28 มีนาคม 2567, 18:44:39
ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน


เข้าสู่ระบบด้วยชื่อผู้ใช้ รหัสผ่าน [สมาชิกเก่าลืมรหัส โทร 081-7611760]
A A A A  ระเบียบปฎิบัติ
   
Languages    
  หน้า: 1 ... 535 536 [537] 538 539 ... 681   ลงล่าง
ผู้เขียน หัวข้อ: คุย กับ คุณมานพ กลับดี อดีตประธานชมรม ๓ สมัย  (อ่าน 3207180 ครั้ง)
0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
Manop Klabdee
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


พอเพียง มีสติ เกิดปัญญา
ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: 2513 วศ. รุ่นที่ 54
คณะ: วิศวกรรมศาสตร์ แผนกวิชาวิศวกรรมโยธา
กระทู้: 11,644

« ตอบ #13400 เมื่อ: 25 พฤศจิกายน 2557, 08:41:27 »



สวัสดีครับ คุณเหยง

อยู่สเปน ได้มีโอกาสนั่งเจริญสติตอนเช้ามืด วันละสองชั่วโมง อากาศมันเย็น

วันนี้เป็นวันแรกได้เดินกินข้าวในสนามกอล์ฟ ยามเข้าตรู่ เพราะเมื่อวานได้กินเพียงขนมปังสองก้อน ก่อนเที่ยง เพราะเขาเสิรฟหลังเที่ยง เลยขอขนมปัง และผักสลัดจากสจ๊อต เขาก็เมตตาไปจัดหามาให้

ไม่ได้กินข้าว  กินแต่ขนมปังจั้งฟู๊ด เพราะคนสเปนเขากินมื้อเที่ยง บ่ายสอง ร้านอาหารไม่เปิด วันศุกร์ MD ของ Prensoland ได้ขับรถไปหาข้าวผัดสเปนจากบ้านเอามาให้กินก่อนเที่ยง

เป็นอันว่า อาหารสเปนอร่อย ๆ ไม่ได้กินเลย ได้แต่นั่งดูเท่านั้น

สวัสดี
      บันทึกการเข้า
เหยง 16
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: rcu2516
คณะ: เภสัชศาสตร์ 2516
กระทู้: 23,533

« ตอบ #13401 เมื่อ: 25 พฤศจิกายน 2557, 12:05:35 »

พี่สิงห์

ต่อไปต้องแจ้งให้ทัวร์ หรือผู้จัดทราบล่วงหน้าครับ
ว่าพี่ ทานอาหาร 2 มื้อ เช้า และก่อนเที่ยง
เพื่อที่เขาจะได้จัดเตรียมไว้ให้
เตรียมให้ก่อน ง่ายกว่าวิ่งหาเมื่อได้เวลาทานครับ
      บันทึกการเข้า
เหยง 16
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: rcu2516
คณะ: เภสัชศาสตร์ 2516
กระทู้: 23,533

« ตอบ #13402 เมื่อ: 25 พฤศจิกายน 2557, 12:06:17 »

วันนี้ "วันมหาธีรราชเจ้า"

วันสวรรคตของ ร.6 ผู้สถาปนา "โรงเรียนข้าราชการพลเรือน" เป็น "จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย"
      บันทึกการเข้า
Manop Klabdee
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


พอเพียง มีสติ เกิดปัญญา
ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: 2513 วศ. รุ่นที่ 54
คณะ: วิศวกรรมศาสตร์ แผนกวิชาวิศวกรรมโยธา
กระทู้: 11,644

« ตอบ #13403 เมื่อ: 25 พฤศจิกายน 2557, 20:58:20 »

สวัสดีครับ คุณเหยง

ไปกันเอง ไม่มีทัวร์ ต้องรับผิดชอบเอง

ทุกครั้งที่ผ่านมาไปกับทัวร์  แต่คราวนี้ไปเองรู้เลยว่าสบายกว่าแยะ มีเวลา เราจะไปไหนก็ได้สบายมาก Taxi ของเขาดีมากๆ ปลอดภัย

คราวหน้า ไปอีกคงสบายมากเพราะรู้ระบบ ประเพณีของเขาแล้ว รู้แหล่งกิน-เที่ยว

สวัสดี
      บันทึกการเข้า
Manop Klabdee
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


พอเพียง มีสติ เกิดปัญญา
ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: 2513 วศ. รุ่นที่ 54
คณะ: วิศวกรรมศาสตร์ แผนกวิชาวิศวกรรมโยธา
กระทู้: 11,644

« ตอบ #13404 เมื่อ: 26 พฤศจิกายน 2557, 06:56:25 »



สวัสดีครับ ชาวซีมะโด่ง และแขกผู้มาเยือน ที่รักทุกท่าน

วันนี้ มาทำงานที่โรงงานบ้านแพ้ว สมุทรสาคร

ไปสเปน เขามีพื้นที่ปลูกผักน้อย จึงไม่เห็นผักสดเลย เห็นเขาเอามะเขือเทศสด ๆ มาฝานกินเป็นอาหารเช้า ก็เลยไปเอามาลองทำแบบเขาบ้าง มันก็รับประทานได้และน่ากิน เพราะมีประโยชน์

