16 เมษายน 2567, 22:11:43
ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน


เข้าสู่ระบบด้วยชื่อผู้ใช้ รหัสผ่าน [สมาชิกเก่าลืมรหัส โทร 081-7611760]
A A A A  ระเบียบปฎิบัติ
   
Languages    
  หน้า: 1 2 3 ... 5 [ทั้งหมด]   ลงล่าง
ผู้เขียน หัวข้อ: ตามป้าLilyไปมะละกา  (อ่าน 63349 ครั้ง)
0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
supanee
Full Member
**


ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 605

« เมื่อ: 18 พฤศจิกายน 2554, 10:26:40 »

เกริ่นหัวข้อไว้ก่อน เรื่องและรูปจะตามมาวันหลังค่ะ

      บันทึกการเข้า
Leam
Cmadong Member
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
****


ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 23,776

« ตอบ #1 เมื่อ: 18 พฤศจิกายน 2554, 10:53:12 »


จะรอชมครับ.. พี่อี๊ด
      บันทึกการเข้า
supanee
Full Member
**


ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 605

« ตอบ #2 เมื่อ: 19 พฤศจิกายน 2554, 10:36:37 »

เนื่องด้วยป้าLily จะพาน้องสาวที่รักไปเที่ยวมะละกา เพื่อนจึงขอตามไปด้วย
เราบินไปกับสายการบินลุฟท์ฮันซ่า ไปถึงสนามบินกัวลาลัมเปอร์ค่ำแล้ว เวลาที่นั่นเร็วกว่าไทย 1 ชม.
ต้องนั่งรถไฟไปอีกตึกเพื่อรับกระเป๋าและเข้าเมือง



ที่สนามบินจะเห็นมีคำขวัญหรือคำมั่นสัญญาติดอยู่ทั่วไป


โดยเฉพาะคำนี้ MH (Malaysian Hospitality)
      บันทึกการเข้า
supanee
Full Member
**


ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 605

« ตอบ #3 เมื่อ: 19 พฤศจิกายน 2554, 11:15:02 »

ที่สนามบิน รถตู้ที่ติดต่อเช่าไว้มารอรับ พาเราไปส่งที่โรงแรมในมะละกา และวันกลับก็จะมารับ
เราพักที่ โรงแรม Mimosa ซึ่งทำเลดีมาก ไม่ไกลจากศูนย์กลาง(เดิน)ท่องเที่ยว
ก่อนรถถึงรร.เห็นรถเข็นขายหอยทอด คนรอคิวยาว
เมื่อถึงรร.แล้วหลานป้าLily ออกไปซื้อขนมผักกาดทอดมาให้ชิม  อยู่เลยรร.ไปอีกด้าน
บนเครื่องบินเขาเสริ์ฟ แซนวิชเนื้อ เย็นๆ คนไม่ทานเนื้อต้องเตรียมไปเอง หรือบอกสายการบินล่วงหน้า
แต่ขากลับเสริ์ฟไก่

      บันทึกการเข้า
Leam
Cmadong Member
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
****


ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 23,776

« ตอบ #4 เมื่อ: 19 พฤศจิกายน 2554, 12:09:53 »

อ้างถึง
ข้อความของ supanee เมื่อ 19 พฤศจิกายน 2554, 11:15:02
ที่สนามบิน รถตู้ที่ติดต่อเช่าไว้มารอรับ พาเราไปส่งที่โรงแรมในมะละกา และวันกลับก็จะมารับ
เราพักที่ โรงแรม Mimosa ซึ่งทำเลดีมาก ไม่ไกลจากศูนย์กลาง(เดิน)ท่องเที่ยว
ก่อนรถถึงรร.เห็นรถเข็นขายหอยทอด คนรอคิวยาว
เมื่อถึงรร.แล้วหลานป้าLily ออกไปซื้อขนมผักกาดทอดมาให้ชิม  อยู่เลยรร.ไปอีกด้าน
บนเครื่องบินเขาเสริ์ฟ แซนวิชเนื้อ เย็นๆ คนไม่ทานเนื้อต้องเตรียมไปเอง หรือบอกสายการบินล่วงหน้า
แต่ขากลับเสริ์ฟไก่



พี่อี๊ดครับ..

จากสนามบิน KL ไปมะละกา ใช้เวลาเดินทางนานไหมครับ?
แล้วค่าเช่ารถตู้ตามเงื่อนไขที่พี่บอก ราคาเท่าไรครับ?

อยากทราบเป็นข้อมูล เผื่อจะมีโอกาสไปบ้าง..... ขอบคุณครับ
      บันทึกการเข้า
supanee
Full Member
**


ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 605

« ตอบ #5 เมื่อ: 19 พฤศจิกายน 2554, 12:29:25 »

มะละกาได้รับการประกาศเป็มเมืองมรดกโลก เมื่อปี พ.ศ.2551 นี้เอง
แต่ โดยประวัติศาสตร์แล้ว มะละกาเจริญรุ่งเรืองมาเป็นเวลานานแสนนานแล้ว

      บันทึกการเข้า
supanee
Full Member
**


ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 605

« ตอบ #6 เมื่อ: 19 พฤศจิกายน 2554, 12:42:16 »

อนุสาวรีย์กระจง ซึ่งมีตำนานเกี่ยวข้องกับ เจ้าชายปรเมศวร( Parameswa )ที่ทิ้งบ้านเกิดบนสุมาตรา มาตั้งอาณาจักรใหม่ที่ตูมาสิก( สิงคโปร์ )
ก่อนจะถอยร่นขึ้นมายังมะละกา ซึ่งมีชัยภูมิที่เหมาะกว่า

  ฟันฝ่าตั้งอาณาจักรกันเรื่อยมา จนมะละกากลายเป็นศูนย์กลางการค้าของโลกตะวันออก
พ่อค้าทั้งฟากจีนแลอินเดีย ต้องแวะมาพักเรือที่นี่ จึงเกิดมีการตั้งโกดังเก็บสินค้า
และบ้านเรือนของชนชาติต่างๆทุกสารทิศ เช่น แอฟริกาตะวันออก อินเดีย พม่า จีน ญี่ปุ่น
ราชสำนักมะละกาได้พัฒนาวัฒนธรรมสาขาต่างๆที่กลายมาเป็นรากฐานของความเป็นมลายู
ภาษามลายูได้กลายเป็นภาษากลางในการค้าทั่วย่านหมู่เกาะเอเซียตะวันออกเฉียงใต้
สมัยนั้นแถวกัวลาลัมเปอร์ยังเป็นป่าดงดิบอยู่เลย



      บันทึกการเข้า
supanee
Full Member
**


ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 605

« ตอบ #7 เมื่อ: 19 พฤศจิกายน 2554, 12:57:45 »

แต่ ต่อมาเมื่อชาติโปรตุเกสเข้ามาหาสถานีการค้าในเอเซียตะวันออกเฉียงใต้
จึงยึดครองมะละกาได้ในปี ค.ศ.1511
และสร้างป้อม เอฟอร์โมซา( A'Formosa Fort ) ขึ้นเป็นที่มั่น





      บันทึกการเข้า
supanee
Full Member
**


ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 605

« ตอบ #8 เมื่อ: 19 พฤศจิกายน 2554, 14:38:51 »

   ปีค.ศ.1521เป็นปีที่เริ่มสร้างโบสถ์เซ็นต์ปอล โบสถ์คาทอลิคที่เก่าแก่ที่สุดหลังหนึ่งในตะวันออกไกล
สร้างอยู่บนเนินสูง มองไปไกลถึงช่องแคบมะละกา ตัวโบสถ์สร้างจากศิลาแลง
ในช่วงหลังโบสถ์เซ็นต์ปอลถูกใช้เป็นคลังแสงและอยู่ในสภาพทรุดโทรมร่วม 150 ปี



  ด้านหน้าโบสถ์มีรูปสลักหินอ่อนของ นักบุญฟรานซิส เซเวียร์ผู้สำแดงปาฏิหาริย์ต่างๆ และเป็นผู้มีบทบาท
สำคัญในการเผยแพร่คริสต์ศาสนาไปทั่วเมืองท่าในแถบตะวันออกไกล
  ศพของท่านเคยบรรจุอยู่ด้านในของโบสถ์เซ็นต์ปอล ก่อนเคลื่อนย้ายไปฝังที่เมืองกัว ในประเทศอินเดีย

      บันทึกการเข้า
supanee
Full Member
**


ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 605

« ตอบ #9 เมื่อ: 19 พฤศจิกายน 2554, 14:45:05 »

     ช่องแคบมะละกา ที่มองเห็น



     รอบโบสถ์ร่มรื่นด้วยต้นไม้ใหญ่


     หน้าต่างนี้เป็นมุมที่พลาดไม่ได้
      บันทึกการเข้า
supanee
Full Member
**


ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 605

« ตอบ #10 เมื่อ: 19 พฤศจิกายน 2554, 14:50:07 »

     ด้านในโบสถ์ มีป้ายหินแกะสลักที่เคยอยู่บนหลุมฝังศพของขุนนางดัตช์ที่ฝังอยู่ที่นี่



     มองให้ชัดๆ มีสำเภาแล่นใบด้วย

      บันทึกการเข้า
supanee
Full Member
**


ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 605

« ตอบ #11 เมื่อ: 19 พฤศจิกายน 2554, 15:06:48 »

     โปรตุเกสปกครองมะละกามาจนถึงคศ.1641
บริษัทอินเดียตะวันออกของดัตช์ ร่วมมือกับสุลต่านแห่งยะโฮร์ นำทัพเข้ายึดมะละกาจากโปรตุเกส สำเร็จ

     แต่ยุคทองของมะละกาได้ปิดฉากลงแล้ว
บรรดาพ่อค้าอาหรับและอินเดียหันไปหาเมืองท่าอื่นๆ เช่น อาเจะห์บนเกาะสุมาตรา
แม้แต่ฝ่ายดัตช์เองก็สนใจพัฒนาเมืองปัตตาเวีย( จาการ์ตา )บนเกาะชวามากกว่าจะฟื้นฟูมะละกาให้คึกคักดังเดิม
      บันทึกการเข้า
supanee
Full Member
**


ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 605

« ตอบ #12 เมื่อ: 19 พฤศจิกายน 2554, 15:24:19 »

     ย่านใจกลางของเมืองเก่ามะละกาคือกลุ่มอาคารโบราณที่สร้างขึ้นในสมัยที่ชาวดัตช์เข้ามาปกครองมะละกา
ตั้งแต่ปี คศ.1641 กลุ่มอาคารนี้ประกอบด้วย โบสถ์ หอนาฬิกา และศาลากลางเมือง ( Dutch Square & Stadthuys )

     โบสถ์



     หอนาฬิกา



     ศาลากลางเมืองหรือที่เรียกว่าสเตดฮายส์ ปัจจุบันเป็นพิพิธภัณฑ์ชาติพันธุ์วิทยาและประวัติศาสตร์ของมะละกา

      บันทึกการเข้า
supanee
Full Member
**


ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 605

« ตอบ #13 เมื่อ: 19 พฤศจิกายน 2554, 15:42:59 »

 สิ่งที่น่าสนใจรอบๆบริเวณจัตุรัสดัตช์






      บันทึกการเข้า
supanee
Full Member
**


ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 605

« ตอบ #14 เมื่อ: 19 พฤศจิกายน 2554, 16:19:51 »

   มามะละกาถ้ายังไม่ได้รับประทานข้าวมันไก่ก็เหมือนไม่ได้มา
ดังนั้นหลังจากชิมอาหารเช้าที่โรงแรมแล้ว ( ซึ่งก็อร่อยพอควร ) เราก็ออกเดิน
พบว่ามีคนมาก่อนเราอีก และร้านยังไม่เปิด เราก็ต่อแถว


  โชคดีได้เข้าเป็นชุดสุดท้าย ปิดประตูเลย รูปนี้คือน้องมาศของป้า Lily




   เตรียมเสิร์ฟ


   ลงมือได้
      บันทึกการเข้า
supanee
Full Member
**


ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 605

« ตอบ #15 เมื่อ: 19 พฤศจิกายน 2554, 16:27:52 »

