20 เมษายน 2567, 14:26:06
ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน


เข้าสู่ระบบด้วยชื่อผู้ใช้ รหัสผ่าน [สมาชิกเก่าลืมรหัส โทร 081-7611760]
A A A A  ระเบียบปฎิบัติ
   
Languages    
  หน้า: 1 2 [ทั้งหมด]   ลงล่าง
ผู้เขียน หัวข้อ: [ราชการ] คิดอย่างไรกับหนังสือฉบับนี้  (อ่าน 28021 ครั้ง)
0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
TAE2540
Full Member
**


ไม่มีคำว่าสายเสียแล้ว สำหรับความรักที่แท้จริง
ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: rcu2540
คณะ: ครุศาสตร์
กระทู้: 507

เว็บไซต์
« เมื่อ: 24 กุมภาพันธ์ 2553, 21:15:48 »

      บันทึกการเข้า
swsm
Cmadong Member
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
****


@@ ยาหยี @@
ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: Rcu2523
คณะ: Comm Arts
กระทู้: 28,369

« ตอบ #1 เมื่อ: 24 กุมภาพันธ์ 2553, 22:05:52 »

รับราชการมาตั้งนาน ..

เพิ่งรู้ว่าตำแหน่งหัวหน้า  ดูจากเก้าอี้ที่นั่ง ..
หากเป็นงั้นจริง  เราคงเป็นภารโรงไปแล้วมั้ง
เพราะนั่งเกาะเก้าอี้พลาสติกตลอดเลย 

เหอ ๆ ๆ ๆ
   
      บันทึกการเข้า

.. don't play with me, cos I know how to play it too .. may be better than you do ..
เจษฎา
Cmadong พันธุ์แท้
****


the more you get ,the less you feel
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 4,682

« ตอบ #2 เมื่อ: 25 กุมภาพันธ์ 2553, 05:59:24 »

nonsense
      บันทึกการเข้า

ไม่หล่อ แต่ไม่ค่อยว่าง
อ้อย17
Cmadong ชั้นเซียน
*****


ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 5,908

« ตอบ #3 เมื่อ: 25 กุมภาพันธ์ 2553, 08:58:04 »

ตาหลกจังฮิ...มีอย่างนี้ด้วยเหรอ..ประเทศไทย...?
      บันทึกการเข้า
Pae
Cmadong พันธุ์แท้
****


ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 3,047

« ตอบ #4 เมื่อ: 25 กุมภาพันธ์ 2553, 09:03:34 »

สงสัยนั่งหรูกว่าเจ้านาย อิอิ
      บันทึกการเข้า
mek
Full Member
**


ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: RCU2540
คณะ: Vet 61
กระทู้: 627

« ตอบ #5 เมื่อ: 25 กุมภาพันธ์ 2553, 10:04:01 »

วันที่ 24 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2553 เวลา 21:26:02 น.   มติชนออนไลน์

เก้าอี้เจ้าปัญหา จนท.สรรพากรปวดหลังใช้เก้าอี้ส่วนตัวไซส์ใหญ่ หน.เดือดถูกทาบรัศมีสุดท้ายต้องย้ายอำเภอ



เก้าอี้ พ่นพิษ จนท.สรรพากรปวดหลังต้องมีเก้าอี้ส่วนตัว ผู้ใหญ่ไม่พอใจที่นั่งหรูหวั่นปชช.สับสนใครใหญ่ ส่งหนังสือให้เอากลับบ้าน พร้อมสั่งหาหมอรักษาโรค เจ้าตัวงงผิดระเบียบข้อไหนส่งอีเมลฟ้องเพื่อน สุดท้ายต้องระเห็จไปพื้นที่อื่น

กรณีมีการวิพากษ์วิจารณ์ทางจดหมายอิเล็กทรอนิกส์พร้อมลงเอกสารและบันทึก ข้อความ เกี่ยวกับเรื่องเก้าอี้นั่งส่วนตัวของ น.ส.รัศมี ไทยสิทธิพงษ์ นักวิชาการสรรพากรชำนาญการ อำเภอศรีประจันต์ จังหวัดสุพรรณบุรี ซึ่งนำมานั่งในที่ทำงานโดยไม่ได้ใช้เก้าอี้นั่งของทางสรรพากรอำเภอศรีประ จันต์ที่จัดไว้ให้ เนื่องจากเป็นโรคปวดหลัง แต่ทาง น.ส.ศิริลักษณ์ ไหวดี สรรพากรอำเภอศรีประจันต์ จ.สุพรรณบุรี เห็นว่าไม่เหมาะสม ทำให้ประชาชนที่เข้ามาใช้บริการเสียภาษี อาจเกิดความสับสนว่าใครกันแน่ที่เป็นหัวหน้าหน่วยงาน จึงมีบันทึกข้อความให้ น.ส.รัศมีใช้เก้าอี้ของสำนักงานแทนเก้าอี้ส่วนตัว และมีคำสั่งให้เอาเก้าอี้ส่วนตัวกลับบ้าน ทำให้มีการเผยแพร่เรื่องราวดังกล่าวทางจดหมายอิเล็กทรอนิกส์สร้างความงุนงง แก่ผู้อ่านจดหมายอิเล็กทรอนิกส์ดังกล่าวเป็นอย่างมาก เพราะเห็นว่าเรื่องดังกล่าวเป็นเพียงแค่เรื่องเล็กน้อยเท่านั้นจนส่งผลให้มี การวิพากษ์วิจารณ์กันอย่างกว้างขวางในขณะนี้


เมื่อวันที่ 24 กุมภาพันธ์ ผู้สื่อข่าว "มติชน" จึงติดตามเรื่องที่เกิดขึ้นและสอบถาม น.ส.รัศมี ไทยสิทธิพงษ์ นักวิชาการสรรพากรชำนาญการ อำเภอศรีประจันต์ เจ้าของเก้าอี้ที่มีปัญหา เปิดเผยว่า เรื่องนี้ไม่อยากพูดถึงแล้ว สะเทือนความรู้สึก และตนทำงานที่ศรีประจันต์ไม่มีความสุขแล้ว ได้ขอย้ายตัวเองทำงานที่อำเภอดอนเจดีย์ขณะนี้ ซึ่งมีคนขอร้องให้ทำงานที่เดิมแต่ทำต่อไม่ได้จริงๆ เพื่อความสบายใจก็ขอย้ายมาทำงานที่อำเภอดอนเจดีย์ก็พอใจแล้วตอนนี้

"เรียนกับสรรพากรพื้นที่ดอนเจดีย์แล้วว่าเป็นโรคปวดหลังจึงต้องใช้ เก้าอี้ส่วนตัวที่มีปัญหาดังกล่าว ทางสรรพากรพื้นที่อำเภอดอนเจดีย์ก็อนุญาตให้ใช้ได้นั่งทำงานได้เหมือนเดิม เพราะไม่มีระเบียบ กฎ ข้อบังคับ ข้อห้ามอันใด สิ่งใด ที่จะไม่ให้ใช้เก้าอี้ส่วนตัว รู้ตัวว่าเป็นเด็กก็อยากอยู่ในส่วนเด็กไม่อยากที่จะมีเรื่องราวกับใคร แต่ก็ขอบคุณทุกคนที่ให้กำลังใจมาตลอดทั้งโทรศัพท์ และจดหมายอิเล็กทรอนิกส์"


น.ส.รัศมีกล่าวว่า ตนเองก็ส่งจดหมายอิเล็กทรอนิกส์ให้เพื่อนๆ ที่เคยทำงานที่เดียวกันได้อ่านเท่านั้นไม่รู้ว่าจดหมายดังกล่าวถูกส่งต่อไป อีกหลายต่อหลายคนรวมกระทั่งหนังสือพิมพ์ การทำงานที่ อ.ศรีประจันต์ ก็มีเรื่องกระทบกันบ้างนิดหน่อย แต่ไม่คิดว่าสมัยนี้ยังมีการแบ่งชั้นวรรณะกันอีก และไม่ได้อยากดังอะไร แต่ไม่เคยเจอเรื่องราวเหล่านี้ แล้วคนอ่านรู้สึกกับเรื่องนี้อย่างไรสามารถเป็นคำตอบแทนตนเองได้แล้ว


ผู้สื่อข่าวถามว่า จริงหรือไม่ที่มีรายงานข่าวว่าสาเหตุเพราะเป็นคนทำงานตรงไปตรงมาจึงไปทับ เส้นกับผู้ใหญ่บางคน เรื่องการจัดเก็บภาษีโดยการปรับฐานภาษีใหม่ของผู้ค้ารายหนึ่งที่อำเภอศรีประ จันต์ ทำให้เกิดการกระทบกระทั่งจนเป็นที่มาของเรื่องเก้าอี้ไม่เหมาะสม น.ส.รัศมีกล่าวว่า เรื่องนี้ไม่ขอพูดและให้ข้อมูล เพราะทุกอย่างจบแล้วสรุปแล้วทั้งหมด


ผู้สื่อข่าวยังได้ติดต่อไปยังสรรพากร อ.ศรีประจันต์ เพื่อติดต่อสอบถามเรื่องราวที่เกิดขึ้นได้รับคำตอบจากเจ้าหน้าที่ว่า น.ส.ศิริลักษณ์ สรรพากร อ.ศรีประจันต์ ที่มีบันทึกห้าม น.ส.รัศมีนำเก้าอี้ส่วนตัวมาใช้งาน ไม่ได้อยู่ในพื้นที่ ไปอบรมที่จังหวัดนครปฐม และจะกลับในวันศุกร์ที่ 26 กุมภาพันธ์ ส่วนเบอร์โทรศัพท์มือถือที่สามารถติดต่อได้ไม่มีเพราะที่สรรพากร อ.ศรีประจันต์ ขณะนี้มีเพียงเจ้าหน้าที่เข้ามาทำงานใหม่เพียง 2 คนเท่านั้น


ขณะที่ นายสมชาย พัฒนพงษ์ศักดิ์ สรรพากรพื้นที่ จ.สุพรรณบุรี เปิดเผยว่าเรื่องดังกล่าวที่เกิดขึ้นนั้นจบไปแล้วไม่มีการติดใจเอาเรื่องราว กันทั้งสิ้น ไม่เชื่อก็ติดต่อสอบถามทั้ง 2 ฝ่ายได้เพราะตนเองได้เรียกทั้ง 2 ฝ่าย มาพูดคุยกันแล้ว เรื่องนี้ไม่มีใครผิดใครถูกทั้งนั้น เป็นเรื่องของความไม่เข้าใจกันมากกว่า แต่หน้าที่ตนก็ดำเนินการไปแล้วโดยฝ่ายหนึ่งคือ น.ส.รัศมี ขอย้ายไปทำงานอยู่ที่อำเภอดอนเจดีย์ จ.สุพรรณบุรี ซึ่งเป็นอำเภอใกล้เคียง


