20 เมษายน 2567, 20:46:43
ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน


เข้าสู่ระบบด้วยชื่อผู้ใช้ รหัสผ่าน [สมาชิกเก่าลืมรหัส โทร 081-7611760]
A A A A  ระเบียบปฎิบัติ
   
Languages    
  หน้า: [1] 2  ทั้งหมด   ลงล่าง
ผู้เขียน หัวข้อ: ข้อมูลก่อนไปลงประชามติ  (อ่าน 21818 ครั้ง)
0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
too
ตู้ rcu85
Hero Cmadong Member
***


ออฟไลน์ ออฟไลน์

คณะ: วิศวกรรมศาสตร์
กระทู้: 1,281

เว็บไซต์
« เมื่อ: 16 สิงหาคม 2550, 12:22:17 »

อย่าลืมไปลงประชามติวันอาทิตย์นี้ (19 ส.ค. 2550) เด้อ

คนที่ยังไม่มีข้อมูลสำหรับตัดสินใจ แนะนำให้ไปอ่านที่ลิงก์ข้างล่างนี้

http://www.fringer.org/?p=267

อย่าให้เสียโอกาส ทั้งๆที่เรามีโอกาสรับรู้ข้อมูลรอบด้านมากกว่าอีกหลายคนในประเทศ  :wink:


ป.ล. สำหรับคนที่อยู่ต่างประเทศ เสียใจด้วยนะ ครั้งนี้เขาไม่เปิดโอกาสให้คนไทยในต่างแดนไปใช้สิทธิ  :evil:
บันทึกการเข้า
zadako
บุคคลทั่วไป
« ตอบ #1 เมื่อ: 16 สิงหาคม 2550, 12:24:37 »

:shock:
บันทึกการเข้า
yungying
Hero Cmadong Member
***


ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 1,987

« ตอบ #2 เมื่อ: 16 สิงหาคม 2550, 14:45:34 »

ไม่ได้ทำเรื่องใช้สิทธิที่นี้ด้วยสิ  กลับบ้านก็ไม่ได้.. :?  :?
บันทึกการเข้า

ttp://dekhorcu.multiply.com/
xcondom
บุคคลทั่วไป
« ตอบ #3 เมื่อ: 18 สิงหาคม 2550, 18:23:10 »

คงไม่ได้ไป ลงประชามติหรอกคับ  และไม่ได้ลงชื่อ เลือกนอกเขต อีกทั้งบ้านไกล บริษัทก้อไม่หยุดให้  เซง ..
บันทึกการเข้า
yungying
Hero Cmadong Member
***


ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 1,987

« ตอบ #4 เมื่อ: 20 สิงหาคม 2550, 23:11:53 »

ผลการลงประชามติเป็นยังไงบ้างหว่า...ช่วงนี้ห่างไกลข้อมูลข่าวสารมาก

รู้ว่ารับ....แต่เปอร์เซ็นต์การรับมันไม่ต่างกันมากใช่มะ...
บันทึกการเข้า

ttp://dekhorcu.multiply.com/
too
ตู้ rcu85
Hero Cmadong Member
***


ออฟไลน์ ออฟไลน์

คณะ: วิศวกรรมศาสตร์
กระทู้: 1,281

เว็บไซต์
« ตอบ #5 เมื่อ: 21 สิงหาคม 2550, 10:52:57 »

ถ้าเล่นเน็ตได้ก็ไม่ห่างไกลข้อมูลแล้วจ้า  :wink:

รับ 57.81%     ไม่รับ 42.19%

ผลคะแนนประชามติแยกรายภาค-รายจังหวัด (ไม่เป็นทางการ)
โดย ผู้จัดการออนไลน์    19 สิงหาคม 2550 17:03 น.
บันทึกการเข้า
too
ตู้ rcu85
Hero Cmadong Member
***


ออฟไลน์ ออฟไลน์

คณะ: วิศวกรรมศาสตร์
กระทู้: 1,281

เว็บไซต์
« ตอบ #6 เมื่อ: 25 สิงหาคม 2550, 11:56:09 »

เอาผลเป็นรายจังหวัดมาให้ดู



สีเขียวเข้ม = คะแนน “เห็นชอบ” สูงกว่า 90% ขึ้นไป
สีเขียว = คะแนน “เห็นชอบ” อยู่ระหว่าง 75-90%
สีเขียวอ่อน = คะแนน “เห็นชอบ” อยู่ระหว่าง 60-75%
สีเหลือง = คะแนน “เห็นชอบ” หรือ “ไม่เห็นชอบ” อยู่ระหว่าง 40-60% (เพื่อพยายามหาจังหวัดที่ ‘ก้ำกึ่ง’ ระหว่างทั้งสองฝ่าย)
สีแดงอ่อน = คะแนน “ไม่เห็นชอบ” อยู่ระหว่าง 60-75%
สีแดงเข้ม = คะแนน “ไม่เห็นชอบ” สูงกว่า 75% ขึ้นไป (ไม่มีสีแดงเข้มกว่านี้เพราะไม่มีจังหวัดไหน “ไม่เห็นชอบ” เกิน 90%)

ที่มา http://www.fringer.org/?p=269
บันทึกการเข้า
yungying
Hero Cmadong Member
***


ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 1,987

« ตอบ #7 เมื่อ: 26 สิงหาคม 2550, 00:57:49 »

มีข่าวมาว่าโซนอีสานเขาแจกของกันเพื่อให้ลงคะแนนไม่เห็นชอบด้วยละ
บันทึกการเข้า

ttp://dekhorcu.multiply.com/
khesorn mueller
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: 2527
คณะ: รัฐศาสตร์
กระทู้: 71,885

« ตอบ #8 เมื่อ: 05 ตุลาคม 2550, 23:46:46 »

Money?
p.nn
บันทึกการเข้า


yungying
Hero Cmadong Member
***


ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 1,987

« ตอบ #9 เมื่อ: 30 พฤศจิกายน 2550, 10:16:19 »

จะเลือกตั้งแล้ว  เลือกพรรคไหนดี ใครมีขอดีของแต่ละพรรคร นำมาเสอนกันหน่อยสิ

ป.ล. พี่หนิงได้เลือกตั้งด้วยรึป่าวค่ะ
บันทึกการเข้า

ttp://dekhorcu.multiply.com/
too
ตู้ rcu85
Hero Cmadong Member
***


ออฟไลน์ ออฟไลน์

คณะ: วิศวกรรมศาสตร์
กระทู้: 1,281

เว็บไซต์
« ตอบ #10 เมื่อ: 30 พฤศจิกายน 2550, 12:44:41 »

ใกล้เลือกตั้งแล้ว มาดูนโยบายแต่ละพรรคดีกว่า
ที่มา http://www.onopen.com/2007/01/2387
--------------------------------------------------------------------------
ปกป้อง จันวิทย์
เขาว่าการเมืองไทยพัฒนาเข้าสู่ยุคของ การเมืองเชิงนโยบายแล้ว !


