03 มิถุนายน 2567, 23:01:12
ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน


เข้าสู่ระบบด้วยชื่อผู้ใช้ รหัสผ่าน [สมาชิกเก่าลืมรหัส โทร 081-7611760]
A A A A  ระเบียบปฎิบัติ
   
Languages    
  หน้า: 1 ... 10 11 [12] 13 14 ... 16  ทั้งหมด   ลงล่าง
ผู้เขียน หัวข้อ: ข้อคิดคนดัง  (อ่าน 107183 ครั้ง)
0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
BU_MEE
บุคคลทั่วไป
« ตอบ #275 เมื่อ: 13 กุมภาพันธ์ 2551, 13:31:55 »

อ้างจาก: "Pae"
อ้างจาก: "BU_MEE"
ป้าหมี คนจน

แต่อยากรวย  แบบที่หมอดู เดา ไว้ อิ อิ :wink:


ของฝากเนิ้อฝากตัวไว้ก่อน เด้อ



สีแดง น่ะ  เพื่อน เติม ให้หรือ


อืม   ขอบคุณมาก  ที่ทำนาย สิ่ง ล่วงหน้า ดี ดี ไว้ให้ค่ะ

อิ อิ


ป้าหมี
บันทึกการเข้า
BU_MEE
บุคคลทั่วไป
« ตอบ #276 เมื่อ: 13 กุมภาพันธ์ 2551, 13:40:31 »

อ้อ  แล้ว เพื่อนเป้ อย่าลืม

หยวน หยวนล่ะ  ดอกร้อยละ สิบ ต่อ สอง ปี

ต้นไม่ต้องพูดถึง  :wink:
บันทึกการเข้า
yai
Hero Cmadong Member
***


ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 2,489

« ตอบ #277 เมื่อ: 13 กุมภาพันธ์ 2551, 15:58:50 »

อ้างจาก: "akenui"
เดี๋ยวกลับมาอ่าน  แต่ใหญ่ก็สรุปไปให้แล้วนิ Cool


เฮ้ย ไม่ใช่ ไม่ได้สรุป

อยากรวยก็ต้องดูข้อแนะนำตามที่เป้โพสต์ไว้ (อ่านเอง)

แค่อยากบอกอย่างอื่น แค่นั้น
บันทึกการเข้า
akenui
Cmadong พันธุ์แท้
****


ออฟไลน์ ออฟไลน์

คณะ: พาณิชยศาสตร์และการบัญชี
กระทู้: 3,092

« ตอบ #278 เมื่อ: 13 กุมภาพันธ์ 2551, 19:48:13 »

เออ ลืมอ่านไปแล้ว ว่ะ   ปริ้นท์มาอ่านดีกว่า
บันทึกการเข้า

สุดจะทน ก็ต้องทน
Pae
Cmadong พันธุ์แท้
****


ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 3,047

« ตอบ #279 เมื่อ: 14 กุมภาพันธ์ 2551, 07:20:11 »

อ้างจาก: "BU_MEE"
อ้อ  แล้ว เพื่อนเป้ อย่าลืม

หยวน หยวนล่ะ  ดอกร้อยละ สิบ ต่อ สอง ปี

ต้นไม่ต้องพูดถึง  :wink:


เดี๋ยวต้องไปแคะกระปุกนับก่อน ว่ามีเท่าไร :lol:
บันทึกการเข้า
khesorn mueller
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: 2527
คณะ: รัฐศาสตร์
กระทู้: 71,885

« ตอบ #280 เมื่อ: 14 กุมภาพันธ์ 2551, 22:43:20 »

เอาแต่แบ็งค์ เศษสลึงไม่เอาค่ะ
p.bankier
บันทึกการเข้า


wirat
Cmadong พันธุ์แท้
****


ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 4,415

« ตอบ #281 เมื่อ: 27 กุมภาพันธ์ 2551, 18:09:51 »

เพิ่งรู้ ว่า Nike มี คำคม ด้วย คือ

JUST DO IT

จงทำซะ อย่ามัวแต่พูด
บันทึกการเข้า
BU_MEE
บุคคลทั่วไป
« ตอบ #282 เมื่อ: 28 กุมภาพันธ์ 2551, 10:59:49 »

การออม...ลิ่งที่คนไทยยังเข้าใจผิดๆ
 


สรุปจาก  ผู้จัดการออนไลน์ 28 กุมภาพันธ์ 2551 09:34 น.
 
