28 เมษายน 2567, 13:35:27
ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน


เข้าสู่ระบบด้วยชื่อผู้ใช้ รหัสผ่าน [สมาชิกเก่าลืมรหัส โทร 081-7611760]
A A A A  ระเบียบปฎิบัติ
   
Languages    
  หน้า: [1]   ลงล่าง
ผู้เขียน หัวข้อ: ประเทศลาวและกัมพูชา ชี้ไทยควรมี 3จี ได้แล้ว มิเช่นนั้นจะทำไทยล้าหลัง !!  (อ่าน 8113 ครั้ง)
0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
ดร.มนตรี
Cmadong พันธุ์แท้
****


ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 2,540

« เมื่อ: 03 พฤศจิกายน 2553, 15:46:04 »

ลาว-กัมพูชาแนะไทยรีบมี 3G  เหนื่อย

ประเทศลาวและกัมพูชา ชี้ไทยควรมี 3จี ได้แล้ว มิเช่นนั้นจะทำไทยล้าหลัง เพราะทั่วโลกมีระบบดังกล่าวกันหมดแล้ว
 เหอๆๆ นายทันสมัย กมมสิทธิ์ ผู้อำนวยการทั่วไป บริษัท ลาว เทเลคอมมูนิเคชั่น ผู้ให้บริการโทรศัพท์เคลื่อนที่ระบบ 3จี รายแรกของประเทศลาว เผยว่า ถึงเวลาที่ประเทศไทยจะต้องมีเทคโนโลยี 3จี ได้แล้ว เพราะขณะนี้ทั่วโลกมีหมดแล้ว แม้กระทั่งประเทศลาวที่มีผู้ใช้โทรศัพท์มือถือเพียง 58% ของจำนวนประชากร 7 ล้านคน ก็ยังเปิดบริการ 3จี มา 2 ปีแล้ว

ทั้งนี้หลังเปิดให้บริการ 3จี พบว่า เทคโนโลยีนี้เป็นปัจจัยสำคัญหนึ่งที่จะช่วยดึงเม็ดเงินลงทุนจากต่างชาติเข้าประเทศได้มากขึ้น เพราะการสื่อสารข้อมูล หรือ ดาตา จำเป็นมากในการติดต่อธุรกิจ รวมทั้งช่วยให้กลุ่มคนรุ่นใหม่เข้าถึงอินเทอร์เน็ตได้มากขึ้นด้วย

สำหรับลาว เทเลคอม นั้นรัฐบาลลาวถือหุ้น 51% และไทยคม กลุ่มชิน คอร์ปอเรชั่น ถือหุ้น 49% ปัจจุบันมีฐานลูกค้า 1.4 ล้านราย หรือมีส่วนแบ่งตลาด 52% จากผู้ให้บริการที่มีอยู่ 4 ราย และมีฐานลูกค้า 3 หมื่นราย คาดว่าสิ้นปีจะมีลูกค้า 3จี เพิ่มขึ้นเป็น 1 แสนราย มีรายได้รวม 140 ล้านเหรียญสหรัฐ โดยการให้บริการ 3จี เสียค่าธรรมเนียมให้รัฐบาลปีละ 2 ล้านเหรียญสหรัฐ

นายอดิศัย สุนทรรัตนารักษ์ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท เอ็มโฟน ผู้ให้บริการมือถือประเทศกัมพูชา กล่าวว่า ระบบ 3จี จะทำให้การแข่งขันในตลาดมือถือเปลี่ยนสู่เรื่องของคอนเทนต์มากขึ้น แทนที่จะแข่งขันแต่เรื่องราคาเหมือนที่ไทยเป็นอยู่ ซึ่งไม่ทำให้ตลาดก้าวไปข้างหน้า

ปัจจุบันเอ็มโฟนมีฐานลูกค้า 8 แสนราย ครองส่วนแบ่งอันดับ 3 รองจากโมบิเทล และเวียตเทล จากผู้ให้บริการ 9 ราย มีผู้ใช้มือถือทั้งหมด 3.5 ล้านราย และมีประชากร 15 ล้านราย

ด้านนายสมชัย เลิศสุทธิวงศ์ รองกรรมการผู้อำนวยการ สายงานการตลาด บริษัท แอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส หรือ เอไอเอส กล่าวว่า เอไอเอสได้ร่วมมือกับลาว เทเลคอม และเอ็มโฟน เปิดซิมฝั่งโขง มุ่งเจาะกลุ่มลูกค้าภาคอีสานโดยเฉพาะ ซึ่งเป็นหนึ่งในกลยุทธ์การทำตลาดแบบเซ็กเมนเตชันและเน้นความร่วมมือกับพันธมิตร และเพื่อเพิ่มยอดลูกค้าในต่างจังหวัดให้มากขึ้น

Source : posttoday.com  
6 กันยายน 2553 เวลา 14:18 น.  
      บันทึกการเข้า
ดร.มนตรี
Cmadong พันธุ์แท้
****


ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 2,540

« ตอบ #1 เมื่อ: 03 พฤศจิกายน 2553, 15:50:28 »

อ่านชื่อ นายทันสมัย แล้ว อมยิ้มเลย ครับ ... ทันสมัยสมชื่อ ... เอามาแบ่งปันกัน อ่านแบบ ขำขำ นะครับ ^_^





