28 มีนาคม 2567, 19:02:39
ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน


เข้าสู่ระบบด้วยชื่อผู้ใช้ รหัสผ่าน [สมาชิกเก่าลืมรหัส โทร 081-7611760]
A A A A  ระเบียบปฎิบัติ
   
Languages    
  หน้า: [1]   ลงล่าง
ผู้เขียน หัวข้อ: "ผู้ตรวจการแผ่นดิน ชี้สังคมไทยแตกแยกเพราะขาดคุณธรรม"  (อ่าน 5663 ครั้ง)
0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
Samrotri2517
Cmadong Member
Hero Cmadong Member
****


จะเป็นด้านที่1และ2ของ3เหลี่ยมฯ เพื่อให้เกิดด้านที่3
ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: รหัสเข้า 17 รุ่น 57
คณะ: แพทยศาสตร์ จุฬาฯรุ่น 30
กระทู้: 1,915

« เมื่อ: 28 เมษายน 2553, 20:56:54 »


                          ผู้ตรวจชี้สังคมไทยแตกแยกเพราะขาดคุณธรรม
          ไม่รู้อะไรถูก ผิด วอนทุกภาคส่วนช่วยเยียวยา-นำความสุขสงบกลับคืนสู่สังคม


           เมื่อวันที่ 28 เม.ย. น.ส.นราทิพย์ พุ่มทรัพย์ ผู้อำนวยการศูนย์ส่งเสริมและพัฒนาพลังแผ่นดินเชิงคุณธรรม (ศูนย์คุณธรรม) กล่าวว่า เมื่อเร็วๆนี้ได้จัดประชุม

          “การบริหารจัดการโครงการส่งเสริมคุณธรรมจริยธรรมสำหรับผู้บริหาร”

                        การดำเนินกิจกรรมและสรุปผลการศึกษาดูงาน ณ

          มูลนิธิพุทธฉือจี้ ประเทศไต้หวันในโครงการพัฒนาคุณธรรมความดี

                  รุ่นที่ 2 ณ ห้องประชุม 901 สำนักงานผู้ตรวจการแผ่นดิน

                                                        

          โดยมีนางผาณิต นิติทัณฑ์ประภาศ และศาสตราจารย์ศรีราชา เจริญพานิช ผู้ตรวจการแผ่นดิน สำนักงานผู้ตรวจการแผ่นดิน เป็นประธานการประชุม มีคณะศึกษาดูงานที่เข้าร่วมโครงการประมาณ 40 คนเข้าร่วม ประกอบด้วย

           พระสงฆ์ ผู้พิพากษาสมทบ กรรมการพิทักษ์ระบบคุณธรรม ผู้อำนวยการสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษา ผู้อำนวยการโรงเรียน อาจารย์ ผู้บริหารบริษัทเอกชนและเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง

           “ที่ประชุมได้พูดคุยแลกเปลี่ยนความคิดเห็นและข้อเสนอแนะในการนำสิ่งที่ได้เรียนรู้มาประยุกต์ใช้ให้เกิดประโยชน์ในสถานศึกษา และหน่วยงานของตนเอง โดยทุกฝ่ายมีความเห็นร่วมกันว่า

           สังคมที่เสื่อมคุณธรรมจริยธรรม เหมือนร่างกายที่อ่อนแอ การส่งเสริมคุณธรรมจริยธรรมเพื่อเป็นภูมิคุ้มกัน จึงควรเริ่มปลูกฝังตั้งแต่วัยแด็กในหมู่เยาวชนคนรุ่นใหม่ ให้มีคุณธรรมความดีงามเป็นเครื่องยึดเหนี่ยวจิตใจ”ผอ.ศูนย์คุณธรรม กล่าว

           ด้านศาสตราจารย์ ศรีราชา กล่าวว่า การไปศึกษาดูงานที่มูลนิธิพุทธฉือจี้ไต้หวัน ได้เห็นสิ่งสำคัญคือกระบวนการสร้างคุณธรรมจริยธรรมให้ดำรงอยู่ในใจของคนไต้หวันเกือบจะทั้งประเทศได้ ซึ่งอาศัยเวลาที่ยาวนานพอสมควร การส่งเสริมคุณธรรมจริยธรรมต้องขับเคลื่อนทั้ง 2 ระดับได้แก่ การปลูกฝังคุณธรรมใน

