28 มีนาคม 2567, 18:09:47
ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน


เข้าสู่ระบบด้วยชื่อผู้ใช้ รหัสผ่าน [สมาชิกเก่าลืมรหัส โทร 081-7611760]
A A A A  ระเบียบปฎิบัติ
   
Languages    
  หน้า: 1 ... 5 6 [7] 8 9 ... 12  ทั้งหมด   ลงล่าง
ผู้เขียน หัวข้อ: แด่ความโสด...  (อ่าน 127296 ครั้ง)
0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
หลิม 81
Cmadong พันธุ์แท้
****


ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 2,840

« ตอบ #150 เมื่อ: 12 กุมภาพันธ์ 2550, 09:16:35 »

อ้างจาก: "apirat"
อ้างจาก: "audit"
อ้างจาก: "หลิม 81"
ไม่รู้ว่าน่าดีใจหรือไม่ที่บางคนต้องรู้ว่าตัวเองจะมีชีวิตอยู่ได้กี่ปี ถ้าเป็้นคุณที่รู้ว่าตัวเองอยู่ได้กี่ปี คุณจะอยากรู้มั้ย.... Huh? Sad  Sad

คนรู้ดี  Tongue


ไม่รู้ว่าคนๆนั้นจะดีใจไหม แต่คนข้างกายที่รู้ว่าเค้าเหลือเวลาอีกเท่าไหร่ไม่ดีใจเลย

ถึงแม้จะกี่เดือน กี่ปีก็รู้สึกว่ามันสั้นเหลือเกิน


Don't worry, Be Happy ..
ตาแคม


ผมคนนึงละที่สงสารคนที่อยู่ข้าง ๆ มาก ฉะนั้นเราต้องทำดีกับเค้ามาก ๆ ในเวลาที่เหลืออยู่....และต้องรักเพื่อเป็นการขอบคุณที่เ้ค้าอยู่กับเรา  :cry:
บันทึกการเข้า

@ ปีนี้ปีของผม @
iamfrommoon
Cmadong ชั้นเซียน
*****


ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: 2535
คณะ: พาณิชยศาสตร์และการบัญชี
กระทู้: 8,396

เว็บไซต์
« ตอบ #151 เมื่อ: 12 กุมภาพันธ์ 2550, 13:14:23 »

แบบว่า อ่านแล้วเออนะ จริงซะมั่กมาก...ตอนสมัยพี่ปุ๊กก็ค่อนข้างกลัว กลั๊ว กลัว เลข 3 แต่พอผ่านมามันก็เฉยๆ แถมเราเริ่มคิดแล้วหล่ะ ใครจะมาเคียงข้างต้องพิเคราะห์มากขึ้นกว่าเดิมหน่อยละ...อนาคตเราจะต้องไปพร้อมกัน...หุหุ  Cool แถมกิ๊บก๊าบกว่าเดิม เหอเหอ...รู้แต่ว่า เวลาอยู่กับเด็กขึ้นต้นด้วยเลข 2 แล้วมีคนทักว่า กลืนและเนียนมาก มันภูมิใจ๊ภูมิใจ อิอิ ไม่รู้ว่าจะเอาลงที่กระทู้ไหน เอาอันนี้และกัน

22 เหตุผล ที่ผู้หญิงควรดีใจเมื่อเข้าวัย 30

1. เป็นตัวของตัวเองอย่างแท้จริง จะพูดจะคิด จะรู้สึก "ก็ฉันเป็นอย่างนี้นะ "
เธอไม่ชอบก็เรื่องของเธอสิ อาการแบบนี้จะเกิดขึ้นเสมอ ๆ

2.อารมณ์ ฮ็อตระอุไม่รู้มาจากไหน แค่เห็นรูป หนุ่ม ๆ กล้ามงาม ๆ ตาอ้อน ๆ ก็หวิวไปทั่วร่างแล้ว
ยืนยันว่าวัยเลขสองไม่เป็นแน่นอน

3.เริ่มเก็บเงินซื้อรถ และเลยไปถึงซื้อบ้าน

4.หนุ่ม ๆ เกือบทั้งนั้นอยากเดทกับคุณเพราะเขาบอกว่า "คุณคุยได้ทุกเรื่อง"

5.ก็ในเมื่อมันเลยเลขสามมาแล้ว ทำไมจะต้องกลัวว่า "ฉันจะได้แต่งงานมั้ยเนี่ย " อีกล่ะ
ความคิดคุณจะเปลี่ยนเป็น แต่งก็ได้ ไม่แต่งก็ได้แล้วกัน

6.คุณจะเป็นคนดีขึ้นเรื่อย ๆ เพราะเรื่องไม่ดี มันทำมาหมดแล้ว

7.สามารถไปเที่ยวต่างจังหวัดค้างคืนกับแฟนได้โดยไม่ต้องโกหกแม่
ถ้าแม่ว่า คุณจะจบลงด้วยประโยคว่า "หนูสามสิบแล้วนะแม่ " แล้วก็เดินเข้าห้องไปเก็บกระเป๋า

8.เปลี่ยนจากดูหนัง ช็อปปิ้งวันเสาร์-อาทิตย์กับเพื่อนสาว เปลี่ยนเป็น เราไปทำบุญ 9 วัดกันเถอะเธอ

9.กีฬาโหด ๆ บ้าคลั่ง ๆ ที่คุณไม่เคยกล้าทำ อย่างขี่เจ็ทสกี ปีหน้าผา...มา! ฉันจะทำให้หมดเลย!
ไม่มีอะไรต้องกลัวอีกแล้วนี่!

10. สิวที่เคยขึ้นในวัยยี่สิบ มันหายไปจริง ๆ คุณหน้าเกลี้ยงอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน

11.เริ่มอัพเกรดตัวเองจากเที่ยวพัทยา หัวหิน มาเป็น มัลดีฟส์บ้าง ฮ่องกงบ้างล่ะ

12.ประโยคฮิตติดปากคุณจาก "ทำไมถึงทำอย่างนั้นกับฉัน " จะเปลี่ยนเป็น " ก็เรื่องของเธอแล้วกัน"

13.ผู้ชายคนนั้นที่เห็นแก่ตัว เอาแต่ใจตัวเอง งี่เง่า และไม่เคยซื้อของดี ๆ ให้คุณเลย คุณยัง "ทน "
คบได้...ก็เขาก็เป็นอย่างนี้ของเขาแหล่ะ

14.ขี้เกียจ..... เข้าใจ... และปลง เป็นทางออกที่ดีที่สุด

15...ไม่มีใครในโลกนี้โกหกคุณได้อีกแล้ว คติของคุณคือ "ความชัดเจน"
จะมาต้องประดิษฐ์หาข้ออ้างโกหกโน่นนี่หาพระแสงอะไรไม่ทราบ

16.เอายังไงก็เอา ไม่คบก็ไม่เป็นไร คบก็คบกันแล้วดี ๆ ต่อกัน ถ้าจะไม่ดีกับฉัน ก็ไป ไม่ต้องมาคบ
คือ สโลแกนประจำใจเวลาหนุ่มคนไหนดูท่าว่าเหมือนจะอยากมีความสัมพันธ์กับคุณ

17.ขนาดปารีส ฮิลตัน ที่ผู้หญิงทั้งโลกหมั่นไส ้ แต่เมื่อเข้าเลขสามคุณจะมองเธออย่างสงสารแทน
โถๆๆๆๆๆ หนูจ๋า เหนื่อยไหมนั่นน่ะ..