 ตอนกลางวันเราผ่านไปทางนั้นอีก คนก็เข้าแถวยาวเหมือนเมื่อเช้า



  อีกร้านก็คนเยอะเหมือนกัน

      บันทึกการเข้า
supanee
Full Member
**


ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 605

« ตอบ #16 เมื่อ: 19 พฤศจิกายน 2554, 16:44:02 »

 
  โบสถ์ริมน้ำ



   แม่น้ำมะละกายามเช้า


      บันทึกการเข้า
supanee
Full Member
**


ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 605

« ตอบ #17 เมื่อ: 19 พฤศจิกายน 2554, 16:53:30 »

     หัวหน้าทัวร์


   
     ลูกทัวร์

      บันทึกการเข้า
supanee
Full Member
**


ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 605

« ตอบ #18 เมื่อ: 19 พฤศจิกายน 2554, 17:00:40 »

  อาคารสวยๆมีให้เห็นทั่วเมือง




      บันทึกการเข้า
supanee
Full Member
**


ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 605

« ตอบ #19 เมื่อ: 19 พฤศจิกายน 2554, 17:03:37 »

      บันทึกการเข้า
supanee
Full Member
**


ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 605

« ตอบ #20 เมื่อ: 19 พฤศจิกายน 2554, 17:17:26 »

     บ้านหลังนี้ เจ้าของเปิดให้เข้าชม-ขายบัตร  มีส่วนคล้ายในหนังเรื่อง Little Nyonya



     ติดใจหน้าต่าง



     เข้าไปข้างในบ้าน รอเข้าชมเป็นรอบๆ ในบ้านเขาห้ามถ่ายรูป

      บันทึกการเข้า
supanee
Full Member
**


ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 605

« ตอบ #21 เมื่อ: 19 พฤศจิกายน 2554, 17:49:31 »

   ต้นจามจุรีใหญ่มากที่สวนใกล้พิพิธภัณฑ์เดินเรือทะเล



      บันทึกการเข้า
supanee
Full Member
**


ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 605

« ตอบ #22 เมื่อ: 19 พฤศจิกายน 2554, 18:05:30 »

    พิพิธภัณฑ์เดินเรือทะเล ( Maritime Museum )
ตั้งอยู่ใกล้ปากแม่น้ำมะละกา สร้างขึ้นตามแบบเรือฟลอราเดอลามาร์ ซึ่งเป็นเรือธงของโปรตุเกส
ที่ต้องเผชิญมรสุมล่มลงพร้อมกับเรือติดตามอีก 2 ลำ ตั้งแต่ยังไม่ทันพ้นช่องแคบออกสู่มหาสมุทรอินเดีย                                                             ขณะที่ขนทรัพย์สมบัติล้ำค่าจากมะละกาไปยังกรุงลิสบอน
     ภายในพิพิธภัณฑ์มีนิทรรศการแสดงความสำคัญของช่องแคบมะละกา และประวัติการเดินเรือทะเล




     รถสามล้อแบบนี้มีมาก ใต้ที่นั่งใช้วางเครื่องเสียง เปิดเพลงหลายสัญชาติตามใจชอบ หนวกหูมาก

      บันทึกการเข้า
ดวงทิพย์ สิงห์ดำ24
Full Member
**


ออฟไลน์ ออฟไลน์

คณะ: รัฐศาสตร์
กระทู้: 383

« ตอบ #23 เมื่อ: 19 พฤศจิกายน 2554, 20:20:33 »

ตามมาชมค่ะ
1.รถ 3 ล้อ ประดับดอกไม้สวยงาม-น่านั่งเล่น
2.ดูรูปอาคารแล้ว..ทำให้นึกถึงอาคารอนุรักษ์:Chiness-Protugess ที่ภูเก็ตบ้านเรา
3.ตุ๊ก็ไปด้วย
4.หัวหน้าทัวร์ HAPPY พาลูกทัวร์เที่ยวสนุก
5ดูแล้วคิดถึงหนังเรื่องบ้าบ๋า-ย่าหยา จะกล่าวถึงเมืองท่ามะละกา
      บันทึกการเข้า
Cinderlily
Full Member
**


Graceless lady you know who I am.
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 679

« ตอบ #24 เมื่อ: 20 พฤศจิกายน 2554, 00:52:05 »


เพิ่งกลับมาจากหาดใหญ่เดี๋ยวนี้เอง  เลยขอนำรูปมาช่วยเสริมอิ๊ดหน่อย  สำหรับประวัติเมืองมาละกา  ทำไว้แล้วเดี๋ยวนำมาเล่าให้ฟัง  อิ๊ดจะได้ไม่ต้องพิมพ์มาก ( กัวเพื่อนเหนื่อย)



สามสาว(เหลือน้อย) ซีมะโด่ง ที่แอบไปเที่ยวทริปนี้


สมาชิกทัวร์กลัวน้ำ(ท่วม) ทั้งหมด 9 คน เดิมมี 10 แต่เช้าวันเดินทาง น้ำเข้าบ้านซะ 1 เลยมาไม่ได้  ส่วนที่เหลือบางคน ออกมาได้แต่กางเกงขาสั้น ต้องแวะเซ็นทรัลบางนาก่อนขึ้นเครื่องเพื่อซื้อเสื้อผ้า  น่าสงสารจินๆๆ


รูปสองสาว หนีน้ำไปเที่ยวแม่น้ำมะละกา ยามเช้า


ลูกทัวร์กลัวน้ำ ที่มะละกา



ไปมะละกาเที่ยวนี้ ตั้งใจไปลอง เลนส์กล้องใหม่ ที่เพิ่งซื้อแทนอันเดิมซึ่งตกแตกที่จิวจ้ายโกว  รูปออกมาสมใจนึก มาก


      บันทึกการเข้า

Cinderlily
Cinderlily
Full Member
**


Graceless lady you know who I am.
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 679

« ตอบ #25 เมื่อ: 20 พฤศจิกายน 2554, 01:01:29 »

ขณะรอกินข้าวมันไก่

อิ๊ด ไม่ได้เล่าว่า อาหารเช้ามื้อนี้อร่อยแบบกัวๆๆ  เพราะทันที ที่เราได้รับอนุญาติให้เข้าไปนั่งเป็นโต๊ะสุดท้าย ทางร้านก็ปิดประตูเหล็กใส่กุญแจทันที เรียกว่า ห้ามเข้า ห้ามออกกันเลย  ต้องรอให้อิ่มก่อนจึงจะออกได้  ออกไป 3 ก็เข้ามาใหม่ได้อีก 3 คน จ้า




ข้างหลังน้องสาวอิฉัน จะเห็นประตู และมีคนยืนรออยู่นอกประตูค่ะ  อดทนกันจริงๆ
      บันทึกการเข้า

Cinderlily
Cinderlily
Full Member
**


Graceless lady you know who I am.
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 679

« ตอบ #26 เมื่อ: 20 พฤศจิกายน 2554, 01:12:48 »


ต่อไปก็ดูรูปสาวๆสวยๆไปเรื่อยๆนะเจ้าคะ



เบื้องหลังสาวงาม



เบื้องหน้างามกว่าค่ะ



รอขึ้นเรือ แต่ไม่ไปซะที



อิ๊ดกำลังรอซื้อตังเมหลอด



ขณะรอลงเรือล่องแม่น้ำมะละกา

      บันทึกการเข้า

Cinderlily
Cinderlily
Full Member
**


Graceless lady you know who I am.
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 679

« ตอบ #27 เมื่อ: 20 พฤศจิกายน 2554, 01:28:17 »

ตั้งใจพาลูกทัวร์ไปชิมเค็กที่อร่อยสุดๆของเมืองมะละกา   แต่พอไปถึงก็มีสภาพคิวยาวล้นร้านเยี่ยงนี้  
ทัวร์หนีน้ำจากแบ๊งคอก เลยเผ่นกระจาย ไม่สู้ฮ่ะ




เลยเอารูปเค็กที่กินคราวที่ไปครั้งแรกมายั่วน้ำลายก่อน



กลางคืน เราไปเดินที่ถนนคนเดิน มีบรรยากาศเหมือนถนนคนเดินที่เชียงใหม่
แวะชิมน้ำมะม่วงคั้น ที่ทุกคนติดใจกันเอามากๆ ดูหน้าก็รู้ !!



      บันทึกการเข้า

Cinderlily
Cinderlily
Full Member
**


Graceless lady you know who I am.
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 679

« ตอบ #28 เมื่อ: 20 พฤศจิกายน 2554, 01:38:05 »

เนื่องจากวันที่เราไป เป็นวันขึ้นปีใหม่ของชาวมุสลิม พิพิธภัณฑ์จึงปิดหมด  เราเที่ยวได้แต่ Outdoor พวกเราจึงตัดสินใจบุกไปยึดเมืองหลวงของมาเลเซียในวันรุ่งขึ้น  มาเลเซียเขาย้ายเมืองหลวงไปอยู่ที่เมือง ปุตราจายา ( Putrajaya)  แต่เราแวะเมืองกัวลาลัมเปอร์ ซึ่งเป็นเมืองหลวงเก่าก่อน








      บันทึกการเข้า

Cinderlily
Cinderlily
Full Member
**


Graceless lady you know who I am.
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 679

« ตอบ #29 เมื่อ: 20 พฤศจิกายน 2554, 02:10:41 »

ที่เมืองปุตราจายา



หน้าสุเหล่าหลวง สีชมพูงามมาก



หน้าทำเนียบรัฐบาล

รูปเมืองนี้ ดูเพิ่มเติมได้ที่ Facebook ของอิฉันตามข้างล่างนี้เจ้าค่ะ


https://www.facebook.com/media/set/?set=a.2638463883623.2147853.1316299832&type=3

สำหรับภาพเมืองมะละกา  ถ่ายไว้ตอนครั้งแรก ดูได้ที่นี่ค่ะ

https://www.facebook.com/media/set/?set=a.2273693564593.2134581.1316299832&type=1

https://www.facebook.com/media/set/?set=a.2278907534939.2134816.1316299832&type=1

https://www.facebook.com/media/set/?set=a.2361451638490.2138738.1316299832&type=1


ขอนำเสนอรูปน้องสาว ซึ่งไปแอบเป็นนางแบบขายกระเป๋าที่ KLCC ใน KL ค่ะ



เนื่องจากเป็นทัวร์หนีน้ำ (ท่วม) กุงเกงของอิฉันจึงหดหนีน้ำไปด้วยเหลือแค่นี้
ลูกทัวร์เห็นแล้วอยากกินข้าวขาหมูกันเป็นแถว ฮ่า ฮ่า ...



อิฉันมีโครงการนำเรื่องอาหาร บาบ๋า นอนย่า มาให้ชมในบล็อก
 ซึ่งจะแจ้งให้ทราบวันหลัง ช่วงนี้ขอพักก่อน โปรดติดตามนะค่ะ

      บันทึกการเข้า

Cinderlily
ดร.มนตรี
Cmadong พันธุ์แท้
****


ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 2,540

« ตอบ #30 เมื่อ: 20 พฤศจิกายน 2554, 08:14:33 »

อ้างถึง
ข้อความของ Cinderlily เมื่อ 20 พฤศจิกายน 2554, 01:12:48

ต่อไปก็ดูรูปสาวๆสวยๆไปเรื่อยๆนะเจ้าคะ



เบื้องหลังสาวงาม



เบื้องหน้างามกว่าค่ะ



รอขึ้นเรือ แต่ไม่ไปซะที



อิ๊ดกำลังรอซื้อตังเมหลอด



ขณะรอลงเรือล่องแม่น้ำมะละกา



เห็นด้วยครับ  ...  ปิ๊งๆ



เบื้องหน้างามกว่าค่ะ


      บันทึกการเข้า
Cinderlily
Full Member
**


Graceless lady you know who I am.
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 679

« ตอบ #31 เมื่อ: 20 พฤศจิกายน 2554, 09:32:17 »

Leamจ๋า  พี่ขอตอบแทนอิ๊ดนะ  เพราะพี่เป็นคนติดต่อบริษัทรถ

จากสนามบิน KLIA  ระยะทาง 125 กิโลเมตร ใช้เวลาเดินทางไปมะละกา ประมาณ 2 ชั่วโมง คล้ายๆกับกรุงเทพ - หัวหิน
- ค่ารถ ครั้งแรกเราใช้รถคันเล็ก 8 ที่นั่ง ( ซึ่งก๋นั่งได้ 10คนนั่นแหละ  แต่เขากลัวไม่มีที่วางกระเป๋า) คันเล็กเขาคิด  เที่ยวละ 500 RM.X2 = 1000 RM.
- เที่ยวนี้คนมากขึ้น เลยขอใช้รถแบบ 10 ที่นั่ง เที่ยวละ 580 RM.X2 = 1160 RM.

