02 พฤษภาคม 2567, 00:23:58
ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน


เข้าสู่ระบบด้วยชื่อผู้ใช้ รหัสผ่าน [สมาชิกเก่าลืมรหัส โทร 081-7611760]
A A A A  ระเบียบปฎิบัติ
   
Languages    
  หน้า: [1]   ลงล่าง
ผู้เขียน หัวข้อ: ขอแนะนำหนังสือดีมาก ๆ เล่มใหม่..รักแท้มีจริง..โดย"ดังตฤณ"  (อ่าน 14613 ครั้ง)
0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
ปุจฉา
มือใหม่หัดเมาท์
*


ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 69

« เมื่อ: 14 กรกฎาคม 2551, 14:52:35 »

:-o ......"ความรัก" ก็เหมือนทุก ๆ เรื่องอยู่ตรงที่ มันมีสองด้านในเหรียญเดียวกัน
พลิกกลับจากด้านเศร้าหมอง อีกด้านหนึ่งของความรัก ก็คือความอบอุ่นใจ
ที่สามารถชักพาชีวิตของคนสองคน ให้จูงกันไปในทางสว่างได้อย่างไม่น่าเชื่อเช่นกัน
และใครสองคนคู่นั้น ก็ไม่ได้อยู่เคียงกันได้เพียงเพราะเหตุผลที่ว่าพวกเขา "โชคดี"

ไม่ว่าคุณผู้อ่านจะสมหวังในรัก ผิดหวังจากรัก รอคอยความรัก หรือเข็ดขยาดจากมัน
ก่อนอื่น มีคำถามหนึ่ง ที่อยากให้คุณผู้อ่านลองตอบในใจดูเล่น ๆ สักนิดหนึ่งค่ะว่า
คุณผู้อ่าน เชื่อ กันไหมคะว่า " รั ก แ ท้ มี จ ริ ง "


ใครที่รอคอยผลงานสร้างสรรค์เล่มใหม่เรื่องใหม่ของ คุณดังตฤณ กันมานาน
วันนี้มีข่าวดีมาแจ้งกันล่วงหน้าสำหรับแฟน ๆ นิตยสารของเราโดยเฉพาะค่ะว่า
อีกไม่นานเกินรอ คุณผู้อ่านอาจได้คำตอบนั้นให้กับคำถามข้างต้นด้วยตนเอง
จากหนังสือเล่มใหม่ที่คุณดังตฤณโปรยปกเอาไว้ว่า "และหนังสือเล่มนี้จะทำให้คุณเชื่อ!"



"รักแท้มีจริง" เป็นหนังสือเรื่องใหม่ และนับเป็นหนังสือเล่มแรก ที่คุณดังตฤณ
เขียนเกี่ยวกับความรักโดยเฉพาะ โดยที่เนื้อหาทั้งหมดไม่เคยปรากฏที่ใดมาก่อน
และยังนับเป็นหนังสือเล่มแรกที่จัดพิมพ์โดยสำนักพิมพ์น้องใหม่ - สำนักพิมพ์ฮาวฟาร์
ซึ่งเป็นสำนักพิมพ์ที่คุณดังตฤณและคณะก่อตั้งขึ้นเพื่อผลิตหนังสือคุณภาพ
โดยมีความมุ่งหวังสำคัญคือ เพื่อเป็นส่วนหนึ่งในการเปลี่ยนแปลงโลกนี้ให้ดีขึ้น

หลายคนอาจเคยได้ยินวาทะของคุณดังตฤณที่กล่าวไว้ครั้งหนึ่งว่า
"รักแท้มีจริง แต่ที่จริงกว่าคือกิเลส"
หนังสือเล่มนี้จะชี้ให้คุณผู้อ่านได้เห็นต่างไปอีกมุมหนึ่งว่า
แม้รักแท้จะไม่จริงเท่ากิเลส แต่ก็สูงส่งเหนือกิเลสได้
ขอเพียงคุณเข้าใจและรู้วิธีสร้างความรักที่เป็นอิสระจากราคะ
เพราะเมื่อเป็นอิสระจากราคะ รักนั้นก็ย่อมไม่พังเพราะราคะ
 
โจทย์ตั้งต้นคือ แล้วจะทำอย่างไร จึงจะสร้างรักอันทรงพลังและมีอายุยืนให้เกิดขึ้นได้?
และคำตอบ ก็คือเนื้อหาทั้งหมดที่คุณดังตฤณตั้งใจถ่ายทอดลงหนังสือเล่มนี้นั่นเองค่ะ

เนื้อหาสาระของหนังสือเล่มนี้จะบอกอะไรให้คุณได้รู้บ้าง
ที่พอจะเป็นแนวทางให้คุณสร้างและวางรากฐานของ "รักแท้" ให้เกิดขึ้นได้จริงกับตนเอง?

เริ่มต้น คุณจะได้รู้... วิธีสร้างเสน่ห์ดึงดูดความสนใจ
เพื่อจะมีโอกาสเป็นผู้เลือกบ้าง ไม่ใช่เอาแต่เป็นเพียงตัวเลือกหนึ่งของใคร ๆ
และการสร้างเสน่ห์ในที่นี้ ก็ไม่ได้เน้นที่รูปกายซึ่งแข่งกันยาก แต่เน้นที่กระแสทางใจ
ซึ่งตกแต่งกันง่าย ไม่ว่าจะยากดีมีจนหรือขี้ริ้วขี้เหร่มาจากไหนก็ตาม

คุณจะได้รู้... วิธีเลือกคนที่ใช่
เพื่อที่จะให้ความรักเกิดขึ้นเองจากความใช่
ไม่ใช่เอาแต่คาดหวังให้ความรักเกิดขึ้นโดยปราศจากพื้นฐานความเป็นจริงรองรับ

คุณจะได้รู้... วิธีรักษาความรัก
ไม่ใช่ปล่อยให้ความใช่อย่างเดียวทำหน้าที่ไปจนตาย
แต่ให้คุณเลี้ยงความรักเป็น เหมือนคนมือเย็นเลี้ยงต้นไม้รอดไปจนกว่าจะถึงอายุขัย

คุณจะได้รู้... วิธีจากกัน
เพราะไม่ว่าจะจากเป็นหรือจากตาย
ก็ล้วนเป็นสิ่งที่หลีกเลี่ยงไม่ได้ แม้ใครจะพยายามหลีกเลี่ยงด้วยวิธีใด ๆ
ต่อเมื่อเข้าใจคุณค่าและความหมายของการจากกัน
จึงเป็นการสร้างนิยามความรักได้อย่างสมบูรณ์แท้จริง

และคุณจะได้รู้... วิธียกระดับความรัก
อันเป็นบทศึกษาสำรองสำหรับคนที่ไม่อาจพบคู่รักด้วยวิธีใด ๆ
หรือพบแล้วแต่ปรารถนาความสุขขั้นสูงสุดที่เหนือรักเชิงชู้สาว

ในยุควัตถุนิยมแบบคนรุ่นใหม่ ที่แทบจะไม่มีใครรู้จักความหมายของรักแท้อีกต่อไป
มีแต่เพียง ราคะ ที่สวมหน้ากากมาทักทายในคราบของภาพฝันสวยหรู
จนหนุ่มสาวจำนวนนักต่อนัก ต้องบอบช้ำกับความฉาบฉวยเช่นนั้นครั้งแล้วครั้งเล่า
ทั้งที่ส่วนลึกยังโหยหา แต่ก็ไม่มีใครรู้ความหมาย ไม่มีใครเห็นวิธี...

"รักแท้มีจริง" ผลงานเล่มล่าสุดโดยคุณดังตฤณ
พร้อมรอให้คุณผู้อ่านได้พิสูจน์ด้วยตัวเอง ผ่านร้านหนังสือซีเอ็ด บีทูเอส ร้านนายอินทร์
และร้านเซเว่นอีเลฟเว่นทุกสาขาทั่วประเทศ ในราวกลางเดือนกรกฎาคม ๒๕๕๑ นี้

หมายเหตุ  ขณะนี้ที่ศูนย์หนังสือจุฬากำลังลดราคาอยู่ 15% รีบหน่อยนะจ๊ะ... :-o
บันทึกการเข้า

คนที่เข้มแข็งที่สุดก็ยังมีนาทีที่น้ำตาไหลริน
iamfrommoon
Cmadong ชั้นเซียน
*****


ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: 2535
คณะ: พาณิชยศาสตร์และการบัญชี
กระทู้: 8,396

เว็บไซต์
« ตอบ #1 เมื่อ: 14 กรกฎาคม 2551, 17:00:25 »

ขอบคุณมากค่ะ เด๋วต้องรีบหามาอ่านให้เข้ากับสถานการณ์ปัจจุบันและอนาคตอันใกล้นี้แล้วค่ะ  :-o
บันทึกการเข้า

@@ธรรมชาติสร้างความขัดแย้ง เพื่อให้คนเรียนรู้ซึ่งกันและกันได้ดียิ่งขึ้น@@@

ปุจฉา
มือใหม่หัดเมาท์
*


ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 69

« ตอบ #2 เมื่อ: 17 กรกฎาคม 2551, 15:44:35 »

มีเรื่องราวชีวิตการครองเรือนสมัยที่หลวงพ่อปราโมทย์ ยังเป็นฆารวาสอยู่  (ท่านก็เป็นชาวจุฬาฯ เหมือนกัน)  มาเป็นตัวอย่างให้ดูว่าคู่ที่เป็นรักแท้ที่น่าปฏิบัติตามนั้นเป็นอย่างไร...