พรรคชาติไทย

ปลูกไม้ใช้หนี้ พักหนี้ 3 ปีแรก เมื่อปลูก ไม้ใหญ่ยืนต้นครบ 200 ต้น/ไร่ รักษาไม้ได้ครบ 15 ปี ปลดหนี้ 1 แสนบาท
ปลดหนี้เกษตรกร แก้ปัญหาหนี้เร่งด่วน จัดงบฯให้กองทุนฟื้นฟู 20,000 ล้าน ซื้อหนี้เกษตรกรมาบริหาร
จัดสวัสดิการช่วยเหลือผู้เดือดร้อน เช่น เบี้ยยังชีพคนชรา เงินช่วยเหลือผู้พิการ บำนาญเกษียณอายุเกษตรกร 500 บาท/เดือน
ยกระดับสถานีอนามัยเป็นโรงพยาบาล ตำบล และเพิ่มงบฯพัฒนาครุภัณฑ์แก่ระบบ โรงพยาบาลอีก 20,000 ล้านบาท
ทำถนนลาดยาง ไร้ฝุ่น ทุกหมู่บ้าน ระยะทาง 50,000 ก.ม. ภายใน 3 ปี
เพิ่มกองทุนปัจจัยการผลิต หมู่บ้านละ 5 แสนบาท
ประกันราคาข้าว เกวียนละ 8 พันบาท
ตั้งธนาคารที่ดิน ธนาคารแรงงาน

พรรคประชาธิปัตย์

จ่ายเบี้ยยังชีพรายเดือนแก่ผู้สูงอายุ เดือนละ 500 บาท รวมใช้งบฯปีละ 35,000 ล้านบาท
จัดโครงการ “รักษาฟรีที่คลินิก”
จัดงบประมาณด้านพัฒนาศูนย์เด็กเล็ก 15,520 ล้านบาท
ลงทุน 300,000 ล้านบาท ขยายระบบชลประทานทั่วประเทศ
ทำโครงการประกันภัยพืชผล โดยรัฐบาล จัดสรรงบฯสำหรับเบี้ยประกัน ปีละ 6,000 ล้านบาท
จัดตั้งกองทุนเศรษฐกิจพอเพียง โดยรัฐบาลจัดสรรเงินเป็นทุนประเดิม 10,000 ล้านบาททันที โดยจัดสรรให้ตำบลละ 1-2 ล้านบาท
ผู้ใช้ไฟน้อย (ไม่เกิน 150 หน่วย/เดือน) ได้ส่วนลดเพิ่มขึ้น 3 เท่า โดยฟรีค่าไฟฟ้า 15 หน่วยแรก และงดเก็บค่าบริการ
ลงทุนระบบขนส่งมวลชนในกรุงเทพมหานครและปริมณฑล 250,000 ล้านบาท
ลงทุนระบบรถไฟรางคู่ 200,000 ล้านบาท


พรรคพลังประชาชน

สานต่อ “นโยบายประชานิยมสูตรต้นตำรับ” อาทิ 30 บาทรักษาทุกโรค กองทุนหมู่บ้าน ธนาคารเพื่อประชาชน และ SML รวมทั้ง หวยบนดิน กองทุนเรียนก่อนผ่อนทีหลัง การขจัดยาเสพย์ติด โอท็อป
เพิ่ม “นโยบายประชานิยมสูตรพิเศษ” เพื่อลดรายจ่าย 4 เท่า และเพิ่มรายได้หลัก 4 เท่า โดยสร้างรายได้จากการท่องเที่ยวปีละประมาณ 350,000 ล้านบาท และจากการขยายสนามบินสุวรรณภูมิ ซึ่งจะเพิ่มรายได้ 1,500,000 ล้านบาท รวมกับการสร้างไทยเป็นศูนย์กลางทางการแพทย์และการผลิตยาของโลก โดยจะใช้พื้นที่ 4,000 ไร่ ในภาคกลาง สร้าง 10 โรงพยาบาลระดับโลก และ 4 มหาวิทยาลัยทางการแพทย์
สร้างระบบรถไฟ 5 ระบบ คือ 1.รถไฟ แบบไทยที่ใช้อยู่ปัจจุบัน 2.รถไฟความเร็วสูง 3.รถไฟใต้ดิน 10 สาย 4.รถไฟวงแหวน สำหรับกรุงเทพฯ สมุทรสาคร สมุทรสงคราม ปทุมธานี นนทบุรี รังสิต สมุทรปราการ เริ่มภายใน 1 ปี 5.รถไฟก้างปลา สำหรับคนต่างจังหวัด ทั่วประเทศ
ลดค่าไฟฟ้า กระจายกำไรของการไฟฟ้า ฝ่ายผลิต 2 หมื่นล้านบาทต่อปีคืนให้ประชาชน


พรรคเพื่อแผ่นดิน

จัดตั้งกองทุนร่วมทุนสำหรับ SMEs 10,000 ล้านบาท
เงินผันพัฒนาหมู่บ้านอย่างยั่งยืน หมู่บ้าน ละ 300,000-500,000 บาท
ยกระดับกองทุนหมู่บ้านและชุมชนเมือง เป็นธนาคารกองทุนหมู่บ้านและชุมชนเมือง โดยให้มีเงินทุนหมุนเวียนแห่งละ 3-5 ล้านบาท
สนับสนุนงบประมาณระบบประกันสุขภาพทั่วหน้า เป็นคนละ 2,300 บาท
จัดตั้งศูนย์ความสุขชุมชน (Happiness Center) และศูนย์ความสุขผู้สูงอายุ (Happiness Center)
จัดตั้งกองทุนสวัสดิการชุมชนและครอบครัวทุกหมู่บ้าน โดยรัฐลงทุนเงินประเดิมให้หมู่บ้าน ละ 100,000 บาท
พัฒนาระบบรถไฟรางคู่และรถไฟความเร็วสูงทั่วประเทศ


