20 เมษายน 2567, 10:31:41
ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน


เข้าสู่ระบบด้วยชื่อผู้ใช้ รหัสผ่าน [สมาชิกเก่าลืมรหัส โทร 081-7611760]
A A A A  ระเบียบปฎิบัติ
   
Languages    
  หน้า: 1 ... 128 129 [130] 131   ลงล่าง
ผู้เขียน หัวข้อ: ตามครูไปเที่ยว  (อ่าน 866742 ครั้ง)
0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
เริง2520
Cmadong ชั้นเซียน
*****


ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 6,341

« ตอบ #3225 เมื่อ: 22 กรกฎาคม 2557, 20:09:39 »

ไม่อยากจะเชื่อ... เพราะสมัยเรียนไม่เคยรับรู้เรื่องราวเช่นนี้มาก่อนเลย ผมดีใจเหมือนจะยกมือขึ้นพนมไหว้ เมื่อรู้ว่า... ผมเป็นศิษย์เก่ารุ่นลูกของท่านศาสตราจารย์สัญญา ธรรมศักดิ์ อดีตนายกรัฐมนตรี คนที่ 12 เป็นศิษย์รุ่นลูกของพลเอกสุจินดา คราประยูร อดีตนายกรัฐมนตรี คนที่ 19
                นอกจากนั้น ยังเป็นศิษย์รุ่นน้องของอาจารย์เนาวรัตน์ พงษ์ไพบูลย์ (ท่านที่อ่านมาถึงตรงนี้ คงจะร้อง อ๋อ... รู้แล้วว่าทำไม ผมจึงนำบทกวีที่อาจารย์เนาวรัตน์ เขียนให้กับโรงเรียน มาไว้ข้างบนนั่น...)
                ยังมีอีกครับ พลเอกเรืองโรจน์ มหาศรานนท์ อดีตผู้บัญชาการทหารสูงสุด นายอำนวย สุวรรณคีรี อดีตรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี พลตำรวจเอกเสรีพิสุทธิ์ เตมียาเวส อดีตผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ฯลฯ
      บันทึกการเข้า
เริง2520
Cmadong ชั้นเซียน
*****


ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 6,341

« ตอบ #3226 เมื่อ: 22 กรกฎาคม 2557, 20:29:24 »

ตอนที่ ๒

ในตอนที่แล้ว ผมนั่ง Time Machine (อิ อิ มันเป็นรถแท็กซี่น่ะ) ย้อนเวลากลับไปยังโรงเรียนทวีธาภิเศก ที่ไม่ได้ไปอีกเลยหลังจากเรียนจบมาร่วมๆ 36 ปี และยังบอกอีกว่า เพิ่งรู้ว่าเป็นศิษย์รุ่นน้องของคนดีๆ ในบ้านเมืองตั้งมากมาย... นอกจากนี้ ยังได้เอ่ยนามของบางท่านเหล่านั้นไว้ด้วย
              ด้วยความเร่งรีบในการเขียน จึงลืมทบทวนวันเวลาในอดีตของการเมืองไทยที่ยังผ่านไปไม่นานนัก จึงขอถอนความภาคภูมิใจในความเป็นศิษย์เก่ารุ่นน้า และรุ่นพี่ ที่เป็นนายทหารยศพลเอกออกสักคนสองคนนะครับ... อิ อิ ส่วนจะเป็นใคร รบกวนพลิกกลับไปดูเอาเองเถอะ...
              บ่ายวันนั้น ผมเดินออกจากโรงเรียนไปยังวัดแจ้ง หรือวัดอรุณราชวราราม ซึ่งอยู่ใกล้ๆ กับแม่น้ำเจ้าพระยา
            เส้นทางเดินสายนี้ ก่อนนี้ตอนยังเรียนหนังสืออยู่ ผมและเพื่อนๆ มักจะใช้เดินกันเป็นประจำ โดยเฉพาะอย่างยิ่งวันที่ยังไม่อยากกลับบ้าน และต้องการข้ามฟากเจ้าพระยาไปเตร็ดเตร่ในฝั่งกรุงเทพฯ ตอนนั้น จำได้ว่า เราเดินกันไป คุยกัน เล่นกันไป อือ... สนุกดี ที่สำคัญ ไม่ไกล...
             