วันนี้เห็นแม่บ้านที่โรงงานฝานมะเขือเทศเลยขอเอามากินเปล่า ๆ มันก็ดี

ทุกท่านอย่าลืมรับประทานอาหารเช้านะครับ

สวัสดี
      บันทึกการเข้า
Manop Klabdee
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


พอเพียง มีสติ เกิดปัญญา
ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: 2513 วศ. รุ่นที่ 54
คณะ: วิศวกรรมศาสตร์ แผนกวิชาวิศวกรรมโยธา
กระทู้: 11,644

« ตอบ #13405 เมื่อ: 26 พฤศจิกายน 2557, 19:51:16 »




อาจารย์กำพล   ทองบุญนุ่ม
เป็นมะเร็งตับระยะสุดท้าย อยู่ได้อีกสามเดือน ช่วงนี้งดเยี่ยมครับ

อย่าลืมนะครับ!

ความทุกข์มันเกิดจากการคิดปรุงแต่งเมื่อมีเจตสิกมาเกาะที่จิต แล้วจิตมันก็ไปเป็น หรือไหล(อารมภ์)ไปกับเจตสิกนั้น

ความทุกข์เป็นเพียงสภาวะธรรม ที่มันมีของมันตามธรรมชาติเป็นปกติอยู่แล้ว

แต่เพราะเราหลงไปยึด ไปเกาะติดกับมันคือ เป็นตัวกู  ของกู  มันจึงหลงไปกับอารมณ์ของเจตสิกนั้น มีแต่ทุกข์

เจตสิก ได้แก่ความโลภ  ความโกรธ  ความหลง  อิจฉา  ริษยา  ความโศก เป็นต้น

แต่ถ้าเราแยกจิตออกมาด้วยความรู้สึกตัว มาเป็นผู้ดู  ไม่เป็นผู้เป็น  ความทุกข์มันก็หายไปจากจิตของเราแล้ว เพราะอารมณ์-ความรู้สึกตัว มันเกิดได้เพียงอย่างเดียวในจิตเท่านั้น

สวัสดี
      บันทึกการเข้า
Manop Klabdee
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


พอเพียง มีสติ เกิดปัญญา
ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: 2513 วศ. รุ่นที่ 54
คณะ: วิศวกรรมศาสตร์ แผนกวิชาวิศวกรรมโยธา
กระทู้: 11,644

« ตอบ #13406 เมื่อ: 27 พฤศจิกายน 2557, 08:42:26 »



สวัสดีครับ ชาวซีมะโด่ง และแขกผู้มาเยือน ที่รักทุกท่าน

วันนี้มาออกกำลังกายเดินตีกอล์ฟที่สนามกอล์ฟ President ปีนี้นกเป็ดน้ำมาจำนวนมาก มากกว่าทุกปี เป็นสัญญาณที่ดี

สวัสดี
      บันทึกการเข้า
เหยง 16
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: rcu2516
คณะ: เภสัชศาสตร์ 2516
กระทู้: 23,533

« ตอบ #13407 เมื่อ: 27 พฤศจิกายน 2557, 10:35:46 »

ครับ
      บันทึกการเข้า
Manop Klabdee
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


พอเพียง มีสติ เกิดปัญญา
ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: 2513 วศ. รุ่นที่ 54
คณะ: วิศวกรรมศาสตร์ แผนกวิชาวิศวกรรมโยธา
กระทู้: 11,644

« ตอบ #13408 เมื่อ: 27 พฤศจิกายน 2557, 11:26:49 »



ปีนี้ พี่สิงห์ ไม่ได้ไปร่วมสาธยายพระไตรปิฎก เพราะทำ Visa เข้าอินเดียไม่ทัน  ให้พี่โส และลูกสองคนไปกันเอง

มันเป็นเรื่องธรรมดา

สวัสดี
      บันทึกการเข้า
Manop Klabdee
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


พอเพียง มีสติ เกิดปัญญา
ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: 2513 วศ. รุ่นที่ 54
คณะ: วิศวกรรมศาสตร์ แผนกวิชาวิศวกรรมโยธา
กระทู้: 11,644

« ตอบ #13409 เมื่อ: 28 พฤศจิกายน 2557, 08:36:52 »



สวัสดีครับ ชาวซีมะโด่ง และแขกผู้มาเยือน ที่รักทุกท่าน

ตกลงงานสาธยายพระไตรปิฎกนานาชาติ พี่สิงห์ ไม่ได้ไปสำหรับปีนี้ เพราะไม่สามารถทำ VISA ได้ทัน

แต่พี่สิงห์ จะไป ๔ สังเวชนีย์แทน ในวันที่ ๑๐ -  ๒๐ กุมภาพันธ์ ใครสนใจที่จะไปกับพี่สิงห์  เรียนเชิญครับ ราคา ๓๒๕๐๐ บาท ไปสายการบินอิดิโกแอร์ ไม่มีเสิรฟอาหารบนเครื่องบิน

