khesorn mueller
|
|
« ตอบ #1875 เมื่อ: 03 กันยายน 2556, 14:59:00 » |
|
พญานาคเหรอพี่เริง? หนองคายต้องปลาบึกสิ ในน้ำโขงต้องปลาบึกคะ
|
|
|
|
เริง2520
|
|
« ตอบ #1876 เมื่อ: 03 กันยายน 2556, 15:20:22 » |
|
บั้งไฟจากพญานาค ช่วงออกพรรษาไง (เป็นฟองอากาศปุดจากน้ำโขง เข้าใจกันว่าพญานาคพ่นออกมา)
มหัศจรรย์แห่งลุ่มน้ำโขงบั้งไฟพญานาค เป็นปรากฏการณ์ที่เกิดขึ้นในลำน้ำโขง เฉพาะที่จังหวัดหนองคายเท่านั้น และเจาะจงปรากฏให้เห็นในคืนวันขึ้น 15 ค่ำ เดือน 11 ของทุกปี เว้นแต่ปีใดมีเดือนแปดสองหนตามปฏิทินทางจันทรคติ บั้งไฟพญานาคจะปรากฏให้เห็นเป็นจำนวนมากในคืนแรม 1 ค่ำ เดือน 11
|
|
|
|
khesorn mueller
|
|
« ตอบ #1877 เมื่อ: 03 กันยายน 2556, 16:24:28 » |
|
พี่เริงจะไปรึปล่าวคะ? ไปจริง เก็บบรรยากาศมาฝากคะ เอ๊ะ,ที่ไหนนะที่เมื่อเร็วๆนี้พญานาคโผล่!! ปรากฏคนมาเป็นพันเป็นหมื่น..งานนี้พญานาค กลับไม่โผล่ ตกลงแหกตารึปล่าว ใครแหกใคร หนิงก็ไม่ได้จำ
|
|
|
|
เริง2520
|
|
« ตอบ #1878 เมื่อ: 03 กันยายน 2556, 20:45:47 » |
|
๔ - ๘ กย.ยังไม่มีพญานาค
|
|
|
|
khesorn mueller
|
|
« ตอบ #1879 เมื่อ: 04 กันยายน 2556, 20:38:26 » |
|
หนิงเสร็จลงภาพเที่ยวก่อน จะลุยBristolให้หมดคะ เพราะในเวบที่เข้าไปเค้าแนะไว้เยอะพี่เริง ยังไม่หมดคะ
วันนี้นี่ 4 กย. จุดบั้งไฟกันให้พญานาคสะดุ้ง แม้ปลาบึกก็หดคะ หนวกหูถึงในน้ำ!
|
|
|
|
เหยง 16
|
|
« ตอบ #1880 เมื่อ: 06 กันยายน 2556, 10:18:25 » |
|
NN
มาตามชมภาพน่ะ
|
|
|
|
เริง2520
|
|
« ตอบ #1881 เมื่อ: 07 กันยายน 2556, 05:10:04 » |
|
รอชมนะหนิง
มาหนองคายแต่พักที่อุดรธานี ..เซ็นทารา
ได้ไปบ้านเชียง.. มรดกโลกด้วย
ได้ชมภาพกันต่อไป
|
|
|
|
เหยง 16
|
|
« ตอบ #1882 เมื่อ: 07 กันยายน 2556, 09:21:18 » |
|
น้องเริง
รอชม..ผ่านแต่ไม่เคยแวะเลย ??
