Cmadong Chula

เรือนรับแขก เมาท์แหลกไม่เลือกรุ่น => ห้องสุขภาพและความงาม => ข้อความที่เริ่มโดย: dd_2530 ที่ 21 กุมภาพันธ์ 2550, 09:26:19



หัวข้อ: ความสำคัญของอาหารมื้อเช้า
เริ่มหัวข้อโดย: dd_2530 ที่ 21 กุมภาพันธ์ 2550, 09:26:19
ความสำคัญของอาหารเช้า

เคยมีคำพูดเปรียบเทียบไว้ว่า

อาหารมื้อเช้า ให้กินอย่าง ราชา

อาหารมื้อกลางวัน ให้กินอย่าง กรรมกร

อาหารมื้อเย็น ให้กินอย่าง ยาจก

                    หรือ อาหารมื้อเช้า บำรุงสมอง

                    อาหารมื้อกลางวัน บำรุงกำลัง

                    อาหารมื้อเย็น บำรุงเพศ

                                        หรือจากชาวเกาหลี อาหารมื้อเช้า 40 – 50 %

                              อาหารมื้อกลางวัน 30 – 40 %

                              อาหารมื้อเย็น 10 – 20 %

แต่ในปัจจุบัน ด้วยสาเหตุใดก็ตาม คนส่วนใหญ่กลับทำตรงกันข้าม

ความสำคัญของอาหารมื้อเช้า คือ

- เวลาที่เหมาะสมที่สุดในการรับประทานอาหารมื้อเช้าคือ 7.00 – 9.00 น เพราะเป็นช่วงเวลาที่กระเพาะอาหาร เริ่มทำงาน

- ถ้าไม่มีอาหารลงไปในกระเพาะ การบีบรัดตัวของกระเพาะจะไปเอาอุจจาระกลับเข้ามาย่อยซ้ำ

- สารที่ย่อยจะถูกดูดซึมเข้ากระแสเลือด ทำให้ร่างกายได้รับสารพิษจากอุจจาระ (แทนที่จะเป็นสารอาหารที่มีประโยชน์) ฉะนั้น คนที่ท้องผูกบ่อย อุจจาระที่ถ่ายออกมาจะเป็นเม็ดแข็งเพราะถูกย่อยซ้ำและถูกดูดน้ำออกไปซ้ำอีก



ผลเสียของการไม่รับประทานอาหารมื้อเช้า

- ร่างกายขาดสารอาหารที่จำเป็นในการเสริมสร้างพลังงานและซ่อมแซมสิ่งที่สึกหรอ

- เลือดไม่สะอาด ทำให้อวัยวะต่างๆไม่แข็งแรง

- สมองไม่ได้รับสารอาหารเพียงพอ ทำให้ไอคิวต่ำ เฉื่อย ขาดความว่องไว ความจำไม่ดี ขาดความกระตือรือร้น

- ถ้าไม่ได้รับประทานอาหารเช้าเป็นเวลานาน กระเพาะจะไม่แข็งแรง การขับถ่ายไม่ดี ตัวเหลว กล้ามเนื้อเหลว ผิวเหี่ยวและคล้ำ แก่เร็ว ภูมิต้านทานลด ปวดหัว ปวดเข่า
ความจำเสื่อม เป็นอัลไซเมอร์


ถ้าไม่สะดวกในการรับประทานอาหารเช้า แค่ โยเกิร์ต 1 ถ้วยกับกล้วยน้ำว้า 1 ลูกก็ยังดี โยเกิร์ตดีสำหรับกระเพาะและลำไส้ กล้วยน้ำว้าอุดมด้วยโปรตีนและวิตามิน เอ ซี และอี และย่อยง่าย ควรมีกล้วยน้ำว้าติดบ้านเสมอ

การดื่มกาแฟแทนอาหารเช้าไม่ได้ประโยชน์ และอาจเป็นโทษด้วยจากสารคาเฟอีน


หัวข้อ: ความสำคัญของอาหารมื้อเช้า
เริ่มหัวข้อโดย: MahDee ที่ 21 กุมภาพันธ์ 2550, 09:38:08
ขอบคุณครับ ช่วงนี้หันกลับมากินอาหารเช้าทุกวันแล้ว  :lol:  :lol:


หัวข้อ: ความสำคัญของอาหารมื้อเช้า
เริ่มหัวข้อโดย: Dr.Poot ที่ 21 กุมภาพันธ์ 2550, 09:42:02
ขอบคุณนะคะ พยายามทานให้ได้ทุกวันค่ะ


หัวข้อ: ความสำคัญของอาหารมื้อเช้า
เริ่มหัวข้อโดย: หล้า ที่ 22 กุมภาพันธ์ 2550, 11:17:19

เห็นด้วยค่ะ ถ้าวันไหนไม่ได้ทานข้าวเช้า คิดงานไม่ออก แถมหงุดหงิดง่ายอีกด้วย
อาการแบบว่า โมโหหิว :twisted:


หัวข้อ: ความสำคัญของอาหารมื้อเช้า
เริ่มหัวข้อโดย: khesorn mueller ที่ 25 กุมภาพันธ์ 2550, 00:38:00
Dear nong Poot,nong Lah,nong Mahdee,
I did something right and something wrong such as:
1. I ate breakfast exactly between 07.00-07.30 for more than 20 years...
previously as I still work in a company in Thailand...normal rice and any food then I was there(where??)have to turn around my routine and meal...I found muesli,a cereal like a bird food you all know well,it hold me full more than 5 hours,incredible food.maintain my weight and really push the digest!!
2. It is our ritual in the family that we eat not much lunch but warm meal in the evening...I knew it is not right..but my parent do it as I was young too..only poor bigboss has to adapt himself to me!!!
so be healthy and enough energy to be webmember,active and bright because of good support in your nob and your soul...


หัวข้อ: Re: ความสำคัญของอาหารมื้อเช้า
เริ่มหัวข้อโดย: Samrotri2517 ที่ 19 มกราคม 2553, 13:52:30
อ้างถึง
ข้อความของ dd_2530 เมื่อ 21 กุมภาพันธ์ 2550, 09:26:19
ความสำคัญของอาหารเช้า

เคยมีคำพูดเปรียบเทียบไว้ว่า

อาหารมื้อเช้า ให้กินอย่าง ราชา

อาหารมื้อกลางวัน ให้กินอย่าง กรรมกร

อาหารมื้อเย็น ให้กินอย่าง ยาจก

                    หรือ อาหารมื้อเช้า บำรุงสมอง

                    อาหารมื้อกลางวัน บำรุงกำลัง

                    อาหารมื้อเย็น บำรุงเพศ

                                        หรือจากชาวเกาหลี อาหารมื้อเช้า 40 – 50 %

                              อาหารมื้อกลางวัน 30 – 40 %

                              อาหารมื้อเย็น 10 – 20 %

แต่ในปัจจุบัน ด้วยสาเหตุใดก็ตาม คนส่วนใหญ่กลับทำตรงกันข้าม

ความสำคัญของอาหารมื้อเช้า คือ

- เวลาที่เหมาะสมที่สุดในการรับประทานอาหารมื้อเช้าคือ 7.00 – 9.00 น เพราะเป็นช่วงเวลาที่กระเพาะอาหาร เริ่มทำงาน

- ถ้าไม่มีอาหารลงไปในกระเพาะ การบีบรัดตัวของกระเพาะจะไปเอาอุจจาระกลับเข้ามาย่อยซ้ำ

- สารที่ย่อยจะถูกดูดซึมเข้ากระแสเลือด ทำให้ร่างกายได้รับสารพิษจากอุจจาระ (แทนที่จะเป็นสารอาหารที่มีประโยชน์) ฉะนั้น คนที่ท้องผูกบ่อย อุจจาระที่ถ่ายออกมาจะเป็นเม็ดแข็งเพราะถูกย่อยซ้ำและถูกดูดน้ำออกไปซ้ำอีก



ผลเสียของการไม่รับประทานอาหารมื้อเช้า

- ร่างกายขาดสารอาหารที่จำเป็นในการเสริมสร้างพลังงานและซ่อมแซมสิ่งที่สึกหรอ

- เลือดไม่สะอาด ทำให้อวัยวะต่างๆไม่แข็งแรง

- สมองไม่ได้รับสารอาหารเพียงพอ ทำให้ไอคิวต่ำ เฉื่อย ขาดความว่องไว ความจำไม่ดี ขาดความกระตือรือร้น