"เรื่องนี้เกิดจากความไม่เข้าใจกันก็เท่านั้นเอง ส่วนเรื่องการส่งต่อด้วยจดหมายอิเล็กทรอนิกส์นั้นเกิดจากทาง น.ส.รัศมี ได้ส่งบันทึกข้อความไปให้เพื่อนได้ดูและมีการส่งต่อไปอีกเป็นจำนวนมาก และมีการมาขอโทษเรื่องนี้แล้วเพราะเกรงหน่วยงานจะได้รับผลกระทบด้วย ผมว่าผมไม่จำเป็นต้องคุยอีกเพราะว่าทุกอย่างจบแล้วทั้งคู่พอใจแล้ว" นายสมชายกล่าว


รายงานข่าวจากรมสรรพากรแจ้งว่า การทำงานในส่วนราชการจะมีสิ่งอำนวยความสะดวกเบื้องต้นให้กับข้าราชการอยู่ แล้ว ทั้งโต๊ะ เก้าอี้ ส่วนใครจะจัดหาอะไรเพื่ออำนวยความสะดวกให้กับตัวเอง ไม่ได้มีระเบียบห้ามไว้ ซึ่งเรื่องที่เกิดขึ้นที่สรรพากร อ.ศรีประจันต์ ที่มีการให้ย้ายเก้าอี้ส่วนตัว คาดว่าน่าจะเป็นมุมมองความคิดเห็นส่วนบุคคลมากกว่า เบื้องต้นทราบว่าบุคคลที่ถูกสั่งให้ย้ายเก้าอี้ส่วนตัวออกไปนั้น ได้ขอย้ายตัวเองไปอยู่ที่สรรพากร อ.ดอนเจดีย์ เรียบร้อยแล้ว โดยให้เหตุผลว่าใกล้บ้านและสะดวกในการเดินทางมากกว่า


"เรื่องนี้เกิดขึ้นประมาณ 3 สัปดาห์แล้ว ที่มีการพูดกัน แต่ 2-3 วันก่อนมีการโพสท์ข้อมูลขึ้นในเว็บภายในของกรมสรรพากร ทำให้รู้กันมากขึ้น และมีการวิพากษ์วิจารณ์กัน แต่เข้าใจว่าน่าจะเป็นเรื่องส่วนบุคคลมากกว่า ที่มองว่าเก้าอี้เหมือนกับสมุห์บัญชีอำเภอ ทำให้ชาวบ้านเข้าใจผิด เพราะระเบียบราชการก็ไม่ได้ห้ามไว้" แหล่งข่าวระบุ


ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับบันทึกที่ น.ส.รัศมี ทำถึงสรรพากรพื้นที่สาขาศรีประจันต์ เป็นหนังสือเลขที่ กต.0710.0306 ลงวันที่ 14 มกราคม 2553 เรื่องขอความชัดเจนเกี่ยวกับการนำเก้าอี้นั่งส่วนตัวมานั่งทำงานในสถานที่ ราชการ  ปรากฏว่า น.ส.ศิริลักษณ์ได้ตอบกลับมาเป็นลายมือเขียนในท้ายบันทึกใจความว่า  "คุณรัศมี เก้าอี้ตัวนี้ไม่เหมาะสมสำหรับคุณ เนื่องจากมองดูแล้วมันเทียบเสมอเท่าสรรพากรอำเภอศรีประจันต์ ผู้เสียภาษีหรือประชาชนที่มาติดต่องานมองดูแล้วสับสนไม่ทราบว่าใครเป็นหัว หน้าหน่วยงาน ให้นั่งเก้าอี้ของสำนักงาน เรื่องปวดหลังก็ให้รักษาสุขภาพของตนเองโดยการไปพบคุณหมอ ลงชื่อศิริลักษณ์ 18 มกราคม 2553"


ข้อมูลจาก : http://www.matichon.co.th/news_detail.php?newsid=1267023241&grpid=00&catid=
      บันทึกการเข้า

บ่าวหน่อ เมืองพลาญ
Full Member
**


ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: rcu2540
คณะ: วิศวกรรมศาสตร์
กระทู้: 490

เว็บไซต์
« ตอบ #6 เมื่อ: 25 กุมภาพันธ์ 2553, 10:39:09 »

555+
แนะนำให้คนที่ใหญ่กว่าคนนี้ เปลี่ยนเก้าอี้ทั้งหมดครับ คนนี้จะได้ตัวเล็กลง
      บันทึกการเข้า

RCU80 จงเจริญ
jeam
สมาชิกวิสามัญ
Full Member
**


ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 574

« ตอบ #7 เมื่อ: 25 กุมภาพันธ์ 2553, 10:46:38 »

ถ้าน้องหะยีนั่งเก้่าอี้พลาสติก
สงสัยคนอื่นคงต้องคลานเข่า แหงม ๆ
บ่ฮู้บ่หัน
      บันทึกการเข้า

I think, therefore I am.
ไข่ย้อย88
Full Member
**


หนุ่มชาวดง
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 261

« ตอบ #8 เมื่อ: 25 กุมภาพันธ์ 2553, 14:45:00 »

เจ้าของเก้าอี้ก็บอกแล้วนี่ครับว่าเป็นโรคเกี่ยวกับหลัง เฮ้อ...
      บันทึกการเข้า

เกิดมามีเพียง 1 ครั้ง ลองใช้ครั้งหนึ่งกับมันให้คุ้ม
swsm
Cmadong Member
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
****


@@ ยาหยี @@
ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: Rcu2523
คณะ: Comm Arts
กระทู้: 28,369

« ตอบ #9 เมื่อ: 25 กุมภาพันธ์ 2553, 17:20:59 »

อ้างถึง
ข้อความของ swsm เมื่อ 24 กุมภาพันธ์ 2553, 22:05:52
รับราชการมาตั้งนาน ..

เพิ่งรู้ว่าตำแหน่งหัวหน้า  ดูจากเก้าอี้ที่นั่ง ..
หากเป็นงั้นจริง  เราคงเป็นภารโรงไปแล้วมั้ง
เพราะนั่งเกาะเก้าอี้พลาสติกตลอดเลย 

เหอ ๆ ๆ ๆ
   

อ้างถึง
ข้อความของ jeam เมื่อ 25 กุมภาพันธ์ 2553, 10:46:38
ถ้าน้องหะยีนั่งเก้่าอี้พลาสติก
สงสัยคนอื่นคงต้องคลานเข่า แหงม ๆ
บ่ฮู้บ่หัน


ตอบพี่เจียมค่ะ  ..

หยีใช้คำว่า "เกาะเก้าอี้" .. เพื่ออธิบายว่า
ในแต่ละวัน หยีจะไม่ค่อยได้นั่งเก้าอี้ตัวเองเท่าไร
เพราะต้องวิ่งไป วิ่งมา
หรือไม่ก็ถูกเรียกเข้าห้องเย็น .. เสมอ

ดังนั้น .. เก้าอี้ที่หยีได้นั่งในแต่ละวัน
จึงเป็นเก้าอี้เสริมที่อยู่กับโต๊ะคนอื่น ..
และมักจะมีหน้าตาแบบนี้ค่ะ
เป็นเก้าอี้พลาสติกจริง จริ๊ง .. ไม่ได้โม้



      บันทึกการเข้า

.. don't play with me, cos I know how to play it too .. may be better than you do ..
swsm
Cmadong Member
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
****


@@ ยาหยี @@
ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: Rcu2523
คณะ: Comm Arts
กระทู้: 28,369

« ตอบ #10 เมื่อ: 25 กุมภาพันธ์ 2553, 17:26:39 »

ส่วนเก้าอี้ของตัวเอง .. มีหน้าตาเหมือนกับที่เป็นข่าวเลยค่ะ
เจ้านายก็ไม่เห็นว่าอะไร .. คริคริ





ภาพถ่ายวันนี้ค่ะ .. เวลาประมาณ 16.00 น.    หลั่นล้า
      บันทึกการเข้า

.. don't play with me, cos I know how to play it too .. may be better than you do ..
Kittiwit Pk
Full Member
**


ออฟไลน์ ออฟไลน์

คณะ: รัฐศาสตร์
กระทู้: 281

« ตอบ #11 เมื่อ: 25 กุมภาพันธ์ 2553, 17:42:24 »

เก้าอี้อะไร ก็นั่ง ๆ ไปเถอะ


เก้าอี้ของภาษีประชาชนทั้งนั้น


ไม่ได้ให้มานั่งเป็นเจ้านาย...
      บันทึกการเข้า
swsm
Cmadong Member
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
****


@@ ยาหยี @@
ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: Rcu2523
คณะ: Comm Arts
กระทู้: 28,369

« ตอบ #12 เมื่อ: 25 กุมภาพันธ์ 2553, 17:48:22 »

อ้างถึง
ข้อความของ kitty-wit เมื่อ 25 กุมภาพันธ์ 2553, 17:42:24
เก้าอี้อะไร ก็นั่ง ๆ ไปเถอะ

เก้าอี้โยก ก็อยากนั่ง ..
   บ่ฮู้บ่หัน
      บันทึกการเข้า

.. don't play with me, cos I know how to play it too .. may be better than you do ..
swsm
Cmadong Member
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
****


@@ ยาหยี @@
ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: Rcu2523
คณะ: Comm Arts
กระทู้: 28,369

« ตอบ #13 เมื่อ: 25 กุมภาพันธ์ 2553, 17:59:51 »

อยู่หลายคน  สนุกดี .. ทีมเราก็หลายคนอยู่เหมือนกัน     บ่ฮู้บ่หัน
 
      บันทึกการเข้า

.. don't play with me, cos I know how to play it too .. may be better than you do ..
swsm
Cmadong Member
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
****


@@ ยาหยี @@
ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: Rcu2523
คณะ: Comm Arts
กระทู้: 28,369

« ตอบ #14 เมื่อ: 25 กุมภาพันธ์ 2553, 18:00:35 »

อยากรู้ความคืบหน้าของข่าวนี้ ..     แบร่่!!!
      บันทึกการเข้า

.. don't play with me, cos I know how to play it too .. may be better than you do ..
ดร.มนตรี
Cmadong พันธุ์แท้
****


ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 2,540

« ตอบ #15 เมื่อ: 25 กุมภาพันธ์ 2553, 19:06:08 »

น้องชายพี่ ... ชอบลงพื้นที่ มากกว่านั่งเก้าอี้ ...  ^_^


      บันทึกการเข้า
swsm
Cmadong Member
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
****


@@ ยาหยี @@
ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: Rcu2523
คณะ: Comm Arts
กระทู้: 28,369

« ตอบ #16 เมื่อ: 25 กุมภาพันธ์ 2553, 19:13:19 »

งานไม่เหมือนกันนี่นะ ..