|
|
|
|
เหยง 16
|
|
« ตอบ #1883 เมื่อ: 08 กันยายน 2556, 10:12:15 » |
|
สวัสดีน้องเริง
มีสมาชิกอีก 36 รายติดตามข่าวอยู่
|
|
|
|
เริง2520
|
|
« ตอบ #1884 เมื่อ: 08 กันยายน 2556, 17:55:10 » |
|
ไปวัดป่าบ้านตาดด้วย ..รอสักครู่
|
|
|
|
|
|
|
เริง2520
|
|
« ตอบ #1888 เมื่อ: 08 กันยายน 2556, 19:50:05 » |
|
|
|
|
|
เริง2520
|
|
« ตอบ #1889 เมื่อ: 08 กันยายน 2556, 20:23:53 » |
|
|
|
|
|
เริง2520
|
|
« ตอบ #1890 เมื่อ: 08 กันยายน 2556, 20:27:19 » |
|
ไปวัดป่าบ้านตาด
|
|
|
|
เหยง 16
|
|
« ตอบ #1891 เมื่อ: 09 กันยายน 2556, 08:07:30 » |
|
เขียนได้ใจความที่สุด
หลายวัดชอบงานประเภทรื่นเริง เพราะเก็บเงินจากญาติโยมได้มาก
|
|
|
|
เริง2520
|
|
« ตอบ #1892 เมื่อ: 09 กันยายน 2556, 09:25:02 » |
|
มีต่อวัดป่าบ้านตาด
|
|
|
|
เริง2520
|
|
« ตอบ #1893 เมื่อ: 09 กันยายน 2556, 09:34:27 » |
|
มีไปที่นี่ด้วย ภาพจะตามมา
ที่แห่งนี้คือป่าศักดิ์สิทธิ์ ป่าลี้ลับ ป่าอาถรรพ์ … และคือป่าที่มีตำนาน ที่ชาวไทยในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และชาวลาวให้ความนับถือ เพราะเชื่อกันว่าเป็นที่ตั้งของเมืองนาคินทร์ และวังพญานาค ต้นตำนานแม่น้ำโขง เป็นป่าที่มีความน่าสนใจในแง่พฤกษศาสตร์ ที่โลกต้องทึ่ง!!! กับต้นคำชะโนดที่มีอายุนับหลายร้อยปี และมีอยู่ที่เดียว ณ ป่าคำชะโนด
บนพื้นที่ราว 20 ไร่ ณ ต.วังทอง อ.บ้านดุง จ.อุดรธานี คือ ที่ตั้งของ ป่าคำชะโนด ที่ตั้งตามลักษณะภูมิประเทศ เนื่องจากบริเวณนั้นมีต้นชะโนด (อยู่ในตระกูลเดียวกับปาล์ม คล้ายๆ ต้นตาล ต้นหมาก หรือไม่ก็ต้นมะพร้าว แต่สูงกว่า) ขึ้นอยู่อย่างหนาแน่น มองไปทางไหนก็เห็นแต่ทิวชะโนดสูงเด่นเป็นสง่า ปี 2520 เป็นครั้งแรกที่ชาวบ้านได้ทำการสำรวจจำนวนต้นชะโนดในป่าแห่งนี้ มีอยู่ราว 2,000 กว่าต้น จนมาถึงปี 2544 ชาวบ้านสำรวจอีกครั้งพบว่าต้นชะโนดลดลงเหลือเพียง 1,865 ต้น ถึงกระนั้นที่นี่ยังคงความเย็นชื้นและให้บรรยากาศวังเวงเหมือนเดิม แต่ที่น่าแปลกใจคือ หากพ้นจากดงชะโนดแห่งนี้ไป ห่างกันแค่ไม่ถึง 300 เมตร ก็ไม่มีต้นชะโนดปรากฏให้เห็นแม้แต่ต้นเดียว นี่เองจึงทำให้ผืนดินราว 20 ไร่ ถูกตั้งฉายาให้เป็นป่าแห่งชะโนดขนานแท้
"เคยมีคนคิดเอาต้นชะโนดไปปลูกที่อื่นนะ แต่ไม่นานก็ต้องเอากลับมาคืนที่เดิม เพราะชีวิตการงานไม่ก้าวหน้า ชีวิตครอบครัวมีแต่ความเดือดร้อน ขนาดว่าแค่เอาเมล็ด หรือส่วนใดส่วนหนึ่ง อาจจะเป็นใบแห้งๆ ออกจากป่า สุดท้ายต้องเอามาคืนกันหมด" ทองอินทร์ ปักเสติ ชาวบ้านโนนเมือง ซึ่งมีบ้านอยู่ใกล้ๆ กับป่าคำชะโนด กล่าว
|
|
|
|
เริง2520
|
|
« ตอบ #1894 เมื่อ: 09 กันยายน 2556, 09:36:01 » |
|
อย่างไรก็ตามผืนป่าแห่งนี้กลายเป็นสถานที่เลื่องชื่อชั่วข้ามคืน เพราะเรื่องเล่า "ผีจ้างหนังที่คำชะโนด" (คนอีสานเรียก ผีบังบด หรือเมืองลับแล ไม่สามารถมองเห็นได้ทั่วไป นอกเสียจากว่าจะมีอะไรดลใจให้เห็น) …. โดยเมื่อปี พ.ศ.2532 ธงชัย แสงชัย เจ้าของบริษัทหนังเร่ดังกล่าว ได้เล่าว่า ตนเองถูกว่าจ้างจากใครคนหนึ่งให้ไปฉายหนังกลางแปลงที่งานวัด ที่หมู่บ้านวังทอง แถวป่าคำชะโนด ด้วยจำนวนเงิน 4,000 บาท แต่มีข้อแม้คือ ต้องฉายจบแค่ตี 4 ของวันใหม่ และให้ออกจากหมู่บ้านก่อนฟ้าสาง โดยห้ามหันหลังกลับมามอง...
