26 เมษายน 2567, 21:41:45
ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน


เข้าสู่ระบบด้วยชื่อผู้ใช้ รหัสผ่าน [สมาชิกเก่าลืมรหัส โทร 081-7611760]
A A A A  ระเบียบปฎิบัติ
   
Languages    
  หน้า: [1]   ลงล่าง
ผู้เขียน หัวข้อ: นอนกรน..อันตรายกว่าที่คิด  (อ่าน 3587 ครั้ง)
0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
nahsai7
บุคคลทั่วไป
« เมื่อ: 28 สิงหาคม 2554, 08:07:25 »

....


นอนกรน..อันตรายกว่าที่คิด
หากรู้สึกนอนไม่อิ่ม นอนไม่เพียงพอหรืออ่อนเพลีย แม้ว่าจะนอนในชั่วโมงที่เพียงพอแล้วก็ตาม นั่นอาจเป็นผลจากการนอนกรนก็เป็นได้ !!

ทั้งนี้เพราะว่า ภาวะนอนกรน ไม่ได้สร้างปัญหาแค่เสียงรบกวนอันน่ารำคาญเท่านั้น แต่อันตรายจากการนอนกรนยังส่งผลกระทบต่อสมองอีกด้วย
เช่นนี้ผลกระทบจากการนอนกรน ซึ่งทำให้ผู้ป่วยหยุดหายใจบางขณะ สร้างปัญหาเกี่ยวกับสุขภาพและการดำเนินชีวิตประจำวันมากมาย เช่น ง่วงในเวลากลางวัน สมาธิสั้น อ่อนเพลียเรื้อรัง หงุดหงิดอารมณ์เสีย ทำให้ประสิทธิภาพในการทำงานลดลง
ในเด็ก นอนซักพักแล้วสะดุ้งตื่น นอนกระสับกระส่าย ปัสสาวะรดที่นอน ไม่ก็อาจมีปัญหาการเรียน
ผู้ที่นอนกรนยังมีโอกาสเสี่ยงในการเป็นหลอดเลือดสมองแตก สมองเสื่อม โรคหัวใจขาดเลือด โรคเบาหวาน ความดันโลหิตสูง หย่อนสมรรถภาพทางเพศ และส่งผลต่อความสามารถในการจดจำและการใช้ความคิดอีกด้วย
นอกเหนือจากนี้ ผู้ที่กรนเสียงดังๆ ยังรบกวนคู่นอนทำให้นอนไม่หลับได้

นอนกรนแบบไหน อันตรายถึงชีวิต
การนอนกรนที่มีภาวะการหายใจที่ผิดปกติและหยุดหายใจขณะหลับ จะเป็นอันตรายต่อร่างกายผู้ป่วยมาก  ซึ่งผู้ป่วยที่มีทางเดินหายใจแคบมากในเวลาหลับ เมื่อยังหลับไม่สนิทจะมีเสียงกรนที่สม่ำเสมอ
แต่กระนั้นเมื่อหลับสนิทจะเกิดการอุดกั้นทางเดินหายใจ มีเสียงกรนที่ติดสะดุดไม่สม่ำเสมอ โดยจะมีช่วงกรนเสียงดัง-ค่อยสลับกันเป็นช่วงๆ และจะกรนดังขึ้นเรื่อยๆ โดยมีช่วงหยุดกรนไปชั่วระยะหนึ่ง
ซึ่งเป็นช่วงที่เกิดการหยุดหายใจ ผู้ป่วยจะมีอาการหายใจติดขัดเหมือนคนสำลักน้ำ และจะทำให้ระดับออกซิเจนในเลือดลดลง เป็นผลให้ขาดออกซิเจนไปเลี้ยงสมองระหว่างนั้นอาจทำให้เซลล์สมองเสื่อมได้
ด้วยเหตุนั้น หากไม่มั่นใจว่าการนอนกรนที่เป็นอยู่ผิดปกติในระดับใด อันตรายหรือไม่ สามารถเข้าไปทำแบบทดสอบวัดระดับความผิดปกติของการหายใจขณะนอนหลับได้ที่ เพื่อประเมินเบื้องต้นด้วยตนเอง

การรักษาภาวะนอนกรน
ทั้งนี้เป็นความเข้าใจผิดที่คนส่วนใหญ่คิดว่าการนอนกรนเป็นเรื่องทั่วๆ ไปที่ไม่จำเป็นต้องรักษา แต่ความจริงแล้วการนอนกรนเป็นเรื่องที่ควรเอาใจใส่ และควรเข้ารับการตรวจรักษาหากมีอาการรุนแรง
ด้วยเหตุนั้น ในเบื้องต้นผู้ป่วยสามารถปฏิบัติได้ด้วยตนเองเพื่อบรรเทาอาการ เช่น ควบคุมน้ำหนักไม่ให้เกินเกณฑ์ ออกกำลังกายเพื่อให้ร่างกายและกล้ามเนื้อแข็งแรง
ยิ่งกว่านั้น หลีกเลี่ยงการนอนหงายโดยพยายามนอนในท่าตะแคงข้างและนอนศีรษะสูงเล็กน้อย หลีกเลี่ยงการดื่มเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์ หรือว่ายานอนหลับ หรือยากล่อมประสาทก่อนนอน
กรณีที่เป็นการนอนกรนชนิดอันตรายที่มีการหยุดหายใจร่วมด้วย จงเข้าพบแพทย์เฉพาะทางเพื่อรับการรักษา โดยแพทย์อาจเลือกใช้เครื่องช่วยหายใจ Nasal CPAP ซึ่งเป็นเครื่องครอบจมูกขณะหลับ เพื่อช่วยให้หายใจสะดวกขึ้น
วิธีนี้ปลอดภัย และได้ผลดีในผู้ป่วยเกือบทุกราย หรือไม่แพทย์อาจรักษาโดยวิธี Somnoplasty คือการจี้กระตุ้นให้เพดานอ่อนหดตัวลง โคนลิ้นหดตัวลง หรืออาจตัดสินใจใช้วิธีการผ่าตัดเอาส่วนที่ยืดยานออก ซึ่งการจะพิจารณาเลือกรักษาโดยวิธีใดนั้น ก็ขึ้นกับความเหมาะสมในแต่ละกรณีไป

ขอบคุณข้อมูลจาก ศูนย์สมองและระบบประสาท โรงพยาบาลเวชธานี
      บันทึกการเข้า
  หน้า: [1]   ขึ้นบน
  
กระโดดไป:  

     

ทำไมหอพักนิสิตจุฬาจึงเป็นดินแดนมหัศจรรย์            " ไม่ได้เป็นแค่หอให้นอนพัก  แต่เป็นบ้านอบอุ่นรักให้อาศัย  ไม่เป็นแค่ที่ซุกหัวยามหลบภัย  แต่สร้างใจให้เข้มแข็งแกร่งการงาน"  <))))><