20 เมษายน 2567, 09:13:24
ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน


เข้าสู่ระบบด้วยชื่อผู้ใช้ รหัสผ่าน [สมาชิกเก่าลืมรหัส โทร 081-7611760]
A A A A  ระเบียบปฎิบัติ
   
Languages    
  หน้า: 1 ... 626 627 [628] 629 630 ... 727   ลงล่าง
ผู้เขียน หัวข้อ: Greeting From Germany part VI-ต่อกับ Part II ....What a Day!  (อ่าน 2219016 ครั้ง)
0 สมาชิก และ 5 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
khesorn mueller
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: 2527
คณะ: รัฐศาสตร์
กระทู้: 71,885

« ตอบ #15675 เมื่อ: 01 กุมภาพันธ์ 2559, 21:28:44 »

หรือไฟLEDในลูกเต๋า


      บันทึกการเข้า


khesorn mueller
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: 2527
คณะ: รัฐศาสตร์
กระทู้: 71,885

« ตอบ #15676 เมื่อ: 01 กุมภาพันธ์ 2559, 21:31:14 »

หรือตัดอะไรเป็นรูปสัตว์มาฉายไฟ
ในกวามมืด...ล้วนไอเดียทั้งนั้น



      บันทึกการเข้า


khesorn mueller
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: 2527
คณะ: รัฐศาสตร์
กระทู้: 71,885

« ตอบ #15677 เมื่อ: 01 กุมภาพันธ์ 2559, 21:33:23 »

ได้ไอเดียเดี๋ยวจาฉายLED
ไปที่ต้นไม้ที่มีแต่โครงล้วนๆของwinter



      บันทึกการเข้า


khesorn mueller
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: 2527
คณะ: รัฐศาสตร์
กระทู้: 71,885

« ตอบ #15678 เมื่อ: 01 กุมภาพันธ์ 2559, 21:35:44 »

ที่เก๋คือเปิดน้ำพุ
แล้วฉายจากProjektor
รูปนั้นนี้ไปที่Fountain



      บันทึกการเข้า


khesorn mueller
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: 2527
คณะ: รัฐศาสตร์
กระทู้: 71,885

« ตอบ #15679 เมื่อ: 01 กุมภาพันธ์ 2559, 21:37:47 »

อะไรก็ได้รูปทรงโครงร่าง..
ขอให้LEDลอดผานสะท้อนได้เหอะ
ไอเดียทั้งนั้น



      บันทึกการเข้า


khesorn mueller
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: 2527
คณะ: รัฐศาสตร์
กระทู้: 71,885

« ตอบ #15680 เมื่อ: 01 กุมภาพันธ์ 2559, 21:42:15 »

แม้แต่,
นำหลอดยาวLEDไปวางใต้ม้านั่ง!





ได้ไอเดียแจ่มขึ้นมารึยังคะ?
LED+มืดๆ+ผีๆ+winter+หนาวๆ+ข้างนอก

ดูพอแล้ว?
ก็ขับกลับบ้านใครบ้านมัน
      บันทึกการเข้า


khesorn mueller
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: 2527
คณะ: รัฐศาสตร์
กระทู้: 71,885

« ตอบ #15681 เมื่อ: 04 กุมภาพันธ์ 2559, 04:52:38 »



คืนนี้มีรายการAuslandjournalที่มีทุกสัปดาห์
มีเรื่องเกี่ยวกับเมืองไทยด้วยคะ!

"ลูกเทพ"

แฟชั่นใหม่ของบางคนที่เมืองไทยยุคสื่อsocial media
ที่เชื่อในลักษณ์ ในอาคม ลงบน"ตุ๊กตา"...สมัยก่อนเก่าโบราณ
ก็ว่าลูกกรอก ตุ๊กตาเด็กจุก สมัยใหม่ทันสมัยยุคsmartphone
เผยแพร่กันในหมู่คนชั้นกลาง-ชั้นล่าง ว่า"ลูกเทพ"นำโชคมาให้
ปกป้องภยันอันตรายจากภายนอก ต้องมีต้องหามาไว้ในครอบครอง
ตุ๊กตาทั่วไปไม่ขลัง ต้องตุ๊กตาลงยันต์จากอาจารย์ขลังขมังเวชย์
ให้ดีต้องรับกับมือ..กอดอุ้ม อาบน้ำแต่งตัว บูชาอาหารเครื่องดื่ม
รวมไปถึงไอติม นำขึ้นเครื่องมีที่นั่งพิเศษ มีตั๋วเครื่องบินของตัวเอง
...
...
...



นี่,คนไทยขาดที่พึ่งทางใจกันขนาดนี้เลยเหรอคะ??
เชื่อในสิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่ไม่มีสั่งมีสอนในพุทธศาสนา??
ทำตามๆกันดูๆกันแล้วไม่รู้สึกสงสัยอะไรเลย??
ผู้ใหญ่ยังเล่นตุ๊กตา??เล่นแบบเชื่อด้วยว่าศักดิ์สิทธิ์อภินิหาร??
โอ!
      บันทึกการเข้า


Dtoy16
Hero Cmadong Member
***


ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: rcu2516
คณะ: อักษรศาสตร์
กระทู้: 1,424

« ตอบ #15682 เมื่อ: 04 กุมภาพันธ์ 2559, 12:54:01 »

   โอ้โห ไฟเรืองแสงเข้าท่าเหมาะกับการเดินแก้หนาว ที่กระบี่กำลังจะมีมโนราห์เรืองแสง น่าจะผสานไอเดีย
แต่งสวนเพิ่มไฟ เพิ่มหลายอย่างในบริเวณ เขาใช้ชื่อว่าpaka park showแต่ยังไม่พร้อมเปิด ม่ายงั้นจะส่งรูปมาค่ะ
      บันทึกการเข้า

khesorn mueller
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: 2527
คณะ: รัฐศาสตร์
กระทู้: 71,885

« ตอบ #15683 เมื่อ: 04 กุมภาพันธ์ 2559, 15:56:43 »


พี่ต้อย,

สืบมาแล้วพบว่าเค้าจะจัดจะแต่งกะimitateนี่พี่
คือทำสถานที่ซะเหี้ยนเตียนไม่เหลือต้นไม้สักต้น
แล้วสร้างทำขึ้นมาใหม่ด้วยสิ่งแปลกปลอมรูปทรงนั่นนี่
ไม่ใช่แบบparkกะต้นไม้ต้นไร่ธรรมชาติ?
ฝรั่งมาเที่ยวนี่เค้าจะมาอยู่กะธรรมชาตินะคะ
ไม่ใช่กลับกัน...