หลังจากที่วางเงินมัดจำเสร็จ เจ้าของหนังก็จัดแจงเตรียมของอุปกรณ์สัมภาระ ฟิล์มหนังที่จะนำไปฉาย ไปกับลูกน้องอีก 4 รวมเป็น 5 คน โดยขึ้นรถบรรทุก 6 ล้อมีหลังคา ออกจากตัวจังหวัดบ่ายแก่ ๆ ขับรถเข้าไปแถวป่าคำชะโนดก็เริ่มมืด ยิ่งขับไปทางเส้นทางตามที่ผู้ว่าจ้างบอกก็ไม่เห็นว่าจะเจอหมู่บ้านหรือคนที่จะมารับ จึงนึกว่าหลงกัน ระหว่างจอดรถว่าจะย้อนกลับไปดีหรือไม่ ก็มีผู้หญิง 2 คนใส่ชุดดำมาร้องเรียกว่าจะนำไปที่วัด คนขับที่เป็นเจ้าของหนังก็รับขึ้นรถ แต่แกก็สงสัยว่า 2 คนนี้โผล่มาจากไหนในที่มืดๆ อย่างนี้ พาหนะอะไรก็ไม่มี
เมื่อขับเข้าไปในหมู่บ้านก็ยิ่งให้ชวนสงสัยใหญ่ว่า ทำไมไม่มีเสียงลำโพงออกมาจากงานวัด ไม่มีเสียง หมอลำ หรือการละเล่นอะไรเลย พอไปถึงหมู่บ้านก็มีคนมารับ แต่แปลกว่าทุกคนจะใส่เสื้อสีขาวกับดำ ถ้าเป็นผู้ชายใส่ชุดขาว ผู้หญิงใส่ชุดดำแยกให้เห็นชัดเจนแม้แต่เด็ก แต่ที่แปลกทุกคนจะทาหน้าขาวหมดเหมือนใช้ครีมพอกหน้า
|
|
|
|
เริง2520
|
|
« ตอบ #1895 เมื่อ: 09 กันยายน 2556, 09:38:26 » |
|
เมื่อถึงที่แล้วทุกคนก็เริ่มตั้งจอภาพยนตร์ เดินสายไฟ และเปิดเครื่องปั่นไฟ ระหว่างที่กำลังกุลีกุจอติดตั้งก็เริ่มเห็นผู้คนทยอยมานั่งดูหนัง แต่จะแยกชายหญิงชัดเจน ไม่นั่งรวมกัน และปกติของงานวัดจะต้องมีแม่ค้าแม่ขายมาขายน้ำ ขายถั่ว ขายปลาหมึกย่าง แต่ที่นี่กลับไม่มีแม่ค้าสักคน พอติดตั้งเสร็จก็เริ่มฉายหนัง หนังที่เอาไปฉายมี 4 เรื่อง เรื่องแรกเป็นหนังสงคราม เรื่องที่ 2 เป็นหนังตลกแอ็คชั่น เรื่องที่ 3 กับ 4 เป็นหนังผี ระหว่างฉายคนพากย์ก็พยายามพากย์ยิงมุกตลกๆ แต่ไม่มีใครหัวเราะหรือแสดงอารมณ์อย่างใดเลย ทั้งๆ ที่ก่อนหน้านี้ไปฉายที่ไหน คนก็จะหัวเราะตลอด
