29 มีนาคม 2567, 18:02:40
ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน


เข้าสู่ระบบด้วยชื่อผู้ใช้ รหัสผ่าน [สมาชิกเก่าลืมรหัส โทร 081-7611760]
A A A A  ระเบียบปฎิบัติ
   
Languages    
  หน้า: 1 [2]  ทั้งหมด   ลงล่าง
ผู้เขียน หัวข้อ: "อินเตอร์เนต ครบ รอบ 40 ปี เมื่อวันทีี่ 29 ต.ค.2552"  (อ่าน 21060 ครั้ง)
0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
Samrotri2517
Cmadong Member
Hero Cmadong Member
****


จะเป็นด้านที่1และ2ของ3เหลี่ยมฯ เพื่อให้เกิดด้านที่3
ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: รหัสเข้า 17 รุ่น 57
คณะ: แพทยศาสตร์ จุฬาฯรุ่น 30
กระทู้: 1,915

« ตอบ #25 เมื่อ: 30 กรกฎาคม 2553, 10:25:39 »


ขอขอบคุณเวบไทยรัฐวันศุกร์ 30 ก.ค.53 ที่เอื้อเฟื้อข่าว
http://www.thairath.co.th/content/tech/99766



ทหารสหรัฐก้าวเข้าสู่ยุคเทคโนโลยีดิจิตอลใช้"มือถือ"เป็นอาวุธ

กลาโหมสหรัฐฯดึงเอาโทรศัพท์มือถือ เข้าไปอยู่ในคลังแสงของตนแล้ว   ในขณะที่บริษัทสร้างอาวุธและอุปกรณ์ต่างกำลังแข่งกันสร้างโปรแกรม   เพื่อจะได้เอาโทรศัพท์มือถือ มาใช้ในสนามรบได้

บริษัทสร้างอาวุธเรย์เธิน ซึ่งเป็นผู้สร้างระบบอาวุธปล่อย "แพทริออต" อันมีชื่อเสียง ก็กำลังพัฒนาโปรแกรม เพื่อที่จะให้ทหารใช้โทรศัพท์มือถือ

ค้นหาข้าศึกในภูมิประเทศแวดล้อมเจอ ซึ่งโปรแกรมนั้นจะต้องแรงพอที่จะรับภาพถ่ายทางอากาศจากเครื่องบินหุ่นยนต์หรือดาวเทียม จับภาพของเล็กๆอย่างป้ายทะเบียนรถหรือใบหน้าบุคคลได้

หน่วยรบพิเศษของสหรัฐฯได้ทดลองใช้สิ่งประดิษฐ์ และรับฟังคำแนะนำของบริษัทนี้อยู่แล้ว ทางบริษัทจะคิดโปรแกรมซึ่งระบบสื่อสารอันจำเป็นที่จะต้องเข้ารหัส สำหรับใช้งานตามดินแดน ที่ห่างไกลซึ่งยังไม่มีสัญญาณ

โปรแกรมเหล่านั้น นอกจากจะทำให้ทหารสามารถติดต่อกับพันธมิตร เพื่อให้ต่างรู้ความเคลื่อนไหวของกันและกัน ยังสามารถจะค้นหาศัตรูในเขตบริเวณใกล้เคียงได้ด้วย.

  ปิ๊งๆ ปิ๊งๆ ปิ๊งๆ

XXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXX

เทคโนโลยี่มือถือมีประโยชน์มากมาย ได้นำมาใช้ในการทหารเพื่อค้นหาข้าศึก และ ติดต่อกัน

 win win win
      บันทึกการเข้า

3 เหลี่ยมเขยื้้อนภูเขา เสนอโดย ศ.นพ.ประเวศ วะสี มี 3 ด้าน คือ ด้านที่ 1 ด้านให้ความรู้กับกลุ่มคน ด้านที่ 2 กลุ่มคน ที่ได้รับความรู้ เห็นด้วย สร้างวัฒนธรรมไม่มีบทลงโทษถ้าไม่ทำ ด้านที่ 3 ด้านการเมือง เป็นด้านออกกฏหมาย มีบทลงโทษถ้าไม่ปฏิบัติ ถ้ามีครบ 3 ด้านจะเกิดการเปลี่ยนแปลงได้จริง
Samrotri2517
Cmadong Member
Hero Cmadong Member
****