งานบางงาน .. นั่งเขียน นั่งคิด  ก็ต้องนั่งเก้าอี้มากหน่อย
งานบางงาน .. ออกพื้นที่ ตะลอนไปทั่วหัวเห็ดเจ็ดย่านน้ำ
งานบางงาน .. หิ้วกระเป๋าเดินตามนาย  ตูดใหญ่ตามนาย  ต้องหาเก้าอี้หญ่าย ๆ มานั่ง
งานบางงาน .. นั่งทำที่บ้านก็ได้  เพราะถือเป็น mobile office อยู่เลี้ยงลูกกับบ้าน ก็ยังทำงานได้
งานบางงาน .. อยู่แต่ในห้องประชุม ทั้งวัน ทุกวัน .. ออกมาเจอแสงจ้า ตาบอดไปเลย
งานบางงาน .. ใช้โทรศัพท์ประสานอย่างเดียว  นั่งทำงานที่ร้านกาแฟยังไหว
งานบางงาน .. ทำมาหากินบนหลังคน  ไม่ต้องนั่งเก้าอี้เลย
งานบางงาน .. แหกปากตะโกนปาว ๆ ในที่แจ้ง  ก็ไม่ต้องนั่งเก้าอี้อีก หากจะนั่งก็ปูเสื่อเอาตามท้องถนนหรือสนาม
งานบางงาน .. โอ้ย  เยอะแยะ  เขียนไม่หมด


บอกแล้ว .. เรานั่งเก้าอี้พลาสติกมากกว่าเก้าอี้ตัวเอง
เพราะวิ่งไป วิ่งมา ตลอด
      บันทึกการเข้า

.. don't play with me, cos I know how to play it too .. may be better than you do ..
ดร.มนตรี
Cmadong พันธุ์แท้
****


ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 2,540

« ตอบ #17 เมื่อ: 25 กุมภาพันธ์ 2553, 20:29:51 »

พระบรมราโชวาท ปีพุทธศักราช ๒๕๒๖

         การทำงานสร้างเกียรติยศขื่อเสียงและความเจริญก้าวหน้า นอกจากจะต้องใช้วิชาความรู้ที่ดีแล้ว แต่ละคนยังต้องมีจิตใจที่มั่นคงในความสุจริตและมุ่งมั่นต่อความสำเร็จเป็นรากฐานรองรับ กับต้องอาศัยกุศโลบายหรือวิธีการอันแยบคายในการประพฤติปฏิบัติเข้าประกอบอีกหลายประการ. ประการแรก ได้แก่การสร้างศรัทธาความเชื่อถือในงานที่กระทำ ซึ่งเป็นพละกำลังส่งเสริมให้เกิดความพอใจและความเพียรพยายามอย่างสำคัญ ในอันที่จะทำการงานให้บรรลุผลเลิศ. ประการที่สอง ได้แก่การไม่ประมาทปัญญาความรู้ ความฉลาดสามารถทั้งของตนเองทั้งของผู้อื่น ซึ่งเป็นเครื่องช่วยทำงานได้ก้าวหน้า กว้างไกล. ประการที่สาม ได้แก่ การตามรักษาความจริงใจ ทั้งต่อตัวเอง ซึ่งเป็นเครื่องทำให้ไว้วางใจร่วมมือกัน และทำให้งานสำเร็จได้โดยราบรื่น. ประการที่สี่ ได้แก่การกำจัดจิตใจที่ต่ำทราม รวมทั้งสร้างเสริมความคิดจิตใจที่สะอาดเข้มแข็ง ซึ่งจะช่วยให้ฝักใฝ่แต่ในการที่จะปฏิบัติดี ให้เกิดความก้าวหน้า. ประการที่ห้า ได้แก่การรู้จักสงบใจ ซึ่งเป็นเครื่องช่วยให้ยั้งคิดได้ในเมื่อมีเหตุทำให้เกิดความหวั่นไหวฟุ้งซ่าน และสามารถพิจารณาแก้ไขปัญหาได้โดยถูกต้อง. คุณสมบัติหรือคุณธรรมที่กล่าวแล้ว ทั้งที่เป็นส่วนรากฐาน ทั้งที่เป็นส่วนวิธีการ ต่างเป็นเหตุเป็นผลอาศัยกัน และเกื้อกูลส่งเสริมกันอยู่ทั้งหมด จะอาศัยเพียงข้อหนึ่งข้อใด หรือเพียงบางส่วนบางข้อมิได้ เพราะจะไม่ช่วยให้เกิดผลหรือได้ผลน้อย. ดังนั้น จึงจำเป็นที่จะต้องพยายามอบรมสร้างเสริมให้บริบูรณ์ขึ้นแต่ละข้อ และทุกข้อ. เมื่อคุณสมบัติดังกล่าวประชุมพร้อมกันขึ้นแล้ว จึงจะบันดาลผลเลิศให้เกิดขึ้นสมบูรณ์บริบูรณ์ เป็นประโยชน์ช่วยตัวช่วยผู้อื่นได้อย่างแท้จริง.

พระตำหนักจิตรลดารโหฐาน
วันที่ ๐๕ มีนาคม พุทธศักราช ๒๕๒๖
      บันทึกการเข้า
ดร.มนตรี
Cmadong พันธุ์แท้
****


ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 2,540

« ตอบ #18 เมื่อ: 25 กุมภาพันธ์ 2553, 20:34:30 »

พระบรมราโชวาท ของ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ปีพุทธศักราช ๒๕๔๖

         ข้าราชการ ไม่ว่าจะอยู่ในตำแหน่งใด ระดับไหน มีหน้าที่อย่างไร ล้วนแต่มีส่วนสำคัญอยู่ในงานของแผ่นดินทั้งสิ้น ทุกคน ทุกฝ่าย จึงไม่ควรจะถือตัวแบ่งแยก หากต้องยกย่องนับถือ ให้เกียรติกัน สมัครสมาน ร่วมมือร่วมความคิดกัน ให้การปฏิบัติ บริหารงานของแผ่นดิน ดำเนินไปอย่างมีเอกภาพ และได้ผลที่พึงประสงค์สมบูรณ์ พร้อมทุกส่วน"

พระตำหนักจิตรลดารโหฐาน
วันที่ ๓๐ มีนาคม พุทธศักราช ๒๕๔๖
      บันทึกการเข้า
phraisohn
บักสน
Administrator
Cmadong ชั้นเซียน
*****


บักสนแคมโบ้
ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: rcu89 (ปี 2549)
คณะ: วิทยาศาสตร์
กระทู้: 9,557

เว็บไซต์
« ตอบ #19 เมื่อ: 25 กุมภาพันธ์ 2553, 20:44:24 »

อ้างถึง
ข้อความของ ดร.มนตรี เมื่อ 25 กุมภาพันธ์ 2553, 19:06:08
น้องชายพี่ ... ชอบลงพื้นที่ มากกว่านั่งเก้าอี้ ...  ^_^




โอ๊ะ หน้าเหมือนพี่มนตรีเลยครับ
เหมือนมากๆ
      บันทึกการเข้า
ดร.มนตรี
Cmadong พันธุ์แท้
****


ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 2,540

« ตอบ #20 เมื่อ: 25 กุมภาพันธ์ 2553, 20:50:52 »

อ้างถึง
ข้อความของ phraisohn เมื่อ 25 กุมภาพันธ์ 2553, 20:44:24
อ้างถึง
ข้อความของ ดร.มนตรี เมื่อ 25 กุมภาพันธ์ 2553, 19:06:08
น้องชายพี่ ... ชอบลงพื้นที่ มากกว่านั่งเก้าอี้ ...  ^_^




โอ๊ะ หน้าเหมือนพี่มนตรีเลยครับ
เหมือนมากๆ


"โอ๊ะ" ต้องหน้าเหมือนพี่"มนตรี" อยู่ แล้ว  เพราะ พี่ชื่อเล่นว่า "โอ๊ะ"  เหอๆๆ เหอๆๆ
      บันทึกการเข้า
Ron Samyan
Cmadong พันธุ์แท้
****


ล้อมวงเข้ามา จะเล่าให้ฟัง
ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: RCU 32 ( Cologne )
คณะ: Science ( Physics )
กระทู้: 2,666

เว็บไซต์
« ตอบ #21 เมื่อ: 25 กุมภาพันธ์ 2553, 21:03:01 »

น้องสน อุทานออกมาได้..ช่างบังเอิญ เสียจริงๆ
      บันทึกการเข้า
swsm
Cmadong Member
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
****


@@ ยาหยี @@
ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: Rcu2523
คณะ: Comm Arts
กระทู้: 28,369

« ตอบ #22 เมื่อ: 25 กุมภาพันธ์ 2553, 22:40:22 »

วันที่ 25 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2553 เวลา 19:15:43 น.   มติชนออนไลน์


สรรพากรชี้ปัญหาสับสนตำแหน่ง อยู่ที่คนไม่ใช่เก้าอี้

กรณี น.ส.รัศมี ไทยสิทธิพงษ์ นักวิชาการสรรพากรชำนาญการอำเภอศรีประจันต์ จ.สุพรรณบุรี
ปัจจุบันย้ายไปรับราชการที่ อ.ดอนเจดีย์ จ.สุพรรณบุรี นำเก้าอี้ส่วนตัวไปใช้ในที่ทำงานเหตุผลเป็นโรคปวดหลัง
ส่งผลให้ น.ส.ศิริลักษณ์ ไหวดี สรรพากรอำเภอศรีประจันต์
เกรงว่าประชาชนที่เข้ามาเสียภาษี สับสนว่าใครกันแน่ที่เป็นหัวหน้าหน่วยงาน
และมีบันทึกข้อความให้นั่งเก้าอี้ของสำนักงานแทนเก้าอี้ส่วนตัว และให้นำเก้าอี้ส่วนตัวกลับบ้าน
ต่อมา เรื่องราวดังกล่าวมีการส่งต่อไปทางจดหมายอิเล็กทรอนิกส์
ส่งผลให้มีการวิพากษ์วิจารณ์อย่างกว้างขวางนั้น


เมื่อวันที่ 25 กุมภาพันธ์ น.ส.จันทร์เพ็ญ อนันต์ธนสาร
นักวิชาการสรรพากรชำนาญการ รักษาราชการแทนสรรพากรอำเภอ สำนักงานสรรพากรพื้นที่สาขาดอนเจดีย์ กล่าวว่า
เท่าที่พูดคุยกับ น.ส.รัศมีน่าจะเกิดความไม่เข้าใจระหว่างการทำงานมากกว่า
เรื่องเก้าอี้เล็กใหญ่เป็นเรื่องไร้สาระสิ้นดี ขอให้ทำงานดี เป็นคนดีเท่านี้ก็พอ
ที่ อ.ดอนเจดีย์ อยู่กันแบบพี่น้อง คนทำงานจึงจะอยู่กับเราได้
ตนก็มีปัญหาเรื่องสุขภาพหลังเช่นกันเข้าใจดี


