03 มิถุนายน 2567, 22:05:22
ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน


เข้าสู่ระบบด้วยชื่อผู้ใช้ รหัสผ่าน [สมาชิกเก่าลืมรหัส โทร 081-7611760]
A A A A  ระเบียบปฎิบัติ
   
Languages    
  หน้า: 1 ... 9 10 [11] 12 13 ... 16  ทั้งหมด   ลงล่าง
ผู้เขียน หัวข้อ: ข้อคิดคนดัง  (อ่าน 107174 ครั้ง)
0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
yai
Hero Cmadong Member
***


ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 2,489

« ตอบ #250 เมื่อ: 09 กุมภาพันธ์ 2551, 21:33:44 »

อ้างจาก: "wirat"
วอร์เรน บัฟเฟตต์ ความสำเร็จของเขานั้น “ไม่ใช่การฆ่ามังกรแต่เป็นการหลบหลีกมันให้พ้น”

จบ


โห บัฟเฟต์ เล่นกับมังกรเลยหรือ หนังสือแปลมา หรือพยายามเปรียบเทียบวะ
บันทึกการเข้า
BU_MEE
บุคคลทั่วไป
« ตอบ #251 เมื่อ: 09 กุมภาพันธ์ 2551, 21:39:32 »

อ้างจาก: "yai"
อ้างจาก: "wirat"
วอร์เรน บัฟเฟตต์ ความสำเร็จของเขานั้น “ไม่ใช่การฆ่ามังกรแต่เป็นการหลบหลีกมันให้พ้น”

จบ


โห บัฟเฟต์ เล่นกับมังกรเลยหรือ หนังสือแปลมา หรือพยายามเปรียบเทียบวะ


 :shock:
บันทึกการเข้า
yai
Hero Cmadong Member
***


ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 2,489

« ตอบ #252 เมื่อ: 09 กุมภาพันธ์ 2551, 21:41:13 »

คือ ผมความรู้น้อยหน่ะ

เขาอาจจะพูดจริง ๆก็ได้ ขอคอนเฟิร์มกับหลานป้อมหน่อย
บันทึกการเข้า
yai
Hero Cmadong Member
***


ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 2,489

« ตอบ #253 เมื่อ: 09 กุมภาพันธ์ 2551, 21:55:45 »

เพิ่งอ่าน My life as a coach ของซิคเว่  บรัคเค่ จบ (CEO Dtac)

ชอบคำ quote ที่เอามาจากคนหลากหลายอาชีพ (อ่านเข้าใจง่าย ๆ)

และมีข้อเตือนใจที่เขาเอาไปใช้ในงาน

เนื้อหามีหลายอย่างน่าสนใจ เช่น เกี่ยวกับ การกล้าแสดงความคิดเห็น กล้าที่จะผิด

แล้วเรียนรู้ไปข้างหน้า กล้าที่จะทำสิ่งแปลกใหม่

มีคำพูดที่ผมชอบหลาย ๆ ประโยค , วลี เช่น

- Leaders don't create 'followers'. They create 'leaders'. - Tom Peter

- Fail sooner , succeed faster. - David Kelly

-Courage is what it takes to stand up and speak ; courage is also what it

takes to sit down and listen - Winston Churchill

-When written in Chinese , the word "crisis" is composed of two

characters - one represents danger and the other represents

opportunity. - John F. Kenedy

กำลังอ่านหนังสือ โดนัล  ทรัมป์ อยู่ แล้วจะเอามาฝาก
บันทึกการเข้า
yai
Hero Cmadong Member
***


ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 2,489

« ตอบ #254 เมื่อ: 09 กุมภาพันธ์ 2551, 22:00:00 »

เป้ ผมอ่าน the world is flat เล่นหนึ่งจบแล้วนะ (หลังจากอ่านเล่มสองจบไปก่อนหน้านี้แล้ว)

เคยคุยกับคุย ที่ไหนในบอร์ดนี้สักแห่ง แต่ไม่เป็นไร

ไอ้เล่มสามเนี่ย ดูเหมือนคุณจะบอกว่ามันซ้ำไปซ้ำมาใช่ไหม

เดี๋ยวถ้าหนังสือมา จะลองชิมลางดูแล้ว จะมาถกด้วย
บันทึกการเข้า
เจษฎา
Cmadong พันธุ์แท้
****


the more you get ,the less you feel
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 4,682