      บันทึกการเข้า
เหยง 16
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: rcu2516
คณะ: เภสัชศาสตร์ 2516
กระทู้: 23,533

« ตอบ #2 เมื่อ: 03 พฤศจิกายน 2553, 15:50:33 »

ขอบคุณ ดร.มนตรี

ที่นำข่าวสารมาบอก แม้กระทั่ง ลาว และ เขมร ก็ยังห่วงว่า ไทย จะล้าหลัง
อะไรจะเกิด มันก็ต้องเกิด เพียงแต่ กสทช. มันไม่ยอมเกิดนี่สิ เพราะอะไร ??
      บันทึกการเข้า
ดร.มนตรี
Cmadong พันธุ์แท้
****


ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 2,540

« ตอบ #3 เมื่อ: 03 พฤศจิกายน 2553, 15:58:03 »

อ้างถึง
ข้อความของ เหยง 16 เมื่อ 03 พฤศจิกายน 2553, 15:50:33
ขอบคุณ ดร.มนตรี

ที่นำข่าวสารมาบอก แม้กระทั่ง ลาว และ เขมร ก็ยังห่วงว่า ไทย จะล้าหลัง
อะไรจะเกิด มันก็ต้องเกิด เพียงแต่ กสทช. มันไม่ยอมเกิดนี่สิ เพราะอะไร ??

สวัสดีครับ พี่เหยง ...

สำหรับ กสทช. จะนำเรียนในลำดับต่อไป ครับ

งานนี้ต้องใช้ วิธีเจริญสติ ของพี่สิงห์ ท่าน ... จะได้ไม่เครียด ...

กับไทยแลนด์ ยุครัฐบาล NATO - No Action Talk Only ที่รักของเรา ^_^

      บันทึกการเข้า
ดร.มนตรี
Cmadong พันธุ์แท้
****


ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 2,540

« ตอบ #4 เมื่อ: 03 พฤศจิกายน 2553, 16:12:54 »

สำหรับ 3G ในลาว ... เริ่มมีให้บริการตั้งแต่ปลายปี 2008 ... ถ้าถึงปีนี้ก็ 2 ปี พอดีๆ และลาวกำลังจะ Upgrade ระบบจาก 3G เป็น 4G เร็วๆ นี้หลังจากที่ สหพันธ์การสื่อสารสากล (ITU) ประกาศมาตรฐาน 4G เมื่อ 22 ต.ค. 53 ที่ผ่านมา เช่นเดียวกับเวียดนามและอีกหลายประเทศในเอเซียเราที่ ก้าวเข้าสู่ 4G เช่นกัน

โดยมาเลเซียจะสามารถเปิดให้บริการ 4G ได้ในวันที่ 18 พ.ย. 53 นี้ ...  

ดังนั้น ไม่ต้องถามถึงประเทศที่พัฒนาแล้วในเอเซีย ทั้ง ญี่ปุ่น และเกาหลี ... ย่อมเข้าสู่ 4G อย่างแน่นอนภายในปีนี้ ...


----------------

http://www.telecomjournal.net/index.php?option=com_content&task=view&id=1252&Itemid=43

รัฐวิสาหกิจประสม ลาว โทรคมนาคม (ลาว โทรคม) ( Lao Telecommunications Co., Ltd.) ผู้ให้บริการด้านโทรคมนาคมแบบครบวงจร ใน สปป ลาว เปิดตัวการให้บริการเครือข่ายมือถือ 3G ใน สสป ลาว อย่างเป็นทางการ เมื่อเร็วๆนี้  โดย มี ฯพณฯ พลโท ดวงใจ พิจิตร รองนายกรัฐมนตรี, รัฐมนตรีกระทรวงป้องกันประเทศ, ผู้ชีนำด้านไปรษณีย์ โทรคมนาคม และประธานคณะกรรมการคุ้มครอง อินเทอร์เน็ตแห่งชาติ เป็นประธานเปิดงาน                  สำหรับระบบโทรศัพท์มือถือ 3G ที่ ลาว โทรคม นำมาให้บริการนี้ จะช่วยอำนวยความสะดวกในการใช้โทรศัพท์แก่ผู้ใช้บริการ มีความต้องการหลากหลาย ทั้งยังสะดวก รวดเร็ว และสามารถใช้งานได้ตลอดเวลาผ่านโทรศัพท์มือถือเพียงเครื่องเดียว ซึ่งผู้ใช้บริการสามารถใช้บริการต่างๆ บนเครือข่าย 3G ได้ดังนี้ Voice Call Video Call อินเทอร์เน็ต การดาวน์โหลดข้อมูลมัลติมีเดีย/ เกม JAVA MMS/SMS และดูหนังฟังเพลงแบบ Streaming

                  ลูกค่ากลุ่มเป้าหมาย 3G ที่ ลาว โทรคม คือ กลุ่มคนวัยหนุ่มสาว คนรุ่นใหม่ และนักธุรกิจ ที่มีไลฟ์สไตล์ชอบความทันสมัย มีความโดดเด่น มีเอกลักษณ์เฉพาะตัว และต้องการข้อมูลข่าวสาร เพื่อการตัดสินใจที่ถูกต้องแม่นยำ รวมทั้ง ต้องการติดต่อสื่อสารที่สามารถทำได้ตลอดเวลา