สำหรับ น.ส.รัศมีมีการสอบถามก่อนที่จะนำเก้าอี้ตัวที่เกิดปัญหามานั่งที่ อ.ดอนเจดีย์ พร้อมหมอนรองหลัง 1 ใบ
คิดว่าปัญหาอยู่ที่คนมากกว่าเก้าอี้ จึงเกิดเรื่องราวดังกล่าวขึ้น



http://www.matichon.co.th/news_detail.php?newsid=1267100203&grpid=03&catid=
      บันทึกการเข้า

.. don't play with me, cos I know how to play it too .. may be better than you do ..
phraisohn
บักสน
Administrator
Cmadong ชั้นเซียน
*****


บักสนแคมโบ้
ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: rcu89 (ปี 2549)
คณะ: วิทยาศาสตร์
กระทู้: 9,557

เว็บไซต์
« ตอบ #23 เมื่อ: 25 กุมภาพันธ์ 2553, 22:42:46 »

อ้างถึง
ข้อความของ ดร.มนตรี เมื่อ 25 กุมภาพันธ์ 2553, 20:50:52
อ้างถึง
ข้อความของ phraisohn เมื่อ 25 กุมภาพันธ์ 2553, 20:44:24
อ้างถึง
ข้อความของ ดร.มนตรี เมื่อ 25 กุมภาพันธ์ 2553, 19:06:08
น้องชายพี่ ... ชอบลงพื้นที่ มากกว่านั่งเก้าอี้ ...  ^_^




โอ๊ะ หน้าเหมือนพี่มนตรีเลยครับ
เหมือนมากๆ


"โอ๊ะ" ต้องหน้าเหมือนพี่"มนตรี" อยู่ แล้ว  เพราะ พี่ชื่อเล่นว่า "โอ๊ะ"  เหอๆๆ เหอๆๆ

โห ช่างบังเอิ็ญมากเลยครับพี่มนตรี 55
ไม่น่าปล่อยไก่ไปเลย เอิ้กๆๆ
      บันทึกการเข้า
swsm
Cmadong Member
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
****


@@ ยาหยี @@
ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: Rcu2523
คณะ: Comm Arts
กระทู้: 28,369

« ตอบ #24 เมื่อ: 25 กุมภาพันธ์ 2553, 23:15:04 »

มาช่วยหัวเราะด้วยคน .. เอิ้ก เอิ้ก ..    เหอๆๆ    เหอๆๆ
      บันทึกการเข้า

.. don't play with me, cos I know how to play it too .. may be better than you do ..
Intania๑๖
Cmadong Member
Hero Cmadong Member
****


ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: ๒๕๑๖
คณะ: เวสสุกรรม
กระทู้: 1,071

« ตอบ #25 เมื่อ: 26 กุมภาพันธ์ 2553, 08:17:40 »






ส่ง เก้าอี้ ตย.  4 แบบ มาให้คุณรัสมี ไทยสิทธิพงศ์ เลือกครับ
ส่วน อจ. เต้ และ น้องหะยี ก็เลือกไว้ใช้งานได้นะครับ



แล้วขอส่งเก้าอี้ มาให้...... แห่งสำนักงานสรรพากร ศรีประจันต์ ไว้ใช้งานประจำตำแหน่ง
ประชาชนที่มาติดต่องาน จะได้ไม่สับสน ว่าใครใหญ่กว่าใคร

      บันทึกการเข้า

Pae
Cmadong พันธุ์แท้
****


ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 3,047

« ตอบ #26 เมื่อ: 26 กุมภาพันธ์ 2553, 09:07:04 »

ผมว่าเก้าอี้สำนักงานตัวสีชมพู มันเหมือนเก้าอี้ร้านเสริมสวยมากกว่า
ถ้าต้องนั่งทั้งวัน คงปวดหลังแน่นอน
ไม่ถูกต้องตามหลัก การยศาสตร์ครับ
      บันทึกการเข้า
swsm
Cmadong Member
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
****


@@ ยาหยี @@
ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: Rcu2523
คณะ: Comm Arts
กระทู้: 28,369

« ตอบ #27 เมื่อ: 26 กุมภาพันธ์ 2553, 13:50:49 »

ตัวสุดท้ายดูสยองไปนิดส์ไหมคะ  ..พี่วณิชย์ ??     ฮือๆ
      บันทึกการเข้า

.. don't play with me, cos I know how to play it too .. may be better than you do ..
ว่าน
Cmadong พันธุ์แท้
****


ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 2,592

« ตอบ #28 เมื่อ: 26 กุมภาพันธ์ 2553, 14:06:50 »

ง่ะ เก้าอี้หนูก็ใหญ่กว่าหัวหน้ากลุ่มวิชาฯ อ้ะค่ะ

หนูจะโดนสั่งย้ายไหมเนี่ย หงิหงิ


5 5 5
      บันทึกการเข้า
swsm
Cmadong Member
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
****


@@ ยาหยี @@
ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: Rcu2523
คณะ: Comm Arts
กระทู้: 28,369

« ตอบ #29 เมื่อ: 26 กุมภาพันธ์ 2553, 14:08:50 »

อ้างถึง
ข้อความของ ว่าน เมื่อ 26 กุมภาพันธ์ 2553, 14:06:50
ง่ะ เก้าอี้หนูก็ใหญ่กว่าหัวหน้ากลุ่มวิชาฯ อ้ะค่ะ

หนูจะโดนสั่งย้ายไหมเนี่ย หงิหงิ


5 5 5

ระวังตัวไว้หน่อยก็ดีค่ะ  นุ้งว่าน .. คริคริ
    หลั่นล้า
      บันทึกการเข้า

.. don't play with me, cos I know how to play it too .. may be better than you do ..
swsm
Cmadong Member
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
****


@@ ยาหยี @@
ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: Rcu2523
คณะ: Comm Arts
กระทู้: 28,369

« ตอบ #30 เมื่อ: 26 กุมภาพันธ์ 2553, 17:25:10 »

เก้าอี้ตัวนี้ของพี่วณิชย์ .. ทำให้หยีนึกถึงหนังที่ชอบมากอีกเรื่องหนึ่ง ..


      บันทึกการเข้า

.. don't play with me, cos I know how to play it too .. may be better than you do ..
swsm
Cmadong Member
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
****


@@ ยาหยี @@
ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: Rcu2523
คณะ: Comm Arts
กระทู้: 28,369

« ตอบ #31 เมื่อ: 26 กุมภาพันธ์ 2553, 17:26:30 »

หนังเรื่องนั้นคือ .. The Green Mile ..

ดูกี่รอบก็ไม่เบื่อ ..

ความเป็นจริงในชีวิตที่เกิดขึ้นกับเราได้ แทบจะทุกวัน
นั่นคือ .. การตัดสินคนจากสิ่งภายนอกที่เห็น โดยไม่ได้มองลึกเข้าไปข้างใน
   






      บันทึกการเข้า

.. don't play with me, cos I know how to play it too .. may be better than you do ..
พศินน์
Full Member
**

ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: rcu2535
คณะ: วิศวฯ
กระทู้: 511

« ตอบ #32 เมื่อ: 01 มีนาคม 2553, 19:35:36 »

อ้างถึง
ข้อความของ swsm เมื่อ 26 กุมภาพันธ์ 2553, 17:26:30
หนังเรื่องนั้นคือ .. The Green Mile ..

ดูกี่รอบก็ไม่เบื่อ ..

ความเป็นจริงในชีวิตที่เกิดขึ้นกับเราได้ แทบจะทุกวัน
นั่นคือ .. การตัดสินคนจากสิ่งภายนอกที่เห็น โดยไม่ได้มองลึกเข้าไปข้างใน
   









   
 การตัดสินคนจากสิ่งภายนอกที่เห็น โดยไม่ได้มองลึกเข้าไปข้างใน

lสังคมไทย กลายเป็นแบบนี้ ส่วนมากแล้ว...




ปัญหาเรื่องเก้าอี้ตามข่าวนั้น น่าจะมีปัญหาจากเรื่องอื่นมากกว่าเรื่องเก้าอี้ หรือปล่าวครับ???

   
      บันทึกการเข้า

sound mind in sound body
Pae
Cmadong พันธุ์แท้
****


ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 3,047

« ตอบ #33 เมื่อ: 02 มีนาคม 2553, 19:49:51 »

อ้างถึง
ข้อความของ swsm เมื่อ 26 กุมภาพันธ์ 2553, 17:26:30
หนังเรื่องนั้นคือ .. The Green Mile ..

ดูกี่รอบก็ไม่เบื่อ ..

ความเป็นจริงในชีวิตที่เกิดขึ้นกับเราได้ แทบจะทุกวัน
นั่นคือ .. การตัดสินคนจากสิ่งภายนอกที่เห็น โดยไม่ได้มองลึกเข้าไปข้างใน
   








ผมชอบเรื่องนี่ เหมือนกันครับ
      บันทึกการเข้า
TAE2540
Full Member
**


ไม่มีคำว่าสายเสียแล้ว สำหรับความรักที่แท้จริง
ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: rcu2540
คณะ: ครุศาสตร์
กระทู้: 507

เว็บไซต์
« ตอบ #34 เมื่อ: 02 มีนาคม 2553, 21:23:32 »

อ้างถึง
ข้อความของ Pae เมื่อ 02 มีนาคม 2553, 19:49:51
อ้างถึง
ข้อความของ swsm เมื่อ 26 กุมภาพันธ์ 2553, 17:26:30
หนังเรื่องนั้นคือ .. The Green Mile ..

ดูกี่รอบก็ไม่เบื่อ ..

