19 มีนาคม 2567, 11:10:48
ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน


เข้าสู่ระบบด้วยชื่อผู้ใช้ รหัสผ่าน [สมาชิกเก่าลืมรหัส โทร 081-7611760]
A A A A  ระเบียบปฎิบัติ
   
Languages    
  หน้า: [1] 2  ทั้งหมด   ลงล่าง
ผู้เขียน หัวข้อ: ธรรมะจะต้องเริ่มที่ตัวเองก่อน  (อ่าน 26154 ครั้ง)
0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
jimsy
มือใหม่หัดเมาท์
*


ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 195

« เมื่อ: 08 มิถุนายน 2550, 22:00:38 »

Shocked  โอ้..ทำ เซอร์ไพร้ส์ ให้เพื่อนได้สวยงามจังนะจ๊ะ ขอบคุณมาก ๆ เลย ขออนุโมทนาบุญกับToomy ด้วยนะจ๊ะ  เพื่อนทำอะไรแบบเนี๊ยไม่เป็นหรอก แล้ว แถม ภาพสวย...สวย มาอีก   ภาพของอ.เฉลิมชัยเป็นอะไรที่ชอบมาก   หนังสือของอาจารย์ก็ซื้อมาอ่าน ๆ แล้ว รู้สึกอาจหาญและเห็นตัวอย่างของคนที่มีจุดยืน  ที่เข้มแข็งที่จะสืบทอดพระพุทธศาสนา   บุญอันมหาศาลนี้คงจะต้องให้ผลกับอาจารย์ไปอีกยาวนานตราบจนเข้าถึงมรรคผลนิพาน แน่ ๆ เลยเนอะ  ว่าแล้วก็ต้องขออนุโมทนาบุญกับอาจารย์ไว้ ณ ที่นี้ด้วย  /\ /\ /\...สาธุ
     เริ่มคุยก็ร่ายยาวเลย เราคุยสั้น ๆ ไม่เป็นนะ ขอบอก  และต้องขอออกตัวก่อนนะจ๊ะว่าเราไม่ได้รอบรู้ธรรมะอะไรสูงส่งหรือมากมายอะไรเลย  เป็นคนที่พยายามรบกับกิเลสของตัวเองไปวัน ๆ และพยายามช่วยชาวบ้านหรือใครก็ตามที่มีนิสัยที่จะมาทางธรรม ธรรมะง่าย ๆ แบบชาวบ้าน
พยายามแก้ไขข้อเสียของตัวเองไปเรื่อย ๆ แล้วจูงลูกจูงหลาน คนในครอบครัว พี่น้องเพื่อน ๆ  ที่สนใจที่จะมีชีวิตอยู่อย่างผู้ไม่ประมาท  สนใจที่จะอยู่ในโลกนี้อย่างเป็นสุข  สุขแบบไม่ต้องไปอิงอาศัยวัตถุภายนอกมากมาย   มีความสงบงดงามอยู่ภายใน อยู่ร่วมกันด้วยความเอื้อเฟื้อ และให้ความรัก ความเมตตา จริงใจและปรารถนาดีต่อกัน  อยู่อย่างผู้มีศีล 5 เป็นพื้นฐานของชีวิต ใครที่มีแนวร่วมแบบนี้เชิญเข้ามาเลยค่ะ  สังคมแบบนี้จะหายากขึ้นทุกวัน ๆ แล้วนะ เรามาร่วมสร้างกลุ่มกัลยาณมิตรกัน  โดย เริ่มจากพวกเราชาวหอนี่แหละนะ  โอเค ป่ะ    แล้วมาร่วมกันสร้างกระแสแห่งความสุข  สว่าง สงบ ให้กับบรรยากาศรอบ ๆ ตัวเรา ทั้งที่บ้านและที่ทำงาน  ดีไหมจ๊ะ
      ใครเห็นด้วยยกมือขึ้น !

     และขอประกาศข่าวอีกที  ตอนนี้เรามีหนังสือธรรมะ วิมุตติมรรค และ แด่เธอผู้มาใหม่ (เล่มนี้มีไม่เยอะ) และคู่มือการทำความรู้สึกตัว ของหลวงพ่อเทียน จิตตสุโภ  พร้อม MP3 ของ
ดังตฤณ พระอาจารย์ปราโมทย์ ปาโมชโช หลวงปู่เหรียญ วรลาโภ ฯลฯ แจกถึงที่ค่ะ  ส่งชื่อ นามสกุล และที่อยู่มาได้เลย นะคะ
บันทึกการเข้า
khesorn mueller
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: 2527
คณะ: รัฐศาสตร์
กระทู้: 71,885

« ตอบ #1 เมื่อ: 10 มิถุนายน 2550, 00:50:16 »

P.Jimsy darling,
before I get start to talk about thamma...may I see you??in a logo??please.
nong ning27
บันทึกการเข้า


จุฑารัตน
บุคคลทั่วไป
« ตอบ #2 เมื่อ: 11 มิถุนายน 2550, 17:31:36 »

จิ๋ม ทีรัก

 ธรรมะ .......    ทำ-มะ   ตอบ......................ด้วย

เห็นด้วยอย่างยิ่งว่าเริ่มด้วยตัวเองก่อน  และไม่ต้องบีบบังคับตัวเองและคนใกล้เคียง
เพราะธรรมะจะจัดสรรทั้งเวลาที่จะเริ่ม  และวิถีที่จะเดินให้ด้วย
......สุข......สงบ.......สบาย และผ่องใส.........หาใดเหมือน
บันทึกการเข้า
khesorn mueller
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: 2527
คณะ: รัฐศาสตร์
กระทู้: 71,885

« ตอบ #3 เมื่อ: 11 มิถุนายน 2550, 17:53:56 »

P.Jim,P.Jutarat(why this room name only "J"?),
I am actually far from temple...but I like to practice bhuddhist way by doing so let me learn it by reading and the rest I will preactice in a strange country no Bhuddhist one.
nn.
บันทึกการเข้า


จุฑารัตน
บุคคลทั่วไป
« ตอบ #4 เมื่อ: 11 มิถุนายน 2550, 18:07:27 »

Dear Khesorn,

This room is named K,L,M,N and so on.   My  nick name is Kek ka.
Please to chat with you.