                  สำหรับพื้นที่ให้บริการของเครือข่าย ลาว โทรคม 3G ในระยะแรกนี้ จะครอบคลุมพื้นที่นครหลวงเวียงจันทน์ทั้งหมด และจะขยายพื้นที่ให้บริการไปยังต่างจังหวัดในต้นปี 2552  สำหรับพื้นที่ในต่างจังหวัดปัจจุบัน ลาวโทรคมให้บริการ EDGE และ GPRS ทั่วประเทศ
                  ลาว เทเลคอมมิวนิเคชั่นส จำกัด หรือ ลาว โทรคมนาคม ก่อตั้งขึ้นเมื่อวันที่ 11 พฤศจิกายน พ.ศ. 2539 โดยเป็นกิจการร่วมค้าระหว่างรัฐบาลของสาธารณรัฐประชาธิปไตยโดยประชาชนลาว และบริษัท เชนนิงตัน อินเวสเม้นท์ส พีทีอี (ซึ่งมี บมจ. ไทยคม จำกัด (มหาชน) เป็นผู้ถือหุ้นใหญ่)  ในสัดส่วนการถือหุ้นร้อยละ 49 และ 51  ซึ่งได้รับสิทธิในการดำเนินธุรกิจโทรคมนาคมในประเทศลาวเป็นระยะเวลา 25 ปี สิ้นสุดในปี 2564  เพื่อให้บริการโทรศัพท์พื้นฐาน โทรศัพท์เคลื่อนที่ โทรศัพท์ระหว่างประเทศ บริการสายวงจรเช่า [Leased  line] และบริการอินเทอร์เน็ต

สำหรับข้อมูลเพิ่มเติมดูได้ที่ www.laotel.com
      บันทึกการเข้า
ดร.มนตรี
Cmadong พันธุ์แท้
****


ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 2,540

« ตอบ #5 เมื่อ: 03 พฤศจิกายน 2553, 16:16:21 »

http://www.cmadong.com/board/index.php/topic,3892.msg428894.html#new



3G ถ้าอธิบายให้เข้าใจง่ายๆ ก็คือการพัฒนาให้ โทรศัพท์มือถือสามารถใช้งานอินเตอร์เน็ตความเร็วสูง (Broadband) ... นอกจากจะใช้โทรศัพท์ด้วยเสียง  (Voice) เพียงอย่างเดียว ครับ

คล้ายๆ กับ ... ที่เราพัฒนา สายโทรศัพท์บ้าน ให้สามารถใช้งานอินเตอร์เน็ตความเร็วสูง (Broadband) ได้นั่นเองครับ

-------------------------------------------

คราวนี้มาถึงประเด็นคำถาม:


1) ถ้ามี 3G แล้วค่าโทรศัพท์ฟังเสียงธรรมดาจะแพงขึ้นมั้ย?


>> ค่าโทรฟังเสียงธรรมดาจะยังคงอัตราปกติ ขึ้นอยู่กับ โปรโมชันของแต่ละค่าย เหมือนกับในปัจจุบันครับ

2) 3G คือโทรภาพได้ด้วย ใช่หรือไม่?

>> เมื่อมือถือ ใช้งานอินเตอร์เน็ตได้ ก็จะคล้ายเครื่องคอมพิวเตอร์ที่ใช้งานอินเตอร์เน็ตได้ ซึ่งจะมี Application การใช้งานได้มากมาย เช่น สามารถที่จะสื่อสารกันด้วยภาพได้ (VDO Call) เป็นต้น

ปัจจุบันเครื่องคอมพิวเตอร์ที่ใช้งานอินเตอร์เน็ตได้ ก็สามารถสื่อสารกันด้วยภาพได้ เพียงติดตั้ง กล้อง เพิ่มเติมและลงซอฟแวร์ เท่านั้นเองครับ

ถ้าเราต้องการใช้งานสื่อสารด้วยภาพผ่านคอมฯ เราก็ต้องซื้อกล้องมาติดตั้งที่ คอมฯ ของเรา เช่นกันครับถ้าเราต้องการสื่อสารด้วยภาพผ่านมือถือในยุค 3G เราก็ต้องซื้อเครื่องมือถือ ที่มีกล้องติดตั้งมา ... ซึ่งราคาไม่แพงอย่างที่คิดครับ มือถือ แค่เครื่องละ 3 พันกว่าบาทก็สามารถใช้งาน VDO Call ได้แล้วในปัจจุบัน

3) พ่อค้าที่นำเข้าโทรศัพท์แบบรองรับ 3G จึงลุ้นระทึก กับกำไรที่ลอยอยู่ตรงหน้าเลยกระทุ้งรัฐบาลกันใหญ่ ?