« ตอบ #255 เมื่อ: 10 กุมภาพันธ์ 2551, 07:05:28 »

Yai don't forget to try "my life as a dog" use google for searching....
บันทึกการเข้า

ไม่หล่อ แต่ไม่ค่อยว่าง
Pae
Cmadong พันธุ์แท้
****


ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 3,047

« ตอบ #256 เมื่อ: 10 กุมภาพันธ์ 2551, 11:01:31 »

อ้างจาก: "yai"
เป้ ผมอ่าน the world is flat เล่นหนึ่งจบแล้วนะ (หลังจากอ่านเล่มสองจบไปก่อนหน้านี้แล้ว)

เคยคุยกับคุย ที่ไหนในบอร์ดนี้สักแห่ง แต่ไม่เป็นไร

ไอ้เล่มสามเนี่ย ดูเหมือนคุณจะบอกว่ามันซ้ำไปซ้ำมาใช่ไหม

เดี๋ยวถ้าหนังสือมา จะลองชิมลางดูแล้ว จะมาถกด้วย


ผมใช้เวลาหลายวัน กว่าจะอ่านจบน่ะ เล่มสาม

ตอนนี้ อ่าน ไชน่าดอด อิงค์ ถึงบทสุดท้ายแล้ว
ให้มุมมองเกี่ยวกับจีนที่ต่างออกไปจากเล่มอื่นๆ

ทรัพป์ เคยอ่านแล้ว สรุปได้ว่า ลูกสาวแกสวยดี

ซีอีโด ดีแทค ยังไม่ได้อ่าน
กลับไปจะลองไปหามาอ่านบ้างดิ
บันทึกการเข้า
yai
Hero Cmadong Member
***


ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 2,489

« ตอบ #257 เมื่อ: 10 กุมภาพันธ์ 2551, 12:27:57 »

อ้างจาก: "Pae"
อ้างจาก: "yai"
เป้ ผมอ่าน the world is flat เล่นหนึ่งจบแล้วนะ (หลังจากอ่านเล่มสองจบไปก่อนหน้านี้แล้ว)

เคยคุยกับคุย ที่ไหนในบอร์ดนี้สักแห่ง แต่ไม่เป็นไร

ไอ้เล่มสามเนี่ย ดูเหมือนคุณจะบอกว่ามันซ้ำไปซ้ำมาใช่ไหม

เดี๋ยวถ้าหนังสือมา จะลองชิมลางดูแล้ว จะมาถกด้วย


ผมใช้เวลาหลายวัน กว่าจะอ่านจบน่ะ เล่มสาม

ตอนนี้ อ่าน ไชน่าดอด อิงค์ ถึงบทสุดท้ายแล้ว
ให้มุมมองเกี่ยวกับจีนที่ต่างออกไปจากเล่มอื่นๆ

ทรัพป์ เคยอ่านแล้ว สรุปได้ว่า ลูกสาวแกสวยดี

ซีอีโด ดีแทค ยังไม่ได้อ่าน
กลับไปจะลองไปหามาอ่านบ้างดิ


น่าสนใจ

ของ ทรัมป์ มันมีหลายเล่ม

เล่มที่ผมอ่าน ยังไม่เห็นรูปลูกสาวเลยนะ
บันทึกการเข้า
yai
Hero Cmadong Member
***


ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 2,489

« ตอบ #258 เมื่อ: 10 กุมภาพันธ์ 2551, 12:49:28 »

อ้างจาก: "เจษฎา หรร"
Yai don't forget to try "my life as a dog" use google for searching....


ของ "ระริน" สำนักพิมพ์ อิมเมจ ใช่ไหม
บันทึกการเข้า
Pae
Cmadong พันธุ์แท้
****


ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 3,047

« ตอบ #259 เมื่อ: 10 กุมภาพันธ์ 2551, 13:09:56 »

Ivanka Trumps

บันทึกการเข้า
yai
Hero Cmadong Member
***


ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 2,489

« ตอบ #260 เมื่อ: 10 กุมภาพันธ์ 2551, 16:18:33 »

เอามะพร้าวห้าว มาขายสวน  Cheesy
บันทึกการเข้า
Pae
Cmadong พันธุ์แท้
****


ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 3,047

« ตอบ #261 เมื่อ: 10 กุมภาพันธ์ 2551, 17:13:36 »

