ซีมะโด่ง ร่วมปลูกต้นไม้รอบบ้านพ่อกับ กฟผ.

[wannee]

ภาพหมู่ก่อนจะลงจากเขา (วัด)

[wannee]

พี่หมอโอภาส  ลุ้นที่จะให้ผ้าดิบ กลับมาเป็นธรรมเนียมปฏิบัติ เวลาที่ได้เข้ามาอยู่หอปีแรก ที่น้องทุกคนจะมี

แบบนี้อ่ะน้องๆ

[wannee]

แล้วยังงี้ ทำงายยยยดี

เฮ้อ....ไอ้เสียดเอ้ย... เสียงพี่สิงห์กับพี่เมารำพึงในใจ....

[wannee]

ลงเรือกลับบ้านพัก

[wannee]

ถึงที่หมายแล้ว  ต้องช่วยกันดึงเชือกไว้

พี่ปิ๊ด 15 บอกว่า เห็นเป็นน้องๆนะเนี่ย    แล้งงายยยอ่ะ  เป็นพี่ๆ จาทิ้งเหรอ 

[wannee]

หลังจาก  กลับเข้าที่พักเพื่อเก็บข้าวของกลับกรุงเทพฯ   เราก็อำลาเขื่อนแก่งกระจานกัน    

ระหว่างเดินทางมีบริการขนมจากญี่ปุ่น  ที่อภินันทนาการมาจากพี่สุรชัย 14 และพี่หล้า 14  

[wannee]

แวะรับประทานอาหารเที่ยง

ที่ร้านนี้ ตามคำแนะนำของคุณปัญญา 16

[wannee]

น้องหน่อย อย่าลืมเช่นเคย clip video ค่ะ

เมื่ออิ่มกันแล้ว พวกเราก็เดินทางต่อเพื่อกลับกรุงเทพฯ       

และแวะจอด เพื่อซื้อของฝากที่ร้านแม่กิมไล้

[wannee]

 ประมาณ  16.30 น. ถึงกรุงเทพฯ ( หอพักนิสิตจุฬาฯ ) โดยสวัสดิภาพ

ขอบคุณอจ.พินิจ และพี่ติ๋ว ที่ร่วมเดินทางไปกับพวกเรา



แยกย้ายกัน และเราจะเจอกันอีก

[wannee]

สวัสดีค่ะ   
และจะขอไปปูเสื่อรอชมจากกล้องตัวอื่นๆค่ะ


ตากล้องจำเป็น
เสียด

[wannee]

เรียน   พี่ๆ  เพื่อนๆ  น้องๆ ชาวซีมะโด่ง ทุกท่าน

             ตามที่คณะกรรมการชมรมฯ ได้จัดให้มีการทำกิจกรรมเพื่อสังคม โดยการเข้าร่วม"โครงการปลูกต้นไม้รอบบ้านพ่อ" ของการไฟฟ้าฝ่ายผลิต ในวันที 7-8 สิงหาคม   สรุปผลการจัดงานเป็นไปด้วยความเรียบร้อยตามวัตถุประสงค์ที่ตั้งไว้ทุก ประการ

            ทางคณะกรรมการชมรมฯ ขอขอบคุณน้ำใจอันดีงามของทุกๆ ท่าน และ การไฟฟ้าฝ่ายผลิต     ที่สนับสนุนและส่งเสริมให้นิสิตเก่าหอพักได้ทำกิจกรรมอันเป็นประโยชน์ทางสังคมโดยรวม และ คณะกรรมการชมรมฯขอขอบคุณคณะทำงาน ซึ่งมีคุณพูนสุข โตชนาการ ในฐานะรองประธานชมรมฯ เป็นแม่งาน ที่ช่วยบริหารจัดการงานทุกอย่างเป็นไปด้วยดี  รวมทั้งพี่ ๆ เพื่อนๆ  น้องๆ  ชาวซีมะโด่งอีกหลายท่านที่ได้มาร่วมด้วยช่วยกัน คนละไม้คนละมือ ทำให้งานทุกอย่างราบรื่นและได้ตามวัตถุประสงค์ที่วางไว้  สำหรับข้อบกพร่องเล็กๆ  น้อยๆ ต่างๆ ที่เกิดขึ้นในการจัดการงานครั้งนี้ ทางคณะกรรมการขอน้อมรับไว้เพื่อพิจารณาปรับปรุงแก้ไขให้ดีขึ้นในการจัด กิจกรรมครั้งต่อ ๆ ไป

           คณะกรรมการชมรมต้องขอขอบคุณผู้ให้การสนับสนุนทุกฝ่าย   พี่ๆ เพื่อนๆ  น้องๆ  ชาวซีมะโด่งอีกครั้งหนึ่ง  และหวังว่าจะได้รับน้ำใจอันดีงามและความร่วมมือที่ดีเช่นเดียวกันนี้ในการ จัดกิจกรรมครั้งต่อๆ ไป

