29 มีนาคม 2567, 14:42:00
ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน


เข้าสู่ระบบด้วยชื่อผู้ใช้ รหัสผ่าน [สมาชิกเก่าลืมรหัส โทร 081-7611760]
A A A A  ระเบียบปฎิบัติ
   
Languages    
  หน้า: 1 ... 716 717 [718] 719 720 ... 727   ลงล่าง
ผู้เขียน หัวข้อ: Greeting From Germany part VI-ต่อกับ Part II ....What a Day!  (อ่าน 2168708 ครั้ง)
0 สมาชิก และ 3 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
khesorn mueller
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: 2527
คณะ: รัฐศาสตร์
กระทู้: 71,885

« ตอบ #17925 เมื่อ: 17 มกราคม 2562, 04:37:17 »


พี่เหยง,
คลิ้กเข้าดูแล้วค่ะ textมีให้อ่านไม่มาก มีภาพให้ชม
สันนิษฐานว่าคงยังไม่ได้แต่งงานนะคะ เพราะคง
พามารู้จักครอบครัวผู้หญิง?
เอาใจช่วยค่ะ...ให้แต่งงานอยู่กินเป็นครอบครัวเริ่มต้น
เพราะกว่าจะถึงจุดหมายถึงขั้นแต่งงานให้ได้..
ยากระดับนึง...แต่เริ่มต้นนับ1ชีวิตคู่ ยากกว่าหลายเท่าค่ะ

      บันทึกการเข้า


khesorn mueller
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: 2527
คณะ: รัฐศาสตร์
กระทู้: 71,885

« ตอบ #17926 เมื่อ: 13 กุมภาพันธ์ 2562, 17:36:29 »


เมื่อ 22 มกราคม 2562เราทั้งคู่,sheกะพ่อบ้าน
ซื้อตั๋วบินมาเมืองไทย เพื่อมาดักรอพบลูกชาย
ที่จะบินจากเมลเบริ์นมาพบกันที่กรุงเทพฯ
เราวางแผน/จองตั๋วได้สายการบินของฟินน์แลนด์
สายการบินFinnair ลั่ลล้าจริงคะ เพราะต้องบินจาก
Frankfurt 2ชั่วโมงกว่าเกือบ 3ชั่วโมง บินไปHelsinki

ถึงโน่น,ปรากฏเครื่องที่มาจากสุวรรณภูมิล่าช้า ต้องรอเครื่อง
Transit เสียเวลาไป 4 ชั่วโมงคะ ติดแป๊กที่นั่น เค้าแจกคูปอง
อาหารคนละ 17 € แต่จะไปหาซื้อกินอะไรได้ตอนเที่ยงคืน
ที่ร้านปิดหมด เราเลยนั่งๆนอนๆที่แถวนั้น ท่าอากาศยานเค้า
กว้างใหญ่สะอาดสงบเงียบมากๆที่นั่ง/ที่นอนเยอะมากขนาด
คนรอขึ้นเครื่องนอนยาวกันได้ไม่ต้องแย่งกัน...หุหุ
เครื่องAirbusใหญ่ A350นำพวกเราบินลัดฟ้าจากเฮลซิงกิ
11-12ชั่วโมงมาสุวรรณภูมิวันที่ 23 มกราคม 2562ราวค่ำๆ
จับแท็กซี่จากสนามบินไปศูนย์ราชการที่พักศาลตุลาการนนทบุรี
ที่เราจะพักกัน...การผจญภัยในเมืองไทยก็จะเริ่มขึ้นได้เลย?
      บันทึกการเข้า


khesorn mueller
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: 2527
คณะ: รัฐศาสตร์
กระทู้: 71,885

« ตอบ #17927 เมื่อ: 13 กุมภาพันธ์ 2562, 18:33:13 »

ช่วงกลับมาเมืองไทยมกรา-กุมภา 2562
ดูข่าวเค้าhitเรื่องควันละออง...pollutionกรุงเทพ
ที่มากจนท้องฟ้ามืดมัวเป็นฝ้าปกคลุมกรุงเทพฯ

พี่น้อง,sheไปจากกรุงเทพ 25 ปีคะ...25ปีคูณ365วันเข้าไป
ไม่ใช่ว่าสมัยอยู่เมืองไทยจะไม่มีปัญหาเรื่องท่อควัน/ไอรถยนต์
ที่มีจำนวนเพิ่มมากขึ้น มากขึ้นทุกปี เพราะรถยนตร์/รถเมล์มี
จำนวนไม่ลดลงคะมีแต่จะเพิ่มขึ้น แถมบางคันพ่นควันดำปี๋
ไม่มีใครไปจับ/ไปบอกให้นำรถไปตรวจไปเปลี่ยน ไปซ่อม
เพราะรถยนต์เป็นของแพง...แพงกว่าบ้าน แพงกว่าที่ดิน
ซื้อครั้งเดียวใช้กันจนนำไปปลูกสะระแหน่??sheเห็นภาพและเข้าใจ,
ว่าจะให้อากาศกรุงเทพฯดีต้องระวังเรื่องควันไอพ่นจากรถยนต์
กะปลูกต้นไม้มาช่วยฟอกอากาศอีกทางนึงให้ทันกะควันเสียที่พ่น
ออกมาในบรรยากาศรอบๆจนแสบจมูกแสบตา...25ปีที่ผ่านมา
ก่อสร้างทางให้รถวิ่งมากขึ้น จำนวนรถยนต์ที่ส่งออกสู่ท้องถนนมากขึ้น
ที่ทาง/ที่จะปลูกต้นไม้-ดอกไม้น้อยลงน้อยลงเพราะต้องใช้สร้างอาคาร
ที่พัก/ที่อยู่อาศัย สร้างถนน สร้างนั่นนี่…
ควัน/ฝุ่นละอองจากท่อไอเสีย คนละเรื่องกะฝุ่นดิน ฝุ่นควันเผาหญ้า
สูดเพราะต้องสูด หนีไม่ได้ เลี่ยงไม่ได้ ติดแอร์ในรถ/ในบ้านก็ใช่
จะช่วยให้หลีกเลี่ยงได้คะ ทุกวัน ทุกวันสะสมมา10-20ปีคะ
ผลคือภาวะการเจ็บไข้ได้ป่วยด้วยโรคทางเดินหายใจ โรคปอด
โรคAsthmaทวีเติบโต จนมาเห็นผลวันนี้คะพี่น้อง20-30ปีนี่ปอดพัง
ทางเดินหายใจพัง ภูมิไม่สามารถช่วยได้คะ เจ็บไข้/ป่วยกันตอน50+
60+คือวันนี้คะ!
รอฝนตกลงมาชำระไอละอองฝุ่นควัน...เหมือนชาวนารอฟ้ารอฝนคะ
ประชากรกรุงเทพ ไม่มีทางเลี่ยงอื่นใด นอกซะจากว่า,จะรณรงค์
ให้รถยนต์สลับกันวิ่งเลขคี่/คู่ หรือเพิ่มรอบให้คนใช้public Transport
หรือรณรงค์ให้บ้านเรือนช่วยกันคนละไม้คนละมือปลูกพืชพันธุ์/ต้นไม้
มาช่วยฟอกอากาศอีกแรงค่ะ ทางอื่นsheก็มองไม่เห็นหนทาง
ที่จะเป็นไปได้ได้เลย.
      บันทึกการเข้า


khesorn mueller
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: 2527
คณะ: รัฐศาสตร์
กระทู้: 71,885

« ตอบ #17928 เมื่อ: 13 กุมภาพันธ์ 2562, 19:01:44 »

เรื่องนี้ที่ประเทศจีนมีปัญหามากมาหลายปี
เดินใส่หน้ากากช่วยกรองมากี่ปีคะรู้รึปล่าว?
เค้าเริ่มเห็นปัญหาว่าการจะเป็นindustrie country
ต้องแลกกะอะไรมั่ง เมื่อรถยนต์/เครื่องกลอุตสาหกรรม
โรงงานอุตสาหกรรมแข่งกันพ่นควัน/ไอพิษออกสู่บรรยากาศ
การขยายตัวเป็นเมืองกระจุกเดียวที่คนไปแออัดเป็น5ล้าน10ล้าน
เป็นธรรมดาคะพี่น้อง ที่,ที่ทางเนื้อที่จะถูกใช้ไปเพื่อการอย่างอื่น
สร้างที่อยู่อาศัย สร้างถนนหนทางให้รถวิ่ง ไม่มีต้นไม้ให้รกรุงรัง
ไม่ต้องตัด ไม่ต้องกวาด ไม่ต้องวุ่นวาย...แต่ก็ไม่มีปอดในเมือง
มาช่วยฟอก ช่วยพ่นสับเปลี่ยนอากาศพิษ…

ลูกชายวิศวกร เล่าว่า,แกไปทำงานเป็นนักศึกษาฝึกงานที่Daimler
ได้มีโอกาสเข้าประชุมกะแผนกวิจัย/พัฒนา มีคราวนึงจีนส่งวิศวกร
มาคณะใหญ่ มาเข้าประชุมเรื่องการแก้ปัญหาลดอากาศเสีย มลพิษ
pollutionที่บ้านเมืองเค้ากำลังประสบปัญหาหลังจากการผงาดทางด้าน
เศรษฐกิจอู้ฟู้ล่ำซำลั่ลล้า ไม่ได้มองเรื่องปัญหาที่จะตามมาของ
อุตสาหกรรม ความเจริญ...เมืองใหญ่ๆมืดมัวคล้ายหมอกคะ
แต่ไม่ใช่หมอกจากไอน้ำ/ละอองน้ำ เป็นหมอกควันจากท่อไอเสีย
ที่พ่นจากปล่อง/จากรถยนต์ จีนเป็นประเทศที่สั่งซื้อรถเยอรมันเข้า
มากเมื่อเทียบสัดส่วนกะประชากร...บริษัทรถยนต์เยอรมันอู่ฟู่ล่ำซำ
เค้าถึงให้ความสำคัญกะลูกค้าเมื่อเรียกร้องอะไรมาพิเศษ!