           เด็กและเยาวชนโดยเริ่มจากสถานศึกษาและครอบครัว ควบคู่ไปกับการปลุกจิตสำนึกของ

           คนในวัยทำงานจนถึงผู้สูงอายุ เพื่อลดช่องว่าง อย่างเหตุการณ์ความวุ่นวายที่เกิดขึ้นในบ้านเมืองปัจจุบัน เพราะ

           คนขาดคุณธรรม ไม่รู้ว่าอะไรถูก อะไรผิด ปัญหานี้จึงเป็นปัญหาของประเทศที่ต้องแก้ไขเยียวยาอย่างเร่งด่วน

         “สำหรับการสร้างจิตอาสาในแนวทางของฉือจี้เป็นการสร้างคุณธรรมที่ยั่งยืน เพราะเมื่อคนเรารู้จักที่จะเป็นผู้ให้ ไม่เห็นแก่ตัว เสียสละเพื่อส่วนรวมได้ คุณธรรมความรับผิดชอบจะเกิดและเมื่อความสุขเกิดขึ้นในใจ

           ถ้าเราสามารถปลูกให้คนมีสำนึกที่ดีในด้านคุณธรรมจริยธรรม เขาจะสามารถนำไปใช้เป็นกรอบในดำเนินชีวิตและประพฤติปฏิบัติในทางที่ถูกต้อง ไม่มั่วสุมในสิ่งที่ไม่ดี นำพาสิ่งดีๆมาสู่ตนเอง ครอบครัวและสังคม

           ดังนั้นทุกภาคส่วนของสังคมต้องร่วมมือกัน ยิ่งทำได้เร็วก็จะยิ่งช่วยให้สังคมกลับคืนสู่ความสงบสุขได้เร็วขึ้น ส่วนการขับเคลื่อนในระดับสถานศึกษาเชื่อว่าผู้รับผิดชอบ ต่างมีแนวคิดที่ดีและพร้อมจะดำเนินการอยู่แล้ว เห็นได้จากการส่งเสริมการทำความดีงามหรือการช่วยกันอนุรักษ์ธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมต่างๆ ซึ่งก่อให้เกิดประโยชน์แก่ชุมชนและความภาคภูมิใจในตนเอง”ผู้ตรวจการแผ่นดิน กล่าว

                      ขอขอบคุณ น.ส.พ.คมชัดลึก วันพุธ ที่ 28 เม.ย. 2553                 http://www.komchadluek.net/detail/20100428/57279/%E0%B8%9C%E0%B8%B9%E0%B9%89%E0%B8%95%E0%B8%A3%E0%B8%A7%E0%B8%88%E0%B8%8A%E0%B8%B5%E0%B9%89%E0%B8%AA%E0%B8%B1%E0%B8%87%E0%B8%84%E0%B8%A1%E0%B9%84%E0%B8%97%E0%B8%A2%E0%B9%81%E0%B8%95%E0%B8%81%E0%B9%81%E0%B8%A2%E0%B8%81%E0%B9%80%E0%B8%9E%E0%B8%A3%E0%B8%B2%E0%B8%B0%E0%B8%82%E0%B8%B2%E0%B8%94%E0%B8%84%E0%B8%B8%E0%B8%93%E0%B8%98%E0%B8%A3%E0%B8%A3%E0%B8%A1.html

                                             รักนะ รักนะ รักนะ

                                        นำมาให้พวกเราได้ทราบ ว่า

        สังคมดีไม่มีขาย อยากได้สังคมดี พวกเราทุกคนต้องร่วมกันสร้างสังคมดีด้วย

                                          

                สามเหลี่ยมเขยื้อนภูเขา ที่เสนอโดย ท่าน ศ.น.พ.ประเวศ วะสี มี 3 ด้าน เพื่อนำมาทำในสิ่งที่ยาก ๆ ๆ ๆ ได้แ่ก่  

ด้านที่ 1 การให้ความรู้ว่า คุณธรรม มีประโยชน์ต่อสังคม มากอย่างไร มีศาสนาทุกศาสนาสอน

ด้านที่่ 2  กลุ่มคนที่ได้รับความรู้ นำมาสร้างวัฒนธรรม สร้างสังคมของศาสนิกชนแต่ละศาสนา

