23 พฤษภาคม 2567, 13:19:22
ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน


เข้าสู่ระบบด้วยชื่อผู้ใช้ รหัสผ่าน [สมาชิกเก่าลืมรหัส โทร 081-7611760]
A A A A  ระเบียบปฎิบัติ
   
Languages    
  หน้า: 1 ... 84 85 [86] 87 88 ... 131   ลงล่าง
ผู้เขียน หัวข้อ: [2513] "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"  (อ่าน 722576 ครั้ง)
0 สมาชิก และ 3 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
หนุน'21
Global Moderator
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
*****


ซีมะโด่ง'จุฬาฯ ที่มาของผม
ออฟไลน์ ออฟไลน์

คณะ: "ครุศาสตร์"
กระทู้: 26,927

« ตอบ #2125 เมื่อ: 20 พฤษภาคม 2553, 20:18:20 »

อ้างถึง
ข้อความของ swsm เมื่อ 20 พฤษภาคม 2553, 13:40:12
อ้างถึง
ข้อความของ prapasri AH เมื่อ 20 พฤษภาคม 2553, 13:37:42
เวลามันให้สัมภาษณ์ มันบอกว่าเป็นห่วงประเทศไทย

อยากกลับมาช่วยชาวบ้านเมืองไทย

บอกมันเถอะ อย่ากลับมาเลย

เราจะฟื้นฟูประเทศ ของเราเอง

เราจะไม่ ต้องการ สมองอันชาญฉลาดของมันมา ช่วยประเทศอีกแล้ว

ขอโอกาสให้คนไทยที่เหลืออยู่ ดูแลประเทศของเราเองเถอะ

เราไม่ต้องการคนต่างชาติ มอนเตเรโก มาช่วยเรา



ยกมือหนับหนุนค่ะ ..   บ่ฮู้บ่หัน

 ปิ๊งๆ

สวัสดีพี่แอ๊ะครับ
ผมเห็นด้วยอย่างที่สุด
เราไม่ต้องการสมองที่ฉลาดและโกงแบบทักษิณครับ
พวกเราคนไทยแม้ไม่ฉลาดเท่ามัน แต่ก็เชื่อว่าทุกๆคนที่เป็นไทยในสายเลือด
ถ้าช่วยกันคนละไม้คนละมือ เราพาประเทศของเราไปรอดแน่นอน
ผู้นำโกง อกตัญญูและโหดแบบทักกี้ เราไม่ต้องการ
เห็นๆผลงานเผาบ้านเผาเมือง ของสมุนแดงมันแล้ว
ทำใจลำบากจริงๆครับ

ส่งกำลังใจให้พี่แอ๊ะกับพี่หมอหาญ ที่ต้องอยู่ท่ามกลาง"ดงแดง"
ให้ปลอดภัย อยูช่วยกันต้านไอ้พวกแดง ให้ได้นะครับ
สักวันคงดีขึ้น ถ้าพวกนี้ยอมเปิด โลกข่าวสาร ของเขาเองบ้าง


 รักนะ รักนะ
      บันทึกการเข้า

“สิ่งที่ล้ำค่าที่สุดในใต้หล้า ทั้งมิใช่ชื่อเสียง และไม่ใช่ทรัพย์ศฤงคาร หากแต่เป็นน้ำใจระหว่างคน ท่านหากได้มา พึงทะนุถนอมไว้
อย่าได้สร้างความผิดหวังต่อตนเองและผู้อื่น.” “วีรบุรุษสำราญ” “โกวเล้ง”
ภาณุ ปาตานี
Cmadong ชั้นเซียน
*****


ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 6,254

« ตอบ #2126 เมื่อ: 20 พฤษภาคม 2553, 20:55:55 »

ขอเชิญติดตามผลงานชิ้นโบว์ "แดง"

http://www.cmadong.com/board/index.php/topic,5304.425.html
      บันทึกการเข้า
prapasri AH
Cmadong พันธุ์แท้
****


ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 3,256

เว็บไซต์
« ตอบ #2127 เมื่อ: 20 พฤษภาคม 2553, 20:59:48 »

ขอบคุณน้องหนุน21

น้องหะยี น้องอ้อย14 น้องเหยง น้องya น้องหน่อ เเละเพื่อนสุริยา

และน้องท่านอื่นๆ ที่เห็นใจพี่แอ๊ะ พี่แอ๊ะ ร้องไห้บ่อยจนพี่หาญตกใจ

คงเป็นอาการซึมเศร้า  ไม่ดูข่าวก็ไม่ได้

ตอนสมัยที่ พรรค ความหวังใหม่ ดังมาก ที่อิสาน

คุณชวน หลีกภัย ท่านบอกพี่แอ๊ะ เหมือนที่น้องหนุนบอก พี่แอ๊ะ นี่แหละ

ท่านบอกท่าน ว่าเห็นใจพี่แอ๊ะมากที่ต้องอยู่ในดง "หวังใหม่"


ตอนนี้อยู่ในดงแดง

ยังโชคดีอยู่บ้าง ที่  ร.พ  ทำโครงการ" ยโสธรและอิสานใต้ ปลอดโรคนิ่ว"
ซึ่งพี่แอ๊ะไม่คิดเงินกับคนไข้เลย
ได้รับการสนันสนุนงบประมาณจาก สำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ

ซึ่งร.พ อื่น จะทำได้อย่างพี่แอ๊ะยากมาก เพราะร.พ พี่แอ๊ะเป็นร.พต้นทุนต่ำ

และพี่หาญเเละหมอต้นกล้า เป็นหมอผ่าตัดเองเราเลยไม่ต้องจ่ายค่าแพทย์

คนไข้ที่มารักษาเป็น เเดง หมด 100 % ค่ะ


เค้าคงรักเรามั่งแหละนะ
      บันทึกการเข้า

ชาวหอ ชาวหอจุฬา สดใสเริ่งรา เมื่อมาร่วม สามัคคี
เหยง 16
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: rcu2516
คณะ: เภสัชศาสตร์ 2516
กระทู้: 23,533

« ตอบ #2128 เมื่อ: 20 พฤษภาคม 2553, 22:24:22 »

อ้างถึง
ข้อความของ prapasri AH เมื่อ 20 พฤษภาคม 2553, 13:37:42
เวลามันให้สัมภาษณ์ มันบอกว่าเป็นห่วงประเทศไทย

อยากกลับมาช่วยชาวบ้านเมืองไทย

น้องๆ สีแดงในเวบนี้ ที่รู้จัก หนิดหนม กะมัน

บอกมันเถอะ อย่ากลับมาเลย

เราจะฟื้นฟูประเทศ ของเราเอง

เราจะไม่ ต้องการ สมองอันชาญฉลาดของมันมา ช่วยประเทศอีกแล้ว

ขอโอกาสให้คนไทยที่เหลืออยู่ ดูแลประเทศของเราเองเถอะ

เราไม่ต้องการคนต่างชาติ มอนเตเรโก มาช่วยเรา


ให้มันกลับมาเถอะ เสธ.แดง จะได้มีเพื่อนคุยว่า  หลั่นล้า ใครโดนกระสุนชนิดไหน  เอิ่มม เจาะหัวเข้าตรงไหน ??  ขึ้นเลย และออกตรงไหน...สนุกดีออก

  สะใจจัง
      บันทึกการเข้า
swsm
Cmadong Member
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
****


@@ ยาหยี @@
ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: Rcu2523
คณะ: Comm Arts
กระทู้: 28,369

« ตอบ #2129 เมื่อ: 20 พฤษภาคม 2553, 22:54:13 »

อ้างถึง
ข้อความของ เหยง 16 เมื่อ 20 พฤษภาคม 2553, 19:00:11
อ้างถึง
ข้อความของ suriya2513 เมื่อ 20 พฤษภาคม 2553, 17:54:11


เจ้าหน้าที่ศอฉ.คนนี้ขยันจังเลย กำลังรับโทรศัพท์ร้องทุกข์จากประชาชน



ภาพโพสต์ไม่ขึ้นครับ

ใครเหรอคะ พี่เหยง ??     งง งง
      บันทึกการเข้า

.. don't play with me, cos I know how to play it too .. may be better than you do ..
suriya2513
Cmadong ชั้นเซียน
*****


ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 9,457

« ตอบ #2130 เมื่อ: 20 พฤษภาคม 2553, 23:00:33 »

ท่านนายกฯอภิสิทธิ์เองครับ ไม่ใช่ใครที่ไหน
      บันทึกการเข้า

[โบราณคดี]จุดกำเนิดเริ่มต้นของ cmadong.com by : มานพ กลับดี  คลิ๊ก->
Kaimook
Cmadong ชั้นเซียน
*****


ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 7,132

« ตอบ #2131 เมื่อ: 20 พฤษภาคม 2553, 23:00:59 »

 สวัสดีค่ะพี่ๆเห็นเมืองกรุงแล้วเศร้าค่ะ
      บันทึกการเข้า
เหยง 16
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: rcu2516
คณะ: เภสัชศาสตร์ 2516
กระทู้: 23,533

« ตอบ #2132 เมื่อ: 20 พฤษภาคม 2553, 23:08:42 »

อ้างถึง
ข้อความของ swsm เมื่อ 20 พฤษภาคม 2553, 22:54:13
อ้างถึง
ข้อความของ เหยง 16 เมื่อ 20 พฤษภาคม 2553, 19:00:11
อ้างถึง
ข้อความของ suriya2513 เมื่อ 20 พฤษภาคม 2553, 17:54:11


เจ้าหน้าที่ศอฉ.คนนี้ขยันจังเลย กำลังรับโทรศัพท์ร้องทุกข์จากประชาชน



ภาพโพสต์ไม่ขึ้นครับ

ใครเหรอคะ พี่เหยง ??     งง งง

เขาว่าเป็นพวกหัดงานใหม่ ในตำแหน่งนายกรัฐมนตรี ทำงานมาปีกว่าๆแล้ว ยังไม่พ้นโปรเบชั่นเลย   เหนื่อย
      บันทึกการเข้า
swsm
Cmadong Member
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
****


@@ ยาหยี @@
ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: Rcu2523
คณะ: Comm Arts
กระทู้: 28,369

« ตอบ #2133 เมื่อ: 20 พฤษภาคม 2553, 23:21:54 »

 

บ่ฮู้บ่หัน
      บันทึกการเข้า

.. don't play with me, cos I know how to play it too .. may be better than you do ..
suriya2513
Cmadong ชั้นเซียน
*****


ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 9,457

« ตอบ #2134 เมื่อ: 21 พฤษภาคม 2553, 00:07:27 »

มุขนี้เอา A+ ไปเลยครับคุณพิเชษฐ์
      บันทึกการเข้า

[โบราณคดี]จุดกำเนิดเริ่มต้นของ cmadong.com by : มานพ กลับดี  คลิ๊ก->
Preecha2510
Cmadong Member
Full Member
****


ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: rcu2510
กระทู้: 788

« ตอบ #2135 เมื่อ: 21 พฤษภาคม 2553, 02:23:45 »

อ้างถึง
ข้อความของ swsm เมื่อ 20 พฤษภาคม 2553, 13:40:12
อ้างถึง
ข้อความของ prapasri AH เมื่อ 20 พฤษภาคม 2553, 13:37:42
เวลามันให้สัมภาษณ์ มันบอกว่าเป็นห่วงประเทศไทย

อยากกลับมาช่วยชาวบ้านเมืองไทย

บอกมันเถอะ อย่ากลับมาเลย

เราจะฟื้นฟูประเทศ ของเราเอง

เราจะไม่ ต้องการ สมองอันชาญฉลาดของมันมา ช่วยประเทศอีกแล้ว

ขอโอกาสให้คนไทยที่เหลืออยู่ ดูแลประเทศของเราเองเถอะ

เราไม่ต้องการคนต่างชาติ มอนเตเรโก มาช่วยเรา



ยกมือหนับหนุนค่ะ ..   บ่ฮู้บ่หัน

    สวัสดีครับ แอ๊ะ,เหยง,หนุน,น้องหะยี,น้องยา

        ผมคิดว่าตั้งแต่ประเทศไทยมีประวัติศาสตร์ความเป็นชาติมา คงไม่มีใครได้ทำร้ายประเทศชาติและสร้างความแตก

   แยกให้คนในชาติได้มากเท่านายทักษิณคนนี้เลย สุดยอดของความชั่วเลวร้ายจริงๆจนไม่รู้จะด่าหรือนำไปเปรียบเทียบกับ

  อะไรแล้ว  ดูรูปภาพที่น้องยาโพสต์มาในเว็บเห็นแล้วอึ้ง,เหมือนมีอะไรมาจุกอยู่ที่คอ นึกไม่ถึงว่าคนไทยด้วยกันสร้างความ

  พินาศย่อยยับให้กับชาติได้ถึงขนาดนี้ นี่ยังไม่รวมถึงการบาดเจ็บ,ล้มตายของชีวิตประชาชนและทหารจำนวนมาก

       ที่ผ่านมาคุณอภิสิทธิ์ผู้เป็นหัวหน้ารัฐบาล(ที่แสนสุภาพ,แต่ไม่มีบารมี)มีประชาชนสนับสนุนและคอยให้กำลังใจอยู่ข้าง