>> ตรงนี้อย่าเพิ่งไปว่าพ่อค้าครับ เดี๋ยวบาป ^_^

...  ปัจจุบันมือถือส่วนใหญ่ที่เราใช้กันอยู่รองรับ 3G เกินกว่าครึ่งแล้ว ....เพราะถ้านับแค่เอเซีย ก็มีเพียงประเทศไทยกับพม่า เท่านั้นที่ยังไม่มี 3G ... แต่ประเทศอื่นเขามีกันหมดแล้ว ... ดังนั้นผู้ผลิตมือถือจึงต้องผลิตมือถือที่รองรับ 3G เข้าสู่ตลาด ... เมื่อผลิตเยอะๆ ราคาต่อหน่วยก็จะถูกลงมา ตามหลัก Scale of Economy

ในอนาคตมือถือที่รองรับ 2Gเพียงอย่างเดียว  อาจจะมีราคาแพงกว่ามือถือที่รองรับ 3G ด้วยซ้ำครับ เพราะผลิตออกมาน้อย


 ปิ๊งๆ ปัจจุบันบ้านเราเหมือนซื้อ TV สี  (มือถือ 3G) เพื่อมาใช้ดู TV จากการส่งสัญญาณแบบ ขาวดำ (สัญญาณ 2G)  ...  เหนื่อย




ปล.  พักเบรคอ่านเรื่องตลกดีกว่าครับ ^_^



      บันทึกการเข้า
ดร.มนตรี
Cmadong พันธุ์แท้
****


ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 2,540

« ตอบ #6 เมื่อ: 03 พฤศจิกายน 2553, 16:18:48 »

3G จำเป็นต่อการพัฒนาประเทศหรือเปล่า ??

------------

... หากถามว่า การเข้าถึง อินเตอร์เน็ตจำเป็นกับการพัฒนาประเทศหรือเปล่า ?

หากคำตอบของเราคือจำเป็น ... ดังนั้น 3G ก็จำเป็นครับ 

แต่ถ้า ... คำตอบคือ การเข้าถึงอินเตอร์เน็ต ไม่จำเป็นกับการพัฒนาประเทศ ... 3G ก็ไม่จำเป็นครับ ^_^

ขึ้นอยู่กับมุมมองของแต่ละท่าน ... เคารพในความคิดเห็น ครับ ...

----

เพราะปัจจุบันการเข้าถึงอินเตอร์เน็ต บรอดแบนด์ ของประชาชนไทย มีเพียงประมาณ 5% (+/-) ของประชากร ในขณะที่ชาวเวียดนาม ประชาชนของเขาสามารถเข้าถึง อินเตอร์เน็ต บรอดแบนด์ ได้มากกว่า 15%  ของประชากร

... เนื่องจาก อินเตอร์เน็ตแบบใช้สาย จะมีข้อจำกัดในด้านการลงทุน จึงไม่สามารถให้บริการได้ทั่วถึงในพื้นที่ห่างไกล แต่ข้อจำกัดตรงนี้จะถูกชดเชยด้วยอินเตอร์เน็ตแบบไร้สาย เช่น 3G หรือ 4G (ปัจจุบันมาตรฐาน 4G ได้ประกาศใช้โดย สหพันธ์การสื่อสารสากล หรือ ITU เมื่อ 22 ต.ค. 53 ที่ผ่านมา ... และมาเลเซีย ประเทศเพื่อนบ้านของเราจะเปิดให้บริการในวันที่ 18 พ.ย. 53 นี้ )

** สำหรับรายละเอียดเรื่องนี้้ สามารถอ่านรายละเอียดได้จากกระทู้ที่เกี่ยวข้อง นะครับ ^_^
      บันทึกการเข้า
Pae
Cmadong พันธุ์แท้
****


ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 3,047

« ตอบ #7 เมื่อ: 04 พฤศจิกายน 2553, 11:51:22 »

ที่อินโด ใช้3Gต่อ อินเตอร์เน็ต ไม่รู้สึกว่าเร็วกว่า บ้านเราทีไม่ใช่ 3Gเลยครับ
      บันทึกการเข้า
ดร.มนตรี
Cmadong พันธุ์แท้
****


ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 2,540

« ตอบ #8 เมื่อ: 04 พฤศจิกายน 2553, 18:57:06 »

อ้างถึง
ข้อความของ Pae เมื่อ 04 พฤศจิกายน 2553, 11:51:22
ที่อินโด ใช้3Gต่อ อินเตอร์เน็ต ไม่รู้สึกว่าเร็วกว่า บ้านเราทีไม่ใช่ 3Gเลยครับ

เป็นไปได้ จาก 2-3 สาเหตุ ครับ ...

แต่ที่น่าจะเป็นไปได้มากที่สุดคือเกิดจากการแชร์ แบนด์วิธด์ โดยผู้ใช้บริการในขณะเดียวกัน (Concurrent User) เพิ่มขึ้นและมีจำนวนสูงกว่าที่ได้ออกแบบไว้

ดังนั้นผู้ให้บริการต้องหาค่าเฉลี่ยของ Concurrent User  และ ปรับปรุง QoS ใหม่ครับโดยอาจจำเป็นต้องเพิ่มสถานีฐาน
^_^
      บันทึกการเข้า
ดร.มนตรี
Cmadong พันธุ์แท้
****


ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 2,540

« ตอบ #9 เมื่อ: 13 พฤศจิกายน 2553, 21:01:10 »

http://www.manager.co.th/CyberBiz/ViewNews.aspx?NewsID=9530000160473

ความผิดใคร? 3G สะดุดไทยเสียโอกาสแสนล้าน

        การเมืองเตะถ่วงมือถือระบบ 3G เสียโอกาสในการทำธุรกิจต่อเนื่อง ไม่ว่าจะเป็นอินเทอร์เน็ตความเร็วสูง (บรอดแบนด์) ไร้สาย คอนเทนต์ โพรวายเดอร์ การเข้าถึงข้อมูลข่าวสารที่รวดเร็วและทั่วถึง เม็ดเงินในการลงทุนชะงัก รวมถึงภาพลักษณ์ของประเทศเสียหาย
       