 

 วัฒนา โอภานนท์อมตะ  และ ทพญ.วรรณี ภูริยากร

ประธานชมรมนิสิตเก่าหอพักนิสิตจุฬาฯ

ในนามคณะกรรมการชมรมฯ

[เหยง 16]

ก่อนอื่น ต้องขอโทษชาวหอเก่าด้วยครับ สำหรับคำแนะนำเรื่องการใส่กางเกงขาสั้นหรือสามส่วน ไปปลูกต้นไม้ที่วัดห้วยมงคล

ไม่นึกว่า วันนี้แดดจะแรงจัด ในขณะที่หญ้าตรงจุดที่ปลูกขึ้นได้ใจจริงๆ ทราบมาว่าหลายๆคนถูกใบหญ้าบาดเอาเป็นรอยหลายคน

ซึ่งผมก็ไม่ได้นึกว่า ผู้จัดจะใช้วิธีหวดหญ้าหรือหวดป่ารก เอาแบบพอไปพอมา ความจริงความไถเปิดที่ให้ด้วยซ้ำ ต้นไม้จะลงรากได้ลึก

และโตเร็ว ไม่ใช่ปลูกไปซ่อมไป กว่าจะโตขึ้นมาต้องลุ้นกันอีกหลายๆ รอบ

[เหยง 16]

ที่สำคัญ ไปวัดห้วยมงคลต้องได้ของฝากติดไม้ติดมือกลับมากันทุกคน เพราะหลวงพ่อพระครูไพโรจน์ ท่านใจดี

ซองของขวัญ ข้างในเป็นพระหลวงพ่อทวดเนื้อผงคลุกรัก แจกให้ทุกคนที่ไปวัดห้วยมงคล บริเวณเต๊นท์ด้านขวาขององค์พระครับ

[เหยง 16]

อีกประการหนึ่ง ลืมบอกไปตั้งแต่ในชั้นก่อนเดินทางไป สำหรับของฝากของเมืองเพชรบุรี

ให้ซื้อซะที่อำเภอชะอำ เจ้าของเดียวกัน ขนมหม้อแกง 4 ถาด 100 บาท,

ขยับเลยขึ้นมา ตรง Outlet เข้าเมือง จะเริ่ม 3 ถาด 100 บาท,

และที่ตัวเมืองเพชร 2 ถาด 100 บาทครับ


ส่วนขนมประเภทปลาหมึก ปลาทะเล ตากแห้ง หรือบดใส่เครื่องปรุง ซื้อได้โดยพยายามซื้อร้านที่ตั้งอยู่ห่างไกลทาง

เช่น ร้านที่ตั้งติดห้องน้ำ จะถูกกว่าร้านที่อยู่ใกล้รถทัวร์จอด หรือร้านของเจ้าของที่จอดรถทัวร์


เอาเป็นโอกาสหน้า ได้ไปท่องเที่ยวเมืองเพชรบุรี ชะอำ หัวหิน ใช้วิธีนี้แล้วกันครับ ได้ขนมมากพอจะแจกทุกคนในราคาที่ไม่แพง

[เหยง 16]

คงต้องจัดโครงการปลูกป่า เพื่อลดภาวะโลกร้อนกันอีกหลายๆ รอบ ยิ่งรัฐบาลกำลังให้ BOI ส่งเสริมการลงทุนจากต่างชาติเพิ่มขึ้น

อ่านบทความนี้ครับ

วันที่ 20 สิงหาคม พ.ศ. 2553 เวลา 14:26:59 น.  มติชนออนไลน์
ตะลึง! ไทยปล่อยก๊าซเรือนกระจกอันดับ31ของโลก ต้องทนร้อนนานกลางคืนเย็นน้อยลง มีผู้ป่วยเพิ่มขึ้น


เมื่อวันที่ 20 สิงหาคม ที่รัฐสภา คณะอนุกรรมาธิการการศึกษาปัญหาสาธารณสุขสำคัญของประเทศ คณะกรรมาธิการการสาธารณสุข วุฒิสภา ร่วมกับสำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) และสำนักงานคณะกรรมการสุขภาพแห่งชาติ จัดสัมมนา "ผลกระทบของภาวะโลกร้อนต่อสุขภาวะ" โดยพญ.พรพันธุ์ บุณยรัตพันธุ์ ส.ว.สรรหา ประธานคณะอนุกรรมาธิการศึกษาปัญหาสาธารณสุข วุฒิสภา กล่าวว่า  จากสถิติในช่วง 30 ปี ระหว่างปี 2513-2544 พบว่า ทั่วโลกได้เกิดภัยธรรมชาติที่รุนแรงและมีความถี่เพิ่มขึ้น เช่น การเกิดพายุแรง 121 ครั้ง ในระหว่างปี 2513-2522 ขณะที่ในปี 2532-2543 พบพายุ 300 ครั้ง ไฟป่า 11 ครั้ง เพิ่มเป็น 54 ครั้ง ดินถล่ม 34 ครั้ง เพิ่มเป็น 114 ครั้ง คลื่นยักษ์ 2 ครั้ง เพิ่มเป็น 12 ครั้ง อุณหภูมิสูงจัด 9 ครั้ง เพิ่มเป็น 70 ครั้งในช่วงเวลาเดียวกัน ซึ่งหากไม่มีมาตรการแก้ไขคาดว่าความสูญเสียของทุกประเทศในแต่ละปีจะมีมูลค่าสูงถึง 5-20% ของผลิตภัณฑ์มวลรวมประชาชาติของโลก (world GDP) สำหรับประเทศไทย 5% ของ GDP จะมีมูลค่าถึง 4.5 แสนล้านบาท หรือครึ่งหนึ่งของงบประมาณแผ่นดิน


