Pee Mot ขอตามมาปรบมือดังๆ ให้ยอดฝีมือซีมะโด่งอีกคน...ดูภาพแล้ว...อยากไปเที่ยวทุ่งบัวตองบ้าง...ควรไปช่วงพ.ย. ใช่มั้ยคะ..จะพาพ่อกับแม่ไปเที่ยวค่ะ
พี่แนะนำได้มั้ยคะว่า "ราชพฤกษ์" ควรไปดูที่สวนไหนบ้าง น้องโก๋ 41 ได้บอกบ้างแล้ว น้องและคณะจะมีเวลาชมวันเสาร์นี้ครึ่งวัน กับ 1 วันเต็มวันอาทิตย์...แล้วควรไปนั่งตรงไหนเพื่อดูม่านน้ำคะ เห็นพี่ที่ออฟฟิศบอกว่า ให้กินข้าวที่ร้าน To Sit แล้วนั่งแช่ถึง 19.30 น.เพื่อชมม่านน้ำ จะได้กะเวลาไปดูถูกค่ะ
โอ้!!! เสาร์ท่าทางนอกจากพาเด็กๆ รุ่น 39-41 ไปแล้ว ยังต้องได้เจอเด็กๆ เยอะแน่ๆ วันเด็กค่ะวันเด็ก..."สวัสดีวันเด็กๆ ล่วงหน้านะคะ"...
พี่ Mot คะสาวๆ ที่ไปด้วยชื่อพี่อะไรบ้าง คือ จำชื่อไม่ได้ มีพี่คนหนึ่งคุ้นเคยกันค่ะ...หุหุ อย่าโกรธน้องน้าถ้าจำชื่อไม่ได้ มันติดที่ปากค่ะ รุ่นพี่น้องสาวบัญชีสถิติน่ะค่ะ แฮ่ๆ ชวนพี่ๆ เข้ามาคุยกันบ้างนะคะ รุ่น 34 เห็นแต่พี่โอภาสคนเดียวเอง...น่าสงสารออก...นี่ก็นัดเจอกันที่เชียงใหม่ค่ะ คืนวันเสาร์เจอกันที่นั่นค่ะ...
ขอบคุณครับที่ติดตามชม : สำหรับพี่บัญชีที่น้องพูดถึงคือพี่จอยครับ  ตอนเรียนก็อยู่หอด้วย  ปัจจุบันอยู่ที่การบินไทยภูเก็ตครับ เธอชอบเล่น Net เหมือนกัน  ไว้จะชวนมาร่วมกีวนรุ่น 34 ครับเพราะเงียบเหงาเหลือเกิน  ที่เหลือคนนึงจบบัญชีเหมือนกันแต่จากธรรมศาสตร์   ส่วนอีกคนมาจากลาดกระบังแต่เป็นสะใภ้จุฬา ฯ ครับ
สำหรับงานราชพฤกษ์  ขออนุญาต copy ข้อมูลที่เคย post ไว้ใน pantip (ถ้าให้ดีต้องดูประกอบกับภาพที่ post ไว้) 
---- ข้อมูลที่เคย Post ไว้ในห้อง Blue Planet  Pantip.com -----
ผมเป็นคนภูเก็ตที่อยู่กับทะเลมาตั้งแต่เกิด  สถานที่ท่องเที่ยวสุดโปรดของผมจึงเป็นภูเขา, ทะเลหมอก, ดอกไม้  เพราะไม่ค่อยมีให้ดูที่ภาคใต้  ซึ่งผมมักใช้เวลาช่วงปิดเทอมตอนเรียนมหาลัย ฯ จัด Trip เที่ยวภาคเหนืออยู่เสมอ  แต่หลังจากที่กลับไปทำงานที่บ้านก็ไม่ค่อยได้มีโอกาสเที่ยวภาคเหนืออีกเลย  เป็นเวลาหลายปีครับที่ผมไม่ได้ไปเยือนเชียงใหม่และจังหวัดใกล้เคียง  มาในปีนี้มีการจัดงานมหกรรมพืชสวนโลก หรือราชพฤกษ์ 49  ผมจึงถือโอกาสนี้กลับไปเยือนเชียงใหม่อีกครั้ง พร้อม ๆ กับสถานที่ท่องเที่ยวอีกหลายแห่งที่ผมคิดถึงเหลือเกิน และมีบางแห่งที่ผมยังไม่เคยได้ไปสัมผัสเลย   หลังจากหาข้อมูลล่วงหน้าอยู่เป็นเดือนก็ได้ฤกษ์เดินทางไปเมื่อวันที่ 15 พ.