       ในการสัมมนาเรื่องวิกฤต 3G จุดเปลี่ยนธุรกิจไทยที่จัดโดยมหาวิทยาลัยหอการค้าไทย สัปดาห์ที่ผ่านมา มีบางมุมมองที่น่าสนใจ ดร.ธนวรรธน์ พลวิชัย ผู้อำนวยการศูนย์พยากรณ์เศรษฐกิจและธุรกิจ มหาวิทยาลัย หอการค้าไทย วิเคราะห์เศรษฐกิจไทยหลังไม่มีการประมูล 3G ว่า การมี 3G หรือ 4G จะช่วยลดต้นทุนให้กับผู้ประกอบธุรกิจต่างๆ เพราะเวลาจะพาธุรกิจไปทิศทางไหนต้องมีการเช็กข้อมูลข่าวสาร ที่สามารถกดดูได้จากอุปกรณ์สื่อสารที่มีอยู่ในมือ ซึ่งก็คือการลดต้นทุน นอกจากนี้ ยังสร้างรายได้ประมาณ 1 แสนล้าน หรือคิดเป็น 0.5-1% ของจีดีพีเพราะไม่ต้องใช้ระบบลอจิสติกส์
       
       การระงับ 3G กระเทือนกำไรของประเทศ เพราะการทำอี-คอมเมิร์ซ การท่องเที่ยวสามารถเข้าถึงข้อมูลได้เร็วก็สร้างโอกาสทางธุรกิจได้มาก หรือหากเปรียบเทียบถ้าประเทศอื่นไป 3G หรือ 4G ขณะที่ไทยยังอยู่ที่ 2G ภาพลักษณ์ของประเทศก็เสียหาย
       
       'การมี 3G จะทำให้คนต่างจังหวัดเข้าถึงข้อมูลข่าวสารได้เร็ว สามารถทำธุรกิจโดยมีคลังสมอง เพราะขณะนี้เรากำลังเข้าสู่ยุคคลาวด์ คอมพิวติ้ง ถ้ามีบรอดแบนด์เข้าถึงข้อมูลได้เร็วจะทำให้ธุรกิจก้าวหน้าเร็ว เพราะเทคโนโลยีทำให้เกิดเศรษฐีอายุไม่ถึง 30 ปีมากมาย อย่างบิล เกตส์ก็มาจากเทคโนโลยี การที่ 3G ไม่เกิดไทยเสียโอกาสมากมาย และรัฐบาลไม่ค่อยใส่ใจต้องกดดันรัฐบาลทำให้เกิด'
       
       ถ้าไปต่างประเทศอย่างจีนจะรู้เลยว่าแต่ละที่เป็นอะไร เช่น เสินเจิ้นเป็นแหล่งกอปปี้ ฮ่องกงเป็นเอนเตอร์เทนเมนต์ ไทยต้องการเป็นอะไร ขบวนการทำงานต้องเป็นกลยุทธ์ซุนวู รู้เขารู้เรารบร้อยครั้งชนะร้อยครั้ง ดังนั้น จุดแรกที่ไทยต้องทำคืออนาคต เพราะโลกต้องแข่งขันที่ความเร็ว เทคโนโลยี ธุรกิจต้องมีการลงทุนด้านฮาร์ดแวร์ ซอฟต์แวร์เพราะเป็นยุคของคลาวด์ที่สามารถเข้าถึงข้อมูลได้ทุกที่ทุกเวลา หากไทยทำตรงจุดนี้เงินจะมาเอง
       
       'เทคโนโลยีจะอยู่กับมนุษย์คือมือถือกับไอแพด ซึ่งเป็นแนวโน้มที่เกิดขึ้น ไทยต้องวางแผนให้มีความมั่นคงกับธุรกิจ สังคมต้องเป็นสังคมความรู้ ฐานข้อมูลต้องหลากหลาย ต้องเก็บไว้ในเซิร์ฟเวอร์แล้วใช้โทรศัพท์ลิงก์'
       
       ดร.ธนวรรธน์กล่าวว่า อินเทอร์เน็ตเข้ามาเปลี่ยนโลกได้เร็ว การอยู่คนเดียวเป็นไปไม่ได้ ต้องติดต่อต่างประเทศ โกลบอลไลเซชันมาจากอินเทอร์เน็ตทั้งนั้น พอโลกเชื่อมต่อกันต้องใช้ความเร็ว อย่างนักธุรกิจหรือนักท่องเที่ยวเดินทางมาไทย แล้วเกตเวย์เชื่อมต่อใครไม่ได้จะเกิดอะไรขึ้น เพราะไทยเป็นศูนย์กลางของอาเซียน แม้กระทั่งจีนยังให้ความสำคัญกับไทยมาก ไทยต้องฉวยโอกาสตรงนี้ เพราะความเร็วเป็นสิ่งสำคัญ
       