- ถ้าไม่ได้รับประทานอาหารเช้าเป็นเวลานาน กระเพาะจะไม่แข็งแรง การขับถ่ายไม่ดี ตัวเหลว กล้ามเนื้อเหลว ผิวเหี่ยวและคล้ำ แก่เร็ว ภูมิต้านทานลด ปวดหัว ปวดเข่า
ความจำเสื่อม เป็นอัลไซเมอร์


ถ้าไม่สะดวกในการรับประทานอาหารเช้า แค่ โยเกิร์ต 1 ถ้วยกับกล้วยน้ำว้า 1 ลูกก็ยังดี โยเกิร์ตดีสำหรับกระเพาะและลำไส้ กล้วยน้ำว้าอุดมด้วยโปรตีนและวิตามิน เอ ซี และอี และย่อยง่าย ควรมีกล้วยน้ำว้าติดบ้านเสมอ

การดื่มกาแฟแทนอาหารเช้าไม่ได้ประโยชน์ และอาจเป็นโทษด้วยจากสารคาเฟอีน

                   (http://img64.imageshack.us/img64/6875/bananamk.jpg)

          "ส่วนเกินจะหายไปอย่างกล้วยๆ เมื่อทานกล้วยเป็นมื้อเช้า"

          พยายามไดเอ็ทหลายวิธีก็ไม่ผอมลงสักนิด สิ้นหวังแล้วนะ..

งั้นลองหยิบ “กล้วย” ใบน้อยเติมพลังให้เช้าวันใหม่ดู เชื่อหรือไม่

          ส่วนเกินจะหายไปในพริบตา

วิถีรับประทานกล้วยมื้อเช้าแพร่หลายในประเทศญี่ปุ่น และเป็นที่นิยมถึงขนาด

ก่อตั้งชุมชนออนไลน์ (Social Networking Service)

สำหรับคนกินกล้วยมื้อเช้ากันเลย ( Mixi)  และภายในเวลาสองปีครึ่งที่ผ่านมา

พบว่าสมาชิกชุมชนประสบความสำเร็จในการลดน้ำหนักถึง 300 คนแล้ว

พวกเขามีผู้นำชื่อ  "ฮามาจิ"  ผู้เปลี่ยนไดอารี่บันทึกวิธีลดน้ำหนักฉบับกล้วยมื้อเช้าให้เป็นพ็อคเกตบุ๊ก

สูตรไอเด็ทของเขาคือ กล้วยกี่ลูกก็ได้ตามใจอยาก  + น้ำเปล่า เท่านั้นเอง

เมนูนี้ “เหมาะเหม็ง” ที่สุดด้วยเหตุผลหลายประการ

มองไปทางไหน เรามักเห็นกล้วยเกลื่อนตลาดไปหมด

จึงไม่ยุ่งยากเกินไปที่จะเสาะหามารับประทาน แถมราคายังถูกแสนถูก

อาจให้กันฟรีๆ หรือกินทิ้งกินขว้างยังได้เลย

ยิ่งช่วงเวลาเช้า เหล่ามนุษย์เงินเดือนต้องเร่งรีบกันอยู่แล้ว

จะมีสักกี่คนที่สามารถปฏิบัติตามหลักโภชนาการที่ว่า มื้อเช้าสำคัญที่สุดบ้าง

ในเมื่อต้องการลดน้ำหนักแล้ว จงอย่าฝืนใจ หรืออดทนอดกลั้นทำตามกฎเคร่งครัดใดๆ

ควรเอาเวลาไปกินมื้อเที่ยงให้อิ่มแปล้ และสังสรรค์มื้อเย็นกับเพื่อนโดยไม่อึดอัดใจกันดีกว่า

อีกอย่าง กล้วยไม่จำเป็นต้องหั่นปอกเปลือกเหมือนผลไม้ชนิดอื่น แค่ใช้มือปอกไม่กี่วินาทีก็กินได้แล้ว

กล้วยมื้อเช้าจึงโดนใจสาวกไดเอ็ท เพราะไม่เปลืองเงิน ไม่ต้องอด ไม่ต้องทน และไม่เสียเวลา