จนเริ่มฉายเรื่องที่ 3 ที่เป็นหนังผี สังเกตท่าทางคนที่มาดูเริ่มตั้งใจดู ทั้งที่บรรยากาศตอนนั้นก็เที่ยงคืนดูน่ากลัวมากๆ ระหว่างนั้นทางเจ้าภาพก็จัดข้าวต้มถ้วยเล็กมาให้ทีมงานฉายหนังกินกัน ทางทีมงานเห็นแล้วก็ละเหี่ยใจ มีแต่ข้าวต้มซีดๆ กะเนื้อชิ้นเล็กๆ แต่เพื่อไม่ให้เป็นการเสียน้ำใจ ทางทีมงานก็เลยกินกัน ปรากฎว่าเป็นข้าวต้มที่อร่อยที่สุดที่เคยกินกันมา หลังจากฉายหนังจบถึงตี 2 ผู้คนก็แยกย้ายกันกลับ แป๊บเดียวก็สลายไปหมด ไม่มีใครเหลืออยู่เลย ทางทีมงานก็เก็บอุปกรณ์ขึ้นรถ โดยมีผู้หญิงสองคนนั่งรถออกมาส่ง ก่อนจะร่ำลาก็จ่ายค่าจ้างที่เหลือซึ่งเป็นเงินเหรียญทั้งหมด พอออกมาส่งถึงปากซอยผู้หญิงสองคนนั้นลงจากรถ พอรถออกตัวคนขับที่เป็นเจ้าของหนังกลางแปลงหันกลับมาดูก็ไม่เห็นผู้หญิง 2 คนนั้นแล้ว
หลังจากกลับมาถึงบริษัท ธงชัย ก็เกิดความสงสัย จึงเช็คประวัติกับผู้ว่าจ้างที่ถ่ายเอกสารให้ตอนวางมัดจำ ก็พบตัวว่ามีชื่อนี้จริง แต่เจ้าตัวบอกว่าไม่เคยไปว่าจ้างใครไปฉายหนังตามวันและเวลาที่บอก เมื่อสงสัยจัดก็เลยสอบถามไปยังเจ้าอาวาสวัดที่เอาหนังไปฉาย ทางเจ้าอาวาสก็บอกว่าในวันนั้นที่วัดไม่ได้มีการจัดงานแต่อย่างใด แต่เจ้าอาวาสเล่าว่า ในคืนวันที่เจ้าของหนังมาบอกว่ามีการฉายหนัง ที่ป่าคำชะโนดจะมีเสียงซู่ๆ เหมือนกับมีพายุพัดเข้ามา ทั้งๆ ที่คืนนั้นไม่มีลมใหญ่พัดมาจากไหนเลย... (?!?)
นอกจากจะมีเรื่องเล่าผีจ้างหนังที่ป่าคำชะโนดแล้ว ผืนป่าแห่งนี้ยังมีเรื่องน่าประหลาดอีกเรื่องคือ เวลาน้ำแล้งก็จะเห็นว่าดินเชื่อมต่อกันไม่มีอะไร แต่เวลาน้ำท่วม ที่ดินรอบๆ จะท่วมหมด แต่ปรากฏว่าป่านี้น้ำไม่ท่วม น้ำขึ้นสูงอย่างไรก็ไม่ท่วม ชาวบ้านจึงเชื่อว่า เกาะนี้ลอยน้ำได้ และเชื่อว่าที่เป็นเช่นนี้เพราะเจ้าที่เป็นคนทำไม่ให้ผืนป่าแห่งนี้จมน้ำ. . .