"ความทุกข์มีไว้ให้รู้   ความสุขมีไว้ให้มีและเป็น"
ป.อ.ปยุตโต  นักปราชญ์กล่าวไว้เช่นนั้น

แต่เราๆมักจะมีหรือเป็นทุกข์  และรู้ว่ามีความสุขค่ะ  โลกเราจึงมักจะเครียด เวียนวน
รู้อย่างนี้   ธรรมะ........ทำ-มะ  ......ทำ-มะ..................ล่ะคะ
บันทึกการเข้า
jimsy
มือใหม่หัดเมาท์
*


ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 195

« ตอบ #5 เมื่อ: 13 มิถุนายน 2550, 13:23:53 »

อ้างจาก: "khesorn mueller"
P.Jim,P.Jutarat(why this room name only "J"?),
I am actually far from temple...but I like to practice bhuddhist way by doing so let me learn it by reading and the rest I will preactice in a strange country no Bhuddhist on
n.



(น้องหนิงจ๋า... Cheesy  Cheesy  Cheesy แม้อยู่ไกลก็ไม่ต้องกังวล พี่จิ๋มจะดูแลนู๋เอง การจะปฏิบัติธรรมนั้นไม่ต้องอาศัยสถานที่หรือวัดอะไรเลยหากอยู่ไกลวัด  เพราะ พระพุทธเจ้าท่านให้ใช้กาย และใจของเรานี้เป็นเครื่องมือปฏิบัติธรรมเท่านั้น นู๋อยู่ที่ไหนก็ทำได้ทุกเวลา ทุกสถานที่ เห็นว่านู๋มี CD เสียดายคนตายไม่ได้อ่าน ใช่ไหมจ๊ะ ประมาณบทที่ 10 คุณดังตฤณ ได้สอนวิชารู้ตามจริงของพระพุทธเจ้าไว้  และ นู๋เข้าไปที่ www.dungtrin.com ขอรับเป็นสมาชิกนิตยสารธรรมะใกล้ตัว ฉบับวันพฤหัสที่จะถึงนี้จะมีคำสอนของคุณดังตฤณอีกในเรื่องการปฏิบัติตามวิชารู้ตามจริงของพระพุทธเจ้าไว้ ในการตอบคำถามในคอลัมน์ เตรียมเสบียงไว้เลี้ยงตัว และตามอ่านย้อนหลังได้ทุกฉบับค่ะ การศึกษาเรื่องกรรมวิบากเป็นสิ่งจำเป็นอย่างยิ่งของนักปฏิบัติ อย่างน้อยเราจะได้รู้เหตุผลว่าทำไมพระพุทธเจ้าจึงกำหนดให้มีการรักษาศีล 5เป็นพื้นฐานของมนุษย์ และจะได้ไม่หลงผิดไปสร้างกรรมใหม่โดยไม่รู้ตัวค่ะ  และให้เข้าไปอ่านวิปัสสนานุบาลถึงวิธีปฏิบัติ  แล้วใช้หลักการดูจิตของพระอาจารย์ ปราโมทย์ ปาโมชโช ในwww.wimutti.net/pramote ประกอบในชีวิตประจำวัน  อ่านแล้วมีข้อข้องใจถามได้ทุกเมื่อค่ะ  หนังสือที่พี่แจกจะมีอยู่ในนั้นด้วย แต่จะเริ่มต้นให้อ่าน  แด่เธอผู้มาใหม่ เรื่องเรียบง่าย และธรรมดาที่เรียกว่าธรรมะ

และธรรมะที่เราจะเริ่มต้นศึกษาให้ศึกษาจากพระไตรปิฏก ฉบับประชาชนของคุณสุชีพ ปุญญานุภาพ (อันนี้คุณดังตฤณเคยแนะนำไว้) หรือศึกษาจากครูบาอาจารย์ที่เป็นพระอริยเจ้า หรืออริยบุคคล ให้ศึกษาจากผู้รู้จริง ๆ พี่ไม่กล้าให้คำแนะนำลึกมาก จึงพยายามแนะนำหนังสือหรือข้อมูลที่นู๋จะสามรถค้นคว้าได้เอง  แต่พี่ก็ยินดีที่สุดที่น้องหันมาสนใจธรรมะ(อ้าวตกหลุมพี่อีกคนแย๊ว)
หลุมนี้จะเป็นหลุมแห่งความสุขจ้า! และพี่ก็ยินดีเสมอที่จะช่วยเหลืออย่างเต็มที่ค่ะ   Cheesy  Cheesy  Cheesy

เมื่ออ่านหรือฟังธรรมะสักพักหนึ่ง ขอให้สังเกตุเถิด แม้จะจำไม่ได้ทั้งหมดว่ารับเนื้อหาธรรมะประการใดเข้าไปบ้าง แต่อย่างน้อยที่สุด ความรู้สึกเป็นสุข ความรู้สึกโปร่งเบา ความรู้สึกสว่างจากประกายศรัทธาจะค่อย ๆ ก่อตัวขึ้นทีละน้อยในดวงจิต เสมือนน้ำที่เอ่อขึ้นจนเต็มสระ  นั่นแหละตัวอย่างของกุศล นั่นแหละตัวอย่างของดอกบัวที่พร้อมจะบานขึ้นเหนือน้ำ เป็นตรงข้ามกับกงจักรที่ยิ่งหมุนยิ่งผันตัวลงต่ำไปถึงก้นเหวแห่งความหายนะ...