เค้าบอกว่า,รถเบ็นซ์ที่ผลิตมาเพื่อใช้ขับขี่ในยุโรป เครื่องกรอง
เครื่องฟอกอากาศเสียก่อนพ่นออกจะcirculateอากาศที่ดีกว่า
เบ็นซ์ที่ขับขี่ที่บ้านเค้า...ที่รถต้องcirculateอากาศเสียละอองพิษ
เค้าต้องการให้รถที่ขายที่บ้านเค้ามีระบบนี้ที่แตกต่างจากรถที่ขาย
ในยุโรปทั่วไป…

เออจริงด้วยคะพี่น้อง เรื่องนี้กำลังhit และin trendในบ้านเราพอดี
แต่ทางนี้เป็นส่วนเดียว ส่วนย่อยในส่วนใหญ่ที่คนทุกคนคะต้องร่วมมือ
คนละไม้คนละมือกัน เพราะการโตเดี่ยวของเมือง ของมหานคร
ในแบบบ้านเรา ที่ในยุโรปไม่ใช่คะ ที่โน่นกระจายความเจริญ
ออกทั่วทุกที่ไม่กระจุกที่เดียว เค้าไม่มีปัญหาเรื่องนี้!
แต่ไม่ใช่ว่าในยุโรปไม่เคยเจอะปัญหานี้นะคะ...เมื่อเริ่มวัฒนาอุตสาหกรรม
ผู้คนย้ายไปอยู่ในเมืองกันมากขึ้น เค้าเจอะเรื่องโรคภัยจากการแออัด
ห่าลง กาฬโรค วัณโรคลงที ตายยกเมืองเมื่อ500ปีก่อน
พอมาปี1800ที่ควันเสีย ฝุ่นละอองอุตสาหกรรมถ่านหิน
คนเริ่มเจ็บป่วยเรื่องอื่น...เค้ารู้ปัญหานี้ แก้ไข ปรับปรุง
เมื่อรถยนต์เริ่มมากขึ้น เค้าก็สร้างpublic transportมาคาน
เพื่อให้คนใช้รถลดลง ขึ้นรถสื่อสารสาธารณะมากขึ้น เค้ารณรงค์
ให้ผู้คนรู้คุณค่ากะการปลูกต้นไม้ต้นไร่ดอกไม้ใบหญ้าที่ต้อง
ลงแรงลงทุนมากมายเพื่อให้รอบๆตัวพวกเค้าเขียวชอุ่มคะ
เค้าทำมาเป็นร้อยปีแล้ว….


      บันทึกการเข้า


khesorn mueller
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: 2527
คณะ: รัฐศาสตร์
กระทู้: 71,885

« ตอบ #17929 เมื่อ: 19 กุมภาพันธ์ 2562, 16:20:42 »


เพราะการมาเมืองไทยคราวนี้
จะว่าแตกต่างจากทุกคราในวัตถุประสงค์ก็คงว่าได้
คือทุกครา,มาเพื่อท่องเที่ยว พักผ่อน แถมเยี่ยมแม่

แม่ผู้ชราภาพวัย 95...โปรดฟังอีกครั้งหนึ่ง...95คะ
แม่ล้มหมอนนอนติดเตียงตั้งแต่ปีที่แล้ว ผ่ายผอม
ต้องให้อาหารจากสายยางเข้ากระเพาะ มีพยาบาล
มาสวนทวารทำความสะอาด ไม่มีแรงจะลุกนั่ง…
ผิดกันกะเมื่อคราพวกเรามาครั้งที่แล้วเมื่อ2ปีก่อน

คราวนี้,บวกแผนเยี่ยมพี่สาว ที่ไม่สบายที่สงขลา
เมื่อปีที่แล้วพี่สาวไปทำครอบฟัน แล้วปวดเหงือก
เจ็บกินเคี้ยวลำบาก แกก็วิ่งกลับไปหาหมอฟัน…
ส่งตรวจ ส่งฉายröntgentกันหลายหมอก็ไม่สามารถ
บอกได้ว่าสาเหตุความเจ็บ/ปวดเหงือก/ฟันกรามมาจากไหน
ความที่พี่สาวทำงานเป็นพยาบาล ใกล้หมอ ใกล้โรงพยาบาล
จึงสะดวกรวดเร็วในทุกเรื่อง หมอตรวจจนไม่รู้จะตรวจอะไร
อาการเจ็บ/เคี้ยวไม่ได้ก็ไม่หาย จนหมอใหญ่สันนิษฐานว่า
ต้องröntgenให้ลึกลงไปอีก...จึงพบว่า,สาเหตุเจ็บที่แก้มชิดหู
ไม่ใช่อาการจากการBehandlungทำฟัน/ครอบฟัน หรือการกด
เหงือก แต่เป็นเพราะมีเนื้องอกในต่อมน้ำลาย!
ผ่าตัดทันที...7-8ชม.เพราะเป็นเนื้อร้ายคะ ไม่ใช่เนื้อดี
Tumorลามลงเส้นน้ำลายต้องผ่าเลาะตัดต่อมส่งน้ำลายลึก
พวกเราติดตามข่าวใกล้ชิด ชมเชยในความกล้าหาญอดทน
ที่พี่สาวต้องเผชิญ...ออกจากห้องผ่าตัด ฟื้นตัว คนมาเยี่ยมมาก
พี่สาวอาการดีขึ้น ต้องระวังอาหาร ต้องระวังร่างกายแบบเฉียบพลัน
น้ำหนักลด20กก.ในช่วงเดือนเดียวที่ต้องฉายรังสี
 พี่สาวกลับไปทำงานในหน้าที่ เราทั้งคู่ไม่รอ...ต้องการมาเยี่ยมทันที

บวกกับลูกชายวิศวกรที่ได้ทุนแลกเปลี่ยนระหว่างมหาวิทยาลัย
StuttgartและMelbourne-ออสเตรเลีย มาศึกษาที่นั่น 1 เทอม
sheเล่าที่มาที่ไปจนลูกออกเดินทางเมื่อกรกฏาคม 2018ปีที่แล้ว?
แกอยู่ที่นั่น เรียนด้วย เที่ยวด้วย เที่ยวทาสมาเนียน เที่ยวนิวซีแลนด์
สอบปลายเทอมไปเมื่อมกรา2019เรียบร้อยครบทุกวิชา..แกมีเวลา
ช่วงปิดภาคเค้าจะบินมาเที่ยวเมืองไทย 20มกรา-17กุมภา 2019?
ลูกชายมีความตั้งใจ มุ่งมั่นที่จะทำใบอนุญาตดำน้ำ diving licence
ที่ราคาแพง 15,000-17,000บาท แกต้องการมาไต่เขาปีนเขา
rock climbing แกต้องการมาฝึกขับมอเตอร์ไซต์ ประจวบเหมาะ
...กะมาเยี่ยมคุณยายวัย 95...เยี่ยมป้าที่สงขลา-ที่ป่วย
เยี่ยมป้าอีกคนที่สงขลา- ที่เพิ่งเป็นหม้าย

ก่อนเดินทางไม่กี่วัน,ปลายธันวาคม 2018 พี่เขยที่สงขลาเสียชีวิต!
เศร้ามากๆคะ พี่สาวเล่าในไลน์เป็นระยะๆว่าพี่เขยวัย69-70ไม่สบาย
เป็นAsthmaโรคทางเดินหายใจ ปอด...ต้องฉีดพ่นยาเข้าปากสม่ำเสมอ
ก่อนเสีย 4สัปดาห์ที่แล้วกินไม่ได้ ผ่ายผอมน้ำหนักลด
ลูกเมียหาซื้อของกินของดื่มมาป้อนก็ไม่กิน...ก่อนเข้าโรงพยาบาล
ต้องเรียกรถพยาบาลมารับ พี่เขยไม่ยอมไปหาหมอคะ
โน้มน้าวยังไงก็ไม่ยอมไป ไม่ใช่เรื่องไม่มีเงิน แกเป็นครูมาก่อน
มีประกันมีเบิกคืนได้แต่ที่ไม่ไปเป็นคุณลักษณ์ของเค้าที่ไม่ชอบ
หาหมอ/พบหมอขอพักเอง/ดูแลตัวเองจนอาการน่าตกใจ..ลูกๆ
ถึงไม่รอ เรียกรถมา หมอกล่าวตำหนิว่าทำไมปล่อยไว้จนอาการ
ทรุดลามรักษายาก...พี่เขยรอลูกชายที่เดินทางจากกรุงเทพด่วน
เพื่อมาเยี่ยมพ่อ ขอกลับบ้าน...กลับได้1คืนต้องเรียกรถมารับกลับ
พี่เขยไปอย่างสงบคะคืนนั้น 1-2ชม.ก่อนลูกชายจะได้มาดูใจ!
สำหรับภรรยาคู่ทุกข์คู่ยาก,พี่สาวshe,ที่แต่งงานกันมา35-36ปี
การสูญเสียคู่ชีวิต แม้ไม่กระทันหัน เค้าได้คุยกันเรื่องนี้ เค้าได้ลากัน
ทำใจลำบากจากกันด้วยยังรักอาลัย แต่สำหรับเด็กๆลูกๆเค้า
การสูญเสียพ่อ เด็กๆขวัญเสียคะ

