อโดย: SC (ก้าน 24) ที่ 31 กรกฎาคม 2552, 13:33:04
อ้างถึง
ข้อความของ พัช 24 เมื่อ 30 กรกฎาคม 2552, 09:51:01
อ้างถึง
ข้อความของ Q??? เมื่อ 29 กรกฎาคม 2552, 19:20:47
ศรัทธา เกิดจากความประทับใจในประสบการณ์ที่ได้รับ คนเราส่วนใหญ่มีจิตวิทยาที่คล้ายๆกัน หากเชื่อมั่นในสิ่งใด ทำตามแล้วได้ดี (ก็อยู่ที่ความต้องการของแต่ละบุคคลอีกว่าอย่างไรเรียกว่าดีในความรู้สึกของตน) คนเราก็จะเชื่อในสิ่งนั้น เรียกว่า การเสริมแรง มากครั้งเข้าก็กลายเป็นศรัทธา

ผมขอไม่ตอบคำถามที่นำไปสู่การทะเลาะในเรื่องศรัทธาความเชื่อ ผมไม่มองทุกคนเป็นแบบ Monotonous ประสบการณ์ของผมบอกให้ผมรู้ว่าไม่มีวิถีทางเดียวในจักรวาลนี้ วิถี่ทางที่ดีที่สุดในโลกใบนี้ ก็ไม่ใช่ทางของผม   

เอาไว้ เมื่อถึงเรื่อง " ตาที่สาม  " ก็อาจจะเห็นชัดขึ้นว่า " คนเราทำได้ดีในหนทางหนึ่ง แต่อาจทำไม่ได้เลย ในหนทางอีกสายหนึ่ง
 

 emo48:)

 
คุณก้านยังไม่เห็นตอบคำถามของพัชเลยค่ะ

เห็นด้วยกับคุณก้านค่ะ ว่ามีหลายทางในจักรวาลนี้  และก็มีหลายจุดหมายเช่นกัน
พัชว่าที่สำคัญต้องเลือกจุดหมายปลายทางให้ดีค่ะ  ไม่งั้นเสียเวลาเดินทาง
แต่ถ้าเลือกปลายทางที่ดีที่ควรแล้ว  วิถีที่จะพาไปอาจมีรายละเอียดแตกต่าง สะดวกสบายยากง่าย  ถึงที่หมายช้าเร็ว   แต่ต้องไม่พาให้หลงทางค่ะ

ส่วนเรื่องศรัทธาก็เป็นสิ่งสำคัญเพราะทำให้จิตมีพลัง  แต่ข้อเสียของศรัทธาที่มากเกินไปทำให้ปัญญามาอ่อนแอลงค่ะ  สิ่งที่ต้องฝึกให้มีให้มาก ๆ ในจิตใจคนเราคือ สติค่ะ  เพราะเป็นพี่เลี้ยงใหญ่ไว้คอยเตือน ค่ะ





ผมเล่านิทานของพุทธมหายานให้คุณพัชรฟังดีกว่า

 
อ้างถึง   

ท่านอ๋องแคว้นหนึ่งในประเทศจีน ได้เลี้ยงไก่ชน และมอบหมายให้ครูฝึกไก่ชน ทำการฝึกสอนไก่ สามสัปดาห์ผ่านไป ท่านอ๋องทรงตรัสถามครูฝึกไก่ว่า “ ไก่ข้า ลงสนามได้แล้วหรือยัง? “
ครูฝึกไก่ตอบว่า “ ยังพระเจ้าข้า มันยังไม่เชี่ยวชาญพอ มันตีปีก โก่งคอขัน ทุกครั้งที่มันเห็นไก่ชนตัวอื่น มันกระเหี้ยนกระหือที่จะต่อสู้อยู่ตลอดเวลา... “
 
ต่อมาอีก3 สัปดาห์ ท่านอ๋องก็ทรงถามครูฝึกฯอีก “ ทีนี้ไก่ข้าลงสนามได้แล้วใช่ไหม? “
ครูฝึกไก่ตอบว่า “ ยังพระเจ้าข้า แม้ว่ามันจะฝึกกลยุทธการต่อสู้จนเชี่ยวชาญ แต่ใจมันยังไม่นิ่งพอ มันยังแสดงอาการเกรี้ยวกราด ยามเมื่อมันเห็นไก่ชนตัวอื่น  “
 
หลังจากนั้นอีก 4 สัปดาห์ ท่านอ๋องก็ทรงถามอีก
ครูฝึกฯตอบว่า “ ตอนนี้มันพร้อมแล้วพระเจ้าข้า จิตใจมันสงบ มันมีความมั่นใจ เวลาที่มันพบเห็นไก่ชนตัวอื่น มันจะยืนนิ่ง ไก่ชนตัวอื่นเห็นมัน ก็พากันหวาดหวั่น ก้มหัวเดินหนีไปอย่างลนลาน  “
 
การกระเหี้ยนกระหือที่จะต่อสู้ตลอดเวลา แสดงถึงภาวะที่แท้จริงว่า ไม่มั่นใจ แต่ต้องการพิสูจน์ ต่อเมื่อบรรลุระดับสูง ก็จะมั่นใจ จึงไม่จำเป็นต้องพิสูจน์ ไม่ต่อสู้ก็ชนะ ทุกเรื่องราวก็คล้ายคลึงกัน

 emo48:)


หัวข้อ: Re: มหากาพย์ ความรัก และ ชาติภพ
เริ่มหัวข้อโดย: SC (ก้าน 24) ที่ 31 กรกฎาคม 2552, 20:14:17
อ้างถึง
ข้อความของ jacky เมื่อ 29 กรกฎาคม 2552, 23:48:52
อ้างถึง
ข้อความของ Q??? เมื่อ 29 กรกฎาคม 2552, 19:20:47
ศรัทธา เกิดจากความประทับใจในประสบการณ์ที่ได้รับ คนเราส่วนใหญ่มีจิตวิทยาที่คล้ายๆกัน หากเชื่อมั่นในสิ่งใด ทำตามแล้วได้ดี (ก็อยู่ที่ความต้องการของแต่ละบุคคลอีกว่าอย่างไรเรียกว่าดีในความรู้สึกของตน) คนเราก็จะเชื่อในสิ่งนั้น เรียกว่า การเสริมแรง มากครั้งเข้าก็กลายเป็นศรัทธา

ผมขอไม่ตอบคำถามที่นำไปสู่การทะเลาะในเรื่องศรัทธาความเชื่อ ผมไม่มองทุกคนเป็นแบบ Monotonous ประสบการณ์ของผมบอกให้ผมรู้ว่าไม่มีวิถีทางเดียวในจักรวาลนี้ วิถี่ทางที่ดีที่สุดในโลกใบนี้ ก็ไม่ใช่ทางของผม   

เอาไว้ เมื่อถึงเรื่อง " ตาที่สาม  " ก็อาจจะเห็นชัดขึ้นว่า " คนเราทำได้ดีในหนทางหนึ่ง แต่อาจทำไม่ได้เลย ในหนทางอีกสายหนึ่ง
 

 emo48:)

 
อืมมมม...น่าคิดนะ
แต่ผมว่ามันอยู่ครบใน 10 ข้อของทั่นแล้วล่ะ
"จงมีศรัทธาในความดี"
จากเพื่อน


ก็เอามาจากหนังสือนะ จักร
อ่านครั้งแรกรู้สึกชอบมากเมื่อ ปี 2532
จากนั้นก็ท่องก่อนนอนทุกวันกับปฏิบัติมาระยะหนึ่ง
พอปี 2537 หันมาสนใจพุทธศานามากขึ้น อ่านหนังสือท่านพุทธทาสภิขุ
เลยทิ้งไป
สุดท้ายพอกลับไปอยู่บ้านตอน มีนาคม 2551
กลับพบว่าตนเองโดนบัญญัติประการที่สี่เข้าเต็มๆ
โทษฐานที่ไม่ได้เตรียมตัวไว้
เลยแก้ไขไม่ทัน
อยู่ในวังวนปัญหาที่แก้ไม่ตก (เอกสารบางส่วนสูญหาย บางส่วนถูกทำลาย)
พอคิดได้ก็สายไป (มิถุนายน 2551 อายุเกิน 45 ปีแล้ว)
และไม่เพียงพอ


 emo29:P:


หัวข้อ: Re: มหากาพย์ ความรัก และ ชาติภพ
เริ่มหัวข้อโดย: SC (ก้าน 24) ที่ 31 กรกฎาคม 2552, 20:20:30
อ้างถึง
ข้อความของ jacky เมื่อ 30 กรกฎาคม 2552, 18:25:52
อ้างถึง
ข้อความของ Q??? เมื่อ 30 กรกฎาคม 2552, 13:05:50
พันธะสัญญา ปมปริศนาชีวิต
 
ผมได้เล่าสองเหตุกาณ์ที่เกิดขึ้นในระยะเวลาที่ห่างกันเพียงประมาณ 6 เดือน เหตุการณ์แรกผมกำลังจะขึ้นได้ด้วยความเพียร แล้วก็ต้องพังพาบลงมาด้วยปัจจัยที่ผมไม่สามารถควบคุมได้ ส่วนเหตุกาณ์ที่สองนั้นผมจะขึ้นได้ด้วยอานิสงส์ของพิธีกรรม (ตัดไฝ+ถวายสังฆทาน) แล้วก็พังพาบลงมาเพราะความไว้วางใจเพื่อนมากเกินไป ซึ่งทั้งสองเหตุการณ์สร้างความสะเทือนต่อชีวิตผมอย่างมาก รวมถึงภาพพจน์ของผมในสายตาของผู้ที่รู้แต่ผล แต่มองไม่เห็นสาเหตุ
 
หลังจากที่ผมได้รู้ว่า ผมได้พบคนที่ค้นหาแล้ว เมื่อพิจารณาถึงสถานที่ที่ได้พบกัน และสถานภาพของผม รวมทั้งทุกเหตุการณ์ที่ผ่านมา ผมก็เกิดจำได้ว่า ในช่วงหนึ่งที่ผมรู้สึกทดท้อใจในโชคชะตา ทำไมผมถึงหาโอกาสได้แสดงฝีมือยากเย็นเสียเหลือเกิน ครั้นพอจะมีโอกาสก็พังพาบไปซะก่อน เหมือนเรือล่มปากอ่าวก่อนที่จะได้ออกแล่นสู่มหาสมุทร แล้วแว็บหนึ่งผมก็พูดกับตัวเองว่า " หรือต้องได้เจอเขาก่อน เราถึงจะขึ้นได้... "
 
เมื่อปะติดปะต่อเรื่องราวทั้งหมดตลอด 22 ปีที่ผ่านมา ผมสรุปได้ว่า เบื้องบนที่ปกป้องคุ้มครองชีวิตผม ไม่ให้ผมต้องตายไปก่อนเวลาอันสมควร ตลอดจนผลักดันให้ผมต้องออกจากบ้านเมื่อผมถอดใจไปแล้วนั้น ท่านทำหน้าที่ของพยานในพันธะสัญญาระหว่างผมกับคนที่ผมตามหา เพราะหากฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งต้องมาด่วนตายไปเสียก่อน ก็จะไม่รู้ว่าใครกันแน่ที่เป็นฝ่ายผิดสัญญา
 
และที่ผมต้องประสบความล้มเหลวชีวิตล้มลุกคลุกคลาน บางทีเบื้องบนท่านอาจจะกลั่นแกล้งเพื่อลองใจ เพราะท่านอาจจะอยากรู้ว่าพวกมึงจะรักษาสัญญาที่มีต่อกันได้หรือไม่? ถ้าผมแก่และจน เขาจะรักษาสัญญาได้ไหม? กับ สิ่งที่เขาเป็น ผมรักษาสัญญาได้หรือเปล่า?
 
เพราะอายุผมมากกว่าเขาถึง 26 ปี 4 เดือน 4 วัน!


 emo48:)

ชักอยากมีพันธะสัญญาแบบนี้มั่ง นายก้าน
เอ...แม่เลี้ยงเพิ่งเตือนมาหยกๆ
ไม่เอาดีก่า
อวยพรให้
รักษาสัญญาดีๆเน้อเพื่อน
ปล.แนบพันธะสัญญาของผมมาให้ดู
ห่างจากผม 30 กว่าปีเท่านั้นเอง อิอิ


(http://img160.imageshack.us/img160/2481/pagev.jpg)

เยี่ยมมากนาย
ตกลงใครพี่ใครน้อง?


 emo47




หัวข้อ: Re: มหากาพย์ ความรัก และ ชาติภพ
เริ่มหัวข้อโดย: Lamai ที่ 31 กรกฎาคม 2552, 20:21:21
สวัสดีก้าน emo48:)


หัวข้อ: Re: มหากาพย์ ความรัก และ ชาติภพ
เริ่มหัวข้อโดย: jacky ที่ 31 กรกฎาคม 2552, 22:06:56
อ้างถึง
ข้อความของ Q??? เมื่อ 31 กรกฎาคม 2552, 20:20:30
อ้างถึง
ข้อความของ jacky เมื่อ 30 กรกฎาคม 2552, 18:25:52
อ้างถึง
ข้อความของ Q??? เมื่อ 30 กรกฎาคม 2552, 13:05:50
พันธะสัญญา ปมปริศนาชีวิต
 
ผมได้เล่าสองเหตุกาณ์ที่เกิดขึ้นในระยะเวลาที่ห่างกันเพียงประมาณ 6 เดือน เหตุการณ์แรกผมกำลังจะขึ้นได้ด้วยความเพียร แล้วก็ต้องพังพาบลงมาด้วยปัจจัยที่ผมไม่สามารถควบคุมได้ ส่วนเหตุกาณ์ที่สองนั้นผมจะขึ้นได้ด้วยอานิสงส์ของพิธีกรรม (ตัดไฝ+ถวายสังฆทาน) แล้วก็พังพาบลงมาเพราะความไว้วางใจเพื่อนมากเกินไป ซึ่งทั้งสองเหตุการณ์สร้างความสะเทือนต่อชีวิตผมอย่างมาก รวมถึงภาพพจน์ของผมในสายตาของผู้ที่รู้แต่ผล แต่มองไม่เห็นสาเหตุ
 
หลังจากที่ผมได้รู้ว่า ผมได้พบคนที่ค้นหาแล้ว เมื่อพิจารณาถึงสถานที่ที่ได้พบกัน และสถานภาพของผม รวมทั้งทุกเหตุการณ์ที่ผ่านมา ผมก็เกิดจำได้ว่า ในช่วงหนึ่งที่ผมรู้สึกทดท้อใจในโชคชะตา ทำไมผมถึงหาโอกาสได้แสดงฝีมือยากเย็นเสียเหลือเกิน ครั้นพอจะมีโอกาสก็พังพาบไปซะก่อน เหมือนเรือล่มปากอ่าวก่อนที่จะได้ออกแล่นสู่มหาสมุทร แล้วแว็บหนึ่งผมก็พูดกับตัวเองว่า " หรือต้องได้เจอเขาก่อน เราถึงจะขึ้นได้... "
 
เมื่อปะติดปะต่อเรื่องราวทั้งหมดตลอด 22 ปีที่ผ่านมา ผมสรุปได้ว่า เบื้องบนที่ปกป้องคุ้มครองชีวิตผม ไม่ให้ผมต้องตายไปก่อนเวลาอันสมควร ตลอดจนผลักดันให้ผมต้องออกจากบ้านเมื่อผมถอดใจไปแล้วนั้น ท่านทำหน้าที่ของพยานในพันธะสัญญาระหว่างผมกับคนที่ผมตามหา เพราะหากฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งต้องมาด่วนตายไปเสียก่อน ก็จะไม่รู้ว่าใครกันแน่ที่เป็นฝ่ายผิดสัญญา
 
และที่ผมต้องประสบความล้มเหลวชีวิตล้มลุกคลุกคลาน บางทีเบื้องบนท่านอาจจะกลั่นแกล้งเพื่อลองใจ เพราะท่านอาจจะอยากรู้ว่าพวกมึงจะรักษาสัญญาที่มีต่อกันได้หรือไม่? ถ้าผมแก่และจน เขาจะรักษาสัญญาได้ไหม? กับ สิ่งที่เขาเป็น ผมรักษาสัญญาได้หรือเปล่า?
 
เพราะอายุผมมากกว่าเขาถึง 26 ปี 4 เดือน 4 วัน!


 emo48:)

ชักอยากมีพันธะสัญญาแบบนี้มั่ง นายก้าน
เอ...แม่เลี้ยงเพิ่งเตือนมาหยกๆ
ไม่เอาดีก่า
อวยพรให้
รักษาสัญญาดีๆเน้อเพื่อน
ปล.แนบพันธะสัญญาของผมมาให้ดู
ห่างจากผม 30 กว่าปีเท่านั้นเอง อิอิ


(http://img160.imageshack.us/img160/2481/pagev.jpg)

เยี่ยมมากนาย
ตกลงใครพี่ใครน้อง?


 emo47



คนโตผู้ชาย
คนน้องผู้หญิง
14 กะ 11
โรงเรียนเดียวกัน

ราหุลํ ชาตํ พันธนํ ชาตํ
มีเค้าแล้วก็เลี้ยงเค้าให้ดีสมฐานะ
และถือแนวสายกลาง
ปราศจากสี และแบรนด์เนม
55+


หัวข้อ: Re: มหากาพย์ ความรัก และ ชาติภพ
เริ่มหัวข้อโดย: dtoy ที่ 01 สิงหาคม 2552, 04:16:38
สวัสดีจ่ะก้านและพี่ๆเพื่อนๆทุกคน

เห็นหัวข้อของก้านตั้งนานนม  แต่ยังไม่มีเวลาเข้ามาอ่านเลย

พอดีวันนี้ตื่นเช้ามาก ตี๔  (มีอะไรมาเตือนให้ตื่นขึ้นมาอ่านก็ไม่รู้นะ) เลยได้โอกาส

มันเป็นอะไรที่เหลือเชื่อ แต่น่าสนใจ  น่าติดตามนะ ต๋อยไม่มีเซนส์พิเศษอะไรทำนองนี้เลย 

แต่ขอยอมรับว่าเรื่องที่ก้านเล่ามามีมูลเหตุและผลที่ค่อนข้างน่าเชื่อถือลงตัว 

เพราะอะไรจะบังเอิญทุกครั้งคราขนาดนั้น  เป็นสิ่งที่ยากที่จะยอมรับและเข้าใจ ถ้าไม่เกิดขึ้นกับตนเอง

ชีวิตของก้านมีพันธะกับสิ่งนั้นมากเกินจนเหมือนกับว่า 

ชีวิตถูกลิขิตมาแล้วและตนไม่สามารถคอนโทรลทางชีวิตของตนได้เลย

จะมีทางไดหรือไม่ที่จะหลุดพ้นจากพันธะอันนั้น?

ทำใจให้อยู่เหนือใจ -คือหลุดพ้น  จะช่วยได้ไหม? อันนี้น่าจะได้แต่มันยากเหลือเกินนะ

ก้านมาพร้อมสิ่งพิเศษที่น้อยคนจะมี  และต้องอยู่กับสิ่งนั้นตลอดไป(?) 

ขอเป็นกำลังใจให้ก้านนะ   


หัวข้อ: Re: มหากาพย์ ความรัก และ ชาติภพ
เริ่มหัวข้อโดย: jacky ที่ 01 สิงหาคม 2552, 11:39:37
อ้างถึง
ข้อความของ dtoy เมื่อ 01 สิงหาคม 2552, 04:16:38
สวัสดีจ่ะก้านและพี่ๆเพื่อนๆทุกคน

เห็นหัวข้อของก้านตั้งนานนม  แต่ยังไม่มีเวลาเข้ามาอ่านเลย

พอดีวันนี้ตื่นเช้ามาก ตี๔  (มีอะไรมาเตือนให้ตื่นขึ้นมาอ่านก็ไม่รู้นะ) เลยได้โอกาส

มันเป็นอะไรที่เหลือเชื่อ แต่น่าสนใจ  น่าติดตามนะ ต๋อยไม่มีเซนส์พิเศษอะไรทำนองนี้เลย 

แต่ขอยอมรับว่าเรื่องที่ก้านเล่ามามีมูลเหตุและผลที่ค่อนข้างน่าเชื่อถือลงตัว 

เพราะอะไรจะบังเอิญทุกครั้งคราขนาดนั้น  เป็นสิ่งที่ยากที่จะยอมรับและเข้าใจ ถ้าไม่เกิดขึ้นกับตนเอง

ชีวิตของก้านมีพันธะกับสิ่งนั้นมากเกินจนเหมือนกับว่า 

ชีวิตถูกลิขิตมาแล้วและตนไม่สามารถคอนโทรลทางชีวิตของตนได้เลย


จะมีทางไดหรือไม่ที่จะหลุดพ้นจากพันธะอันนั้น?

ทำใจให้อยู่เหนือใจ -คือหลุดพ้น   จะช่วยได้ไหม? อันนี้น่าจะได้แต่มันยากเหลือเกินนะ

ก้านมาพร้อมสิ่งพิเศษที่น้อยคนจะมี  และต้องอยู่กับสิ่งนั้นตลอดไป(?)   

ขอเป็นกำลังใจให้ก้านนะ   

เห็นด้วยกะป้าต๋อย...
-เหตุปัจจัยที่ต้องเป็นนายก้านเรียยกว่า "พันธะ"
-ใจเหนือใจ....จิตนิ่ง ก้ช่วยดีนะ สติก็ตามมา ปัญญาก็เกิด
-ถ้าดูหนังเรื่อง "six senses" เป็นตัวอย่างที่หนังทำได้ดี คนที่มีก็จะ
พิเศษอยู่บ้าง ตรงที่พิสูจน์ทางวิทยาศาสตร์ก็ไม่ได้
ก็คงต้องให้นายก้านระบายมาทาง Virtual Zmadong นี่ล่ะนะ
แต่ยังงัย ก็ตาม
ทางเดินต่อไปนี้

เวลาที่เหลือ

ก็คิดดี  ทำดี
คงพบปลายทางที่ดีๆ

ของผมก็เหลือไม่ถึง 5000 วันแล้ว
เย้
 
 emo4:)) emo26:D

(http://img74.imageshack.us/img74/5425/adayleft.gif)


หัวข้อ: Re: มหากาพย์ ความรัก และ ชาติภพ
เริ่มหัวข้อโดย: swsm ที่ 01 สิงหาคม 2552, 13:16:16
นายก้าน .. ใครห่างกะใคร 26 ปี 4 เดือน 4 วัน คะ ??

ก้านกะแฟน  หรือ  ก้านกะลูก ??

เฉลยคร่ะ ..


emo4:))


หัวข้อ: Re: มหากาพย์ ความรัก และ ชาติภพ
เริ่มหัวข้อโดย: พัช 24 ที่ 01 สิงหาคม 2552, 17:34:01
สวัสดีค่ะ  คุณก้าน  ขอบคุณสำหรับนิทานมหายานที่นำมาฝากค่ะ  นาน ๆ พัชจะได้อ่านนิทานของทางมหายานค่ะ  เรื่องไก่ที่คุณก้านนำมาลงไม่แน่ใจว่าเคยผ่านตาหรือเปล่า และไม่ทราบว่าโดยบริบทหรือที่มาของการยกเรื่องลักษณะนี้มาสอน  ครูบาอาจารย์ท่านต้องการเตือนเรื่องอื่นอีกหรือไม่   นอกจากเรื่องการควบคุมตัณหาในจิตใจไม่ให้พุ่งไปสู่สิ่งที่เอาจิตไปผูกไว้เหมือนไก่ที่เห็นไก่อีกตัวแล้วรับรู้ว่านั่นคือคู่ต่อสู้ จึงแสดงอาการทางกาย(บางทีอาจทางวาจาโดยการขันออกมาด้วย) เตรียมเข้าไปสู้กับเขา

ในทางธรรมพัชไม่คิดว่าเขาจะมุ่งเรื่องการต่อสู้เพื่อเอาชนะสิ่งภายนอกเป็นสำคัญ  แต่พัชคิดว่าถ้าเปลี่ยนจากไก่เป็นมนุษย์
สิ่งที่เราควรจะต่อสู้คือ กิเลสตัณหาภายในใจ  ต้องไม่ให้มันกำเริบจนบีบคั้นให้เราทำอะไรออกไป  เหมือนที่พัชเคยพูดไว้ในที่หนึ่งว่า  คนเราไม่มีใครไม่เคยประสบปัญหา  แต่เราจะจัดการกับปัญหาอย่างไรโดยไม่สร้างปัญหาใหม่(ซึ่งในที่นี้พัชหมายถึงอกุศลกรรมที่จะนำอกุศลวิบากตามมาภายหลัง   มันเหมือนการกู้หนี้ใหม่มาใช้หนี้เก่าไม่หมดหนี้เสียทีค่ะ)
     คุณก้านเอานิทานมาลงให้เพราะพัชไปวุ่นวายทวงคำตอบหรือเปล่า   ต้องขอโทษอย่างยิ่งนะคะ  ไม่ได้มีเจตนาที่ไม่ดีอะไรเพียงแต่อยากคุยด้วย  ด้วยความห่วงใยฉันเพื่อน(ทั้งเพื่อนร่วมสถาบันและเพื่อนร่วมวัฏฏสังสารค่ะ)

     


หัวข้อ: Re: มหากาพย์ ความรัก และ ชาติภพ
เริ่มหัวข้อโดย: พัช 24 ที่ 01 สิงหาคม 2552, 17:37:24
อ้างถึง
ข้อความของ jacky เมื่อ 30 กรกฎาคม 2552, 22:13:15
"จงเลือกทางเดินของท่านเถิด"
ทางเผ่ามายาเค้าให้จุดหมายโลกเราแค่อีก 3 ปี
ทำอะไรก็ทำไปเถิด
ถ้ามันเป็นทางที่ดีนะ[/b][/size][/color]

(http://img187.imageshack.us/img187/1707/2012wp21600.jpg)

น่ากลัวจังนะคะจักร เล่าให้ฟังหน่อยค่ะเกี่ยวกับเผ่ามายาเนี่ยอยากรู้จัง

[/quote]
ครูอ้อย..
ผมก็ไม่รู้อะไรมากน่ะครับ
ว่ากันว่าชาวมายา
เค้าทำนายไว้ว่าวันสิ้นโลก
ซึ่งตามปฏิทินของเขาจะสิ้นสุดแค่อีกสามปีเท่านั้น
คนทำหนังอย่างทรนง ศรีเชื้อ
และโซนี่ โคลัมเบียเลยเอามาต่อยอด
หนังของไทย เจ๊งไปเรียบร้อย ส่วนของโซนี่
ดูตัวอย่างแล้วสุดยอด
CG ครับ
เด๋วเค้าหาว่าโฆษณา อิอิ
ปล.ตอนนี้ผมก็ว่าโลกเราเริ่มมีอะไรแปลกๆมาทดสอบพวกเรา
ชาวมนุษย์แล้วล่ะนะ
สุดท้ายก็
ทำดีไว้เถิด

[/quote]

ลองจินตนาการ  ว่าอยู่ในเหตุการณ์นั้น  หรือไม่ต้องอะไรมาก
แค่นึกว่าอยู่ที่หาดในวันที่คลื่นสึนามิมาถล่ม

แค่มีลมหายใจอยู่ก็มีค่าเกินพอแล้ว 


หัวข้อ: Re: มหากาพย์ ความรัก และ ชาติภพ
เริ่มหัวข้อโดย: SC (ก้าน 24) ที่ 01 สิงหาคม 2552, 18:38:47
อ้างถึง
ข้อความของ dtoy เมื่อ 01 สิงหาคม 2552, 04:16:38
สวัสดีจ่ะก้านและพี่ๆเพื่อนๆทุกคน

เห็นหัวข้อของก้านตั้งนานนม  แต่ยังไม่มีเวลาเข้ามาอ่านเลย

พอดีวันนี้ตื่นเช้ามาก ตี๔  (มีอะไรมาเตือนให้ตื่นขึ้นมาอ่านก็ไม่รู้นะ) เลยได้โอกาส

มันเป็นอะไรที่เหลือเชื่อ แต่น่าสนใจ  น่าติดตามนะ ต๋อยไม่มีเซนส์พิเศษอะไรทำนองนี้เลย 

แต่ขอยอมรับว่าเรื่องที่ก้านเล่ามามีมูลเหตุและผลที่ค่อนข้างน่าเชื่อถือลงตัว 

เพราะอะไรจะบังเอิญทุกครั้งคราขนาดนั้น  เป็นสิ่งที่ยากที่จะยอมรับและเข้าใจ ถ้าไม่เกิดขึ้นกับตนเอง

ชีวิตของก้านมีพันธะกับสิ่งนั้นมากเกินจนเหมือนกับว่า 

ชีวิตถูกลิขิตมาแล้วและตนไม่สามารถคอนโทรลทางชีวิตของตนได้เลย

จะมีทางไดหรือไม่ที่จะหลุดพ้นจากพันธะอันนั้น?

ทำใจให้อยู่เหนือใจ -คือหลุดพ้น  จะช่วยได้ไหม? อันนี้น่าจะได้แต่มันยากเหลือเกินนะ

ก้านมาพร้อมสิ่งพิเศษที่น้อยคนจะมี  และต้องอยู่กับสิ่งนั้นตลอดไป(?) 

ขอเป็นกำลังใจให้ก้านนะ   

ขอบใจมากจ๊ะต๋อย
วันที่ 8 เดือน 8 นี้ก็จะจบแล้วจ๊ะ


 emo48:)


หัวข้อ: Re: มหากาพย์ ความรัก และ ชาติภพ
เริ่มหัวข้อโดย: SC (ก้าน 24) ที่ 01 สิงหาคม 2552, 18:42:59
อ้างถึง
ข้อความของ jacky เมื่อ 01 สิงหาคม 2552, 11:39:37
อ้างถึง
ข้อความของ dtoy เมื่อ 01 สิงหาคม 2552, 04:16:38
สวัสดีจ่ะก้านและพี่ๆเพื่อนๆทุกคน

เห็นหัวข้อของก้านตั้งนานนม  แต่ยังไม่มีเวลาเข้ามาอ่านเลย

พอดีวันนี้ตื่นเช้ามาก ตี๔  (มีอะไรมาเตือนให้ตื่นขึ้นมาอ่านก็ไม่รู้นะ) เลยได้โอกาส

มันเป็นอะไรที่เหลือเชื่อ แต่น่าสนใจ  น่าติดตามนะ ต๋อยไม่มีเซนส์พิเศษอะไรทำนองนี้เลย 

แต่ขอยอมรับว่าเรื่องที่ก้านเล่ามามีมูลเหตุและผลที่ค่อนข้างน่าเชื่อถือลงตัว 

เพราะอะไรจะบังเอิญทุกครั้งคราขนาดนั้น  เป็นสิ่งที่ยากที่จะยอมรับและเข้าใจ ถ้าไม่เกิดขึ้นกับตนเอง

ชีวิตของก้านมีพันธะกับสิ่งนั้นมากเกินจนเหมือนกับว่า 

ชีวิตถูกลิขิตมาแล้วและตนไม่สามารถคอนโทรลทางชีวิตของตนได้เลย


จะมีทางไดหรือไม่ที่จะหลุดพ้นจากพันธะอันนั้น?

ทำใจให้อยู่เหนือใจ -คือหลุดพ้น   จะช่วยได้ไหม? อันนี้น่าจะได้แต่มันยากเหลือเกินนะ

ก้านมาพร้อมสิ่งพิเศษที่น้อยคนจะมี  และต้องอยู่กับสิ่งนั้นตลอดไป(?)   

ขอเป็นกำลังใจให้ก้านนะ   

เห็นด้วยกะป้าต๋อย...
-เหตุปัจจัยที่ต้องเป็นนายก้านเรียยกว่า "พันธะ"
-ใจเหนือใจ....จิตนิ่ง ก้ช่วยดีนะ สติก็ตามมา ปัญญาก็เกิด
-ถ้าดูหนังเรื่อง "six senses" เป็นตัวอย่างที่หนังทำได้ดี คนที่มีก็จะ
พิเศษอยู่บ้าง ตรงที่พิสูจน์ทางวิทยาศาสตร์ก็ไม่ได้
ก็คงต้องให้นายก้านระบายมาทาง Virtual Zmadong นี่ล่ะนะ
แต่ยังงัย ก็ตาม
ทางเดินต่อไปนี้

เวลาที่เหลือ

ก็คิดดี  ทำดี
คงพบปลายทางที่ดีๆ

ของผมก็เหลือไม่ถึง 5000 วันแล้ว
เย้
 
 emo4:)) emo26:D

(http://img74.imageshack.us/img74/5425/adayleft.gif)


ขอบใจนายจักร สำหรับข้อคิดจากเต๋า

 emo48:)



หัวข้อ: Re: มหากาพย์ ความรัก และ ชาติภพ
เริ่มหัวข้อโดย: SC (ก้าน 24) ที่ 01 สิงหาคม 2552, 18:44:47
อ้างถึง
ข้อความของ swsm เมื่อ 01 สิงหาคม 2552, 13:16:16
นายก้าน .. ใครห่างกะใคร 26 ปี 4 เดือน 4 วัน คะ ??

ก้านกะแฟน  หรือ  ก้านกะลูก ??

เฉลยคร่ะ ..






emo4:))

ยังไม่มีลูกครับพี่!

 emo20:)):)


หัวข้อ: Re: มหากาพย์ ความรัก และ ชาติภพ
เริ่มหัวข้อโดย: SC (ก้าน 24) ที่ 01 สิงหาคม 2552, 18:47:20
อ้างถึง
ข้อความของ พัช 24 เมื่อ 01 สิงหาคม 2552, 17:34:01
สวัสดีค่ะ  คุณก้าน  ขอบคุณสำหรับนิทานมหายานที่นำมาฝากค่ะ  นาน ๆ พัชจะได้อ่านนิทานของทางมหายานค่ะ  เรื่องไก่ที่คุณก้านนำมาลงไม่แน่ใจว่าเคยผ่านตาหรือเปล่า และไม่ทราบว่าโดยบริบทหรือที่มาของการยกเรื่องลักษณะนี้มาสอน  ครูบาอาจารย์ท่านต้องการเตือนเรื่องอื่นอีกหรือไม่   นอกจากเรื่องการควบคุมตัณหาในจิตใจไม่ให้พุ่งไปสู่สิ่งที่เอาจิตไปผูกไว้เหมือนไก่ที่เห็นไก่อีกตัวแล้วรับรู้ว่านั่นคือคู่ต่อสู้ จึงแสดงอาการทางกาย(บางทีอาจทางวาจาโดยการขันออกมาด้วย) เตรียมเข้าไปสู้กับเขา

ในทางธรรมพัชไม่คิดว่าเขาจะมุ่งเรื่องการต่อสู้เพื่อเอาชนะสิ่งภายนอกเป็นสำคัญ  แต่พัชคิดว่าถ้าเปลี่ยนจากไก่เป็นมนุษย์
สิ่งที่เราควรจะต่อสู้คือ กิเลสตัณหาภายในใจ  ต้องไม่ให้มันกำเริบจนบีบคั้นให้เราทำอะไรออกไป  เหมือนที่พัชเคยพูดไว้ในที่หนึ่งว่า  คนเราไม่มีใครไม่เคยประสบปัญหา  แต่เราจะจัดการกับปัญหาอย่างไรโดยไม่สร้างปัญหาใหม่(ซึ่งในที่นี้พัชหมายถึงอกุศลกรรมที่จะนำอกุศลวิบากตามมาภายหลัง   มันเหมือนการกู้หนี้ใหม่มาใช้หนี้เก่าไม่หมดหนี้เสียทีค่ะ)
     คุณก้านเอานิทานมาลงให้เพราะพัชไปวุ่นวายทวงคำตอบหรือเปล่า   ต้องขอโทษอย่างยิ่งนะคะ  ไม่ได้มีเจตนาที่ไม่ดีอะไรเพียงแต่อยากคุยด้วย  ด้วยความห่วงใยฉันเพื่อน(ทั้งเพื่อนร่วมสถาบันและเพื่อนร่วมวัฏฏสังสารค่ะ)

    


ขอบคุณครับ
แต่ขอเป็นเพื่อนร่วมสถาบันอย่างเดียวก็พอ


 emo20:)):) emo20:)):) emo20:)):)





หัวข้อ: Re: มหากาพย์ ความรัก และ ชาติภพ
เริ่มหัวข้อโดย: SC (ก้าน 24) ที่ 01 สิงหาคม 2552, 19:33:20
 
อ้างถึง   
เมื่อวิถีทางเป็นของท่าน ท่านจะรู้ด้วยตัวของท่านเอง

คำกล่าวข้างต้น ย่อมไม่ใช่คำพูดของผม แต่ผมก็จำไม่ได้ และยังค้นหาไม่เจอว่าคุรุท่านใดที่เป็นเจ้าของ

ผมเคยเสี่ยงทายกับไพ่ยิปซี โดยดูกับเว็บ payakorn.com ซึ่งผมยอมรับว่าแม่นมาก เพราะจะสัมพันธ์กับจิตของเราโดยตรง มีเรื่องหนึ่งไพ่ให้คำอธิบายว่า " ผู้คนรอบข้างคุณล้วนแต่หวังดีกับคุณ ไม่มีใครคิดร้าย แต่กลับกลายเป็นความหวังดีที่ส่งผลร้าย..." (ผมอาจจะจำสำนวนได้ไม่ร้อยเปอร์เซนต์ แต่ออกมาประมาณนี้)

คือถ้าเอาแต่ผลที่อาจจะเห็นหรือแค่ได้ยิน แต่ไม่รู้เหตุ แล้วใช้ประสบการณ์ของตนทึกทักเอา ก็จะกลายเป็นการแก้ที่ไม่ตรงจุด และเมื่อมันไม่ได้ผลก็อาจจะกลายเป็นวิกฤตศรัทธาไป

ผมเคยไปปฏิบัติวิปัสนากรรมฐานเพื่อตัดกรรมตัดเวร เพราะผู้แนะนำเชื่อว่าผมมีเจ้ากรรมนายเวรเป็นวิญญาณ เมื่อทำแล้วไม่มีอะไรดีขึ้น ศรัทธาเลยเสื่อมไม่เหลือ ต่อเมื่อถึงวันนี้ผมถึงได้เข้าใจว่า ไม่ใช่เพราะการปฏิบัติวิปัสนากรรมฐานไม่ดี แต่เป็นเพราะการแก้ที่ไม่ตรงจุด เพราะผมมีเจ้ากรรมนายเวรเป็นคนเป็นๆ แต่ก็สายไปเสียแล้ว...

ผมหลุดจากพุทธศนาตลอดกาล เมื่อแม่ผมหายป่วยหนัก หลังจากผมได้อธิฐานขอพึ่งอำนาจเหนือธรรมชาตินอกพุทธศาสนา

สุดท้าย ผมก็ไม่มีศาสนา มีแต่วิถีทางเท่านั้น


 emo48:)



หัวข้อ: Re: มหากาพย์ ความรัก และ ชาติภพ
เริ่มหัวข้อโดย: jacky ที่ 01 สิงหาคม 2552, 19:45:40
อ้างถึง
ข้อความของ Q??? เมื่อ 01 สิงหาคม 2552, 19:33:20
 
อ้างถึง   
เมื่อวิถีทางเป็นของท่าน ท่านจะรู้ด้วยตัวของท่านเอง

คำกล่าวข้างต้น ย่อมไม่ใช่คำพูดของผม แต่ผมก็จำไม่ได้ และยังค้นหาไม่เจอว่าคุรุท่านใดที่เป็นเจ้าของ

ผมเคยเสี่ยงทายกับไพ่ยิปซี โดยดูกับเว็บ payakorn.com ซึ่งผมยอมรับว่าแม่นมาก เพราะจะสัมพันธ์กับจิตของเราโดยตรง มีเรื่องหนึ่งไพ่ให้คำอธิบายว่า " ผู้คนรอบข้างคุณล้วนแต่หวังดีกับคุณ ไม่มีใครคิดร้าย แต่กลับกลายเป็นความหวังดีที่ส่งผลร้าย..." (ผมอาจจะจำสำนวนได้ไม่ร้อยเปอร์เซนต์ แต่ออกมาประมาณนี้)

คือถ้าเอาแต่ผลที่อาจจะเห็นหรือแค่ได้ยิน แต่ไม่รู้เหตุ แล้วใช้ประสบการณ์ของตนทึกทักเอา ก็จะกลายเป็นการแก้ที่ไม่ตรงจุด และเมื่อมันไม่ได้ผลก็อาจจะกลายเป็นวิกฤตศรัทธาไป

ผมเคยไปปฏิบัติวิปัสนากรรมฐานเพื่อตัดกรรมตัดเวร เพราะผู้แนะนำเชื่อว่าผมมีเจ้ากรรมนายเวรเป็นวิญญาณ เมื่อทำแล้วไม่มีอะไรดีขึ้น ศรัทธาเลยเสื่อมไม่เหลือ ต่อเมื่อถึงวันนี้ผมถึงได้เข้าใจว่า ไม่ใช่เพราะการปฏิบัติวิปัสนากรรมฐานไม่ดี แต่เป็นเพราะการแก้ที่ไม่ตรงจุด เพราะผมมีเจ้ากรรมนายเวรเป็นคนเป็นๆ แต่ก็สายไปเสียแล้ว...

ผมหลุดจากพุทธศนาตลอดกาล เมื่อแม่ผมหายป่วยหนัก และผมได้อธิฐานขอพึ่งอำนาจเหนือธรรมชาตินอกพุทธศาสนา

สุดท้าย ผมก็ไม่มีศาสนา มีแต่วิถีทางเท่านั้น


 emo48:)


Ik Q San
ท่านได้เลือกวิถีของท่านแล้ว
อมิตตาพุทธ


หัวข้อ: Re: มหากาพย์ ความรัก และ ชาติภพ
เริ่มหัวข้อโดย: jacky ที่ 01 สิงหาคม 2552, 20:04:23
อ้างถึง
ข้อความของ jacky เมื่อ 01 สิงหาคม 2552, 19:45:40
อ้างถึง
ข้อความของ Q??? เมื่อ 01 สิงหาคม 2552, 19:33:20
 
อ้างถึง   
เมื่อวิถีทางเป็นของท่าน ท่านจะรู้ด้วยตัวของท่านเอง

คำกล่าวข้างต้น ย่อมไม่ใช่คำพูดของผม แต่ผมก็จำไม่ได้ และยังค้นหาไม่เจอว่าคุรุท่านใดที่เป็นเจ้าของ

ผมเคยเสี่ยงทายกับไพ่ยิปซี โดยดูกับเว็บ payakorn.com ซึ่งผมยอมรับว่าแม่นมาก เพราะจะสัมพันธ์กับจิตของเราโดยตรง มีเรื่องหนึ่งไพ่ให้คำอธิบายว่า " ผู้คนรอบข้างคุณล้วนแต่หวังดีกับคุณ ไม่มีใครคิดร้าย แต่กลับกลายเป็นความหวังดีที่ส่งผลร้าย..." (ผมอาจจะจำสำนวนได้ไม่ร้อยเปอร์เซนต์ แต่ออกมาประมาณนี้)

คือถ้าเอาแต่ผลที่อาจจะเห็นหรือแค่ได้ยิน แต่ไม่รู้เหตุ แล้วใช้ประสบการณ์ของตนทึกทักเอา ก็จะกลายเป็นการแก้ที่ไม่ตรงจุด และเมื่อมันไม่ได้ผลก็อาจจะกลายเป็นวิกฤตศรัทธาไป

ผมเคยไปปฏิบัติวิปัสนากรรมฐานเพื่อตัดกรรมตัดเวร เพราะผู้แนะนำเชื่อว่าผมมีเจ้ากรรมนายเวรเป็นวิญญาณ เมื่อทำแล้วไม่มีอะไรดีขึ้น ศรัทธาเลยเสื่อมไม่เหลือ ต่อเมื่อถึงวันนี้ผมถึงได้เข้าใจว่า ไม่ใช่เพราะการปฏิบัติวิปัสนากรรมฐานไม่ดี แต่เป็นเพราะการแก้ที่ไม่ตรงจุด เพราะผมมีเจ้ากรรมนายเวรเป็นคนเป็นๆ แต่ก็สายไปเสียแล้ว...

ผมหลุดจากพุทธศนาตลอดกาล เมื่อแม่ผมหายป่วยหนัก และผมได้อธิฐานขอพึ่งอำนาจเหนือธรรมชาตินอกพุทธศาสนา

สุดท้าย ผมก็ไม่มีศาสนา มีแต่วิถีทางเท่านั้น


 emo48:)


Ik Q San
ท่านได้เลือกวิถีของท่านแล้ว
อมิตตาพุทธ

ขอแชร์และสารภาพ..
เคยหลุดไปพักใหญ่ด้วยสาเหตุเดียวกัน
มันเหมือนเดินบนทางขนานกะพุทธศาสนา
รู้สึกว่าช่วงนั้นชอบอะไรๆที่เป็นเทาๆ ดำๆ
เที่ยวดึกๆ  ไม่กลับบ้าน   เช้าทำงาน
แล้วก็ทำงานแบบหามรุ่งหามค่ำ
สนุกไปวันๆ เงินหาง่าย  จ่ายคล่อง
พลังงานเยอะ

จนกระทั่ง
เราเห็นตาดำๆของลูกที่เกิดมา
นี่แหละนายก้านเอ๊ย

มาบัดนี้ผมก็ต้องกระโดดข้ามไม้หมอนกลับมา
พึ่งหลักของพระพุทธองค์.......

ซึ่งผมก็ยังเชื่อว่า เป็นหลักการของเหตุและผล
ถ้าไอน์สไตน์ได้รับรู้หลักการของพุทธะเร็วกว่านี้
ผมว่าคงได้เห็น ทฤษฎี เจ๋งๆมากมาย


หัวข้อ: Re: มหากาพย์ ความรัก และ ชาติภพ
เริ่มหัวข้อโดย: พัช 24 ที่ 01 สิงหาคม 2552, 20:14:31
อ้างถึง
ข้อความของ Q??? เมื่อ 01 สิงหาคม 2552, 19:33:20


อ้างถึง
ข้อความของ Q??? เมื่อ 01 สิงหาคม 2552, 19:33:20
 
อ้างถึง   
เมื่อวิถีทางเป็นของท่าน ท่านจะรู้ด้วยตัวของท่านเอง

คำกล่าวข้างต้น ย่อมไม่ใช่คำพูดของผม แต่ผมก็จำไม่ได้ และยังค้นหาไม่เจอว่าคุรุท่านใดที่เป็นเจ้าของ

ผมเคยเสี่ยงทายกับไพ่ยิปซี โดยดูกับเว็บ payakorn.com ซึ่งผมยอมรับว่าแม่นมาก เพราะจะสัมพันธ์กับจิตของเราโดยตรง มีเรื่องหนึ่งไพ่ให้คำอธิบายว่า " ผู้คนรอบข้างคุณล้วนแต่หวังดีกับคุณ ไม่มีใครคิดร้าย แต่กลับกลายเป็นความหวังดีที่ส่งผลร้าย..." (ผมอาจจะจำสำนวนได้ไม่ร้อยเปอร์เซนต์ แต่ออกมาประมาณนี้)

คือถ้าเอาแต่ผลที่อาจจะเห็นหรือแค่ได้ยิน แต่ไม่รู้เหตุ แล้วใช้ประสบการณ์ของตนทึกทักเอา ก็จะกลายเป็นการแก้ที่ไม่ตรงจุด และเมื่อมันไม่ได้ผลก็อาจจะกลายเป็นวิกฤตศรัทธาไป

ผมเคยไปปฏิบัติวิปัสนากรรมฐานเพื่อตัดกรรมตัดเวร เพราะผู้แนะนำเชื่อว่าผมมีเจ้ากรรมนายเวรเป็นวิญญาณ เมื่อทำแล้วไม่มีอะไรดีขึ้น ศรัทธาเลยเสื่อมไม่เหลือ ต่อเมื่อถึงวันนี้ผมถึงได้เข้าใจว่า ไม่ใช่เพราะการปฏิบัติวิปัสนากรรมฐานไม่ดี แต่เป็นเพราะการแก้ที่ไม่ตรงจุด เพราะผมมีเจ้ากรรมนายเวรเป็นคนเป็นๆ แต่ก็สายไปเสียแล้ว...

ผมหลุดจากพุทธศนาตลอดกาล เมื่อแม่ผมหายป่วยหนัก และผมได้อธิฐานขอพึ่งอำนาจเหนือธรรมชาตินอกพุทธศาสนา

สุดท้าย ผมก็ไม่มีศาสนา มีแต่วิถีทางเท่านั้น


 emo48:)


คุณก้านคะ  ขออนุญาตแบ่งปันสิ่งที่ได้เรียนรู้มาจากการศึกษาทั้งจากหนังสือ
และครูบาอาจารย์  ส่วนจะเห็นตรงกันหรือไม่  ไม่เป็นไรค่ะ

เท่าที่ทราบ  การตัดกรรม การสะเดาะเคราะห์ ฯลฯ ทำนองนี้  ไม่ใช่พุทธ ค่ะ  แต่อาจเพราะพุทธเกิดและเผยแผ่ไปในหลายดินแดนที่มีความเชื่อเดิมเป็นพื้นอยู่แล้วมันจึงเกิดการปะปนผสมผสานกันค่ะ
พุทธ แท้ ๆ ต้องเชื่อว่าทุกสิ่งเกิดจากเหตุและปัจจัยค่ะ  เพียงแต่เราต้องพิจารณาให้แยบคายให้เข้าใจเหตุที่แท้จริง   ดังนั้นชาวพุทธจึงควรสนใจกฎแห่งกรรมค่ะ  พัชว่าไม่ขึ้นอยู่ว่าเป็นศาสนาอะไร  กฎแห่งกรรมก็ให้ผลค่ะ เพราะมันเป็นธรรมดา เป็นธรรมชาติ    อกุศลกรรมเปรียบเหมือนเกลือรอให้ผลอยู่  กุศลกรรมเปรียบเหมือนน้ำ  เติมน้ำมาก ๆ จะได้เจือจางเกลือไม่ให้เค็มเกินทนนะคะ  แม้ไม่เห็นผลอะไร  เราก็ได้ชื่อว่าเป็นผู้กระทำความดีอยู่ค่ะ  คนดีตกน้ำไม่ไหลตกไฟไม่ไหม้
ทำเหตุไป  ผลเป็นเรื่องของผลค่ะ  มันจะมาเองเมื่อ เหตุปัจจัยสมบูรณ์

ในทางพุทธมีคำอยู่คำหนึ่งว่า   สีลพรตปรามาส (ไม่แน่ใจว่าสะกดถูกหรือผิด)  บ้างเรียกว่าการลูบคลำศีลแบบผิด ๆ คือ เชื่อกันแบบติดพิธีกรรม  คล้าย ๆ กับที่เชื่อว่า การรักษาศีลหรือปฏิบัติธรรมแล้วจะตัดกรรมได้ นั่นคือผิดความหมายที่แท้จริงของการปฏิบัติค่ะ  


นัตถิ เม สรณัง อัญญัง  พุทธัง ธรรมมัง สังฆัง เม สรณัง  วะรัง     ค่ะ


ขอให้โชคดีค่ะ  คุณก้าน

 emo30:sorry: emo30:sorry: emo30:sorry:







หัวข้อ: Re: มหากาพย์ ความรัก และ ชาติภพ
เริ่มหัวข้อโดย: แจง-24 ที่ 01 สิงหาคม 2552, 22:13:00
มาเช็คชื่อเข้าชมค่ะก้าน กระทู้นี้อ่านสนุกดีนะ

แจงเป็นพวกเดียวกับมาดามต๋อย คือปราศจาก six sense โดยสิ้นเชิง
ไม่เคยรับรู้ปรากฏการณ์เหนือธรรมชาติใดๆทั้งสิ้น
ได้มาอ่านเรื่องของคนที่มีประสบการณ์จริง ก็ถือว่าได้เปิดโลกทัศน์

ยิ่งมีแม่เลี้ยงพัด และลุงจักร มาร่วมสนทนาธรรม แลกเปลี่ยนแนวคิดระหว่างศาสนากับความเชื่อ กระทู้นี้ยิ่งน่าอ่าน

มาร่วมติดตามอ่าน และขอเป็นกำลังใจ ให้ก้านผ่านพ้นอุปสรรคในชีวิตอย่างงดงาม ตามวิถีทางที่ก้านเลือกค่ะ


หัวข้อ: Re: มหากาพย์ ความรัก และ ชาติภพ
เริ่มหัวข้อโดย: Kaimook ที่ 01 สิงหาคม 2552, 22:33:39
หวัดดียามดึกค่ะก้านตามอ่านค่ะ เป็นกำลังใจให้นะคะก้าน emo4:)) emo4:)) emo4:))


หัวข้อ: Re: มหากาพย์ ความรัก และ ชาติภพ
เริ่มหัวข้อโดย: SC (ก้าน 24) ที่ 02 สิงหาคม 2552, 18:21:55
อ้างถึง
ข้อความของ พัช 24 เมื่อ 01 สิงหาคม 2552, 20:14:31
อ้างถึง
ข้อความของ Q??? เมื่อ 01 สิงหาคม 2552, 19:33:20


อ้างถึง
ข้อความของ Q??? เมื่อ 01 สิงหาคม 2552, 19:33:20
 
อ้างถึง   
เมื่อวิถีทางเป็นของท่าน ท่านจะรู้ด้วยตัวของท่านเอง

คำกล่าวข้างต้น ย่อมไม่ใช่คำพูดของผม แต่ผมก็จำไม่ได้ และยังค้นหาไม่เจอว่าคุรุท่านใดที่เป็นเจ้าของ

ผมเคยเสี่ยงทายกับไพ่ยิปซี โดยดูกับเว็บ payakorn.com ซึ่งผมยอมรับว่าแม่นมาก เพราะจะสัมพันธ์กับจิตของเราโดยตรง มีเรื่องหนึ่งไพ่ให้คำอธิบายว่า " ผู้คนรอบข้างคุณล้วนแต่หวังดีกับคุณ ไม่มีใครคิดร้าย แต่กลับกลายเป็นความหวังดีที่ส่งผลร้าย..." (ผมอาจจะจำสำนวนได้ไม่ร้อยเปอร์เซนต์ แต่ออกมาประมาณนี้)

คือถ้าเอาแต่ผลที่อาจจะเห็นหรือแค่ได้ยิน แต่ไม่รู้เหตุ แล้วใช้ประสบการณ์ของตนทึกทักเอา ก็จะกลายเป็นการแก้ที่ไม่ตรงจุด และเมื่อมันไม่ได้ผลก็อาจจะกลายเป็นวิกฤตศรัทธาไป

ผมเคยไปปฏิบัติวิปัสนากรรมฐานเพื่อตัดกรรมตัดเวร เพราะผู้แนะนำเชื่อว่าผมมีเจ้ากรรมนายเวรเป็นวิญญาณ เมื่อทำแล้วไม่มีอะไรดีขึ้น ศรัทธาเลยเสื่อมไม่เหลือ ต่อเมื่อถึงวันนี้ผมถึงได้เข้าใจว่า ไม่ใช่เพราะการปฏิบัติวิปัสนากรรมฐานไม่ดี แต่เป็นเพราะการแก้ที่ไม่ตรงจุด เพราะผมมีเจ้ากรรมนายเวรเป็นคนเป็นๆ แต่ก็สายไปเสียแล้ว...

