28 มีนาคม 2567, 15:55:50
ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน


เข้าสู่ระบบด้วยชื่อผู้ใช้ รหัสผ่าน [สมาชิกเก่าลืมรหัส โทร 081-7611760]
A A A A  ระเบียบปฎิบัติ
   
Languages    
  หน้า: [1]   ลงล่าง
ผู้เขียน หัวข้อ: เรื่องจริงที่อยากเล่า มาเยี่ยมเราแล้วจะเล่าให้ฟัง  (อ่าน 8043 ครั้ง)
0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
SC (ก้าน 24)
Full Member
**


ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 981

« เมื่อ: 01 มกราคม 2560, 20:38:03 »

<a href="http://www.youtube.com/watch?v=J8Dl2ms6zEY" target="_blank">http://www.youtube.com/watch?v=J8Dl2ms6zEY</a>

แม่เคยเล่าให้ฟังว่า จริง ๆ แล้ว แม่ตั้งชื่อเราว่า "น้อย" แต่เพราะว่าเวลานั้น นักร้อง ตามวีดีโอข้างล่างกำลังโด่งดัง ญาติพี่น้องและชาวบ้าน ไม่มีใครเรียก "น้อย" แต่เรียกว่า "ก้าน"  มีแต่แม่ที่เรียก น้อย จนกระทั่งช่วง 5 ปีสุดท้ายของชีวิต เมื่อแม่เริ่มหลง ลืม จึงเรียกเหมือนคนอื่น ๆ ว่า "ก้าน"

 บ่ฮู้บ่หัน
      บันทึกการเข้า

My Website <== คลิกเพื่อชม MV โดยไม่มีโฆษณาคั่น คลิกเล่นแล้ว คลิกขยายให้เต็มจอ อย่าคลิก YouTube
SC (ก้าน 24)
Full Member
**


ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 981

« ตอบ #1 เมื่อ: 10 มกราคม 2560, 12:07:25 »



ได้หมดถ้าสดชื่น : ที่มา

หลายคนคงจะสงสัยว่า แคปชั่นยอดนิยม "ได้หมดถ้าสดชื่น" นั้นคืออะไร? หมายถึงอะไร? และมีที่มาอย่างไร?

คำตอบของคำถามทั้งหมดนั้น เกิดขึ้น ณ สถานที่ที่เรียกว่า "ตลาดสด" ดังนี้

แม่ค้าผักสด : หวัดดีเอ๋ วันนี้รับอะไรดี?
ลูกค้า (เอ๋) : ได้หมดถ้าสดชื่น

ลูกค้าตอบแม่ค้าชื่อ “ชื่น" ในความหมายผักอะไรที่สดก็เอาหมด

เน็ทไอดอล เดินผ่านมาพอดีได้ยิน "ได้หมดถ้าสดชื่น" เกิดปิ๊งในวลีนี้จึงนำไปใช้เป็นแคปชั่น

 บ่ฮู้บ่หัน
      บันทึกการเข้า

My Website <== คลิกเพื่อชม MV โดยไม่มีโฆษณาคั่น คลิกเล่นแล้ว คลิกขยายให้เต็มจอ อย่าคลิก YouTube
SC (ก้าน 24)
Full Member
**


ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 981

« ตอบ #2 เมื่อ: 15 มกราคม 2560, 16:00:26 »



หมอดูแม่น ๆ

เคยนึกสงสัยไหมว่า ทำไมหมอดูชื่อดังดูดวงชะตาคนดังถึงแม่น

จริง ๆ แล้วเรื่องนี้ไม่มีอะไรมาก เพราะวิชาหมอดู หรือศาสตร์แห่งการพยากรณ์ ก็เป็นวิชาทางด้านสถิติแขนงหนึ่ง เกิดจากการบันทึกรวบรวมเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น แล้วนำมาหาความสัมพันธ์กับการทำมุมต่าง ๆ ของดวงดาวในท้องฟ้า เมื่อมองจากโลก ดวงดาวในที่นี้คือดาวนพเคราะห์ไม่ใช่ดาวฤกษ์ แล้วสรุปออกมาเป็นกฎเกณฑ์ หลักการในการพยากรณ์