กระนั้น,แม้มีเรื่องหดหู่ รันทด โศกเศร้า…
เราทั้งคู่ ก็พยายามอย่างดีที่สุดที่จะรักษาระยะ
ใกล้-ไกลจากเรื่องต่างๆรอบตัว
      บันทึกการเข้า


khesorn mueller
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: 2527
คณะ: รัฐศาสตร์
กระทู้: 71,885

« ตอบ #17930 เมื่อ: 19 กุมภาพันธ์ 2562, 16:48:04 »


แผนมาเมืองไทยจึงให้น้ำหนักเท่าเทียมกัน
รักษาความสมดุลกันระหว่าง...ลงกรุงเทพเยี่ยมแม่
ไปบางบัวทอง แวะเยี่ยมยาย ลูกชายมาถึงก่อน2วัน
มีหลานสาวลูกน้องสาวที่เรียนปี4คณะศิลปศาสตร์-มหิดล
มาจากหอพักที่ศาลายามาสมทบ..ลูกชายได้คนวัยเดียวกัน
แฟนของหลานสาวเป็นเด็กชาวTurkmenistanติดทะเลคาสเปี้ยน
บินมาเยี่ยมแฟนสาวที่ใกล้จบมหาลัยเหลืออีกเทอมเดียว..
หลานสาว,เป็นเด็กสาวที่สูงยาวเข่าดีสมองดีบุคลิกดี กล้า ไม่กลัว
sheเฝ้ามองหลานสาวคนนี้แล้วคิดถึงตัวเองสมัยอายุ20-21คะ
เค้าไปAFS เค้าไปต่างประเทศโครงการwork &travelที่เมกา-วิสคอนซิน
2รอบ จึงได้ไปรู้จักเด็กหนุ่มจากสหภาพยูเนียนรัสเซียเก่าที่เมกา
เด็กหนุ่มบินมาจากรัสเซียมากรุงเทพ สมทบกัน ลูกชายสนุกสนาน
เข้าไปเยี่ยมยายรอบแรก พอพ่อแม่บินตามมาจากเยอรมันนี
ถือเป็นการเยี่ยมยายและฉลอง...เราทั้งคู่แต่งงานครบรอบ 25 ปี!
หาซื้ออะไรไปดื่ม ไปกินกัน นั่งเล่นคุยกันในสภาพบรรยากาศร้อนอบ
เหงื่อแตก แม่วัย95ดีใจลูกหลาน/เขยจากแดนไกลมาเยี่ยม
แม่กระปรี้กระเปร่าขยับมือ-พยายามสื่อสารที่,เราๆไม่เข้าใจคะ
ต้องตั้งใจฟัง ตั้งใจอ่านคำที่แม่,ผู้ไม่มีฟัน/ฟันปลอมพยายามอืออา
คุยกะพวกเรา..ได้รู้จักเด็กเทิร์กเมนิสสถาน ที่รู้/เข้าใจระบบครอบครัว
ได้รู้จักป้าลุงของแฟนสาวมากหน้าหลายตา..คุย วางแผนกันของเด็กๆ
หลานสาวได้งานโครงการwork &travelมานิวยอร์คปีนี้
นัดแนะอะไรยังไงเพื่อให้แฟนหนุ่มตามไปเมกาได้…
เด็กหนุ่ม,มาไม่มาเปล่ายังคงสถานะเพิ่งจบ/นักศึกษา
หาjobค่ายภาษาที่สุรินทร์ ที่น่าน มีรายได้พอได้อยู่เมืองไทย
4วันคะที่พวกเราอยู่ในกรุงเทพ ไม่ไปลงเรือเจ้าพระยา
ไม่ไปชมวัด งดทุกอย่าง ตั้งใจกะการเยี่ยมแม่อย่างเดียว!
      บันทึกการเข้า


khesorn mueller
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: 2527
คณะ: รัฐศาสตร์
กระทู้: 71,885

« ตอบ #17931 เมื่อ: 19 กุมภาพันธ์ 2562, 17:40:08 »

แล้วพวกเราทั้ง3,she-พ่อบ้าน-ลูกชาย
ซื้อตั๋วรถทัวร์ขึ้นที่เอกมัย ไปลงที่อ่าวธรรมชาติ
จังหวัดตราด เพื่อขึ้นเฟอรี่ไปเกาะช้าง!
จองที่พักของเราทั้งคู่มาจากเยอรมันนีเรียบร้อย
ลูกชายไม่ต้องการติดแจกะพ่อแม่ แกต้องการอยู่เอง
หาที่พักเองHostelราคาย่อมเยาว์กะพวกวัยเดียวกัน
ลูกพักห่างจากพวกเราไกลกันมากๆไม่ได้เจอะกันคะ
แกแยกไปทำกิจกรรม diving-snorkel-เดินป่า-เดินน้ำตก
ของแกเอง เราทั้งคู่ก็อยู่-พักที่รีสอร์ทหรู-อยู่สบาย
ตลอด มีออกเรือไปฝั่งตรงข้าม เดินตลาด
พายเรือkanuเล่น ไปไหว้ศาลกรมหลวงชุมพรที่เกาะช้าง
ที่ชาวเรือเข้าออกต้องบีบแตรเคารพsheไปกวาดถูศาลท่านมาแล้ว!
เราจองซื้อตั๋วออกไปsnorkel 4-5เกาะ ไปกะเรือใหญ่ค่อยๆแล่น
แวะส่งคนลงน้ำ ดูประการัง
ได้รู้จักนักท่องเที่ยวแคนาดา นักท่องเที่ยวยูโรเปี้ยน..

ที่สุดมหัศจรรย์,sheได้คุยกะแม่เจ้าของรีสอร์ท
เธอวัยเดียวกะsheคะ...เป็นหม้ายเมื่อ 2 ปีก่อน
สามีชาวนครฯมาซื้อที่ดินปลูกสร้างรีสอร์ทเมื่อ10ปีก่อน
สร้าง-ปลูก-ทำด้วยความรัก เค้าเป็นนักธุรกิจชาวกรุง
มีเงินกำไรจากธุรกิจก็มาซื้อที่ ซื้อดิน ลงทุนที่เกาะช้าง
จ้างงานชาวกัมพูชา3-4คน ทำงานมากจู่ๆล้มตึงหัวใจวาย
ภรรยาเป็นหม้ายด้วยวัย50 ลูกสาว2คนกำลังจบ กำลังเรียน
หนูน้องคนนั้นท่องเที่ยวไปในโลกกว้าง ใช้ชีวิตแบบลูกเศรษฐี
จู่ๆพ่อเสียชีวิตลง แม่ไม่สบาย...หมอวินิจฉัยว่าที่เหนื่อย/เพลีย
ไม่ใช่ผลจากการทำงานหรือการสูญเสียคู่ชีวิต แต่เพราะมะเร็ง!
มะเร็งในปอด ลามไปสมอง ชีวิต,หยุดทุกอย่างลงกระทันหัน
จากการเป็นนักธุรกิจ ภรรยาเจ้าของรีสอร์ทหรู เงินหมุนเวียนกี่สิบล้าน
กลับมาสู่ตนเอง..จาก1ใหม่ concentrateกะตัวเอง ร่างกาย
อาการร่างกาย เค้าผ่าตัด/ฉายรังสี แล้วต้องรับยาอย่างเคร่งครัด
พักฟื้น ไปโรงพยาบาล ไม่มีเวลามาดูรีสอร์ทเกาะช้าง ลูกสาว
จึงต้องรีบกลับจากท่องเที่ยว แต่งงานกะชาวบราซิล
สัณชาติญี่ปุ่น-ฟิลลิปปินส์ มีหลานออกมา1คนวัย 11เดือนผู้หญิง
sheได้เข้ามารับรู้เรื่องราว ชีวิต ที่คล้ายคลึงกันของผู้คนรอบข้าง
ความเข้าอกเข้าใจ เห็นใจ ขณะเดียวกันเราก็วางตัวถูกต้อง เค้าถึง
เล่าเรื่องชีวิตของเค้าให้เรา,ผู้เป็นแขกมาพักรับรู้ เพียงเพราะเรา
สนอกสนใจในสภาพ-ในสภาวะเค้าอย่างจริงใจ ไม่ฉาบฉวย ไม่ผิวเผิน
แต่ขณะเดียวกัน,เราก็รักษาระยะห่างวางตัวได้อย่างพอเหมาะ
พอควรที่จะไม่ทำให้เค้ารู้สึกผิดที่มาเล่าเรื่องทุกข์เรื่องป่วยไข้
ให้คนที่มาพักผ่อนท่องเที่ยวฟัง ทำลายบรรยากาศของการพักผ่อน
sheเข้าอกเข้าใจเห็นใจเค้าคะ แต่ไม่ทำให้เค้าต้องรู้สึกทุกข์ตรม
เศร้าหมองลงไปอีกว่ามะเร็งร้ายเกาะกินเค้าจะตายจะเสียชีวิตลง
ชีวิต,กลับมาสู่ความเรียบง่ายของตัวเองอยู่กับการเฝ้ามอง/สังเกตร่างกาย
ในทุกวันใหม่ ไม่มีแผนล่วงหน้า ไม่มีอดีตให้ต้องตำหนิ
ว่าถ้าหากใช้ชีวิตอีกแบบเค้าก็ไม่ต้องมีโรคร้ายภัยเงียบ
ไม่มีธุรกิจ ไม่มีความเครียด ไม่ต้องครุ่นคิดเรื่องดอกเบี้ย
เรื่องเงิน เงินหลายล้านสิบล้าน ร้อยล้าน
ชีวิตเค้าวันนี้...อยู่กะวันนี้…