ผมหลุดจากพุทธศนาตลอดกาล เมื่อแม่ผมหายป่วยหนัก และผมได้อธิฐานขอพึ่งอำนาจเหนือธรรมชาตินอกพุทธศาสนา

สุดท้าย ผมก็ไม่มีศาสนา มีแต่วิถีทางเท่านั้น


 emo48:)


คุณก้านคะ  ขออนุญาตแบ่งปันสิ่งที่ได้เรียนรู้มาจากการศึกษาทั้งจากหนังสือ
และครูบาอาจารย์  ส่วนจะเห็นตรงกันหรือไม่  ไม่เป็นไรค่ะ

เท่าที่ทราบ  การตัดกรรม การสะเดาะเคราะห์ ฯลฯ ทำนองนี้  ไม่ใช่พุทธ ค่ะ  แต่อาจเพราะพุทธเกิดและเผยแผ่ไปในหลายดินแดนที่มีความเชื่อเดิมเป็นพื้นอยู่แล้วมันจึงเกิดการปะปนผสมผสานกันค่ะ
พุทธ แท้ ๆ ต้องเชื่อว่าทุกสิ่งเกิดจากเหตุและปัจจัยค่ะ  เพียงแต่เราต้องพิจารณาให้แยบคายให้เข้าใจเหตุที่แท้จริง   ดังนั้นชาวพุทธจึงควรสนใจกฎแห่งกรรมค่ะ  พัชว่าไม่ขึ้นอยู่ว่าเป็นศาสนาอะไร  กฎแห่งกรรมก็ให้ผลค่ะ เพราะมันเป็นธรรมดา เป็นธรรมชาติ    อกุศลกรรมเปรียบเหมือนเกลือรอให้ผลอยู่  กุศลกรรมเปรียบเหมือนน้ำ  เติมน้ำมาก ๆ จะได้เจือจางเกลือไม่ให้เค็มเกินทนนะคะ  แม้ไม่เห็นผลอะไร  เราก็ได้ชื่อว่าเป็นผู้กระทำความดีอยู่ค่ะ  คนดีตกน้ำไม่ไหลตกไฟไม่ไหม้
ทำเหตุไป  ผลเป็นเรื่องของผลค่ะ  มันจะมาเองเมื่อ เหตุปัจจัยสมบูรณ์

ในทางพุทธมีคำอยู่คำหนึ่งว่า   สีลพรตปรามาส (ไม่แน่ใจว่าสะกดถูกหรือผิด)  บ้างเรียกว่าการลูบคลำศีลแบบผิด ๆ คือ เชื่อกันแบบติดพิธีกรรม  คล้าย ๆ กับที่เชื่อว่า การรักษาศีลหรือปฏิบัติธรรมแล้วจะตัดกรรมได้ นั่นคือผิดความหมายที่แท้จริงของการปฏิบัติค่ะ  


นัตถิ เม สรณัง อัญญัง  พุทธัง ธรรมมัง สังฆัง เม สรณัง  วะรัง     ค่ะ


ขอให้โชคดีค่ะ  คุณก้าน

 emo30:sorry: emo30:sorry: emo30:sorry:



ความเห็นไม่ตรงกันไม่เป็นไรครับคุณพัชร แต่ว่า คุณพัชรได้อ่านอย่างทำความเข้าใจหรือเปล่าว่าสิ่งที่ผมสื่อจริงๆนะอยู่ที่ไหน? ดูเหมือนว่าคุณจะปรามาสหลวงพ่อจรัลและวัดอัมพวันนะ ลองตริตรองดูเสียใหม่

ขนาดผมไม่ได้นับถือพุทธแล้ว ผมยังไม่ปรามาสเลย แค่บอกว่า นั่นไม่ใช่ทางของผม แค่นั้นเอง

อ้อ ผมยังระลึกเสมอนะว่าผมติดค้างต้องไปใช้หนี้สงฆ์เมื่อผมมีปัจจัยพอที่จะใช้หนี้


 emo48:)


หัวข้อ: Re: มหากาพย์ ความรัก และ ชาติภพ
เริ่มหัวข้อโดย: SC (ก้าน 24) ที่ 02 สิงหาคม 2552, 18:30:30
อ้างถึง
ข้อความของ jacky เมื่อ 01 สิงหาคม 2552, 20:04:23
อ้างถึง
ข้อความของ jacky เมื่อ 01 สิงหาคม 2552, 19:45:40
อ้างถึง
ข้อความของ Q??? เมื่อ 01 สิงหาคม 2552, 19:33:20
 
อ้างถึง   
เมื่อวิถีทางเป็นของท่าน ท่านจะรู้ด้วยตัวของท่านเอง

คำกล่าวข้างต้น ย่อมไม่ใช่คำพูดของผม แต่ผมก็จำไม่ได้ และยังค้นหาไม่เจอว่าคุรุท่านใดที่เป็นเจ้าของ

ผมเคยเสี่ยงทายกับไพ่ยิปซี โดยดูกับเว็บ payakorn.com ซึ่งผมยอมรับว่าแม่นมาก เพราะจะสัมพันธ์กับจิตของเราโดยตรง มีเรื่องหนึ่งไพ่ให้คำอธิบายว่า " ผู้คนรอบข้างคุณล้วนแต่หวังดีกับคุณ ไม่มีใครคิดร้าย แต่กลับกลายเป็นความหวังดีที่ส่งผลร้าย..." (ผมอาจจะจำสำนวนได้ไม่ร้อยเปอร์เซนต์ แต่ออกมาประมาณนี้)

คือถ้าเอาแต่ผลที่อาจจะเห็นหรือแค่ได้ยิน แต่ไม่รู้เหตุ แล้วใช้ประสบการณ์ของตนทึกทักเอา ก็จะกลายเป็นการแก้ที่ไม่ตรงจุด และเมื่อมันไม่ได้ผลก็อาจจะกลายเป็นวิกฤตศรัทธาไป

ผมเคยไปปฏิบัติวิปัสนากรรมฐานเพื่อตัดกรรมตัดเวร เพราะผู้แนะนำเชื่อว่าผมมีเจ้ากรรมนายเวรเป็นวิญญาณ เมื่อทำแล้วไม่มีอะไรดีขึ้น ศรัทธาเลยเสื่อมไม่เหลือ ต่อเมื่อถึงวันนี้ผมถึงได้เข้าใจว่า ไม่ใช่เพราะการปฏิบัติวิปัสนากรรมฐานไม่ดี แต่เป็นเพราะการแก้ที่ไม่ตรงจุด เพราะผมมีเจ้ากรรมนายเวรเป็นคนเป็นๆ แต่ก็สายไปเสียแล้ว...

ผมหลุดจากพุทธศนาตลอดกาล เมื่อแม่ผมหายป่วยหนัก และผมได้อธิฐานขอพึ่งอำนาจเหนือธรรมชาตินอกพุทธศาสนา

สุดท้าย ผมก็ไม่มีศาสนา มีแต่วิถีทางเท่านั้น


 emo48:)


Ik Q San
ท่านได้เลือกวิถีของท่านแล้ว
อมิตตาพุทธ

ขอแชร์และสารภาพ..
เคยหลุดไปพักใหญ่ด้วยสาเหตุเดียวกัน
มันเหมือนเดินบนทางขนานกะพุทธศาสนา
รู้สึกว่าช่วงนั้นชอบอะไรๆที่เป็นเทาๆ ดำๆ
เที่ยวดึกๆ  ไม่กลับบ้าน   เช้าทำงาน
แล้วก็ทำงานแบบหามรุ่งหามค่ำ
สนุกไปวันๆ เงินหาง่าย  จ่ายคล่อง
พลังงานเยอะ

จนกระทั่ง
เราเห็นตาดำๆของลูกที่เกิดมา
นี่แหละนายก้านเอ๊ย

มาบัดนี้ผมก็ต้องกระโดดข้ามไม้หมอนกลับมา
พึ่งหลักของพระพุทธองค์.......

ซึ่งผมก็ยังเชื่อว่า เป็นหลักการของเหตุและผล
ถ้าไอน์สไตน์ได้รับรู้หลักการของพุทธะเร็วกว่านี้
ผมว่าคงได้เห็น ทฤษฎี เจ๋งๆมากมาย


ฮ้า จริงหรือนายจักร
แต่ผมคงไม่นะ คงไม่ตระบัดสัตย์
และอีกอย่าง เราต้องมีความกตัญญูรู้จักบุญคุณถูกหรือไม่?
มีแต่เบื้องบนที่ช่วยให้ผมรอดจากอุบัติเหตุ 2 ครั้ง ไม่สิอาจจะ 3 ครั้งดังเรื่องที่จะเล่าต่อไป
ถ้าเทียบกับพุทธศาสนาแล้ว หนี้สงฆ์ที่ผมเป็น ก็ยังห่างไกลจากบุญคุณของเบื้องบน แม้ว่าท่านจะเป็นแค่พยานในพันธะสัญญารหว่างผมกับคนที่ผมตามหาก็ตาม


 emo48:)


หัวข้อ: Re: มหากาพย์ ความรัก และ ชาติภพ
เริ่มหัวข้อโดย: SC (ก้าน 24) ที่ 02 สิงหาคม 2552, 18:34:53
ต้องห้าม?

ช่วงที่กำลังอยู่ระหว่างการจดทะเบียนบริษัทฯ และ จัดตั้งสำนักงานอยู่นั้น พี่หมอให้ใช้ห้องทำงานของเขาที่คลีนิคแห่งหนึ่งแถวรัชดาฯ และมีพนักงานประจำคลีนิคชื่อ " นิด " น้องนิดหน้าตาไม่ถึงกับสวย แต่ก็เร้าใจ ทำให้ผมต้องพูดคุยเล่นหูเล่นตากับน้องนิดอยู่เรื่อย

อยู่มาวันหนึ่ง ผมพักด้วยการเล่นเกมส์ น้องนิดเข้ามาในห้องมานั่งข้างๆบอกขอเล่นเกมส์ด้วย ผมก็เลยประคองน้องนิดให้ขึ้นมานั่งตักผม น้องนิดก็นั่งตักผมเล่นเกมส์ไป ผมก็หอมไป มือไม้ก็เปะป่ะละเลื้อยไปเรื่อย ครั้นพอเลื้อยลงจะถึงจุดสำคัญ หมากฝรั่งริกลี่ย์ที่ผมเคี้ยวอยู่ในปากก็ดิ้นเหมือนมีชีวิต มันทำท่าจะลงไปในลำคอผม ผมเลยต้องขย้อนออกมาไว้ที่กระพุ้งแก้มตรงฟันกรามแล้วเคี้ยวต่อ เสียจังหวะไปต้องเริ่มต้นใหม่ แต่ครั้นพอมือเลื้อยลงจะถึงจุดสำคัญ คราวนี้หมากฝั่งในปากมันยุ่ยละลายลงไปในคอ ผมต้องรีบใช้สองแขนยกน้องนิดขึ้นทั้งตัว แล้วรีบไปที่ถังขนะ ขากถุยออกมา ที่ตาเห็นคือ หมากฝรั่งเละไม่เป็นก้อน หลังจากนั้นก็ดูเหมือนว่ามนต์จะเสื่อมหรือไม่น้องนิดคงจะเสียอารมณ์ไปแล้ว เลยไม่ยอมอีก...

หลังจากวันนั้นผมก็ต้องการพิสูจน์ว่า หมากฝรั่งมันจะยุ่ยในปากได้ไหม? ทุกครั้งที่ผมไปเจอสาขาเซเว่นตามที่ต่างๆที่ผมไปผมจะซื้อหมากฝรั่งริกลีย์ห่อหนึ่ง แล้วเคี้ยว เคยเคี้ยวนานที่สุดถึง 6 ชั่วโมง และทดสอบอยู่นานร่วม 3 เดือน ก็ไม่เห็นว่ามันจะยุ่ยเหมือนครั้งนั้นได้เลย ตอนนั้นผมก็ต้องเชื่อใน Supernatural Power แล้วล่ะ แต่ที่ยังคาใจก็คือ น้องนิดต้องห้ามสำหรับผมด้วยเรื่องใด หรือว่าน้องนิดเธอเป็นเอดส์ แต่จากวันนั้นถึงวันที่พี่หมอเสียชีวิต น้องนิดก็ดูปกติดี ผ่านมา 5 ปีแล้วผมไม่ได้เจอน้องนิด และคนที่เกี่ยวข้องรู้จักเลย จึงยังคาใจมาจดบัดนี้...


  emo47


หัวข้อ: Re: มหากาพย์ ความรัก และ ชาติภพ
เริ่มหัวข้อโดย: SC (ก้าน 24) ที่ 02 สิงหาคม 2552, 18:45:21
อ้างถึง
ข้อความของ แจง-24 เมื่อ 01 สิงหาคม 2552, 22:13:00
มาเช็คชื่อเข้าชมค่ะก้าน กระทู้นี้อ่านสนุกดีนะ

แจงเป็นพวกเดียวกับมาดามต๋อย คือปราศจาก six sense โดยสิ้นเชิง
ไม่เคยรับรู้ปรากฏการณ์เหนือธรรมชาติใดๆทั้งสิ้น
ได้มาอ่านเรื่องของคนที่มีประสบการณ์จริง ก็ถือว่าได้เปิดโลกทัศน์

ยิ่งมีแม่เลี้ยงพัด และลุงจักร มาร่วมสนทนาธรรม แลกเปลี่ยนแนวคิดระหว่างศาสนากับความเชื่อ กระทู้นี้ยิ่งน่าอ่าน

มาร่วมติดตามอ่าน และขอเป็นกำลังใจ ให้ก้านผ่านพ้นอุปสรรคในชีวิตอย่างงดงาม ตามวิถีทางที่ก้านเลือกค่ะ


ขอบใจจ๊ะ แจง แต่ก็ใช่ว่า ผมจะเลือกนะ แต่ถูกทำให้เลือกตะหาก
หรือจะว่าไป ผมอาจจะไม่ใช่คนในพุทธศาสนาทุกชาติภพที่ผ่านมา
เพียงแต่ว่าผมเกิดมาก็เป็นไปตามบิดามารดร ก่อนที่จะถึงเวลาที่ผมต้องมีวิถีที่เป็นของผมเอง
อย่างรูปศรที่ถูกเขียนไว้กลางร่องอกนั้น เมื่อพิจารณาตามทฤษฎีทางจิตวิทยาเรื่องแรงจูงใจ คนเราจะทำอะไรก็ต้องมีแรงบันดาลใจจากสิ่งที่ตัวเองเห็น ไม่ว่าคนในยุคอดีต หรือ ยุคปัจจุบัน

นั่นก็แสดงว่าชาติภพที่แล้วร่องกระดูกกลางอกผมก็เป็นรูปลูกศร เขาถึงเขียนรูปศรทับลงไป  

และอดีตชาติของผมก็อาจจะไม่ได้ย้อนหลังไปแค่ 50 - 120 ปีจากปัจจุบัน แต่อาจย้อนไปนับพันปี ก่อนที่พุทธศานาจะแผ่อิทธิพลมาในย่านนี้ก็ได้ใครจะรู้


 emo48:)


หัวข้อ: Re: มหากาพย์ ความรัก และ ชาติภพ
เริ่มหัวข้อโดย: jacky ที่ 02 สิงหาคม 2552, 19:01:07
อ้างถึง
ข้อความของ Q??? เมื่อ 02 สิงหาคม 2552, 18:30:30
อ้างถึง
ข้อความของ jacky เมื่อ 01 สิงหาคม 2552, 20:04:23
อ้างถึง
ข้อความของ jacky เมื่อ 01 สิงหาคม 2552, 19:45:40
อ้างถึง
ข้อความของ Q??? เมื่อ 01 สิงหาคม 2552, 19:33:20
 
อ้างถึง   
เมื่อวิถีทางเป็นของท่าน ท่านจะรู้ด้วยตัวของท่านเอง

คำกล่าวข้างต้น ย่อมไม่ใช่คำพูดของผม แต่ผมก็จำไม่ได้ และยังค้นหาไม่เจอว่าคุรุท่านใดที่เป็นเจ้าของ

ผมเคยเสี่ยงทายกับไพ่ยิปซี โดยดูกับเว็บ payakorn.com ซึ่งผมยอมรับว่าแม่นมาก เพราะจะสัมพันธ์กับจิตของเราโดยตรง มีเรื่องหนึ่งไพ่ให้คำอธิบายว่า " ผู้คนรอบข้างคุณล้วนแต่หวังดีกับคุณ ไม่มีใครคิดร้าย แต่กลับกลายเป็นความหวังดีที่ส่งผลร้าย..." (ผมอาจจะจำสำนวนได้ไม่ร้อยเปอร์เซนต์ แต่ออกมาประมาณนี้)

คือถ้าเอาแต่ผลที่อาจจะเห็นหรือแค่ได้ยิน แต่ไม่รู้เหตุ แล้วใช้ประสบการณ์ของตนทึกทักเอา ก็จะกลายเป็นการแก้ที่ไม่ตรงจุด และเมื่อมันไม่ได้ผลก็อาจจะกลายเป็นวิกฤตศรัทธาไป

ผมเคยไปปฏิบัติวิปัสนากรรมฐานเพื่อตัดกรรมตัดเวร เพราะผู้แนะนำเชื่อว่าผมมีเจ้ากรรมนายเวรเป็นวิญญาณ เมื่อทำแล้วไม่มีอะไรดีขึ้น ศรัทธาเลยเสื่อมไม่เหลือ ต่อเมื่อถึงวันนี้ผมถึงได้เข้าใจว่า ไม่ใช่เพราะการปฏิบัติวิปัสนากรรมฐานไม่ดี แต่เป็นเพราะการแก้ที่ไม่ตรงจุด เพราะผมมีเจ้ากรรมนายเวรเป็นคนเป็นๆ แต่ก็สายไปเสียแล้ว...

ผมหลุดจากพุทธศนาตลอดกาล เมื่อแม่ผมหายป่วยหนัก และผมได้อธิฐานขอพึ่งอำนาจเหนือธรรมชาตินอกพุทธศาสนา

สุดท้าย ผมก็ไม่มีศาสนา มีแต่วิถีทางเท่านั้น


 emo48:)


Ik Q San
ท่านได้เลือกวิถีของท่านแล้ว
อมิตตาพุทธ

ขอแชร์และสารภาพ..
เคยหลุดไปพักใหญ่ด้วยสาเหตุเดียวกัน
มันเหมือนเดินบนทางขนานกะพุทธศาสนา
รู้สึกว่าช่วงนั้นชอบอะไรๆที่เป็นเทาๆ ดำๆ
เที่ยวดึกๆ  ไม่กลับบ้าน   เช้าทำงาน
แล้วก็ทำงานแบบหามรุ่งหามค่ำ
สนุกไปวันๆ เงินหาง่าย  จ่ายคล่อง
พลังงานเยอะ

จนกระทั่ง
เราเห็นตาดำๆของลูกที่เกิดมา
นี่แหละนายก้านเอ๊ย

มาบัดนี้ผมก็ต้องกระโดดข้ามไม้หมอนกลับมา
พึ่งหลักของพระพุทธองค์.......

ซึ่งผมก็ยังเชื่อว่า เป็นหลักการของเหตุและผล
ถ้าไอน์สไตน์ได้รับรู้หลักการของพุทธะเร็วกว่านี้
ผมว่าคงได้เห็น ทฤษฎี เจ๋งๆมากมาย


ฮ้า จริงหรือนายจักร
แต่ผมคงไม่นะ คงไม่ตระบัดสัตย์
และอีกอย่าง เราต้องมีความกตัญญูรู้จักบุญคุณถูกหรือไม่?
มีแต่เบื้องบนที่ช่วยให้ผมรอดจากอุบัติเหตุ 2 ครั้ง ไม่สิอาจจะ 3 ครั้งดังเรื่องที่จะเล่าต่อไป
ถ้าเทียบกับพุทธศาสนาแล้ว หนี้สงฆ์ที่ผมเป็น ก็ยังห่างไกลจากบุญคุณของเบื้องบน แม้ว่าท่านจะเป็นแค่พยานในพันธะสัญญารหว่างผมกับคนที่ผมตามหาก็ตาม


 emo48:)
ของท่านกะผม  คิดว่าต่างกันตรงนี้...
เมื่อแม่ผมเสียก่อนวัยอันควร
ผมนึกโทษ...
โทษทุกอย่างแม้แต่ศาสนา
เพราะแม่ทำดีทำไม ต้องเสียไปก่อนควร

จึงหันไปประพฤติทุกอย่างที่ตรงข้าม
เหมือนเจได .....ดาร์ท เวเดอร์
ประมาณนั้น...อิอิ

แต่ไม่ได้ไปสัญญิง สัญญากะ
" เบื้องบน หรือ เบื้องใด "
จึงไม่ถือว่าตระบัตย์สัตย์นะ....
กลายเป็นคนไร้ศาสนาพักใหญ่

ก็ยังหาตัวตนของเราไม่พบซักที
จนกระทั่งโดดข้ามไม้หมอนมานี่แหละนะ

ในพุทธประวัติ............

แม่ทำดี ก็เสียก่อนวัยอันควรได้
ดังเช่นพระโมคคัลลานะที่แม้แต่บรรลุ
ก็ยังโดนฆาตรกรรมได้(ถ้าจำ บ่ ผิดเด้อ)

เรื่องของนายข้าพเจ้า บ่ วิจารณ์
เป็นวิจารณญานของแต่ละปัจเจกเถิด
อ่านแล้วก็น่าติดตาม


หัวข้อ: Re: มหากาพย์ ความรัก และ ชาติภพ
เริ่มหัวข้อโดย: SC (ก้าน 24) ที่ 02 สิงหาคม 2552, 19:16:33
อ้างถึง
ข้อความของ jacky เมื่อ 02 สิงหาคม 2552, 19:01:07
อ้างถึง
ข้อความของ Q??? เมื่อ 02 สิงหาคม 2552, 18:30:30
อ้างถึง
ข้อความของ jacky เมื่อ 01 สิงหาคม 2552, 20:04:23
อ้างถึง
ข้อความของ jacky เมื่อ 01 สิงหาคม 2552, 19:45:40
อ้างถึง
ข้อความของ Q??? เมื่อ 01 สิงหาคม 2552, 19:33:20
 
อ้างถึง   
เมื่อวิถีทางเป็นของท่าน ท่านจะรู้ด้วยตัวของท่านเอง

คำกล่าวข้างต้น ย่อมไม่ใช่คำพูดของผม แต่ผมก็จำไม่ได้ และยังค้นหาไม่เจอว่าคุรุท่านใดที่เป็นเจ้าของ

ผมเคยเสี่ยงทายกับไพ่ยิปซี โดยดูกับเว็บ payakorn.com ซึ่งผมยอมรับว่าแม่นมาก เพราะจะสัมพันธ์กับจิตของเราโดยตรง มีเรื่องหนึ่งไพ่ให้คำอธิบายว่า " ผู้คนรอบข้างคุณล้วนแต่หวังดีกับคุณ ไม่มีใครคิดร้าย แต่กลับกลายเป็นความหวังดีที่ส่งผลร้าย..." (ผมอาจจะจำสำนวนได้ไม่ร้อยเปอร์เซนต์ แต่ออกมาประมาณนี้)

คือถ้าเอาแต่ผลที่อาจจะเห็นหรือแค่ได้ยิน แต่ไม่รู้เหตุ แล้วใช้ประสบการณ์ของตนทึกทักเอา ก็จะกลายเป็นการแก้ที่ไม่ตรงจุด และเมื่อมันไม่ได้ผลก็อาจจะกลายเป็นวิกฤตศรัทธาไป

ผมเคยไปปฏิบัติวิปัสนากรรมฐานเพื่อตัดกรรมตัดเวร เพราะผู้แนะนำเชื่อว่าผมมีเจ้ากรรมนายเวรเป็นวิญญาณ เมื่อทำแล้วไม่มีอะไรดีขึ้น ศรัทธาเลยเสื่อมไม่เหลือ ต่อเมื่อถึงวันนี้ผมถึงได้เข้าใจว่า ไม่ใช่เพราะการปฏิบัติวิปัสนากรรมฐานไม่ดี แต่เป็นเพราะการแก้ที่ไม่ตรงจุด เพราะผมมีเจ้ากรรมนายเวรเป็นคนเป็นๆ แต่ก็สายไปเสียแล้ว...

ผมหลุดจากพุทธศนาตลอดกาล เมื่อแม่ผมหายป่วยหนัก และผมได้อธิฐานขอพึ่งอำนาจเหนือธรรมชาตินอกพุทธศาสนา

สุดท้าย ผมก็ไม่มีศาสนา มีแต่วิถีทางเท่านั้น


 emo48:)


Ik Q San
ท่านได้เลือกวิถีของท่านแล้ว
อมิตตาพุทธ

ขอแชร์และสารภาพ..
เคยหลุดไปพักใหญ่ด้วยสาเหตุเดียวกัน
มันเหมือนเดินบนทางขนานกะพุทธศาสนา
รู้สึกว่าช่วงนั้นชอบอะไรๆที่เป็นเทาๆ ดำๆ
เที่ยวดึกๆ  ไม่กลับบ้าน   เช้าทำงาน
แล้วก็ทำงานแบบหามรุ่งหามค่ำ
สนุกไปวันๆ เงินหาง่าย  จ่ายคล่อง
พลังงานเยอะ

จนกระทั่ง
เราเห็นตาดำๆของลูกที่เกิดมา
นี่แหละนายก้านเอ๊ย

มาบัดนี้ผมก็ต้องกระโดดข้ามไม้หมอนกลับมา
พึ่งหลักของพระพุทธองค์.......

ซึ่งผมก็ยังเชื่อว่า เป็นหลักการของเหตุและผล
ถ้าไอน์สไตน์ได้รับรู้หลักการของพุทธะเร็วกว่านี้
ผมว่าคงได้เห็น ทฤษฎี เจ๋งๆมากมาย


ฮ้า จริงหรือนายจักร
แต่ผมคงไม่นะ คงไม่ตระบัดสัตย์
และอีกอย่าง เราต้องมีความกตัญญูรู้จักบุญคุณถูกหรือไม่?
มีแต่เบื้องบนที่ช่วยให้ผมรอดจากอุบัติเหตุ 2 ครั้ง ไม่สิอาจจะ 3 ครั้งดังเรื่องที่จะเล่าต่อไป
ถ้าเทียบกับพุทธศาสนาแล้ว หนี้สงฆ์ที่ผมเป็น ก็ยังห่างไกลจากบุญคุณของเบื้องบน แม้ว่าท่านจะเป็นแค่พยานในพันธะสัญญารหว่างผมกับคนที่ผมตามหาก็ตาม


 emo48:)
ของท่านกะผม  คิดว่าต่างกันตรงนี้...
เมื่อแม่ผมเสียก่อนวัยอันควร
ผมนึกโทษ...
โทษทุกอย่างแม้แต่ศาสนา
เพราะแม่ทำดีทำไม ต้องเสียไปก่อนควร

จึงหันไปประพฤติทุกอย่างที่ตรงข้าม
เหมือนเจได .....ดาร์ท เวเดอร์
ประมาณนั้น...อิอิ

แต่ไม่ได้ไปสัญญิง สัญญากะ
" เบื้องบน หรือ เบื้องใด "
จึงไม่ถือว่าตระบัตย์สัตย์นะ....
กลายเป็นคนไร้ศาสนาพักใหญ่

ก็ยังหาตัวตนของเราไม่พบซักที
จนกระทั่งโดดข้ามไม้หมอนมานี่แหละนะ

ในพุทธประวัติ............

แม่ทำดี ก็เสียก่อนวัยอันควรได้
ดังเช่นพระโมคคัลลานะที่แม้แต่บรรลุ
ก็ยังโดนฆาตรกรรมได้(ถ้าจำ บ่ ผิดเด้อ)

เรื่องของนายข้าพเจ้า บ่ วิจารณ์
เป็นวิจารณญานของแต่ละปัจเจกเถิด
อ่านแล้วก็น่าติดตาม


ต้องขอโทษนะ หากจะทำให้เข้าใจผิด เรื่องตระบัดสัตย์ ไม่ได้ว่านายนะ

ที่จริงผมขอกับพระเจ้าตะหาก และขอเพิ่มอีกข้อ ถ้าได้ก็จะไปนับถือคริสต์ แต่ก็ไม่ได้ทุกข้อตามที่ขอ ก็เลยอยู่ตรงกลาง (ไม่มีศาสนา) ส่วนข้อที่แม่หายป่วยก็พิสูจน์ไม่ได้อีก เพราะหลังจากนั้นผมก็จำได้ว่า วันแรกที่ญาติๆโทรมา คืนนั้น ผมนั่งคุกเข่าอธิษฐานต่อพระคุณของพ่อ และ พระคุณของแม่ (ผมไม่ไว้ใจศาสนาสิ่งศักดิ์สิทธิ์อะไรทั้งนั้น) ขอลดอายุตัวเองลง 10 ปี เพื่อให้แม่มีอายุต่ออีก 5 ปี พอคืนที่สองผมลืมไปว่าได้ทำเช่นนี้ไปแล้วเลยไปขอกับพระเจ้าอีก ซึ่งไม่เกี่ยวกับเบื้องบน แม่ป่วยหนักเข้าโรงพยาบาล 25 ธันวาคม 2550 ผมตระหนักในเบื้องบนก็ตอนที่เท้าเป็นแผลตอน กรกฎาคม - สิงหาคม 2551 โน่นแล้ว


 emo48:)


หัวข้อ: Re: มหากาพย์ ความรัก และ ชาติภพ
เริ่มหัวข้อโดย: jacky ที่ 02 สิงหาคม 2552, 19:26:59

 emo48:)


[/quote]
Ik Q San
ท่านได้เลือกวิถีของท่านแล้ว
อมิตตาพุทธ

[/quote]
ขอแชร์และสารภาพ..
เคยหลุดไปพักใหญ่ด้วยสาเหตุเดียวกัน
มันเหมือนเดินบนทางขนานกะพุทธศาสนา
รู้สึกว่าช่วงนั้นชอบอะไรๆที่เป็นเทาๆ ดำๆ
เที่ยวดึกๆ  ไม่กลับบ้าน   เช้าทำงาน
แล้วก็ทำงานแบบหามรุ่งหามค่ำ
สนุกไปวันๆ เงินหาง่าย  จ่ายคล่อง
พลังงานเยอะ

จนกระทั่ง
เราเห็นตาดำๆของลูกที่เกิดมา
นี่แหละนายก้านเอ๊ย

มาบัดนี้ผมก็ต้องกระโดดข้ามไม้หมอนกลับมา
พึ่งหลักของพระพุทธองค์.......

ซึ่งผมก็ยังเชื่อว่า เป็นหลักการของเหตุและผล
ถ้าไอน์สไตน์ได้รับรู้หลักการของพุทธะเร็วกว่านี้
ผมว่าคงได้เห็น ทฤษฎี เจ๋งๆมากมาย

[/quote]

ฮ้า จริงหรือนายจักร
แต่ผมคงไม่นะ คงไม่ตระบัดสัตย์
และอีกอย่าง เราต้องมีความกตัญญูรู้จักบุญคุณถูกหรือไม่?
มีแต่เบื้องบนที่ช่วยให้ผมรอดจากอุบัติเหตุ 2 ครั้ง ไม่สิอาจจะ 3 ครั้งดังเรื่องที่จะเล่าต่อไป
ถ้าเทียบกับพุทธศาสนาแล้ว หนี้สงฆ์ที่ผมเป็น ก็ยังห่างไกลจากบุญคุณของเบื้องบน แม้ว่าท่านจะเป็นแค่พยานในพันธะสัญญารหว่างผมกับคนที่ผมตามหาก็ตาม


 emo48:)
[/quote]
ของท่านกะผม  คิดว่าต่างกันตรงนี้...
เมื่อแม่ผมเสียก่อนวัยอันควร
ผมนึกโทษ...
โทษทุกอย่างแม้แต่ศาสนา
เพราะแม่ทำดีทำไม ต้องเสียไปก่อนควร

จึงหันไปประพฤติทุกอย่างที่ตรงข้าม
เหมือนเจได .....ดาร์ท เวเดอร์
ประมาณนั้น...อิอิ

แต่ไม่ได้ไปสัญญิง สัญญากะ
" เบื้องบน หรือ เบื้องใด "
จึงไม่ถือว่าตระบัตย์สัตย์นะ....
กลายเป็นคนไร้ศาสนาพักใหญ่

ก็ยังหาตัวตนของเราไม่พบซักที
จนกระทั่งโดดข้ามไม้หมอนมานี่แหละนะ

ในพุทธประวัติ............

แม่ทำดี ก็เสียก่อนวัยอันควรได้
ดังเช่นพระโมคคัลลานะที่แม้แต่บรรลุ
ก็ยังโดนฆาตรกรรมได้(ถ้าจำ บ่ ผิดเด้อ)

เรื่องของนายข้าพเจ้า บ่ วิจารณ์
เป็นวิจารณญานของแต่ละปัจเจกเถิด
อ่านแล้วก็น่าติดตาม

[/quote]

ต้องขอโทษนะ หากจะทำให้เข้าใจผิด เรื่องตระบัดสัตย์ ไม่ได้ว่านายนะ

ที่จริงผมขอกับพระเจ้าตะหาก และขอเพิ่มอีกข้อ ถ้าได้ก็จะไปนับถือคริสต์ แต่ก็ไม่ได้ทุกข้อตามที่ขอ ก็เลยอยู่ตรงกลาง (ไม่มีศาสนา) ส่วนข้อที่แม่หายป่วยก็พิสูจน์ไม่ได้อีก เพราะหลังจากนั้นผมก็จำได้ว่า วันแรกที่ญาติๆโทรมา คืนนั้น ผมนั่งคุกเข่าอธิษฐานต่อพระคุณของพ่อ และ พระคุณของแม่ (ผมไม่ไว้ใจศาสนาสิ่งศักดิ์สิทธิ์อะไรทั้งนั้น) ขอลดอายุตัวเองลง 10 ปี เพื่อให้แม่มีอายุต่ออีก 5 ปี พอคืนที่สองผมลืมไปว่าได้ทำเช่นนี้ไปแล้วเลยไปขอกับพระเจ้าอีก ซึ่งไม่เกี่ยวกับเบื้องบน แม่ป่วยหนักเข้าโรงพยาบาล 25 ธันวาคม 2550 ผมตระหนักในเบื้องบนก็ตอนที่เท้าเป็นแผลตอน กรกฎาคม - สิงหาคม 2551 โน่นแล้ว


 emo48:)

[/quote]
ข้อ1
บ่ โกรธ ดอก ข้าพเจ้าเขียน บ่ เคลียร์เอง
ใครอ่านก็เข้าใจไขว้เขวได้.......
จึงได้บอกว่า เว็บบอร์ดคือ
Virtual Home

ข้อ 2
สิ่งที่นาย ต่อรองกับสิ่งใดก็แล้วแต่
ถือว่าทำเพื่อแม่
ข้าพเจ้าขออวยพรให้ท่านพบแต่สิ่งดีๆนับแต่บัดนี้เทอญ...
emo35:() emo48:) emo26:D emo4:))


หัวข้อ: Re: มหากาพย์ ความรัก และ ชาติภพ
เริ่มหัวข้อโดย: Kaimook ที่ 02 สิงหาคม 2552, 21:33:24
หวัดดียามดึกจ่ะก้าน   
    คิดดี  ทำดีจะได้ดีจ่ะ  ขอให้ก้านโชคดีนะจ๊ะ
เป็นกำลังใจให้จ่ะ
 emo4:)) emo4:)) emo4:))


หัวข้อ: Re: มหากาพย์ ความรัก และ ชาติภพ
เริ่มหัวข้อโดย: พัช 24 ที่ 02 สิงหาคม 2552, 21:37:34
อ้างถึง
ข้อความของ Q??? เมื่อ 02 สิงหาคม 2552, 18:21:55
อ้างถึง
ข้อความของ พัช 24 เมื่อ 01 สิงหาคม 2552, 20:14:31
อ้างถึง
ข้อความของ Q??? เมื่อ 01 สิงหาคม 2552, 19:33:20


อ้างถึง
ข้อความของ Q??? เมื่อ 01 สิงหาคม 2552, 19:33:20
 
อ้างถึง   
เมื่อวิถีทางเป็นของท่าน ท่านจะรู้ด้วยตัวของท่านเอง

คำกล่าวข้างต้น ย่อมไม่ใช่คำพูดของผม แต่ผมก็จำไม่ได้ และยังค้นหาไม่เจอว่าคุรุท่านใดที่เป็นเจ้าของ

ผมเคยเสี่ยงทายกับไพ่ยิปซี โดยดูกับเว็บ payakorn.com ซึ่งผมยอมรับว่าแม่นมาก เพราะจะสัมพันธ์กับจิตของเราโดยตรง มีเรื่องหนึ่งไพ่ให้คำอธิบายว่า " ผู้คนรอบข้างคุณล้วนแต่หวังดีกับคุณ ไม่มีใครคิดร้าย แต่กลับกลายเป็นความหวังดีที่ส่งผลร้าย..." (ผมอาจจะจำสำนวนได้ไม่ร้อยเปอร์เซนต์ แต่ออกมาประมาณนี้)

คือถ้าเอาแต่ผลที่อาจจะเห็นหรือแค่ได้ยิน แต่ไม่รู้เหตุ แล้วใช้ประสบการณ์ของตนทึกทักเอา ก็จะกลายเป็นการแก้ที่ไม่ตรงจุด และเมื่อมันไม่ได้ผลก็อาจจะกลายเป็นวิกฤตศรัทธาไป

ผมเคยไปปฏิบัติวิปัสนากรรมฐานเพื่อตัดกรรมตัดเวร เพราะผู้แนะนำเชื่อว่าผมมีเจ้ากรรมนายเวรเป็นวิญญาณ เมื่อทำแล้วไม่มีอะไรดีขึ้น ศรัทธาเลยเสื่อมไม่เหลือ ต่อเมื่อถึงวันนี้ผมถึงได้เข้าใจว่า ไม่ใช่เพราะการปฏิบัติวิปัสนากรรมฐานไม่ดี แต่เป็นเพราะการแก้ที่ไม่ตรงจุด เพราะผมมีเจ้ากรรมนายเวรเป็นคนเป็นๆ แต่ก็สายไปเสียแล้ว...

ผมหลุดจากพุทธศนาตลอดกาล เมื่อแม่ผมหายป่วยหนัก และผมได้อธิฐานขอพึ่งอำนาจเหนือธรรมชาตินอกพุทธศาสนา

สุดท้าย ผมก็ไม่มีศาสนา มีแต่วิถีทางเท่านั้น


 emo48:)


คุณก้านคะ  ขออนุญาตแบ่งปันสิ่งที่ได้เรียนรู้มาจากการศึกษาทั้งจากหนังสือ
และครูบาอาจารย์  ส่วนจะเห็นตรงกันหรือไม่  ไม่เป็นไรค่ะ

เท่าที่ทราบ  การตัดกรรม การสะเดาะเคราะห์ ฯลฯ ทำนองนี้  ไม่ใช่พุทธ ค่ะ  แต่อาจเพราะพุทธเกิดและเผยแผ่ไปในหลายดินแดนที่มีความเชื่อเดิมเป็นพื้นอยู่แล้วมันจึงเกิดการปะปนผสมผสานกันค่ะ
พุทธ แท้ ๆ ต้องเชื่อว่าทุกสิ่งเกิดจากเหตุและปัจจัยค่ะ  เพียงแต่เราต้องพิจารณาให้แยบคายให้เข้าใจเหตุที่แท้จริง   ดังนั้นชาวพุทธจึงควรสนใจกฎแห่งกรรมค่ะ  พัชว่าไม่ขึ้นอยู่ว่าเป็นศาสนาอะไร  กฎแห่งกรรมก็ให้ผลค่ะ เพราะมันเป็นธรรมดา เป็นธรรมชาติ    อกุศลกรรมเปรียบเหมือนเกลือรอให้ผลอยู่  กุศลกรรมเปรียบเหมือนน้ำ  เติมน้ำมาก ๆ จะได้เจือจางเกลือไม่ให้เค็มเกินทนนะคะ  แม้ไม่เห็นผลอะไร  เราก็ได้ชื่อว่าเป็นผู้กระทำความดีอยู่ค่ะ  คนดีตกน้ำไม่ไหลตกไฟไม่ไหม้
ทำเหตุไป  ผลเป็นเรื่องของผลค่ะ  มันจะมาเองเมื่อ เหตุปัจจัยสมบูรณ์

ในทางพุทธมีคำอยู่คำหนึ่งว่า   สีลพรตปรามาส (ไม่แน่ใจว่าสะกดถูกหรือผิด)  บ้างเรียกว่าการลูบคลำศีลแบบผิด ๆ คือ เชื่อกันแบบติดพิธีกรรม  คล้าย ๆ กับที่เชื่อว่า การรักษาศีลหรือปฏิบัติธรรมแล้วจะตัดกรรมได้ นั่นคือผิดความหมายที่แท้จริงของการปฏิบัติค่ะ  


นัตถิ เม สรณัง อัญญัง  พุทธัง ธรรมมัง สังฆัง เม สรณัง  วะรัง     ค่ะ


ขอให้โชคดีค่ะ  คุณก้าน

 emo30:sorry: emo30:sorry: emo30:sorry:



ความเห็นไม่ตรงกันไม่เป็นไรครับคุณพัชร แต่ว่า คุณพัชรได้อ่านอย่างทำความเข้าใจหรือเปล่าว่าสิ่งที่ผมสื่อจริงๆนะอยู่ที่ไหน? ดูเหมือนว่าคุณจะปรามาสหลวงพ่อจรัลและวัดอัมพวันนะ ลองตริตรองดูเสียใหม่

ขนาดผมไม่ได้นับถือพุทธแล้ว ผมยังไม่ปรามาสเลย แค่บอกว่า นั่นไม่ใช่ทางของผม แค่นั้นเอง

อ้อ ผมยังระลึกเสมอนะว่าผมติดค้างต้องไปใช้หนี้สงฆ์เมื่อผมมีปัจจัยพอที่จะใช้หนี้


 emo48:)
ขออภัยค่ะ คุณก้านที่เป็นเหตุให้คุณก้านรู้สึกเช่นนั้น ทั้งที่ไม่ได้มีเจตนาปรามาสใด ๆ เลยค่ะ
ที่บอกเล่าไปก็ว่าไปตามเนื้อหากลาง ๆ ไม่พาดพิงใครค่ะ  พัชจำได้ว่าคุณก้านพูดถึงวัด แต่ไม่ได้เอ่ยเลยว่าหลวงพ่อท่านเป็นผู้บอกกล่าวเช่นนั้น  ซึ่งถ้ามีก็คงต้องเข้าใจเหตุผลที่ซ่อนอยู่เบื้องหลังก่อนค่ะ เพราะบางอย่างอาจเป็นกุศโลบาย คนเราไปวัดเดียวกันฟังธรรมจากครูบาอาจารย์พร้อมกันยังรับหรือเข้าใจได้ต่างกันเลยค่ะ

อย่างไรก็ตาม  ก็ขอขอบคุณที่ติติงมานะคะ เชื่อว่าคุณก้านคิดว่าถ้าทำเช่นนั้นเป็นการไม่สมควรจึงเตือนมาด้วยความหวังดีค่ะ
และขออภัยอีกครั้งที่ทำให้ขุ่นเคืองค่ะ
   emo30:sorry:  emo30:sorry:  emo30:sorry:


หัวข้อ: Re: มหากาพย์ ความรัก และ ชาติภพ
เริ่มหัวข้อโดย: พัช 24 ที่ 02 สิงหาคม 2552, 21:57:02
อ้างถึง
ข้อความของ jacky เมื่อ 02 สิงหาคม 2552, 19:26:59


ของท่านกะผม  คิดว่าต่างกันตรงนี้...
เมื่อแม่ผมเสียก่อนวัยอันควร
ผมนึกโทษ...
โทษทุกอย่างแม้แต่ศาสนา
เพราะแม่ทำดีทำไม ต้องเสียไปก่อนควร

จึงหันไปประพฤติทุกอย่างที่ตรงข้าม
เหมือนเจได .....ดาร์ท เวเดอร์
ประมาณนั้น...อิอิ

แต่ไม่ได้ไปสัญญิง สัญญากะ
" เบื้องบน หรือ เบื้องใด "
จึงไม่ถือว่าตระบัตย์สัตย์นะ....
กลายเป็นคนไร้ศาสนาพักใหญ่

ก็ยังหาตัวตนของเราไม่พบซักที
จนกระทั่งโดดข้ามไม้หมอนมานี่แหละนะ

ในพุทธประวัติ............

แม่ทำดี ก็เสียก่อนวัยอันควรได้
ดังเช่นพระโมคคัลลานะที่แม้แต่บรรลุ
ก็ยังโดนฆาตรกรรมได้(ถ้าจำ บ่ ผิดเด้อ)


เรื่องของนายข้าพเจ้า บ่ วิจารณ์
เป็นวิจารณญานของแต่ละปัจเจกเถิด
อ่านแล้วก็น่าติดตาม

[/b][/size][/color]
ลุงจักร   จำผิดหรือเปล่าไม่รู้  แต่เราก็จำได้อย่างนี้เหมือนกัน
พระโมคคัลลานะ ในอดีตชาติเคยทำกรรมหนัก  เพราะถูกภรรยายุให้ลวงพ่อแม่(หรือเฉพาะแม่..ไม่แน่ใจ)  ที่ตาบอดไปให้โจรฆ่า
ในชาติสุดท้ายคือเมื่อท่านเป็นพระโมคคัลลานะ  ท่านบรรลุอรหันต์ ท่านถูกโจรทุบตีจนร่างแหลกค่ะ

เป็นไปตามกฎแห่งกรรมค่ะ   เรามีกรรมเป็นของ ๆ ตน  มีกรรมเป็นผู้ให้ผล  มีกรรมเป็นผู้ติดตาม  มีกรรมเป็นที่พึี่งอาศัย
เราจักทำกรรมอันใดไว้  เป็นบุญหรือเป็นบาป  เราจักเป็นทายาท  คือว่าจักต้องเป็นผู้รับผลของกรรมนั้น สืบไป

อย่างไรก็ตาม  เรื่องของพระโมคคัลลานะ  อีกด้านหนึ่งก็เป็นกำลังใจนะ  เพราะแม้จะเพลี่ยงพล้ำทำกรรมหนักขนาดนั้น
เมื่อพยายามตัดกรรมชั่วในอดีต  ด้วยกรรมดีที่เหนือกว่า ก็ยังสามารถเข้าสู่สุญญตาได้    ที่เป็นเช่นนี้ก็ด้วยกฎธรรมดาของโลกอย่างหนึ่ง
อนิจจังค่ะ  ครูบาอาจารย์ท่านว่า  เพราะโลกมีความเป็นอนิจจัง  จึงยังเปลี่ยนแปลงไปมา ดี  ร้าย ได้ สำคัญต้องรู้ว่าต้องการผลอย่างไร
จะต้องทำเหตุอย่างไรค่ะ
emo30:sorry:   emo30:sorry:   emo30:sorry:


หัวข้อ: Re: มหากาพย์ ความรัก และ ชาติภพ
เริ่มหัวข้อโดย: jacky ที่ 02 สิงหาคม 2552, 22:15:40
อ้างถึง
ข้อความของ พัช 24 เมื่อ 02 สิงหาคม 2552, 21:57:02
อ้างถึง
ข้อความของ jacky เมื่อ 02 สิงหาคม 2552, 19:26:59


ของท่านกะผม  คิดว่าต่างกันตรงนี้...
เมื่อแม่ผมเสียก่อนวัยอันควร
ผมนึกโทษ...
โทษทุกอย่างแม้แต่ศาสนา
เพราะแม่ทำดีทำไม ต้องเสียไปก่อนควร

จึงหันไปประพฤติทุกอย่างที่ตรงข้าม
เหมือนเจได .....ดาร์ท เวเดอร์
ประมาณนั้น...อิอิ

แต่ไม่ได้ไปสัญญิง สัญญากะ
" เบื้องบน หรือ เบื้องใด "
จึงไม่ถือว่าตระบัตย์สัตย์นะ....
กลายเป็นคนไร้ศาสนาพักใหญ่

ก็ยังหาตัวตนของเราไม่พบซักที
จนกระทั่งโดดข้ามไม้หมอนมานี่แหละนะ

ในพุทธประวัติ............

