29 เมษายน 2567, 17:57:19
ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน


เข้าสู่ระบบด้วยชื่อผู้ใช้ รหัสผ่าน [สมาชิกเก่าลืมรหัส โทร 081-7611760]
A A A A  ระเบียบปฎิบัติ
   
Languages    
  หน้า: 1 ... 13 14 [15] 16 17 ... 29  ทั้งหมด   ลงล่าง
ผู้เขียน หัวข้อ: รู้ไว้ใช่ว่า ใส่บ่าแบกหาม  (อ่าน 548197 ครั้ง)
0 สมาชิก และ 3 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
Jiab16
Global Moderator
Hero Cmadong Member
*****


ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 2,267

เว็บไซต์
« ตอบ #350 เมื่อ: 01 ธันวาคม 2551, 17:24:21 »

เป็นปลื้ม ม ม ม เลยล่ะครับ ... " สำหรับเพื่อนพ้อง น้อง พี่ ชาวซีมะโด่ง  น้อยกว่านี้ได้ยังไง ? " ... ว่าแต่ โอ้ลั่นทม นี่คือ " น้องเต้ " ใช่ป่าว ?
บันทึกการเข้า
TAE2540
Full Member
**


ไม่มีคำว่าสายเสียแล้ว สำหรับความรักที่แท้จริง
ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: rcu2540
คณะ: ครุศาสตร์
กระทู้: 507

เว็บไซต์
« ตอบ #351 เมื่อ: 01 ธันวาคม 2551, 19:07:02 »

อ้างถึง
ข้อความของ Jiab16 เมื่อ 01 ธันวาคม 2551, 17:24:21
ว่าแต่ โอ้ลั่นทม นี่คือ " น้องเต้ " ใช่ป่าว ?

ขอรับ  ปิ๊งๆ
บันทึกการเข้า
Jiab16
Global Moderator
Hero Cmadong Member
*****


ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 2,267

เว็บไซต์
« ตอบ #352 เมื่อ: 07 ธันวาคม 2551, 23:21:43 »

Brand Loyalty อายุสั้นลง

นุชน้อย - อักษร 16 ... ส่งมา

ชฎาพันธุ์ มลิพันธุ์ จาก Positioning Magazine - ตุลาคม 2551

ท่ามกลางสินค้ามากมายเต็มท้องตลาด อัดแน่นด้วยสารพัดแคมเปญแข่งกันขายในปัจจุบัน ความจงรักภักดีต่อแบรนด์ของผู้บริโภคเริ่มมี " อายุสั้นลง " อย่างหลีกเลี่ยงได้ยาก เพราะพฤติกรรมการซื้อสินค้าซับซ้อนมากขึ้นเรื่อยๆ ด้วยรสนิยมที่เปลี่ยนแปลงเร็ว และสนใจ " ความรู้สึกต่อแบรนด์ " มากกว่า " คุณประโยชน์ " ดังนั้นนักการตลาดควรเรียนรู้ทัศนคติ และพฤติกรรมของผู้บริโภคกลุ่มต่างๆ รวมทั้งประเภทสินค้า และปัจจัยที่ส่งผลต่อการซื้อซ้ำแบรนด์เดิมอย่างต่อเนื่อง ( Brand Loyalty ) เพื่อตรึงลูกค้าให้ติดอยู่กับตนนานที่สุดเท่าที่จะมากได้

ผู้บริโภคปัจจุบันมี 8 กลุ่ม

ทัศนคติ และพฤติกรรมของผู้บริโภคในปัจจุบันสามารถแบ่งออกได้เป็น 8 กลุ่ม โดยกลุ่มผู้เสียเปรียบ และเพิกเฉยต่อสังคม ( Disadvantage and Indifferent ) มีสัดส่วนสูงสุด 18 % ขณะที่กลุ่มอื่นมีสัดส่วนเฉลี่ย 12% ต่อกลุ่ม ดังนี้

18% - สัดส่วนกลุ่มผู้เสียเปรียบ และไม่กระตือรือร้น ( Disadvantage & Indifferent ) กลุ่มนี้จะมีทัศนคติเชิงลบ ไม่สนใจครอบครัว สังคม หรือแบรนด์สินค้าต่างๆ รับสื่อจากทีวีเป็นหลัก และชอบดูการ์ตูน

14% - สัดส่วนกลุ่มกลุ่มที่รู้สึกว่าถูกปิดกั้น และไม่ก้าวหน้า ( Trapped ) เป็นพวกทำงานประจำ มีครอบครัวแล้ว ความคิดซับซ้อน แต่ไม่ชอบแสดงออก

13% - สัดส่วนนักค้นหาตัวตน / ใส่ใจภาพลักษณ์ ( Image Conscious / Status Seekers ) ส่วนใหญ่อายุ 14 -24 ปีมีทัศนคติทางบวก สนใจเทรนด์ ชอบสังสรรค์และดูหนังบ่อย

12% - สัดส่วนกลุ่มการศึกษาสูง และมีความคิดก้าวหน้า ( Educated Progressives ) ทำงานประจำ ยังไม่มีครอบครัวหรือลูก สนใจเรื่องสังคมและการเมือง แต่ยอมรับแนวคิดใหม่ๆ ชอบอ่านนิตยสาร และหนังสือพิมพ์ ติดตามเทรนด์ และแฟชั่น

11% - สัดส่วนกลุ่มคนรุ่นใหม่ต้องการความมั่นคง ( Young Pragmatics ) อาศัยอยู่ในเมือง มีความทะเยอทะยาน เข้าถึงข้อมูลผ่านทางโทรศัพท์มือถือ และชอบค้นหาข้อมูลเป็นหลัก

11% - สัดส่วนกลุ่มคนรุ่นใหม่มีความคาดหวัง ( Young Aspirers ) อายุ 14 -29 ปี เป็นคนเมือง มีการศึกษาสูง และส่วนใหญ่เป็นนักศึกษา ต้องการความก้าวหน้าในสังคม เกิดจากความคาดหวังจากครอบครัว มักรับข่าวสารจาก และใช้เวลากับอินเทอร์เน็ตเป็นหลัก

11% - สัดส่วนคนเมืองที่ยึดมั่นขนบประเพณีเก่า ( Urban Traditionals ) อายุ 50-65 ปี แต่งงานและมีลูกแล้ว ชอบอยู่บ้านกับครอบครัว เทคโนโลยีมีบทบาทกับชีวิตน้อยมาก

10% - สัดส่วนคนต่างจังหวัดที่ยึดติดกับขนบประเพณีเก่า ( Rural Traditionals ) ให้ความสำคัญกับภาพลักษณ์วัตถุนิยมชอบสังคม และมีความสุขกับชีวิต รับสื่อส่วนใหญ่จาก Cable TV และวิทยุ


กำลังซื้อเป็นคนรุ่นใหม่ หัวก้าวหน้า และห่วงภาพลักษณ์

เมื่อพิจารณาจากรายได้เฉลี่ยต่อครัวเรือนและต่อคน พบว่ากลุ่มที่มีกำลังซื้อ ( Spending Power ) มากที่สุดคือ Educated Progressives และ Young Aspirer ขณะที่กลุ่ม Urban Traditional มีกำลังซื้อน้อยที่สุด

กลุ่ม Educated Progressives
รายได้เฉลี่ยต่อครัวเรือน/เดือน (บาท) : 26, 869.60
รายได้เฉลี่ยต่อคน/เดือน (บาท) : 10,538.40

Rural Traditionals
รายได้เฉลี่ยต่อครัวเรือน/เดือน (บาท) : 23,181.20
รายได้เฉลี่ยต่อคน/เดือน (บาท) : 7,828.80

Disadvantage & Indifferent
รายได้เฉลี่ยต่อครัวเรือน/เดือน (บาท) : 16,330.20
รายได้เฉลี่ยต่อคน/เดือน (บาท) :5,420.10

Urban Traditionals
รายได้เฉลี่ยต่อครัวเรือน/เดือน (บาท) : 14,798.50
รายได้เฉลี่ยต่อคน/เดือน (บาท) : 4,454.20

Trapped
รายได้เฉลี่ยต่อครัวเรือน/เดือน (บาท) : 17,136.10
รายได้เฉลี่ยต่อคน/เดือน (บาท) : 6,923.60

Image Conscious Status Seekers
รายได้เฉลี่ยต่อครัวเรือน/เดือน (บาท) : 15,645.60
รายได้เฉลี่ยต่อคน/เดือน (บาท) : 4,679.20

Young Aspirers
รายได้เฉลี่ยต่อครัวเรือน/เดือน (บาท) : 27,985.80
รายได้เฉลี่ยต่อคน/เดือน (บาท) : 9,599.10

Young Pragmatics
รายได้เฉลี่ยต่อครัวเรือน/เดือน (บาท) : 17,887.10
รายได้เฉลี่ยต่อคน/เดือน (บาท) : 9,164.40


คนไทยยังจงรักภักดีกับแบรนด์ แต่อายุสั้นลง

ผู้บริโภคส่วนมากยังคงยืนกรานว่าซื้อตราสินค้าเดิมซ้ำๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่งคนต่างจังหวัด ทว่าช่วงเวลาซื้อสินค้าเดิมซ้ำลดลงครึ่งหนึ่ง
67 % - สัดส่วนผู้บริโภคที่บอกว่าซื้อสินค้าแบรนด์เดิมซ้ำอยู่เสมอ
6 เดือน – ช่วงเวลาการจงรักภักดีของแบรนด์สินค้าอุปโภคบริโภคหนึ่งๆ ในปัจจุบัน เช่น ยาสีฟัน เมื่อเทียบกับอดีตที่เคยยาวนานถึง 12 เดือน


พร้อมลองเครื่องดื่ม และขนมใหม่ ๆ

หมวดสินค้าที่ผู้บริโภคมีความมั่นคงต่อแบรนด์สูง คือธนาคาร และบริการโทรศัพท์มือถือ ขณะที่ผลิตภัณฑ์ที่ผู้บริโภคมี Brand Loyalty ต่ำคือเครื่องดื่มพร้อมดื่ม ( RTD beverages ) และของกินเล่น ( Snack ) เนื่องจากมองว่าราคา และคุณภาพของแต่ละแบรนด์ไม่แตกต่างกัน มีแคมเปญโฆษณาชวนลองอยู่เสมอ
3% - สัดส่วนผู้บริโภคที่บอกว่าจะซื้อสินค้าเครื่องดื่ม และของกินเล่น ( RTD beverages and snacks ) เพียงยี่ห้อเดียวเท่านั้น


ราคาเปลี่ยน กลุ่มต่างจังหวัดหัวเก่างดซื้อก่อน

ราคาก็เป็นตัวทำลายความจงรักภักดีในแบรนด์ กลุ่มที่มีเห็นว่าราคาเป็นปัจจัยในการซื้อมากที่สุดคือ กลุ่มดั้งเดิมทั้งกรุงเทพฯ และต่างจังหวัด โดยที่กลุ่มในต่างจังหวัด ( Rural traditionalists ) อ่อนไหวกับราคาสูงสุf เพราะมีรายได้น้อยที่สุด ทว่าเป็นพวกที่ได้รับอิทธิพลจากโฆษณามากที่สุด โดยมักเชื่อว่าสินค้าที่เห็นในโฆษณาบ่อยที่สุด และมีพรีเซ็นเตอร์เป็นคนดัง จะเป็นสินค้าที่ดีที่สุด

กลุ่มเก่าในเมือง ภักดีต่อแบรนด์แน่นเหนียว

แม้ว่ากลุ่มหัวเก่าทั้งต่างจังหวัด หรือคนเมืองจะมีความอ่อนไหวเรื่องราคาสูงกว่ากลุ่มอื่น ทว่ากลุ่มคนเมืองหัวเก่า ( Urban Traditionalists ) มีความจงรักภักดีในแบรนด์ ( Brand Loyalty ) สูงสุด ขณะที่กลุ่มคนรุ่นใหม่มีความคาดหวัง ( Young Aspirers ) มีความจงรักภักดีในแบรนด์ต่ำที่สุด เพราะแสวงหาความแปลกใหม่ไม่สิ้นสุด
83% ของกลุ่ม Urban traditionalists บอกว่า " มีแนวโน้มซื้อสินค้ายี่ห้อเดียวสม่ำเสมอ "
19% ของกลุ่ม Young Aspirers ไม่เห็นด้วยกับการซื้อสินค้ายี่ห้อเดียว

 
กลุ่มเน้นภาพลักษณ์ ( Image Conscious Status Seeker ) เป็นผู้ทรงอิทธิพล

กลุ่มที่อ่อนไหวในเรื่องแบรนด์มากที่สุดคือกลุ่ม Image Conscious Status Seeker เพราะค้นหาตัวตน/ใส่ใจภาพลักษณ์ ทำให้ตื่นตัวในการเลือกสรรตราสินค้า และมีทัศนคติต่อแบรนด์ต่างๆ อย่างเข้มข้น และชัดเจน พวกเขาอาจซื้อสินค้าบางอย่างเพื่อประหยัดเงินก็จริง แต่ก็ยินดีจ่ายแพงหากมองว่าสินค้ามีคุณภาพ นอกจากนี้จะเป็นผู้บอกต่อแนะนำสินค้าแบรนด์ใหม่ๆ แก่เพื่อนฝูงและคนรู้จัก จึงถือได้ว่ามีอิทธิพลสูงในการทำตลาด ส่วนกลุ่มที่ไม่อ่อนไหวเรื่องแบรนด์ คือกลุ่ม Disadvantaged and indifferent ที่มองว่าตัวเองด้อยโอกาสในสังคม และไม่ตอบสนองต่อความเคลื่อนไหวของกระแสต่างๆ

ที่มา : การวิจัยข้อมูล 3 มิติมุมมอง ( 3D Research ) เป็นเครื่องมือวัดผลวิจัยเชิงปริมาณของมายด์แชร์ ( Mindshare ) บริษัทให้บริการวางแผนและซื้อสื่อ เป็นการศึกษาผู้บริโภค 3 ด้านคือความสัมพันธ์กับตราสินค้า ทัศนคติและพฤติกรรมทางสังคม รวมทั้งการรับสื่อ โดยเก็บข้อมูลอย่างต่อเนื่องตั้งแต่ปี 2545 ในกลุ่มตัวอย่างประมาณ 2,200 คน อายุ 14-65 ปี จาก 5 ภาค คือ กรุงเทพฯ และจังหวัดตัวแทนของภาคต่างๆ ได้แก่ นครสวรรค์ สงขลา ( หาดใหญ่ ) เชียงใหม่ และขอนแก่น โดยการนำเสนอผลการศึกษาครั้งนี้เป็นรอบที่ 4 ( ข้อมูล ณ กันยายน 2551 )
บันทึกการเข้า
Jiab16
Global Moderator
Hero Cmadong Member
*****


ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 2,267

เว็บไซต์
« ตอบ #353 เมื่อ: 12 ธันวาคม 2551, 09:21:17 »

ดวงชะตาปี 2552

โดย หมอทรัพย์สวนพลู

ราศีเมษ  13 เมษายน – 14 พฤษภาคม

      ในปี 2552 นี้  ท่านที่อยู่ในวัยหนุ่มสาวรักความก้าวหน้าจะสร้างตนเองอย่างทะมัดทะแมงแข็งขัน  ไม่ว่าจะมีพื้นฐานของชีวิตระดับไหน  จะพบลู่ทางไปสู่อนาคตอันสดใสเพราะวันเวลาที่ผ่านมา  มีคุณค่าเท่ากับท่านได้สะสมวัสดุก่อสร้างและเงินค่าจ้างไว้พร้อมที่จะจ้างช่างมาลงมือดำเนินการตามความมุ่งหมายได้เลย  ถ้าองค์ประกอบของกิจนี้สมบูรณ์  บ้านหรืออาคารที่ท่านปรารถนาย่อมสำเร็จโดยประสงค์ใครได้มาเห็นอาจคิดว่าต้องกับรสนิยมอุดมคติของตนเอง  ไม่ยินดียินร้ายในความสำเร็จหรือล้มเหลวที่เข้ามาก่อวินาศกรรมแก่เจตนารมณ์ของท่านและหมู่คณะ  ชีวิตอันเป็นกำไรของท่านไม่ว่าจะยิ่งใหญ่หรือเล็กน้อยต้อยต่ำเพียงไร  จึงเฉิดฉันท์สง่างามตามความหมายในความรู้สึกฝ่ายสูงของมนุษย์เรา  และสามารถเล่าให้ลูกหลานฟังได้อย่างวีรบุรุษกับยุวชน

       ดาวพฤหัสบดีพระเคราะห์สำคัญที่สุดในระบบสุริยะ  ย้ายราศีจากธนูขึ้นมังกรตั้งแต่วันที่ 4 ธันวาคมปีกลาย  (2551)  และโคจรในราศีมังกรถึง 20 เมษายน  2552  จึงย้ายขึ้นสู่ราศีกุมภ์  ส่งผลให้วงการเมืองเกิดกระปรี้กระเปร่าขึ้นมาพักหนึ่ง  ท่านได้รับเชิญชวนให้สมัครรับเลือกตั้งหรือมีตำแหน่งที่ปฏิเสธมาได้  แต่ท่านก็อย่างเดียวกับเจ้าป่าจะยอมอยู่ใต้กฎของป่าและธรรมชาติเท่านั้น  ถ้าต้องแกร่วอยู่ในเขาดินหรือเขาเขียวคงทนไม่ได้  เพราะท่านถือว่ามนุษย์คือเสรีภาพ  แต่ดาวพฤหัสบดีจะย้ายกลับลงมาในราศีมังกรอีกในวันที่ 15  สิงหาคม  มีความเปลี่ยนแปลงต่างๆในสังคม  พวกที่อยู่คนละฝั่งกับท่านจะข้ามมาผูกมิตร  โดยอาจใช้วิธีการตามวิธีชนะมิตรและจูงใจคน

      ปีใหม่นี้ดาวเสาร์ซึ่งย้ายเข้าราศีสิงห์ตั้งแต่วันที่ 10 สิงหาคม 2550  จะย้ายเข้าราศีกันย์วันที่ 30 กันยายน 2552  ตลอดเวลา 2 ปีเศษที่เสาร์โคจรในราศีสิงห์ท่านมีเรื่องยุ่งยากวิตกกังวลมากน้อยต่าง ๆ ที่บริวารก่อขึ้น  แต่บางเรื่องก็ร้ายแรงมากแต่ที่ไม่แตกหักเพราะท่านไม่ทราบ  ทั้ง ๆ ที่มีบริวารบางคนของท่านเอางูเห่ามาเลี้ยงไว้ในห้องนอนของเขา  ในโลกนี้มีเรื่องเสียหายเป็นอันมากที่ไม่กระทบกระเทือนถึงชีวิตความเป็นอยู่และอารมณ์ความรู้สึกของผู้เกี่ยวข้องเพราะไม่รู้เหมือนของหายแต่เราไม่รู้และตราบเท่าที่เราไม่รู้ก็ไม่มีอะไรใดๆ ทั้งสิ้น  ยิ่งของนั้นเราทอดทิ้งจนลืมแล้วก็ยิ่งไม่รู้สึกอาลัยอาวรณ์แต่ประการใด  เมื่อดาวเสาร์ย้ายไปราศีกันย์หรือภพที่ 6 (อริ)  ท่านอาจมีโรคเรื้อรัง  เช่นโรคกระเพาะลำไส้หรือโรคไต  เงินจำนวนหนึ่งของท่านจะจ่ายเพื่อบำบัดโรคของคนมีเงิน  และสามารถหายเป็นปกติได้  แต่อย่างไรก็ตามเคราะห์ร้ายที่จะมาจากดาวเสาร์เป็นอริ  อาจทุเลาเบาบางได้มากในกรณีที่ท่านมีชื่อจริงตัวแรกเป็นอักษรในวรรคจันทร์ (ก ข ค ฆ ง) ซึ่งเปลี่ยนเสาร์ให้เป็น  “ศรี”  หรือใช้ผ้าปูที่นอนเป็นสีของวันจันทร์  (เหลืองขาวนวล)  ก็คงพอฟาดเคราะห์ไปได้บ้าง หรือบูชาพระนาคปรกซึ่งผู้เป็นประธานการสร้างเป็นผู้มีบุญและบริสุทธิ์ยิ่งประเสริฐสำหรับบรรเทาทุกข์โทษภัยอันจะเกิดจากดาวเสาร์ ซึ่งอาจให้โทษแก่ดวงของท่านในช่วงเดือนตุลาคม 2552  เพราะเล็งฉกาจกับดาวมฤตยู  ซึ่งหมายถึงอุบัติเหตุจากเครื่องยนต์กลไกและจากเรือที่แล่นเร็ว  คำทำนายในเรื่องเคราะห์ร้ายต่าง ๆ นี้เป็นเพียงเตือนให้ท่านดำรงชีพโดยไม่ประมาทเท่านั้น  ผู้ใดมีความรู้สึกระลึกตัวอยู่เสมอ  ผู้นั้นเป็นคนมีสติ  และปลอดภัยเสมอ