18. เปลี่ยนจากซื้อสร้อยลูกปัดพลาสติก เป็นสร้องทองคำของจริง!

19.เปลี่ยนจากรูดหมูปิ้งข้าวเหนี่ยวมื้อเช้า เป็น แครอทสดกับน้ำมะเขือเทศ!

20.คุณหัวเราเสียงดังกระจายในร้านอาหารกับเพื่อนสาวได้อย่างไม่สนใคร
จะมีแค่คนหันมาองคุณแล้วนึกเอ็นดูว่า ดูสิผู้หญิงเหล่านี้เขามีความสุขจังเลยนะ

21.อาชีพการงานของคุณรุ่งล้ำเกินชาย

22.จากเด็กสาวค้นหาตัวเอง คุณกลายมาเป็นสาวฉลาดไม่ต้องพึ่งใคร


 :lol:  Cool  :lol:
บันทึกการเข้า

@@ธรรมชาติสร้างความขัดแย้ง เพื่อให้คนเรียนรู้ซึ่งกันและกันได้ดียิ่งขึ้น@@@

ppornson
Cmadong พันธุ์แท้
****


ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 3,724

« ตอบ #152 เมื่อ: 12 กุมภาพันธ์ 2550, 13:28:01 »

แต่ผมกลับจะดีใจนะ..ถ้าจะได้รู้ว่า..ตัวเองเหลือเวลาอีกเท่าไหร่..

เพราะผมว่าคนที่ได้รู้ว่าเรามีเวลาเหลือเท่าไหร่เป็นคนมีบุญนะ..

เรามีเวลาเตรียมตัว..ทำโน่น..ทำนี่..หรือเลืกทำ..ตามที่เราอยากทำ..

เคยคิดนะ..ว่าถ้าเกิดนักดาราศาสตร์เค้าพบดาวหางจะชนโลกแล้วตายกันหมดแน่ๆน่ะ โดยรู้เวลาชนแน่นอน..

เค้าคงไม่ประกาศหรอกเนอะ..
บันทึกการเข้า
ลูกพิ้ง
Hero Cmadong Member
***


ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 1,287

« ตอบ #153 เมื่อ: 12 กุมภาพันธ์ 2550, 14:27:57 »

อ้างจาก: "iamfrommoon"
22 เหตุผล ที่ผู้หญิงควรดีใจเมื่อเข้าวัย 30

5.ก็ในเมื่อมันเลยเลขสามมาแล้ว ทำไมจะต้องกลัวว่า "ฉันจะได้แต่งงานมั้ยเนี่ย " อีกล่ะ
ความคิดคุณจะเปลี่ยนเป็น แต่งก็ได้ ไม่แต่งก็ได้แล้วกัน

 :lol:  Cool  :lol:


:shock: พี่ปุ๊ก

กำลังจะบอกว่า  Don't  worry, Don't  marry,   Be Happy .. ใช่มั้ยล่ะเจ้าค่ะ

 :lol:  :cry:  :lol:  :?
บันทึกการเข้า
ลูกพิ้ง
Hero Cmadong Member
***


ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 1,287

« ตอบ #154 เมื่อ: 12 กุมภาพันธ์ 2550, 14:40:58 »

อ้างจาก: "ppornson"
แต่ผมกลับจะดีใจนะ..ถ้าจะได้รู้ว่า..ตัวเองเหลือเวลาอีกเท่าไหร่..

เพราะผมว่าคนที่ได้รู้ว่าเรามีเวลาเหลือเท่าไหร่เป็นคนมีบุญนะ..

เรามีเวลาเตรียมตัว..ทำโน่น..ทำนี่..หรือเลืกทำ..ตามที่เราอยากทำ..



 Cool ว่าแล้วก็นึกถึงภาพยนตร์เกาหลีเรื่องนี้  Chrismas  in  August

จุงวอน..พระเอกของเรื่อง...ชายหนุ่มผู้ที่รู้ว่าเหลือเวลาของชีวิตอีกไม่นาน

เค้าจะทำอะไรกับเวลาที่เหลือบ้าง....

เศร้า...ท้อแท้...สับสน...นอนไม่หลับ..

พาคนรักไปเที่ยว....กินข้าวกับเพื่อนสนิท...ถ่ายภาพหมู่กับกลุ่มเพื่อน...

นั่งดูภาพรำลึกอดีต...ไปสถานที่ที่ผูกพัน.....

ขอเวลาอยู่ด้วยกันและดูแลพ่อแม่ให้ดีที่สุด....ยามที่ไม่มี....

ถ่ายภาพเพื่องาน....ของตัวเอง....

"เวลาของจุงวอนกับเหตุการณ์เหล่านี้  อาจมีไม่มาก  แต่เขาได้เติมเต็มความปรารถนาในชีวิต

ก่อนจากไป"

"หากยังมีเวลา  มีโอกาส  แล้วยังปล่อยให้เวลานั้นหายไป  

เพราะคิดว่าวันหลังค่อยทำก็ได้  สุดท้ายเราอาจต้องมานั่งเสียใจกับ

สิ่งที่ไม่มีโอกาสได้ทำ  " :cry:  :cry:
บันทึกการเข้า
Aj.O
Cmadong Member
Hero Cmadong Member
****


ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 1,241

« ตอบ #155 เมื่อ: 12 กุมภาพันธ์ 2550, 19:42:28 »

อ้างจาก: "ลูกพิ้ง"
"หากยังมีเวลา  มีโอกาส  แล้วยังปล่อยให้เวลานั้นหายไป  

เพราะคิดว่าวันหลังค่อยทำก็ได้  สุดท้ายเราอาจต้องมานั่งเสียใจกับ

สิ่งที่ไม่มีโอกาสได้ทำ  " :cry:  :cry:


แล้วถ้าสิ่งที่ทำไป มันทำให้เกิดความอับอาย หรือความผิดหวังล่ะ?
ก็อาจจะกลับมานั่นเสียดาย ว่าฉันไม่น่าทำเล้ย?

เพลงประกอบละคร แรงเงา(วันนั้น)

"สิ่งที่เห็นและความจริงที่เป็น อาจไม่มีทางพบกัน
ต้องทำให้เหมือนไม่แคร์ แต่ลึกๆใจก็หวั่น
นี่ฉันกำลังหลอกใคร

หากไม่รักน้ำตาคงไม่ไหล ปวดที่ใจจำฝืนทน
แค่คำว่ารักคำเดียว เปลี่ยนชีวิตคนทั้งคน เหตุผลไม่ตรงกับใจ

*อยากบอกว่ารัก ว่ารักว่ารักเธอ
รักเพียงแต่เธอ แต่เธอเสมอไป
แต่หากเธอรู้ ฉันอาจจะต้องเสียเธอไป
ฉันคงขาดใจ ถ้าหากต้องมีวันนั้น

แค่ไม่เห็นซักวันก็หวั่นไหว
ขาดเธอไปมันมากเกิน
จะเจ็บจะช้ำเพียงใด ใจดวงนี้พร้อมเผชิญ
ก็รักมากเกินตัดใจ

*อยากบอกว่า รัก ว่ารัก ว่ารักเธอ
รักเพียงแต่เธอ แต่เธอ เสมอไป
แต่หาเธอรู้ ฉันอาจจะต้องเสียเธอไป
ฉันคงขาดใจ ชีวิตและจิตใจ
จะฝืนทนอย่างไร เมื่อไม่มีเธอวันนั้น..."
บันทึกการเข้า

...
iamfrommoon
Cmadong ชั้นเซียน
*****


ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: 2535
คณะ: พาณิชยศาสตร์และการบัญชี
กระทู้: 8,396

เว็บไซต์
« ตอบ #156 เมื่อ: 19 กุมภาพันธ์ 2550, 16:50:53 »

ได้อ่านหน้าธรรมะของหนังสือพิมพ์ผู้จัดการที่มีมุมมองของความรัก...อีกมุมเลยเอามาฝากค่ะ

...ที่ใดมีรัก ที่นั่นมีทุกข์...