แม่ทำดี ก็เสียก่อนวัยอันควรได้
ดังเช่นพระโมคคัลลานะที่แม้แต่บรรลุ
ก็ยังโดนฆาตรกรรมได้(ถ้าจำ บ่ ผิดเด้อ)


เรื่องของนายข้าพเจ้า บ่ วิจารณ์
เป็นวิจารณญานของแต่ละปัจเจกเถิด
อ่านแล้วก็น่าติดตาม

[/b][/size][/color]
ลุงจักร   จำผิดหรือเปล่าไม่รู้  แต่เราก็จำได้อย่างนี้เหมือนกัน
พระโมคคัลลานะ ในอดีตชาติเคยทำกรรมหนัก  เพราะถูกภรรยายุให้ลวงพ่อแม่(หรือเฉพาะแม่..ไม่แน่ใจ)  ที่ตาบอดไปให้โจรฆ่า
ในชาติสุดท้ายคือเมื่อท่านเป็นพระโมคคัลลานะ  ท่านบรรลุอรหันต์ ท่านถูกโจรทุบตีจนร่างแหลกค่ะ

เป็นไปตามกฎแห่งกรรมค่ะ   เรามีกรรมเป็นของ ๆ ตน  มีกรรมเป็นผู้ให้ผล  มีกรรมเป็นผู้ติดตาม  มีกรรมเป็นที่พึี่งอาศัย
เราจักทำกรรมอันใดไว้  เป็นบุญหรือเป็นบาป  เราจักเป็นทายาท  คือว่าจักต้องเป็นผู้รับผลของกรรมนั้น สืบไป

อย่างไรก็ตาม  เรื่องของพระโมคคัลลานะ  อีกด้านหนึ่งก็เป็นกำลังใจนะ  เพราะแม้จะเพลี่ยงพล้ำทำกรรมหนักขนาดนั้น
เมื่อพยายามตัดกรรมชั่วในอดีต  ด้วยกรรมดีที่เหนือกว่า ก็ยังสามารถเข้าสู่สุญญตาได้    ที่เป็นเช่นนี้ก็ด้วยกฎธรรมดาของโลกอย่างหนึ่ง
อนิจจังค่ะ  ครูบาอาจารย์ท่านว่า  เพราะโลกมีความเป็นอนิจจัง  จึงยังเปลี่ยนแปลงไปมา ดี  ร้าย ได้ สำคัญต้องรู้ว่าต้องการผลอย่างไร
จะต้องทำเหตุอย่างไรค่ะ
emo30:sorry:   emo30:sorry:   emo30:sorry:

gdH[ikp]
ขอบคุณแม่เลี้ยงพัช
ที่เก็บรายละเอียดมา
ขยายความให้สาธุชน
อ่านทุกครั้ง
ผมกำลังรื้อฟื้นเรื่อง
วันแรกของวันที่เหลือ
ถ้ามีสิ่งใดนา..วานแปะ


หัวข้อ: Re: มหากาพย์ ความรัก และ ชาติภพ
เริ่มหัวข้อโดย: jacky ที่ 02 สิงหาคม 2552, 22:34:07
อ้างถึง
ข้อความของ แจง-24 เมื่อ 01 สิงหาคม 2552, 22:13:00
มาเช็คชื่อเข้าชมค่ะก้าน กระทู้นี้อ่านสนุกดีนะ

แจงเป็นพวกเดียวกับมาดามต๋อย คือปราศจาก six sense โดยสิ้นเชิง
ไม่เคยรับรู้ปรากฏการณ์เหนือธรรมชาติใดๆทั้งสิ้น
ได้มาอ่านเรื่องของคนที่มีประสบการณ์จริง ก็ถือว่าได้เปิดโลกทัศน์

ยิ่งมีแม่เลี้ยงพัด และลุงจักร มาร่วมสนทนาธรรม แลกเปลี่ยนแนวคิดระหว่างศาสนากับความเชื่อ กระทู้นี้ยิ่งน่าอ่าน

มาร่วมติดตามอ่าน และขอเป็นกำลังใจ ให้ก้านผ่านพ้นอุปสรรคในชีวิตอย่างงดงาม ตามวิถีทางที่ก้านเลือกค่ะ

ป้าแจง
ข้อยมาแชร์เด้อ
เพราะความรู้เรื่องรายละเอียดน้อยมาก
ก็เห็นว่านายก้านเลือก"วิถี"แล้ว
เลยเอาเก้าอี้มานั่งเสวนาด้วย
เนื่องจาก อดีต ที่ผ่านมาลองเลือก "วิถี"
ของตนเหมือนกัน
ผมมีความรู้สึกว่าสิ่งที่เรา"แชร์" กันมีรายละเอียดล้ำลึก
การ "แชร์"ใน Virtual House แห่งนี้อาจ
เกิดความไขว้เขวได้.....
สว่นตัวผม
ขอจบการเสวนาเท่านี้......
ที่เหลือขอรับฟัง
รับแปะ
รับฝากกระทุ้ที่เกี่ยวกะเรื่องนี้
ที่บ้าน....
Virtual Jacky house เด้อ
ขอบคุณ กู๊ด ไนท์


หัวข้อ: Re: มหากาพย์ ความรัก และ ชาติภพ
เริ่มหัวข้อโดย: SC (ก้าน 24) ที่ 03 สิงหาคม 2552, 13:11:41
อ้างถึง
ข้อความของ พัช 24 เมื่อ 02 สิงหาคม 2552, 21:37:34
อ้างถึง
ข้อความของ Q??? เมื่อ 02 สิงหาคม 2552, 18:21:55
อ้างถึง
ข้อความของ พัช 24 เมื่อ 01 สิงหาคม 2552, 20:14:31
อ้างถึง
ข้อความของ Q??? เมื่อ 01 สิงหาคม 2552, 19:33:20


อ้างถึง
ข้อความของ Q??? เมื่อ 01 สิงหาคม 2552, 19:33:20
 
อ้างถึง   
เมื่อวิถีทางเป็นของท่าน ท่านจะรู้ด้วยตัวของท่านเอง

คำกล่าวข้างต้น ย่อมไม่ใช่คำพูดของผม แต่ผมก็จำไม่ได้ และยังค้นหาไม่เจอว่าคุรุท่านใดที่เป็นเจ้าของ

ผมเคยเสี่ยงทายกับไพ่ยิปซี โดยดูกับเว็บ payakorn.com ซึ่งผมยอมรับว่าแม่นมาก เพราะจะสัมพันธ์กับจิตของเราโดยตรง มีเรื่องหนึ่งไพ่ให้คำอธิบายว่า " ผู้คนรอบข้างคุณล้วนแต่หวังดีกับคุณ ไม่มีใครคิดร้าย แต่กลับกลายเป็นความหวังดีที่ส่งผลร้าย..." (ผมอาจจะจำสำนวนได้ไม่ร้อยเปอร์เซนต์ แต่ออกมาประมาณนี้)

คือถ้าเอาแต่ผลที่อาจจะเห็นหรือแค่ได้ยิน แต่ไม่รู้เหตุ แล้วใช้ประสบการณ์ของตนทึกทักเอา ก็จะกลายเป็นการแก้ที่ไม่ตรงจุด และเมื่อมันไม่ได้ผลก็อาจจะกลายเป็นวิกฤตศรัทธาไป

ผมเคยไปปฏิบัติวิปัสนากรรมฐานเพื่อตัดกรรมตัดเวร เพราะผู้แนะนำเชื่อว่าผมมีเจ้ากรรมนายเวรเป็นวิญญาณ เมื่อทำแล้วไม่มีอะไรดีขึ้น ศรัทธาเลยเสื่อมไม่เหลือ ต่อเมื่อถึงวันนี้ผมถึงได้เข้าใจว่า ไม่ใช่เพราะการปฏิบัติวิปัสนากรรมฐานไม่ดี แต่เป็นเพราะการแก้ที่ไม่ตรงจุด เพราะผมมีเจ้ากรรมนายเวรเป็นคนเป็นๆ แต่ก็สายไปเสียแล้ว...

ผมหลุดจากพุทธศนาตลอดกาล เมื่อแม่ผมหายป่วยหนัก และผมได้อธิฐานขอพึ่งอำนาจเหนือธรรมชาตินอกพุทธศาสนา

สุดท้าย ผมก็ไม่มีศาสนา มีแต่วิถีทางเท่านั้น


 emo48:)


คุณก้านคะ  ขออนุญาตแบ่งปันสิ่งที่ได้เรียนรู้มาจากการศึกษาทั้งจากหนังสือ
และครูบาอาจารย์  ส่วนจะเห็นตรงกันหรือไม่  ไม่เป็นไรค่ะ

เท่าที่ทราบ  การตัดกรรม การสะเดาะเคราะห์ ฯลฯ ทำนองนี้  ไม่ใช่พุทธ ค่ะ  แต่อาจเพราะพุทธเกิดและเผยแผ่ไปในหลายดินแดนที่มีความเชื่อเดิมเป็นพื้นอยู่แล้วมันจึงเกิดการปะปนผสมผสานกันค่ะ
พุทธ แท้ ๆ ต้องเชื่อว่าทุกสิ่งเกิดจากเหตุและปัจจัยค่ะ  เพียงแต่เราต้องพิจารณาให้แยบคายให้เข้าใจเหตุที่แท้จริง   ดังนั้นชาวพุทธจึงควรสนใจกฎแห่งกรรมค่ะ  พัชว่าไม่ขึ้นอยู่ว่าเป็นศาสนาอะไร  กฎแห่งกรรมก็ให้ผลค่ะ เพราะมันเป็นธรรมดา เป็นธรรมชาติ    อกุศลกรรมเปรียบเหมือนเกลือรอให้ผลอยู่  กุศลกรรมเปรียบเหมือนน้ำ  เติมน้ำมาก ๆ จะได้เจือจางเกลือไม่ให้เค็มเกินทนนะคะ  แม้ไม่เห็นผลอะไร  เราก็ได้ชื่อว่าเป็นผู้กระทำความดีอยู่ค่ะ  คนดีตกน้ำไม่ไหลตกไฟไม่ไหม้
ทำเหตุไป  ผลเป็นเรื่องของผลค่ะ  มันจะมาเองเมื่อ เหตุปัจจัยสมบูรณ์

ในทางพุทธมีคำอยู่คำหนึ่งว่า   สีลพรตปรามาส (ไม่แน่ใจว่าสะกดถูกหรือผิด)  บ้างเรียกว่าการลูบคลำศีลแบบผิด ๆ คือ เชื่อกันแบบติดพิธีกรรม  คล้าย ๆ กับที่เชื่อว่า การรักษาศีลหรือปฏิบัติธรรมแล้วจะตัดกรรมได้ นั่นคือผิดความหมายที่แท้จริงของการปฏิบัติค่ะ  


นัตถิ เม สรณัง อัญญัง  พุทธัง ธรรมมัง สังฆัง เม สรณัง  วะรัง     ค่ะ


ขอให้โชคดีค่ะ  คุณก้าน

 emo30:sorry: emo30:sorry: emo30:sorry:



ความเห็นไม่ตรงกันไม่เป็นไรครับคุณพัชร แต่ว่า คุณพัชรได้อ่านอย่างทำความเข้าใจหรือเปล่าว่าสิ่งที่ผมสื่อจริงๆนะอยู่ที่ไหน? ดูเหมือนว่าคุณจะปรามาสหลวงพ่อจรัลและวัดอัมพวันนะ ลองตริตรองดูเสียใหม่

ขนาดผมไม่ได้นับถือพุทธแล้ว ผมยังไม่ปรามาสเลย แค่บอกว่า นั่นไม่ใช่ทางของผม แค่นั้นเอง

อ้อ ผมยังระลึกเสมอนะว่าผมติดค้างต้องไปใช้หนี้สงฆ์เมื่อผมมีปัจจัยพอที่จะใช้หนี้


 emo48:)
ขออภัยค่ะ คุณก้านที่เป็นเหตุให้คุณก้านรู้สึกเช่นนั้น ทั้งที่ไม่ได้มีเจตนาปรามาสใด ๆ เลยค่ะ
ที่บอกเล่าไปก็ว่าไปตามเนื้อหากลาง ๆ ไม่พาดพิงใครค่ะ  พัชจำได้ว่าคุณก้านพูดถึงวัด แต่ไม่ได้เอ่ยเลยว่าหลวงพ่อท่านเป็นผู้บอกกล่าวเช่นนั้น  ซึ่งถ้ามีก็คงต้องเข้าใจเหตุผลที่ซ่อนอยู่เบื้องหลังก่อนค่ะ เพราะบางอย่างอาจเป็นกุศโลบาย คนเราไปวัดเดียวกันฟังธรรมจากครูบาอาจารย์พร้อมกันยังรับหรือเข้าใจได้ต่างกันเลยค่ะ

อย่างไรก็ตาม  ก็ขอขอบคุณที่ติติงมานะคะ เชื่อว่าคุณก้านคิดว่าถ้าทำเช่นนั้นเป็นการไม่สมควรจึงเตือนมาด้วยความหวังดีค่ะ
และขออภัยอีกครั้งที่ทำให้ขุ่นเคืองค่ะ
   emo30:sorry:  emo30:sorry:  emo30:sorry:


มีพระสูตรหนึ่ง ความว่า พระพุทธเจ้าทรงเด็ดใบประดู่มากำมือหนึ่ง แล้วตรัสแก่สาวกว่า " สัจจะความจริงในโลกนี้ก็เปรียบได้กับใบประดู่ทั้งป่า แต่ที่ตถาคตนำมาทรงสอนนั้นแค่กำมือเดียว " เพราะพระพุทธเจ้าท่านเห็นว่าที่เหลือนั้นไม่ได้นำไปสู่การหลุดพ้น ( ผมอาจจะจำเนื้อความได้ไม่หมด )  แต่ไม่ได้หมายความว่ามันไม่ใช่สัจจะความจริง เห็นอะไรที่แตกต่างจากเรา บางทีเราก็ต้องยอมรับ แล้ววางเฉยบ้าง กิเลสอย่างละเอียดนี่อันตรายกว่ากิเลสอย่างหยาบนะครับ   

 emo48:)


หัวข้อ: Re: มหากาพย์ ความรัก และ ชาติภพ
เริ่มหัวข้อโดย: SC (ก้าน 24) ที่ 03 สิงหาคม 2552, 13:18:59
อ้างถึง
ข้อความของ jacky เมื่อ 02 สิงหาคม 2552, 19:26:59

 emo48:)


Ik Q San
ท่านได้เลือกวิถีของท่านแล้ว
อมิตตาพุทธ


ขอแชร์และสารภาพ..
เคยหลุดไปพักใหญ่ด้วยสาเหตุเดียวกัน
มันเหมือนเดินบนทางขนานกะพุทธศาสนา
รู้สึกว่าช่วงนั้นชอบอะไรๆที่เป็นเทาๆ ดำๆ
เที่ยวดึกๆ  ไม่กลับบ้าน   เช้าทำงาน
แล้วก็ทำงานแบบหามรุ่งหามค่ำ
สนุกไปวันๆ เงินหาง่าย  จ่ายคล่อง
พลังงานเยอะ

จนกระทั่ง
เราเห็นตาดำๆของลูกที่เกิดมา
นี่แหละนายก้านเอ๊ย

มาบัดนี้ผมก็ต้องกระโดดข้ามไม้หมอนกลับมา
พึ่งหลักของพระพุทธองค์.......

ซึ่งผมก็ยังเชื่อว่า เป็นหลักการของเหตุและผล
ถ้าไอน์สไตน์ได้รับรู้หลักการของพุทธะเร็วกว่านี้
ผมว่าคงได้เห็น ทฤษฎี เจ๋งๆมากมาย



 
อ้างถึง   
ฮ้า จริงหรือนายจักร
แต่ผมคงไม่นะ คงไม่ตระบัดสัตย์
และอีกอย่าง เราต้องมีความกตัญญูรู้จักบุญคุณถูกหรือไม่?
มีแต่เบื้องบนที่ช่วยให้ผมรอดจากอุบัติเหตุ 2 ครั้ง ไม่สิอาจจะ 3 ครั้งดังเรื่องที่จะเล่าต่อไป
ถ้าเทียบกับพุทธศาสนาแล้ว หนี้สงฆ์ที่ผมเป็น ก็ยังห่างไกลจากบุญคุณของเบื้องบน แม้ว่าท่านจะเป็นแค่พยานในพันธะสัญญารหว่างผมกับคนที่ผมตามหาก็ตาม


 emo48:)
ของท่านกะผม  คิดว่าต่างกันตรงนี้...
เมื่อแม่ผมเสียก่อนวัยอันควร
ผมนึกโทษ...
โทษทุกอย่างแม้แต่ศาสนา
เพราะแม่ทำดีทำไม ต้องเสียไปก่อนควร

จึงหันไปประพฤติทุกอย่างที่ตรงข้าม
เหมือนเจได .....ดาร์ท เวเดอร์
ประมาณนั้น...อิอิ

แต่ไม่ได้ไปสัญญิง สัญญากะ
" เบื้องบน หรือ เบื้องใด "
จึงไม่ถือว่าตระบัตย์สัตย์นะ....
กลายเป็นคนไร้ศาสนาพักใหญ่

ก็ยังหาตัวตนของเราไม่พบซักที
จนกระทั่งโดดข้ามไม้หมอนมานี่แหละนะ

ในพุทธประวัติ............

แม่ทำดี ก็เสียก่อนวัยอันควรได้
ดังเช่นพระโมคคัลลานะที่แม้แต่บรรลุ
ก็ยังโดนฆาตรกรรมได้(ถ้าจำ บ่ ผิดเด้อ)

เรื่องของนายข้าพเจ้า บ่ วิจารณ์
เป็นวิจารณญานของแต่ละปัจเจกเถิด
อ่านแล้วก็น่าติดตาม


 
อ้างถึง   
ต้องขอโทษนะ หากจะทำให้เข้าใจผิด เรื่องตระบัดสัตย์ ไม่ได้ว่านายนะ

ที่จริงผมขอกับพระเจ้าตะหาก และขอเพิ่มอีกข้อ ถ้าได้ก็จะไปนับถือคริสต์ แต่ก็ไม่ได้ทุกข้อตามที่ขอ ก็เลยอยู่ตรงกลาง (ไม่มีศาสนา) ส่วนข้อที่แม่หายป่วยก็พิสูจน์ไม่ได้อีก เพราะหลังจากนั้นผมก็จำได้ว่า วันแรกที่ญาติๆโทรมา คืนนั้น ผมนั่งคุกเข่าอธิษฐานต่อพระคุณของพ่อ และ พระคุณของแม่ (ผมไม่ไว้ใจศาสนาสิ่งศักดิ์สิทธิ์อะไรทั้งนั้น) ขอลดอายุตัวเองลง 10 ปี เพื่อให้แม่มีอายุต่ออีก 5 ปี พอคืนที่สองผมลืมไปว่าได้ทำเช่นนี้ไปแล้วเลยไปขอกับพระเจ้าอีก ซึ่งไม่เกี่ยวกับเบื้องบน แม่ป่วยหนักเข้าโรงพยาบาล 25 ธันวาคม 2550 ผมตระหนักในเบื้องบนก็ตอนที่เท้าเป็นแผลตอน กรกฎาคม - สิงหาคม 2551 โน่นแล้ว


 emo48:)

ข้อ1
บ่ โกรธ ดอก ข้าพเจ้าเขียน บ่ เคลียร์เอง
ใครอ่านก็เข้าใจไขว้เขวได้.......
จึงได้บอกว่า เว็บบอร์ดคือ
Virtual Home

ข้อ 2
สิ่งที่นาย ต่อรองกับสิ่งใดก็แล้วแต่
ถือว่าทำเพื่อแม่
ข้าพเจ้าขออวยพรให้ท่านพบแต่สิ่งดีๆนับแต่บัดนี้เทอญ...
emo35:() emo48:) emo26:D emo4:))

ตามที่เคยศึกษามา ท่านพุทธทาสภิกขุ ได้กล่าวว่า พระโมคคัลลานะ ท่านเป็นเจโตวิมุต บรรลุด้วยจิตล้วนๆ ฉะนั้นทางสายอื่นก็อาจจะบรรลุได้ด้วยเช่นเดียวกัน หากจิตสูงพอ เพียงแต่อาจจะมีชื่อเรียกเป็นอย่างอื่นเท่านั้น

 emo48:)


หัวข้อ: Re: มหากาพย์ ความรัก และ ชาติภพ
เริ่มหัวข้อโดย: SC (ก้าน 24) ที่ 03 สิงหาคม 2552, 20:14:50
วันชี้ชะตา : การสิ้นสุดแห่งพันธะสัญญา

รอตอนจบ ว่ามหากาพย์ชีวิตจริงนี่จะลงเอยอย่างไร ขึ้นชื่อว่ามหากาพย์มักมีแต่เรื่องร้ายๆ และจบด้วยโศกนาฏกรรม

มหากาพย์มหาภารตะยุทธ คนตายหลายสิบล้าน เฉพาะพวกเการพก็หนึ่งร้อย
มหากาพย์รามายณะ เผ่าพงศ์วงศ์ยักษ์ตายเกือบเกลี้ยง ผัวเมียไม่ได้อยู่ด้วยกัน 14 ปี

เฮ้อ...


 emo29:P:


หัวข้อ: Re: มหากาพย์ ความรัก และ ชาติภพ
เริ่มหัวข้อโดย: swsm ที่ 03 สิงหาคม 2552, 20:17:52
แล้วไงต่อ ??


หัวข้อ: Re: มหากาพย์ ความรัก และ ชาติภพ
เริ่มหัวข้อโดย: SC (ก้าน 24) ที่ 03 สิงหาคม 2552, 20:37:40
ช่วงนี้ขอเล่าพุทธมหายานดีกว่า

บัวสี่เหล่า VS ม้าสี่เหล่า

ผมไม่ขอกล่าวถึงบัวสี่เหล่า เพราะชาวพุทธหินยานรู้ดีอยู่แล้ว ขออ้างถึงม้าสี่เหล่า ซึ่งม้าสี่เหล่านี้ก็ไม่ต่างจาก บัวสี่เหล่า ท่านว่าไว้ดังนี้

ม้าสีเหล่า ก็มี ม้าเยี่ยม ม้าดี ม้าแย่ และ ม้าเลว
ม้าเยี่ยมแค่เจ้าของขึ้นขี่แล้วนึกจะไป มันก็รู้แล้วและออกวิ่ง
ม้าดี แค่เห็นเงาแส้ มันก็ออกวิ่ง
ม้าแย่ ต้องลงแส้ มันถึงจะยอมวิ่ง
ส่วนม้าเลวนั้น ไม่เพียงต้องลงแส้ แต่ต้องลงอย่างหนักมันถึงจะวิ่ง

แต่มหายานบอกว่า นักปฏิบัติธรรมจะเปรียบเป็นม้าอะไรก็แล้วแต่ ขอเพียงบรรลุได้ก็พอ นั่นเป็นสิ่งสำคัญ
ผลก็คือ ผู้คนในประเทศที่เป็นพุทธมหายาน จะมีความอดทนกว่า และสนับสนุนคนมีความเพียร
จากการอ่านหนังสือ (แปล) จากนักคิดนักเขียนจากประเทศที่เป็นพุทธมหายาน ก็เจอคำสอนที่ว่า

" เวลาเพื่อนมาขอความช่วยเหลือ อย่าให้คำแนะนำ เพราะที่เขามาขอคือความช่วยเหลือ ไม่ใช่ คำแนะนำ ถ้าช่วยไม่ได้ก็ควรให้กำลังใจ  "

ประเทศพุทธมหายาน ได้แก่ ญี่ปุ่น เกาหลี จีน เวียตนาม
ประเทศพุทธหินยาน ได้แก่ ศรีลังกา พม่า ไทย ลาว

คงจะเห็นความแตกต่างได้ไม่ยาก


 emo48:)


หัวข้อ: Re: มหากาพย์ ความรัก และ ชาติภพ
เริ่มหัวข้อโดย: หนุ่ม2524 ที่ 04 สิงหาคม 2552, 11:17:14
สวัสดี ก้าน

แวะเข้ามาอ่านครับ


หัวข้อ: Re: มหากาพย์ ความรัก และ ชาติภพ
เริ่มหัวข้อโดย: Kaimook ที่ 04 สิงหาคม 2552, 22:37:08
สวัสดีจ่ะก้านมีอะไรเล่าอีกคะ
 emo4:)) emo4:)) emo4:))


หัวข้อ: Re: มหากาพย์ ความรัก และ ชาติภพ
เริ่มหัวข้อโดย: dtoy ที่ 05 สิงหาคม 2552, 09:32:46
ก้านสบายดีนะ  ลายเซ็นต์ของตัวมันเป็นลูกศรจริงๆด้วย

ไม่น่าเชื่อนะ


หัวข้อ: Re: มหากาพย์ ความรัก และ ชาติภพ
เริ่มหัวข้อโดย: swsm ที่ 05 สิงหาคม 2552, 13:06:06
"ข่าวฝากจากเสธต๊ะ 23"

ลูกหลานใครมีอาการบ่งบอกว่าจะเป็น หรือเป็น Autistic / Autism
บัดเดี๋ยวนี้ กรมแพทย์ทหารเรือกำลังเตรียมเปิดตัวโครงการบำบัดรักษาด้วยออกซิเจนความดันบรรยากาศสูงแล้ว
ในวันที่ 12 ส.ค.นี้ เพื่อเป็นการเฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระนางเจ้าฯ

ใครก็ได้ช่วยเอาข่าวนี้ไป Post ที่ห้องอื่น ๆ ที่เหมาะสมให้ด้วยนะ
ข้าพเจ้าต้องรีบไปประชุมก่อนล่ะ กลับมาจะดำเนินการต่อในเรื่องรายละเอียดอื่น ๆ

ขอบคุณครับ



emo9:huhu:


หัวข้อ: Re: มหากาพย์ ความรัก และ ชาติภพ
เริ่มหัวข้อโดย: SC (ก้าน 24) ที่ 06 สิงหาคม 2552, 19:03:00
อ้างถึง
ข้อความของ Noom2524 เมื่อ 04 สิงหาคม 2552, 11:17:14
สวัสดี ก้าน

แวะเข้ามาอ่านครับ

สวัสดี หนุ่ม
สบายดีนะ


 emo48:)


หัวข้อ: Re: มหากาพย์ ความรัก และ ชาติภพ
เริ่มหัวข้อโดย: SC (ก้าน 24) ที่ 06 สิงหาคม 2552, 19:09:49
อ้างถึง
ข้อความของ dtoy เมื่อ 05 สิงหาคม 2552, 09:32:46
ก้านสบายดีนะ  ลายเซ็นต์ของตัวมันเป็นลูกศรจริงๆด้วย

ไม่น่าเชื่อนะ

สวัสดีจ๊ะ ต๋อย
ก็สบายดีครับ
นั่นนะสิครับ ถึงบอกว่า อึ้ง เลยที่เห็น
นี่ยังไม่รู้นะว่า ต่อไปจะ ภูมิใจ หรือ เสียใจ


 emo48:)


หัวข้อ: Re: มหากาพย์ ความรัก และ ชาติภพ
เริ่มหัวข้อโดย: Kaimook ที่ 06 สิงหาคม 2552, 21:18:36
หวัดดีจ่ะก้าน แปลกนะคะไม่เชื่ออย่าลบหลู่น่าให้ผู้รู้ทำนายจังค่ะ(หาดูยากนะคะ)


หัวข้อ: Re: มหากาพย์ ความรัก และ ชาติภพ
เริ่มหัวข้อโดย: Kaimook ที่ 07 สิงหาคม 2552, 05:34:15
หวัดดีจ๊ะพี่น้องผองเพื่อน
วันนี้ เราจะผ่านเวลา 12:34:56 7/8/9 ด้วยกันทุกคน ครั้งเดียวในชีวิตนะจ๊ะ อีก 100 ปีถึงจะมีเลขแบบนี้อีกนะจ๊ะ


หัวข้อ: Re: มหากาพย์ ความรัก และ ชาติภพ
เริ่มหัวข้อโดย: SC (ก้าน 24) ที่ 07 สิงหาคม 2552, 21:02:52
อ้างถึง
ข้อความของ Kaimook เมื่อ 06 สิงหาคม 2552, 21:18:36
หวัดดีจ่ะก้าน แปลกนะคะไม่เชื่ออย่าลบหลู่น่าให้ผู้รู้ทำนายจังค่ะ(หาดูยากนะคะ)


หวัดดีจ๊ะ อ้อย

ขอบใจจ๊ะ ไม่เป็นไร เรื่องใกล้จบแล้ว อีกอย่างนะ ถ้าจะให้ใครทำนาย คนนั้นต้องสูงจริงๆ ถ้าเขาสามารถมองเห็นโดยที่เราไม่บอก และไม่เปิดผ้าให้ดู

จันทร์ที่ผ่านมาเพื่อนพาไปให้คุณยายแก่คนหนึ่งดูลายมือ เขาบอกมีบนเจ้าฯ เขาก็รู้เรื่องเจ้าฯนะ เขาพูดถูกเหมือนที่เราประสบ (อ่านดูเรื่อง ดวงตาที่สาม) แต่เขาก็ยังไม่เห็นโดยที่เราไม่ต้องบอก


 emo48:)


หัวข้อ: Re: มหากาพย์ ความรัก และ ชาติภพ
เริ่มหัวข้อโดย: SC (ก้าน 24) ที่ 07 สิงหาคม 2552, 21:04:53
อ้างถึง
ข้อความของ Kaimook เมื่อ 07 สิงหาคม 2552, 05:34:15
หวัดดีจ๊ะพี่น้องผองเพื่อน
วันนี้ เราจะผ่านเวลา 12:34:56 7/8/9 ด้วยกันทุกคน ครั้งเดียวในชีวิตนะจ๊ะ อีก 100 ปีถึงจะมีเลขแบบนี้อีกนะจ๊ะ


เดือนหน้า 09/09/09 ก็อีก 100 ปีเหมือนกัน กะว่าจะแต่งงานวันนั้น แต่คงไม่ทัน


 emo19:((: emo19:((: emo19:((:


หัวข้อ: Re: มหากาพย์ ความรัก และ ชาติภพ
เริ่มหัวข้อโดย: SC (ก้าน 24) ที่ 07 สิงหาคม 2552, 22:05:27
อ้างถึง
ข้อความของ Q??? เมื่อ 07 สิงหาคม 2552, 21:31:10
อ้างถึง
ข้อความของ แจง-24 เมื่อ 07 สิงหาคม 2552, 20:58:28
emo7:(: โอ๊ยโหยว...ก้านมา....
หวัดดีจ้ะก้าน

 emo:( ก้านจ๋าก้าน... เราว่าก้านเปลี่ยนลายเซ็นต์เหอะ...เพื่อนขอร้อง
มาโผล่กระทู้เราที่ไร ต๊กกะใจทุกที มันหลอนๆยังงายก็ม่ายรุ
ใครอยากเห็นรูปลูกศรกลางอก ให้ตามไปดูที่กระทู้ก้านแล้วกัน นะก้านนะ
เห็นบ่อยเกินไปแล้วมันหลอนหงะ
ขอลายเซ็นต์ใหม่ เป็นรูปหล่อๆอย่างรูป logo ดีกว่านะก้าน

 emo30:sorry: ขอกันตรงๆ ก้านอย่าโกรธนะจ๊ะ
ขอบคุณล่วงหน้าจ้า....


แบบนี้โอเคมั๊ยแจง

 emo26:D



ในชีวิตก็มีสิ่งที่น่าภูมิใจอยู่หรอก มีอีกอย่างที่แปลกเหมือนกัน แต่นำมาโชว์ไม่ได้

ครั้งหนึ่งนั่งรถปอ.ก็หยิบมือถือมาดูรูปลูกศร (ขณะที่ตนเองยังภูมิใจที่คิดว่าเป็นสัญญลักษณ์จากเบื้องบน)
และ อีกอันที่ด้านบนดูคล้ายอักขระโบราณ เลยคิดว่านี่ก็คงจะเกี่ยวกับเบื้องบนด้วย
ตอนก่อนเอามาดูเห็นสาวที่นั่งข้างๆเอนกายพิงกระจกหลับตาฟังเพลงอยู่
ก็ดูไปหลายรอบ จู่ๆก็ได้ยินเสียงสาวที่นั่งข้างๆ หายใจฟืดฟาดแรงมาก
เลยชำเลืองดู เห็นนั่งตัวแข็งทื่อ ตาเหม่อไม่กระพริบ
ก็ไม่แน่ใจ เลยสังเกตุอากัปรกิริยาดู ก็เห็นว่าการหายใจค่อยแผ่วลง
ไม่รู้ว่าลุกขึ้นมาแอบดูตอนไหน หุหุ

อีกครั้งตอนสิงหาคม 2551
ผมก็นั่งเก้าอียาวที่ชั้นล่างตึกเนชั่นบางนา-ตราด มีสาวเดินมา ผมก็มอง เพราะคุณเธอหุ่นดีมาก เร้าใจน่าดู
เสียงโทรศัพท์ดัง คุณเธอก็มานั่งข้างๆ แล้วคุยกับเพื่อนแบบเปิดเผย ( แต่ไม่หยาบ ) แถมนั่งเลื้อยลงเกือบจะเป็นนอน
ผมก็มอง คุณเธอก็ไม่แสดงท่าเขินอาย หรือว่าแสดงอาการไม่พอใจ
วันที่ 25 สิงหาคม 2551 ผมนั่งรถมาจากบางนา รู้สึกว่ามีคนที่นั่งแถวเดี่ยวเยื้องไปข้างหน้ามองผมที่หนั่งแถวคู่อยู่
พอผมหันหน้าไปมอง ก็เห็นสาวคนหนึ่งหันหน้ากลับไป
แล้วก็เลื้อยทำท่าคอพับคออ่อนระทดระทวย ถอนหายใจเหมือนคนหมดเรี่ยวแรง
เล่นเอาความร้อนของผมพุ่งปริ๊ด
ผมรู้สึกคับคล้ายคับคลาว่าจะใช่คนที่เจอเมื่อ 2-3 วันก่อน
พอเธอลงจากรถผมก็พยายามมองดูให้แน่ใจ
ใช่คุณเธอคนนั้นจริงๆด้วย!
ก่อนที่ผมจะรู้อะไรเกี่ยวกับรูปศร ผมอยากเจอคุณเธอคนนั้นอีกจังเลย แต่เดี๋ยวนี้ไม่แล้ว

แต่ไหงเพื่อนเราต๊กกะใจ เฮ้อ...


 emo47



หัวข้อ: Re: มหากาพย์ ความรัก และ ชาติภพ
เริ่มหัวข้อโดย: Lamai ที่ 08 สิงหาคม 2552, 21:43:45
สวัสดีก้าน emo48:)


หัวข้อ: Re: มหากาพย์ ความรัก และ ชาติภพ
เริ่มหัวข้อโดย: SC (ก้าน 24) ที่ 10 สิงหาคม 2552, 11:42:40
(http://upload.wikimedia.org/wikipedia/en/thumb/e/e0/RWS_Tarot_11_Justice.jpg/150px-RWS_Tarot_11_Justice.jpg)

คำพิพากษา

เมื่อวานลองเสี่ยงดูยิปซีกับเว็บไวต์  www.payakorn.com ไพ่อนาคตคือไพ่ใบที่ XI Justice ก็สอดคล้องดีกับสถานการณ์ที่กำลังจะมาถึงนี้ ก็รอด้วยความระทึกเหมือนกัน

ก็ผมเป็นฝ่ายเลือกไม่ได้ แต่กำหนดให้เขาเป็นฝ่ายเลือกได้  


 emo48:)


หัวข้อ: Re: มหากาพย์ ความรัก และ ชาติภพ
เริ่มหัวข้อโดย: Uncle Na ที่ 10 สิงหาคม 2552, 12:41:33
- น้าก้าน  ตามหาเนื้อคู่อยู่ใช่มั๊ยคับ..

ลุงณะว่า (แสดงท่าทางขึงขังว่ารู้มาก รู้ลึกประกอบ) หากเราเลี้ยงตัว และเค้าได้ โดยเขียน MindMap แสดงผังชีวิต เพื่อแสดงอนาคตได้ชัดเจนและเป็นหนทางสำเร็จเห็นๆ  เนื้อคู่ก็อาจอยู่ใกล้ๆ ตัวน่ะแหละ..

ใน Mind Map แผ่นนี้ให้แสดง ..3 ปีเก็บเงิน 2 แสนแต่ง+ ไปฮันนีมุนที่..... .5 ปี มีบ้าน มีรถ  มีลูก 3 คน
...10 ปี มีสวน 50 ไร่ ...15ปี..ตั้งกองทุนบริจาคคนยากจน  และ20 ปี เป็นปู่ย่า ตายาย ดูแลหลาน...และลูกๆ ส่งเงินมาเลี้ยง +บำนาญ เดือนละ 30,000.00 บาท... 

แค่นี้น่าจะมีคนอยากแต่งกะเราแล้วนะ ..แต่แน่ใจหรือ...ว่าอยากมีครอบครัว..ฮึ..
ถามความเห็นจากพี่ป๋อง และป๋าทู เพิ่มเติมก่อนก็จะดีกว่านา..




หัวข้อ: Re: มหากาพย์ ความรัก และ ชาติภพ
เริ่มหัวข้อโดย: dtoy ที่ 10 สิงหาคม 2552, 13:12:11
Hi คุณก้าน(ยาว)  หลังจากวันที่๘ เดือน๘

แล้วมีอะไรต่ออีกไหมจ๊ะ?


หัวข้อ: Re: มหากาพย์ ความรัก และ ชาติภพ
เริ่มหัวข้อโดย: SC (ก้าน 24) ที่ 10 สิงหาคม 2552, 19:17:22
อ้างถึง
ข้อความของ dtoy เมื่อ 10 สิงหาคม 2552, 13:12:11
Hi คุณก้าน(ยาว)  หลังจากวันที่๘ เดือน๘

แล้วมีอะไรต่ออีกไหมจ๊ะ?

อ่า คือว่า ความจริงเดิมผมกำหนดให้วันนี้เป็นวันชี้ชะตา พันธะสัญญาจะต้องสิ้นสุด เพื่อที่ผมจะได้หลุดพ้นเสียที ให้เขาเลือกว่าจะทำตามสัญญา หรือ เลือกผิดสัญญา  หลังจากเขาเลือกแล้ว ถ้าผิดสัญญาก็จะต้อง...(ขอเก็บเป็นความลับ) เสร็จแล้วผมก็จะ กรวดน้ำคว่ำขัน ประกาศอิสรภาพ (เมื่อวานก็ไปหาคนโฑใส่น้ำสำหรับกรวดแต่ยังหาไม่ได้)

แต่บังเอิญว่าผมให้ตามที่เขาขอได้ช้าไป ก็เลยต้องเลื่อนให้อีก 1 วัน และดูเหตุผลประกอบด้วย เพราะ 1 วันอาจจะไม่พอถ้าติดวันหยุด เลยต้องรอไปก่อน เพราะก่อนจะทำก็ต้องสื่อกับเบื้องบนก่อน ทำไปแล้วจะแก้ทีหลังไม่ได้ อีกอย่างยังหาคนโฑใส่น้ำสำหรับกรวดไม่ได้ เจอเหมือนกัน แต่เป็นทองเหลือง แพงเกิน อยากได้เป็นเซรามิคมากกว่า แก้วก็แทนกันได้ ทำพิธีเสร็จ ก็ทุบทิ้งไม่ใช้เป็นครั้งที่สอง!

บ้าบอคอแตกเหมือนกัน จาก เด็กวิทย์  ต้องมาเป็น เด็กเทพ..


 emo24:(


หัวข้อ: Re: มหากาพย์ ความรัก และ ชาติภพ
เริ่มหัวข้อโดย: SC (ก้าน 24) ที่ 10 สิงหาคม 2552, 19:21:57
อ้างถึง
ข้อความของ ganna เมื่อ 10 สิงหาคม 2552, 12:41:33
- น้าก้าน  ตามหาเนื้อคู่อยู่ใช่มั๊ยคับ..

ลุงณะว่า (แสดงท่าทางขึงขังว่ารู้มาก รู้ลึกประกอบ) หากเราเลี้ยงตัว และเค้าได้ โดยเขียน MindMap แสดงผังชีวิต เพื่อแสดงอนาคตได้ชัดเจนและเป็นหนทางสำเร็จเห็นๆ  เนื้อคู่ก็อาจอยู่ใกล้ๆ ตัวน่ะแหละ..

ใน Mind Map แผ่นนี้ให้แสดง ..3 ปีเก็บเงิน 2 แสนแต่ง+ ไปฮันนีมุนที่..... .5 ปี มีบ้าน มีรถ  มีลูก 3 คน
...10 ปี มีสวน 50 ไร่ ...15ปี..ตั้งกองทุนบริจาคคนยากจน  และ20 ปี เป็นปู่ย่า ตายาย ดูแลหลาน...และลูกๆ ส่งเงินมาเลี้ยง +บำนาญ เดือนละ 30,000.00 บาท... 

แค่นี้น่าจะมีคนอยากแต่งกะเราแล้วนะ ..แต่แน่ใจหรือ...ว่าอยากมีครอบครัว..ฮึ..
ถามความเห็นจากพี่ป๋อง และป๋าทู เพิ่มเติมก่อนก็จะดีกว่านา..




ถ้าเมื่อก่อนนะใช่ แต่ปัจจุบันนั้น เอ่อ..
ผมว่าถ้ากลับไปอ่านใหม่ทั้งหมดจะเข้าใจนะ หุหุ

ขอบคุณครับสำหรับ MindMap


 emo48:)


หัวข้อ: Re: มหากาพย์ ความรัก และ ชาติภพ
เริ่มหัวข้อโดย: SC (ก้าน 24) ที่ 10 สิงหาคม 2552, 19:30:33
เมื่อวานถ่ายรูปหน้าอกตัวเองอีกครั้งมาดูกันครับ

(http://bbznet.pukpik.com/images/upload/amorman/9nIC20090804120032.jpg)
ถ่ายเมื่อ 23/05/09 ตอนกลางดึก

(http://bbznet.pukpik.com/images/upload/amorman/XIS120090810195924.jpg)
นี่เพิ่งถ่ายเมื่อวาน 09/08/09 ตอนสายๆ

ยิ่งผอม หรือไม่มีไขมันยิ่ง ชัด ลึก

 emo48:)


หัวข้อ: Re: มหากาพย์ ความรัก และ ชาติภพ
เริ่มหัวข้อโดย: Uncle Na ที่ 10 สิงหาคม 2552, 21:09:07
อ้างถึง
ข้อความของ Q??? เมื่อ 10 สิงหาคม 2552, 19:21:57
อ้างถึง
ข้อความของ ganna เมื่อ 10 สิงหาคม 2552, 12:41:33
- น้าก้าน  ตามหาเนื้อคู่อยู่ใช่มั๊ยคับ..

ลุงณะว่า (แสดงท่าทางขึงขังว่ารู้มาก รู้ลึกประกอบ) หากเราเลี้ยงตัว และเค้าได้ โดยเขียน MindMap แสดงผังชีวิต เพื่อแสดงอนาคตได้ชัดเจนและเป็นหนทางสำเร็จเห็นๆ  เนื้อคู่ก็อาจอยู่ใกล้ๆ ตัวน่ะแหละ..

ใน Mind Map แผ่นนี้ให้แสดง ..3 ปีเก็บเงิน 2 แสนแต่ง+ ไปฮันนีมุนที่..... .5 ปี มีบ้าน มีรถ  มีลูก 3 คน
...10 ปี มีสวน 50 ไร่ ...15ปี..ตั้งกองทุนบริจาคคนยากจน  และ20 ปี เป็นปู่ย่า ตายาย ดูแลหลาน...และลูกๆ ส่งเงินมาเลี้ยง +บำนาญ เดือนละ 30,000.00 บาท... 

แค่นี้น่าจะมีคนอยากแต่งกะเราแล้วนะ ..แต่แน่ใจหรือ...ว่าอยากมีครอบครัว..ฮึ..
ถามความเห็นจากพี่ป๋อง และป๋าทู เพิ่มเติมก่อนก็จะดีกว่านา..




ถ้าเมื่อก่อนนะใช่ แต่ปัจจุบันนั้น เอ่อ..
ผมว่าถ้ากลับไปอ่านใหม่ทั้งหมดจะเข้าใจนะ หุหุ

ขอบคุณครับสำหรับ MindMap


 emo48:)

- น้าก้าน กลับไปอ่านมาแล้ว..จึงรู้ว่าเป็นเรื่องเหลือเชื่อและจริงจังมาก ผิดกับความไม่เอาจริงเอาจังของลุงณะ...ลุงณะชอบคุยและฟังความรู้แบบสบายๆ สนุกๆ  แบบขำๆ  งั้นลุงณะขอตัวไปอ่านเรื่องขำๆ ของป๋าทูก่อนนะคับ

...ป๋าทู ป๋าทู.. เรื่องเล่าสนุกๆๆ  ให้ไว...มาเล่าต่อเลย.. หมดกรุรึยัง...  :-)


หัวข้อ: Re: มหากาพย์ ความรัก และ ชาติภพ
เริ่มหัวข้อโดย: SC (ก้าน 24) ที่ 11 สิงหาคม 2552, 16:53:53
ขอเล่าเรื่องที่ไม่ค่อยเกี่ยวกับกระทู้คั่นเวลาสักหน่อยนะครับ

ถ่ายลมปราณช่วยชีวิต หวิดตาย!

ปี 2538 ขณะที่ผมทำงานเป็นตัวแทนฯของเมืองไทยประกันชีวิต มีลูกค้าคนหนึ่งทำประกันให้ลูก ตัวเองเป็นผู้ชำระเบี้ยฯ และเป็นผู้รับประโยชน์ หลังจากนั้นก็ทราบข่าวจากเพื่อนที่อยู่คอนโดเดียวกันว่า ลูกค้ารายนี้ปวดหัวเข้ารักษาตัวอยู่ในห้องไอซียูโรงพยาบาลแพทย์รังสิต แต่ไม่ว่างได้ไปเยี่ยมจนกระทั่งย้ายมาอยู่เซ็นทรัลฯวันที่ 3 ถึงได้ไปเยี่ยม เพื่อนก็เล่าให้ฟังเรื่องอาการมากพอสมควร ด้วยความปรารถนาดีบวกกับอยากลองวิชา ผมก็เลยตัดสินใจลองวิชาถ่ายลมปราณช่วยชีวิตดู

ก่อนที่จะขึ้นตึกโรงพยาบาล เวลาประมาณ 10 โมง ผมก็ไปยืนท่ามกลางแสงแดด รับสุริยปราณ จนรู้สึกว่าตัวพองใหญ่ขยายขึ้นมาก จึงได้เข้าไปเยี่ยม

เข้าไปในห้องไอซียู ก็เห็นว่าลูกค้ารายนี้หายใจอยู่ ด้วยเครื่องปั๊มหายใจ ผมเข้าไปถึงก็จับข้อมือดู แล้วขาผมก็สั่นพั่บๆๆๆ ผมก็นึก " เฮ้ย ทำไมขามันสั่นวะ " ก็ใช้เวลาหลายนาทีกว่าขามันจะหายเป็นปกติ หลังจากนั้นผมก็ทำการถ่ายลมปราณให้ ทำอยู่ประมาณ 15 นาที่ หรือ ครึ่งชั่วโมง ก็จำไม่ได้แล้ว พอเห็นว่าไม่ได้ผล ผมก็เลิกและออกจากห้องไอซียูมา

พอเดินพ้นประตูผมรู้สึกว่าอยากจะล้างมือเหมือนกับจับศพมา ผมเจอน้ำดึ่มก็เลยเอากรวยกระดาษรองน้ำมาล้างทีหนึ่ง รู้สึกยังไม่พอใจ ผมก็เลยเดินหาห้องน้ำ และล้างสบู่ 2-3 ครั้ง แต่พอเดินออกประตูห้องน้ำ ผมจะกลัดกระดุมแขนเสื้อ จับข้อมือตัวเองก็รู้เลยทันทีว่ามันแตกต่างกันมากกับตอนที่ผมจับมือลูกค้าฯ ตอนที่จับมือลูกค้าฯนั้นมันรู้สึกอุ่นแต่ข้างในเหมือนไม่ใช่เลือดเนื้อแต่เป็นนุ่นอะไรประมาณนั้น แล้วผมก็ไปทำธุระของผมต่อ

กลับมาตอนเย็นเพื่อนก็เล่าให้ฟังว่า พอประชุมญาติเสร็จ หมอถอดเครื่องช่วยหายใจออก อีก 10 นาทีก็สิ้นลม แต่พอหมอจะฉีดฟอร์มาลีน หาเส้นเลือดไม่เจอ กับตอนอาบน้ำศพก็มีน้ำเหลืองไหลออกจมูก...