<a href="http://www.youtube.com/watch?v=d4xZLGIrazM" target="_blank">http://www.youtube.com/watch?v=d4xZLGIrazM</a>
      บันทึกการเข้า


khesorn mueller
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: 2527
คณะ: รัฐศาสตร์
กระทู้: 71,885

« ตอบ #15684 เมื่อ: 04 กุมภาพันธ์ 2559, 16:03:21 »

เผยแพร่มโนราห์ต่างหาก!
ดีคะดี..สนับสนุนศิลปวัฒนธรรมพื้นบ้าน



<a href="http://www.youtube.com/watch?v=Ud4fEdRfZbY" target="_blank">http://www.youtube.com/watch?v=Ud4fEdRfZbY</a>
      บันทึกการเข้า


khesorn mueller
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: 2527
คณะ: รัฐศาสตร์
กระทู้: 71,885

« ตอบ #15685 เมื่อ: 04 กุมภาพันธ์ 2559, 18:55:46 »


โปรเจ็คนี้ 2018พู้นพี่ต้อย
ยังต้องลั่ลล๊ารออีกหลายปี
เดี๋ยว!แปะหลักฐานไว้ก่อน
ทำให้เหมือนในภาพนะ!
จำได้



งานแบบนี้เหมาะกะเพลง..cubaner

<a href="http://cmadong.com/mediaplayer.swf?file=http://www.skhospital.go.th/skmessage/files/zucchero_-_pana__with_bebe_.mp3" target="_blank">http://cmadong.com/mediaplayer.swf?file=http://www.skhospital.go.th/skmessage/files/zucchero_-_pana__with_bebe_.mp3</a>
      บันทึกการเข้า


Dtoy16
Hero Cmadong Member
***


ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: rcu2516
คณะ: อักษรศาสตร์
กระทู้: 1,424

« ตอบ #15686 เมื่อ: 05 กุมภาพันธ์ 2559, 12:50:33 »

          น้องหนิงทำพี่หูตาสว่างขึ้นมาเพราะดูที่น้องส่งมา เอ้อภาพในเวบกับของจริง
       คงต้องให้เวลาคนทำงาน กระบี่จะได้มีที่เที่ยวเพิ่ม
         ช่วงนี้อากาศดีไกมค่ะ ยังหนาวหิมะตกไหม
      บันทึกการเข้า

khesorn mueller
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: 2527
คณะ: รัฐศาสตร์
กระทู้: 71,885

« ตอบ #15687 เมื่อ: 05 กุมภาพันธ์ 2559, 15:28:47 »


พี่ต้อย,
ฝนตกติดๆๆกัน2วัน2คืนคะ
หนิงก็บึ่งออกไปสระว่ายน้ำเหมือนไม่มีอะไร
ไปวันพุธ แล้วไปวันพฤหัสเมื่อวาน...สบายยย
วันนี้ฟ้าครึ้มเมฆมัว แต่หยุดตกคะ หนาว 3-4°c

      บันทึกการเข้า


khesorn mueller
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: 2527
คณะ: รัฐศาสตร์
กระทู้: 71,885

« ตอบ #15688 เมื่อ: 05 กุมภาพันธ์ 2559, 16:43:34 »

พี่ต้อยดูคะ ข่าววันนี้ น่าร๊ากกกก
เด็กหญิงมาเลย์เซี่ยนวัย23เดือน (1ขวบกะ11เดือน)Kiara Belle Kit
ว่ายน้ำทำสถิติ Rekord Leistungsschwimmenว่ายน้ำ
เกือบ 200เมตร ในเวลา 25นาทีกะ 38 วิ

อ่านแล้วอาจเฉยๆ ความที่หนิงรู้ว่ากว่าจะว่ายแต่ละBahn 25 m.
เราตัวใหญ่ 165 cm แต่เด็กตัวเล็กๆนี่  โห,มันช่างยาวนานคะ
แต่ละเมตร...Leistungsschwimmerคือว่ายยาวทน 80-90 Bahn
สบายๆคะ nonstop อ่านข่าว ได้กวามว่าแม่เด็กหญิงนี่ก็เป็น
Leistungsschwimmerมาก่อน เริ่มหัดลูกพาไปว่ายตั้งแต่ 11เดือน!
เออ คราวหน้าเห็นทีจะเริ่มนับBahnแร้ะ ทุกทีหนิงจับเวลาอย่างเดียว
คือว่าย 60-70 นาทีไปกลับ ไปกลับแบบสวมตีนกบที่เร็วปรี้ดคะ
ไม่เคยนับว่าว่ายกี่เมตร แต่เห็นสาวบราซิลลงมาว่าย 70 Bahn
เค้าใช้เวลา45-50นาทีนี่ ช้ากว่าหนิงมากๆเพราะไม่ได้สวมตีนกบคะ

เด็กนี่ยังไม่2ขวบทำได้ขนาดนี้
(8Bahn 25นาที)ในอนาคตจะอึดคะ






      บันทึกการเข้า


khesorn mueller
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: 2527
คณะ: รัฐศาสตร์
กระทู้: 71,885

« ตอบ #15689 เมื่อ: 05 กุมภาพันธ์ 2559, 16:46:27 »

ยังไม่มีใครลบได้
ในวัยเดียวกัน
ระยะ เวลา
records!



      บันทึกการเข้า


khesorn mueller
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: 2527
คณะ: รัฐศาสตร์
กระทู้: 71,885

« ตอบ #15690 เมื่อ: 05 กุมภาพันธ์ 2559, 16:52:05 »

สงสัยจะว่ายกบ
Brustschwimmenคะ
จะเร็วหากแกเริ่มเรียนรู้ที่จะ
ยกก้นให้ขนานกะน้ำ ม่ายงั้นต้านแย่คะ
แต่เด็กขวบกว่าทำได้ขนาดนี้
สุดยอดคะ!
หนิงอุ้มลูกลงน้ำปล่อยว่ายมาหาแม่
ทำได้มากสุด4-5เมตรคะ!แบบต๋อมๆ



spiegel.de
      บันทึกการเข้า


khesorn mueller
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: 2527
คณะ: รัฐศาสตร์
กระทู้: 71,885

« ตอบ #15691 เมื่อ: 06 กุมภาพันธ์ 2559, 22:40:44 »