น้ำในภาชนะ ‘รัก’ ของ ‘เป้ สีน้ำ’
       
        เคยเป็นหนึ่งในพลพรรค ‘รัก’ ทำให้ใจหม่นเศร้ากับเขาเหมือนกัน สำหรับศิลปิน เป้ สีน้ำ หรือ อรรณพ ศรีสัจจา และต้องใช้เวลายาวนานเป็น 10 ปี จึงจะบำบัดใจตัวเองได้สำเร็จ จากอาการที่เรียกว่า ‘อกหัก’ นอกเหนือจากวิธีการ อื่นใดที่ลองทำแล้ว ‘ธรรมะ’ ก็มีส่วนช่วยให้หายปวดร้าวด้วย
        “เป็นช่วงเวลาที่เหมาะแก่การศึกษาธรรมะ อ่านหนังสือธรรมะมากในช่วง นั้น เพราะมันมีความทุกข์เป็นอารมณ์ คล้ายๆว่าจิตมันสยบกับความเป็นจริง อะไรที่มันเป็นจริง มันก็อยากจะเรียนรู้ไปหมดในตอนนั้น”
        หนึ่งชีวิตนี้เขาเล่าว่ามีเพียงครั้งเดียวเท่านั้น ที่พอจะนิยามการจากไปของใครอีกคนหนึ่งซึ่งรักและผูกพันได้ว่า‘อกหัก’
        “จริงๆมันก็นานมาแล้ว เราก็ไม่อยากจะนับมันหรอก แต่ว่ามันคือการอกหักของผู้ชายคนหนึ่งในวัยหนุ่ม ตอนนั้นอายุประมาณ 35-36 ปี ซึ่งเป็นวัยที่แสวงหาและเห็นชีวิตมาแล้ว อกหักครั้งนั้นเป็นบทเรียนที่ดี เป็นบทเรียนอันใหญ่มาก เป็นปัญหาอันหนักอึ้งทีเดียว ผ่านมันไปได้ยากเย็นอย่างยิ่ง และกินเวลาเนิ่นนาน จนเพื่อนๆหน่าย แม้แต่พี่สะใภ้ก็ต้องเป็นเพื่อนคอยปลอบใจ ถึงขั้นที่ต้องเรียน รู้สัจจะกันในยามนั้นเลยล่ะว่า ความทุกข์คืออะไร ชีวิตคืออะไร และก็ธรรมะคืออะไร”
        อาการนอนไม่หลับ คิดถึงแต่หน้าเธอ คิดถึงแต่เหตุการณ์ที่เกิดขึ้น และคิดวนเวียนอยู่กับคำถามที่ว่า เพราะอะไร... ทำไม... ถึงได้ทิ้งกันไป บางครั้งก็ทำ ให้เจ้าตัวคิดหาทางออกด้วยการนั่งสมาธิและลุกขึ้นเดินจงกรมลองดูบ้าง
        กล่าวได้ว่าการเรียนรู้ธรรมะของเขานั้น ค่อยๆดำเนินไปพร้อมกับความเจ็บปวดที่มีเกิดขึ้นในหัวใจ
        “แต่การเรียนรู้ธรรรมะ มันไม่ใช่ว่าเรียนรู้แล้วเข้าใจเลย คำบางคำ ประโยคบางประโยค บางอย่างเราก็จำได้นั่นแหละ แต่ว่ามันจะถูกตีความไปเมื่อมันได้ผ่านชีวิต อย่างคำว่า “เป็นเช่นนั้นเอง” เราก็ได้ยินได้ฟังมาเป็น 20 ปี แต่เรานึก ถึงคำเดียวกันในวันนี้ทัศนะมันจะเปลี่ยนไปแล้ว มันอยู่ที่การผ่านชีวิตมากกว่า”
        ในช่วงแรกๆ เขายอมรับว่า ไม่ได้ดิ้นรนเพื่อให้ตัวเองหายไปจากความปวด ร้าวอันใหญ่หลวงนั้น แม้จะเป็นช่วงชีวิตที่ต้องอยู่กับความเศร้าทั้งวันทั้งคืน คล้ายไม่มีสิ่งใดเป็นที่พึ่ง และมีแต่ความว้าเหว่เข้าแทรกแซงความเบิกบานในหัวใจ
        “ฉันอยากจะได้เธอกลับคืนมาต่างหาก ไม่ใช่ฉันอยากจะหายไปจากความเจ็บปวด แล้วก็ไปรักใครคนใหม่ แต่ฉันอยากจะได้เธอกลับคืนมา และฉันก็หวังว่า เธออาจจะเปลี่ยนใจคิดกลับคืนมา อันนี้คืออันตรายมากสำหรับคนอกหัก”
        เขาไม่รู้หรอกว่า ความทุกข์ที่เกิดจากการสูญเสียความรักตรงกับคำบาลีหรือธรรมะข้อไหน แต่มันช่างเป็นจริงแน่แท้กับคำกล่าวที่ว่า “การพลัดพรากจาก สิ่งที่รักเป็นทุกข์”
        “มันจริงจนไม่รู้จะจริงอย่างไร ผมเองยังเคยเขียนถึงความรักไว้เลยว่า ‘ไม่มีความทุกข์ใดขมขื่นได้เท่าความทุกข์ที่เกิดจากความรัก’ เราทุกข์เรื่องอื่นมันไม่ค่อยขมขื่น แต่กับความรัก ทำไมมันถึงขมขื่นได้้ยาวนานเหลือเกิน”
        ทั้งวันนั้นและวันนี้ วันที่ที่คนรักถอยห่างไปจากชีวิตเขานานแล้ว เธอคนนั้นก็ยังเรียกได้ว่าเป็น ‘คนรัก’ ของเขาอยู่เสมอ การจากไปของคนรักไม่ได้นำมาซึ่งความเกลียด เขาว่า..“เรารักกันเกินกว่าจะเกลียดกัน” เพียงแค่โมงยามนี้ถึงคราวต้องยอมรับและเข้าใจในความเป็นจริงที่เกิดขึ้นเท่านั้น
        “ความรักมันไม่ได้ตรงข้ามกับความเกลียดชังเลยนะ มันไม่มีความเกลียด ชังเข้ามาเลย มันก็ยังป็นความรักนั่นแหละ แต่มันอาจจะผิดหวังที่ไม่ได้อยู่ด้วยกัน ผิดหวังที่เรายังไม่ได้เห็นอะไรบางอย่างในตัวตนของกันและกัน มันน่าเสียดายคนที่กินอาหารแบบเดียวกันได้..”
        เขาไม่เห็นด้วยกับคำกล่าวที่ว่า “ที่ใดมีรัก ที่นั่นมีทุกข์” ก่อนจะส่งเสียงปฏิเสธ
        “ไม่ ...ที่ใดมีรักที่นั่นมีสุขนะ มีทุกข์ได้ยังไง มีรักต้องมีสุข แต่วันใดที่พลัดพรากจากสิ่งที่รักเท่านั้น ที่จะเป็นทุกข์ คงจะพูดผิดแล้วล่ะ ถ้ามีทุกข์แสดงว่านั่นไม่ใช่รัก”
        ในวัยหนุ่มก่อนที่จะเผชิญหน้ากับคำว่า ‘อกหัก’ ครั้งครานั้น เขาอาจเคยตั้งคำถามกับตัวเองว่า “จะมีใครที่เราจะรักได้สักคนหนึ่งไหม” แต่วันนี้มุมมอง ที่เขามีต่อความรัก ก็คือ ถ้าชีวิตจะต้องมีคนรักสักคนที่ใช้ชีวิตอยู่ร่วมด้วย จะมีใครที่อยู่ด้วยแล้วพอดี สวยงาม คล้ายน้ำในภาชนะและมีทัศนะที่พอจะแลก เปลี่ยนกันได้ไหม
        “เราเรียนรู้ชีวิตจนพบว่า องค์ประกอบมันไม่มีสิ่งใดสมบูรณ์ มองเป็นเพียง ความพอดีและทัศนะ คนเราถ้ามันมีทัศนะที่ไม่ตรงกันนัก หมายถึงว่ามีทัศนะที่แลกเปลี่ยนกันได้ มันก็จะทำให้ชีวิตมีเนื้อหา ต่างฝ่ายต่างเรียนรู้ที่จะเข้าใจชีวิต แล้วก็มาสื่อสารกัน ไม่ว่าจะในเรื่องของศิลปะ หรือศาสตร์ความรู้อะไรก็ตามแต่ ชีวิตมันก็จะมีเนื้อหา และรู้สึกว่ามันมีความหมาย ...ถ้าจะต้องมีใครสักคน”
        ศิลปินสีน้ำทิ้งท้ายคล้ายต้องการโยนภาระให้โชคชะตาช่วยตัดสินอีกทาง
       