ย. ที่ผ่านมา   โดยส่วนใหญ่ก็ได้ความรู้และข้อมูลดี ๆ จากเพื่อน ๆ ใน Pantip นี่เอง   ผมจึงถือโอกาสนี้นำภาพถ่าย และข้อมูลการเดินทางมาแบ่งปันให้เพื่อน ๆ ได้ชมและใช้เป็นข้อมูลเหมือนกับผมต่อไป (ทั้งนี้ทั้งหมดเป็นความคิดเห็นของผมคนเดียวนะครับ  อาจจะตรงหรือไม่ตรงกับเพื่อน ๆ ก็ได้)  … ถ้าพร้อมแล้ว  ตามผมมาเลยครับ
สถานที่แรกซึ่งเป็นจุดมุ่งหมายหลักของการเดินทางครั้งนี้ครับ  งานราชพฤกษ์ 49    ขออนุญาตมีภาพนางแบบ (จำเป็น) เป็นบางภาพนะครับ  เพื่อความสดใสและเรื่องราวของภาพ   ในภาพนี้อยู่ใกล้ ๆ บริเวณทางเข้าครับ  ซึ่งในจุดนี้มีมุมถ่ายภาพสวย ๆ หลายมุม  ไม่ว่าจะกำแพงเมือง,สวนดอกไม้และต้นไม้ด้านหน้า, ร่มยักษ์ รวมถึงน้อง ๆ สวมชุดชาวเขาที่คอยต้อนรับอยู่หน้างาน
ต่อมาเป็นจุดแรก ๆ ที่จะได้พบเมื่อเข้างานครับ  ได้แก่สวนสวัสดี และสวนของหน่วยงานต่าง ๆ โดยสวนที่ผมค่อนข้างชอบคือสวนของ CP, สวนของธนาคารกรุงไทย  ส่วนที่เหลือก็ใช้ได้ครับ แต่ไม่ถึงกับโดดเด่นมากนัก    ภาพถ่ายส่วนใหญ่ผมจะเลือกถ่ายเฉพาะดอกไม้นะครับ  เลยไม่ค่อยมีภาพสวนแบบเต็ม ๆ มาให้ได้ดูกัน เพราะวันนั้นอากาศไม่ดี ฟ้าไม่สวย ผมก็เลยไม่อยากถ่ายภาพแบบกว้าง ๆ ครับ
ส่วนต่อมาเป็นอีกจุดที่ผมชอบมาก คือส่วนของการแสดงกล้วยไม้  ซึ่งมีมากมายหลายพันธุ์ และมีการจัดสวนกล้วยไม้แบบต่าง ๆ ให้ชมกันอย่างจุใจ  รวมถึงจัดแสดงที่สุดของกล้วยไม้ในด้านต่าง ๆ และกล้วยไม้หายากอีกมากมาย
อีกส่วนหนึ่งที่น่าสนใจคือสวนนานาชาติ ที่ผมชอมก็คือ เบลเยียม, ลาว, ญี่ปุ่น, ภูฏาน, อินเดีย และจีน
หอคำหลวง ถือเป็นจุดเด่นที่สุดของงาน  ซึ่งนับเป็นสถาปัตยกรรมที่วิจิตรสวยงามทั้งภายนอกภายใน  มีความสวมงามทั้งกลางวันและกลางคืน 
การแสดงขบวนพาเหรดประดับไฟ   เป็นการแสดงปิดท้ายก่อนที่จะปิดงานในแต่ละวัน  ซึ่งสามารถเรียกเสียงฮือฮาจากคนชมได้พอสมควร  เพราะสีสันของแสงไฟนั้นสวยสดงดงามเป็นอย่างยิ่ง  แต่เนื่องจากผมไม่ได้นำขาตั้งกล้องไปด้วยเพราะเกรงจะหนักระหว่างเดินชมงาน  ก็เลยถ่ายภาพได้ไม่ค่อยดีนักและสั่นไหวเป็นส่วนใหญ่  จึงนำมาให้ชมพอหอมปากหอมคอครับ
