29 มีนาคม 2567, 13:45:56
ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน


เข้าสู่ระบบด้วยชื่อผู้ใช้ รหัสผ่าน [สมาชิกเก่าลืมรหัส โทร 081-7611760]
A A A A  ระเบียบปฎิบัติ
   
Languages    
  หน้า: 1 ... 25 26 [27]  ทั้งหมด   ลงล่าง
ผู้เขียน หัวข้อ: 2516 คุยเรื่องสัพเพเหระ  (อ่าน 207465 ครั้ง)
0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
yyswim
Cmadong ชั้นเซียน
*****


ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: rcu2511
คณะ: "นิเทศศาสตร์"
กระทู้: 9,245

เว็บไซต์
« ตอบ #650 เมื่อ: 26 เมษายน 2553, 03:08:43 »

ขำดี ขำดี เชิญชมอีก


<a href="http://www.youtube.com/watch?v=8b7qb72sDiE" target="_blank">http://www.youtube.com/watch?v=8b7qb72sDiE</a>
      บันทึกการเข้า

จาก สิน
http://yyswim.bloggang.com
เหยง 16
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: rcu2516
คณะ: เภสัชศาสตร์ 2516
กระทู้: 23,533

« ตอบ #651 เมื่อ: 29 เมษายน 2553, 12:18:47 »

ขอบคุณพี่นพ' ครับ

หากมีเรื่องอื่น สนุกเช่นนี้ นำมาโพสต์ให้ชมด้วยครับ
      บันทึกการเข้า
Janchai
มือใหม่หัดเมาท์
*


It is lovely to be called "Mom".
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 242

« ตอบ #652 เมื่อ: 29 เมษายน 2553, 21:22:19 »

น่ารักดีค่ะ
ขอบคุณพี่นพค่ะ
      บันทึกการเข้า

ติ๋ม จันทร์ฉาย
wannee
Global Moderator
Cmadong พันธุ์แท้
*****


ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: จุฬาฯรุ่นประวัติศาสตร์ 2516
คณะ: ทันตแพทยศาสตร์
กระทู้: 4,806

« ตอบ #653 เมื่อ: 06 พฤษภาคม 2553, 17:19:14 »

อ้างถึง
ข้อความของ yyswim เมื่อ 26 เมษายน 2553, 03:00:21
หมอเสียดครับ
............


สวัสดีค่ะพี่นภ  ปิ๊งๆ  

     เสียดเพิ่งเข้าเวบ  โรงเรียนปิดเทอมเสียดจะอยู่ที่บ้านจันท์เป็นส่วนใหญ่   ต้องช่วยหมอบุญเลิศ ทำให้ไม่ค่อยสะดวก ในการเข้าเวบค่ะ
     ถ้าพี่ได้ย้อนมาที่กระทู้นี้อีก  ช่วยรับคำขออภัยอย่างมากๆจากเสียดด้วยนะคะ   sorry sorry

    

      บันทึกการเข้า

"เสียด" ภาษาจีนฮากกา แปลว่า หิมะ
khesorn mueller
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: 2527
คณะ: รัฐศาสตร์
กระทู้: 71,885

« ตอบ #654 เมื่อ: 06 พฤษภาคม 2553, 18:19:36 »

พี่นภ,
heจะขายรึheจะแสดงคะนั่น?
ตลกง่ะ
      บันทึกการเข้า


เหยง 16
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: rcu2516
คณะ: เภสัชศาสตร์ 2516
กระทู้: 23,533

« ตอบ #655 เมื่อ: 06 พฤษภาคม 2553, 19:28:35 »

หนุงหนิง

เขาคงทำทั้ง 2 อย่างไปพร้อมๆกันนั่นแหละ แขกจึงจะมาออกันที่หน้าร้าน!! ??
      บันทึกการเข้า
เหยง 16
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: rcu2516
คณะ: เภสัชศาสตร์ 2516
กระทู้: 23,533

« ตอบ #656 เมื่อ: 08 พฤษภาคม 2553, 19:47:51 »

ภาพของ Avatar ของ ติ๋ม มีโพสต์ขึ้นมาบ้างและไม่มีบ้าง ?? มีปัญหาอะไรหรือ ??
      บันทึกการเข้า
Janchai
มือใหม่หัดเมาท์
*


It is lovely to be called "Mom".
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 242

« ตอบ #657 เมื่อ: 09 พฤษภาคม 2553, 12:02:54 »

ไม่ทราบเหมือนกันค่ะ สงสัยภาพใหญ่ไป จะลองโลดภาพเล็กลงดูค่ะ
      บันทึกการเข้า

ติ๋ม จันทร์ฉาย
เหยง 16
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: rcu2516
คณะ: เภสัชศาสตร์ 2516
กระทู้: 23,533

« ตอบ #658 เมื่อ: 09 พฤษภาคม 2553, 20:14:04 »

ครับ ภาพขึ้นแล้ว
      บันทึกการเข้า
pusadee sitthiphong
Cmadong พันธุ์แท้
****


ออฟไลน์ ออฟไลน์

คณะ: พาณิชยศาสตร์และการบัญชี
กระทู้: 4,689

« ตอบ #659 เมื่อ: 09 พฤษภาคม 2553, 20:35:48 »

รูปใหม่ติ๋ม สดใส สวยเหมือนเดิม
น้าติ๋มช่วงนี้ว่างมั๊ยคะ
เผื่อว่าน้องอิ๊บจะไปแอ่วหาน้าติ๋มก่อนกลับบ้าน
น้องอิ๊บเขาอยากเที่ยวแล้วค่ะ
      บันทึกการเข้า

pom shi 2516
Janchai
มือใหม่หัดเมาท์
*


It is lovely to be called "Mom".
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 242

« ตอบ #660 เมื่อ: 10 พฤษภาคม 2553, 11:26:14 »

อ้างถึง
ข้อความของ pusadee sittipong เมื่อ 09 พฤษภาคม 2553, 20:35:48
รูปใหม่ติ๋ม สดใส สวยเหมือนเดิม
น้าติ๋มช่วงนี้ว่างมั๊ยคะ
เผื่อว่าน้องอิ๊บจะไปแอ่วหาน้าติ๋มก่อนกลับบ้าน
น้องอิ๊บเขาอยากเที่ยวแล้วค่ะ
พี่โฟล้ทกำลังจะจบรอรับปริญญาวันที่ 28 พฤษภานี้ จะเริ่มว่างพาน้องๆเที่ยวได้ก่อนเข้า Residency Program ค่ะ
น้าติ๋มทำงานเยอะคงพึ่งได้เฉพาะเสาว์อาทิตย์ แต่ที่อยู่มีนะคะพร้อมอาหารเพรียบ
      บันทึกการเข้า

ติ๋ม จันทร์ฉาย
เหยง 16
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: rcu2516
คณะ: เภสัชศาสตร์ 2516
กระทู้: 23,533

« ตอบ #661 เมื่อ: 21 พฤษภาคม 2553, 16:22:15 »

ให้ยืม-เหมือนให้ลืม ฝรั่งก็เป็นเหมือนกัน ยืมไปจนลืมเลย

วันที่ 21 พฤษภาคม พ.ศ. 2553 เวลา 15:29:23 น.  มติชนออนไลน์
พบหนังสือห้องสมุดที่ผู้นำสหรัฐคนแรกยืมไปกว่าสองร้อยปีก่อน ประเมินค่าปรับอ้วกเท่ากับ 100 ล้านบ.