ทีีนี้ ทำไมหมอดูชื่อดังเวลาดูดวงคนดังแล้วถึงแม่นยำ เหตุผลง่าย ๆ คือ หมอดูชื่อดังค่าตัวแพง จะดูต้องมีการนัดหมายล่วงหน้า ทำไมหรือ? ก็จะได้มีเวลาศึกษาค้นคว้าตรวจสอบพื้นดวงทั้งในแง่ดวงดาวและเหตุการณ์ในชีวิต การเป็นคนดังมันไม่ยากที่จะหาเรื่องราวเหตุการณ์ในอดีตที่ตกเป็นข่าว เมื่อ ได้ข้อมูลเหล่านี้ก็จะตรวจสอบดูก่อนว่า วันนั้นวันที่เกิดเหตุการณ์มีดวงดาวอะไรที่ทำมุมสัมพันธ์ เรียกว่าเป็นการตรวจสอบอดีต เพื่อหาแนวโน้มที่จะทำนายคาดการณ์ในอนาคต ซึ่งหลักการนี้ก็ไม่ต่างจากหลักการในการพยากรณ์ด้านเศรษฐกิจ ฯลฯ

อีกเรื่องหนึ่งก็คือ เคยได้ยินไหมที่ว่า "ประวัติศาสตร์มักจะซ้ำรอย" ชีวิตคนเราก็เหมือนกัน จะมีสิ่งที่เรียกว่า "ครรลองชีวิต" โดยปกติแล้ว ชีวิตคนเราจะไม่พลิกผัน หักเหมากนัก จะมีบ้างสำหรับคนไม่กี่คน แต่คนส่วนใหญ่แล้วครรลองชีวิตเป็นมายังไงก็มักจะเป็นอย่างนั้น คนที่เกิดมาในตระกูลครอบครัวธุรกิจก็ต้องดำเนินธุรกิจ ไม่ค่อยจะหักเหไปทำอย่างอื่น ดังนั้น มันจึงไม่ยากเมื่อได้ข้อมูลในอดีตมา แล้วนำมาคาดการณ์ทำนายสำหรับอนาคต หลักการมีอยู่แค่นี้เอง

ส่วน หมอดูใต้ต้นมะขามแถวสนามหลวง หมอดูเร่ สารพัดหมอดูที่มีค่าครูตั้งแต่ 39 จนถึง 399 บาท ประมาณนี้ ก็คงจะไม่แม่นยำอะไรมากนักด้วยเหตุผลดังที่กล่าวมา เพียงแต่ว่าการทายทักในเบื้องต้นจะดูน่าเชื่อถือมีความแม่นยำ ทั้งนี้ก็ด้วยเหตุผลที่ว่า ประดาคนที่มาดูหมอดูในระดับค่าครูระดับนี้ก็น่าจะเป็นคนระดับใช้แรงงานไปจนถึงคนทำงานกินเงินเดือน ไม่ใช่คนมีฐานะการเงินดีมาดูอย่างแน่นอน และคนที่เข้าหาหมอดูส่วนมากก็เพราะชีวิตมักจะมีปัญหาทั้งนั้น ไม่มีปัญหาไม่พึ่งพาหมอดู การที่ทายทักดักไว้ จึงดูออกมาแม่นยำ แต่พอทำนายอนาคตจริง ๆ แล้วหาความแม่นยำได้ยาก

 บ่ฮู้บ่หัน
      บันทึกการเข้า

My Website <== คลิกเพื่อชม MV โดยไม่มีโฆษณาคั่น คลิกเล่นแล้ว คลิกขยายให้เต็มจอ อย่าคลิก YouTube
SC (ก้าน 24)
Full Member
**


ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 981

« ตอบ #3 เมื่อ: 21 มกราคม 2560, 16:16:55 »

ตอนนี้เราชื่อเล่น "ศร" ละนะ และก็เป็นชื่อที่เราไม่ได้คิดจะตั้งให้ตัวเองซักหน่อย

ตอนที่เราเปลี่ยนชื่อจริงเป็น "ศรแดง" หุ้นส่วนของนายจ้างซึ่งมีสัญชาติออสเตรเลียน เรียกชื่อเราออกสำเนียงเป็น "ซอนยัง" เราก็คิดว่า "เข้าท่า" ขอตั้งชื่อเล่นให้ตัวเอง "ซอน" ละกัน

แต่ก็มีคนเรียกไม่กี่คนบอกเรียกยาก เรียกศรง่ายกว่า ซ้ำร้ายพอมีแฟน ก็ไม่ยอมเรียก "ซอน" แฟนบอก "ไม่เอา เค้าจะเรียก พี่ศร" ตามใจแฟนนะ "ศรก็ศร"