ด้านที่ 3  เรามีศาสนาเป็นด้านที่ 1 สอนแล้ว มีศาสนิกชนเป็นด้านที่ 2 แล้วแต่โลกก็ยังคงวุ่นวาย

             ต้องมีด้านที่ 3 คือ ด้านการทำให้เกิดขึ้น

ด้วยด้านบวก ทำตามแล้วได้ประโยชน์

ด้วยด้านลบ ไม่ทำตาม จะเสียประโยชน์ หรือ ถูกลงโทษ จึงจะสร้างสังคมที่ดีได้

ด้านที่ 3 นี้เป็นด้านบริหาร ที่ผู้บริหารต้องสร้าง ต้องทำให้เกิดขึ้น เพื่อสร้างสังคมที่ดีได้

                                           win win win


      บันทึกการเข้า

3 เหลี่ยมเขยื้้อนภูเขา เสนอโดย ศ.นพ.ประเวศ วะสี มี 3 ด้าน คือ ด้านที่ 1 ด้านให้ความรู้กับกลุ่มคน ด้านที่ 2 กลุ่มคน ที่ได้รับความรู้ เห็นด้วย สร้างวัฒนธรรมไม่มีบทลงโทษถ้าไม่ทำ ด้านที่ 3 ด้านการเมือง เป็นด้านออกกฏหมาย มีบทลงโทษถ้าไม่ปฏิบัติ ถ้ามีครบ 3 ด้านจะเกิดการเปลี่ยนแปลงได้จริง
Samrotri2517
Cmadong Member
Hero Cmadong Member
****


จะเป็นด้านที่1และ2ของ3เหลี่ยมฯ เพื่อให้เกิดด้านที่3
ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: รหัสเข้า 17 รุ่น 57
คณะ: แพทยศาสตร์ จุฬาฯรุ่น 30
กระทู้: 1,915

« ตอบ #1 เมื่อ: 05 พฤษภาคม 2553, 10:38:25 »


มาร์ติน วีลเลอร์ บัณฑิตเกียรตินิยม อันดับหนึ่ง เคมบริดจ์
" คนไทยมีพระเจ้าอยู่หัว มีแผ่นดินที่อุดมสมบูรณ์ มีศาสนาพุทธที่ดีมาก ทั้ง ๓ อย่างนี้ พยายามรักษาเอาไว้ให้ได้ "

ได้มาจากอีเมลล์ ที่ได้รับมา



นิยามความรวยกับความจน

มันเป็นเรื่องแปลกนะที่ประเทศไทยคนยากจนมีหนี้สินเยอะ  

ที่อังกฤษมีแต่คนรวยที่มีหนี้สิน  

คนจนไม่มีหนี้เพราะเขาไม่ให้คนจนยืมเงิน   เนื่องจากกลัวจะไม่มีปัญญาใช้คืน จึงไม่มีสิทธิ์มีหนี้สิน  

แต่คนรวยยืมเงินได้  

คำว่ารวยกับคำว่าจน มันคืออะไรกันแน่

ที่ขอนแก่น เขาว่าผมบ้าบ้าง ฝรั่งยากจนบ้าง ฝรั่งตกอับบ้าง ฝรั่งขี้นก ฝรั่งไม่มีเงิน

แต่ผมบอกว่าไม่ใช่ ผมรวยนะ เขาถามว่ารวยได้ยังไง ผมบอกว่า

๑ . ผมมีบ้าน  

ผมทำบ้านเล็ก ๆ เป็นกระท่อมน้อย ๆ เอาหญ้ามามุงหลังคา ชาวบ้านเรียกว่าเถียงนา ไม่ใช่บ้านหรอก

