25 เมษายน 2567, 08:23:20
ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน


เข้าสู่ระบบด้วยชื่อผู้ใช้ รหัสผ่าน [สมาชิกเก่าลืมรหัส โทร 081-7611760]
A A A A  ระเบียบปฎิบัติ
   
Languages    
  หน้า: [1]   ลงล่าง
ผู้เขียน หัวข้อ: เรดิโอ ฟรีเควนซี่ ไอเดนทิฟิเคชั่น (Radio Frequency Identification)  (อ่าน 6114 ครั้ง)
0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
Samrotri2517
Cmadong Member
Hero Cmadong Member
****


จะเป็นด้านที่1และ2ของ3เหลี่ยมฯ เพื่อให้เกิดด้านที่3
ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: รหัสเข้า 17 รุ่น 57
คณะ: แพทยศาสตร์ จุฬาฯรุ่น 30
กระทู้: 1,915

« เมื่อ: 28 ตุลาคม 2552, 06:28:44 »




RFID เพื่อโลจิสติกส์ยุคใหม่ และ ประโยชน์ใช้งานด้านอื่น ๆ อีกมากมาย

น.ส.พ.เดลินิวส์ วันพุธ ที่ 28 ตุลาคม 2552 เวลา 4:00 น 

180 กม.ต่อชม.ยังอ่านทัน เทคโนโลยี RFID (Radio Frequency Identification)

เป็นระบบจำแนกวัตถุด้วยคลื่นความถี่วิทยุที่พัฒนาขึ้นเพื่อใช้แทนบาร์โค้ด

มีจุดเด่นตรงสามารถอ่านข้อมูลจากแท็ก (Tag) หรือแถบป้ายบอกข้อมูลได้หลาย ๆ ชิ้น

โดยไม่ต้องคอยเอามาแตะสัมผัส ทัศนวิสัยไม่ดีมีความเปียกชื้น แรงสั่นสะเทือน

การกระทบกระแทก หรือในที่ระดับความเร็วสูง ก็อ่านค่าได้


เอามาใช้ประโยชน์ได้หลากหลาย เช่น

ใช้เป็นบัตรผ่านเข้าออกสถานที่ต่าง ๆ บัตรจอดรถ ตามศูนย์การค้าต่าง ๆ หรือ

ติดไว้ในรถบรรทุกสินค้าเพื่อติดตามข้อมูลระหว่างการขนส่ง
   
บริษัทเอเซนเทค (ประเทศไทย) จำกัด ผู้เชี่ยวชาญด้านไอทีระบบขนส่ง

ได้ร่วมกับพันธมิตรผู้ผลิตชิปอาร์เอฟไอดี ประเทศจีน นำ

“แท็ก” รุ่นใหม่ ซึ่งไม่ใช่แบตเตอรี่ (พาสซีฟ แท็ก) ที่ได้ปรับปรุงความไว

ในการรับส่งสัญญาณกับเครื่องอ่านอาร์เอฟไอดี ชนิดยูเอช    เอฟ (UHF)