มีอะไรให้อ่านอีกแล้ว เกี่ยวกะเมืองไทย
Geo Special- Thailand

สั่งซื้อพิเศษคะเพราะปกติที่บ้านรับ "GEO"
เค้าจะออกGeo Specialเป็นระยะๆเรื่องเจาะ
ก่อนเข้าเรื่องจะมีKompassให้นึกภาพ:
จำนวนประชากร พื้นที่กี่ตารางกม. ความหนาแน่นของ
จำนวนประชากรต่อพื้นที่ต่อตารางกิโลเมตร รายได้ต่อหัว
จำนวนคนว่างงาน จำนวนนักท่องเที่ยวที่เข้ามาเที่ยว
แยกเป็นนักท่องเที่ยวเอเชีย-นักท่องเที่ยวยุโรป/เมกาเหนือ
อุณหภูมิถัวเฉลี่ยต่อปี พื้นที่ชายฝั่งทะเลกี่กิโลเมตร
จำนวนเกาะ-หมู่เกาะ จำนวนดอกกล้วยไม้ มีชื่อofficialกรุงเทพ
แถมยังมีอะไรที่แปลกๆเช่นงานแต่งงานสัตว์ แมวแต่งงาน!
เจ้าของจ่าย9,800 €สำหรับงานเลี้ยงเชิญแขก500 พยานบ่าวสาว
คือนกแก้วและตัวLeguan!!หรืองานเลี้ยงบุฟเฟต์ลิงลพบุรี
ตรงวัดพระปรางสามยอด
พูดถึงความสำคัญของพระเครื่อง(Amulet)ที่ซื้อหา
ราคาสูงในตลาดนักเล่น พูดถึงคำถามที่นักท่องเที่ยว
มักสงสัยเช่น แขกในร้านจะไม่ได้รับการถามว่าอาหารอร่อยมั้ย
คนไทยสื่อสารกันแบบ"without words"!กลัวการเสียหน้า
กลัวคอมเมนต์negativeจะทำให้กุ๊กเสียใจ หรือคำถามว่า
ที่เมืองไทยโอกาสเจอะสาวประเภทสองมีมากต่อมากกว่าที่อื่นๆ?
ความที่เมืองไทยToleranzในแทบทุกเรื่อง ไปเลือกDiskriminierung
ในเรื่องอื่นแทนเช่นยอมให้ประกอบอาชีพแต่งตัวเป็นหญิง
แต่สิทธิ์ตามกฏหมายที่จะสมรส พินัยกรรม เอกสารยังคงเดิม
หรือคำถามว่า ทำไมกระเป๋าLouis-Vuittonถึงเป็นที่นิยม
ที่เมืองไทยแม้ราคาแพงระยับ..เพราะตราLogoที่เป็นลายน่ะ
ไปละม้ายคล้าย"Pradschamjaam"ที่เชื่อว่าปกป้องจากอันตราย
สัมภาษณ์นักสร้างหนังไทยApichatpong Weerasethakul
ที่หนังไทยได้รางวัล Goldenen Palmeที่เมืองCannes-ฝรั่งเศส

นำเที่ยวกรุงเทพเจาะทุกที่สัมภาษณ์เจ้าของกิจการรุ่นใหม่
นำเที่ยวอยุธยาชมวัดชมปางช้าง sheเปิดอ่านจากหลังไปหน้า
ข้ามคอลัมภ์ที่สัมภาษณ์สาวประเภท2สี่นาง น่าสนใจคะ!
หรือพระที่วัดRama IX-Templeวัย32ที่เป็นพระพี่เลี้ยงพระบวชใหม่หมู่
อ่านผู้หญิงเยอรมันที่จองทริปตรงมาค่ายมวยไทยที่เขาหลัก
1สัปดาห์กิน-เทรนนิ่ง-นอนในค่ายมวยทำอะไรมั่งตารางประจำวัน
หนังสือนำเที่ยวถนน บนกรุงเทพแหล่งของกิน เรื่องนี้ก็สำคัญคะ
เค้าบอกคนไทยไม่ทำกับข้าวที่บ้าน ไม่จำเป็นเพราะข้างถนนมีให้
ซื้อกินมากมายว่าทำไมเรื่อง"กิน"จึงสำคัญ กินกันทั้งวันทั้งคืน
จานนิดจานน้อยกินเพื่อให้ไม่ต้องทุกข์ กินเพื่อลืมปัญหา กินเพื่อสงบ
มีสมาธิเงียบๆกับตัวเอง ยังอ่านคอลัมภ์นี้ไม่จบคะ!
      บันทึกการเข้า


khesorn mueller
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: 2527
คณะ: รัฐศาสตร์
กระทู้: 71,885

« ตอบ #15692 เมื่อ: 08 กุมภาพันธ์ 2559, 02:30:55 »



ปรากฏพ่อบ้านต้องพาเด็กหญิงไปศูนย์ขับรถ
จองซื้อชั่วโมงไว้1ชั่วโมง ขับจริง 45นาที?
พอsheได้ยิน รีบรี่จัดกระเป๋าว่ายน้ำ
ไปด้วย...ไปด้วย...ส่งsheลงสระในเมืองให้พวกเค้าไปขับ
ก็กลับมารับ..ลงน้ำ13.10น. ลู่แยก ชาย4หญิง2ว่ายกัน
ทรหดอดทนไม่มีเชื่องช้าป้าป้า...มีสาวยัยเพิ้งมาลงว่ายกบ
ว่ายได้5-6นาทีลอดลู่ออกไปเอง เพราะมาstopคนอื่นๆให้ช้า
ก็ออกไปข้างนอกสระรวม??

sheตั้งใจนับลู่ ว่าว่ายกี่Bahnแน่จะได้คำนวณเมตรได้?
ตั้งใจจริงเธอ Bahnที่1... Bahnที่2... Bahnที่3...
Bahnที่4...Bahnที่5... Bahnที่6... Bahnที่7 หลังจากนี้
เริ่มสังเกตสาวคนที่ว่ายด้วย เริ่มมองเด็กหนุ่ม เริ่มสังเกต
หนุ่มๆที่ลงมาใหม่ มองคนข้างสระ อากัปกิริยารูปร่างคน
เด็กอินเดียหรือปากีฯที่ลงมาว่ายข้างๆติดลู่ มองในตู้กระจก
ว่าBademeisterวันนี้ใคร กี่คน มองก้นสระเห็นกิ๊บใครหล่น
ดำน้ำลงไปเก็บดีแม๊ะ คิดแล้วต้องรีบว่ายทำเวลา รักษาระยะ
อิหนุ่มๆพวกนี้ว่ายกันเร็ว ไม่สวมตีนsheคงแฮ็กๆๆ?นี่สวมตีน
ป้าแกเลยเร็วปรี๊ดทิ้งห่างสาวหนุ่มกิ๊วกิ๊วกิ๊ว...หนุ่มคนที่1หน้าเหลือง
ป้อแป้ขึ้น ตามด้วยสาวน้อยสงสัยมาด้วยกันเพราะขึ้นจากน้ำคุยกัน
แบบที่สังเกตbody languageว่าเป็นแฟนกัน แล้วหนุ่มที่2ก็ค่อยๆเลื้อยขึ้น
ลู่เริ่มว่างว่ายกันชาย2หญิง1พอได้กรรเชียงช้าๆหรือว่ายกบผสม?
หนุ่มที่3ขึ้น หนุ่มที่4เมียกะลูกมารับที่ขอบสระ...เหลือsheคนเดียว
ครองลู่ไม่รีบ ไม่ร้อน สบายๆอีก10นาทีเพิ่มจากที่ครบ60นาที


