29 มีนาคม 2567, 05:39:13
ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน


เข้าสู่ระบบด้วยชื่อผู้ใช้ รหัสผ่าน [สมาชิกเก่าลืมรหัส โทร 081-7611760]
A A A A  ระเบียบปฎิบัติ
   
Languages    
  หน้า: [1]   ลงล่าง
ผู้เขียน หัวข้อ: "วิชาการ จาก น้ำมหาบำบัด ป้าเช็ง ถึง จีที 200"  (อ่าน 7412 ครั้ง)
0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
Samrotri2517
Cmadong Member
Hero Cmadong Member
****


จะเป็นด้านที่1และ2ของ3เหลี่ยมฯ เพื่อให้เกิดด้านที่3
ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: รหัสเข้า 17 รุ่น 57
คณะ: แพทยศาสตร์ จุฬาฯรุ่น 30
กระทู้: 1,915

« เมื่อ: 19 กุมภาพันธ์ 2553, 12:50:13 »


                  

          ข่าวป้าเช็ง น้ำมหาบําบัด

http://www.bloggang.com/mainblog.php?id=polball&month=27-01-2010&group=2&gblog=42

          อายจัง อายจัง อายจัง

                    บิ๊กทหารตบเท้าอุ้มจีที200 "ป๊อก"งัดนายกฯ

                  

          เกณฑ์จนท.โชว์ผลงาน ลากก.วิทย์ฯลงดูของจริง มาร์คย้ำเครื่องห่วย-เสี่ยง ใช้ไม่ได้:เจ้าหน้าที่ทหารหน่วยเฉพาะกิจที่11ยะลา ใช้เครื่องจีที200 ตรวจสอบหน้าอาคารสำนักงานคณะกรรมการอิสลามประจำจังหวัดยะลา ปรากฎว่าเครื่องชี้ไปที่กล่องต้องสังสัยวางอยู่ จึงให้ชุดเก็บกุ้วัตถุระเบิดใช้เครื่องแรงดันน้ำยิงทำลาย พบว่าไม่ใช่ระเบิดเป็นเพียงก้อนหินธรรมดา

          เมื่อเวลา 8.30 น.วันที่ 18 กุมภาพันธ์ นายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรีด้านความมั่นคง ให้สัมภาษณ์ถึงปัญหาประสิทธิภาพของเครื่องตรวจสอบวัตถุระเบิดจีที 200 ว่า แม้นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี จะสั่งให้ยุติการจัดซื้อไว้ก่อน แต่เชื่อว่าจะไม่เกิดปัญหาขัดแย้งกับกองทัพที่ยืนยันจะใช้งานเครื่องจีที 200 ต่อไป ทั้งนี้ตนอยากให้รอฟังกองทัพชี้แจงก่อน

                      

                     หนุนสตง.ตรวจสอบซื้อเครื่องจีที200

          เมื่อถามว่า กรณีที่ทางสำนักงานตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) จะตรวจสอบราคาจัดซื้อเครื่องจีที200 นายสุเทพ กล่าวว่า ตรวจสอบได้ สตง.มีหน้าที่ตรวจสอบการใช้จ่ายเงินของส่วนราชการอยู่แล้ว ท่านก็ต้องทำหน้าที่ ถ้าไม่ทำหน้าที่ก็เป็นเรื่องแปลกประหลาด ซึ่งตนคิดว่าเราต้องแยกประเด็นว่า ของใช้ได้หรือใช้ไม่ได้ ใช้ดีหรือใช้ไม่ดี กับวิธีการจัดซื้อจัดจ้าง

          "อย่างที่เรียนแล้วว่าในอดีตเคยมีเรื่องการซื้อของแล้วใช้ไม่ได้ แต่ไม่ได้หมายความว่าเขาทุจริตคอรัปชั่น ถ้าเราพิสูจน์ได้ว่าเขาทุจริตคอรัปชั่นอย่างนี้ก็เป็นธรรมดา ก็เหมือนเราซื้อรถมาใช้บางครั้งก็มีปัญหา อย่างนี้ก็ไปโกรธคนขายไม่ได้"นายสุเทพ กล่าว พร้อมยืนยันว่าพล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา ผู้บัญชาการทหารบก(ผบ.ทบ.)นั้น เป็นคนดี ไม่มีปัญหาเรื่องการจัดซื้อแน่นอน