      วันที่ 4 พฤศจิกายน  2552  ราหูซึ่งโคจรในราศีมังกรมาปีเศษ  ย้ายลงราศีธนู  ท่านจะเดินทางไปต่างประเทศหรือเดินทางไกลในประเทศบ่อยขึ้น  โดยมีผลประโยชน์ที่สำคัญเป็นเหตุผลที่ท่านไม่อาจหลีกเลี่ยงได้  แต่ปลอดภัยทุกเส้นทางและทุกภารกิจ  เว้นแต่จะทำให้เป็นการเอิกเกริกก็เกิดปัญหาที่นึกไม่ถึงขึ้นได้  และแม้ในชีวิตประจำวันก็ไม่ควรให้ปกติซ้ำซากจำเจเกินไป  ควรมีการเดินทางที่ไม่กำหนดล่วงหน้านานๆ  ไม่มีใครรู้ที่หมายของท่านแบบเดียวกับทหารเรือไม่รู้ว่าจะไปไหนแม้เรือเดินอยู่ในทะเล  นอกจากผู้บังคับการเรือและผู้ที่จำเป็นต้องรู้เท่านั้น

      ในเดือนกันยายน-ตุลาคม 2552  ท่านได้ลาภยิ่งใหญ่มโหฬาร  เป็นการยากที่จะระบุให้ว่าท่านจะได้อะไร  จึงปลาบปลื้มดื่มด่ำถึงเพียงนั้น  แต่ขอให้ท่านมีความสุขกับความสำเร็จและโชคดีโดยไม่ต้องเบียดเบียนผู้ใด  ศัตรูจงพินาศไป  ด้วยอำนาจกุศล


ราศีพฤษภ  15 พฤษภาคม – 14 มิถุนายน

      ในปี  2552  นี้  ท่านมีความสุขกว่าหลายปีที่แล้วมา  ต้นไม้มีดอกหอมไกลซึ่งเพื่อนบ้านปลูกไว้  เมื่อออกดอกครั้งใดท่านจะมีอาการแพ้รุนแรงทุกครั้ง  โดยไม่สามารถที่จะขอร้องอะไรจากเขาได้นั้นก็ไม่เป็นปัญหาอีกต่อไป  เพราะไม้ต้นนั้นตาย  หรือมีคนโรคจิตทรามมาอยู่ใกล้บ้านแล้วพูดจากหยาบโลนกันวันยังค่ำ  เรื่องเหล่านี้จะจบสิ้นลงอย่างไม่มีปี่ขลุ่ยเหมือนลิเกหอบเครื่องทรงและดนตรีหนีค่าเช่าวิก  ดวงของท่านก็ดีขึ้นเล็กน้อยโดยอัตโนมัติ  แต่

      ตั้งแต่วันที่ 28 มกราคม – 31 พฤษภาคม ศกนี้ ท่านจะมีโชคดีเป็นอันมาก เป็นโชคที่เกิดจากได้ลาภใหญ่โตมโหฬารโดยสุจริตจากบุญของท่านที่สร้างไว้โดยไม่ประสงค์สิ่งตอบแทนใดๆ  อนึ่งในช่วงเวลาอันดีแสนดีนั้น  มีอาทิตย์พุธและมฤตยูจรย้ายเข้าราศีมีน  ท่านจึงคงจะได้ลาภโดยมีการเสนอหลายทางและหลายๆข้อผูกพัน  นอกจากทางหนึ่งที่ว่าท่านจะได้โดยวาสนาบารมีของตนเอง  จึงไม่มีพันธะอะไร  ท่านอย่ารับเงินที่ได้โดยเหตุผลทางการเมือง  ไม่ว่าจะเป็นในประเทศหรือต่างประเทศ  เงินที่ได้จากญาติของท่านไตหาย  เช่น  ท่านพาเขาไปผ่าตัดไส้ติ่งอักเสบก่อนผ่าตัดยังมีไต 2 ก้อน  หลังจากนั้นเหลือก้อนเดียว  เพราะตอนดึก ๆ  คืนนั้นพวกของซีอุยแอบลักตัดไปกิน  เพราะถ้าท่านรับเงินก็เท่ากับท่านขายไตเพื่อนโดยทุจริต  เงินที่พ่อตาแม่ยายพี่เมียน้องเมียของมหาเศรษฐีแอบนำมาฝากไว้กับท่าน  จะเพื่ออะไรก็ตาม  จงตัดความเกรงใจทิ้งเสีย  อย่ารับฝาก  เพราะกิจกรรมอย่างนี้ไม่ถูกโฉลกกับโชคชะตาของท่านไม่ว่าจะบริสุทธิ์แค่ไหน

      ชาวราศีพฤษภมีดาวประจำราศีคือดาวศุกร์  เป็นดาวที่สวยงามที่สุด  ท่านจึงเพศตรงข้ามคอยเอาอกเอาใจเสมอ  ถูกกับพี่น้องและเพื่อนฝูงที่เป็นเพศตรงข้าม  หมายถึงการขอความช่วยเหลือและหยิบยืมสตุ้งสตางค์ตามอัตภาพด้วย  เช่น  ท่านได้เงินเดือน 2,000 บาท  แต่ท่านมีเพื่อนเป็นมหาเศรษฐี  ท่านจะไปยืมเงินเขาเป็นล้านเขาคงไม่ให้  หรือเกินเงินเดือนของท่านก็อาจไม่ได้ด้วยซ้ำไป  ความรักก็เหมือนกัน   ควรพิจารณาท่านเป็นใคร เขาเป็นใคร  บางคนกล้าที่จะกล่าวว่าถึงเขาจะยากจนเข็ญใจอย่างไร  แล้วดาราฮอลีวูด อลิซาเบธ เทย์เลอร์ มาขอแต่งงานด้วย เขาจะไม่ยอมเด็ดขาด  ด้วยเชื่อว่าดวงไม่สมพงษ์กัน ยกเว้นผู้มีบุพเพสันนิวาสกันมาในชาติก่อน

      กลางเดือนธันวาคม 2552  พฤหัสบดีย้ายไปราศีกุมภ์  ชีวิตและงานของท่านเจริญรุ่งเรือง  ความดีความชอบที่ทำไว้ในทางการงานและนิสัยความประพฤติส่วนตัวของท่านยิ่งส่งเสริมให้มีโอกาสทำงานให้สำเร็จในระดับสูงยิ่งๆ ขึ้นไป  

      ดาวเสาร์ย้ายไปราศีกันย์ตั้งแต่ 30 กันยายน และโคจรอยู่เป็นเวลาประมาณ 2 ปีเศษ  ถ้าท่านรับอาหารเรื่อยเปื่อย  ไม่ออกกำลังกายและไม่รักษาอารมณ์ให้แจ่มใสสดชื่นเสมอแล้วจะมีน้ำหนักเพิ่มขึ้นอย่างน่าหวาดเสียว  ญาติมิตรที่ไม่ได้พบท่านเพียงปีเดียวอาจจำท่านไม่ได้  เรื่องเช่นนี้ไม่มีผลร้ายใดๆ  ถ้าท่านซื่อตรงต่อตนเองในการรักษาพลานามัยและสุขภาพจิตให้จริง

      ในวันที่ 2 พฤศจิกายน 2552  ราหูย้ายลงสู่ราศีธนู  ศัตรูในที่ซุ่มซ่อนและภัยมืดต่าง ๆ ที่เคยเขย่าขวัญสั่นประสาทหรือสร้างความรำคาญความอัปยศอดสูหดหู่ใจให้ท่านมานาน ๆ จะจบสิ้นไปเอง  โดยธรรมดา


ราศีมิถุน  15 มิถุนายน – 15 กรกฎาคม

      ในปี 2552  นี้  ท่านอยู่ในวัยใดก็ตาม  จะเกี่ยวข้องกับไร่นาสวนและการช่างไม้ต่าง ๆ  สะสมไม้ดอกไม้ใบไม้ประดับเป็นงานอดิเรก  หาความสุขความชื่นใจจากธรรมชาติและไมตรีจิตมิตรภาพที่ปราศจากเลศนัย  ซึ่งนับวันมีแต่จะหายากยิ่งขึ้น  เป็นหนึ่งในร้อยที่โชคดีโดยไม่ต้องต่อสู้แข่งขันหรือขวนขวาย  มีลาภโดยไม่มีศัตรู

      การเงินรายได้และผลประโยชน์ของท่านจะดีขึ้นกว่าปีที่แล้วๆ มา  หรือแม้ได้เท่าเดิมแต่รายจ่ายลดลงมาก  เคยซื้ออะไรก็ไม่ต้องซื้อมีผู้นำมาให้โดยเคารพ  ไม่มีเงื่อนไขและข้อเรียกร้อง  ต้นไม้ที่ท่านปลูกทิ้งๆ ไว้เพื่อช่วยให้ร่มรื่นก็ออกผลให้นำไปรับประทานและแบ่งปันญาติมิตรได้  เหลือก็ขาย  ท่านจึงมั่งคั่งขึ้นโดยไม่รู้ตัว  และเงินนั้นเป็นของแปลก  ใครยิ่งมีก็ยิ่งมีมากขึ้นเพราะสามารถเรียกร้องหรือดึงดูดกันมารวมกันได้มาก ๆ  คนที่รู้จักเก็บออมจึงมีเงินมากเสมอ  เว้นแต่เล่นการพนัน  ลุ่มหลงเพศตรงข้ามแบบทาสเทวี  มีเท่าไรก็หมด  แต่ท่านหาเป็นเช่นนั้นไม่  จัดการกับเงินได้ดีเสมอ

      ในปี 2552  ญาติมิตรที่ห่างเหินไปเพราะความจำเป็นในงานอาชีพ  หรือระแวงแหนงใจกับท่านด้วยเหตุผลข้อใดๆ ก็ตาม  จะเข้าใจท่านและมาคืนดีเหมือนเดิม  จะมีการเดินทางไปมาหาสู่พี่น้องและเพื่อนๆ ที่อยู่ห่างไกล

      แต่หลังจากวันที่ 30 กันยายน 2552  แล้ว  เพื่อนฝูงพี่น้องของท่านจะอพยพมาอยู่ใกล้ ๆ  กันโดยบังเอิญและชื่นชมยินดีต่อกันเป็นอย่างยิ่ง    

      ท่านจะไม่ยุ่งยากเดือดร้อนหรือวิตกกังวลเพราะบริวารหรือเด็กในปกครองบังคับบัญชา  พวกเขาจะอยู่ในโอวาทและปฏิบัติตามคำสั่งด้วยความศรัทธาเชื่อมั่นในตัวท่าน แต่ท่านจะเจ็บไข้ไม่ได้เป็นอันขาด  งานที่ท่านทำเองหรือจ้างวานใช้สอยใครก็ตาม  ท่านต้องอยู่ดูแลโดยใกล้ชิดจึงเรียบร้อย    ท่านที่มีบุตรหรือน้องๆ ไม่ควรทิ้งให้อยู่ในความดูแลของผู้อื่น

      ความรักของท่านเป็นสิ่งสวยงาม  คนรักของท่านรูปร่างหน้าตากิริยาดี  มีความรู้ในกิจการงานอาชีพของท่านพอสมควร  โดยมากท่านปรึกษาหารือเขาได้  แต่ท่านไม่ค่อยมีความคิดเห็นให้เขา   นอกจากความรักที่ท่านไม่มีเหลือไว้สำหรับผู้ใดในโลกนี้  คือท่านเป็นคนใจเดียวตลอดกาล  คนรักของท่านก็ไม่ชอบเบ่ง ชอบอยู่เงียบๆ  รักความสงบและยุติธรรม  แต่กล้าหาญ   แต่ความรักของท่านมักมีต้นเหตุมาจากความสงสารเห็นใจ  แล้วจึงเกิดเป็นความรักและความเข้าใจต่อกัน  อันเป็นรักที่ยืนยงคงทนตลอดไป

      ปลายปีนี้อาจแต่งงานแบบรักแรกพบ  คู่สมรสของท่านอาจเป็นหม้าย  คนที่มีสถานภาพทางความรักเช่นนี้  ควรมีทัศนคติว่า “หัวเราะทีหลังดังกว่า”


ราศีกรกฎ  16 กรกฎาคม – 16 สิงหาคม    

      ในปี 2552 นี้  ท่านยังดำเนินชีวิตและทำงานด้วยการเล็งผลเลิศ  วางแผนอย่างละเอียดลึกซึ้งและรอบคอบ  2 ชั้นขึ้นไป  ถ้าชั้นแรกพลาดยังมีชั้นที่ 2 รองรับ  เป็นเหตุให้ท่านคาดการณ์ได้แม่นยำ  ไม่ค่อยมีข้อบกพร่อง  และท่านก็เป็นเช่นนี้มาตั้งแต่ปลายปี 2538  คือชะตาชีวิตของท่านรุ่งโรจน์ด้วยการใช้วาทศิลป์  

      วันที่ 10 สิงหาคม 2550  ดาวเสาร์ย้ายจากราศีกรกฏลงราศีสิงห์  ท่านมีความคล่องตัวมากในเรื่องของงาน  เงินและความรัก  ท่านอาจเปิดสาขาร้านค้าขึ้นเป็นอันมาก  มีแหล่งทรัพยากรที่จะตักตวงเอามาใช้จ่ายได้ไม่รู้จักหมด   แต่ดาวเสาร์นี้ก็จะต้องย้ายราศีในวันที่ 30 กันยายน 2552  และเล็งกับดาวมฤตยูซึ่งย้ายเข้าราศีมีนก่อนแล้วตั้งแต่วันที่ 2 มีนาคม 2552  การที่ดาวเสาร์ย้ายราศีและเล็งมฤตยู  อาจช่วยให้ท่านได้เดินทางบ่อยขึ้น  อาจย้ายจากที่หนึ่งไปอีกที่หนึ่งเรื่อยๆ หรือเป็นผู้จัดรายการทัศนาจรนำเที่ยวในประเทศต่างประเทศ  นั่นเป็นอิทธิพลของดาวมฤตยูในภพที่ 9  ของชาวราศีกรกฎซึ่งนับเป็นอาทิตย์ลัคนา ถ้าท่านยังไม่ใช้รถยนต์เห็นจะซื้อหลังเดือนกันยายน 2552  ไปแล้ว  และได้รับความสุขสบายตามอัตภาพของผู้ที่มีรถเอง

      26  มกราคม 2552  เป็นวันจันทร์ดับเล็งราศีกรกฎ  ท่านอาจเกิดเข้าใจผิดกับหุ้นส่วนผู้ร่วมงานหรือคู่หมั้นคู่สมรสถึงขั้นแตกร้าวกันได้โดยไม่มีเหตุผล  และวันที่ 22 กรกฎาคม 2552  จันทร์ดับในราศีกรกฎราว 4 องศาเล็งราหู  อาจเกิดสุริยคราสที่มองเห็น  ใน 2 ช่วงเวลาดังกล่าวท่านอย่าไปดู  โปรดอยู่ในบ้าน

      ชาวราศีกรกฎมีดวงจันทร์เป็นดาวประจำราศี  ชีวิตความเป็นอยู่จึงเหมือนดวงจันทร์ คือ เป็นจุดสนใจของสังคม  ท่านเด่นในหมู่พี่น้อง  

      ในปีใหม่นี้ดาวพฤหัสบดีซึ่งเล็งราศีกรกฎมาตั้งแต่ 4 ธันวาคมปีกลาย (2551)  นี้  โคจรในราศีธนูถึง 19 เมษายน ระยะหนึ่ง  กับถอยจากราศีกุมภ์ลงมาโคจรในราศีมังกรตั้งแต่ 15 สิงหาคม ถึง 14 ธันวาคม 2552  อีกช่วงหนึ่ง  เวลาที่พฤหัสบดีเดินหน้าถอยหลังในราศีมังกรก็เล็งราศีกรกฎ  ซึ่งน่าจะอำนวยโชคดีแก่ราศีนี้ตามวาสนา (ดวงเดิม)  โดยมากดาวดีเดินปกติก็ให้คุณในเรื่องปกติ  ถ้าเดินถอยหลังมักให้คุณในเรื่องงานอดิเรก  งานนโยบาย  งานแก้ไขสถานการณ์คับขันที่ผู้อื่นก่อขึ้นไว้แล้วทิ้งให้ญาติมิตรรับผิดแทน  ดาวพฤหัสบดีเล็งราศีของผู้ใด  ผู้นั้นมักโชคดี  ชาวราศีนี้ที่รักษาความเป็นโสดมานานๆ  มักสละโสดในช่วงเวลาที่ดาวพฤหัสบดีเล็ง  เพราะถูกผู้ใหญ่บังคับบ้างหรือบางทีก็เกรงใจคนที่จะต้องแต่งด้วย

      อนึ่งตั้งแต่วันที่ 3 ตุลาคม ถึงสิ้นปี 2552  ดาวอังคารเข้ามาโคจรในราศีกรกฎ  บางช่วงเล็งราหูและดาวพฤหัสบดี  ควรระวังไฟและการเป็นคดีความ   วันที่ 4 พฤศจิกายน 2552  ราหูย้ายลงธนู  ปัญหาสำคัญจะจบลง  ศัตรูลึกลับต่าง ๆ ก็ลาโรงม้วนเสื่อกลับภูมิลำเนา


ราศีสิงห์ 17 สิงหาคม – 16 กันยายน  

     ท่านชาวราศีสิงห์ผู้ยิ่งใหญ่ผ่านปี 2551  มาอย่างมหัศจรรย์  ได้แก่ราศีของท่านมีดาวเสาร์มาโคจรอยู่ตั้งแต่วันที่ 10 สิงหาคม 2550  ให้โทษมากน้อยตามสภาพ  