   หลังจำนวนมาก ดูเสมือนถูกรัฐประหารยึดอำนาจไปอย่างเงียบ บังคับบัญชาหรือสั่งการอะไรออกไปแทบไม่มีการตอบรับ

   หรือมีความหมายอย่างไรเลย ข้าราชการ,นักการเมืองที่อยู่รอบตัวดูเหมือนเป็นแตงโมเป็นมะเขือเทศไปกันหมด  ทุกคน

   ทำตัวเหมือนนั่งรอดูให้เหตุการณ์สุกงอม รอเวลาให้กลุ่มเสื้อแดงที่มีทักษิณกุมบังเหียนอยู่ข้างหลังเข้ายึดประเทศ

   หรือรอเพื่อให้กลุ่มอำนาจใหม่(กลุ่มที่3)ใช้ความวุ่นวายเป็นข้ออ้างความชอบธรรมสวมรอยเข้ามายึดอำนาจรัฐแทน

   คนไทยเกือบทั้งประเทศเหมือนอยู่ระหว่างเขาควายหรือหนีเสือปะจรเข้ อึดอัด,เครียด,ท้อแท้และอยู่ในสภาพสิ้นหวัง 

        วันนี้เหตุการณ์ได้เปลี่ยนแปลงไปกลุ่มม๊อบถูกสลายไป(ชั่วคราว) ทุกคนอย่าเพิ่งดีใจรัฐบาลอภิสิทธิ์ยังไม่ได้ชนะ

   เด็ดขาดอะไรเลย เพียงแต่ตัวหัวโจกและกลุ่มโจรผู้ก่อการร้ายสถุลได้ถอยหลังไปเพียงก้าวเดียวเท่านั้นเพราะเดินเกมส์

   ผิดไปหน่อย  กองกำลังพร้อมอาวุธและกลุ่มสมุนเพียงหลบเข้าฉากรอเวลาและโอกาสเหมาะที่จะโผล่มาใหม่เท่านั้น 

         ผมดูข่าวโทรทัศน์ในวันนี้ที่กลุ่มสามเกลือหัวขวดและแกนนำตอนนึ้อยู่ในความควบคุมของตำรวจ  เดินลงมาจาก

   เฮลิค๊อปเตอร์ที่สนามบินหัวหิน ก็ไม่ได้อยู่ในฐานะผู้ทำความผิดไม่มีการใส่กุญแจมือแต่อย่างใด เดินยิ้มร่ามีตำรวจเดิน

   ตามประกบนำไปพักอยู่รวมกันที่ที่บ้านพักรับรอง(V.I.P.)อยู่ริมทะเลกินอยู่อย่างดี  เพียงแต่กักบริเวณห้ามออกเท่านั้น แทน

   ที่จะนำไปแยกกักขังรอการสอบสวนเหมือนผู้ต้องหาทั่วไป ทั้งๆที่ทุกคนมึข้อหาร้ายแรงแต่ได้รับเกียรติเหมือนเป็นแขกของ

    รัฐฯ   ผมคิดว่าถ้าผู้มีอำนาจของรัฐยังคงทำตัวหน่อมแน้มเหมือนเดิม,อ่อนแอ, ไม่มีความกล้าหาญที่จะจัดการอะไรให้เด็ด

   ขาด กล้าๆกลัวๆแบบนี้  ความวุ่นวายยกที่ 3 ก็คงจะเกิดขึ้นซํ้าแบบปีที่แล้วและแบบในปีนี้อย่างแน่นอน   เซ็งมากๆๆๆครับ

           

   
      บันทึกการเข้า
ดร.มนตรี
Cmadong พันธุ์แท้
****


ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 2,540

« ตอบ #2136 เมื่อ: 21 พฤษภาคม 2553, 06:51:40 »





      บันทึกการเข้า
ดร.มนตรี
Cmadong พันธุ์แท้
****


ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 2,540

« ตอบ #2137 เมื่อ: 21 พฤษภาคม 2553, 06:53:26 »

      บันทึกการเข้า
ดร.มนตรี
Cmadong พันธุ์แท้
****


ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 2,540

« ตอบ #2138 เมื่อ: 21 พฤษภาคม 2553, 07:22:35 »

      บันทึกการเข้า
jamsai
Full Member
**


ฤา.... น้ำเต้าใบน้อยจะถอยจม...
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 416

เว็บไซต์
« ตอบ #2139 เมื่อ: 21 พฤษภาคม 2553, 09:38:48 »

พี่แอ๊ะคะ

เห็นใจที่สุด ขอเป็นกำลังใจให้พี่ค่ะ แต่ถึงอย่างไรพี่ต้องเข้มแข็งนะคะ
ปัจจัยในการสร้างความเข้มแข็งอย่างหนึ่งคือเผชิญหน้ากับความเป็นจริง

ดังนั้นน้องป้าแจ่มอาจจะดูโหดร้าย ที่จะขอทำลายฝันพี่เล็กน้อย....คือ..

ที่พี่ว่า...

........." คนไข้ที่มารักษาเป็น เเดง หมด 100 % ค่ะ เค้าคงรักเรา มั่งแหละนะ..."
[/color]

พี่หวังเอาแค่ 1 % เถอะค่ะ จะได้ ไม่เสียใจมากหากผิดหวัง ถ้าจะให้ได้ผลคือช่วยเหลือโดยตั้งใจให้แบบไม่ต้องไปหวังเอาความรัก
จากพวกเขาเลย ให้หวังเพียงว่าให้เปล่าเป็นบุญไปเลย และกรวดน้ำตั้งจิตอธิษฐานทำนองนี้นะคะ

หากบุญกุศลอันเกิดจากความตั้งใจดีให้นี้ ขอได้โปรด เป้นพลวัต ปัจจัย บันดาลให้สรรพสัตว์ทั้งหลายในยโสธร ได้สำนึก
 ในผิดชอบชั่วดี ละอายชั่วกลัวบาปโดยฉับพลันทันทีเถิด อนึ่งหากมีเวรกรรมใดๆในอดีตชาติที่ได้กระทำต่อกันแล้วนั้น
ก็ขอให้อโหสิ ขอสะบั้นตัดทอนกรรมชั่วนั้นๆให้สิ้นสุด อย่าได้มีเวรต่อกันและกันอีกต่อไป

ที่ต้องบอกพี่อย่างนี้นะคะ เพราะ 1 ปี ของการสอนและจัดสัมมนา ของโรงเรียนการเมือง นปช 
ชาวบ้านภาคอิสาน ที่รับการอบรม เชื่อมั่นในประชาธิปไตยแบบกินได้ของไอ้วายร้ายทักษิณ
และจิตสำนึก ค่านิยม คือ ทำนองนี้ค่ะ

ความดีคือมีเงิน มีเงินมากคือดีมาก  มีเงินน้อย คือความดีน้อย
ความชั่วคือความที่ไม่มีเงิน
ให้เงินมากก็รักมาก ให้เงินน้อยก็รักน้อย ไม่ให้เงินก็ไม่รักเลย


พี่จะหวังอะไรได้ล่ะคะ  แม้แต่คนที่ทำดีมาตลอดอย่างน้อย กว่า 60 ปี
ทำเพื่อให้ประชาชนอยู่ดีกินดี มีศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์ พึ่งพาตัวเองได้อย่างเพียงพอ
รักษามรดกทรัพยากรธรรมชาติไว้ให้ลูกหลานสืบไปตราบเท่านาน
ยังถูกพวกนี้ด่าว่า ขับไล่ แล้วไปเคารพบูชาคนที่โกงกินบ้านเมืองล้างผลาญทรัพยากรล่วงหน้า

นี่คือความจริงที่เราจะต้องหันหน้ามารับรู้ และตั้งสติกันค่ะ

ป้าแจ่มเองก็กำลังปริ่มๆกับภาวะสติแตกค่ะพี่น้อง

อย่าดีใจว่ารัฐบาลชนะนะคะ ไม่เลยค่ะ นี่เป็นเพียง plan C Tukky + Plan A เริ่มต้น
ของผู้ใหญ่ลี (ลี กวน ยิว) เท่านั้น


รอดู plan D Tukky (ซึ่งจริงๆแล้วต่อไปคือ ผกค คืนชีพ จะโผล่มารับช่วงต่อ100%) + plan B ของผู้ใหญ่ลี

ซึ่งปัจจัยความสำเร็จของพวกเขาคือ นักการเมืองไทยที่ไร้ธรรมะและหิวกระหาย
+คนไทยโง่ๆ + คนไทยฉลาดแต่ขี้ขลาด นั่นเองล่ะค่ะ

 ฮือๆ เค้าไม่ยอม


      บันทึกการเข้า

ฤา น้ำเต้าใบน้อย จะ..ถอยจม....
เหยง 16
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: rcu2516
คณะ: เภสัชศาสตร์ 2516
กระทู้: 23,533

« ตอบ #2140 เมื่อ: 21 พฤษภาคม 2553, 09:39:52 »

บทบรรณาธิการ นสพ.แนวหน้า ออนไลน์ วันศุกร์ที่ 21 พฤษภาคม 2553

บทบรรณาธิการ
 
นปช.หยุดทำลายตัวเอง หยุดเผาประเทศไทย (บทบรรณาธิการ)
 
 
      ดูเสมือนว่าเหตุจลาจลในโศกนาฏกรรม 19 พฤษภาคม 2553 จะคลี่คลายลงไปบ้าง หลังจากทหารสามารถบุกสลายการชุมนุมของแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ หรือนปช.ที่สี่แยกราชประสงค์ และบริเวณลานหน้าพระบรมรูปรัชกาลที่ 6 ที่หน้าสวนลุมพินี ได้สำเร็จ

      แต่ทว่ากลุ่มคนที่ใช้ชื่อว่า นปช.ซึ่งเป็นผู้สนับสนุนระบอบทักษิณจะประกาศอย่างฮึกเหิมผสมกับความหวาดกลัวทำนองว่า "พวกเราจะกลับมาอีก วันนี้เป็นแค่เพียงการหยุดชั่วคราว แต่มิใช่การยอมแพ้"

      การประกาศเช่นนี้หมายความว่า พวกนปช.ที่เทิดทูนระบอบทักษิณจะกลับมาเผาบ้านเผาเมืองอีกใช่หรือไม่ และการที่บอกว่า หยุดเพียงชั่วคราวนั้น หมายถึงพวกคุณยังไม่เลิกความคิดจะทำลายล้างประเทศชาติใช่ไหม

      ทั้งพวกแกนนำนปช.และผู้สนับสนุนนปช.เคยคิดให้ลึกซึ้งบ้างไหมว่า ใครทำให้พวกคุณต้องตกอยู่ในสภาพเช่นนี้ แล้วการที่คุณอ้างว่า พวกคุณยากจน และถูกเอารัดเอาเปรียบนั้น ช่วยตอบให้ชัดได้ไหมว่า ใครทำให้พวกคุณต้องตกอยู่ในสภาพยากจน แล้วที่สำคัญคือ คุณเป็นคนยากจนจริง ๆ หรือพวกคุณทำตัวให้เป็นเสมือนคนยากจน เพราะต้องการได้รับความช่วยเหลือจากนักเลือกตั้งที่ทำตัวเสมือนผู้ให้การอุปถัมภ์

      กลุ่มนปช.ที่เคยสวมเสื้อแดงเป็นสัญลักษณ์ แต่สุดท้ายก็ต้องทิ้งสัญลักษณ์ดังกล่าวไป เพราะต้องการทำตัวให้กลมกลืนกับประชาชนผู้บริสุทธิ์ เพื่อหวังตบตาเจ้าหน้าที่บ้านเมืองให้รอดพ้นจากน้ำมือของกฎหมายและเพื่อตบตาประชาชนทั่วไป บัดนี้พวก นปช.พยายามจะเรียกร้องเพื่อขอความเห็นใจจากสาธารณชนว่า พวกเขาเป็นฝ่ายถูกกระทำและถูกย่ำยีซ้ำแล้วซ้ำเล่า

      แต่สมาชิกกลุ่ม นปช.เคยพิจารณาบ้างหรือไม่ว่า พวกคุณทำความเสียหายอย่างร้ายแรงให้กับประเทศชาติอย่างไรบ้าง หรือคุณคิดและเชื่อแค่เพียงว่าคุณเท่านั้นที่น่าสงสารที่สุด แล้วคนอื่นคือผู้ที่น่ารังเกียจ และต้องกำจัดพวกคนที่ไม่ใช่ นปช.ให้หมดสิ้นไปจากแผ่นดินนี้

      พวกคุณชอบอ้างว่าชุมนุมประท้วงด้วยความสงบและสันติ และมาเพื่อเรียกร้องประชาธิปไตย แต่คุณกลับไม่สำเหนียกว่า คุณคือผู้ที่ทำให้ผู้บริสุทธิ์รายอื่นๆ ได้รับความเดือดร้อนแสนสาหัส คุณทำให้สันติภาพของแผ่นดินมลายหายไปสิ้น