เที่ยวครั้งนี้ ค่ารถตู้แพงที่สุด  ค่าเครื่องบิน และค่าโรงแรมถูกกว่า
-ค่าเครื่องบิน ไปกลับคนละ 3,995.00 บาท
-ค่าโรงแรม 2 คืนคนละ 2,320.00 บาท
- ค่าใช้จ่ายอื่นๆคือค่าเข้าชมพิพิธภัณฑ์ แห่งละ 10 RM.
- ส่วนค่าอาหาร เราใช้ระบบลงขันกัน  กินแบบ ทั้งหรู อร่อย และ บางแห่งอาจจะไม่หรู แต่อร่อย ไม่เกินคนละ 150 RM.

ลองไปเที่ยวดูนะ  พี่ชอบเมืองนี้มาก แม้อากาศจะร้อนเพราะอยู่ใกล้เส้นศูนย์สูตร แต่ช่วงกลางคืนลมทะเลพัดมาเย็นสบายมาก อยากย้ายไปอยู่จัง

      บันทึกการเข้า

Cinderlily
Leam
Cmadong Member
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
****


ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 23,776

« ตอบ #32 เมื่อ: 20 พฤศจิกายน 2554, 10:20:51 »

อ้างถึง
ข้อความของ Cinderlily เมื่อ 20 พฤศจิกายน 2554, 09:32:17
Leamจ๋า  พี่ขอตอบแทนอิ๊ดนะ  เพราะพี่เป็นคนติดต่อบริษัทรถ

จากสนามบิน KLIA  ระยะทาง 125 กิโลเมตร ใช้เวลาเดินทางไปมะละกา ประมาณ 2 ชั่วโมง คล้ายๆกับกรุงเทพ - หัวหิน
- ค่ารถ ครั้งแรกเราใช้รถคันเล็ก 8 ที่นั่ง ( ซึ่งก๋นั่งได้ 10คนนั่นแหละ  แต่เขากลัวไม่มีที่วางกระเป๋า) คันเล็กเขาคิด  เที่ยวละ 500 RM.X2 = 1000 RM.
- เที่ยวนี้คนมากขึ้น เลยขอใช้รถแบบ 10 ที่นั่ง เที่ยวละ 580 RM.X2 = 1160 RM.

เที่ยวครั้งนี้ ค่ารถตู้แพงที่สุด  ค่าเครื่องบิน และค่าโรงแรมถูกกว่า
-ค่าเครื่องบิน ไปกลับคนละ 3,995.00 บาท
-ค่าโรงแรม 2 คืนคนละ 2,320.00 บาท
- ค่าใช้จ่ายอื่นๆคือค่าเข้าชมพิพิธภัณฑ์ แห่งละ 10 RM.
- ส่วนค่าอาหาร เราใช้ระบบลงขันกัน  กินแบบ ทั้งหรู อร่อย และ บางแห่งอาจจะไม่หรู แต่อร่อย ไม่เกินคนละ 150 RM.

ลองไปเที่ยวดูนะ  พี่ชอบเมืองนี้มาก แม้อากาศจะร้อนเพราะอยู่ใกล้เส้นศูนย์สูตร แต่ช่วงกลางคืนลมทะเลพัดมาเย็นสบายมาก อยากย้ายไปอยู่จัง



ขอบคุณครับ... พี่เน็ก

ได้รายละเอียดมากกว่าที่ขออีก...
ราคาที่พี่บอกก็สมเหตุสมผลนะครับ...
ผมไปมาเลเซียก็หลายครั้ง หลายเมือง แต่มะละกายังไม่เคยไปเลย
ถ้ามีโอกาสว่าจะไปเหมือนกันครับ...
      บันทึกการเข้า
Cinderlily
Full Member
**


Graceless lady you know who I am.
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 679

« ตอบ #33 เมื่อ: 20 พฤศจิกายน 2554, 11:04:18 »

มีคนอยากรู้เรื่องราวของเมืองนี้บ้าง เพราะน้อยคนนักที่จะเคยได้ยินชื่อ  อิฉันจึงขอนำรายละเอียดที่ทำไว้ให้ลูกทัวร์อ่านก่อนเดินทางมาแปะไว้ให้ทุกท่านได้ทราบดังนี้

มะละกา – เมืองมรดกโลก

        เมืองมะละกาถูกค้นพบในปีค.ศ.1400 โดยเจ้าชายปรเมศวร  ผู้ครองนครเทมาเส็ก หรือ สิงคโปร์ ที่หนีจากการโจมตีของกองทัพสุมาตรามา  โดยได้มาขึ้นฝั่งที่นี่ และพักที่ใต้ต้นไม้ใหญ่ต้นหนึ่ง  ด้วยความเหนื่อยจึงนอนหลับ และนิมิตถึงลูกกระจงขาว ที่ถูกฝูงหมาป่าไล่กัดมาจนมุมที่ริมบึง แล้วลูกกระจงขาวก็หันกลับมาสู้ยิบตา จนฝูงหมาป่าแตกหนีไป
พระองค์จึงรู้สึกมีกำลังใจในการต่อสู้ อีกครั้งเหมือนเจ้ากระจงน้อย   จึงได้ตั้งเมืองใหม่ขึ้นมาชื่อเมือง “มะละกา” ตามชื่อต้นไม้ที่พักนั่นเอง ( มะละกาคือ ต้นมะขามป้อม ซึ่งมีปลูกมากในเมืองนี้) คนไทยเราเรียก มะละกา แต่ว่าคนมาเลเซียเรียก Melaka ฝรั่งเรียก Malacca
        ก่อนที่จะมาเป็นประเทศมาเลเซียในปัจจุบัน ดินแดนแถบแหลมมะลายูนี้เคยตกอยู่ภายใต้อิทธิพลของอาณาจักรฮินดูมาก่อน ป่าไม้ แร่ทองคำ สมุนไพร และเครื่องเทศ เป็นเสน่ห์ที่ทำให้ถูกรุกราน
และจากการค้นพบหลักฐานทางโบราณคดี สันนิษฐานว่า อาณาจักรฮินดูเข้ามาแผ่อิทธิพลอยู่นานถึง 1500 ปี (พ.ศ 100 - ค.ศ 1400 ) โดยเข้ามาตั้งรกรากอยู่แถบบริเวณรัฐเคดาร์ ( Keda) ใน
ปัจจุบัน จากนั้นก็ย้ายไปสร้างอาณาจักรแห่งใหม่ไปกัมพูชาและอินโดนีเซีย มีชื่อว่าอาณาจักรศรีวิชัย      
       เมื่อฮินดูย้ายถิ่นฐานออกไปจากมลายู ก็เป็นช่วงเวลาที่มีการติดต่อค้าขายกับชาติอาหรับโดยทางเรือสำเภา โดยมีเมืองท่าอยู่ที่มะละกา ( Malacca)และเป็นครั้งแรกที่ชาติอาหรับนำระบอบการปกครองที่มีสุลต่านเป็นเจ้าเมืองมาใช้ ซึ่งก็เข้ามามีอิทธิพลนานถึง111 ปี (คศ.1400 - 1511)
จากนั้นก็เป็นช่วงเวลาที่ชาติยุโรปเข้ามาแผ่อิทธิพล โดยมีโปรตุเกสเป็นชาติแรก และครอบครองถึง 674 ปี (ค.ศ1511-1785) ส่วนอังกฤษเข้ามาเป็นชาติสุดท้าย  จนถึง ค.ศ 1957 (พ.ศ 2500) ก็ได้มอบเอกราชให้กับมาเลเซีย จะเห็นว่ามาเลเซียเป็นประเทศที่ตกอยู่ภายใต้อิทธิพลต่างชาติมาโดยตลอด และพึ่งเป็นอิสระเมื่อ 54 ปีมานี้เอง
       มะละกาเป็นสถานที่สำคัญทางประวัติศาสตร์ เป็นเมืองท่าสำคัญที่มีการติดต่อค้าขายหรือเป็นเมืองเศรษฐกิจจนได้รับฉายาว่า Golden Age หรือขวานทอง เป็นต้นเหตุต่อการเปลี่ยนแปลง
ประวัติศาสตร์ของมาเลเซียอยู่หลายครั้งหลายหน มีมรดกตกทอดทางสถาปัตยกรรมของชาติยุโรปอยู่หลายแห่ง และเป็นแหล่งท่องเที่ยวสำคัญของมาเลเซีย
     มะละกาเป็นเมืองเก่าอายุกว่า 600 ปี  เป็นเมืองของพวก “บ้าบ๋า-นอนย่า” หรือพวกชาวจีนฮกเกี้ยนที่แต่งงานกับชาวพื้นเมืองมาเลย์  และมีอาหารที่มีชื่อคือ อาหารนอนย่า


สถานที่ท่องเที่ยวที่สำคัญ สำหรับนักท่องเที่ยวมีไม่มาก ซึ่งหากจะถามว่าฉันติดใจที่ใดเป็นพิเศษ คงตอบไม่ได้  เพราะที่ชอบเมืองนี้ก็ตรงที่มีทุกอย่างรวมๆกันนี่ล่ะ




สถานที่ที่ทุกคนต้องมาสัมผัส คือ

ดัทซ์สแคว์ (Dutch Square) จัตุรัสเล็กๆ ที่ตึกรอบๆทาสีแดงทั้งหมด รวมถึงย่านตึกแดงที่อยู่ถัดกันด้วย มีน้ำพุ หอนาฬิกา โบสถ์คริสต์มะละกา จตุรัสดัตช์  ถือเป็นจุดท่องเที่ยวที่นักท่องเที่ยวทุกคนที่ไปเที่ยวมะละกาจะต้องไปเที่ยวเดินเก็บภาพกลุ่มอาคารสีแดงที่ถือเป็นหลักฐานสำคัญเพียงแห่งเดียวที่ชาวฮอลันดาได้สร้างทิ้งไว้ให้ชาวมะละกา  เหตุผลที่อาคารเหล่านี้เป็นสีแดงเพราะ อิฐที่นำมาสร้าง เป็นอิฐที่เผาและนำมาจากดัทซ์ ที่เป็นดินสีแดง  ต่อมาเมื่ออาคารมีอายุมากขึ้น ความเก่าก็ครอบคลุมจนสีซีดจาง หมองคล้ำไป ชาวเมืองจึงใช้สีแดงทาทับไปเสียเลย

สถานที่สำคัญในบริเวณนี้ได้แก่ Christ Church Melaka, อาคารสแตดท์ฮุยส์, อาคารพิพิธภัณฑ์เยาวชน, หอนาฬิกา, กังหันลมฮอลันดา, ป้อมปืนมะละกา และที่พลาดชมไม่ได้ก็คือเจ้ารูปปั้นกระจง ที่ตั้งอยู่ตรงบริเวณวงเวียนหน้าจตุรัสดัตช์ ( เจ้ากระจงตัวนี้คือสัญลักษณ์สำคัญตามประวัติของเมืองนี้ )

โบสถ์เซ็นปอล (St. Paul's Church)

