29 มีนาคม 2567, 07:54:13
ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน


เข้าสู่ระบบด้วยชื่อผู้ใช้ รหัสผ่าน [สมาชิกเก่าลืมรหัส โทร 081-7611760]
A A A A  ระเบียบปฎิบัติ
   
Languages    
  หน้า: [1]   ลงล่าง
ผู้เขียน หัวข้อ: กรีนพีซเชิญทุกท่านลงชื่อมีส่วนร่วมในการผลักดันการปกป้องสภาพภูมิอากาศ  (อ่าน 5011 ครั้ง)
0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
Samrotri2517
Cmadong Member
Hero Cmadong Member
****


จะเป็นด้านที่1และ2ของ3เหลี่ยมฯ เพื่อให้เกิดด้านที่3
ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: รหัสเข้า 17 รุ่น 57
คณะ: แพทยศาสตร์ จุฬาฯรุ่น 30
กระทู้: 1,915

« เมื่อ: 24 ตุลาคม 2552, 10:07:00 »


                      
           กรีนพีซขอขอบคุณท่านที่ลงชื่อ มีส่วนร่วมในการผลักดันการปกป้องสภาพภูมิอากาศ

ซึ่งผู้นำโลกจะร่วม ประชุมสุดยอดของสหประชาชาติ ว่าด้วยการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ​​

ในเดือนธันวาคม 2552 ณ กรุงโคเปนเฮเกนประเทศเดนมาร์ก​

           ​การประชุมครั้งนี้มีผลกระทบกับพวกเราทุกคน  ผลการประชุมอาจทำให้โลกติดอยู่ในการ

เปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศที่เลวร้ายและ ย้อนกลับคืนไม่ได้อีก เราอยากให้ผู้นำโลก นั่นคือ

                    

           ประธานาธิบดีโอบามาเข้าร่วมการประชุมนี้เพื่อผลักดันให้มีการตัดสินใจ ซึ่งจะ​

 ‘เปลี่ยนแปลง’ทิศทางอนาคตของมนุษยชาติและอนาคตของภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้​ ​

ซึ่งเป็นภูมิภาคที่ล่อแหลมมากที่สุด ในการรับมือกับ การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ​

                     YoU-Turn the Earth!

เชิญให้เพื่อนๆ คุณลงชื่อที่ Twitter แบ่งปันจดหมายเรียกร้องนี้ที่ Facebook
 
                    Chang(e) is Coming!
            มีอีกหลายวิธีที่คุณมีส่วนร่วมได้ รักนะ

                         win win win

  เข้ามีส่วนร่วมได้ด้วยการรับข่าวสารจากกรีนพีซและเป็นส่วนหนึ่งของชุมชนกรีนพีซที่่

http://www.greenpeace.org/seasia/th/newsletter/supporters-e-news/090602

                          win win win                        
      บันทึกการเข้า

3 เหลี่ยมเขยื้้อนภูเขา เสนอโดย ศ.นพ.ประเวศ วะสี มี 3 ด้าน คือ ด้านที่ 1 ด้านให้ความรู้กับกลุ่มคน ด้านที่ 2 กลุ่มคน ที่ได้รับความรู้ เห็นด้วย สร้างวัฒนธรรมไม่มีบทลงโทษถ้าไม่ทำ ด้านที่ 3 ด้านการเมือง เป็นด้านออกกฏหมาย มีบทลงโทษถ้าไม่ปฏิบัติ ถ้ามีครบ 3 ด้านจะเกิดการเปลี่ยนแปลงได้จริง
Samrotri2517
Cmadong Member
Hero Cmadong Member
****


จะเป็นด้านที่1และ2ของ3เหลี่ยมฯ เพื่อให้เกิดด้านที่3
ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: รหัสเข้า 17 รุ่น 57
คณะ: แพทยศาสตร์ จุฬาฯรุ่น 30
กระทู้: 1,915

« ตอบ #1 เมื่อ: 20 เมษายน 2553, 07:12:34 »


