ท่านอยากให้สมาคมจัดทิปไปเยี่ยมเยียนพี่น้องจุฬาฯ จังหวัดไหน

[kumpolcomcai]

หลักการและเหตุผล
                     เพื่อเป็นการดำเนินการให้สมาคมนิสิตเก่าหอพักนิสิตจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย เป็นศูนย์กลางการติดต่อและประสานงานระหว่างคณาจารย์ นิสิตเก่า และนิสิตหอพัก ส่งเสริมและหรือจัดกิจกรรม เพื่อความสามัคคี และสวัสดิการของสมาชิกและครอบครัว ดำเนินการกุศล และบำเพ็ญสาธารณประโยชน์ และหรือสาธารณกุศล จึงจัดให้มีโครงการ "เยี่ยมเยียนน้องพี่ซีมะโด่งต่างจังหวัด 2555" ขึ้น

วัตถุประสงค์
                  เพื่อให้สมาชิกและนิสิตปัจจุบันได้
- พบปะเยี่ยมเยียนชาวจุฬาฯและชาวหอจุฬาฯในจังหวัดต่าง ๆ  สร้างความสัมพันธ์อันดีระหว่างกัน และสร้างความสามัคคีให้แน่นแฟ้นยิ่งขึ้น
- ดำเนินการกุศล และบำเพ็ญสาธารณประโยชน์และหรือสาธารณกุศลร่วมกัน
- เสริมสร้างความรู้ ความเข้าใจและประสบการณ์ในการศึกษาดูงานและท่องเที่ยว
- ร่วมรณรงค์ให้นิสิตเก่าสมัครเป็นสมาชิกสามัญของสมาคม

เป้าหมาย
              - จัดกิจกรรมตามโครงการในพื้นที่เป้าหมาย จังหวัดกำแพงเพชร จันทบุรี ฉะเชิงเทรา เชียงราย เชียงใหม่ ชุมพร ตรัง ตราด ตาก นครนายก    นครราชสีมา พระนครศรีอยุธยา พิษณุโลก ระยอง ลำปาง สกลนคร สงขลา สระแก้ว สุราษฏร์ธานี และอุบลราชธานีในปี 2555 จำนวน 9 ครั้ง ที่เหลือจะพิจารณาในปีถัดไป
             - มีสมาชิกและนิสิตปัจจุบันเข้าร่วมกิจกรรม 300 ราย
             - มีสมาชิกและนิสิตเก่าในแต่ละจังหวัดเข้าร่วมกิจกรรมพบปะ 300 คน
             - มีผู้สมัครเป็นสมาชิกสามัญของสมาคมในโครงการ 100 คน
             - มีกิจกรรมการกุศล และสาธารณประโยชน์และหรือสาธารณกุศล 10 ครั้ง

กิจกรรมของโครงการ
                      มีกิจกรรมหลัก 4 ประการ
         - พบปะเยี่ยมเยียนชาวจุฬาฯและชาวหอจุฬาฯในจังหวัดนั้น ๆ
         - ดำเนินการกุศลและบำเพ็ญสาธารณประโยชน์และหรือสาธารณกถศลร่วมกัน
         - ศึกษาดูงาน เรียนรู้และท่องเที่ยว
        - สร้างเครือข่ายการติดต่อประสานงานของชาวหอพักจุฬาฯ

วิธีดำเนินการ
          - จัดทำโครงการเพื่อขออนุมัติคณะกรรมการบริหารสมาคม
          - แต่งตั้งผู้ประสานงานในแต่ละครั้ง และประสานสมาคม ชมรมนิสิตเก่าในแต่ละจังหวัด
         - กำหนดและประสานรายละเอียด กำหนดการ และกิจกรรมในแต่ละครั้ง
        - ประชาสัมพันธ์กิจกรรม รับสมัครผู้เข้าร่วมกิจกรรม รับบริจาคสิ่งของ เครื่องใช้ หนังสือ อุปกรณ์กีฬา และจัดหาสิ่งของ ของที่ระลึกสำหรับใช้ในโครงการ
         - ดำเนินการตามโครงการ กิจกรรม และประเมินผลโครงการ
         - สรุปผลการดำเนินการในแต่ละครั้ง สรุปผลการประเมินโครงการ รายงานผลให้ สนหจ.

ระยะเวลาดำเนินการ
           ในปี 2555 ระหว่างเดือนเมษายน-ธันวาคม 2555 รวม 9 ครั้ง ๆ ละ 2-3 วัน
- วันที่ 28-29 เมษายน 2555           จังหวัดจันทบุรี
- วันที่ 26-27 พฤษภาคม 2555        จังหวัดนครนายก
- วันที่ 23-24 มิถุนายน 2555           จังหวัดปราจีนบุรี
- วันที่ 28-29 กรกฎาคม 2555          จังหวัดนครสวรรค์
- วันที่ 25-26 สิงหาคม 2555            จังหวัดพิษณุโลก
- วันที่ 22-23 กันยายน 2555            จังหวัดพิจิตร
- วันที่ 27-28 ตุลาคม 2555
- วันที่ 24-25 พฤศจิกายน 2555
- วันที่ 22-23 ธันวาคม 2555  
(อาจมีการเปลี่ยนวันตามความเหมาะสมได้)

งบประมาณ
              - ส่วนที่ 1 จากการบริจาคและเก็บจากผู้ร่วมบริจาค  เป็น ค่าอาหาร ที่พัก พาหนะ ค่าใช้จ่ายในการศึกษา เรียนรู้ดูงาน และท่องเที่ยว กิจกรรมการกุศล และกิจกรรมสาธารณประโยชน์
              -ส่วนที่ 2 ขอรับการสนับสนุนจาก สนหฬ. จำนวน 100,000 บาท (หนึ่งแสนบาทถ้วน) เป็นค่าใช้จ่ายดังนี้
                       - ค่าใช้จ่ายในการเดินทางของนิสิตช่วยงานและเจ้าหน้าที่ สนหฬ. 40,000  บาท
                       - ค่าใช้จ่ายในการจัดกิจกรรมการกุศลและกิจกรรมสาธารณประโยชน์ เฉพาะในส่วนที่ขาดเหลือจากการบริจาค 40,000 บาท
                       - ค่าของที่ระลึกสำหรับมอบให้สมาชิกและนิสิตเก่าในแต่ละจังหวัด เข้าร่วมกิจกรรมพบปะ 20,000 บาท
ผู้รับผิดชอบโครงการ
                     - กรรมการบริหารเจ้าภาพกิจกรรมในแต่ละครั้ง รวม 9 ท่าน
                     - ปฏิคมสมาคม
                     - ประชาสัมพันธืสมาคม
                     - นายทะเบียนสมาคม
                     - เลขาธิการสมาคม
หน่วยงานที่ให้การสนับสนุน
                  - สมาคม ชมรมนิสิตเก่าจุฬาฯในพื้นที่
                  - ศูนย์พัฒนกิจ และนิสิตเก่าสัมพันธ์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย
                  - หอพักนิสิตจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย

ผลประโยชน์ที่คาดว่าจะได้รับ
                  - สนหฬ. สามารถเป็นศูนย์กลางการติดต่อสื่อสารและประสานงานระหว่างคณะจารย์ นิสิตเก่า และนิสิตหอพัก สามารถสร้างเครือข่ายการประสานงานกันได้
                  - สนหฬ. สามารถส่งเสริมและหรือจัดกิจกรรมเพื่อความสามัคคี และสวัสดิการของสมาชิกและครอบครัวที่เข้าร่วมกิจกรรม
                  - สนหฬ. สามารถดำเนินการกุศล และบำเพ็ญสาธารณประโยชน์ และหรือสาธารณกุศลได้ประโยชน์ตามวัตถุประสงค์ของสมาคม
                  - มีนิสิตเก่าสมัครเป็นสมาชิกสามัญของสมาคมในโครงการมากขึ้น
          

[jimsy]

   สนใจค่ะ...มีอะไรแจ้งผ่านทางนก 20 ได้นะคะ...