โบสถ์เก่าแก่ไร้หลังคาแห่งนี้ถูกสร้างอยู่บนเนินเขาเซ็นต์ปอล ตั้งแต่ปี พ.ศ. 2064 ในช่วงที่โปรตุเกสปกครองมะละกา โดยคณะบาทหลวงนิกายเยซูอิตจากโปรตุเกส




ที่หน้าโบสถ์ มีรูปปั้นหินอ่อนของนักบวชเซนต์ฟรานซิส ซาเวียร์(St. Francis Xavier) ตั้งอยู่ มีเรื่องราวเล่าขานว่า สมัยที่มิชชันนารีออกเผยแผ่คริสต์ศาสนา   ท่านจากบ้านเกิดฝรั่งเศส เดินทางมายังเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ แล้วเดินทางต่อไปยังจีน และเสียชีวิตที่นั่น ก่อนตายได้ปรารภว่าอยากให้ฝังร่างของท่านไว้ที่เมืองกัว (เมืองท่าทางตอนใต้ของอินเดีย) ระหว่างนำร่างล่องเรือสู่อินเดีย เกิดปาฏิหาริย์ มีพายุกระหน่ำ ทำให้เรือเปลี่ยนทิศทางมาขึ้นฝั่งที่มะละกา ชาวมะละกาจึงสร้างโบสถ์เซนต์ปอล ขึ้นถวาย



หลังจากที่ท่านได้มรณะภาพไปแล้วนั้น มีนักบุญรุ่นหลังๆ พยายามที่จะเสนอผลงานการเผยแพร่ศาสนาของท่านไปยังสำนักวาติกัน เพื่อทำการพิจารณาแต่งตั้งให้ท่านเป็น "เซ็นต์" หรือ นักบุญ และ เมื่อพระสันตะปาปา ได้พิจารณาแต่งตั้งท่านให้เป็น "เซ็นต์" ตามการเสนอของเหล่านักบุญรุ่นหลังๆ แล้ว พระสันตะปาปา จึงมีทรงมีรับสั่งให้ตัดมือขวาของศพที่ไม่เน่าเปื่อยของท่านจากเมืองกัว ประเทศอินเดีย ไปเก็บไว้ยังสำนักวาติกัน กรุงโรม ซึ่งนับจากวันที่ท่านมรณะภาพไปก็เป็นเวลากว่า 70 ปี ท่านจึงได้รับการแต่งตั้งให้เป็น "เซ็นต์"
 
วันที่ขุดร่างของท่านเพื่อไปฝังยังเมืองกัวนั้น มีการตัดมือข้างหนึ่งส่งไปยังฝรั่งเศส ก็มีเลือดพุ่งออกมาจากร่างที่ไม่เน่าเปื่อยนั้น ปาฏิหาริย์ยังไม่ใช่แค่นี้ เมื่อมะละกา จัดทำรูปปั้นหินอ่อนไว้เป็นที่ระลึก ปรากฏว่าเกิดฟ้าผ่าตรงกลางมือข้างเดียวกับที่ตัดไป (บางตำราว่าต้นไม้ล้มใส่)

ด้านในของโบสถ์ ตรงที่เคยเป็นหลุมฝังศพท่านถูกล้อมไว้ด้วยลูกกรงแน่นหนา เพราะในหลุมมีเหรียญมากมาย ที่นักท่องเที่ยวจะหยอดเหรียญลงไป เขามีเคล็ดลับอยู่ที่การทำเหรียญไม่ให้กระทบซี่ของตาข่ายเหล็ก และให้เสียงกระทบพื้นเบาที่สุด ถึงจะได้กลับมามะละกาอีกครั้ง

ประตูซานติเอโก (Porto De Santiago)

ประตูซานติเอโก (Porto De Santiago) และ ป้อมปราการ เอ ฟาโมซา (A Famosa หรือ The Famous) เป็นซากโบราณสถานเพียงแห่งเดียว ที่เหลือทิ้งไว้ตั้งแต่สมัยโปรตุเกสยึดครองเมืองมะละกา



ประวัติศาสตร์เกี่ยวกับซากประตูซานติเอโก แห่งป้อมปราการ เอ ฟาโมซา  เรื่องราวเกี่ยวกับ ซากประตูที่อยู่โดดเดี่ยวเดียวดายไร้กำแพง เกิดขึ้น เมื่อสมัยที่โปรตุเกสยังยึดครองเมืองมะละกา ป้อมปราการแห่งนี้ถูกใช้งานเป็นเสมือนด่านป้องกันเมืองมะละกา จากการบุกรุกของศัตรู โดยปกติป้อมนี้จะมีกำแพงยาวล้อมรอบเนินเขาเล็กๆ ชื่อว่าเนินเขามะละกา ซึ่งป้อมปราการแห่งนี้มันได้ทำหน้าที่ของมันเป็นอย่างดีมาเป็นเวลานานกว่า 150 ปี จนกระทั่ง ฮอลันดา ได้ยกทัพมาบุกรุก และสามารถยึดครองเมืองมะละกา ได้สำเร็จในปี พ.ศ. 2184  

หลังจากที่ได้ทำการล้อมเมืองนี้อยู่นานถึง 5 เดือน และหลังจากที่ได้ทำการยึดเมืองมะละกามาจากชาวโปรตุเกสได้เรียบร้อยแล้ว พวกฮอลันดาก็ได้ทำการซ่อมแซมกำแพง และ ป้อมปราการแห่งนี้ให้กลับอยู่ในสภาพที่สมบูรณ์ จนกระทั่งในภายหลังเมืองมะละกาได้ถูกครอบครองโดยอังกฤษ ผู้ปกครองเกาะปีนังได้ส่งกัปตันวิลเลียม ฟาร์คูฮาร์ มาทำลายป้อมปราการแห่งนี้ เพื่อป้องกันการอ้างสิทธิ์ครอบครองดินแดนของฮอลันดา
แต่ด้วยความโชคดีของชนรุ่นหลังที่ป้อมปราการแห่งนี้ไม่ได้ถูกทำลายไปทั้งหมด ทำให้เรายังมีโอกาสได้เห็นซากแห่งประวัติศาสตร์ของเมืองมะละกา   เนื่องจาก เมื่อท่านเซอร์ โทมัส สแตมฟอร์ด ราฟเฟิลส์ เดินทางมาจากสิงคโปร์ และ ได้เห็นเหตุการณ์ในขณะที่กำลังมีการทำลายกำแพงและป้อมปราการอยู่พอดี จึงได้ขอยับยั้งการทุบซากของประตูแห่งนี้ไว้ เพราะว่าท่านได้มองเห็นคุณค่าทางประวัติศาสตร์ของประตูแห่งนี้ และ ก็เป็นไปอย่างที่ท่านเซอร์ โทมัส สแตมฟอร์ด ราฟเฟิลส์ ได้คาดการณ์ไว้จริงๆ เพราะว่าซากประตูแห่งประวัตินี้ ได้ดึงดูดผู้คนกว่าล้านคนทั่วโลก ให้มาเยือนเมืองมะละกาและสร้างรายได้อย่างมหาศาลให้กับเมืองนี้ ตราบจนทุกวันนี้

และด้วยความที่ซากประตูแห่งนี้ไม่มีกำแพงอยู่ด้านข้างเลยเพราะว่าโดนทุบทิ้งไปจนหมดแล้ว ผู้คนจึงได้ขนานนามประตูแห่งนี้ว่า "ประตูไร้กำแพง"   ประตูแห่งนี้มีขนาดความสูง 7 แมตร หนา 2.5 เมตร สร้างจากหินศิลาแลงฉาบปูน และ บริเวณด้านหน้ามีปืนใหญ่ตั้งอยู่รายรอบ ซึ่งถือเป็นแหล่งท่องเที่ยวอีกจุดที่นักท่องเที่ยวจะต้องไปเก็บภาพเมื่อได้ มีโอกาสไปเยือนเมืองมะละกา  


ย่าน Jonker





เป็นย่านที่เต็มไปด้วยบ้านเก่าแบบบาบ๋า และ นอนยา ที่ฉันชื่นชอบมาก  และหากจะเดิน ฉันเลือกที่จะเดินช่วงกลางวันมากกว่า เพราะ ย่านนี้มีชื่อเสียงในฐานะที่เป็นถนนที่เต็มไปด้วยร้านขายของเก่าในเวลากลางวัน  ส่วน ช่วงค่ำ ถนนเส้นนี้เปลี่ยน จากถนนที่เงียบเหงาเป็นถนนคนเดินยามที่คราคร่ำไปด้วยผู้คน

คำว่า Jonker เป็นภาษาดัช แปลว่า Second Class Gentleman หรือคนชั้นสอง ซึ่งหมายถึงคนจีนที่ตั้งบ้านเรือนอยู่บนถนนนี้  คนจีนเหล่านี้มักจะรับจ้างเป็นคนใช้ตามบ้านเศรษฐีชาวต่างชาติ หรือชาวจีนด้วยกันที่มีฐานะดีกว่า  คนที่มีฐานะดีจะอยู่ถนนใกล้ๆกันคือถนน Jalan Tun Tan Cheng Lock   ซึ่งปัจจุบันบ้านหลังหนึ่งของคนมีฐานะได้เปิดบ้านเป็นพิพิธภัณฑ์บาบ๋า  ที่งดงามน่าชมมาก




บ้านเก่าหลังนี้ ลักษณะบ้านข้างหน้าแคบข้างในกว้าง  เนื่องจากสมัยก่อนอังกฤษเก็บภาษีตามความกว้างของหน้าบ้าน บ้านใครประตูใหญ่ก็เก็บแพง       ชาวบาบ๋า-นอนย่า มีวัฒนธรรมจีน-มาเลย์ และอังกฤษผสมผสานกัน ฝ่ายหญิงแต่งกายแบบจีนผสมมาเลย์-ผู้ชายแต่งสูทแบบฝรั่ง ส่วนเครื่องใช้ในบ้านเป็นของอังกฤษ เฟอร์นิเจอร์พวกประตูหน้าต่างเป็นลวดลายจีน โต๊ะเก้าอี้เป็นแบบจีน สิงคโปร์เคยทำหนังชีวิตของพวกบาบ๋า-นอนย่าชื่อ The Little Nyonya
      บันทึกการเข้า

Cinderlily
Mai25
Full Member
**


ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 525

« ตอบ #34 เมื่อ: 20 พฤศจิกายน 2554, 12:54:57 »

อ้างถึง
ข้อความของ supanee เมื่อ 18 พฤศจิกายน 2554, 10:26:40
เกริ่นหัวข้อไว้ก่อน เรื่องและรูปจะตามมาวันหลังค่ะ





ตามมาชมค่ะ..พี่อี๊ด

      บันทึกการเข้า
Cinderlily
Full Member
**


Graceless lady you know who I am.
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 679

« ตอบ #35 เมื่อ: 20 พฤศจิกายน 2554, 15:20:52 »


ดาราคนโปรดของดิฉันค่ะ Pierre Png ชาวสิงคโปร เล่นเรื่อง Little Nyonya





ขอร้องนะคะ อย่ากร๊ดดดด ค่ะ
      บันทึกการเข้า

Cinderlily
Leam
Cmadong Member
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
****


ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 23,776

« ตอบ #36 เมื่อ: 20 พฤศจิกายน 2554, 17:34:38 »

อ้างถึง
ข้อความของ Cinderlily เมื่อ 20 พฤศจิกายน 2554, 15:20:52

ดาราคนโปรดของดิฉันค่ะ Pierre Png ชาวสิงคโปร เล่นเรื่อง Little Nyonya





ขอร้องนะคะ อย่ากร๊ดดดด ค่ะ

Pierre Png เป็นชาวสิงคโปร์เชื้อสาย Peranakan ตรงๆเลยครับ... พี่เน็ก

ในสิงคโปร์ มีร้านอาหารปรารานากันหลายร้าน...
ที่มะละกาก็มี.....ไม่ทราบว่าพี่เคยลองทานหรือยัง?
      บันทึกการเข้า
Cinderlily
Full Member
**


Graceless lady you know who I am.
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 679

« ตอบ #37 เมื่อ: 20 พฤศจิกายน 2554, 22:16:43 »


ก่อนไปมีคนเตือนว่า อาหารปารานกัน หรือ นอนย่า  คืออาหารไทยที่ไม่อร่อย แต่พวกเราก็ไม่สนใจ กินหมดทุกอย่าง
ไม่เชื่อ ตามไปดูที่นี่เลยจ๊ะ


      บันทึกการเข้า

Cinderlily
Leam
Cmadong Member
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
****


ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 23,776

« ตอบ #38 เมื่อ: 21 พฤศจิกายน 2554, 01:28:06 »

อ้างถึง
ข้อความของ Cinderlily เมื่อ 20 พฤศจิกายน 2554, 22:16:43

ก่อนไปมีคนเตือนว่า อาหารปารานกัน หรือ นอนย่า  คืออาหารไทยที่ไม่อร่อย แต่พวกเราก็ไม่สนใจ กินหมดทุกอย่าง
ไม่เชื่อ ตามไปดูที่นี่เลยจ๊ะ




ไปชมมาแล้ว...