วาทะ ดังตฤณ)
บันทึกการเข้า
jimsy
มือใหม่หัดเมาท์
*


ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 195

« ตอบ #6 เมื่อ: 13 มิถุนายน 2550, 13:35:13 »

อ้างจาก: "จุฑารัตน�"
จิ๋ม ทีรัก

 ธรรมะ .......    ทำ-มะ   ตอบ......................ด้วย

เห็นด้วยอย่างยิ่งว่าเริ่มด้วยตัวเองก่อน  และไม่ต้องบีบบังคับตัวเองและคนใกล้เคียง
เพราะธรรมะจะจัดสรรทั้งเวลาที่จะเริ่ม  และวิถีที่จะเดินให้ด้วย
......สุข......สงบ.......สบาย และผ่องใส.........หาใดเหมือน



จริงจ้ะแขก...พระพุทธองค์ทรงกล่าวไว้ในคำสวดบทพระพุทธคุณ พระธรรมคุณ พระสังฆคุณไว้แล้วในบทของพระธรรมคุณ ที่แปลว่า พระธรรม อันพระผู้มีพระภาคตรัสไว้ดีแล้ว  เป็นธรรมที่เห็นได้ด้วยตนเอง  ไม่ขึ้นกับกาล  เป็นธรรมที่ควรมาดู  ควรน้อมมาปฏิบัติ  เป็นธรรมที่วิญญูชนพึงรู้ได้เฉพาะตน
บันทึกการเข้า
toomy
Hero Cmadong Member
***


ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 1,031

« ตอบ #7 เมื่อ: 13 มิถุนายน 2550, 16:33:41 »

ห้องนี้เห็นมีแต่ตัวอักษร ลายตา ไปโหม้ด ..

ขอนำภาพวาดฝีมือ อาจารย์เฉลิมชัย แห่งวัดร่องขุ่น จ.เชียงราย

มาประดับให้เข้ากับบรรยากาศ ธรรมะ ๆ เป็น พุทธศิลป์ นะนะคะ


บันทึกการเข้า
toomy
Hero Cmadong Member
***


ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 1,031

« ตอบ #8 เมื่อ: 13 มิถุนายน 2550, 16:38:47 »

ธรรมะจะต้องเริ่มที่ตัวเองก่อน ..

จงทำกับเพื่อนมนุษย์โดยคิดว่า


บันทึกการเข้า
khesorn mueller
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: 2527
คณะ: รัฐศาสตร์
กระทู้: 71,885

« ตอบ #9 เมื่อ: 13 มิถุนายน 2550, 16:46:43 »

P.Jimsy ka,
oh,thank you so much for the explanation,I know the learning text from Dungtrin since February this year!!one of my pal sent me there to Germany..I copy and read it in a silent place...he writes it easy and for anyone far from temple..it is like a practical way of Bhuddistic as I do not agree that how  to be a good Bhuddist we have to go to the temple!!it should be started from us self.Let me click into his homepage I may discuss with you later naka,P.Jimsy.For subscription to his monthly/weekly text would be more complicated for me ka Pee.
nn.
บันทึกการเข้า


khesorn mueller
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: 2527
คณะ: รัฐศาสตร์
กระทู้: 71,885

« ตอบ #10 เมื่อ: 13 มิถุนายน 2550, 16:48:45 »

P.Toomy ka,
this is also excellent.Very easy to understand ka.thank you khun pee..
nn.
บันทึกการเข้า


iamfrommoon
Cmadong ชั้นเซียน
*****


ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: 2535
คณะ: พาณิชยศาสตร์และการบัญชี
กระทู้: 8,396

เว็บไซต์
« ตอบ #11 เมื่อ: 13 มิถุนายน 2550, 16:59:51 »

อ้างจาก: "jimsy"
Shocked ขอประกาศข่าวอีกที  ตอนนี้เรามีหนังสือธรรมะ วิมุตติมรรค และ แด่เธอผู้มาใหม่ (เล่มนี้มีไม่เยอะ) และคู่มือการทำความรู้สึกตัว ของหลวงพ่อเทียน จิตตสุโภ  พร้อม MP3 ของ
ดังตฤณ พระอาจารย์ปราโมทย์ ปาโมชโช หลวงปู่เหรียญ วรลาโภ ฯลฯ แจกถึงที่ค่ะ  ส่งชื่อ นามสกุล และที่อยู่มาได้เลย นะคะ


พี่จิ๋มคะ...ยก ๒ มือจะไปรับถึงที่บ้านเลยค่ะ ไว้วันไหนจะแว่บไปหานะคะ พี่มีเบอร์มือถือเป็นของตัวเองแล้วรึยังคะ แอบใช้ของลูกอยู่มั้ยเอ่ย...นอกจากมีน้องมีเบอร์บ้าน แล้วอยากได้เบอร์พี่น่ะค่ะ อิอิ...คิดถึงนะคะ...

ปล.พี่จิ๋มใช้คล่องนะเนี่ย...ขอรูปสวยๆ มาใส่ตรงโลโก้บ้างสิคะ น้องๆ พี่ๆ จะได้ยลความงาม
 :oops:

 :lol:  Cool  :lol:
บันทึกการเข้า

@@ธรรมชาติสร้างความขัดแย้ง เพื่อให้คนเรียนรู้ซึ่งกันและกันได้ดียิ่งขึ้น@@@

khesorn mueller
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: 2527
คณะ: รัฐศาสตร์
กระทู้: 71,885

« ตอบ #12 เมื่อ: 13 มิถุนายน 2550, 17:04:08 »

Do agree.....nong pookie.
p.nn
บันทึกการเข้า


jimsy
มือใหม่หัดเมาท์
*


ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 195

« ตอบ #13 เมื่อ: 13 มิถุนายน 2550, 21:00:06 »