สำนักข่าวต่างประเทศรายงานเมื่อวันที่ 21 พ.ค.หนังสือชื่อว่า"The law of Nation"เขียนโดย Emer de vattel ซึ่งเป็นหนังสือในห้องสมุดประจำสมาคมนิวยอร์ก ซึ่งมีอายุเก่าแก่ที่สุดของประเทศ และถูกยืมไปโดยประธานาธิบดีจอร์จ วอชิงตัน ผู้นำสหรัฐคนแรก ยืมไป เมื่อ 221 ปีก่อน ได้ถูกคืนแล้ว โดยเจ้าหน้าที่ที่ดูแลรักษาบ้านของจอร์จ วอชิงตัน ในรัฐเวอร์จิเนีย ขณะที่เงินค่าปรับหนังสือนั้น คิดเป็นมูลค่า 300,000 ดอลลาร์ หรือราว 102 ล้านบาท แต่ไม่มีการจ่ายค่าปรับ


รายงานระบุว่า ก่อนหน้านี้ ห้องสมุดดังกล่าวได้พบว่า หนังสือเล่มนี้ได้หายไป ภายหลังได้ตรวจสอบบัญชีแยกเฉพาะประจำปี 1789-1792  ซึ่งประกอบด้วยประวัติการยืมหนังสือของผู้นำสหรัฐคนแรก ของบุคคลสำคัญคนอื่น ๆ อีกหลายคน แต่การหายไปของหนังสือได้ถูกปิดเป็นความลับ กระทั่งหนังสือพิมพ์"เดอะ นิวยอร์ค ไทมส์ เดลี่ นิวส์"นำเรื่องนี้มาเปิดเผย

http://www.matichon.co.th/news_detail.php?newsid=1274430601&grpid=03&catid=06
      บันทึกการเข้า
Samrotri2517
Cmadong Member
Hero Cmadong Member
****


จะเป็นด้านที่1และ2ของ3เหลี่ยมฯ เพื่อให้เกิดด้านที่3
ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: รหัสเข้า 17 รุ่น 57
คณะ: แพทยศาสตร์ จุฬาฯรุ่น 30
กระทู้: 1,915

« ตอบ #662 เมื่อ: 23 พฤษภาคม 2553, 19:18:19 »


ขอขอบคุณ คอลัมภ์การเมือง : ทัศนะวิจารณ์ น.ส.พ.กรุงเทพธุรกิจ
วันอังคาร ที่ 18 พฤษภาคม 2553 01:00
http://www.bangkokbiznews.com/home/detail/politics/opinion/reader-opinion/20100518/115915/%E0%B8%98%E0%B8%A3%E0%B8%A3%E0%B8%A1%E0%B8%B2%E0%B8%98%E0%B8%B4%E0%B8%9B%E0%B9%84%E0%B8%95%E0%B8%A2.html

ทัศนะจากผู้อ่าน ผู้อ่านสามารถส่งเรื่องมาได้ที่ ktwebeditor@nationgroup.com



ธรรมาธิปไตย

โดย : ธนรัตน์ ยงวานิชจิต dhanarat333@gmail.com
 
การเดินทางสู่สันติสุขย่อมยาวนานตลอดชีวิต หากจะให้ราบรื่นย่อมต้องมีแผนที่
แต่ที่สำคัญ ยิ่งกว่าแผนที่
ได้แก่

การสอบวัดตัวเองก่อน ว่า เราเป็นใคร มีรากฐานมาจากที่ใด วัฒนธรรมแบบใด
เอกลักษณ์ (ความเป็นไทย) อย่างใด กำลังอยู่ ณ ที่ใด ฯลฯ

"ผลการสอบวัดตัวเอง" คือ "เข็มทิศที่ห้า" ซึ่งเป็นปัจจัยสำคัญที่สุด เพราะจะบ่งบอกว่า

"เราคือใครและจะเริ่มเดินทางจากจุดใด" ตามแผนที่ที่มีสี่ทิศพร้อมอยู่แล้ว
หากไม่มีจุดเริ่มต้น การเดินทางย่อมเป็นไปไม่ได้

เมื่อมี "เข็มทิศที่ห้า" แล้ว เราก็ต้องเลือกระบอบหรือยานพาหนะสำหรับนำพาเราเดินทาง
สู่จุดหมายปลายทาง คือ สันติสุข อันพึงปรารถนาของเรา

โดยทำการคัดเลือกและ/หรือสร้างสรรค์ ระบอบที่เหมาะสมคู่ควรกับเรา

โดยคำนึงถึงประวัติศาสตร์ วัฒนธรรม ตลอดจนเอกลักษณ์ (ความเป็นไทย) ของตัวเรา และ
ต้องระวังไม่เลือกผิดระบอบ
มิฉะนั้น จะส่งผลให้เราตกอยู่ในสภาพ

"หัวมังกุฏท้ายมังกร" ไม่สามารถนำพาเราสู่สันติสุข อย่างเช่นที่เป็นอยู่ในปัจจุบัน  

ระบอบหรือยานพาหนะมีให้เลือกหลายรูปแบบ เช่น

"ประชาธิปไตย" ซึ่งอาศัยเสียงข้างมากเป็นหลักในการดำรงชีพ

"อัตตาธิปไตย" ซึ่งอาศัยการบังคับบัญชาของบุคคลคนหนึ่งเป็นหลักฯ

"อิสราธิปไตย" ซึ่งอาศัยการเป็นอิสระจากการถูกบังคับบัญชาโดยบุคคลคนหนึ่ง
แต่ได้รับแต่การสนับสนุนทางทรัพยากรและความกระจ่างชัดแทน เป็นหลักฯ หรือ

"ธรรมาธิปไตย" ซึ่งอาศัยพระธรรมในพระพุทธศาสนาเป็นหลักฯ เป็นต้น
 
 gek gek gek

สามระบอบแรกดังกล่าว มีกติกาหรือกลไกที่ออกแบบโดย "ปุถุชน" ทั่วไป
ไม่จำต้องนับถือศาสนาเดียวกัน โดยมีพื้นฐานอยู่ที่ "องค์ความรู้" (knowledge)
ที่เปลี่ยนแปลงตามกาลสมัยอยู่เสมอ ส่งผลให้ขาดความเหมาะสมหรือผิดกาลเทศะได้

ส่วน "ธรรมาธิปไตย" มีกติกาที่ออกแบบโดย "พุทธมามกะ" โดยมีพื้นฐานอยู่ที่ "พระธรรม"



ของ "อริยชน" คือ องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า อันเป็น
"สัจธรรม" (absolute truth) ที่ไม่เปลี่ยนแปลงแต่ทันสมัยอยู่เสมอ

"ธรรมาธิปไตย" จึงเป็นระบอบที่มี"พระธรรม"มิใช่"พระสงฆ์"หรือ"ปุถุชน"เป็นหลักในการตัดสิน
กล่าวคือ เป็น

ยานพาหนะที่มี "แสงสว่าง" นำทางให้เราเดินทางได้ทั้งกลางคืนกลางวัน
รอดผ่านถ้ำมืดได้อย่างปลอดภัยสู่จุดหมายปลายทาง


"ธรรมาธิปไตย" จะปกครองและป้องกันแก้ไขปัญหาต่างๆ ของชาติบ้านเมืองได้อย่างไร

ในด้านการปกครอง "ธรรมาธิปไตย" ย่อมคำนึงถึงประโยชน์สุขของประชาชนเป็นเกณฑ์
โดยเป็นนิติรัฐมีนิติธรรมเยี่ยงอารยประเทศทั้งหลาย