เรียนเชิญนะครับ  อายุมากขึ้นเรื่อย ๆ คงไปได้อีกไม่กี่ปี

สวัสดี
      บันทึกการเข้า
Manop Klabdee
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


พอเพียง มีสติ เกิดปัญญา
ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: 2513 วศ. รุ่นที่ 54
คณะ: วิศวกรรมศาสตร์ แผนกวิชาวิศวกรรมโยธา
กระทู้: 11,644

« ตอบ #13410 เมื่อ: 28 พฤศจิกายน 2557, 13:13:12 »



วิธีดับทุกข์ ด้วยการรู้ทันและปล่อยวาง


"ทำไมเราจึงมีความทุกข์ ?

ทุกข์เกิดขึ้นเพราะว่า ตัวเราไปสำคัญมั่นหมาย

เรามักจะไม่เคยดูตัวเอง เรามักจะมองไปนอกตัว ส่งจิตออกไปนอกตัว

สิ่งที่มากระทบทางตา ทางหู เราขาดสติ เราปล่อยจิต
ปล่อยใจให้ไปตามอารมณ์ต่างๆ

ทำใจเราให้ปรุงแต่งไปตามความคิด แล้วก็ขาดสติ ปล่อยให้
อารมณ์ต่างๆ เข้ามาย่ำยีใจของเรา โดยไม่มีสติคอยกลั่นกรอง เราลืมดูใจเรา

ใจจึงต้องสับสนวุ่นวาย
ใจเราจึงมีความทุกข์ เมื่อรู้สาเหตุ จึงต้อง "ละ" มัน

การละ ไม่ใช่ไปห้ามไม่ให้มันคิด แต่เราแค่ "รู้"

เรียกว่า รู้เท่าทันกาย รู้เท่าทันใจ รู้ว่ามันคิด รู้ว่า
มันชอบ รู้ว่ามันไม่ชอบ แค่รู้ ก็เท่ากับ "ละ" มันแล้ว

เมื่อรู้แล้วก็ฝึกที่จะปล่อย ปล่อยเรื่อยๆ วางเรื่อยๆ
ใจเราก็จะว่าง มันจะเห็นความไม่เที่ยง บังคับบัญชาไม่ได้
เกิดขึ้นที่ใจเรา สติมันก็จะเกิด

ภาวะที่จิตเป็นกลาง คือ ภาวะ
ที่พ้นจากความเป็นทุกข์ หรือทุกข์ไม่เกิด ที่เรียกว่า นิโรธ"

อ.กำพล ทองบุญนุ่ม ชมรมเพื่อนคุณธรรม
      บันทึกการเข้า
Manop Klabdee
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


พอเพียง มีสติ เกิดปัญญา
ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: 2513 วศ. รุ่นที่ 54
คณะ: วิศวกรรมศาสตร์ แผนกวิชาวิศวกรรมโยธา
กระทู้: 11,644

« ตอบ #13411 เมื่อ: 28 พฤศจิกายน 2557, 20:15:08 »

สวัสดีครับ ชาวซีมะโด่ง และแขกผู้มาเยือน ที่รักทุกท่าน

พี่สิงห์ อยู่นครศรีธรรมราช

อากาศที่นครศรีธรรมราชเย็นสบาย ไม่มีฝนท้องฟ้าแจ่มใส

แต่บารยากาศตามร้านอาหานไม่สู้ดี คนออกนอกบ้านมาหาข้าวกินน้อย นักท่องเที่ยวไม่ต้องพูดถึง  ไม่ค่อยมาเที่ยวนครศรีธรรมราชอยู่แล้ว
รัฐบาลต้องเร่งกระตุ้นเศรษฐกิจ แล้วครับ  มิฉนั้นประชาชนอยู่ลำบาก

สวัสดี
      บันทึกการเข้า
Manop Klabdee
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


พอเพียง มีสติ เกิดปัญญา
ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: 2513 วศ. รุ่นที่ 54
คณะ: วิศวกรรมศาสตร์ แผนกวิชาวิศวกรรมโยธา
กระทู้: 11,644

« ตอบ #13412 เมื่อ: 29 พฤศจิกายน 2557, 06:02:25 »


อาหารเช้าสำหรับวันนี้ ต้องกินอย่างราชา(ถ้าเลือกได้)

สวัสดีครับ ชาวซีมะโด่ง และแชกผู้มาเยือน ที่รักทุกท่าน

เพราะความหลง ว่าเป็นเรา เป็นตัวตนของเรา เราเป็นนั่น นั่นเป็นของเรา หรือตามที่ท่านพุทธทาส ท่านพูด ตัวกู ของกู นั่นแหละ มนุษย์จึงมีแต่ความต้องการ ความอยากเพื่อสนองต่อตัวกู ของกู เพื่อความคิดตนเองเป็นหลัก ธรรมชาติของจิตมันก็เป็นอย่างนี้ คิดเพื่อตนเอง ที่เรียกว่าสนองตัณหาของตนเอง