การครองเรือนกับการปฏิบัติธรรม


--------------------------------------------------------------------------------

Just_aware08-09-2007, 11:56 PM
อันนี้เป็นข้อความที่คุณสันตินันท์ ตอบคุณดังตฤณ(คนเขียนหนังสือ "เสียดาย คนตายไม่ได้อ่าน") เมื่อเกือบสิบปีมาแล้วในกระทู้เว็บลานธรรม เมื่อคุณดังตฤณได้กล่าวถึงคุณสันตินันท์ว่า ท่านกับภรรยาเป็นคู่แท้คู่หนึ่งในการครองเรือน ปัจจุบันท่านได้บวช และรู้จักกันในนาม "หลวงพ่อปราโมทย์ ปราโมชโช"

อยากฟังธรรมะของท่านลองไปโหลดฟรีได้ที่
http://www.wimutti.net/pramote/#preach (http://www.wimutti.net/pramote/#preach)

การครองเรือน กับ การปฏิบัติธรรม...สันตินันท์

ผมกับภรรยานั้น ถ้าว่าในทางโลกก็นับว่าพอใช้ได้
ทั้งการศึกษาและอาชีพการงาน
ในด้านชีวิตคู่นั้น ก็เป็นคู่หวานแหววที่คนบอกว่าอิจฉาอยู่เสมอๆ
แต่น้อยคนที่จะทราบว่า สิ่งที่ดึงดูดเราไว้ด้วยกัน
คือความปรารถนาดีต่อกันในทางธรรม

เรามีความสุขอันเกิดจากความสงบ
กิจกรรมยามว่างของผมคือการเขียนธรรมะ
ส่วนภรรยาจะถักไหมพรมเป็นหมวกถวายพระถวายชีไปเรื่อยๆ

บางทีก็ช่วยกันพิมพ์ธรรมะของครูบาอาจารย์ถอดเทปธรรมะ
หรือเตรียมของไปทำบุญในแต่ละวัน
จะแบ่งเวลาช่วงหัวค่ำไว้สำหรับการภาวนา
ซึ่งผมจะคอยดูแลให้เธอเดินจงกรม นั่งสมาธิ
เพราะเธอกลัวความเกิด
และกลัวว่าหากจะต้องเกิดต่อไป
จะไม่ได้พบกับผมอีกแล้ว
จนตั้งความปรารถนาว่า
ชาติหน้าจะขอเกิดเป็นผู้ชาย
และขอให้ได้บวชตั้งแต่เด็กเลย

ส่วนผมเองก็รู้สึกว่า
จะต้องพาเธอไปให้ได้
ตามปณิธานที่ตั้งร่วมกันมานานนักหนาแล้ว

ในช่วงวันหยุดยาวๆ หรือช่วงปลายปี
ก็จะพากันไปอยู่ตามวัดป่า
แยกกันอยู่ ต่างคนต่างภาวนา
ถือว่าเป็นเวลาที่มีความสุขและมีคุณค่ามากในชีวิตสมรส
เพราะเป็นเวลาที่เรารู้ว่า คู่ของเรากำลังทำแก่นสารสาระให้กับตนเอง

ทีแรกผมก็เฉยๆ กับการบวชครับ
เพราะเห็นว่าเป็นฆราวาสก็ปฏิบัติได้
แต่วันหนึ่งพาภรรยาไปนมัสการศิษย์พี่ของผม
(ที่เล่าว่าท่านออกบวชทั้งคู่น่ะครับ)
ท่านก็จวกผมเสียยับเยินต่อหน้าภรรยา
ว่า สิ่งนั้นก็เห็นอยู่ตรงหน้าใกล้ๆ
แค่เอื้อม เอาก็เอาได้ กลับไม่เอา
จะรอถึงเมื่อใด แบบนี้เขาเรียกว่าคนประมาท
เมื่อไหร่จะออกบวช มาทำที่สุด
แล้วช่วยกันสั่งสอนพระเณรต่อไป

พอออกจากที่อยู่ของท่าน
ภรรยาของผมก็บอกผมว่า พี่บวชเถอะ
น้องไม่ต้องการถ่วงพี่ไว้ และน้องก็จะบวชด้วย
ผมก็พิจารณาดูว่า ถ้าไม่บวชก็คงเอาดีกว่านี้ยาก
ส่วนภรรยานั้น จิตเธอก็หวุดหวิดๆ มาหลายคราวแล้ว
หากบวชก็คงผ่านไปได้ไม่ยาก

ก็เลยกลับไปกราบเรียนหลวงพี่ว่าจะพากันออกบวช
เมื่อสิ้นภาระในการเลี้ยงดูพ่อแม่ของผมที่แก่มากอายุ
90 ปีแล้ว

ก็มีเท่านี้แหละครับ ทุกวันนี้ก็อยู่กันอย่างมีความสุขมาก
แต่ก็พร้อมแล้ว ที่จะพากันออกบวชเมื่อสถานการณ์อำนวย
ตอนนี้ก็ทะนุถนอมกันมาก เพราะรู้แล้วว่า
นี้เป็นคราวสุดท้ายแล้วที่จะได้อยู่ด้วยกัน

++++++

พระอาจารย์ปราโมทย์ ปราโมชโช สอนการปฏิบัติแนวดูจิต ไว้ดีมากๆครับ หากใครว่างก็ลองไปฟัง หรืออ่าน จากเวบลิงค์ที่ทำไว้ข้างต้นนะครั
บันทึกการเข้า

คนที่เข้มแข็งที่สุดก็ยังมีนาทีที่น้ำตาไหลริน
มีนา
Hero Cmadong Member
***


ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: rcu2515
คณะ: รัฐศาสตร์
กระทู้: 1,865

« ตอบ #3 เมื่อ: 20 กรกฎาคม 2551, 00:25:12 »

ขอบคุณมากค่ะที่แนะนำหนังสือดีๆ  ต้องอ่านให้ได้
เพราะส่วนตัวก็เชื่อว่ารักแท้มีจริง

ท่านปุจฉาเคยอ่านหนังสือเล่าเรื่องราวเกี่ยวกับหลวงพ่อจรัญ  วัดอัมพวัน  
สิงห์บุรี  สนทนากับพระเจ้าตากสินมั้ยคะ  อยากอ่านมากแต่ไม่ทราบว่า
หนังสือชื่ออะไร  ผู้เขียนคือใคร  พอทราบมั้ยคะ
บันทึกการเข้า
ปุจฉา
มือใหม่หัดเมาท์
*


ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 69

« ตอบ #4 เมื่อ: 22 กรกฎาคม 2551, 10:39:40 »

เคยได้อ่านหนังสือของหลวงพ่อเมื่อหลายปีมาแล้ว...ระยะหลังไม่ได้อ่าน...ลองสืบถามมาให้คุณมีนาแล้ว...น่าจะชื่อเรื่อง"ความหลงในสงสาร"  หน้าปกเป็นสีเหลืองทองส้ม ๆ มีรูปพระเจ้าตากสินด้วย...คิดว่าน่าจะใช่เล่มนี้..ลองไปหาอ่านดูตามร้านหนังสือทั่ว ๆ ไปก็น่าจะมี...ถ้าใช่เล่มที่ว่าหรือไม่อ่านแล้วเป็นอย่างไรลองมาเล่าสู่กันฟังเผื่อมีพี่ ๆ น้อง ๆเราสนใจกันจะได้รู้...ถ้าได้ข้อมูลเพิ่มเติมมาอีกก็จะมาบอกหากไม่ใช่เล่มดังกล่าว....

            ขอเน้นว่า "รักแท้มีจริง" เล่มนี้ดีมาก จะทำให้เราเข้าใจอะไร ๆ ได้มากขึ้นและผู้ที่ไม่เคยรักใครก็น่าจะได้อ่านเหมือนกัน...เพราะอย่างน้อยถ้าคุณรักตัวเอง...คุณต้องอ่าน!... และที่น่าตระหนกก็คือ...มีคำบางคำที่คุณดังตฤณได้ไฮไลท์หัวข้อไว้ว่า..."ผลข้างเคียงของบุญเก่าอันใหญ่โต...คือการมีความพรักพร้อม...จะทำบาปใหม่ได้หนักยิ่ง"....( ใครที่คิดว่าแน่เพราะมีพร้อมทั้งทรัพย์สินเงินทองชีวิตที่พร้อมพรั่ง...แล้วทำร้าย ๆ อะไรกับใครไปตามอำเภอใจด้วยอำนาจกิเลส ...นั้นน่ากลัวยิ่ง....เพราะคนทำต้องเป็นผู้รับเท่านั้น!)