                            

           องค์การก๊าซเรือนกระจก เตรียมเปิดขาย "คาร์บอนเครดิต" วงประชุมโลกร้อนครั้งแรกในโลก ชี้ผู้ร่วมประชุม 3,000 ราย ต้องถูกตรวจสอบปริมาณการปล่อยคาร์บอนไดออกไซด์ตั้งแต่เริ่มจนจบการประชุม

          นายศิริธัญญ์ ไพโรจน์บริบูรณ์ผู้อำนวยการองค์การบริหารจัดการก๊าซเรือนกระจก(องค์การมหาชน ) กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เปิดเผยว่า ขณะนี้ปัญหาภาวะโลกร้อนได้ทวีความรุนแรงขึ้น และส่งผลกระทบต่อความเป็นอยู่ของมนุษย์ในวงกว้าง โดยพบว่าในช่วง 100 ปีที่ผ่านมา อุณหภูมิโลกสูงขึ้นราว 1 องศาเซลเซียส และนักวิทยาศาสตร์คาดการณ์ว่า หากยังมีการปล่อยก๊าซเรือนกระจกต่อไปเรื่อย ๆ เชื่อว่าในอนาคตอุณหภูมิของโลกจะเพิ่มขึ้น 1.04-6.5 องศาเซลเซียส

           สำหรับประเทศไทยยังอยู่ในกลุ่มประเทศกำลังพัฒนาที่ไม่ได้มีพันธกรณีในการลดก๊าซเรือนกระจกภายใต้พิธีสารเกียวโต แต่ที่ผ่านมาได้มีมาตรการหลายด้านในการลดโลกร้อน ทั้งเรื่องการทำโครงการกลไกการพัฒนาที่สะอาด (ซีดีเอ็ม) ซึ่งปัจจุบันได้ให้การรับรองกับ 107 โครงการแล้ว และมี 35 โครงการ ที่ขึ้นทะเบียนกับองค์การสหประชาชาติ เพื่อขายคาร์บอนเครดิตได้

          ขอขอบคุณเวบสนุกดอทคอม 20 เม.ย. 53 และ  

 http://news.sanook.com/%E0%B9%84%E0%B8%97%E0%B8%A2%E0%B9%80%E0%B8%95%E0%B8%A3%E0%B8%B5%E0%B8%A2%E0%B8%A1%E0%B9%80%E0%B8%9B%E0%B8%B4%E0%B8%94%E0%B8%82%E0%B8%B2%E0%B8%A2%E0%B8%84%E0%B8%B2%E0%B8%A3%E0%B9%8C%E0%B8%9A%E0%B8%AD%E0%B8%99%E0%B9%80%E0%B8%84%E0%B8%A3%E0%B8%94%E0%B8%B4%E0%B8%95%E0%B9%83%E0%B8%99%E0%B8%A7%E0%B8%87%E0%B8%9B%E0%B8%A3%E0%B8%B0%E0%B8%8A%E0%B8%B8%E0%B8%A1%E0%B9%82%E0%B8%A5%E0%B8%81%E0%B8%A3%E0%B9%89%E0%B8%AD%E0%B8%99%E0%B8%A3%E0%B8%B0%E0%B8%94%E0%B8%B1%E0%B8%9A%E0%B8%8A%E0%B8%B2%E0%B8%95%E0%B8%B4-923281.html


                        ปิ๊งๆ ปิ๊งๆ ปิ๊งๆ

          นำข่าวความก้าวหน้า เรื่อง การลดโลกร้อน........ ประเทศไทยเรา ไม่ีมีพันธกรณีในการลดก๊าซเรือนกระจกภายใต้พิธีสารเกียวโต แต่มีสิทธิเรื่องขายคาร์บอนเครดิตได้ และ กำลังเร่งขายคาร์บอนเครดิต ช่วยลดโลกร้อนได้โดยรับเงิน จากประเทศที่ทำให้เกิด ต้องมาจ้างเราลดให้