      บันทึกการเข้า
เริง2520
Cmadong ชั้นเซียน
*****


ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 6,341

« ตอบ #3227 เมื่อ: 22 กรกฎาคม 2557, 20:31:44 »

แต่ทำไมนะ... พอเวลาผ่านพ้นไปหลายๆ วัน หลายๆ ปี ผมกลับมาเดินย้อนรอยสายนี้อีกที เอ๊ะ... มันก็ไกลเหมือนกันนะนี่...
              สมัยโน้น ผมจำได้ว่า เราต้องเดินผ่านสถานที่ที่มีทหารเรืออยู่เยอะๆ (และจำได้อีกว่า มีภรรยาทหารเรือท่านหนึ่งเป็นอาจารย์ที่สอนผมมาในโรงเรียนทวีธาภิเศกแห่งนี้ คือ อาจารย์จินตนีย์ สุขประดิษฐ์ ไม่ทราบว่า ทุกวันนี้ ท่านยังอยู่อีกหรือไม่) และมารู้เอาตอนหลังตอนเดินผ่านเที่ยวนี้ว่า ที่นี่ เป็นถึง กองบัญชาการทหารเรือ เชียวนะ
               ก่อนจะถึงทหารเรือ ผมแวะกินข้าวมันไก่ที่ร้านเล็กๆ แห่งหนึ่ง อร่อยมากๆ จำชื่อได้เพียงว่า มีคำว่า มุ่ย อยู่ด้วย แต่ชื่อเต็มๆ จำไม่ได้เสียแล้ว
               บริเวณพระปรางค์วัดอรุณวันนี้ เปลี่ยนแปลงไปมาก ก่อนนี้ ทุกครั้งที่ผมกับเพื่อนๆ เดินมายืนแหงนมองชนิดคอตั้งบ่า ด้านหน้ายังเป็นลานโล่งๆ ไม่มีกำแพงล้อมรอบอย่างทุกวันนี้
              แต่ความรู้สึกที่ไม่เคยเปลี่ยนแปลงเลยก็คือ โห... สูงๆ ใหญ่ๆ อย่างนี้ คนรุ่นก่อนเขาก่อสร้างขึ้นไปได้อย่างไร แล้วอยู่มาได้แข็งแรงจนถึงทุกวันนี้ การก่อสร้างทุกวันนี้เสียอีก ที่ก่อสร้างแค่อาคารชั้นสองชั้น บางแห่งก็พังทลายลงมาง่ายๆ เสียแล้ว นี่... พระปรางค์แห่งนี้ สร้างมาตั้งแต่สมัยกรุงศรีอยุธยา โน่น...
               ผมเดินเวียนรอบๆ พระปรางค์ และปีนบันไดขึ้นไปชั้นหนึ่ง ทึ่งครับ มิใช่แค่การก่อสร้าง แต่เห็นฝรั่งนักท่องเที่ยวเดินขึ้นไปยังที่สูงๆ ทั้งผู้หญิง ผู้ชาย ผู้ชรา โอย... ขึ้นไปได้ยังไง ผม... คนกลัวความสูง แค่นี้ขาก็สั่นแล้ว...
               ผมเดินออกจากบริเวณวัด มองหาทางไปยังท่าเรือที่จะข้ามฟากไปยังท่าเตียน แต่มองหาอย่างไรก็ไม่เห็นทาง โชคดีครับ ที่น้องเจ้าหน้าที่ทหารเรือผู้หญิงคนหนึ่ง ซึ่งน่าจะเดินกลับมาจากกินข้าวมื้อเที่ยงเดินผ่านมา พอถามทาง น้องทหารเรือก็ใจดีพาผมไปส่งถึงท่าเรือเลย ขอบคุณครับ...
      บันทึกการเข้า
Dtoy16
Hero Cmadong Member
***


ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: rcu2516
คณะ: อักษรศาสตร์
กระทู้: 1,424

« ตอบ #3228 เมื่อ: 22 กรกฎาคม 2557, 20:45:09 »

                   น้องเริง  คุณเหยง มาตามติดRiverfrontทั้งหลาย ป้ายAsiatique ยอดมาก
                   กำลังหาแบบทำป้ายร.รอยู่
                                                                                                   
                   ที่หอหญิงมียามชื่อยามเฉื่อย เป็นบุคลากรระดับตำนานเชียวค่ะ หอชายรู้ดีว่า
                   เป็นบุคคลแรก ก่อนจะเจอสาวหอหญิงได้
      บันทึกการเข้า

เริง2520
Cmadong ชั้นเซียน
*****


ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 6,341

« ตอบ #3229 เมื่อ: 22 กรกฎาคม 2557, 21:01:39 »