      มีบ้างประโยคจากหนังสือว่า..."ไม่สำคัญว่าคุณจะเคยผูกกรรมกับใครไว้ตั้งแต่เมื่อกี่ร้อยชาติก่อน ต่อให้ไม่เจอกันร้อยชาติ พอมาจับคู่กันก็ต้องรับผลเท่ากับเพิ่งทำเมื่อชาติที่แล้วหยก ๆ อยุ่ดี

        นั่นเพราะกรรมไม่เหมือนความทรงจำนะครับ ความทรงจำยิ่งนานยิ่งเลือนไป ส่วนกรรมนั้นจะนานแค่ไหนก็อยู่ยั้งยืนยงเช่นเดิมจนกว่าจะให้ผล" .........
       

 ใน"รักแท้มีจริง" เล่มนี้จะมีวิธีสอนเราให้เตรียมตัวและรับมืออย่างไรกับชีวิต.....
โชคดีของคุณปุ๊กกี้และโชคดีของใครก็ตามที่ได้อ่านและลองนำวิธีไปปฏิบัติดู...ก็ไม่เสียหลายอยู่แล้ว...จริงไหม....เพราะผลที่ได้คือความสุขของคุณและคนที่คุณรักที่สุดไม่ว่าจะเป็นใครก็แล้วแต่...  

       
บันทึกการเข้า

คนที่เข้มแข็งที่สุดก็ยังมีนาทีที่น้ำตาไหลริน
มีนา
Hero Cmadong Member
***


ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: rcu2515
คณะ: รัฐศาสตร์
กระทู้: 1,865

« ตอบ #5 เมื่อ: 22 กรกฎาคม 2551, 14:23:41 »

ขอบคุณมากค่ะ  จดชื่อหนังสือไว้แล้ว  พอดีวันพฤหัสฯไปเรียนโยคะที่
ม.บูรพา  จะแวะดูที่ศูนย์หนังสือจุฬาฯค่ะ

ขอเล่าเรื่องที่ตนเองคิดว่าแปลก (คนอื่นอาจว่าไม่เห็นจะแปลก)  
คือได้อ่านเรื่องเกี่ยวกับพระอาจารย์ปราโมทย์ที่ท่านปุจฉายกมาข้างต้น
เกิดสนใจใคร่ฟังธรรมจากท่านโดยตรงบ้าง   แต่ดูแผนที่ไปวัดแล้ว
อยู่ไกลจากบ้านมาก  ไปมาไม่สะดวก (ข้ออ้างตามประสาคนไกลวัด)
วันนี้ไปธุระที่ศาลากลางจังหวัดชลบุรี  พบประกาศว่าจังหวัดนิมนต์ท่าน
บรรยายธรรมวันที่ 20 ส.ค.51   โอ้ Shocked ช่างโชคดีอะไรเช่นนี้
สมหวังจริงๆ   คิดอีกมุมหรือเรามีบาปเยอะสมควรได้รับฟังธรรม
กล่อมเกลาจิตใจ  จึงได้พบประกาศ  ยังไงก็ขอบคุณท่านปุจฉาค่ะ
ที่จุดประกายธรรม
บันทึกการเข้า
ปุจฉา
มือใหม่หัดเมาท์
*


ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 69

« ตอบ #6 เมื่อ: 23 กรกฎาคม 2551, 13:10:42 »

เรียน คุณมีนาได้สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมมาว่า...หนังสือนี้อาจจะเป็นธรรมนิยายชุด สัตว์โลกย่อมเป็นไปตามกรรม แล้วชื่อ  "ความหลงในสงสาร" โดยคุณสุทัสสา อ่อนค้อม ดูสารบัญ ...เผยประวัติศาสตร์กรุงธนบุรีที่ไม่มีในประวัติศาสตร์ ....จะใช่หรือไม่ลองดูนะ....

            การได้ฟังธรรมจากพระอริยสงฆ์ถือเป็นผู้มีบุญอย่างยิ่ง..และหากได้นำธรรมะของท่านไปปฏิบัติในชีวิตประจำวันจะเป็นมงคลและความเจริญก้าวหน้าที่สุด....ถ้าจะให้ดีลองเข้าไปศึกษาธรรมะและชีวประวัติของท่านที่  www.wimutti.net/pramote  จะได้เข้าใจง่ายขึ้น...หากเริ่มต้นก็ลองอ่าน...แด่เธอผู้มาใหม่...ดูก่อน

....พวกที่อยู่กรุงเทพฯเขาขับรถไปกันเป็นประจำ....ถ้าพอฟังธรรมะของท่านเข้าใจบ้างแล้วอยากปฏิบัติจะถามท่าน....เวลาไปฟังธรรมให้ไปเร็ว ๆ และไปนั่งหน้า ๆ ถ้าเป็นที่วัดจะมีติดเบอร์ที่หน้าอกแล้วยกมือสอบวาระจิตกันเลยว่าที่เราปฏิบัติอยู่นี้ถูกต้องหรือไม่...รู้ตัวเป็นหรือยัง..
ท่านจะชี้ให้เห็นจิตของเราขณะนั้นเลยว่าเป็นอย่างไร.ฯ..... :-?

           จะหาครูบาอาจารย์ที่จะสอนเราได้เช่นนี้ยากยิ่ง...บางคนเกิดไม่รู้กี่ชาติก็ยังไม่ได้พบ...ควรจะใช้โอกาสนี้กอบโกยบุญที่ได้พบพระอริยเจ้า...สอบถามข้อธรรมะเสียให้คุ้มค่า.....
:cool:
บันทึกการเข้า

คนที่เข้มแข็งที่สุดก็ยังมีนาทีที่น้ำตาไหลริน
Khun28
Full Member
**


ดูกายเห็นจิต ดูคิดเห็นธรรม
ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: RCU2528
คณะ: วิศวกรรมศาสตร์
กระทู้: 784

« ตอบ #7 เมื่อ: 23 กรกฎาคม 2551, 15:57:11 »


ถ้าอยู่ในเมือง สนใจที่จะไปปฏิบัติธรรม ไปได้ที่ห้องสมุดบ้านอารีย์

http://www.baanaree.net/
บันทึกการเข้า
มีนา
Hero Cmadong Member
***


ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: rcu2515
คณะ: รัฐศาสตร์
กระทู้: 1,865

« ตอบ #8 เมื่อ: 23 กรกฎาคม 2551, 21:16:25 »

ขอบคุณในน้ำใจท่านปุจฉามากๆค่ะ   เช้าวันนี้ได้ไป
ศูนย์หนังสือจุฬาฯ สาขา ม.บูรพา  มาแล้วค่ะ  เจ้าหน้าที่เขาคีย์ข้อมูลชื่อหนังสือ
ความหลงในสงสาร   ใช่คุณสุทัสสา อ่อนค้อม เป็นผู้เขียน แต่หนังสือหมด
มีที่สาขาสยาม  เลยจะฝากหลานที่เรียนจุฬาฯซื้อให้ค่ะ

ขอบคุณคุณ khun 69 ด้วยค่ะที่ให้ข้อแนะนำ
บันทึกการเข้า
too_ploenpit
Cmadong ชั้นเซียน
*****


ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: rcu2514
คณะ: รัฐศาสตร์
กระทู้: 7,778

เว็บไซต์
« ตอบ #9 เมื่อ: 24 กรกฎาคม 2551, 00:42:40 »

...พี่ตู่เองจ้ะ...มีนา...
...สนใจปฏิบัติธรรมเหรอ...สุทัสสา  อ่อนค้อม  ก็คือคนเดียวกันกับพี่สุจิตรา  อ่อนค้อม  ค่ะ...ชาวหอหญิง...อักษร 12...
...พี่เคยเจอพี่เค้าครั้งนึงที่วัดหลวงพ่อจรัลค่ะ...กำลังพาลูกศิษย์ที่พี่เค้าสอนอยู่ไปทอดผ้าป่าค่ะ...
...ส่วนหลวงพ่อปราโมทย์  ท่านเป็นสิงห์ดำรุ่นเดียวกับผู้ว่าประชาค่ะ...พี่เคยไปสำนักสงฆ์สันติธรรม ประมาณ 5 ครั้งได้ค่ะ...
...และครั้งสุดท้ายได้ร่วมกันทอดผ้าป่าของรุ่น 24 มีผู้ว่าประชาเป็นประธาน...เมื่อเดือน พ.ค. นี่เองค่ะ...
:)  :)
บันทึกการเข้า

i love pink, you are pink = i love you
มีนา
Hero Cmadong Member
***


ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: rcu2515
คณะ: รัฐศาสตร์
กระทู้: 1,865

« ตอบ #10 เมื่อ: 24 กรกฎาคม 2551, 14:04:59 »

สวัสดีค่ะพี่ตู่  นี้เพียงแค่ทึ่งในพุทธศาสนาค่ะ เลยอยากรู้มากขึ้น อยากอ่าน
อยากฟัง  ยังไม่เข้าขั้นไปปฏิบัติธรรม  เริ่มจากคุยกับเพื่อนที่นับถือคริสต์
หรืออิสลามทำไมเขาเล่าเรื่องศาสนาเขาได้ดีมาก  และได้ยินประโยค
ที่ว่าคนไทยเป็นพุทธเฉพาะในทะเบียนบ้านซึ่งตัวเราเข้าข่ายที่เขาพูดจริงๆ
จึงไปซื้อพระไตรปิฏกฉบับ สำหรับประชาชนมาอ่าน  พบความจริงว่า
พระพุทธเจ้ามีความเป็นวิทยาศาสตร์และพูดเรื่องราวต่างๆที่ได้เห็นใน
ขณะนี้มาตั้งนานแล้ว  ยังได้อ่านเรื่องไอน์สไตน์พบ พระพุทธเจ้าเห็น
ทันตแพทย์สม สุจีรา เขียน ยิ่งสนับสนุนว่าจริงตามที่คิด