         อ่านข่าวทั้งหมดได้จาก น.ส.พ.แนวหน้า วันจันทร์ ที่ 19 กุมภาพันธ์ 2553

http://www.naewna.com/news.asp?ID=200103

         เตือน เตือน เตือน

      บันทึกการเข้า

3 เหลี่ยมเขยื้้อนภูเขา เสนอโดย ศ.นพ.ประเวศ วะสี มี 3 ด้าน คือ ด้านที่ 1 ด้านให้ความรู้กับกลุ่มคน ด้านที่ 2 กลุ่มคน ที่ได้รับความรู้ เห็นด้วย สร้างวัฒนธรรมไม่มีบทลงโทษถ้าไม่ทำ ด้านที่ 3 ด้านการเมือง เป็นด้านออกกฏหมาย มีบทลงโทษถ้าไม่ปฏิบัติ ถ้ามีครบ 3 ด้านจะเกิดการเปลี่ยนแปลงได้จริง
Samrotri2517
Cmadong Member
Hero Cmadong Member
****


จะเป็นด้านที่1และ2ของ3เหลี่ยมฯ เพื่อให้เกิดด้านที่3
ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: รหัสเข้า 17 รุ่น 57
คณะ: แพทยศาสตร์ จุฬาฯรุ่น 30
กระทู้: 1,915

« ตอบ #1 เมื่อ: 19 กุมภาพันธ์ 2553, 18:10:29 »


                 โฮ่งๆเจ๋งกว่า 'จีที200' 'สุนัขหาระเบิด'

           น.ส.พ.เดลินิวส์ วันศุกร์ ที่ 19 กุมภาพันธ์ 2553

                  

         ใช้ 5-6 ปี...ไม่กี่แสน !! "ใช้สุนัขตรวจสอบมีประสิทธิภาพมากกว่า” ...เป็นสรุปส่วนหนึ่งจากคำกล่าวของนายกรัฐมนตรี อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หลังผลการพิสูจน์เครื่อง “จีที 200 (GT 200)” เครื่องมือตรวจหาระเบิดราคาหลายแสนถึงล้านกว่าบาท สรุปออกมาว่า “ไม่มีประสิทธิภาพ” เพราะทดสอบตรวจหาระเบิด 20 ครั้ง พบแค่ 4 ครั้ง
    
         เรื่องของเครื่องมือตรวจระเบิด...ก็คงต้องคุ้ยกันยาว...แต่ ณ ที่นี้...ลองมาดูเรื่องราวของ “สุนัขตรวจระเบิด”
    
         ทั้งนี้ กับเรื่องนี้ “สกู๊ปหน้า 1 เดลินิวส์” ลองสอบถามไปยัง สุทธิเกียรติ โสภณิก หัวหน้า โครงการสุนัขกู้ภัยแห่งชาติ (Thai RDA) มูลนิธิพลเอกชาติชาย ชุณหะวัณ ซึ่งเป็นองค์กรเอกชนพลเรือนที่จัดตั้งขึ้นเพื่อวัตถุประสงค์ในการรวบรวมอาสาสมัครสุนัข เพื่อฝึกและปฏิบัติภารกิจช่วยเหลือราชการ ก็ได้ข้อมูลมาว่า...

         ทางโครงการฯ ไม่เคยสงสัย และมั่นใจว่าสุนัขที่ได้รับการฝึกมาอย่างดีสามารถปฏิบัติงานเป็นเครื่องมือช่วยเหลือเจ้าหน้าที่ได้อย่างไม่ขาดตกบกพร่อง โดยสุนัขใช้งานแต่ละด้านก็จะมีการฝึกที่แตกต่างกัน แต่โดยสถิติแล้ว “สุนัขจะมีประสิทธิภาพในการใช้งานเฉลี่ย 70-80% ขึ้นกับภารกิจและสภาพแวดล้อม”
    