      พวกคุณอาจจะอ้างว่า ไม่เคยใช้ความรุนแรง แต่คุณสามารถตอบได้ไหมว่า แล้วใครคือผู้ก่อความรุนแรงขึ้นครั้งแล้วครั้งเล่า ใครคือผู้ยกขบวนไปปิดล้อมสถานที่ต่าง ๆ ทั้งของรัฐและของเอกชน ใครคือผู้ก่อการปิดถนนโดยไม่สนใจว่าประชาชนผู้อื่นจะเดือดร้อนแสนสาหัสสักเพียงใด ใครยกขบวนอันธพาลเข้าไปข่มขู่และตรวจค้นโรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ แล้วใครคือผู้เผาทำลายอาคารสถานที่ต่าง ๆ ในเขตเมืองหลวง และเผาศาลากลางหลายจังหวัด

      ขอย้ำว่า ไม่มีใครคิดทำร้ายพวกคุณ แต่คุณคือผู้ทำลายและทำร้ายตัวเอง แล้วยังทำลายประเทศไทย แผ่นดินซึ่งเป็นบ้านเกิดเมืองนอนของคุณและของบรรพบุรุษของคุณด้วย เลิกโทษคนอื่นแล้วหันมาพิจารณาตัวเองให้ถี่ถ้วน อย่าหลงงมงายกับความเท็จที่ทักษิณ ชินวัตรและพวกพยายามฝังเข้าไปในสมองของคุณ แล้วคุณจะรู้ว่าคนไทยและประเทศไทยไม่เคยรังเกียจและรังแกคุณ 
 
วันที่ 21/5/2010
 
http://www.naewna.com/news.asp?ID=211972
      บันทึกการเข้า
เหยง 16
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: rcu2516
คณะ: เภสัชศาสตร์ 2516
กระทู้: 23,533

« ตอบ #2141 เมื่อ: 21 พฤษภาคม 2553, 09:55:21 »

บทบรรณาธิการ นสพ.ไทยโพสต์ ออนไลน์

โศกนาฏกรรมประเทศไทย บทเรียนราคาแพงที่ทุกคนไม่อยากเจออีก
บทบรรณาธิการ 21 พฤษภาคม 2553 - 00:00

     คงยากจะสรรหาถ้อยคำใดๆ มาบรรยายภาพและความรู้สึกที่เกิดขึ้นกับประเทศไทยตลอดทั้งวันพุธที่ 19 พฤษภาคม 2553 และล่วงเลยมาถึงวันพฤหัสบดีที่ 20 พฤษภาคม 2553 โดยเฉพาะในพื้นที่กรุงเทพมหานครหลายต่อหลายจุด คือ ประมาณ 32 จุด ที่ถูกกลุ่มผู้ก่อการร้าย-ประชาชนผู้บ้าคลั่ง-มือที่สามที่ต้องการสร้างสถานการณ์ให้บ้านเมืองลุกเป็นไฟ ซึ่งก็ทำได้จริงและทำให้ประเทศไทยอยู่ในสภาพการเป็นประเทศที่ต้องโดนเผาบ้านเผาเมืองอย่างแท้จริง
 
     นี่คือความผิดหวัง ความเศร้าโศกเสียใจ ความทุกข์ระทมของคนไทยทั้งชาติ บนความสะใจของผู้ก่อการและผู้วางแผนสนับสนุนอยู่เบื้องหลังที่เห็นประเทศชาติต้องพังพินาศเช่นนี้ ซึ่งคงไม่ใช่แค่แกนนำ นปช.เท่านั้นที่จะต้องรับผิดชอบ แต่คนที่สนับสนุนอยู่ข้างหลังทั้งการส่งท่อน้ำเลี้ยง การให้เงินสนับสนุน การจัดหาคนมาร่วมชุมนุม รวมถึงสนับสนุนการจัดหาสิ่งผิดกฎหมายมาให้กับผู้ก่อการร้ายอย่างปืน กระสุนปืน ระเบิด น้ำมันเชื้อเพลิง ยางล้อรถยนต์เก่าเพื่อนำมาให้คนร้ายจุดไฟเผากันทั้งวันทั้งคืนตามถนนต่างๆ โดยเฉพาะบริเวณบ่อนไก่-ถนนพระรามที่ 4-สี่แยกดินแดง เป็นต้น

     คนกลุ่มนี้ทางศูนย์อำนวยการแก้ไขสถานการณ์ฉุกเฉิน (ศอฉ.) และหน่วยงานต่างๆ เช่น กองทัพ ตำรวจ กรมสอบสวนคดีพิเศษ จะต้องสอบสวนขยายผลเพื่อนำตัวมาดำเนินคดีในข้อหาสนับสนุนการก่อการร้ายและการก่อวินาศกรรมเผาบ้านเผาเมือง ไม่ใช่แค่การออกคำสั่ง ศอฉ.ห้ามบุคคลและนิติบุคคลรวม 130 ราย ห้ามทำนิติกรรมต่างๆ ทางการเงินเท่านั้น

     ขณะเดียวกันโศกนาฏรรมประเทศไทยครั้งนี้ ถือเป็นบทเรียนสำคัญของทุกฝ่ายที่ต้องเรียนรู้ความผิดพลาด จุดอ่อนต่างๆ ของระบบโครงสร้างและกลไกลอำนาจรัฐต่างๆ รวมถึงข้อบกพร่องในการเข้าปฏิบัติงานของหน่วยงานภาครัฐต่างๆ เพื่อไม่ให้เกิดความผิดพลาดเช่นนี้ขึ้นอีก เพราะเหตุการณ์เผาบ้านเผาเมืองที่เกิดขึ้นแสดงให้เห็นแล้วว่าหลายหน่วยงานไม่สามารถปฏิบัติหน้าที่ได้อย่างมีประสิทธิภาพเมื่อเกิดอุปสรรคขึ้น

     อาทิ กรณีที่รถดับเพลิงไม่สามารถเข้าดับเพลิงได้หลายพื้นที่ทำให้เกิดเหตุเพลิงไหม้บางจุดถึงเกือบ 10 ชั่วโมง จึงจะสามารถเข้าเคลียร์พื้นที่ได้ ซึ่งตรงนี้คงไม่มีใครโทษว่าเป็นความบกพร่องของเจ้าหน้าที่ดับเพลิงของกรุงเทพมหานคร เพราะทุกคนก็เข้าใจดีว่าการเข้าไปดับเพลิงสุ่มเสี่ยงต่อการถูกทำร้ายลอบยิงที่อาจทำให้สูญเสียชีวิตได้ ทั้งที่พนักงานเจ้าหน้าที่ดับเพลิงทุกคนก็มีความมุ่งมั่นอยากเข้าไปดับเพลิงทุกจุด แต่ไม่สามารถทำได้ เพราะไม่เคยเจอปัญหาลักษณะเช่นนี้
     เนื่องจากฝ่ายทหารเองก็ไม่สามารถให้ความคุ้มครองความปลอดภัยเจ้าหน้าที่ในการเข้าไปดับเพลิงได้ นี่เป็นบทเรียนที่เกิดขึ้น ซึ่งไม่ใช่แค่กรุงเทพมหานครจะต้องนำมาศึกษาเป็นบทเรียนในการแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้นเท่านั้น แต่ควรที่ฝ่ายต่างๆ อย่างกองทัพก็ต้องนำมาเป็นบทเรียนด้วยว่า หากเกิดเหตุลักษณะเช่นนี้อีกจะแก้ไขปัญหาอย่างไร

     ขณะที่ฝ่ายการเมืองเองก็ต้องนำเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นมาทบทวนกันได้แล้วว่าจะปล่อยให้อนาคตประเทศชาติอยู่ในภาวะเสี่ยงภัยเช่นนี้อีกไม่ได้แล้ว นักการเมืองไม่ว่ากลุ่มไหนควรที่จะต้องกลับมาพิจารณาบทบาทหน้าที่ของตัวเองว่าอะไรคือสิ่งที่ทำให้คนเสื้อแดงจำนวนมากต้องออกมารวมตัวกันที่ท้องถนนกันเป็นเวลาถึง 2 เดือนกว่า เพราะคงไม่ใช่แค่เงินค่าจ้างหรือการถูกชักจูงให้เข้าร่วมชุมนุมเท่านั้นที่ทำให้คนกลุ่มนี้บางคนถึงกับยอมเสี่ยงชีวิตมาร่วมชุมนุมกับคนเสื้อแดงได้ แต่ประชาชนกลุ่มนี้คงมีปัญหาหรือความคับข้องใจอะไรหลายอย่างด้วยที่เป็นแรงขับดันให้ต้องออกมาร่วมชุมนุมบนท้องถนนกับคนเสื้อแดง

     เช่น ปัญหาความยากจน ปัญหาที่ดินทำกิน ปัญหาการถูกเอารัดเอาเปรียบและกลั่นแกล้งจากเจ้าหน้าที่รัฐ เพราะหากฝ่ายการเมืองยังละเลยต่อปัญหาดังกล่าว ก็เชื่อว่าแม้คนเสื้อแดงจะสลายการชุมนุมไปแล้วในครั้งนี้ แต่หากปัญหาต่างๆ ไม่ได้รับการแก้ไข การชุมนุมแบบนี้ก็ต้องกลับมาอีกบนความหวาดผวาของคนไทยทั้งประเทศ.

http://www.thaipost.net/news/210510/22377
      บันทึกการเข้า
เหยง 16
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: rcu2516
คณะ: เภสัชศาสตร์ 2516
กระทู้: 23,533

« ตอบ #2142 เมื่อ: 21 พฤษภาคม 2553, 10:15:17 »

คอลัมม์ "คนปลายซอย" ของคุณเปลว สีเงิน เสนอแนวทางตั้ง "รัฐบาลแห่งชาติ" แทนการ "ยุบสภา" ซึ่งมองไม่เห็นทางออก

เมื่อประเทศไทยก้าวสู่แสง "ตะวันใหม่"
เปลว สีเงิน 21 พฤษภาคม 2553 - 00:00

     สวัสดีครับ...ยังไม่หายไปไหน ทั้งกายและใจยังอยู่กับท่าน เพียงแต่วานนี้ (๑๙ พ.ค.๕๓) ไทยโพสต์ต้องตกอยู่ในภาวะคับขัน สำนักงานอยู่ในวงล้อมทะเลเพลิงและห่ากระสุน ไม่สามารถพิมพ์จำหน่ายได้ จึงว่างเว้นการทำหน้าที่ "สื่อระหว่างศึก" ไป ๑ วัน ซึ่งต้องขอบคุณทุกท่าน โดยเฉพาะ "สมาชิกไทยโพสต์" ที่สอบถามมาด้วยความห่วงใย และไม่ขึ้งโกรธที่ไม่มีหนังสือพิมพ์ไปส่งให้ตามปกติ ทั้งที่จ่ายเงินค่าสมาชิกล่วงหน้าให้แล้ว...ทั้งปี! และขอเรียนให้ทราบด้วยว่า ระหว่างนี้ จากที่เคย "เช้าตรู่" ก็มีไทยโพสต์เสียบอยู่หน้าประตูบ้านท่าน แต่การอยู่ในภาวะเคอร์ฟิว ๑ และการใช้มอเตอร์ไซค์วิ่งกลางดึกเพื่อส่งหนังสือ ๑ เป็นการเสี่ยงอันตรายสำหรับ "ม้าด่วนไทยโพสต์" ที่ไม่น่าเสี่ยง ฉะนั้น จึงขอเรียนให้ทราบว่า ท่านสมาชิกจะได้รับหนังสือสายหน่อย เพราะ "ม้าด่วนไทยโพสต์" จะออกนำไทยโพสต์ไปส่งท่านได้ก็ต่อเมื่อ ๖ โมงเช้าไปแล้ว ส่วนท่านที่หาซื้อตามแผง-ตามร้านค้าทั่วไป บางพื้นที่ บางจังหวัด อาจไมได้รับไทยโพสต์  เนื่องจาก บางจุด-บางเอเย่นต์ อยู่ในพื้นที่ไม่สามารถนำหนังสือพิมพ์ไปส่งให้ได้กลางดึก!  ผมจะไม่นำทุกข์-นำปัญหาส่วนตัวมาทับถมท่าน เพราะทราบดีว่า "พี่น้องไทยทุกคน" เวลานี้ ทุกข์และว้าวุ่นเหมือนกัน ต้องเผชิญภาวะเลวร้ายสุดๆ ของบ้านเมืองเหมือนกัน อกจะแตก-ใจปิ่มแหลกเป็นผงในชะตากรรมชาติเหมือนกัน นั่นคือ เวลานี้ ไม่มีทุกข์ใคร-ปัญหาใคร "สำคัญกว่า-หนักกว่า" ทุกข์ของใคร-ปัญหาของใครทั้งสิ้น  เพราะนี่คือ "ทุกข์แผ่นดิน-ปัญหาแผ่นดิน" ของพวกเรา "ร่วมชาติ" ทุกคน