ผมบอกว่าใช่ มันบ้านของผม ไม่ใช่บ้านเจ้านาย ราคาหนึ่งหมื่นสองพันบาท อยู่ได้ครับ

มันกันแดด - กันฝนได้ แค่นั้นผมก็รวยแล้ว

๒ . มีที่ดินแค่ ๖ ไร่เท่านั้นเอง  

ที่นั่นเขาบอกว่ากระจอกมีนิดเดียว แต่สำหรับฝรั่งมันเยอะมาก

จริง ๆ ผมคิดว่ามันเป็นเรื่องสำคัญ   เป็นพื้นฐานของชีวิต  

เราต้องมีที่อยู่อาศัยเป็นของเรา ไม่ใช่ของเจ้านาย

เพราะว่าถ้ามันเป็นของเจ้านาย เราต้องไปหาเงินให้เขา  

ถ้าเราไม่มีเงินเขาก็ไล่เราออก   เราไม่มีที่อยู่นะ  

เพราะฉะนั้นต้องมีบ้านเป็นของตัวเองไว้ก่อน

ซึ่งผมก็มีบ้าน คิดว่าลูกของผมจะต้องมีบ้านแน่ ๆ ด้วย

เรื่องเกษตรผมทำไม่เก่ง

แต่ที่ทำได้ง่าย คือปลูกต้นไม้ ไม้ประดู่ ไม้สะเดา ไม้ยาง ปลูกไว้ให้ลูกสร้างบ้าน  

ประเทศไทยอุดมสมบูรณ์ ต้นไม้โตเร็วมาก  แค่ ๒๕ - ๓๐ ปี ตัดได้แล้ว

ไม่เหมือนอังกฤษ ๒๐๐ ปีได้เท่านี้เอง เพราะอากาศเย็น  

เป็นเรื่องแปลกที่คนไทยจะบ่น โอ๊ย ... มันร้อน ๆ

ผมว่ากลับเป็นเรื่องดี แสงแดดเยอะจะทำการเกษตรได้ตลอดเวลา ๑ ปี ทำได้ทุกวัน

แต่คนไทยจะบ่นว่าร้อน ๆ ไม่เอา .. ไม่เอา .. อยากเป็นคนผิวขาวดีกว่า

แต่คนอังกฤษเขาถือคนผิวขาวเป็นคนจน  เพราะว่าไม่มีปัญญาจะไปเมืองนอก

ซึ่งกลับกันเลย แม้แต่พ่อของผมเขาก็ยังมีเครื่องอาบแดดเพื่อให้ผิวเป็นสีแทน

ให้ดูเป็นแบบคนมีสตางค์ แต่คนไทยกลับอยากมีผิวขาว

วิธีคิดไม่ธรรมดาของมาร์ติน วีลเลอร์


ผมมีลูก ๓ คน ชาย ๒ หญิง ๑

สิ่งสำคัญที่สุด ๒ เรื่องในชีวิตของเรา คือ

๑ . ต้องมีบ้านเป็นของตัวเองให้ได้   จึงจะถือว่าชีวิตประสบความสำเร็จ

๒ . ต้องมีงานทำทุกวัน  ไม่ได้จำกัดว่าต้องเป็นงานอะไร แต่ขอให้มีงานทำทุกวัน ชีวิตจึงจะไม่สูญเปล่า

วิธีเดียวที่รับประกันได้ว่าลูกมีงานทำ คือการมีที่ทำกินให้เขา และเราต้องช่วยให้เขาทำเป็น

ผมคิดว่าคนชนบทจริง ๆ  ใครมีที่ดินทำกินแล้วจะไม่ตกงาน

เว้นแต่คนขี้เกียจ ซึ่งบางคนมีที่ดินเยอะแต่ไม่ยอมทำ

ถ้าเราสั่งสอนให้ลูกรู้จักทำมาหากินเขาก็ไม่ตกงาน

ผมถือว่างานที่อิสระและมีประโยชน์มากที่สุด คืองานเกษตร ซึ่งช่วยให้เรากินอิ่มทุกวัน