                        win win win


      บันทึกการเข้า

3 เหลี่ยมเขยื้้อนภูเขา เสนอโดย ศ.นพ.ประเวศ วะสี มี 3 ด้าน คือ ด้านที่ 1 ด้านให้ความรู้กับกลุ่มคน ด้านที่ 2 กลุ่มคน ที่ได้รับความรู้ เห็นด้วย สร้างวัฒนธรรมไม่มีบทลงโทษถ้าไม่ทำ ด้านที่ 3 ด้านการเมือง เป็นด้านออกกฏหมาย มีบทลงโทษถ้าไม่ปฏิบัติ ถ้ามีครบ 3 ด้านจะเกิดการเปลี่ยนแปลงได้จริง
Samrotri2517
Cmadong Member
Hero Cmadong Member
****


จะเป็นด้านที่1และ2ของ3เหลี่ยมฯ เพื่อให้เกิดด้านที่3
ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: รหัสเข้า 17 รุ่น 57
คณะ: แพทยศาสตร์ จุฬาฯรุ่น 30
กระทู้: 1,915

« ตอบ #2 เมื่อ: 05 กันยายน 2553, 13:16:42 »


               วันที่ 02 กันยายน พ.ศ. 2553 ปีที่ 34 ฉบับที่ 4241  ประชาชาติธุรกิจ
         http://www.prachachat.net/view_news.php?newsid=02inv02020953&sectionid=0203&day=2010-09-02

                     บางจากมุ่งธุรกิจ"โรงไฟฟ้าสีเขียว" พลังงานโซลาร์เซลล์50เมกะวัตต์"บางปะอิน-ชัยภูมิ"

                                       

         เซลล์แสงอาทิตย์นำร่อง - ภาพจำลองโครงการผลิตไฟฟ้าจากเซลล์แสงอาทิตย์กำลังผลิต 38 เมกะวัตต์ บนเนื้อที่ 500 ไร่ ในอำเภอบางปะอิน จังหวัดพระนครศรีอยุธยา ด้วยเงินลงทุน 5,000 ล้านบาท ที่บริาทบางจากฯได้นำร่องก่อนเป้นโครงการแรก ซึ่งจะช่วยลดคาร์บอนไดออกไซด์ได้ถึง 35,000 ตัน/ปี ตามนโยบายที่จะรุกสู่ธุรกิจพลังงานสีเขียว

        บางจากมุ่งสู่ธุรกิจสีเขียวเต็มตัว เตรียมขึ้นโรงไฟฟ้าเซลล์แสงอาทิตย์ขนาด 50 เมกะวัตต์อีกโรงจังหวัดชัยภูมิ เป็นโครงการต่อเนื่องจากโรงไฟฟ้าที่บางปะอิน ทั้ง 2 โครงการได้ทำสัญญาซื้อขายไฟกับ กฟภ.และได้ส่วนเพิ่มค่าไฟฟ้า (adder) ที่ 8 บาท/หน่วยแล้ว อนาคต 5 ปีข้างหน้าปรับสัดส่วนรายได้ใหม่ ธุรกิจการกลั่นเหลือ 40% ค้าปลีก 30% เท่ากับธุรกิจเสริม 30%

         ปิ๊งๆ ปิ๊งๆ ปิ๊งๆ

        ผู้สื่อข่าว "ประชาชาติธุรกิจ" รายงานเข้ามาว่า ภายหลังจากที่บริษัท บางจากปิโตรเลียม จำกัด (มหาชน) เปิดตัวโครงการผลิตไฟฟ้าจากเซลล์แสงอาทิตย์ กำลังผลิต 38 เมกะวัตต์ (MW) ที่อำภอ บางปะอิน จังหวัดพระนครศรีอยุธยาไปนั้น ล่าสุดบริษัทบางจากฯเตรียมเปิดตัวโครงการผลิตไฟฟ้าจากเซลล์แสงอาทิตย์ที่อำเภอบำเหน็จณรงค์ จังหวัดชัยภูมิ ขนาดกำลังผลิตติดตั้ง 50 เมกะวัตต์อีกโครงการหนึ่ง