      นับแต่ 17 สิงหาคม 2551  แม้ดาวอังคารจะย้ายไปจากราศีสิงห์แล้ว  ยังมีอาทิตย์ยกลงมาร่วม  เป็นอาทิตย์  พุธ  ศุกร์  เสาร์  และพระเกตุรวม  5 องค์  ทั้งนี้โดยมีดาวมฤตยูและพระราหูเล็งจากราศีกุมภ์  เสาร์เล็งราหูกามเทพคงส่งแฟนให้อย่างลึกลับหรือเป็นเรื่องที่ต้องปิดๆ บังๆ  ด้วยถ้าท่านอายุเยาว์มักได้แฟนเป็นผู้อาวุโสสูง   ถ้าท่านชราแล้วคงได้แฟนละอ่อน  บางทีก็ได้ไร่นาสวน  อาคารบ้านเรือนที่เหมาะแก่ฐานะที่แท้จริงของท่าน  17 กันยายน 2551  ราศีสิงห์เหลือเสาร์ดวงเดียว  โดยมีมฤตยูเล็ง  2  มีนาคม 2552  ดาวมฤตยูย้ายขึ้นราศีมีน  ไม่เล็งเสาร์ในราศีสิงห์อีก  ชีวิตและงานของท่านมั่นคงแน่นอนยิ่งขึ้น   30 กันยายน 2552  เสาร์ย้ายลงราศีกันย์  ท่านเหมือนจันทร์เพ็ญบนเวหาซึ่งไม่มีเมฆบดบัง

      ต้นปี 2552  การเงินของท่านอ่อนแอ  เพราะมีรายจ่ายพิเศษจำนวนมาก  

      ท่านจะถูกโฉลกกับการย้ายสถานที่ทำงานบ่อยๆ หรือทำงานไม่อยู่เป็นที่  ซึ่งวิถีชีวิตนี้กลับถูกโฉลกกับชะตาของท่าน การดำรงชีวิตแบบลุ่ม ๆ ดอน ๆ เป็นการสะเดาะเคราะห์ไปในตัว

      การเป็นคนเชื่อมั่นในตนเอง  มีรากฐานที่แข็งแรงในการดำรงชีพและมีความรู้มีสติปัญญา  จะทำให้ท่านตกเป็นเหยื่อผู้ที่ท่านคิดว่าโง่หรือไร้เดียงสาได้  ท่านทำคุณกับใครก็ทำไป  แต่อย่าเป็นหนี้บุญคุณใคร  อย่ารับความช่วยเหลือโดยไม่จำเป็น


ราศีกันย์ 17 กันยายน – 16 ตุลาคม

      ในปี 2552  นี้  ท่านจะอายุสักเท่าไรก็ตาม  จะอยู่ในสมาคมที่มีสมาชิกมาก  มีการติดต่อกับญาติมิตรอย่างกว้างขวาง  มีชื่อเสียงแพร่หลาย  ได้มีโอกาสแสดงความรู้ความสามารถอันมีอยู่เฉพาะของท่าน  วิถีชีวิตของท่านจะมีการเปลี่ยนแปลงที่โลดโผนพิสดารพอสมควร  แต่ชีวิตส่วนใหญ่อยู่ในหลักสำคัญเหมือนกับเป็นคนช่างคิดช่างอ่าน กล้าริเริ่มทำความคิดเห็นของตนเองด้วยความจริงใจ  ข้อควรระวังคือเมื่อท่านทำผิดจะไม่มีใครแนะนำตักเตือน นับว่าเป็นความอาภัพของท่านอย่างรุนแรง แต่ปัญหาในใจของท่านที่แก้ไขยากคือ เมื่อญาติมิตรที่เคยตกทุกข์ได้ยากและท่านช่วยเหลือเต็มที่นั้นกลับเจริญรุ่งเรืองขึ้นโดยวาสนาของเขาเอง  ท่านกลับไม่พอใจและเป็นศัตรูกับผู้นั้นอย่างแรง  

      ท่านจะได้ลาภจากผู้ใหญ่  หรือได้ร่วมงานกับกลุ่มชนหรือสมาคมที่มีอุดมการณ์เพื่อสังคม   วันที่ 2 มีนาคม 2552  ดาวมฤตยูย้ายจากราศีกุมภ์ขึ้นราศีมีน  และอาจมีดาวหรือพระเคราะห์อื่นอีกซึ่งมีคุณและโทษตามสภาพของดาวในดวงกำเนิดนั้น  แต่สภาพในครอบครัวของท่านจะผันแปรพอสมควร  ท่านจะมีกำลังเงินสูงขึ้นกว่าหลายๆ ปีที่ผ่านมา  

      บ้านท่านจะมีผู้ย้ายเข้าย้ายออก  แฟนท่านอาจไปต่างจังหวัดหรือต่างประเทศ  ท่านยังไปด้วยไม่ได้  ระหว่างที่ย้ายแยกกันความไว้ใจกันเป็นสิ่งสำคัญที่สุด

      ท่านที่ย้ายบ้านบ่อยๆ ซึ่งย่อมหมายถึงผู้ที่ไม่มีบ้านของตนเอง  ปีใหม่นี้ท่านจะพร้อมยิ่งขึ้นในการหาบ้านที่เหมาะสม    ราหูซึ่งโคจรในราศีมังกรช่วยให้ท่านได้ลาภจากบริวารบุตรหลานมาเป็นเวลานาน  บางทีปีใหม่นี้ท่านอาจไม่ต้องได้รับความช่วยเหลือจากพวกเขา  เพราะท่านช่วยตัวเองได้อย่างเต็มที่  ท่านจะอยู่ที่ไหนทำงานอะไรก็ตาม  คนที่มาอาศัยท่านอยู่อาจเป็นเหตุให้ท่านย้ายบ้านบ่อย ๆ  ก็ได้  

      ราศีกันย์มีพุธเป็นดาวประจำราศี  ทุกครั้งที่ดาวนี้โคจรถึงราศีกันย์ก็มีฐานะเป็นมหาอุจ  คือ  ท่านทำอะไรไม่นานก็เบื่อ  และทอดทิ้งงานที่ทำนั้น จนกว่าจะมีผู้อื่นมาเก็บไปทำได้ผลดีท่านจึงรู้สึกเสียดายว่าไม่ทำให้ตลอดรอดฝั่ง    ถ้าท่านทำอะไรจริง ๆ ก็จะประสบความสำเร็จอยู่ในแถวหน้าของผู้มีชื่อเสียงคนหนึ่ง  

      4 พฤศจิกายน 2552  พระราหูย้ายลงมาโคจรในราศีธนูปีเศษ  อย่ารับคนจรเข้าบ้าน  และถ้าจะซื้อบ้านปลูกบ้านต่อเติมบ้าน  ควรไตร่ตรองให้ดี  แล้วท่านจะมีความสุขยิ่งๆ ขึ้นไป


บันทึกการเข้า
Jiab16
Global Moderator
Hero Cmadong Member
*****


ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 2,267

เว็บไซต์
« ตอบ #354 เมื่อ: 12 ธันวาคม 2551, 09:22:08 »

ราศีตุล 17 ตุลาคม – 15 พฤศจิกายน

      ในปี 2552  ท่านจะได้รับความพอใจในสิ่งที่ผ่านเข้ามาในชีวิตประจำวัน  มีดาวมฤตยูย้ายจากราศีกุมภ์ไปราศีมีน 2 มีนาคม  ด้วยเหตุนี้ท่านจึงได้รับผลกระทบจากดาวมฤตยูตามวาสนา  สิ่งใดที่คิดว่าจะได้กลับไม่ได้  แต่ถ้าได้มาจริง ๆ ก็ไม่ดี  และสิ่งใดที่คิดว่าไม่ได้กลับได้และเป็นประโยชน์อย่างมาก  

      ดาวพฤหัสบดีจะย้ายข้ามราศีไปมาระหว่างราศีมังกรกับราศีกุมภ์  และขณะที่โคจรในราศีมังกรก็ร่วมกับราหู  ให้ผลในเรื่องความมืดมนของปัญหาชีวิต   ซึ่งท่านจะรักษาตัวให้พ้นภัยได้ด้วยคุณงามความดี  มีความจริงใจต่อตนเองและผู้อื่น

      ดาวเสาร์ซึ่งโคจรอยู่ในราศีสิงห์ตั้งแต่  วันที่ 10 สิงหาคม 2550  ก็จะย้ายในปี 2552  นี้ด้วยเช่นกัน  คือวันที่ 30 กันยายน 2552  เข้าราศีกันย์ นับว่าเป็นวินาศแก่ราศีตุล   เสาร์จะเป็นวินาศกับชาวราศีตุลไปเป็นเวลา 2 ปีเศษ ดาวเสาร์จะเป็นอุปสรรคขัดข้องในด้านความอืดอาดไม่ทันเหตุการณ์ เบื่อง่าย มีใครมารักมาชอบก็เข้มงวดจนเปิดหนีไปหมด  แต่ในด้านดีคือท่านจะไม่ผลีผลาม  ไม่ตื่นเต้น  

      ชีวิตการงานของท่านในปีใหม่นี้มีช่วงเวลาที่เจริญรุ่งเรืองรวดเร็วเกินความคาดคิด  และมีช่วงเวลาแห่งความสงบสุข    ชาวราศีตุลมีดาวประจำราศีคือศุกร์  เป็นดาวที่สวยงามที่สุดในบรรดาดาวดีๆ ด้วยกัน  ชาวราศีนี้จึงสวยหรือมีเสน่ห์   ท่านจึงเป็นผู้ประสบความสำเร็จอย่างสูง  ไม่ว่าท่านจะมาจากภาคส่วนใดย่อมไปสู่จุดสุดยอดแห่งความปรารถนาของมนุษย์ด้วยกันทั้งสิ้น  สุดแท้แต่ท่านจะเลือก

      ในวันที่  24  พฤษภาคม ถึง 5 กรกฎาคม 2552  จะมีเรื่องขัดแย้งกับหุ้นส่วนผู้ร่วมงานในระดับเดียวกัน  แต่ไม่เป็นไร  เพราะสามารถชำระสะสางให้เรียบร้อยได้  แต่ท่านที่มีคนรักหรือคู่สมรสอาจพูดกันให้เข้าใจไม่ได้และเกิดทิฐิมานะ  ไม่มีใครยอมใครเป็นเหตุให้ต้องแยกย้ายกันไปคนละทางไม่มีวันพบกันได้อีกต่อไป  แต่ปกติแล้วชาวราศีตุลมีสถานภาพความรักและการสมรสที่มีเสถียรภาพ  รักกับใครก็ดูกันนาน ๆ  แน่ใจแล้วจึงแต่ง  และแต่งแล้วก็อยู่กันไปจนหลงจำหน้ากันไม่ได้เพราะแก่หง่อม  

      4 พฤศจิกายน 2552 ราหูย้ายลงมาราศีธนู ท่านมีลาภลอยก่อนสิ้นปี  จึงสรุปได้ว่าปีใหม่นี้ท่านมีชีวิตและงานราบรื่นแจ่มใส  ร่ำรวย  และเกลียวกลมกับคนรักอย่างมาก


ราศีพิจิก 16 พฤศจิกายน – 15 ธันวาคม

      ในปี 2552  นี้  ท่านโชคดีตั้งแต่ต้นปี  ได้มรดกตกทอดจากเพื่อนสนิทยกให้ท่านครอบครองดูแลต่อไปในขณะที่เขาเดินทางไปต่างประเทศหรือมีภาระมากเกินกว่าจะจัดการได้  ท่านก็เหนื่อยหน่อย   มีเกณฑ์ว่าท่านจะรับภาระหน้าที่แทนเพื่อน  หรือเลื่อนตำแหน่งขึ้นไปรักษาการแทนนายซึ่งเกษียณหรือย้ายไปกินตำแหน่งสูงกว่าเก่า  ท่านอาจขยายกิจการงานโดยวิธีลัด  เช่น  รับเซ้งกิจการของผู้อื่น  และท่านทำแล้วก็รุ่งเรืองดี  ไม่ใช่การหัวเราะทีหลังดังกว่า  แต่เป็นเรื่องของการงานหรืออาชีพ  ซึ่งอาศัยปัจจัยต่าง ๆ เป็นอันมาก  และรวมถึงโชควาสนาด้วย

      ท่านได้ลาภสำคัญอย่างหนึ่งเมื่อเดือนกรกฎาคม ปี 2551  และสิ่งนั้นก็ยังอำนวยโชคแก่ท่านจนปัจจุบัน  ทำให้ท่านสดชื่นเบิกบานเป็นอย่างยิ่ง  และอาจรู้สึกว่าในบรรดาผู้ที่โชคดีด้วยกันแล้ว  ท่านเหนือชั้นกว่าเยอะ  ท่านเป็นผู้มีโชควาสนาชะตาชีวิตน่าพิศวง  ท่านเป็นบุคคลที่ดีของสังคม  รวมถึงในยามที่ญาติมิตรของท่านแก้ปัญหาไม่ได้  ท่านก็มีคำตอบให้ชนเหล่านั้น  ถ้าท่านคนเดียวแนะนำไปแล้ว  คนทั้งหมดก็ทำตาม  ท่านย่อมระงับความโกรธทุกกรณี

      รายได้การเงินและผลประโยชน์ของท่านราบรื่นไปอีกนาน  แต่จะมีสถานการณ์พิเศษเกิดขึ้นตั้งแต่ 30 กันยายนถึงปลาย ๆเดือนตุลาคม  ดาวเสาร์ย้ายเข้าราศีกันย์  ท่านจะได้ลาภลอยซึ่งสามารถเปลี่ยนแปลงฐานะความเป็นอยู่จากหน้ามือเป็นหลังมือหรือจากคนเดินดินกินข้าวแกงเป็นเศรษฐีได้  

      วันที่ 2 มีนาคม 2552  ดาวมฤตยูย้ายขึ้นราศีมีน   มีความเปลี่ยนแปลงเกี่ยวกับบริวารที่เป็นสิ่งที่ยากแก่การคาดหมาย

      ท่านที่ยังเรียนอยู่ไม่ว่าระดับใด  จะมีความก้าวหน้ายิ่งๆขึ้นไป  ถ้าต้องชิงทุนไปทำปริญญาในต่างประเทศก็จะสมความประสงค์  

      ท่านที่ยังอยู่ในวัยที่มีความรัก  หรือยังโสด  ความรักของท่านปีนี้แปลก  คือท่านอาจไปรักกับแฟนเพื่อนซึ่งเลิกกันแล้วมาอยู่กับท่าน  เพราะท่านไม่รู้มาก่อนว่าใครเป็นใคร  จนได้กันแล้วเพื่อนมาเจอจึงรู้เรื่อง  แต่แก้ไขอะไรไม่ได้  คนที่รักจริงหวังแต่งจึงควรให้เวลาความรักได้พิสูจน์ตัวเองและหัวใจนานพอสมควรว่าคนที่ท่านรักไม่ได้มาหาท่านเพราะโกรธกับแฟนเก่าหรือประชดแฟนเก่า   ถ้าท่านแต่งงานกับคนที่เคยมีแฟนมาแล้ว  ก็ต้องทำใจให้หนักแน่น  คิดถึงพรหมลิขิตไว้บ้าง

      ดาวเสาร์ย้ายจากราศีสิงห์  การงานของท่านจะมั่นคงและรุ่งเรืองขึ้นมาก  ท่านที่ยังไม่ได้ทำงานจะได้งานทำ  และชีวิตแจ่มใสมีโชคดีตั้งแต่ 30 กันยายน 2552  เป็นต้นไป


ราศีธนู 16 ธันวาคม – 14 มกราคม

      ในปี 2552 นี้ ท่านพบการเปลี่ยนแปลงในด้านความเป็นอยู่ซึ่งส่งผลถึงจิตใจด้วย  หมู่บ้านหรือชุมชนอันเป็นที่อยู่อาศัยอย่างสงบสุขมานาน  จะมีห้างสรรพสินค้าหรือตลาดสดมาอยู่ใกล้ๆ  เป็นเหตุให้ระบบนิเวศน์ผันแปรไป  

      ท่านมีรายรับรายจ่ายและเงินออมเป็นปกติมานานนับ 10 ปี  แต่ในปีหนึ่งหรือสองปีที่แล้วมานี้ตลอดจนปี 2552 นี้ด้วย  ท่านมีรายจ่ายพิเศษมากผิดปกติ  ค่าครองชีพของท่านสมดุลจริงแต่ค่าสังคมของท่านสูงขึ้นมาก  ท่านอาจมีผู้ที่ต้องช่วยเหลือตามฐานานุรูปของเขา  ต้องรับธุระให้แก่พวกพ้องเพื่อนฝูงที่มาขอให้ช่วยหรือแม้มิได้ขอก็ตาม  ท่านจึงเป็นผู้หนึ่งที่สดชื่นอยู่ในหัวใจของญาติมิตร  แต่ในรอบ 2 ปีที่ผ่านมาท่านอาจเสียเพื่อนหลายคน  และเสียพี่น้องสนิทไปตามธรรมดาของโลก   และหมายถึงรายจ่ายจรสูงขึ้นด้วย

      ราหูอยู่ในภพการเงินของท่านตั้งแต่วันที่ 17 เมษายน 2551  จะย้ายลงราศีธนูซึ่งเป็นราศีเกิดของท่าน  ตั้งแต่ 4 พฤศจิกายน 2552  ท่านจะจ่ายน้อยและรับมากขึ้นตามอัตภาพ  แต่การที่ท่านเมตตาผู้น้อยและเอื้อเฟื้อเรื่องการเงินตามมีตามเกิด  อาจเป็นเรื่องที่คนระดับเดียวกับท่านหรือสูงกว่าในสังคมเดียวกันทำไม่ได้  รับไม่ได้  ท่านย่อมถูกริษยาและต่อต้าน  โดยส่งบริวารที่เจ้าเล่ห์มาขอสตางค์ท่าน  ถ้าท่านให้ก็ไปพูดว่าท่านอ่อยเหยื่อ  ปีใหม่นี้ท่านจะช่วยเหลือผู้น้อยที่เป็นเพศตรงข้ามต้องคิดให้ดี

      ท่านชาวราศีนี้ที่ทำงานในฐานะผู้ใหญ่ที่มีผู้อยู่ในบังคับบัญชา  หรือมีบุตรหลานคนรับใช้  ปีใหม่นี้หลังวันที่ 2 มีนาคม 2552  ไปแล้ว  ดาวมฤตยูขึ้นไปโคจรในราศีมีนหลายปี  ท่านอาจผจญกับการทรยศหักหลังคดในข้องอในกระดูกของผู้น้อยบางคน  แม้คนในบ้านก็อาจจะละเลยไม่สนใจดูแลบ้านเรือนให้เรียบร้อย  แต่เรื่องแบบนี้จะไม่เกิดขึ้นถ้าท่านระวังตัวดี

      งานอาชีพของท่านเป็นภาระมากขึ้น  ใช้แรงงานไม่มากแต่ใช้ความคิดหนัก  เงินมากขึ้น   ท่านอาจถูกกล่าวหาเรื่องเงิน  จึงไม่ควรเกี่ยวข้องกับเงินของผู้อื่น  จึงไม่ควรเข้าไปเกี่ยวข้องกับเรื่องที่มิใช่ธุระของท่าน  รวมถึงพรหมลิขิตของผู้อื่นด้วย  

