29 มีนาคม 2567, 15:36:43
ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน


เข้าสู่ระบบด้วยชื่อผู้ใช้ รหัสผ่าน [สมาชิกเก่าลืมรหัส โทร 081-7611760]
A A A A  ระเบียบปฎิบัติ
   
Languages    
  หน้า: [1]   ลงล่าง
ผู้เขียน หัวข้อ: เศรษฐกิจแบบนี้ ราคาน้ำมันลิตรละเท่าไรที่ใช้โดยไม่ต้องคิดมาก  (อ่าน 5344 ครั้ง)
0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
yc
Full Member
**


ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 557

เว็บไซต์
« เมื่อ: 09 สิงหาคม 2552, 19:59:56 »

คือ ต้องรบกวนเพื่อนๆพี่ๆน้องๆหน่อยครับ
ผมอยากได้ความคิดเห็นจากเพื่อนๆพี่ๆน้องๆชาวซีมะโด่งนี่แหละครับ
คือ ถ้ากำหนดได้ อยากทราบความรู้สึกว่า  ราคาสูงสุดของน้ำมัน ที่เพื่อนๆพี่ๆน้องๆ
จะใช้โดยไม่ต้องคิด (มาก)

ถ้าแวะเข้ามาอ่านแล้ว ทิ้งร่องรอย ความรู้สึกไว้หน่อยนะครับ
      บันทึกการเข้า
Samrotri2517
Cmadong Member
Hero Cmadong Member
****


จะเป็นด้านที่1และ2ของ3เหลี่ยมฯ เพื่อให้เกิดด้านที่3
ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: รหัสเข้า 17 รุ่น 57
คณะ: แพทยศาสตร์ จุฬาฯรุ่น 30
กระทู้: 1,915

« ตอบ #1 เมื่อ: 10 สิงหาคม 2552, 07:00:06 »


ข่าวสดรายวัน
วันที่ 10 สิงหาคม พ.ศ. 2552 ปีที่ 19 ฉบับที่ 6829

ทำไมน้ำมันแพง

คอลัมน์ที่ 13



รัฐบาลมีแนวคิดบรรเทาราคาน้ำมันแพง หลังราคาดีเซลใกล้แตะ 30 บาท/ลิตร

ด้วยการลดเงินกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง และกองทุนเพื่อส่งเสริมการอนุรักษ์พลังงาน

ส่วนการลดภาษีสรรสามิตน้ำมันที่เคยปรับขึ้นก่อนหน้านี้ 2 บาท/ลิตร จะเป็นทางเลือกสุดท้าย เพราะกระทรวงการคลังยังต้องใช้เงินในการดูแลเศรษฐกิจ

ตามโครงสร้างราคาน้ำมันซึ่งเป็นการรายงานจากสำนักงานนโยบายและแผนพลังงาน(สนพ.) เมื่อวันที่ 7 ส.ค. 52

เบนซิน 95 ราคาหน้าปั๊มอยู่ที่ 40.54 บาท/ลิตร เก็บภาษีทุกอย่างเต็มเพดาน โดยเสียภาษีกองทุน และค่าการตลาดรวมแล้ว 22.2721 บาท/ลิตร แพงกว่าราคาน้ำมันหน้าโรงกลั่นอยู่ที่ 18.2679 บาท/ลิตร

เบนซิน 95 เสียภาษีสรรพสามิต 7 บาท/ลิตร ภาษีเทศบาล 0.70 บาท/ลิตร กองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง 7 บาท/ลิตร กองทุนเพื่อส่งเสริมการอนุรักษ์พลังงาน 0.75 บาท/ลิตร ภาษีมูลค่าเพิ่ม 2.36 บาท/ลิตร ค่าการตลาด 4.17 บาท/ลิตร และภาษีมูลค่าเพิ่มของค่าการตลาด 0.2921 บาท/ลิตร

แก๊สโซฮอล์ 95 ราคาหน้าปั๊มอยู่ที่ 31.34 บาท/ลิตร เสียภาษีกองทุน และค่าการตลาดถึง 12.56 บาท/ลิตร