โดยให้แต่งตั้งคนดีมีศีลธรรมและความสามารถสูงเป็นผู้บริหารในระยะแรกเริ่ม และ
อาศัยหลักธรรมที่เน้นการสอนคนให้ตื่นจากกิเลสตัณหากับการยึดติดทั้งปวง

กลายเป็นคนมีเสรีภาพจริงๆไม่กลับเข้าเรือนจำรอบแล้วรอบเล่าอย่างเช่นในสังคมโลกตะวันตก  

ในด้านเศรษฐกิจ ให้อาศัยหลักธรรมต่างๆ เป็นพลังขับเคลื่อน เช่น

"มรรคมีองค์แปด" "อิทธิบาทสี่" เพื่อการดำรงชีพและพัฒนาอาชีพ เป็นต้น

ส่วนการกระจายรายได้ ให้เน้นการพึ่งตนเอง โดยการฝึกวิชาชีพ และอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม
เพื่อการประกอบอาชีพ ฯลฯ
 


ดร.อีเอฟ ชูมาเชอร์ (E.F. Schumacher)นักเศรษฐศาสตร์โด่งดังระดับโลกได้เขียนหนังสืออมตะ



"Small is Beautiful : Economics as if People Mattered
(จิ๋วแต่แจ๋ว เศรษฐศาสตร์ในแง่ที่คนเป็นปัจจัยสำคัญ)" ปี 2516 โดยสาธยายถึง

Buddhist Economics (เศรษฐศาสตร์ชาวพุทธ) ไว้อย่างน่าสนใจ นอกจากนี้
พุทธพจน์ยังสอนให้เราอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมเยี่ยงภมรผึ้งที่ดูดน้ำหวานจากดอกไม้ไปทำรังผึ้ง
โดยไม่ทำลายดอกไม้ ฯลฯ ซึ่งล้วนแล้วแต่เป็นเศรษฐศาสตร์เชิงพุทธอันยั่งยืนทันสมัยยิ่ง
 
ในด้านจิตใจ ให้อาศัยหลักธรรมต่างๆ เช่น

"สติปัฏฐานสี่"เพื่อเจริญสัมมาสติ/"ปฏิจจสมุปบาท"เพื่อหยั่งรู้กระบวนการทางใจที่เป็นกิเลสเป็นต้น

ล้วนเป็นมรรควิธียกพลังจิตให้คิดดีทำดีอย่างมีประสิทธิผล
เป็นการช่วยสร้างครอบครัวและชาติบ้านเมืองให้อยู่ดีมีสุข


ปัจจุบัน พระธรรมได้รับการศึกษาและยอมรับนับถือจากบรรดานักจิตวิทยาโด่งดังของ
มหาวิทยาลัยฮาร์วาร์ด และอื่นๆ อีกหลายแห่งในสหรัฐอเมริกา ซึ่งหลายๆ ท่านเหล่านี้
ได้เขียนหนังสือเผยแพร่และประยุกต์พระธรรม
ในการรักษาคนป่วยเป็นโรคจิตได้อย่างมีผลดีมาแล้ว

โดยที่พระธรรมมีความสอดคล้องมากกว่าขัดแย้งกับศาสนาอื่น
อีกทั้งได้อยู่คู่กับสถาบันชาติกับกษัตริย์ไทยมาร่วม 700 ปี

"ธรรมาธิปไตย" จึงมีความเหมาะสมยิ่งสำหรับปกครองประเทศ
ที่มีประชากรนับถือต่างศาสนาอยู่เป็นจำนวนมากอย่างไทย


ทันทีที่ "ธรรมาธิปไตย" เดินเครื่อง ยานพาหนะนี้จะแล่นฉิวด้วยจิตวิญญาณของอริยชนที่
สามารถเจริญพัฒนาด้วยตนเองและด้วยค่าบำรุงรักษาที่ต่ำมากเพราะมีความพอเพียงอยู่ในตัว

 ปิ๊งๆ ปิ๊งๆ ปิ๊งๆ
 
ข้อเสนอข้างต้น คือ ภาพยกร่างของ "ธรรมาธิปไตย" ส่วนรายละเอียดจะเป็นภารกิจของส่วนรวม
ในการช่วยกันระดมความคิดสร้างสรรค์เสริมสร้างให้เป็นระบอบที่ยั่งยืน

โดยอาจมีการปรับแต่งในทางปฏิบัติจนกว่าจะลงตัวเป็นส่วนใหญ่ หากสัมฤทธิผล
ก็จะเป็นระบอบที่คู่ขนานกับระบอบของบางประเทศในภาคตะวันออกกลางที่
มีศาสนาอิสลามเป็นศาสนาประจำชาติ และมีกติกาการปกครองอยู่มาก
ที่มาจากบทบัญญัติในศาสนาโดยตรง
 
"ธรรมาธิปไตย" คือ สมุนไพรที่มีศักยภาพแก้พิษสง "ลัทธิสัตว์เศรษฐกิจ" ได้ฉมัง และ
เป็นทางออกโค้งสุดท้ายของราชอาณาจักรไทย


OOOOOOOOOOOOOOOOOOOOOOOOOOOOOOOOOOOOOOOOOO

 เหนื่อย เหนื่อย เหนื่อย

ผมขอเสนอว่า ถ้าประชาชนร่วมเสนอปรับ ระบอบประชาธิปไตย ที่ใช้

สส.อภิปรายออกกฏหมาย ซึ่งจะมีกรณีพวกมากลากไป เป็นประโยชน์ต่อพรรค ต่อตนเอง

เป็นใช้คำสอน หรือ พระธรรม เป็นตัวตัดสิน เป็น ระบอบธรรมาธิปไตย ที่ประยุกต์ ใช้ ตามที่่
ดร.อีเอฟ ชูมาเชอร์ (E.F. Schumacher)
นักเศรษฐศาสตร์โด่งดังระดับโลก ที่เสนอให้

จิ๋วแต่แจ๋ว : Small is Beautiful  เกิดขึ้นเป็นยานพาหนะพาผู้อยู่ภายใต้การปกครอง เดินทาง
สู่จุดหมายโดยสวัสดิภาพ มีความสุขได้ ดีไหม พวกเราเมื่อ




พณฯท่าน นายกอภิสิทธิ เวชชาชีวะ จะเสนอให้มีการปฏิรูปการปกครองเร็วๆนี้



http://tavonch.blogspot.com/2008/02/blog-post_19.html



สุดท้ายนี้อยากเสนอให้พี่ถาวร โชติชื่น วิศวะจุฬาฯซีมะโ่ด่ง16ท่านรองนายกรัฐมนโทแห่งสภาโจ๊ก
นำระบอบธรรมาธิปไตยไปผูกเป็นเรื่องอภิปรายในสภาโจ๊กพรรคใดเสนอหลักธรรมในการแก้ปัญหาได้ดีกว่า
พรรคนั้นก็ได้รับการโหวตให้ชนะ ถึงแม้จะเป็นพรรคมีสมาชิกน้อยกว่า เป็นสภาโจ๊กเชิงสร้างสรรค์
เหอๆๆ