เราคุยกันเรื่องฝุ่นควันมลพิษกรุงเทพฯ
ที่ลูกสาวเค้าชักชวนแม่มาพักฟื้นร่างกาย
เธอกินได้ น้ำหนักขึ้น สุขภาพจิตดี มีแม่ลูกเขยชาวญี่ปุ่น
บินมาช่วยดู ช่วยเลี้ยงหลาน ลูกเขย-เด็กหนุ่มชาวบราซิล
ที่มีแม่ชาวญี่ปุ่น มีพ่อชาวฟิลิปปินส์ แต่เกิด/โตที่บราซิล
มารักชอบตกลงปลงใจแต่งงานกะผู้หญิงไทย..น้องเค้า
เคยเรียนสถาปัตย์-จุฬาปีนึง แล้วเอ็นฯใหม่ไปติดลาดกระบัง
น่ารัก จิตใจดี จากเด็กจบใหม่วัยท่องโลกต้องผันตัวมา
รับงานบริหารรีสอร์ทเพราะพ่อเสีย-แม่ป่วย เรื่องร้ายติดๆกัน
ในช่วงเวลาสั้นๆ แต่ในเรื่องร้าย ก็มีเรื่องดีแทรกอยู่คะพี่น้อง
แฟนหนุ่มที่ไปรู้จักกันที่ญี่ปุ่นช่วงท่องเที่ยว เจอะกันในชินกันเซ็น
ตกลงปลงใจ สู่ขอ แต่งงาน เข้ามาช่วยดูช่วยบริหารรีสอร์ท
แบ่งเบาภาระไปได้มากมาย
      บันทึกการเข้า


khesorn mueller
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: 2527
คณะ: รัฐศาสตร์
กระทู้: 71,885

« ตอบ #17932 เมื่อ: 20 กุมภาพันธ์ 2562, 17:53:49 »


กลับจากเกาะช้างแวะกรุงเทพฯ1คืน
เราทั้งสาม-she,พ่อบ้าน,ลูก ซื้อตั๋วทัวร์ชั้น1
ออกจากสายใต้ เดินทางไปจังหวัดกระบี่
เราจองที่พัก โรงแรมของพี่ทัศนีย์-พี่ธวัชชาวหอ
ลูกชายจองHostelห่างไป400-500ม.ใกล้ที่เรียนdiving
ที่แกจองคอร์สdiving licenceราคา17,000บาทไว้
ที่นี่,พ่อบ้านและsheรู้สึกสบายกาย/สบายใจมากๆ
เพราะรู้จักคุ้นเคยพี่ต้อย16 /คุณพี่ธวัช ตลอดไปจนลูกหลาน
รวมสะใภ้..พี่พาไปนั่นนี่ หรือเราๆรักที่จะเดินไปเอง สำรวจ
บริเวณ ฝรั่งมากันมืดฟ้ามัวดินคะที่อ่าวนาง พ่อบ้านรักที่นี่,
เพราะเค้าเคยมาเมื่อปี1989..3-4ปีก่อนมารู้จักsheปี1993
ตั้งแต่สมัยไม่มีอะไรเลยมีเพิงขายกาแฟ/อาหาร วันนี้เต็มแน่น
เราซื้อตั๋วไปไร่เลย์ แบบเช้าไปเย็นกลับ ไปสำรวจที่ปีนเขา
rock climbingที่ลูกชายจะมาปีนไต่ ไปเดินสำรวจไร่เลย์2ครั้ง
ได้พูดคุย ได้กินแกงไตปลาอร่อย แต่ที่อร่อยสุดยอดคือร้านเรือนไม้
ที่พี่ต้อยและครอบครัวพาไปกิน อาหารไทยไม่เกรงใจฝรั่งคะ
เผ็ดเป็นเผ็ด...อร่อยลืมไม่ลงอาหารปักษ์ใต้ หรือร้านต้นมะยม
ติดกะโรงแรมพี่ต้อย ที่,เค้านำไปลงในplattformที่นักท่องเที่ยวเข้าถึง
ลูกชายทึ่งจัดสุดขีดที่โรงแรมเราอยู่ติดกะสถานที่กินมีชื่อ!
แนะนำไว้ในgoogleฝรั่งนักท่องเที่ยว หรือนักท่องเที่ยวเอเชีย
จีน/เกาหลี/ญี่ปุ่นเดินเท้าผ่านโรงแรมทุกวัน เค้าไปไหน??
ไปร้านต้นมะยมคะ พวกเราไป2รอบคิวยาวเป็น10-20คนเว่อร์สุดๆ?
เค้าแนะนำให้จองล่วงหน้า เราจองไว้ก่อนกลับ ปรากฏ,ว๊ายยยยยย
ตอนแรกเข้าใจว่าฝรั่ง/ต่างชาติโหวตลงความเห็นอาหารไทย…
คงงั้นๆแหละ?ที่ไหนได้คะพี่น้อง...ข้างนอกที่เปิดๆขายๆกันน่ะ
แพงซะเปล่า อร่อยก็ใช่จะอร่อยนะคะ แต่ที่ร้านต้นมะยม...ราคาถูก
ถูกกว่าหน้าถนนอ่าวนาง อาหารอร่อยคะ บอกให้ลูกลงความเห็น
ด่วนเลย! เค้าลือกันถูกต้องจริงๆคะ พวกเราได้โต๊ะ5ที่นั่งแต่มีกันแค่3
เลยบอกน้องที่เดินโต๊ะให้ไปถามคนที่รอคิว ว่าใครยินดี
นั่งร่วมโต๊ะกะคนแปลกหน้ามั่ง ก็มีนักท่องเที่ยวจีน2คน
กะนักท่องเที่ยวเกาหลี2สาวมาเป็นเพื่อนร่วมโต๊ะ ได้พูดคุยกัน
พวกเค้ามาเที่ยวตรุษจีนกันคะ
หรือร้านผลไม้สดที่เราทั้งคู่เดินผ่านไปหาลูกที่Hostel
แบบสายฟ้าแลบ ได้แวะกินsmoothieบ่อยจน...sheยืนแปล
พูดให้น้องผู้ชายคนขายกะพี่สาว บอกเค้าว่าร้านเค้าแขกฝรั่งซื้อ
ถึงเวลาที่เค้าต้องไปลงเรียนภาษาอังกฤษได้แล้ว!!สงสารเค้าคะ
สื่อสารกันลำบากผิดๆถูกๆ ก็ล่าช้า...sheเดินผ่านแวะกินsmoothie
ช่วยแปล ช่วยบอกเค้า ฝรั่งลูกค้ายูโรเปี้ยนมาก เมกันก็มี รัสเซียก็เยอะ
แถมมาเลย์/จีน/เกาหลี เค้าเห็นคนมุง/คนรอกันเค้าก็หยุดซื้อมั่ง
sheเดินผ่านรถปิกอัพมาจากยะลาขนลองกองมาขายข้างถนน
sheรีบบอกน้องร้านผลไม้ไปสั่งมาขายเลยกก.ละ30-35บาท
มาขาย50บาทยังขายได้คะ น้องผู้ชายดูจิตใจดีมีอัธยาศัยคะ
เค้าดีอกดีใจพวกเราไปนั่งร้านเค้าทุกวันแถมช่วยถามช่วยคุยช่วยแปล
พ่อบ้านต้องการพบลูกชายทุกวันเพื่อคุย/เพื่อถามคะ
เด็กชายหายไปลงน้ำทุกวันเราต้องไปดักพบที่Hostel
เจ้าของHostelกะสามีเป็นกันเองมาคุยมาทำความรู้จัก
เค้าอยู่กะธุรกิจHostelสำหรับเด็กวัยรุ่นbackpackerหลายปี
ที่ห้องต้องถูก เสนอให้กินให้ดื่ม ให้คนอยู่สบายตัวสบายใจ
ไม่เคยเกิดกรณีของหาย/ลักขโมย แฟนแกหน้าตายังกะโจร!!!
จริงๆคะพี่น้องผู้คนที่พบ/รู้จักหน้าตาดุดัน ยังกะโจร..พูดคุยด้วย
น่ารัก มีอารมณ์ขัน พวกคนเรือยิ่งคล่องเป็นปลาไหลแต่สุภาพ
เรียบร้อยคะ พวกเราชื่นมื่นสนุกกันมากที่กระบี่

ที่สนุกสำหรับshe อีกอย่าง คือทุกเช้า
ตื่นลงมาข้างล่างlobby เราทั้งคู่จะรี่ไปห้องพักส่วนตัว
เพื่อถามหาพี่ต้อย-พี่ธวัช เพื่อทักทาย คุย แผนวัน
พี่ต้อยน่ารักมาก ออกไปหาซื้อข้าวเหนียวปิ้ง-ข้าวยำ
อะไรอร่อยๆมาตั้งรอ จัดเตรียมอาหารเช้าให้เราบริการตัวเอง
ทุกวันแม้ช่วงตรุษจีนวันไหว้ เราทั้งคู่ได้ร่วมไหว้กะครอบครัวพี่ด้วย
พ่อบ้านสุดจะประหม่า/เกรงใจว่าเราเข้าไปวุ่นวายบรรยากาศใน
ครอบครัว/เป็นส่วนตัวพี่เค้า?พี่ต้อย-ท่านพี่ธวัชให้เราทั้งคู่ไหว้เจ้า
ไหว้ฟ้าดิน แถมร่วมโต๊ะกินกะครอบครัวพี่..เป็นบรรยากาศ
ที่น่าประทับใจสุดๆคะของการมากระบี่ครั้งนี้
      บันทึกการเข้า


khesorn mueller
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: 2527
คณะ: รัฐศาสตร์
กระทู้: 71,885

