►►► อาสา มอบน้ำใจ .. ให้บ้านอุ่นรัก ◄◄◄

[swsm]

		อ้างถึง			ข้อความของ supanee เมื่อ 09 พฤษภาคม 2554, 14:46:57
	เนื่องในโอกาสที่วันที่ 12 พค.นี้เป็นวันเกิดครบ 1 ขวบของด.ญ.ฮานะ หลานยายอี๊ด ยายอี๊ดและฮานะขอร่วมบริจาค 1,100.-บาทค่ะ ได้โอนเข้าบัญชีให้แล้วเมื่อ 9 พค. แต่ไม่สามารถร่วมเดินทางไปด้วยได้ จึงขอส่งใจไปกับยายตุ๊-อรสา ขอให้ทุกๆคนที่นั่นมีความสุขมากๆ

คุณยายยังสวยและสาว .. หลานน่ารักที่สุดในโลก

ขอบคุณพี่อี๊ดมากค่ะ

[swsm]

		อ้างถึง			ข้อความของ เอมอร 2515 เมื่อ 10 พฤษภาคม 2554, 06:09:44
	น้องหยี   พี่มีนา ๑๕  ถักหมวกไหม พรม  จำนวน ๑ โหล  คละสี คละขนาด คละแบบ ไปให้เด็กๆด้วย ว่างๆ พี่จะถ่ายรูปมาลงไว้คะ

อยากชมมากค่ะ ..

[Leam]

สวัสดีครับ.... น้องหยี และพี่น้องทุกท่าน

รับแจ้งมาว่า...... เงินบริจาคของพี่ตะวัน และร้านญวนญี จะมอบให้วันเดินทาง ครับ

[swsm]

 




อีกนิดส์เดียว  จะเต็มสี่หมื่นแล้วค่ะ ..       

[Leam]

กรุงเทพ - บ้านอุ่นรัก สังขละบุรี

ระยะทาง 350 กิโลเมตร ใช้เวลาเดินทาง 4 - 5 ชั่วโมง

[Leam]

		อ้างถึง			ข้อความของ swsm เมื่อ 10 พฤษภาคม 2554, 17:02:15
	อีกนิดส์เดียว  จะเต็มสี่หมื่นแล้วค่ะ ..

ขอบคุณน้องหยีครับ

อีกนิดส์ส์ส์เดียวจริงๆ.......สี่หมื่น

[Leam]

They are waiting for ..... US

[Leam]

[Leam]

[Leam]

[seree_60]

โรงเรียนบ้านอุ่นรัก

โรงเรียนบ้านอุ่นรัก อำเภอสังขะบุรี จังหวัดกาญจนบุรี  เปิดการเรียนการสอนมาแล้ว  5 ปี 
โดยใช้  แนวคิดนีโอฮิวแมนนิส (Neo-Humanist) ซึ่งเป็นศาตร์หรือแนวคิดของนักปราชญ์ชาวอินเดีย  Prabhat Ranjan Sarkar
หรือ P.R.Sarkar คิดค้นพบและเผยแพร่ เมื่อปี ค.ศ. 1959 เป็นแนวคิดที่เน้นเรื่องการประพฤติตนในกรอบคุณธรรมและศีลธรรม 
 การดูแลสุขภาพแบบองค์รวม  และความเชื่อว่าพลังแห่งความรัก (Universal Love)
เป็นพลังที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในจักรวาล ทำให้คนเราอยู่ร่วมกันได้อย่างมีความสุข

โรงเรียนบ้านอุ่นรัก มาจากโครงการสวนเด็กอานันดศยามะ อำเภอพะโต๊ะ จังหวัดชุมพร
 มีศูนย์เรียนรู้ให้เด็กหรือคนในชุมชนสามารถที่จะเข้ามาเรียนในพื้นที่ได้
 แต่เนื่องจากเป็นสวนที่อยู่ห่างไกลและทุรกันดาร การที่ผู้ปกครองจะส่งเด็กไปกลับจึงค่อนข้างลำบาก
 จึงเพิ่มพื้นที่โครงการมาที่อำเภอสังขละบุรี อีกแห่งหนึ่งด้วย
ปัจจุบันมีการเรียนการสอนตั้งแต่ระดับ เนอสเซอร์รี่  อนุบาล  ระดับประถมศึกษาปีที่ 1-6