|
|
|
|
เริง2520
|
|
« ตอบ #1896 เมื่อ: 09 กันยายน 2556, 09:55:39 » |
|
ขณะที่ ทองอินทร์ ปักเสติ ชาวบ้านโนนเมือง ซึ่งมีบ้านอยู่ใกล้ๆ กับป่าคำชะโนด ได้ย้อนถึงเหตุการณ์ที่เคยเกิดขึ้นในป่าคำชะโนดอีกหนึ่งเรื่องเล่าของป่าแห่งนี้ ซึ่งคนภายนอกฟังดูอาจคิดว่าเป็นเรื่องอุปโลกน์ขึ้นมาเพื่อหลอกให้คนกลัวกันเล่นๆ สำหรับชาวบ้านที่อยู่มานานนมกลับเชื่อสนิทใจ ไม่ใช่นิทานปรัมปรา หรือนิยายประโลมโลก แต่นั่นคือแรงศรัทธาที่ชาวบ้านมีต่อป่าอันลี้ลับและเต็มไปด้วยเรื่องเล่ามากมาย …
เดิมทีคนท้องถิ่นจะเรียกที่นี่ว่า "วังนาคินทร์คำชะโนด" ที่มาก็คือมีบ่อน้ำอยู่กลางดงชะโนด เป็นบ่อน้ำขนาดเล็กๆ แต่กลับมีน้ำซึมออกมาตามธรรมชาติตลอดเวลา ทำให้ชาวบ้านเชื่อกันว่าบ่อน้ำประทานมาให้โดยพญานาคที่อาศัยอยู่ในบริเวณผืนป่า สำหรับบ่อน้ำในป่าคำชะโนด ว่ากันว่าเป็นบ่อน้ำที่ความศักดิ์สิทธิ์อย่างมาก ชาวบ้านเชื่อกันอย่างนั้น มีหลายคนเคยลองอธิษฐานตรงหน้าบ่อน้ำก็ได้ตามประสงค์ บางคนเจ็บป่วยไปดื่มหรืออาบโรคร้ายก็หายเป็นปลิดทิ้ง สร้างความอัศจรรย์ใจยิ่งนัก แต่นั่นไม่ใช่ทุกคน อยู่ที่ความเชื่อมีมากน้อยแค่ไหน หลายคนไม่เชื่อแถมยังลบหลู่ ตักน้ำจากบ่อแล้วนำมาล้างเท้าแทนที่จะหายป่วยไข้กลับทุกข์ทรมานซ้ำหนักกว่าเดิม
|
|
|
|
เริง2520
|
|
« ตอบ #1897 เมื่อ: 09 กันยายน 2556, 10:02:11 » |
|
ชะโนด หรือ ค้อสร้อย (อังกฤษ: Taraw palm; ชื่อวิทยาศาสตร์: Livistona saribus) คือ พืชตระกูลปาล์ม พบได้ในเอเชียใต้, เอเชียตะวันออกเฉียงใต้, ออสเตรเลีย และแหลมปลายสุดของทวีปแอฟริกา ลักษณะเป็นปาล์มชนิดหนึ่งไม่มีหนาม มีใบเหมือนใบตาล ลำต้นเหมือนต้นมะพร้าว ลูกเป็นเม็ดเล็ก ๆ คล้ายหมาก สูงเต็มที่ประมาณ 30 เมตร
สำหรับในประเทศไทยกลับเป็นพืชที่หายาก โดยแหล่งที่มีชะโนดมากที่สุดอยู่ในอำเภอบ้านดุง จังหวัดอุดรธานีที่ ๆ เรียกว่า ป่าคำชะโน
|
|
|
|
khesorn mueller
|
|
« ตอบ #1898 เมื่อ: 09 กันยายน 2556, 16:38:13 » |
|
พี่เหยงคะ เดี๋ยวค้นต่อค่ะ หนิงค้นเองอ่านเองเพลิดเพลิน เหมือนไปBristolเองเลยพี่
|
|
|
|
khesorn mueller
|
|
« ตอบ #1899 เมื่อ: 09 กันยายน 2556, 16:40:20 » |
|
พี่เหยงขา 36 ตัวจริงเสียงจริง 6-7? นอกนั้นผีทั้งนั้นพี่...robotไง
|
|
|
|
|