อ้างจาก: "iamfrommoon"
อ้างจาก: "jimsy"
Shocked ขอประกาศข่าวอีกที  ตอนนี้เรามีหนังสือธรรมะ วิมุตติมรรค และ แด่เธอผู้มาใหม่ (เล่มนี้มีไม่เยอะ) และคู่มือการทำความรู้สึกตัว ของหลวงพ่อเทียน จิตตสุโภ  พร้อม MP3 ของ
ดังตฤณ พระอาจารย์ปราโมทย์ ปาโมชโช หลวงปู่เหรียญ วรลาโภ ฯลฯ แจกถึงที่ค่ะ  ส่งชื่อ นามสกุล และที่อยู่มาได้เลย นะคะ


พี่จิ๋มคะ...ยก ๒ มือจะไปรับถึงที่บ้านเลยค่ะ ไว้วันไหนจะแว่บไปหานะคะ พี่มีเบอร์มือถือเป็นของตัวเองแล้วรึยังคะ แอบใช้ของลูกอยู่มั้ยเอ่ย...นอกจากมีน้องมีเบอร์บ้าน แล้วอยากได้เบอร์พี่น่ะค่ะ อิอิ...คิดถึงนะคะ...

ปล.พี่จิ๋มใช้คล่องนะเนี่ย...ขอรูปสวยๆ มาใส่ตรงโลโก้บ้างสิคะ น้องๆ พี่ๆ จะได้ยลความงาม
 :oops:

 :lol:  Cool  :lol:


เชิญมาเลยจ๊ะยินดีต้อนรับทุกเมื่อ...มีกาแฟสดแสนอร่อยไว้ต้อนรับด้วย  คนมาที่บ้านแล้วถูกหลอกให้มาดื่มกาแฟสดที่บ้านพี่ ส่วนใหญ่จะบ่นกันว่าอร่อยมั่ก..มาก  คนแถวบ้านได้มาชิมก็บ่นกันอีกให้เปิดร้านซะเลย..เฮ้อ! กลุ้มใจ ปุ๊กกี้ช่วยมาตัดสินให้หน่อยว่าเค้าหลอกพี่กันป่ะ..

เรื่องรูปเพิ่งไปหามา...แต่ใส่บ่เป็น เค้าใส่กันยังไงล่ะ  แล้วไอ้ที่ต้องมาขึ้นหัวข้อใหม่ซ้ำกับที่ตุ่มเปิดให้เก๊าะ ทำมั่วเลยต้องมีหัวข้อใหม่...อิอิ..ต้องขอสารภาพ...ส่วนโทรฯมือถือก็อาศัยลูก บ้างญาติที่ไปด้วยบ้าง
ใช่แล้วปวดหัวง่ะ  แต่อาจจะมีสักวันที่จะหยอดกระปุกครบได้มีมือถือกับเค้าบ้างนะ...

ปลูกต้นไม้บำรุงราก  ปลูกฝังคุณธรรมต้องบำรุงจิตใจ
(คติธรรม ของจีนโบราณ)
บันทึกการเข้า
nitty20
Hero Cmadong Member
***


ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 1,398

« ตอบ #14 เมื่อ: 13 มิถุนายน 2550, 21:26:21 »

เต็มใจให้หลอกจ้า....อร่อยจริงๆขอบอก เปิดร้านเลยเพื่อน เชียร์....
บันทึกการเข้า
jimsy
มือใหม่หัดเมาท์
*


ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 195

« ตอบ #15 เมื่อ: 29 มิถุนายน 2550, 11:13:10 »

Cheesy น้องหนุงหนิงขา..พี่อ่านเจอเลยนำมาฝาก..ให้คนอื่นอ่านด้วยค่ะ..คำตอบ.เป็นคำกล่าวของแม่ชีศันสนีย์  ค่ะ

  ทุกวันนี้ถ้าเราอยากจะมีความสุข เราควรทำอย่างไรคะ

         เราต้องอยู่อย่างคนที่ใช้ปัจจุบันขณะให้สมบูรณ์ที่สุด อย่ารอคอยว่าชีวิตจะต้องมีนั่นมีโน่นมีนี่เสียก่อนแล้วชีวิตถึงจะดีขึ้น แต่ต้องอยู่อย่างคนที่ทำในปัจจุบันอย่างมีตัวเองเป็นที่พึ่ง ใช้โอกาสที่ได้ในปัจจุบันอย่างไม่มักง่าย ไม่งมงาย ไม่หลับ ไม่จม แต่ต้องตื่นจากการไม่รู้ทั้งหลายทั้งปวง เรียกว่าตื่นจาก 'อวิชชา' แล้วก็เต็มที่กับการที่จะมีกายกรรม วจีกรรม มโนกรรม ของเราที่ไม่ก้าวล่วงไปสู่อกุศล แล้วยังไม่พอนะยังต้องใช้วาจาของเราประสานประโยชน์ ลดความขัดแย้ง ใช้กายกรรมของเราที่ไม่ฆ่า ไม่ลักขโมย ไม่ประพฤติผิดทางกาม และต้องแบ่งปันเวลาและพลังงานของเราเพื่อที่จะเกิดสันติภาพในโลกนี้ นอกจากไม่พูดหยาบคาย ไม่พูดโกหก ไม่นั่งนินทาใคร ไม่แพร่ข่าวสารที่ไม่รู้จริง ถ้าเราเห็นอะไรก็ตามที่มันเป็นปัญหาที่จะลุกลามต่อไป ถ้าเราเข้าไปช่วยสื่อสารหรือว่าใช้สัมมาวาจาของเราทำให้เกิดสมานฉันท์ ลดความรุนแรงได้ เราต้องทำ เห็นไหมคะว่าหยุดไม่ได้เราต้องทำสิ่งที่ดีงาม แม่คิดว่าถ้าวันนี้เป็นวันสุดท้ายของเรา เราก็จะไม่เสียดายอีกแล้ว คำว่าถ้ารู้อย่างนี้ ไม่มีอีกแล้วเพราะเราทำหมดแล้วในทุกขณะ จะไม่มีคำว่าน่าเสียดายอีกแล้วสำหรับชีวิตของเรา และคนเหล่านี้กล้าที่จะคืนชีวิตสู่ธรรมชาติ ไม่ฝืนไว้ถ้าวันหนึ่งเราต้องจบชีวิตของเราลง เพราะเราไม่รู้หรอกว่าวันนี้เป็นวันตายของเราหรือเปล่า เราจะผัดผ่อนทำไมคะ ทำไมเราไม่ทำวันนี้ แล้วแม่คิดว่าการทำงานให้เป็นสุข สนุกกับการทำงาน ที่เรามีทักษะมีความสามารถ มีความกตัญญูรู้คุณต่อธรรมชาติ ขอให้เราเป็นอนุสาวรีย์ของพ่อแม่เรา เป็นอนุสาวรีย์แห่งความดีงาม อย่าเกิดมาแล้วแต้มความชั่วร้ายไว้ในโลกนี้ เพราะนั่นคือการอกตัญญูต่อพ่อแม่ของเราด้วย ตราบใดที่เรายังใช้ชีวิตเพื่อให้โลกนี้งดงาม เพราะการทำหน้าที่ของเรา อานิสงส์นี้ถึงพ่อแม่เราเสมอ
(หากวันนี้ผู้คนจะย้อนมองตนเอง และคิดและปฏิบัติต่อเพื่อนร่วมโลกด้วยหัวใจที่ใสสะอาดเฉกท่าน ทุกชีวิตบนโลกคงจะอยู่ร่วมกันอย่างมีความสุขกว่าที่เป็น)
บันทึกการเข้า
khesorn mueller
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: 2527
คณะ: รัฐศาสตร์
กระทู้: 71,885