คืนนั้น ผมต้องสะดุ้งตื่นขึ้นมากลางดึก เพราะว่าแขนขาของผมมันเย็นเฉียบมาถึงรักแร้และขาหนีบ แต่ลำตัวเหงื่อเปียกเสื้อนอนจนชุ่มโชก นั่งสักพักพอหายแล้วผมก็นอนต่อ พอเคลิ้มหลับก็ต้องสะดุ้งตื่นอีก ความเย็นเข้ามาตามแขนขาเหลือแต่ลำตัว ต้องลุกขึ้นมานั่งเหมือนเดิม พอหายผมก็ล้มตัวลงนอนต่อ แล้วก็เป็นเหมือนเดิม ความเย็นเข้ามาตามแขนขามาถึงลำตัว ต้องสะดุ้งตื่นเป็นครั้งที่ 3 มันทำให้ผมเริ่มคิดแล้วว่า ชักไม่ดีแล้ว

ด้วยประสบการณ์ผมเริ่มคิดหาแหล่งพลังงานซักอย่างที่คล้ายกับแสงแดด พอดีไฟที่ห้องผมเป็นไฟหลุมใช้หลอดกลม ไม่ใช่หลอดฟลูออร์เรสเซน ทำยังไงละทีนี้ ก็คิดได้ว่าต้องเปิดทีวี เพราะสมัยนั้นไม่มีทีวี 24 ชั่วโมง พอเปิดก็จะมีสัญญาณซ่าๆแต่ไม่มีภาพ ก็เลยเปิดทีวีไว้อย่างนั้น และนอนหลับไปจนกระทั่งตื่นในวันรุ่งขึ้น หลังจากวันนั้นก็ไม่มีอะไรอีก

ด้วยความอยากลองวิชา ผมเลยพลาดการตรวจเช็คที่สำคัญ นั่นคือ
1. ต้องเพิ่งตายใหม่ๆ (แต่นี่น่าจะปาเข้าไป 3- 4 วัน ก้เครื่องช่วยหายใจมันหลอก)
2. ให้บีบนิ้วหัวแม่มือดูว่าสีเปลี่ยนหรือไม่ ถ้าสีเปลี่ยนเป็นแดงก็แสดงว่ายังพอช่วยได้ เลือดยังใช้ได้
3. ถ้าจะให้ชัวร์ต้องเปิดเปลือกตาดู ถ้าม่านตาไม่หดตัวเวลาโดนแสงก็แสดงว่าเรียบร้อย ตายสนิท

รอดมาได้เพราะประสบการณ์และไหวพริบแท้ๆ

หลังจากนั้นผมก็ตั้งใจเลยว่า ถ้าไม่ใช่คนที่รักมากๆ จะไม่ทำให้ใครอีก แล้วผมก็โยนตำราทิ้งไม่ฝึกวิชานี้อีกเลย


 emo29:P:


หัวข้อ: Re: มหากาพย์ ความรัก และ ชาติภพ
เริ่มหัวข้อโดย: SC (ก้าน 24) ที่ 11 สิงหาคม 2552, 17:07:01
ดูภาพถ่ายหน้าอกอีกซักภาพ

(http://bbznet.pukpik.com/images/upload/amorman/r86D20090811155746.jpg)

น่าแปลกที่ก่อนหน้านั้นถ่ายตอนกลางวันแต่ไม่เห็นชัดอย่างนี้

(http://bbznet.pukpik.com/images/upload/amorman/jMV920090811173439.jpg)

ไม่รู้ว่าเพราะอะไร?

 emo47


หัวข้อ: Re: มหากาพย์ ความรัก และ ชาติภพ
เริ่มหัวข้อโดย: Kaimook ที่ 11 สิงหาคม 2552, 23:58:27
แปลกมากๆเลยนะก้าน


หัวข้อ: Re: มหากาพย์ ความรัก และ ชาติภพ
เริ่มหัวข้อโดย: SC (ก้าน 24) ที่ 12 สิงหาคม 2552, 20:33:25
กัน กับ แก้

ช่วงปี 2537 เป็นต้นมานับได้ว่าผมเป็นชาวพุทธที่แท้คนหนึ่ง ผมรู้สึกไม่ศรัทธาเอาเสียเลยกับพระระดับเกจิ ที่ปลุกเสกของขลัง เรียนเวทมนต์ไสยศาสตร์ แต่บัดเดี๋ยวนี้ผมก็เข้าใจเหตุผล เมื่อผมนึกถึง
 
อ้างถึง   

ลูกศิษย์หลวงพ่อฤาษีลิงดำเล่าผมให้ฟังว่า พราะอาจารย์ท่านหนึ่งปฏิบัติกรรมฐานระดับสูงสติดีมาก ไม่เคยเผลอ
แต่พอถึงคราเคราะห์ เผลอไปวูบเดียว เห็นกิ่งไม้ไหว หันไปมอง เลยโดนของเขมร
ท่านก็แก้ไม่เป็น ช่วยตัวเองไม่ได้
ต้องไปหาหมอไสยศาสตร์ที่เรียนวิชาแก้ของเขมรมาแก้ให้
โซ่เป็นขดเลย
ปกติพระจะแก้คุณไสยให้ฆราวาส แต่นี่เป็นฆราวาสแก้คุณไสยให้พระ แถมเป็นพระระดับเกจิด้วย



นั่นก็เพราะว่าพระเหล่านั้นจำเป็นต้องเรียนเพื่อช่วยแก้ไขให้ตัวเอง
เพราะกันกับแก้นั้นมันแตกต่างกัน
สติ อาจจะช่วย ป้องกัน ได้ แต่ถ้าโดนไปแล้ว ไม่รู้วิธี แก้ ก็แย่เหมือนกัน
แม้ว่า ธรรมะ ย่อมชนะ อธรรม นั่นเป็นการมองโดยรวม
หาก ธรรมะ มีพลังอำนาจที่อ่อนด้อยกว่า ก็คงเอาชนะ อธรรม ไม่ได้

ไม่มียาวิเศษขนานเดียวแก้สารพัดโรค ฉันใดก็ฉันนั้น


 emo48:)



หัวข้อ: Re: มหากาพย์ ความรัก และ ชาติภพ
เริ่มหัวข้อโดย: jacky ที่ 13 สิงหาคม 2552, 20:39:38
อ้างถึง
ข้อความของ Q??? เมื่อ 12 สิงหาคม 2552, 20:33:25
กัน กับ แก้

ช่วงปี 2537 เป็นต้นมานับได้ว่าผมเป็นชาวพุทธที่แท้คนหนึ่ง ผมรู้สึกไม่ศรัทธาเอาเสียเลยกับพระระดับเกจิ ที่ปลุกเสกของขลัง เรียนเวทมนต์ไสยศาสตร์ แต่บัดเดี๋ยวนี้ผมก็เข้าใจเหตุผล เมื่อผมนึกถึง
 
อ้างถึง   

ลูกศิษย์หลวงพ่อฤาษีลิงดำเล่าผมให้ฟังว่า พราะอาจารย์ท่านหนึ่งปฏิบัติกรรมฐานระดับสูงสติดีมาก ไม่เคยเผลอ
แต่พอถึงคราเคราะห์ เผลอไปวูบเดียว เห็นกิ่งไม้ไหว หันไปมอง เลยโดนของเขมร
ท่านก็แก้ไม่เป็น ช่วยตัวเองไม่ได้
ต้องไปหาหมอไสยศาสตร์ที่เรียนวิชาแก้ของเขมรมาแก้ให้
โซ่เป็นขดเลย
ปกติพระจะแก้คุณไสยให้ฆราวาส แต่นี่เป็นฆราวาสแก้คุณไสยให้พระ แถมเป็นพระระดับเกจิด้วย



นั่นก็เพราะว่าพระเหล่านั้นจำเป็นต้องเรียนเพื่อช่วยแก้ไขให้ตัวเอง
เพราะกันกับแก้นั้นมันแตกต่างกัน
สติ อาจจะช่วย ป้องกัน ได้ แต่ถ้าโดนไปแล้ว ไม่รู้วิธี แก้ ก็แย่เหมือนกัน
แม้ว่า ธรรมะ ย่อมชนะ อธรรม นั่นเป็นการมองโดยรวม
หาก ธรรมะ มีพลังอำนาจที่อ่อนด้อยกว่า ก็คงเอาชนะ อธรรม ไม่ได้

ไม่มียาวิเศษขนานเดียวแก้สารพัดโรค ฉันใดก็ฉันนั้น


 emo48:)


เฮ้อ...ไม่มีข้อเสวนา
นายก้าน....
อ่านดูก็แปลกดี...
ผมก็ยังเชื่อใน
"พลังของจิต"
ที่มันข้องแวะกับสิ่งใดๆ
ที่มันจะไปสัมผัสถึง

เซื่อในสิ่งที่เฮ็ด..
เฮ็ดในสิ่งที่เซื่อ..
15 ค่ำ เดือน 11
ชื่อหนังนะ...หนุกดี
ชอบเป็นการส่วนตัว


หัวข้อ: Re: มหากาพย์ ความรัก และ ชาติภพ
เริ่มหัวข้อโดย: Kaimook ที่ 13 สิงหาคม 2552, 23:30:04
หวัดดีจ่ะก้านตามอ่านจ่ะไม่มีความเห็นใดๆนะแต่เชื่อในสิ่งที่เห็นจ่ะ


หัวข้อ: Re: มหากาพย์ ความรัก และ ชาติภพ
เริ่มหัวข้อโดย: หนุน'21 ที่ 14 สิงหาคม 2552, 08:06:09
 emo24:(

เข้ามาตามอ่านด้วยความแปลกใจ
กับเรื่องราวที่ออกแนวลึกลับ เหลือเชื่อ
แต่มันก็เกิดขึ้นกับคนบางคนได้
ก้านสบายดีเน้อ


emo48:)


หัวข้อ: Re: มหากาพย์ ความรัก และ ชาติภพ
เริ่มหัวข้อโดย: SC (ก้าน 24) ที่ 14 สิงหาคม 2552, 21:02:44
อ้างถึง
ข้อความของ หนุน'21 เมื่อ 14 สิงหาคม 2552, 08:06:09
emo24:(

เข้ามาตามอ่านด้วยความแปลกใจ
กับเรื่องราวที่ออกแนวลึกลับ เหลือเชื่อ
แต่มันก็เกิดขึ้นกับคนบางคนได้
ก้านสบายดีเน้อ


emo48:)

สวัสดีครับ พี่หนุน
ก็สบายดีครับ เคยเช็คดวงดูนะครับ บอกว่า ถ้าจะเอาดีทางพิธีกรรมนี่ได้เลย ทำอะไรก็ขลัง
ลองคิดดูสิครับ
เชือกฟางธรรมดายังมัดตราสังข์ได้
หุหุ
 

 emo48:)


หัวข้อ: Re: มหากาพย์ ความรัก และ ชาติภพ
เริ่มหัวข้อโดย: SC (ก้าน 24) ที่ 14 สิงหาคม 2552, 21:10:15
อ้างถึง
ข้อความของ Kaimook เมื่อ 13 สิงหาคม 2552, 23:30:04
หวัดดีจ่ะก้านตามอ่านจ่ะไม่มีความเห็นใดๆนะแต่เชื่อในสิ่งที่เห็นจ่ะ


สวัสดีจ๊ะอ้อย
ก็เข้าใจนะ ต้องคนมีประสบการณ์คล้ายๆกัน ถึงจะเข้าใจในสิ่งที่เล่า
ที่จริงเรื่องพวกนี้นะ ถ้าไม่ข้องแวะได้ก็ดี
เป็นคนธรรมดาที่ประสบความสำเร็จและมีความสุขดีกว่า
อย่างเรานะ คิดว่าเป็นแบบนี้ไม่ดีนะ
จำได้ไหมล่ะ
ตอนเรียนมหาวิทยาลัยก็เป็นลมชัก เป็นมาตั้งแต่ ม.ศ. 5
พอหายก็มีประสบการณ์กับเรื่องลึกลับ จนเดี๋ยวนี้
แล้วชีวิตเป็นยังไง ยังตั้งตัวไม่ได้เลย


 emo19:((: emo19:((: emo19:((:


หัวข้อ: Re: มหากาพย์ ความรัก และ ชาติภพ
เริ่มหัวข้อโดย: SC (ก้าน 24) ที่ 14 สิงหาคม 2552, 21:20:32
อ้างถึง
ข้อความของ jacky เมื่อ 13 สิงหาคม 2552, 20:39:38
อ้างถึง
ข้อความของ Q??? เมื่อ 12 สิงหาคม 2552, 20:33:25
กัน กับ แก้

ช่วงปี 2537 เป็นต้นมานับได้ว่าผมเป็นชาวพุทธที่แท้คนหนึ่ง ผมรู้สึกไม่ศรัทธาเอาเสียเลยกับพระระดับเกจิ ที่ปลุกเสกของขลัง เรียนเวทมนต์ไสยศาสตร์ แต่บัดเดี๋ยวนี้ผมก็เข้าใจเหตุผล เมื่อผมนึกถึง
 
อ้างถึง   

ลูกศิษย์หลวงพ่อฤาษีลิงดำเล่าผมให้ฟังว่า พราะอาจารย์ท่านหนึ่งปฏิบัติกรรมฐานระดับสูงสติดีมาก ไม่เคยเผลอ
แต่พอถึงคราเคราะห์ เผลอไปวูบเดียว เห็นกิ่งไม้ไหว หันไปมอง เลยโดนของเขมร
ท่านก็แก้ไม่เป็น ช่วยตัวเองไม่ได้
ต้องไปหาหมอไสยศาสตร์ที่เรียนวิชาแก้ของเขมรมาแก้ให้
โซ่เป็นขดเลย
ปกติพระจะแก้คุณไสยให้ฆราวาส แต่นี่เป็นฆราวาสแก้คุณไสยให้พระ แถมเป็นพระระดับเกจิด้วย



นั่นก็เพราะว่าพระเหล่านั้นจำเป็นต้องเรียนเพื่อช่วยแก้ไขให้ตัวเอง
เพราะกันกับแก้นั้นมันแตกต่างกัน
สติ อาจจะช่วย ป้องกัน ได้ แต่ถ้าโดนไปแล้ว ไม่รู้วิธี แก้ ก็แย่เหมือนกัน
แม้ว่า ธรรมะ ย่อมชนะ อธรรม นั่นเป็นการมองโดยรวม
หาก ธรรมะ มีพลังอำนาจที่อ่อนด้อยกว่า ก็คงเอาชนะ อธรรม ไม่ได้

ไม่มียาวิเศษขนานเดียวแก้สารพัดโรค ฉันใดก็ฉันนั้น


 emo48:)


เฮ้อ...ไม่มีข้อเสวนา
นายก้าน....
อ่านดูก็แปลกดี...
ผมก็ยังเชื่อใน
"พลังของจิต"
ที่มันข้องแวะกับสิ่งใดๆ
ที่มันจะไปสัมผัสถึง

เซื่อในสิ่งที่เฮ็ด..
เฮ็ดในสิ่งที่เซื่อ..
15 ค่ำ เดือน 11
ชื่อหนังนะ...หนุกดี
ชอบเป็นการส่วนตัว


เมื่อพุทธศาสนาเผยแพร่เข้ามา มันก็ต้องมีการเผชิญหน้ากับความเชื่อที่มีอยู่เดิม
ถ้าไม่รู้เขารู้เรา ก็ยากที่จะรักษาชีวิตไว้ได้
แต่ละพื้นที่ก็มีศาสตร์ที่ไม่เหมือนกัน
เพราะฉะนั้น แม้จะเป็นพุทธเหมือนกัน เมื่อต่างพื้นที่กันก็ต้องมีประสบการณ์ที่แตกต่างกัน
ลูกศิษย์พระเกจิชาวกรุง ก็คงจะมีประสบการณ์แตกต่างจากลูกศิษย์พระเกจิชาวป่า


 emo48:)


หัวข้อ: Re: มหากาพย์ ความรัก และ ชาติภพ
เริ่มหัวข้อโดย: jacky ที่ 14 สิงหาคม 2552, 21:42:29
อ้างถึง
ข้อความของ Kan SC เมื่อ 14 สิงหาคม 2552, 21:20:32
อ้างถึง
ข้อความของ jacky เมื่อ 13 สิงหาคม 2552, 20:39:38
อ้างถึง
ข้อความของ Q??? เมื่อ 12 สิงหาคม 2552, 20:33:25
กัน กับ แก้

ช่วงปี 2537 เป็นต้นมานับได้ว่าผมเป็นชาวพุทธที่แท้คนหนึ่ง ผมรู้สึกไม่ศรัทธาเอาเสียเลยกับพระระดับเกจิ ที่ปลุกเสกของขลัง เรียนเวทมนต์ไสยศาสตร์ แต่บัดเดี๋ยวนี้ผมก็เข้าใจเหตุผล เมื่อผมนึกถึง
 
อ้างถึง   

ลูกศิษย์หลวงพ่อฤาษีลิงดำเล่าผมให้ฟังว่า พราะอาจารย์ท่านหนึ่งปฏิบัติกรรมฐานระดับสูงสติดีมาก ไม่เคยเผลอ
แต่พอถึงคราเคราะห์ เผลอไปวูบเดียว เห็นกิ่งไม้ไหว หันไปมอง เลยโดนของเขมร
ท่านก็แก้ไม่เป็น ช่วยตัวเองไม่ได้
ต้องไปหาหมอไสยศาสตร์ที่เรียนวิชาแก้ของเขมรมาแก้ให้
โซ่เป็นขดเลย
ปกติพระจะแก้คุณไสยให้ฆราวาส แต่นี่เป็นฆราวาสแก้คุณไสยให้พระ แถมเป็นพระระดับเกจิด้วย



นั่นก็เพราะว่าพระเหล่านั้นจำเป็นต้องเรียนเพื่อช่วยแก้ไขให้ตัวเอง
เพราะกันกับแก้นั้นมันแตกต่างกัน
สติ อาจจะช่วย ป้องกัน ได้ แต่ถ้าโดนไปแล้ว ไม่รู้วิธี แก้ ก็แย่เหมือนกัน
แม้ว่า ธรรมะ ย่อมชนะ อธรรม นั่นเป็นการมองโดยรวม
หาก ธรรมะ มีพลังอำนาจที่อ่อนด้อยกว่า ก็คงเอาชนะ อธรรม ไม่ได้

ไม่มียาวิเศษขนานเดียวแก้สารพัดโรค ฉันใดก็ฉันนั้น


 emo48:)


เฮ้อ...ไม่มีข้อเสวนา
นายก้าน....
อ่านดูก็แปลกดี...
ผมก็ยังเชื่อใน
"พลังของจิต"
ที่มันข้องแวะกับสิ่งใดๆ
ที่มันจะไปสัมผัสถึง

เซื่อในสิ่งที่เฮ็ด..
เฮ็ดในสิ่งที่เซื่อ..
15 ค่ำ เดือน 11
ชื่อหนังนะ...หนุกดี
ชอบเป็นการส่วนตัว


เมื่อพุทธศาสนาเผยแพร่เข้ามา มันก็ต้องมีการเผชิญหน้ากับความเชื่อที่มีอยู่เดิม
ถ้าไม่รู้เขารู้เรา ก็ยากที่จะรักษาชีวิตไว้ได้
แต่ละพื้นที่ก็มีศาสตร์ที่ไม่เหมือนกัน
เพราะฉะนั้น แม้จะเป็นพุทธเหมือนกัน เมื่อต่างพื้นที่กันก็ต้องมีประสบการณ์ที่แตกต่างกัน
ลูกศิษย์พระเกจิชาวกรุง ก็คงจะมีประสบการณ์แตกต่างจากลูกศิษย์พระเกจิชาวป่า


 emo48:)
นั่นดินะ
หลายๆศาสนาก็เลยแตกเป็นหลายลัทธิ
ตามอัตตาของผู้แสวง..........................

แต่สำหรับข้าพเจ้า..
Single Mind to Bhudha
ไม่เป็น หินฯ ไม่เป็น มหาฯ
เป็น "พุทธะ"
ครับนายก้าน

อย่างที่เคยบอก
"โดดข้ามไม้หมอนมา"


หัวข้อ: Re: มหากาพย์ ความรัก และ ชาติภพ
เริ่มหัวข้อโดย: swsm ที่ 14 สิงหาคม 2552, 21:47:16
ฟัง อ่าน ติดตาม ..


หัวข้อ: Re: มหากาพย์ ความรัก และ ชาติภพ
เริ่มหัวข้อโดย: jacky ที่ 14 สิงหาคม 2552, 21:56:58
อ้างถึง
ข้อความของ swsm เมื่อ 14 สิงหาคม 2552, 21:47:16
ฟัง อ่าน ติดตาม ..
พี่หะ-ยี
หายไปไหนมาครับ?


หัวข้อ: Re: มหากาพย์ ความรัก และ ชาติภพ
เริ่มหัวข้อโดย: swsm ที่ 14 สิงหาคม 2552, 23:41:03
อ้างถึง
ข้อความของ jacky เมื่อ 14 สิงหาคม 2552, 21:56:58
อ้างถึง
ข้อความของ swsm เมื่อ 14 สิงหาคม 2552, 21:47:16
ฟัง อ่าน ติดตาม ..
พี่หะ-ยี
หายไปไหนมาครับ?

หวัดดีค่ะ แจ็กกี้ (อิอิอิ ไม่กล้าเรียกชื่อภาษาญี่ปุ่น .. เสียว)
พี่มีงานเข้าในระดับมากถึงมากที่สุด .. ในช่วงสองสามอาทิตย์ที่ผ่านมา
จึงแวะเข้าเว็บได้แบบกระปริบกระปรอยค่ะ

ตอนนี้ทางโล่ง สะดวกแล้ว ..
จึงได้เข้ามาทักทายกันอย่างทั่วถึงหน่อย



emo20:)):)


หัวข้อ: Re: มหากาพย์ ความรัก และ ชาติภพ
เริ่มหัวข้อโดย: jacky ที่ 15 สิงหาคม 2552, 20:05:39
อ้างถึง
ข้อความของ swsm เมื่อ 14 สิงหาคม 2552, 23:41:03
อ้างถึง
ข้อความของ jacky เมื่อ 14 สิงหาคม 2552, 21:56:58
อ้างถึง
ข้อความของ swsm เมื่อ 14 สิงหาคม 2552, 21:47:16
ฟัง อ่าน ติดตาม ..
พี่หะ-ยี
หายไปไหนมาครับ?

หวัดดีค่ะ แจ็กกี้ (อิอิอิ ไม่กล้าเรียกชื่อภาษาญี่ปุ่น .. เสียว)
พี่มีงานเข้าในระดับมากถึงมากที่สุด .. ในช่วงสองสามอาทิตย์ที่ผ่านมา
จึงแวะเข้าเว็บได้แบบกระปริบกระปรอยค่ะ

ตอนนี้ทางโล่ง สะดวกแล้ว ..
จึงได้เข้ามาทักทายกันอย่างทั่วถึงหน่อย



emo20:)):)
-ขอบคุณครับพี่หยี
เรียกแบบ นี้ดีแล้วครับ
งานเข้าในช่วงที่คนอื่นงานไม่เข้า
ถือว่าเป็นปรากฎการณ์สวนทางที่ดี
แล้วนะครับ
-ผมพอมีเวลาก็โดดเข้ามาดูเป็นระยะครับ
แวะหลายๆบ้านอาจ งง ได้ เพราะแซวไปทั่ว
อิอิ


หัวข้อ: Re: มหากาพย์ ความรัก และ ชาติภพ
เริ่มหัวข้อโดย: SC (ก้าน 24) ที่ 18 สิงหาคม 2552, 20:39:28
ช่วงปี 2529 - 2531 เป็นช่วงที่ผมฝึกปราณค่อนข้างเข้มข้น ก็มีปรากฏการณ์ที่ไม่ธรรมดา โดยเฉพาะปี 2531 เอง มีถึง 2 เหตุการณ์ คือ เหตุการณ์ มัดตราสังข์กักวิญญาณ (อันนี้เล่าไว้ในหัวข้อ...ซิกเซ้นส์ รุ่น 2522) กับอีกเหตุการณ์คือ

 
อ้างถึง   

รักที่ก้าวข้ามขีดจำกัดกับ ต่าย ดาริกา : 2531


ผมคบกันกับต่าย ไม่ว่าเราจะไปทำธุระอะไรก็ตาม ก็จะมาที่ห้องผม แล้วเราก็มีเซ็กส์กันก่อนที่ผมจะส่งเธอกลับบ้าน วันหนึ่งหลังจากกลับจากขายของที่สวนจตุจักร วันนั้นผมเพลียมากเราจึงตกลงกันว่าวันนี้จะนอนคุยกันเฉยๆเท่านั้น

หลังจากอาบน้ำเสร็จ ผมก็ให้ต่ายนอนทาบทับบนตัวผม โดยที่เราทั้งคู่ต่างเปลือยกายล่อนจ้อน ซึ่งเป็นสิ่งที่ผมโปรดปรานเป็นอย่างมาก เพราะผมจะฝึกลมปราณหายใจด้วยท้องไปด้วย ร่างของต่ายก็จะเคลื่อนไหวขึ้นๆลงๆตามจังหวะการหายใจของผม เราคุยกันไปเรื่อยเปื่อย โดยไม่มีเรื่องเซ็กส์มาเกี่ยวข้อง และก็ไม่ได้จับต้องอะไรกันด้วย นอกจากผมเอาแขนโอบกอดเธอไว้ จนเวลาผ่านไปเท่าไหร่ไม่รู้

ฉับพลันผมรู้สึกว่าจุดศูนย์ตรงท้องน้อยผมร้อนระอุขึ้น และ ก็รู้สึกได้ว่าจุดศูนย์ของต่ายก็ร้อนระอุขึ้นเช่นกัน จากนั้นก็มีกระแสอุ่นร้อนไหลจากจุดศูนย์ของเธอเข้ามาที่จุดศูนย์ของผม และก็ไหลจากจุดศูนย์ของผมเข้าไปที่จุดศูนย์ของเธอด้วย ผมรู้สึกกระปี้กระเป่าขึ้นมาทันที ความอ่อนเพลียหายเป็นปลิดทิ้ง จากนั้นองคชาติของผมก็ตั้งชันขึ้นมา เกิดอารมณ์อยากร่วมเต็มที่ ผมเลยจับของต่ายดู ก็พบว่า...ยังกะผ่านช่วงเวลาแห่งการเล้าโลมมาแล้ว ผมเลยจับเธอพลิกลงข้างล่าง....

จากวันนั้นเป็นต้นมา ปรากฏการณ์แบบนี้ก็ไม่เกิดขึ้นอีกเลย ไม่ว่ากับต่ายเอง หรือแฟนคนต่อๆมา แม้ว่าผมอยากจะให้เกิด และพยายามทำให้เกิด ต่ายจึงเป็นหญิงคนแรกและคนเดียวที่รักของเราก้าวข้ามขีดจำกัด และผมได้ประสบการณ์สุดยอดกับมัน


อรรถาธิบาย:

จุดศูนย์ คือ ตำแหน่งใต้สะดือลงไป 2 นิ้ว ลึกเข้าไปในร่างกาย ญี่ปุ่นเรียก คิเคอิตันเคน หรือ ฮารา (มหาสมุทรแห่งพลังงาน) จีนกลางเรียก ตันเถียน ทางโยคะ และ วิชารักษาโรคด้วยลมปราณเรียก จักรเพศ ในทางฟิสิกส์จะเป็นตำแหน่งจุดศูนย์กลางมวลของร่างกาย ถ้าเราสามารถกำหนดตำแหน่งจุดศูนย์ถ่วงของร่างกายให้ซ้อนทับกับจุดศูนย์กลางมวลฯเรียก " การตั้งศูนย์ " เราจะสามารถใช้สิ่งที่เรียกว่า พลังภายใน ฯลฯ ได้

ทางพุทธหินยานไม่นิยมใช้จุดนี้ในการเพ่งวิปัสนาฯ แต่ใช้ จุดศูนย์ที่อยู่ด้านบน ( Solar Plexus หรือ จักรสุริยประสาท) แทน เพราะชื่อก็บอกแล้วว่า จักรเพศ จึงทำให้....(คงไม่ต้องอธิบาย)....

 emo48:)




หัวข้อ: Re: มหากาพย์ ความรัก และ ชาติภพ
เริ่มหัวข้อโดย: Kaimook ที่ 22 สิงหาคม 2552, 00:12:02
หวัดดีจ่ะก้าน emo4:)) emo4:)) emo4:))


หัวข้อ: Re: มหากาพย์ ความรัก และ ชาติภพ
เริ่มหัวข้อโดย: SC (ก้าน 24) ที่ 23 สิงหาคม 2552, 17:37:04
ความฉลาดของเทพ

จู่ๆผมก็นึกได้ว่า ที่ผ่านมานั้น หากเบื้องบนท่านเตือนด้วยวาจา ให้ได้ยินเหมือนเสียงที่ได้ยิน แต่ไม่ใช่เสียงที่ได้ยิน ผมจะเชื่อหรือไม่?

เหตุการณ์รถแก๊สระเบิด : " เฮ้ย! ไอ้....วันนี้มึงรีบกลับนะ หรือไม่ก็อย่าใช้เส้นทางเดิม วันนี้รถแก๊สจะระเบิด คนจะถูกเผาตายเป็นร้อย..." ผมจะเชื่อไหม? ถึงผมจะเชื่อแต่ผมก็อาจจะลืม เพราะมันไม่มีวัตถุเตือนความจำเหมือนตอนมัดตราสังข์กักวิญญาณ

ตอนเบื่อหมา 50 ตัว : " เฮ้ย! ไอ้....มึงจะเบื่อหมาเหรอ อย่าเชียวนะมึง ถ้าหมา 50 ตัวตาย อนาคตมึงจะขี่มอเตอร์ไซต์ชนเสาไฟฟ้า มึงจะไม่รอด..." ผมก็คงจะไม่ Get เท่ากับแสดงให้ได้รู้ว่า ความรู้สึกของสัตว์ที่โดนยาเบื่อว่ามันทรมานยังไง ขนาดผมโดนแค่เบาะๆ ยังต้องหลบไปนอนเลย

ตอนที่ท่านให้ออกจากบ้าน : " ไอ้...มึงออกจากบ้าน เข้ากรุงเทพได้แล้ว อีกหน่อยมึงจะได้เจอคนที่มึงตามหา แล้วมึงจะได้รู้ปมปริศนาชีวิตตนเอง..." ผมจะเชื่อหรือไม่หนอ? ถ้าผมเชื่อ คนอื่นเขาจะเชื่อที่ผมพูดไหม? ในเมื่อผมไม่มีเงินเลย พ่อไม่ให้แน่นอน แม่ก็ไม่อยากให้มา พี่สาวลูกของป้าที่ดีกับผม ก็คงจะไม่ให้เช่นกัน แต่ด้วยแผลที่ฝ่าเท้า มันน่ากลัวพอที่ใครเห็นก็ต้องทำหน้าเหย มันเลยทำให้เหตุผลที่ผมพูดไปมันมีน้ำหนัก 2 ใน 3 คนให้เงิน ผมเลยได้เข้ามากรุงเทพฯ และก็เป็นดังที่ได้เล่ามา

เบื้องบนท่านแก้ปัญหาให้ผมเบ็ดเสร็จ


 emo48:)


หัวข้อ: Re: มหากาพย์ ความรัก และ ชาติภพ
เริ่มหัวข้อโดย: SC (ก้าน 24) ที่ 01 กันยายน 2552, 12:56:44
ถ้าไม่เล่าถึง ปุ๊ก ศิริลักษณ์ ก็คงจะทำให้ขาดรสชาติของธีมเรื่องนี้ไปมาก เพราะเธอเป็น สาวมังกร (ตามนักษัตรจีน) คนที่ 2 ในชีวิตที่ผมเคยปักใจเชื่อว่าเป็นคนที่ผมตามหา นอกจากนั้นเธอยังเป็น 1 ใน 6 หญิงที่สุดแสนประทับใจ เพราะเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในขณะที่ผมกับเธอยังทำงานอยู่ด้วยกันนั้นมันเป็น
 
 
อ้างถึง   

อภิมหาอมตะนิรันดร์กาล

 
“เกิดมาไม่เคยเจอะใครเหมือนเธอ... ” เสียงเพลงของเสก โลโซ ยังคงก้องอยู่ในโสตสำนึก เมื่อคิดถึงปุ๊กขึ้นมาทีไร เธอผู้ซึ่งไม่เหมือนใคร และผมยังไม่เจอใครเหมือนเธอ
 
ประสบการณ์พิสดารแต่สุดแสนประทับใจ เกิดขึ้นในวันทำงานวันหนึ่ง ผมนั่งทำงานอยู่หน้าคอมฯ ได้ยินเสียงเรียกให้ปุ๊กมารับโทรศัพท์ เธอจึงมารับสาย และยืนคุยที่โต๊ะข้างหลังผมพี่เยื้องไปทางด้านขวาห่างประมาณเมตรกว่าๆ พอเธอคุยได้สักครู่

พลันผมรู้สึกเหมือนกับผมเห็นด้วยตา แต่ไม่ใช่แน่นอน เพราะผมไม่ได้หันไปมอง และถึงหันไปมองก็คงจะมองไม่เห็น ผมเห็นรังสีแผ่ออกมาจากจุดศูนย์ตรงท้องน้อยของปุ๊ก เมื่อรังสีนั้นมาถึงผม จุดศูนย์ตรงท้องน้อยผมก็ร้อนระอุขึ้น แล้วองคชาติของผมก็ตั้งชันขึ้นมาทันที เกิดความอยาก....

สิ่งที่เกิดขึ้น ผมบอกได้ว่า เกิดมาไม่เคยเจอใครเหมือนเธอ ครั้งแรกที่เกิดปรากฏการณ์องคชาติตั้งชันขึ้นมาทันที หลังจากจุดศูนย์ตรงท้องน้อยร้อนระอุขึ้น นั่นเป็นเพราะว่าร่างของต่ายทาบทับอยู่บนร่างผม ทำให้จักรเพศของผมและของเขาประกบกันอยู่

แต่ที่เกิดกับปุ๊กนั้นมันฝ่าอากาศมาถึง ทั้งๆที่อยู่ห่างกันตั้งเมตรกว่าๆ แถมยังไม่ได้หันหน้าเข้าหากันด้วย

เสียงเพลงของเสก โลโซ ที่ว่า  “เกิดมาไม่เคย เจอะใครเหมือนเธอ... ” ก็เป็นความจริงระดับอภิมหาอมตะนิรันดร์กาล สำหรับเธอที่ผมไม่มีวันลืม และ ยังคาใจตราบเท่าทุกวันนี้


จ้าว ก้อก สุ่ย ผู้เขียนหนังสือ "ลมปราณ : ศาสตร์และศิลป์แห่งการรักษาโรคแบบดั้งเดิม" ได้กล่าวไว้ว่า ผู้มี จักษุทิพย์ เท่านั้นถึงจะมองเห็นรังสีมนุษย์ (Aura) ที่แผ่ออกมาจากจักร (Chakra)
 
นั่นแสดงว่าในวันนั้นผมเกิด มีภาวะ จักษุทิพย์ ขึ้นโดยบังเอิญ จึงได้เห็น และนี่เป็นเหตุผลที่ผมยกให้ประสบการณ์ในครั้งนั้นเป็น อภิมหาอมตะนิรันดร์กาล  เพราะ มันอาจเป็นแรกและครั้งเดียวในชีวิต!


หมายเหตุ : Skeptics such as Robert Todd Carroll contend that auras may be seen for explainable reasons such as migraines or synesthesia.[5] Some people see auras as the result of a migraine, epilepsy, a visual system disorder, or a brain disorder.[6][7] Eye fatigue can also produce an aura, sometimes referred to as eye burn.

 emo48:)


หัวข้อ: Re: มหากาพย์ ความรัก และ ชาติภพ
เริ่มหัวข้อโดย: khesorn mueller ที่ 01 กันยายน 2552, 13:02:02
สวัสดีคะพี่ก้าน,
ไม่ได้เจอหลายวัน พี่ก้านเป็นยังงัยมั่ง?

nn.


หัวข้อ: Re: มหากาพย์ ความรัก และ ชาติภพ
เริ่มหัวข้อโดย: SC (ก้าน 24) ที่ 01 กันยายน 2552, 13:19:55
อ้างถึง
ข้อความของ khesorn mueller เมื่อ 01 กันยายน 2552, 13:02:02
สวัสดีคะพี่ก้าน,
ไม่ได้เจอหลายวัน พี่ก้านเป็นยังงัยมั่ง?

nn.

กายก็สบายดี ส่วนใจก็สุขบ้างทุกข์บ้าง

 emo48:)


หัวข้อ: Re: มหากาพย์ ความรัก และ ชาติภพ
เริ่มหัวข้อโดย: Kaimook ที่ 01 กันยายน 2552, 21:55:19
 สวัสดีจ่ะก้าน
 emo4:)) emo4:)) emo4:))


หัวข้อ: Re: มหากาพย์ ความรัก และ ชาติภพ
เริ่มหัวข้อโดย: หนุน'21 ที่ 02 กันยายน 2552, 19:54:52


สวัสดีครับ น้องหะยี น้องจักร
น้องก้าน น้องอ้อย น้องหนิง
สบายดีกันทุกคนนะครับ


 emo6::))


หัวข้อ: Re: มหากาพย์ ความรัก และ ชาติภพ
เริ่มหัวข้อโดย: Kaimook ที่ 08 กันยายน 2552, 22:55:59
อ้างถึง
ข้อความของ หนุน'21 เมื่อ 02 กันยายน 2552, 19:54:52


สวัสดีครับ น้องหะยี น้องจักร
น้องก้าน น้องอ้อย น้องหนิง
สบายดีกันทุกคนนะครับ


 emo6::))
สวัสดีค่ะพี่หนุนสบายดีค่ะแต่พักนี้เจ็บๆตาซ้ายค่ะต้องพักสายตาบ้างแล้วค่ะ
สวัสดีค่ะก้านสบายดีไหมคะไปไหนคะเงัยบเลยบะคะ


หัวข้อ: Re: มหากาพย์ ความรัก และ ชาติภพ
เริ่มหัวข้อโดย: Kaimook ที่ 11 กันยายน 2552, 08:33:29
สวัสดีค่ะก้านสบายดีหรือเปล่าค่ะ
 emo7:(:


หัวข้อ: Re: มหากาพย์ ความรัก และ ชาติภพ
เริ่มหัวข้อโดย: พธู ๒๕๒๔ ที่ 21 กันยายน 2552, 00:27:11
(http://img401.imageshack.us/img401/3634/17473497.jpg)


หัวข้อ: Re: มหากาพย์ ความรัก และ ชาติภพ
เริ่มหัวข้อโดย: khesorn mueller ที่ 21 กันยายน 2552, 00:30:52
พี่ก้าน...สมาธิเป็นไงบ้างคะ
พี่ทูชอบทำให้สมาธิแตก!!
แจกไปทั่วคะ...
คึกจริงๆ


หัวข้อ: Re: มหากาพย์ ความรัก และ ชาติภพ
เริ่มหัวข้อโดย: SC (ก้าน 24) ที่ 30 กันยายน 2552, 19:56:01
อ้างถึง
ข้อความของ SC Vow เมื่อ 19 กรกฎาคม 2552, 21:06:14
 
อ้างถึง   

7 ดาวเหนือ
 : พฤษภาคม - 19 สิงหาคม 2551
 
ผมเข้ามาอยู่กรุงเทพฯตั้งแต่ 20 สิงหาคม 2551 จนกระทั่งวันหนึ่งในช่วงหลังสงกรานต์ถึงวันที่ 26 พฤษภาคม 2552 คืนวันนั้นเมื่อผมนึกถึง 6 หญิงที่สุดแสนประทับใจในชีวิต ผมก็จำได้ถึงเหตุการณ์ย้อนหลังไปเมื่อปี 2551 ขณะที่ผมอยู่ที่บ้านแม่ที่ลำปาง
 
วันนั้นหลังจากอาบน้ำเสร็จประมาณ 5 ทุ่ม ผมเข้าห้องนอนปิดไฟมองออกไปนอกหน้าต่างเห็นเป็นคืนเดือนมืดท้องฟ้าโปร่ง ผมนึกอยากจะมองดูดาว เพราะอยู่กรุงเทพฯไม่เคยได้ดู ผมเลยมุดหัวออกนอกหน้าต่างแหงนมองดูท้องฟ้า แล้วผมก็ต้องประหลาดใจมากที่ผมเห็นดาวเหนือเจ็ดดวง และมันลอยต่ำกว่าดวงดาวทั้งหมด ผมถึงกับพูดในใจ " เฮ้ย ทำไมดาวเหนือมันอยู่ต่ำขนาดนี้วะ  " ผมมองอยู่นานด้วยความฉงน มันก็ยังอยู่ที่เดิม จนผมเมื่อยคอเลยมุดหัวกลับเข้ามา ล้มตัวลงนอนแล้วผมก็ลืมมันไป
 
ตอนที่ผมนึกถึง 6 หญิงที่สุดแสนประทับใจ ผมก็จำได้ว่า ตอนที่ผมเห็นดาวเหนือผมกำลังเขียนถึงเรื่องราวของพวกเธอทั้งหกทำเว็บไซต์บนโปรแกรม ช่วงที่นึกได้นั้น ผมคิดว่า ดาวเหนือมีทั้งหมด 6 ดวง หรือว่าผมจะมีหญิงที่สุดแสนประทับใจคนที่ 7 ผมเลยเรียก 6 หญิงที่สุดแสนประทับใจเสียใหม่ว่า หกยอดหญิงดาวเหนือ
 
(http://bbznet.pukpik.com/images/upload2/lover/yUah20090719212350.jpg)

อย่างไรก็ตามผมก็อยากรู้ว่าดาวเหนือจริงนะมันเป็นยังไงก็เลยได้สืบค้นดู ก็เลยได้ความว่า ดาวเหนือ (Polaris) ซึ่งเป็นดาวฤกษ์ที่สว่างที่สุดในกลุ่มดาวหมีเล็ก (Ursa Minor) ซึ่งคือตำแหน่งหาง แต่การจะดูมันก็ต้องรู้องศา ไม่ใช่มุดหัวออกนอกหน้าต่างแล้วเห็นเลย แถมแต่ละดวงยังดูใหญ่กว่าดาวทุกดวง นั่นแสดงว่าดาวเหนือที่ผมเห็นไม่ใช่ดาวเหนือจริงๆ แต่เป็นนิมิต
 
แต่ถ้าเป็นนิมิต มันก็ไม่สมเหตุผลถ้านิมิตนั้นแสดงเพื่อบ่งบอกแค่ กาม (ในความหมายดังเดิม) มันน่าจะบ่งบอกอะไรมากกว่านั้น เคยพูดเล่นๆกับน้องคนหนึ่งว่า " พี่รู้แล้วว่าเบื้องบนพี่ท่านคือใคร " น้องคนนั้นก็รู้ทันมุกตอบกลับทันทีว่า " เทพเจ้าดาวเหนือหรือพี่  พีคงจะอ่านการ์ตูน ฤทธิ์หมัดเทพเจ้าดาวเหนือมากไป " นั่นนะสิ ไม่เคยได้ยินว่ามีเทพเจ้าดาวเหนือนี้มาก่อนเลยจริงๆ
 
นี่จึงยังเป็นปริศนาที่หาคำตอบไม่ได้ และผมก็ไม่รู้เลยว่าเบื้องบนท่านคือเทพเจ้าองค์ใด
 

พึงสังเกตว่า เรื่องที่ผมเล่าไม่สามารถอ้างอิงวันเดือนปีที่แน่นอนได้เลย เพราะผมไม่เคยคิดว่ามันจะสำคัญในอนาคต หรือมีเหตุการณ์ต่อเนื่องติดตามมา

 emo48:)

ผมกลับไปทำธุระที่จังหวัดลำปาง นอนบ้านแม่ 9 คืน ทุกคืนผมแหงนหน้ามองดูดาวบนท้องฟ้า ตั้งแต่ช่วง สี่ทุ่ม,  สี่ทุ่มครึ่ง, ห้าทุ่ม, ห้าทุ่มครึ่ง, เที่ยงคืน, เที่ยงคืนครึ่ง, ตีหนึ่ง, บางวันถึงตีหนึ่งครึ่ง และแถมตี 2 ด้วย

บนท้องฟ้าเห็นหมู่ดาวไกลลิบ ระยิบระยับ ลายตาไปหมด ไม่มีแผนที่ดาว ไม่สามารถหาพิกัดตำแหน่งดาวเหนือได้ แหงนจนเมื่อยคอ ก็ไม่มีสักวันที่เหมือนวันนั้น

วันนั้นที่เห็น ดาวบนท้องฟ้าดูมันอยู่ใกล้มาก และ เห็น 7 ดาวเหนือมันลอยต่ำกว่า จึงดู ใหญ่กว่าทุกดวง

วันหนึ่ง ผมถามหน้าชายคนเล็กเรื่อง ตาฝาด  เขาว่า ถ้า ตาฝาด  ต้องเป็นลักษณะคล้ายๆว่า เห็นผมยาวๆแต่จริงผมสั้น อะไรประมาณนี้ แต่นี่มันไม่เข้าข่าย น้าชายยังพูดอีกว่า น่าจะถ่ายรูปไว้  บังเอิญวันนั้นมีผู้อาวุโสอายุประมาณ 70 ปี อยู่ด้วย ท่านว่า " ของอย่างนี้ ถึงถ่ายก็อาจจะถ่ายไม่ติด  "

มึนเลยครับ ตกลงวันนั้น ผมเห็นนั้นเป็น นิมิต จริงๆหรือ? เพื่อบอก อะไร? แก่ผม


 emo24:(




หัวข้อ: Re: มหากาพย์ ความรัก และ ชาติภพ
เริ่มหัวข้อโดย: Kaimook ที่ 30 กันยายน 2552, 21:25:15
 นั่นซิก้านอยากรู้จัง อย่าลืมเล่าสู่กันฟังบ้างนะคะ
 emo4:)) emo4:)) emo4:))


หัวข้อ: Re: มหากาพย์ ความรัก และ ชาติภพ
เริ่มหัวข้อโดย: khesorn mueller ที่ 30 กันยายน 2552, 21:57:11
พี่ก้าน,
ยังไม่ได้อ่านเลยคะ
ยาวจัง

nn.


หัวข้อ: Re: มหากาพย์ ความรัก และ ชาติภพ
เริ่มหัวข้อโดย: Kaimook ที่ 02 ตุลาคม 2552, 22:02:42
 หวัดดีจ่ะก้าน emo4:)) emo4:)) emo4:))


หัวข้อ: Re: มหากาพย์ ความรัก และ ชาติภพ
เริ่มหัวข้อโดย: SC (ก้าน 24) ที่ 06 ตุลาคม 2552, 18:15:58
อ้างถึง
ข้อความของ khesorn mueller เมื่อ 30 กันยายน 2552, 21:57:11
พี่ก้าน,
ยังไม่ได้อ่านเลยคะ
ยาวจัง

nn.

หวัดดีจ๊ะ หนิง
เรื่องของพี่ถ้าไม่มีประสบการณ์ตรง อ่านแล้วก็จะงง + ไม่เข้าใจ
ส่วนพี่ ตอนนี้อ่านเรื่องของใครก็เข้าใจ

ดังนั้นหนิงไม่ต้องอ่านก็ได้


 emo48:)


หัวข้อ: Re: มหากาพย์ ความรัก และ ชาติภพ
เริ่มหัวข้อโดย: Kaimook ที่ 06 ตุลาคม 2552, 19:14:17
 หวัดดีจ่ะก้านนนนน emo4:)) emo4:)) emo4:))


หัวข้อ: Re: มหากาพย์ ความรัก และ ชาติภพ
เริ่มหัวข้อโดย: Kaimook ที่ 14 ตุลาคม 2552, 22:22:42
หวัดดีจ่ะก้าน emo4:)) emo4:)) emo4:))


หัวข้อ: Re: มหากาพย์ ความรัก และ ชาติภพ
เริ่มหัวข้อโดย: Kaimook ที่ 16 ตุลาคม 2552, 19:45:20
 หวัดดีจ่ะก้าน emo4:)) emo4:)) emo4:))


หัวข้อ: Re: มหากาพย์ ความรัก และ ชาติภพ
เริ่มหัวข้อโดย: พธู ๒๕๒๔ ที่ 20 ตุลาคม 2552, 20:35:28
(http://img9.imageshack.us/img9/9180/1255550320311975302987.jpg)


หัวข้อ: Re: มหากาพย์ ความรัก และ ชาติภพ
เริ่มหัวข้อโดย: dtoy ที่ 21 ตุลาคม 2552, 07:51:04
หวัดดีจ่ะก้าน อยู่ดีมีแฮงหรือเปล่า?
เห็นของฝากที่ท่านทูส่งมาให้แล้ว
นี่ก็ใกล้วันเทศกาลปลดปล่อยผีฝรั่ง- Halloween แล้วนะ


หัวข้อ: Re: มหากาพย์ ความรัก และ ชาติภพ
เริ่มหัวข้อโดย: Kaimook ที่ 21 ตุลาคม 2552, 23:52:33
สวัสดีจ่ะก้าน emo4:)) emo4:)) emo4:)) emo4:))


หัวข้อ: Re: มหากาพย์ ความรัก และ ชาติภพ
เริ่มหัวข้อโดย: Kaimook ที่ 22 ตุลาคม 2552, 09:44:13
สวัสดีอีกครั้งจ่ะก้าน emo4:)) emo4:)) emo4:)) emo4:))


หัวข้อ: Re: มหากาพย์ ความรัก และ ชาติภพ
เริ่มหัวข้อโดย: SC (ก้าน 24) ที่ 23 ตุลาคม 2552, 20:52:37
อ้างถึง
ข้อความของ dtoy เมื่อ 21 ตุลาคม 2552, 07:51:04
หวัดดีจ่ะก้าน อยู่ดีมีแฮงหรือเปล่า?
เห็นของฝากที่ท่านทูส่งมาให้แล้ว
นี่ก็ใกล้วันเทศกาลปลดปล่อยผีฝรั่ง- Halloween แล้วนะ

สวัสดีจ๊ะต๋อย
ช่วงนี้ก็มีความสุขดีนะ
เพราะมีคัมภีร์ชีวิตใหม่
ผมหยุดร่วงมาสองเดือนแล้ว
ฮ่า ฮ่า ฮ่า


 emo49:)) emo49:)) emo49:))


หัวข้อ: Re: มหากาพย์ ความรัก และ ชาติภพ
เริ่มหัวข้อโดย: Kaimook ที่ 04 พฤศจิกายน 2552, 20:12:08
สวัสดีจ่ะก้านหายไปไหนคะ งานเข้าหรือไรคะ emo4:)) emo4:)) emo4:))


หัวข้อ: Re: มหากาพย์ ความรัก และ ชาติภพ
เริ่มหัวข้อโดย: khesorn mueller ที่ 04 พฤศจิกายน 2552, 20:43:36
พี่ก้าน,
ผมหยุดร่วงรึยัง?
ขอดูหน่อย


หัวข้อ: Re: มหากาพย์ ความรัก และ ชาติภพ
เริ่มหัวข้อโดย: SC (ก้าน 24) ที่ 06 พฤศจิกายน 2552, 19:02:06
อ้างถึง
ข้อความของ khesorn mueller เมื่อ 04 พฤศจิกายน 2552, 20:43:36
พี่ก้าน,
ผมหยุดร่วงรึยัง?
ขอดูหน่อย


สวัสดีจ๊ะหนุงหนิง ไม่นานคงได้เห็น
ว่าแต่หนุงหนิงสบายดีนะ


 emo48:)


หัวข้อ: Re: มหากาพย์ ความรัก และ ชาติภพ
เริ่มหัวข้อโดย: khesorn mueller ที่ 06 พฤศจิกายน 2552, 19:09:04
สบายจนอึ๋มคะ
ที่โน่นหนาวคะพี่ก้าน
ดีใจพี่เข้าเวบวันนี้

พี่ทูชวนไปไหนน่ะ
พี่ลงชื่อลอยให้หนิงด้วย!
จะได้เต็มเร็วคะ


หัวข้อ: Re: มหากาพย์ ความรัก และ ชาติภพ
เริ่มหัวข้อโดย: Kaimook ที่ 06 พฤศจิกายน 2552, 19:51:24
หวัดดีจ่ะก้าน สบายดีไหมคะ
 emo4:)) emo4:)) emo4:))


หัวข้อ: Re: มหากาพย์ ความรัก และ ชาติภพ
เริ่มหัวข้อโดย: khesorn mueller ที่ 30 ธันวาคม 2552, 16:51:54
พี่ก้าน,
ปีนี้ 2553 ปีดี...
มีคู่ดีฝ่า...


หัวข้อ: Re: มหากาพย์ ความรัก และ ชาติภพ
เริ่มหัวข้อโดย: SC (ก้าน 24) ที่ 13 มกราคม 2553, 16:11:45
อ้างถึง
ข้อความของ khesorn mueller เมื่อ 30 ธันวาคม 2552, 16:51:54
พี่ก้าน,
ปีนี้ 2553 ปีดี...
มีคู่ดีฝ่า...