  นี่ก็ไปโรงเรียน  Trip...นี้!!! น้ำหนาว กะ คุณแม่แนนมีโอกาสได้มาเยี่ยมเยียน  ค่ะนั่นก็คือ โรงเรียน "ทวีธาภิเศก" ซึ่งคุณพ่อใช้ชีวิตอยู่ในรั้วโรงเรียนชายแห่งนี้ตั้งแต่พ.ศ.2527-2533 เป็นเวลา 6 ปี และอีก 16 ปีเต็มที่คุณพ่อไปๆมาๆ กับสถาบันที่คุณพ่อรัก และ ภาคภูมิใจมากที่ได้เกิดเป็นลูกพ่อขุนสุรชัยรณรงค์ ภายในรั้วเขียว-ขาว แห่งนี้
            ไปมุมไหน ซอกไหน ตึกไหนก็มีแต่คนรู้จักคุณพ่อทุกคน เผอิญคุณแม่เหลือบไปเห็นบอร์ดที่ติดชื่อนักเรียนที่เรียนดี เรียนเก่ง เรียนเก่งมาก ก็เลยถามคุณพ่อว่า พ่อเคยมีชื่อติดบอร์ดแบบนี้มั้งมะ คุณพ่อตอบคุณแม่ว่ามีเหมือนกัน แต่ไม่ใช่บอร์ดนี้ แต่ดันเป็นบอร์ดหัวกะทิของโรงเรียนที่อาจารย์ฝ่ายปกครองได้หมายหัวเอา คุณพ่อเล่าอย่างภาคภูมิใจเลยค่ะว่าเป็นผู้นำนักเรียนทั้งหมด 13 คน ที่โดนอาจารย์ที่ปรึกษา และ อาจารย์ฝ่ายปกครองทำโทษโดยการตีตามวันที่ ซึ่งโชคดีของคุณพ่อ และ เพื่อนๆ ที่วันนั้นตรงกับวันที่ 31 พฤษภาคม ก็เลยโดนตีกันคนละ 31 ทีทั้งหมด 13 คน ไม่อยากจะนึกภาพเลยค่ะ แต่ก็เพราะไม้เรียวที่ตีคุณพ่อเลยทำให้คุณพ่อยังระลึกถึงสถาบันอันเป็นที่รัก และ ภูมิใจมาก ทุกวันนี้คุณพ่อ พาน้ำหนาว กะ คุณแม่ ไปกราบย่าครูรุ่งมณี ที่เป็นอาจารย์ที่ปรึกษาของคุณพ่อ และยังเป็นคนที่ทำโทษคุณพ่อ กับเพื่อนๆ อยู่บ่อยๆ คุณพ่อจะรักย่าครูเหมือนกับแม่คนที่สองของคุณพ่อ


                                      

                                                                                              
      บันทึกการเข้า
เหยง 16
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: rcu2516
คณะ: เภสัชศาสตร์ 2516
กระทู้: 23,533

« ตอบ #3230 เมื่อ: 23 กรกฎาคม 2557, 11:25:08 »

น้องเริงกลับ รร.ทวีธาภิเษก หลังจบไป 36 ปี

นี่พี่เหยงยังไม่เคยกลับไปที่ รร.พระปฐมวิทยาลัย ซึ่งจบมาตั้งแต่ปี พ.ศ. 2515 (จบเดือน ก.พ. 2516)
จนถึงปัจจุบันนี้เลย, 41 ปีมาแล้วล่ะ
เห็นที ต้องหาโอกาสกลับไปเยี่ยมโรงเรียนเก่าซะบ้างแล้ว
กลับนครปฐม ก็เป็นเพียวขับรถผ่านทุกครั้งเท่านั้น
      บันทึกการเข้า
supichaya
มือใหม่หัดเมาท์
*


ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: rcu2524
คณะ: เศรษฐศาสตร์
กระทู้: 213

« ตอบ #3231 เมื่อ: 23 กรกฎาคม 2557, 15:22:17 »

พี่เหยงอยู่นครปฐมรึคะ  ก้อยอยู่ซอย 2 ค่ะ  เรียนสาธิต
      บันทึกการเข้า
เริง2520
Cmadong ชั้นเซียน
*****


ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 6,341

« ตอบ #3232 เมื่อ: 23 กรกฎาคม 2557, 15:46:06 »

อ้าว เจอพี่นครปฐมแล้วก้อย
      บันทึกการเข้า
เริง2520
Cmadong ชั้นเซียน
*****


ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 6,341

« ตอบ #3233 เมื่อ: 23 กรกฎาคม 2557, 17:43:05 »

ไปคลองบางม่่วง  ต.บางม่วง  อ.บางใหญ่

 ด้านซ้ายไปแม่น้ำเจ้าพระยา ด้านขวาไปถึงนครชัยศรีและมหาชัยได้






บ้านนี้มีตู้โบราณด้วย กระจกหกบาน

      บันทึกการเข้า
เริง2520
Cmadong ชั้นเซียน
*****


ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 6,341

« ตอบ #3234 เมื่อ: 23 กรกฎาคม 2557, 17:49:10 »