ราคาแก๊สโซฮอล์หน้าโรงกลั่นอยู่ที่ 18.78 บาท/ลิตร

สิ่งที่ต้องจ่ายเพิ่ม ประกอบด้วย ภาษีสรรพสามิต 6.30 บาท/ลิตร ภาษีเทศบาล 0.63 บาท/ลิตร กองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง 2.27 บาท/ลิตร กองทุนเพื่อส่งเสริมการอนุรักษ์พลังงาน 0.25 บาท/ลิตร ภาษีมูลค่าเพิ่ม 1.97 บาท/ลิตร ค่าการตลาด 1.07 บาท/ลิตร ภาษีมูลค่าเพิ่มของค่าการตลาด 0.07 บาท/ลิตร

ดีเซลราคาหน้าปั๊มอยู่ที่ 28.89 บาท/ลิตร เสียภาษี กองทุน และค่าการตลาดถึง 10.841 บาท/ลิตร

ราคาดีเซลหน้าโรงกลั่นอยู่ที่ 18.049 บาท/ลิตร

สิ่งที่ต้องจ่ายเพิ่มประกอบด้วย ภาษีสรรพสามิต 5.31 บาท/ลิตร ภาษีเทศบาล 0.531 บาท/ลิตร กองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง 1.70 บาท/ลิตร กองทุนเพื่อส่งเสริมการอนุรักษ์พลังงาน 0.75 บาท/ลิตร ภาษีมูลค่าเพิ่ม 1.84 บาท/ลิตร ค่าการตลาด 0.67 บาท/ลิตร ภาษีมูลค่าเพิ่มของค่าการตลาด 0.04 บาท/ลิตร

บี 5 ราคาหน้าปั๊มอยู่ที่ 26.09 บาท/ลิตร เสียภาษีกอง ทุน และค่าการตลาด 7.784 บาท/ลิตร

ราคาบี 5 หน้าโรงกลั่นอยู่ที่ 18.306 บาท/ลิตร

สิ่งที่ต้องจ่ายเพิ่มประกอบด้วย ภาษีสรรพสามิต 5.04 บาท/ลิตร ภาษีเทศบาล 0.504 บาท/ลิตร กองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงจ่ายชดเชยให้ผู้ใช้ 0.23 บาท/ลิตร กองทุนเพื่อส่งเสริมการอนุรักษ์พลังงาน 0.25 บาท/ลิตร ภาษีมูลค่าเพิ่ม 1.66 บาท/ลิตร ค่าการตลาด 0.53 บาท/ลิตร ภาษีมูลค่าเพิ่มของค่าการตลาด 0.03 บาท/ลิตร

ในการประชุมแก้ไขปัญหาน้ำมันแพงที่มีนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรีเป็นประธานเมื่อวันที่ 6 ส.ค. กระทรวงพลังงานเสนอแนวทางการช่วยเหลือน้ำมันแพง ด้วยการลดเงินการนำส่งของดีเซล จากกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง 50 ส.ต./ลิตร และลดเงินจากกองทุนเพื่อส่งเสริมการอนุรักษ์พลังงาน 50 ส.ต./ลิตร รวมแล้ว 1 บาท/ลิตร

แต่ที่ประชุมต้องการให้ลด 2 บาท/ลิตร เท่ากับภาษีสรรพสามิตที่ปรับขึ้นไปก่อนหน้านี้ โดยมอบให้กระทรวงพลังงานไปจัดทำแนวทางมาเสนอใหม่

นายกฯ นัดประชุมคณะกรรมการนโยบายพลังงานแห่งชาติ(กพช.) ในวันที่ 10 ส.ค. เพื่อสรุปข้อเสนอนำเข้าที่ประชุมครม.วันที่ 11 ส.ค.

ถ้าลดราคาดีเซล 2 บาท/ลิตร กองทุนน้ำมันต้องจ่ายเงินชดเชยให้กับผู้ใช้ 1,800 ล้านบาท/เดือน จากเดิมมีเงินไหลเข้าจากกลุ่มดีเซลประมาณ 1,000 ล้านบาท

ปัจจุบันกองทุนน้ำมันมีเงินไหลเข้าเดือนละ 3,300 ล้านบาท มีเงินสดสุทธิ 16,000 ล้านบาท

รัฐบาลรับประกันว่าในการประชุมครม.วันที่ 11 ส.ค. จะมีข่าวดีแน่นอน

...............................................................................................

