รูปเจ้าน้อยสุขเกษม ณ เชียงใหม่
ตอนนั้นเชียงใหม่เป็นประเทศราชของสยาม ทางเชียงใหม่ส่ง เจ้าดารารัศมี ซึ่งเป็นเจ้าอาของเจ้าน้อย
ไปอภิเษกกับ ร. 5 เป็นการผูกสัมพันธ์ ตอนนั้นเจ้าดารารัศมีอายุแค่ 13 เอง...โอ้! จอร์จ
นี่เรื่องจริงตามประวัติศาสตร์เลยนะ
เจ้าน้อยถูกส่งไปเรียนที่ รร.เซนต์แพทริก เป็น รร.แคธอลิกของฝรั่งที่พม่า โดยแอบส่งไป ขี่ช้างไป
เพราะตอนนั้นพม่าเป็นเมืองขึ้นของอังกฤษซึ่งมีเรื่องกับไทยอยู่
เจ้าน้อยไปตอนอายุ 15 เพราะทางบ้านต้องการให้ได้ภาษาอังกฤษ เพราะค้าขายกะพม่า เจ้าน้อยเรียนอยู่หลายปี วันหนึ่งไปเดินเล่นที่ตลาด
ได้พบมะเมี้ยะแม่ค้าสาวสวย ซึ่งเพิ่งมาจากตองอู เจ้าน้อยอายุ 19 มะเมี๊ยะอายุ 15 ก็ตัดสินใจแต่งงานกัน
จนอายุ 20 เรียนจบถูกเรียกกลับเชียงใหม่ เจ้าน้อยเลยเอาเมียกลับมาด้วย โดยให้ปลอมเป็น
เด็กรับใช้ชาย เอาเมียไปแอบในเรือนเล็ก โดยไม่รู้เลยว่าเจ้าพ่อเจ้าแม่ได้หมั้นเจ้าบัวนวลเอาไว้ให้
เจ้าน้อยไม่ยอมแต่งงาน เลยเปิดเผยว่ามีเมียแล้วคือมะเมี้ยะ เอามะเมี้ยะมากราบเจ้าพ่อเจ้าแม่แต่ไม่ได้รับการยอมรับ
เรื่องนี้ไปถึงสยาม ร. 5 กะเจ้าดารารัศมีเห็นว่าไม่ควร เลยส่งผู้สำเร็จราชการมาเจรจา บอกว่าเจ้าน้อยจะมีเมีย
กี่คนไม่ใช่ปัญหาแต่ต้องไม่ใช่สาวพม่า เพราะว่าคนพม่า ถือสัญชาติอังกฤษ เดี๋ยวอังกฤษจะถือโอกาสแทรกแซง ว่าแต่งกะพม่า ก็ต้องถือว่าเป็นพม่าด้วย ไปอยู่กะเมียที่ พม่าก็ไม่ได้ ที่สำคัญเจ้าน้อย เป็นเจ้าชายของล้านนา ถูกวางตัวไว้ให้เป็นรัชทายาทล้านนา เท่ากับว่าสยามอาจต้องเสียเชียงใหม่ให้อังกฤษ ก็เลยบังคับส่งมะเมี้ยะกลับพม่า เจ้าน้อยสัญญาว่าอีก 3 เดือนจะไปรับมะเมี้ยะกลับ
ทั้งคู่สาบานกันไว้ว่าจะไม่รักใครอื่น หากใครผิดคำสาบานขอให้อายุสั้น
ตอนที่จะส่งมะเมี้ยะกลับพม่านั้นตรงนี้เป็นส่วนของตำนานเลย
" ตอนนั้นมะเมี้ยะโพกผมไว้พอจะไปก็ก้มลงกราบเท้า เจ้าน้อยที่ประตูเมือง ชาวบ้านออกมามุงกันทั้งเมืองเพราะได้ยินว่ามะเมี้ยะงามจ๊าดนัก
พอกราบเสร็จ ก็เอาผ้าโพกผมออก แล้วสยายผมเอามาเช็ดเท้าเจ้าน้อย จงรักภักดีบูชาสามีสุดชีวิต
แล้วก็กอดขาร้องไห้ เจ้าน้อยเองก็ร้อง ทำเอาคนที่มามุงร้องไห้ ไปทั้งเมืองด้วยความสงสารความรักของทั้งคู่ "