[พธู ๒๕๒๔]

ขอเชิญชวนให้ความเห็นว่่าสมาคมนิสิตเก่าหอพักนิสิตจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ควรจัดกิจกรรมเยี่ยมเยี่ยนนิสิตเก่าจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ที่จังหวัดไหนบ้าง ช่วงเวลาใดเหมาะสม มีพี่น้องซีมะโด่งคนใดสามารถเป็นแก่นประสานงานในพื้นที่ได้บ้าง

[wannee]

เร้ว...สมาคมฯ ต้องการความเห็น 

มาออกความเห็นกันหน่อย   

 

[เริง2520]

ภาคเหนือตอนบน
ในช่วงอากาศหนาวปลายปี


เชียงฮายจั้ดเหมาะนะปี้เสียด

[wannee]

 กรรมการว่าจะไดอ่ะ   

[kumpolcomcai]

ช่วงปลายเดือนสิงหาคม 2555 เราจะไปภาคเหนือตอนล่าง ใน 3 จังหวัด คือ นครสวรรค์ พิษณุโลก และพิจิตร ครับ
คอยติดตามรายละเอียดเพิ่มเติมต่อไป

[เอมอร 2515]

ขอสนับสนุนภาคเหนือตอนบนด้วยค่ะ

[Angy20]

ไปนครสวรรค์ ค่ะ

[เสธต๊ะ]

ภาคใต้ เคยไปมั่งยังครับ สนจ.เขายังเคยไปมาแล้ว ที่สุราษฎร์ สมัยพี่ประชาเป็น ผวจ.

[พธู ๒๕๒๔]

คณะกรรมการบริหารสมาคม สนหจ.มีมติเมื่อ ๑๙ ก.พ.๒๕๕๖ ให้จัดกิจกรรมเยี่ยมเยี่ยนในปี ๒๕๕๖ อีก ๓ ครั้ง โดยให้มีเป้าหมายในแต่ละครั้งที่ชัดเจนและแตกต่างกัน เพื่อแยกกลุ่มผู้เข้าร่วมกิจกรรม โดยเป็นการทัศนศึกษาเพื่อความรื่นรมณ์ ๑ ครั้ง ที่เหลือเป็นการเยี่ยมเยี่ยนชาวจุฬาต่างจังหวัดและทำ CSR

[พธู ๒๕๒๔]

ครั้งแรกน่าจะจัดไปเยี่ยมเยียนชาวจุฬาที่นครศรีธรรมราชและสงขลา ในช่วง ๕-๘ เมษายน ๒๕๕๖

[พธู ๒๕๒๔]

ครั้งต่อไป น่าจะเป็นช่วงก่อนเข้าพรรษา ที่ศรีสะเกษ-อุบลราชธานี คราวนี้น่าจะไปรถไฟ ครับ

[พธู ๒๕๒๔]

อีกครั้ง น่าจะเป็นช่วงตุลาคม ที่ แพร่-น่าน-ไชยบุรี-หลวงพระบาง-เวียงจันท์  คราวนี้เน้นเที่ยวอย่างเดียว ครับ

[พธู ๒๕๒๔]

ทั้งหมดจะเสนอหลักการให้สมาคมพิจารณาในการประชุมในวันที่ ๕ มีนาคม ๒๕๕๖ ครับ

[พธู ๒๕๒๔]

แล้วอาจมีอีกครั้ง รุ่น ๒๕๒๔ จะชวน "ไปตีกอลฟ์ ช๊อปข้ามแดน แอนด์ไหว้พระ" สามวันสองคืน ที่ เชียงราย น่าจะเป็นช่วงหลังสงกรานต์ก่อนพืชมงคล  ครับ ตอนนี้กำลังซาวเสียงอยู่ มีไปพบชาวจุฬาเชียงรายเพราะ นายกสมาคมที่เชียงรายเป็น RCU รุ่น ๒๕๑๗ จะไปชวนสร้างหอหลังใหม่ด้วย

[พธู ๒๕๒๔]

เชียงรายโปรแกรมตั้งไว้เป็นตุ๊กตาว่า
๑ ไปวันศุกร์ แบ่งเป็นสามกลุ่ม ไปรถ ไปเครื่องบิน ไปรถทัวร์ เจอกันที่เชียงราย
๒ วันเสาร์ เช้า-นักกีฬาไปตีกอลฟ์ นักช๊อปแยกข้ามไปท่าขี้เหล็ก/แม่สาย ละลายทรัพย์เล่น แวะชมบ้านดำของศิลปินถวัลย์ ดัชนี /พิพิธภัณฑ์อูบคำ
               เย็น-พบปะสังสรรค์กับสมาคมนิสิตเก่าจุฬา-เชียงราย(นายกเป็นRCU2517) ที่ตัวเมือง ดึกแอบไปถนนคนเดิน
๓ วันอาทิตย์ เช้า-ไปทำบุญที่วัดพระสิงห์ กินข้าวเช้า ไปวัดพระแก้ว วัดร่องขุ่น ไปฟังธรรมที่วัดอุดมวารี กินกลางวันที่พาน ไปศาลจี้กง
       แล้วกลุ่มรถ กลับ กทม.ผ่านทางพะเยา กลุ่มอื่น ๆ กลับเชียงราย ไปต่อเครื่อง หรือรถทัวร์ตามแต่กรณี

[เริง2520]

รับทราบครับ

[เหยง 16]

		อ้างถึง			ข้อความของ พธู ๒๕๒๔ เมื่อ 23 กุมภาพันธ์ 2556, 23:11:33
	ครั้งแรกน่าจะจัดไปเยี่ยมเยียนชาวจุฬาที่นครศรีธรรมราชและสงขลา ในช่วง ๕-๘ เมษายน ๒๕๕๖

สงขลามีหลายอำเภอที่มีปัญหาภัยใต้ และช่วงนี้แรงขึ้น ต้องดูเรื่องนี้ด้วย

[เหยง 16]

		อ้างถึง			ข้อความของ พธู ๒๕๒๔ เมื่อ 23 กุมภาพันธ์ 2556, 23:15:15
	อีกครั้ง น่าจะเป็นช่วงตุลาคม ที่ แพร่-น่าน-ไชยบุรี-หลวงพระบาง-เวียงจันท์  คราวนี้เน้นเที่ยวอย่างเดียว ครับ