คนอังกฤษกินไม่อิ่มเยอะมากนะ  ผมไม่อยากให้ลูกของผมอดอาหาร  

อยากให้ลูกกินอิ่มในลักษณะที่ส่งเสริมสุขภาพด้วย

กินอาหารที่ไม่มีสารพิษ กินอาหารแบบเรียบง่ายก็ได้แต่อิ่มทุกวัน

เมื่อมีบ้าน มีงาน มีอาหาร   ลูกของผมก็จะรวยที่สุด ... ฯลฯ

จุดอ่อน - จุดแข็งของคนไทย

ผมคิดว่าคนไทยส่วนมากยังไม่เข้าใจระบบทุนนิยม เห็นฝรั่งที่ไหนก็คิดว่ารวยหมด

คิดว่าการพัฒนาในระบบทุนนิยมจะทำให้ทุกคนมีเงิน

ไม่เข้าใจว่าประเทศที่พัฒนาระบบทุนนิยมนานแล้ว เช่น อังกฤษ, สหรัฐ มีปัญหาเยอะมาก

แต่คนไทยก็คิดว่าเมืองนอกดีกว่า อันนี้จุดอ่อนครับ  

คือคนไทยสนใจเมืองนอก ไม่ได้สนใจประเทศไทย

ผมเป็นฝรั่ง คุณเลยนั่งฟังผม

ถ้าผมเป็นชาวบ้าน คุณจะไม่สนใจผม
อันนี้เป็นจุดอ่อนนะ

แต่จุดแข็งคือ ชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์

แผ่นดินประเทศไทยอุดมสมบูรณ์มาก ๆ  

มีดินเยอะมาก   น้ำเยอะมาก   แสงแดดเยอะมาก   ทำเกษตรอยู่รอดแน่  

เป็นพลังแผ่นดิน ใคร ๆ ก็อยากได้ประเทศไทย

ผมก็ได้ถึง ๖ ไร่

คนไทยโชคดีมาก ๆ ที่ได้ในหลวงเป็นผู้นำ  

พระองค์ท่านเป็นคนที่ทำงานหนักมากเพื่อช่วยให้คนคิดได้ ช่วยให้คนอยู่ได้  

จะหากษัตริย์ในประเทศอื่นไม่ค่อยมีแบบนี้  

ปัญหาคือคนไทยส่วนมากนับถือในหลวง   แต่ไม่ยอมปฏิบัติตามคำสอนของในหลวง

พระองค์ท่านบอกมา ๒๗ ปีถึงเศรษฐกิจพอเพียง

แต่คนไทยก็ไม่รู้จักพอเพียง เอาอย่างเดียว

ถึงยกมือไหว้ในหลวง แต่เวลาดำรงชีวิตไม่ได้ทำตามในหลวง

ก็ในหลวงบอกไว้แล้วว่า ไม่จำเป็นที่จะต้องเป็นเสือ ขอให้มีอยู่มีกินไว้ก่อน


ถ้าทุกคนเริ่มคิดจริง ๆ ถึงสิ่งที่ในหลวงพูด เราน่าจะช่วยให้ประเทศไทยอยู่ได้

เพราะความคิดของในหลวง เรื่องเศรษฐกิจพอเพียงต้องอาศัยพลังแผ่นดิน

ทำได้เฉพาะประเทศไทยนะเศรษฐกิจพอเพียง

ที่อื่นทำไม่ได้หรอกเพราะเขาไม่มีที่ดิน ไม่มีทรัพยากรธรรมชาติเยอะเหมือนประเทศไทย

พวกคุณโชคดีที่ได้แผ่นดินดี ๆ   ได้ผู้นำ ( ในหลวง ) ที่ดีด้วย

และเรื่องที่ ๓ เรื่องศาสนา  

ผมคิดว่า ศาสนาพุทธมีความสำคัญมาก ๆ สำหรับคนไทย

ไม่ใช่แค่นับถือไหว้พระ แค่นั้นไม่พอ

แต่อยู่ที่การปฏิบัติด้วยนะ มักน้อย สันโดษ พอเพียง  

ธรรมะคือธรรมชาติ เป็นเรื่องง่าย ๆ   พึ่งตนเองก็ได้  

ปรัชญาของศาสนาพุทธทำได้นะ แต่คนไทยจำนวนน้อยที่เข้าใจ  

จริง ๆ แล้วศาสนาพุทธเป็นศาสนาที่ออกแบบให้เหมาะสมสำหรับคนบ้านนอก

ให้ใช้ชีวิตร่วมกับธรรมชาติโดยไม่ทำลาย ไม่เอาเปรียบ แต่ให้เราเป็นส่วนหนึ่งของธรรมชาติ