อ้างจาก: "yai"
เอามะพร้าวห้าว มาขายสวน  Cheesy


ไม่หรอก ใหญ่
พอดีรู้จัก เพราะเขาเป็นข่าวประมาณ ครึ่งปีได้แล้วมั้ง
ว่าเป็น ลูกเศรษฐี ที่มีความสามารถ ไม่แพ้พ่อ แล้ว สวยด้วยประมาณนั้น

ไม่แน่ใจว่า ดูจากช่อง E หรือ CNBC
ในข่าวเห็นว่าเริ่มทำธุรกิจเอง แล้วประสบความสำเร็จด้วย
บันทึกการเข้า
Pae
Cmadong พันธุ์แท้
****


ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 3,047

« ตอบ #262 เมื่อ: 10 กุมภาพันธ์ 2551, 17:15:45 »

พอดี สวยดี เลยจำได้ อิอิ
บันทึกการเข้า
yai
Hero Cmadong Member
***


ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 2,489

« ตอบ #263 เมื่อ: 10 กุมภาพันธ์ 2551, 20:26:37 »

ทำความเข้าใจกันหน่อย เป้

ผมหมายถึง "มะพร้าว สองลูก" หนะ

ไม่ได้จะไปพาดพิงสุภาษิต หรอก
บันทึกการเข้า
Pae
Cmadong พันธุ์แท้
****


ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 3,047

« ตอบ #264 เมื่อ: 11 กุมภาพันธ์ 2551, 06:49:45 »

อ้าวเหรอ
ผมว่ามันมีพร้าวอ่อนหนา
บันทึกการเข้า
wirat
Cmadong พันธุ์แท้
****


ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 4,415

« ตอบ #265 เมื่อ: 11 กุมภาพันธ์ 2551, 08:09:13 »

อ้างจาก: "yai"
ทำความเข้าใจกันหน่อย เป้

ผมหมายถึง "มะพร้าว สองลูก" หนะ

ไม่ได้จะไปพาดพิงสุภาษิต หรอก

กูว่าแล้ว
บันทึกการเข้า
yai
Hero Cmadong Member
***


ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 2,489

« ตอบ #266 เมื่อ: 11 กุมภาพันธ์ 2551, 11:43:53 »

ป้อม ไม่ค่อยปั่นเลยนะช่วงนี้
บันทึกการเข้า
wirat
Cmadong พันธุ์แท้
****


ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 4,415

« ตอบ #267 เมื่อ: 11 กุมภาพันธ์ 2551, 16:13:24 »

มีแต่ปั่นตามน้ำ น่ะ ใหญ่

แถม ช่วงบ่ายแทบ ตาย

เข้า Web ไม่ได้
บันทึกการเข้า
Pae
Cmadong พันธุ์แท้
****


ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 3,047

« ตอบ #268 เมื่อ: 13 กุมภาพันธ์ 2551, 08:56:09 »

คนรวย VS คนชั้นกลาง

โลกในมุมมองของ Value Investor
ดร. นิเวศน์ เหมวชิรวรากร    12  กุมภาพันธ์ 2551

                ผมได้อ่านหนังสือเล่มเล็ก ๆ  เล่มหนึ่งเขียนโดย Keith Cameron Smith เรื่องความแตกต่างที่โดดเด่น  10 ข้อ ระหว่างคนรวยกับคนชั้นกลาง  และเห็นว่ามันมีความเป็นจริงอยู่พอสมควรจากการสังเกตของผม   ดังนั้น  จึงขอนำมาเผยแพร่เพื่อที่ว่าเราจะได้รู้ว่าเราอยู่ในด้านไหนของสังคมและจะต้องทำอย่างไรเพื่อที่ว่าเราจะได้ย้ายจากการมีแนวโน้มที่จะเป็นคนชั้นกลางสู่การเป็นคนรวย

                ความแตกต่างข้อแรกก็คือ  เศรษฐีนั้นคิดยาวแต่คนชั้นกลางคิดสั้น   ว่าที่จริงคนที่คิดสั้นที่สุดก็คือคนจน  พวกเขามักจะคิดอะไรแบบวันต่อวันทำนองหาเช้ากินค่ำ   คนชั้นกลางนั้นมักจะคิดเป็นเดือนต่อเดือน  นั่นคือคิดถึงวันเงินเดือนออก   แต่คนรวยจะต้องคิดยาวเป็นปี ๆ  หรือเป็นสิบ ๆ ปี   ในใจของคนจนนั้น  เขามักคิดแต่เฉพาะเรื่องของความอยู่รอดเป็นหลัก  ในขณะที่คนชั้นกลางคิดถึงเรื่องความสุขสบายจากการจับจ่ายใช้สอยสินค้า   ส่วนคนรวยนั้น   เป้าหมายของพวกเขาชัดเจน   เขาต้องการความเป็นอิสระทางการเงิน      การคิดยาวนั้นมีพลังมหาศาล  เพราะมันจะทำให้เขาอดออมและลงทุนระยะยาวซึ่งจะทำให้เงินงอกเงยแบบทบต้นเป็นเวลานาน  และนี่คือสูตรสำคัญที่สุดในการที่จะทำให้คนมั่งคั่ง