 
       ปัจจุบันเรื่องของการออมเริ่มเข้ามามีบทบาทกับคนไทยมากขึ้น เพราะด้วยสภาพเศรษฐกิจในประเทศที่ยังเดาไม่ออกว่าไปทางไหน ทำให้หลายคนตัดสินใจเก็บออมเงินไว้เป็นดีที่สุด...และเพื่อเป็นข้อมูลให้การเก็บออม "ผู้จัดการรายวัน" ได้นำคำแนะนำดีๆ จาก "วรากรณ์ สามโกเศศ"


สรุปความ  ดังนี้

คนจะจำได้นั้นมีสาเหตุอยู่ 5 ประการคือ

1. ต้องเป็นเรื่องเล่า

2.ต้องเป็นเรื่องที่คาดไม่ถึง

3.ต้องเป็นเรื่องที่เกี่ยวกับอารมณ์

4.เป็นเรื่องที่จับต้องได้

5.เป็นเรื่องที่พอจะเชื่อถือได้ เป็นไปได้


แสดงให้เห็นว่าเรื่องที่พูดกันนั้นเราจำได้เพราะมีองค์ประกอบทั้ง 5 อย่าง แต่เรากลับจำเรื่องการออมไม่ได้ เพราะการออมนั้นเป็นนามธรรมไม่ได้เกี่ยวข้องกับ 5 ประการดังกล่าว ดังนั้นการออมต้องมีการพูดตอกยํ้ากันบ่อยๆ เพราะการออมไม่ได้สะกิดอยู่ในใจตลอดเวลา
       
       นายวรากรณ์ ยังเล่าเรื่องของเศรษฐีคนหนึ่งที่เล่าให้ช่างทำรองเท้าฟังว่า ทำอย่างไรถึงจะรวย โดยเล่าว่าต้องทำเงินที่ได้รับในแต่ละวันแต่ละอาทิตย์ให้เป็นรายได้ของตนเอง โดยเก็บเงินไว้ 15-20% ไว้เป็นของตนเอง ตรงนี้ถึงจะเรียกว่ารายได้ ซึ่งอันนี้ก็คือเงินออมที่เรารู้จัก

ถ้าทุกเดือนเราได้เงินมาแล้วไม่กันส่วนหนึ่งไว้เป็นของตนเองแล้ว ไม่มีวันที่จะเป็นเงินของเราอย่างแท้จริง

1. ประเด็นแรกการออม ต้องพูดเน้นยํ้าตลอดเวลาเพราะเกี่ยวเนื่องกับเรื่องของอนาคต ไม่มีใครในโลกนี้อยู่เพื่ออดีต ไม่มีใครในโลกนี้อยู่เพื่อปัจจุบัน คนที่มีปัญญาเท่านั้นจึงจะอยู่เพื่ออนาคต แต่มนุษย์นั้นไม่มีสันชาติญาณในการอยู่เพื่ออนาคตเท่ากับสัตว์
       
เมื่อเรามีเงินเท่าไหร่ก็จะใช้หมดในปัจจุบันนี้ แต่ไม่คิดที่ออมไปสู่เวลาที่ไกลตัว คนที่ออมได้นั้นต้องเป็นคนที่มีความสามารถในการจินตนการว่าอีก 20 ปีต่อจากนี้จะอยู่ได้อย่างไร เราจะมีรายได้มาจากไหน
       
       2. ประเด็นที่ 2 นั้นที่นักเศษฐศาสตร์ค้นพบคือ การออมนั้นจะเกิดขึ้นได้ยาก เพราะมนุษย์นั้นเป็นสัตว์ที่ชอบผลัดวันประกันพรุ่ง

ยกตัวอย่าง วันสุดท้ายของการยื่นแบบฟอร์มเสียภาษีจะเป็นวันที่คนยื่นมากที่สุด เพราะว่าการออมนั้นเป็นความเจ็บปวด ยกตัวอย่างไปหาหมอฟันรอจนปวดจนทนไม่ไหวถึงจะไปหาหมอฟัน ฉะนั้นการออมเป็นเรื่องที่จะต้องบังคับตนเอง
       