ท้องร้องกลางดึกเลยครับพี่.

เคยทานอาหารปรารานากันที่สิงคโปร์ ถ้าจำไม่ผิดน่าจะอยู่แถวๆโตปาร์โย่...
ต้องจองล่วงหน้าครับ.... โต๊ะเต็มตลอด
      บันทึกการเข้า
supanee
Full Member
**


ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 605

« ตอบ #39 เมื่อ: 21 พฤศจิกายน 2554, 10:40:41 »

     หลังจากที่คอยคิวยาวเหยียด เราก็ได้ล่องเรือชมวิวสองฝั่งแม่น้ำมะละกา ( ล่องไป-กลับ )



     บ้านเรือนสองฝั่งถูกเขียนรูป ไม่ว่าเป็นอาคารขนาดไหน




      บันทึกการเข้า
supanee
Full Member
**


ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 605

« ตอบ #40 เมื่อ: 21 พฤศจิกายน 2554, 10:48:42 »







      บันทึกการเข้า
supanee
Full Member
**


ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 605

« ตอบ #41 เมื่อ: 21 พฤศจิกายน 2554, 11:10:46 »

     มีสะพานเชื่อมสองฝั่งแม่น้ำเป็นระยะๆ



     เห็นรางรถไฟ Monorail ด้วย


     Monorail จอดอยู่เฉยๆ


     ทางเดินริมน้ำแบบบนี้มีอยู่ตลอด


      บันทึกการเข้า
Cinderlily
Full Member
**


Graceless lady you know who I am.
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 679

« ตอบ #42 เมื่อ: 21 พฤศจิกายน 2554, 19:57:48 »


นางเอกหนัง Little Nyonya  Tu 14







      บันทึกการเข้า

Cinderlily
ดวงทิพย์ สิงห์ดำ24
Full Member
**


ออฟไลน์ ออฟไลน์

คณะ: รัฐศาสตร์
กระทู้: 383

« ตอบ #43 เมื่อ: 21 พฤศจิกายน 2554, 20:28:02 »

ตามมาดู..ได้ความรู้....ภาพสวย
แปลกดีด้วยค่ะ
      บันทึกการเข้า
supanee
Full Member
**


ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 605

« ตอบ #44 เมื่อ: 22 พฤศจิกายน 2554, 09:28:00 »

    เคยสังเกตุไหมว่าย่านตึกเก่า ไม่ว่าจะเป็นภูเก็ตหรือมะละกา ฯ มักมีพื้นที่ในร่มอยู่หน้าบ้านให้คนเดินผ่านไปมา
โดยไม่ต้องฝ่าแดดฝน  พื้นที่ส่วนนี้เริ่มปรากฎขึ้นในปีคศ.1822 เมื่อเซอร์โทมัส สแตมฟอร์ด รัฟเฟิลส์ ( Sir Thomas
Stamford Raffles ) ผู้บริหารอาณานิคมช่องแคบของอังกฤษ ออกกฎว่าตึกแถวทุกหลังต้องทิ้งพื้นที่ชั้นล่างเป็น
ทางเดิน กว้างอย่างน้อย 5 ฟุต ให้ผู้คนเดินผ่านได้  กฎของรัฟเฟิลส์ส่งผลให้ตึกแถวในภูมิภาคนี้มีเอกลักษณ์
เป็นการปรับรูปแบบอาคารที่เหมาะกับสภาพภูมิอากาศที่ร้อนจัดและมีฝนชุกอย่างที่สุด





      บันทึกการเข้า
supanee
Full Member
**


ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 605

« ตอบ #45 เมื่อ: 22 พฤศจิกายน 2554, 10:01:30 »

    หลังจากชมเมืองมะละกาแล้ว ยังมีเวลาเหลืออีกตั้ง 1 กลางวัน ก่อนขึ้นเครื่อง
หัวหน้าฯจึงโทรฯหาคนขับรถ ให้มารับเราตั้งแต่เช้า พาไปเที่ยว KL
คนขับยินดีมาก ขอเงินเพิ่ม 500 ริงกิตพร้อมกับจะพาเที่ยว 3-4 แห่ง พาไปกินข้าวเที่ยง
และพาไปซื้อชอคโกแลตที่โรงงาน ( เขาอวดว่า มาเลย์เป็นแหล่งปลูกและส่งออกโกโก้ให้สวิตฯนะ )
      บันทึกการเข้า
Leam
Cmadong Member
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
****


ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 23,776

« ตอบ #46 เมื่อ: 22 พฤศจิกายน 2554, 12:17:07 »


สวัสดียามเที่ยงครับ... พี่อี๊ด..พี่เน็ก..พี่ตู่..พี่เนื่อง..น้องใหม่ และพี่น้องทุกท่าน
      บันทึกการเข้า
Leam
Cmadong Member
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
****


ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 23,776

« ตอบ #47 เมื่อ: 22 พฤศจิกายน 2554, 12:19:28 »

อ้างถึง
ข้อความของ supanee เมื่อ 22 พฤศจิกายน 2554, 10:01:30
    หลังจากชมเมืองมะละกาแล้ว ยังมีเวลาเหลืออีกตั้ง 1 กลางวัน ก่อนขึ้นเครื่อง
หัวหน้าฯจึงโทรฯหาคนขับรถ ให้มารับเราตั้งแต่เช้า พาไปเที่ยว KL
คนขับยินดีมาก ขอเงินเพิ่ม 500 ริงกิตพร้อมกับจะพาเที่ยว 3-4 แห่ง พาไปกินข้าวเที่ยง
และพาไปซื้อชอคโกแลตที่โรงงาน ( เขาอวดว่า มาเลย์เป็นแหล่งปลูกและส่งออกโกโก้ให้สวิตฯนะ )


ช๊อคโกแลตของมาเลเซีย... คุณภาพใช้ได้ และราคาถูกกว่าบ้านเราพอควรเลยครับพี่
      บันทึกการเข้า
Leam
Cmadong Member
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
****


ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 23,776

« ตอบ #48 เมื่อ: 22 พฤศจิกายน 2554, 12:22:14 »

อ้างถึง
ข้อความของ Cinderlily เมื่อ 21 พฤศจิกายน 2554, 19:57:48

นางเอกหนัง Little Nyonya  Tu 14








ถ้าเกิดร่วมสมัยกัน..... นางเอก Little Nyonya สู้พี่ตุ๊ไม่ได้หรอกครับ
      บันทึกการเข้า
Leam
Cmadong Member
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
****


ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 23,776

« ตอบ #49 เมื่อ: 22 พฤศจิกายน 2554, 12:26:23 »

อ้างถึง
ข้อความของ supanee เมื่อ 21 พฤศจิกายน 2554, 10:48:42








สีสันสวยงาม ได้บรรยากาศดี...

ขอบคุณที่นำมาให้ชมครับ พี่อี๊ด
      บันทึกการเข้า
supanee
Full Member
**


ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 605

« ตอบ #50 เมื่อ: 22 พฤศจิกายน 2554, 17:59:16 »

     ถ้ำบาตู ( Batu Caves )
     เป็นสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ตามศาสนาฮินดู เป็นส่วนหนึ่งของวัด Sri Subramaniar Swamy ตั้งอยู่บริเวณเทือกเขาหินปูน ทางเหนือของ KL
     หน้าทางขึ้นคูหา มีรูปปั้นของพระขันธกุมาร สูง 43 เมตร ทาสีทองอร่าม ใกล้ๆกันเป็นบันไดกว้างขวาง สูง 272 ขั้น ทอดขึ้นไปด้านบน
     ที่โถงถ้ำกว้างใหญ่ มีศาลบูชาที่สร้างอุทิศให้พระขันธกุมาร ฯ

      บันทึกการเข้า
supanee
Full Member
**


ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 605

« ตอบ #51 เมื่อ: 23 พฤศจิกายน 2554, 09:24:44 »

   ฟื้นความเก่านิดนึง  ดัตช์เข้าปกครองมะละกา เมื่อ คศ.1641 ต่อจากโปรตุเกส แล้วอังกฤษล่ะ
       อังกฤษเริ่มเข้ามามีบทบาทในปี คศ.1786 เมื่อบริษัทอินเดียตะวันออกของอังกฤษ เข้ามาตั้งสถานีการค้าปลอดภาษี บนเกาะปีนัง
หลังจากสงครามนโปเลียนในยุโรปสงบลง ( ได้เวลาแบ่งเค้ก ) เซอร์โทมัส สแตมฟอร์ด รัฟเฟิลส์ ก็ลงนามในสนธิสัญญา
แบ่งเขตอิทธิพลกับดัตช์ ในปี คศ.1824  ทำให้ มะละกา ปีนัง สิงคโปร์ และดินแดนที่อยู่เหนือช่องแคบ ตกเป็นอาณานิคมของอังกฤษ
ส่วนดินแดนที่อยู่ใต้ช่องแคบ  ตกเป็นอาณานิคมของดัตช์
    (  ในปีถัดมา อังกฤษก็หันมาเขมือบ รัฐปะลิส ไทรบุรี กลันตัน ตรังกานู และยะโฮร์ ซึ่งขณะนั้นเป็นดินแดนของสยาม
เพื่อแลกกับเรื่องสิทธิสภาพนอกอาณาเขต )
      บันทึกการเข้า
supanee
Full Member
**


ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 605

« ตอบ #52 เมื่อ: 23 พฤศจิกายน 2554, 13:57:38 »

   ถ้าตึกแฝดเปโตรนาสเป็นสัญญลักษณ์ของKLในวันนี้
   ยอดโดมบนหอนาฬิกาสูง 40 เมตร เหนืออาคารสุลต่านอับดุลซามัด ก็คือสัญญลักษณ์ของKLสมัยอาณานิคม
                                          ผู้ปกครองชาวอังกฤษต้องการหว่านเมล็ดพันธ์ของอารยธรรมแบบยุโรปในKL และมอบหมายให้สถาปนิก
แอนโทนี นอร์มัน ( Anthony Norman ) ออกแบบอาคารศูนย์กลางการปกครองของอาณานิคม
ตอนแรกนอร์มันเสนอแบบอาคารทรงนีโอคลาสสิคเรอเนสซองซ์ที่เป็นยุโรปจ๋า แต่ถูกติงว่า  มันควรสะท้อน
ศรัทธาในศาสนาอิสลามของชาวมาเลย์สักหน่อย นอร์มันจึงจัดแจงเสริมโดมหัวหอม ระเบียงเสาและรายละเอียดอื่นๆ
ที่หยิบยืมจากอินเดียเข้าไปให้อาคารสื่อถึงความเป็นตะวันออก
   ตึกอีกหลายแห่งที่สร้างขึ้นในสมัยอาณานิคมก็ได้อิทธิพลการผสมผสานตามแบบอาคารสุลต่านอับดุลซามัด
จนเกิดเป็นกระแสแห่กันสร้าง " สถาปัตยกรรมอิทธิพลโมกุลโดยฝีมืออังกฤษ " บ้างก็เรียก " สถาปัตยกรรมแบบราช "
ซึ่งกลายเป็นความโดดเด่นของ KL