สวัสดีจ๊ะหนุงหนิง
พี่ก็ลองตรวจดวงชะตาดูนะ จากหลายจุดพยากรณ์ ก็ได้ผลตรงกัน
พี่ก็อยากรู้นะว่าจะมีจริงๆหรือไม่ และถ้าเกิดมีขึ้นมาจริงๆ
กระทู้นีมันคืออะไรกัน(ว๊ะ) และคงจะมึนอีกรอบ


 emo7:(:


หัวข้อ: Re: มหากาพย์ ความรัก และ ชาติภพ
เริ่มหัวข้อโดย: SC (ก้าน 24) ที่ 13 มกราคม 2553, 16:25:37
เรื่องของชง

ผมได้รับ SMS ข้อความว่า ปีชงในปี 2553 คือ ปีวอก ขาล มะเส็ง กุน ควรไหว้องค์ไท้ส่วยเพื่อสิริมงคล

ปี 2553 เป็นปีขาล ถ้านำ 12 นักกษัตรเขียนเรียงเป็นวงกลม 12 นักกษัตร 4 ปีนี้จะอยู่ทำมุมฉากและมุมตรงข้ามกัน และกฏของการชง ก็ยึดหลักการนี้สำหรับทุกนักกษัตร

ที่จริงเรื่องนี้ก็ได้เคยได้ยินมานานแต่ผมก็ไม่ใส่ใจ หนนี้เกิดนึกได้ว่า บ้านผม พ่อเกิดปีวอก แม่เกิดปีกุน ลูกเกิดปีขาล
เฮ้อ เล่นชงกันเองทั้งบ้านแบบนี้เอง ชีวิตถึงมีแต่อุปสรรค
พ่อชงกับลูก ลูกชงกับแม่ แม่ชงกับพ่อ


วันนี้เอาแค่นี้ก่อน แล้วค่อยมาว่าต่อ ยังมีอีก



หัวข้อ: Re: มหากาพย์ ความรัก และ ชาติภพ
เริ่มหัวข้อโดย: Kaimook ที่ 14 มกราคม 2553, 17:00:54
อ้างถึง
ข้อความของ SC (ก้าน 24) เมื่อ 13 มกราคม 2553, 16:25:37
เรื่องของชง

ผมได้รับ SMS ข้อความว่า ปีชงในปี 2553 คือ ปีวอก ขาล มะเส็ง กุน ควรไหว้องค์ไท้ส่วยเพื่อสิริมงคล

ปี 2553 เป็นปีขาล ถ้านำ 12 นักกษัตรเขียนเรียงเป็นวงกลม 12 นักกษัตร 4 ปีนี้จะอยู่ทำมุมฉากและมุมตรงข้ามกัน และกฏของการชง ก็ยึดหลักการนี้สำหรับทุกนักกษัตร

ที่จริงเรื่องนี้ก็ได้เคยได้ยินมานานแต่ผมก็ไม่ใส่ใจ หนนี้เกิดนึกได้ว่า บ้านผม พ่อเกิดปีวอก แม่เกิดปีกุน ลูกเกิดปีขาล
เฮ้อ เล่นชงกันเองทั้งบ้านแบบนี้เอง ชีวิตถึงมีแต่อุปสรรค
พ่อชงกับลูก ลูกชงกับแม่ แม่ชงกับพ่อ


วันนี้เอาแค่นี้ก่อน แล้วค่อยมาว่าต่อ ยังมีอีก


ก้านจ๋าาาาาาเหอ เหอ เหอ ชงนัก....ดื่มซะเลย55555


หัวข้อ: Re: มหากาพย์ ความรัก และ ชาติภพ
เริ่มหัวข้อโดย: ตี้ถาปัด ที่ 16 มกราคม 2553, 09:58:25
อ้างถึง
ข้อความของ SC (ก้าน 24) เมื่อ 13 มกราคม 2553, 16:25:37
เรื่องของชง

ผมได้รับ SMS ข้อความว่า ปีชงในปี 2553 คือ ปีวอก ขาล มะเส็ง กุน ควรไหว้องค์ไท้ส่วยเพื่อสิริมงคล

ปี 2553 เป็นปีขาล ถ้านำ 12 นักกษัตรเขียนเรียงเป็นวงกลม 12 นักกษัตร 4 ปีนี้จะอยู่ทำมุมฉากและมุมตรงข้ามกัน และกฏของการชง ก็ยึดหลักการนี้สำหรับทุกนักกษัตร

ที่จริงเรื่องนี้ก็ได้เคยได้ยินมานานแต่ผมก็ไม่ใส่ใจ หนนี้เกิดนึกได้ว่า บ้านผม พ่อเกิดปีวอก แม่เกิดปีกุน ลูกเกิดปีขาล
เฮ้อ เล่นชงกันเองทั้งบ้านแบบนี้เอง ชีวิตถึงมีแต่อุปสรรค
พ่อชงกับลูก ลูกชงกับแม่ แม่ชงกับพ่อ


วันนี้เอาแค่นี้ก่อน แล้วค่อยมาว่าต่อ ยังมีอีก



เสี่ยก้าน....สงสัยเหมือนกันว่า คำว่า ชง มันหมายถึงอะไรเหรอ อยากได้ความกระจ่าง
แล้วชงแล้วจะเป็นยังไง มีเหตุการณือะไรที่จะยกเป็นตัวอย่างที่จับต้องได้มั่ง


หัวข้อ: Re: มหากาพย์ ความรัก และ ชาติภพ
เริ่มหัวข้อโดย: SC (ก้าน 24) ที่ 16 มกราคม 2553, 20:26:31
อ้างถึง
ข้อความของ ตี้ถาปัด เมื่อ 16 มกราคม 2553, 09:58:25
อ้างถึง
ข้อความของ SC (ก้าน 24) เมื่อ 13 มกราคม 2553, 16:25:37
เรื่องของชง

ผมได้รับ SMS ข้อความว่า ปีชงในปี 2553 คือ ปีวอก ขาล มะเส็ง กุน ควรไหว้องค์ไท้ส่วยเพื่อสิริมงคล

ปี 2553 เป็นปีขาล ถ้านำ 12 นักกษัตรเขียนเรียงเป็นวงกลม 12 นักกษัตร 4 ปีนี้จะอยู่ทำมุมฉากและมุมตรงข้ามกัน และกฏของการชง ก็ยึดหลักการนี้สำหรับทุกนักกษัตร

ที่จริงเรื่องนี้ก็ได้เคยได้ยินมานานแต่ผมก็ไม่ใส่ใจ หนนี้เกิดนึกได้ว่า บ้านผม พ่อเกิดปีวอก แม่เกิดปีกุน ลูกเกิดปีขาล
เฮ้อ เล่นชงกันเองทั้งบ้านแบบนี้เอง ชีวิตถึงมีแต่อุปสรรค
พ่อชงกับลูก ลูกชงกับแม่ แม่ชงกับพ่อ


วันนี้เอาแค่นี้ก่อน แล้วค่อยมาว่าต่อ ยังมีอีก



เสี่ยก้าน....สงสัยเหมือนกันว่า คำว่า ชง มันหมายถึงอะไรเหรอ อยากได้ความกระจ่าง
แล้วชงแล้วจะเป็นยังไง มีเหตุการณือะไรที่จะยกเป็นตัวอย่างที่จับต้องได้มั่ง

ชงเป็นภาษาจีน ถ้าจะให้แปลตรงๆไม่แน่ใจ แต่หมายถึงสัมพันธภาพที่ไม่ดีด่อกัน หักล้างทำลายกันอะไรประมาณนี้ จะสังเกตุว่าปีเหล่านี้จะทำมุม 90 องศา และ 180 องศา ตัดกันเป็นกากะบาด ทางโหราศาสตร์ถือว่าทำมุมไม่ดี เป็นเหมือนตัวถ่วง

เหตุการณ์อะไรก็แล้วแต่ที่ควรจะได้แต่ไม่ได้ ไม่ควรจะเสียแต่ต้องเสีย แล้วพบว่า เหตุเกิดจากคนที่ปีชงกับเรา อย่างผมเองก็เคยเจอตอนจบมศ.3 ตอนนั้นจะสอบเข้าเตรียมทหาร ซื้อใบสมัครมาแล้ว แต่การสมัครต้องให้พ่อเซ็นต์ด้วย พ่อดันออกจากบ้านไปไหนไม่รู้ทั้งที่ก่อนหน้านั้น ร้อยวันพันปีไม่เคยไปไหน จนกระทั่งหมดเขตถึงกลับมา พอจบมศ. 5 นายร้อยตำรวจก็ยังดี เจอแบบเดิมอีกละ เลยเบนเข็มมาสอบเอ็นทรานซ์แทน...



 emo48:)


หัวข้อ: Re: มหากาพย์ ความรัก และ ชาติภพ
เริ่มหัวข้อโดย: Kaimook ที่ 16 มกราคม 2553, 23:04:03
แปลกดีนะก้านเรื่องแบบนี้ไม่เชื่ก็ต้องเชื่อจ่ะ


หัวข้อ: Re: มหากาพย์ ความรัก และ ชาติภพ
เริ่มหัวข้อโดย: SC (ก้าน 24) ที่ 18 มกราคม 2553, 20:59:56
วันก่อนผมเดินอยู่แถวตลาดยิ่งเจริญ เห็นมีแผงหนังสือเฉพาะกาลขายหนังสือลดราคา ก็ตามประสาเลยหยิบหนังสือเกี่ยวกับการพยากรณ์ขึ้นมาดู มีเล่มหนึ่งบอกว่า เกิดวันพุธ เวลา 09:01 - 10:30 น. : คนเกิดเวลานี้มักจะมีไฝหรือปานทางด้านซ้ายข้างในตัว เป็นคนดวงแรง มักจะไม่ได้อยู่กับพ่อแม่ ชะตามีเคราะห์ภัย มีความลำบากก่อนสบาย ตัวเองเป็นคนใจเด็ดเดี่ยวกล้าหาญ

อันนี้ก็จริงนะแต่ไม่บอกรายละเอียดว่าภัยนั้นเป็นอย่างไร เรื่องไฝนี้เคยเล่าไปแล้วตัดออกปุ๊บดีขึ้นทันควันแต่ดีได้แป๊บเดียว แต่ที่จะเล่าต่อจากนี้เป็นรายละเอียดที่เมื่อ 15 ปีล่วงมาแล้วก็ไม่ได้คิดว่ามันจะเป็นจริง


ให้คุณอนันต์ก็ให้โทษมหันต์

ท่านก็คงจะได้ยินตอนเป็นนักเรียน ครูสอนว่า สิ่งใดที่ให้คุณอนันต์สิ่งนั้นก็ให้โทษมหันต์  ไฟมีคุณอนันต์แต่ก็ให้โทษมหันต์ น้ำมีคุณอนันต์แต่ก็ให้โทษมหันต์...เรื่องนี้เป็นจริงไม่เพียงแต่ที่เคยได้เรียนได้ยินมา แม้กระทั่งดวงดาวในชะตาก็เป็นเช่นเดียวกัน

บุคคลใดในดวงชะตามีดาวจันทร์เป็นเกษตรราศีกรกฎ เสาร์เป็นเกษตรราศีมังกร ดาวคู่นี้เล็งกันถ้ามีสัมพันธภาพที่ดีกับลัคนา  ฝอยคำทำนายมีไว้ว่า จะส่งผลให้เจ้าชะตาเป็นราชาที่ดิน

ก็อย่างที่กล่าวไว้แล้วตั้งแต่ต้นว่า สิ่งใดให้คุณอนันต์ก็ย่อมให้โทษมหันต์ นั่นคือเมื่อดาวคู่นี้มีสัมพันธภาพที่ไม่ดีกับลัคนา จันทร์เป็นวินาศน์ เสาร์เป็นอริ ก็ส่งผลร้ายที่คาดไม่ถึง

เมื่อผมอายุย่างเข้าปีที่ 42 นับช่องราศีตกอริ ปีนั้นมีเดียวผมเจอ 3 เด้ง แรกเลย ไส้ติ่งแตก ต้องเข้าโรงพยาบาลผ่าตัด เดชะบุญที่ร้านเซเว่นฯอยู่ห่างจากที่พักมากและตอนนั้นก็เป็นเวลาตีหนึ่งครึ่งแล้ว วินมอเตอร์ไซต์หมด ถ้าผมได้ทานยาแก้ปวดท้องผมคงสิ้นชีพไปแล้ว ต่อจากนั้นอีกประมาณ 4-5 เดือน ผู้สนับสนุนผมและเป็นหุ้นส่วนใหญ่ของผมที่ทำธุรกิจด้านตลาดการเงินระหว่างประเทศได้เสียชีวิตลงในขณะที่อีก 3 วันก็จะได้จรดปากกาเซ็นสัญญาฯ ทำให้ธุรกิจพังพาบลงในพริบตา และสุดท้ายหลังจากหุ้นส่วนเสียชีวิต อีกเดือนครึ่งกว่าๆ ผมเป็นโรคริดสีดวงทวารถึงขั้นถ่ายเป็นเลือดไม่ใช่แค่เลือดหยด แต่พ่นออกมาเป็นฝอยเหมือนสเปรย์ที่ฉีดน้ำรีดผ้า ซึ่งทำให้ผมดื่มเหล้าไม่ได้จนบัดเดี๋ยวนี้

มาปีนี้อายุย่างเข้าปี่ที่ 48 ตกวินาศน์ ผมก็ป่วยด้วยโรคคางทูม ใช้เวลา 3 อาทิตย์จึงจะไม่มีอาการของโรค และอีก 2 อาทิตย์สำหรับการฟื้นฟูสภาพร่างกายให้เข้าสู่ภาวะปกติเหมือนกับตอนก่อนที่จะป่วย

สังเกตว่าโรคที่เป็นนั้นไม่ซ้ำกันเลย ผมต้องใช้เวลาถึงกว่า 15 ปีหลังจากที่ศึกษาโหราศาสตร์เมื่อปี 2535 ถึงได้ประจักษ์แจ้งในฝอยคำทำนายที่บูรพาจารย์ท่านได้ว่าไว้


 emo:(


หัวข้อ: Re: มหากาพย์ ความรัก ชาติภพ ภูต เทพ ฯลฯ
เริ่มหัวข้อโดย: SC (ก้าน 24) ที่ 19 มกราคม 2553, 20:22:50
ผมมานึกได้ว่าตอนเป็นโรคคางทูมนั้น มีสายโซ่ของเหตุการณ์ดังนี้

ผมมีอาการเจ็บหลังหูเอาตอนกลางคืนวันอาทิตย์ หรือ 01:30 น. ของเช้าวันจันทร์ที่ 2 พฤศจิกายน 2552
ก่อนหน้านั้นวันพฤหัสฯและศุกร์ ผมได้ไปที่โลตัส ประชาชื่น 2 วันซ้อน ผมอาจจะไปได้รับเชื้อมา
ที่ผมไปที่นั่นก็เพราะนัดผู้มุ่งหวังรายหนึ่ง วันแรกเขาผิดนัด จึงต้องไปถึง 2 วันติด
ผู้มุ่งหวังรายนี้เขาเป็นเจ้าของศูนย์จำหน่ายกาแฟลดน้ำหนักยี่ห้อหนึ่ง
ที่ผมนัดผู้มุ่งหวังรายนี้ ก็เพราะผมทำงานมีหน้าที่หาผู้เป็นศูนย์จำหน่ายเครื่องดื่มใยอาหาร
ถ้าผมไม่ได้ทำงานมีหน้าที่หาผู้เป็นศูนย์จำหน่ายเครื่องดื่มใยอาหาร ผมก็จะไม่นัดลูกค้ารายนี้
และผมก็คงไม่ต้องไปที่โลตัส ประชาชื่น แล้วผมก็คงไม่ได้รับเชื้อมา
แต่ถึงแม้ผมจะได้รับเชื้อมา ผมก็คงไม่เป็นโรคคางทูม ถ้าผมได้รับการปลูกฝีตอนเรียนชั้นประถมปีที่ 1

ที่ผมไม่ได้รับการปลูกฝีตอนเรียนชั้นประถมปีที่ 1 ก็เพราะผมเรียนไม่ครบเทอม
ที่ผมเรียนไม่ครบเทอม ก็เพราะผมไปสรวมแทนนักเรียนที่เข้าเรียนตามเกณฑ์ที่ป่วยและถอนตัวออกไป
ที่ผมไปสรวมแทนนักเรียนที่เข้าเรียนตามเกณฑ์ที่ป่วยและถอนตัวออกไปได้ ก็เพราะปัจจัย 3 ประการ
ปัจจัยประการแรก ผมมีลุงเป็นครูโรงเรียนประจำหมู่บ้าน
ปัจจัยประการที่สอง ในปี 2511 ลุงผมหมุนเวียนมาเป็นครูประจำชั้นประถมปีที่ 1
ปัจจัยประการที่สาม เด็กนักเรียนที่เรียนตามเกณฑ์ป่วยและถอนตัวออกไป

จะเห็นว่าหากปัจจัย 3 ประการที่กล่าวมาขาดไปปัจจัยใดปัจจัยหนึ่ง ผมก็คงได้เรียนตามเกณฑ์ปกติ และได้รับการปลูกฝี
และผมก็จะไม่เป็นโรคคางทูม

เมื่อครบปัจจัย 3 ประการจึงก่อให้เกิดสายโซ่ของเหตุปัจจัยหนึ่ง และอีก 41 ปีต่อมาจึงประสบกับอีกสายโซ่หนึ่งของเหตุปัจจัย
จึงทำให้ผมเป็นโรคคางทูม

ผลมีแค่หนึ่งเดียว แต่มีเหตุปัจจัยถึง 4 ประการ หากตัดสายโซ่ และเวลาออกไป  
แบบนี้เรียกชะตาลิขิตได้หรือไม่?


 emo47


หัวข้อ: Re: มหากาพย์ ความรัก ชาติภพ ภูต เทพ ฯลฯ
เริ่มหัวข้อโดย: khesorn mueller ที่ 21 มกราคม 2553, 16:29:48
พี่ก้าน,
สวัสดีคะ.
ยังไม่เคยเป็นคางทูมเลยคะ
ดวงหนิง โรคา กะ ไพรี ตกพินาศค่ะ
สบายไป!


nn.


หัวข้อ: Re: มหากาพย์ ความรัก ชาติภพ ภูต เทพ ฯลฯ
เริ่มหัวข้อโดย: Kaimook ที่ 21 มกราคม 2553, 19:24:18
 ก้านเธอเป็นหมอดูด้วยเหรอ emo4:)) emo4:)) emo4:))


หัวข้อ: Re: มหากาพย์ ความรัก ชาติภพ ภูต เทพ ฯลฯ
เริ่มหัวข้อโดย: SC (ก้าน 24) ที่ 21 มกราคม 2553, 21:28:12
อ้างถึง
ข้อความของ khesorn mueller เมื่อ 21 มกราคม 2553, 16:29:48
พี่ก้าน,
สวัสดีคะ.
ยังไม่เคยเป็นคางทูมเลยคะ
ดวงหนิง โรคา กะ ไพรี ตกพินาศค่ะ
สบายไป!


nn.

จริงป่าวจ๊ะ หนุงหนิง
เอาวันเดือนปีเกิด เวลาตกฟาก จังหวัดที่เกิดมาดูหน่อย
จะได้รู้ว่าหนิงพูดจริงป่าว?


 emo47


หัวข้อ: Re: มหากาพย์ ความรัก ชาติภพ ภูต เทพ ฯลฯ
เริ่มหัวข้อโดย: SC (ก้าน 24) ที่ 21 มกราคม 2553, 21:33:49
อ้างถึง
ข้อความของ Kaimook เมื่อ 21 มกราคม 2553, 19:24:18
ก้านเธอเป็นหมอดูด้วยเหรอ emo4:)) emo4:)) emo4:))


สวัสดีจ๊ะอ้อย
ก็ศึกษามาตั้งแต่ปี 2535 นะ ก็ดังที่เคยเล่าในนี้ว่า ที่ศึกษาเองดูเอง เพราะอยากรู้เรื่องเนื้อคู่
พอเวลาผ่านไปมีเหตุการณ์ต่างๆมากมายเกิดขึ้น ก็ครวจเช็คดวงดูมันก็จริง
เพียงแต่ตอนนั้นเราไม่เชื่อ และคิดในเชิงบวก
แต่สุดท้ายเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นก็มาจากปัจจัยที่เราควบคุมไม่ได้
ตอนนี้ทำอะไรก็ดูมีอุปสรรคไปหมด อาจจะต้องหันไปเอาดีทางที่เกี่ยวกับจ้าว



 emo48:)


หัวข้อ: Re: มหากาพย์ ความรัก ชาติภพ ภูต เทพ ฯลฯ
เริ่มหัวข้อโดย: khwan24 ที่ 21 มกราคม 2553, 21:36:24
อ้างถึง
ข้อความของ Kaimook เมื่อ 21 มกราคม 2553, 19:24:18
ก้านเธอเป็นหมอดูด้วยเหรอ emo4:)) emo4:)) emo4:))

หวัดดีจ้ะ ก้าน เป็นความรู้ใหม่นะที่ก้านเป็นหมอดูด้วย ความจำดีนะตั้งแต่เด็กๆมาโยงกับปัจจุบันได้
เราบางทีนึกสมัยเด็กๆเรานึกไม่ค่อยออก ยิ่งตอนนี้ไม่ไหวเลย ขายของลูกค้าบอกพอหันหลัง เอ เค้าจะเอาอะไร
ขี้ลืมจริงๆ เพื่อนๆเป็นกันบ้างเป่าเอ่ย


หัวข้อ: Re: มหากาพย์ ความรัก ชาติภพ ภูต เทพ ฯลฯ
เริ่มหัวข้อโดย: SC (ก้าน 24) ที่ 21 มกราคม 2553, 21:57:17
อ้างถึง
ข้อความของ khwan24 เมื่อ 21 มกราคม 2553, 21:36:24
อ้างถึง
ข้อความของ Kaimook เมื่อ 21 มกราคม 2553, 19:24:18
ก้านเธอเป็นหมอดูด้วยเหรอ emo4:)) emo4:)) emo4:))

หวัดดีจ้ะ ก้าน เป็นความรู้ใหม่นะที่ก้านเป็นหมอดูด้วย ความจำดีนะตั้งแต่เด็กๆมาโยงกับปัจจุบันได้
เราบางทีนึกสมัยเด็กๆเรานึกไม่ค่อยออก ยิ่งตอนนี้ไม่ไหวเลย ขายของลูกค้าบอกพอหันหลัง เอ เค้าจะเอาอะไร
ขี้ลืมจริงๆ เพื่อนๆเป็นกันบ้างเป่าเอ่ย

หวัดดีจ๊ะขวัญ
เรื่องของความจำนี่มันมีอยู่ 2 กรณีนะ
คือ บันทึกไม่ดี อันนี้จะจำอะไรไม่ได้เลย
กับ บันทึกดี แต่ รำลึก (Recall) ไม่ได้ในช่วงเวลาที่ต้องการ แล้วจู่ๆก็นึกขึ้นมาได้ ประมาณนี้


 emo48:)



หัวข้อ: Re: มหากาพย์ ความรัก ชาติภพ ภูต เทพ ฯลฯ
เริ่มหัวข้อโดย: SC (ก้าน 24) ที่ 23 มกราคม 2553, 02:23:13
แล้วคำทำนายก็เป็นจริง

เมื่อส่องกระจกดูแล้วเห็นเส้นผมตัวเองที่ขึ้นมาใหม่บริเวณหน้าผากที่เถิกสูงขึ้นไป ผมก็เกิดจำได้ว่า ผมเคยพูดกับตัวเองตอนที่ส่องกระจกแล้วเห็นหน้าผากเถิกสูงขึ้นไปเกิน 1 นิ้วเมื่อครั้งที่ยังเชื่อมั่นในตัวปุ๊กช่วงปี 2544 ว่า ถ้าเจอแล้วใช่คนที่ตามหา ผมจะกลับขึ้นมาใหม่

และตอนนี้ก็มีเส้นผมขึ้นมาใหม่จริงๆ าจะด้วยเหตุใด้ก้แล้วแต่ แต่ไม่ใช่ไปปลูกมาอย่างแน่นอน เพราะชีวิตผมนะมีแต่ปัญหา ไม่มีเงินไปทำแบบนั้นหรอก  นั่นก็แสดงว่า คนที่ผมเอ่ยถึงตอนต้นกระทู้นี้ใช่คนที่ผมตามหาจริงๆ แต่...

จบสิ้นไปแล้ว ไม่มีอะไรอีกต่อไป
ก็เสียใจเล็กน้อยที่ไม่จบด้วย Happy Ending
แต่สบายใจที่หมดพันธะ ไม่ต้องกลัวว่าตัวเองจะเป็นฝ่ายผิด...


 emo48:)


หัวข้อ: Re: มหากาพย์ ความรัก ชาติภพ ภูต เทพ ฯลฯ
เริ่มหัวข้อโดย: SC (ก้าน 24) ที่ 23 มกราคม 2553, 02:43:48
 
อ้างถึง   

มัดตราสังกักวิญญาณ

สมัยปี 2531 ช่วงนั้นผมมีแฟน ผมไม่ได้ทำงานประจำ พักอยู่ที่รำไพอพาร์เม้นท์ ซอยตรงข้ามซอยกิ่งเพชร ถนนเพชรบุรี ผมกับแฟนและน้องชายของแฟนกับแฟนเขารวม 2 คู่ ได้ตกลงเข้าหุ้นค้าขายที่สวนจตุจักร ช่วงบ่ายแก่ๆของวันก่อนหน้าที่จะเริ่มเปิดกิจการ ได้นำของไปฝากไว้ที่บ้านพักของแม่แฟน ที่กรมสารวัตรทหาร ถนนพญาไท ขณะที่ผมกับน้องชายแฟนช่วยกันหามของเดินเข้าซอย ผมก็นึกถึงคำพูดของแฟนที่เล่าให้ผมฟังว่า ที่ซอยเข้าบ้านพักแม่เขา มีคนถูกฆ่าตายที่นั่นคนหนึ่ง และนำศพมาทิ้งอีก 2 ศพ พอขนของไปฝากเสร็จต่างก็แยกย้ายกัน ผมกับแฟนก็ไปต่อแล้วก็แยกกัน

ผมกลับมาถึงห้องพัก ด้วยความคิดที่ว่า พรุ่งนี้ต้องไปขายของที่สวนจตุจักร หากทำกุญแจหล่นหายคงมีปัญหาแน่ เพราะประตูห้องพักเป็นประตูเหล็ก แต่เหนือประตูเป็นช่องมุ้งลวด จึงคิดว่าจะเอาลูกกุญแจไปแขวนไว้ที่เหนือประตู ถ้าหากลูกกุญแจหาย จะได้กระแทกมุ้งลวดไปเอาลูกกุญแจมาเปิดเข้าห้องได้ ผมก็เลยเอาลูกกุญแจโซโลดอกหนึ่ง ใส่ไว้ในกล่องใส่นามบัตรทองเหลือง ซึ่งมีฝาปิดเปิดได้ จากนั้นจึงใช้เชือกฟางมัด ถ้าใครเคยมัดกล่องกระดาษ ก็จะรู้ว่าตามธรรมดาด้านล่างกล่องเราจะไขว้เชือกไว้เฉยๆ ไม่ผูกเป็นปม แต่ถ้าทำแบบนั้นมันจะแน่นต้องแก้เชือกทั้งหมด ด้วยความขี้เกียจผมไม่ต้องการแก้ ผมจึงผูกเป็นปม แล้วมัดหลวมๆเพื่อที่จะได้ปลิ้นตลับนามบัตรออกมาได้โดยไม่ต้องแก้เชือกทั้งหมด เสร็จจากปมแรกพอโยงเชือกมาถึงด้านบนก็ผูกเป็นปมอีกปมหนึ่ง จากนั้นก็ผูกอีกปมตอนทำเป็นบ่วงสำหรับคล้องไว้เหนือประตู พอทำเสร็จผมก็ได้เอาไปแขวนไว้เหนือประตูตามที่ตั้งใจไว้

ครั้นถึงเวลาเกือบเที่ยงคืนเข้านอน นอนเท่าไหร่ก็นอนไม่หลับ หลับตาก็เห็นแต่ภาพซอยเข้าบ้านแม่แฟน ยิ่งดึกก็มีเสียงดังป็อบๆแป็บๆ ผมก็เลยหันหน้งสือที่วางบนหัวเตียงให้ด้านสันหนังสือออกด้านนอก เพราะที่ห้องใช้พัดลมเพดานก็เงียบไปสักพัก หลังจากนั้นก็มีเสียงดังอีก ผมก็พบว่าภาพโป๊สเตอร์ที่ปิดไว้มันหลุดตรงมุมเวลาพัดลมหันไปโดนมันก็เผยอตีกับผนังห้อง ด้วยความหงุดหงิดที่นอนไม่หลับ ผมเลยกระชากทิ้งเลย จากนั้นก็ไม่มีเสียงอีก แต่ผมก็ยังนอนไม่หลับ หลับตาก็เห็นภาพซอยเจ้ากรรมจนเวลาล่วงเข้าสู่ตี 2 ทีนี้พอผมพลิกตัว ก็ได้ยินเสียงเหมือนมีคนพลิกตัวตาม พอพลิกตัวกลับก็รู้สึกเหมือนว่าตัวผมทับแขนคนอยู่ ผมก็เลยดึงชุดนอนดูตำแหน่งที่รู้สึกว่าเหมือนทับแขนคนอยู่ เพื่อหาว่ามีปากกาหรือยางลบบ้างไหม ก็ปรากฏว่าไม่มีอะไรเลย เป็นอยู่อย่างนั้นหลายครั้ง พอเปืดไฟก็ไม่มีอะไร พอปิดไฟก็เป็นอีก จนถึงเวลาตี 3 ผมหงุดหงิดเต็มแก่จึงเปิดไฟแล้วนั่งต้มน้ำชงกาแฟดึ่ม พร้อมกับพูดว่า " มะ แน่จริงก็ออกมาให้เห็นเป็นตัวเลย  " แต่ก็ไม่มีอะไร ผมนั่งอยู่จนถึง 6 โมงเช้าโดยไม่ได้นอนเลย แล้วจึงออกไปเอาของที่บ้านแม่แฟนแล้วเดินทางไปสวนจตุจักรกัน

พอเสร็จจากการขายของวันแรก ผมก็แยกกับแฟนตั้งแต่ตอน 3 ทุ่ม บอก " เมื่อคืนไม่ได้นอนเลย ขอนอนเร็วนะวันนี้  " พอเข้าห้องได้ผมก็เตรียมตัวอาบน้ำ ขณะที่ยืนแปรงฟันอยู่รู้สึกเหมือนมีใครมาพิงข้างหลัง ก็เลยขยับตัวหันไปมองพร้อมนึกในใจ " เฮ้ย อะไรกันวะ  " แล้วความรู้สึกก็หายไป พอเข้าห้องอาบน้ำขณะที่กำลังสระผม รู้สึกเหมือนได้ยินเสียงแต่ไม่ใช่เสียงที่เราได้ยิน บอกว่า " ให้ไปแก้เชือกที่ทำไว้เมื่อวานเสีย นั่นมันเชือกตราสังนะ  " ผมก็นึกแย้งตอบว่า " ไม่จริงมั๊ง  " ก็ได้รับโต้ตอบกลับมาว่า " ไม่เชื่อก็ลองดูสิ " แล้วความรู้สึกก็หายไปจนผมอาบน้ำเสร็จ

หลังจากใส่ชุดนอนเรียบร้อย ผมก็ล้มตัวลงนอน ตาก็เหลือบไปเห็นกล่องทองเหลืองที่ผมทำไว้ตั้งแต่คืนวาน ก็จำได้ถึงเสียงโต้ตอบตอนที่กำลังสระผม คิดอยู่สักครู่ ผมก็พูดกับตัวเองในใจ " ลองดูก็ได้ว๊ะ ถ้าไม่มีอะไรผูกใหม่ก็ได้  " แล้วผมก็ค่อยๆแก้เชือกออกที่ละปม พอแก้เชือกปมสุดท้ายเสร็จ ก็รู้สึกว่ามีลมกรรโชกออกไปจากห้องวูบหนึ่ง รู้สึกได้เลยว่ามันโล่งๆ เหมือนพลังงานในห้องมันลดลงไปครึ่งหนึ่ง

พอล้มตัวลงนอนซักพัก ผมก็เกิดนึกอยากรู้ว่า เชือกตราสังเขามัดกันยังไง ผมก็เลยเปิดพจนานุกรมรุ่นที่มีศัพท์ตั้งแต่ยุคโบราณดู (ช่วงนั้นผมเปลี่ยนชื่อ เลยต้องมีพจนานุกรมดังกล่าวเพื่อหาศัพท์) ก็มีคำอธิบายว่า เชือกตราสังนั้นจะมัดเป็นปมทุกเปาะ ความเข้าใจของในขณะนั้นก็คือ ทุกจุดที่เชือกไขว้กันจะต้องผูกเป็นปมตลอด ซึ่งที่ผมทำก็เป็นอย่างนั้นจริงๆ ผมอยู่ที่นั่นมา 4 เดือนก่อนเกิดเหตุ และหลังจากนั้นก็อยู่ต่อมาอีก 6 เดือน ก็ไม่มีอะไรเกิดขึ้น จนกระทั่งผมย้ายออก

จนเวลาล่วงเลยมาถึงปี 2547 เมื่อผมได้รู้จักชินแสท่านหนึ่งเป็นคนไทยเชื้อสายจีน ท่านก็พูดเรื่องเชือกตราสังขึ้นมาโดยที่ผมไม่ได้ถามและไม่ได้เล่าอะไรให้ฟังว่า " เชือกตราสังเขาผูก 3 ปม ที่เท้า คอ และมือ  " ผมก็รับรู้ เพราะที่ผมทำมันก็ 3 ปมจริงๆ หลังจากนั้นผมจำปีพ.ศ.ไม่ได้ ผมได้ดูรายการทีวี กำลังแสดงสาธิตเรื่องการมัดตราสังข์ของสับปะเหร่อพอดี ผมก็เลยได้เห็นวิธีการมัดเชือกตราสังข์ ก็เป็นอย่างที่ชินแสพูดให้ฟัง แต่ผมก็จำไม่ได้อยู่ดีว่า จากข้อเท้าแล้วไปคอก่อน หรือ ข้อมือก่อน...เอวัง

ที่ผมนำมาเล่าอีกครั้งในที่นี้ก็เพราะว่า มีประเด็นคือ

ทำไมผมไม่ทำง่ายๆแค่เอาเชือกฟางร้อยลูกกุญแจ แล้วก็เอาไปแขวน มันง่ายกว่ากันตั้งเยอะ
ทำไมต้องไปคิดทำอะไรที่มันซับซ้อน แถมทำอยากกว่าอีกตั้งหลายเท่า

นอกจากว่านั่น เป็นเพราะผมต้องได้เรียนรู้ในสิ่งนั้น เพราะว่าผม....อาจจะ...(พักไว้ก่อนดีกว่า)


 emo47




หัวข้อ: Re: มหากาพย์ ความรัก ชาติภพ ภูต เทพ ฯลฯ
เริ่มหัวข้อโดย: khesorn mueller ที่ 29 มกราคม 2553, 18:16:49
อาจจะ....อะไรคะพี่ก้าน?
ต่อคะต่อ


หัวข้อ: Re: มหากาพย์ ความรัก ชาติภพ ภูต เทพ ฯลฯ
เริ่มหัวข้อโดย: SC (ก้าน 24) ที่ 30 มกราคม 2553, 21:34:21
อ้างถึง
ข้อความของ khesorn mueller เมื่อ 29 มกราคม 2553, 18:16:49
อาจจะ....อะไรคะพี่ก้าน?
ต่อคะต่อ


อนาคตอาจจะเป็นจอมขมังเวทย์มั๊ง
รับไม่ด้ายยยยย
บัณฑิตบริหารธุรกิจ
เด็กวิทย์สมัยม.ปลาย
สุดท้าย กลายเป็นจ้าวไสยศาสตร์


 emo19:((: emo19:((:


หัวข้อ: Re: มหากาพย์ ความรัก ชาติภพ ภูต เทพ ฯลฯ
เริ่มหัวข้อโดย: khesorn mueller ที่ 30 มกราคม 2553, 21:47:20
งั้นพี่ลงนะหน้าทองให้หนิงหน่อย!
แบบหลงละเมอนะคะ
เพ้อเล็กน้อยยิ่งดี.


พี่เป็นไงมั่งพี่ก้าน?


หัวข้อ: Re: มหากาพย์ ความรัก ชาติภพ ภูต เทพ ฯลฯ
เริ่มหัวข้อโดย: SC (ก้าน 24) ที่ 30 มกราคม 2553, 22:00:48
อ้างถึง
ข้อความของ khesorn mueller เมื่อ 30 มกราคม 2553, 21:47:20
งั้นพี่ลงนะหน้าทองให้หนิงหน่อย!
แบบหลงละเมอนะคะ
เพ้อเล็กน้อยยิ่งดี.


พี่เป็นไงมั่งพี่ก้าน?


สุขภาพแข็งแรง
เส้นผมใหม่กำลังเจริญเติบโต
การงานการเงินยังสะดุด
จนกว่าพระอาทิตย์จะย้ายจากราศีมังกรเข้าเขตราศีกุมภ์ กลางเดือนหน้า
เมื่อนั้นคอยดูกันอีกที
ว่างาน เงินจะเข้าป่ะ


 emo4:))


หัวข้อ: Re: มหากาพย์ ความรัก ชาติภพ ภูต เทพ ฯลฯ
เริ่มหัวข้อโดย: khesorn mueller ที่ 30 มกราคม 2553, 23:06:17
จักร์ราศีของฝาหรั่ง..
ตอนนี้เป็นราศีกุมภ์แล้วนี่พี่


หัวข้อ: Re: มหากาพย์ ความรัก ชาติภพ ภูต เทพ ฯลฯ
เริ่มหัวข้อโดย: SC (ก้าน 24) ที่ 31 มกราคม 2553, 19:29:33
อ้างถึง
ข้อความของ khesorn mueller เมื่อ 30 มกราคม 2553, 23:06:17
จักร์ราศีของฝาหรั่ง..
ตอนนี้เป็นราศีกุมภ์แล้วนี่พี่


นั่นมัน Horoscope ซึ่งจะต่างกับ Astrology หรือโหราศาสตร์ ซึ่งจะต้องหาลัคนาเวลาเกิด ฝรั่งเรียก ascendant : the point of the ecliptic or the sign and degree of the zodiac rising above the eastern horizon at the time of a birth or event: the cusp of the first house.

ซึ่งก็จะเหมือนกันกับไทยคืออาทิตย์จะเข้าราศีกุมภ์กลางเดือนก.พ.


 emo48:)


หัวข้อ: Re: มหากาพย์ ความรัก ชาติภพ ภูต เทพ ฯลฯ
เริ่มหัวข้อโดย: แจง-24 ที่ 31 มกราคม 2553, 19:45:53
 emo47 โอ้โฮ!...ก้านศึกษาโหราศาสตร์จริงจังขนาดนี้เชียวหรือ...


หัวข้อ: Re: มหากาพย์ ความรัก ชาติภพ ภูต เทพ ฯลฯ
เริ่มหัวข้อโดย: SC (ก้าน 24) ที่ 02 กุมภาพันธ์ 2553, 19:07:47
อ้างถึง
ข้อความของ แจง-24 เมื่อ 31 มกราคม 2553, 19:45:53
emo47 โอ้โฮ!...ก้านศึกษาโหราศาสตร์จริงจังขนาดนี้เชียวหรือ...

สวัสดีจ๊ะแจง
ก็ไม่ถึงขนาดนั้นหรอก เพียงแต่เราต้องรู้ในความเหมือนและความแตกต่าง ในจุดสำคัญก็เท่านั้นเอง ลึกๆในรายละเอียดไม่รู้หรอก ยังไม่มีเวลามากขนาดนั้น


 emo48:)


หัวข้อ: Re: มหากาพย์ ความรัก ชาติภพ ภูต เทพ ฯลฯ
เริ่มหัวข้อโดย: khesorn mueller ที่ 02 กุมภาพันธ์ 2553, 19:16:58
หนิง ascendant ราศีกันต์คะ
ถึงเข้าได้กะพวกมังกร และกระทิงพฤษภ์


หัวข้อ: Re: มหากาพย์ ความรัก ชาติภพ ภูต เทพ ฯลฯ
เริ่มหัวข้อโดย: Kaimook ที่ 02 กุมภาพันธ์ 2553, 22:36:00
พึ่งรู้นะนี่ว่าก้านเก่งโหราศาสตร์ด้วยว่างๆดูดวงให้มั่งดิ


หัวข้อ: Re: มหากาพย์ ความรัก ชาติภพ ภูต เทพ ฯลฯ
เริ่มหัวข้อโดย: dtoy ที่ 03 กุมภาพันธ์ 2553, 02:34:26
ดีใจที่เจอก้านเมื่อต้นเดือนที่แล้ว  สบายดีนะ


หัวข้อ: Re: มหากาพย์ ความรัก ชาติภพ ภูต เทพ ฯลฯ
เริ่มหัวข้อโดย: SC (ก้าน 24) ที่ 03 กุมภาพันธ์ 2553, 19:32:06
ดวงแรง
 
อ้างถึง   
เกิดวันพุธ เวลา 09:01 - 10:30 น.
คนเกิดเวลานี้มักจะมีไฝหรือปานทางด้านซ้ายข้างในตัว เป็นคนดวงแรง มักจะไม่ได้อยู่กับพ่อแม่ ชะตามีเคราะห์ภัย มีความลำบากก่อนสบาย ตัวเองเป็นคนใจเด็ดเดี่ยวกล้าหาญ

ตอนที่ผมยังเป็นวัยรุ่น เมื่อผมได้อ่านข้อความข้างต้น ผมรู้สึกภูมิใจที่เป็นคนดวงแรง เพราะผมไม่รู้ว่ามันเป็นยังไง ตอนนี้ผมเข้าใจแล้วว่า

ดวงแรง ไม่ใช่ ดวงดี แต่ดวงแรง คือ ดวงที่ไม่อาจฝืนได้  คิดจะเป็นคนเหนือดวง ก็ทำไม่สำเร็จ เพราะถ้าดวงดี ก็คงไม่มีใครคิดฝืนดวง จริงไหม?

คนเราส่วนใหญ่หากไม่ได้เกิดมาบนกองเงินกองทองแล้ว การดำเนินชีวิตต้องมีปฏิสัมพันธ์กับคนอื่นๆรอบข้าง โดยเฉพาะที่เกี่ยวกับการงานอาชีพ เราอาจจะควบคุมความคิด อารมณ์ พฤติกรรมการแสดงออก หรือการกระทำของเราได้ แต่เราควบคุมคนอื่นไม่ได้ อย่างดีที่สุดก็แค่โน้มน้าวจิตใจให้เห็นด้วยคล้อยตาม แต่มีอย่างหนึ่งที่เราไม่สามารถทำอะไรได้เลยคือ อุบัติการณ์ สิ่งที่เกิดขึ้น

ผมสามารถทำให้พี่หมอวัชรินทร์เห็นด้วยคล้อยตาม จนกระทั่งลงทุนให้การสนับสนุนผม แต่ผมไม่สามารถจัดการกับอุบัติการณ์ การเสียชีวิตของพี่หมอได้ จนในที่สุด ณ เวลานี้ผมก็ไม่ได้ทำในสิ่งที่ผมอยากทำ ไม่ได้เป็นในสิ่งที่ผมอยากเป็น

แม้ผมจะศึกษาโหราศาตร์มา แต่นั่นเป็นเพราะผมอยากจะรู้ในสิ่งที่ผมอยากจะรู้ แต่ผมคิดว่าในตอนนี้ ขณะที่ช่วงชีวิตอยู่ในวัยนี้ นักพยากรณ์อาจเป็นอาชีพที่ผมต้องทำ ไม่อยากเป็นหมอดูก็ต้องเป็น


 emo29:P:


หัวข้อ: Re: มหากาพย์ ความรัก ชาติภพ ภูต เทพ ฯลฯ
เริ่มหัวข้อโดย: SC (ก้าน 24) ที่ 03 กุมภาพันธ์ 2553, 20:26:44
 emo48:)


หัวข้อ: Re: มหากาพย์ ความรัก ชาติภพ ภูต เทพ ฯลฯ
เริ่มหัวข้อโดย: Kaimook ที่ 04 กุมภาพันธ์ 2553, 09:27:19
ก้านลงวันอาคาร ปีขาลหน่อยดิ emo4:)) emo4:)) emo4:))


หัวข้อ: Re: มหากาพย์ ความรัก ชาติภพ ภูต เทพ ฯลฯ
เริ่มหัวข้อโดย: SC (ก้าน 24) ที่ 04 กุมภาพันธ์ 2553, 19:54:01
อ้างถึง
ข้อความของ Kaimook เมื่อ 04 กุมภาพันธ์ 2553, 09:27:19
ก้านลงวันอาคาร ปีขาลหน่อยดิ emo4:)) emo4:)) emo4:))


ลงให้แล้วนะจ๊ะอ้อย
เชิญทัสนาได้เลย



 emo48:)


หัวข้อ: Re: มหากาพย์ ความรัก ชาติภพ ภูต เทพ ฯลฯ
เริ่มหัวข้อโดย: Kaimook ที่ 04 กุมภาพันธ์ 2553, 20:23:05
อ้างถึง
ข้อความของ SC (ก้าน 24) เมื่อ 04 กุมภาพันธ์ 2553, 19:54:01
อ้างถึง
ข้อความของ Kaimook เมื่อ 04 กุมภาพันธ์ 2553, 09:27:19
ก้านลงวันอาคาร ปีขาลหน่อยดิ emo4:)) emo4:)) emo4:))

ตรงไหนจ๊ะ หาไม่เจอเลยค่ะ


ลงให้แล้วนะจ๊ะอ้อย
เชิญทัสนาได้เลย



 emo48:)



หัวข้อ: Re: มหากาพย์ ความรัก ชาติภพ ภูต เทพ ฯลฯ
เริ่มหัวข้อโดย: khesorn mueller ที่ 04 กุมภาพันธ์ 2553, 20:27:03
พี่ก้านลงต่อคะ
จะดูวันศุกร์พี่


หัวข้อ: Re: มหากาพย์ ความรัก ชาติภพ ภูต เทพ ฯลฯ
เริ่มหัวข้อโดย: ตี้ถาปัด ที่ 05 กุมภาพันธ์ 2553, 10:43:28
เกิดกลางคืนของวันจันทร์ เวลาประมาณ 1.05 น. ต้องดูตรงไหนเหรอน้าก้าน
จะถือเป็นวันอังคารเวลา 1.05 น.ใช่ป่าว หรือเป็นวันจันทร์ งง เพราะถ้านับตามสากลก็ต้องเป็นวันอังคารสิ


หัวข้อ: Re: มหากาพย์ ความรัก ชาติภพ ภูต เทพ ฯลฯ
เริ่มหัวข้อโดย: Kaimook ที่ 05 กุมภาพันธ์ 2553, 19:51:55
ก้านไปดูหมอที่ไหนเอ๋ยยย emo4:)) emo4:)) emo4:))


หัวข้อ: Re: มหากาพย์ ความรัก ชาติภพ ภูต เทพ ฯลฯ
เริ่มหัวข้อโดย: SC (ก้าน 24) ที่ 05 กุมภาพันธ์ 2553, 19:55:46
อ้างถึง
ข้อความของ ตี้ถาปัด เมื่อ 05 กุมภาพันธ์ 2553, 10:43:28
เกิดกลางคืนของวันจันทร์ เวลาประมาณ 1.05 น. ต้องดูตรงไหนเหรอน้าก้าน
จะถือเป็นวันอังคารเวลา 1.05 น.ใช่ป่าว หรือเป็นวันจันทร์ งง เพราะถ้านับตามสากลก็ต้องเป็นวันอังคารสิ

สวัสดีตี้
หลักโหราศาสตร์จะเหมือนกันคือเริ่มนับวันตั้งพระอาทิตย์ขึ้นจนถึงพระอาทิตย์ขึ้นของอีกวัน เหมือนกันทั้งไทย และ สากล ถ้าเราใส่วันเดือนปีและเวลาเกิด โปรแกรมจะคำนวณให้โดยอัตโนมัติ แต่ถ้าทำด้วยมือ ต้องตัดวันลงหนึ่งวันสำหรับผู้ที่เกิดหลังเที่ยงคืน เช่น วันจันทร์ เวลา 00:02 น. ก็ให้ดูที่วันอาทิตย์ เวลา 24:01 น.


 emo48:)


หัวข้อ: Re: มหากาพย์ ความรัก ชาติภพ ภูต เทพ ฯลฯ
เริ่มหัวข้อโดย: SC (ก้าน 24) ที่ 05 กุมภาพันธ์ 2553, 19:59:36
อ้างถึง
ข้อความของ Kaimook เมื่อ 05 กุมภาพันธ์ 2553, 19:51:55
ก้านไปดูหมอที่ไหนเอ๋ยยย emo4:)) emo4:)) emo4:))


สวัสดีจ๊ะอ้อย
แรกๆคงดูทางเน็ต คือ ให้ส่งวันเดือนปีเกิดพร้อมค่าดู แล้วก็จะส่งคำทำนายให้ทางเมล์ ถ้าจะถามเพิ่มก็ให้โทรศัพท์ถาม หรือนัดสถานที่ฟังคำทำนายและซักถาม (สำหรับกทม.)






หัวข้อ: Re: มหากาพย์ ความรัก ชาติภพ ภูต เทพ ฯลฯ
เริ่มหัวข้อโดย: SC (ก้าน 24) ที่ 05 กุมภาพันธ์ 2553, 20:30:33


 emo48:)


หัวข้อ: Re: มหากาพย์ ความรัก ชาติภพ ภูต เทพ ฯลฯ
เริ่มหัวข้อโดย: khwan24 ที่ 06 กุมภาพันธ์ 2553, 23:54:39
หวัดดีจ้ะ ก้าน สบายดีนะคะแวะมาทักเพื่อนค่ะ


หัวข้อ: Re: มหากาพย์ ความรัก ชาติภพ ภูต เทพ ฯลฯ
เริ่มหัวข้อโดย: jum2524 ที่ 08 กุมภาพันธ์ 2553, 12:41:04
หวัดดีจ้ะก้าน  แวะมาทักทาย  สบายดีนะจ๊ะ... emo48:)


หัวข้อ: Re: มหากาพย์ ความรัก ชาติภพ ภูต เทพ ฯลฯ
เริ่มหัวข้อโดย: dtoy ที่ 08 กุมภาพันธ์ 2553, 12:56:17
ดีแฮะ ห้องสองสี่ของเราเก่งสามารถหลากหลายจริงๆ
อย่างก้านนี่ ยอดเยี่ยมเลยอ่ะ
ไปหัดดูหมอมาจากไหน?


หัวข้อ: Re: มหากาพย์ ความรัก ชาติภพ ภูต เทพ ฯลฯ
เริ่มหัวข้อโดย: SC (ก้าน 24) ที่ 08 กุมภาพันธ์ 2553, 13:41:53
พยากรณ์ยามตกฟาก

เป็นคำพยากรณ์ตามวันเกิดในช่วงเวลาต่างๆ ที่มีมาแต่โบราณ สำหรับผมพิสูจน์มาแล้วว่าตรง เพื่อนๆลองเช็คตัวเองดูว่าตรงไหม? จะเห็นว่ามีความแตกต่างกันมากมายอยู่

เกิดวันอาทิตย์

1. เวลา 06:01-07:30 น.
คนเกิดเวลานี้ตอนเด็กๆ มีการโยกย้ายเปลี่ยนแปลง โตขึ้นจะได้ดีมีเกียรติยศ แต่มีศัตรูบ้าง มักมีไฝหรือปานอยู่ในที่เด่น

2. เวลา 07:31-09:00 น.
คนเกิดเวลานี้ตอนเด็กๆ มีอุบัติเหตุเล็กน้อย ดวงชะตาชีวิตดี เป็นคนมีโชคลาภ มีพวกพ้องมิตรสหายมากมาย เป็นที่รักใคร่ของผู้คน

3. เวลา 09:01-10:30 น.
คนเกิดเวลานี้ สุขภาพไม่ค่อยแข็งแรงนัก จะเป็นคนดื้อเงียบ ชะตาจะพลิกผันเพราะความวู่วาม ต้องคบคนดีๆ ชีวิตจะได้ดีมีสุขไปด้วย

4. เวลา 10:31-12:00 น.
คนเกิดเวลานี้ไม่ได้โตมาในครอบครัวที่อบอุ่นนัก ตัวเองจะทุกข์ใจเพราะเรื่องพ่อแม่ ต้องพึ่งตัวเองจึงจะมีความสำเร็จรุ่งเรืองได้

5. เวลา 12:01-13:30 น.
คนเกิดเวลานี้ค่อนข้างเลี้ยงยาก ไม่ได้อยู่กับพ่อแม่พร้อมหน้า หรือไม่ได้ผูกพันกันนัก ครอบครัวมักมีเรื่องยุ่งยากวุ่นวาย ต้องเหนื่อยก่อนภายหลังจึงสบาย

6. เวลา 13:31-15:00 น.
คนเกิดเวลานี้ชะตาชีวิตดีมาก ถ้ามีไฝหรือปานที่ด้านขวาในตัวจะยิ่งวาสนาดี คนดวงนี้ฉลาดเฉลียว ใจกว้าง จะได้เป็นใหญ่เป็นโต

7. เวลา 15:01-16:30 น.
คนเกิดเวลานี้เมื่อตอนเด็กๆ จะป่วยง่าย มักขัดแย้งกับพี่น้อง ชอบก่อเรื่องสร้างปัญหาบ่อยๆ แต่ดวงดี จะมีเกียรติมีบารมีสูง ระวังบริวารจะหาเรื่องยุ่งๆมาให้

8. เวลา 16:31-18:00 น.
คนเกิดเวลานี้ตอนเด็กๆ ต้องโยกย้ายเปลี่ยนที่อยู่ โตขึ้นเป็นคนฉลาด มีความรู้ความสามารถสูง มีอำนาจวาสนาดี แต่ก็มีเรื่องเหนื่อยใจเป็นนิจ

9. เวลา 18:01-19:30 น.
คนเกิดเวลานี้ไม่ได้อยู่กับพ่อแม่อบอุ่นพร้อมหน้า โตขึ้นมาดวงชะตาดี จะมีลาภยศมีความรุ่งเรืองมาก เป็นคนฉลาด แต่มักขัดแย้งกับผู้อื่น

10. เวลา 19:31-21:00 น.
คนเกิดเวลานี้มักจะมีไฝโชคดีอยู่ในตัว ชะตาชีวิตดี จะมีความรุ่งโรจน์ ฐานะร่ำรวย มีพวกพ้องมาก เป็นคนรอบรู้กว้างขวาง

11. เวลา 21:01-22:30 น.
คนเกิดเวลานี้ตอนเด็กๆเลี้ยงยาก ครอบครัวมักมีแต่เรื่องยุ่งยากทุกข์ร้อน ต้องพึ่งพาตัวเอง เมื่อโตขึ้นจึงจะสุขสบายในที่สุด

12. เวลา 22:31-24:00 น.
คนเกิดเวลานี้ ตอนเด็กๆ จะมีอุบัติเหตุเล็กน้อย เป็นคนดวงดี มักมีโชคลาภ มีพวกพ้องมาก ฐานะมั่งมีศรีสุข มีไหวพริบดีเลิศ

13. เวลา 24:01-01:30 น.
คนเกิดเวลานี้มักขัดแย้งกับพ่อแม่พี่น้อง เป็นคนดวงแรง ถ้าเลือกทางดีจะมีเกียรติยศมาก ถ้าคบคนพาล ชีวิตจะมีแต่ปัญหามาก

14. เวลา 01:31-03:00 น.
คนเกิดเวลานี้มักไม่ได้โตมาในครอบครัวอบอุ่นพร้อมหน้า เป็นคนดื้อแต่เด็ดเดี่ยว ต้องเผชิญกับมรสุมไม่น้อยก่อนจะตั้งตัวได้

15. เวลา 03:01-04:30 น.
คนเกิดเวลานี้มักชอบคบคนพาล ต้องระวัง มิเช่นนั้นทั้งตัวเองและครอบครัวจะมีแต่เรื่องเดือดร้อน ถ้ามุ่งมั่นขยันขันแข็งและรู้จักปล่อยวางก็จะราบรื่นยิ่งขึ้นกว่าที่เป็นอยู่

16. เวลา 04:31-06:00 น.
คนเกิดเวลานี้มักต้องโยกย้ายจากถิ่นเกิด โตขึ้นชะตาชีวิตดี เป็นคนปัญญาดี มีฝีมือดี จะมีความสำเร็จมีลาภยศมาก แต่ก็มีศัตรูและต้องเหนื่อยใจเสมอ


เกิดวันจันทร์

1. เวลา 06:01-07:30 น.
คนเกิดเวลานี้ช่วงวัยเยาว์มักต้องโยกย้ายเปลี่ยนแปลง โตขึ้นจะสุขสบายมั่งมีศรีสุข เป็นคนมีความรู้มีบารมีมาก ตัวเองใจร้อน ทำคุณแก่คนไม่ขึ้นนัก

2. เวลา 07:31-09:00 น.
คนเกิดเวลานี้ตอนเด็กไม่สุขสบายนัก แต่โตขึ้นวาสนาดี มักมีตำหนิแผลเป็นหรือไฝเด่นที่ด้านซ้าย ภายหน้าจะมีชื่อเสียงมีความสำเร็จงดงาม ฐานะอยู่ดีกินดี

3. เวลา 09:01-10:30 น.
คนเกิดเวลานี้ชะตาชีวิตดีมาก ตัวเองเป็นคนบุคลิกลักษณะดี ตัวเองเป็นคนบุคลิกลักษณะดี จะมั่งคั่งร่ำรวย มีลาภยศมาก เป็นที่พึ่งของครอบครัวและของคนอื่น

4. เวลา 10:31-12:00 น.
คนเกิดเวลานี้ตอนเด็กๆอาภัพ มักถูกปองร้าย มักต้องโยกย้ายบ่อย โตขึ้นจึงจะสุขสบายได้ ดวงมีคนอุปถัมภ์ มีทรัพย์สมบัติ

5. เวลา 12:01-13:30 น.
คนเกิดเวลานี้มักเลี้ยงยาก ค่อนข้างดื้อไม่ยอมใคร แต่เก่งการพูดจา จิตใจกล้าหาญเด็ดเดี่ยว จะได้ดีด้วยตนเอง แต่ก็มักขัดแย้งกับผู้อื่น

6. เวลา 13:31-15:00 น.
คนเกิดเวลานี้ตอนเด็กๆจะป่วยหนักหรือมีคนในบ้านรับเคราะห์แทนตน เป็นคนดวงแรง อยู่กับพ่อแม่พี่น้องแล้วจะมีแต่เรื่อง ชะตาชีวิตทั่วไปดีเพราะเป็นคนมีฝีมือ มีปัญญาดี

7. เวลา 15:01-16:30 น.
คนเกิดเวลานี้ดวงชะตาดี จะมีฐานะสุขสบาย ดวงเป็นคนมีทรัพย์สมบัติ มีความสำเร็จในอาชีพการงาน แต่ไม่ได้ใกล้ชิดกับพ่อแม่

8. เวลา 16:31-18:00 น.
คนเกิดเวลานี้มักกำพร้าพ่อหรือแม่ โตขึ้นจะได้ดีมีสุข เป็นคนวาสนาดี ตัวเองก็มีความรู้ความสามารถ ฉลาดเฉลียว ฐานะมั่งมีอุดมสมบูรณ์ แต่ก็มีศัตรูด้วย

9. เวลา 18:01-19:30 น.
คนเกิดเวลานี้ต้องโยกย้ายบ่อย ช่วงวัยเยาว์ไม่สุขสบายนัก ถ้าย้ายไปอยู่ถิ่นอื่นจะมั่งมีศรีสุข มีคนรักใครนับถือมาก เป็นคนฉลาดรอบรู้ดี

10. เวลา 19:31-21:00 น.
คนเกิดเวลานี้ตอนเด็กๆจะป่วยง่ายหรือเคยป่วยหนัก โตขึ้นจะมีความสุขความเจริญดี ดวงชะตาแข็ง อยู่กับพ่อแม่พี่น้องไม่ค่อยได้