ผมมีความคิดว่า พวกเรา กำหนดราคาน้ำมันสูงสุดโดยไม่มีข้อมูลเองไม่ได้

ต้องเป็นหน้าที่ของรัฐบาล ที่ต้องหาข้อมูล และ พิจารณากำหนดราคาสูงสุด

ที่เหมาะสมที่สุดให้

รัฐบาลรับประกันว่าในการประชุม วันที่ 11 ส.ค.จะมีข่าวดีแน่นอน

 bye bye bye bye bye bye
      บันทึกการเข้า

3 เหลี่ยมเขยื้้อนภูเขา เสนอโดย ศ.นพ.ประเวศ วะสี มี 3 ด้าน คือ ด้านที่ 1 ด้านให้ความรู้กับกลุ่มคน ด้านที่ 2 กลุ่มคน ที่ได้รับความรู้ เห็นด้วย สร้างวัฒนธรรมไม่มีบทลงโทษถ้าไม่ทำ ด้านที่ 3 ด้านการเมือง เป็นด้านออกกฏหมาย มีบทลงโทษถ้าไม่ปฏิบัติ ถ้ามีครบ 3 ด้านจะเกิดการเปลี่ยนแปลงได้จริง
yc
Full Member
**


ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 557

เว็บไซต์
« ตอบ #2 เมื่อ: 10 สิงหาคม 2552, 10:35:17 »

ขอบคุณพี่หมอสำเริงมากครับสำหรับข้อมูล

คือผมอยากทราบความรู้สึกนะครับ

สำหรับผม ผมคิดว่า ราคาน้ำมันทั้งเบนซินและดีเซลไม่ควรเกิน 20 บาทต่อลิตร( อิงจากราคาน้ำมันดิบ
70 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล)

ภาวะผู้นำ ต้องมองไปข้างหน้าครับ 
ไม่ใช่แก้ปัญหาเฉพาะหน้า

วันนี้ ไม่ควรใช้ภาษีจากน้ำมัน
แต่ต้องเอาน้ำมัน มาใช้ให้เกิดภาษี


คือ ถ้าน้ำมันถูก เศรษฐกิจจะหมุนเวียนมากขึ้น
ธุรกิจเดินได้ แบงค์กล้าปล่อยกู้ ทุกอย่างหมุนๆๆๆ
แล้วรัฐบาลก็ได้ภาษีจาการหมุนของเศรษฐกิจ

ในขณะที่ยังงดภาษีน้ำมัน ก็ต้องแจ้งให้ประชาชนทราบเป็นระยะ
ให้เข้าใจภาวะ และต้องพยายาม ส่งเสริมโครงสร้างพื้นฐานให้แข็งแกร่ง

ตอนเศรษฐกิจอเมริกามีปัญหารุนแรง เรา(หมายถึงภาคประชาชน)ยังแข็งแกร่ง
ขณะนี้ อเมริกาเริ่มทรงได้  เรา(แต่ไม่ใช่ผมนะครับ)กลับเริ่มง่อนแง่น
 
หากหวังแต่รายได้จากการเก็บภาษีน้ำมัน
เมื่อ เอกชนล้ม เอ็นพีแอลมากขึ้น คนก็ใช้น้ำมันน้อยลง

ผมคิดแล้วว้าเหว่ จึงมาขอความเห็นในนี้ครับ


น้ำมัน คือ ปัจจัยสำคัญของเศรษฐกิจสำหรับโลกทุนนิยมขณะนี้
นอกจากน้ำมัน จะมีความสำคัญต่อกำลังการผลิตแล้ว
น้ำมัน ก็มีความสำคัญต่อการบริโภคด้วย

การผลิตและการบริโภค คือ คู่ขับเคลื่่อนเศรษฐกิจ

ในอีกด้านหนึึ่่ง  น้ำมัน คือตัวสะท้อนค่าของเงิน รองจากทองคำ
อเมริกา จึงต้องพยายามอย่างยิ่งที่จะต้องคงราคา น้ำมันเป็น ดอลลาร์
ในขณะที่ ยุโรป ก็พยายามจะให้ตั้งราคาน้ำมันเป็น ยูโร