   อาคารนี้เปิดใช้งานมาตั้งแต่คศ.1897  ปัจจุบันเป็นศาลฎีกา





      บันทึกการเข้า
supanee
Full Member
**


ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 605

« ตอบ #53 เมื่อ: 23 พฤศจิกายน 2554, 14:41:55 »

   ด้านหน้าอาคารสุลต่านอับดุลซามัด คือ จัตุรัสเมอร์เดกา ( Merdeka ) หรือ " จัตุรัสเอกราช "
ที่แวดล้อมด้วยอาคารเก่าแก่ เช่นสโมสรรอยัลสลังงอร์ ฯ ซึ่งเคยใช้เป็นที่พบปะของชาวอังกฤษ
ลานกว้างแห่งนี้เทียบได้กับสนามหลวงในกรุงเทพฯ และยังถูกใช้ในพิธีการสำคัญเรื่อยมา
ตนกูอับดุลราห์มาน นายกฯคนแรกของมาเลย์เซีย ก็น่าจะเคยเปล่งเสียงตะโกน " MERDEKA "ที่นี่
เพื่อประกาศเอกราช ในปีคศ.1957





      บันทึกการเข้า
supanee
Full Member
**


ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 605

« ตอบ #54 เมื่อ: 23 พฤศจิกายน 2554, 15:56:24 »

   นักท่องเที่ยวแวะถ่ายรูปหน้าพระราชวัง







      บันทึกการเข้า
Leam
Cmadong Member
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
****


ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 23,776

« ตอบ #55 เมื่อ: 23 พฤศจิกายน 2554, 23:56:41 »

อ้างถึง
ข้อความของ supanee เมื่อ 23 พฤศจิกายน 2554, 15:56:24
  นักท่องเที่ยวแวะถ่ายรูปหน้าพระราชวัง











ธงอยู่บนยอดเสา... แสดงว่าขณะนี้ พระราชาธิบดีทรงประทับที่พระราชวังแห่งนี้

      บันทึกการเข้า
Leam
Cmadong Member
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
****


ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 23,776

« ตอบ #56 เมื่อ: 24 พฤศจิกายน 2554, 00:02:55 »

อ้างถึง
ข้อความของ supanee เมื่อ 23 พฤศจิกายน 2554, 15:56:24
   นักท่องเที่ยวแวะถ่ายรูปหน้าพระราชวัง











ที่เสาประตู,บานประตู มีลาย..ดอกชบา
ชบา... เป็นดอกไม้ประจำชาติของมาเลเชีย
ผู้ใดเหยียบดอกชบา... มีความผิดและมีโทษ ตามกฎหมายมาเลเชียครับ
      บันทึกการเข้า
หนุน'21
Global Moderator
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
*****


ซีมะโด่ง'จุฬาฯ ที่มาของผม
ออฟไลน์ ออฟไลน์

คณะ: "ครุศาสตร์"
กระทู้: 26,927

« ตอบ #57 เมื่อ: 24 พฤศจิกายน 2554, 00:11:25 »


ตามเข้ามาเที่ยวด้วยคนครับ
อ่านเพลิน ชมเพลิน
ขอบคุณมากครับ


 ปิ๊งๆ รักนะ
      บันทึกการเข้า

“สิ่งที่ล้ำค่าที่สุดในใต้หล้า ทั้งมิใช่ชื่อเสียง และไม่ใช่ทรัพย์ศฤงคาร หากแต่เป็นน้ำใจระหว่างคน ท่านหากได้มา พึงทะนุถนอมไว้
อย่าได้สร้างความผิดหวังต่อตนเองและผู้อื่น.” “วีรบุรุษสำราญ” “โกวเล้ง”
Pete15
Cmadong Member
Cmadong ชั้นเซียน
****


ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 9,460

« ตอบ #58 เมื่อ: 24 พฤศจิกายน 2554, 00:14:00 »

มา ครับ
      บันทึกการเข้า
supanee
Full Member
**


ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 605

« ตอบ #59 เมื่อ: 25 พฤศจิกายน 2554, 13:24:04 »

    พี่อี๊ดเล่าจบแล้วจ้า  ขอบคุณที่ติดตามอ่าน

     ขอเฮฮาลาก่อนด้วยน้ำมะม่วงคั้นสดๆจากมะละกา


      บันทึกการเข้า
Leam
Cmadong Member
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
****


ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 23,776

« ตอบ #60 เมื่อ: 25 พฤศจิกายน 2554, 22:02:30 »


ขอบคุณ... พี่อี๊ด,พี่เน็ก ครับ

จะรอชมทริปต่อๆไปครับ.....

(แว่วๆมาว่า... มีทริปเกาหลีด้วย....)
      บันทึกการเข้า
Cinderlily
Full Member
**


Graceless lady you know who I am.
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 679

« ตอบ #61 เมื่อ: 26 พฤศจิกายน 2554, 11:04:31 »


อ้าวอิ๊ด  เล่าจบแล้วหรือ ยังไม่เห็นเล่าเรื่องเมือง Putrajaya เลย  ลืมรึเป่าจ๊ะ  ไม่เป็นไรเล่าเองก็ได้

เราโชคดีที่มีโอกาสได้แวะไปเมือง Putrajaya ซึ่งอยู่ระหว่างทางจาก KL. ไป สนามบิน KLIA





คนพาเรามาเที่ยวเมืองนี้คือ อาหยวน พนักงานขับรถรูปหล่อชาวจีนของเรานั่นเอง  นอกจากจะพาเที่ยวแล้ว ยังเล่ารายอะเอียดให้ฟังอีกด้วย  ไปคราวหน้าคงต้องจองตัวเขาไว้อีก

อาหยวน เรียกเมือง Putrajaya ว่าเป็นเมืองหลวงใหม่  แต่ฉันคิดว่า น่าจะเรียกว่า " ศูนย์ราชการ" มากกว่า เพราะพระราชวังของพระราชาธิบดี ยังอยู่ใน KL  ที่จริงบ้านเราน่าจะทำอย่างนี้บ้างนะ เพราะสร้างใหม่   อาคารทุกกระทรวง จะได้อยู่บนถนนเส้นเดียวกันหมด ง่ายดี 





เมือง Putrajaya  อยู่ห่างจาก KL ประมาณ 2 ชั่วโมง  สร้างบนพื้นที่ที่เป็น สวนปาล์มมาก่อน  เป็นพื้นที่สูงอยู่บนเขา โอกาสน้ำท่วมแทบไม่มี 
พื้นที่ที่ตั้งเมืองนี้อยู่ในรัฐสาลังงอ  ดังนั้น เพื่อเป็นการชดเชยให้เจ้าของที่ดิน  ทางการจึงต้องสร้างพระราชวังใหม่ ( เพิ่มขึ้น) ให้แก่สุลต่าน แห่งรัฐสาลังงอ  ไว้ที่ริมทะเลสาบบนยอดเขา ใกล้มัสยิดหลวง  เป็นสถานที่ที่สวยงามมาก หากสังเกต จะเห็นธงประจำพระองค์สุลต่าน อยู่ที่ยอดเสาธง แสดงว่าท่านประทับอยู่ที่นี่





ตรงข้ามกับพระราชวังของสุลต่านสาลังงอ ก็เป็นมัสยิดกลาง สีชมพู สวยงามและใหญ่โตมาก


เนื่องจากเป็นเมืองใหม่ ผังเมืองจึงออกแบบได้อย่างเป็นระเบียบ สวยงาม และง่ายต่อการคมนาคม  โดยจะมีถนนเส้นหลักอยู่กลางเมือง  สองฝากถนนจะเป็นที่ตั้งของกระทรวงต่างๆ  ปลายด้านหนึ่งของถนน เป็นที่ตั้งของทำเนียบรัฐบาล ( เห็นเป็นโดมสีเขียว ท้ายถนน)


[/img]


ทำเนียบรัฐบาล และ ประตูทางเข้า




การสร้างเมืองนี้ รัฐบาลมาเลเซีย ไม่ต้องใช้เงินสร้างเลยสักริงกิตเดียว  เพราะเขาใช้วิธีเปิดประมูลว่า เอกชนบริษัทใดต้องการที่ตั้ง และอาคารกระทรวงเก่าใน KL หลังไหน ก็เอาไปเลย  แต่ต้องมาสร้างอาคารกระทรวงนั้นให้ใหม่ตามที่ทางการได้ออกแบบไว้แล้วที่เมือง Putrajaya แทน

นอกจากกระทรวงต่างๆแล้ว ยังมีคอนโดที่พักของข้าราชการ ที่ให้คนทำงานที่นี่พักฟรี   มีห้างสรรพสินค้าเล็กๆไว้ให้ข้าราชการมาซื้อของ  มีร้านอาหารหลายประเภท รวมทั้งโรงแรมระดับ 5 ดาวไว้คอยต้อนรับแขกของรัฐบาลทุกระดับอีกด้วย

สุดปลายถนนด้านตรงข้ามกับทำเนียบรัฐบาล จะเป็นที่ตั้งของรัฐสภา ซึ่งตั้งอยู่บนยอดเขาที่เป็นจุดที่สูงที่สุดของเมือง
เมื่อมองจากถนนจะเห็นหลังคาของรัฐสภา เป็นรูปนกอินทรีย์ ซึ่งเป็นสัญยลักษณ์ของประเทศ กางปีกอยู่บนนั้น



 

อาคารรัฐสภา รูปนกอินทรีย์กางปีก


มองลงมาจากอาคารรัฐสภา จะเห็นทำเนียบรัฐบาลอยู่ปลายถนน ตรงกันแป๊ะเลย
      บันทึกการเข้า

Cinderlily
Cinderlily
Full Member
**


Graceless lady you know who I am.
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 679

« ตอบ #62 เมื่อ: 26 พฤศจิกายน 2554, 13:00:22 »


พาเที่ยวเมือง Putrajaya แล้ว ก็หิวพอดี นึกมาได้ว่า ช่วงเที่ยวมาเลเซียครั้งนี้ มีอาหารจีนที่เราติดใจกันมากอยู่ด้วย
เป็นร้าน " บากุ๊ดเต๋" เจ้าอร่อย ในตัวเมือง KL. ลองชิมกันหน่อยไม๊


จานแรกเป็นปลาราดซ๊อสเต๊าซี่ ที่รสเข้มข้นมาก แม้อิฉันจะไม่ชอบปลา แต่ก็ซัดน้ำเต้าซี่อย่างเอร็ดอร่อย

จานที่สองเป็นเต้าหู้ทรงเครื่อง แอบเห็นโต๊ะอื่นสั่งเลยสั่งบ้าง เต้าหู้นุ่มอร่อยมาก

พระเอกของร้านนี้คือ บากุ๊ดเต๋  แบบน้ำ ที่หอมเครื่องเทศมาก แต่ทางร้านเขาจะใส่หมูแบบไม่ได้เคี่ยวเปื่อยมาด้วย ซึ่งน่าจะเป็นความนิยมของลูกค้าที่นี่ก็เป็นได้  เราก็จัดการกันเรียบวุธ


เหลือบไปเห็นรูปที่ป้ายเมนูอันใหญ่ เขียนไว้ว่า เป็นบากุ๊ดเต๋แห้ง เลยลองสั่งมาชิม  อุแม่เจ้า อร่อยอย่างยิ่ง เลยต้องสั่งมาเพิ่มอีก 1 หม้อ   จานนี้ชอบตรงที่เขาใส่ปลาหมึกแห้งฉีกเป็นเส้นๆลงไปเคี่ยวด้วย เวลาเคี้ยวทั้งนุ่มทั้งหนึบๆ อร่อยสุด  วันนี้เรากินข้าวกันจนพุงกาง  คราวหน้าต้องแวะไปอุดหนุนอีกเป็นแน่
      บันทึกการเข้า