    พี่น้องทั้งหลาย...อย่าเอาแต่บ่น อย่าเอาแต่โทษคนอื่น อย่าเอาแต่เรียกร้อง อย่าพล่ามพิร่ำคร่ำครวญอยู่กับสิ่งที่เกิดขึ้นแล้ว ทุกคน-ทุกท่าน จง "ตั้งสติ" ให้มั่น แล้วเชิดหน้าให้พ้นซากทุกข์ที่ท่วมทับแผ่นดิน และใช้ปัญหาวันนี้เป็นเชื้อเพลิงปลุกพลัง "พี่น้องไทย" ไหล่ชนไหล่ กุมมือกันให้มั่นไว้ สะบัดขาก้าวข้ามซากปรักหักพังบนความแตกแยกวันนี้ไป แสวงหาสู่จุดรวมรักสามัคคีใจ พุ่งสู่ "เป้าหมายใหม่" ที่รอพวกเรา "พี่น้องไทยทุกคน" อยู่ข้างหน้าแล้ว ไม่มีดอกไม้งามดอกไหนบานสะพรั่งได้ โดยไม่มี ซากพืช-ซากสัตว์-ซากวัตถุ รองรับเป็นฐาน และเป็นอาหารเลี้ยงราก! นั่นคือ....พวกเราต้องใช้ "ความเจ็บปวดร่วมกัน" ของคนไทย "เป็นเดิมพัน" ต่อสู้ ฝ่าฟันปัญหา-อุปสรรค "๑๙ พฤษภา ๕๓" ก้าวไปสู่ "ชัยชนะร่วมกัน" ของประเทศชาติให้ได้
    ตราบใดที่โลกใบนี้ยังมีแสงสุรีย์ส่อง ตราบใดที่โลกใบนี้ยังไม่แตกสลาย และตราบใดที่เรายังดำรง ชาติ-พระศาสนา-พระมหากษัตริย์เอาไว้ เรา "เริ่มต้นใหม่" สู่จุดแห่งชัยได้เสมอ! รัฐบาล-โดยนายกฯ อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ท่านใช้ "ฐานะผู้นำ" ในภาวะต้องนำด้วยอำนาจได้ถูกต้อง-ครบถ้วนดีแล้ว ไม่ต้องไปสนใจ ไหวหวั่นกับเสียงที่อาจทำให้ทดท้อในสิ่งที่ทำ เพราะทั้งหลาย-ทั้งปวงนั้น  ท่านตัดสินใจบนการบ่มเพาะ "ความชอบธรรม" ในการกระทำให้ประจักษ์ต่อสายตาและความเข้าใจชาวโลกแต่ละขั้นตอน "ครบถ้วน" แล้วว่า ไม่ว่ารัฐบาลไทย หรือรัฐบาลไหนในโลก ถ้าตกอยู่ในสถานการณ์นี้ คือสถานการณ์ที่คณะก่อการร้าย "กบฏแผ่นดิน" ก่อการหวังยึด-เปลี่ยนระบอบประเทศแล้ว จะหดหัว "กลัวหงอ" ยกประเทศให้โจร โดยไม่ทำหน้าที่ "ผู้นำที่ดี" เพื่อชาติและประชาชน มือผู้นำ" เปื้อนเลือดผู้ก่อการร้าย" มือนั้นคือ-หัตถาป้องภพ!
    ถึงจะมีคนด่า-คนตำหนิ แต่โปรดทราบเถออะว่า การตัดสินใจของท่านถึงแล้วซึ่ง "ภาวะผู้นำ" การทำหน้าที่ของผู้นำไม่จำเป็นต้องมีดอกไม้เป็นรางวัลเสมอไป เพียงตอบจิตสำนึกในความเป็นคนของตัวเองได้ นั่นเป็นรางวัลที่ "ผู้นำยิ่งใหญ่" ทั้งในอดีตและปัจจุบันสุขใจแล้ว สุขในฐานะเป็นผู้นำที่.....ไม่ปล่อยให้ "เลือดประชาชน" ต้องสาดกระเซ็นด้วยมืออสูรร้าย "อันมีเป้าหมาย" ล้มสถาบัน-เปลี่ยนระบอบ!!! หลายคนบอกว่า "ปฏิบัติการกวาดล้างกบฏ" ครั้งนี้คือปฏิบัติการ "ทหารปฏิวัติซ่อนรูป" เหมือนเข็มกลัดซ่อนปลาย ภาพของเข็มกลัดไม่มีคม แต่การทำงานแท้จริงของเข็มกลัดคือ "คมที่ซ่อนปลาย" อยู่ในที่กลัด เราหยามเย้ย ก่นว่า ด่าตำหนิกองทัพมานาน โดยเฉพาะกับ "พลเอกอนุพงษ์ เผ่าจินดา" ในฐานะผบ.ทบ.แล้ววันนี้หน้าที่กำลังปราบกบฏ เป็นหน้าที่ที่ "พลเอกอนุพงษ์" แสดงประสิทธิภาพกองทัพให้เป็นที่พึ่ง-ที่หวังของประชาชนได้ดังประจักษ์ การใช้อำนาจทำหน้าที่โดยไม่แสดงหน้า (เอาหน้า) ขี่ทับอำนาจรัฐบาลเช่นนี้ พลเอกอนุพงษ์ และทุกท่านในกองทัพบก ทัพอากาศ ทัพเรือ โดยเฉพาะกำลังในภาคสนามทุกท่าน ขอได้รับความขอบคุณจากประชาชน และภารกิจนี้...ประชาชนขอจำด้วยซึ้งใจ

    ปฏิบัติการราชประสงค์จบ แต่ภารกิจขจัด "โจรก่อการร้าย" ที่แตกตัวขยายลงใต้ดินหลายจังหวัดเพื่อแยกแผ่นดิน โดยเฉพาะอีสาน-เหนือ และรอบๆ กรุงเทพมหานคร...ยังไม่จบ! ไม่ใช่การให้เกียรติโจร แต่ผมขอบอกว่า "อำนาจค้ำหลังหลังโจร" กล้าแข็งยิ่งนัก แฝงตัวอยู่ในหน่วยราชการ ในรัฐบาล ในกองทัพ ในตำรวจ ในรัฐสภา ในมหาวิทยาลัย ในโรงเรียน ในวัด ในซ่อง ในบ่อน อาจไม่เว้นกระทั่งในสถาบันสื่อ เป็นเรื่องที่ทั้งรัฐบาลและกองทัพทราบดีอยู่แล้ว ประเด็นก็คือ ปฏิบัติการทหารครั้งนี้ ขับเคลื่อนด้วย พ.ร.ก.ฉุกเฉิน แต่เมื่อปฏิบัติการจบ แต่ภารกิจขจัดภัยแผ่นดินยังต้องเดินหน้าต่อไป แล้วจะทำยังไง จะปล่อยให้รัฐบาลภายใต้ "ระบบรัฐสภา" อันมีสมาชิกบางส่วนเป็นแนวร่วมกบฏใช้ "อำนาจปกติ" ขับเคลื่อนแก้ไข ก็เท่ากับปล่อยให้ "ทั้งโจรนอก-ทั้งโจรใน" "แยกกันตี-ร่วมกันล้มประเทศ" ไปสู่เป้าหมายเท่านั้นเอง!?
    ณ ขณะนี้ ใครจะ "รัฐประหาร" คือยึดอำนาจรัฐบาล ในระบบรัฐสภา ไม่เป็นผลดีด้วยประการทั้งปวง และจะเสียแนวร่วมในสังคมโลก ทั้งที่เรา-คนไทยส่วนใหญ่เวลานี้ต่างรู้ดีว่า "อำนาจปกติ" ใช้แก้ไข-ควบคุมปัญหาไม่ได้แล้ว ไม่ต้องอะไรมาก นับจากวันนี้ไป นายกฯ ก็ดี รัฐมนตรีก็ดี จะไปปฏิบัติหน้าที่ "นอกทำเนียบฯ" ที่ไหน อันตรายทั้งนั้น!


     นายกฯ อภิสิทธิ์ ถึงจิตใจเข้มแข็งเกินคาดหมาย แต่เมื่อจบบทแรกของภารกิจนี้ ผมคิดว่า "ควรให้ท่านพัก" พักในที่นี้ ไม่ใช่ลาพัก แต่หมายถึงถ้าท่านปรารถนาจะลาออกเป็นการแสดงความรับผิดชอบก็ดี  เป็นการหยั่งความรู้สึกตอบสนองต่อบทบาทนายกฯ ที่ทำไปจากประชาชนก็ดี เป็นสิ่งที่ท่านคิดถูก!
     แต่การลาออก แล้วให้สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรเลือกตัวนายกฯ ใหม่นั้น นอกจากเยิ่นเย้อด้วยปัญหาจากตัณหานักการเมืองแล้ว ด้วยระบบรัฐสภาที่ถูกใช้เป็น "ตรายางให้โจร" เวลานี้ ผมมองว่านอกจากไม่สามารถพึ่งพาให้เป็นที่แก้ปัญหาแล้ว ยังจะเป็นรังโจรอาศัยเงินชาวบ้านเลี้ยง "สร้างปัญหา" ให้บ้านเมืองหนักขึ้น ผมคิดว่า ด้วยปัญหาวิกฤติบ้านเมืองเฉพาะหน้า ฝ่ายรัฐบาล ฝ่ายค้าน ฝ่ายวุฒิ และพรรคการเมืองที่มี ส.ส.อยู่ในสภา น่าจะมีการพบปะหารือด้วยหัวข้อเร่งด่วนเฉพาะ
     ควรจะ "พักใช้รัฐธรรมนูญบางมาตรา" ดีไหม? เพื่อเปิดช่องตั้ง "รัฐบาลแห่งชาติ" และแปลงรัฐสภาเป็น "รัฐสภาแห่งชาติ" ให้อำนาจผสมระหว่าง อำนาจรัฐสภา+อำนาจนอกรัฐสภาทำหน้าที่ ๒ อย่างในปัญหาเฉพาะหน้า คือ
๑.ภารกิจขจัดโจรก่อการร้าย และภารกิจจัดระเบียบข้าราชการ-ทหาร-ตำรวจใหม่
๒.ร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญโดยประชาชนมีส่วนร่วม ก่อนให้มีการเลือกตั้งใหม่
     การยุบสภา "เลือกตั้งใหม่" จะปลายปี-ต้นปี ไม่มีประโยชน์อะไรทั้งสิ้น  ระบบรัฐสภากับระบบกองทัพ ควรหารือร่วมกันออกแบบเสื้อผ้า "ประชาธิปไตยไทย" เป็นสินค้าตัวอย่างให้ประชาชนทางปฏิบัติ นั่นคือ "รัฐบาลแห่งชาติ" นี้มีลักษณะเป็นรัฐบาลประชาธิปไตยในระบบรัฐสภาเหมือนเดิม แต่ประชาธิปไตยแท้ก็เหมือนทองคำแท้ นิ่ม-เหลว ทำประโยชน์เพื่อการใช้สอยยาก ในทางปฏิบัติทุกวันนี้ ทองคำที่ซื้อขายทั้งโลกจึงเป็นทองคำที่ใช้ทองเหลือง-ทองแดงผสม เพื่อ "ให้แข็ง-ทำประโยชน์ได้" ฉะนั้น ทองคำในตลาดจึงเป็นทองกว่า ๙๐ เปอร์เซ็นต์ขึ้นไปทั้งนั้น!
    "รัฐบาลแห่งชาติ" ชั่วคราว จะเป็นรัฐบาลประชาธิปไตยซ่อนรูป การพักใช้รัฐธรรมนูญบางมาตรา ก็เพื่อเปิดโอกาสให้ "ตัวเลือกนายกฯ" มีทั้งคนในและคนนอก และคนกองทัพมีโอกาสเข้าร่วมบริหารในฐานะรัฐบาลได้เต็มตัว เช่นเดียวกับทุกพรรคที่มี ส.ส.ในสภา ส่วน ส.ส.และ ส.ว.คงสภาพไว้ แต่เพิ่มแต่งตั้ง "ฝ่ายชำนาญการ" และ "ฝ่ายปราชญ์ชาวบ้าน" แต่ละท้องถิ่นจำนวนหนึ่งเข้ามาร่วมออกแบบตัวอย่าง "ประชาธิปไตยไทย" แทนประชาธิปไตยลอกรอยตีนฝรั่งดังทุกวันนี้!

     นี่แหละ "การเมืองต้องแก้ด้วยการเมือง" จริงๆ คือให้ทุกคนระบบรัฐสภาวันนี้ หารือนอกรอบจนลงตัวกัน แล้วประชุมรัฐสภาลงมติ "พักใช้รัฐธรรมนูญบางมาตรา" เพื่อไปสู่การมี "รัฐบาล-รัฐสภา" แห่งชาติชั่วคราว การเมืองไทยระบอบประชาธิปไตยวันนี้ต้องมีตัว "อำนาจคั่นกลาง" ระหว่าง รัฐบาล-รัฐสภา-ประชาชน ไม่เช่นนั้น การแก้ปัญหาพี่น้องไทยแตกใจซึ่งกันและกัน "มันยากแก้" ต้องเอาทหารและปราชญ์ชาวบ้านท้องถิ่นมาเป็น "ตัวร่วม-ตัวหลอม" ในรัฐบาลชาติ
     ถึงเวลาแล้วจริงๆ ที่ประเทศไทยต้อง "ออกแบบประชาธิปไตย" ใช้เอง.


http://www.thaipost.net/news/210510/22374
      บันทึกการเข้า
swsm
Cmadong Member
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
****


@@ ยาหยี @@
ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: Rcu2523
คณะ: Comm Arts
กระทู้: 28,369

« ตอบ #2143 เมื่อ: 21 พฤษภาคม 2553, 10:23:35 »

พี่แก้วคะ .. เห็นเช่นเดียวกันค่ะ


คงไม่จบง่าย ๆ เพราะทั่วทุกหัวระแหงยังคงคุกรุ่นอย่างกระจัดกระจาย
ลองออกไปเดินตามตลาด 
ไปนั่งทานก๋วยเตี๋ยว ขึ้นรถเมล์
ได้ข้อมูลที่ทำเอาถึงกับอึ้งเลยค่ะ ..