      ท่านที่ยังโสดหรือไม่รักใครหรือไม่มีใครรักก็ตาม  ตั้งแต่วันที่ 28 มกราคม 2552  ดาวศุกร์ย้ายเข้าราศีมีนเป็นมหาอุจ  อยู่ไปจนถึง 1 มิถุนายน 2552  ระหว่างเวลานี้  กามเทพจะยิงลูกธนูเกสรดอกไม้อาบน้ำผึ้งวิเศษเข้ามาทางหน้าต่างบ้านท่าน  คนที่ท่านจะรักคงเป็นคนในบ้าน  อาจเป็นญาติห่าง ๆ ที่มาอาศัยอยู่จนเห็นใจกัน  หรือคนที่มาอาศัยอยู่ในบ้านท่าน    แม้ในระหว่าง 28 เมษายน ถึง 1 มิถุนายน จะไม่มีเรื่องนี้เกิดขึ้น  แต่ตั้งแต่ 1 มิถุนายน ถึง 1 กรกฎาคม 2552  ท่านก็จะพบรักหรือมีการสมรสอย่างยากที่จะหลีกเลี่ยงได้  แต่ท่านควรพิจารณาไตร่ตรองให้คู่ควรหน่อย  ท่านจะพบรักอย่างสายฟ้าแลบ   นานมาแล้วท่านเคยอกหักนิดหนึ่งแต่เวลาเป็นโอสถวิเศษรักษาท่านให้หายและลืมความชอกช้ำระกำใจได้  ถึงกระนั้นท่านก็ไม่กล้ารักใครเพราะเข็ดหลาบ  แต่ปีนี้เวลาดังกล่าว  ดวงดาวบีบคั้นให้มีเรื่องรักใคร่

      ท่านที่ถูกย้ายไปทำงานในต่างถิ่น  เพราะผู้ใหญ่ไม่ชอบหน้า  แต่ปีใหม่นี้  ดาวเสาร์ย้ายวันที่ 30 กันยายน ท่านหมดเคราะห์ที่เคยมี  กลับสู่สถานะเดิมและดีขึ้นอย่างผู้หมดเคราะห์


ราศีมังกร 15 มกราคม – 12 กุมภาพันธ์

      ในปี 2552 ชีวิตและงานที่เคยมีอุปสรรค จะเปลี่ยนแปลงไปตามธรรมชาติหรือสิ่งแวดล้อมผันแปรไปไม่มีใครแก้ไขได้ หลายปีที่ผ่านมาศัตรูของท่านเข้ามาอยู่ใต้โต๊ะทำงาน ในลิ้นชักหรือแม้แต่เพดานห้องได้โดยความช่วยเหลือของใครก็ตามที่ไม่อยากเห็นท่านได้ดี  หรือเป็นพวกที่คิดว่า  ถ้าเขาทำร้ายใครไม่ได้ก็ทำร้ายพวกพ้องของท่าน  เพื่อให้เจ็บร้อนถึงกัน  แต่ในเมื่อท่านเป็นคนที่มีความรู้สึกช้า  หรือไม่รู้สึกสะเทือนใจเอาเสียเลย  แผนของพวกนั้นก็ล้มเหลว

      ใครที่ปรารถนาดีต่อท่านบังอยู่ไม่ได้นาน  ด้วยถูกข่มเหงรังแก   คำทำนายในข้อที่กล่าวถึงศัตรูและผู้ประสงค์ร้ายต่อท่านจะย้ายภูมิลำเนาเป็นการถาวรหลายคน  ดาวมฤตยูเนปจูนและพลูโตรักษาท่านให้ปลอดภัยมาได้หลายสิบปี ศัตรูที่ยังอยู่เย็นเป็นสุขจะมีอาการผิดปกติขึ้นเอง ท่านอย่าคิดบัญชีกับเขาให้เป็นหน้าที่ของพรหมลิขิต  แล้วตัวท่านก็จะปลอดภัยด้วย  คนที่ไปเร่งความพินาศหายนะของผู้อื่น  มักพินาศเอง

      การเงินของท่านจะดีขึ้นในเวลาสั้น  ๆ  ตั้งแต่ปลายเดือนเมษายนถึงกลางเดือนสิงหาคม 2552  จนกลางเดือนธันวาคม 2552  การเงินของท่านจะมั่นคงดี  

      มีความเป็นไปได้ที่ท่านอาจย้ายบ้านหรือภูมิลำเนา  ทั้ง ๆ ที่ท่านอาจเพิ่งย้ายเมื่อเร็วๆ  นี้ หรือแม้จะไม่ได้ย้ายเลยก็ตาม  ต้นเหตุอาจมาจากแมวของท่านไปกินปลาในบ่อของเพื่อนบ้านเท่านั้นเอง

      ตั้งแต่ 4 พฤศจิกายน 2552  ราหูจากราศีมังกร  ชาวมังกรที่เคยเชื่ออะไรง่าย ๆ กลับกลายเป็นคนที่ไม่ค่อยเชื่อถือหรือนับถืออะไรง่าย ๆ อีกต่อไป  คือมีและใช้วิจารณญาณของตนเองเต็มที่  ไม่เป็นเครื่องมือของใคร  

      ดาวเนปจูนย้ายจากราศีธนูมาราศีมังกรวันที่ 6 ธันวาคม 2538  ย้ายไปราศีกุมภ์ในวันที่ 14 กุมภาพันธ์ 2552  ก่อนที่ดาวเนปจูนที่เคยให้โทษเมื่อย้ายมาใหม่ๆ ตั้งแต่ปี 2538  จะให้คุณแก่ท่านก่อนที่จะจากไปคือ ท่านจะมีลาภใหญ่ก่อนสิ้นปี  2552  นี้  คำทำนายนี้อาจผิดเพราะดาวเนปจูนนั้นลึกลับ  ถ้าท่านขาดจริยธรรมแม้เล็กน้อยดาวนี้ก็อาจกลับให้โทษก่อนย้ายได้อีก  

      ตั้งแต่วันที่ 3 ตุลาคม 2552  ดาวอังคารโคจรในราศีกรกฎ  และจะอยู่ต่อไปจนสิ้นปียังไม่ย้าย  ดังนั้นในไตรมาสที่ 4 ของปี 2552 ท่านจึงมีเรื่องยุ่ง ๆพอสมควร  อาจเผชิญหน้ากับศัตรูที่อาจทำทุกอย่างเพื่อให้ท่านเดือดร้อนถึงที่สุด  แต่ก็ทำร้ายท่านได้ไม่มากนัก
 
 
ราศีกุมภ์ 13 กุมภาพันธ์ – 14 มีนาคม

      ในปี 2552 นี้ ท่านจะพบการเปลี่ยนแปลงในชีวิตและงาน 2 แบบคือเป็นไปโดยกะทันหันแบบหนึ่ง  หรือนำท่านไปสู่สิ่งแวดล้อมที่มหัศจรรย์แบบหนึ่ง  หรือบางทีก็ทั้ง 2  เพราะดาวมฤตยูเป็นเรื่องของความไม่นึกไม่ฝัน  แต่เป็นความจริงที่จำต้องรับโดยหลีกเลี่ยงไม่พ้น

      ชาวราศีกุมภ์ตามปกติเป็นผู้ที่เอาใจยาก  เดาใจก็ยาก  มีวิถีชีวิตความเป็นอยู่ไม่เหมือนใคร  และใครๆ ก็จะทำให้เหมือนก็ยาก  ท่านไม่ต้องขอความช่วยเหลือจากผู้ใดเลย  ดวงท่านแข็งแรงพอที่จะยืนหยัดตามลำพัง

      ตั้งแต่วันที่ 20 เมษายน ถึง 15  สิงหาคม 2552  ท่านจะได้ทำงานทางวิชาการ  ได้รับตำแหน่งแทนหรือรักษาการแทนผู้ที่ย้ายไป  งานที่ท่านทำตามใจเพื่อน ๆ หรือคิดว่าเป็นงานอดิเรกจะให้ผลดีอย่างงานอาชีพโดยแท้จริง  แต่เรื่องของงานวิชากรและความเป็นนักสังคมสงเคราะห์ของท่านจะมีอุปสรรค  หลังวันที่ 15  สิงหาคม 2552 เป็นต้นไป  บางทีเป็นเพราะงานที่ท่านทำมีการเปลี่ยนผู้บริหาร  และผู้บริหารต้องการเก้าอี้ของท่านไปให้คนของเขาทำ  แต่ท่านก็ยังได้รับการนับถือและเชื่อถือจากโลกของการงานอยู่  และจะรุ่งเรืองเฟื่องฟูขึ้นหลังวันที่ 14 ธันวาคม 2552  เป็นต้นไปจากระยะเวลายาวนาน

      ดาวเสาร์ซึ่งเล็งราศีเกิดของท่านตั้งแต่วันที่ 10 สิงหาคม 2550  ซึ่งเท่ากับเล็งอาทิตย์กำเนิดซึ่งเป็นเหตุให้เกิดความระแวงกันในครอบครัว  และคนใดคนหนึ่งระหว่างท่านกับแฟนต้องแยกกันอยู่เพราะหน้าที่การงาน  แบบออกร่อนเร่ในกลางทะเลทรายหลาย ๆวัน  จึงจะได้กลับบ้านเสียที  มิใช่ทิ้งขว้างร้างหย่ากัน  แต่การพลัดพรากจากกันบ้างของคู่สมรสเป็นการสะเดาะเคราะห์โดยอัตโนมัติ    แต่เมื่อดาวเสาร์ย้ายเข้าราศีกันย์จึงเล็งดาวมฤตยูซึ่งย้ายขึ้นไปราศีมีนก่อนตั้งแต่วันที่ 2 มีนาคม 2552 แล้ว  ราศีมีนเป็นตัวแทนแห่งการเงินรายได้ประโยชน์ของท่าน  ในปีใหม่นี้ท่านคงมีรายจ่ายสูง  ถ้าท่านมีลูกซึ่งเรียนจบแล้วเขาก็ต้องดิ้นรนขวนขวายให้ท่านส่งไปเรียนต่อต่างประเทศให้ได้  ซึ่งคงเป็นไปในปีนี้  เว้นแต่เขาจะสมรสก่อน  แต่ก็มีคู่สมรสบางคู่  พอแต่งเสร็จก็ขึ้นเครื่องบินไปทำงานเมืองนอกเลย  

      ปีนี้อังคารโคจรในราศีเกิดของท่านโดยวิถีปกติ  ตั้งแต่ 7 มีนาคม ถึง 15 เมษายน 2552  คือเดินหน้าลูกเดียว  จะให้โทษให้คุณก็เป็นไปตามปกติ  จะผ่าตัดก็ผ่าหนเดียวจบ  ดาวอังคารเป็นดาวร้ายเมื่อมีจังหวะสัมพันธ์กับราศีใดก็ทำให้คนราศีนั้นมุทะลุดุเดือด  ใครร้ายมาจะร้ายตอบทันที  และข้อสำคัญจะถือความคิดของตนเองเป็นใหญ่   แม้แต่การสารภาพหรือขอความรักก็มิได้มีความนุ่มนวลเสียเลย ดังนั้นในระยะเวลาเดือนเศษแค่นั้น  ถ้าท่านสำรวจวาจาอารมณ์ให้ราบรื่นได้ก็จะเป็นการดี

      ท่านเป็นผู้ประสบความสำเร็จในชีวิต  มีคู่ครองเป็นคนดี  แม้จะลึกลับนิดหนึ่งก็ยังอยู่ในเงื้อมมือหรือโอวาทของท่าน  ลูก ๆ แม้จะพึ่งได้หรือไม่ค่อยได้  ก็มีวิชาติดตัวพอที่ท่านจะไม่ต้องห่วงว่าจะอยู่ในโลกอันยอกย้อนและลึกลับนี้ไม่ได้  ไม่ทันคนอื่น เป็นปีที่ดีมากของท่านด้วย

 
ราศีมีน 15 มีนาคม – 12 เมษายน

      ในปี  2552 นี้  ท่านสดชื่นกระปรี้กระเปร่ามาก  ชีวิตและงานของท่านเปลี่ยนแปลงไปในทางที่ดีหลายครั้ง  ดาวประจำราศีชองท่าน “พักร์” ในราศีมังกรอันเป็นราศีที่พฤหัสบดีอับแสงซึ่งกลับให้คุณแก่ดวงของท่านในกรณีเกิดวิกฤตในทางวิชาการหรือจริยธรรม  ซึ่งท่านจะออกมาแก้ไขให้ทุเลาเบาบางลงได้หรือกลับสู่สภาพปกติ   วันที่ 4 ธันวาคม 2551 ดาวพฤหัสบดีย้ายเข้าราศีมังกร คืออับแสงร่วมกับราหู  จนวันที่ 20 เมษายน 2552 พฤหัสบดี ย้ายขึ้นราศีกุมภ์จนถึงวันที่ 15 สิงหาคม 2552  ถอยกลับมาราศีมังกรอีกจนถึง 14 ธันวาคม 2552  จึงย้ายไปราศีกุมภ์อีก  ท่านจึงออกจะมีชีวิตความเป็นอยู่และความคิดจิตใจที่โลดโผน  มีเพื่อนใหม่ ๆ หรือเพื่อนเก่าแต่เขามาในมาดใหม่ชี้นำให้ท่านทำธุรกรรมที่ต้องลงทุนด้วยเงินหรือความรู้ความสามารถหรือชื่อเสียงของท่าน  ซึ่งถ้าเป็นกรณีเช่นนี้มักถอนทุนไม่ขึ้น  แล้วพวกเพื่อนๆตัวดีเหล่านี้จะหายเข้ากลีบเมฆไปหมด  แต่ดาวดวงนี้ก็ให้คุณแก่ท่านตลอดชีวิต  

      วันที่ 30 กันยายน 2552  ดาวเสาร์ย้ายจากราศีสิงห์ลงมาราศีกันย์ในฐานะดาวร้ายธรรมดา ๆ ดวงหนึ่ง  แม้จะเล็งราศีเกิดของท่านก็ให้ร้ายแบบสามัญไม่รุนแรงเหี้ยมโหดอย่างที่ดาวเสาร์มักจะกระทำเมื่ออยู่ในราศีที่ทำให้เด่นหรือเสื่อม  

      ชาวราศีมีนได้ผ่านการถูกราหูทับมาแล้วเมื่อวันที่ 12 มีนาคม 2548  ถึง 29 กันยายน 2549 ในช่วงเวลาปีกว่า ๆ เช่นนั้นท่านได้อะไรมาและต้องสูญเสียอะไรไปบ้าง  ถ้าจำได้ก็อาจช่วยให้วินิจฉัยสถานการณ์ที่จะเกิดจากราหูเข้าราศีที่เป็นภพกรรมะ (งาน) ของท่านได้พอสมควร  หรือบางทีก็ไม่ได้อะไรเลย  

      ตั้งแต่วันที่ 28 มกราคม 2552  ดาวศุกร์ย้ายเข้าราศีมีนเป็นมหาอุจ  ดาวศุกร์นี้เป็นดาวแห่งความรักเสน่หายาใจ  เป็นดาวที่นำความปลาบปลื้มดื่มดำมาสู่ผู้คน  เป็นดาวแห่งความกลมเกลียวสมสนิทในไมตรีจิตภาพ  ดาวศุกร์นี้จะโคจรในราศีมีนถึงวันที่ 1 มิถุนายน 2552  ชาวราศีนี้และราศีที่มีศุกร์เป็นดาวประจำราศีคือพฤษภและตุลจะมีความสุขอย่างมาก  แม้คนที่อาภัพที่สุดก็จะรื่นรมย์สมหวังในความปรารถนาต่าง ๆ อย่างนึกไม่ถึง  ช่วยให้คนยากจนเป็นคนมั่งคั่งได้โดยสุจริต  และโชคดีเรื่องความรักอย่างพระสังข์ทองได้รจนา  ไม่มีใครริษยาและต่อต้านได้

      ท่านชาวราศีมีนเป็นคนที่มีจิตใจละเอียดสุขุมประณีต  รักษาอนามัยดีและเป็นคนสะอาดทั้งใจและกาย  มีระเบียบวินัยดูแลตนเองได้  สุภาพต่อผู้อื่นแม้จะเป็นผู้อาภัพอับวาสนา  แต่ราศีที่อยู่ข้างหน้าราศีมีนเป็นราศีเมษ  ท่านจึงโกรธเก่งที่สุด  ถ้าเป็นมิตรก็เป็นกัลยาณมิตร  ถ้าเป็นศัตรูก็หฤโหดและไม่อภัยให้แก่ใครใด ๆทั้งสิ้น  เหมือนคนไม่มีหัวใจ  บทจะรักก็รัก  ไม่รักก็เกลียดเลย  เป็นเพื่อนกันก็ไม่เอา  ปีใหม่นี้ท่านดวงดีกว่าหลายปีที่ผ่านมา  ไม่พูดให้ร้ายผู้อื่นแล้วจะดีที่สุด


บันทึกการเข้า
Jiab16
Global Moderator
Hero Cmadong Member
*****


ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 2,267

เว็บไซต์
« ตอบ #355 เมื่อ: 13 ธันวาคม 2551, 23:12:22 »

12 ธ.ค. 51 นาซาชวนชม " จันทร์เต็มดวง " ขนาดโตที่สุดในรอบปี

 

คืนวันพระจันทร์เต็มดวงที่ 12 ธ.ค. 51 นี้ เป็นคืนที่เราจะได้เห็นจันทร์เต็มดวงโตที่สุด และสว่างที่สุดในรอบปี แม้จันทร์จะโตไม่พอให้มองเห็นรอยเท้าของ " นีล อาร์มสตรอง " แต่นาซาก็เชิญชวนให้ทุกคนออกไปชมปรากฏการณ์พิเศษนี้ โดยเฉพาะช่วงจันทร์อยู่ใกล้ขอบฟ้า

องค์การบริหารการบินอวกาศสหรัฐฯ ( นาซา ) ชวนชมปรากฏการณ์จันทร์เต็มดวงคืนวันที่ 12 ธ.ค.51 นี้ ที่จะเห็นเป็นดวงโต และสว่างที่สุดในรอบปีนี้ โดยเราเห็นปรากฏการณ์ดังกล่าวได้เพราะดวงจันทร์โคจรเป็นรูปวงรี ทำให้มีด้านที่อยู่ใกล้โลกมากกว่าด้านอื่นๆ 50,000 กิโลเมตร ซึ่งในภาษาของนักดาราศาสตร์ ด้านที่อยู่ไกลสุดคือ " อะโพจี " ( apogee ) และด้านที่ใกล้สุดคือ " เพริจี " ( perigee )

ในคืนวันศุกร์นี้ดวงจันทร์จะอยู่ในตำแหน่งเพริจี ซึ่งส่งผลให้ดวงจันทร์ในคืนปลายสัปดาห์ดูใหญ่กว่าจันทร์เต็มดวงเมื่อช่วงต้นปี ถึง 14 % และสว่างมากกว่า 30%

แต่เราจะบอกความแตกต่างของดวงจันทร์ดวงกลมๆ ที่ใหญ่ขึ้นได้หรือไม่ ? แน่นอนว่าไม่มีไม้บรรทัดลอยกลางอากาศให้เราวัดขนาดของดวงจันทร์ที่ใหญ่ และบนฟ้าก็ไม่มีจุดให้เปรียบเทียบ ดังนั้นจันทร์เต็มดวงครั้งนี้ก็คงเหมือนกับทุกๆ ครั้ง

นาซาแนะนำว่าช่วงเวลาดีที่สุดที่จะชมดวงจันทร์คือ ช่วงเวลาที่ดวงจันทร์อยู่ใกล้ขอบฟ้า เมื่อภาพจริงผสานกับภาพมายา สิ่งที่เราคือภาพที่ชวนตะลึงงัน ทั้งนี้นักดาราศาสตร์ หรือแม้กระทั่งนักจิตวิทยาก็ยังไม่เข้าใจเหตุผลแน่ชัดนัก ที่ดวงจันทร์จะดูใหญ่กว่าปกติเมื่อฉายแสงทาบต้นไม้ อาคารบ้านเรือน และทัศนียภาพที่อยู่เบื้องหน้าของดวงจันทร์