ต่อมาเจ้าน้อยโดนเรียกไปสยาม พอเข้าไปก็โดนจับแต่งงาน เจ้าดาราฯ จัดเจ้าบัวชุม ซึ่งเป็นพระญาติ
และเป็นสาวที่สวยที่สุดในตำหนักเจ้าดารารัศมี ร่ำลือกันว่าเล่นดนตรีไทยเก่ง แต่ดูรูปแล้วถ้ามาสมัยนี้
ถือว่าหน้าตาธรรมดาอ่ะ ถ้าในสมัยที่ผู้หญิงไม่มีศัลยกรรมคงจัดว่าสวย แต่ที่นี่แน่ๆ มินิไซค์มากๆ สาวๆ สมัยนั้น
ด้วยเหตุนี้เจ้าน้อยก็เลยต้องแต่งแล้วถูกกักอยู่ที่นั่น ตอนนั้นเจ้าพ่อของเจ้าดาราฯ สิ้นพระชนม์
พระญาติทางสยาม ไม่อนุญาตให้เจ้าล้านนาพระองค์ใดในวังขึ้นไปประกอบพิธีปลงพระศพ
เป็นเรื่องการเมืองเตะถ่วงการแต่งตั้งเจ้าครองแคว้นคนใหม่เอาไว้ระยะหนึ่ง เจ้าอาของเจ้าน้อยได้ขึ้นเป็น
เจ้าองค์ใหม่ เจ้าพ่อได้เป็นเจ้าราชบุตร(อุปราช) เท่ากับว่าเจ้าน้อยเป็นรัชทายาทอันดับ 3
ถ้าสิ้นเจ้าสองพระองค์นี้เจ้าน้อยจะครองเชียงใหม่ ก็ยิ่งไม่มีทางได้รับมะเมี้ยะกลับมา
มะเมี้ยะรอเกิน 3 เดือนแล้วเจ้าน้อยไม่มาตามสัญญาเลยไปบวชชี เพื่อพิสูจน์รักแท้ว่าจะไม่มีคนใหม่
ต่อมา...เมื่อได้ยินว่าเจ้าน้อยกลับเชียงใหม่แล้วเลยมาดักที่คุ้ม แต่เจ้าน้อยไม่ยอมออกมาพบ รอนานเท่าไรก็ ไม่ยอมออกมา
จริงๆ แล้วเจ้าน้อยแอบดูอยู่ข้างหน้าต่าง ได้แต่ร้องไห้ไม่กล้าสู้หน้าที่ผิดสัญญา ก็เลยฝากให้ท้าวบุญสูงพี่เลี้ยง
เอาแหวนทับทิม กับเงินอีก 1 กำปั่น( 800 บาท) ไปให้แม่ชีมะเมี้ยะ
ทางด้านแม่ชีบอกว่าไม่มาขอรักคืน เพียงแต่มาถอนคำสาบานให้
เจ้าน้อยฝากมาบอกแม่ชีว่า เงินนี่ทำบุญตามแต่แม่ชีจะใช้สอย
เรียกว่าบริจาคในฐานะโยมอุปฐาก ส่วนแหวนให้แทนใจว่า หัวใจอยู่กับมะเมี้ยะเสมอ
แม่ชีเสียใจมาก รับไปแต่แหวนไม่รับเงิน
สมัยก่อน 800 คงเยอะมากว่ะ 100 ปีก่อนคง
8 แสนล่ะมั้ง เงินเดือนคนสมัยนั้น 4 บาทเอง
เจ้าน้อยหลังจากกันกับแม่ชีคราวนั้น.....ก็เอาแต่กินเหล้าไม่มีใจรักเจ้าบัวชุม
ในที่สุดก็ตรอมใจตายหลังจากแต่งงานได้ไม่กี่ปีในขณะที่อายุแค่ 30 ปีเท่านั้นเอง
ในบันทึกบอกว่าสิ้นพระชนม์ด้วยโรคพิษสุรา อีก 6 ปีต่อมาหลังจากพบแม่ชีมะเมี้ยครั้งสุดท้าย
ส่วนแม่ชีมะเมี้ยะ... บวชจนสิ้นอายุขัยเมื่อ 73 ปี
เศร้ามะ ? เรื่องนี้ไม่มีตัวอิจฉามีแต่คนหัวใจสลาย
ผู้บันทึกเรื่องนี้คือ เจ้าบัวนวล คู่หมั้นคนแรกที่ถอนหมั้นไปหลังจากรู้ว่าเจ้าน้อยมีมะเมี้ยะ...