« ตอบ #16 เมื่อ: 30 มิถุนายน 2550, 20:36:59 »

P.Jimsy ka,
how to balance"ต้องตื่นจากการไม่รู้ทั้งหลายทั้งปวง"at the same time"cut out of all confusion"inside...I mean,this and that what makes our mind...full....The world channel offer a lot of knowledges...how to stop myself from being "get inform" but at the same time not to be isolated...
Let me think while wait for your answer.
nungning
บันทึกการเข้า


จุฑารัตน
บุคคลทั่วไป
NN
« ตอบ #17 เมื่อ: 04 กรกฎาคม 2550, 00:32:29 »

อ้างจาก: "khesorn mueller"
P.Jimsy ka,
how to balance"ต้องตื่นจากการไม่รู้ทั้งหลายทั้งปวง"at the same time"cut out of all confusion"inside...I mean,this and that what makes our mind...full....The world channel offer a lot of knowledges...how to stop myself from being "get inform" but at the same time not to be isolated...
Let me think while wait for your answer.
nungning


Dear NN,

Do u mind if I would like to answer this question instead of Jimsy?

ต้องตื่นจากการไม่รู้ทั้งปวง  =" One who knows" is meant One who has achieved the knowledge that  
"This is Suffering,
                                                       
 this is its cause,
                                                         
this is the real bliss,
                                                       
 and this is the Cause (or thePath) leading to that real bliss.


คำถาม-ของหนุงหนิงข้ามขั้นเซียนทีเดียว  ข้าพเจ้ารู้เฉพาะตัวหนังสือ  อาจถูกบ้างผิดบ้างผู้รู้(ผ่านเข้ามาอ่าน)กรุณาชี้แนะ...Your questions are really good because it may lead  you to understanding and practising.
 
 "Cut out of confusion inside".....is to let it go and get it out.

"How to stop myself from getting informed. " .... You  have to practise mediation.  Meditation is the way to achieve letting go.    Let go of the complex world outside in order to reach the serene world inside.   Then you may know how to balance the two things.

"The goal of the meditation is the beautiful silence, stillness and clarity of mind........Silence is so much more productive of wisdom and clarity than thinking" quoted from The Basic Method of Meditation.

Of course, NN, Said is easier than done.   Getting start is quite difficult,
but once you start  you may not stop it.  Cheer up.. and follow us to
the serene world.



May all beings be free from all suffering. ก้อ
แปลว่า ขอสรรพสัตว์ทั้งหลายทั้งปวงจงเป็นสุข เป็นสุขเถิด  พ้นจากทุกข์ทั้งหลายทั้งปวง
บันทึกการเข้า
nitty20
Hero Cmadong Member
***


ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 1,398

« ตอบ #18 เมื่อ: 04 กรกฎาคม 2550, 08:51:24 »

ซ้า...ธุ Cheesy  Cheesy  Cheesy ตามมาป่วนเพื่อน
แต่ยอมรับนะว่าเพื่อนตอบได้ดีมากกกกกก...เอาAปายเรย วิชานี้ (เห็นเคยบอกชอบเลี้ยงแต่แมวๆหมาๆ)
เราว่าอ่านภาษาอังกฤษทำไมดูเหมือนเข้าใจง่ายกว่าง่ะแขก....เอหรือว่าเราเก่งอังกิด  :oops:  :lol:  :lol: 555
บันทึกการเข้า
jimsy
มือใหม่หัดเมาท์
*


ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 195

« ตอบ #19 เมื่อ: 04 กรกฎาคม 2550, 11:46:35 »