ฮามาจิ พบว่าการลดน้ำหนักสัมพันธ์กับระบบย่อยอาหารในร่างกายของคนเรา

ฉะนั้นการกินผลไม้อย่างเดียว ทำให้กระเพาะได้พักผ่อน

ช่วยฟื้นฟูสภาพการทำงานของกระเพาะ ลำไส้ และอวัยวะต่างๆ ในร่างกาย

หลังจากรับประทานผลไม้ไป 15-20 นาที ผลไม้จะเคลื่อนที่ไปสู่ลำไส้  และ

เริ่มถูกดูดซึมเข้าสู่ร่างกาย ขณะที่ผักคาร์โบไฮเดรตและโปรตีน

จะใช้เวลาในการย่อยนานกว่า 3-4 ชั่วโมงเลยทีเดียว

ส่วน “น้ำ” ที่เราดื่มตามไปติดๆ จะช่วยทำให้การหมุนเวียนของเลือด และ

ของเหลวในร่างกายดีขึ้น ส่งผลดีต่อการขับของเสียออกจากร่างกาย

สรรพคุณของกล้วยใบน้อยถือเป็นผลไม้ที่อุดมไปด้วยสารอาหารมากมาย

เมื่อกินกล้วย เราจะได้รับวิตามินบี1 และบี 2 เร่งการเผาผลาญน้ำตาลและไขมัน

ป้องกันตัวบวม และฟื้นฟูร่างกายจากความเหนื่อยล้า รวมทั้งเกลือแร่ เช่น

โปรแตสเซียม  ช่วยในการขับโซเดียมออกทางปัสสาวะ และแมกนีเซียม

ช่วยควบคุมความดันเลือด และการทำงานของแคลเซียม

อีกทั้งยังมีเส้นใย บรรเทาอาการท้องผูกได้ดี แต่มักเป็นสารอาหาร

ที่เรามักไม่ได้รับให้เพียงพอในแต่ละวัน

นอกจากนั้นยังมีฤทธิ์ในการขับพิษสูง เพราะแป้งในกล้วยดิบจะช่วยดีท็อกซ์

ส่วนกล้วยสุกช่วยเสริมภูมิต้านทานป้องกันหวัดได้ดี

ที่กล่าวมาข้างต้น เป็นเพียงคุณสมบัติพื้นฐาน

กล้วยยังมีสารโพลีฟินอล มีฤทธิ์ต้านอนุมูลอิสระ ทำหน้าที่ชะลอความแก่ และ

สารยูจินอล ซึ่งเป็นไฟโตเคมีคัล ที่ช่วยเร่งการพัฒนาสภาพร่างกาย

รวมถึงเซโรโทนิน ช่วยลดอาการหงุดหงิด และทำให้ความอยากอาหารลดลง

ตลอดจนตัวเอ็นไซม์ช่วยย่อยในเนื้อกล้วยเอง ก็จะทำให้การย่อยเป็นไปอย่างราบรื่น

เป็นการประหยัดเอ็นไซม์ในร่างกาย ช่วยให้คลายความเหนื่อยล้าไปในตัว

น้ำตาลในกล้วย ยังช่วยเพิ่มประสิทธิภาพให้มีสมาธิกับการทำงานมากขึ้น และ

ส่งผลให้ความถี่และปริมาณการบริโภคน้ำตาลในระหว่างวันลดลงไปโดยปริยาย

ที่น่าทึ่งไปกว่านั้น มีผลวิจัยว่ากล้วยช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานของเซลล์ NK

ซึ่งเป็นเซลล์ที่ทำหน้าที่จัดการมะเร็งได้ด้วย

ข้อดีขนาดนี้ ถึงเวลาใช้ชีวิตสไตล์กล้วยมื้อเช้าอย่างถูกวิธีกันแล้ว

เริ่มจากกินกล้วยหอมอย่างเดียวในมื้อเช้า จะกี่ลูกก็ได้ตามต้องการ เคี้ยวให้ละเอียด

ปล่อยให้ลิ้นได้รับรสอร่อยของกล้วยอย่างเพลิดเพลิน

หลังจากกินเสร็จแล้วยังหิวอยู่ ให้เว้นระยะเวลา 15-30 นาที จึงรับประทานอย่างอื่น เช่น