วันก่อนได้ยินว่า .. 'อย่าคิดว่าจะจบง่าย ๆ ยังมีอีกหลายยก'


อยากจะเซ็ง  แต่ยังเซ็งไม่ได้ .. ต้องช่วยกันค่ะ
     สะใจจัง
      บันทึกการเข้า

.. don't play with me, cos I know how to play it too .. may be better than you do ..
เหยง 16
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: rcu2516
คณะ: เภสัชศาสตร์ 2516
กระทู้: 23,533

« ตอบ #2144 เมื่อ: 21 พฤษภาคม 2553, 10:23:56 »

คอลัมม์ "ท่านขุนน้อย" เขียน ถึงเวลา...ก้าวข้ามทักษิณ

ถึงเวลา...ก้าวข้ามทักษิณ
ท่านขุนน้อย 21 พฤษภาคม 2553 - 00:00

     คงแทบไม่ต้องเสียเวลาบรรยาย...ว่าความพังพินาศ ฉิบหาย ที่เกิดขึ้นกับชาติ บ้านเมือง มันหนักหนาสาหัสไปถึงขั้นไหน ไม่เพียงแค่ตึกราม อาคาร ทรัพย์สิน ของเอกชน และทางการเท่านั้น เลือดเนื้อชีวิตของผู้คน ตลอดไปจนความรู้สึกนึกคิด ของใครต่อใคร ที่ต่างต้องตกอยู่ในอาการหวั่นผวากับภาวะไร้ระเบียบ ไร้กฎเกณฑ์ ตกเป็นเหยื่อ เป็นตัวประกันของอำนาจมืด ผู้ซึ่งพยายามแสดงออกถึงความเกลียด เคียดแค้น อาฆาตพยาบาท ชนิดไม่เหลือความเป็นมนุษย์มนาติดตัวเอาเลยแม้แต่น้อย...
           ---------------------------------------------
     อะไรต่อมิอะไรเหล่านี้...คงต้องถือว่าเป็น "รายจ่าย" ชนิดหนึ่ง ซึ่งมิอาจหลีกเลี่ยงได้ ไม่ว่ามันจะ "คุ้มค่า" หรือไม่? เพียงใด? แต่สังคมทั้งสังคม...หนีไม่พ้นที่จะต้องสูญเสียรายจ่ายก้อนนี้ เพื่อแลกมากับบางสิ่ง บางอย่าง อันอาจทำให้เราทั้งหลาย มีโอกาสผลักดันสังคมให้เดินหน้าต่อไปได้อย่างมีสติ มีวุฒิภาวะ เพิ่มขึ้นมาบ้าง ไม่ว่ามากหรือน้อยก็ตามที หรืออย่างน้อยที่สุด...มันอาจนำเอาไปใช้ในการขจัด "อวิชชา" ที่ปกคลุม ครอบทับ ความรู้สึกนึกคิดของผู้ที่อยู่ร่วมในสังคมเดียวกันได้เป็นจำนวนไม่น้อย ไม่ว่าคนเหล่านั้นจะมีสถานะเป็นนักการเมือง นักวิชาการ ปัญญาชน สื่อมวลชน ตลอดไปจนถึงราษฎรธรรมดาสามัญ ฯลฯ ผู้ซึ่งสูญเสียขีดความสามารถ แม้แต่กระทั่งการแยกแยะความถูก-ความผิด ความดี-ความชั่ว ออกจากกันและกันมานานเต็มที...
           ----------------------------------------------
     ความมั่วๆ มึนซ์ซ์ ไม่รู้ว่าอะไรถูก อะไรผิด อะไรคือผลประโยชน์ส่วนรวม อะไรคือผลประโยชน์ส่วนตัว อะไรคือกงจักร อะไรคือดอกบัว ฯลฯ ที่ทำให้สังคมไทยต้องแบ่งข้าง แบ่งฝ่าย มานานนับเป็นปีๆ มาบัดนี้...โดยโฉมหน้าของเหตุการณ์ โดยข้อเท็จจริงของสถานการณ์ ได้เปิดเผยถึงรายละเอียด และคำอธิบายต่างๆ ด้วยตัวของมันเอง ให้เห็นกันแล้วอย่างชัดเจน แจ่มแจ้ง ชนิดไม่ว่าใครก็ใคร ต่อให้มี "สีข้าง" แข็งแรงระดับคอนกรีตเสริมใยเหล็กก็เถอะ โอกาสที่จะใช้สีข้างเถลือกไถล ตะบิด ตะแบง นำเอาเหตุผล ข้ออ้าง ข้อมูล ทฤษฎีต่างๆ มาใช้เป็นเครื่องมือในการสนับสนุนอารมณ์ความรู้สึก อันมี "ตัวกู-ของกู" เป็นศูนย์กลาง...น่าจะเป็นไปได้ยากซ์ซ์ซ์ยิ่งขึ้นเรื่อยๆ...
        ---------------------------------------------------
     เพราะไม่ว่าจะเป็นระบอบประชาธิปไตยอันมีองค์พระมหากษัตริย์ทรงเป็นพระประมุข หรือระบอบประชาธิปไตยในลักษณะไหนๆ ก็แล้วแต่ แต่ถ้าหากไม่มีคุณธรรม ศีลธรรม เป็นองค์ประกอบพื้นฐานแล้วละก็ มันก็จะกลายเป็นประชาธิป...ตาย หรืออนาธิปไตย อย่างที่เราเห็นๆ กันอยู่ในช่วงไม่กี่วันที่ผ่านมานั่นแหละ ความอำมหิต โหดร้าย การระบายออกซึ่งสัญชาตญาณดิบ เพียงเพื่อตอบสนองความสะใจ ความเกลียด โกรธ อาฆาต พยาบาทของตัวเอง โดยไม่ได้คำนึงถึงผู้อื่น ถึงผลประโยชน์ของส่วนรวม พร้อมที่จะนำเอาชาติทั้งชาติไปใช้เป็นเครื่องเซ่นสรวงบูชาบุคคลเพียงคนเดียว ทั้งที่บุคคลผู้นั้น...มันสุดจะชั่วว์ว์ว์แสนชั่วว์ว์ว์...ชั่วเกินกว่าจินตนาการใดๆ จะคาดได้ แต่ก็ด้วยการนำเอาเหตุผล ข้ออ้าง แบบมั่วๆ มึนซ์ซ์ๆ เบลอๆ มากล่อมเกลาภายในความรู้สึกของฝ่ายเดียวกันเอง เบื้องหลังฉากเหตุการณ์ อันทำให้ประเทศไทยทั้งประเทศต้องแหลกยับเยิน พังพินาศ ฉิบหาย ในคราวนี้...ย่อมมิอาจปฏิเสธได้เลยว่า เพราะคำว่า "ทักษิณ" เพียงคำเดียวเท่านั้น...ไม่ใช่คำว่าประชาธิปไตย ความเสมอภาค เสรีภาพ อันสูงส่งใดๆ เอาเลยแม้แต่น้อย...
               -------------------------------------
     แต่จะไปโทษ "ทักษิณ" เพียงคนเดียว...ก็คงไม่ถึงกับถูกเรื่องกันซักเท่าไหร่นัก เพราะตราบใดที่ไม่มี "อวิชชา" เป็นพื้นฐานรองรับอารมณ์ความรู้สึกของราษฎร นักการเมือง ข้าราชการ สื่อมวลชน ตลอดไปจนปัญญาชน นักวิชาการ ฯลฯ แล้ว คนคนเดียวมันคงไม่ถึงกับมีฤทธิ์ มีเดช มากมายถึงขั้นนี้ คำว่า "ทักษิณ" ในที่นี้...มันจึงมีความหมายในเชิงสัญลักษณ์ออกไปในแนวเดียวกับคำว่า "ความเห็นแก่ตัว" นั่นแหละ...ท่ามกลางความเห็นแก่ตัวซึ่งเกาะกุมอยู่ในความรู้สึกนึกคิดของนักการเมือง ผู้กระเหี้ยนกระหือรืออยู่กับการช่วงชิง แย่งยื้ออำนาจทางการเมือง โดยไม่สนใจต่อระบบ ระบอบ ใดๆ ทั้งสิ้น ข้าราชการที่เคยชินอยู่กับการเอาตัวรอด เลือกข้าง เลือกฝ่าย โดยไม่ได้คำนึงถึง "การทำหน้าที่" ตามความรับผิดชอบของตัวเอง นักวิชาการ ปัญญาชน ที่พยายามปั่นตัวเองเพื่อให้มีบทบาท มีที่ยืนอยู่ในสถานะใด สถานะหนึ่ง หรือแม้กระทั่งสื่อมวลชน ที่พร้อมทรยศต่อวิชาชีพ จรรยาบรรณ ของตัวเองมานานแล้ว ตลอดไปจนราษฎรผู้เสพติดอยู่กับการบริโภค จนไม่คำนึงถึงวัฒนธรรม ศีลธรรมอันดี ฯลฯ สิ่งเหล่านี้นี่เองที่มันถูกนำมาผสมกลมกลืนกันจนกลายเป็นความฉิบหายทั้งมวลของบ้านเมืองไปจนได้...
             -----------------------------------------
     "รายจ่าย" เพื่อที่จะให้ก้าวข้ามพ้นไปจากคำว่า "ทักษิณ" มันจึงกลายเป็นรายจ่ายก้อนโต มากมาย มหาศาลจนสุดแสนที่จะประมาณได้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อ "ยุทธศาสตร์" ของฝ่ายทักษิณ มันไม่ได้เป็นยุทธศาสตร์ที่มุ่งไปสู่การนำมาซึ่งความสุข ความสงบ ของบ้านเมืองใดๆ แม้แต่น้อย แต่เป็นยุทธศาสตร์ที่มุ่งไปสู่การสร้างพลังในการกดดัน ต่อรอง โดยมี "ผลประโยชน์ของคนคนเดียว" เป็นจุดมุ่งหมายปลายทางจุดสุดท้าย การสร้างความพังพินาศให้กับบ้านเมืองให้มากที่สุดเท่าที่จะมากได้ การเผาทำลายอาคาร บ้านเรือน ฆ่าฟัน ล้างผลาญ ชีวิตมนุษย์ ไม่ว่าฝ่ายตรงข้าม หรือกระทั่งฝ่ายเดียวกันเอง เพียงเพื่อให้บรรลุเป้าหมายดังกล่าว มันจึงปรากฏให้เห็นโดยชัดเจนในระดับแทบไม่น่าเชื่อว่า อะไรมันจะเห็นแก่ได้ เห็นแก่ตัว มากมายมหาศาลถึงเพียงนี้...
        ----------------------------------------------------
     ก็เอาเถอะ...ในเมื่อเรามิอาจที่จะหลีกเลี่ยงรายจ่ายก้อนนี้ไปได้ หรือจำเป็นที่จะต้องจ่ายกันไปเรียบร้อยแล้ว ก็ได้แต่หวังว่า บรรดาความเสียหาย และความสูญเสียต่างๆ ซึ่งเราทั้งหลายเลี่ยงไม่พ้นที่จะต้องแบกรับกันต่อไปโดยถ้วนหน้า จะสามารถนำมาใช้เป็น "บทเรียน" เป็นเครื่องมือในการขจัด "อวิชชา" และ "ความเห็นแก่ตัว" ที่แทรกซึมอยู่ในทุกซอก ทุกอณู ทุกแวดวงของสังคมลงไปได้บ้าง แม้แต่เพียงเล็กๆ น้อยๆ ก็ยังดี ภายใต้การเดินหน้าฟื้นฟู บูรณะ สิ่งต่างๆ เพื่อนำความสงบเรียบร้อยกลับคืนมาสู่บ้านเมืองนั้น...มันคงไม่ใช่เป็นเพียงแค่การหาทางฟื้นฟู บูรณะตึกรามอาคาร การฟื้นตัวเลขเศรษฐกิจ การหาทางสมานฉันท์กันแบบเจ๊าะๆ แจ๊ะๆ เท่านั้น เพราะสิ่งสำคัญที่สุดย่อมหนีไม่พ้นไปจากการฟื้นฟู บูรณะ ความรู้สึกนึกคิดของผู้คนในสังคม หรือการหาทางทำให้ผู้คนลด "ความเห็นแก่ตัว" ลงไปให้ได้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้นั่นเอง มันถึงจะทำให้เราทั้งหลายสามารถก้าวข้ามพ้นสถานี "ทักษิณ" ไปได้จริงๆ...
             ------------------------------------------
     ปิดท้ายด้วยวาทะวันนี้ จาก "ท่านพุทธทาสภิกขุ" (อีกครั้ง)..."ประชาธิปไตยที่แท้จริง ต้องเป็นไปเพื่อลดหรือป้องกันความเห็นแก่ตัว เพราะถ้าเห็นแก่ตัว...ก็มีแต่ประชาธิป-ตายเท่านั้น ความไม่เห็นแก่ตัวจึงเป็นรากฐานของประชาธิปไตยที่แท้ แม้จะเป็นไปได้ยากสำหรับปุถุชนสมัยนี้ที่หันไปบูชาวัตถุกันเป็นหลัก..
."
          -----------------------------------------------

http://www.thaipost.net/news/210510/22376
      บันทึกการเข้า
เหยง 16
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: rcu2516
คณะ: เภสัชศาสตร์ 2516
กระทู้: 23,533