อยากบอกอะไรคนไทย

คุณโชคดีมาก ๆ ที่เกิดในประเทศไทยที่อุดมสมบูรณ์

ไม่ต้องไปรบกับใคร ไม่ต้องไปเอาน้ำมันจากใคร ไม่ต้องไปเบียดเบียนคนอื่น

ประเทศไทยอยู่ได้ กินอิ่ม มีเหลือแจกด้วย อย่าไปคิดเรื่องเงินอะไรมาก

อย่าลดคุณค่าความเป็นไทยของตัวเองลง

คนไทยส่วนมากนิสัยดีจริง ๆ   คนไทยมีน้ำใจ หายากนะ

คนไทยมีพระเจ้าอยู่หัว มีแผ่นดินที่อุดมสมบูรณ์ มีศาสนาพุทธที่ดีมาก ทั้ง ๓ อย่างนี้ พยายามรักษาเอาไว้ให้ได้

ชีวิตที่ไม่ทะเยอทะยานเกินไป คือชีวิตที่มีคุณภาพ ชาวบ้านทุกคนทำได้

ผมเองถึงยังทำไม่สำเร็จแต่มั่นใจว่า จะทำได้แน่ในอนาคต

ถ้าผมทำได้ คนอื่นก็คงทำได้ง่ายกว่าผมเยอะ

ทุกอย่างอยู่ที่เรา ถ้าเราไม่อยากได้อะไรมากเกินไปในชีวิต ชีวิตมันก็ง่าย

พยายามทำให้ชีวิตมันง่ายขึ้น อย่าให้มันสับสน อย่าให้มันลำบาก

พยายามรักษาสิ่งแบบนี้ให้ดี และอย่าเชื่อฝรั่งมากเกินไป


 ปิ๊งๆ ปิ๊งๆ ปิ๊งๆ

ขอขอบคุณข้อมูลจาก chaiyo.com





หน้าบ้าน หลังเก่าของเขา เมื่อครั้งมาอยู่ใหม่ๆ



แทบทุกเช้าที่เขาและครอบครัว ใส่บาตรพระด้วยความศรัทธา



กว่าจะถึงวันนี้ ที่ความภาคภูมิใจของชีวิต
แล้วสามารถโชว์ความดีงามให้ประจักษ์ แก่บัณฑิต และบุคคลสาธารณะ
 


ท่ามกลางสวนป่าของเขา   ที่สักวันมันคือสมบัติอันล้ำค่าของเขาครอบครัวและสมบัติของแผ่นดิน



นิสิต นศ . มาดูงานและชื่นชมเขาและครอบครัวอยู่เสมอ



มาติน กำลังพาหลวงพ่อสังคม ชื่นชมผลงานเกษตรพอเพียงของเขา



Martin and Family in England


 
ถ้าหากท่านผู้อ่าน ตาสว่าง ขึ้นมาแล้ว ( ทั้งก่อนอ่าน หรือ หลังอ่าน ) โปรดส่งต่อๆ กันไป ให้คนไทยเราได้อ่านกันนะครับ

 ปิ๊งๆ ปิ๊งๆ ปิ๊งๆ

แสดงให้เห็นว่า เศรษฐกิจพอเพียง มีชีวิตที่พอมีพอกิน มีความสุข กว่า
มีชีวิตที่ต้องต่อสู้เพื่อแสวงหา และสะสมหาทรัพย์สมบัติส่วนเกินของชีวิต


 gek gek gek
 
      บันทึกการเข้า

3 เหลี่ยมเขยื้้อนภูเขา เสนอโดย ศ.นพ.ประเวศ วะสี มี 3 ด้าน คือ ด้านที่ 1 ด้านให้ความรู้กับกลุ่มคน ด้านที่ 2 กลุ่มคน ที่ได้รับความรู้ เห็นด้วย สร้างวัฒนธรรมไม่มีบทลงโทษถ้าไม่ทำ ด้านที่ 3 ด้านการเมือง เป็นด้านออกกฏหมาย มีบทลงโทษถ้าไม่ปฏิบัติ ถ้ามีครบ 3 ด้านจะเกิดการเปลี่ยนแปลงได้จริง
เจษฎา
Cmadong พันธุ์แท้
****


the more you get ,the less you feel
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 4,682

« ตอบ #2 เมื่อ: 05 พฤษภาคม 2553, 11:15:26 »