ที่ต้องอ้างทั้งสองประเด็น คือการที่น้ำมันเป็นตัวขับเคลื่อนเศรษฐกิจ และสะท้อนค่าเงิน
เพราะ ผมคิดว่า ปัญหาพื้นฐานเศรษฐกิจโลกขณะนี้ ต้นทางคืออเมริกา
และเพราะ ราคาน้ำมันดิบในอนาคต ต้องสูงกว่านี้มาก



      บันทึกการเข้า
Samrotri2517
Cmadong Member
Hero Cmadong Member
****


จะเป็นด้านที่1และ2ของ3เหลี่ยมฯ เพื่อให้เกิดด้านที่3
ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: รหัสเข้า 17 รุ่น 57
คณะ: แพทยศาสตร์ จุฬาฯรุ่น 30
กระทู้: 1,915

« ตอบ #3 เมื่อ: 10 สิงหาคม 2552, 17:04:41 »


ที่ต้องอ้างทั้งสองประเด็น คือการที่น้ำมันเป็น

ตัวขับเคลื่อนเศรษฐกิจ และสะท้อนค่าเงิน

เพราะ ผมคิดว่า ปัญหาพื้นฐานเศรษฐกิจโลกขณะนี้

ต้นทางคืออเมริกาและเพราะ ราคาน้ำมันดิบในอนาคต

ต้องสูงกว่านี้มาก

yc

.....................



เทคโนโลยี่สะอาด ป้องกันภาวะโลกร้อน

ก่อให้เกิดพลังงานทดแทนอย่างอื่น เพื่อ

มาแทนพลังงานสันดาปที่ทำให้โลกร้อน

 ปิ๊งๆ ปิ๊งๆ ปิ๊งๆ

ในอนาคต แต่ละประเทศ จะเปลี่ยนไปใช้พลังงาน

จากธรรรมชาติมากขึ้น เช่น พลังงานจากแสงแดด

จากลม จากกระแสคลื่นในทะเล พลังงานเขียว จากการเกษตร ฯลฯ

นำมาเปลี่ยนเป็นพลังงานไฟฟ้า แล้วใช้พลังงานไฟฟ้าขับเคลื่อนแทน

ตัวอย่าง เริ่มมีรถเก๋งใช้ไฟฟ้าออกมาวางจำหน่ายแล้ว

ตามที่ผมอ่านพบแล้วมาโพสท์บอกพวกเราที่

http://www.cmadong.com/board/index.php/topic,3512.0.html

เมื่อมีพลังงานสะอาดแล้ว น้ำมัน จะไม่ใช่ตัวกำหนดเศรษฐกิจโลกได้อีก

 เหอๆๆ เหอๆๆ เหอๆๆ
      บันทึกการเข้า

3 เหลี่ยมเขยื้้อนภูเขา เสนอโดย ศ.นพ.ประเวศ วะสี มี 3 ด้าน คือ ด้านที่ 1 ด้านให้ความรู้กับกลุ่มคน ด้านที่ 2 กลุ่มคน ที่ได้รับความรู้ เห็นด้วย สร้างวัฒนธรรมไม่มีบทลงโทษถ้าไม่ทำ ด้านที่ 3 ด้านการเมือง เป็นด้านออกกฏหมาย มีบทลงโทษถ้าไม่ปฏิบัติ ถ้ามีครบ 3 ด้านจะเกิดการเปลี่ยนแปลงได้จริง
yc
Full Member
**


ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 557

เว็บไซต์
« ตอบ #4 เมื่อ: 10 สิงหาคม 2552, 19:34:09 »

 
อ้างถึง   
ในอนาคต แต่ละประเทศ จะเปลี่ยนไปใช้พลังงาน

จากธรรรมชาติมากขึ้น เช่น พลังงานจากแสงแดด

จากลม จากกระแสคลื่นในทะเล พลังงานเขียว จากการเกษตร ฯลฯ

นำมาเปลี่ยนเป็นพลังงานไฟฟ้า แล้วใช้พลังงานไฟฟ้าขับเคลื่อนแทน

ตัวอย่าง เริ่มมีรถเก๋งใช้ไฟฟ้าออกมาวางจำหน่ายแล้ว

สำเริง17


ที่พี่หมอสำเริงแสดงความเห็นไว้นั้น ตรงประเด็นเลยครับ
เทคโนโลยีดังกล่่าว ผมว่าประเทศพัฒนาอื่นๆเตรียมไว้ในระดับที่พร้อม
แต่ คนไทย(ส่วนมาก)จะมีกำลังพอหรือไม่