« ตอบ #2145 เมื่อ: 21 พฤษภาคม 2553, 10:28:59 »

คอลัมม์ "ถูกทุกข้อ" ของคุณสามวา สองศอก

น่าสงสารคนไทย
ถูกทุกข้อ 21 พฤษภาคม 2553 - 00:00

          น่าสงสาร           ชาวพุทธ         สุดแสนเศร้า
     กิเลสเข้า                สิงสถิต          จิตเศร้าหมอง
     ทำ,พูดชั่ว                ทั่วไป           ไม่ไตร่ตรอง
     ผิดทำนอง                คลองธรรม       ประจำใจ
          พุทธศาสนา          เกิดมา          เพื่อดับทุกข์
     ให้มีสุข                  ถ้วนหน้า         พาสดใส
     แก้ปัญหา                 ทุกชนิด          ในจิตใจ
     แต่ทำไม                 ไทยพุทธ         ทรุดห่างธรรม
          นับถือพุทธ           ศาสนา          มาพันปี
     จิตใจมี                  แต่ตัณหา         ช่างน่าขำ
     ไม่ปฏิบัติ                 ขัดเกลาใจ       ใฝ่พระธรรม
     จึงกระทำ                พูด,คิด          จิตใจพาล
          เข้าห้ำหั่น           ปั่นปลุก          ทุกแห่งหน
     ยุให้คน                  ทำร้าย          คล้ายเดรัจฉาน
     เกิดเป็นไทย              ใจเป็นทาส       อันธพาล
     ในสันดาน                คิด,ทำ,พูด       ทุจริต
          กว่าจะมี            ประเทศไทย      ให้อาศัย
     ชีวิตไทย                 ในอดีต          กี่ชีวิต
     ต้องพลีชีพ                รักษาไทย        ไว้ทุกทิศ
     ยอมอุทิศ                 ชีวิต            เพื่อคนไทย
          แต่คนไทย           ในปัจจุบัน        มันไม่คิด
     ในใจจิต                 อำมหิต          ผิดวิสัย
     จากชาวพุทธ              สุดประเสริฐ      เกิดเป็นไทย
     ทำอะไร                 ให้มีค่า          น่าชื่นใจ.
                                                  ไสว  สุนทร     

                 คนบ้าสงคราม
เรียน คุณสามวา สองศอก และพี่น้องชาวไทยที่รักทุกท่าน
      เราคงจำกันได้ว่าเมื่อประมาณ 10 ปีที่ผ่านมานี่เอง ขณะที่ประเทศไทยของเรายังปกติสุขกันดีอยู่นั้น อยู่ๆ เราก็ได้ยินการประกาศสงครามภายในประเทศของเราขึ้นมา เช่น สงครามต้านยาเสพติด สงครามปราบความยากจน และสงครามปราบปรามการคอรัปชั่น แล้วก็คงจะมีอีกหลายสงครามตามมา
      ผมรู้สึกตกใจและได้คุยกับผู้คนหลายคน ว่าทำไมต้องไปตั้งชื่อนโยบายให้มันดูน่ากลัวกันขนาดนั้น ชื่ออื่นในภาษาไทยมีอีกมากมายไม่เอามาตั้ง ไปตั้งเป็นนโยบายการทำสงครามไปเสียหมดทุกโครงการ
     "สงครามก็คือสงคราม ทำไมต้องเอามาพูดมาตั้งชื่อกันเล่นๆ ให้เป็นลางร้าย ใครนะที่เป็นคนคิดชื่อนี้ได้คนแรก จะต้องเป็นคนรักการสงครามเอามากๆ หรือถึงขั้นบ้าสงครามเอาเลยทีเดียว"
     ทำให้ต้องหวนคิดไปถึงนักเผด็จการชาวเยอรมันคนนั้น อดอล์ฟ ฮิตเลอร์
     แล้วจากนั้นความตายจากภัยสงครามก็เริ่มขึ้น จาก "สงครามต้านยาเสพติด" ประมาณ 2,500 คน แล้วไปที่ "ตากใบ" และ "กรือเซะ" อีกหลายร้อยคน
     แล้วในที่สุดวันนี้ประเทศไทยของเราก็ตกอยู่ในภาวะสงครามอย่างแท้จริง และเป็นสงครามที่เราจะต้องรบกับคนที่รักการสงครามเป็นชีวิตจิตใจ ในขณะที่วันนี้เขาได้เปลี่ยนสัญชาติไปเป็นคนชาติอื่นไปแล้วด้วย
     การทำสงครามกับนักวางแผนมืออาชีพ ซึ่งมิใช่แค่ระดับชาติ แต่เป็นมือระดับโลกนั้น หากจะมองแค่สถานการณ์เฉพาะหน้าที่กำลังเผชิญอยู่ในแต่ละขั้นแต่ละตอนเท่านั้น จะเป็นการผิดพลาดอย่างมหันต์ทีเดียว เพราะจะเป็นเพียงการเล่นตามเกมที่อีกฝ่ายกำหนดไว้เท่านั้นเอง เราต้องรู้และเข้าใจทุกขั้นตอนและแผนสำรองทุกแผน รวมทั้งเป้าหมายที่ถูกกำหนดล่วงหน้าไว้แล้วนั้นด้วย
     ขอเพียงอย่าได้เข้าใจผิดว่าเหตุการณ์นี้เป็นเพียงความขัดแย้งภายในชาติอีกต่อไป ต้องขอย้ำอีกครั้งว่า
     มันคือสภาวะสงคราม เพียงแต่มิใช่สงครามในภาวะปกติ แต่เป็นสงครามในยุคข่าวสาร ซึ่งไม่มีทางที่จะมีรูปแบบเหมือนสงครามในอดีตอีกต่อไป เมื่อมาถึงจุดนี้แล้วจึงหลีกเลี่ยงไม่ได้ที่จะต้องเผชิญกับสงครามข่าวและสงครามก่อการร้าย
     เช่นเดียวกับเหตุการณ์ที่กำลังเกิดขึ้นทั่วโลก จากตะวันออกกลางแล้วก็แพร่ระบาดไปถึงสหรัฐอเมริกา มาจนถึงสามจังหวัดชายแดนของไทย แล้ววันนี้ก็มาถึงใจกลางกรุงเทพมหานคร และกำลังลุกลามไปทั่วทุกจังหวัดในประเทศไทย การประเมินสถานการณ์ต่ำไป มีแต่จะทำให้เกิดข้อผิดพลาดครั้งแล้วครั้งเล่า
     มาถึงขณะนี้กองกำลังปฏิบัติการที่เรียกกันว่าไม่ทราบฝ่ายนั้น แท้จริงก็คือกองกำลังอิสระที่ถูกฝึกขึ้นจากโรงเรียนฝึกกองกำลังอิสระที่กระจายอยู่ทั่วประเทศ ได้ถูกกำหนดภารกิจไว้ล่วงหน้าแล้ว รวมถึงการปฏิบัติการและอิสระในการตัดสินใจ ในบางสถานการณ์ที่ไม่จำเป็นต้องได้รับคำสั่งด้วย
     ตราบใดที่คู่สงครามยังมีชีวิตอยู่ และยังมีกำลังเงินก็จะยังมีกำลังคนในการต่อสู้ สงครามก็จะยังดำเนินต่อไป แม้อาจจะมีความสงบเป็นบางช่วง แต่ก็จะยังเป็นเพียงความสงบชั่วคราว เพื่อรอการเริ่มต้นของเหตุการณ์ใหม่ๆ ต่อไป
     สงครามก็คือสงคราม ต้องรู้เขารู้เราเท่านั้น จึงจะสามารถควบคุมสถานการณ์ให้ดำเนินไปสู่ความสงบได้ในที่สุด
                                                          เล็ก เมืองเก่า
ตอบ คุณเล็ก เมืองเก่า
     หลังจากแกนนำเสื้อแดงเข้ามอบตัวแล้ว ต่อไปหัวหน้าผู้ก่อการร้ายสัญชาติมอนเตรเนโกก็จะเปลี่ยนยุทธวิธีไปรบแบบกองโจร นายกฯ อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ตามให้ทันก็แล้วกัน

                     ผู้พันสไนเปอร์
เรียน คุณสามวา สองศอก
     ภาพยนตร์ฝรั่งเรื่อง The enemy at the gate เป็นเรื่องที่กล่าวถึงพลแม่นปืนทหารโซเวียตรัสเซีย ที่ใช้ยุทธวิธีซุ่มยิงทหารเยอรมัน ระหว่างการรบในสงครามโลกครั้งที่ 2 ที่เมืองสตาลินกราด ซึ่งเป็นเมืองด้านอุตสาหกรรมของรัสเซีย ยุทธวิธีดังกล่าวใช้ได้ผลในด้านสงครามจิตวิทยามวลชน ค่อยๆ ทำลายขวัญและกำลังใจของทหารเยอรมัน ที่ทำการสู้รบอยู่โดยไม่รู้ว่าวันใด สถานที่ใด ที่ตนเองหรือใครในกองทัพเยอรมันจะถูกซุ่มยิงที่หัว!!?
     และแล้วต่อมาในวันหนึ่ง กองทัพเยอรมันได้ส่งผู้พันนักแม่นปืนมาเข้าแก้ยุทธวิธีการซุ่มยิงของทหารโซเวียตรัสเซีย ด้วยวิธีการใช้ "เกลือจิ้มเกลือ" การยิงตอบโต้เพื่อเรียกขวัญกำลังใจในการรบของทหารเยอรมันกลับคืนมา
     ผู้พันสไนเปอร์โต้ตอบ โดยซุ่มยิงเป้าหมายโซเวียตรัสเซีย ทำลายขวัญกำลังใจทหารในการรบของทหารโซเวียตรัสเซียไปเรื่อยๆ และจนกระทั่งวันหนึ่งเขาก็สามารถค้นพบเป้าหมายหลัก คือพลแม่นปืนทหารรัสเซียคนนั้นได้ จากการใช้กลยุทธ์ลูกไม้ตื้นๆ หาข่าวจากเด็กรับใช้ชาวรัสเซียที่ดูแลขัดรองเท้าให้ผู้พันสไนเปอร์นั่นเอง เป็นจุดเริ่มต้นที่นำมาสู่การทำให้เขาสามารถสังหารเป้าหมายหลัก พลแม่นปืนทหารรัสเซียคนนั้นได้ในที่สุด
     เรื่องนี้เข้าตำราหมองูตายเพราะงู และผู้พันสไนเปอร์ก็เป็นเฉกเช่นเดียวกัน ในเวลาต่อมาเขาก็ถูกซุ่มยิงตายเพราะพลแม่นปืนคนอื่นๆ ซึ่งก็เข้าตำรา "เหนือฟ้ายังมีฟ้า" ของจีน และเข้าตำรา "กรรมตามทัน" ตามหลักศาสนาพุทธ ที่คนไทยส่วนใหญ่นับถือนั่นเอง
     กรณีการถูกซุ่มยิงที่หัวของเสธ.แดง คงจะเป็นปมปริศนาเหมือนกับเรื่องไอ้โม่งคลุมผ้าคลุมหัวสีดำ เมื่อ 10 เมษายน 53 ที่ผ่านมาเช่นกัน หัวกระสุนที่ยิงทะลุศีรษะเสธ.แดงออกไปเลย จึงไม่สามารถพิสูจน์หลักฐานใดๆ ของหัวกระสุนปืนได้ว่ามีที่มาที่ไปอย่างไร ใครเป็นผู้บงการ นอกเสียจากค้นหาหัวกระสุนปืนได้ในบริเวณที่เกิดเหตุ และคงจะเหมือนๆ กับทุกเรื่องเรื่องที่ผ่านมาเอ้อ..เอยก็ผ่านไป ที่เกิดขึ้นในประเทศนี้!!?
     บทเรียนจากการรบในภาพยนตร์เรื่องนี้ เป็นเรื่องที่สมควรประยุกต์นำเอามาใช้สำหรับกองทัพ ในการปราบม็อบการชุมนุมก่อการร้ายโดยไม่สงบ โดยมีจุดมุ่งหมายให้คนที่มาร่วมชุมนุมบาดเจ็บล้มตายน้อยที่สุด
     การซุ่มยิงระยะไกลเด็ดหัวตัวแกนนำให้ร่วงผล็อยเหมือนใบไม้ทีละใบร่วงจากกิ่ง จะส่งผลในด้านการทำลายขวัญกำลังใจ และจิตวิทยามวลชนผู้ชุมนุมในการชุมนุม และขณะเดียวกันทำพร้อมกันไปด้วยกับยุทธวิธีการตัดกำลังบำรุง ให้ผู้เข้าร่วมชุมนุมเริ่มโดดเดี่ยวเปล่าเปลี่ยว ไม่แน่ใจในชีวิตรอดปลอดภัยจะต้องคิดเลือกเอาวิธีไหน ในระหว่างการอดอาหารตาย หรือว่าถูกกระสุนปืนตามแกนนำ (กรรมแนน) ตาย!!?
     "กรรม" แปลว่าการกระทำ ในภาษาอังกฤษใช้คำว่า Action ขบวนการชุมนุมก่อการร้ายเสื้อแดงใช้ Action ในวิชาฟิสิกส์ที่สมมุติว่าเท่ากับ 100 นิวตันมาโดยตลอด ในขณะที่ ศอฉ.กลับใช้ Reaction เพียง 10 นิวตันมาโดยตลอดเช่นกัน
     ดังนั้นสภาพกรรมตามทัน ชั้นเชิงความเหนือกว่าและบดขยี้ได้ทันควัน ยังไงเสียก็ต้องอยู่ที่ขบวนการชุมนุมก่อการร้ายเสื้อแดง เป็นผู้กำชะตาและวิถีทางในการปฏิบัติ จึงถึงเวลาแล้วหรือยังที่กองทัพจะต้องงัดบทเรียนการรบในภาพยนตร์เรื่องนี้ มาประยุกต์ใช้โดย ศอฉ.ต้องใช้ Reaction มากกว่า 100 นิวตัน ผลักดันดับฝันผู้ชุมนุม โดยเฉพาะนายใหญ่มอนเตเนโกร ให้เสียค่าโง่และเสียทุกอย่างไปโดยไม่ประสบความสำเร็จใดๆ ตามที่มุ่งหวังเอาไว้
     "การดับเพลิง" จะต้องดูที่ลักษณะของเพลิงว่าเกิดขึ้นจากอะไร จึงหาวิธีการดับเพลิงได้สนิท ไม่ใช่ดันทุรังเข้าใจว่าใช้มาตรฐานน้ำเพียงอย่างเดียว ชาติหน้าบ่ายๆ ยังไงเสียไฟก็ไม่มอดดับลงได้อย่างแน่นอน!!?
                                                            เสธ.เหลือง
                                                    ผู้ทรงคุณธรรมกองทัพบก
ตอบ เสธ.เหลือง
     ขออภัยที่จดหมายฉบับนี้เพิ่งได้ลง เพราะส่งมาช่วงที่จดหมายเข้ามาเยอะมาก แต่เรื่องพลแม่นปืนที่เก็บเสธ.แดงได้ ลงเมื่อไหร่ก็ยังเป็นที่น่าสนใจ
                                                       สามวา สองศอก