พูดถึงพี่สุจิตรา  อ่อนค้อม นึกภาพหน้าพี่เขาได้แล้วค่ะ สวยๆ ตาโต ผมยาว
พี่สิงห์(ศิริวรรณ) รัฐ 12 เคยเล่าให้ฟังว่าพี่เขาเขียนหนังสือได้รับรางวัล

เพิ่งทราบจากพี่ตู่นี่แหละค่ะว่าพระอาจารย์ปราโมทย์ เป็นสิงห์ดำ 24
รุ่นพี่ปีเดียวเอง นึกหน้ายังไม่ออกเลยค่ะ แต่ตั้งใจว่าวันที่20 เดือนหน้า
จะไปฟังท่านบรรยายธรรมที่ห้องเจริญธรรม ชั้นสอง ศาลากลางจังหวัด
เจ้าภาพเป็นกลุ่มสาธารณสุข  ร.พ.บางละมุง มากันหรือเปล่าคะ

ป.ล.  ..เห็นรูปชาวหอไปอิสาน สดใสกันจังเลย รอดูรูปพี่ตู่เต้นสิงห์ค่ะ :-D
       ...ผู้ว่าชวน ไม่ค่อยเปลี่ยนจากเดิม นี้มีภาพพี่เขาตอนไปค่ายคณะ
              เป็นภาพที่ดูดีค่ะและยืนยันว่าเหมือนเดิมมาก
          ...พี่หน่อย กัลยา ธนานันต์  นิเทศ 14 ไปเที่ยวด้วยใช่ไหมคะ
              เห็นในภาพ  แต่ไม่แน่ใจ  :? จบมาไม่เคยพบพี่เขาเลย
             
บันทึกการเข้า
krongon2513
Hero Cmadong Member
***


ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 1,490

« ตอบ #11 เมื่อ: 24 กรกฎาคม 2551, 20:08:14 »

นี้...พี่อ้อยนะคะ..จำได้หรือเปล่า
เราเคยพบกันตอนนี้ไปดูงานแล้วพี่เป็นคนบรรยายสรุป  หลายปีแล้ว
นี้อยู่ตรงไหนของบางแสน  ถ้ามาศาลากลางอีก  ติดต่อพี่ด้วยนะ  ไปทานข้าวกัน..น้องตู่ด้วย
แต่วันที่ 20 เดือนหน้า..พี่ไม่ว่าง  ไปปฎิบัติธรรมประจำปีค่ะ

อยากไปฟังหลวงพ่อเทศน์แต่กลัวหลงทาง จึงไม่ถึงวัดท่านสักที
ศาสนาพุทธเป็นวิทยาศาสตร์ค่ะ  ทุกอย่างเป็นเหตุเป็นผลกัน
ยิ่งศึกษายิ่งสนุก  มีอะไรที่เรายังไม่รู้อีกเยอะ

พี่เจอน้องป้อม 15 แล้ว ดีใจมากๆ อยากเจอน้อยกับอรด้วย

 :cool:
บันทึกการเข้า
มีนา
Hero Cmadong Member
***


ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: rcu2515
คณะ: รัฐศาสตร์
กระทู้: 1,865

« ตอบ #12 เมื่อ: 24 กรกฎาคม 2551, 21:27:38 »

สวัสดีค่ะพี่อ้อย  จำพี่ได้แม่นเลยค่ะ  ยังประทับใจในตัวพี่มากที่มาทักนี้ก่อน
แต่ก็รู้สึกผิดอยู่จนเดี๋ยวนี้ด้วย ที่ไม่ได้คารวะพี่ก่อน ขอย้อนความหลังหน่อย
นะคะ  หลังจากเรียนจบไม่พบพี่อ้อยเลย  จนมาเป็นลูกศิษย์อบรม 5ส กับพี่
ตอนอบรม ผ.บ.สาธารณสุข  ในปี 2542 (ไม่พบกัน 22ปี)  เห็นชื่อพี่
เป็นวิทยากรก็สะดุดเหมือนกัน แต่ไม่มั่นใจ ประกอบกับวันนั้นรับหน้าที่
พูดสรุปเรื่องที่เรียนผ่านมาให้ผู้ร่วมอบรมฟังและต้องพูดบนเวทีในวิชา
การพูดในที่ชุมชนอีก  ตื่นเต้นมาก สมองเบลอๆ  ไม่เป็นอันคิดเรื่องอื่น
ถือโอกาสขออภัยพี่ด้วยค่ะ

นี้อยู่หมู่บ้านวังมุขแลนด์  ถนนลงหาดบางแสน ถึงก่อนห้างแหลมทอง
และ ม.บูรพาค่ะ

ดีใจกับพี่ด้วยค่ะที่เจอป้อมแล้ว  ตั้งแต่พี่ถามนี้ก็ไม่ทราบว่าป้อมอยู่ไหน

น้อยกับอร ยังติดต่อกันทางโทรศัพท์ค่ะ มีอรที่เข้ามาคุยทางเวปหอบ้าง
รวมถึงพี่ตู่ก็เพิ่งได้มาคุยกันในเวปค่ะ   คงมีโอกาสนัดไปคารวะพี่ค่ะ

พี่อ้อยไปปฎิบัติธรรมเป็นประจำที่ไหนหรือคะ  
บันทึกการเข้า
too_ploenpit
Cmadong ชั้นเซียน
*****


ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: rcu2514
คณะ: รัฐศาสตร์
กระทู้: 7,778

เว็บไซต์
« ตอบ #13 เมื่อ: 25 กรกฎาคม 2551, 09:58:40 »

...สวัสดีค่ะ...พี่อ้อย, สวัสดีจ้ะ...นี้...
...จะเข้ามาตอบตั้งแต่เมื่อคืนนี้แล้ว   แต่เข้าบอร์ดไม่ได้ค่ะ...โมโหเลยขึ้นไปนอนเลย...
...ปกติตู่จะเข้าไปจังหวัดตอนสิ้นเดือนค่ะ...ตามหมอประสิทธิ์เข้าไปประชุมประจำเดือนที่ สสจ...
...เดือนนี้จะตรงกับวันพฤหัสที่ 31 ก.ค.  ไม่ทราบว่าพี่อ้อยและนี้จะว่างมั้ยคะ...
...เรานัดทานข้าวกันดีมั้ยคะ...แถวๆบางแสนก็ได้...พี่อ้อยจะสะดวกมั้ยคะ...ชวนน้อยมาด้วยเนอะ...ไม่ได้เจอกันตั้งนานแล้วนี่...
...ถ้าหมอประสิทธิ์ประชุมแค่ช่วงเช้า...ตู่จะว่างจนถึงเที่ยงเลยไปจนบ่ายโมงค่ะ...
...ถ้าหมอประชุมตอนบ่ายต่อ...ก็จะว่างตลอดบ่าย...บางทีประชุมจนถึงสามโมงสี่โมงเย็นค่ะ...
...แล้วติดต่อกันนะคะ...
...สวนสันติธรรมของหลวงพ่อปราโมทย์ไปไม่ยากค่ะ...พี่อ้อยและนี้ต้องไปถึงสวนเสือให้ได้ก่อน...
...ถ้ามาตามถนนสุขุมวิทนะคะ...พอถึงศรีราชาก็เลี้ยวซ้ายเข้าตรงทางแยกโรงเรียนอัสสัมชัญ...
...พอถึงหน้าโรงเรียนอัสสัมชัญก็ชิดซ้ายเลียบถนนมาเรื่อยๆค่ะ...
...ตรงมาเรื่อยๆ...ข้ามสะพาน...จนถึงสวนเสือ...
...เลยป้ายสวนเสือมาหน่อย...ให้เลี้ยวซ้ายค่ะ...
...คอยสังเกตุป้ายของสวนสันติธรรมค่ะ...แต่มีขนาดเล็กหน่อยนะคะ...จะบอกไว้เป็นระยะ...
...หรือสังเกตุป้ายของหิ่งห้อยรีสอร์ท  หรือ  วัดโค้งดารา  ค่ะ...
...พอถึงชุมชนบ้านโค้งดารา...ผ่านโรงเรียนบ้านโค้งดารา...ก็ตรงมาเลยค่ะ...จนถึงสวนสันติธรรมค่ะ...(ตรงนี้ไม่ต้องเลี้ยวขวาไปหิ่งห้อยรีสอร์ท หรือ วัดโค้งดารา แล้วนะคะ)...
...วันหลังถ้าพี่อ้อยและนี้จะไปสวนสันติธรรม  เราค่อยนัดไปเจอกันนะคะ  จะนัดตรงหน้าโรงเรียนอัสสัมชัญ  หรือ สวนเสือ ก่อนก็ได้ค่ะ...
...วัดหลวงพ่อจะไม่เปิดทุกวันค่ะ...จะมีปฏิทินออกมาเป็นเดือนๆ...ล่วงหน้า 1 เดือน...
...ปกติหลวงพ่อจะอยู่ทุกเสาร์-อาทิตย์ค่ะ  ยกเว้นอาทิตย์ที่ 3 จะติดภารกิจต้องมาแสดงธรรมที่กรุงเทพฯ...
...พวกสิงห์ดำรุ่น 24 เคยคุยกันไว้ว่าจะนิมนต์หลวงพ่อมาที่ศาลากลางจังหวัด...เพื่อให้ช่วยสอนนั่งสมาธิค่ะ...แต่ยังไม่มีอะไรคืบหน้า...
...ส่วนวันที่ 20 นั้น...ยังไม่ทราบเหมือนกันค่ะ...อาจเป็นโปรแกรมของ สสจ.เพราะว่าภรรยาของนายอำเภอบางละมุง รุ่นเดียวกับหลวงพ่อ ก็ประจำอยู่ สสจ.ค่ะ...
...ตู่มีหนังสือและซีดีธรรมะของหลวงพ่อเยอะแยะค่ะ...แล้วยังไงจะเอาไปฝากนะคะ...
...วัดหลวงพ่อเป็นวัดที่ไม่เรี่ยไรค่ะ...ไม่มีพุทธพาณิชย์...ให้ธรรมะอย่างเดียวเลย...
...แต่ละคนที่เข้าไปทำบุญ...จะมีสิทธิ์ได้หนังสือคนละ 1 ชุดค่ะ...ถ้าอยากได้มากกว่านั้น  ต้องซื้ออย่างเดียวค่ะ...
บันทึกการเข้า