       (จากหนังสือพิมพ์ธรรมลีลา ฉบับที่ 75 ก.พ. 50 โดย เบญจพร)

สามารถตามไปอ่านเรื่องราวแง่คิดของความรักจากคนอื่นๆ เช่น จั๊กจั่น, โจ มณฑานี ฯ ได้ตามลิ้งค์ข้างล่างค่ะ


http://www.manager.co.th/Dhamma/viewnews.aspx?NewsID=9500000011211
บันทึกการเข้า

@@ธรรมชาติสร้างความขัดแย้ง เพื่อให้คนเรียนรู้ซึ่งกันและกันได้ดียิ่งขึ้น@@@

Mr.EggMan
Hero Cmadong Member
***


ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 1,826

« ตอบ #157 เมื่อ: 19 กุมภาพันธ์ 2550, 17:21:42 »

Cheesy  Cheesy  Cheesy

LEFT IT(SADNESS) BEHIND AND HAPPY TOGETTHER
บันทึกการเข้า

jakkreepan@hotmail.com
Love is in the A...I...R......H
BeKamon
มือใหม่หัดเมาท์
*


ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 235

« ตอบ #158 เมื่อ: 21 กุมภาพันธ์ 2550, 13:05:35 »

ชอบ 22 เหตุผลฯ ของพี่ปุ๊กจังค่ะ  พอมาอ่านแล้วก็จริงนะคะ อิอิ
บันทึกการเข้า

Something might change, but something never changes. (The Matrix Revolution)
ชาร์ป
Global Moderator
Hero Cmadong Member
*****


ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 2,119

« ตอบ #159 เมื่อ: 21 กุมภาพันธ์ 2550, 21:01:33 »

อ้างจาก: "Mr.EggMan"
Cheesy  Cheesy  Cheesy

LEFT IT(SADNESS) BEHIND AND HAPPY TOGETTHER


หรือ ปล่อยมันไปเถอะ ...

 Shocked
บันทึกการเข้า
iamfrommoon
Cmadong ชั้นเซียน
*****


ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: 2535
คณะ: พาณิชยศาสตร์และการบัญชี
กระทู้: 8,396

เว็บไซต์
« ตอบ #160 เมื่อ: 22 กุมภาพันธ์ 2550, 09:49:00 »

เพิ่งได้รับเมล์จากเพื่อน เอามาฝาก เพราะเหมาะมากกับกระทู้นี้ คนละโสดที่เคยโพสต์ไว้...หุหุ  Cool

นิยามความโสด 10 แบบ

1. คืนนี้ไม่มีดวงดาว (โสดช่างฝัน)

คนโสดประเภทนี้ชื่อก็บอกอยู่ว่าเป็นคนชอบเพ้อ ชอบฝัน ชีวิตเหมือนอยู่ในเทพนิยาย ตลอดเวลา ได้แต่เฝ้ารอคอยว่าวันหนึ่งจะมีเจ้าชาย หรือเจ้าหญิง มารับไปอยู่ในปราสาท คนโสดในกลุ่มนี้มักเป็นคนช่างเลือก และหาสิ่งที่ดีที่สุดให้กับตัวเอง   จนบางครั้ง ลืมมองไปว่าคนอื่นเขาก็อยากเลือกสิ่งที่ดีที่สุดให้ตัวเองเหมือนกัน
       
คนพวกนี้เหมาะที่จะอยู่ในโลกของความฝันมากกว่าโลกของความเป็นจริง เพราะว่าชอบคิดเข้าข้างตัวเอง เพ้อฝันไปเรื่อย ไม่มีที่สิ้นสุด คนพวกนี้เลยจัดอยู่ในจำพวกโสดช่างฝันนั่นแหละ เหมาะแล้ว

2. บ้านนี้ไม่มีแมลง (โสดซ่อนกิ๊ก)

คนโสดประเภทนี้ ต้องบอกว่าเป็นคนประเภทโสด แต่ไม่สด พวกนี้เคยมีแฟน หรือเคยมีชีวิตคู่ แล้วต้องกลับมาอยู่เป็นโสด คนโสดประเภทนี้  ถ้าเรามองด้วยตาเปล่าก็จะ เหมือนกับคนโสดธรรมดาทั่วไปแต่ถ้าเอากล้องจุลทัศน์มาส่องดูจะเห็นว่าแอบมีกิ๊กซ่อนอยู่ บอกใครก็ไม่ได้เพราะต้องครองสถานภาพโสดทางสังคมเข้าอาการน้ำท่วมปากก็เลยต้องมีคู่แบบหลบซ่อนไปเรื่อยๆ นี่หละเข้าตำรา โสดซ่อนกิ๊ก

3. ถนนที่ไร้ปลายทาง (โสดป่าเดียวกัน)

คนโสดประเภทนี้ เป็นประเภทไปหลงรักกับพวกผิดฝาผิดตัว ผิดที่ผิดทาง จะว่ากันจริงๆ ผิดเพศน่าจะตรงกว่า คนพวกนี้ก็จัดอยู่ในพวกคนที่แสนดี เพราะเป็นคนที่เสียสละมาก ไม่ว่าเขาจะเป็นยังไงก็รัก ทั้งๆ ที่รู้ว่าคนที่ไปรักถูกสาปให้ต้องเป็นแบบนี้  เปลี่ยนแปลงอะไรไม่ได้ ถึงแม้ว่าจะโค่นป่าทั้งป่า ก็คงจะเปลี่ยนให้เขากลับมาชอบเพศตรงข้ามไม่ได้ แต่คนโสดกลุ่มนี้ดูไปแล้วก็น่าอิจฉา เพราะอย่างน้อยก็ยังมีความรักหล่อเลี้ยง ทั้งๆที่รู้ว่ามันเป็นไปไม่ได้แต่ก็ยินดี เรียกได้ว่า เป็นพวกโสดไม่มีที่สิ้นสุด ดีเลิศประเสริฐแท้