       ทั้งนี้ เทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสารหรือไอซีทีกับโครงสร้างพื้นฐานต้องแน่น หากอยู่ในธุรกิจไอซีที รับรองไม่จน ไทยอย่าตกยุค เพราะสิ่งสำคัญคือซอฟต์แวร์ ถ้าวางระบบ 3G จะช่วยให้ธุรกิจซอฟต์แวร์โต
       
       'โครงสร้างพื้นฐานไทยเรื่องอินโนเวชันแฟกเตอร์ต่ำมาก ซึ่งไทยด้อยกว่ามาเลเซีย สิงคโปร์ ฮ่องกง ไทยมีปัญหาด้านกฎหมาย นี่คือความสูญเสียอย่างมหาศาล เกิดความเสียหายด้านการลงทุนรวมกับแอปพลิเคชันกว่า 2 แสนล้านบาท แต่ด้วยปัญหาการเมืองเราก็ต้องถอยก้าวหนึ่ง แต่ถ้าไป 4G ได้ ก็ควรไปเลย'
       
       สำหรับการลงทุนขั้นพื้นฐานเกี่ยวกับระบบ 3G ในช่วง 3 ปีแรก เป็นเงินลงทุนด้านโครงข่ายประมาณ 5 หมื่นล้านบาทถึง 1 แสนล้านบาท แอปพลิเคชันลงทุน 5 หมื่นล้านบาท ธุรกิจต่อเนื่องอย่างอี-คอมเมิร์ซ 3 หมื่นล้านบาท รวมแล้วเกือบ 2 แสนล้านบาท
       
       อย่างไรก็ตาม ถ้าทีโอทีลงทุนทำ 3G 2 หมื่นล้านบาท แอปพลิเคชันไม่กระทบ แต่เสียโอกาสมากถ้าใช้เวลาดำเนินการ 5-6 เดือน ถ้าคิดเป็นเม็ดเงินประมาณ 5-7 หมื่นล้านบาท แต่ยังพอช่วยได้บ้าง ส่วนคุณภาพการให้บริการดีแค่ไหนยังไม่สามารถประเมินได้ ภาคเอกชน กทช. ต้องเร่ง 3G เกิดให้เร็ว หรือถ้าบอกว่ากทช.ไม่มีอำนาจให้ไลเซนส์ รัฐบาลก็ควรผลักดันให้กสทช.เกิดขึ้นโดยเร็ว ซึ่งนายกรัฐมนตรีสามารถทำได้โดยการเข้าไปเจรจากับทุกหน่วยงาน
       
       ดร.ธนวรรธน์กล่าวว่า ปกติต่างชาติเข้ามาลงทุนในไทยโดยรวมเป็นเม็ดเงินประมาณ 9 พันล้านเหรียญสหรัฐ เป็นธุรกิจด้านไอซีทีประมาณ 500 ล้านเหรียญสหรัฐ ดังนั้น ต้องกดดันรัฐให้เกิดกสทช. โดยเร็ว แล้วเร่ง 3G ให้เกิดประเทศอื่นไป 4G ไทยก็น่าจะอยู่แถบนั้นเพราะจะทำให้ธุรกิจต่างชาติเข้ามาลงทุนในไทย
       
       นพ.ประวิทย์ ลี่สถาพรวงศา ผู้อำนวยการ สถาบันคุ้มครองผู้บริโภคในกิจการโทรคมนาคม (สบท.) ให้ความเห็นว่า การเปลี่ยนแปลงด้านเทคโนโลยีเป็นสิ่งที่เลี่ยงไม่ได้ จะรับหรือไม่รับก็ต้องมาและไม่ได้ถูกบังคับให้ใช้ แต่ 3G เป็นทางเลือก ถ้ามองในมิติผู้บริโภค ถ้ามี 3G ผู้บริโภคก็ได้ประโยชน์ เช่น มีผู้ให้บริการเพิ่มขึ้น แม้จะมองว่าเป็นเหล้าเก่าในขวดใหม่แต่ธุรกิจก็ต้องแข่งขันกัน แต่จะแตกต่างในเชิงธุรกิจ เพราะเป็นบริการแบบไลเซนส์กับสัญญาสัมปทาน
       
       นอกจากนี้ บริษัทที่ทำคอนเทนต์ไม่ว่าจะเป็นค่ายเพลงต่างๆ สื่อหนังสือพิมพ์ รวมถึงคอนเทนต์ โพรวายเดอร์ก็เสียโอกาสหาก 3G ไม่เกิด เพราะไม่สามารถขายผ่านมือถือได้อย่างรวดเร็ว ค่าโทร.จะลดลง 20% เพราะผู้ให้บริการไม่ต้องจ่ายส่วนแบ่งรายได้ให้รัฐ รวมถึงผู้พิการหูหนวก ตาบอด เพราะมีวิดีโอคอลล์ ที่สื่อสารกันด้วยภาษามือแทนการส่ง SMS คนตาบอดก็ใช้โทรศัพท์ส่องป้ายแล้วให้ญาติอ่านแทน
       