อย่างไรก็ดี สำหรับคนที่คาดหวังว่าจะได้มองเห็นรอยเท้าของ " นีล อาร์มสตรอง " ( Neil Armstrong ) คงจะต้องผิดหวัง เพราะดวงจันทร์ที่อยู่ใกล้จากโลกโดยเฉลี่ย 384,400 กิโลเมตร อันเป็นระยะที่แม้แต่กล้องโทรทรรศน์อวกาศฮับเบิล ( Hubble ) ซึ่งออกไปโคจรรอบโลกบันทึกความแตกต่างได้เพียงแค่ 60 เมตรเท่านั้น แต่ของชิ้นใหญ่สุดที่ยานอะพอลโล ( Apollo ) ทิ้งไว้บนดวงจันทร์มีขนาดเพียง 9 เมตร ซึ่งเมื่อบันทึกด้วยกล้องฮับเบิลจะเห็นเป็นจุดเล็กกว่าความละเอียด 1 พิกเซลเสียอีก

หากแต่สิ่งที่จะเห็นพิเศษสุดคือบรรยากาศรอบๆ ตัวเราที่ทุกอย่างจะสว่างไสวที่สุดจากแสงจันทร์ ส่วนผู้คนในซีกโลกเหนือยังได้เห็นสิ่งที่พิเศษอีกอย่างคือ ตำแหน่งของดวงจันทร์เต็มดวงอยู่ที่สูงสุดในรอบปี และรอบตัวจะยิ่งสว่างมากขึ้น หากเต็มไปด้วยหิมะ

ผลพวงจากตำแหน่งของดวงจันทร์ที่อยู่ใกล้โลกนี้ทำให้เกิดปรากฏการณ์น้ำขึ้น แต่ไม่มีอะไรน่ากังวลนัก เพราะแรงดึงดูดจากดวงจันทร์จะทำให้ระดับน้ำสูงขึ้นกว่าปกติไม่กี่เซนติเมตร และสภาพภูมิประเทศจะขยายผลของปรากฏการณ์น้ำขึ้นไปถึงแค่ 15 เซนติเมตรเท่านั้น ซึ่งนาซาระบุว่าไม่ถึงขั้นทำให้เกิดน้ำท่วม

เมื่อวันที่ 11 ธ.ค. 51 รศ.ดร.บุญรักษา สุนทรธรรม ผอ.สถาบันวิจัยดาราศาสตร์แห่งชาติ ( สดร. ) กระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ เปิดเผยว่าในคืนวันที่ 12 ธ.ค.นี้ จะเกิด ปรากฎการณ์ดวงจันทร์เต็มดวงที่มองเห็นได้โต และสว่างที่สุดในรอบปี เนื่องจากเป็นวันที่ดวงจันทร์ โคจรมาอยู่ในตำแหน่งที่ใกล้โลกมากที่สุด และเป็นช่วงที่ดวงจันทร์เต็มดวงพ อดี ทำให้เราเห็นดวงจันทร์มีขนาดใหญ่ และสว่างมากกว่าในช่วงเดือนอื่น ๆ ทั้งนี้แนะนำให้ผู้สนใจดูในช่วงดวงจันทร์กำลังขึ้นจากขอบฟ้า ตั้งแต่ 6 โมงเย็นเป็นต้นไป ซึ่งดวงจันทร์ที่มองเห็นจะมีขนาดใหญ่กว่าเดิม 14% และสว่างมากกว่า 30% และจะค่อย ๆ เล็กลงตามการมองเห็นของสายตามนุษย์เมื่อเคลื่อนขึ้นสู่ตำแหน่งที่สูงขึ้น โดยจะมองดูใหญ่อีกครั้งตอนกำลังจะลับจากขอบฟ้าประมาณตี 4 ถึง ตี 5 ซึ่งเป็นช่วงเวลาที่สามารถถ่ายภาพดวงจันทร์ได้อย่างสวยงาม


นอกจากนี้ในวันที่ 13-14 ธ.ค. 51 นี้ ยังมีอีกปรากฏการณ์ทางดาราศาสตร์ที่สำคัญอีก คือ ฝนดาวตกเจมินิดส์ ที่มีจุดศูนย์กลางอยู่ที่กลุ่มดาวคนคู่ มีอัตราการตกเกิดขึ้นโดยเฉลี่ยมากกว่า 60 ดวงต่อชั่วโมง ปกติจะเห็นได้ตั้งแต่คืนวันที่ 6-19 ธ.ค. แต่จะมีมากที่สุดในช่วงคืนวันที่ 13 ธ.ค. ก่อนฟ้าสางของวันที่ 14 ธ.ค. แต่เนื่องจากวันนั้นเป็นวันแรม 1 ค่ำซึ่งเป็นช่วงที่ดวงจันทร์เกือบเต็มดวง และส่องแสงสว่างมาก จึงอาจทำให้เห็นเฉพาะฝนดาวตกในดวงที่มีความสว่างมากเท่านั้น ส่วนฝนดาวตกที่มีแสงสว่างน้อยอาจจะไม่สามารถมองเห็นได้ ซึ่งการเกิดปรากฏการณ์ฝนดาวตกเจมินิดส์ ในปีนี้จะสามารถสังเกตเห็นได้ทางทิศตะวันออกตั้งแต่ 21.30 น. เป็นต้นไป
บันทึกการเข้า
Jiab16
Global Moderator
Hero Cmadong Member
*****


ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 2,267

เว็บไซต์
« ตอบ #356 เมื่อ: 13 ธันวาคม 2551, 23:29:18 »

สุภาษิต-คำพังเพย-สำนวน ไทย / อังกฤษ

กันไว้ดีกว่าแก้ : Prevention is better than cure.

กินปูนร้อนท้อง : Conscience does make cowards of us all.

แกงจืดจึงรู้คุณเกลือ : You never miss the water till the well runs dry.

ไกลตา ไกลใจ : Long absent, soon forgotten. หรือ Out of sight, out of mind.

ขวานผ่าซาก : Call a spade a spade.

อันของสูงแม้ปองต้องจิต ถ้าไม่คิดปีนป่ายจะได้หรือ : Nothing ventured, nothing have.

ข้างนอกสุกใส ข้างในต๊ะติ๊งโหน่ง : All are not thieves that dogs bark at. หรือ Appearances are deceptive. หรือ Never judge by appearences.

เข้าเมืองตาหลิ่ว ต้องหลิ่วตาตาม : When in Rome do as the Romans do.

คบคนพาลพาลพาไปหาผิด คบบัณฑิตบัณฑิตพาไปหาผล : Keep not ill man company lest you increase the number.

คมในฝัก : Hide your light under a bushel.

ความรักเหมือนโรค บันดาลตาให้มืดมน : Love is blind.

งานเลี้ยง ต้องมีวันเลิกรา : All good things come to an end.

ช้างสาร งูเห่า ข้าเก่า เมียรัก อย่าได้ไว้ใจนัก : Never trust a sleeping dog, a swearing Jew, a praying drunkard, or an sweeping woman.

ตบมือข้างเดียวไม่ดัง : It takes two to make a quarrel.

ที่แล้วมา ก็แล้วกันไป : Forgive and forget. หรือ Let bygones be bygones. หรือ To err is human to forgive divine.

นารีงามสรรพเมื่อดับเทียน : All cats are grey in the dark.

มีเมียผิดคิดจนตัวตาย : Marry in waste and repent at leisure.

รักสนุก จะทุกข์ถนัด : No joy without annoy. หรือ No pleasure without repentance.


ที่มา http://www.saranair.com/article.php?sid=1139
บันทึกการเข้า
Jiab16
Global Moderator
Hero Cmadong Member
*****


ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 2,267

เว็บไซต์
« ตอบ #357 เมื่อ: 18 ธันวาคม 2551, 00:44:16 »

Traffic camera with fine‏

นายสัตวแพทย์ สากล 16 ... ส่งมา

เรียน ทุกท่าน เพื่อทราบ

ตั้งแต่วันอังคารที่ 30 ธันวาคม 2551 ป็นต้นไป จะมีกล้องจับภาพตามสี่แยกต่างๆ ในกรุงเทพมหานคร โดยจะมี การจับ 3 กรณี ดังนี้

1. ผ่าสัญญานไฟแดง ส่วนพวกที่ฝ่าไฟเหลือง ก็มีโทษเช่นเดียวกับฝ่าไฟแดง แต่จะไม่ตัดแต้ม

2. จอดรถติดสัญญานไฟแดง ทับเส้นขาวด้านหน้า ... " อย่าทับหนู "

3. จอดรถติดสัญานไฟ คล่อมช่องทางซ้ายสุด ... " จระเข้ขวางคลอง "


( ข้อความใน " XXX " น่ะ เจี๊ยบเดาเอาเอง โดยอิงกับป้ายรณรงค์ไม่ให้ผู้ขับขี่ทำผิดกฏจารจร ที่เราเคยเห็นตามท้องถนน เมื่อหลายปีก่อนโน้น น่าจะถูกต้องนา ... ว่ามั้ย ? )

แยกไฟแดงที่มีกล้อง มีดังต่อไปนี้

1. แยกรัชดาฯ - ลาดพร้าว
2. แยกบ้านม้า
3. แยกคลองตัน
4. แยกอโศก - เพชร
5. แยกวิทยุ -เ พลินจิต
6. แยกซังฮี้
7. แยกพญาไท
8. แยกโชคชัย 4
9. แยกนิด้า
10. แยกอุรุพงษ์
11. แยกประดิพัทธ์
12. แยกรัชดาฯ - พระราม 4
13. แยกลำสาลี
14. แยกบ้านแขก
15. แยกบางพลัด
16. แยกศรีนครินทร์
17. แยกราชประสงค์
18. แยกอโศก - สุขุมวิท
19. แยกสาทร
20. แยกตากสิน
21. แยกโพธิ์แก้ว
22. แยกพัฒนาการ - รามคำแหง 24
23. แยกร่มเกล้า
24. แยกศุลกากร
25. แยกเหม่งจ๋าย
26. แยกท่าพระ
27. แยกประเวศ
28. แยกอังรีดูนังต์
29. แยกประชานุกูล
30. แยกบางโพ

ค่าปรับมีอัตราเดียวคือ 500 บาท เป็นความผิดตามพ.ร.บ.จราจรทางบก ข้อหาขับรถฝ่าฝืนสัญญาณจราจรไฟสีแดง มาตรา 22 ( 2 ) มีโทษตามมาตรา 152 ปรับไม่เกิน 1,000 บาท และตัดแต้ม 40 คะแนน ใครเลี่ยงบาลีเอากระดาษไปปิดป้ายทะเบียนรถ หวังหลบเลี่ยง โดนปรับเพิ่ม
บันทึกการเข้า
Jiab16
Global Moderator
Hero Cmadong Member
*****


ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 2,267

เว็บไซต์
« ตอบ #358 เมื่อ: 19 ธันวาคม 2551, 13:06:26 »

ตำรวจจราจรเอาจริง จัดตั้งกล้องถ่ายภาพผู้กระทำผิดผ่าสัญญาณไฟจราจร เริ่มดีเดย์ 30 ธ.ค.51 นี้

มนูญ - วิศวะ 16 ... ส่งรายละเอียดมาเพิ่มให้อีกคนนึง ... ขอบคุณมากคร้าบ บ บ
    
วันที่ 12 ธันวาคม พ.ศ. 2551 ปีที่ 18 ฉบับที่ 6588 ข่าวสดรายวัน " ติดกล้อง 30 แยกกรุง-จับจอมฝ่าไฟแดง ใช้รูปถ่าย ส่งทางปณ. ปรับ500บ. ตร.ดีเดย์ ! 30ธันวา นี้ "

     นักซิ่ง-โชเฟอร์มักง่ายชอบขับ ฝ่าไฟแดงหนาว ตำรวจจราจร ติดตั้งเครื่องมือไฮเทคเซ็นเซอร์ตรวจจับรถล้ำเส้นจราจร จากนั้นถ่ายภาพเอาผิดคนชอบทำผิดฝ่าฝืนสัญญาณไฟ ดีเดย์วันที่ 30 ธ.ค.นี้ ใน 30 สี่แยกกรุงช่วง 7 วันอันตรายเทศกาลปีใหม่ เผยจะส่งภาพถ่ายหลักฐานทำผิดพร้อมให้ไปจ่ายค่าปรับ 500 บาท ใครเลี่ยงบาลีเอากระดาษปิดป้ายทะเบียนหวังหลบเลี่ยง โดน ปรับเพิ่ม

      เมื่อวันที่ 11 ธ.ค. พล.ต.ต.ภาณุ เกิดลาภผล รอง ผบช.น. ซึ่งดูแลงานด้านการจราจร เปิดเผยว่า กองบังคับการตำรวจจราจร ( บก.จร. ) ได้ติดตั้งกล้องตรวจจับการฝ่าฝืนสัญญาณไฟแดง ( เรด ไลท์ คาเมร่า)  ไปติดตามสี่แยกต่างๆ โดยวันเดียวกันนี้ เป็นวันตรวจรับงวดสุดท้ายของงาน มีพล.ต.ต.สุพร พันธุ์เสือ รอง ผบช.น. เป็นประธาน จากการทดสอบใน 30 ทางแยกปรากฏว่าในรอบ 1 วันมีผู้ฝ่าฝืนกว่า 5,000 ราย เมื่อตรวจรับเสร็จแล้ว ทดลองผ่านแล้ว ช่วงนี้จะประชาสัมพันธ์ โดยเริ่มใช้บังคับในวันที่ 30 ธ.ค. ตรงกับวันเริ่มรณรงค์ 7 วันอันตรายปีใหม่ ทั้งนี้ ผู้ที่ฝ่าฝืนสัญญาณไฟแดงตามแยกต่างๆ นั้นจะถูกบันทึกภาพ ซึ่งภาพที่ได้จะแนบไปกับหมายเรียกกระทำความผิดส่งไปให้ผู้ที่ฝ่าฝืนและกระทำความผิดถึงที่บ้าน

พล.ต.ต.ภาณุกล่าวต่อว่า ภาพที่จะส่งไปให้ผู้กระทำความผิด มีจำนวน 3 ภาพ คือ
                
     - ภาพก่อนการกระทำความผิด
     - ภาพขณะกระทำความผิด และ
     - ภาพเฉพาะทะเบียนรถ ในภาพจะปรากฏชื่อแยก วันเวลากระทำความผิด ความเร็วของรถ เห็นทั้งตัวรถและไฟ
              
     โดยจะส่งให้ใน 7 วันหลังกระทำความผิด  และจะให้มาชำระค่าปรับที่กำหนดไว้ในหมาย โดยค่าปรับมีอัตราเดียว 500 บาท เป็นความผิดตามพ.ร.บ.จราจรทางบก ข้อหาขับรถฝ่าฝืนสัญญาณจราจรไฟสีแดง มาตรา 22 (2) มีโทษตามมาตรา 152 ปรับไม่เกิน 1,000 บาท และตัดแต้ม 40 คะแนน

     แต่ละทางแยกจะมีเครื่องหมายติดไว้เป็นป้ายพื้นขาว และตัวกล้องสีดำ โดยจะแบ่งออกเป็น 3 ส่วน คือ
          1. กล้อง
          2. ตัวเซ็นเซอร์ และ
          3. ตัวคอมพิวเตอร์ประเมินผล


วิธีการทำงานของกล้อง

     เมื่อไฟแดงทำงาน ตัวเซ็นเซอร์ทำงาน มีการฝ่าไปกล้องจะถ่ายภาพ  จากนั้นจะประมวลผลด้วยเครื่องคอมพิวเตอร์ที่โคนเสา ตัวคอมพิวเตอร์ก็จะส่งข้อมูลมาที่ บก.02 ก็จะมาขึ้นที่จอมอนิเตอร์ใน บก.02 ซึ่งเครื่องจะอ่านอัตโนมัติว่าเป็นรถของใคร โดยได้เชื่อมกับกรมการขนส่งทางบก ที่ศูนย์รัตนาธิเบศร์ เพื่อบอกสีรถ ยี่ห้อรถ ชื่อเจ้าของรถ เมื่ออ่านออโต้ออกมาก็จะมีเจ้าหน้าที่คอยตรวจสอบ เพราะรถอาจติดทะเบียนไม่ตรงกัน เมื่อตรวจพบตรงกันก็มาพิมพ์หมาย มีค่าใช้จ่ายแผ่นละ 3 บาท ไม่รวมค่าส่ง

      หากไม่ชำระค่าปรับใน 7 หรือ 15 วัน เครื่องก็จะประมูลผลออกมาอีกว่าใครยังไม่ชำระค่าปรับบ้าง ก็จะมีใบปะหน้าไปที่กรมการขนส่งทางบก ว่ารถเหล่านี้ไม่มาชำระภาษี พอไปชำระภาษีขนส่งก็ไม่ต่อให้ แต่ต้องส่งไปเสียค่าปรับก่อน เมื่อส่งมาที่ตำรวจแทนที่จะปรับ 500 บาท ก็ต้องปรับข้อหาไม่มารายงานตัวตามกำหนดระยะเวลา เพิ่มอีก 200 บาท " รองผบช.น.กล่าว

      พล.ต.ต.ภาณุกล่าวต่อว่า เริ่มทดลองวันที่ 9-11 ธ.ค.ที่ผ่านมา มีผู้ทำผิดกว่า 4,000 รายต่อวัน โดยส่วนใหญ่จะเป็นเวลากลางคืน รถที่พบว่าทำความผิดมากคือ รถแท็กซี่และรถจักรยานยนต์ สำหรับประโยชน์จากกล้องนี้ คือ

        1. ลดความขัดแย้ง
        2. ลดอุบัติเหตุ เพราะผู้ขับขี่รู้ว่าแยกนี้มีกล้อง จึงไม่กล้าทำ
        3. หากมีอุบัติเหตุก็รู้ว่าใครเป็นผู้ฝ่าฝืน แต่ที่เราหวังมากที่สุดคือ ชาวบ้านจะไม่ฝ่าฝืนสัญญาณไฟแดง สถิติที่ผ่านมามีผู้ถูกจับคดีไฟแดงในปี 2549 จำนวน 2,411 ราย  ปี 2550 จำนวน 2,213 ราย  และปี 2551 ถึงเดือนตุลาคม จำนวน 1,494 ราย นอกจากนี้พวกที่ฝ่าไฟเหลืองก็มีโทษเช่นเดียวกับฝ่าไฟแดง แต่จะไม่ตัดแต้ม กล้องนี้ถือเป็นของขวัญปีใหม่ สำหรับผู้ขับขี่รถอย่างถูกกฎหมาย และช่วยลดการเกิดอุบัติเหตุ

     ด้านพล.ต.ต.สุพร พันธุ์เสือ รอง ผบช.น. กล่าวเน้นย้ำให้ผู้ขับขี่รถยนต์ติดแผ่นป้ายทะเบียนด้านหลังของรถ หรือนำวัสดุที่บดบังการมองเห็นเลขทะเบียนออกไป เพราะตำรวจจราจร จะเร่งกวดขันความผิดในลักษณะนี้ ซึ่งมีโทษปรับสูงกว่า 1,000 บาท  ซึ่งจะไม่คุ้ม  หากต้องการหลีกเลี่ยงการถูกถ่ายภาพที่มีโทษปรับไม่เกิน 1,000 บาท จะเริ่มโครงการในวันที่ 30 ธ.ค.นี้ ตามแยกต่างๆ 30 แยกสำคัญทั่วกรุงเทพฯ


       NN จ๋า ... ที่ Germany ใช้เทคโนโลยีตรวจจับรถที่ขับเร็วเกินกำหนดมานานหลายปีแล้วนอะ  แล้วเค้าจับเรื่องฝ่าไฟแดงแบบนี้ด้วยรึเปล่า ?  ค่าปรับของเรา-ถ้าถูกถ่ายรูปก็เท่ากับ 10 Euro ซึ่งถือว่าถูกกว่าที่เมืองเบียร์มากๆ  ที่นั่นน่ะ จะถูกปรับครั้งละหลายร้อยยูโรใช่มั้ยคะ ? ... ได้ผลชงัดดี  มีผู้ทำผิดกฏจารจรน้อยมาก