4. มันเป็นเรื่องของรอยกงเกวียน (โสดภาคบังคับ)

คนโสดประเภทนี้ไม่ได้มีความอยากอยู่เป็นโสดแม้แต่น้อย แต่จำเป็นต้องอยู่เป็นโสดเพราะถูกคนที่มีอิทธิพลต่อชีวิต หรือจะเรียกว่าผู้มีพระคุณ ตั้งกฎเกณฑ์บังคับให้ต้องอยู่เป็นโสด ถึงแม้ว่าจะพยายามค้นหาและไขว่คว้า หรือจะเอาชนะอย่างไร ก็ไม่อาจจะพ้นจากความโสดได้ จนแล้วจนรอดก็ต้องถูกบังคับให้กลับมาเป็นโสด เหมือนเดิม เฮ้อช่างน่าสงสารจริงๆ

5. กว่าจะถึงเส้นแพ้ (โสดรอด้ายยยย…)
"ไม่เป็นไรรอด้ายยย" เป็นคำพูดติดปากของคนโสดกลุ่มนี้ คนพวกนี้มักพูดว่าไม่เรียกร้อง ไม่ต้องการ ยินดีที่จะมอบความรักไม่หวังผลตอบแทนและก็พร้อมที่จะเป็นแต่ผู้ให้ เพียงอย่างเดียว
จะว่ากันง่ายๆ ก็ไปรักคนที่มีเจ้าของ  แล้วก็คิดว่าวันหนึ่งเขาจะทิ้งคนรักของเขามากหาตัวเองเพราะความดีที่ทำให้จึงได้แต่พร่ำว่า รอได้ รอได้ มันก็เลยต้องอยู่เป็นโสดเพราะว่ายังไง ก็…รอได้ ไม่ว่าจะนานแค่ไหนก็ตาม  แต่่ถ้ามี ความสุขล่ะก็เอาเห๊อะ

6. คนรักช้าง (ทำเป็นโสด)

คนโสดพวกนี้มักจะบอกกับใครๆ ว่าตัวเองโสดอยู่ตลอดเวลา (ทั้งๆ ที่จริงๆ ไม่โสด) อันนี้จะคล้ายๆ กับโสดซ่อนกิ๊ก และก็แฉลบไปโดนกับโสดภาคบังคับอยู่นิดหน่อย เพียงแต่ว่าที่เขาทำก็ด้วยหน้าที่ ทำให้ต้องอยู่เป็นโสด คนพวกนี้จัดเป็นคนโสดเฉพาะกลุ่มสักหน่อย เพราะจะเป็นคนที่จัดอยู่ในประเภทคนของประชาชน มีคนมามอบความรักมากมายแต่ว่าไม่สามารถมีคนรักเป็นของตนเองได้เพราะกลัวว่าตัวเองจะไม่เป็นที่ยอมรับ และก็ต้องมาทำเป็น โสด นี่แหละ เหนื่อยหน่อยนะแต่ถ้าชอบก็เอา

7. แต่งกับความโสด (โสดตัวกินไข่ โสดปลาไหลกินน้ำแกง)      

คนโสดประเภทนี้มักมีพฤติกรรมที่เกลียดเพศตรงข้ามจนออกหน้าออกตา อาจจะด้วยอยู่มานานแล้วไม่มีใครสนใจสักที   เลยทำเป็นเกลียด ขยะแขยง จริง ๆ แล้วกลัวเสียฟอร์ม หรือไม่ก็อยากมี…แต่ก็กลัวหรือคิดอีกที อาจจะเคยผิดหวังอย่างแรงทำให้เกลียดเพศตรงข้ามไปเลย แต่ในใจลึกๆ ของคนโสดประเภทนี้ อยากมีคู่มากที่สุด  แต่ก็แสดงออกมาในทางตรงกันข้าม เข้าตำรา โบราณที่ว่า เกลียดตัวกินไข่ เกลียดปลาไหล กินน้ำแกง เลยต้องอยู่แบบ โสดตัวกินไข่ เพราะคนที่จะเข้ามาก็กลัวคนพวกนี้เหมือนกัน เป็นไงหละเลยโสดเลยเห็นมั้ย (บอกแล้ว)

8. เหมือนดอกไม้ (โสดเสเพลย์ (โสดสราณรมณ์))

คนพวกนี้มักจะรักอิสระ ตามหาความรักและตัวตนไปเรื่อยๆ ไม่ชอบการผูกมัด ยึดติดไม่ยอมลงเอยกับใคร และไม่อยากผูกพันธ์ คนพวกนี้ถือว่าความรักกับเซ็กส์เป็นเรื่องเดียวกัน ก็เลยค้นหาไปเรื่อยๆ จนกว่าจะเจอกับคนที่เข้ากันได้จริงๆ แต่คนพวก นี้คงจะลืมไปว่า ไม่มีใครที่จะสมบูรณ์พร้อมไปซะทุกอย่าง มัวแต่ค้น   และหาไปเรื่อย ๆ ถ้าไม่เจอก็อยู่โสดซะดีกว่า จะว่าไปคนโสดพวกนี้ ก็มีความสุขดีที่จะอยู่เป็นโสดนะ  เลือกไปเรื่อยเลย

9. ข้าวฟ่างอินเตอร์เน็ต (โสดไม้ไส้ระกำ)

คนโสดพวกนี้ เป็นพวกไม่มีหัวจิต หัวใจ ไม่เคยรักใครนอกจากตัวเอง คนพวกนี้บางทีก็บริหารเสน่ห์ ให้คนมารัก ทั้งที่ตัวเองไม่ได้คิดอะไร ไม่เรียกว่าใจไม้ ใจหิน   ก็ไม่รู้จะเรียกว่าอะไรดี ส่วนใหญ่คนโสดพวกนี้จะมีหน้าตาเป็นอาวุธ ใครเผลอไปรักเข้าก็ต้องมานั่งเศร้า  ตกอยู่ในสภาวะโสดช้ำระกำใจ  เพราะไปรักคนที่ไม่มีหัวใจ นี่แหละพวกโสดไม้ไส้ระกำ

10. ยากยิ่งสิ่งเดียว (โสดปอด ปอด)

คนโสดพวกนี้มักจะหลงรักเพื่อนตัวเอง แต่ว่าไม่กล้าบอกเพราะกลัวว่าจะเสียความเป็นเพื่อนไป เอาแต่ลังเล จดๆ จ้องๆ ไม่กล้าอยู่นั่นแหละ ได้แต่แอบรัก แอบมอง แอบหวังดี แถมไล่ให้ไปรักคนอื่นก็ไม่ไป จะให้พูดก็ไม่ยอมเหมือนกัน กลัวไปหมด เฮ้อ! ใจปลาซิวแท้ ๆ แบบนี้ไง ถึงได้เรียกว่าโสด ปอด ปอด



ก๊ากกกกกกกกกกกกกกกกก   :lol:  :lol:  :lol:

ปล.กำลังเช็คตัวเองว่า "โสดแบบไหนเนี่ย" หุหุ :lol:  Cool  :lol:
บันทึกการเข้า

@@ธรรมชาติสร้างความขัดแย้ง เพื่อให้คนเรียนรู้ซึ่งกันและกันได้ดียิ่งขึ้น@@@

A79
บุคคลทั่วไป
« ตอบ #161 เมื่อ: 22 กุมภาพันธ์ 2550, 10:19:18 »