 หลั่นล้า หลั่นล้า หลั่นล้า

นำมาจาก กระทู้ วิกฤติประชาธิปไตยกับสังคม

http://www.cmadong.com/board/index.php/topic,4434.msg386875.html#top

 win win win
      บันทึกการเข้า

3 เหลี่ยมเขยื้้อนภูเขา เสนอโดย ศ.นพ.ประเวศ วะสี มี 3 ด้าน คือ ด้านที่ 1 ด้านให้ความรู้กับกลุ่มคน ด้านที่ 2 กลุ่มคน ที่ได้รับความรู้ เห็นด้วย สร้างวัฒนธรรมไม่มีบทลงโทษถ้าไม่ทำ ด้านที่ 3 ด้านการเมือง เป็นด้านออกกฏหมาย มีบทลงโทษถ้าไม่ปฏิบัติ ถ้ามีครบ 3 ด้านจะเกิดการเปลี่ยนแปลงได้จริง
pusadee sitthiphong
Cmadong พันธุ์แท้
****


ออฟไลน์ ออฟไลน์

คณะ: พาณิชยศาสตร์และการบัญชี
กระทู้: 4,689

« ตอบ #663 เมื่อ: 23 พฤษภาคม 2553, 22:36:05 »

อ้างถึง
ข้อความของ Janchai เมื่อ 10 พฤษภาคม 2553, 11:26:14
อ้างถึง
ข้อความของ pusadee sittipong เมื่อ 09 พฤษภาคม 2553, 20:35:48
รูปใหม่ติ๋ม สดใส สวยเหมือนเดิม
น้าติ๋มช่วงนี้ว่างมั๊ยคะ
เผื่อว่าน้องอิ๊บจะไปแอ่วหาน้าติ๋มก่อนกลับบ้าน
น้องอิ๊บเขาอยากเที่ยวแล้วค่ะ
พี่โฟล้ทกำลังจะจบรอรับปริญญาวันที่ 28 พฤษภานี้ จะเริ่มว่างพาน้องๆเที่ยวได้ก่อนเข้า Residency Program ค่ะ
น้าติ๋มทำงานเยอะคงพึ่งได้เฉพาะเสาว์อาทิตย์ แต่ที่อยู่มีนะคะพร้อมอาหารเพรียบ
น้าติ๋มคะ
น้องอิ๊บไม่ได้ไปแอ่วหาน้าติ๋มและพี่โฟลทซะแล้ว
เพราะเหตุน้ำมันทำให้นักท่องเที่ยวหายจากฟลอริดา
เศรษฐกิจตกต่ำทำให้เขาเลิกจ้างเด็กๆทำงาน
น้องอิ๊บและเพื่อนๆก็เลยเที่ยวแถวๆนั้นแล้วก็บินกลับเมืองไทย
ป้อมเพิ่งกลับจากไปรับน้องอิ๊บมาวันนี้เอง
ไปหาที่พักให้น้องออมด้วย แต่ไม่ได้เข้าไปดูหอแถวที่พักเสียด
เพราะเขายังไม่ได้อนุญาตให้เข้าไปแถวราชเทวีพญาไท
เลยได้ไปดูแถวทองหล่อแทน
กะว่าจะให้อยู่แถวนั้นแหละ เพราะอยู่ตรงสถานีรถไฟฟ้าพอดี
การเดินทางสะดวกสบาย
ขอบคุณน้าติ๋มมากเลยนะคะ เอาไว้วันหลังคงมีโอกาสแวะแอ่วหา
เพื่อนๆเขากลับกันก็เลยกลับมาพร้อมๆเพื่อนค่ะ
กรุงเทพฯของเราคงจะค่อยๆกลับมาเหมือนเดิม
เห็นซากไฟไหม้แล้วเศร้าใจค่ะ
      บันทึกการเข้า

pom shi 2516
เหยง 16
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: rcu2516
คณะ: เภสัชศาสตร์ 2516
กระทู้: 23,533

« ตอบ #664 เมื่อ: 24 พฤษภาคม 2553, 09:28:40 »

    
เรียน ท่านรองนายกรัฐมนโทถาวรโปรดพิจารณาธรรมาธิปไตยออกรายการสภาโจ๊ก

ท่านรองนายกฯ ก็หนีเสื้อแดงแบบหัวซุกหัวซุน จะมีเวลาเข้าเว็ปมาดูและไปออกรายการหรือเปล่า?? ก็ไม่ทราบได้
      บันทึกการเข้า
Samrotri2517
Cmadong Member
Hero Cmadong Member
****


จะเป็นด้านที่1และ2ของ3เหลี่ยมฯ เพื่อให้เกิดด้านที่3
ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: รหัสเข้า 17 รุ่น 57
คณะ: แพทยศาสตร์ จุฬาฯรุ่น 30
กระทู้: 1,915

« ตอบ #665 เมื่อ: 24 พฤษภาคม 2553, 11:13:33 »

อ้างถึง
ข้อความของ เหยง 16 เมื่อ 24 พฤษภาคม 2553, 09:28:40
   
เรียน ท่านรองนายกรัฐมนโทถาวรโปรดพิจารณาธรรมาธิปไตยออกรายการสภาโจ๊ก

ท่านรองนายกฯ ก็หนีเสื้อแดงแบบหัวซุกหัวซุน จะมีเวลาเข้าเว็ปมาดูและไปออกรายการหรือเปล่า?? ก็ไม่ทราบได้










ได้รับมาจากฟอเวอร์ดเมลล์ขอขอบคุณ และ ขอร่วมสร้างประเทศไทยดัวยการสร้างสภาประชาชน

ร่วมสร้างประเทศไทยให้น่าอยู่
“ สภาประชาชน” เพื่อการปฏิรูปประเทศไทย
ขอขอบคุณ บทความพิเศษ น.ส.พ.ไทยโพสต์ วันเสาร์ ที่ 22 พฤษภาคม 2553 ที่สนับสนุนเนื้อหา
http://www.thaipost.net/news/220510/22385

นับเป็นสัปดาห์แห่งการต้องลุ้นวันต่อวันว่า อะไรจะเกิดขึ้นกับประเทศไทยที่เรารักและปรารถนา
อยากเห็นการพัฒนาและปฏิรูปสู่ความเป็นหนึ่งของการเป็นชาติที่ได้รับการขึ้นทำเนียบว่า

“ประเทศที่น่าอยู่ที่สุดในโลก”

ไม่อยากเห็นก็ต้องพบ  ไม่อยากฟังก็ต้องได้ยิน ไม่อยากดูก็ปฏิเสธไม่ได้กับ
ภาพคนไทยต้องเสียเลือดเสียเนื้อ....เพราะ....พวกเรากันเอง  

มิได้มีศัตรูจากภายนอกต่างเชื้อชาติ ต่างภาษา ต่างดินแดนเข้ามาทำร้ายเราเลยแม้แต่น้อย  
แต่ประเทศไทยกลับกลายเป็นดินแดนที่ปราศจากความปลอดภัย
ไม่น่าเดินทางเข้าไปเยี่ยมเยียนติดอันดับท็อปเท็นของโลก

หวังเหลือเกินว่า จนถึงวันนี้ทุกอย่างจะคลี่คลาย  สังคมไทยสามารถคืนสู่ความสงบ
กระบวนการปรองดองเดินหน้า เฉกเช่นเดียวกับแผนการปฏิรูปประเทศไทย
ซึ่งบัดนี้ดูเหมือนว่า คึกคัก มีหน่วยงาน เครือข่าย องค์กรต่างๆ พร้อมใจกันประกาศเจตนารมณ์ว่า

ถึงเวลาที่จะต้องปฏิรูปประเทศไทย            
เพราะปัญหาวิกฤตของประเทศไทย  ความขัดแย้งทางการเมือง เป็นบ่อเกิด
ให้ทุกฝ่ายหันมาสนใจเรื่องการปฏิรูปประเทศไทยอย่างจริงจัง  หรือ
เพราะเงื่อนเวลาถูกบ่มเพาะจนได้ที่ตามหลักการกระมัง ทำให้วันนี้มีการนำประเด็น