ถึงไม่เคยนับBahnได้ไงคะ!
ได้แต่แวดล้อมรอบๆ ละเอียดยิบแม้สีชุดว่ายน้ำใคร
แต่50-60นาทีที่speedตามๆกันน่ะ
เร็วสุดๆ ออกมาถึงเริ่มรู้สึกว่าเหนื่อยยยยยยย
สุดๆคะ วันนี้
      บันทึกการเข้า


Dtoy16
Hero Cmadong Member
***


ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: rcu2516
คณะ: อักษรศาสตร์
กระทู้: 1,424

« ตอบ #15693 เมื่อ: 08 กุมภาพันธ์ 2559, 19:09:21 »

   น้องหนิง ขอบคุณที่แชร์เรื่องราว ฝรั่งมองไทย พี่ก้อเพิ่งรู้กระเป๋าหลุยส์ วิตตอง
 มีเครื่องหมายเหมือนเครื่องป้องกันภัยน่าคิดหลายเรื่อง เวลาเค้าสะท้อนมุมมองค่ะ
   ยังติดใจคราอ่านเพื่อนเยอรมันเค้าจัดงานวันเกิด น่าสนใจดี
      บันทึกการเข้า

khesorn mueller
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: 2527
คณะ: รัฐศาสตร์
กระทู้: 71,885

« ตอบ #15694 เมื่อ: 08 กุมภาพันธ์ 2559, 22:15:36 »



พี่ต้อย,
เล่าต่อคะ จาก Geo Special-Thailandที่อ่าน
คอลัมนิสต์2นายนี้ ออก"Expedition"กรุงเทพ
จับเฉพาะเรื่องกิน!เค้าลงเดินแถบเยาวราชแหงเลยคะ
เรียกChinatownที่ร้านเรียงๆๆๆกันตลอดถนนเด็กประจำร้าน
สวมผ้ากันเปื้อนต่างสีแต่เรียกแขกน่ะ สุดเสียงขอให้มานั่งเหอะ
แล้วคนท้องถื่นกินกันแบบ"family style"คือไม่มีลำดับของการ
นำมาเสริฟก่อนหลังหรือธรรมเนียมนั่งโต๊ะอย่างeuropeanที่
มีอะไรเคร่งครัดบนโต๊ะเช่นเริ่มด้วยยกดื่มพร้อมกัน อาหารมารอจนครบ
จึงจะเริ่มกินได้..ที่นั่นไม่มีกฏ ไม่มีกติกาอะไรมาโซ๊ยโลด
ตอนละจากโต๊ะยิ่งดูไม่จืด เปลือกซากกระดองกระดูก..กระดาษทิชชู
จานชามแบบระเบิดลงคนขายคนทำไม่มาถามอาหารเป็นไง
คนกินกินกันเสร็จจ่ายเงินทิ้งโต๊ะแบบนั้นไม่ใช่หน้าที่เค้าที่ต้อง
รวบจานรวบช้้อนแยกขยะจัดวางให้พนักงานเก็บ..เรียบร้อย
ภูเขาของเปลือกหอย เปลือกกุ้ง  ก้างปลาต่างหากคือศิลปะของการ
ทิ้งละความอร่อยเอร็ด คือซากที่บอกคนปรุง ของเขาอร่อยจริง!

เมืองฟ้ากำลังมีคุณลักษณ์เฉพาะตัว หากBerlinจะมีศิลปะ
Tokioจะมีแฟชั่น New Yorkจะมีเงิน มาเป็นpassionate
กรุงเทพหลงใหลไฝ่เพ้อกะเรื่องกินนี่ล่ะที่ชัดๆแน่ๆด้วยMetropoleนี้
ไม่มีZentrum ไม่มีStruktur แต่ขยายไร้ทิศทางทั้งแนวราบ-แนวตั้ง
แม้ทหารจะยึดอำนาจ พวกเค้าไม่สนตั้งใจเสาะหา กิน กิน และกิน
นี่คือความสงบเดียวที่เป็นของเค้า ใครมายึดไม่ได้!แผงขายกว่าห้าแสน
เลี้ยงดูชาวเมืองฟ้าที่ ไม่หุงต้มทำกับข้าวเอง ไม่จำเป็นจริงๆเพราะ
ใต้สะพาน ข้างถนน ช่องตึก  ใต้ต้นมะขาม ริมคลอง ริมน้ำ ตลาดโต้รุ่ง
ร่มเงาวัด/กำแพงวัด ล้วนมีให้กินหลากหลายให้เลือก แถมไม่แพง
คนที่นำคอลัมภ์นิสต์มาลอง เป็นBloggerคนไทยคะที่พ่อแม่อพยพไปอยู่เมกา
ตัวเค้ากลับมาใช้ชีวิตที่เมืองไทย..เธอแนะว่าของกินข้างถนน
ให้สังเกตความสะอาด!โต๊ะ-เก้าอี้ แสดงว่าคนขายตั้งใจ/พยายาม
ทำของขายแบบนี้มีสิทธิ์รวยได้ถ้ามีวินัย เธอบอกคนที่ล้มเลิกไปรวดเร็ว
ก็มีมากไม่มีใครจำได้หรือถามถึง จะรู้ได้ไงเจ้าไหนอร่อยจริง?
Bloggerเธอว่าให้เชื่อในพลังของกลุ่ม/ฝูงอย่างฝูงปลาซิวในทะเล
หากเจ้าไหนคนไทยยืนรอกันอดทน ให้ไปร่วมยืนด้วยเลย
(ในยุโรป ร้านเต็มก็ไปร้านอื่น ไม่แคร์) เพราะคนไทยไม่นิยมจองล่วงหน้า
หากพวกเค้ายืนรอ แสดงว่าอร่อยจริงหรืแแผงลอยไหนนั่งกันแต่นักเรียน
หรือนักศึกษาให้เลยไปเลยไม่ต้องเข้า เพราะหมายถึง
อะไรที่หวาน มัน และทอดๆ มีMayonnaise ขนมปังแป้งขาว
อาหารนั้นมาจากตะวันตกเหอะเด็กรุ่นใหม่แห่กันไป...
      บันทึกการเข้า


khesorn mueller
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: 2527
คณะ: รัฐศาสตร์
กระทู้: 71,885