จะเป็นด้านที่1และ2ของ3เหลี่ยมฯ เพื่อให้เกิดด้านที่3
ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: รหัสเข้า 17 รุ่น 57
คณะ: แพทยศาสตร์ จุฬาฯรุ่น 30
กระทู้: 1,915

« ตอบ #26 เมื่อ: 02 สิงหาคม 2553, 08:20:40 »


ขอขอบคุณเวบเดลินิวส์ วันจันทร์ ที่ 02 สิงหาคม 2553 ที่สนับสนุนเนื้อหาข่าว
http://www.dailynews.co.th/newstartpage/index.cfm?page=content&categoryId=23&contentId=82130



'สารสนเทศ Information technology (IT)' เร่งพัฒนา คือยาดี!

ความเคลื่อนไหวในวงการแพทย์ไทยในกรณีที่ไม่ใช่เรื่องวุ่นๆแต่เป็นกรณีสร้างสรรค์ก็มีที่น่าสนใจ...

คือ "การพัฒนาสารสนเทศทางการแพทย์”
   
เพื่อให้บริการผู้ป่วยอย่างมีประสิทธิภาพและรวดเร็วจะเป็นการบูรณาการและเชื่อมโยงข้อมูลสุขภาพ
จากภาคส่วนต่าง ๆ ทั้งจากสถานพยาบาล และหน่วยงานต่าง ๆ ทั้งภาครัฐและเอกชน

เพื่อนำไปใช้ประโยชน์ในการดูแลรักษาสุขภาพและเพิ่มประสิทธิภาพการเข้ารับบริการของประชาชน
เป็นการระบุของ นพ.ฆนัท ครุธกูล ผู้จัดการศูนย์หัวใจ ฯ คณะแพทยศาสตร์โรงพยาบาล รามาธิบดี   
เป็นการระบุที่มีนัยเกี่ยวโยงถึงการที่จะมีการจัด ประชุมระดับชาติ

“เมดิคัล ดาต้า สแตนดาร์ดส์ เอ็กซ์โปร์” ในช่วงวันที่ 20-21 ส.ค. 2553
ณ ศูนย์ประชุมแห่งชาติสิริกิติ์


โดยความร่วมมือกันระหว่าง โรงพยาบาลรามาธิบดี มหาวิทยาลัยมหิดล กับหน่วยงานต่าง ๆ เช่น
สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์, กระทรวงสาธารณสุข, กระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศฯ,
ศูนย์เทคโนโลยีอิเล็กทรอนิกส์และคอมพิวเตอร์แห่งชาติ,สำนักงานส่งเสริมอุตสาหกรรมซอฟต์แวร์
สมาคมเวชสารสนเทศไทย, คณะกรรมการวิจัยแห่งชาติ สำนักคณะกรรมการอุดมศึกษา
สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ
   
รศ.นพ.อาทิตย์ อังกานนท์ รองคณบดีฝ่ายสารสนเทศ คณะแพทยศาสตร์โรงพยาบาลรามาธิบดี
ในฐานะประธานจัดงานประชุม ระบุว่า... การประชุมดังกล่าวนี้จะเกี่ยวกับ

“ระบบสารสนเทศทางการแพทย์” จะเป็นโอกาสที่ดีในการ “พัฒนาศักยภาพด้านสาธารณสุข”

โดยคณะผู้จัดประชุมมุ่งเน้นพัฒนาระบบแลกเปลี่ยนข้อมูลทางการแพทย์ ซึ่งเป็นบันไดขั้นสำคัญ
ในการใช้ประโยชน์จาก