“การปฏิรูปประเทศไทย” ขึ้นมาในวงสนทนา  เวทีสัมมนามากมาย  

โดยไม่จำเป็นต้องรอรัฐหรือนักการเมืองเป็นผู้ริเริ่มอีกต่อไป



ผมจำได้ว่า  นักวิชาการอย่างอาจารย์สมเกียรติ  ตั้งกิจวานิชย์ แห่งทีดีอาร์ไอ
ได้เคยนำเสนอยุทธศาสตร์การเปลี่ยนแปลงประเทศไทยน่าอยู่ผ่าน
เวทีเครือข่ายสถาบันทางปัญญาเมื่อปีที่แล้วในประเด็นหัวข้อ

“จุดคานงัด: ประเทศไทยเพื่อฝ่าวิกฤตการณ์สังคม เศรษฐกิจ การเมืองที่ซับซ้อน”

ซึ่งอาจารย์ได้เสนอสูตรของการทำให้ประเทศไทยพัฒนาไปในเส้นทางที่ปรารถนาว่า

จำเป็นต้องมีห้วงเวลาที่เหมาะสมวันนี้  ปีนี้  เหมาะสมด้วยเป็นความจำเป็นอย่างยิ่งยวด  
คงไม่มีใครคัดค้านหรือต่อต้าน

ส่วนใครจะเป็นเจ้าภาพหรือ สถาบันใดจะเป็นผู้ขับเคลื่อนนั้น  คงไม่สำคัญเท่ากับว่า  
คนที่อยากเห็นการปฏิรูปประเทศไทยเป็นจริงนั้น  มีเจตนาแน่วแน่


ตั้งใจแก้ไขในสิ่งผิดเปลี่ยนแปลงความบกพร่องผิดพลาดที่เกิดขึ้นด้วยความจริงใจจริงจังแค่ไหน

เลิกเสียทีเถอะครับ กับเอะอะตั้งคณะกรรมการ  ของบประมาณ  แล้วก็ทำงานกันอยู่ไม่กี่คน
เสร็จแล้วออกมาเป็นเอกสาร เป็นเล่มหนาและหนักหลายกิโล  
สุดท้ายก็พอใจปฏิรูปกันแต่ในกระดาษเท่านั้น


ผมเห็นว่า  ข้อกังวล จนเป็นข้อเสนอ หรือความสนใจของทุกฝ่ายที่เห็นพ้องกันว่า

ควรมีการปฏิรูปใหญ่ประเทศไทยนั้น เป็นเรื่องถูกต้อง  และเหมาะสมกับกาลเวลา เพราะ

สังคมไทยรับรู้ความเจ็บปวดร่วมกันอย่างแสนสาหัสตลอดระยะสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา
แม้นจะไม่ใช่ชาวบ้านที่อยู่ในพื้นที่เป้าหมายการดำเนินการของฝ่ายทหารก็ตาม


 บรึ๋ยยย บรึ๋ยยย บรึ๋ยยย

แต่ผมอดไม่สบายใจว่า รูปแบบของการทำงานเพื่อการเปลี่ยนแปลงประเทศไทยนั้น
จะเป็นแบบฉาบฉวย  เฉพาะหน้า  เสมือนการแก้ปัญหาทางการเมืองหรือไม่

ดังนั้น  ข้อเสนอในการขับเคลื่อน

“สภาประชาชนปฏิรูปประเทศไทย”  

จึงเป็นเรื่องน่าสนใจอย่างยิ่ง  เพราะหัวใจของการเปลี่ยนแปลงประเทศไทยผมเห็นด้วยกับ



สูตรสามเหลี่ยมเขยื้อนภูเขา  ของ อาจารย์ประเวศ วะสี   ราษฎรอาวุโส ครับ นั่นคือ

จะต้องทำจากฐานรากหรือเริ่มจากฐานเจดีย์หรือสามเหลี่ยม  
ไม่ใช่จากยอดลงล่าง จากส่วนกลางสั่งการไปยังส่วนภูมิภาค
เฉกเช่นที่ผ่านมาอีกต่อไป


สภาประชาชนเป็นรูปแบบที่ให้ภาคประชาชนเป็นผู้ขับเคลื่อนการปฏิรูป

แตกต่างจากอดีต ที่การพัฒนาประเทศไทยต้องรอรัฐบาลเท่านั้น   หรือ
คาดหวังจากสภาผู้แทนราษฎร ที่อ้างว่าเป็นตัวแทนของประชาชนทุกครั้งไป


ในความหมายของสภาประชาชน  อาจจะมีหลายคนที่เห็นไม่เหมือน หรือสอดคล้องว่า

ควรจะเป็นการทำงานร่วมกับภาคประชาชนไม่ว่าจะเป็นผู้นำท้องถิ่นอาสาสมัครจากภาคประชาสังคม
องค์กรพัฒนาเอกชน  ภาคธุรกิจ  นักวิชาการ เครือข่ายองค์กรชุมชน  เครือข่ายแรงงาน
สื่อมวลชน   ผู้ทรงคุณวุฒิจาก องค์กรอิสระ และสมาชิกวุฒิสภา ฯลฯ  

แต่อย่างไรก็ตาม ในความเหมือนที่แตกต่าง  ผมเชื่อว่า ทุกคนมีเป้าหมายร่วมกันแล้วว่า  
กระบวนการปฏิรูปประเทศไทยต้องลงมือปฏิบัติ

สำหรับประเด็นของการปฏิรูป จะแจกจ่าย หรือเลือกดำเนินการเป็นลำดับก่อนหลัง
ขึ้นอยู่กับความสำคัญเร่งด่วนหรือไม่อย่างไรนั้น  คงต้องช่วยกันถามตัวเองว่า  

ความวุ่นวายในบ้านเมืองจนเกิดความแตกแยกกันอย่างหนักนี้  ใช่ประเด็นปัญหาความเหลื่อมล้ำ  
ช่องว่างของคนจนคนรวย การมีสองมาตรฐานในกระบวนการยุติธรรม
ตลอดจนปัญหาทุจริตคอรัปชั่นใช่หรือไม่อย่างไร


ถ้าหากสามารถตอบคำถามดังกล่าวได้  บริบทของการปฏิรูปก็ไม่ใช่เรื่องยาก...จริงไหมครับ

ความยากง่ายคือ การสร้างสำนึกการมีส่วนร่วมของทุกฝ่ายในการขับเคลื่อนสภาประชาชน
ให้เป็นของประชาชน เพื่อประชาชนอย่างแท้จริงต่างหาก

เพราะมิเช่นนั้นแล้วประวัติศาสตร์อาจจะซ้ำรอยที่กล่าวกันว่า  
รัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทยพุทธศักราช 2540 เป็นรัฐธรรมนูญฉบับที่ดีที่สุด  
แต่ในภาคปฏิบัติกลับมีช่องโหว่ให้นักการเมืองเจ้าเล่ห์สามารถทำร้ายประเทศไทยได้มากที่สุด
อย่างที่ไม่เคยปรากฏมาก่อนเช่นกัน

 gek gek gek gek gek gek

ทำอย่างไร “สภาประชาชน” จะเป็นของประชาชนและทำงานการปฏิรูป
ไม่ใช่กลายเป็นแหล่งซ่องสุมทางการเมือง  องค์กรแสวงหาอำนาจ
เพื่อการต่อรองแสวงหาผลประโยชน์