ถ้าเน้นเที่ยว โดยไม่ไปเยี่ยมชาวจุฬาฯ โดยเฉพาะ ผวจ.แพร่ ซึ่งเป็นซีมะโด่ง ก็ดีครับ

เพราะบทเรียนเยี่ยมจุฬาฯที่นครสวรรค์ในปีที่ผ่านมา ไปเยี่ยมในวันที่ 13 ตุลาคม 2556
ซึ่ง ผวจ.ปรีชา เรืองจันทร์ ย้ายกลับพิษณุโลก 1 ตค.55 ทั้งที่เพิ่งย้ายจากพิษณุโลกไปนครสวรรค์ไม่ถึง 6 เดือน
ทำให้การบริหารทริ๊ปผิดไปจากเดิมพอสมควร

อย่างไรก็ตามเดือนตุลาคม 2556 ไม่มีวันหยุดติดต่อกัน 3 วันเลย
หากไปแพร่-น่าน-ไชยบุรี-หลวงพระบาง-เวียงจันทร์(อาจจะไม่ได้ไป) น่าจะต้องใช้เวลาอย่างน้อย 4 วันเป็นอย่างน้อย
ออกทริ๊ปในเย็นวันศุกร์ที่ 18 ต.ค.
เสาร์ที่ 19 เช้าที่แพร่ เที่ยวเมืองแพร่-น่าน นอนที่จังหวัดน่าน
อาทิตย์ที่ 20 เที่ยวรายทางไปออกด่านห้วยโกร๋น-เมืองเงิน เข้าสู่เมืองหลวงพระบาง
                   ทัวร์ตลาดมืดเมืองหลวงพระบาง พักที่เมืองหลวงพระบาง
จันทร์ที่ 21 เช้าตักบาตรที่เมืองหลวงพระบาง ทัวร์ตลาดเช้าเมืองหลวงพระบาง วัดเชียงทอง ชมพระอาทิตย์ตกที่พระธาตุจอมสี
อังคารที่ 22 ต.ค. ออกจากหลวงพระบาง กลับเข้าสู่ด่านห้วยโกร๋น เที่ยวรายทาง
                         กลับถึง กทม. ประมาณ 23.00 หรือ 24.00 น.
พุธที่ 23 ต.ค. วันปิยมหาราช

[ประทาน14]

		อ้างถึง			ข้อความของ เหยง 16 เมื่อ 27 กุมภาพันธ์ 2556, 18:47:00
	อ้างถึง ข้อความของ พธู ๒๕๒๔ เมื่อ 23 กุมภาพันธ์ 2556, 23:15:15 อีกครั้ง น่าจะเป็นช่วงตุลาคม ที่ แพร่-น่าน-ไชยบุรี-หลวงพระบาง-เวียงจันท์  คราวนี้เน้นเที่ยวอย่างเดียว ครับ ถ้าเน้นเที่ยว โดยไม่ไปเยี่ยมชาวจุฬาฯ โดยเฉพาะ ผวจ.แพร่ ซึ่งเป็นซีมะโด่ง ก็ดีครับ เพราะบทเรียนเยี่ยมจุฬาฯที่นครสวรรค์ในปีที่ผ่านมา ไปเยี่ยมในวันที่ 13 ตุลาคม 2556 ซึ่ง ผวจ.ปรีชา เรืองจันทร์ ย้ายกลับพิษณุโลก 1 ตค.55 ทั้งที่เพิ่งย้ายจากพิษณุโลกไปนครสวรรค์ไม่ถึง 6 เดือน ทำให้การบริหารทริ๊ปผิดไปจากเดิมพอสมควร อย่างไรก็ตามเดือนตุลาคม 2556 ไม่มีวันหยุดติดต่อกัน 3 วันเลย หากไปแพร่-น่าน-ไชยบุรี-หลวงพระบาง-เวียงจันทร์(อาจจะไม่ได้ไป) น่าจะต้องใช้เวลาอย่างน้อย 4 วันเป็นอย่างน้อย ออกทริ๊ปในเย็นวันศุกร์ที่ 18 ต.ค. เสาร์ที่ 19 เช้าที่แพร่ เที่ยวเมืองแพร่-น่าน นอนที่จังหวัดน่าน อาทิตย์ที่ 20 เที่ยวรายทางไปออกด่านห้วยโกร๋น-เมืองเงิน เข้าสู่เมืองหลวงพระบาง                    ทัวร์ตลาดมืดเมืองหลวงพระบาง พักที่เมืองหลวงพระบาง จันทร์ที่ 21 เช้าตักบาตรที่เมืองหลวงพระบาง ทัวร์ตลาดเช้าเมืองหลวงพระบาง วัดเชียงทอง ชมพระอาทิตย์ตกที่พระธาตุจอมสี อังคารที่ 22 ต.ค. ออกจากหลวงพระบาง กลับเข้าสู่ด่านห้วยโกร๋น เที่ยวรายทาง                          กลับถึง กทม. ประมาณ 23.00 หรือ 24.00 น. พุธที่ 23 ต.ค. วันปิยมหาราช

เห็นด้วยกับเหยงครับ เพราะหลวงพระบางกับเวียงจันทร์ไกลกันมาก เวลาจะไม่พอครับ

[เหยง 16]

พี่ประทาน และสมาชิกทุกท่าน

แผนที่ลาวตอนเหนือ เพื่อประกอบการพิจารณาครับ

[เริง2520]

ครับผม ร่วมแสดงความคิดเห็นครับ

วันเสาร์๒๒ ตค.

ออกจากหลวงพระบางมาด่านห้วยโก๋น ต้้องกลับทางเรือ ทวนแม่น้ำโขง ๙ ชม บวกไปน่านอีก ๔ ชม.ไม่น่าไหวครับ.

หากหลวงพระบางมาเวียงจันทน์ จะผ่านวังเวียง

ต้องออกตีสี่   ถึงเวียงจันทน์  บ่ายสามโมง มีเวลามาหนองคายได้ทันเวลาก่อนด่านปิดครับ

และกลับหอของเราคืนนั้นได้



ปลายเดือนมกราคมที่ผ่านมา ตอนไปทางจังหวัดน่าน ล่องโขง ๗ ชม.และกลับมาทางเวียงจันทน์ ออกเดินทางตีสี่  ทานอาหารเช้าวข้างหน้า

ผ่านวังเวียง ทานอาหารกลางวันที่วังเวียง

ที่ต้องออกเช้าอย่างนั้น เพราะจะต้องถึงด่านลาวเพื่อเข้าหนองคายก่อนด่านปิด

โดยไม่ได้แวะเที่ยวเวียงจันทน์ เพียงได้แวะร้านปลอดภาษี

เวลาก็พอดีๆครับ ที่ด่านจะใช้เวลา อย่างน้อย ๒๕ นาที เพื่อนำหน้งสือเดินทางคืน

อ้อ/ ออกจากวัดเชียงทอง ไปวังเก่า หรือพิพิธภัณฑ์ก่อน   หลังจากนั้นเดินเล่น ศึกษาบ้านเมืองหรือขีจักรยานกันหรือไม่ก็ไปน้ำตกกวางสี

ส่วนพระธาตุพูสี สักบ่ายสี่โมงเย็น หรือห้าโมงก็ได้ ชมวิว ครับ

[ประทาน14]

น้องเริงครับ

แล้วถ้ากลับกันโดยขาไปจากน่านไปหลวงพระบางทางเรือ (ตามน้ำ) จะใช้เวลาน้อยกว่ามั้ยครับ? ครั้งหนึ่งนานมาแล้วพี่ปิ้ง RCU07 เคยจัดการเดินทางแบบนี้อะครับ

[เริง2520]

ครับผม

ขาไป ไปทางน่าน ล่องโขงเหมือนกับนายสถานีโอ้โลม ปฎิโลม เคยจัด ก็เจ็ดชม.