ให้เพิ่มขึ้นและลดการใช้พลังงานลงเหลือเพียง 30 ไมโครวัตต์

ซึ่งน้อยกว่าชิปรุ่นแรกที่ใช้ 50 ไมโครวัตต์ ช่วยให้ได้ระยะการอ่านไกลมากขึ้น

ตามไปด้วย ราว 20-30 เปอร์เซ็นต์
   
“แท็ก” มีขนาดบางจนแทรกลงในเนื้อกระดาษได้ จึงแนบกับ

ป้ายของกรมการขนส่งทางบก หรือจะติดไว้ที่โคมไฟหน้ารถก็ได้

   
กำพล โชคสุนทสุทธิ์ กรรมการผู้จัดการ บริษัทเอเซนเทคฯ กล่าวว่า

เทคโนโลยีและชิปรุ่นใหม่ที่นำมาใช้ เมื่อติดกับรถขนส่ง จะสามารถอ่านค่าได้

แม้รถเคลื่อนที่ด้วยความเร็วถึง 120-180 กม.ต่อชม. และแยกช่องทางซ้ายและขวา

ลำดับรถก่อนหลังได้ เหมาะกับงานเก็บค่าผ่านทาง การติดตามรถยนต์ 

ระบบโลจิสติกส์ (การขนส่งต่อเนื่องหลายวิธี) และงานขนส่งทุกประเภท
   
ระบบติดตามการขนส่งด้วยอาร์เอฟไอดี นำมาประยุกต์ใช้กับ

ทุกสาขาในงานอุตสาหกรรมและการจัดการซัพพลายเชน  ได้แก่

เก็บข้อมูลตามจุดที่ต้องการได้สะดวกและเพิ่มเติมได้ง่าย,

ประมวลผลนำเสนอต่อผู้เกี่ยวข้องได้อย่างรวดเร็วทันการใช้งาน

นำไปใช้วิเคราะห์เพื่อประโยชน์ต่อการบริหาร เช่น

ต้นทุนหรือแผนงาน ช่วยลดงานเอกสาร, ลดต้นทุนในการปฏิบัติงาน ทั้งเวลา และ

กำลังคนจากการบันทึกและประมวลผล, ลดความผิดพลาดที่เกิดจากป้อนข้อมูล และ

สามารถเชื่อมต่อกับอุปกรณ์ต่าง ๆ ในระบบควบคุมอัตโนมัติ เช่น

แขนกลกั้นรถ, ไฟสัญญาณ เป็นต้น
 
   
ตัวอย่างการใช้งานอาร์เอฟไอดี ที่ได้ผลดี คือระบบค่าผ่านทางประเทศสิงคโปร์

ซึ่งไม่มีด่านเก็บเงิน และ รถวิ่งผ่านได้ด้วยความเร็วสูง ระบบจะติดตั้งเครื่องอ่าน

คร่อมทางไว้หลายจุด สามารถอ่านค่าแท็กที่ติดรถวิ่งผ่านและจำแนกได้อย่างแม่นยำ

จึงไม่มีปัญหารถติดค้างหน้าด่านเก็บเงิน
   
กำพล อธิบายข้อดี ด้วยว่า ค่าใช้จ่ายต่ำ ลงทุนระบบราวหนึ่งแสนห้าหมื่นบาท

แท็กติดรถยนต์ชิ้นละไม่เกินสิบห้าบาท ไม่มีค่าแอร์ไทม์ (ค่าส่งสัญญาณ) และ

เปรียบเทียบกับการติดตามด้วยจีพีเอส หรือระบบบอกตำแหน่งวัตถุด้วยดาวเทียม

จะมีค่าอุปกรณ์ติดรถยนต์คันละสองหมื่นบาท และมีค่าแอร์ไทม์ จากการส่งสัญญาณ

ผ่านระบบจีพีอาร์เอส
   
กำพลเปิดเผยว่า จะจัดบรรยายเทคโน   โลยีอาร์เอฟไอดี ย่านความถี่ยูเอชเอฟ     

สำหรับโลจิสติกส์และการขนส่งพร้อมกับให้ทดสอบด้วยการติดแท็กในรถยนต์

ที่เคลื่อนที่ด้วยความเร็วสูง 120-180 กม.ต่อชม.เพื่อวัดความแรงสัญญาณ

สำหรับแยกช่องซ้าย ขวา ลำดับก่อนหลัง วันที่ 29 ต.ค.เวลา 11.00-17.00 น.

ที่สนามแข่งรถบางกอก แดรก อเวนิว คลองห้า ถนนรังสิต-นครนายก
   
เป็นเทคโนโลยีที่คนในธุรกิจขนส่งรุ่นใหม่ไม่ควรมองข้าม.

 ปิ๊งๆ ปิ๊งๆ ปิ๊งๆ

นำมาเพื่อให้พวกเราได้รู้นวตกรรมใหม่ๆที่จะนำเข้ามาใช้ให้ความสะดวกสบายขึ้น


http://www.dailynews.co.th/newstartpage/index.cfm?page=content&categoryID=582&contentID=28506

 หลั่นล้า หลั่นล้า หลั่นล้า
      บันทึกการเข้า

3 เหลี่ยมเขยื้้อนภูเขา เสนอโดย ศ.นพ.ประเวศ วะสี มี 3 ด้าน คือ ด้านที่ 1 ด้านให้ความรู้กับกลุ่มคน ด้านที่ 2 กลุ่มคน ที่ได้รับความรู้ เห็นด้วย สร้างวัฒนธรรมไม่มีบทลงโทษถ้าไม่ทำ ด้านที่ 3 ด้านการเมือง เป็นด้านออกกฏหมาย มีบทลงโทษถ้าไม่ปฏิบัติ ถ้ามีครบ 3 ด้านจะเกิดการเปลี่ยนแปลงได้จริง
Samrotri2517
Cmadong Member
Hero Cmadong Member
****


จะเป็นด้านที่1และ2ของ3เหลี่ยมฯ เพื่อให้เกิดด้านที่3
ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: รหัสเข้า 17 รุ่น 57
คณะ: แพทยศาสตร์ จุฬาฯรุ่น 30
กระทู้: 1,915