ระบบสารสนเทศทางการแพทย์

เป็นตัวแปรหลักที่ต้องหาทางเลือกเพื่อที่ทุกฝ่ายจะได้ประโยชน์ร่วมกันเพื่อพัฒนาบุคลากร
ด้านเทคโนโลยีสาร สนเทศทางการแพทย์ได้ต่อเนื่อง
   
ทางโรงพยาบาลรามาธิบดีเล็งเห็นถึงความสำคัญของการส่งต่อข้อมูลทางการแพทย์ เนื่องจาก
ระบบบริการสุขภาพเป็นข้อมูลที่ยากต่อการแลกเปลี่ยนซึ่งกันและกันระหว่างโรงพยาบาล
เข้าถึงได้ยาก และแตกต่างกันออกไป


จึงได้ร่วมมือกับกระทรวงและองค์กรที่เกี่ยวข้องจัดการประชุมเรื่องระบบสารสนเทศทางการแพทย์
เพื่อสนับสนุนการให้บริการทางการแพทย์ และหน่วยงานภาคเอกชนที่ส่งเสริมและผลักดันการนำ
เทคโนโลยีสารสนเทศทางการแพทย์ไปสู่ภาคอุตสาหกรรมเพื่อศักยภาพของประเทศไทยในด้านนี้
   
“การใช้ระบบเทคโนโลยีสารสนเทศทางการแพทย์มีประโยชน์มาก"

ตัวอย่างการใช้ทำประวัติและนัดหมาย จะสามารถกำหนดรายละเอียดผู้ป่วยได้สะดวกและรวดเร็ว
ไม่ต้องเสียเวลา ไม่ต้องค้นหาแฟ้มประวัติผู้ป่วย และสามารถเติมข้อมูลเข้าไปให้ถูกต้อง รวมถึง
สามารถรู้สถิติสารสนเทศได้เร็วขึ้น อาทิ จำนวนผู้ป่วย, ประสิทธิ ภาพยา, การเบิกจ่ายยา, ราคายา,
รวมทั้งสามารถติดตามสถานการณ์ โรคต่าง ๆ และ

ส่งต่อข้อมูลระหว่างโรงพยาบาลกับโรงพยาบาลได้อีกด้วย ...รศ.นพ.อาทิตย์ ระบุ
   
ขณะที่ นพ.ฆนัท เสริมว่า... การจัดประชุม “เมดิคัล ดาต้า สแตนดาร์ดส์ เอ็กซ์โปร์” ครั้งนี้
ผู้ที่สนใจสามารถตรวจสอบรายละเอียดเพิ่มเติมได้ในเว็บไซต์

http://cvmc.mahidol.ac.th/mds/

หรือติดต่อสอบถามที่ โทร. 0-2201-2211 ต่อ 237 ซึ่งนี่เป็นการประชุมเพื่อเตรียมความพร้อมด้าน
บุคลากรและการวิจัยในการรองรับยุทธศาสตร์การพัฒนาระบบข้อมูลข่าวสารทางสุขภาพของประเทศ
โดยเฉพาะด้านการกำหนดมาตรฐานและการกำหนดข้อมูลใช้ประโยชน์ในการดูแลรักษาผู้ป่วยและ
รวมถึงการสร้างเสริมสุขภาพของประชาชน
   
ที่ผ่านมาในอดีต การรักษาผู้ป่วยมีปัญหาอันเนื่องจากระบบเกิดขึ้นหลายรูปแบบที่ทำให้
ผู้ป่วยเกิดอาการเบื่อแพทย์ เบื่อโรงพยาบาล เช่น
การที่ผู้ป่วยต้องเสียเวลาเกือบทั้งวันในการเข้าพบแพทย์ตามโรงพยาบาล หรือ การฟ้องร้อง
ซึ่งการพัฒนาระบบข้อมูลสุขภาพจะช่วยได้

   
“จะช่วยให้การสืบค้นข้อมูลของผู้ป่วยทำได้สะดวกรวด  เร็ว และช่วยให้แพทย์เข้าถึงข้อมูล
ได้อย่างถูกต้อง รวมทั้งสามารถส่งต่อข้อมูลไปยังหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง หรือ