         หัวหน้าโครงการสุนัขกู้ภัย บอกต่อไปว่า... จากประสบการณ์ สายพันธุ์สุนัขที่นิยมและเหมาะสมที่จะนำมาใช้ในการฝึกเพื่อ “ค้นหาวัตถุระเบิด” นั้น มี 3 สายพันธุ์หลัก ๆ ได้แก่

เยอรมัน เชพเพิร์ด (อัลเซเชี่ยน),

เบลเยี่ยม มาลีนัวร์,

ลาบราดอร์


         “การฝึกสุนัขนั้น ตามปกติเมื่อฝึกขั้นเริ่มต้นให้สุนัขจนครบ 1 ปีแล้ว จะต้องนำสุนัขมาฝึกแบ่งตามลักษณะการใช้งาน หรือตามภารกิจที่จะต้องการใช้งานสุนัข ต่ออีก 6 เดือน - 1 ปี

           ดังนั้นสุนัขที่จะสามารถใช้ปฏิบัติงานได้จริง ๆ ก็จะมีอายุประมาณ 1.6-2 ปี ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับผู้ฝึกสุนัขด้วย ส่วนอายุที่จะปลดเกษียณนั้น โดยปกติอยู่ในช่วง 7-8 ปี ขึ้นอยู่กับสุขภาพของสุนัข” ...สุทธิเกียรติระบุ
    
         ทั้งนี้ หากจะประเมินค่าใช้จ่าย สุทธิเกียรติคำนวณจากประสบการณ์ว่า... ค่าใช้จ่ายช่วงฝึกสุนัขเพื่อใช้ค้นหาระเบิด 1 ตัว น่าจะอยู่ที่ประมาณ 200,000-300,000 บาท ส่วนค่าใช้จ่ายในการดูแลช่วงที่ใช้งานได้แล้ว หลัก ๆ ก็จะมีค่าอาหาร ค่ายารักษาโรค วัคซีน เป็นต้น เฉลี่ยแล้วก็น่าจะใช้ ค่าใช้จ่ายในการดูแลสุนัข 1 ตัว ตกเดือนละประมาณ 1,500-2,000 บาท หรือปีละประมาณ 18,000-24,000 บาท
    
         ถ้าสุนัขอายุ 7-8 ปีปลดระวาง ก็เท่ากับใช้งานอยู่ 5-6 ปี คิดตัวเลขค่าใช้จ่ายต่อปีสูงสุดที่ 24,000 บาท รวมแล้วก็ 120,000-144,000 บาท บวกค่าใช้จ่ายช่วงฝึกที่ตัวเลขสูงสุด 300,000 บาท เบ็ดเสร็จแล้วก็ ใช้งบ 420,000-444,000 บาท ต่อการใช้งานสุนัขตรวจหาระเบิด 5-6 ปี ซึ่งนี่ก็เป็นตัวเลขคร่าว ๆ ที่หากจะมีใครเอาไปเปรียบเทียบกับค่าเครื่องจีที 200 ที่หลายแสนถึงล้านกว่า ก็คงสุดแท้แต่ ?!?!?
    
         อย่างไรก็ตาม สำหรับหัวหน้าโครงการสุนัขกู้ภัยแห่งชาติ เขาทิ้งท้ายว่า... “สุนัขใช้งานเหล่านี้เป็นอุปกรณ์มีชีวิตที่มีประสิทธิภาพที่สุดที่มนุษย์หามาได้ โดยไม่มีการเรียกร้องหรือสร้างข้อแม้ใด ๆ จากมนุษย์...
    
         เพียงความรักจากมนุษย์ก็เพียงพอแล้วสำหรับความภักดี ที่สุนัขจะมีให้มนุษย์...แม้ว่าจะต้องตายแทนมนุษย์ !!!”.
    