« ตอบ #1 เมื่อ: 14 พฤศจิกายน 2552, 18:47:54 »


             

ใช้ ETC บัตรผ่านทางด่วน ช่วยลดโลกร้อน

รายงานโดย :เรื่อง ชายโย:

น.ส.พ.โพสต์ทูเดย์ วันเสาร์ที่ 14 พฤศจิกายน พ.ศ. 2552

ทุกกครั้งที่คุณขึ้นทางด่วน คุณยังรับใบเสร็จค่าทางด่วนโดยไม่มีความจำเป็นต้องใช้อยู่หรือเปล่า
หากคุณยังทำเช่นนั้นอยู่เพราะความเคยชินไม่สามารถเปลี่ยนแปลงได้ละก็ วันนี้เรามีข่าวมาบอกว่า
อีกไม่นานคุณจะมีทางเลือกช่วยลดภาวะโลกร้อน ได้ด้วยการลงทุนซื้อบัตรผ่านทางด่วนเพียงครั้งเดียวเท่านั้น

คนที่ขึ้นทางด่วนเป็นประจำคงทราบดีว่าบัตร ETC (Electronic Toll Collection) นั้นจะเข้ามา
แทนที่ระบบช่องจ่ายเงินแบบเดิมๆ ที่ต้องต่อคิวยาวเหยียดในเวลาเร่งด่วน

ข้อดีของระบบนี้ช่วยเราประหยัดการใช้กระดาษไปได้ส่วนหนึ่ง โดยใช้ระบบคอมพิวเตอร์เข้ามาจัดเก็บเงิน
ช่วยให้การจราจรมีความคล่องตัวมากขึ้น เพียงแค่ชะลอความเร็วรถระหว่างผ่านช่องทางเท่านั้น
นั่นเท่ากับว่ารถจะไม่เสียพลังงานในการออกตัวอีกครั้งหลังจ่ายเงินค่าผ่านทางด่วน นับว่าระบบนี้มีข้อดีถึง 3 ต่อ

แต่ปัญหายังติดอยู่ที่บางคนไม่อยากลงทุนค่าบัตร รวมค่าทางด่วนเมื่อเริ่มต้นประมาณ 1,000 บาทซึ่งเป็นค่ามัดจำบัตร 500 บาทถือเป็นค่าเช่าอุปกรณ์ ซึ่งจะคืนให้เมื่อคิดจะเลิกใช้ และค่าผ่านทาง 500 บาทพร้อมส่วนลด 5% อาจจะดูน้อยสำหรับคนใช้ แต่เพื่อโลกแล้วนับว่ามีคุณค่าอย่างมาก

หากคุณมีรายได้มากพอที่จะใช้โดยไม่ลำบาก การลงทุนราคาแพงเพียงครั้งเดียวจะช่วยลดการใช้พลังงานของโลกได้อย่างมากมายมหาศาลหากเราร่วมใจกัน เงินเป็นเพียงสิ่งสมมติที่เราใช้เป็นตัวแทนดำรงชีพ แต่ธรรมชาติคือของจริงที่เราขาดไม่ได้ในชีวิต

นำมาจาก

http://www.posttoday.com/lifestyle.php?id=76206

 ปิ๊งๆ ปิ๊งๆ ปิ๊งๆ


      บันทึกการเข้า

3 เหลี่ยมเขยื้้อนภูเขา เสนอโดย ศ.นพ.ประเวศ วะสี มี 3 ด้าน คือ ด้านที่ 1 ด้านให้ความรู้กับกลุ่มคน ด้านที่ 2 กลุ่มคน ที่ได้รับความรู้ เห็นด้วย สร้างวัฒนธรรมไม่มีบทลงโทษถ้าไม่ทำ ด้านที่ 3 ด้านการเมือง เป็นด้านออกกฏหมาย มีบทลงโทษถ้าไม่ปฏิบัติ ถ้ามีครบ 3 ด้านจะเกิดการเปลี่ยนแปลงได้จริง
Samrotri2517
Cmadong Member
Hero Cmadong Member
****


จะเป็นด้านที่1และ2ของ3เหลี่ยมฯ เพื่อให้เกิดด้านที่3
ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: รหัสเข้า 17 รุ่น 57
คณะ: แพทยศาสตร์ จุฬาฯรุ่น 30
กระทู้: 1,915

« ตอบ #2 เมื่อ: 17 กรกฎาคม 2553, 08:59:03 »


เกี่ยวกับโครงการ ETC:ELECTRONICS TOLL COLLECTION : ETC   



http://www.thaieasypass.com/etcsite/index.php?option=com_content&view=section&layout=blog&id=8&Itemid=7&lang=th      