พญ.พรพันธุ์ กล่าวว่า ประเทศไทยกำลังประสบปัญหาภาวะโลกร้อนเช่นเดียวกับประเทศอื่นๆทั่วโลก เนื่องจากมีการปล่อยก๊าซเรือนกระจกมากเป็นอันดับที่ 31 ของโลก หรืออันดับ 4 ของอาเซียน ทำให้อุณหภูมิเฉลี่ยของไทยสูงขึ้น จำนวนวันที่มีอากาศร้อนเพิ่มขึ้น ระดับน้ำทะเลมีอัตราเพิ่มสูงขึ้น 20 มิลลิเมตรต่อปี นับตั้งแต่ปี 2503 เป็นเหตุให้เกิดการกัดเซาะชายฝั่งอ่าวไทยถึงขั้นวิกฤติ รวมถึงผลกระทบต่อสุขภาพ ดังนั้นสิ่งสำคัญที่ต้องมีการแก้ไขอย่างเร่งด่วน คือ การสร้างความตระหนักในสังคม และในระดับนโยบาย ควรมีการทำงานที่เชื่อมโยงกันจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องกับทรัพยากรธรรมชาติ ภาคอุตสาหกรรม ภาคเกษตรกรรม ต้องดำเนินยุทธศาสตร์ด้านการลดโลกร้อนอย่างจริงจัง ควบคู่ไปกับระดับท้องถิ่นที่ต้องสร้างความร่วมมือของชุมชนให้เกิดการมีส่วนร่วม เพื่อเป็นปราการหนึ่งในการพิทักษ์สุขภาพจากโลกร้อน


นายอานนท์ สนิทวงศ์ ณ อยุธยา ผู้อำนวยการศูนย์เครือข่ายงานวิเคราะห์วิจัยและฝึกอบรมการเปลี่ยนแปลงของโลกแห่งภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย กล่าวว่า ภูมิอากาศที่เปลี่ยนแปลงในประเทศไทยที่เกิดจากภาวะโลกร้อน ส่งผลให้จำนวนวันที่ร้อนกว่า 35 องศา มีมากขึ้น โดยภาคที่มีอุณหภูมิสูงขึ้นในช่วงกลางวันคือ ภาคกลาง ภาคตะวันตก และภาคเหนือตอนล่าง ในช่วงเดือนเมษายน จะมีอุณหภูมิประมาณ 42-43 องศา ส่วนคืนที่เย็นจะหายไปเรื่อยๆ


นพ.สมเกียรติ ศิริรัตนพฤกษ์ ผู้อำนวยการสำนักโรคจากการประกอบอาชีพและสิ่งแวดล้อม กรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข กล่าวว่า ประเทศไทยมีผู้เจ็บป่วยจากความร้อนเพิ่มขึ้น โดยจังหวัดที่มีผู้ป่วยสูงสุดคือ มุกดาหาร ตามด้วยนครราชสีมา และกาญจนบุรี ส่วนผลกระทบจากมลพิษทางอากาศที่เกิดจากปัญหาหมอกควัน ซึ่งในภาคเหนือ มีผู้ป่วยจากระบบทางเดินหายใจถึง 1 แสนราย โดยจ.แม่ฮ่องสอน มีผู้ป่วยด้วยโรคถุงลมโป่งพองสูงสุด เพราะมีปริมาณฝุ่นสูงสุด ตามด้วยจ.น่าน และพะเยา

http://www.matichon.co.th/news_detail.php?newsid=1282289312&grpid=00&catid=no

[อ้อย17]

 ควันหลงวันปลูกป่า..
   เพิ่งจัดการเสร็จเลยนำมาลงให้ดูค่ะ

   

   สาวมาดเมกกะแดนซ์..เอ๊ย...มาดสาวหน่อย17

[อ้อย17]

ภาพหมู...เอ๊ย..หมู่ที่หน้าวัด ท้ายเขื่อนแก่งกระจาน