พรรคมัชฌิมาธิปไตย

ลดส่วนต่างดอกเบี้ยเงินกู้และเงินฝาก ไม่เกิน 3%
ลดภาษีเงินได้ส่วนบุคคล ส่วนนิติบุคคลให้เก็บสูงสุดไม่เกิน 20% และให้มีการนิรโทษกรรมภาษีแก่บุคคลทั่วไป
สร้างรถไฟฟ้า 10 สายทาง เก็บค่าโดยสาร 15 บาท ตลอดสาย เป็นเวลา 10 ปี สำหรับกรุงเทพมหานครและเมืองบริวาร
ประกันราคาพืชผลทางการเกษตร เช่น ข้าวจ้าว ราคา 10,000 บาทต่อเกวียน ข้าวเหนียว 11,000 บาทต่อเกวียน ข้าวหอมมะลิ 12,000 บาทต่อเกวียน ยางพารา 80 บาทต่อกิโลกรัม มันสำปะหลัง 2 บาทต่อกิโลกรัม อ้อย 900 บาทต่อตัน และลำไยเกรดเอ กิโลกรัมละ 15 บาท
ส่งเสริมการเลี้ยงโคเพศเมียให้เกษตรกร 1 ล้านครอบครัว ประกันราคาโคเนื้อ (เป็น) ก.ก.ละ 50 บาท
ขุดบ่อน้ำ 9 ล้านบ่อ เพื่อ 9 ล้านครอบครัว ภายใน 4 ปี
ให้มีค่าตอบแทน อป.พร. และ อสม. เดือนละ 1,000 บาท
สนับสนุนโครงการ SML พัฒนาหมู่บ้าน เล็ก กลาง ใหญ่ หมู่บ้านละ 300,000 บาท 400,000 บาท และ 500,000 บาท ตามลำดับ
จัดตั้งกองทุนหมุนเวียนเพื่อการศึกษา ให้แก่โรงเรียนของรัฐตามขนาด เล็ก กลาง ใหญ่ จำนวน 50,000 บาท 100,000 บาท และ 150,000 บาท ตามลำดับ
ให้การสงเคราะห์เงินดำรงชีพ 1,500 บาทต่อเดือน แก่ผู้สูงอายุ คนพิการไร้อาชีพ ไม่มีรายได้อื่นเสริมและไม่มีผู้เลี้ยงดู

พรรครวมใจไทยชาติพัฒนา

เงินเดือนไม่เกิน 20,000 บาท ไม่ต้อง เสียภาษี
เพิ่มค่าหักลดหย่อนเป็น 100,000 บาท เพิ่มหักลดหย่อนค่าเล่าเรียนลูกเป็น 5,000 บาทต่อคน
สำหรับลูกกตัญญูเพิ่มค่าหักลดหย่อนเลี้ยง ดูพ่อแม่เป็น 50,000 บาท
หักลดหย่อนค่าเลี้ยงดูคนพิการในครอบครัวได้ 30,000 บาท
ผู้ที่กำลังผ่อนหรือคิดจะซื้อบ้านหลังแรก ให้หักภาษีได้ทั้งต้นและดอกปีละ 300,000 บาท
เด็กไทยทุกคนที่อายุครบ 18 ปี จะมีเงินสะสมไว้เรียนต่อมหาวิทยาลัย คนละ 1 ล้านบาท ด้วยโครงการ Baby Bond
หนึ่งตำบล หนึ่งนักเรียนทุน เรียนฟรีจนจบปริญญาเอก
จ่ายบำนาญประชาชน 2,000 บาทต่อเดือน แก่ผู้อายุเกิน 60 ปีขึ้นไป และมีฐานะยากจน
เพิ่มเงินกองทุนหมู่บ้านจาก 1 ล้านบาท เป็น 2 ล้านบาท
ขยายวงเงินโครงการ SML เดิมรัฐจัดสรร ให้ 2-2.5-3 แสนบาท เพิ่มเป็น 3-4-5 ล้านบาท เพื่อเพิ่มการจ้างงาน
พักชำระหนี้ครู 3 ปี ให้ครู 1.3 แสนคน ที่มีหนี้สินเฉลี่ยคนละ 1 ล้านบาท
จัดตั้งกองทุนพัฒนาชุมชน 50,000 ล้านบาท
พักชำระหนี้เกษตรกรที่มีเงินกู้ไม่เกิน 3 แสนบาท เป็นเวลา 3 ปี
ขาดดุลงบประมาณ 2 แสนล้านบาทต่อปี แต่ไม่เกิน 3 ปี เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจ


ขอต้อนรับเข้าสู่ยุคการเมืองเชิงนโยบาย แบบไทยๆ
สวัสดีประเทศไทย ... Good night and Good luck !


หมายเหตุ : นโยบายที่คัดสรรมาลงในคอลัมน์นี้ล้วนเป็นเรื่องจริงทั้งสิ้น เพราะการเมืองไม่ใช่เรื่องเล่นสนุก แต่หากใครอ่านแล้วจะหัวเราะขันขำแบบขื่นเศร้าในชะตากรรมของประเทศนี้ ผู้เขียนก็มิอาจช่วยอะไรได้ (เช็กดูแล้วพบว่าการหัวเราะเยาะนโยบายพรรคการเมืองไทย ไม่ผิดกฎหมายเลือกตั้ง และไม่ขัดระเบียบใดๆ ของ กกต.) ทั้งนี้ ผู้เขียนไม่ขอรับผิดชอบ หากทำให้ใครพานไม่อยากออกจากบ้านไปร่วมสนุกกับเกมประชานิยมในคูหาเลือกตั้ง เพียงแต่ท่านอาจไม่ใช่คนดีในสายตาของ กกต. อีกต่อไป


ตีพิมพ์ครั้งแรก: คอลัมน์ ‘มองซ้ายมองขวา’ หนังสือพิมพ์ประชาชาติธุรกิจ ฉบับวันที่ 26 พฤศจิกายน 2550
บันทึกการเข้า
yungying
Hero Cmadong Member
***


ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 1,987

« ตอบ #11 เมื่อ: 30 พฤศจิกายน 2550, 12:52:03 »

ขอบคุณคุณตู้
บันทึกการเข้า

ttp://dekhorcu.multiply.com/
ป.ปลา
Cmadong พันธุ์แท้
****


ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 3,100

เว็บไซต์
« ตอบ #12 เมื่อ: 30 พฤศจิกายน 2550, 14:06:21 »