กลับ ทางวังเวียง เวียงจันทน์และหนองคาย เส้นทางจะโค้งมากๆจากหลวงพระบาง จนมาถึงวังเวียง

หรือจะกลับทางล่องโขงก็น่าจะได้ แต่ต้องทันด่านห้วยโก๋นเปิดทำการ

หรือกลับทางเครื่องบินจากหลวงพระบางมากรุงเทพฯ ก็เป๊นที่นิยมมีทั้งบางกอกแอร์เวย์ สายการบินลาว

หรือนั่งเครื่องบินสายการบินลาว มาเวียงจันทน์ เที่ยวเวียงจันทน์ก่อน  

รุ่งขึ้นมีรถบขส.ไทยมาถึง หนองคาย อุดรธานี ขอนแก่นและนครราชสีมาครับ

[เหยง 16]

ถามน้องเริง

รถทัวร์ที่พาเราไปด้วย มีสิทธิข้ามแดนไปกับเราที่ด่านห้วยโกร๋น-หลวงพระบาง-เวียงจันทร์-หนองคาย หรือไม่?
ต้องเปลี่ยนรถของลาวขณะข้ามไปฝั่งลาวหรือเปล่า ??

[เริง2520]

พี่เหยง

ซื้อทัวร์จากน่าน หากเราไปซื้อจากที่นี่ก็ได้

ไปกันโดยรถตู้ครับ  สะดวกตอนไต่สันเขา รถตู้ไปกับเราทุกที่เว้นตอนล่องโขง ส่งเราขึ้นเรือล่องโขงเสร็จ เขาไปรอเราที่ท่าเรือหลวงพระบาง

แต่ที่ไม่ให้เราไปทางนั้นเพราะถนนแย่ แคบและโค้งๆมากๆ   เมื่อรับเราที่ท่าเรือหลวงพระบางอยู่กับเรา จนเสร็จภารกิจและส่งเราที่หนองคาย

หากซื้อทั้วร์ที่นี่ก็ส่งถึงที่นี่ได้


เรือล่องโขงนั่งได้ลำละ ประมาณ ๕๐ ท่าน มีห้องทำอาหาร เครื่องดึ่ม และห้องน้ำ

ดังนั้นจะมีผลถึงจำนวนผู้ที่จะไป สองลำแปดสิบท่าน พอไหว หากมีมากกว่าห้าสิบ


คราวผมไป ๒๕๒ ท่าน ใช้เรือ ๕ ลำ  ตอนกลับที่ออกตี่สี แวะทานข้าวเช้าหกโมง มีอีกหลายทัวร์ที่มาเจอกัน จึงมีคนมากกว่านั้น

สนุกทั้งตอนทานข้าวและตอนเข้าห้องน้ำ  คนมากแค่ครั้งนั้นครั้งเดียว เสร็จต่างทัวร์ต่างไป

[เริง2520]

หากไปเดือนตุลาคม น้ำในแม่น้ำโขงคงมาก  ให้เรือแวะ ถ้ำติ่ง ให้ได้ มีพระพุทธรูปเก่ามากมาย
 
และเรือล่องโขงไม่น่าออกช้ากว่า ๑๑ โมงเช้า จะทำให้ถึงหลวงพระบางช้า

และคืนนั้นจะไม่ได้แวะตลาดมืด เกินสามทุมสินค้ามีน้อยแล้ว

[เริง2520]

วิวแม่น้ำโขงที่ไปหลวงพระบาง ....มาให้ชม

[เหยง 16]

น้องเริง

รับทราบเป็นข้อมูลครับ

[เริง2520]

อาจตามไปด้วย ฮ่า ฮ่า

[พธู ๒๕๒๔]

ดูจากการแสดงความเห็นจากพี่ๆ
มาในทางท่องเที่ยวน้องพี่. มากกว่าเยี่ยมเยี่ยนพี่น้อง
ดีครับจะพยายามจัดให้สนองทุกฝ่าย

[เหยง 16]

ป๋าทู

ที่แสดงความคิดเห็นออกไปในแนวนี้
เนื่องจากกำหนดวันไปเยี่ยมคร่อมกับการไปเยี่ยมพี่-เยี่ยมน้องชาวจุฬาฯ
ดังเช่นที่นครสวรรค์-พิษณุโลก ซึ่งจัดล่าออกไปจากเดือนสิงหาคม 55 เป็น 13 ตุลาคม 55
ซึ่งมีการโยกย้ายสับเปลี่ยนผู้ว่าฯปรีชา เรืองจันทร์ กลับไปพิษณุโลกแล้ว
กรณีไปแพร่-น่าน กำหนดจะจัดเดือนตุลาคม 2556 ซึ่งคร่อมผ่านเดือนกันยายน อีกเช่นกัน
การจะจัดไปเยี่ยมพี่-เยี่ยมน้องจุฬาฯที่แพร่ ก็เกรงผู้ว่าฯอภิชาติ อาจจะย้าย
จึงเสนอเป็นการจัดไปเที่ยว เพื่อลดการรบกวนส่วนราชการในจังหวัดแพร่
และกันพลาด หาก ผวจ.เป็นนายกสมาคมจุฬาฯ โดยตำแหน่ง อาจจะไม่มีใครรันงานต่อในเดือนตุลาคม

ส่วนการลงใต้ (นครศรีฯ และสงขลา), การไปอีสาน (อุบลราชธานี) ยังไม่เห็นรูปแบบและรายละเอียด

[พธู ๒๕๒๔]

ครับ ช่วยกันแสดงความเห็นมาก ๆ จะได้หลากหลายและรอบคอบ

แต่ไม่ได้มุ่งไปเยี่ยมพี่อ๊อดที่แพร่ครับแค่ทางผ่าน ทิปนี้ต้องหารือพี่ปรีดา รวมเมฆ ที่รับเป็นแกนจัดก่อนครับ

[พธู ๒๕๒๔]

ส่วนทิปเชียงราย ถ้าจะจัดต้องจัดก่อน 24 เมษา เนื่องจากแกนนำไม่สะดวก หรือไม่ต้องจัด กันยา-ตุลา เลยต้องหารือกันใหม่ในรุ่น 2524 ก่อนครับ

[เหยง 16]