        โดยโครงการนี้จัดเป็นโครงการต่อเนื่องจากที่บริษัทบางจากฯตั้งเป้าผลิตกระแสไฟฟ้าจากเซลล์แสงอาทิตย์ให้ได้ 120 เมกะวัตต์ และที่สำคัญโครงการนี้ ได้ผ่านการพิจารณารับซื้อไฟฟ้าและลงนามในสัญญารับซื้อกระแสไฟฟ้า (PPA) กับ การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค (กฟภ.) ไปแล้ว รวมถึงยังได้ส่วนเพิ่มค่าไฟฟ้า (adder) ในอัตราเดิมที่ 8 บาท/หน่วยด้วย

                                   

        นายอนุสรณ์ แสงนิ่มนวล กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท บางจากปิโตรเลียม จำกัด (มหาชน) กล่าวถึงโครงการผลิตไฟฟ้าจากเซลล์แสงอาทิตย์ว่าเป็นส่วนหนึ่งของเป้าหมายที่วางไว้ว่าจะผลิตไฟฟ้าจากเซลล์แสงอาทิตย์ให้ได้ที่ 120 เมกะวัตต์ โดยบริษัทบางจากฯจะมุ่งสู่ธุรกิจพลังงานสีเขียวด้วยเงินลงทุนกว่า 10,000 ล้านบาท เนื่องจากมองเห็นโจทย์ที่ว่า ภายใต้ราคาน้ำมันที่ผันผวนและค่าการตลาดค่อนข้าง ต่ำนั้น จะทำอย่างไรให้บางจากสามารถมีรายได้เข้ามาต่อเนื่องและส่งผลให้ผลประกอบการดีขึ้น

        สำหรับโครงการผลิตไฟฟ้าจากเซลล์แสงอาทิตย์ ได้ผ่านการพิจารณารับซื้อไฟฟ้าเรียบร้อยแล้วทั้งหมด และยังได้รับส่วนเพิ่มค่าไฟฟ้าที่ 8 บาท/หน่วย อย่างเช่นโครงการแรกที่อำเภอบางปะอิน ภายในเดือนตุลาคมนี้จะก่อสร้างแล้วเสร็จและเริ่มผลิตไฟฟ้าเข้าระบบได้ภายในปี 2554 ซึ่งบริษัทบางจากฯจะมีรายได้จากการขายค่าไฟฟ้าเข้ามาทันที

       ส่วนโครงการที่จังหวัดชัยภูมิกำลังอยู่ในระหว่างเตรียมดำเนินการในหลายเรื่อง โดยเฉพาะการจัดซื้อที่ดินสำหรับโครงการ เนื่องจากโครงการเซลล์แสงอาทิตย์ต้องใช้พื้นที่ค่อนข้างมาก ส่วนกรณีที่บริษัทบางจากฯจะนำไฟฟ้าที่ผลิตได้จากโครงการนี้มาใช้ในโครงการเหมืองแร่โปแตช ที่บริษัทได้เข้าไปซื้อหุ้นในส่วนของธนาคารทหารไทย จำกัด (มหาชน) ด้วยหรือไม่นั้น คงต้องดูความเหมาะสมอีกครั้ง เพราะ ขณะนี้โครงการยังอยู่ระหว่างเตรียมการ

        "ตอนนี้เราทยอยทำแต่ละโครงการไปเรื่อย ๆ ยอมรับช่วงนี้ทีมพัฒนาธุรกิจบางจากต้องคิดกันเยอะ โดยเฉพาะโครงการที่เป็นสีเขียว เพราะบางจากมุ่งที่จะเป็นผู้นำทางด้านนี้อยู่แล้ว ผู้ถือหุ้นส่วนใหญ่ก็เห็นด้วยกับแนวทางธุรกิจที่เรากำลังดำเนินการอยู่ เพราะทำรายได้ให้เร็ว ในฐานะที่เราบริหารเราก็อยากให้บริษัท มีรายได้เข้ามาต่อเนื่อง"