เยี่ยมมากเลยน้องตู้ ของปรมมือให้  Cheesy  Cheesy
บันทึกการเข้า
yungying
Hero Cmadong Member
***


ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 1,987

« ตอบ #13 เมื่อ: 13 ธันวาคม 2550, 14:54:28 »

15-16 นี้อย่าลืมไปเลือกตั้งล่วงหน้า หรือเลือกตั้งนอกเขตพื้นที่กันนะจ้ะ
บันทึกการเข้า

ttp://dekhorcu.multiply.com/
khesorn mueller
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: 2527
คณะ: รัฐศาสตร์
กระทู้: 71,885

« ตอบ #14 เมื่อ: 21 ธันวาคม 2550, 03:49:51 »

three days left,right ??
to the vote ....great election day in Thailand??
just to dig it out...this Gratoo!!
p.dig,dig
บันทึกการเข้า


too
ตู้ rcu85
Hero Cmadong Member
***


ออฟไลน์ ออฟไลน์

คณะ: วิศวกรรมศาสตร์
กระทู้: 1,281

เว็บไซต์
« ตอบ #15 เมื่อ: 26 ธันวาคม 2550, 09:48:57 »

ผลเลือกตั้งก็ออกมาแล้ว แวะมาแปะให้อ่านกัน

ที่มา
http://www.prachatai.com/05web/th/home/10689
-------------------------------------------
สัมภาษณ์ ‘ธเนศวร์ เจริญเมือง’: มอง ‘การเลือกตั้ง’ จากมุม ‘ท้องถิ่น’

สัมภาษณ์โดย: พงษ์พันธุ์ ชุ่มใจ


การเลือกตั้ง 23 ธันวาคม ผ่านไปแล้ว ที่น่าสนใจคือผลการเลือกตั้งที่พลังประชาชนครองที่นั่งเป็นอันดับ 1 ยึดหัวหาดภาคเหนือ ภาคอีสานท่วมท้น เช่นเดียวกับที่พรรคประชาธิปัตย์ครองอันดับ 2 ด้วยการยึดหัวหาดภาคใต้และพื้นที่ส่วนใหญ่ในกรุงเทพมหานครเอาไว้ได้อย่างเหนียวแน่น

แต่ หลายต่อหลายคนก็ยังเห็นว่าการเลือกตั้งผ่านพ้นมาแล้ว แต่สังคมไทยก็ไม่อาจข้ามผ่านเส้นตายหลังการเลือกตั้งอย่างที่ตั้งอย่างที่ คาดหวังกัน เพราะเกิดความไม่ชัดเจนในการตั้งรัฐบาลระหว่างพรรคพลังประชาชนที่เป็นพรรค อันดับหนึ่งกับพรรคประชาธิปัตย์พรรคการเมืองอันดับสอง ซึ่งสาเหตุนอกจากเสียงของพลังประชาชนไม่เกินครึ่งพอที่จะตั้งรัฐบาลเอง ต้องอาศัยการรวมพรรคร่วมรัฐบาลแล้ว อีกเหตุผลหนึ่งก็คือวาทะของหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ที่ว่าหากพลังประชาชนไม่พร้อมจัดตั้งรัฐบาล ทางพรรคก็พร้อมจะเป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาลแทน

เพื่อ สนทนาต่อยอดคำถามข้างต้น ประชาไทมีโอกาสสัมภาษณ์ รศ.ดร.ธเนศวร์ เจริญเมือง อาจารย์คณะรัฐศาสตร์และรัฐประศาสนศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ นักวิชาการรัฐศาสตร์สำนัก ‘การเมืองการปกครองท้องถิ่น’ คนสำคัญของภาคเหนือและสังคมไทย

พลังประชาชน-ประชาธิปัตย์ครองเสียงคนละภาค เป็นเรื่อง ‘ภูมิภาคนิยม’ จริงอย่างไร ไม่จริงอย่างไร การเลือกตั้งระบบใหม่ตามรัฐธรรมนูญปี’50 ‘ล็อกสเปค’ รูปแบบรัฐบาลให้เป็นแบบผสม จริงหรือ หรือมีผลสะเทือนมากกว่านั้น คำตอบทั้งหมด อยู่ที่บทสนทนาต่อไปนี้
------

ทำไมพลังประชาชนจึงได้คะแนนเสียงมากกว่าพรรคอื่นในหลายๆ ภาค ขณะที่พรรคประชาธิปัตย์ก็ได้รับเลือกอย่างท่วมท้นในภาคใต้

ค่อน ข้างชัดเจนว่า วัฒนธรรมทางการเมืองของภาคใต้เป็นวัฒนธรรมรักกลุ่มรักพวกพ้อง ซึ่งพรรคประชาธิปัตย์ได้รับการสนับสนุนอย่างแข็งขันในพื้นที่ภาคใต้มาโดย ตลอด สะท้อนให้เห็นภูมิหลังของภาคใต้ที่สภาพเศรษฐกิจดี มีการค้าขายกับต่างประเทศ ทั้งยางพารา แร่ธาตุ ดีบุก ดินน้ำดีหมด ยอดเยี่ยมหมด นี่เป็นเหตุผลว่าเศรษฐกิจเขาอยู่ได้แล้ว เลยสามารถสร้างวัฒนธรรมรักกลุ่มรักพวกพ้องอย่างเข้มแข็ง

ส่วน ภาคอีสานกับเหนือภาวะเศรษฐกิจไม่แน่นอน ภาคเหนือมีปัญหาที่ดินขนาดเล็ก แล้วน้ำ ดิน ไม่แน่นอน น้ำฝนไม่แน่นอน มีภูเขามาก ทำให้มีปัญหาเรื่องการถือครองที่ดิน และยังต้องเช่านาจากเจ้าที่ดินใหญ่ ส่วนภาคอีสานภูมิอากาศแร้นแค้น ทำการเกษตรไม่ได้ผล ปัญหาเศรษฐกิจของทั้งสองภาคนี้จึงเป็นปัญหาใหญ่

พรรค ประชาธิปัตย์นั้น มีนายธารินทร์ นิมมานเหมินทร์ ซึ่งเป็นคนเชียงใหม่ เคยเป็นถึงรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง แต่ไม่มีผลงาน คนเชียงใหม่จึงไม่ภูมิใจ ขณะที่ พ.ต.ท.ทักษิณ สร้างผลงานและสร้างความประทับใจให้ทั้งคนเหนือและคนอีสาน