ส่งต่อไปยัง กระทรวงสาธารณสุข เพื่อการกำหนดนโยบายสาธารณสุขของประเทศได้
อย่างมีประสิทธิภาพ”
...นพ.ฆนัท ระบุ
   
ทั้งนี้ การประชุมเกี่ยวกับ “ระบบสารสนเทศทางการแพทย์” ดังกล่าวนี้ ถือว่า
สอดคล้องโดยตรงกับ แผนยุทธศาสตร์การขับเคลื่อนระบบพัฒนา
ข้อมูลข่าวสารสุขภาพที่ ครม.มีมติเมื่อ20 ก.ค.ที่ผ่านมา   
นี่เป็น “เรื่องไม่วุ่นเกี่ยวกับแพทย์” ที่น่าติดตามผล!!.


 ปิ๊งๆ ปิ๊งๆ ปิ๊งๆ

XXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXX

เครือข่ายกระทรวงสาธารณสุข Virtual Private Network:VPN ใกล้จะมีจริงแล้ว
ทำให้รักษาได้ที่ ร.พ.ทุกแห่งที่ เป็นสมาชิกเครือข่ายสาธารณสุข VPN โดยประชาชนจะ
ใช้บัตรประชาชน สมาร์ทการ์ด เข้าตรวจได้ทุกที่ในประเทศไทย ใช้สิทธิฟรีรักษาได้
แพทย์ที่ทำการรักษาจะล็อคอินเข้าไปใน ร.พ.ที่คนไข้เคยรักษาได้ ทำให้รักษาต่อเนื่องได้ทันที

 win win win
      บันทึกการเข้า

3 เหลี่ยมเขยื้้อนภูเขา เสนอโดย ศ.นพ.ประเวศ วะสี มี 3 ด้าน คือ ด้านที่ 1 ด้านให้ความรู้กับกลุ่มคน ด้านที่ 2 กลุ่มคน ที่ได้รับความรู้ เห็นด้วย สร้างวัฒนธรรมไม่มีบทลงโทษถ้าไม่ทำ ด้านที่ 3 ด้านการเมือง เป็นด้านออกกฏหมาย มีบทลงโทษถ้าไม่ปฏิบัติ ถ้ามีครบ 3 ด้านจะเกิดการเปลี่ยนแปลงได้จริง
Samrotri2517
Cmadong Member
Hero Cmadong Member
****


จะเป็นด้านที่1และ2ของ3เหลี่ยมฯ เพื่อให้เกิดด้านที่3
ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: รหัสเข้า 17 รุ่น 57
คณะ: แพทยศาสตร์ จุฬาฯรุ่น 30
กระทู้: 1,915

« ตอบ #27 เมื่อ: 07 สิงหาคม 2553, 12:27:59 »


ขอขอบคุณเวบกรุงเทพธุรกิจ คอลัมภ์ทัศนะจากผู้อ่าน วันพฤหัส 5 สิงหาคม 2553 ที่เอื้อเฟื้อข่าว
http://www.bangkokbiznews.com/home/detail/politics/opinion/reader-opinion/20100805/346592/%E0%B8%9B%E0%B8%A3%E0%B8%B0%E0%B8%8A%E0%B8%B2%E0%B8%98%E0%B8%B4%E0%B8%9B%E0%B9%84%E0%B8%95%E0%B8%A2%E0%B8%97%E0%B8%B2%E0%B8%87%E0%B8%95%E0%B8%A3%E0%B8%87.html

"อินเตอร์เนต กับการเมือง" ประชาธิปไตยทางตรง คอลัมภ์ทัศนะจากผู้อ่าน



“ประชาธิปไตยทางตรง” จึงน่าจะเป็นคำตอบของการแก้ปัญหาความล้มเหลวของระบบการเมืองไทย
โดย อนล นาครทรรพ