ป๋าทู

ช่วงหยุด 3 วันยังมีเหลือ เช่น 4 - 6 พ.ค. วันฉัตรมงคล, 24 - 26 พ.ค. วันวิสาขบูชา, 20 - 33 ก.ค. วันอาสาฬหบูชา, 10 - 12 สิงหาคม วันเฉลิมฯ
ลองบริหารวันหยุดประเภทนนี้ดูก่อน แล้วค่อยมองวันอื่น เนื่องจากชาวหออาจลาหยุดงานไปร่วมทริ๊ปไม่ได้
ปีนี้วันเปิดเรียนจะมีการปรับเปลี่ยนจาก 16 พ.ค. ไปเป็นเดือนมิถุนายน คงต้องนำมาประกอบด้วย
ที่ผ่านมา มีพี่และพี่เริงเข้ามาให้ความเห็น จึงอยากได้ความเห็นของผู้อื่นประกอบด้วย

[เริง2520]

ผลการประชุมเยี่ยมเยือนฯเป็นอย่างไรบ้างครับ วันอังคารที่ ๕ มีค. ได้ประชุมไหม

[พธู ๒๕๒๔]

ให้จัดไป อีสานตอนกรกฏา เหนือไปเชียงรายรุ่น 24 เป็นแกน เที่ยวไปหลวงพระบางผ่านน่าน ยังหาเจ้าภาพไม่ได้ ส่วนใต้งดไปก่อนครับ

[เริง2520]

รับทราบครับ

[เหยง 16]

คุณติ๋ม

มีโครงการที่จะจัดไปหลายจังหวัด ด้วยโครงการเยี่ยมเยียนน้องพี่จุฬาฯต่างจังหวัด
อยู่ที่ห้อง http://www.cmadong.com/board/index.php/topic,17670.0.html

[เหยง 16]

ฝนมากขึ้นใน 2 -3 วันที่ผ่านมาในทกภาคของประเทศไทย
โดยฝนฟ้าคะนอง ลมกระโชกแรงในบางพื้นที่
และในทะเลทั้ง 2 ฝั่ง คลื่นสูง 2 เมตรในบริเวณที่ฝนตก

 

พยากรณ์อากาศ ประจำวันที่ 7 พฤษภาคม 2556
ลักษณะอากาศทั่วไปเมื่อเวลา 04:00 น.  คลื่นกระแสลมตะวันตกเคลื่อนผ่านภาคเหนือตอนบนเข้าปกคลุมประเทศลาวแล้ว ทำให้บริเวณภาคเหนือมีฝนลดลง ประกอบกับมีลมตะวันออกเฉียงใต้พัดนำความชื้นจากทะเลจีนใต้และอ่าวไทยเข้ามาปกคลุมภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคกลาง ภาคตะวันออก และภาคใต้ ลักษณะเช่นนี้ทำให้บริเวณดังกล่าว มีฝนฟ้าคะนองกระจายถึงเกือบทั่วไปกับมีลมกระโชกแรงบางแห่งในระยะนี้ 

พยากรณ์อากาศสำหรับประเทศไทยตั้งแต่เวลา 06:00 วันนี้ ถึง 06:00 วันพรุ่งนี้.

 
ภาคเหนือ มีเมฆเป็นส่วนมาก กับมีฝนฟ้าคะนองกระจาย ร้อยละ 40 ของพื้นที่
และมีลมกระโชกแรงบางแห่ง ส่วนมากบริเวณจังหวัดเชียงใหม่ เชียงราย
พะเยา น่าน อุตรดิตถ์ พิษณุโลก และเพชรบูรณ์
อุณหภูมิสูงสุด 33-37 องศาเซลเซียส อุณหภูมิต่ำสุด 21-25 องศาเซลเซียส
ลมตะวันตก ความเร็ว 10-25 กม./ชม.
 
ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ  มีเมฆเป็นส่วนมาก กับมีฝนฟ้าคะนองกระจาย ร้อยละ 40 ของพื้นที่
และมีลมกระโชกแรงบางแห่ง ส่วนมากบริเวณจังหวัดเลย หนองคาย บึงกาฬ สกลนคร นครพนม
อำนาจเจริญ ศรีสะเกษ อุบลราชธานี และนครราชสีมา
อุณหภูมิสูงสุด 34-37 องศาเซลเซียส อุณหภูมิต่ำสุด 23-25 องศาเซลเซียส
ลมตะวันออกเฉียงใต้ ความเร็ว 10-30 กม./ชม.
 
ภาคกลาง  มีเมฆเป็นส่วนมาก กับมีฝนฟ้าคะนองกระจาย ร้อยละ 40 ของพื้นที่
และมีลมกระโชกแรงบางแห่ง ส่วนมากบริเวณจังหวัดนครสวรรค์ ชัยนาท ลพบุรี สระบุรี
พระนครศรีอยุธยา สุพรรณบุรี กาญจนบุรี และราชบุรี
อุณหภูมิสูงสุด 35-38 องศาเซลเซียสอุณหภูมิต่ำสุด 25-26 องศาเซลเซียส
ลมตะวันออกเฉียงใต้ ความเร็ว 10-30 กม./ชม.
 
ภาคตะวันออก  มีเมฆเป็นส่วนมาก กับมีฝนฟ้าคะนองกระจาย ร้อยละ 40 ของพื้นที่
และมีลมกระโชกแรงบางแห่ง ส่วนมากบริเวณจังหวัดฉะเชิงเทรา ชลบุรี ระยอง จันทบุรี และตราด
อุณหภูมิสูงสุด 34-39 องศาเซลเซียส อุณหภูมิต่ำสุด 24-26 องศาเซลเซียส
ลมตะวันออกเฉียงใต้ ความเร็ว 15-30 กม./ชม.
ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร
 
ภาคใต้ (ฝั่งตะวันออก)  มีเมฆมากกับมีฝนฟ้าคะนองเกือบทั่วไป ร้อยละ 70 ของพื้นที่
และมีฝนตกหนักบางแห่ง ส่วนมากบริเวณจังหวัดชุมพร สุราษฎร์ธานี
นครศรีธรรมราช พัทลุง สงขลา ปัตตานี ยะลา และนราธิวาส
อุณหภูมิสูงสุด 30-35 องศาเซลเซียส อุณหภูมิต่ำสุด 24-26 องศาเซลเซียส
ลมตะวันออกเฉียงใต้ ความเร็ว 15-30 กม./ชม.
ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร บริเวณฝนฟ้าคะนองมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร
 
ภาคใต้ (ฝั่งตะวันตก)  มีเมฆมากกับมีฝนฟ้าคะนองเกือบทั่วไป ร้อยละ 70 ของพื้นที่
และมีฝนตกหนักบางแห่ง ส่วนมากบริเวณจังหวัดพังงา กระบี่ ตรัง และสตูล
อุณหภูมิสูงสุด 32-34 องศาเซลเซียส อุณหภูมิต่ำสุด 24-25 องศาเซลเซียส
ลมตะวันออก ความเร็ว 15-30 กม./ชม.
ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร บริเวณฝนฟ้าคะนองมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร
 
กรุงเทพมหานครและปริมณฑล  มีเมฆเป็นส่วนมากกับมีฝนฟ้าคะนองกระจาย ร้อยละ 40 ของพื้นที่
กับมีลมกระโชกแรงบางแห่ง ส่วนมากทางตอนบนและด้านตะวันตกของพื้นที่
อุณหภูมิสูงสุด 35-37 องศาเซลเซียส อุณหภูมิต่ำสุด 25-27 องศาเซลเซียส
ลมตะวันออกเฉียงใต้ ความเร็ว 15-30 กม./ชม.