« ตอบ #17933 เมื่อ: 22 กุมภาพันธ์ 2562, 18:50:31 »


ให้พี่ต้อยดูตั๋วรถMinibusให้เราทั้ง3ขึ้น
จากกระบี่ออกไปสงขลา ตามเวลาเป๊ะ
รถMinibusคล้ายรถทัวร์เพียงแต่เล็กกว่าที่นั่งน้อยกว่า
แต่คนขับเหยียบผมปลิวคะ!ถึงสงขลาเรียกตุ๊กๆ
เข้าบ้านพี่สาวระหว่างสงขลากะหาดใหญ่…
เรามีโปรเจ็คที่ตั้งใจล่วงหน้าว่าจะทำให้สำเร็จ
คือพี่สาวเค้าเพิ่งย้ายเข้าบ้านพักสหกรณ์มอ.
ที่พี่สาวซื้อผ่อนส่งแบบล่วงหน้ามา10-20ปีโดยไม่เห็น
ว่าบ้านจะได้สร้างเมื่อไหร่ผ่อนทุกเดือนทุกเดือนจน
โครงการลงมือสร้าง/โอนบ้านในวัยก่อนเกษียณพอดี

พี่สาวไม่สบายก็ผ่าตัด หาทางรักษา ผ่าเสร็จฉายรังสี
กลับไปทำงาน sheตื่นเช้าจัดตะกร้าใส่กระปุกน้ำแข็ง
ใส่อาหาร/ขนม/ผลไม้ให้แกไปทำงานทุกวัน เราอยู่บ้าน
ก็ออกไปซื้อต้นไม้จากร้านขาย มาลงมือปลูกให้แก
sheสังเกตผู้คนในหมู่บ้านactiveกันช่วงเช้ามืด ออกมาเดิน
เป็นอดีตข้าราชการมอ.บางทีเคยเป็นคณบดี เป็นอาจารย์
เป็นพยาบาลที่รพ.มอ.พอพวกเค้ามาเดินผ่านบ้านเห็นพวกเรา
สามคนปลูกต้นไม้/ทำสวน แถมมีฝรั่ง ให้คึกคักทักทายกันสดชื่น
sheเพิ่งรู้ว่าตัวเองเป็นคนช่างพูด/ช่างคุย ช่างชวนสนทนาคะ
เพื่อนบ้านข้างๆนำต้นไม้อ่อนๆมาให้ลงปลูก หรือคุณบ้านข้างหลัง
ที่พวกเราแอบใช้WIFIแกทุกวันมายืนเรียกที่ประตูหอบต้นเตยหอม
ต้นลิ้นมังกรที่บ้านแกขึ้นลามรกหยั่งกะวัชพืชมาให้เราลงปลูก…
อาจารย์มอ.ปัตตานีเก่ากะพยาบาลวัยเกษียณมาเดินผ่านทุกเย็น
วัย71-72กันคะสุขภาพดีเดินรอบหมู่บ้านเช้าเย็น คุยเรื่องต้นไม้
เรื่องสวนนี่คนรักต้นไม้คอเดียวกันคุยได้ทุกวันคะพี่น้อง..พี่สาวทึ่งจัด
เรายกเป็นของขวัญขึ้นบ้านใหม่ให้แก สุขใจทั้งคนให้คนรับ
sheบอกว่าคนทำสวน/อยู่กะต้นไม้ที่มีชีวิตมีการเติบโตจะไม่เครียด
เค้าจะความดันต่ำมีสมาธิไม่วอกแวกผิวเผินเพราะปลูกรดพรวนดิน
เราจะช่างสังเกตคะ sheและพ่อบ้านปลูกทำที่บ้านที่เยอรมันจนเขียว
รู้และเข้าใจการต้องอดทนเฝ้ารอดูแล..ไม่ใช่แต่จ้างปลูกจ้างรดน้ำดูแลคะ
เราทำเองความสุขจากการเห็นต้นไม้ดอกไม้ผลิแตกใบก้านกิ่ง
คนรักกันชอบกันสำหรับsheไม่ต้องมาให้ของกินคะกินๆแล้วอึ!
แต่ให้ต้นไม้นี่มันเติบโตแตกกิ่งก้านแขนงสาขาคล้ายสัมพันธภาพ!!
ผู้สูงอายุ-อดีตข้าราชการมหาลัยแถวนั้นอยู่กันสงบเงียบมีความสุข
บ้านพวกเค้าๆสวยงามช่างปลูกช่างลง พ่อบ้านถือกล้องไปเดินสำรวจ
เราออกไปเดินสงขลาเมืองเก่า sheลิ่วไปคารวะท่านพี่ที่โรงแดง
ชาวหอเก่าที่จบวิศวะฯรุ่น2497 หรือพี่ชาวหอคณะบัญชี เค้าๆบอก
ทำไมไม่มาวันก่อนหน้า โรงแดงตั้งทีวีจอใหญ่ชาวจุฬา/ธรรมศาสตร์
มาร่วมกันเชียร์ฟุตบอลประเพณีจุฬา-ธรรมศาสตร์ พ้าาาาsheก็ลืมนึก
เดินในถนนสามสายเมืองเก่า เดินตลาดนัดรถไฟ ได้ของหลายอย่าง
แวะไปวัดดอนรัก แวะพาพ่อบ้านไปร้านบาร์เบอร์เก่าคลาสิกฝุ่นเขรอะ
คนตัดวัย 77 ลูกค้าวัย65...ตัดตั้งแต่คราวมาปีโน้นลูกชายวัย11เดือน
พามาตัดรองทรง วันนี้ลูกชายวัย23คะคิดดู!! พอคิดเงินเค้าคิด60บาท
พ่อบ้านสงสารเค้าเพราะซื่อสัตย์ต่อลูกค้าคิดราคาตัดผม
เค้าตัดเคราตัดหนวดสะอาดสะอ้านเลยล้วงให้120บาท
ถือว่าเราแฟร์ต่อเค้าตัดผม/ตัดเครา/ตัดหนวดไม่เหมือนลูกค้าอื่น?
ไปนั่งกินร้านริมทะเลสาปสงขลาชื่อภาษาเยอรมัน..Der See....
ลูกค้าแน่นคนมาเที่ยวตรุษจีนจากกรุงเทพ/มาเลย์คึกคักคะ
เราไปเดินหาร้านกล้วยปิ้งที่sheเคยซื้อกินสมัยวัยเด็ก..
เป็นหญิงแก่หง่อมหลังค่อม2-3พี่น้อง เค้าบอกตาย/ย้ายร้าน
เราก็ยังไปเจอร้านกล้วยปิ้ง/มันปิ้งทับราดน้ำที่ทำจากน้ำตาลโตนด
กระทิ..ลูกสาววัย60และลูกพี่ลูกน้องวัย50ปลาย60ต้นๆยังขายต่อ
เราอิ่มข้าวจากร้านที่นั่งริมทะเลสาปก็ยังซื้อกล้วยน้ำว้าปิ้งไม่ราดน้ำ
เดินกิน ซื้อถุงผ้าไว้ใช้จ่ายกับข้าวคุยกะคนเจ้าของร้านวัยshe…

ส่งลูกชายซื้อตั๋วไปเกาะเต่า/เกาะนางยวน
ลูกมีแผนลงดำน้ำ 13ชั่วโมง มีแผนเช่ามอไซค์ขับ
มีแผนไปเดินป่าWanderung...เราแยกกันที่สงขลา
ช่วงอยู่สงขลา,ลุงพาไปหัดขับมอเตอร์ไซค์ที่แหลมสมิหรา
ถ่ายฟิล์มมาให้พ่อแม่วี้ดว้าย...ด้วยแกยังขับซ้าย/ขับขวา
ยังไม่คล่องแต่เรียนเร็ว/ทำได้/เข้าใจทันที ป้าให้ใช้รถ
เติมน้ำมันให้ลูกชายสนุกสนานมากๆที่ทางใต้

เราพ่อแม่,ดูต้นไม้ รดน้ำทุกวัน ไปไหนก็อยากกลับบ้านมาดูต้นไม้!
ความที่พี่สาวอีกคนเพิ่งสูญเสียสามีเป็นหม้ายในวัย64 เราจึงไปหา
ไปเยี่ยม ไปอยู่กะแกทั้งวัน ใช้เวลาด้วยกัน วันต่อมานั่งรถไปวัด
ที่เก็บกระดูกพี่เขยไปแผ่กุศลรดน้ำ ในวัดมีศพเพิ่งมาตั้งเตรียมพิธี
วัย70คะพ่อบ้านกะลูกชายตกใจที่เห็นศพคลุมผ้าสดๆใกล้ๆ...
ไปแถบบ้านเกิดพี่เขยนอกๆออกไปที่อำเภอสิงหนครแล้วหดหู่คะ
ห่างอำเภอเมืองไปไม่มากแต่ผู้คนไม่ค่อยมี ไม่หนาแน่นเหมือน
สงขลา/หาดใหญ่ที่คนแห่กันไปกระจุกตัวให้ครึกครื้นมีอะไรๆเกิดขึ้น

กระนั้น,ทั้งเกาะช้าง/กระบี่/สงขลาก็มีความเป็นต่างจังหวัด
ที่อากาศดีไม่มีมลพิษมากจนแสบจมูกเหมือนกรุงเทพ
เรานอนหลับดีกินได้ไม่มีปัญหาเรื่องอ้วกอาเจียน/ท้องเสีย
ได้ช่วยพี่สาวเคลียร์/จัดบ้าน ทิ้งของที่สุมๆกองๆที่ไม่มีใคร
ถือเป็นธุระเพราะพี่สาวป่วย พอดีขึ้นไปทำงาน แกไม่มีเวลาคะ
คนมาอยู่เป็นเพื่อนก็ถือว่ามาๆไปๆก็ไม่ใช่หน้าที่เค้าจะมาจัดมาเก็บ
sheกะพ่อบ้านจึงเก็บครัวเรียบสะอาดทิ้งขยะไปหลายลัง..