แต่เดิมเป็นโครงการบ้านอุ่นรักซึ่งเป็นบ้านพักพิงเด็กกำพร้า 
 เด็กไร้สัญชาติ   เช่น มอญ  กะเหรี่ยง  พม่า    จากโครงการบ้านอุ่นรัก
 ก็มีโครงการอีกโครงการหนึ่ง  เพราะเห็นว่าเด็กที่เราดูแลอยู่ในโครงการ 
 ออกไปโรงเรียนปกติในชุมชน  แล้วประสบปัญหาในการปรับตัวเข้ากับผู้อื่น
 ทั้งจากการเรียนการสอนจากครูแล้วจากเพื่อนนักเรียนด้วยกันเอง
เช่น การใช้คำพูดทางลบ ทำให้กระทบจิตใจของเด็ก

   

[seree_60]

โครงการบ้านอุ่นรักจึงมีแนวคิดที่จะจัดตั้งโรงเรียนขึ้นในปี 2547
           เป็นการจัดการเรียนการสอนแบบไม่เป็นทางการ
 โดยเช่าบ้านแล้วแบ่งเป็นห้องเรียน    เริ่มแรกที่เช่าบ้านสอนหนังสือ
 มีการเชิญผู้ทรงคุณวุฒิทางเขตพื้นที่เข้ามาดูเพื่อที่จะให้จัดตั้งโรงเรียน
 ซึ่งมีคำแนะนำว่าโรงเรียนจะต้องเป็นตัวอาคารขนาดใหญ่  และมีจำนวนห้องตามที่กำหนด
 แต่ในแนวคิดของเรา คือ ถ้าเราจัดการเรียนการสอนจริงๆ  อาจจะไม่ต้องยึดหลักหรือกฎเกณฑ์ที่ตายตัวว่า
ห้องเรียนจะต้องกว้างหรือยาว เท่าไหร่  แต่เราก็ปรับตัว 
โดยการสร้างตึกประยุกต์ใช้เป็นห้องเรียนโดยขนาดห้องอาจจะไม่เท่ากับที่กำหนด มา
จนอาคารเรียนแล้วเสร็จในปี 2548  โดยจดทะเบียนเป็นโรงเรียนเอกชน
สังกัดสำนักงานการศึกษาจ.กาญจนบุรี เขต 3  โดยยังยึดหลักปรัชญาการศึกษาแบบนีโอฮิวเมนนิสต์

ในการบริหารจัดการของโรงเรียน   จะเน้นบุคคลสำคัญในการดำเนินงาน เราเรียกว่า ดีดี้
คือ ผู้ก่อตั้งโรงเรียน เป็น นักบวชหญิงที่นับถือศาสตร์โยคะที่ทำงานอุทิศตัวเพื่อสังคม 
 ในโรงเรียนจะมีคณะกรรมการโรงเรียน   คณะกรรมการชุมชน  คณะกรรมการมูลนิธิ  ผู้จัดการ ครูใหญ่ 
 หลักการก็คือ  การทำงานร่วมกัน  ไม่ว่าจะเป็นผู้บริหารระดับสูง  หรือว่าครู  หรือว่าบุคลากรต่างๆ
 ต้องมาทำงานร่วมกัน  โดยที่ไม่แบ่งเครือข่าย
ปรัชญาของโรงเรียนเน้นการปฏิบัติให้เข้ากับสภาพสังคมวัฒนธรรมไทย 
จากแนวนีโอ ฮิวแมนนิสต์ ที่มีกว่า 1,000 โรงเรียนทั่วโลกใช้หลักการเดียวกัน
แต่ก็ดูว่าพื้นฐานทางสังคม วัฒนธรรมเป็นอย่างไร แล้วปรับให้เข้ากัน
 โดยเน้นความหลากหลายของวัฒนธรรม   เช่น  ประเทศไทยมีหลากหลายเชื้อชาติ    ศาสนา  ทั้งพุทธ  คริสต์  อิสลาม
  ความแตกต่างทางด้านเชื้อชาติ  เรื่องการเป็นคนไทย  คนพม่า  การเป็นคนมอญ
  ต้องประยุกต์ให้เข้ากับการสอนให้ได้   ปรับการเรียนการสอนให้เข้ากับทุกวัฒนธรรมในท้องถิ่น