ท่าน้ำโบราณที่มาทางคลองบางใหญ่หน้าวัดสังวรณ์ เป็นสี่แยกด้วย ซ้าย ขวา ด้านหน้า



ค่าก่อสร้างเป็นเงินจำนวนมากๆในสมัยนั้น



และอีกด้านตรงนี้  ซ้าย ขวา หน้า และหลัง ครบสี่แยกแล้ว เป็นย่านการค้า

      บันทึกการเข้า
เริง2520
Cmadong ชั้นเซียน
*****


ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 6,341

« ตอบ #3235 เมื่อ: 23 กรกฎาคม 2557, 18:02:17 »

มีอาคารเก่าโรงเรียนวัดสังวรณ์ หันหน้าไปทางคลอง ที่เคยมีอดีตเด็กชาย พยอม (พระพยอม แห่งวัดสวนแก้ว ) เรียนที่นี่




      บันทึกการเข้า
เริง2520
Cmadong ชั้นเซียน
*****


ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 6,341

« ตอบ #3236 เมื่อ: 23 กรกฎาคม 2557, 18:05:41 »

ตรงโรงเรียน ฝั่งตรงข้ามมีโรงหล่อพระพุทธรูป

      บันทึกการเข้า
เริง2520
Cmadong ชั้นเซียน
*****


ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 6,341

« ตอบ #3237 เมื่อ: 23 กรกฎาคม 2557, 18:11:19 »

นั่งรับลมที่ศาลาตรงข้ามโรงหล่อพระ

เรือรับซื้อขยะตามบ้านริมคลองผ่านมา  ส่วนเรือขายก๋ยวเตี๋ยว ขนม จะมาตอนเที่ยง ไว้ครั้งหน้าได้ชิม กลับก่อน ๕ ๕  





      บันทึกการเข้า
เริง2520
Cmadong ชั้นเซียน
*****


ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 6,341

« ตอบ #3238 เมื่อ: 23 กรกฎาคม 2557, 19:52:36 »

ครับ สร้างมานานแล้ว  ๑๐๖ ปี

โรงเรียนพระปฐมวิทยาลัย (อังกฤษ: Phrapathom Witthayalai School; อักษรย่อ: พ.ป., P.T.) เป็นโรงเรียนมัธยมศึกษาขนาดใหญ่พิเศษ ก่อตั้งเมื่อวันที่ 23 มกราคม พ.ศ. 2452 มีเนื้อที่ 24 ไร่ 1 งาน 24 ตารางวา ประกอบด้วยอาคารเรียน 8 หลัง และอาคารอื่นๆอีกมากมาย อาทิ อาคารอเนกประสงค์, อาคารหอประชุม วานิช ไชยวรรณ, อาคารอุตสาหกรรมศิลป์

โรงเรียนพระปฐมวิทยาลัย เริ่มเปิดดำเนินการสอนเมื่อวันที่ 23 มกราคม พ.ศ. 2452 มีนักเรียนตั้งแต่ ป. 1 ถึง ม. 4 โดยใช้ชื่อว่าโรงเรียนตัวอย่างมณฑลนครชัยศรี พระปฐมวิทยาลัย

พ.ศ. 2464 เปลี่ยนชื่อโรงเรียนเป็น โรงเรียนประจำมณฑลนครชัยศรี พระปฐมวิทยาลัย
พ.ศ. 2475 ทางราชการสั่งยุบมณฑลนครชัยศรี โรงเรียนจึงจำเป็นต้องเปลี่ยนชื่อเพื่อให้สอดคล้องกับการยุบมณฑลว่า โรงเรียนประจำจังหวัดนครปฐม พระปฐมวิทยาลัย
พ.ศ. 2494 กระทรวงศึกษาธิการสั่งการให้เปลี่ยนชื่อโรงเรียนต่าง ๆ ทั่วประเทศโรงเรียนจึงต้องเปลี่ยนชื่ออีกครั้งหนึ่งว่า โรงเรียนนครปฐม พระปฐมวิทยาลัย
พ.ศ. 2499 โรงเรียนได้เปิดสอนชั้นเตรียมอุดมศึกษาเป็นปีแรก และได้เปลี่ยนชื่อโรงเรียน อีกครั้งหนึ่งว่า โรงเรียนพระปฐมวิทยาลัย และใช้มาจนถึงทุกวันนี้
พ.ศ. 2506 โรงเรียนเปิดสอนชั้น ม.ศ. 4 - ม.ศ. 5 เต็มรูป
พ.ศ. 2518 โรงเรียนได้รับอนุญาตให้เปิดโรงเรียนศึกษาผู้ใหญ่ ระดับ 5 ขึ้น เมื่อวันที่ 5 มิถุนายน พ.ศ. 2518
      บันทึกการเข้า
เหยง 16
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: rcu2516
คณะ: เภสัชศาสตร์ 2516
กระทู้: 23,533

« ตอบ #3239 เมื่อ: 23 กรกฎาคม 2557, 20:56:29 »