http://www.thaipost.net/news/210510/22373
      บันทึกการเข้า
เหยง 16
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: rcu2516
คณะ: เภสัชศาสตร์ 2516
กระทู้: 23,533

« ตอบ #2146 เมื่อ: 21 พฤษภาคม 2553, 10:44:47 »

ฟังสื่อต่างชาติวิเคราะห์การเมืองไทย ไม่ทราบไปอ่านบทความของ"คุณเปลว สีเงิน" มาก่อนหรือเปล่า ??

วันที่ 21 พฤษภาคม พ.ศ. 2553 เวลา 10:06:24 น.  มติชนออนไลน์
รอยเตอร์สวิเคราะห์ 5 แนวทางทิศทางไทยหลังเหตุปั่นป่วนกลางกรุงเทพฯ


สำนักข่าวรอยเตอร์สรายงานเมื่อวันที่ 20 พ.ค. ที่ผ่านมาว่า กรุงเทพฯ ได้กลับเข้าสู่สภาวะสงบสุขแล้ว หลังจากการใช้ปฏิบัติการทางทหารเข้าสลายการชุมนุมของผู้ประท้วงที่ใจกลางกรุงเทพฯ ยุติการเผชิญหน้านาน 9 สัปดาห์ระหว่างผู้ประท้วงกับรัฐบาล ทำให้เกิดการจลาจลครั้งเลวร้ายที่สุดในประวัติศาสตร์ไทยยุคใหม่ สำนักข่าวรอยเตอร์สได้วิเคราะห์ความเป็นไปได้ที่จะเกิดขึ้นในไทยต่อไปไว้รวม 5 แนวทางดังนี้
 

1. การต่อต้านสงบลง ตกลงกันได้เรื่องแผนการเลือกตั้ง
2. มีสงครามกองโจรรุนแรงมากขึ้นในต่างจังหวัด
3. อภิสิทธิ์ถูกปลด ตั้งรัฐบาลรักษาการณ์
4. อภิสิทธิ์ถูกปลด ตั้งรัฐบาลเอกภาพแห่งชาติ
5. รัฐบาลไม่อาจควบคุมความสงบ และกองทัพก่อรัฐประหาร
 


ทั้งนี้ รอยเตอร์ส สรุปเองเช่นกันว่า แนวทางสุดท้ายนี้ไม่น่าจะเกิดขึ้นจริง จะไม่เกิดผลดีต่อการเงินของประเทศไทย และอาจส่งผลต่อตลาดการเงินชาติอื่นๆในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ด้วย


http://www.matichon.co.th/news_detail.php?newsid=1274411203&grpid=03&catid=
      บันทึกการเข้า
prapasri AH
Cmadong พันธุ์แท้
****


ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 3,256

เว็บไซต์
« ตอบ #2147 เมื่อ: 21 พฤษภาคม 2553, 14:12:02 »

อาจารย์แจ่มขา เด่วจะโทรมาคุยนะคะ

ขอเครียร์งานแป๊บเดียว

กำลังทำใบรับสมัครแพทย์ ประกาศในมติชนค่ะ

ตอนนี้ร.พ ขาดหมอมากค่ะ

มีหมอคนหนึ่ง ไปเป็นแดงซะเเล้ววววววว

ตอนก่อนเป็นเหลืองชนิดโพกหัว ผ้าเหลืองเลย

ตอนนี้เป็นแดงแจ๋....


คนเราทำไมเปลี่ยอุดมการณ์ กันได้ง่ายๆ ขนาดนี้

อุดมการณ์มันเป็นอะไรที่เปลี่ยนยากมาก สำหรับพี่แอ๊ะ

แต่คนอื่นทำไม เขา เปลียนง่ายๆ อย่างนี้...เป็น งง ไปหมด คนสมัยนี้

วันก่อน มาบอกน้องกระติ๊บให้บอกแม่ว่า

ให้ติดป้ายหน้าร.พว่า


"ขอให้ทหารหยุดฆ่าประชาชน"


น้องติ๊บ งง ใหญ่เลยค่ะ

เรื่องคนไข้พี่แอ๊ะ ส่วนใหญ่มาจากทั้ง  ยโสธร  ร้อยเอ็ด  มุกดาหาร อุบล ศรีสะเกษ

ส่วนใหญ่จะเป็นร้อยเอ็ดค่ะ เพราะอาณาเขตใกล้ยโสธรมาก


มุกดาหาร เเถว ดงหลวง นั่นแหละค่ะ เป็นโรคนิ่วกันทั้งหมู่บ้านเลย ค่ะ

คนไข้สีแดง เยอะเลยเรา


ยโสธร , มีเพียง 50 % ของคนไข้ ทั้งหมดค่ะ

 เพราะประชากรยโสธร มีนิดเดียว


อ้างถึง
ข้อความของ jamsai เมื่อ 21 พฤษภาคม 2553, 09:38:48
พี่แอ๊ะคะ

เห็นใจที่สุด ขอเป็นกำลังใจให้พี่ค่ะ แต่ถึงอย่างไรพี่ต้องเข้มแข็งนะคะ
ปัจจัยในการสร้างความเข้มแข็งอย่างหนึ่งคือเผชิญหน้ากับความเป็นจริง

ดังนั้นน้องป้าแจ่มอาจจะดูโหดร้าย ที่จะขอทำลายฝันพี่เล็กน้อย....คือ..

ที่พี่ว่า...

........." คนไข้ที่มารักษาเป็น เเดง หมด 100 % ค่ะ เค้าคงรักเรา มั่งแหละนะ..."
[/color]

พี่หวังเอาแค่ 1 % เถอะค่ะ จะได้ ไม่เสียใจมากหากผิดหวัง ถ้าจะให้ได้ผลคือช่วยเหลือโดยตั้งใจให้แบบไม่ต้องไปหวังเอาความรัก
จากพวกเขาเลย ให้หวังเพียงว่าให้เปล่าเป็นบุญไปเลย และกรวดน้ำตั้งจิตอธิษฐานทำนองนี้นะคะ

หากบุญกุศลอันเกิดจากความตั้งใจดีให้นี้ ขอได้โปรด เป้นพลวัต ปัจจัย บันดาลให้สรรพสัตว์ทั้งหลายในยโสธร ได้สำนึก
 ในผิดชอบชั่วดี ละอายชั่วกลัวบาปโดยฉับพลันทันทีเถิด อนึ่งหากมีเวรกรรมใดๆในอดีตชาติที่ได้กระทำต่อกันแล้วนั้น
ก็ขอให้อโหสิ ขอสะบั้นตัดทอนกรรมชั่วนั้นๆให้สิ้นสุด อย่าได้มีเวรต่อกันและกันอีกต่อไป

ที่ต้องบอกพี่อย่างนี้นะคะ เพราะ 1 ปี ของการสอนและจัดสัมมนา ของโรงเรียนการเมือง นปช  
ชาวบ้านภาคอิสาน ที่รับการอบรม เชื่อมั่นในประชาธิปไตยแบบกินได้ของไอ้วายร้ายทักษิณ
และจิตสำนึก ค่านิยม คือ ทำนองนี้ค่ะ

ความดีคือมีเงิน มีเงินมากคือดีมาก  มีเงินน้อย คือความดีน้อย
ความชั่วคือความที่ไม่มีเงิน
ให้เงินมากก็รักมาก ให้เงินน้อยก็รักน้อย ไม่ให้เงินก็ไม่รักเลย


พี่จะหวังอะไรได้ล่ะคะ  แม้แต่คนที่ทำดีมาตลอดอย่างน้อย กว่า 60 ปี
ทำเพื่อให้ประชาชนอยู่ดีกินดี มีศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์ พึ่งพาตัวเองได้อย่างเพียงพอ
รักษามรดกทรัพยากรธรรมชาติไว้ให้ลูกหลานสืบไปตราบเท่านาน
ยังถูกพวกนี้ด่าว่า ขับไล่ แล้วไปเคารพบูชาคนที่โกงกินบ้านเมืองล้างผลาญทรัพยากรล่วงหน้า

นี่คือความจริงที่เราจะต้องหันหน้ามารับรู้ และตั้งสติกันค่ะ

ป้าแจ่มเองก็กำลังปริ่มๆกับภาวะสติแตกค่ะพี่น้อง

อย่าดีใจว่ารัฐบาลชนะนะคะ ไม่เลยค่ะ นี่เป็นเพียง plan C Tukky + Plan A เริ่มต้น
ของผู้ใหญ่ลี (ลี กวน ยิว) เท่านั้น


รอดู plan D Tukky (ซึ่งจริงๆแล้วต่อไปคือ ผกค คืนชีพ จะโผล่มารับช่วงต่อ100%) + plan B ของผู้ใหญ่ลี

ซึ่งปัจจัยความสำเร็จของพวกเขาคือ นักการเมืองไทยที่ไร้ธรรมะและหิวกระหาย
+คนไทยโง่ๆ + คนไทยฉลาดแต่ขี้ขลาด นั่นเองล่ะค่ะ

 ฮือๆ เค้าไม่ยอม



      บันทึกการเข้า

ชาวหอ ชาวหอจุฬา สดใสเริ่งรา เมื่อมาร่วม สามัคคี
prapasri AH
Cmadong พันธุ์แท้
****


ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 3,256

เว็บไซต์
« ตอบ #2148 เมื่อ: 21 พฤษภาคม 2553, 14:20:09 »

เมื่อกี้ น้องต้นเล่าให้ฟังว่า

คนไข้เป็นพ่อใหญ่คนหนึ่ง กำลังดูทีวี ที่ตอนเพลิงไหม้ กรุงเทพ

พ่อใหญ่บอกว่า  อย่างนี้ต้องให้รัฐบาลรับผิดชอบ


น้องต้นเลย ตะโกนใส่ว่า (คิดว่า น้องต้นคงจะบอกแบบสุภาพนะค่ะ)

แต่เวลามาบอกแม่แบบว่าโมโหมาก

"พ่อใหญ่.... ถ้าพ่อใหญ่ไปเผาบ้าน หมอ แล้ว พ่อใหญ่ จะให้รัฐบาลรับผิดชอบหรือ

พ่อใหญ่ เผาได้ พ่อใหญ่ก็ต้องเข้าคุก ซิ จริงไหม"