     แต่เรื่องนึงที่กรุงเทพฯ มี  แต่ที่ Germany ไม่มีก็คือ  ตัวเลข digital นับเวลาถอยหลังตามสี่แยก ให้รู้ว่าอีกกี่วินาทีจะเปลี่ยนเป็นไฟเขียว  ดีมากๆ เลย  มีประโยชน์หลายอย่างเลยล่ะ  เช่น :

       1. ถ้าต้องจอดรอไฟเขียวนานเกิน 2 นาทีขึ้นไป  ก็จะได้ดับเครื่องยนต์  ประหยัดน้ำมัน  ลดมลภาวะ  ลดโลกร้อน
       2. มีเวลาทำธุระเล็กๆ น้อยๆ ได้  หรือเตรียมตัวออกรถได้ทัน
       3. สุขภาพจิตดีขึ้น ที่ได้รู้ว่าต้องรอนานเท่าไหร่

    ใครนึกประโยชน์อื่นๆ ได้อีก  ก็มา share กันหน่อย น้าค้า
 
 
 
 
บันทึกการเข้า
Jiab16
Global Moderator
Hero Cmadong Member
*****


ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 2,267

เว็บไซต์
« ตอบ #359 เมื่อ: 20 ธันวาคม 2551, 09:55:52 »

ทำเนียบรัฐบาลของประเทศต่างๆ

รวิวรรณ - ถาปัด 16 ... ส่งมา

เรียงลำดับตามอักษรนำหน้าชื่อในภาษาไทย นะจ๊ะ

กัมพูชา


เกาหลีใต้


แคนาดา


โครเอเชีย


เซอเบีย


ญี่ปุ่น


ไทย


นอร์เวย์


นิวซีแลนด์


บัลกาเรีย


ฝรั่งเศส


ฟินแลนด์


มาเลียเซีย


สโลวาเกีย


สิงคโปร์


ออสเตรเลีย


ออสเตรีย


อังกฤษ


อินเดีย


เอสโทเนีย


ฮังการี


บันทึกการเข้า
Jiab16
Global Moderator
Hero Cmadong Member
*****


ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 2,267

เว็บไซต์
« ตอบ #360 เมื่อ: 21 ธันวาคม 2551, 04:17:24 »

New A 380‏

รวิวรรณ - ถาปัด 16 ... ส่งมา

business class cabin


business class seat


first class private area


first class seat


first class water feature
 

lounge area for first and business class


lounge area


purser work station


rear stairs to business class cabin


shower


shower


stairs to first class

บันทึกการเข้า
Jiab16
Global Moderator
Hero Cmadong Member
*****


ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 2,267

เว็บไซต์
« ตอบ #361 เมื่อ: 27 ธันวาคม 2551, 13:05:55 »

วิธีตรวจสอบแบงค์ปลอม โดยธนาคารแห่งประเทศไทย

นิรา - วิทยา 16 ... ส่งมา










บันทึกการเข้า
Jiab16
Global Moderator
Hero Cmadong Member
*****


ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 2,267

เว็บไซต์
« ตอบ #362 เมื่อ: 27 ธันวาคม 2551, 22:43:18 »

เอารูปโฆษณาสมัยก่อน มาให้ดู

วณิชย์ - วิศวะ 16 ... ส่งมาจาก USA

ท่านใดมีอาวุโสพอที่จะรู้สึกคุ้นๆ ตา บ้างมั้ยเอ่ย ? ... ประมาณ พ.ศ. ไหนเนี่ย ?











โห !  จัดได้ว่าเป็นตำรา " ประวัติศาสตร์การโฆษณา " ในเมืองไทย  สำหรับชาวนิเทศฯ ได้สบายๆ เลย
บันทึกการเข้า
Jiab16
Global Moderator
Hero Cmadong Member
*****


ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 2,267

เว็บไซต์
« ตอบ #363 เมื่อ: 15 มกราคม 2552, 08:09:41 »

พิมพ์เพ็ญ เวชชาชีวะ หลังบ้านนายกรัฐมนตรีคนที่ 27

พี่ชรินทร์ - รัฐ 07... ส่งมา

เรียบเรียงข้อมูลโดยกระปุกดอทคอม

     เรียกได้ว่าตลอดระยะเวลานับสิบปีบนเส้นทางสายการเมือง เรื่องส่วนตัวรวมไปถึงเรื่องเกี่ยวกับครอบครัวของ " มาร์ค-อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ " หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ และนายกรัฐมนตรี คนที่ 27 ของประเทศไทย ไม่เป็นที่เปิดเผยต่อสาธารณะมากนัก เพราะเขาเคยกล่าวว่า " ต้องการใช้ชีวิตครอบครัวด้วยความเป็นส่วนตัว "

     แต่ทันทีที่เขาได้สวมหมวกนายกรัฐมนตรี พร้อมๆ กับภาพภริยาที่ยืนเคียงคู่กันวันที่ได้รับตำแหน่ง  ทำให้ใครหลายๆ คนอยากจะรู้จักกับสาวสวยที่มักจะหลบฉาก มองดูความสำเร็จของคู่ชีวิตอยู่ด้านหลังเงียบๆ วันนี้กระปุกดอทคอมจะพาทุกคนไปทำความรู้จักกับเธอคนนี้ ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.พิมพ์เพ็ญ เวชชาชีวะ ภริยา คุณอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ กันค่ะ ...




     ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร. พิมพ์เพ็ญ หรือ แตงโม ( แต่ส่วนใหญ่คนจะเรียก แตง ) เวชชาชีวะ หรือนามสกุลเดิมคือ ศกุนตาภัย เกิดเมื่อวันที่ 5 สิงหาคม พ.ศ. 2507 ขณะนี้อายุ 44 ปี เป็นบุตรสาวของ ศาตราจารย์ (พิเศษ) พงษ์เพ็ญ ศกุนตาภัย กับ นางประพาพิมพ์ ศกุนตาภัย อดีตผู้ช่วยผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย ปัจจุบันคุณแตงเป็นอาจารย์ประจำสาขาวิชาคณิตศาสตร์ คณะวิทยาศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ในตำแหน่งผู้ช่วยศาสตราจารย์ จบการศึกษาระดับประถมศึกษาจากโรงเรียนสาธิตจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย , ปริญญาตรี จากคณะทันตแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ปริญญาโทและปริญญา เอก จาก สาขาวิชาคณิตศาสตร์ จากคณะวิทยาศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย



     คุณแตงรู้จักกับคุณอภิสิทธิ์ ตั้งแต่สมัยเป็นเพื่อนนักเรียนชั้นประถมศึกษา ที่โรงเรียนสาธิตจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย แต่อยู่กันคนละห้อง จากนั้นพอจบชั้นประถมปีที่ 6 คุณอภิสิทธิ์ก็ไปเรียนต่อประเทศอังกฤษ ในขณะที่คุณแตงเรียนอยู่เมืองไทย ซึ่งในช่วงที่คุณอภิสิทธิ์อายุ 18 ปี ประมาณปี 2526 ช่วงปิดเทอมคุณอภิสิทธิ์ได้กลับมาเยี่ยมบ้าน พอดีเพื่อนๆ สมัยเรียนที่สาธิตจุฬาฯ จัดงานวันเกิด คุณอภิสิทธิ์จึงได้พบกับคุณแตงโมอีกครั้ง

     นับจากนั้นคุณอภิสิทธิ์ก็ติดต่อกับคุณแตงเรื่อยมา แม้ทั้งสองจะอยู่กันคนละทวีป แต่นั่นก็ไม่ใช่อุปสรรค โดยส่วนใหญ่จะติดต่อกันทางจดหมาย นานๆ จึงจะใช้โทรศัพท์สักหนหนึ่ง นานนับ 6 ปี จนกลายมาเป็นคนรู้ใจ ครั้นปี 2529 คุณอภิสิทธิ์เรียนจบกลับมา และไปสอนหนังสือที่โรงเรียนนายร้อยพระจุลจอมเกล้า (จปร.) ความสัมพันธ์แบบคนรู้ใจ ก็เพิ่มทวีขึ้นทีละขั้นจนทั้งคู่ตัดสินใจแต่งงานกัน

     ทั้งนี้คุณแตงได้กล่าวถึงคุณอภิสิทธิ์ว่า ในวันเกิดเพื่อนที่เจอยังไม่เคยคุยเลย เพราะยังไม่รู้จักกัน ได้แต่มองหน้า แต่เราจำได้ว่าคนนี้เป็นคนเก่ง เพราะว่าตอนเรียนอยู่โรงเรียนสาธิตจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย เขาได้ที่หนึ่งตลอด คือเขามีชื่อเป็นที่ฮือฮาของชั้นเรียน แล้วก็จำได้ว่าออกไปเรียนเมืองนอก ในตอนนั้นก็รู้สึกสนใจและชื่นชอบที่เขาเป็นผู้ชายเก่ง และพอรู้จักกัน ได้พูดคุยกัน ก็ชื่นชอบนิสัยใจคอเขาก็ดี น่ารัก แล้วเขามีความจริงใจกับเรามาก ความคิดความอ่านก็สอดคล้องกันเกือบทุกเรื่อง อย่างเรื่องการเมืองก็แนวเดียวกัน คือถ้าคนละเรื่องก็คงจะคบกันไม่ได้ ( หัวเราะ ) แล้วก็ไม่รู้ว่าเขาจะคบกับเราหรือเปล่า ( หัวเราะ )

     " ส่วนจุดที่ชอบเขามากที่สุดคือ เขารักเราจริง คือเขามีความจริงใจมาก ประทับใจมาก ใหม่ๆ ยังไม่สนิทกัน แต่ตั้งแต่สนิทกันดูออกว่าเขาเป็นคนเปิดเผย แล้วเขาคิดอะไรเขาเป็นคนตรงไปตรงมา เสมอต้นเสมอปลายสำหรับจิตใจเขาเป็นอย่างไร ก็เป็นอย่างนั้นตลอด ตอนที่คบกันใหม่ๆ มาร์คเขาจะเขียนจดหมายมาคุยด้วย เฉลี่ยอาทิตย์ละฉบับ ตอนหลังๆ ก็ถี่เข้าเป็นวันเว้นวัน " คุณแตง กล่าว




     กระทั่งถึงยามที่รักสุกงอม เมื่อวันที่ 19 สิงหาคม 2531 หนุ่มอภิสิทธิ์กับคุณแตงได้เข้าเข้าพิธีสมรสพระราชทาน ซึ่งตอนนั้นทั้งคู่มีอายุ 24 ปี และหลังจากแต่งงานคุณอภิสิทธิ์ได้กลับไปเรียนปริญญาโทด้านเศรษฐศาสตร์ ที่มหาวิทยาลัยออกซ์ฟอร์ด เนื่องจากได้ทุนเรียนต่อ โดยมีคุณแตงบินตามไปเริ่มต้นชีวิตครอบครัวด้วย และเมื่อเรียนจบปริญญาโท พอดีกับที่คุณแตงตั้งครรภ์ลูกคนแรก ทั้งคู่เดินทางกลับมาถึงเมืองไทย ในปี 2533 ( ทั้งคู่มีบุตร 2 คน คือ น้องมะปราง-ปราง เวชชาชีวะ (บุตรสาว) เกิดเมื่อวันที่ 28 พฤศจิกายน 2533 และ 3 ปีต่อมา น้องปัณณ์-ปัณณสิทธิ์ เวชชาชีวะ (บุตรชาย) ก็ถือกำเนิดขึ้น เมื่อวันที่ 9 สิงหาคม 2536

     อย่างไรก็ตามจุดที่ทำให้ชีวิตของคุณอภิสิทธิ์ พลิกผลันจากนักวิชาการหนุ่มในคณะเศรษฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ เริ่มมีบทบาททางการเมือง เนื่องจากเหตุการณ์ รสช. ยึดอำนาจ ระหว่างที่สอนอยู่ที่ธรรมศาสตร์ได้ปีกว่า และเมื่อมีการเลือกตั้งเดือนมีนาคม พ.ศ. 2535 ตอนนั้นอายุย่างเข้า 27 ปี เขาก็ได้ตัดสินใจสวมเสื้อประชาธิปัตย์มาจวบจนถึงปัจจุบัน ในช่วงเวลาการหาเสียง เขามักมีเวลาให้กับครอบครัวน้อยลง ด้วยภารกิจหน้าที่ที่เปลี่ยนแปลงไปจากเดิม แต่การดูแลภรรยาและลูก ก็ยังถือเป็นสิ่งสำคัญที่เขาปฏิบัติอย่างสม่ำเสมอ

     คุณแตงกล่าวอีกว่า ระหว่างหาเสียงเขาจะกลับมาตอนช่วง 4-5 ทุ่ม ซึ่งน้องปราง-ลูกสาว ก็จะตื่นพอดี พ่อกับลูกก็จะเล่นกันไปจนถึงตี 1 ตี 2 จึงพากันหลับไปทั้งคู่ ก่อนหน้านี้เขาจะใช้เวลาที่เหลือจากงานสอนหนังสือในมหาวิทยาลัยมาอยู่บ้าน ตามนิสัยคนรักครอบครัว สมัยก่อนไม่มีสาวคนไหนมากรี๊ด ไม่มีเลย ตอนที่เขาสอนนักเรียนนายร้อย ก็ไม่มีสาวๆ มากรี๊ด เพราะมีแต่นักเรียนทหาร เพิ่งเริ่มตอนที่เขาสอนธรรมศาสตร์ ที่คนอื่นชอบมาเล่าให้ฟัง คนที่รู้จักเราก็ชอบมาเล่าว่าเป็นที่ฮือฮา นักเรียนสาวชอบ เคยถามเขา เขาก็บอกว่าไม่รู้เรื่องเลย ไม่รู้ไก๋หรือเปล่า ( หัวเราะ ) แต่เขาเคยเอาการ์ดวาเลนไทน์ที่ได้รับจากลูกศิษย์สาวๆ มาให้ดู คือเขามีอะไร เขาไม่ปิดบังเรา แต่ระยะหลังๆ นี้ไม่มีอีกแล้ว




     " เขาเป็นคนโรแมนติกพอสมควร อย่างวันเกิดเรา เขาก็จะสั่งดอกไม้มาให้ คือไม่ให้เราเอง ให้คนมาส่งทั้งที่อยู่บ้านเดียวกัน แต่ก็ไม่ใช่คนชอบพูดหวาน เป็นคนชอบพูดตรงไปตรงมา แต่เขาไม่มีนิสัยเจ้าชู้ ไม่มีเลย ( หัวเราะ ) นี่เป็นเหตุผลที่เบาใจอย่างหนึ่ง ไม่อย่างนั้นคงแย่แล้ว ไม่อย่างนั้นคงมีปัญหา ที่สำคัญเขาค่อนข้างเป็นคนรักเดียวใจเดียว ( หัวเราะ ) ก็รู้จักเขาดี เลยไม่หนักใจเท่าไร " คุณแตง กล่าวถึงคู่ชีวิต

     ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.พิมพ์เพ็ญ กล่าวต่อว่า ตอนที่เขาคิดจะลงลงสมัคร ส.ส. ครั้งแรก เราก็คิดนะว่าจะมีเวลาว่างหรือเปล่า แต่ก็ยอม ก็เห็นว่าเป็นสิ่งที่เขาต้องการ เป็นสิ่งที่เขาใฝ่ฝัน คือคิดว่าเขาทำอย่างนี้แล้วประสบความสำเร็จ มันก็จะเป็นความสุขของเขา แล้วเราก็สุขไปด้วย ก็คงจะเป็นประโยชน์ขึ้นเยอะ ที่เขาจะได้ทำในสิ่งที่เขาคิดว่าเขาทำได้ดีที่สุด การที่เขาทำงานตรงนี้อาจทำให้เราห่างกันบ้าง แต่เราก็เข้าใจว่าเขาไปทำงานจริงๆ ไม่ใช่ไปที่ไหน คือไม่มีเวลาออกไปที่อื่นเลย มีแต่เวลางาน

     " ภายนอกคนจะมองว่าเขาเป็นคนนิ่งๆ สุขุม แต่จริงๆ เขาเป็นไม่เงียบหรอกค่ะ คือดูภายนอกเป็นคนเงียบ สุขุม แต่จริงๆ เป็นคนพูดเก่ง ขี้เล่น รักเด็ก ชอบเล่น เป็นคนรักลูก เป็นคนสนุก ไม่ขรึมอย่างที่คิด ลูกบอกว่าพ่อใจเย็นทุกเรื่อง ยกเว้นติวลูก เรื่องการติว จะวิ่งหาแม่ทั้งคู่เลย เรื่องใจดี พ่อกับแม่พูดยากนะ บางทีแข่งกันประชานิยมทั้งคู่ แต่ว่าเราถือมากในเรื่องความรับผิดชอบ ความสุภาพ ความซื่อตรง เพราะฉะนั้นเราจะไม่เคี่ยวเข็ญว่าจะต้องเป็นอย่างนั้นอย่างนี้ สิ่งที่เขาทำกับครอบครัว คือไม่ใช่การทำอะไร แต่ว่าเขาให้ความเอาใจใส่มาก ให้ความรัก ความอบอุ่นมากคือเขาทุ่มเทเวลาให้กับเรามาก ไม่รู้ว่าอย่างนี้เรียกว่าหัวหน้าหรือเปล่า คือเขาเป็นคนรักครอบครัวมาก ให้ความสำคัญไม่แพ้งาน " คุณแตงกล่าว




     คุณแตงกล่าวทิ้งท้ายว่า ในส่วนของการทำงานเขาไม่ค่อยบ่นให้ฟัง คงเป็นเพราะเขาสนุกกับงานตรงนี้ และเขาชอบอยู่แล้ว แต่เราต้องช่วยให้กำลังใจเขา คือพยายามไม่ให้เขาท้อถอย แต่ปกติเขาก็ไม่ท้อถอย คือไม่ว่าจะมีข่าวอะไรมาเขาจะเฉย ไม่รู้สึกท้อถอย เขาสู้ตลอด เราก็เลยรู้สึกไม่ค่อยลำบากใจ เราก็ไปช่วยบ้างแล้วแต่กรณี ณ ตอนนี้รู้สึกดีใจและภูมิใจในตัวเขา แต่ยอมรับว่าหนักใจ เพราะประเทศไทยมีปัญหายากลำบากในขณะนี้ อย่างไรก็ตาม ส่วนตัวจะทำหน้าที่ให้กำลังใจและให้คำปรึกษา ถึง แม้ว่าเขาจะมีเวลาให้กับครอบครัวน้อยลงก็ไม่เป็นไร และจะให้กำลังใจในการทำงานอย่างเต็มที่ และไม่มีเคล็ดลับดูแลนายกรัฐมนตรีเป็นพิเศษ นอกจากกำลังใจ
บันทึกการเข้า
khesorn mueller
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: 2527
คณะ: รัฐศาสตร์
กระทู้: 71,885

« ตอบ #364 เมื่อ: 08 เมษายน 2552, 17:39:46 »

พี่เจี๊ยบขา,
กลับมา repeatได้ป่าวคะ,
หายไปเยอะเลย.
ยังอ่านไม่หมดเลยคะ...
เหอๆ


nn.
      บันทึกการเข้า


Jiab16
Global Moderator
Hero Cmadong Member
*****


ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 2,267

เว็บไซต์
« ตอบ #365 เมื่อ: 08 พฤษภาคม 2552, 11:57:43 »

NN ... repeat ไม่ได้จ้า  เพราะลบต้นฉบับไปแล้วตามกาลเวลา  ว่ากันเรืองใหม่ต่อละกัน ...