:)  :) ขอบพระคุณมากจ้ะแขก...เราตกภาษาประกิด...ไม่ค่อยได้รู้อะไรมากมายเป็นวิชาการกับเขาหรอก   จึงต้องพยายามนำคำครูบาอาจารย์และผู้รู้ทั้งหลายมาบอกต่อ   หวังว่าน้องหนุงหนิงคงพอเข้าใจนะคะ   ถ้าไม่เข้าใจลึกซึ้งเท่าภาษาไทยก็เข้าไปอ่านที่ www.wimutti.net/pramote  ต่อนะคะ แล้วดาวโหลดเสียงสอนธรรมะของหลวงพ่อปราโมทย์ไปฟังบ่อยสติจะค่อย ๆ ตื่น ขิ้นฟังไป  ฝึกฝนไปจะเข้าใจได้เอง  ธรรมะของพระพุทธเจ้าไม่ใช่บรรลุด้วยการอ่านแต่ต้องนำไปปฏิบัติเอง  จึงจะรู้จริง  เห็นจริง  เข้ามาตามดูตามรู้  กายใจ ทั้งวัน  หรือเท่าที่จะทำได้  ให้รู้ถึงความไม่เที่ยง  เป็นทุกข์  บังคับไม่ได้  หลวงพ่อปราโมท์บอกว่า  ให้พยายามสวดมนต์ไหว้พระ เดินจงกรม นั่งสมาธิ 5-10 นาที ทำเป็นรูปแบบไว้บ้าง จะภาวนา พุทโธ ก็ได้ นั่งดูร่างกาย หายใจไปเรื่อย ๆ  จิตหลงไปคิดก็รู้  จิตเข้าไปเพ่งความคิดก็รู้  ต้องมีการปฏิบัติบ้าง สติจะเกิดเร็ว อยู่ที่ชั่วโมงของการปฏิบัติ ต้องขยันดู ใจจะเคล้าเคลียอยู่กับการ  ดูกาย  ดูใจ  ไปเรื่อย ๆ ในระหว่างวันมีการทำงาน  ก็แบ่งเวลาเป็นช่วง ๆ  เช่น  จะเดินไปไหนฝึกเดินแบบจงกรม คือเดินแบบธรรมชาติ  เท้ากระทบพื้นรุ้ตัว รู้ลมหายใจ รู้กายที่เคลื่อนไหว รู้สึกมาที่ใจ ว่าขณะนั้นเกิดความรู้สึก ชอบ ไม่ชอบ โมโห ดีใจ เสียใจ  อย่างไร  สิ่งเหล่านี้คือ กุศล และอกุศล ที่เกิดเรื่อย ๆ ในจิตใจของเรา  ก็รู้ลงไปธรรมดาโดยไม่ต้องใส่ความคิดส่วนตัวของเรากำกับลงไป  แต่เห็นเพียงแค่ความรู้สึกต่าง ๆที่ไหลเวียน โผล่หน้ามาให้เราเห็นล้วนไม่เที่ยงทั้งสิ้น  เมื่อสติตั้งมั่นขึ้นพอสมควร จิตก็จะเป็นผู้รู้ผู้ดูเท่านั้น
  จิตของเราก็จะตื่นขึ้นเรื่อย ๆ จะสัมผัสความสุข  เบิกบาน ได้ในแต่ละขณะ ๆ ที่เราทำงาน กิน ดื่ม พูดคุย หรือทำกิจกรรมต่าง ๆ โดยไม่ไปจมแช่อยู่กับอารมณ์ หรือความรู้สึกที่เกิดขึ้น เนิ่นนาน  ความคิดหรือ ความรู้สึกทั้งหลาย ที่มากระตุ้น จากคนรอบตัวก็จะไม่มีอิทธิพลที่จะทำให้เราทุกข์ได้นาน ๆ อีก  และความสุขจะเกิดเพิ่มมากขึ้น ตามกำลังของสติ...D  Cheesy
(เขียนตามครูบาอาจารย์บ้าง ผสมผสานกับสิ่งที่เราเข้าใจ  ถ้าผิด บกพร่องประการใดขอผู้รู้ ช่วยแนะนำเพิ่มเติมด้วยค่ะ)


จิตรู้หรือจิตตื่นมีความเบิกบานในตัวเอง ปลอดภัยอยู่ท่ามกลางความแปรปรวนแห่งไฟกิเลส เหมือนลิ้นงูในปากงู เสมือนดอกบัวที่ไม่เปียกด้วยโคลนตม     น่าจะเป็นคำของท่านพุทธทาส นะคะ ไม่แน่ใจ  แต่ชอบมาก)
บันทึกการเข้า
pisamai_pe20
Full Member
**


ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 376

เว็บไซต์
« ตอบ #20 เมื่อ: 06 กันยายน 2550, 23:04:23 »

สวัสดีค่ะ คุณจิ๋ม
ต้อยอาจจะดูวุ่นวายปั่นป่วนกับใครเพื่อน เพราะชีวิตจะสวิงสวาย โลดโผนโจนทะยาน...
แต่ต้อยก็ได้รับการปลูกฝังจากแม่ตั้งแต่เด็ก คือจะไปวัดกับแม่น้ำค้างในวันพระที่ตรงกับเสาร์อาทิตย์ และ วันหยุดสำคัญ
( ความจริงไม่ใช่ตั้งใจใฝ่ธรรมะเท่าไร แต่ความตะกละประสาเด็ก เพราะมีขนมกินเยอะ
และแม่ชีจะให้ผลไม้หลายอย่าง...) คงจะไม่ได้บุญกับเขาเท่าไรหรอกนะ..
นั่นมันวัยเด็ก  ตอนนี้เราเป็นสาว(เหลือน้อย)แล้ว มันก็เปลี่ยนไปนะ ทุกวันนี้
แม่ต้อยใส่บาตรทุกเช้า เมื่อคราวไปเยี่ยมแม่ต้นปีนี้ ต้อยไปไหว้พระพุทธชินราชมา
องค์ท่านงามมาก เลยขอ Post ไว้เพื่อความเป็นศิริมงคลของห้องนี้ค่ะจิ๋ม
(ถ้าท่านที่เข้ามาห้องนี้ได้เห็นแล้ว รู้สึกชื่นชมยินดี และสุขใจ...
 ต้อยขอยกเครดิตให้ Toomy นะคะ เพราะ Toomy สอนให้ต้อย Post จนได้ค่ะ)




         พระพุทธชินราช  จ. พิษณุโลก
บันทึกการเข้า
jimsy
มือใหม่หัดเมาท์
*


ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 195

« ตอบ #21 เมื่อ: 20 กันยายน 2550, 14:47:03 »