ส่วนเจ้าบัวชุมไม่ผิดอะไรเลย แต่สามีไม่รักก็อยู่เป็นข้าบาทจาริกาจนอายุ 81 ปี
เจ้าบัวนวลว่า ตลอดชีวิตเจ้าน้อยรักผู้หญิงคนเดียวจนสิ้นลม คือ มะเมี๊ยะหลังจากนั้นเรื่องของเจ้าน้อยกับมะเมี้ยะ
ก็ถูกสั่งห้ามพูดถึงไปหลายปีเพราะเป็นเรื่องทางการเมือง ต้องปิดบัง รายละเอียดเลยหายไป
เหลือแต่ตำนาน อุปสรรคความรักของเจ้าน้อยกับมะเมี้ยะ ไม่ใช่ฐานันดร ไม่ใช่เชื้อชาติ แต่เป็นการเมืองแท้ๆ
เศร้าเนอะ ความรักในตำนานมักจบลงด้วยความเศร้าสลด ทั้งที่รักเดียวทั้งสองฝ่าย น่าสงสารจริงๆ
เรื่องนี้มีแต่คนน่าสงสาร เจ้าบัวชุมเมียแต่งก็น่าสงสาร
ทางเจ้าดารารัศมี มีบันทึกไว้แค่ว่าทรงไม่คิดว่าเจ้าน้อย
จะปักใจมั่นกับมะเมี้ยะขนาดนี้ เจ้าดารารัศมีทรงคิดว่าหลายปีผ่านไป และได้ภรรยาที่ดีพร้อมก็คงลืม
ความรักครั้งแรกได้ แต่เจ้าน้อยไม่ลืมจนสิ้นชีวิต
เจ้าบัวนวล คู่หมั้น เมื่อแรกรู้สึกเสียหน้าแต่หลังจากนั้นก็รู้สึกเห็นใจและศรัทธาในรักแท้ของเจ้าน้อย
จริงๆ แล้วเราแอบคิดว่า ถ้าเจ้าน้อยโกหก ให้มะเมี้ยะหนีเข้าเมืองเถื่อนแล้วปลอมเป็นสาวไทย ให้เป็น
เมียบ่าว เรื่องก็จบแต่มันเป็นเพราะ...เจ้าน้อยต้องการมีภรรยาคนเดียว คือ...มะเมี้ยะ
หายากมากผู้ชายสมัยนั้น เรื่องรักเดียวเนี่ยแต่ก็เป็นไปตามคำสาบานนะ
ผิดรักไปแต่งกับหญิงอื่นเลยอายุสั้น รูปหล่อ รักเดียว รักจนตาย
ยังกะนิยายเศร้าจริงๆๆๆ...ว่าแล้วก็เผื่อแผ่ความเศร้าให้คนอื่นบ้าง
สังเกตมั้ยว่า ความรักที่เป็นตำนาน...มักจะมีจุดจบที่เศร้ารันทดใจ
รักแฮ้ปปี้มันคงไม่กินใจพอที่จะเป็นตำนาน...สำหรับเราขอมีความสุขดีกว่าเป็นตำนาน..เฮ้อ...อ
แต่น่าเสียดาย...ไม่มีรูปมะเมี้ยะ คาดว่าเป็นสามัญชนคนธรรมดาเลยไม่มีรูปถ่ายเก็บไว้เป็นหลักฐานบ้าง
ไม่งั้นคงได้เห็นว่ามะเมี๊ยะงามจ๊าดแค่ไหน.... แต่บางทีการไม่เห็นหน้า...
จินตนาการอาจทำให้มะเมี๊ยะสวยงามยิ่งในความทรงจำของผู้ที่ได้รู้เรื่องราวเธอก็ว่าได
ณ วันนี้... 99 ปีผ่านไป เจ้าน้อยกับมะเมี๊ยะ คงได้พบกันบนเส้นทางสายดวงดาวแล้ว
ความรักครั้งหน้า...ขอให้ไร้อุปสรรคทั้งปวง สมกับที่รอคอยกันมาแสนนาน
กู่บรรจุอัฐิเจ้าน้อยศุขเกษม ในวัดสวนดอก เชียงใหม่
มะเมี๊ย ะ ของ อ.จรัล มโนเพ็ชร
( พูด).....
เรื่องมันเก้าสิบปี๋มาแล้ว
เจ้าน้อยสุขเกษมอายุได้สิบห้าปี๋
เจ้าป้อก็ส่งไปเฮียนหนังสือ
ตี้เมืองมะละแมงปู้น...
ก็เลยเป๋นเรื่องของก๋ำของเวรเขา
( ร้อง)มะเมี๊ยะ เป๋นสาวแม่ก้า คนพม่า เมืองมะละแมง
งามล้ำ เหมือนเดือนส่องแสง คนมาแย่ง หลงฮักสาว.
มะเมี๊ยะ บ่ยอมฮักไผ มอบใจ๋ ฮื้อหนุ่มเจื้อเจ้า.
เป๋นลูก อุปราชท้าว เจียงใหม่
แต่เมื่อ เจ้าชาย จบก๋าน ศึก ษา
จ๋ำต้อง ลาจาก มะเมี๊ยะไป.
เหมือนโดน มีดสับ ดาบฟัน หัวใจ๋
ปลอมเป๋น ป้อจาย หนีตามมา
เจ้าชายเป๋นราชบุตร แต่สุด ตี้ฮักเป๋นพม่า
ผิดประเพณี สืบมา ต้องร้าง ลา แยกทาง
วันตี้ต้อง ส่งคืนบ้านนาง เจ้าชาย ก็จัดขบวนช้าง
ไปส่งนาง คืน ทั้งน้ำตา
มะเมี๊ยะ ตรอมใจ๋ อาลัย ขื่น ขม
ถวาย บังคม ทูล ลา.
สยาย ผมลง เจ๊ดบาท บา ทา
ขอลา ไปก่อน แล้วจ้าดนี้.
เจ้าชายก็ตรอม ใจ๋ตาย มะเมี๊ยะเลยไป บวชชี
ความฮัก มักเป๋นเช่นนี้ แล เฮย
************************