นำมาจาก น.ส.พ.เดลินิวส์

 http://www.dailynews.co.th/newstartpage/index.cfm?page=content&categoryID=582&contentID=49417        

          gek gek gek
      บันทึกการเข้า

3 เหลี่ยมเขยื้้อนภูเขา เสนอโดย ศ.นพ.ประเวศ วะสี มี 3 ด้าน คือ ด้านที่ 1 ด้านให้ความรู้กับกลุ่มคน ด้านที่ 2 กลุ่มคน ที่ได้รับความรู้ เห็นด้วย สร้างวัฒนธรรมไม่มีบทลงโทษถ้าไม่ทำ ด้านที่ 3 ด้านการเมือง เป็นด้านออกกฏหมาย มีบทลงโทษถ้าไม่ปฏิบัติ ถ้ามีครบ 3 ด้านจะเกิดการเปลี่ยนแปลงได้จริง
Samrotri2517
Cmadong Member
Hero Cmadong Member
****


จะเป็นด้านที่1และ2ของ3เหลี่ยมฯ เพื่อให้เกิดด้านที่3
ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: รหัสเข้า 17 รุ่น 57
คณะ: แพทยศาสตร์ จุฬาฯรุ่น 30
กระทู้: 1,915

« ตอบ #2 เมื่อ: 01 มีนาคม 2553, 19:51:06 »


         เสื้อเกราะกันกระสุน
น.ส.พ.เดลินิวส์ วันจันทร์ ที่ 01 มีนาคม 2553 เวลา 0:00 น  

        
         เมื่อหลายปีก่อน มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลธัญบุรี ได้เปิดตัวเสื้อเกราะกันกระสุน จากเส้นใยไหมแท้ 100% เป็นตัวแรกของโลกมาแล้ว เสื้อเกราะดังกล่าวผลิตขึ้นด้วยกระบวนการทอลายตะกร้า น้ำหนัก 1.6 กิโลกรัม สามารถป้องกันกระสุนปืนขนาด .22, .38 และ 11 มม. ด้วยราคาต้นทุนในงานวิจัยตัวละประมาณ 8-9 พันบาท

                  
    
         จากความสำเร็จดังกล่าว ทีมนักวิจัย ประกอบด้วย รศ.สุจิระ ขอจิตต์เมตต์, ผศ.ดร.สมประสงค์ ภาษาประเทศ และผศ.ดร.อภิชาติ สนธิสมบัติ ได้ต่อยอดไปสู่การพัฒนาเสื้อเกราะกันกระสุนที่มีประสิทธิภาพมากขึ้น
    
         ความแตกต่างจากเสื้อเกราะรุ่นเก่า คือ กระบวนการผลิตที่มีวิวัฒนาการสูงขึ้น และ สมรรถนะการป้องกันอาวุธร้ายแรง

         เสื้อเกราะรุ่นใหม่ ผลิตขึ้นด้วยกระบวนการทางวิศวกรรมสิ่งทอ ด้วยการนำเส้นใยสังเคราะห์มาเคลือบด้วยแผ่นฟิล์ม โดยกำหนดถึงแรงดัน การทนความร้อน แรงยืดหยุ่นตัว จากนั้นจึงนำมาเข้าสู่กระบวนการอัดขึ้นรูปเป็นแผ่นแล้วมาจัดเรียงเป็นชั้น ๆ ซึ่งไม่ใช่เพียงการทอเส้นใยอีกต่อไป
    
         เมื่อมีการพัฒนาและกระบวนการที่ซับซ้อน ประสิทธิภาพก็ ย่อมเพิ่มขึ้น ซึ่งเจ้าของผลงานบอกว่า

         สมรรถนะ ของเสื้อเกราะรุ่นใหม่สามารถป้องกันกระสุนจากปืนพกสั้นทั้งหมด รวมทั้งป้องกันปืน เอ็ม 16 ซึ่งเป็นอาวุธสงครามอีกด้วย
    
         สำนักงานทางวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีได้ให้ทุน นำเทคโนโลยีดังกล่าว เพื่อผลิตชุดเก็บกู้กับระเบิดสังหารบุคคล ส่งไปใช้จริงที่ภาคใต้ 15 ชุดจนถึงปัจจุบัน ได้รับการตอบรับที่ดีจากทหารที่ใช้  อยู่ กระทรวงกลาโหมได้มอบหมายให้ทำเพิ่มอีก 77 ชุด เพื่อส่งมอบให้กับทางทหารในจัง หวัดชายแดนภาคใต้ ล่าสุดผู้วิจัยได้พัฒนา เพิ่มเติมในส่วนที่ล่อแหลมและเสี่ยง โดยเพิ่มการ์ดป้องกัน ปลายคาง ต้นคอ แขน และลำตัว เพื่อให้มีประสิทธิภาพการป้องกันมากที่สุด
    