i love pink, you are pink = i love you
too_ploenpit
Cmadong ชั้นเซียน
*****


ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: rcu2514
คณะ: รัฐศาสตร์
กระทู้: 7,778

เว็บไซต์
« ตอบ #14 เมื่อ: 25 กรกฎาคม 2551, 10:01:47 »

...สวัสดีค่ะ...พี่อ้อย, สวัสดีจ้ะ...นี้...
...จะเข้ามาตอบตั้งแต่เมื่อคืนนี้แล้ว   แต่เข้าบอร์ดไม่ได้ค่ะ...โมโหเลยขึ้นไปนอนเลย...
...ปกติตู่จะเข้าไปจังหวัดตอนสิ้นเดือนค่ะ...ตามหมอประสิทธิ์เข้าไปประชุมประจำเดือนที่ สสจ...
...เดือนนี้จะตรงกับวันพฤหัสที่ 31 ก.ค.  ไม่ทราบว่าพี่อ้อยและนี้จะว่างมั้ยคะ...
...เรานัดทานข้าวกันดีมั้ยคะ...แถวๆบางแสนก็ได้...พี่อ้อยจะสะดวกมั้ยคะ...ชวนน้อยมาด้วยเนอะ...ไม่ได้เจอกันตั้งนานแล้วนี่...
...ถ้าหมอประสิทธิ์ประชุมแค่ช่วงเช้า...ตู่จะว่างจนถึงเที่ยงเลยไปจนบ่ายโมงค่ะ...
...ถ้าหมอประชุมตอนบ่ายต่อ...ก็จะว่างตลอดบ่าย...บางทีประชุมจนถึงสามโมงสี่โมงเย็นค่ะ...
...แล้วติดต่อกันนะคะ...
...สวนสันติธรรมของหลวงพ่อปราโมทย์ไปไม่ยากค่ะ...พี่อ้อยและนี้ต้องไปถึงสวนเสือให้ได้ก่อน...
...ถ้ามาตามถนนสุขุมวิทนะคะ...พอถึงศรีราชาก็เลี้ยวซ้ายเข้าตรงทางแยกโรงเรียนอัสสัมชัญ...
...พอถึงหน้าโรงเรียนอัสสัมชัญก็ชิดซ้ายเลียบถนนมาเรื่อยๆค่ะ...
...ตรงมาเรื่อยๆ...ข้ามสะพาน...จนถึงสวนเสือ...
...เลยป้ายสวนเสือมาหน่อย...ให้เลี้ยวซ้ายค่ะ...
...คอยสังเกตุป้ายของสวนสันติธรรมค่ะ...แต่มีขนาดเล็กหน่อยนะคะ...จะบอกไว้เป็นระยะ...
...หรือสังเกตุป้ายของหิ่งห้อยรีสอร์ท  หรือ  วัดโค้งดารา  ค่ะ...
...พอถึงชุมชนบ้านโค้งดารา...ผ่านโรงเรียนบ้านโค้งดารา...ก็ตรงมาเลยค่ะ...จนถึงสวนสันติธรรมค่ะ...(ตรงนี้ไม่ต้องเลี้ยวขวาไปหิ่งห้อยรีสอร์ท หรือ วัดโค้งดารา แล้วนะคะ)...
...วันหลังถ้าพี่อ้อยและนี้จะไปสวนสันติธรรม  เราค่อยนัดไปเจอกันนะคะ  จะนัดตรงหน้าโรงเรียนอัสสัมชัญ  หรือ สวนเสือ ก่อนก็ได้ค่ะ...
...วัดหลวงพ่อจะไม่เปิดทุกวันค่ะ...จะมีปฏิทินออกมาเป็นเดือนๆ...ล่วงหน้า 1 เดือน...
...ปกติหลวงพ่อจะอยู่ทุกเสาร์-อาทิตย์ค่ะ  ยกเว้นอาทิตย์ที่ 3 จะติดภารกิจต้องมาแสดงธรรมที่กรุงเทพฯ...
...พวกสิงห์ดำรุ่น 24 เคยคุยกันไว้ว่าจะนิมนต์หลวงพ่อมาที่ศาลากลางจังหวัด...เพื่อให้ช่วยสอนนั่งสมาธิค่ะ...แต่ยังไม่มีอะไรคืบหน้า...
...ส่วนวันที่ 20 นั้น...ยังไม่ทราบเหมือนกันค่ะ...อาจเป็นโปรแกรมของ สสจ.เพราะว่าภรรยาของนายอำเภอบางละมุง รุ่นเดียวกับหลวงพ่อ ก็ประจำอยู่ สสจ.ค่ะ...
...ตู่มีหนังสือและซีดีธรรมะของหลวงพ่อเยอะแยะค่ะ...แล้วยังไงจะเอาไปฝากนะคะ...
...วัดหลวงพ่อเป็นวัดที่ไม่เรี่ยไรค่ะ...ไม่มีพุทธพาณิชย์...ให้ธรรมะอย่างเดียวเลย...
...แต่ละคนที่เข้าไปทำบุญ...จะมีสิทธิ์ได้หนังสือคนละ 1 ชุดค่ะ...ถ้าอยากได้มากกว่านั้น  ต้องซื้ออย่างเดียวค่ะ...
:-D  :-D
บันทึกการเข้า

i love pink, you are pink = i love you
too_ploenpit
Cmadong ชั้นเซียน
*****


ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: rcu2514
คณะ: รัฐศาสตร์
กระทู้: 7,778

เว็บไซต์
« ตอบ #15 เมื่อ: 25 กรกฎาคม 2551, 10:04:43 »