11. เวลา 21:01-22:30 น.
คนเกิดเวลานี้ช่วงวัยเยาว์ไม่สุขสบายนัก มักมีคนทำให้ลำบาก ชะตาชีวิตโยกย้ายพลิกผันบ่อย ต่อมาจึงจะมีความเป็นอยู่สมบูรณ์พูนสุข

12. เวลา 22:31-24:00 น.
คนเกิดเวลานี้ต้องลำบากก่อนในช่วงวัยเยาว์ ต้องเผชิญมรสุมหลายช่วง ภายหลังจึงได้ดีมีสุข มีฐานะมั่นคงมั่งคั่ง

13. เวลา 24:01-01:30 น.
คนเกิดเวลานี้มักต้องกำพร้าพ่อหรือแม่ หรือต้องพลัดพรากจากพี่น้อง แต่ชะตาชีวิตดี จะมีความสุขความรุ่งเรืองมาก ตัวเองก็เป็นคนปัญญาดี รอบรู้มาก

14. เวลา 01:31-03:00 น.
คนเกิดเวลานี้ตอนเด็กๆจะเลี้ยงยาก ค่อนข้างดื้อดึง แต่กล้าหาญ กล้าพูดกล้าทำ มักขัดแย้งกับคนอื่น

15. เวลา 03:01-04:30 น.
คนเกิดเวลานี้ชะตาชีวิตดีมาก จะมีฐานะอุดมสมบูรณ์ พรั่งพร้อมด้วยลาภยศ บารมี ผู้คนชื่นชมรักใคร่มาก

16. เวลา 04:31-06:00 น.
คนเกิดเวลานี้ตอนเด็กๆยังไม่สุขสบายนัก พอโตขึ้นจะสุขสบายดี ถ้าย้ายไปจากถิ่นเกิดจะถูกโฉลกกับดวง จะมีทรัพย์สินเงินทองและความสำเร็จดี แต่ตัวเองมักใจร้อนจนเกิดเรื่องยุ่งยากบ่อยๆ


เกิดวันอังคาร

1. เวลา 06:01-07:30 น.
คนเกิดเวลานี้เป็นคนชาญฉลาด แต่ขี้อาย โกรธง่ายหายเร็ว ดวงชะตาดี จะมั่งมีศรีสุข มีเกียรติมีบารมี ชอบดูแลเกื้อกูลผู้อื่น

2. เวลา 07:31-09:00 น.
คนเกิดเวลานี้เป็นคนมีบุญมีวาสนาสูง จะมีความเป็นอยู่สมบูรณ์พูนสุข มากด้วยบารมีลาภยศ ตัวเองก็เป็นคนมีความรู้มีฝีมือ

3. เวลา 09:01-10:30 น.
คนเกิดเวลานี้ชะตาชีวิตดี จะมีความสำเร็จในการงาน ฐานะมั่งคั่งร่ำรวย มียศมีบริวาร ฝีปากกล้า ปัญญาดี ใจดี มักมีปัญหากับพ่อ

4. เวลา 10:31-12:00 น.
คนเกิดเวลานี้ตอนเด็กๆไม่สุขสบายนัก มักต้องโยกย้าย ในครอบครัวมักมีเรื่องราว ภายหน้าจึงมั่งมีศรีสุข

5. เวลา 12:01-13:30 น.
คนเกิดเวลานี้ค่อนข้างดื้อ ชอบเที่ยวเล่นหาความสำราญ เจ้าชู้ทะนงตนมัทำให้พ่อแม่ทุกข์ใจเสมอ

6. เวลา 13:31-15:00 น.
คนเกิดเวลานี้ดวงชะตาไม่ดีนัก มักจะทำตามแต่ใจตนเอง ชอบผลาญทรัพย์สินของครอบครัว ไม่ค่อยเชื่อฟังพ่อแม่

7. เวลา 15:01-16:30 น.
คนเกิดเวลานี้จะกำพร้าพ่อหรือแม่ โตขึ้นชะตาชีวิตดี จะก้าวหน้าในการงาน มีเกียรติมียศ แต่เป็นคนดื้อดึงไม่ยอมใคร

8. เวลา 16:31-18:00 น.
คนเกิดเวลานี้ชะตาชีวิตดีมาก จะมีความสมบูรณ์พูนสุข ได้ดีกว่าพี่น้อง มักจะไม่ได้อยู่กับพ่อ

9. เวลา 18:01-19:30 น.
คนเกิดเวลานี้มักจะมิได้ผูกพันกับพ่อหรือญาติฝ่ายพ่อนัก ดวงชะตาทั่วไปดี จะมีเกียรติยศเป็นที่พึ่งของครอบครัว ตัวเองเป็นคนขี้อายแต่มีสติปัญญาดีมาก

10. เวลา 19:31-21:00 น.
คนเกิดเวลานี้ชะตาชีวิตดีมาก จะมีความสุขสบาย การงานมีความสำเร็จ จะมีทรัพย์สินลาภยศและมีบริวารมาก

11. เวลา 21:01-22:30 น.
คนเกิดเวลานี้มักมีตำหนิทางด้านซ้ายของตัว เป็นคนดวงแรง อยู่กับพ่อแม่พี่น้องแล้วมักขัดแย้งกันเองหรือมีแต่เรื่องร้อน แต่ดวงชะตาของตนเองดี จะมีความสุขความเจริญ เมื่อบั้นปลายให้ระวังศัตรูคิดร้าย

12. เวลา 22:31-24:00 น.
คนเกิดเวลานี้มีบุญวาสนามาก ชีวิตไม่ลำบาก จะมั่งมีทั้งเงินทองและยศศักดิ์ ตัวเองก็เป็นคนที่มีความรู้ความสามารถดีมาก

13. เวลา 24:01-01:30 น.
คนเกิดเวลานี้มักไม่ได้เติบโตอยู่กับพ่อแม่พร้อมหน้าพร้อมตา แต่ชะตาดี เป็นคนรูปงาม มักมีโชคมีลาภ อยู่ดีกินดี เป็นคนมีฝีมือ จะมีโชคจากต่างถิ่นต่างแดนเสมอ

14. เวลา 01:31-03:00 น.
คนเกิดเวลานี้มักไม่ได้อยู่กับพ่อแม่พร้อมหน้าพร้อมตา เมื่อตอนเด็กๆไม่สุขสบายนัก โตขึ้นแล้วจึงจะอยู่ดีมีความสุขความเจริญ

15. เวลา 03:01-04:30 น.
คนเกิดเวลานี้เมื่อวัยเยาว์อาภัพ มักมีทุกข์หรือต้องจากพ่อแม่ เป็นคนเด็ดเดี่ยวใจกล้า มีไฝข้างซ้ายของตัว

16. เวลา 04:31-06:00 น.
คนเกิดเวลานี้ตอนเด็กๆไม่สุขสบายนัก พ่อแม่ต้องเหนื่อยยากพอสมควร แต่ดวงชะตาดี จะมีเกียรติมียศ เป็นที่เคารพนับถือของผู้คนทัวไป


เกิดวันพุธ

1. เวลา 06:01-07:30 น.
คนเกิดเวลานี้ชะตาชีวิตดี เป็นคนมีบุญวาสนา ตัวเองก็เป็นคนปัญญาดี มีฝีมือ ผู้คนทั่วไปมักชื่นชมนับถือเป็นอันมาก

2. เวลา 07:31-09:00 น.
คนเกิดเวลานี้ชะตาชีวิตดี เป็นคนมีความรู้ความสามารถมาก จะมีฐานะมั่งคั่งร่ำรวย พรั่งพร้อมด้วยลาภยศ เงินทองและบริวาร

3. เวลา 09:01-10:30 น.
คนเกิดเวลานี้มักจะมีไฝหรือปานทางด้านซ้ายข้างในตัว เป็นคนดวงแรง มักจะไม่ได้อยู่กับพ่อแม่ ชะตามีเคราะห์ภัย มีความลำบากก่อนสบาย ตัวเองเป็นคนใจเด็ดเดี่ยวกล้าหาญ

4. เวลา 10:31-12:00 น.
คนเกิดเวลานี้เป็นคนดวงแรง ถ้าอยู่กับพ่อแม่จะมีเรื่องร้อน ถ้าอยู่ไกลพ่อแม่จะรุ่งเรืองได้ จะมีความสุขสบายกว่าตอนเด็กๆ

5. เวลา 12:01-13:30 น.
คนเกิดเวลานี้ตอนวัยเยาว์ไม่สุขสบายนักใจ จะไม่ได้อยู่กับพ่อแม่อบอุ่นพร้อมหน้า โตมาจึงจะได้ดีมีสุข ตัวเองเป็นคนมีความมุ่งมั่นสูง

6. เวลา 13:31-15:00 น.
คนเกิดเวลานี้มีบุญวาสนาสูง จะมีความเป็นอยู่สมบูรณ์พูนสุข พรั่งพร้อมด้วยเงินทอง ทรัพย์สิน ลาภยศ บริวาร ตัวเองก็เป็นคนมีความรู้ความสามารถมาก

7. เวลา 15:01-16:30 น.
คนเกิดเวลานี้ดวงชะตาดี มักจะมีโชคมีลาภ มีคนรักใคร่เอ็นดูทั่วไป เรื่องเกี่ยวกับต่างถิ่นต่างเมืองจะนำโชคมาให้ ตัวเองเป็นคนมีเสน่ห์ มีฝีมือดี

8. เวลา 16:31-18:00 น.
คนเกิดเวลานี้ตอนเด็กๆ ไม่สุขสบายนัก แต่เมื่อเติบใหญ่แล้วจะได้ดีมีสุข จะเป็นที่ชื่นชมนับถือของผู้คนทั่วไป

9. เวลา 18:01-19:30 น.
คนเกิดเวลานี้มีความรอบรู้ มีฝีมือดี เป็นคนมีคุณธรรมประจำไจ มักจะเป็นที่ชื่นชมนับถือของคนรอบข้าง

10. เวลา 19:31-21:00 น.
คนเกิดเวลานี้เป็นคนที่ดื้อดึง เลี้ยงยาก ชอบเที่ยวชอบเล่น ดวงแรง อยู่กับพ่อแม่แล้วมักมีแต่เรื่องยุ่งยากวุ่นวาย

11. เวลา 21:01-22:30 น.
คนเกิดเวลานี้ตอนเด็กๆ ไม่สุขสบายนัก มักทำให้พ่อแม่เหนื่อยใจ ถ้าย้ายจากบ้านเกิดก็จะมีความเจริญรุ่งเรืองได้

12. เวลา 22:31-24:00 น.
คนเกิดเวลานี้มีเป็นคนมีความรู้มีความสามารถมาก ดวงชะตาดีกว่าพี่น้อง จะมั่งมีศรีสุข มีเงินทองมียศศักดิ์บริบูรณ์

13. เวลา 24:01-01:30 น.
คนเกิดเวลานี้มักกำพร้า เป็นคนดื้อดึง จิตใจเด็ดเดี่ยวหาญกล้า ชอบเที่ยวชอบหาความสำราญ ภายหน้าจะได้ดีมีความรุ่งเรือง

14. เวลา 01:31-03:00 น.
คนเกิดเวลานี้ดวงค่อนข้างแรง มักก่อเรื่องร้อนๆให้พ่อแม่ เป็นคนชอบเที่ยวชอบเล่น ต้องคบคนดีๆ จึงจะได้ดีไปด้วย

15. เวลา 03:01-04:30 น.
คนเกิดเวลานี้มักจะไม่ค่อยลำบากนัก ชีวิตพรั่งพร้อมด้วยเงินทอง เกียรติยศ เป็นคนใจดี มีความรอบรู้ ฝีปากกล้า มีอำนาจบารมี แต่มักทุกข์เศร้าในใจ ความสัมพันธ์กับพ่อไม่ค่อยราบรื่นนัก

16. เวลา 04:31-06:00 น.
คนเกิดเวลานี้ชะตาชีวิตสดใสดี จะมีความเป็นอยู่สุขสบายอุดมสมบูรณ์ ตัวเองเป็นคนใจดี-ใจกล้า


เกิดวันพฤหัสบดี

1. เวลา 06:01-07:30 น.
คนเกิดเวลานี้มีบุญวาสนาดีมาก จะเติบโตมาในครอบครัวที่ดี จะได้เป็นใหญ่เป็นโต มีทรัพย์สินลาภยศอย่างบริบูรณ์ ตัวเองเป็นคนมีความรู้ดี มักมีไฝหรือปานทางด้านขวาในตัว

2. เวลา 07:31-09:00 น.
คนเกิดเวลานี้ดวงชะตาชีวิตดี จะเป็นที่ชื่นชมนับถือของผู้คนทั่วไป ฐานะความเป็นอยู่มั่งมีศรีสุข สร้างชื่อเสียงความดีแก่ตระกูลของตน

3. เวลา 09:01-10:30 น.
คนเกิดเวลานี้ชะตาชีวิตสดใส เป็นคนมีปัญญามีฝีมือดี ฐานะมั่งคั่งร่ำรวย มีอำนาจบารมีพรั่งพร้อมด้วยลาภยศ

4. เวลา 10:31-12:00 น.
คนเกิดเวลานี้มักมีเสน่ห์ รูปงาม ต้องจากถิ่นเกิดหรือจากพ่อแม่ไปก่อนจะได้กลับมาอยู่ด้วยกัน ดวงชะตาดี มักมีโชคมีลาภ และแคล้วคลาดจากศัตรูและจากภัยต่างๆ

5. เวลา 12:01-13:30 น.
คนเกิดเวลานี้มักต้องย้ายจากถิ่นเกิดจึงจะได้ดีมีสุข เป็นคนจิตใจมุ่งมั่น ดื้อดึง ต้องระวังอย่าเห็นผิดเป็นชอบ อย่าทำอะไรผิดทำนองคลองธรรม

6. เวลา 13:31-15:00 น.
คนเกิดเวลานี้มักมีเรื่องเปลี่ยนแปลงโยกย้าย ถ้ามีความมุ่งมั่นมากขึ้นจึงจะก้าวไกลได้ เพราะตัวเองเป็นคนท้อง่าย ใจคอไม่มั่นคง

7. เวลา 15:01-16:30 น.
คนเกิดเวลานี้มักจะมีจิตใจองอาจหาญกล้า มีสติปัญญาดี รอบรู้มาก มักขัดแย้งกับผู้คนเพราะใจร้อน ภายหน้าจะได้ดีมียศศักดิ์ เป็นคนมีบารมี

8. เวลา 16:31-18:00 น.
คนเกิดเวลานี้วาสนาดีมาก ความเป็นอยู่สมบูรณ์พูนสุข พรั่งพร้อมด้วยเงินทอง ลาภยศและบริวาร มีบารมีสูง ตัวเองเป็นคนมีวิชาความรู้ กล้าคิดกล้าทำ

9. เวลา 18:01-19:30 น.
คนเกิดเวลานี้มักจะมีไฝหรือปานอยู่ทางด้านขวาในตัว เป็นคนวาสนาดี จะมั่งคั่งร่ำรวย มีเกียรติยศชื่อเสียง เป็นคนรูปงาม มีวงศ์ตระกูลดี

10. เวลา 19:31-21:00 น.
คนเกิดเวลานี้ตอนเด็กๆไม่สุขสบายนัก ต้องโยกย้ายเปลี่ยนแปลงไปมา ค่อนข้างดื้อ มักตามใจตัวเองเกินไป

11. เวลา 21:01-22:30 น.
คนเกิดเวลานี้มักต้องไปอยู่ถิ่นอื่นก่อนจึงจะได้ดีความสุขความเจริญ ดวงมีศัตรูแต่ไม่มีใครทำร้ายได้

12. เวลา 22:31-24:00 น.
คนเกิดเวลานี้ชะตาชีวิตสุขสบาย จะได้ดีกว่าพี่น้อง ความเป็นอยู่มั่งมีศรีสุข มีคนนับถือเป็นอันมาก มีทรัพย์มาก

13. เวลา 24:01-01:30 น.
คนเกิดเวลานี้เป็นคนฉลาดปราดเปรื่อง ใจหาญกล้า มีบารมีมาก ตอนเด็กๆลำบาก โตขึ้นจึงจะสุขสบาย และมีความสำเร็จรุ่งเรืองดี

14. เวลา 01:31-03:00 น.
คนเกิดเวลานี้มักต้องย้ายจากบ้านเกิด เป็นคนดื้อดึงทะนงตน จิตใจเด็ดเดี่ยวกล้าหาญ มักต้องทำผิดพลาดก่อนจึงยอมปรับเปลี่ยนตนเองเป็น

15. เวลา 03:01-04:30 น.
คนเกิดเวลานี้เป็นคนมีมีปัญญา ฝีมือดี ดวงชะตามีบุญวาสนาสูงมาก พรั่งพร้อมทั้งเงินทองยศศักดิ์ มีคนยำเกรงมาก

16. เวลา 04:31-06:00 น.
คนเกิดเวลานี้ดวงดี มีบุญบารมีสูง ฐานะความเป็นอยู่สมบูรณ์พูนสุข ตัวเองเป็นคนมีความรู้ความสามารถ มีผู้คนเคารพรักทั่วไป


เกิดวันศุกร์

1. เวลา 06:01-07:30 น.
คนเกิดเวลานี้เป็นคนมีบุญวาสนาดีมาก จะมีความเป็นอยู่สมบูรณ์พูนสุข มีทั้งเงินทองยศศักดิ์ มีคนนับถือยำเกรงมาก

2. เวลา 07:31-09:00 น.
คนเกิดเวลานี้ชะตาชีวิตดี มักมีโชคมีลาภ จะมีความมั่งคั่งร่ำรวย มีทรัพย์สินบริวาร มีเกียรติมียศ อยู่สุขสบายไม่ค้องลำบาก

3. เวลา 09:01-10:30 น.
คนเกิดเวลานี้ตอนเด็กๆไม่สุขสบายนัก พ่อแม่มักมีความทุกข์ ดวงมีผู้ใหญ่อุปถัมภ์ ภายหน้าจะมั่งมีศรีสุข มีคนสนับสนุนด้วยดีเสมอ

4. เวลา 10:31-12:00 น.
คนเกิดเวลานี้มักต้องลำบากในช่วงวัยเยาว์ ต้องโยกย้ายเปลี่ยนแปลง ครอบครัวมีเรื่องทุกข์ร้อน เมื่อเติบใหญ่จึงจะได้ดีมีสุข

5. เวลา 12:01-13:30 น.
คนเกิดเวลานี้ตอนเด็กๆจะเจ็บป่วยหรือทุกข์ยาก ดวงมีคนอุปถัมภ์ เติบใหญ่แล้วชะตาดี จะมั่งคั่งร่ำรวย มีเกียรติมียศมาก

6. เวลา 13:31-15:00 น.
คนเกิดเวลานี้ต้องจากถิ่นเกิดไปจึงจะได้ดี จะมีความสำเร็จรุ่งเรืองได้ด้วยความรู้ความสามารถของตน แต่มักทำคุณคนไม่ขึ้น

7. เวลา 15:01-16:30 น.
คนเกิดเวลานี้มักมีโชคมีลาภ ไม่ลำบาก ภายหน้าจะได้เป็นที่พึ่งพาของพ่อแม่ ดวงชะตาดี มีความสุขความเจริญ

8. เวลา 16:31-18:00 น.
คนเกิดเวลานี้ดวงชะตาดี จะมั่งมีศรีสุข มีทรัพย์สินเงินทองมาก ตอนเด็กๆจะมีอุบัติเหตุเล็กน้อย

9. เวลา 18:01-19:30 น.
คนเกิดเวลานี้เป็นคนรูปงาม มีเสน่ห์ จะได้ดีกว่าพี่น้อง ความเป็นอยู่สุขสบายไม่ลำบาก วาสนาดีมาก

10. เวลา 19:31-21:00 น.
คนเกิดเวลานี้ตอนเด็กๆต้องโยกย้ายจากถิ่นเกิดก่อน ภายหลังจึงกลับถิ่นตน ดวงชะตาจัดว่าดี มีความสุขความเจริญตามลำดับ แต่ก็มีความอาภัพในบางเรื่อง

11. เวลา 21:01-22:30 น.
คนเกิดเวลานี้ตอนเด็กๆลำบากพอสมควร มีเกณฑ์เปลี่ยนแปลงโยกย้าย พ่อแม่เหนื่อยยาก เมื่อเติบใหญ่ดวงชะตาดี จะมั่งมีศรีสุข

12. เวลา 22:31-24:00 น.
คนเกิดเวลานี้ชะตาชีวิตดี มักจะมีโชคมีลาภ ดวงเป็นคนมีทรัพย์ ฐานะความเป็นอยู่ดี

13. เวลา 24:01-01:30 น.
คนเกิดเวลานี้มักจะมีโชคมีลาภ ดวงมีคนอุปถัมภ์ค้ำจุน ภายหน้าจะได้เป็นที่พึ่งของพ่อแม่ จะมีความเป็นอยู่ที่ดี

14. เวลา 01:31-03:00 น.
คนเกิดเวลานี้ตอนเด็กๆจะเจ็บป่วยบ่อย ไม่ค่อยสุขสบายนัก โตขึ้นจะได้ดีมีสุข ฐานะมั่งมี หน้าที่การงานดีมาก

15. เวลา 03:01-04:30 น.
คนเกิดเวลานี้ตอนเด็กๆไม่สุขสบายนัก ชะตาพลิกผัน เปลี่ยนแปลงโยกย้าย พ่อแม่เป็นทุกข์ ภายหน้าจึงจะได้ดีมีความสุขความเจริญ ดวงมีคนอุปถัมภ์ส่งเสริม

16. เวลา 04:31-06:00 น.
คนเกิดเวลานี้ตอนเด็กๆจะมีอุบัติเหตุเล็กน้อย แต่ชะตาชีวิตดี จะมั่งคั่งร่ำรวย พรั่งพร้อมด้วยลาภยศและบริวาร


เกิดวันเสาร์

1. เวลา 06:01-07:30 น.
คนเกิดเวลานี้ดวงแรง ตอนเด็กๆจะไม่สุขสบายนัก ในครอบครัวมักมีเรื่องวุ่นวาย เป็นคนดื้อเงียบ แต่ไม่วู่วาม ต้องระวังอย่าเห็นผิดเป็นชอบ

2. เวลา 07:31-09:00 น.
คนเกิดเวลานี้มีจิตใจเด็ดเดี่ยวกล้าหาญ ขยันขันแข็ง แต่มักชอบทางอบายมุข หยิ่งทะนง ไม่ค่อยเชื่อฟังใคร

3. เวลา 09:01-10:30 น.
คนเกิดเวลานี้มักไม่ได้อยู่กับพ่อแม่อบอุ่นพร้อมหน้า ไม่ค่อยชอบยุ่งเกี่ยวกับพี่น้อง เป็นคนเด็ดเดี่ยว ได้ดีมีสุขด้วยตนเองในที่สุด

4. เวลา 10:31-12:00 น.
คนเกิดเวลานี้จะมีอายุมั่นขวัญยืน แต่ไม่ค่อยได้อยู่กับครอบครัว เป็นคนดวงดี มีทรัพย์สินเงินทอง

5. เวลา 12:01-13:30 น.
คนเกิดเวลานี้ตอนเด็กๆมักลำบากก่อน เมื่อโตขึ้นจะสุขสบาย มีบารมี

6. เวลา 13:31-15:00 น.
คนเกิดเวลานี้ตอนเด็กๆไม่สุขสบายนัก ครอบครัวมักมีเรื่องวุ่นวาย เป็นคนบุคลิกดี

7. เวลา 15:01-16:30 น.
คนเกิดเวลานี้ตอนเด็กๆไม่สุขสบายนัก เมื่อเติบโตก็ยังคงผจญกับความพลิกผันเปลี่ยนแปลงของชะตาชีวิตหลายครั้ง มีทั้งสุขและทุกข์สลับกันไป แต่ตัวเองเป็นคนสมองดี มีฝีมือ ถ้าไม่ใจร้อนและไม่คบคนพาล ก็จะสร้างความมั่งมีศรีสุขให้กับตัวเองได้อย่างน่าภาคภูมิใจแน่นอน

8. เวลา 16:31-18:00 น.
คนเกิดเวลานี้จิตใจหาญกล้า มักดื้อกับพ่อแม่หรือป่วยบ่อย ช่วงวัยรุ่นชะตาวุ่นวาย เมื่อเข้าสู่วัยผู้ใหญ่แล้วจะอยู่ดีมีสุข และมีความสำเร็จอย่างงดงามด้วย เพราะเป็นคนสติปัญญาดีและมีความแกร่งอยู่ในตัวเอง

9. เวลา 18:01-19:30 น.
คนเกิดเวลานี้ตอนเด็กๆเลี้ยงยาก ดวงแรง ในครอบครัวมักจะมีเรื่องทุกข์ร้อน เป็นคนดื้อดึง แต่ใจกล้า ต้องระวังอย่าเห็นผิดเป็นชอบ

10. เวลา 19:31-21:00 น.
คนเกิดเวลานี้ตอนตอนเด็กๆไม่สุขสบายนัก มักจะทำให้พ่อแม่เหนื่อยใจ เมื่อเติบใหญ่จึงจะได้ดีมีสุข ไม่ค่อยได้อยู่อบอุ่นพร้อมหน้า

11. เวลา 21:01-22:30 น.
คนเกิดเวลานี้มักไม่ค่อยได้อยู่กันพร้อมหน้ากับพ่อแม่พี่น้อง ตอนเด็กๆวุ่นวายบ้าง เมื่อโตขึ้นจึงดวงดี อายุมั่นขวัญยืน

12. เวลา 22:31-24:00 น.
คนเกิดเวลานี้เป็นคนดื้อดึง ไม่ค่อยเชื่อฟังพ่อแม่ จิตใจกล้าหาญ ต้องระวังอย่าคบคนพาล อย่าฝักใฝ่อบายมุขนัก

13. เวลา 24:01-01:30 น.
คนเกิดเวลานี้ชะตาชีวิตพลิกผันตอนเด็กๆ ต้องโยกย้ายเปลี่ยนแปลง ไม่สุขสบายนัก มักเจ็บป่วยหรือมีเคราะห์ภัย ภายหน้าจึงจะอยู่ดีมีความสุข

14. เวลา 01:31-03:00 น.
คนเกิดเวลานี้มักจะไม่ได้อยู่กับครอบครัว หรือมักขัดแย้งกับพี่น้อง พึ่งพ่อแม่ไม่ได้ ต้องพึ่งตัวเองจึงจะได้ดีมีสุข แต่ต้องลดความทิฐิหัวแข็งลงบ้าง

15. เวลา 03:01-04:30 น.
คนเกิดเวลานี้เป็นคนมีเสน่ห์ รูปงาม มีคนรักใคร่ชื่นชมมาก แต่มักไม่ได้อยู่ใกล้ชิดกับพ่อแม่หรือพี่น้อง

16. เวลา 04:31-06:00 น.
คนเกิดเวลานี้ดวงแรง อยู่กับพ่อแม่แล้วจะมีแต่เรื่องร้อนๆ ตอนเด็กๆจะเจ็บหนักหรือมีเคราะห์ครั้งหนึ่ง โตแล้วดวงจะดี มีเงินมีทองมาก ถ้าไม่ดื้อมากชีวิตจะยิ่งดีกว่าที่เป็น



คิดว่าในสมัยโบราณ นี่คือไกด์ในการเลี้ยงลูก เมื่อรู้ว่าชะตาชีวิตของลูกๆจะเป็นไปในแนวใด จะได้เตรียมการณ์ หรืออย่างน้อยก็เตรียมใจไว้ แต่ไม่แน่ใจว่าในสังคมสมัยใหม่จะใช้ได้แค่ไหน? เพื่อนๆคนใดตรงตามนี้บ้าง?

 emo48:)


หัวข้อ: Re: มหากาพย์ ความรัก ชาติภพ ภูต เทพ ฯลฯ
เริ่มหัวข้อโดย: SC (ก้าน 24) ที่ 08 กุมภาพันธ์ 2553, 14:49:23
อ้างถึง
ข้อความของ khwan24 เมื่อ 06 กุมภาพันธ์ 2553, 23:54:39
หวัดดีจ้ะ ก้าน สบายดีนะคะแวะมาทักเพื่อนค่ะ

สวัสดีจ๊ะขวัญ
สบายดีนะ ขอบคุณที่มาเยี่ยม


 emo48:)



หัวข้อ: Re: มหากาพย์ ความรัก ชาติภพ ภูต เทพ ฯลฯ
เริ่มหัวข้อโดย: SC (ก้าน 24) ที่ 08 กุมภาพันธ์ 2553, 14:50:41
อ้างถึง
ข้อความของ jum2524 เมื่อ 08 กุมภาพันธ์ 2553, 12:41:04
หวัดดีจ้ะก้าน  แวะมาทักทาย  สบายดีนะจ๊ะ... emo48:)

สวัสดีจ๊ะจุ๋ม
สบายดีจ๊ะ ขอบคุณที่มาเยี่ยมเยือน


 emo48:)


หัวข้อ: Re: มหากาพย์ ความรัก ชาติภพ ภูต เทพ ฯลฯ
เริ่มหัวข้อโดย: SC (ก้าน 24) ที่ 08 กุมภาพันธ์ 2553, 14:54:32
อ้างถึง
ข้อความของ dtoy เมื่อ 08 กุมภาพันธ์ 2553, 12:56:17
ดีแฮะ ห้องสองสี่ของเราเก่งสามารถหลากหลายจริงๆ
อย่างก้านนี่ ยอดเยี่ยมเลยอ่ะ
ไปหัดดูหมอมาจากไหน?


สวัสดีจ๊ะต๋อย
แหมๆๆๆ ถ้ายอดเยี่ยมจริงป่านนี้รวยไปแล้ว
ก็ศึกษาอ่านจากตำราเอานะนะ
ไม่ได้ขึ้นครู เราไม่ค่อยชอบพิธีกรรม อีกอย่างไม่ทราบว่าท่านเหล่านั้นอยู่ที่ใดบ้าง
ก็ใช้ตาที่สามรำลึกถึงด้วยจิต กราบพระคุณอาจารย์ทุกคืนก่อนทำสมาธินะ


 emo48:)


หัวข้อ: Re: มหากาพย์ ความรัก ชาติภพ ภูต เทพ ฯลฯ
เริ่มหัวข้อโดย: Pantakant Vorakritpongsa ที่ 08 กุมภาพันธ์ 2553, 14:54:51
แวะมาสวัสดีท่านพี่ก้าน และพี่ๆรุ่น 24 ทุกท่านครับ

ผมน้องหมอรุ่งทันตะ33 ขอฝากเนื้อฝากตัวด้วยครับ emo6::)) emo6::))


หัวข้อ: Re: มหากาพย์ ความรัก ชาติภพ ภูต เทพ ฯลฯ
เริ่มหัวข้อโดย: SC (ก้าน 24) ที่ 08 กุมภาพันธ์ 2553, 15:01:54
อ้างถึง
ข้อความของ ( : Pantakant : ) เมื่อ 08 กุมภาพันธ์ 2553, 14:54:51
แวะมาสวัสดีท่านพี่ก้าน และพี่ๆรุ่น 24 ทุกท่านครับ

ผมน้องหมอรุ่งทันตะ33 ขอฝากเนื้อฝากตัวด้วยครับ emo6::)) emo6::))

สวัสดีครับ น้องหมอรุ่ง
ยินดีต้อนรับครับ แต่พี่ไม่ได้เจอน้องตัวเป็นๆเลยนะ ไม่ค่อยได้ไปร่วมกิจกรรมกับทางหอพักหลังจากจบมา
แต่ก็คุยกันผ่านเว็บนี้ได้ครับ


 emo48:)


หัวข้อ: Re: มหากาพย์ ความรัก ชาติภพ ภูต เทพ ฯลฯ
เริ่มหัวข้อโดย: YOTSAWIN ที่ 08 กุมภาพันธ์ 2553, 15:03:03
สวัสดีครับพี่ก้าน ผมเพิ่งกลับจากใต้มา ที่นครดีมากเลยท่านรองผู้ว่ามาในงานด้วย
ที่สุราษฎร์ มีลูกค้าจะเปิดศูนย์โมบายด้วยครับ


หัวข้อ: Re: มหากาพย์ ความรัก ชาติภพ ภูต เทพ ฯลฯ
เริ่มหัวข้อโดย: Pantakant Vorakritpongsa ที่ 08 กุมภาพันธ์ 2553, 15:03:56


แวะมาสวัสดีท่านพี่เจี๊ยบด้วยครับ

ดูแลสุขภาพด้วยนะครับท่านพี่ emo6::)) emo6::))


หัวข้อ: Re: มหากาพย์ ความรัก ชาติภพ ภูต เทพ ฯลฯ
เริ่มหัวข้อโดย: Kaimook ที่ 22 กุมภาพันธ์ 2553, 20:16:07
สวัสดีจ่ะก้าน...อ่านคำพยากรณ์ที่ก้านลงไว้แม่นพอควรจ่ะ emo4:)) emo4:)) emo4:))


หัวข้อ: Re: มหากาพย์ ความรัก ชาติภพ ภูต เทพ ฯลฯ
เริ่มหัวข้อโดย: SC (ก้าน 24) ที่ 22 กุมภาพันธ์ 2553, 20:21:58
อ้างถึง
ข้อความของ Kaimook เมื่อ 22 กุมภาพันธ์ 2553, 20:16:07
สวัสดีจ่ะก้าน...อ่านคำพยากรณ์ที่ก้านลงไว้แม่นพอควรจ่ะ emo4:)) emo4:)) emo4:))


ของมาแต่โบราณนะจ๊ะอ้อย
ไม่เกี่ยวกะเรา
มันเป็นความเป็นไปของชีวิตภาพใหญ่ๆนะ


 emo48:)


หัวข้อ: Re: มหากาพย์ ความรัก ชาติภพ ภูต เทพ ฯลฯ
เริ่มหัวข้อโดย: khesorn mueller ที่ 22 กุมภาพันธ์ 2553, 20:24:51
พี่ก้าน,
วันศุกร์หมายเลขแปด....ตรงดี
แต่อุบัติเหตุเล็กน้อยนี่อะไรคะ?
เคยปีนชั้นแล้วชั้นล้มทับ ไม่เป็นไร
แต่แก้วบาดเท้า,กะตกต้นไม้แขนเคล็ด
เอ,ไม่เคยเป็นอะไรร้ายแรงคะ
ดวงหนิง ไพรี-โรคา พินาศ คะ


nn.


หัวข้อ: Re: มหากาพย์ ความรัก ชาติภพ ภูต เทพ ฯลฯ
เริ่มหัวข้อโดย: khesorn mueller ที่ 22 กุมภาพันธ์ 2553, 20:28:39
วันพฤหัสแควนหนิง
ไม่รู้เกิดเวลาอะไรคะ
อ่านเหมาละกันพี่


หัวข้อ: Re: มหากาพย์ ความรัก ชาติภพ ภูต เทพ ฯลฯ
เริ่มหัวข้อโดย: jum2524 ที่ 24 กุมภาพันธ์ 2553, 17:44:07
หวัดดีจ้ะก้าน  แวะมาทักทาย  สบายดีนะจ๊ะ...  emo48:)


หัวข้อ: Re: มหากาพย์ ความรัก ชาติภพ ภูต เทพ ฯลฯ
เริ่มหัวข้อโดย: Lamai ที่ 24 กุมภาพันธ์ 2553, 21:35:07
หวัดดีก้าน emo4:))


หัวข้อ: Re: มหากาพย์ ความรัก ชาติภพ ภูต เทพ ฯลฯ
เริ่มหัวข้อโดย: SC (ก้าน 24) ที่ 26 กุมภาพันธ์ 2553, 22:34:08
อ้างถึง
ข้อความของ khesorn mueller เมื่อ 22 กุมภาพันธ์ 2553, 20:28:39
วันพฤหัสแควนหนิง
ไม่รู้เกิดเวลาอะไรคะ
อ่านเหมาละกันพี่


ก็ไปดู Horoscope สิ

 emo48:)



หัวข้อ: Re: มหากาพย์ ความรัก ชาติภพ ภูต เทพ ฯลฯ
เริ่มหัวข้อโดย: dtoy ที่ 28 กุมภาพันธ์ 2553, 12:33:23
ก้านสบายดีนะ


อ้างถึง
ข้อความของ Kaimook เมื่อ 22 กุมภาพันธ์ 2553, 20:16:07
สวัสดีจ่ะก้าน...อ่านคำพยากรณ์ที่ก้านลงไว้แม่นพอควรจ่ะ emo4:)) emo4:)) emo4:))



ขอโทษที่ต้องบอกว่า ของเราไม่ตรงเลยอ่ะ
สงสัยเราดวง(หัวด้วย)แข็งและดันทุรัง
มันเลยจะชอบออกนอกกฎเกณฑ์อยู่เรื่อย


หัวข้อ: Re: มหากาพย์ ความรัก ชาติภพ ภูต เทพ ฯลฯ
เริ่มหัวข้อโดย: Kaimook ที่ 28 กุมภาพันธ์ 2553, 23:36:37
สวัสดีค่ะคุณหมอ(ดู) emo4:)) emo4:)) emo4:))


หัวข้อ: Re: มหากาพย์ ความรัก ชาติภพ ภูต เทพ ฯลฯ
เริ่มหัวข้อโดย: SC (ก้าน 24) ที่ 02 มีนาคม 2553, 15:55:44
อ้างถึง
ข้อความของ dtoy เมื่อ 28 กุมภาพันธ์ 2553, 12:33:23
ก้านสบายดีนะ


อ้างถึง
ข้อความของ Kaimook เมื่อ 22 กุมภาพันธ์ 2553, 20:16:07
สวัสดีจ่ะก้าน...อ่านคำพยากรณ์ที่ก้านลงไว้แม่นพอควรจ่ะ emo4:)) emo4:)) emo4:))



ขอโทษที่ต้องบอกว่า ของเราไม่ตรงเลยอ่ะ
สงสัยเราดวง(หัวด้วย)แข็งและดันทุรัง
มันเลยจะชอบออกนอกกฎเกณฑ์อยู่เรื่อย


ไม่ต้องขอโทษหรอก เพราะมันเป็นของโบราณ
คงไม่ตรงทุกคนหรอก
สังเกตุไหม เขาจะใช้คำว่า " มัก... "


 emo48:)


หัวข้อ: Re: มหากาพย์ ความรัก ชาติภพ ภูต เทพ ฯลฯ
เริ่มหัวข้อโดย: Kaimook ที่ 03 มีนาคม 2553, 23:34:28
อ้างถึง
ข้อความของ SC (ก้าน 24) เมื่อ 02 มีนาคม 2553, 15:55:44
อ้างถึง
ข้อความของ dtoy เมื่อ 28 กุมภาพันธ์ 2553, 12:33:23
ก้านสบายดีนะ


อ้างถึง
ข้อความของ Kaimook เมื่อ 22 กุมภาพันธ์ 2553, 20:16:07
สวัสดีจ่ะก้าน...อ่านคำพยากรณ์ที่ก้านลงไว้แม่นพอควรจ่ะ emo4:)) emo4:)) emo4:))



ขอโทษที่ต้องบอกว่า ของเราไม่ตรงเลยอ่ะ
สงสัยเราดวง(หัวด้วย)แข็งและดันทุรัง
มันเลยจะชอบออกนอกกฎเกณฑ์อยู่เรื่อย


ไม่ต้องขอโทษหรอก เพราะมันเป็นของโบราณ
คงไม่ตรงทุกคนหรอก
สังเกตุไหม เขาจะใช้คำว่า " มัก... "


 emo48:)
ก้านจ่ะเราดูลูกศรที่อกก้านมันแปลกดีนะคะ เป็นได้ไหมก้านผอมมากๆจนเป็นรอยเหมือนลูกศร


หัวข้อ: Re: มหากาพย์ ความรัก ชาติภพ ภูต เทพ ฯลฯ
เริ่มหัวข้อโดย: SC (ก้าน 24) ที่ 05 มีนาคม 2553, 16:10:22
อ้างถึง
ข้อความของ Kaimook เมื่อ 03 มีนาคม 2553, 23:34:28
ก้านจ่ะเราดูลูกศรที่อกก้านมันแปลกดีนะคะ เป็นได้ไหมก้านผอมมากๆจนเป็นรอยเหมือนลูกศร


ก็ถูกจ๊ะอ้อย แต่ต้องบอกว่าถ้าไม่อ้วนร่องมันจะลึกและชัด ไม่ว่าจะผอมหรือไม่ เพราะตอนที่เราเห็นครั้งแรกตอนปี 2525-2527 นั่นเราเล่นเพาะกลายกล้ามเป็นมัดๆเลย

แต่รูปศรที่เป็นเหมือนรอยเขียนสิ คือปริศนาที่ยังหาคำตอบได้ไม่ชัดเจน

ประมาณอาทิตย์กว่าๆที่ผ่านมา เราได้คุยกับลูกศิษย์หลวงพ่อฤาษีลิงดำ น้องเขาบอกว่า " พี่ ผมคุยเรื่องของพี่ให้ผู้ใหญ่ฟัง เขาบอกว่า คนๆนี้มีดีเยอะ เขามีผู้ใหญ่ที่คอยช่วยเหลือเขาเยอะมาก ผู้ใหญ่ที่ไม่ใช่คน แต่พี่ไม่ค่อยเชื่อ ไม่ได้บูชาเขา เขาเลยหยียบบ่าพี่ไว้ พี่ถึงทำอะไรไม่สำเร็จ แล้วเขาจะค่อยรู้ว่าว่าท่านเหล่านั้นมีใครบ้าง..."

ก็น่าแปลกเหมือนกันที่นับตั้งแต่ปี 2445 เป็นต้นมาเราจะเคล็ดที่กล้ามเนื้อแผงหลังคอบ่อยมาก ล่าสุดก็ตั้งแต่ศุกร์ที่แล้วตอนนี้ก็ยังไม่หายดี 3-4 วันแรก กลืนข้าวลำบากมากทำอะไรไม่ถนัด เพราะจะก้ม หรือ เหลียวซ้ายแลขวาก็ไม่สุด

แต่ถ้าดูในแง่ดวงปีนี้เราตกวินาศน์ ก็เจอเลย 3 เด้ง ป่วยด้วยโรคคางทูม แล้วกล้ามเนื้อหลังคอเคล็ด (ก่อนที่เคยเป็นก็ไม่มากขนาดนี้) ความวัวยังไม่ทันหาย ความควายเข้ามาแทรก เมืjอวานประมาณทุ่ม โดนอีก ข้อเท้าพลิก ล้มลงไปนอนเลย วันนี้วางเท้ารับน้ำหนักไม่ได้ ต้องไปหาไม้คำยันมาช่วยพยุงตัวเดินเลย ตั้งแต่เกิดมายังไม่เคยถึงขั้นใช้ไม้ค้ำรักแร้ 2 ข้างเดินเลย ขนาดเคยขี่มอเตอร์ไซต์ชนเสาไฟฟ้า ยังไม่มีรอยฟกช้ำ





 emo:(




หัวข้อ: Re: มหากาพย์ ความรัก ชาติภพ ภูต เทพ ฯลฯ
เริ่มหัวข้อโดย: Kaimook ที่ 06 มีนาคม 2553, 22:32:44
สวัสดีจ่ะก้าน...ฟังเรื่องของก้านแล้วน่าทึ่งดีนะ ก้านลองบูชาท่านก็ได้นี่คะไม่เชื่ออย่าลบหลู่ทำไว้ไม่เสียหลายเผื่อทำแล้วอะไรมันดีขึ้น
ก็อาจเป็นได้นะ...แล้วอย่าลืมส่งข่าวให้น้ำอ้อยบ้างนะคะอยากรู้จังบูชาแล้วเป็นไง  ดูแลรักษาสุขภาพหน่อยนะก้านน้ำอ้อยว่าอาจเป็นเพราะปีนี้ปีเสือค่ะเห็นเขาว่ามันแรงน้ำอ้อยยังกลัวเลยจ่ะเกิดปีเสือพอดี ขอให้ก้านหายไวๆนะคะ emo4:)) emo4:)) emo4:))


หัวข้อ: Re: มหากาพย์ ความรัก ชาติภพ ภูต เทพ ฯลฯ
เริ่มหัวข้อโดย: แจง-24 ที่ 06 มีนาคม 2553, 22:40:54
ก้านรักษาตัวด้วย หายเร็วๆนะคะ


หัวข้อ: Re: มหากาพย์ ความรัก ชาติภพ ภูต เทพ ฯลฯ
เริ่มหัวข้อโดย: SC (ก้าน 24) ที่ 07 มีนาคม 2553, 20:22:34
Thanks มากมายก่ายกอง นะจ๊ะอ้อย แจง

 emo48:)


หัวข้อ: Re: มหากาพย์ ความรัก ชาติภพ ภูต เทพ ฯลฯ
เริ่มหัวข้อโดย: dtoy ที่ 10 มีนาคม 2553, 10:44:22
อ้าว  ก้านเป็นอะไรอีกล่ะ  มากมายอะป่าว?
ส่งกำลังใจมาให้
ยังไงขอให้หายเร็ววันนะจ๊ะ


หัวข้อ: Re: มหากาพย์ ความรัก ชาติภพ ภูต เทพ ฯลฯ
เริ่มหัวข้อโดย: jum2524 ที่ 10 มีนาคม 2553, 22:56:22
...ขอให้ก้านหายเจ็บไวๆนะจ๊ะ...


หัวข้อ: Re: มหากาพย์ ความรัก ชาติภพ ภูต เทพ ฯลฯ
เริ่มหัวข้อโดย: เก๊า(24) ที่ 11 มีนาคม 2553, 21:45:27
หวัดดี นายก้าน  หายป่วยยังอ่ะ


หัวข้อ: Re: มหากาพย์ ความรัก ชาติภพ ภูต เทพ ฯลฯ
เริ่มหัวข้อโดย: SC (ก้าน 24) ที่ 12 มีนาคม 2553, 19:43:31
อ้างถึง
ข้อความของ เก๊า(24) เมื่อ 11 มีนาคม 2553, 21:45:27
หวัดดี นายก้าน  หายป่วยยังอ่ะ

สวัสดีเก๊า
ขอบคุณมาก
ค่อยยังชั่วแล้วไม่ต้องใช้ไม้ค้ำเดิน แต่ต้องค่อยๆเดิน กับยืนนานๆยังไม่ได้ยังเจ็บอยู่
(http://bbznet.pukpik.com/images/upload/nakedhouse/6RFa20100312193536.jpg)

ข้อเท้าที่บวมก็ลดลงจากรูปแล้ว
(http://bbznet.pukpik.com/images/upload/nakedhouse/t7v120100312193653.jpg)

ขอโทษนะเพื่อนที่เอารูปเท้ามาให้ดู


 emo29:P:



หัวข้อ: Re: มหากาพย์ ความรัก ชาติภพ ภูต เทพ ฯลฯ
เริ่มหัวข้อโดย: SC (ก้าน 24) ที่ 12 มีนาคม 2553, 19:45:02
อ้างถึง
ข้อความของ dtoy เมื่อ 10 มีนาคม 2553, 10:44:22
อ้าว  ก้านเป็นอะไรอีกล่ะ  มากมายอะป่าว?
ส่งกำลังใจมาให้
ยังไงขอให้หายเร็ววันนะจ๊ะ


ขอบใจมากจ๊ะต๋อย

 emo48:)


หัวข้อ: Re: มหากาพย์ ความรัก ชาติภพ ภูต เทพ ฯลฯ
เริ่มหัวข้อโดย: SC (ก้าน 24) ที่ 12 มีนาคม 2553, 19:45:41
อ้างถึง
ข้อความของ jum2524 เมื่อ 10 มีนาคม 2553, 22:56:22
...ขอให้ก้านหายเจ็บไวๆนะจ๊ะ...

ขอบใจมากจ๊ะจุ๋ม

 emo48:)


หัวข้อ: Re: มหากาพย์ ความรัก ชาติภพ ภูต เทพ ฯลฯ
เริ่มหัวข้อโดย: jum2524 ที่ 13 มีนาคม 2553, 00:26:43
อ้างถึง
ข้อความของ SC (ก้าน 24) เมื่อ 12 มีนาคม 2553, 19:43:31
อ้างถึง
ข้อความของ เก๊า(24) เมื่อ 11 มีนาคม 2553, 21:45:27
หวัดดี นายก้าน  หายป่วยยังอ่ะ

สวัสดีเก๊า
ขอบคุณมาก
ค่อยยังชั่วแล้วไม่ต้องใช้ไม้ค้ำเดิน แต่ต้องค่อยๆเดิน กับยืนนานๆยังไม่ได้ยังเจ็บอยู่
(http://bbznet.pukpik.com/images/upload/nakedhouse/6RFa20100312193536.jpg)

ข้อเท้าที่บวมก็ลดลงจากรูปแล้ว
(http://bbznet.pukpik.com/images/upload/nakedhouse/t7v120100312193653.jpg)

ขอโทษนะเพื่อนที่เอารูปเท้ามาให้ดู


 emo29:P:



ดูก้านสีหน้าท่าจะซีเรียสเครียดอ่ะ...น่า...เดี๋ยวก็หาย   เดินและลงน้ำหนักเท้าเท่าที่จำเป็น  พักเท้าเยอะๆ..จะได้หายไวๆ


หัวข้อ: Re: มหากาพย์ ความรัก ชาติภพ ภูต เทพ ฯลฯ
เริ่มหัวข้อโดย: Janchai ที่ 13 มีนาคม 2553, 05:02:55
อ้างถึง
ข้อความของ swsm เมื่อ 16 กรกฎาคม 2552, 09:27:37
อาจเป็นได้นะคะ ก้าน
การคิดดี ทำดี  ก็ย่อมได้รับการตอบสนองด้วยดี

การที่อานิสงฆ์แรงขนาดนั้น  ก็เป็นไปได้อีกว่า
บรรดา "the dogs" ทั้งหลายเหล่านั้น เขาเป็นเจ้ากรรมนายเวรของเรา


PS. เพียงแค่ "คิด" ดี   แม้จะยังไม่ได้ลงมือกระทำ ..
ใจเราก็สบายแล้ว .. จริงไหม ??  
 


emo4:))




น้องจ๋า นอกจากสวยเก่งแล้ว น้องยังมีนำ้ใจและความคิดงดงามอีกด้วย
พี่ชื่นชมน้องนะคะ


หัวข้อ: Re: มหากาพย์ ความรัก ชาติภพ ภูต เทพ ฯลฯ
เริ่มหัวข้อโดย: Janchai ที่ 13 มีนาคม 2553, 05:48:39
อ้างถึง
ข้อความของ พัช 24 เมื่อ 30 กรกฎาคม 2552, 09:51:01
อ้างถึง
ข้อความของ Q??? เมื่อ 29 กรกฎาคม 2552, 19:20:47
ศรัทธา เกิดจากความประทับใจในประสบการณ์ที่ได้รับ คนเราส่วนใหญ่มีจิตวิทยาที่คล้ายๆกัน หากเชื่อมั่นในสิ่งใด ทำตามแล้วได้ดี (ก็อยู่ที่ความต้องการของแต่ละบุคคลอีกว่าอย่างไรเรียกว่าดีในความรู้สึกของตน) คนเราก็จะเชื่อในสิ่งนั้น เรียกว่า การเสริมแรง มากครั้งเข้าก็กลายเป็นศรัทธา

ผมขอไม่ตอบคำถามที่นำไปสู่การทะเลาะในเรื่องศรัทธาความเชื่อ ผมไม่มองทุกคนเป็นแบบ Monotonous ประสบการณ์ของผมบอกให้ผมรู้ว่าไม่มีวิถีทางเดียวในจักรวาลนี้ วิถี่ทางที่ดีที่สุดในโลกใบนี้ ก็ไม่ใช่ทางของผม 

เอาไว้ เมื่อถึงเรื่อง " ตาที่สาม  " ก็อาจจะเห็นชัดขึ้นว่า " คนเราทำได้ดีในหนทางหนึ่ง แต่อาจทำไม่ได้เลย ในหนทางอีกสายหนึ่ง
 

 emo48:)

 
คุณก้านยังไม่เห็นตอบคำถามของพัชเลยค่ะ

เห็นด้วยกับคุณก้านค่ะ ว่ามีหลายทางในจักรวาลนี้  และก็มีหลายจุดหมายเช่นกัน
พัชว่าที่สำคัญต้องเลือกจุดหมายปลายทางให้ดีค่ะ  ไม่งั้นเสียเวลาเดินทาง
แต่ถ้าเลือกปลายทางที่ดีที่ควรแล้ว  วิถีที่จะพาไปอาจมีรายละเอียดแตกต่าง สะดวกสบายยากง่าย  ถึงที่หมายช้าเร็ว   แต่ต้องไม่พาให้หลงทางค่ะ

ส่วนเรื่องศรัทธาก็เป็นสิ่งสำคัญเพราะทำให้จิตมีพลัง  แต่ข้อเสียของศรัทธาที่มากเกินไปทำให้ปัญญามาอ่อนแอลงค่ะ  สิ่งที่ต้องฝึกให้มีให้มาก ๆ ในจิตใจคนเราคือ สติค่ะ  เพราะเป็นพี่เลี้ยงใหญ่ไว้คอยเตือน ค่ะ




พี่เป็นรุ่นอวุโสกว่าน้องพัชนับสิบปีได้ แต่ขอบอกว่า ความรู้เรื่องธรรมของน้องพัชนั้นอยู่ในระดับสูงทีเดียว
กระทู้นี้น่าสนใจตรงชื่อ และชีวิตของน้องก้าน
ที่สำคัญมากคือลีลาการสอดแทรกธรรมะให้กันและกันของน้องๆ
พี่พากพูมใจและนับถือในระดับความคิดของน้องๆมาก


หัวข้อ: Re: มหากาพย์ ความรัก ชาติภพ ภูต เทพ ฯลฯ
เริ่มหัวข้อโดย: Janchai ที่ 13 มีนาคม 2553, 05:52:15
อ้างถึง
ข้อความของ SC (ก้าน 24) เมื่อ 12 มีนาคม 2553, 19:45:41
อ้างถึง
ข้อความของ jum2524 เมื่อ 10 มีนาคม 2553, 22:56:22
...ขอให้ก้านหายเจ็บไวๆนะจ๊ะ...