เมื่อวานนี้ สกอ. ได้ประกาศผลการสอบแอดมิดชั่น ผ่าน 17 website  เมื่อเวลา 18.00 น. ... ลูกๆ หลานๆ ชาวซีมะโด่งได้เรียนต่อที่ไหนกันบ้างคะ ?


เปิดใจสุดยอด “เด็กเก่ง” แอดมิชชัน 2552
 
วณิชย์ - วิศวะ 16 ... ส่งมาจาก USA ( โดย ASTV ผู้จัดการออนไลน์ 7 พฤษภาคม 2552 18:36 น. )
 
       วานนี้ ( 7 พ.ค. ) เมื่อเวลา 11.00 น. ที่สำนักงานคณะกรรมการการอุดมศึกษา ( สกอ. )  นายชัยวุฒิ บรรณวัฒน์ รมช.ศึกษาธิการ พร้อมด้วยนายสุเมธ แย้มนุ่น เลขาธิการคณะกรรมการการอุดมศึกษาธิการ ( กกอ. ) แถลงผลการคัดเลือกในระบบกลางการรับนิสิต นักศึกษา หรือ แอดมิชชัน ประจำปีการศึกษา 2552
      
       ทั้งนี้ ผู้ผ่านการคัดเลือกที่มีคะแนนรวมสูงสุดในระบบแอดมิชชั่น ได้แก่ นายรวินท์ เหราบัตย์ จากโรงเรียนเตรียมอุดมศึกษา ได้คะแนนคิดเป็นร้อยละ 89.24 สูงสุดในคณะนิติศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย น.ส.กัญญารัตน์ อาจชน จากโรงเรียนวัฒนาวิทยาลัย ได้คะแนนร้อยละ 88.41 สูงสุดในคณะอักษรศาสตร์ จุฬาฯ นายธัชพล เพชรศิริพันธุ์ จากโรงเรียนเตรียมอุดมฯ ได้คะแนนร้อยละ 87.71 สูงสุดในคณะวิศวกรรมศาสตร์ จุฬาฯ น.ส.บุญญาดา ปลั่งศิริ โรงเรียนเตรียมอุดมฯ ได้คะแนน 87.54 สูงสุดในคณะนิเทศศาสตร์ จุฬาฯ น.ส.ศศิลดา ศิริรุ่งเรือง จากโรงเรียนเตรียมอุดมฯ ได้คะแนนร้อยละ 87.07 สูงสุดในคณะวิทยาศาสตร์ จุฬาฯ
      
       น.ส.นันทิชา เรืองชัยนิคม จากโรงเรียนเฉลิมขวัญสตรี ได้คะแนนร้อยละ 83.07 สูงสุดในคณะทันตแพทยศาสตร์ จุฬาฯ นายกรกวิน พิชญโยธิน จากโรงเรียนบดินทรเดชา ( สิงห์ สิงหเสนี ) ได้คะแนนร้อยละ 82.21 สูงสุดในคณะพาณิชศาสตร์และการบัญชี จุฬาฯ นายธีรวีร์ กุระเดชภพ จากโรงเรียนพิษณุโลกพิทยาคม ได้คะแนนร้อยละ 82.12 สูงสุดในคณะรัฐศาสตร์ จุฬาฯ นายศศิพงศ์ ลียวัฒนานุพงศ์ จากโรงเรียนเตรียมอุดมฯ ได้คะแนนร้อย 81.97 สูงสุดในคณะเศรษฐศาสตร์ จุฬาฯ และ น.ส.พูนทรัพย์ อารีกิจ จากโรงเรียนเบญจมราชูทิศ ราชบุรี ได้คะแนนร้อยละ 81.55 สูงสุดในคณะจิตวิทยา จุฬาฯ

      
1.นายรวินท์ เหราบัตย์ หรือ “ต้น”  ร.ร.เตรียมอุดมศึกษา  ที่ 1 นิติศาสตร์ จุฬาฯ  ได้คะแนนสูงสุดแอดมิชชัน 52


      
       นายรวินท์ เหราบัตย์ หรือ “ต้น” จากโรงเรียนเตรียมอุดมศึกษา ได้คะแนนคิดเป็นร้อยละ 89.24 สูงสุดในคณะนิติศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย และเป็นคะแนนสูงสุดของการคัดเลือกระบบแอดมิชชัน กล่าวว่า รู้สึกยินดีหลังจากได้รับทราบผลคะแนน โดยตนมีความตั้งใจอยากเรียนด้านกฎหมาย และอยากเข้าไปทำงานในบริษัทกฎหมายระหว่างประเทศ เพราะเป็นงานที่สนใจ ท้าทาย และได้ใช้ความรู้ด้านภาษาอยู่ตลอดด้วย สำหรับจบการศึกษาด้วยเกรดเฉลี่ย 3.99 ส่วนเคล็ดลับในการเรียนของตน จะให้ความสำคัญกับการอ่านหนังสือให้มากที่สุด โดยเฉพาะที่คิดว่าสำคัญ และพยายามวางแผนการอ่านหนังสือ และพยายามทำได้ให้ตามที่ตั้งเป้าหมายไว้ ส่วนการเรียนพิเศษนั่นตนก็เรียนทุกวิชาที่ต้องสอบ อาทิ ภาษาไทย สังคม ฝรั่งเศส อย่างไรก็ตาม สิ่งสำคัญคือแม้จะเรียนพิเศษเสริมด้วย แต่ก็ตัวเราเองก็ต้องตั้งใจและขยันอ่านหนังสือทบทวนด้วยตนเองด้วย
      
       “สำหรับระบบแอดมิชชันนั้น ส่วนตัวแล้วคิดว่าเป็นระบบที่วุ่นวาย มีการเปลี่ยนแปลงไปมาตลอด เหมือนไม่มีจุดหมายที่สิ้นสุด ทำให้นักเรียนเองก็งงว่าจะต้องเตรียมตัวอย่างไรแน่ อย่างไรก็ตามสำหรับรุ่นน้องที่จะต้องเข้าสู่ระบบแอดมิชชันในปี 2553 ที่จะมีการเปลี่ยนแปลงองค์ประกอบใหม่อีกนั้น ก็อยากฝากให้รุ่นน้อง ตั้งใจเรียน อ่านหนังสือ และคอยติดตามข่าวสารอยู่เสมอ” นายรวินท์ กล่าว

      
       2. นายกรกวิน พิชญโยธิน หรือ “อะตอม”  ร.ร.บดินทรเดชา ( สิงห์ สิงหเสนี ) ที่ 7 แอดมิชชัน  คณะพาณิชยศาสตร์และการบัญชี จุฬาฯ


      
       นายกรกวิน พิชญโยธิน หรือ “อะตอม” จากโรงเรียนบดินทรเดชา ( สิงห์ สิงหเสนี ) ได้คะแนนคิดเป็นร้อยละ 82.21 สูงเป็นลำดับ 7 ในการแอดมิชชัน ติดคณะพาณิชยศาสตร์และการบัญชี จุฬาฯ กล่าวว่า วิธีการเรียนหนังสือและการเตรียมตัวสอบของตนเองนั้น จะทบทวนบทเรียนที่เรียนมาแล้วอย่างสม่ำเสมอ และฝึกทำข้อสอบเก่าเยอะ โดยไม่เคร่งเครียดกับการเรียนและการอ่านหนังสือมากเกินไป ที่สำคัญ ต้องรู้จักแบ่งเวลา อยู่โรงเรียนเมื่อถึงเวลาเรียนก็ต้องตั้งใจเรียน แต่ก็เล่นสนุกกับเพื่อนด้วย ส่วนที่เลือกเรียนบัญชี เพราะอยากเป็นผู้ตรวจสอบบัญชี และฝากถึงเพื่อนๆ ที่อาจจะพลาดโอกาสจากการแอดมิชชันว่าขอให้พยายามต่อไป อย่าท้อถอยเพราะสนามี้ไม่ใช่สนามเดียวของชีวิต ชีวิตย่อมมีอุปสรรคที่อต้งฝ่าฟันอยู่เสมอ
      
       3. นายธัชพล เพชรศิริพันธุ์  ร.ร.เตรียมอุดมศึกษา  ที่ 3 แอดมิชชัน  ที่ 1 วิศวกรรมศาสตร์ จุฬาฯ


      
       นายธัชพล เพชรศิริพันธุ์ นักเรียนจากโรงเรียนเตรียมอุดมศึกษา ผู้ที่ได้รับคะแนนสูงสุดของคณะวิศวกรรมศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย คิดเป็นร้อยละ 87..71 หรือลำดับที่ 3 ในการแอดมิชชัน กล่าวว่า รู้สึกดีใจ แต่ไม่คาดคิดว่าจะทำคะแนนได้สูง ส่วนสาเหตุที่เลือกเรียนคณะนี้นั้น เพราะชอบและมีความถนัดในวิชาคณิตศาสตร์ และฟิสิกส์ โดยพ่อแม่ไม่ได้บังคับให้เลือกแต่ตนจะเป็นผู้ตัดสินใจเอง สำหรับเคล็ดลับการเรียนเก่งไม่มีอะไรมาก เพียงแค่ตั้งใจ และพยายามทำความเข้าใจกับการเรียนในห้องเรียน และหมั่นทบทวนบทเรียนอยู่เสมอ แต่ก็มีบ้างที่ไปเรียนพิเศษเพื่อให้มีความรู้ที่แน่นขึ้น อย่างไรก็ตาม ตนยังไม่ค่อยเชื่อมั่นในระบบแอดมิชชัน เพราะการกำหนดค่าน้ำหนักขององค์ประกอบในการแอดมิชชันไม่สามารถคัดผู้ที่มีความสามารถในด้านนั้นๆ ได้จริง เช่น คณะวิศวกรรมศาสตร์ แต่ค่าน้ำหนักไปเน้นที่คะแนนโอเน็ตเยอะมาก ดังนั้นจึงอยากให้ปรับค่าน้ำหนักให้มีความสอดคล้องกับสาขาวิชาต่างๆ ให้มากขึ้น
      
       4. นายศศิพงศ์ ลียวัฒนานุพงศ์ หรือ “เบียร์”  ร.ร.เตรียมอุดมศึกษา  ที่ 9 แอดมิชชัน  คณะเศรษฐศาสตร์ จุฬาฯ


      
       นายศศิพงศ์ ลียวัฒนานุพงศ์ หรือ “เบียร์” จากโรงเรียนเตรียมอุดมศึกษา ได้คะแนนคิดเป็นร้อยละ 81.79 สูงเป็นลำดับ 9 ของการแอดมิชชัน ติดคณะเศรษฐศาสตร์ จุฬาฯ กล่าวว่า หลังทราบว่าสอบติดรู้สึกดีใจมาก เพราะตนเป็นเด็กซิลมาจากคณะวิศวะ จุฬาฯ ไม่ได้คาดหวังว่าจะทำคะแนนได้สูง โดยผลคะแนนที่ใช้ยื่นสมัครแอดมิชชันก็เป้นคะแนนเดิมที่สมัครครั้งที่แล้ว ส่วนสาเหตุที่สมัครสอบใหม่นั้น เนื่องจากเมื่อเรียนไปแล้วรู้สึกว่าไม่ชอบ และไม่มีความสุขเลย จึงคิดว่าควรจะเลือกเรียนในสิ่งที่ตนเองชอบจะดีกว่า
      
       “ผมเรียนวิศวะไปได้สักพักก็รู้สึกว่าไม่ไหวแล้ว มันไม่มีความสุขเลย ผมเลยไม่เข้าเรียน และเกเรไปเลย ซึ่งความรู้สึกไม่ชอบมันเริ่มเป็นมาตั้งแต่ ม.ปลาย ที่ผมลือกเรียนสายวิทย์-คณิต แต่ตอนนั้นหลังจากที่จบ ม.3 จาก จังหวัดปัตตานี ผมก็ไม่รู้ว่าผมจะเลือกเรียนอะไร ไม่รู้ว่าผมชอบอะไร เลยเลือกเรียนสายวิทย์ เพราะเห็นว่ามีทางเลือกมากกว่าสายศิลป์ และไม่รู้ว่าเรียนสายศิลป์จบออกไปประกอบอาชีพอะไรได้บ้าง จนได้เข้าเรียนจึงรู้ว่าไม่ใช่ตนเอง ซึ่งผมคิดว่ากระทรวงศึกษาฯ ควรให้ความสำคัญกับการแนะแนวการศึกษา ทั้งในช่วง ม.3 และเน้นหนักในช่วง ม.ปลาย ซึ่งควรมีกิจกรรมหรือสิ่งที่จะทำให้เด็กค้นหาตัวเองเจอว่าอยากเรียนอะไร ไม่เช่นนั้นก็จะมีปัญหาเหมือนผม ที่สำคัญระบบแอดมิชชันไม่ควรเปลี่ยนไปเปลี่ยนมาบ่อย เพราะเด็กจะวางแผนไม่ได้”
      
       นายศศิพงศ์ กล่าวอีกว่า หลังจากที่คิดว่าจะไม่เรียนวิศวะและสมัครแอดมิชชันใหม่ ตนได้ไปเรียนภาษาอังกฤษซึ่งเป็นข้อด้อยของตนเองเพิ่มเติม เนื่องจากเห็นว่าหากจะเปลี่ยนไปเรียนเศรษฐศาสตรก็ควรจะเติมเต็มเรื่องภาษาอังกฤษ หลังทราบว่าสอบติดรู้สึกมีความสุขมากและตั้งใจว่าจะตั้งใจเรียน

      
       5. น.ส.ศศิลดา ศศิรุ่งเรือง หรือน้องพัย  โรงเรียนเตรียมอุดมศึกษา  ที่ 1 คณะวิทยาศาสตร์ จุฬาฯ


      
       น.ส.ศศิลดา ศศิรุ่งเรือง หรือ น้องพัย นักเรียนโรงเรียนเตรียมอุดมศึกษา คะแนนสูงสุดของคณะวิทยาศาสตร์ จุฬา ร้อยละ 87.07 กล่าวว่า ตนทราบว่าคะแนนรวมค่อนข้างดี แต่ไม่คิดว่าจะติดคณะวิทยาศาสตร์ด้วยคะแนนที่สูงสุดขนาดนี้ ดีใจมาก ที่เลือกคณะวิทยาศาสตร์ เพราะชอบเคมี มีแรงบันดาลใจจากอาจารย์เคมีที่สอนสนุก เข้าใจง่ายโดยเฉพาะอาจารย์เคมีในค่ายศูนย์ส่งเสริมโอลิมปิกวิชาการและพัฒนามาตรฐานวิทยาศาสตร์คณิตศาสตร์ศึกษา (สอวน.)ของสถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี (สสวท.) มีส่วนอย่างมาก ทำให้ประทับใจ อีกทั้งวิชาเคมีสอนให้เป็นคนใช้จินตนาการบวกกับการคิดอย่างมีเหตุผล เนื่องจากต้องเรียนในสิ่งที่เล็กมากมองด้วยตาไม่เห็น ต้องอาศัยการจิตนาการ สิ่งเหล่านี้เป็นประโยชน์และสามารถนำมาประยุกต์ใช้ในชีวิตประจำวัน โตขึ้นอยากเป็นอาจารย์เคมี เนื่องจากคิดว่าประเทศไทย มีอาจารย์เคมีน้อย ประกอบกับรัฐบาลกำลังส่งเสริมการเรียนการสอนด้านวิทยาศาสตร์ จึงคิดว่าหลังตนเรียนจบ งานวิทยาศาสตร์ก็คงเฟื่องฟูและน่าจะมีองค์กรมาสนับสนุนงาน
      
       อย่างไรก็ตาม ยอมรับว่า ตนกวดวิชาช่วงก่อนสอบ แต่คิดว่าคงไม่มีผลถ้าไม่ตั้งใจเรียนในชั้นเรียน และหมั่นทบทวนเนื้อหาความรู้ตลอด 3 ปีที่เรียนมาเพราะเนื้อหาชั้นม.ปลายเยอะมาก เป็นไปไม่ได้เลยที่จะกวดวิชาให้หมดภายใน 2-3 เดือนสุดท้าย ดังนั้น เคล็ดลับจึงอยู่ที่การตั้งใจเรียนในห้องเรียน

      
       6. น.ส.นันทิชา เรืองชัยนิคม หรือน้องโบว์  โรงเรียนเฉลิมขวัญสตรี  ที่ 1 คณะทันตแพทยศาสตร์ จุฬาฯ


      
       น.ส.นันทิชา เรืองชัยนิคม หรือ น้องโบว์ นักเรียนโรงเรียนเฉลิมขวัญสตรี คะแนนสูงสุดของคณะทันตแพทยศาสตร์ จุฬาฯ 83.07 กล่าวว่า ดีใจมากที่ติดคณะทันตแพทยศาสตร์ด้วยคะแนนสูงสุด เพราะใฝ่ฝันอยากเป็นทันตแพทยศาสตร์ สำหรับตนคิดว่าการตั้งใจเรียนในชั้นเรียนมีผลอย่างมาก ประกอบกับโรงเรียนมีโครงการกวดวิชาให้กับนักเรียนนอกเวลา มีการให้ฝึกทำข้อสอบ ทบทวนเนื้อหา ดังนั้นอยากให้โรงเรียนอื่นๆ มีโครงการนี้บ้าง คิดว่า จะเพิ่มโอกาสให้กับนักเรียนเป็นอย่างมาก ทั้งนี้ ส่วนตัวเรียนหนังสือแบบไม่เครียด เพียงแต่ต้องรู้จักจัดสรรเวลาระหว่างเรียนกับการทำกิจกรรมกับเพื่อน
      
       7. น.ส.กัญญารัตน์ อาจชน  ร.ร.วัฒนาวิทยาลัย  ที่ 1 คณะอักษรศาสตร์ จุฬาฯ


      
       น.ส.กัญญารัตน์ อาจชน ร.ร.วัฒนาวิทยาลัย ซึ่งสอบได้คะแนนสูงสุดเป็นอันดับหนึ่งของคณะอักษรศาสตร์ จุฬาฯ กล่าวว่า รู้สึกดีใจมาก แค่สอบติดก็ดีใจแล้ว แต่เมื่อทราบว่าได้อันดับที่หนึ่งก็ยิ่งดีใจมากยิ่งขึ้น โดยคณะอักษรฯ ใช้วิชาภาษาอังกฤษ จีน ภาษาไทย สังคมศึกษา ในการสอบเข้า ซึ่งเป็นวิชาที่ชอบ จึงรู้สึกสนุกกับการเตรียมตัว ไม่กดดัน และที่เลือกเรียนภาษาจีนเพราะเป็นภาษาสำคัญ ซึ่งไม่ว่าจะอยู่ที่ใดของโลกก็มีคนจีนอาศัยอยู่ เราจะได้ใช้เพื่อติดต่อการค้า เพราะจีนเป็นประเทศใหญ่ที่มีความสำคัญทางเศรษฐกิจกับประเทศไทยในอนาคต
      