แต่ถ้าท่านตัดตัวกู ของกูออกไปได้ ด้วยการภาวนาเจริญสติอย่างต่อเนื่อง จนเห็น(รู้)ความจริงของชีวิต ว่าแท้จริงมันไม่มีตัวกู ของกู เลย มีเพียงขันธ์๕ ที่ประกอบไปด้วยรูป และนาม ที่เป็นจิตมาอาศัยอยู่ที่รูปเท่านั้น ไม่มีตัวกู ของกู  แต่เพราะไปหลงอยู่ในความคิด ไปติดอยู่ในผัสสะ และเวทนา ผลของเวทนา มันจึงมีตัวกู ของกู  กองทุกข์  การเวียนว่ายตาย-เกิดอยู่ในวัฏฏะสงสาร มันจึงเกิดขึ้นไม่มีสิ้นสุด

ทุกท่านจงมองให้เห็นความจริงอันนี้ ตัณหามันจะค่อย ๆ เบาบางลง ขอเพียงมีความเพียร มีขันติให้มาก ๆ ค่อย ๆ ฝึกสะสมไปเรื่อย ๆ ชีวิตก็จะมีอต่ความสงบมากขึ้นคือมีสติ-สัมปชัญญะ อยู่ด้วยปัญญา ไม่หลงอยู่ในความคิด มันก็จะค่อย ๆ ตัดตัวกู ของกู ลงได้ เพราะเรายังเป็นมนุษย์ปุถุชนถ์ธรรมดา  ไม่ใช้พระอรหันต์ จึงต้องภาวนาให้มาก เพื่อลดตัวกู ของกู

การภาวนาทำได้ทุกที่ทุกเวลา ขอเพียงท่านรู้สึกตัว เท่านั้น

สวัสดี
      บันทึกการเข้า
Manop Klabdee
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


พอเพียง มีสติ เกิดปัญญา
ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: 2513 วศ. รุ่นที่ 54
คณะ: วิศวกรรมศาสตร์ แผนกวิชาวิศวกรรมโยธา
กระทู้: 11,644

« ตอบ #13413 เมื่อ: 29 พฤศจิกายน 2557, 10:20:56 »



ต้องรู้จักทุกข์ก่อน

“คนเราจะพ้นทุกข์ได้ก็ต้องรู้จักทุกข์ ถ้าเรารู้จักทุกข์แล้วจะพ้นทุกข์ได้ แต่ถ้าเราไม่รู้จักทุกข์ก็ไม่มีทางที่จะเกิดปัญญาพาใจให้พ้นทุกข์ได้เลย แล้วเราจะรู้จักทุกข์ได้อย่างไร ก็ต้องเจอทุกข์บ่อยๆ ความทุกข์ก็มีจุดอ่อน ถ้าเรารู้จักจุดอ่อนของมัน เราก็สามารถจัดการเป็นนายความทุกข์ ไม่ใช่เป็นทาสของความทุกข์

หลวงพ่อคำเขียนอุปมาเหมือนกับช้างหรือควาย ตัวมันใหญ่ แรงมันเยอะมาก มนุษย์เราสู้ไม่ได้เลยถ้าพูดถึงพละกำลัง แต่ทำไมมนุษย์เราถึงสามารถล่ามควายได้ ทำไมเราถึงสามารถควบคุมช้างได้ ช้างยอมให้เราขึ้นไปอยู่บนหลังและสามารถควบคุมมันได้เพราะเหตุใด ควายก็มีจุดอ่อนตรงจมูก ถ้าเอาเชือกสนตะพายได้มันก็อยู่ในอำนาจของเรา ช้างก็มีจุดอ่อนเหมือนกัน เพราะฉะนั้นสิ่งที่น่ากลัวล้วนมีจุดอ่อน ความทุกข์ก็มีจุดอ่อน จุดอ่อนอยู่ที่ไหน จุดอ่อนอยู่ตรงที่ว่าถ้าเรารู้ทุกข์เมื่อไหร่มันก็หมดฤทธิ์พิษสงทันที “

พระไพศาล วิสาโล
      บันทึกการเข้า
Manop Klabdee
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


พอเพียง มีสติ เกิดปัญญา
ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: 2513 วศ. รุ่นที่ 54
คณะ: วิศวกรรมศาสตร์ แผนกวิชาวิศวกรรมโยธา
กระทู้: 11,644

« ตอบ #13414 เมื่อ: 29 พฤศจิกายน 2557, 10:33:50 »




มีสติและขันติ สู้ทุกขเวทนา

หลวงตาประสงค์ : "อาจารย์มีหลักวิธีอย่างไร
เพราะดูหน้าตายิ้มแย้มแจ่มใส
ไม่เหมือนคนป่วย อาจารย์ทำอย่างไร?"