อ้างจาก: "pisamai_pe20"
สวัสดีค่ะ คุณจิ๋ม
ต้อยอาจจะดูวุ่นวายปั่นป่วนกับใครเพื่อน เพราะชีวิตจะสวิงสวาย โลดโผนโจนทะยาน...
แต่ต้อยก็ได้รับการปลูกฝังจากแม่ตั้งแต่เด็ก คือจะไปวัดกับแม่น้ำค้างในวันพระที่ตรงกับเสาร์อาทิตย์ และ วันหยุดสำคัญ
( ความจริงไม่ใช่ตั้งใจใฝ่ธรรมะเท่าไร แต่ความตะกละประสาเด็ก เพราะมีขนมกินเยอะ
และแม่ชีจะให้ผลไม้หลายอย่าง...) คงจะไม่ได้บุญกับเขาเท่าไรหรอกนะ..
นั่นมันวัยเด็ก  ตอนนี้เราเป็นสาว(เหลือน้อย)แล้ว มันก็เปลี่ยนไปนะ ทุกวันนี้
แม่ต้อยใส่บาตรทุกเช้า เมื่อคราวไปเยี่ยมแม่ต้นปีนี้ ต้อยไปไหว้พระพุทธชินราชมา
องค์ท่านงามมาก เลยขอ Post ไว้เพื่อความเป็นศิริมงคลของห้องนี้ค่ะจิ๋ม
(ถ้าท่านที่เข้ามาห้องนี้ได้เห็นแล้ว รู้สึกชื่นชมยินดี และสุขใจ...
 ต้อยขอยกเครดิตให้ Toomy นะคะ เพราะ Toomy สอนให้ต้อย Post จนได้ค่ะ)




         พระพุทธชินราช  จ. พิษณุโลก


    เฮ้อ..สุขใจจริง ๆ จ้ะต้อย เห็นภาพแล้วจิตใจเราอิ่มเอิบปิติยินดี ถือเป็นเป็นพุทธานุสติ นะยิ่งถ้าเราดูกลับมาที่ใจรู้ว่าจิตมีความปิติยินดี ก็จะเป็นมหาสติ และรู้ว่าความยินดีนั้นไม่เที่ยงเพราะเห็นความดับไปของความยินดีที่อยู่ในใจเรานั้นก็จะเกิดปัญญาขึ้น
ขออนุโมทนาบุญกับต้อยด้วยจ้ะ ถ้าต้อยสนใจธรรมะ ธรรมเป็นเรื่องง่าย ๆ โดยเรียนรู้จากธรรมชาติของกายใจเรานี้เองแหละจ้ะ ธรรมะของครูบาอาจารยของ์เราเรียบง่ายเป็นธรรมชาติ แค่รู้กายรู้ใจว่ามันเกิดอะไรขึ้นกับใจและดับไปที่ใจเท่านั้นเอง  โกรธ ยินดี รัก เกลียด คือสิ่งเดียวกันหมดล้วนไม่เที่ยง ไม่มีตัวตนทั้งสิ้น บุญนี้เยอะกว่าใส่บาตรอีกนะ ถ้าต้อย ทำได้เรามี CD แจกส่งถึงบ้าน เผื่อแม่ด้วยให้คนเปิดให้แม่ฟังทุกวัน เราเคยเปิดให้แม่ได้ฟังเป็นประจำ เดี๋ยวนี้แม่เราเสียแล้ว เรายังดีใจอยู่เสมอที่ได้พยายามนำสิ่งที่ดีไปให้แม่ นี่คือวิธีทดแทนคุณแม่ที่ดีที่สุดคือให้พ่อแม่ได้ปฏิบัติธรรมมีหลักพึ่งตนเองได้  พวกครูธรรมะบางท่านบอกว่ามี วีซ่าชั้นดี ก่อนตาย  พวกเราก็ไม่นานแล้ว หากไม่เร่งมือถึงเวลาจะไปฝึกไม่ได้แล้วจ้ะ  ลองอ่านรายละเอียด CD ที่เราเคยบอกไว้ตอนแรก ๆนะ และมีเพิ่มอีกเยอะขอมาได้เลยไม่ต้องเกรงใจจ้ะ
บันทึกการเข้า
khesorn mueller
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: 2527
คณะ: รัฐศาสตร์
กระทู้: 71,885

« ตอบ #22 เมื่อ: 20 กันยายน 2550, 16:34:21 »

P.Kek ka,
truely say...just find out your reply right a minutes!!too late??hopefully not too late to thanks khun pee...
Vielen Dank.

P.Jimsy,
everytimes I drop this room...it took me long time to stay and learn about that...keep going on naka...it make room 20 variant and colourful.
Reading last phrase of yours...I miss my mom.

nn.
บันทึกการเข้า


jimsy
มือใหม่หัดเมาท์
*


ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 195

« ตอบ #23 เมื่อ: 25 กันยายน 2550, 13:02:43 »

อ้างจาก: "khesorn mueller"
P.Kek ka,
truely say...just find out your reply right a minutes!!too late??hopefully not too late to thanks khun pee...
Vielen Dank.

P.Jimsy,
everytimes I drop this room...it took me long time to stay and learn about  that...keep going on naka...it make room 20 variant and colourful.
Reading last phrase of yours...I miss my mom.

nn.



      Cheesy  Cheesy ขอบคุณค๋ะกระหนุงกระหนิงขา  ที่ติดตามรายการของพี่ อย่างสม่ำสมอและรายการอื่่ืน ๆ ทุกรายการ...อิ..อิ...