พี่ปุ๊กกี้ ไหนพี่ปิ้งบอกจะหานายตำรวจยศนายพันให้ไง ผ่านมาเดือนกว่าแล้ว ยังไม่ได้อีกเหรอคะ อิอิอิ
บันทึกการเข้า
ลูกพิ้ง
Hero Cmadong Member
***


ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 1,287

« ตอบ #162 เมื่อ: 23 กุมภาพันธ์ 2550, 14:26:52 »

อ้างจาก: "iamfrommoon"
เพิ่งได้รับเมล์จากเพื่อน เอามาฝาก เพราะเหมาะมากกับกระทู้นี้ คนละโสดที่เคยโพสต์ไว้...หุหุ  Cool

นิยามความโสด 10 แบบ

1. คืนนี้ไม่มีดวงดาว (โสดช่างฝัน)

2. บ้านนี้ไม่มีแมลง (โสดซ่อนกิ๊ก)


3. ถนนที่ไร้ปลายทาง (โสดป่าเดียวกัน)

4. มันเป็นเรื่องของรอยกงเกวียน (โสดภาคบังคับ)

5. กว่าจะถึงเส้นแพ้ (โสดรอด้ายยยย…)

6. คนรักช้าง (ทำเป็นโสด)


7. แต่งกับความโสด (โสดตัวกินไข่ โสดปลาไหลกินน้ำแกง)      



8. เหมือนดอกไม้ (โสดเสเพลย์ (โสดสราณรมณ์))


9. ข้าวฟ่างอินเตอร์เน็ต (โสดไม้ไส้ระกำ)

10. ยากยิ่งสิ่งเดียว (โสดปอด ปอด)



ปล.กำลังเช็คตัวเองว่า "โสดแบบไหนเนี่ย" หุหุ :lol:  Cool  :lol:


 :shock: พี่ปุ๊กค่ะ

คำนิยามความโสด 10 แบบนี้....มันขยายความ...มาจากนวนิยาย...

เรื่อง....โสดสโมสร...ของนักประพันธ์ที่ชื่อ...ว.วินิจฉัยกุล....นี่คะ...

นวนิยายเรื่องนี้เคยสร้างเป็นละคร....ทางไทยทีวีสีช่อง  3

มีน๊อต-วรฤทธิ์  แสดงเป็นพระเอก  ชื่อ  แจ้น...ส่วนตัวนางเอก..ชื่อ  ข้าวฟ่าง..แองจี้..เฮสติ้ง
เป็นแสดงนำ

ส่วนในแต่ละตอนมีดารามาเปลี่ยนกันไป.....เค้าเลือกนักแสดงมาได้ดีทีเดียว

ยังไงลองไปหานวนิยายเรื่องนี้...มาอ่านดูนะค่ะ...สนุกดี...

มีอีกเนวนิยายอีกเรื่องที่ให้มุมมองของคนโสด....ชื่อ  แหวนดอกไม้...ของดวงตะวัน

เร็วๆ   นี้...จะเป็นละครทางช่อง  3...ดูเหมือนว่าเข็ม-รุจิรา...กับ  ก้อง  สหรัถ...เป็นตัวแสดงนำค่ะ

 :wink:
บันทึกการเข้า
หลิม 81
Cmadong พันธุ์แท้
****


ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 2,840

« ตอบ #163 เมื่อ: 23 กุมภาพันธ์ 2550, 14:47:44 »

รู้เยอะจริงน๊ะ พี่แอน..

รักการอ่านเสียจริง


 Cheesy
บันทึกการเข้า

@ ปีนี้ปีของผม @
iamfrommoon
Cmadong ชั้นเซียน
*****


ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: 2535
คณะ: พาณิชยศาสตร์และการบัญชี
กระทู้: 8,396

เว็บไซต์
« ตอบ #164 เมื่อ: 23 กุมภาพันธ์ 2550, 14:50:14 »

อ้างจาก: "ลูกพิ้ง"
:shock: พี่ปุ๊กค่ะ

คำนิยามความโสด 10 แบบนี้....มันขยายความ...มาจากนวนิยาย...

เรื่อง....โสดสโมสร...ของนักประพันธ์ที่ชื่อ...ว.วินิจฉัยกุล....นี่คะ...

นวนิยายเรื่องนี้เคยสร้างเป็นละคร....ทางไทยทีวีสีช่อง  3

มีน๊อต-วรฤทธิ์  แสดงเป็นพระเอก  ชื่อ  แจ้น...ส่วนตัวนางเอก..ชื่อ  ข้าวฟ่าง..แองจี้..เฮสติ้ง
เป็นแสดงนำ

ส่วนในแต่ละตอนมีดารามาเปลี่ยนกันไป.....เค้าเลือกนักแสดงมาได้ดีทีเดียว

ยังไงลองไปหานวนิยายเรื่องนี้...มาอ่านดูนะค่ะ...สนุกดี...

 :wink:


โอ้ ว้าวววววววววววว คิดว่า เคยได้ดูแล้วหล่ะ "โสดสโมสร" จำได้แล้วค่ะ...แต่เดี๋ยวจะหามาอ่านดีกว่า เพราะละครหากนำมาสร้าง ส่วนใหญ่อ่านหนังสือจะได้อรรถรสและความสนุกมากกว่า

Thank u very much ja..  :wink:
บันทึกการเข้า

@@ธรรมชาติสร้างความขัดแย้ง เพื่อให้คนเรียนรู้ซึ่งกันและกันได้ดียิ่งขึ้น@@@

iamfrommoon
Cmadong ชั้นเซียน
*****


ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: 2535
คณะ: พาณิชยศาสตร์และการบัญชี
กระทู้: 8,396

เว็บไซต์
« ตอบ #165 เมื่อ: 07 มีนาคม 2550, 07:59:37 »

อ้างจาก: "A79"
พี่ปุ๊กกี้ ไหนพี่ปิ้งบอกจะหานายตำรวจยศนายพันให้ไง ผ่านมาเดือนกว่าแล้ว ยังไม่ได้อีกเหรอคะ อิอิอิ


เมื่อวานได้มีโอกาสคุยกับพี่ปิ้ง...หุหุ แห๊มนึกว่า ลืมซะแล้ว ที่แท้ก็ต้อง screen ให้น้องก่อน...เอาเป็นว่า ลุ้นดีกว่าเนอะจะหน้าตาเป็นไง ขออย่างเดียว อย่าเป็นเกย์ละกัน...ฮา  :lol:

 :lol:  Cool  :lol:
บันทึกการเข้า

@@ธรรมชาติสร้างความขัดแย้ง เพื่อให้คนเรียนรู้ซึ่งกันและกันได้ดียิ่งขึ้น@@@

Aj.O
Cmadong Member
Hero Cmadong Member
****


ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 1,241

« ตอบ #166 เมื่อ: 17 มีนาคม 2550, 22:58:34 »

อ้างจาก: "iamfrommoon"


10. ยากยิ่งสิ่งเดียว (โสดปอด ปอด)

คนโสดพวกนี้มักจะหลงรักเพื่อนตัวเอง แต่ว่าไม่กล้าบอกเพราะกลัวว่าจะเสียความเป็นเพื่อนไป เอาแต่ลังเล จดๆ จ้องๆ ไม่กล้าอยู่นั่นแหละ ได้แต่แอบรัก แอบมอง แอบหวังดี แถมไล่ให้ไปรักคนอื่นก็ไม่ไป จะให้พูดก็ไม่ยอมเหมือนกัน กลัวไปหมด เฮ้อ! ใจปลาซิวแท้ ๆ แบบนี้ไง ถึงได้เรียกว่าโสด ปอด ปอด