Cinderlily
ดวงทิพย์ สิงห์ดำ24
Full Member
**


ออฟไลน์ ออฟไลน์

คณะ: รัฐศาสตร์
กระทู้: 383

« ตอบ #63 เมื่อ: 28 พฤศจิกายน 2554, 18:12:02 »

ตามมาชมจนจบค่ะ
1.คนไปสวย...ถ่ายรูปตรงไหนก็สวย
2.ภาพสถานที(รวมทั้งคนด้วย) ทำให้ได้รับความรู้ของเพื่อนบ้านใกล้ตัว
3.ภาพคมชัด..สวยงาม
ขอบคุณมากค่ะ
      บันทึกการเข้า
Cinderlily
Full Member
**


Graceless lady you know who I am.
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 679

« ตอบ #64 เมื่อ: 14 ธันวาคม 2554, 21:22:32 »


อี๊ด....รูปไปเที่ยวไทเป อยู่ที่ Face Book ยังไม่ได้เล่าในบล๊อก  ( ยังเหนื่อยอยู่)  ดูรูปไปก่อนนะ

https://www.facebook.com/media/set/?set=a.2852791321675.2151273.1316299832&type=3

      บันทึกการเข้า

Cinderlily
pusadee sitthiphong
Cmadong พันธุ์แท้
****


ออฟไลน์ ออฟไลน์

คณะ: พาณิชยศาสตร์และการบัญชี
กระทู้: 4,689

« ตอบ #65 เมื่อ: 25 ธันวาคม 2554, 11:46:37 »

 รักนะMerry Christmas and may God's grace be with พี่เน็กและครอบครัว
Make merry not just on this wonderful holiday but all through the year
....
      บันทึกการเข้า

pom shi 2516
หนุน'21
Global Moderator
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
*****


ซีมะโด่ง'จุฬาฯ ที่มาของผม
ออฟไลน์ ออฟไลน์

คณะ: "ครุศาสตร์"
กระทู้: 26,927

« ตอบ #66 เมื่อ: 29 ธันวาคม 2554, 16:12:22 »


ตามชมเมืองใหม่มาเลย์...ซึ่งสร้างนานแล้ว
สวยงาม ดูเป็นระเบียบ น่าไปเยือนมาก
ขอบคุณครับ
      บันทึกการเข้า

“สิ่งที่ล้ำค่าที่สุดในใต้หล้า ทั้งมิใช่ชื่อเสียง และไม่ใช่ทรัพย์ศฤงคาร หากแต่เป็นน้ำใจระหว่างคน ท่านหากได้มา พึงทะนุถนอมไว้
อย่าได้สร้างความผิดหวังต่อตนเองและผู้อื่น.” “วีรบุรุษสำราญ” “โกวเล้ง”
Cinderlily
Full Member
**


Graceless lady you know who I am.
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 679

« ตอบ #67 เมื่อ: 30 ธันวาคม 2554, 06:29:19 »


ขอบคุณสำหรับคำอวยพรปีใหม่ จากน้องๆ ขอให้ทุกท่าน และครอบครัวมีความสุขตลอดปี 2555 เช่นกันค่ะ
      บันทึกการเข้า

Cinderlily
เริง2520
Cmadong ชั้นเซียน
*****


ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 6,341

« ตอบ #68 เมื่อ: 09 กุมภาพันธ์ 2555, 16:50:29 »

พี่อิ๊ด

 ๑-๔ มีนาคมนี้ ผมจะไปมะละกา อีกครั้ง คราวนี้ตั้งใจจะไปเดินถนนสายเก่า Jonker เดินเล่นให้สนุกและ ลิ้มรสอาหารพื้นเมือง
      บันทึกการเข้า
Cinderlily
Full Member
**


Graceless lady you know who I am.
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 679

« ตอบ #69 เมื่อ: 09 กุมภาพันธ์ 2555, 23:40:22 »


แล้วอย่าลืมมาเล่าให้ฟังบ้างนะ
      บันทึกการเข้า

Cinderlily
เริง2520
Cmadong ชั้นเซียน
*****


ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 6,341

« ตอบ #70 เมื่อ: 12 กุมภาพันธ์ 2555, 10:50:26 »

เป็นทัวร์ที่รวมตัวกันอย่างลงตัวได้ก่อนเดินทางเพี่ยง ๒๐ วัน ทำให้ไม่ได้ไปกับสายการบินลุฟฯ ซึ่งติดใจมากเมื่อไปแฟร้งเฟริตหลายปีก่อน และมีการให้เลื่อนที่นั่งจากชั้นประหยัดให้ไปนั่งที่ดีกว่าเมื่ิอชั้นนั้นว่าง
      บันทึกการเข้า
เริง2520
Cmadong ชั้นเซียน
*****


ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 6,341

« ตอบ #71 เมื่อ: 13 กุมภาพันธ์ 2555, 11:14:15 »

พี่อิ๊ด ได้แนะนำว่าน่าไปพักโรงแรม mimosa ด้วยดีและสะดวกด้วยประการทั้งปวง  ก็จะพักทีนี่แหละครับ  ช่วงค่ำจะได้เดินเลียบแม่น้ำมะละกา

แต่ไม่ได้จองไว้แต่อย่างใด การไปครั้งที่สองคงพอจะหาทีพักอื่นได้บ้าง
 
โรงแรมนี้ได้มาเปิดบริการที่ สมุย ด้วย
      บันทึกการเข้า
เริง2520
Cmadong ชั้นเซียน
*****


ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 6,341

« ตอบ #72 เมื่อ: 05 มีนาคม 2555, 15:08:38 »

พักที่นี่ ๒ คืน
cafe 1511 ตึกโบราณมาก  ประทับใจซะ
http://www.thai2stay.com/Malaysia/Malacca_Melaka/cafe_1511_guesthouse_247347.htm
      บันทึกการเข้า
Cinderlily
Full Member
**


Graceless lady you know who I am.
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 679

« ตอบ #73 เมื่อ: 05 มีนาคม 2555, 15:45:25 »

ตอนแรกพี่ก็จะพักโรงแรมที่ดัดแปลงมาจากบ้านเก่า ในย่าน จองเกอร์ เหมือนกัน แต่มีฝรั่งบอกว่าเสียงรถวิ่ง และมีเสียงดนตรี และคนเดินจนดึก เลยเปลี่ยนใจ ประกอบกับข้าง Mimosa มีร้านอาหารอร่อยที่สามารถเดินไปกินได้สะดวก จึงเลือก Mimosa  ก็สนุกไปอีกแบบนะ
      บันทึกการเข้า

Cinderlily
เริง2520
Cmadong ชั้นเซียน
*****


ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 6,341

« ตอบ #74 เมื่อ: 05 มีนาคม 2555, 22:06:48 »

ทุกอย่างเป็นไปตามที่บอกในการโฆษณาครับ ประทับใจลุงคอลลินเจ้าของ ท่านมาเมืองไทยหลายครั้ง และได้ซื้อเครื่องตกแต่งมาด้วย นอกจากนั้นท่านใด้แขวนพระบรมฉายาลักษณ์  ร. ๙ ด้วย

 อาหารเช้า คือ LAKSA  เป็นบะหมี่ใส่น้ำแกง มีที่ปีนั่งด้วย  ได้กินนำ้แข็ง กระจังไอซ์ อร่อยดี

ตรงข้ามทีนี่จะเป็นโรงแรมที่โครงสร้างเป็นตึกเก่าแบบนี้ ๗ ห้อง ๒ ชั้นแบบนี่ ปีหน้าคงเสร็จ

ถ่ายถาพ ๔ วัน เป็นร้อยภาพ เพื่อนกำลังจัดทำเป็นแผ่นซีดี ครับ หมายเหตุห้องพักทั้งบ้านที่ให้เข้าพักมีเพียง ๔ ห้อง เราพักชือ LAKSAด้วย
      บันทึกการเข้า
เริง2520
Cmadong ชั้นเซียน
*****


ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 6,341

« ตอบ #75 เมื่อ: 06 มีนาคม 2555, 09:01:54 »

รายละเอียดเกี่ยวกับวัฒนธรรมอาหารLAKSA คาเฟ ๑๕๑๑ อยู่ด้านซ้ายติดกับmuseum
      บันทึกการเข้า
เริง2520
Cmadong ชั้นเซียน
*****


ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 6,341

« ตอบ #76 เมื่อ: 06 มีนาคม 2555, 09:08:35 »

ทีมีในภาพ http://th.wikipedia.org/wiki/%E0%B9%80%E0%B8%9B%E0%B8%AD%E0%B8%A3%E0%B8%B2%E0%B8%99%E0%B8%B2%E0%B8%81%E0%B8%B1%E0%B8%99
      บันทึกการเข้า
เริง2520
Cmadong ชั้นเซียน
*****


ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 6,341

« ตอบ #77 เมื่อ: 06 มีนาคม 2555, 09:21:52 »

laksa ที่ชอบhttp://rasamalaysia.com/curry-meecurry-laksa-recipe/
      บันทึกการเข้า
เริง2520
Cmadong ชั้นเซียน
*****


ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 6,341

« ตอบ #78 เมื่อ: 06 มีนาคม 2555, 09:24:51 »

http://rasamalaysia.com/curry-meecurry-laksa-recipe/
      บันทึกการเข้า
supanee
Full Member
**


ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 605

« ตอบ #79 เมื่อ: 07 มีนาคม 2555, 14:32:54 »

เริง กลับมาแล้ว ขอดูรูปใหม่ๆด้วยจ้ะ
      บันทึกการเข้า
เริง2520
Cmadong ชั้นเซียน
*****


ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 6,341

« ตอบ #80 เมื่อ: 07 มีนาคม 2555, 15:19:14 »

พี่อิ๊ด

มีอยู่ในกล้อง ๕-๖ รูป ถ่ายที่มะละกา คงให้ผู้ชำนาญการจัดการให้
ส่วนรูปที่เป็นซีดี มีที่มะละกา กัวลา ซาหะมา ที่อยู่ในรัฐซลังงอร์  นั่งรถไฟไป ๓๕ นาทีจากกัวลาเพื่อไปชมสวนพฤกษศาสตร์   และพิพิธภัณฑ์
      บันทึกการเข้า
เริง2520
Cmadong ชั้นเซียน
*****


ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 6,341

« ตอบ #81 เมื่อ: 13 มีนาคม 2555, 09:12:57 »

เช้าวันที่ ๑ มี.ค. พร้อมที่จะไปกับ TG 415 สุวรรณภูมิ - กัวลาลัมเปอร์  ชื่อละหารทราย  จอดรออยู่หลังภาพ
      บันทึกการเข้า
เริง2520
Cmadong ชั้นเซียน
*****


ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 6,341

« ตอบ #82 เมื่อ: 13 มีนาคม 2555, 09:15:25 »

กับคณะเดินทางบนรถไฟที่จะไปผ่านตรวจคนเข้าเมือง
      บันทึกการเข้า
เริง2520
Cmadong ชั้นเซียน
*****


ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 6,341

« ตอบ #83 เมื่อ: 13 มีนาคม 2555, 09:19:35 »

ที่คาเฟ่ ๑๕๑๑ เกรสต์เฮ้า ที่เราพักกันบนถนนจองเกอร์ ด้านขวาจะเป็นพิพิธภัณฑ์ของเราช่องแคบ(ไม่มีในภาพ)
      บันทึกการเข้า
เริง2520
Cmadong ชั้นเซียน
*****


ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 6,341

« ตอบ #84 เมื่อ: 13 มีนาคม 2555, 09:22:16 »

ภายในห้องพักที่ชื่อ Luksa สวยและกระทัดรัด น่านอนมาก
      บันทึกการเข้า
เริง2520
Cmadong ชั้นเซียน
*****


ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 6,341

« ตอบ #85 เมื่อ: 13 มีนาคม 2555, 09:24:40 »