แสดงให้เห็นว่าว่าคนเลือกพรรคพลังประชาชนนี่ไม่ใช่เรื่องภูมิภาคนิยม เพราะคนเลือกมีทั้งภาคกลาง ภาคเหนือ และภาคอีสาน ดังนั้น เหตุผลที่ 1 ที่ คนจำนวนมากเลือกพรรคพลังประชาชน เพราะว่าประชาชนมีความพอใจในนโยบายเศรษฐกิจของพรรคนี้โดยอาจเลือกเพราะให้ ความสำคัญทางเศรษฐกิจ เนื่องจากพรรคไทยรักไทยเป็นรัฐบาลมานานถึง 5 ปี ทำนโยบายทั้งเรื่องกองทุนหมู่บ้าน สามสิบบาท แท็กซี่เอื้อาทร บ้านเอื้ออาทร โอท็อป ฯลฯ ทั้งหมดนี้ใช้เวลา 5 ปีทำนโยบายให้ประชาชนได้เห็น

เหตุผลที่ 2 ไม่มีเหตุผลว่า ทำไมต้องมาทำรัฐประหารและไปลงโทษ 111 คน ในขณะที่เศรษฐกิจก็ยังดีอยู่ การรัฐประหารทำให้เศรษฐกิจหลายประการหยุดชะงัก มีการไปเพิ่มอำนาจให้อำนาจกำนัน ผู้ใหญ่บ้าน คนก็รู้สึกว่าการเมืองการปกครองมันเปลี่ยน และเขาเห็นว่าไม่ควรตัดสิทธิ 111 คน พูดอย่างรวบรัดก็คือคนไม่เห็นด้วยกับรัฐประหารครั้งนี้ และไม่เห็นด้วยว่าคนที่เขายกย่องชื่นชมกระทำความผิด

เหตุผลที่ 3 เศรษฐกิจ ในห้วงปีที่ผ่านมาของการทำรัฐประหารทรุดลง เพราะนายกรัฐมนตรีที่มาจากการแต่งตั้งไม่ตั้งใจทำงาน เป็นเพียงรักษาการไปเฉยๆ พอเศรษฐกิจทรุดลง คนก็คิดถึงความดีในอดีตของรัฐบาลตลอด 5 ปี ที่ผ่านมา ประกอบกับผลงานของรัฐบาลชุดปัจจุบันจึงกลายเป็นตัวช่วย ให้ชนชั้นล่าง ชนชั้นกลาง ผู้ที่ไม่เห็นด้วยกับการยึดอำนาจ เทคะแนนให้พรรคพลังประชาชน

ขณะ นี้ยังไม่มีใครลงไปศึกษาว่าคนกรุงเทพ กับ คนชั้นกลางในต่างจังหวัดเลือกพรรประชาธิปัตย์เพราะอะไร แต่ในความเห็นของผมคิดว่าเขาต้องการการเมืองที่มีเสถียรภาพ อยากให้บ้านเมืองสงบ ไม่ใช่เรื่องของการ ‘เลือกคนที่คุณรัก และเลือกพรรคที่คุณชอบ’ แน่

คือ แม้ว่าเขาพอใจพรรคพลังประชาชน แต่เขากลัวทหารยึดอำนาจ เลยไปเลือกประชาธิปัตย์ คือส่วนหนึ่งไม่ได้ลงคะแนนเพราะชอบพรรคประชาธิปัตย์ แต่ไม่อยากเห็นรัฐประหารอีกแล้ว เขาไม่อยากเห็นการนองเลือด ไม่ได้แปลว่าเพราะเขาชอบประชาธิปัตย์ เขาอาจเห็นว่าทักษิณดีแต่ไม่อยากลงคะแนนให้เพราะกลัวทหารยึดอำนาจ แต่ตอนนี้ยังไม่ใครศึกษาเรื่องนี้ลึกซึ้ง

------

มีนักวิชาการหลายคนสะท้อนว่า พลังประชาชนกลับเข้ามาไม่กลัวปัญหาคอรัปชั่นหรือ

เรื่อง ปัญหาความขัดแย้งระหว่างทักษิณกับประชาชนนั้น เพราะทักษิณเป็นหัวหน้าพรรคใหญ่ และกรณีสังคมไทย วิธีการตรวจสอบหัวหน้ามันยังไม่ใช่วัฒนธรรมของไทย เมื่อเกิดเหตุการณ์แบบนี้ขึ้น สภาเลยเงียบ มีแต่พลังนอกสภาออกมาเคลื่อนไหวให้คุณทักษิณพิจารณาตัวเอง ประเด็นคือให้ตรวจสอบ ไต่สวน เคลียร์ตัวเอง พอคนออกมามากเข้าๆ ก็ยุบสภา และมีเลือกตั้งใหม่ ก็มีคนเสนอว่า นี่ไม่ใช่เรื่องในสภากับตัวแก เป็นเรื่องของคนที่มาจากการเลือกตั้งกับพลังนอกสภาโดยเฉพาะคนในเมืองหลวง

เรื่อง คอรัปชั่นนี้ก็ต้องมีการพิสูจน์กัน ต้องมีการต่อสู้ภายในระบบรัฐสภา มีระบบที่ธีรยุทธบอกว่าตุลาภิวัฒน์ มีศาล มีองค์กรอิสระ มีภาคประชาชนเข้าไปตรวจสอบ ซึ่งขณะที่สิ่งเหล่านี้กำลังดำเนินการ ก็มีการยึดอำนาจนอกระบบ เพราะฉะนั้น กระบวนการตรวจสอบนายกที่มาจากการเลือกตั้งดำเนินอยู่แล้ว แต่กลายเป็นว่า ทหารใช้อำนาจนอกระบบทำลายประชาธิปไตยนี้ แถมมาฉีกรัฐธรรมนูญทิ้งอีก ซึ่งไม่ใช่ประเด็นเลย

แล้วเขาอ้างเหตุผลในการยึดอำนาจมี 4 ข้อ คอรัปชั่น สร้างความแตกแยกในสังคม หมิ่นเหม่ต่อการหมิ่นพระบรมเดชานุภาพ และแทรกแซองค์กรอิสระ