สภานี้ต้องให้ประชาชนแสดงปัญหาที่มีอยู่ให้ชัดเจนมากขึ้น จนนำไปสู่
การสร้างนโยบายแก้ไขปัญหาอย่างจริงจังสอดคล้องกับชีวิตของประชาชนอย่างแท้จริง

 ปิ๊งๆ ปิ๊งๆ ปิ๊งๆ

ถ้านึกไม่ออกล่ะก็  ผมอยากจะแนะนำว่า  

การบริหารจัดการของ เครือข่ายเพื่อชุมชนเข้มแข็ง  ที่มีกระจัดกระจายอยู่ทั่วทุกภาคในเวลานี้
เป็นตัวอย่างที่น่าลงไปศึกษา  และถอดแบบมาเป็น

บทเรียน สร้างองค์ความรู้แก่ทุกฝ่ายได้ดีที่สุดครับ

ความจริงผมอยากจะเขียนตัวอย่างชุมชนเข้มแข็งที่เขาช่วยกันคิดกันทำจนหมู่บ้านและตำบล
ของเขาน่าอยู่ เป็นการยืนยันว่า

สังคมไทยปฏิรูปตัวเองได้แน่ หากตั้งใจจริง  แต่สถานการณ์บ้านเมืองเป็นอย่างนี้
จะให้ผมวางมือเรื่องสภาประชาชนเพื่อการปฏิรูปประเทศไทย...ได้ไง


 so sad so sad so sad

ข่าวโดย นายใฝ่ฝัน   ปฏิรูป

OOOOOOOOOOOOOOOOOOOOOOOOOOOOOOOOOOOOOOOOOOOOOOOOOOOO

 ปิ๊งๆ ปิ๊งๆ ปิ๊งๆ

ผมซีมะโด่งรหัส17ขอเสนอให้สร้างเครือข่ายในละแวกบ้านของพวกเราให้เข้มแข็งกันทั่วไทย เพื่อ


ปฏิรูปประเทศไทย ให้เป็นการปกครองของประชาชน โดยประชาชน และ เพื่อประชาชน แต่ใช้ คุณภาพ ตัดสินแทน ปริมาณ ด้วยการใช้ คุณธรรม แทน เสียงข้างมาก

 win win win

OOOOOOOOOOOOOOOOOOOOOOOOOOOOOOOOOOOOOOOOOOOOOOOO

ธรรมาธิปไตย การใช้คุณภาพเป็นตัวตัดสินแทนใช้ปริมาณ ใช้คุณธรรมแทนเสียงข้างมาก

 ปิ๊งๆ ปิ๊งๆ ปิ๊งๆ

ขอขอบคุณ คอลัมภ์การเมือง : ทัศนะวิจารณ์ น.ส.พ.กรุงเทพธุรกิจ
วันอังคาร ที่ 18 พฤษภาคม 2553 01:00
http://www.bangkokbiznews.com/home/detail/politics/opinion/reader-opinion/20100518/115915/%E0%B8%98%E0%B8%A3%E0%B8%A3%E0%B8%A1%E0%B8%B2%E0%B8%98%E0%B8%B4%E0%B8%9B%E0%B9%84%E0%B8%95%E0%B8%A2.html

ทัศนะจากผู้อ่าน ผู้อ่านสามารถส่งเรื่องมาได้ที่ ktwebeditor@nationgroup.com



ธรรมาธิปไตย

โดย : ธนรัตน์ ยงวานิชจิต dhanarat333@gmail.com
 
การเดินทางสู่สันติสุขย่อมยาวนานตลอดชีวิต หากจะให้ราบรื่นย่อมต้องมีแผนที่
แต่ที่สำคัญ ยิ่งกว่าแผนที่
ได้แก่

การสอบวัดตัวเองก่อน ว่า เราเป็นใคร มีรากฐานมาจากที่ใด วัฒนธรรมแบบใด
เอกลักษณ์ (ความเป็นไทย) อย่างใด กำลังอยู่ ณ ที่ใด ฯลฯ

"ผลการสอบวัดตัวเอง" คือ "เข็มทิศที่ห้า" ซึ่งเป็นปัจจัยสำคัญที่สุด เพราะจะบ่งบอกว่า

"เราคือใครและจะเริ่มเดินทางจากจุดใด" ตามแผนที่ที่มีสี่ทิศพร้อมอยู่แล้ว
หากไม่มีจุดเริ่มต้น การเดินทางย่อมเป็นไปไม่ได้

เมื่อมี "เข็มทิศที่ห้า" แล้ว เราก็ต้องเลือกระบอบหรือยานพาหนะสำหรับนำพาเราเดินทาง
สู่จุดหมายปลายทาง คือ สันติสุข อันพึงปรารถนาของเรา

โดยทำการคัดเลือกและ/หรือสร้างสรรค์ ระบอบที่เหมาะสมคู่ควรกับเรา

โดยคำนึงถึงประวัติศาสตร์ วัฒนธรรม ตลอดจนเอกลักษณ์ (ความเป็นไทย) ของตัวเรา และ
ต้องระวังไม่เลือกผิดระบอบ
มิฉะนั้น จะส่งผลให้เราตกอยู่ในสภาพ

"หัวมังกุฏท้ายมังกร" ไม่สามารถนำพาเราสู่สันติสุข อย่างเช่นที่เป็นอยู่ในปัจจุบัน  

ระบอบหรือยานพาหนะมีให้เลือกหลายรูปแบบ เช่น

"ประชาธิปไตย" ซึ่งอาศัยเสียงข้างมากเป็นหลักในการดำรงชีพ

"อัตตาธิปไตย" ซึ่งอาศัยการบังคับบัญชาของบุคคลคนหนึ่งเป็นหลักฯ

"อิสราธิปไตย" ซึ่งอาศัยการเป็นอิสระจากการถูกบังคับบัญชาโดยบุคคลคนหนึ่ง
แต่ได้รับแต่การสนับสนุนทางทรัพยากรและความกระจ่างชัดแทน เป็นหลักฯ หรือ

"ธรรมาธิปไตย" ซึ่งอาศัยพระธรรมในพระพุทธศาสนาเป็นหลักฯ เป็นต้น
 
 gek gek gek

สามระบอบแรกดังกล่าว มีกติกาหรือกลไกที่ออกแบบโดย "ปุถุชน" ทั่วไป
ไม่จำต้องนับถือศาสนาเดียวกัน โดยมีพื้นฐานอยู่ที่ "องค์ความรู้" (knowledge)
ที่เปลี่ยนแปลงตามกาลสมัยอยู่เสมอ ส่งผลให้ขาดความเหมาะสมหรือผิดกาลเทศะได้

ส่วน "ธรรมาธิปไตย" มีกติกาที่ออกแบบโดย "พุทธมามกะ" โดยมีพื้นฐานอยู่ที่ "พระธรรม"



ของ "อริยชน" คือ องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า อันเป็น
"สัจธรรม" (absolute truth) ที่ไม่เปลี่ยนแปลงแต่ทันสมัยอยู่เสมอ

"ธรรมาธิปไตย" จึงเป็นระบอบที่มี"พระธรรม"มิใช่"พระสงฆ์"หรือ"ปุถุชน"เป็นหลักในการตัดสิน
กล่าวคือ เป็น

ยานพาหนะที่มี "แสงสว่าง" นำทางให้เราเดินทางได้ทั้งกลางคืนกลางวัน
รอดผ่านถ้ำมืดได้อย่างปลอดภัยสู่จุดหมายปลายทาง