ภารกิจที่ต้องการมาเยี่ยมพี่สาวเรียบร้อยลุล่วง
ขอให้มาคะ มาอยู่ใกล้ๆ มาพูด มาคุย มาเป็นเพื่อนแก
พี่มีความสุข เราทั้งคู่ก็พยายามเท่าที่เราจะทำได้
ในแบบของเราคะ พี่น้องคนอื่นๆเค้าก็ทำในแบบของเค้า

      บันทึกการเข้า


khesorn mueller
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: 2527
คณะ: รัฐศาสตร์
กระทู้: 71,885

« ตอบ #17934 เมื่อ: 24 กุมภาพันธ์ 2562, 19:34:13 »


มีหลายเรื่องคะในการกลับมาครั้งนี้ที่ชวนหดหู่
ถามว่าเราจะหดหู่ไปกะเรื่องต่างๆมั้ย?นับแต่การมาเยี่ยมแม่
แม่ที่นอนติดเตียง ให้อาหารทางสายเข้าตรงกระเพาะ
ต้องใช้ผ้ารัดข้อมือไว้ม่ายงั้นแม่แกะสาย แกะแพมเพิร์ส
คนที่ต้องดูแลแม่คือพี่ๆเค้าก็มองภาพเหล่านั้นทุกวันทุกวัน
เราคนมาเยี่ยมนานๆมาที มาทีละแป๊บๆเห็นแล้วจะตั้งคำถาม
ทำไมต้องกินอาหารผง ทำไมไม่กินอาหารสดบดเอาให้แม่ตัก
ทำไมต้องให้อาหารทางสายยางเข้าทางจมูก แม่จะชอบมั้ย
จะบอกใครๆได้มั้ยว่าชอบหรือไม่ชอบ อาหารผงแพงมากๆ
บริษัทเนสเล่ย์ทำเงิน-ให้หมอแนะนำคนไข้...ญาติคนไข้จะกล้าแย้ง?
ว่าอาหารสดธรรมชาติบดยังมีวิตามินมีแร่ธาตุมากมายที่เป็น
ประโยชน์ต่อร่างกาย...อาหารผง/อาหารเม็ดไม่มีวันมาทดแทน
ระยะยาวได้เพราะอวัยวะอื่นๆยังต้องทำงาน ;ระบบการย่อย-เคี้ยว
ในปาก/ช่องทางส่งลงกระเพาะ/การดูดซึมของลำไส้ แม่เคยกิน
อาหารบดเคยมีสีสันสดใส มานอนเตียงกินนมผง ขาดสีสันดูซีดเซียว
หดหู่ใจคะแก่ลูกหลานที่พบเห็นเพราะเคยเห็นแม่เดินเหินได้
เมื่อ2ปีก่อน...นอนติดเตียงกล้ามเนื้อไม่ได้ใช้ลีบหดเหลือหุ้มกระดูก
ไหนจะคุมน้ำตาล คุมความดัน อะไรๆมากมาย...95นี่พูดลำบากคะ
แต่ละวัน แต่ละวัน sheมองตาแม่ใกล้ๆลูบมือลูบแขน แม่ยังmental
มีสุขภาพแต่การสื่อสารมีสายยางที่จมูก การไม่มีฟันฟางฟังยาก
ลำบากจะเข้าใจ สมองแม่ยังดีคะ ...แต่รู้สึกสงสารบอกไม่ถูกคะ
ก็พยายามกันทุกฝ่ายเต็มที่ที่จะเข้าใจ ทั้งฝ่ายคนต้องดูแลทุกวัน
ฝ่ายตัวแม่ที่95 อ่อนล้าหมดกำลังทางร่างกายแม้สมองยังคมกริบ
หรือฝ่ายลูกหลานมากมายแวะเวียนมาเยี่ยม/มาหา

หรือ,การลงใต้ไปเยี่ยม/อยู่กะพี่สาวที่เมื่อปีที่แล้วเพิ่งผ่าตัดใหญ่
ติดตามหลังผ่า ตอนฉายรังสี พี่กลับไปทำงานได้ งานพยาบาล
โรงพยาบาลมอ.ห่างบ้านไป13-15กม. sheได้เห็นว่าพี่เหนื่อยล้าคะ
งานเข้ากะเช้าเลิกบ่าย ไหนจะต้องหาหมอนั่นนี่เพื่อตรวจเพื่อคุม
ระแวดระวังตัวเอง แกน้ำหนักลดมากมาย เลยไม่รู้ว่าที่พี่ดูเหนื่อย
เหนื่อยเพราะน้ำหนักลดมากช่วงเวลาที่แล้ว หรือเหนื่อยทำงาน
หรือผลข้างเคียงจากต้องรับยานั่นนี่ คนมาอยู่/มาเยี่ยมเข้าครัวทำซุป
พี่ก็กินลำบาก sheจับบดละเอียดเหมือนซุปเยอรมันที่ทำบ่อยๆ
sheทำนั่นนี่ตลอดคะ พอแกกลับจากทำงานเราพาไปเดินรอบหมู่บ้าน
พาไปเดินคุย...พี่กินได้/อร่อย มีคนมาอยู่ด้วยเต็มบ้าน..แกมีความสุข

หรือพี่สาวอีกคน,ที่เพิ่งเป็นหม้ายหลังแต่งงานอยู่กินกันมา35-36ปี
พี่สาวtoughมากๆคะเธอมีวิธีของตัวเองในการไว้ทุกข์..เราทั้งคู่บุกไปหา
ไปเยี่ยม ไปอยู่ด้วย แกไปเดินเช้าเย็นออกกำลังกาย ทำมาหลายปี
sheครุ่นคิดช่วงอยู่กะพี่สาวคนนี้,ว่าหากsheต้องเป็นหม้ายลง
ชีวิตที่เหลือจะเป็นไง เรื่องคิดจะไปอยู่กะลูก/ครอบครัวลูกไม่เคยมีคะ!
พี่สาวมีบ้านเอง อยู่เอง เลี้ยงสุนัขไว้ตัวนึง ลูกสาว/ลูกเขยมาเยี่ยม
ลูกชายที่กรุงเทพลงมาพักมาเยี่ยมแต่แป๊บๆก็ไป พี่สาวบอก,เธอสบาย
ดีแล้วไม่ห่วงหา ไม่ขาดอะไร ชีวิตมีตารางเวลาแน่นอน..ได้ไปไหน
ได้กิน ได้ออกกำลัง เธอไปร่วมงานนั่นนี่ที่เพื่อนครูวัยเกษียณชวนมา
กลุ่มทางสังคมนี้คะที่ทำให้พี่มีอะไรๆแตกต่างเปลี่ยนบรรยากาศ
sheถามเรื่องพี่เขยทีไร,แกจะร้องไห้ทุกที แกบอกช่วงป่วยเดือนสองเดือน
สุดท้ายเค้าคุยกัน เค้าลากัน พี่เขยกินไม่ได้/ดื่มไม่ได้ ผอมโกรก
สภาพนั้นคะที่คนรักคนใกล้ตัวไม่สามารถ ช่วยอะไร/ทำอะไรได้
แม้ซื้อหาของดีๆของแพงๆมาให้ มาประเคน มาคะยั้นคะยอให้ไปหาหมอ
หากเจ้าตัวไม่ไป จะด้วยเหตุอันใดคะ..มันปวดร้าวแก่คนที่เห็น
เป็นความสงสารที่พี่บอกแกสงสารสามี...

หรือพี่สาวอีกคนที่ก็เกษียณ มีอายุ น้ำหนักมากเริ่มกลัว
กลัวเจ็บนั่นนี่พยายามลดน้ำหนักเค้าไม่ใช่คนออกกำลังกาย
สะสมน้ำหนักมากๆพอวัย60เริ่มเจ็บเข่า เริ่มเหนื่อยง่าย
ไม่ลดก็ต้องลดคะคนรอบๆเค้าออกกำลัง คุมอาหาร กินคลีนกัน


      บันทึกการเข้า


khesorn mueller
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: 2527
คณะ: รัฐศาสตร์
กระทู้: 71,885

« ตอบ #17935 เมื่อ: 24 กุมภาพันธ์ 2562, 19:37:18 »