คือ จริงๆ แล้ว องค์กรอิสระ พลังประชาธิปไตยนอกสภามันทำหน้าที่อยู่แล้ว เป็นการต่อสู้ภายในระบบ แต่มีคนนอกระบบเข้ามาทำลายหมด กลไกตรวจสอบที่กำลังดำเนินการอยู่ ก็ถูกล้มหมด แล้วพอยึดอำนาจแล้วก็แต่งตั้งคนของตัวเองในองค์กรตรวจสอบ ตั้งตุลาการรัฐธรรมนูญ ทั้งที่ความเห็นขัดแย้งเดิมในสังคมไทยแค่เรื่องคอรัปชั่นและเรื่องไม่จ่าย ภาษี แต่พอรัฐประหารก็เลยลามไปหมด เพียงเพื่อรับใช้เหตุผลหลักของการยึดอำนาจ มันเลยลามไปหมดเลย เพียงต้องการหาชอบธรรมกับการรัฐประหาร

ปัญหา คอรัปชั่น แก้ไม่ได้ด้วยการรัฐประหาร กลไกตรวจสอบตามระบบประชาธิปไตยที่กำลังดำเนินไปจึงถูกทำลาย แล้วปัญหาลามไปที่เรื่องอื่นหมด เป็นเรื่องที่น่าเสียดาย
บันทึกการเข้า
too
ตู้ rcu85
Hero Cmadong Member
***


ออฟไลน์ ออฟไลน์

คณะ: วิศวกรรมศาสตร์
กระทู้: 1,281

เว็บไซต์
« ตอบ #16 เมื่อ: 26 ธันวาคม 2550, 09:52:36 »

ต่อนะครับ


---------------

ระบบและวิธีการเลือกตั้งมีผลต่อคะแนนหลังเลือกตั้งหรือไม่

เป็นเพราะคนที่ออกแบบรัฐธรรมนูญออกแบบให้ระบบเลือกตั้งเป็นแบบนี้ การเลือกตั้งระบบสัดส่วน 8 เขต พื้นที่ ซึ่ง ส.ส.ร.อ้างว่าเพื่อให้การลงคะแนนพูนผันกับท้องถิ่น ผมเห็นว่าไม่เห็นมีพื้นที่การเลือกตั้งที่สร้างความเป็นท้องถิ่นตรงไหน

ส่วน การเลือกตั้งแบบเขต เขตละสามคน หรือสองคน ก็ทำให้การหาเสียงแบบลูกโดดเกิดขึ้น และวิธีนับคะแนนที่คูหา ก็ทำให้นักการเมืองจำนวนหนึ่งที่จ่ายเงินสามารถเช็คได้เลยว่า เงินที่เทไปได้กลับมาเท่าไหร่ เขาสามารถเช็คบิล สามารถลงโทษ สามารถเอาคืนได้ ถ้าคะแนนไม่เป็นไปตามที่เขาจ่าย ซึ่งวิธีนับคะแนนแบบนี้ไม่เหมาะในสภาพที่ผู้มีอิทธิพลคุมได้ หรือในสภาพที่ประชาชนข้นแค้นทางทางเศรษฐกิจและสามารถใช้อิทธิพลเข้ามาข่ม ขู่ได้

นอกจากนี้วิธีการแบ่งเขตการเลือกตั้งในบางเขตของ จ.เชียงใหม่ เช่น กรณีแยกกิ่ง อ.แม่ออน (ไปเป็นเขตเลือกตั้งที่ 3) ออกจาก อ.สันกำแพง (เขตเลือกตั้งที่ 1) ก็ อธิบายไม่ได้ทางภูมิศาสตร์ เพราะ กิ่ง อ.แม่ออน คือ อ.สันกำแพง เดิม แต่เรื่องคนที่แบ่งเขตแบบนี้คงอธิบายได้ว่าเพราะต้องการแยกคะแนนของพรรคพลังประชาชน

นอก จากนี้วิธีการกำหนดขนาดป้าย ให้ติดตั้งเป็นจุดๆ โดยอ้างว่าเพื่อให้ระเบียบนั้น ถือว่าไม่ส่งเสริม ระบอบประชาธิปไตย ไม่ส่งเสริมการเรียนรู้ ไม่ส่งเสริมความตื่นตัวของประชาชน ติดเป็นจุดๆ ใครจะไปดู วิธีคิดนี้ ก.ก.ต. คงไปเอามาจากการดูงานที่ญี่ปุ่น โดยอ้างว่าที่ญี่ปุ่นเขาให้ติดป้ายบางจุดและเป็นระเบียบเรียบร้อย ก็ต้องรู้หน่อยว่าประชาธิปไตยของไทยกับญี่ปุ่นต่างกันเป็น 100 ปี เดิมเขาก็เริ่มจากติดป้ายไปทั่ว แต่ต่อมาการเมืองเขามีเสถียรภาพ ไม่มีรัฐประหาร เขาเลยสามารถจะกำหนดจุดติดป้ายได้ แต่ของเรา ประชาธิปไตยล้มลุกคุกคลานตลอด การไปเอาแบบอย่างจากที่อื่นมาใช้จึงไม่สอดคล้องกับสังคมไทย ซึ่งอยู่คนละระยะการพัฒนาทางประวัติศาสตร์ ของไทยมีรัฐประหารบ่อย ความตื่นตัวของประชาชนไม่มีเลย พอมีรัฐประหารบ่อย ก็มีการแบ่งเขตเลือกตั้งกันใหม่ตลอด เดี๋ยวแบ่งเขต เดี๋ยวรวมเขต แถมวิธีการนับคะแนนเปลี่ยนตลอด จากนับรวมกันในเขต ก็แยกไปนับที่คูหา คนจึงสับสน

สิ่ง เหล่านี้ส่งเสริมให้มีบัตรเสีย ส่งเสริมให้เกิดการเลือกแบบไม่เป็นอย่างที่ประชาชนต้องการ ทำให้เกิดความแตกแยก ไม่มีพรรคไหนเข้มแข็ง เป็นรัฐบาลผสมที่อ่อนแอ ซึ่งเป็นไปตามที่รัฐธรรมนูญปี 2550 วางเอาไว้เลย

---------------

มองว่า หลังการเลือกตั้งแล้วต้องมีการรวมกลุ่มเพื่อตั้งรัฐบาลผสม เป็นการถอยหลังของประชาธิปไตยไปสู่ยุคทศวรรษที่ 2520 – 2530 หรือไม่