อ.กำพล : "โดยปกติแล้ว นักภาวนา
ก็ต้อง "ฝึกสติ”เสมอๆ สำหรับผม
ตอนที่ร่างกายพิการนี้ ผมก็ฝึกสติ
สติกับความพิการทางร่างกายนี้
เป็นเรื่องที่เอาชนะได้ง่าย
แต่เวลาที่เราเกิดอาการป่วยไข้ทาง
ร่างกายนี่ก็ มันไม่ใช่เฉพาะความพิการ
มันมีความทุกขเวทนาในระบบต่างๆ
ของร่างกาย ระบบหายใจ ระบบย่อยอาหาร
กระเพาะปัสสาวะ ตับ มันมีอาการที่มันรุมเร้า
“สติ" อย่างเดียวนี้ เอาไม่อยู่
มันต้องมี “ขันติ” เข้าช่วย
“ขันติ" นี้ มันก็เกิดจากการที่เราทำ
ในสิ่งที่ซ้ำๆ บ่อยๆ ภาวนาบ่อยๆ
อดทนไว้ เบื่อก็ทำ ขันติพวกนี้ มันจะ
ช่วยสติ แล้วมันจะเกิด “สมาธิตั้งมั่น”
อยู่เหนือทุกขเวทนา สุดท้ายแล้ว
มันก็จะเกิด “ปัญญา”
พอมี สติ มีขันติ มีสมาธิเกิดขึ้น
จิตมันก็จะหลุดลอยออกมาอยู่เหนือเวทนา
เราก็เกิดปัญญาเห็นว่า
อ๋อ….ร่างกายหรือจิตใจ ทั้งสองอย่างนี้
มันก็เป็นธรรมชาติของเขาอย่างนั้น
มันไม่เป็นอย่างที่เราคิด มันไม่ใช่ของเรา
เราอาศัยมันมาใช้ชั่วคราว
สุดท้ายแล้ว เราก็ต้องส่งคืนธรรมชาติ
เพียงแค่นี้ เราก็สบายใจ”

หลวงตาประสงค์ : "อนุโมทนากับอาจารย์ด้วย”


ทุกท่านสามารถเห็นอย่างอาจารย์กำพล เห็นได้

ธรรมชาติมันเป็นเพียง รูป-นาม เท่านั้น เมื่อมีเจตสิกเข้ามา ขอเพียงมีสติ  มีขันติ  อย่าหลงไปกับเจตสิก  แยกตนเองออกมาเป็นผู้ดู ให้อยู่เหนือเวทนา มันจะเห็นความจริงนี้ ธรรมชาติมันเป็นอย่างนี้  คือ

มีรูป สมมติว่ายืนอยู่มุมหนึ่ง

มีจิตที่รับรู้ทางอารมณ์ สมมติว่ายืนอยู่อีกมุมหนึ่ง

มีเจตสิกเข้ามาครอบงำจิตกำลังจะพาจิตให้เป็นไปตามเจตสิกนั้น  สมมติว่ายืนอยู่อีกมุมหนึ่ง

มีสติ  เป็นตัวรู้ สมมติว่ายืนดู รูป นาม เจตสิก ที่กำลังจะแสดงให้ดู อยู่อีกมุมหนึ่ง

เราต้องแยกให้ได้ อย่างนี้ เราถึงจะเป็นผู้ดู เราจะเห็นสภาวะธรรมที่เกิดขึ้นกับรูป-นาม เจตสิก เห็นด้วยสติ  วิริยะไม่หลงไปกับมันด้วยขันติ-อุเบกขายิ่ง  มันต้องฝึกการเจริญสติ  ฝึกให้มาก ๆ ให้บ่อย ๆ อยู่กับมัน ๒๔ ชั่วโมง แล้วเราจะเป็นผู้เห็น  ไม่ไปเป็นผู้เป็น  จะเห็นได้ในตัวกู  ของกู  นี่แหละคือต้นเหตุแห่งความทุกข์ การเกิด-ตายในวัฏฏะสงสาร  ถึงแม้เรายังเป็นปุถุขนม์คนธรรมดา เราก็รับทราบได้เห็นได้  ความทุกข์มันจะได้ลดน้อยลงไป และจิตมันจะค่อย ๆ เบื่อหน่ายในรูป-นามนั้น เพราะมันเห็นความจริง  มันไม่อยากเข้าไปเป็นตัวกู  ของกู  เพราะการเข้าไปเป็นตัวกู  ของกู (ทางความคิด  ความหลง)นี่เองคือเหตุแห่งตัณหา  ตามมาด้วยความทุกข์ เวียว่ายตาย-เกิดอยู่ในสงสาร ละ

สวัสดี
      บันทึกการเข้า
Manop Klabdee
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


พอเพียง มีสติ เกิดปัญญา
ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: 2513 วศ. รุ่นที่ 54
คณะ: วิศวกรรมศาสตร์ แผนกวิชาวิศวกรรมโยธา
กระทู้: 11,644