...สวัสดีค่ะ...พี่อ้อย, สวัสดีจ้ะ...นี้...
...จะเข้ามาตอบตั้งแต่เมื่อคืนนี้แล้ว   แต่เข้าบอร์ดไม่ได้ค่ะ...โมโหเลยขึ้นไปนอนเลย...
...ปกติตู่จะเข้าไปจังหวัดตอนสิ้นเดือนค่ะ...ตามหมอประสิทธิ์เข้าไปประชุมประจำเดือนที่ สสจ...
...เดือนนี้จะตรงกับวันพฤหัสที่ 31 ก.ค.  ไม่ทราบว่าพี่อ้อยและนี้จะว่างมั้ยคะ...
...เรานัดทานข้าวกันดีมั้ยคะ...แถวๆบางแสนก็ได้...พี่อ้อยจะสะดวกมั้ยคะ...ชวนน้อยมาด้วยเนอะ...ไม่ได้เจอกันตั้งนานแล้วนี่...
...ถ้าหมอประสิทธิ์ประชุมแค่ช่วงเช้า...ตู่จะว่างจนถึงเที่ยงเลยไปจนบ่ายโมงค่ะ...
...ถ้าหมอประชุมตอนบ่ายต่อ...ก็จะว่างตลอดบ่าย...บางทีประชุมจนถึงสามโมงสี่โมงเย็นค่ะ...
...แล้วติดต่อกันนะคะ...
...สวนสันติธรรมของหลวงพ่อปราโมทย์ไปไม่ยากค่ะ...พี่อ้อยและนี้ต้องไปถึงสวนเสือให้ได้ก่อน...
...ถ้ามาตามถนนสุขุมวิทนะคะ...พอถึงศรีราชาก็เลี้ยวซ้ายเข้าตรงทางแยกโรงเรียนอัสสัมชัญ...
...พอถึงหน้าโรงเรียนอัสสัมชัญก็ชิดซ้ายเลียบถนนมาเรื่อยๆค่ะ...
...ตรงมาเรื่อยๆ...ข้ามสะพาน...จนถึงสวนเสือ...
...เลยป้ายสวนเสือมาหน่อย...ให้เลี้ยวซ้ายค่ะ...
...คอยสังเกตุป้ายของสวนสันติธรรมค่ะ...แต่มีขนาดเล็กหน่อยนะคะ...จะบอกไว้เป็นระยะ...
...หรือสังเกตุป้ายของหิ่งห้อยรีสอร์ท  หรือ  วัดโค้งดารา  ค่ะ...
...พอถึงชุมชนบ้านโค้งดารา...ผ่านโรงเรียนบ้านโค้งดารา...ก็ตรงมาเลยค่ะ...จนถึงสวนสันติธรรมค่ะ...(ตรงนี้ไม่ต้องเลี้ยวขวาไปหิ่งห้อยรีสอร์ท หรือ วัดโค้งดารา แล้วนะคะ)...
...วันหลังถ้าพี่อ้อยและนี้จะไปสวนสันติธรรม  เราค่อยนัดไปเจอกันนะคะ  จะนัดตรงหน้าโรงเรียนอัสสัมชัญ  หรือ สวนเสือ ก่อนก็ได้ค่ะ...
...วัดหลวงพ่อจะไม่เปิดทุกวันค่ะ...จะมีปฏิทินออกมาเป็นเดือนๆ...ล่วงหน้า 1 เดือน...
...ปกติหลวงพ่อจะอยู่ทุกเสาร์-อาทิตย์ค่ะ  ยกเว้นอาทิตย์ที่ 3 จะติดภารกิจต้องมาแสดงธรรมที่กรุงเทพฯ...
...พวกสิงห์ดำรุ่น 24 เคยคุยกันไว้ว่าจะนิมนต์หลวงพ่อมาที่ศาลากลางจังหวัด...เพื่อให้ช่วยสอนนั่งสมาธิค่ะ...แต่ยังไม่มีอะไรคืบหน้า...
...ส่วนวันที่ 20 นั้น...ยังไม่ทราบเหมือนกันค่ะ...อาจเป็นโปรแกรมของ สสจ.เพราะว่าภรรยาของนายอำเภอบางละมุง รุ่นเดียวกับหลวงพ่อ ก็ประจำอยู่ สสจ.ค่ะ...
...ตู่มีหนังสือและซีดีธรรมะของหลวงพ่อเยอะแยะค่ะ...แล้วยังไงจะเอาไปฝากนะคะ...
...วัดหลวงพ่อเป็นวัดที่ไม่เรี่ยไรค่ะ...ไม่มีพุทธพาณิชย์...ให้ธรรมะอย่างเดียวเลย...
...แต่ละคนที่เข้าไปทำบุญ...จะมีสิทธิ์ได้หนังสือคนละ 1 ชุดค่ะ...ถ้าอยากได้มากกว่านั้น  ต้องซื้ออย่างเดียวค่ะ...
:-D  :-D
บันทึกการเข้า

i love pink, you are pink = i love you
krongon2513
Hero Cmadong Member
***


ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 1,490

« ตอบ #16 เมื่อ: 25 กรกฎาคม 2551, 16:10:13 »

:sad: รีบตอบเพราะเวปเข้ายากมาก  พี่ต้องใช้ขันติข่มความ"ต๊อแต๊"อย่างสุดความสามารถ

ตอบน้องนี้

อุอุ..บอกกรงนี้มิได้ค่ะ..มิใช่ว่าจะปิดบังอะไร  แต่ตัวพี่ยังมีกิเลส  เกรงจะเสื่อมเสียไปถึงครูบาอาจารย์ท่าน
เอาไว้ถามกันตัวเป็นๆนะคะ  จะตอบทุกคำถามเลย


ตอบน้องแววตู่

ว่างค่ะ
ได้ค่ะ
ยินดีค่ะ
โทรหาพี่เลย  แล้วพี่จะขับรถไปรับน้องตู่เอง
นัดน้องๆที่ว่างด้วยนะคะ



พี่ไม่ต้องการอะไรมาก...เต้นท่าสิงห์เผ่นให้พี่ดูอีกสักรอบ..ก็พอแล้ว
บันทึกการเข้า
มีนา
Hero Cmadong Member
***


ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: rcu2515
คณะ: รัฐศาสตร์
กระทู้: 1,865

« ตอบ #17 เมื่อ: 28 กรกฎาคม 2551, 19:47:12 »

รับทราบค่ะพี่อ้อย...พบตัวเป็นๆจะได้ถามเรื่องมีผู้ลุกล้ำที่ชายเลน
แถวบ้านพี่(อ่านพบในสกุลไทย) และขอตำราทำหมี่กรอบด้วยค่ะ
ไปเรียนสารพัดช่าง  มาลองทำไม่อร่อยเหมือนร้านยายละม้าย
ปากซอยบ้านพี่เลยค่ะ :-(

พี่อ้อย..พี่ตู่..31 ก.ค. นี้ไม่สะดวกค่ะ  ต้องทำธุระเรื่องบ้านเช่า
ให้พี่ชายค่ะ  แล้วยังไม่ได้นัดน้อยกับอรเลยค่ะ  ไว้นัดอีกทีนะคะ

พี่ตู่คะ  หมอคุยให้ฟังถึงอาหารอร่อยๆแถวเมืองชลบ้างมั้ยคะ ขอบอก
ว่าของอร่อยอยู่แถวตลาดล่างเยอะแยะ  เช่น หมี่กรอบ กระเพาะปลา
ข้าวหมูแดง  ข้าวมันไก่  ก๋วยเตี๋ยวเจ๊กตัง ขนมจีน อื่นๆอีกมากมาย
พูดแล้วน้ำลายไหล  :lol:  อยู่บ้านเดิมได้กินของอร่อย  ระหว่าง
รอหมอประชุมพี่ก็แวะไปชิมซะเลย  มาคุยเรื่องกินในกระทู้ธรรมะ
ท่านปุจฉาซะแล้ว  แต่เกี่ยวธรรมะหมือนกันเนอะ   คือยังมีกิเลส
ติดรูป รส กลิ่น เสียง  ขอเอวังเพียงแค่นี้ก่อนค่ะ
บันทึกการเข้า
too_ploenpit
Cmadong ชั้นเซียน
*****


ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: rcu2514
คณะ: รัฐศาสตร์
กระทู้: 7,778

เว็บไซต์
« ตอบ #18 เมื่อ: 29 กรกฎาคม 2551, 10:56:28 »

...สวัสดีค่ะ...พี่อ้อย...นี้...
...สรุปแล้วเรายังเจอกันไม่ได้นะคะ...เวลาไม่ลงตัว...
...เมื่อวานนี้  ตู่ก็เข้าไปเมืองชลค่ะ ...แบบว่ากระทันหัน...หมอประสิทธิ์ประชุม สิบโมงถึงเที่ยงกว่าๆค่ะ...เลยไม่ได้นัดเจอกันนะคะ...
...ตู่ไปเดินหน้าศาลากลางค่ะ...มีสินค้าโอท๊อปของเมืองชล...และของใช้ราคาถูกจากห้างฟีนิกซ์ค่ะ...ราคาถูกกว่าห้างเยอะค่ะ...ถ้าพี่และนี้มีเวลา...ลองไปเดินเล่นๆนะคะ...
:)  :smile:
บันทึกการเข้า

i love pink, you are pink = i love you
too_ploenpit
Cmadong ชั้นเซียน
*****


ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: rcu2514
คณะ: รัฐศาสตร์
กระทู้: 7,778

เว็บไซต์
« ตอบ #19 เมื่อ: 29 กรกฎาคม 2551, 11:07:28 »

...เรื่องอาหารอร่อยของเมืองชล...
...สมัยหนุ่มๆสาวๆ...พี่แกก็พาเราไปได้ทั่วหล่ะ...จากร้านบุปผชาติ...เดินเลาะจากตลาดขึ้นมาเรื่องๆจนถึงหน้าเก๋ง...
...แล้วก็เดินกลับมาวนไปไหนต่อไหนก็ไม่รู้...หมอประสิทธิ์คุยนักคุยหนาว่าข้าวต้มปลาเมืองชลอร่อยที่ซู้ดดดดด...(พี่ตู่เป็นคนไม่ชอบทานข้าวต้มปลา)...
...จะทะเลาะกันอยู่เรื่อยเลยเรื่องข้าวหลามหนองมนอร่อยที่สุดในประเทศไทย...พี่ตู่เถียงคอเป็นเอ็นว่าข้าวหลามนครปฐมอร่อยที่ซู้ดดดดดดดด...เพราะว่ามีใส้สังขยาด้วยหล่ะ...แต่หมอประสิทธิ์บอกว่าของเค้าหวานมันที่สุด....(ใช่แล้ว...ไม่เถียง...เราเลยแอบกินแต่ข้างหน้ากระบอก)...
...ระยะหลังๆพี่ไม่ค่อยได้แวะไปทานของอร่อยค่ะ...ครั้งสุดท้าย...เมื่อปีที่แล้วมั้ง...ไปทัวร์ซีมะโด่งครั้งไหนจำไม่ได้...นัดเจอกับแววตาก่อน...ตาพาไปทานก๋วยเตี๋ยวเจ็กตัง...ยังอร่อยอยู่ค่ะ...แต่คนแน่นมาก...ขนาดบ่ายสองแล้ว...แต่ถึงอร่อยยังไง...พี่ตู่ก็ทานแค่ชามเดียวค่ะ...แววตาแปลกใจบอกว่ามาทุกครั้งต้องทานสอง...แห้งชาม...น้ำชามค่ะ...
Cheesy  Cheesy
บันทึกการเข้า

i love pink, you are pink = i love you
มีนา
Hero Cmadong Member
***


ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: rcu2515
คณะ: รัฐศาสตร์
กระทู้: 1,865