"ธรรมาธิปไตย" จะปกครองและป้องกันแก้ไขปัญหาต่างๆ ของชาติบ้านเมืองได้อย่างไร

ในด้านการปกครอง "ธรรมาธิปไตย" ย่อมคำนึงถึงประโยชน์สุขของประชาชนเป็นเกณฑ์
โดยเป็นนิติรัฐมีนิติธรรมเยี่ยงอารยประเทศทั้งหลาย

โดยให้แต่งตั้งคนดีมีศีลธรรมและความสามารถสูงเป็นผู้บริหารในระยะแรกเริ่ม และ
อาศัยหลักธรรมที่เน้นการสอนคนให้ตื่นจากกิเลสตัณหากับการยึดติดทั้งปวง

กลายเป็นคนมีเสรีภาพจริงๆไม่กลับเข้าเรือนจำรอบแล้วรอบเล่าอย่างเช่นในสังคมโลกตะวันตก  

ในด้านเศรษฐกิจ ให้อาศัยหลักธรรมต่างๆ เป็นพลังขับเคลื่อน เช่น

"มรรคมีองค์แปด" "อิทธิบาทสี่" เพื่อการดำรงชีพและพัฒนาอาชีพ เป็นต้น

ส่วนการกระจายรายได้ ให้เน้นการพึ่งตนเอง โดยการฝึกวิชาชีพ และอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม
เพื่อการประกอบอาชีพ ฯลฯ
 


ดร.อีเอฟ ชูมาเชอร์ (E.F. Schumacher)นักเศรษฐศาสตร์โด่งดังระดับโลกได้เขียนหนังสืออมตะ



"Small is Beautiful : Economics as if People Mattered
(จิ๋วแต่แจ๋ว เศรษฐศาสตร์ในแง่ที่คนเป็นปัจจัยสำคัญ)" ปี 2516 โดยสาธยายถึง

Buddhist Economics (เศรษฐศาสตร์ชาวพุทธ) ไว้อย่างน่าสนใจ นอกจากนี้
พุทธพจน์ยังสอนให้เราอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมเยี่ยงภมรผึ้งที่ดูดน้ำหวานจากดอกไม้ไปทำรังผึ้ง
โดยไม่ทำลายดอกไม้ ฯลฯ ซึ่งล้วนแล้วแต่เป็นเศรษฐศาสตร์เชิงพุทธอันยั่งยืนทันสมัยยิ่ง
 
ในด้านจิตใจ ให้อาศัยหลักธรรมต่างๆ เช่น

"สติปัฏฐานสี่"เพื่อเจริญสัมมาสติ/"ปฏิจจสมุปบาท"เพื่อหยั่งรู้กระบวนการทางใจที่เป็นกิเลสเป็นต้น

ล้วนเป็นมรรควิธียกพลังจิตให้คิดดีทำดีอย่างมีประสิทธิผล
เป็นการช่วยสร้างครอบครัวและชาติบ้านเมืองให้อยู่ดีมีสุข


ปัจจุบัน พระธรรมได้รับการศึกษาและยอมรับนับถือจากบรรดานักจิตวิทยาโด่งดังของ
มหาวิทยาลัยฮาร์วาร์ด และอื่นๆ อีกหลายแห่งในสหรัฐอเมริกา ซึ่งหลายๆ ท่านเหล่านี้
ได้เขียนหนังสือเผยแพร่และประยุกต์พระธรรม
ในการรักษาคนป่วยเป็นโรคจิตได้อย่างมีผลดีมาแล้ว

โดยที่พระธรรมมีความสอดคล้องมากกว่าขัดแย้งกับศาสนาอื่น
อีกทั้งได้อยู่คู่กับสถาบันชาติกับกษัตริย์ไทยมาร่วม 700 ปี

"ธรรมาธิปไตย" จึงมีความเหมาะสมยิ่งสำหรับปกครองประเทศ
ที่มีประชากรนับถือต่างศาสนาอยู่เป็นจำนวนมากอย่างไทย


ทันทีที่ "ธรรมาธิปไตย" เดินเครื่อง ยานพาหนะนี้จะแล่นฉิวด้วยจิตวิญญาณของอริยชนที่
สามารถเจริญพัฒนาด้วยตนเองและด้วยค่าบำรุงรักษาที่ต่ำมากเพราะมีความพอเพียงอยู่ในตัว

 ปิ๊งๆ ปิ๊งๆ ปิ๊งๆ
 
ข้อเสนอข้างต้น คือ ภาพยกร่างของ "ธรรมาธิปไตย" ส่วนรายละเอียดจะเป็นภารกิจของส่วนรวม
ในการช่วยกันระดมความคิดสร้างสรรค์เสริมสร้างให้เป็นระบอบที่ยั่งยืน

โดยอาจมีการปรับแต่งในทางปฏิบัติจนกว่าจะลงตัวเป็นส่วนใหญ่ หากสัมฤทธิผล
ก็จะเป็นระบอบที่คู่ขนานกับระบอบของบางประเทศในภาคตะวันออกกลางที่
มีศาสนาอิสลามเป็นศาสนาประจำชาติ และมีกติกาการปกครองอยู่มาก
ที่มาจากบทบัญญัติในศาสนาโดยตรง
 
"ธรรมาธิปไตย" คือ สมุนไพรที่มีศักยภาพแก้พิษสง "ลัทธิสัตว์เศรษฐกิจ" ได้ฉมัง และ
เป็นทางออกโค้งสุดท้ายของราชอาณาจักรไทย


OOOOOOOOOOOOOOOOOOOOOOOOOOOOOOOOOOOOOOOOOO

 เหนื่อย เหนื่อย เหนื่อย

ผมขอเสนอว่า ถ้าประชาชนร่วมเสนอปรับ ระบอบประชาธิปไตย ที่ใช้

สส.อภิปรายออกกฏหมาย ซึ่งจะมีกรณีพวกมากลากไป เป็นประโยชน์ต่อพรรค ต่อตนเอง

เป็นใช้คำสอน หรือ พระธรรม เป็นตัวตัดสิน เป็น ระบอบธรรมาธิปไตย ที่ประยุกต์ ใช้ ตามที่่
ดร.อีเอฟ ชูมาเชอร์ (E.F. Schumacher)
นักเศรษฐศาสตร์โด่งดังระดับโลก ที่เสนอให้

จิ๋วแต่แจ๋ว : Small is Beautiful  เกิดขึ้นเป็นยานพาหนะพาผู้อยู่ภายใต้การปกครอง เดินทาง
สู่จุดหมายโดยสวัสดิภาพ มีความสุขได้ ดีไหม พวกเราเมื่อ




พณฯท่าน นายกอภิสิทธิ เวชชาชีวะ จะเสนอให้มีการปฏิรูปการปกครองเร็วๆนี้



http://tavonch.blogspot.com/2008/02/blog-post_19.html



สุดท้ายนี้อยากเสนอให้พี่ถาวร โชติชื่น วิศวะจุฬาฯซีมะโ่ด่ง16ท่านรองนายกรัฐมนโทแห่งสภาโจ๊ก
นำระบอบธรรมาธิปไตยไปผูกเป็นเรื่องอภิปรายในสภาโจ๊กพรรคใดเสนอหลักธรรมในการแก้ปัญหาได้ดีกว่า
พรรคนั้นก็ได้รับการโหวตให้ชนะ ถึงแม้จะเป็นพรรคมีสมาชิกน้อยกว่า เป็นสภาโจ๊กเชิงสร้างสรรค์
เหอๆๆ