แนวคิดนีโอฮิวแมนนิสนี้  มีความเชื่อพื้นฐานว่า มนุษย์ทุกคนมีศักยภาพในตัวเองที่ต้องค้นพบ  การ พัฒนาจากภายในตัวเอง ใช้กระบวนการที่เกิดจากการพิจารณาตนเอง และ ผลลัพธ์จากการเปลี่ยนแปลง/พัฒนาเกิดขึ้นจากปัจจเจกบุคคลนี้เองที่ส่งผลต่อตน เองและสังคมโลกโดยรวม เป้าหมายและวิธีในการดำเนินชีวิตด้วยวิธีการทางบวก ไม่คิดลบพูดลบกับตัวเองและผู้อื่น ไม่นินทา ไม่ดูถูก ไม่ซ้ำเติมใคร  ไม่นิยมอาหารจากเนื้อสัตว์ต่าง ๆ เลือกบริโภคอาหารที่ให้ พลังชีวิตสูง เช่น ผักสด ผลไม้ โยเกิร์ต ถั่ว และเมล็ดธัญพืชเป็นหลัก  มีความสุขกับชีวิตเรียบง่าย กิน อยู่แบบพอดี มีวินัยในการใช้จ่าย ไม่ นิยมของฟุ่มเพือย ชอบแบ่งปันส่วนเกินให้ผู้ที่อ่อนแอกว่า และที่สำคัญคือ การชอบทำ ประโยชน์เพื่อผู้อื่นมากกว่าเพื่อตัวเอง

[seree_60]

เป้าหมายสูงสุด คือ ให้เด็กมีร่างกายแข็งแรง  สติปัญหาแหลมคม  เฉลียวฉลาด  มีความคิดสร้างสรรค์
 แล้วก็เพียบพร้อมด้วยคุณธรรม  มีความรัก  ความเมตตากรุณา  พร้อมที่จะอุทิศตนเพื่อสันติสุขของสิ่งมีชีวิตทั้งมวล
 เพราะปรัชญาการศึกษาของเรา คือ  การทำให้เด็กมีอิสรภาพทางปัญญา
  หลักสูตรการเรียนการสอนจึงเน้นการบูรณาการอยู่ในมาตรฐานการเรียนรู้ของการ ศึกษาไทย
  ในภูมิปัญญาท้องถิ่น  ให้เด็กมีความสามัคคี  มีหัวใจการเป็นมนุษย์
 เด็กยึดถือสิ่งที่เขามี เช่น พื้นฐานทางด้านวัฒนธรรม  เพราะว่าคนอยู่ในวัฒนธรรมไหนก็จะมีความคิดที่แตกต่างกันออกไป
 แล้วก็รู้คุณค่าทางจิตใจ  จิตวิญญาณของเด็ก  ให้เด็กเป็นมนุษย์ที่งดงาม  แล้วก็บริการสังคมได้