ขอบใจมากจ๊ะจุ๋ม

 emo48:)
ดูแลตัวเองให้มาก ทานอาหารให้ครบหมู่ พักผ่อนให้พอ จะได้หายป่วยเร็วไวนะครับ
ถ้ามียาก็ทานยาตามคำแนะนำของแพทย์ด้วยนะครับ


หัวข้อ: Re: มหากาพย์ ความรัก ชาติภพ ภูต เทพ ฯลฯ
เริ่มหัวข้อโดย: SC (ก้าน 24) ที่ 16 มีนาคม 2553, 22:10:47
อ้างถึง
ข้อความของ Janchai เมื่อ 13 มีนาคม 2553, 05:52:15
อ้างถึง
ข้อความของ SC (ก้าน 24) เมื่อ 12 มีนาคม 2553, 19:45:41
อ้างถึง
ข้อความของ jum2524 เมื่อ 10 มีนาคม 2553, 22:56:22
...ขอให้ก้านหายเจ็บไวๆนะจ๊ะ...

ขอบใจมากจ๊ะจุ๋ม

 emo48:)
ดูแลตัวเองให้มาก ทานอาหารให้ครบหมู่ พักผ่อนให้พอ จะได้หายป่วยเร็วไวนะครับ
ถ้ามียาก็ทานยาตามคำแนะนำของแพทย์ด้วยนะครับ

ขอบคุณครับท่านพี่
ท่านพี่สบายดีนะครับ

 emo48:)


หัวข้อ: Re: มหากาพย์ ความรัก ชาติภพ ภูต เทพ ฯลฯ
เริ่มหัวข้อโดย: Kaimook ที่ 18 มีนาคม 2553, 22:52:59
สวัสดีจ่ะก้าน...ดีขึ้นหรือยังคะ emo4:)) emo4:))


หัวข้อ: Re: มหากาพย์ ความรัก ชาติภพ ภูต เทพ ฯลฯ
เริ่มหัวข้อโดย: khesorn mueller ที่ 22 มีนาคม 2553, 20:07:15
พี่ก้าน
ให้เสียงหน่อย!
เป็นไงมั่งคะวันนี้?


nn.24+3


หัวข้อ: Re: มหากาพย์ ความรัก ชาติภพ ภูต เทพ ฯลฯ
เริ่มหัวข้อโดย: SC (ก้าน 24) ที่ 22 มีนาคม 2553, 20:12:50
อ้างถึง
ข้อความของ Kaimook เมื่อ 18 มีนาคม 2553, 22:52:59
สวัสดีจ่ะก้าน...ดีขึ้นหรือยังคะ emo4:)) emo4:))


สวัสดีจ๊ะอ้อย
ก็พอเดินได้ค่อยๆนะ เร็ว แรง ยังไม่ได้ เจ็บ



 emo29:P:


หัวข้อ: Re: มหากาพย์ ความรัก ชาติภพ ภูต เทพ ฯลฯ
เริ่มหัวข้อโดย: Janchai ที่ 22 มีนาคม 2553, 21:18:58
อย่าเพิ่งเดิน เร็ว แรงเกินไปนะคะ ช้าๆใจเย็น อย่าลืม ทานอาหาร พักผ่อนให้พอเพียง
จะได้หายเร็ว


หัวข้อ: Re: มหากาพย์ ความรัก ชาติภพ ภูต เทพ ฯลฯ
เริ่มหัวข้อโดย: khwan24 ที่ 22 มีนาคม 2553, 22:01:13
หวัดดีจ้ะก้าน ไม่ได้เข้าเวปบางช่วงไม่รู้ว่าเจ็บขา อย่างไรขอให้หายไวไวนะคะ


หัวข้อ: Re: มหากาพย์ ความรัก ชาติภพ ภูต เทพ ฯลฯ
เริ่มหัวข้อโดย: Kaimook ที่ 25 มีนาคม 2553, 21:57:00
 หวัดดีจ่ะก้าน  เป็นไงบ้างคะขาหายเจ็บยังคะส่งข่าวหน่อยค่ะ แช่น้ำอุ่นๆด้วยดีไหมคะ


หัวข้อ: Re: มหากาพย์ ความรัก ชาติภพ ภูต เทพ ฯลฯ
เริ่มหัวข้อโดย: dtoy ที่ 02 เมษายน 2553, 09:04:11
ก้านดีขึ้นยังอ่ะ? หายเร็วๆนะ แล้วเรามาวิ่งแข่งกัน อิอิ


หัวข้อ: Re: มหากาพย์ ความรัก ชาติภพ ภูต เทพ ฯลฯ
เริ่มหัวข้อโดย: Kaimook ที่ 02 เมษายน 2553, 22:38:51
หวัดดีจ่ะก้าน เป็นไงมั้ง...หายไวๆนะคะ


หัวข้อ: Re: มหากาพย์ ความรัก ชาติภพ ภูต เทพ ฯลฯ
เริ่มหัวข้อโดย: dtoy ที่ 07 เมษายน 2553, 10:58:45
หวัดดีจ้าก้าน  ค่อยยังชั่วแล้วกา?


หัวข้อ: Re: มหากาพย์ ความรัก ชาติภพ ภูต เทพ ฯลฯ
เริ่มหัวข้อโดย: Kaimook ที่ 07 เมษายน 2553, 15:50:41
หวัดดีจ่ะก้าน...วันนี้เป็นไงบ้างคะ...


หัวข้อ: Re: มหากาพย์ ความรัก ชาติภพ ภูต เทพ ฯลฯ
เริ่มหัวข้อโดย: พธู ๒๕๒๔ ที่ 13 เมษายน 2553, 13:22:50
(http://www.cmadong.com/imageupload/2010_Cmadong-Image/data/image/l0swnd-8e6246.jpg)


หัวข้อ: Re: มหากาพย์ ความรัก ชาติภพ ภูต เทพ ฯลฯ
เริ่มหัวข้อโดย: Kaimook ที่ 19 เมษายน 2553, 23:59:24
หวัดดีจ่ะก้าน...สงกรานต์ไปเที่ยวไหนคะ...หายดีอ่ะยังคะ


หัวข้อ: Re: มหากาพย์ ความรัก ชาติภพ ภูต เทพ ฯลฯ
เริ่มหัวข้อโดย: jum2524 ที่ 21 เมษายน 2553, 19:24:04
หวัดดีจ้ะก้าน  เป็นไงบ้าง  ออกวิ่งวัดกำลังเท้าได้ยังจ๊ะ...


หัวข้อ: Re: มหากาพย์ ความรัก ชาติภพ ภูต เทพ ฯลฯ
เริ่มหัวข้อโดย: Lamai ที่ 21 เมษายน 2553, 21:02:40
เป๋นจะไดก้าน สงกรานต์ไปแอ่วไหนพ่อง? emo48:)


หัวข้อ: Re: มหากาพย์ ความรัก ชาติภพ ภูต เทพ ฯลฯ
เริ่มหัวข้อโดย: หนุ่ม2524 ที่ 22 เมษายน 2553, 17:13:56
สวัสดี ก้าน สบายดีบ่


หัวข้อ: Re: มหากาพย์ ความรัก ชาติภพ ภูต เทพ ฯลฯ
เริ่มหัวข้อโดย: Kaimook ที่ 22 เมษายน 2553, 21:49:38
ก้านเป็นไงบ้างคะ...หายดียังคะ


หัวข้อ: Re: มหากาพย์ ความรัก ชาติภพ ภูต เทพ ฯลฯ
เริ่มหัวข้อโดย: dtoy ที่ 01 พฤษภาคม 2553, 13:17:11
ก้านเงียบหายไป  ทำอะไรอยู่หงะ  มาคุยกับเพื่อนๆหนอยเร็ว


หัวข้อ: Re: มหากาพย์ ความรัก ชาติภพ ภูต เทพ ฯลฯ
เริ่มหัวข้อโดย: khesorn mueller ที่ 06 พฤษภาคม 2553, 19:55:14
พี่ก้าน,
ขอพี่เข้มแข็งต่อสภาวะแห่งความสูญเสียนี้
เพิ่งทราบข่าวจากพี่ยังชินเมื่อครู่คะ
หนิงและพี่ๆน้องๆที่นี่ขออยู่เคียงข้างพี่นะคะ.


nn.24+3


หัวข้อ: Re: มหากาพย์ ความรัก ชาติภพ ภูต เทพ ฯลฯ
เริ่มหัวข้อโดย: SC (ก้าน 24) ที่ 11 พฤษภาคม 2553, 18:58:44
อ้างถึง
ข้อความของ khesorn mueller เมื่อ 06 พฤษภาคม 2553, 19:55:14
พี่ก้าน,
ขอพี่เข้มแข็งต่อสภาวะแห่งความสูญเสียนี้
เพิ่งทราบข่าวจากพี่ยังชินเมื่อครู่คะ
หนิงและพี่ๆน้องๆที่นี่ขออยู่เคียงข้างพี่นะคะ.


nn.24+3

ขอบใจมากจ๊ะหนุงหนิง
ไม่มีอะไรหรอก
แม่ท่านหมดทุกข์หมดโศกแล้ว


 emo30:sorry:



หัวข้อ: Re: มหากาพย์ ความรัก ชาติภพ ภูต เทพ ฯลฯ
เริ่มหัวข้อโดย: Janchai ที่ 11 พฤษภาคม 2553, 21:50:57
อ้างถึง
ข้อความของ khesorn mueller เมื่อ 06 พฤษภาคม 2553, 19:55:14
พี่ก้าน,
ขอพี่เข้มแข็งต่อสภาวะแห่งความสูญเสียนี้
เพิ่งทราบข่าวจากพี่ยังชินเมื่อครู่คะ
หนิงและพี่ๆน้องๆที่นี่ขออยู่เคียงข้างพี่นะคะ.


nn.24+3

เพิ่งเข้ามาเห็นข่าว ขอแสดงความเสียใจด้วยครับ
ท่านไปสบายและเฝ้าดูน้องก้านทำความดีต่อไป


หัวข้อ: Re: มหากาพย์ ความรัก ชาติภพ ภูต เทพ ฯลฯ
เริ่มหัวข้อโดย: SC (ก้าน 24) ที่ 05 กันยายน 2553, 15:27:33
ไปจะกล่าวบทมา ข้าฯจะขอกล่าวเล่าเรื่อง
ดังนี้....


มีบ้านอยู่ 4 หลัง บ้านในที่นี้ไม่ใช่แค่บ้านที่เราอยู่อาศัยแต่เป็นบ้านที่มีกิจการอย่างเช่น บ้านมีดบิน (House of Flying Dragger) บ้านทั้ง 4 มีชื่อเรียกดังนี้ หลังที่ 1 ชื่อ "เรือนตนุ" หลังที่ 2 ชื่อ "เรือนกดุมพะ" หลังที่ 3 ชื่อ "เรือนกัมมะ" และหลังที่ 4 สุดท้ายชื่อ "เรือนลาภะ" และก็มีคน 4 คนชื่อ คุณอาทิตย์ คุณพุธ คุณศุกร์ และ จอมเกเรมฤตยู เข้ามาเกี่ยวข้องดังนี้

1. คุณอาทิตย์ ไม่อยู่ใน เรือนตนุ ที่เป็นบ้านของตน แต่ไปอาศัย เรือนกัมมะ ของคุณศุกร์อยู่
2. คุณศุกร์ ไม่อยู่ใน เรือนกัมมะ ของตน แต่ไปอาศัย เรือนลาภะ บ้านของคุณพุธอยู่โดยขอแลกเรือนกันอยู่
3. คุณพุธนั้นเป็นเจ้าของบ้าน เรือนกดุมพะ และ เรือนลาภะ การที่คุณพุธไปแลกเรือนอยู่กับคุณศุกร์ ก็เท่ากับคุณพุธทิ้ง เรือนกดุมพะ ของตนไปอาศัย เรือนกัมมะ ของคุณศุกร์อยู่
4. จอมเกรเมฤตยูพเนจรผ่านมาเห็น เรือนตนุ ว่างอยู่ไม่มีคนอยู่ จึงถือวิสาสะเข้าไปอยู่ซะเลย

โบราณว่าอยู่บ้านท่านอย่างนิ่งดูดาย... คุณอาทิตย์ก็เลยมีหน้าที่ต้องดูแลจัดการกิจการของเรือนกัมมะ แต่ถึงแม้ว่าคุณอาทิตย์จะมีความรู้ความสามารถยังไง คุณอาทิตย์ก็ไม่อาจจะตัดสินใจทำอะไรได้โดยลำพัง เพราะต้องฟังความเห็นและการสนับสนุนจากคุณพุธด้วย เพราะคุณอาทิตย์ไม่ได้อยู่เพียงคนเดียวลำพัง แต่อยู่ร่วมกับคุณพุธ ซึ่งคุณอาทิตย์ต้องฟัง เพราะคุณพุธอาศัยเรือนกัมมะอยู่ในฐานะแลกเรือนกับคุณศุกร์ แต่คุณอาทิตย์นั้นแค่มาอาศัยเท่านั้น กิจการของเรือนกัมมะก็ไม่มั่นคง เพราะคุณพุธแกก็สนับสนุนบ้าง อยู่เฉยๆบ้าง

ผลกระทบก็มาถึงเรือนตนุและเรือนกดุมพะ เรือนกดุมพะก็ว่างเปล่าไม่มีรายได้ หรือ ทรัพย์สินเข้าบ้าน เพราะเจ้าของบ้านไปอยู่เรือนอื่น และเรือนที่ไปอยุ่ก็ไม่มั่นคงรุ่งเรืองพอที่จะทำให้มีรายได้ ซื้อทรัพย์สินเข้าบ้าน ส่วนเรือนตนุ นั้นเล่า จอมเกเรมฤตยูมาอาศัยอยู่ มฤตยูไม่มีบ้านของตน พอมาอยู่เรือนคนอื่น ก็ดูแลไม่เป็น แถมวันดีคืนดีเกิดเพี้ยนขึ้นมาก็ทำลายกำแพงบ้านเสียนี่ เรือนตนุก็เสียหาย.....

ในชีวิตการทำงานของผมที่ผ่านมา ส่วนใหญ่ผมไม่มีโอกาสที่จะได้ประสบความสำเร็จ เพราะผมมักจะต้องเลิกราลงกลางคัน เพราะขาดปัจจัยสำคัญอีกปัจจัยหนึ่งนอกเหนือจากความรู้ความสามารถ นั่นคือเงิน เพราะงานบางงานก็ไม่ใช่งานง่ายต้องใช้เวลา ต้องอดทนทำอย่างรอคอย แต่ค่าใช้จ่ายมันไม่ได้รอด้วย...สุดท้ายก็นำมาสู่ชื่อเสียงที่ไม่ค่อยดี ประหนึ่งคนที่ล้มเหลวในชีวิต ไม่แตกต่างจากเรื่องบ้านที่ผมเล่ามาตั้งแต่ต้นเลย  

เพราะบ้านทั้ง 4 หลังนั้นก็คือเรือนในดวงชะตา ของผมนั่นเอง เรือนตนุก็หมายถึงตัวผม เรือนกดุมพะก็หมายถึงรายได้ เรือนกัมมะก็อาชีพการงาน และสุดท้ายเรือนลาภะก็คือ ผลประโยชน์ต่างๆ อาทิตย์ หมายถึง ตัวผม ความรู้ความสามารถของผม พุธ หมายถึง เงิน  คนเราเมื่อไม่สามารถทำงานได้อย่างเต็มที่ จนกว่าจะถึงเวลาที่เหมาะสมที่จะได้ผลตอบแทน ต้องเลิกราลงกลางคัน ก็ยากที่จะได้พบกับคำว่า ประสบความสำเร็จ

หนึ่งเดือนมานี้ได้กลับไปทบทวนวิชา Astrology แล้วนึกย้อนเหตุการณ์จริงในชิวิต ก็ไม่น่าเชื่อที่ เรื่องจริงนั้นอิงดวงดาว


 emo47


หัวข้อ: Re: มหากาพย์ ความรัก ชาติภพ ภูต เทพ ฯลฯ
เริ่มหัวข้อโดย: SC (ก้าน 24) ที่ 18 กันยายน 2553, 14:41:01
Psycho-Cybernetics VS พันธะสัญญา อีกที


อ้างถึง
ข้อความของ SC (ก้าน 24) เมื่อ 26 กรกฎาคม 2552, 18:34:25
Psycho-Cybernetics VS พันธะสัญญา
 
ผมได้ซื้อหนังสือเกี่ยวกับการรักษาผมร่วงมาอ่านเมื่อหลายปีมาแล้ว ในหนังสือนั้นได้เกริ่นนำด้วยเรื่อง Psycho-Cybernetics ในหนังสือนั้นอธิบายว่า Cybernetics เป็นระบบล็อคเป้าหมายของขืปนาวุธนำวิถี เช่นเดียวกัน จิตคนเราก็สามารถล็อคเป้าหมายได้ด้วยเรียกว่า Psycho-Cybernetics บางครั้งจิตไร้สำนึกของคนเรามีการล็อคเป้าหมายโดยที่ตัวเราเองไม่รู้ตัว ผลลัพท์ก็คือ เราจะประสบความล้มเหลวในอาการเดิมซ้ำๆ
 
ผมมาคิดทบทวนดู ก็พบว่าใช่ ความล้มเหลวที่เกิดขึ้นมักจะมีอาการแบบเดิมๆ ผมก็พยายามคิดว่าผมได้ตั้งเป้าหมายอะไรไว้ จนจิตไร้สำนึกของผมล็อคเป้าหมายนั้นไว้ แต่คิดเท่าไหร่ก็คิดไม่ออก จนกระทั่งเมื่อผมเขียนเรื่อง 6 หญิงที่สุดแสนประทับใจเสร็จแล้ว ผมก็คิดว่า หรือ เป้าหมายในจิตไร้สำนึกของผมที่ล็อคไว้ คือ " เป็นนักรัก " แบบ ดอน ฮวน อะไรประมาณนั้น ผมยังเคยคุยกับน้องคนหนึ่งเลยว่า พี่อาจจะไม่ประสบความสำเร็จในอาชีพการงาน แต่พี่ก็ประสบความสำเร็จในกลกามความรัก เพราะ พี่ได้ผ่านประสบการณ์ระดับเทพ ซึ่งน้อยคนนักที่จะบรรลุถึงขั้นนั้น...
 
แต่เมื่อมองจากปัจจุบัน ผมก็เข้าใจแล้วว่า จิตไร้สำนึกของผมได้ล็อคเป้าหมายไว้โดยที่ผมไม่รู้ตัว นั่นคือ " ตามหาคนๆหนึ่ง  " เป็นเป้าหมายที่ถูกล็อคไว้ในจิตไร้สำนึก แต่ไม่ใช่เพราะว่าผมไปตั้งมันไว้โดยที่ผมไม่รู้ตัว แต่เป็นเพราะ พันธะสัญญา  ตั้งแต่ชาติภพที่แล้ว!
 

  emo29:P:


ในที่สุดผมก็ได้เจอคนที่ผมค้นหาจริงๆจนได้  

เคยอ่านหนังสือเกี่ยวกับ จิตวิทยาแรงจูงใจ จำได้ว่า " ...การกระทำของคนเรานั้นหากมิใช่กิจวัตรประจำวัน หรือที่ทำเป็นนิจสิน หากเป็นการกระทำที่พิเศษ ล้วนมีแรงจูงใจให้กระทำ อาจเกิดแรงบันดาลใจ จากสิ่งที่ได้พบเห็น...  "

แต่ผมเพิ่ม พันธะสัญญา ในจิตไร้สำนึกเข้าไป บางทีตัวเราเองก็ไม่อาจจะรู้ได้ ทำไมเราถึงเป็นแบบนั้น

ผมเคยปักใจในหญิงสาวที่ผมคิดว่านั่นใช่คนที่ผมตามหา (เนื้อคู่) คนแรกเธอเกิดปีมะโรง นับแต่นั้นผมก็คลั่งไคล้อยากได้หญิงสาวปีมะโรงมาเป็นคู่มาก...

พอได้เจอคนนี้ สิ่งที่ได้รับรู้ มันก็กระจ่างว่า ทำไมถึงเป็นแบบนั้น เทียบกับคนก่อนหน้านี้ที่เป็นต้นเหตุให้เขียนกระทู้นี้ขึ้นแล้ว คนก่อหน้านี้เทียบไม่ติดเลย แต่แปลกมากที่เธอทั้งคู่เกิดปีมะโรงที่เป็นปีเดียวกัน และมีชื่อเล่นเป็นอักษรตัว น เหมือนกัน  

อ้อ เพิ่งนึกได้เมื่อวานนี้เองว่า ผมก็มีอักษรชื่อเล่นเป็นตัว น เหมือนกัน แม่เคยเล่าให้ฟังว่า ตอนที่แม่ท้อง แม่คิดชื่อไว้ตั้งให้หลายชื่อ แต่คนที่คลอดลูกก่อนก็เอาไปตั้งชื่อลูกกันหมด ชื่อผมที่แม่ตั้งให้จริงๆนะ ชื่อ " น้อย " แต่ตอนเกิด นักร้องลูกทุ่ง " ก้าน แก้วสุพรรณ  " กำลังดัง ญาติๆเลยเรียก " ก้าน " รวมทั้งคนในหมู่บ้านด้วย แต่แม่ผมเรียก " น้อย " ตลอดตั้งแต่เล็กจนโต จนกระทั่งเมื่อช่วงประมาณ 10 ปีมานี้เองที่หันมาเรียก " ก้าน "

การได้เจอสาวคนนี้มันทำให้ผมเข้าใจในหัวเรื่องที่เล่านี้ดีขึ้น เพราะสิ่งที่ผมต้องการ อยากได้มากๆ ล้วนมีอยู่ในตัวเธอ นี่ไม่นับเรื่องรูปร่างหน้าตานะ เพราะผมไม่เคยล็อคสเป็กเรื่องพวกนี้ แต่ผมหมายถึงคุณสมบัติความพิเศษ(ในความคิดของผม)ต่างหาก

การได้พบเธอ มันทำให้ผมมีความสุขมาก เพราะมันพิสูจน์ว่า ความคิดและการรับรู้ของผมนะถูกต้อง (หัวเรื่องนี้ไง) ผมไม่ได้วิปลาสไปเอง  มีอะไรอีกมากในตัวเธอที่ทำให้ผมตอบว่า สมควรแล้วที่มันทำให้ผมเป็นแบบนี้ตลอดช่วง 20 กว่าปีที่ผ่านมา

และ เธอเป็นคนแรกและคนเดียวในเวลานี้ที่เห็นรูปลูกศรที่อยู่กลางอกจากรูปที่ผมให้ดู ที่ผ่านมาคนอื่นๆทั้งหญิงชายไม่ว่าจะมีความสัมพันธ์กับผมอย่างไร ถ้าไม่บอกไม่เน้นจริงๆ ไม่มีใครเห็นจากการมองเพียงครั้งเดียว

และกาลต่อไป ไม่ว่าผมจะได้ครองคู่กับเธอหรือไม่ ผมก็ไม่เสียใจ เพราะผมบรรลุภาระกิจของผม


* THE END *


 emo43 emo43 emo43 emo43 emo43 emo43 emo43


หัวข้อ: Re: มหากาพย์ ความรัก ชาติภพ ภูต เทพ ฯลฯ
เริ่มหัวข้อโดย: Kaimook ที่ 07 ตุลาคม 2553, 11:10:08
 หวัดดีจ่ะก้าน ดีใจด้วยจ่ะที่ก้านบรรลุภาระกิจของก้านแล้ว อย่าลืมเล่าใหเเพื่อนๆอีกนะคะรออ่านค่ะ...โชคดีนะคะเพื่อน...


หัวข้อ: Re: มหากาพย์ ความรัก ชาติภพ ภูต เทพ ฯลฯ
เริ่มหัวข้อโดย: khesorn mueller ที่ 07 ตุลาคม 2553, 21:44:40
พี่ก้าน,
นานนานเห็นพี่..
หนิงดีใจ...




เมื่อไหร่พี่จะอ้วนซะที?


หัวข้อ: Re: มหากาพย์ ความรัก ชาติภพ
เริ่มหัวข้อโดย: SC (ก้าน 24) ที่ 08 ตุลาคม 2553, 18:16:42
บทส่งท้าย

 
อ้างถึง   
เทพเจ้าดาวเหนือ  


เมื่อวันที่ 21 กันยายนที่ผ่านมา ผมได้มีโอกาสเข้าร่วมประชุมกับนักธุรกิจชาวจีนจากแผ่นดินใหญ่ ผมเลยถือโอกาสถาม (ผ่านล่าม) ว่า “ ในประเทศจีนมีเทพเจ้าดาวเหนือหรือไม่? ”

ก็ได้รับคำตอบว่า “ มันมีในนิทาน นิยายปรัมปรา  ”

คำตอบที่ได้รับเหมือนอย่างที่ผมคิดไว้ไม่ผิด ตั้งแต่เมื่อผมได้รับรู้เรื่องนี้ใหม่ๆ  

ชนชาติในภูมิภาคหนึ่งจะมีความเชื่อเรื่องเทพตามการรับรู้ของตนเอง ต่อมาอาจจะถูกต่างชาติรุกรานเข้ายึดครอง ชนชาติที่เข้ามาปกครองก็จะนำเอาเทพตามความเชื่อของตนเข้ามาเผยแพร่ด้วย ทำให้เทพตามความเชื่อดั้งเดิมถูกลบเลือนไป

หรืออีกอย่างชนชาติในภูมิภาคนั้นอาจจะไม่ถูกรุกรานยึดครอง แต่อาจมีลัทธิใหม่เกิดขึ้น หรือ ศาสนาจากภูมิภาคอื่นแผ่อิทธิพลเข้ามา

ซึ่งทั้งสองกรณีทำให้เทพตามความเชื่อดั้งเดิมดูเหมือนถูกลบเลือนไป แต่ความจริงแล้วไม่ใช่ ยังมีกลุ่มคนจำนวนหนึ่งซึ่งยังยึดถือในความเชื่อของตนอย่างแนบแน่น โดยเฉพาะ ผู้ที่ใกล้ชิดและเกี่ยวพันกับเทพองค์นั้น ทำให้ในการรับรู้ของชนส่วนใหญ่กลายเป็นนิทาน หรือ นิยายปรัมปราไป
 
เทพเจ้าดาวเหนือจึงเป็นเทพที่มีมาก่อนที่ลัทธิเต๋าจะเฟื่องฟู และพุทธศาสนาฝ่ายมหายานจากอินเดียจะแผ่อิทธิพลมาถึง




 emo48:)


หัวข้อ: Re: มหากาพย์ ความรัก ชาติภพ
เริ่มหัวข้อโดย: khesorn mueller ที่ 09 ตุลาคม 2553, 17:17:28
แล้วพี่กะเธอคนนั้น
ตกลงได้ปลงใจกันมั้ยคะ?
บุปค่ะบุป...
คือบุปเพสันนิวาต
(เขียนยากจริงๆพับผ่า)
ต้องตาง่ายนิดเดียวพี่..แต่งปรุงให้สวยได้
แต่ต้องใจใช้เวลานานกว่า..เผลอๆนานๆไป
ต้องตาก็ไม่สำคัญเหมือนตอนแรกพบ.


หัวข้อ: Re: มหากาพย์ ความรัก ชาติภพ
เริ่มหัวข้อโดย: SC (ก้าน 24) ที่ 10 ตุลาคม 2553, 20:31:02
อย่าได้ริสาบานเป็นอันขาด!

เมื่อครั้งที่ผมทำงานกับบริษัทในเครือวังทองกรุ๊ป (พฤษภาคม 2535 - พฤษภาคม 2536) บริษัทฯได้จัดนำเที่ยวจังหวัดกาญจนบุรี เมื่อคณะมาถึงโบราณสถานปราสาทเมืองสิงห์ ผมเกิดนึกอยากถ่ายรูป ตั้งใจจะนั่งท่าเลียนแบบเทพ (คือนั่งพับขาข้างหนึ่งสอดฝ่าเท้าใต้ขาอีกข้างที่ห้อยลงมา) เพราะมันเข้ากับสถานที่ดี ผมเลยใช้มือดันตรงระดับที่จะขึ้นไปนั่ง แล้วสปริงตัวขึ้นไป ก็ปรากฎว่ามือผมลื่นไถลลงมา ทำให้แขนข้างหนึ่งครูดกับหิน เป็นแผลถลอกยาวตั้งแต่ช่วงเลยข้อศอกลงมาถึงเกือบครึ่งแขน เลือดไหลย้อย สาวๆเห็นถึงกับทำหน้าเบ้ ทีมพยาบาลที่ไปด้วยก็ช่วยล้างแผลทายาให้ผม...

ผ่านไปหลายปีดีดัก จนวันหนึ่งในปี 2542 ผมได้ไปที่ศูนย์หนังสือจุฬาฯ ที่ศาลาพระเกี้ยว ไม่รู้มีอะไรดลใจให้ผมเดินไปมุมๆหนึ่ง ก็ไปเจอหนังสือชื่อ สถานที่ศักดิ์สิทธิ์ในประเทศไทย ผมจึงหยิบขึ้นมาเปิดดู ก็เห็นมีปราสาทเมืองสิงห์ด้วย หลังจากอ่านดูแล้วผมถึงบางอ้อ

แล้วผมก็ดูหน้าต่อๆไป พอเปิดไปเจอ วัดพระธาตุช่อแฮ เท่านั้นแหล่ะ ความทรงจำระลึกขึ้นโดยฉับพลัน " ตายห่า! กูเคยไปสาบานไว้นี่หว่า "

สมัยที่ผมสอบเอ็นทรานซ์ครั้งแรกไม่ติด ผมจึงได้ไปสอบเข้าเรียนที่วิทยาลัยครูลำปางในสมัยนั้น เรียนเผื่อไว้ ขณะเดียวกันก็เตรียมตัวสอบเอ็นฯใหม่ ที่นั่นเองที่ผมมีคนรักที่คบหากันจริงๆเป็นครั้งแรก และเหมือนชีวิตถูกลิขิตไว้ล่วงหน้า ปรากฎว่าพี่สาวลูกของลุงพี่ชายคนโตของแม่ได้ไปแต่งงานกับคนบ้านเดียวกันกับสาวเจ้าพอดี พี่สาวจึงไปอยู่ที่นั่นกว่าสิบปีได้ หลังจากสอบเอ็นทรานซ์เสร็จผมก็ไปอยู่บ้านพี่สาว เพื่อจะได้อยู่ใกล้ชิดคนรัก กลางวันผมก็ช่วยพี่สาวทำงาน กลางคืนผมก็ไปบ้านสาว ตามประเพณี "แอ่วสาว" ทางเหนือ พอหยุดทำงานก็ไปเที่ยวกัน สาวเจ้าก็เอามอร์เตอร์ไซต์มารับ ก็เที่ยวชมไปเรื่อย จนมาถึงวัดพระธาตุช่อแฮ ก็ได้เข้าไปไหว้พระกัน ช่วงนั้นไม่รู้ว่าผมคิดยังไง จึงพนมมือหลับตาสาบานเอาไว้ " ข้าขอสาบานจะรัก...หากผิดคำสาบานขอให้ข้ามีอันเป็นไป... " ทั้งๆที่สาวเจ้าก็ไม่ได้เรียกร้องอะไร และผมก็ไม่ได้กล่าวออกมาดังๆให้เธอได้ยินด้วย แล้วผมก็ลืมมันไปเลย...

ผมสอบเอ็นทรานซ์ติดจุฬาฯ ก็เข้ามาเรียนที่กรุงเทพฯ ในปีแรกช่วงวันหยุดยาว 4 วัน ผมก็ได้กลับไปที่ลำปางไปหาเธอ แล้ว เราก็ได้เสียกัน...

กลับมากรุงเทพฯผมปวดหัวตึ๊บ เพราะเงินที่แม่ส่งมาให้เป็นค่าใช้จ่ายประจำเดือนระหว่างการศึกษาเล่าเรียนถูกใช้ไปจนหมด (ผมมันเลวจริงๆ) แล้วผมก็รู้สึกผิดที่ใช้เงินผิดประสงค์ของแม่ ผมเลยเกิดความคิดว่า มีแฟนที่เรียนอยู่ด้วยกันน่าจะดีกว่า จะได้ไม่ต้องทำผิดต่อแม่ ผมเลยบอกเลิกกับเธอแบบทำร้ายจิตใจกันสุดๆ

แต่ผมก็ไม่มีแฟนอีกเลยจนกระทั่งผมเรียนจบ!

หลังจากจำได้ผมก็เอาเรื่องนี้ไปเล่าให้เพื่อนที่ดีที่สุดฟัง เพื่อนก็ให้เงินผมหนึ่งพัน เพราะตอนนั้นชีวิตผมก็ไม่มีงานประจำทำเป็นหลักแหล่ง ก่อนไปขณะเดินผ่านแผงขายสลากกินแบ่งฯ เพื่อนก็บอกให้ซื้อคู่หนึ่ง แล้วฉีกแบ่งกันคนละครึ่ง

พอถึงจังหวัดแพร่ ผมก็เดินทางไปวัดพระธาตุช่อแฮเลยทันที ถึงพระธาตุก็จุดธูปเทียนพนมมือหลับตาอธิษฐานขอขมาลาโทษ ก็รู้สึกว่ามีแสงสว่างวาบขึ้นไม่รู้ว่าเกิดจากเปลวเทียนหรือแสงแดด เย็นวันนั้นก็ได้ข่าวดีก่อนเดินทางกลับ ผมถูกสลากกินแบ่งรางวัลเลขท้ายสองตัว ก็คิดว่าการอธิษฐานขอขมาลาโทษของผมนั้นได้สัมฤทธิ์ผลแล้ว

กลับมาถึงกรุงเทพฯแล้ว วันหนึ่งผมได้โทรศัพท์ไปหาผู้อาวุโสท่านหนึ่งที่ผมเรียกท่านว่า " อาจารย์ " ผมก็เล่าให้ท่านฟัง อาจารย์ถึงกับอุทานออกมา ท่านก็เคยไปสาบานไว้ที่นั่นเหมือนกัน ในที่สุดอาจารย์ก็เดินทางไปจังหวัดแพร่เพื่อไปขอขมาเช่นเดียวกันกับผม โดยอาจารย์ได้ไปขอโทษคนรักเก่าของท่านต่อหน้าด้วย ส่วนผมไม่ได้ไป เพระก่อนนั้นผมทราบจากแม่ผมแล้วว่า เธอได้แต่งงานมีครอบครัวไปแล้ว มีลูก 2 คน การไปพบเธอจะเป็นการไปสร้างแรงกระเพื่อมให้กับครอบครัวเธอมากกว่า

ผมกับอาจารย์มีเรื่องราวความรักที่เหมือนกัน มีคนรักอยู่จังหวัดเดียวกัน และ ก็ไปสาบานไว้ที่เดียวกัน แล้วก็ต้องเดินทางไปขอขมาแบบเดียวกัน ซึ่งเป็นเรื่องที่เหลือเชื่อมาก...

อีก 10 ปีให้หลัง ผมก็ได้รับรู้ว่า ผมมีเบื้องบน มีพันธะสัญญาจากชาติที่แล้ว เมื่อนึกย้อนไปในอดีตนับตั้งแต่ปี 2552 ผมเป็น " บุรุษผู้รักษาอะไรไว้ไม่ได้  " และที่ผมรักษาอะไรไว้ไม่ได้ ก็เพราะว่า

ผมต้องรักษาพันธะสัญญาจากอดีตชาติ ชาตินี้ผมไม่มีสิทธิ์ที่จะสัญญากับใคร สัญญาว่าจะรักษาอะไรกับใครได้

(http://bbznet.pukpik.com/images/upload/shido/ilaB20101010202835.jpg)

เหมือนการจดทะเบียนสมรสซ้อน การจดทะเบียนครั้งหลังตกเป็นโมฆะ



 emo48:)


หัวข้อ: Re: มหากาพย์ ความรัก ชาติภพ
เริ่มหัวข้อโดย: เก๊า(24) ที่ 15 ตุลาคม 2553, 20:20:13
หวัดดี ก้าน โหราศาสตร์ไปถึงไหนแล้วครับ


หัวข้อ: Re: มหากาพย์ ความรัก ชาติภพ
เริ่มหัวข้อโดย: SC (ก้าน 24) ที่ 17 ตุลาคม 2553, 22:52:33
อ้างถึง
ข้อความของ เก๊า(24) เมื่อ 15 ตุลาคม 2553, 20:20:13
หวัดดี ก้าน โหราศาสตร์ไปถึงไหนแล้วครับ

หวัดดีเก๊า
ก็ชำนาญมากขึ้นนะ แต่ดูๆไปแล้ว ตัวเราไม่ใช่หมอดูอาชีพอ่ะ คงเป็นแค่ Accessories เท่านั้นเอง
ที่ยังไปไม่ถึงดวงดาว ก็เพราะเกณฑ์ชะตามันยังไม่ถึงนะ ชั่งดวงจีน ก็บอกว่า ต้นร้ายปลายดี

ปริศนารูปศร นั้นมันเป็นความจริงอ่ะ บางอย่างมันเป็น เคล็ดลับของโลก อย่างเช่น มัดตราสัง ทำไมมันกักวิญญาณได้

 

 emo48:)


หัวข้อ: Re: มหากาพย์ ความรัก ชาติภพ
เริ่มหัวข้อโดย: SC (ก้าน 24) ที่ 20 ตุลาคม 2553, 22:33:33
เลข 7 ตัวเลขแห่งเทพ

เลข 7 นั้น ซีกโลกตะวันตกให้ความสำคัญกับเลขนี้มาก เลข 7 ถือว่าเป็นเลขแห่งเทพ

ในโลกเรานี้มี 7 ทวีป 7 มหาสมุทร 7 สิ่งมหัศจรรย์ และที่น่าพิศวงมากๆก็คือ เรามี 7 วันในหนึ่งสัปดาห์ ซึ่งมันไม่สอดคล้องกับจำนวนวันในเดือนเลย เราลองมาดูความมหัศจรรย์เรื่องวันทั้งเจ็ดกัน

ในวันทั้งเจ็ดนั้นก็มีดาวประจำวันตามชื่อวัน และมีเลขประจำดาว ตามคัมภีร์ฮิบรูดังนี้

วันอาทิตย์    ดาวประจำวันคือ อาทิตย์  เลขพลังดาวคือ 1
วันจันทร์      ดาวประจำวันคือ จันทร์   เลขพลังดาวคือ 2
วันอังคาร     ดาวประจำวันคือ อังคาร  เลขพลังดาวคือ 9
วันพุธ         ดาวประจำวันคือ พุธ      เลขพลังดาวคือ 5
วันพฤหัสบดี  ดาวประจำวันคือ พฤหัสฯ  เลขพลังดาวคือ 3
วันศุกร์        ดาวประจำวันคือ ศุกร์     เลขพลังดาวคือ 6
วันเสาร์       ดาวประจำวันคือ เสาร์     เลขพลังดาวคือ 8

นำเลขพลังดาวทั้งหมดมารวมกัน เอา 1+2+9+5+3+6+8 = 34 แล้ว เอา 3+4 = 7

เห็นไหมละครับ ได้เลข 7 เท่าจำนวนวันพอดี

ทีนี้มาดูทางโหราศาสตร์ไทยกันบ้าง ไทยเราใช้เลขแทนดาวดังนี้

วันอาทิตย์    ดาวประจำวันคือ อาทิตย์  เลขแทนดาวคือ 1
วันจันทร์      ดาวประจำวันคือ จันทร์    เลขแทนดาวคือ 2
วันอังคาร     ดาวประจำวันคือ อังคาร   เลขแทนดาวคือ 3
วันพุธ         ดาวประจำวันคือ พุธ       เลขแทนดาวคือ 4
วันพฤหัสบดี  ดาวประจำวันคือ พฤหัสฯ   เลขแทนดาวคือ 5
วันศุกร์        ดาวประจำวันคือ ศุกร์      เลขแทนดาวคือ 6
วันเสาร์       ดาวประจำวันคือ เสาร์      เลขแทนดาวคือ 7

นำเลขแทนดาวทั้งหมดมารวมกัน เอา 1+2+3+4+5+6+7 = 28 แล้ว เอา 2+8 = 10 เอา 1+0 = 1

เห็นความแตกต่างกันไหมครับ

ดังนั้นหากจะใช้เลขศาสตร์พลังดาว ก็อย่านำมาปนกันกับโหราศาสตร์ไทย


 emo48:)


หัวข้อ: Re: มหากาพย์ ความรัก ชาติภพ
เริ่มหัวข้อโดย: Kaimook ที่ 20 ตุลาคม 2553, 23:12:34
อ้างถึง
ข้อความของ SC (ก้าน 24) เมื่อ 10 ตุลาคม 2553, 20:31:02
อย่าได้ริสาบานเป็นอันขาด!

เมื่อครั้งที่ผมทำงานกับบริษัทในเครือวังทองกรุ๊ป (พฤษภาคม 2535 - พฤษภาคม 2536) บริษัทฯได้จัดนำเที่ยวจังหวัดกาญจนบุรี เมื่อคณะมาถึงโบราณสถานปราสาทเมืองสิงห์ ผมเกิดนึกอยากถ่ายรูป ตั้งใจจะนั่งท่าเลียนแบบเทพ (คือนั่งพับขาข้างหนึ่งสอดฝ่าเท้าใต้ขาอีกข้างที่ห้อยลงมา) เพราะมันเข้ากับสถานที่ดี ผมเลยใช้มือดันตรงระดับที่จะขึ้นไปนั่ง แล้วสปริงตัวขึ้นไป ก็ปรากฎว่ามือผมลื่นไถลลงมา ทำให้แขนข้างหนึ่งครูดกับหิน เป็นแผลถลอกยาวตั้งแต่ช่วงเลยข้อศอกลงมาถึงเกือบครึ่งแขน เลือดไหลย้อย สาวๆเห็นถึงกับทำหน้าเบ้ ทีมพยาบาลที่ไปด้วยก็ช่วยล้างแผลทายาให้ผม...

ผ่านไปหลายปีดีดัก จนวันหนึ่งในปี 2542 ผมได้ไปที่ศูนย์หนังสือจุฬาฯ ที่ศาลาพระเกี้ยว ไม่รู้มีอะไรดลใจให้ผมเดินไปมุมๆหนึ่ง ก็ไปเจอหนังสือชื่อ สถานที่ศักดิ์สิทธิ์ในประเทศไทย ผมจึงหยิบขึ้นมาเปิดดู ก็เห็นมีปราสาทเมืองสิงห์ด้วย หลังจากอ่านดูแล้วผมถึงบางอ้อ

แล้วผมก็ดูหน้าต่อๆไป พอเปิดไปเจอ วัดพระธาตุช่อแฮ เท่านั้นแหล่ะ ความทรงจำระลึกขึ้นโดยฉับพลัน " ตายห่า! กูเคยไปสาบานไว้นี่หว่า "

สมัยที่ผมสอบเอ็นทรานซ์ครั้งแรกไม่ติด ผมจึงได้ไปสอบเข้าเรียนที่วิทยาลัยครูลำปางในสมัยนั้น เรียนเผื่อไว้ ขณะเดียวกันก็เตรียมตัวสอบเอ็นฯใหม่ ที่นั่นเองที่ผมมีคนรักที่คบหากันจริงๆเป็นครั้งแรก และเหมือนชีวิตถูกลิขิตไว้ล่วงหน้า ปรากฎว่าพี่สาวลูกของลุงพี่ชายคนโตของแม่ได้ไปแต่งงานกับคนบ้านเดียวกันกับสาวเจ้าพอดี พี่สาวจึงไปอยู่ที่นั่นกว่าสิบปีได้ หลังจากสอบเอ็นทรานซ์เสร็จผมก็ไปอยู่บ้านพี่สาว เพื่อจะได้อยู่ใกล้ชิดคนรัก กลางวันผมก็ช่วยพี่สาวทำงาน กลางคืนผมก็ไปบ้านสาว ตามประเพณี "แอ่วสาว" ทางเหนือ พอหยุดทำงานก็ไปเที่ยวกัน สาวเจ้าก็เอามอร์เตอร์ไซต์มารับ ก็เที่ยวชมไปเรื่อย จนมาถึงวัดพระธาตุช่อแฮ ก็ได้เข้าไปไหว้พระกัน ช่วงนั้นไม่รู้ว่าผมคิดยังไง จึงพนมมือหลับตาสาบานเอาไว้ " ข้าขอสาบานจะรัก...หากผิดคำสาบานขอให้ข้ามีอันเป็นไป... " ทั้งๆที่สาวเจ้าก็ไม่ได้เรียกร้องอะไร และผมก็ไม่ได้กล่าวออกมาดังๆให้เธอได้ยินด้วย แล้วผมก็ลืมมันไปเลย...

ผมสอบเอ็นทรานซ์ติดจุฬาฯ ก็เข้ามาเรียนที่กรุงเทพฯ ในปีแรกช่วงวันหยุดยาว 4 วัน ผมก็ได้กลับไปที่ลำปางไปหาเธอ แล้ว เราก็ได้เสียกัน...

กลับมากรุงเทพฯผมปวดหัวตึ๊บ เพราะเงินที่แม่ส่งมาให้เป็นค่าใช้จ่ายประจำเดือนระหว่างการศึกษาเล่าเรียนถูกใช้ไปจนหมด (ผมมันเลวจริงๆ) แล้วผมก็รู้สึกผิดที่ใช้เงินผิดประสงค์ของแม่ ผมเลยเกิดความคิดว่า มีแฟนที่เรียนอยู่ด้วยกันน่าจะดีกว่า จะได้ไม่ต้องทำผิดต่อแม่ ผมเลยบอกเลิกกับเธอแบบทำร้ายจิตใจกันสุดๆ

แต่ผมก็ไม่มีแฟนอีกเลยจนกระทั่งผมเรียนจบ!

หลังจากจำได้ผมก็เอาเรื่องนี้ไปเล่าให้เพื่อนที่ดีที่สุดฟัง เพื่อนก็ให้เงินผมหนึ่งพัน เพราะตอนนั้นชีวิตผมก็ไม่มีงานประจำทำเป็นหลักแหล่ง ก่อนไปขณะเดินผ่านแผงขายสลากกินแบ่งฯ เพื่อนก็บอกให้ซื้อคู่หนึ่ง แล้วฉีกแบ่งกันคนละครึ่ง

พอถึงจังหวัดแพร่ ผมก็เดินทางไปวัดพระธาตุช่อแฮเลยทันที ถึงพระธาตุก็จุดธูปเทียนพนมมือหลับตาอธิษฐานขอขมาลาโทษ ก็รู้สึกว่ามีแสงสว่างวาบขึ้นไม่รู้ว่าเกิดจากเปลวเทียนหรือแสงแดด เย็นวันนั้นก็ได้ข่าวดีก่อนเดินทางกลับ ผมถูกสลากกินแบ่งรางวัลเลขท้ายสองตัว ก็คิดว่าการอธิษฐานขอขมาลาโทษของผมนั้นได้สัมฤทธิ์ผลแล้ว

กลับมาถึงกรุงเทพฯแล้ว วันหนึ่งผมได้โทรศัพท์ไปหาผู้อาวุโสท่านหนึ่งที่ผมเรียกท่านว่า " อาจารย์ " ผมก็เล่าให้ท่านฟัง อาจารย์ถึงกับอุทานออกมา ท่านก็เคยไปสาบานไว้ที่นั่นเหมือนกัน ในที่สุดอาจารย์ก็เดินทางไปจังหวัดแพร่เพื่อไปขอขมาเช่นเดียวกันกับผม โดยอาจารย์ได้ไปขอโทษคนรักเก่าของท่านต่อหน้าด้วย ส่วนผมไม่ได้ไป เพระก่อนนั้นผมทราบจากแม่ผมแล้วว่า เธอได้แต่งงานมีครอบครัวไปแล้ว มีลูก 2 คน การไปพบเธอจะเป็นการไปสร้างแรงกระเพื่อมให้กับครอบครัวเธอมากกว่า

ผมกับอาจารย์มีเรื่องราวความรักที่เหมือนกัน มีคนรักอยู่จังหวัดเดียวกัน และ ก็ไปสาบานไว้ที่เดียวกัน แล้วก็ต้องเดินทางไปขอขมาแบบเดียวกัน ซึ่งเป็นเรื่องที่เหลือเชื่อมาก...

อีก 10 ปีให้หลัง ผมก็ได้รับรู้ว่า ผมมีเบื้องบน มีพันธะสัญญาจากชาติที่แล้ว เมื่อนึกย้อนไปในอดีตนับตั้งแต่ปี 2552 ผมเป็น " บุรุษผู้รักษาอะไรไว้ไม่ได้  " และที่ผมรักษาอะไรไว้ไม่ได้ ก็เพราะว่า

ผมต้องรักษาพันธะสัญญาจากอดีตชาติ ชาตินี้ผมไม่มีสิทธิ์ที่จะสัญญากับใคร สัญญาว่าจะรักษาอะไรกับใครได้

(http://bbznet.pukpik.com/images/upload/shido/ilaB20101010202835.jpg)

เหมือนการจดทะเบียนสมรสซ้อน การจดทะเบียนครั้งหลังตกเป็นโมฆะ



 emo48:)
น้ำอ้อยเคยไปเสี่ยงเซียมซีที่วัดพระธาตุช่อแฮจ่ะใบที่ได้รับทายทักว่า ที่อยู่ในท้องน่ะลูกผู้ชาย
ไม่อยากเชื่อเลยกลับมาน้ำอ้อยท้องน้องอั้มจริงๆด้วย...


หัวข้อ: Re: มหากาพย์ ความรัก ชาติภพ
เริ่มหัวข้อโดย: SC (ก้าน 24) ที่ 20 ตุลาคม 2553, 23:20:31
อ้างถึง
ข้อความของ Kaimook เมื่อ 20 ตุลาคม 2553, 23:12:34
อ้างถึง
ข้อความของ SC (ก้าน 24) เมื่อ 10 ตุลาคม 2553, 20:31:02
อย่าได้ริสาบานเป็นอันขาด!

เมื่อครั้งที่ผมทำงานกับบริษัทในเครือวังทองกรุ๊ป (พฤษภาคม 2535 - พฤษภาคม 2536) บริษัทฯได้จัดนำเที่ยวจังหวัดกาญจนบุรี เมื่อคณะมาถึงโบราณสถานปราสาทเมืองสิงห์ ผมเกิดนึกอยากถ่ายรูป ตั้งใจจะนั่งท่าเลียนแบบเทพ (คือนั่งพับขาข้างหนึ่งสอดฝ่าเท้าใต้ขาอีกข้างที่ห้อยลงมา) เพราะมันเข้ากับสถานที่ดี ผมเลยใช้มือดันตรงระดับที่จะขึ้นไปนั่ง แล้วสปริงตัวขึ้นไป ก็ปรากฎว่ามือผมลื่นไถลลงมา ทำให้แขนข้างหนึ่งครูดกับหิน เป็นแผลถลอกยาวตั้งแต่ช่วงเลยข้อศอกลงมาถึงเกือบครึ่งแขน เลือดไหลย้อย สาวๆเห็นถึงกับทำหน้าเบ้ ทีมพยาบาลที่ไปด้วยก็ช่วยล้างแผลทายาให้ผม...