[ติ๋ม จันทร์ฉาย]

ถ้ามีแผนผ่านเชียงใหม่ หรือชลบุรี ถ้าติ๋มอยากช่วยร่วมเป็นผู้ต้อนรับพี่น้อง ติ๋มจะต้องทำอะไรบ้าง กรุณาบอกแนวทาง อยู่ทาง US เลยไม่ทราบว่าจะมีโอกาสต้อนรับพี่น้องทางโน้นบ้างไหม

		อ้างถึง			ข้อความของ เหยง 16 เมื่อ 07 พฤษภาคม 2556, 07:39:32
	คุณติ๋ม มีโครงการที่จะจัดไปหลายจังหวัด ด้วยโครงการเยี่ยมเยียนน้องพี่จุฬาฯต่างจังหวัด อยู่ที่ห้อง http://www.cmadong.com/board/index.php/topic,17670.0.html

[เอมอร 2515]

ติดตามข่าวคราวว่าปีนี้จะได้ไปไหนค่ะ

[พธู ๒๕๒๔]

เสนอความเห็นมาเลย

[เอมอร 2515]

เคยสนับสนุนเหนือตอนบนไว้แล้วค่ะ
ตามที่อ่านมาข้างต้นนี้
จะเป็นแพร่ น่าน หรือเชียงราย ก็น่าเที่ยวทั้งนั้นค่ะ

[พธู ๒๕๒๔]

ขอบพระคุณ

[เหยง 16]

ขออนุญาตนำชมด่านห้วยโกร๋น เมืองหงสา Hongsa ซึ่งอยู่เลยเมืองเงินไป 37 ก.ม.
เป็นข้อมูลเบื้องต้น

color=#FF0000]ช่วงวันที่ 20 - 21 มีนาคม และ 4 - 6 พฤษภาคม ได้ออกสำรวจผลผลิตและปริมาณข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ที่ปลูกในนา
ช่วงเดือนมีนาคม - เดือนกรกฎาคม 2556 นี้
ในพื้นที่จังหวัด อุตรดิตถ์ แพร่ น่าน
ได้ใช้เส้นทางไปสู่ด่านห้วยโกร๋นเพื่อออกเมืองเงินของ สปป.ลาว
ขอนำข้อมูลมาเสนอไว้เพื่อทราบครับ[/color]

เส้นทางจังหวัดน่าน
จากอำเภอปัว-เชียงกลาง-ทุ่งช้าง ไปสู่ด่านห้วยโกร๋น
เนื่องจาก Hongsa ได้สัมปทานสร้างโรงไฟฟ้าพลังงานไอน้ำที่เมืองเงิน ตรงข้ามด่านห้วยโกร๋น
การส่งอุปกรณ์การก่อสร้างทุกอย่าง จึงผ่านจากอำเภอท่าเรือ พระนครศรีอยุธยา
ขึ้นไปทางสายอินทร์บุรี - อ.ตากฟ้า จ.นครสวรรค์ - เขาทราย จ.พิจิตร - วังทอง จ.พิษณุโลก - จ.อุตรดิตถ์ - แพร่ - น่าน
ต่อด้วย อ.ท่าวังผา - อ.ปัว - อ.เชียงกลาง - อ.ทุ่งช้าง สู่ด่านถาวรที่ห้วยโกร๋น

[เหยง 16]

จากอำเภอทุ่งช้างขึ้นไปยังด่านห้วยโกร๋น เป็นทางสูงชัน
มีรถยนต์บรรทุกทั้งเทรลเลอร์, รถพ่วง วิ่งส่งของข้ามด่านทั้งวันทั้งคืน
การขับรถต้องระวัง เนื่องจากรถบรรทุกอาจมหดกำลังส่ง และเกิดการถอยหลังลงมา
ก่อให้เกิดอุบัติเหตุได้ ซึ่งในสัปดาห์ปลายเดือนที่แล้ว ก่อนที่ผมจะเดินทางไป
รถเทรลเล่อรืเป็นเต้าปูน(แท้งค์ปูน) เกิดอุบัติเหตุขณะลงเนิน ชนเข้ากับหน้าผา ก่อนถึงด่านกิโลเศษๆ
คนขับ ภรรยาและลูกเสียชีวิตหมดทั้ง 4 คน, ส่งผลให้การเดินรถติดขัดกว่า 1 วันเต็มๆ
หน้าปัทม์โชว์ตัวเลขความเร็วค้างไว้ที่ 80 ก.ม./ชั่วโมง

[เหยง 16]

ขณะไปถึงด่าน เป็นเวลาเที่ยงตรงพอดี
แต่มีแขกสำคัญจาก สปป.ลาว ข้ามมาพอดี และติดทานข้าวเที่ยง
ทุกอย่างเลยต้องรอกันนิดหนึ่ง...ไม่ว่ากัน

[เหยง 16]

รถบรรทุกขนาดใหญ่ต้องจอดรอเพื่อทำเอกสารผ่านแดน
เอกสารผ่านแดนประกอบด้วย Passport หรือ Border Pass, ใบขนส่งสินค้า และเอกสารนำรถยนต์ข้ามแดนพร้อมประกันภัย
ส่วนนี้เริ่มในฝั่งไทยทั้งหมด

[เหยง 16]

คณะจาก สปป.ลาว เริ่มเดินทางกลับไปฝั่งลาวแล้ว

[เหยง 16]

ผมมี Passport ติดตัวไป แต่ปลัดอำเภอที่นั่นบอกว่า ใบ Border Pass ง่ายกว่า ใช้ดเอกสารน้อยกว่ากัน
Border Pass ใช้ได้ 3 วันและไปถึงหลวงพระบางได้เช่นกัน
แต่ผมและคณะ เข้าไปที่เมืองเงิน และเมืองหงสาเท่านั้น

เขาจึงสแกนภาพจากใน Passport มาแปะใน Border Passp ให้พร้อมสแตมป์ตราผ่านออกเมืองให้เลย

[เหยง 16]

จากนั้นนำรถข้ามฝั่งจากฝั่งไทยไปเขต no man land เพื่อเข้าสู่เขต สปป.ลาว



หมายเหตุ; ด่านถาวรฝั่งไทย ยังไม่ได้สร้างขึ้นใหม่
หงสา Hongsa รับปากว่าจะสร้างให้ดูภูมิฐาน แต่ยังไม่ได้สร้าง จึงทำงานอยู่ในตู้คอนเทรนเนอร์ไปก่อน (ดังภาพ)
ภาพที่เห็น เป็นรถยนต์ที่กลับจากฝั่งลาว รอการพ่นยาป้องกันเชื้อ ก่อนผ่านเข้ามาในประเทศ

[เหยง 16]

จากนั้นคณะของเรานำรถข้ามไปในเขต no man land ซึ่งรถยรรทุกจอดรอเพื่อข้ามเข้า สปป.ลาว
ระยะทางจอดเกือบๆ 1 ก.ม.