วันนี้ วันที่น้ำมันดิบยังราคาไม่สูงนัก เราจึงต้องใช้น้ำมันมาประคองคนไทยไม่ให้ล้ม
เมื่อเศรษฐกิจหมุนได้ รายได้ผู้คนมี แม้เราจะไม่คิดพัฒนาพลังงานของเราขึ้นมา
เราก็จะมีกำลังบริโภค

คนทำธุรกิจรู้ดีครับ ว่าตอนนี้เศรษฐกิจเป็นอย่างไร
หลายคนที่ผมรู้จัก ไม่คิดว่าเขาจะเครียดจากเศรษฐกิจ
วันนี้ กินได้น้อย หลับไม่นาน

วันใด ประเทศพัฒนาซึ่งกำลังทรงตัวในขณะนี้เริ่มขยับได้
ของจะแพงขึ้นๆ (เพราะความจริงคือ ค่าเงินดอลลาร์วันนี้สูงเกินกว่าทรัพย์สินของโลก
 จึงต้องปรับฐานใหญ่อีกครั้ง)


ไม่ควรใช้ภาษีจากน้ำมัน
แต่ต้องเอาน้ำมัน มาใช้ให้เกิดภาษี


      บันทึกการเข้า
Kaimook
Cmadong ชั้นเซียน
*****


ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 7,132

« ตอบ #5 เมื่อ: 13 สิงหาคม 2552, 09:39:36 »

สวัสดีค่ะพี่ยังชินชอบมากๆค่ะคำๆนี้ ไม่ควรใช้ภาษีจากน้ำมันแต่ควรใช้น้ำมันให้เกิดภาษี
      บันทึกการเข้า
หอเจ้าจอม
มือใหม่หัดเมาท์
*

ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 28

« ตอบ #6 เมื่อ: 18 สิงหาคม 2552, 12:13:35 »

รถผมซดเบนซิน  95    13 กม./ลิตร        ยังไม่คิดจะเปลี่ยนรถหรือเปลี่ยนน้ำมัน         ในฐานะผู้ใช้น้ำมันอยากให้เบนซิน  95  ลิตรละ 25  บาท      แต่ในฐานะผู้ถือหุ้นบริษัทน้ำมัน        น้ำมันยิ่งแพงก็ยิ่งชอบ         มีคนได้และมีคนเสีย       ขึ้นอยู่ว่าเราคือใครครับ
      บันทึกการเข้า
khesorn mueller
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: 2527
คณะ: รัฐศาสตร์
กระทู้: 71,885

« ตอบ #7 เมื่อ: 18 สิงหาคม 2552, 16:03:55 »

ใช้มาก ค่าใช้จ่ายที่จะต้องเติม มากคะ
แถมในแต่ละประเทศใน EUเรียกเก็บ
ภาษีตรงหน้า refineryต่างเปอร์เซนต์กัน
ง่ายๆนะคะ ใครอยู่ติดชายแดนออสเตรีย,
สวิต,ฝรั่งเศส,เนเธอร์แลนด์,เบลเยี่ยม,
ก็เติมในเขตเพื่อนบ้าน เพราะค่านํ้ามันต่อลิตร
ถูกกว่าในเยอรมันีคะ


nn.27
      บันทึกการเข้า


  หน้า: [1]   ขึ้นบน
  
กระโดดไป:  

     

สมาคมนิสิตเก่าหอพักนิสิต จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย มวลสมาชิกสมาคม คณาจารย์ และนิสิตเก่าทุกคน ขอน้อมเกล้าถวายความอาลัย  พระผู้เสด็จสู่สวรรคาลัย ด้วยเกล้าด้วยกระหม่อม ขอเดชะ <;))))><