« ตอบ #15695 เมื่อ: 08 กุมภาพันธ์ 2559, 22:54:56 »

...
Bloggerเธอว่าแม้อาหารไทยพื้นบ้านดั้งเดิม
ที่ต้องHarmonieในรสชาติ ก็กำลังละเลยเอียงไป
ในทิศทางเดียว...หวานมาก เค็มจัด หรือเผ็ดมากๆ
ที่เป็นแบบนี้ไม่ใช่เพราะแผงลอย อาหารติดล้อมีน้อยให้เลือก
กลับกัน!เพราะมีมากมายจนไร้การควบคุม ด้วยวัฒนธรรมการกิน
ที่เมืองฟ้าผ่านการผสมผสานทางวัฒนธรรมภายนอกมาหลายชั่วคน
พวกปอร์ตุกีสเข้ามาก็รับ พวกฮอลแลนด์เข้ามาก็รับ ไหนจาพุทธจากอินเดีย
หรือideaจากจีน ไทยซึมซับรวดเร็ว แล้วแสดงออก
ในวิถีที่เปรียบกะตะวันออกเฉียงใต้ชาติอื่น...exotic!นักลงทุนจากที่อื่น
ล้วนแห่กันมาตั้งสาขาริมเสารถไฟSkytrain จำนวนโรงแรมผุดขึ้นมากมาย
เท่าตัว(verdoppeln) นักท่องเที่ยวฮือกันมามืดฟ้ามัวดินที่Königspalast
และในวัดแทบทุกวัด แต่ไม่ใช่ยอดพระปรางค์ที่เพิ่มมา...
แต่เป็นศูนย์การค้าที่แข่งกันยิ่งแข่งกันใหญ่...ใช่ของใหม่
ที่คนรุ่นใหม่ถือว่าhipสุดๆคือที่เก่าที่เพิ่งบูรณะเสร็จปี2012-->Siam Center!!
ที่นั่นล่ะ coolsteทั้งคนมาเดินคนมาวางขายด้วยดีไซเนอร์เหล่านี้
แหวกแนว เปรี้ยวขัดฟันหรือสีสันชาวบ้านเลิกคบ!เขาเรียกสไตล์เขาเอง
ว่า"Contemporary Thai"ที่วางขายที่จตุจักร ตลาดนัดใหญ่สุดในโลก
ที่,ขายของออกแบบเองเลยหน้าของก๊อปปี้ถูกๆแบรนด์เนมตะวันตกไปนานแล้ว
การ"Remix"ใหม่หมดนี้จึงหลีกเลี่ยงไม่ได้ที่จะเริ่มกลับมารณรงค์
รากเหง้าความเป็นไทย จะลงมือที่ไหนถ้าไม่ใช่เรื่องกินที่คนเก้าล้าน
แซ่สร้องถกกันนั่นอาหารไทย...นี่ไม่ใช่ ถกเถียงยังไงให้ดังกว่า
ว่าความเป็นไทยที่แท้คืออะไร ในเรื่องกิน...ยุคGlobalisierung ?
      บันทึกการเข้า


khesorn mueller
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: 2527
คณะ: รัฐศาสตร์
กระทู้: 71,885

« ตอบ #15696 เมื่อ: 08 กุมภาพันธ์ 2559, 23:53:46 »

...
McDang..วัย62หรือที่คนรู้จักในนามหม่อมหลวง xxx..
กุ๊กที่มีรายการของตัวเองที่พยายามทำกับข้าวไทยให้เป็น"ศาสตร์"
หรือกลับกัน เค้าต้องการยึดปฏิวัติอาหารไทยให้กลับคืนมาสู่
คนกิน หรือเพื่อ"รักษา"ความรู้นี้ไว้ให้คนรุ่นใหม่ด้วยคนไทยแทบไม่รู้แร้ะ
ว่าที่กินกินกันเข้าไปน่ะล้วนแล้วแต่เห่อตะวันตกหรือไม่รู้ว่าปรุงอะไร
เค้าในเสื้อยืด กางเกงยีนส์สวมสูท ทรงผมเปรี้ยวจี๊ดย้อมปลายสี
ผู้มีวาจาที่ตรง ในเรื่องการทำกับข้าว เพื่อให้อาหารไทยยืนแถวหน้า
เคียงข้างบ่าไหล่กะอาหารต่างชาติได้ รายการของเค้าถ่ายทำใน
สตูดิโอที่พัก บนตึกสูงริมเจ้าพระยาที่มองลงมาเห็นcrane
รอกชักของขึ้นจากเรือ ริมฝาพนังสตูดิโอมีรูปบรรพบุรุษเค้าที่สืบเชื้อ
มีสาย
ให้เค้าออกรายการแด่ผู้ชมคนไทยว่าทำไมอาหารไทยถึงมีความเป็นหนึ่งเดียว
ไม่ใช่วิถีตะวันตกที่แห่กันไปเห่อ เค้าศึกษาตำราเก่าสูตรอาหาร
ย้ำกฏเหล็กของอาหารไทยไว้จารึกลูกหลาน;ความหวาน
มาจากน้ำตาลมะพร้าว/Palmzuckerเท่านั้น ไม่ใช่น้ำผึ้ง!
ความเปรี้ยวมาจากน้ำมะขาม-มะนาว-หรือมะม่วงเบา
หาใช่มาจากน้ำส้มไม่!ความขมของอาหารไทยมาจากมะระ
ความเค็มมาจากเกลือสินเธาว์หรือน้ำปลาเท่านั้นใครอย่าได้มาเถียง
ว่าซ๊อสถั่วเหลืองตราเด็กสมบูรณ์ ต่างหากคือความเค็มที่แท้
เค้าจะได้ว๊ากเพ่ยให้.. ว่าไม่ใช่ เพิ่ง"import"เข้ามาสมัยหลังจากเมืองจีนย่ะ!!
แต่ที่แอบแฝงถึงความเป็นไทยใครจะนึกไปถึง-->Pasteเครื่องแกง!
ไม่ใช่สำเร็จ ไม่ใช่Konzentrat แต่คือเครื่องเกงที่มาจากส่วนผสม
สดใหม่ตำตรงจากครกเท่านั้น ต้มแซ็บ แกงอะไรนั่นล่ะคือรสชาติที่
แอบแฝงความเป็นไทยไว้ครบสูตร นี่ล่ะที่เค้า,McDangเขียนไว้ใน
"Prinzipien แห่งครัวไทย"ให้คนไทยที่แท้ฝังใจไว้ก่อน คนที่รู้ว่า
ตัวเองเป็นไทยเท่านั้นจึงจะเริ่มเล่นแร่แปรธาตุผสมผสานใช้แทนจาก
อิทธิพลอื่นๆได้