         รศ.สุจิระ บอกว่า นอกจากประสิทธิภาพที่มากขึ้น มีการผลิตเพื่อการป้องกันที่มากขึ้นแล้ว ผลประโยชน์ที่เกิดกับประเทศไม่ได้มีเท่านั้น เพราะหากเรานำเข้าจากต่างประเทศ ราคาชุดละ 1.8 ล้านบาท  แต่ของผลิตในประเทศแค่ชุดละ 12,000 บาท ทำให้เหลืองบประมาณไปใช้ประโยชน์ด้านอื่นได้มหาศาล.

         http://www.dailynews.co.th/newstartpage/index.cfm?page=content&categoryId=316&contentID=51316

         ปิ๊งๆ ปิ๊งๆ ปิ๊งๆ

         ผมว่าน่าจะนำมาให้ทหาร ตำรวจ หรือ กลุ่มเสี่ยง ใช้ในการป้องกันตนเอง นอกจากใช้เครื่องค้นหาระเบิด จีที 200 ที่กำลังตรวจสอบคุณภาพว่า ใช้ได้ หรือ เป็นเพียงหลอกลวงให้เชื่อ ให้ีมีกำลังใจ เหมือน
         น้ำมหาบำบัด ป้าเช็ง เหอๆๆ
      บันทึกการเข้า

3 เหลี่ยมเขยื้้อนภูเขา เสนอโดย ศ.นพ.ประเวศ วะสี มี 3 ด้าน คือ ด้านที่ 1 ด้านให้ความรู้กับกลุ่มคน ด้านที่ 2 กลุ่มคน ที่ได้รับความรู้ เห็นด้วย สร้างวัฒนธรรมไม่มีบทลงโทษถ้าไม่ทำ ด้านที่ 3 ด้านการเมือง เป็นด้านออกกฏหมาย มีบทลงโทษถ้าไม่ปฏิบัติ ถ้ามีครบ 3 ด้านจะเกิดการเปลี่ยนแปลงได้จริง
Intania๑๖
Cmadong Member
Hero Cmadong Member
****


ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: ๒๕๑๖
คณะ: เวสสุกรรม
กระทู้: 1,071

« ตอบ #3 เมื่อ: 02 มีนาคม 2553, 15:27:37 »



<a href="http://www.youtube.com/watch?v=tIkH_WSZCSQ" target="_blank">http://www.youtube.com/watch?v=tIkH_WSZCSQ</a>
<a href="http://www.youtube.com/watch?v=gXqzl-9nmcY" target="_blank">http://www.youtube.com/watch?v=gXqzl-9nmcY</a>

      บันทึกการเข้า

Intania๑๖
Cmadong Member
Hero Cmadong Member
****


ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: ๒๕๑๖
คณะ: เวสสุกรรม
กระทู้: 1,071

« ตอบ #4 เมื่อ: 03 มีนาคม 2553, 07:44:12 »


<a href="http://www.youtube.com/watch?v=46lNXyVmT_Q" target="_blank">http://www.youtube.com/watch?v=46lNXyVmT_Q</a>

ดูกันจะๆ GT200 ไม่มีแบตเตอรี่ แล้วจะเอาไฟฟ้าที่ไหนมาใช้งาน  ข้างในว่างเปล่า
เหมือนกับสมองพวกที่สั้งซื้อมาใช้งาน แต่กระเป๋าตุงและบัญชีในธนาคารก็เต็มไปด้วยตัวเลข
นี่มัน เครื่องมือ ไม้ล้างป่าช้าชัดๆ ราคา 4 แสน - 1 ล้านกว่าบาท
      บันทึกการเข้า

  หน้า: [1]   ขึ้นบน
  
กระโดดไป:  

     

สมาคมนิสิตเก่าหอพักนิสิต จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย มวลสมาชิกสมาคม คณาจารย์ และนิสิตเก่าทุกคน ขอน้อมเกล้าถวายความอาลัย  พระผู้เสด็จสู่สวรรคาลัย ด้วยเกล้าด้วยกระหม่อม ขอเดชะ <;))))><