ประชาธิปไตยทางตรง คือระบบที่ประชาชนเป็นผู้ใช้อำนาจทางการเมืองโดยตรงโดยไม่ผ่านผู้แทน เป็นระบบการปกครองที่เปิดโอกาสให้ทุกคนมีส่วนร่วมในการบริหารรัฐอย่างต่อเนื่องและโดยปราศจากข้อจำกัด ตามเจตนารมณ์ของประชาธิปไตย สำหรับท่านที่ยังนึกภาพไม่ออก สมมติว่าเราแต่ละคนต่างเป็นสมาชิกของชนเผ่าต่างๆ ที่อาศัยอย่างกระจัดกระจายบนแผ่นดินอันกว้างใหญ่ภายใต้การปกครองเดียวกัน เมื่อถึงเวลาที่ต้องมีการถกเถียงตัดสินใจเงื่อนไขการบริหารและปกครอง เป็นไปไม่ได้ว่าสมาชิกทุกคนของทุกเผ่าจะสามารถเดินทางไปร่วมประชุมรอบกองไฟได้ แต่ละเผ่าจึงต้องเลือกส่งผู้แทนเผ่าข้ามแม่น้ำข้ามภูเขาไปรับรู้รับฟังและตัดสินใจแทนสมาชิกอื่นๆ ของเผ่า เป็นการเดินทางไปหาประชาธิปไตย

อย่างไรก็ตาม ประชาธิปไตยในปัจจุบันได้เดินทางมาหาสมาชิกทุกคนของทุกเผ่าแล้วผ่านระบบการสื่อสารต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นโทรทัศน์ วิทยุ โทรศัพท์มือถือหรือเครื่องคอมพิวเตอร์ ในเมื่อสมาชิกทุกคนของเผ่าสามารถรับรู้ข้อมูลข่าวสารได้ตลอดเวลา และสามารถแสดงเจตจำนงของตนโดยทันทีเพียงด้วยการกดปุ่มบนเครื่องมือสื่อสาร

จึงยังมีความจำเป็นอีกหรือที่จะต้องส่งตัวแทนของเผ่าไปร่วมประชุมรอบกองไฟ ประชาธิปไตยได้เดินทางมาหาเราแล้ว เพียงแต่ตัวเราก้าวหน้าพอหรือยังที่จะกดปุ่มเปิดรับประชาธิปไตย

 gek gek gek

XXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXX

ขอขอบคุณเวบเดลินิวส์ วันเสาร์ ที่ 07 สิงหาคม 2553 เอื้อเฟื้อข่าว
http://www.dailynews.co.th/newstartpage/index.cfm?page=content&categoryID=561&contentID=83511

อัดยับ ส.ส.ย้ายพรรค ชู้การเมือง เผย 6 คน จ่อหนีพท. บิ๊กสุเชื่อวุ่นอีกนาน นร.ตีกันแก้ง่ายกว่า



“บิ๊กสุ” เชื่อการเมืองยังคงเดือดต่อไป เย้ยรัฐบาลแค่แก้ปัญหาเด็กนักเรียนตีกันยังทำไม่ได้เลย แล้วจะเอาปัญญาอะไรมาแก้ให้คนไทยปรองดองกันได้ เพื่อไทยเล็งปรับโครงสร้างใหม่ เน้น 3 เรื่องหลัก มั่นใจชนะเลือกตั้งเพราะพบจุดอ่อนทั้ง ปชป.และ ภท. “ปลอดประสพ” ฉะยับ ส.ส.ย้ายพรรคแถมป่าวประกาศให้คนรู้ เปรียบเป็นการเล่นชู้ทางการเมือง พร้อมจับตาอีก 6 ส.ส.เตรียมอพยพ เผยหลายคนต่อรองผลประโยชน์กับรัฐบาลแลกยกมือโหวตผ่านงบประมาณ “ชวน”

แฉในสภามี ส.ส.ที่มาจากการซื้อเสียงกว่าครึ่ง ถือเป็นโรคร้ายในระบอบการเมือง


    
มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ท่าพระจันทร์ มีการจัดกิจกรรมวันรพี ประจำปี 2553
โดยในช่วงเช้ามีการอภิปรายในหัวข้อ

“ผู้แทน : แทนใคร?”