ด้วยการผสมผสานที่น่าทึ่งนี่เองระหว่างเครื่องปรุงกะวัฒนธรรม
ถึงไม่แปลกใจที่รสชาติรับรู้ลงไปถึงน้ำดี!!ที่เมืองฟ้าแห่งนี้มีเสนอ
และแปลกมั้ยที่บางทีกุ๊กชั้นนำของภัตตาคารไทยในต่างประเทศ
กลับเป็นฝรั่ง...ฝรั่งที่เข้ามาสนใจ ตั้งใจรู้ให้จริง กุ๊กดาวMichelin
อาหารไทยเป็นชาวออสเตรเลีย!! ปี2010กุ๊กผู้นี้มาตั้งภัตตาคารในไทย
เพราะอยู่ยุโรปติดปัญหาเรื่องนำเข้าเครื่องปรุง ย้ายซะเลย!
ร้านเค้า"Nahm"สร้างในแบบโรงเบียร์ที่ตกแต่งแบบอยุธยา
อีกแบบของcontemporary Thaiกว่า25ปีที่คนมาอุดหนุนไม่ใช่ไทย
เพราะลูกค้าไทยอาจคิดว่ารสชาติที่เค้าปรุงขึ้น ต่ำกว่ามาตรฐานปากคนไทย

บางที,อาจเป็นเหตุผลที่อาหารไทยควรจะยกระดับNiveauตัวเอง
โดย"westerner"หรือฝรั่ง เพราะการเป็นกุ๊กจะมาสุภาพถ่อมเนื้อถ่อมตนไม่ได้
งานหน้าเตา ค่อนข้างกดดันและร้อนต้องเร่งต้องรีบขืนมามัวคะๆ
ขาๆครับขอรับกราผม..ไม่ทันกิน!!
ใครจานึกว่าเมื่อไม่นานมานี้การทำกับข้าวคือหน้าที่แม่บ้าน
วันนี้,จะกลายมาเป็นอาชีพที่เป็นที่ต้องการเรียกหา..ว่า..
คือศาสตร์ คือวิชา กุ๊กรุ่นใหม่ชาวไทยถึงต้องไปเรียนการทำอาหารไทย
จากกุ๊กฝรั่ง?
      บันทึกการเข้า


khesorn mueller
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: 2527
คณะ: รัฐศาสตร์
กระทู้: 71,885

« ตอบ #15697 เมื่อ: 09 กุมภาพันธ์ 2559, 00:32:33 »

...
กระนั้น,ก็ยังไม่มีใครล้ำหน้า"Meister"ที่แท้แห่งกับข้าวไทย
เค้าชาวฝรั่งคว้านั่นมาผสมนี่โดยน้ำกะทิ ขิง ข่าเครื่องแกงกระหรี่
ห่อใบเตยหรือใบตอง กุ้ง ปูที่จิ้มน้ำจิ้มทะเลที่ป่นถั่วลิสง...
ล้วนแล้วแต่ของข้างหน้าที่คนไทยรู้หรือไม่รู้ อะไรไทย อะไรไม่ใช่
สิ่งที่เป็นอาหารไทยเขียนบรรยายยากของคุณสมบัติแต่ละเครื่องปรุง
หน้าที่กุ๊กหรือคนปรุงคือคนที่"ดึง"รสกลิ่นออกจากเครื่องปรุง...
อย่างHarmonie!

หากใครคิดว่ามากินกะกุ๊กฝรั่งปรุงไทยแล้วคิดว่านั่นคือไทย
หาใช่การรู้จริงไม่...ด้วยความนิยมที่แท้กลับเป็นร้านข้างถนน
เก้าอี้พลาสติกริมทางเท้า ที่ทอดผัดกันสดๆผู้กินรู้เห็นใส่อะไรมั่ง
ร้านเจ๊นั่น ครัวลุงนี่จึงเรียก"Wow-Effekt"ที่แท้ในแบบไทยๆ!
ด้วยไทยไม่เรียกชื่อ ไม่เรียกนามสกุล แต่เรียกชื่อเล่น...ครัวข้างถนน
ที่มีชื่อจึงหาลำบาก ต้องดั้นด้นสืบเสาะที่ตั้งให้แน่ๆ
ตามลายแทงนักกินที่ยืนรอกันอดทนในสภาพจอแจรถวิ่งไปมา
ข้างๆแตรบีบ กดไฟติ๊บไล่หรือเสียงcoordinateเด็กเดินโต๊ะ
แม่ครัวกระฉับกระเฉงในรองเท้ายาง(!!)กางเกงหลวมสวมสบาย
เจ๊แก70กว่ายืนผัดกะทะมากว่า50ปี ห้าโมงยันตีหนึ่งหกวันในสัปดาห์
ผัดๆทอดๆสดๆจากความยากจนสุดๆจนถึงขั้นหยุดผัด2สัปดาห์
ต่อปีเพื่อพักผ่อนไปเที่ยวต่างประเทศ ชีวิตเจ๊ผู้นี้เริ่มจากไฟไหม้บ้าน
วอดวายเหลือแต่ตัว มาช่วยแม่ขายกลางคืน จนคนติดมากมาย
ร้านเธอดูไม่เด่นไม่หรู แต่มองไปที่เตาอุ่นกับข้าวของเบสิกไม่ใช่แก๊ส
แต่เป็นเตาถ่าน แก๊สสำหรับเจ๊เท่านั้น..เครื่องปรุงที่นี่เจ๊เลือกเอง
คุณภาพต้องดีที่สุดสดที่สุดราคาไม่เกี่ยง เจ๊ปรุงคนเดียวไม่มีผู้ช่วย
อาหารกะทะไม่เกิน3นาทีของการปรุงที่ทำให้เจ๊ขายจนรวย!
รายการที่ขายฟังแล้วอยากบ้า ไข่เจียวปูจานละ40 US$ผัดหมี่ทะเล
จานละ20 US $ นักท่องเที่ยวเดินผ่านมาเห็นส่ายหัวกะราคาที่แพงเกิน"สภาพ"
ของร้านแต่แปลกใจที่คนไทยทั้งนั้นยืนรอกินกันอดทน
เจ๊กรุ้มกริ่มบอกคุณภาพควรมีเสนอคนไทยไไม่ใช่มีให้ฝรั่งอย่างเดียว
นี่คือสิ่งเดียวที่เธอเสนอให้คนกินคนไทยได้ในสงครามแย่งลูกค้า
แห่งการกิน...เรื่องปากๆท้องๆของคนเดินถนน.