ความเป็นจริงในชีวิตที่เกิดขึ้นกับเราได้ แทบจะทุกวัน
นั่นคือ .. การตัดสินคนจากสิ่งภายนอกที่เห็น โดยไม่ได้มองลึกเข้าไปข้างใน
   








ผมชอบเรื่องนี่ เหมือนกันครับ

เหมือนกันครับ ผมดู 3 รอบ
      บันทึกการเข้า
pusadee sitthiphong
Cmadong พันธุ์แท้
****


ออฟไลน์ ออฟไลน์

คณะ: พาณิชยศาสตร์และการบัญชี
กระทู้: 4,689

« ตอบ #35 เมื่อ: 02 มีนาคม 2553, 21:31:18 »

พี่ก็ดูหลายรอบค่า
      บันทึกการเข้า

pom shi 2516
ว่าน
Cmadong พันธุ์แท้
****


ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 2,592

« ตอบ #36 เมื่อ: 02 มีนาคม 2553, 21:34:51 »

แหะๆ หนูไม่ได้ดูเรื่องนี้ค่ะ หนูชอบเรื่อง The Shawshank Redemption ค่ะ

เอ่อ เกี่ยวกับเขาไหมเนี่ย หงิหงิ


^^"
      บันทึกการเข้า
ตุ๋ย 22
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: RCU2522
คณะ: ครุศาสตร์
กระทู้: 20,173

« ตอบ #37 เมื่อ: 02 มีนาคม 2553, 22:07:04 »

อยู่เป็นครูมา 26 ปี  ยังไม่เคยมีโต๊ะ  เก้าอี้ส่วนตัวเลยเพราะสอนเวียนตลอด  เวลาที่ใช้ก้นั่งเก้าอี้พลาสติกในห้องเรียนหรือไม่ก้เก้าอี้เด้ก  มาเทอมนี้เป็นครูประจำชั้นต้องมีโต๊ะ กับเก้าอี้สำหรับครูประจำชั้น  โต๊ะก็อ๊อกซ์ต่อเอง  เก้าอี้ก็พลาสติกวันๆ หนึ่งไม่ค่อยได้นั่งเท่าไร  เวลาตรวจงานเด้กก็นั่งโต๊ะเด็ก
      บันทึกการเข้า

น้ำใจน้องพี่สีชมพู ไม่เสื่อมคลายหายไปจากหัวใจ
Pae
Cmadong พันธุ์แท้
****


ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 3,047

« ตอบ #38 เมื่อ: 03 มีนาคม 2553, 07:28:49 »

อ้างถึง
ข้อความของ ตุ๋ย 22 เมื่อ 02 มีนาคม 2553, 22:07:04
อยู่เป็นครูมา 26 ปี  ยังไม่เคยมีโต๊ะ  เก้าอี้ส่วนตัวเลยเพราะสอนเวียนตลอด  เวลาที่ใช้ก้นั่งเก้าอี้พลาสติกในห้องเรียนหรือไม่ก้เก้าอี้เด้ก  มาเทอมนี้เป็นครูประจำชั้นต้องมีโต๊ะ กับเก้าอี้สำหรับครูประจำชั้น  โต๊ะก็อ๊อกซ์ต่อเอง  เก้าอี้ก็พลาสติกวันๆ หนึ่งไม่ค่อยได้นั่งเท่าไร  เวลาตรวจงานเด้กก็นั่งโต๊ะเด็ก

แบบนี้ ก็ดีนะครับพี่ตุ๋ย
ไม่ต้องกลัวใครมาเลื่อยขาเก้าอี้
      บันทึกการเข้า
บ่าวหน่อ เมืองพลาญ
Full Member
**


ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: rcu2540
คณะ: วิศวกรรมศาสตร์
กระทู้: 490

เว็บไซต์
« ตอบ #39 เมื่อ: 04 มีนาคม 2553, 17:34:20 »

อ้างถึง
ข้อความของ pusadee sittipong เมื่อ 02 มีนาคม 2553, 21:31:18
พี่ก็ดูหลายรอบค่า


ผมดูรอบเดียวครับ กะว่าจะดู 3 รอบเหมือนกัน แต่เพื่อนยืมไปดูก่อนแล้วไม่คืน เลยได้แค่รอบเดียว ฮิฮิ
      บันทึกการเข้า

RCU80 จงเจริญ
swsm
Cmadong Member
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
****


@@ ยาหยี @@
ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: Rcu2523
คณะ: Comm Arts
กระทู้: 28,369

« ตอบ #40 เมื่อ: 04 มีนาคม 2553, 21:37:21 »

อ้างถึง
ข้อความของ Pae เมื่อ 03 มีนาคม 2553, 07:28:49
อ้างถึง
ข้อความของ ตุ๋ย 22 เมื่อ 02 มีนาคม 2553, 22:07:04
อยู่เป็นครูมา 26 ปี  ยังไม่เคยมีโต๊ะ  เก้าอี้ส่วนตัวเลยเพราะสอนเวียนตลอด  เวลาที่ใช้ก้นั่งเก้าอี้พลาสติกในห้องเรียนหรือไม่ก้เก้าอี้เด้ก  มาเทอมนี้เป็นครูประจำชั้นต้องมีโต๊ะ กับเก้าอี้สำหรับครูประจำชั้น  โต๊ะก็อ๊อกซ์ต่อเอง  เก้าอี้ก็พลาสติกวันๆ หนึ่งไม่ค่อยได้นั่งเท่าไร  เวลาตรวจงานเด้กก็นั่งโต๊ะเด็ก

แบบนี้ ก็ดีนะครับพี่ตุ๋ย
ไม่ต้องกลัวใครมาเลื่อยขาเก้าอี้


ไม่โดนเลื่อยขาเก้าอี้ .. แต่อาจโดนเตะตัดขาแทน .. คริคริ    เหอๆๆ
      บันทึกการเข้า

.. don't play with me, cos I know how to play it too .. may be better than you do ..
ภาณุ ปาตานี
Cmadong ชั้นเซียน
*****


ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 6,254

« ตอบ #41 เมื่อ: 09 มีนาคม 2553, 06:24:53 »

อ้างถึง
ข้อความของ swsm เมื่อ 04 มีนาคม 2553, 21:37:21
อ้างถึง
ข้อความของ Pae เมื่อ 03 มีนาคม 2553, 07:28:49
อ้างถึง
ข้อความของ ตุ๋ย 22 เมื่อ 02 มีนาคม 2553, 22:07:04
อยู่เป็นครูมา 26 ปี  ยังไม่เคยมีโต๊ะ  เก้าอี้ส่วนตัวเลยเพราะสอนเวียนตลอด  เวลาที่ใช้ก้นั่งเก้าอี้พลาสติกในห้องเรียนหรือไม่ก้เก้าอี้เด้ก  มาเทอมนี้เป็นครูประจำชั้นต้องมีโต๊ะ กับเก้าอี้สำหรับครูประจำชั้น  โต๊ะก็อ๊อกซ์ต่อเอง  เก้าอี้ก็พลาสติกวันๆ หนึ่งไม่ค่อยได้นั่งเท่าไร  เวลาตรวจงานเด้กก็นั่งโต๊ะเด็ก
แบบนี้ ก็ดีนะครับพี่ตุ๋ย
ไม่ต้องกลัวใครมาเลื่อยขาเก้าอี้

ไม่โดนเลื่อยขาเก้าอี้ .. แต่อาจโดนเตะตัดขาแทน .. คริคริ    เหอๆๆ

เอาไปทำก้อย แทนบ่าง
      บันทึกการเข้า
(n_n)Cellkrub
Full Member
**


ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: 2540
คณะ: วิศวกรรมศาสตร์
กระทู้: 579

« ตอบ #42 เมื่อ: 09 มีนาคม 2553, 15:48:57 »

นี่ถ้าหัวหน้านั่งเก้าอี้พลาสติกกลม ลูกน้องคงต้องเอาสาดมารองก้นแทนซะล่ะมั้ง ฮ่าๆๆ

แปลกดี
      บันทึกการเข้า
เหยง 16
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: rcu2516
คณะ: เภสัชศาสตร์ 2516
กระทู้: 23,533

« ตอบ #43 เมื่อ: 15 มีนาคม 2553, 12:29:53 »

กรณีใหม่ครับลง นสพ.ไทยโพสต์ ออนไลน์

ทุกข์ของครูใกล้เกษียณ
ถูกทุกข้อ                                                                                                                             15 มีนาคม 2553  00.00

เรียน บรรณาธิการหนังสือพิมพ์ไทยโพสต์

ข้าพเจ้านางสาวศิรารัตน์ หงษ์ทองกิจเสรี ตำแหน่งครู ค.ศ.2 โรงเรียนหาดใหญ่วิทยาลัยสมบูรณ์กุลกันยา (ญ.ส.) สังกัดสำนักงานการเขตพื้นที่การศึกษาจังหวัดสงขลา เขต 2 (สพท.เขต 2) อำเภอหาดใหญ่ จังหวัดสงขลา 90110 โทรศัพท์ 08-3192-1451 เลขที่บัตรประชาชน 3 93040002222 9

ดิฉันรับราชการครูมาถึง 30 ปี ไม่เคยคิดที่จะยอมก้มหัวให้กับผู้บริหารที่ไม่มีความจริงใจต่อนักเรียน จึงเป็นของธรรมดาที่ชีวิตราชการของดิฉันจะไม่รุ่ง ไม่เพียงแต่ไม่รุ่งดิฉันยังถูกผู้บริหารกลั่นแกล้งสารพัด ด้วยการออกคำสั่งลงโทษโดยไม่ยึดระเบียบวินัยราชการ

มาถึงวันนี้ดิฉันถูกโรงเรียนออกคำสั่งลงโทษตัดเงินเดือน ไม่เลื่อนขั้นเงินเดือนมาแล้ว 5 คำสั่ง โดยตั้งข้อกล่าวหาเดิมๆ ว่ากล่าวหาผู้อื่นด้วยข้อความอันเป็นเท็จ สอบสวนดิฉันเสร็จไม่ถึง 2 สัปดาห์ สรุปรายงานผลการสอบสวนว่าดิฉันผิดจริง แล้วออกคำสั่งลงโทษทันที

โรงเรียนกล่าวหาพร้อมกับตั้งกรรมการสอบสวน และออกคำสั่งลงโทษใช้เวลาไม่ถึง 2 เดือน โดยไม่ต้องยึดระเบียบวินัยราชการ โรงเรียนมักอ้างว่าตนเองมีอำนาจเต็ม 100% ดิฉันต้องกลายเป็นเหยื่อสนองอำนาจอย่างไม่เป็นธรรมของผู้บริหาร

ไม่นึกเลยว่าฉันต้องกลายเป็นเหยื่อ ให้ผู้บริหารบ้าอำนาจเหล่านี้เชือดครั้งแล้วครั้งเล่าถึง 5 คำสั่ง และคำสั่งที่ 6 กำลังจะตามมาอีก

ดิฉันกล้าประกาศเรียกตัวเองว่าเป็นครูที่ดี สามารถเป็นครูตัวอย่างให้กับครูทั้งประเทศได้ ประเมินการเรียนการสอนออกมา คะแนนเป็นที่หนึ่งของโรงเรียนเกือบทุกปี แต่ก็ถูกเปลี่ยนข้อมูลไปทุกครั้ง

ดิฉันไม่ยอมก้มหัวให้กับความเลวร้ายของสังคม แต่ดิฉันอยู่ในขอบเขตของตนเอง อย่างเช่นโรงเรียนให้ผู้ปกครองไปชำระค่าพัฒนาคุณภาพการศึกษา (ไม่มีคำว่าค่าเล่าเรียน) โดยจ่ายผ่านธนาคารเป็นเงิน 1,950 บาท ต่อมาโรงเรียนออกใบเสร็จให้นักเรียนเป็นเงิน 1,650 บาท