ที่ ผ่านมาไม่มีพรรคใดมีนโยบายชัดเจน แต่พรรคไทยรักไทยทำนโยบายให้ประชาชนคนไทย พอทำนโยบายสำเร็จคนด่าทั้งเมืองว่าเป็นประชานิยม แต่พอมีการเลือกตั้งใหม่กลับเอานโยบายแบบไทยรักไทยไปใช้กันทั้งเมืองทุกพรรค แบบนี้จะอธิบายได้อย่างไร ก็เพราะพรรคการเมืองทั้งหลายรู้ว่า ไทยรักไทยทำแบบนี้ได้ประโยชน์ถึงเลียนแบบ บางพรรคบอกว่าภายในกี่เดือนจะทำอะไรๆ ก็เหมือนพรรคไทยรักไทยเลย คือทำตามเพราะหวังคะแนน

แต่ พอคะแนนนับออกมาแล้ว ทั้งๆ ที่แต่ละพรรคก็ใช้นโยบายประชานิยมเหมือนกัน แต่ทำไมยัง รีๆ รอๆ จดๆ จ้องๆ ไม่ร่วมตั้งรัฐบาลกัน ก็แสดงให้เห็นว่า หนึ่ง เพราะนโยบายเลยไม่สำคัญ กลายเป็นเรื่องบุคลิกส่วนตัวไปแล้ว สอง คือไม่ได้แสดงว่าพรรคเหล่านี้ไม่ได้ให้ความสำคัญกับนโยบายอย่างที่กล่าวอ้างกัน ก็ในเมื่อนโยบายเหมือนกันต้องวิ่งเข้าหากันสิ สาม แสดงว่ามีอำนาจมืด แทรกแซงกำกับอยู่ สั่งว่าอย่าเพิ่งไปรวม สี่ สิ่งที่พรรคพลังประชาชนพูดชัดมากแต่พรรคอื่นไม่พูดคือ เอาทักษิณกลับ นิรโทษกรรม 111 คน ยกเลิก คตส. แก้ไขรัฐธรรมนูญ แต่พรรคอื่นไม่ยอมพูด เหล่านี้เลยอาจทำให้พรรคอื่นรีๆ รอๆ อยู่

ถ้าจะสรุป สำหรับคนที่ต้องการแสดงความคิดเห็น เรื่องไม่เห็นด้วยกับรัฐประหาร หรือต้องการทำให้ 111 ไม่ได้รับการเป็นธรรม

คะแนนที่ออกมา คราวนี้ บางฝ่ายคงรู้มาหลายเดือนแล้วว่า พลังประชาชนจะชนะมากเลย ต้องถือว่าคะแนนที่ได้มาคราวนี้ควรจะได้มากกว่านี้ด้วยซ้ำไปถ้า หนึ่ง คนจำนวนหนึ่งไม่ลงคะแนนด้วยความหวั่นไหว สอง วิธีการแบ่งเขต วิธีการลงคะแนน ไม่เป็นแบบนี้ สาม อำนาจ รัฐไม่รณรงค์เสนอข่าวให้คนเกลียดพรรคพลังประชาชน มันเป็นสถานการณ์อย่างที่คุณศิโรตม์ คล้ามไพบูลย์ พูดว่านี่เป็นการเลือกตั้งในสถานการณ์ไม่ปกติ [1] ดังนั้นบางฝ่ายคงเห็นว่าจะทำอย่างไรเพื่อลดทอนคะแนนของพรรคนั้นให้ลดไป วิธีจะไปห้ามเลือกตั้งก็ไม่ได้แล้ว เหลืออย่างเดียวคือพยายามไม่ให้พรรคพลังประชาชนได้ถึงครึ่งหนึ่ง ขอให้สังเกตที่หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์พูดว่า ถ้าไม่ถึงครึ่งใครก็ตั้งรัฐบาลได้

ซึ่ง ผมของฝากไปว่า คุณอภิสิทธิ์เองก็เคยเรียนถึงเมืองนอกมาแล้ว เห็นประเพณีประชาธิปไตยของตะวันตกมาแล้ว ที่หลังการเลือกตั้ง พรรคการเมืองที่ได้ที่สองหรือได้คะแนนน้อยเขาจะโทรศัพท์ไปแสดงความยินดีกับ พรรคที่ได้คะแนนอันดับหนึ่ง แล้วประกาศว่ายินดีให้ความร่วมมือทุกอย่างเพื่อให้พัฒนาประเทศต่อไป

ทั้ง ที่ก่อนจะมีเลือกตั้งก็คุณอภิสิทธิ์ก็พูดทำนองว่าจะสร้างความสมานฉันท์ จะโทรศัพท์ไปหาทักษิณบอกให้กลับเมืองไทย แต่พอคะแนนออกมาแล้วกลับพูดกระทบกระเทียบ ไม่แสดงความยินดี ซึ่งไม่สง่างาม การไม่ยอมรับความพ่ายแพ้นี้ ถือว่าแสดงความไม่จริงใจ แทนที่จะบอกว่าจะร่วมมือกับผู้ชนะเพื่อพัฒนาประเทศแต่กลับแสดงออกว่าพร้อม แข่งขันตั้งรัฐบาลตลอด และมีบางประโยคพูดเหมือนกับจะตั้งรัฐบาลแข่งโดยบอกว่าเพราะพลังประชาชน คะแนนไม่ถึงครึ่ง ซึ่งนี่เหมือนกับมีการล็อกไว้ไม่ให้ถึงครึ่ง แล้วให้มีการช่วงชิงพรรคเล็กพรรคน้อยมารวม

ดัง นั้นบรรยากาศสังคมไทยเลยตึงเครียดตั้งแต่ตอนเย็นของวันเลือกตั้งเมื่อวาน เพราะคะแนนไม่ถึงครึ่ง ทั้งที่หลังการเลือกตั้ง เย็นวันนั้นควรเป็นบรรยากาศแห่งความชื่นมื่นสมานฉันท์ ทุกฝ่ายยินดีกับผู้ชนะ แต่กลับไม่เป็นอย่างนั้น เหมือนคล้ายๆ อิจฉา ไม่ไว้ใจ เหมือนมีการกระทบกระเทียบ มีความพยายามตั้งพรรครัฐบาลแข่ง แทนที่จะยื่นมือสนับสนุน หรือปล่อยวางเปิดโอกาสให้ผู้ชนะเต็มที่

การที่นายอภิสิทธิแถลงข่าวว่า “ขอให้คิดถึงเศรษฐกิจและผลประโยชน์ของประชาชน อย่าคิดถึงแต่ 111 คน” ไม่เรื่องที่ไม่ควรพูด เพราะพรรคที่ชนะเขาพูดตลอดว่าจะทำเรื่องนี้ เขาต้องพูด เขาจะปฏิเสธได้อย่างไร คุณอภิสิทธิกล่าวเช่นนี้เหมือนเป็นผู้แพ้ที่ไม่เคารพ ไม่ให้เกียรติผู้ชนะตามประเพณีประชาธิปไตย