การทางพิเศษแห่งประเทศไทย (กทพ.) กระทรวงคมนาคม อยู่ระหว่างดำเนินการติดตั้ง
ระบบเก็บค่าผ่านทางอัตโนมัติรุ่นใหม่ในทุกสายทางพิเศษให้สามารถใช้งานร่วมกันได้

การติดตั้งระบบเก็บค่าผ่านทางอัตโนมัติเช่นกัน คาดว่าจะแล้วเสร็จภายในปี 2553
สำหรับทางพิเศษบูรพาวิถีและทางเชื่อมอยู่ระหว่างการดำเนินการติดตั้งระบบ
คาด ว่าจะแล้วเสร็จภายในปี 2554
         
ระบบเก็บค่าผ่านทางอัตโนมัติ คือ

ระบบ ที่ไม่ต้องใช้เงินสด/คูปอง แต่จะใช้บัตรอิเล็กทรอนิกส์ (บัตร Easy Pass) เป็นอุปกรณ์ติดที่
กระจกหน้ารถ โดยใช้เป็นสื่อในการชำระค่าผ่านทางเมื่อรถวิ่งผ่านช่องทาง Easy Pass
ผู้ใช้บริการไม่ต้องเปิดกระจกรถ ไม่ต้องรอคิวยาว ไม่ต้องเตรียมเงินสด
จึงได้รับความสะดวกรวดเร็วและส่งเสริมคุณภาพชีวิต
 
การเพิ่มประสิทธิภาพการให้บริการทางพิเศษ โดยการพัฒนาระบบเก็บค่าผ่านทาง
อัตโนมัติของทางพิเศษทุกสายทาง นับเป็นหัวใจสำคัญของการบริหารจัดการระบบทางพิเศษ
ให้เกิดประโยชน์สูงสุดต่อ ผู้ใช้บริการทางพิเศษและประเทศชาติในภาพรวม

ทั้งนี้ระบบเก็บค่าผ่านทางอัตโนมัติ คือ การจัดเก็บค่าผ่านทางที่ไม่ต้องใช้พนักงานเก็บค่าผ่านทาง
โดยผู้ที่จะใช้บริการระบบเก็บค่าผ่านทางอัตโนมัติจะต้องมียอดเงินในบัญชี ของผู้ใช้บริการ
เป็นเงินสำรองค่าผ่านทางฯ ล่วงหน้าและยื่นคำร้องขอใช้บริการกับ กทพ.
โดยต้องชำระเงินค่ามัดจำบัตร Easy Pass ไว้แก่ กทพ. ด้วย

ซึ่งผู้ใช้บริการจะได้รับอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์สำคัญ 2 อย่าง คือ
 


1. บัตร Easy Pass สำหรับติดกระจกหน้ารถ ซึ่งเมื่อรถของผู้ใช้บริการผ่านช่องเก็บ
ค่าผ่านทางอัตโนมัติบัตร Easy Pass จะทำหน้าที่สื่อสารกับเสาอากาศในช่องเก็บ
ค่าผ่านทางอัตโนมัติเพื่ออ่านค่า พร้อมตัดยอดเงินใบบัญชีของผู้ใช้บริการ



2. บัตร Smart Card ใช้สำหรับติดต่อกับเจ้าหน้าที่
รวมทั้งการเติมเงินสำรองค่าผ่านทางฯ ในบัญชีของผู้ใช้บริการ
 
 หลั่นล้า หลั่นล้า หลั่นล้า
 

      บันทึกการเข้า

3 เหลี่ยมเขยื้้อนภูเขา เสนอโดย ศ.นพ.ประเวศ วะสี มี 3 ด้าน คือ ด้านที่ 1 ด้านให้ความรู้กับกลุ่มคน ด้านที่ 2 กลุ่มคน ที่ได้รับความรู้ เห็นด้วย สร้างวัฒนธรรมไม่มีบทลงโทษถ้าไม่ทำ ด้านที่ 3 ด้านการเมือง เป็นด้านออกกฏหมาย มีบทลงโทษถ้าไม่ปฏิบัติ ถ้ามีครบ 3 ด้านจะเกิดการเปลี่ยนแปลงได้จริง
  หน้า: [1]   ขึ้นบน
  
กระโดดไป:  

     

สมาคมนิสิตเก่าหอพักนิสิต จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย มวลสมาชิกสมาคม คณาจารย์ และนิสิตเก่าทุกคน ขอน้อมเกล้าถวายความอาลัย  พระผู้เสด็จสู่สวรรคาลัย ด้วยเกล้าด้วยกระหม่อม ขอเดชะ <;))))><