หลักสูตรอนุบาลก็จะให้หลักสูตร circle  of  love  หรือ วงกลมแห่งความรัก
เป็น ต้นกำเนิดของสิ่งมีชีวิตที่วนมาสู่ธาตุต่างๆ   ทั้งในระบบนิเวศน์  แล้วก็การเกิดโลก
 โลกหมายถึงการกำเนิดของโลก  ซึ่งเราเป็นส่วนหนึ่งของระบบ
 ในส่วนหลักสูตรระดับประถมศึกษาจะจัดเป็นหน่วยการเรียนรู้   
 อย่างประถมศึกษาปีที่ 1 จะเรียนรู้เรื่องสัตว์  พืช  และจักรวาล  การเรียนรู้จะผ่านประสบการณ์ตามที่ครูจัดให้
 เราจะจัดหาหนังสือเพื่อให้เด็กได้ค้นคว้าโดยเฉพาะ ที่เด็กสามารถสืบค้นได้ทั้งในห้องสมุดและอินเทอร์เน็ต
 ในส่วนของประถมศึกษาปีที่ 2 เด็กจะได้เรียนรู้เกี่ยวกับเรื่องพระมหากษัตริย์ไทย และบุคคลสำคัญในชุมชน
 เพราะในชุมชนส่วนมากจะเป็นชนเผ่ากะเหรี่ยงและมอญ  เด็กทุกคนก็จะได้เรียนรู้เกี่ยวกับวิถีชีวิตของแต่ละชนเผ่าด้วย
 ประถมศึกษาปีที่ 3  จะเรียนรู้เกี่ยวกับเรื่องการกำเนิดมนุษย์  มนุษย์หิน  มนุษย์ถ้ำ  และกำเนิดจักรวาล
 ประถมศึกษาปีที่ 4  จะเรียนรู้เกี่ยวกับประวัติศาสตร์ไทย  รวมถึงประวัติศาสตร์เพื่อนบ้านเช่น พม่า
 เมื่อเด็กมีคำถามว่า “ทำไมต้องรบกัน” เราต้องสร้างความเข้าใจให้เด็กว่า  “มันเป็นเรื่องของประวัติศาสตร์
 แต่ตอนนี้เรามาอยู่ร่วมกันเราก็ต้องสร้างความสามัคคี”
 และพยายามทำความเข้าใจให้กับเด็กว่า  การที่คนรบกันนั้น เกิดจากสาเหตุอะไร

นอกจากหลักสูตรการเรียนรู้ในห้องเรียน หลักสูตรนีโอ ฮิวเมนนิสต์ จะเน้นการพัฒนาคลื่นสมองด้วยการนั่งสมาธิ
โดยฝึกให้เด็กนั่งสมาธิตั้งแต่ระดับอนุบาล เพียงแต่การนั่งสมาธิของเด็ก  ไม่ใช่เพียงให้เด็กนั่งหลับตา
  แต่เราจะมีการสร้างจินตภาพ และให้เด็กซึมซับสิ่งที่ละเอียดอ่อนจากคำบรรยายของครู เข้าไป
 ทำให้การทำสมาธิเป็นเรื่องของความสนุกสนาน   เมื่อเป็นเช่นนี้ เด็กก็จะนั่งสมาธิเองเมื่อเขาต้องการ
ดังเช่นภาพของเด็กที่นั่งสมาธิบนชิงช้า   อันนี้เป็นภาพที่ประทับใจมาก
มันพิสูจน์ได้ว่าการนั่งสมาธิของเด็กทำให้เด็กมีจิตที่นิ่งและผ่องใสและ
อธิบายได้ถึงพลังคลื่นสมองของเด็กที่เพิ่มขึ้น  เมื่อมีสมาธิก็จะมีจิตใจที่เบิกบาน
 และสามารถเชื่อมโยงกับละคร ดนตรี ศิลปะความคิดสร้างสรรค์ต่างๆ  เข้าไปในการเรียนการสอน