 หลั่นล้า หลั่นล้า หลั่นล้า



ต้องรบกวนพี่เหยง โทรฯ เรียนพณฯ ท่านรองนายกรัฐมนโทฯ ถาวร โชติชื่น นำ

สภาโจ๊กเชิงสร้างสรรค์ ธรรมาธิปไตย มาให้ชาวกรุงเทพฯ...ได้iร่วมรู้ว่ามี
วิธีการปกครองใช้คุณธรรมตัดสินแทนใช้เสียงข้างมาก เป็นด้านที่ 1 ของสามเหลี่ยมเขยื้อนภูเขา
เพื่อร่วมสร้างวัฒนธรรม เป็นด้านที่ 2 และ เพื่อให้กระตุ้นนักการเมืองให้ร่วมเสนอแก้ไขรัฐธรรมนูญ
เป็นการปกครองใช้ธรรม นำหน้าแทนเสียงข้างมาก เป็นด้านที่ 3
เมื่อทำครบทั้ง 3 ด้านของสามเหลี่ยมเขยื้อนภูเขา ก็จะเกิดการเปลี่ยนแปลง

ระบบการปกครองระบบคุณธรรมแทนเสียงข้างมากได้ครับ


 เหอๆๆ เหอๆๆ เหอๆๆ
      บันทึกการเข้า

3 เหลี่ยมเขยื้้อนภูเขา เสนอโดย ศ.นพ.ประเวศ วะสี มี 3 ด้าน คือ ด้านที่ 1 ด้านให้ความรู้กับกลุ่มคน ด้านที่ 2 กลุ่มคน ที่ได้รับความรู้ เห็นด้วย สร้างวัฒนธรรมไม่มีบทลงโทษถ้าไม่ทำ ด้านที่ 3 ด้านการเมือง เป็นด้านออกกฏหมาย มีบทลงโทษถ้าไม่ปฏิบัติ ถ้ามีครบ 3 ด้านจะเกิดการเปลี่ยนแปลงได้จริง
khesorn mueller
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: 2527
คณะ: รัฐศาสตร์
กระทู้: 71,885

« ตอบ #666 เมื่อ: 11 กันยายน 2553, 15:56:13 »

พี่ๆรุ่น16
หนิงได้รับเมล์จากพี่เล็ก-พูลศรีเมื่อกลางเดือนสิงหา
น่าเสียดายอย่างยิ่งเป็นช่วงที่หนิงไม่อยู่บ้าน,กลับมา
ท่องเที่ยวในเมืองไทย จึงไม่ได้ตอบพี่เล็กจนเมื่อวาน!
เช็คmailboxให้ดีใจและตกใจด้วยว่าคลาดกะพี่เล็กนิดเดียว
เพราะช่วงต้นสิงหาพี่เล็กและครอบครัวน่าจะอยู่เมืองไทย
ด้วยเช่นกัน.

พี่เล็กเปิดภาคเรียน วุ่นกะเรื่องงานตามกระแส
หนิงบอกพี่เล็กว่าจะมารอพี่เค้าที่นี่...

จึงเรียนมาให้พี่ๆทราบ



nn.(น้อง..ศิษย์ก้นกรุ รุ่น16+11)
      บันทึกการเข้า


iamfrommoon
Cmadong ชั้นเซียน
*****


ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: 2535
คณะ: พาณิชยศาสตร์และการบัญชี
กระทู้: 8,396

เว็บไซต์
« ตอบ #667 เมื่อ: 13 กันยายน 2553, 12:04:02 »

แวะมาบอกว่า...คิดถึงๆ พี่ๆ นะคะ....สารซีมะโด่งจะออกให้ไ้ด้ปลายปีนี้ค่ะ
      บันทึกการเข้า

@@ธรรมชาติสร้างความขัดแย้ง เพื่อให้คนเรียนรู้ซึ่งกันและกันได้ดียิ่งขึ้น@@@

khesorn mueller
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: 2527
คณะ: รัฐศาสตร์
กระทู้: 71,885

« ตอบ #668 เมื่อ: 13 กันยายน 2553, 13:23:39 »

เก็บให้พี่เล่มเนิงนะน้องปุ๊กกี๋
      บันทึกการเข้า


wannee
Global Moderator
Cmadong พันธุ์แท้
*****


ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: จุฬาฯรุ่นประวัติศาสตร์ 2516
คณะ: ทันตแพทยศาสตร์
กระทู้: 4,806

« ตอบ #669 เมื่อ: 13 กันยายน 2553, 22:55:39 »

อ้างถึง
ข้อความของ khesorn mueller เมื่อ 11 กันยายน 2553, 15:56:13
พี่ๆรุ่น16
หนิงได้รับเมล์จากพี่เล็ก-พูลศรีเมื่อกลางเดือนสิงหา
น่าเสียดายอย่างยิ่งเป็นช่วงที่หนิงไม่อยู่บ้าน,กลับมา
ท่องเที่ยวในเมืองไทย จึงไม่ได้ตอบพี่เล็กจนเมื่อวาน!
เช็คmailboxให้ดีใจและตกใจด้วยว่าคลาดกะพี่เล็กนิดเดียว
เพราะช่วงต้นสิงหาพี่เล็กและครอบครัวน่าจะอยู่เมืองไทย
ด้วยเช่นกัน.

พี่เล็กเปิดภาคเรียน วุ่นกะเรื่องงานตามกระแส
หนิงบอกพี่เล็กว่าจะมารอพี่เค้าที่นี่...

จึงเรียนมาให้พี่ๆทราบ



nn.(น้อง..ศิษย์ก้นกรุ รุ่น16+11)


สวัสดีค่ะหนิง ปิ๊งๆ
       
คอยพี่เล็ก ไม่รู้จะนานมั้ย   เอิ่มม
       
คุยกับพี่ 16 คนอื่นไปพลางก่อนนะคะ  บ่ฮู้บ่หัน

      บันทึกการเข้า

"เสียด" ภาษาจีนฮากกา แปลว่า หิมะ
wannee
Global Moderator
Cmadong พันธุ์แท้
*****


ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: จุฬาฯรุ่นประวัติศาสตร์ 2516
คณะ: ทันตแพทยศาสตร์
กระทู้: 4,806

« ตอบ #670 เมื่อ: 13 กันยายน 2553, 22:56:41 »

อ้างถึง
ข้อความของ iamfrommoon เมื่อ 13 กันยายน 2553, 12:04:02
แวะมาบอกว่า...คิดถึงๆ พี่ๆ นะคะ....สารซีมะโด่งจะออกให้ไ้ด้ปลายปีนี้ค่ะ

สวัสดีค่ะปุ๊กกี้  ปิ๊งๆ

ขอบคุณน้องมากค่ะ  รักนะ
      บันทึกการเข้า

"เสียด" ภาษาจีนฮากกา แปลว่า หิมะ
  หน้า: 1 ... 25 26 [27]  ทั้งหมด   ขึ้นบน
  
กระโดดไป:  

     

ทำไมหอพักนิสิตจุฬาจึงเป็นดินแดนมหัศจรรย์            " ไม่ได้เป็นแค่หอให้นอนพัก  แต่เป็นบ้านอบอุ่นรักให้อาศัย  ไม่เป็นแค่ที่ซุกหัวยามหลบภัย  แต่สร้างใจให้เข้มแข็งแกร่งการงาน"  <))))><