นักเรียนมาถามดิฉันว่า แม่ให้มาถามว่าจ่ายเงินกับธนาคารไป 1,950 บาท แต่ทำไมออกใบเสร็จให้นักเรียน 1,650 บาท ดิฉันตอบว่าไม่ทราบให้ไปถาม ผอ.เอาเอง

ต่อมามีผู้ปกครองโทรศัพท์เข้าไปในรายการร่วมด้วยช่วยกัน โรงเรียนออกใบเสร็จให้นักเรียนเพิ่มอีกคนละ 200 บาท นักเรียนบอกว่าเงินยังได้ไม่ครบ คนดีของผู้อำนวยการรีบไปประกาศกับนักเรียนหน้าเสาธงว่า ถ้าผู้ปกครองมีอะไรสงสัยให้มาคุยกับผู้อำนวยการ

และอีกหลายๆ เรื่อง ดิฉันต้องกลายเป็นผู้ต้องสงสัยโดยไม่ได้ทำอะไร (คนอย่างดิฉันเป็นคนจริงและคนกล้า ไม่ทำอะไรลับหลังหรือแทงหลังใคร)

จริงๆ แล้วเมื่อก่อนดิฉันเคยต่อสู้ ปกป้องผลประโยชน์ให้นักเรียนในที่ประชุมครู ถูกกลุ่มผู้บริหารและพรรคพวกต้อนดิฉัน รวมไปถึงไล่ดิฉันออกจากที่ประชุมก็โดนมาแล้ว ในที่สุดดิฉันเห็นว่ามันไม่มีประโยชน์อะไรกับการต่อสู้กับคนที่หาความดีไม่ได้ จึงยุติบทบาทตัวเองและทำหน้าที่ของตนเองให้ดีที่สุด

แต่โรงเรียนกลับอาฆาตแค้นที่ดิฉันเป็นที่รักของนักเรียน ผู้ปกครองให้ความไว้วางใจ จึงจงใจกลั่นแกล้งดิฉันสารพัดเรื่อง ดิฉันได้ทำหนังสือร้องเรียนไปที่กรมสามัญศึกษา (สพฐ.) แต่ไม่ได้รับการเหลียวแลช่วยเหลือแต่ประการใด

จนทนไม่ได้จึงไปหานักการเมืองท่านหนึ่ง เขาไม่ช่วยเหลืออะไรเลย แต่แนะนำให้ไปฟ้องผู้ตรวจการแผ่นดิน ดิฉันก็ฟ้องไปที่ผู้ตรวจฯ ต่อมาผู้ตรวจให้ดิฉันชี้แจงกลับด้วยความที่ไม่มีความรู้ ดิฉันได้รับหนังสือเลยกำหนด 15 วันจึงไม่ได้ชี้แจงกลับ ผู้ตรวจฯ สั่งให้ยุติเรื่องทั้งหมด จึงเป็นที่มาของการออกคำสั่งลงโทษดิฉัน ดังรายละเอียดดังนี้

ปี พ.ศ.2548 ผู้บริหารได้ออกคำสั่งลงโทษดิฉัน 3 คำสั่ง ภายในเวลา 6 เดือนก่อนที่จะเกษียณอายุราชการไป โดยทำหนังสือแบบ สว 2 สว 3 ลงวันที่ 16 มีนาคม 2548 (สร้างหลักฐานลงวันที่ 16 มีนาคม 2548 ทั้งหมด 6 แห่ง)

ดิฉันรับหนังสือวันที่ 28 มีนาคม 2548 โรงเรียนออกคำสั่งที่ 34/2548 (คำสั่งที่ 1) ลงโทษให้ข้าพเจ้ารอการเลื่อนขั้นเงินเดือน ลงวันที่ 12 เมษายน 2548 (ขั้นเงินเดือนราชการปรับทุกวันที่ 1 เดือนเมษายน และตุลาคมของทุกปี)

ดิฉันได้ถามเขาว่า ออกคำสั่งให้ดิฉันรอการเลื่อนขั้นเงินเดือนด้วยเรื่องอะไร ดิฉันทำผิดอะไรหรือ หากดิฉันทำผิดโรงเรียนต้องตั้งข้อกล่าวหา และตั้งกรรมการสอบสวนดิฉันก่อนออกคำสั่งลงโทษ (ดิฉันถามวันที่ 2 พฤษภาคม 2548)

ผู้อำนวยการท่านนั้นตอบว่าต้องการสั่งสอนให้รู้สำนึก โดยอ้างคำสั่ง สพท.ที่ 75/2548 ลงวันที่ 16 มีนาคม 2548 ตั้งข้อกล่าวหา 3 ข้อ 1.ใส่ร้ายผู้อื่นด้วยข้อความอันเป็นเท็จ ข้อ 2.ทำให้สังคมแตกความสามัคคี ข้อ 3.กระด้างกระเดื่องต่อผู้บังคับบัญชา

โรงเรียนรีบออกคำสั่งที่ 61/2548 ลงโทษตัดเงินเดือนดิฉัน 10% เป็นเวลา 2 เดือน ดิฉันโต้แย้งว่าข้าราชการที่ทำผิดวินัย โรงเรียนมีอำนาจตัดเงินเดือนได้ 5% 1 เดือน โรงเรียนก็แก้ไขคำสั่ง 68/2548

ดิฉันทำหนังสืออุทธรณ์คัดค้านไปถึง สพฐ. ทุกอย่างเงียบสนิท

ต่อมาวันที่ 22 กันยายน 2548 โรงเรียนออกคำสั่งลงโทษไม่เลื่อนขั้นเงินเดือนดิฉันโดยไม่แจ้งให้ดิฉันทราบ แล้วผู้บริหารก็เกษียณอายุราชการไป

ดิฉันเอาคำสั่งทั้ง 3 คำสั่งไปฟ้องศาลปกครอง ปรากฏว่าศาลปกครองยกฟ้องทั้งหมดทั้ง 3 คำสั่ง ดิฉันไม่มีความรู้ทางด้านกฎหมาย ดิฉันใช้สามัญสำนึกคิดเอาเองว่า หลักฐานที่โรงเรียนร่วมกับ สพท.ออกเอกสารวันเดียวกันลงวันที่ 16 มีนาคม 2548 ทั้งหมด 6 ครั้ง และเอกสารตัดเงินเดือนดิฉันลงวันที่ 5 กรกฎาคม 2548 ทั้งหมด 4 แห่ง มันเป็นหลักฐานเท็จทั้งหมด

โรงเรียนไม่เลื่อนขั้นเงินเดือนให้ดิฉัน ก็ไม่มีการแจ้งให้ดิฉันทราบก่อนว่าทำผิดอะไร แถมมีการเอาคำสั่ง สพท.277/48 มายัดไส้คำสั่งโรงเรียน ทำให้ดิฉันเข้าใจผิดฟ้องศาลปกครองไม่สำเร็จ ต้องไปอุทธรณ์ที่ศาลปกครองสูงสุด

โรงเรียนออกคำสั่งลงโทษดิฉันโดยไม่ยึดระเบียบใดๆ และที่น่าแปลกใจมากคือ โรงเรียนยกเลิกคำสั่งลงโทษดิฉัน ไม่มีการแจ้งให้ดิฉันทราบ แต่ทำเอกสารไปประกอบคดีหมายเลขดำที่ 136/48 คดีหมายเลขแดงที่ 50/2552 และคำสั่งโรงเรียน 107/2548 ลงวันที่ 7 พฤศจิกายน 2548

นายวิทยา รัตนอรุณ ผู้อำนวยการที่ลงโทษดิฉัน เกษียณอายุราชการวันที่ 30 กันยายน 2548 ทำเอกสารประกอบคดีไปที่ศาลปกครองวันที่ 7 พฤศจิกายน 2548 ไปประกอบคดีหมายเลขดำที่ 178/2548 เลขแดงที่ 84/2552 นายวิทยาใช้สิทธิ์อะไรไปทำหนังสือให้ศาลปกครองในเมื่อเกษียณอายุราชการไปแล้ว สุดท้ายศาลปกครองยกฟ้องหมดทั้ง 3 คดี

โรงเรียนเกิดความเหิมเกริมที่ศาลปกครองยกฟ้อง ดังนั้นในเดือนมิถุนายน 2552 โรงเรียนตั้งข้อกล่าวหาดิฉันเหมือนเดิมอีก คือกล่าวหาผู้อื่นด้วยข้อความอันเป็นเท็จ และทำร้ายผู้อื่น (จริงๆ แล้วดิฉันเป็นฝ่ายถูกทำร้ายร่างกาย ครูผู้เป็นแบบอย่างนั้นทะเลาะทำร้ายร่างกายกันเหมือนหมา ถ้าเห็นเด็กทะเลาะกันอย่าไปด่าเด็กเลย)

ผลการสอบสวนออกมาดิฉันผิดอีก ตัดเงินเดือนดิฉัน 5% เดือนตุลาคม 2552 ไม่เลื่อนขั้นเงินเดือนให้ดิฉันโดยไม่แจ้งให้ดิฉันทราบ

และ ณ วันนี้ โรงเรียนออกคำสั่งแต่งตั้งกรรมการสอบสวนดิฉันด้วยข้อกล่าวหาเดิมอีก คือกล่าวหาผู้อื่นด้วยข้อความอันเป็นเท็จ ผู้อำนวยการคนนี้จะเกษียณอายุราชการในวันที่ 30 กันยายน 2553 มีตัวอย่างจากนายวิทยาแล้วว่าจะเล่นงานใครอย่างไรก็ได้ เกษียณอายุราชการไปใครฟ้องอะไรตนเองไม่ได้

แต่ครั้งนี้ดิฉันจะไม่มีวันให้พวกข้าราชการชั่วอาศัยตำแหน่งหน้าที่มาเล่นงานดิฉันได้อีก ดิฉันเองก็กำลังจะเกษียณอายุราชการในปีหน้าเช่นเดียวกัน ดิฉันคือข้าในพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ไม่ใช่ขี้ข้าใคร

เรื่องทั้งหมดนี้ดิฉันได้นำไปร้องทุกข์ กลับไปที่ผู้ตรวจการแผ่นดินของรัฐสภาอีกครั้งหนึ่ง (นายวิทยา รัตนอรุณ) และที่ศูนย์ร้องทุกข์นายกรัฐมนตรี (นางสาวผ่องศรี เรืองดิษฐ์) ในเรื่องใช้อำนาจมิชอบ ทั้ง 2 หน่วยงานมีหนังสือถึงดิฉันแจ้งว่า ได้ส่งเรื่องกลับไปที่ สพฐ.เพื่อตรวจสอบใหม่

ดิฉันตามเรื่องจนรู้สึกเหนื่อย และดิฉันจะไม่ยอมเกษียณอายุราชการไปอย่างคนมีมลทินเด็ดขาด และจะไม่ยอมให้คนชั่วครองเมือง