      3.  ประเด็นที่ 3 การออมนั้นเป็นภาพที่เป็นลบ โดยเฉพาะในสังคมไทย สังคมไทยนั้นเป็นสังคมที่ยังไม่ได้เรียนรู้เรื่องของการจัดการเกี่ยวกับการเงิน  เราจะเห็นฝรั่งหรือคนในโลกที่พัฒนาแล้ว จะรู้จักการใช้เงิน จะมีการพักระยะในการใช้เงิน จะมีการวางแผนการใช้เงินตั้งแต่อายุยังน้อย

แต่บ้านเรานั้น มีความรู้ในเรื่องเหล่านี้น้อยมากพึ่งมาถึงตัวในรอบ 10 ปีนี้เอง ฉะนั้นการออมเป็นเรื่องลบเป็นเรื่องที่ปวดใจ เป็นเรื่องที่ไม่น่าคิด เพราะว่าคนไทยนั้นไม่ชอบมีวินัย ฉะนั้นประเด็นที่ 3 ต้องทำการออมให้เป็นบวก ทำอย่างไรให้การออมที่เป็นลบนั้นกลายเป็นบวก ซึ่งส่วนตัวคิดว่าอยู่ที่เป้าหมาย เพราะว่าการออมนั้นคือการก้าวไปอีก 1 ขั้น เพื่อเข้าสู่เป้าหมาย การออมนั้นไม่ใช่เรื่องน่าเสียใจ น่าร้องให้ แต่เป็นการทำให้เงินของเรานั้นเป็นรายได้ของเราในแต่ละเดือน
       
4.   ประเด็นสุดท้าย คือ คนไทยนั้นเข้าใจผิดอยู่มาก การที่เป็นคนเค็ม เป็นคนตระหนี่ การที่คนประหยัดคนไทยจะเหมาว่าคนประหยัดนั้นเป็นคนน่ารังเกียจ เป็นคนเค็ม เป็นคนเห็นแก่ตัว

ซึ่งในต่างประเทศนั้นเป็นเรื่องธรรมดามากที่คนจะดูแลเรื่องการใช้จ่ายของตนเอง เพราะว่าเงินนั้นจำกัด ถ้าไม่ออมไว้เพื่ออนาคตก็ไม่มีใครมาช่วยคุณ

แต่สังคมไทยมักจะเหมามองว่าเป็นคนตระหนี่เป็นคนเห็นแก่ตัว ซึ่งมันไม่ใช่ คนสุรุ่ยสุร่ายเห็นแก่ตัวมีเยอะแยะ การตระหนี่คือการรู้จักที่จะออม การใช้เงินนั้นเป็นแบบแผนของการดำรงชีวิตอย่างหนึ่ง

ในลาว ในเวียดนาม เขมร ในอินเดียนั้น คนไปทำงานเค้าก็เอาข้าวใส่กระติกไปกิน แต่ถ้าคนไทยทำอย่างนั้นจะเป็นเรื่องน่ารังเกียจมาก
บันทึกการเข้า
BU_MEE
บุคคลทั่วไป
« ตอบ #283 เมื่อ: 28 กุมภาพันธ์ 2551, 11:00:42 »

ทำอย่างไรจึงไปสู่เรื่องของการลงทุนได้

1. ประเด็นแรกของการออมก็คือว่า การออมนั้นเกิดขึ้นมาได้จากรายได้มากกว่ารายจ่าย

ให้จินตนาการว่า เรามีถังนํ้าไปหนึ่ง นํ้าที่เข้าก็คือเงิน ก็อกนํ้าที่ไหลเข้าคือรายได้ที่ไหล และก็มีทางออกคือรายจ่าย นํ้าที่เหลือก็คือเงินออม ต่อให้นํ้าไหลเข้าแรงเท่าไหร่ มีรายได้มากเท่าไหร่ ในแต่ละเดือนถ้าก็อกนํ้าที่ว่าไหลออกในอัตราเดียวมันไม่มีวันเก็บนํ้าไว้ได้ แต่ถ้านํ้าที่ไหลเข้ามาในอัตราไม่มากปานกลาง แต่รูที่ไหลออกมีน้อยต่อให้นํ้าที่ไหลเข้าน้อยกว่านํ้าเมื่อกี้ แต่นี้การออมก็เกิดขึ้นได้
       