                ข้อสอง   คนรวยพูดเกี่ยวกับเรื่องไอเดีย  คนชั้นกลางพูดเกี่ยวกับสิ่งของ  และคนจนพูดถึงเรื่องของคนอื่น    นี่คงไม่ได้หมายถึงว่าคนรวยไม่พูดเกี่ยวกับเรื่องของสิ่งของหรือคนอื่น   แต่หมายถึงว่าคนรวยจะพูดถึงเรื่องของคนอื่นน้อยกว่าคนจนและมักจะเป็นคนที่มีแนวความคิดดี ๆ  หรือมีมุมมองต่าง ๆ  มากกว่าคนชั้นกลางและคนจน    เบื้องหลังของนิสัยในเรื่องนี้คงอยู่ที่ว่า    คนรวยนั้นมักจะมีความคิดสร้างสรรค์มากกว่าคนจนซึ่งมักจะชอบ  “ซุบซิบนินทา”  เป็นนิจสิน   ในขณะที่คนชั้นกลางอาจจะเน้นการทำงานประจำ  ชอบพูดถึงเรื่องรถยนต์  ดนตรี  การพักผ่อนหย่อนใจ  เป็นต้น

                   ข้อสาม  คนรวยยอมรับการเปลี่ยนแปลง   คนชั้นกลางต่อต้านการเปลี่ยนแปลง    คนชั้นกลางรู้สึกว่าการเปลี่ยนแปลงจะคุกคามชีวิตความเป็นอยู่ที่ตนเองเคยชิน   ในขณะที่คนรวยนั้นคิดว่าการเปลี่ยนแปลงอาจนำมาซึ่งชีวิตที่ดีกว่า  เขาคิดว่าในการเปลี่ยนแปลงนั้นมักมีโอกาสที่เขาอาจจะฉกฉวยได้   เบื้องหลังนิสัยนี้อาจจะมาจากการที่คนรวยมีความมั่นใจสูงกว่าคนชั้นกลางที่มักจะกลัวว่าตนเองจะไม่สามารถปรับตัวให้เข้ากับสิ่งใหม่ ๆ  ได้

                 ข้อสี่   คนรวยกล้ารับความเสี่ยงที่ได้มีการพิจารณาและไตร่ตรองดีแล้ว   คนชั้นกลางกลัวที่จะรับความเสี่ยง    นี่เป็นนิสัยที่เป็นจุดอ่อนมากที่สุดของคนชั้นกลางในความเห็นของผม    คนที่ไม่ยอมรับความเสี่ยงเลยนั้นจะพลาดที่จะได้ผลตอบแทนที่ดีโดยสิ้นเชิง     ในขณะที่คนที่กล้ารับความเสี่ยงอย่างที่ได้มีการศึกษามาเป็นอย่างดีจะสามารถสร้างผลตอบแทนที่ดีได้โดยที่ความเสี่ยงจริง ๆ  นั้นจะมีน้อยมาก       ตัวอย่างที่เห็นชัดเจนที่สุดก็คือ   คนชั้นกลางส่วนใหญ่นั้นมักจะกลัวการลงทุนในหุ้นหรือตราสารการเงินที่มีความผันผวนของราคาโดยที่เขาไม่พยายามศึกษาว่าในระยะยาวแล้วมันอาจจะมีความคุ้มค่ากว่าการฝากเงินในธนาคารมาก   ในอีกมุมหนึ่ง   คนที่กล้ารับความเสี่ยงอย่าง  “บ้าบิ่น”  เช่นคนที่เล่นหุ้นวันต่อวันเองก็ไม่ใช่นิสัยของคนรวย   คนรวยนั้นจะต้องรับความเสี่ยงเฉพาะที่มีการพิจารณาอย่างถี่ถ้วนแล้ว