การศึกษาของนีโอ ฮิวแมนนิสเป็นการศึกษาที่เน้นความเป็นอิสระ
 ซึ่งเป็นหนึ่งในการศึกษาทางเลือก ส่วนในด้านการพัฒนาครูที่เข้าใจระบบการศึกษาทางเลือกนั้นยังมีน้อย
ที่ผ่านมาระบบการศึกษาของเราทำให้ครูเน้นการสอนวิชาการให้กับเด็ก  แต่บางส่วนอาจจะยังไม่ครบถ้วน
 เพราะขาดส่งเสริมทางด้านคุณธรรม  การให้ความรักที่สามารถแผ่ขยายความสามัคคีให้กับคนอื่นอย่างลึกซึ้งให้กับ เด็ก
ซึ่งต้องทำความเข้าใจและเชื่อมั่นว่า  การจัดการศึกษาทางเลือกที่ดีสามารถพัฒนาเด็ก  พัฒนาครูได้

[seree_60]

บ้านอุ่นรัก
Baan Unrak
 
ติดต่อ : บ้านอุ่นรัก 99/1 หมู่ 1, ต.หนองลู อ.สังขละบุรี, จ.กาญจนบุรี ประเทศไทย 71240
โทรศัพท์ : (034) 595428, 089 - 09-9362426
โทรสาร : : 034-595428

อีเมลล์ : baanunrak@gmail.com
เว็บไซต์ : http://www.geocities.com/baanunrak/thai/main.html#aboutus

แนะนำมูลนิธิ :

บ้านอุ่นรัก คือบ้านพักเด็กและชุมชนพัฒนายั่งยืนโครงการหนึ่งในเขตอำเภอสังขละบุรีจังหวัดกาญจนบุรีของประเทศไทย
"บ้าน แห่งความรื่นเริง" เปิดขึ้นครั้งแรกเมื่อพ.ศ.2534 ด้วยความมุ่งมั่นพยายามป้องกันการเพิ่มจำนวนของเด็กกำพร้าและเด็กที่อยู่ใน ภาวะเสี่ยงต่อความอยู่รอดในพื้นที่ โครงการนี้ได้เริ่มรับเด็กครั้งแรก 2 คน และขยายมาเป็น 45 คน เมื่อเดือนมิถุนายน พ.ศ.2541 ต่อมาเดือน มีนาคม พ.ศ.2546 มีเด็กจำนวน 70 คน อายุระหว่างแรกเกิดถึง 19 ปี
ปัจจุบัน ปี พ.ศ.2550 มีเด็กมากกว่า 118 คน อายุตั้งแต่แรกเกิดถึง 25 ปี

วัตถุประสงค์ :

ช่วยเหลือเด็กกำพร้า พัฒนาเด็ก ส่งเสริมอาชีพให้สตรีในท้องถิ่น

กิจกรรมมูลนิธิ :

ศูนย์ทออุ่นรัก และการเย็บปักถักทอ

ใน พ.ศ.2538 บ้านอุ่นรักได้เปิดศูนย์เย็บปักถักทอเพื่อส่งเสริมสตรีในท้องถิ่นให้มีราย ได้เพิ่มเพื่อการพึ่งตนเองอย่างยั่งยืน ซึ่งเมื่อแรกเริ่มโครงการเพียงแต่ต้องการสอนเด็ก ๆ ในบ้านเกี่ยวกับศิลปะพื้นบ้านของการถักทอจากชุมชนภูเขา ภายหลังที่เห็นผลงานอันสวยงามและมีความคิดสร้างสรรค์ด้วยฝีมือประณีตเรียบ ร้อย เพื่อนบ้านก็ขอเข้าร่วมโครงการด้วย โครงการพัฒนาขึ้นด้วยการจ้างสตรีที่มีฝีมือในการทอ จนทำให้เขาเหล่านั้นมีงานประจำ ปัจจุบันสตรี12 คน ทำงานและประดิษฐ์ผลิตภัณฑ์ต่าง ๆ จากผ้าทอ เช่น ผ้าคลุมไหล่ กระเป๋า ผ้าห่ม และเสื้อผ้า