[เหยง 16]

รถบรรทุกที่เห็น ไม่ได้จอดเรียงแถวเดียวน่ะครับ

เขาจอดซ้อน 3 แถว ไม่เช่นนั้น ยาวทะลุด่านไทยแน่นอน

[เหยง 16]

เราต้องลงเดินเข้าไปในด่านตรวจคนเข้าเมืองของ สปป.ลาว เพื่อตรวจลงตราเข้าเมือง
เอกสารใช้ Border Pass เอกสารขอนำรถยนต์เข้าเมืองพร้อม พรบ.ประกันภัย

[เหยง 16]

เอกสารถูกนำไปกองรอเจ้าหน้าที่ตรวจคนเข้าเมือง
เนื่องจาก สปป.ลาว พักผ่อน(นอนหลับ) ถึง 13.30 น.
แต่ในความเป็นจริง 14.10 น. มี จนท.เพียงคนเดียวที่มาทำงาน
สแตมป์ตราลงในเอกสารทุกฉบับแล้วกองรวมกัน จนกว่าจะหมดชุด
จากนั้นจึงจะฉีกบัตร 20,000 กีบเป็นค่าเหยียบแผ่นดิน

[เหยง 16]

เอกสารพร้อม, รถยนต์พร้อม
เราจะเข้าเมืองลาว หลังต้องรอนานเกินกว่ากำหนดไปเกือบชั่วโมง

หมายเหตุ: 1.รถยนต์เป็นรถเก๋ง, รถกระบะ หรือรถตู้ น่าจะปลอดภัยกว่ารถบัสขนาดใหญ่

                2.ไม่แนะนำให้ผ่านด่านนี้ ยิ่งในช่วงบ่าย จะเสียเวลากว่าช่วงเช้า

[เหยง 16]

เราเลือกเดินทางไปเมืองหงสา Hongsa ซึ่งเป็นที่ตั้งของโรงไฟฟ้า ก่อนขะแวะกลับมาเมืองเงิน

[เหยง 16]

กลับไปที่เมืองหงสาครับ.............

วิ่งรถอีก 37 กฒงฒง เป็นเส้นทางใหม่จากเมืองเงิน เลาะตามไหล่เขาลงไปสู่ที่ราบ
เนื่องจากต้องการใช้ที่ดินรอบๆ โรงไฟฟ้าทำเป็นเขื่อนเก็บน้ำไว้ใช้ในโรงไฟฟ้าพลังไอน้ำ

[เหยง 16]

เราแจ้งกับเจ้าหน้าที่ รปภ. ทางเข้า และภายใน ซึ่งมี 2 จุดว่า
ขอเข้าชมโรงไฟฟ้า เนื่องจากเป็นเจ้าของรถบรรทุกที่รับจ้างส่งของมาที่โรงไฟฟ้า
จนท.บอกว่า อนุญาตให้เข้า แต่ขอห้ามลงจากรถเพื่อความปลอดภัย ซึ่ง โอ เค ครับ

จากนั้นจึงขับรถเข้าไปวนดูสิ่งก่อสร้างในโรงไฟฟ้า

[เหยง 16]

ดูใกล้ๆ







หมายเหตุ ท้องฟ้าที่เริมมืดมิดนั้น เป็นอุปสรรคในการเดินทางเข้าเมืองเงิน จนต้องยกเลิกเพื่อเดินทางกลับเข้าด่าน
              และกลับอำเภอปัวในตอนค่ำ เนื่องจากกลัวจะลงเขาในช่วงฝนตกครับ

[เหยง 16]

ชุดนี้ ตามแบบต้องสร้างรวมเป็น 3 เตาครับ



จากภาพสเก็ต

[เหยง 16]

มุมมองในแต่ละจุดที่ก่อสร้าง

[เหยง 16]

ดูบรรยากาศเพิ่มเติม.......





คณะที่ร่วมไปด้วย ได้สัมปทานขนลูกถ้วยดินเผาเคลือบ ที่มช้วางบนเสาเพื่อลากสายไฟแรงสูงออกจากโรงไฟฟ้า
โดยได้ถึง 300 เที่ยวรถพ่วง (น้ำหนักบรรทุกพ่วงละประมาณ 35 ตัน) คิดได้ 10,500 ตัน
ซึ่งจะติดตั้งบนเสาเพื่อลากสาย ถ้วยพวกนี้มีทั้งทำในเมืองไทยและเมืองจีน
เพียงเท่านี้ ก็มีมูลค่ามหาศาลครับ

[เหยง 16]

อ่างเก็บน้ำที่เริ่มขนหินจากการะเบิดมาปรับสูงขึ้น โดยไม่มีการขุดพื้นดินครับ

[เหยง 16]

อ่างเก็บน้ำเพื่อใช้ในโรงไฟฟ้าพลังไอน้ำนี้ Hongsa ทำคันกั้นด้วยการระเบิดหิน ดินลูกรังมากองเป็นภูเขา
แบบคันดินคู่ขนาน ยาว 73 ก.ม. เพื่อไปรับน้ำจากแม่น้ำโขงเข้ามาเป็นวัตถุดิบเพื่อใช้ในโรงไฟฟ้าพลังไอน้ำ
และไม่ต้องการให้เกษตรกร ชาวนา ชาวไร่ หรือชาวบ้าน แย่งน้ำส่วนนี้ไปใช้
จึงใช้เป็นการสร้างคันดินสูงแบบภูเขา แทนการขุดคลอง ซึ่งชาวบ้านสามารถแย่งใช้น้ำได้ (เก่งแค่ไหน ??)

[เหยง 16]

คณะออกจากโรงไฟฟ้าพลังไอน้ำ ผ่านตลาดสดประจำเมืองครับ
ตลาดเล็กแต่ก็ตอบสนองความต้องการของชาวบ้านและผู้คนที่ไปอยู่ ณ บริเวณก่อสร้างได้







ลิ้นจี่สายพันธุ์ดั้งเดิม เม็ดใหญ่ รสเปรี้ยว ราคา กก.ละ 35 บาทครับ

[เหยง 16]

เนื่องจาก Hongsa ได้รับสัมปทานก่อสร้างโรงไฟฟ้าพลังไอน้ำ ต้องใช้พื้นที่จำนวนมากในการสร้างโรงไฟฟ้า
รวมทั้งอ่างเก็บน้ำและคลองรับน้ำจากแม่น้ำโขงที่ยาวถึง 73 ก.ม.
ต้องมีการอพยพชาวบ้านหลายหมู่บ้านออกจากบริเวณก่อสร้าง ไปสร้างชุมชนเมืองใหม่
ด้วยการสร้างบ้านให้อยู่ในชุมชน ในแบบเดียวกันทั้งหมด รวมทั้งให้เงินเดือนอีก 3 ปีเต็ม
สวนไร่นา รัฐบาลจัดสรรให้ใหม่
ซึ่งต้องไม่ไปขวางเส้นทางรับน้ำและใต้สายไฟแรงสูงที่วางพาดไปสู่ประเทศไทยและประเทศจีน
ซึ่งเป็นผู้ซื้อไฟรายใหญ่ของลาว

[เหยง 16]

ชาวบ้านต้องย้ายมาอยู่บ้านหลังใหม่
เริ่มแรก คนรวยกว่าบ่น เพราะคนจนกว่า ก็ได้บ้านได้ที่ดินเท่าเทียมกัน แบบนี้...ผิด...
แต่ที่สุด คนที่เก่งกว่า หัวดี และรวยกว่าก็ต่อเติม ขยายบ้าน เห็นได้อย่างชัดเจน











และแล้ว..ความไม่เท่าเทียมก็เกิดขึ้น และดำรงสภาพอยู่ต่อไป ??