กระนั้น,เราทั้งคู่ก็ได้เจอะเจออะไรมากมายรอบๆตัวเป็นการเปลี่ยน
บรรยากาศ ตรงนี้คะ,การมีบุคลิกที่เปิดโลกทัศน์ ไม่ปิดตัวเอง
ของเราทั้งคู่ที่ช่างสังเกต/ช่างคุย/ช่างสนทนา ทำให้เราหันเห
ไปconcentrateกะเรื่องอื่นๆ แบบไม่ผิวเผินตื้นๆกะเรื่องที่ต้องเผชิญ
ในปัจุบัน เช่นตอนไปเกาะช้าง ได้เจอะเจอรู้จักคนที่มีทุกข์ภัยโรคา
แต่มองโลกอย่างมีความหวังพูดคุยกะแขกใกล้ชิดเป็นส่วนตัวเหมือน
เราเป็นแขกส่วนตัวเค้า เช้าๆมีลิงลงมาจากเขามาเยี่ยมห้องพัก-ระเบียง
มีเรื่องตื่นเต้นรายงานเค้าทุกวัน คน/สัตว์/ต้นไม้อยู่ร่วมกันได้ด้วยดี
หรือที่กระบี่เช่ารถขับไปภูเก็ตแล้วหยุดแวะที่โคกกรอยเพื่อหาอะไรทาน
เดินหา ไม่มีวันนั้นวันหยุดคนจีนหยุดตรุษจีนเพื่อซื้อของไหว้
เราเดินผ่านถนนเมนของโคกกรอยพ่อบ้านหยุดดูลังถึงอบขนม
ที่เค้าอบสองเตา-สองลัง ถามsheเค้าอบอะไร?sheมองซ้ายขวา
น่าจะอบซาละเปา..ก็เดาไปเรื่อย!เจ้าของร้านข้างในเดินออกมา
ให้เราชวนคุย ชวนถาม...เค้าเป็นร้านขายก๋วยเตี๋ยวเป็ด
วันนี้หยุด หยุดตรุษจีน เมียเค้าเลยอบขนมถ้วยฟู
เปิดฝาให้ชมให้ถ่าย ชวนเข้าไปในร้านข้างใน เราขอช่วยตัก
เมียเค้า ลูกชาย2คนออกมารับหน้า เราบอกเดินหาร้านจะกินข้าว
เค้าบอกสั่งได้ เค้าร้านปิดแต่ก็มีแขกมานั่งมาสั่ง เลยสั่งผัดไทยกุ้ง
คุยกะแขกโต๊ะติดกันเราชวนคุยชวนถามใครสั่งถ้วยฟู-ทำไมสีชมพู
เค้าบอกภูเก็ตสั่งไปไหว้เจ้าตรุษจีน3000ลูก เค้านึ่งทีละ40ลูก/2ลังเตา
กี่นาที..15นาทีนึ่งคูณหารกันคะพี่น้องต้องทำกี่ชั่วโมง..ช่วยกันทุกคน
เค้าบอกไม่ใส่สารกันบูดเก็บได้2วันไม่มากกว่านี้คะ..ก่อนออกกันมา
เค้าชมชอบเยอรมัน รถยนต์เยอรมัน ฟุตบอลเยอรมัน เค้าภาคภูมิใจ
เล่าว่ารถเค้าขับBMW..จอดเก็บเงียบ..ต้องขายก๊วยเตี๋ยวเป็ดมีชื่อมากๆคะ
จึงจะซื้อsuvของBMWได้??อัธยาศัยคะที่เราทั้งคู่มีความสุขที่ได้
มีโอกาสผ่านมาพบมาเจอเค้าๆในวันนั้น แถมคุยกะแขกโต๊ะข้างๆ
ที่ฟันหลอแต่ชื่นชอบฟุตบอลBundesligaมากๆ
เราสั่งซื้อ2ถุง sheจะถือไปฝากพี่ต้อยวันไหว้พรุ่งนี้

ที่สงขลา,ได้รู้จักเพื่อนบ้าน คนเดินผ่านออกกำลังเช้าเย็น
หรือคนแวะรับเราทั้งคู่เป็นสุภาพสตรีกะลูกชายสองคนขับผ่าน
เห็นเราเดินกลางแดดจ้ากางร่มจะไปขึ้นสองแถวไปบ้านพี่ชาย
เค้าเป็นชาวอิสานที่มาแต่งงานกะชาวสงขลามาซื้อบ้านในหมู่บ้าน
เดียวกะพี่สาวเค้าชวนคุยว่าพาลูกชายตระเวนไปเพื่อทำกิจกรรม
เด็กชายสองคนเล่นเกมจนติดเค้าห้าม สามีห้ามยังไงก็ไม่เลิกคนแม่
เลยจับลูกชายเข้าคอร์สนั่นนี่สุดสัปดาห์ คนแม่ก็ขับพาเด็กๆไปทำ
กิจกรรมก็เป็นความคิดที่ดีคะsheเล่าว่าลูกชายsheก็ติดเกม เด็กเล่น
จนเบื่อเองหันไปสนใจเรื่องอื่นเองไม่ต้องห่วงกังวลคะเป็นไปตามวัย
เราคุยถกเรื่องฝุ่นควันรถยนต์ที่กำลังเป็นข่าวhotช่วงนั้น คุยเรื่องนั่นนี่
จากเดิมจะส่งเราหน้าปากซอย เค้าพาเราทั้งคู่ไปส่งถึงหน้าปากซอย
บ้านพี่ชาย แกตกใจเฮ้ยมาได้ไงส่งข่าวแล้วมายืนอยู่หน้าบ้านแล้ว!
เล่าให้แกฟัง เค้าๆบอกแหม่นะ...ใครก็ไม่รู้จอดรับ..ขึ้นมาได้!!

มีเรื่องดีๆให้จดจำมากมายเล่าไม่หมดคะ..ผู้คน..เรื่องราวของพวกเค้า
พ่อบ้านงี้ทึ่งจัดเค้าเป็นฝรั่ง ไปไหนมาไหนคนจะpleaseจะคุย
เค้าคุยเองน่ะได้แต่คนไทยสิคุยไม่ใช่จะง่ายเลยคุยกะsheแทน
รู้มั้ยน่ะ,sheไม่ใช่คนหงิมๆเงียบๆน่าเบื่อน่าหาว ฮ๊ะ,ตัวแม่มาเอง
เรื่องสนทนาน่ะ sheฝึกอย่างมืออาชีพมา25ปีคุยกะฝรั่งได้เป็นชั่วโมงๆ
คุยกะคนไทยsheจึงพริ้วแหละ เค้าได้บันทึกเรื่องต่างๆในสมุด
โนตีสการเที่ยวเมืองไทยทุกวัน ทำอะไร เจอะใคร ที่ไหน เรื่องอะไร
สดชื่นคะเมื่อหวนย้อนนึก เราทั้งคู่มีเลือดแห่งการผจญภัยที่พาตัวเรา
ฝ่าร้อนฝ่าฝุ่น ฝ่าความเหนียวตัวเหงื่อแตกออกไปข้างนอกทุกวัน
แทนที่จะนั่งๆนอนๆตากแอร์ตากพัดลมในบ้านไม่มีอะไรเกิดขึ้น
เพราะจัดบ้าน/เก็บบ้านก็เสร็จก็เรียบร้อยคะแต่บุคคล-เรื่องราวใหม่ๆ
ต้องออกนอกบ้านเท่านั้นจึงจะมีเรื่องอะไรมาเล่าให้ฟัง?
      บันทึกการเข้า


khesorn mueller
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: 2527
คณะ: รัฐศาสตร์
กระทู้: 71,885

« ตอบ #17936 เมื่อ: 27 กุมภาพันธ์ 2562, 21:14:37 »

22 มกรา 2562
สมบุกสมบันทรหดอดทนคะ
ขึ้นเครื่องFinnairจากFrankfurtไปHelsinki
ถึงโน่นรอtransitเพื่อไปสุวรรณภูมิ..ปรากฏ,
เครื่องจากHelsinkiไปBangkokต้องmaintenance
เสียเวลาไป 4 ชั่วโมงคะพี่น้อง...กว่าจะdepartureได้
เล่นเอากระปรกกระเปรี้ยเพลียง่วง เพราะขึ้นได้
ก็บินกันอีก 11-12ชั่วโมง!






      บันทึกการเข้า


khesorn mueller
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: 2527
คณะ: รัฐศาสตร์
กระทู้: 71,885

« ตอบ #17937 เมื่อ: 27 กุมภาพันธ์ 2562, 21:20:08 »

23 มกรา 2562
ตื่นมาเช้านั้นหลัง/ข้างๆโปรเมนาด-โลตัส
สดชื่นแจ่มใสก็จะออกลุยกันเลย?





      บันทึกการเข้า


khesorn mueller
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: 2527
คณะ: รัฐศาสตร์
กระทู้: 71,885

« ตอบ #17938 เมื่อ: 27 กุมภาพันธ์ 2562, 21:27:03 »

ภารกิจวันนั้น เต็มเอี๊ยด
ออกจากคอนโดจับแท๊กซี่ไปกรมการกงสุล
พาสปอร์ตsheจะหมดอายุกันยาปีนี้,พค.จะไปปอร์ตุกัล
ถ้าไม่ทำซะก่อน กลับไปต้องส่งไปส่งมากะกงสุลไทย
ที่Frankfurtอุตลุตอีกคะ...ไปทำเลย เรื่องเร่งด่วน?
เสร็จแล้วไปแบ็งค์ทำบัตรATMใหม่ บัตรเก่าหมดอายุ
เบิกตังค์ไม่ได้จบเห่แบ๊ะๆไปไหนยังไงล่ะนั่น??
ไปไปรษณีย์ส่งพัสดุ-พ่อบ้านจะซื้อสแตมป์…
3เรื่องนี้ให้เสร็จภายในเที่ยง!!