น้องเริง

ขอบใจสำหรับประวัติของโรงเรียนพระปฐมวิทยาลัย

ในปีที่มีการซ้อมเสือป่า เสือป่าของ รร.พระปฐมวิทยาลัย สามารถจับตัวพระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว ซึ่งบัญชาการกองเสือป่าฝั่งตรงข้ามที่เข้าซ้อมรบได้ พระองค์พระราชทานภู่ขนนกที่ปักไว้บนพระมาลาประดับให้เสือป่าของโรงเรียนที่จับพระองค์ได้ ซึ่งต่อมาพระราชานุญาตให้ประดับบนหมวกได้ทั้งกอง และตกทอดมายังกองลูกเสือสามัญของโรงเรียน หลังกองเสือป่ายกเลิกไป หลังเสด็จสวรรคต เรียกตามภาษาชาวบ้านว่า "กองลูกเสือขนนก" มีอยู่เพียง 1 หมวด ไม่ใช่ทั้งโรงเรียน (ซึ่งต่อมากองลูกเสือ รร.วชิราวุธ ได้ขอพระราชทานขนนกประดับที่หมวกด้วยเช่นกัน ดังปรากฎให้เห็นอยู่ในปัจจุบัน)
      บันทึกการเข้า
เหยง 16
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: rcu2516
คณะ: เภสัชศาสตร์ 2516
กระทู้: 23,533

« ตอบ #3240 เมื่อ: 23 กรกฎาคม 2557, 20:59:56 »

อ้างถึง
ข้อความของ supichaya เมื่อ 23 กรกฎาคม 2557, 15:22:17
พี่เหยงอยู่นครปฐมรึคะ  ก้อยอยู่ซอย 2 ค่ะ  เรียนสาธิต

บ้านอยู่ไม่ห่างกันมากครับ
พี่อยู่ถนนทหารบก ใกล้ศาลเจ้าม้าดำ เยื้องสมาคมแซ่ลิ้ม เดินไปราวๆ 200 ม.ก็ถึงซอย 2 แล้ว
ชอบไปทานข้าวหมูแดงที่ซอย 2 เวลากลับไปนครปฐม
พี่เรียน"บำรุงวิทยา" แล้วไปต่อ"พระปฐม" จนจบ แล้วเอ็นเข้าจุฬาฯ 2516 ครับ
      บันทึกการเข้า
supichaya
มือใหม่หัดเมาท์
*


ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: rcu2524
คณะ: เศรษฐศาสตร์
กระทู้: 213

« ตอบ #3241 เมื่อ: 24 กรกฎาคม 2557, 08:51:03 »

ค่ะพี่เหยง
      บันทึกการเข้า
เริง2520
Cmadong ชั้นเซียน
*****


ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 6,341

« ตอบ #3242 เมื่อ: 24 กรกฎาคม 2557, 20:59:21 »

สืบเนื่องจากกองเสือป่าของโรงเรียนพระปฐมวิทยาลัย จึงค้นคว้าต่อ

ยศของเสือป่าคล้ายยศทหาร  แต่มีชื่อเรียกต่างกัน  เรียงลำดับจากสูงไปต่ำ ดังนี้
นายกองใหญ่
นายกองเอก
นายกองโท
นายกองตรี
นายหมวดเอก
นายหมวดโท
นายหมวดตรี
นายหมู่ใหญ่
นายหมู่เอก
นายหมู่โท
นายหมู่ตรี
นายเสือป่า

ยศนายกองใหญ่ เป็นยศเฉพาะพระองค์พระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว  ต่อมาในปี พ.ศ. ๒๔๕๘ โปรดเกล้าฯ ให้ตั้งยศนายพลเสือป่าขึ้นแทน  และได้พระราชทานยศนายพลเสือป่าแก่ นายเสือป่าชั้นผู้ใหญ่หลายท่าน เช่น นายพลเสือป่า เจ้าพระยาธรรมาธิกรณาธิบดี (ม.ร.ว.ปุ้ม  มาลากุล)  เกียกกายเสือป่า  นายพลเสือป่า พระยาบุรุษรัตนราชพัลลภ (นพ  ไกรฤกษ์) ยกรบัตรเสือป่า

ยศนายเสือป่าตั้งแต่ชั้นยศนายหมู่ใหญ่ขึ้นไป  จัดเป็นยศชั้นสัญญาบัตร   ส่วนตั้งแต่นายหมู่เอกลงมาเป็นยศชั้นประทวน  ที่ผู้บังคับบัญชาเสือป่าได้รับพระราชทานพระบรมราชานุญาตให้ออกประทวนคั้งยศได้