ศูนย์ทออุ่นรักปัจจุบันสามารถผลิตผลได้พอเพียงคุ้มทุน ด้วยหวังต่อว่าต่อไปจะก้าวหน้าเป็นการสร้างรายได้สนับสนุนบ้านทั้งหลังได้

นอก จากนี้ยังมีการพัฒนาเด็กด้วยกิจกรรมต่าง ๆ เช่น การละเล่นบำบัด วจีบำบัด การรู้จักผ่อนคลายจากความเคลียด การเล่านิทานแฝงคุณธรรม สังคมศึกษา ค่ายพักแรม และการบำเพ็ญประโยชน์ต่อชุมชน กิจกรรมเหล่านี้ช่วยส่งเสริมพลานามัย ความสมดุยทางจิตใจและอารมณ์รวมทั้งการมีจิตสำนึกต่อสังคม และต่อผู้ที่น่าจะให้ความช่วยเหลือ

กิจกรรมด้านการศึกษา มีการส่งเสริมด้านการศึกษาโดยการจัดตั้งเป็นโรงเรียน ชื่อโรงเรียนบ้านอุ่นรัก ทำการสอนตั้งแต่ระดับชั้นอนุบาล – ประถม 6 และนอกจากนี้ยังส่งเสริมให้เด็กที่มีใจใฝ่เรียนรู้ได้ศึกษาต่อในระดับอุดม ศึกษาอีกด้วย
   

[ตุ๋ย 22]

ขอบคุณข้อมูลโรงเรียนของพี่ตะวันครับ

[seree_60]

 เด็กน้อย เหล่านี้ ขาดแคลนทั้งความรัก ความอบอุ่น เครื่องนุ่งห่ม อาหาร..
     .รอคอยการช่วยเหลือจากพวกคุณๆทั้งหลาย

[seree_60]

 ดีดี้..ผู้รับผิดชอบโครงการ เป็นผู่ที่มีจิตใจเสีสละอย่างน่ายกย่องชมเชย

[seree_60]

ร้านกาแฟ และเบอร์เกอรี่ เพื่อหารายได้ เลี้ยงตัวเองของมูลนิธิ

[seree_60]

[seree_60]

ดีดี้..คนใส่เสื้อสีส้ม เป็นชาวอิตาเลี่ยน ที่เสียสละความสุขส่วนตัว
 มารับผิดชอบโรงเรียนบ้านอุ่นรักมานานหลายปี
  คนที่2 จากซ้าย คือ อาสาสมัคร ชาวไทย ที่เป็นถึงผู้บริหารโรงแรมจาก กทม.
              ได้มาเป็นอาสาสมัครช่วยที่โรงเรียนแห่งนี้

[seree_60]

  นี่ คือ บ้านพัก ของอาสมัคร

[seree_60]

  กิจกรรมของเด็กๆ..ยามว่าง

[เอมอร 2515]

หมวกไหมพรม ที่มีนา ๑๕ ตั้งใจเพียรถักเพื่อเด็กๆ
มีหลายสี หลายขนาด  หลายแบบจำนวน ๑๒ ใบค่ะ
ร่วมไปแจกให้น้องๆเด็กๆทั้งหลาย
ผู้รับคงชื่นใจ ในความพยายามของมีนาค่ะ

[Leam]

		อ้างถึง			ข้อความของ เอมอร 2515 เมื่อ 10 พฤษภาคม 2554, 22:07:39
	หมวกไหมพรม ที่มีนา ๑๕ ตั้งใจเพียรถักเพื่อเด็กๆ มีหลายสี หลายขนาด  หลายแบบจำนวน ๑๒ ใบค่ะ ร่วมไปแจกให้น้องๆเด็กๆทั้งหลาย ผู้รับคงชื่นใจ ในความพยายามของมีนาค่ะ

ภาพไม่ชัดเท่าไร แต่กินใจครับ...พี่อร,พี่มีนา

[Leam]

ไม่เห็นพี่ตะวันโพสท์ชุดใหญ่นานแล้ว......

ขอบคุณครับพี่