หน้าพิพิธภัณฑ์ของชาวช่องแคบ
      บันทึกการเข้า
เริง2520
Cmadong ชั้นเซียน
*****


ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 6,341

« ตอบ #86 เมื่อ: 13 มีนาคม 2555, 09:27:13 »

แม่น้ำมะละกาตอนเย็นที่ถ่ายบนสะพานจะไปเมืองเก่า เงียบสงบมากเลย
      บันทึกการเข้า
เริง2520
Cmadong ชั้นเซียน
*****


ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 6,341

« ตอบ #87 เมื่อ: 13 มีนาคม 2555, 09:30:16 »

ถึงแล้วมะละกาหน้าโบสถ์จัสตุรัสดัตซ์สแควร์
      บันทึกการเข้า
เริง2520
Cmadong ชั้นเซียน
*****


ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 6,341

« ตอบ #88 เมื่อ: 13 มีนาคม 2555, 09:33:42 »

ชั้นล่างของที่พัก เป็นร้านอาหารโฮมเมดต์ ด้วยอร่อยเหมือนอยู่ในบ้าน
      บันทึกการเข้า
เริง2520
Cmadong ชั้นเซียน
*****


ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 6,341

« ตอบ #89 เมื่อ: 13 มีนาคม 2555, 09:36:06 »

ที่บันไดไม้ที่มีอายุมากกว่า ๑๐๐ ปี
      บันทึกการเข้า
เริง2520
Cmadong ชั้นเซียน
*****


ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 6,341

« ตอบ #90 เมื่อ: 13 มีนาคม 2555, 09:38:44 »

หน้าที่พักย่านถนนสายวัฒนธรรมชิโน-โปรตุกีส ถนนจองเกอร์
      บันทึกการเข้า
เริง2520
Cmadong ชั้นเซียน
*****


ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 6,341

« ตอบ #91 เมื่อ: 13 มีนาคม 2555, 09:41:28 »

หน้าบ้าน ที่มองเข้าไปข้างในแล้วสวยมากๆ ได้ใจเลย
      บันทึกการเข้า
เริง2520
Cmadong ชั้นเซียน
*****


ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 6,341

« ตอบ #92 เมื่อ: 13 มีนาคม 2555, 09:43:46 »

ต้นมะละกาหรือมะขามป้อมบริเวณเนินเขาเซนต์ปอล
      บันทึกการเข้า
เริง2520
Cmadong ชั้นเซียน
*****


ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 6,341

« ตอบ #93 เมื่อ: 13 มีนาคม 2555, 09:46:04 »

หน้าโบสถ์เซนต์ปอลกับอนุเสาวรีย์เซนต์ฟรานซิส เซเวียร์
      บันทึกการเข้า
เริง2520
Cmadong ชั้นเซียน
*****


ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 6,341

« ตอบ #94 เมื่อ: 13 มีนาคม 2555, 09:48:31 »

กับแผ่นจารึกภายในโบสถ์ด้วยที่ไปช้ามาก พื้นมีดอกไม้ร่วงเป็นธรรมชาติจริงๆ
      บันทึกการเข้า
เริง2520
Cmadong ชั้นเซียน
*****


ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 6,341

« ตอบ #95 เมื่อ: 13 มีนาคม 2555, 09:50:57 »

ภาพกับหนุ่มสาวที่แต่งกายพื้นเมืองในบริเวณพิพิธภัณฑ์ที่มะละกา น่ารักทั้งคู่
      บันทึกการเข้า
เริง2520
Cmadong ชั้นเซียน
*****


ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 6,341

« ตอบ #96 เมื่อ: 13 มีนาคม 2555, 09:53:00 »

ยามบ่ายกับที่เดิมประทับใจจริงๆ ชอบสุดๆ
      บันทึกการเข้า
เริง2520
Cmadong ชั้นเซียน
*****


ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 6,341

« ตอบ #97 เมื่อ: 13 มีนาคม 2555, 09:54:51 »

ขอนั่งพักหน่อยนะ
      บันทึกการเข้า
เริง2520
Cmadong ชั้นเซียน
*****


ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 6,341

« ตอบ #98 เมื่อ: 13 มีนาคม 2555, 09:57:10 »

ภายในพิพิธภัณฑ์ประวัติศาตร์และชนชาติประจำเมืองมะละกา ของใช้ที่มากับเรือค้าขายของหลายๆชาติ
      บันทึกการเข้า
Pete15
Cmadong Member
Cmadong ชั้นเซียน
****


ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 9,460

« ตอบ #99 เมื่อ: 13 มีนาคม 2555, 09:57:49 »

มา ครับ มาชม รูป
      บันทึกการเข้า
เริง2520
Cmadong ชั้นเซียน
*****


ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 6,341

« ตอบ #100 เมื่อ: 13 มีนาคม 2555, 10:00:05 »

ตึกอนุสรณ์การประกาศเอกราช ทุกวันนี้ใช้เป็นพิพิธภัณฑ์ประกาศเอกราชของประเทศ
      บันทึกการเข้า
เริง2520
Cmadong ชั้นเซียน
*****


ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 6,341

« ตอบ #101 เมื่อ: 13 มีนาคม 2555, 10:04:02 »

ท้ายเรือฟลอรา เดอ ลาร์ จำลอง จอดอยู่ใกล้ชายฝั่งแม่น้ำมะละกาจัดเป็นพิพิธภัณฑ์การเดินเรือทะเล
ด้านหลังจะเป็นช่องแคบมะละกา
หิ้วของฝากจะออกจากมะละกาแล้ว
 เหนื่อยและร้อนหน้ายู่ยี่กันหมด
      บันทึกการเข้า
เริง2520
Cmadong ชั้นเซียน
*****


ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 6,341

« ตอบ #102 เมื่อ: 13 มีนาคม 2555, 10:06:26 »

หน้าบ้านโบราณหลังหนึ่งถ่ายไว้ก่อนเดินไปขึ้นรถ มุ่งหน้าสู่กัวลาลัมเปอร์
      บันทึกการเข้า
เริง2520
Cmadong ชั้นเซียน
*****


ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 6,341

« ตอบ #103 เมื่อ: 13 มีนาคม 2555, 10:08:29 »

ต่อไปมาถึงกัวลาลัมเปอร์แล้ว
จบเพียงนี้น่ะครับ
      บันทึกการเข้า
เริง2520
Cmadong ชั้นเซียน
*****


ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 6,341

« ตอบ #104 เมื่อ: 13 มีนาคม 2555, 13:22:18 »

อีก ๓ ปีจะไปครั้งที่ ๓ ครับ
      บันทึกการเข้า
Leam
Cmadong Member
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
****


ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 23,776

« ตอบ #105 เมื่อ: 14 มีนาคม 2555, 01:06:14 »


ตามชมด้วยความขอบคุณครับ.. พี่เริง

มะละกาเป็นเมืองที่มีเสน่ห์ครับ...
      บันทึกการเข้า
Cinderlily
Full Member
**


Graceless lady you know who I am.
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 679

« ตอบ #106 เมื่อ: 14 มีนาคม 2555, 08:44:03 »


เริงจ๋า....ที่ไปกันเนี่ย  ไม่มีสาวๆเลยรึ
ขอชมว่าเลือกบ้านได้ดี  แต่พี่ไม่กล้าอยู่บ้านเก่าขนาดนั้น  กลัวอ่ะ
      บันทึกการเข้า

Cinderlily
เริง2520
Cmadong ชั้นเซียน
*****


ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 6,341

« ตอบ #107 เมื่อ: 14 มีนาคม 2555, 08:53:44 »




พี่ลิลลี่

มีไป ๑ ท่าน เธอเป็นผู้ถ่ายภาพให้กล้องผม    จึงไม่มีภาพเธอเลย
 
เธอจะมีมากในภาพที่เป็นซีดีครับ

ท่านอื่นเป็นคนถ่ายแทนเธอ
      บันทึกการเข้า
เริง2520
Cmadong ชั้นเซียน
*****


ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 6,341

« ตอบ #108 เมื่อ: 18 มีนาคม 2555, 14:32:03 »

เร็วๆนี้อาจมีสารคดีนำเสนอ   "ตามครูสู่ประชาคมอาเซียนที่ออสเตรเลีย" นะ

จะนำเสนอช่องไหนดีล่ะ

      บันทึกการเข้า
หนุน'21
Global Moderator
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
*****


ซีมะโด่ง'จุฬาฯ ที่มาของผม
ออฟไลน์ ออฟไลน์

คณะ: "ครุศาสตร์"
กระทู้: 26,927

« ตอบ #109 เมื่อ: 22 มีนาคม 2555, 11:24:25 »

สวัสดีครับพี่เริงและสมาชิกทุกท่าน
เข้ามาตามเที่ยว มะละกา ด้วยคนครับ
เป็นเมืองทีมีเสน่ห์นะ ต้องหาโอกาสไปเที่ยวชมบ้าง
พี่เริงถ่ายรูปได้สวยงามนะครับ


 รักนะ รักนะ
      บันทึกการเข้า

“สิ่งที่ล้ำค่าที่สุดในใต้หล้า ทั้งมิใช่ชื่อเสียง และไม่ใช่ทรัพย์ศฤงคาร หากแต่เป็นน้ำใจระหว่างคน ท่านหากได้มา พึงทะนุถนอมไว้
อย่าได้สร้างความผิดหวังต่อตนเองและผู้อื่น.” “วีรบุรุษสำราญ” “โกวเล้ง”
เริง2520
Cmadong ชั้นเซียน
*****


ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 6,341

« ตอบ #110 เมื่อ: 23 มีนาคม 2555, 10:26:52 »

พี่อิ้ด

ห้องนี้แฟนคลับเยอะนะครับ
      บันทึกการเข้า
dolly
มือใหม่หัดเมาท์
*


ออฟไลน์ ออฟไลน์

คณะ: อักษรศาสตร์
กระทู้: 27

« ตอบ #111 เมื่อ: 23 เมษายน 2555, 18:22:05 »

น่ีาเที่ยวจริงๆเลย อิ๊ดเล่าเรื่องได้สนุกมาก ไม่ได้ไปก็เหมือนได้ไปด้วย ขอบคุณค่ะที่เอาภาพสวยๆพร้อมคำอธิบายมาฝาก
      บันทึกการเข้า
dolly
มือใหม่หัดเมาท์
*


ออฟไลน์ ออฟไลน์

คณะ: อักษรศาสตร์
กระทู้: 27

« ตอบ #112 เมื่อ: 23 เมษายน 2555, 18:28:09 »

เค้าเขียนชมอิ๊ดหน้านี้ ไหง มันไปขึ้นหน้าอื่นล่ะ...งงจัง
      บันทึกการเข้า
supanee
Full Member
**


ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 605

« ตอบ #113 เมื่อ: 24 เมษายน 2555, 13:05:23 »

เอ่ยชื่อคนเดียว เขินอ่ะ มีอี๊ด เน้ก และน้องเริงค้วย ประกอบกันจึงจะครบทุกรส
คุณDolly หาทางเข้าบ้าน 14 ถูกแล้วหรือ ดีใจจัง วันหลังไปเที่ยวด้วยกันนะ
      บันทึกการเข้า
เริง2520
Cmadong ชั้นเซียน
*****


ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 6,341

« ตอบ #114 เมื่อ: 24 เมษายน 2555, 15:15:28 »

พี่อิ๊ด

ชวนแวะไปเยี่ยมห้อง ๒๕๒๐ บ้างนะ
มี  "เที่ยวไป......ในวันว่าง"

ภาพอาจช้าไปบ้างนะ แต่คุ้มค่าครับ
      บันทึกการเข้า
  หน้า: 1 2 3 ... 5 [ทั้งหมด]   ขึ้นบน
  
กระโดดไป:  

     

สมาคมนิสิตเก่าหอพักนิสิต จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย มวลสมาชิกสมาคม คณาจารย์ และนิสิตเก่าทุกคน ขอน้อมเกล้าถวายความอาลัย  พระผู้เสด็จสู่สวรรคาลัย ด้วยเกล้าด้วยกระหม่อม ขอเดชะ <;))))><