กวีการเมือง

<< < (4/4)

seree_60:
แปนเอิดเติด

แปนเอิดเติด
สายน้ำระเหิดระเหยหาย
ทุ่งโล่งโจงโปงไม้ยืนตาย
ลมแล้งแรงร้ายอยู่ตาปี
อีสานแดนดินที่ดาลเดือด
สายเลือดปู่สังกะสาย่าสังกะสี
ธรรมชาติไม่ปรานี
ทุรชาติย่ำยีกินแรง
ว่างเปล่าเหลือแสนแปนเอิดเติด
เราเกิดในสังคมยื้อแย่ง
ไม่มีข้าวไม่มีปลาป่าแล้ง
ไม่มีแสงสว่างทางชีวิน
ว่างเปล่าเหลือแสนแปนเอิดเติด
รอระเบิดกาลเวลาถล่มสิ้น
ผู้กดขี่สูญสลายจากธรณิน
ว่างเปล่าเหมือนดินถิ่นอีสาน

- ประเสริฐ จันดำ
๒๕๑๗ (จากเล่ม “จารึกบนหนังเสือ” ๒๕๓๒)

seree_60:
 ให้แก่คนหนุ่มสาว

มันเป็นบาปสำหรับการรับรู้
ถ้าหากเธอยังอยู่กับความหลง
ก้าวไปกับความอ่อนไหวไม่มั่นคง
และพะวงว่าที่นี่จะมีภัย
ทางข้างหน้าหนทางจะว่างเปล่า
แดดจะเผาผิวผ่องเธอหมองไหม้
ที่ตรงโน้นมีหุบเหวมีเปลวไฟ
ถ้าอ่อนแอจะก้าวไปอย่างไรกัน
เธอลองมองออกไปให้รอบข้าง
มองผ่านสิ่งต่างต่างซึ่งขวางกั้น
ในที่ไกลแสนไกลออกไปนั้น
ศึกษามันให้เห็นความเป็นจริง
แบกภาระท่ามกลางทางสายนี้
เป็นหน้าที่ซึ่งภูมิใจได้อย่างยิ่ง
ควรทำมันให้ตลอดหรือทอดทิ้ง
เลือกแต่สิ่งง่ายง่ายใกล้ใกล้ตัว
ความอ่อนไหวในอารมณ์ข่มให้นิ่ง
ใช้สมองตรองทุกสิ่งให้ถ้วนทั่ว
วางระแวงหวั่นหวาดความขลาดกลัว
ซึ่งเป็นรั้วรอบรายเธอไว้นั้น
เธอจะยืนได้มั่นคงเดินตรงเส้น
และดีเด่นด้วยงานการสร้างสรรค์
เป็นผู้ตาม, เป็นผู้นำ คนสำคัญ
สมกับที่เรามุ่งมั่นมานานนับ
จากที่นี่คือคืนวันการเริ่มต้น
เราทุกคนเป็นเปลวไฟที่ใกล้ดับ
แต่ก่อนแสงสุดท้ายจะหายลับ
เราต้องการไฟสำหรับการดับไฟ

- กรวิก๒๕๑๒

--------------------------------------

seree_60:
ดาวศรัทธายังจ้าโชนแสง

และแล้วอาทิตย์ก็ต่ำสู่ด้านตก
ดนตรีจากเสียงนกกังวานขรม
ระย้าจากความมืดก็ยืดปม
ชักม่านห่มประเทศไทยอยู่ไปมา
ที่ขอบฟ้าไกลลิบละลิ่วโน้น
ดาวหนึ่งโชนสายแสงขึ้นเจิดจ้า
ทอวาวพราวพรายสายศรัทธา
เปิดแผ่นฟ้ามืดมิดสนิทนั้น
แผ่นดินมืดมืดมิดสนิทมาก
ทุกหนแห่งหลุมขวากล้วนขวางกั้น
ดาวชี้ทิศ ดวงหนึ่ง, จึงสำคัญ
ที่จะสาดแสงปันให้พื้นพราย
ที่จะสาดหัวใจให้คนทุกข์
ให้กล้าลุกลืมตาขึ้นมาได้
ที่จะปลุกศรัทธาคนกล้าตาย
ให้สานแสงแห่งสายศรัทธาไป
และแน่นอนวันหนึ่งฟ้ามืดนั้น
ก็จะพลันเจิดจ้าเป็นฟ้าใหม่
เมื่อดาวแสนล้านดวงโชติช่วงไฟ
โชติลงทาบอาบใจประชาชน...ฯ
“...ตำนานเก่าเก่าเล่าว่า
มันฆ่ามันขยี้เสีย***ป่น
ไม่มีแม้คำ...จำนน
เหล่ามารมืดมนหนทาง
ดับดาวดับฤาจักดับได้
แตกดับสลายเพียงร่าง
แสงยังโชติรางชาง
เป็นเยี่ยงเป็นอย่างสืบมา...ฯ”
...ที่ขอบฟ้าไกลมืดมิดสนิทโน้น
ดาวนับล้านฉายโชนประกายจ้า
ทอวาวพราวพรายสายศรัทธา
ยิ่งนานยิ่งเต็มฟ้ายิ่งพร่าพราว...ฯ

- พนม นันทพฤกษ์
โลกหนังสือ พฤษภาคม ๒๕๒๒
(จากเล่ม “ยืนต้านพายุ” ๒๕๒๔)

seree_60:
จากภูพานถึงลานโพธิ์

ดินสอโดมธรรมศาสตร์เด่นสู้ศึก
เพื่อจารึกหนี้เลือดอันเดือดดับ
หกตุลาเพื่อนเราล่วงลับ
มันแค้นคับเดือดระอุอกคุไฟ
เรามีเพียงมือเปล่ามันล้อมปราบ
ระเบิดบาปกระสุนบ้ามาสาดใส่
เสียงเสมือนแตรงานศพซบสิ้นใจ
สนามหญ้าคลุ้งกลิ่นไอคาวเลือดคน
มันตามจับตามฆ่าล่าถึงบ้าน
อ้างหลักฐานจับเข้าคุกทุกแห่งหน
เราอดทนถึงที่สุดก็สุดทน
จึงเปลี่ยนหนทางสู้ขึ้นภูพาน
อ้อมอกภูพานคือชีวิตใหม่
คือมหาวิทยาลัยคนกล้าหาญ
จะโค่นล้มไล่เฉดเผด็จการ
อันธพาลอเมริกาอย่าหวังครอง
สู้กับปืนต้องมีปืนยืนกระหน่ำ
พรรคชี้นำตะวันแดงสาดแสงส่อง
จรยุทธนำประชาสู่ฟ้าทอง
กรรมาชีพลั่นกลองอย่างเกรียงไกร
ในวันนี้ลานโพธิ์ธรรมศาสตร์อาจเงียบหงอย
ก็เพียงช่วงรอคอยสู่วันใหม่
วันกองทัพประชาชนประกาศชัย
จะกลับไปกรีดเลือดพาลล้างลานโพธิ์

- วัฒน์ วรรลยางกูร
(จากเนื้อเพลงชุดแรงบันดาลใจ ซึ่งมาจากบทกวีที่ผู้เขียนเขียนขึ้นในป่าหลังเหตุการณ์ ๖ ตุลาคม ๒๕๑๙)

นำร่อง

[0] ดัชนีข้อความ

[*] หน้าที่แล้ว