หากบรรณาธิการต้องการเห็นเอกสาร รวมทั้งแผ่นบันทึกเสียงที่ดิฉันแอบบันทึกการสอบสวน และเขาด่าประณามดิฉัน ดิฉันพร้อมที่จะส่งไปให้เพื่อแสดงความบริสุทธิ์ใจ ว่าดิฉันเล่าเรื่องจริงทั้งหมด

ดิฉันต้องการให้สังคมรับรู้ และอย่าอยู่เฉยหรือเข้าข้างผู้มีอำนาจ โดยทำร้ายเพื่อนร่วมงานเหมือนสังคมครูในโรงเรียนของดิฉัน ครูทุกคนรู้ความสกปรกหลายๆ อย่างแต่ก็ปิดปากเงียบ ไม่เคยมีใครกล้าพูดกล้าถามว่าเงินที่รับบริจาคเอาไปใช้อะไร

ดิฉันขอให้ท่านโปรดให้โอกาสดิฉันตีแผ่ความเลวร้ายของสังคม เพื่อสังคมไทยของเราคงจะดีขึ้นสักวัน อย่าอยู่กันแต่เปลือกทำร้ายเด็ก หากินกับเด็กไปวันๆ เด็กยากจนยังต้องถูกพวกโรงเรียนขูดรีด ไหนว่าเรียนฟรี 8 ชั่วโมงนักเรียนมาโรงเรียนไม่ได้ความรู้ ได้ความรู้เพียง 2 ชั่วโมงที่โรงเรียนเปิดสอนพิเศษเอง ค่าน้ำ ค่าไฟ ค่าสถานที่ ค่าโฆษณาไม่ต้องจ่าย

ใครเคยกล่าวว่าเด็กคืออนาคตของชาติ

ขอแสดงความนับถือ

นางสาวศิรารัตน์ หงษ์ทองกิจเสรี

ตอบ ครูศิรารัตน์

ผมลงจดหมายร้องทุกข์ของคุณครู เพื่อให้ผู้ที่เกี่ยวข้องทุกฝ่ายได้ตรวจสอบ และหวังว่าคุณชินวรณ์ บุณยเกียรติ รมว.ศึกษาธิการ คงจะช่วยให้ความกระจ่างในเรื่องนี้ได้

สามวา สองศอก
http://www.thaipost.net/news/150310/19331
      บันทึกการเข้า
phraisohn
บักสน
Administrator
Cmadong ชั้นเซียน
*****


บักสนแคมโบ้
ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: rcu89 (ปี 2549)
คณะ: วิทยาศาสตร์
กระทู้: 9,557

เว็บไซต์
« ตอบ #44 เมื่อ: 15 มีนาคม 2553, 13:47:27 »

อ้างถึง
ข้อความของ เต้ ณ บ้านครู เมื่อ 02 มีนาคม 2553, 21:23:32
อ้างถึง
ข้อความของ Pae เมื่อ 02 มีนาคม 2553, 19:49:51
อ้างถึง
ข้อความของ swsm เมื่อ 26 กุมภาพันธ์ 2553, 17:26:30
หนังเรื่องนั้นคือ .. The Green Mile ..

ดูกี่รอบก็ไม่เบื่อ ..

ความเป็นจริงในชีวิตที่เกิดขึ้นกับเราได้ แทบจะทุกวัน
นั่นคือ .. การตัดสินคนจากสิ่งภายนอกที่เห็น โดยไม่ได้มองลึกเข้าไปข้างใน
   








ผมชอบเรื่องนี่ เหมือนกันครับ

เหมือนกันครับ ผมดู 3 รอบ

ดูเหมือนกันครับ ให้ข้อคิดดี
      บันทึกการเข้า
Intania๑๖
Cmadong Member
Hero Cmadong Member
****


ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: ๒๕๑๖
คณะ: เวสสุกรรม
กระทู้: 1,071

« ตอบ #45 เมื่อ: 20 มีนาคม 2553, 17:20:50 »

อ้างถึง
ข้อความของ เหยง 16 เมื่อ 15 มีนาคม 2553, 12:29:53
กรณีใหม่ครับลง นสพ.ไทยโพสต์ ออนไลน์

ทุกข์ของครูใกล้เกษียณ
ถูกทุกข้อ                                                                                                                             15 มีนาคม 2553  00.00

เรียน บรรณาธิการหนังสือพิมพ์ไทยโพสต์

ข้าพเจ้านางสาวศิรารัตน์ หงษ์ทองกิจเสรี ตำแหน่งครู ค.ศ.2 โรงเรียนหาดใหญ่วิทยาลัยสมบูรณ์กุลกันยา (ญ.ส.) สังกัดสำนักงานการเขตพื้นที่การศึกษาจังหวัดสงขลา เขต 2 (สพท.เขต 2) อำเภอหาดใหญ่ จังหวัดสงขลา 90110 โทรศัพท์ 08-3192-1451 เลขที่บัตรประชาชน 3 93040002222 9

ดิฉันรับราชการครูมาถึง 30 ปี ไม่เคยคิดที่จะยอมก้มหัวให้กับผู้บริหารที่ไม่มีความจริงใจต่อนักเรียน จึงเป็นของธรรมดาที่ชีวิตราชการของดิฉันจะไม่รุ่ง ไม่เพียงแต่ไม่รุ่งดิฉันยังถูกผู้บริหารกลั่นแกล้งสารพัด ด้วยการออกคำสั่งลงโทษโดยไม่ยึดระเบียบวินัยราชการ

มาถึงวันนี้ดิฉันถูกโรงเรียนออกคำสั่งลงโทษตัดเงินเดือน ไม่เลื่อนขั้นเงินเดือนมาแล้ว 5 คำสั่ง โดยตั้งข้อกล่าวหาเดิมๆ ว่ากล่าวหาผู้อื่นด้วยข้อความอันเป็นเท็จ สอบสวนดิฉันเสร็จไม่ถึง 2 สัปดาห์ สรุปรายงานผลการสอบสวนว่าดิฉันผิดจริง แล้วออกคำสั่งลงโทษทันที

โรงเรียนกล่าวหาพร้อมกับตั้งกรรมการสอบสวน และออกคำสั่งลงโทษใช้เวลาไม่ถึง 2 เดือน โดยไม่ต้องยึดระเบียบวินัยราชการ โรงเรียนมักอ้างว่าตนเองมีอำนาจเต็ม 100% ดิฉันต้องกลายเป็นเหยื่อสนองอำนาจอย่างไม่เป็นธรรมของผู้บริหาร

ไม่นึกเลยว่าฉันต้องกลายเป็นเหยื่อ ให้ผู้บริหารบ้าอำนาจเหล่านี้เชือดครั้งแล้วครั้งเล่าถึง 5 คำสั่ง และคำสั่งที่ 6 กำลังจะตามมาอีก

ดิฉันกล้าประกาศเรียกตัวเองว่าเป็นครูที่ดี สามารถเป็นครูตัวอย่างให้กับครูทั้งประเทศได้ ประเมินการเรียนการสอนออกมา คะแนนเป็นที่หนึ่งของโรงเรียนเกือบทุกปี แต่ก็ถูกเปลี่ยนข้อมูลไปทุกครั้ง

ดิฉันไม่ยอมก้มหัวให้กับความเลวร้ายของสังคม แต่ดิฉันอยู่ในขอบเขตของตนเอง อย่างเช่นโรงเรียนให้ผู้ปกครองไปชำระค่าพัฒนาคุณภาพการศึกษา (ไม่มีคำว่าค่าเล่าเรียน) โดยจ่ายผ่านธนาคารเป็นเงิน 1,950 บาท ต่อมาโรงเรียนออกใบเสร็จให้นักเรียนเป็นเงิน 1,650 บาท

นักเรียนมาถามดิฉันว่า แม่ให้มาถามว่าจ่ายเงินกับธนาคารไป 1,950 บาท แต่ทำไมออกใบเสร็จให้นักเรียน 1,650 บาท ดิฉันตอบว่าไม่ทราบให้ไปถาม ผอ.เอาเอง

ต่อมามีผู้ปกครองโทรศัพท์เข้าไปในรายการร่วมด้วยช่วยกัน โรงเรียนออกใบเสร็จให้นักเรียนเพิ่มอีกคนละ 200 บาท นักเรียนบอกว่าเงินยังได้ไม่ครบ คนดีของผู้อำนวยการรีบไปประกาศกับนักเรียนหน้าเสาธงว่า ถ้าผู้ปกครองมีอะไรสงสัยให้มาคุยกับผู้อำนวยการ

และอีกหลายๆ เรื่อง ดิฉันต้องกลายเป็นผู้ต้องสงสัยโดยไม่ได้ทำอะไร (คนอย่างดิฉันเป็นคนจริงและคนกล้า ไม่ทำอะไรลับหลังหรือแทงหลังใคร)

จริงๆ แล้วเมื่อก่อนดิฉันเคยต่อสู้ ปกป้องผลประโยชน์ให้นักเรียนในที่ประชุมครู ถูกกลุ่มผู้บริหารและพรรคพวกต้อนดิฉัน รวมไปถึงไล่ดิฉันออกจากที่ประชุมก็โดนมาแล้ว ในที่สุดดิฉันเห็นว่ามันไม่มีประโยชน์อะไรกับการต่อสู้กับคนที่หาความดีไม่ได้ จึงยุติบทบาทตัวเองและทำหน้าที่ของตนเองให้ดีที่สุด

แต่โรงเรียนกลับอาฆาตแค้นที่ดิฉันเป็นที่รักของนักเรียน ผู้ปกครองให้ความไว้วางใจ จึงจงใจกลั่นแกล้งดิฉันสารพัดเรื่อง ดิฉันได้ทำหนังสือร้องเรียนไปที่กรมสามัญศึกษา (สพฐ.) แต่ไม่ได้รับการเหลียวแลช่วยเหลือแต่ประการใด

จนทนไม่ได้จึงไปหานักการเมืองท่านหนึ่ง เขาไม่ช่วยเหลืออะไรเลย แต่แนะนำให้ไปฟ้องผู้ตรวจการแผ่นดิน ดิฉันก็ฟ้องไปที่ผู้ตรวจฯ ต่อมาผู้ตรวจให้ดิฉันชี้แจงกลับด้วยความที่ไม่มีความรู้ ดิฉันได้รับหนังสือเลยกำหนด 15 วันจึงไม่ได้ชี้แจงกลับ ผู้ตรวจฯ สั่งให้ยุติเรื่องทั้งหมด จึงเป็นที่มาของการออกคำสั่งลงโทษดิฉัน ดังรายละเอียดดังนี้