“ชวน”แฉสภาซื้อเสียงกว่าครึ่ง

นายชวน หลีกภัย ประธานสภาที่ปรึกษาพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า
ทุกวันนี้บ้านเมืองมีปัญหาก็ชี้ไปที่นักการเมือง แต่ตนมองว่าเป็นเรื่องของตัวบุคคล การเป็นผู้แทนจะแทนใครอยู่ที่ตัวเราเอง ในระบอบประชาธิปไตยเราปฏิเสธการมีตัวแทนไม่ได้ แต่โรคร้ายที่ติดมาในระบอบการเมือง คือการประพฤติมิชอบโกงกิน

ในสภามีพวกที่มาจากซื้อเสียงมากกว่าครึ่ง เริ่มจากที่มีโรคร้อยเอ็ด
สมัย พล.อ.เกรียงศักดิ์ ชมะนันทน์ สมัคร ส.ส.ก็มีการใช้เงิน เริ่มปรากฏขึ้น

    
นายชวนกล่าวต่อว่า ที่ผ่านมา ส.ส. มีความรู้มากขึ้น แต่การมีความรู้จะไม่ช่วยให้สภาดีขึ้น
หากมีการซื้อเสียง ปัญหาอีกอย่างคือการไม่เคารพกฎหมาย คนต้องเคารพ กฎกติกาบ้านเมือง
พูดอะไรก็ต้องทำอย่างนั้น ไม่ว่าจะเป็นรัฐบาลหรือฝ่ายค้าน นักการเมืองต้องมี
การพัฒนาตัวและความตั้งใจอย่าง  นายอภิสิทธิ์ไม่รู้อะไรก็ศึกษา.

gek gek gek

XXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXX

เพราะนักการเมือง มีทั้งดีและไม่ดีถ้าเราใช้เทคโนโลยี่สารสนเทศ IT:Information Technology
ได้แก่ ใช้ผ่านทางอินเตอร์เนต ในการประชาสัมพันธ์ การทำงานของรัฐบาล ของฝ่ายค้าน
ขององค์กรอิสระ ตลอดจนประชาชนร่วมอภิปรายปัญหาบ้านเมือง การลงคะแนนเสียง ฯลฯ
เป็นการใช้สิทธิทางตรงไม่ต้องผ่านตัวแทน ซึ่งมีโอกาศทำเพื่อตนเอง หรือ เพื่อพรรคได้
ทำให้ สมาชิกผู้แทนราษฏร สส.ที่เราเลือกให้ไปทำหน้าที่แทน
ไม่มีประโยชน์
สามารถ พยัคฆ์อรุณ
http://www.4shared.com/file/81734383/a2392aa0/00x22___-_.html

 win win win

      บันทึกการเข้า

3 เหลี่ยมเขยื้้อนภูเขา เสนอโดย ศ.นพ.ประเวศ วะสี มี 3 ด้าน คือ ด้านที่ 1 ด้านให้ความรู้กับกลุ่มคน ด้านที่ 2 กลุ่มคน ที่ได้รับความรู้ เห็นด้วย สร้างวัฒนธรรมไม่มีบทลงโทษถ้าไม่ทำ ด้านที่ 3 ด้านการเมือง เป็นด้านออกกฏหมาย มีบทลงโทษถ้าไม่ปฏิบัติ ถ้ามีครบ 3 ด้านจะเกิดการเปลี่ยนแปลงได้จริง
  หน้า: 1 [2]  ทั้งหมด   ขึ้นบน
  
กระโดดไป:  

     

ทำไมหอพักนิสิตจุฬาจึงเป็นดินแดนมหัศจรรย์            " ไม่ได้เป็นแค่หอให้นอนพัก  แต่เป็นบ้านอบอุ่นรักให้อาศัย  ไม่เป็นแค่ที่ซุกหัวยามหลบภัย  แต่สร้างใจให้เข้มแข็งแกร่งการงาน"  <))))><