       ขณะที่ธุรกิจอื่นไม่ว่าจะเป็นอี-คอมเมิร์ซก็จะมีการทำธุรกรรมผ่านอินเทอร์เน็ตมากขึ้น มีคนใช้บรอดแบนด์มากขึ้น บริการข้อมูลจะโตขึ้น นอกจากนี้ ยังมีบริการใหม่ๆ เช่น ซื้อตั๋วหนัง บัตรรถไฟฟ้า หรือธุรกรรมอื่นๆ ที่สามารถทำผ่าน 3G ได้ ซึ่งจะส่งผลให้จีดีพีของประเทศโตตาม
       
       ด้านหัวเรือใหญ่ 3G อย่าง พ.อ.นที ศุกลรัตน์ กรรมการกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กทช.) ให้ความเห็นแบบแผ่นเสียงตกร่องว่า หากมีการประมูล 3G รัฐบาลจะสามารถสร้างโครงข่ายไร้สายเข้าถึงทุกครัวเรือน โดยเป็นบรอดแบนด์ไร้สาย 75% ผ่านเคเบิลใยแก้วนำแสงที่ให้บริการแบบไฟเบอร์ทูเดอะโฮม 25% โดยรัฐต้องใช้เงินลงทุนประมาณ 1.8-2.5 แสนล้านบาท ดังนั้นการพัฒนาธุรกิจโดยเทคโนโลยี 3G ไวแมกซ์ การให้ใบอนุญาตจึงมีความสำคัญ
       
       'เรากำลังปล่อยทรัพยากรที่สำคัญไว้เฉยๆ แทนที่จะนำไปใช้ให้เกิดประโยชน์ ซึ่งทำให้ไทยเสียโอกาสทางธุรกิจ การชะลอ 3G สิ่งที่เกิดขึ้นคือวัฏจักรของเทคโนโลยีที่หมุนเวียนเปลี่ยนไป ไม่เกี่ยวอะไรกับไทย เพราะเป็นแค่ฟันเฟืองเล็กๆ เพราะจะไป 4G แล้ว ซึ่งจะทำให้ราคาเครื่อง 3G ถูกลง'
       
       พ.อ.นทีกล่าวว่า มี 3G ไม่ใช่จะเลิก 2G แต่ไม่มีเหตุผลว่า 3G ไม่จำเป็นต้องเกิด เพราะ 3G ถ้าเป็นถนนก็เปรียบเหมือนโทลเวย์ 2G เหมือนวิภาวดี อยู่ที่ผู้บริโภคจะเลือกใช้ และเครื่องลูกข่ายที่ออกมาขณะนี้ก็เป็น 3G แต่ใช้ฟีเจอร์ 2G จึงเป็นการใช้ของแพงเกินประสิทธิภาพ การแก้ไขปัญหาคือต้องเร่งออกไลเซนส์ 3G เพราะเป็นวิธีที่ดีที่สุดในการให้บริการบรอดแบนด์เข้าถึงประชาชน อย่างมาเลเซียใช้เวลา 2-3 ปี สามารถให้บริการบรอดแบนด์จาก 10% เป็น 50% ได้ หลังจากมีการให้ไลเซนส์ 3G ไวแมกซ์
       
       'การประมูล 3G ไม่ใช่แค่ผู้ประกอบการในไทยที่สนใจ ต่างชาติก็ให้ความสนใจเช่นกัน ไม่ว่าเป็นผู้ประกอบการจากเกาหลี ญี่ปุ่น มาเลเซีย หลังมีการโรดโชว์ แต่ที่ต่างชาติไม่เข้าร่วมประมูลเพราะไม่มั่นใจในเรื่องการเมือง เพราะการลงทุนถ้ามีความเสี่ยงต่างชาติก็จะไม่สนใจ'


      บันทึกการเข้า
ดร.มนตรี
Cmadong พันธุ์แท้
****


ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 2,540

« ตอบ #10 เมื่อ: 15 พฤศจิกายน 2553, 09:03:31 »

เช้าวันนี้ได้รับบัตรเชิญ เข้าร่วมพิธีเปิดการประชุม ฯ  ที่ มาเลเซีย ... โดยนายกรัฐมนตรี ประเทศ มาเลเซีย  ให้เกียรติเป็นประธานเปิดงานและร่วมประชุมแลกเปลี่ยน ความคิดเห็นกับพวกเรา ในการใช้เทคโนโลยี 4G พัฒนาประเทศและภูมิภาค  ...

แสดงให้เห็นถึง วิสัยทัศน์ ของผู้นำมาเลเซีย ... การให้ความสำคัญ ต่อการพัฒนาประเทศ และภูมิภาค





      บันทึกการเข้า
เหยง 16
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: rcu2516
คณะ: เภสัชศาสตร์ 2516
กระทู้: 23,533

« ตอบ #11 เมื่อ: 15 พฤศจิกายน 2553, 18:25:19 »

วันนี้ วุฒิสภาฯ ผ่านมติ 82 ต่อ 4 พรบ.กสทช แล้ว คาดกว่าจะเลือกได้ตัว กรรมการ กสทช. คาดอีกอย่างน้อย 6 เดือน