หลังจากนั้นก็ยอมรับโดยดุษฎี แต่ก็เป็นชื่อที่คนอื่นขัดใจเราเรียกเอาเองเหมือนตอนเด็กเลย

สุดท้ายหลังจากที่ได้ตระหนักรู้เรื่องราวก็คิดได้ว่า ถ้าแม่เราเห็นอย่างที่เราเห็นตอนเราเกิด แม่ก็คงตั้งชื่อให้ว่า "ศร" อยู่ดี

 บ่ฮู้บ่หัน
      บันทึกการเข้า

My Website <== คลิกเพื่อชม MV โดยไม่มีโฆษณาคั่น คลิกเล่นแล้ว คลิกขยายให้เต็มจอ อย่าคลิก YouTube
SC (ก้าน 24)
Full Member
**


ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 981

« ตอบ #4 เมื่อ: 21 กุมภาพันธ์ 2560, 22:56:24 »

ถ้าจำไม่ผิด สมัยเริ่มเข้าวัยรุ่น เพลง "แอบมอง" ดังมาก แต่ไม่กล้าร้อง เพราะข้างบ้าน (อีกข้างของบ้านเราติดซอย) ข้างบ้านมี 1 ลูกชายเป็นพี่คนโต และ 3 ลูกสาว ลูกสาวคนโตแก่กว่าเรา คนกลางปีเดียวกะเรา ส่วนคนเล็กยังเด็กอ่อนกว่า 4-5 ปี ที่ไม่ร้องเพราะสาวรุ่นราวคราวเดียวกับเราไม่สวย

แต่พอเรา 18-19 ลูกสาวคนเล็กโตเป็นสาว สวยแฮะ ถ้าขาวนี่หลงเลย 555

<a href="http://www.youtube.com/watch?v=qrexfOwxQqY" target="_blank">http://www.youtube.com/watch?v=qrexfOwxQqY</a>

 บ่ฮู้บ่หัน
      บันทึกการเข้า

My Website <== คลิกเพื่อชม MV โดยไม่มีโฆษณาคั่น คลิกเล่นแล้ว คลิกขยายให้เต็มจอ อย่าคลิก YouTube
SC (ก้าน 24)
Full Member
**


ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 981

« ตอบ #5 เมื่อ: 09 เมษายน 2560, 23:05:22 »

"สรงกานต์" ไม่ใช่ "สงกรานต์"

กานต์ แปลว่า ผู้เป็นที่รัก หมายถึง พ่อ แม่ ปู่ย่า ตา ยาย ลุง ป้า น้า อา ทวด ไม่ใช่คนรัก หรือสุดที่รัก

สรง แปลว่า อาบ

การอาบ คือ การตักแล้วราดรดจากบนลงล่าง ต้องนึกถึงสมัยโบราณที่ไม่มีอ่างอาบน้ำ ส่วนการอาบน้ำแบบลงไปแช่ในห้วย หนอง คลอง บึง อันนั้นไม่ใช่ปกติวิสัย

สรงกานต์ จึงเป็นประเพณี อาบน้ำให้ผู้เป็นที่รัก แต่ไม่ได้อาบแบบทำความสะอาด เพียงแต่ตักน้ำราดรดลงมา ด้วยน้ำพิเศษที่มีกลีบดอกไม้หอม เช่น ดอกมะลิ เจือด้วย น้ำอบหอม
 ฯลฯ

อย่าลืมว่า ในประเพณีนี้เรามี "สรงน้ำพระพุทธรูป" ด้วยอาการแบบเดียวกัน

พอมันเพี้ยนผิดมาเป็น สงกรานต์ เลยกลายมาเป็นการสาดน้ำใส่กัน เพราะสงกรานต์ ไม่สื่อความหมายถึงกริยาอาการเหมือน "สรงกานต์"

 บ่ฮู้บ่หัน
      บันทึกการเข้า

My Website <== คลิกเพื่อชม MV โดยไม่มีโฆษณาคั่น คลิกเล่นแล้ว คลิกขยายให้เต็มจอ อย่าคลิก YouTube
  หน้า: [1]   ขึ้นบน
  
กระโดดไป:  

     

ทำไมหอพักนิสิตจุฬาจึงเป็นดินแดนมหัศจรรย์            " ไม่ได้เป็นแค่หอให้นอนพัก  แต่เป็นบ้านอบอุ่นรักให้อาศัย  ไม่เป็นแค่ที่ซุกหัวยามหลบภัย  แต่สร้างใจให้เข้มแข็งแกร่งการงาน"  <))))><