       เพราะฉะนั้นเงินออมที่เกิดขึ้นได้ เป็นผลพวงมาจากดุลยภาพระหว่างรายได้คือนํ้าที่ไหลเข้ากับรายจ่ายคือนํ้าที่ไหลออก รายได้ไม่สำคัญแต่การรู้จักใช้จ่ายสำคัญกว่า การระวังการใช้จ่ายท่ามกลางรายได้ที่จำกัดนี้สำคัญ และถ้ามีก็อกนํ้าไหลเพิ่มอีกก็อกหนึ่งรายจ่ายควบคุมดี อีกก็อกมาจากเงินออมที่มีได้แล้วเอาไปทำงานให้เงินเหล่านั้น รับใช้ด้วยการซื้อกองทุนรวมก็จะมีเงินปันผลไหลเข้ามาในแต่ละเดือน
       
      2.  การตั้งคำถามเป็นเรื่องที่สำคัญมาก ตั้งคำถามถูกเราได้คำตอบที่ดี ตั้งคำถามไม่ดีเราก็ได้คำตอบไม่ดี ยกตัวอย่าง ผู้หญิงคนหนึ่งตั้งคำถามว่าทำอย่างไรจะให้แฟนถูกใจ แต่ต้องถามว่าทำไมเราต้องตกอยู่ในสภาพนี้
       
       3. อีกประเด็น คือ ถ้าจะลงทุนต้องมองในแง่มุมใหม่ๆ  ยกตัวอย่าง สามีคนหนึ่งทำกุญแจหายในที่มืดแต่มองหากุญแจในที่สว่าง ฉะนั้นการลงทุนต้องมองอะไรใหม่ๆ
       
      4.  ต้องกล้าที่จะรับความเสี่ยง ยกตัวอย่าง โจรที่จะขโมยของจากเศรษฐีซึ่งพักที่เดียวกันในระหว่างเดินทาง แต่หากุญแจจากเศรษฐีไม่เจอ เพราะเศรษฐีคนนั้นซ่อนกุญแจไว้ที่ใต้หมอนของโจร ฉะนั้นจะลงทุนต้องกล้ารับความเสี่ยงต้องรู้จักตนเอง ทำอย่างไรที่จะทักษะมากขึ้นกว่าเดิม
บันทึกการเข้า
BU_MEE
บุคคลทั่วไป
« ตอบ #284 เมื่อ: 28 กุมภาพันธ์ 2551, 11:02:21 »

สรุปความ แบบง่าย ๆว่า

1. ทำงานหนัก ที่ทำให้เรามีรายได้เพิ่ม

2. รู้จัก เก็บเงินที่หามาได้   ...ใช้จ่ายให้น้อย  เก็บให้มาก

3. ลงทุน อย่างฉลาด

4. อดทน ที่จะ ออม และลงทุน

5. สำรวจกระเป่าเรา

6. วางแผน ทำอย่างไร จะอยู่ได้อย่างมีความสุข ในวัย เกษียณ


ถูกป่าว ไม่รู้
บันทึกการเข้า
BU_MEE
บุคคลทั่วไป
« ตอบ #285 เมื่อ: 28 กุมภาพันธ์ 2551, 11:21:33 »



การออม เป็นวัฒนธรรม
ของมนุษย์ชาติ

 และเป็นส่วนหนึ่งในวิถีชีวิตของคนเรา

เงินออมนับว่าเป็นทรัพย์สินที่มีค่า

ทั้งเป็นหลักประกันอันมั่นคงสำหรับชีวิตในอนาคต

วัฒนธรรมการเก็บออมและรักษาไว้ให้ตลอดปลอดภัย
บันทึกการเข้า
Pae
Cmadong พันธุ์แท้
****


ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 3,047

« ตอบ #286 เมื่อ: 28 กุมภาพันธ์ 2551, 16:57:40 »

ขอบคุณครับ
ได้รู้วิธีแล้ว
ต่อไปต้องฝีกปฏิบัติ
บันทึกการเข้า
iamfrommoon
Cmadong ชั้นเซียน
*****


ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: 2535
คณะ: พาณิชยศาสตร์และการบัญชี
กระทู้: 8,396

เว็บไซต์
« ตอบ #287 เมื่อ: 28 กุมภาพันธ์ 2551, 17:00:15 »