พ่อใหญ่ทำหน้าป๋อหลอ เพราะ คิดว่าหมอคนนี้ เป็นแดง เลยคุยได้เเบบเพี้ยนๆอย่างนี้
      บันทึกการเข้า

ชาวหอ ชาวหอจุฬา สดใสเริ่งรา เมื่อมาร่วม สามัคคี
Intania๑๖
Cmadong Member
Hero Cmadong Member
****


ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: ๒๕๑๖
คณะ: เวสสุกรรม
กระทู้: 1,071

« ตอบ #2149 เมื่อ: 21 พฤษภาคม 2553, 14:34:48 »

คนใกล้ชิด "หญิงอ้อ" แจงธุรกรรมเงินต้องสงสัย พบถอนเงินใส่รถครั้งละเกือบพันล้าน
แกนนำ นปช.บางคนเงินงอกนับร้อยล้าน ซื้อบ้านหลังละ10 ล้าน




 
ที่มา : http://www.suthichaiyoon.com/detail/2788


ศอฉ.เล็งเรียก คนใกล้ชิด "หญิงอ้อ" แจงธุรกรรมเงินต้องสงสัย พบถอนเงินใส่รถครั้งละเกือบพันล้าน "ตู่" จ่อคิวโดนด้วย เตรียมประกาศเพิ่มชื่ออีก 50 ราย แฉแกนนำ นปช.บางคนเงินงอกนับร้อยล้าน ซื้อบ้านหลังละ10 ล้าน ดีเอสไอ ปปง.เรียกถกตัวแทนธนาคาร แจงแนวทางรายงานธุรกรรมทางการเงินย้อนหลังเครือข่ายแม้ว เพื่อไทยโวยถูกเหวี่ยงแห

เมื่อวันที่ 17 พฤษภาคม รายงานข่าวจากศูนย์อำนวยการแก้ไขสถานการณ์ฉุกเฉิน (ศอฉ.) เปิดเผยว่า กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายใน (กอ.รมน.) และหน่วยข่าวของทหาร ได้รวบรวมรายชื่อนิติบุคคลและบุคคลที่มีธุรกรรมต้องสงสัย มีส่วนเกี่ยวพันกับการสนับสนุนกลุ่มก่อการร้ายประมาณ 100 รายชื่อ ส่งให้ตรวจสอบเทียบกับ 106 รายชื่อที่สั่งระงับการทำธุรกรรมทางการเงินไปแล้ว

"คมชัดลึก"รายงานว่า โดยรายชื่อทั้งหมดจะถูกรวบรวมนำเสนอให้ พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา ผบ.ทบ .พิจารณาเห็นชอบ ซึ่งอาจจะมีบุคคลและนิติบุคคลเพิ่มเติมประมาณ 20-50 รายชื่อ ส่วนหนึ่งเป็นแกนนำ นปช.ที่ยังไม่ถูกระงับการทำธุรกรรมการเงิน อาทิ นายจตุพร พรหมพันธุ์

สำหรับบุคคลและนิติบุคคลที่ถูกสั่งระงับไม่ให้ทำธุรกรรมการเงินทุกราย มีพฤติการณ์เบิกถอนเงินสดในลักษณะโอนเงินไปมาหรือถ่ายเทเงิน เมื่อถูกตรวจสอบถึงการทำธุรกรรมการเงินตั้งแต่ 2 ล้านบาทขึ้นไป ก็จะอ้างว่าต้องการนำเงินไปซื้อพระเครื่องหรือซื้อลอตเตอรี่ ยกตัวอย่าง กรณีของนายเอกราช ช่างเหลา และนางกาญจนาภา หงษ์เหิน พบรายการถอนเงินสดครั้งละ 600 และ 800 ล้านบาท ซึ่งต้องนำรถยนต์มาขนเงินสดออกจากธนาคาร

ขณะเดียวกัน ยังพบว่ามีแกนนำ นปช.บางคน มีทรัพย์สินงอกเงยขึ้นถึงหลัก 100 ล้านบาทนั้น ก็จะต้องเข้าชี้แจงว่า ประกอบอาชีพใดจึงมีกำไรจากรายได้นำไปซื้อบ้านและรถยนต์หรู มูลค่าบ้านหลังละไม่ต่ำกว่า 10 ล้านบาท และอาจมีแกนนำ นปช.จำนวนไม่น้อยที่นำเงินไปฝากไว้ในบัญชีชื่อของนอมินี ซึ่งไม่ยากเกินความสามารถของ ปปง.ที่จะเข้ามาประมวลความสัมพันธ์ของบุคคลเพื่อเสนอให้มีคำสั่งยึดอายัดเพิ่มเติม

รายงานข่าวระบุด้วยว่า การปฏิบัติการร่วมเพื่อตรวจสอบธุรกรรมการเงิน ศอฉ.ได้สั่งการตรงมายังกระทรวงยุติธรรมให้ดึงสำนักงานป้องกันและปราบปรามยาเสพติด (ป.ป.ส.) มาร่วมตรวจสอบเส้นทางการเงิน เนื่องจากมีเบาะแสว่ากลุ่มผู้ต้องสงสัยบางรายมีพฤติการณ์เกี่ยวข้องกับยาเสพติด

วันเดียวกัน นายธาริต เพ็งดิษฐ์ อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) พ.ต.อ.สีหนาท ประยูรรัตน์ รักษาการเลขาธิการสำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ปปง.) ตัวแทนจากสำนักงานป้องกันและปราบปรามยาเสพติด (ป.ป.ส.) และกรมสรรพากร ประชุมร่วมกับธนาคารแห่งประเทศไทย สมาคมธนาคารไทย สมาคมธนาคารต่างชาติ สมาคมบริษัทหลักทรัพย์ กรมส่งเสริมสหกรณ์ สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) และตัวแทนธนาคารทุกแห่ง

เพื่อชี้แจงแนวทางในการปฏิบัติตามคำสั่งศูนย์อำนวยการแก้ไขสถานการณ์ฉุกเฉิน (ศอฉ.) ที่ 49/2553 กรณีสั่งห้าม พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ครอบครัว สมาชิกพรรคเพื่อไทย สมาชิกบ้านเลขที่ 111 และแกนนำ นปช. รวม 93 คน และนิติบุคคล 13 แห่ง ทำธุรกรรมทางการเงินผ่านสถาบันการเงิน ยกเว้นจะได้ขออนุญาตต่อ ศอฉ.เป็นรายกรณี

และให้สถาบันการเงินส่งข้อมูลการทำธุรกรรมของบุคคลและนิติบุคคลทั้ง 106 คน ย้อนหลังตั้งแต่วันที่ 1 กันยายน 2552 หลังพบการถอนเงินผิดปกติ
นายธาริตกล่าวว่า หลังคำสั่งออกมาแล้วก็มีผลบังคับทันที หากธนาคารอ้างว่าระงับการทำธุรกรรมไม่ทันก็ต้องมีการพิสูจน์ เพราะได้ประกาศออกโทรทัศน์ร่วมการเฉพาะกิจ ชี้แจงผ่านสื่อมวลชน พร้อมส่งอีเมลคำสั่งถึงสมาคมธนาคาร ถ้าเป็นจริงว่าธนาคารไม่รู้จริงไม่ต้องรับผิด แต่ถ้าไม่ใช่ก็เป็นอีกเรื่องหนึ่ง

แต่เห็นว่าอย่าให้เป็นประเด็นเลยว่าธนาคารเพิกเฉย ไม่ปฏิบัติตาม มันเป็นเรื่องเฉพาะรายเดี่ยวจะไปพิจารณาตามเรื่องจริง เรื่องจริงเป็นอย่างไรก็เป็นอย่างนั้น เช่น กรณีธนาคารแจ้งว่าไม่สามารถเข้าไปในสาขาได้เพราะเป็นเขตอันตรายที่ยังมีการปะทะกัน ถ้าเป็นจริงก็โอเค แต่ถ้าไม่ใช่ มีระบบออนไลน์ได้ สามารถตรวจสอบได้ก็อีกเรื่องหนึ่ง

นายสงคราม กิจเลิศไพโรจน์ เจ้าของห้างสรรพสินค้าอิมพีเรียล และอดีตรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ ผู้ใกล้ชิด พ.ต.ท.ทักษิณ หนึ่งในผู้ที่ถูกคำสั่งห้ามทำธุรกรรมดังกล่าว เปิดเผยว่า ได้เตรียมปรึกษาฝ่ายกฎหมายแล้ว เพราะตนเป็นนักธุรกิจ จะต้องทำธุรกิจหารายได้ การมาสั่งห้ามทำธุรกรรมทางการเงินด้วยความลุแก่อำนาจของรัฐบาลและ ศอฉ. สร้างความเสียหายให้ตนอย่างมาก

นอกจากนี้เมื่อพิจารณาเหตุการณ์ที่ผ่านมาทั้งหมดแล้วก็ให้ความร่วมมือกับ ศอฉ.ทุกอย่าง โดยเมื่อมีหมายเรียกให้มารายงานตัวก็มา และแสดงความบริสุทธิ์ใจว่า ไม่เกี่ยวกับความเคลื่อนไหวของคนเสื้อแดงแล้ว
"แม้ห้างสรรพสินค้าอิมพีเรียล ลาดพร้าว จะเป็นสถานที่ตั้งของสถานีโทรทัศน์พีเพิล แชนแนล ก็เป็นในลักษณะของการเช่าพื้นที่ทางธุรกิจ ซึ่งสถานีโทรทัศน์ผ่านดาวเทียมช่องอื่นๆ อย่างเอ็มวี และมีเดียร์ออฟมีเดียร์ ก็มาเช่าพื้นที่เช่นกัน"

นายสงครามกล่าวว่า ที่สำคัญคือตนไม่ได้เป็นผู้บริหารห้างสรรพสินค้าอิมพีเรียล ตั้งแต่มาเป็น รมช.พาณิชย์ สมัยรัฐบาลสมัคร สุนทรเวช แล้ว จึงไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องอะไรกับคนเสื้อแดงเลย

ด้าน น.อ.อนุดิษฐ์ นาครทรรพ ส.ส.กทม. พรรคเพื่อไทย คนใกล้ชิดคุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ อดีตรองหัวหน้าพรรคไทยรักไทย กล่าวว่า ขณะนี้คุณหญิงสุดารัตน์อยู่ระหว่างการพักผ่อนอยู่ในต่างประเทศ แต่เข้าใจว่าน่าจะรับทราบคำสั่งของ ศอฉ.แล้ว ซึ่งเท่าที่ดูจากรายชื่อทั้ง 106 คน ศอฉ.น่าจะสงสัยว่ากลุ่มคนเหล่านี้เกี่ยวข้องกับการเคลื่อนไหวของคนเสื้อแดง

แต่ทางภาค กทม.ได้หารือกันเบื้องต้นแล้วจากรายชื่อทั้งหมด พบว่า ส.ส.กทม. พรรคเพื่อไทย มีรายชื่อใน 106 คนเกือบครบทั้งหมด จะขาดก็เพียงนายดนุพร ปุณณกันต์ ส.ส.กทม. พรรคเพื่อไทยเพียงคนเดียว
น.อ.อนุดิษฐ์กล่าวว่า การดำเนินการดังกล่าวเป็นการพยายามตัดหัว ตัดแขนและตัดขา ส.ส.กทม. พรรคเพื่อไทย เพื่อให้พรรคประชาธิปัตย์ได้โอกาสขี่คอในการหาเสียงเลือกตั้งสมาชิกสภาเขต (ส.ข.) กรุงเทพมหานคร ที่จะมีขึ้นในวันที่ 6 มิถุนายน จำนวน 14 เขต

ด้วยการอาศัยสถานการณ์การเมืองมาเหวี่ยงแหเอารายชื่อ ส.ส.กทม.เข้าไปพร้อมกัน เพื่อเปิดทางในการวางรากฐานทางการเมืองท้องถิ่น เพราะหลังจากเสร็จสิ้นการเลือกตั้ง ส.ข.แล้ว ก็จะต่อด้วยการเลือกตั้งสมาชิกสภากรุงเทพมหานคร (ส.ก.) อีกเกือบทั้งกรุงเทพฯ ซึ่งจุดนี้จะส่งผลต่อการเลือกตั้ง ส.ส. ในเขตพื้นที่กรุงเทพฯ ด้วย

เช่นเดียวกับนายพันธุ์เลิศ ใบหยก เจ้าของกลุ่มโรงแรมใบหยก ยืนยันว่า ไม่เกี่ยวข้องกับกลุ่ม นปช. มั่นใจว่าไม่ได้ทำอะไรผิด เพราะไม่ได้เกี่ยวข้องการเมืองนานแล้ว จึงกลัวการกลั่นแกล้งกัน
      บันทึกการเข้า

  หน้า: 1 ... 84 85 [86] 87 88 ... 131   ขึ้นบน
  
กระโดดไป:  

     

ทำไมหอพักนิสิตจุฬาจึงเป็นดินแดนมหัศจรรย์            " ไม่ได้เป็นแค่หอให้นอนพัก  แต่เป็นบ้านอบอุ่นรักให้อาศัย  ไม่เป็นแค่ที่ซุกหัวยามหลบภัย  แต่สร้างใจให้เข้มแข็งแกร่งการงาน"  <))))><