ส่วนยศลูกเสือ  แบ่งเป็น
นายหมู่เอก
นายหมู่โท
นายหมู่ตรี

และนักเรียนเสือป่าหลวง  ซึ่งเรียกกันว่า นักเรียนนายร้อยเสือป่า  ก็โปรดพระราชทานยศเป็น นายหมู่นักเรียนเอก  นายหมู่นักเรียนโท  นายหมู่นักเรียนโท

ยศลูกเสือและนักเรียนเสือป่านี้มีลักษณะคล้ายกับยศนายสิบนักเรียนในโรงเรียนนายร้อยแซนด์เฮิร์ส ของอังกฤษ  และโรงเรียนนายร้อยดันทรูน ของออสเตรเลีย  ซึ่งเป็นตำแหน่งยศสำหรับนักเรียนผู้ทำหน้าที่ปกครองนักเรียนด้วยกัน

ข้อความของท่านอื่นเกี่ยวกับยศของเสือป่าครับ
      บันทึกการเข้า
เริง2520
Cmadong ชั้นเซียน
*****


ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 6,341

« ตอบ #3243 เมื่อ: 25 กรกฎาคม 2557, 06:34:30 »



ภาพรัชกาลที่ 6 ทรงเครื่องแบบเสือป่า และภาพลายพระหัตถ์รัชกาลที่ 6

เมื่อพระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัวได้เสด็จขึ้นเถลิงถวัลยราชสมบัติ ในปี พ.ศ. 2453 แล้ว    พระองค์ได้ทรงมีพระราชดำรัสที่ตรัสแก่ราษฎรเมื่องานพระราชพิธีบรมราชาภิเษก มีความตอนหนึ่งว่า      

“  การตั้งกองเสือป่าขึ้นด้วยความมุ่งหมายจะให้คนไทยทั่วกันรู้สึกว่า ความจงรักภักดีต่อผู้ดำรงรัฐสีมาอาณาจักร โดยต้องตามมติธรรมประเพณีประการ 1  ความรักชาติบ้านเมืองและนับถือศาสนาประการ 1  ความสามัคคีในคณะและไม่ทำลายซึ่งกันและกัน”

นอกจากนี้ยังมีพระราชปรารภในการจัดตั้งกองเสือป่าขึ้น(จดหมายเหตุเสือป่า พ.ศ.2454) ว่า  “มีพลเรือนบางคนที่เป็นข้าราชการและที่มิได้เป็นข้าราชการ มีความปรารถนาจะได้รับความฝึกหัดอย่างทหาร แต่ยังมิได้มีโอกาสฝึกหัด เพราะติดหน้าที่ราชการเสียบ้าง หรือเพราะติดธุระอย่างอื่นเสียบ้าง  การฝึกเป็นทหารนั้นย่อมมีคุณประโยชน์แก่บ้านเมืองอยู่หลายอย่างที่เป็นข้อใหญ่     ข้อสำคัญก็คือกระทำให้บุคคลซึ่งได้รับความฝึกฝนเช่นนั้นเป็นราษฎรดีขึ้น กล่าวคือ ทำให้กำลังกายและความคิดแก่กล้าในทางที่เป็นประโยชน์ ด้วยเป็นธรรมดาของคน ถ้าไม่มีผู้ใดหรือสิ่งใดบังคับให้ใช้กำลัง และความคิดของตนแล้วก็มักจะกลายเป็นคนอ่อนแอไป  อีกประการหนึ่ง การฝึกหัดเป็นทหารนั้นทำให้คนรู้วินัย คือฝึกหัดตนให้อยู่ในบังคับบัญชาของผู้ที่เป็นหัวหน้าฤานายเหนือตนซึ่งนำประโยชน์มาให้แก่ตนเป็นอันมาก เพราะว่าถ้ารู้จักเป็นผู้อยู่ในบังคับบัญชาดี  ต่อไปก็จะเป็นคนบังคับบัญชาคนได้ดี จะเป็นนายที่รู้จักน้ำใจผู้น้อย ทั้งเป็นทางสั่งสอนอย่างหนึ่งให้คนมีความยำเกรงตั้งอยู่ในพระราชกำหนดกฎหมายของประเทศบ้านเมือง ทั้งจะปลุกใจคนให้มีความรู้สึกรักพระเจ้าแผ่นดิน ชาติและศาสนา จนยอมสละชีวิตถวายพระเจ้าแผ่นดิน ฤาเพื่อป้องกันรักษาชาติศาสนาของตนได้”

 

 


      บันทึกการเข้า
เริง2520
Cmadong ชั้นเซียน
*****


ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 6,341

« ตอบ #3244 เมื่อ: 25 กรกฎาคม 2557, 06:48:49 »

บางส่วนของบทความ และเป็นบางส่วนของหนังสือ"นายใน"