[เหยง 16]

อีกหมู่บ้านหนึ่งซึ่งจัดสรรให้อยู่ถัดไป......

[เหยง 16]

เสียงฟ้าร้อง ทำให้เราต้องเร่งเดินทางกลับไปเมืองเงิน ระยะทาง 37 ก.ม. จากจุดนี้

จุดประสงคืเพื่อไปดูการก่อสร้างสะพานข้ามแม่น้ำโขง ซึ่งจีนไปสร้างให้

[เหยง 16]

เรามาถึงทางแยกเพื่อไปเมืองเงิน

แต่เสียงฟ้ายังร้องอยู่ เราจึงแวะร้านสินค้าดิวตี้ฟรีข้างทาง
ตัดสินใจยกเงิกไปดูการก่อสร้างสะพานและทานข้าวเย็น ด้วยกลัวฝนตกในช่วงลงเขา

[เหยง 16]

ที่สุดได้ Johnny Walkers ขวดลิตร 2 โหล ในราคาขวดละ 1,000 บาท

และแบล็คลาว หรือวิสกี้ของลาวอีก 6 โหล ขวดละ 130 บาท ใส่ท้ายรถกลับเข้าด่าน

[เหยง 16]

จอดรถรอที่หน้าด่านเมืองเงินของลาว เพื่อสแตมป์ตราออกเมือง พร้อมสแตมป์ตรานำรถกลับด้วย





อย่างไรก็ตาม ด่านห้วยโกร๋น-ด่านเมืองเงิน เปิดทำการถึง 2 ทุ่มครับ
แต่ทราบมาว่า ฝรั่งต่างชาติ ทนระบบการทำงานของด่านฝั่งลาวไม่ไหว !!!
ต้องจ้างรถพากลับหลวงพระบางไปออกทางอื่นก็มีครับ ??

[เหยง 16]

เข้าสู่ด่านฝั่งไทย จอดยื่นเอกสารให้ จนท.ตม.ของไทย จากนั้นก็วิ่งปรื่อลงเขาสู่อำเภอทุ่งช้าง - เชียงกลาง และ ปัว

ถึงปัวค่ำพอดีกลับฝนตกไล่หลังมาพอดี

เขาพักที่ "ชมพู ภูคา รีสอร์ท" อ.ปัว ในคืนวันอาทิตย์ที่ 5

จบข้อมูล ด่านห้วยโกร๋น ครับ

[พธู ๒๕๒๔]

ขับขี่ปลอดภัย ถ้าท่านใส่ใจกฏจราจร

[Kuroky77]

แล้วแต่ผู้จัดเลยค่ะ

[เริง2520]

รออยู่ครับ

[พธู ๒๕๒๔]

เรียน พี่น้องชาวซีมะโด่ง จังหวัด สุรินทร์ ศรีสะเกษ อุบลราชธานี
อำนาจเจริญ มุกดาหาร ยโสธร ร้อยเอ็ด มหาสารคาม และบุรีรัมย์

สมาคมนิสิตเก่าหอพักนิสิตจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย
โดยทีมงานโครงการรินน้ำใจสู่จุฬาฯ เพื่อหอพักนิสิตฯ
ได้กำหนดจะเดินทางไปเยี่ยมเยียนชาวจุฬาฯภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนล่าง
ในจังหวัดสุรินทร์ ศรีสะเกษ อุบลราชธานี อำนาจเจริญ มุกดาหาร ยโสธร
ร้อยเอ็ด มหาสารคาม และบุรีรัมย์
เพื่อพบปะพี่น้องชาวจุฬาในจังหวัดดังกล่าว
ทำการประชาสัมพันธ์โครงการรินน้ำใจสู่จุฬาฯ
และเชื่อมความสัมพันธ์ระหว่างน้องพี่สีชมพู
โดยมีกำหนดการเดินทางเบื้องต้น ดังต่อไปนี้

วันเสาร์ที่ 23 พฤศจิกายน 2556
             ออกจากกรุงเทพฯ เวลา  07.00 น.
             พบชาวจุฬาฯสุรินทร์ เวลา 12.00 น ที่.......
             พบชาวจุฬาฯศรีสะเกษ เวลา 16.00 น.ที่.......
             พบชาวจุฬาฯอุบลราชธานี เวลา 18.30 น.ร้านอินโดจีน
             พักอุบล ชินสวัสด์

วันอาทิตย์ที่ 24 พฤศจิกายน 2556
             ออกจากอุบลราชธานี เวลา 08.00 น.
             พบชาวจุฬาฯอำนาจเจริญ เวลา 09.00 น.ที่.......
             พบชาวจุฬาฯมุกดาหาร เวลา 12.00 น.ที่.......
             พบชาวจุฬาฯยโสธร เวลา 18.00 น.ที่.......
             พักยโสธร ที่

วันจันทร์ที่ 25 พฤศจิกายน 2556
             ออกจากยโสธร เวลา 08.00 น.
             พบชาวจุฬาฯร้อยเอ็ด เวลา 09.00 น.ที่.......
             พบชาวจุฬาฯมหาสารคาม เวลา 11.00 น.ที่.......
             พบชาวจุฬาฯบุรีรัมย์ เวลา 13.00 น.ที่.......
             พบชาวจุฬาฯ อ.นางรอง เวลา 15.00 น.ที่......
            .ออกจากอ.นาวรอง บุรีรัมย์ เวลา 16.00 น.

             ถึงกรุงเทพฯ เวลา 21.00 น.

พี่น้องท่านใดที่ต้องกัน
1.ร่วมคณะเดินทางจาก กทม.
2.นัดหมาย เพื่อพบกันตามวันและเวลาดังกล่าว
3.แนะนำสถานที่พบปะ
4.แจ้งรายชื่อและโทรศัพท์ของแกนนำ
หรือผู้ประสานงานของจังหวัดหรือพี่น้องจุฬาอื่นเพื่อนัดหมายให้มาพบปะ

กรุณาติดต่อผู้ประสานงาน หมอตุ่น นสพ.กำพล คมคาย ซีมะโด่ง 2525
คณะสัตวแพทยศาสตร์ โทร.08 1441 7550 หรือ 08 1172 7550
หรือที่ เลขาธิการสมาคม โทร.08-1761-1760 หรือ 08-5484-245 หรือที่
wira.dan@gmail.com หรือ
http://www.cmadong.com/board/index.php/topic,18388.msg658879.html#msg658879