ขอบคุณค่ะพี่หมี...พยายามทำให้ได้อยู่ค่ะ...สู้โว้ย!
บันทึกการเข้า

@@ธรรมชาติสร้างความขัดแย้ง เพื่อให้คนเรียนรู้ซึ่งกันและกันได้ดียิ่งขึ้น@@@

wirat
Cmadong พันธุ์แท้
****


ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 4,415

« ตอบ #288 เมื่อ: 28 กุมภาพันธ์ 2551, 19:54:05 »

งั้น ต้องเริ่ม กิน ข้าวให้ หมดจาน
บันทึกการเข้า
เจษฎา
Cmadong พันธุ์แท้
****


the more you get ,the less you feel
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 4,682

« ตอบ #289 เมื่อ: 29 กุมภาพันธ์ 2551, 01:10:01 »

อยากบอกว่าเห็นต่าง และวรากรณ์คิดแบบฝรั่งมากไป แต่มันอาจจะเป็นเช่นนั้นได้เพราะปฏิเสธไม่ได้ ว่าคุณค่าและวิถีแห่งความเอื้อเฟื้อแบบตะวันออก ได้ถูกทำลายให้เราโดดเดี่ยวมากขึ้นมีเวลาน้อยลง ในนามของการเติบโตของเศรษฐกิจ เรื่องนี้ทำให้ผมคิดถึงนิทานเรื่องหนึ่งที่มีคนจับปลามาได้ และคิดได้ว่าการจะทำให้ปลาที่หามาได้มีกินนานที่สุดคือการนำไปแบ่งปันเพื่อนบ้าน จริงหรือไม่ที่เราอยู่ในยุคสมัยที่อยู่ดีกินดี ข้าวปลาอาหารอุดมสมบูรณ์จนเทศกาลตรุษจีนที่เฝ้ารอเพราะมีหมูเห็ดเป็ดไก่กินนั้นหมดความหมายเพราะเรากินกันปรีดิ์เปรมอยู่ทุกเมื่อเชื่อวันอยู่แล้ว ยังนอนดึกอยู่ใช่ไหม เธออ้วนไปหรือเปล่า ท่อนนึงที่ล้อเลียนเพลงดัง แต่มันทำให้ได้คิด ว่าพวกเราอ้วนกันมากไปรึเปล่า ในนามของการเติบโตของทุน และเศรษฐกิจ บรรษัทและนักโฆษณาพร่ำบอกเราทุกวิถีทางว่า "You want more" จงวิ่งต่อไปจนกว่าจะตายพวกหนูถีบจักรที่ไร้สติ
บันทึกการเข้า

ไม่หล่อ แต่ไม่ค่อยว่าง
BU_MEE
บุคคลทั่วไป
« ตอบ #290 เมื่อ: 29 กุมภาพันธ์ 2551, 15:10:48 »

เคยอ่านเจอ


เขาบอกว่า

เวลาที่บอกว่า เงินจะใช้ยังไม่พอเลย หรือไม่ก็  เหลือเก็บนะ แต่ไม่มาก


เพราะ ว่า  เรา มัวแต่ อันโน้นก็จำเป็น อันนี้ ก็อยากได้  เห็นอะไร ก็ต้องการไปหมด


จริง ๆ แล้ว ใช้ให้น้อยแหละดี   เพราะ เงิน ยัง มีที่ใช้อีกมาก  


.....ตนเตือนตน
บันทึกการเข้า
yai
Hero Cmadong Member
***


ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 2,489

« ตอบ #291 เมื่อ: 29 กุมภาพันธ์ 2551, 16:36:47 »