       “ส่วนเคล็ดลับการเรียนนั้น ยึดหลักว่า การทบทวนสิ่งที่เรียนมาเป็นสิ่งสำคัญที่สุด และจะค่อยๆ อ่านหนังสือสะสมความรู้ และทบทวนตลอดเวลา ไม่โหมหรืออัดแน่นในช่วงใกล้สอบ จัดเวลาเรียนพิเศษให้เหมาะสมรู้จักขีดจำกัดของตนเอง โดยเน้นเรียนตอนปิดเทอม ส่วนช่วงเปิดเทอมก็จะเรียนพิเศษให้น้อยลงและใช้เวลาในการทบทวนเนื้อหา สำหรับเพื่อนๆ ที่พลาดหวังจากการแอดมิชชัน ขอเป็นกำลังใจให้ก้าวเดินต่อไปข้างหน้า ชีวิตของเราไม่ได้ขึ้นกับการสอบเข้ามหาวิทยาลัยได้หรือไม่ แต่อยู่ที่การปฏิบัติตัวเป็นคนดี ช่วยเหลือสังคม ขอให้เรามั่นใจว่าเรามีศักยภาพ ไม่ว่าจะเรียนมหาวิทยาลัยใด ก็ประสบความสำเร็จได้แน่นอน”

      
       8. น.ส.พูลทรัพย์ อารีกิจ  โรงเรียนเบญจมราชูทิศ  ที่ 1 คณะจิตวิทยา จุฬาฯ


      
       น.ส.พูลทรัพย์ อารีกิจ หรือน้องสาม นักเรียนโรงเรียนเบญจมราชูทิศ ราชบุรี คะแนนสูงสุดของคณะจิตวิทยา จุฬาฯ ร้อยละ 81.55 กล่าวว่า รู้สึกดีใจ ส่วนตัวอ่านและทบทวนเนื้อหาในห้องเรียนอย่างดี โดยเฉพาะตอนเรียนม.6 จะปรับตัวแบ่งเวลาระหว่างเรื่องเรียนกับกิจกรรม นอกจากนี้การที่โรงเรียนจัดโครงการติวหนังสือให้กับเด็กม.6 ทุกคน ก็ส่วนอย่างมากกับการที่ตนทำคะแนนสูงขนาดนี้ โตขึ้นตนอยากเรียนจิตวิทยา เพราะเป็นอาชีพที่สามารถเข้าไปทำงานได้กับทุกอาชีพ อีกทั้งเป็นคนที่ชอบให้คำปรึกษาคนด้วย

      
       9. นายธีรวีร์ กุระเดชภพ  โรงเรียนพิษณุโลกพิทยาคม  ที่ 1 คณะรัฐศาสตร์ จุฬาฯ



       นายธีรวีร์ กุระเดชภพ หรือ ม่อน จากโรงเรียนพิษณุโลกพิทยาคม ได้คะแนนร้อยละ 82.12 สูงสุดในคณะรัฐศาสตร์ จุฬาฯ หรือทำคะแนนได้สูงเป็นอันดับ 8 ของแอดมิชชัน กล่าวว่า รู้สึกภูมิใจและดีใจมากที่สอบติดและทำคะแนนได้สูง ซึ่งการเตรียมตัวสอบนั้นจะทยอยอ่านหนังสือไปเรื่อยๆ ทั้งปี โดยไม่กดดันตนเอง พร้อมเมื่อไหร่ก็หยิบมาอ่าน ค่อยๆ อ่านไล่ไปทีละรายวิชา เมื่ออ่านจบแล้วก็อ่านใหม่อีกรอบ จะไม่กดดันตัวเองเกินไป เพราะหากกดดันตนเองอาจจะทำให้จำไม่ได้ ซึ่งที่ผ่านมาพ่อและแม่คอยส่งเสริมด้านการเรียนอย่างเต็มที่ หากอยากซื้อตำราเรียนพ่อกับแม่ก็จะสนับสนุน อนาคตอยากเป็นนักการทูต กระทรวงต่างประเทศ หรือทำงานกับองค์กรระหว่างประเทศ เพราะจะมีโอกาสได้พบเจอผู้คนที่หลากหลาย
      
       “อยากฝากถึงเพื่อนๆ ที่เรียนอยู่ต่างหวัด ผมคิดว่าการเรียนอยู่ใน กทมม. หรือต่างจังหวัด ไม่ใช่ประเด็นสำคัญที่จะทำให้ทำคะแนนได้ดี ขึ้นอยู่กับตัวผู้เรียนว่าจะขวนขวายแค่ไหน เพราะปัจจุบันเทคโนโลยีไปทั่วถึง เพียงแต่ กทม.อาจจะมีโอกาสมากกว่าบ้าง แต่ผมมั่นใจว่าศักยภาพของนักเรียนทั่วประเทศไม่ด้อยไปกว่ากัน และขอฝากว่าองค์ประกอบแอดมิชชันไม่ควรจะเปลี่ยนแปลงบ่อย เพราะจะทำให้เด็กเกิดความวิตกกังวลมาก”


       10. น.ส.บุญญาดา ปลั่งศิริ  โรงเรียนเตรียมอุดมศึกษา  ที่ 1 คณะนิเทศศาสตร์ จุฬาฯ


      
       นางวิระดา ปลั่งศิริ มารดา น.ส..บุญญาดา ปลั่งศิริ นักเรียนโรงเรียนเตรียมอุดมศึกษา คะแนนสูงสุดคณะนิเทศศาสตร์ จุฬาฯ ร้อยละ 87.54 กล่าวว่า ตนและนายบุญคลีไม่ได้มีส่วนต่อการตัดสินใจเลือกคณะของลูกสาว แต่ลูกสาวตัดสินใจเลือกเองโดยตนและนายบุญคลีให้การสนับสนุนทุกเรื่อง ที่ให้ลูกคนเล็กตัดสินใจเอง เพราะลูกคนโตก็เรียนคณะวิศวกรรมศาสตร์ จุฬาฯ ซึ่งจบและเป็นวิศวะแล้ว และคนรองก็กำลังจะจบคณะเศรษฐศาสตร์ จุฬาฯ ทั้งสองคนก็ได้สมใจดังที่นายบุญคลีต้องการ ดังนั้นในส่วนของลูกสาวคนเล็กจึงให้ตัดสินใจว่าอยากจะเรียนทางด้านไหน ส่วนครอบครัวก็ไม่ได้วางแผนว่าลูกสำเร็จการศึกษาแล้วจะทำงานอะไร ให้อำนาจตัดสินใจแก่ลูก อย่างไรก็ตามดีใจและภูมิใจในตัวลูกมากที่ทำคะแนนสูงสุดของคณะนิเทศาสตร์ จุฬาฯ เพราะครอบครัวก็จบจุฬาฯ ทุกคนทั้งพ่อแม่และพี่ๆ รู้ว่าลูกสาวต้องติดคณะนิเทศาสตร์แน่ เพราะคะแนนรวมดีแต่ไม่คิดว่าจะสูงเป็นอันดับหนึ่ง สิ่งที่ภาคภูมิใจในส่วนลูกสาวคนนี้มากที่สุด คือรู้จักแบ่งเวลาระหว่างการเรียนและกิจกรรม โดยเป็นประธานลีดเดอร์ของโรงเรียนเตรียมอุดมศึกษา แข่งลีลาศได้ถ้วยรางวัล แต่ก็ยังคงตั้งใจเรียนและมีผลการเรียนดีมาโดยตลอด ทั้งนี้ลูกสาวสอบได้ทุนรัฐบาลญี่ปุ่น เรียนมหาวิทยาลัยโตได ระดับปริญญาตรี โดยเป็นทุนที่ไม่มีข้อผูกมัด ได้เบี้ยเลี้ยงแสนเยน และถ้าเรียนได้ผลการเรียนดีก็สามารถได้ทุนต่อไปจนถึงปริญญาเอกด้วย ซึ่งตอนนี้ลูกสาวตนก็อยู่ที่ประเทศญี่ปุ่น ตนได้โทรไปแจ้งข่าวแล้ว ก็ดีใจมากและบอกว่าหลังจากกลับจากญี่ปุ่นแล้วจะตัดสินใจอีกครั้งว่าจะเลือกอะไรระหว่างทุนรัฐบาลญี่ปุ่นกับคณะนิเทศศาสตร์ จุฬาฯ ( เนื่องจาก น.ส.บุญญาดา เดินทางไปประเทศญี่ปุ่น )
 
 
 
 
 

      บันทึกการเข้า
Jiab16
Global Moderator
Hero Cmadong Member
*****


ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 2,267

เว็บไซต์
« ตอบ #366 เมื่อ: 08 พฤษภาคม 2552, 13:35:58 »

ส่วนหนุ่มน้อย " บิน " คนนี้  ไม่ได้เป็นข่าวหน้าหนึ่งฉบับไหนทั้งนั้น  แต่พ่อกะแม่คอยช่วยลุ้นว่าเค้าจะได้เรียนต่อที่ไหนน้อ !






ปรากฏว่าเจ้าตัวต้องตัดสินใจเลือก  ระหว่าง " จิตวิทยา จุฬาฯ " กับ " ดนตรีเชิงพาณิชย์ - Electric guitar คณะดุริยางคศาสตร์  ม.ศิลปากร " ซึ่งคะแนนสอบคัดเลือกอยู่ในระดับสูง-ได้รับทุนการศึกษา ... ตัดสินใจดีๆ นะลูก ... แม่คิดว่าถ้าเราเป็นนักจิตวิทยาที่เล่นดนตรีได้  ต่อไปเราก็อาจจะสนใจเรื่อง " ดนตรีบำบัด "  ซึ่งก็จะเป็นประโยชน์มากๆ ในวงการนี้ ... ต้องลุ้นกันอีกแล้ว
      บันทึกการเข้า
khesorn mueller
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: 2527
คณะ: รัฐศาสตร์
กระทู้: 71,885

« ตอบ #367 เมื่อ: 20 พฤษภาคม 2552, 16:00:24 »

พี่เจี๊ยบขา,
เข้ามาเชียร์น้องบิน...
ให้เลือก....จุฬา!
บอกน้าหนิง(แม่น้องไก่ฟ้าคนสวย)
กระซิบมา. (sheมีแผน ยังงัยไม่รุ!)


nn.
      บันทึกการเข้า


khesorn mueller
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: 2527
คณะ: รัฐศาสตร์
กระทู้: 71,885

« ตอบ #368 เมื่อ: 20 พฤษภาคม 2552, 16:04:27 »

เดี๋ยวค่ะพี่เจี๊ยบ,
เดี๋ยวนี้เค้าไม่เรียก"เอ็นทรานส์"แล้วเหรอคะ?
เรียก"แอดมิชชัน" ??
อ่านผ่านๆคิดว่าใครต้องเข้าโรงพยาบาล!


nn.
      บันทึกการเข้า


Jiab16
Global Moderator
Hero Cmadong Member
*****


ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 2,267

เว็บไซต์
« ตอบ #369 เมื่อ: 21 พฤษภาคม 2552, 09:43:23 »

NN ... ขอบคุณที่มาเชียร์  ตกลงบินเลือกเรียนที่จุฬาฯ ค่ะ  ช่วงนี้กำลังเป็นช่วงรับน้องใหม่

รุ่นพวกเรา  การสอบคัดเลือกเข้ามหาวิทยาลัย ( Entrance )  ใช้คะแนนจากข้อสอบที่ออกโดยคณะกรรมการกลางเพียงอย่างเดียว  และให้เลือกคณะที่อยากเรียนได้ 6 อันดับ  แต่เดี๋ยวนี้มารุ่นลูกๆ คะแนนการสอบ admission พิจารณาจาก GPA 30%  บวกคะแนนจาก ONET และ / หรือ ANET ด้วย ( ซึ่งจัดสอบวัดผลโดยสำนักงานคณะกรรมการอุดมศึกษา ) โดยให้เลือกคณะที่อยากเรียนเพียง 4 อันดับ

สกอ. ก็ได้พยายามพัฒนาวิธีการคัดเลือกนักเรียน ม. ปลายเพื่อเข้าเรียนในมหาวิทยาลัยให้มีอำนาจจำแนกสูง และมีความยุติธรรมให้มากที่สุด  แต่ทุกๆ ครั้งที่มีการประกาศหลักเกณฑ์ใหม่  ก็มักจะกระทันหัน  นักเรียนก็จะเครียดกันมาก  เพราะเตรียมตัวไม่ทัน  นักเรียน ( และผู้ปกครอง ) ก็จะบ่นกันอุบ ... โอ้ !  ถ้าจะคุยกันเรื่องนี้  ก็มีเรื่องให้อภิปรายกันได้เป็นวันๆ เลยค่ะ
      บันทึกการเข้า
Jiab16
Global Moderator
Hero Cmadong Member
*****


ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 2,267

เว็บไซต์
« ตอบ #370 เมื่อ: 21 พฤษภาคม 2552, 10:07:19 »

มาชวนกันไปฟังเพลงให้คลายเครียดดีกว่า ...

Concert ... Yesterday Once More‏

ทิพพดี - ครุ 16 ... ส่งมา






โรงแรมใบหยก สกาย ขอเชิญท่านร่วมงานคอนเสิร์ตการกุศล “Yesterday Once More...รำลึกเพลงดังยุค 60s – 70s” เพื่อเป็นการอนุรักษ์เพลงเก่าในอดีตทั้งเพลงไทย และเพลงสากล ในวันเสาร์ที่ 6 มิถุนายน 2552 เวลา 13.30 – 18.00 น. ณ ห้องเรนโบว์ ฮอลล์ ชั้น 17 โรงแรมใบหยก สกาย

ในคอนเสิร์ตจะได้พบกับ

·  คุณรุ่งฤดี แพ่งผ่องใส นักร้องแผ่นเสียงทองคำพระราชทาน ที่จะหวลกลับมาจับไมค์ร้องเพลง ร่วมกับวงสุนทราภรณ์อีกครั้ง พร้อมนักร้องดาวรุ่งสุนทราภรณ์

·  คุณเศรษฐา ศิระฉายา กับบทเพลงแห่งความทรงจำของ The Impossibles

·  Elvis Presley เมืองไทย อาทิ คุณเล็ก เพรสลี่ย์, คุณศตวรรษ ตุงคะรัต ลูกชายคุณวิสูตร ตุงคะรัต

·  วง Bangkok Band กับบทเพลงของ The Beatles

·  และการแสดงโชว์เพลงดิสโก้ชื่อดังในยุค 70s

พร้อมบูธนิทรรศการเรื่องราวเกี่ยวกับศิลปิน และเพลงดังยุค 60s – 70s

บัตรราคา 699 บาทสุทธิ  รวมรับประทานอาหารแบบบุฟเฟต์ และชมวิว ชั้น 77, 84  โดยรายได้หลังหักค่าใช้จ่าย จะมอบให้มูลนิธิสวัสดิการนักแสดงและศิลปินอาวุโส

สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม และสำรองที่นั่ง กรุณาติดต่อ 0-2656-3000 ต่อ 72134

      บันทึกการเข้า
Jiab16
Global Moderator
Hero Cmadong Member
*****


ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 2,267

เว็บไซต์
« ตอบ #371 เมื่อ: 22 พฤษภาคม 2552, 19:01:48 »

เจี๊ยบ คะ

     ถ้าใครไปซื้อบัตรในวันเสาร์ที่ 23 และอาทิตย์ที่ 24 นี้จะได้ลดราคา 20 เปอร์เซ็นต์  น่าสนใจมากคะ ..... ทิพพดี
 
      บันทึกการเข้า
พศินน์
Full Member
**

ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: rcu2535
คณะ: วิศวฯ
กระทู้: 511

« ตอบ #372 เมื่อ: 23 พฤษภาคม 2552, 12:15:53 »

อ้างถึง
ข้อความของ khesorn mueller เมื่อ 20 พฤษภาคม 2552, 16:04:27
เดี๋ยวค่ะพี่เจี๊ยบ,
เดี๋ยวนี้เค้าไม่เรียก"เอ็นทรานส์"แล้วเหรอคะ?
เรียก"แอดมิชชัน" ??
อ่านผ่านๆคิดว่าใครต้องเข้าโรงพยาบาล!


nn.

           
           พี่หนิง กระทรวงศึกษาฯ (เดี๋ยวนี้ไม่มีทบวงมหาวิทยาลัยแล้ว)  เขาเปลี่ยนวิธีการสอบเข้ามหาวิทยาลัย จากแค่ก่อน ใช้คะแนนสอบ ตอนสอบ Entrance อย่างเดียม มาเป็นใช้ คะแนน ตอนเรียน ม.ปลายด้วย เห็นว่า มีสอบสอง ครั้ง ถึงจะเอาคะแนน มายื่น ขอเทียบคะแนน เพื่อเข้า คณะและมหาวิทยาลัย ที่ต้องการ รายละเอียด ผมก็งงๆๆ เหมือนกัน คงต้อง รอความรู้จาก ท่านอื่นๆๆ มาเพิ่มเติม
      บันทึกการเข้า

sound mind in sound body
khesorn mueller
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: 2527
คณะ: รัฐศาสตร์
กระทู้: 71,885

« ตอบ #373 เมื่อ: 26 พฤษภาคม 2552, 02:37:32 »

งงพอสมควรคะพี่เจี๊ยบ น้องพศินน์
แต่เข้าใจคร่าวๆว่าคล้ายๆระบบ "Abitur"
(อ่าน อะ-บิ-ทัว)ของเยอรมันคะ.

ตายล่ะ..ให้กลับมาสอบอีกรอบ ไม่รู้จะติด
จุฬามั้ยนี่...ดีจัง ผ่านมาแล้ว!


nn.
      บันทึกการเข้า


Jiab16
Global Moderator
Hero Cmadong Member
*****


ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 2,267

เว็บไซต์
« ตอบ #374 เมื่อ: 20 มิถุนายน 2552, 00:01:30 »

World's Most Unique 5 Strangely Coloured Beaches‏

Panalu'u Beach
เป็นหาดทรายสีดำอยู่ที่เกาะฮาวาย ทรายสีดำเกิดจากหินภูเขาไฟเย็นตัวลงเมื่อเจอกับน้ำทะเล เล่ากันว่าหากใครนำทรายสีดำกลับบ้านไปด้วย ก็จะถูกสาปแช่งจากเทพแห่งภูเขาไฟ นามว่าเปเล่






Papakolea Beach
เป็นหาดทรายสีเขียวแห่งหนึ่งจากหาดทรายสีเขียวสองแห่งบนโลกนี้  หาดทรายแห่งนี้อยู่ที่เกาะฮาวาย หินทรายสีเขียวที่เห็นเป็นผลึกคริสตัลเกิดจากการกัดเซาะของน้ำ และการกัดกร่อนจากธรรมชาติ






Hyams Beach
หาดทรายสีขาวแห่งนี้อยู่ที่ South Wales ประเทศออสเตรเลีย ได้รับการบันทึกการกินเนสบุ๊คว่าเป็นหาดทรายที่ขาวที่สุดในโลก





Pfeiffer Beach  
หาดทรายแห่งนี้อยู่ที่ Big Sur รัฐแคลิฟอร์เนีย ทรายอุดมไปด้วยแร่แมงกานีสจึงมีสีม่วงปนชมพูอย่างที่เห็นในรูป






Kaihalulu Beach
หาดทรายสีแดงแห่งนี้อยู่ที่เกาะ Maui ฮาวาย สีของดินและทรายจากบริเวณรอบๆ ก็มีสีแดงเช่นกัน ซึ่งลักษณะแบบนี้หาไม่ได้ง่ายนัก









      บันทึกการเข้า
  หน้า: 1 ... 13 14 [15] 16 17 ... 29  ทั้งหมด   ขึ้นบน
  
กระโดดไป:  

     

สมาคมนิสิตเก่าหอพักนิสิต จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย มวลสมาชิกสมาคม คณาจารย์ และนิสิตเก่าทุกคน ขอน้อมเกล้าถวายความอาลัย  พระผู้เสด็จสู่สวรรคาลัย ด้วยเกล้าด้วยกระหม่อม ขอเดชะ <;))))><