ผ่านไปหลายปีดีดัก จนวันหนึ่งในปี 2542 ผมได้ไปที่ศูนย์หนังสือจุฬาฯ ที่ศาลาพระเกี้ยว ไม่รู้มีอะไรดลใจให้ผมเดินไปมุมๆหนึ่ง ก็ไปเจอหนังสือชื่อ สถานที่ศักดิ์สิทธิ์ในประเทศไทย ผมจึงหยิบขึ้นมาเปิดดู ก็เห็นมีปราสาทเมืองสิงห์ด้วย หลังจากอ่านดูแล้วผมถึงบางอ้อ

แล้วผมก็ดูหน้าต่อๆไป พอเปิดไปเจอ วัดพระธาตุช่อแฮ เท่านั้นแหล่ะ ความทรงจำระลึกขึ้นโดยฉับพลัน " ตายห่า! กูเคยไปสาบานไว้นี่หว่า "

สมัยที่ผมสอบเอ็นทรานซ์ครั้งแรกไม่ติด ผมจึงได้ไปสอบเข้าเรียนที่วิทยาลัยครูลำปางในสมัยนั้น เรียนเผื่อไว้ ขณะเดียวกันก็เตรียมตัวสอบเอ็นฯใหม่ ที่นั่นเองที่ผมมีคนรักที่คบหากันจริงๆเป็นครั้งแรก และเหมือนชีวิตถูกลิขิตไว้ล่วงหน้า ปรากฎว่าพี่สาวลูกของลุงพี่ชายคนโตของแม่ได้ไปแต่งงานกับคนบ้านเดียวกันกับสาวเจ้าพอดี พี่สาวจึงไปอยู่ที่นั่นกว่าสิบปีได้ หลังจากสอบเอ็นทรานซ์เสร็จผมก็ไปอยู่บ้านพี่สาว เพื่อจะได้อยู่ใกล้ชิดคนรัก กลางวันผมก็ช่วยพี่สาวทำงาน กลางคืนผมก็ไปบ้านสาว ตามประเพณี "แอ่วสาว" ทางเหนือ พอหยุดทำงานก็ไปเที่ยวกัน สาวเจ้าก็เอามอร์เตอร์ไซต์มารับ ก็เที่ยวชมไปเรื่อย จนมาถึงวัดพระธาตุช่อแฮ ก็ได้เข้าไปไหว้พระกัน ช่วงนั้นไม่รู้ว่าผมคิดยังไง จึงพนมมือหลับตาสาบานเอาไว้ " ข้าขอสาบานจะรัก...หากผิดคำสาบานขอให้ข้ามีอันเป็นไป... " ทั้งๆที่สาวเจ้าก็ไม่ได้เรียกร้องอะไร และผมก็ไม่ได้กล่าวออกมาดังๆให้เธอได้ยินด้วย แล้วผมก็ลืมมันไปเลย...

ผมสอบเอ็นทรานซ์ติดจุฬาฯ ก็เข้ามาเรียนที่กรุงเทพฯ ในปีแรกช่วงวันหยุดยาว 4 วัน ผมก็ได้กลับไปที่ลำปางไปหาเธอ แล้ว เราก็ได้เสียกัน...

กลับมากรุงเทพฯผมปวดหัวตึ๊บ เพราะเงินที่แม่ส่งมาให้เป็นค่าใช้จ่ายประจำเดือนระหว่างการศึกษาเล่าเรียนถูกใช้ไปจนหมด (ผมมันเลวจริงๆ) แล้วผมก็รู้สึกผิดที่ใช้เงินผิดประสงค์ของแม่ ผมเลยเกิดความคิดว่า มีแฟนที่เรียนอยู่ด้วยกันน่าจะดีกว่า จะได้ไม่ต้องทำผิดต่อแม่ ผมเลยบอกเลิกกับเธอแบบทำร้ายจิตใจกันสุดๆ

แต่ผมก็ไม่มีแฟนอีกเลยจนกระทั่งผมเรียนจบ!

หลังจากจำได้ผมก็เอาเรื่องนี้ไปเล่าให้เพื่อนที่ดีที่สุดฟัง เพื่อนก็ให้เงินผมหนึ่งพัน เพราะตอนนั้นชีวิตผมก็ไม่มีงานประจำทำเป็นหลักแหล่ง ก่อนไปขณะเดินผ่านแผงขายสลากกินแบ่งฯ เพื่อนก็บอกให้ซื้อคู่หนึ่ง แล้วฉีกแบ่งกันคนละครึ่ง

พอถึงจังหวัดแพร่ ผมก็เดินทางไปวัดพระธาตุช่อแฮเลยทันที ถึงพระธาตุก็จุดธูปเทียนพนมมือหลับตาอธิษฐานขอขมาลาโทษ ก็รู้สึกว่ามีแสงสว่างวาบขึ้นไม่รู้ว่าเกิดจากเปลวเทียนหรือแสงแดด เย็นวันนั้นก็ได้ข่าวดีก่อนเดินทางกลับ ผมถูกสลากกินแบ่งรางวัลเลขท้ายสองตัว ก็คิดว่าการอธิษฐานขอขมาลาโทษของผมนั้นได้สัมฤทธิ์ผลแล้ว

กลับมาถึงกรุงเทพฯแล้ว วันหนึ่งผมได้โทรศัพท์ไปหาผู้อาวุโสท่านหนึ่งที่ผมเรียกท่านว่า " อาจารย์ " ผมก็เล่าให้ท่านฟัง อาจารย์ถึงกับอุทานออกมา ท่านก็เคยไปสาบานไว้ที่นั่นเหมือนกัน ในที่สุดอาจารย์ก็เดินทางไปจังหวัดแพร่เพื่อไปขอขมาเช่นเดียวกันกับผม โดยอาจารย์ได้ไปขอโทษคนรักเก่าของท่านต่อหน้าด้วย ส่วนผมไม่ได้ไป เพระก่อนนั้นผมทราบจากแม่ผมแล้วว่า เธอได้แต่งงานมีครอบครัวไปแล้ว มีลูก 2 คน การไปพบเธอจะเป็นการไปสร้างแรงกระเพื่อมให้กับครอบครัวเธอมากกว่า

ผมกับอาจารย์มีเรื่องราวความรักที่เหมือนกัน มีคนรักอยู่จังหวัดเดียวกัน และ ก็ไปสาบานไว้ที่เดียวกัน แล้วก็ต้องเดินทางไปขอขมาแบบเดียวกัน ซึ่งเป็นเรื่องที่เหลือเชื่อมาก...

อีก 10 ปีให้หลัง ผมก็ได้รับรู้ว่า ผมมีเบื้องบน มีพันธะสัญญาจากชาติที่แล้ว เมื่อนึกย้อนไปในอดีตนับตั้งแต่ปี 2552 ผมเป็น " บุรุษผู้รักษาอะไรไว้ไม่ได้  " และที่ผมรักษาอะไรไว้ไม่ได้ ก็เพราะว่า

ผมต้องรักษาพันธะสัญญาจากอดีตชาติ ชาตินี้ผมไม่มีสิทธิ์ที่จะสัญญากับใคร สัญญาว่าจะรักษาอะไรกับใครได้

(http://bbznet.pukpik.com/images/upload/shido/ilaB20101010202835.jpg)

เหมือนการจดทะเบียนสมรสซ้อน การจดทะเบียนครั้งหลังตกเป็นโมฆะ



 emo48:)
น้ำอ้อยเคยไปเสี่ยงเซียมซีที่วัดพระธาตุช่อแฮจ่ะใบที่ได้รับทายทักว่า ที่อยู่ในท้องน่ะลูกผู้ชาย
ไม่อยากเชื่อเลยกลับมาน้ำอ้อยท้องน้องอั้มจริงๆด้วย...


ก็ศักดิ์สิทธิ์ขึ้นชื่อนี่นา ถึงได้กล่าวขานกันไง

 emo48:)


หัวข้อ: Re: มหากาพย์ ความรัก ชาติภพ
เริ่มหัวข้อโดย: jum2524 ที่ 25 ตุลาคม 2553, 04:33:29
หวัดดีจ้ะก้าน..สบายดีนะ

เอ่อ..เห็นรูปก้าน(ไม่แน่ใจว่าที่บ้านใคร)แล้วต๊กกะใจเพราะภาพมันใหญ่จริงๆ  แล้วยิ่งเข้าเวปดึกๆอย่างนี้ซะด้วย..


หัวข้อ: Re: มหากาพย์ ความรัก ชาติภพ
เริ่มหัวข้อโดย: dtoy ที่ 25 ตุลาคม 2553, 05:16:05
ก้านสบายดีนะ ไม่ค่อยเจอเลย


หัวข้อ: Re: มหากาพย์ ความรัก ชาติภพ
เริ่มหัวข้อโดย: SC (ก้าน 24) ที่ 25 ตุลาคม 2553, 20:57:40
อ้างถึง
ข้อความของ jum2524 เมื่อ 25 ตุลาคม 2553, 04:33:29
หวัดดีจ้ะก้าน..สบายดีนะ

เอ่อ..เห็นรูปก้าน(ไม่แน่ใจว่าที่บ้านใคร)แล้วต๊กกะใจเพราะภาพมันใหญ่จริงๆ  แล้วยิ่งเข้าเวปดึกๆอย่างนี้ซะด้วย..


หวัดดีจ๊ะ จุ๋ม

ที่บ้านอ้อยนะ
ภาพนี้ใช่ป่าวววววววววววววววววววววววววววววว


(http://bbznet.pukpik.com/images/upload/shido/hQ9V20100909141640.jpg)

 emo48:)


หัวข้อ: Re: มหากาพย์ ความรัก ชาติภพ
เริ่มหัวข้อโดย: Patrick ที่ 09 ธันวาคม 2553, 10:37:35


สวัสดีเพื่อนก้าน
เป็นไงบ้างสบายดีเปล่า
ได้ข่าวว่าเด๋วนี้เป็นเด็กเทพแล้ว....ใช่ม่ะ..ใช่ม่ะ...

แฮปปี่วันรัฐธรรมนูญน่ะเพื่อน



หัวข้อ: Re: มหากาพย์ ความรัก ชาติภพ
เริ่มหัวข้อโดย: khesorn mueller ที่ 09 ธันวาคม 2553, 11:23:26
ถึงแล้วเหรอพี่แพตทริก??
โอ,ปิด 9-10-11-12ก็ดีดิ
ตกลงปีนี้ทำงานครึ่งเนิง ปิดครึ่งเนิงนะพี่?
alles klar.


พี่ก้านผอมจัง!


หัวข้อ: Re: มหากาพย์ ความรัก ชาติภพ
เริ่มหัวข้อโดย: Kaimook ที่ 30 ธันวาคม 2553, 22:32:32
 หวัดดีจ่ะนายก้าน(ยาวๆ)....หายไปไหนนานนนนนนนนจังค่ะ สวัสดีปีใหม่นะคะ ขอให้มีความสุขมากๆ คิดสิ่งใดขอให้สมปรารถนาค่ะ....


หัวข้อ: Re: มหากาพย์ ความรัก ชาติภพ
เริ่มหัวข้อโดย: khesorn mueller ที่ 31 ธันวาคม 2553, 00:01:35
พี่ก้าน,
สุขสันต์รับวันปีใหม่นะคะ


nn.24+3


หัวข้อ: Re: มหากาพย์ ความรัก ชาติภพ
เริ่มหัวข้อโดย: พธู ๒๕๒๔ ที่ 03 กุมภาพันธ์ 2554, 20:19:05
(http://www.cmadong.com/imageupload/2010_Cmadong-Image/data/image/lg1lvh-202e6c.jpg)


หัวข้อ: Re: มหากาพย์ ความรัก ชาติภพ
เริ่มหัวข้อโดย: Kaimook ที่ 09 เมษายน 2554, 23:05:27
 สวัสดีจ่ะก้าน....สบายดีไหมคะ อยู่ลำปางอ่ะเปล่าคะ...


หัวข้อ: Re: มหากาพย์ ความรัก ชาติภพ
เริ่มหัวข้อโดย: แจง-24 ที่ 16 เมษายน 2554, 11:04:56
สุขสันต์วันสงกรานต์นะคะก้าน
ก้านสบายดีนะ รักษาสุขภาพด้วย


หัวข้อ: Re: มหากาพย์ ความรัก ชาติภพ
เริ่มหัวข้อโดย: dtoy ที่ 27 เมษายน 2554, 14:13:42
ก้านขึ้นลงกรุงเทพฯช่วงนี้ระวังตัวด้วยนะ ฝนถล่มหนักน่ะ ข่าวมาว่ายังงั้น


หัวข้อ: Re: มหากาพย์ ความรัก ชาติภพ
เริ่มหัวข้อโดย: jum2524 ที่ 12 พฤษภาคม 2554, 05:17:03
สวัสดีค่ะก้าน emo48:)


หัวข้อ: Re: มหากาพย์ ความรัก ชาติภพ
เริ่มหัวข้อโดย: SC (ก้าน 24) ที่ 23 มิถุนายน 2554, 23:34:40
สุดท้ายกลายเป็นว่า

คนที่ตามหามี 2 คน!


 emo47 emo47 emo47


หัวข้อ: Re: มหากาพย์ ความรัก ชาติภพ
เริ่มหัวข้อโดย: khesorn mueller ที่ 24 มิถุนายน 2554, 02:55:16
พี่ก้าน,
พี่หายไปไหนมาตั้ง 3 เดือน?
พี่เป็นยังไงบ้างคะ?


หัวข้อ: Re: มหากาพย์ ความรัก ชาติภพ
เริ่มหัวข้อโดย: SC (ก้าน 24) ที่ 03 มกราคม 2555, 01:13:03
มีเรื่องอยากเล่าให้ฟังเรื่องหนึ่ง...

เนื่องมาด้วยการเลือกตั้งใหญ่ทั่วประเทศ ทำให้ผมต้องกลับไปเลือกตั้งที่ต่างจังหวัด วันศุกร์ที่ 1 กรกฎาคม 2554 ขณะที่ผมนั่งฟังแถลงข่าวงานหนึ่งอยู่ จู่ๆก็มีสื่อมวลชนสาวคนหนึ่งมานั่งข้างๆ ปกติก็จะไม่ค่อยคุยกันนาน แต่ไม่รู้ว่าทำไม ผมจึงคุยกับคนนี้ได้นาน อาจเป็นด้วยเพราะเป็นคนภาคเดียวกัน ขอเรียกชื่อเล่นของเขาย่อๆ ว่าน้อง ป ก็แล้วกัน....แล้วผมก็ออกเดินทางในคืนนั้นเอง

เลือกตั้งเสร็จผมก็อยู่บ้านต่ออีก 4 วันเพื่อทำพิธีบางอย่าง ช่วงที่อยู่ที่บ้านจู่ๆผมก็นึกขึ้นได้ว่า ถ้าเราเผาศพญาติๆแล้วกระดูกไหม้ไม่หมด อย่าเก็บเศษอัฐิ นั้นมาใส่ผอบหรือภาชนะอื่นใดไว้ ให้ทำการฝังดิน หรือ ลงน้ำ ไม่อย่างนั้นเวลาเขาไปเกิดใหม่ เขาจะมีไม่ครบ..

กลับมาถึงกรุงเทพ ไปงานแถลงข่าววันแรกผมก็เจอน้อง ป เลย ผมจึงพูดเรื่องนี้กับเขา น้อง ป ก็ชูนิ้วก้อยทั้งสองข้างให้ผมดู แล้วก็บอกว่า "นิ้วของเขาตรงข้อกลางไม่มีกระดูก" เขาเล่าต่อว่า "รู้ตั้งแต่เด็กแล้ว ไปเอ็กเรย์ดู ไม่มีกระดูก หมอถามว่าเจ็บไหม เขาก็บอกว่าไม่เจ็บ"

คือที่ตาผมเห็นนั้น นิ้วก้อยทั้งสองข้างของเขาก็ดูปกติทุกอย่าง ต้องเอามือจับกดดูถึงจะรู้ว่ามีแต่เอ็น แปลกมากที่ไม่มีกระดูกข้อกลาง มีแต่ข้อต้นกับข้อปลาย แล้วก็มีเอ็นเชื่อมอยู่ งอได้จับได้ทุกอย่างเหมือนปกติ และแปลกที่ ข้อกระดูกนั้นไม่ถูกเอ็นดึงมาชนกันด้วย!

ผมเพิ่งนึกขึ้นได้เดี๋ยวนี้เองว่า กรณีของน้อง ป นี้ไม่น่าเกิดจากเผาไม่หมด แต่น่าจะถูกจงใจเอาไปมากกว่า  เพราะมันไม่น่าจะบังเอิญขนาดนั้น แต่ด้วยเหตุผลไดก็คงยากจะคาดเดา เพราะเล่นเอาข้อตรงกลางไปเลยนิ้วเดียวกัน (นิ้วก้อย) ทั้งสองข้าง


 emo48:)


หัวข้อ: Re: มหากาพย์ ความรัก ชาติภพ
เริ่มหัวข้อโดย: Pete15 ที่ 03 มกราคม 2555, 01:38:56
สวัสดี ปี ใหม่ 2555 ครับ น้องก้าน เรื่องน่าสนใจดีครับ น่าติดตาม


หัวข้อ: Re: มหากาพย์ ความรัก ชาติภพ
เริ่มหัวข้อโดย: SC (ก้าน 24) ที่ 03 มกราคม 2555, 01:49:44
อ้างถึง
ข้อความของ Pete15 เมื่อ 03 มกราคม 2555, 01:38:56
สวัสดี ปี ใหม่ 2555 ครับ น้องก้าน เรื่องน่าสนใจดีครับ น่าติดตาม

สวัสดีปีใหม่เช่นกันครับ พี่ Pete

ขอบคุณครับ


 emo48:)





หัวข้อ: Re: มหากาพย์ ความรัก ชาติภพ
เริ่มหัวข้อโดย: Uncle Na ที่ 03 มกราคม 2555, 06:01:37
ขอพรอันพิเศษจากสิ่งศักดิ์สิทธิ์ ที่ชาวจุฬาฯ มี  ดลให้น้าก้าน มีแต่สุขภาพดี และร่ำรวยความสุข ตลอดปีมะโรง พ.ศ.๒๕๕๕ และตลอดไป  
 
Happy New Year 2012 ... KRUB    

★˛˚˛*˛°.˛*.˛°˛.*★˚˛*˛°.˛*.˛°˛.*★★* 。*˛.
˛°_██_*.。*./ ♥ \ .˛* .˛。.˛.*.★*Merry Christmas*★ 。*
˛. (´• ̮•)*.。*/♫.♫\*˛.* ˛_Π_____.♥♥ ˛* ˛*
.°( . • . ) ˛°./• '♫ ' •\.˛*./______/~\*. ˛*.。˛* ˛.*。
*(...'•'.. ) *˛╬╬╬╬╬˛°.|田田 |門|╬╬╬╬╬*˚ .˛ ..


หัวข้อ: Re: มหากาพย์ ความรัก ชาติภพ
เริ่มหัวข้อโดย: SC (ก้าน 24) ที่ 05 กรกฎาคม 2555, 01:34:50
ท่าทาง ชื่อกระทู้นี้จะไม่ได้ตั้งเองหรูๆ ซะแล้ว
เฮ้อ...



 emo29:P:







หัวข้อ: Re: มหากาพย์ ความรัก ชาติภพ
เริ่มหัวข้อโดย: ตี้ถาปัด ที่ 05 กรกฎาคม 2555, 08:23:26
อ้ายก้านเป็นอะไรไป รำพึงรำพันซะขนาดนั้น


หัวข้อ: Re: มหากาพย์ ความรัก ชาติภพ
เริ่มหัวข้อโดย: SC (ก้าน 24) ที่ 06 กรกฎาคม 2555, 00:52:19
อ้างถึง
ข้อความของ ตี้ถาปัด เมื่อ 05 กรกฎาคม 2555, 08:23:26
อ้ายก้านเป็นอะไรไป รำพึงรำพันซะขนาดนั้น


เป๋นแน่บ่ะ เป๋นขนาดหนัก


 emo29:P:


หัวข้อ: Re: มหากาพย์ ความรัก ชาติภพ
เริ่มหัวข้อโดย: SC (ก้าน 24) ที่ 06 กรกฎาคม 2555, 01:19:57
หากชาติที่แล้วกับชาตินี้ของเราห่างกัน 2700 ปี
ชาติที่แล้วมีเมีย 3 คน
ชาตินี้ เมียคนหนึ่งเกิดมา สวยระดับดารา
เทียบกันกับเราแล้วต่างกันยังกะฟ้ากับเหว

555

อย่างนี้เรียกว่า มหากาพย์ ความรัก ชาติภพ ได้ไหม?



 emo24:(



 





หัวข้อ: Re: มหากาพย์ ความรัก ชาติภพ
เริ่มหัวข้อโดย: SC (ก้าน 24) ที่ 08 กรกฎาคม 2555, 23:36:25
แต่มันไม่ใช่แค่เรื่องของเราเท่านั้นหรอก เราเป็นเพียงตัวแสดงเรื่อง

 emo48:)






หัวข้อ: Re: มหากาพย์ ความรัก ชาติภพ
เริ่มหัวข้อโดย: SC (ก้าน 24) ที่ 09 กรกฎาคม 2555, 01:18:24
จุฬาฯ จ และ 7

ไม่รู้ว่าเพื่อนๆ พี่ๆ น้อง จะเคยคิดแบบเราหรือเปล่า?

เรียนจุฬาฯ จบเป็นบัณฑิตจุฬา ก็ใฝ่ฝันและอยากมีคู่ครองจบจุฬาเหมือนกัน

อย่างที่เราเคยเล่าในนี้ ว่าเราหมกมุ่นเรื่องเนื้อคู่มาตั้งแต่ปี 2530 โน่น คนที่เราปักใจ ไม่มี สาวจากจุฬาเลยแม้แต่คนเดียว!

ช่วงปี 2529 ตอนที่เราทำงานอยู่ธนาคารกรุงศรีฯ แม่บ้านของธนาคารเอ่ยปากยกลูกสาวให้ อายุจำไม่ได้แต่เรียนรามฯ ปี 3 แกพูดจริงๆ เพราะแกทำไข่ลูกเขยมาให้ทานเต็มปิ่นโตเลย แต่เราไม่ทาน หยิ่ง เพราะคิดว่า "กูจบจุฬาฯ ก็ต้องมีเมียจุฬาฯเท่านั้น" ขอโทษที่ไม่ดัดแปลงสำนวน มันไม่ได้อารมณ์

แต่พอถึงปี 2530 พอมีภาพดังที่เคยเล่าผุดขึ้นมา ทีนี้อย่าว่าแต่เด็กมหาลัยเลย เด็กพาณิชย์ อาชีวะ ยอมรับได้หมด คนแรกที่เราปักใจ และบอกได้ว่านั่นคือ การเริ่มแรกของการค้นหาเนื้อคู่ (นี่พูดตามความรู้สึกนึกคิดในขณะนั้น ปัจจุบันบอกได้เลยว่า แม้ชาติที่แล้วจะเป็นผัวเมียอยู่ร่วมกันมาจนถึงวาระสุดท้ายของชีวิต แต่ถ้าชาตินี้ไม่ได้อยู่ร่วมกัน จะใช้คำว่าเนื้อคู่ไม่ได้) และให้ดอกกุหลาบแดง 7 ดอกนั้น เธอชื่อเล่น "จุ๋ม" (อักษรตัว จ จาน) เป็นเด็กพาณิชย์ ปวส. ปี 2 น้องสาวลูกค้าของธนาคาร ขาว หมวย น่ารัก

และ...สุดๆก็คงจะเป็นตอนที่เรารู้เรื่องเกี่ยวกับตัวเองแล้ว สาวลาว มาอยู่เมืองไทยตั้งแต่อายุ 12 เรียนไม่จบ ป. 6 ที่ลาว เราก็ยังยอมรับได้ แต่เสี้ยวหนึ่งของความคิด เราถึงกับรำพึงรำพันกับตนเองว่า "เนื้อคู่ ก็แค่นี้ ทำไมเราต้องเข้ามาเรียนถึงจุฬาฯด้วย ไม่จำเป็นสักนิดเดียว ไม่จบจุฬาฯก็เจอกันได้"

ทุกครั้งเมื่อเราได้เห็นข่าวงานมงคลสมรส แล้วรู้ว่าจบจุฬาทั้งคู่ เมื่อนึกถึงตัวเราเอง เราถอนหายใจเล็กๆนะ เขาช่างสร้างสมกันมาดีแท้...

แต่ซักประมาณ 7 วันที่ผ่านมานี้ เรารู้คำตอบแล้วว่า ทำไมเราต้องเข้ามาเรียนจุฬา

ในช่วงปี 2532-2534 ปีไหนเราก็จำไม่ได้แน่ชัด เพราะมันผ่านมากว่า 20 ปีแล้ว เราไปได้หนังสือเล่มหนึ่ง ถ้าจำไม่ผิดน่าจะชื่อ ตัวเลข บอกวิถีชีวิต เป็นการใช้ศาสตร์แห่งตัวเลขมาทำนายชีวิตเราทั้งใช้ตัวเลขในการสร้างโชคลาภ ฯลฯ ด้วย ฝรั่งเรียกว่า Numerology ไทยแปลว่า เลขศาสตร์ ในนั้นกล่าวถึงความมหัศจรรย์ของเลข 7 ทำไมโลกเราถึงมี 7 ทวีป 7 มหาสมุทร และ 7 วันในหนึ่งสัปดาห์...

นั่นเองเป็นการจุดประกายที่ทำให้เราคิด หรือจะเป็นการรับรู้ของเรา เราก็จำไม่ได้ จำได้แต่เพียงว่า เราพูดกับตัวเราเองว่า "เนื้อคู่ของเราเป็นหมายเลข 7"

ตอนนั้นอะไรรอบตัวเราดูเหมือนจะมีแต่เลข 7 เต็มไปหมด แม้กระทั่งสาวธรรมศาสตร์ที่เราได้พบเจอตอนกลางปี 2533 และต่อมาเราได้ปักใจ เบอร์โทรบ้านเขา คำนวณตามหลัก Numerology แล้วก็ได้เลข 7 แล้วเราก็ใช้วันที่ เดือน ปี ค.ศ. เกิดของเธอมาคำนวณดูบ้าง ปรากฏไม่ได้เลข 7 แต่เราก็ดันทุรังปักใจจนได้ เพียงเพราะว่ามีความรู้สึกบางอย่างที่เหนือธรรมดาท่านั้น ก็อาจเป็นเพราะชอบละนะ

และหลังจากนั้น พอเรามาเริ่มต้นศึกษาโหราศาสตร์ไทยในช่วงปี 2535-2536 เรื่องเลข 7 นี่ก็เลือนไปจากชีวิตเราเลย จนกระทั่งเมื่อเราเห็น ดาวเหนือ 7 ดวง แล้วนั่นแหล่ะ เลข 7 ถึงกลับมาอีกครั้ง ดังที่เราได้เล่าไปแล้วเรื่อง กุหลาบแดง 7 ดอก แต่ตอนที่เรายุ่งกับเลข 7 ในช่วงปี 2532-2534 เราไม่ได้นึกถึงเรื่องกุหลาบแดงเจ็ดดอกนั่นเลยนะ มันเลือนไปจากความทรงจำอย่างสิ้นเชิง

หากนับตั้งแต่ปี 2530 ที่เป็นจุดเริ่มต้น เราให้กุหลาบแดง 7 ดอก เชื่อไหมว่าปีนั้น ปี ค.ศ. 1987 คำนวณดูตามหลัก Numerology เอา 1+9+8+7 = 25 => 2+5 = 7 ไม่น่าเชื่อเลย เราเริ่มต้นค้นหาด้วยปี ค.ศ. ที่ลงท้ายด้วยเลข 7 เลขรวม 7 และ 7 ดอกกุหลาบสีแดง

ปีนี้ปี 2555 ผ่านกาลเวลาแห่งการค้นหา และชีวิตที่ล้มลุกคลุกคลานของเรา รวมเป็นระยะเวลาถึง 25 ปี => 2+5 = 7

และในที่สุดเราก็ได้พบคนที่เราค้นหาจนได้ เธอเลข 7 เหมือนดั่งที่เราได้เคยพูดกับตัวเราเองตอนช่วงปี 2532-2534 โน่นอย่างไม่น่าเชื่อ และเธอเหมือนกันกับเรา เพราะ เราก็เลข 7 เหมือนกัน

อายุเธอกับเราห่างกัน 17 ปี 4 เดือน 22 วัน = 17 4 22 เอา 17+4+22 = 43 => 4+3 = 7
หรือจะเอา 1+7+4+2+2 = 16 => 1+6 = 7

และยิ่งกว่านั้นชื่อเล่นของเธอก็อักษร จ จาน

ไม่น่าเชื่อว่า เริ่มต้นที่ จ จาน และ 7 สุดท้ายก็จบด้วย จ จาน และ 7

7 อ่านว่า "เจ็ด" ใช่หรือไม่?

อ้อ จุฬาฯ ก็ จ จาน
 


 emo48:) emo48:) emo48:) emo48:) emo48:) emo48:) emo48:)



หัวข้อ: Re: มหากาพย์ ความรัก ชาติภพ
เริ่มหัวข้อโดย: SC (ก้าน 24) ที่ 13 กรกฎาคม 2555, 03:43:31
Lady Star 7

วันนี้เราก็เพิ่งนึกขึ้นมาได้ ตอนที่เราเริ่มต้นการค้นหาด้วยกุหลาบแดง 7 ดอก เธออายุได้ 7 ขวบกว่านิดๆ

เราเข้ามากรุงเทพฯหลังจากที่เธอลืมตาดูโลกได้ไม่ถึง 5 เดือน ตอนที่เราเข้ามากรุงเทพฯครั้งแรกในปี 2523 นั้นแม่เราตลอดจนพี่ๆที่เป็นญาติต่างก็แนะนำให้เราไปสมัครและสอบเอ็นฯที่มช.แทน แต่เรายืนยันจะเข้ามากรุงเทพฯอย่างเดียว จนแม่ต้องไปขอร้องให้พี่สาวลูกของป้ามาเป็นเพื่อนตอนสอบ (แต่ตอนสมัครให้พี่เขยของพี่สาวมาส่ง) จนเกิดเหตุการณ์ทำให้เราพูดกับตัวเอง "เรามาที่นี่เพื่อหาคนๆหนึ่ง"

แต่พอสอบเอ็นฯครั้งแรกไม่ติด ครั้งที่ 2 ปี 2524 เราไปสอบเอ็นฯที่เชียงใหม่แทนโดยไม่อยากมาเหมือนครั้งแรกเลย

เราจำไม่ได้หรอกนะว่า สมัยก่อนโน้นเริ่มแนะแนวการสอบเอ็นฯตอนช่วงไหน? แต่จากเหตุการณ์ที่เกี่ยวพันทั้งมวล เราคิดว่า พอเธอเกิดมา "จุฬาฯ" ก็เข้ามาอยู่ในห้วงความคิดของเรา เพราะก่อนหน้านั้นเราไม่รู้หรอก "จุฬาฯ" คืออะไร เรามุ่งที่จะสอบเข้านายร้อยสามพรานมากกว่า หลังจากพลาดไม่ได้สอบเข้าเตรียมทหาร มาแล้วครั้งหนึ่ง ทั้งๆที่สั่งซื้อใบสมัครมาแล้วเรียบร้อย คือไม่ได้นายร้อยทหาร นายร้อยตำรวจก็ยังดี และก็เกิดเหตุการณ์อีหรอบเดียวกันอีก เราไม่ได้สมัครสอบนายร้อยสามพรานอีกเหมือนกัน ทั้งสองครั้งไม่รู้พ่อเราหายไปไหน ทำให้ไม่มีคนเซ็นใบสมัคร เรื่องก็คือเราก็ยึดตามเกณฑ์ ไม่ได้ส่งแต่เนิ่นๆ เห็นว่าวันสุดท้ายของการสมัครยึดวันประทับตาไปรษณีย์เป็นเกณฑ์ เราก็เลยคิดว่าใกล้หมดเขต 2-3 วัน ค่อยเซ็นต์ค่อยส่ง แล้วพ่อเราก็หายไปจากบ้าน คือไม่ได้หายไปแบบไม่รู้เรื่องนะ บอกว่าจะไปหาเพื่อนที่ต่างถิ่น แต่ไปนานเกิน ไม่รู้จะตามยังไง สมัยโน้นโทรศัพท์ไม่มี สุดท้ายก็เลยมาลงที่สอบเอ็นฯเข้ามหาวิทยาลัย เอ็นฯครั้งแรกไม่ติด เอ็นใหม่อีกครั้ง เลือกเหมือนเดิมทั้ง 2 ครั้ง เลือกวิศวะฯจุฬาฯอันดับแรก อยากเรียนวิศวะฯ เลยพ่วง วิศวะฯลาดกระบัง และห้อยท้ายด้วยธรรมศาสตร์อีก 2 คณะกันพลาด จะว่าไปเราก็เกือบได้ไปเรียนลาดกระบังแล้ว หากไม่บังเอิญเผลอเรอ ดันไปถอดแควร์รู๊ทยกกำลัง 3 ได้ ซึ่งจริงๆคำตอบต้องติดค้างเครื่องหมายสแควร์รู๊ท ก็เลยหล่นมาติดคณะบัญชีฯแทน

ก็คนมันต้องมาจบจุฬาฯนี่นะ มันถึงเกิดเรื่องบ้าๆแบบนั้น

คิดๆไปก็ไม่อยากจะเชื่อเลย อะไรจะพลังจิตซะขนาดนั้น เกิดมาก็ทำให้เราอยากเข้ามากรุงเทพฯแล้ว อายุ 7 ขวบก็ทำให้เราต้องค้นหาเธอ



 emo48:)


หัวข้อ: Re: มหากาพย์ ความรัก ชาติภพ
เริ่มหัวข้อโดย: SC (ก้าน 24) ที่ 15 กรกฎาคม 2555, 00:09:02
Incredible!

สิบกว่าวันแล้ว เรายังรู้สึกเหมือนกับตัวเองนะฝันไป อาจเป็นเพราะว่าเป็นอะไรที่เกินคาดมากๆ รู้สึกว่าตัวเองเอ๋อๆชอบกล

แต่ไม่รู้สึกเป็นทุกข์นะ ต่างกับสมัยก่อนโน้น เมื่อเกิดปักใจใครก็รู้สึกเป็นทุกข์ กังวล ที่เป็นเช่นนี้อาจจะเป็นเพราะว่า

1. เธอสูงเกินเอื้อม และ ไม่เคยคิดจะเอื้อม หรือ
2. เป็นความมั่นใจในระดับจิตไร้สำนึก (Unconscious Mind)


 emo48:)



หัวข้อ: Re: มหากาพย์ ความรัก ชาติภพ
เริ่มหัวข้อโดย: SC (ก้าน 24) ที่ 17 กรกฎาคม 2555, 01:56:44
เบื้องบนหรือบังเอิญ?

ปีนี้ พ.ศ. 2555 หรือ ค.ศ. 2012
2012 ถ้าเอา 2+0+1+2 = 5

เราเกิด พ.ศ. 2505 หรือ ค.ศ. 1962 ปีนี้อายุ 50 => 5+0 = 5
เธอเกิด พ.ศ. 2522 หรือ ค.ศ. 1979 ปีนี้อายุ 32 => 3+2 = 5

เป็นที่มหัศจรรย์ที่เลขอายุของเราและเธอเมื่อนำมาบวกรวมกันจะเป็นเลขเดียวกันรวมทั้งเลขปี ค.ศ. ด้วย และจะเป็นอย่างนี้ตลอดไป ปีนี้เลข 5 ปีหน้าก็เลข 6 ...

ถ้านี่เป็นการบังเอิญ ก็ต้องบอกว่า บังเอิญขั้นเทพ!



 emo48:)


หัวข้อ: Re: มหากาพย์ ความรัก ชาติภพ
เริ่มหัวข้อโดย: SC (ก้าน 24) ที่ 17 กรกฎาคม 2555, 02:17:57
แต่มันมีช่วงเหลื่อมกันของอายุอยู่ นั่นคือตั้งแต่วันที่เราเกิดไปจนถึงวันที่เธอเกิด เป็นเวลา 4 เดือน กับ 22 วัน จะได้เลขเดียวกัน พ้นจากนั้นไปเธอจะนำหน้าเราอยู่หนึ่ง เท่ากับว่าเวลาที่เราได้เลขเดียวกันนั้นเกินกว่า 1 ใน 3 ถึง 1 ใน 6 ของ 1 ใน 3

แล้วนี่มันบ่งบอกอะไร?

เราได้รู้มาแล้วว่า คนเราต้องการพักผ่อนนอนหลับ 8 ชั่วโมง ซึ่งเป็นเวลาที่เหมาะสมที่สุดหรือ 1 ใน 3 ของวัน

หากคน 2 คนมาใช้ชีวิตร่วมกัน เวลาที่ถือว่าเป็นชีวิตคู่จริงๆก็คือตอนที่อยู่บนที่นอนนี่แหล่ะ ทั้งนอนหลับและทำกิจกรรมอย่างอื่นด้วย วันหนึ่งก็คงจะประมาณ 1 ใน 3 ของวัน นั่นคือตลอดระยะเวลาที่แต่งงานหรืออยู่กินเป็นผัวเมียกัน ก็จะได้ร่วมกันจริงๆ 1 ใน 3 นอกนั้นจะเป็นกิจกรรมของแต่ละคน ทำงาน ฯลฯ บางคู่ที่ต้องอยู่ไกลกันอาจจะไม่ถึง 1 ใน 3 ด้วยซ้ำไป

หลายคู่ก็คงจะเป็นแบบนี้ เพียงแต่พวกเขาเหล่านั้นไม่ทราบ

เราถึงได้บอกว่า มันไม่ใช่เรื่องของเรา 2 คน เราเป็นเพียงผู้แสดง



 emo48:)






หัวข้อ: Re: มหากาพย์ ความรัก ชาติภพ
เริ่มหัวข้อโดย: Kaimook ที่ 17 กรกฎาคม 2555, 15:07:13
 หวัดดีจ่ะนายก้าน (ยาว) วันนี้ก็วันที่ 17 เหอ เหอ เหอ


หัวข้อ: Re: มหากาพย์ ความรัก ชาติภพ
เริ่มหัวข้อโดย: SC (ก้าน 24) ที่ 18 กรกฎาคม 2555, 00:17:50
อ้างถึง
ข้อความของ Kaimook เมื่อ 17 กรกฎาคม 2555, 15:07:13
หวัดดีจ่ะนายก้าน (ยาว) วันนี้ก็วันที่ 17 เหอ เหอ เหอ


หวัดดีจ๊ะอ้อย

17 = 1+7 = 8 ถ้าเกิดวันนี้ ฝรั่งเรียก Birthday Numerology นะจ๊ะ ไม่ใช่ Life Path Numerology ตัวเลขบอกวิถีชีวิต



 emo26:D


หัวข้อ: Re: มหากาพย์ ความรัก ชาติภพ
เริ่มหัวข้อโดย: Kaimook ที่ 18 กรกฎาคม 2555, 22:29:43
 ซำบายดีบ่


หัวข้อ: Re: มหากาพย์ ความรัก ชาติภพ
เริ่มหัวข้อโดย: SC (ก้าน 24) ที่ 19 กรกฎาคม 2555, 01:05:50
อ้างถึง
ข้อความของ Kaimook เมื่อ 18 กรกฎาคม 2555, 22:29:43
ซำบายดีบ่


ดีมากเลยจ๊ะ ร่างกายแข็งแรง ตอนที่หนีน้ำท่วมนะอ้อย ไปอยู่สนามศุภฯ ช่วยงานถุงยังชีพ ขนน้ำ แบกกระสอบข้าวสาร ตอนโยนแพ็คน้ำ ยังมีคนพูดเลยว่า "ดูพี่เขาสิ โยนยังกะมันเบาหวิวเลย"


 emo48:)






หัวข้อ: Re: มหากาพย์ ความรัก ชาติภพ
เริ่มหัวข้อโดย: SC (ก้าน 24) ที่ 22 กรกฎาคม 2555, 03:10:42
เวลาเราฟังเพลงที่เกี่ยวกับจังหวัดบ้านเกิดของเรา เราอินกับเพลงนะ

http://www.youtube.com/watch?v=c7Fk6QUElos

แต่เมื่อคิดถึงความเป็นจริง เรารู้ว่าเราไม่มี...อยู่ที่นั่น




 emo48:)






หัวข้อ: Re: มหากาพย์ ความรัก ชาติภพ
เริ่มหัวข้อโดย: khesorn mueller ที่ 22 กรกฎาคม 2555, 20:07:03
พี่ก้านหาสักคนคะ
ไว้เป็นเพื่อนคู่ทุกข์คู่ยาก
แต่หากพี่พึงพอใจจะอยู่คนเดียว
ก็สบายไปอีกแบบคะ ถ้าไม่เหงา.

หนิงชอบอยู่คนเดียวคะแต่แบบมีใคร!
นึกออกมั้ยพี่?อยู่คนเดียวให้ได้ท่ามกลาง
คนรอบๆ!!


หัวข้อ: Re: มหากาพย์ ความรัก ชาติภพ
เริ่มหัวข้อโดย: khesorn mueller ที่ 22 กรกฎาคม 2555, 20:08:43
คลิ้กขึ้นไปฟังเพลง..
ฮ้ายยยย
พี่ก้านฟังอะไรน่ะ??
เจ็บหู!


หัวข้อ: Re: มหากาพย์ ความรัก ชาติภพ
เริ่มหัวข้อโดย: SC (ก้าน 24) ที่ 23 กรกฎาคม 2555, 17:12:59
อ้างถึง
ข้อความของ khesorn mueller เมื่อ 22 กรกฎาคม 2555, 20:08:43
คลิ้กขึ้นไปฟังเพลง..
ฮ้ายยยย
พี่ก้านฟังอะไรน่ะ??
เจ็บหู!


เนื้อเพลงนี้เป็นท่วงทำนองพื้นบ้านนะจ๊ะ หนุงหนิง เรียกว่า "ซอ" เป็นเอกลักษณ์ของลำปางแท้ๆ

เพลงนี้มีหลายเวอร์ชั่น ตั้งแต่สดใส รุ่งโพธิ์ทอง เป็นต้นมา แต่พี่ว่า เวอร์นี้เข้าท่า คือทำนองจะฟังแล้วรื่นหู(คนลำปางแท้ๆ) แล้ว ดนตรีไม่น่าเบื่อ และกลมกลืนกันได้ดีกับท่วงทำนองและลีลาซอด้วย

ทำให้สนุกสนาน ขณะเดียวกันก็ได้อรรถรสของซอด้วย

เนื้อหาไม่ตรงชีวิตพี่เลย

นอกจาก "หนุ่มลำปางตามเมีย" ตามเมียเมื่อชาติที่แล้ว อย่างที่ไม่รู้ตัวเลยนะ 5555


 emo20:)):) emo20:)):) emo20:)):) emo20:)):) emo20:)):) emo20:)):) emo20:)):)


หัวข้อ: Re: มหากาพย์ ความรัก ชาติภพ
เริ่มหัวข้อโดย: khesorn mueller ที่ 23 กรกฎาคม 2555, 18:03:41
อ้าว,หนิงเข้าใจว่าลูกทุ่งธรรมดาคะ!
งั้นเดี๋ยวฟังใหม่.


หัวข้อ: Re: มหากาพย์ ความรัก ชาติภพ
เริ่มหัวข้อโดย: SC (ก้าน 24) ที่ 23 กรกฎาคม 2555, 22:06:44
ดวงดาวในชีวิต Guiding Star

เพื่อนๆพี่ๆน้องๆ หลายท่านอาจจะเคยมีประสบการณ์ที่เรียกกันว่า "ผีอำ" กันบ้างไม่มากก็น้อย เท่าที่จำความได้นั้น...

เราถูกเงาดำโถมเข้ามาปล้ำ เราขยับตัวไม่ได้เลย หายใจไม่ออก ร้องก็ร้องไม่ได้ รอบข้างมันมืดมิดไปหมด (ตอนที่เห็นเงาดำนั้นมันยังไม่มืด) ฉับพลันเราเห็นดาวดวงหนึ่งปรากฎขึ้นท่ามกลางความมืดมิดนั้น แล้วเราก็ได้สติ ตื่นขึ้นมา...

แต่หลังจากที่เราฝึกหายใจฝึกลมปราณแล้ว เราก็ไม่เห็นดาวอีกเลย เพราะเราเอาชนะมันได้ด้วยการเกรงลมปราณสู้ หลังจากที่เราล้มเหลว เราหันมาอ่านหนังสือธรรมะ เราสวดมนตร์ ทำวัตร พอมีประสบการณ์ผีอำอีก ทีนี้เราไม่สู้ เราสวดมนต์ แต่ยิ่งสวด ก็ยิ่งหายใจไม่ออก สุดท้ายก็ต้องร้องให้คนช่วย แล้วเราก็ตื่นขึ้นมา บ่อยครั้งเข้าเราก็นึกขึ้นได้ เราจึงเลิกสวดมนตร์ ที่นี้พอมีผีอำเราก็เดินลมปราณสู้เราก็เอาชนะได้อีก

ตอนที่เราไปอยู่ลำปางในช่วงกลางปี 2547-48 เราได้นั่งรถไปกับหัวคะแนนของส.จ.ที่เราไปอยู่ด้วย จู่เขาก็พูดขึ้นมาว่า "นายเชื่อไหม? เวลาโดนผีอำ ยิ่งสวดมนตร์ ยิ่งหายใจไม่ออก" เราก็ตอบว่า "จริงเพราะเคยกับตนเองมาแล้ว"

ตอนที่เราใช้ลมปราณสู้นั้น มีอยู่ครั้งหนึ่งเราประทับใจมาก ครั้งนั้นผีอำแปลกๆ คือ เงาดำมาจับมือเราทั้งสองข้าง แล้วค่อยๆแทรกเข้ามา แทรกเข้ามาเรื่อยจนเกือบถึงหัวใหล่ เราก็เดินลมปราณสู้ไล่มัน จนมันค่อยๆถอยออกไป พอมันหลุดจากปลายนิ้วทั้งสองข้างของเรา เราก็พลิกข้อมือทั้งสองข้างจับข้อมือของมันไว้ ก็ปรากฎไฟลุกพรึบเผาเงาดำนั้น แล้วเราก็ตื่น

ตอนที่เราเกรงลมปราณสู้ก็มีอยู่ครั้งหนึ่งที่เราสู้มันไม่ได้ เพราะมันหายใจไม่ได้เลย เราก็นึกถึงคำพูดของรุ่นพี่ที่ทำงานสมัยปี 2529-30 ซึ่งเราเคยถามเขาว่า เวลาถูกผีอำพี่ทำยังไง เขาบอกเขาใช้วิธี ลืมตา เราจึงลืมตา เราก็ได้สติตื่นขึ้นมา แล้วเราก็พบว่าที่เราหายใจเกร็งลมปราณไม่ได้นั้น เป็นเพราะว่าขอบผ้าห่มมันปิดเส้นเลือดหรือหลอดลมของเราอยู่ เนื่องจากผ้าห่มมันพันตัวเรา แล้วเราอาจจะพลิกตัวไปทับผ้าห่มทำให้ผ้าห่มถูกดึงมาปิดเส้นเลือดหรือหลอดลมของเรา เมื่อเราหายใจไม่ได้ เราก็ใช้ลมปราณไม่ได้

นั่นเป็นเรื่องราวที่นำมาซึ่งความคิด

เมื่อเราจำได้ถึงการเห็นดวงดาวปรากฎขึ้น ตอนที่เราถูกผีอำในช่วงต้น เราก็นำมันไปผูกโยงกับเรื่องเนื้อคู่ เราให้ความสำคัญ กับเนื้อคู่ว่า เธอผู้เป็นประดุจดวงดาวในชีวิต

นั่นจึงเป็นเหตุให้เราเชื่อว่า หลังจากที่เราพบเนื้อคู่แล้วเราจะประสบความสำเร็จและร่ำรวย เพราะเธอเป็นเหมือนดวงดาวนำทางให้ชีวิตเรา ในช่วงปี 2533-2534 เราจึงใช้รูปดาวสี่แฉกเป็นหนึ่งในสัญลักษณ์

และทุกอย่างก็ถูกทิ้งไปหลังจากที่เราหันมาอ่านหนังสือธรรมะ!

2 วันมานี้ก็บังเอิญมีสมาธิกับเพลง Take Me To Your Hear ของ Michael Learns to Rock ที่ปกติก็ฟังทุกเสาร์-อาทิตย์ แต่พึ่งมาสะดุดกับคำว่า Guiding Star เอาในครั้งนี้เอง

ลองดูเนื้อเพลงเต็มๆข้างล่างนี้

Hiding from The Rain and Snow
Trying to forget but I won't let go
Looking at a crowded street
Listening to my own heart beat

So many people all around the world
Tell me where do I find someone like you girl

[Chorus:]
Take me to your heart take me to your soul
Give me your hand before I'm old
Show me what love is - haven't got a clue
Show me that wonders can be true

They say nothing lasts forever
We're only here today
Love is now or never
Bring me far away

Take me to your heart take me to your soul
Give me your hand and hold me
Show me what love is - be my guiding star <===
It's easy take me to your heart

Standing on a mountain high
Looking at the moon through a clear blue sky
I should go and see some friends
But they don't really comprehend

Don't need too much talking without saying anything
All I need is someone who makes me wanna sing

[Chorus:]
Take me to your heart take me to your soul
Give me your hand before I'm old
Show me what love is - haven't got a clue
Show me that wonders can be true

ทำให้รู้สึกประหลาดใจไม่น้อย นั่นแสดงว่า ความคิดแบบนี้ไม่ได้มีเรา(บ้า)คนเดียวในโลก

http://www.youtube.com/watch?v=BdCpASsqPuk






 emo48:)

 


หัวข้อ: Re: มหากาพย์ ความรัก ชาติภพ
เริ่มหัวข้อโดย: SC (ก้าน 24) ที่ 29 กรกฎาคม 2555, 23:21:05
*******

          7   เลขนี้        มีความหมาย
 7ดวงดาว   เด่นกลาง   ดาราราย
7+7หมาย   ถึงคู่กัน     นิรันดร...



 emo6::)) emo6::)) emo6::)) emo6::)) emo6::)) emo6::)) emo6::))



หัวข้อ: Re: มหากาพย์ ความรัก ชาติภพ
เริ่มหัวข้อโดย: SC (ก้าน 24) ที่ 16 สิงหาคม 2555, 01:14:56
(http://bangkokexpress.net/xiii2xix/09-05-22-205225.jpg)

ตัวการต้นเหตุที่ทำให้เราถึงกับรำพึงรำพันกับตนเองว่า "เนื้อคู่ ก็แค่นี้ ทำไมเราต้องเข้ามาเรียนถึงจุฬาฯด้วย ไม่จำเป็นสักนิดเดียว ไม่จบจุฬาฯก็เจอกันได้"

 emo48:)
 



หัวข้อ: Re: มหากาพย์ ความรัก ชาติภพ
เริ่มหัวข้อโดย: khesorn mueller ที่ 18 สิงหาคม 2555, 17:53:11
พี่ก้าน,
เนื้อคู่ คู่ครอง..
กะการศึกษา จบอะไร จบที่ไหน..
มันคนละส่วนกันนี่พี่?
อย่าปนกันนะคะ!
เดี๋ยวยุ่งยากในการแยกแยะค่ะ!

ให้หนิงยกตัวอย่างมั้ยคะ??


หัวข้อ: Re: มหากาพย์ ความรัก ชาติภพ
เริ่มหัวข้อโดย: SC (ก้าน 24) ที่ 19 สิงหาคม 2555, 00:51:41
อ้างถึง
ข้อความของ khesorn mueller เมื่อ 18 สิงหาคม 2555, 17:53:11
พี่ก้าน,
เนื้อคู่ คู่ครอง..
กะการศึกษา จบอะไร จบที่ไหน..
มันคนละส่วนกันนี่พี่?
อย่าปนกันนะคะ!
เดี๋ยวยุ่งยากในการแยกแยะค่ะ!

ให้หนิงยกตัวอย่างมั้ยคะ??


หนุงหนิงพูดถูก

แต่มันเป็นแค่เสี้ยวหนึ่งของความคิดนะ มันเลยอดรำพึงรำพันไม่ได้ อีกอย่างจากประสบการณ์ส่วนตัวของพี่ ไม่เคยมีอะไรที่ไม่มีเหตุผล หรือความสมเหตุสมผล ในช่วงเวลาหนึ่งดูเหมือนว่าสิ่งที่พี่ทำ มันเสียเวลา มันสูญเปล่าอย่างไร้ค่า แต่แล้วพี่ก็พบว่าพี่ได้อะไรกลับมาเสมอ อย่างเช่นความรู้

และในที่สุดพี่ก็ได้คำตอบแล้วว่า เป็นเหตุอันสมควรยิ่งที่พี่ต้องเข้ามาเรียนจุฬา และ จบเป็นบัณฑิตจุฬาฯ


 emo48:)
 

 


หัวข้อ: Re: มหากาพย์ ความรัก ชาติภพ
เริ่มหัวข้อโดย: khesorn mueller ที่ 04 มกราคม 2556, 16:51:39


พี่ก้าน,

ขอสวัสดีปีใหม่ 2556นะคะ
ขอให้พี่ก้านโชคดี คิดหวังตั้งใจให้ประสบผล
ขอให้ชีวิตพี่อยู่ดี ปลอดโรคาพยาธิใดๆ
รวมทั้งสิ่งกวนใจ...ทั้งปวง.


nn.24+3


หัวข้อ: Re: มหากาพย์ ความรัก ชาติภพ
เริ่มหัวข้อโดย: แจง-24 ที่ 04 มกราคม 2556, 19:58:00
สวัสดีปี 2556 เช่นกันค่ะก้าน
ขอให้ก้านมีความสุข สุขภาพแข็งแรงนะ


หัวข้อ: Re: มหากาพย์ ความรัก ชาติภพ
เริ่มหัวข้อโดย: SC (ก้าน 24) ที่ 01 มกราคม 2559, 17:43:53
เริ่่มเรื่องจากการรับรู้ ที่เป็นเพียงส่วนหนึ่ง จึงไม่ตรง หรือถูกต้องทั้งหมด แต่ธีม ก็ถือว่าไม่คลาดเคลื่อนเท่าใดนัก

 emo26:D emo26:D emo26:D emo26:D emo26:D emo26:D emo26:D