      บันทึกการเข้า


khesorn mueller
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: 2527
คณะ: รัฐศาสตร์
กระทู้: 71,885

« ตอบ #17939 เมื่อ: 27 กุมภาพันธ์ 2562, 21:34:26 »

นัดขึ้นรถสีม่วง
จากโลตัสไปเกือบสุดสายเชียว
พี่ชาย-ลูกชาย-หลานสาว/แฟนรออยู่
ที่เซ็นทรัล-เวสต์เกตคะ





      บันทึกการเข้า


khesorn mueller
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: 2527
คณะ: รัฐศาสตร์
กระทู้: 71,885

« ตอบ #17940 เมื่อ: 27 กุมภาพันธ์ 2562, 21:44:11 »

อิเด็กหนุ่มสาววัย20นอนกันตื่นสาย
ขืนsheกะพ่อบ้านรอพวกเค้า
ครึ่งเช้านั้นท่าจะไม่เสร็จธุระแน่คะ
แยกกันไป ลุงพาหลานๆไปกินข้าว
ที่food courtมีชื่อใต้ดินของเซ็นทรัลเวสต์เกต
นัดพบแล้วอัดกันไปในรถ
ไปบ้านแม่เยี่ยมแม่/ยายวัย95
บางบัวทอง



      บันทึกการเข้า


khesorn mueller
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: 2527
คณะ: รัฐศาสตร์
กระทู้: 71,885

« ตอบ #17941 เมื่อ: 27 กุมภาพันธ์ 2562, 21:55:25 »

24 มกราคม 2562
ตื่นแต่เช้า..sheตื่นรู้สึกตัวเร็วทุกวันคะ
ออกไปที่ระเบียงถ่ายรูป

วันนี้จะไปเที่ยวพระนครศรีอยุธยาหลายวัด
จะไปเที่ยวบ้านพักตากอากาศพี่ชาย ที่,
ตั้งแต่น้ำท่วมใหญ่เมื่อ7ปีก่อนไม่ฟื้นอีกเลย
หมดกำลัง/หมดแรงบูรณะ บ้านไม้สักคะ
เสียหายน้ำท่วมถึงหลังคา ค่อยๆซ่อมรื้อ/ทดแทนไม้
ทำทีละส่วนทีละส่วน...






แวะกินต้มเลือดหมูที่บางปะอิน
      บันทึกการเข้า


khesorn mueller
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: 2527
คณะ: รัฐศาสตร์
กระทู้: 71,885

« ตอบ #17942 เมื่อ: 27 กุมภาพันธ์ 2562, 22:07:53 »

บ้านพักตากอากาศของพี่ชาย
หลังอภิมหาอุทกภัยเมื่อ 7ปีก่อน
หมู่บ้านนี้ซ่อมไม่เสร็จคะ
ไม้สัก ค่าซ่อมแพง.ช้ากว่าจะโล๊ะเปลี่ยน
..ให้เหมือนเก่า...






      บันทึกการเข้า


khesorn mueller
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: 2527
คณะ: รัฐศาสตร์
กระทู้: 71,885

« ตอบ #17943 เมื่อ: 27 กุมภาพันธ์ 2562, 22:15:06 »

ปีนี้,เหมือนทุกปีที่มา
แถมครบรอบรู้จักกัน26ปี
ครบรอบแต่งงาน 25ปี
เราไปวัดที่พระนครศรีอยุธยาคะ





      บันทึกการเข้า


khesorn mueller
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: 2527
คณะ: รัฐศาสตร์
กระทู้: 71,885

« ตอบ #17944 เมื่อ: 27 กุมภาพันธ์ 2562, 22:28:48 »

ไปหลายวัดคะ
วัดไชยวัฒนาราม
วัด...





      บันทึกการเข้า


khesorn mueller
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: 2527
คณะ: รัฐศาสตร์
กระทู้: 71,885

« ตอบ #17945 เมื่อ: 02 มีนาคม 2562, 17:44:45 »

ช้างของนักท่องเที่ยวกำลังขนคนกลับ
ไปจุดเริ่มต้น เราก็ตระเวนหาทาง
แวะวัดไหนที่ไม่ได้แวะ





      บันทึกการเข้า


khesorn mueller
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: 2527
คณะ: รัฐศาสตร์
กระทู้: 71,885

« ตอบ #17946 เมื่อ: 02 มีนาคม 2562, 17:54:38 »

เดินกันจนครบ
ที่สำคัญ..จะพาลูก/หลาน/แฟนหลาน
ไปจุดที่ทำความรู้จักกันของเราเมื่อ26ปีก่อน



      บันทึกการเข้า


khesorn mueller
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: 2527
คณะ: รัฐศาสตร์
กระทู้: 71,885

« ตอบ #17947 เมื่อ: 02 มีนาคม 2562, 18:04:33 »

อยู่ที่นี่นานที่สุดคะ
เมื่อ2ปีก่อนวัดหลวงพ่อปิดบูรณะ
ไม่ได้เข้าไป..
ปีนี้จึงเข้าไปจุดธูปเทียนอธิษฐาน





      บันทึกการเข้า


khesorn mueller
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: 2527
คณะ: รัฐศาสตร์
กระทู้: 71,885

« ตอบ #17948 เมื่อ: 02 มีนาคม 2562, 18:10:18 »

ป่ะคะ 6โมงแล้ว
ขับไปแวะกินอีก
ค่ำนั้นกลับกันดึกดื่น









      บันทึกการเข้า


khesorn mueller
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: 2527
คณะ: รัฐศาสตร์
กระทู้: 71,885

« ตอบ #17949 เมื่อ: 06 มีนาคม 2562, 20:56:33 »


25-29 มกรา 2562
พี่ชายขับออกไปส่งพวกเราแต่เช้าที่สถานีขนส่งเอกมัย
เพื่อขึ้นรถทัวร์ไปหาดธรรมชาติ-จังหวัดตราด
ต้องลงหาดนี้เพื่อจับเรือเฟอรี่ขึ้นเกาะช้าง
เราทั้งคู่จองที่พักมาจากโน่นพอลูกบอกจะไปด้วยแต่แกจะ
หาที่พักเอง จองHostelเอง จึงรู้ว่าที่พักเราห่างไกลกันมาก
ไม่ได้เจอกันเลยคะ ลูกก็ทำกิจกรรมของแกเอง ไปลงคอร์ส
ลองdiving ไปเดินป่า ไปเที่ยวน้ำตก แกสนุกของแก เราก็
สนุกของเราพ่อแม่...พายเรือแคนูเล่นทุกวันคะ..เย็นๆ
พายไปฝั่งที่ตั้งศาลกรมหลวงชุมพร-ที่คนเรียกเสด็จปู่ ไปปัดกวาด
เช็ดถูศาล จัดวางแจกันดอกไม้  บางวันไปเดินที่หาดตรงข้าม
ท่าบางเบ้า หรือจองออกไปดำsnorcle 4เกาะ
ทุกเช้า,sheจะตื่นเพราะได้ยินเสียงลิงลง!!...ลิงมันมาที่ระเบียงห้อง
ที่ตื่นตา?แขกทุกห้องตื่นมาดูลิง ลิงมาปลิดลูกขนุนบนต้น ขนุนหล่น
ใส่หลังคา หลังคาแตก...เจ้าของโรงแรมและเด็กลูกจ้างชาวเขมร
มาไล่ลิงแล้วปีนขึ้นไปเปลี่ยนกระเบื้อง...เค้าบอกตอนสร้างโรงแรม
ที่-เคยเป็นสวนผลไม้ เค้าล้มไม้ใหญ่น้อยที่สุด สร้างหลีกต้นไม้เท่าที่
จำเป็น วันนี้,สถานที่ร่มรื่นสงบเงียบยินแต่เสียงคลื่นลมอ่าวไทย?
เค้าบอกอยู่กะธรรมชาติ คน-สัตว์-ต้นไม้ กลมกลืนกัน แขกๆมีเรื่องคุย
ลิงมันไปเกาะกระจกห้องเค้าถ่ายฟิล์ม-ถ่ายรูปมาให้เจ้าของชม
sheน่ะ,มีเรื่องคุยกะแม่เจ้าของรีสอร์ตทุกวัน เรื่องพายเรือไปกวาดศาล
เรื่องลิงลง เรื่องออกไปชม4เกาะดำsnorcle เธอสุขใจคะแขกไทย
มีคนสองคน รีสอร์ตนี้แขกยูโรเปี้ยน แต่อาหารที่นั่นแพงคะ
แพงเท่าภูเก็ต-กระบี่ ราคานักท่องเที่ยวเลยล่ะ ไปสงขลาถึงเห็นๆ
ว่าราคานักท่องเที่ยวนี่จ่ายแพงไป3เท่า...จากราคาคนไทยที่สงขลา
กินอยู่กัน
สังเกตว่าแขกส่วนใหญ่ที่เกาะช้างเป็นชาวฝรั่งเศสคะ!
แขกเยอรมันน้อย พวกเค้าลงอันดามันกันคะ กระบี่/ภูเก็ต/พังงา
และหากสังเกตต่อไปอีก,จะพบว่าคนงานเขมรเยอะมาก
แถบทางใต้จะมีคนงานพม่าคะ ย่านนี้ติดเขมรจึงเข้าใจ
คนงานพวกนี้ขยันขันแข็งคล่องแคล่วว่องไว หัดเรียนพูดไทย
แต่ที่เด่นคือเค้าใช้ภาษาอังกฤษ/ฝรั่งเศสได้ไม่เคอะเขิน!
เราทั้งคู่กินได้/นอนหลับดี ไม่มีปัญหาอะไรเลย สนุกสนานได้
ออกกำลังกายว่ายน้ำ-พายเรือ


นั่งรถไปเอกมัยก่อน9โมง


      บันทึกการเข้า


  หน้า: 1 ... 716 717 [718] 719 720 ... 727   ขึ้นบน
  
กระโดดไป:  

     

ทำไมหอพักนิสิตจุฬาจึงเป็นดินแดนมหัศจรรย์            " ไม่ได้เป็นแค่หอให้นอนพัก  แต่เป็นบ้านอบอุ่นรักให้อาศัย  ไม่เป็นแค่ที่ซุกหัวยามหลบภัย  แต่สร้างใจให้เข้มแข็งแกร่งการงาน"  <))))><