จบคะพี่ต้อย!
จะฟังเรื่องกระเทยมั้ยคะ??
น่าสนใจ

      บันทึกการเข้า


khesorn mueller
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: 2527
คณะ: รัฐศาสตร์
กระทู้: 71,885

« ตอบ #15698 เมื่อ: 09 กุมภาพันธ์ 2559, 16:46:26 »

เรื่องนำชมปางช้างอยุธยาก็น่าสนใจคะ,
ที่ "Elephantstay"ที่ฝรั่งนักท่องเที่ยวสามารถร่วม
ในกิจกรรมการดูแลช้าง สัตว์เลี้ยงที่ไทยนำมาฝึก
มาใช้งานสมัยโบราณเก่าก่อน งานลากไม้งานป่าไม้
ใช้ช้างในสงคราม คนไทยถูกปลูกฝังให้มีหน้าที่ดูแลสัตว์ประจำชาติ
ที่นั่น,ช้างน้ำหวาน วัยยังไม่30ทีที่ หลังออกลูกช้างตัวผู้ได้ไม่กี่นาที
sheพยายามจะเหยียบลูกให้ตาย ไม่มีใครรู้ว่า..ทำไม! หรือช้างนาตาลี
ที่ทำร้ายชายสามคนตาย พยานว่าทั้งสามเคยทรมาณนาตาลี
นานมาแล้ว ช้างนาตาลีจำได้ เมื่อเจอะทั้ง3อีกครั้งจึงทำร้ายทันควัน
หรือช้างยี่โถ ที่มีอายุ ชราภาพแบบช้างๆคือผิวเริ่มมีกระ วัย60ขึ้น
ที่อ่อนแอ ทำงานไม่ได้ งานที่ต้องขนนักท่องเที่ยวเดินรอบๆshe ต้องการ
เพียงกินและดื่ม หญ้าฟางวันละ200กก.น้ำ120ลิตรต่อวัน

ช้างกว่า90เชือกอาศัยที่ปางอยุธยา รวมทั้งน้ำหวาน,นาตาลีและยี่โถ
คนที่ดูแลช้างที่นี่ แบบรับผิดชอบทั้งหมดชื่อพี่อ้อม วัย57
พี่อ้อม เริ่มซื้อช้างตัวแรกเมื่อ20ปีก่อนเมื่อลูกสาวขอของขวัญวันเกิด
ครบรอบ7ขวบว่าอยากได้ช้างหรือลูกช้าง ไม่กี่ปีก่อนหน้านั้น,
ราวปี1986-1987ทางการห้ามการตัดไม้ในป่า ทันทีที่คำสั่งออกมา
ช้างกี่พันเชือกในเมืองไทย ว่างงานทันที!ช้างที่อาจมีอายุขัยถึง70
สบายๆ หลายเชือกอยู่ในวัยทำงาน ทั้งช้างทั้งควาญ(Mahuts)
จู่ๆไม่มีอะไรทำชั่วข้ามคืน!มีภาพช้างและควาญมายืนขอทานข้างถนน
หรือเดินเท้าเข้ากอทอมอ หลายเชือกหิวโหยเพราะเจ้าของช้าง
ไม่มีเงินจ่ายค่าอาหาร หรือช้างถูกรถชน กรุงเทพห้ามช้างเข้า!
พี่อ้อม จำภาพชะตากรรมช้างได้ติดตา เริ่มหาหนังสือเก่าๆที่เขียนไว้
ถึงประวัติช้างในเมืองไทยเชื่อหรือไม่ กว่า120 ลักษณ์แตกต่างตาม
ลักษณะนิสัย พี่อ้อมเริ่มต้นสนใจสังเกต ช้างผู้นำ จ่าฝูง ช้างที่เชื่อฟัง
ช้างขี้หงุดหงิด ชาวพุทธอย่างเค้าข้องเกี่ยวในเรื่องชาดก
ที่พระมารดาสมเด็จพระพุทธเจ้า รับทราบการทรงครรภ์จากช้าง
ที่ส่งสัญญาณ หากใครถามพี่อ้อม ช้างของเค้าไปไหนหมดกลางวันๆ?
เค้าก็จะบอกว่า"ไปทำงาน"ช้างที่นั่นทำงานเลี้ยงตัวเองเพื่ออาหารและการดูแล
ช้างบางเชือกจากโรงช้างที่นั่นเคยได้รับการขอไปถ่ายหนัง-งานแสดง
จำลองสงครามอยุธยากะพม่าเพื่อให้คนรุ่นหลังเห็นว่าบรรพบุรุษไทย
ต้องต่อสู้เพื่อรักษาแผ่นดิน แต่ช้างส่วนใหญ่น่ะบรรทุกขนนักท่องเที่ยวเดิน
หรืออย่างหนังของOliver Stoneเรื่อง"Alexander"ก็ใช้ช้างที่นี่ี่
ฝึกซ้อมก่อนเข้าฉากกันนาน
เมื่อชราภาพทำงานไม่ได้หรือไม่อยากทำงานเพราะแก่หมดเรี่ยว แรง
ก็ไปอยู่ที่ศูนย์เลี้ยงดูช้างของพี่อ้อม Elephantstayที่นักท่องเที่ยว
มาให้อาหาร ให้น้ำ กวาดฟางที่หลับที่นอนช้างและจ่าย600€ต่อสัปดาห์
ทำแบบนี้ช้างที่เกษียณงานได้มีโอกาสมีรายได้เลี้ยงตัวเอง
      บันทึกการเข้า


khesorn mueller
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: 2527
คณะ: รัฐศาสตร์
กระทู้: 71,885

« ตอบ #15699 เมื่อ: 09 กุมภาพันธ์ 2559, 18:16:17 »

...


พี่อ้อมบอกบางทีมีเมล์จากกลุ่มพิทักษ์สัตว์เขียนมา
บอกให้เค้าหยุดหารายได้จากช้าง หยุดล่ามโซ่ช้าง
หยุดบังคับช้างให้วาดรูปโชว์นักท่องเที่ยว
คำตอบจากอยุธยา เหมือนกันทุกครั้ง"แวะไปสิ..
ไปดูใกล้ๆว่าเราต้องทำอะไรมั่ง ไปแนะนำพวกเราหน่อย
ว่าควรต้องปฏิบัติยังไงกับช้างอีก"
ช้างกว่า4,000 เชือกในเมืองไทย
คนไทยก็อยากเห็นใช้ชีวิตอิสระในป่าในดง
แต่ในความเป็นจริงไม่มีป่ามีดงให้ช้างอยู่
มนุษย์จึงต้องทำหน้าที่ดูแล คนต้องหยุดทำลายป่า
ที่อยู่อาศัยของช้างจึงจะปล่อยช้างให้อาศัยเองได้?
ฝรั่งออสเตรเลียที่มาอาศัยElephantstayเล่าว่า
เคยมีการพยายามปล่อยช้างเข้าป่าปรากฏไม่นาน
ก็ถูกยิงโดยพวกลักลอบตัดไม้