อ้างจาก: "เจษฎา หรร"
อยากบอกว่าเห็นต่าง และวรากรณ์คิดแบบฝรั่งมากไป แต่มันอาจจะเป็นเช่นนั้นได้เพราะปฏิเสธไม่ได้ ว่าคุณค่าและวิถีแห่งความเอื้อเฟื้อแบบตะวันออก ได้ถูกทำลายให้เราโดดเดี่ยวมากขึ้นมีเวลาน้อยลง ในนามของการเติบโตของเศรษฐกิจ เรื่องนี้ทำให้ผมคิดถึงนิทานเรื่องหนึ่งที่มีคนจับปลามาได้ และคิดได้ว่าการจะทำให้ปลาที่หามาได้มีกินนานที่สุดคือการนำไปแบ่งปันเพื่อนบ้าน จริงหรือไม่ที่เราอยู่ในยุคสมัยที่อยู่ดีกินดี ข้าวปลาอาหารอุดมสมบูรณ์จนเทศกาลตรุษจีนที่เฝ้ารอเพราะมีหมูเห็ดเป็ดไก่กินนั้นหมดความหมายเพราะเรากินกันปรีดิ์เปรมอยู่ทุกเมื่อเชื่อวันอยู่แล้ว ยังนอนดึกอยู่ใช่ไหม เธออ้วนไปหรือเปล่า ท่อนนึงที่ล้อเลียนเพลงดัง แต่มันทำให้ได้คิด ว่าพวกเราอ้วนกันมากไปรึเปล่า ในนามของการเติบโตของทุน และเศรษฐกิจ บรรษัทและนักโฆษณาพร่ำบอกเราทุกวิถีทางว่า "You want more" จงวิ่งต่อไปจนกว่าจะตายพวกหนูถีบจักรที่ไร้สติ


ขอบคุณที่แชร์
บันทึกการเข้า
BU_MEE
บุคคลทั่วไป
« ตอบ #292 เมื่อ: 01 มีนาคม 2551, 15:44:50 »

^

^

มาแบบทางการ


นะคะ
บันทึกการเข้า
akenui
Cmadong พันธุ์แท้
****


ออฟไลน์ ออฟไลน์

คณะ: พาณิชยศาสตร์และการบัญชี
กระทู้: 3,092

« ตอบ #293 เมื่อ: 02 มีนาคม 2551, 14:11:46 »

ใหญ่มันก็งี้แหละ ประจำ
บันทึกการเข้า

สุดจะทน ก็ต้องทน
wirat
Cmadong พันธุ์แท้
****


ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 4,415

« ตอบ #294 เมื่อ: 02 มีนาคม 2551, 14:15:42 »

เจษ ใช่ท่าน วรากรณื สามโกเศษ เปล่า
บันทึกการเข้า
เจษฎา
Cmadong พันธุ์แท้
****


the more you get ,the less you feel
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 4,682

« ตอบ #295 เมื่อ: 02 มีนาคม 2551, 14:18:59 »

ใช่จ่ะ ป้อม เจ้าของผลงานไตรภาค กับสำนักพิมพ์โอเพนบุ๊ค
บันทึกการเข้า

ไม่หล่อ แต่ไม่ค่อยว่าง
wirat
Cmadong พันธุ์แท้
****


ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 4,415

« ตอบ #296 เมื่อ: 02 มีนาคม 2551, 14:20:14 »

ไม่ค่อยได้อ่านงานของท่านได้แต่ฟัง
บันทึกการเข้า
เจษฎา
Cmadong พันธุ์แท้
****


the more you get ,the less you feel
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 4,682

« ตอบ #297 เมื่อ: 02 มีนาคม 2551, 14:21:41 »

ตื่นเช้างั้นเชียว ป้อม
บันทึกการเข้า

ไม่หล่อ แต่ไม่ค่อยว่าง
wirat
Cmadong พันธุ์แท้
****


ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 4,415

« ตอบ #298 เมื่อ: 02 มีนาคม 2551, 14:22:44 »

แก่แล้ว ตื่นเช้า

ยังมี อ.จิระ หงส์ลดารมณ์
บันทึกการเข้า
akenui
Cmadong พันธุ์แท้
****


ออฟไลน์ ออฟไลน์

คณะ: พาณิชยศาสตร์และการบัญชี
กระทู้: 3,092

« ตอบ #299 เมื่อ: 02 มีนาคม 2551, 14:23:16 »

ตื่นมาซักผ้า
บันทึกการเข้า

สุดจะทน ก็ต้องทน
  หน้า: 1 ... 10 11 [12] 13 14 ... 16  ทั้งหมด   ขึ้นบน
  
กระโดดไป:  

     

สมาคมนิสิตเก่าหอพักนิสิต จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย มวลสมาชิกสมาคม คณาจารย์ และนิสิตเก่าทุกคน ขอน้อมเกล้าถวายความอาลัย  พระผู้เสด็จสู่สวรรคาลัย ด้วยเกล้าด้วยกระหม่อม ขอเดชะ <;))))><