ลูกชาย อ.ประเวศ ก็มีชีวิตที่น่าชื่นชมนะครับ
      บันทึกการเข้า

ไม่หล่อ แต่ไม่ค่อยว่าง
Samrotri2517
Cmadong Member
Hero Cmadong Member
****


จะเป็นด้านที่1และ2ของ3เหลี่ยมฯ เพื่อให้เกิดด้านที่3
ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: รหัสเข้า 17 รุ่น 57
คณะ: แพทยศาสตร์ จุฬาฯรุ่น 30
กระทู้: 1,915

« ตอบ #3 เมื่อ: 10 กรกฎาคม 2553, 17:39:54 »


สุรยุทธ์ ชี้ หากคนดีมีมากขึ้น ชาติจะเจริญ
ขอขอบคุณเวบสนุกดอทคอม วันเสาร์ 10 ก.ค. 53 ที่สนับสนุนเนื้อหา
http://news.sanook.com/950416-%E0%B8%AA%E0%B8%B8%E0%B8%A3%E0%B8%A2%E0%B8%B8%E0%B8%97%E0%B8%98%E0%B9%8C-%E0%B8%8A%E0%B8%B5%E0%B9%89-%E0%B8%AD%E0%B8%A2%E0%B8%B2%E0%B8%81%E0%B8%84%E0%B8%99%E0%B8%94%E0%B8%B5%E0%B8%A1%E0%B8%B2%E0%B8%81%E0%B8%82%E0%B8%B6%E0%B9%89%E0%B8%99%E0%B9%80%E0%B8%9E%E0%B8%B7%E0%B9%88%E0%B8%AD%E0%B8%8A%E0%B8%B2%E0%B8%95%E0%B8%B4%E0%B9%80%E0%B8%88%E0%B8%A3%E0%B8%B4%E0%B8%8D.html



พล.อ.สุรยุทธ์ จุลานนท์ องคมนตรี

องคมนตรี พล.อ.สุรยุทธ์ ระบุ อยากเห็นคนดี มีมากขึ้นในสังคม ชี้หากคนดีมีมากกว่าคนไม่ดี
ประเทศชาติจะเจริญก้าวหน้า กล่าวระหว่างเป็นประธานในพิธีเปิด

โครงการครูดนตรีอาสาพัฒนาเยาวชน โดยระบุว่า อยากเห็นคนดีมีมากขึ้นในสังคม เพราะ
หากสัดส่วนของคนดีและคนไม่ดี ไม่ใกล้เคียงกัน

บ้านเมืองก็จะตกอยู่ในภาวะยุ่งยาก เนื่องจาก คนไม่ดี มีมากกว่า จึงอยากเห็นเยาวชนเป็นคนดี และ
ทำหน้าที่ตอบแทนบุญคุณแผ่นดิน เพราะหากคนดีมีมากขึ้น ประเทศก็จะเจริญก้าวหน้า


นอกจากนี้ พล.อ.สุรยุทธ์ ยังกล่าวด้วยว่า

ทางมูลนิธิรัฐบุรุษ จะเดินหน้าโครงการที่เกี่ยวข้องกับเยาวชน อย่างต่อเนื่อง
เพื่อที่เยาวชน ที่เป็นกำลังสำคัญของชาติมีความซื่อสัตย์ เสียสละ


 หลั่นล้า หลั่นล้า หลั่นล้า
      บันทึกการเข้า

3 เหลี่ยมเขยื้้อนภูเขา เสนอโดย ศ.นพ.ประเวศ วะสี มี 3 ด้าน คือ ด้านที่ 1 ด้านให้ความรู้กับกลุ่มคน ด้านที่ 2 กลุ่มคน ที่ได้รับความรู้ เห็นด้วย สร้างวัฒนธรรมไม่มีบทลงโทษถ้าไม่ทำ ด้านที่ 3 ด้านการเมือง เป็นด้านออกกฏหมาย มีบทลงโทษถ้าไม่ปฏิบัติ ถ้ามีครบ 3 ด้านจะเกิดการเปลี่ยนแปลงได้จริง
  หน้า: [1]   ขึ้นบน
  
กระโดดไป:  

     

สมาคมนิสิตเก่าหอพักนิสิต จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย มวลสมาชิกสมาคม คณาจารย์ และนิสิตเก่าทุกคน ขอน้อมเกล้าถวายความอาลัย  พระผู้เสด็จสู่สวรรคาลัย ด้วยเกล้าด้วยกระหม่อม ขอเดชะ <;))))><