นอกจากที่กล่าวมาแล้วยังมีส่วนอื่นๆ ที่น่าสนใจอีกหลายจุดครับ อาทิอาคารแสดงนิทรรศการซึ่งจะสลับเปลี่ยนหมุนเวียนหัวข้อไปเรื่อย ๆ, สวนไม้ต่าง ๆ , เรือนไทย 4 ภาค, และบริเวณเขียนข้อความถวายพระพรบนใบโพธิ์เพื่อนำไปหล่อเป็นพระพุทธรูปพร้อมกับตีระฆังเพื่อรับน้ำมันต์ เป็นต้น
โดยสรุปของงานราชพฤกษ์แล้ว  ถือว่าน่าพอใจในระดับหนึ่งครับ  อาจจะเพราะไม่ได้คาดหวังมากนักเนื่องจากมีหลายท่านที่ไปมาก่อนติไว้ค่อนข้างมาก  ส่วนตัวแล้วผมให้คะแนนเป็นบวกครับ  แม้จะไม่ว้าว แต่ก็สมควรที่จะไปเยี่ยมชมครับ  
สิ่งที่ต้องชื่นชมมาก ๆ คือ น้อง ๆ ที่คอยให้ข้อมูลซึ่งพบได้ทั่วพื้นที่งาน  ซึ่งทำงานกันน่ารักมาก ๆ และพยายามสอบถามว่าต้องการความช่วยเหลือหรือไม่อยู่ตลอดเวลา  
ในเรื่องของอาหาร  ผมคิดว่ามีซุ้มอาหารน้อยไปหน่อย ส่วนราคาถือว่าเป็นราคาปกติสำหรับแหล่งท่องเที่ยวระดับนานาชาติ (ราคาพอ ๆ กับที่ภูเก็ตบ้านผมเลยครับ)  แต่ถ้าเทียบกับในตัวเมืองก็ถือว่าราคาค่อนข้างสูงอยู่เหมือนกันในบางซุ้ม
ส่วนที่ต้องติ คือเรื่องของห้องน้ำที่มีน้อยโดยเฉพาะบริเวณส่วนองค์กรต่าง ๆ   อีกเรื่องคือรถที่พานั่งชมรอบงานไม่เพียงพอต่อความต้องการ (รอคิวนานมาก)  แต่เนื่องจากผมไปแต่เช้าและเลือกที่จะเดินไปเรื่อย ๆ ก็เลยไม่เจอปัญหานี้  (แต่เห็นคิวแล้วก็หนาวเหมือนกัน)    
สำหรับเรื่องโปรแกรมของผม  ผมเข้างานโดยใช้บัตร e-ticket ซึ่งไม่ต้องรอคิว หลังจากนั้นเดินชมสวนองค์กรต่าง ๆ ในช่วงเช้า   เกือบ ๆ เที่ยง (ซึ่งเริ่มร้อน) ก็เข้าไปชมสวนกล้วยไม้  เมื่อชมเสร็จแล้วเดินไปทานอาหรที่ซุ้ม Noodle เมื่อทานอาหารเที่ยงเสร็จก็เดินชมงานในอาคารใกล้ๆ และเรือนไทยสี่ภาค  ช่วงบ่ายเดินเข้าชมนิทรรศการซึ่งเป็นอาคารในร่มและติดแอร์  ออกมาจากอาคารก็เดินเที่ยวชมสวนนานาชาติและสวนของโครงการหลวง  เสร็จจากบริเวณนี้ก็เริ่มเย็นแล้วจึงเที่ยวชมหอคำหลวงทั้งภายนอกและภายใน  พอพระอาทิตย์ตกก็ทานข้าวที่ซุ้มการบินไทย (ราคาแพงหน่อยนะครับ)  ทานเสร็จก็เดินขึ้นหอชมวิวจากทางด้านบน  เห็นหอคำหลวงเด่นเป็นสง่า และได้เห็นสวนนานาชาติอีกหลายสวนในรูปแบบกลางคืน (ที่ชอบคือของเบลเยี่ยม)  ลงจากหอเสร็จก็ไปชมน้ำพุดนตรีประกอบการฉายภาพ   และสุดท้ายก็มารอชมขบวนพาเหรดที่ลานราชพฤกษ์และออกจากงานราว 2 ทุ่มเศษครับ
---- สิ้นสุดข้อมูลที่เคย Post ไว้ในห้อง Blue Planet  Pantip.com -----