มติวุฒิสภา 82 ต่อ 4 เห็นชอบผ่านร่างพ.ร.บ.กสทช.แล้ว

สภาสูงมีมติเห็นชอบร่างพ.ร.บ.กสทช.ตามร่าง กมธ.ร่วม 82 ต่อ 4 นำทูลเกล้าฯ ต่อ "ธวัช" อยากรู้หลังใช้พ.ร.บ.จะได้ตัวกสทช.เมื่อไหร่ "คำนูณ" สงสัยตัดหน่วยความมั่นคงออกคนร่างกฏหมายกลัวอะไร "สุรชัย" ไม่อยากให้สำนักเลขาฯ จุ้นสรรหา - "อนันต์" ตอนแทนกมธ.อ้างหวังสรรหาได้เร็วใน 6 เดือน ยันกรรมการยังต้องฟังความเห็นทีมมั่นคงตาม ม.48
                              ฯลฯ
อ่านข่าวทั้งหมดที่........

http://www.manager.co.th/Politics/ViewNews.aspx?NewsID=9530000161525
      บันทึกการเข้า
ดร.มนตรี
Cmadong พันธุ์แท้
****


ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 2,540

« ตอบ #12 เมื่อ: 15 พฤศจิกายน 2553, 22:14:11 »

อ้างถึง
ข้อความของ เหยง 16 เมื่อ 15 พฤศจิกายน 2553, 18:25:19
วันนี้ วุฒิสภาฯ ผ่านมติ 82 ต่อ 4 พรบ.กสทช แล้ว คาดกว่าจะเลือกได้ตัว กรรมการ กสทช. คาดอีกอย่างน้อย 6 เดือน

มติวุฒิสภา 82 ต่อ 4 เห็นชอบผ่านร่างพ.ร.บ.กสทช.แล้ว

สภาสูงมีมติเห็นชอบร่างพ.ร.บ.กสทช.ตามร่าง กมธ.ร่วม 82 ต่อ 4 นำทูลเกล้าฯ ต่อ "ธวัช" อยากรู้หลังใช้พ.ร.บ.จะได้ตัวกสทช.เมื่อไหร่ "คำนูณ" สงสัยตัดหน่วยความมั่นคงออกคนร่างกฏหมายกลัวอะไร "สุรชัย" ไม่อยากให้สำนักเลขาฯ จุ้นสรรหา - "อนันต์" ตอนแทนกมธ.อ้างหวังสรรหาได้เร็วใน 6 เดือน ยันกรรมการยังต้องฟังความเห็นทีมมั่นคงตาม ม.48
                              ฯลฯ
อ่านข่าวทั้งหมดที่........

http://www.manager.co.th/Politics/ViewNews.aspx?NewsID=9530000161525


ขอบคุณครับพี่เหยง ...
      บันทึกการเข้า
ดร.มนตรี
Cmadong พันธุ์แท้
****


ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 2,540

« ตอบ #13 เมื่อ: 15 พฤศจิกายน 2553, 22:15:24 »

โฆษณา 3G ของ ประเทศลาว ครับ ...  รักนะ

<a href="http://www.youtube.com/watch?v=N-dKR_V8MNI" target="_blank">http://www.youtube.com/watch?v=N-dKR_V8MNI</a>
      บันทึกการเข้า
เหยง 16
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: rcu2516
คณะ: เภสัชศาสตร์ 2516
กระทู้: 23,533

« ตอบ #14 เมื่อ: 16 พฤศจิกายน 2553, 12:28:17 »

มีความแตกต่างระหว่าง กทช. กับ กสทช. หรือไม่ ?? บุคคลคนละคณะ ?? หรือ กทช.สมัครไปเป็น กสทช.
      บันทึกการเข้า
ดร.มนตรี
Cmadong พันธุ์แท้
****


ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 2,540

« ตอบ #15 เมื่อ: 16 พฤศจิกายน 2553, 15:37:50 »

อ้างถึง
ข้อความของ เหยง 16 เมื่อ 16 พฤศจิกายน 2553, 12:28:17
มีความแตกต่างระหว่าง กทช. กับ กสทช. หรือไม่ ?? บุคคลคนละคณะ ?? หรือ กทช.สมัครไปเป็น กสทช.

ถ้า กสทช. เกิดขึ้นได้จริง นะครับ ...

สำหรับ ตัวกรรมการ จะสรรหาใหม่ ... ครับ ...

และ  กรรมการ กทช.เดิม จะพ้นสภาพ แต่สามารถ สมัครเข้ารับการสรรหา เป็น กรรมการ กสทช. ได้ครับ

----------

พนักงาน เจ้าหน้าที่ อาคารสถานที่ ฯลฯ ของกทช. เดิม >> จะแปรสภาพ เป็น ของ กสทช. ครับ


ที่ำสำคัญ: ขอบเขตของอำนาจ หน้าที่ จะกว้างขึ้นครับ คือดูแล ทั้งกิจการโทรคมนาคม  และการสื่อสาร โดยเฉพาะ ประเด็น อำนาจในการจัดสรร คลื่นความถี่ ในกิจการ โทรคมนาคม วิทยุ โทรทัศน์ ฯลฯ
      บันทึกการเข้า
  หน้า: [1]   ขึ้นบน
  
กระโดดไป:  

     

ทำไมหอพักนิสิตจุฬาจึงเป็นดินแดนมหัศจรรย์            " ไม่ได้เป็นแค่หอให้นอนพัก  แต่เป็นบ้านอบอุ่นรักให้อาศัย  ไม่เป็นแค่ที่ซุกหัวยามหลบภัย  แต่สร้างใจให้เข้มแข็งแกร่งการงาน"  <))))><