ปี พ.ศ.2548 ผู้บริหารได้ออกคำสั่งลงโทษดิฉัน 3 คำสั่ง ภายในเวลา 6 เดือนก่อนที่จะเกษียณอายุราชการไป โดยทำหนังสือแบบ สว 2 สว 3 ลงวันที่ 16 มีนาคม 2548 (สร้างหลักฐานลงวันที่ 16 มีนาคม 2548 ทั้งหมด 6 แห่ง)

ดิฉันรับหนังสือวันที่ 28 มีนาคม 2548 โรงเรียนออกคำสั่งที่ 34/2548 (คำสั่งที่ 1) ลงโทษให้ข้าพเจ้ารอการเลื่อนขั้นเงินเดือน ลงวันที่ 12 เมษายน 2548 (ขั้นเงินเดือนราชการปรับทุกวันที่ 1 เดือนเมษายน และตุลาคมของทุกปี)

ดิฉันได้ถามเขาว่า ออกคำสั่งให้ดิฉันรอการเลื่อนขั้นเงินเดือนด้วยเรื่องอะไร ดิฉันทำผิดอะไรหรือ หากดิฉันทำผิดโรงเรียนต้องตั้งข้อกล่าวหา และตั้งกรรมการสอบสวนดิฉันก่อนออกคำสั่งลงโทษ (ดิฉันถามวันที่ 2 พฤษภาคม 2548)

ผู้อำนวยการท่านนั้นตอบว่าต้องการสั่งสอนให้รู้สำนึก โดยอ้างคำสั่ง สพท.ที่ 75/2548 ลงวันที่ 16 มีนาคม 2548 ตั้งข้อกล่าวหา 3 ข้อ 1.ใส่ร้ายผู้อื่นด้วยข้อความอันเป็นเท็จ ข้อ 2.ทำให้สังคมแตกความสามัคคี ข้อ 3.กระด้างกระเดื่องต่อผู้บังคับบัญชา

โรงเรียนรีบออกคำสั่งที่ 61/2548 ลงโทษตัดเงินเดือนดิฉัน 10% เป็นเวลา 2 เดือน ดิฉันโต้แย้งว่าข้าราชการที่ทำผิดวินัย โรงเรียนมีอำนาจตัดเงินเดือนได้ 5% 1 เดือน โรงเรียนก็แก้ไขคำสั่ง 68/2548

ดิฉันทำหนังสืออุทธรณ์คัดค้านไปถึง สพฐ. ทุกอย่างเงียบสนิท

ต่อมาวันที่ 22 กันยายน 2548 โรงเรียนออกคำสั่งลงโทษไม่เลื่อนขั้นเงินเดือนดิฉันโดยไม่แจ้งให้ดิฉันทราบ แล้วผู้บริหารก็เกษียณอายุราชการไป

ดิฉันเอาคำสั่งทั้ง 3 คำสั่งไปฟ้องศาลปกครอง ปรากฏว่าศาลปกครองยกฟ้องทั้งหมดทั้ง 3 คำสั่ง ดิฉันไม่มีความรู้ทางด้านกฎหมาย ดิฉันใช้สามัญสำนึกคิดเอาเองว่า หลักฐานที่โรงเรียนร่วมกับ สพท.ออกเอกสารวันเดียวกันลงวันที่ 16 มีนาคม 2548 ทั้งหมด 6 ครั้ง และเอกสารตัดเงินเดือนดิฉันลงวันที่ 5 กรกฎาคม 2548 ทั้งหมด 4 แห่ง มันเป็นหลักฐานเท็จทั้งหมด

โรงเรียนไม่เลื่อนขั้นเงินเดือนให้ดิฉัน ก็ไม่มีการแจ้งให้ดิฉันทราบก่อนว่าทำผิดอะไร แถมมีการเอาคำสั่ง สพท.277/48 มายัดไส้คำสั่งโรงเรียน ทำให้ดิฉันเข้าใจผิดฟ้องศาลปกครองไม่สำเร็จ ต้องไปอุทธรณ์ที่ศาลปกครองสูงสุด

โรงเรียนออกคำสั่งลงโทษดิฉันโดยไม่ยึดระเบียบใดๆ และที่น่าแปลกใจมากคือ โรงเรียนยกเลิกคำสั่งลงโทษดิฉัน ไม่มีการแจ้งให้ดิฉันทราบ แต่ทำเอกสารไปประกอบคดีหมายเลขดำที่ 136/48 คดีหมายเลขแดงที่ 50/2552 และคำสั่งโรงเรียน 107/2548 ลงวันที่ 7 พฤศจิกายน 2548

นายวิทยา รัตนอรุณ ผู้อำนวยการที่ลงโทษดิฉัน เกษียณอายุราชการวันที่ 30 กันยายน 2548 ทำเอกสารประกอบคดีไปที่ศาลปกครองวันที่ 7 พฤศจิกายน 2548 ไปประกอบคดีหมายเลขดำที่ 178/2548 เลขแดงที่ 84/2552 นายวิทยาใช้สิทธิ์อะไรไปทำหนังสือให้ศาลปกครองในเมื่อเกษียณอายุราชการไปแล้ว สุดท้ายศาลปกครองยกฟ้องหมดทั้ง 3 คดี

โรงเรียนเกิดความเหิมเกริมที่ศาลปกครองยกฟ้อง ดังนั้นในเดือนมิถุนายน 2552 โรงเรียนตั้งข้อกล่าวหาดิฉันเหมือนเดิมอีก คือกล่าวหาผู้อื่นด้วยข้อความอันเป็นเท็จ และทำร้ายผู้อื่น (จริงๆ แล้วดิฉันเป็นฝ่ายถูกทำร้ายร่างกาย ครูผู้เป็นแบบอย่างนั้นทะเลาะทำร้ายร่างกายกันเหมือนหมา ถ้าเห็นเด็กทะเลาะกันอย่าไปด่าเด็กเลย)

ผลการสอบสวนออกมาดิฉันผิดอีก ตัดเงินเดือนดิฉัน 5% เดือนตุลาคม 2552 ไม่เลื่อนขั้นเงินเดือนให้ดิฉันโดยไม่แจ้งให้ดิฉันทราบ

และ ณ วันนี้ โรงเรียนออกคำสั่งแต่งตั้งกรรมการสอบสวนดิฉันด้วยข้อกล่าวหาเดิมอีก คือกล่าวหาผู้อื่นด้วยข้อความอันเป็นเท็จ ผู้อำนวยการคนนี้จะเกษียณอายุราชการในวันที่ 30 กันยายน 2553 มีตัวอย่างจากนายวิทยาแล้วว่าจะเล่นงานใครอย่างไรก็ได้ เกษียณอายุราชการไปใครฟ้องอะไรตนเองไม่ได้

แต่ครั้งนี้ดิฉันจะไม่มีวันให้พวกข้าราชการชั่วอาศัยตำแหน่งหน้าที่มาเล่นงานดิฉันได้อีก ดิฉันเองก็กำลังจะเกษียณอายุราชการในปีหน้าเช่นเดียวกัน ดิฉันคือข้าในพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ไม่ใช่ขี้ข้าใคร

เรื่องทั้งหมดนี้ดิฉันได้นำไปร้องทุกข์ กลับไปที่ผู้ตรวจการแผ่นดินของรัฐสภาอีกครั้งหนึ่ง (นายวิทยา รัตนอรุณ) และที่ศูนย์ร้องทุกข์นายกรัฐมนตรี (นางสาวผ่องศรี เรืองดิษฐ์) ในเรื่องใช้อำนาจมิชอบ ทั้ง 2 หน่วยงานมีหนังสือถึงดิฉันแจ้งว่า ได้ส่งเรื่องกลับไปที่ สพฐ.เพื่อตรวจสอบใหม่

ดิฉันตามเรื่องจนรู้สึกเหนื่อย และดิฉันจะไม่ยอมเกษียณอายุราชการไปอย่างคนมีมลทินเด็ดขาด และจะไม่ยอมให้คนชั่วครองเมือง

หากบรรณาธิการต้องการเห็นเอกสาร รวมทั้งแผ่นบันทึกเสียงที่ดิฉันแอบบันทึกการสอบสวน และเขาด่าประณามดิฉัน ดิฉันพร้อมที่จะส่งไปให้เพื่อแสดงความบริสุทธิ์ใจ ว่าดิฉันเล่าเรื่องจริงทั้งหมด

ดิฉันต้องการให้สังคมรับรู้ และอย่าอยู่เฉยหรือเข้าข้างผู้มีอำนาจ โดยทำร้ายเพื่อนร่วมงานเหมือนสังคมครูในโรงเรียนของดิฉัน ครูทุกคนรู้ความสกปรกหลายๆ อย่างแต่ก็ปิดปากเงียบ ไม่เคยมีใครกล้าพูดกล้าถามว่าเงินที่รับบริจาคเอาไปใช้อะไร

ดิฉันขอให้ท่านโปรดให้โอกาสดิฉันตีแผ่ความเลวร้ายของสังคม เพื่อสังคมไทยของเราคงจะดีขึ้นสักวัน อย่าอยู่กันแต่เปลือกทำร้ายเด็ก หากินกับเด็กไปวันๆ เด็กยากจนยังต้องถูกพวกโรงเรียนขูดรีด ไหนว่าเรียนฟรี 8 ชั่วโมงนักเรียนมาโรงเรียนไม่ได้ความรู้ ได้ความรู้เพียง 2 ชั่วโมงที่โรงเรียนเปิดสอนพิเศษเอง ค่าน้ำ ค่าไฟ ค่าสถานที่ ค่าโฆษณาไม่ต้องจ่าย

ใครเคยกล่าวว่าเด็กคืออนาคตของชาติ

ขอแสดงความนับถือ

นางสาวศิรารัตน์ หงษ์ทองกิจเสรี

ตอบ ครูศิรารัตน์

ผมลงจดหมายร้องทุกข์ของคุณครู เพื่อให้ผู้ที่เกี่ยวข้องทุกฝ่ายได้ตรวจสอบ และหวังว่าคุณชินวรณ์ บุณยเกียรติ รมว.ศึกษาธิการ คงจะช่วยให้ความกระจ่างในเรื่องนี้ได้

สามวา สองศอก
http://www.thaipost.net/news/150310/19331

ขอบคุณครับ เพื่อนเหยง จะโทรไปให้กำลังใจครูศิรารัตน์ครับ
      บันทึกการเข้า

  หน้า: 1 2 [ทั้งหมด]   ขึ้นบน
  
กระโดดไป:  

     

ทำไมหอพักนิสิตจุฬาจึงเป็นดินแดนมหัศจรรย์            " ไม่ได้เป็นแค่หอให้นอนพัก  แต่เป็นบ้านอบอุ่นรักให้อาศัย  ไม่เป็นแค่ที่ซุกหัวยามหลบภัย  แต่สร้างใจให้เข้มแข็งแกร่งการงาน"  <))))><