ก๊ากกกกกกกกกกกกกกกกก   :lol:  :lol:  :lol:

ปล.กำลังเช็คตัวเองว่า "โสดแบบไหนเนี่ย" หุหุ :lol:  Cool  :lol:


อืมม์..มีส่วนเข้าข่ายข้อนี้...คนที่ผมมักคิดถึง หรือแอบหลงไหลได้ปลื้ม มักเป็นคนรู้จักสมัยมัธยม หรือไม่ก็มหาลัยอ่ะ แต่ไม่เคยรู้สึกหลงไหลกับพวกที่มารู้จักกันที่ที่ทำงานเลย :|
บันทึกการเข้า

...
iamfrommoon
Cmadong ชั้นเซียน
*****


ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: 2535
คณะ: พาณิชยศาสตร์และการบัญชี
กระทู้: 8,396

เว็บไซต์
« ตอบ #167 เมื่อ: 27 มีนาคม 2550, 18:25:44 »

อ้างจาก: "Aj.O"
อ้างจาก: "iamfrommoon"


10. ยากยิ่งสิ่งเดียว (โสดปอด ปอด)

คนโสดพวกนี้มักจะหลงรักเพื่อนตัวเอง แต่ว่าไม่กล้าบอกเพราะกลัวว่าจะเสียความเป็นเพื่อนไป เอาแต่ลังเล จดๆ จ้องๆ ไม่กล้าอยู่นั่นแหละ ได้แต่แอบรัก แอบมอง แอบหวังดี แถมไล่ให้ไปรักคนอื่นก็ไม่ไป จะให้พูดก็ไม่ยอมเหมือนกัน กลัวไปหมด เฮ้อ! ใจปลาซิวแท้ ๆ แบบนี้ไง ถึงได้เรียกว่าโสด ปอด ปอด


ก๊ากกกกกกกกกกกกกกกกก   :lol:  :lol:  :lol:

ปล.กำลังเช็คตัวเองว่า "โสดแบบไหนเนี่ย" หุหุ :lol:  Cool  :lol:


อืมม์..มีส่วนเข้าข่ายข้อนี้...คนที่ผมมักคิดถึง หรือแอบหลงไหลได้ปลื้ม มักเป็นคนรู้จักสมัยมัธยม หรือไม่ก็มหาลัยอ่ะ แต่ไม่เคยรู้สึกหลงไหลกับพวกที่มารู้จักกันที่ที่ทำงานเลย :|


แอบรัก ก็ยังดีที่ได้รู้จักคำว่า "รัก"...ว่าแต่ว่า อีกนานมั้ยจะหาย ปอด ปอด... :wink:
บันทึกการเข้า

@@ธรรมชาติสร้างความขัดแย้ง เพื่อให้คนเรียนรู้ซึ่งกันและกันได้ดียิ่งขึ้น@@@

iamfrommoon
Cmadong ชั้นเซียน
*****


ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: 2535
คณะ: พาณิชยศาสตร์และการบัญชี
กระทู้: 8,396

เว็บไซต์
« ตอบ #168 เมื่อ: 27 มีนาคม 2550, 18:27:55 »

น้อง A79

มีข่าวมาบอก...เมื่อคืนเจอพี่ปิ้ง ก็เลย remind อีกรอบว่า พี่ดำเนินการในฐานะ ศ.พล.ต.ต. ดร. ถึงไหนแล้ว...พี่ปิ้งบอกว่า น้องปุ๊กกี้รอให้เขาจบป.โทก่อนนะ คนนี้ confirm เหอเหอ...อย่างนี้พี่ต้องเตรียมตัวเป็น "คุณนาย" ไปก่อนได้เลยมั้งเนี่ย (ว่าไปนั่น)


 :lol:  Cool  :lol:
บันทึกการเข้า

@@ธรรมชาติสร้างความขัดแย้ง เพื่อให้คนเรียนรู้ซึ่งกันและกันได้ดียิ่งขึ้น@@@

A79
บุคคลทั่วไป
« ตอบ #169 เมื่อ: 27 มีนาคม 2550, 20:25:32 »

ยินดีด้วยพี่ปุ๊ก....มาช่วยลุ้น บอกพี่ปิ้งว่า เอารูปมาให้เลือกเลยดีกว่า หน้าตาผ่านแล้วค่อยดู profile ทีหลัง  :lol:  :lol:  :lol:
บันทึกการเข้า
iamfrommoon
Cmadong ชั้นเซียน
*****


ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: 2535
คณะ: พาณิชยศาสตร์และการบัญชี
กระทู้: 8,396

เว็บไซต์
« ตอบ #170 เมื่อ: 21 พฤษภาคม 2550, 17:59:15 »

เมื่อวานกะจะนอนดู VCD ที่เช่ามา ๓ เรื่องรวด...เพราะภาคต่อกำลังจะมาแย้ว...เด๋วดูไม่รู้เรื่อง หุหุ คงเดากันได้...ดูได้แค่เรื่องเดียวก็มีเสียงโทร.มา...ตอนนี้ผมอยู่กท.แล้วนะ เมื่อวานก่อนขึ้นเครื่องพยายามโทร.หาปุ๊กตั้งหลายครั้ง ไม่เห็นรับสาย...

ไอ้เราก็เอ๊ะ...งง ฉานนนนนนนนจำผิดเดือนหรือเนี่ย ไหนบอกจะกลับมาเดือนก.ค. เราก็ป่าวประกาศกับทุกคนว่า กลับมาเดือนก.ค. ตายๆ แล้วก็รีบลุกจากเตียงแต่งตัว จรลีขับรถไปต้อนรับและดูแลตั้งแต่บ่ายๆ...งานนี้รวมพลคนรักคุณทั้งเพื่อนและอดีตกัน ๗ คน หุหุ...มีอดีต ๑, ๒ และปัจจุบันที่ไม่บอกใครๆ แต่บอกฉันตั้งแต่โทร.มาบอกก่อน..ไอ้เรารึไปถึงก็ป๊ะอดีตที่ยังคงครองตัวเป็นโสด ฮ่าๆ..เอาล่ะหว่าเราเป็นเพื่อนสนิท ที่ก่อนนี้เคย poppy love กันนานมาแล้ว...รู้แต่ว่า ทุกวันนี้คุณไม่เคยลืมวันสำคัญอะไรสักวัน จัดฟันยังส่งตุ๊กตาหลายพันมาให้อยู่เป็นเพื่อน เออนะ เข้าใจหาให้...แต่เราคงคบกันแค่เพื่อนที่ยังรักและห่วงใยกันและกันตลอด...

ขำแต่ตอนที่มาถึง update ข้อมูลสาวๆ เขาทุกคน คนอะไร้กลับมาทีไรต้องเปลี่ยนคนทุกทีสิน่า...เอามันเข้าไปพ่อคนเจ้าชู้...เพื่อนอีกคนกำลังคุยได้อรรถรส ก็ถามสารทุกข์สุกดิบ ก็หลุดปาก เอ้ย!! แล้วคนที่มาด้วยล่ะ อะนะ...เอามือหยิกแทบไม่ทัน...ก็ได้แต่มองตาและรู้กัน เฮ้อ...ไอ้ความโสดนี่มันไม่เข้าใครออกใคร ตราบที่ยังไม่ตกลงปลงใจแต่งกับใครสักคน...