                    "การสนองคุณพ่อแม่"

          บุคคลใดที่มีพ่อแม่ตายไปแล้ว
          อย่าถือว่าจะสนองคุณท่านไม่ได้
          ขอให้ทำก้อนเลือดเนื้อของตัว
          ให้เป็นที่รองรับคุณธรรมความดี
          จะได้ชื่อว่าสนองคุณได้ดีกว่าอย่างใดทั้งสิ้น
          เพราะพ่อแม่ย่อมปรารถนาเห็นบุตรเป็นคนดี
          บำเพ็ญตนเป็นประโยชน์ต่อสังคม
          มากกว่าที่จะปรารถนาได้รับการ
          บำรุงบำเรอจากลูกด้วยซ้ำไป
           (พระพยอม กัลยาโณ)


แล้วยิ่งถ้าพ่่อแม่ยังมีชีวิตอยู่เร่งรีบทำความดีต่อท่านให้มากขึ้นเพราะบุญที่ทำกับพ่อแม่นั้นเทียบเท่าบุญที่ทำกับพระอรหันต์เชียวนะขอบอก
ยิ่งถ้าเราได้เดินทางสายแห่งทาน ศีล และภาวนา แล้วไปชักชวนท่านให้ดำเนินตามในทางที่ถูกตามหลักธรรมของพระพุทธองค์ยิ่งจะได้ชื่อว่าได้ทดแทนพระคุณท่านอย่างยิ่ง เพราะเป็นการชักจูงท่านไปในทางสว่างซึ่งจะเป็นประโยชน์เป็นเสบียงกรังติดตัวท่าน เมื่อท่านจากภพนี้ไปสู่ภพหน้าอย่างดีเยี่ยม  เราทำอะไรกับพ่อแม่ไว้เราก็จะได้สิ่งนั้นจากลูกของเรา  
กฏแห่งกรรมนั้นเที่ยงตรงและยุติธรรมที่สุด ยิ่งกว่ากฏหมาย ใด ๆ ในโลก  ลองย้อนกลับไปดูเถิดว่าพ่อแม่หรือคนแก่คนเฒ่าที่ถูกทอดทิ้งในยามชรานั้น เมื่อยังหนุ่มยังสาวเขาได้หลงระเริงกับความสุขแบบเปลือกนอกของชาวโลก  จนลืมพ่อแม่หรือไม่
กฎง่าย ๆ ของกรรมก็คือ  หากกลัวจะถูกทอดทิ้ง ไม่มีผู้อุปการะ ยามชรา ก็ต้องดูแลอุปการะผู้อื่นในขณะที่เรายังมีกำลังเงิน และแข็งแรง

ที่พี่ต้องมาอยู่ที่นี่ตรงนี้(ในยามที่ว่าง) ก็เพียงแต่จะมาช่วยกระตุ้นเตือนพี่น้อง และเพื่อน ๆที่อาจจะติดภาระกิจของชีวิตงาน หรือ ครอบครัว จนลืมเลือนแก้มเหี่ยวย่นของพ่อแม่ ที่เมื่อไหร่ก็ตามที่เราได้สัมผัสเราจะรู้สึกกับความอบอุ่นและความรักใคร่จากท่านเสมอมา
เมื่ิอเวลาที่แม่พี่ยังอยู่  ไปกอด รัดฟัดเหวี่ยงท่าน หรือแม้แต่ไปนั่งเบียดเพื่อสัมผัสเนื้อนิ่ม ๆ เย็น ๆ ของท่าน  แม่จะบอกเสมอว่าเนื้อลูกคือ "เนื้อทิพย์" เมื่อแม่ได้สัมผัสก็ชุ่มชื่นใจ ท่านไม่ต้องการอะไรจากเรามากหรอก  ขอเพียงใส่ใจใยดี และอ้อมแขนของลูกในบางครั้ง
ซึ่งเดี๋ยวนี้พี่เองก็จะเข้าใจความรู้สึกแห่ง"เนื้อทิพย์" จากลูก ๆ เหมือนกัน  และด้วยสัมผัสแห่งความสงบเย็นแห่งธรรมะก็เช่นกัน  เมื่อเราและครอบครัวมีธรรมะเป็นที่พึ่ง  เราจะมีความสงบเย็นมากขึ้นและจะมีสติมากขึ้นในชีวิตประจำวัน  มีเวลาเอาใจใส่ในความทุกข์ สุข ของผู้คนรอบตัวเรามากขึ้น
และชีวิตเราจะมีประโยชน์กับผู้อื่นมาก ๆ ขึ้นเรื่อย ๆ ด้วย  และเราเองก็จะได้รับผลแห่งความสุขที่เราได้มอบให้กับผู้อื่น โดยไม่ได้หวังผลแต่มันจะมาสนองกลับให้เราได้ชื่นใจเองในที่สุด
แล้วเราก็จะมีชีวิตอยู่ในแต่ละปัจจุบันขณะอย่างมีความสุขและเดินอยู่
ในเส้นทางแห่งความไม่ประมาทตามคำสอนประโยคสุดท้ายของพระพุทธองค์
ก่อนจะดับขันธ์ปรินิพาน


"จงรับรู้ไว้ว่า โลกุตตรธรรมเป็นทรัพย์ที่ทรงบัญญัติไว้สำหรับคนทั้งปวง"
(อริยสัจจจากพระโอษฐ์)

บันทึกการเข้า
krongon2513
Hero Cmadong Member
***


ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 1,490

« ตอบ #24 เมื่อ: 25 กันยายน 2550, 21:09:53 »

น้องจิ๋มคะ
พี่ส่งข้อความส่วนตัวถึงน้องจิ๋มค่ะ เปิดอ่านด้วยนะคะ
ขอบคุณค่ะ
บันทึกการเข้า
  หน้า: [1] 2  ทั้งหมด   ขึ้นบน
  
กระโดดไป:  

     

ทำไมหอพักนิสิตจุฬาจึงเป็นดินแดนมหัศจรรย์            " ไม่ได้เป็นแค่หอให้นอนพัก  แต่เป็นบ้านอบอุ่นรักให้อาศัย  ไม่เป็นแค่ที่ซุกหัวยามหลบภัย  แต่สร้างใจให้เข้มแข็งแกร่งการงาน"  <))))><