ข้าว หรือแอบอมลูกกวาดก็ได้ไม่ว่ากัน

แต่ถ้าวันไหนเบื่อกล้วย หรือไม่ชอบกล้วยหอมจริงๆ จะเปลี่ยนเป็นผลไม้ชนิดอื่นก็ได้

แต่ขอให้เป็นผลไม้ชนิดเดียวเท่านั้น เพื่อแบ่งเบาภาระของกระเพาะของเรา

ไม่ให้เหนื่อยเกินไปที่จะผลิตน้ำย่อยกรดด่างต่างกัน แล้วตีกันให้ปั่นป่วน

มาถึงการดื่มเฉพาะน้ำเปล่า ณ อุณหภูมิห้อง และดื่มบ่อยๆ โดยไม่ต้องกังวลเรื่องปริมาณ

เดี๋ยวพานจะเครียดเปล่าๆ จงดื่มเท่าที่พอใจ เพื่อให้ประสาทการรับรสดีขึ้น

ซึ่งต่างจากน้ำดื่มที่มีรสชาติ มันจะทำให้ประสาทการรับรสแย่ลง

ส่งผลให้เราต้องเพิ่มปริมาณอาหารโดยไม่จำเป็น

อีกทั้ง น้ำเปล่ายังไม่ต้องย่อยที่กระเพาะอาหารและลำไส้

จึงเป็นการปล่อยให้พวกมันได้เวลาพักไปในตัว 

ส่วนมื้อกลางวัน จะกินอะไรก็ได้ แต่ต้องเคี้ยวให้ละเอียด กินให้เต็มที่

หากกั๊กไว้ เสี่ยงกินจุบกินจิบระหว่างวัน แผนการที่วางไว้ตั้งแต่ต้นจะล้มครืนลงทันที

พอถึงบ่ายสามก็กินของว่างได้บ้าง โดยเฉพาะของว่างประเภทข้าว ช็อกโกแลต หรือ

ผลไม้ชนิดใดชนิดหนึ่งเท่านั้น และกินอาหารเย็นให้เร็วที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้

โดยเวลาเหมาะสมจะอยู่ที่ 6 โมงเย็นแต่ไม่เกิน 2 ทุ่ม และพยายามกินให้เร็วขึ้น

จากปัจจุบันสักครึ่งชั่วโมงจะดีมาก รวมทั้งไม่รับประทานของหวานหลังอาหารเย็น

หลังจากใส่ใจอาหารการกิน ก็ต้องนอนหลับให้ไวขึ้น ไม่ว่าจะอย่างไรก็ต้อง

นอนก่อนเที่ยงคืนให้ได้ และให้ความสำคัญกับการออกกำลังกายที่ไม่หักโหมจนเกินไป

ทำให้พอเหมาะ เพื่อร่างกายสดชื่น แล้วสูตรกล้วยไดเอ็ทนั้นก็จะสัมฤทธิผลดั่งใจ 

ส่วนผู้ที่ไม่ประสบความสำเร็จ อาจต้องกลับไปทบทวนกันสักนิดว่า นอนดึก สูบบุหรี่

ดื่มเหล้า เหนื่อยล้าตลอดเวลา พึ่งยาเป็นประจำ เครียดมาก และเคยลองไดเอ็ทแบบ

ไม่กินคาร์โบไฮเดรตมาแล้วหรือไม่

หากเป็นเช่นนั้น ลองปรับพฤติกรรมเสียใหม่ ก็ยังไม่สายเกินไปนัก

สำหรับข้อเสียจากวิธีลดน้ำหนักด้วยกล้วยมื้อเช้านั้น นอกจากจะเบื่อหน่ายบ้าง

เพราะกินได้แค่กล้วยกับน้ำ แถมมื้อดึกต้องกินเพียงผลไม้เท่านั้น และ

เข้านอนก่อนเที่ยงคืนด้วย และอาจไม่เหมาะกับทุกคน เพราะบางคนแพ้ยางกล้วย หรือ

แพ้กล้วยจนเกิดอาการคัน หรือมีผื่นแดง กับผู้ที่มีโรคประจำตัวหรือผู้ที่กำลังป่วยอยู่

แต่ยังไง ไดเอ็ทก็ง่ายเหมือนปอกกล้วยเข้าปากจริงๆ

นำมาจาก

http://www.bangkokbiznews.com/home/detail/life-style/health/20091009/80647/กล้วยๆ-...ช่วยไดเอ็ท.html (http://www.bangkokbiznews.com/home/detail/life-style/health/20091009/80647/กล้วยๆ-...ช่วยไดเอ็ท.html)

         emo6::)) emo6::)) emo6::))