แล้ว สุดท้ายจริงๆ ช่วงดึก บรรยากาศยิ่งไม่ค่อยดี เพราะมีข่าวว่าพรรคเล็กพรรคน้อยไปพูดกันเอง ซึ่งมันเป็นเรื่องที่แปลก เขามีแต่จะไปคุยกับพรรคใหญ่ อันนี้กลายเป็นพรรคเล็กๆ พูดกันเองแล้วบอกว่าทำเพื่อชาติ ไม่ใช่แล้ว มองอย่างไรก็ไม่ใช่ นี่เป็นการสร้างเงื่อนไขทางการเมือง

แทนที่ Election night ควร เป็นคืนแห่งความชื่นชมยินดี ผู้แพ้ยอมรับพ่ายแพ้สง่างามมีน้ำใจนักกีฬา เป็นคืนที่แต่ละฝ่ายหันหน้าเขาหากันสมานฉันท์ แต่ที่พูดมานี้ไม่มีเลย มันเกิดความไม่แน่นอนตั้งแต่เมื่อคืนแล้ว

สะท้อน ว่าการต่อสู้ทางการเมืองในสังคมระหว่างพรรคฝ่ายต่างๆ จะดำเนินต่อไป เสถียรภาพทางการเมืองจะเป็นคำถามต่อไป บรรยากาศสมานฉันท์ที่หลายๆ ฝ่ายใฝ่หาจะเป็นความจริงได้หรือไม่


---------------

จบแล้วครับ  :wink:
บันทึกการเข้า
khesorn mueller
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: 2527
คณะ: รัฐศาสตร์
กระทู้: 71,885

« ตอบ #17 เมื่อ: 27 ธันวาคม 2550, 02:13:32 »

Nong TOO,
very well ka..thank you very much...
how about now??did they form any ministers??
who gets what..that will be again a "cake"party!!
p.nn
บันทึกการเข้า


yungying
Hero Cmadong Member
***


ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 1,987

« ตอบ #18 เมื่อ: 27 ธันวาคม 2550, 02:16:09 »

เห็นผลเลือกตั้งแล้วเซ็งคนอีสาน :?  :x  :x  :x  :)  :)  :)
บันทึกการเข้า

ttp://dekhorcu.multiply.com/
khesorn mueller
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: 2527
คณะ: รัฐศาสตร์
กระทู้: 71,885

« ตอบ #19 เมื่อ: 27 ธันวาคม 2550, 02:18:03 »

But p..ning..she  "เซ็ง"chompoo!
p.nn
บันทึกการเข้า


yungying
Hero Cmadong Member
***


ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 1,987

« ตอบ #20 เมื่อ: 27 ธันวาคม 2550, 02:48:48 »

เซ็งเหมือนกันค่ะพี่หนิง :x  :x  :x
บันทึกการเข้า

ttp://dekhorcu.multiply.com/
khesorn mueller
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: 2527
คณะ: รัฐศาสตร์
กระทู้: 71,885

« ตอบ #21 เมื่อ: 27 ธันวาคม 2550, 02:51:12 »

he should retire and be only back up!!
p.nn
บันทึกการเข้า


yungying
Hero Cmadong Member
***


ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 1,987

« ตอบ #22 เมื่อ: 31 ธันวาคม 2550, 10:21:11 »

วันที่ 4 ม.ค. จะจัดตั้งรัฐบาลแล้ว รอดูกันสิว่าใครจะเป็นนายก
บันทึกการเข้า

ttp://dekhorcu.multiply.com/
too
ตู้ rcu85
Hero Cmadong Member
***


ออฟไลน์ ออฟไลน์

คณะ: วิศวกรรมศาสตร์
กระทู้: 1,281

เว็บไซต์
« ตอบ #23 เมื่อ: 04 กุมภาพันธ์ 2551, 14:20:23 »

เลือกตั้งส.ว. เงียบมากเลย  Sad

เลือกตั้งล่วงหน้าวันที่ 23-24 ก.พ. 2551 นะ
ใครขอใช้สิทธิเลือกตั้งนอกเขตตอนส.ส. ไม่ต้องทำเรื่องอีก ไปเลือกได้เลย
ส่วนใครที่ยังไม่เคยทำเรื่องใช้สิทธินอกเขตตั้งแต่ตอนเลือกส.ส. สำหรับการเลือกส.ว. ครั้งนี้ หมดเขตทำเรื่องแล้ว( 31 ม.ค.) :evil:

ดูรายละเอียดเพิ่มเติมที่เว็บ กกต.นะ http://www.ect.go.th




ป.ล. สำหรับพี่หนิงและคนอื่นๆ ที่อยู่ต่างประเทศ

ขอเชิญชวนคนไทยในต่างประเทศไปลงคะแนนเลือกตั้งสมาชิก วุฒิสภา (ส.ว.)นอกราชอาณาจักร ระหว่างวันที่ 11 – 24 กุมภาพันธ์ 2551 ณ สถานเอกอัครราชทูต/สถานกงสุลใหญ่ หรือลงคะแนนทางไปรษณีย์ หรืออื่น ๆ (ตามที่สถานเอกอัครราชทูต/สถานกงสุลใหญ่กำหนด)

ดูรายละเอียดเพิ่มเติมที่เว็บ กรมการกงสุล http://www.consular.go.th
บันทึกการเข้า
yungying
Hero Cmadong Member
***


ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 1,987

« ตอบ #24 เมื่อ: 05 กุมภาพันธ์ 2551, 13:02:44 »

ขอบคุณมากเลยคุณตู้  เกือบนอนหลับทับสิทธิ์ไปอีกแล้วนะเนี้ย
บันทึกการเข้า

ttp://dekhorcu.multiply.com/
  หน้า: [1] 2  ทั้งหมด   ขึ้นบน
  
กระโดดไป:  

     

สมาคมนิสิตเก่าหอพักนิสิต จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย มวลสมาชิกสมาคม คณาจารย์ และนิสิตเก่าทุกคน ขอน้อมเกล้าถวายความอาลัย  พระผู้เสด็จสู่สวรรคาลัย ด้วยเกล้าด้วยกระหม่อม ขอเดชะ <;))))><