« ตอบ #13415 เมื่อ: 29 พฤศจิกายน 2557, 10:47:25 »



ช่วงนี้ต้องอาศัย ครูบาอาจารย์ มาช่วยครับ

ตัวเองกำลังจะไปไม่รอด มีมารมาผจญหนักมาก
      บันทึกการเข้า
เหยง 16
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: rcu2516
คณะ: เภสัชศาสตร์ 2516
กระทู้: 23,533

« ตอบ #13416 เมื่อ: 29 พฤศจิกายน 2557, 19:02:12 »

พี่สิงห์

อินเดียกำลังอนุญาตให้ขอ VISA ผ่านเน็ต
ลงข้อมูล จ่ายเงินผ่านเน็ก รออีเมล์ พิมพ์หนังสือจากอีเมล์ เดินทางได้เลย
ในกรณีไปท่องเที่ยวและอยู่ไม่เกิน 30 วัน
ประเทศไทย และอาเชียนได้รับประโยชน์จากกรณีนี้ด้วยครับ
      บันทึกการเข้า
Manop Klabdee
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


พอเพียง มีสติ เกิดปัญญา
ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: 2513 วศ. รุ่นที่ 54
คณะ: วิศวกรรมศาสตร์ แผนกวิชาวิศวกรรมโยธา
กระทู้: 11,644

« ตอบ #13417 เมื่อ: 30 พฤศจิกายน 2557, 11:47:01 »

สวัสดีครับ คุณเหยง

ขอบคุณมาก

แต่เป็นจริงตอนนี้มันต้องไป scan นิ้วมือ มันเลยขอ visa ช้า สำหรับอินเดียเพราะมีพนักงานทำงานอยู่สามท่าน

สวัสดี
      บันทึกการเข้า
Manop Klabdee
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


พอเพียง มีสติ เกิดปัญญา
ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: 2513 วศ. รุ่นที่ 54
คณะ: วิศวกรรมศาสตร์ แผนกวิชาวิศวกรรมโยธา
กระทู้: 11,644

« ตอบ #13418 เมื่อ: 30 พฤศจิกายน 2557, 14:02:52 »

สวัสดีครับชาวซีมะโด่ง และแขกผู้มาเยือน ที่รักทุกท่าน

วันนี้ เป็นวันอาทิตย์ เป็นวันครอบครัว อยู่บ้าน

พี่สิงห์ ไม่มีครอบครัว ก็ต้องพึ่งกอล์ฟเพื่อออกกำลังกาย และการเจริญสติ เป็นเครื่องอยู่  มิฉนั้น จิตมันจะฟุ้งซ่านไปกับกามรมณ์ หรือปรุงแต่งไปเรื่อย ๆ มีแต่ก่อทุกข์ และจิตมันชอบเพราะมีอิสสระ

การเจริญสติ ติดตามจิตจึงเป็นเรื่องจำเป็น ในชีวิตประจำวัน เพราะมีเวลามาก  จิตต้องมีที่เกาะคือการเคลื่อนไหวร่างกายก็ให้รู้สึกตัวเข้าไว้  ใจนึกคิดก็ให้รู้สึกตัวว่าคิดเข้าไว้ จิตจะไม่ฟุ้งซ่าน มีแต่สงบและรู้สึกตัว มันจะเห็นธาตุแท้ของคำว่ามนุษย์

มนุษย์มีเพียงรูป จิต เจตสิก เท่านั้น เป็นเพียงสภาวะธรรมตามธรรมชาติ  ถ้าเราเป็นผู้ดู  ไม่เป็นผู้เป็น  มันจะเกิดการเบื่อหน่ายในรูป จิต  เจตสิกนั้น มีแต่ทุกข์ทั้งสิ้น  จะมีสุขบ้างก็นิดหน่อยไม่มั่นคงเลย พอรู้สึกตัวความสุขก็หายไปแล้ว มันเป็นอย่างนี้

สวัสดี
      บันทึกการเข้า
Manop Klabdee
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


พอเพียง มีสติ เกิดปัญญา
ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: 2513 วศ. รุ่นที่ 54
คณะ: วิศวกรรมศาสตร์ แผนกวิชาวิศวกรรมโยธา
กระทู้: 11,644

« ตอบ #13419 เมื่อ: 30 พฤศจิกายน 2557, 18:48:15 »



หลาน ๆ ที่สุรินทร์ (ลูกคุณมิค)

มะเร็ง รักษา ป่องกันได้ แบบธรรมชาติ ?