นิตยสาร/วารสาร  รัฐศาสตร์สาร (ปีที่ 33, ฉบับ 1, มกราคม-เมษายน 2555)

เนื่องจากความหมายของ “ทหาร” สำหรับพระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว  ไม่ใช่อาชีพหรือองค์กร แต่เป็นเพศ ตามพระราชอรรถาธิบายที่ทหารไม่ได้หมายถึงพลรบแต่หมายถึงชายหนุ่มหรือชายฉกรรจ์ (มงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว,พระบาทสมเด็จพระ, 2506, 28-43) ดังนั้นจะต้องได้รับการปลุกเร้า ให้อยากจับอาวุธเรียนรู้ฝึกหัดซ้อมรบ ทำสงครามเพื่อปกป้องชาติบ้านเมืองตามหน้าที่ ในฐานะเป็นเพศที่มีพละกำลัง ความแข็งแกร่งตามธรรมชาติ ตามความเข้าใจขงพระองค์ (มงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว,พระบาทสมเด็จพระ, 2506, 12-27) การสถาปนาระบบการเรียนการสอนฝึกหัดวินัย การออกกำลังกาย วิชาทหารให้พลเรือนที่ตั้งแต่อายุ  20 ปีขึ้นไปฝึกหัด ใน พ.ศ. 2454 หรือ “เสือป่า” จึงเกิดขึ้น

แต่ดูเหมือนว่าหลัง “เหตุการณ์  ร.ศ. 130” ที่ทหารชั้นผู้น้อยได้สร้างความโกรธแค้นให้กับพระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัวอย่างมากที่พยายามเปลี่ยนแปลงการปกครองหรืออย่างน้อยที่สุดเปลี่ยนพระเจ้าแผ่นดินที่ไม่ประสบผลสำเร็จ ภายหลังการครองราชย์ของพระองค์ได้เพียงปีเดียวใน พ.ศ. 2455 (หจช. ร.6 บ. 3.1/64 “พระราชหัตถเลขาถึงพระยายมราช” 4 มิถุนายน พ.ศ. 2455) จนทำให้เสือป่าถูกยกระดับให้เปรียบเสมือนกองทัพและนายทหารส่วนพระองค์ของพระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว ขณะเดียวกันก็พยายามแข่งขันและลดทอนอำนาจบทบาทของทหารบก วิวัฒนาการของเสือป่าคล้ายคลึงกับทหารมากขึ้นเรื่อยๆ ทั้งเครื่องแบบ วิชาการฝึกหัด ตำแหน่งการบังคับบัญชา นับตั้งแต่การฝึกเสือป่าขยายตัวด้วยการเปิดรับข้าราชการพลเรือนชั้นผู้น้อยตามกระทรวงต่างๆ ยิ่งทับซ้อนและลดบทบาทความสำคัญของกองทัพบก จนสังเกตได้ชัดว่ามีวาระแอบแฝงที่จะต่อต้านและแข่งขันกับทหารแห่งชาติ ตามที่เจ้าพระยายมราชเสนอความคิดให้ฝึกหัดเสือป่ารับพระราชทานพระบรมราโชวาทบ่อยครั้งให้จงรักภักดีต่อพระองค์ และรังเกียจการเป็นทหาร (หจช. ร. 6 บ. 16/3 “เสือป่าถือน้ำพิเศษครั้งที่สอง”, 27 พฤษภาคม พ.ศ. 2455) เช่นเดียวกับที่พระราชนิพนธ์ “หัวใจนักรบ” และคอลัมน์ “โลกะสากัจจา” ในหนังสือพิมพ์ที่พระองค์ทรงเป็นเอดิเตอร์ ที่เสือป่ามี “หัวใจนักรบ” และ “ความเป็นลูกผู้ชาย” มากกว่า และเมื่อพระองค์ทรงสร้างแรงจูงใจในการเป็นเสือป่าด้วยการประกาศให้การเป็นสมาชิกเสือป่าได้รับการยกเว้นจากการเกณฑ์ทหาร เพราะถือว่าได้รับการฝึกหัดทหารแล้ว ทำให้ทหารเหมือนอยู่ในสถานะตรงกันข้ามกับเสือป่าอย่างสิ้นเชิง (หจช., ร. 6 บ. 16/35 “ขออนุญาตไม่เกณฑ์ทหาร” 6-17 มีนาคม พ.ศ. 2456) และเมื่อเป็นที่เข้าใจกันว่าผู้ที่ไม่ได้เข้ากลุ่มเป็นสมาชิกเสือป่าคือผู้ไม่จงรักภักดี (หจช., ร.6 บ. 17/12 “เจ้าฟ้าฯ กรมหลวงพิษณุโลกประชานาถ กราบบังคมทูล” 8 มีนาคม พ.ศ. 2455)



พระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัวทรงฉายร่วมกับคณะเสือป่า
      บันทึกการเข้า
เริง2520
Cmadong ชั้นเซียน
*****


ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 6,341

« ตอบ #3245 เมื่อ: 25 กรกฎาคม 2557, 15:54:24 »

เหตุการณ์ ร.ศ. ๑๑๓ ที่เกี่ยวข้องกับกองเสือป่าของ ร.๖

                                           

                                       กบฏ ร.ศ. 130 หรือ กบฏเก็กเหม็ง หรือ กบฏน้ำลาย เกิดขึ้นในปี พ.ศ. 2455 (ร.ศ. 130) ก่อนการปฏิวัติสยาม พ.ศ. 2475 สองทศวรรษในสมัยรัชกาลที่ 6 เมื่อนายทหารและปัญญาชนกลุ่มหนึ่ง วางแผนปฏิบัติการโดยหมายให้พระมหากษัตริย์พระราชทานรัฐธรรมนูญให้ และเปลี่ยนแปลงการปกครองสู่ระบอบประชาธิปไตย แต่แผนการแตกเสียก่อน จึงมีการจับกุมผู้คิดก่อการหลายคนไว้ได้ 91 คนพระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัวได้มีพระบรมราชวินิจฉัย และได้มีพระบรมราชโองการพระราชทานอภัยโทษ ละเว้นโทษประหารชีวิต ด้วยทรงเห็นว่า ทรงไม่มีจิตพยาบาทต่อผู้คิดประทุษร้ายแก่พระองค์
      บันทึกการเข้า
เริง2520
Cmadong ชั้นเซียน
*****


ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 6,341

« ตอบ #3246 เมื่อ: 25 กรกฎาคม 2557, 15:56:07 »



คณะผู้ก่อการวางแผนจะก่อการในวันที่ 1 เมษายน ซึ่งเป็นวันพระราชพิธีถือน้ำพระพิพัฒน์สัตยา และวันขึ้นปีใหม่ ผู้ที่จับฉลากว่าต้องเป็นคนลงมือลอบปลงพระชนม์ คือ ร.อ.ยุทธ คงอยู่ (หลวงสินาดโยธารักษ์) เกิดเกรงกลัวความผิด จึงนำความไปแจ้งหม่อมเจ้าพันธุ์ประวัติ ผู้บังคับการกรมทหารช่างที่ 1 รักษาพระองค์ และพากันนำความไปแจ้ง สมเด็จพระอนุชาธิราช เจ้าฟ้าจักรพงษ์ภูวนาถ กรมหลวงพิษณุโลกประชานาถ

ความทราบไปถึงพระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว ที่ประทับอยู่ที่พระราชวังสนามจันทร์ จังหวัดนครปฐม คณะทั้งหมดจึงถูกจับกุมเมื่อวันที่ 27 กุมภาพันธ์ ถูกส่งตัวไปคุมขังที่คุกกองมหันตโทษ ที่สร้างขึ้นใหม่ และได้รับพระราชทานอภัยโทษในพระราชพิธีฉัตรมงคล เดือนพฤศจิกายน พ.ศ. 2467 ครบรอบปีที่ 15 ของการครองราชย์
      บันทึกการเข้า
Dtoy16
Hero Cmadong Member
***


ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: rcu2516
คณะ: อักษรศาสตร์
กระทู้: 1,424

« ตอบ #3247 เมื่อ: 25 กรกฎาคม 2557, 19:00:11 »

                น้องเริง ตามอ่าน ตามเที่ยวด้วยน่ะค่ะวันนี้ไฟดับทั้งวันเลยมาช้า
      บันทึกการเข้า

เริง2520
Cmadong ชั้นเซียน
*****


ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 6,341

« ตอบ #3248 เมื่อ: 25 กรกฎาคม 2557, 20:45:49 »

มาช้าดีกว่าไม่มาครับ
      บันทึกการเข้า
เริง2520
Cmadong ชั้นเซียน
*****


ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 6,341

« ตอบ #3249 เมื่อ: 26 กรกฎาคม 2557, 07:27:15 »

วันก่อนไปโคราช ได้แวะวิทยาลัยนาฎศิลป์ที่นั่น




      บันทึกการเข้า
  หน้า: 1 ... 128 129 [130] 131   ขึ้นบน
  
กระโดดไป:  

     

ทำไมหอพักนิสิตจุฬาจึงเป็นดินแดนมหัศจรรย์            " ไม่ได้เป็นแค่หอให้นอนพัก  แต่เป็นบ้านอบอุ่นรักให้อาศัย  ไม่เป็นแค่ที่ซุกหัวยามหลบภัย  แต่สร้างใจให้เข้มแข็งแกร่งการงาน"  <))))><