« ตอบ #20 เมื่อ: 30 กรกฎาคม 2551, 21:24:58 »

พี่ตู่...เมื่อคืนวานเข้ามาตอบ พิมพ์ไปตั้งเยอะ หายหมด คงทดลองดูตัวอย่าง
แล้วลืมกดส่ง  ง่วงนอน  :? เลยเลิกค่ะ

นี้ชอบกินข้าวหลามส่วนหน้ากระบอกเหมือนกัน... ข้าวต้มปลาอร่อยจริง
ตามที่หมอบอกค่ะ :-D  (ไม่ได้เข้าข้างหมอ) :smile:

พี่อ้อย...พี่ตู่คะ นี้โทรบอกน้อยแล้ว น้อยยุ่งมาก ลูกน้องลาออก ต้องเข้าไป
ดูแลงานเอง  นัดเวลาแน่นอนไม่ได้   ส่วนอร(ขออนุญาตตอบแทนนะ)
อรเขาจะกลับชลวันหยุดซึ่งไม่แน่ว่าเป็นช่วงไหน  คงเหลือพี่ๆกับนี้แหละค่ะ
 ที่พี่ตู่ว่าเป็นสิ้นเดือนหน้านั้น   20 ส.ค.พี่อ้อยไปปฏิบัติธรรมนะคะ ไม่รู้ว่าถึง
วันที่เท่าไหร่  พี่ตู่นัดใหม่เมื่อไหร่บอกได้เลยนะคะ  :grin:
บันทึกการเข้า
เอมอร 2515
Cmadong พันธุ์แท้
****


ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: rcu 2515
คณะ: รัฐศาสตร์(นิติศาสตร์)
กระทู้: 4,562

« ตอบ #21 เมื่อ: 03 สิงหาคม 2551, 20:02:57 »

สวัสดีค่ะ พี่อ้อย พี่ตู่ นี้ เริ่มเข้ามาอ่านตามคำบอกของนี้  ดีใจที่พี่อ้อย พี่ตู่ และนี้ จะนัดทานข้าวกัน อร กลับบ้านเฉพาะวันหยุดตามที่นี้บอกค่ะ แต่สบโอกาสวันไหนที่หยุดยาวหรือช่วงปิดเทอม พอนัดได้ค่ะ  ดีใจเสียอีกนะคะ
บันทึกการเข้า
มีนา
Hero Cmadong Member
***


ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: rcu2515
คณะ: รัฐศาสตร์
กระทู้: 1,865

« ตอบ #22 เมื่อ: 27 สิงหาคม 2551, 13:39:31 »

ได้ไปสวนสันติธรรม ศรีราชา กับพี่ตู่ ฟังธรรมจากพระอาจารย์ปราโมทย์
จริงอย่างท่านปุจฉาบอกว่าท่านจะชี้ให้เห็นจิตในขณะนั้น หาครูบาอาจารย์
ที่สอนได้เช่นนี้ยากยิ่ง  ได้รับหนังสือและซีดีมาศึกษาหาความรู้เพิ่มด้วย
บันทึกการเข้า
ปุจฉา
มือใหม่หัดเมาท์
*


ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 69

« ตอบ #23 เมื่อ: 10 กันยายน 2551, 12:39:46 »

มีข่าวบุญมาฝากพี่ ๆ น้อง

ขอเชิญผู้สนใจไปฟังธรรมกับหลวงพ่อปราโมทย์


หลวงพ่อปราโมทย์ ปาโมชฺโช มาเทศน์ที่บ้านอารีย์
Sun Sep 14 8am – 9am
(Timezone: Bangkok)
บ้านอารีย์ (map)
Calendar
เริ่มต้น 8 โมงเช้า  ที่ศาลาปัณมี กรุณาแจ้งสำรองที่นั่งที่บ้านอารีย์ 02-279-7838 ถ้าเป็นไปได้ ไม่ควรนำรถส่วนตัวไป เพราะที่จอดรถมีจำกัด   ^_^

เพิ่มเติมข้อมูลเกี่ยวกับที่จอดรถและเวลา เข้าไปดูได้ตามลิงก์นี้เลย ถ้าลิงค์ไม่ได้ให้ไปดูรายละเอียดในลานธรรมได้
http://larndham.net/index.php?s=80480541bcde89f50f7dc22bd67329fc&showtopic=32966

หลวงพ่อคงจะเทศน์ถึงประมาณเกือบ 10โมง  อนุโมทนากับคนที่ได้ไปด้วย ^_^




(เห็นว่าน่าสนใจเลยนำมาให้อ่านกัน)

 มีหลักและผลของการทำบุญมาฝากทุกท่านด้วย
      ขออานิสงส์ บังเกิดแก่ผู้อ่าน

มาสร้างบุญบารมีกันเถอะ

1. นั่งสมาธิ   อย่างน้อยวันละ 15 นาที(หรือเดินจงกรมก็ได้)
     อานิสงส์ --- เพื่อสติปัญญาที่เฉลียวฉลาดขึ้นทั้งภพนี้และภพหน้า
              เพื่อจิตใจที่สว่างผ่อนปรนจากกิเลส ปล่อยวางได้ง่าย
              จิตจะรู้วิธีแก้ปัญหาชีวิตโดยอัตโนมัติ
              ชีวิตจะเจริญรุ่งเรืองไม่มีวันอับจน
              ผิวพรรณผ่องใส สุขภาพกายและจิตแข็งแรง
              เจ้ากรรมนายเวรและญาติมิตรที่ล่วงลับจะได้บุญกุศล
 
2. สวดมนต์ด้วยพระคาถาต่างๆอย่างน้อยวันละครั้งก่อนนอน
      อานิสงส์ --- เพื่อให้สิ่งศักดิ์สิทธิ์คุ้มครอง
               ชีวิตหน้าที่การงานเจริญก้าวหน้า
               เงินทองไหลมาเทมา แคล้วคลาดจากอุปสรรคทั้งปวง จิตจะเป็นสมาธิได้เร็ว
               แนะนำพระคาถาพาหุงมหากา , พระคาถาชินบัญชร ,
               พระคาถายอดพระกัณฑ์ไตรปิฎก เป็นต้น
               เมื่อสวดเสร็จต้องแผ่เมตตาทุกครั้ง
 
3. ถวายยารักษาโรคให้วัด , ออกเงินค่ารักษาให้พระตามโรงพยาบาลสงฆ์
     อานิสงส์ --- ก่อให้เกิดสุขภาพร่มเย็นทั้งครอบครัว โรคที่ไม่หายจะทุเลา
              สุขภาพกายจิตแข็งแรง อายุยืนทั้งภพนี้และภพหน้า
              ถ้าป่วยก็จะไม่ขาดแคลนการรักษา
 
4. ทำบุญตักบาตรทุกเช้า
     อานิสงส์--- ได้ช่วยเหลือศาสนาต่อไปทั้งภพนี้และภพหน้า ไม่ขาดแคลนอาหาร
             ตายไปไม่หิวโหย อยู่ในภพที่ไม่ขาดแคลน ข้าวปลาอาหารอุดมสมบูรณ์
 
5.. ทำหนังสือหรือสื่อต่างๆเกี่ยวกับธรรมะแจกฟรีแก่ผู้คนเป็นธรรมทาน
      อานิสงส์ --- เพราะธรรมทานชนะการให้ทานทั้งปวง ผู้ให้ธรรมจึงสว่างไปด้วยลาภยศ
               สรรเสริญ ปัญญา และบุญบารมีอย่างท่วมท้น เจ้ากรรมนายเวรอโหสิกรรมให้
               ชีวิตจะเจริญรุ่งเรืองอย่างไม่คาดฝัน
 
6. สร้างพระถวายวัด
     อานิสงส์ --- ผ่อนปรนหนี้กรรมให้บางเบา ให้ชีวิตเจริญรุ่งเรือง
              สิ่งศักดิ์สิทธิ์คุ้มครอง แคล้วคลาดจากอุปสรรคทั้งปวง ครอบครัวเป็นสุข
              ได้เกิดมาอยู่ในร่มโพธิ์ของพุทธศาสนาตลอดไป
 
7. แบ่งเวลาชีวิตไปบวชชีพรามณ์หรือบวชพระอย่างน้อย 9 วันขึ้นไป
     อานิสงส์ --- ได้ตอบแทนคุณพ่อแม่อย่างเต็มที่
              ผ่อนปรนหนี้กรรมอุทิศผลบุญให้ญาติมิตรและเจ้ากรรมนายเวร
              สร้างปัจจัยไปสู่นิพพานในภพต่อๆไป ได้เกิดมาอยู่ในร่มโพธิ์ของพุทธศาสนา
              จิตเป็นกุศล
 