มะเร็ง เกิดจากการดิ้นรนของเซลที่ต้องการมีชีวิตอยู่ เมื่อสภาพแวดล้อมเป็นพิษเกิดขึ้นกับเซลในร่างกายของคนเรา มันเป็นธรรมชาติ

แต่ผลของมัน  ทำให้ร่างกายมนุษย์ที่มันอาศัยเป็นส่วนหนึ่งในร่างกายนั้น ต้องตายลงเพราะการเอาตัวรอดของมันมันเป็นธรรมชาติ

ดังนั้น  ถ้าเราอยากห่างไกลมะเร็ง ต้องอยู่แบบธรรมชาติ  ไม่ทำให้ธรรมชาติเป็นพิษ ในปัจจัยสี่ที่เราจะต้องดำรงชีวิตโดยเฉพาะอาหาร การกิน อากาศ และจิต

วิธีที่จะห่างไกลมะเร็งร้าย แบบง่าย ๆ ทุกท่านทำได้คือ

๑. ออกกำลังกายแบบชิกง คือหายใจเข้ายาว ๆ หายใจออกยาว ๆ ให้มากเอาไว้ เพราะอ๊อกซิเจนนั้น ฆ่าเซลมะเร็งได้ และอากาศที่หายใจนั้นป้องกัน และไม่ให้เซลแปรเปลี่ยนไปเป็นมะเร็งได้ หรือจะฝึกหายใจเข้า-ออก ช้า ๆ ยาว ๆ ทุกเช้าวันละอย่างน้อยครึ่งชั่วโมง ก็ได้ครับ

๒. ดูแลเรื่องอาหารให้เป็นธรรมชาติ ลดอาหารที่เป็นกรด คือเนื้อสัตว์ รับประทานผักผลไม้ให้มาก ๆ เอาไว้ และ ดื่มน้ำด่าง เพื่อป้องกันไม่ให้กระแสเลือดเป็นกรดที่ไปเลี้ยงเซล ให้กลายเป็นเซลมะเร็ง หลีกเลี่ยงอาหารขยะ เครื่องดื่มผสมน้ำตาล น้ำอัดลม

๓. ทำจิตให้ผ่องใส่ ไม่เครียด

ทำเพียงแค่นี้ โอกาสในการเป็นมะเร็ง ก็ยากขึ้นครับ

สวัสดี
      บันทึกการเข้า
Manop Klabdee
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


พอเพียง มีสติ เกิดปัญญา
ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: 2513 วศ. รุ่นที่ 54
คณะ: วิศวกรรมศาสตร์ แผนกวิชาวิศวกรรมโยธา
กระทู้: 11,644

« ตอบ #13420 เมื่อ: 30 พฤศจิกายน 2557, 19:48:23 »



ดร.สุริยา  บอกว่าขอค้าน เพราะครูบาอาจารย์สายภาวนา เป็นมะเร็งก็มาก

มันก็จริง  แต่ท่านลืมกระทำอีกสองข้อ คือ อาหารและการหายใจเข้า-ออกลึก ๆ ยาว ๆ ครับ

สวัสดี
      บันทึกการเข้า
Manop Klabdee
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


พอเพียง มีสติ เกิดปัญญา
ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: 2513 วศ. รุ่นที่ 54
คณะ: วิศวกรรมศาสตร์ แผนกวิชาวิศวกรรมโยธา
กระทู้: 11,644

« ตอบ #13421 เมื่อ: 01 ธันวาคม 2557, 06:15:32 »


ปีนี้ไม่ได้แห่พระไตรปิฎก


การฝึกการหายใจ กระทำง่าย ๆ สอง วิธี คือ

๑. นั่งขัดสมาธิ เอามือขวาทับมือซ้ายวางเอาไว้ที่หน้าตัก ยืดตัวนั่งให้กระดูกสันหลังตรง หายใจเข้าลึก ๆ นานหนึ่งอึดใจและให้ท้องป่องเพื่อให้กระบังลมเปิด แลกถ่ายอากาศ เมื่อท้องป่องแล้วกลั้นลมหายใจเอาไว้อีกอึดใจหนึ่ง แล้วหายใจออกให้ท้องแฟบยาว ๆ ยาวสองอึดใจ จะหายใจออกทางจมูก หรือเป่าลมออกทางปาก ก็ได้  ฝึกอย่างนี้ทุกวันที่นึกได้และอยากทำ ครั้งละไม่ต่ำกว่า ๑๐ ครั้ง ก็ห่างไกลจากมะเร็งร้ายได้พอสมควร  ลองทำดูนะครับ

คำว่า "หนึ่งอึดใจ"นั้น เท่ากับ 3, 4, 5.....วินาทีขึ้นอยู่กับท่านครับ
      บันทึกการเข้า
Manop Klabdee
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


พอเพียง มีสติ เกิดปัญญา
ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: 2513 วศ. รุ่นที่ 54
คณะ: วิศวกรรมศาสตร์ แผนกวิชาวิศวกรรมโยธา
กระทู้: 11,644

« ตอบ #13422 เมื่อ: 01 ธันวาคม 2557, 15:29:33 »


ปีนี้ไม่ได้สวดสาธยายพระไตรปิฎกที่พุทธคยา


๒. ฝึกหายใจเข้าด้วยรูจมูกข้างเดียว
นั่งขัดสมาธิ หรือนั่งบนส้นเท้า หรือนั่งเก้าอี้ตามสบาย เอานิ้วชี้และนิ้วกลางจี้ที่กึ่งกลางหน้าผาก เอานิ้วโป้งปิดรูจมูกขวา เอานิ้วนางปิดรูจมูกซ้าย