        นายอนุสรณ์กล่าวถึงอนาคตของบริษัทบางจากฯในช่วง 5 ปีต่อจากนี้ว่า จะปรับสัดส่วนรายได้จากธุรกิจใหม่ จากเดิมที่จะมีรายได้มาจากธุรกิจการกลั่นน้ำมันที่ร้อยละ 70 และธุรกิจค้าปลีกน้ำมันอยู่ที่ร้อยละ 30 ได้ปรับใหม่มาเป็นรายได้จากธุรกิจการกลั่นลดลงอยู่ที่ร้อยละ 40 ค้าปลีกน้ำมันอยู่ที่ร้อยละ 30 และธุรกิจเสริมอยู่ที่ร้อยละ 30 เพราะการมุ่งไปที่ธุรกิจการกลั่นในช่วงระยะสั้นนั้น "ค่อนข้างเสี่ยง"

        เนื่องจากมีการคาดการณ์ว่า ค่าการกลั่นจะไม่สูงเหมือนช่วงที่ราคาน้ำมันแพง ๆ ที่ค่าการกลั่นขยับไปถึง 10 เหรียญสหรัฐ/บาร์เรล ในส่วนของบริษัทบางจากฯ คาดว่าจะมีค่าการกลั่นอยู่ที่ 5-6 เหรียญสหรัฐ/บาร์เรล นอกจากนี้ ค่าการตลาดน้ำมันก็ค่อนข้างต่ำอยู่ในระดับที่ไม่เกิน 1 บาท/ลิตร ซึ่งจะทำให้รายได้ของบางจากฯปรับขึ้นไม่มากนัก รวมถึงบริษัทบางจากฯไม่มีธุรกิจปิโตรเคมีเข้ามาช่วยประคองค่าการกลั่นในช่วงที่ลดลงด้วย ฉะนั้นการมีธุรกิจเสริมเข้ามาจะทำให้ธุรกิจบริษัทบางจากฯไปได้ และที่สำคัญมีผลประกอบการที่ดีขึ้น

                   รักนะ รักนะ รักนะ
      บันทึกการเข้า

3 เหลี่ยมเขยื้้อนภูเขา เสนอโดย ศ.นพ.ประเวศ วะสี มี 3 ด้าน คือ ด้านที่ 1 ด้านให้ความรู้กับกลุ่มคน ด้านที่ 2 กลุ่มคน ที่ได้รับความรู้ เห็นด้วย สร้างวัฒนธรรมไม่มีบทลงโทษถ้าไม่ทำ ด้านที่ 3 ด้านการเมือง เป็นด้านออกกฏหมาย มีบทลงโทษถ้าไม่ปฏิบัติ ถ้ามีครบ 3 ด้านจะเกิดการเปลี่ยนแปลงได้จริง
supapon
มือใหม่หัดเมาท์
*

ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 90

« ตอบ #3 เมื่อ: 05 กันยายน 2553, 20:41:23 »

ดีจัง ผลิตไฟฟ้าจากเซลล์แสงอาทิตย์

งั้นขายคาร์บอนเครดิตให้ได้เยอะ ๆ เอามาสร้างโรงไฟฟ้าดังกล่าวก็ดีนะคะ
(โยงกันด้ายย)

miew.18
      บันทึกการเข้า
  หน้า: [1]   ขึ้นบน
  
กระโดดไป:  

     

ทำไมหอพักนิสิตจุฬาจึงเป็นดินแดนมหัศจรรย์            " ไม่ได้เป็นแค่หอให้นอนพัก  แต่เป็นบ้านอบอุ่นรักให้อาศัย  ไม่เป็นแค่ที่ซุกหัวยามหลบภัย  แต่สร้างใจให้เข้มแข็งแกร่งการงาน"  <))))><