ผู้หญิงออสเตรเลี่ยนผู้นี้เคยทำงานสวนสัตว์ทำงานกะช้าง
เมื่อได้มาเที่ยวเมืองไทยเมื่อปี 2000 ทึ่งในการทำงานของควาญช้าง
ที่ปางอยุธยามากๆที่เลี้ยงดูฝึกช้างกันด้วยความรัก
ไม่ใช่ด้วยปฏักหรือการตี แต่ด้วยการให้รางวัลและการชมในช่วงสั้นๆ
เธอว่าที่สวนสัตว์ที่ออสเตรเลียใช้เวลาเป็นเดือนๆกว่าจะฝึกแบบเดียวกันได้
ควาญช้างที่เมืองไทยยไม่ใช่พนักงานไปเช้าเย็นกลับแต่คือครอบครัว
ผู้ให้อาหารให้น้ำ พาไปอาบน้ำไปเดินเป็นสัมพันธภาพที่ลึกซึ้ง

สมัยใหม่,พี่อ้อมบอกช้างกะควาญเริ่มเหินห่างในความหมาย
ที่พี่อ้อมเกรงที่สุดคือการสูญเสียความภาคภูมิใจ  
ตรงนี้ที่เค้าต้องการทำอะไรขึ้นมา...
ฝึก/สร้างควาญช้างรุ่นใหม่ขึ้นมาอย่างเป็นกิจจะลักษณะ!
จาก 5ขั้นระดับตั้งแต่ระดับแรก...เด็กฝึกงาน-->Lehrling
จนระดับ5--> Meister ควาญช้างระดับนี้มีเพียง 5นายเท่านั้น
ในเมืองไทย Mahut-Meister พี่อ้อมเองเรียนได้ระดับถึงระดับ3
พี่อ้อมไม่ใช่นักฝัน เค้าเป็นคนที่ทำจริงเริ่มลองลงมือจริงในทุกความคิด
เป็นPrakmatikerเค้าสั่งทำปฏัก1000อันสำหรับนักเรียนควาญช้าง
เค้าบอกภาพพจน์ควาญช้าง ไม่ใช่คนยากจนจากท้องไร่ที่มาหางานทำ
แต่คืออาชีพที่ภาคภูมิใจด้วยงานควาญช้างอยู่ด้วยกันยาวนาน
เรียนรู้กันตลอดชีวิต สิ่งที่ร่ำเรียนไปคือหน้าที่ความรับผิดชอบ
คนมาเที่ยวอาจเห็นภาพน่าเศร้า อย่างเช่นช้างต้องตรวนโซ่ค่ำคืน
เวลานอนหรือได้รับหัวสัปปะรดตัวละเพียง 5ต้นต่อมื้อ เมื่อมาคิดว่า
ช้างที่นี่ยังถือว่าโชคดีที่อย่างน้อยพี่อ้อมรักช้างทุกเชือกที่นั่น
จำชื่อได้หมดทุกตัว
พี่อ้อมยังรับเลี้ยงดูช้างกำพร้าที่คนเลี้ยงเสียชีวิตลงขาดคนดูแล
หรือช้างเจ็บ/พิการเดินไม่ได้ หรือช้างที่ทำร้ายคน
ทางการจะให้ล้ม พี่อ้อมล้วนไปขอมาอยู่ปางอยุธยา

ต้องไม่ลืมว่ายังมีงานมีหน้าที่อีกหลายอย่างทีต้องพึ่งช้าง!
อย่างคราTsunami2004ก็ได้ช้างจากปางเขาสกใกล้ๆมาร่วมค้นหาศพ
ควาญช้างที่นั่นเล่าว่า,ช้างค้นหาได้ละเอียดคุ้ย-ดึงยกศพ-ขึ้นมา
อย่างทนุถนอมไม่เกรงกลิ่นเกรงสภาพหรือจากปางอยุธยาที่พี่อ้อมส่งลงใต้
ไปช่วยกู้ศพคัดสรรช้างเพศผู้แข็งแรงหลายเชือกย่ำเข้าเขตภัยร้าย
ที่ถนนขาดรถเข้าไม่ได้ช้าง ช้างกู้ได้กว่า 60ศพ.

พี่อ้อมรู้ว่าช้างต้องการอะไร เค้าจัดเป็นผู้ดูแลช้างที่ประสบความสำเร็จที่สุด
ในพื้นภูมิภาคตะวันออกเฉียงใต้ ลูกช้าง 64เชือกใหม่เกิดออกมาที่ปางนี้
หรือสวนสัตว์Kölner Zooมาขอซื้อช้างจากปางนี้ไป5เชือก
ช้างน้ำหวานได้รับการดูแลศึกษานิสัยอากัปทำไมถึงอยากกระทืบลูกเกิดใหม่
ทั้งที่น้ำหวานเป็นช้างตัวเล็กๆผอมๆมีขนขึ้นในหูในปาก มีหนวด
น้ำหวานชอบตื่นเช้าแล้วหงุดหงิด,ชอบขโมยสัปปะรดต้น ที่เป็นของเชือกข้างๆ
แต่ก่อนกินน่ะ..น้ำหวานพิถีพิถันค่อยๆใช้งวงรูดใบสัปปะรดที่สีน้ำตาลแห้ง
ไม่อร่อยฝืดคออย่างบรรจง ผิวของน้ำหวานสากยังกะหนังหนาๆ
ตาสีอำพันมีขนตายาวปรก แววตาการมองของช้างน้ำหวาน
เหมือนรู้เท่าทันมนุษย์เหมือนจะพูดกะมนุษย์ ว่า...
รู้แล้วย่ะ...ไม่ต้องมาทำสั่งทำสอน!



นึกภาพนะคะว่านักท่องเที่ยวเยอรมันอีกกี่คน
ที่อ่านเรื่องนี้จะแห่กันมาเที่ยวชมElephantstay
หรือปางเชียงใหม่ ปางเขาสกเท่าไหร่!
      บันทึกการเข้า


  หน้า: 1 ... 626 627 [628] 629 630 ... 727   ขึ้นบน
  
กระโดดไป:  

     

ทำไมหอพักนิสิตจุฬาจึงเป็นดินแดนมหัศจรรย์            " ไม่ได้เป็นแค่หอให้นอนพัก  แต่เป็นบ้านอบอุ่นรักให้อาศัย  ไม่เป็นแค่ที่ซุกหัวยามหลบภัย  แต่สร้างใจให้เข้มแข็งแกร่งการงาน"  <))))><