ให้เปิดรูจมูกซ้าย หายใจเข้าให้ลึกจนเต็มปอดให้ท้องป่อง อะนลมหายใจค้างเอาไว้หนึ่งอึดใจ ปิดรูจมูกซ้าย เปิดรูจมูกขวาหายใจออกช้า ๆ ยาว ๆ สองอึดใจจนท้องแฟบ

หายใจเข้าทางรูจมูกขวาช้า ๆ ยาว ๆ หนึ่งอึดใจจนท้องป่องค้างเอาไว้หนึ่งอึดใจ ปิดรูจมูกขวา เปิดรูจมูกซ้ายหายใจออกช้า ๆ ยาว สองอึดใจจนท้องแฟบ

หายใจเข้าทางรูจมูกซ้าย ช้า ๆ ยาว ๆ หนึ่งอึดใจ ให้ท้องป่องค้างเอาไว้หนึ่งอึดใจ ปิดรูจมูกซ้าย เปิดรูจมูกขวาหายใจออก ช้า ๆ ยาว ๆ สองอึดใจ จน องแฟบ

ทำอย่างนี้จนครบ ๑๐ รอบ ทุกวัน ท่านก็สามารถห่างไกลมะเร็งร้ายได้

การฝึกหายใจด้วยรูจมูกเดียว ท่านจะหายใจได้เต็มปอด เป็นผลดีกับปอดอย่างมาก จงไปหาสถานที่อากาศบริสุทธิ์ยามเช้า ฝึกภายหลังจากออกกำลังการเสร็จ จะดีมาก

สวัสดี
      บันทึกการเข้า
Manop Klabdee
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


พอเพียง มีสติ เกิดปัญญา
ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: 2513 วศ. รุ่นที่ 54
คณะ: วิศวกรรมศาสตร์ แผนกวิชาวิศวกรรมโยธา
กระทู้: 11,644

« ตอบ #13423 เมื่อ: 02 ธันวาคม 2557, 04:44:21 »


อาจารย์กำพล  ท่านไปพักฟื้นอยู่ที่เขาใหญ่ ท่สนอยู่กับมะเร็งตับระยะสุดท้าย


สวัสดีครับ ชาวซีมะโด่ง และแขกผู้มาเยือน ที่รักทุกท่าน

อย่าลืม อาหารเป็นสาเหตุหลักที่เซลในร่างกายแปรสภาพไปเป็นเซลร้าย มะเร็ง

เราต้องยอมรับความจริง ว่าด้วยความสะดวกสบาย เร่งรีบในนสถานการณ์ปัจจุบัน คนเราส่วนใหญ่ไม่หุงข้าวกินแบบปู่-ย่า ตา-ยาย แล้ว ประกอบกับการปลูกผัก-ข้าว มีแต่สารเคมี ดังนั้น วันหนึ่ง ๆ ร่างกายมีแต่สิ่งแปลกปลอมเข้าไปทั่งนั้น ธรรมชาติเลยปรับตัวเอง โอกาสเป็นมะเร็งจึงสูงมาก

อาหารประเภทเนื้อสัตว์  จงหลีกเลี่ยงให้มาก แต่ก็มีความจำเป็นสำหรับร่างกายเหมือนกัน เอาเป็นว่า พอดี เหมาะสมก็แล้วกัน

ในเมื่อมันเป็นเรื่องธรรมชาติที่ต้องปรับตัว ถ้ามันจะเป็นมะเร็ง ก็ยอมรับมัน อยู่กับมัน และตายไปพร้อมกันกับมัน ไม่มีอะไรดีกว่านี่แล้ว คิดแบบนี้จะได้ไม่ทุกข์

สวัสดี
      บันทึกการเข้า
Manop Klabdee
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


พอเพียง มีสติ เกิดปัญญา
ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: 2513 วศ. รุ่นที่ 54
คณะ: วิศวกรรมศาสตร์ แผนกวิชาวิศวกรรมโยธา
กระทู้: 11,644

« ตอบ #13424 เมื่อ: 02 ธันวาคม 2557, 19:27:46 »



ขอนำภาพธรรมยาตรา ครั้งที่ ๑๕ จากการนำของพระไพศาล  วิสาโล มาให้ทุกท่สนได้ชม ปีหน้าจะได้เตรียมตัวไปร่วมด้วย
      บันทึกการเข้า
  หน้า: 1 ... 535 536 [537] 538 539 ... 681   ขึ้นบน
  
กระโดดไป:  

     

สมาคมนิสิตเก่าหอพักนิสิต จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย มวลสมาชิกสมาคม คณาจารย์ และนิสิตเก่าทุกคน ขอน้อมเกล้าถวายความอาลัย  พระผู้เสด็จสู่สวรรคาลัย ด้วยเกล้าด้วยกระหม่อม ขอเดชะ <;))))><