                ข้อห้า  คนรวยเรียนรู้และเติบโตตลอดชีวิต   คนชั้นกลางคิดว่าการเรียนรู้จบที่โรงเรียน   นิสัยการเรียนรู้ไปเรื่อย ๆ  นี้  ผมคิดว่าเป็นหัวใจเศรษฐีจริง ๆ     เพราะในความรู้สึกของผมเอง  การเรียนรู้จากโรงเรียนเป็นเพียงพื้นฐานที่เรานำมาศึกษาต่อด้วยตนเองได้   และเวลาหลังจากการเรียนในโรงเรียนนั้นยาวมากเป็นหลายสิบปี   ดังนั้น  ความรู้ส่วนใหญ่จึงควรที่จะเกิดขึ้นหลังจากที่เราเรียนจบจากโรงเรียน    โดยนัยของข้อนี้   คนรวยจึงน่าจะมีนิสัยรักการอ่านหรือการหาความรู้ต่อไปเรื่อย  ๆ   ในขณะที่คนชั้นกลางนั้น  พอเรียนจบก็มักจะไม่สนใจอ่านหนังสือหรือหาความรู้ใหม่ ๆ  และความรู้ที่ผมคิดว่าคนชั้นกลางพลาดไปเพราะไม่มีการสอนในโรงเรียนก็คือ  ความรู้ทางด้านการเงินที่คนรวยมักจะศึกษาต่อเพราะเห็นถึงความสำคัญและอาจนำไปสู่ความร่ำรวยได้

                ข้อหก   คนรวยทำงานเพื่อหากำไร  คนชั้นกลางทำงานเพื่อจะได้ค่าจ้าง   คนรวยมองว่านี่คือหนทางที่จะทำให้รวยได้มากกว่าแม้ว่าจะมีความเสี่ยง   ในขณะที่คนชั้นกลางนั้นมักจะไม่กล้าเสี่ยงและอาจจะมีความคิดสร้างสรรค์น้อยกว่า   จึงมุ่งไปที่การหางานที่จะมีรายได้แน่นอน   แต่รายได้จากการใช้แรงงานของตนเองนั้น   มีน้อยคนที่จะทำให้ตนเองรวยได้

                ข้อเจ็ด   คนรวยเชื่อว่าพวกเขาจะต้องใจบุญสุนทาน   คนชั้นกลางคิดว่าพวกเขาไม่มีปัญญาที่จะทำบุญ   ข้อนี้ผมเองคงไม่มีคอมเม้นท์อะไร   ส่วนหนึ่งผมเองก็ไม่แน่ใจเนื่องจากเรื่องนี้เป็นเรื่องของแต่ละคนที่ไม่ค่อยบอกหรือรู้กันยกเว้นกรณีที่เป็นการบริจาคใหญ่ ๆ  อย่างกรณีของบัฟเฟตต์หรือบิลเกต

                ข้อแปด   คนรวยมีแหล่งรายได้หลากหลาย   คนชั้นกลางมีเพียงหนึ่งหรือสองแหล่ง   ข้อนี้ก็เช่นกัน  ผมเองไม่แน่ใจว่าคนรวยมีรายได้จากหลายแหล่งเพราะรวยแล้วจึงไปลงทุนในทรัพย์สินหลาย   ๆ  อย่าง  หรือมีทรัพย์สินหลายอย่างจึงทำให้รวย    แต่ที่ผมเห็นชัดเจนก็คือ   คนชั้นกลางนั้น  มักไม่ลงทุนในทรัพย์สินที่มีความเสี่ยงทำให้รายได้มักจะมาจากเงินเดือนเป็นหลัก

                ข้อเก้า   คนรวยเน้นการเพิ่มขึ้นของความมั่งคั่งของตนเอง   คนชั้นกลางเน้นการเพิ่มของเงินเดือน    เป้าหมายของคนรวยนั้นอยู่ที่ว่าตนเองมีความมั่งคั่งเพิ่มขึ้นมากน้อยแค่ไหนโดยมองที่ภาพรวม   ดังนั้น   ถ้าเขามีหุ้นอยู่  การที่หุ้นมีมูลค่าเพิ่มขึ้นเขาก็มีความมั่งคั่งเพิ่มขึ้นโดยที่เขาไม่ต้องเสียภาษี   แต่คนชั้นกลางพยายามทำงานเพื่อให้มีเงินเดือนสูงขึ้นแต่เขาอาจจะลืมไปว่าเขาจะต้องเสียภาษีเพิ่มขึ้นด้วย   สรุปก็คือ  คนรวยเน้นการลงทุนใช้เงินทำงานแทนตนเอง   คนชั้นกลางเน้นการใช้แรงงานของตนเอง