ได้ของฝากเพียบ...นั่งคุยกันจนเกือบตี ๓ ให้มันได้อย่างนี้สิ...ทำไปได้ไงเนี่ย ฉันบ้าแน่ๆ นั่งเฝ้าคนกินเบียร์ แถมเพื่อนสนิทอีกคนเถียงกัน หน้าดำแดงเชียวเกี่ยวกับการใช้ชีวิตที่เมืองนอกกับเมืองไทย...ตายๆ ไอ้เราก็ได้แต่มองหน้าอดีต ๑ และ ๒...แล้วเรา ๓ คนก็ชนแก้ว (น้ำเปล่า) กันเอง ลดอุณหภูมิความร้อนลง...

เอาเป็นว่า ขอให้เจ้าพระคู๊ณตกลงปลงใจกับใครสักทีเหอะ มันเดือดร้อนคนที่คุณยังรู้สึกดีๆ อยู่ที่ต้องคอยเคลียร์และช่วยให้คุณรอดพ้นจากการน้อยอก น้อยใจกับอดีต ๑ และ ๒ ได้

โอ้ย...ฉันจะบ้าตาย แอบมาบ่นในเว็บ "แด่ความโสด ไม่เคยเดียวดาย และเหงาใจ" ของคุณ ฮ่าๆๆ..


 :lol:  Cool  :lol:

 :lol:  Cool  :lol:
บันทึกการเข้า

@@ธรรมชาติสร้างความขัดแย้ง เพื่อให้คนเรียนรู้ซึ่งกันและกันได้ดียิ่งขึ้น@@@

Max
Hero Cmadong Member
***

ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 1,435

« ตอบ #171 เมื่อ: 21 พฤษภาคม 2550, 18:45:13 »

บางที ถ้ามันใช่ มันก็คงลงตัวกันไปนานแล้วอ่ะครับ

คงยังมีอะไรบางอย่างที่รับยังรับไม่ได้มังครับ

ถึงยังไม่ข้ามเส้นเพื่อนสนิท น่ะครับ  :wink:


อย่างคนเจ้าชู้เนี่ย ผมว่า น่าสงสารนะครับ  คือ เค้ายังไม่เจอคนที่เค้ารักมากๆๆๆๆๆ

ที่สุดเท่านั้นเองครับ  ที่พร้อมจะทำทุกอย่างให้ได้ครับเค้าก็เลยหาไปเรื่อยๆ

ซึ่งได้แต่เจอคนที่รู้สึกดีเท่านั้นเองครับ
บันทึกการเข้า
BeKamon
มือใหม่หัดเมาท์
*


ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 235

« ตอบ #172 เมื่อ: 21 พฤษภาคม 2550, 19:39:22 »

Max

แล้วคนที่เจ้าชู้เนี่ย จะเจ้าชู้ไปตลอดเลยมั้ย ถ้าเจอคนที่รักจริงๆ จะหายเจ้าชู้มั้ยอะ สงสัยอะ :shock:
บันทึกการเข้า

Something might change, but something never changes. (The Matrix Revolution)
iamfrommoon
Cmadong ชั้นเซียน
*****


ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: 2535
คณะ: พาณิชยศาสตร์และการบัญชี
กระทู้: 8,396

เว็บไซต์
« ตอบ #173 เมื่อ: 21 พฤษภาคม 2550, 23:17:39 »

Max ครับ...
จริงแบบ Max ว่านะ น่าสงสารและน่าเห็นใจ (เอ๊ะมันคงไม่ได้หมายถึงพี่ด้วยนะ พี่รักเดียวใจเดียวแต่ซอยเป็นหลายแฉกหน่อยน่ะ คนมีเสน่ห์ก็งี้ ฮ่าๆ)...เพราะหลายๆ คนที่เขาเคยคบมีบางคนที่คบได้หลายปีนะ แต่สุดท้ายก็ไม่รอด แล้วไอ้ที่แปล๊ก แปลก หรือปกติของหนุ่มๆ นะ พออายุมากขึ้น กลับชอบคนที่เด็กกว่ามากหน่อย

แล้วกลับมาคราวนี้ ถามว่า ตกลงนี่โอเคมั้ย คนที่เคยรู้จักเมื่อ ๗ ปีที่แล้ว (ก่อนคุยเรื่องคนปัจจุบันนี้ที่อายุ ๒๙) ก็บอกว่า ปุ๊ก ผมอยากบอกว่า คบเด็กนี่ผมต้องเอาใจมากกว่าที่เขาจะเอาใจ และบางทีความคิดมันไม่สามารถทันกันได้ แต่คนนี้เขาสามารถทำให้ผมเป็นตัวของตัวเองได้ ทำให้ผมเป็นธรรมชาิติ สามารถแสดงอารมณ์ ความรู้สึกได้มากกว่าคบกับเด็กที่อายุห่างกันเยอะๆ พอผมอายุมันมากขึ้น มันต้องการคนที่เ้ข้าใจเรามากกว่าที่เราต้องเข้าใจเขาไปซะทุกเรื่อง (ไงล่ะ ฉันบอกพร้อมยักคิ้ว ฉันกะแล้ว ฮ่า) แล้วก็ลงท้ายว่า "ว่าแต่ว่าปุ๊กเปลี่ยนใจเมื่อไหร่ บอกนะ ผมพร้อมเสมอ" เออ เอากับเขาสิ...ฉันอยากจะเอาเหล้ายัดปากสัก ๑๐ อึ๊ก ฮาจริงๆ เล้ย...

หวังอีกครั้งว่า คราวนี้หนุ่มเจ้าสำราญคนนี้จะลงเอยกับใครสักคนซักที...มันเยอะแล้วนะเนี่ย แต่อย่างหนึ่งที่ได้สัมผัสกับตัวเองคือ ไม่สงสัยแล้วว่า ทำไมผู้ชายหลายคนถึงแ่ต่งงานอายุเยอะ กระจ่างจากคนนี้สุดๆ  :wink:

 


 :lol:  Cool  :lol:
บันทึกการเข้า

@@ธรรมชาติสร้างความขัดแย้ง เพื่อให้คนเรียนรู้ซึ่งกันและกันได้ดียิ่งขึ้น@@@

Max
Hero Cmadong Member
***

ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 1,435

« ตอบ #174 เมื่อ: 22 พฤษภาคม 2550, 10:25:08 »

อ้างจาก: "BeKamon"
Max

แล้วคนที่เจ้าชู้เนี่ย จะเจ้าชู้ไปตลอดเลยมั้ย ถ้าเจอคนที่รักจริงๆ จะหายเจ้าชู้มั้ยอะ สงสัยอะ :shock:



คือส่วนตัวคิดว่าถ้าใช่คนที่ใช่ หรือว่าแต่งงานแล้ว แล้วก็มีสติ+ความคิดรักลูกรักเมียพอน่ะ
บันทึกการเข้า
  หน้า: 1 ... 5 6 [7] 8 9 ... 12  ทั้งหมด   ขึ้นบน
  
กระโดดไป:  

     

สมาคมนิสิตเก่าหอพักนิสิต จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย มวลสมาชิกสมาคม คณาจารย์ และนิสิตเก่าทุกคน ขอน้อมเกล้าถวายความอาลัย  พระผู้เสด็จสู่สวรรคาลัย ด้วยเกล้าด้วยกระหม่อม ขอเดชะ <;))))><