8. บริจาคเลือดหรือร่างกาย
      อานิสงส์ --- ผิวพรรณผ่องใส สุขภาพแข็งแรง ช่วยต่ออายุ
               ต่อไปจะมีผู้คอยช่วยเหลือไม่ให้ตกทุกข์ได้ยาก เทพยดาปกปักรักษา
               ได้เกิดมามีร่างกายที่งดงามในภพหน้า ส่วนภพนี้ก็จะมีราศีผุดผ่อง
 
9. ปล่อยปลาที่ซื้อมาจากตลาดรวมทั้งปล่อยสัตว์ไถ่ชีวิตสัตว์ต่างๆ
   อานิสงส์ --- ช่วยต่ออายุ ขจัดอุปสรรคในชีวิต
            ชดใช้หนี้กรรมให้เจ้ากรรมนายเวรที่เคยกินเข้าไป ให้ทำมาค้าขึ้น
            หน้าที่การงานคล่องตัวไม่ติดขัด ชีวิตที่ผิดหวังจะค่อยๆฟื้นคืนสภาพที่สดใส
            เป็นอิสระ
 
10. ให้ทุนการศึกษา , บริจาคหนังสือหรือสื่อการเรียนต่างๆ , อาสาสอนหนังสือ
   อานิสงส์ --- ทำให้มีสติปัญญาดี ในภพต่อๆไปจะฉลาดเฉลียวมีปัญญา
            ได้มีโอกาสศึกษาเล่าเรียนอย่างรอบรู้ สติปัญญาสมบูรณ์พร้อม
 
11. ให้เงินขอทาน , ให้เงินคนที่เดือดร้อน(ไม่ใช่การให้ยืม)
   อานิสงส์ --- ทำให้เกิดลาภไม่ขาดสายทั้งภพนี้และภพหน้า ไม่ตกทุกข์ได้ยาก
            เกิดมาชาติหน้าจะร่ำรวยและไม่มีหนี้สิน ความยากจนในชาตินี้จะทุเลาลง
            จะได้เงินทองกลับมาอย่างไม่คาดฝัน
 
12. รักษาศีล 5 หรือศีล 8
   อานิสงส์ --- ไม่ต้องไปเกิดเป็นเปรตหรือสัตว์นรก
           ได้เกิดมาเป็นมนุษย์ผู้ประเสริฐครบบริบูรณ์ ชีวิตเจริญรุ่งเรือง
           กรรมเวรจะไม่ถ่าโถม ภัยอันตรายไม่ย่างกราย เทวดานางฟ้าปกปักรักษา

อานิสงส์ 10 ข้อของการไม่กินเนื้อสัตว์

1. เป็นที่รักของบรรดาเทพ พรหม ตลอดจนมนุษย์และสัตว์ทั้งหลาย
2. จิตอันเป็นมหาเมตตาย่อมบังเกิดขึ้น
3. สามารถตัดขาดความอาฆาต ดับอารมณ์เหี้ยมโหดเคียดแค้นในใจลงได้
4. ปราศจากโรคภัยร้ายแรงมาเบียดเบียนร่างกาย
5. มีอายุมั่นขวัญยืน
6. ได้รับการปกป้องคุ้มครองจากเทพทั้งปวง
7. ยามหลับนิมิตเห็นแต่สิ่งที่ดีงามเป็นสิริมงคล
8. ย่อมระงับการจองเวร สลายความอาฆาตแค้นซึ่งกันและกัน
9. สามารถดำรงอยู่ในกระแสพระนิพพาน ไม่พลัดหลงตกลงสู่อบายภูมิ
10. ทันทีที่ละสังขารจากโลกนี้ จิตจะมุ่งสู่สุคติภพ

อานิสงส์การจัดสร้างพระพุทธรูปหรือสิ่งพิมพ์อันเกี่ยวกับพระธรรมคำสอนเป็นกุศลดังนี้
1. อกุศลกรรมในอดีตชาติแต่ปางก่อน จะเปลี่ยนจากหนักเป็นเบา จากเบาเป็นสูญ
2. สิ่งศักดิ์สิทธิ์คุ้มครอง สรรพภยันตรายสลาย ปวงภัยไม่มี คนคิดร้ายไม่สำเร็จ
3. เจ้ากรรมนายเวรในอดีตชาติแต่ปางก่อน เมื่อได้รับส่วนบุญไปแล้วก็จะเลิกจองเวรจองกรรม
4. เหล่ายักษ์ผีรากษส งูพิษเสือร้าย ไม่อาจเป็นภัยอยู่ในที่ใดก็แคล้วคลาดจากภัย
5. จิตใจสงบ ราศีผ่องใส สุขภาพแข็งแรง กิจการงานเป็นมงคล รุ่งเรืองก้าวหน้าผู้คนนับถือ
6. มั่นคงในคุณธรรม ความอุดมสมบูรณ์ปรากฏ (เกินความคาดฝัน) ครอบครัวสุขสันต์ วาสนายั่งยืน
7. คำกล่าวเป็นสัจจ์ ฟ้าดินปราณี ทวยเทพยินดี มิตรสหายปรีดา หนี้สินจะหมดไป
8. คนโง่สิ้นเขลา คนเจ็บหายได้ คนป่วยหายดี ความทุกข์หายเข็ญ สตรีจะได้เกิดเป็นชายเพื่อบวช
9. พ้นจากมวลอกุศล เกิดใหม่บุญเกื้อหนุน มีปัญญาล้ำเลิศ บุญกุศลเรืองรอง
10. สิ่งที่สร้างจะบังเกิดเป็นกุศลจิตแก่ทุกคนที่ได้พบเห็นเป็นเนื้อนาบุญอย่างเอนกทุกชาติของผู้สร้างที่เกิดจะได้ฟังธรรมจากพระอริยเจ้าปัญญาในธรรมแก่กล้าสามารถได้อภิญญาหก สำเร็จโพธิญาณ
 
อานิสงส์การบวชพระบวชชีพรามณ์    ( บวชชั่วคราวเพื่อสร้างบุญ , อุทิศให้พ่อแม่เจ้ากรรมนายเวร )

1. หน้าที่การงานจะเจริญรุ่งเรือง ได้ลาภ ยศ สรรเสริญตามปรารถนา
2. เจ้ากรรมนายเวรจะอโหสิกรรม หนี้กรรมในอดีตจะคลี่คลาย
3. สุขภาพแข็งแรง สติปัญญาแจ่มใส ปัญหาชีวิตคลี่คลาย
4. เป็นปัจจัยสู่พระนิพพานในภพต่อๆไป
5. สิ่งศักดิ์สิทธิ์คุ้มครอง โพยภัยอันตรายผ่อนหนักเป็นเบา
6. จิตใจสงบ ปล่อยวางได้ง่าย มองเห็นสัจธรรมแห่งชีวิต
7. เป็นที่รักที่เมตตามหานิยมของมวลมนุษย์มวลสัตว์และเหล่าเทวดา
8. ทำมาค้าขึ้น ไม่อับจน การเงินไม่ขาดสายไม่ขาดมือ
9. โรคภัยของตนเอง ของพ่อแม่ และของคนใกล้ชิดจะเบาบางและรักษาหาย
10. ตอบแทนพระคุณของพ่อแม่ได้เต็มที่สำหรับผู้ที่บวชไม่ได้เพราะติดภาระกิจต่างๆ  ก็สามารถได้รับอานิสงส์เหล่านี้ได้ด้วยการสร้าง

คนให้ได้บวชสนับสนุนส่งเสริมอาสา การให้คนได้บวช


         ทั้งหมดนี้เป็นเพียงตัวอย่างบุญที่ยกขึ้นมาเพื่อแสดงให้เห็นถึงอานิสงส์ที่ท่านพึงจะได้รับจงเร่งทำบุญเสียแต่วันนี้ เพราะเมื่อท่านล่วงลับท่านไม่สามารถสร้างบุญได้อีกจนกว่าจะได้เกิด หากท่านไม่มีบุญมาหนุนนำแรงกรรมอาจดึงให้ท่านไปสู่ภพเดรัจฉาน ภพเปรต ภพสัตว์นรกที่ไม่อาจสร้างบุญสร้างกุศลได้ต่อให้ญาติโยมทำบุญอุทิศให้ก็อาจไม่ได้รับบุญดังนั้นท่านจงพึ่งตนเองด้วยการสร้างสมบุญบารมีซึ่งเป็นทรัพย์สินที่ท่านจะนำติดตัวไปได้ทุกภพทุกชาติเสียแต่วันนี้ด้วยเทอญ
บันทึกการเข้า

คนที่เข้มแข็งที่สุดก็ยังมีนาทีที่น้ำตาไหลริน
  หน้า: [1]   ขึ้นบน
  
กระโดดไป:  

     

สมาคมนิสิตเก่าหอพักนิสิต จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย มวลสมาชิกสมาคม คณาจารย์ และนิสิตเก่าทุกคน ขอน้อมเกล้าถวายความอาลัย  พระผู้เสด็จสู่สวรรคาลัย ด้วยเกล้าด้วยกระหม่อม ขอเดชะ <;))))><