                สุดท้าย  ข้อสิบ   คนรวยชอบตั้งคำถามที่เป็นบวกและสร้างกำลังใจ   เช่น  ฉันจะสร้างรายได้เป็นเท่าตัวในปีนี้ได้อย่างไร?   ในขณะที่คนชั้นกลางชอบตั้งคำถามที่เป็นลบและเสียกำลังใจเช่น  จะหาเงินมาจ่ายหนี้ค่าบัตรเครดิตเดือนนี้ได้อย่างไร ?

                   และนั่นก็คือความแตกต่าง  10 ข้อระหว่างคนรวยกับคนชั้นกลางที่มีคนตั้งข้อสังเกตไว้   ซึ่งผมเชื่อว่าส่วนใหญ่น่าจะเป็นจริง  แน่นอน  คนรวยบางคนก็มีคุณสมบัติที่เป็นแบบคนชั้นกลาง  และคนชั้นกลางจำนวนมากก็มีนิสัยแบบคนรวย   แต่ถ้าเราอยากรวย  ผมคิดว่า  การยึดนิสัยแบบคนรวยน่าจะทำให้เรามีโอกาสมากกว่า
บันทึกการเข้า
yai
Hero Cmadong Member
***


ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 2,489

« ตอบ #269 เมื่อ: 13 กุมภาพันธ์ 2551, 11:44:21 »

ต้องเพลงคาราบาวเลย

"คนจน จนแต่รวยน้ำใจ

คนจนผู้ยิ่งใหญ่"

จนเงินได้ อย่าจนน้ำใจนะจ๊ะ
บันทึกการเข้า
akenui
Cmadong พันธุ์แท้
****


ออฟไลน์ ออฟไลน์

คณะ: พาณิชยศาสตร์และการบัญชี
กระทู้: 3,092

« ตอบ #270 เมื่อ: 13 กุมภาพันธ์ 2551, 12:36:54 »

เดี๋ยวกลับมาอ่าน  แต่ใหญ่ก็สรุปไปให้แล้วนิ Cool
บันทึกการเข้า

สุดจะทน ก็ต้องทน
Pae
Cmadong พันธุ์แท้
****


ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 3,047

« ตอบ #271 เมื่อ: 13 กุมภาพันธ์ 2551, 12:41:03 »

ถูกต้องนะคร้าบบบบ :lol:
บันทึกการเข้า
BU_MEE
บุคคลทั่วไป
« ตอบ #272 เมื่อ: 13 กุมภาพันธ์ 2551, 13:06:51 »

ป้าหมี คนจน

แต่อยากรวย  อิ อิ :wink:
บันทึกการเข้า
Pae
Cmadong พันธุ์แท้
****


ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 3,047

« ตอบ #273 เมื่อ: 13 กุมภาพันธ์ 2551, 13:25:40 »

อ้างจาก: "BU_MEE"
ป้าหมี คนจน

แต่อยากรวย  แบบที่หมอดู เดา ไว้ อิ อิ :wink:


ของฝากเนิ้อฝากตัวไว้ก่อน เด้อ
บันทึกการเข้า
BU_MEE
บุคคลทั่วไป
« ตอบ #274 เมื่อ: 13 กุมภาพันธ์ 2551, 13:30:41 »

แค่ เดา น่ะเพื่อน

อยากเป็นจริง เหมือนกัน

สักครึ่งหนึ่ง ก็ยังดี


เอ.....แต่ว่า  ตอนนี้ เพื่อนเป้  จะให้ยืมเท่าไหร่ ล่ะ  :wink:
บันทึกการเข้า
  หน้า: 1 ... 9 10 [11] 12 13 ... 16  ทั้งหมด   ขึ้นบน
  
กระโดดไป:  

     

ทำไมหอพักนิสิตจุฬาจึงเป็นดินแดนมหัศจรรย์            " ไม่ได้เป็นแค่หอให้นอนพัก  แต่เป็นบ้านอบอุ่นรักให้อาศัย  ไม่เป็นแค่ที่ซุกหัวยามหลบภัย  แต่สร้างใจให้เข้มแข็งแกร่งการงาน"  <))))><